📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

อฏฺสาลินี นาม

ธมฺมสงฺคณี-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

กรุณา วิย สตฺเตสุ, ปฺา ยสฺส มเหสิโน;

เยฺยธมฺเมสุ สพฺเพสุ, ปวตฺติตฺถ ยถารุจิ.

ทยาย ตาย สตฺเตสุ, สมุสฺสาหิตมานโส;

ปาฏิหีราวสานมฺหิ, วสนฺโต ติทสาลเย.

ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, ปณฺฑุกมฺพลนามเก;

สิลาสเน สนฺนิสินฺโน, อาทิจฺโจว ยุคนฺธเร.

จกฺกวาฬสหสฺเสหิ, ทสหาคมฺม สพฺพโส;

สนฺนิสินฺเนน เทวานํ, คเณน ปริวาริโต.

มาตรํ ปมุขํ กตฺวา, ตสฺสา ปฺาย เตชสา;

อภิธมฺมกถามคฺคํ, เทวานํ สมฺปวตฺตยิ.

ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา, สมฺพุทฺธสฺส สิรีมโต;

สทฺธมฺมฺจสฺส ปูเชตฺวา, กตฺวา สงฺฆสฺส จฺชลึ.

นิปจฺจการสฺเสตสฺส, กตสฺส รตนตฺตเย;

อานุภาเวน โสเสตฺวา, อนฺตราเย อเสสโต.

วิสุทฺธาจารสีเลน, นิปุณามลพุทฺธินา;

ภิกฺขุนา พุทฺธโฆเสน, สกฺกจฺจํ อภิยาจิโต.

ยํ เทวเทโว เทวานํ, เทเสตฺวา นยโต ปุน;

เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส, สมาจิกฺขิ วินายโก.

อโนตตฺตทเห กตฺวา, อุปฏฺานํ มเหสิโน;

ยฺจ สุตฺวาน โส เถโร, อาหริตฺวา มหีตลํ.

ภิกฺขูนํ ปยิรุทาหาสิ, อิติ ภิกฺขูหิ ธาริโต;

สงฺคีติกาเล สงฺคีโต, เวเทหมุนินา ปุน.

ตสฺส คมฺภีราเณหิ, โอคาฬฺหสฺส อภิณฺหโส;

นานานยวิจิตฺตสฺส, อภิธมฺมสฺส อาทิโต.

ยา มหากสฺสปาทีหิ, วสีหิฏฺกถา ปุรา;

สงฺคีตา อนุสงฺคีตา, ปจฺฉาปิ จ อิสีหิ ยา.

อาภตา ปน เถเรน, มหินฺเทเนตมุตฺตมํ;

ยา ทีปํ ทีปวาสีนํ, ภาสาย อภิสงฺขตา.

อปเนตฺวา ตโต ภาสํ, ตมฺพปณฺณินิวาสินํ;

อาโรปยิตฺวา นิทฺโทสํ, ภาสํ ตนฺตินยานุคํ.

นิกายนฺตรลทฺธีหิ, อสมฺมิสฺสํ อนากุลํ;

มหาวิหารวาสีนํ, ทีปยนฺโต วินิจฺฉยํ.

อตฺถํ ปกาสยิสฺสามิ, อาคมฏฺกถาสุปิ;

คเหตพฺพํ คเหตฺวาน, โตสยนฺโต วิจกฺขเณ.

กมฺมฏฺานานิ สพฺพานิ, จริยาภิฺา วิปสฺสนา;

วิสุทฺธิมคฺเค ปนิทํ, ยสฺมา สพฺพํ ปกาสิตํ.

ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวาน, สกลายปิ ตนฺติยา;

ปทานุกฺกมโต เอว, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.

อิติ เม ภาสมานสฺส, อภิธมฺมกถํ อิมํ;

อวิกฺขิตฺตา นิสาเมถ, ทุลฺลภา หิ อยํ กถาติ.

นิทานกถา

ตตฺถ เกนฏฺเน อภิธมฺโม? ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน. อติเรกวิเสสตฺถทีปโก เหตฺถ ‘อภิ’-สทฺโท. ‘‘พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ โน ปฏิกฺกมนฺติ’’ (ม. นิ. ๓.๓๘๔; สํ. นิ. ๕.๑๙๕) ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑-๒) วิย. ตสฺมา ยถา สมุสฺสิเตสุ พหูสุ ฉตฺเตสุ เจว ธเชสุ จ ยํ อติเรกปฺปมาณํ วิเสสวณฺณสณฺานฺจ ฉตฺตํ, ตํ ‘อติจฺฉตฺต’นฺติ วุจฺจติ, โย อติเรกปฺปมาโณ นานาวิราควณฺณวิเสสสมฺปนฺโน จ ธโช โส ‘อติธโช’ติ วุจฺจติ, ยถา จ เอกโต สนฺนิปติเตสุ พหูสุ ราชกุมาเรสุ เจว เทเวสุ จ โย ชาติโภคยสอิสฺสริยาทิสมฺปตฺตีหิ อติเรกตโร เจว วิเสสวนฺตตโร จ ราชกุมาโร โส ‘อติราชกุมาโร’ติ วุจฺจติ, โย อายุวณฺณอิสฺสริยยสสมฺปตฺติอาทีหิ อติเรกตโร เจว วิเสสวนฺตตโร จ เทโว โส ‘อติเทโว’ติ วุจฺจติ, ตถารูโป พฺรหฺมาปิ ‘อติพฺรหฺมา’ติ วุจฺจติ, เอวเมว อยมฺปิ ธมฺโม ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน ‘อภิธมฺโม’ติ วุจฺจติ.

สุตฺตนฺตฺหิ ปตฺวา ปฺจกฺขนฺธา เอกเทเสเนว วิภตฺตา, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน สุตฺตนฺตภาชนียอภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉกนยานํ วเสน นิปฺปเทสโต วิภตฺตา. ตถา ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, จตฺตาริ สจฺจานิ, พาวีสตินฺทฺริยานิ, ทฺวาทสปทิโก ปจฺจยากาโร. เกวลฺหิ อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ, ปจฺจยากาเร จ ปฺหปุจฺฉกํ นตฺถิ. สุตฺตนฺตฺจ ปตฺวา จตฺตาโร สติปฏฺานา เอกเทเสเนว วิภตฺตา, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน ติณฺณมฺปิ นยานํ วเสน นิปฺปเทสโตว วิภตฺตา. ตถา จตฺตาริ สมฺมปฺปธานานิ, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, จตฺตาริ ฌานานิ, จตสฺโส อปฺปมฺาโย, ปฺจ สิกฺขาปทานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา. เกวลฺเหตฺถ สิกฺขาปทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ. สุตฺตนฺตํ ปตฺวา จ าณํ เอกเทเสเนว วิภตฺตํ น นิปฺปเทเสน; ตถา กิเลสา. อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทินา (วิภ. ๗๕๑) นเยน มาติกํ เปตฺวา นิปฺปเทสโตว วิภตฺตํ. ตถา เอกกโต ปฏฺาย อเนเกหิ นเยหิ กิเลสา. สุตฺตนฺตํ ปตฺวา จ ภูมนฺตรปริจฺเฉโท เอกเทเสเนว วิภตฺโต, น นิปฺปเทเสน; อภิธมฺมํ ปน ปตฺวา ติณฺณมฺปิ นยานํ วเสน ภูมนฺตรปริจฺเฉโท นิปฺปเทสโตว วิภตฺโต. เอวํ ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน อภิธมฺโมติ เวทิตพฺโพ.

ปกรณปริจฺเฉทโต ปเนส ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคธาตุกถาปุคฺคลปฺตฺติกถาวตฺถุยมกปฏฺานานํ สตฺตนฺนํ ปกรณานํ วเสน ิโต. อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘กถาวตฺถุ กสฺมา คหิตํ? นนุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ อติกฺกมิตฺวา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรเนตํ ปิตํ? ตสฺมา สาวกภาสิตตฺตา ฉฑฺเฑถ น’นฺติ. ‘กึ ปน ฉปฺปกรณานิ อภิธมฺโม’ติ? ‘เอวํ น วทามี’ติ. ‘อถ กึ วเทสี’ติ. ‘สตฺตปฺปกรณานี’ติ. ‘กตรํ คเหตฺวา สตฺต กโรสี’ติ? ‘มหาธมฺมหทยํ นาม อตฺถิ, เอเตน สห สตฺตา’ติ. ‘มหาธมฺมหทเย อปุพฺพํ นตฺถิ, กติปยาว ปฺหาวารา อวเสสา, กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺตา’ติ. ‘โน กถาวตฺถุนา, มหาธาตุกถา นาม อตฺถิ, ตาย สทฺธึ สตฺตา’ติ. ‘มหาธาตุกถายํ อปุพฺพํ นตฺถิ, อปฺปมตฺติกาว ตนฺติ อวเสสา. กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺตา’ติ.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ สตฺตปฺปกรณานิ เทเสนฺโต กถาวตฺถุํ ปตฺวา ยา เอสา ปุคฺคลวาเร ตาว จตูสุ ปฺเหสุ ทฺวินฺนํ ปฺจกานํ วเสน อฏฺมุขา วาทยุตฺติ ตํ อาทึ กตฺวา สพฺพกถามคฺเคสุ อสมฺปุณฺณภาณวารมตฺตาย ปาฬิยา มาติกํ เปสิ. สา ปเนสา ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. อามนฺตา. โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. นเหวํ วตฺตพฺเพ. อาชานาหิ นิคฺคหํ…เป… ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. อามนฺตา. โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ ตโต โส ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ. นเหวํ วตฺตพฺเพ. อาชานาหิ นิคฺคหํ…เป…. สพฺพตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺพตฺถ ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สพฺพทา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺพทา ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สพฺเพสุ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สพฺเพสุ ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ (กถา. ๑๕-๑๖) เอวํ ปมํ วาทํ นิสฺสาย ปมํ นิคฺคหํ, ทุติยํ นิสฺสาย ทุติยํ …เป… อฏฺมํ นิสฺสาย อฏฺมํ นิคฺคหํ ทสฺเสนฺเตน สตฺถารา ปิตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ มาติกาปนํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตํ มาติกํ เปนฺโต อิมํ ทิสฺวา เปสิ – มม ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ มตฺถเก โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุสหสฺสมชฺเฌ นิสินฺโน สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา ทีฆนิกายปฺปมาณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ภาเชสฺสตีติ.

โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโรปิ อิทํ ปกรณํ เทเสนฺโต น อตฺตโน าเณน เทเสสิ, สตฺถารา ปน ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทเสสิ. อิติ สตฺถารา ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทสิตตฺตา สกลมฺเปตํ ปกรณํ พุทฺธภาสิตเมว นาม ชาตํ. ยถา กึ? ยถา มธุปิณฺฑิกสุตฺตนฺตาทีนิ. มธุปิณฺฑิกสุตฺตนฺตสฺมิฺหิ ภควา ‘‘ยโตนิทานํ ภิกฺขุ ปุริสํ ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺติ, เอตฺถ เจ นตฺถิ อภินนฺทิตพฺพํ อภิวทิตพฺพํ อชฺโฌสิตพฺพํ, เอเสวนฺโต ราคานุสยาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๒) มาติกํ เปตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

ธมฺมปฺปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู มหากจฺจานตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ทสพเลน ปิตมาติกาย อตฺถํ ปุจฺฉึสุ. เถโร ปุจฺฉิตมตฺตเกเนว อกเถตฺวา ทสพลสฺส อปจิติทสฺสนตฺถํ ‘‘เสยฺยถาปิ อาวุโส ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓) สาโรปมํ อาหริตฺวา สารรุกฺโข วิย ภควา สาขาปลาสสทิสา สาวกา, ‘‘โส หาวุโส ภควา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต’’ติ สตฺถารํ โถเมตฺวา ปุนปฺปุนํ เถเรหิ ยาจิโต สตฺถารา ปิตมาติกาย อตฺถํ วิภชิตฺวา ‘‘อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ สเจ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิยมานํ สเมติ คณฺเหยฺยาถ, โน เจ มา คณฺหิตฺถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ยถา โว ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ.

เต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉึสุ. สตฺถา ทุกฺกถิตํ กจฺจาเนนาติ อวตฺวา สุวณฺณาลิงฺคํ อุสฺสาเปนฺโต วิย คีวํ อุนฺนาเมตฺวา สุปุปฺผิตสตปตฺตสสฺสิริกํ มหามุขํ ปูเรนฺโต พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา สาธุ สาธูติ เถรสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน, มหาปฺโ ภิกฺขเว มหากจฺจาโน, มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๕) อาห.

เอวํ สตฺถารา อนุโมทิตกาลโต ปฏฺาย จ ปน สกลํ สุตฺตํ พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตํ. อานนฺทตฺเถราทีหิ วิตฺถาริตสุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เอวเมว สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺตปฺปกรณานิ เทเสนฺโต กถาวตฺถุํ ปตฺวา วุตฺตนเยน มาติกํ เปสิ. เปนฺโต จ ปน อิมํ อทฺทส –

มม ปรินิพฺพานโต อฏฺารสวสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ มตฺถเก โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุสหสฺสมชฺเฌ นิสินฺโน สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา ทีฆนิกายปฺปมาณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ภาเชสฺสตีติ.

โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโรปิ อิมํ ปกรณํ เทเสนฺโต น อตฺตโน าเณน เทเสสิ, สตฺถารา ปน ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทเสสิ. อิติ สตฺถารา ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย เทสิตตฺตา สกลมฺเปตํ ปกรณํ พุทฺธภาสิตเมว ชาตํ. เอวํ กถาวตฺถุนาว สทฺธึ สตฺต ปกรณานิ อภิธมฺโม นาม.

ตตฺถ ธมฺมสงฺคณีปกรเณ จตสฺโส วิภตฺติโย – จิตฺตวิภตฺติ รูปวิภตฺติ นิกฺเขปราสิ อตฺถุทฺธาโรติ. ตตฺถ กามาวจรกุสลโต อฏฺ, อกุสลโต ทฺวาทส, กุสลวิปากโต โสฬส, อกุสลวิปากโต สตฺต, กิริยโต เอกาทส; รูปาวจรกุสลโต ปฺจ, วิปากโต ปฺจ, กิริยโต ปฺจ; อรูปาวจรกุสลโต จตฺตาริ, วิปากโต จตฺตาริ, กิริยโต จตฺตาริ; โลกุตฺตรกุสลโต จตฺตาริ, วิปากโต จตฺตารีติ เอกูนนวุติ จิตฺตานิ จิตฺตวิภตฺติ นาม. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกฉภาณวารํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ เอกวิเธน ทุวิเธนาติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน วิภชิตฺวา ทสฺสิตา รูปวิภตฺติ นาม. รูปกณฺฑนฺติปิ เอตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกทฺวิภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ มูลโต ขนฺธโต ทฺวารโต ภูมิโต อตฺถโต ธมฺมโต นามโต ลิงฺคโตติ เอวํ มูลาทีหิ นิกฺขิปิตฺวา เทสิโต นิกฺเขปราสิ นาม. โส –

มูลโต ขนฺธโต จาปิ, ทฺวารโต จาปิ ภูมิโต;

อตฺถโต ธมฺมโต จาปิ, นามโต จาปิ ลิงฺคโต;

นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตา, นิกฺเขโปติ ปวุจฺจติ.

นิกฺเขปกณฺฑนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตํ วาจนามคฺคโต ติมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ปน เตปิฏกสฺส พุทฺธวจนสฺส อตฺถุทฺธารภูตํ ยาว สรณทุกา นิกฺขิตฺตํ อฏฺกถากณฺฑํ นาม. ยโต มหาปกรณิยา ภิกฺขู มหาปกรเณ คณนจารํ อสลฺลกฺเขนฺตา คณนจารํ สมาเนนฺติ. ตํ วาจนามคฺคโต ทฺวิมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

อิติ สกลมฺปิ ธมฺมสงฺคณีปกรณํ วาจนามคฺคโต อติเรกเตรสมตฺตภาณวารํ. วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ. เอวเมตํ –

จิตฺตวิภตฺติ รูปฺจ, นิกฺเขโป อตฺถโชตนา;

คมฺภีรํ นิปุณํ านํ, ตมฺปิ พุทฺเธน เทสิตํ.

ตทนนฺตรํ วิภงฺคปฺปกรณํ นาม. ตํ ขนฺธวิภงฺโค อายตนวิภงฺโค ธาตุวิภงฺโค สจฺจวิภงฺโค อิทฺริยวิภงฺโค ปจฺจยาการวิภงฺโค สติปฏฺานวิภงฺโค สมฺมปฺปธานวิภงฺโค อิทฺธิปาทวิภงฺโค โพชฺฌงฺควิภงฺโค มคฺคงฺควิภงฺโค ฌานวิภงฺโค อปฺปมฺาวิภงฺโค สิกฺขาปทวิภงฺโค ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค าณวิภงฺโค ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค ธมฺมหทยวิภงฺโคติ อฏฺารสวิเธน วิภตฺตํ.

ตตฺถ ขนฺธวิภงฺโค สุตฺตนฺตภาชนียอภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉกานํ วเสน ติธา วิภตฺโต. โส วาจนามคฺคโต ปฺจมตฺตภาณวาโร, วิตฺถาริยมาโน ปน อนนฺโต อปริมาโณ โหติ. ตโต ปรํ อายตนวิภงฺคาทโยปิ เอเตเหว ตีหิ นเยหิ วิภตฺตา. เตสุ อายตนวิภงฺโค วาจนามคฺคโต อติเรกภาณวาโร, ธาตุวิภงฺโค ทฺวิมตฺตภาณวาโร. ตถา สจฺจวิภงฺโค. อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกภาณวารมตฺโต. ปจฺจยาการวิภงฺโค ฉมตฺตภาณวาโร, ปฺหปุจฺฉกํ ปเนตฺถ นตฺถิ. สติปฏฺานวิภงฺโค อติเรกภาณวารมตฺโต; ตถา สมฺมปฺปธาน อิทฺธิปาทโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควิภงฺคา. ฌานวิภงฺโค ทฺวิภาณวารมตฺโต, อปฺปมฺาวิภงฺโค อติเรกภาณวารมตฺโต. สิกฺขาปทวิภงฺเคปิ สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกภาณวารมตฺโต; ตถา ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค. าณวิภงฺโค ทสวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส ติมตฺตภาณวาโร. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโคปิ ทสวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส ติมตฺตภาณวาโร. ธมฺมหทยวิภงฺโค ติวิเธน วิภตฺโต; วาจนามคฺคโต ปเนส อติเรกทฺวิภาณวารมตฺโต. สพฺเพปิ วิตฺถาริยมานา อนนฺตา อปริมาณา โหนฺติ. เอวเมตํ วิภงฺคปฺปกรณํ วาจนามคฺคโต ปฺจตึสมตฺตภาณวารํ; วิตฺถารโต ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ธาตุกถาปกรณํ นาม. ตํ สงฺคโห อสงฺคโห, สงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน สงฺคหิตํ, สงฺคหิเตน สงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ; สมฺปโยโค วิปฺปโยโค, สมฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, สมฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตํ; สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ; สมฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ, วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตนฺติ จุทฺทสวิเธน วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต อติเรกฉภาณวารมตฺตํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ปุคฺคลปฺตฺติ นาม. สา ‘‘ขนฺธปฺตฺติ อายตนปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ สจฺจปฺตฺติ อินฺทฺริยปฺตฺติ ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ ฉพฺพิเธน วิภตฺตา. สา วาจนามคฺคโต อติเรกปฺจภาณวารา; วิตฺถาริยมานา ปน อนนฺตา อปริมาณาว โหติ.

ตทนนฺตรํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ นาม. ตํ สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต อิทานิ โปตฺถเก ลิขิตํ อคฺคเหตฺวา สงฺคีติอาโรปิตนเยน ทีฆนิกายปฺปมาณํ, วิตฺถาริยมานํ ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ ยมกํ นาม. ตํ มูลยมกํ ขนฺธยมกํ อายตนยมกํ ธาตุยมกํ สจฺจยมกํ สงฺขารยมกํ อนุสยยมกํ จิตฺตยมกํ ธมฺมยมกํ อินฺทฺริยยมกนฺติ ทสวิเธน วิภตฺตํ. ตํ วาจนามคฺคโต วีสภาณวารสตํ, วิตฺถารโต ปน อนนฺตมปริมาณํ โหติ.

ตทนนฺตรํ มหาปกรณํ นาม. ปฏฺานนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตํ เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรปจฺจโย สหชาตปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตปจฺจโย อาเสวนปจฺจโย กมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย อาหารปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย ฌานปจฺจโย มคฺคปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจโย วิปฺปยุตฺตปจฺจโย อตฺถิปจฺจโย นตฺถิปจฺจโย วิคตปจฺจโย อวิคตปจฺจโยติ. ปจฺจยวเสน ตาว จตุวีสติวิเธน วิภตฺตํ.

อิมสฺมึ ปน าเน ปฏฺานํ สมาเนตพฺพํ. กุสลตฺติกาทโย หิ ทฺวาวีสติ ติกา, นาม เหตู ธมฺมา นเหตู ธมฺมา…เป… สรณา ธมฺมา อรณา ธมฺมาติ อิเม สตํ ทุกา. อปเรปิ วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา…เป… ขเย าณํ, อนุปฺปาเท าณนฺติ ทฺวาจตฺตาลีส สุตฺตนฺติกทุกา นาม. เตสุ ทฺวาวีสติ ติกา สตํ ทุกาติ อยํ อาหจฺจภาสิตา ชินวจนภูตา สพฺพฺุพุทฺเธน เทสิตา สตฺตนฺนํ ปกรณานํ มาติกา นาม.

อถาปเร ทฺวาจตฺตาลีส สุตฺตนฺติกทุกา กุโตปภวา เกน ปิตา เกน เทสิตาติ? ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรปฺปภวา, เตน ปิตา, เตน เทสิตาติ. อิเม เปนฺโต ปน เถโร น สามุกฺกํสิเกน อตฺตโน าเณน เปสิ. เอกุตฺตริยํ ปน เอกนิปาตทุกนิปาตสงฺคีติ ทสุตฺตรสุตฺตนฺเตหิ สโมธาเนตฺวา อาภิธมฺมิกตฺเถรานํ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา อกิลมตฺถํ ปิตา. เต ปเนเต เอกสฺมึ นิกฺเขปกณฺเฑเยว มตฺถกํ ปาเปตฺวา วิภตฺตา. เสสฏฺาเนสุ ยาว สรณทุกา อภิธมฺโม วิภตฺโต.

สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อนุโลมปฏฺาเน ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. สตํ ทุเก นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. ตโต ปรํ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ตโต ปรํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ติเก ปน ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ทุเก จ ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. เอวํ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๓๙);

ปจฺจนียปฏฺาเนปิ ทฺวาวีสติติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม. ทฺวาวีสติติเก ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม. ติเก ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม. ทุเก ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นามาติ ปจฺจนีเยปิ ฉหิ นเยหิ ปฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ. เตน วุตฺตํ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๔๔);

ตโต ปรํ อนุโลมปจฺจนีเยปิ เอเตเนว อุปาเยน ฉ นยา ทสฺสิตา. เตนาห –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๔๘);

ตทนนฺตรํ ปจฺจนียานุโลเมปิ เอเตเหว ฉหิ นเยหิ นิทฺทิฏฺํ. เตนาห –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกติกฺเจว ติกทุกฺจ;

ติกติกฺเจว ทุกทุกฺจ,

ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. (ปฏฺา. ๑.๑.๕๒);

เอวํ อนุโลเม ฉ ปฏฺานานิ, ปฏิโลเม ฉ, อนุโลมปจฺจนีเย ฉ, ปจฺจนียานุโลเม ฉ ปฏฺานานีติ อิทํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานํ มหาปกรณํ นาม.

อิทานิ อิมสฺส อภิธมฺมสฺส คมฺภีรภาววิชานนตฺถํ จตฺตาโร สาครา เวทิตพฺพา – สํสารสาคโร, ชลสาคโร, นยสาคโร, าณสาคโรติ. ตตฺถ สํสารสาคโร นาม –

ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตีติ.

เอวํ วุตฺตํ สํสารวฏฺฏํ. สฺวายํ ยสฺมา อิเมสํ สตฺตานํ อุปฺปตฺติยา ปุริมา โกฏิ น ปฺายติ เอตฺตกานฺหิ วสฺสสตานํ วา วสฺสสหสฺสานํ วา วสฺสสตสหสฺสานํ วา, กปฺปสตานํ วา กปฺปสหสฺสานํ วา กปฺปสตสหสฺสานํ วา มตฺถเก สตฺตา อุปฺปนฺนา, ตโต ปุพฺเพ นาเหสุนฺติ วา, อสุกสฺส นาม รฺโ กาเล อุปฺปนฺนา, อสุกสฺส พุทฺธสฺส กาเล อุปฺปนฺนา ตโต ปุพฺเพ นาเหสุนฺติ วา, อยํ ปริจฺเฉโท นตฺถิ; ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑) อิมินา ปน นเยน สํสารสาคโร อนมตคฺโคว.

มหาสมุทฺโท ปน ชลสาคโร นามาติ เวทิตพฺโพ. โส จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร. ตตฺถ อุทกสฺส อาฬฺหกสเตหิ วา อาฬฺหกสหสฺเสหิ วา อาฬฺหกสตสหสฺเสหิ วา ปมาณํ นาม นตฺถิ. อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. อยํ ชลสาคโร นาม.

กตโม นยสาคโร? เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ทฺเวปิ หิ ตนฺติโย ปจฺจเวกฺขนฺตานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ ปสาทพหุลานํ าณุตฺตรานํ กุลปุตฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. กตมา ทฺเว? วินยฺจ อภิธมฺมฺจ. วินยธรภิกฺขูนฺหิ วินยตนฺตึ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ โทสานุรูปํ สิกฺขาปทปฺาปนํ นาม – อิมสฺมึ โทเส อิมสฺมึ วีติกฺกเม อิทํ นาม โหตีติ สิกฺขาปทปฺาปนํ – อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานเมว วิสโยติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ นีลเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ สฺจริตฺตเปยฺยาลํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อาภิธมฺมิกภิกฺขูนมฺปิ ขนฺธนฺตรํ อายตนนฺตรํ ธาตฺวนฺตรํ อินฺทฺริยนฺตรํ พลโพชฺฌงฺคกมฺมวิปากนฺตรํ รูปารูปปริจฺเฉทํ สณฺหสุขุมธมฺมํ คคนตเล ตารกรูปานิ คณฺหนฺโต วิย รูปารูปธมฺเม ปพฺพํ ปพฺพํ โกฏฺาสํ โกฏฺาสํ กตฺวา วิภชนฺโต ทสฺเสสิ วต โน สตฺถาติ อภิธมฺมตนฺตึ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อนนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ.

เอวํ อุปฺปตฺติยา ปนสฺส อิทํ วตฺถุปิ เวทิตพฺพํ – มหาคติคมิยติสฺสทตฺตตฺเถโร กิร นาม มหาโพธึ วนฺทิสฺสามีติ ปรตีรํ คจฺฉนฺโต นาวาย อุปริตเล นิสินฺโน มหาสมุทฺทํ โอโลเกสิ. อถสฺส ตสฺมึ สมเย เนว ปรตีรํ ปฺายิตฺถ, น โอริมตีรํ, อูมิเวคปฺปเภทสมุคฺคตชลจุณฺณปริกิณฺโณ ปน ปสาริตรชตปฏฺฏสุมนปุปฺผสนฺถรสทิโส มหาสมุทฺโทว ปฺายิตฺถ. โส กึ นุ โข มหาสมุทฺทสฺส อูมิเวโค พลวา อุทาหุ จตุวีสติปฺปเภเท สมนฺตปฏฺาเน นยมุขํ พลวนฺติ จินฺเตสิ. อถสฺส มหาสมุทฺเท ปริจฺเฉโท ปฺายติ – อยฺหิ เหฏฺา มหาปถวิยา ปริจฺฉินฺโน, อุปริ อากาเสน, เอกโต จกฺกวาฬปพฺพเตน, เอกโต เวลนฺเตน ปริจฺฉินฺโน; สมนฺตปฏฺานสฺส ปน ปริจฺเฉโท น ปฺายตีติ สณฺหสุขุมธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พลวปีติ อุปฺปนฺนา. โส ปีตึ วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ยถานิสินฺโนว สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา อคฺคผเล อรหตฺเต ปติฏฺาย อุทานํ อุทาเนสิ –

อตฺเถว คมฺภีรคตํ สุทุพฺพุธํ,

สยํ อภิฺาย สเหตุสมฺภวํ;

ยถานุปุพฺพํ นิขิเลน เทสิตํ,

มเหสินา รูปคตํว ปสฺสตีติ.

อยํ นยสาคโร นาม.

กตโม าณสาคโร? สพฺพฺุตฺาณํ าณสาคโร นาม. อยํ สํสารสาคโร นาม, อยํ ชลสาคโร นาม, อยํ นยสาคโร นามาติ หิ อฺเน น สกฺกา ชานิตุํ, สพฺพฺุตฺาเณเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ าณสาคโร นาม. อิเมสุ จตูสุ สาคเรสุ อิมสฺมึ าเน นยสาคโร อธิปฺเปโต. อิมฺหิ สพฺพฺุพุทฺธาว ปฏิวิชฺฌนฺติ.

อยมฺปิ ภควา โพธิมูเล นิสินฺโน ‘อิมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิมํ วต เม ธมฺมํ เอสนฺตสฺส คเวสนฺตสฺส กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ วีติวตฺตานิ, อถ เม อิมสฺมึ ปลฺลงฺเก นิสินฺเนน ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ เขเปตฺวา อยํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ’ติ ปฏิวิทฺธธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺโต สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ. ตโต ตมฺหา ปลฺลงฺกา วุฏฺาย ‘อิมสฺมึ วต เม ปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธ’นฺติ อนิมิเสหิ จกฺขูหิ สตฺตาหํ ปลฺลงฺกํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตโต เทวตานํ ‘อชฺชาปิ นูน สิทฺธตฺถสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ, ปลฺลงฺกสฺมิฺหิ อาลยํ น วิชหตี’ติ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ.

สตฺถา เทวตานํ วิตกฺกํ ตฺวา ตาวเทว ตาสํ วิตกฺกวูปสมนตฺถํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ. มหาโพธิปลฺลงฺกสฺมิฺหิ กตปาฏิหาริยฺจ, าติสมาคเม กตปาฏิหาริยฺจ, ปาฏิยปุตฺตสมาคเม กตปาฏิหาริยฺจ, สพฺพํ กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล กตยมกปาฏิหาริยสทิสเมว อโหสิ. เอวํ ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ปลฺลงฺกสฺส ิตฏฺานสฺส จ อนฺตเร อากาสโต โอรุยฺห สตฺตาหํ จงฺกมิ. อิเมสุ จ เอกวีสติยา ทิวเสสุ เอกทิวเสปิ สตฺถุ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา.

จตุตฺเถ ปน สตฺตาเห ปจฺฉิมุตฺตราย ทิสาย รตนฆเร นิสีทิ – รตนฆรํ นาม เนว สตฺตรตนมยํ เคหํ. สตฺตนฺนํ ปน ปกรณานํ สมฺมสิตฏฺานํ รตนฆรนฺติ เวทิตพฺพํ – ตตฺถ ธมฺมสงฺคณึ สมฺมสนฺตสฺสาปิ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา. วิภงฺคปฺปกรณํ ธาตุกถํ ปุคฺคลปฺตฺตึ กถาวตฺถุปฺปกรณํ ยมกปฺปกรณํ สมฺมสนฺตสฺสาปิ สรีรโต รสฺมิโย น นิกฺขนฺตา. ยทา ปน มหาปกรณํ โอรุยฺห ‘‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย…เป… อวิคตปจฺจโย’’ติ สมฺมสนํ อารภิ, อถสฺส จตุวีสติสมนฺตปฏฺานํ สมฺมสนฺตสฺส เอกนฺตโต สพฺพฺุตฺาณํ มหาปกรเณเยว โอกาสํ ลภิ. ยถา หิ ติมิรปิงฺคลมหามจฺโฉ จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีเร มหาสมุทฺเทเยว โอกาสํ ลภติ, เอวเมว สพฺพฺุตฺาณํ เอกนฺตโต มหาปกรเณเยว โอกาสํ ลภิ.

สตฺถุ เอวํ ลทฺโธกาเสน สพฺพฺุตฺาเณน ยถาสุขํ สณฺหสุขุมธมฺมํ สมฺมสนฺตสฺส สรีรโต นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺปภสฺสรวเสน ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมึสุ. เกสมสฺสูหิ เจว อกฺขีนฺจ นีลฏฺาเนหิ นีลรสฺมิโย นิกฺขมึสุ, ยาสํ วเสน คคนตลํ อฺชนจุณฺณสโมกิณฺณํ วิย อุมาปุปฺผนีลุปฺปลทลสฺฉนฺนํ วิย วีติปตนฺตมณิตาลวณฺฏํ วิย สมฺปสาริตเมจกปฏํ วิย จ อโหสิ.

ฉวิโต เจว อกฺขีนฺจ ปีตฏฺาเนหิ ปีตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ; ยาสํ วเสน ทิสาภาคา สุวณฺณรสธาราภิสิฺจมานา วิย สุวณฺณปฏปสาริตา วิย กุงฺกุมจุณฺณกณิการปุปฺผสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจึสุ.

มํสโลหิเตหิ เจว อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเนหิ โลหิตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ ยาสํ วเสน ทิสาภาคา จีนปิฏฺจุณฺณรฺชิตา วิย สุปกฺกลาขารสสิฺจมานา วิย รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตา วิย ชยสุมนปาริภทฺทกพนฺธุชีวกกุสุมสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจึสุ.

อฏฺีหิ เจว ทนฺเตหิ จ อกฺขีนฺจ เสตฏฺาเนหิ โอทาตรสฺมิโย นิกฺขมึสุ; ยาสํ วเสน ทิสาภาคา รชตฆเฏหิ อาสิฺจมานขีรธาราสมฺปริกิณฺณา วิย สมฺปสาริตรชตปฏฺฏวิตานา วิย, วีติปตนฺตรชตตาลวณฺฏา วิย, กุนฺทกุมุทสินฺทุวารสุมนมลฺลิกาทิกุสุมสฺฉนฺนา วิย จ วิโรจึสุ.

มฺชิฏฺปภสฺสรา ปน ตมฺหา ตมฺหา สรีรปฺปเทสา นิกฺขมึสุ. อิติ ตา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา ฆนมหาปถวึ คณฺหึสุ.

จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา มหาปถวี นิทฺธนฺตสุวณฺณปิณฺฑิ วิย อโหสิ. อถ มหาปถวึ ภินฺทิตฺวา เหฏฺา อุทกํ คณฺหึสุ. ปถวิสนฺธารกํ อฏฺนหุตาธิกจตุโยชนสตสหสฺสพหลํ อุทกํ สุวณฺณกลเสหิ อาสิฺจมานวิลีนสุวณฺณํ วิย อโหสิ. อุทกํ วินิวิชฺฌิตฺวา วาตํ อคฺคเหสุํ. ฉนหุตาธิกนวโยชนสตสหสฺสพหโล วาโต สมุสฺสิตสุวณฺณกฺขนฺโธ วิย อโหสิ. วาตํ วินิวิชฺฌิตฺวา เหฏฺา อชฏากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

อุปริภาเคน อุคฺคนฺตฺวาปิ จาตุมหาราชิเก คณฺหึสุ. เต วินิวิชฺฌิตฺวา ตาวตึเส ตโต ยาเม ตโต ตุสิเต ตโต นิมฺมานรตี ตโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี ตโต นว พฺรหฺมโลเก ตโต เวหปฺผเล ตโต ปฺจ สุทฺธาวาเส วินิวิชฺฌิตฺวา จตฺตาโร อารุปฺเป คณฺหึสุ. จตฺตาโร จ อารุปฺเป วินิวิชฺฌิตฺวา อชฏากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

ติริยภาเคหิ อนนฺตา โลกธาตุโย ปกฺขนฺทึสุ. เอตฺตเกสุ าเนสุ จนฺทมฺหิ จนฺทปฺปภา นตฺถิ, สูริเย สูริยปฺปภา นตฺถิ, ตารกรูเปสุ ตารกรูปปฺปภา นตฺถิ, เทวตานํ อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเขสุ เจว สรีเรสุ จ อาภรเณสุ จาติ สพฺพตฺถ ปภา นตฺถิ. ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุยา อาโลกผรณสมตฺโถ มหาพฺรหฺมาปิ สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนโก วิย อโหสิ. จนฺทสูริยตารกรูปเทวตุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขานํ ปริจฺเฉทมตฺตกเมว ปฺายิตฺถ. เอตฺตกํ านํ พุทฺธรสฺมีหิเยว อชฺโฌตฺถฏํ อโหสิ. อยฺจ เนว พุทฺธานํ อธิฏฺานิทฺธิ, น ภาวนามยิทฺธิ. สณฺหสุขุมธมฺมํ ปน สมฺมสโต โลกนาถสฺส โลหิตํ ปสีทิ, วตฺถุรูปํ ปสีทิ, ฉวิวณฺโณ ปสีทิ. จิตฺตสมุฏฺานา วณฺณธาตุ สมนฺตา อสีติหตฺถมตฺเต ปเทเส นิจฺจลาว อฏฺาสิ. อิมินา นีหาเรน สตฺตาหํ สมฺมสิ.

สตฺต รตฺตินฺทิวานิ สมฺมสิตธมฺโม กิตฺตโก อโหสีติ? อนนฺโต อปริมาโณ อโหสิ. อยํ ตาว มนสาเทสนา นาม. สตฺถา ปน เอวํ สตฺตาหํ มนสา จินฺติตธมฺมํ วจีเภทํ กตฺวา เทเสนฺโต วสฺสสเตนปิ วสฺสสหสฺเสนปิ วสฺสสตสหสฺเสนปิ มตฺถกํ ปาเปตฺวา เทเสตุํ น สกฺโกตีติ น วตฺตพฺพํ. อปรภาเคปิ หิ ตถาคโต ตาวตึสภวเน ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ มชฺเฌ นิสินฺโน มาตรํ กายสกฺขึ กตฺวา กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมาติ ธมฺมํ เทเสนฺโต สตภาเคน สหสฺสภาเคน สตสหสฺสภาเคน ธมฺมนฺตรา ธมฺมนฺตรํ สงฺกมิตฺวา สงฺกมิตฺวาว เทเสสิ. ตโย มาเส นิรนฺตรํ ปวตฺติตเทสนา เวเคน ปวตฺตา อากาสคงฺคา วิย อโธมุขปิตอุทกฆฏา นิกฺขนฺตอุทกธารา วิย จ หุตฺวา อนนฺตา อปริมาณา อโหสิ.

พุทฺธานฺหิ ภตฺตานุโมทนกาเลปิ โถกํ วฑฺเฒตฺวา อนุโมเทนฺตานํ เทสนา ทีฆมชฺฌิมนิกายปฺปมาณา โหติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปน สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺตานํ เทสนา สํยุตฺตองฺคุตฺตริกทฺเวมหานิกายปฺปมาณาว โหติ. กสฺมา? พุทฺธานฺหิ ภวงฺคปริวาโส ลหุโก ทนฺตาวรณํ สุผุสิตํ มุขาทานํ สิลิฏฺํ ชิวฺหา มุทุกา สโร มธุโร วจนํ ลหุปริวตฺตํ. ตสฺมา ตํ มุหุตฺตํ เทสิตธมฺโมปิ เอตฺตโก โหติ. เตมาสํ เทสิตธมฺโม ปน อนนฺโต อปริมาโณเยว.

อานนฺทตฺเถโร หิ พหุสฺสุโต ติปิฏกธโร ปฺจทส คาถาสหสฺสานิ สฏฺิ ปทสหสฺสานิ ลตาปุปฺผานิ อากฑฺฒนฺโต วิย ิตปเทเนว ตฺวา คณฺหาติ วา วาเจติ วา เทเสติ วา. เอตฺตโก เถรสฺส เอโก อุทฺเทสมคฺโค นาม โหติ. เถรสฺส หิ อนุปทํ อุทฺเทสํ ททมาโน อฺโ ทาตุํ น สกฺโกติ, น สมฺปาปุณาติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธว สมฺปาปุเณยฺย. เอวํ อธิมตฺตสติมา อธิมตฺตคติมา อธิมตฺตธิติมา สาวโก สตฺถารา เตมาสํ อิมินา นีหาเรน เทสิตเทสนํ วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ อุคฺคณฺหนฺโตปิ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ.

เอวํ เตมาสํ นิรนฺตรํ เทเสนฺตสฺส ปน ตถาคตสฺส กพฬีการาหารปฺปฏิพทฺธํ อุปาทินฺนกสรีรํ กถํ ยาเปสีติ? ปฏิชคฺคเนเนว. พุทฺธานฺหิ โส โส กาโล สุววตฺถิโต สุปริจฺฉินฺโน สุปจฺจกฺโข. ตสฺมา ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโตว มนุสฺสโลเก กาลํ โอโลเกติ. โส ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวา นิมฺมิตพุทฺธํ มาเปตฺวา ‘อิมสฺส จีวรคฺคหณํ ปตฺตคฺคหณํ สรกุตฺติ อากปฺโป จ เอวรูโป นาม โหตุ, เอตฺตกํ นาม ธมฺมํ เทเสตู’ติ อธิฏฺาย ปตฺตจีวรมาทาย อโนตตฺตทหํ คจฺฉติ. เทวตา นาคลตาทนฺตกฏฺํ เทนฺติ. ตํ ขาทิตฺวา อโนตตฺตทเห สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา มโนสิลาตเล ิโต สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา จาตุมหาราชทตฺติยํ เสลมยํ ปตฺตํ อาทาย อุตฺตรกุรุํ คจฺฉติ. ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทหตีเร นิสินฺโน ตํ ปริภุฺชิตฺวา ทิวาวิหาราย จนฺทนวนํ คจฺฉติ.

ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตตฺถ คนฺตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วตฺตํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทติ. อถสฺส สตฺถา นยํ เทติ. ‘สาริปุตฺต, เอตฺตโก ธมฺโม มยา เทสิโต’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺเธ นยํ เทนฺเต ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตสฺส อคฺคสาวกสฺส เวลนฺเต ตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทสฺสิตสมุทฺทสทิสํ นยทานํ โหติ. เถรสฺสาปิ นยสเตน นยสหสฺเสน นยสตสหสฺเสน ภควตา เทสิตธมฺโม อุปฏฺาติเยว.

สตฺถา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตุํ กาย เวลาย คจฺฉตีติ? สาวตฺถิวาสีนํ กุลปุตฺตานํ สมฺปตฺตานํ ธมฺมเทสนเวลา นาม อตฺถิ, ตาย เวลาย คจฺฉติ. ธมฺมํ เทเสตฺวา คจฺฉนฺตํ วา อาคจฺฉนฺตํ วา เก ชานนฺติ เก น ชานนฺตีติ? มเหสกฺขา เทวตา ชานนฺติ, อปฺเปสกฺขา เทวตา น ชานนฺติ. กสฺมา น ชานนฺตีติ? สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วา นิมฺมิตพุทฺธสฺส วา รสฺมิอาทีสุ นานตฺตาภาวา. อุภินฺนมฺปิ หิ เตสํ รสฺมีสุ วา สเรสุ วา วจเนสุ วา นานตฺตํ นตฺถิ.

สาริปุตฺตตฺเถโรปิ สตฺถารา เทสิตํ เทสิตํ ธมฺมํ อาหริตฺวา อตฺตโน สทฺธิวิหาริกานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ เทเสสิ. เตสํ อยํ ปุพฺพโยโค – เต กิร กสฺสปทสพลสฺส กาเล ขุทฺทกวคฺคุลิโยนิยํ นิพฺพตฺตา ปพฺภาเร โอลมฺพนฺตา ทฺวินฺนํ อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ อภิธมฺมํ สชฺฌายนฺตานํ สเร นิมิตฺตํ คเหตฺวา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺเข อชานิตฺวาปิ สเร นิมิตฺตคฺคาหมตฺตเกเนว กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก วสิตฺวา ตสฺมึ กาเล มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตา ยมกปาฏิหาริเย ปสีทิตฺวา เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เถโร สตฺถารา เทสิตํ เทสิตํ ธมฺมํ อาหริตฺวา เตสํ เทเสสิ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิธมฺมเทสนาปริโยสานฺจ เตสํ ภิกฺขูนํ สตฺตปฺปกรณอุคฺคหณฺจ เอกปฺปหาเรเนว อโหสิ.

อภิธมฺเม วาจนามคฺโค นาม สาริปุตฺตตฺเถรปฺปภโว. มหาปกรเณ คณนจาโรปิ เถเรเนว ปิโต. เถโร หิ อิมินา นีหาเรน ธมฺมนฺตรํ อมกฺเขตฺวาว สุขํ คเหตุํ ธาเรตุํ ปริยาปุณิตุํ วาเจตุฺจ ปโหตีติ คณนจารํ เปสิ. เอวํ สนฺเต เถโรว ปมตรํ อาภิธมฺมิโก โหตีติ? น โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธว ปมตรํ อาภิธมฺมิโก. โส หิ นํ มหาโพธิปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา ปฏิวิชฺฌิ. พุทฺโธ หุตฺวา จ ปน สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,

ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมํ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,

ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวทิ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ,

สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ. (มหาว. ๑-๓; อุทา. ๑-๓);

อิทํ ปมพุทฺธวจนํ นาม. ธมฺมปทภาณกา ปน –

‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;

คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.

‘‘คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;

สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;

วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔);

อิทํ ปมพุทฺธวจนํ นามาติ วทนฺติ.

ยมกสาลานมนฺตเร นิปนฺเนน ปรินิพฺพานสมเย ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๘) วุตฺตวจนํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ นาม.

อุภินฺนมนฺตเร ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ปุปฺผทามํ คนฺเถนฺเตน วิย, รตนาวลึ อาวุนนฺเตน วิย, จ กถิโต อมตปฺปกาสโน สทฺธมฺโม มชฺฌิมพุทฺธวจนํ นาม.

ตํ สพฺพมฺปิ สงฺคยฺหมานํ ปิฏกโต ตีณิ ปิฏกานิ โหนฺติ, นิกายโต ปฺจ นิกายา, องฺคโต นวงฺคานิ, ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ. กถํ? สพฺพมฺปิ เหตํ ปิฏกโต วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ติปฺปเภทเมว โหติ. ตตฺถ อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ ทฺเว วิภงฺคา ทฺวาวีสติ ขนฺธกา โสฬส ปริวาราติ อิทํ วินยปิฏกํ นาม. พฺรหฺมชาลาทิจตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโห ทีฆนิกาโย. มูลปริยายสุตฺตาทิทิยฑฺฒสตทฺเวสุตฺตสงฺคโห มชฺฌิมนิกาโย. โอฆตรณสุตฺตาทิสตฺตสุตฺตสหสฺสสตฺตสตทฺวาสฏฺิสุตฺตสงฺคโห สํยุตฺตนิกาโย. จิตฺตปริยาทานสุตฺตาทินวสุตฺตสหสฺสปฺจสตสตฺตปฺาสสุตฺตสงฺคโห องฺคุตฺตรนิกาโย. ขุทฺทกปาธมฺมปทอุทานอิติวุตฺตกสุตฺตนิปาตวิมานวตฺถุเปตวตฺถุเถรคาถาเถรีคาถาชาตกนิทฺเทสปฏิสมฺภิทาอปทานพุทฺธวํสจริยาปิฏกวเสน ปนฺนรสปฺปเภโท ขุทฺทกนิกาโยติ อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ นาม. ธมฺมสงฺคณีอาทีนิ สตฺต ปกรณานิ อภิธมฺมปิฏกํ นาม. ตตฺถ

วิวิธวิเสสนยตฺตา, วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต.

วิวิธา หิ เอตฺถ ปฺจวิธปาติโมกฺขุทฺเทสปาราชิกาทิสตฺตอาปตฺติกฺขนฺธมาติกาวิภงฺคาทิปฺปเภทา นยา วิเสสภูตา จ ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนา อนุปฺตฺตินยา. กายิกวาจสิกอชฺฌาจารนิเสธนโต เจส กายํ วาจฺจ วิเนติ. ตสฺมา วิวิธนยตฺตา วิเสสนยตฺตา กายวาจานฺจ วินยนโต อยํ วินโย วินโยติ อกฺขาโต. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา, วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต’’ติ.

อิตรํ ปน –

อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ ‘สุตฺต’นฺติ อกฺขาตํ.

ตฺหิ อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเท อตฺเถ สูเจติ. สุวุตฺตา เจตฺถ อตฺถา เวเนยฺยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตา. สวติ เจตํ อตฺเถ, สสฺสมิว ผลํ, ปสวตีติ วุตฺตํ โหติ. สูทติ เจตํ, เธนุ วิย ขีรํ, ปคฺฆรตีติ วุตฺตํ โหติ. สุฏฺุ จ เน ตายติ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺตสภาคฺเจตํ. ยถา หิ ตจฺฉกานํ สุตฺตํ ปมาณํ โหติ เอวเมตมฺปิ วิฺูนํ. ยถา จ สุตฺเตน สงฺคหิตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ น วิทฺธํสิยนฺติ เอวเมเตน สงฺคหิตา อตฺถา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ สุตฺตนฺติ อกฺขาต’’นฺติ.

อภิธมฺมสฺส วจนตฺโถ วุตฺโตเยว. อปโร นโย –

ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต.

อยฺหิ อภิสทฺโท วุฑฺฒิลกฺขณปูชิตปริจฺฉินฺนาธิเกสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฏิกฺกมนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๘๔; สํ. นิ. ๕.๑๙๕) วุฑฺฒิยํ อาคโต. ‘‘ยา ตา รตฺติโย อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๙) ลกฺขเณ. ‘‘ราชาภิราชา มนุชินฺโท’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๘) ปูชิเต. ‘‘ปฏิพโล วิเนตุํ อภิธมฺเม อภิวินเย’’ติอาทีสุ (มหาว. ๘๕) ปริจฺฉินฺเน; อฺมฺสงฺกรวิรหิเต ธมฺเม จ วินเย จาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณนา’’ติอาทีสุ (วิ. ว. ๗๕) อธิเก.

เอตฺถ จ ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖๓ อาทโย) นเยน วุฑฺฒิมนฺโตปิ ธมฺมา วุตฺตา. ‘‘รูปารมฺมณํ วา สทฺทารมฺมณํ วา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน อารมฺมณาทีหิ ลกฺขณียตฺตา สลกฺขณาปิ. ‘‘เสกฺขา ธมฺมา, อเสกฺขา ธมฺมา, โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑; ทุกมาติกา ๑๒) นเยน ปูชิตาปิ; ปูชารหาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน สภาวปริจฺฉินฺนตฺตา ปริจฺฉินฺนาปิ. ‘‘มหคฺคตา ธมฺมา, อปฺปมาณา ธมฺมา, อนุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๒; ทุกมาติกา ๙๙) นเยน อธิกาปิ ธมฺมา วุตฺตา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต’’ติ.

ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺํ, ตํ –

ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู, ปริยตฺติพฺภาชนตฺถโต อาหุ;

เตน สโมธาเนตฺวา, ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

ปริยตฺติปิ หิ ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) ปิฏกนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทาลปิฏกํอาทายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๘; อ. นิ. ๓.๗๐) ยํกิฺจิ ภาชนมฺปิ. ตสฺมา ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู ปริยตฺติภาชนตฺถโต อาหุ.

อิทานิ เตน สโมธาเนตฺวา ตโยปิ วินยาทโย เยฺยาติ. เตน เอวํ ทุวิธตฺเถน ปิฏกสทฺเทน สห สมาสํ กตฺวา วินโย จ โส ปิฏกฺจ ปริยตฺติภาวโต, ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ภาชนโต จาติ วินยปิฏกํ. ยถาวุตฺเตเนว นเยน สุตฺตนฺตฺจ ตํ ปิฏกฺจาติ สุตฺตนฺตปิฏกํ. อภิธมฺโม จ โส ปิฏกฺจาติ อภิธมฺมปิฏกนฺติ เอวเมเต ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

เอวํ ตฺวา จ ปุนปิ เตสฺเวว ปิฏเกสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ –

เทสนาสาสนกถาเภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวฺจ ปริทีปเย.

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเย.

ตตฺรายํ ปริทีปนา วิภาวนา จ – เอตานิ หิ ตีณิ ปิฏกานิ ยถากฺกมํ อาณาโวหารปรมตฺถเทสนา, ยถาปราธยถานุโลมยถาธมฺมสาสนานิ, สํวราสํวรทิฏฺิวินิเวนนามรูปปริจฺเฉทกถาติ จ วุจฺจนฺติ.

เอตฺถ หิ วินยปิฏกํ อาณารเหน ภควตา อาณาพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา อาณาเทสนา; สุตฺตนฺตปิฏกํ โวหารกุสเลน ภควตา โวหารพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา โวหารเทสนา; อภิธมฺมปิฏกํ ปรมตฺถกุสเลน ภควตา ปรมตฺถพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา ปรมตฺถเทสนาติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ เย เต ปจุราปราธา สตฺตา เต ยถาปราธํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาปราธสาสนํ; ทุติยํ อเนกชฺฌาสยานุสยจริยาธิมุตฺติกา สตฺตา ยถานุโลมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถานุโลมสาสนํ; ตติยํ ธมฺมปุฺชมตฺเต ‘อหํ มมา’ติ สฺิโน สตฺตา ยถาธมฺมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาธมฺมสาสนนฺติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ อชฺฌาจารปฏิปกฺขภูโต สํวราสํวโร เอตฺถ กถิโตติ สํวราสํวรกถา; สํวราสํวโรติ ขุทฺทโก เจว มหนฺโต จ สํวราสํวโร, กมฺมากมฺมํ วิย จ ผลาผลํ วิย จ; ทุติยํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิปฏิปกฺขภูตา ทิฏฺิวินิเวนา เอตฺถ กถิตาติ ทิฏฺิวินิเวนกถา; ตติยํ ราคาทิปฏิปกฺขภูโต นามรูปปริจฺเฉโท เอตฺถ กถิโตติ นามรูปปริจฺเฉทกถาติ วุจฺจติ.

ตีสุปิ เจเตสุ ติสฺโส สิกฺขา ตีณิ ปหานานิ จตุพฺพิโธ จ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. ตถา หิ วินยปิฏเก วิเสเสน อธิสีลสิกฺขา วุตฺตา, สุตฺตนฺตปิฏเก อธิจิตฺตสิกฺขา, อภิธมฺมปิฏเก อธิปฺาสิกฺขา.

วินยปิฏเก จ วีติกฺกมปฺปหานํ, กิเลสานํ วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺส; สุตฺตนฺตปิฏเก ปริยุฏฺานปฺปหานํ, ปริยุฏฺานปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส; อภิธมฺมปิฏเก อนุสยปฺปหานํ, อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺาย.

ปเม ตทงฺคปฺปหานํ กิเลสานํ, อิตเรสุ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหานานิ. ปเม จ ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานํ, อิตเรสุ ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสานํ ปหานํ.

เอกเมกสฺมิฺเจตฺถ จตุพฺพิโธปิ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ – ตตฺถ ธมฺโมติ ตนฺติ. อตฺโถติ ตสฺสาเยวตฺโถ. เทสนาติ ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ตนฺติยา เทสนา. ปฏิเวโธติ ตนฺติยา ตนฺติอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา. ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ ตสฺมา คมฺภีรา. เอวํ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – ธมฺโมติ เหตุ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). อตฺโถติ เหตุผลํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). เทสนาติ ปฺตฺติ, ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโปติ อธิปฺปาโย; อนุโลมปฏิโลมสงฺเขปวิตฺถาราทิวเสน วา กถนํ. ปฏิเวโธติ อภิสมโย. โส จ โลกิยโลกุตฺตโร. วิสยโต จ อสมฺโมหโต จ; อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสุ, ธมฺมานุรูปํ อตฺเถสุ, ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสุ อวโพโธ. เตสํ เตสํ วา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว.

อิทานิ ยสฺมา เอเตสุ ปิฏเกสุ ยํ ยํ ธมฺมชาตํ วา อตฺถชาตํ วา ยา จายํ ยถา ยถา าเปตพฺโพ อตฺโถ โสตูนํ าณสฺส อภิมุโข โหติ ตถา ตถา ตทตฺถโชติกา เทสนา, โย เจตฺถ อวิปรีตาวโพธสงฺขาโต ปฏิเวโธ เตสํ เตสํ วา ธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว – สพฺพมฺเปตํ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ทุปฺปฺเหิ, สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท, ทุกฺโขคาหํ อลพฺภเนยฺยปติฏฺฺจ, ตสฺมา คมฺภีรํ. เอวมฺปิ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา จ –

เทสนาสาสนกถาเภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวฺจ ปริทีปเยติ –

อยํ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ.

เอตฺถ ปน ตีสุ ปิฏเกสุ ติวิโธ ปริยตฺติเภโท ทฏฺพฺโพ. ติสฺโส หิ ปริยตฺติโย – อลคทฺทูปมา นิสฺสรณตฺถา ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.

ตตฺถ ยา ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา อยํ อลคทฺทูปมา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อลคทฺทตฺถิโก อลคทฺทคเวสี อลคทฺทปริเยสนํ จรมาโน, โส ปสฺเสยฺย มหนฺตํ อลคทฺทํ, ตเมนํ โภเค วา นงฺคุฏฺเ วา คณฺเหยฺย, ตสฺส โส อลคทฺโท ปฏิปริวตฺติตฺวา หตฺเถ วา พาหาย วา อฺตรสฺมึ วา องฺคปจฺจงฺเค ฑํเสยฺย, โส ตโต นิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, อลคทฺทสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ สุตฺตํ…เป… เวทลฺลํ, เต ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา เตสํ ธมฺมานํ ปฺาย อตฺถํ น อุปปริกฺขนฺติ, เตสํ เต ธมฺมา ปฺาย อตฺถํ อนุปปริกฺขตํ น นิชฺฌานํ ขมนฺติ, เต อุปารมฺภานิสํสา เจว ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา จ. ยสฺส จตฺถาย ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๘).

ยา ปน สุคฺคหิตา สีลกฺขนฺธาทิปาริปูรึเยว อากงฺขมาเนน ปริยาปุฏา น อุปารมฺภาทิเหตุ, อยํ นิสฺสรณตฺถา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เตสํ เต ธมฺมา สุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๙).

ยํ ปน ปริฺาตกฺขนฺโธ ปหีนกิเลโส ภาวิตมคฺโค ปฏิวิทฺธากุปฺโป สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว เกวลํ ปเวณิปาลนตฺถาย วํสานุรกฺขณตฺถาย ปริยาปุณาติ, อยํ ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.

วินเย ปน สุปฺปฏิปนฺโน ภิกฺขุ สีลสมฺปทํ นิสฺสาย ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. สุตฺเต สุปฺปฏิปนฺโน สมาธิสมฺปทํ นิสฺสาย ฉฬภิฺา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. อภิธมฺเม สุปฺปฏิปนฺโน ปฺาสมฺปทํ นิสฺสาย จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ปาปุณาติ ตาสฺจ ตตฺเถว ปเภทวจนโต. เอวเมเตสุ สุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ วิชฺชาตฺตยฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาปฺปเภทํ สมฺปตฺตึ ปาปุณาติ.

วินเย ปน ทุปฺปฏิปนฺโน อนุฺาตสุขสมฺผสฺสอตฺถรณปาวุรณาทิผสฺสสามฺโต ปฏิกฺขิตฺเตสุ อุปาทินฺนกผสฺสาทีสุ อนวชฺชสฺี โหติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๔). ตโต ทุสฺสีลภาวํ ปาปุณาติ. สุตฺเต ทุปฺปฏิปนฺโน ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕) อธิปฺปายํ อชานนฺโต ทุคฺคหิตํ คณฺหาติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนา ทุคฺคหิเตน อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขติ อตฺตานฺจ ขนติ พหุฺจ อปุฺํ ปสวตี’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๖). ตโต มิจฺฉาทิฏฺิตํ ปาปุณาติ. อภิธมฺเม ทุปฺปฏิปนฺโน ธมฺมจินฺตํ อติธาวนฺโต อจินฺเตยฺยานิปิ จินฺเตติ, ตโต จิตฺตกฺเขปํ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยานิ, น จินฺเตตพฺพานิ, ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗). เอวเมเตสุ ทุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ ทุสฺสีลภาวมิจฺฉาทิฏฺิตาจิตฺตกฺเขปปฺปเภทํ วิปตฺตึ ปาปุณาตีติ. เอตฺตาวตา จ –

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ.

อยมฺปิ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ. เอวํ นานปฺปการโต ปิฏกานิ ตฺวา เตสํ วเสน สพฺพมฺเปตํ สงฺคยฺหมานํ ตีณิ ปิฏกานิ โหนฺติ.

กถํ นิกายโต ปฺจ นิกายาติ? สพฺพเมว เหตํ ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ กตโม ทีฆนิกาโย? ติวคฺคสงฺคหานิ พฺรหฺมชาลาทีนิ จตุตฺตึส สุตฺตานิ.

จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา, ติวคฺโค ยสฺส สงฺคโห;

เอส ทีฆนิกาโยติ, ปโม อนุโลมิโก.

กสฺมา ปเนส ทีฆนิกาโยติ วุจฺจติ? ทีฆปฺปมาณานํ สุตฺตานํ สมูหโต นิวาสโต จ. สมูหนิวาสา หิ นิกาโยติ วุจฺจนฺติ. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ จิตฺตํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา (สํ. นิ. ๓.๑๐๐), โปณิกนิกาโย, จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ. เอวมาทีนิ เจตฺถ สาธกานิ สาสนโต โลกโต จ. เอวํ เสสานมฺปิ นิกายภาเว วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กตโม มชฺฌิมนิกาโย? มชฺฌิมปฺปมาณานิ ปฺจทสวคฺคสงฺคหานิ มูลปริยายสุตฺตาทีนิ ทิยฑฺฒสตํ ทฺเว จ สุตฺตานิ.

ทิยฑฺฒสตสุตฺตนฺตา, ทฺเว จ สุตฺตานิ ยตฺถ โส;

นิกาโย มชฺฌิโม ปฺจ, ทสวคฺคปริคฺคโห.

กตโม สํยุตฺตนิกาโย? เทวตาสํยุตฺตาทิวเสน ิตานิ โอฆตรณาทีนิ สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จ ทฺวาสฏฺิ จ สุตฺตานิ.

สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จ;

ทฺวาสฏฺิ เจว สุตฺตนฺตา, เอโส สํยุตฺตสงฺคโห.

กตโม องฺคุตฺตรนิกาโย? เอเกกองฺคาติเรกวเสน ิตานิ จิตฺตปริยาทานาทีนิ นว สุตฺตสหสฺสานิ ปฺจ สุตฺตสตานิ สตฺตปฺาสฺจ สุตฺตานิ.

นว สุตฺตสหสฺสานิ, ปฺจ สุตฺตสตานิ จ;

สตฺตปฺาสสุตฺตานิ, สงฺขฺยา องฺคุตฺตเร อยํ.

กตโม ขุทฺทกนิกาโย? สกลํ วินยปิฏกํ, อภิธมฺมปิฏกํ, ขุทฺทกปา, ธมฺมปทาทโย จ ปุพฺเพ ทสฺสิตา ปฺจทสปฺปเภทา; เปตฺวา จตฺตาโร นิกาเย อวเสสํ พุทฺธวจนนฺติ.

เปตฺวา จตุโรเปเต, นิกาเย ทีฆอาทิเก;

ตทฺํ พุทฺธวจนํ, นิกาโย ขุทฺทโก มโตติ.

เอวํ นิกายโต ปฺจ นิกายา โหนฺติ.

กถํ องฺควเสน นวงฺคานีติ? สพฺพเมว หิทํ ‘สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺล’นฺติ นวปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺตรตนสุตฺตนาลกสุตฺตตุวฏฺฏกสุตฺตานิ อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ. วิเสเสน สํยุตฺตนิกาเย สกโลปิ สคาถาวคฺโค. สกลมฺปิ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ, ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปทํ เถรคาถา เถรีคาถา สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฺปฏิสํยุตฺตา ทฺวาสีติ สุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อิติวุ. ๑) ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพํ. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปฺาสาธิกานิ ปฺจ ชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปวตฺตา (ที. นิ. ๒.๒๐๙; อ. นิ. ๔.๑๒๙) สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ.

จูฬเวทลฺลมหาเวทลฺลสมฺมาทิฏฺิสกฺกปฺหสงฺขารภาชนียมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมตํ องฺคโต นวงฺคานิ.

กถํ ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ? สพฺพเมว หิทํ พุทฺธวจนํ.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗);

เอวํ ปริทีปิตธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. ยํ อเนกานุสนฺธิกํ ตตฺถ อนุสนฺธิวเสน ธมฺมกฺขนฺธคณนา. คาถาพนฺเธสุ ปฺหาปุจฺฉนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ, วิสฺสชฺชนํ เอโก. อภิธมฺเม เอกเมกํ ติกทุกภาชนํ เอกเมกฺจ จิตฺตวารภาชนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. วินเย อตฺถิ วตฺถุ, อตฺถิ มาติกา, อตฺถิ ปทภาชนียํ, อตฺถิ อาปตฺติ, อตฺถิ อนาปตฺติ, อตฺถิ อนฺตราปตฺติ, อตฺถิ ติกจฺเฉโท. ตตฺถ เอกเมโก โกฏฺาโส เอกเมโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ.

เอวเมตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ปฺจสติกสงฺคีติกาเล สงฺคายนฺเตน มหากสฺสปปฺปมุเขน วสีคเณน อยํ ธมฺโม อยํ วินโย, อิทํ ปมพุทฺธวจนํ, อิทํ มชฺฌิมพุทฺธวจนํ, อิทํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ, อิทํ วินยปิฏกํ, อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ, อิทํ อภิธมฺมปิฏกํ, อยํ ทีฆนิกาโย…เป… อยํ ขุทฺทกนิกาโย, อิมานิ สุตฺตาทีนิ นวงฺคานิ, อิมานิ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ อิมํ ปเภทํ ววตฺถเปตฺวาว สงฺคีตํ. น เกวลฺจ อิมเมว อฺมฺปิ อุทฺทานสงฺคหวคฺคสงฺคหเปยฺยาลสงฺคหเอกนิปาตทุกนิปาตาทินิปาตสงฺคหสํยุตฺตสงฺคห ปณฺณาสสงฺคหาทิอเนกวิธํ, ตีสุ ปิฏเกสุ สนฺทิสฺสมานํ สงฺคหปฺปเภทํ ววตฺถเปตฺวาว สตฺตหิ มาเสหิ สงฺคีตํ.

สงฺคีติปริโยสาเน จสฺส อิทํ มหากสฺสปตฺเถเรน ทสพลสฺส สาสนํ ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณกาลํ ปวตฺตนสมตฺถํ กตนฺติ สฺชาตปฺปโมทา สาธุการํ วิย ททมานา อยํ มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อเนกปฺปการํ กมฺปิ สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ. อเนกานิ จ อจฺฉริยานิ ปาตุรเหสุํ.

เอวํ สงฺคีเต ปเนตฺถ อยํ อภิธมฺโม ปิฏกโต อภิธมฺมปิฏกํ, นิกายโต ขุทฺทกนิกาโย, องฺคโต เวยฺยากรณํ, ธมฺมกฺขนฺธโต กติปยานิ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ โหนฺติ.

ตํ ธารยนฺเตสุ ภิกฺขูสุ ปุพฺเพ เอโก ภิกฺขุ สพฺพสามยิกปริสาย นิสีทิตฺวา อภิธมฺมโต สุตฺตํ อาหริตฺวา ธมฺมํ กเถนฺโต ‘‘รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต, จตฺตาโร ขนฺธา สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; ทสายตนา อพฺยากตา, ทฺเว อายตนา สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; โสฬส ธาตุโย อพฺยากตา, ทฺเว ธาตุโย สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา; สมุทยสจฺจํ อกุสลํ, มคฺคสจฺจํ กุสลํ, นิโรธสจฺจํ อพฺยากตํ, ทุกฺขสจฺจํ สิยา กุสลํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ; ทสินฺทฺริยา อพฺยากตา, โทมนสฺสินฺทฺริยํ อกุสลํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ กุสลํ, จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ สิยา กุสลา สิยา อพฺยากตา, ฉ อินฺทฺริยานิ สิยา กุสลา สิยา อกุสลา สิยา อพฺยากตา’’ติ ธมฺมกถํ กเถสิ.

ตสฺมึ าเน เอโก ภิกฺขุ นิสินฺโน ‘ธมฺมกถิก ตฺวํ สิเนรุํ ปริกฺขิปนฺโต วิย ทีฆสุตฺตํ อาหรสิ, กึ สุตฺตํ นาเมต’นฺติ อาห. ‘อภิธมฺมสุตฺตํ นาม, อาวุโส’ติ. ‘อภิธมฺมสุตฺตํ กสฺมา อาหรสิ? กึ อฺํ พุทฺธภาสิตํ สุตฺตํ อาหริตุํ น วฏฺฏตี’ติ? ‘อภิธมฺโม เกน ภาสิโต’ติ? ‘น เอโส พุทฺธภาสิโต’ติ. ‘กึ ปน เต, อาวุโส, วินยปิฏกํ อุคฺคหิต’นฺติ? ‘น อุคฺคหิตํ, อาวุโส’ติ. ‘อวินยธาริตาย มฺเ ตฺวํ อชานนฺโต เอวํ วเทสี’ติ. ‘วินยมตฺตเมว, อาวุโส, อุคฺคหิต’นฺติ. ‘ตมฺปิ เต ทุคฺคหิตํ, ปริสปริยนฺเต นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺเตน อุคฺคหิตํ ภวิสฺสติ; ตุมฺหาทิเส หิ ปพฺพาเชนฺโต วา อุปสมฺปาเทนฺโต วา สาติสาโร โหติ’. ‘กึ การณา’? วินยมตฺตสฺสปิ ทุคฺคหิตตฺตา; วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ อนาปตฺติ, น วิวณฺเณตุกาโม อิงฺฆ ตาว, อาวุโส, สุตฺตนฺตํ วา คาถาโย วา อภิธมฺมํ วา ปริยาปุณสฺสุ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสี’’ติ (ปาจิ. ๔๔๒) ภณติ. ‘‘สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา อภิธมฺมํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, อภิธมฺเม โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา วินยํ วา ปุจฺฉติ, วินเย โอกาสํ การาเปตฺวา สุตฺตนฺตํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒๑). ‘ตฺวํ ปน เอตฺตกมฺปิ น ชานาสี’ติ เอตฺตเกนปิ ปรวาที นิคฺคหิโต โหติ.

มหาโคสิงฺคสุตฺตํ ปน อิโตปิ พลวตรํ. ตตฺร หิ ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร อฺมฺํ ปุจฺฉิตปฺหฺจ วิสฺสชฺชนฺจ อาโรเจตุํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส วิสฺสชฺชนํ อาโรเจนฺโต ‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺมกถํ กเถนฺติ, เต อฺมฺํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, อฺมฺสฺส ปฺหํ ปุฏฺา วิสฺสชฺเชนฺติ, โน จ สํสาเทนฺติ, ธมฺมี จ เนสํ กถาปวตฺตินี โหติ, เอวรูเปน โข, อาวุโส, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๓) อาห. สตฺถา อาภิธมฺมิกา นาม มม สาสเน ปริพาหิราติ อวตฺวา สุวณฺณาลิงฺคสทิสํ คีวํ อุนฺนาเมตฺวา ปุณฺณจนฺทสสฺสิรีกํ มหามุขํ ปูเรตฺวา พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘สาธุ สาธุ สาริปุตฺตา’’ติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ยถา ตํ โมคฺคลฺลาโน จ สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, โมคฺคลฺลาโน หิ สาริปุตฺต ธมฺมกถิโก’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๓) อาห. อาภิธมฺมิกภิกฺขูเยว กิร ธมฺมกถิกา นาม, อวเสสา ธมฺมกถํ กเถนฺตาปิ น ธมฺมกถิกา. กสฺมา? เต หิ ธมฺมกถํ กเถนฺตา กมฺมนฺตรํ วิปากนฺตรํ รูปารูปปริจฺเฉทํ ธมฺมนฺตรํ อาโลเฬตฺวา กเถนฺติ. อาภิธมฺมิกา ปน ธมฺมนฺตรํ น อาโลเฬนฺติ. ตสฺมา อาภิธมฺมิโก ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถตุ วา มา วา, ปุจฺฉิตกาเล ปน ปฺหํ กเถสฺสตีติ. อยเมว เอกนฺตธมฺมกถิโก นาม โหติ. อิทํ สนฺธาย สตฺถา สาธุการํ ทตฺวา ‘สุกถิตํ โมคฺคลฺลาเนนา’ติ อาห.

อภิธมฺมํ ปฏิพาเหนฺโต อิมสฺมึ ชินจกฺเก ปหารํ เทติ, สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิพาหติ, สตฺถุ เวสารชฺชฺาณํ ปฏินิวตฺเตติ, โสตุกามํ ปริสํ วิสํวาเทติ, อริยมคฺเค อาวรณํ พนฺธติ, อฏฺารสสุ เภทกรวตฺถูสุ เอกสฺมึ สนฺทิสฺสติ อุกฺเขปนียกมฺมตชฺชนียกมฺมารโห โหติ. ตํ ตํ กมฺมํ กตฺวา อุยฺโยเชตพฺโพ ‘คจฺฉ วิฆาสาโท หุตฺวา ชีวิสฺสสี’ติ.

อถาปิ เอวํ วเทยฺย – ‘‘สเจ อภิธมฺโม พุทฺธภาสิโต, ยถา อเนเกสุ สุตฺตสหสฺเสสุ ‘เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรตี’ติอาทินา นเยน นิทานํ สชฺชิตํ, เอวมสฺสาปิ นิทานํ สชฺชิตํ ภเวยฺยา’’ติ. โส ‘ชาตกสุตฺตนิปาตธมฺมปทาทีนํ เอวรูปํ นิทานํ นตฺถิ, น เจตานิ น พุทฺธภาสิตานี’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุตฺตริปิ เอวํ วตฺตพฺโพ – ‘ปณฺฑิต, อภิธมฺโม นาเมส สพฺพฺุพุทฺธานํเยว วิสโย, น อฺเสํ วิสโย. พุทฺธานฺหิ โอกฺกนฺติ ปากฏา, อภิชาติ ปากฏา, อภิสมฺโพธิ ปากฏา, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ ปากฏํ. ยมกปาฏิหาริยํ ปากฏํ, ติทิวกฺกโม ปากโฏ, เทวโลเก เทสิตภาโว ปากโฏ, เทโวโรหนํ ปากฏํ. ยถา นาม จกฺกวตฺติรฺโ หตฺถิรตนํ วา อสฺสรตนํ วา เถเนตฺวา ยานเก โยเชตฺวา วิจรณํ นาม อฏฺานํ อการณํ; จกฺกรตนํ วา ปน เถเนตฺวา ปลาลสกเฏ โอลมฺพิตฺวา วิจรณํ นาม อฏฺานํ อการณํ; โยชนปฺปมาณํ โอภาสนสมตฺถํ มณิรตนํ วา ปน กปฺปาสปจฺฉิยํ ปกฺขิปิตฺวา วฬฺชนํ นาม อฏฺานํ อการณํ. กสฺมา? ราชารหภณฺฑตาย; เอวเมว อภิธมฺโม นาม น อฺเสํ วิสโย, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว วิสโย. เตสํ วเสน เทเสตพฺพเทสนา. พุทฺธานฺหิ โอกฺกนฺติ ปากฏา…เป… เทโวโรหนํ ปากฏํ. อภิธมฺมสฺส นิทานกิจฺจํ นาม นตฺถิ ปณฺฑิตา’ติ. น หิ สกฺกา เอวํ วุตฺเต ปรวาทินา สหธมฺมิกํ อุทาหรณํ อุทาหริตุํ.

มณฺฑลารามวาสี ติสฺสภูติตฺเถโร ปน มหาโพธินิทาโน เอส อภิธมฺโม นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เยน สฺวาหํ, ภิกฺขเว, วิหาเรน ปมาภิสมฺพุทฺโธ วิหรามิ ตสฺส ปเทเสน วิหาสิ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๑) อิมํ ปเทสวิหารสุตฺตนฺตํ อาหริตฺวา กเถสิ. ทสวิโธ หิ ปเทโส นาม – ขนฺธปเทโส, อายตนปเทโส, ธาตุปเทโส, สจฺจปเทโส, อินฺทฺริยปเทโส, ปจฺจยาการปเทโส, สติปฏฺานปเทโส, ฌานปเทโส, นามปเทโส, ธมฺมปเทโสติ. เตสุ สตฺถา มหาโพธิมณฺเฑ ปฺจกฺขนฺเธ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนากฺขนฺธวเสเนว วิหาสิ. ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ. อิมํ เตมาสํ ธมฺมายตเน เวทนาวเสน ธมฺมธาตุยฺจ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาริ สจฺจานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ทุกฺขสจฺเจ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. พาวีสตินฺทฺริยานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาปฺจกอินฺทฺริยวเสน วิหาสิ. ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ผสฺสปจฺจยา เวทนาวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาโร สติปฏฺาเน นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาสติปฏฺานวเสเนว วิหาสิ. จตฺตาริ ฌานานิ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ฌานงฺเคสุ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. นามํ นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ ตตฺถ เวทนาวเสเนว วิหาสิ. ธมฺเม นิปฺปเทเสน ปฏิวิชฺฌิ, อิมํ เตมาสํ เวทนาตฺติกวเสเนว วิหาสีติ. เอวํ เถโร ปเทสวิหารสุตฺตนฺตวเสน อภิธมฺมสฺส นิทานํ กเถสิ.

คามวาสี สุมนเทวตฺเถโร ปน เหฏฺาโลหปาสาเท ธมฺมํ ปริวตฺเตนฺโต ‘อยํ ปรวาที พาหา ปคฺคยฺห อรฺเ กนฺทนฺโต วิย, อสกฺขิกํ อฑฺฑํ กโรนฺโต วิย จ, อภิธมฺเม นิทานสฺส อตฺถิภาวมฺปิ น ชานาตี’ติ วตฺวา นิทานํ กเถนฺโต เอวมาห – เอกํ สมยํ ภควา เทเวสุ วิหรติ ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ. ตตฺร โข ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ อภิธมฺมกถํ กเถสิ – ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ.

อฺเสุ ปน สุตฺเตสุ เอกเมว นิทานํ. อภิธมฺเม ทฺเว นิทานานิ – อธิคมนิทานฺจ เทสนานิทานฺจ. ตตฺถ อธิคมนิทานํ ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา เวทิตพฺพํ. เทสนานิทานํ ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา. เอวํ อุภยนิทานสมฺปนฺนสฺส ปนสฺส อภิธมฺมสฺส นิทานโกสลฺลตฺถํ อิทํ ตาว ปฺหากมฺมํ เวทิตพฺพํ – อยํ อภิธมฺโม นาม เกน ปภาวิโต? กตฺถ ปริปาจิโต? กตฺถ อธิคโต? กทา อธิคโต? เกน อธิคโต? กตฺถ วิจิโต? กทา วิจิโต? เกน วิจิโต? กตฺถ เทสิโต? กสฺสตฺถาย เทสิโต? กิมตฺถํ เทสิโต? เกหิ ปฏิคฺคหิโต? เก สิกฺขนฺติ? เก สิกฺขิตสิกฺขา? เก ธาเรนฺติ? กสฺส วจนํ? เกนาภโตติ?

ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ – เกน ปภาวิโตติ โพธิอภินีหารสทฺธาย ปภาวิโต. กตฺถ ปริปาจิโตติ อฑฺฒฉกฺเกสุ ชาตกสเตสุ. กตฺถ อธิคโตติ โพธิมูเล. กทา อธิคโตติ วิสาขาปุณฺณมาสิยํ. เกนาธิคโตติ สพฺพฺุพุทฺเธน. กตฺถ วิจิโตติ โพธิมณฺเฑ. กทา วิจิโตติ รตนฆรสตฺตาเห. เกน วิจิโตติ สพฺพฺุพุทฺเธน. กตฺถ เทสิโตติ เทเวสุ ตาวตึเสสุ. กสฺสตฺถาย เทสิโตติ เทวตานํ. กิมตฺถํ เทสิโตติ จตุโรฆนิทฺธรณตฺถํ. เกหิ ปฏิคฺคหิโตติ เทเวหิ. เก สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา จ ปุถุชฺชนกลฺยาณา จ. เก สิกฺขิตสิกฺขาติ อรหนฺโต ขีณาสวา. เก ธาเรนฺตีติ เยสํ วตฺตติ เต ธาเรนฺติ. กสฺส วจนนฺติ ภควโต วจนํ, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. เกนาภโตติ อาจริยปรมฺปราย.

อยฺหิ สาริปุตฺตตฺเถโร ภทฺทชิ โสภิโต ปิยชาลี ปิยปาโล ปิยทสฺสี โกสิยปุตฺโต สิคฺคโว สนฺเทโห โมคฺคลิปุตฺโต สุทตฺโต ธมฺมิโย ทาสโก โสณโก เรวโตติ เอวมาทีหิ ยาว ตติยสงฺคีติกาลา อาภโต. ตโต อุทฺธํ เตสํเยว สิสฺสานุสิสฺเสหีติ เอวํ ตาว ชมฺพุทีปตเล อาจริยปรมฺปราย อาภโต. อิมํ ปน ทีปํ –

ตโต มหินฺโท อิฏฺฏิโย, อุตฺติโย สมฺพโล ตถา;

ปณฺฑิโต ภทฺทนาโม จ, เอเต นาคา มหาปฺา.

ชมฺพุทีปา อิธาคตาติ (ปริ. ๓, ๘).

อิเมหิ มหานาเคหิ อาภโต. ตโต อุทฺธํ เตสํเยว สิสฺสานุสิสฺสสงฺขาตาย อาจริยปรมฺปราย ยาวชฺชตนกาลา อาภโต.

สุเมธกถา

เอวํ อาภตสฺส ปนสฺส ยํ ตํ ทีปงฺกรทสพลโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา อธิคมนิทานํ, ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา เทสนานิทานฺจ วุตฺตํ, ตสฺส อาวิภาวตฺถํ อยํ อนุปุพฺพิกถา เวทิตพฺพา –

อิโต กิร กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก อมรวตี นาม นครํ อโหสิ. ตตฺถ สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ อุภโต สุชาโต, มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทน, อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต. โส อฺํ กมฺมํ อกตฺวา พฺราหฺมณสิปฺปเมว อุคฺคณฺหิ. ตสฺส ทหรกาเลเยว มาตาปิตโร กาลมกํสุ. อถสฺส ราสิวฑฺฒโก อมจฺโจ อายโปตฺถกํ อาหริตฺวา สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาทิปูริเต คพฺเภ วิวริตฺวา ‘เอตฺตกํ เต กุมาร มาตุ สนฺตกํ, เอตฺตกํ ปิตุ สนฺตกํ, เอตฺตกา อยฺยกปยฺยกานํ สนฺตกาติ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ธนํ อาจิกฺขิตฺวา เอตํ ปฏิปชฺชาหี’ติ อาห. สุเมธปณฺฑิโต จินฺเตสิ – ‘อิมํ ธนํ สํหริตฺวา มยฺหํ ปิตุปิตามหาทโย ปรโลกํ คจฺฉนฺตา เอกกหาปณมฺปิ คเหตฺวา น คตา, มยา ปน คเหตฺวา คมนการณํ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ โส รฺโ อาโรเจตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาชนสฺส ทานํ ทตฺวา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. อิมสฺมึ ปน าเน สุเมธกถา กเถตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ พุทฺธวํเส (พุ. วํ. ๒.๑-๓๓) –

กปฺเป จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;

อมรํ นาม นครํ, ทสฺสเนยฺยํ มโนรมํ.

ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตํ, อนฺนปานสมายุตํ;

หตฺถิสทฺทํ อสฺสสทฺทํ, เภริสงฺขรถานิ จ;

ขาทถ ปิวถ เจว, อนฺนปาเนน โฆสิตํ.

นครํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, สพฺพกมฺมมุปาคตํ;

สตฺตรตนสมฺปนฺนํ, นานาชนสมากุลํ;

สมิทฺธํ เทวนครํว, อาวาสํ ปุฺกมฺมินํ.

นคเร อมรวติยา, สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ;

อเนกโกฏิสนฺนิจโย, ปหูตธนธฺวา.

อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สธมฺเม ปารมึ คโต.

รโหคโต นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

ทุกฺโข ปุนพฺภโว นาม, สรีรสฺส จ เภทนํ.

ชาติธมฺโม ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม สหํ ตทา;

อชรํ อมตํ เขมํ, ปริเยสิสฺสามิ นิพฺพุตึ.

ยํนูนิมํ ปูติกายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

อตฺถิ เหหิติ โส มคฺโค, น โส สกฺกา น เหตุเย;

ปริเยสิสฺสามิ ตํ มคฺคํ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

ยถาปิ ทุกฺเข วิชฺชนฺเต, สุขํ นามปิ วิชฺชติ;

เอวํ ภเว วิชฺชมาเน, วิภโวปิ อิจฺฉิตพฺพโก.

ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;

เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพกํ.

ยถาปิ ปาเป วิชฺชนฺเต, กลฺยาณมปิ วิชฺชติ;

เอวเมว ชาติ วิชฺชนฺเต, อชาติปิจฺฉิตพฺพกํ.

ยถา คูถคโต ปุริโส, ตฬากํ ทิสฺวาน ปูริตํ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส ตฬากสฺส โส.

เอวํ กิเลสมลโธเว, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ.

ยถา อรีหิ ปริรุทฺโธ, วิชฺชนฺเต คมนมฺปเถ;

น ปลายติ โส ปุริโส, น โทโส อฺชสสฺส โส.

เอวํ กิเลสปริรุทฺโธ, วิชฺชมาเน สิเว ปเถ;

น คเวสติ ตํ มคฺคํ, น โทโส สิวมฺชเส.

ยถาปิ พฺยาธิโต ปุริโส, วิชฺชมาเน ติกิจฺฉเก;

น ติกิจฺฉาเปติ ตํ พฺยาธึ, น โทโส โส ติกิจฺฉเก.

เอวํ กิเลสพฺยาธีหิ, ทุกฺขิโต ปริปีฬิโต;

น คเวสติ ตํ อาจริยํ, น โทโส โส วินายเก.

ยถาปิ กุณปํ ปุริโส, กณฺเ พทฺธํ ชิคุจฺฉิย;

โมจยิตฺวาน คจฺเฉยฺย, สุขี เสรี สยํวสี.

ตเถวิมํ ปูติกายํ, นานากุณปสฺจยํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

ยถา อุจฺจารฏฺานมฺหิ, กรีสํ นรนาริโย;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, วจฺจํ กตฺวา ยถา กุฏึ.

ยถาปิ ชชฺชรํ นาวํ, ปลุคฺคํ อุทคาหินึ;

สามี ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นวจฺฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, ชิณฺณนาวํว สามิกา.

ยถาปิ ปุริโส โจเรหิ, คจฺฉนฺโต ภณฺฑมาทิย;

ภณฺฑจฺเฉทภยํ ทิสฺวา, ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉติ.

เอวเมว อยํ กาโย, มหาโจรสโม วิย;

ปหายิมํ คมิสฺสามิ, กุสลจฺเฉทนาภยา.

เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, เนกโกฏิสตํ ธนํ;

นาถานาถานํ ทตฺวาน, หิมวนฺตมุปาคมึ.

หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ธมฺมิโก นาม ปพฺพโต;

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.

จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิตํ;

อฏฺคุณสมุเปตํ, อภิฺาพลมาหรึ.

สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตํ;

วากจีรํ นิวาเสสึ, ทฺวาทสคุณมุปาคตํ.

อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลกํ;

อุปาคมึ รุกฺขมูลํ, คุเณ ทสหุปาคตํ.

วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;

อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.

ตตฺถปฺปธานํ ปทหึ, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพล ปาปุณินฺติ. (พุ. วํ. ๒.๑-๓๓);

ตตฺถ อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตาติ อิมิสฺสา ปาฬิยา สุเมธปณฺฑิเตน อสฺสมปณฺณสาลาจงฺกมา สหตฺถา มาปิตา วิย วุตฺตา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – มหาสตฺตฺหิ ‘‘หิมวนฺตํ อชฺโฌคาเหตฺวา อชฺช ธมฺมิกปพฺพตํ ปวิสิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา สกฺโก เทวานมินฺโท วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, อยํ สุเมธปณฺฑิโต ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ นิกฺขนฺโต เอตสฺส วสนฏฺานํ มาเปหี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รมณียํ อสฺสมํ สุคุตฺตํ ปณฺณสาลํ, มโนรมํ จงฺกมฺจ มาเปสิ. ภควา ปน ตทา อตฺตโน ปุฺานุภาเวน นิปฺผนฺนํ ตํ อสฺสมปทํ สนฺธาย ‘‘สาริปุตฺต ตสฺมึ ธมฺมิกปพฺพเต –

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา;

จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิต’’นฺติ. –

อาห. ตตฺถ อสฺสโม สุกโต มยฺหนฺติ สุกโต มยา. ปณฺณสาลา สุมาปิตาติ ปณฺณจฺฉนฺนา สาลาปิ เม สุมาปิตา อโหสิ.

ปฺจโทสวิวชฺชิตนฺติ ปฺจิเม จงฺกมโทสา นาม ถทฺธวิสมตา, อนฺโตรุกฺขตา, คหนจฺฉนฺนตา, อติสมฺพาธตา, อติวิสาลตาติ. ถทฺธวิสมภูมิภาคสฺมิฺหิ จงฺกเม จงฺกมนฺตสฺส ปาทา รุชฺชนฺติ, โผฏา อุฏฺหนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลภติ, กมฺมฏฺานํ วิปชฺชติ. มุทุสมตเล ปน ผาสุวิหารํ อาคมฺม กมฺมฏฺานํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา ถทฺธวิสมภูมิภาคตา เอโก โทโสติ เวทิตพฺโพ. จงฺกมนสฺส อนฺโต วา มชฺเฌ วา โกฏิยํ วา รุกฺเข สติ ปมาทมาคมฺม จงฺกมนฺตสฺส นลาฏํ วา สีสํ วา ปฏิหฺตีติ อนฺโตรุกฺขตา ทุติโย โทโส. ติณลตาทิคหนจฺฉนฺเน จงฺกเม จงฺกมนฺโต อนฺธการเวลายํ อุรคาทิเก ปาเณ อกฺกมิตฺวา วา มาเรติ, เตหิ วา ทฏฺโ ทุกฺขํ อาปชฺชตีติ คหนจฺฉนฺนตา ตติโย โทโส. อติสมฺพาเธ จงฺกเม วิตฺถารโต รตนิเก วา อฑฺฒรตนิเก วา จงฺกมนฺตสฺส ปริจฺเฉเท ปกฺขลิตฺวา นขาปิ องฺคุลิโยปิ ภิชฺชนฺตีติ อติสมฺพาธตา จตุตฺโถ โทโส. อติวิสาเล จงฺกเม จงฺกมนฺตสฺส จิตฺตํ วิธาวติ, เอกคฺคตํ น ลภตีติ อติวิสาลตา ปฺจโม โทโส. ปุถุลโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ ทฺวีสุ ปสฺเสสุ รตนมตฺตอนุจงฺกมํ ทีฆโต สฏฺิหตฺถํ มุทุตลํ สมวิปฺปกิณฺณวาลุกํ จงฺกมํ วฏฺฏติ, เจติยคิริมฺหิ ทีปปฺปสาทกมหามหินฺทตฺเถรสฺส จงฺกมนํ วิย, ตาทิสํ ตํ อโหสิ. เตนาห ‘‘จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิต’’นฺติ.

อฏฺคุณสมุเปตนฺติ อฏฺหิ สมณสุเขหิ อุเปตํ. อฏฺิมานิ สมณสุขานิ นาม ธนธฺปริคฺคหาภาโว อนวชฺชปิณฺฑปริเยสนภาโว, นิพฺพุตปิณฺฑภุฺชนภาโว, รฏฺํ ปีเฬตฺวา ธนสารํ วา สีสกหาปณาทีนิ วา คณฺหนฺเตสุ ราชกุเลสุ รฏฺปีฬนกิเลสาภาโว, อุปกรเณสุ นิจฺฉนฺทราคภาโว, โจรวิโลเป นิพฺภยภาโว, ราชราชมหามจฺเจหิ อสํสฏฺภาโว จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตภาโวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ยถา ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺเตน สกฺกา โหนฺติ อิมานิ อฏฺ สมณสุขานิ วินฺทิตุํ, เอวํ อฏฺคุณสมุเปตํ ตํ อสฺสมํ มาเปสิ’’ นฺติ.

อภิฺาพลมาหรินฺติ ปจฺฉา ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อภิฺานฺจ สมาปตฺตีนฺจ อุปฺปาทนตฺถาย อนิจฺจโต ทุกฺขโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ถามปฺปตฺตํ วิปสฺสนาพลํ อาหรึ. ยถา ตสฺมึ วสนฺโต ตํ พลํ อาหริตุํ สกฺโกมิ, เอวํ ตํ อสฺสมํ ตสฺส อภิฺตฺถาย วิปสฺสนาพลสฺส อนุจฺฉวิกํ กตฺวา มาเปสินฺติ อตฺโถ.

สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตนฺติ เอตฺถายํ อนุปุพฺพิกถา, ตทา กิร กุฏิเลณจงฺกมาทิปฏิมณฺฑิตํ ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขสฺฉนฺนํ รมณียํ มธุรสลิลาสยํ อปคตวาฬมิคภึสนกสกุณํ ปวิเวกกฺขมํ อสฺสมํ มาเปตฺวา อลงฺกตจงฺกมสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ อาลมฺพนผลกํ สํวิธาย นิสีทนตฺถาย จงฺกมเวมชฺเฌ สมตลํ มุคฺควณฺณสิลํ มาเปตฺวา อนฺโตปณฺณสาลายํ ชฏามณฺฑลวากจีรติทณฺฑกุณฺฑิกาทิเก ตาปสปริกฺขาเร มณฺฑเป ปานียฆฏปานียสงฺขปานียสราวานิ อคฺคิสาลายํ องฺคารกปลฺลทารุอาทีนีติ เอวํ ยํ ยํ ปพฺพชิตานํ อุปการาย สํวตฺตติ, ตํ ตํ สพฺพํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาย ภิตฺติยํ ‘‘เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา อิเม ปริกฺขาเร คเหตฺวา ปพฺพชนฺตู’’ติ อกฺขรานิ ฉินฺทิตฺวา เทวโลกเมว คเต วิสฺสกมฺมเทวปุตฺเต สุเมธปณฺฑิโต หิมวนฺตปาเท คิริกนฺทรานุสาเรน อตฺตโน นิวาสนานุรูปํ ผาสุกฏฺานํ โอโลเกนฺโต นทีนิวตฺตเน วิสฺสกมฺมนิมฺมิตํ สกฺกทตฺติยํ รมณียํ อสฺสมํ ทิสฺวา จงฺกมโกฏึ คนฺตฺวา ปทวลฺชํ อปสฺสนฺโต ‘‘ธุวํ ปพฺพชิตา ธุรคาเม ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา กิลนฺตรูปา อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนา ภวิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา ‘‘อติวิย จิรายนฺติ, ชานิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลกุฏิทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต มหาภิตฺติยํ อกฺขรานิ วาเจตฺวา ‘‘มยฺหํ กปฺปิยปริกฺขารา เอเต, อิเม คเหตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อตฺตนา นิวตฺถปารุตํ สาฏกยุคํ ปชหิ. เตนาห ‘‘สาฏกํ ปชหึ ตตฺถา’’ติ. เอวํ ปวิฏฺโ อหํ สาริปุตฺต ตสฺสํ ปณฺณสาลายํ สาฏกํ ปชหึ.

นวโทสมุปาคตนฺติ สาฏกํ ปชหนฺโต นว โทเส ทิสฺวา ปชหินฺติ ทีเปติ. ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตานฺหิ สาฏกสฺมึ นว โทสา อุปฏฺหนฺติ. เตสุ ตสฺส มหคฺฆภาโว เอโก โทโส, ปรปฏิพทฺธตาย อุปฺปชฺชนภาโว เอโก, ปริโภเคน ลหุํ กิลิสฺสนภาโว เอโก, กิลิฏฺโ หิ โธวิตพฺโพ จ รชิตพฺโพ จ โหติ, ปริโภเคน ลหุกํ ชีรณภาโว เอโก ชิณฺณสฺส หิ ตุนฺนํ วา อคฺคฬทานํ วา กาตพฺพํ โหติ. ปุนปริเยสนาย ทุรภิสมฺภวภาโว เอโก, ตาปสปพฺพชฺชาย อสารุปฺปภาโว เอโก, ปจฺจตฺถิกานํ สาธารณภาโว เอโก, ยถา หิ นํ ปจฺจตฺถิกา น คณฺหนฺติ, เอวํ โคเปตพฺโพ โหติ. ปริภุฺชนฺตสฺส วิภูสนฏฺานภาโว เอโก, คเหตฺวา จรนฺตสฺส ขนฺธภารมหิจฺฉภาโว เอโกติ.

วากจีรํ นิวาเสสินฺติ ตทา อหํ สาริปุตฺต อิเม นว โทเส ทิสฺวา สาฏกํ ปหาย วากจีรํ นิวาเสสึ มุฺชติณํ หีรํ หีรํ กตฺวา คนฺเถตฺวา กตํ วากจีรํ นิวาสนปารุปนตฺถาย อาทิยินฺติ อตฺโถ.

ทฺวาทสคุณมุปาคตนฺติ ทฺวาทสหิ อานิสํเสหิ สมนฺนาคตํ, วากจีรสฺมิฺหิ ทฺวาทสานิสํสา – อปฺปคฺฆํ สุนฺทรํ กปฺปิยนฺติ อยํ ตาว เอโก อานิสํโส, สหตฺถา กาตุํ สกฺกาติ อยํ ทุติโย, ปริโภเคน สณิกํ กิลิสฺสติ โธวิยมาเนปิ ปปฺโจ นตฺถีติ อยํ ตติโย, ปริโภเคน ชิณฺเณปิ สิพฺพิตพฺพาภาโว จตุตฺโถ, ปุน ปริเยสนฺตสฺส สุเขน กรณภาโว ปฺจโม, ตาปสปพฺพชฺชาย สารุปฺปภาโว ฉฏฺโ, ปจฺจตฺถิกานํ นิรุปโภคภาโว สตฺตโม, ปริภุฺชนฺตสฺส วิภูสนฏฺานาภาโว อฏฺโม, ธารเณ สลฺลหุกภาโว นวโม, จีวรปจฺจเย อปฺปิจฺฉภาโว ทสโม, วากุปฺปตฺติยา ธมฺมิกอนวชฺชภาโว เอกาทสโม วากจีเร นฏฺเปิ อนเปกฺขภาโว ทฺวาทสโมติ.

อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลกนฺติ กถํ ปชหึ? โส กิร วรสาฏกยุคํ โอมุฺจนฺโต จีวรวํเส ลคฺคิตํ อโนชปุปฺผทามสทิสํ รตฺตวากจีรํ คเหตฺวา นิวาเสตฺวา ตสฺสุปริ อปรํ สุวณฺณวณฺณํ วากจีรํ ปริทหิตฺวา ปุนฺนาคปุปฺผสนฺถรสทิสํ สขุรํ อชินจมฺมํ เอกํสํ กตฺวา ชฏามณฺฑลํ ปฏิมุฺจิตฺวา จูฬาย สทฺธึ นิจฺจลภาวกรณตฺถํ สารสูจึ ปเวเสตฺวา มุตฺตาชาลสทิสาย สิกฺกาย ปวาฬวณฺณํ กุณฺฑิกํ โอทหิตฺวา ตีสุ าเนสุ วงฺกกาชํ อาทาย เอกิสฺสา กาชโกฏิยา กุณฺฑิกํ, เอกิสฺสา องฺกุสกปจฺฉิติทณฺฑกาทีนิ โอลคฺเคตฺวา ขาริกาชํ อํเส กตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา สฏฺิหตฺเถ มหาจงฺกเม อปราปรํ จงฺกมนฺโต อตฺตโน เวสํ โอโลเกตฺวา ‘‘มยฺหํ มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, โสภติ วต เม ปพฺพชฺชา, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทีหิ สพฺเพหิปิ ธีรปุริเสหิ วณฺณิตา โถมิตา อยํ ปพฺพชฺชา นาม, ปหีนํ เม คิหิพนฺธนํ, นิกฺขนฺโตสฺมิ เนกฺขมฺมํ, ลทฺธา เม อุตฺตมปพฺพชฺชา, กริสฺสามิ สมณธมฺมํ, ลภิสฺสามิ อคฺคผลสุข’’นฺติ อุสฺสาหชาโต ขาริกาชํ โอตาเรตฺวา จงฺกมเวมชฺเฌ มุคฺควณฺณสิลาปฏฺเฏ สุวณฺณปฏิมา วิย นิสินฺโน ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมยํ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา พิทลมฺจกปสฺเส กฏฺตฺถริกาย นิปนฺโน สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา พลวปจฺจูเส ปพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน อาคมนํ อาวชฺเชสิ ‘‘อหํ ฆราวาเส อาทีนวํ ทิสฺวา อมิตโภคํ อนนฺตยสํ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา เนกฺขมคเวสโก หุตฺวา ปพฺพชิโต, อิโต ทานิ ปฏฺาย ปมาทจารํ จริตุํ น วฏฺฏติ, ปวิเวกฺหิ ปหาย วิจรนฺตํ มิจฺฉาวิตกฺกมกฺขิกา ขาทนฺติ, อิทานิ มยา ปวิเวกมนุพฺรูเหตุํ วฏฺฏติ, อหฺหิ ฆราวาสํ ปลิโพธโต ทิสฺวา นิกฺขนฺโต, อยฺจ มนาปา ปณฺณสาลา, เพลุวปกฺกวณฺณา ปริภณฺฑกตา ภูมิ, รชตวณฺณา เสตภิตฺติโย, กโปตปาทวณฺณํ ปณฺณจฺฉทนํ, วิจิตฺตตฺถรณวณฺโณ พิทลมฺจโก, นิวาสผาสุกํ วสนฏฺานํ, น เอตฺโต อติเรกตรา วิย เม เคหสมฺปทา ปฺายตี’’ติ ปณฺณสาลาย โทเส วิจินนฺโต อฏฺ โทเส ปสฺสิ.

ปณฺณสาลาปริโภคสฺมิฺหิ อฏฺ อาทีนวา – มหาสมารมฺเภน? ทพฺพสมฺภาเร สโมธาเนตฺวา กรณปริเยสนภาโว เอโก อาทีนโว. ติณปณฺณมตฺติกาสุ ปติตาสุ ตาสํ ปุนปฺปุนํ เปตพฺพตาย นิพทฺธชคฺคนภาโว ทุติโย, เสนาสนํ นาม มหลฺลกสฺส ปาปุณาติ, อเวลาย วุฏฺาปิยมานสฺส จิตฺเตกคฺคตา น โหตีติ อุฏฺาปนียภาโว ตติโย, สีตุณฺหปฏิฆาเตน กายสฺส สุขุมาลกรณภาโว จตุตฺโถ, เคหํ ปวิฏฺเน ยํกิฺจิ ปาปํ สกฺกา กาตุนฺติ ครหปฏิจฺฉาทนภาโว ปฺจโม, ‘‘มยฺห’’นฺติ ปริคฺคหกรณภาโว ฉฏฺโ, เคหสฺส อตฺถิภาโว นาเมส ทุติยกวาโส วิยาติ สตฺตโม อูกามงฺคุลฆรโคฬิกาทีนํ สาธารณตาย พหุสาธารณภาโว อฏฺโมติ อิเม อฏฺ อาทีนเว ทิสฺวา มหาสตฺโต ปณฺณสาลํ ปชหิ. เตนาห ‘‘อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลก’’นฺติ.

อุปาคมึ รุกฺขมูลํ คุเณ ทสหุปาคตนฺติ ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทสหิ คุเณหิ อุเปตํ รุกฺขมูลํ อุปาคโตสฺมีติ วทติ.

ตตฺริเม ทส คุณา – อปฺปสมารมฺภตา เอโก คุโณ อุปคมนมตฺตเมว หิ ตตฺถ โหตีติ. อปฺปฏิชคฺคนตา ทุติโย ตฺหิ สมฺมฏฺมฺปิ อสมฺมฏฺมฺปิ ปริโภคผาสุกํ โหติเยว. อนุฏฺาปนียภาโว ตติโย, ครหํ นปฺปฏิจฺฉาเทติ, ตตฺถ หิ ปาปํ กโรนฺโต ลชฺชตีติ ครหาย อปฺปฏิจฺฉาทนภาโว จตุตฺโถ, อพฺโภกาสาวาโส วิย กายํ น สนฺถมฺเภตีติ กายสฺส อสนฺถมฺภนภาโว ปฺจโม. ปริคฺคหกรณาภาโว ฉฏฺโ, เคหาลยปฏิกฺเขโป สตฺตโม, พหุสาธารณเคเห วิย ‘‘ปฏิชคฺคิสฺสามิ นํ, นิกฺขมถา’’ติ นีหรณาภาโว อฏฺโม, วสนฺตสฺส สปฺปีติกภาโว นวโม, รุกฺขมูลเสนาสนสฺส คตคตฏฺาเน สุลภตาย อนเปกฺขภาโว ทสโมติ, อิเม ทส คุเณ ทิสฺวา รุกฺขมูลํ อุปาคโตสฺมีติ วทติ.

อิมานิ เอตฺตกานิ การณานิ สลฺลกฺเขตฺวา มหาสตฺโต ปุนทิวเส ภิกฺขาย คามํ ปาวิสิ. อถสฺส สมฺปตฺตคาเม มนุสฺสา มหนฺเตน อุสฺสาเหน ภิกฺขํ อทํสุ. โส ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา อสฺสมํ อาคมฺม นิสีทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘นาหํ ‘อาหารํ น ลภามี’ติ ปพฺพชิโต สินิทฺธาหาโร นาเมส มานมทปุริสมเท วฑฺเฒติ. อาหารมูลกสฺส ทุกฺขสฺส อนฺโต นตฺถิ ยํนูนาหํ วาปิตํ โรปิตํ ธฺนิพฺพตฺตกํ อาหารํ ปชหิตฺวา ปวตฺตผลโภชโน ภเวยฺย’’นฺติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา กตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;

อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.

‘‘ตตฺถปฺปธานํ ปทหึ, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพล ปาปุณิ’’นฺติ.

เอวํ เม สิทฺธิปฺปตฺตสฺส, วสีภูตสฺส สาสเน;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก.

อุปฺปชฺชนฺเต จ ชายนฺเต, พุชฺฌนฺเต ธมฺมเทสเน;

จตุโร นิมิตฺเต นาทฺทสํ, ฌานรติสมปฺปิโต.

ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฏฺมานสา.

อหํ เตน สมเยน, นิกฺขมิตฺวา สกสฺสมา;

ธุนนฺโต วากจีรานิ, คจฺฉามิ อมฺพเร ตทา.

เวทชาตํ ชนํ ทิสฺวา, ตุฏฺหฏฺํ ปโมทิตํ;

โอโรหิตฺวาน คคนา, มนุสฺเส ปุจฺฉิ ตาวเท.

‘‘ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต, เวทชาโต มหาชโน;

กสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

เต เม ปุฏฺา วิยากํสุ ‘‘พุทฺโธ โลเก อนุตฺตโร;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก;

ตสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;

‘‘พุทฺโธ พุทฺโธ’’ติ กถยนฺโต, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.

ตตฺถ ตฺวา วิจินฺเตสึ, ตุฏฺโ สํวิคฺคมานโส;

‘‘อิธ พีชานิ โรปิสฺสํ, ขโณ เว มา อุปจฺจคา’’.

ยทิ พุทฺธสฺส โสเธถ, เอโกกาสํ ททาถ เม;

อหมฺปิ โสธยิสฺสามิ, อฺชสํ วฏุมายนํ.

อทํสุ เต มโมกาสํ, โสเธตุํ อฺชสํ ตทา;

‘‘พุทฺโธ พุทฺโธ’’ติ จินฺเตนฺโต, มคฺคํ โสเธมหํ ตทา.

อนิฏฺิเต ปโมกาเส, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

จตูหิ สตสหสฺเสหิ, ฉฬภิฺเหิ ตาทิหิ;

ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, ปฏิปชฺชิ อฺชสํ ชิโน.

ปจฺจุคฺคมนา วตฺตนฺติ, วชฺชนฺติ เภริโย พหู;

อาโมทิตา นรมรู, สาธุการํ ปวตฺตยุํ.

เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, มนุสฺสาปิ จ เทวตา;

อุโภปิ เต ปฺชลิกา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

เทวา ทิพฺเพหิ ตุริเยหิ, มนุสฺสา มานุเสหิ จ;

อุโภปิ เต วชฺชยนฺตา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.

ทิพฺพํ จนฺทนจุณฺณฺจ, วรคนฺธฺจ เกวลํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.

จมฺปกํ สลลํ นีปํ, นาคปุนฺนาคเกตกํ;

ทิโสทิสํ อุกฺขิปนฺติ, ภูมิตลคตา นรา.

เกเส มุฺจิตฺวาหํ ตตฺถ, วากจีรฺจ จมฺมกํ;

กลเล ปตฺถริตฺวาน, อวกุชฺโช นิปชฺชหํ.

อกฺกมิตฺวาน มํ พุทฺโธ, สห สิสฺเสหิ คจฺฉตุ;

มา นํ กลเล อกฺกมิตฺถ, หิตาย เม ภวิสฺสติ.

ปถวิยํ นิปนฺนสฺส, เอวํ เม อาสิ เจตโส;

‘‘อิจฺฉมาโน อหํ อชฺช, กิเลเส ฌาปเย มม.

‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, พุทฺโธ เหสฺสํ สเทวเก.

‘‘กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ.

‘‘อิมินา เม อธิกาเรน, กเตน ปุริสุตฺตเม;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตาเรมิ ชนตํ พหุํ.

‘‘สํสารโสตํ ฉินฺทิตฺวา, วิทฺธํเสตฺวา ตโย ภเว;

ธมฺมนาวํ สมารุยฺห, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ’’.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

อุสฺสีสเก มํ ตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

‘‘ปสฺสถ อิมํ ตาปสํ, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;

อปริเมยฺเย อิโต กปฺเป, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ.

‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา, นิกฺขมิตฺวา ตถาคโต;

ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ.

‘‘อชปาลรุกฺขมูเล, นิสีทิตฺวา ตถาคโต;

ตตฺถ ปายาสํ ปคฺคยฺห, เนรฺชรมุเปหิติ.

‘‘เนรฺชราย ตีรมฺหิ, ปายาสํ อท โส ชิโน;

ปฏิยตฺตวรมคฺเคน, โพธิมูลมุเปหิติ.

‘‘ตโต ปทกฺขิณํ กตฺวา, โพธิมณฺฑํ อนุตฺตโร;

อสฺสตฺถรุกฺขมูลมฺหิ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.

‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;

ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.

‘‘อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;

อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติมํ ชินํ.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;

อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา.

‘‘โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ;

จิตฺโต จ หตฺถาฬวโก, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺกา;

อุตฺตรา นนฺทมาตา จ, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺิกา’’.

อิทํ สุตฺวาน วจนํ, อสมสฺส มเหสิโน;

อาโมทิตา นรมรู, พุทฺธพีชํ กิร อยํ.

อุกฺกุฏฺิสทฺทา วตฺตนฺติ, อปฺโผเฏนฺติ หสนฺติ จ;

กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ทสสหสฺสี สเทวกา.

ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;

เหฏฺา ติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.

เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มุฺจามิมํ ชินํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.

เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, สพฺเพ ปทกฺขิณมกํสุ มํ;

นรา นาคา จ คนฺธพฺพา, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุํ.

ทสฺสนํ เม อติกฺกนฺเต, สสงฺเฆ โลกนายเก;

หฏฺตุฏฺเน จิตฺเตน, อาสนา วุฏฺหึ ตทา.

สุเขน สุขิโต โหมิ, ปาโมชฺเชน ปโมทิโต;

ปีติยา จ อภิสฺสนฺโน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.

ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

‘‘วสีภูโต อหํ ฌาเน, อภิฺาปารมึ คโต.

‘‘ทสสหสฺสิโลกมฺหิ, อิสโย นตฺถิ เม สมา;

อสโม อิทฺธิธมฺเมสุ, อลภึ อีทิสํ สุขํ’’.

ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺหํ, ทสสหสฺสาธิวาสิโน;

มหานาทํ ปวตฺเตสุํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ยา ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ, ปลฺลงฺกวรมาภุเช;

นิมิตฺตานิ ปทิสฺสนฺติ, ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร.

สีตํ พฺยปคตํ โหติ, อุณฺหฺจ อุปสมฺมติ;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ทสสหสฺสี โลกธาตู, นิสฺสทฺทา โหนฺติ นิรากุลา;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มหาวาตา น วายนฺติ, น สนฺทนฺติ สวนฺติโย;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ถลชา ทกชา ปุปฺผา, สพฺเพ ปุปฺผนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ปุปฺผิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ลตา วา ยทิ วา รุกฺขา, ผลภารา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ผลิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา, รตนา โชตนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช รตนา โชตนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มานุสฺสกา จ ทิพฺพา จ, ตุริยา วชฺชนฺติ ตาวเท;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

วิจิตฺตปุปฺผา คคนา, อภิวสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปิ อชฺช ปวสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

มหาสมุทฺโท อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปติ;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

นิรเยปิ ทสสหสฺเส, อคฺคี นิพฺพนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช นิพฺพุตา อคฺคี, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

วิมโล โหติ สูริโย, สพฺพา ทิสฺสนฺติ ตารกา;

เตปิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อโนวฏฺเน อุทกํ, มหิยา อุพฺภิชฺชิ ตาวเท;

ตมฺปชฺชุพฺภิชฺชเต มหิยา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ตาราคณา วิโรจนฺติ, นกฺขตฺตา คคนมณฺฑเล;

วิสาขา จนฺทิมายุตฺตา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

พิลาสยา ทรีสยา, นิกฺขมนฺติ สกาสยา;

เตปชฺช อาสยา ฉุทฺธา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โหติ อรติ สตฺตานํ, สนฺตุฏฺา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ สนฺตุฏฺา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โรคา ตทุปสมฺมนฺติ, ชิฆจฺฉา จ วินสฺสติ;

ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

โรโค ตทา ตนุ โหติ, โทโส โมโห วินสฺสติ;

เตปชฺช วิคตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ภยํ ตทา น ภวติ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

รโช นุทฺธํสติ อุทฺธํ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

อนิฏฺคนฺโธ ปกฺกมติ, ทิพฺพคนฺโธ ปวายติ;

โสปชฺช วายติ คนฺโธ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

สพฺเพ เทวา ปทิสฺสนฺติ, ปยิตฺวา อรูปิโน;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ยาวตา นิรยา นาม, สพฺเพ ทิสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

กุฏฺฏา กวาฏา เสลา จ, น โหนฺตาวรณา ตทา;

อกาสภูตา เตปชฺช, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

จุตี จ อุปปตฺติ จ, ขเณ ตสฺมึ น วิชฺชติ;

ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

ทฬฺหํ ปคฺคณฺห วีริยํ, มา นิวตฺต อภิกฺกม;

มยมฺเปตํ วิชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, ทสสหสฺสีนจูภยํ;

ตุฏฺหฏฺโ ปโมทิโต, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.

อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา, อโมฆวจนา ชินา;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

ยถา ขิตฺตํ นเภ เลฑฺฑุ, ธุวํ ปตติ ภูมิยํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถาปิ สพฺพสตฺตานํ, มรณํ ธุวสสฺสตํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา รตฺติกฺขเย ปตฺเต, สูริยุคฺคมนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา นิกฺขนฺตสยนสฺส, สีหสฺส นทนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

ยถา อาปนฺนสตฺตานํ, ภารโมโรปนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ.

หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม, วิจินามิ อิโต จิโต;

อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา, ยาวตา ธมฺมธาตุยา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปมํ ทานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อนุจิณฺณํ มหาปถํ.

อิมํ ตฺวํ ปมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ทานปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ, ยสฺส กสฺสจิ อโธกโต;

วมเต วุทกํ นิสฺเสสํ, น ตตฺถ ปริรกฺขติ.

ตเถว ยาจเก ทิสฺวา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

ททาหิ ทานํ นิสฺเสสํ, กุมฺโภ วิย อโธกโต.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ทุติยํ สีลปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ทุติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

สีลปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ จมรี วาลํ, กิสฺมิฺจิ ปฏิลคฺคิตํ;

อุเปติ มรณํ ตตฺถ, น วิโกเปติ วาลธึ.

ตเถว จตูสุ ภูมีสุ, สีลานิ ปริปูรย;

ปริรกฺข สทา สีลํ, จมรี วิย วาลธึ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ตติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เนกฺขมฺมปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถา อนฺทุฆเร ปุริโส, จิรวุตฺโถ ทุขฏฺฏิโต;

น ตตฺถ ราคํ ชเนติ, มุตฺติเมว คเวสติ.

ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปสฺส อนฺทุฆรํ วิย;

เนกฺขมฺมาภิมุโข โหติ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, จตุตฺถํ ปฺาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ จตุตฺถํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ปฺาปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ ภิกฺขุ ภิกฺขนฺโต, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

กุลานิ น วิวชฺเชนฺโต, เอวํ ลภติ ยาปนํ.

ตเถว ตฺวํ สพฺพกาลํ, ปริปุจฺฉํ พุธํ ชนํ;

ปฺาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปฺจมํ วีริยปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ปฺจมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

วีริยปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ สีโห มิคราชา, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อลีนวีริโย โหติ, ปคฺคหิตมโน สทา.

ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปคฺคณฺห วีริยํ ทฬฺหํ;

วีริยปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ฉฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌมานโส, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปถวี นาม, สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ จ;

สพฺพํ สหติ นิกฺเขปํ, น กโรติ ปฏิฆํ ตยา.

ตเถว ตฺวมฺปิ สพฺเพสํ, สมฺมานาวมานกฺขโม;

ขนฺติปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, สตฺตมํ สจฺจปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ สตฺตมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌวจโน, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ โอสมี นาม, ตุลาภูตา สเทวเก;

สมเย อุตุวสฺเส วา, น โวกฺกมติ, วีถิโต.

ตเถว ตฺวมฺปิ สจฺเจสุ, มา โวกฺกมสิ วีถิโต;

สจฺจปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ อฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ ตฺวํ อจโล หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

น กมฺปติ ภุสวาเตหิ, สกฏฺาเนว ติฏฺติ.

ตเถว ตฺวมฺปิ อธิฏฺาเน, สพฺพทา อจโล ภว;

อธิฏฺานปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, นวมํ เมตฺตาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ นวมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เมตฺตาย อสโม โหหิ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

ยถาปิ อุทกํ นาม, กลฺยาเณ ปาปเก ชเน;

สมํ ผรติ สีเตน, ปวาเหติ รโชมลํ.

ตเถว ตฺวมฺปิ หิตาหิเต, สมํ เมตฺตาย ภาวย;

เมตฺตาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.

วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

อิมํ ตฺวํ ทสมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตุลาภูโต ทฬฺโห หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

ยถาปิ ปถวี นาม, นิกฺขิตฺตํ อสุจึ สุจึ;

อุเปกฺขติ อุโภเปเต, โกปานุนยวชฺชิตา.

ตเถว ตฺวมฺปิ สุขทุกฺเข, ตุลาภูโต สทา ภว;

อุเปกฺขาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

เอตฺตกาเยว เต โลเก, เย ธมฺมา โพธิปาจนา;

ตตุทฺธํ นตฺถิ อฺตฺร, ทฬฺหํ ตตฺถ ปติฏฺห.

อิเม ธมฺเม สมฺมสโต, สภาวรสลกฺขเณ;

ธมฺมเตเชน วสุธา, ทสสหสฺสี ปกมฺปถ.

จลตา รวติ ปถวี, อุจฺฉุยนฺตํว ปีฬิตํ;

เตลยนฺเต ยถา จกฺกํ, เอวํ กมฺปติ เมทินี.

ยาวตา ปริสา อาสิ, พุทฺธสฺส ปริเวสเน;

ปเวธมานา สา ตตฺถ, มุจฺฉิตา เสสิ ภูมิยา.

ฆฏาเนกสหสฺสานิ, กุมฺภีนฺจ สตา พหู;

สฺจุณฺณมถิตา ตตฺถ, อฺมฺํ ปฆฏฺฏิตา.

อุพฺพิคฺคา ตสิตา ภีตา, ภนฺตา พฺยาถิตมานสา;

มหาชนา สมาคมฺม, ทีปงฺกรมุปาคมุํ.

กึ ภวิสฺสติ โลกสฺส, กลฺยาณมถ ปาปกํ;

สพฺโพ อุปทฺทุโต โลโก, ตํ วิโนเทหิ จกฺขุม.

เตสํ ตทา สฺาเปสิ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

วิสฺสตฺถา โหถ มา ภาถ, อิมสฺมึ ปถวิกมฺปเน.

ยมหํ อชฺช พฺยากาสึ, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ;

เอโส สมฺมสติ ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ.

ตสฺส สมฺมสโต ธมฺมํ, พุทฺธภูมึ อเสสโต;

เตนายํ กมฺปิตา ปถวี, ทสสหสฺสี สเทวเก.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, มโน นิพฺพายิ ตาวเท;

สพฺเพ มํ อุปสงฺกมฺม, ปุนาปิ อภิวนฺทิสุํ.

สมาทยิตฺวา พุทฺธคุณํ, ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ;

ทีปงฺกรํ นมสฺสิตฺวา, อาสนา วุฏฺหึ ตทา.

ทิพฺพํ มานุสกํ ปุปฺผํ, เทวา มานุสกา อุโภ;

สโมกิรนฺติ ปุปฺเผหิ, วุฏฺหนฺตสฺส อาสนา.

เวทยนฺติ จ เต โสตฺถึ, เทวา มานุสกา อุโภ;

มหนฺตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ตํ ลภสฺสุ ยถิจฺฉิตํ.

สพฺพีติโย วิวชฺชนฺตุ, โสโก โรโค วินสฺสตุ;

มา เต ภวนฺตฺวนฺตรายา, ผุส ขิปฺปํ โพธิมุตฺตมํ.

ยถาปิ สมเย ปตฺเต, ปุปฺผนฺติ ปุปฺผิโน ทุมา;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณน ปุปฺผสุ.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ปูรยุํ ทสปารมี;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปูเรหิ ทสปารมี.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, โพธิมณฺฑมฺหิ พุชฺฌเร;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุชฺฌสฺสุ ชินโพธิยํ.

ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยุํ;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตย.

ปุณฺณมาเย ยถา จนฺโท, ปริสุทฺโธ วิโรจติ;

ตเถว ตฺวํ ปุณฺณมโน, วิโรจ ทสสหสฺสิยํ.

ราหุมุตฺโต ยถา สูริโย, ตาเปน อติโรจติ;

ตเถว โลกา มุฺจิตฺวา, วิโรจ สิริยา ตุวํ.

ยถา ยา กาจิ นทิโย, โอสรนฺติ มโหทธึ;

เอวํ สเทวกา โลกา, โอสรนฺตุ ตวนฺติเก.

เตหิ ถุตปฺปสตฺโถ โส, ทส ธมฺเม สมาทิย;

เต ธมฺเม ปริปูเรนฺโต, ปวนํ ปาวิสี ตทา.

สุเมธกถา นิฏฺิตา.

ตทา เต โภชยิตฺวาน, สสงฺฆํ โลกนายกํ;

อุปคจฺฉุํ สรณํ ตสฺส, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

สรณาคมเน กฺจิ, นิเวเสสิ ตถาคโต;

กฺจิ ปฺจสุ สีเลสุ, สีเล ทสวิเธ ปรํ.

กสฺสจิ เทติ สามฺํ, จตุโร ผลมุตฺตเม;

กสฺสจิ อสเม ธมฺเม, เทติ โส ปฏิสมฺภิทา.

กสฺสจิ วรสมาปตฺติโย, อฏฺ เทติ นราสโภ;

ติสฺโส กสฺสจิ วิชฺชาโย, ฉฬภิฺา ปเวจฺฉติ.

เตน โยเคน ชนกายํ, โอวทติ มหามุนิ;

เตน วิตฺถาริกํ อาสิ, โลกนาถสฺส สาสนํ.

มหาหนุสภกฺขนฺโธ, ทีปงฺกรสนามโก;

พหู ชเน ตารยติ, ปริโมเจติ ทุคฺคตึ.

โพธเนยฺยํ ชนํ ทิสฺวา, สตสหสฺเสปิ โยชเน;

ขเณน อุปคนฺตฺวาน, โพเธติ ตํ มหามุนิ.

ปมาภิสมเย พุทฺโธ, โกฏิสตมโพธยิ;

ทุติยาภิสมเย นาโถ, นวุติโกฏิมโพธยิ.

ยทา จ เทวภวนมฺหิ, พุทฺโธ ธมฺมเทสยิ;

นวุติโกฏิสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหุ.

สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม.

ปุน นารทกูฏมฺหิ, ปวิเวกคเต ชิเน;

ขีณาสวา วีตมลา, สมึสุ สตโกฏิโย.

ยมฺหิ กาเล มหาวีโร, สุทสฺสนสิลุจฺจเย;

นวุติโกฏิสหสฺเสหิ, ปวาเรสิ มหามุนิ.

อหํ เตน สมเยน, ชฏิโล อุคฺคตาปโน;

อนฺตลิกฺขมฺหิ จรโณ, ปฺจาภิฺาสุ ปารคู.

ทสวีสสหสฺสานํ, ธมฺมาภิสมโย อหุ;

เอกทฺวินฺนํ อภิสมยา, คณนาโต อสงฺขิยา.

วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ, อิทฺธํ ผีตํ อหุ ตทา;

ทีปงฺกรสฺส ภควโต, สาสนํ สุวิโสธิตํ.

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, ฉฬภิฺา มหิทฺธิกา;

ทีปงฺกรํ โลกวิทุํ, ปริวาเรนฺติ สพฺพทา.

เย เกจิ เตน สมเยน, ชหนฺติ มานุสํ ภวํ;

อปฺปตฺตมานสา เสขา, ครหิตา ภวนฺติ เต.

สุปุปฺผิตํ ปาวจนํ, อรหนฺเตหิ ตาทิหิ;

ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, อุปโสภติ สเทวเก.

นครํ รมฺมวตี นาม, สุเทโว นาม ขตฺติโย;

สุเมธา นาม ชนิกา, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

สุมงฺคโล จ ติสฺโส จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

สาคโต นามุปฏฺาโก, ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน.

นนฺทา เจว สุนนฺทา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, ปิปฺผลีติ ปวุจฺจติ.

อสีติหตฺถมุพฺเพโธ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

โสภติ ทีปรุกฺโขว, สาลราชาว ปุปฺผิโต;

ปภา วิธาวติ ตสฺส, สมนฺตา ทฺวาทสโยชเน.

สตสหสฺสวสฺสานิ, อายุ ตสฺส มเหสิโน;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

โชตยิตฺวาน สทฺธมฺมํ, สนฺตาเรตฺวา มหาชนํ;

ชลิตฺวา อคฺคิกฺขนฺโธว, นิพฺพุโต โส สสาวโก.

สา จ อิทฺธิ โส จ ยโส, ตานิ จ ปาเทสุ จกฺกรตนานิ;

สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขาราติ.

ทีปงฺกรสฺส ภควโต อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา อเหสุํ. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสํ. ทุติเย โกฏิสหสฺสํ, ตติเย นวุติโกฏิโย.

ตทา โพธิสตฺโต วิชิตาวี นาม จกฺกวตฺตี หุตฺวา โกฏิสตสหสฺสสงฺขสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. สตฺถา โพธิสตฺตํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. โส สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา ปพฺพชิ. โส ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย, ปฺจ จ อภิฺาโย อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. โกณฺฑฺพุทฺธสฺส ปน รมฺมวตี นาม นครํ, สุนนฺโท นาม ขตฺติโย ปิตา, สุชาตา นาม มาตา, ภทฺโท จ สุภทฺโท จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อนุรุทฺโธ นาม อุปฏฺาโก, ติสฺสา จ อุปติสฺสา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลกลฺยาณี โพธิ, อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ, วสฺสสตสหสฺสํ อายุปฺปมาณํ อโหสิ.

ตสฺส อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึเยว กปฺเป จตฺตาโร พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ มงฺคโล สุมโน เรวโต โสภิโตติ. มงฺคลสฺส ปน ภควโต ตีสุ สาวกสนฺนิปาเตสุ ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ. ทุติเย โกฏิสหสฺสํ. ตติเย นวุติโกฏิโย. เวมาติกภาตา ปนสฺส อานนฺทกุมาโร นาม นวุติโกฏิสงฺขฺยาย ปริสาย สทฺธึ ธมฺมสวนตฺถาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ, สตฺถา ตสฺส อนุปุพฺพิกถํ กเถสิ. โส สทฺธึ ปริสาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. สตฺถา เตสํ กุลปุตฺตานํ ปุพฺพจริยกํ โอโลเกนฺโต อิทฺธิมยปตฺตจีวรสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ อาห. สพฺเพ ตงฺขณฺเว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา สฏฺิวสฺสิกตฺเถรา วิย อากปฺปสมฺปนฺนา หุตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปริวารยึสุ อยมสฺส ตติโย สาวกสนฺนิปาโต อโหสิ.

ยถา ปน อฺเสํ พุทฺธานํ สมนฺตา อสีติหตฺถปฺปมาณาเยว สรีรปฺปภา โหติ, น, เอวํ ตสฺส. ตสฺส ปน ภควโต สรีรปฺปภา นิจฺจกาลํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. รุกฺขปถวีปพฺพตสมุทฺทาทโย อนฺตมโส อุกฺขลิยาทีนิ อุปาทาย สุวณฺณปฏ ปริโยนทฺธา วิย อเหสุํ. อายุปฺปมาณํ ปนสฺส นวุติวสฺสสหสฺสานิ อโหสิ. เอตฺตกํ กาลํ จนฺทิมสูริยาทโย อตฺตโน ปภาย วิโรจิตุํ นาสกฺขึสุ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉโท น ปฺายิตฺถ. ทิวา สูริยาโลเกน วิย สตฺตา นิจฺจํ พุทฺธาโลเกเนว วิจรึสุ. สายํ ปุปฺผิตานํ กุสุมานํ, ปาโต รวนกสกุณานฺจ วเสน โลโก รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ สลฺลกฺเขสิ. กึ ปน อฺเสํ พุทฺธานํ อยมานุภาโว นตฺถีติ? โน นตฺถิ, เตปิ หิ อากงฺขมานา ทสสหสฺสึ วา โลกธาตุํ, ตโต วา ภิยฺโย อาภาย ผเรยฺยุํ. มงฺคลสฺส ปน ภควโต ปุพฺพปตฺถนาวเสน อฺเสํ พฺยามปฺปภา วิย สรีรปฺปภา นิจฺจเมว ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

โส กิร โพธิสตฺตจริยกาเล เวสฺสนฺตรสทิเส อตฺตภาเว ิโต สปุตฺตทาโร วงฺกปพฺพตสทิเส ปพฺพเต วสิ. อเถโก ขรทาิโก นาม ยกฺโข มหาปุริสสฺส ทานชฺฌาสยตํ สุตฺวา พฺราหฺมณวณฺเณน อุปสงฺกมิตฺวา มหาสตฺตํ ทฺเว ทารเก ยาจิ. มหาสตฺโต ‘‘ททามิ พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตเก’’ติ หฏฺปหฏฺโ อุทกปริยนฺตํ ปถวึ กมฺเปนฺโต ทฺเวปิ ทารเก อทาสิ. ยกฺโข จงฺกมนโกฏิยํ อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ตฺวา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาสตฺตสฺส มุฬาลกลาปํ วิย ทฺเว ทารเก ขาทิ. มหาปุริสสฺส ยกฺขํ โอโลเกตฺวา วิวฏมตฺเต อคฺคิชาลํ วิย โลหิตธารํ อุคฺคิรมานํ ตสฺส มุขํ ทิสฺวาปิ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โทมนสฺสํ นุปฺปชฺชิ, ‘‘สุทินฺนํ วต เม ทาน’’นฺติ จินฺตยโต ปนสฺส สรีเร มหนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุทปาทิ. โส ‘‘อิมสฺส เม นิสฺสนฺเทน อนาคเต อิมินาว นีหาเรน สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขมนฺตู’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. ตสฺส ตํ ปตฺถนํ นิสฺสาย พุทฺธภูตสฺส สรีรโต รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา เอตฺตกํ านํ ผรึสุ.

อปรมฺปิสฺส ปุพฺพจริตํ อตฺถิ. โส กิร โพธิสตฺตกาเล เอกสฺส พุทฺธสฺส เจติยํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส พุทฺธสฺส มยา ชีวิตํ ปริจฺจชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทณฺฑกทีปิกาเวนนิยาเมน สกลสรีรํ เวาเปตฺวา รตนมตฺตมกุลํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา ตตฺถ สหสฺสวฏฺฏิโย ชาลาเปตฺวา ตํ สีเสนาทาย สกลสรีรํ ชาลาเปตฺวา เจติยํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต สกลรตฺตึ วีตินาเมสิ. เอวํ ยาว อรุณุคฺคมนา วายมนฺตสฺสาปิสฺส โลมกูปมตฺตมฺปิ อุสุมํ น คณฺหิ, ปทุมคพฺภํ ปวิฏฺกาโล วิย อโหสิ. ธมฺโม หิ นาเมส อตฺตานํ รกฺขนฺตํ รกฺขติ. เตนาห ภควา –

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ,

ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ,

น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ. (เถรคา. ๓๐๓; ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕);

อิมสฺสาปิ กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน ตสฺส ภควโต สรีโรภาโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต สุรุจิ นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา ‘‘สตฺถารํ นิมนฺเตสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิตฺวา มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถ ภนฺเต’’ติ อาห. พฺราหฺมณ กิตฺตเกหิ เต ภิกฺขูหิ อตฺโถติ, กิตฺตกา ปน โว ภนฺเต ปริวารา ภิกฺขูติ. ตทา สตฺถุ ปมสนฺนิปาโตเยว โหติ. ตสฺมา ‘‘โกฏิสตสหสฺส’’นฺติ อาห. ‘‘ภนฺเต, สพฺเพหิปิ สทฺธึ มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. สตฺถา อธิวาเสสิ. พฺราหฺมโณ สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา เคหํ คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตวตฺถาทีนิ ทาตุํ โน น สกฺโกมิ, นิสีทนฏฺานํ ปน กถํ ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺส สา จินฺตา จตุราสีติโยชนสหสฺสมตฺถเก ิตสฺส เทวรฺโ ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนสฺส อุณฺหภาวํ ชเนสิ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ อิมสฺมา านา จาเวตุกาโม’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต มหาปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สุรุจิ พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา นิสีทนฏฺานตฺถาย จินฺเตสิ, มยาปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ปุฺโกฏฺาสํ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วฑฺฒกิวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา วาสิผรสุหตฺโถ มหาปุริสสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. ‘‘อตฺถิ นุ โข กสฺสจิ ภติยา กตฺตพฺพกิจฺจ’’นฺติ อาห. มหาปุริโส ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ กมฺมํ กริสฺสสี’’ติ อาห. มม อชานนสิปฺปํ นาม นตฺถิ, เคหํ วา มณฺฑปํ วา โย ยํ กาเรติ, ตสฺส ตํ กาตุํ ชานามีติ. เตน หิ มยฺหํ กมฺมํ อตฺถีติ. กึ, อยฺยาติ? สฺวาตนาย เม โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู นิมนฺติตา, เตสํ นิสีทนมณฺฑปํ กริสฺสสีติ. อหํ นาม กเรยฺยํ, สเจ เม ภตึ ทาตุํ สกฺขิสฺสถาติ. สกฺขิสฺสามิ, ตาตาติ. ‘‘สาธุ กริสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา เอกํ ปเทสํ โอโลเกสิ.

ทฺวาทสเตรสโยชนปฺปมาโณ ปเทโส กสิณมณฺฑลํ วิย สมตโล อโหสิ. โส ‘‘เอตฺตเก าเน สตฺตรตนมโย มณฺฑโป อุฏฺหตู’’ติ จินฺเตตฺวา โอโลเกสิ. ตาวเทว ปถวึ ภินฺทิตฺวา มณฺฑโป อุฏฺหิ. ตสฺส สุวณฺณมเยสุ ถมฺเภสุ รชตมยา ฆฏกา อเหสุํ, รชตมเยสุ ถมฺเภสุ สุวณฺณมยา, มณิตฺถมฺเภสุ ปวาฬมยา, ปวาฬตฺถมฺเภสุ มณิมยา, สตฺตรตนมเยสุ ถมฺเภสุ สตฺตรตนมยาว ฆฏกา อเหสุํ. ตโต ‘‘มณฺฑปสฺส อนฺตรนฺเตน กิงฺกิณิกชาลํ โอลมฺพตู’’ติ โอโลเกสิ. สห โอโลกเนเนว กิงฺกิณิกชาลํ โอลมฺพิ, ยสฺส มนฺทวาเตริตสฺส ปฺจงฺคิกสฺเสว ตูริยสฺส มธุรสทฺโท นิคฺคจฺฉติ. ทิพฺพสงฺคีติวตฺตนกาโล วิย อโหสิ. ‘‘อนฺตรนฺตรา คนฺธทามมาลาทามานิ โอลมฺพนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. ตาวเทว ทามานิ โอลมฺพึสุ. ‘‘โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยานํ ภิกฺขูนํ อาสนานิ จ อาธารกานิ จ ปถวึ ภินฺทิตฺวา อุฏฺหนฺตู’’ติ จินฺเตสิ. ตาวเทว อุฏฺหึสุ. ‘‘โกเณ โกเณ เอเกกา อุทกจาฏิโย อุฏฺหนฺตู’’ติ จินฺเตสิ, ตาวเทว อุทกจาฏิโย อุฏฺหึสุ เอตฺตกํ มาเปตฺวา พฺราหฺมณสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เอหิ อยฺย ตว มณฺฑปํ โอโลเกตฺวา มยฺหํ ภตึ เทหี’’ติ อาห. มหาปุริโส คนฺตฺวา มณฺฑปํ โอโลเกสิ. โอโลเกนฺตสฺเสวสฺส สกลสรีรํ ปฺจวณฺณาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏํ อโหสิ. อถสฺส มณฺฑปํ โอโลเกตฺวา เอตทโหสิ ‘‘นายํ มณฺฑโป มนุสฺสภูเตน กโต, มยฺหํ ปน อชฺฌาสยํ มยฺหํ คุณํ อาคมฺม อทฺธา สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหํ อโหสิ. ตโต สกฺเกน เทวรฺา อยํ มณฺฑโป การิโต ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘น โข ปน เม ยุตฺตํ เอวรูเป มณฺฑเป เอกทิวสํเยว ทานํ ทาตุํ, สตฺตาหํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

พาหิรกทานฺหิ ตตฺตกมฺปิ สมานํ โพธิสตฺตานํ ตุฏฺึ กาตุํ น สกฺโกติ. อลงฺกตสีสํ ปน ฉินฺทิตฺวา อฺชิตอกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา, หทยมํสํ วา อุปฺปาเฏตฺวา ทินฺนกาเล โพธิสตฺตานํ จาคํ นิสฺสาย ตุฏฺิ นาม โหติ. อมฺหากมฺปิ หิ โพธิสตฺตสฺส สิวิชาตเก เทวสิกํ ปฺจสตสหสฺสกหาปณานิ วิสฺสชฺเชตฺวา จตูสุ นครทฺวาเรสุ, มชฺเฌ นคเร จ ทานํ ททนฺตสฺส ตํ ทานํ ตุฏฺึ อุปฺปาเทตุํ นาสกฺขิ. ยทา ปนสฺส พฺราหฺมณวณฺเณน อาคนฺตฺวา สกฺโก เทวราชา อกฺขีนิ ยาจิ, ตทา ตานิ อุปฺปาเฏตฺวา ททมานสฺเสว หาโส อุปฺปชฺชิ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ นาโหสิ. เอวํ ทานํ นิสฺสาย โพธิสตฺตานํ ติตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺมา โสปิ มหาปุริโส ‘‘สตฺตาหํ มยา โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยานํ ภิกฺขูนํ ทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺมึ มณฺฑเป พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา สตฺตาหํ ควปานํ นาม อทาสิ. ควปานนฺติ มหนฺเต มหนฺเต โกลมฺเพ ขีรสฺส ปูเรตฺวา อุทฺธเนสุ อาโรเปตฺวา ฆนปากปกฺเก ขีเร โถเก ตณฺฑุเล ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกมธุสกฺกรจุณฺณสปฺปีหิ อภิสงฺขตํ โภชนํ วุจฺจติ. มนุสฺสาเยว ปน ปริวิสิตุํ นาสกฺขึสุ, เทวาปิ เอกนฺตริกา หุตฺวา ปริวิสึสุ. ทฺวาทสเตรสโยชนปฺปมาณํ านมฺปิ ภิกฺขู คณฺหิตุํ นปฺปโหติเยว. เต ปน ภิกฺขู อตฺตโน อานุภาเวน นิสีทึสุ. ปริโยสานทิวเส สพฺพภิกฺขูนํ ปตฺตานิ โธวาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตานํ ปูเรตฺวา ติจีวเรหิ สทฺธึ อทาสิ. สงฺฆนวกภิกฺขุนา ลทฺธติจีวรสาฏกา สตสหสฺสคฺฆนิกา อเหสุํ. สตฺถา อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อยํ ปุริโส เอวรูปํ มหาทานํ อทาสิ, โก นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา มหาปุริสํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ เอตฺตกํ นาม กาลํ อติกฺกมิตฺวา โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

มหาปุริโส พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, โก เม ฆราวาเสน อตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตถารูปํ สมฺปตฺตึ เขฬปิณฺฑํ วิย ปหาย สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. ปพฺพชิตฺวา จ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อภิฺา, สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อายุปริโยสเน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.

มงฺคลสฺส ปน ภควโต อุตฺตรํ นาม นครํ อโหสิ. ปิตาปิ อุตฺตโร นาม ขตฺติโย, มาตาปิ อุตฺตรา นาม, สุเทโว จ ธมฺมเสโน จ ทฺเว อคฺคสาวกา, ปาลิโต นาม อุปฏฺาโก, สีวลี จ อโสกา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโข โพธิ, อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ. นวุติวสฺสสหสฺสานิ ตฺวา ปรินิพฺพุเต ปน ตสฺมึ เอกปฺปหาเรเนว ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกนฺธการานิ อเหสุํ. สพฺพจกฺกวาเฬสุ มนุสฺสานํ มหนฺตํ อาโรทนปริเทวนํ อโหสิ.

เอวํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อนฺธการํ กตฺวา ปรินิพฺพุตสฺส ตสฺส ภควโต อปรภาเค สุมโน นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ. ทุติเย กฺจนปพฺพตมฺหิ นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา มหาสตฺโต อตุโล นาม นาคราชา อโหสิ มหิทฺธิโก มหานุภาโว, โส ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา าติสงฺฆปริวุโต นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา โกฏิสตสหสฺสภิกฺขุปริวารสฺส ตสฺส ภควโต ทิพฺพตูริเยหิ อุปหารํ การาเปตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปจฺเจกํ ทุสฺสยุคานิ ทตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ เมขลํ นาม อโหสิ, สุทตฺโต นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สรโณ จ ภาวิตตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อุเทโน นาม อุปฏฺาโก, โสณา จ อุปโสณา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, นวุติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ, นวุติเยว วสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสีติ.

ตสฺส อปรภาเค เรวโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา อเหสุํ, ปมสนฺนิปาเต คณนา นาม นตฺถิ, ทุติเย โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ตถา ตติเย. ตทา โพธิสตฺโต อติเทโว นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย สิรสฺมึ อฺชลึ เปตฺวา ตสฺส สตฺถุโน กิเลสปฺปหาเน วณฺณํ วตฺวา อุตฺตราสงฺเคน ปูชมกาสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต นครํ สุธฺวตี นาม อโหสิ, ปิตา วิปุโล นาม ขตฺติโย, มาตาปิ วิปุลา นาม, วรุโณ จ พฺรหฺมเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สมฺภโว นาม อุปฏฺาโก, ภทฺทา จ สุภทฺทา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ สฏฺิวสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค โสภิโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อชิโต นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต นครํ สุธมฺมํ นาม อโหสิ, ปิตา สุธมฺโม นาม ราชา, มาตาปิ สุธมฺมา นาม, อสโม จ สุเนตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อโนโม นาม อุปฏฺาโก, นกุลา จ สุชาตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโขว โพธิ, อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึเยว กปฺเป ตโย พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ อโนมทสฺสี, ปทุโม, นารโทติ. อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปเม อฏฺ ภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย สตฺต, ตติเย ฉ ตทา โพธิสตฺโต เอโก ยกฺขเสนาปติ อโหสิ มหิทฺธิโก มหานุภาโว อเนกโกฏิสตสหสฺสานํ ยกฺขานํ อธิปติ. โส ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา อาคนฺตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. สตฺถาปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

อโนมทสฺสิสฺส ปน ภควโต จนฺทวตี นาม นครํ อโหสิ, ยสวา นาม ราชา ปิตา, ยโสธรา นาม มาตา, นิสโภ จ อโนโม จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วรุโณ นาม อุปฏฺาโก, สุนฺทรี จ สุมนา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อชฺชุนรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค ปทุโม นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย ตีณิสตสหสฺสานิ, ตติเย อคามเก อรฺเ มหาวนสณฺฑวาสีนํ ภิกฺขูนํ ทฺเว สตสหสฺสานิ. ตทา ตถาคเต ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วสนฺเต โพธิสตฺโต สีโห หุตฺวา สตฺถารํ นิโรธสมาปตฺติสมาปนฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึอวิชหิตฺวา ปีติสุเขเนว โคจราย อปกฺกมิตฺวา ชีวิตปริจฺจาคํ กตฺวา ปยิรุปาสมาโน อฏฺาสิ. สตฺถา สตฺตาหจฺจเยน นิโรธา วุฏฺิโต สีหํ โอโลเกตฺวา ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆปิ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา สงฺฆํ วนฺทิสฺสตี’’ติ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ อาคจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ. ภิกฺขู ตาวเทว อาคมึสุ. สีโห สงฺเฆ จิตฺตํ ปสาเทติ. สตฺถา ตสฺส มานสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ปทุมสฺส ปน ภควโต จมฺปกํ นครํ อโหสิ อสโม นาม ราชา ปิตา, มาตา อสมา นาม, สาโล จ อุปสาโล จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วรุโณ นาม อุปฏฺาโก, รามา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, โสณรุกฺโข นาม โพธิ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ อโหสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค นารโท นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปฺจสุ อภิฺาสุ, อฏฺสุ จ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสี หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา โลหิตจนฺทเนน ปูชมกาสิ, โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต ธฺวตี นาม นครํ อโหสิ, สุเทโว นาม ขตฺติโย ปิตา, อโนมา นาม มาตา, ภทฺทสาโล จ ชิตมิตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, วาสิฏฺโ นาม อุปฏฺาโก, อุตฺตรา จ ผคฺคุนี จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหาโสณรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

นารทพุทฺธสฺส ปน อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา อิโต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป เอโกว ปทุมุตฺตโร นาม พุทฺโธ อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย เวภารปพฺพเต นวุติโกฏิสหสฺสานิ, ตติเย อสีติโกฏิสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต ชฏิโล นาม มหารฏฺิโย หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ ทานํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ. ปทุมุตฺตรสฺส ปน ภควโต กาเล ติตฺถิยา นาม นาเหสุํ สพฺเพ เทวมนุสฺสา พุทฺธเมว สรณมกํสุ.

ตสฺส นครํ หํสวตี นาม อโหสิ, ปิตา อานนฺโท นาม ขตฺติโย, มาตา สุชาตา นาม, เทวโล จ สุชาโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา สุมโน นาม อุปฏฺาโก, อมิตา จ อสมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สลลรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ คณฺหิ วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค สตฺตติกปฺปสหสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา อิโต ตึสกปฺปสหสฺสมตฺถเก สุเมโธสุชาโต จาติ เอกสฺมึ กปฺเป ทฺเว พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. สุเมธสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สุทสฺสนนคเร โกฏิสตขีณาสวา อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อุตฺตโร นาม พฺราหฺมณมาณโว หุตฺวา นิทหิตฺวา ปิตํเยว อสีติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. โสปิ นํ ‘‘อนาคเต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

สุเมธสฺส ภควโต สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, สุทตฺโต นาม ราชา ปิตา, มาตาปิ สุทตฺตา นาม, สรโณ จ สพฺพกาโม จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สาคโร นาม อุปฏฺาโก, รามา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหานีปรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ นวุติ วสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค สุชาโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย ปฺาสํ, ตติเย จตฺตาลีสํ. ตทา โพธิสตฺโต จกฺกวตฺติราชา หุตฺวา ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สทฺธึ สตฺตหิ รตเนหิ จตุมหาทีปรชฺชํ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. สกลรฏฺวาสิโน รฏฺุปฺปาทํ คเหตฺวา อารามิกกิจฺจํ สาเธนฺตา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิจฺจํ มหาทานํ อทํสุ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ สุมงฺคลํ นาม อโหสิ, อุคฺคโต นาม ราชา ปิตา, ปภาวตี นาม มาตา, สุทสฺสโน จ สุเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, นารโท นาม อุปฏฺาโก, นาคา จ นาคสมาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, มหาเวฬุรุกฺโข โพธิ, โส กิร มนฺทจฺฉิทฺโท ฆนกฺขนฺโธ อุปรินิคฺคตาหิ มหาสาขาหิ โมรปิฺฉกลาโป วิย วิโรจิตฺถ. ตสฺส ภควโต สรีรํ ปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ นวุติวสฺสสหสฺสานีติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต อฏฺารสกปฺปสตมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป ปิยทสฺสี, อตฺถทสฺสี, ธมฺมทสฺสีติ ตโย พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. ปิยทสฺสิสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปเม โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต กสฺสโป นาม มาณโว ติณฺณํ เวทานํ ปารงฺคโต หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โกฏิสตสหสฺสธนปริจฺจาเคน สงฺฆารามํ กาเรตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘อฏฺารสกปฺปสตจฺจเยน พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต อโนมํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา สุทินฺโน นาม ราชา, มาตา จนฺทา นาม, ปาลิโต จ สพฺพทสฺสี จ ทฺเว อคฺคสาวกา, โสภิโต นาม อุปฏฺาโก, สุชาตา จ ธมฺมทินฺนา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปิยงฺคุรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อตฺถทสฺสี นาม ภควา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปเม อฏฺนวุติภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย อฏฺาสีติสหสฺสานิ, ตถา ตติเย. ตทา โพธิสตฺโต สุสีโม นาม มหิทฺธิโก ตาปโส หุตฺวา เทวโลกโต มนฺทารวปุปฺผจฺฉตฺตํ อาหริตฺวา สตฺถารํ ปูเชสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต โสภณํ นาม นครํ อโหสิ, สาคโร นาม ราชา ปิตา, สุทสฺสนา นาม มาตา, สนฺโต จ อุปสนฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อภโย นาม อุปฏฺาโก, ธมฺมา จ สุธมฺมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, จมฺปกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สมนฺตโต สพฺพกาลํ โยชนมตฺตํ ผริตฺวา อฏฺาสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสนฺติ.

ตสฺส อปรภาเค ธมฺมทสฺสี นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต สกฺโก เทวราชา หุตฺวา ทิพฺพคนฺธปุปฺเผหิ จ ทิพฺพตูริเยหิ จ ปูชมกาสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต สรณํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา สรโณ นาม ราชา, มาตา สุนนฺทา นาม, ปทุโม จ ผุสฺสเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สุเนตฺโต นาม อุปฏฺาโก, เขมา จ สพฺพนามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, รตฺตงฺกุรรุกฺโข โพธิ, ‘‘กกุธรุกฺโข’’ติปิ ‘‘พิมฺพิชาโล’’ติปิ วุจฺจติ สรีรํ ปนสฺส อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต จตุนวุติกปฺปมตฺถเก เอกสฺมึ กปฺเป เอโกว สิทฺธตฺโถ นาม พุทฺโธ อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต โกฏิสตสหสฺสภิกฺขู อเหสุํ, ทุติเย นวุติโกฏิโย ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต อุคฺคเตโช อภิฺาพลสมฺปนฺโน มงฺคโล นาม ตาปโส หุตฺวา มหาชมฺพุผลํ อาหริตฺวา ตถาคตสฺส อทาสิ. สตฺถา ตํ ผลํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘จตุนวุติกปฺปมตฺถเก พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ โพธิสตฺตํ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต นครํ เวภารํ นาม อโหสิ, ปิตา ชยเสโน นาม ราชา, มาตา สุผสฺสา นาม, สมฺพโล จ สุมิตฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, เรวโต นาม อุปฏฺาโก, สีวลา จ สุรามา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, กณิการรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต ทฺเวนวุติกปฺปมตฺถเก ติสฺโส ผุสฺโสติ เอกสฺมึ กปฺเป ทฺเว พุทฺธา นิพฺพตฺตึสุ. ติสฺสสฺส ปน ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา. ปมสนฺนิปาเต ภิกฺขูนํ โกฏิสตํ อโหสิ, ทุติเย นวุติโกฏิโย, ตติเย อสีติโกฏิโย. ตทา โพธิสตฺโต มหาโภโค มหายโส สุชาโต นาม ขตฺติโย หุตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา มหิทฺธิกภาวํ ปตฺวา ‘‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา ทิพฺพมนฺทารวปทุมปาริจฺฉตฺตกปุปฺผานิ อาทาย จตุปริสมชฺเฌ คจฺฉนฺตํ ตถาคตํ ปูเชสิ, อากาเส ปุปฺผวิตานํ หุตฺวา อฏฺาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อิโต ทฺเวนวุติกปฺปมตฺถเก พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต เขมํ นาม นครํ อโหสิ, ปิตา ชนสนฺโธ นาม ขตฺติโย, มาตา ปทุมา นาม, พฺรหฺมเทโว จ อุทโย จ ทฺเว อคฺคสาวกา สมงฺโค นาม อุปฏฺาโก, ผุสฺสา จ สุทตฺตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา อสนรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วสฺสสตสหสฺสํ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค ผุสฺโส นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต สฏฺิ ภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย ปณฺณาส, ตติเย ทฺวตฺตึส. ตทา โพธิสตฺโต วิชิตาวี นาม ขตฺติโย หุตฺวา มหารชฺชํ ปหาย สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมกถํ กเถสิ. สีลปารมิฺจ ปูเรสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต กาสิ นาม นครํ อโหสิ, ชยเสโน นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สุรกฺขิโต จ ธมฺมเสโน จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สภิโย นาม อุปฏฺาโก, จาลา จ อุปจาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อามลกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, นวุติ วสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสี นาม ภควา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ, ทุติเย เอกสตสหสฺสํ, ตติเย อสีติสหสฺสานิ. ตทา โพธิสตฺโต มหิทฺธิโก มหานุภาโว อตุโล นาม นาคราชา หุตฺวา สตฺตรตนขจิตํ โสวณฺณมยํ มหาปีํ ภควโต อทาสิ. โสปิ นํ สตฺถา ‘‘อิโต เอกนวุติกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต พนฺธุมตี นาม นครํ อโหสิ, พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา. พนฺธุมตี นาม มาตา, ขณฺโฑ จ ติสฺโส จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อโสโก นาม อุปฏฺาโก, จนฺทา จ จนฺทมิตฺตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา ปาฏลิรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สทา สตฺต โยชนานิ ผริตฺวา อฏฺาสิ, อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิโต เอกตึสกปฺเป สิขี, เวสฺสภู จาติ ทฺเว พุทฺธา อเหสุํ. สิขิสฺสาปิ ภควโต ตโย สาวกสนฺนิปาตา, ปมสนฺนิปาเต ภิกฺขุสตสหสฺสํ อโหสิ, ทุติเย อสีติสหสฺสานิ, ตติเย สตฺตติ. ตทา โพธิสตฺโต อรินฺทโม นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สตฺตรตนปฏิมณฺฑิตํ หตฺถิรตนํ ทตฺวา หตฺถิปฺปมาณํ กตฺวา กปฺปิยภณฺฑํ อทาสิ. โสปิ นํ ‘‘อิโต เอกตึสกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต อรุณวตี นาม นครํ อโหสิ, อรุณวา นาม ขตฺติโย ปิตา, ปภาวตี นาม มาตา, อภิภู จ สมฺภโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา เขมงฺกโร นาม อุปฏฺาโก, สขิลา จ ปทุมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปุณฺฑรีกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สตฺตติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา โยชนตฺตยํ ผริตฺวา อฏฺาสิ, สตฺตหิวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค เวสฺสภู นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ ตโย สาวกสนฺนิปาตา ปมสนฺนิปาเต อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ ทุติเย สตฺตติ, ตติเย สฏฺิ. ตทา โพธิสตฺโต สุทสฺสโน นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สจีวรํ มหาทานํ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อาจารคุณสมฺปนฺโน พุทฺธรตเน จิตฺตีการปีติพหุโล อโหสิ. โสปิ นํ ‘‘อิโต เอกตึเส กปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิ.

ตสฺส ปน ภควโต อโนมํ นาม นครํ อโหสิ, สุปฺปตีโต นาม ราชา ปิตา, ยสวตี นาม มาตา, โสโณ จ อุตฺตโร จ ทฺเว อคฺคสาวกา อุปสนฺโต นาม อุปฏฺาโก ทามา จ สมาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค อิมสฺมึ กปฺเป จตฺตาโร พุทฺธา นิพฺพตฺตา กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควาติ. กกุสนฺธสฺส ภควโต เอโก สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ จตฺตาลีสภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต เขโม นาม ราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สปตฺตจีวรํ มหาทานฺจ อฺชนาทิเภสชฺชานิ จ ทตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

กกุสนฺธสฺส ปน ภควโต เขมํ นาม นครํ อโหสิ, อคฺคิทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, วิสาขา นาม พฺราหฺมณี มาตา, วิธุโร จ สฺชีโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, พุทฺธิโช นาม อุปฏฺาโก สามา จ จมฺปา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา มหาสิรีสรุกฺโข โพธิ สรีรํ จตฺตาลีสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค โกณาคมโน นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ เอโก สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ ตึสภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต ปพฺพโต นาม ราชา หุตฺวา อมจฺจคณปริวุโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมเทสนํ สุตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ปตฺตุณฺณจีนปฏโกเสยฺยกมฺพลทุกุลานิ เจว สุวณฺณปาทุกฺจ ทตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต โสภวตี นาม นครํ อโหสิ, ยฺทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, อุตฺตรา นาม พฺราหฺมณี มาตา, ภิยฺโยโส จ อุตฺตโร จ ทฺเว อคฺคสาวกา, โสตฺถิโช นาม อุปฏฺาโก, สมุทฺทา จ อุตฺตรา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อุทุมฺพรรุกฺโข โพธิ, สรีรํ ตึสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, ตึสวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส อปรภาเค กสฺสโป นาม สตฺถา อุทปาทิ. ตสฺสาปิ เอโกว สาวกสนฺนิปาโต, ตตฺถ วีสติภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. ตทา โพธิสตฺโต โชติปาโล นาม มาณโว ติณฺณํ เวทานํ ปารคู ภูมิยฺเจว อนฺตลิกฺเข จ ปากโฏ ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มิตฺโต อโหสิ, โส เตน สทฺธึ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อารทฺธวีริโย ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา วตฺตสมฺปตฺติยา พุทฺธสาสนํ โสเภสิ. โสปิ นํ สตฺถา พฺยากาสิ.

ตสฺส ภควโต ชาตนครํ พาราณสี นาม อโหสิ. พฺรหฺมทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา, ธนวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา, ติสฺโส จ ภารทฺวาโช จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สพฺพมิตฺโต นาม อุปฏฺาโก อนุฬา จ อุรุเวฬา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นิคฺโรธรุกฺโข โพธิ สรีรํ วีสติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, วีสติวสฺสสหสฺสานิ อายูติ.

ตสฺส ปน ภควโต โอรภาเค เปตฺวา อิมํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อฺโ พุทฺโธ นาม นตฺถิ. อิติ ทีปงฺกราทีนํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก ลทฺธพฺยากรโณ ปน โพธิสตฺโต เยเนน –

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙);

อิเม อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหาเรน ‘‘หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม วิจินามิ อิโต จิโต’’ติ อุสฺสาหํ กตฺวา ‘‘วิจินนฺโต ตทาทกฺขึ, ปมํ ทานปารมิ’’นฺติ ทานปารมิตาทโย พุทฺธกรา ธมฺมา ทิฏฺา, เต ปูเรนฺโต ยาว เวสฺสนฺตรตฺตภาวา อาคมิ. อาคจฺฉนฺโต จ เย เต กตาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ อานิสํสา สํวณฺณิตา –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

สํสรํ ทีฆมทฺธานํ, กปฺปโกฏิสเตหิปิ.

‘‘อวีจิมฺหิ นุปฺปชฺชนฺติ, ตถา โลกนฺตเรสุ จ;

นิชฺฌามตณฺหา ขุปฺปิปาสา, น โหนฺติ กาลกฺชิกา.

‘‘น โหนฺติ ขุทฺทกา ปาณา, อุปฺปชฺชนฺตาปิ ทุคฺคตึ;

ชายมานา มนุสฺเสสุ, ชจฺจนฺธา น ภวนฺติ เต.

‘‘โสตเวกลฺลตา นตฺถิ, น ภวนฺติ มูคปกฺขิกา;

อิตฺถิภาวํ น คจฺฉนฺติ, อุภโตพฺยฺชนปณฺฑกา.

‘‘น ภวนฺติ ปริยาปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา;

มุตฺตา อานนฺตริเกหิ, สพฺพตฺถ สุทฺธโคจรา.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺึ น เสวนฺติ, กมฺมกิริยทสฺสนา;

วสมานาปิ สคฺเคสุ, อสฺํ นุปปชฺชเร.

‘‘สุทฺธาวาเสสุ เทเวสุ, เหตุ นาม น วิชฺชติ;

เนกฺขมฺมนินฺนา สปฺปุริสา, วิสํยุตฺตา ภวาภเว;

จรนฺติ โลกตฺถจริยาโย, ปูเรนฺติ สพฺพปารมี’’ติ.

เต อานิสํเส อธิคนฺตฺวาว อาคโต. ปารมิโย ปูเรนฺตสฺส จ ตสฺส อกิตฺติพฺราหฺมณกาเล สงฺขพฺราหฺมณกาเล ธนฺจยราชกาเล มหาสุทสฺสนราชกาเล มหาโควินฺทกาเล นิมิมหาราชกาเล จนฺทกุมารกาเล วิสยฺหเสฏฺิกาเล สิวิราชกาเล เวสฺสนฺตรราชกาเลติ ทานปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สสปณฺฑิตชาตกาเล –

‘‘ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชึ;

ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมี’’ติ. (จริยา. ๑.๑๔๓ ตสฺสุทฺทาน –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส ทานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา สีลวนาคราชกาเล จมฺเปยฺยนาคราชกาเล ภูริทตฺตนาคราชกาเล ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล ชยทฺทิสราชปุตฺตกาเล อลีนสตฺตุกุมารกาเลติ สีลปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สงฺขปาลชาตกาเล –

‘‘สูเลหิปิ วิชฺฌิยนฺโต, โกฏฺฏิยนฺโตปิ สตฺติหิ;

โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติ. (จริยา. ๒.๙๑) –

เอวํ อตฺตปริจฺจาคํ กโรนฺตสฺส สีลปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา โสมนสฺสกุมารกาเล หตฺถิปาลกุมารกาเล อโยฆรปณฺฑิตกาเลติ มหารชฺชํ ปหาย เนกฺขมฺมปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส จูฬสุตโสมชาตกาเล –

‘‘มหารชฺชํ หตฺถคตํ, เขฬปิณฺฑํว ฉฑฺฑยึ;

จชโต น โหติ ลคนํ, เอสา เม เนกฺขมฺมปารมี’’ติ. –

เอวํ นิสฺสงฺคตาย รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมนฺตสฺส เนกฺขมฺมปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา วิธุรปณฺฑิตกาเล มหาโควินฺทปณฺฑิตกาเล กุทาลปณฺฑิตกาเล อรกปณฺฑิตกาเล โพธิปริพฺพาชกกาเล มโหสธปณฺฑิตกาเลติ ปฺาปารมิตาย ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส สตฺตุภสฺตชาตเก เสนกปณฺฑิตกาเล –

‘‘ปฺาย วิจินนฺโตหํ, พฺราหฺมณํ โมจยึ ทุขา;

ปฺาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ปฺาปารมี’’ติ. –

อนฺโตภสฺตคตํ สปฺปํ ทสฺเสนฺตสฺส ปฺาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ตถา วีริยปารมิตาทีนมฺปิ ปูริตตฺตภาวานํ ปริมาณํ นาม นตฺถิ. เอกนฺเตน ปนสฺส มหาชนกชาตเก –

‘‘อตีรทสฺสี ชลมชฺเฌ, หตา สพฺเพว มานุสา;

จิตฺตสฺส อฺถา นตฺถิ, เอสา เม วีริยปารมี’’ติ. –

เอวํ มหาสมุทฺทํ ตรนฺตสฺส วีริยปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

ขนฺติวาทีชาตเก –

‘‘อเจตนํว โกฏฺเฏนฺเต, ติณฺเหน ผรสุนา มมํ;

กาสิราเช น กุปฺปามิ, เอสา เม ขนฺติปารมี’’ติ. –

เอวํ อเจตนภาเวน วิย มหาทุกฺขํ อธิวาเสนฺตสฺส ขนฺติปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

มหาสุตโสมชาตเก –

‘‘สจฺจวาจํ อนุรกฺขนฺโต, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;

โมเจสึ เอกสตํ ขตฺติเย, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ. –

เอวํ ชีวิตํ จวิตฺวา สจฺจมนุรกฺขนฺตสฺส สจฺจปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

มูคปกฺขชาตเก –

‘‘มาตา ปิตา น เม เทสฺสา, นปิ เทสฺสํ มหายสํ;

สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตมธิฏฺหิ’’นฺติ. –

เอวํ ชีวิตํ จชิตฺวา วตํ อธิฏฺหนฺตสฺส อธิฏฺานปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

เอกราชชาตเก –

‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิหํ ภายามิ กสฺสจิ;

เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติ. (จริยา. ๓.๑๑๓) –

เอวํ ชีวิตํ อนปโลเกตฺวา เมตฺตายนฺตสฺส เมตฺตาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา.

โลมหํสชาตเก

‘‘สุสาเน เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺิกํ อุปนิธายหํ;

คามณฺฑลา อุปาคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺติ นปฺปก’’นฺติ. –

เอวํ คามทารเกสุ นิฏฺุภนาทีหิ เจว มาลาคนฺธูปหาราทีหิ จ สุขทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺเตสุปิ อุเปกฺขนํ อนติวตฺเตนฺตสฺส อุเปกฺขาปารมิตา ปรมตฺถปารมี นาม ชาตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนส อตฺโถ จริยาปิฏกโต คเหตพฺโพ.

เอวํ ปารมิโย ปูเรตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาเว ิโต –

‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;

สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ. (จริยา. ๑.๑๒๔);

เอวํ มหาปถวีกมฺปนานิ มหาปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน ตโต จุโต ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติ, ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหิตฺวา ‘‘ยาวตายุกํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต มนุสฺสคณนาย อิทานิ สตฺตหิ ทิวเสหิ อายุกฺขยํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, มาลา มิลายนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย เววณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน น สณฺหตีติ อิเมสุ ปฺจสุ ปุพฺพนิมิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ตานิ ทิสฺวา ‘‘สุฺา วต โภ สคฺคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สํเวคชาตาหิ เทวตาหิ มหาสตฺตสฺส ปูริตปารมิภาวํ ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ อิทานิ อฺํ เทวโลกํ อนุปคนฺตฺวา มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิตฺวา พุทฺธภาวํ ปตฺเต ปุฺานิ กตฺวา จุตา จุตา มนุสฺสา เทวโลกํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา –

‘‘ยโตหํ ตุสิเต กาเย, สนฺตุสิโต นามหํ ตทา;

ทสสหสฺสี สมาคนฺตฺวา, ยาจนฺติ ปฺชลี มมํ.

‘‘กาโล เทว มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;

สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ. (พุ. วํ. ๑.๖๖-๖๗);

เอวํ พุทฺธภาวตฺถาย อายาจิโต กาลํ, ทีปํ, เทสํ, กุลํ, ชเนตฺติยา อายุปฺปมาณนฺติ อิมานิ ปฺจ มหาวิโลกนานิ วิโลเกตฺวา กตสนฺนิฏฺาโน ตโต จุโต สกฺยราชกุเล ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ตตฺถ มหาสมฺปตฺติยา ปริหริยมาโน อนุกฺกเมน ภทฺรโยพฺพนํ อนุปาปุณิ. อิมสฺมึ อนฺตเร ‘‘สโต สมฺปชาโน อานนฺท โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมี’’ติอาทีนํ (ม. นิ. ๓.๒๐๐) สุตฺตปทานฺเจว เตสํ อฏฺกถาย จ วเสน วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ.

โส ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ เทวโลกสิรึ วิย รชฺชสิรึ อนุภวมาโน อุยฺยานกีฬาย คมนสมเย อนุกฺกเมน ชิณฺณพฺยาธิมตสงฺขาเต ตโย เทวทูเต ทิสฺวา สฺชาตสํเวโค นิวตฺติตฺวา จตุตฺถวาเร ปพฺพชิตํ ทิสฺวา ‘สาธุ ปพฺพชฺชา’ติ ปพฺพชฺชาย รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ ทิวสภาคํ เขเปตฺวา มงฺคลโปกฺขรณีตีเร นิสินฺโน กปฺปกเวสํ คเหตฺวา อาคเตน วิสฺสกมฺเมน เทวปุตฺเตน อลงฺกตปฏิยตฺโต ราหุลภทฺทสฺส ชาตสาสนํ สุตฺวา ปุตฺตสิเนหสฺส พลวภาวํ ตฺวา ‘ยาว อิทํ พนฺธนํ น วฑฺฒติ ตาวเทว นํ ฉินฺทิสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา สายํ นครํ ปวิสนฺโต –

‘‘นิพฺพุตา นูน สา มาตา, นิพฺพุโต นูน โส ปิตา;

นิพฺพุตา นูน สา นารี, ยสฺสายํ อีทิโส ปตี’’ติ. (พุ. วํ. อฏฺ. ๒๗ อวิทูเรนิทานกถา; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๐ สาริปุตฺตตฺเถรวตฺถุ; อป. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา; ชา. อฏฺ. ๑.อวิทูเรนิทานกถา);

กิสาโคตมิยา นาม ปิตุจฺฉาธีตาย ภาสิตํ อิมํ คาถํ สุตฺวา, ‘อหํ อิมาย นิพฺพุตปทํ สาวิโต’ติ คีวโต สตสหสฺสคฺฆนิกํ มุตฺตาหารํ มุฺจิตฺวา, ตสฺสา เปเสตฺวา, อตฺตโน ภวนํ ปวิสิตฺวา, สิริสยเน นิสินฺโน นิทฺทาวเสน นาฏกานํ วิปฺปการํ ทิสฺวา, นิพฺพินฺนหทโย ฉนฺนํ อุฏฺาเปตฺวา, กณฺฑกํ อาหราเปตฺวา, กณฺฑกํ อารุยฺห, ฉนฺนสหาโยว ทสสหสฺสิโลกธาตุเทวตาหิ กตปริวาโร มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา, เตเนว รตฺตาวเสเสน ตีณิ มหารชฺชานิ อติกฺกมฺม อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตฺวา, อนุกฺกเมน ราชคหํ คนฺตฺวา, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา, ปณฺฑวปพฺพตปพฺภาเร นิสินฺโน มคธราเชน รชฺเชน นิมนฺติยมาโน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, สพฺพฺุตํ ปตฺวา ตสฺส วิชิตํ อาคมนตฺถาย เตน คหิตปฏิฺโ, อาฬารฺจ อุทกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา, เตสํ สนฺติเก อธิคตวิเสเสน อปริตุฏฺโ ฉพฺพสฺสานิ มหาปธานํ ปทหิตฺวา, วิสาขาปุณฺณมทิวเส ปาโตว เสนานิคเม สุชาตาย ทินฺนํ ปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา, เนรฺชราย นทิยา สุวณฺณปาตึ ปวาเหตฺวา, เนรฺชราย ตีเร มหาวนสณฺเฑ นานาสมาปตฺตีหิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา, สายนฺหสมเย โสตฺถิเยน ทินฺนํ อฏฺติณมุฏฺึ คเหตฺวา, กาเฬน นาคราเชน อภิตฺถุตคุโณ โพธิมณฺฑํ อารุยฺห ติณานิ สนฺถริตฺวา, ‘น ตาวิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’ติ ปฏิฺํ กตฺวา, ปาจีนทิสาภิมุโข นิสีทิตฺวา, สูริเย อนตฺถงฺคมิเตเยว มารพลํ วิธมิตฺวา, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสาณํ, มชฺฌิมยาเม จุตูปปาตาณํ ปตฺวา, ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสพลจตุเวสารชฺชาทิสพฺพพุทฺธคุณปฏิมณฺฑิตํ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺโตเยว อิมํ อภิธมฺมนยสมุทฺทํ อธิคฺฉิ. เอวมสฺส อธิคมนิทานํ เวทิตพฺพํ.

เอวํ อธิคตาภิธมฺโม เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสตฺตาหํ อนิมิสสตฺตาหํ จงฺกมนสตฺตาหฺจ อติกฺกมิตฺวา, จตุตฺเถ สตฺตาเห สยมฺภูาณาธิคเมน อธิคตํ อภิธมฺมํ วิจินิตฺวา อปรานิปิ อชปาลมุจลินฺทราชายตเนสุ ตีณิ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา, อฏฺเม สตฺตาเห อชปาลนิคฺโรธรุกฺขมูเล นิสินฺโน ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขเณน อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปชฺชมาโน ทสสหสฺสิมหาพฺรหฺมปริวาเรน สหมฺปติพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสโน พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกตฺวา, พฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ อาทาย ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’นฺติ โอโลเกนฺโต อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ ตฺวา, ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ พหูปการตํ อนุสฺสริตฺวา, อุฏฺายาสนา กาสิปุรํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อุปเกน สทฺธึ มนฺเตตฺวา, อาสาฬฺหีปุณฺณมทิวเส อิสิปตเน มิคทาเย ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ ปตฺวา,เต อนนุจฺฉวิเกน สมุทาจาเรน สมุทาจรนฺเต สฺาเปตฺวา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺโต อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถรปฺปมุขา อฏฺารส พฺรหฺมโกฏิโย อมตปานํ ปาเยสิ. เอวํ ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา เทสนานิทานํ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สาฏฺกถานํ อริยปริเยสน(ม. นิ. ๑.๒๗๔) ปพฺพชฺชสุตฺตาทีนํ (สุ. นิ. ๔๐๗ อาทโย) วเสน เวทิตพฺโพ.

เอวํ อธิคมนิทานเทสนานิทานสมฺปนฺนสฺส ปนสฺส อภิธมฺมสฺส อปรานิปิ ทูเรนิทานํ, อวิทูเรนิทานํ, สนฺติเกนิทานนฺติ ตีณิ นิทานานิ. ตตฺถ ทีปงฺกรปาทมูลโต ปฏฺาย ยาว ตุสิตปุรา ทูเรนิทานํ เวทิตพฺพํ. ตุสิตปุรโต ปฏฺาย ยาว โพธิมณฺฑา อวิทูเรนิทานํ. ‘เอกํ สมยํ ภควา เทเวสุ วิหรติ ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ, ตตฺถ โข ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ อภิธมฺมกถํ กเถสี’ติ อิทมสฺส สนฺติเกนิทานํ. อยํ ตาว นิทานกถา.

นิทานกถา นิฏฺิตา.

๑. จิตฺตุปฺปาทกณฺโฑ

ติกมาติกาปทวณฺณนา

อิทานิ

อิติ เม ภาสมานสฺส, อภิธมฺมกถํ อิมํ;

อวิกฺขิตฺตา นิสาเมถ, ทุลฺลภา หิ อยํ กถาติ.

เอวํ ปฏิฺาตาย อภิธมฺมกถาย กถโนกาโส สมฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺมา อภิธมฺโม นาม ธมฺมสงฺคณีอาทีนิ สตฺตปฺปกรณานิ; ธมฺมสงฺคณีปิ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีนํ วเสน จตฺตาริ กณฺฑานิ; จิตฺตุปฺปาทกณฺฑมฺปิ มาติกาปทภาชนียวเสน ทุวิธํ; ตตฺถ มาติกา อาทิ; สาปิ ติกมาติกา ทุกมาติกาติ ทุวิธา; ตตฺถ ติกมาติกา อาทิ; ติกมาติกายปิ กุสลตฺติกํ กุสลตฺติเกปิ กุสลา ธมฺมาติ อิทํ ปทํ; ตสฺมา –

อิโต ปฏฺาย คมฺภีรํ, อภิธมฺมกถํ อิมํ;

วุจฺจมานํ นิสาเมถ, เอกคฺคา สาธุ สาธโวติ.

. ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ อยํ ตาว อาทิปเทน ลทฺธนาโม กุสลตฺติโก นาม. ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติ อยํ สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโม เวทนาตฺติโก นาม. เอวํ อาทิปทวเสน วา สพฺพปทวเสน วา สพฺเพสมฺปิ ติกทุกานํ นามํ เวทิตพฺพํ. สพฺเพว เจเต ปฺจทสหิ ปริจฺเฉเทหิ ววตฺถิตา. ติกานฺหิ เอโก ปริจฺเฉโท, ทุกานํ จตุทฺทส. ‘‘เหตู ธมฺมา, นเหตู ธมฺมา’’ติอาทโย หิ ฉ ทุกา คนฺถโต จ อตฺถโต จ อฺมฺสมฺพนฺเธน กณฺณิกา วิย ฆฏา วิย หุตฺวา ิตตฺตา ‘เหตุโคจฺฉโก’ติ วุจฺจติ. ตโต อปเร ‘‘สปฺปจฺจยา ธมฺมา อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติอาทโย สตฺต ทุกา, อฺมฺํ อสมฺพนฺธา, เกวลํ ทุกสามฺโต อุจฺจินิตฺวา อุจฺจินิตฺวา วิสุํ วิสุํ โคจฺฉกนฺตเร ปิตตฺตา อฺเหิ จ มหนฺตรทุเกหิ จูฬกตฺตา ‘จูฬนฺตรทุกา’ติ เวทิตพฺพา. ตโต ปรํ อาสวทุกาทีนํ ฉนฺนํ วเสน ‘อาสวโคจฺฉโก’; ตถา สํโยชนทุกาทีนํ วเสน ‘สํโยชนโคจฺฉโก’; ตถา คนฺถโอฆโยคนีวรณทุกาทีนํ วเสน ‘คนฺถโอฆโยคนีวรณโคจฺฉกา’; ปรามาสทุกาทีนํ ปฺจนฺนํ วเสน ‘ปรามาสโคจฺฉโก’ติ. สพฺเพปิ สตฺต โคจฺฉกา เวทิตพฺพา. ตโต ปรํ ‘‘สารมฺมณา ธมฺมา’’ติอาทโย จตุทฺทส ทุกา ‘มหนฺตรทุกา’ นาม. ตโต อุปาทานทุกาทโย ฉ ทุกา ‘อุปาทานโคจฺฉโก’ นาม. ตโต กิเลสทุกาทโย อฏฺ ทุกา ‘กิเลสโคจฺฉโก’ นาม. ตโต ปรํ ทสฺสเนนปหาตพฺพทุกาทโย อฏฺารส ทุกา อภิธมฺมมาติกาย ปริโยสาเน ปิตตฺตา ‘ปิฏฺิทุกา’ นาม. ‘‘วิชฺชาภาคิโน ธมฺมา อวิชฺชาภาคิโน ธมฺมา’’ติอาทโย ปน ทฺวาจตฺตาลีส ทุกา ‘สุตฺตนฺติกทุกา’ นาม. เอวํ สพฺเพเปเต ปฺจทสหิ ปริจฺเฉเทหิ ววตฺถิตาติ เวทิตพฺพา.

เอวํ ววตฺถิตา ปเนเต สปฺปเทสนิปฺปเทสวเสน ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. เตสุ หิ นว ติกา เอกสตฺตติ จ ทุกา สปฺปเทสานํ รูปารูปธมฺมานํ ปริคฺคหิตตฺตา สปฺปเทสา นาม. อวเสสา เตรส ติกา เอกสตฺตติ จ ทุกา นิปฺปเทสา นาม. ตตฺถ ติเกสุ ตาว เวทนาตฺติโก วิตกฺกตฺติโก ปีติตฺติโก อุปฺปนฺนตฺติโก อตีตตฺติโก จตฺตาโร อารมฺมณตฺติกาติ อิเม นว ติกา สปฺปเทสา นาม. ทุเกสุ เหตุโคจฺฉกาทีนํ อุปาทานโคจฺฉกปริโยสานานํ นวนฺนํ โคจฺฉกานํ ปริโยสาเน ตโย ตโย ทุกา, กิเลสโคจฺฉกปริโยสาเน จตฺตาโร ทุกา, ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา’’‘‘จิตฺตสํสฏฺา ธมฺมา, จิตฺตวิสํสฏฺา ธมฺมา’’ติ ทฺเว มหนฺตรทุกา, สุตฺตนฺติกทุเกสุ อธิวจนทุกํ นิรุตฺติทุกํ ปฺตฺติทุกํ นามรูปทุกนฺติ อิเม จตฺตาโร ทุเก เปตฺวา อวเสสา อฏฺตึส ทุกา จาติ เอเต สปฺปเทสา นาม. วุตฺตาวเสสา ติกทุกา สพฺเพปิ นิปฺปเทสาติ เวทิตพฺพา.

อิทานิ กุสลา ธมฺมาติอาทีนํ มาติกาปทานํ อยมนุปุพฺพปทวณฺณนา – ‘กุสล’-สทฺโท ตาว อาโรคฺยอนวชฺชเฉกสุขวิปาเกสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย ทิสฺสติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) จ, ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) จ เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ’’ (ม. นิ. ๒.๘๗), ‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๙๔) เฉเก. ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ’’ (ที. นิ. ๓.๘๐), ‘‘กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๓๑) สุขวิปาเก. สฺวายมิธ อาโรคฺเยปิ อนวชฺเชปิ สุขวิปาเกปิ วตฺตติ.

ธมฺมสทฺโท ปนายํ ปริยตฺติเหตุคุณนิสฺสตฺตนิชฺชีวตาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘ธมฺมํ ปริยาปุณาติ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๒) ปริยตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) เหตุมฺหิ.

‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ. (เถรคา. ๓๐๔; ชา. ๑.๑๕.๓๘๖) –

อาทีสุ คุเณ. ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ’’ (ธ. ส. ๑๒๑), ‘‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓) นิสฺสตฺตนิชฺชีวตายํ. สฺวายมิธาปิ นิสฺสตฺตนิชฺชีวตายเมว วฏฺฏติ.

วจนตฺโถ ปเนตฺถ – กุจฺฉิเต ปาปเก ธมฺเม สลยนฺติ จลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิเตน วา อากาเรน สยนฺตีติ กุสา. เต อกุสลสงฺขาเต กุเส ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิตานํ วา สานโต ตนุกรณโต โอสานกรณโต าณํ กุสํ นาม. เตน กุเสน ลาตพฺพาติ กุสลา; คเหตพฺพา ปวตฺเตตพฺพาติ อตฺโถ. ยถา วา กุสา อุภยภาคคตํ หตฺถปฺปเทสํ ลุนนฺติ, เอวมิเมปิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน อุภยภาคคตํ กิเลสปกฺขํ ลุนนฺติ. ตสฺมา กุสา วิย ลุนนฺตีติปิ กุสลา. อตฺตโน ปน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. ธาริยนฺติ วา ปจฺจเยหิ, ธารียนฺติ วา ยถาสภาวโตติ ธมฺมา. น กุสลา อกุสลา. มิตฺตปฏิปกฺขา อมิตฺตา วิย, โลภาทิปฏิปกฺขา อโลภาทโย วิย จ, กุสลปฏิปกฺขาติ อตฺโถ. น พฺยากตาติ อพฺยากตา, กุสลากุสลภาเวน อกถิตาติ อตฺโถ. เตสุ ปน อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา กุสลา, สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณา อกุสลา, อวิปากลกฺขณา อพฺยากตา.

กึ ปเนตานิ ‘กุสลา’ติ วา ‘ธมฺมา’ติ วาติอาทีนิ เอกตฺถานิ อุทาหุ นานตฺถานีติ? กิฺเจตฺถ? ยทิ ตาว เอกตฺถานิ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อิทํ ‘กุสลากุสลา’ติวุตฺตสทิสํ โหติ. อถ นานตฺถานิ ติกทุกานํ ฉกฺกจตุกฺกภาโว อาปชฺชติ ปทานฺจ อสมฺพนฺโธ.

ยถา หิ ‘กุสลา’ ‘รูปํ’‘จกฺขุมา’ติ วุตฺเต อตฺถวเสน อฺมฺํ อโนโลเกนฺตานํ ปทานํ น โกจิ สมฺพนฺโธ, เอวมิธาปิ ปทานํ อสมฺพนฺโธ อาปชฺชติ. ปุพฺพาปรสมฺพนฺธรหิตานิ จ ปทานิ นิปฺปโยชนานิ นาม โหนฺติ. ยาปิ เจสา ปรโต ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ ปุจฺฉา, ตายปิ สทฺธึ วิโรโธ อาปชฺชติ. เนว หิ ธมฺมา กุสลา; อถ จ ปนิทํ วุจฺจติ – กตเม ธมฺมา ‘กุสลา’ติ. อปโร นโย – ยทิ เอตานิ เอกตฺถานิ, ติณฺณํ ‘ธมฺมานํ’ เอกตฺตา กุสลาทีนมฺปิ เอกตฺตํ อาปชฺชติ. กุสลาทิปรานฺหิ ติณฺณมฺปิ ‘ธมฺมานํ’ ธมฺมภาเวน เอกตฺตํ. ตสฺมา ธมฺมตฺตเยน สทฺธึ อตฺถโต นินฺนานตฺถานํ กุสลาทีนมฺปิ เอกตฺตํ อาปชฺชติ. ‘ยเทว กุสลํ, ตํ อกุสลํ, ตํ อพฺยากต’นฺติ. ‘อถาปิ ติณฺณํ ธมฺมานํ เอกตฺตํ น สมฺปฏิจฺฉถ, อฺโว กุสลปโร ธมฺโม, อฺโ อกุสลปโร ธมฺโม, อฺโ อพฺยากตปโร ธมฺโมติ วทถ, เอวํ สนฺเต ธมฺโม นาม ภาโว, ภาวโต จ อฺโ อภาโวติ กุสลปรา ภาวสงฺขาตา ธมฺมา อฺโ อกุสลปโร ธมฺโม อภาโว สิยา, ตถา อพฺยากตปโร. เตหิ จ อฺโ กุสลปโรปิ. เอวํ อภาวตฺตํ อาปนฺเนหิ ธมฺเมหิ อนฺเ กุสลาทโยปิ อภาวาเยว สิยุ’นฺติ.

สพฺพเมตํ อการณํ. กสฺมา? ยถานุมติโวหารสิทฺธิโตติ. โวหาโร หิ ยถา ยถา อตฺเถสุ อนุมโต สมฺปฏิจฺฉิโต ตถา ตเถว สิทฺโธ. น จายํ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ กุสลปุพฺโพ ธมฺมาภิลาโป ธมฺมปโร จ กุสลาภิลาโป, ยถา ‘กุสลา กุสลา’ติ เอวํ, อตฺตโน อตฺถวิเสสาภาเวน ปณฺฑิเตหิ สมฺปฏิจฺฉิโต; น จ ‘กุสลา’ ‘รูปํ’จกฺขุมาสทฺทา วิย อฺมฺํ อโนโลกิตตฺถภาเวน. ‘กุสล’-สทฺโท ปเนตฺถ อนวชฺชสุขวิปากสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส โชตกภาเวน สมฺปฏิจฺฉิโต, ‘อกุสล’-สทฺโท สาวชฺชทุกฺขวิปากตฺถโชตกตฺเตน, ‘อพฺยากต’-สทฺโท อวิปากตฺถโชตกตฺเตน, ‘ธมฺม’-สทฺโท สภาวธารณาทิอตฺถโชตกตฺเตน. โส เอเตสํ อฺตรานนฺตเร วุจฺจมาโน อตฺตโน อตฺถสามฺํ ทีเปติ. สพฺเพว หิ เอเต สภาวธารณาทินา ลกฺขเณน ธมฺมา. กุสลาทิสทฺทา จาปิ ธมฺมสทฺทสฺส ปุรโต วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถวิเสสํ ตสฺส ทีเปนฺติ. ธมฺโม หิ กุสโล วา โหติ อกุสโล วา อพฺยากโต วา. เอวเมเต วิสุํ วิสุํ วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถมตฺตทีปกตฺเตน สมฺปฏิจฺฉิตา. ธมฺมสทฺเทน สห วุจฺจมานา อตฺตโน อตฺตโน อตฺถสามฺํ อตฺถวิเสสํ วา ทีปกตฺเตน โลเก ปณฺฑิเตหิ สมฺปฏิจฺฉิตา. ตสฺมา ยเทตเมตฺถ เอกตฺถนานาตฺถตํ วิกปฺเปตฺวา โทสาโรปนการณํ วุตฺตํ สพฺพเมตํ อการณํ. อยํ ตาว กุสลตฺติกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา. อิมินาว นเยน เสสติกทุกานมฺปิ นโย เวทิตพฺโพ. อิโต ปรํ ปน วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.

. สุขาย เวทนายาติอาทีสุ ‘สุข’-สทฺโท ตาว สุขเวทนาสุขมูลสุขารมฺมณสุขเหตุสุขปจฺจยฏฺานอพฺยาพชฺฌนิพฺพานาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘สุขสฺส จ ปหานา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๓๒) สุขเวทนายํ ทิสฺสติ. ‘‘สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท’’ (ธ. ป. ๑๙๔), ‘‘สุขา วิราคตา โลเก’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑; มหาว. ๕) สุขมูเล ‘‘ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๖๐) สุขารมฺมเณ. ‘‘สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ ยทิทํ ปุฺานี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๒) สุขเหตุมฺหิ. ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรํ อกฺขาเนน ปาปุณิตุํ ยาว สุขา สคฺคา’’ (ม. นิ. ๓.๒๕๕), ‘‘น เต สุขํ ปชานนฺติ เย น ปสฺสนฺติ นนฺทน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๑) สุขปจฺจยฏฺาเน. ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา เอเต ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๘๒) อพฺยาพชฺเฌ. ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติอาทิสุ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔) นิพฺพาเน. อิธ ปนายํ สุขเวทนายเมว ทฏฺพฺโพ. ‘เวทนา’-สทฺโท ‘‘วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๐๘) เวทยิตสฺมึเยว วตฺตติ.

‘ทุกฺข’-สทฺโท ทุกฺขเวทนาทุกฺขวตฺถุทุกฺขารมฺมณทุกฺขปจฺจยทุกฺขปจฺจยฏฺานาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘ทุกฺขสฺส จ ปหานา’’ติอาทีสุ ทุกฺขเวทนายํ ทิสฺสติ. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๘๗; วิภ. ๑๙๐) ทุกฺขวตฺถุสฺมึ. ‘‘ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ ทุกฺขํ ทุกฺขานุปติตํ ทุกฺขาวกฺกนฺต’’นฺติอาทีสุ ทุกฺขารมฺมเณ. ‘‘ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโย’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๑๗) ทุกฺขปจฺจเย. ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรํ อกฺขาเนน ปาปุณิตุํ ยาว ทุกฺขา นิรยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) ทุกฺขปจฺจยฏฺาเน. อิธ ปนายํ ทุกฺขเวทนายเมว ทฏฺพฺโพ.

วจนตฺโถ ปเนตฺถ – สุขยตีติ สุขา. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา. น ทุกฺขา น สุขาติ อทุกฺขมสุขา. ‘ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. สพฺพาปิ อารมฺมณรสํ เวทยนฺติ อนุภวนฺตีติ เวทนา. ตาสุ อิฏฺานุภวนลกฺขณา สุขา, อนิฏฺานุภวนลกฺขณา ทุกฺขา, อุภยวิปรีตานุภวนลกฺขณา อทุกฺขมสุขา. โยปนายํ ตีสุปิ ปเทสุ ‘สมฺปยุตฺต’-สทฺโท, ตสฺสตฺโถ – สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตาติ สมฺปยุตฺตา. กตเรหิ ปกาเรหีติ? เอกุปฺปาทตาทีหิ. ‘‘นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตาติ? อามนฺตา’’ติ หิ อิมสฺส ปฺหสฺส ปฏิกฺเขเป ‘‘นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สหคตา สหชาตา สํสฏฺา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา’’ติ (กถา. ๔๗๓) เอวํ เอกุปฺปาทตาทีนํ วเสน สมฺปโยคตฺโถ วุตฺโต. อิติ อิเมหิ เอกุปฺปาทตาทีหิ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตาติ สมฺปยุตฺตา.

. วิปากตฺติเก อฺมฺวิสิฏฺานํ กุสลากุสลานํ ปากาติ วิปากา. วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. วิปากธมฺมธมฺมาติ วิปากสภาวธมฺมา. ยถา ชาติชราสภาวา ชาติชราปกติกา สตฺตา ชาติธมฺมา ชราธมฺมาติ วุจฺจนฺติ เอวํ วิปากชนกฏฺเน วิปากสภาวา วิปากปกติกา ธมฺมาติ อตฺโถ. ตติยปทํ อุภยสภาวปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ.

. อุปาทินฺนุปาทานิยตฺติเก อารมฺมณกรณวเสน ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อาทินฺนา, ผลภาเวน คหิตาติ อุปาทินฺนา. อารมฺมณภาวํ อุปคนฺตฺวา อุปาทานสมฺพนฺเธน อุปาทานานํ หิตาติ อุปาทานิยา. อุปาทานสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานเมตํ อธิวจนํ. อุปาทิณฺณา จ เต อุปาทานิยา จาติ อุปาทิณฺณุปาทานิยา; สาสวกมฺมนิพฺพตฺตานํ รูปารูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. อิติ อิมินา นเยน เสสปททฺวเยปิ ปฏิเสธสหิโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

. สํกิลิฏฺสํกิเลสิกตฺติเก สํกิเลเสตีติ สํกิเลโส, วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ อตฺโถ. สํกิเลเสน สมนฺนาคตาติ สํกิลิฏฺา. อตฺตานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตเนน สํกิเลสํ อรหนฺติ, สํกิเลเส วา นิยุตฺตา, ตสฺส อารมฺมณภาวานติกฺกมนโตติ สํกิเลสิกา. สํกิเลสสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานเมตํ อธิวจนํ. สํกิลิฏฺา จ เต สํกิเลสิกา จาติ สํกิลิฏฺสํกิเลสิกา. เสสปททฺวยมฺปิ ปุริมตฺติเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

. วิตกฺกตฺติเก สมฺปโยควเสน วตฺตมาเนน สห วิตกฺเกน สวิตกฺกา. สห วิจาเรน สวิจารา. สวิตกฺกา จ เต สวิจารา จาติ สวิตกฺกสวิจารา. อุภยรหิตา อวิตกฺกอวิจารา. วิตกฺกวิจาเรสุ วิจาโรว มตฺตา, ปมาณํ, เอเตสนฺติ วิจารมตฺตา. วิจารโต อุตฺตริ วิตกฺเกน สทฺธึ สมฺปโยคํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อวิตกฺกา จ เต วิจารมตฺตา จาติ อวิตกฺกวิจารมตฺตา.

. ปีติตฺติเก ปีติยา สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตาติ ปีติสหคตา, ปีติสมฺปยุตฺตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อุเปกฺขาติ เจตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา. สา หิ สุขทุกฺขาการปฺปวตฺตึ อุเปกฺขติ, มชฺฌตฺตาการสณฺิตตฺตา เตนากาเรน ปวตฺตตีติ อุเปกฺขา. อิติ เวทนาตฺติกโต ปททฺวยเมว คเหตฺวา นิปฺปีติกสฺส สุขสฺส สปฺปีติกสุขโต วิเสสทสฺสนวเสน อยํ ติโก วุตฺโต.

. ทสฺสนตฺติเก ทสฺสเนนาติ โสตาปตฺติมคฺเคน. โส หิ ปมํ นิพฺพานํ ทสฺสนโต ทสฺสนนฺติ วุตฺโต. โคตฺรภุ ปน กิฺจาปิ ปมตรํ ปสฺสติ, ยถา ปน รฺโ สนฺติกํ เกนจิเทว กรณีเยน อาคโต ปุริโส ทูรโตว รถิกาย จรนฺตํ หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ ทิสฺวาปิ ‘ทิฏฺโ เต ราชา’ติ ปุฏฺโ ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อกตตฺตา ‘น ปสฺสามี’ติ อาห. เอวเมว นิพฺพานํ ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพสฺส กิเลสปฺปหานสฺสาภาวา น ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ าณํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺาเน ติฏฺติ. ภาวนายาติ เสสมคฺคตฺตเยน. เสสมคฺคตฺตยฺหิ ปมมคฺเคน ทิฏฺสฺมึเยว ธมฺเม ภาวนาวเสน อุปฺปชฺชติ, อทิฏฺปุพฺพํ กิฺจิ น ปสฺสติ, ตสฺมา ภาวนาติ วุจฺจติ. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ.

. ตทนนฺตรตฺติเก ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสนฺติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ตติยปเท เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสนฺติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อิตรถา หิ อเหตุกานํ อคฺคหณํ ภเวยฺย; เหตุเยว หิ เตสํ นตฺถิ โย ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ สิยา. สเหตุเกสุปิ เหตุวชฺชานํ ปหานํ อาปชฺชติ, น เหตูนํ; เหตุเยว หิ เอเตสํ ‘เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ’ติ วุตฺโต, น เต ธมฺมา. อุภยมฺปิ เจตํ อนธิปฺเปตํ. ตสฺมา เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ เนวทสฺสเนน นภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาติ อยมตฺโถ คเหตพฺโพ.

๑๐. อาจยคามิตฺติเก กมฺมกิเลเสหิ อาจิยตีติ อาจโย. ปฏิสนฺธิจุติคติปฺปวตฺตานํ เอตํ นามํ. ตสฺส การณํ หุตฺวา นิปฺผาทนกภาเวน ตํ อาจยํ คจฺฉนฺติ, ยสฺส วา ปวตฺตนฺติ ตํ ปุคฺคลํ ยถาวุตฺตเมว อาจยํ คเมนฺตีติปิ อาจยคามิโน; สาสวกุสลากุสลานํ เอตํ อธิวจนํ. ตโต เอว อาจยสงฺขาตา จยา อเปตตฺตา, นิพฺพานํ อเปตํ จยาติ อปจโย. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนโต อปจยํ คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน; อริยมคฺคานเมตํ อธิวจนํ. อปิจ ปาการํ อิฏฺกวฑฺฒกี วิย ปวตฺตํ อาจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อาจยคามิโน. เตน จิตํ จิตํ อิฏฺกํ วิทฺธํสยมาโน ปุริโส วิย ตเทว ปวตฺตํ อปจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ.

๑๑. เสกฺขตฺติเก ตีสุ สิกฺขาสุ ชาตาติ เสกฺขา. สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ เอเตติปิ เสกฺขา. อปริโยสิตสิกฺขตฺตา สยเมว สิกฺขนฺตีติปิ เสกฺขา. อุปริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต น เสกฺขาติ อเสกฺขา. วุฑฺฒิปฺปตฺตา วา เสกฺขาติปิ อเสกฺขา. อรหตฺตผลธมฺมานํ เอตํ อธิวจนํ. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ.

๑๒. ปริตฺตตฺติเก สมนฺตโต ขณฺฑิตตฺตา อปฺปมตฺตกํ ปริตฺตนฺติ วุจฺจติ; ‘ปริตฺตํ โคมยปิณฺฑ’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๙๖) วิย. อิเมปิ อปฺปานุภาวตาย ปริตฺตา วิยาติ ปริตฺตา; กามาวจรธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตา, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทวีริยจิตฺตปฺเหิ คตา ปฏิปนฺนาติปิ มหคฺคตา. ปมาณกรา ธมฺมา ราคาทโย ปมาณํ นาม. อารมฺมณโต วา สมฺปโยคโต วา นตฺถิ เอเตสํ ปมาณํ, ปมาณสฺส จ ปฏิปกฺขาติ อปฺปมาณา.

๑๓. ปริตฺตารมฺมณตฺติเก ปริตฺตํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ ปริตฺตารมฺมณา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

๑๔. หีนตฺติเก หีนาติ ลามกา อกุสลา ธมฺมา. หีนปฺปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. อวเสสา เตภูมกา ธมฺมา อุตฺตมฏฺเน อตปฺปกฏฺเน จ ปณีตา; โลกุตฺตรา ธมฺมา.

๑๕. มิจฺฉตฺตตฺติเก ‘หิตสุขาวหา เม ภวิสฺสนฺตี’ติ เอวํ อาสีสิตาปิ ตถา อภาวโต, ‘อสุภาทีสุเยว สุภ’นฺติอาทิ วิปรีตปฺปวตฺติโต จ มิจฺฉาสภาวาติ มิจฺฉตฺตา; วิปากทาเน สติ ขนฺธเภทานนฺตรเมว วิปากทานโต นิยตา; มิจฺฉตฺตา จ เต นิยตา จาติ มิจฺฉตฺตนิยตา. วุตฺตวิปรีเตน อตฺเถน สมฺมาสภาวาติ สมฺมตฺตา; สมฺมตฺตา จ เต นิยตา จ อนนฺตรเมว ผลทาเนนาติ สมฺมตฺตนิยตา. อุภยถาปิ น นิยตาติ อนิยตา.

๑๖. มคฺคารมฺมณตฺติเก นิพฺพานํ มคฺคติ, คเวสติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. มคฺโค อารมฺมณํ เอเตสนฺติ มคฺคารมฺมณา. อฏฺงฺคิโกปิ มคฺโค ปจฺจยฏฺเน เอเตสํ เหตูติ มคฺคเหตุกา. มคฺคสมฺปยุตฺตา วา เหตู มคฺเค วา เหตูติ มคฺคเหตู. เต เอเตสํ เหตูติปิ มคฺคเหตุกา. สมฺมาทิฏฺิ สยํ มคฺโค เจว เหตุ จ. อิติ มคฺโค เหตุ เอเตสนฺติปิ มคฺคเหตุกา. อภิภวิตฺวา ปวตฺตนฏฺเน มคฺโค อธิปติ เอเตสนฺติ มคฺคาธิปติโน.

๑๗. อุปฺปนฺนตฺติเก อุปฺปาทโต ปฏฺาย ยาว ภงฺคา อุทฺธํ ปนฺนา คตา ปวตฺตาติ อุปฺปนฺนา. น อุปฺปนฺนาติ อนุปฺปนฺนา. ปรินิฏฺิตการเณกเทสตฺตา อวสฺสํ อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อุปฺปาทิโน.

๑๘. อตีตตฺติเก อตฺตโน สภาวํ อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติกฺกนฺตาติ อตีตา. ตทุภยมฺปิ น อาคตาติ อนาคตา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา.

๑๙. อนนฺตรตฺติเก อตีตํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ อตีตารมฺมณา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

๒๐. อชฺฌตฺตตฺติเก ‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตา’ติ คหณํ, ‘คมิสฺสามา’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตาติ อชฺฌตฺตา. ‘อชฺฌตฺต’-สทฺโท ปนายํ โคจรชฺฌตฺเต นิยกชฺฌตฺเต อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต วิสยชฺฌตฺเตติ จตูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ‘‘เตนานนฺท, ภิกฺขุนา ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ’’ (ม. นิ. ๓.๑๘๘), ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๒) หิ อยํ โคจรชฺฌตฺเต ทิสฺสติ. ‘‘อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ’’ (ที. นิ. ๑.๒๒๘; ธ. ส. ๑๖๑), ‘‘อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓) นิยกชฺฌตฺเต. ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๐๔) อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต. ‘‘อยํ โข ปนานนฺท, วิหาโร ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ ยทิทํ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อชฺฌตฺตํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๘๗) วิสยชฺฌตฺเต; อิสฺสริยฏฺาเนติ อตฺโถ. ผลสมาปตฺติ หิ พุทฺธานํ อิสฺสริยฏฺานํ นาม. อิธ ปน นิยกชฺฌตฺเต อธิปฺเปโต. ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกา ธมฺมา อชฺฌตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตโต พาหิรภูตา ปน อินฺทฺริยพทฺธา วา อนินฺทฺริยพทฺธา วา พหิทฺธา นาม. ตติยปทํ ตทุภยวเสน วุตฺตํ.

๒๑. อนนฺตรตฺติโก เตเยว ติปฺปกาเรปิ ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนวเสน วุตฺโต.

๒๒. สนิทสฺสนตฺติเก ทฏฺพฺพภาวสงฺขาเตน สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสนา. ปฏิหนนภาวสงฺขาเตน สห ปฏิเฆนาติ สปฺปฏิฆา. สนิทสฺสนา จ เต สปฺปฏิฆา จาติ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆา. นตฺถิ เอเตสํ ทฏฺพฺพภาวสงฺขาตํ นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนา. อนิทสฺสนา จ เต วุตฺตนเยเนว สปฺปฏิฆา จาติ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา. ตติยปทํ อุภยปฏิกฺเขเปน วุตฺตํ. อยํ ตาว ติกมาติกาย อนุปุพฺพปทวณฺณนา.

ติกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกมาติกาปทวณฺณนา

๑-๖. ทุกมาติกายํ ปน ติเกสุ อนาคตปทวณฺณนํเยว กริสฺสาม. เหตุโคจฺฉเก ตาว เหตุธมฺมาติ มูลฏฺเน เหตุสงฺขาตา ธมฺมา. เหตู ธมฺมาติปิ ปาโ. เหตูติ เตสํเยว ปฏิกฺเขปวจนํ. สมฺปโยคโต ปวตฺเตน สห เหตุนาติ สเหตุกา. ตเถว ปวตฺโต นตฺถิ เอเตสํ เหตูติ อเหตุกา. เอกุปฺปาทาทิตาย เหตุนา สมฺปยุตฺตาติ เหตุสมฺปยุตฺตา. เหตุนา วิปฺปยุตฺตาติ เหตุวิปฺปยุตฺตา. อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกานํ กิฺจาปิ อตฺถโต นานตฺตํ นตฺถิ, เทสนาวิลาเสน ปน ตถา พุชฺฌนฺตานํ วา ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน วุตฺตา. ตโต ปรํ ปมทุกํ ทุติยตติเยหิ สทฺธึ โยเชตฺวา เตสํ ‘เหตู น เหตู’ติอาทีนํ ปทานํ วเสน ยถาสมฺภวโต อปเรปิ ตโย ทุกา วุตฺตา. ตตฺถ ยเถว ‘เหตู เจว ธมฺมา สเหตุกา จา’ติ เอตํ สมฺภวติ, ตถา ‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จา’ติ อิทมฺปิ. ยถา จ ‘สเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู’ติ เอตํ สมฺภวติ, ตถา ‘อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู’ติ อิทมฺปิ. เหตุสมฺปยุตฺตทุเกน สทฺธึ โยชนายปิ เอเสว นโย.

ตตฺร ยเทตํ ‘น เหตู ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปี’ติ สิทฺเธ, ‘น เหตู โข ปน ธมฺมา’ติ อติริตฺตํ ‘โข ปนา’ติ ปทํ วุตฺตํ, ตสฺส วเสน อยํ อติเรกตฺโถ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. กถํ? น เกวลํ ‘น เหตุ ธมฺมา อถ โข อฺเปิ น จ สเหตุกาปิ อเหตุกาปิ อิจฺเจว, อถ โข อฺถาปีติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเถว หิ ‘น เหตู ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปิ’, เอวํ ‘เหตู ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปิ’. ยถา จ ‘น เหตู ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปิ’, เอวํ ‘น เหตู ธมฺมา เหตุสมฺปยุตฺตาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตาปี’ติ.

๗-๑๓. จูฬนฺตรทุเกสุ อตฺตโน นิปฺผาทเกน สห ปจฺจเยนาติ สปฺปจฺจยา. นตฺถิ เอเตสํ อุปฺปาเท วา ิติยํ วา ปจฺจโยติ อปฺปจฺจยา. ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตาติ สงฺขตา. น สงฺขตาติ อสงฺขตา. อวินิพฺโภควเสน รูปํ เอเตสํ อตฺถีติ รูปิโน. ตถาวิธํ นตฺถิ เอเตสํ รูปนฺติ อรูปิโน. รุปฺปนลกฺขณํ วา รูปํ; ตํ เอเตสํ อตฺถีติ รูปิโน. น รูปิโน อรูปิโน. โลกิยา ธมฺมาติ โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ; ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺตาติ โลกิยา. ตโต อุตฺติณฺณาติ อุตฺตรา; โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตราติ โลกุตฺตรา. เกนจิ วิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาณาทีสุ เกนจิ เอเกน จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา วิชานิตพฺพา. เกนจิ น วิฺเยฺยาติ เตเนว จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา น วิชานิตพฺพา. เอวํ สนฺเต ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหติ.

๑๔-๑๙. อาสวโคจฺฉเก อาสวนฺตีติ อาสวา. จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปิ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุํ, โอกาสโต ยาว ภวคฺคํ สวนฺตีติ วา อาสวา. เอเต ธมฺเม เอตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อนฺโตกรณตฺโถ หิ อยํ ‘อา’กาโร. จิรปาริวาสิยฏฺเน มทิราทโย อาสวา. อาสวา วิยาติปิ อาสวา. โลกสฺมิฺหิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย อาสวาติ วุจฺจนฺติ. ยทิ จ จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวา. ตโต อฺเ โน อาสวา นาม. อตฺตานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺเตหิ สห อาสเวหีติ สาสวา. เอวํ ปวตฺตมานา นตฺถิ เอเตสํ อาสวาติ อนาสวา. เสสํ เหตุโคจฺฉเก วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ‘น เหตู โข ปน ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปีติ อยํ โอสานทุโก ปมทุกสฺส ทุติยปทํ อาทิมฺหิ เปตฺวา วุตฺโต, เอวํ อิธ ‘โน อาสวา โข ปน ธมฺมา สาสวาปิ อนาสวาปี’ติ น วุตฺโต. กิฺจาปิ น วุตฺโต, อถ โข อยฺจ อฺโ จ เภโท ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๒๐-๒๕. สํโยชนโคจฺฉเก ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนา. ตโต อฺเ โน สํโยชนา นาม. อารมฺมณภาวํ อุปคนฺตฺวา สํโยชนสมฺพนฺธเน สํโยชนานํ หิตาติ สํโยชนิยา. สํโยชนสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานํ เอตํ อธิวจนํ. น สํโยชนิยา อสํโยชนิยา. เสสํ เหตุโคจฺฉเก วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ.

๒๖-๓๑. คนฺถโคจฺฉเก ยสฺส สํวิชฺชนฺติ ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. ตโต อฺเ โน คนฺถา. อารมฺมณกรณวเสน คนฺเถหิ คนฺถิตพฺพาติ คนฺถนิยา. เสสํ เหตุโคจฺฉเก วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ อิโต ปเรสุปิ วุตฺตาวเสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๓๒-๓๗. โอฆโคจฺฉเก ยสฺส สํวิชฺชนฺติ ตํ วฏฺฏสฺมึเยว โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. อารมฺมณํ กตฺวา อติกฺกมนียโต โอเฆหิ อติกฺกมิตพฺพาติ โอฆนิยา. โอฆานํ อารมฺมณธมฺมา เอว เวทิตพฺพา.

๓๘-๔๓. โยคโคจฺฉเก วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. โยคนิยา โอฆนิยา วิย เวทิตพฺพา.

๔๔-๔๙. นีวรณโคจฺฉเก จิตฺตํ นีวรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณา. นีวรณิยา สํโยชนิยา วิย เวทิตพฺพา.

๕๐-๕๔. ปรามาสโคจฺฉเก ธมฺมานํ ยถาภูตํ อนิจฺจาทิอาการํ อติกฺกมิตฺวา ‘นิจฺจ’นฺติ อาทิวเสน ปวตฺตมานา ปรโต อามสนฺตีติ ปรามาสา. ปรามาเสหิ อารมฺมณกรณวเสน ปรามฏฺตฺตา ปรามฏฺา.

๕๕-๖๘. มหนฺตรทุเกสุ อารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา อปฺปวตฺติโต สห อารมฺมเณนาติ สารมฺมณา. นตฺถิ เอเตสํ อารมฺมณนฺติ อนารมฺมณา. จินฺตนฏฺเน จิตฺตา, วิจิตฺตฏฺเน วา จิตฺตา. อวิปฺปโยควเสน เจตสิ นิยุตฺตาติ เจตสิกา. นิรนฺตรภาวูปคมนตาย, อุปฺปาทโต ยาว ภงฺคา, จิตฺเตน สํสฏฺาติ จิตฺตสํสฏฺา. เอกโต วตฺตมานาปิ นิรนฺตรภาวํ อนุปคมนตาย จิตฺเตน วิสํสฏฺาติ จิตฺตวิสํสฏฺา. สมุฏฺหนฺติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ. จิตฺตํ สมุฏฺานํ เอเตสนฺติ จิตฺตสมุฏฺานา. สห ภวนฺตีติ สหภุโน. จิตฺเตน สหภุโน จิตฺตสหภุโน. อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุปริวตฺติโน. กึ อนุปริวตฺตนฺติ? จิตฺตํ. จิตฺตสฺส อนุปริวตฺติโน จิตฺตานุปริวตฺติโน. จิตฺตสํสฏฺา จ เต จิตฺตสมุฏฺานา จาติ จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานา. จิตฺตสํสฏฺา จ เต จิตฺตสมุฏฺานา จ จิตฺตสหภุโน เอว จาติ จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานสหภุโน. จิตฺตสํสฏฺา จ เต จิตฺตสมุฏฺานา จ จิตฺตานุปริวตฺติโน เอว จาติ จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานานุปริวตฺติโน. เสสานิ สพฺพปทานิ วุตฺตปทานํ ปฏิกฺเขปวเสน เวทิตพฺพานิ. อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ สนฺธาย อชฺฌตฺตตฺติเก วุตฺตวเสน อชฺฌตฺตาว อชฺฌตฺติกา. ตโต พหิภูตาติ พาหิรา. อุปาทิยนฺเตว ภูตานิ, น ภูตานิ วิย อุปาทิยนฺตีติ อุปาทา. น อุปาทิยนฺเตวาติ โนอุปาทา.

๖๙-๗๔. อุปาทานโคจฺฉเก ภุสํ อาทิยนฺตีติ อุปาทานา; ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหนฺตีติ อตฺโถ. ตโต อฺเ โนอุปาทานา.

๗๕-๘๒. กิเลสโคจฺฉเก สํกิลิฏฺตฺติเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๘๓-๑๐๐. ปิฏฺิทุเกสุ กาเม อวจรนฺตีติ กามาวจรา รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. อรูเป อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. เตภูมกวฏฺเฏ ปริยาปนฺนา อนฺโตคธาติ ปริยาปนฺนา. ตสฺมึ น ปริยาปนฺนาติ อปริยาปนฺนา. วฏฺฏมูลํ ฉินฺทนฺตา นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา วฏฺฏโต นิยฺยนฺตีติ นิยฺยานิกา. อิมินา ลกฺขเณน น นิยฺยนฺตีติ อนิยฺยานิกา. จุติยา วา อตฺตโน วา ปวตฺติยา อนนฺตรํ ผลทาเน นิยตตฺตา นิยตา. ตถา อนิยตตฺตา อนิยตา. อฺเ ธมฺเม อุตฺตรนฺติ ปชหนฺตีติ อุตฺตรา. อตฺตานํ อุตฺตริตุํ สมตฺเถหิ สห อุตฺตเรหีติ สอุตฺตรา. นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตราติ อนุตฺตรา. รณนฺติ เอเตหีติ รณา; เยหิ อภิภูตา สตฺตา นานปฺปกาเรน กนฺทนฺติ ปริเทวนฺติ, เตสํ ราคาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. สมฺปโยควเสน ปหาเนกฏฺตาวเสน จ สห รเณหีติ สรณา. เตนากาเรน นตฺถิ เอเตสํ รณาติ อรณา.

สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา

๑๐๑-๑๐๘. สุตฺตนฺติกทุเกสุ สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺตีติ วิชฺชาภาคิโน; วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติปิ วิชฺชาภาคิโน. ตตฺถ วิปสฺสนาาณํ, มโนมยิทฺธิ, ฉ อภิฺาติ อฏฺ วิชฺชา. ปุริเมน อตฺเถน ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิโน. ปจฺฉิเมน อตฺเถน ตาสุ ยา กาจิ เอกา วิชฺชา วิชฺชา. เสสา วิชฺชาภาคิโนติ. เอวํ วิชฺชาปิ วิชฺชาย สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิโนตฺเวว เวทิตพฺพา. อิธ ปน สมฺปยุตฺตธมฺมาว อธิปฺเปตา. สมฺปโยควเสเนว อวิชฺชํ ภชนฺตีติ อวิชฺชาภาคิโน. อวิชฺชาภาเค อวิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติปิ อวิชฺชาภาคิโน. ตตฺถ ทุกฺขปฏิจฺฉาทกํ ตโม สมุทยาทิปฏิจฺฉาทกนฺติ จตสฺโส อวิชฺชา. ปุริมนเยเนว ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ อวิชฺชาภาคิโน. ตาสุ ยา กาจิ เอกา อวิชฺชา อวิชฺชา. เสสา อวิชฺชาภาคิโนติ. เอวํ อวิชฺชาปิ อวิชฺชาย สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ อวิชฺชาภาคิโนตฺเวว เวทิตพฺพา. อิธ ปน สมฺปยุตฺตธมฺมาว อธิปฺเปตา.

ปุน อนชฺโฌตฺถรณภาเวน กิเลสนฺธการํ วิทฺธํเสตุํ อสมตฺถตาย วิชฺชุ อุปมา เอเตสนฺติ วิชฺชูปมา. นิสฺเสสํ วิทฺธํสนสมตฺถตาย วชิรํ อุปมา เอเตสนฺติ วชิรูปมา. พาเลสุ ิตตฺตา ยตฺถ ิตา ตทุปจาเรน พาลา. ปณฺฑิเตสุ ิตตฺตา ปณฺฑิตา. พาลกรตฺตา วา พาลา, ปณฺฑิตกรตฺตา ปณฺฑิตา. กณฺหาติ กาฬกา, จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณา. สุกฺกาติ โอทาตา, จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณา. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหา; สุกฺกาภิชาติเหตุโต สุกฺกา. อิธ เจว สมฺปราเย จ ตเปนฺตีติ ตปนียา. น ตปนียา อตปนียา.

อธิวจนทุกาทโย ตโย อตฺถโต นินฺนานากรณา; พฺยฺชนเมเวตฺถ นานํ. สิริวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโกติ อาทโย หิ วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อธิวจนา นาม. อธิวจนานํ ปถา อธิวจนปถา. ‘‘อภิสงฺขโรนฺตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา สงฺขารา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เอวํ นิทฺธาเรตฺวา สเหตุกํ กตฺวา วุจฺจมานา อภิลาปา นิรุตฺติ นาม. นิรุตฺตีนํ ปถา นิรุตฺติปถา. ตกฺโก วิตกฺโก สงฺกปฺโปติ (ธ. ส. ๗) เอวํ เตน เตน ปกาเรน าปนโต ปฺตฺติ นาม. ปฺตฺตีนํ ปถา ปฺตฺติปถา. เอตฺถ จ เอกํ ทุกํ วตฺวาปิ อิตเรสํ วจเน ปโยชนํ เหตุโคจฺฉเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๐๙-๑๑๘. นามรูปทุเก นามกรณฏฺเน นมนฏฺเน นามนฏฺเน จ นามํ. รุปฺปนฏฺเน รูปํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน นิกฺเขปกณฺเฑ อาวิ ภวิสฺสติ. อวิชฺชาติ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ. ภวตณฺหาติ ภวปตฺถนา. ภวทิฏฺีติ ภโว วุจฺจติ สสฺสตํ; สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ. วิภวทิฏฺีติ วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉทํ; อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ ปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ. อุจฺฉิชฺชิสฺสตีติ ปวตฺตา ทิฏฺิ อุจฺเฉททิฏฺิ. อนฺตวาติ ปวตฺตา ทิฏฺิ อนฺตวาทิฏฺิ. อนนฺตวาติ ปวตฺตา ทิฏฺิ อนนฺตวาทิฏฺิ. ปุพฺพนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิ. อปรนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ อปรนฺตานุทิฏฺิ. อหิริกนฺติ ยํ น หิริยติ หิริยิตพฺเพนาติ (ธ. ส. ๓๘๗) เอวํ วิตฺถาริตา นิลฺลชฺชตา. อโนตฺตปฺปนฺติ ยํ น โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนาติ เอวํ วิตฺถาริโต อภายนกอากาโร. หิริยนา หิรี, โอตฺตปฺปนา โอตฺตปฺปํ. โทวจสฺสตาทีสุ ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคาหิมฺหิ วิปจฺจนีกสาเต อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ. ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ. ตสฺส ภาโว โทวจสฺสตา. ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต; ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพา.

๑๑๙-๑๒๓. ‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๖) เอวํ วุตฺตาสุ อาปตฺตีสุ กุสลภาโว อาปตฺติกุสลตา. ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺาเน กุสลภาโว อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา. สมาปตฺตีสุ กุสลภาโว สมาปตฺติกุสลตา. สมาปตฺตีนํ อปฺปนาปริจฺเฉทปฺาเยตํ อธิวจนํ. สมาปตฺตีหิ วุฏฺาเน กุสลภาโว สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา. อฏฺารสสุ ธาตูสุ กุสลภาโว ธาตุกุสลตา. ตาสํเยว ธาตูนํ มนสิกาเร กุสลภาโว มนสิการกุสลตา. จกฺขายตนาทีสุ กุสลภาโว อายตนกุสลตา. ทฺวาทสงฺเค ปฏิจฺจสมุปฺปาเท กุสลภาโว ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา. ตสฺมึ ตสฺมึ าเน กุสลภาโว านกุสลตา. านนฺติ การณํ วุจฺจติ. ตสฺมิฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย ผลํ ติฏฺติ นาม, ตสฺมา านนฺติ วุตฺตํ. อฏฺาเน กุสลภาโว อฏฺานกุสลตา.

๑๒๔-๑๓๔. อุชุภาโว อชฺชโว. มุทุภาโว มทฺทโว. อธิวาสนสงฺขาโต ขมนภาโว ขนฺติ. สุรตสฺส ภาโว โสรจฺจํ. สมฺโมทกมุทุภาวสงฺขาโต สขิลภาโว สาขลฺยํ. ยถา ปเรหิ สทฺธึ อตฺตโน ฉิทฺทํ น โหติ เอวํ ธมฺมามิเสหิ ปฏิสนฺถรณํ ปฏิสนฺถาโร. อินฺทฺริยสํวรเภทสงฺขาโต มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารภาโว อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา. ปฏิคฺคหณปริโภควเสน โภชเน มตฺตํ อชานนภาโว โภชเน อมตฺตฺุตา. อนนฺตรทุโก วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. สติวิปฺปวาสสงฺขาโต มุฏฺสฺสติภาโว มุฏฺสฺสจฺจํ. อสมฺปชานภาโว อสมฺปชฺํ. สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ. อปฺปฏิสงฺขาเน อกมฺปนฏฺเน ปฏิสงฺขานสงฺขาตํ พลํ ปฏิสงฺขานพลํ. วีริยสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ พลํ ภาวนาพลํ. ปจฺจนีกธมฺเม สเมตีติ สมโถ. อนิจฺจาทิวเสน วิวิเธน อากาเรน ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. สมโถว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปุน ปวตฺเตตพฺพสฺส สมถสฺส นิมิตฺตวเสน สมถนิมิตฺตํ. ปคฺคาหนิมิตฺเตปิ เอเสว นโย. สมฺปยุตฺตธมฺเม ปคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป.

๑๓๕-๑๔๒. สีลวินาสิกา อสํวรสงฺขาตา สีลสฺส วิปตฺติ สีลวิปตฺติ. สมฺมาทิฏฺิวินาสิกา มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตา ทิฏฺิยา วิปตฺติ ทิฏฺิวิปตฺติ. โสรจฺจเมว สีลสฺส สมฺปาทนโต สีลปริปูรณโต สีลสฺส สมฺปทาติ สีลสมฺปทา. ทิฏฺิปาริปูริภูตํ าณํ ทิฏฺิยา สมฺปทาติ ทิฏฺิสมฺปทา. วิสุทฺธิภาวํ สมฺปตฺตา สีลสงฺขาตา สีลสฺส วิสุทฺธิ, สีลวิสุทฺธิ. นิพฺพานสงฺขาตํ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถา, ทสฺสนสงฺขาตา, ทิฏฺิยา วิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ. ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ กมฺมสฺสกตฺาณาทิสงฺขาตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ เจว ยถาทิฏฺิสฺส จ อนุรูปทิฏฺิสฺส กลฺยาณทิฏฺิสฺส ตํสมฺปยุตฺตเมว ปธานํ. สํเวโคติ ชาติอาทีนิ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนภยสงฺขาตํ สํวิชฺชนํ. สํเวชนิยฏฺานนฺติ สํเวคชนกํ ชาติอาทิการณํ. สํวิคฺคสฺส จ โยนิโสปธานนฺติ เอวํ สํเวคชาตสฺส อุปายปธานํ. อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กุสลธมฺมปูรเณ อสนฺตุฏฺิภาโว. อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมินฺติ อรหตฺตํ อปตฺวา ปธานสฺมึ อนิวตฺตนตา อโนสกฺกนตา. วิชานนโต วิชฺชา. วิมุจฺจนโต วิมุตฺติ. ขเย าณนฺติ กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณํ. อนุปฺปาเท าณนฺติ ปฏิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปนฺเน อริยผเล าณํ. อยํ มาติกาย อนุปุพฺพปทวณฺณนา.

ทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

กามาวจรกุสลปทภาชนียํ

. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย สงฺคหิเต ธมฺเม ปเภทโต ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติ อิทํ ปทภาชนียํ อารทฺธํ. ตตฺถ ยเทตํ ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ ปมํ กามาวจรกุสลํ ทสฺสิตํ, ตสฺส ตาว นิทฺเทเส ธมฺมววตฺถานวาโร สงฺคหวาโร สุฺตวาโรติ ตโย มหาวารา โหนฺติ. เตสุ ธมฺมววตฺถานวาโร อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ิโต. เตสุ อุทฺเทสวารสฺส ปุจฺฉา, สมยนิทฺเทโส, ธมฺมุทฺเทโส, อปฺปนาติ จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. เตสุ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ ปุจฺฉา นาม. ‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ…เป… ตสฺมึ สมเย’ติ อยํ สมยนิทฺเทโส นาม. ‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ อยํ ธมฺมุทฺเทโส นาม. ‘เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา อิเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ อปฺปนา นาม.

เอวํ จตูหิ ปริจฺเฉเทหิ ิตสฺส อุทฺเทสวารสฺส ยฺวายํ ปโม ปุจฺฉาปริจฺเฉโท, ตตฺถ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธาหิ ปุจฺฉา – อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตาสํ อิทํ นานตฺตํ –

กตมา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ, อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ. ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภูตตฺถาย วิภาวนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).

กตมา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ, ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, โส อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).

กตมา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา? ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ, วิมติปกฺขนฺโท ทฺเวฬฺหกชาโต – ‘เอวํ นุ โข, นนุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข’ติ. โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).

กตมา อนุมติปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ อนุมติยา ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’ติ? ‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’. ‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’ติ? ‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’. ‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ? ‘โนเหตํ, ภนฺเต’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙; มหาว. ๒๑). อยํ อนุมติปุจฺฉา.

กตมา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ กเถตุกมฺยตาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๓)? อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ.

ตตฺถ พุทฺธานํ ปุริมา ติสฺโส ปุจฺฉา นตฺถิ. กสฺมา? พุทฺธานฺหิ ตีสุ อทฺธาสุ กิฺจิ สงฺขตํ, อทฺธาวิมุตฺตํ วา อสงฺขตํ, อทิฏฺํ อนฺาตํ อโชติตํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ นาม นตฺถิ. เตน เตสํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา นตฺถิ. ยํ ปน ภควตา อตฺตโน าเณน ปฏิวิทฺธํ, ตสฺส อฺเน สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา สทฺธึ สํสนฺทนกิจฺจํ นตฺถิ. เตนสฺส ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา นตฺถิ. ยสฺมา ปเนส อกถํกถี ติณฺณวิจิกิจฺโฉ สพฺพธมฺเมสุ วิหตสํสโย, เตนสฺส วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา นตฺถิ. อิตรา ทฺเว ปน ปุจฺฉา ภควโต อตฺถิ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ ‘กตเม’ติปเทน นิทฺทิสิตพฺพธมฺเม ปุจฺฉติ. ‘ธมฺมา กุสลา’ติ หิ วจนมตฺเตน ‘กึ กตา กึ วา กโรนฺตี’ติ น สกฺกา าตุํ. ‘กตเม’ติ วุตฺเต ปน เตสํ ปุฏฺภาโว ปฺายติ. เตน วุตฺตํ ‘กตเมติปเทน นิทฺทิสิตพฺพธมฺเม ปุจฺฉตี’ติ. ‘ธมฺมา กุสลา’ติปททฺวเยน ปุจฺฉาย ปุฏฺธมฺเม ทสฺเสติ. เตสํ อตฺโถ เหฏฺา ปกาสิโตว.

กสฺมา ปเนตฺถ มาติกายํ วิย ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อวตฺวา ‘ธมฺมา กุสลา’ติ ปทานุกฺกโม กโตติ? ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถํ. อิมสฺมิฺหิ อภิธมฺเม ธมฺมาว เทเสตพฺพา. เต จ กุสลาทีหิ ปเภเทหิ อเนกปฺปเภทา. ตสฺมา ธมฺมาเยว อิธ เทเสตพฺพา. นายํ โวหารเทสนา. เต จ อเนกปฺปเภทโต เทเสตพฺพา, น ธมฺมมตฺตโต. ปเภทโต หิ เทสนา ฆนวินิพฺโภคปฏิสมฺภิทาาณาวหา โหตีติ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ เอวํ ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา, อิทานิ เย เตน ปเภเทน เทเสตพฺพา ธมฺมา เต ทสฺเสตุํ, อยํ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ ปทานุกฺกโม กโตติ เวทิตพฺโพ. ปเภทวนฺเตสุ หิ ทสฺสิเตสุ ปเภโท ทสฺสิยมาโน ยุชฺชติ สุวิฺเยฺโย จ โหตีติ.

อิทานิ ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตนฺติ. เอตฺถ –

สมเย นิทฺทิสิ จิตฺตํ, จิตฺเตน สมยํ มุนิ;

นิยเมตฺวาน ทีเปตุํ, ธมฺเม ตตฺถ ปเภทโต.

‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺต’นฺติ หิ นิทฺทิสนฺโต ภควา สมเย จิตฺตํ นิทฺทิสิ. กึการณา? เตน สมยนิยมิเตน จิตฺเตน ปริโยสาเน ‘ตสฺมึ สมเย’ติ เอวํ สมยํ นิยเมตฺวาน, อถ วิชฺชมาเนปิ สมยนานตฺเต ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ตสฺมึเยว สมเย ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตีติ เอวํ ตสฺมึ จิตฺตนิยมิเต สมเย เอเต สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนวเสน ทุรนุโพธปฺปเภเท ผสฺสเวทนาทโย ธมฺเม โพเธตุนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ ‘ยสฺมึ สมเย’ติอาทีสุ อยมนุปุพฺพปทวณฺณนา. ยสฺมินฺติ อนิยมโต ภุมฺมนิทฺเทโส. สมเยติ อนิยมนิทฺทิฏฺปริทีปนํ. เอตฺตาวตา อนิยมโต สมโย นิทฺทิฏฺโ โหติ. ตตฺถ สมยสทฺโท –

สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุ ทิฏฺิสุ;

ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ.

ตถา หิสฺส ‘‘อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๗) เอวมาทีสุ สมวาโย อตฺโถ. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๙) ขโณ. ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๓๕๘) กาโล. ‘‘มหาสมโย ปวนสฺมิ’’นฺติอาทีสุ สมูโห. ‘‘สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ ‘ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๓๕) เหตุ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๒๖๐) ทิฏฺิ.

‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;

อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๙) –

อาทีสุ ปฏิลาโภ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘) ปหานํ. ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ อภิสมยฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๒.๘) ปฏิเวโธ. เอวมเนเกสุ สมเยสุ –

สมวาโย ขโณ กาโล, สมูโห เหตุเยว จ;

เอเต ปฺจปิ วิฺเยฺยา, สมยา อิธ วิฺุนา.

‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสล’นฺติ อิมสฺมิฺหิ กุสลาธิกาเร เตสุ นวสุ สมเยสุ เอเต สมวายาทโย ปฺจ สมยา ปณฺฑิเตน เวทิตพฺพา.

เตสุ ปจฺจยสามคฺคี, สมวาโย ขโณ ปน;

เอโกว นวโม เยฺโย, จกฺกานิ จตุโรปิ วา.

ยา หิ เอสา สาธารณผลนิปฺผาทกตฺเตน สณฺิตา ปจฺจยานํ สามคฺคี, สา อิธ สมวาโยติ าตพฺพา. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๙) เอวํ วุตฺโต ปน นวโมว ขโณ เอโก ขโณติ เวทิตพฺโพ. ยานิ วา ปเนตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ – เอตฺถ ‘ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสูปนิสฺสโย, อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปุฺตา’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) จตฺตาริ จกฺกานิ วุตฺตานิ, เอตานิ วา เอกชฺฌํ กตฺวา โอกาสฏฺเน ขโณติ เวทิตพฺพานิ. ตานิ หิ กุสลุปฺปตฺติยา โอกาสภูตานิ.

เอวํ สมวายฺจ ขณฺจ ตฺวา อิตเรสุ –

ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต, กาโล โวหารมตฺตโก;

ปุฺโช ผสฺสาทิธมฺมานํ, สมูโหติ วิภาวิโต.

‘จิตฺตกาโล รูปกาโล’ติอาทินา หิ นเยน ธมฺเม วา, ‘อตีโต อนาคโต’ติอาทินา นเยน ธมฺมวุตฺตึ วา, ‘พีชกาโล องฺกุรกาโล’ติ อาทินา นเยน ธมฺมปฏิปาฏึ วา, ‘อุปฺปาทกาโล ชรากาโล’ติอาทินา นเยน ธมฺมลกฺขณํ วา, ‘เวทิยนกาโล สฺชานนกาโล’ติอาทินา นเยน ธมฺมกิจฺจํ วา, ‘นฺหานกาโล ปานกาโล’ติอาทินา นเยน สตฺตกิจฺจํ วา, ‘คมนกาโล านกาโล’ติอาทินา นเยน อิริยาปถํ วา, ‘ปุพฺพณฺโห สายนฺโห ทิวา รตฺตี’ติอาทินา นเยน จนฺทิมสูริยาทิปริวตฺตนํ วา, ‘อฑฺฒมาโส มาโส’ติอาทินา นเยน อโหรตฺตาทิสงฺขาตํ กาลสฺจยํ วาติ – เอวํ ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต กาโล นาม. โส ปเนส สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา ปฺตฺติมตฺตโก เอวาติ เวทิตพฺโพ. โย ปเนส ผสฺสเวทนาทีนํ ธมฺมานํ ปุฺโช, โส อิธ สมูโหติ วิภาวิโต. เอวํ กาลสมูเหปิ ตฺวา อิตโร ปน –

เหตูติ ปจฺจโยเวตฺถ, ตสฺส ทฺวารวเสน วา;

อเนกภาโว วิฺเยฺโย, ปจฺจยานํ วเสน วา.

เอตฺถ หิ ปจฺจโยว เหตุ นาม, ตสฺส ทฺวารานํ วา ปจฺจยานํ วา วเสน อเนกภาโว เวทิตพฺโพ. กถํ? จกฺขุทฺวาราทีสุ หิ อุปฺปชฺชมานานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ จกฺขุรูปอาโลกมนสิการาทโย ปจฺจยา, มหาปกรเณ จ ‘‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน จตุวีสติ ปจฺจยา วุตฺตา. เตสุ เปตฺวา วิปากปจฺจยฺจ ปจฺฉาชาตปจฺจยฺจ, เสสา กุสลธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺติเยว. เต สพฺเพปิ อิธ เหตูติ อธิปฺเปตา. เอวมสฺส อิมินา ทฺวารวเสน วา ปจฺจยวเสน วา อเนกภาโว เวทิตพฺโพ. เอวเมเต สมวายาทโย ปฺจ อตฺถา อิธ สมยสทฺเทน ปริคฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.

‘กสฺมา ปน เอเตสุ ยํกิฺจิ เอกํ อปริคฺคเหตฺวา สพฺเพสํ ปริคฺคโห กโต’ติ? ‘เตน เตน ตสฺส ตสฺส อตฺถวิเสสสฺส ทีปนโต. เอเตสุ หิ สมวายสงฺขาโต สมโย อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปติ. เตน เอกการณวาโท ปฏิเสธิโต โหติ. สมวาโย จ นาม สาธารณผลนิปฺผาทเน อฺมฺาเปกฺโข โหติ. ตสฺมา ‘เอโก กตฺตา นาม นตฺถี’ติ อิมมฺปิ อตฺถํ ทีเปติ. สภาเวน หิ การเณ สติ การณนฺตราเปกฺขา อยุตฺตาติ. เอวํ เอกสฺส กสฺสจิ การณสฺส อภาวทีปเนน ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติอาทิ ปฏิเสธิตํ โหติ.

ตตฺถ สิยา – ‘ยํ วุตฺตํ อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปตี’ติ, ตํ น ยุตฺตํ. ‘กึการณา’?‘อสามคฺคิยํ อเหตูนํ สามคฺคิยมฺปิ อเหตุภาวาปตฺติโต’. ‘น หิ เอกสฺมึ อนฺเธ ทฏฺุํ อสกฺโกนฺเต อนฺธสตํ ปสฺสตี’ติ. ‘โน น ยุตฺตํ; สาธารณผลนิปฺผาทกตฺเตน หิ ิตภาโว สามคฺคี; น อเนเกสํ สโมธานมตฺตํ. น จ อนฺธานํ ทสฺสนํ นาม สาธารณผลํ’. ‘กสฺมา’?‘อนฺธสเต สติปิ ตสฺส อภาวโต. จกฺขาทีนํ ปน ตํ สาธารณผลํ, เตสํ ภาเว ภาวโต. อสามคฺคิยํ อเหตูนมฺปิ จ สามคฺคิยํ เหตุภาโว สิทฺโธ. สฺวายํ อสามคฺคิยํ ผลาภาเวน, สามคฺคิยฺจสฺส ภาเวน, เวทิตพฺโพ. จกฺขาทีนฺหิ เวกลฺเล จกฺขุวิฺาณาทีนํ อภาโว, อเวกลฺเล จ ภาโว, ปจฺจกฺขสิทฺโธ โลกสฺสา’ติ. อยํ ตาว สมวายสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.

โย ปเนส อฏฺหิ อกฺขเณหิ ปริวชฺชิโต นวโม ขโณ, ปติรูปเทสวาสาทิโก จ จตุจกฺกสงฺขาโต โอกาสฏฺเน ขโณ วุตฺโต, โส มนุสฺสตฺตพุทฺธุปฺปาทสทฺธมฺมฏฺิติอาทิกํ ขณสามคฺคึ วินา นตฺถิ. มนุสฺสตฺตาทีนฺจ กาณกจฺฉโปปมาทีหิ (ม. นิ. ๓.๒๕๒) ทุลฺลภภาโว. อิติ ขณสฺส ทุลฺลภตฺตา สุฏฺุตรํ ขณายตฺตํ โลกุตฺตรธมฺมานํ อุปการภูตํ กุสลํ ทุลฺลภเมว. เอวเมเตสุ ขณสงฺขาโต สมโย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. เอวํ ทีเปนฺเตน อเนน อธิคตขณานํ ขณายตฺตสฺเสว ตสฺส กุสลสฺส อนนุฏฺาเนน โมฆขณํ กุรุมานานํ ปมาทวิหาโร ปฏิเสธิโต โหติ. อยํ ขณสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.

โย ปเนตสฺส กุสลจิตฺตสฺส ปวตฺติกาโล นาม โหติ, โส อติปริตฺโต. สา จสฺส อติปริตฺตตา ‘‘ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ยถา จ ยา เทวตา จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต ธาวนฺติ ตาสํ เทวตานํ ชโว, ตโต สีฆตรํ อายุสงฺขารา ขียนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) – อิมสฺส สุตฺตสฺส อฏฺกถาวเสน เวทิตพฺพา. ตตฺร หิ โส รูปชีวิตินฺทฺริยสฺส ตาว ปริตฺตโก กาโล วุตฺโต. ยาว ปฏุปฺปนฺนํ รูปํ ติฏฺติ ตาว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺติ. อิติ เตสํ กาลปริตฺตตาย อุปมาปิ นตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อุปมาปิ น สุกรา ยาว ลหุปริวตฺตํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘). เอวเมเตสุ กาลสงฺขาโต สมโย กุสลจิตฺตปฺปวตฺติกาลสฺส อติปริตฺตตํ ทีเปติ. เอวํ ทีเปนฺเตน จาเนน อติปริตฺตกาลตาย, วิชฺชุลโตภาเสน มุตฺตาวุณนํ วิย, ทุปฺปฏิวิชฺฌมิทํ จิตฺตํ, ตสฺมา เอตสฺส ปฏิเวเธ มหาอุสฺสาโห จ อาทโร จ กตฺตพฺโพติ โอวาโท ทินฺโน โหติ. อยํ กาลสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.

สมูหสงฺขาโต ปน สมโย อเนเกสํ สหุปฺปตฺตึ ทีเปติ. ผสฺสาทีนฺหิ ธมฺมานํ ปุฺโช สมูโหติ วุตฺโต. ตสฺมิฺจ อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ สห เตหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชตีติ อเนเกสํ สหุปฺปตฺติ ทีปิตา. เอวํ ทีเปนฺเตน จาเนน เอกสฺเสว ธมฺมสฺส อุปฺปตฺติ ปฏิเสธิตา โหติ. อยํ สมูหสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.

เหตุสงฺขาโต ปน สมโย ปรายตฺตวุตฺติตํ ทีเปติ. ‘ยสฺมึ สมเย’ติ หิ ปทสฺส ยสฺมา ‘ยสฺมึ เหตุมฺหิ สติ’ อุปฺปนฺนํ โหตีติ อยมตฺโถ, ตสฺมา ‘เหตุมฺหิ สติ’ ปวตฺติโต ปรายตฺตวุตฺติตา ทีปิตา. เอวํ ทีเปนฺเตน จาเนน ธมฺมานํ สวสวตฺติตาภิมาโน ปฏิเสธิโต โหติ. อยํ เหตุสงฺขาเตน สมเยน อตฺโถ ทีปิโต.

ตตฺถ ‘ยสฺมึ สมเย’ติ กาลสงฺขาตสฺส สมยสฺส วเสน ‘ยสฺมึ กาเล’ติ อตฺโถ; สมูหสงฺขาตสฺส ‘ยสฺมึ สมูเห’ติ. ขณสมวายเหตุสงฺขาตานํ ‘ยสฺมึ ขเณ สติ, ยาย สามคฺคิยา สติ, ยมฺหิ เหตุมฺหิ สติ’ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว สติ ‘ผสฺสาทโยปี’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อธิกรณฺหิ กาลสงฺขาโต สมูหสงฺขาโต จ สมโย. ตตฺถ วุตฺตธมฺมานนฺติ อธิกรณวเสเนตฺถ ภุมฺมํ. ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขียตีติ ภาเวนภาวลกฺขณวเสเนตฺถ ภุมฺมํ.

กามาวจรนฺติ ‘‘กตเม ธมฺมา กามาวจรา? เหฏฺโต อวีจินิรยํ อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตึ ปริยนฺตํ กตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) นเยน วุตฺเตสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺนํ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อุทฺทานโต ทฺเว กามา, วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จ. ตตฺถ กิเลสกาโม อตฺถโต ฉนฺทราโคว วตฺถุกาโม เตภูมกวฏฺฏํ. กิเลสกาโม เจตฺถ กาเมตีติ กาโม; อิตโร ปน กามิยตีติ กาโม. ยสฺมึ ปน ปเทเส ทุวิโธเปโส กาโม ปวตฺติวเสน อวจรติ, โส จตุนฺนํ อปายานํ, มนุสฺสานํ, ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ปเทโส. กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร, สสตฺถาวจโร วิย. ยถา หิ ยสฺมึ ปเทเส สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ, โส วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ทฺวิปทจตุปฺปเทสุ อวจรนฺเตสุ, เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา ‘สสตฺถาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ รูปาวจราทีสุ ตตฺถ อวจรนฺเตสุ, เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา อยํ ปเทโส ‘กามาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ. สฺวายํ ยถา รูปภโว รูปํ, เอวํ อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘กาโม’ตฺเวว วุจฺจติ. เอวมิทํ จิตฺตํ อิมสฺมึ เอกาทสปเทสสงฺขาเต กาเม อวจรตีติ กามาวจรํ.

กิฺจาปิ หิ เอตํ รูปารูปภเวสุปิ อวจรติ, ยถา ปน สงฺคาเม อวจรณโต สงฺคามาวจโรติ ลทฺธนามโก นาโค นคเร จรนฺโตปิ ‘สงฺคามาวจโร’ตฺเวว วุจฺจติ, ถลชลจรา จ ปาณา อถเล อชเล จ ิตาปิ ‘ถลจรา ชลจรา’ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เอวมิทํ อฺตฺถ อวจรนฺตมฺปิ กามาวจรเมวาติ เวทิตพฺพํ. อารมฺมณกรณวเสน วา เอตฺถ กาโม อวจรตีติปิ กามาวจรํ. กามฺเจส รูปารูปาวจเรสุปิ อวจรติ, ยถา ปน วทตีติ ‘วจฺโฉ’, มหิยํ เสตีติ ‘มหึโส’ติ วุตฺเต, น สตฺตา ยตฺตกา วทนฺติ, มหิยํ วา เสนฺติ สพฺเพสํ ตํ นามํ โหติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อปิจ กามภวสงฺขาเต กาเม ปฏิสนฺธึ อวจาเรตีติปิ กามาวจรํ.

กุสลนฺติ กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ อตฺเถหิ กุสลํ. อปิจ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน จ กุสลํ. ยเถว หิ ‘กจฺจิ นุ โภโต กุสล’นฺติ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) รูปกาเย อนาตุรตาย อเคลฺเน นิพฺยาธิตาย อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ วุตฺตํ, เอวํ อรูปธมฺเมปิ กิเลสาตุรตาย กิเลสเคลฺสฺส จ กิเลสพฺยาธิโน อภาเวน อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ เวทิตพฺพํ. กิเลสวชฺชสฺส ปน กิเลสโทสสฺส กิเลสทรถสฺส จ อภาวา อนวชฺชฏฺเน กุสลํ. โกสลฺลํ วุจฺจติ ปฺา; โกสลฺลโต สมฺภูตตฺตา โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลํ.

‘าณสมฺปยุตฺตํ’ ตาว เอวํ โหตุ; าณวิปฺปยุตฺตํ กถนฺติ. ตมฺปิ รุฬฺหีสทฺเทน กุสลเมว. ยถา หิ ตาลปณฺเณหิ อกตฺวา กิลฺชาทีหิ กตมฺปิ ตํสริกฺขตฺตา รุฬฺหีสทฺเทน ตาลวณฺฏนฺตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ ‘าณวิปฺปยุตฺต’มฺปิ กุสลนฺตฺเวว เวทิตพฺพํ. นิปฺปริยาเยน ปน ‘าณสมฺปยุตฺตํ’ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ ติวิเธนปิ กุสลนฺติ นามํ ลภติ, าณวิปฺปยุตฺตํ ทุวิเธเนว. อิติ ยฺจ ชาตกปริยาเยน ยฺจ พาหิติกสุตฺตปริยาเยน ยฺจ อภิธมฺมปริยาเยน กุสลํ กถิตํ สพฺพํ ตํ ตีหิปิ อตฺเถหิ อิมสฺมึ จิตฺเต ลพฺภติ.

ตเทตํ ลกฺขณาทิวเสน อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณํ, อกุสลวิทฺธํสนรสํ, โวทานปจฺจุปฏฺานํ, โยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. อวชฺชปฏิปกฺขตฺตา วา อนวชฺชลกฺขณเมว กุสลํ, โวทานภาวรสํ, อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ, ยถาวุตฺตปทฏฺานเมว. ลกฺขณาทีสุ หิ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาโว วา สามฺํ วา ลกฺขณํ นาม. กิจฺจํ วา สมฺปตฺติ วา รโส นาม. อุปฏฺานากาโร วา ผลํ วา ปจฺจุปฏฺานํ นาม. อาสนฺนการณํ ปทฏฺานํ นาม. อิติ ยตฺถ ยตฺถ ลกฺขณาทีนิ วกฺขาม ตตฺถ ตตฺถ อิมินาว นเยน เตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

จิตฺตนฺติ อารมฺมณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ; วิชานาตีติ อตฺโถ. ยสฺมา วา ‘จิตฺต’นฺติ สพฺพจิตฺตสาธารโณ เอส สทฺโท, ตสฺมา ยเทตฺถ โลกิยกุสลากุสลกิริยจิตฺตํ, ตํ ชวนวีถิวเสน อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติ จิตฺตํ. วิปากํ กมฺมกิเลเสหิ จิตนฺติ จิตฺตํ. อปิจ สพฺพมฺปิ ยถานุรูปโต จิตฺตตาย จิตฺตํ. จิตฺตกรณตาย จิตฺตนฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา อฺเทว สราคํ จิตฺตํ, อฺํ สโทสํ, อฺํ สโมหํ; อฺํ กามาวจรํ, อฺํ รูปาวจราทิเภทํ; อฺํ รูปารมฺมณํ, อฺํ สทฺทาทิอารมฺมณํ; รูปารมฺมเณสุ จาปิ อฺํ นีลารมฺมณํ, อฺํ ปีตาทิอารมฺมณํ; สทฺทาทิอารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย; สพฺเพสุปิ เจเตสุ อฺํ หีนํ อฺํ มชฺฌิมํ อฺํ ปณีตํ; หีนาทีสุปิ อฺํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีริยาธิปเตยฺยํ อฺํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีมํสาธิปเตยฺยํ, ตสฺมา อสฺส อิเมสํ สมฺปยุตฺตภูมิอารมฺมณหีนมชฺฌิมปณีตาธิปตีนํ วเสน จิตฺตตา เวทิตพฺพา. กามฺเจตฺถ เอกเมว เอวํ จิตฺตํ น โหติ, จิตฺตานํ ปน อนฺโตคธตฺตา เอเตสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ จิตฺตตาย จิตฺตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ตาว จิตฺตตาย จิตฺตํ.

กถํ จิตฺตกรณตายาติ? โลกสฺมิฺหิ จิตฺตกมฺมโต อุตฺตริ อฺํ จิตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมิมฺปิ จรณํ นาม จิตฺตํ อติจิตฺตเมว โหติ. ตํ กโรนฺตานํ จิตฺตการานํ ‘เอวํวิธานิ เอตฺถ รูปานิ กาตพฺพานี’ติ จิตฺตสฺา อุปฺปชฺชติ. ตาย จิตฺตสฺาย เลขาคหนรฺชนอุชฺโชตนวตฺตนาทินิปฺผาทิกา จิตฺตกิริยา อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต จรณสงฺขาเต จิตฺเต อฺตรํ วิจิตฺตรูปํ นิปฺผชฺชติ. ตโต ‘อิมสฺส รูปสฺส อุปริ อิทํ โหตุ, เหฏฺา อิทํ, อุภยปสฺเส อิท’นฺติ จินฺเตตฺวา ยถาจินฺติเตน กเมน เสสจิตฺตรูปนิปฺผาทนํ โหติ, เอวํ ยํกิฺจิ โลเก วิจิตฺตํ สิปฺปชาตํ สพฺพํ ตํ จิตฺเตเนว กริยติ, เอวํ อิมาย กรณวิจิตฺตตาย ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส นิปฺผาทกํ จิตฺตมฺปิ ตเถว จิตฺตํ โหติ. ยถาจินฺติตสฺส วา อนวเสสสฺส อนิปฺผชฺชนโต ตโตปิ จิตฺตเมว จิตฺตตรํ. เตนาห ภควา –

‘‘ทิฏฺํ โว, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตนฺติ? ‘เอวํ, ภนฺเต’. ตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตํ จิตฺเตเนว จินฺติตํ. เตนปิ โข, ภิกฺขเว, จรเณน จิตฺเตน จิตฺตํเยว จิตฺตตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐).

ตถา ยเทตํ เทวมนุสฺสนิรยติรจฺฉานเภทาสุ คตีสุ กมฺมลิงฺคสฺาโวหาราทิเภทํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ ตมฺปิ จิตฺตกตเมว. กายกมฺมาทิเภทฺหิ ทานสีลวิหึสาสาเยฺยาทินยปฺปวตฺตํ กุสลากุสลกมฺมํ จิตฺตนิปฺผาทิตํ กมฺมนานตฺตํ. กมฺมนานตฺเตเนว จ ตาสุ ตาสุ คตีสุ หตฺถปาทกณฺณอุทรคีวามุขาทิสณฺานภินฺนํ ลิงฺคนานตฺตํ. ลิงฺคนานตฺตโต ยถาคหิตสณฺานวเสน ‘อยํ อิตฺถี อยํ ปุริโส’ติ อุปฺปชฺชมานาย สฺาย สฺานานตฺตํ. สฺานานตฺตโต สฺานุรูเปน ‘อิตฺถี’ติ วา ‘ปุริโส’ติ วา โวหรนฺตานํ โวหารนานตฺตํ. โวหารนานตฺตวเสน ปน ยสฺมา ‘อิตฺถี ภวิสฺสามิ ปุริโส ภวิสฺสามิ, ขตฺติโย ภวิสฺสามิ พฺราหฺมโณ ภวิสฺสามี’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส อตฺตภาวสฺส ชนกํ กมฺมํ กรียติ, ตสฺมา โวหารนานตฺตโต กมฺมนานตฺตํ. ตํ ปเนตํ กมฺมนานตฺตํ ยถาปตฺถิตํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ ยสฺมา คติวเสน นิพฺพตฺเตติ ตสฺมา กมฺมนานตฺตโต คตินานตฺตํ. กมฺมนานตฺเตเนว จ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตสฺสา ตสฺสา คติยา อปาทกทฺวิปาทกาทิตา, ตสฺสา ตสฺสา อุปปตฺติยา อุจฺจนีจาทิตา, ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺตภาเว สุวณฺณทุพฺพณฺณาทิตา, โลกธมฺเมสุ ลาภาลาภาทิตา จ ปฺายติ. ตสฺมา สพฺพเมตํ เทวมนุสฺสนิรยติรจฺฉานเภทาสุ คตีสุ กมฺมลิงฺคสฺาโวหาราทิเภทํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ จิตฺเตเนว กตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฺวายมตฺโถ อิมสฺส สงฺคีติอนารุฬฺหสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กมฺมนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน ลิงฺคนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, ลิงฺคนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน สฺานานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, สฺานานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน โวหารนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ, โวหารนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานวเสน กมฺมนานตฺตปุถุตฺตปฺปเภทววตฺถานํ ภวติ. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ คติยา นานากรณํ ปฺายติ – อปทา ทฺวิปทา จตุปฺปทา พหุปฺปทา, รูปิโน อรูปิโน, สฺิโน อสฺิโน เนวสฺีนาสฺิโน. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อุปปตฺติยา นานากรณํ ปฺายติ – อุจฺจนีจตา หีนปณีตตา สุคตทุคฺคตตา. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อตฺตภาเว นานากรณํ ปฺายติ – สุวณฺณทุพฺพณฺณตา สุชาตทุชฺชาตตา สุสณฺิตทุสฺสณฺิตตา. กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ โลกธมฺเม นานากรณํ ปฺายติ – ลาภาลาเภ ยสายเส นินฺทาปสํสายํ สุขทุกฺเข’’ติ.

อปรมฺปิ วุตฺตํ –

กมฺมโต ลิงฺคโต เจว, ลิงฺคสฺา ปวตฺตเร;

สฺาโต เภทํ คจฺฉนฺติ, อิตฺถายํ ปุริโสติ วา.

‘‘กมฺมุนา วตฺตเต โลโก, กมฺมุนา วตฺตเต ปชา;

กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา, รถสฺสาณีว ยายโต’’. (ม. นิ. ๒.๔๖๐; สุ. นิ. ๖๕๙);

กมฺเมน กิตฺตึ ลภเต ปสํสํ,

กมฺเมน ชานิฺจ วธฺจ พนฺธํ;

ตํ กมฺมนานากรณํ วิทิตฺวา,

กสฺมา วเท นตฺถิ กมฺมนฺติ โลเก. (กถา. ๗๘๕);

‘‘กมฺมสฺสกา มาณว สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา; กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙).

เอวํ อิมาย กรณจิตฺตตายปิ จิตฺตสฺส จิตฺตตา เวทิตพฺพา. สพฺพานิปิ หิ เอตานิ วิจิตฺรานิ จิตฺเตเนว กตานิ. อลทฺโธกาสสฺส ปน จิตฺตสฺส ยํ วา ปน อวเสสปจฺจยวิกลํ ตสฺส เอกจฺจจิตฺตกรณาภาวโต ยเทตํ จิตฺเตน กตํ อชฺฌตฺติกํ จิตฺตํ วุตฺตํ, ตโตปิ จิตฺตเมว จิตฺตตรํ. เตนาห ภควา –

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ จิตฺตํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา… เตหิปิ โข, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคเตหิ ปาเณหิ จิตฺตํเยว จิตฺตตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐).

อุปฺปนฺนํ โหตีติ เอตฺถ วตฺตมานภูตาปคโตกาสกตภูมิลทฺธวเสน อุปฺปนฺนํ นาม อเนกปฺปเภทํ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคีสงฺขาตํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธํ, อนุภูตาปคตสงฺขาตํ กุสลากุสลํ, อุปฺปาทาทิตฺตยํ อนุปฺปตฺวา นิรุทฺธํ, ภูตาปคตสงฺขาตํ, เสสสงฺขตฺจ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ นาม. ‘‘ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ กตานิ กมฺมานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) เอวมาทินา นเยน วุตฺตํ กมฺมํ อตีตมฺปิ สมานํ, อฺํ วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺโสกาสํ กตฺวา ิตตฺตา, ตถา กโตกาสฺจ วิปากํ อนุปฺปนฺนมฺปิ สมานํ เอวํ กเต โอกาเส เอกนฺเตน อุปฺปชฺชนโต โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมูหตํ อกุสลํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม. เอตฺถ จ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ภูมีติ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. ภูมิลทฺธํ นาม เตสุ ขนฺเธสุ อุปฺปตฺตารหํ กิเลสชาตํ. เตน เหสา ภูมิ ลทฺธา นาม โหติ, ตสฺมา ภูมิลทฺธนฺติ วุจฺจติ. เอวเมเตสุ จตูสุ อุปฺปนฺเนสุ อิธ ‘วตฺตมานุปฺปนฺนํ’ อธิปฺเปตํ.

ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปาทาทิอภิมุขํ ปนฺนนฺติ อุปฺปนฺนํ. ‘อุปฺปนฺน’-สทฺโท ปเนส อตีเต ปฏิลทฺเธ สมุฏฺิเต อวิกฺขมฺภิเต อสมุจฺฉินฺเน ขณตฺตยคเตติ อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๓) เอตฺถ อตีเต อาคโต. ‘‘อายสฺมโต อานนฺทสฺส อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ปารา. ๔๖๑) เอตฺถ ปฏิลทฺเธ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปนฺนํ มหาเมฆํ ตเมนํ มหาวาโต อนฺตราเยว อนฺตรธาเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๕๗) เอตฺถ สมุฏฺิเต. ‘‘อุปฺปนฺนํ คมิยจิตฺตํ ทุปฺปฏิวิโนทนียํ (อ. นิ. ๕.๑๖๐; ปริ. ๓๒๕); อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตรธาเปตี’’ติ (ปารา. ๑๖๕) เอตฺถ อวิกฺขมฺภิเต. ‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวนฺโต พหุลีกโรนฺโต อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตราเยว อนฺตรธาเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๕๖-๑๕๗) เอตฺถ อสมุจฺฉินฺเน. ‘‘อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ? อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๘๑) เอตฺถ ขณตฺตยคเต. สฺวายมิธาปิ ขณตฺตยคเตว ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา ‘อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ เอตฺถ ขณตฺตยคตํ โหติ, วตฺตมานํ โหติ, ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตีติ. อยํ สงฺเขปตฺโถ.

จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ เจตํ เทสนาสีสเมว. น ปน จิตฺตํ เอกกเมว อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ยถา ราชา อาคโตติ วุตฺเต น ปริสํ ปหาย เอกโกว อาคโต, ราชปริสาย ปน สทฺธึเยว อาคโตติ ปฺายติ, เอวมิทมฺปิ ปโรปณฺณาสกุสลธมฺเมหิ สทฺธึเยว อุปฺปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺพงฺคมฏฺเน ปน ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ’’จฺเจว วุตฺตํ.

โลกิยธมฺมฺหิ ปตฺวา จิตฺตํ เชฏฺกํ จิตฺตํ ธุรํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ. โลกุตฺตรธมฺมํ ปตฺวา ปฺา เชฏฺิกา ปฺา ธุรา ปฺา ปุพฺพงฺคมา. เตเนว ภควา วินยปริยายํ ปตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต ‘กึผสฺโสสิ, กึเวทโนสิ, กึสฺโสิ, กึเจตโนสี’ติ อปุจฺฉิตฺวา ‘‘กึจิตฺโต ตฺวํ ภิกฺขู’’ติ จิตฺตเมว ธุรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. ‘‘อเถยฺยจิตฺโต อหํ ภควา’’ติ จ วุตฺเต ‘อนาปตฺติ อเถยฺยผสฺสสฺสา’ติอาทีนิ อวตฺวา ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติ วทติ.

น เกวลฺจ วินยปริยายํ, อฺมฺปิ โลกิยเทสนํ เทเสนฺโต จิตฺตเมว ธุรํ กตฺวา เทเสติ. ยถาห – ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา อกุสลปกฺขิกา สพฺเพเต มโนปุพฺพงฺคมา. มโน เตสํ ธมฺมานํ ปมํ อุปฺปชฺชติ’’ (อ. นิ. ๑.๕๖).

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปทุฏฺเน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, จกฺกํว วหโต ปทํ.

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินี’’. (ธ. ป. ๑,๒);

‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสติ;

จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส, สพฺเพว วสมนฺวคู’’. (สํ. นิ. ๑.๖๒);

‘‘จิตฺตสํกิเลสา, ภิกฺขเว, สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺติ’’ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐);

‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ’’ (อ. นิ. ๑.๔๙);

‘‘จิตฺเต, คหปติ, อรกฺขิเต กายกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อรกฺขิตํ โหติ; จิตฺเต, คหปติ, รกฺขิเต…เป… จิตฺเต, คหปติ, พฺยาปนฺเน…เป… จิตฺเต, คหปติ, อพฺยาปนฺเน…เป… จิตฺเต, คหปติ, อวสฺสุเต…เป… จิตฺเต, คหปติ, อนวสฺสุเต กายกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, วจีกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหติ, มโนกมฺมมฺปิ อนวสฺสุตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๑๐).

เอวํ โลกิยธมฺมํ ปตฺวา จิตฺตํ เชฏฺกํ โหติ, จิตฺตํ ธุรํ โหติ, จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อิเมสุ ปน สุตฺเตสุ เอกํ วา ทฺเว วา อคฺคเหตฺวา สุตฺตานุรกฺขณตฺถาย สพฺพานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปน ‘กตรผสฺสํ อธิคโตสิ, กตรเวทนํ กตรสฺํ กตรเจตนํ กตรจิตฺต’นฺติ อปุจฺฉิตฺวา, ‘กตรปฺํ ตฺวํ ภิกฺขุ อธิคโต’สิ, ‘กึ ปมํ มคฺคปฺํ, อุทาหุ ทุติยํ…เป… ตติยํ…เป… จตุตฺถํ มคฺคปฺํ อธิคโต’ติ ปฺํ เชฏฺิกํ ปฺํ ธุรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. ปฺุตฺตรา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺติ. ปฺา ปน กิมตฺถิยา (ม. นิ. ๑.๔๕๑)? ‘‘ปฺวโต, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ตทนฺวยา สทฺธา สณฺาติ, ตทนฺวยํ วีริยํ สณฺาติ, ตทนฺวยา สติ สณฺาติ, ตทนฺวโย สมาธิ สณฺาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๕) เอวมาทีนิ ปเนตฺถ สุตฺตานิ ทฏฺพฺพานิ. อิติ โลกุตฺตรธมฺมํ ปตฺวา ปฺา เชฏฺิกา โหติ ปฺา ธุรา ปฺา ปุพฺพงฺคมาติ เวทิตพฺพา. อยํ ปน โลกิยเทสนา. ตสฺมา จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา เทเสนฺโต ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ อาห.

โสมนสฺสสหคตนฺติ สาตมธุรเวทยิตสงฺขาเตน โสมนสฺเสน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตํ. อยํ ปน ‘สหคต’-สทฺโท ตพฺภาเว โวกิณฺเณ นิสฺสเย อารมฺมเณ สํสฏฺเติ อิเมสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (วิภ. ๒๐๓) ตพฺภาเว เวทิตพฺโพ; นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) โวกิณฺเณ เวทิตพฺโพ; อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) นิสฺสเย เวทิตพฺโพ; อฏฺิกสฺํ นิสฺสาย อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา’’ติ (ปุ. ป. ๓-๕) อารมฺมเณ; เวทิตพฺโพ รูปารูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) สํสฏฺเ. อิมสฺมิมฺปิ ปเท อยเมวตฺโถ อธิปฺเปโต. โสมนสฺสสํสฏฺฺหิ อิธ โสมนสฺสสหคตนฺติ วุตฺตํ.

‘สํสฏฺ’-สทฺโทปิ เจส สทิเส อวสฺสุเต มิตฺตสนฺถเว สหชาเตติ พหูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) เอตฺถ สทิเส อาคโต. ‘‘สํสฏฺาว ตุมฺเห อยฺเย วิหรถา’’ติ (ปาจิ. ๗๒๗) อวสฺสุเต. ‘‘คิหิ สํสฏฺโ วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓) มิตฺตสนฺถเว. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ สหชาเต. อิธาปิ สหชาเต อธิปฺเปโต. ตตฺถ ‘สหคตํ’ อสหชาตํ อสํสฏฺํ อสมฺปยุตฺตํ นาม นตฺถิ. สหชาตํ ปน สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตํ โหติปิ, น โหติปิ. รูปารูปธมฺเมสุ หิ เอกโต ชาเตสุ รูปํ อรูเปน สหชาตํ โหติ, น สํสฏฺํ, น สมฺปยุตฺตํ; ตถา อรูปํ รูเปน; รูปฺจ รูเปน; อรูปํ ปน อรูเปน สทฺธึ นิยมโตว สหคตํ สหชาตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตเมว โหตีติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘โสมนสฺสสหคต’นฺติ.

าณสมฺปยุตฺตนฺติ าเณน สมฺปยุตฺตํ, สมํ เอกุปฺปาทาทิปฺปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ มาติกาวณฺณนาย เวทนาตฺติเก วุตฺตนยเมว. ตสฺมา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณาติ อิมินา ลกฺขเณเนตํ สมฺปยุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เจส. อรูเป ปน วินาปิ เอกวตฺถุกภาวํ สมฺปโยโค ลพฺภติ.

เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? กามาวจรกุสเลสุ โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ กถิตํ. ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา’’ติ หิ อนิยมิตปุจฺฉาย จตุภูมกกุสลํ คหิตํ. ‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ วจเนน ปน เตภูมกํ กุสลํ ปริจฺจชิตฺวา, อฏฺวิธํ กามาวจรกุสลเมว คหิตํ. ‘โสมนสฺสสหคต’นฺติ วจเนน ตโต จตุพฺพิธํ อุเปกฺขาสหคตํ ปริจฺจชิตฺวา จตุพฺพิธํ โสมนสฺสสหคตเมว คหิตํ. ‘าณสมฺปยุตฺต’นฺติ วจเนน ตโต ทุวิธํ าณวิปฺปยุตฺตํ ปริจฺจชิตฺวา ทฺเว าณสมฺปยุตฺตาเนว คหิตานิ. อสงฺขาริกภาโว ปน อนาภฏฺตาเยว น คหิโต. กิฺจาปิ น คหิโต, ปรโต ปน ‘สสงฺขาเรนา’ติ วจนโต อิธ ‘อสงฺขาเรนา’ติ อวุตฺเตปิ อสงฺขาริกภาโว เวทิตพฺโพ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ อาทิโตว อิทํ มหาจิตฺตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ นิยเมตฺวาว อิมํ เทสนํ อารภีติ เอวเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ตเมว จิตฺตํ อารมฺมณโต ทสฺเสตุํ รูปารมฺมณํ วาติอาทิมาห. ภควา หิ อรูปธมฺมํ ทสฺเสนฺโต วตฺถุนา วา ทสฺเสติ, อารมฺมเณน วา, วตฺถารมฺมเณหิ วา, สรสภาเวน วา. ‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส…เป… มโนสมฺผสฺโส; จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา; จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีสุ หิ วตฺถุนา อรูปธมฺมา ทสฺสิตา. ‘‘รูปสฺา…เป… ธมฺมสฺา, รูปสฺเจตนา…เป… ธมฺมสฺเจตนา’’ติอาทีสุ อารมฺมเณน. ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๖๐) วตฺถารมฺมเณหิ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑) สรสภาเวน อรูปธมฺมา ทสฺสิตา. อิมสฺมึ ปน าเน อารมฺมเณน ทสฺเสนฺโต ‘รูปารมฺมณํ’ วาติอาทิมาห.

ตตฺถ จตุสมุฏฺานํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ รูปเมว รูปารมฺมณํ. ทฺวิสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน สทฺโทว สทฺทารมฺมณํ. จตุสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน คนฺโธว คนฺธารมฺมณํ. จตุสมุฏฺาโน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺโน รโสว รสารมฺมณํ. จตุสมุฏฺานํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ โผฏฺพฺพเมว โผฏฺพฺพารมฺมณํ. เอกสมุฏฺานา ทฺวิสมุฏฺานา ติสมุฏฺานา จตุสมุฏฺานา นกุโตจิสมุฏฺานา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา, ตถา นวตฺตพฺพา จ, วุตฺตาวเสสา จิตฺตโคจรสงฺขาตา ธมฺมาเยว ธมฺมารมฺมณํ. เย ปน อนาปาถคตา รูปาทโยปิ ธมฺมารมฺมณมิจฺเจว วทนฺติ เต อิมินา สุตฺเตน ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อิเมสํ โข, อาวุโส, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ มโน ปฏิสรณํ มโน เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๕).

เอเตสฺหิ รูปารมฺมณาทีนิ โคจรวิสโย นาม. ตานิ มเนน ปจฺจนุภวิยมานานิปิ รูปารมฺมณาทีนิเยวาติ อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ. ทิพฺพจกฺขุาณาทีนฺจ รูปาทิอารมฺมณตฺตาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธเยว โหติ. อนาปาถคตาเนว หิ รูปารมฺมณาทีนิ ทิพฺพจกฺขุอาทีนํ อารมฺมณานิ, น จ ตานิ ธมฺมารมฺมณานิ ภวนฺตีติ วุตฺตนเยเนว อารมฺมณววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ เอเกกํ อารมฺมณํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อาปาถมาคจฺฉติ. รูปารมฺมณฺหิ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ตงฺขณฺเว มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ; ภวงฺคจลนสฺส ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย. ยถา หิ สกุโณ อากาเสนาคนฺตฺวา รุกฺขคฺเค นิลียมาโนว รุกฺขสาขฺจ ฆฏฺเฏติ, ฉายา จสฺส ปถวิยํ ปฏิหฺติ สาขาฆฏฺฏนฉายาผรณานิ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณเยว ภวนฺติ, เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปาทีนํ จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนฺจ ภวงฺคจลนสมตฺถตาย มโนทฺวาเร อาปาถคมนฺจ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณเยว โหติ. ตโต ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา จกฺขุทฺวาราทีสุ อุปฺปนฺนานํ อาวชฺชนาทีนํ โวฏฺพฺพนปริโยสานานํ อนนฺตรา เตสํ อารมฺมณานํ อฺตรสฺมึ อิทํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.

สุทฺธมโนทฺวาเร ปน ปสาทฆฏฺฏนกิจฺจํ นตฺถิ. ปกติยา ทิฏฺสุตฆายิตสายิตผุฏฺวเสเนว เอตานิ อารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ. กถํ? อิเธกจฺโจ กตสุธากมฺมํ หริตาลมโนสิลาทิวณฺณวิจิตฺตํ ปคฺคหิตนานปฺปการธชปฏากํ มาลาทามวินทฺธํ ทีปมาลาปริกฺขิตฺตํ อติมโนรมาย สิริยา วิโรจมานํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาเจติยํ ปทกฺขิณํ กตฺวา โสฬสสุ ปาทปิฏฺิกาสุ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห อุลฺโลเกนฺโต พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา ติฏฺติ. ตสฺส เอวํ เจติยํ ปสฺสิตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ นิพฺพตฺเตตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ คตสฺส รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ นิสินฺนสฺส อาวชฺชมานสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาเจติยํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถมาคตสทิสเมว โหติ, ปทกฺขิณํ กตฺวา เจติยวนฺทนกาโล วิย โหติ. เอวํ ตาว ทิฏฺวเสน รูปารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.

มธุเรน ปน สเรน ธมฺมกถิกสฺส วา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส, สรภาณกสฺส วา สเรน ภณนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ นิสีทิตฺวา อาวชฺชมานสฺส ธมฺมกถา วา สรภฺํ วา โสตทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, สาธุการํ ทตฺวา สุณนกาโล วิย โหติ. เอวํ สุตวเสน สทฺทารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.

สุคนฺธํ ปน คนฺธํ วา มาลํ วา ลภิตฺวา อาสเน วา เจติเย วา คนฺธารมฺมเณน จิตฺเตน ปูชํ กตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ นิสีทิตฺวา อาวชฺชมานสฺส ตํ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, ปูชากรณกาโล วิย โหติ. เอวํ ฆายิตวเสน คนฺธารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.

ปณีตํ ปน ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ สํวิภชิตฺวา ปริภุฺชิตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ กุทฺรูสกาทิโภชนํ ลภิตฺวา ‘อสุกกาเล ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ สํวิภชิตฺวา ปริภุตฺต’นฺติ อาวชฺชมานสฺส ตํ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ, ปริภุฺชนกาโล วิย โหติ. เอวํ สายิตวเสน รสารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ.

มุทุกํ ปน สุขสมฺผสฺสํ มฺจํ วา ปีํ วา อตฺถรณปาปุรณํ วา ปริภุฺชิตฺวา อปรภาเค ยตฺถ กตฺถจิ ทุกฺขเสยฺยํ กปฺเปตฺวา ‘อสุกกาเล เม มุทุกํ มฺจปีํ อตฺถรณปาวุรณํ ปริภุตฺต’นฺติ อาวชฺชมานสฺส ตํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถมาคตํ วิย โหติ. สุขสมฺผสฺสํ เวทยิตกาโล วิย โหติ. เอวํ ผุฏฺวเสน โผฏฺพฺพารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. เอวํ สุทฺธมโนทฺวาเร ปสาทฆฏฺฏนกิจฺจํ นตฺถิ. ปกติยา ทิฏฺสุตฆายิตสายิตผุฏฺวเสเนว เอตานิ อารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.

อิทานิ ปกติยา ทิฏฺาทีนํ วเสน อาปาถคมเน อยมปโรปิ อฏฺกถามุตฺตโก นโย โหติ. ทิฏฺํ สุตํ อุภยสมฺพนฺธนฺติ อิเม ตาว ทิฏฺาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ ‘ทิฏฺํ’ นาม ปฺจทฺวารวเสน คหิตปุพฺพํ. ‘สุต’นฺติ ปจฺจกฺขโต อทิสฺวา อนุสฺสววเสน คหิตา รูปาทโยว. เตหิ ทฺวีหิปิ สมฺพนฺธํ ‘อุภยสมฺพนฺธํ’ นาม. อิติ อิเมสมฺปิ ทิฏฺาทีนํ วเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ทิฏฺวเสน ตาว อาปาถคมนํ เหฏฺา ปฺจหิ นเยหิ วุตฺตเมว.

เอกจฺโจ ปน สุณาติ – ‘ภควโต ปุฺาติสยนิพฺพตฺตํ เอวรูปํ นาม รูปํ, อติมธุโร สทฺโท, กิสฺมิฺจิ ปเทเส เกสฺจิ ปุปฺผานํ อติมนุฺโ คนฺโธ, เกสฺจิ ผลานํ อติมธุโร รโส, เกสฺจิ ปาวุรณาทีนํ อติสุโข สมฺผสฺโส’ติ. ตสฺส, จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนํ วินา, สุตมตฺตาเนว ตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ. อถสฺส ตํ จิตฺตํ ตสฺมึ รูเป วา สทฺเท วา ปสาทวเสน คนฺธาทีสุ อริยานํ ทาตุกามตาวเสน อฺเหิ ทินฺเนสุ อนุโมทนาวเสน วา ปวตฺตติ. เอวํ สุตวเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ.

อปเรน ปน ยถาวุตฺตานิ รูปาทีนิ ทิฏฺานิ วา สุตานิ วา โหนฺติ. ตสฺส ‘อีทิสํ รูปํ อายตึ อุปฺปชฺชนกพุทฺธสฺสาปิ ภวิสฺสตี’ติอาทินา นเยน จกฺขุปสาทาทิฆฏฺฏนํ วินา ทิฏฺสุตสมฺพนฺเธเนว ตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ. อถสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เตสุ อฺตรารมฺมณํ อิทํ มหาจิตฺตํ ปวตฺตติ. เอวํ อุภยสมฺพนฺธวเสน เอตานิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ.

อิทมฺปิ จ มุขมตฺตเมว. สทฺธารุจิอาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติอาทีนํ ปน วเสน วิตฺถารโต เอเตสํ มโนทฺวาเร อาปาถคมนํ เวทิตพฺพเมว. ยสฺมา ปน เอวํ อาปาถํ อาคจฺฉนฺตานิ ภูตานิปิ โหนฺติ อภูตานิปิ, ตสฺมา อยํ นโย อฏฺกถายํ น คหิโต. เอวํ เอเกการมฺมณํ ชวนํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. รูปารมฺมณฺหิ ชวนํ จกฺขุทฺวาเรปิ อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาเรปิ. สทฺทาทิอารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ มโนทฺวาเร อุปฺปชฺชมานํ รูปารมฺมณํ ชวนํ ทานมยํ สีลมยํ ภาวนามยนฺติ ติวิธํ โหติ. เตสุ เอเกกํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ ติวิธเมว โหติ. สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ รูปํ ตาว อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานํ เอตํ มหากุสลจิตฺตํ นีลปีตโลหิโตทาตวณฺเณสุ ปุปฺผวตฺถธาตูสุ อฺตรํ สุภนิมิตฺตสงฺขาตํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ รชนียํ วณฺณํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. นนุ เจตํ อิฏฺารมฺมณํ โลภสฺส วตฺถุ? กถํ เอตํ จิตฺตํ กุสลํ นาม ชาตนฺติ? นิยมิตวเสน ปริณามิตวเสน สมุทาจารวเสน อาภุชิตวเสนาติ. ยสฺส หิ ‘กุสลเมว มยา กตฺตพฺพ’นฺติ กุสลกรเณ จิตฺตํ นิยมิตํ โหติ, อกุสลปฺปวตฺติโต นิวตฺเตตฺวา กุสลกรเณเยว ปริณามิตํ, อภิณฺหกรเณน กุสลสมุทาจาเรเนว สมุทาจริตํ, ปติรูปเทสวาสสปฺปุริสูปนิสฺสยสทฺธมฺมสวนปุพฺเพกตปุฺตาทีหิ จ อุปนิสฺสเยหิ โยนิโส จ อาโภโค ปวตฺตติ, ตสฺส อิมินา นิยมิตวเสน ปริณามิตวเสน สมุทาจารวเสน อาภุชิตวเสน จ กุสลํ นาม ชาตํ โหติ.

อารมฺมณวเสน ปเนตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อิฏฺารมฺมณสฺมิฺหิ อุปฺปนฺนตฺตา เอตํ โสมนสฺสสหคตํ ชาตํ. สทฺธาพหุลตาทีนิเปตฺถ การณานิเยว. อสฺสทฺธานฺหิ มิจฺฉาทิฏฺีนฺจ เอกนฺตอิฏฺารมฺมณภูตํ ตถาคตรูปมฺปิ ทิสฺวา โสมนสฺสํ นุปฺปชฺชติ. เย จ กุสลปฺปวตฺติยํ อานิสํสํ น ปสฺสนฺติ เตสํ ปเรหิ อุสฺสาหิตานํ กุสลํ กโรนฺตานมฺปิ โสมนสฺสํ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมา สทฺธาพหุลตา วิสุทฺธทิฏฺิตา อานิสํสทสฺสาวิตาติ. เอวมฺเปตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ เอกาทสธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา ตทธิมุตฺตตาติ. อิเมหิปิ การเณเหตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. อิเมสํ ปน วิตฺถาโร โพชฺฌงฺควิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา, ๔๖๘-๔๖๙) อาวิ ภวิสฺสติ.

กมฺมโต, อุปปตฺติโต, อินฺทฺริยปริปากโต, กิเลสทูรีภาวโตติ อิเมหิ ปเนตฺถ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา. โย หิ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ อนวชฺชานิ สิปฺปายตนกมฺมายตนวิชฺชาฏฺานานิ สิกฺขาเปติ ธมฺมกถิกํ สกฺการํ กตฺวา ธมฺมํ กถาเปติ, ‘อายตึ ปฺวา ภวิสฺสามี’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปตฺวา นานปฺปการํ ทานํ เทติ, ตสฺส เอวรูปํ กมฺมํ อุปนิสฺสาย กุสลํ อุปฺปชฺชมานํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อพฺยาปชฺเช โลเก อุปฺปนฺนสฺส วาปิ ‘‘ตสฺส ตตฺถ สุขิโน ธมฺมปทา ปิลวนฺติ… ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท, อถ โส สตฺโต ขิปฺปํเยว วิเสสคามี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๑) อิมินา นเยน อุปปตฺตึ นิสฺสายปิ อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อินฺทฺริยปริปากํ อุปคตานํ ปฺาทสกปฺปตฺตานํ อินฺทฺริยปริปากํ นิสฺสายปิ กุสลํ อุปฺปชฺชมานํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. เยหิ ปน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา เตสํ กิเลสทูรีภาวํ นิสฺสายปิ อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘โยคา เว ชายตี ภูริ, อโยคา ภูริสงฺขโย’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒).

เอวํ กมฺมโต อุปปตฺติโต อินฺทฺริยปริปากโต กิเลสทูรีภาวโตติ อิเมหิ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา.

อปิจ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิเมหิปิ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตตา เวทิตพฺพา. อิเมสํ ปน วิตฺถาโร โพชฺฌงฺควิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา) อาวิ ภวิสฺสติ.

เอวํ าณสมฺปยุตฺตํ หุตฺวา อุปฺปนฺนฺเจตํ อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อนุปายจินฺตนาย อุปฺปนฺนตฺตา อสงฺขารํ นาม ชาตํ. ตยิทํ รชนียวณฺณารมฺมณํ หุตฺวา อุปฺปชฺชมานเมว ติวิเธน นิยเมน อุปฺปชฺชติ – ทานมยํ วา โหติ, สีลมยํ วา, ภาวนามยํ วา.

กถํ? ยทา หิ นีลปีตโลหิโตทาเตสุ ปุปฺผาทีสุ อฺตรํ ลภิตฺวา วณฺณวเสน อาภุชิตฺวา ‘วณฺณทานํ มยฺห’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ, ตทา ทานมยํ โหติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ภณฺฑาคาริกสงฺฆมิตฺโต กิร เอกํ สุวณฺณขจิตํ วตฺถํ ลภิตฺวา อิทมฺปิ วตฺถํ สุวณฺณวณฺณํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ สุวณฺณวณฺโณ, สุวณฺณวณฺณํ วตฺถํ สุวณฺณวณฺณสฺเสว อนุจฺฉวิกํ, อมฺหากฺจ วณฺณทานํ ภวิสฺสตีติ มหาเจติเย อาโรเปสิ. เอวรูเป กาเล ทานมยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ยทา ปน ตถารูปเมว เทยฺยธมฺมํ ลภิตฺวา ‘มยฺหํ กุลวํโส, กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี เอสา, กุลวตฺตํ เอต’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา ปน ตาทิเสเนว วตฺถุนา รตนตฺตยสฺส ปูชํ กตฺวา ‘อยํ วณฺโณ ขยํ คจฺฉิสฺสติ, วยํ คจฺฉิสฺสตี’ติ ขยวยํ ปฏฺเปติ, ตทา ภาวนามยํ โหติ.

ทานมยํ ปน หุตฺวา วตฺตมานมฺปิ ยทา ตีณิ รตนานิ สหตฺเถน ปูเชนฺตสฺส ปวตฺตตฺติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ตีณิ รตนานิ ปูเชนฺโต ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริสาทโยปิ อาณาเปตฺวา ปูชาเปติ ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา ตเทว วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ วณฺณทานํ ทสฺสามีติ จินฺเตติ ตทา มโนกมฺมํ โหติ. วินยปริยายํ ปตฺวา หิ ‘ทสฺสามิ กริสฺสามี’ติ วาจา ภินฺนา โหตีติ (ปารา. ๖๕๙) อิมินา ลกฺขเณน ทานํ นาม โหติ. อภิธมฺมปริยายํ ปตฺวา ปน วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ ‘ทสฺสามี’ติ มนสา จินฺติตกาลโต ปฏฺาย กุสลํ โหติ. อปรภาเค กาเยน วา วาจาย วา กตฺตพฺพํ กริสฺสตีติ วุตฺตํ. เอวํ ทานมยํ กายวจีมโนกมฺมวเสเนว ติวิธํ โหติ.

ยทา ปน ตํ วุตฺตปฺปการํ วตฺถุํ ลภิตฺวา กุลวํสาทิวเสน สหตฺถา รตนตฺตยํ ปูเชติ ตทา สีลมยํ กายกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ปูชาเปติ ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา ‘มยฺหํ กุลวํโส, กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี เอสา, กุลวตฺตเมต’นฺติ วิชฺชมานกวตฺถุํ อารพฺภ ‘วณฺณทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตติ ตทา มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ สีลมยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ.

ยทา ปน ตํ วุตฺตปฺปการํ วตฺถุํ ลภิตฺวา ตีณิ รตนานิ ปูเชตฺวา จงฺกมนฺโต ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา ภาวนามยํ กายกมฺมํ โหติ. วาจาย สมฺมสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ, กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว สมฺมสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ ภาวนามยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ. เอวเมตํ รูปารมฺมณํ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย.

เภริสทฺทาทีสุ หิ รชนียสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ สทฺทํ กนฺทมูลํ วิย อุปฺปาเฏตฺวา นีลุปฺปลหตฺถกํ วิย จ หตฺเถ เปตฺวา ทาตุํ นาม น สกฺกา, สวตฺถุกํ ปน กตฺวา เทนฺโต สทฺททานํ เทติ นาม. ตสฺมา ยทา ‘สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ เภริมุทิงฺคาทีสุ อฺตรตูริเยน ติณฺณํ รตนานํ อุปหารํ กโรติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ เภริอาทีนิ ปาเปติ, ธมฺมกถิกภิกฺขูนํ สรเภสชฺชเตลผาณิตาทีนิ เทติ, ธมฺมสวนํ โฆเสติ, สรภฺํ ภณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, อุปนิสินฺนกกถํ อนุโมทนกถํ กโรติ, ตทา ทานมยํเยว โหติ. ยทา เอตเทว วิธานํ กุลวํสาทิวเสน วตฺตวเสน กโรติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา สพฺพมฺเปตํ กตฺวา อยํ เอตฺตโก สทฺโท พฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิ หุตฺวา ‘ขยํ คมิสฺสติ, วยํ คมิสฺสตี’ติ สมฺมสนํ ปฏฺเปติ ตทา ภาวนามยํ โหติ.

ตตฺถ ทานมยํ ตาว ยทา เภริอาทีนิ คเหตฺวา สหตฺถา อุปหารํ กโรติ, นิจฺจุปหารตฺถาย เปนฺโตปิ สหตฺถา เปติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ ธมฺมสวนํ โฆเสตุํ คจฺฉติ, ธมฺมกถํ สรภฺํ กาตุํ วา คจฺฉติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ‘คจฺฉถ, ตาตา, อมฺหากํ สทฺททานํ ติณฺณํ รตนานํ อุปหารํ กโรถา’ติ อาณาเปติ, ‘สทฺททานํ เม’ติ เจติยงฺคเณสุ ‘อิมํ เภรึ, อิมํ มุทิงฺคํ เปถา’ติ อาณาเปติ, สยเมว ธมฺมสวนํ โฆเสติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สรภฺํ ภณติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา ‘สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ วิชฺชมานกวตฺถุํ มนสา ปริจฺจชติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.

สีลมยมฺปิ ‘สทฺททานํ นาม มยฺหํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี’ติ เภริอาทีหิ สหตฺถา อุปหารํ กโรนฺตสฺส, เภริอาทีนิ สหตฺถา เจติยงฺคณาทีสุ เปนฺตสฺส, ธมฺมกถิกานํ สรเภสชฺชํ สหตฺถา ททนฺตสฺส, วตฺตสีเสน ธมฺมสวนโฆสนธมฺมกถากถนสรภฺภณนตฺถาย จ คจฺฉนฺตสฺส กายกมฺมํ โหติ. ‘สทฺททานํ นาม อมฺหากํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี, คจฺฉถ, ตาตา, พุทฺธรตนาทีนํ อุปหารํ กโรถา’ติ อาณาเปนฺตสฺส กุลวํสวเสเนว อตฺตนา ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา กโรนฺตสฺส จ วจีกมฺมํ โหติ. ‘สทฺททานํ นาม มยฺหํ กุลวํโส สทฺททานํ ทสฺสามี’ติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว วิชฺชมานกวตฺถุํ ปริจฺจชนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ.

ภาวนามยมฺปิ ยทา จงฺกมนฺโต สทฺเท ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา กายกมฺมํ โหติ. กายงฺคํ ปน อโจเปตฺวา วาจาย สมฺมสนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ. กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา มนสาว สทฺทายตนํ สมฺมสนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ สทฺทารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

มูลคนฺธาทีสุปิ รชนียคนฺธํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยทา มูลคนฺธาทีสุ ยํกิฺจิ คนฺธํ ลภิตฺวา คนฺธวเสน อาภุชิตฺวา ‘คนฺธทานํ มยฺห’นฺติ พุทฺธรตนาทีนิ ปูเชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

มูลรสาทีสุ ปน รชนียรสํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยทา มูลรสาทีสุ ยํกิฺจิ รชนียํ รสวตฺถุํ ลภิตฺวา รสวเสน อาภุชิตฺวา ‘รสทานํ มยฺห’นฺติ เทติ ปริจฺจชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. สีลมเย ปเนตฺถ ‘สงฺฆสฺส อทตฺวา ปริภุฺชนํ นาม อมฺหากํ น อาจิณฺณ’นฺติ ทฺวาทสนฺนํ ภิกฺขุสหสฺสานํ ทาเปตฺวา สาทุรสํ ปริภุตฺตสฺส ทุฏฺคามณิอภยรฺโ วตฺถุํ อาทึ กตฺวา มหาอฏฺกถายํ วตฺถูนิ อาคตานิ. อยเมว วิเสโส. เอวํ รสารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

โผฏฺพฺพารมฺมเณปิ ปถวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ ตีณิ มหาภูตานิ โผฏฺพฺพารมฺมณํ นาม. อิมสฺมึ าเน เอเตสํ วเสน โยชนํ อกตฺวา มฺจปีาทิวเสน กาตพฺพา. ยทา หิ มฺจปีาทีสุ ยํกิฺจิ รชนียํ โผฏฺพฺพวตฺถุํ ลภิตฺวา โผฏฺพฺพวเสน อาภุชิตฺวา ‘โผฏฺพฺพทานํ มยฺห’นฺติ เทติ ปริจฺจชติ, ตทา ทานมยํ โหตีติ สพฺพํ วณฺณทาเน วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. เอวํ โผฏฺพฺพารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

ธมฺมารมฺมเณ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, ตีณิ ลกฺขณานิ, ตโย อรูปิโน ขนฺธา, ปนฺนรส สุขุมรูปานิ, นิพฺพานปฺตฺตีติ อิเม ธมฺมายตเน ปริยาปนฺนา จ, อปริยาปนฺนา จ, ธมฺมา ธมฺมารมฺมณํ นาม. อิมสฺมึ ปน าเน เอเตสํ วเสน โยชนํ อกตฺวา โอชทานปานทานชีวิตทานวเสน กาตพฺพา. โอชาทีสุ หิ รชนียํ ธมฺมารมฺมณํ อารมฺมณํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตีหิ นิยเมเหตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ.

ตตฺถ ยทา ‘โอชทานํ มยฺห’นฺติ สปฺปินวนีตาทีนิ เทติ, ปานทานนฺติ อฏฺ ปานานิ เทติ, ชีวิตทานนฺติ สลากภตฺตสงฺฆภตฺตาทีนิ เทติ, อผาสุกานํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ เทติ, เวชฺชํ ปจฺจุปฏฺาเปติ, ชาลํ ผาลาเปติ, กุมีนํ วิทฺธํสาเปติ, สกุณปฺชรํ วิทฺธํสาเปติ, พนฺธนโมกฺขํ การาเปติ, มาฆาตเภรึ จราเปติ, อฺานิปิ ชีวิตปริตฺตาณตฺถํ เอวรูปานิ กมฺมานิ กโรติ ตทา ทานมยํ โหติ. ยทา ปน ‘โอชทานปานทานชีวิตทานานิ มยฺหํ กุลวํโส กุลตนฺติ กุลปฺปเวณี’ติ วตฺตสีเสน โอชทานาทีนิ ปวตฺเตติ ตทา สีลมยํ โหติ. ยทา ธมฺมารมฺมณสฺมึ ขยวยํ ปฏฺเปติ ตทา ภาวนามยํ โหติ.

ทานมยํ ปน หุตฺวา ปวตฺตมานมฺปิ ยทา โอชทานปานทานชีวิตทานานิ สหตฺถา เทติ, ตทา กายกมฺมํ โหติ. ยทา ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ทาเปติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา โอชทานปานทานชีวิตทานวเสน วิชฺชมานกวตฺถุํ ‘ทสฺสามี’ติ มนสา จินฺเตติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.

ยทา ปน วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ กุลวํสาทิวเสน สหตฺถา เทติ, ตทา สีลมยํ กายกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว ปุตฺตทาราทโย อาณาเปตฺวา ทาเปติ, ตทา วจีกมฺมํ โหติ. ยทา กุลวํสาทิวเสเนว วุตฺตปฺปการํ วิชฺชมานกวตฺถุํ ‘ทสฺสามี’ติ มนสาว จินฺเตติ, ตทา มโนกมฺมํ โหติ.

จงฺกมิตฺวา ธมฺมารมฺมเณ ขยวยํ ปฏฺเปนฺตสฺส ปน ภาวนามยํ กายกมฺมํ โหติ. กายงฺคํ อโจเปตฺวา วาจาย ขยวยํ ปฏฺเปนฺตสฺส วจีกมฺมํ โหติ. กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว ธมฺมารมฺมเณ ขยวยํ ปฏฺเปนฺตสฺส มโนกมฺมํ โหติ. เอวํ ภาวนามยํ กายวจีมโนกมฺมวเสน ติวิธํ โหติ. เอวเมตํ ธมฺมารมฺมณมฺปิ กุสลํ ติวิธปุฺกิริยวตฺถุวเสน นวหิ กมฺมทฺวาเรหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

เอวมิทํ จิตฺตํ นานาวตฺถูสุ นานารมฺมณวเสน ทีปิตํ. อิทํ ปน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ นานารมฺมณวเสน ลพฺภติเยว. กถํ? จตูสุ หิ ปจฺจเยสุ จีวเร ฉ อารมฺมณานิ ลพฺภนฺติ – นวรตฺตสฺส หิ จีวรสฺส วณฺโณ มนาโป โหติ ทสฺสนีโย, อิทํ วณฺณารมฺมณํ. ปริโภคกาเล ปฏปฏสทฺทํ กโรติ, อิทํ สทฺทารมฺมณํ. โย ตตฺถ กาฬกจฺฉกาทิคนฺโธ, อิทํ คนฺธารมฺมณํ. รสารมฺมณํ ปน ปริโภครสวเสน กถิตํ. ยา ตตฺถ สุขสมฺผสฺสตา, อิทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ. จีวรํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา สุขา เวทนา, ธมฺมารมฺมณํ. ปิณฺฑปาเต รสารมฺมณํ นิปฺปริยาเยเนว ลพฺภติ. เอวํ จตูสุ ปจฺจเยสุ นานารมฺมณวเสน โยชนํ กตฺวา ทานมยาทิเภโท เวทิตพฺโพ.

อิมสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณเมว นิพทฺธํ, วินา อารมฺมเณน อนุปฺปชฺชนโต. ทฺวารํ ปน อนิพทฺธํ. กสฺมา? กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตา. กมฺมสฺมิฺหิ อนิพทฺเธ ทฺวารมฺปิ อนิพทฺธเมว โหติ.

กามาวจรกุสลํ ทฺวารกถา

กายกมฺมทฺวารกถา

อิมสฺส ปนตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิมสฺมึ าเน มหาอฏฺกถายํ ทฺวารกถา กถิตา. ตตฺถ ตีณิ กมฺมานิ, ตีณิ กมฺมทฺวารานิ, ปฺจ วิฺาณานิ, ปฺจ วิฺาณทฺวารานิ, ฉ ผสฺสา, ฉ ผสฺสทฺวารานิ, อฏฺ อสํวรา, อฏฺ อสํวรทฺวารานิ, อฏฺ สํวรา, อฏฺ สํวรทฺวารานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส อกุสลกมฺมปถาติ, อิทํ เอตฺตกํ ทฺวารกถาย มาติกาปนํ นาม.

ตตฺถ กิฺจาปิ ตีณิ กมฺมานิ ปมํ วุตฺตานิ, ตานิ ปน เปตฺวา อาทิโต ตาว ตีณิ กมฺมทฺวารานิ ภาเชตฺวา ทสฺสิตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายกมฺมทฺวารํ, วจีกมฺมทฺวารํ, มโนกมฺมทฺวารนฺติ.

ตตฺถ จตุพฺพิโธ กาโย – อุปาทินฺนโก, อาหารสมุฏฺาโน, อุตุสมุฏฺาโน, จิตฺตสมุฏฺาโนติ. ตตฺถ จกฺขายตนาทีนิ ชีวิตินฺทฺริยปริยนฺตานิ อฏฺ กมฺมสมุฏฺานรูปานิปิ, กมฺมสมุฏฺานาเนว จตสฺโส ธาตุโย วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อฏฺ อุปาทินฺนกกาโย นาม. ตาเนว อฏฺ อาหารชานิ อาหารสมุฏฺานิกกาโย นาม. อฏฺ อุตุชานิ อุตุสมุฏฺานิกกาโย นาม. อฏฺ จิตฺตชานิ จิตฺตสมุฏฺานิกกาโย นาม.

เตสุ กายกมฺมทฺวารนฺติ เนว อุปาทินฺนกกายสฺส นามํ น อิตเรสํ. จิตฺตสมุฏฺาเนสุ ปน อฏฺสุ รูเปสุ เอกา วิฺตฺติ อตฺถิ, อิทํ กายกมฺมทฺวารํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ กายวิฺตฺติ? ยา กุสลจิตฺตสฺส วา, อกุสลจิตฺตสฺส วา, อพฺยากตจิตฺตสฺส วา, อภิกฺกมนฺตสฺส วา ปฏิกฺกมนฺตสฺส วา, อาโลเกนฺตสฺส วา วิโลเกนฺตสฺส วา, สมิฺเชนฺตสฺส วา ปสาเรนฺตสฺส วา, กายสฺส ถมฺภนา สนฺถมฺภนา สนฺถมฺภิตตฺตํ, วิฺตฺติ วิฺาปนา วิฺาปิตตฺตํ, อิทํ ตํ รูปํ กายวิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๗๒๐). ‘อภิกฺกมิสฺสามิ ปฏิกฺกมิสฺสามี’ติ หิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ ยา ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ตนฺนิสฺสิโต วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ รูปกลาปานํ อพฺภนฺตเร จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ, สา อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภติ สนฺธาเรติ จาเลติ อภิกฺกมาเปติ ปฏิกฺกมาเปติ.

ตตฺถ เอกาวชฺชนวีถิยํ สตฺตสุ ชวเนสุ ปมจิตฺตสมุฏฺิตา วาโยธาตุ อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ สกฺโกติ, อปราปรํ ปน จาเลตุํ น สกฺโกติ. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. สตฺตมจิตฺเตน ปน สมุฏฺิตา วาโยธาตุ เหฏฺา ฉหิ จิตฺเตหิ สมุฏฺิตํ วาโยธาตุํ อุปตฺถมฺภนปจฺจยํ ลภิตฺวา อตฺตนา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ จาเลตุํ อภิกฺกมาเปตุํ ปฏิกฺกมาเปตุํ อาโลกาเปตุํ วิโลกาเปตุํ สมฺมิฺชาเปตุํ ปสาราเปตุํ สกฺโกติ. เตน คมนํ นาม ชายติ, อาคมนํ นาม ชายติ, คมนาคมนํ นาม ชายติ. ‘โยชนํ คโต ทสโยชนํ คโต’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชาเปติ.

ยถา หิ สตฺตหิ ยุเคหิ อากฑฺฒิตพฺเพ สกเฏ ปมยุเค ยุตฺตโคณา ยุคํ ตาว สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ สกฺโกนฺติ, จกฺกํ ปน นปวฏฺเฏนฺติ; ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย; สตฺตมยุเค ปน โคเณ โยเชตฺวา ยทา เฉโก สารถิ ธุเร นิสีทิตฺวา โยตฺตานิ อาทาย สพฺพปุริมโต ปฏฺาย ปโตทลฏฺิยา โคเณ อาโกเฏติ, ตทา สพฺเพว เอกพลา หุตฺวา ธุรฺจ สนฺธาเรนฺติ จกฺกานิ จ ปวฏฺเฏนฺติ. ‘สกฏํ คเหตฺวา ทสโยชนํ วีสติโยชนํ คตา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปาเทนฺติ – เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ โย จิตฺตสมุฏฺานิกกาโย น โส วิฺตฺติ, จิตฺตสมุฏฺานาย ปน วาโยธาตุยา สหชาตํ รูปกายํ สนฺถมฺเภตุํ สนฺธาเรตุํ จาเลตุํ ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ เอโก อาการวิกาโร อตฺถิ, อยํ วิฺตฺติ นาม. สา อฏฺ รูปานิ วิย น จิตฺตสมุฏฺานา. ยถา ปน อนิจฺจาทิเภทานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา, ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขต’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๐) วุตฺตํ, เอวํ จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิฺตฺติตาย สาปิ จิตฺตสมุฏฺานา นาม โหติ.

วิฺาปนตฺตา ปเนสา วิฺตฺตีติ วุจฺจติ. กึ วิฺาเปตีติ? เอกํ กายิกกรณํ. จกฺขุปถสฺมิฺหิ ิโต หตฺถํ วา ปาทํ วา อุกฺขิปติ, สีสํ วา ภมุกํ วา จาเลติ, อยํ หตฺถาทีนํ อากาโร จกฺขุวิฺเยฺโย โหติ. วิฺตฺติ ปน น จกฺขุวิฺเยฺยา มโนวิฺเยฺยา เอว. จกฺขุนา หิ หตฺถวิการาทิวเสน วิปฺผนฺทมานํ วณฺณารมฺมณเมว ปสฺสติ. วิฺตฺตึ ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ.

ยถา หิ อรฺเ นิทาฆสมเย อุทกฏฺาเน มนุสฺสา ‘อิมาย สฺาย อิธ อุทกสฺส อตฺถิภาวํ ชานิสฺสนฺตี’ติ รุกฺขคฺเค ตาลปณฺณาทีนิ พนฺธาเปนฺติ, สุราปานทฺวาเร ธชํ อุสฺสาเปนฺติ, อุจฺจํ วา ปน รุกฺขํ วาโต ปหริตฺวา จาเลติ, อนฺโตอุทเก มจฺเฉ จลนฺเต อุปริ พุพฺพุฬกานิ อุฏฺหนฺติ, มโหฆสฺส คตมคฺคปริยนฺเต ติณปณฺณกสฏํ อุสฺสาริตํ โหติ. ตตฺถ ตาลปณฺณธชสาขาจลนพุพฺพุฬกติณปณฺณกสเฏ ทิสฺวา ยถา จกฺขุนา อทิฏฺมฺปิ ‘เอตฺถ อุทกํ ภวิสฺสติ, สุรา ภวิสฺสติ, อยํ รุกฺโข วาเตน ปหโต ภวิสฺสติ, อนฺโตอุทเก มจฺโฉ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ านํ อชฺโฌตฺถริตฺวา โอโฆ คโต ภวิสฺสตี’ติ มโนวิฺาเณน ชานาติ, เอวเมว วิฺตฺติปิ น จกฺขุวิฺเยฺยา มโนวิฺเยฺยาว. จกฺขุนา หิ หตฺถวิการาทิวเสน วิปฺผนฺทมานํ วณฺณารมฺมณเมว ปสฺสติ. วิฺตฺตึ ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ.

น เกวลฺเจสา วิฺาปนโตว วิฺตฺติ นาม. วิฺเยฺยโตปิ ปน วิฺตฺติเยว นาม. อยฺหิ ปเรสํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปากฏา โหติ. ตตฺถ ตตฺถ สนฺนิปติตา หิ โสณสิงฺคาลกากโคณาทโย ทณฺฑํ วา เลฑฺฑุํ วา คเหตฺวา ปหรณากาเร ทสฺสิเต ‘อยํ โน ปหริตุกาโม’ติ ตฺวา เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. ปาการกุฏฺฏาทิอนฺตริกสฺส ปน ปรสฺส อปากฏกาโลปิ อตฺถิ. กิฺจาปิ ตสฺมึ ขเณ อปากฏา สมฺมุขีภูตานํ ปน ปากฏตฺตา วิฺตฺติเยว นาม โหติ.

จิตฺตสมุฏฺานิเก ปน กาเย จลนฺเต ติสมุฏฺานิโก จลติ น จลตีติ? โสปิ ตเถว จลติ. ตํคติโก ตทนุวตฺตโกว โหติ. ยถา หิ อุทเก คจฺฉนฺเต อุทเก ปติตานิ สุกฺขทณฺฑกติณปณฺณาทีนิปิ อุทกคติกาเนว ภวนฺติ, ตสฺมึ คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺติ, ติฏฺนฺเต ติฏฺนฺติ – เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เอวเมสา จิตฺตสมุฏฺาเนสุ รูเปสุ วิฺตฺติ กายกมฺมทฺวารํ นามาติ เวทิตพฺพา.

ยา ปน ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา ยาย ปาณํ หนติ, อทินฺนํ อาทิยติ, มิจฺฉาจารํ จรติ, ปาณาติปาตาทีหิ วิรมติ, อิทํ กายกมฺมํ นาม. เอวํ ปรวาทิมฺหิ สติ กาโย ทฺวารํ, ตมฺหิ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา กายกมฺมํ ‘กุสลํ วา อกุสลํ วา’ติ เปตพฺพํ. ปรวาทิมฺหิ ปน อสติ ‘อพฺยากตํ วา’ติ ติกํ ปูเรตฺวาว เปตพฺพํ. ตตฺถ ยถา นครทฺวารํ กตฏฺาเนเยว ติฏฺติ, องฺคุลมตฺตมฺปิ อปราปรํ น สงฺกมติ, เตน เตน ปน ทฺวาเรน มหาชโน สฺจรติ, เอวเมว ทฺวาเร ทฺวารํ น สฺจรติ, กมฺมํ ปน ตสฺมึ ตสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปชฺชนโต จรติ. เตนาหุ โปราณา –

ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานิ, น ทฺวารา ทฺวารจาริโน;

ตสฺมา ทฺวาเรหิ กมฺมานิ, อฺมฺํ ววตฺถิตาติ.

ตตฺถ กมฺเมนาปิ ทฺวารํ นามํ ลภติ, ทฺวาเรนาปิ กมฺมํ. ยถา หิ วิฺาณาทีนํ อุปฺปชฺชนฏฺานานิ วิฺาณทฺวารํ ผสฺสทฺวารํ อสํวรทฺวารํ สํวรทฺวารนฺติ นามํ ลภนฺติ, เอวํ กายกมฺมสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานํ กายกมฺมทฺวารนฺติ นามํ ลภติ. วจีมโนกมฺมทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา สิมฺพลิเทวตา ปลาสเทวตา ปุจิมนฺทเทวตา ผนฺทนเทวตาติ เตน เตน รุกฺเขน นามํ ลภติ, เอวเมว กายทฺวาเรน กตํ กมฺมมฺปิ กายกมฺมนฺติ ทฺวาเรน นามํ ลภติ. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อฺโ กาโย, อฺํ กมฺมํ, กาเยน ปน กตตฺตา ตํ กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –

กาเยน เจ กตํ กมฺมํ, กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ;

กาโย จ กายกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.

สูจิยา เจ กตํ กมฺมํ, สูจิกมฺมนฺติ วุจฺจติ;

สูจิ จ สูจิกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.

วาสิยา เจ กตํ กมฺมํ, วาสิกมฺมนฺติ วุจฺจติ;

วาสิ จ วาสิกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.

ปุริเสน เจ กตํ กมฺมํ, ปุริสกมฺมนฺติ วุจฺจติ;

ปุริโส จ ปุริสกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตา.

เอวเมวํ.

กาเยน เจ กตํ กมฺมํ, กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ;

กาโย จ กายกมฺมฺจ, อฺมฺํ ววตฺถิตาติ.

เอวํ สนฺเต เนว ทฺวารววตฺถานํ ยุชฺชติ, น กมฺมววตฺถานํ. กถํ? กายวิฺตฺติยฺหิ ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติ วจนโต วจีกมฺมมฺปิ ปวตฺตติ, เตนสฺสา กายกมฺมทฺวารนฺติ ววตฺถานํ น ยุตฺตํ. กายกมฺมฺจ วจีวิฺตฺติยมฺปิ ปวตฺตติ, เตนสฺส กายกมฺมนฺติ ววตฺถานํ น ยุชฺชตี’ติ. ‘โน น ยุชฺชติ. กสฺมา? เยภุยฺยวุตฺติตาย เจว ตพฺพหุลวุตฺติตาย จ. กายกมฺมเมว หิ เยภุยฺเยน กายวิฺตฺติยํ ปวตฺตติ น อิตรานิ, ตสฺมา กายกมฺมสฺส เยภุยฺเยน ปวตฺติโต ตสฺสา กายกมฺมทฺวารภาโว สิทฺโธ. พฺราหฺมณคามอมฺพวนนาควนาทีนํ พฺราหฺมณคามาทิภาโว วิยาติ ทฺวารววตฺถานํ ยุชฺชติ. กายกมฺมํ ปน กายทฺวารมฺหิเยว พหุลํ ปวตฺตติ อปฺปํ วจีทฺวาเร. ตสฺมา กายทฺวาเร พหุลํ ปวตฺติโต เอตสฺส กายกมฺมภาโว สิทฺโธ, วนจรกถุลฺลกุมาริกาทิโคจรานํ วนจรกาทิภาโว วิยาติ. เอวํ กมฺมววตฺถานมฺปิ ยุชฺชตี’ติ.

กายกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.

วจีกมฺมทฺวารกถา

วจีกมฺมทฺวารกถายํ ปน เจตนาวิรติสทฺทวเสน ติวิธา วาจา นาม. ตตฺถ ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สุภาสิตา โหติ โน ทุพฺภาสิตา, อนวชฺชา จ อนนุวชฺชา จ วิฺูน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓); อยํ เจตนาวาจา นาม. ยา ‘‘จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ…เป… อยํ วุจฺจติ สมฺมาวาจา’’ติ (วิภ. ๒๐๖), อยํ วิรติวาจา นาม. ‘‘วาจา คิรา พฺยปฺปโถ อุทีรณํ โฆโส โฆสกมฺมํ วาจา วจีเภโท’’ติ (ธ. ส. ๘๕๐), อยํ สทฺทวาจา นาม. ตาสุ วจีกมฺมทฺวารนฺติ เนว เจตนาย นามํ น วิรติยา. สหสทฺทา ปน เอกา วิฺตฺติ อตฺถิ, อิทํ วจีกมฺมทฺวารํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ วจีวิฺตฺติ? ยา กุสลจิตฺตสฺส วา อกุสลจิตฺตสฺส วา อพฺยากตจิตฺตสฺส วา วาจา คิรา พฺยปฺปโถ อุทีรณํ โฆโส โฆสกมฺมํ วาจา วจีเภโท, อยํ วุจฺจติ วาจา. ยา ตาย วาจาย วิฺตฺติ วิฺาปนา วิฺาปิตตฺตํ, อิทํ ตํ รูปํ วจีวิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖).

‘อิทํ วกฺขามิ เอตํ วกฺขามี’ติ หิ วิตกฺกยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม อุปฺปชฺชติ. อยํ น โสตวิฺเยฺโย มโนวิฺเยฺโยติ มหาอฏฺกถายํ อาคโต. อาคมฏฺกถาสุ ปน ‘วิตกฺกวิปฺผารสทฺท’นฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ สทฺทํ; ‘สุตฺวา’ติ ตํ สุตฺวา, ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน; ตสฺส วเสน ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน’ติ อาทิสตีติ วตฺวา วตฺถูนิปิ กถิตานิ. ปฏฺาเนปิ ‘‘จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อาคตํ. ตสฺมา วินา วิฺตฺติฆฏฺฏนาย อุปฺปชฺชมาโน อโสตวิฺเยฺโย วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม นตฺถิ. ‘อิทํ วกฺขามิ เอตํ วกฺขามี’ติ อุปฺปชฺชมานํ ปน จิตฺตํ ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชาติ อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. เตสํ อพฺภนฺตเร จิตฺตสมุฏฺานา ปถวีธาตุ อุปาทินฺนกํ ฆฏฺฏยมานาว อุปฺปชฺชติ. เตน ธาตุสงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชตีติ. อยํ จิตฺตสมุฏฺานสทฺโท นาม. อยํ น วิฺตฺติ. ตสฺสา ปน จิตฺตสมุฏฺานาย ปถวีธาตุยา อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภูโต เอโก อาการวิกาโร อตฺถิ, อยํ วจีวิฺตฺติ นาม. อิโต ปรํ สา อฏฺ รูปานิ วิย น จิตฺตสมุฏฺานาติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อิธาปิ หิ ‘ติสฺส, ทตฺต, มิตฺตา’ติ ปกฺโกสนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา วิฺตฺตึ มโนทฺวาริกจิตฺเตน จินฺเตตฺวา ‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’ติ ชานาติ. กายวิฺตฺติ วิย จ อยมฺปิ ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปากฏา โหติ. ‘เอหิ, ยาหี’ติ หิ สทฺทํ สุตฺวา ติรจฺฉานคตาปิ ‘อิทํ นาเมส กาเรติ มฺเ’ติ ตฺวา อาคจฺฉนฺติ เจว คจฺฉนฺติ จ. ติสมุฏฺานิกกายํ จาเลติ น จาเลตีติ, อยํ ปน วาโร อิธ น ลพฺภติ. ปุริมจิตฺตสมุฏฺานาย อุปตฺถมฺภนกิจฺจมฺปิ นตฺถิ. ยา ปน ตสฺมึ วจีทฺวาเร สิทฺธา เจตนา, ยาย มุสา กเถติ, เปสุฺํ กเถติ, ผรุสํ กเถติ, สมฺผํ ปลปติ, มุสาวาทาทีหิ วิรมติ, อิทํ วจีกมฺมํ นาม. อิโต ปรํ สพฺพํ กมฺมววตฺถานฺจ ทฺวารววตฺถานฺจ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วจีกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.

มโนกมฺมทฺวารกถา

มโนกมฺมทฺวารกถายํ ปน กามาวจราทิวเสน จตุพฺพิโธ มโน มโน นาม. ตตฺถ กามาวจโร จตุปฺาสวิโธ โหติ, รูปาวจโร ปนฺนรสวิโธ, อรูปาวจโร ทฺวาทสวิโธ, โลกุตฺตโร อฏฺวิโธติ สพฺโพปิ เอกูนนวุติวิโธ โหติ. ตตฺถ อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ. ยถา หิ อยํ นาม เจตนา กมฺมํ น โหตีติ น วตฺตพฺพา, อนฺตมโส ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตาปิ หิ เจตนา มหาปกรเณ กมฺมนฺตฺเวว นิทฺทิฏฺา, เอวเมว อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ.

เอตฺถาห – กมฺมํ นาเมตํ กึ กโรตีติ? อายูหติ, อภิสงฺขโรติ, ปิณฺฑํ กโรติ, เจเตติ, กปฺเปติ, ปกปฺเปตีติ. เอวํ สนฺเต ปฺจวิฺาณเจตนา กึ อายูหติ, อภิสงฺขโรติ, ปิณฺฑํ กโรติ, เจเตติ, กปฺเปติ, ปกปฺเปตีติ?. สหชาตธมฺเม. สาปิ หิ สหชาเต สมฺปยุตฺตกฺขนฺเธ อายูหติ อภิสงฺขโรติ ปิณฺฑํ กโรติ เจเตติ กปฺเปติ ปกปฺเปตีติ. กึ วา อิมินา วาเทน? สพฺพสงฺคาหิกวเสน เหตํ วุตฺตํ. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – เตภูมกกุสลากุสโล เอกูนตึสวิโธ มโน มโนกมฺมทฺวารํ นาม. ยา ปน ตสฺมึ มโนทฺวาเร สิทฺธา เจตนา ยาย อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนานิ เจว อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทสฺสนานิ จ คณฺหาติ, อิทํ มโนกมฺมํ นาม. อิโต ปรํ สพฺพํ กมฺมววตฺถานฺจ ทฺวารววตฺถานฺจ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ. อิมานิ ตีณิ กมฺมทฺวารานิ นาม.

มโนกมฺมทฺวารกถา นิฏฺิตา.

กมฺมกถา

อิทานิ ยานิ ตีณิ กมฺมานิ เปตฺวา อิมานิ กมฺมทฺวารานิ ทสฺสิตานิ, ตานิ อาทึ กตฺวา อวเสสสฺส ทฺวารกถาย มาติกาปนสฺส วิตฺถารกถา โหติ. ตีณิ หิ กมฺมานิ – กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ. กึ ปเนตํ กมฺมํ นามาติ? เจตนา เจว, เอกจฺเจ จ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา. ตตฺถ เจตนาย กมฺมภาเว อิมานิ สุตฺตานิ –

‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ กาเยน วาจาย มนสา’’ (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๓๙). ‘‘กาเย วา หิ, อานนฺท, สติ กายสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ, วาจาย วา, อานนฺท, สติ วจีสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ; มเน วา, อานนฺท, สติ มโนสฺเจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ’’ (สํ. นิ. ๒.๒๕; อ. นิ. ๔.๑๗๑). ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ, ทุกฺขวิปากํ; จตุพฺพิธา, ภิกฺขเว, วจีสฺเจตนา…เป… ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา อกุสลํ มโนกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปากํ จตุพฺพิธา, ภิกฺขเว, วจีสฺเจตนา…เป… ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา, กุสลํ มโนกมฺมํ สุขุทฺรยํ สุขวิปากํ’’ (กถา. ๕๓๙; อ. นิ. ๑๐.๒๑๗ โถกํ วิสทิสํ). ‘‘สจายํ, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส ปาฏลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากเรยฺย – สฺเจตนิยํ, อาวุโส ปาฏลิปุตฺต, กมฺมํ กตฺวา กาเยน วาจาย มนสา, สุขเวทนียํ สุขํ โส เวทยติ…เป… อทุกฺขมสุขเวทนียํ อทุกฺขมสุขํ โส เวทยตีติ; เอวํ พฺยากรมาโน โข, อานนฺท, สมิทฺธิ โมฆปุริโส ปาฏลิปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๐; กถา. ๕๓๙).

อิมานิ ตาว เจตนาย กมฺมภาเว สุตฺตานิ. เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปน กมฺมภาโว กมฺมจตุกฺเกน ทีปิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ (อ. นิ. ๔.๒๓๒-๒๓๓).… กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ยทิทํ สตฺต โพชฺฌงฺคา – สติสมฺโพชฺฌงฺโค…เป… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ (อ. นิ. ๔.๒๓๘).… กตมฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค – เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ …เป… สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓๗).

เอวํ อิเม โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคปฺปเภทโต ปนฺนรส ธมฺมา กมฺมจตุกฺเกน ทีปิตา. อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺีติ อิเมหิ ปน ฉหิ สทฺธึ เอกวีสติ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ โลกุตฺตรมคฺโค ภชาปิยมาโน กายกมฺมาทีนิ ตีณิ กมฺมานิ ภชติ. ยฺหิ กาเยน ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร กายิโกติ เวทิตพฺโพ. ยํ วาจาย ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร วาจสิโกติ เวทิตพฺโพ. อิติ สมฺมากมฺมนฺโต กายกมฺมํ, สมฺมาวาจา วจีกมฺมํ. เอตสฺมึ ทฺวเย คหิเต สมฺมาอาชีโว ตปฺปกฺขิกตฺตา คหิโตว โหติ. ยํ ปน มเนน ทุสฺสีลฺยํ อชฺฌาจรติ, ตมฺหา สํวโร มานสิโกติ เวทิตพฺโพ. โส ทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธิวเสน ปฺจวิโธ โหติ. อยํ ปฺจวิโธปิ มโนกมฺมํ นาม. เอวํ โลกุตฺตรมคฺโค ภชาปิยมาโน ตีณิ กมฺมานิ ภชติ.

อิมสฺมึ าเน ทฺวารสํสนฺทนํ นาม โหติ. กายวจีทฺวาเรสุ หิ โจปนํ ปตฺวา กมฺมปถํ อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, มโนทฺวาเร จ สมุทาจารํ ปตฺวา กมฺมปถํ อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ; ตํ คเหตฺวา ตํตํทฺวารปกฺขิกเมว อกํสุ.

ตตฺรายํ นโย – โย ‘มิควํ คมิสฺสามี’ติ ธนุํ สชฺเชติ, ชิยํ วฏฺเฏติ, สตฺตึ นิเสติ, ภตฺตํ ภุฺชติ, วตฺถํ ปริทหติ, เอตฺตาวตา กายทฺวาเร โจปนํ ปตฺตํ โหติ. โส อรฺเ ทิวสํ จริตฺวา อนฺตมโส สสพิฬารมตฺตมฺปิ น ลภติ, อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ นาม โหติ น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? กมฺมปถํ อปฺปตฺตตาย. เกวลํ ปน กายทุจฺจริตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. มจฺฉคฺคหณาที สุปโยเคสุปิ เอเสว นโย.

วจีทฺวาเรปิ ‘มิควํ คมิสฺสามิ’ ‘เวเคน ธนุอาทีนิ สชฺเชถา’ติ อาณาเปตฺวา ปุริมนเยเนว อรฺเ กิฺจิ อลภนฺตสฺส กิฺจาปิ วจีทฺวาเร โจปนํ ปตฺตํ, กมฺมปถํ อปฺปตฺตตาย ปน กายกมฺมํ น โหติ. เกวลํ วจีทุจฺจริตํ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ.

มโนทฺวาเร ปน วธกเจตนาย อุปฺปนฺนมตฺตาย เอว กมฺมปถเภโทว โหติ. โส จ โข พฺยาปาทวเสน น ปาณาติปาตวเสน. อกุสลฺหิ กายกมฺมํ กายวจีทฺวาเรสุ สมุฏฺาติ, น มโนทฺวาเร; ตถา อกุสลํ วจีกมฺมํ. อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ตีสุปิ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาติ; ตถา กุสลานิ กายวจีมโนกมฺมานิ.

กถํ? สหตฺถา หิ ปาณํ หนนฺตสฺส อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส มิจฺฉาจารํ จรนฺตสฺส กมฺมํ กายกมฺมเมว โหติ. ทฺวารมฺปิ กายทฺวารเมว โหติ. เอวํ ตาว อกุสลํ กายกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ, อพฺโพหาริกา วา. ‘คจฺฉ อิตฺถนฺนามํ ชีวิตา โวโรเปหิ, อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’ติ อาณาเปนฺตสฺส ปน กมฺมํ กายกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ อพฺโพหาริกา วา. เอตฺตกา อาจริยานํ สมานตฺถกถา นาม.

วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘อกุสลํ กายกมฺมํ มโนทฺวาเรปิ สมุฏฺาตี’ติ. โส ‘ตโย สงฺคเห อารุฬฺหํ สุตฺตํ อาหราหี’ติ วุตฺโต อิทํ กุลุมฺพสุตฺตํ นาม อาหริ –

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อฺิสฺสา กุจฺฉิคตํ คพฺภํ ปาปเกน มนสา อนุเปกฺขโก โหติ – ‘อโห วตายํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’ติ. เอวํ, ภิกฺขเว, กุลุมฺพสฺส อุปฆาโต โหตี’’ติ.

อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อาห – ‘เอวํ จินฺติตมตฺเตเยว มนสา กุจฺฉิคโต คพฺโภ เผณปิณฺโฑ วิย วิลียติ. เอตฺถ กุโต กายงฺคโจปนํ วา วาจงฺคโจปนํ วา? มโนทฺวารสฺมึเยว ปน อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ สมุฏฺาตี’ติ.

ตเมนํ ‘ตว สุตฺตสฺส อตฺถํ ตุลยิสฺสามา’ติ วตฺวา เอวํ ตุลยึสุ – ‘ตฺวํ อิทฺธิยา ปรูปฆาตํ วเทสิ. อิทฺธิ นาม เจสา – อธิฏฺานิทฺธิ, วิกุพฺพนิทฺธิ, มโนมยิทฺธิ, าณวิปฺผาริทฺธิ, สมาธิวิปฺผาริทฺธิ, อริยิทฺธิ, กมฺมวิปากชิทฺธิ, ปุฺวโต อิทฺธิ, วิชฺชามยิทฺธิ, ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ ทสวิธา (ปฏิ. ม. ๓.๑๐). ตตฺถ กตรํ อิทฺธึ วเทสี’ติ? ‘ภาวนามย’นฺติ. ‘กึ ปน ภาวนามยิทฺธิยา ปรูปฆาตกมฺมํ โหตี’ติ? ‘อาม, เอกจฺเจ อาจริยา เอกวารํ โหตี’ติ; วทนฺติ ยถา หิ ปรํ ปหริตุกาเมน อุทกภริเต ฆเฏ ขิตฺเต ฆโฏปิ ภิชฺชติ, อุทกมฺปิ นสฺสติ, เอวเมว ภาวนามยิทฺธิยา เอกวารํ ปรูปฆาตกมฺมํ โหติ. ตโต ปฏฺาย ปน สา นสฺสตีติ. อถ นํ ‘ภาวนามยิทฺธิยา เนว เอกวารํ น ทฺเว วาเร ปรูปฆาตกมฺมํ โหตี’ติ วตฺวา ตํ สฺตฺตึ อาคจฺฉนฺตํ ปุจฺฉึสุ – ‘ภาวนามยิทฺธิ กึ กุสลา, อกุสลา, อพฺยากตา? สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา? สวิตกฺกสวิจารา, อวิตกฺกวิจารมตฺตา, อวิตกฺกอวิจารา? กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา’ติ?

อิมํ ปน ปฺหํ โย ชานาติ โส เอวํ วกฺขติ – ‘ภาวนามยิทฺธิ กุสลา วา โหติ, อพฺยากตา วา; อทุกฺขมสุขเวทนียา เอว, อวิตกฺกอวิจารา เอว, รูปาวจรา เอวา’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ปาณาติปาตเจตนา กุสลาทีสุ กตรํ โกฏฺาสํ ภชตี’ติ? ชานนฺโต วกฺขติ – ‘ปาณาติปาตเจตนา อกุสลา เอว, ทุกฺขเวทนียา เอว, สวิตกฺกสวิจารา เอว กามาวจรา เอวา’ติ. ‘เอวํ สนฺเต ตว ปฺโห เนว กุสลตฺติเกน สเมติ, น เวทนาตฺติเกน, น วิตกฺกตฺติเกน, น ภูมนฺตเรนา’ติ.

‘กึ ปน เอวํ มหนฺตํ สุตฺตํ นิรตฺถก’นฺติ? ‘โน นิรตฺถกํ; ตฺวํ ปนสฺส อตฺถํ น ชานาสิ. ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ เอตฺถ หิ เนว ภาวนามยิทฺธิ อธิปฺเปตา, อาถพฺพณิทฺธิ ปน อธิปฺเปตา. สา หิ เอตฺถ ลพฺภมานา ลพฺภติ. สา ปน กายวจีทฺวารานิ มุฺจิตฺวา กาตุํ น สกฺกา. อาถพฺพณิทฺธิกา หิ สตฺตาหํ อโลณกํ ภุฺชิตฺวา ทพฺเพ อตฺถริตฺวา ปถวิยํ สยมานา ตปํ จริตฺวา สตฺตเม ทิวเส สุสานภูมึ สชฺเชตฺวา สตฺตเม ปเท ตฺวา หตฺถํ วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา มุเขน วิชฺชํ ปริชปฺปนฺติ. อถ เนสํ กมฺมํ สมิชฺฌติ. เอวํ อยมฺปิ อิทฺธิ กายวจีทฺวารานิ มุฺจิตฺวา กาตุํ น สกฺกาติ. ‘น กายกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาตี’ติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

หตฺถมุทฺทาย ปน มุสาวาทาทีนิ กเถนฺตสฺส กมฺมํ วจีกมฺมํ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ โหติ. เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมมฺปิ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ, อพฺโพหาริกา วา. วจีเภทํ ปน กตฺวา มุสาวาทาทีนิ กเถนฺตสฺส กมฺมมฺปิ วจีกมฺมํ ทฺวารมฺปิ วจีทฺวารเมว. เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ ปน จิตฺเตหิ สหชาตา อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ อพฺโพหาริกา วา. เอตฺตกา อาจริยานํ สมานตฺถกถา นาม.

วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘อกุสลํ วจีกมฺมํ มโนทฺวาเรปิ สมุฏฺาตี’ติ. โส ‘ตโย สงฺคเห อารุฬฺหํ สุตฺตํ อาหราหี’ติ วุตฺโต อิทํ อุโปสถกฺขนฺธกโต สุตฺตํ อาหริ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ ยาวตติยํ อนุสฺสาวิยมาเน สรมาโน สนฺตึ อาปตฺตึ นาวิกเรยฺย สมฺปชานมุสาวาทสฺส โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔).

อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อาห – ‘เอวํ อาปตฺตึ อนาวิกโรนฺโต ตุณฺหีภูโตว อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เอตฺถ กุโต กายงฺคโจปนํ วา วาจงฺคโจปนํ วา? มโนทฺวารสฺมึเยว ปน อิทํ อกุสลํ วจีกมฺมํ สมุฏฺาตี’ติ.

โส วตฺตพฺโพ – ‘กึ ปเนตํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ อุทาหุ นีตตฺถ’นฺติ? ‘นีตตฺถเมว มยฺหํ สุตฺต’นฺติ. โส ‘มา เอวํ อวจ, ตุลยิสฺสามสฺส อตฺถ’นฺติ วตฺวา เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สมฺปชานมุสาวาเท กึ โหตี’ติ? ชานนฺโต ‘สมฺปชานมุสาวาเท ทุกฺกฏํ โหตี’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ ‘วินยสฺส ทฺเว มูลานิ – กาโย จ วาจา จ; สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สพฺพาปตฺติโย อิเมสุเยว ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ ปฺตฺตา, มโนทฺวาเร อาปตฺติปฺปนํ นาม นตฺถิ. ตฺวํ อติวิย วินเย ปกตฺู, โย สตฺถารา อปฺตฺเต าเน อาปตฺตึ ปฺเปสิ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อพฺภาจิกฺขสิ, ชินจกฺกํ ปหรสี’ติอาทิวจเนหิ นิคฺคณฺหิตฺวา อุตฺตริ ปฺหํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สมฺปชานมุสาวาโท กิริยโต สมุฏฺาติ อุทาหุ อกิริยโต’ติ? ชานนฺโต ‘กิริยโต’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘อนาวิกโรนฺโต กตรํ กิริยํ กโรตี’ติ? อทฺธา หิ กิริยํ อปสฺสนฺโต วิฆาตํ อาปชฺชิสฺสติ. ตโต อิมสฺส สุตฺตสฺส อตฺเถน สฺาเปตพฺโพ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยฺวายํ ‘สมฺปชานมุสาวาโท โหตี’ติ วุตฺโต, โส อาปตฺติโต กึ โหติ? ‘กตราปตฺติ โหตี’ติ อตฺโถ. ‘ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ’. สา จ โข น มุสาวาทลกฺขเณน, ภควโต ปน วจเนน วจีทฺวาเร อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อนาลปนฺโต มนุเชน เกนจิ,

วาจาคิรํ โน จ ปเร ภเณยฺย;

อาปชฺเชยฺย วาจสิกํ น กายิกํ,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปฏิ. ๔๗๙);

เอวํ อกุสลํ วจีกมฺมํ น มโนทฺวาเร สมุฏฺาตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

ยทา ปน อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา กายงฺคํ โจเปนฺโต หตฺถคฺคาหาทีนิ กโรติ, พฺยาปาทสหคเตน เจตสา ทณฺฑปรามาสาทีนิ, มิจฺฉาทิฏฺิสหคเตน เจตสา ‘ขนฺทสิวาทโย เสฏฺา’ติ เตสํ อภิวาทนอฺชลิกมฺมภูตปีกปริภณฺฑาทีนิ กโรติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา.

ยทา ปน อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา วาจงฺคํ โจเปนฺโต ‘อโห วต ยํ ปรสฺส, ตํ มมสฺสา’ติ ปรวิตฺตูปกรณํ อภิชฺฌายติ, พฺยาปาทสหคเตน เจตสา ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา, พชฺฌนฺตุ วา, อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา, มา วา อเหสุ’นฺติ วทติ, มิจฺฉาทิฏฺิสหคเตน เจตสา ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’นฺติอาทีนิ วทติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา.

ยทา ปน กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา รโห นิสินฺโน อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปาเทติ, ตทา กมฺมํ มโนกมฺมํ, ทฺวารมฺปิ มโนทฺวารเมว. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ ปน าเน เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาปิ มโนทฺวาเรเยว สมุฏฺหนฺติ. เอวํ อกุสลํ มโนกมฺมํ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘ตถา กุสลานิ กายวจีมโนกมฺมานี’ติ, ตตฺรายํ นโย – ยทา หิ เกนจิ การเณน วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ‘ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรมามี’ติ อิมานิ สิกฺขาปทานิ หตฺถมุทฺทาย คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ ทฺวารมฺปิ กายทฺวารเมว. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.

ยทา ปน ตาเนว สิกฺขาปทานิ วจีเภทํ กตฺวา คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ โหติ. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.

ยทา ปน เตสุ สิกฺขาปเทสุ ทิยฺยมาเนสุ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา มนสาว ‘ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรมามี’ติ คณฺหาติ, ตทา กมฺมํ กายกมฺมํ, ทฺวารํ ปน มโนทฺวารํ โหติ. เอวํ กุสลํ กายกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. เตหิ จิตฺเตหิ สหคตา อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.

‘มุสาวาทา เวรมณี’อาทีนิ ปน จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ วุตฺตนเยเนว กายาทีหิ คณฺหนฺตสฺส กุสลํ วจีกมฺมํ ตีสุ ทฺวาเรสุ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อิธาปิ อนภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกา วา โหนฺติ, อพฺโพหาริกา วา.

อนภิชฺฌาทิสหคเตหิ ปน จิตฺเตหิ กายงฺคํ โจเปตฺวา เจติยงฺคณสมฺมชฺชนคนฺธมาลาทิปูชนเจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน กายทฺวารํ. เอวํ กุสลํ มโนกมฺมํ กายทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา. อนภิชฺฌาสหคเตน จิตฺเตน วาจงฺคํ โจเปตฺวา ‘อโห วต ยํ ปรสฺส วิตฺตูปกรณํ น ตํ มมสฺสา’ติ อนภิชฺฌายโต อพฺยาปาทสหคเตน จิตฺเตน ‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา อพฺยาพชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ วทนฺตสฺส สมฺมาทิฏฺิสหคเตน จิตฺเตน ‘อตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทีนิ อุทาหรนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ โหติ, ทฺวารํ ปน วจีทฺวารํ. เอวํ กุสลํ มโนกมฺมํ วจีทฺวาเร สมุฏฺาติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกา. กายงฺควาจงฺคานิ ปน อโจเปตฺวา รโห นิสินฺนสฺส มนสาว อนภิชฺฌาทิสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปาเทนฺตสฺส กมฺมํ มโนกมฺมํ, ทฺวารมฺปิ มโนทฺวารเมว. เอวํ กุสลํ มโนกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ ปน าเน เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาปิ มโนทฺวาเรเยว สมุฏฺหนฺติ.

ตตฺถ อาณตฺติสมุฏฺิเตสุ ปาณาติปาตอทินฺนาทาเนสุ กมฺมมฺปิ กายกมฺมํ ทฺวารมฺปิ กมฺมวเสเนว กายทฺวารนฺติ วทนฺโต กมฺมํ รกฺขติ, ทฺวารํ ภินฺทติ นาม. หตฺถมุทฺทาย สมุฏฺิเตสุ มุสาวาทาทีสุ ทฺวารมฺปิ กายทฺวารํ, กมฺมมฺปิ ทฺวารวเสเนว กายกมฺมนฺติ วทนฺโต ทฺวารํ รกฺขติ กมฺมํ ภินฺทติ นาม. ตสฺมา ‘กมฺมํ รกฺขามี’ติ ทฺวารํ น ภินฺทิตพฺพํ, ‘ทฺวารํ รกฺขามี’ติ กมฺมํ น ภินฺทิตพฺพํ. ยถาวุตฺเตเนว ปน นเยน กมฺมฺจ ทฺวารฺจ เวทิตพฺพํ. เอวํ กเถนฺโต หิ เนว กมฺมํ น ทฺวารํ ภินฺทตีติ.

กมฺมกถา นิฏฺิตา.

อิทานิ ‘ปฺจ วิฺาณานิ ปฺจวิฺาณทฺวารานี’ติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณนฺติ อิมานิ ปฺจ วิฺาณานิ นาม. จกฺขุวิฺาณทฺวารํ โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายวิฺาณทฺวารนฺติ อิมานิ ปฺจ วิฺาณทฺวารานิ นาม. อิเมสํ ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ วเสน อุปฺปนฺนา เจตนา เนว กายกมฺมํ โหติ, น วจีกมฺมํ, มโนกมฺมเมว โหตีติ เวทิตพฺพา. จกฺขุสมฺผสฺโส โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กาย… มโนสมฺผสฺโสติ อิเม ปน ฉ สมฺผสฺสา นาม. จกฺขุสมฺผสฺสทฺวารํ โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กาย… มโนสมฺผสฺสทฺวารนฺติ อิมานิ ฉ สมฺผสฺสทฺวารานิ นาม.

จกฺขุอสํวโร โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกายอสํวโร วาจาอสํวโร มโนอสํวโรติ – อิเม อฏฺ อสํวรา นาม. เต อตฺถโต ‘ทุสฺสีลฺยํ มุฏฺสฺสจฺจํ อฺาณํ อกฺขนฺติ โกสชฺช’นฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เตสุ เอกธมฺโมปิ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสาเนสุ จิตฺเตสุ นุปฺปชฺชติ, ชวนกฺขเณเยว อุปฺปชฺชติ. ชวเน อุปฺปนฺโนปิ ปฺจทฺวาเร อสํวโรติ วุจฺจติ.

จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ ปฺจวิโธ อสํวโร นตฺถิ. สมฺปฏิจฺฉนสหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถาปิ อสํวโร นตฺถิ. สนฺตีรณโวฏฺพฺพเนสุปิ เอเสว นโย. ชวนสหชาโต ปน ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ อสํวโร จกฺขุอสํวโร นาม โหติ. โสตฆานชิวฺหาปสาทกายทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. ยทา ปน รูปาทีสุ อฺตรารมฺมณํ มโนทฺวาริกชวนํ วินา วจีทฺวาเรน สุทฺธํ กายทฺวารสงฺขาตํ โจปนํ ปาปยมานํ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา กายกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ อพฺโพหาริกํ, โจปนสฺส อุปฺปนฺนตฺตา มโนทฺวารนฺติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. เอตฺถ อสํวโร โจปนกายอสํวโร นาม. ยทา ตาทิสํเยว ชวนํ วินา กายทฺวาเรน สุทฺธํ วจีทฺวารสงฺขาตํ โจปนํ ปาปยมานํ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา วจีกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ อพฺโพหาริกํ, โจปนสฺส อุปฺปนฺนตฺตา มโนทฺวารนฺติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. เอตฺถ อสํวโร วาจาอสํวโร นาม. ยทา ปน ตาทิสํ ชวนจิตฺตํ วินา กายวจีทฺวาเรหิ สุทฺธํ มโนทฺวารเมว หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน จิตฺเตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม, เจตนา มโนกมฺมํ นาม, ตํ ปน จิตฺตํ มโนกมฺมทฺวารํ นาม. เอตฺถ อสํวโร มโนอสํวโร นาม. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ อสํวรานํ วเสน จกฺขุอสํวรทฺวารํ, โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกาย… วาจา… มโนอสํวรทฺวารนฺติ อิมานิ อฏฺ อสํวรทฺวารานิ เวทิตพฺพานิ.

จกฺขุสํวโร โสต… ฆาน… ชิวฺหา… ปสาทกาย… โจปนกาย… วาจา… มโนสํวโรติ อิเม ปน อฏฺ สํวรา นาม. เต อตฺถโต ‘สีลํ สติ าณํ ขนฺติ วีริย’นฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เตสุปิ เอกธมฺโมปิ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสาเนสุ จิตฺเตสุ นุปฺปชฺชติ. ชวนกฺขเณเยว อุปฺปชฺชติ. ชวเน อุปฺปนฺโนปิ ปฺจทฺวาเร สํวโรติ วุจฺจติ. ตสฺส สพฺพสฺสาปิ จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโสติอาทินา อสํวเร วุตฺตนเยเนว อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ สํวรานํ วเสน จกฺขุสํวรทฺวารํ…เป… มโนสํวรทฺวารนฺติ อิมานิ อฏฺ สํวรทฺวารานิ เวทิตพฺพานิ.

อกุสลกมฺมปถกถา

ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณวาจา, ผรุสวาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ปน ทส อกุสลกมฺมปถา นาม.

ตตฺถ ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต นาม; ปาณวโธ, ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย. ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ. ฉ ปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปปฺโจ โหติ. ตสฺมา ตํ น วิตฺถารยาม. อฺฺจ เอวรูปํ อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.

อทินฺนสฺส อาทานํ ‘อทินฺนาทานํ’; ปรสฺสหรณํ, เถยฺยํ, โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ. ตสฺมึ ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ. ตํตํคุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน หรณนฺติ. ฉ ปโยคา – สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร, กุสาวหาโรติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๘) วุตฺโต.

‘กาเมสุ มิจฺฉาจาโร’ติ เอตฺถ ปน ‘กาเมสู’ติ เมถุนสมาจาเรสุ; ‘มิจฺฉาจาโร’ติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.

ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม – ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา, ปิตุรกฺขิตา, มาตาปิตุรกฺขิตา, ภาตุรกฺขิตา, ภคินิรกฺขิตา, าติรกฺขิตา, โคตฺตรกฺขิตา, ธมฺมรกฺขิตา, สารกฺขา, สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส; ธนกฺกีตา, ฉนฺทวาสินี, โภควาสินี, ปฏวาสินี, โอทปตฺตกินี, โอภฏจุมฺพฏา, ทาสี จ ภริยา, กมฺมการี จ ภริยา, ธชาหฏา, มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวินฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ, ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.

โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปฺปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.

‘มุสา’ติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชโก วจีปโยโค, กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – ‘มุสา’ติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. ‘วาโท’ติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิจ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘นตฺถี’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช. สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช. อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.

ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค – สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกเจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ. ยสฺมา ปน ยถา กายกายปฺปฏิพทฺธวาจาหิ ปรํ วิสํวาเทติ, ตถา อิมสฺส ‘อิมํ ภณาหี’ติ อาณาเปนฺโตปิ, ปณฺณํ ลิขิตฺวา ปุรโต นิสฺสชฺชนฺโตปิ, ‘อยมตฺโถ เอวํ ทฏฺพฺโพ’ติ กุฏฺฏาทีสุ ลิขิตฺวา เปนฺโตปิ; ตสฺมา เอตฺถ อาณตฺติกนิสฺสคฺคิยถาวราปิ ปโยคา ยุชฺชนฺติ. อฏฺกถาสุ ปน อนาคตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา.

‘ปิสุณวาจา’ติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สุฺภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา, น หทยงฺคมา, อยํ ‘ผรุสวาจา’. เยน สมฺผํ ปลปติ, นิรตฺถกํ, โส ‘สมฺผปฺปลาโป’. เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ. สา เอว จ อิธ อธิปฺเปตาติ.

ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา นาม. สา ยสฺส เภทํ กโรติ ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.

ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา – ‘ภินฺทิตพฺโพ ปโร’ อิติ ‘อิเม นานา ภวิสฺส’นฺติ วินา ภวิสฺสนฺตีติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. ปเร ปน อภินฺเน กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ภินฺเน เอว โหติ.

ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ‘ผรุสวาจา’. ตสฺสา อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทารโก มาตุ วจนํ อนาทิยิตฺวา อรฺํ คจฺฉติ. ตํ มาตา นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ‘จณฺฑา ตํ มหึสี อนุพนฺธตู’ติ อกฺโกสิ. อถสฺส ตเถว อรฺเ มหึสี อุฏฺาสิ. ทารโก ‘ยํ มม มาตา มุเขน กเถสิ ตํ มา โหตุ, ยํ จิตฺเตน จินฺเตสิ ตํ โหตู’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ. มหึสี ตตฺเถว พทฺธา วิย อฏฺาสิ. เอวํ มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ – ‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ – ‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’ติ; อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ. จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนนฺติ.

อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา ‘สมฺผปฺปลาโป’. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช. อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา, ตถารูปีกถากถนฺจาติ. ปเร ปน ตํ กถํ อคณฺหนฺเต กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ปเรน สมฺผปฺปลาเป คหิเตเยว โหติ.

อภิชฺฌายตีติ ‘อภิชฺฌา’. ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘อโห ตว อิทํ มมสฺสา’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – ปรภณฺฑํ, อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ ยาว น ‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’ติ อตฺตโน ปริณาเมติ.

หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ ‘พฺยาปาโท’. โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ปรสตฺโต จ, ตสฺส จ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ ยาว ‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’ติ ตสฺส วินาสนํ น จินฺเตสิ.

ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ ‘มิจฺฉาทิฏฺิ’. สา ‘นตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. อปิจ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – วตฺถุโน จ คหิตาการวิปรีตตา, ยถา จ ตํ คณฺหาติ ตถาภาเวน ตสฺสุปฏฺานนฺติ. ตตฺถ นตฺถิกาเหตุกอกิริยทิฏฺีหิ เอว กมฺมปถเภโท โหติ, น อฺทิฏฺีหิ.

อิเมสํ ปน ทสนฺนํ อกุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโต จาติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ –

ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาธมฺมาว โหนฺติ, อภิชฺฌาทโย ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตา.

‘โกฏฺาสโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต, มิจฺฉาทิฏฺิ จาติ อิเม อฏฺ กมฺมปถา เอว โหนฺติ; โน มูลานิ. อภิชฺฌาพฺยาปาทา กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา ‘โลโภ อกุสลมูลํ’ โหติ, พฺยาปาโท ‘โทโส อกุสลมูลํ’.

‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณโต สงฺขารารมฺมโณ โหติ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา โหติ สงฺขารารมฺมณํ วา. มิจฺฉาจาโร โผฏฺพฺพวเสน สงฺขารารมฺมโณ โหติ; สตฺตารมฺมโณติปิ เอเก. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา, สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา สตฺตารมฺมณาว. สมฺผปฺปลาโป ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา อภิชฺฌา. พฺยาปาโท สตฺตารมฺมโณว. มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวเสน สงฺขารารมฺมณาว.

‘เวทนาโต’ติ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน โหติ. กิฺจาปิ หิ ราชาโน โจรํ ทิสฺวา หสมานาปิ ‘คจฺฉถ นํ ฆาเตถา’ติ วทนฺติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน เนสํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. ตฺหิ ปรภณฺฑํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺสฺส คณฺหโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตตสิตสฺส คณฺหโต ทุกฺขเวทนํ. ตถา วิปากนิสฺสนฺทผลานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. คหณกาเล มชฺฌตฺตภาเว ิตสฺส ปน คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํ โหตีติ. มิจฺฉาจาโร สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน. สนฺนิฏฺาปกจิตฺเต ปน มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ. มุสาวาโท อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว ติเวทโน; ตถา ปิสุณวาจา. ผรุสวาจา ทุกฺขเวทนา. สมฺผปฺปลาโป ติเวทโน. ปเรสุ หิ สาธุการํ เทนฺเตสุ เจลุกฺเขปาทีนิ ขิปนฺเตสุ หฏฺตุฏฺสฺส สีตาหรณภารตยุทฺธาทีนิ กถนกาเล โส สุขเวทโน โหติ. ปมํ ทินฺนเวตเนน เอเกน ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ‘อาทิโต ปฏฺาย กเถหี’ติ วุตฺเต ‘อนนุสนฺธิกํ ปกิณฺณกกถํ กเถสฺสามิ นุ โข โน’ติ โทมนสฺสิตสฺส กถนกาเล ทุกฺขเวทโน โหติ, มชฺฌตฺตสฺส กถยโต อทุกฺขมสุขเวทโน โหติ. อภิชฺฌา สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทนา; ตถา มิจฺฉาทิฏฺิ. พฺยาปาโท ทุกฺขเวทโน.

‘มูลโต’ติ ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโก โหติ. อทินฺนาทานํ โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา. มิจฺฉาจาโร โลภโมหวเสน. มุสาวาโท โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา; ตถา ปิสุณวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ผรุสวาจา โทสโมหวเสน. อภิชฺฌา โมหวเสน เอกมูลา; ตถา พฺยาปาโท. มิจฺฉาทิฏฺิ โลภโมหวเสน ทฺวิมูลาติ.

อกุสลกมฺมปถกถา นิฏฺิตา.

กุสลกมฺมปถกถา

ปาณาติปาตาทีหิ ปน วิรติโย อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโย จาติ อิเม ทส กุสลกมฺมปถา นาม. ตตฺถ ปาณาติปาตาทโย วุตฺตตฺถา เอว. ปาณาติปาตาทีหิ เอตาย วิรมนฺติ, สยํ วา วิรมติ, วิรมณมตฺตเมว วา เอตนฺติ วิรติ. ยา ปาณาติปาตา วิรมนฺตสฺส ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย ปาณาติปาตา อารติ วิรตี’’ติ (ธ. ส. ๒๙๙-๓๐๑) เอวํ วุตฺตา กุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิรติ, สา ปเภทโต ติวิธา โหติ – สมฺปตฺตวิรติ, สมาทานวิรติ, สมุจฺเฉทวิรตีติ.

ตตฺถ อสมาทินฺนสิกฺขาปทานํ อตฺตโน ชาติวยพาหุสจฺจาทีนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘อยุตฺตํ อมฺหากํ เอวรูปํ ปาปํ กาตุ’นฺติ สมฺปตฺตํ วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ ‘สมฺปตฺตวิรตี’ติ เวทิตพฺพา – สีหฬทีเป จกฺกนอุปาสกสฺส วิย. ตสฺส กิร ทหรกาเลเยว มาตุยา โรโค อุปฺปชฺชิ. เวชฺเชน จ ‘อลฺลสสมํสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’ติ วุตฺตํ. ตโต จกฺกนสฺส ภาตา ‘คจฺฉ, ตาต, เขตฺตํ อาหิณฺฑาหี’ติ จกฺกนํ เปเสสิ. โส ตตฺถ คโต. ตสฺมิฺจ สมเย เอโก สโส ตรุณสสฺสํ ขาทิตุํ อาคโต โหติ. โส ตํ ทิสฺวาว เวเคน ธาวนฺโต วลฺลิยา พทฺโธ ‘กิริ กิรี’ติ สทฺทมกาสิ. จกฺกโน เตน สทฺเทน คนฺตฺวา ตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘มาตุ เภสชฺชํ กโรมี’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘น เมตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ มาตุ ชีวิตการณา ปรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย’นฺติ. อถ นํ ‘คจฺฉ, อรฺเ สเสหิ สทฺธึ ติโณทกํ ปริภุฺชา’ติ มุฺจิ. ภาตรา จ ‘กึ ตาต สโส ลทฺโธ’ติ ปุจฺฉิโต ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ตโต นํ ภาตา ปริภาสิ. โส มาตุสนฺติกํ คนฺตฺวา ‘ยโต อหํ ชาโต นาภิชานามิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา’ติ สจฺจํ วตฺวา อฏฺาสิ. ตาวเทวสฺส มาตา อโรคา อโหสิ.

สมาทินฺนสิกฺขาปทานํ ปน สิกฺขาปทสมาทาเน จ ตตุตฺตริฺจ อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ ‘สมาทานวิรตี’ติ เวทิตพฺพา. อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตวาสีอุปาสกสฺส วิย. โส กิร อมฺพริยวิหารวาสิโน ปิงฺคลพุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา เขตฺตํ กสติ. อถสฺส โคโณ นฏฺโ. โส ตํ คเวสนฺโต อุตฺตรวฑฺฒมานปพฺพตํ อารุหิ. ตตฺร นํ มหาสปฺโป อคฺคเหสิ. โส จินฺเตสิ – ‘อิมายสฺส ติขิณวาสิยา สีสํ ฉินฺทามี’ติ. ปุน จินฺเตสิ – ‘น เมตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ ภาวนียสฺส ครุโน สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา ภินฺเทยฺย’นฺติ เอวํ ยาวตติยํ จินฺเตตฺวา ‘ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, น สิกฺขาปท’นฺติ อํเส ปิตํ ติขิณทณฺฑวาสึ อรฺเ ฉฑฺเฑสิ. ตาวเทว นํ มหาวาโฬ มุฺจิตฺวา อคมาสีติ.

อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา ปน วิรติ ‘สมุจฺเฉทวิรตี’ติ เวทิตพฺพา, ยสฺสา อุปฺปตฺติโต ปภุติ ‘ปาณํ ฆาเตสฺสามี’ติ อริยปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ นุปฺปชฺชตีติ.

อิทานิ ยถา อกุสลานํ เอวํ อิเมสมฺปิ กุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต โกฏฺาสโต อารมฺมณโต เวทนาโต มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ –

ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ เอเตสุ หิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ, วิรติโยปิ; อนฺเต ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตาว.

‘โกฏฺาสโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา เอว, โน มูลานิ. อนฺเต ตโย กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา ‘อโลโภ กุสลมูลํ’ โหติ. อพฺยาปาโท ‘อโทโส กุสลมูลํ’, สมฺมาทิฏฺิ ‘อโมโห กุสลมูลํ’.

‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว เอเตสํ อารมฺมณานิ. วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหติ. ยถา ปน นิพฺพานารมฺมโณ อริยมคฺโค กิเลเส ปชหติ, เอวํ ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณาเปเต กมฺมปถา ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

‘เวทนาโต’ติ สพฺเพ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. กุสลํ ปตฺวา หิ ทุกฺขเวทนา นาม นตฺถิ.

‘มูลโต’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหวเสน ติมูลา โหนฺติ; าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา. อนภิชฺฌา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส ทฺวิมูลา โหติ; าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน เอกมูลา. อโลโภ ปน อตฺตนาว อตฺตโน มูลํ น โหติ. อพฺยาปาเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาทิฏฺิ อโลภาโทสวเสน ทฺวิมูลาว โหติ. อิเม ทส กุสลกมฺมปถา นาม.

กมฺมปถสํสนฺทนกถา

อิทานิ อิมสฺมึ าเน กมฺมปถสํสนฺทนํ นาม เวทิตพฺพํ. ปฺจผสฺสทฺวารวเสน หิ อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. มโนผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน ตีณิปิ กมฺมานิ โหนฺติ – โส หิ กายทฺวาเร โจปนปฺปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหติ, วจีทฺวาเร อกุสลํ วจีกมฺมํ, อุภยตฺถ โจปนํ อปฺปตฺโต อกุสลํ มโนกมฺมํ. ปฺจอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนปิ อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, วาจาอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, มโนอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ.

ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน สํวโรปิ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. มโนผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน ปน อยมฺปิ, อสํวโร วิย, ตีณิปิ กมฺมานิ โหนฺติ. ปฺจสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนปิ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ, โจปนกายสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, วาจาสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, มโนสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ. ติวิธํ กายสุจริตํ กุสลํ กายกมฺมเมว โหติ, จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ กุสลํ วจีกมฺมเมว โหติ, ติวิธํ มโนสุจริตํ กุสลํ มโนกมฺมเมว โหติ.

อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ; มโนผสฺสทฺวารวเสเนว อุปฺปชฺชติ. ตถา อกุสลํ วจีกมฺมํ. อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺตํ อกุสลํ กายวจีกมฺมํ โหติ, โจปนํ อปฺปตฺตํ อกุสลํ มโนกมฺมเมว. ยถา จ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน, เอวํ ปฺจอสํวรทฺวารวเสนปิ อกุสลํ กายกมฺมํ นุปฺปชฺชติ, โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน ปน วาจาอสํวรทฺวารวเสน จ อุปฺปชฺชติ; มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ. อกุสลํ วจีกมฺมมฺปิ ปฺจอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ, โจปนกายวาจาอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ. อกุสลํ มโนกมฺมํ อฏฺอสํวรทฺวารวเสนปิ อุปฺปชฺชเตว. กุสลกายกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.

อยํ ปน วิเสโส – ยถา อกุสลกายกมฺมวจีกมฺมานิ มโนอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชนฺติ, น ตถา เอตานิ. เอตานิ ปน กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา สิกฺขาปทานิ คณฺหนฺตสฺส มโนสํวรทฺวาเรปิ อุปฺปชฺชนฺติ เอว. ตตฺถ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ, ปฺจวิฺาณทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ; ‘ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ, สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา’ติ อิมินา ปน นเยน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; อฏฺอสํวรทฺวารวเสน นุปฺปชฺชติ, อฏฺสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ; ทสอกุสลกมฺมปถวเสน นุปฺปชฺชติ, ทสกุสลกมฺมปถวเสน อุปฺปชฺชติ; ตสฺมา อิทมฺปิ จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน วา อุปฺปนฺนํ โหตุ, ฉผสฺสทฺวารวเสน วา, อฏฺสํวรทฺวารวเสน วา ทสกุสลกมฺมปถวเสน วา. ‘‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ…เป… รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ วุตฺเต สพฺพํ วุตฺตเมว โหตีติ.

ทฺวารกถา นิฏฺิตา.

ยํ ยํ วา ปนารพฺภาติ เอตฺถ อยํ โยชนา – เหฏฺา วุตฺเตสุ รูปารมฺมณาทีสุ รูปารมฺมณํ วา อารพฺภ, อารมฺมณํ กตฺวาติ อตฺโถ. สทฺทารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ. เอตฺตาวตา เอตสฺส จิตฺตสฺส เอเตสุ อารมฺมเณสุ ยํกิฺจิ เอกเมว อารมฺมณํ อนุฺาตสทิสํ โหติ. อิทฺจ เอกสฺมึ สมเย เอกสฺส วา ปุคฺคลสฺส รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ ปุน อฺสฺมึ สมเย อฺสฺส วา ปุคฺคลสฺส สทฺทาทีสุปิ อฺตรํ อารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ เอว. เอวํ อุปฺปชฺชมานสฺส จสฺส เอกสฺมึ ภเว ปมํ รูปารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺติ โหติ, ปจฺฉา สทฺทารมฺมณนฺติ อยมฺปิ กโม นตฺถิ. รูปาทีสุ จาปิ ปมํ นีลารมฺมณํ ปจฺฉา ปีตารมฺมณนฺติ อยมฺปิ นิยโม นตฺถิ. อิติ อิมํ สพฺพารมฺมณตฺเจว, กมาภาวฺจ, กมาภาเวปิ จ นีลปีตาทีสุ นิยมาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘ยํ ยํ วา ปนารพฺภา’ติ อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเมสุ รูปาทีสุ น ยํกิฺจิ เอกเมว, อถ โข ยํ ยํ วา ปนารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อุปฺปชฺชมานมฺปิ จ ‘ปมํ รูปารมฺมณํ ปจฺฉา สทฺทารมฺมณํ อารพฺภา’ติ เอวมฺปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา ยํ ยํ วา ปนารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหติ; ‘ปฏิโลมโต วา อนุโลมโต วา, เอกนฺตริกทฺวนฺตริกาทินเยน วา, รูปารมฺมณาทีสุ ยํ วา ตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ อตฺโถ. รูปารมฺมเณสุปิ จ ‘ปมํ นีลารมฺมณํ ปจฺฉา ปีตารมฺมณ’นฺติ อิมินาปิ นิยเมน อนุปฺปชฺชิตฺวา, ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ‘นีลปีตกาทีสุ รูปารมฺมเณสุ ยํ วา ตํ วา รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหตี’ติ อตฺโถ. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ตาว เอกา โยชนา.

อยํ ปน อปรา – รูปํ อารมฺมณํ เอตสฺสาติ รูปารมฺมณํ…เป… ธมฺโม อารมฺมณํ เอตสฺสาติ ธมฺมารมฺมณํ. อิติ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ วตฺวา ปุน ‘ยํ ยํ วา ปนารพฺภา’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – เอเตสุ รูปาทีสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ยํ วา ตํ วา ปน อารพฺภ อุปฺปนฺนํ โหตีติ. มหาอฏฺกถายํ ปน เยวาปนเก อภินวํ นตฺถิ, เหฏฺา คหิตเมว คหิต’นฺติ วตฺวา ‘รูปํ วา อารพฺภ…เป… ธมฺมํ วา อารพฺภ, อิทํ วา อิทํ วา อารพฺภาติ กเถตุํ อิทํ วุตฺต’นฺติ เอตฺตกเมว อาคตํ.

ธมฺมุทฺเทสวาโร

ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา

ตสฺมึ สมเยติ อิทํ อนิยมนิทฺทิฏฺสฺส สมยสฺส นิยมโต ปฏินิทฺเทสวจนํ. ตสฺมา ‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยเถว จิตฺตํ เอวํ ผสฺสาทีสุปิ ผสฺโส โหติ. กึ โหติ? ‘กามาวจโร โหติ, กุสโล โหติ, อุปฺปนฺโน โหติ, โสมนสฺสสหคโต โหตี’ติอาทินา นเยน ลพฺภมานปทวเสน โยชนา กาตพฺพา. เวทนายฺหิ ‘โสมนสฺสสหคตา’ติ ปฺินฺทฺริเย จ ‘าณสมฺปยุตฺต’นฺติ น ลพฺภติ, ตสฺมา ‘ลพฺภมานปทวเสนา’ติ วุตฺตํ. อิทํ อฏฺกถามุตฺตกํ อาจริยานํ มตํ; น ปเนตํ สารโต ทฏฺพฺพํ.

กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺโสว ปมํ วุตฺโตติ? จิตฺตสฺส ปมาภินิปาตตฺตา. อารมฺมณสฺมิฺหิ จิตฺตสฺส ปมาภินิปาโต หุตฺวา ผสฺโส อารมฺมณํ ผุสมาโน อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ปมํ วุตฺโต. ผสฺเสน ปน ผุสิตฺวา เวทนาย เวทยติ, สฺาย สฺชานาติ, เจตนาย เจเตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ.

อปิจ, อยํ ผสฺโส นาม ยถา ปาสาทํ ปตฺวา ถมฺโภ นาม เสสทพฺพสมฺภารานํ พลวปจฺจโย, ตุลาสงฺฆาฏภิตฺติปาทกูฏโคปานสีปกฺขปาสกมุขวฏฺฏิโย ถมฺภาพทฺธา ถมฺเภ ปติฏฺิตา, เอวเมว สหชาตสมฺปยุตฺตธมฺมานํ พลวปจฺจโย โหติ. ถมฺภสทิโส หิ เอส. อวเสสา ทพฺพสมฺภารสทิสาติ. ตสฺมาปิ ปมํ วุตฺโต. อิทํ ปน อการณํ. เอกจิตฺตสฺมิฺหิ อุปฺปนฺนธมฺมานํ ‘อยํ ปมํ อุปฺปนฺโน อยํ ปจฺฉา’ติ อิทํ วตฺตุํ น ลพฺภา. พลวปจฺจยภาเวปิ ผสฺสสฺส การณํ น ทิสฺสติ. เทสนาวาเรเนว ปน ผสฺโส ปมํ วุตฺโต. เวทนา โหติ ผสฺโส โหติ, สฺา โหติ ผสฺโส โหติ, เจตนา โหติ ผสฺโส โหติ, จิตฺตํ โหติ ผสฺโส โหติ, เวทนา โหติ สฺา โหติ, เจตนา โหติ วิตกฺโก โหตีติ อาหริตุมฺปิ หิ วฏฺเฏยฺย. เทสนาวาเรน ปน ผสฺโสว ปมํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ เอวํ เสสธมฺเมสุปิ ปุพฺพาปรกฺกโม นาม น ปริเยสิตพฺโพ. วจนตฺถลกฺขณรสาทีหิ ปน ธมฺมา เอว ปริเยสิตพฺพา.

เสยฺยถิทํ – ผุสตีติ ผสฺโส. สฺวายํ ผุสนลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน.

อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตตีติ ผุสนลกฺขโณ. เอกเทเสน จ อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุํ, สทฺโท วิย จ โสตํ, จิตฺตํ อารมฺมณฺจ สงฺฆฏฺเฏตีติ สงฺฆฏฺฏนรโส. วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต วา อุปฺปนฺนตฺตา สมฺปตฺติอตฺเถนปิ รเสน สงฺฆฏฺฏนรโสติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ – ‘‘จตุภูมกผสฺโส หิ โนผุสนลกฺขโณ นาม นตฺถิ. สงฺฆฏฺฏนรโส ปน ปฺจทฺวาริโกว โหติ. ปฺจทฺวาริกสฺส หิ ผุสนลกฺขโณติปิ สงฺฆฏฺฏนรโสติปิ นามํ; มโนทฺวาริกสฺส ผุสนลกฺขโณตฺเวว นามํ, น สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ.

อิทฺจ วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาภตํ – ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก เมณฺโฑ เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ, ยถา ทุติโย เมณฺโฑ เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ; ยถา เตสํ สนฺนิปาโต เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส จ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ…เป… ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ, ยถา เอโก ปาณิ เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ, ยถา ทุติโย ปาณิ เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ, ยถา เตสํ สนฺนิปาโต เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จา’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๘) วิตฺถาโร.

ยถา วา ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๕๒, ๑๓๕๔) จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานิ, เอวมิธาปิ ตานิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมา ‘เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพ’นฺติอาทีสุ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพนฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สนฺเต จิตฺตารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต กิจฺจฏฺเเนว รเสน สงฺฆฏฺฏนรโสติ สิทฺโธ โหติ.

ติกสนฺนิปาตสงฺขาตสฺส ปน อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. อยฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ เอวํ การณสฺส วเสน ปเวทิโตติ. อิมสฺส จ สุตฺตปทสฺส ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโสติ อยมตฺโถ; น สงฺคติมตฺตเมว ผสฺโสติ.

เอวํ ปเวทิตตฺตา ปน เตเนวากาเรน ปจฺจุปฏฺาตีติ สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโนติ วุตฺโต. ผลฏฺเน ปน ปจฺจุปฏฺาเนเนส เวทนาปจฺจุปฏฺาโน นาม โหติ. เวทนฺเหส ปจฺจุปฏฺาเปติ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อุปฺปาทยมาโน จ ยถา พหิทฺธา อุณฺหปจฺจยาปิ ลาขาสงฺขาตธาตุนิสฺสิตา อุสฺมา อตฺตโน นิสฺสเย มุทุภาวการี โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ พหิทฺธา วีตจฺจิตงฺคารสงฺขาเต อุณฺหภาเว, เอวํ วตฺถารมฺมณสงฺขาตอฺปจฺจโยปิ สมาโน, จิตฺตนิสฺสิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูเต จิตฺเต เอว เอส เวทนุปฺปาทโก โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณ วาติ เวทิตพฺโพ. ตชฺชาสมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต เอส อาปาถคตวิสยปทฏฺาโนติ วุจฺจติ.

เวทยตีติ เวทนา. สา เวทยิตลกฺขณา, อนุภวนรสา อิฏฺาการสมฺโภครสา วา, เจตสิกอสฺสาทปจฺจุปฏฺานา, ปสฺสทฺธิปทฏฺานา.

‘จตุภูมิกเวทนา หิ โนเวทยิตลกฺขณา นาม นตฺถิ. อนุภวนรสตา ปน สุขเวทนายเมว ลพฺภตี’ติ วตฺวา ปุน ตํ วาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘สุขเวทนา วา โหตุ, ทุกฺขเวทนา วา, อทุกฺขมสุขเวทนา วา, สพฺพา อนุภวนรสา’ติ วตฺวา อยมตฺโถ ทีปิโต – อารมฺมณรสานุภวนฏฺานํ ปตฺวา เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอกเทสมตฺตกเมว อนุภวนฺติ. ผสฺสสฺส หิ ผุสนมตฺตกเมว โหติ, สฺาย สฺชานนมตฺตกเมว, เจตนาย เจตนามตฺตกเมว, วิฺาณสฺส วิชานนมตฺตกเมว. เอกํสโต ปน อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามิภาเวน เวทนาว อารมฺมณรสํ อนุภวติ.

ราชา วิย หิ เวทนา, สูโท วิย เสสธมฺมา. ยถา สูโท นานารสโภชนํ สมฺปาเทตฺวา เปฬาย ปกฺขิปิตฺวา ลฺฉนํ ทตฺวา รฺโ สนฺติเก โอตาเรตฺวา ลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา เปฬํ วิวริตฺวา สพฺพสูปพฺยฺชเนหิ อคฺคคฺคํ อาทาย ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา สโทสนิทฺโทสภาววีมํสนตฺถํ อชฺโฌหรติ, ตโต รฺโ นานคฺครสโภชนํ อุปนาเมติ. ราชา อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามี หุตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ภุฺชติ. ตตฺถ หิ สูทสฺส ภตฺตวีมํสนมตฺตมิว อวเสสธมฺมานํ อารมฺมณรสสฺส เอกเทสานุภวนํ. ยถา หิ สูโท ภตฺเตกเทสมตฺตเมว วีมํสติ เอวํ เสสธมฺมาปิ อารมฺมณรเสกเทสเมว อนุภวนฺติ. ยถา ปน ราชา อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามี หุตฺวา ยทิจฺฉกํ ภุฺชติ, เอวํ เวทนาปิ อิสฺสรวตาย วิสฺสวิตาย สามิภาเวน อารมฺมณรสํ อนุภวติ. ตสฺมา อนุภวนรสาติ วุจฺจติ.

ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อยํ อิธ อธิปฺเปตา เวทนา ยถา วา ตถา วา อารมฺมณสฺส อิฏฺาการเมว สมฺภุฺชตีติ อิฏฺาการสมฺโภครสาติ วุตฺตา. เจตสิกอสฺสาทโต ปเนสา อตฺตโน สภาเวเนว อุปฏฺานํ สนฺธาย เจตสิกอสฺสาทปจฺจุปฏฺานาติ วุตฺตา. ยสฺมา ปน ‘‘ปสฺสทฺธิกาโย สุขํ เวเทติ’’ ตสฺมา ปสฺสทฺธิปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

นีลาทิเภทํ อารมฺมณํ สฺชานาตีติ สฺา. สา สฺชานนลกฺขณา ปจฺจาภิฺาณรสา. จตุภูมิกสฺา หิ โนสฺชานนลกฺขณา นาม นตฺถิ. สพฺพา สฺชานนลกฺขณาว. ยา ปเนตฺถ อภิฺาเณน สฺชานาติ สา ปจฺจาภิฺาณรสา นาม โหติ.

ตสฺสา, วฑฺฒกิสฺส ทารุมฺหิ อภิฺาณํ กตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ตํ ปจฺจาภิชานนกาเล, ปุริสสฺส กาฬติลกาทิอภิฺาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน อสุโก นาม เอโสติ ตสฺส ปจฺจาภิชานนกาเล, รฺโ ปิฬนฺธนโคปกภณฺฑาคาริกสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ปิฬนฺธเน นามปณฺณกํ พนฺธิตฺวา ‘อสุกํ ปิฬนฺธนํ นาม อาหรา’ติ วุตฺเต ทีปํ ชาเลตฺวา รตนคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตสฺส ตสฺเสว ปิฬนฺธนสฺส อาหรณกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

อปโร นโย – สพฺพสงฺคาหิกวเสน หิ สฺชานนลกฺขณา สฺา. ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา, ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย. ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา, หตฺถิทสฺสกอนฺธา วิย. อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา, วิชฺชุ วิย. ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา, ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ‘ปุริสา’ติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. ยา ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตา โหติ สา สฺา าณเมว อนุวตฺตติ. สสมฺภารปถวีอาทีสุ เสสธมฺมา ปถวีอาทีนิ วิยาติ เวทิตพฺพา.

เจตยตีติ เจตนา สทฺธึ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมเณ อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ. สา เจตยิตลกฺขณา, เจตนาภาวลกฺขณาติ อตฺโถ. อายูหนรสา. จตุภูมิกเจตนา หิ โนเจตยิตลกฺขณา นาม นตฺถิ. สพฺพา เจตยิตลกฺขณาว. อายูหนรสตา ปน กุสลากุสเลสุ เอว โหติ. กุสลากุสลกมฺมายูหนฏฺานฺหิ ปตฺวา เสสสมฺปยุตฺตธมฺมานํ เอกเทสมตฺตกเมว กิจฺจํ โหติ. เจตนา ปน อติเรกอุสฺสาหา อติเรกวายามา, ทิคุณุสฺสาหา ทิคุณวายามา. เตนาหุ โปราณา – ‘‘ถาวริยสภาวสณฺิตา จ ปเนสา เจตนา’’ติ. ถาวริโยติ เขตฺตสามี วุจฺจติ. ยถา เขตฺตสามี ปุริโส ปฺจปณฺณาส พลิปุริเส คเหตฺวา ‘ลายิสฺสามี’ติ เอกโต เขตฺตํ โอตรติ. ตสฺส อติเรโก อุสฺสาโห อติเรโก วายาโม, ทิคุโณ อุสฺสาโห ทิคุโณ วายาโม โหติ, ‘นิรนฺตรํ คณฺหถา’ติอาทีนิ วทติ, สีมํ อาจิกฺขติ, เตสํ สุราภตฺตคนฺธมาลาทีนิ ชานาติ, มคฺคํ สมกํ หรติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เขตฺตสามิปุริโส วิย หิ เจตนา. ปฺจปณฺณาส พลิปุริสา วิย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา ปฺจปณฺณาส กุสลา ธมฺมา. เขตฺตสามิปุริสสฺส ทิคุณุสฺสาหทิคุณวายามกรณกาโล วิย กุสลากุสลกมฺมายูหนฏฺานํ ปตฺวา เจตนาย ทิคุณุสฺสาโห ทิคุณวายาโม โหติ. เอวมสฺสา อายูหนรสตา เวทิตพฺพา.

สา ปเนสา สํวิทหนปจฺจุปฏฺานา. สํวิทหมานา หิ อยํ อุปฏฺาติ, สกิจฺจปรกิจฺจสาธกา, เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกีอาทโย วิย. ยถา หิ เชฏฺสิสฺโส อุปชฺฌายํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สยํ อธียมาโน อิตเรปิ ทารเก อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌยนกมฺเม ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ อธียิตุํ อารทฺเธ เตปิ อธียนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. ยถา จ มหาวฑฺฒกี สยํ ตจฺฉนฺโต อิตเรปิ ตจฺฉเก อตฺตโน อตฺตโน ตจฺฉนกมฺเม ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ ตจฺฉิตุํ อารทฺเธ เตปิ ตจฺฉนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. ยถา จ โยธนายโก สยํ ยุชฺฌมาโน อิตเรปิ โยเธ สมฺปหารวุตฺติยํ ปวตฺตยติ, ตสฺมิฺหิ ยุชฺฌิตุํ อารทฺเธ เตปิ อนิวตฺตมานา ยุชฺฌนฺติ, ตทนุวตฺติตาย. เอวเมสาปิ อตฺตโน กิจฺเจน อารมฺมเณ ปวตฺตมานา อฺเปิ สมฺปยุตฺตธมฺเม อตฺตโน อตฺตโน กิริยาย ปวตฺเตติ. ตสฺสา หิ อตฺตโน กิจฺจํ อารทฺธาย, ตํสมฺปยุตฺตาปิ อารภนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘สกิจฺจปรกิจฺจสาธกา, เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกีอาทโย วิยา’ติ. อจฺจายิกกมฺมานุสฺสรณาทีสุ จ ปนายํ สมฺปยุตฺตานํ อุสฺสาหนภาเวน ปวตฺตมานา ปากฏา โหตีติ เวทิตพฺพา.

‘อารมฺมณํ จินฺเตตี’ติ จิตฺตนฺติ นเยน จิตฺตสฺส วจนตฺโถ วุตฺโต เอว. ลกฺขณาทิโต ปน วิชานนลกฺขณํ จิตฺตํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, สนฺทหนปจฺจุปฏฺานํ, นามรูปปทฏฺานํ. จตุภูมกจิตฺตฺหิ โนวิชานนลกฺขณํ นาม นตฺถิ. สพฺพํ วิชานนลกฺขณเมว. ทฺวารํ ปน ปตฺวา อารมฺมณวิภาวนฏฺาเน จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ โหติ. จกฺขุนา หิ ทิฏฺํ รูปารมฺมณํ จิตฺเตเนว วิชานาติ…เป… มเนน วิฺาตํ ธมฺมารมฺมณํ จิตฺเตเนว วิชานาติ. ยถา หิ นครคุตฺติโก นาม นครมชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสีทิตฺวา ‘อยํ เนวาสิโก อยํ อาคนฺตุโก’ติ อาคตาคตํ ชนํ อุปธาเรติ ววตฺถเปติ – เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ มหาเถเรน – ‘‘ยถา, มหาราช, นครคุตฺติโก นาม มชฺเฌ นครสฺส สิงฺฆาฏเก นิสินฺโน ปุรตฺถิมโต ทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ ปสฺเสยฺย… ปจฺฉิมโต… ทกฺขิณโต… อุตฺตรโต ทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ ปสฺเสยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, ยํ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ ตํ วิฺาเณน วิชานาติ, ยํ โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๑๒). เอวํ ทฺวารํ ปตฺวา อารมฺมณวิภาวนฏฺาเน จิตฺตเมว ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ. ตสฺมา ปุพฺพงฺคมรสนฺติ วุจฺจติ.

ตเทตํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปฺปชฺชมานํ ปุริมํ ปุริมํ นิรนฺตรํ กตฺวา สนฺทหนเมว อุปฏฺาตีติ สนฺทหนปจฺจุปฏฺานํ. ปฺจโวการภเว ปนสฺส นิยมโต นามรูปํ, จตุโวการภเว นามเมว ปทฏฺานํ. ตสฺมา นามรูปปทฏฺานนฺติ วุตฺตํ.

กึ ปเนตํ จิตฺตํ ปุริมนิทฺทิฏฺจิตฺเตน สทฺธึ เอกเมว อุทาหุ อฺนฺติ? เอกเมว. อถ กสฺมา ปุริมนิทฺทิฏฺํ ปุน วุตฺตนฺติ? อวิจาริตํ เอตํ อฏฺกถายํ. อยํ ปเนตฺถ ยุตฺติ – ยถา หิ รูปาทีนิ อุปาทาย ปฺตฺตา สูริยาทโย น อตฺถโต รูปาทีหิ อฺเ โหนฺติ, เตเนว ยสฺมึ สมเย สูริโย อุเทติ ตสฺมึ สมเย ตสฺส เตชสงฺขาตํ รูปมฺปีติ. เอวํ วุจฺจมาเนปิ น รูปาทีหิ อฺโ สูริโย นาม อตฺถิ. น ตถา จิตฺตํ; ผสฺสาทโย ธมฺเม อุปาทาย ปฺาปิยติ; อตฺถโต ปเนตํ เตหิ อฺเมว. เตน ‘ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ เอกํเสเนว ตสฺมึ สมเย ผสฺสาทีหิ อตฺถโต อฺเมว ตํ โหตี’ติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถาย เอตํ ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ยถา จ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ…เป… ปถวีกสิณํ, ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖๐) ปน ภาเวนฺเตน ววตฺถาปิเต สมเย โย ภาเวติ น โส อตฺถโต อุปฺปชฺชติ นาม, เตเนว ตตฺถ ยถา ‘‘ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติ วุตฺตํ, น เอวํ ‘‘โย ภาเวติ โส โหตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทีสุ ปน จิตฺเตน ววตฺถาปิเต สมเย สมยววตฺถาปิตํ จิตฺตํ น ตถา อตฺถโต นุปฺปชฺชติ. ยเถว ปน ตทา ‘ผสฺโส โหติ เวทนา โหติ’, ตถา ‘จิตฺตมฺปิ โหตี’ติ อิมสฺสปิ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – อุทฺเทสวาเร สงฺคณฺหนตฺถํ นิทฺเทสวาเร จ วิภชนตฺถํ ปุริเมน หิ ‘จิตฺต’-สทฺเทน เกวลํ สมโย ววตฺถาปิโต. ตสฺมึ ปน จิตฺเตน ววตฺถาปิตสมเย เย ธมฺมา โหนฺติ เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. จิตฺตฺจาปิ ตสฺมึ สมเย โหติเยว. ตสฺมา ตสฺสาปิ สงฺคณฺหนตฺถเมตํ ปุน วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ าเน เอตสฺมึ อวุจฺจมาเน ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย จิตฺต’’นฺติ น สกฺกา ภเวยฺย นิทฺเทสวาเร วิภชิตุํ. เอวมสฺส วิภชนํเยว ปริหาเยถ. ตสฺมา ตสฺส นิทฺเทสวาเร วิภชนตฺถมฺปิ เอตฺจ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมา วา ‘‘อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ เอตฺถ จิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ เอตํ เทสนาสีสเมว, ‘น ปน จิตฺตํ เอกเมว อุปฺปชฺชตี’ติ อฏฺกถายํ วิจาริตํ, ตสฺมา จิตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ เอตฺถาปิ จิตฺตมตฺตเมว อคฺคเหตฺวา ปโรปณฺณาสกุสลธมฺเมหิ สทฺธึเยว จิตฺตํ คหิตํ. เอวํ ตตฺถ สงฺเขปโต สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกธมฺเม คเหตฺวา อิธ สรูเปน ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิติ ผสฺสาทโย วิย จิตฺตมฺปิ วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมุทฺเทสวาโร

ฌานงฺคราสิวณฺณนา

วิตกฺเกตีติ วิตกฺโก; วิตกฺกนํ วา วิตกฺโก; อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ. โส หิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อาโรเปติ. ยถา หิ โกจิ ราชวลฺลภํ าตึ วา มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อาโรหติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ตสฺมา โส อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณติ วุตฺโต. นาคเสนตฺเถโร ปนาห – อาโกฏนลกฺขโณ วิตกฺโก. ‘‘ยถา, มหาราช, เภรี อาโกฏิตา อถ ปจฺฉา อนุรวติ อนุสทฺทายติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยถา อาโกฏนา เอวํ วิตกฺโก ทฏฺพฺโพ. ยถา ปจฺฉา อนุรวนา อนุสทฺทายนา เอวํ วิจาโร ทฏฺพฺโพ’’ติ (มิ. ป. ๒.๓.๑๔ โถกํ วิสทิสํ). สฺวายํ อาหนนปริยาหนนรโส. ตถา หิ เตน โยคาวจโร อารมฺมณํ วิตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนปจฺจุปฏฺาโน.

อารมฺมเณ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร; วิจรณํ วา วิจาโร. อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ. ตตฺถ สหชาตานุโยชนรโส. จิตฺตสฺส อนุปฺปพนฺธปจฺจุปฏฺาโน. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ฆณฺฏาภิฆาโต วิย อภินิโรปนฏฺเน จ เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก. สุขุมฏฺเน อนุมชฺชนสภาวฏฺเน จ ฆณฺฏานุรโว วิย อนุปฺปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก, ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทภูโต จิตฺตสฺส. อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย. ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพทฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.

อฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก. โส หิ เอกคฺโค หุตฺวา อปฺเปติ วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย. อนุมชฺชภาเวน ปวตฺโต วิจาโร. โส หิ อารมฺมณํ อนุมชฺชตีติ วุตฺตํ, ตํ อนุปฺปพนฺธเนน ปวตฺติยํ อติวิย ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิจ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก, อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก, พหิปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชมาโน วิจาโร.

ปิณยตีติ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา. กายจิตฺตปีณนรสา, ผรณรสา วา. โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. สา ปเนสา ขุทฺทิกาปีติ, ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.

ตตฺถ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ, สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย, กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ, กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปฺปตฺตา. ตถา หิ ปุณฺณวลฺลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโร ปุณฺณมทิวเส สายํ เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา จนฺทาโลกํ ทิสฺวา มหาเจติยาภิมุโข หุตฺวา ‘อิมาย วต เวลาย จตสฺโส ปริสา มหาเจติยํ วนฺทนฺตี’ติ ปกติยา ทิฏฺารมฺมณวเสน พุทฺธารมฺมณํ อุพฺเพคํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา สุธาตเล ปหฏจิตฺรเคณฺฑุโก วิย อากาเส อุปฺปติตฺวา มหาเจติยงฺคเณเยว อฏฺาสิ.

ตถา คิริกณฺฑกวิหารสฺส อุปนิสฺสเย วตฺตกาลกคาเม เอกา กุลธีตาปิ พลวพุทฺธารมฺมณาย อุพฺเพคาย ปีติยา อากาเส ลงฺเฆสิ. ตสฺสา กิร มาตาปิตโร สายํ ธมฺมสวนตฺถาย วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘อมฺม, ตฺวํ ครุภารา, อกาเล วิจริตุํ น สกฺโกสิ, มยํ ตุยฺหํ ปตฺตึ กตฺวา ธมฺมํ โสสฺสามา’ติ อคมํสุ. สา คนฺตุกามาปิ เตสํ วจนํ ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ฆเร โอหียิตฺวา ฆรทฺวาเร ตฺวา จนฺทาโลเกน คิริกณฺฑเก อากาสเจติยงฺคณํ โอโลเกนฺตี เจติยสฺส ทีปปูชํ อทฺทส. จตสฺโส จ ปริสา มาลาคนฺธาทีหิ เจติยปูชํ กตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺติโย ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คณสชฺฌายสทฺทํ อสฺโสสิ. อถสฺสา ‘ธฺา วติเม มนุสฺสา เย วิหารํ คนฺตฺวา เอวรูเป เจติยงฺคเณ อนุสฺจริตุํ เอวรูปฺจ มธุรํ ธมฺมกถํ โสตุํ ลภนฺตี’ติ มุตฺตราสิสทิสํ เจติยํ ปสฺสนฺติยา เอว อุพฺเพคาปีติ อุทปาทิ. สา อากาเส ลงฺฆิตฺวา มาตาปิตูนํ ปุริมตรํเยว อากาสโต เจติยงฺคเณ โอรุยฺห เจติยํ วนฺทิตฺวา ธมฺมํ สุณมานา อฏฺาสิ. อถ นํ มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘อมฺม, ตฺวํ กตเรน มคฺเคน อาคตาสี’ติ ปุจฺฉึสุ. สา ‘อากาเสน อาคตามฺหิ, น มคฺเคนา’ติ วตฺวา ‘อมฺม, อากาเสน นาม ขีณาสวา สฺจรนฺติ, ตฺวํ กถํ อาคตา’ติ ปุฏฺา อาห – ‘มยฺหํ จนฺทาโลเกน เจติยํ โอโลเกนฺติยา ิตาย พุทฺธารมฺมณา พลวปีติ อุปฺปชฺชติ, อถาหํ เนว อตฺตโน ิตภาวํ น นิสินฺนภาวํ อฺาสึ, คหิตนิมิตฺเตเนว ปน อากาสํ ลงฺฆิตฺวา เจติยงฺคเณ ปติฏฺิตามฺหี’ติ. เอวํ อุพฺเพคาปีติ อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณา โหติ.

ผรณปีติยา ปน อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย, มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ – กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ. ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ สุขํ ปริปูเรติ – กายิกํ เจตสิกฺจ. สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ – ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธินฺติ. ตาสุ เปตฺวา อปฺปนาสมาธิปูริกํ อิตรา ทฺเวปิ อิธ ยุชฺชนฺติ.

สุขยตีติ สุขํ; ยสฺส อุปฺปชฺชติ ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตสฺส ลกฺขณาทีนิ เวทนาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

อปโร นโย – สาตลกฺขณํ สุขํ, สมฺปยุตฺตานํ อุปพฺรูหนรสํ, อนุคฺคหณปจฺจุปฏฺานํ. สติปิ จ เนสํ ปีติสุขานํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค, อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ; ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ ตตฺถ สุขํ. ยตฺถ สุขํ ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ. วนจฺฉายาปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ.

ยถา หิ ปุริโส มหากนฺตารมคฺคํ ปฏิปนฺโน ฆมฺมปเรโต ตสิโต ปิปาสิโต ปฏิปเถ ปุริสํ ทิสฺวา ‘กตฺถ ปานียํ อตฺถี’ติ ปุจฺเฉยฺย. โส ‘อฏวึ อุตฺตริตฺวา ชาตสฺสรวนสณฺโฑ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา ลภิสฺสสี’ติ วเทยฺย. โส ตสฺส กถํ สุตฺวา หฏฺปหฏฺโ ภเวยฺย. ตโต คจฺฉนฺโต ภูมิยํ ปติตานิ อุปฺปลทลนาลปตฺตาทีนิ ทิสฺวา สุฏฺุตรํ หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา คจฺฉนฺโต อลฺลวตฺเถ อลฺลเกเส ปุริเส ปสฺเสยฺย, วนกุกฺกุฏโมราทีนํ สทฺทํ สุเณยฺย, ชาตสฺสรปริยนฺเต ชาตํ มณิชาลสทิสํ นีลวนสณฺฑํ ปสฺเสยฺย, สเร ชาตานิ อุปฺปลปทุมกุมุทาทีนิ ปสฺเสยฺย, อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อุทกํ ปสฺเสยฺย. โส ภิยฺโย ภิยฺโย หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา ชาตสฺสรํ โอตริตฺวา ยถารุจิ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ ภิสมุฬาลโปกฺขราทีนิ ขาทิตฺวา นีลุปฺปลาทีนิ ปิฬนฺธิตฺวา มนฺทาลกมูลานิ ขนฺเธ กริตฺวา อุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา, อุทกสาฏกํ อาตเป กตฺวา, สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต นิปนฺโน ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วเทยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

ตสฺส หิ ปุริสสฺส ชาตสฺสรวนสณฺฑสวนโต ปฏฺาย ยาว อุทกทสฺสนา หฏฺปหฏฺกาโล วิย ปุพฺพภาคารมฺมเณ หฏฺปหฏฺาการา ปีติ. นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทโต นิปนฺนกาโล วิย พลวปฺปตฺตํ อารมฺมณรสานุภวนาการสณฺิตํ สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ปน ปีติ สุขมฺปิ ตตฺถ อตฺถีติ วุตฺตเมเวตํ.

จิตฺตสฺเสกคฺคตาติ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาโว; สมาธิสฺเสตํ นามํ. ลกฺขณาทีสุ ปนสฺส อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘ปาโมกฺขลกฺขโณ จ สมาธิ อวิกฺเขปลกฺขโณ จ’’. ยถา หิ กูฏาคารกณฺณิกา เสสทพฺพสมฺภารานํ อาพนฺธนโต ปมุขา โหติ เอวเมว สพฺพกุสลธมฺมานํ สมาธิจิตฺเตน อิชฺฌนโต สพฺเพสมฺปิ เตสํ ธมฺมานํ สมาธิ ปาโมกฺโข โหติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ยถา, มหาราช, กูฏาคารสฺส ยา กาจิ โคปานสิโย สพฺพา ตา กูฏงฺคมา โหนฺติ, กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ, เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา สพฺเพ เต สมาธินินฺนา โหนฺติ, สมาธิโปณา, สมาธิปพฺภารา, สมาธิ เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๔).

ยถา จ เสนงฺคํ ปตฺวา ราชา นาม ยตฺถ ยตฺถ เสนา โอสีทติ ตํ ตํ านํ คจฺฉติ, ตสฺส คตคตฏฺาเน เสนา ปริปูรติ, ปรเสนา ภิชฺชิตฺวา ราชานเมว อนุวตฺตติ, เอวเมว สหชาตธมฺมานํ วิกฺขิปิตุํ วิปฺปกิริตุํ อปฺปทานโต สมาธิ อวิกฺเขปลกฺขโณ นาม โหตีติ.

อปโร ปน นโย – อยํ จิตฺตสฺเสกคฺคตาสงฺขาโต สมาธิ นาม อวิสารลกฺขโณ วา อวิกฺเขปลกฺขโณ วา, สหชาตธมฺมานํ, สมฺปิณฺฑนรโส นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย, อุปสมปจฺจุปฏฺาโน าณปจฺจุปฏฺาโน วา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสตี’’ติ หิ วุตฺตํ. วิเสสโต สุขปทฏฺาโน, นิวาเต ทีปจฺจีนํ ิติ วิย เจตโส ิตีติ ทฏฺพฺโพ.

อินฺทฺริยราสิวณฺณนา

สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา. สาว อสฺสทฺธิยสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สทฺธาว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ. สา ปเนสา สมฺปสาทนลกฺขณา จ สทฺธา สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จ.

ยถา หิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อุทกปฺปสาทโก มณิ อุทเก ปกฺขิตฺโต ปงฺกเสวาลปณกกทฺทมํ สนฺนิสีทาเปติ, อุทกํ อจฺฉํ กโรติ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, กิเลเส สนฺนิสีทาเปติ, จิตฺตํ ปสาเทติ, อนาวิลํ กโรติ. ปสนฺเนน จิตฺเตน โยคาวจโร กุลปุตฺโต ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ภาวนํ อารภติ. เอวํ ตาว สทฺธา สมฺปสาทนลกฺขณาติ เวทิตพฺพา. เตนาห อายสฺมา นาคเสโน

‘‘ยถา, มหาราช, ราชา จกฺกวตฺติ จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ปริตฺตํ อุทกํ ตเรยฺย, ตํ อุทกํ หตฺถีหิ จ อสฺเสหิ จ รเถหิ จ ปตฺตีหิ จ สงฺขุภิตํ ภเวยฺย อาวิลํ ลุลิตํ กลลีภูตํ, อุตฺติณฺโณ จ ราชา จกฺกวตฺติ มนุสฺเส อาณาเปยฺย ‘ปานียํ ภเณ อาหรถ, ตํ ปิวิสฺสามี’ติ. รฺโ จ อุทกปฺปสาทโก มณิ ภเวยฺย. ‘เอวํ เทวา’ติ โข เต มนุสฺสา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ อุทกปฺปสาทกํ มณึ อุทเก ปกฺขิเปยฺยุํ. ตสฺมึ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต ปงฺกเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, ตโต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปานียํ อุปนาเมยฺยุํ – ‘ปิวตุ เทโว ปานีย’นฺติ.

‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เต มนุสฺสา เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา ปงฺกเสวาลปณกํ กทฺทโม จ เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทโก มณิ เอวํ สทฺธา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทเก มณิมฺหิ ปกฺขิตฺตมตฺเต ปงฺกเสวาลปณกํ วิคจฺฉติ กทฺทโม จ สนฺนิสีทติ, อจฺฉํ ภวติ อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว โข, มหาราช, สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิล’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๐).

ยถา ปน กุมฺภิลมกรคาหรกฺขสาทิกิณฺณํ ปูรํ มหานทึ อาคมฺม ภีรุกชโน อุโภสุ ตีเรสุ ติฏฺติ. สงฺคามสูโร ปน มหาโยโธ อาคนฺตฺวา ‘กสฺมา ิตตฺถา’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘สปฺปฏิภยภาเวน โอตริตุํ น วิสหามา’ติ วุตฺเต สุนิสิตํ อสึ คเหตฺวา ‘มม ปจฺฉโต เอถ, มา ภายิตฺถา’ติ วตฺวา นทึ โอตริตฺวา อาคตาคเต กุมฺภิลาทโย ปฏิพาหิตฺวา โอริมตีรโต มนุสฺสานํ โสตฺถิภาวํ กโรนฺโต ปาริมตีรํ เนติ. ปาริมตีรโตปิ โสตฺถินา โอริมตีรํ อาเนติ. เอวเมว ทานํ ททโต สีลํ รกฺขโต อุโปสถกมฺมํ กโรโต ภาวนํ อารภโต สทฺธา ปุพฺพงฺคมา ปุเรจาริกา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จ สทฺธา’ติ.

อปโร นโย – สทฺทหนลกฺขณา สทฺธา, โอกปฺปนลกฺขณา วา. ปสาทนรสา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย, ปกฺขนฺทนรสา วา โอฆุตฺตรโณ วิย. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา, อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา วา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานา วา, สา หตฺถวิตฺตพีชานิ วิย ทฏฺพฺพา.

วีรสฺส ภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ วีริยํ. วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตเทว โกสชฺชสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. ปคฺคหณลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. วีริยเมว อินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ. ตํ ปเนตํ อุปตฺถมฺภนลกฺขณฺจ วีริยํ ปคฺคหณลกฺขณฺจ. ยถา หิ ชิณฺณฆรํ อาคนฺตุเกน ถูณุปตฺถมฺเภน ติฏฺติ, เอวเมว โยคาวจโร วีริยุปตฺถมฺเภน อุปตฺถมฺภิโต หุตฺวา สพฺพกุสลธมฺเมหิ น หายติ, น ปริหายติ. เอวํ ตาวสฺส อุปตฺถมฺภนลกฺขณตา เวทิตพฺพา. เตนาห เถโร นาคเสโน

‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส เคเห ปตนฺเต ตมฺเน ทารุนา อุปตฺถมฺเภยฺย, อุปตฺถมฺภิตํ สนฺตํ เอวํ ตํ เคหํ น ปเตยฺย, เอวเมว โข มหาราช อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ วีริยํ, วีริยุปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น หายนฺติ น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๒).

ยถา วา ปน ขุทฺทิกาย จ มหติกาย จ เสนาย สงฺคาเม ปวตฺเต ขุทฺทิกา เสนา โอลีเยยฺย, ตโต รฺโ อาโรเจยฺย, ราชา พลวาหนํ เปเสยฺย, เตน ปคฺคหิตา สกเสนา ปรเสนํ ปราเชยฺย, เอวเมว วีริยํ สหชาตสมฺปยุตฺตธมฺมานํ โอลียิตุํ โอสกฺกิตุํ น เทติ, อุกฺขิปติ, ปคฺคณฺหาติ. เตน วุตฺตํ ‘ปคฺคหณลกฺขณฺจ วีริย’นฺติ.

อปโร นโย – อุสฺสาหลกฺขณํ วีริยํ, สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑๓) วจนโต สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพาสํ สมฺปตฺตีนํ มูลํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.

สรนฺติ เอตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ. สาว มุฏฺสฺสจฺจสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, อุปฏฺานลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สติ เอว อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. สา ปเนสา อปิลาปนลกฺขณา จ สติ อุปคฺคณฺหนลกฺขณา จ. ยถา หิ รฺโ ภณฺฑาคาริโก ทสวิธํ รตนํ โคปยนฺโต สายํปาตํ ราชานํ อิสฺสริยสมฺปตฺตึ สลฺลกฺขาเปติ สาเรติ, เอวเมว สติ กุสลํ ธมฺมํ สลฺลกฺขาเปติ สราเปติ. เตนาห เถโร

‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ภณฺฑาคาริโก ราชานํ จกฺกวตฺตึ สายํปาตํ ยสํ สราเปติ – ‘เอตฺตกา, เทว, หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตี, เอตฺตกํ หิรฺํ, เอตฺตกํ สุวณฺณํ, เอตฺตกํ สพฺพํ สาปเตยฺยํ, ตํ เทโว สรตู’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, สติ กุสเล ธมฺเม อปิลาเปติ – อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺติ, อิเม โลกุตฺตรา ธมฺมาติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๓).

ยถา ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ อหิเต จ หิเต จ ตฺวา อหิเต อปยาเปติ, หิเต อุปยาเปติ, เอวเมว สติ หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ‘อิเม กายทุจฺจริตาทโย ธมฺมา อหิตา’ติ อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ, ‘อิเม กายสุจริตาทโย ธมฺมา หิตา’ติ หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เตนาห เถโร –

‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ หิตาหิเต ชานาติ ‘อิเม รฺโ หิตา อิเม อหิตา, อิเม อุปการา อิเม อนุปการา’ติ, ตโต อหิเต อปนุเทติ หิเต อุปคฺคณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา อิเม ธมฺมา อหิตา, อิเม ธมฺมา อุปการา อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ, ตโต อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๓).

อปโร นโย – อปิลาปนลกฺขณา สติ, อสมฺโมสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา วิสยาภิมุขีภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ถิรสฺาปทฏฺานา, กายาทิสติปฏฺานปทฏฺานา วา, อารมฺมเณ ทฬฺหํ ปติฏฺิตตฺตา ปน เอสิกา วิย, จกฺขุทฺวาราทิรกฺขณโต โทวาริโก วิย จ ทฏฺพฺพา.

อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อธิยติ เปตีติ สมาธิ. โสว วิกฺเขปสฺส อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อวิกฺเขปลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สมาธิเยว อินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ. อฏฺกถายํ ปน ‘ปฺาเปตีติ ปฺา’ติ วุตฺตํ. กินฺติ ปฺาเปตีติ? อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปฺาเปติ. สาว อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ปฺาว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. สา ปเนสา โอภาสนลกฺขณา จ ปฺา ปชานนลกฺขณา จ. ยถา หิ จตุภิตฺติเก เคเห รตฺติภาเค ทีเป ชลิเต อนฺธกาโร นิรุชฺฌติ อาโลโก ปาตุภวติ, เอวเมว โอภาสนลกฺขณา ปฺา. ปฺโภาสสโม โอภาโส นาม นตฺถิ. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา โหติ. เตนาห เถโร

‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห ปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิทฺธํเสติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ รูปานิ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ อริยสจฺจานิ กโรติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๕).

ยถา ปน เฉโก ภิสกฺโก อาตุรานํ สปฺปายาสปฺปายานิ โภชนานิ ชานาติ, เอวํ ปฺา อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสเล เสวิตพฺพาเสวิตพฺเพ หีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคอปฺปฏิภาเค ธมฺเม ปชานาติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา – ‘‘ปชานาติ ปชานาตีติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ. กิฺจ ปชานาติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๙) วิตฺถาเรตพฺพํ. เอวมสฺสา ปชานนลกฺขณตา เวทิตพฺพา.

อปโร นโย – ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา ปฺา; อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย. วิสโยภาสรสา ปทีโป วิย. อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา อรฺคตสุเทสโก วิย.

มนตีติ มโน; วิชานาตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ – นาฬิยา มินมาโน วิย, มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ, อารมฺมณํ มินติ ปชานาตีติ มโนติ. ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. มโนว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ. เหฏฺา วุตฺตจิตฺตสฺเสเวตํ เววจนํ.

ปีติโสมนสฺสสมฺปโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน. สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ. สาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. โสมนสฺสเมว อินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ. เหฏฺา วุตฺตเวทนาเยเวตํ เววจนํ.

ชีวนฺติ เตน ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ชีวิตเมว อินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ โหติ. ลกฺขณาทีหิ ปน อตฺตนา อวินิภุตฺตานํ ธมฺมานํ อนุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํเยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพธมฺมปทฏฺานํ. สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เต ธมฺเม อนุปาเลติ อุทกํ วิย อุปฺปลาทีนิ, ยถาสกํปจฺจยุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม ปาเลติ ธาตี วิย กุมารํ, สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว จ ปวตฺตติ นิยามโก วิย, น ภงฺคโต อุทฺธํ ปวตฺตยติ อตฺตโน จ ปวตฺตยิตพฺพานฺจ อภาวา, น ภงฺคกฺขเณ เปติ สยํ ภิชฺชมานตฺตา ขียมาโน วิย วฏฺฏิสิเนโห ทีปสิขํ. น จ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานุภาววิรหิตํ ยถาวุตฺตกฺขเณ ตสฺส ตสฺส สาธนโตติ ทฏฺพฺพํ.

มคฺคงฺคราสิวณฺณนา

สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ. อภินิโรปนฏฺเน สมฺมาสงฺกปฺโป, ปคฺคหนฏฺเน สมฺมาวายาโม, อุปฏฺานฏฺเน สมฺมาสติ, อวิกฺเขปนฏฺเน สมฺมาสมาธีติ เวทิตพฺโพ. วจนตฺถโต ปน สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา สงฺกปฺเปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกปฺเปนฺตีติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา วายาเมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺตีติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺตีติ สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺตีติ สมฺมาสมาธิ. อปิจ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา ทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺีติ. อิมินาปิ นเยน เตสํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาทีนิ ปน เหฏฺา วุตฺตาเนว.

พลราสิวณฺณนา

สทฺธาพลาทีสุปิ สทฺธาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อกมฺปิยฏฺเน ปน พลนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมเตสุ อสฺสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. มุฏฺสฺสจฺเจ น กมฺปตีติ สติพลํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. อหิริเก น กมฺปตีติ หิริพลํ. อโนตฺตปฺเป น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลนฺติ. อยํ อุภยปทวเสน อตฺถวณฺณนา โหติ.

ตตฺถ ปุริมานิ ปฺจ เหฏฺา ลกฺขณาทีหิ ปกาสิตาเนว. ปจฺฉิมทฺวเย กายทุจฺจริตาทีหิ หิริยตีติ หิรี; ลชฺชาเยตํ อธิวจนํ. เตหิ เอว โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ; ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ อธิวจนํ. เตสํ นานากรณทีปนตฺถํ ‘สมุฏฺานํ อธิปติ ลชฺชา ภยลกฺขเณน จา’ติ อิมํ มาติกํ เปตฺวา อยํ วิตฺถารกถา วุตฺตา.

อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม; พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม. อตฺตาธิปติ หิรี นาม; โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี นาม; ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ นาม. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี นาม; วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ นาม.

ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ – ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ อิทํ กมฺมํ. มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, น สูรภาวานํ. มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ. มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’นฺติ, เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานหิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ. สมุฏฺาเปตฺวา จ ปน อตฺตโน จิตฺเต หิรึ ปเวเสตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม โหติ.

กถํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม? สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ.

ครหิสฺสนฺติ ตํ วิฺู, อสุจึ นาคริโก ยถา;

วชฺชิโต สีลวนฺเตหิ, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสีติ.

เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺโต หิ พหิทฺธาสมุฏฺิเตน โอตฺตปฺเปน ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.

กถํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘มาทิสสฺส สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตงฺคธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ กาตุ’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ เชฏฺกํ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐).

กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. ยถาห – ‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส. มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน, เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานนฺติ, เตปิมํ เอวํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. สนฺติ เทวตา อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย. ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานนฺติ, ตาปิ มํ ชานิสฺสนฺติ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ, สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ… โส โลกํเยว อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๔๖). เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.

ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปนฺติ. เอตฺถ ปน ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร; เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ; เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยมฺปิ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ, ยถา นาม เอโก กุลปุตฺโต อุจฺจารปสฺสาวาทีนิ กโรนฺโต ลชฺชิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ ทิสฺวา ลชฺชนาการปฺปตฺโต ภเวยฺย หีฬิโต, เอวเมว อชฺฌตฺตํ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอกจฺโจ อปายภยภีโต หุตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ.

ตตฺริทํ โอปมฺมํ – ยถา หิ ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. ตตฺถ ปณฺฑิโต สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. ตตฺถ สีตลสฺส คูถมกฺขนชิคุจฺฉาย อคณฺหนํ วิย อชฺฌตฺตํ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปสฺส อกรณํ. อุณฺหสฺส ฑาหภเยน อคณฺหนํ วิย อปายภเยน ปาปสฺส อกรณํ เวทิตพฺพํ.

สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปนฺติ. อิทมฺปิ ทฺวยํ ปาปปริวชฺชเน เอว ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจารีมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ จตูหิ การเณหิ สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ ปรานุวาทภยํ ทณฺฑภยํ ทุคฺคติภยนฺติ จตูหิ การเณหิ วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. ตตฺถ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาทีนิ เจว อตฺตานุวาทภยาทีนิ จ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ.

มูลราสิวณฺณนา

น ลุพฺภนฺติ เอเตน, สยํ วา น ลุพฺภติ, อลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ อโลโภ. อโทสาโมเหสุปิ เอเสว นโย. เตสุ อโลโภ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อเคธลกฺขโณ, อลคฺคภาวลกฺขโณ วา กมลทเล ชลพินฺทุ วิย. อปริคฺคหณรโส มุตฺตภิกฺขุ วิย. อนลฺลีนภาวปจฺจุปฏฺาโน อสุจิมฺหิ ปติตปุริโส วิย. อโทโส อจณฺฑิกฺกลกฺขโณ, อวิโรธลกฺขโณ วา อนุกูลมิตฺโต วิย. อาฆาตวินยรโส ปริฬาหวินยรโส วา จนฺทนํ วิย. โสมฺมภาวปจฺจุปฏฺาโน ปุณฺณจนฺโท วิย. อโมโห ลกฺขณาทีหิ เหฏฺา ปฺินฺทฺริยปเท วิภาวิโต เอว.

อิเมสุ ปน ตีสุ อโลโภ มจฺเฉรมลสฺส ปฏิปกฺโข, อโทโส ทุสฺสีลฺยมลสฺส, อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย ปฏิปกฺโข. อโลโภ เจตฺถ ทานเหตุ, อโทโส สีลเหตุ, อโมโห ภาวนาเหตุ. เตสุ จ อโลเภน อนธิกํ คณฺหาติ, ลุทฺธสฺส อธิกคฺคหณโต. อโทเสน อนูนํ, ทุฏฺสฺส อูนคฺคหณโต. อโมเหน อวิปรีตํ, มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต.

อโลเภน เจตฺถ วิชฺชมานํ โทสํ โทสโต ธาเรนฺโต โทเส ปวตฺตติ; ลุทฺโธ หิ โทสํ ปฏิจฺฉาเทติ. อโทเสน วิชฺชมานํ คุณํ คุณโต ธาเรนฺโต คุเณ ปวตฺตติ; ทุฏฺโ หิ คุณํ มกฺเขติ. อโมเหน ยาถาวสภาวํ ยาถาวสภาวโต ธาเรนฺโต ยาถาวสภาเว ปวตฺตติ. มูฬฺโห หิ ‘ตจฺฉํ อตจฺฉนฺติ อตจฺฉํ จ ตจฺฉ’นฺติ คณฺหาติ. อโลเภน จ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ น โหติ, ลุทฺธสฺส ปิยสภาวโต ปิยวิปฺปโยคาสหนโต จ. อโทเสน อปฺปิยสมฺปโยคทุกฺขํ น โหติ, ทุฏฺสฺส หิ อปฺปิยสภาวโต อปฺปิยสมฺปโยคาสหนโต จ. อโมเหน อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ, อมูฬฺหสฺส หิ ‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติเอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต (ที. นิ. ๓.๓๔; อ. นิ. ๙.๓๐).

อโลเภน เจตฺถ ชาติทุกฺขํ น โหติ, อโลภสฺส ตณฺหาปฏิปกฺขโต ตณฺหามูลกตฺตา จ ชาติทุกฺขสฺส. อโทเสน ชราทุกฺขํ น โหติ, ติกฺขโทสสฺส ขิปฺปํ ชราสมฺภวโต. อโมเหน มรณทุกฺขํ น โหติ, สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น เจตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. อโลเภน จ คหฏฺานํ, อโมเหน ปพฺพชิตานํ, อโทเสน ปน สพฺเพสมฺปิ สุขสํวาสตา โหติ.

วิเสสโต เจตฺถ อโลเภน เปตฺติวิสเย อุปปตฺติ น โหติ. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ตณฺหาย เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชนฺติ, ตณฺหาย จ ปฏิปกฺโข อโลโภ. อโทเสน นิรเย อุปปตฺติ น โหติ. โทเสน หิ จณฺฑชาติตาย โทสสทิสํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. โทสสฺส จ ปฏิปกฺโข อโทโส. อโมเหน ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ. โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหํ ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ. โมหสฺส ปฏิปกฺโข จ อโมโห. เอเตสุ จ อโลโภ ราควเสน อุปคมนสฺส อภาวกโร, อโทโส โทสวเสน อปคมนสฺส, อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส.

ตีหิปิ เจเตหิ ยถาปฏิปาฏิยา เนกฺขมฺมสฺา อพฺยาปาทสฺา อวิหึสาสฺาติ อิมา ติสฺโส. อสุภสฺา อปฺปมาณสฺา ธาตุสฺาติ อิมา จ ติสฺโส สฺาโย โหนฺติ. อโลเภน ปน กามสุขลฺลิกานุโยคอนฺตสฺส, อโทเสน อตฺตกิลมถานุโยคอนฺตสฺส ปริวชฺชนํ โหติ; อโมเหน มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ. ตถา อโลเภน อภิชฺฌากายคนฺถสฺส ปเภทนํ โหติ, อโทเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส, อโมเหน เสสคนฺถทฺวยสฺส. ปุริมานิ จ ทฺเว สติปฏฺานานิ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ อานุภาเวน, ปจฺฉิมานิ ปจฺฉิมสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ.

อโลโภ เจตฺถ อาโรคฺยสฺส ปจฺจโย โหติ; อลุทฺโธ หิ โลภนียมฺปิ อสปฺปายํ น เสวติ, เตน โข อโรโค โหติ. อโทโส โยพฺพนสฺส; อทุฏฺโ หิ วลิปลิตาวเหน โทสคฺคินา อฑยฺหมาโน ทีฆรตฺตํ ยุวา โหติ. อโมโห ทีฆายุกตาย; อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺชนฺโต หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ.

อโลโภ เจตฺถ โภคสมฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติ, อลุทฺธสฺส หิ จาเคน โภคปฏิลาโภ. อโทโส มิตฺตสมฺปตฺติยา, เมตฺตาย มิตฺตานํ ปฏิลาภโต เจว อปริหานโต จ. อโมโห อตฺตสมฺปตฺติยา, อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ. อโลโภ จ ทิพฺพวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อโทโส พฺรหฺมวิหารสฺส, อโมโห อริยวิหารสฺส.

อโลเภน เจตฺถ สกปกฺเขสุ สตฺตสงฺขาเรสุ นิพฺพุโต โหติ, เตสํ วินาเสน อภิสงฺคเหตุกสฺส ทุกฺขสฺส อภาวา; อโทเสน ปรปกฺเขสุ, อทุฏฺสฺส หิ เวรีสุปิ เวริสฺาย อภาวโต; อโมเหน อุทาสีนปกฺเขสุ, อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต.

อโลเภน จ อนิจฺจทสฺสนํ โหติ; ลุทฺโธ หิ อุปโภคาสาย อนิจฺเจปิ สงฺขาเร อนิจฺจโต น ปสฺสติ. อโทเสน ทุกฺขทสฺสนํ; อโทสชฺฌาสโย หิ ปริจฺจตฺตอาฆาตวตฺถุปริคฺคโห สงฺขาเรเยว ทุกฺขโต ปสฺสติ. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ; อมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตหิ อนิจฺจทสฺสนาทีนิ เอวเมเตปิ อนิจฺจทสฺสนาทีหิ โหนฺติ. อนิจฺจทสฺสเนน หิ อโลโภ โหติ, ทุกฺขทสฺสเนน อโทโส, อนตฺตทสฺสเนน อโมโห โหติ. โก หิ นาม ‘อนิจฺจมิท’นฺติ สมฺมา ตฺวา ตสฺสตฺถาย ปิหํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺขาเร วา ‘ทุกฺข’นฺติ ชานนฺโต อปรมฺปิ อจฺจนฺตติขิณํ โกธทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, อตฺตสุฺตฺจ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหมาปชฺเชยฺยาติ?

กมฺมปถราสิวณฺณนา

นาภิชฺฌายตีติ อนภิชฺฌา. กายิกเจตสิกสุขํ อิธโลกปรโลกหิตํ คุณานุภาวปฏิลทฺธํ กิตฺติสทฺทฺจ น พฺยาปาเทตีติ อพฺยาปาโท. สมฺมา ปสฺสติ, โสภนา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. อโลภาทีนํเยว ตานิ นามานิ. เหฏฺา ปเนเต ธมฺมา มูลวเสน คหิตา, อิธ กมฺมปถวเสนาติ เวทิตพฺพา.

โลกปาลทุกวณฺณนา

หิโรตฺตปฺปานิปิ เหฏฺา พลวเสน คหิตานิ, อิธ โลกปาลวเสน. โลกฺหิ อิเม ทฺเว ธมฺมา ปาลยนฺติ. ยถาห –

‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ มาตาติ วา, มาตุจฺฉาติ วา, มาตุลานีติ วา, อาจริยภริยาติ วา, ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก อคมิสฺส ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ, ตสฺมา ปฺายติ มาตาติ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา’’ติ (อ. นิ. ๒.๙).

ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา

กายสฺส ปสฺสมฺภนํ กายปสฺสทฺธิ. จิตฺตสฺส ปสฺสมฺภนํ จิตฺตปสฺสทฺธิ. กาโยติ เจตฺถ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา. อุโภปิ ปเนตา เอกโต กตฺวา กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา กายจิตฺตปสฺสทฺธิโย, กายจิตฺตทรถนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อปริปฺผนฺทสีติภาวปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ อวูปสมกรอุทฺธจฺจาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.

กายสฺส ลหุภาโว กายลหุตา. จิตฺตสฺส ลหุภาโว จิตฺตลหุตา. ตา กายจิตฺตครุภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตครุภาวนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อทนฺธตาปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ ครุภาวกรถินมิทฺธาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.

กายสฺส มุทุภาโว กายมุทุตา. จิตฺตสฺส มุทุภาโว จิตฺตมุทุตา. ตา กายจิตฺตถทฺธภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตถทฺธภาวนิมฺมทฺทนรสา, อปฺปฏิฆาตปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ ถทฺธภาวกรทิฏฺิมานาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.

กายสฺส กมฺมฺภาโว กายกมฺมฺตา. จิตฺตสฺส กมฺมฺภาโว จิตฺตกมฺมฺตา. ตา กายจิตฺตอกมฺมฺภาววูปสมลกฺขณา, กายจิตฺตานํ อกมฺมฺภาวนิมฺมทฺทนรสา, กายจิตฺตานํ อารมฺมณกรณสมฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ อกมฺมฺภาวกราวเสสนีวรณปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา. ตา ปสาทนียวตฺถูสุ ปสาทาวหา, หิตกิริยาสุ วินิโยคกฺเขมภาวาวหา สุวณฺณวิสุทฺธิ วิยาติ ทฏฺพฺพา.

กายสฺส ปาคุฺภาโว กายปาคุฺตา. จิตฺตสฺส ปาคุฺภาโว จิตฺตปาคุฺตา. ตา กายจิตฺตานํ อเคลฺภาวลกฺขณา, กายจิตฺตเคลฺนิมฺมทฺทนรสา, นิราทีนวปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตเคลฺกรอสฺสทฺธิยาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.

กายสฺส อุชุกภาโว กายุชุกตา. จิตฺตสฺส อุชุกภาโว จิตฺตุชุกตา. ตา กายจิตฺตานํ อชฺชวลกฺขณา, กายจิตฺตกุฏิลภาวนิมฺมทฺทนรสา, อชิมฺหตาปจฺจุปฏฺานา, กายจิตฺตปทฏฺานา. กายจิตฺตานํ กุฏิลภาวกรมายาสาเยฺยาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ ทฏฺพฺพา.

สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ; สมนฺตโต ปกาเรหิ ชานาตีติ อตฺโถ. สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ ปนสฺส วเสน เภโท เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาทีนิ จ เตสํ สตินฺทฺริยปฺินฺทฺริเยสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อิติ เหฏฺา วุตฺตเมเวตํ ธมฺมทฺวยํ ปุน อิมสฺมึ าเน อุปการวเสน คหิตํ.

กามจฺฉนฺทาทโย ปจฺจนีกธมฺเม สเมตีติ สมโถ. อนิจฺจาทิวเสน วิวิเธหิ อากาเรหิ ธมฺเม ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. ปฺาเวสา อตฺถโต. อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. อิธ ปเนเต ยุคนทฺธวเสน คหิตา.

สหชาตธมฺเม ปคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. อุทฺธจฺจสงฺขาตสฺส วิกฺเขปสฺส ปฏิปกฺขภาวโต น วิกฺเขโปติ อวิกฺเขโป. เอเตสมฺปิ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. อิธ ปเนตํ ทฺวยํ วีริยสมาธิโยชนตฺถาย คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เยวาปนกวณฺณนา

เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา, อิเม ธมฺมา กุสลาติ ‘ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’ติ น เกวลํ ปทปฏิปาฏิยา อุทฺทิฏฺา อิเม ปโรปณฺณาสธมฺมา เอว, อถ โข ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ ติเหตุกํ โสมนสฺสสหคตํ ปมํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึ สมเย เย วา ปน อฺเปิ เตหิเยว ผสฺสาทีหิ สมฺปยุตฺตา หุตฺวา ปวตฺตมานา อตฺถิ, อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺนา รูปาภาเวน อรูปิโน, สภาวโต อุปลพฺภมานา ธมฺมา สพฺเพปิ อิเม ธมฺมา กุสลา.

เอตฺตาวตา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิยํ อารุฬฺเห ปโรปณฺณาสธมฺเม ทีเปตฺวา เยวาปนกวเสน อปเรปิ นว ธมฺเม ธมฺมราชา ทีเปติ. เตสุ เตสุ หิ สุตฺตปเทสุ ‘ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตา กรุณา มุทิตา กายทุจฺจริตวิรติ วจีทุจฺจริตวิรติ มิจฺฉาชีววิรตี’ติ อิเม นว ธมฺมา ปฺายนฺติ. อิมสฺมิฺจาปิ มหาจิตฺเต กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉนฺโท อตฺถิ, จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุฬฺโห. โส อิธ เยวาปนกวเสน คหิโต.

อธิโมกฺโข อตฺถิ, มนสิกาโร อตฺถิ, ตตฺรมชฺฌตฺตตา อตฺถิ. เมตฺตาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส อโทเส คหิเต คหิโต เอว โหติ. กรุณาปุพฺพภาโค อตฺถิ, มุทิตาปุพฺพภาโค อตฺถิ. อุเปกฺขาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส ปน ตตฺรมชฺฌตฺตตาย คหิตาย คหิโตว โหติ. สมฺมาวาจา อตฺถิ, สมฺมากมฺมนฺโต อตฺถิ. สมฺมาอาชีโว อตฺถิ; จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุฬฺโห. โสปิ อิธ เยวาปนกวเสน คหิโต.

อิเมสุ ปน นวสุ ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ อิเม จตฺตาโรว เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, เสสา นานากฺขเณ. ยทา หิ อิมินา จิตฺเตน มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาวาจํ ปูเรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, สมฺมาวาจา จาติ อิเม ปฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ. ยทา มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ…เป… มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาอาชีวํ ปูเรติ…เป… ยทา กรุณาย ปริกมฺมํ กโรติ…เป… ยทา มุทิตาย ปริกมฺมํ กโรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, มุทิตาปุพฺพภาโค จาติ อิเม ปฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ. อิโต ปน มุฺจิตฺวา, ทานํ เทนฺตสฺส สีลํ ปูเรนฺตสฺส โยเค กมฺมํ กโรนฺตสฺส จตฺตาริ อปณฺณกงฺคาเนว ลพฺภนฺติ.

เอวเมเตสุ นวสุ เยวาปนกธมฺเมสุ ‘ฉนฺโท’ติ กตฺตุกมฺยตาเยตํ อธิวจนํ. ตสฺมา โส กตฺตุกมฺยตาลกฺขโณ ฉนฺโท, อารมฺมณปริเยสนรโส, อารมฺมเณน อตฺถิกตาปจฺจุปฏฺาโน. ตเทวสฺส ปทฏฺานํ. อารมฺมณสฺส คหเณ จายํ เจตโส หตฺถปฺปสารณํ วิย ทฏฺพฺโพ.

อธิมุจฺจนํ ‘อธิโมกฺโข’. โส สนฺนิฏฺานลกฺขโณ, อสํสปฺปนรโส, นิจฺฉยปจฺจุปฏฺาโน สนฺนิฏฺาตพฺพธมฺมปทฏฺาโน. อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน อินฺทขีโล วิย ทฏฺพฺโพ.

กิริยา กาโร, มนสฺมึ กาโร ‘มนสิกาโร’. ปุริมมนโต วิสทิสํ มนํ กโรตีติปิ มนสิกาโร. สฺวายํ อารมฺมณปฏิปาทโก วีถิปฏิปาทโก ชวนปฏิปาทโกติ ติปฺปกาโร. ตตฺถ อารมฺมณปฏิปาทโก มนสฺมึ กาโรติ มนสิกาโร. โส สารณลกฺขโณ, สมฺปยุตฺตานํ อารมฺมเณ สมฺปโยชนรโส, อารมฺมณาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺาโน, สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน. อารมฺมณปฏิปาทกตฺเตน สมฺปยุตฺตานํ สารถิ วิย ทฏฺพฺโพ. วีถิปฏิปาทโกติ ปน ปฺจทฺวาราวชฺชนสฺเสตํ อธิวจนํ. ชวนปฏิปาทโกติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส. น เต อิธ อธิปฺเปตา.

เตสุ ธมฺเมสุ มชฺฌตฺตตา ‘ตตฺรมชฺฌตฺตตา’. สา จิตฺตเจตสิกานํ สมวาหิตลกฺขณา, อูนาธิกนิวารณรสา, ปกฺขปาตุปจฺเฉทนรสา วา; มชฺฌตฺตภาวปจฺจุปฏฺานา. จิตฺตเจตสิกานํ อชฺฌุเปกฺขนวเสน สมปฺปวตฺตานํ อาชาเนยฺยานํ อชฺฌุเปกฺขนสารถิ วิย ทฏฺพฺพา.

‘กรุณามุทิตา’ พฺรหฺมวิหารนิทฺเทเส อาวิ ภวิสฺสนฺติ. เกวลฺหิ ตา อปฺปนปฺปตฺตา รูปาวจรา, อิธ กามาวจราติ อยเมว วิเสโส.

กายทุจฺจริตโต วิรติ ‘กายทุจฺจริตวิรติ’. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ลกฺขณาทิโต ปเนตา ติสฺโสปิ กายทุจฺจริตาทิวตฺถูนํ อวีติกฺกมลกฺขณา; อมทฺทนลกฺขณาติ วุตฺตํ โหติ. กายทุจฺจริตาทิวตฺถุโต สงฺโกจนรสา, อกิริยปจฺจุปฏฺานา, สทฺธาหิโรตฺตปฺปอปฺปิจฺฉตาทิคุณปทฏฺานา. ปาปกิริยโต จิตฺตสฺส วิมุขีภาวภูตาติ ทฏฺพฺพา.

อิติ ผสฺสาทีนิ ฉปฺปฺาส เยวาปนกวเสน วุตฺตานิ นวาติ สพฺพานิปิ อิมสฺมึ ธมฺมุทฺเทสวาเร ปฺจสฏฺิ ธมฺมปทานิ ภวนฺติ. เตสุ เอกกฺขเณ กทาจิ เอกสฏฺิ ภวนฺติ, กทาจิ สมสฏฺิ. ตานิ หิ สมฺมาวาจาปูรณาทิวเสน. อุปฺปตฺติยํ ปฺจสุ าเนสุ เอกสฏฺิ ภวนฺติ. เตหิ มุตฺเต เอกสฺมึ าเน สมสฏฺิ ภวนฺติ. เปตฺวา ปน เยวาปนเก ปาฬิยํ ยถารุตวเสน คยฺหมานานิ ฉปฺปฺาสาว โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ผสฺสปฺจกํ, วิตกฺโก วิจาโร ปีติ จิตฺเตกคฺคตา, ปฺจินฺทฺริยานิ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ ทฺเว พลานิ, อโลโภ อโทโสติ ทฺเว มูลานิ, กายปสฺสทฺธิจิตฺตปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ สมตึส ธมฺมา โหนฺติ.

เตสุ สมตึสาย ธมฺเมสุ อฏฺารส ธมฺมา อวิภตฺติกา โหนฺติ, ทฺวาทส สวิภตฺติกา. กตเม อฏฺารส? ผสฺโส สฺา เจตนา วิจาโร ปีติ ชีวิตินฺทฺริยํ, กายปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ อิเม อฏฺารส อวิภตฺติกา. เวทนา จิตฺตํ วิตกฺโก จิตฺเตกคฺคตา, สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลํ, อโลโภ อโทโสติ อิเม ทฺวาทส ธมฺมา สวิภตฺติกา. เตสุ สตฺต ธมฺมา ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา, เอโก ตีสุ, ทฺเว จตูสุ, เอโก ฉสุ, เอโก สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺโต.

กถํ? จิตฺตํ วิตกฺโก สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ อโลโภ อโทโสติ อิเม สตฺต ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.

เอเตสุ หิ จิตฺตํ ตาว ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา มนินฺทฺริยนฺติ. วิตกฺโก ฌานงฺคานิ ปตฺวา วิตกฺโก โหตีติ วุตฺโต, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสงฺกปฺโปติ. สทฺธา อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สทฺธินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, พลานิ ปตฺวา สทฺธาพลนฺติ. หิรี พลานิ ปตฺวา หิริพลํ โหตีติ วุตฺตา, โลกปาลทุกํ ปตฺวา หิรีติ. โอตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. อโลโภ มูลํ ปตฺวา อโลโภ โหตีติ วุตฺโต, กมฺมปถํ ปตฺวา อนภิชฺฌาติ. อโทโส มูลํ ปตฺวา อโทโส โหตีติ วุตฺโต, กมฺมปถํ ปตฺวา อพฺยาปาโทติ. อิเม สตฺต ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.

เวทนา ปน ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา เวทนา โหตีติ วุตฺตา, ฌานงฺคานิ ปตฺวา สุขนฺติ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ. เอวํ เอโก ธมฺโม ตีสุ าเนสุ วิภตฺโต.

วีริยํ ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา วีริยินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาวายาโมติ, พลานิ ปตฺวา วีริยพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ปคฺคาโหติ. สติปิ อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สตินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสตีติ, พลานิ ปตฺวา สติพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา สติ โหตีติ วุตฺตา. เอวํ อิเม ทฺเว ธมฺมา จตูสุ าเนสุ วิภตฺตา.

สมาธิ ปน ฌานงฺคานิ ปตฺวา จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ วุตฺโต, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สมาธินฺทฺริยนฺติ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสมาธีติ. พลานิ ปตฺวา สมาธิพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา สมโถ อวิกฺเขโปติ. เอวมยํ เอโก ธมฺโม ฉสุ าเนสุ วิภตฺโต.

ปฺา ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา ปฺินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาทิฏฺีติ, พลานิ ปตฺวา ปฺาพลนฺติ, มูลานิ ปตฺวา อโมโหติ, กมฺมปถํ ปตฺวา สมฺมาทิฏฺีติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา สมฺปชฺํ วิปสฺสนาติ. เอวํ เอโก ธมฺโม สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺโต.

สเจ ปน โกจิ วเทยฺย – ‘เอตฺถ อปุพฺพํ นาม นตฺถิ, เหฏฺา คหิตเมว คณฺหิตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปทํ ปูริตํ, อนนุสนฺธิกา กถา อุปฺปฏิปาฏิยา โจเรหิ อาภตภณฺฑสทิสา, โคยูเถน คตมคฺเค อาลุลิตติณสทิสา อชานิตฺวา กถิตา’ติ, โส ‘มาเหว’นฺติ ปฏิเสเธตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘พุทฺธานํ เทสนา อนนุสนฺธิกา นาม นตฺถิ, สานุสนฺธิกา ว โหติ. อชานิตฺวา กถิตาปิ นตฺถิ, สพฺพา ชานิตฺวา กถิตาเยว. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ กิจฺจํ ชานาติ, ตํ ตฺวา กิจฺจวเสน วิภตฺตึ อาโรเปนฺโต อฏฺารส ธมฺมา เอเกกกิจฺจาติ ตฺวา เอเกกสฺมึ าเน วิภตฺตึ อาโรเปสิ. สตฺต ธมฺมา ทฺเวทฺเวกิจฺจาติ ตฺวา ทฺวีสุ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. เวทนา ติกิจฺจาติ ตฺวา ตีสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. วีริยสตีนํ จตฺตาริ จตฺตาริ กิจฺจานีติ ตฺวา จตูสุ จตูสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. สมาธิ ฉกิจฺโจติ ตฺวา ฉสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ. ปฺา สตฺตกิจฺจาติ ตฺวา สตฺตสุ าเนสุ วิภตฺตึ อาโรเปสิ’.

ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร ปณฺฑิโต ราชา รโหคโต จินฺเตสิ – ‘อิมํ ราชกุลสนฺตกํ น ยถา วา ตถา วา ขาทิตพฺพํ, สิปฺปานุจฺฉวิกํ เวตนํ วฑฺเฒสฺสามี’ติ. โส สพฺเพ สิปฺปิเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘เอเกกสิปฺปชานนเก ปกฺโกสถา’ติ อาห. เอวํ ปกฺโกสิยมานา อฏฺารส ชนา อุฏฺหึสุ. เตสํ เอเกกํ ปฏิวีสํ ทาเปตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ‘ทฺเว ทฺเว สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต ปน สตฺต ชนา อาคมํสุ. เตสํ ทฺเว ทฺเว ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘ตีณิ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส ตโย ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘จตฺตาริ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต ทฺเว ชนา อาคมํสุ. เตสํ จตฺตาริ จตฺตาริ ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘ปฺจ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกปิ นาคจฺฉิ. ‘ฉ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส ฉ ปฏิวีเส ทาเปสิ. ‘สตฺต สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺเต เอโกว อาคจฺฉิ. ตสฺส สตฺต ปฏิวีเส ทาเปสิ.

ตตฺถ ปณฺฑิโต ราชา วิย อนุตฺตโร ธมฺมราชา. สิปฺปชานนกา วิย จิตฺตจิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา ธมฺมา. สิปฺปานุจฺฉวิกเวตนวฑฺฒนํ วิย กิจฺจวเสน เตสํ เตสํ ธมฺมานํ วิภตฺติอาโรปนํ.

สพฺเพปิ ปเนเต ธมฺมา ผสฺสปฺจกวเสน ฌานงฺควเสน อินฺทฺริยวเสน มคฺควเสน พลวเสน มูลวเสน กมฺมปถวเสน โลกปาลวเสน ปสฺสทฺธิวเสน ลหุตาวเสน มุทุตาวเสน กมฺมฺตาวเสน ปาคุฺตาวเสน อุชุกตาวเสน สติสมฺปชฺวเสน สมถวิปสฺสนาวเสน ปคฺคาหาวิกฺเขปวเสนาติ สตฺตรส ราสโย โหนฺตีติ.

ธมฺมุทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.

กามาวจรกุสลํ นิทฺเทสวารกถา

. อิทานิ ตาเนว ธมฺมุทฺเทสวาเร ปาฬิอารุฬฺหานิ ฉปฺปฺาส ปทานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’ติอาทินา นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ.

ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว อยมตฺโถ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติ วุตฺโต, กตโม โส ผสฺโสติ อิมินา นเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโสติ ตสฺมึ สมเย โย ผุสนกวเสน อุปฺปนฺโน ผสฺโส, โส ผสฺโสติ. อิทํ ผสฺสสฺส สภาวทีปนโต สภาวปทํ นาม. ผุสนาติ ผุสนากาโร. สมฺผุสนาติ ผุสนากาโรว อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺโต. สมฺผุสิตตฺตนฺติ สมฺผุสิตภาโว. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – โย ตสฺมึ สมเย ผุสนกวเสน ผสฺโส, ยา ตสฺมึ สมเย ผุสนา, ยา ตสฺมึ สมเย สมฺผุสนา, ยํ ตสฺมึ สมเย สมฺผุสิตตฺตํ; อถ วา, โย ตสฺมึ สมเย ผุสนวเสน ผสฺโส, อฺเนาปิ ปริยาเยน ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตนฺติ วุจฺจติ, อยํ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติ. เวทนาทีนมฺปิ นิทฺเทเสสุ อิมินาว นเยน ปทโยชนา เวทิตพฺพา.

อยํ ปเนตฺถ สพฺพสาธารโณ วิภตฺติวินิจฺฉโย. ยานิมานิ ภควตา ปมํ กามาวจรํ กุสลํ มหาจิตฺตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺเตน อติเรกปณฺณาสปทานิ มาติกาวเสน เปตฺวา ปุน เอเกกปทํ คเหตฺวา วิภตฺตึ อาโรปิตานิ, ตานิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺตานิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ; นานา โหนฺตานิ จตูหิ การเณหิ นานา ภวนฺติ. อปรทีปนา ปเนตฺถ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. กถํ? เอตานิหิ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสนาติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตนฺติ เอวํ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ เอโกว โกโธ พฺยฺชนวเสน เอวํ วิภตฺตึ คโต. จาโร วิจาโร อนุวิจาโร อุปวิจาโรติ เอวํ ปน อุปสคฺควเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุฺํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขาติ เอวํ อตฺถวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. เตสุ ผสฺสปทนิทฺเทเส ตาว อิมา ติสฺโสปิ วิภตฺติโย ลพฺภนฺติ. ‘ผสฺโส ผุสนา’ติ หิ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ โหติ. ‘สมฺผุสนา’ติ อุปสคฺควเสน. ‘สมฺผุสิตตฺต’นฺติ อตฺถวเสน. อิมินา นเยน สพฺพปทนิทฺเทเสสุ วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.

นานา โหนฺตานิปิ ปน นามนานตฺเตน ลกฺขณนานตฺเตน กิจฺจนานตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตนาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ นานา โหนฺติ. ตตฺถ กตโม ตสฺมึ สมเย พฺยาปาโท โหติ? โย ตสฺมึ สมเย โทโส ทุสฺสนาติ (ธ. ส. ๔๑๙) เอตฺถ พฺยาปาโทติ วา, โทโสติ วา, ทฺเวปิ เอเต โกโธ เอว, นาเมน นานตฺตํ คตาติ. เอวํ ‘นามนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ราสฏฺเน จ ปฺจปิ ขนฺธา เอโกว ขนฺโธ โหติ. เอตฺถ ปน รูปํ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขณนานตฺเตน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. เอวํ ‘ลกฺขณนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา – ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย…เป… จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหตี’’ติ (วิภ. ๓๙๐; ที. นิ. ๒.๔๐๒) เอกเมว วีริยํ กิจฺจนานตฺเตน จตูสุ าเนสุ อาคตํ. เอวํ ‘กิจฺจนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

จตฺตาโร อสทฺธมฺมา – โกธครุตา น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา น สทฺธมฺมครุตาติ, เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๔๔) ปน ‘ปฏิกฺเขปนานตฺเตน’ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อิมานิ ปน จตฺตาริ นานตฺตานิ น ผสฺเสเยว ลพฺภนฺติ, สพฺเพสุปิ ผสฺสปฺจกาทีสุ ลพฺภนฺติ. ผสฺสสฺส หิ ผสฺโสติ นามํ…เป… จิตฺตสฺส จิตฺตนฺติ. ผสฺโส จ ผุสนลกฺขโณ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณํ. ตถา ผสฺโส ผุสนกิจฺโจ, เวทนา อนุภวนกิจฺจา, สฺา สฺชานนกิจฺจา, เจตนา เจตยิตกิจฺจา, วิฺาณํ วิชานนกิจฺจนฺติ. เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ปฏิกฺเขปนานตฺตํ ผสฺสปฺจมเก นตฺถิ. อโลภาทินิทฺเทเส ปน อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺตนฺติอาทินา นเยน ลพฺภตีติ เอวํ ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ ลพฺภมานวเสน จตุพฺพิธมฺปิ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อปรทีปนา ปน ปทตฺถุติ วา โหติ ทฬฺหีกมฺมํ วาติ เอวํ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย หิ สกิเมว ผสฺโสติ วุตฺเต เอตํ ปทํ ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม น โหติ. ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺต’นฺติ วุตฺเต ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม โหติ. ยถา หิ ทหรกุมารํ นฺหาเปตฺวา, มโนรมํ วตฺถํ ปริทหาเปตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธาเปตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อถสฺส นลาเฏ เอกเมว มโนสิลาพินฺทุํ กเรยฺยุํ, ตสฺส น เอตฺตาวตา จิตฺตติลโก นาม โหติ. นานาวณฺเณหิ ปน ปริวาเรตฺวา พินฺทูสุ กเตสุ จิตฺตติลโก นาม โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ ‘ปทตฺถุติ’ นาม.

พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน จ ปุนปฺปุนํ ภณนเมว ทฬฺหีกมฺมํ นาม. ยถา หิ ‘อาวุโส’ติ วา ‘ภนฺเต’ติ วา ‘ยกฺโข’ติ วา ‘สปฺโป’ติ วา วุตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ. ‘อาวุโส อาวุโส’‘ภนฺเต ภนฺเต’‘ยกฺโข ยกฺโข’‘สปฺโป สปฺโป’ติ วุตฺเต ปน ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหติ. เอวเมว สกิเทว ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย ‘ผสฺโส’ติ วุตฺเต ปทํ ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ. ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺต’นฺติ วุตฺเตเยว ‘ทฬฺหีกมฺมํ’ นาม โหตีติ. เอวํ อปรทีปนา ทฺเว านานิ คจฺฉติ. เอตสฺสาปิ วเสน ลพฺภมานกปทนิทฺเทเสสุ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติ ยสฺมึ สมเย ปมํ กามาวจรํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สมเย อยํ ผสฺโส นาม โหตีติ อตฺโถ. อยํ ตาว ผสฺสปทนิทฺเทสสฺส วณฺณนา. อิโต ปเรสุ ปน เวทนาทีนํ ปทานํ นิทฺเทเสสุ วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. เสสํ อิธ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

. ยํ ตสฺมึ สมเยติ เอตฺถ กิฺจาปิ กตมา ตสฺมึ สมเย เวทนา โหตีติ อารทฺธํ, ‘สาตปทวเสน ปน ‘ย’นฺติ วุตฺตํ. ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชนฺติ เอตฺถ ‘ตชฺชา’ วุจฺจติ ตสฺส สาตสุขสฺส อนุจฺฉวิกา สารุปฺปา. อนุจฺฉวิกตฺโถปิ หิ อยํ ‘ตชฺชา’-สทฺโท โหติ. ยถาห – ‘‘ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปํ กถํ มนฺเตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖). เตหิ วา รูปาทีหิ อารมฺมเณหิ อิมสฺส จ สุขสฺส ปจฺจเยหิ ชาตาติปิ ตชฺชา. มโนวิฺาณเมว นิสฺสตฺตฏฺเน ธาตูติ มโนวิฺาณธาตุ. สมฺผสฺสโต ชาตํ, สมฺผสฺเส วา ชาตนฺติ สมฺผสฺสชํ. จิตฺตนิสฺสิตตฺตา เจตสิกํ. มธุรฏฺเน สาตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ตสฺมึ สมเย ยถาวุตฺเตน อตฺเถน ตชฺชาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺผสฺสชํ เจตสิกํ สาตํ, อยํ ตสฺมึ สมเย เวทนา โหตีติ. เอวํ สพฺพปเทหิ สทฺธึ โยชนา เวทิตพฺพา.

อิทานิ เจตสิกํ สุขนฺติอาทีสุ เจตสิกปเทน กายิกสุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน เจตสิกํ ทุกฺขํ. เจโตสมฺผสฺสชนฺติ จิตฺตสมฺผสฺเส ชาตํ. สาตํ สุขํ เวทยิตนฺติ สาตํ เวทยิตํ, น อสาตํ เวทยิตํ; สุขํ เวทยิตํ, น ทุกฺขํ เวทยิตํ. ปรโต ตีณิ ปทานิ อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตานิ. สาตา เวทนา, น อสาตา; สุขา เวทนา, น ทุกฺขาติ. อยเมว ปเนตฺถ อตฺโถ.

. สฺานิทฺเทเส ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ ตสฺสากุสลสฺาย อนุจฺฉวิกาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺผสฺสมฺหิ ชาตา. สฺาติ สภาวนามํ. สฺชานนาติ สฺชานนากาโร. สฺชานิตตฺตนฺติ สฺชานิตภาโว.

. เจตนานิทฺเทเสปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺโพ.

จิตฺตนิทฺเทเส จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม ‘มานโส’ติ วุตฺโต.

‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;

อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํ กยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙);

เอตฺถ อรหตฺตํ ‘มานส’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘มโนว’ มานสํ. พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.

หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗; สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต) เอตฺถ อุโร หทยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘หทย’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ. ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ, คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย, โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ, ปณฺฑรนฺตฺเวว วุตฺตํ.

มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคฺคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’นฺติ. ตตฺถ นิวาสานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.

ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณานฏฺเนปิ อายตนํ. ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. มนินฺทฺริยํ วุตฺตตฺถเมว.

วิชานาตีติ วิฺาณํ วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ (อ. นิ. ๔.๕๑). เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต รุกฺขํ ฉินฺทตีติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รุฬฺหิโต วิฺาณกฺขนฺโธติ วุตฺตํ.

ตชฺชามโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ. อิติ อิมสฺมึ ผสฺสปฺจมเก ผสฺโส ตาว ยสฺมา ผสฺโส เอว, น ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสโช, จิตฺตฺจ ยสฺมา ตชฺชามโนวิฺาณธาตุ เอว, ตสฺมา อิมสฺมึ ปททฺวเย ‘ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา’ติ ปฺตฺติ น อาโรปิตา. วิตกฺกปทาทีสุ ปน ลพฺภมานาปิ อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา น อุทฺธฏา.

อิเมสฺจ ปน ผสฺสปฺจมกานํ ธมฺมานํ ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ วินิพฺโภคํ กตฺวา ปฺตฺตึ อุทฺธรมาเนน ภควตา ทุกฺกรํ กตํ. นานาอุทกานฺหิ นานาเตลานํ วา เอกภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ทิวสํ นิมฺมถิตานํ วณฺณ คนฺธรสานํ นานตาย ทิสฺวา วา ฆายิตฺวา วา สายิตฺวา วา นานากรณํ สกฺกา ภเวยฺย าตุํ. เอวํ สนฺเตปิ ตํ ทุกฺกรนฺติ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ วินิพฺโภคํ กตฺวา ปฺตฺตึ อุทฺธรมาเนน อติทุกฺกรํ กตํ. เตนาห อายสฺมา นาคเสนตฺเถโร

‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตนฺติ. ‘กึ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กต’นฺติ. ‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ, ยํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ – อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’นฺติ. ‘โอปมฺมํ, ภนฺเต, กโรหี’ติ. ‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา หตฺถปุเฏน อุทกํ คเหตฺวา ชิวฺหาย สายิตฺวา ชาเนยฺย นุ โข, มหาราช, โส ปุริโส – อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนาย อุทกํ, อิทํ อจิรวติยา อุทกํ, อิทํ สรภุยา อุทกํ, อิทํ มหิยา อุทก’นฺติ? ‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, ชานิตุ’นฺติ. ‘ตโต ทุกฺกรตรํ โข, มหาราช, ภควตา กตํ ยํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ…เป… อิทํ จิตฺต’’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๗.๑๖).

. วิตกฺกนิทฺเทเส ตกฺกนวเสน ตกฺโก. ตสฺส ติตฺตกํ ตกฺเกสิ กุมฺภํ ตกฺเกสิ สกฏํ ตกฺเกสิ โยชนํ ตกฺเกสิ อทฺธโยชนํ ตกฺเกสีติ เอวํ ตกฺกนวเสน ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อิทํ ตกฺกสฺส สภาวปทํ. วิตกฺกนวเสน วิตกฺโก. พลวตรตกฺกสฺเสตํ นามํ. สุฏฺุ กปฺปนวเสน สงฺกปฺโป. เอกคฺคํ จิตฺตํ อารมฺมเณ อปฺเปตีติ อปฺปนา. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. พลวตรา วา อปฺปนา พฺยปฺปนา. อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ ปติฏฺาเปตีติ เจตโส อภินิโรปนา. ยาถาวตาย นิยฺยานิกตาย จ กุสลภาวปฺปตฺโต ปสตฺโถ สงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป.

. วิจารนิทฺเทเส อารมฺมเณ จรณกวเสน จาโร. อิทมสฺส สภาวปทํ. วิจรณวเสน วิจาโร. อนุคนฺตฺวา วิจรณวเสน อนุวิจาโร. อุปคนฺตฺวา วิจรณวเสน อุปวิจาโรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทานิ วฑฺฒิตานิ. อารมฺมเณ จิตฺตํ, สรํ วิย ชิยาย, อนุสนฺทหิตฺวา ปนโต จิตฺตสฺส อนุสนฺธานตา. อารมฺมณํ อนุเปกฺขมาโน วิย ติฏฺตีติ อนุเปกฺขนตา. วิจรณวเสน วา อุเปกฺขนตา อนุเปกฺขนตา.

. ปีตินิทฺเทเส ปีตีติ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโตกรณํ โมทนาติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ปีติ ธมฺมานํ เอกโตกรเณน โมทนา. อุปสคฺควเสน ปน มณฺเฑตฺวา อาโมทนา ปโมทนาติ วุตฺตา. หาเสตีติ หาโส. ปหาเสตีติ ปหาโส. หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ; ธนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา วิตฺตีติ วุตฺตา. ตุฏฺิสภาวสณฺิตาย ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา อุทคฺโคติ วุจฺจติ. อุทคฺคสฺส ภาโว โอทคฺยํ. อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม น โหติ, อภิรทฺธสฺส ปน สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม โหติ. อิติ อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา, สกมนตา. สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนโส ภาโว, เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตา.

๑๑. เอกคฺคตานิทฺเทเส อจลภาเวน อารมฺมเณ ติฏฺตีติ ิติ. ปรโต ปททฺวยํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. อปิจ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมณมฺหิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ติฏฺตีติ สณฺิติ. อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิติ. กุสลปกฺขสฺมิฺหิ จตฺตาโร ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ – สทฺธา สติ สมาธิ ปฺาติ. เตเนว สทฺธา โอกปฺปนาติ วุตฺตา, สติ อปิลาปนตาติ, สมาธิ อวฏฺิตีติ, ปฺา ปริโยคาหนาติ. อกุสลปกฺเข ปน ตโย ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ – ตณฺหา ทิฏฺิ อวิชฺชาติ. เตเนว เต โอฆาติ วุตฺตา. จิตฺเตกคฺคตา ปเนตฺถ น พลวตี โหติ. ยถา หิ รชุฏฺานฏฺาเน อุทเกน สิฺจิตฺวา สมฺมฏฺเ โถกเมว กาลํ รโช สนฺนิสีทติ, สุกฺขนฺเต สุกฺขนฺเต ปุน ปกติภาเวน วุฏฺาติ, เอวเมว อกุสลปกฺเข จิตฺเตกคฺคตา น พลวตี โหติ. ยถา ปน ตสฺมึ าเน ฆเฏหิ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กุทาเลน ขนิตฺวา อาโกฏนมทฺทนฆฏฺฏนานิ กตฺวา อุปลิตฺเต อาทาเส วิย ฉายา ปฺายติ, วสฺสสตาติกฺกเมปิ ตํมุหุตฺตกตํ วิย โหติ, เอวเมว กุสลปกฺเข จิตฺเตกคฺคตา พลวตี โหติ.

อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโร. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว คจฺฉนฺตํ จิตฺตํ วิกฺขิปติ นาม. อยํ ปน ตถาวิโธ วิกฺเขโป น โหตีติ อวิกฺเขโป. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว จ จิตฺตํ วิสาหฏํ นาม โหติ, อิโต จิโต จ หรียติ. อยํ ปน เอวํ อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโวติ อวิสาหฏมานสตา.

สมโถติ ติวิโธ สมโถ – จิตฺตสมโถ, อธิกรณสมโถ, สพฺพสงฺขารสมโถติ. ตตฺถ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิตฺเตกคฺคตา จิตฺตสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม จิตฺตจลนํ จิตฺตวิปฺผนฺทิตํ สมฺมติ วูปสมฺมติ, ตสฺมา โส จิตฺตสมโถติ วุจฺจติ. สมฺมุขาวินยาทิสตฺตวิโธ สมโถ อธิกรณสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม ตานิ ตานิ อธิกรณานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา โส อธิกรณสมโถติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน สพฺเพ สงฺขารา นิพฺพานํ อาคมฺม สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ อตฺเถ จิตฺตสมโถ อธิปฺเปโต. สมาธิลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. สมฺมาสมาธีติ ยาถาวสมาธิ นิยฺยานิกสมาธิ กุสลสมาธิ.

๑๒. สทฺธินฺทฺริยนิทฺเทเส พุทฺธาทิคุณานํ สทฺทหนวเสน สทฺธา. พุทฺธาทีนิ วา รตนานิ สทฺทหติ ปตฺติยายตีติ สทฺธา. สทฺทหนาติ สทฺทหนากาโร. พุทฺธาทีนํ คุเณ โอคาหติ, ภินฺทิตฺวา วิย อนุปวิสตีติ โอกปฺปนา. พุทฺธาทีนํ คุเณสุ เอตาย สตฺตา อติวิย ปสีทนฺติ, สยํ วา อภิปฺปสีทตีติ อภิปฺปสาโท. อิทานิ ยสฺมา สทฺธินฺทฺริยาทีนํ สมาสปทานํ วเสน อฺสฺมึ ปริยาเย อารทฺเธ อาทิปทํ คเหตฺวาว ปทภาชนํ กรียติ – อยํ อภิธมฺเม ธมฺมตา – ตสฺมา ปุน สทฺธาติ วุตฺตํ. ยถา วา อิตฺถิยา อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน สทฺธาว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยนฺติ. เอวํ สมานาธิกรณภาวาปนตฺถมฺปิ ปุน สทฺธาติ วุตฺตํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ อาทิปทสฺส ปุน วจเน ปโยชนํ เวทิตพฺพํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สทฺธินฺทฺริยํ. อสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ.

๑๓. วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส เจตสิโกติ อิทํ วีริยสฺส นิยมโต เจตสิกภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. อิทฺหิ วีริยํ ‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, กายิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ เจตสิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคติ. อิติหิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๓) เอวมาทีสุ สุตฺเตสุ จงฺกมาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา ‘กายิก’นฺติ วุจฺจมานมฺปิ กายวิฺาณํ วิย กายิกํ นาม นตฺถิ, เจตสิกเมว ปเนตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘เจตสิโก’ติ วุตฺตํ. วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ. อิมินา เสสารมฺเภ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ ‘อารมฺภ’-สทฺโท กมฺเม อาปตฺติยํ กิริยายํ วีริเย หึสาย วิโกปเนติ อเนเกสุ อตฺเถสุ อาคโต.

‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;

อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว’’ติ. (สุ. นิ. ๗๔๙);

เอตฺถ หิ กมฺมํ ‘อารมฺโภ’ติ อาคตํ. ‘‘อารมฺภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒; ปุ. ป. ๑๙๑) เอตฺถ อาปตฺติ. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๒๐) เอตฺถ ยูปุสฺสาปนาทิกิริยา. ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ ยุฺชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) เอตฺถ วีริยํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑-๕๒) เอตฺถ หึสา. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐; ม. นิ. ๑.๒๙๓) เอตฺถ เฉทนภฺชนาทิกํ วิโกปนํ. อิธ ปน วีริยเมว อธิปฺเปตํ. เตนาห – ‘วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ’ติ. วีริยฺหิ อารมฺภนกวเสน อารมฺโภติ วุจฺจติ. อิทมสฺส สภาวปทํ. โกสชฺชโต นิกฺขมนวเสน นิกฺกโม. ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนวเสน ปรกฺกโม. อุคฺคนฺตฺวา ยมนวเสน อุยฺยาโม. พฺยายมนวเสน วายาโม. อุสฺสาหนวเสน อุสฺสาโห. อธิมตฺตุสฺสาหนวเสน อุสฺโสฬฺหี. ถิรภาวฏฺเน ถาโม. จิตฺตเจตสิกานํ ธารณวเสน อวิจฺเฉทโต วา ปวตฺตนวเสน กุสลสนฺตานํ ธาเรตีติ ธิติ.

อปโร นโย – นิกฺกโม เจโส กามานํ ปนุทนาย, ปรกฺกโม เจโส พนฺธนจฺเฉทาย, อุยฺยาโม เจโส โอฆนิตฺถรณาย, วายาโม เจโส ปารงฺคมนฏฺเน, อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมฏฺเน, อุสฺโสฬฺหี เจโส อธิมตฺตฏฺเน, ถาโม เจโส ปลิฆุคฺฆาฏนตาย, ธิติ เจโส อวฏฺิติการิตายาติ.

‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒, ๒๓๗; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๕๔) เอวํ ปวตฺติกาเล อสิถิลปรกฺกมวเสน อสิถิลปรกฺกมตา; ถิรปรกฺกโม, ทฬฺหปรกฺกโมติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตํ วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ฉนฺทํ น นิกฺขิปติ, ธุรํ น นิกฺขิปติ, น โอตาเรติ, น วิสฺสชฺเชติ, อโนสกฺกิตมานสตํ อาวหติ, ตสฺมา อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตาติ วุตฺตํ. ยถา ปน ตชฺชาติเก อุทกสมฺภินฺนฏฺาเน ธุรวาหโคณํ คณฺหถาติ วทนฺติ, โส ชณฺณุนา ภูมึ อุปฺปีเฬตฺวาปิ ธุรํ วหติ, ภูมิยํ ปติตุํ น เทติ, เอวเมว วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ธุรํ อุกฺขิปติ ปคฺคณฺหาติ, ตสฺมา ธุรสมฺปคฺคาโหติ วุตฺตํ. ปคฺคหลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ วีริยินฺทฺริยํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. ยาถาวนิยฺยานิกกุสลวายามตาย สมฺมาวายาโม.

๑๔. สตินฺทฺริยนิทฺเทเส สรณกวเสน สติ. อิทํ สติยา สภาวปทํ. ปุนปฺปุนํ สรณโต อนุสฺสรณวเสน อนุสฺสติ. อภิมุขํ คนฺตฺวา วิย สรณโต ปฏิสรณวเสน ปฏิสฺสติ. อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตมตฺตเมตํ. สรณากาโร สรณตา. ยสฺมา ปน สรณตาติ ติณฺณํ สรณานมฺปิ นามํ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตุํ ปุน สติคฺคหณํ กตํ. สติสงฺขาตา สรณตาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สุตปริยตฺตสฺส ธารณภาวโต ธารณตา. อนุปวิสนสงฺขาเตน โอคาหนฏฺเน อปิลาปนภาโว อปิลาปนตา. ยถา หิ ลาพุกฏาหาทีนิ อุทเก ปฺลวนฺติ, น อนุปวิสนฺติ, น ตถา อารมฺมเณ สติ. อารมฺมณฺเหสา อนุปวิสติ, ตสฺมา อปิลาปนตาติ วุตฺตา. จิรกตจิรภาสิตานํ อสมฺมุสฺสนภาวโต อสมฺมุสฺสนตา. อุปฏฺานลกฺขเณ โชตนลกฺขเณ จ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. สติสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. ปมาเท น กมฺปตีติ สติพลํ. ยาถาวสติ นิยฺยานิกสติ กุสลสตีติ สมฺมาสติ.

๑๖. ปฺินฺทฺริยนิทฺเทเส ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา. เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติปิ ปฺา. อิทมสฺสา สภาวปทํ. ปชานนากาโร ปชานนา. อนิจฺจาทีนิ วิจินาตีติ วิจโย. ปวิจโยติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. จตุสจฺจธมฺเม วิจินาตีติ ธมฺมวิจโย. อนิจฺจาทีนํ สลฺลกฺขณวเสน สลฺลกฺขณา. สาเยว ปุน อุปสคฺคนานตฺเตน อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณาติ วุตฺตา. ปณฺฑิตสฺส ภาโว ปณฺฑิจฺจํ. กุสลสฺส ภาโว โกสลฺลํ. นิปุณสฺส ภาโว เนปุฺํ. อนิจฺจาทีนํ วิภาวนวเสน เวภพฺยา. อนิจฺจาทีนํ จินฺตนกวเสน จินฺตา. ยสฺส วา อุปฺปชฺชติ ตํ อนิจฺจาทีนิ จินฺตาเปตีติปิ จินฺตา. อนิจฺจาทีนิ อุปปริกฺขตีติ อุปปริกฺขา. ภูรีติ ปถวิยา นามํ. อยมฺปิ สณฺหฏฺเน วิตฺถฏฏฺเน จ ภูรี วิยาติ ภูรี. เตน วุตฺตํ – ‘‘ภูรี วุจฺจติ ปถวี. ตาย ปถวีสมาย วิตฺถฏาย วิปุลาย ปฺาย สมนฺนาคโตติ ภูริปฺโติ (มหานิ. ๒๗). อปิจ ปฺาย เอตํ อธิวจนํ ภูรี’’ติ. ภูเต อตฺเถ รมตีติปิ ภูรี. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา. ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ยสฺส อุปฺปชฺชติ ตํ อตฺตหิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ ปริเนตีติ ปริณายิกา. อนิจฺจาทิวเสน ธมฺเม วิปสฺสตีติ วิปสฺสนา. สมฺมา ปกาเรหิ อนิจฺจาทีนิ ชานาตีติ สมฺปชฺํ. อุปฺปถปฏิปนฺเน สินฺธเว วีถิอาโรปนตฺถํ ปโตโท วิย อุปฺปเถ ธาวนกํ กูฏจิตฺตํ วีถิอาโรปนตฺถํ วิชฺฌตีติ ปโตโท วิย ปโตโท. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ปฺาสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. กิเลสจฺเฉทนฏฺเน ปฺาว สตฺถํ ปฺาสตฺถํ. อจฺจุคฺคตฏฺเน ปฺาว ปาสาโท ปฺาปาสาโท.

อาโลกนฏฺเน ปฺาว อาโลโก ปฺาอาโลโก. โอภาสนฏฺเน ปฺาว โอภาโส ปฺาโอภาโส. ปชฺโชตนฏฺเน ปฺาว ปชฺโชโต ปฺาปชฺโชโต. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา เอโกภาสา เอกปชฺโชตา โหติ, เตเนตํ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน ตีสุ ปเทสุ เอกปเทนปิ เอตสฺมึ อตฺเถ สิทฺเธ, ยานิ ปเนตานิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาโลกา. กตเม จตฺตาโร? จนฺทาโลโก สูริยาโลโก อคฺยาโลโก ปฺาโลโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาโลกา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ อาโลกานํ ยทิทํ ปฺาโลโก’’. ตถา ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, โอภาสา…เป… จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปชฺโชตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๔๔) สตฺตานํ อชฺฌาสยวเสน สุตฺตานิ เทสิตานิ, ตทนุรูเปเนว อิธาปิ เทสนา กตา. อตฺโถ หิ อเนเกหิ อากาเรหิ วิภชฺชมาโน สุวิภตฺโต โหติ. อฺถา จ อฺโ พุชฺฌติ, อฺถา จ อฺโติ.

รติกรณฏฺเน ปน รติทายกฏฺเน รติชนกฏฺเน จิตฺตีกตฏฺเน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน อตุลฏฺเน อโนมสตฺตปริโภคฏฺเน จ ปฺาว รตนํ ปฺารตนํ. น เตน สตฺตา มุยฺหนฺติ, สยํ วา อารมฺมเณ น มุยฺหตีติ อโมโห. ธมฺมวิจยปทํ วุตฺตตฺถเมว. กสฺมา ปเนตํ ปุน วุตฺตนฺติ? อโมหสฺส โมหปฏิปกฺขภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ยฺวายํ อโมโห โส น เกวลํ โมหโต อฺโ ธมฺโม, โมหสฺส ปน ปฏิปกฺโข, ธมฺมวิจยสงฺขาโต อโมโห นาม อิธ อธิปฺเปโตติ. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวนิยฺยานิกกุสลทิฏฺิ.

๑๙. ชีวิตินฺทฺริยนิทฺเทเส โย เตสํ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ เตสํ สมฺปยุตฺตกานํ อรูปธมฺมานํ โย อายาปนฏฺเน อายุ, ตสฺมิฺหิ สติ อรูปธมฺมา อยนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา อายูติ วุจฺจติ. อิทมสฺส สภาวปทํ. ยสฺมา ปเนเต ธมฺมา อายุสฺมึเยว สติ ติฏฺนฺติ ยเปนฺติ ยาเปนฺติ อิริยนฺติ วตฺตนฺติ ปาลยนฺติ, ตสฺมา ิตีติอาทีนิ วุตฺตานิ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – เอตาย ติฏฺนฺตีติ ิติ. ยเปนฺตีติ ยปนา. ตถา ยาปนา. เอวํ พุชฺฌนฺตานํ ปน วเสน ปุริมปเท รสฺสตฺตํ กตํ. เอตาย อิริยนฺตีติ อิริยนา. วตฺตนฺตีติ วตฺตนา. ปาลยนฺตีติ ปาลนา. ชีวนฺติ เอเตนาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ.

๓๐. หิริพลนิทฺเทเส ยํ ตสฺมึ สมเยติ เยน ธมฺเมน ตสฺมึ สมเย. ลิงฺควิปลฺลาสํ วา กตฺวา โย ธมฺโม ตสฺมึ สมเยติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. หิริยิตพฺเพนาติ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. หิริยิตพฺพยุตฺตกํ กายทุจฺจริตาทิธมฺมํ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. สมาปตฺติยาติ อิทมฺปิ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ. เตสํ ธมฺมานํ สมาปตฺตึ ปฏิลาภํ สมงฺคีภาวํ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ.

๓๑. โอตฺตปฺปพลนิทฺเทเส โอตฺตปฺปิตพฺเพนาติ เหตฺวตฺเถ กรณวจนํ. โอตฺตปฺปิตพฺพยุตฺตเกน โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูเตน กายทุจฺจริตาทินา วุตฺตปฺปการาย จ สมาปตฺติยา โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูตาย โอตฺตปฺปติ, ภายตีติ อตฺโถ.

๓๒. อโลภนิทฺเทเส อลุพฺภนกวเสน อโลโภ. น ลุพฺภตีติปิ อโลโภ. อิทมสฺส สภาวปทํ. อลุพฺภนาติ อลุพฺภนากาโร. โลภสมงฺคี ปุคฺคโล ลุพฺภิโต นาม. น ลุพฺภิโต อลุพฺภิโต. อลุพฺภิตสฺส ภาโว อลุพฺภิตตฺตํ. สาราคปฏิปกฺขโต น สาราโคติ อสาราโค. อสารชฺชนาติ อสารชฺชนากาโร. อสารชฺชิตสฺส ภาโว อสารชฺชิตตฺตํ. น อภิชฺฌายตีติ อนภิชฺฌา. อโลโภ กุสลมูลนฺติ อโลภสงฺขาตํ กุสลมูลํ. อโลโภ หิ กุสลานํ ธมฺมานํ มูลํ ปจฺจยฏฺเนาติ กุสลมูลํ. กุสลฺจ ตํ ปจฺจยฏฺเน มูลฺจาติปิ กุสลมูลํ.

๓๓. อโทสนิทฺเทเส อทุสฺสนกวเสน อโทโส. น ทุสฺสตีติปิ อโทโส. อิทมสฺส สภาวปทํ. อทุสฺสนาติ อทุสฺสนากาโร. อทุสฺสิตสฺส ภาโว อทุสฺสิตตฺตํ. พฺยาปาทปฏิปกฺขโต น พฺยาปาโทติ อพฺยาปาโท. โกธทุกฺขปฏิปกฺขโต น พฺยาปชฺโชติ อพฺยาปชฺโช. อโทสสงฺขาตํ กุสลมูลํ อโทโส กุสลมูลํ. ตํ วุตฺตตฺถเมว.

๔๐-๔๑. กายปสฺสทฺธินิทฺเทสาทีสุ ยสฺมา กาโยติ ตโย ขนฺธา อธิปฺเปตา, ตสฺมา เวทนากฺขนฺธสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ปสฺสมฺภนฺติ เอตาย เต ธมฺมา, วิคตทรถา ภวนฺติ, สมสฺสาสปฺปตฺตาติ ปสฺสทฺธิ. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ปสฺสมฺภนาติ ปสฺสมฺภนากาโร. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ปสฺสทฺธิสมงฺคิตาย ปฏิปฺปสฺสมฺภิตสฺส ขนฺธตฺตยสฺส ภาโว ปฏิปฺปสฺสมฺภิตตฺตํ. สพฺพปเทหิปิ ติณฺณํ ขนฺธานํ กิเลสทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ เอว กถิตา. ทุติยนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ กถิตา.

๔๒-๔๓. ลหุตาติ ลหุตากาโร. ลหุปริณามตาติ ลหุปริณาโม เอเตสํ ธมฺมานนฺติ ลหุปริณามา; เตสํ ภาโว ลหุปริณามตา; สีฆํ สีฆํ ปริวตฺตนสมตฺถตาติ วุตฺตํ โหติ. อทนฺธนตาติ ครุภาวปฏิกฺเขปวจนเมตํ; อภาริยตาติ อตฺโถ. อวิตฺถนตาติ มานาทิกิเลสภารสฺส อภาเวน อถทฺธตา. เอวํ ปเมน ติณฺณํ ขนฺธานํ ลหุตากาโร กถิโต. ทุติเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส ลหุตากาโร กถิโต.

๔๔-๔๕. มุทุตาติ มุทุภาโว. มทฺทวตาติ มทฺทวํ วุจฺจติ สินิทฺธํ, มฏฺํ; มทฺทวสฺส ภาโว มทฺทวตา. อกกฺขฬตาติ อกกฺขฬภาโว. อกถินตาติ อกถินภาโว. อิธาปิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส มุทุตากาโรว กถิโต.

๔๖-๔๗. กมฺมฺตาติ กมฺมนิ สาธุตา; กุสลกิริยาย วินิโยคกฺขมตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวยํ พฺยฺชนวเสน วฑฺฒิตํ. ปททฺวเยนาปิ หิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส กมฺมนิยากาโรว กถิโต.

๔๘-๔๙. ปคุณตาติ ปคุณภาโว, อนาตุรตา นิคฺคิลานตาติ อตฺโถ. เสสปททฺวยํ พฺยฺชนวเสน วฑฺฒิตํ. อิธาปิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺส นิคฺคิลานากาโรว กถิโต.

๕๐-๕๑. อุชุกตาติ อุชุกภาโว, อุชุเกนากาเรน ปวตฺตนตาติ อตฺโถ. อุชุกสฺส ขนฺธตฺตยสฺส วิฺาณกฺขนฺธสฺส จ ภาโว อุชุกตา. อชิมฺหตาติ โคมุตฺตวงฺกภาวปฏิกฺเขโป. อวงฺกตาติ จนฺทเลขาวงฺกภาวปฏิกฺเขโป. อกุฏิลตาติ นงฺคลโกฏิวงฺกภาวปฏิกฺเขโป.

โย หิ ปาปํ กตฺวาว ‘น กโรมี’ติ ภาสติ, โส คนฺตฺวา ปจฺโจสกฺกนตาย ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม โหติ. โย ปาปํ กโรนฺโตว ‘ภายามหํ ปาปสฺสา’ติ ภาสติ, โส เยภุยฺเยน กุฏิลตาย ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม โหติ. โย ปาปํ กโรนฺโตว ‘โก ปาปสฺส น ภาเยยฺยา’ติ ภาสติ, โส นาติกุฏิลตาย ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก’ นาม โหติ. ยสฺส วา ตีณิปิ กมฺมทฺวารานิ อสุทฺธานิ, โส ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม โหติ. ยสฺส ยานิ กานิจิ ทฺเว, โส ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม. ยสฺส ยํกิฺจิ เอกํ, โส ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก นาม.

ทีฆภาณกา ปนาหุ – เอกจฺโจ ภิกฺขุ สพฺพวเย เอกวีสติยา อเนสนาสุ, ฉสุ จ อโคจเรสุ จรติ, อยํ ‘โคมุตฺตวงฺโก’ นาม. เอโก ปมวเย จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปริปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, มชฺฌิมวยปจฺฉิมวเยสุ ปุริมสทิโส, อยํ ‘จนฺทเลขาวงฺโก’ นาม. เอโก ปมวเย มชฺฌิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ปจฺฉิมวเย ปุริมสทิโส. อยํ ‘นงฺคลโกฏิวงฺโก’ นาม.

ตสฺส กิเลสวเสน เอวํ วงฺกสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว ชิมฺหตา วงฺกตา กุฏิลตาติ วุจฺจติ. ตาสํ ปฏิกฺเขปวเสน อชิมฺหตาทิกา วุตฺตา. ขนฺธาธิฏฺานาว เทสนา กตา. ขนฺธานฺหิ เอตา อชิมฺหตาทิกา, โน ปุคฺคลสฺสาติ. เอวํ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ ปุริมนเยน ติณฺณํ ขนฺธานํ, ปจฺฉิมนเยน วิฺาณกฺขนฺธสฺสาติ อรูปีนํ ธมฺมานํ นิกฺกิเลสตาย อุชุตากาโรว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

อิทานิ ยฺวายํ เยวาปนาติ อปฺปนาวาโร วุตฺโต, เตน ธมฺมุทฺเทสวาเร ทสฺสิตานํ ‘เยวาปนกานํ’เยว สงฺเขปโต นิทฺเทโส กถิโต โหตีติ.

นิทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.

เอตฺตาวตา ปุจฺฉา สมยนิทฺเทโส ธมฺมุทฺเทโส อปฺปนาติ อุทฺเทสวาเร จตูหิ ปริจฺเฉเทหิ, ปุจฺฉา สมยนิทฺเทโส ธมฺมุทฺเทโส อปฺปนาติ นิทฺเทสวาเร จตูหิ ปริจฺเฉเทหีติ อฏฺปริจฺเฉทปฏิมณฺฑิโต ธมฺมววตฺถานวาโร นิฏฺิโตว โหติ.

โกฏฺาสวาโร

๕๘-๑๒๐. อิทานิ ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตีติ สงฺคหวาโร อารทฺโธ. โส อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสานํ วเสน ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา’ติ เอวมาทิโก อุทฺเทโส. กตเม ตสฺมึ สมเย จตฺตาโร ขนฺธา’ติอาทิโก นิทฺเทโส. กตโม ตสฺมึ สมเย เวทนากฺขนฺโธติอาทิโก ปฏินิทฺเทโสติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อุทฺเทสวาเร จตฺตาโร ขนฺธาติอาทโย เตวีสติ โกฏฺาสา โหนฺติ. เตสํ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ ปมํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เย ตสฺมึ สมเย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา, เปตฺวา เยวาปนเก, ปาฬิอารุฬฺหา อติเรกปณฺณาสธมฺมา, เต สพฺเพปิ สงฺคยฺหมานา ราสฏฺเน จตฺตาโรว ขนฺธา โหนฺติ. เหฏฺา วุตฺเตน อายตนฏฺเน ทฺเว อายตนานิ โหนฺติ. สภาวฏฺเน สุฺตฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน ทฺเวว ธาตุโย โหนฺติ. ปจฺจยสงฺขาเตน อาหารฏฺเน ตโยเวตฺถ ธมฺมา อาหารา โหนฺติ. อวเสสา โน อาหารา.

‘กึ ปเนเต อฺมฺํ วา ตํสมุฏฺานรูปสฺส วา ปจฺจยา น โหนฺตี’ติ? ‘โน น โหนฺติ. อิเม ปน ตถา จ โหนฺติ, อฺถา จาติ สมาเนปิ ปจฺจยตฺเต อติเรกปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา อาหาราติ วุตฺตา. กถํ? เอเตสุ หิ ผสฺสาหาโร, เยสํ ธมฺมานํ อวเสสา จิตฺตเจตสิกา ปจฺจยา โหนฺติ, เตสฺจ ปจฺจโย โหติ, ติสฺโส จ เวทนา อาหรติ. มโนสฺเจตนาหาโร เตสฺจ ปจฺจโย โหติ ตโย จ ภเว อาหรติ. วิฺาณาหาโร เตสฺจ ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธินามรูปฺจ อาหรตี’ติ. ‘นนุ จ โส วิปาโกว อิทํ ปน กุสลวิฺาณ’นฺติ? ‘กิฺจาปิ กุสลวิฺาณํ, ตํสริกฺขตาย ปน วิฺาณาหาโร’ตฺเวว วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภกฏฺเน วา อิเม ตโย อาหาราติ วุตฺตา. อิเม หิ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ, กพฬีการาหาโร วิย รูปกายสฺส, อุปตฺถมฺภกปจฺจยา โหนฺติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๕).

อปโร นโย – อชฺฌตฺติกสนฺตติยา วิเสสปจฺจยตฺตา กพฬีการาหาโร จ อิเม จ ตโย ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา. วิเสสปจฺจโย หิ กพฬีการาหารภกฺขานํ สตฺตานํ รูปกายสฺส กพฬีกาโร อาหาโร; นามกาเย เวทนาย ผสฺโส, วิฺาณสฺส มโนสฺเจตนา, นามรูปสฺส วิฺาณํ. ยถาห –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อยํ กาโย อาหารฏฺิติโก, อาหารํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ, อนาหาโร โน ติฏฺติ’’ (สํ. นิ. ๕.๑๘๓). ตถา ผสฺสปจฺจยา เวทนา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ (สํ. นิ. ๒.๑).

อธิปติยฏฺเน ปน อฏฺเว ธมฺมา อินฺทฺริยานิ โหนฺติ, น อวเสสา. เตน วุตฺตํ – อฏฺินฺทฺริยานิ โหนฺตีติ. อุปนิชฺฌายนฏฺเน ปฺเจว ธมฺมา ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ปฺจงฺคิกํ ฌานํ โหตีติ.

นิยฺยานฏฺเน จ เหตฺวฏฺเน จ ปฺเจว ธมฺมา มคฺคงฺคานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหตีติ. กิฺจาปิ หิ อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค, โลกิยจิตฺเต ปน เอกกฺขเณ ติสฺโส วิรติโย น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ปฺจงฺคิโกติ วุตฺโต. ‘นนุ จ ‘‘ยถาคตมคฺโคติ โข, ภิกฺขุ, อริยสฺเสตํ อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๕) อิมสฺมึ สุตฺเต ‘ยเถว โลกุตฺตรมคฺโค อฏฺงฺคิโก, ปุพฺพภาควิปสฺสนามคฺโคปิ ตเถว อฏฺงฺคิโก’ติ ยถาคตวจเนน อิมสฺสตฺถสฺส ทีปิตตฺตา, โลกิยมคฺเคนาปิ อฏฺงฺคิเกน ภวิตพฺพนฺติ? น ภวิตพฺพํ. อยฺหิ สุตฺตนฺติกเทสนา นาม ปริยายเทสนา. เตนาห – ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑). อยํ ปน นิปฺปริยายเทสนา. โลกิยจิตฺตสฺมิฺหิ ติสฺโส วิรติโย เอกกฺขเณ น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ‘ปฺจงฺคิโก’ว วุตฺโตติ.

อกมฺปิยฏฺเน ปน สตฺเตว ธมฺมา พลานิ โหนฺติ. มูลฏฺเน ตโยว ธมฺมา เหตู. ผุสนฏฺเน เอโกว ธมฺโม ผสฺโส. เวทยิตฏฺเน เอโกว ธมฺโม เวทนา. สฺชานนฏฺเน เอโกว ธมฺโม สฺา. เจตยนฏฺเน เอโกว ธมฺโม เจตนา. จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอโกว ธมฺโม จิตฺตํ. ราสฏฺเน เจว เวทยิตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม เวทนากฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ สฺชานนฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม สฺากฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ อภิสงฺขรณฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม สงฺขารกฺขนฺโธ. ราสฏฺเน จ จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม วิฺาณกฺขนฺโธ. วิชานนฏฺเน เจว เหฏฺา วุตฺตอายตนฏฺเน จ เอกเมว มนายตนํ. วิชานนฏฺเน จ อธิปติยฏฺเน จ เอกเมว มนินฺทฺริยํ. วิชานนฏฺเน จ สภาวสุฺตนิสฺสตฺตฏฺเน จ เอโกว ธมฺโม มโนวิฺาณธาตุ นาม โหติ, น อวเสสา. เปตฺวา ปน จิตฺตํ, ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อวเสสา สพฺเพปิ ธมฺมา เอกํ ธมฺมายตนเมว, เอกา จ ธมฺมธาตุเยว โหตีติ.

เย วา ปน ตสฺมึ สมเยติ อิมินา ปน อปฺปนาวาเรน อิธาปิ เหฏฺา วุตฺตา เยวาปนกาว สงฺคหิตา. ยถา จ อิธ เอวํ สพฺพตฺถ. อิโต ปรฺหิ เอตฺตกมฺปิ น วิจารยิสฺสาม. นิทฺเทสปฏินิทฺเทสวาเรสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สงฺคหวาโร นิฏฺิโต.

โกฏฺาสวาโรติปิ เอตสฺเสว นามํ.

สุฺตวาโร

๑๒๑-๑๔๕. อิทานิ ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺตีติ สุฺตวาโร อารทฺโธ. โส อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ววตฺถิโต. ตตฺถ อุทฺเทสวาเร ‘ธมฺมา โหนฺตี’ติ อิมินา สทฺธึ จตุวีสติ โกฏฺาสา โหนฺติ. สพฺพโกฏฺาเสสุ จ ‘จตฺตาโร ทฺเว ตโย’ติ คณนปริจฺเฉโท น วุตฺโต. กสฺมา? สงฺคหวาเร ปริจฺฉินฺนตฺตา. ตตฺถ ปริจฺฉินฺนธมฺมาเยว หิ อิธาปิ วุตฺตา. น เหตฺถ สตฺโต วา ภาโว วา อตฺตา วา อุปลพฺภติ. ธมฺมาว เอเต ธมฺมมตฺตา อสารา อปริณายกาติ อิมิสฺสา สุฺตาย ทีปนตฺถํ วุตฺตา. ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ ปมํ มหากุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา อติเรกปณฺณาสธมฺมา สภาวฏฺเน ธมฺมา เอว โหนฺติ. น อฺโ โกจิ สตฺโต วา ภาโว วา โปโส วา ปุคฺคโล วา โหตีติ. ตถา ราสฏฺเน ขนฺธาว โหนฺตีติ. เอวํ ปุริมนเยเนว สพฺพปเทสุ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปน ฌานโต อฺํ ฌานงฺคํ, มคฺคโต วา อฺํ มคฺคงฺคํ นตฺถิ, ตสฺมา อิธ ‘ฌานํ โหติ, มคฺโค โหติ’ อิจฺเจว วุตฺตํ. อุปนิชฺฌายนฏฺเน หิ ฌานเมว เหตฺวฏฺเน มคฺโคว โหติ. น อฺโ โกจิ สตฺโต วา ภาโว วาติ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺถโยชนา กาตพฺพา. นิทฺเทสวาโร อุตฺตานตฺโถเยวาติ.

สุฺตวาโร นิฏฺิโต.

นิฏฺิตา จ ตีหิ มหาวาเรหิ มณฺเฑตฺวา นิทฺทิฏฺสฺส

ปมจิตฺตสฺส อตฺถวณฺณนา.

ทุติยจิตฺตํ

๑๔๖. อิทานิ ทุติยจิตฺตาทีนิ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘กตเม ธมฺมา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เตสุ สพฺเพสุปิ ปมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว ตโย ตโย มหาวารา เวทิตพฺพา. น เกวลฺจ มหาวารา เอว, ปมจิตฺเต วุตฺตสทิสานํ สพฺพปทานํ อตฺโถปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิโต ปรมฺปิ อปุพฺพปทวณฺณนํเยว กริสฺสาม. อิมสฺมึ ตาว ทุติยจิตฺตนิทฺเทเส สสงฺขาเรนาติ อิทเมว อปุพฺพํ. ตสฺสตฺโถ – สห สงฺขาเรนาติ สสงฺขาโร. เตน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน สอุปาเยน ปจฺจยคเณนาติ อตฺโถ. เยน หิ อารมฺมณาทินา ปจฺจยคเณน ปมํ มหาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เตเนว สปฺปโยเคน สอุปาเยน อิทํ อุปฺปชฺชติ.

ตสฺเสวํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา – อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ วิหารปจฺจนฺเต วสมาโน เจติยงฺคณสมฺมชฺชนเวลาย วา เถรุปฏฺานเวลาย วา สมฺปตฺตาย, ธมฺมสวนทิวเส วา สมฺปตฺเต ‘มยฺหํ คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉโต อติทูรํ ภวิสฺสติ, น คมิสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตติ – ‘ภิกฺขุสฺส นาม เจติยงฺคณํ วา เถรุปฏฺานํ วา ธมฺมสวนํ วา อคนฺตุํ อสารุปฺปํ, คมิสฺสามี’ติ คจฺฉติ. ตสฺเสวํ อตฺตโน ปโยเคน วา, ปเรน วา วตฺตาทีนํ อกรเณ จ อาทีนวํ กรเณ จ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา โอวทิยมานสฺส, นิคฺคหวเสเนว วา ‘เอหิ, อิทํ กโรหี’ติ การิยมานสฺส อุปฺปนฺนํ กุสลจิตฺตํ สสงฺขาเรน ปจฺจยคเณน อุปฺปนฺนํ นาม โหตีติ.

ทุติยจิตฺตํ.

ตติยจิตฺตํ

๑๔๗-๑๔๘. ตติเย าเณน วิปฺปยุตฺตนฺติ าณวิปฺปยุตฺตํ. อิทมฺปิ หิ อารมฺมเณ หฏฺปหฏฺํ โหติ ปริจฺฉินฺทกาณํ ปเนตฺถ น โหติ. ตสฺมา อิทํ ทหรกุมารกานํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘อยํ เถโร มยฺห’นฺติ วนฺทนกาเล, เตเนว นเยน เจติยวนฺทนธมฺมสวนกาลาทีสุ จ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปเนตฺถ สตฺตสุ าเนสุ ปฺา ปริหายติ. เสสํ ปากติกเมวาติ.

ตติยจิตฺตํ.

จตุตฺถจิตฺตํ

๑๔๙. จตุตฺถจิตฺเตปิ เอเสว นโย. อิทํ ปน สสงฺขาเรนาติ วจนโต ยทา มาตาปิตโร ทหรกุมารเก สีเส คเหตฺวา เจติยาทีนิ วนฺทาเปนฺติ เต จ อนตฺถิกา สมานาปิ หฏฺปหฏฺาว วนฺทนฺติ. เอวรูเป กาเล ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถจิตฺตํ.

ปฺจมจิตฺตํ

๑๕๐. ปฺจเม อุเปกฺขาสหคตนฺติ อุเปกฺขาเวทนาย สมฺปยุตฺตํ. อิทฺหิ อารมฺมเณ มชฺฌตฺตํ โหติ. ปริจฺฉินฺทกาณํ ปเนตฺถ โหติเยว. ปาฬิยํ ปเนตฺถ ฌานจตุกฺเก อุเปกฺขา โหตีติ อินฺทฺริยฏฺเก อุเปกฺขินฺทฺริยํ โหตีติ วตฺวา สพฺเพสมฺปิ เวทนาทิปทานํ นิทฺเทเส สาตาสาตสุขทุกฺขปฏิกฺเขปวเสน เทสนํ กตฺวา อทุกฺขมสุขเวทนา กถิตา. ตสฺสา มชฺฌตฺตลกฺขเณ อินฺทตฺตกรณวเสน อุเปกฺขินฺทฺริยภาโว เวทิตพฺโพ. ปทปฏิปาฏิยา จ เอกสฺมึ าเน ปีติ ปริหีนา. ตสฺมา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิอารุฬฺหา ปฺจปณฺณาเสว ธมฺมา โหนฺติ. เตสํ วเสน สพฺพโกฏฺาเสสุ สพฺพวาเรสุ จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ปฺจมจิตฺตํ.

ฉฏฺจิตฺตาทิ

๑๕๖-๙. ฉฏฺสตฺตมอฏฺมานิ ทุติยตติยจตุตฺเถสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เกวลฺหิ อิเมสุ เวทนาปริวตฺตนฺเจว ปีติปริหานฺจ โหติ. เสสํ สทฺธึ อุปฺปตฺตินเยน ตาทิสเมว. กรุณามุทิตา ปริกมฺมกาเลปิ หิ อิเมสํ อุปฺปตฺติ มหาอฏฺกถายํ อนุฺาตา เอว. อิมานิ อฏฺ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ นาม.

ปุฺกิริยวตฺถาทิกถา

ตานิ สพฺพานิปิ ทสหิ ปุฺกิริยวตฺถูหิ ทีเปตพฺพานิ. กถํ? ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, สีลมยํ… ภาวนามยํ… อปจิติสหคตํ… เวยฺยาวจฺจสหคตํ… ปตฺตานุปฺปทานํ… อพฺภนุโมทนํ… เทสนามยํ… สวนมยํ… ทิฏฺิชุกมฺมํ ปุฺกิริยวตฺถูติ อิมานิ ทส ปุฺกิริยวตฺถูนิ นาม. ตตฺถ ทานเมว ทานมยํ. ปุฺกิริยา จ สา เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถุ จาติ ปุฺกิริยวตฺถุ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ, รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ, อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ, ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค, ปริจฺจาคกาเล, ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรณกาเล จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ‘ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม.

ปฺจสีลํ อฏฺสีลํ ทสสีลํ สมาทิยนฺตสฺส, ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส, ‘มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปพฺพชิโต วต’มฺหิ, ‘สาธุ สาธู’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส, จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส, อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา ‘สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม.

ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส…เป… มนํ… รูเป…เป… ธมฺเม… จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ,… จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, …เป… รูปสฺํ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา, อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ อปฺปนํ อปฺปตฺตา สพฺพาปิ เจตนา ‘ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม.

มหลฺลกํ ปน ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนปตฺตจีวรปฏิคฺคหณอภิวาทนมคฺคสมฺปทานาทิวเสน ‘อปจิติสหคตํ’ เวทิตพฺพํ.

วุฑฺฒตรานํ วตฺตปฺปฏิปตฺติกรณวเสน คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา คาเม ภิกฺขํ สมาทเปตฺวา อุปสํหรณวเสน, ‘คจฺฉ ภิกฺขูนํ ปตฺตํ อาหรา’ติ สุตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ปตฺตาหรณาทิวเสน จ กายเวยฺยาวฏิกกาเล ‘เวยฺยาวจฺจสหคตํ’ เวทิตพฺพํ.

ทานํ ทตฺวา คนฺธาทีหิ ปูชํ กตฺวา ‘อสุกสฺส นาม ปตฺติ โหตู’ติ วา, ‘สพฺพสตฺตานํ โหตู’ติ วา ปตฺตึ ททโต ‘ปตฺตานุปฺปทานํ’ เวทิตพฺพํ. กึ ปเนวํ ปตฺตึ ททโต ปุฺกฺขโย โหตีติ? น โหติ. ยถา ปน เอกํ ทีปํ ชาเลตฺวา ตโต ทีปสหสฺสํ ชาเลนฺตสฺส ปมทีโป ขีโณติ น วตฺตพฺโพ; ปุริมาโลเกน ปน สทฺธึ ปจฺฉิมาโลโก เอกโต หุตฺวา อติมหา โหติ. เอวเมว ปตฺตึ ททโต ปริหานิ นาม นตฺถิ. วุฑฺฒิเยว ปน โหตีติ เวทิตพฺโพ.

ปเรหิ ทินฺนาย ปตฺติยา วา อฺาย วา ปุฺกิริยาย ‘สาธุ สาธู’ติ อนุโมทนวเสน ‘อพฺภนุโมทนํ’ เวทิตพฺพํ.

เอโก ‘เอวํ มํ ธมฺมกถิโกติ มํ ชานิสฺสนฺตี’ติ อิจฺฉาย ตฺวา ลาภครุโก หุตฺวา เทเสติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก อตฺตโน ปคุณํ ธมฺมํ อปจฺจาสีสมาโน วิมุตฺตายตนสีเสน ปเรสํ เทเสติ, อิทํ ‘เทสนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม.

เอโก สุณนฺโต ‘อิติ มํ สทฺโธติ ชานิสฺสนฺตี’ติ สุณาติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก ‘เอวํ เม มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’ติ หิตผรเณน มุทุจิตฺเตน ธมฺมํ สุณาติ, อิทํ ‘สวนมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม.

ทิฏฺึ อุชุํ กโรนฺตสฺส ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม. ทีฆภาณกา ปนาหุ – ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺเพสํ นิยมลกฺขณํ, ยํกิฺจิ ปุฺํ กโรนฺตสฺส หิ ทิฏฺิยา อุชุกภาเวเนว มหปฺผลํ โหตี’ติ.

เอเตสุ ปน ปุฺกิริยวตฺถูสุ ทานมยํ ตาว ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ทานํ ททโต อุปฺปชฺชติ, ‘ทินฺนํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปุพฺพเจตนํ มุฺจนเจตนํ อปรเจตนนฺติ ติสฺโสปิ เจตนา เอกโต กตฺวา ‘ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ. สีลมยมฺปิ ‘สีลํ ปูเรสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, สีลปูรณกาเล อุปฺปชฺชติ, ‘ปูริตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ‘สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ…เป… ทิฏฺิชุกมฺมมฺปิ ‘ทิฏฺึ อุชุกํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺึ อุชุํ กโรนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ‘ทิฏฺิ เม อุชุกา กตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ ปุฺกิริยวตฺถุ’ นาม โหติ.

สุตฺเต ปน ตีณิเยว ปุฺกิริยวตฺถูนิ อาคตานิ. เตสุ อิตเรสมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. อปจิติเวยฺยาวจฺจานิ หิ สีลมเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปตฺตานุปฺปทานอพฺภนุโมทนานิ ทานมเย. เทสนาสวนทิฏฺิชุกมฺมานิ ภาวนามเย. เย ปน ‘ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺเพสํ นิยมลกฺขณ’นฺติ วทนฺติ เตสํ ตํ ตีสุปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. เอวเมตานิ สงฺเขปโต ตีณิ หุตฺวา วิตฺถารโต ทส โหนฺติ.

เตสุ ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโต อฏฺนฺนํ กามาวจรกุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว จินฺเตติ; ททมาโนปิ เตสํเยว อฺตเรน เทติ; ‘ทานํ เม ทินฺน’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘สีลํ ปูเรสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; สีลํ ปูเรนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปูเรติ, ‘สีลํ เม ปูริต’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ภาวนํ ภาเวสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; ภาเวนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ภาเวติ; ‘ภาวนา เม ภาวิตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ.

‘เชฏฺาปจิติกมฺมํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, กโรนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน กโรติ, ‘กตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘กายเวยฺยาวฏิกกมฺมํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ, กโรนฺโตปิ, ‘กตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ปตฺตึ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ, ททนฺโตปิ, ‘ทินฺนํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ, ‘ปตฺตึ วา เสสกุสลํ วา อนุโมทิสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ; อนุโมทนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน อนุโมทติ, ‘อนุโมทิตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ธมฺมํ เทเสสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, เทเสนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน เทเสติ, ‘เทสิโต เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ธมฺมํ โสสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, สุณนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน สุณาติ, ‘สุโต เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ. ‘ทิฏฺึ อุชุกํ กริสฺสามี’ติ จินฺเตนฺโตปิ เตสํเยว อฺตเรน จินฺเตติ, อุชุํ กโรนฺโต ปน จตุนฺนํ าณสมฺปยุตฺตานํ อฺตเรน กโรติ, ‘ทิฏฺิ เม อุชุกา กตา’ติ ปจฺจเวกฺขนฺโต อฏฺนฺนํ อฺตเรน ปจฺจเวกฺขติ.

อิมสฺมึ าเน จตฺตาริ อนนฺตานิ นาม คหิตานิ. จตฺตาริ หิ อนนฺตานิ – อากาโส อนนฺโต, จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ, สตฺตนิกาโย อนนฺโต, พุทฺธฺาณํ อนนฺตํ. อากาสสฺส หิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย วา ปจฺฉิมุตฺตรทกฺขิณาสุ วา เอตฺตกานิ วา โยชนสตานิ เอตฺตกานิ วา โยชนสหสฺสานีติ ปริจฺเฉโท นตฺถิ. สิเนรุมตฺตมฺปิ อโยกูฏํ ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา เหฏฺา ขิตฺตํ ภสฺเสเถว, โน ปติฏฺํ ลเภถ, เอวํ อากาสํ อนนฺตํ นาม.

จกฺกวาฬานมฺปิ สเตหิ วา สหสฺเสหิ วา ปริจฺเฉโท นตฺถิ. สเจปิ หิ อกนิฏฺภวเน นิพฺพตฺตา, ทฬฺหถามธนุคฺคหสฺส ลหุเกน สเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ อติกฺกมนมตฺเตน กาเลน จกฺกวาฬสตสหสฺสํ อติกฺกมนสมตฺเถน ชเวน สมนฺนาคตา จตฺตาโร มหาพฺรหฺมาโน ‘จกฺกวาฬปริยนฺตํ ปสฺสิสฺสามา’ติ เตน ชเวน ธาเวยฺยุํ, จกฺกวาฬปริยนฺตํ อทิสฺวาว ปรินิพฺพาเยยฺยุํ, เอวํ จกฺกวาฬานิ อนนฺตานิ นาม.

เอตฺตเกสุ ปน จกฺกวาเฬสุ อุทกฏฺกถลฏฺกสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. เอวํ สตฺตนิกาโย อนนฺโต นาม. ตโตปิ พุทฺธาณํ อนนฺตเมว.

เอวํ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ กามาวจรโสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกกุสลจิตฺตานิ เอกสฺส พหูนิ อุปฺปชฺชนฺติ. พหูนมฺปิ พหูนิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ สพฺพานิปิ กามาวจรฏฺเน โสมนสฺสสหคตฏฺเน าณสมฺปยุตฺตฏฺเน อสงฺขาริกฏฺเน เอกตฺตํ คจฺฉนฺติ. เอกเมว โสมนสฺสสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ โหติ. ตถา สสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ…เป… ตถา อุเปกฺขาสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ ทฺวิเหตุกํ สสงฺขาริกจิตฺตนฺติ. เอวํ สพฺพานิปิ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชมานานิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหาตุลาย ตุลยมาโน วิย, ตุมฺเพ ปกฺขิปิตฺวา มินมาโน วิย, สพฺพฺุตฺาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘อฏฺเเวตานี’ติ สริกฺขฏฺเน อฏฺเว โกฏฺาเส กตฺวา ทสฺเสสิ.

ปุน อิมสฺมึ าเน ฉพฺพิเธน ปุฺายูหนํ นาม คหิตํ. ปุฺฺหิ อตฺถิ สยํการํ อตฺถิ ปรํการํ, อตฺถิ สาหตฺถิกํ อตฺถิ อาณตฺติกํ, อตฺถิ สมฺปชานกตํ อตฺถิ อสมฺปชานกตนฺติ.

ตตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย กตํ ‘สยํการํ’ นาม. ปรํ กโรนฺตํ ทิสฺวา กตํ ‘ปรํการํ’ นาม. สหตฺเถน กตํ ‘สาหตฺถิกํ’ นาม. อาณาเปตฺวา การิตํ ‘อาณตฺติกํ’ นาม. กมฺมฺจ ผลฺจ สทฺทหิตฺวา กตํ ‘สมฺปชานกตํ’ นาม. กมฺมมฺปิ ผลมฺปิ อชานิตฺวา กตํ ‘อสมฺปชานกตํ’ นาม. เตสุ สยํการํ กโรนฺโตปิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ กุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว กโรติ. ปรํการํ กโรนฺโตปิ, สหตฺเถน กโรนฺโตปิ, อาณาเปตฺวา กโรนฺโตปิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ กุสลจิตฺตานํ อฺตเรเนว กโรติ. สมฺปชานกรณํ ปน จตูหิ าณสมฺปยุตฺเตหิ โหติ. อสมฺปชานกรณํ จตูหิ าณวิปฺปยุตฺเตหิ.

อปราปิ อิมสฺมึ าเน จตสฺโส ทกฺขิณาวิสุทฺธิโย คหิตา – ปจฺจยานํ ธมฺมิกตา, เจตนามหตฺตํ, วตฺถุสมฺปตฺติ, คุณาติเรกตาติ. ตตฺถ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนา ปจฺจยา ‘ธมฺมิกา’ นาม. สทฺทหิตฺวา โอกปฺเปตฺวา ททโต ปน ‘เจตนามหตฺตํ’ นาม โหติ. ขีณาสวภาโว ‘วตฺถุสมฺปตฺติ’ นาม. ขีณาสวสฺเสว นิโรธา วุฏฺิตภาโว ‘คุณาติเรกตา’ นาม. อิมานิ จตฺตาริ สโมธาเนตฺวา ทาตุํ สกฺโกนฺตสฺส กามาวจรํ กุสลํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ปุณฺณกเสฏฺิกากวลิยสุมนมาลาการาทีนํ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๒๒๕ ปุณฺณทาสีวตฺถุ) (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๗ สุมนมาลาการวตฺถุ) วิย.

สงฺเขปโต ปเนตํ สพฺพมฺปิ กามาวจรกุสลจิตฺตํ ‘จิตฺต’นฺติ กริตฺวา จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอกเมว โหติ. เวทนาวเสน โสมนสฺสสหคตํ อุเปกฺขาสหคตนฺติ ทุวิธํ โหติ. าณวิภตฺติเทสนาวเสน จตุพฺพิธํ โหติ. โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตฺหิ อุเปกฺขาสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตฺจ าณสมฺปยุตฺตฏฺเน อสงฺขาริกฏฺเน จ เอกเมว โหติ. ตถา าณสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ, าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ, าณวิปฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกฺจาติ. เอวํ าณวิภตฺติเทสนาวเสน จตุพฺพิเธ ปเนตสฺมึ อสงฺขารสสงฺขารวิภตฺติโต จตฺตาริ อสงฺขาริกานิ จตฺตาริ สสงฺขาริกานีติ อฏฺเว กุสลจิตฺตานิ โหนฺติ. ตานิ ยาถาวโต ตฺวา ภควา สพฺพฺู คณีวโร มุนิเสฏฺโ อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปฏฺเปติ วิวรติ วิภชติ อุตฺตานีกโรตีติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหฏฺกถาย

กามาวจรกุสลนิทฺเทโส สมตฺโต.

รูปาวจรกุสลวณฺณนา

จตุกฺกนโย ปมชฺฌานํ

๑๖๐. อิทานิ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตีติ รูปํ วุจฺจติ รูปภโว. อุปปตฺตีติ นิพฺพตฺติ ชาติ สฺชาติ. มคฺโคติ อุปาโย. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – ตํ อุปปตฺตึ มคฺคติ คเวสติ ชเนติ นิปฺผาเทตีติ มคฺโค. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เยน มคฺเคน รูปภเว อุปปตฺติ โหติ นิพฺพตฺติ ชาติ สฺชาติ, ตํ มคฺคํ ภาเวตีติ. กึ ปเนเตน นิยมโต รูปภเว อุปปตฺติ โหตีติ? น โหติ. ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๕) เอวํ วุตฺเตน หิ นิพฺเพธภาคิเยน รูปภวาติกฺกโมปิ โหติ. รูปูปปตฺติยา ปน อิโต อฺโ มคฺโค นาม นตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’ติ. อตฺถโต จายํ มคฺโค นาม เจตนาปิ โหติ, เจตนาย สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ, ตทุภยมฺปิ. ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามิ นิรยคามิฺจ มคฺค’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) หิ เอตฺถ เจตนา มคฺโค นาม.

‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทานํ, ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;

เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ, เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. (อ. นิ. ๘.๓๒);

เอตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มคฺโค นาม. ‘‘อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค, อยํ ปฏิปทา’’ติ สงฺขารุปปตฺติสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๖๑ อาทโย) เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ มคฺโค นาม. อิมสฺมึ ปน าเน ‘ฌาน’นฺติ วจนโต เจตนาสมฺปยุตฺตา อธิปฺเปตา. ยสฺมา ปน ฌานเจตนา ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, ตสฺมา เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วฏฺฏนฺติเยว.

ภาเวตีติ ชเนติ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒติ. อยํ ตาว อิธ ภาวนาย อตฺโถ. อฺตฺถ ปน อุปสคฺควเสน สมฺภาวนา ปริภาวนา วิภาวนาติ เอวํ อฺถาปิ อตฺโถ โหติ. ตตฺถ ‘‘อิธุทายิ มม สาวกา อธิสีเล สมฺภาเวนฺติ – สีลวา สมโณ โคตโม, ปรเมน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔๓) อยํ สมฺภาวนา นาม; โอกปฺปนาติ อตฺโถ. ‘‘สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส, สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา, ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๖) อยํ ปริภาวนา นาม; วาสนาติ อตฺโถ. ‘‘อิงฺฆ รูปํ วิภาเวหิ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ วิภาเวหี’’ติ อยํ วิภาวนา นาม; อนฺตรธาปนาติ อตฺโถ. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗), อยํ ปน อุปฺปาทนวฑฺฒนฏฺเน ภาวนา นาม. อิมสฺมิมฺปิ าเน อยเมว อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ – ‘ภาเวตีติ ชเนติ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒตี’ติ.

กสฺมา ปเนตฺถ, ยถา กามาวจรกุสลนิทฺเทเส ธมฺมปุพฺพงฺคมา เทสนา กตา ตถา อกตฺวา, ปุคฺคลปุพฺพงฺคมา กตาติ? ปฏิปทาย สาเธตพฺพโต. อิทฺหิ จตูสุ ปฏิปทาสุ อฺตราย สาเธตพฺพํ; น กามาวจรํ วิย วินา ปฏิปทาย อุปฺปชฺชติ. ปฏิปทา จ นาเมสา ปฏิปนฺนเก สติ โหตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปุคฺคลปุพฺพงฺคมํ เทสนํ กโรนฺโต ‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’ติ อาห.

วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจิตฺวา, วินา หุตฺวา, อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ ‘เอว’-กาโร โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ, กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘วิวิจฺเจว กาเมหี’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ – นูนิมสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ, อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย? เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.

ตตฺถ สิยา – ‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต, น อุตฺตรปเท? กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒; ที. นิ. ๓.๓๕๓). อุตฺตรปเทปิ ปน, ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ ‘เอว’-กาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ, ตสฺมา ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก วิกฺขมฺภนวิเวโกติ ตโย เอว อิธ ทฏฺพฺพา.

กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ นิทฺเทเส ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิยา รูปา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ ตตฺเถว วิภงฺเค จ ‘‘ฉนฺโท กาโม, ราโค กาโม, ฉนฺทราโค กาโม; สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม; อิเม วุจฺจนฺติ กามา’’ติ (มหานิ. ๑; วิภ. ๕๖๔) เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตาอิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.

วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ; ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส; ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ าตพฺพํ. เอส ตาว นโย ‘กาเมหี’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.

กิเลสกามปกฺเข ปน ‘ฉนฺโทติ จ ราโค’ติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทเยว กาโมติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กามจฺฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส ‘กามโต’ติ อวตฺวา ‘กาเมหี’ติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา? กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ. เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานิ, วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.

เอวเมตฺถ ‘วิวิจฺเจว กาเมหี’ติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ. ‘วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ; ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิจ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. อยํ ตาว ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ เอตฺถ อตฺถปฺปกาสนา.

เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา วุตฺตลกฺขณาทิวิภาเคน อปฺปนาสมฺปโยคโต รูปาวจรภาวปฺปตฺเตน วิตกฺเกน เจว วิจาเรน จ สห วตฺตติ. รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๕) นเยน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. อตฺโถ ปน ตตฺรปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

วิเวกชนฺติ – เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก. นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก, ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ – เอตฺถ ปีติสุขานิ เหฏฺา ปกาสิตาเนว. เตสุ ปน วุตฺตปฺปการาย ปฺจวิธาย ปีติยา ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคํ คตา ผรณาปีติ – อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ. อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุจฺจติ. อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ, ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขมสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน, อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํ ปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ. ตฺจสฺส อตฺถิ. ตสฺมา เอกปเทเนว ‘วิเวกชํ ปีติสุข’นฺติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ตตฺถาปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

ปมํ ฌานนฺติ – เอตฺถ คณนานุปุพฺพตา ปมํ. ปมํ อุปฺปนฺนนฺติ ปมํ. ปมํ สมาปชฺชิตพฺพนฺติปิ ปมํ. อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณํ. จิณฺณวสีภาโว หิ อฏฺสมาปตฺติลาภี อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ. มตฺถกโต ปฏฺาย อาทึ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ. อนฺตรนฺตรา โอกฺกมนฺโตปิ สกฺโกติ. เอวํ ปุพฺพุปฺปตฺติยฏฺเน ปน ปมํ นาม โหติ.

ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ – อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวิกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. เตสุ อิมสฺมึ อตฺเถ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต ปจฺจนีกชฺฌาปนโต วา ฌานนฺติ เวทิตพฺพํ.

อุปสมฺปชฺชาติ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อุปสมฺปชฺชาติ ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ ปตฺติ สมฺปตฺติ ผุสนา สจฺฉิกิริยา อุปสมฺปทา’’ติ (วิภ. ๕๗๐) วุตฺตํ. ตสฺสาปิ เอวเมวตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิติวุตฺตปฺปการชฺฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยนํ วุตฺตึ ปาลนํ ยปนํ ยาปนํ จารํ วิหารํ อภินิปฺผาเทติ. วุตฺตฺเหตํ วิภงฺเค – ‘‘วิหรตีติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติ, เตน วุจฺจติ วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๑๒, ๕๗๑).

ปถวิกสิณนฺติ เอตฺถ ปถวิมณฺฑลมฺปิ สกลฏฺเน ปถวิกสิณนฺติ วุจฺจติ. ตํ นิสฺสาย ปฏิลทฺธํ นิมิตฺตมฺปิ. ปถวิกสิณนิมิตฺเต ปฏิลทฺธชฺฌานมฺปิ. ตตฺถ อิมสฺมึ อตฺเถ ฌานํ ปถวีกสิณนฺติ เวทิตพฺพํ. ปถวิกสิณสงฺขาตํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ. อิมสฺมึ ปน ปถวิกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตุกาเมน กุลปุตฺเตน กึ กตฺตพฺพนฺติ? อาทิโต ตาว ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตสงฺขาตานิ จตฺตาริ สีลานิ วิโสเธตฺวา สุปริสุทฺเธ สีเล ปติฏฺิเตน, ยฺวาสฺส อาวาสาทีสุ ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ, ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปาฬิยา อาคเตสุ อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ อุปปริกฺขนฺเตน สจสฺส อิทํ ปถวิกสิณํ อนุกูลํ โหติ, อิทเมว กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ฌานภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา กสิณปริกมฺมนิมิตฺตานุรกฺขณสตฺตอสปฺปายปริวชฺชนสตฺตสปฺปายเสวนทสวิธอปฺปนาโกสลฺลปฺปเภทํ สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ฌานาธิคมตฺถาย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. สพฺพกมฺมฏฺานานฺหิ ภาวนาวิธานํ สพฺพํ อฏฺกถานเยน คเหตฺวา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตํ. กึ เตน ตตฺถ ตตฺถ ปุน วุตฺเตนาติ น นํ ปุน วิตฺถารยาม. ปาฬิยา ปน เหฏฺา อนาคตํ อตฺถํ อปริหาเปนฺตา นิรนฺตรํ อนุปทวณฺณนเมว กริสฺสาม.

ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย. ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตีติ อิเม กามาวจรปมกุสลจิตฺเต วุตฺตปฺปการาย ปทปฏิปาฏิยา ฉปณฺณาส ธมฺมา โหนฺติ. เกวลฺหิ เต กามาวจรา, อิเม ภูมนฺตรวเสน มหคฺคตา รูปาวจราติ อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. เยวาปนกา ปเนตฺถ ฉนฺทาทโย จตฺตาโรว ลพฺภนฺติ. โกฏฺาสวารสุฺตวารา ปากติกา เอวาติ.

ปมํ.

ทุติยชฺฌานํ

๑๖๑-๑๖๒. ทุติยชฺฌานนิทฺเทเส วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา, สมติกฺกมา; ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย อฺเ อิธ, โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ – นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ สมฺปสาทนนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ‘สมฺปสาทนํ เจตโส’ติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป ‘เจตโส’ติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.

ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ. อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ. สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส, ตสฺมา เอตํ ‘เจตโส เอโกทิภาว’นฺติ วุตฺตํ.

‘นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวฺจาติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ‘อทุฺหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย สมฺปสาทน’นฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตา เอว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ. ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว สมาธิปิ ปากโฏ. ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิภงฺเค ปน ‘‘สมฺปสาทนนฺติ ยา สทฺธา สทฺทหนา โอกปฺปนา อภิปฺปสาโท; เจตโส เอโกทิภาวนฺติ ยา จิตฺตสฺส ิติ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ (วิภ. ๕๗๔-๕๗๕) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เอวํ วุตฺเตน ปเนเตน สทฺธึ อยํ อตฺถวณฺณนา ยถา น วิรุชฺฌติ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จ, เอวํ เวทิตพฺพา.

อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ – ‘‘อิติ อยฺจ วิตกฺโก อยฺจ วิจาโร สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตา, เตน วุจฺจติ อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ.

เอตฺถาห – นนุ จ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ? อถ กสฺมา ปุน ‘วุตฺตํ อวิตกฺกํ อวิจาร’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ, น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ. นนุ อโวจุมฺห – ‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺต’นฺติ.

อปิจ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสิยสฺส; วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา; น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย, จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ, อภาวาติ เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ อิทํ วจนํ, ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.

สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘สมาธี’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว สมาธิชนฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.

ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ สมาปชฺชตีติปิ ทุติยํ. ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ฌานปฺจเก วิตกฺกวิจารปทานิ มคฺคปฺจเก จ สมฺมาสงฺกปฺปปทํ ปริหีนํ. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกปทวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ ติวงฺคิกํ ฌานํ โหติ, จตุรงฺคิโก มคฺโค โหตีติ อาคตํ. เสสํ ปมชฺฌานสทิสเมวาติ.

ทุติยํ.

ตติยชฺฌานํ

๑๖๓. ตติยชฺฌานนิทฺเทเส ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา. อุภินฺนํ ปน อนฺตรา ‘จ’-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย ‘วูปสมา’ จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ. ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ วูปสมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ ตทา ปีติยา จ วิราคา กิฺจ ภิยฺโย ‘วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ – นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสาติ? ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ. เตนายมตฺโถ วุตฺโต – ‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’ติ.

อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ – เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา. สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี อุเปกฺขโกติ วุจฺจติ.

อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.

ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๕.๑; มหานิ. ๙๐; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘; ปฏิ. ม. ๓.๑๗) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’ นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’ นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๗; ๓.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’ นาม.

ยา ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ ‘วีริยุเปกฺขา’ นาม.

ยา ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘สงฺขารุเปกฺขา’ นาม.

ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสงฺขาตา อุเปกฺขา อยํ ‘เวทนุเปกฺขา’ นาม.

ยา ‘‘ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘วิปสฺสนุเปกฺขา’ นาม.

ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา อยํ, ‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’ นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; ที. นิ. ๑.๒๓๐) เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ‘ฌานุเปกฺขา’ นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’ นาม.

ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท. เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถร เสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย. ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย, ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

ยถา เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ เอสา กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา. ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘สปฺโป นุ โข โน’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘สปฺโป, น สปฺโป’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา โหติ; เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ ‘วิปสฺสนุเปกฺขา’. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺฑเกน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มุฺเจยฺย’นฺติ มุฺจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ; เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา, อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต, สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ ‘สงฺขารุเปกฺขา’. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วิริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนาเยวาติ.

อิมาสุ ทสสุ อุเปกฺขาสุ ‘ฌานุเปกฺขา’ อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา อนาโภครสา อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห – นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ? สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺราปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา. สา กสฺมา น วุตฺตาติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.

นิฏฺิตา อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตสฺส

สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.

อิทานิ สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ – มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา – โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ, ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส, จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส, ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย, สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย? ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา. สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ, อิทฺจ อติมธุรํ สุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’ติ อาห.

อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา ‘‘อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺาเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเส’’นฺติ ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย – กินฺติ? ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ – ตํ ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ, ‘ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ’ เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา, ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ ตสฺมา ปสํสารโห; อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺตา ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ. อิทํ ตติยํ สมาปชฺชตีติปิ ตติยํ. ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ฌานปฺจเก ปีติปทมฺปิ ปริหีนํ. ตสฺสาปิ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกปทวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหตีติ อาคตํ. เสสํ ทุติยชฺฌานสทิสเมวาติ.

ตติยํ.

จตุตฺถชฺฌานํ

๑๖๕. จตุตฺถชฺฌานนิทฺเทเส สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา; ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ. ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.

ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เตสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ. ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานุปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา, วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ. สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺส โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ; ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว; อปฺปหีนา เอว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ, สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.

เอตฺถาห – ‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’ติ? ‘สุขคฺคหณตฺถํ’. ยา หิ อยํ ‘อทุกฺขมสุข’นฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา, ทุพฺพิฺเยฺยา, น สกฺกา สุเขน คเหตุํ. ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส คหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘อยํ โส, คณฺหถ น’นฺติ ตมฺปิ คาหาปยติ; เอวเมว ภควา สุขคหณตฺถํ สพฺพาปิ เอตา สมาหรีติ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ยํ เนว สุขํ น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขาเวทนาติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.

อปิจ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สุขทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ตตฺถ ปหีนาติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส; ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.

อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขสุขปฺปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา. อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ. ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธีติ วุจฺจติ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อิมาย อุเปกฺขาย วิสทา โหติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, เตน วุจฺจติ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ (วิภ. ๕๙๗). ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติ ปาริสุทฺธิ โหติ สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา. สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.

ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ – ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา – เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฺปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมาทิชฺฌานเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’ติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขา เวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา. ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธีติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ สมาปชฺชตีติปิ จตุตฺถํ. ผสฺโส โหตีติอาทีสุ ผสฺสปฺจเก ตาว เวทนาติ อุเปกฺขาเวทนา เวทิตพฺพา. ฌานปฺจกอินฺทฺริยอฏฺเกสุ ปน อุเปกฺขา โหติ อุเปกฺขินฺทฺริยํ โหตีติ (ธ. ส. ๑๖๕) วุตฺตเมว. เสสานิ ตติเย ปริหีนปทานิ อิธาปิ ปริหีนาเนว. โกฏฺาสวาเรปิ ทุวงฺคิกํ ฌานนฺติ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสเนว เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพํ ตติยสทิสเมวาติ.

จตุกฺกนโย นิฏฺิโต.

ปฺจกนโย

๑๖๗. อิทานิ กตเม ธมฺมา กุสลาติ ปฺจกนโย อารทฺโธ. กสฺมาติ เจ, ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน เจว เทสนาวิลาเสน จ. สนฺนิสินฺนเทวปริสาย กิร เอกจฺจานํ เทวานํ วิตกฺโก เอว โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, วิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน สตฺถา จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ทุติยชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ วิจาโร โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ติวงฺคิกํ ตติยชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ ปีติ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, สุขจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ทุวงฺคิกํ จตุตฺถชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. เอกจฺจานํ สุขํ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตา สนฺตโต. เตสํ สปฺปายวเสน ทุวงฺคิกํ ปฺจมชฺฌานํ นาม ภาเชสิ. อยํ ตาว ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’.

ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต นาม โหติ – สา ตถาคตสฺส สุฏฺุ ปฏิวิทฺธา – ตสฺมา าณมหตฺตตาย เทสนาวิธาเนสุ กุสโล เทสนาวิลาสปฺปตฺโต สตฺถา ยํ ยํ องฺคํ ลพฺภติ ตสฺส ตสฺส วเสน ยถา ยถา อิจฺฉติ ตถา ตถา เทสนํ นิยาเมตีติ โส อิธ ปฺจงฺคิกํ ปมชฺฌานํ ภาเชสิ, จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ทุติยชฺฌานํ, ภาเชสิ ติวงฺคิกํ ตติยชฺฌานํ, ภาเชสิ ทุวงฺคิกํ จตุตฺถชฺฌานํ, ทุวงฺคิกเมว ปฺจมชฺฌานํ ภาเชสิ. อยํ ‘เทสนาวิลาโส’ นาม.

อปิจ เย ภควตา ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, สมาธี – สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) สุตฺตนฺเต ตโย สมาธี เทสิตา, เตสุ เหฏฺา สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ จ ภาเชตฺวา ทสฺสิโต, อวิตกฺกวิจารมตฺโต น ทสฺสิโต. ตํ ทสฺเสตุมฺปิ อยํ ปฺจกนโย อารทฺโธติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ทุติยชฺฌานนิทฺเทเส ผสฺสาทีสุ วิตกฺกมตฺตํ ปริหายติ, โกฏฺาสวาเร ‘‘จตุรงฺคิกํ ฌานํ โหติ จตุรงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ อยเมว วิเสโส. เสสํ สพฺพํ ปมชฺฌานสทิสเมว. ยานิ จ จตุกฺกนเย ทุติยตติยจตุตฺถานิ ตาเนว อิธ ตติยจตุตฺถปฺจมานิ. เตสํ อธิคมปฏิปาฏิทีปนตฺถํ อยํ นโย เวทิตพฺโพ –

เอโก กิร อมจฺจปุตฺโต ราชานํ อุปฏฺาตุํ ชนปทโต นครํ อาคโต. โส เอกทิวสเมว ราชานํ ทิสฺวา ปานพฺยสเนน สพฺพํ วิภวชาตํ นาเสสิ. ตํ เอกทิวสํ สุรามทมตฺตํ นิจฺโจฬํ กตฺวา ชิณฺณกฏสารกมตฺเตน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปานาคารโต นีหรึสุ. ตเมนํ สงฺการกูเฏ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตํ เอโก องฺควิชฺชาปาโก ทิสฺวา ‘อยํ ปุริโส มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปฏิชคฺคิตพฺโพ เอโส’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา มตฺติกาย นฺหาเปตฺวา ถูลสาฏกยุคํ นิวาสาเปตฺวา ปุน คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สุขุเมน ทุกูลยุคเฬน อจฺฉาเทตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา สุโภชนํ โภเชตฺวา ‘เอวํ นํ ปริจาเรยฺยาถา’ติ ปริจารเก ปฏิปาเทตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ เต สยนํ อาโรเปสุํ. ปานาคารคมนปฏิพาหนตฺถฺจ นํ จตฺตาโร ตาว ชนา จตูสุ หตฺถปาเทสุ อุปฺปีเฬตฺวา อฏฺํสุ. เอโก ปาเท ปริมชฺชิ. เอโก ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา พีชิ. เอโก วีณํ วาทยมาโน คายนฺโต นิสีทิ.

โส สยนุปคมเนน วิคตกิลมโถ โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต หตฺถปาทนิปฺปีฬนํ อสหมาโน ‘โก เม หตฺถปาเท อุปฺปีเฬติ? อปคจฺฉถา’ติ ตชฺเชสิ. เต เอกวจเนเนว อปคจฺฉึสุ. ตโต ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต ปาทปริมชฺชนํ อสหมาโน ‘โก เม ปาเท ปริมชฺชติ? อปคจฺฉา’ติ อาห. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต วาตวุฏฺิ วิย ตาลวณฺฏวาตํ อสหนฺโต ‘โก เอส? อปคจฺฉตู’ติ อาห. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. ปุน โถกํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิโต กณฺณสูลํ วิย คีตวาทิตสทฺทํ อสหมาโน วีณาวาทกํ ตชฺเชสิ. โสปิ เอกวจเนเนว อปคจฺฉิ. อเถวํ อนุกฺกเมน ปหีนกิลมถุปฺปีฬนปริมชฺชนวาตปฺปหารคีตวาทิตสทฺทุปทฺทโว สุขํ สยิตฺวา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ อคมาสิ. ราชาปิสฺส มหนฺตํ อิสฺสริยมทาสิ. โส มหาชนสฺส อวสฺสโย ชาโต.

ตตฺถ ปานพฺยสเนน ปาริชุฺปฺปตฺโต โส อมจฺจปุตฺโต วิย อเนกพฺยสนปาริชุฺปฺปตฺโต ฆราวาสคโต กุลปุตฺโต ทฏฺพฺโพ. องฺควิชฺชาปาโก ปุริโส วิย ตถาคโต. ตสฺส ปุริสสฺส ‘อยํ มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปฏิชคฺคนํ อรหตี’ติ สนฺนิฏฺานํ วิย ตถาคตสฺส ‘อยํ มหาชนสฺส อวสฺสโย ภวิสฺสติ, ปพฺพชฺชํ อรหติ กุลปุตฺโต’ติ สนฺนิฏฺานกรณํ.

อถสฺส อมจฺจปุตฺตสฺส มตฺติกามตฺเตน นฺหาปนํ วิย กุลปุตฺตสฺสาปิ ปพฺพชฺชาปฏิลาโภ. อถสฺส ถูลสาฏกนิวาสนํ วิย อิมสฺสาปิ ทสสิกฺขาปทสงฺขาตสีลวตฺถนิวาสนํ. ปุน ตสฺส คนฺโธทกนฺหาปนํ วิย อิมสฺสาปิ ปาติโมกฺขสํวราทิสีลคนฺโธทกนฺหาปนํ. ปุน ตสฺส สุขุมทุกูลยุคฬจฺฉาทนํ วิย อิมสฺสาปิ ยถาวุตฺตสีลวิสุทฺธิสมฺปทาสงฺขาตทุกูลจฺฉาทนํ.

ทุกูลจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส ปาสาทาโรปนํ วิย อิมสฺสาปิ สีลวิสุทฺธิทุกูลจฺฉาทิตสฺส สมาธิภาวนาปาสาทาโรหนํ. ตโต ตสฺส สุโภชนภุฺชนํ วิย อิมสฺสาปิ สมาธิอุปการกสติสมฺปชฺาทิธมฺมามตปริภุฺชนํ.

ภุตฺตโภชนสฺส ปน ตสฺส ปริจารเกหิ สยนาโรปนํ วิย อิมสฺสาปิ วิตกฺกาทีหิ อุปจารชฺฌานาโรปนํ. ปุน ตสฺส ปานาคารคมนปฏิพาหนตฺถํ หตฺถปาทุปฺปีฬนกปุริสจตุกฺกํ วิย อิมสฺสาปิ กามสฺาภิมุขคมนปฏิพาหนตฺถํ อารมฺมเณ จิตฺตุปฺปีฬนโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก. ตสฺส ปาทปริมชฺชกปุริโส วิย อิมสฺสาปิ อารมฺมเณ จิตฺตานุมชฺชนโก วิจาโร. ตสฺส ตาลวณฺฏวาตทายโก วิย อิมสฺสาปิ เจตโส สีตลภาวทายิกา ปีติ.

ตสฺส โสตานุคฺคหกโร คนฺธพฺพปุริโส วิย อิมสฺสาปิ จิตฺตานุคฺคาหกํ โสมนสฺสํ. ตสฺส สยนุปคมเนน วิคตกิลมถสฺส โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ อุปจารชฺฌานสนฺนิสฺสเยน วิคตนีวรณกิลมถสฺส ปมชฺฌานุปคมนํ.

อถสฺส นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิตสฺส หตฺถปาทุปฺปีฬนาสหเนน หตฺถปาทุปฺปีฬกานํ สนฺตชฺชนํ เตสฺจ อปคมเนน ปุน โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ ปมชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส จิตฺตุปฺปีฬกวิตกฺกาสหเนน วิตกฺกโทสทสฺสนํ, วิตกฺกปฺปหานา จ ปุน อวิตกฺกวิจารมตฺตทุติยชฺฌานุปคมนํ.

ตโต ตสฺส ปุนปฺปุนํ นิทฺทายิตฺวา วุฏฺิตสฺส ยถาวุตฺเตน กเมน ปาทปริมชฺชนาทีนํ อสหเนน ปฏิปาฏิยา ปาทปริมชฺชกาทีนํ สนฺตชฺชนํ, เตสํ เตสฺจ อปคมเนน ปุนปฺปุนํ โถกํ นิทฺทุปคมนํ วิย อิมสฺสาปิ ปุนปฺปุนํ ทุติยาทีหิ ฌาเนหิ วุฏฺิตสฺส ยถาวุตฺตโทสานํ วิจาราทีนํ อสหเนน ปฏิปาฏิยา วิจาราทิโทสทสฺสนํ. เตสํ เตสฺจ ปหานา ปุนปฺปุนํ อวิตกฺกอวิจารนิปฺปีติก ปหีนโสมนสฺสชฺฌานุปคมนํ.

ตสฺส ปน สยนา วุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คตสฺส อิสฺสริยปฺปตฺติ วิย อิมสฺสาปิ ปฺจมชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส วิปสฺสนา มคฺคํ อุปคตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ.

ตสฺส ปตฺติสฺสริยสฺส พหูนํ ชนานํ อวสฺสยภาโว วิย อิมสฺสาปิ อรหตฺตปฺปตฺตสฺส พหูนํ อวสฺสยภาโว เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา หิ เอส อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ นาม โหตีติ.

ปฺจกนโย นิฏฺิโต.

เอตฺตาวตา จตุกฺกปฺจกนยทฺวยเภโท สุทฺธิกนวโก นาม ปกาสิโต โหติ. อตฺถโต ปเนส ปฺจกนเย จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา ฌานปฺจโก เอวาติ เวทิตพฺโพ.

ปฏิปทาจตุกฺกํ

๑๗๖-๑๘๐. อิทานิ ยสฺมา เอตํ ฌานํ นาม ปฏิปทากเมน สิชฺฌติ, ตสฺมา ตสฺส ปฏิปทาเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทุกฺขา ปฏิปทา อสฺสาติ ทุกฺขปฏิปทํ. ทนฺธา อภิฺา อสฺสาติ ทนฺธาภิฺํ. อิติ ทุกฺขปฏิปทนฺติ วา ทนฺธาภิฺนฺติ วา ปถวีกสิณนฺติ วา ตีณิปิ ฌานสฺเสว นามานิ. ทุกฺขปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ปมสมนฺนาหารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารํ อุปฺปชฺชติ ตาว ปวตฺตา ฌานภาวนา ‘ปฏิปทา’ติ วุจฺจติ. อุปจารโต ปน ปฏฺาย ยาว อปฺปนา ตาว ปวตฺตา ปฺา ‘อภิฺา’ติ วุจฺจติ. สา ปเนสา ปฏิปทา เอกจฺจสฺส ทุกฺขา โหติ. นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺมสมุทาจารคหนตาย กิจฺฉา อสุขเสวนาติ อตฺโถ. เอกจฺจสฺส ตทภาเวน สุขา. อภิฺาปิ เอกจฺจสฺส ทนฺธา โหติ, มนฺทา, อสีฆปฺปวตฺติ. เอกจฺจสฺส ขิปฺปา อมนฺทา สีฆปฺปวตฺติ. ตสฺมา โย อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา นาม โหติ. โย ปน วิกฺขมฺภิตกิเลโส อปฺปนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. โย ขิปฺปํ องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ ตสฺส ขิปฺปาภิฺา นาม โหติ. โย กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต สุเขน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, ตสฺส สุขา ปฏิปทา นาม โหติ.

ตตฺถ ยานิ สปฺปายาสปฺปายานิ จ ปลิโพธุปจฺเฉทาทีนิ ปุพฺพกิจฺจานิ จ อปฺปนาโกสลฺลานิ จ วิสุทฺธิมคฺเค จิตฺตภาวนานิทฺเทเส นิทฺทิฏฺานิ, เตสุ โย อสปฺปายเสวี โหติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธา จ อภิฺา โหติ. สปฺปายเสวิโน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปา จ อภิฺา. โย ปน ปุพฺพภาเค อสปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค สปฺปายเสวี โหติ, ปุพฺพภาเค วา สปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค อสปฺปายเสวี, ตสฺส โวมิสฺสกตา เวทิตพฺพา. ตถา ปลิโพธุปจฺเฉทาทิกํ ปุพฺพกิจฺจํ อสมฺปาเทตฺวา ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, วิปริยาเยน สุขา. อปฺปนาโกสลฺลานิ ปน อสมฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ, สมฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปา.

อปิจ ตณฺหาอวิชฺชาวเสน สมถวิปสฺสนากตาธิการวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตณฺหาภิภูตสฺส หิ ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, อนภิภูตสฺส สุขา. อวิชฺชาภิภูตสฺส จ ทนฺธา อภิฺา โหติ, อนภิภูตสฺส ขิปฺปา. โย จ สมเถ อกตาธิกาโร ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ, กตาธิการสฺส สุขา. โย ปน วิปสฺสนาย อกตาธิกาโร โหติ, ตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ, กตาธิการสฺส ขิปฺปา.

กิเลสินฺทฺริยวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ติพฺพกิเลสสฺส หิ มุทินฺทฺริยสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา, ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺา. มนฺทกิเลสสฺส จ มุทินฺทฺริยสฺส สุขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา, ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺาติ.

อิติ อิมาสุ ปฏิปทาอภิฺาสุ โย ปุคฺคโล ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาย อภิฺาย ฌานํ ปาปุณาติ, ตสฺส ตํ ฌานํ ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺนฺติ วุจฺจติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ‘ตทนุธมฺมตา สติ สนฺติฏฺติ ิติภาคินี ปฺา’ติ (วิภ. ๗๙๙) เอวํ วุตฺตสติยา วา ตํตํฌานนิกนฺติยา วา วิกฺขมฺภเน ปฏิปทา, ตํตํฌานุปจารปฺปตฺตสฺส อปฺปนาย ปริวาเส อภิฺา จ เวทิตพฺพา. อาคมนวเสนาปิ จ ปฏิปทา อภิฺา โหนฺติเยว. ทุกฺขปฏิปทฺหิ ทนฺธาภิฺํ ปมชฺฌานํ ปตฺวา ปวตฺตํ ทุติยมฺปิ ตาทิสเมว โหติ. ตติยจตุตฺเถสุปิ เอเสว นโย. ยถา จ จตุกฺกนเย เอวํ ปฺจกนเยปิ ปฏิปทาวเสน จตุธา เภโท เวทิตพฺโพ. อิติ ปฏิปทาวเสนปิ จตฺตาโร นวกา วุตฺตา โหนฺติ. เตสุ ปาโต ฉตฺตึส จิตฺตานิ, อตฺถโต ปน ปฺจกนเย จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา วีสติเมว ภวนฺตีติ.

ปฏิปทาจตุกฺกํ.

อารมฺมณจตุกฺกํ

๑๘๑. อิทานิ ยสฺมา เอตํ ฌานํ นาม ยถา ปฏิปทาเภเทน เอวํ อารมฺมณเภเทนาปิ จตุพฺพิธํ โหติ. ตสฺมาสฺส ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณนฺติอาทีสุ ยํ อปฺปคุณํ โหติ, อุปริชฺฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, อิทํ ปริตฺตํ นาม. ยํ ปน อวฑฺฒิเต สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา อารมฺมเณ ปวตฺตํ, ตํ ปริตฺตํ อารมฺมณํ อสฺสาติ ปริตฺตารมฺมณํ. ยํ ปคุณํ สุภาวิตํ อุปริชฺฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, อิทํ อปฺปมาณํ นาม. ยํ วิปุเล อารมฺมเณ ปวตฺตํ ตํ วุฑฺฒิปฺปมาณตฺตา อปฺปมาณํ อารมฺมณํ อสฺสาติ อปฺปมาณารมฺมณํ. วุตฺตลกฺขณโวมิสฺสกตาย ปน โวมิสฺสกนโย เวทิตพฺโพ. อิติ อารมฺมณวเสนปิ จตฺตาโร นวกา วุตฺตา โหนฺติ. จิตฺตคณนาเปตฺถ ปุริมสทิสา เอวาติ.

อารมฺมณจตุกฺกํ.

อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกํ

๑๘๖. อิทานิ อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกํ โสฬสกฺขตฺตุกนยํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปมนเย วุตฺตชฺฌานํ ทุกฺขปฏิปทตฺตา ทนฺธาภิฺตฺตา ปริตฺตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ หีนํ, โสฬสมนเย วุตฺตชฺฌานํ สุขปฏิปทตฺตา ขิปฺปาภิฺตฺตา อปฺปมาณตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ ปณีตํ. เสเสสุ จุทฺทสสุ เอเกน ทฺวีหิ ตีหิ จ การเณหิ หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพา.

กสฺมา ปนายํ นโย เทสิโตติ? ฌานุปฺปตฺติการณตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน ปฺจกนยวเสน จ ทสฺสิตํ; ตถา สุทฺธิกปฏิปทา, ตถา สุทฺธิการมฺมณํ. ตตฺถ ยา เทวตา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกชฺฌาเน จตุกฺกนโย เทสิโต. ยา ปฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน ปฺจกนโย. ยา สุทฺธิกปฏิปทาย, สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกปฏิปทาย สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนโย เทสิโต. ยา ปฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ ตาสํ สปฺปายวเสน ปฺจกนโย. อิติ เหฏฺา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน เทสนา กตา.

เทสนาวิลาสปฺปตฺโต เจส ปภินฺนปฏิสมฺภิโท ทสพลจตุเวสารชฺชวิสทาโณ ธมฺมานํ ยาถาวสรสลกฺขณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ธมฺมปฺตฺติกุสลตาย โย โย นโย ลพฺภติ ตสฺส ตสฺส วเสน เทสนํ นิยเมตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา อิมาย เทสนาวิลาสปฺปตฺติยาปิ เตน เอสา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกจตุกฺกนยาทิวเสน เทสนา กตา.

ยสฺมา ปน เย เกจิ ฌานํ อุปฺปาเทนฺติ นาม น เต อารมฺมณปฏิปทาหิ วินา อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา นิยมโต ฌานุปฺปตฺติการณตฺตา อยํ โสฬสกฺขตฺตุกนโย กถิโต.

เอตฺตาวตา สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฏิปทานวกา, จตฺตาโร อารมฺมณนวกา, อิเม จ โสฬส นวกาติ ปฺจวีสติ นวกา กถิตา โหนฺติ. ตตฺถ เอเกกสฺมึ นวเก จตุกฺกปฺจกวเสน ทฺเว ทฺเว นยาติ ปฺาส นยา. ตตฺถ ‘‘ปฺจวีสติยา จตุกฺกนเยสุ สตํ, ปฺจกนเยสุ ปฺจวีสสต’’นฺติ ปาโต ปฺจวีสาธิกานิ ทฺเว ฌานจิตฺตสตานิ โหนฺติ. ปฺจกนเย ปน จตุกฺกนยสฺส ปวิฏฺตฺตา อตฺถโต ปฺจวีสาธิกเมว จิตฺตสตํ โหติ. ยานิ เจตานิ ปาเ ปฺจวีสาธิกานิ ทฺเว จิตฺตสตานิ เตสุ เอเกกสฺส นิทฺเทเส ธมฺมววตฺถานาทโย ตโย ตโย มหาวารา โหนฺติ. เต ปน ตตฺถ ตตฺถ นยมตฺตเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตาติ.

ปถวีกสิณํ.

๒๐๓. อิทานิ ยสฺมา อาโปกสิณาทีสุปิ เอตานิ ฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เตสํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. เตสุ สพฺโพ ปาฬินโย จ อตฺถวิภาวนา จ จิตฺตคณนา จ วารสงฺเขโป จ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภาวนานโย ปน กสิณปริกมฺมํ อาทึ กตฺวา สพฺโพ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ ๑.๙๑ อาทโย) ปกาสิโตเยว. มหาสกุลุทายิสุตฺเต ปน ทสกสิณานิ (ม. นิ. ๒.๒๕๐) วุตฺตานิ. เตสุ วิฺาณกสิณํ อากาเส ปวตฺติตมหคฺคตวิฺาณมฺปิ ตตฺถ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตา วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติปิ โหตีติ สพฺพปฺปกาเรน อารุปฺปเทสนเมว ภชติ, ตสฺมา อิมสฺมึ าเน น กถิตํ.

อากาสกสิณนฺติ ปน กสิณุคฺฆาฏิมมากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตกฺขนฺธาปิ, ภิตฺติจฺฉิทฺทาทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตพฺพนิมิตฺตปริจฺเฉทากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ จตุกฺกปฺจกชฺฌานมฺปิ วุจฺจติ. ตตฺถ ปุริมนโย อารุปฺปเทสนํ ภชติ, ปจฺฉิมนโย รูปาวจรเทสนํ. อิติ มิสฺสกตฺตา อิมํ รูปาวจรเทสนํ น อารุฬฺหํ. ปริจฺเฉทากาเส นิพฺพตฺตชฺฌานํ ปน รูปูปปตฺติยา มคฺโค โหติ ตสฺมา ตํ คเหตพฺพํ. ตสฺมึ ปน จตุกฺกปฺจกชฺฌานเมว อุปฺปชฺชติ, อรูปชฺฌานํ นุปฺปชฺชติ. กสฺมา? กสิณุคฺฆาฏนสฺส อลาภโต. ตฺหิ ปุนปฺปุนํ อุคฺฆาฏิยมานมฺปิ อากาสเมว โหตีติ น ตตฺถ กสิณุคฺฆาฏนํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตตฺถุปฺปนฺนํ ฌานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ, อภิฺาปาทกํ โหติ, วิปสฺสนาปาทกํ โหติ, นิโรธปาทกํ น โหติ. อนุปุพฺพนิโรโธ ปเนตฺถ ยาว ปฺจมชฺฌานา ลพฺภติ วฏฺฏปาทกํ โหติเยว. ยถา เจตํ เอวํ ปุริมกสิเณสุ อุปฺปนฺนํ ฌานมฺปิ. นิโรธปาทกภาโว ปเนตฺถ วิเสโส. เสสเมตฺถ อากาสกสิเณ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๘-๙๙) วุตฺตเมว.

‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’ติอาทินยํ (ที. นิ. ๑.๒๓๙; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒) ปน วิกุพฺพนํ อิจฺฉนฺเตน ปุริเมสุ อฏฺสุ กสิเณสุ อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา กสิณานุโลมโต กสิณปฏิโลมโต, กสิณานุโลมปฏิโลมโต; ฌานานุโลมโต, ฌานปฏิโลมโต, ฌานานุโลมปฏิโลมโต; ฌานุกฺกนฺติกโต, กสิณุกฺกนฺติกโต, ฌานกสิณุกฺกนฺติกโต; องฺคสงฺกนฺติกโต, อารมฺมณสงฺกนฺติกโต, องฺคารมฺมณสงฺกนฺติกโต; องฺคววตฺถานโต, อารมฺมณววตฺถานโตติ อิเมหิ จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ ปริทเมตพฺพํ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕-๓๖๖) วุตฺตาเยว.

เอวํ ปน จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ อปริทเมตฺวา, ปุพฺเพ อภาวิตภาวโน อาทิกมฺมิโก โยคาวจโร อิทฺธิวิกุพฺพนํ สมฺปาเทสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อาทิกมฺมิกสฺส หิ กสิณปริกมฺมมฺปิ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. กตกสิณปริกมฺมสฺส นิมิตฺตุปฺปาทนํ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. อุปฺปนฺเน นิมิตฺเต ตํ วฑฺเฒตฺวา อปฺปนาธิคโม ภาโร, สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. อธิคตปฺปนสฺส จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตปริทมนํ ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. จุทฺทสหากาเรหิ ปริทมิตจิตฺตสฺสาปิ อิทฺธิวิกุพฺพนํ นาม ภาโร, สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว สกฺโกติ. วิกุพฺพนปฺปตฺตสฺสาปิ ขิปฺปนิสนฺติภาโว นาม ภาโร; สเตสุ สหสฺเสสุ วา เอโกว ขิปฺปนิสนฺติ โหติ. เถรมฺพตฺถเล มหาโรหนคุตฺตตฺเถรสฺส คิลานุปฏฺานํ อาคเตสุ ตึสมตฺเตสุ อิทฺธิมนฺตสหสฺเสสุ อุปสมฺปทาย อฏฺวสฺสิโก รกฺขิตตฺเถโร วิย. สพฺพํ วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๗) วิตฺถาริตเมวาติ.

กสิณกถา.

อภิภายตนกถา

๒๐๔. เอวํ อฏฺสุ กสิเณสุ รูปาวจรกุสลํ นิทฺทิสิตฺวา, อิทานิ ยสฺมา สมาเนปิ อารมฺมเณ ภาวนาย อสมานํ อิเมสุ อฏฺสุ กสิเณสุ อฺมฺปิ อภิภายตนสงฺขาตํ รูปาวจรกุสลํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต. พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา อฏฺสุ กสิเณสุ กตปริกมฺมตาย ปริกมฺมวเสน เจว อปฺปนาวเสน จ ตานิ พหิทฺธา อฏฺสุ กสิเณสุ รูปานิ ปสฺสติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘กึ เอตฺถ ภุฺชิตพฺพํ อตฺถี’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส ปุพฺพภาโค กถิโต. อาคมฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – อิมินาสฺส ปน อาโภโค กถิโต. โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยนฺติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕).

อปฺปมาณานีติ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘อฺาปิ โหตุ ‘กิเมสา มยฺหํ กริสฺสตี’ติ ตํ น มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทฺาโณ ‘กิเมตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, น อิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’ติ ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ.

ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณนฺติ อิธ ปริตฺตานีติ อาคตตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตา น คหิตา, ปรโต อปฺปมาณานีติ อาคตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตา. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘อิมสฺมึ าเน จตฺตาริ จตฺตาริ อารมฺมณานิ อคฺคเหตฺวา ทฺเว ทฺเวว คหิตานิ. กึ การณา? จตูสุ หิ คหิเตสุ เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา โหติ, สตฺถารา จ เหฏฺา โสฬสกฺขตฺตุกา เทสนา กิลฺชมฺหิ ติเล ปตฺถรนฺเตน วิย วิตฺถารโต กถิตา. ตสฺส อิมสฺมึ าเน อฏฺกฺขตฺตุกํ เทสนํ กาตุํ อชฺฌาสโย. ตสฺมา ทฺเว ทฺเวเยว คหิตานีติ เวทิตพฺพานีติ.

สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณานิ. ปริสุทฺธานิ หิ นีลาทีนิ สุวณฺณานิ, อปริสุทฺธานิ จ ทุพฺพณฺณานีติ อิธ อธิปฺเปตานิ. อาคมฏฺกถาสุ ปน ‘สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’ติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) วุตฺตํ. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เตสํ สปฺปายตา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๓) จริยนิทฺเทเส วุตฺตา.

กสฺมา ปน, ยถา สุตฺตนฺเต ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๘.๖๕) วุตฺตํ, เอวํ อวตฺวา อิธ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาว วุตฺตาติ? อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต. ตตฺถ วา หิ อิธ วา พหิทฺธารูปาเนว อภิภวิตพฺพานิ, ตสฺมา ตานิ นิยมโต วตฺตพฺพานีติ ตตฺรปิ อิธปิ วุตฺตานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อิทํ ปน สตฺถุ เทสนาวิลาสมตฺตเมว. อยํ ตาว จตูสุ อภิภายตเนสุ อปุพฺพปทวณฺณนา. สุทฺธิกนยปฏิปทาเภโท ปเนตฺถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เอเกกสฺมึ อภิภายตเน เวทิตพฺโพ. เกวลฺเจตฺถ อารมฺมณจตุกฺกํ อารมฺมณทุกํ โหติ, โสฬสกฺขตฺตุกฺจ อฏฺกฺขตฺตุกํ. เสสํ ตาทิสเมว. เอวเมตฺถ เอเกกสฺมึ อภิภายตเน เอโก สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฏิปทานวกา, ทฺเว อารมฺมณนวกา, อารมฺมณปฏิปทามิสฺสเก อฏฺ นวกาติ ปนฺนรส นวกาติ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ สมสฏฺิ นวกา เวทิตพฺพา.

๒๔๖. ปฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน, นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน, อปฺายมานวิวรานิ, อสมฺภินฺนวณฺณานิ, เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสนวเสน วุตฺตํ; นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. สุวิสุทฺธวณฺณวเสน หิ อิมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. ปีตานีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ. ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณฺจ ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๓ อาทโย) วิตฺถารโต วุตฺตเมว. ยถา จ ปถวีกสิเณ เอวเมตฺถ เอเกกสฺมึ อภิภายตเน ปฺจวีสติ ปฺจวีสติ นวกา เวทิตพฺพา.

อภิภายตนกถา.

วิโมกฺขกถา

๒๔๘. อิทานิ ยสฺมา อิทํ รูปาวจรกุสลํ นาม น เกวลํ อารมฺมณสงฺขาตานํ อายตนานํ อภิภวนโต อภิภายตนวเสเนว อุปฺปชฺชติ, อถ โข วิโมกฺขวเสนปิ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ.

เกนฏฺเน ปน วิโมกฺโข เวทิตพฺโพติ? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก อยํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ. ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺองฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํลกฺขณฺหิ วิโมกฺขภาวปฺปตฺตํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ อยํ นโย อารทฺโธ.

ตตฺถ รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺสตฺถีติ รูปี. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ. ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. เอวํ ปริกมฺมํ กตฺวา อุปฺปนฺนชฺฌานสมงฺคินํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี. อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา.

สุภนฺติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนาย ‘สุภ’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา ‘สุภ’นฺติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตถา ทุติยาทีนิ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน ‘‘กถํ สุภนฺตฺเวว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข? อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ, เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ; กรุณา… มุทิตา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ, อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ, เอวํ สุภนฺตฺเวว อธิมุตฺโต โหตี’’ติ วิโมกฺโขติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ. อิธ ปน อุปริ ปาฬิยํเยว พฺรหฺมวิหารานํ อาคตตฺตา ตํ นยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สุนีลกสุปีตกสุโลหิตกสุโอทาตกปริสุทฺธนีลกปริสุทฺธปีตกปริสุทฺธโลหิตกปริสุทฺธโอทาตกวเสเนว สุภวิโมกฺโข อนุฺาโต. อิติ กสิณนฺติ วา อภิภายตนนฺติ วา วิโมกฺโขติ วา รูปาวจรชฺฌานเมว. ตฺหิ อารมฺมณสฺส สกลฏฺเน กสิณํ นาม, อารมฺมณํ อภิภวนฏฺเน อภิภายตนํ นาม, อารมฺมเณ อธิมุจฺจนฏฺเน ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ วิมุจฺจนฏฺเน วิโมกฺโข นามาติ วุตฺตํ. ตตฺถ กสิณเทสนา อภิธมฺมวเสน, อิตรา ปน สุตฺตนฺตเทสนาวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ อปุพฺพปทวณฺณนา. เอเกกสฺมึ ปน วิโมกฺเข ปถวีกสิเณ วิย ปฺจวีสติ ปฺจวีสตีติ กตฺวา ปฺจสตฺตติ นวกา เวทิตพฺพา.

วิโมกฺขกถา.

พฺรหฺมวิหารกถา

๒๕๑. อิทานิ เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารวเสน ปวตฺตมานํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เมตฺตาสหคตนฺติ เมตฺตาย สมนฺนาคตํ. ปรโต กรุณาสหคตาทีสุปิ เอเสว นโย. เยน ปเนส วิธาเนน ปฏิปนฺโน เมตฺตาทิสหคตานิ ฌานานิ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตํ เมตฺตาทีนํ ภาวนาวิธานํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วิตฺถาริตเมว. อวเสสาย ปาฬิยา อตฺโถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

เกวลฺหิ ปถวีกสิเณ ปฺจวีสติ นวกา, อิธ ปุริมาสุ ตีสุ ติกจตุกฺกชฺฌานิกวเสน ปฺจวีสติ สตฺตกา, อุเปกฺขาย จตุตฺถชฺฌานวเสน ปฺจวีสติ เอกกา, กรุณามุทิตาสุ จ ฉนฺทาทีหิ จตูหิ สทฺธึ กรุณามุทิตาติ อิเมปิ เยวาปนกา ลพฺภนฺติ. ทุกฺขปฏิปทาทิภาโว เจตฺถ เมตฺตาย ตาว พฺยาปาทวิกฺขมฺภนวเสน, กรุณาย วิหึสาวิกฺขมฺภนวเสน, มุทิตาย อรติวิกฺขมฺภนวเสน, อุเปกฺขาย ราคปฏิฆวิกฺขมฺภนวเสน เวทิตพฺโพ. ปริตฺตารมฺมณตา ปน นพหุสตฺตารมฺมณวเสน; อปฺปมาณารมฺมณตา พหุสตฺตารมฺมณวเสน โหตีติ อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว.

เอวํ ตาว ปาฬิวเสเนว –

พฺรหฺมุตฺตเมน กถิเต, พฺรหฺมวิหาเร อิเม อิติ วิทิตฺวา;

ภิยฺโย เอเตสุ อยํ, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.

เอตาสุ หิ เมตฺตากรุณามุทิตาอุเปกฺขาสุ อตฺถโต ตาว เมชฺชตีติ เมตฺตา, สินิยฺหตีติ อตฺโถ. มิตฺเต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตตีปิ เมตฺตา. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปนํ กโรตีติ กรุณา. กิณาติ วา ปรทุกฺขํ หึสติ วินาเสตีติ กรุณา. กิรียติ วา ทุกฺขิเตสุ ผรณวเสน ปสาริยตีติ กรุณา. โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา ตนฺติ มุทิตา. ‘อเวรา โหนฺตู’ติอาทิพฺยาปารปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา.

ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘เมตฺตา’, หิตูปสํหารรสา, อาฆาตวินยปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา. พฺยาปาทูปสโม เอติสฺสา สมฺปตฺติ, สิเนหสมฺภโว วิปตฺติ. ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘กรุณา’, ปรทุกฺขาสหนรสา, อวิหึสาปจฺจุปฏฺานา, ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสนปทฏฺานา. วิหึสูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, โสกสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ ปโมทนลกฺขณา ‘มุทิตา’, อนิสฺสายนรสา, อรติวิฆาตปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ สมฺปตฺติทสฺสนปทฏฺานา. อรติวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, ปหาสสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา ‘อุเปกฺขา’, สตฺเตสุ สมภาวทสฺสนรสา, ปฏิฆานุนยวูปสมปจฺจุปฏฺานา, ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺติ, ทุกฺขโต วา มุจฺจิสฺสนฺติ, ปตฺตสมฺปตฺติโต วา น ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ? เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺสกตาทสฺสนปทฏฺานา. ปฏิฆานุนยวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, เคหสฺสิตาย อฺาณุเปกฺขาย สมฺภโว วิปตฺติ.

จตุนฺนมฺปิ ปเนเตสํ พฺรหฺมวิหารานํ วิปสฺสนาสุขฺเจว ภวสมฺปตฺติ จ สาธารณปฺปโยชนํ, พฺยาปาทาทิปฏิฆาโต อาเวณิกํ. พฺยาปาทปฏิฆาตปฺปโยชนา เหตฺถ เมตฺตา, วิหึสาอรติราคปฏิฆาตปฺปโยชนา อิตรา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, วิเหสาย ยทิทํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ; นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, อรติยา ยทิทํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ, นิสฺสรณฺเหตํ, อาวุโส, ราคสฺส ยทิทํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๖; อ. นิ. ๖.๑๓).

เอกเมกสฺส เจตฺถ อาสนฺนทูรวเสน ทฺเว ทฺเว ปจฺจตฺถิกา. เมตฺตาพฺรหฺมวิหารสฺส หิ, สมีปจาโร วิย ปุริสสฺส สปตฺโต, คุณทสฺสนสภาคตาย ราโค อาสนฺนปจฺจตฺถิโก. โส ลหุํ โอตารํ ลภติ. ตสฺมา ตโต สุฏฺุ เมตฺตา รกฺขิตพฺพา. ปพฺพตาทิคหนนิสฺสิโต วิย ปุริสสฺส สปตฺโต สภาววิสภาคตาย พฺยาปาโท ทูรปจฺจตฺถิโก. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน เมตฺตายิตพฺพํ. เมตฺตายิสฺสติ จ นาม โกปฺจ กริสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.

กรุณาพฺรหฺมวิหารสฺส ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ อปฺปฏิลาภํ วา อปฺปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสฺสิตํ โทมนสฺส’’นฺติอาทินา นเยน อาคตํ เคหสฺสิตํ โทมนสฺสํ วิปตฺติทสฺสนสภาคตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ. สภาววิสภาคตาย วิเหสา ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน กรุณายิตพฺพํ. กรุณฺจ นาม กริสฺสติ ปาณิอาทีหิ จ วิเหสิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.

มุทิตาพฺรหฺมวิหารสฺส ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ ปฏิลาภํ วา ปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ เคหสฺสิตํ โสมนสฺส’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) นเยน อาคตํ เคหสฺสิตํ โสมนสฺสํ สมฺปตฺติทสฺสนสภาคตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิกํ. สภาววิสภาคตาย อรติ ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน มุทิตา ภาเวตพฺพา. ปมุทิโต จ นาม ภวิสฺสติ ปนฺตเสนาสเนสุ จ อธิกุสลธมฺเมสุ จ อุกฺกณฺิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ.

อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส ปน ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺส อโนธิชินสฺส อวิปากชินสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส. ยา เอวรูปา อุเปกฺขา รูปํ สา นาติวตฺตติ. ตสฺมา สา อุเปกฺขา เคหสฺสิตาติ วุจฺจตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๘) นเยน อาคตา เคหสฺสิตา อฺาณุเปกฺขา โทสคุณานํ อวิจารณวเสน สภาคตฺตา อาสนฺนปจฺจตฺถิกา. สภาววิสภาคตาย ราคปฏิฆา ทูรปจฺจตฺถิกา. ตสฺมา ตโต นิพฺภเยน อุเปกฺขิตพฺพํ. อุเปกฺขิสฺสติ จ นาม รชฺชิสฺสติ จ ปฏิหฺิสฺสติ จาติ อฏฺานเมตํ.

สพฺเพสมฺปิ จ เอเตสํ กตฺตุกามตาฉนฺโท อาทิ, นีวรณาทิวิกฺขมฺภนํ มชฺฌํ, อปฺปนา ปริโยสานํ, ปฺตฺติธมฺมวเสน เอโก วา สตฺโต อเนกา วา สตฺตา อารมฺมณํ, อุปจาเร วา อปฺปนาย วา ปตฺตาย อารมฺมณวฑฺฒนํ.

ตตฺรายํ วฑฺฒนกฺกโม – ยถา หิ กุสโล กสฺสโก กสิตพฺพฏฺานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กสติ, เอวํ ปมเมว เอกํ อาวาสํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตตฺถ สตฺเตสุ ‘อิมสฺมึ อาวาเส สตฺตา อเวรา โหนฺตู’ติอาทินา นเยน เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ตตฺถ จิตฺตํ มุทุํ กมฺมนิยํ กตฺวา ทฺเว อาวาสา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. ตโต อนุกฺกเมน ตโย จตฺตาโร ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺ นว ทส, เอกา รจฺฉา, อุปฑฺฒคาโม, คาโม, ชนปโท, รชฺชํ, เอกา ทิสาติ เอวํ ยาว เอกํ จกฺกวาฬํ, ตโต วา ปน ภิยฺโย ตตฺถ ตตฺถ สตฺเตสุ เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ตถา กรุณาทโยติ. อยเมตฺถ อารมฺมณวฑฺฒนกฺกโม.

ยถา ปน กสิณานํ นิสฺสนฺโท อารุปฺปา, สมาธีนํ นิสฺสนฺโท เนวสฺานาสฺายตนํ, วิปสฺสนานํ นิสฺสนฺโท ผลสมาปตฺติ, สมถวิปสฺสนานํ นิสฺสนฺโท นิโรธสมาปตฺติ, เอวํ ปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยสฺส นิสฺสนฺโท เอตฺถ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร. ยถา หิ ถมฺเภ อนุสฺสาเปตฺวา ตุลาสงฺฆาฏํ อนาโรเปตฺวา น สกฺกา อากาเส กูฏโคปานสิโย เปตุํ, เอวํ ปุริเมสุ ตติยชฺฌานํ วินา น สกฺกา จตุตฺถํ ภาเวตุํ. กสิเณสุ ปน อุปฺปนฺนตติยชฺฌานสฺสเปสา นุปฺปชฺชติ วิสภาคารมฺมณตฺตาติ.

เอตฺถ สิยา – ‘กสฺมา ปเนตา เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขา พฺรหฺมวิหาราติ วุจฺจนฺติ? กสฺมา จ, จตสฺโสว? โก จ เอตาสํ กโม? วิภงฺเค จ กสฺมา อปฺปมฺาติ วุตฺตา’ติ? วุจฺจเต – เสฏฺฏฺเน ตาว นิทฺโทสภาเวน เจตฺถ พฺรหฺมวิหารตา เวทิตพฺพา. สตฺเตสุ สมฺมาปฏิปตฺติภาเวน หิ เสฏฺา เอเต วิหารา. ยถา จ พฺรหฺมาโน นิทฺโทสจิตฺตา วิหรนฺติ, เอวํ เอเตหิ สมฺปยุตฺตา โยคิโน พฺรหฺมสมาว หุตฺวา วิหรนฺตีติ เสฏฺฏฺเน นิทฺโทสภาเวน จ พฺรหฺมวิหาราติ วุจฺจนฺติ.

กสฺมา จ จตสฺโสติอาทิปฺหสฺส ปน อิทํ วิสฺสชฺชนํ –

วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโส,

หิตาทิอาการวสา ปนาสํ;

กโม ปวตฺตนฺติ จ อปฺปมาเณ,

ตา โคจเร เยน ตทปฺปมฺา.

เอตาสุ หิ ยสฺมา เมตฺตา พฺยาปาทพหุลสฺส, กรุณา วิหึสาพหุลสฺส, มุทิตา อรติพหุลสฺส, อุเปกฺขา ราคพหุลสฺส วิสุทฺธิมคฺโค; ยสฺมา จ หิตูปสํหารอหิตาปนยนสมฺปตฺติโมทนอนาโภควเสน จตุพฺพิโธเยว สตฺเตสุ มนสิกาโร; ยสฺมา จ ยถา มาตา ทหรคิลานโยพฺพนปฺปตฺตสกิจฺจปสุเตสุ จตูสุ ปุตฺเตสุ ทหรสฺส อภิวุฑฺฒิกามา โหติ, คิลานสฺส เคลฺาปนยนกามา, โยพฺพนปฺปตฺตสฺส โยพฺพนสมฺปตฺติยา จิรฏฺิติกามา, สกิจฺจปสุตสฺส กิสฺมิฺจิปิ ปริยาเย อพฺยาวฏา โหติ, ตถา อปฺปมฺาวิหาริเกนาปิ สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาทิวเสน ภวิตพฺพํ, ตสฺมา อิโต วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโสว อปฺปมฺา.

ยสฺมา ปน จตสฺโสเปตา ภาเวตุกาเมน ปมํ หิตาการปฺปวตฺติวเสน สตฺเตสุ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ เมตฺตา; ตโต เอวํ ปตฺถิตหิตานํ สตฺตานํ ทุกฺขาภิภวํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สมฺภาเวตฺวา วา ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติวเสน, ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ กรุณา; อเถวํ ปตฺถิตหิตานํ ปตฺถิตทุกฺขาปคมานฺจ เนสํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา สมฺปตฺติปฺปโมทนวเสน, ปโมทนลกฺขณา จ มุทิตา; ตโต ปรํ ปน กตฺตพฺพาภาวโต อชฺฌุเปกฺขกตาสงฺขาเตน มชฺฌตฺตากาเรน ปฏิปชฺชิตพฺพํ, มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา จ อุเปกฺขา; ตสฺมา อิโต หิตาทิอาการวสา ปนาสํ ปมํ เมตฺตา วุตฺตา. อถ กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ อยํ กโม เวทิตพฺโพ.

ยสฺมา ปน สพฺพาเปตา อปฺปมาเณ โคจเร ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา อปฺปมฺาติ วุจฺจนฺติ. อปฺปมาณา หิ สตฺตา เอตาสํ โคจรภูตา, ‘เอกสตฺตสฺสาปิ จ เอตฺตเก ปเทเส เมตฺตาทโย ภาเวตพฺพา’ติ เอวํ ปมาณํ อคฺคเหตฺวา สกลผรณวเสเนว ปวตฺตาติ, เตน วุตฺตํ –

วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโส,

หิตาทิอาการวสา ปนาสํ;

กโม ปวตฺตนฺติ จ อปฺปมาเณ,

ตา โคจเร เยน ตทปฺปมฺาติ.

เอวํ อปฺปมาณโคจรตาย เอกลกฺขณาสุ จาปิ เอตาสุ ปุริมา ติสฺโส ติกจตุกฺกชฺฌานิกาว โหนฺติ. กสฺมา? โสมนสฺสาวิปฺปโยคโต. กสฺมา ปนาสํ โสมนสฺเสน อวิปฺปโยโคติ? โทมนสฺสสมุฏฺิตานํ พฺยาปาทาทีนํ นิสฺสรณตฺตา. ปจฺฉิมา ปน อวเสเสกชฺฌานิกาว. กสฺมา? อุเปกฺขาเวทนาสมฺปโยคโต. น หิ สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อุเปกฺขาเวทนํ วินา วตฺตตีติ.

พฺรหฺมวิหารกถา.

อสุภกถา

๒๖๓. อิทานิ ราคจริตสตฺตานํ เอกนฺตหิตํ นานารมฺมเณสุ เอเกกชฺฌานวเสเนว ปวตฺตมานํ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ อุทฺธุมาตกสฺาสหคตนฺติอาทีสุ, ภสฺตา วิย วายุนา, อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถานุกฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน ธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ. อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตนฺติ อุทฺธุมาตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วินีลํ วุจฺจติ วิปริภินฺนนีลวณฺณํ. วินีลเมว วินีลกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. มํสุสฺสทฏฺาเนสุ รตฺตวณฺณสฺส, ปุพฺพสนฺนิจยฏฺาเนสุ เสตวณฺณสฺส, เยภุยฺเยน จ นีลวณฺณสฺส, นีลฏฺาเน นีลสาฏกปารุตสฺเสว ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปริภินฺนฏฺาเนสุ วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพํ วิปุพฺพํ. วิปุพฺพเมว วิปุพฺพกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิปุพฺพนฺติ วิปุพฺพกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิจฺฉิทฺทํ วุจฺจติ ทฺวิธา ฉินฺทเนน อปธาริตํ, วิจฺฉิทฺทเมว วิจฺฉิทฺทกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิจฺฉิทฺทนฺติ วิจฺฉิทฺทกํ. เวมชฺเฌ ฉินฺนสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อิโต จ เอตฺโต จ วิวิธากาเรน โสณสิงฺคาลาทีหิ ขายิตํ วิกฺขายิตํ. วิกฺขายิตเมว วิกฺขายิตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขายิตนฺติ วิกฺขายิตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิวิธา ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ. วิกฺขิตฺตเมว วิกฺขิตฺตกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตกํ. ‘อฺเน หตฺถํ อฺเน ปาทํ อฺเน สีส’นฺติ เอวํ ตโต ตโต ขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. หตฺจ ตํ ปุริมนเยเนว วิกฺขิตฺตกฺจาติ หตวิกฺขิตฺตกํ. กากปทากาเรน องฺคปจฺจงฺเคสุ สตฺเถน หนิตฺวา วุตฺตนเยน วิกฺขิตฺตกสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. โลหิตํ กิรติ, วิกฺขิปติ, อิโต จิโต จ ปคฺฆรตีติ โลหิตกํ. ปคฺฆริตโลหิตมกฺขิตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุฬวา วุจฺจนฺติ กิมโย. ปุฬเว วิกิรตีติ ปุฬวกํ. กิมิปริปุณฺณสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อฏฺิเยว อฏฺิกํ. ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อฏฺีติ อฏฺิกํ. อฏฺิสงฺขลิกายปิ เอกฏฺิกสฺสปิ เอตํ อธิวจนํ. อิมานิ จ ปน อุทฺธุมาตกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตานมฺปิ นิมิตฺเตสุ ปฏิลทฺธชฺฌานานมฺปิ เอตาเนว นามานิ.

ตตฺถ อุทฺธุมาตกนิมิตฺเต อปฺปนาวเสน อุปฺปนฺนา สฺา อุทฺธุมาตกสฺา. ตาย อุทฺธุมาตกสฺาย สมฺปโยคฏฺเน สหคตํ อุทฺธุมาตกสฺาสหคตํ. วินีลกสฺาสหคตาทีสุปิ เอเสว นโย. ยํ ปเนตฺถ ภาวนาวิธานํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๓ อาทโย) วุตฺตเมว. อวเสสา ปาฬิวณฺณนา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ อิธ, จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร วิย, ปมชฺฌานวเสน เอเกกสฺมึ ปฺจวีสติ เอกกา โหนฺติ. อสุภารมฺมณสฺส จ อวฑฺฒนียตฺตา, ปริตฺเต อุทฺธุมาตกฏฺาเน อุปฺปนฺนนิมิตฺตารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณํ, มหนฺเต อปฺปมาณารมฺมณํ เวทิตพฺพํ. เสเสสุปิ เอเสว นโยติ.

อิติ อสุภานิ สุภคุโณ,

ทสสตโลจเนน ถุตกิตฺติ;

ยานิ อโวจ ทสพโล,

เอเกกชฺฌานเหตูนิ.

เอวํ ปาฬินเยเนว, ตาว สพฺพานิ ตานิ ชานิตฺวา;

เตสฺเวว อยํ ภิยฺโย, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๐);

เอเตสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อธิคตชฺฌาโน สุวิกฺขมฺภิตราคตฺตา วีตราโค วิย นิลฺโลลุปฺปจาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยฺวายํ อสุภเภโท วุตฺโต, โส สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน จ ราคจริตเภทวเสน จาติ เวทิตพฺโพ.

ฉวสรีรฺหิ ปฏิกูลภาวํ อาปชฺชมานํ อุทฺธุมาตกสภาวปฺปตฺตํ วา สิยา, วินีลกาทีนํ วา อฺตรสภาวปฺปตฺตํ. อิติ ยาทิสํ ยาทิสํ สกฺกา โหติ ลทฺธุํ ตาทิเส ตาทิเส อุทฺธุมาตกปฏิกูลํ วินีลกปฏิกูลนฺติ เอวํ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพเมวาติ สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

วิเสสโต เจตฺถ อุทฺธุมาตกํ สรีรสณฺานวิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรสณฺานราคิโน สปฺปายํ. วินีลกํ ฉวิราควิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรวณฺณราคิโน สปฺปายํ. วิปุพฺพกํ กายวณปฏิพทฺธสฺส ทุคฺคนฺธภาวสฺส ปกาสนโต มาลาคนฺธาทิวเสน สมุฏฺาปิตสรีรคนฺธราคิโน สปฺปายํ. วิจฺฉิทฺทกํ อนฺโตสุสิรภาวปฺปกาสนโต สรีเร ฆนภาวราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขายิตกํ มํสูปจยสมฺปตฺติวินาสปฺปกาสนโต ถนาทีสุ สรีรปฺปเทเสสุ มํสูปจยราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขิตฺตกํ องฺคปจฺจงฺคานํ วิกฺเขปปฺปกาสนโต องฺคปจฺจงฺคลีลาราคิโน สปฺปายํ. หตวิกฺขิตฺตกํ สรีรสงฺฆาฏเภทวิการปฺปกาสนโต สรีรสงฺฆาฏสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายํ. โลหิตกํ โลหิตมกฺขิตปฏิกูลภาวปฺปกาสนโต อลงฺการชนิตโสภราคิโน สปฺปายํ. ปุฬวกํ กายสฺส อเนกกิมิกุลสาธารณภาวปฺปกาสนโต กาเย มมตฺตราคิโน สปฺปายํ. อฏฺิกํ สรีรฏฺีนํ ปฏิกูลภาวปฺปกาสนโต ทนฺตสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายนฺติ. เอวํ ราคจริตวเสนาปิ ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ยสฺมา ปน ทสวิเธปิ เอตสฺมึ อสุเภ เสยฺยถาปิ นาม อปริสณฺิตชลาย สีฆโสตาย นทิยา อริตฺตพเลเนว นาวา ติฏฺติ, วินา อริตฺเตน น สกฺกา เปตุํ, เอวเมว ทุพฺพลตฺตา อารมฺมณสฺส วิตกฺกพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ หุตฺวา ติฏฺติ, วินา วิตกฺเกน น สกฺกา เปตุํ, ตสฺมา ปมชฺฌานเมเวตฺถ โหติ, น ทุติยาทีนิ. ปฏิกูเลปิ เจตสฺมึ อารมฺมเณ ‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิตาย เจว นีวรณสนฺตาปปฺปหาเนน จ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ‘พหุํ ทานิ เวตนํ ลภิสฺสามี’ติ อานิสํสทสฺสาวิโน ปุปฺผฉฑฺฑกสฺส คูถราสิมฺหิ วิย, อุสฺสนฺนพฺยาธิทุกฺขสฺส โรคิโน วมนวิเรจนปฺปวตฺติยํ วิย จ.

ทสวิธมฺปิ เจตํ อสุภํ ลกฺขณโต เอกเมว โหติ. ทสวิธสฺสปิ หิ เอตสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกูลภาโว เอว ลกฺขณํ. ตเทตํ อิมินา ลกฺขเณน น เกวลํ มตสรีเรเยว ทนฺตฏฺิกทสฺสาวิโน ปน เจติยปพฺพตวาสิโน มหาติสฺสตฺเถรสฺส วิย, หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ อุลฺโลเกนฺตสฺส สงฺฆรกฺขิตตฺเถรุปฏฺากสามเณรสฺส วิย จ, ชีวมานกสรีเรปิ อุปฏฺาติ. ยเถว หิ มตสรีรํ เอวํ ชีวมานกมฺปิ อสุภเมว. อสุภลกฺขณํ ปเนตฺถ อาคนฺตุเกน อลงฺกาเรน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น ปฺายตีติ.

อสุภกถา.

กึ ปน ปถวีกสิณํ อาทึ กตฺวา อฏฺิกสฺาปริโยสานาเวสา รูปาวจรปฺปนา, อุทาหุ อฺาปิ อตฺถีติ? อตฺถิ; อานาปานชฺฌานฺหิ กายคตาสติภาวนา จ อิธ น กถิตา. กิฺจาปิ น กถิตา วาโยกสิเณ ปน คหิเต อานาปานชฺฌานํ คหิตเมว; วณฺณกสิเณสุ จ คหิเตสุ เกสาทีสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานวเสน อุปฺปนฺนา กายคตาสติ, ทสสุ อสุเภสุ คหิเตสุ ทฺวตฺตึสากาเร ปฏิกูลมนสิการชฺฌานวเสน เจว นวสิวถิกาวณฺณชฺฌานวเสน จ ปวตฺตา กายคตาสติ คหิตาวาติ. สพฺพาปิ รูปาวจรปฺปนา อิธ กถิตาว โหตีติ.

รูปาวจรกุสลกถา นิฏฺิตา.

อรูปาวจรกุสลวณฺณนา

อากาสานฺจายตนํ

๒๖๕. อิทานิ อรูปาวจรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อรูปูปปตฺติยาติ อรูปภโว อรูปํ, อรูเป อุปปตฺติ อรูปูปปตฺติ, ตสฺสา อรูปูปปตฺติยา. มคฺคํ ภาเวตีติ อุปายํ เหตุํ การณํ อุปฺปาเทติ วฑฺเฒติ. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน. สพฺพาสํ วา อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๘; ที. นิ. ๒.๑๒๙). ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๔-๒๔๖; ที. นิ. ๒.๑๗๓); ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ.

สมติกฺกมาติ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, สพฺพากาเรน อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ.

ตตฺถ ยสฺมา อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส สฺาสมติกฺกโม น โหติ, สมติกฺกนฺตาสุ จ สฺาสุ อารมฺมณํ สมติกฺกนฺตเมว โหติ, ตสฺมา อารมฺมณสมติกฺกมํ อวตฺวา ‘‘ตตฺถ กตมา รูปสฺา? รูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ รูปสฺาโย. อิมา รูปสฺาโย อติกฺกนฺโต โหติ, วีติกฺกนฺโต, สมติกฺกนฺโต, เตน วุจฺจติ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ (วิภ. ๖๐๒) เอวํ วิภงฺเค สฺานํเยว สมติกฺกโม วุตฺโต. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.

ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา. รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ทสนฺนมฺปิ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ – น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ – เอวํ สนฺเตปิ, อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน วิย, สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ, อิมสฺมึ ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตา จ เอตาสํ ปวตฺติ. อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ. ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส ‘‘สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา. อาฬาโร จ กาฬาโม อารุปฺปสมาปนฺโน ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสีติ (ที. นิ. ๒.๑๙๒).

นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา หิ เอตา ‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา อิธ อธิปฺเปตา; อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ; ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา นานตฺตสฺาติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา อสมนฺนาหารา อปจฺจเวกฺขณา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ, น มนสิกโรติ, น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.

ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ ‘สมติกฺกมา อตฺถงฺคมา’ติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, นว กิริยาสฺา, ทส อกุสลสฺาติ อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิการาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’ติ อิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’ติ อิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานฺจ ปหานํ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อิติ ภควา ‘ปนฺนรสนฺนํ รูปสฺานํ สมติกฺกเมน, ทสนฺนํ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคเมน, จตุจตฺตาลีสาย นานตฺตสฺานํ อมนสิกาเรนา’ติ ตีหิ ปเทหิ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. กึ การณาติ เจ โสตูนํ อุสฺสาหชนนตฺถฺเจว ปโลภนตฺถฺจ. สเจ หิ เกจิ อปณฺฑิตา วเทยฺยุํ ‘สตฺถา อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถาติ วทติ, โก นุ โข เอตาย นิพฺพตฺติตาย อตฺโถ? โก อานิสํโส’ติ เต เอวํ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ อิเมหิ อากาเรหิ สมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. ตฺหิ เนสํ สุตฺวา เอวํ ภวิสฺสติ – ‘เอวํสนฺตา กิร อยํ สมาปตฺติ, เอวํปณีตา, นิพฺพตฺเตสฺสาม น’นฺติ. อถสฺส นิพฺพตฺตนตฺถาย อุสฺสาหํ กริสฺสนฺตีติ.

ปโลภนตฺถฺจาปิ เนสํ เอติสฺสา วณฺณํ กเถสิ, วิสกณฺฏกวาณิโช วิย. วิสกณฺฏกวาณิโช นาม คุฬวาณิโช วุจฺจติ. โส กิร คุฬผาณิตขณฺฑสกฺกราทีนิ สกเฏนาทาย ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถ วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา ‘วิสํ นาม กกฺขฬํ, โย นํ ขาทติ โส มรติ, กณฺฏโกปิ วิชฺฌิตฺวา มาเรติ. อุโภเปเต กกฺขฬา, โก เอตฺถ อานิสํโส’ติ เคหทฺวารานิ ถเกสุํ, ทารเก จ ปลาเปสุํ. ตํ ทิสฺวา วาณิโช ‘อโวหารกุสลา อิเม คามิกา, หนฺท เน อุปาเยน คณฺหาเปมี’ติ ‘อติมธุรํ คณฺหถ อติสาทุํ คณฺหถ, คุฬํ ผาณิตํ สกฺกรํ สมคฺฆํ ลพฺภติ, กูฏมาสกกูฏกหาปณาทีหิปิ ลพฺภตี’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา หฏฺปหฏฺา นิคฺคนฺตฺวา พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา คเหสุํ.

ตตฺถ วาณิชสฺส ‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’ติ อุคฺโฆสนํ วิย ภควโต ‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถา’ติ วจนํ. ‘อุโภเปเต กกฺขฬา, โก เอตฺถ อานิสํโส’ติ? คามิกานํ จินฺตนํ วิย ‘ภควา อากาสานฺจายตนํ นิพฺพตฺเตถาติ อาห, โก เอตฺถ อานิสํโส? นาสฺส คุณํ ชานามา’ติ โสตูนํ จินฺตนํ. อถสฺส วาณิชสฺส ‘อติมธุรํ คณฺหถา’ติอาทิวจนํ วิย ภควโต รูปสฺาสมติกฺกมนาทิกํ อานิสํสปฺปกาสนํ. อิทฺหิ สุตฺวา เต พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา, คามิกา วิย คุฬํ, อิมินา อานิสํเสน ปโลภิตจิตฺตา มหนฺตมฺปิ อุสฺสาหํ กตฺวา อิมํ สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตสฺสนฺตีติ อุสฺสาหชนนตฺถํ ปโลภนตฺถฺจ กเถสิ.

อากาสานฺจายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ. อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ. อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ. ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส, เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ. อิติ อากาสานฺจํ จ ตํ อายตนฺจาติปิ อากาสานฺจายตนํ. กสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมึ อากาสานฺจายตเน อปฺปนาปฺปตฺตาย สฺาย สหคตํ อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ.

ยถา ปน อฺตฺถ ‘อนนฺโต อากาโส’ติ (วิภ. ๕๐๘; ที. นิ. ๒.๑๒๙) วุตฺตํ, เอวมิธ อนนฺตนฺติ วา ปริตฺตนฺติ วา น คหิตํ. กสฺมา? อนนฺเต หิ คหิเต ปริตฺตํ น คยฺหติ, ปริตฺเต คหิเต อนนฺตํ น คยฺหติ. เอวํ สนฺเต อารมฺมณจตุกฺกํ น ปูรติ, เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา น โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ อิมสฺมึ าเน เทสนํ โสฬสกฺขตฺตุกํ กาตุํ อชฺฌาสโย, ตสฺมา อนนฺตนฺติ วา ปริตฺตนฺติ วา อวตฺวา ‘อากาสานฺจายตนสฺาสหคต’นฺติ อาห. เอวฺหิ สติ อุภยมฺปิ คหิตเมว โหติ. อารมฺมณจตุกฺกํ ปูรติ, เทสนา โสฬสกฺขตฺตุกา สมฺปชฺชติ. อวเสโส ปาฬิอตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานนิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย เจตฺถ ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา โหติ. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ เวทิตพฺพา. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปน ปวตฺตํ ฌานํ ปริตฺตารมฺมณํ วิปุลกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ เวทิตพฺพํ. อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร วิย จ อิธาปิ จตุตฺถชฺฌานวเสน ปฺจวีสติ เอกกา โหนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. วิเสสมตฺตเมว ปน เตสุ วณฺณยิสฺสาม.

วิฺาณฺจายตนํ

๒๖๖. อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ, เอตฺถ ตาว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อากาสานฺจํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ. วุตฺตนเยเนว อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตนฺติ, เอตฺถ ปน อนนฺตนฺติ มนสิกาตพฺพวเสน นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ. อนนฺตเมว อานฺจํ. วิฺาณํ อานฺจํ วิฺาณานฺจนฺติ อวตฺวา วิฺาณฺจนฺติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ รูฬฺหีสทฺโท. ตเทว วิฺาณฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อิมาย สฺาย อายตนนฺติ วิฺาณฺจายตนํ. ตสฺมึ วิฺาณฺจายตเน ปวตฺตาย สฺาย สหคตนฺติ วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตํ. อากาเส ปวตฺตวิฺาณารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาสารมฺมณํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติยา ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

อากิฺจฺายตนํ

๒๖๗. วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ. วุตฺตนเยเนว จ อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อากิฺจฺายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ; อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ. อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อิมิสฺสา สฺาย อายตนนฺติ อากิฺจฺายตนํ. ตสฺมึ อากิฺจฺายตเน ปวตฺตาย สฺาย สหคตนฺติ อากิฺจฺายตนสฺาสหคตํ. อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนา ปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณตาย ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

เนวสฺานาสฺายตนํ

อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากิฺจฺํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ อากิฺจฺายตนํ. วุตฺตนเยเนว อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณ จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมา’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ ปน ยาย สฺาย ภาวโต ตํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ วุจฺจติ, ยถา ปฏิปนฺนสฺส สา สฺา โหติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ วิภงฺเค ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ อุทฺธริตฺวา ‘‘ตฺเว อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิกโรติ สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวติ, เตน วุจฺจติ เนวสฺีนาสฺี’’ติ (วิภ. ๖๑๙) วุตฺตํ. ตตฺถ ‘สนฺตโต มนสิกโรตี’ติ ‘สนฺตา วตายํ สมาปตฺติ, ยตฺร หิ นาม นตฺถิภาวมฺปิ อารมฺมณํ กริตฺวา สฺสตี’ติ เอวํ สนฺตารมฺมณตาย นํ ‘สนฺตา’ติ มนสิกโรติ. สนฺตโต เจ มนสิกโรติ, กถํ สมติกฺกโม โหตีติ? อนาวชฺชิตุกามตาย. โส หิ กิฺจาปิ นํ สนฺตโต มนสิกโรติ, อถ ขฺวสฺส ‘อหเมตํ อาวชฺชิสฺสามิ สมาปชฺชิสฺสามิ อธิฏฺหิสฺสามิ วุฏฺหิสฺสามิ ปจฺจเวกฺขิสฺสามี’ติ เอส อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร น โหติ. กสฺมา? อากิฺจฺายตนโต เนวสฺานาสฺายตนสฺส สนฺตตรปณีตตรตาย.

ยถา หิ ราชา มหจฺจราชานุภาเวน หตฺถิกฺขนฺธคโต นครวีถิยํ วิจรนฺโต ทนฺตการาทโย สิปฺปิเก เอกํ วตฺถํ ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา เอเกน สีสํ เวเตฺวา ทนฺตจุณฺณาทีหิ สโมกิณฺณคตฺเต อเนกานิ ทนฺตวิกติอาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘อโห วต เร เฉกา อาจริยา, อีทิสานิปิ นาม สิปฺปานิ กริสฺสนฺตี’ติ, เอวํ เตสํ เฉกตาย ตุสฺสติ, น จสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ รชฺชํ ปหาย เอวรูโป สิปฺปิโก ภเวยฺย’นฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? รชฺชสิริยา มหานิสํสตาย. โส สิปฺปิเก สมติกฺกมิตฺวาว คจฺฉติ. เอวเมเวส กิฺจาปิ ตํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรติ, อถ ขฺวสฺส ‘อหเมตํ สมาปตฺตึ อาวชฺชิสฺสามิ สมาปชฺชิสฺสามิ อธิฏฺหิสฺสามิ วุฏฺหิสฺสามิ ปจฺจเวกฺขิสฺสามี’ติ เนว เอส อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโร โหติ. โส ตํ สนฺตโต มนสิ กโรนฺโต ตํ ปรมสุขุมํ อปฺปนาปฺปตฺตํ สฺํ ปาปุณาติ, ยาย ‘เนวสฺีนาสฺี นาม โหติ, สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวตี’ติ วุจฺจติ. ‘สงฺขาราวเสสสมาปตฺติ’นฺติ อจฺจนฺตสุขุมภาวปฺปตฺตสงฺขารํ จตุตฺถารุปฺปสมาปตฺตึ.

อิทานิ ยํ ตํ เอวํ อธิคตาย สฺาย วเสน เนวสฺานาสฺายตนนฺติ วุจฺจติ, ตํ อตฺถโต ทสฺเสตุํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตนนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วา, อุปปนฺนสฺส วา, ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา’’ติ (วิภ. ๖๒๐) วุตฺตํ. เตสุ อิธ สมาปนฺนสฺส จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อธิปฺเปตา.

วจนตฺโถ ปเนตฺถ – โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ ภาวโต, เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส สฺา, นาสฺาติ เนวสฺานาสฺํ. เนวสฺานาสฺฺจ ตํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตา อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. อถ วา ยายเมตฺถ สฺา, สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา. เนวสฺานาสฺา จ สา เสสธมฺมานํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ.

น เกวลฺเจตฺถ สฺาว เอทิสี, อถ โข เวทนาปิ เนวเวทนา นาเวทนา, จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํ นาจิตฺตํ, ผสฺโสปิ เนวผสฺโส นาผสฺโสติ. เอส นโย เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ. สฺาสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา. ปตฺตมกฺขนเตลปฺปภุตีหิ จ อุปมาหิ เอสมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ – สามเณโร กิร เตเลน ปตฺตํ มกฺเขตฺวา เปสิ. ตํ ยาคุปานกาเล เถโร ‘ปตฺตมาหรา’ติ อาห. โส ‘ปตฺเต เตลมตฺถิ, ภนฺเต’ติ อาห. ตโต ‘อาหร, สามเณร, เตลํ นาฬึ ปูเรสฺสามี’ติ วุตฺเต ‘นตฺถิ, ภนฺเต, เตล’นฺติ อาห. ตตฺถ ยถา อนฺโตวุตฺถตฺตา ยาคุยา สทฺธึ อกปฺปิยฏฺเน เตลํ อตฺถีติ โหติ, นาฬิปูรณาทีนํ อภาววเสน นตฺถีติ โหติ, เอวํ สาปิ สฺา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺา โหติ.

กิมฺปเนตฺถ สฺากิจฺจนฺติ? อารมฺมณสฺชานนฺเจว วิปสฺสนาย จ วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนํ. ทหนกิจฺจมิว หิ สุโขทเก เตโชธาตุ, สฺชานนกิจฺจมฺเปสา ปฏุํ กาตุํ น สกฺโกติ. เสสสมาปตฺตีสุ สฺา วิย วิปสฺสนาย วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนมฺปิ กาตุํ น สกฺโกติ. อฺเสุ หิ ขนฺเธสุ อกตาภินิเวโส ภิกฺขุ เนวสฺานาสฺายตนกฺขนฺเธ สมฺมสิตฺวา นิพฺพิทํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. อปิจ อายสฺมา สาริปุตฺโต, ปกติวิปสฺสโก ปน มหาปฺโ สาริปุตฺตสทิโสว สกฺกุเณยฺย. โสปิ ‘‘เอวํ กิริเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๕) เอวํ กลาปสมฺมสนวเสเนว, โน อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน. เอวํ สุขุมตฺตํ คตา เอสา สมาปตฺติ.

ยถา จ ปตฺตมกฺขนเตลูปมาย เอวํ มคฺคุทกูปมายปิ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. มคฺคปฏิปนฺนสฺส กิร เถรสฺส ปุรโต คจฺฉนฺโต สามเณโร โถกมุทกํ ทิสฺวา ‘อุทกํ, ภนฺเต, อุปาหนา โอมุฺจถา’ติ อาห. ตโต เถเรน ‘สเจ อุทกมตฺถิ, อาหร นฺหานสาฏกํ, นฺหายิสฺสามี’ติ วุตฺเต ‘นตฺถิ, ภนฺเต’ติ อาห. ตตฺถ ยถา อุปาหนเตมนมตฺตฏฺเน อุทกํ อตฺถีติ โหติ, นฺหานฏฺเน นตฺถีติ โหติ, เอวมฺปิ สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนว สฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺา โหติ. น เกวลฺจ เอตาเหว, อฺาหิปิ อนุรูปาหิ อุปมาหิ เอส อตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. อิติ อิมาย เนวสฺานาสฺายตเน ปวตฺตาย สฺาย เนวสฺานาสฺายตนภูตาย วา สฺาย สหคตนฺติ เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ. อากิฺจฺายตนสมาปตฺติอารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ.

อิธ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา นิกนฺติปริยาทานทุกฺขตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, ปริยาทินฺนนิกนฺติกสฺส อปฺปนาปริวาสทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา. วิปริยาเยน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จ. ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติตาย ปริตฺตารมฺมณตา, วิปริยาเยน อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

อสทิสรูโป นาโถ, อารุปฺปํ ยํ จตุพฺพิธํ อาห;

ตํ อิติ ตฺวา ตสฺมึ, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.

อรูปสมาปตฺติโย หิ –

อารมฺมณาติกฺกมโต, จตสฺโสปิ ภวนฺติมา;

องฺคาติกฺกมเมตาสํ, น อิจฺฉนฺติ วิภาวิโน.

เอตาสุ หิ รูปนิมิตฺตาติกฺกมโต ปมา, อากาสาติกฺกมโต ทุติยา, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยา, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณสฺส อปคมาติกฺกมโต จตุตฺถาติ สพฺพถา ‘อารมฺมณาติกฺกมโต จตสฺโสปิ ภวนฺติมา’ อรูปสมาปตฺติโยติ เวทิตพฺพา. องฺคาติกฺกมํ ปน เอตาสํ น อิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา. น หิ รูปาวจรสมาปตฺตีสุ วิย เอตาสุ องฺคาติกฺกโม อตฺถิ. สพฺพาสุปิ หิ เอตาสุ อุเปกฺขา จิตฺเตกคฺคตาติ ทฺเว เอว ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ –

สุปณีตตรา โหนฺติ, ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธ;

อุปมา ตตฺถ วิฺเยฺยา, ปาสาทตลสาฏิกา.

ยถา หิ จตุภูมกปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล ทิพฺพนจฺจคีตวาทิตสุรภิคนฺธมาลาสาทุรสปานโภชนสยนจฺฉาทนาทิวเสน ปณีตา ปฺจ กามคุณา ปจฺจุปฏฺิตา อสฺสุ, ทุติเย ตโต ปณีตตรา, ตติเย ตโต ปณีตตมา, จตุตฺเถ สพฺพปณีตา; ตตฺถ กิฺจาปิ ตานิ จตฺตาริปิ ปาสาทตลาเนว, นตฺถิ เนสํ ปาสาทตลภาเวน วิเสโส, ปฺจกามคุณสมิทฺธิวิเสเสน ปน เหฏฺิมโต เหฏฺิมโต อุปริมํ อุปริมํ ปณีตตรํ โหติ.

ยถา จ เอกาย อิตฺถิยา กนฺติตถูลสณฺหสณฺหตรสณฺหตมสุตฺตานํ จตุปลติปลทฺวิปลเอกปลสาฏิกา อสฺสุ, อายาเมน วิตฺถาเรน จ สมปฺปมาณา; ตตฺถ กิฺจาปิ ตา สาฏิกา จตสฺโสปิ อายามโต จ วิตฺถารโต จ สมปฺปมาณา, นตฺถิ ตาสํ ปมาณโต วิเสโส, สุขสมฺผสฺสสุขุมภาวมหคฺฆภาเวหิ ปน ปุริมาย ปุริมาย ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา ปณีตตรา โหนฺติ, เอวเมว กิฺจาปิ จตูสุปิ เอตาสุ อุเปกฺขา จิตฺเตกคฺคตาติ เอตานิ ทฺเวเยว องฺคานิ โหนฺติ, อถ โข ภาวนาวิเสเสน เตสํ องฺคานํ ปณีตปณีตตรภาเวน สุปณีตตรา โหนฺติ ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธาติ เวทิตพฺพา. เอวํ อนุปุพฺเพน ปณีตปณีตา เจตา –

อสุจิมฺหิ มณฺฑเป ลคฺโค, เอโก ตํ นิสฺสิโต ปโร;

อฺโ พหิ อนิสฺสาย, ตํ ตํ นิสฺสาย จาปโร.

ิโต จตูหิ เอเตหิ, ปุริเสหิ ยถากฺกมํ;

สมานตาย าตพฺพา, จตสฺโสปิ วิภาวินา. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๑);

ตตฺรายมตฺถโยชนา – อสุจิมฺหิ กิร เทเส เอโก มณฺฑโป. อเถโก ปุริโส อาคนฺตฺวา ตํ อสุจึ ชิคุจฺฉมาโน ตํ มณฺฑปํ หตฺเถหิ อาลมฺพิตฺวา ตตฺถ ลคฺโค, ลคฺคิโต วิย อฏฺาสิ. อถาปโร อาคนฺตฺวา ตํ มณฺฑปลคฺคํ ปุริสํ นิสฺสิโต. อถฺโ อาคนฺตฺวา จินฺเตสิ – ‘โย เอส มณฺฑเป ลคฺโค, โย จ ตํ นิสฺสิโต, อุโภเปเต ทุฏฺิตา; ธุโว จ เนสํ มณฺฑปปปาเต ปาโต, หนฺทาหํ พหิเยว ติฏฺามี’ติ โส ตนฺนิสฺสิตํ อนิสฺสาย พหิเยว อฏฺาสิ. อถาปโร อาคนฺตฺวา มณฺฑปลคฺคสฺส ตนฺนิสฺสิตสฺส จ อเขมภาวํ จินฺเตตฺวา พหิิตฺจ สุฏฺิโตติ มนฺตฺวา ตํ นิสฺสาย อฏฺาสิ.

ตตฺถ อสุจิมฺหิ เทเส มณฺฑโป วิย กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ทฏฺพฺพํ. อสุจิชิคุจฺฉาย มณฺฑปลคฺโค ปุริโส วิย รูปนิมิตฺตชิคุจฺฉาย อากาสารมฺมณํ อากาสานฺจายตนํ. มณฺฑปลคฺคํ ปุริสํ นิสฺสิโต วิย อากาสารมฺมณํ อากาสานฺจายตนํ อารพฺภ ปวตฺตํ วิฺาณฺจายตนํ. เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ อเขมภาวํ จินฺเตตฺวา อนิสฺสาย ตํ มณฺฑปลคฺคํ, พหิิโต วิย, อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณํ อกตฺวา ตทภาวารมฺมณํ อากิฺจฺายตนํ. มณฺฑปลคฺคสฺส ตนฺนิสฺสิตสฺส จ อเขมตํ จินฺเตตฺวา พหิิตฺจ ‘สุฏฺิโต’ติ มนฺตฺวา ตํ นิสฺสาย ิโต วิย วิฺาณาภาวสงฺขาเต พหิปเทเส ิตํ อากิฺจฺายตนํ อารพฺภ ปวตฺตํ เนวสฺานาสฺายตนํ ทฏฺพฺพํ. เอวํ ปวตฺตมานฺจ –

อารมฺมณํ กโรเตว, อฺาภาเวน ตํ อิทํ;

ทิฏฺโทสมฺปิ ราชานํ, วุตฺติเหตุ ยถา ชโน. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๒);

อิทฺหิ เนวสฺานาสฺายตนํ ‘อาสนฺนวิฺาณฺจายตนปจฺจตฺถิกา อยํ สมาปตฺตี’ติ เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ ตํ อากิฺจฺายตนํ อฺสฺส อารมฺมณสฺส อภาวา อารมฺมณํ กโรเตว. ยถา กึ? ‘ทิฏฺโทสมฺปิ ราชานํ วุตฺติเหตุ ยถา ชโน’. ยถา หิ อสํยตํ ผรุสกายวจีมโนสมาจารํ กฺจิ สพฺพทิสมฺปตึ ราชานํ ‘ผรุสสมาจาโร อย’นฺติ เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ อฺตฺถ วุตฺตึ อลภมาโน ชโน วุตฺติเหตุ นิสฺสาย วตฺตติ, เอวํ ทิฏฺโทสมฺปิ ตํ อากิฺจฺายตนํ อฺํ อารมฺมณํ อลภมานมิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อารมฺมณํ กโรเตว. เอวํ กุรุมานฺจ –

อารุฬฺโห ทีฆนิสฺเสณึ, ยถา นิสฺเสณิพาหุกํ;

ปพฺพตคฺคฺจ อารุฬฺโห, ยถา ปพฺพตมตฺถกํ.

ยถา วา คิริมารุฬฺโห, อตฺตโนเยว ชณฺณุกํ;

โอลุพฺภติ ตเถเวตํ, ฌานโมลุพฺภ วตฺตตีติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๙๓);

อรูปาวจรกุสลกถา นิฏฺิตา.

เตภูมกกุสลวณฺณนา

๒๖๙. อิทานิ ยสฺมา สพฺพานิเปตานิ เตภูมกกุสลานิ หีนาทินา ปเภเทน วตฺตนฺติ, ตสฺมา เตสํ ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ หีนนฺติ ลามกํ. ตํ อายูหนวเสน เวทิตพฺพํ. หีนุตฺตมานํ มชฺเฌ ภวํ มชฺฌิมํ. ปธานภาวํ นีตํ ปณีตํ, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ. ตานิปิ อายูหนวเสเนว เวทิตพฺพานิ. ยสฺส หิ อายูหนกฺขเณ ฉนฺโท วา หีโน โหติ, วีริยํ วา, จิตฺตํ วา, วีมํสา วา, ตํ หีนํ นาม. ยสฺส เต ธมฺมา มชฺฌิมา เจว ปณีตา, จ ตํ มชฺฌิมฺเจว ปณีตฺจ. ยํ ปน กตฺตุกามตาสงฺขาตํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ เชฏฺกํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อายูหิตํ, ตํ ฉนฺทาธิปติโต อาคตตฺตา ฉนฺทาธิปเตยฺยํ นาม. วีริยาธิปเตยฺยาทีสุปิ เอเสว นโย.

อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา นยา คเณตพฺพา. สพฺพปมํ วิภตฺโต หิ เอโก นโย, หีนนฺติ เอโก, มชฺฌิมนฺติ เอโก, ปณีตนฺติ เอโก, ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติ เอโก. อิเม ตาว ฉนฺทาธิปเตยฺเย ปฺจ นยา. เอวํ วีริยาธิปเตยฺยาทีสุปีติ จตฺตาโร ปฺจกา วีสติ โหนฺติ. ปุริโม วา เอโก สุทฺธิกนโย, หีนนฺติอาทโย ตโย, ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติอาทโย จตฺตาโร, ฉนฺทาธิปเตยฺยํ หีนนฺติอาทโย ทฺวาทสาติ เอวมฺปิ วีสติ นยา โหนฺติ.

อิเม วีสติ มหานยา กตฺถ วิภตฺตาติ? มหาปกรเณ (ปฏฺา. ๒.๑๔.๑) หีนตฺติเก วิภตฺตา. อิมสฺมึ ปน าเน หีนตฺติกโต มชฺฌิมราสึ คเหตฺวา หีนมชฺฌิมปณีตวเสน ตโย โกฏฺาสา กาตพฺพา. ตโตปิ มชฺฌิมราสึ เปตฺวา หีนปณีเต คเหตฺวา นว นว โกฏฺาสา กาตพฺพา. หีนสฺมึเยว หิ หีนํ อตฺถิ มชฺฌิมํ อตฺถิ ปณีตํ อตฺถิ. ปณีตสฺมิมฺปิ หีนํ อตฺถิ มชฺฌิมํ อตฺถิ ปณีตํ อตฺถิ. ตถา หีนหีนสฺมึ หีนํ, หีนหีนสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนหีนสฺมึ ปณีตํ. หีนมชฺฌิมสฺมึ หีนํ, หีนมชฺฌิมสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนมชฺฌิมสฺมึ ปณีตํ. หีนปณีตสฺมึ หีนํ, หีนปณีตสฺมึ มชฺฌิมํ, หีนปณีตสฺมึ ปณีตนฺติ อยเมโก นวโก. ปณีตหีนสฺมิมฺปิ หีนํ นาม อตฺถิ, ปณีตหีนสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตหีนสฺมึ ปณีตํ. ตถา ปณีตมชฺฌิมสฺมึ หีนํ, ปณีตมชฺฌิมสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตมชฺฌิมสฺมึ ปณีตํ. ปณีตปณีตสฺมึ หีนํ, ปณีตปณีตสฺมึ มชฺฌิมํ, ปณีตปณีตสฺมึ ปณีตนฺติ. อยํ ทุติโย นวโกติ ทฺเว นวกา อฏฺารส. อิมานิ อฏฺารส กมฺมทฺวารานิ นาม. อิเมหิ ปภาวิตตฺตา, อิเมสํ วเสน, อฏฺารส ขตฺติยา, อฏฺารส พฺราหฺมณา, อฏฺารส เวสฺสา, อฏฺารส สุทฺทา, อฏฺจตฺตาลีส โคตฺตจรณานิ เวทิตพฺพานิ.

อิเมสุ จ ปน เตภูมเกสุ กุสเลสุ กามาวจรกุสลํ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ โหติ าณสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตวเสน. รูปาวจรารูปาวจรํ ปน ติเหตุกเมว าณสมฺปยุตฺตเมว. กามาวจรมฺเปตฺถ อธิปตินา สหาปิ อุปฺปชฺชติ วินาปิ. รูปาวจรารูปาวจรํ อธิปติสมฺปนฺนเมว โหติ. กามาวจรกุสเล เจตฺถ อารมฺมณาธิปติ สหชาตาธิปตีติ ทฺเวปิ อธิปตโย ลพฺภนฺติ. รูปาวจรารูปาวจเรสุ อารมฺมณาธิปติ น ลพฺภติ, สหชาตาธิปติเยว ลพฺภติ. ตตฺถ จิตฺตสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสน วุตฺโต. ทฺวินฺนํ ปน จิตฺตานํ เอกโต อภาเวน สมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส จิตฺตาธิปติ นาม นตฺถิ. ตถา ฉนฺทาทีนํ ฉนฺทาธิปติอาทโย. เกจิ ปน ‘สเจ จิตฺตวโต กุสลํ โหติ, มยฺหํ ภวิสฺสตีติ เอวํ ยํ จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา เชฏฺกํ กตฺวา อปรํ กุสลจิตฺตํ อายูหิตํ, ตสฺส ตํ ปุริมจิตฺตํ จิตฺตาธิปติ นาม โหติ, ตโต อาคตตฺตา อิทํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ นามา’ติ เอวํ อาคมนวเสนาปิ อธิปตึ นาม อิจฺฉนฺติ. อยํ ปน นโย เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถายํ ทิสฺสติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อธิปติภาโว เวทิตพฺโพ. อิเมสุ จ เอกูนวีสติยา มหานเยสุ ปุริเม สุทฺธิกนเย วุตฺตปริมาณาเนว จิตฺตานิ จ นวกา จ ปาวารา จ โหนฺติ. ตสฺมา าณสมฺปยุตฺเตสุ วุตฺตปริมาณโต วีสติคุโณ จิตฺตนวกวารเภโท เวทิตพฺโพ, จตูสุ าณวิปฺปยุตฺเตสุ โสฬสคุโณติ, อยํ เตภูมกกุสเล ปกิณฺณกกถา นามาติ.

เตภูมกกุสลํ.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา

๒๗๗. เอวํ ภวตฺตยสมฺปตฺตินิพฺพตฺตกํ กุสลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺพภวสมติกฺกมนาย โลกุตฺตรกุสลํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ โลกุตฺตรนฺติ เกนฏฺเน โลกุตฺตรํ? โลกํ ตรตีติ, โลกุตฺตรํ โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ; โลกํ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฏฺตีติ โลกุตฺตรํ (ปฏิ. ม. ๒.๔๓). ฌานํ ภาเวตีติ เอกจิตฺตกฺขณิกํ อปฺปนาฌานํ ภาเวติ ชเนติ วฑฺเฒติ.

โลกโต นิยฺยาติ วฏฺฏโต นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกํ. นิยฺยาติ วา เอเตนาติ นิยฺยานิกํ. ตํสมงฺคี หิ ปุคฺคโล ทุกฺขํ ปริชานนฺโต นิยฺยาติ, สมุทยํ ปชหนฺโต นิยฺยาติ, นิโรธํ สจฺฉิกโรนฺโต นิยฺยาติ, มคฺคํ ภาเวนฺโต นิยฺยาติ. ยถา จ ปน เตภูมกกุสลํ วฏฺฏสฺมึ จุติปฏิสนฺธิโย อาจินาติ วฑฺเฒตีติ อาจยคามี นาม โหติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน ยถา เอกสฺมึ ปุริเส อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ จินนฺเต อปโร มหามุคฺครํ คเหตฺวา เตน จิตจิตฏฺานํ อปจินนฺโต วิทฺธํเสนฺโต เอว คจฺเฉยฺย, เอวเมว เตภูมกกุสเลน จิตา จุติปฏิสนฺธิโย ปจฺจยเวกลฺลกรเณน อปจินนฺตํ วิทฺธํเสนฺตํ คจฺฉตีติ อปจยคามิ.

ทิฏฺิคตานํ ปหานายาติ, เอตฺถ ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺิคตานิ, คูถคตํ มุตฺตคตนฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. ทฺวาสฏฺิยา วา ทิฏฺีนํ อนฺโตคธตฺตา ทิฏฺีสุ คตานีติปิ ทิฏฺิคตานิ. ทิฏฺิยา วา คตํ เอเตสนฺติปิ ทิฏฺิคตานิ. ทิฏฺิสทิสคมนานิ ทิฏฺิสทิสปฺปวตฺตานีติ อตฺโถ. กานิ ปน ตานีติ? สสมฺปยุตฺตานิ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอปายคมนียราคโทสโมหากุสลานิ. ตานิ หิ ยาว ปมมคฺคภาวนา ตาว ปวตฺติสพฺภาวโต ทิฏฺิสทิสคมนานีติ วุจฺจนฺติ. อิติ ทิฏฺิโย จ ทิฏฺิคตานิ จ ทิฏฺิคตานิ. เตสํ ทิฏฺิคตานํ. ปหานายาติ สมุจฺเฉทวเสเนว ปชหนตฺถาย. ปมายาติ คณนวเสนปิ ปมุปฺปตฺติวเสนปิ ปมาย. ภูมิยาติ ‘‘อนนฺตรหิตาย ภูมิยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๗; ม. นิ. ๒.๒๙๖) ตาว อยํ มหาปถวี ภูมีติ วุจฺจติ. ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๙๘๘) จิตฺตุปฺปาโท. อิธ ปน สามฺผลํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ สมฺปยุตฺตานํ นิสฺสยภาวโต เต ธมฺมา ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมิ. ยสฺมา วา สมาเนปิ โลกุตฺตรภาเว สยมฺปิ ภวติ อุปฺปชฺชติ, น นิพฺพานํ วิย อปาตุภาวํ, ตสฺมาปิ ภูมีติ วุจฺจติ; ตสฺสา ปมาย ภูมิยา. ปตฺติยาติ โสตาปตฺติผลสงฺขาตสฺส ปมสฺส สามฺผลสฺส ปตฺตตฺถาย ปฏิลาภตฺถายาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิวิจฺจาติ สมุจฺเฉทวิเวกวเสน วิวิจฺจิตฺวา, วินา หุตฺวา.

อิทานิ กิฺจาปิ โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌติ, เอวํ สนฺเตปิ อิธ สุทฺธิกนยํ ปหาย โลกุตฺตรชฺฌานํ ปฏิปทาย สทฺธึเยว ครุํ กตฺวา เทเสตุกามตาย ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ โย อาทิโตว กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ; โย ปน วิกฺขมฺภิต กิเลโส วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ ตสฺส ทนฺธาภิฺา โหติ. อิติ โย โกจิ วาโร ทุกฺขปฏิปททนฺธาภิฺโ นาม กโต.

กตมํ ปน วารํ โรเจสุนฺติ? ยตฺถ สกึ วิกฺขมฺภิตา กิเลสา สมุทาจริตฺวา ทุติยมฺปิ วิกฺขมฺภิตา ปุน สมุทาจรนฺติ, ตติยํ วิกฺขมฺภิเต ปน ตถาวิกฺขมฺภิเตว กตฺวา มคฺเคน สมุคฺฆาตํ ปาเปติ, อิมํ วารํ โรเจสุํ. อิมสฺส วารสฺส ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺาติ นามํ กตํ. เอตฺตเกน ปน น ปากฏํ โหติ. ตสฺมา เอวเมตฺถ อาทิโต ปฏฺาย วิภาวนา เวทิตพฺพา – โย หิ จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตฺวา อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ, อรูปํ ปริคฺคณฺหาติ, ‘รูปารูปํ’ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา นาม โหติ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส ปน วิปสฺสนาปริวาเส มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

โยปิ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ‘นามรูปํ’ ววตฺถเปนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ววตฺถเปติ, ววตฺถาปิเต จ นามรูเป วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺสาปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร นามรูปมฺปิ ววตฺถเปตฺวา ‘ปจฺจเย’ ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคณฺหาติ, ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร ปจฺจเยปิ ปริคฺคเหตฺวา ‘ลกฺขณานิ’ ปฏิวิชฺฌนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปฏิวิชฺฌติ, ปฏิวิทฺธลกฺขโณ จ วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร ลกฺขณานิปิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิปสฺสนาาเณ ติกฺเข สูเร ปสนฺเน วหนฺเต อุปฺปนฺนํ ‘วิปสฺสนานิกนฺตึ’ ปริยาทิยมาโน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริยาทิยติ, นิกนฺติฺจ ปริยาทิยิตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ, เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อิมํ วารํ โรเจสุํ. อิมสฺส วารสฺส เอตํ นามํ กตํ. อิมินาว อุปาเยน ปรโต ติสฺโส ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

ผสฺโส โหตีติอาทีสุ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโวติ จตฺตาริ ปทานิ อธิกานิ. นิทฺเทสวาเร จ วิตกฺกาทินิทฺเทเสสุ ‘มคฺคงฺค’นฺติอาทีนิ ปทานิ อธิกานิ. เสสํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. ภูมนฺตรวเสน ปน โลกุตฺตรตาว อิธ วิเสโส.

ตตฺถ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ ‘อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อนฺาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมเมว วา ชานิสฺสามี’ติ ปฏิปนฺนสฺส อิมินา ปุพฺพาโภเคน อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เหฏฺา ปฺินฺทฺริเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

สุนฺทรา ปสตฺถา วา วาจา สมฺมาวาจา. วจีทุจฺจริตสมุคฺฆาฏิกาย มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ อธิวจนํ. สา ปริคฺคหลกฺขณา วิรมณรสา มิจฺฉาวาจปฺปหานปจฺจุปฏฺานา. สุนฺทโร ปสตฺโถ วา กมฺมนฺโต สมฺมากมฺมนฺโต. มิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกาย ปาณาติปาตาทิวิรติยา เอตํ นามํ. โส สมุฏฺานลกฺขโณ วิรมณรโส มิจฺฉากมฺมนฺตปฺปหานปจฺจุปฏฺาโน. สุนฺทโร ปสตฺโถ วา อาชีโว สมฺมาอาชีโว. มิจฺฉาชีววิรติยา เอตํ อธิวจนํ. โส โวทานลกฺขโณ ายาชีวปฺปวตฺติรโส มิจฺฉาชีวปฺปหานปจฺจุปฏฺาโน.

อปิจ เหฏฺา วิรติตฺตเย วุตฺตวเสนเปตฺถ ลกฺขณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อิติ อิเมสํ ติณฺณํ ธมฺมานํ วเสน เหฏฺา วุตฺตํ มคฺคปฺจกํ อิธ มคฺคฏฺกํ เวทิตพฺพํ. เยวาปนเกสุ จ อิเมสํ อภาโว. ตถา กรุณามุทิตานํ. อิเม หิ ตโย ธมฺมา อิธ ปาฬิยํ อาคตตฺตาว เยวาปนเกสุ น คหิตา. กรุณามุทิตา ปน สตฺตารมฺมณา, อิเม ธมฺมา นิพฺพานารมฺมณาติ ตาเปตฺถ น คหิตา. อยํ ตาว อุทฺเทสวาเร วิเสสตฺโถ.

๒๘๓. นิทฺเทสวาเร ปน มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนนฺติ เอตฺถ ตาว มคฺคสฺส องฺคนฺติ มคฺคงฺคํ; มคฺคโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ยถา ปน อรฺเ ปริยาปนฺนํ อรฺปริยาปนฺนํ นาม โหติ, เอวํ มคฺเค ปริยาปนฺนนฺติ มคฺคปริยาปนฺนํ. มคฺคสนฺนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

๒๘๕. ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอตฺถ ปีติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโคติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค. ตตฺถ โพธิยา โพธิสฺส วา องฺโคติ โพชฺฌงฺโค. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา อยํ ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ. พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ. ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺโคติปิ โพชฺฌงฺโค, ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺโคติปิ โพชฺฌงฺโค; เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา – ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๔๖๖; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๘๒).

อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา? โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, ปฏิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) อิมินา ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปสตฺโถ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. เอวํ ปีติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคติ. จิตฺเตกคฺคตานิทฺเทสาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๒๙๖. เตสํ ธมฺมานนฺติ เย ตสฺมึ สมเย ปฏิเวธํ คจฺฉนฺติ จตุสจฺจธมฺมา, เตสํ ธมฺมานํ. อนฺาตานนฺติ กิฺจาปิ ปมมคฺเคน เต ธมฺมา าตา นาม โหนฺติ, ยถา ปน ปกติยา อนาคตปุพฺพํ วิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารมชฺเฌ ิโตปิ ปุคฺคโล ปกติยา อนาคตภาวํ อุปาทาย ‘อนาคตปุพฺพํ านํ อาคโตมฺหี’ติ วทติ, ยถา จ ปกติยา อปิฬนฺธปุพฺพํ มาลํ ปิฬนฺธิตฺวา, อนิวตฺถปุพฺพํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา, อภุตฺตปุพฺพํ โภชนํ ภุฺชิตฺวา, ปกติยา อภุตฺตภาวํ อุปาทาย อภุตฺตปุพฺพํ โภชนํ ภุตฺโตมฺหีติ วทติ, เอวมิธาปิ ยสฺมา ปกติยา อิมินา ปุคฺคเลน อิเม ธมฺมา น าตปุพฺพา ตสฺมา อนฺาตานนฺติ วุตฺตํ. อทิฏฺาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อทิฏฺานนฺติ อิโต ปุพฺเพ ปฺาจกฺขุนา อทิฏฺานํ. อปฺปตฺตานนฺติ อธิคมนวเสน อปฺปตฺตานํ. อวิทิตานนฺติ าเณน อปากฏกตานํ. อสจฺฉิกตานนฺติ อปจฺจกฺขกตานํ. สจฺฉิกิริยายาติ ปจฺจกฺขกรณตฺถํ. ยถา จ อิมินา ปเทน, เอวํ เสเสหิปิ สทฺธึ อนฺาตานํ าณาย, อทิฏฺานํ ทสฺสนาย, อปฺปตฺตานํ ปตฺติยา, อวิทิตานํ เวทายาติ โยชนา กาตพฺพา.

๒๙๙. จตูหิ วจีทุจฺจริเตหีติอาทีสุ วจีติ วจีวิฺตฺติ เวทิตพฺพา. ติณฺณํ โทสานํ เยน เกนจิ ทุฏฺานิ จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. วจีโต ปวตฺตานิ ทุจฺจริตานิ วจีทุจฺจริตานิ, วจิยา วา นิปฺผาทิตานิ ทุจฺจริตานิ วจีทุจฺจริตานิ. เตหิ วจีทุจฺจริเตหิ. อารกา รมตีติ อารติ. วินา เตหิ รมตีติ วิรติ. ตโต ตโต ปฏินิวตฺตาว หุตฺวา เตหิ วินา รมตีติ ปฏิวิรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. สพฺพมิทํ โอรมณภาวสฺเสวาธิวจนํ. เวรํ มณติ, วินาเสตีติ เวรมณี. อิทมฺปิ โอรมณสฺเสว เววจนํ. ยาย ปน เจตนาย มุสาวาทาทีนิ ภาสมาโน กโรติ นาม, อยํ โลกุตฺตรมคฺควิรติ. อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ กิริยํ กาตุํ น เทติ, กิริยาปถํ ปจฺฉินฺทตีติ อกิริยา. ตถา ตํ กรณํ กาตุํ น เทติ, กรณปถํ ปจฺฉินฺทตีติ อกรณํ. ยาย จ เจตนาย จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ ภาสมาโน อชฺฌาปชฺชติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตถา อชฺฌาปชฺชิตุํ น เทตีติ อนชฺฌาปตฺติ.

เวลาอนติกฺกโมติ เอตฺถ ‘‘ตาย เวลายา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๔; มหาว. ๑-๓; อุทา. ๑ อาทโย) ตาว กาโล เวลาติ อาคโต. ‘‘อุรุเวลายํ วิหรตี’’ติ (มหาว. ๑; สํ. นิ. ๑.๑๓๗) เอตฺถ ราสิ. ‘‘ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตตี’’ติ (จูฬว. ๓๘๔; อ. นิ. ๘.๑๙; อุทา. ๔๕) เอตฺถ สีมา. อิธาปิ สีมาว. อนติกฺกมนียฏฺเน หิ จตฺตาริ วจีสุจริตานิ เวลาติ อธิปฺเปตานิ. อิติ ยาย เจตนาย จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานิ ภาสมาโน เวลํ อติกฺกมติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ เวลํ อติกฺกมิตุํ น เทตีติ เวลาอนติกฺกโมติ วุตฺตา. เวลายตีติ วา เวลา, จลยติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. กึ เวลายติ? จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. อิติ เวลายนโต ‘เวลา’. ปุริสสฺส ปน หิตสุขํ อนติกฺกมิตฺวา วตฺตตีติ ‘อนติกฺกโม’. เอวเมตฺถ ปททฺวยวเสนาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เสตุํ หนตีติ เสตุฆาโต; จตุนฺนํ วจีทุจฺจริตานํ ปทฆาโต ปจฺจยฆาโตติ อตฺโถ. ปจฺจโย หิ อิธ เสตูติ อธิปฺเปโต. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ราคาทิโก จตุนฺนํ วจีทุจฺจริตานํ ปจฺจโย วฏฺฏสฺมึ ปุคฺคลํ สิโนติ พนฺธตีติ เสตุ. เสตุสฺส ฆาโต เสตุฆาโต. วจีทุจฺจริตปจฺจยสมุคฺฆาฏิกาย วิรติยา เอตํ อธิวจนํ. อยํ ปน สมฺมาวาจาสงฺขาตา วิรติ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเน เปสุฺาทีหิ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. จตุพฺพิธาย หิ วจีทุจฺจริตเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชติ.

๓๐๐. กายทุจฺจริเตหีติ กายโต ปวตฺเตหิ กาเยน วา นิปฺผาทิเตหิ ปาณาติปาตาทีหิ ทุจฺจริเตหิ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน ปาณาติปาตา วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานมิจฺฉาจาเรหิ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. ติวิธาย หิ กายทุจฺจริตเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชติ.

๓๐๑. สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส อกิริยาติอาทีสุ ยาย เจตนาย มิจฺฉาชีวํ อาชีวมาโน กิริยํ กโรติ นาม, อยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ กิริยํ กาตุํ น เทตีติ อกิริยาติ. อิมินา นเยน โยชนา เวทิตพฺพา. อาชีโว จ นาเมส ปาฏิเยกฺโก นตฺถิ, วาจากมฺมนฺเตสุ คหิเตสุ คหิโตว โหติ, ตปฺปกฺขิกตฺตา. ธุวปฏิเสวนวเสน ปนายํ ตโต นีหริตฺวา ทสฺสิโตติ. เอวํ สนฺเต สมฺมาอาชีโว สกิจฺจโก น โหติ, อฏฺ มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา สมฺมาอาชีโว สกิจฺจโก กาตพฺโพ, อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปริปูเรตพฺพานีติ. ตตฺรายํ นโย – อาชีโว นาม ภิชฺชมาโน กายวจีทฺวาเรสุเยว ภิชฺชติ. มโนทฺวาเร อาชีวเภโท นาม นตฺถิ. ปูรยมาโนปิ ตสฺมึเยว ทฺวารทฺวเย ปูรติ. มโนทฺวาเร อาชีวปูรณํ นาม นตฺถิ. กายทฺวาเร ปน วีติกฺกโม อาชีวเหตุโกปิ อตฺถิ นอาชีวเหตุโกปิ. ตถา วจีทฺวาเร.

ตตฺถ ยํ ราชราชมหามตฺตา ขิฑฺฑาปสุตา สูรภาวํ ทสฺเสนฺตา มิควธํ วา ปนฺถทุหนํ วา ปรทารวีติกฺกมํ วา กโรนฺติ, อิทํ อกุสลํ กายกมฺมํ นาม. ตโต วิรติปิ ‘สมฺมากมฺมนฺโต’ นาม. ยํ ปน นอาชีวเหตุกํ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ ภาสนฺติ, อิทํ อกุสลํ วจีกมฺมํ นาม. ตโต วิรติปิ ‘สมฺมาวาจา’ นาม.

ยํ ปน อาชีวเหตุ เนสาทมจฺฉพนฺธาทโย ปาณํ หนนฺติ, อทินฺนํ อาทิยนฺติ, มิจฺฉาจารํ จรนฺติ, อยํ มิจฺฉาชีโว นาม. ตโต วิรติ ‘สมฺมาอาชีโว’ นาม. ยมฺปิ ลฺชํ คเหตฺวา มุสา ภณนฺติ, เปสุฺผรุสสมฺผปฺปลาเป ปวตฺเตนฺติ, อยมฺปิ มิจฺฉาชีโว นาม. ตโต วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.

มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘กายวจีทฺวาเรสุปิ วีติกฺกโม อาชีวเหตุโก วา โหตุ โน วา อาชีวเหตุโก, อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตโต วิรติปิ สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาวาจาตฺเวว วุจฺจตี’ติ. ‘อาชีโว กุหิ’นฺติ วุตฺเต ปน ‘ตีณิ กุหนวตฺถูนิ นิสฺสาย จตฺตาโร ปจฺจเย อุปฺปาเทตฺวา เตสํ ปริโภโค’ติ อาห. อยํ ปน โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโว. ตโต วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.

อยมฺปิ สมฺมาอาชีโว ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ, อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ, อฺเน วจีทฺวารวีติกฺกมา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺตสฺมึเยว ลพฺภติ. กายวจีทฺวาเรสุ หิ สตฺตกมฺมปถวเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาชีวสงฺขาตาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทปจฺเฉทํ กุรุมานา มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว วิรติ อุปฺปชฺชตีติ. อยํ นิทฺเทสวาเร วิเสโส.

ยํ ปเนตํ อินฺทฺริเยสุ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ วฑฺฒิตํ, มคฺคงฺเคสุ จ สมฺมาวาจาทีนิ, เตสํ วเสน สงฺคหวาเร ‘‘นวินฺทฺริยานิ, อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ วุตฺตํ. สุฺตวาโร ปากติโกเยวาติ. อยํ ตาว สุทฺธิกปฏิปทาย วิเสโส.

๓๔๓. อิโต ปรํ สุทฺธิกสุฺตา สุฺตปฏิปทา สุทฺธิกอปฺปณิหิตา อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อยํ เทสนาเภโท โหติ. ตตฺถ สุฺตนฺติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส นามํ. โส หิ อาคมนโต สคุณโต อารมฺมณโตติ ตีหิ การเณหิ นามํ ลภติ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา อนตฺตโต สงฺขาเร ปสฺสติ. ยสฺมา ปน อนตฺตโต ทิฏฺมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, อนิจฺจโตปิ ทุกฺขโตปิ ทฏฺุเมว วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’ติ ติวิธํ อนุปสฺสนํ อาโรเปตฺวา สมฺมสนฺโต จรติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปนสฺส เตภูมเกปิ สงฺขาเร สุฺโตว ปสฺสติ. อยํ วิปสฺสนา สุฺตา นาม โหติ. สา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส ‘สุฺต’นฺติ นามํ เทติ. เอวํ มคฺโค ‘อาคมนโต’ สุฺตนามํ ลภติ. ยสฺมา ปน โส ราคาทีหิ สุฺโ ตสฺมา ‘สคุเณเนว’ สุฺตนามํ ลภติ. นิพฺพานมฺปิ ราคาทีหิ สุฺตฺตา สุฺตนฺติ วุจฺจติ. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา มคฺโค ‘อารมฺมณโต’ สุฺตนามํ ลภติ.

ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา. อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ. ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ ธุรํ. อิธ มคฺคสฺส อาคตตฺตา วิปสฺสนาคมนเมว ธุรํ ชาตํ.

๓๕๐. อปฺปณิหิตนฺติ, เอตฺถาปิ อปฺปณิหิตนฺติ มคฺคสฺเสว นามํ. อิทมฺปิ นามํ มคฺโค ตีเหว การเณหิ ลภติ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ อาทิโตว ทุกฺขโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโตว สงฺขาเร ปสฺสติ. ยสฺมา ปน ทุกฺขโต ทิฏฺมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, อนิจฺจโตปิ อนตฺตโตปิ ทฏฺุเมว วฏฺฏติ, ตสฺมา อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’ติ ติวิธํ อนุปสฺสนํ อาโรเปตฺวา สมฺมสนฺโต จรติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปนสฺส เตภูมกสงฺขาเรสุ ปณิธึ โสเสตฺวา ปริยาทิยิตฺวา วิสฺสชฺเชติ. อยํ วิปสฺสนา อปฺปณิหิตา นาม โหติ. สา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ เทติ. เอวํ มคฺโค ‘อาคมนโต’ อปฺปณิหิตนามํ ลภติ. ยสฺมา ปน ตตฺถ ราคโทสโมหปณิธโย นตฺถิ, ตสฺมา ‘สคุเณเนว’ อปฺปณิหิตนามํ ลภติ. นิพฺพานมฺปิ เตสํ ปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตนฺติ วุจฺจติ. ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนตฺตา มคฺโค อปฺปณิหิตนามํ ลภติ.

ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา. อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ. ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ ธุรํ. อิธ มคฺคสฺส อาคตตฺตา วิปสฺสนาคมนเมว ธุรํ ชาตํ.

นนุ จ สุฺโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ ตีณิ มคฺคสฺส นามานิ? ยถาห – ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วิโมกฺขา – สุฺโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). เตสุ อิธ ทฺเว มคฺเค คเหตฺวา อนิมิตฺโต กสฺมา น คหิโตติ? อาคมนาภาวโต. อนิมิตฺตวิปสฺสนา หิ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน ปุตฺตสฺส ราหุลตฺเถรสฺส.

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสี’’ติ. (สุ. นิ. ๓๔๔);

อนิมิตฺตวิปสฺสนํ กเถสิ. วิปสฺสนา หิ นิจฺจนิมิตฺตํ ธุวนิมิตฺตํ สุขนิมิตฺตํ อตฺตนิมิตฺตฺจ อุคฺฆาเฏติ. ตสฺมา อนิมิตฺตาติ กถิตา. สา จ กิฺจาปิ ตํ นิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏติ, สยํ ปน นิมิตฺตธมฺเมสุ จรตีติ สนิมิตฺตาว โหติ. ตสฺมา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ.

อปโร นโย – อภิธมฺโม นาม ปรมตฺถเทสนา. อนิมิตฺตมคฺคสฺส จ ปรมตฺถโต เหตุเวกลฺลเมว โหติ. กถํ? อนิจฺจานุปสฺสนาย หิ วเสน อนิมิตฺตวิโมกฺโข กถิโต. เตน จ วิโมกฺเขน สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ตํ อริยมคฺเค เอกงฺคมฺปิ น โหติ, อมคฺคงฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ อนตฺตานุปสฺสนาย ตาว วเสน สุฺตวิโมกฺโข, ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺโข กถิโต. เตสุ สุฺตวิโมกฺเขน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน สมาธินฺทฺริยํ. ตานิ อริยมคฺคสฺส องฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ สกฺโกนฺติ. มคฺคารมฺมณตฺติเกปิ หิ มคฺคาธิปติธมฺมวิภชเน ฉนฺทจิตฺตานํ อธิปติกาเล เตสํ ธมฺมานํ อมคฺคงฺคตฺตาว มคฺคาธิปติภาโว น วุตฺโต. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพนฺติ. อยเมตฺถ อฏฺกถามุตฺตโก เอกสฺส อาจริยสฺส มติวินิจฺฉโย.

เอวํ สพฺพถาปิ อนิมิตฺตวิปสฺสนา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกตีติ อนิมิตฺตมคฺโค น คหิโต. เกจิ ปน ‘อนิมิตฺตมคฺโค อาคมนโต นามํ อลภนฺโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยน สคุณโต จ อารมฺมณโต จ นามํ ลภตี’ติ อาหํสุ. เต อิทํ วตฺวา ปฏิกฺขิตฺตา – อนิมิตฺตมคฺเค สคุณโต จ อารมฺมณโต จ นามํ ลภนฺเต สุฺตอปฺปณิหิตมคฺคาปิ สคุณโตเยว อารมฺมณโตเยว จ อิธ นามํ ลเภยฺยุํ. น ปน ลภนฺติ. กึ การณา? อยฺหิ มคฺโค นาม ทฺวีหิ การเณหิ นามํ ลภติ – สรสโต จ ปจฺจนีกโต จ; สภาวโต จ ปฏิปกฺขโต จาติ อตฺโถ. ตตฺถ สุฺตอปฺปณิหิตมคฺคา สรสโตปิ ปจฺจนีกโตปิ นามํ ลภนฺติ. สุฺตอปฺปณิหิตมคฺคา หิ ราคาทีหิ สุฺา, ราคปณิธิอาทีหิ จ อปฺปณิหิตาติ เอวํ ‘สรสโต’ นามํ ลภนฺติ. สุฺโต จ อตฺตาภินิเวสสฺส ปฏิปกฺโข, อปฺปณิหิโต ปณิธิสฺสาติ เอวํ ‘ปจฺจนีกโต’ นามํ ลภนฺติ. อนิมิตฺตมคฺโค ปน ราคาทินิมิตฺตานํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาเวน สรสโตว นามํ ลภติ, โน ปจฺจนีกโต. น หิ โส สงฺขารนิมิตฺตารมฺมณาย อนิจฺจานุปสฺสนาย ปฏิปกฺโข. อนิจฺจานุปสฺสนา ปนสฺส อนุโลมภาเว ิตาติ. สพฺพถาปิ อภิธมฺมปริยาเยน อนิมิตฺตมคฺโค นาม นตฺถีติ.

สุตฺตนฺติกปริยาเยน ปเนส เอวํ อาหริตฺวา ทีปิโต – ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตีณิ ลกฺขณานิ เอกาวชฺชเนน วิย อาปาถมาคจฺฉนฺติ, ติณฺณฺจ เอกโต อาปาถคมนํ นาม นตฺถิ. กมฺมฏฺานสฺส ปน วิภูตภาวทีปนตฺถํ เอวํ วุตฺตํ. อาทิโต หิ ยตฺถ กตฺถจิ อภินิเวโส โหตุ, วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา ยํ ยํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตสฺส ตสฺเสว วเสน อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ. กถํ? อนิจฺจาทีสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อภินิวิสิตฺวา อิตรมฺปิ ลกฺขณทฺวยํ ทฏฺุํ วฏฺฏติ เอว. เอกลกฺขณทสฺสนมตฺเตเนว หิ มคฺควุฏฺานํ นาม น โหติ, ตสฺมา อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ ภิกฺขุ น เกวลํ อนิจฺจโตว วุฏฺาติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ วุฏฺาติเยว. ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิฏฺเปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ยตฺถ กตฺถจิ อภินิเวโส โหตุ, วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา ยํ ยํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตสฺส ตสฺเสว วเสน อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ. ตตฺถ อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อนิมิตฺโต นาม โหติ, ทุกฺขโต วุฏฺหนฺตสฺส อปฺปณิหิโต, อนตฺตโต วุฏฺหนฺตสฺส สุฺโตติ. เอวํ สุตฺตนฺตปริยาเยน อาหริตฺวา ทีปิโต.

วุฏฺานคามินี ปน วิปสฺสนา กิมารมฺมณาติ? ลกฺขณารมฺมณาติ. ลกฺขณํ นาม ปฺตฺติคติกํ น วตฺตพฺพธมฺมภูตํ. โย ปน อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขติ, ตสฺส ปฺจกฺขนฺธา กณฺเ พทฺธกุณปํ วิย โหนฺติ. สงฺขารารมฺมณเมว าณํ สงฺขารโต วุฏฺาติ. ยถา หิ เอโก ภิกฺขุ ปตฺตํ กิณิตุกาโม ปตฺตวาณิเชน ปตฺตํ อาภตํ ทิสฺวา หฏฺปหฏฺโ คณฺหิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา วีมํสมาโน ตีณิ ฉิทฺทานิ ปสฺเสยฺย, โส น ฉิทฺเทสุ นิราลโย โหติ, ปตฺเต ปน นิราลโย โหติ; เอวเมว ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา สงฺขาเรสุ นิราลโย โหติ. สงฺขารารมฺมเณเนว าเณน สงฺขารโต วุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. ทุสฺโสปมายปิ เอเสว นโย.

อิติ ภควา โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเชนฺโต สุทฺธิกปฏิปทาย จตุกฺกนยํ ปฺจกนยนฺติ ทฺเวปิ นเย อาหริ. ตถา สุทฺธิกสุฺตาย สุฺตปฏิปทาย สุทฺธิกอปฺปณิหิตาย อปฺปณิหิตปฏิปทายาติ. กสฺมา เอวํ อาหรีติ? ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ. ตทุภยมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตีติ เอตฺถ สุทฺธิกปฏิปทาย จตุกฺกปฺจกวเสน ทฺเว นยา, ตถา เสเสสูติ สพฺเพสุปิ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ทส นยา ภาชิตา.

โลกุตฺตรกุสลํ ปกิณฺณกกถา

ตตฺริทํ ปกิณฺณกํ –

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, รูปารูเปสุ ปฺจสุ;

สตฺตฏฺงฺคปริณามํ, นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตีติ.

โลกุตฺตรมคฺโค หิ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ, อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ, พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ, พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ. รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, รูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ. อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ, อรูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, เอกปฺปหาเรเนว ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ.

‘สตฺตฏฺงฺคปริณาม’นฺติ โส ปเนส มคฺโค อฏฺงฺคิโกปิ โหติ สตฺตงฺคิโกปิ. โพชฺฌงฺคาปิ สตฺต วา โหนฺติ ฉ วา. ฌานํ ปน ปฺจงฺคิกํ วา โหติ จตุรงฺคิกํ วา; ติวงฺคิกํ วา ทุวงฺคิกํ วา. เอวํ สตฺตอฏฺาทีนํ องฺคานํ ปริณาโม เวทิตพฺโพติ อตฺโถ.

‘นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตี’ติ นิมิตฺตนฺติ ยโต วุฏฺานํ โหติ; ‘ปฏิปทาปตี’ติ ปฏิปทาย จ อธิปติโน จ จลนาจลนํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาตีติอาทีสุ ตาว อิเธกจฺโจ อาทิโตว อชฺฌตฺตํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสติ, อภินิวิสิตฺวา เต อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ, ยสฺมา ปน น สุทฺธอชฺฌตฺตทสฺสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, พหิทฺธาปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ปรสฺส ขนฺเธปิ อนุปาทินฺนสงฺขาเรปิ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปสฺสติ. โส กาเลน อชฺฌตฺตํ สมฺมสติ กาเลน พหิทฺธาติ. ตสฺเสวํ สมฺมสโต อชฺฌตฺตํ สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ. เอวํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตํ วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส พหิทฺธา สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, เอวํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ นาม. เอเสว นโย พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา จ อชฺฌตฺตฺจ วุฏฺาเนปิ.

อปโร อาทิโตว รูเป อภินิวิสติ อภินิวิสิตฺวา ภูตรูปฺจ อุปาทารูปฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ, ยสฺมา ปน น สุทฺธรูปทสฺสนมตฺเตเนว วุฏฺานํ โหติ อรูปมฺปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ตํ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ เวทนํ สฺํ สงฺขาเร วิฺาณฺจ อิทํ อรูปนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต ปสฺสติ. โส กาเลน รูปํ สมฺมสติ กาเลน อรูปํ. ตสฺเสวํ สมฺมสโต รูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ. เอวํ รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส อรูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, เอวํ รูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ นาม. เอส นโย อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา จ รูปา จ วุฏฺาเนปิ.

‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (มหาว. ๑๖; ที. นิ. ๑.๒๙๘) เอวํ อภินิวิสิตฺวา เอวเมว วุฏฺานกาเล ปน เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ นามาติ. อยํ ติกฺขวิปสฺสกสฺส มหาปฺสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนา.

ยถา หิ ฉาตชฺฌตฺตสฺส ปุริสสฺส มชฺเฌ คูถปิณฺฑํ เปตฺวา นานคฺครสโภชนปุณฺณํ ปาตึ อุปเนยฺยุํ, โส พฺยฺชนํ หตฺเถน วิยูหนฺโต ตํ คูถปิณฺฑํ ทิสฺวา ‘กิมิท’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา คูถปิณฺโฑติ วุตฺเต ‘ธิ ธิ, อปเนถา’ติ ภตฺเตปิ ปาติยมฺปิ นิราลโย โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

โภชนปาติทสฺสนสฺมิฺหิ ตสฺส อตฺตมนกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน พาลปุถุชฺชนกาเล ปฺจกฺขนฺเธ ‘อหํ มมา’ติ คหิตกาโล. คูถปิณฺฑสฺส ทิฏฺกาโล วิย ติณฺณํ ลกฺขณานํ สลฺลกฺขิตกาโล. ภตฺเตปิ ปาติยมฺปิ นิราลยกาโล วิย ติกฺขวิปสฺสกสฺส มหาปฺสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกปฺปหาเรน วุฏฺิตกาโล เวทิตพฺโพ.

‘สตฺตฏฺงฺคปริณาม’นฺติ เอตฺถ อยํ วุตฺตปฺปเภโท องฺคปริณาโม ยถา โหติ ตถา เวทิตพฺโพ. สงฺขารุเปกฺขาาณเมว หิ อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺควิเสสํ นิยเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺควิเสสํ ปาทกชฺฌานํ นิยเมตี’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’ติ วทนฺติ. เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ สงฺขารุเปกฺขาสงฺขาตา ปุพฺพภาคา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพา.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพีกถา – วิปสฺสนานิยเมน หิ สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปฺปนฺนมคฺโคปิ สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปนฺนมคฺโคปิ ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ ปมชฺฌานิโกว โหติ. สพฺเพสุ สตฺต โพชฺฌงฺคานิ อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปฺจ ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตสฺหิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ หุตฺวา วุฏฺานกาเล สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺตา โสมนสฺสสหคตาว โหติ.

ปฺจกนเย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคสุ ยถากฺกเมเนว ฌานํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกฺจ โหติ. สพฺเพสุ ปน สตฺต มคฺคงฺคานิ โหนฺติ, จตุตฺเถ ฉ โพชฺฌงฺคานิ. อยํ วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน เจว วิปสฺสนานิยเมน จ โหติ. เตสมฺปิ หิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ โหติ. วุฏฺานคามินี โสมนสฺสสหคตาว.

ปฺจมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺเค ปน อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสน ทฺเว ฌานงฺคานิ โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ ฉ สตฺต เจว. อยมฺปิ วิเสโส อุภยนิยมวเสน โหติ. อิมสฺมิฺหิ นเย ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วา โหติ, วุฏฺานคามินี อุเปกฺขาสหคตาว. อรูปชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. เอวํ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย เย เกจิ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺคสฺส อาสนฺนปเทเส วุฏฺิตา สมาปตฺติ อตฺตนา สทิสภาวํ กโรติ, ภูมิวณฺโณ วิย โคธาวณฺณสฺส.

ทุติยตฺเถรวาเท ปน ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย เย เย สมาปตฺติธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต โหติ ตํตํสมาปตฺติสทิโสว โหติ, สมฺมสิตสมาปตฺติสทิโสติ อตฺโถ. สเจ ปน กามาวจรธมฺเม สมฺมสติ ปมชฺฌานิโกว โหติ. ตตฺราปิ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ตติยตฺเถรวาเท ‘อโห วตาหํ สตฺตงฺคิกํ มคฺคํ ปาปุเณยฺยํ, อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปาปุเณยฺย’นฺติ อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย วา เย วา ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต ตํตํฌานสทิโสว โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา, อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌติ. สฺวายมตฺโถ นนฺทโกวาทสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส น โหติ พหุโน ชนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา ‘อูโน นุ โข จนฺโท ปุณฺโณ นุ โข จนฺโท’ติ, อถ โข ปุณฺโณ จนฺโทตฺเวว โหติ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ตา ภิกฺขุนิโย นนฺทกสฺส ธมฺมเทสนาย อตฺตมนา เจว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา จ. ตาสํ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุนิสตานํ ยา ปจฺฉิมิกา ภิกฺขุนี สา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๑๕).

ตาสุ หิ ยสฺสา ภิกฺขุนิยา โสตาปตฺติผลสฺส อุปนิสฺสโย, สา โสตาปตฺติผเลเนว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา อโหสิ…เป… ยสฺสา อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสโย สา อรหตฺเตเนว. เอวเมว อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย วา เย วา ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต ตํตํฌานสทิโสว โส โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา, อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌตีติ. เอตฺถาปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ‘ปาทกชฺฌานเมว นิยเมตี’ติ เอวํวาทึ ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรํ อนฺเตวาสิกา อาหํสุ – ‘ภนฺเต, ยตฺถ ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ ตตฺถ ตํ นิยเมตุ; ยสฺมึ ปน ปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, ตสฺมึ อรูปภเว กึ นิยเมตี’ติ? ‘อาวุโส, ตตฺถปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. โย หิ ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อรูปภเว นิพฺพตฺโต, ปมชฺฌานิกาย โสตาปตฺติผลสมาปตฺติยา วุฏฺาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุปริ ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ, ตสฺส ตานิ ปมชฺฌานิกาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานิกาทีสุปิ เอเสว นโย. อรูเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โข โลกุตฺตรํ น โลกิยํ. เอวํ ตตฺถาปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ อาวุโส’ติ. ‘สุกถิโต, ภนฺเต, ปฺโห’ติ.

‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺติ; ยํ ยํ หิ ปฺจกฺขนฺธํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ ตํตํสทิโสว มคฺโค โหตี’ติ วาทึ โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถรมฺปิ อนฺเตวาสิกา อาหํสุ ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท โทโส ปฺายติ – รูปํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตภิกฺขุโน หิ รูปสทิเสน อพฺยากเตน มคฺเคน ภวิตพฺพํ, เนวสฺานาสฺายตนํ นยโต ปริคฺคเหตฺวา วุฏฺิตสฺส ตํสทิเสเนว เนวสฺานาสฺาภาวปฺปตฺเตน มคฺเคน ภวิตพฺพ’นฺติ. ‘น, อาวุโส, เอวํ โหติ. โลกุตฺตรมคฺโค หิ อปฺปนํ อปฺปตฺโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา รูปํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตสฺส อฏฺงฺคิโก โสมนสฺสสหคตมคฺโค โหติ, เนวสฺานาสฺายตนํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺิตสฺสปิ น สพฺพากาเรน ตาทิโส โหติ, สตฺตงฺคิโก ปน อุเปกฺขาสหคตมคฺโค โหตี’ติ.

‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’ติวาทิโน จูฬาภยตฺเถรสฺสาปิ วาทํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส กถยึสุ. โส อาห – ‘ยสฺส ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ ตสฺส ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตุ, ยสฺส ตํ นตฺถิ ตสฺส กตรชฺฌาสโย นิยเมสฺสติ นิทฺธนสฺส วุฑฺฒิคเวสนกาโล วิย โหตี’ติ.

ตํ กถํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรสฺส ปุน กถยึสุ. โส ‘ปาทกชฺฌานวโต อิทํ กถิตํ อาวุโส’ติ อาห. ยถา ปน ปาทกชฺฌานวโต, สมฺมสิตชฺฌานวโตปิ ตเถว เวทิตพฺพํ. ปฺจมชฺฌานโต วุฏฺาย หิ ปมาทีนิ สมฺมสโต อุปฺปนฺนมคฺโค ปมตฺเถรวาเทน ปฺจมชฺฌานิโก. ทุติยวาเทน ปมาทิชฺฌานิโก อาปชฺชตีติ ทฺเวปิ วาทา วิรุชฺฌนฺติ. ตติยวาเทน ปเนตฺถ ‘ยํ อิจฺฉติ ตชฺฌานิโก โหตี’ติ เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ, อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหตีติ. เอวํ ตโยปิ เถรา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา พุทฺธิสมฺปนฺนาว. เตน เตสํ วาทํ ตนฺตึ กตฺวา ปยึสุ. อิธ ปน อตฺถเมว อุทฺธริตฺวา ตโยเปเต วาเท วิปสฺสนาว นิยเมตีติ ทสฺสิตํ.

อิทานิ ‘นิมิตฺตํ ปฏิปทาปตี’ติ เอตฺถ เอวํ องฺคปริณามวโต มคฺคสฺส อุปฺปาทกาเล โคตฺรภุ กุโต วุฏฺาติ? มคฺโค กุโตติ? โคตฺรภุ ตาว นิมิตฺตโต วุฏฺาติ, ปวตฺตํ เฉตฺตุํ น สกฺโกติ, เอกโตวุฏฺาโน เหส. มคฺโค นิมิตฺตโต วุฏฺาติ, ปวตฺตมฺปิ ฉินฺทติ อุภโตวุฏฺาโน เหส. เตสํ อยํ อุปฺปตฺตินโย – ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตสฺมึ อนุโลมํ เนว เอกํ โหติ, น ปฺจมํ. เอกฺหิ อาเสวนํ น ลภติ, ปฺจมํ ภวงฺคสฺส อาสนฺนตฺตา ปเวธติ. ตทา หิ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ. ตสฺมา เนว เอกํ โหติ น ปฺจมํ. มหาปฺสฺส ปน ทฺเว อนุโลมานิ โหนฺติ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ มคฺคจิตฺตํ, ตีณิ ผลานิ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. มชฺฌิมปฺสฺส ตีณิ อนุโลมานิ โหนฺติ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ, ปฺจมํ มคฺคจิตฺตํ, ทฺเว ผลานิ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. มนฺทปฺสฺส จตฺตาริ อนุโลมานิ, โหนฺติ ปฺจมํ โคตฺรภุ, ฉฏฺํ มคฺคจิตฺตํ, สตฺตมํ ผลํ, ตโต ภวงฺโคตรณํ. ตตฺร มหาปฺมนฺทปฺานํ วเสน อกเถตฺวา มชฺฌิมปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ.

ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, ตสฺมึ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุเปกฺขาสหคตา มโนทฺวาราวชฺชนํ หุตฺวา วิปสฺสนาโคจเร ขนฺเธ อารมฺมณํ กตฺวา ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตทนนฺตรํ เตเนว อาวชฺชเนน คหิตกฺขนฺเธ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ ปมํ ชวนํ อนุโลมาณํ. ตํ เตสุ ขนฺเธสุ อนิจฺจาติ วา ทุกฺขาติ วา อนตฺตาติ วา ปวตฺติตฺวา โอฬาริกํ โอฬาริกํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ กตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ ทุติยานุโลมํ. เตสุ ปุริมํ อนาเสวนํ. ทุติยสฺส ปุริมํ อาเสวนํ โหติ. ตมฺปิ ลทฺธาเสวนตฺตา ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ตสฺมึเยวารมฺมเณ เตเนวากาเรน ปวตฺติตฺวา มชฺฌิมปฺปมาณํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ กตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ ตติยานุโลมํ. ตสฺส ทุติยํ อาเสวนํ โหติ. ตมฺปิ ลทฺธาเสวนตฺตา ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ตสฺมึเยวารมฺมเณ เตเนวากาเรน ปวตฺติตฺวา ตทวเสสํ อณุสหคตํ สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ วิโนเทตฺวา นิรวเสสํ กตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ ภิยฺโย ภิยฺโย ปากฏานิ กตฺวา นิรุชฺฌติ. เอวํ ตีหิ อนุโลเมหิ สจฺจปฏิจฺฉาทกตเม วิโนทิเต ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ โคตฺรภุฺาณํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ.

ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร จกฺขุมา ปุริโส นกฺขตฺตโยคํ ชานิสฺสามีติ รตฺติภาเค นิกฺขมิตฺวา จนฺทํ ปสฺสิตุํ อุทฺธํ อุลฺโลเกสิ. ตสฺส วลาหเกหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา จนฺโท น ปฺายิตฺถ. อเถโก วาโต อุฏฺหิตฺวา ถูลถูเล วลาหเก วิทฺธํเสสิ. อปโร มชฺฌิเม. อปโร สุขุเม. ตโต โส ปุริโส วิคตวลาหเก นเภ จนฺทํ ทิสฺวา นกฺขตฺตโยคํ อฺาสิ.

ตตฺถ ตโย วลาหกา วิย สจฺจปฏิจฺฉาทกถูลมชฺฌิมสุขุมกิเลสนฺธการา. ตโย วาตา วิย ตีณิ อนุโลมจิตฺตานิ. จกฺขุมา ปุริโส วิย โคตฺรภุฺาณํ. จนฺโท วิย นิพฺพานํ. เอเกกสฺส วาตสฺส ยถากฺกเมน วลาหกตฺตยวิทฺธํสนํ วิย เอเกกสฺส อนุโลมจิตฺตสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมวิโนทนํ. วิคตวลาหเก นเภ ตสฺส ปุริสสฺส วิสุทฺธจนฺททสฺสนํ วิย วิคเต สจฺจปฏิจฺฉาทเก ตเม โคตฺรภุฺาณสฺส สุวิสุทฺธนิพฺพานารมฺมณกรณํ.

ยเถว หิ ตโย วาตา จนฺทปฏิจฺฉาทเก วลาหเกเยว วิทฺธํเสตุํ สกฺโกนฺติ, น จนฺทํ ทฏฺุํ, เอวํ อนุโลมานิ สจฺจปฏิจฺฉาทกตเมเยว วิโนเทตุํ สกฺโกนฺติ, น นิพฺพานํ อารมฺมณํ กาตุํ. ยถา โส ปุริโส จนฺทเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ น วลาหเก วิทฺธํเสตุํ, เอวํ โคตฺรภุฺาณํ นิพฺพานเมว อารมฺมณํ กาตุํ สกฺโกติ น กิเลสตมํ วิโนเทตุํ. เอวํ อนุโลมํ สงฺขารารมฺมณํ โหติ, โคตฺรภุ นิพฺพานารมฺมณํ.

ยทิ หิ โคตฺรภุ อนุโลเมน คหิตารมฺมณํ คณฺเหยฺย ปุน อนุโลมํ ตํ อนุพนฺเธยฺยาติ มคฺควุฏฺานเมว น ภเวยฺย. โคตฺรภุฺาณํ ปน อนุโลมสฺส อารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา ตํ อปจฺฉโตปวตฺติกํ กตฺวา สยํ อนาวชฺชนมฺปิ สมานํ อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา เอวํ นิพฺพตฺตาหีติ มคฺคสฺส สฺํ ทตฺวา วิย นิรุชฺฌติ. มคฺโคปิ เตน ทินฺนสฺํ อมุฺจิตฺวาว อวีจิสนฺตติวเสน ตํ าณํ อนุพนฺธมาโน อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌมาโนว ปทาลยมาโนว นิพฺพตฺตติ.

ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร อิสฺสาโส ธนุสตมตฺถเก ผลกสตํ ปาเปตฺวา วตฺเถน มุขํ เวเตฺวา สรํ สนฺนยฺหิตฺวา จกฺกยนฺเต อฏฺาสิ. อฺโ ปุริโส จกฺกยนฺตํ อาวฺฉิตฺวา ยทา อิสฺสาสสฺส ผลกสตํ อภิมุขํ โหติ ตทา ตตฺถ ทณฺฑเกน สฺํ เทติ, อิสฺสาโส ทณฺฑกสฺํ อมุฺจิตฺวาว สรํ ขิปิตฺวา ผลกสตํ นิพฺพิชฺฌติ. ตตฺถ ทณฺฑกสฺา วิย โคตฺรภุฺาณํ. อิสฺสาโส วิย มคฺคาณํ. อิสฺสาสสฺส ทณฺฑกสฺํ อมุฺจิตฺวาว ผลกสตนิพฺพิชฺฌนํ วิย มคฺคาณสฺส โคตฺรภุฺาเณน ทินฺนสฺํ อมุฺจิตฺวาว นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพอปทาลิตปุพฺพานํ โลภกฺขนฺธาทีนํ นิพฺพิชฺฌนปทาลนํ. ภูมิลทฺธวฏฺฏเสตุสมุคฺฆาตกรณนฺติปิ เอตเทว. มคฺคสฺส หิ เอกเมว กิจฺจํ อนุสยปฺปชหนํ. อิติ โส อนุสเย ปชหนฺโต นิมิตฺตา วุฏฺาติ นาม, ปวตฺตํ ฉินฺทติ นาม. ‘นิมิตฺต’นฺติ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณนิมิตฺตํ. ‘ปวตฺต’มฺปิ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณปวตฺตเมว. ตํ ทุวิธํ โหติ – อุปาทินฺนกํ อนุปาทินฺนกนฺติ. เตสุ มคฺคสฺส อนุปาทินฺนกโต วุฏฺานจฺฉายา ทิสฺสตีติ วตฺวา อนุปาทินฺนกโต วุฏฺาตีติ วทึสุ.

โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตนฺติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ตํ อนุปาทินฺนกรูปกฺขนฺโธ. ตานิ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา สฺา สงฺขารา ตโย อรูปกฺขนฺธา. ตตฺถ สเจ โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส ตานิ ปฺจ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ปาปุเณยฺยุํ. โสตาปตฺติมคฺโค ปน เตสํ ปริยุฏฺาเนนปฺปตฺตึ วารยมาโน เสตุสมุคฺฆาตํ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมาโน อนุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.

สกทาคามิมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตานิ ทฺเว โทมนสฺสสหคตานีติ โอฬาริกกามราคพฺยาปาทวเสน ฉ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. อนาคามิมคฺเคน อณุสหคตกามราคพฺยาปาทวเสน ตานิ เอว ฉ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. อรหตฺตมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตานิ อุทฺธจฺจสหคตฺจาติ ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ สเจ เตสํ อริยานํ เต มคฺคา อภาวิตา อสฺสุ, ตานิ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ปาปุเณยฺยุํ. เต ปน เตสํ มคฺคา ปริยุฏฺานปฺปตฺตึ วารยมานา เสตุสมุคฺฆาตํ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมานา อนุปาทินฺนกโต วุฏฺหนฺติ นาม.

อุปาทินฺนกโต วุฏฺานจฺฉายา ทิสฺสตีติ วตฺวา อุปาทินฺนกโต วุฏฺาตีติปิ วทึสุ. สเจ หิ โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา สตฺต ภเว อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. ตีณิ สํโยชนานิ ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโยติ อิเม ปน ปฺจ กิเลเส โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต โสตาปนฺนสฺส สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ โสตาปตฺติมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.

สเจ สกทาคามิสฺส สกทาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา ทฺเว ภเว ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. โอฬาริกานิ กามราคปฏิฆสํโยชนานิ โอฬาริโก กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต สกทาคามิสฺส ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ สกทาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.

สเจ อนาคามิสฺส อนาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, เปตฺวา เอกํ ภวํ ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. อณุสหคตานิ กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อณุสหคโต กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต อนาคามิสฺส เอกํ ภวํ เปตฺวา ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ อนาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.

สเจ อรหโต อรหตฺตมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺส, รูปารูปภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชา มานานุสโย ภวราคานุสโย อวิชฺชานุสโยติ อิเม ปน อฏฺ กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต ขีณาสวสฺส ปุนพฺภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ อรหตฺตมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกโต วุฏฺาติ นาม.

โสตาปตฺติมคฺโค เจตฺถ อปายภวโต วุฏฺาติ, สกทาคามิมคฺโค สุคติกามภเวกเทสโต, อนาคามิมคฺโค กามภวโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวโต สพฺพภเวหิปิ วุฏฺาติ เอวาติ วทนฺติ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อยํ ปาฬิ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.

‘สกทาคามิมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.

‘อนาคามิมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน เอกํ ภวํ เปตฺวา กามธาตุยา ทฺวีสุ ภเวสุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ.

‘อรหตฺตมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน รูปธาตุยา วา อรูปธาตุยา วา เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. อรหโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺตสฺส จริมวิฺาณสฺส นิโรเธน ปฺา จ สติ จ นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺติ วูปสมนฺติ อตฺถํ คจฺฉนฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖). อยํ ตาว นิมิตฺเต วินิจฺฉโย.

‘ปฏิปทาปตี’ติ – เอตฺถ ปน ปฏิปทา จลติ น จลตีติ? จลติ. ตถาคตสฺส หิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส จ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา อเหสุํ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปมมคฺโค สุขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, อุปริ ตโย มคฺคา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. กสฺมา? นิทฺทาภิภูตตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ กิร สตฺตาหํ ทหรกุมารกํ วิย เถรํ ปริหริ. เถโรปิ เอกทิวสํ นิทฺทายมาโน นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘ปจลายสิ โน ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ปจลายสิ โน ตฺวํ โมคฺคลฺลานา’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๑). เอวรูปสฺสปิ มหาภิฺปฺปตฺตสฺส สาวกสฺส ปฏิปทา จลติ, เสสานํ กึ น จลิสฺสติ? เอกจฺจสฺส หิ ภิกฺขุโน จตฺตาโรปิ มคฺคา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, เอกจฺจสฺส สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, เอกจฺจสฺส สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. เอกจฺจสฺส ปมมคฺโค ทุกฺขปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ โหติ, ทุติยมคฺโค ทุกฺขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, ตติยมคฺโค สุขปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ, จตุตฺถมคฺโค สุขปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโติ.

ยถา จ ปฏิปทา เอวํ อธิปติปิ จลติ เอว. เอกจฺจสฺส หิ ภิกฺขุโน จตฺตาโรปิ มคฺคา ฉนฺทาธิปเตยฺยา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส วีริยาธิปเตยฺยา, เอกจฺจสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยา, เอกจฺจสฺส วีมํสาธิปเตยฺยา. เอกจฺจสฺส ปน ปมมคฺโค ฉนฺทาธิปเตยฺโย โหติ, ทุติโย วีริยาธิปเตยฺโย, ตติโย จิตฺตาธิปเตยฺโย, จตุตฺโถ วีมํสาธิปเตยฺโยติ.

ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.

ปมมคฺควีสติมหานโย

๓๕๗. อิทานิ ยสฺมา โลกุตฺตรกุสลํ ภาเวนฺโต น เกวลํ อุปนิชฺฌายนฏฺเน ฌานํเยว ภาเวติ, นิยฺยานฏฺเน ปน มคฺคมฺปิ ภาเวติ, อุปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานมฺปิ, ปทหนฏฺเน สมฺมปฺปธานมฺปิ, อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิปาทมฺปิ, อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยมฺปิ, อกมฺปิยฏฺเน พลมฺปิ, พุชฺฌนฏฺเน โพชฺฌงฺคมฺปิ, ตถฏฺเน สจฺจมฺปิ, อวิกฺเขปฏฺเน สมถมฺปิ, สุฺตฏฺเน ธมฺมมฺปิ, ราสฏฺเน ขนฺธมฺปิ, อายตนฏฺเน อายตนมฺปิ, สุฺสภาวนิสฺสตฺตฏฺเน ธาตุมฺปิ, ปจฺจยฏฺเน อาหารมฺปิ, ผุสนฏฺเน ผสฺสมฺปิ, เวทยิตฏฺเน เวทนมฺปิ, สฺชานนฏฺเน สฺมฺปิ, เจตยิตฏฺเน เจตนมฺปิ, วิชานนฏฺเน จิตฺตมฺปิ ภาเวติ, ตสฺมา เอเตสํ เอกูนวีสติยา ปทานํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ‘อิทมฺปิ ภาเวติ, อิทมฺปิ ภาเวตี’ติ ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ วีสติ นยา เทสิตา โหนฺติ. ธมฺมํ โสตุํ นิสินฺนเทวปริสาย หิ เย อุปนิชฺฌายนฏฺเน โลกุตฺตรํ ‘ฌาน’นฺติ กถิเต พุชฺฌนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน ฌานนฺติ กถิตํ…เป… เย วิชานนฏฺเน ‘จิตฺต’นฺติ วุตฺเต พุชฺฌนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน จิตฺตนฺติ กถิตํ. อยเมตฺถ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’.

สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน พุทฺธสุโพธิตาย ทสพลจตุเวสารชฺชจตุปฏิสมฺภิทตาย ฉอสาธารณาณโยเคน จ เทสนํ ยทิจฺฉกํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ. อิจฺฉนฺโต อุปนิชฺฌายนฏฺเน โลกุตฺตรํ ฌานนฺติ ทสฺเสติ, อิจฺฉนฺโต นิยฺยานฏฺเน…เป… วิชานนฏฺเน โลกุตฺตรํ จิตฺตนฺติ. อยํ ‘เทสนาวิลาโส’ นาม. ตตฺถ ยเถว โลกุตฺตรํ ฌานนฺติ วุตฺตฏฺาเน ทส นยา วิภตฺตา, เอวํ มคฺคาทีสุปิ เตเยว เวทิตพฺพา. อิติ วีสติยา าเนสุ ทส ทส กตฺวา ทฺเว นยสตานิ วิภตฺตานิ โหนฺติ.

๓๕๘. อิทานิ อธิปติเภทํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ฉนฺทํ ธุรํ เชฏฺกํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา นิพฺพตฺติตํ โลกุตฺตรํ ฌานํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อิติ ปุริมสฺมึ สุทฺธิเก ทฺเวนยสตานิ ฉนฺทาธิปเตยฺยาทีสุปิ ทฺเว ทฺเวติ นยสหสฺเสน ภาเชตฺวา ปมมคฺคํ ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

ปมมคฺโค นิฏฺิโต.

ทุติยมคฺโค

๓๖๑. อิทานิ ทุติยมคฺคาทีนํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวายาติ เอเตสํ กิเลสานํ ตนุภาวตฺถาย. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ – อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ. สกทาคามิสฺส หิ, วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺเสว, กิเลสา อภิณฺหํ นุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชนฺติ; อุปฺปชฺชนฺตาปิ วิรฬาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, วิรฬวาปิตเขตฺเต องฺกุรา วิย. อุปฺปชฺชมานาปิ, จ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺเสว, มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา นุปฺปชฺชนฺติ. ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทา มนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ. ตนุกาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, อพฺภปฏลํ วิย มกฺขิกาปตฺตํ วิย จ.

ตตฺถ เกจิ เถรา วทนฺติ – ‘สกทาคามิสฺส กิเลสา กิฺจาปิ จิเรน อุปฺปชฺชนฺติ, พหลาว ปน หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา หิสฺส ปุตฺตา จ ธีตโร จ ทิสฺสนฺตี’ติ. เอตํ ปน อปฺปมาณํ. ปุตฺตธีตโร หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ โหนฺติ. ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา นตฺถิ กิเลสานํ พหลตาติ. ทฺวีหิ เอว การเณหิสฺส กิเลสานํ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ – อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ.

ทุติยายาติ คณนวเสนาปิ ทุติยุปฺปตฺติวเสนาปิ ทุติยาย. ภูมิยา ปตฺติยาติ สามฺผลสฺส ปฏิลาภตฺถาย. ตติยจตุตฺเถสุปิ เอเสว นโย. วิเสสมตฺตํเยว ปน วกฺขาม.

อฺินฺทฺริยนฺติ อาชานนกํ อินฺทฺริยํ. ปมมคฺเคน าตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา เตสํเยว เตน มคฺเคน าตานํ จตุสจฺจธมฺมานํ ชานนกํ อินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิทฺเทสวาเรปิสฺส อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวาเรปิ อิมินาว สทฺธึ นวินฺทฺริยานิ โหนฺติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ทุติยมคฺโค นิฏฺิโต.

ตติยจตุตฺถมคฺคา

๓๖๒. ตติเย อนวเสสปฺปหานายาติ เตสํเยว สกทาคามิมคฺเคน ตนุภูตานํ สํโยชนานํ นิสฺเสสปชหนตฺถาย.

จตุตฺเถ รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชาย อนวเสสปฺปหานายาติ เอเตสํ ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ นิสฺเสสปชหนตฺถาย. ตตฺถ รูปราโคติ รูปภเว ฉนฺทราโค. อรูปราโคติ อรูปภเว ฉนฺทราโค. มาโนติ อรหตฺตมคฺควชฺฌโก มาโน เอว. ตถา อุทฺธจฺจาวิชฺชา. อิเมสุปิ ทฺวีสุ มคฺเคสุ นวมํ อฺินฺทฺริยเมว โหติ.

จตุมคฺคนยสหสฺสํ

สพฺพมคฺเคสุ ปทปฏิปาฏิยา สมสฏฺิปทานิ, จตูหิ อปณฺณกงฺเคหิ สทฺธึ จตุสฏฺิ โหนฺติ. อสมฺภินฺนโต ปน เตตฺตึส. โกฏฺาสวารสุฺตวารา ปากติกา เอว. ยถา จ ปน ปมมคฺเค เอวํ ทุติยาทีสุปิ นยสหสฺสเมวาติ จตฺตาโร มคฺเค จตูหิ นยสหสฺเสหิ ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา.

สจฺจวิภงฺเค ปน สฏฺิ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิ. สติปฏฺานวิภงฺเค วีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ, สมฺมปฺปธานวิภงฺเค วีสติ, อิทฺธิปาทวิภงฺเค ทฺวตฺตึส, โพชฺฌงฺควิภงฺเค ทฺวตฺตึส, มคฺคงฺควิภงฺเค อฏฺวีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิ.

อิธ ปน จตูสุ มคฺเคสุ จตฺตาริเยว นยสหสฺสานิ. เตสุ ปมชฺฌานิเก ปมมคฺเค อฏฺงฺคานิ ภาชิตานิ; ตถา ทุติยาทีสุ. ตตฺถ ปมมคฺเค สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนํ ปชหนฏฺเเนว เวทิตพฺพา. เอวํ สนฺเต ‘ปมมคฺเคเนว ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคตานํ ปหีนตฺตา อุปริมคฺคตฺตเยน ปหาตพฺพา ทิฏฺิ นาม นตฺถิ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺีติ นามํ กถํ โหตี’ติ? ‘ยถา วิสํ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อคโท อคโท ตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ มิจฺฉาทิฏฺิ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อยํ สมฺมาทิฏฺิ เอว นาม’.

‘ยทิ เอวํ นามมตฺตเมเวตํ โหติ, อุปริมคฺคตฺตเย ปน สมฺมาทิฏฺิยา กิจฺจาภาโว อาปชฺชติ, มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา สมฺมาทิฏฺิ สกิจฺจกา กาตพฺพา มคฺคงฺคานิ ปูเรตพฺพานี’ติ. สกิจฺจกา เจตฺถ สมฺมาทิฏฺิ ยถาลาภนิยเมน ทีเปตพฺพา. อุปริมคฺคตฺตยวชฺโฌ หิ เอโก มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. โสตาปตฺติมคฺคสฺมิฺหิ สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ. โสตาปนฺนสฺส ปน สกทาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺเสว สตฺตอกุสลจิตฺตสหชาโต สงฺกปฺโป อตฺถิ. เตเหว จิตฺเตหิ วาจงฺคโจปนํ อตฺถิ, กายงฺคโจปนํ อตฺถิ, ปจฺจยปริโภโค อตฺถิ, สหชาตวายาโม อตฺถิ, อสติภาโว อตฺถิ, สหชาตจิตฺเตกคฺคตา อตฺถิ. เอเต มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย นาม สกทาคามิมคฺเค สมฺมาสงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน สมฺมาสงฺกปฺปาทโยติ เวทิตพฺพา. เอวํ สกทาคามิมคฺเค อฏฺงฺคานิ สกิจฺจกานิ กตฺวา อาคตานิ. สกทาคามิสฺส อนาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ. โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ตสฺเสว สตฺตหิ จิตฺเตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน อนาคามิมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา. อนาคามิสฺส อรหตฺตมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ. โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ยานิ ปนสฺส ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ, เตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย. เตสํ ปหาเนน อรหตฺตมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา.

อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ ปมมคฺเคน จตฺตาริ สจฺจานิ ทิฏฺานิ. ‘อุปริมคฺคตฺตยํ ทิฏฺกเมว ปสฺสติ, อทิฏฺกํ ปสฺสตี’ติ ทิฏฺกเมว ปสฺสตีติ อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห ‘อทิฏฺํ ปสฺสตี’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ปมมคฺเค กตมํ อินฺทฺริยํ ภาเชสี’ติ? ชานมาโน ‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติ. ‘อุปริมคฺเคสุ กตร’นฺติ? วุตฺเตปิ ‘อฺินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘อทิฏฺสจฺจทสฺสเน สติ อุปริมคฺเคสุปิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยเมว ภาเชหิ. เอวํ เต ปฺโห สเมสฺสตี’ติ. ‘กิเลเส ปน อฺเ อฺโ ปชหติ; ปหีเน เอว ปชหตี’ติ? ‘อฺเ อฺโ ปชหตี’ติ. ‘ยทิ อฺเ อฺโ, อปฺปหีเน กิเลเส ปชหติ. สจฺจานิปิ อทิฏฺาเนว ปสฺสตี’ติ เอวํวาที ปุคฺคโล ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘สจฺจานิ นาม กตี’ติ? ชานนฺโต ‘จตฺตารี’ติ วกฺขติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘ตว วาเท โสฬส สจฺจานิ อาปชฺชนฺติ. ตฺวํ พุทฺเธหิปิ อทิฏฺํ ปสฺสสิ. พหุสจฺจโก นาม ตฺวํ. เอวํ มา คณฺห. สจฺจทสฺสนํ นาม อปุพฺพํ นตฺถิ, กิเลเส ปน อปฺปหีเน ปชหตี’ติ.

ตตฺถ สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว เปโฬปมํ นาม คหิตํ – เอกสฺส กิร จตฺตาโร รตนเปฬา สารคพฺเภ ปิตา. โส รตฺติภาเค เปฬาสุ อุปฺปนฺนกิจฺโจ ทฺวารํ วิวริตฺวา, ทีปํ ชาเลตฺวา, ทีเปน วิหเต อนฺธกาเร, เปฬาสุ ปากฏภาวํ คตาสุ, ตาสุ กิจฺจํ กตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา คโต. ปุน อนฺธการํ อวตฺถริ. ทุติยวาเรปิ ตติยวาเรปิ ตเถว อกาสิ. จตุตฺถวาเร ทฺวาเร วิวเฏ อนฺธกาเร เปฬา น ปฺายนฺตีติ วีมํสนฺตสฺเสว สูริโย อุคฺคฺฉิ, สูริโยภาเสน วิหเต อนฺธกาเร เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา ปกฺกามิ.

ตตฺถ จตฺตาโร เปฬา วิย จตฺตาริ สจฺจานิ. ตาสุ กิจฺเจ อุปฺปนฺเน ทฺวารวิวรณกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. อนฺธการํ วิย สจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ. ทีโป ภาโส วิย โสตาปตฺติมคฺโคภาโส. วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส ปุริสสฺส เปฬานํ ปากฏภาโว วิย มคฺคาณสฺส สจฺจานํ ปากฏภาโว. มคฺคาณสฺส ปากฏานิ ปน มคฺคสมงฺคิสฺส ปุคฺคลสฺส ปากฏาเนว โหนฺติ. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.

ทุติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. ทีโปภาโส วิย สกทาคามิมคฺโคภาโส. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคทฺวยวชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.

ตติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. ทีโปภาโส วิย อนาคามิมคฺโคภาโส. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโล. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริอรหตฺตมคฺควชฺฌสจฺจปฏิจฺฉาทกตมํ.

จตุตฺถวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโล. สูริยุคฺคมนํ วิย อรหตฺตมคฺคุปฺปาโท. อนฺธการวิธมนํ วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมวิโนทนํ. วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส เปฬานํ ปากฏภาโว วิย อรหตฺตมคฺคาณสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏภาโว. าณสฺส ปากฏานิ ปน ปุคฺคลสฺส ปากฏาเนว โหนฺติ. เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สพฺพกิเลสเขปนํ. สูริยุคฺคมนโต ปฏฺาย อาโลกสฺเสว ปวตฺติกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย ปุน สจฺจปฏิจฺฉาทกตมาภาโว. อิทํ ตาว สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว โอปมฺมํ.

ทิฏฺกเมว หิ ปสฺสติ. ‘กิเลเส ปน อฺเ อฺโ ปชหตี’ติ เอตฺถ ขาโรปมํ นาม คหิตํ. เอโก ปุริโส กิลิฏฺํ วตฺถํ รชกสฺส อทาสิ. รชโก อูสขารํ ฉาริกขารํ โคมยขารนฺติ ตโย ขาเร ทตฺวา ขาเรหิ ขาทิตภาวํ ตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ทุติยมฺปิ ตเถว ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา, ตโต นาติสณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ตติยมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา ตโต สณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิ. ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ จตุตฺถมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา อํสุอพฺภนฺตรคตมฺปิ นิสฺเสสํ มลํ ปวาเหตฺวา สามิกสฺส อทาสิ. โส คนฺธกรณฺฑเก ปกฺขิปิตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล ปริทหติ.

ตตฺถ กิลิฏฺวตฺถํ วิย กิเลสานุคตํ จิตฺตํ. ติวิธขารทานกาโล วิย ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมสฺส ปวตฺตนกาโล. อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกมลปฺปวาหนํ วิย โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจกิเลสเขปนํ. ทุติยมฺปิ เตสํ ขารานํ อนุปฺปทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต นาติสณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย สกทาคามิมคฺเคน โอฬาริกสํโยชนทฺวยเขปนํ. ตโต ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต สณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย อนาคามิมคฺเคน อณุสหคตสํโยชนทฺวยเขปนํ. ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํ. ตโต วิกฺขาลเนน อํสุอพฺภนฺตรคเต มเล ปวาเหตฺวา ปริสุทฺธสฺส รชตปฏฺฏสทิสสฺส คนฺธกรณฺฑเก นิกฺขิตฺตสฺส วตฺถสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริทหนํ วิย อรหตฺตมคฺเคน อฏฺนฺนํ กิเลสานํ เขปิตตฺตา ปริสุทฺธสฺส ขีณาสวจิตฺตสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺติวิหาเรน วีตินามนํ. อิทํ ‘อฺเ อฺโ กิเลเส ปชหตี’ติ เอตฺถ โอปมฺมํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, วตฺถํ สํกิลิฏฺํ มลคฺคหิตํ, ตเมนํ สามิกา รชกสฺส อนุปทชฺเชยฺยุํ. ตเมนํ รชโก อูเส วา ขาเร วา โคมเย วา สมฺมทฺทิตฺวา อจฺเฉ อุทเก วิกฺขาเลติ. กิฺจาปิ ตํ โหติ วตฺถํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ‘อณุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโต’. ตเมนํ รชโก สามิกานํ เทติ. ตเมนํ สามิกา คนฺธปริภาวิเต กรณฺฑเก นิกฺขิปนฺติ. โยปิสฺส โหติ อณุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ. เอวเมว โข, อาวุโส, กิฺจาปิ อริยสาวกสฺส ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ ภวนฺติ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉนฺโท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โส อปเรน สมเยน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา อิติ สฺา อิติ สงฺขารา อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. ตสฺสิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โยปิสฺส โหติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉนฺโท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๙).

ตตฺถ โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. สกทาคามิมคฺเคน ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตานิ ตนุกานิ ภวนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. อนาคามิมคฺเคน ตานิเยว ปหียนฺติ สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. อรหตฺตมคฺเคน ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธึ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺเมหิ. อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ขีณาสวสฺส จิตฺตงฺควเสน ปุน ปจฺฉโตปวตฺตนกกิเลโส นาม น โหติ.

ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร มหาราชา ปจฺจนฺเต อารกฺขํ ทตฺวา มหานคเร อิสฺสริยํ อนุภวนฺโต วสติ. อถสฺส ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. ตสฺมึ สมเย ทฺวาทส โจรเชฏฺกา อเนเกหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ รฏฺํ วิลุมฺปนฺติ. ปจฺจนฺตวาสิโน มหามตฺตา ‘ปจฺจนฺโต กุปิโต’ติ รฺโ ปหิณึสุ. ราชา ‘วิสฺสฏฺา คณฺหถ, อหํ ตุมฺหากํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’ติ สาสนํ ปหิณิ. เต ปมสมฺปหาเรเนว อเนเกหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ ปฺจ โจรเชฏฺเก ฆาตยึสุ. เสสา สตฺต ชนา อตฺตโน อตฺตโน ปริวาเร คเหตฺวา ปพฺพตํ ปวิสึสุ. อมจฺจา ตํ ปวตฺตึ รฺโ เปสยึสุ.

ราชา ‘ตุมฺหากํ กตฺตพฺพยุตฺตํ อหํ ชานิสฺสามิ, เตปิ คณฺหถา’ติ ธนํ ปหิณิ. เต ทุติยสมฺปหาเรน ทฺเว โจรเชฏฺเก ปหรึสุ, ปริวาเรปิ เตสํ ทุพฺพเล อกํสุ. เต สพฺเพปิ ปลายิตฺวา ปพฺพตํ ปวิสึสุ. ตมฺปิ ปวตฺตึ อมจฺจา รฺโ เปสยึสุ.

ปุน ราชา ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิ. เต ตติยสมฺปหาเรน สทฺธึ สหายปุริเสหิ ทฺเว โจรเชฏฺเก ฆาตยิตฺวา ตํ ปวตฺตึ รฺโ เปสยึสุ.

ปุน ราชา ‘อวเสเส วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิ. เต จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวาเร ปฺจ โจรเชฏฺเก ฆาตยึสุ. ทฺวาทสนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย โกจิ โจโร นาม นตฺถิ. เขมา ชนปทา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา มฺเ วิหรนฺติ. ราชา วิชิตสงฺคาเมหิ โยเธหิ ปริวุโต วรปาสาทคโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิ.

ตตฺถ มหนฺโต ราชา วิย ธมฺมราชา. ปจฺจนฺตวาสิโน อมจฺจา วิย โยคาวจรา กุลปุตฺตา. ทฺวาทส โจรเชฏฺกา วิย ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ. เตสํ สหายา อเนกสหสฺสปุริสา วิย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺมา. รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโตติ ปหิตกาโล วิย อารมฺมเณ กิเลเสสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘ภนฺเต, กิเลโส เม อุปฺปนฺโน’ติ สตฺถุ อาโรจนกาโล. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ธนทานํ วิย ‘กิเลเส นิคฺคณฺห ภิกฺขู’ติ ธมฺมรฺโ กมฺมฏฺานาจิกฺขนํ. สปริวารานํ ปฺจนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺเคน สมฺปยุตฺตานํ ปฺจนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหานํ.

ปุน รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘เสสเก จ คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. ทุติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฏฺกานํ ทุพฺพลีกรณํ วิย สกทาคามิมคฺเคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ตนุภาวกรณํ.

ปุน รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย สตฺถุ ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. ตติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาตนํ วิย อนาคามิมคฺเคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ปหานํ.

ปุน รฺโ ปวตฺติเปสนํ วิย ตถาคตสฺส ปฏิลทฺธคุณาโรจนํ. ‘วิสฺสฏฺา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํ. จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวารานํ ปฺจนฺนํ โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย ชนปทสฺส เขมกาโล วิย อรหตฺตมคฺเคน สสมฺปยุตฺเตสุ ปฺจสุ อกุสลจิตฺเตสุ ปหีเนสุ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ปุน จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกสฺส อกุสลธมฺมสฺส อภาโว. รฺโ วิชิตสงฺคามสฺส อมจฺจคณปริวุตสฺส วรปาสาเท มหาสมฺปตฺติอนุภวนํ วิย ขีณาสวปริวุตสฺส ธมฺมรฺโ สุฺตอนิมิตฺตอปฺปณิหิตเภเทสุ สมาปตฺติสุเขสุ อิจฺฉิติจฺฉิตผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ เวทิตพฺพนฺติ.

กุสลา ธมฺมาติปทสฺส วณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลปทํ

ธมฺมุทฺเทสวารกถา

ปมจิตฺตํ

๓๖๕. อิทานิ อกุสลธมฺมปทํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อกุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ธมฺมววตฺถานาทิวารปฺปเภโท จ เหฏฺา อาคตานํ ปทานํ อตฺถวินิจฺฉโย จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ตตฺถ ปน วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ตตฺถ สมยววตฺถาเน ตาว ยสฺมา, กุสลสฺส วิย, อกุสลสฺส ภูมิเภโท นตฺถิ, ตสฺมา เอกนฺตํ กามาวจรมฺปิ สมานํ เอตํ ‘กามาวจร’นฺติ น วุตฺตํ. ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตนฺติ เอตฺถ ทิฏฺิ เอว ทิฏฺิคตํ ‘คูถคตํ มุตฺตคต’นฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต วา ทิฏฺิยา คตมตฺตเมเวตนฺติปิ ทิฏฺิคตํ. เตน สมฺปยุตฺตํ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ.

ตตฺถ อสทฺธมฺมสวนํ, อกลฺยาณมิตฺตตา, อริยานํ อทสฺสนกามตาทีนิ อโยนิโส มนสิกาโรติ เอวมาทีหิ การเณหิ อิมสฺส ทิฏฺิคตสงฺขาตสฺส มิจฺฉาทสฺสนสฺส อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เย หิ เอเต ทิฏฺิวาทปฏิสํยุตฺตา อสทฺธมฺมา เตสํ พหุมานปุพฺพงฺคเมน อติกฺกนฺตมชฺฌตฺเตน อุปปริกฺขารหิเตน สวเนน, เย จ ทิฏฺิวิปนฺนา อกลฺยาณมิตฺตา ตํสมฺปวงฺกตาสงฺขาตาย อกลฺยาณมิตฺตตาย, พุทฺธาทีนํ อริยานฺเจว สปฺปุริสานฺจ อทสฺสนกามตาย จตุสติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อโกวิทตฺเตน ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรสติสํวราณสํวรปหานสํวรปฺปเภเท อริยธมฺเม เจว สปฺปุริสธมฺเม จ สํวรเภทสงฺขาเตน อวินเยน เตเหว การเณหิ ปริภาวิเตน อโยนิโส มนสิกาเรน โกตูหลมงฺคลาทิปสุตตาย จ เอตํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. อสงฺขารภาโว ปนสฺส จิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ธมฺมุทฺเทสวาเร ผสฺโสติ อกุสลจิตฺตสหชาโต ผสฺโส. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อกุสลมตฺตเมว เอเตสํ ปุริเมหิ วิเสโส.

จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ ปาณาติปาตาทีสุปิ อวิกฺขิตฺตภาเวน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา โหติ. มนุสฺสา หิ จิตฺตํ สมาทหิตฺวา อวิกฺขิตฺตา หุตฺวา อวิรชฺฌมานานิ สตฺถานิ ปาณสรีเรสุ นิปาเตนฺติ, สุสมาหิตา ปเรสํ สนฺตกํ หรนฺติ, เอกรเสน จิตฺเตน มิจฺฉาจารํ อาปชฺชนฺติ. เอวํ อกุสลปฺปวตฺติยมฺปิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา โหติ.

มิจฺฉาทิฏฺีติ อยาถาวทิฏฺิ, วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ. อนตฺถาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ ชิคุจฺฉิตา ทิฏฺีติปิ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิจ มิจฺฉา ปสฺสนฺติ ตาย, สยํ วา มิจฺฉา ปสฺสติ, มิจฺฉาทสฺสนมตฺตเมว วา เอสาติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา อโยนิโส อภินิเวสลกฺขณา, ปรามาสรสา, มิจฺฉาภินิเวสปจฺจุปฏฺานา, อริยานํ อทสฺสนกามตาทิปทฏฺานา; ปรมํ วชฺชนฺติ ทฏฺพฺพา. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุ ‘มิจฺฉา’ติ ปทมตฺตเมว วิเสโส. เสสํ กุสลาธิกาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อหิริกพลํ อโนตฺตปฺปพลนฺติ เอตฺถ พลตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. อิตเรสุ ปน – น หิริยตีติ อหิริโก. อหิริกสฺส ภาโว อหิริกํ. น โอตฺตปฺปํ อโนตฺตปฺปํ. เตสุ อหิริกํ กายทุจฺจริตาทีหิ อชิคุจฺฉนลกฺขณํ, อลชฺชาลกฺขณํ วา. อโนตฺตปฺปํ เตเหว อสารชฺชนลกฺขณํ อนุตฺตาสนลกฺขณํ วา. อหิริกเมว พลํ อหิริกพลํ. อโนตฺตปฺปเมว พลํ อโนตฺตปฺปพลํ. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถาโร ปน เหฏฺา วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺโพ.

ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, มุยฺหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห. เตสุ โลโภ อารมฺมณคฺคหณลกฺขโณ มกฺกฏาเลโป วิย, อภิสงฺครโส ตตฺตกปาเล ขิตฺตมํสเปสิ วิย, อปริจฺจาคปจฺจุปฏฺาโน เตลฺชนราโค วิย, สํโยชนิยธมฺเมสุ อสฺสาททสฺสนปทฏฺาโน. โส ตณฺหานทีภาเวน วฑฺฒมาโน, สีฆโสตา นที วิย มหาสมุทฺทํ, อปายเมว คเหตฺวา คจฺฉตีติ ทฏฺพฺโพ.

โมโห จิตฺตสฺส อนฺธภาวลกฺขโณ อฺาณลกฺขโณ วา, อสมฺปฏิเวธรโส อารมฺมณสภาวจฺฉาทนรโส วา, อสมฺมาปฏิปตฺติปจฺจุปฏฺาโน อนฺธการปจฺจุปฏฺาโน วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺาโน. สพฺพากุสลานํ มูลนฺติ ทฏฺพฺโพ.

อภิชฺฌายนฺติ ตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. สา ปรสมฺปตฺตีนํ สกกรณอิจฺฉาลกฺขณา, เตนากาเรน เอสนภาวรสา, ปรสมฺปตฺติ-อภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา, ปรสมฺปตฺตีสุ อภิรติปทฏฺานา. ปรสมฺปตฺติอภิมุขา เอว หิ สา อุปฏฺหติ. ตาสุ จ อภิรติยา สติ ปวตฺตติ, ปรสมฺปตฺตีสุ เจตโส หตฺถปฺปสาโรวิยาติ ทฏฺพฺพา.

สมโถ โหตีติอาทีสุ อฺเสุ กิจฺเจสุ วิกฺเขปสมนโต สมโถ. อกุสลปฺปวตฺติยํ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ ปคฺคาโห. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป.

อิมสฺมึ จิตฺเต สทฺธา, สติ, ปฺา, ฉ ยุคฬกานีติ อิเม ธมฺมา น คหิตา. กสฺมา? อสฺสทฺธิยจิตฺเต ปสาโท นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตาว สทฺธา น คหิตา. กึ ปน ทิฏฺิคติกา อตฺตโน อตฺตโน สตฺถารานํ น สทฺทหนฺตีติ? สทฺทหนฺติ. สา ปน สทฺธา นาม น โหติ, วจนสมฺปฏิจฺฉนมตฺตเมเวตํ. อตฺถโต อนุปปริกฺขา วา โหติ, ทิฏฺิ วา. อสติยจิตฺเต ปน สติ นตฺถีติ น คหิตา. กึ ทิฏฺิคติกา อตฺตนา กตกมฺมํ น สรนฺตีติ? สรนฺติ. สา ปน สติ นาม น โหติ. เกวลํ เตนากาเรน อกุสลจิตฺตปฺปวตฺติ. ตสฺมา สติ น คหิตา. อถ กสฺมา ‘‘มิจฺฉาสตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๓; สํ. นิ. ๕.๑) สุตฺตนฺเต วุตฺตา? สา ปน อกุสลกฺขนฺธานํ สติวิรหิตตฺตา สติปฏิปกฺขตฺตา จ มิจฺฉามคฺคมิจฺฉตฺตานํ ปูรณตฺถํ ตตฺถ ปริยาเยน เทสนา กตา. นิปฺปริยาเยน ปเนสา นตฺถิ. ตสฺมา น คหิตา. อนฺธพาลจิตฺเต ปน ปฺา นตฺถีติ น คหิตา. กึ ทิฏฺิคติกานํ วฺจนาปฺา นตฺถีติ? อตฺถิ. น ปเนสา ปฺา, มายา นาเมสา โหติ. สา อตฺถโต ตณฺหาว. อิทํ ปน จิตฺตํ สทรถํ ครุกํ ภาริยํ กกฺขฬํ ถทฺธํ อกมฺมฺํ คิลานํ วงฺกํ กุฏิลํ. ตสฺมา ปสฺสทฺธาทีนิ ฉ ยุคฬกานิ น คหิตานิ.

เอตฺตาวตา ปทปฏิปาฏิยา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิอารุฬฺหานิ ทฺวตฺตึส ปทานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยวาปนกธมฺเม ทสฺเสตุํ เย วา ปน ตสฺมึ สมเยติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺเพสุปิ อกุสลจิตฺเตสุ ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร มาโน อิสฺสา มจฺฉริยํ ถินํ มิทฺธํ อุทฺธจฺจํ กุกฺกุจฺจนฺติ อิเม ทเสว เยวาปนกา โหนฺติ ธมฺมา, สุตฺตาคตา, สุตฺตปเทสุ ทิสฺสเรติ วุตฺตา. อิมสฺมึ ปน จิตฺเต ฉนฺโท อธิโมกฺโข มนสิกาโร อุทฺธจฺจนฺติ อิเม อปณฺณกงฺคสงฺขาตา จตฺตาโรว เยวาปนกา โหนฺติ.

ตตฺถ ฉนฺทาทโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ เต กุสลา, อิเม อกุสลา. อิตรํ ปน อุทฺธตสฺส ภาโว ‘อุทฺธจฺจํ’. ตํ เจตโส อวูปสมลกฺขณํ วาตาภิฆาตจลชลํ วิย, อนวฏฺานรสํ วาตาภิฆาตจลธชปฏากา วิย, ภนฺตตฺตปจฺจุปฏฺานํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมา วิย, เจตโส อวูปสเม อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขโปติ ทฏฺพฺพํ.

อิติ ผสฺสาทีนิ ทฺวตฺตึส, เยวาปนกวเสน วุตฺตานิ จตฺตารีติ สพฺพานิปิ อิมสฺมึ ธมฺมุทฺเทสวาเร ฉตฺตึส ธมฺมปทานิ ภวนฺติ. จตฺตาริ อปณฺณกงฺคานิ หาเปตฺวา ปาฬิยํ อาคตานิ ทฺวตฺตึสเมว. อคฺคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ผสฺสปฺจกํ, วิตกฺโก วิจาโร ปีติ จิตฺตสฺเสกคฺคตา วีริยินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภ โมโหติ โสฬส ธมฺมา โหนฺติ.

เตสุ โสฬสสุ สตฺต ธมฺมา อวิภตฺติกา นว สวิภตฺติกา โหนฺติ. กตเม สตฺต? ผสฺโส สฺา เจตนา วิจาโร ปีติ ชีวิตินฺทฺริยํ โมโหติ อิเม สตฺต อวิภตฺติกา. เวทนา จิตฺตํ วิตกฺโก จิตฺตสฺเสกคฺคตา วีริยินฺทฺริยํ มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภติ อิเม นว สวิภตฺติกา.

เตสุ ฉ ธมฺมา ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา, เอโก ตีสุ, เอโก จตูสุ, เอโก ฉสุ. กถํ? จิตฺตํ วิตกฺโก มิจฺฉาทิฏฺิ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ โลโภติ อิเม ฉ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา. เตสุ หิ จิตฺตํ ตาว ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา มนินฺทฺริยนฺติ. วิตกฺโก ฌานงฺคานิ ปตฺวา วิตกฺโก โหตีติ วุตฺโต, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ. มิจฺฉาทิฏฺิ มคฺคงฺเคสุปิ กมฺมปเถสุปิ มิจฺฉาทิฏฺิเยว. อหิริกํ พลานิ ปตฺวา อหิริกพลํ โหตีติ วุตฺตํ, โลกนาสกทุกํ ปตฺวา อหิริกนฺติ. อโนตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. โลโภ มูลํ ปตฺวา โลโภ โหตีติ วุตฺโต. กมฺมปถํ ปตฺวา อภิชฺฌาติ. อิเม ฉ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตา.

เวทนา ปน ผสฺสปฺจกํ ปตฺวา เวทนา โหตีติ วุตฺตา, ฌานงฺคานิ ปตฺวา สุขนฺติ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ. เอวํ เอโกว ธมฺโม ตีสุ าเนสุ วิภตฺโต.

วีริยํ ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา วีริยินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาวายาโม โหตีติ, พลานิ ปตฺวา วีริยพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ปคฺคาโห โหตีติ. เอวํ อยํ เอโก ธมฺโม จตูสุ าเนสุ วิภตฺโต.

สมาธิ ปน ฌานงฺคานิ ปตฺวา จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหตีติ วุตฺโต, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สมาธินฺทฺริยนฺติ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา มิจฺฉาสมาธีติ, พลานิ ปตฺวา สมาธิพลนฺติ, ปิฏฺิทุกํ ปตฺวา ทุติยทุเก เอกกวเสเนว สมโถติ, ตติเย อวิกฺเขโปติ. เอวมยํ เอโก ธมฺโม ฉสุ าเนสุ วิภตฺโต.

สพฺเพปิ ปเนเต ธมฺมา ผสฺสปฺจกวเสน ฌานงฺควเสน อินฺทฺริยวเสน มคฺคงฺควเสน พลวเสน มูลวเสน กมฺมปถวเสน โลกนาสกวเสน ปิฏฺิทุกวเสนาติ นว ราสโย โหนฺติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ ปมกุสลจิตฺตนิทฺเทเส วุตฺตเมวาติ.

ธมฺมุทฺเทสวารกถา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารกถา

๓๗๕. นิทฺเทสวาเร จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ตาว สณฺิติ อวฏฺิตีติ. อิทํ ทฺวยํ ิติเววจนเมว. ยํ ปน กุสลนิทฺเทเส ‘อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิตี’ติ วุตฺตํ, ตํ อิธ น ลพฺภติ. อกุสลสฺมิฺหิ ทุพฺพลา จิตฺตสฺเสกคฺคตาติ เหฏฺา ทีปิตเมว.

๓๘๔. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโรติ เอวรูโปปิ อตฺโถ อิธ น ลพฺภติ. สหชาตธมฺเม ปน น วิสาหรตีติ อวิสาหาโร. น วิกฺขิปตีติ อวิกฺเขโป. อกุสลจิตฺเตกคฺคตาวเสน อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโว อวิสาหฏมานสตา. สหชาตธมฺเมสุ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. อยาถาวสมาธานโต มิจฺฉาสมาธีติ เอวมิธ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๓๘๕. วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส โย เหฏฺา ‘นิกฺกโม เจโส กามานํ ปนุทนายา’ติอาทิ นโย วุตฺโต, โส อิธ น ลพฺภติ. สหชาตธมฺเมสุ อกมฺปนฏฺเเนว วีริยพลํ เวทิตพฺพํ.

๓๘๖. มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทเส อยาถาวทสฺสนฏฺเน มิจฺฉาทิฏฺิ. ทิฏฺีสุ คตํ อิทํ ทสฺสนํ, ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคตตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว. ทิฏฺิเยว ทุรติกฺกมนฏฺเน ทิฏฺิคหนํ, ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. ทิฏฺิเยว สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตาโร, โจรกนฺตารวาฬกนฺตารมรุกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน วิโลมนฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกายิกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. กทาจิ สสฺสตสฺส กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, กทาจิ สสฺสตํ อนุปตติ กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว พนฺธนฏฺเน สํโยชนนฺติ ทิฏฺิสํโยชนํ.

สุสุมาราทโย วิย ปุริสํ, อารมฺมณํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ คาโห. ปติฏฺหนโต ปติฏฺาโห. อยฺหิ พลวปฺปวตฺติภาเวน ปติฏฺหิตฺวา คณฺหาติ. นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสตีติ อภินิเวโส. ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามสตีติ ปรามาโส. อนตฺถาวหตฺตา กุจฺฉิโต มคฺโค, กุจฺฉิตานํ วา อปายานํ มคฺโคติ กุมฺมคฺโค. อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. ยถา หิ ทิสามูฬฺเหน อยํ อสุกคามสฺส นาม ปโถติ คหิโตปิ ตํ คามํ น สมฺปาเปติ, เอวํ ทิฏฺิคติเกน สุคติปโถติ คหิตาปิ ทิฏฺิ สุคตึ น ปาเปตีติ อยาถาวปถโต, มิจฺฉาปโถ. มิจฺฉาสภาวโต มิจฺฉตฺตํ. ตตฺเถว ปริพฺภมนโต ตรนฺติ เอตฺถ พาลาติ ติตฺถํ. ติตฺถฺจ ตํ อนตฺถานฺจ อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ. ติตฺถิยานํ วา สฺชาติเทสฏฺเน นิวาสานฏฺเน จ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํ. วิปริเยสภูโต คาโห, วิปริเยสโต วา คาโหติ วิปริเยสคฺคาโห; วิปลฺลตฺถ คาโหติ อตฺโถ.

๓๘๗-๓๘๘. อหิริกาโนตฺตปฺปนิทฺเทเสสุ หิโรตฺตปฺปนิทฺเทสวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สหชาตธมฺเมสุ ปน อกมฺปนฏฺเเนว อหิริกพลํ อโนตฺตปฺปพลฺจ เวทิตพฺพํ.

๓๘๙. โลภโมหนิทฺเทเสสุ ลุพฺภตีติ โลโภ. ลุพฺภนาติ ลุพฺภนากาโร. โลภสมฺปยุตฺตจิตฺตํ, ปุคฺคโล วา ลุพฺภิโต; ลุพฺภิตสฺส ภาโว ลุพฺภิตตฺตํ. สารชฺชตีติ สาราโค. สารชฺชนากาโร สารชฺชนา. สารชฺชิตสฺส ภาโว สารชฺชิตตฺตํ. อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา. ปุน ‘โลภ’-วจเน การณํ วุตฺตเมว. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ.

๓๙๐. าณทสฺสนปฏิปกฺขโต อฺาณํ อทสฺสนํ. อภิมุโข หุตฺวา ธมฺเมน น สเมติ, น สมาคจฺฉตีติ อนภิสมโย. อนุรูปโต ธมฺเม พุชฺฌตีติ อนุโพโธ. ตปฺปฏิปกฺขตาย อนนุโพโธ. อนิจฺจาทีหิ สทฺธึ โยเชตฺวา น พุชฺฌตีติ อสมฺโพโธ. อสนฺตํ อสมฺจ พุชฺฌตีติปิ อสมฺโพโธ. จตุสจฺจธมฺมํ นปฺปฏิวิชฺฌตีติ อปฺปฏิเวโธ. รูปาทีสุ เอกธมฺมมฺปิ อนิจฺจาทิสามฺโต น สงฺคณฺหาตีติ อสํคาหนา. ตเมว ธมฺมํ น ปริโยคาหตีติ อปริโยคาหนา. น สมํ เปกฺขตีติ อสมเปกฺขณา. ธมฺมานํ สภาวํ ปติ น อเปกฺขตีติ อปจฺจเวกฺขณา.

กุสลากุสลกมฺเมสุ วิปรีตวุตฺติยา สภาวคฺคหณาภาเวน วา เอกมฺปิ กมฺมํ เอตสฺส ปจฺจกฺขํ นตฺถิ, สยํ วา กสฺสจิ กมฺมสฺส ปจฺจกฺขกรณํ นาม น โหตีติ อปฺปจฺจกฺขกมฺมํ. ยํ เอตสฺมึ อนุปฺปชฺชมาเน จิตฺตสนฺตานํ เมชฺฌํ ภเวยฺย, สุจิ, โวทานํ, ตํ ทุฏฺํ เมชฺฌํ อิมินาติ ทุมฺเมชฺฌํ. พาลานํ ภาโวติ พาลฺยํ. มุยฺหตีติ โมโห. พลวตโร โมโห ปโมโห. สมนฺตโต มุยฺหตีติ สมฺโมโห. วิชฺชาย ปฏิปกฺขภาวโต น วิชฺชาติ อวิชฺชา. โอฆโยคตฺโถ วุตฺโตเยว. ถามคตฏฺเน อนุเสตีติ อนุสโย. จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ, อภิภวตีติ ปริยุฏฺานํ. หิตคฺคหณาภาเวน หิตาภิมุขํ คนฺตุํ น สกฺโกติ, อฺทตฺถุ ลงฺคติเยวาติ ลงฺคี; ขฺชตีติ อตฺโถ. ทุรุคฺฆาฏนฏฺเน วา ลงฺคี. ยถา หิ มหาปลิฆสงฺขาตา ลงฺคี ทุรุคฺฆาฏา โหติ, เอวมยมฺปิ ลงฺคี วิยาติ ลงฺคี. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. สงฺคหวารสุฺตวาราปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพาติ.

ทุติยจิตฺตํ

๓๙๙. ทุติยจิตฺเต สสงฺขาเรนาติ ปทํ วิเสสํ. ตมฺปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. อิทํ ปน จิตฺตํ กิฺจาปิ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ตถาปิ สสงฺขาริกตฺตา สปฺปโยเคน สอุปาเยน อุปฺปชฺชนโต – ยทา กุลปุตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส กุลสฺส กุมาริกํ ปตฺเถติ. เต จ ‘อฺทิฏฺิกา ตุมฺเห’ติ กุมาริกํ น เทนฺติ. อถฺเ าตกา ‘ยํ ตุมฺเห กโรถ ตเมวายํ กริสฺสตี’ติ ทาเปนฺติ. โส เตหิ สทฺธึ ติตฺถิเย อุปสงฺกมติ. อาทิโตว เวมติโก โหติ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล เอเตสํ กิริยา มนาปาติ ลทฺธึ โรเจติ, ทิฏฺึ คณฺหาติ – เอวรูเป กาเล อิทํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.

เยวาปนเกสุ ปเนตฺถ ถินมิทฺธํ อธิกํ. ตตฺถ ถินนตา ‘ถินํ’. มิทฺธนตา ‘มิทฺธํ’; อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาโต จาติ อตฺโถ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. ตตฺถ ถินํ อนุสฺสาหลกฺขณํ, วีริยวิโนทนรสํ, สํสีทนปจฺจุปฏฺานํ. มิทฺธํ อกมฺมฺตาลกฺขณํ, โอนหนรสํ, ลีนภาวปจฺจุปฏฺานํ ปจลายิกานิทฺทาปจฺจุปฏฺานํ วา. อุภยมฺปิ อรติตนฺทีวิชมฺภิตาทีสุ อโยนิโสมนสิการปทฏฺานนฺติ.

ตติยจิตฺตํ

๔๐๐. ตติยํ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน อปรามสนฺตสฺส นารายณวิราชนมลฺลยุทฺธนฏสมชฺชาทีนิ ปสฺสโต มนาปิยสทฺทสวนาทิปสุตสฺส วา อุปฺปชฺชติ. อิธ มาเนน สทฺธึ ปฺจ อปณฺณกงฺคานิ โหนฺติ. ตตฺถ มฺตีติ ‘มาโน’. โส อุนฺนติลกฺขโณ, สมฺปคฺคหรโส, เกตุกมฺยตาปจฺจุปฏฺาโน, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภปทฏฺาโน, อุมฺมาโท วิย ทฏฺพฺโพติ.

จตุตฺถจิตฺตํ

๔๐๒. จตุตฺถํ วุตฺตปฺปกาเรสุ เอว าเนสุ ยทา สีเส เขฬํ ขิปนฺติ, ปาทปํสุํ โอกิรนฺติ, ตทา ตสฺส ปริหรณตฺถํ สอุสฺสาเหน อนฺตรนฺตรา โอโลเกนฺตานํ ราชนาฏเกสุ นิกฺขนฺเตสุ อุสฺสารณาย วตฺตมานาย เตน เตน ฉิทฺเทน โอโลเกนฺตานฺจาติ เอวมาทีสุ าเนสุ อุปฺปชฺชติ. อิธ ปน ถินมิทฺเธหิ สทฺธึ สตฺต เยวาปนกา โหนฺติ. อุภยตฺถาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ ปริหายติ. ตํ เปตฺวา เสสานํ วเสน ธมฺมคณนา เวทิตพฺพาติ.

ปฺจมจิตฺตํ

๔๐๓. ปฺจมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตสฺส โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ‘สตฺโต สตฺโต’ติอาทินา นเยน ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. โสมนสฺสฏฺาเน ปเนตฺถ อุเปกฺขาเวทนา โหติ, ปีติปทํ ปริหายติ. เสสํ สพฺพํ ปมจิตฺตสทิสเมว.

ฉฏฺจิตฺตาทิ

๔๐๙-๔๑๒. ฉฏฺสตฺตมฏฺมานิปิ เวทนํ ปริวตฺเตตฺวา ปีติปทฺจ หาเปตฺวา ทุติยตติยจตุตฺเถสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อิเมสุ อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตาธิปติ อารมฺมณาธิปตีติ ทฺเวปิ อธิปตโย ลพฺภนฺติ.

นวมจิตฺตํ

๔๑๓. นวมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ โทมนสฺสิตสฺส ปฏิฆํ อุปฺปาทยโต อุปฺปชฺชติ. ตสฺส สมยววตฺถานวาเร ตาว ทุฏฺุ มโน, หีนเวทนตฺตา วา กุจฺฉิตํ มโนติ ทุมฺมโน; ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. เตน สหคตนฺติ โทมนสฺสสหคตํ. อสมฺปิยายนภาเวน อารมฺมณสฺมึ ปฏิหฺตีติ ปฏิฆํ. เตน สมฺปยุตฺตนฺติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ.

ธมฺมุทฺเทเส ตีสุปิ าเนสุ โทมนสฺสเวทนาว อาคตา. ตตฺถ เวทนาปทํ วุตฺตเมว. ตถา ทุกฺขโทมนสฺสปทานิ ลกฺขณาทิโต ปน อนิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขณํ โทมนสฺสํ, ยถาตถา วา อนิฏฺาการสมฺโภครสํ, เจตสิกาพาธปจฺจุปฏฺานํ, เอกนฺเตเนว หทยวตฺถุปทฏฺานํ.

มูลกมฺมปเถสุ ยถา ปุริมจิตฺเตสุ โลโภ โหติ, อภิชฺฌา โหตีติ อาคตํ, เอวํ โทโส โหติ, พฺยาปาโท โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ โทโส โส จณฺฑิกฺกลกฺขโณ ปหฏาสิวิโส วิย, วิสปฺปนรโส วิสนิปาโต วิย, อตฺตโน นิสฺสยทหนรโส วา ทาวคฺคิ วิย, ทุสฺสนปจฺจุปฏฺาโน ลทฺโธกาโส วิย สปตฺโต, อาฆาตวตฺถุปทฏฺาโน วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ.

พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ, ปูติภาวํ อุปคจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. อตฺถโต ปเนส โทโสเยว. อิธ ปทปฏิปาฏิยา เอกูนตึส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิเภโท เวทิตพฺโพ.

เยวาปนเกสุ ฉนฺทาธิโมกฺขมนสิการอุทฺธจฺจานิ นิยตานิ. อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺเจสุ ปน อฺตเรน สทฺธึ ปฺจ ปฺจ หุตฺวาปิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอวเมปิ ตโย ธมฺมา อนิยตเยวาปนกา นาม. เตสุ อิสฺสตีติ ‘อิสฺสา’. สา ปรสมฺปตฺตีนํ อุสูยนลกฺขณา, ตตฺเถว อนภิรติรสา, ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา, ปรสมฺปตฺติปทฏฺานา. สํโยชนนฺติ ทฏฺพฺพา. มจฺเฉรภาโว ‘มจฺฉริยํ’. ตํ ลทฺธานํ วา ลภิตพฺพานํ วา อตฺตโน สมฺปตฺตีนํ นิคูหนลกฺขณํ, ตาสํเยว ปเรหิ สาธารณภาวอกฺขมนรสํ, สงฺโกจนปจฺจุปฏฺานํ กฏุกฺจุกตาปจฺจุปฏฺานํ วา, อตฺตสมฺปตฺติปทฏฺานํ. เจตโส วิรูปภาโวติ ทฏฺพฺพํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ. ตสฺส ภาโว ‘กุกฺกุจฺจํ’. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ. ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. อยํ ตาว อุทฺเทสวาเร วิเสโส.

๔๑๕. นิทฺเทสวาเร เวทนานิทฺเทเส อสาตํ สาตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพํ.

๔๑๘. โทสนิทฺเทเส ทุสฺสตีติ โทโส. ทุสฺสนาติ ทุสฺสนากาโร. ทุสฺสิตตฺตนฺติ ทุสฺสิตภาโว. ปกติภาววิชหนฏฺเน พฺยาปชฺชนํ พฺยาปตฺติ. พฺยาปชฺชนาติ พฺยาปชฺชนากาโร. วิรุชฺฌตีติ วิโรโธ. ปุนปฺปุนํ วิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. วิรุทฺธาการปฏิวิรุทฺธาการวเสน วา อิทํ วุตฺตํ. จณฺฑิโก วุจฺจติ จณฺโฑ, ถทฺธปุคฺคโล; ตสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ. น เอเตน สุโรปิตํ วจนํ โหติ, ทุรุตฺตํ อปริปุณฺณเมว โหตีติ อสุโรโป. กุทฺธกาเล หิ ปริปุณฺณวจนํ นาม นตฺถิ. สเจปิ กสฺสจิ โหติ ตํ อปฺปมาณํ. อปเร ปน อสฺสุชนนฏฺเน อสฺสุโรปนโต อสฺสุโรโปติ วทนฺติ. ตํ อการณํ, โสมนสฺสสฺสาปิ อสฺสุชนนโต. เหฏฺา วุตฺตอตฺตมนตาปฏิปกฺขโต น อตฺตมนตาติ อนตฺตมนตา. สา ปน ยสฺมา จิตฺตสฺเสว, น สตฺตสฺส, ตสฺมา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สงฺคหสุฺตวาเรสุ จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ทสมจิตฺตํ

๔๒๑. ทสมํ สสงฺขารตฺตา ปเรหิ อุสฺสาหิตสฺส วา, ปเรสํ วา อปราธํ สาริตสฺส, สยเมว วา ปเรสํ อปราธํ อนุสฺสริตฺวา กุชฺฌมานสฺส อุปฺปชฺชติ.

อิธาปิ ปทปฏิปาฏิยา เอกูนตึส, อคฺคหิตคฺคหเณน จ จุทฺทเสว ปทานิ โหนฺติ. เยวาปนเกสุ ปน ถินมิทฺธมฺปิ ลพฺภติ. ตสฺมา เอตฺถ วินา อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺเจหิ จตฺตาริ อปณฺณกงฺคานิ ถินมิทฺธนฺติ อิเม ฉ อิสฺสาทีนํ อุปฺปตฺติกาเล เตสุ อฺตเรน สทฺธึ สตฺต เยวาปนกา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. เสสํ สพฺพํ สพฺพวาเรสุ นวมสทิสเมว. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ โทมนสฺสจิตฺเตสุ สหชาตาธิปติเยว ลพฺภติ, น อารมฺมณาธิปติ. น หิ กุทฺโธ กิฺจิ ครุํ กโรตีติ.

เอกาทสมจิตฺตํ

๔๒๒. เอกาทสมํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตสฺส กงฺขาปวตฺติกาเล อุปฺปชฺชติ. ตสฺส สมยววตฺถาเน วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตนฺติ ปทํ อปุพฺพํ. ตสฺสตฺโถ – วิจิกิจฺฉาย สมฺปยุตฺตนฺติ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ. ธมฺมุทฺเทเส ‘วิจิกิจฺฉา โหตี’ติ ปทเมว วิเสโส. ตตฺถ วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา. สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. สา สํสยลกฺขณา, กมฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา อเนกํสคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา. ปฏิปตฺติอนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.

อิธ ปทปฏิปาฏิยา เตวีสติ ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. มนสิกาโร อุทฺธจฺจนฺติ ทฺเวเยว เยวาปนกา.

๔๒๔. นิทฺเทสวารสฺส จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ยสฺมา อิทํ ทุพฺพลํ จิตฺตํ ปวตฺติฏฺิติมตฺตกเมเวตฺถ โหติ, ตสฺมา ‘สณฺิตี’ติอาทีนิ อวตฺวา จิตฺตสฺส ‘ิตี’ติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. เตเนว จ การเณน อุทฺเทสวาเรปิ ‘สมาธินฺทฺริย’นฺติอาทิ น วุตฺตํ.

๔๒๕. วิจิกิจฺฉานิทฺเทเส กงฺขนวเสน กงฺขา. กงฺขาย อายนาติ กงฺขายนา. ปุริมกงฺขา หิ อุตฺตรกงฺขํ อาเนติ นาม. อาการวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. กงฺขาสมงฺคิจิตฺตํ กงฺขาย อายิตตฺตา กงฺขายิตํ นาม. ตสฺส ภาโว กงฺขายิตตฺตํ. วิมตีติ นมติ. วิจิกิจฺฉา วุตฺตตฺถา เอว. กมฺปนฏฺเน ทฺวิธา เอฬยตีติ ทฺเวฬฺหกํ. ปฏิปตฺตินิวารเณน ทฺวิธาปโถ วิยาติ ทฺเวธาปโถ. ‘นิจฺจํ นุ โข อิทํ, อนิจฺจํ นุ โข’ติอาทิปวตฺติยา เอกสฺมึ อากาเร สณฺาตุํ อสมตฺถตาย สมนฺตโต เสตีติ สํสโย. เอกํสํ คเหตุํ อสมตฺถตาย น เอกํสคฺคาโหติ อเนกํสคฺคาโห. นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตี อารมฺมณโต โอสกฺกตีติ อาสปฺปนา. โอคาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ปริสมนฺตโต สปฺปตีติ ปริสปฺปนา. ปริโยคาหิตุํ อสมตฺถตาย อปริโยคาหนา. นิจฺฉยวเสน อารมฺมเณ ปวตฺติตุํ อสมตฺถตาย ถมฺภิตตฺตํ; จิตฺตสฺส ถทฺธภาโวติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉา หิ อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ถทฺธํ กโรติ. ยสฺมา ปเนสา อุปฺปชฺชมานา อารมฺมณํ คเหตฺวา มนํ วิลิขนฺตี วิย, ตสฺมา มโนวิเลโขติ วุตฺตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

ทฺวาทสมจิตฺตํ

๔๒๗. ทฺวาทสมสฺส สมยววตฺถาเน อุทฺธจฺเจน สมฺปยุตฺตนฺติ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ. อิทฺหิ จิตฺตํ ฉสุ อารมฺมเณสุ เวทนาวเสน มชฺฌตฺตํ หุตฺวา อุทฺธตํ โหติ. อิธ ธมฺมุทฺเทเส ‘วิจิกิจฺฉา’-าเน ‘อุทฺธจฺจํ โหตี’ติ อาคตํ. ปทปฏิปาฏิยา อฏฺวีสติ ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน จุทฺทส. เตสํ วเสน สวิภตฺติกาวิภตฺติกราสิวิธานํ เวทิตพฺพํ. อธิโมกฺโข มนสิกาโรติ ทฺเวเยว เยวาปนกา.

๔๒๙. นิทฺเทสวารสฺส อุทฺธจฺจนิทฺเทเส จิตฺตสฺสาติ น สตฺตสฺส, น โปสสฺส. อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธตากาโร. น วูปสโมติ อวูปสโม. เจโต วิกฺขิปตีติ เจตโสวิกฺเขโป. ภนฺตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ จิตฺตสฺส ภนฺตภาโว, ภนฺตยานภนฺตโคณาทีนิ วิย. อิมินา เอการมฺมณสฺมึเยว วิปฺผนฺทนํ กถิตํ. อุทฺธจฺจฺหิ เอการมฺมเณ วิปฺผนฺทติ, วิจิกิจฺฉา นานารมฺมเณ. เสสํ สพฺพวาเรสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อิทานิ อิมสฺมึ จิตฺตทฺวเย ปกิณฺณกวินิจฺฉโย โหติ. ‘อารมฺมเณ ปวฏฺฏนกจิตฺตานิ นาม กตี’ติ? หิ วุตฺเต ‘อิมาเนว ทฺเว’ติ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาสหคตํ เอกนฺเตน ปวฏฺฏติ, อุทฺธจฺจสหคตํ ปน ลทฺธาธิโมกฺขตฺตา ลทฺธปติฏฺํ ปวฏฺฏติ. ยถา หิ วฏฺฏจตุรสฺเสสุ ทฺวีสุ มณีสุ ปพฺภารฏฺาเน ปวฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺเสุ วฏฺฏมณิ เอกนฺเตเนว ปวฏฺฏติ, จตุรสฺโส ปติฏฺาย ปติฏฺาย ปวฏฺฏติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสุปิ หีนาทิเภโท น อุทฺธโฏ, สพฺเพสํ เอกนฺตหีนตฺตา. สหชาตาธิปติ ลพฺภมาโนปิ น อุทฺธโฏ, เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา. าณาภาวโต ปเนตฺถ วีมํสาธิปติ นาม นตฺถิ. ปจฺฉิมทฺวเย เสโสปิ นตฺถิ เอว. กสฺมา? กฺจิ ธมฺมํ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปชฺชนโต, ปฏฺาเน จ ปฏิสิทฺธโต.

อิเมหิ ปน ทฺวาทสหิปิ อกุสลจิตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเต, เปตฺวา อุทฺธจฺจสหคตํ, เสสานิ เอกาทเสว ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺติ. วิจิกิจฺฉาสหคเต อลทฺธาธิโมกฺเข ทุพฺพเลปิ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒมาเน อุทฺธจฺจสหคตํ ลทฺธาธิโมกฺขํ พลวํ กสฺมา นากฑฺฒตีติ? ทสฺสเนน ปหาตพฺพาภาวโต. ยทิ หิ อากฑฺเฒยฺย ‘ทสฺสเนนปหาตพฺพ’-ปทวิภงฺเค อาคจฺเฉยฺย, ตสฺมา, เปตฺวา ตํ, เสสานิ เอกาทส อากฑฺฒนฺติ. เตสุ หิ เยน เกนจิ กมฺเม อายูหิเต ตาย เจตนาย จตูสุ อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ โหติ. อกุสลวิปาเกสุ อเหตุกมโนวิฺาณธาตุอุเปกฺขาสหคตาย ปฏิสนฺธึ คณฺหาติ. อิตรสฺสาปิ เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺย. ยสฺมา ปเนตํ นตฺถิ, ตสฺมา ‘ทสฺสเนนปหาตพฺพ’-ปทวิภงฺเค นาคตนฺติ.

อกุสลา ธมฺมาติปทสฺส วณฺณนา นิฏฺิตา.

อพฺยากตปทํ

อเหตุกกุสลวิปาโก

๔๓๑. อิทานิ อพฺยากตปทํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จตุพฺพิธํ อพฺยากตํ – วิปากํ กิริยํ รูปํ นิพฺพานนฺติ. เตสุ วิปากาพฺยากตํ. วิปากาพฺยากเตปิ กุสลวิปากํ. ตสฺมิมฺปิ ปริตฺตวิปากํ. ตสฺมิมฺปิ อเหตุกํ. ตสฺมิมฺปิ ปฺจวิฺาณํ. ตสฺมิมฺปิ ทฺวารปฏิปาฏิยา จกฺขุวิฺาณํ. ตสฺสาปิ, เปตฺวา ทฺวารารมฺมณาทิสาธารณปจฺจยํ, อสาธารณกมฺมปจฺจยวเสเนว อุปฺปตฺตึ ทีเปตุํ กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตตฺตาติ กตการณา. อุปจิตตฺตาติ อาจิตตฺตา, วฑฺฒิตการณา. จกฺขุวิฺาณนฺติ การณภูตสฺส จกฺขุสฺส วิฺาณํ, จกฺขุโต วา ปวตฺตํ, จกฺขุสฺมึ วา นิสฺสิตํ วิฺาณนฺติ จกฺขุวิฺาณํ. ปรโต โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนลกฺขณํ จกฺขุวิฺาณํ, รูปมตฺตารมฺมณรสํ, รูปาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานํ, รูปารมฺมณาย กิริยมโนธาตุยา อปคมปทฏฺานํ. ปรโต อาคตานิ โสตาทิสนฺนิสฺสิตสทฺทาทิวิชานนลกฺขณานิ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ สทฺทาทิมตฺตารมฺมณรสานิ, สทฺทาทิอภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานานิ, สทฺทาทิอารมฺมณานํ กิริยมโนธาตูนํ อปคมปทฏฺานานิ.

อิธ ปทปฏิปาฏิยา ทส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน สตฺต. เตสุ ปฺจ อวิภตฺติกานิ, ทฺเว สวิภตฺติกานิ. เตสุ จิตฺตํ ผสฺสปฺจกวเสน เจว อินฺทฺริยวเสน จ ทฺวีสุ าเนสุ วิภตฺตึ คจฺฉติ, เวทนา ผสฺสปฺจกฌานงฺคอินฺทฺริยวเสน ตีสุเยว. ราสโยปิ อิเมว ตโย โหนฺติ. เยวาปนโก เอโก มนสิกาโร เอว.

๔๓๖. นิทฺเทสวาเร จกฺขุวิฺาณํ ปณฺฑรนฺติ วตฺถุโต วุตฺตํ. กุสลฺหิ อตฺตโน ปริสุทฺธตาย ปณฺฑรํ นาม, อกุสลํ ภวงฺคนิสฺสนฺเทน, วิปากํ วตฺถุปณฺฑรตฺตา.

๔๓๙. จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส จิตฺตสฺส ิตีติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. อิทมฺปิ หิ ทุพฺพลํ จิตฺตํ ปวตฺติฏฺิติมตฺตเมเวตฺถ ลพฺภติ, ‘สณฺิติอวฏฺิติ’-ภาวํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ. สงฺคหวาเร ฌานงฺคมคฺคงฺคานิ น อุทฺธฏานิ. กสฺมา? วิตกฺกปจฺฉิมกฺหิ ฌานํ นาม, เหตุปจฺฉิมโก มคฺโค นาม. ปกติยา อวิตกฺกจิตฺเต ฌานงฺคํ น ลพฺภติ, อเหตุกจิตฺเต จ มคฺคงฺคานิ. ตสฺมา อิธ อุภยมฺปิ น อุทฺธฏํ. สงฺขารกฺขนฺโธเปตฺถ จตุรงฺคิโกเยว ภาชิโต. สุฺตวาโร ปากติโกเยว. โสตวิฺาณาทินิทฺเทสาปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา.

เกวลฺหิ จกฺขุวิฺาณาทีสุ ‘อุเปกฺขา’ ภาชิตา, กายวิฺาเณ ‘สุข’นฺติ, อยเมตฺถ วิเสโส. โสปิ จ ฆฏฺฏนวเสน โหตีติ เวทิตพฺโพ. จกฺขุทฺวาราทีสุ หิ จตูสุ อุปาทารูปเมว อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏติ, อุปาทารูเปเยว อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏนฺเต ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา น โหติ. จตุนฺนํ อธิกรณีนํ อุปริ จตฺตาโร กปฺปาสปิจุปิณฺเฑ เปตฺวา ปิจุปิณฺเฑเหว ปหตกาโล วิย ผุฏฺมตฺตเมว โหติ. เวทนา มชฺฌตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. กายทฺวาเร ปน พหิทฺธา มหาภูตารมฺมณํ อชฺฌตฺติกกายปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ. ยถา อธิกรณีมตฺถเก กปฺปาสปิจุปิณฺฑํ เปตฺวา กูเฏน ปหรนฺตสฺส กปฺปาสปิจุปิณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา กูฏํ อธิกรณึ คณฺหตีติ, นิฆํโส พลวา โหติ, เอวเมว ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา โหติ. อิฏฺเ อารมฺมเณ สุขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, อนิฏฺเ ทุกฺขสหคตํ.

อิเมสํ ปน ปฺจนฺนํ จิตฺตานํ วตฺถุทฺวารารมฺมณานิ นิพทฺธาเนว โหนฺติ, วตฺถาทิสงฺกมนํ นาเมตฺถ นตฺถิ. กุสลวิปากจกฺขุวิฺาณฺหิ จกฺขุปสาทํ วตฺถุํ กตฺวา อิฏฺเ จ อิฏฺมชฺฌตฺเต จ จตุสมุฏฺานิกรูปารมฺมเณ ทสฺสนกิจฺจํ สาธยมานํ จกฺขุทฺวาเร ตฺวา วิปจฺจติ. โสตวิฺาณาทีนิ โสตปสาทาทีนิ วตฺถุํ กตฺวา อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ สทฺทาทีสุ สวนฆายนสายนผุสนกิจฺจานิ สาธยมานานิ โสตทฺวาราทีสุ ตฺวา วิปจฺจนฺติ. สทฺโท ปเนตฺถ ทฺวิสมุฏฺานิโกเยว โหติ.

๔๕๕. มโนธาตุนิทฺเทเส สภาวสุฺตนิสฺสตฺตฏฺเน มโนเยว ธาตุ มโนธาตุ. สา จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรํ รูปาทิวิชานนลกฺขณา, รูปาทีนํ สมฺปฏิจฺฉนรสา, ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา, จกฺขุวิฺาณาทิอปคมปทฏฺานา. อิธ ธมฺมุทฺเทเส ทฺวาทส ปทานิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน นว. เตสุ สตฺต อวิภตฺติกานิ ทฺเว สวิภตฺติกานิ. อธิโมกฺโข มนสิกาโรติ ทฺเว เยวาปนกา. วิตกฺกนิทฺเทโส อภินิโรปนํ ปาเปตฺวา ปิโต. ยสฺมา ปเนตํ จิตฺตํ เนว กุสลํ นากุสลํ, ตสฺมา สมฺมาสงฺกปฺโปติ วา มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ วา น วุตฺตํ. สงฺคหวาเร ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตนฺติ. มคฺคงฺคํ ปน น ลพฺภติเยวาติ น อุทฺธฏํ. สุฺตวาโร ปากติโกเยว. อิมสฺส จิตฺตสฺส วตฺถุ นิพทฺธํ หทยวตฺถุเมว โหติ. ทฺวารารมฺมณานิ อนิพทฺธานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทฺวารารมฺมณานิ สงฺกมนฺติ, านํ ปน เอกํ. สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจเมว เหตํ โหติ. อิทฺหิ ปฺจทฺวาเร ปฺจสุ อารมฺมเณสุ สมฺปฏิจฺฉนํ หุตฺวา วิปจฺจติ. กุสลวิปาเกสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ นิรุทฺเธสุ ตํสมนนฺตรา ตาเนว านปฺปตฺตานิ รูปารมฺมณาทีนิ สมฺปฏิจฺฉติ.

๔๖๙. มโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเสสุ ปมมโนวิฺาณธาตุยํ ‘ปีติ’ปทํ อธิกํ. เวทนาปิ ‘โสมนสฺส’-เวทนา โหติ. อยฺหิ อิฏฺารมฺมณสฺมึเยว ปวตฺตติ. ทุติยมโนวิฺาณธาตุ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ. ตสฺมา ตตฺถ ‘อุเปกฺขา’ เวทนา โหตีติ. ปทานิ มโนธาตุนิทฺเทสสทิสาเนว. อุภยตฺถาปิ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตตฺตาเยว ฌานงฺคานิ น อุทฺธฏานิ. มคฺคงฺคานิ อลาภโตเยว. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ลกฺขณาทิโต ปเนสา ทุวิธาปิ มโนวิฺาณธาตุ อเหตุกวิปากา, ฉฬารมฺมณวิชานนลกฺขณา, สนฺตีรณาทิรสา, ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา, หทยวตฺถุปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ ปมา ทฺวีสุ าเนสุ วิปจฺจติ. สา หิ ปฺจทฺวาเร กุสลวิปากจกฺขุวิฺาณาทิอนนฺตรํ, วิปากมโนธาตุยา ตํ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา นิรุทฺธาย, ตสฺมึ เยวารมฺมเณ สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา ปฺจสุ ทฺวาเรสุ ตฺวา วิปจฺจติ. ฉสุ ทฺวาเรสุ ปน พลวารมฺมเณ ตทารมฺมณา หุตฺวา วิปจฺจติ. กถํ? ยถา หิ จณฺฑโสเต, ติริยํ นาวาย คจฺฉนฺติยา, อุทกํ ฉิชฺชิตฺวา โถกํ านํ นาวํ อนุพนฺธิตฺวา ยถาโสตเมว คจฺฉติ, เอวเมว ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ ปโลภยมาเน อาปาถคเต ชวนํ ชวติ. ตสฺมึ ชวิเต ภวงฺคสฺส วาโร. อิทํ ปน จิตฺตํ ภวงฺคสฺส วารํ อทตฺวา ชวเนน คหิตารมฺมณํ คเหตฺวา เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร ปวตฺติตฺวา ภวงฺคเมว โอตรติ. ควกฺขนฺเธ นทึ ตรนฺเตปิ เอวเมว อุปมา วิตฺถาเรตพฺพา. เอวเมสา ยํ ชวเนน คหิตารมฺมณํ ตสฺเสว คหิตตฺตา ตทารมฺมณํ นาม หุตฺวา วิปจฺจติ.

ทุติยา ปน ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจติ. กถํ? มนุสฺสโลเก ตาว ชจฺจนฺธชจฺจพธิรชจฺจเอฬชจฺจุมฺมตฺตกอุภโตพฺยฺชนกนปุํสกานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจติ. ปฏิสนฺธิยา วีติวตฺตาย ยาวตายุกํ ภวงฺคํ หุตฺวา วิปจฺจติ. อิฏฺมชฺฌตฺเต ปฺจารมฺมณวีถิยา สนฺตีรณํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจตีติ.

มโนวิฺาณธาตุทฺวยํ นิฏฺิตํ.

อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา

๔๙๘. อิทานิ อฏฺมหาวิปากจิตฺตานิ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปาฬิยํ นยมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สพฺพวารา สํขิตฺตา. เตสํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. โย ปเนตฺถ วิเสโส ตํ ทสฺเสตุํ อโลโภ อพฺยากตมูลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ยมฺปิ น วุตฺตํ ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – โย หิ กามาวจรกุสเลสุ กมฺมทฺวารกมฺมปถปุฺกิริยวตฺถุเภโท วุตฺโต โส อิธ นตฺถิ. กสฺมา? อวิฺตฺติชนกโต อวิปากธมฺมโต ตถา อปฺปวตฺติโต จ. ยาปิ ตา เยวาปนเกสุ กรุณามุทิตา วุตฺตา, ตา สตฺตารมฺมณตฺตา วิปาเกสุ น สนฺติ. เอกนฺตปริตฺตารมฺมณานิ หิ กามาวจรวิปากานิ. น เกวลฺจ กรุณามุทิตา, วิรติโยเปตฺถ น สนฺติ. ‘ปฺจ สิกฺขาปทานิ กุสลาเนวา’ติ (วิภ. ๗๑๕) หิ วุตฺตํ.

อสงฺขารสสงฺขารวิธานฺเจตฺถ กุสลโต เจว ปจฺจยเภทโต จ เวทิตพฺพํ. อสงฺขาริกสฺส หิ กุสลสฺส อสงฺขาริกเมว วิปากํ, สสงฺขาริกสฺส สสงฺขาริกํ. พลวปจฺจเยหิ จ อุปฺปนฺนํ อสงฺขาริกํ, อิตเรหิ อิตรํ. หีนาทิเภเทปิ อิมานิ หีนมชฺฌิมปณีเตหิ ฉนฺทาทีหิ อนิปฺผาทิตตฺตา หีนมชฺฌิมปณีตานิ นาม น โหนฺติ. หีนสฺส ปน กุสลสฺส วิปากํ หีนํ, มชฺฌิมสฺส มชฺฌิมํ, ปณีตสฺส ปณีตํ. อธิปติโน เปตฺถ น สนฺติ. กสฺมา? ฉนฺทาทีนิ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปาเทตพฺพโต. เสสํ สพฺพํ อฏฺสุ กุสเลสุ วุตฺตสทิสเมว.

อิทานิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ มหาวิปากจิตฺตานํ วิปจฺจนฏฺานํ เวทิตพฺพํ. เอตานิ หิ จตูสุ าเนสุ วิปจฺจนฺติ – ปฏิสนฺธิยํ, ภวงฺเค, จุติยํ, ตทารมฺมเณติ. กถํ? มนุสฺเสสุ ตาว กามาวจรเทเวสุ จ ปุฺวนฺตานํ ทุเหตุกติเหตุกานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจนฺติ. ปฏิสนฺธิยา วีติวตฺตาย ปวตฺเต สฏฺิปิ อสีติปิ วสฺสานิ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ อายุกาลํ ภวงฺคํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ. เอวํ จตูสุ าเนสุ วิปจฺจนฺติ.

ตตฺถ สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา ปจฺฉิมปฏิสนฺธิคฺคหเณ ปเมน โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกมหาวิปากจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. ตํ ปน เมตฺตาปุพฺพภาคจิตฺตสฺส วิปากํ โหติ. เตน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อสงฺขฺเยยฺยํ อายุ. กาลวเสน ปน ปริณมติ. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘โสมนสฺสสหคตโต อุเปกฺขาสหคตํ พลวตรํ. เตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. เตน คหิตปฏิสนฺธิกา หิ มหชฺฌาสยา โหนฺติ. ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ อุปฺปิลาวิโน น โหนฺติ, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถราทโย วิยา’ติ. อฏฺกถายํ ปน – ‘อยํ เถรสฺส มโนรโถ,’‘นตฺถิ เอต’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ หิตูปจาโร พลวา โหติ, ตสฺมา เมตฺตาปุพฺพภาคกามาวจรกุสลวิปากโสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตี’ติ วุตฺตํ.

วิปากุทฺธารกถา

อิทานิ วิปากุทฺธารกถาย มาติกา เปตพฺพา – ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ตาว อาห – เอกาย กุสลเจตนาย โสฬส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺเถว ทฺวาทสกมคฺโคปิ อเหตุกฏฺกมฺปีติ. โมรวาปิวาสี มหาทตฺตตฺเถโร ปนาห – เอกาย กุสลเจตนาย ทฺวาทส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺเถว ทสกมคฺโคปิ อเหตุกฏฺกมฺปีติ. ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร อาห – เอกาย กุสลเจตนาย ทส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เอตฺเถว อเหตุกฏฺกนฺติ.

อิมสฺมึ าเน สาเกตปฺหํ นาม คณฺหึสุ. สาเกเต กิร อุปาสกา สาลายํ นิสีทิตฺวา ‘กึ นุ โข เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต เอกา ปฏิสนฺธิ โหติ อุทาหุ นานา’ติ? ปฺหํ นาม สมุฏฺาเปตฺวา นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา อาภิธมฺมิกตฺเถเร อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉึสุ. เถรา ‘ยถา เอกสฺมา อมฺพพีชา เอโกว องฺกุโร นิกฺขมติ, เอวํ เอกาว ปฏิสนฺธิ โหตี’ติ สฺาเปสุํ. อเถกทิวสํ ‘กึ นุ โข นานาเจตนาหิ กมฺเม อายูหิเต ปฏิสนฺธิโย นานา โหนฺติ อุทาหุ เอกา’ติ? ปฺหํ สมุฏฺาเปตฺวา นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา เถเร ปุจฺฉึสุ. เถรา ‘ยถา พหูสุ อมฺพพีเชสุ โรปิเตสุ พหู องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, เอวํ พหุกาว ปฏิสนฺธิโย โหนฺตี’ติ สฺาเปสุํ.

อปรมฺปิ อิมสฺมึ าเน อุสฺสทกิตฺตนํ นาม คหิตํ. อิเมสฺหิ สตฺตานํ โลโภปิ อุสฺสนฺโน โหติ, โทโสปิ โมโหปิ; อโลโภปิ อโทโสปิ อโมโหปิ. ตํ เนสํ อุสฺสนฺนภาวํ โก นิยาเมตีติ? ปุพฺพเหตุ นิยาเมติ. กมฺมายูหนกฺขเณเยว นานตฺตํ โหติ. กถํ? ‘‘ยสฺส หิ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต โทสโมหา มนฺทา, ตสฺส มนฺโท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, อโทสาโมหา ปน พลวนฺโต โทสโมเห ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺติ. ตสฺมา โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหติ, สุขสีโล อกฺโกธโน, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ’’ติ.

‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา โมโห มนฺโท, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ ทตฺตาภยตฺเถโร วิย.

‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทนฺโธ จ, สุขสีลโก ปน โหติ อกฺโกธโน.

‘ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ.

‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อปฺปกิเลโส โหติ, ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุฏฺโ ปน โหติ ทนฺธปฺโ จาติ.

‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ, สุขสีลโก จ, ทนฺโธ ปน โหติ.

‘ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ ปฺวา จ, ทุฏฺโ จ ปน โหติ โกธโน.

‘ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาทโย พลวนฺโต โหนฺติ โลภาทโย มนฺทา, โส มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร วิย อลุทฺโธ อทุฏฺโ ปฺวา จ โหตี’ติ.

อปรมฺปิ อิมสฺมึ าเน เหตุกิตฺตนํ นาม คหิตํ. ติเหตุกกมฺมฺหิ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ อเหตุกมฺปิ วิปากํ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากํ น เทติ, อิตรํ เทติ. ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาปิ โหติ, ทุเหตุกาปิ; อเหตุกา น โหติ. ทุเหตุเกน ทุเหตุกาปิ โหติ อเหตุกาปิ; ติเหตุกา น โหติ. อสงฺขาริกํ กุสลํ อสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกมฺปิ วิปากํ เทติ. สสงฺขาริกํ สสงฺขาริกมฺปิ อสงฺขาริกมฺปิ วิปากํ เทติ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยาเมตพฺพํ.

อิทานิ ตสฺส ตสฺส เถรสฺส วาเท โสฬสมคฺคาทโย เวทิตพฺพา. ปมกามาวจรกุสลสทิเสน หิ ปมมหาวิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส คพฺภาวาสโต นิกฺขมิตฺวา สํวราสํวเร ปฏฺเปตุํ สมตฺถภาวํ อุปคตสฺส จกฺขุทฺวารสฺมึ ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อนาวฏฺฏิเตเยว อติกฺกมนอารมฺมณานํ ปมาณํ นตฺถิ. กสฺมา เอวํ โหติ? อารมฺมณทุพฺพลตาย. อยํ ตาว เอโก โมฆวาโร.

สเจ ปน ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต, โวฏฺพฺพนํ อปาเปตฺวาว อนฺตรา, จกฺขุวิฺาเณ วา สมฺปฏิจฺฉเน วา สนฺตีรเณ วา ตฺวา นิวตฺติสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โวฏฺพฺพนวเสน ปน ตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา จิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ. ตโต อาเสวนํ ลภิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ปุน ภวงฺคํ โอตรติ อิทมฺปิ อารมฺมณทุพฺพลตาย เอว โหติ. อยํ ปน วาโร ‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’ติอาทีนิ วทนกาเล ลพฺภติ. อยมฺปิ ทุติโย โมฆวาโร.

อปรสฺส กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต วีถิจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ชวนํ ชวติ. ชวนปริโยสาเน ปน ตทารมฺมณสฺส วาโร. ตสฺมึ อนุปฺปนฺเนเยว ภวงฺคํ โอตรติ. ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ นทิยา อาวรณํ พนฺธิตฺวา มหามาติกาภิมุเข อุทเก กเต อุทกํ คนฺตฺวา อุโภสุ ตีเรสุ เกทาเร ปูเรตฺวา อติเรกํ กกฺกฏกมคฺคาทีหิ ปลายิตฺวา ปุน นทึเยว โอตรติ, เอวเมตํ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ หิ นทิยํ อุทกปฺปวตฺตนกาโล วิย ภวงฺควีถิปฺปวตฺตนกาโล. อาวรณพนฺธนกาโล วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏนกาโล. มหามาติกาย อุทกปฺปวตฺตนกาโล วิย วีถิจิตฺตปฺปวตฺติ. อุโภสุ ตีเรสุ เกทารปูรณํ วิย ชวนํ. กกฺกฏกมคฺคาทีหิ ปลายิตฺวา ปุน อุทกสฺส นทีโอตรณํ วิย ชวนํ ชวิตฺวา ตทารมฺมเณ อนุปฺปนฺเนเยว ปุน ภวงฺโคตรณํ. เอวํ ภวงฺคํ โอตรณจิตฺตานมฺปิ คณนปโถ นตฺถิ. อิทฺจาปิ อารมฺมณทุพฺพลตาย เอว โหติ. อยํ ตติโย โมฆวาโร.

สเจ ปน พลวารมฺมณํ อาปาถคตํ โหติ กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต จกฺขุวิฺาณาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ. ชวนฏฺาเน ปน ปมกามาวจรกุสลจิตฺตํ ชวนํ หุตฺวา ฉสตฺตวาเร ชวิตฺวา ตทารมฺมณสฺส วารํ เทติ. ตทารมฺมณํ ปติฏฺหมานํ ตํสทิสเมว มหาวิปากจิตฺตํ ปติฏฺาติ. อิทํ ทฺเว นามานิ ลภติ – ปฏิสนฺธิจิตฺตสทิสตฺตา ‘มูลภวงฺค’นฺติ จ, ยํ ชวเนน คหิตํ อารมฺมณํ ตสฺส คหิตตฺตา ‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ. อิมสฺมึ าเน จกฺขุวิฺาณํ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺตีรณํ ตทารมฺมณนฺติ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานิ คณนูปคานิ โหนฺติ.

ยทา ปน ทุติยกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ ทุติยวิปากจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทฺจ ทฺเว นามานิ ลภติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตน อสทิสตฺตา ‘อาคนฺตุกภวงฺค’นฺติ จ ปุริมนเยเนว ‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ จตฺตาริ ปฺจ โหนฺติ.

ยทา ปน ตติยกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ ตติยวิปากจิตฺตํ ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ ทฺเว นามานิ ลภติ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ.

ยทา ปน จตุตฺถกุสลจิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตํสทิสํ จตุตฺถวิปากจิตฺตํ ตทารมฺมณํ หุตฺวา ปติฏฺาติ. อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ ทฺเว นามานิ ลภติ. อิมินา สทฺธึ ปุริมานิ ฉ สตฺต โหนฺติ.

ยทา ปน ตสฺมึ ทฺวาเร ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ’ อาปาถมาคจฺฉติ, ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา ลพฺภนฺติ. ยสฺมา ปน อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺตติ ตสฺมา ตตฺถ อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ. จตุนฺนฺจ อุเปกฺขาสหคตมหากุสลชวนานํ ปริโยสาเน จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตมหาวิปากจิตฺตาเนว ตทารมฺมณภาเวน ปติฏฺหนฺติ. ตานิปิ วุตฺตนเยเนว ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ จ ทฺเว นามานิ ลภนฺติ. ‘ปิฏฺิภวงฺคานี’ติปิ วุจฺจนฺติ เอว. อิติ อิมานิ ปฺจ ปุริเมหิ สตฺตหิ สทฺธึ ทฺวาทส โหนฺติ. เอวํ จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส, โสตทฺวาราทีสุ ทฺวาทส ทฺวาทสาติ, สมสฏฺิ โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมสฏฺิ วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ โสฬส โหนฺติ.

อิมสฺมึ าเน อมฺโพปมํ นาม คณฺหึสุ – เอโก กิร ปุริโส ผลิตมฺพรุกฺขมูเล สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปนฺโน นิทฺทายติ. อเถกํ อมฺพปกฺกํ วณฺฏโต มุจฺจิตฺวา ตสฺส กณฺณสกฺขลึ ปุฺฉมานํ วิย ‘ถ’นฺติ ภูมิยํ ปติ. โส ตสฺส สทฺเทน ปพุชฺฌิตฺวา อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิ. ตโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ผลํ คเหตฺวา มทฺทิตฺวา อุปสิงฺฆิตฺวา ปริภุฺชิ.

ตตฺถ, ตสฺส ปุริสสฺส อมฺพรุกฺขมูเล นิทฺทายนกาโล วิย ภวงฺคสมงฺคิกาโล. อมฺพปกฺกสฺส วณฺฏโต มุจฺจิตฺวา กณฺณสกฺขลึ ปุฺฉมานสฺส ปตนกาโล วิย อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนกาโล. เตน สทฺเทน ปพุทฺธกาโล วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนกิจฺจสาธนกาโล. หตฺถํ ปสาเรตฺวา คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. คเหตฺวา มทฺทิตกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. อุปสิงฺฆิตกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล. ปริภุตฺตกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสํ อนุภวิตกาโล. อยํ อุปมา กึ ทีเปติ? อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนเมว กิจฺจํ. เตน ปสาเท ฆฏฺฏิเต กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคาวฏฺฏนเมว, จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนมตฺตกเมว, วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนมตฺตกเมว, วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสนฺตีรณมตฺตกเมว, กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณววตฺถาปนมตฺตกเมว กิจฺจํ. เอกนฺเตน ปน อารมฺมณรสํ ชวนเมว อนุภวตีติ ทีเปติ.

เอตฺถ จ ‘ตฺวํ ภวงฺคํ นาม โหหิ, ตฺวํ อาวชฺชนํ นาม, ตฺวํ ทสฺสนํ นาม, ตฺวํ สมฺปฏิจฺฉนํ นาม, ตฺวํ สนฺตีรณํ นาม, ตฺวํ โวฏฺพฺพนํ นาม, ตฺวํ ชวนํ นาม, โหหี’ติ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ.

อิมสฺมึ ปน าเน ปฺจวิธํ นิยามํ นาม คณฺหึสุ – พีชนิยามํ อุตุนิยามํ กมฺมนิยามํ ธมฺมนิยามํ จิตฺตนิยามนฺติ. ตตฺถ กุลตฺถคจฺฉสฺส อุตฺตรคฺคภาโว, ทกฺขิณวลฺลิยา ทกฺขิณโต รุกฺขปริหรณํ, สูริยาวฏฺฏปุปฺผานํ สูริยาภิมุขภาโว, มาลุวลตาย รุกฺขาภิมุขคมนเมว, นาฬิเกรสฺส มตฺถเก ฉิทฺทสพฺภาโวติ เตสํ เตสํ พีชานํ ตํตํสทิสผลทานํ พีชนิยาโม นาม. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย เตสํ เตสํ รุกฺขานํ เอกปฺปหาเรเนว ปุปฺผผลปลฺลวคฺคหณํ อุตุนิยาโม นาม. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกทุเหตุกาเหตุกวิปากํ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ทุเหตุกาเหตุกวิปากํ เทติ, ติเหตุกํ น เทตีติ, เอวํ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส ตํตํสทิสวิปากทานเมว กมฺมนิยาโม นาม.

อปโรปิ กมฺมสริกฺขกวิปากวเสเนว กมฺมนิยาโม โหติ. ตสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุํ กเถนฺติ – สมฺมาสมฺพุทฺธกาเล สาวตฺถิยา ทฺวารคาโม ฌายิ. ตโต ปชฺชลิตํ ติณกรฬํ อุฏฺหิตฺวา อากาเสน คจฺฉโต กากสฺส คีวาย ปฏิมุฺจิ. โส วิรวนฺโต ภูมิยํ ปติตฺวา กาลมกาสิ. มหาสมุทฺเทปิ เอกา นาวา นิจฺจลา อฏฺาสิ. เหฏฺา เกนจิ นิรุทฺธภาวํ อปสฺสนฺตา กาฬกณฺณิสลากํ วิจาเรสุํ. สา นาวิกสฺเสว อุปาสิกาย หตฺเถ ปติ. ตโต เอกิสฺสา การณา มา สพฺเพ นสฺสนฺตุ, อุทเก นํ ขิปามาติ อาหํสุ. นาวิโก ‘น สกฺขิสฺสามิ เอตํ อุทเก อุปฺปิลวมานํ ปสฺสิตุ’นฺติ วาลิกาฆฏํ คีวายํ พนฺธาเปตฺวา ขิปาเปสิ. ตงฺขณฺเว นาวา ขิตฺตสโร วิย ปกฺขนฺทิ. เอโก ภิกฺขุ เลเณ วสติ. มหนฺตํ ปพฺพตกูฏํ ปติตฺวา ทฺวารํ ปิทหิ. ตํ สตฺตเม ทิวเส สยเมว อปคตํ. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เชตวเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส อิมานิ ตีณิ วตฺถูนิ เอกปฺปหาเรเนว อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘น เอตํ อฺเหิ กตํ, เตหิ กตกมฺมเมว ต’นฺติ อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –

กาโก ปุริมตฺตภาเว มนุสฺโส หุตฺวา เอกํ ทุฏฺโคณํ ทเมตุํ อสกฺโกนฺโต คีวาย ปลาลเวณึ พนฺธิตฺวา อคฺคึ อทาสิ. โคโณ เตเนว มโต. อิทานิ ตํ กมฺมํ เอตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ น มุจฺจิตุํ อทาสิ. สาปิ อิตฺถี ปุริมตฺตภาเว เอกา อิตฺถีเยว. เอโก กุกฺกุโร ตาย ปริจิโต หุตฺวา อรฺํ คจฺฉนฺติยา สทฺธึ คจฺฉติ, สทฺธิเมวาคจฺฉติ. มนุสฺสา ‘นิกฺขนฺโต อิทานิ อมฺหากํ สุนขลุทฺทโก’ติ อุปฺปณฺเฑนฺติ. สา เตน อฏฺฏียมานา กุกฺกุรํ นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺตี วาลิกาฆฏํ คีวาย พนฺธิตฺวา อุทเก ขิปิ. ตํ กมฺมํ ตสฺสา สมุทฺทมชฺเฌ มุจฺจิตุํ นาทาสิ. โสปิ ภิกฺขุ ปุริมตฺตภาเว โคปาลโก หุตฺวา พิลํ ปวิฏฺาย โคธาย สาขาภงฺคมุฏฺิยา ทฺวารํ ถเกสิ. ตโต สตฺตเม ทิวเส สยํ อาคนฺตฺวา วิวริ. โคธา กมฺปมานา นิกฺขมิ. กรุณาย ตํ น มาเรสิ. ตํ กมฺมํ ตสฺส ปพฺพตนฺตรํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส มุจฺจิตุํ นาทาสีติ. อิมานิ ตีณิ วตฺถูนิ สโมธาเนตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ,

ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;

น วิชฺชเต โส ชคติปฺปเทโส,

ยตฺถฏฺิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมา’’ติ. (ธ. ป. ๑๒๗);

อยมฺปิ กมฺมนิยาโมเยว นาม. อฺานิปิ เอวรูปานิ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

โพธิสตฺตานํ ปน ปฏิสนฺธิคฺคหเณ, มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเน, อภิสมฺโพธิยํ ตถาคตสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน, อายุสงฺขารสฺส โอสฺสชฺชเน, ปรินิพฺพาเน จ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปนํ ธมฺมนิยาโม นาม.

อารมฺมเณน ปน ปสาเท ฆฏฺฏิเต ‘ตฺวํ อาวชฺชนํ นาม โหหิ…เป… ตฺวํ ชวนํ นาม โหหี’ติ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ, อตฺตโน อตฺตโน ปน ธมฺมตาย เอว อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาลโต ปฏฺาย กิริยมโนธาตุจิตฺตํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาเธติ, วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาเธติ, วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ สาเธติ, กิริยมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาเธติ, ชวนํ อารมฺมณรสํ อนุภวตีติ อยํ จิตฺตนิยาโม นาม. อยํ อิธ อธิปฺเปโต.

สสงฺขาริกติเหตุกกุสเลนาปิ อุเปกฺขาสหคเตหิ อสงฺขาริกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตหิปิ กมฺเม อายูหิเต ตํสทิสวิปากจิตฺเตหิ อาทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา เอเสว นโย. อุเปกฺขาสหคตทฺวเย ปน ปมํ ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน’ ปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา ‘อิฏฺารมฺมณวเสน’ ทสฺเสตพฺพา.

เอวมฺปิ เอเกกสฺมึ ทฺวาเร ทฺวาทส ทฺวาทส หุตฺวา สมสฏฺิ โหนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน โสฬส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ.

อิมสฺมึ าเน ปฺจอุจฺฉุนาฬิยนฺโตปมํ นาม คณฺหึสุ. อุจฺฉุปีฬนสมเย กิร เอกสฺมา คามา เอกาทส ยนฺตวาหา นิกฺขมิตฺวา เอกํ อุจฺฉุวาฏํ ทิสฺวา ตสฺส ปริปกฺกภาวํ ตฺวา อุจฺฉุสามิกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘ยนฺตวาหา มย’นฺติ อาโรเจสุํ. โส ‘อหํ ตุมฺเหเยว ปริเยสามี’ติ อุจฺฉุสาลํ เต คเหตฺวา อคมาสิ. เต ตตฺถ นาฬิยนฺตํ สชฺเชตฺวา ‘มยํ เอกาทส ชนา, อปรมฺปิ เอกํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, เวตเนน คณฺหถา’ติ อาหํสุ. อุจฺฉุสามิโก ‘อหเมว สหาโย ภวิสฺสามี’ติ อุจฺฉูนํ สาลํ ปูราเปตฺวา เตสํ สหาโย อโหสิ. เต อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจานิ กตฺวา, ผาณิตปาจเกน อุจฺฉุรเส ปกฺเก, คุฬพนฺธเกน พทฺเธ, อุจฺฉุสามิเกน ตุลยิตฺวา ภาเคสุ ทินฺเนสุ, อตฺตโน อตฺตโน ภาคํ อาทาย อุจฺฉุสาลํ สามิกสฺส ปฏิจฺฉาเปตฺวา, เอเตเนว อุปาเยน อปราสุปิ จตูสุ สาลาสุ กมฺมํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.

ตตฺถ ปฺจ ยนฺตสาลา วิย ปฺจ ปสาทา ทฏฺพฺพา. ปฺจ อุจฺฉุวาฏา วิย ปฺจ อารมฺมณานิ. เอกาทส วิจรณกยนฺตวาหา วิย เอกาทส วิปากจิตฺตานิ. ปฺจ อุจฺฉุสาลาสามิโน วิย ปฺจวิฺาณานิ. ปมกสาลายํ สามิเกน สทฺธึ ทฺวาทสนฺนํ ชนานํ เอกโตว หุตฺวา กตกมฺมานํ ภาคคฺคหณกาโล วิย เอกาทสนฺนํ วิปากจิตฺตานํ จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมเณ สกสกกิจฺจกรณกาโล. สาลาสามิกสฺส สาลาย สมฺปฏิจฺฉนกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส ทฺวารสงฺกนฺติอกรณํ. ทุติย ตติย จตุตฺถ ปฺจมสาลาย ทฺวาทสนฺนํ เอกโต หุตฺวา กตกมฺมานํ ภาคคฺคหณกาโล วิย เอกาทสนฺนํ วิปากจิตฺตานํ กายวิฺาเณน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา กายทฺวาเร โผฏฺพฺพารมฺมเณ สกสกกิจฺจกรณกาโล. สาลาสามิกสฺส สาลาย สมฺปฏิจฺฉนกาโล วิย กายวิฺาณสฺส ทฺวารสงฺกนฺติอกรณํ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา โหตีติ วาโร กถิโต. ยา ปน เตน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหติ, สา ปฏิจฺฉนฺนาว หุตฺวา คตา.

อิทานิ ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กเถตพฺโพ. ทุเหตุเกน หิ โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต ตํสทิเสเนว ทุเหตุกวิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุตฺตนเยเนว จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต ตโย โมฆวารา. ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกชวนาวสาเน ตํสทิสเมว มูลภวงฺคสงฺขาตํ ตทารมฺมณํ. สสงฺขาริกชวนาวสาเน ตํสทิสเมว อาคนฺตุกภวงฺคสงฺขาตํ ตทารมฺมณํ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขาสหคตชวนานํ อวสาเน ตาทิสาเนว ทฺเว ตทารมฺมณานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อิธ เอเกกสฺมึ ทฺวาเร อฏฺ อฏฺ กตฺวา สมจตฺตาลีส จิตฺตานิ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ ทฺวาทส โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ทฺวาทส วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อมฺโพปมปฺจนิยามกถา ปากติกา เอว. ทุเหตุกเสสจิตฺตตฺตยสทิสวิปาเกน คหิตปฏิสนฺธิเกปิ เอเสว นโย. ยนฺตวาโหปมาย ปเนตฺถ สตฺต ยนฺตวาหา. เตหิ ตตฺถ ยนฺเต นาม สชฺชิเต สาลาสามิกํ อฏฺมํ กตฺวา วุตฺตนยานุสาเรน โยชนา เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต.

อิทานิ อเหตุกปฏิสนฺธิกถา โหติ – จตุนฺนฺหิ ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตเรน กมฺเม อายูหิเต กุสลวิปากอุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส ปฏิสนฺธิ กมฺมสทิสาติ น วตฺตพฺพา. กมฺมฺหิ ทุเหตุกํ ปฏิสนฺธิ อเหตุกา. ตสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ อาปาถมาคเต ปุริมนเยเนว ตโย โมฆวารา เวทิตพฺพา. จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส ปริโยสาเน อเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณภาเวน ปติฏฺาติ. ตํ ‘มูลภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวเมตฺถ จกฺขุวิฺาณํ สมฺปฏิจฺฉนํ อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ ตทารมฺมณมฺปิ อุเปกฺขาสหคตเมวาติ เตสุ เอกํ คเหตฺวา คณนูปคานิ ตีเณว โหนฺติ.

‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน สนฺตีรณมฺปิ ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสสหคตเมว. เตสุ เอกํ คเหตฺวา ปุริมานิ ตีณิ จตฺตาริ โหนฺติ. เอวํ ปฺจสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต วีสติ วิปากจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร จตฺตาริ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ จตฺตารีติ อฏฺ โหนฺติ. อิทํ ‘อเหตุกฏฺกํ’ นาม. อิทํ มนุสฺสโลเกน คหิตํ.

จตูสุ ปน อปาเยสุ ปวตฺเต ลพฺภติ. ยทา หิ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร นิรเย ปทุมํ มาเปตฺวา ปทุมกณฺณิกาย นิสินฺโน เนรยิกานํ ธมฺมกถํ กเถสิ, ตทา เตสํ เถรํ ปสฺสนฺตานํ กุสลวิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. สทฺทํ สุณนฺตานํ โสตวิฺาณํ, จนฺทนวเน ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา คตสฺส จีวรคนฺธฆายนกาเล ฆานวิฺาณํ, นิรยคฺคึ นิพฺพาเปตุํ เทวํ วสฺสาเปตฺวา ปานียทานกาเล ชิวฺหาวิฺาณํ, มนฺทมนฺทวาตสมุฏฺาปนกาเล กายวิฺาณนฺติ เอวํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ, เอกํ สมฺปฏิจฺฉนํ, ทฺเว สนฺตีรณานีติ อเหตุกฏฺกํ ลพฺภติ. นาคสุปณฺณเวมานิกเปตานมฺปิ อกุสเลน ปฏิสนฺธิ โหติ. ปวตฺเต กุสลํ วิปจฺจติ. ตถา จกฺกวตฺติโน มงฺคลหตฺถิอสฺสาทีนํ. อยํ ตาว ‘อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณสุ’ กุสลชวนวเสน กถามคฺโค.

‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน จตูสุ โสมนสฺสสหคตากุสลจิตฺเตสุ ชวิเตสุ กุสลวิปากํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณํ โหติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ จตูสุ อุเปกฺขาสหคตโลภสมฺปยุตฺเตสุ ชวิเตสุ กุสลวิปากํ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณํ โหติ. ยํ ปน ‘ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยเมตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โทมนสฺสสหคตชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺชมานํ กึ อุปฺปชฺชตีติ? อกุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.

อิทํ ปน ชวนํ กุสลตฺถาย วา อกุสลตฺถาย วา โก นิยาเมตีติ? อาวชฺชนฺเจว โวฏฺพฺพนฺจ. อาวชฺชเนน หิ โยนิโส อาวฏฺฏิเต โวฏฺพฺพเนน โยนิโส ววตฺถาปิเต ชวนํ อกุสลํ ภวิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ. อาวชฺชเนน อโยนิโส อาวฏฺฏิเต โวฏฺพฺพเนน อโยนิโส ววตฺถาปิเต ชวนํ กุสลํ ภวิสฺสตีติปิ อฏฺานเมตํ. อุภเยน ปน โยนิโส อาวฏฺฏิเต ววตฺถาปิเต จ ชวนํ กุสลํ โหติ, อโยนิโส อกุสลนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘อิฏฺารมฺมเณ’ ปน กงฺขโต อุทฺธตสฺส จ ตทารมฺมณํ กึ โหตีติ? อิฏฺารมฺมณสฺมึ กงฺขตุ วา มา วา, อุทฺธโต วา โหตุ มา วา, กุสลวิปากาเหตุกโสมนสฺสจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ โหติ, ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ‘กุสลวิปากาเหตุกอุเปกฺขาสหคต’นฺติ, อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปโต อตฺถทีปโน มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาโท นาม. โสมนสฺสสหคตสฺมิฺหิ ชวเน ชวิเต ปฺจ ตทารมฺมณานิ คเวสิตพฺพานีติ. อุเปกฺขาสหคตสฺมึ ชวเน ชวิเต ฉ คเวสิตพฺพานีติ.

อถ ยทา โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิกสฺส ปวตฺเต ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมาเทน ปริหีนชฺฌานสฺส ‘ปณีตธมฺโม เม นฏฺโ’ติ ปจฺจเวกฺขโต วิปฺปฏิสารวเสน โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตทา กึ อุปฺปชฺชติ? ‘โสมนสฺสานนฺตรฺหิ โทมนสฺสํ โทมนสฺสานนฺตรฺจ โสมนสฺสํ’ ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธํ. มหคฺคตธมฺมํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ ตตฺเถว ปฏิสิทฺธนฺติ? กุสลวิปากา วา อกุสลวิปากา วา อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุปฺปชฺชติ, กิมสฺสา อาวชฺชนนฺติ? ‘ภวงฺคาวชฺชนานํ วิย นตฺถสฺสา อาวชฺชนกิจฺจ’นฺติ. ‘เอตานิ ตาว อตฺตโน นินฺนตฺตา จ จิณฺณตฺตา จ สมุทาจารตฺตา จ อุปฺปชฺชนฺตุ, อยํ กถํ อุปฺปชฺชตี’ติ? ‘ยถา นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลสมาปตฺติจิตฺตํ, อริยมคฺคจิตฺตํ, มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานิ, เอวํ อสนฺเตปิ อาวชฺชเน, นินฺนจิณฺณสมุทาจารภาเวน อุปฺปชฺชติ. วินา หิ อาวชฺชเนน จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, อารมฺมเณน ปน วินา นุปฺปชฺชตี’ติ. ‘อถ กิมสฺสารมฺมณ’นฺติ? ‘รูปาทีสุ ปริตฺตธมฺเมสุ อฺตรํ. เอเตสุ หิ ยเทว ตสฺมึ สมเย อาปาถมาคตํ โหติ, ตํ อารพฺภ เอตํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ จิตฺตานํ ปากฏภาวตฺถํ อยํ ปกิณฺณกนโย วุตฺโต –

สุตฺตํ โทวาริโก จ, คามิลฺโล อมฺโพ โกลิยเกน จ;

ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปี จ, วิสยคฺคาโห จ อุปนิสฺสยมตฺถโสติ.

ตตฺถ ‘สุตฺต’นฺติ, เอโก ปนฺถมกฺกฏโก ปฺจสุ ทิสาสุ สุตฺตํ ปสาเรตฺวา ชาลํ กตฺวา มชฺเฌ นิปชฺชติ. ปมทิสาย ปสาริตสุตฺเต ปาณเกน วา ปฏงฺเคน วา มกฺขิกาย วา ปหเฏ นิปนฺนฏฺานโต จลิตฺวา นิกฺขมิตฺวา สุตฺตานุสาเรน คนฺตฺวา ตสฺส ยูสํ ปิวิตฺวา ปุนอาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิปชฺชติ. ทุติยทิสาทีสุ ปหฏกาเลปิ เอวเมว กโรติ.

ตตฺถ ปฺจสุ ทิสาสุ ปสาริตสุตฺตํ วิย ปฺจปสาทา. มชฺเฌ นิปนฺนมกฺกฏโก วิย จิตฺตํ. ปาณกาทีหิ สุตฺตฆฏฺฏนกาโล วิย อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาโล. มชฺเฌ นิปนฺนมกฺกฏกสฺส จลนํ วิย ปสาทฆฏฺฏนกํ อารมฺมณํ คเหตฺวา กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. สุตฺตานุสาเรน คมนกาโล วิย วีถิจิตฺตปฺปวตฺติ. สีเส วิชฺฌิตฺวา ยูสปิวนํ วิย ชวนสฺส อารมฺมเณ ชวิตกาโล. ปุนอาคนฺตฺวา มชฺเฌ นิปชฺชนํ วิย จิตฺตสฺส หทยวตฺถุเมว นิสฺสาย ปวตฺตนํ.

อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? อารมฺมเณน ปสาเท ฆฏฺฏิเต ปสาทวตฺถุกจิตฺตโต หทยรูปวตฺถุกจิตฺตํ ปมตรํ อุปฺปชฺชตีติ ทีเปติ. เอเกกํ อารมฺมณํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อาปาถมาคจฺฉตีติปิ.

‘โทวาริโก’ติ, เอโก ราชา สยนคโต นิทฺทายติ. ตสฺส ปริจารโก ปาเท ปริมชฺชนฺโต นิสีทิ. พธิรโทวาริโก ทฺวาเร ิโต. ตโย ปฏิหารา ปฏิปาฏิยา ิตา. อเถโก ปจฺจนฺตวาสี มนุสฺโส ปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏสิ. พธิรโทวาริโก สทฺทํ น สุณาติ. ปาทปริมชฺชโก สฺํ อทาสิ. ตาย สฺาย ทฺวารํ วิวริตฺวา ปสฺสิ. ปมปฏิหาโร ปณฺณาการํ คเหตฺวา ทุติยสฺส อทาสิ, ทุติโย ตติยสฺส, ตติโย รฺโ. ราชา ปริภุฺชิ.

ตตฺถ โส ราชา วิย ชวนํ ทฏฺพฺพํ. ปาทปริมชฺชโก วิย อาวชฺชนํ. พธิรโทวาริโก วิย จกฺขุวิฺาณํ. ตโย ปฏิหารา วิย สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ ตีณิ วีถิจิตฺตานิ. ปจฺจนฺตวาสิโน ปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา ทฺวาราโกฏนํ วิย อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนํ. ปาทปริมชฺชเกน สฺาย ทินฺนกาโล วิย กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. เตน ทินฺนสฺาย พธิรโทวาริกสฺส ทฺวารวิวรณกาโล วิย จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมเณ ทสฺสนกิจฺจสาธนกาโล. ปมปฏิหาเรน ปณฺณาการสฺส คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. ปเมน ทุติยสฺส ทินฺนกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. ทุติเยน ตติยสฺส ทินฺนกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล. ตติเยน รฺโ ทินฺนกาโล วิย โวฏฺพฺพเนน ชวนสฺส นิยฺยาทิตกาโล. รฺโ ปริโภคกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสานุภวนกาโล.

อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏมตฺตนเมว กิจฺจํ, กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคาวฏฺฏนมตฺตเมว, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ทสฺสนสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณววตฺถาปนมตฺตาเนว กิจฺจานิ. เอกนฺเตน ปน ชวนเมว อารมฺมณรสํ อนุโภตีติ ทีเปติ.

‘คามิลฺโล’ติ, สมฺพหุลา คามทารกา อนฺตรวีถิยํ ปํสุกีฬํ กีฬนฺติ. ตตฺเถกสฺส หตฺเถ กหาปโณ ปฏิหฺิ. โส ‘มยฺหํ หตฺเถ ปฏิหตํ, กึ นุ โข เอต’นฺติ อาห. อเถโก ‘ปณฺฑรํ เอต’นฺติ อาห. อปโร สห ปํสุนา คาฬฺหํ คณฺหิ. อฺโ ‘ปุถุลํ จตุรสฺสํ เอต’นฺติ อาห. อปโร ‘กหาปโณ เอโส’ติ อาห. อถ นํ อาหริตฺวา มาตุ อทาสิ. สา กมฺเม อุปเนสิ.

ตตฺถ สมฺพหุลานํ ทารกานํ อนฺตรวีถิยํ กีฬนฺตานํ นิสินฺนกาโล วิย ภวงฺคจิตฺตปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา. กหาปณสฺส หตฺเถ ปฏิหตกาโล วิย อารมฺมเณน ปสาทสฺส ฆฏฺฏิตกาโล. ‘กึ นุ โข เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย ตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา กิริยมโนธาตุยา ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโล. ‘ปณฺฑรํ เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย จกฺขุวิฺาเณน ทสฺสนกิจฺจสฺส สาธิตกาโล. สห ปํสุนา คาฬฺหํ คหิตกาโล วิย วิปากมโนธาตุยา อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉิตกาโล. ‘ปุถุลํ จตุรสฺสํ เอต’นฺติ วุตฺตกาโล วิย วิปากมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส สนฺตีรณกาโล. ‘เอโส กหาปโณ’ติ วุตฺตกาโล วิย กิริยมโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณสฺส ววตฺถาปิตกาโล. มาตรา กมฺเม อุปนีตกาโล วิย ชวนสฺส อารมฺมณรสานุภวนํ เวทิตพฺพํ.

อิทํ โอปมฺมํ กึ ทีเปติ? กิริยมโนธาตุ อทิสฺวาว ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, วิปากมโนธาตุ อทิสฺวาว สมฺปฏิจฺฉติ, วิปากมโนวิฺาณธาตุ อทิสฺวาว สนฺตีเรติ, กิริยมโนวิฺาณธาตุ อทิสฺวาว ววตฺถาเปติ, ชวนํ อทิสฺวาว อารมฺมณรสํ อนุโภติ. เอกนฺเตน ปน จกฺขุวิฺาณเมว ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทีเปติ.

‘อมฺโพ โกลิยเกน จา’ติ, อิทํ เหฏฺา วุตฺตํ อมฺโพปมฺจ อุจฺฉุสาลาสามิโกปมฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.

‘ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปี จา’ติ, อุโภปิ กิร เต นครทฺวาเร สาลายํ นิสีทึสุ. ตตฺถ ปีสปฺปี อาห – ‘โภ อนฺธก, กสฺมา ตฺวํ อิธ สุสฺสมาโน วิจรสิ, อสุโก ปเทโส สุภิกฺโข พหฺวนฺนปาโน, กึ ตตฺถ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตุํ น วฏฺฏตี’ติ? ‘มยฺหํ ตาว ตยา อาจิกฺขิตํ, ตุยฺหํ ปน ตตฺถ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตุํ กึ น วฏฺฏตี’ติ? ‘มยฺหํ คนฺตุํ ปาทา นตฺถี’ติ. ‘มยฺหมฺปิ ปสฺสิตุํ จกฺขูนิ นตฺถี’ติ. ‘ยทิ เอวํ, ตว ปาทา โหนฺตุ, มม จกฺขูนี’ติ อุโภปิ ‘สาธู’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชจฺจนฺโธ ปีสปฺปึ ขนฺธํ อาโรเปสิ. โส ตสฺส ขนฺเธ นิสีทิตฺวา วามหตฺเถนสฺส สีสํ ปริกฺขิปิตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน ‘อิมสฺมึ าเน มูลํ อาวริตฺวา ิตํ, อิมสฺมึ ปาสาโณ, วามํ มุฺจ ทกฺขิณํ คณฺห, ทกฺขิณํ มุฺจ วามํ คณฺหา’ติ มคฺคํ นิยเมตฺวา อาจิกฺขติ. เอวํ ชจฺจนฺธสฺส ปาทา ปีสปฺปิสฺส จกฺขูนีติ อุโภปิ สมฺปโยเคน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวา สุเขน ชีวึสุ.

ตตฺถ ชจฺจนฺโธ วิย รูปกาโย, ปีสปฺปี วิย อรูปกาโย. ปีสปฺปินา วินา ชจฺจนฺธสฺส ทิสํ คนฺตุํ คมนาภิสงฺขารสฺส อนิพฺพตฺติตกาโล วิย รูปสฺส อรูเปน วินา อาทานคหณโจปนํ ปาเปตุํ อสมตฺถตา. ชจฺจนฺเธน วินา ปีสปฺปิสฺส ทิสํ คนฺตุํ คมนาภิสงฺขารสฺส อปฺปวตฺตนํ วิย ปฺจโวกาเร รูปํ, วินา อรูปสฺส อปฺปวตฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ สมฺปโยเคน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวา สุเขน ชีวิตกาโล วิย รูปารูปธมฺมานํ อฺมฺโยเคน สพฺพกิจฺเจสุ ปวตฺติสมฺภาโวติ. อยํ ปฺโห ปฺจโวการภววเสน กถิโต.

‘วิสยคฺคาโห’ จาติ, จกฺขุ รูปวิสยํ คณฺหาติ. โสตาทีนิ สทฺทาทิวิสเย.

‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’ติ, ‘อุปนิสฺสยโต’ จ ‘อตฺถโต’ จ. ตตฺถ อสมฺภินฺนตฺตา จกฺขุสฺส, อาปาถคตตฺตา รูปานํ, อาโลกสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ มตสฺสาปิ จกฺขุ สมฺภินฺนํ โหติ. ชีวโต นิรุทฺธมฺปิ, ปิตฺเตน วา เสมฺเหน วา รุหิเรน วา ปลิพุทฺธมฺปิ, จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ ‘สมฺภินฺนํ’ นาม โหติ. สกฺโกนฺตํ อสมฺภินฺนํ นาม. โสตาทีสุปิ เอเสว นโย. จกฺขุสฺมึ ปน อสมฺภินฺเนปิ พหิทฺธา รูปารมฺมเณ อาปาถํ อนาคจฺฉนฺเต จกฺขุวิฺาณํ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ ปน อาปาถํ อาคจฺฉนฺเตปิ อาโลกสนฺนิสฺสเย อสติ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ สนฺเตปิ กิริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อนาวฏฺฏิเต นุปฺปชฺชติ. อาวฏฺฏิเตเยว อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปชฺชมานํ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึเยว อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเม จตฺตาโร ปจฺจเย ลภิตฺวา อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ (ม. นิ. ๑.๓๐๖ โถกํ วิสทิสํ).

อสมฺภินฺนตฺตา โสตสฺส, อาปาถคตตฺตา สทฺทานํ, อากาสสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘อากาสสนฺนิสฺสิต’นฺติ อากาสสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น วินา เตน. น หิ ปิหิตกณฺณจฺฉิทฺทสฺส โสตวิฺาณํ ปวตฺตติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยถา เจตฺถ เอวํ อิโต ปเรสุปิ. วิเสสมตฺตํ ปน วกฺขาม.

อสมฺภินฺนตฺตา ฆานสฺส, อาปาถคตตฺตา คนฺธานํ, วาโยสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ ฆานวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘วาโยสนฺนิสฺสิต’นฺติ ฆานพิลํ วายุมฺหิ ปวิสนฺเตเยว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสติ นุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

อสมฺภินฺนตฺตา ชิวฺหาย, อาปาถคตตฺตา รสานํ, อาโปสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘อาโปสนฺนิสฺสิต’นฺติ ชิวฺหาเตมนํ อาปํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น วินา เตน. สุกฺขชิวฺหานฺหิ สุกฺขขาทนีเย ชิวฺหาย ปิเตปิ ชิวฺหาวิฺาณํ นุปฺปชฺชเตว.

อสมฺภินฺนตฺตา กายสฺส, อาปาถคตตฺตา โผฏฺพฺพานํ, ปถวิสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ กายวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘ปถวิสนฺนิสฺสิต’นฺติ กายปสาทปจฺจยํ ปถวิสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น เตน วินา. กายทฺวารสฺมิฺหิ พหิทฺธามหาภูตารมฺมณํ อชฺฌตฺติกํ กายปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ.

อสมฺภินฺนตฺตา มนสฺส, อาปาถคตตฺตา ธมฺมานํ, วตฺถุสนฺนิสฺสิตํ, มนสิการเหตุกํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ. ตตฺถ ‘มโน’ติ ภวงฺคจิตฺตํ. ตํ นิรุทฺธมฺปิ, อาวชฺชนจิตฺตสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสมตฺถํ มนฺทถามคตเมว ปวตฺตมานมฺปิ, สมฺภินฺนํ นาม โหติ. อาวชฺชนสฺส ปน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ อสมฺภินฺนํ นาม. ‘อาปาถคตตฺตา ธมฺมาน’นฺติ ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต. ‘วตฺถุสนฺนิสฺสิต’นฺติ หทยวตฺถุสนฺนิสฺสยํ ลทฺธาว อุปฺปชฺชติ, น เตน วินา. อยมฺปิ ปฺโห ปฺจโวการภวํ สนฺธาย กถิโต. ‘มนสิการเหตุก’นฺติ กิริยมโนวิฺาณธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเตเยว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อยํ ตาว ‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’ติ เอตฺถ อุปนิสฺสยวณฺณนา.

‘อตฺถโต’ ปน จกฺขุ ทสฺสนตฺถํ, โสตํ สวนตฺถํ, ฆานํ ฆายนตฺถํ, ชิวฺหา สายนตฺถา, กาโย ผุสนตฺโถ, มโน วิชานนตฺโถ. ตตฺถ ทสฺสนํ อตฺโถ อสฺส. ตฺหิ เตน นิปฺผาเทตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺตาวตา ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรวาเท โสฬสกมคฺโค นิฏฺิโต, สทฺธึ ทฺวาทสกมคฺเคน เจว อเหตุกฏฺเกน จาติ.

อิทานิ โมรวาปีวาสีมหาทตฺตตฺเถรวาเท ทฺวาทสกมคฺคกถา โหติ. ตตฺถ สาเกตปฺหอุสฺสทกิตฺตนเหตุกิตฺตนานิ ปากติกาเนว. อยํ ปน เถโร อสงฺขาริกสสงฺขาริเกสุ โทสํ ทิสฺวา ‘อสงฺขาริกํ อสงฺขาริกเมว วิปากํ เทติ, โน สสงฺขาริกํ; สสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกเมว โน อสงฺขาริก’นฺติ อาห. ชวเนน เจส จิตฺตนิยามํ น กเถติ. อารมฺมเณน ปน เวทนานิยามํ กเถติ. เตนสฺส วิปากุทฺธาเร ทฺวาทสกมคฺโค นาม ชาโต. ทสกมคฺโคปิ, อเหตุกฏฺกมฺปิ เอตฺเถว ปวิฏฺํ.

ตตฺรายํ นโย – โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน หิ กมฺเม อายูหิเต ตาทิเสเนว วิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถคเต เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. ตสฺส กุสลโต จตฺตาริ โสมนสฺสสหคตานิ, อกุสลโต จตฺตาริ, กิริยโต ปฺจาติ อิเมสํ เตรสนฺนํ จิตฺตานํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ตทารมฺมณํ ปติฏฺหมานํ โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกติเหตุกจิตฺตมฺปิ ทุเหตุกจิตฺตมฺปิ ปติฏฺาติ. เอวมสฺส จกฺขุทฺวาเร จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, ตทารมฺมณานิ ทฺเวติ, ปฺจ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ.

อารมฺมเณน ปน เวทนํ ปริวตฺเตตฺวา กุสลโต จตุนฺนํ, อกุสลโต จตุนฺนํ, กิริยโต จตุนฺนนฺติ, ทฺวาทสนฺนํ อุเปกฺขาสหคตจิตฺตานํ อฺตเรน ชวิตาวสาเน อุเปกฺขาสหคตติเหตุกอสงฺขาริกวิปากมฺปิ ทุเหตุกอสงฺขาริกวิปากมฺปิ ตทารมฺมณํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวมสฺส จกฺขุทฺวาเร อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ, อิมานิ ทฺเว ตทารมฺมณานีติ, ตีณิ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ ปฺจหิ สทฺธึ อฏฺ. โสตทฺวาราทีสุปิ อฏฺ อฏฺาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ, ทฺวาทส โหนฺติ. ตตฺถ ‘มูลภวงฺคตา’‘อาคนฺตุกภวงฺคตา’‘อมฺโพปมนิยามกถา’ จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

โสมนสฺสสหคตติเหตุกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเตปิ อุเปกฺขาสหคตติเหตุกอสงฺขาริกสสงฺขาริเกหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยนฺโตปมาปิ เอตฺถ ปากติกา เอว. เอตฺตาวตา ติเหตุกกมฺเมน ติเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต. ติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร ปน ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา คโต.

อิทานิ ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิกถา โหติ. โสมนสฺสสหคตทุเหตุกอสงฺขาริกจิตฺเตน หิ กมฺเม อายูหิเต ตาทิเสเนว วิปากจิตฺเตน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. ทุเหตุกสฺส ปน ชวนกิริยา นตฺถิ. ตสฺมา กุสลโต จตฺตาริ โสมนสฺสสหคตานิ, อกุสลโต จตฺตารีติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ทุเหตุกเมว โสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกํ ตทารมฺมณํ โหติ. เอวมสฺส จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, จตฺตาริ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ ปน กุสลโต อุเปกฺขาสหคตานํ จตุนฺนํ, อกุสลโต จตุนฺนนฺติ, อฏฺนฺนํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ทุเหตุกเมว อุเปกฺขาสหคตํ อสงฺขาริกํ ตทารมฺมณํ โหติ. เอวมสฺส อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, ทฺเว คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ จตูหิ สทฺธึ ฉ. โสตทฺวาราทีสุปิ ฉ ฉาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต สมตึส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ฉ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ ทส โหนฺติ. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกา เอว. ยนฺโตปมา อิธ น ลพฺภตีติ วุตฺตํ.

โสมนสฺสสหคตทุเหตุกสสงฺขาริกกุสลจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเตปิ อุเปกฺขาสหคตทุเหตุกอสงฺขาริกสสงฺขาริเกหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอเสว นโย. เอตฺตาวตา ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร กถิโต.

อเหตุกปฏิสนฺธิ โหตีติ วาโร ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – กุสลโต จตูหิ าณวิปฺปยุตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเต, กุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา อุเปกฺขาสหคตาย ปฏิสนฺธิยา คหิตาย, กมฺมสทิสา ปฏิสนฺธีติ น วตฺตพฺพา. อิโต ปฏฺาย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กเถตฺวา อิฏฺเปิ อิฏฺมชฺฌตฺเตปิ จิตฺตปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ เถรสฺส วาเท ปิณฺฑชวนํ ชวติ. เสสา อิทํ ปน ชวนํ กุสลตฺถาย วา อกุสลตฺถาย วา โก นิยาเมตีติอาทิกถา สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ. เอตฺตาวตา โมรวาปีวาสีมหาทตฺตตฺเถรวาเท ทฺวาทสกมคฺโค นิฏฺิโต สทฺธึ ทสกมคฺเคน เจว อเหตุกฏฺเกน จ.

อิทานิ มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ทสกมคฺคกถา โหติ. ตตฺถ สาเกตปฺหอุสฺสทกิตฺตนานิ ปากติกาเนว. เหตุกิตฺตเน ปน อยํ วิเสโส. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากมฺปิ ทุเหตุกวิปากมฺปิ อเหตุกวิปากมฺปิ เทติ. ทุเหตุกกมฺมํ ติเหตุกเมว น เทติ, อิตรํ เทติ. ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาว โหติ; ทุเหตุกาเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาเหตุกา โหติ, ติเหตุกา น โหติ. อสงฺขาริกกมฺมํ วิปากํ อสงฺขาริกเมว เทติ, โน สสงฺขาริกํ. สสงฺขาริกมฺปิ สสงฺขาริกเมว เทติ, โน อสงฺขาริกํ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. ชวนํ ปิณฺฑชวนเมว ชวติ. อาทิโต ปฏฺาย จิตฺตานิ กเถตพฺพานิ.

ตตฺรายํ กถา – เอโก ปมกุสลจิตฺเตน กมฺมํ อายูหติ, ปมวิปากจิตฺเตเนว ปฏิสนฺธึ คณฺหาติ. อยํ กมฺมสทิสา ปฏิสนฺธิ. ตสฺส วุฑฺฒิปฺปตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร ‘อิฏฺารมฺมเณ’ อาปาถคเต วุตฺตนเยเนว ตโย โมฆวารา โหนฺติ. อถสฺส เหฏฺา วุตฺตานํ เตรสนฺนํ โสมนสฺสสหคตชวนานํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน ปมวิปากจิตฺตเมว ตทารมฺมณํ โหติ. ตํ ‘มูลภวงฺคํ’ ‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวมสฺส จกฺขุวิฺาณาทีนิ ตีณิ, อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ, จตฺตาริ คณนูปคจิตฺตานิ โหนฺติ. ‘อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ’ เหฏฺา วุตฺตานํเยว ทฺวาทสนฺนํ อุเปกฺขาสหคตชวนานํ อฺตเรน ชวิตปริโยสาเน อุเปกฺขาสหคตํ ติเหตุกํ อสงฺขาริกจิตฺตํ ตทารมฺมณตาย ปวตฺตติ. ตํ ‘อาคนฺตุกภวงฺคํ’‘ตทารมฺมณ’นฺติ ทฺเว นามานิ ลภติ. เอวมสฺส อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ อิทฺจ ตทารมฺมณนฺติ ทฺเว คณนูปคจิตฺตานิ. ตานิ ปุริเมหิ จตูหิ สทฺธึ ฉ โหนฺติ. เอวํ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปฺจสุ ทฺวาเรสุ สมตึส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน จกฺขุทฺวาเร ฉ, โสตวิฺาณาทีนิ จตฺตารีติ ทส โหนฺติ. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกาเยว.

ทุติยตติยจตุตฺถกุสลจิตฺเตหิ กมฺเม อายูหิเตปิ เอตฺตกาเนว วิปากจิตฺตานิ โหนฺติ. จตูหิ อุเปกฺขาสหคตจิตฺเตหิ อายูหิเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน ปมํ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ ทสฺเสตพฺพํ. ปจฺฉา อิฏฺารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพา. อมฺโพปมนิยามกถา ปากติกา เอว. ยนฺโตปมา น ลพฺภติ. ‘กุสลโต ปน จตุนฺนํ าณวิปฺปยุตฺตานํ อฺตเรน กมฺเม อายูหิเต’ติ อิโต ปฏฺาย สพฺพํ วิตฺถาเรตฺวา อเหตุกฏฺกํ กเถตพฺพํ. เอตฺตาวตา มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ทสกมคฺโค นิฏฺิโต โหติ, สทฺธึ อเหตุกฏฺเกนาติ.

อิเมสํ ปน ติณฺณํ เถรานํ กตรสฺส วาโท คเหตพฺโพติ? น กสฺสจิ เอกํเสน. สพฺเพสํ ปน วาเทสุ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. ปมวาทสฺมิฺหิ สสงฺขาราสงฺขารวิธานํ ปจฺจยเภทโต อธิปฺเปตํ. เตเนตฺถ, อสงฺขาริกกุสลสฺส ทุพฺพลปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ สสงฺขาริกวิปากํ, สสงฺขาริกกุสลสฺส พลวปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ อสงฺขาริกวิปากฺจ คเหตฺวา, ลพฺภมานานิปิ กิริยชวนานิ ปหาย, กุสลชวเนน ตทารมฺมณํ อารมฺมเณน จ เวทนํ นิยาเมตฺวา, เสกฺขปุถุชฺชนวเสน โสฬสกมคฺโค กถิโต. ยํ ปเนตฺถ อกุสลชวนาวสาเน อเหตุกวิปากเมว ตทารมฺมณํ ทสฺสิตํ, ตํ อิตเรสุ น ทสฺสิตเมว. ตสฺมา ตํ ตตฺถ เตสุ วุตฺตํ สเหตุกวิปากฺจ, เอตฺถาปิ สพฺพมิทํ ลพฺภเตว. ตตฺรายํ นโย – ยทา หิ กุสลชวนานํ อนฺตรนฺตรา อกุสลํ ชวติ, ตทา กุสลาวสาเน อาจิณฺณสทิสเมว, อกุสลาวสาเน สเหตุกํ ตทารมฺมณํ ยุตฺตํ. ยทา นิรนฺตรํ อกุสลเมว ตทา อเหตุกํ. เอวํ ตาว ปมวาเท ยุตฺตํ คเหตพฺพํ.

ทุติยวาเท ปน กุสลโต สสงฺขาราสงฺขารวิธานํ อธิปฺเปตํ. เตเนตฺถ อสงฺขาริกกุสลสฺส อสงฺขาริกเมว วิปากํ, สสงฺขาริกกุสลสฺส จ สสงฺขาริกเมว คเหตฺวา, ชวเนน ตทารมฺมณนิยามํ อกตฺวา, สพฺเพสมฺปิ เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ อุปฺปตฺติรโห ปิณฺฑชวนวเสเนว ทฺวาทสกมคฺโค กถิโต. ติเหตุกชวนาวสาเน ปเนตฺถ ติเหตุกํ ตทารมฺมณํ ยุตฺตํ. ทุเหตุกชวนาวสาเน ทุเหตุกํ, อเหตุกชวนาวสาเน อเหตุกํ ภาเชตฺวา ปน น วุตฺตํ. เอวํ ทุติยวาเท ยุตฺตํ คเหตพฺพํ.

ตติยวาเทปิ กุสลโตว อสงฺขารสสงฺขารวิธานํ อธิปฺเปตํ. ‘ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกวิปากมฺปิ ทุเหตุกวิปากมฺปิ อเหตุกวิปากมฺปิ เทตี’ติ ปน วจนโต อสงฺขาริกติเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส อสงฺขาริกทุเหตุเกนปิ ตทารมฺมเณน ภวิตพฺพํ. ตํ อทสฺเสตฺวา เหตุสทิสเมว ตทารมฺมณํ ทสฺสิตํ. ตํ ปุริมาย เหตุกิตฺตนลทฺธิยา น ยุชฺชติ. เกวลํ ทสกมคฺควิภาวนตฺถเมว วุตฺตํ. อิตรมฺปิ ปน ลพฺภเตว. เอวํ ตติยวาเทปิ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. อยฺจ สพฺพาปิ ปฏิสนฺธิชนกสฺเสว กมฺมสฺส วิปากํ สนฺธาย ตทารมฺมณกถา. ‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) วจนโต ปน นานากมฺเมน อเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสาปิ สเหตุกวิปากํ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส อุปฺปตฺติวิธานํ มหาปกรเณ อาวิ ภวิสฺสตีติ.

กามาวจรกุสลวิปากกถา นิฏฺิตา.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถา

๔๙๙. อิทานิ รูปาวจราทิวิปากํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา กามาวจรวิปากํ อตฺตโน กุสเลน สทิสมฺปิ โหติ, อสทิสมฺปิ, ตสฺมา น ตํ กุสลานุคติกํ กตฺวา ภาชิตํ. รูปาวจรารูปาวจรวิปากํ ปน ยถา หตฺถิอสฺสปพฺพตาทีนํ ฉายา หตฺถิอาทิสทิสาว โหนฺติ, ตถา อตฺตโน กุสลสทิสเมว โหตีติ กุสลานุคติกํ กตฺวา ภาชิตํ. กามาวจรกมฺมฺจ ยทา กทาจิ วิปากํ เทติ, รูปาวจรารูปาวจรํ ปน อนนฺตราเยน, ทุติยสฺมึเยว อตฺตภาเว, วิปากํ เทตีติปิ กุสลานุคติกเมว กตฺวา ภาชิตํ. เสสํ กุสเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ปฏิปทาทิเภโท จ หีนปณีตมชฺฌิมภาโว จ เอเตสุ ฌานาคมนโต เวทิตพฺโพ. ฉนฺทาทีนํ ปน อฺตรํ ธุรํ กตฺวา อนุปฺปาทนียตฺตา นิรธิปติกาเนว เอตานีติ.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรวิปากกถา

๕๐๕. โลกุตฺตรวิปากมฺปิ กุสลสทิสตฺตา กุสลานุคติกเมว กตฺวา ภาชิตํ. ยสฺมา ปน เตภูมกกุสลํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏํ อาจินาติ วฑฺเฒติ, ตสฺมา ตตฺถ กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ วุตฺตํ. โลกุตฺตรํ ปน เตน อาจิตมฺปิ อปจินาติ, สยมฺปิ จุติปฏิสนฺธิวเสน น อาจินาติ, เตเนตฺถ ‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’ติ อวตฺวา กตตฺตา ภาวิตตฺตาติ วุตฺตํ.

สุฺตนฺติอาทีสุ ‘มคฺโค’ ตาว ‘อาคมนโต สคุณโต อารมฺมณโตติ ตีหิ การเณหิ นามํ ลภตี’ติ, อิทํ เหฏฺา กุสลาธิกาเร วิตฺถาริตํ. ตตฺถ สุตฺตนฺติกปริยาเยน สคุณโตปิ อารมฺมณโตปิ นามํ ลภติ. ปริยายเทสนา เหสา. อภิธมฺมกถา ปน นิปฺปริยายเทสนา. ตสฺมา อิธ สคุณโต วา อารมฺมณโต วา นามํ น ลภติ, อาคมนโตว ลภติ. อาคมนเมว หิ ธุรํ. ตํ ทุวิธํ โหติ – วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนนฺติ.

ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคมนํ ธุรํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ ธุรนฺติ, อิทมฺปิ เหฏฺา วุตฺตเมว. เตสุ อิทํ ผลสฺส อาคตฏฺานํ, ตสฺมา อิธ มคฺคาคมนํ ธุรนฺติ เวทิตพฺพํ. โส ปเนส มคฺโค อาคมนโต ‘สุฺต’นฺติ นามํ ลภิตฺวา สคุณโต จ อารมฺมณโต จ ‘อนิมิตฺโต’‘อปฺปณิหิโต’ติปิ วุจฺจติ. ตสฺมา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส ตีณิ นามานิ เทติ. กถํ? อยฺหิ สุทฺธาคมนวเสเนว ลทฺธนาโม ‘สุฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘สุฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘สุฺตอนิมิตฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อนิมิตฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘สุฺตอปฺปณิหิตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ อกาสิ. อิมานิ ปน ตีณิ นามานิ มคฺคานนฺตเร ผลจิตฺตสฺมึเยว อิมินา นเยน ลพฺภนฺติ, โน อปรภาเค วฬฺชนกผลสมาปตฺติยา. อปรภาเค ปน อนิจฺจตาทีหิ ตีหิ วิปสฺสนาหิ วิปสฺสิตุํ สกฺโกติ. อถสฺส วุฏฺิตวุฏฺิตวิปสฺสนาวเสน อนิมิตฺตอปฺปณิหิตสุฺตสงฺขาตานิ ตีณิ ผลานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เตสํ ตาเนว สงฺขารารมฺมณานิ. อนิจฺจานุปสฺสนาทีนิ าณานิ อนุโลมาณานิ นาม โหนฺติ.

โย จายํ สุฺตมคฺเค วุตฺโต. อปฺปณิหิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. อยมฺปิ หิ สุทฺธาคมนวเสน ลทฺธนาโม ‘อปฺปณิหิตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อปฺปณิหิต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘อปฺปณิหิตอนิมิตฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘อนิมิตฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. ‘อปฺปณิหิตสุฺตมคฺโค’ สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามํ ททมาโน ‘สุฺต’นฺติ นามํ อกาสิ. อิมานิปิ ตีณิ นามานิ มคฺคานนฺตเร ผลจิตฺตสฺมึเยว อิมินา นเยน ลพฺภนฺติ, น อปรภาเค วฬฺชนกผลสมาปตฺติยาติ. เอวํ อิมสฺมึ วิปากนิทฺเทเส กุสลจิตฺเตหิ ติคุณานิ วิปากจิตฺตานิ เวทิตพฺพานิ.

ยถา ปน เตภูมกกุสลานิ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น เอวํ โลกุตฺตรกุสลานิ. กสฺมา? เตภูมกกุสลานฺหิ อฺโ อายูหนกาโล อฺโ วิปจฺจนกาโล. เตน ตานิ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. โลกุตฺตรานิ ปน ตาย สทฺธาย, ตสฺมึ วีริเย, ตาย สติยา, ตสฺมึ สมาธิมฺหิ, ตาย ปฺาย อวูปสนฺตาย, อปณฺณกํ อวิรทฺธํ มคฺคานนฺตรเมว วิปากํ ปฏิลภนฺติ, เตน อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ สกฺโกนฺติ.

ยถา หิ ปริตฺตกสฺส อคฺคิโน คตฏฺาเน อคฺคิสฺมึ นิพฺพุตมตฺเตเยว อุณฺหากาโร นิพฺพายิตฺวา กิฺจิ น โหติ, มหนฺตํ ปน อาทิตฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตฺวา โคมยปริภณฺเฑ กเตปิ อุณฺหากาโร อวูปสนฺโตว โหติ, เอวเมว เตภูมกกุสเล อฺโ กมฺมกฺขโณ อฺโ วิปากกฺขโณ ปริตฺตอคฺคิฏฺาเน อุณฺหภาวนิพฺพุตกาโล วิย โหติ. ตสฺมา ตํ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตุํ น สกฺโกติ. โลกุตฺตเร ปน ตาย สทฺธาย…เป… ตาย ปฺาย อวูปสนฺตาย, มคฺคานนฺตรเมว ผลํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ อตฺตโน วิปากํ อธิปตึ ลภาเปตีติ เวทิตพฺพํ. เตนาหุ โปราณา – ‘วิปาเก อธิปติ นตฺถิ เปตฺวา โลกุตฺตร’นฺติ.

๕๕๕. จตุตฺถผลนิทฺเทเส อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส อินฺทฺริยํ, อฺาตาวีนํ วา จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตกิจฺจานํ จตฺตาริ สจฺจานิ ตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตานํ ธมฺมานํ อพฺภนฺตเร อินฺทฏฺสาธเนน อินฺทฺริยํ. นิทฺเทสวาเรปิสฺส อฺาตาวีนนฺติ อาชานิตฺวา ิตานํ. ธมฺมานนฺติ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภนฺตเร. อฺาติ อาชานนา, ปฺา ปชานนาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนนฺติ ผลมคฺคสฺส องฺคํ, ผลมคฺเค จ ปริยาปนฺนนฺติ อตฺโถ.

อปิเจตฺถ อิทํ ปกิณฺณกํ – เอกํ อินฺทฺริยํ เอกํ านํ คจฺฉติ, เอกํ ฉ านานิ คจฺฉติ, เอกํ เอกํ านํ คจฺฉติ. เอกฺหิ ‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ’ เอกํ านํ คจฺฉติ โสตาปตฺติมคฺคํ. เอกํ ‘อฺินฺทฺริยํ’ เหฏฺา ตีณิ ผลานิ, อุปริ ตโย มคฺเคติ ฉ านานิ คจฺฉติ. เอกํ ‘อฺาตาวินฺทฺริยํ’ เอกํ านํ คจฺฉติ อรหตฺตผลํ. สพฺเพสุปิ มคฺคผเลสุ อตฺถโต อฏฺ อฏฺ อินฺทฺริยานีติ จตุสฏฺิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานิ กถิตานิ. ปาฬิโต ปน นว นว กตฺวา ทฺวาสตฺตติ โหนฺติ. มคฺเค มคฺคงฺคนฺติ วุตฺตํ. ผเลปิ มคฺคงฺคํ. มคฺเค โพชฺฌงฺโคติ วุตฺโต ผเลปิ โพชฺฌงฺโค. มคฺคกฺขเณ อารติ วิรตีติ วุตฺตา ผลกฺขเณปิ อารติ วิรตีติ. ตตฺถ มคฺโค มคฺคภาเวเนว มคฺโค, ผลํ ปน มคฺคํ อุปาทาย มคฺโค นาม; ผลงฺคํ ผลปริยาปนฺนนฺติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. มคฺเค พุชฺฌนกสฺส องฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค, ผเล พุทฺธสฺส องฺโคติ สมฺโพชฺฌงฺโค. มคฺเค อารมณวิรมณวเสเนว อารติ วิรติ. ผเล ปน อารติวิรติวเสนาติ.

โลกุตฺตรวิปากกถา นิฏฺิตา.

อกุสลวิปากกถา

๕๕๖. อิโต ปรานิ อกุสลวิปากานิ – ปฺจ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ, เอกา มโนธาตุ, เอกา มโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ สตฺต จิตฺตานิ – ปาฬิโต จ อตฺถโต จ เหฏฺา วุตฺเตหิ ตาทิเสเหว กุสลวิปากจิตฺเตหิ สทิสานิ.

เกวลฺหิ ตานิ กุสลกมฺมปจฺจยานิ อิมานิ อกุสลกมฺมปจฺจยานิ. ตานิ จ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ อารมฺมเณสุ วตฺตนฺติ, อิมานิ อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ. ตตฺถ จ สุขสหคตํ กายวิฺาณํ, อิธ ทุกฺขสหคตํ. ตตฺถ จ อุเปกฺขาสหคตา มโนวิฺาณธาตุ มนุสฺเสสุ ชจฺจนฺธาทีนํ ปฏิสนฺธึ อาทึ กตฺวา ปฺจสุ าเนสุ วิปจฺจติ. อิธ ปน เอกาทสวิเธนาปิ อกุสลจิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺเตสุ อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจติ; ทุติยวารโต ปฏฺาย ยาวตายุกํ ภวงฺคํ หุตฺวา, อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณาย ปฺจวิฺาณวีถิยา สนฺตีรณํ หุตฺวา, พลวารมฺมเณ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณํ หุตฺวา, มรณกาเล จุติ หุตฺวาติ, เอวํ ปฺจสุ เอว าเนสุ วิปจฺจตีติ.

อกุสลวิปากกถา นิฏฺิตา.

กิริยาพฺยากตวณฺณนา

มโนธาตุจิตฺตํ

๕๖๖. อิทานิ กิริยาพฺยากตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กิริยาติ กรณมตฺตํ. สพฺเพสุเยว หิ กิริยจิตฺเตสุ ยํ ชวนภาวํ อปฺปตฺตํ ตํ วาตปุปฺผํ วิย. ยํ ชวนภาวปฺปตฺตํ ตํ ฉินฺนมูลกรุกฺขปุปฺผํ วิย อผลํ โหติ, ตํตํ กิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตตฺตา ปน กรณมตฺตเมว โหติ. ตสฺมา กิริยาติ วุตฺตํ. เนวกุสลานากุสลาติอาทีสุ กุสลมูลสงฺขาตสฺส กุสลเหตุโน อภาวา ‘เนวกุสลา’; อกุสลมูลสงฺขาตสฺส อกุสลเหตุโน อภาวา ‘เนวอกุสลา’; โยนิโสมนสิการอโยนิโสมนสิการสงฺขาตานมฺปิ กุสลากุสลปจฺจยานํ อภาวา ‘เนวกุสลานากุสลา’. กุสลากุสลสงฺขาตสฺส ชนกเหตุโน อภาวา เนวกมฺมวิปากา.

อิธาปิ จิตฺตสฺเสกคฺคตานิทฺเทเส ปวตฺติฏฺิติมตฺตเมว ลพฺภติ. ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ติสฺโส มโนธาตุโย, ติสฺโส มโนวิฺาณธาตุโย, วิจิกิจฺฉาสหคตนฺติ อิเมสุ สตฺตรสสุ จิตฺเตสุ ทุพฺพลตฺตา สณฺิติ อวฏฺิติอาทีนิ น ลพฺภนฺติ. เสสํ สพฺพํ วิปากมโนธาตุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อฺตฺร อุปฺปตฺติฏฺานา. ตฺหิ จิตฺตํ ปฺจวิฺาณานนฺตรํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปน ปฺจทฺวาเร วฬฺชนกปฺปวตฺติกาเล สพฺเพสํ ปุเร อุปฺปชฺชติ. กถํ? จกฺขุทฺวาเร ตาว อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตอนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ รูปารมฺมเณสุ เยน เกนจิ ปสาเท ฆฏฺฏิเต ตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา อาวชฺชนวเสน ปุเรจาริกํ หุตฺวา ภวงฺคํ อาวฏฺฏยมานํ อุปฺปชฺชติ. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโยติ.

กิริยมโนธาตุจิตฺตํ นิฏฺิตํ.

กิริยมโนวิฺาณธาตุจิตฺตานิ

๕๖๘. มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ…เป… โสมนสฺสสหคตาติ, อิทํ จิตฺตํ อฺเสํ อสาธารณํ. ขีณาสวสฺเสว ปาฏิปุคฺคลิกํ. ฉสุ ทฺวาเรสุ ลพฺภติ. จกฺขุทฺวาเร หิ ปธานสารุปฺปํ านํ ทิสฺวา ขีณาสโว อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. โสตทฺวาเร ภณฺฑภาชนียฏฺานํ ปตฺวา มหาสทฺทํ กตฺวา ลุทฺธลุทฺเธสุ คณฺหนฺเตสุ ‘เอวรูปา นาม เม โลลุปฺปตณฺหา ปหีนา’ติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. ฆานทฺวาเร คนฺเธหิ วา ปุปฺเผหิ วา เจติยํ ปูเชนฺโต อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. ชิวฺหาทฺวาเร รสสมฺปนฺนํ ปิณฺฑปาตํ ลทฺธา ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺโต ‘สารณียธมฺโม วต เม ปูริโต’ติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. กายทฺวาเร อภิสมาจาริกวตฺตํ กโรนฺโต ‘กายทฺวาเร เม วตฺตํ ปูริต’นฺติ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหติ. เอวํ ตาว ปฺจทฺวาเร ลพฺภติ.

มโนทฺวาเร ปน อตีตานาคตมารพฺภ อุปฺปชฺชติ. โชติปาลมาณว(ม. นิ. ๒.๒๘๒ อาทโย) มคฺฆเทวราช(ม. นิ. ๒.๓๐๘ อาทโย) กณฺหตาปสาทิกาลสฺมิฺหิ (ชา. ๑.๑๐.๑๑ อาทโย) กตํ การณํ อาวชฺเชตฺวา ตถาคโต สิตํ ปาตฺวากาสิ. ตํ ปน ปุพฺเพนิวาสาณสพฺพฺุตฺาณานํ กิจฺจํ. เตสํ ปน ทฺวินฺนํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ หาสยมานํ อุปฺปชฺชติ. อนาคเต ‘ตนฺติสฺสโร มุทิงฺคสฺสโร ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสตี’ติ สิตํ ปาตฺวากาสิ. ตมฺปิ อนาคตํสาณสพฺพฺุตฺาณานํ กิจฺจํ. เตสํ ปน ทฺวินฺน าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ หาสยมานํ อุปฺปชฺชติ.

นิทฺเทสวาเร ปนสฺส เสสอเหตุกจิตฺเตหิ พลวตรตาย จิตฺเตกคฺคตา สมาธิพลํ ปาเปตฺวา ปิตา. วีริยมฺปิ วีริยพลํ ปาเปตฺวา. อุทฺเทสวาเร ปน ‘สมาธิพลํ โหติ วีริยพลํ โหตี’ติ อนาคตตฺตา ปริปุณฺเณน พลฏฺเเนตํ ทฺวยํ พลํ นาม น โหติ. ยสฺมา ปน ‘เนว กุสลํ นากุสลํ’ ตสฺมา พลนฺติ วตฺวาน ปิตํ. ยสฺมา จ น นิปฺปริยาเยน พลํ, ตสฺมา สงฺคหวาเรปิ ‘ทฺเว พลานิ โหนฺตี’ติ น วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๕๗๔. อุเปกฺขาสหคตาติ อิทํ จิตฺตํ ตีสุ ภเวสุ สพฺเพสํ สจิตฺตกสตฺตานํ สาธารณํ, น กสฺสจิ สจิตฺตกสฺส นุปฺปชฺชติ นาม. อุปฺปชฺชมานํ ปน ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนํ โหติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนํ. ฉ อสาธารณาณานิปิ อิมินา คหิตารมฺมณเมว คณฺหนฺติ. มหาคชํ นาเมตํ จิตฺตํ; อิมสฺส อนารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ‘อสพฺพฺุตฺาณํ สพฺพฺุตฺาณคติกํ นาม กตม’นฺติ วุตฺเต ‘อิท’นฺติ วตฺตพฺพํ. เสสเมตฺถ ปุริมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ สปฺปีติกตฺตา นวงฺคิโก สงฺขารกฺขนฺโธ วิภตฺโต. อิธ นิปฺปีติกตฺตา อฏฺงฺคิโก.

อิทานิ ยานิ กุสลโต อฏฺ มหาจิตฺตาเนว ขีณาสวสฺส อุปฺปชฺชนตาย กิริยานิ ชาตานิ, ตสฺมา ตานิ กุสลนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

อิธ ตฺวา หสนกจิตฺตานิ สโมธาเนตพฺพานิ. กติ ปเนตานิ โหนฺตีติ? วุจฺจเต เตรส. ปุถุชฺชนา หิ กุสลโต จตูหิ โสมนสฺสสหคเตหิ, อกุสลโต จตูหีติ, อฏฺหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. เสกฺขา กุสลโต จตูหิ โสมนสฺสสหคเตหิ, อกุสลโต ทฺวีหิ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตหิ โสมนสฺสสหคเตหีติ, ฉหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. ขีณาสวา กิริยโต ปฺจหิ โสมนสฺสสหคเตหิ หสนฺตีติ.

รูปาวจรารูปาวจรกิริยํ

๕๗๗. รูปาวจรารูปาวจรกิริยนิทฺเทเสสุ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ ทิฏฺธมฺเม, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว, สุขวิหารมตฺตํ. ตตฺถ ขีณาสวสฺส ปุถุชฺชนกาเล นิพฺพตฺติตา สมาปตฺติ ยาว น นํ สมาปชฺชติ ตาว กุสลาว สมาปนฺนกาเล กิริยา โหติ. ขีณาสวกาเล ปนสฺส นิพฺพตฺติตา สมาปตฺติ กิริยาว โหติ. เสสํ สพฺพํ ตํสทิสตฺตา กุสลนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

จิตฺตุปฺปาทกณฺฑกถา นิฏฺิตา.

อพฺยากตปทํ ปน เนว ตาว นิฏฺิตนฺติ.

จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รูปกณฺโฑ

อุทฺเทสวณฺณนา

อิทานิ รูปกณฺฑํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กิฺจาปิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ วิปากาพฺยากตฺเจว กิริยาพฺยากตฺจ นิสฺเสสํ กตฺวา ภาชิตํ, รูปาพฺยากตนิพฺพานาพฺยากตานิ ปน อกถิตานิ, ตานิ กเถตุํ จตุพฺพิธมฺปิ อพฺยากตํ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสนฺโต กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ วิปากาติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลากุสลานนฺติ จตุภูมกกุสลานฺเจว อกุสลานฺจ. เอวํ ตาว วิปากาพฺยากตํ กุสลวิปากากุสลวิปากวเสน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ. ยสฺมา ปน ตํ สพฺพมฺปิ กามาวจรํ วา โหติ, รูปาวจราทีสุ วา อฺตรํ, ตสฺมา ‘กามาวจรา’ติอาทินา นเยน ตเทว วิปากาพฺยากตํ ภูมนฺตรวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ. ยสฺมา ปน ตํ เวทนากฺขนฺโธปิ โหติ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธปิ, ตสฺมา ปุน สมฺปยุตฺตจตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ.

เอวํ วิปากาพฺยากตํ กุสลากุสลวเสน ภูมนฺตรวเสน สมฺปยุตฺตกฺขนฺธวเสนาติ ตีหิ นเยหิ ปริยาทาย ทสฺเสตฺวา, ปุน กิริยาพฺยากตํ ทสฺเสนฺโต เย จ ธมฺมา กิริยาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘กามาวจรา รูปาวจรา อรูปาวจรา เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. เหฏฺา ปน คหิตเมวาติ นยํ ทสฺเสตฺวา นิสฺสชฺชิตํ. อิทานิ อวิภตฺตํ ทสฺเสนฺโต สพฺพฺจ รูปํ อสงฺขตา จ ธาตูติ อาห. ตตฺถ ‘สพฺพฺจ รูป’นฺติ ปเทน ปฺจวีสติ รูปานิ ฉนฺนวุติรูปโกฏฺาสา นิปฺปเทสโต คหิตาติ เวทิตพฺพา. ‘อสงฺขตา จ ธาตู’ติ ปเทน นิพฺพานํ นิปฺปเทสโต คหิตนฺติ. เอตฺตาวตา ‘อพฺยากตา ธมฺมา’ติ ปทํ นิฏฺิตํ โหติ.

๕๘๔. ตตฺถ กตมํ สพฺพํ รูปนฺติ อิทํ กสฺมา คหิตํ? เหฏฺา รูปาพฺยากตํ สงฺเขเปน กถิตํ. อิทานิ ตํ เอกกทุกติกจตุกฺก…เป… เอกาทสกวเสน วิตฺถารโต ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิทํ คหิตํ. ตสฺสตฺโถ – ยํ วุตฺตํ ‘สพฺพฺจ รูปํ, อสงฺขตา จ ธาตู’ติ, ตสฺมึ ปททฺวเย ‘กตมํ สพฺพํ รูปํ นาม’? อิทานิ ตํ ทสฺเสนฺโต จตฺตาโร จ มหาภูตาติอาทิมาห. ตตฺถ จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน เตสํ อูนาธิกภาวํ นิวาเรติ. ‘จ’-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ ‘จตฺตาโร มหาภูตาว’ รูปํ, อฺมฺปิ อตฺถีติ ‘อุปาทารูปํ’ สมฺปิณฺเฑติ.

มหาภูตาติ เอตฺถ มหนฺตปาตุภาวาทีหิ การเณหิ มหาภูตตา เวทิตพฺพา. เอตานิ หิ มหนฺตปาตุภาวโต, มหาภูตสามฺโต, มหาปริหารโต, มหาวิการโต, มหนฺตภูตตฺตา จาติ อิเมหิ การเณหิ มหาภูตานีติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘มหนฺตปาตุภาวโต’ติ, เอตานิ หิ อนุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ อุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ มหนฺตานิ ปาตุภูตานิ. เตสํ อนุปาทินฺนกสนฺตาเน เอวํ มหนฺตปาตุภาวตา เวทิตพฺพา – เอกฺหิ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ ตีณิ สหสฺสานิ จตฺตาริ สตานิ ปฺาสฺจ โยชนานิ. ปริกฺเขปโต –

สพฺพํ สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึส ปริมณฺฑลํ;

ทส เจว สหสฺสานิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ จ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ตตฺถ –

ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ตสฺสาเยว สนฺธารกํ –

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.

ตสฺสาปิ สนฺธารโก –

นวสตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;

สฏฺิ เจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ.

เอวํ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –

จตุราสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุ ปพฺพตุตฺตโม.

ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;

อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.

ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิริ พฺรหา.

เอเต สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;

มหาราชานมาวาสา เทวยกฺขนิเสวิตา.

โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;

โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต;

จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต.

ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปา นควฺหยา;

ปฺาสโยชนกฺขนฺธสาขายามา สมนฺตโต.

สตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา;

ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑; วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗);

ยฺเจตํ ชมฺพุยา ปมาณํ ตเทว อสุรานํ จิตฺตปาฏลิยา, ครุฬานํ สิมฺพลิรุกฺขสฺส, อปรโคยาเน กทมฺพรุกฺขสฺส, อุตฺตรกุรุมฺหิ กปฺปรุกฺขสฺส, ปุพฺพวิเทเห สิรีสสฺส, ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกสฺสาติ. เตนาหุ โปราณา –

ปาฏลี สิมฺพลี ชมฺพู, เทวานํ ปาริจฺฉตฺตโก;

กทมฺโพ กปฺปรุกฺโข จ, สิรีเสน ภวติ สตฺตมนฺติ.

ทฺเวอสีติสหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;

ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ.

อุปาทินฺนกสนฺตาเนปิ มจฺฉกจฺฉปเทวทานวาทิสรีรวเสน มหนฺตาเนว ปาตุภูตานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวาติ’’อาทิ.

‘มหาภูตสามฺโต’ติ เอตานิ หิ ยถา มายากาโร อมณึเยว อุทกํ มณึ กตฺวา ทสฺเสติ, อสุวณฺณํเยว เลฑฺฑุํ สุวณฺณํ กตฺวา ทสฺเสติ, ยถา จ สยํ เนว ยกฺโข น ปกฺขี สมาโน ยกฺขภาวมฺปิ ปกฺขิภาวมฺปิ ทสฺเสติ, เอวเมว สยํ อนีลาเนว หุตฺวา นีลํ อุปาทารูปํ ทสฺเสนฺติ, อปีตานิ… อโลหิตานิ… อโนทาตาเนว หุตฺวา โอทาตํ อุปาทารูปํ ทสฺเสนฺตีติ มายาการมหาภูตสามฺโต มหาภูตานิ. ยถา จ ยกฺขาทีนิ มหาภูตานิ ยํ คณฺหนฺติ เนว เตสํ ตสฺส อนฺโต น พหิานํ อุปลพฺภติ, น จ ตํ นิสฺสาย น ติฏฺนฺติ, เอวเมว เอตานิปิ เนว อฺมฺสฺส อนฺโต น พหิ ิตานิ หุตฺวา อุปลพฺภนฺติ, น จ อฺมฺํ นิสฺสาย น ติฏฺนฺตีติ. อจินฺเตยฺยฏฺานตาย ยกฺขาทิมหาภูตสามฺโตปิ มหาภูตานิ.

ยถา จ ยกฺขินีสงฺขาตานิ มหาภูตานิ มนาเปหิ วณฺณสณฺานวิกฺเขเปหิ อตฺตโน ภยานกภาวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สตฺเต วฺเจนฺติ, เอวเมว เอตานิปิ อิตฺถิปุริสสรีราทีสุ มนาเปน ฉวิวณฺเณน, มนาเปน องฺคปจฺจงฺคสณฺาเนน, มนาเปน จ หตฺถปาทงฺคุลิภมุกวิกฺเขเปน อตฺตโน กกฺขฬตาทิเภทํ สรสลกฺขณํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา พาลชนํ วฺเจนฺติ, อตฺตโน สภาวํ ทฏฺุํ น เทนฺติ. อิติ วฺจกฏฺเน ยกฺขินีมหาภูตสามฺโตปิ มหาภูตานิ.

‘มหาปริหารโต’ติ มหนฺเตหิ ปจฺจเยหิ ปริหริตพฺพโต. เอตานิ หิ ทิวเส ทิวเส อุปเนตพฺพตฺตา มหนฺเตหิ ฆาสจฺฉาทนาทีหิ ภูตานิ ปวตฺตานีติ มหาภูตานิ. มหาปริหารานิ วา ภูตานีติ มหาภูตานิ.

‘มหาวิการโต’ติ ภูตานํ มหาวิการโต. เอตานิ หิ อุปาทิณฺณานิปิ อนุปาทิณฺณานิปิ มหาวิการานิ โหนฺติ. ตตฺถ อนุปาทิณฺณานํ กปฺปวุฏฺาเน วิการมหตฺตํ ปากฏํ โหติ, อุปาทิณฺณานํ ธาตุกฺโขภกาเล. ตถา หิ –

ภูมิโต วุฏฺิตา ยาว, พฺรหฺมโลกา วิธาวติ;

อจฺจิ อจฺจิมโต โลเก, ทยฺหมานมฺหิ เตชสา.

โกฏิสตสหสฺเสกํ, จกฺกวาฬํ วิลียติ;

กุปิเตน ยทา โลโก, สลิเลน วินสฺสติ.

โกฏิสตสหสฺเสกํ, จกฺกวาฬํ วิกีรติ;

วาโยธาตุปฺปโกเปน, ยทา โลโก วินสฺสติ.

ปตฺถทฺโธ ภวติ กาโย, ทฏฺโ กฏฺมุเขน วา;

ปถวีธาตุปฺปโกเปน, โหติ กฏฺมุเขว โส.

ปูติโย ภวติ กาโย, ทฏฺโ ปูติมุเขน วา;

อาโปธาตุปฺปโกเปน, โหติ ปูติมุเขว โส.

สนฺตตฺโต ภวติ กาโย, ทฏฺโ อคฺคิมุเขน วา;

เตโชธาตุปฺปโกเปน, โหติ อคฺคิมุเขว โส.

สฺฉินฺโน ภวติ กาโย, ทฏฺโ สตฺถมุเขน วา;

วาโยธาตุปฺปโกเปน, โหติ สตฺถมุเขว โส. (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๔.๒๓๘);

อิติ มหาวิการานิ ภูตานีติ มหาภูตานิ.

‘มหนฺตภูตตฺตา จา’ติ เอตานิ หิ มหนฺตานิ มหตา วายาเมน ปริคฺคเหตพฺพตฺตา, ภูตานิ วิชฺชมานตฺตาติ, มหนฺตภูตตฺตา จ มหาภูตานิ. เอวํ มหนฺตปาตุภาวาทีหิ การเณหิ มหาภูตานิ.

จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทาย, นิสฺสาย, อมุฺจิตฺวา ปวตฺตรูปนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุจฺจติ สพฺพํ รูปนฺติ อิทํ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ปทปฏิปาฏิยา นิทฺทิฏฺานิ เตวีสติ อุปาทารูปานีติ, สตฺตวีสติปฺปเภทํ สพฺพํ รูปํ นาม.

เอกวิธรูปสงฺคโห

อิทานิ ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ เอกวิธาทีหิ เอกาทสหิ สงฺคเหหิ มาติกํ เปนฺโต สพฺพํ รูปํ น เหตูติอาทิมาห.

ตตฺถ ‘สพฺพํ รูป’นฺติ อิทํ ปทํ ‘สพฺพํ รูปํ น เหตุ’ ‘สพฺพํ รูปํ อเหตุก’นฺติ เอวํ สพฺพปเทหิ สทฺธึ โยเชตพฺพํ. สพฺพาเนว เจตานิ ‘น เหตู’ติอาทีนิ เตจตฺตาลีสปทานิ อุทฺทิฏฺานิ. เตสุ ปฏิปาฏิยา จตฺตาลีสปทานิ มาติกโต คเหตฺวา ปิตานิ, อวสาเน ตีณิ มาติกามุตฺตกานีติ. เอวํ ตาว ปเม สงฺคเห ปาฬิววตฺถานเมว เวทิตพฺพํ. ตถา ทุติยสงฺคหาทีสุ.

ทุวิธรูปสงฺคโห

ตตฺรายํ นโย – ทุติยสงฺคเห ตาว สตํ จตฺตาโร จ ทุกา. ตตฺถ อตฺถิ รูปํ อุปาทา, อตฺถิ รูปํ โนอุปาทาติอาทโย อาทิมฺหิ จุทฺทส ทุกา อฺมฺสมฺพนฺธาภาวโต ปกิณฺณกทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส วตฺถูติอาทโย ปฺจวีสติ ทุกา วตฺถุอวตฺถุอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา วตฺถุทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณนฺติอาทโย ปฺจวีสติ อารมฺมณานารมฺมณอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อารมฺมณทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขายตนนฺติ อาทโย ทส อายตนานายตนอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อายตนทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุธาตูติอาทโย ทส ธาตุอธาตุอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา ธาตุทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทโย อฏฺ อินฺทฺริยานินฺทฺริยอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา อินฺทฺริยทุกา นาม. ตโต อตฺถิ รูปํ กายวิฺตฺตีติอาทโย ทฺวาทส สุขุมาสุขุมรูปอุปปริกฺขณวเสน ปวตฺตตฺตา สุขุมรูปทุกา นามาติ. อิทํ ทุติยสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ.

ติวิธรูปสงฺคโห

๕๘๕. ตติยสงฺคเห สตํ ตีณิ จ ติกานิ. ตตฺถ ทุติยสงฺคเห วุตฺเตสุ จุทฺทสสุ ปกิณฺณกทุเกสุ เอกํ อชฺฌตฺติกทุกํ เสเสหิ เตรสหิ โยเชตฺวา ยํ ตํ รูปํ อชฺฌตฺติกํ ตํ อุปาทา; ยํ ตํ รูปํ พาหิรํ ตํ อตฺถิ อุปาทา, อตฺถิ โนอุปาทาติอาทินา นเยน ปิตา เตรส ปกิณฺณกติกา นาม. ตโต ตเมว ทุกํ เสสทุเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ยํ ตํ รูปํ พาหิรํ ตํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส น วตฺถุ, ยํ ตํ รูปํ อชฺฌตฺติกํ ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส วตฺถุ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส น วตฺถูติอาทินา นเยน เสสติกา ปิตา. เตสํ นามฺจ คณนา จ เตสํเยว วตฺถุทุกาทีนํ วเสน เวทิตพฺพาติ. อิทํ ตติยสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ.

จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหา

๕๘๖. จตุตฺถสงฺคเห ทฺวาวีสติ จตุกฺกา. ตตฺถ สพฺพปจฺฉิโม อตฺถิ รูปํ อุปาทา อตฺถิ รูปํ โนอุปาทาติ เอวํ อิธ วุตฺตํ มาติกํ อนามสิตฺวา ปิโต. อิตเร ปน อามสิตฺวา ปิตา. กถํ? เย ตาว อิธ ทุวิธสงฺคเห ปกิณฺณเกสุ อาทิโต ตโย ทุกา, เตสุ เอเกกํ คเหตฺวา ยํ ตํ รูปํ อุปาทา ตํ อตฺถิ อุปาทิณฺณํ, อตฺถิ อนุปาทิณฺณนฺติอาทินา นเยน ปฺจหิ ปฺจหิ ทุเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทุกตฺตยมูลกา อาทิมฺหิ ปฺจทส จตุกฺกา ปิตา.

อิทานิ โย ยํ จตุกฺโก สนิทสฺสนทุโก โส ยสฺมา ยํ ตํ รูปํ สนิทสฺสนํ ตํ อตฺถิ สปฺปฏิฆํ, อตฺถิ อปฺปฏิฆนฺติอาทินา นเยน ปเรหิ วา, อตฺถิ อุปาทา อตฺถิ โนอุปาทาติอาทินา นเยน ปุริเมหิ วา, ทุเกหิ สทฺธึ อตฺถาภาวโต กมาภาวโต วิเสสาภาวโต จ โยคํ น คจฺฉติ. สนิทสฺสนฺหิ ‘อปฺปฏิฆํ’ นาม, ‘โน อุปาทา’ วา นตฺถีติ อตฺถาภาวโต โยคํ น คจฺฉติ. ‘อุปาทิณฺณํ ปน อนุปาทิณฺณฺจ อตฺถิ ตํ กมาภาวา โยคํ น คจฺฉติ. สพฺพทุกา หิ ปจฺฉิมปจฺฉิเมเหว สทฺธึ โยชิตา. อยเมตฺถ กโม. ปุริเมหิ ปน สทฺธึ กมาภาโวติ. ‘สติ อตฺเถ กมาภาโว อการณํ. ตสฺมา อุปาทิณฺณปทาทีหิ สทฺธึ โยเชตพฺโพ’ติ เจ – น, วิเสสาภาวา; อุปาทิณฺณปทาทีนิ หิ อิมินา สทฺธึ โยชิตานิ. ตตฺถ ‘อุปาทิณฺณํ วา สนิทสฺสนํ, สนิทสฺสนํ วา อุปาทิณฺณ’นฺติ วุตฺเต วิเสโส นตฺถีติ วิเสสาภาวาปิ โยคํ น คจฺฉติ. ตสฺมา ตํ จตุตฺถทุกํ อนามสิตฺวา, ตโต ปเรหิ อตฺถิ รูปํ สปฺปฏิฆนฺติอาทีหิ ตีหิ ทุเกหิ สทฺธึ ‘ยํ ตํ รูปํ สปฺปฏิฆํ ตํ อตฺถิ อินฺทฺริยํ, อตฺถิ น อินฺทฺริยํ, ยํ ตํ รูปํ อปฺปฏิฆํ ตํ อตฺถิ อินฺทฺริยํ, อตฺถิ น อินฺทฺริย’นฺติอาทินา นเยน ยุชฺชมาเน ทฺเว ทฺเว ทุเก โยเชตฺวา ฉ จตุกฺกา ปิตา.

ยถา จายํ จตุตฺถทุโก โยคํ น คจฺฉติ, ตถา เตน สทฺธึ อาทิทุโกปิ. กสฺมา? อนุปาทารูปสฺส เอกนฺเตน อนิทสฺสนตฺตา. โส หิ ยํ ตํ รูปํ โนอุปาทา ตํ อตฺถิ สนิทสฺสนํ, อตฺถิ อนิทสฺสนนฺติ – เอวํ จตุตฺเถน ทุเกน สทฺธึ โยชิยมาโน โยคํ น คจฺฉติ. ตสฺมา ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฺจเมน สห โยชิโต. เอวํ โย เยน สทฺธึ โยคํ คจฺฉติ, โย จ น คจฺฉติ โส เวทิตพฺโพติ. อิทํ จตุตฺถสงฺคเห ปาฬิววตฺถานํ. อิโต ปเร ปน ปฺจวิธสงฺคหาทโย สตฺต สงฺคหา อสมฺมิสฺสา เอว. เอวํ สกลายปิ มาติกาย ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.

รูปวิภตฺติเอกกนิทฺเทสวณฺณนา

๕๙๔. อิทานิ ตสฺสา อตฺถํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวาติอาทิ อารทฺธํ. กสฺมา ปเนตฺถ ‘กตมํ ตํ สพฺพํ รูปํ น เหตู’ติ ปุจฺฉา น กตาติ? เภทาภาวโต. ยถา หิ ทุกาทีสุ ‘อุปาทารูป’มฺปิ อตฺถิ ‘โนอุปาทารูป’มฺปิ, เอวมิธ เหตุ น เหตูติปิ สเหตุกมเหตุกนฺติปิ เภโท นตฺถิ, ตสฺมา ปุจฺฉํ อกตฺวาว วิภตฺตํ. ตตฺถ ‘สพฺพ’นฺติ สกลํ, นิรวเสสํ. ‘รูป’นฺติ อยมสฺส สีตาทีหิ รุปฺปนภาวทีปโน สามฺลกฺขณนิทฺเทโส. น เหตุเมวาติ สาธารณเหตุปฏิกฺเขปนิทฺเทโส.

ตตฺถ เหตุเหตุ ปจฺจยเหตุ อุตฺตมเหตุ สาธารณเหตูติ จตุพฺพิโธ เหตุ. เตสุ ‘ตโย กุสลเหตู, ตโย อกุสลเหตู, ตโย อพฺยากตเหตู’ติ (ธ. ส. ๑๐๕๙) อยํ ‘เหตุเหตุ’ นาม. ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๕; สํ. นิ. ๓.๘๒) อยํ ‘ปจฺจยเหตุ’ นาม. ‘‘กุสลากุสลํ อตฺตโน วิปากฏฺาเน, อุตฺตมํ อิฏฺารมฺมณํ กุสลวิปากฏฺาเน, อุตฺตมํ อนิฏฺารมฺมณํ อกุสลวิปากฏฺาเน’’ติ อยํ ‘อุตฺตมเหตุ’ นาม. ยถาห – ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาตี’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๘; วิภ. ๘๑๐; ปาฏิ. ม. ๒.๔๔), ‘‘เอเสว เหตุ เอส ปจฺจโย สงฺขารานํ ยทิทํ อวิชฺชา’’ติ อวิชฺชา สงฺขารานํ สาธารณเหตุ หุตฺวา ปจฺจยฏฺํ ผรตีติ อยํ ‘สาธารณเหตุ’ นาม. ยถา หิ ปถวีรโส อาโปรโส จ มธุรสฺสาปิ อมธุรสฺสาปิ ปจฺจโย, เอวํ อวิชฺชา กุสลสงฺขารานมฺปิ อกุสลสงฺขารานมฺปิ สาธารณปจฺจโย โหติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘เหตุเหตุ’ อธิปฺเปโต. อิติ ‘เหตู ธมฺมา น เหตู ธมฺมา’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑) มาติกาย อาคตํ เหตุภาวํ รูปสฺส นิยเมตฺวา ปฏิกฺขิปนฺโต ‘น เหตุเมวา’ติ อาห. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ ปฏิกฺเขปนิทฺเทโส จ อปฺปฏิกฺเขปนิทฺเทโส จ เวทิตพฺโพ. วจนตฺโถ ปน สพฺพปทานํ มาติกาวณฺณนายํ วุตฺโตเยว.

สปฺปจฺจยเมวาติ เอตฺถ ปน กมฺมสมุฏฺานํ กมฺมปจฺจยเมว โหติ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ อาหาราทิปจฺจยาเนวาติ เอวํ รูปสฺเสว วุตฺตจตุปจฺจยวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. รูปเมวาติ ‘รูปิโน ธมฺมา อรูปิโน ธมฺมา’ติ มาติกาย วุตฺตํ อรูปีภาวํ ปฏิกฺขิปติ. อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหีติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว จกฺขุวิฺาณาทีหิ ฉหิ เวทิตพฺพํ. นิยาโม ปน จกฺขุวิฺาณาทีนิ สนฺธาย คหิโต. น หิ ตานิ อตีตานาคตํ วิชานนฺติ. มโนวิฺาณํ ปน อตีตมฺปิ อนาคตมฺปิ วิชานาติ. ตํ อิมสฺมึ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตตฺตา โสตปติตเมว หุตฺวา คตํ. หุตฺวา อภาวฏฺเน ปน อนิจฺจเมว. ชราย อภิภวิตพฺพธมฺมกตฺตา ชราภิภูตเมว. ยสฺมา วา รูปกาเย ชรา ปากฏา โหติ, ตสฺมาปิ ‘ชราภิภูตเมวา’ติ วุตฺตํ.

เอวํ เอกวิเธน รูปสงฺคโหติ เอตฺถ ‘วิธา’-สทฺโท มานสณฺานโกฏฺาเสสุ ทิสฺสติ. ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๙๖๒) หิ มาโน วิธา นาม. ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) สณฺานํ. ‘กถํวิธ’นฺติ หิ ปทสฺส กถํสณฺานนฺติ อตฺโถ. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถุํ ทุวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑-๗๕๒) โกฏฺาโส วิธา นาม. อิธาปิ โกฏฺาโสว อธิปฺเปโต.

สงฺคหสทฺโทปิ สชาติสฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ พฺราหฺมณา สพฺเพ เวสฺสา สพฺเพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว – อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ‘สชาติสงฺคโห’ นาม. ‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ ชาติยา เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ มาคธกา, สพฺเพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ – อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ ‘สฺชาติสงฺคโห’ นาม. เอกฏฺาเน ชาตา สํวุทฺธา อาคจฺฉนฺตูติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ สฺชาติฏฺาเนน นิวุตฺโถกาเสน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ อสฺสาโรหา, สพฺเพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป – อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ‘กิริยาสงฺคโห’ นาม. สพฺเพว เหเต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ? จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ – จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ ‘คณนสงฺคโห’ นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. เอกโกฏฺาเสน รูปคณนาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

อุปาทาภาชนียกถา

๕๙๕. อิทานิ ทุวิธสงฺคหาทีสุ ‘อตฺถิ รูปํ อุปาทา, อตฺถิ รูปํ โนอุปาทา’ติ เอวํ เภทสพฺภาวโต ปุจฺฉาปุพฺพงฺคมํ ปทภาชนํ ทสฺเสนฺโต กตมํ ตํ รูปํ อุปาทาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปาทิยตีติ ‘อุปาทา’; มหาภูตานิ คเหตฺวา, อมุฺจิตฺวา, ตานิ นิสฺสาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ ปเภทโต ทสฺเสนฺโต จกฺขายตนนฺติอาทิมาห.

๕๙๖. เอวํ เตวีสติวิธํ อุปาทารูปํ สงฺเขปโต อุทฺทิสิตฺวา ปุน ตเทว วิตฺถารโต นิทฺทิสนฺโต กตมํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิธํ จกฺขุ – มํสจกฺขุ ปฺาจกฺขุ จ. เอเตสุ ‘พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขุ าณจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ ธมฺมจกฺขู’ติ ปฺจวิธํ ปฺาจกฺขุ. ตตฺถ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข…เป… ทุวิฺาปเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓) อิทํ พุทฺธจกฺขุ นาม. ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ อิทํ สมนฺตจกฺขุ นาม. ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ าณํ อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) อิทํ าณจกฺขุ นาม. ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) อิทํ ทิพฺพจกฺขุ นาม. ‘‘ตสฺมึ เยวาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕) อิทํ เหฏฺิมมคฺคตฺตยสงฺขาตํ าณํ ธมฺมจกฺขุ นาม.

มํสจกฺขุปิ ปสาทจกฺขุ สสมฺภารจกฺขูติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ โยยํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน, อุปริ ภมุกฏฺิเกน, อุภโต อกฺขิกูเฏหิ, อนฺโต มตฺถลุงฺเคน, พหิทฺธา อกฺขิโลเมหิ ปริจฺฉินฺโน มํสปิณฺโฑ. สงฺเขปโต ‘จตสฺโส ธาตุโย, วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา, สมฺภโว สณฺานํ, ชีวิตํ ภาโว กายปสาโท จกฺขุปสาโท’ติ จุทฺทสสมฺภาโร. วิตฺถารโต ‘จตสฺโส ธาตุโย, ตํสนฺนิสฺสิตวณฺณคนฺธรสโอชาสณฺานสมฺภวา จา’ติ อิมานิ ทส จตุสมุฏฺานิกตฺตา จตฺตาลีสํ โหนฺติ. ชีวิตํ ภาโว กายปสาโท จกฺขุปสาโทติ จตฺตาริ เอกนฺตกมฺมสมุฏฺานาเนวาติ อิเมสํ จตุจตฺตาลีสาย รูปานํ วเสน จตุจตฺตาลีสสมฺภาโร. ยํ โลโก เสตํ จกฺขุํ ปุถุลํ วิสฏํ วิตฺถิณฺณํ ‘จกฺขุ’นฺติ สฺชานนฺโต น จกฺขุํ สฺชานาติ, วตฺถุํ จกฺขุโต สฺชานาติ, โส มํสปิณฺโฑ อกฺขิกูเป ปติฏฺิโต, นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ, ยตฺถ เสตมฺปิ อตฺถิ, กณฺหมฺปิ โลหิตกมฺปิ, ปถวีปิ อาโปปิ เตโชปิ วาโยปิ, ยํ เสมฺหูสฺสทตฺตา เสตํ, ปิตฺตุสฺสทตฺตา กณฺหํ, รุหิรุสฺสทตฺตา โลหิตกํ, ปถวุสฺสทตฺตา ปตฺถิณฺณํ โหติ, อาปุสฺสทตฺตา ปคฺฆรติ, เตชุสฺสทตฺตา ปริทยฺหติ, วายุสฺสทตฺตา สมฺภมติ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม.

โย ปเนตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ, อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทสภูเต ทิฏฺิมณฺฑเล, สตฺตสุ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย, สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา, ธารณนฺหาปนมณฺฑนพีชนกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตีหิ ขตฺติยกุมาโร วิย, สนฺธารณอาพนฺธนปริปาจนสมุทีรณกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตูหิ กตูปการํ, อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ, อายุนา อนุปาลิยมานํ, วณฺณคนฺธรสาทีหิ ปริวุตํ, ปมาณโต อูกาสิรมตฺตํ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา –

‘‘เยน จกฺขุปฺปสาเทน, รูปานิ มนุปสฺสติ;

ปริตฺตํ สุขุมํ เอตํ, อูกาสิรสมูปม’’นฺติ.

จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโทติ อิธาปิ อุปโยคตฺเถเยว สามิวจนํ; จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทิยิตฺวา ปวตฺตปฺปสาโทติ อตฺโถ. อิมินา ปสาทจกฺขุเมว คณฺหาติ, เสสจกฺขุํ ปฏิกฺขิปติ. ยํ ปน อินฺทฺริยโคจรสุตฺเต ‘‘เอกํ มหาภูตํ อุปาทาย ปสาโท ปถวีธาตุยา ตีหิ มหาภูเตหิ สงฺคหิโต อาโปธาตุยา จ เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จ,’’ จตุปริวตฺตสุตฺเต ‘‘ทฺวินฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท ปถวีธาตุยา จ อาโปธาตุยา จ ทฺวีหิ มหาภูเตหิ สงฺคหิโต เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ. อยฺหิ สุตฺตนฺติกกถา นาม ปริยายเทสนา. โย จ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท โส เตสุ เอเกกสฺสาปิ ทินฺนํ ทฺวินฺนมฺปิ ปสาโทเยวาติ อิมินา ปริยาเยน ตตฺถ เทสนา อาคตา. อภิธมฺโม ปน นิปฺปริยายเทสนา นาม. ตสฺมา อิธ ‘จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’ติ วุตฺตํ.

‘อยํ เม อตฺตา’ติ พาลชเนน ปริคฺคหิตตฺตา อตฺตภาโว วุจฺจติ สรีรมฺปิ ขนฺธปฺจกมฺปิ. ตสฺมึ ปริยาปนฺโน ตนฺนิสฺสิโตติ อตฺตภาวปริยาปนฺโน จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตุํ น สกฺกาติ อนิทสฺสโน. ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส เอตฺถ ชายตีติ สปฺปฏิโฆ.

เยนาติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – เยน กรณภูเตน จกฺขุนา อยํ สตฺโต อิทํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ อตีเต ปสฺสิ วา, วตฺตมาเน ปสฺสติ วา, อนาคเต ปสฺสิสฺสติ วา, สจสฺส อปริภินฺนํ จกฺขุ ภเวยฺย, อถาเนน อาปาถคตํ รูปํ ปสฺเส วา, อตีตํ วา รูปํ อตีเตน จกฺขุนา ปสฺสิ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺเนน ปสฺสติ, อนาคตํ อนาคเตน ปสฺสิสฺสติ, สเจ ตํ รูปํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺเฉยฺย จกฺขุนา ตํ รูปํ ปสฺเสยฺยาติ อิทเมตฺถ ปริกปฺปวจนํ. ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุํเปตํ, สฺชาติสโมสรณฏฺเน จกฺขายตนํเปตํ, สุฺตภาวนิสฺสตฺตฏฺเน จกฺขุธาตุเปสา. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํเปตํ. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกเปโส. วฬฺชนฏฺเน ทฺวาราเปสา. อปูรณียฏฺเน สมุทฺโทเปโส. ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํเปตํ. ผสฺสาทีนํ อภิชายนฏฺเน เขตฺตํเปตํ. เตสํเยว ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุํเปตํ. สมวิสมํ ทสฺเสนฺตํ อตฺตภาวํ เนตีติ เนตฺตํเปตํ. เตเนวฏฺเน นยนํเปตํ. สกฺกายปริยาปนฺนฏฺเน โอริมํ ตีรํเปตํ. พหุสาธารณฏฺเน อสฺสามิกฏฺเน จ สุฺโ คาโมเปโสติ.

เอตฺตาวตา ‘ปสฺสิ วา’ติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ จกฺขุํเปตนฺติอาทีนิ จุทฺทส นามานิ โยเชตฺวา จกฺขายตนสฺส จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กถํ? เอตฺถ หิ เยน จกฺขุนา อนิทสฺสเนน สปฺปฏิเฆน รูปํ สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ ปสฺสิ วา จกฺขุํเปตํ…เป… สุฺโ คาโมเปโส, อิทํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติ อยเมโก นโย. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา.

๕๙๗. อิทานิ ยสฺมา วิชฺชุนิจฺฉรณาทิกาเลสุ อโนโลเกตุกามสฺสาปิ รูปํ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏติ, ตสฺมา ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ทุติโย นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยมฺหิ จกฺขุมฺหีติ ยมฺหิ อธิกรณภูเต จกฺขุมฺหิ. รูปนฺติ ปจฺจตฺตวจนเมตํ. ตตฺถ ปฏิหฺิ วาติ อตีตตฺโถ. ปฏิหฺติ วาติ ปจฺจุปฺปนฺนตฺโถ. ปฏิหฺิสฺสติ วาติ อนาคตตฺโถ. ปฏิหฺเ วาติ วิกปฺปนตฺโถ. อตีตฺหิ รูปํ อตีเต จกฺขุสฺมึ ปฏิหฺิ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺเน ปฏิหฺติ นาม. อนาคตํ อนาคเต ปฏิหฺิสฺสติ นาม. สเจ ตํ รูปํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺเฉยฺย, จกฺขุมฺหิ ปฏิหฺเยฺย ตํ รูปนฺติ อยเมตฺถ ปริกปฺโป. อตฺถโต ปน ปสาทํ ฆฏฺฏยมานเมว รูปํ ปฏิหฺติ นาม. อิธาปิ ปุริมนเยเนว จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา.

๕๙๘. อิทานิ ยสฺมา อตฺตโน อิจฺฉาย โอโลเกตุกามสฺส รูเป จกฺขุํ อุปสํหรโต จกฺขุ รูปสฺมึ ปฏิหฺติ, ตสฺมา ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ตติโย นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. โส อตฺถโต ปากโฏเยว. เอตฺถ ปน จกฺขุ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉมานเมว รูปมฺหิ ปฏิหฺติ นาม. อิธาปิ ปุริมนเยเนว จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา.

๕๙๙. อิโต ปรํ ผสฺสปฺจมกานํ อุปฺปตฺติทสฺสนวเสน ปฺจ, เตสํเยว อารมฺมณปฏิพทฺธอุปฺปตฺติทสฺสนวเสน ปฺจาติ, ทส วารา ทสฺสิตา. ตตฺถ จกฺขุํ นิสฺสายาติ จกฺขุํ นิสฺสาย, ปจฺจยํ กตฺวา. รูปํ อารพฺภาติ รูปารมฺมณํ อาคมฺม, สนฺธาย, ปฏิจฺจ. อิมินา จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ ผสฺสาทีนํ ปุเรชาตปจฺจเยน จกฺขุทฺวารชวนวีถิปริยาปนฺนานํ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจเยหิ รูปสฺส ปจฺจยภาโว ทสฺสิโต. อิตเรสุ ปฺจสุ วาเรสุ รูปํ อารมฺมณมสฺสาติ รูปารมฺมโณติ เอวํ อารมฺมณปจฺจยมตฺเตเนว ปจฺจยภาโว ทสฺสิโต. ยถา ปน ปุริเมสุ ตีสุ, เอวํ อิเมสุปิ ทสสุ วาเรสุ จตฺตาโร จตฺตาโร ววตฺถาปนนยา เวทิตพฺพา. เอวํ กตมํ ตํ รูปํ จกฺขายตนนฺติ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ จกฺขุํ ‘อิทํ ต’นฺติ นานปฺปการโต ทสฺเสตุํ, ปุริมา ตโย, อิเม ทสาติ, เตรส นิทฺเทสวารา ทสฺสิตา. เอเกกสฺมิฺเจตฺถ จตุนฺนํ จตุนฺนํ ววตฺถาปนนยานํ อาคตตฺตา ทฺวิปฺาสาย นเยหิ ปฏิมณฺเฑตฺวาว ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๖๐๐. อิโต ปเรสุ โสตายตนาทินิทฺเทเสสุปิ เอเสว นโย. วิเสสมตฺตํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – สุณาตีติ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวธกสณฺาเน ปเทเส วุตฺตปฺปการาหิ ธาตูหิ กตูปการํ, อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ, อายุนา อนุปาลิยมานํ, วณฺณาทีหิ ปริวุตํ โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.

ฆายตีติ ฆานํ. ตํ สสมฺภารฆานพิลสฺส อนฺโต อชปฺปทสณฺาเน ปเทเส ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารํ หุตฺวา ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.

สายนฏฺเน ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหามชฺฌสฺส อุปริ อุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารา หุตฺวา ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ.

ยาวตา ปน อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณกรูปํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ, กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิย, ยถาวุตฺตปฺปการอุปการุปตฺถมฺภนานุปาลนปริวารเมว หุตฺวา กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสโส ปาฬิปฺปเภโท จ อตฺโถ จ จกฺขุนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ อิธ จกฺขุปทสฺส าเน โสตปทาทีนิ, รูปปทสฺส าเน สทฺทปทาทีนิ, ปสฺสีติ อาทีนํ าเน สุณีติอาทิปทานิ จ อาคตานิ. ‘เนตฺตํเปตํ, นยนํเปต’นฺติ อิมสฺส จ ปททฺวยสฺส อภาวา ทฺวาทส ทฺวาทส นามานิ โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ สิยา – ยทิ ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณกรูปํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ, กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิย. ‘เอวํ สนฺเต ลกฺขณสมฺมิสฺสตา อาปชฺชตี’ติ. ‘นาปชฺชตี’ติ. ‘กสฺมา’? ‘อฺสฺส อฺตฺถ อภาวโต’. ‘ยทิ เอวํ, น สพฺพตฺถ กายายตน’นฺติ? ‘เนว ปรมตฺถโต สพฺพตฺถ. วินิพฺภุชิตฺวา ปนสฺส นานากรณํ ปฺาเปตุํ น สกฺกา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ยถา หิ รูปรสาทโย, วาลิกาจุณฺณานิ วิย, วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อฺมฺพฺยาปิโนติ วุจฺจนฺติ, น จ ปรมตฺถโต รูเป รโส อตฺถิ. ยทิ สิยา รูปคฺคหเณเนว รสคฺคหณํ คจฺเฉยฺย. เอวํ กายายตนมฺปิ ปรมตฺถโต เนว สพฺพตฺถ อตฺถิ, น จ สพฺพตฺถ นตฺถิ, วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตายาติ. เอวเมตฺถ น ลกฺขณสมฺมิสฺสตา อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพา’.

อปิจ ลกฺขณาทิววตฺถาปนโตเปเตสํ อสมฺมิสฺสตา เวทิตพฺพา – เอเตสุ หิ รูปาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ ทฏฺุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา จกฺขุ, รูเปสุ อาวิฺฉนรสํ, จกฺขุวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ, ทฏฺุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

สทฺทาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ โสตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา โสตํ, สทฺเทสุ อาวิฺฉนรสํ, โสตวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ, โสตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

คนฺธาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ ฆายิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ วา ฆานํ, คนฺเธสุ อาวิฺฉนรสํ, ฆานวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานํ ฆายิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานํ.

รสาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณา สายิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณา วา ชิวฺหา, รเสสุ อาวิฺฉนรสา, ชิวฺหาวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺานา, สายิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺานา.

โผฏฺพฺพาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขโณ ผุสิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขโณ วา กาโย, โผฏฺพฺเพสุ อาวิฺฉนรโส, กายวิฺาณสฺส อาธารภาวปจฺจุปฏฺาโน, ผุสิตุกามตานิทานกมฺมชภูตปทฏฺาโน.

เกจิ ปน ‘เตชาธิกานํ ภูตานํ ปสาโท จกฺขุ, วายุปถวีอาปาธิกานํ ภูตานํ ปสาทา โสตฆานชิวฺหา, กาโย สพฺเพส’นฺติ วทนฺติ. อปเร ‘เตชาธิกานํ ปสาโท จกฺขุ, วิวรวายุอาปปถวาธิกานํ ปสาทา โสตฆานชิวฺหากายา’ติ วทนฺติ. เต วตฺตพฺพา – ‘สุตฺตํ อาหรถา’ติ. อทฺธา สุตฺตเมว น ทกฺขิสฺสนฺติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘เตชาทีนํ คุเณหิ รูปาทีหิ อนุคฺคยฺหภาวโต’ติ การณํ วทนฺติ. เต จ วตฺตพฺพา – ‘โก ปเนวมาห – รูปาทโย เตชาทีนํ คุณา’ติ? อวินิพฺโภเคสุ หิ รูเปสุ ‘อยํ อิมสฺส คุโณ, อยํ อิมสฺส คุโณ’ติ น ลพฺภา วตฺตุํ. อถาปิ วเทยฺยุํ – ‘ยถา เตสุ เตสุ สมฺภาเรสุ ตสฺส ตสฺส ภูตสฺส อธิกตาย ปถวีอาทีนํ สนฺธารณาทีนิ กิจฺจานิ อิจฺฉถ, เอวํ เตชาทิอธิเกสุ สมฺภาเรสุ รูปาทีนํ อธิกภาวทสฺสนโต อิจฺฉิตพฺพเมตํ รูปาทโย เตสํ คุณา’ติ. เต วตฺตพฺพา – อิจฺเฉยฺยาม, ยทิ อาปาธิกสฺส อาสวสฺส คนฺธโต ปถวีอธิเก กปฺปาเส คนฺโธ อธิกตโร สิยา, เตชาธิกสฺส จ อุณฺโหทกสฺส วณฺณโตปิ สีตูทกสฺส วณฺโณ ปริหาเยถ. ยสฺมา ปเนตํ อุภยมฺปิ นตฺถิ, ตสฺมา ปหาเยเถตํ เอเตสํ นิสฺสยภูตานํ วิเสสกปฺปนํ, ยถา อวิเสเสปิ เอกกลาเป ภูตานํ รูปรสาทโย อฺมฺํ วิสทิสา โหนฺติ, เอวํ จกฺขุปสาทาทโย, อวิชฺชมาเนปิ อฺสฺมึ วิเสสการเณติ คเหตพฺพเมตํ.

กึ ปน ตํ ยํ อฺมฺสฺส อสาธารณํ? กมฺมเมว เนสํ วิเสสการณํ. ตสฺมา กมฺมวิเสสโต เอเตสํ วิเสโส, น ภูตวิเสสโต. ภูตวิเสเส หิ สติ ปสาโทว นุปฺปชฺชติ. สมานานฺหิ ปสาโท, น วิสมานานนฺติ โปราณา. เอวํ กมฺเมวิสสโต วิเสสวนฺเตสุ จ เอเตสุ จกฺขุโสตานิ อสมฺปตฺตวิสยคฺคาหกานิ อตฺตโน นิสฺสยํ อนลฺลีนนิสฺสเย เอว วิสเย วิฺาณเหตุตฺตา. ฆานชิวฺหากายา สมฺปตฺตวิสยคฺคาหกา, นิสฺสยวเสน เจว สยฺจ อตฺตโน นิสฺสยํ อลฺลีเนเยว วิสเย วิฺาณเหตุตฺตา.

อฏฺกถายํ ปน ‘‘อาปาถคตตฺตาว อารมฺมณํ สมฺปตฺตํ นาม. จนฺทมณฺฑลสูริยมณฺฑลานฺหิ ทฺวาจตฺตาลีสโยชนสหสฺสมตฺถเก ิตานํ วณฺโณ จกฺขุปสาทํ ฆฏฺเฏติ. โส ทูเร ตฺวา ปฺายมาโนปิ สมฺปตฺโตเยว นาม. ตํโคจรตฺตา จกฺขุ สมฺปตฺตโคจรเมว นาม. ทูเร รุกฺขํ ฉินฺทนฺตานมฺปิ, รชกานฺจ วตฺถํ โธวนฺตานํ ทูรโตว กายวิกาโร ปฺายติ. สทฺโท ปน ธาตุปรมฺปราย อาคนฺตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏตฺวา สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ อาปาถคตตฺตา อารมฺมณํ สมฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ, จนฺทมณฺฑลาทิวณฺโณ ปน จกฺขุํ อสมฺปตฺโต ทูเร ิโตว ปฺายติ. สทฺโทปิ สเจ สณิกํ อาคจฺเฉยฺย, ทูเร อุปฺปนฺโน จิเรน สุยฺเยยฺย, ปรมฺปรฆฏฺฏนาย จ อาคนฺตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏนฺโต อสุกทิสาย นามาติ น ปฺาเยยฺย. ตสฺมา อสมฺปตฺตโคจราเนว ตานิ.

อหิอาทิสมานานิ เจตานิ. ยถา หิ อหิ นาม พหิ สิตฺตสมฺมฏฺฏฺาเน นาภิรมติ, สงฺการฏฺานติณปณฺณคหนวมฺมิกานิเยว ปน ปวิสิตฺวา นิปนฺนกาเล อภิรมติ, เอกคฺคตํ อาปชฺชติ, เอวเมว จกฺขุเปตํ วิสมชฺฌาสยํ มฏฺเสุ สุวณฺณภิตฺติอาทีสุ นาภิรมติ, โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉติ, รูปจิตฺตปุปฺผลตาทิจิตฺเตสุเยว ปน อภิรมติ. ตาทิเสสุ หิ าเนสุ จกฺขุมฺหิ อปฺปโหนฺเต มุขมฺปิ วิวริตฺวา โอโลเกตุกามา โหนฺติ.

สุสุมาโรปิ พหิ นิกฺขนฺโต คเหตพฺพํ น ปสฺสติ, อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวาว จรติ. ยทา ปน พฺยามสตมตฺตํ อุทกํ โอคาหิตฺวา พิลํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน โหติ, ตทา ตสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ สุขํ สุปติ, เอวเมว โสตํ ตมฺเป พิลชฺฌาสยํ อากาสสนฺนิสฺสิตํ กณฺณจฺฉิทฺทกูปเกเยว อชฺฌาสยํ กโรติ. กณฺณจฺฉิทฺทากาโสเยว ตสฺส สทฺทสวเน ปจฺจโย โหติ. อชฏากาโสปิ วฏฺฏติเยว. อนฺโตเลณสฺมิฺหิ สชฺฌาเย กริยมาเน น เลณจฺฉทนํ ภินฺทิตฺวา สทฺโท พหิ นิกฺขมติ, ทฺวารวาตปานจฺฉิทฺเทหิ ปน นิกฺขมิตฺวา ธาตุปรมฺปราเยว ฆฏฺเฏนฺโต คนฺตฺวา โสตปสาทํ ฆฏฺเฏติ. อถ ตสฺมึ กาเล ‘อสุโก นาม สชฺฌายตี’ติ เลณปิฏฺเ นิสินฺนา ชานนฺติ.

เอวํ สนฺเต สมฺปตฺตโคจรตา โหติ. ‘กึ ปเนตํ สมฺปตฺตโคจร’นฺติ? ‘อาม, สมฺปตฺตโคจรํ’. ‘ยทิ เอวํ, ทูเร เภรีอาทีสุ วชฺชมาเนสุ ทูเร สทฺโทติ ชานนํ น ภเวยฺยา’ติ? ‘โน น ภวติ. โสตปสาทสฺมิฺหิ ฆฏฺฏิเต ทูเร สทฺโท อาสนฺเน สทฺโท, ปรตีเร โอริมตีเรติ ตถา ตถา ชานนากาโร โหติ. ธมฺมตา เอสา’ติ. ‘กึ เอตาย ธมฺมตาย? ยโต ยโต ฉิทฺทํ ตโต ตโต สวนํ โหติ, จนฺทิมสูริยาทีนํ ทสฺสนํ วิยาติ อสมฺปตฺตโคจรเมเวตํ’.

ปกฺขีปิ รุกฺเข วา ภูมิยํ วา น รมติ. ยทา ปน เอกํ วา ทฺเว วา เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อชฏากาสํ ปกฺขนฺโท โหติ, ตทา เอกคฺคจิตฺตตํ อาปชฺชติ, เอวเมว ฆานมฺปิ อากาสชฺฌาสยํ วาตูปนิสฺสยคนฺธโคจรํ. ตถา หิ คาโว นววุฏฺเ เทเว ภูมิยํ ฆายิตฺวา ฆายิตฺวา อากาสาภิมุขา หุตฺวา วาตํ อากฑฺฒนฺติ. องฺคุลีหิ คนฺธปิณฺฑํ คเหตฺวาปิ จ อุปสิงฺฆนกาเล วาตํ อนากฑฺฒนฺโต เนว ตสฺส คนฺธํ ชานาติ.

กุกฺกุโรปิ พหิ วิจรนฺโต เขมฏฺานํ น ปสฺสติ เลฑฺฑุปหาราทีหิ อุปทฺทุโต โหติ. อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา อุทฺธนฏฺาเน ฉาริกํ พฺยูหิตฺวา นิปนฺนสฺส ปน ผาสุกํ โหติ, เอวเมว ชิวฺหาปิ คามชฺฌาสยา อาโปสนฺนิสฺสิตรสารมฺมณา. ตถา หิ ติยามรตฺตึ สมณธมฺมํ กตฺวาปิ ปาโตว ปตฺตจีวรมาทาย คาโม ปวิสิตพฺโพ โหติ. สุกฺขขาทนียสฺส จ น สกฺกา เขเฬน อเตมิตสฺส รสํ ชานิตุํ.

สิงฺคาโลปิ พหิ จรนฺโต รตึ น วินฺทติ, อามกสุสาเน มนุสฺสมํสํ ขาทิตฺวา นิปนฺนสฺเสว ปนสฺส ผาสุกํ โหติ, เอวเมว กาโยปิ อุปาทิณฺณกชฺฌาสโย ปถวีนิสฺสิตโผฏฺพฺพารมฺมโณ. ตถา หิ อฺํ อุปาทิณฺณกํ อลภมานา สตฺตา อตฺตโนว หตฺถตเล สีสํ กตฺวา นิปชฺชนฺติ. อชฺฌตฺติกพาหิรา จสฺส ปถวี อารมฺมณคฺคหเณ ปจฺจโย โหติ. สุสนฺถตสฺสปิ หิ สยนสฺส, หตฺเถ ปิตานมฺปิ วา ผลานํ, น สกฺกา อนิสีทนฺเตน วา อนิปฺปีเฬนฺเตน วา ถทฺธมุทุภาโว ชานิตุนฺติ. อชฺฌตฺติกพาหิราปถวี เอตสฺส กายปสาทสฺส โผฏฺพฺพชานเน ปจฺจโย โหติ. เอวํ ลกฺขณาทิววตฺถานโตเปเตสํ อสมฺมิสฺสตา เวทิตพฺพา. อฺเเยว หิ จกฺขุปสาทสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานโคจรชฺฌาสยนิสฺสยา อฺเ โสตปสาทาทีนนฺติ อสมฺมิสฺสาเนว จกฺขายตนาทีนิ.

อปิจ เนสํ อสมฺมิสฺสตาย อยํ อุปมาปิ เวทิตพฺพา – ยถา หิ ปฺจวณฺณานํ ธชานํ อุสฺสาปิตานํ กิฺจาปิ ฉายา เอกาพทฺธา วิย โหติ, ตสฺส ตสฺส ปน อฺมฺํ อสมฺมิสฺสาว ยถา จ ปฺจวณฺเณน กปฺปาเสน วฏฺฏึ กตฺวา ทีเป ชาลิเต กิฺจาปิ ชาลา เอกาพทฺธา วิย โหติ, ตสฺส ตสฺส ปน อํสุโน ปาฏิเยกฺกา ปาฏิเยกฺกา ชาลา อสมฺมิสฺสา เอว, เอวเมว กิฺจาปิ อิมานิ ปฺจายตนานิ เอกสฺมึ อตฺตภาเว สโมสฏานิ อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาเนว. น เกวลฺจ อิมาเนว ปฺจ, เสสรูปานิปิ อสมฺมิสฺสาเนว. อิมสฺมิฺหิ สรีเร เหฏฺิมกาโย มชฺฌิมกาโย อุปริมกาโยติ ตโย โกฏฺาสา. ตตฺถ นาภิโต ปฏฺาย เหฏฺา เหฏฺิมกาโย นาม. ตสฺมึ กายทสกํ, ภาวทสกํ, อาหารสมุฏฺานานิ อฏฺ, อุตุสมุฏฺานานิ อฏฺ, จิตฺตสมุฏฺานานิ อฏฺาติ จตุจตฺตาลีส รูปานิ. นาภิโต อุทฺธํ ยาว คลวาฏกา มชฺฌิมกาโย นาม. ตตฺถ จ กายทสกํ, ภาวทสกํ, วตฺถุทสกํ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ ตีณิ อฏฺกานีติ จตุปฺาส รูปานิ. คลวาฏกโต อุทฺธํ อุปริมกาโย นาม. ตตฺถ จกฺขุทสกํ, โสตทสกํ, ฆานทสกํ, ชิวฺหาทสกํ, กายทสกํ, ภาวทสกํ, อาหารสมุฏฺานาทีนิ ตีณิ อฏฺกานีติ จตุราสีติ รูปานิ.

ตตฺถ จกฺขุปสาทสฺส ปจฺจยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา, ชีวิตินฺทฺริยํ จกฺขุปสาโทติ อิทํ เอกนฺตโต อวินิภุตฺตานํ ทสนฺนํ นิปฺผนฺนรูปานํ วเสน จกฺขุทสกํ นาม. อิมินา นเยน เสสานิปิ เวทิตพฺพานิ. เตสุ เหฏฺิมกาเย รูปํ มชฺฌิมกายอุปริมกายรูเปหิ สทฺธึ อสมฺมิสฺสํ. เสสกายทฺวเยปิ รูปํ อิตเรหิ สทฺธึ อสมฺมิสฺสเมว. ยถา หิ สายนฺหสมเย ปพฺพตจฺฉายา จ รุกฺขจฺฉายา จ กิฺจาปิ เอกาพทฺธา วิย โหนฺติ อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาว เอวํ อิเมสุปิ กาเยสุ จตุจตฺตาลีส จตุปฺาส จตุราสีติ รูปานิ จ กิฺจาปิ เอกาพทฺธานิ วิย โหนฺติ, อฺมฺํ ปน อสมฺมิสฺสาเนวาติ.

๖๑๖. รูปายตนนิทฺเทเส วณฺโณว วณฺณนิภา; นิภาตีติ วา นิภา. จกฺขุวิฺาณสฺส ปากฏา โหตีติ อตฺโถ. วณฺโณว นิภา วณฺณนิภา. สทฺธึ นิทสฺสเนน สนิทสฺสนํ, จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สทฺธึ ปฏิเฆน สปฺปฏิฆํ, ปฏิฆฏฺฏนนิฆํสชนกนฺติ อตฺโถ. นีลาทีสุ อุมาปุปฺผสมานํ นีลํ, กณิการปุปฺผสมานํ ปีตกํ, พนฺธุชีวกปุปฺผสมานํ โลหิตกํ, โอสธิตารกสมานํ โอทาตํ. ฌามงฺคารสมานํ กาฬกํ, มนฺทรตฺตํ สินฺทุวารกรวีรมกุฬสมานํ มฺชิฏฺกํ. ‘‘หริตฺตจเหมวณฺณกามํสุมุขปกฺกมา’’ติ (ชา. ๑.๑๕.๑๓๓) เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ‘หรี’ติ สุวณฺณํ วุตฺตํ, ปรโต ปนสฺส ชาตรูปคฺคหเณน คหิตตฺตา อิธ สามํ หริ นาม. อิมานิ สตฺต วตฺถุํ อนามสิตฺวา สภาเวเนว ทสฺสิตานิ.

หริวณฺณนฺติ หริตสทฺทลวณฺณํ. อมฺพงฺกุรวณฺณนฺติ อมฺพงฺกุเรน สมานวณฺณํ. อิมานิ ทฺเว วตฺถุํ อามสิตฺวา ทสฺสิตานิ. ทีฆาทีนิ ทฺวาทส โวหารโต ทสฺสิตานิ. โส จ เนสํ โวหาโร อุปนิธายสิทฺโธ เจว สนฺนิเวสสิทฺโธ จ. ทีฆาทีนิ หิ อฺมฺํ อุปนิธายสิทฺธานิ, วฏฺฏาทีนิ สนฺนิเวสวิเสเสน. ตตฺถ รสฺสํ อุปนิธาย ตโต อุจฺจตรํ ทีฆํ, ตํ อุปนิธาย ตโต นีจตรํ รสฺสํ. ถูลํ อุปนิธาย ตโต ขุทฺทกตรํ อณุํ, ตํ อุปนิธาย ตโต มหนฺตตรํ ถูลํ. จกฺกสณฺานํ วฏฺฏํ, กุกฺกุฏณฺฑสณฺานํ ปริมณฺฑลํ. จตูหิ อํเสหิ ยุตฺตํ จตุรํสํ. ฉฬํสาทีสุปิ เอเสว นโย. นินฺนนฺติ โอนตํ, ถลนฺติ อุนฺนตํ.

ตตฺถ ยสฺมา ทีฆาทีนิ ผุสิตฺวา สกฺกา ชานิตุํ, นีลาทีนิ ปเนวํ น สกฺกา, ตสฺมา น นิปฺปริยาเยน ทีฆํ รูปายตนํ; ตถา รสฺสาทีนิ. ตํ ตํ นิสฺสาย ปน ตถา ตถา ิตํ ทีฆํ รสฺสนฺติ เตน เตน โวหาเรน รูปายตนเมเวตฺถ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ฉายา อาตโปติ อิทํ อฺมฺปริจฺฉินฺนํ; ตถา อาโลโก อนฺธกาโร จ. อพฺภา มหิกาติอาทีนิ จตฺตาริ วตฺถุนาว ทสฺสิตานิ. ตตฺถ ‘อพฺภา’ติ วลาหโก. ‘มหิกา’ติ หิมํ. อิเมหิ จตูหิ อพฺภาทีนํ วณฺณา ทสฺสิตา. จนฺทมณฺฑลสฺส วณฺณนิภาติอาทีหิ เตสํ เตสํ ปภาวณฺณา ทสฺสิตา.

ตตฺถ จนฺทมณฺฑลาทีนํ วตฺถูนํ เอวํ วิเสโส เวทิตพฺโพ – มณิมยํ รชตปฏิจฺฉนฺนํ เอกูนปฺาสโยชนายามวิตฺถารํ จนฺทสฺส เทวปุตฺตสฺส วิมานํ จนฺทมณฺฑลํ นาม. โสวณฺณมยํ ผลิกปฏิจฺฉนฺนํ สมปณฺณาสโยชนายามวิตฺถารํ สูริยสฺส เทวปุตฺตสฺส วิมานํ สูริยมณฺฑลํ นาม. สตฺตรตนมยานิ สตฺตฏฺทสทฺวาทสโยชนายามวิตฺถารานิ เตสํ เตสํ เทวปุตฺตานํ วิมานานิ ตารกรูปานิ นาม.

ตตฺถ เหฏฺา จนฺโท, สูริโย อุปริ, อุภินฺนมนฺตรํ โยชนํ โหติ. จนฺทสฺส เหฏฺิมนฺตโต สูริยสฺส อุปริมนฺโต โยชนสตํ โหติ. ทฺวีสุ ปสฺเสสุ นกฺขตฺตตารกา คจฺฉนฺติ. เอเตสุ ปน ตีสุ จนฺโท ทนฺธคมโน, สูริโย สีฆคมโน, นกฺขตฺตตารกา สพฺพสีฆคมนา. กาเลน จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต โหนฺติ กาเลน ปจฺฉา.

อาทาสมณฺฑลนฺติ กํสมยํ. มณีติ เปตฺวา เวฬุริยํ เสโส โชติรสาทิอเนกปฺปเภโท. สงฺโขติ สามุทฺทิโก; มุตฺตา สามุทฺทิกาปิ, เสสาปิ. เวฬุริโยติ เวฬุวณฺณมณิ. ชาตรูปํ วุจฺจติ สตฺถุวณฺโณ. สตฺถา หิ สุวณฺณวณฺโณ, สุวณฺณมฺปิ สตฺถุวณฺณํ. รชตํ วุจฺจติ กหาปโณ – โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย ‘โวหารํ คจฺฉนฺตี’ติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตํ ตํ สพฺพมฺปิ อิธ คหิตํ.

ยํ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา ปาฬิอาคตํ เปตฺวา เสสํ ตฏฺฏิกปิโลติกกณฺณิกวณฺณาทิเภทํ รูปํ คหิตํ. ตฺหิ สพฺพํ เยวาปนเกสุ ปวิฏฺํ.

เอวเมตํ นีลาทินา เภเทน ภินฺนมฺปิ รูปํ สพฺพํ ลกฺขณาทีหิ อภินฺนเมว. สพฺพฺเหตํ จกฺขุปฏิหนนลกฺขณํ รูปํ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิสยภาวรสํ, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺานํ, จตุมหาภูตปทฏฺานํ. ยถา เจตํ ตถา สพฺพานิปิ อุปาทารูปานิ. ยตฺถ ปน วิเสโส อตฺถิ ตตฺถ วกฺขาม. เสสเมตฺถ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ จกฺขุปุพฺพงฺคโม นิทฺเทโส อิธ รูปปุพฺพงฺคโม. ตตฺถ ‘จกฺขุํ เปต’นฺติอาทีนิ จุทฺทส นามานิ, อิธ ‘รูปํเปต’นฺติอาทีนิ ตีณิ. เสสํ ตาทิสเมว. ยถา หิ จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺเฑตฺวา จกฺขุํ ววตฺถาเปตุํ เตรส วารา วุตฺตา, อิธาปิ เต ตเถว วุตฺตาติ.

๖๒๐. สทฺทายตนนิทฺเทเส เภริสทฺโทติ มหาเภรีปหฏเภรีนํ สทฺโท. มุทิงฺคสงฺขปณวสทฺทาปิ มุทิงฺคาทิปจฺจยา สทฺทา. คีตสงฺขาโต สทฺโท คีตสทฺโท. วุตฺตาวเสสานํ วีณาทีนํ ตนฺติพทฺธานํ สทฺโท วาทิตสทฺโท. สมฺมสทฺโทติ กํสตาลกฏฺตาลสทฺโท. ปาณิสทฺโทติ ปาณิปฺปหารสทฺโท. สตฺตานํ นิคฺโฆสสทฺโทติ พหูนํ สนฺนิปติตานํ อปฺายมานปทพฺยฺชนนิคฺโฆสสทฺโท. ธาตูนํ สนฺนิฆาตสทฺโทติ รุกฺขานํ อฺมฺนิฆํสนฆณฺฏิกาโกฏนาทิสทฺโท. วาตสฺส วายโต สทฺโท วาตสทฺโท. อุทกสฺส สนฺทมานสฺส วา ปฏิหตสฺส วา สทฺโท อุทกสทฺโท. มนุสฺสานํ สลฺลาปาทิสทฺโท มนุสฺสสทฺโท. ตํ เปตฺวา เสโส สพฺโพปิ อมนุสฺสสทฺโท. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ สทฺโท ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ วํสผาลนปิโลติกผาลนาทีสุ ปวตฺโต ปาฬิยํ อนาคตสทฺโท เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺโติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ เภรีสทฺทาทินา เภเทน ภินฺโนปิ สทฺโท ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส โสตปฏิหนนลกฺขโณ สทฺโท โสตวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา. เตสํ อตฺโถ สกฺกา วุตฺตนเยเนว ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริโต.

๖๒๔. คนฺธายตนนิทฺเทเส มูลคนฺโธติ ยํ กิฺจิ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺโต คนฺโธ. สารคนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. อสิทฺธทุสิทฺธานํ ฑากาทีนํ คนฺโธ อามกคนฺโธ. มจฺฉสกลิกาปูติมํสสํกิลิฏฺสปฺปิอาทีนํ คนฺโธ วิสฺสคนฺโธ. สุคนฺโธติ อิฏฺคนฺโธ. ทุคฺคนฺโธติ อนิฏฺคนฺโธ. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ คนฺโธ ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ กณฺณกคนฺธปิโลติกคนฺธาทโย ปาฬิยํ อนาคตา สพฺเพปิ คนฺธา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺาติ เวทิตพฺพา.

เอวมยํ มูลคนฺธาทินา เภเทน ภินฺโนปิ คนฺโธ ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส ฆานปฏิหนนลกฺขโณ คนฺโธ, ฆานวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ ตเถว ทฺวิปฺาสนยปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา. เต อตฺถโต ปากฏาเยว.

๖๒๘. รสายตนนิทฺเทเส มูลรโสติ ยํกิฺจิ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺตรโส. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. อมฺพิลนฺติ ตกฺกมฺพิลาทิ. มธุรนฺติ เอกนฺตโต โคสปฺปิอาทิ. มธุ ปน กสาวยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ กสาวํ โหติ. ผาณิตํ ขาริยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ ขาริยํ โหติ. สปฺปิ ปน จิรนิกฺขิตฺตํ วณฺณคนฺเธ ชหนฺตมฺปิ รสํ น ชหตีติ ตเทว เอกนฺตมธุรํ. ติตฺตกนฺติ นิมฺพปณฺณาทิ. กฏุกนฺติ สิงฺคิเวรมริจาทิ. โลณิกนฺติ สามุทฺทิกโลณาทิ. ขาริกนฺติ วาติงฺคณกฬีราทิ. ลมฺพิลนฺติ พทรามลกกปิฏฺสาลวาทิ. กสาวนฺติ หริตกาทิ. อิเม สพฺเพปิ รสา วตฺถุวเสน วุตฺตา. ตํตํวตฺถุโต ปเนตฺถ รโสว อมฺพิลาทีหิ นาเมหิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. สาทูติ อิฏฺรโส, อสาทูติ อนิฏฺรโส. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ รโส ปริยาทินฺโน. เอวํ สนฺเตปิ เลฑฺฑุรสภิตฺติรสปิโลติกรสาทโย ปาฬิยํ อนาคตา สพฺเพปิ รสา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺาติ เวทิตพฺพา.

เอวมยํ มูลรสาทินาเภเทน ภินฺโนปิ รโส ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส ชิวฺหาปฏิหนนลกฺขโณ รโส, ชิวฺหาวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เสสํ จกฺขายตนนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ ตเถว ทฺวิปฺาสนยปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา วุตฺตา.

๖๓๒. อิตฺถินฺทฺริยนิทฺเทเส นฺติ กรณวจนํ. เยน การเณน อิตฺถิยา อิตฺถิลิงฺคาทีนิ โหนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตตฺถ ‘ลิงฺค’นฺติ สณฺานํ. อิตฺถิยา หิ หตฺถปาทคีวาอุราทีนํ สณฺานํ น ปุริสสฺส วิย โหติ. อิตฺถีนฺหิ เหฏฺิมกาโย วิสโท โหติ, อุปริมกาโย อวิสโท. หตฺถปาทา ขุทฺทกา, มุขํ ขุทฺทกํ. นิมิตฺตนฺติ สฺชานนํ. อิตฺถีนฺหิ อุรมํสํ อวิสทํ โหติ, มุขํ นิมฺมสฺสุทาิกํ. เกสพนฺธวตฺถคฺคหณมฺปิ น ปุริสานํ วิย โหติ. กุตฺตนฺติ กิริยา. อิตฺถิโย หิ ทหรกาเล สุปฺปกมุสลเกหิ กีฬนฺติ, จิตฺตธีตลิกาย กีฬนฺติ, มตฺติกวาเกน สุตฺตกํ นาม กนฺตนฺติ. อากปฺโปติ คมนาทิอากาโร. อิตฺถิโย หิ คจฺฉมานา อวิสทา คจฺฉนฺติ, ติฏฺมานา นิปชฺชมานา นิสีทมานา ขาทมานา ภุฺชมานา อวิสทา ภุฺชนฺติ. ปุริสมฺปิ หิ อวิสทํ ทิสฺวา มาตุคาโม วิย คจฺฉติ ติฏฺติ นิปชฺชติ นิสีทติ ขาทติ ภุฺชตีติ วทนฺติ.

อิตฺถตฺตํ อิตฺถิภาโวติ อุภยมฺปิ เอกตฺถํ; อิตฺถิสภาโวติ อตฺโถ. อยํ กมฺมโช ปฏิสนฺธิสมุฏฺิโต. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ปวตฺเต สมุฏฺิตานิ. ยถา หิ พีเช สติ, พีชํ ปฏิจฺจ, พีชปจฺจยา รุกฺโข วฑฺฒิตฺวา สาขาวิฏปสมฺปนฺโน หุตฺวา อากาสํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว อิตฺถิภาวสงฺขาเต อิตฺถินฺทฺริเย สติ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ โหนฺติ. พีชํ วิย หิ อิตฺถินฺทฺริยํ, พีชํ ปฏิจฺจ วฑฺฒิตฺวา อากาสํ ปูเรตฺวา ิตรุกฺโข วิย อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปวตฺเต สมุฏฺหนฺติ. ตตฺถ อิตฺถินฺทฺริยํ น จกฺขุวิฺเยฺยํ, มโนวิฺเยฺยเมว. อิตฺถิลิงฺคาทีนิ จกฺขุวิฺเยฺยานิปิ มโนวิฺเยฺยานิปิ.

อิทํ ตํ รูปํ อิตฺถินฺทฺริยนฺติ อิทํ ตํ รูปํ, ยถา จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ปุริสสฺสาปิ โหนฺติ, น เอวํ; นิยมโต ปน อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ ‘อิตฺถินฺทฺริยํ’.

๖๓๓. ปุริสินฺทฺริเยปิ เอเสว นโย. ปุริสลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถิลิงฺคาทีนํ ปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพานิ. ปุริสสฺส หิ หตฺถปาทคีวาอุราทีนํ สณฺานํ น อิตฺถิยา วิย โหติ. ปุริสานฺหิ อุปริมกาโย วิสโท โหติ เหฏฺิมกาโย อวิสโท, หตฺถปาทา มหนฺตา, มุขํ มหนฺตํ, อุรมํสํ วิสทํ, มสฺสุทาิกา อุปฺปชฺชนฺติ. เกสพนฺธนวตฺถคฺคหณํ น อิตฺถีนํ วิย โหติ. ทหรกาเล รถนงฺคลาทีหิ กีฬนฺติ, วาลิกปาฬึ กตฺวา วาปึ นาม ขนนฺติ, คมนาทีนิ วิสทานิ โหนฺติ. อิตฺถิมฺปิ คมนาทีนิ วิสทานิ กุรุมานํ ทิสฺวา ‘ปุริโส วิย คจฺฉตี’ติอาทีนิ วทนฺติ. เสสํ อิตฺถินฺทฺริเย วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ อิตฺถิภาวลกฺขณํ อิตฺถินฺทฺริยํ, อิตฺถีติ ปกาสนรสํ, อิตฺถิลิงฺคนิมิตฺตกุตฺตากปฺปานํ การณภาวปจฺจุปฏฺานํ. ปุริสภาวลกฺขณํ ปุริสินฺทฺริยํ, ปุริโสติ ปกาสนรสํ, ปุริสลิงฺคนิมิตฺตกุตฺตากปฺปานํ การณภาวปจฺจุปฏฺานํ. อุภยมฺเปตํ ปมกปฺปิกานํ ปวตฺเต สมุฏฺาติ. อปรภาเค ปฏิสนฺธิยํ. ปฏิสนฺธิสมุฏฺิตมฺปิ ปวตฺเต จลติ ปริวตฺตติ.

ยถาห

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติ. เตน โข ปน สมเยน อฺตริสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๙).

อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนํ. ตสฺมา ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ, อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาติ. อิตฺถิลิงฺคํ ปน อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายติ, ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาติ. เอวํ อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปติฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.

อุภโตพฺยฺชนกสฺส ปน กึ เอกํ อินฺทฺริยํ อุทาหุ ทฺเวติ? เอกํ. ตฺจ โข อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสินฺทฺริยํ. ‘เอวํ สนฺเต ทุติยพฺยฺชนกสฺส อภาโว อาปชฺชติ. อินฺทฺริยฺหิ พฺยฺชนการณํ วุตฺตํ. ตฺจสฺส นตฺถี’ติ? ‘น ตสฺส อินฺทฺริยํ พฺยฺชนการณํ’. ‘กสฺมา’? ‘สทา อภาวโต. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส หิ ยทา อิตฺถิยา ราคจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทาว ปุริสพฺยฺชนํ ปากฏํ โหติ, อิตฺถิพฺยฺชนํ ปฏิจฺฉนฺนํ คุฬฺหํ โหติ. ตถา อิตรสฺส อิตรํ.

ยทิ จ เตสํ อินฺทฺริยํ ทุติยพฺยฺชนการณํ ภเวยฺย, สทาปิ พฺยฺชนทฺวยํ ติฏฺเยฺย. น ปน ติฏฺติ. ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ น ตสฺส ตํ พฺยฺชนการณํ. กมฺมสหายํ ปน ราคจิตฺตเมเวตฺถ การณํ. ยสฺมา จสฺส เอกเมว อินฺทฺริยํ โหติ, ตสฺมา อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยมฺปิ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรมฺปิ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปรํ คพฺภํ คณฺหาเปติ, สยํ ปน น คณฺหาตีติ.

๖๓๔. ชีวิตินฺทฺริยนิทฺเทเส ยํ วตฺตพฺพํ ตํ เหฏฺา อรูปชีวิตินฺทฺริเย วุตฺตเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ โย เตสํ อรูปีนํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตํ, อิธ รูปชีวิตินฺทฺริยตฺตา โย เตสํ รูปีนํ ธมฺมานนฺติ อยเมว วิเสโส. ลกฺขณาทีนิ ปนสฺส เอวํ เวทิตพฺพานิ – สหชาตรูปานุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํ เยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพภูตปทฏฺานนฺติ.

๖๓๕. กายวิฺตฺตินิทฺเทเส กายวิฺตฺตีติ เอตฺถ ตาว กาเยน อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ติรจฺฉาเนหิปิ ปุริสานํ, ปุริเสหิ วา ติรจฺฉานานมฺปิ กายคหณานุสาเรน คหิตาย เอตาย ภาโว วิฺายตีติ ‘วิฺตฺติ’. สยํ กายคหณานุสาเรน วิฺายตีติปิ ‘วิฺตฺติ’. ‘‘กาเยน สํวโร สาธู’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๑) อาคโต โจปนสงฺขาโต กาโยว วิฺตฺติ ‘กายวิฺตฺติ’. กายวิปฺผนฺทเนน อธิปฺปายวิฺาปนเหตุตฺตา, สยฺจ ตถา วิฺเยฺยตฺตา กาเยน วิฺตฺตีติปิ ‘กายวิฺตฺติ’.

กุสลจิตฺตสฺส วาติอาทีสุ อฏฺหิ กามาวจเรหิ อภิฺาจิตฺเตน จาติ นวหิ กุสลจิตฺเตหิ กุสลจิตฺตสฺส วา, ทฺวาทสหิปิ อกุสลจิตฺเตหิ อกุสลจิตฺตสฺส วา, อฏฺหิ มหากิริเยหิ ทฺวีหิ อเหตุกกิริเยหิ อภิฺาปฺปตฺเตน เอเกน รูปาวจรกิริเยนาติ เอกาทสหิ กิริยจิตฺเตหิ อพฺยากตจิตฺตสฺส วา. อิโต อฺานิ หิ จิตฺตานิ วิฺตฺตึ น ชเนนฺติ. เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ ปน เอตฺตเกเหว จิตฺเตหิ วิฺตฺติ โหตีติ เอเตสํ กุสลาทีนํ วเสน ตีหิ ปเทหิ ‘เหตุโต’ ทสฺสิตา.

อิทานิ ฉหิ ปเทหิ ‘ผลโต’ ทสฺเสตุํ อภิกฺกมนฺตสฺส วาติอาทิ วุตฺตํ. อภิกฺกมาทโย หิ วิฺตฺติวเสน ปวตฺตตฺตา วิฺตฺติผลํ นาม. ตตฺถ ‘อภิกฺกมนฺตสฺสา’ติ ปุรโต กายํ อภิหรนฺตสฺส. ปฏิกฺกมนฺตสฺสาติ ปจฺฉโต ปจฺจาหรนฺตสฺส. อาโลเกนฺตสฺสาติ อุชุกํ เปกฺขนฺตสฺส. วิโลเกนฺตสฺสาติ อิโต จิโต จ เปกฺขนฺตสฺส. สมิฺเชนฺตสฺสาติ สนฺธโย สงฺโกเจนฺตสฺส. ปสาเรนฺตสฺสาติ สนฺธโย ปฏิปณาเมนฺตสฺส.

อิทานิ ฉหิ ปเทหิ ‘สภาวโต’ ทสฺเสตุํ กายสฺส ถมฺภนาติ อาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘กายสฺสา’ติ สรีรสฺส. กายํ ถมฺเภตฺวา ถทฺธํ กโรตีติ ถมฺภนา. ตเมว อุปสคฺเคน วฑฺเฒตฺวา สนฺถมฺภนาติ อาห. พลวตรา วา ถมฺภนา ‘สนฺถมฺภนา’. สนฺถมฺภิตตฺตนฺติ สนฺถมฺภิตภาโว. วิฺาปนวเสน วิฺตฺติ. วิฺาปนาติ วิฺาปนากาโร. วิฺาปิตภาโว วิฺาปิตตฺตํ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ เหฏฺา ทฺวารกถายํ วุตฺตเมว. ตถา วจีวิฺตฺติยํ.

๖๓๖. วจีวิฺตฺตีติปทสฺส ปน นิทฺเทสปทานฺจ อตฺโถ ตตฺถ น วุตฺโต, โส เอวํ เวทิตพฺโพ – วาจาย อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ติรจฺฉาเนหิปิ ปุริสานํ, ปุริเสหิ วา ติรจฺฉานานมฺปิ, วจีคหณานุสาเรน คหิตาย เอตาย ภาโว วิฺายตีติ วิฺตฺติ. สยฺจ วจีคหณานุสาเรน วิฺายตีติปิ วิฺตฺติ. ‘‘สาธุ วาจาย สํวโร’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๑) อาคตา โจปนสงฺขาตา วจี เอว วิฺตฺติ ‘วจีวิฺตฺติ’. วจีโฆเสน อธิปฺปายวิฺาปนเหตุตฺตา สยฺจ ตถาวิฺเยฺยตฺตา วาจาย วิฺตฺตีติปิ ‘วจีวิฺตฺติ’. วาจา คิราติอาทีสุ วุจฺจตีติ ‘วาจา’. คิริยตีติ ‘คิรา’. พฺยปฺปโถติ วากฺยเภโท. วากฺยฺจ ตํ ปโถ จ อตฺถํ าตุกามานํ าเปตุกามานฺจาติปิ ‘พฺยปฺปโถ’. อุทีริยตีติ อุทีรณํ. ฆุสฺสตีติ โฆโส. กริยตีติ กมฺมํ. โฆโสว กมฺมํ โฆสกมฺมํ. นานปฺปกาเรหิ กโต โฆโสติ อตฺโถ. วจิยา เภโท วจีเภโท. โส ปน ‘น ภงฺโค, ปเภทคตา วาจา เอวา’ติ าปนตฺถํ วาจา วจีเภโทติ วุตฺตํ. อิเมหิ สพฺเพหิปิ ปเทหิ ‘สทฺทวาจาว’ ทสฺสิตา. อิทานิ ตาย วาจาย สทฺธึ โยเชตฺวา เหฏฺา วุตฺตตฺถานํ วิฺตฺติอาทีนํ ปทานํ วเสน ตีหากาเรหิ สภาวโต ตํ ทสฺเสตุํ ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตีติอาทิ วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.

อิทานิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺเตสุ อสมฺโมหตฺถํ ทฺวตฺตึส ฉพฺพีส เอกูนวีสติ โสฬส ปจฺฉิมานีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ – ทฺวตฺตึส จิตฺตานิ หิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ, อิริยาปถมฺปิ อุปตฺถมฺเภนฺติ, ทุวิธมฺปิ วิฺตฺตึ ชเนนฺติ. ฉพฺพีสติ วิฺตฺติเมว น ชเนนฺติ, อิตรทฺวยํ กโรนฺติ. เอกูนวีสติ รูปเมว สมุฏฺาเปนฺติ, อิตรทฺวยํ น กโรนฺติ. โสฬส อิเมสุ ตีสุ เอกมฺปิ น กโรนฺติ.

ตตฺถ ทฺวตฺตึสาติ เหฏฺา วุตฺตาเนว กามาวจรโต อฏฺ กุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, กิริยโต ทส จิตฺตานิ, เสกฺขปุถุชฺชนานํ อภิฺาจิตฺตํ, ขีณาสวานํ อภิฺาจิตฺตนฺติ. ฉพฺพีสาติ รูปาวจรโต ปฺจ กุสลานิ, ปฺจ กิริยานิ, อรูปาวจรโต จตฺตาริ กุสลานิ, จตฺตาริ กิริยานิ, จตฺตาริ มคฺคจิตฺตานิ, จตฺตาริ ผลจิตฺตานีติ. เอกูนวีสตีติ กามาวจรกุสลวิปากโต เอกาทส, อกุสลวิปากโต ทฺเว, กิริยโต กิริยมโนธาตุ, รูปาวจรโต ปฺจ วิปากจิตฺตานีติ. โสฬสาติ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, สพฺพสตฺตานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ขีณาสวานํ จุติจิตฺตํ, อรูเป จตฺตาริ วิปากจิตฺตานีติ. อิมานิ โสฬส รูปิริยาปถวิฺตฺตีสุ เอกมฺปิ น กโรนฺติ. อฺานิปิ พหูนิ อรูเป อุปฺปนฺนานิ อโนกาสคตตฺตา รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. น ตาเนว, กายวจีวิฺตฺติโยปิ.

๖๓๗. อากาสธาตุนิทฺเทเส น กสฺสติ, น นิกสฺสติ, กสิตุํ วา ฉินฺทิตุํ วา ภินฺทิตุํ วา น สกฺกาติ อากาโส. อากาโสว อากาสคตํ, เขฬคตาทิ วิย. อากาโสติ วา คตนฺติ ‘อากาสคตํ’. น หฺตีติ อฆํ, อฆฏฺฏนียนฺติ อตฺโถ. อฆเมว อฆคตํ. ฉิทฺทฏฺเน วิวโร. วิวโรว วิวรคตํ. อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ เอเตหิ อสมฺผุฏฺํ นิชฺชฏากาสํว กถิตํ. ลกฺขณาทิโต ปน รูปปริจฺเฉทลกฺขณา อากาสธาตุ, รูปปริยนฺตปฺปกาสนรสา, รูปมริยาทปจฺจุปฏฺานา อสมฺผุฏฺภาวฉิทฺทวิวรภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ปริจฺฉินฺนรูปปทฏฺานา, ยาย ปริจฺฉินฺเนสุ รูเปสุ ‘อิทมิโต อุทฺธํ อโธ ติริย’นฺติ จ โหติ.

๖๓๘. อิโต ปเร รูปสฺสลหุตาทีนํ นิทฺเทสา จิตฺตสฺสลหุตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ อทนฺธตาลกฺขณา รูปสฺส ลหุตา, รูปานํ ครุภาววิโนทนรสา, ลหุปริวตฺติตาปจฺจุปฏฺานา, ลหุรูปปทฏฺานา. อถทฺธตาลกฺขณา รูปสฺส มุทุตา, รูปานํ ถทฺธภาววิโนทนรสา, สพฺพกิริยาสุ อวิโรธิตาปจฺจุปฏฺานา, มุทุรูปปทฏฺานา. สรีรกิริยานุกูลกมฺมฺภาวลกฺขณา รูปสฺส กมฺมฺตา, อกมฺมฺตาวิโนทนรสา, อทุพฺพลภาวปจฺจุปฏฺานา, กมฺมฺรูปปทฏฺานา.

เอตา ปน ติสฺโส น อฺมฺํ วิชหนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ โย อโรคิโน วิย รูปานํ ลหุภาโว, อทนฺธตาลหุปริวตฺติปฺปกาโร, รูปทนฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน, โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺสลหุตา’. โย สุปริมทฺทิตจมฺมสฺเสว รูปานํ มุทุภาโว สพฺพกิริยาวิเสเสสุ สรสวตฺตนภาโว วสวตฺตนภาวมทฺทวปฺปกาโร รูปถทฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน, โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺส มุทุตา’. โย ปน สุธนฺตสุวณฺณสฺเสว รูปานํ กมฺมฺภาโว สรีรกิริยานุกูลภาวปฺปกาโร สรีรกิริยานํ อนนุกูลกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน, โส รูปวิกาโร ‘รูปสฺส กมฺมฺตา’ติ. เอวเมตาสํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

เอตา ปน ติสฺโสปิ กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, อาหาราทโยว กโรนฺติ. ตถา หิ โยคิโน ‘อชฺช อมฺเหหิ โภชนสปฺปายํ ลทฺธํ, กาโย โน ลหุ มุทุ กมฺมฺโ’ติ วทนฺติ. ‘อชฺช อุตุสปฺปายํ ลทฺธํ, อชฺช อมฺหากํ จิตฺตํ เอกคฺคํ, กาโย โน ลหุ มุทุ กมฺมฺโ’ติ วทนฺตีติ.

๖๔๑. อุปจยสนฺตตินิทฺเทเสสุ อายตนานนฺติ อฑฺเฒกาทสนฺนํ รูปายตนานํ. อาจโยติ นิพฺพตฺติ. โส รูปสฺส อุปจโยติ โย อายตนานํ อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปจโย นาม โหติ; วฑฺฒีติ อตฺโถ. โย รูปสฺส อุปจโย สา รูปสฺส สนฺตตีติ ยา เอวํ อุปจิตานํ รูปานํ วฑฺฒิ, ตโต อุตฺตริตรํ ปวตฺติกาเล สา รูปสฺส สนฺตติ นาม โหติ; ปวตฺตีติ อตฺโถ. นทิตีเร ขตกูปสฺมิฺหิ อุทกุคฺคมนกาโล วิย อาจโย, นิพฺพตฺติ; ปริปุณฺณกาโล วิย อุปจโย, วฑฺฒิ; อชฺโฌตฺถริตฺวา คมนกาโล วิย สนฺตติ, ปวตฺตีติ เวทิตพฺพา.

เอวํ กึ กถิตํ โหตีติ? อายตเนน หิ อาจโย กถิโต, อาจเยน อายตนํ กถิตํ. อาจโยว กถิโต อายตนเมว กถิตํ. เอวมฺปิ กึ กถิตํ โหตีติ? จตุสนฺตติรูปานํ อาจโย อุปจโย นิพฺพตฺติ วฑฺฒิ กถิตา. อตฺถโต หิ อุภยมฺเปตํ ชาติรูปสฺเสว อธิวจนํ. อาการนานตฺเตน ปน เวเนยฺยวเสน จ อุปจโย สนฺตตีติ อุทฺเทสเทสนํ กตฺวา ยสฺมา เอตฺถ อตฺถโต นานตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา นิทฺเทเส ‘‘โย อายตนานํ อาจโย โส รูปสฺส อุปจโย, โย รูปสฺส อุปจโย สา รูปสฺส สนฺตตี’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺมา จ อุภยมฺเปตํ ชาติรูปสฺเสว อธิวจนํ ตสฺมา เอตฺถ อาจยลกฺขโณ รูปสฺส อุปจโย, ปุพฺพนฺตโต รูปานํ อุมฺมุชฺชาปนรโส, นิยฺยาตนปจฺจุปฏฺาโน ปริปุณฺณภาวปจฺจุปฏฺาโน วา, อุปจิตรูปปทฏฺาโน. ปวตฺติลกฺขณา รูปสฺส สนฺตติ, อนุปฺปพนฺธรสา, อนุปจฺเฉทปจฺจุปฏฺานา, อนุปฺปพนฺธรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

๖๔๓. ชรตานิทฺเทเส ชีรณกวเสน ชรา; อยเมตฺถ สภาวนิทฺเทโส. ชีรณากาโร ชีรณตา. ขณฺฑิจฺจนฺติ อาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ‘ชรา’ติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา; เตนสฺสายํ สภาวนิทฺเทโส. ‘ชีรณตา’ติ อิมินา อาการโต; เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ‘ขณฺฑิจฺจ’นฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตา ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํภคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ, น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา. น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.

อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสฺิตาย ปกติยา ทีปิตา. เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ, ตสฺมา ชรา ‘อายุโน สํหานี’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา จ ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ, สุขุมมฺปิ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ, โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’ติปิ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.

สา ปนายํ เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑภาวาทิทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ปากฏชรา นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ปฏิจฺฉนฺนชรา นาม. ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทิมสูริยาทีนํ วิย, มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ, ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ จ อปาณีนํ วิย, อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุวิฺเยฺยตฺตา ชรา อวีจิชรา นาม; นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา สวีจิชรา นามาติ เวทิตพฺพา.

ลกฺขณาทิโตปิ รูปปริปากลกฺขณา รูปสฺส ชรตา, อุปนยนรสา, สภาวานปคเมปิ นวภาวาปคมปจฺจุปฏฺานา, วีหิปุราณภาโว วิย ปริปจฺจมานรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

๖๔๔. อนิจฺจตานิทฺเทเส ขยคมนวเสน ขโย, วยคมนวเสน วโย, ภิชฺชนวเสน เภโท. อถ วา, ยสฺมา ตํ ปตฺวา รูปํ ขียติ, เวติ, ภิชฺชติ จ, ตสฺมา ขียติ เอตสฺมินฺติ ‘ขโย’, เวติ เอตสฺมินฺติ ‘วโย’, ภิชฺชติ เอตสฺมินฺติ ‘เภโท’. อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺเฒตฺวา เภโทว ปริเภโท. หุตฺวา อภาวฏฺเน, น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ. ตสฺส ภาโว อนิจฺจตา. อนฺตรธายติ เอตฺถาติ อนฺตรธานํ. มรณฺหิ ปตฺวา รูปํ อนฺตรธายติ, อทสฺสนํ คจฺฉติ. น เกวลฺจ รูปเมว, สพฺเพปิ ปฺจกฺขนฺธา. ตสฺมา ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ อนิจฺจตาย อิทเมว ลกฺขณนฺติ เวทิตพฺพํ. ลกฺขณาทิโต ปน ปริเภทลกฺขณา รูปสฺส อนิจฺจตา, สํสีทนรสา, ขยวยปจฺจุปฏฺานา, ปริภิชฺชมานรูปปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

เหฏฺา ชาติ คหิตา ชรา คหิตา, อิมสฺมึ าเน มรณํ คหิตํ. อิเม ตโย ธมฺมา อิเมสํ สตฺตานํ อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจามิตฺตสทิสา. ยถา หิ ปุริสสฺส ตโย ปจฺจามิตฺตา โอตารํ คเวสมานา วิจเรยฺยุํ. เตสุ เอโก เอวํ วเทยฺย – ‘เอตํ นีหริตฺวา อฏวิปเวสนํ มยฺหํ ภาโร โหตู’ติ. ทุติโย ‘อฏวิคตกาเล โปเถตฺวา ปถวิยํ ปาตนํ มยฺหํ ภาโร’ติ. ตติโย ‘ปถวิคตกาลโต ปฏฺาย อสินา สีสจฺเฉทนํ มยฺหํ ภาโร’ติ. เอวรูปา อิเม ชาติ อาทโย. นีหริตฺวา อฏวิปเวสนปจฺจามิตฺตสทิสา เหตฺถ ชาติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิพฺพตฺตาปนโต. อฏวิคตํ โปเถตฺวา ปถวิยํ ปาตนปจฺจามิตฺตสทิสา ชรา, นิพฺพตฺตกฺขนฺธานํ ทุพฺพลปราธีนมฺจปรายณภาวกรณโต. ปถวิคตสฺส อสินา สีสจฺเฉทกปจฺจามิตฺตสทิสํ มรณํ, ชราปฺปตฺตานํ ขนฺธานํ ชีวิตกฺขยปาปนโตติ.

๖๔๕. กพฬีการาหารนิทฺเทเส กพฬํ กรียตีติ กพฬีกาโร. อาหรียตีติ อาหาโร. กพฬํ กตฺวา อชฺโฌหรียตีติ อตฺโถ. รูปํ วา อาหรตีติปิ ‘อาหาโร’. เอวํ วตฺถุวเสน นามํ อุทฺธริตฺวา ปุน วตฺถุวเสเนเวตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ โอทโน กุมฺมาโสติอาทิ วุตฺตํ. โอทนาทีนิ หิ ผาณิตปริยนฺตานิ ทฺวาทส อิธาธิปฺเปตสฺส อาหารสฺส วตฺถูนิ. ปาฬิยํ อนาคตานิ มูลผลาทีนิ เยวาปนกํ ปวิฏฺานิ.

อิทานิ ตานิ มูลผลาทีนิ กตฺตพฺพโต ทสฺเสตุํ ยมฺหิ ยมฺหิ ชนปเทติอาทิมาห. ตตฺถ มุเขน อสิตพฺพํ ภุฺชิตพฺพนฺติ มุขาสิยํ. ทนฺเตหิ วิขาทิตพฺพนฺติ ทนฺตวิขาทนํ. คเลน อชฺโฌหริตพฺพนฺติ คลชฺโฌหรณียํ. อิทานิ ตํ กิจฺจวเสน ทสฺเสตุํ กุจฺฉิวิตฺถมฺภนนฺติ อาห. ตฺหิ มูลผลาทิ โอทนกุมฺมาสาทิ วา อชฺโฌหฏํ กุจฺฉึ วิตฺถมฺเภติ. อิทมสฺส กิจฺจํ. ยาย โอชาย สตฺตา ยาเปนฺตีติ เหฏฺา สพฺพปเทหิ สวตฺถุกํ อาหารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิพฺพฏฺฏิตโอชเมว ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ.

กึ ปเนตฺถ วตฺถุสฺส กิจฺจํ? กึ โอชาย? ปริสฺสยหรณปาลนานิ. วตฺถุหิ ปริสฺสยํ หรติ ปาเลตุํ น สกฺโกติ, โอชา ปาเลติ ปริสฺสยํ หริตุํ น สกฺโกติ. ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา ปาเลตุมฺปิ สกฺโกนฺติ ปริสฺสยมฺปิ หริตุํ. โก ปเนส ปริสฺสโย นาม? กมฺมชเตโช. อนฺโตกุจฺฉิยฺหิ โอทนาทิวตฺถุสฺมึ อสติ, กมฺมชเตโช อุฏฺหิตฺวา อุทรปฏลํ คณฺหาติ, ‘ฉาโตมฺหิ, อาหารํ เม เทถา’ติ วทาเปติ. ภุตฺตกาเล อุทรปฏลํ มุฺจิตฺวา วตฺถุํ คณฺหาติ. อถ สตฺโต เอกคฺโค โหติ.

ยถา หิ ฉายารกฺขโส ฉายํ ปวิฏฺํ คเหตฺวา เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา อตฺตโน ภวเน โมทนฺโต ฉาตกาเล อาคนฺตฺวา สีเส ฑํสติ. โส ฑฏฺตฺตา วิรวติ. ตํ วิรวํ สุตฺวา ‘ทุกฺขปฺปตฺโต เอตฺถ อตฺถี’ติ ตโต ตโต มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ. โส อาคตาคเต คเหตฺวา ขาทิตฺวา ภวเน โมทติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. ฉายารกฺขโส วิย หิ กมฺมชเตโช, เทวสงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา ปิตสตฺโต วิย อุทรปฏลํ, ปุน อาคตมนุสฺสา วิย โอทนาทิวตฺถุ, โอตริตฺวา สีเส ฑํสนํ วิย กมฺมชเตชสฺส วตฺถุโต มุตฺตสฺส อุทรปฏลคฺคหณํ, ฑฏฺสฺส วิรวนกาโล วิย ‘อาหารํ เทถา’ติ วจนกาโล, ตาย สฺาย อาคตาคเต คเหตฺวา ขาทิตฺวา ภวเน โมทนกาโล วิย กมฺมชเตเชน อุทรปฏลํ มุฺจิตฺวา วตฺถุสฺมึ คหิเต เอกคฺคจิตฺตตา.

ตตฺถ โอฬาริเก วตฺถุสฺมึ โอชา มนฺทา โหติ. สุขุเม พลวตี. กุทฺรูสกภตฺตาทีนิ หิ ภุฺชิตฺวา มุหุตฺเตเนว ฉาโต โหติ. สปฺปิอาทีนิ ปิวิตฺวา ิตสฺส ทิวสมฺปิ ภตฺตํ น รุจฺจติ. เอตฺถ จ อุปาทายุปาทาย โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา. กุมฺภีลานฺหิ อาหารํ อุปาทาย โมรานํ อาหาโร สุขุโม. กุมฺภีลา กิร ปาสาเณ คิลนฺติ. เต จ เนสํ กุจฺฉิปฺปตฺตา วิลียนฺติ. โมรา สปฺปวิจฺฉิกาทิปาเณ ขาทนฺติ. โมรานํ ปน อาหารํ อุปาทาย ตรจฺฉานํ อาหาโร สุขุโม. เต กิร ติวสฺสฉฑฺฑิตานิ วิสาณานิ เจว อฏฺีนิ จ ขาทนฺติ. ตานิ จ เนสํ เขเฬน เตมิตมตฺตาเนว กนฺทมูลํ วิย มุทุกานิ โหนฺติ. ตรจฺฉานมฺปิ อาหารมุปาทาย หตฺถีนํ อาหาโร สุขุโม. เต หิ นานารุกฺขสาขาทโย ขาทนฺติ. หตฺถีนํ อาหารโต ควยโคกณฺณมิคาทีนํ อาหาโร สุขุโม. เต กิร นิสฺสารานิ นานารุกฺขปณฺณาทีนิ ขาทนฺติ. เตสมฺปิ อาหารโต คุนฺนํ อาหาโร สุขุโม. เต อลฺลสุกฺขติณานิ ขาทนฺติ. เตสมฺปิ อาหารโต สสานํ อาหาโร สุขุโม. สสานํ อาหารโต สกุณานํ อาหาโร สุขุโม. สกุณานํ อาหารโต ปจฺจนฺตวาสีนํ อาหาโร สุขุโม. ปจฺจนฺตวาสีนํ อาหารโต คามโภชกานํ อาหาโร สุขุโม. คามโภชกานํ อาหารโต ราชราชมหามตฺตานํ อาหาโร สุขุโม. เตสมฺปิ อาหารโต จกฺกวตฺติโน อาหาโร สุขุโม. จกฺกวตฺติโน อาหารโต ภุมฺมเทวานํ อาหาโร สุขุโม. ภุมฺมเทวานํ อาหารโต จาตุมหาราชิกานํ อาหาโร สุขุโม. เอวํ ยาว ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ อาหาโร วิตฺถาเรตพฺโพ. เตสํ ปนาหาโร สุขุโมตฺเวว นิฏฺํ ปตฺโต.

ลกฺขณาทิโตปิ โอชาลกฺขโณ กพฬีกาโร อาหาโร, รูปาหรณรโส, อุปตฺถมฺภนปจฺจุปฏฺาโน, กพฬํ กตฺวา อาหริตพฺพวตฺถุปทฏฺาโนติ เวทิตพฺโพ.

๖๔๖. โนอุปาทานิทฺเทเส ยถา อุปาทารูปํ อุปาทิยเตว, น อฺเน อุปาทิยติ, เอวเมตํ น อุปาทิยเตวาติ โนอุปาทา.

๖๔๗. ผุสิตพฺพนฺติ โผฏฺพฺพํ. ผุสิตฺวา ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. โผฏฺพฺพฺจ ตํ อายตนฺจาติ โผฏฺพฺพายตนํ. อาโป จ ตํ นิสฺสตฺตสุฺตสภาวฏฺเน ธาตุ จาติ อาโปธาตุ. อิทานิ ยสฺมา ตีณิ รูปานิ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพานิ ตสฺมา ตานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตมํ ตํ รูปํ โผฏฺพฺพายตนํ? ปถวีธาตูติอาทิมาห. ตตฺถ กกฺขฬตฺตลกฺขณา ปถวีธาตุ, ปติฏฺานรสา, สมฺปฏิจฺฉนปจฺจุปฏฺานา. เตโชธาตุ อุณฺหตฺตลกฺขณา, ปริปาจนรสา, มทฺทวานุปฺปทานปจฺจุปฏฺานา. วาโยธาตุ วิตฺถมฺภนลกฺขณา, สมุทีรณรสา, อภินีหารปจฺจุปฏฺานา. ปุริมา ปน ‘อาโปธาตุ’ ปคฺฆรณลกฺขณา, พฺรูหนรสา, สงฺคหปจฺจุปฏฺานา. เอเกกา เจตฺถ เสสตฺตยปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. มุทุกนฺติ อถทฺธํ. สณฺหนฺติ มฏฺํ. ผรุสนฺติ ขรํ. สุขสมฺผสฺสนฺติ สุขเวทนาปจฺจยํ อิฏฺโผฏฺพฺพํ. ทุกฺขสมฺผสฺสนฺติ ทุกฺขเวทนาปจฺจยํ อนิฏฺโผฏฺพฺพํ. ครุกนฺติ ภาริยํ. ลหุกนฺติ อภาริยํ, สลฺลหุกนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘กกฺขฬํ มุทุกํ สณฺหํ ผรุสํ ครุกํ ลหุก’นฺติ ปเทหิ ปถวีธาตุ เอว ภาชิตา. ‘‘ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๒๔) สุตฺเตปิ ลหุมุทุภูตํ ปถวีธาตุเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

‘สุขสมฺผสฺสํ ทุกฺขสมฺผสฺส’นฺติ ปททฺวเยน ปน ตีณิปิ มหาภูตานิ ภาชิตานิ. ปถวีธาตุ หิ สุขสมฺผสฺสาปิ อตฺถิ ทุกฺขสมฺผสฺสาปิ. ตถา เตโชธาตุวาโยธาตุโย. ตตฺถ สุขสมฺผสฺสา ปถวีธาตุ มุทุตลุณหตฺเถ ทหเร ปาเท สมฺพาหนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘สมฺพาห ตาต, สมฺพาห ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. สุขสมฺผสฺสา เตโชธาตุ สีตสมเย องฺคารกปลฺลํ อาหริตฺวา คตฺตํ เสเทนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘เสเทหิ ตาต, เสเทหิ ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. สุขสมฺผสฺสา วาโยธาตุ อุณฺหสมเย วตฺตสมฺปนฺเน ทหเร พีชเนน พีชนฺเต อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา ‘พีช ตาต, พีช ตาตา’ติ วทาปนาการํ กโรติ. ถทฺธหตฺเถ ปน ทหเร ปาเท สมฺพาหนฺเต อฏฺีนํ ภิชฺชนกาโล วิย โหติ. โสปิ ‘อเปหี’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อุณฺหสมเย องฺคารกปลฺเล อาภเต ‘อปเนหิ น’นฺติ วตฺตพฺพํ โหติ. สีตสมเย พีชเนน พีชนฺเต ‘อเปหิ, มา พีชา’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวเมตาสํ สุขสมฺผสฺสตา ทุกฺขสมฺผสฺสตา จ เวทิตพฺพา.

ยํ โผฏฺพฺพํ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆนฺติอาทินา นเยน วุตฺตา ปน จตูหิ จตูหิ นเยหิ ปฏิมณฺฑิตา เตรส วารา เหฏฺา รูปายตนาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

กึ ปเนตานิ ตีณิ มหาภูตานิ เอกปฺปหาเรเนว อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ อุทาหุ โนติ? อาคจฺฉนฺติ. เอวํ อาคตานิ กายปสาทํ ฆฏฺเฏนฺติ น ฆฏฺเฏนฺตีติ? ฆฏฺเฏนฺติ. เอกปฺปหาเรเนว ตานิ อารมฺมณํ กตฺวา กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ นุปฺปชฺชตีติ? นุปฺปชฺชติ. อาภุชิตวเสน วา หิ อุสฺสทวเสน วา อารมฺมณกรณํ โหติ.

ตตฺถ อาภุชิตวเสน ตาว, ปตฺตสฺมิฺหิ โอทเนน ปูเรตฺวา อาภเต เอกํ สิตฺถํ คเหตฺวา ถทฺธํ วา มุทุกํ วาติ วีมํสนฺโต กิฺจาปิ ตตฺถ เตโชปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, ปถวีธาตุเมว ปน อาภุชติ. อุณฺโหทเก หตฺถํ โอตาเรตฺวา วีมํสนฺโต กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, เตโชธาตุเมว ปน อาภุชติ. อุณฺหสมเย วาตปานํ วิวริตฺวา วาเตน สรีรํ ปหราเปนฺโต ิโต มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ เตโชปิ อตฺถิ, วาโยธาตุเมว ปน อาภุชติ. เอวํ อาภุชิตวเสน อารมฺมณํ กโรติ นาม.

โย ปน อุปกฺขลติ วา สีเสน วา รุกฺขํ ปหรติ ภุฺชนฺโต วา สกฺขรํ ฑํสติ, โส กิฺจาปิ ตตฺถ เตโชปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน ปถวีธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ. อคฺคึ อกฺกมนฺโตปิ กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ วาโยปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน เตโชธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ. พลววาเต กณฺณสกฺขลึ ปหริตฺวา พธิรภาวํ กโรนฺเต. กิฺจาปิ ตตฺถ ปถวีปิ อตฺถิ เตโชปิ อตฺถิ, อุสฺสทวเสน ปน วาโยธาตุเมว อารมฺมณํ กโรติ.

ยํกิฺจิ ธาตุํ อารมฺมณํ กโรนฺตสฺส กายวิฺาณมฺปิ เอกปฺปหาเรน นุปฺปชฺชติ. สูจิกลาเปน วิทฺธสฺส เอกปฺปหาเรน กาโย ฆฏฺฏิยติ. ยสฺมึ ยสฺมึ ปน าเน กายปสาโท อุสฺสนฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ยตฺถาปิ ปฏิฆฏฺฏนนิฆํโส พลวา โหติ ตตฺถ ตตฺถ ปมํ อุปฺปชฺชติ. กุกฺกุฏปตฺเตน วเณ โธวิยมาเน อํสุอํสุ กายปสาทํ ฆฏฺเฏติ. ยตฺถ ยตฺถ ปน ปสาโท อุสฺสนฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺเถว กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุสฺสทวเสน อารมฺมณํ กโรติ. อุสฺสทวเสเนว จ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ นาม.

กถํ ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณโต สงฺกนฺติ โหตีติ? ทฺวีหากาเรหิ โหติ – อชฺฌาสยโต วา วิสยาธิมตฺตโต วา. วิหารปูชาทีสุ หิ ‘ตานิ ตานิ เจติยานิ เจว ปฏิมาโย จ วนฺทิสฺสามิ, โปตฺถกมฺมจิตฺตกมฺมานิ จ โอโลเกสฺสามี’ติ อชฺฌาสเยน คโต เอกํ วนฺทิตฺวา วา ปสฺสิตฺวา วา อิตรสฺส วนฺทนตฺถาย วา ทสฺสนตฺถาย วา มนํ กตฺวา วนฺทิตุมฺปิ ปสฺสิตุมฺปิ คจฺฉติเยว, เอวํ อชฺฌาสยโต สงฺกมติ นาม.

เกลาสกูฏปฏิภาคํ ปน มหาเจติยํ โอโลเกนฺโต ิโตปิ อปรภาเค สพฺพตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ รูปารมฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา สทฺทารมฺมณํ สงฺกมติ. มนุฺคนฺเธสุ ปุปฺเผสุ วา คนฺเธสุ วา อาภเตสุ สทฺทารมฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา คนฺธารมฺมณํ สงฺกมติ. เอวํ วิสยาธิมตฺตโต สงฺกมติ นาม.

๖๕๑. อาโปธาตุนิทฺเทเส อาโปติ สภาวนิทฺเทโส. อาโปว อาโปคตํ. สิเนหวเสน สิเนโห, สิเนโหว สิเนหคตํ. พนฺธนตฺตํ รูปสฺสาติ ปถวีธาตุอาทิกสฺส ภูตรูปสฺส พนฺธนภาโว. อโยปิณฺฑิอาทีนิ หิ อาโปธาตุ อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรติ. ตาย อาพทฺธตฺตา ตานิ พทฺธานิ นาม โหนฺติ. ปาสาณปพฺพตตาลฏฺิหตฺถิทนฺตโคสิงฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพานิ เหตานิ อาโปธาตุ เอว อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรติ. อาโปธาตุยา อาพทฺธตฺตาว พทฺธานิ โหนฺติ.

กึ ปน ปถวีธาตุ เสสธาตูนํ ปติฏฺา โหติ น โหตีติ โหติ ผุสิตฺวา โหติ อุทาหุ อผุสิตฺวา? อาโปธาตุ วา เสสา อาพนฺธมานา ผุสิตฺวา อาพนฺธติ อุทาหุ อผุสิตฺวาติ? ปถวีธาตุ ตาว อาโปธาตุยา อผุสิตฺวาว ปติฏฺา โหติ, เตโชธาตุยา จ วาโยธาตุยา จ ผุสิตฺวา. อาโปธาตุ ปน ปถวีธาตุมฺปิ เตโชวาโยธาตุโยปิ อผุสิตฺวาว อาพนฺธติ. ยทิ ผุสิตฺวา อาพนฺเธยฺย โผฏฺพฺพายตนํ นาม ภเวยฺย.

เตโชธาตุวาโยธาตูนมฺปิ เสสธาตูสุ สกสกกิจฺจกรเณ เอเสว นโย. เตโชธาตุ หิ ปถวีธาตุํ ผุสิตฺวา ฌาเปติ. สา ปน น อุณฺหา หุตฺวา ฌายติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ฌาเยยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. อาโปธาตุํ ปน อผุสิตฺวาว ตาเปติ. สาปิ ตปมานา น อุณฺหา หุตฺวา ตปติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ตเปยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. วาโยธาตุํ ปน ผุสิตฺวาว ตาเปติ. สาปิ ตปมานา น อุณฺหา หุตฺวา ตปติ. ยทิ อุณฺหา หุตฺวา ตเปยฺย อุณฺหตฺตลกฺขณา นาม ภเวยฺย. วาโยธาตุ ปถวีธาตุํ ผุสิตฺวา วิตฺถมฺเภติ, ตถา เตโชธาตุํ อาโปธาตุํ ปน อผุสิตฺวาว วิตฺถมฺเภติ.

อุจฺฉุรสํ ปจิตฺวา ผาณิตปิณฺเฑ กริยมาเน อาโปธาตุ ถทฺธา โหติ น โหตีติ? น โหติ. สา หิ ปคฺฆรณลกฺขณา. ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา. โอมตฺตํ ปน อาโป อธิมตฺตปถวีคติกํ ชาตํ. สา หิ รสากาเรน ิตภาวํ วิชหติ, ลกฺขณํ น วิชหติ. ผาณิตปิณฺเฑ วิลียมาเนปิ ปถวีธาตุ น วิลียติ. กกฺขฬลกฺขณา หิ ปถวีธาตุ ปคฺฆรณลกฺขณา อาโปธาตุ. โอมตฺตา ปน ปถวี อธิมตฺตอาปคติกา โหติ. สา ปิณฺฑากาเรน ิตภาวํ วิชหติ, ลกฺขณํ น วิชหติ. จตุนฺนฺหิ มหาภูตานํ ภาวฺถตฺตเมว โหติ, ลกฺขณฺถตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺส อภาโว อฏฺานปริกปฺปสุตฺเตน ทีปิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สิยา, อานนฺท, จตุนฺนํ มหาภูตานํ อฺถตฺตํ, ปถวีธาตุยา…เป… วาโยธาตุยา; น ตฺเวว พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตสฺส อริยสาวกสฺส สิยา อฺถตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๗๖).

อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อานนฺท, กกฺขฬตฺตลกฺขณา ปถวีธาตุ ปริวตฺติตฺวา ปคฺฆรณลกฺขณา อาโปธาตุ นาม ภเวยฺย, อริยสาวกสฺส ปน อฺถตฺตํ นาม นตฺถีติ. เอวเมตฺถ อฏฺานปริกปฺโป อาคโต.

๖๕๒. อิโต ปเรสุ อุปาทิณฺณรูปาทินิทฺเทเสสุ อุปาทิณฺณปทาทีนํ อตฺโถ มาติกากถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. จกฺขายตนาทีนิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว. ตตฺถ ตตฺถ ปน วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.

อุปาทิณฺณนิทฺเทเส ตาว จกฺขายตนาทีนิ เอกนฺตอุปาทิณฺณตฺตา วุตฺตานิ. ยสฺมา ปน รูปายตนาทีนิ อุปาทิณฺณานิปิ อตฺถิ อนุปาทิณฺณานิปิ, ตสฺมา ตานิ ยํ วา ปนาติ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ปุน กมฺมสฺส กตตฺตา รูปายตนนฺติอาทินา นเยน วิตฺถาริตานิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพเยวาปนเกสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กสฺมา ปน ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ จ ‘น กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ จ อุภินฺนมฺปิ นิทฺเทเส ‘ชรตา จ อนิจฺจตา จ’ น คหิตา, อนุปาทิณฺณาทีนํเยว นิทฺเทเสสุ คหิตาติ? น กมฺมสฺส กตตฺตาติ เอตฺถ ตาว กมฺมโต อฺปจฺจยสมุฏฺานํ สงฺคหิตํ. ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ เอตฺถ กมฺมสมุฏฺานเมว. อิมานิ จ ทฺเว รูปานิ เนว กมฺมโต น อฺสฺมา รูปชนกปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา น คหิตานิ. สา จ เนสํ อนุปฺปตฺติ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อนุปาทิณฺณนฺติอาทีสุ ปน เกวลํ อนุปาทิณฺณาทิคฺคหเณน กมฺมาทิสมุฏฺานตา ปฏิกฺขิตฺตา, นอฺปจฺจยสมุฏฺานตา อนุฺาตา. ตสฺมา ตตฺถ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

๖๖๖. จิตฺตสมุฏฺานนิทฺเทเส กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺตีติ อิทํ ทฺวยํ ยสฺมา เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานานิ ภูตานิ อุปาทาย ปฺายติ, ตสฺมา วุตฺตํ. ปรมตฺถโต ปน ตสฺส นิสฺสยภูตานิ ภูตาเนว จิตฺตสมุฏฺานานิ, ตํนิสฺสิตตฺตา. ยถา อนิจฺจสฺส รูปสฺส ชรามรณํ อนิจฺจํ นาม โหติ, เอวมิทมฺปิ จิตฺตสมุฏฺานํ นาม ชาตํ.

๖๖๘. จิตฺตสหภุนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. ยาว จิตฺตํ ตาว ปฺายนโต อิทเมว ทฺวยํ วุตฺตํ. น ปเนตํ จิตฺเตน สห ภูตานิ วิย, เจตนาทโย วิย จ อุปฺปชฺชติ.

๖๗๐. จิตฺตานุปริวตฺติตายปิ เอเสว นโย. ยาว จิตฺตํ ตาว ปฺายนโต เอว เหตํ ทฺวยํ จิตฺตานุปริวตฺตีติ วุตฺตํ.

๖๗๔. โอฬาริกนฺติ วตฺถารมฺมณภูตตฺตา สํงฺฆฏฺฏนวเสน คเหตพฺพโต ถูลํ. วุตฺตวิปลฺลาสโต สุขุมํ เวทิตพฺพํ.

๖๗๖. ทูเรติ ฆฏฺฏนวเสน อคฺคเหตพฺพตฺตา ทุพฺพิฺเยฺยภาเวน สมีเป ิตมฺปิ ทูเร. อิตรํ ปน ฆฏฺฏนวเสน คเหตพฺพตฺตา สุวิฺเยฺยภาเวน ทูเร ิตมฺปิ สนฺติเก. จกฺขายตนาทินิทฺเทสา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. อิทํ ตาว ทุวิเธน รูปสงฺคเห วิเสสมตฺตํ. ติวิธสงฺคโห อุตฺตานตฺโถว.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๖. จตุพฺพิธสงฺคหาวสาเน ทิฏฺาทีนํ ปจฺฉิมปทสฺส เภทาภาเวน อาทิโต ปฏฺาย ปุจฺฉํ อกตฺวาว รูปายตนํ ทิฏฺํ สทฺทายตนํ สุตนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปายตนํ จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ทกฺขิตุํ สกฺกาติ ‘ทิฏฺํ’ นาม ชาตํ. สทฺทายตนํ โสเตน สุตฺวา ชานิตุํ สกฺกาติ ‘สุตํ’ นาม ชาตํ. คนฺธายตนาทิตฺตยํ ฆานชิวฺหากาเยหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต มุนิตฺวา ชานิตพฺพฏฺเน มุตํ นาม ชาตํ. ผุสิตฺวา วิฺาณุปฺปตฺติการณโต ‘มุตํ’ นามาติปิ วุตฺตํ. สพฺพเมว ปน รูปํ มโนวิฺาเณน ชานิตพฺพนฺติ มนสา วิฺาตํ นาม ชาตํ.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๗. ปฺจวิธสงฺคหนิทฺเทเส กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขรเมว ขรคตํ, ผรุสนฺติ อตฺโถ. อิตเร ทฺเวปิ สภาวนิทฺเทสา เอว. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ. พหิทฺธาติ พาหิรํ. อุปาทิณฺณนฺติ น กมฺมสมุฏฺานเมว. อวิเสเสน ปน สรีรฏฺกสฺเสตํ คหณํ. สรีรฏฺกฺหิ อุปาทิณฺณํ วา โหตุ อนุปาทิณฺณํ วา, อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน สพฺพํ อุปาทิณฺณเมว นาม.

๙๖๙. เตโชคตนฺติ สพฺพเตเชสุ คตํ อุณฺหตฺตลกฺขณํ, เตโช เอว วา เตโชภาวํ คตนฺติ ‘เตโชคตํ’. อุสฺมาติ อุสฺมากาโร. อุสฺมาคตนฺติ อุสฺมาภาวํ คตํ. อุสฺมาการสฺเสเวตํ นามํ. อุสุมนฺติ พลวอุสฺมา. อุสุมเมว อุสุมภาวํ คตนฺติ อุสุมคตํ.

๙๗๐. วายนกวเสน วาโย. วาโยว วาโยภาวํ คตตฺตา วาโยคตํ. ถมฺภิตตฺตนฺติ อุปฺปลนาฬตจาทีนํ วิย วาตปุณฺณานํ ถมฺภิตภาโว รูปสฺส.

ฉกฺกาทินิทฺเทสวณฺณนา

๙๗๒-๔. ฉพฺพิธาทิสงฺคหานํ ติณฺณํ โอสานปทสฺส เภทาภาวโต อาทิโต ปฏฺาย อปุจฺฉิตฺวาว นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ จกฺขุวิฺาเณน ชานิตุํ สกฺกาติ จกฺขุวิฺเยฺยํ…เป… มโนวิฺาเณน ชานิตุํ สกฺกาติ มโนวิฺเยฺยํ. ติวิธาย มโนธาตุยา ชานิตุํ สกฺกาติ มโนธาตุวิฺเยฺยํ สพฺพํ รูปนฺติ เอตฺถ ยสฺมา เอกํ รูปมฺปิ มโนวิฺาณธาตุยา อชานิตพฺพํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘สพฺพํ รูป’นฺติ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อภิธมฺมํ ปตฺวา นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อกโต นาม นตฺถิ. อิทฺจ เอกรูปสฺสาปิ มโนวิฺาณธาตุยา อชานิตพฺพสฺส อภาเวน นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺานํ นาม, ตสฺมา นยํ กโรนฺโต ‘สพฺพํ รูป’นฺติ อาห.

๙๗๔. สุขสมฺผสฺโสติ สุขเวทนาปฏิลาภปจฺจโย. ทุกฺขสมฺผสฺโสติ ทุกฺขเวทนาปฏิลาภปจฺจโย. อิธาปิ โผฏฺพฺพารมฺมณสฺส สุขทุกฺขสฺส สพฺภาวโต อยํ นโย ทินฺโน.

นวกาทินิทฺเทสวณฺณนา

๙๗๕. นวเก ปน อินฺทฺริยรูปสฺส นาม อตฺถิตาย นโย ทินฺโน. ตสฺเสว สปฺปฏิฆอปฺปฏิฆตาย ทสเก นโย ทินฺโน. เอกาทสเก อฑฺเฒกาทส อายตนานิ วิภตฺตานิ. เตสํ นิทฺเทสวารา เหฏฺา วุตฺตนเยน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

ปกิณฺณกกถา

อิเมสุ ปน รูเปสุ อสมฺโมหตฺถํ สโมธานํ สมุฏฺานํ ปรินิปฺผนฺนฺจ สงฺขตนฺติ อิทํ ‘ปกิณฺณกํ’ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ‘สโมธาน’นฺติ สพฺพเมว หิทํ รูปํ สโมธานโต จกฺขายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโร, โผฏฺพฺพายตนํ อาโปธาตูติ ปฺจวีสติสงฺขฺยํ โหติ. ตํ วตฺถุรูเปน สทฺธึ ฉพฺพีสติสงฺขฺยํ เวทิตพฺพํ. อิโต อฺํ รูปํ นาม นตฺถิ. เกจิ ปน ‘มิทฺธรูปํ นาม อตฺถี’ติ วทนฺติ. เต ‘‘อทฺธา มุนีสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตวา’’ติอาทีนิ (สุ. นิ. ๕๔๖) วตฺวา มิทฺธรูปํ นาม นตฺถีติ ปฏิเสเธตพฺพา. อปเร พลรูเปน สทฺธึ สตฺตวีสติ, สมฺภวรูเปน สทฺธึ อฏฺวีสติ, ชาติรูเปน สทฺธึ เอกูนตึสติ, โรครูเปน สทฺธึ สมตึสติ รูปานีติ วทนฺติ. เตปิ เตสํ วิสุํ อภาวํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วาโยธาตุยา หิ คหิตาย พลรูปํ คหิตเมว, อฺํ พลรูปํ นาม นตฺถิ. อาโปธาตุยา สมฺภวรูปํ, อุปจยสนฺตตีหิ ชาติรูปํ, ชรตาอนิจฺจตาหิ คหิตาหิ โรครูปํ คหิตเมว. อฺํ โรครูปํ นาม นตฺถิ. โยปิ กณฺณโรคาทิ อาพาโธ โส วิสมปจฺจยสมุฏฺิตธาตุมตฺตเมว. น อฺโ ตตฺถ โรโค นาม อตฺถีติ สโมธานโต ฉพฺพีสติเมว รูปานิ.

‘สมุฏฺาน’นฺติ กติ รูปานิ กติสมุฏฺานานิ? ทส เอกสมุฏฺานานิ, เอกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, ตีณิ ติสมุฏฺานานิ, นว จตุสมุฏฺานานิ, ทฺเว น เกนจิ สมุฏฺหนฺติ.

ตตฺถ จกฺขุปสาโท…เป… ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อิมานิ อฏฺ เอกนฺตํ กมฺมโตว สมุฏฺหนฺติ. กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺติทฺวยํ เอกนฺเตน จิตฺตโต สมุฏฺาตีติ ทส ‘เอกสมุฏฺานานิ’ นาม. สทฺโท อุตุโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาตีติ เอโก ‘ทฺวิสมุฏฺาโน’ นาม. ตตฺถ อวิฺาณกสทฺโท อุตุโต สมุฏฺาติ, สวิฺาณกสทฺโท จิตฺตโต. ลหุตาทิตฺตยํ ปน อุตุจิตฺตาหาเรหิ สมุฏฺาตีติ ตีณิ ‘ติสมุฏฺานานิ’ นาม. อวเสสานิ นว รูปานิ เตหิ กมฺเมน จาติ จตูหิ สมุฏฺหนฺตีติ นว ‘จตุสมุฏฺานานิ’ นาม. ชรตา อนิจฺจตา ปน เอเตสุ เอกโตปิ น สมุฏฺหนฺตีติ ทฺเว ‘น เกนจิ สมุฏฺหนฺติ’ นาม. กสฺมา? อชายนโต. น หิ เอตานิ ชายนฺติ. กสฺมา? ชาตสฺส ปากเภทตฺตา. อุปฺปนฺนฺหิ รูปํ ชีรติ ภิชฺชตีติ อวสฺสํ ปเนตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. น หิ อุปฺปนฺนํ รูปํ อรูปํ วา อกฺขยํ นาม ทิสฺสติ. ยาว ปน น ภิชฺชติ ตาวสฺส ปริปาโกติ สิทฺธเมตํ. ‘ชาตสฺส ปากเภทตฺตา’ติ ยทิ จ ตานิ ชาเยยฺยุํ เตสมฺปิ ปากเภทา ภเวยฺยุํ. น จ ปาโก ปจฺจติ, เภโท วา ภิชฺชตีติ ชาตสฺส ปากเภทตฺตา เนตํ ทฺวยํ ชายติ.

ตตฺถ สิยา – ยถา ‘กมฺมสฺส กตตฺตา’ติ อาทินิทฺเทเสสุ ‘รูปสฺส อุปจโย รูปสฺส สนฺตตี’ติ วจเนน ‘ชาติ’ ชายตีติ สมฺปฏิจฺฉิตํ โหติ, เอวํ ‘ปาโก’ปิ ปจฺจตุ ‘เภโท’ปิ ภิชฺชตูติ. ‘‘น ตตฺถ ‘ชาติ ชายตี’ติ สมฺปฏิจฺฉิตํ. เย ปน ธมฺมา กมฺมาทีหิ นิพฺพตฺตนฺติ เตสํ อภินิพฺพตฺติภาวโต ชาติยา ตปฺปจฺจยภาวโวหาโร อนุมโต. น ปน ปรมตฺถโต ชาติ ชายติ. ชายมานสฺส หิ อภินิพฺพตฺติมตฺตํ ชาตี’’ติ.

ตตฺถ สิยา – ‘ยเถว ชาติ เยสํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภติ, ตถา ปากเภทาปิ เยสํ ธมฺมานํ ปากเภทา ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภนฺตุ. เอวํ อิทมฺปิ ทฺวยํ กมฺมาทิสมุฏฺานเมวาติ วตฺตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ. ‘น ปากเภทา ตํ โวหารํ ลภนฺติ. กสฺมา? ชนกปจฺจยานุภาวกฺขเณ อภาวโต. ชนกปจฺจยานฺหิ อุปฺปาเทตพฺพธมฺมสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อานุภาโว, น ตโต อุตฺตริ. เตหิ อภินิพฺพตฺติตธมฺมกฺขณสฺมิฺจ ชาติ ปฺายมานา ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ ลภติ, ตสฺมึ ขเณ สพฺภาวโต; น อิตรทฺวยํ, ตสฺมึ ขเณ อภาวโตติ เนเวตํ ชายตี’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตตฺตา อิทมฺปิ ทฺวยํ ชายตีติ เจ – ‘น, ปริยายเทสิตตฺตา. ตตฺถ หิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา ปริยาเยน ตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’นฺติ วุตฺตํ.

‘ยทิ เอวํ, ตยมฺเปตํ อชาตตฺตา สสวิสาณํ วิย นตฺถิ; นิพฺพานํ วิย วา นิจฺจ’นฺติ เจ – น, นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติโต; ปถวีอาทีนฺหิ นิสฺสยานํ ภาเว ชาติอาทิตฺตยํ ปฺายติ, ตสฺมา น นตฺถิ. เตสฺจ อภาเว น ปฺายติ, ตสฺมา น นิจฺจํ. เอตมฺปิ จ อภินิเวสํ ปฏิเสเธตุํ เอว อิทํ วุตฺตํ – ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐). เอวมาทีหิ นเยหิ ตานิ ทฺเว รูปานิ น เกหิจิ สมุฏฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

อปิจ ‘สมุฏฺาน’นฺติ เอตฺถ อยมฺโปิ อตฺโถ. ตสฺสายํ มาติกา – ‘กมฺมชํ กมฺมปจฺจยํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, อาหารสมุฏฺานํ อาหารปจฺจยํ อาหารปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, อุตุสมุฏฺานํ อุตุปจฺจยํ อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ, จิตฺตสมุฏฺานํ จิตฺตปจฺจยํ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’นฺติ.

ตตฺถ จกฺขุปสาทาทิ อฏฺวิธํ รูปํ สทฺธึ หทยวตฺถุนา ‘กมฺมชํ’ นาม. เกสมสฺสุ หตฺถิทนฺตา อสฺสวาลา จมรวาลาติ เอวมาทิ ‘กมฺมปจฺจยํ’ นาม. จกฺกรตนํ เทวตานํ อุยฺยานวิมานาทีนีติ เอวมาทิ ‘กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

อาหารโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘อาหารสมุฏฺานํ’ นาม. กพฬีกาโร อาหาโร ทฺวินฺนมฺปิ รูปสนฺตตีนํ ปจฺจโย โหติ อาหารสมุฏฺานสฺส จ อุปาทินฺนสฺส จ. อาหารสมุฏฺานสฺส ชนโก หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, กมฺมชสฺส อนุปาลโก หุตฺวาติ อิทํ อาหารานุปาลิตํ กมฺมชรูปํ ‘อาหารปจฺจยํ’ นาม. วิสภาคาหารํ เสวิตฺวา อาตเป คจฺฉนฺตสฺส ติลกกาฬกุฏฺาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ, อิทํ ‘อาหารปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

อุตุโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘อุตุสมุฏฺานํ’ นาม. ตสฺมึ อุตุ อฺํ อฏฺกํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ‘อุตุปจฺจยํ’ นาม. ตสฺมิมฺปิ อุตุ อฺํ อฏฺกํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ‘อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม. เอวํ ติสฺโสเยว สนฺตติโย ฆฏฺเฏตุํ สกฺโกติ. น ตโต ปรํ. อิมมตฺถํ อนุปาทินฺนเกนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ. อุตุสมุฏฺาโน นาม วลาหโก. อุตุปจฺจยา นาม วุฏฺิธารา. เทเว ปน วุฏฺเ พีชานิ วิรูหนฺติ, ปถวี คนฺธํ มุฺจติ, ปพฺพตา นีลา ขายนฺติ, สมุทฺโท วฑฺฒติ, เอตํ อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ นาม.

จิตฺตโต สมุฏฺิตํ สุทฺธฏฺกํ ‘จิตฺตสมุฏฺานํ’ นาม. ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑) อิทํ ‘จิตฺตปจฺจยํ’ นาม. อากาเส อนฺตลิกฺเข หตฺถิมฺปิ ทสฺเสติ, อสฺสมฺปิ ทสฺเสติ, รถมฺปิ ทสฺเสติ, วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสติตี (ปฏิ. ม. ๓.๑๘) อิทํ ‘จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ’ นาม.

‘ปรินิปฺผนฺน’นฺติ ปนฺนรส รูปานิ ปรินิปฺผนฺนานิ นาม, ทส อปรินิปฺผนฺนานิ นาม. ‘ยทิ อปรินิปฺผนฺนา, อสงฺขตา นาม ภเวยฺยุํ’. ‘‘เตสํเยว ปน รูปานํ กายวิกาโร ‘กายวิฺตฺติ’ นาม, วจีวิกาโร ‘วจีวิฺตฺติ’ นาม, ฉิทฺทํ วิวรํ ‘อากาสธาตุ’ นาม, ลหุภาโว ‘ลหุตา’ นาม, มุทุภาโว ‘มุทุตา’ นาม, กมฺมฺภาโว ‘กมฺมฺตา’ นาม, นิพฺพตฺติ ‘อุปจโย’ นาม, ปวตฺติ ‘สนฺตติ’ นาม, ชีรณากาโร ‘ชรตา’ นาม, หุตฺวา อภาวากาโร ‘อนิจฺจตา’ นามาติ. สพฺพํ ปรินิปฺผนฺนํ สงฺขตเมว โหตี’’ติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิกฺเขปกณฺโฑ

ติกนิกฺเขปกถา

๙๘๕. เอตฺตาวตา กุสลตฺติโก สพฺเพสํ กุสลาทิธมฺมานํ ปทภาชนนเยน วิตฺถาริโต โหติ. ยสฺมา ปน ยฺวายํ กุสลตฺติกสฺส วิภชนนโย วุตฺโต, เสสติกทุกานมฺปิ เอเสว วิภชนนโย โหติ – ยถา หิ เอตฺถ, เอวํ ‘กตเม ธมฺมา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ รูปารมฺมณํ วา…เป… เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อฺเปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา เปตฺวา เวทนาขนฺธํ, อิเม ธมฺมา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’ติอาทินา อนุกฺกเมน สพฺพติกทุเกสุ สกฺกา ปณฺฑิเตหิ วิภาชนนยํ สลฺลกฺเขตุํ – ตสฺมา ตํ วิตฺถารเทสนํ นิกฺขิปิตฺวา, อฺเน นาติสงฺเขปนาติวิตฺถารนเยน สพฺพติกทุกธมฺมวิภาคํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติ นิกฺเขปกณฺฑํ อารทฺธํ. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑฺหิ วิตฺถารเทสนา, อฏฺกถากณฺฑํ สงฺเขปเทสนา. อิทํ ปน นิกฺเขปกณฺฑํ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑํ อุปาทาย สงฺเขโป, อฏฺกถากณฺฑํ อุปาทาย วิตฺถาโรติ สงฺขิตฺตวิตฺถารธาตุกํ โหติ. ตยิทํ, วิตฺถารเทสนํ นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตาปิ, เหฏฺา วุตฺตการณวเสนาปิ, นิกฺเขปกณฺฑํ นามาติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

มูลโต ขนฺธโต จาปิ, ทฺวารโต จาปิ ภูมิโต;

อตฺถโต ธมฺมโต จาปิ, นามโต จาปิ ลิงฺคโต;

นิกฺขิปิตฺวา เทสิตตฺตา, นิกฺเขโปติ ปวุจฺจตีติ.

อิทฺหิ ตีณิ กุสลมูลานีติอาทินา นเยน มูลโต นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ. ตํสมฺปยุตฺโต เวทนากฺขนฺโธติ ขนฺธโต. ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมนฺติ ทฺวารโต. กายทฺวารปฺปวตฺตฺหิ กมฺมํ กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ. สุขภูมิยํ, กามาวจเรติ ภูมิโต นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ. ตตฺถ ตตฺถ อตฺถธมฺมนามลิงฺคานํ วเสน เทสิตตฺตา อตฺถาทีหิ นิกฺขิปิตฺวา เทสิตํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ กุสลปทนิทฺเทเส ตาว ตีณีติ คณนปริจฺเฉโท. กุสลานิ จ ตานิ มูลานิ จ, กุสลานํ วา ธมฺมานํ เหตุปจฺจยปภวชนกสมุฏฺานนิพฺพตฺตกฏฺเน มูลานีติ กุสลมูลานิ. เอวํ อตฺถวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ นามวเสน ทสฺเสตุํ อโลโภ อโทโส อโมโหติ อาห. เอตฺตาวตา ยสฺมา มูเลน มุตฺตํ กุสลํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา จตุภูมกกุสลํ ตีหิ มูเลหิ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมฺปยุตฺโตติ เตหิ อโลภาทีหิ สมฺปยุตฺโต. ตตฺถ อโลเภน สมฺปยุตฺเต สงฺขารกฺขนฺเธ, อโทสาโมหาปิ อโลเภน สมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธคณนํเยว คจฺฉนฺติ. เสสทฺวยวเสน สมฺปโยเคปิ เอเสว นโย. อิติ จตุภูมกกุสลํ ปุน ตํสมฺปยุตฺตกจตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมุฏฺานนฺติ เตหิ อโลภาทีหิ สมุฏฺิตํ. อิมินาปิ นเยน ตเทว จตุภูมิกกุสลํ ติณฺณํ กมฺมทฺวารานํ วเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. เอวํ ตาว กุสลํ ตีสุ าเนสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ.

๙๘๖. อกุสเลปิ เอเสว นโย. ทฺวาทสนฺนฺหิ อกุสลจิตฺตานํ เอกมฺปิ มูเลน มุตฺตํ นาม นตฺถีติ มูเลน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ตํสมฺปยุตฺตจตุกฺขนฺธโต จ อุทฺธํ อกุสลํ นาม นตฺถีติ ตาเนว ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ จตุกฺขนฺธวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ. ธมฺมราชา กายกมฺมาทิวเสน ปน เนสํ ปวตฺติสพฺภาวโต กมฺมทฺวารวเสน ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา. ยํ ปเนตฺถ ตเทกฏฺา จ กิเลสาติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ เอกสฺมึ จิตฺเต ปุคฺคเล วา ิตนฺติ ‘เอกฏฺํ’. ตตฺถ เอกสฺมึ จิตฺเต ิตํ สหเชกฏฺํ นาม โหติ. เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตํ ปหาเนกฏฺํ นาม. เตน โลภาทินา อฺเน วา ตตฺถ ตตฺถ นิทฺทิฏฺเน สห เอกสฺมึ ิตนฺติ ตเทกฏฺํ. ตตฺถ ‘กตเม ธมฺมา สํกิลิฏฺสํกิเลสิกา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ สํกิลิฏฺตฺติเก; ‘กตเม ธมฺมา หีนา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ หีนตฺติเก ‘กตเม ธมฺมา อกุสลา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ อิมสฺมึ กุสลตฺติเก; ‘กตเม ธมฺมา สํกิลิฏฺา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ กิเลสโคจฺฉเก ‘กตเม ธมฺมา สรณา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ สรณทุเก’ติ – อิเมสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ ‘สหเชกฏฺํ’ อาคตํ.

ทสฺสเนนปหาตพฺพตฺติเก ปน ‘อิมานิ ตีณิ สํโยชนานิ, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ, ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกตฺติเกปิ ‘อิมานิ ตีณิ สํโยชนานิ, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’ติ, ปุน ตตฺเถว ตีณิ สํโยชนานิ – สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพา; ตเทกฏฺโ โลโภ โทโส โมโห, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตู; ตเทกฏฺา จ กิเลสา ตํสมฺปยุตฺโต เวทนาขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาติ; สมฺมปฺปธานวิภงฺเค ‘‘ตตฺถ กตเม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติ (วิภ. ๓๙๑) – อิเมสุ ปน เอตฺตเกสุ าเนสุ ‘ปหาเนกฏฺํ’ อาคตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๙๘๗. อพฺยากตปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยวาติ. อิมสฺมึ ติเก ตีณิ ลกฺขณานิ ติสฺโส ปฺตฺติโย กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ อชฏากาสํ อากิฺจฺายตนสฺส อารมฺมณํ นิโรธสมาปตฺติ จ น ลพฺภตีติ วุตฺตํ.

๙๘๘. เวทนาตฺติกนิทฺเทเส สุขภูมิยนฺติ เอตฺถ ยถา ตมฺพภูมิ กณฺหภูมีติ ตมฺพกณฺหภูมิโยว วุจฺจนฺติ, เอวํ สุขมฺปิ สุขภูมิ นาม. ยถา อุจฺฉุภูมิ สาลิภูมีติ อุจฺฉุสาลีนํ อุปฺปชฺชนฏฺานานิ วุจฺจนฺติ, เอวํ สุขสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานํ จิตฺตมฺปิ สุขภูมิ นาม. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ยสฺมา ปน สา กามาวจเร วา โหติ, รูปาวจราทีสุ วา, ตสฺมาสฺสา ตํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ กามาวจเรติอาทิ วุตฺตํ. สุขเวทนํ เปตฺวาติ ยา สา สุขภูมิยํ สุขเวทนา, ตํ เปตฺวา. ตํสมฺปยุตฺโตติ ตาย ปิตาย สุขเวทนาย สมฺปยุตฺโต. เสสปททฺวเยปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อิมสฺมึ ติเก ติสฺโส เวทนา, สพฺพํ รูปํ, นิพฺพานนฺติ อิทมฺปิ น ลพฺภติ. อยฺหิ ติโก กุสลตฺติเก จ อลพฺภมาเนหิ อิเมหิ จ ตีหิ โกฏฺาเสหิ มุตฺตโก นาม. อิโต ปเรสุ ปน ติกทุเกสุ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ ปทานุกฺกเมน มาติกากถายฺเจว กุสลาทีนํ นิทฺเทเส จ วุตฺตเมว. ยํ ปน ยตฺถ วิเสสมตฺตํ ตเทว วกฺขาม.

๙๙๑. ตตฺถ วิปากตฺติเก ตาว กิฺจาปิ อรูปธมฺมา วิย รูปธมฺมาปิ กมฺมสมุฏฺานา อตฺถิ, อนารมฺมณตฺตา ปน เต กมฺมสริกฺขกา น โหนฺตีติ สารมฺมณา อรูปธมฺมาว กมฺมสริกฺขกตฺตา วิปากาติ วุตฺตา, พีชสริกฺขกํ ผลํ วิย. สาลิพีชสฺมิฺหิ วปิเต องฺกุรปตฺตาทีสุ นิกฺขนฺเตสุปิ สาลิผลนฺติ น วุจฺจติ. ยทา ปน สาลิสีสํ ปกฺกํ โหติ ปริณตํ, ตทา พีชสริกฺขโก สาลิ เอว สาลิผลนฺติ วุจฺจติ. องฺกุรปตฺตาทีนิ ปน พีชชาตานิ พีชโต นิพฺพตฺตานีติ วุจฺจนฺติ, เอวเมว รูปมฺปิ กมฺมชนฺติ วา อุปาทิณฺณนฺติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๙๙๔. อุปาทิณฺณตฺติเก กิฺจาปิ ขีณาสวสฺส ขนฺธา ‘อมฺหากํ มาตุลตฺเถโร อมฺหากํ จูฬปิตุตฺเถโร’ติ วทนฺตานํ ปเรสํ อุปาทานสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, มคฺคผลนิพฺพานานิ ปน อคฺคหิตานิ อปรามฏฺานิ อนุปาทิณฺณาเนว. ตานิ หิ, ยถา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ มกฺขิกานํ อภินิสีทนสฺส ปจฺจโย น โหติ, เอวเมว เตชุสฺสทตฺตา ตณฺหามานทิฏฺิวเสน คหณสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – อิเม ธมฺมา อนุปาทิณฺณอนุปาทานิยาติ.

๙๙๘. อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิเกสุปิ เอเสว นโย.

๑๐๐๐. วิตกฺกตฺติเก วิตกฺกสหชาเตน วิจาเรน สทฺธึ กุสลตฺติเก อลพฺภมานาว น ลพฺภนฺติ.

๑๐๐๓. ปีติสหคตตฺติเก ปีติอาทโย อตฺตนา สหชาตธมฺมานํ ปีติสหคตาทิภาวํ ทตฺวา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา ชาตา. อิมสฺมิฺหิ ติเก ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทา ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ อุเปกฺขาเวทนา รูปํ นิพฺพานนฺติ – อิทมฺปิ น ลพฺภติ. อยฺหิ ติโก กุสลตฺติเก จ อลพฺภมาเนหิ อิเมหิ จ ปฺจหิ โกฏฺาเสหิ มุตฺตโก นาม.

๑๐๐๖. ทสฺสเนนปหาตพฺพตฺติเก สฺโชนานีติ พนฺธนานิ. สกฺกายทิฏฺีติ วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย; สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺีติ ‘สกฺกายทิฏฺิ’. สีเลน สุชฺฌิตุํ สกฺกา, วเตน สุชฺฌิตุํ สกฺกา, สีลวเตหิ สุชฺฌิตุํ สกฺกาติ คหิตสมาทานํ ปน สีลพฺพตปรามาโส นาม.

๑๐๐๗. อิธาติ เทสาปเทเส นิปาโต. สฺวายํ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๘๙). กตฺถจิ สาสนํ. ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). กตฺถจิ โอกาสํ. ยถาห –

‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;

ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙);

กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมว. ยถาห – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). อิธ ปน โลกํ อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ เอตฺถ ปน ‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ’. ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยรหิตตฺตา ทิฏฺิปฏิเสธโก เนว ‘อาคโม’, ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพสฺส อนธิคตตฺตา เนว ‘อธิคโม’ อตฺถิ, โส ‘อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ’. สฺวายํ –

ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;

ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๘; เนตฺติ. อฏฺ. ๕๖);

โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺปนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ (มหานิ. ๙๔). ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา. ปุถุ วา อยํ – วิสุํเยว สงฺขฺยํ คโต, วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ – ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เอวเมเตหิ ‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ เย เต –

‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๘);

ทฺเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.

อริยานํ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย อิริยนโต, สเทวเกน โลเกน จ อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ. พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘).

สปฺปุริสาติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ สปฺปุริสาติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพว วา เอเต ทฺเวธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร,

กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ,

ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

‘กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’ติ เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต. กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธาติ. อิทานิ โย เตสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล, น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส อริยานํ อทสฺสาวีติ เวทิตพฺโพ. โส จกฺขุนา อทสฺสาวี าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ. เตสุ าเณน อทสฺสาวี อิธ อธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ, เตสํ จกฺขูนํ วณฺณมตฺตคฺคหณโต, น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น จ เต อริยานํ ทสฺสาวิโน.

ตตฺริทํ วตฺถุ – จิตฺตลปพฺพตวาสิโน กิร ขีณาสวตฺเถรสฺส อุปฏฺาโก วุฑฺฒปพฺพชิโต เอกทิวสํ เถเรน สทฺธึ ปิณฺฑาย จริตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เถรํ ปุจฺฉิ – ‘อริยา นาม ภนฺเต กีทิสา’ติ? เถโร อาห – ‘อิเธกจฺโจ มหลฺลโก อริยานํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ กตฺวา สห จรนฺโตปิ เนว อริเย ชานาติ, เอวํทุชฺชานาวุโส, อริยา’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส เนว อฺาสิ. ตสฺมา น จกฺขุนา ทสฺสนํ ‘ทสฺสนํ’, าณทสฺสนเมว ‘ทสฺสนํ’. ยถาห – ‘‘กึ เต วกฺกลิ อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ, าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต, อริยาธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต, อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา, ‘อริยานํ อทสฺสาวี’ติ เวทิตพฺโพ.

อริยธมฺมสฺส อโกวิโทติ สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ, เอตฺถ ปน

ทุวิโธ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;

อภาวโต ตสฺส อยํ, อวินีโตติ วุจฺจติ.

อยฺหิ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโก วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปหานํ วิกฺขมฺภนปหานํ สมุจฺเฉทปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานํ นิสฺสรณปหานนฺติ ปฺจวิโธ.

ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ,

ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑) –

อยํ าณสํวโร นาม. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว ‘สํวรวินโย’ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต, ทีปาโลเกเนว ตมสฺส, เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถิภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘อหํ มมา’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสนาย อภิรติสฺาย, มุจฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุจฺจิตุกามตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ‘ตทงฺคปหานํ’ นาม.

ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต, ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส, เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ ‘วิกฺขมฺภนปหานํ’ นาม. ‘‘ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน อตฺตโน สนฺตาเน ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ ‘สมุจฺเฉทปหานํ’ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, เอตํ ‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานํ’ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ ‘นิสฺสรณปหานํ’ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘ปหานวินโย’ติ วุจฺจติ. ตํตํปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ปหานวินโยติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ สงฺเขปโต ทุวิโธ, เภทโต จ ทสวิโธ วินโย, ภินฺนสํวรตฺตา, ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา, ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส, อยํ ‘อวินีโต’ติ วุจฺจตีติ. เอส นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถาปิ. นินฺนานากรณฺเหตํ อตฺถโต. ยถาห – ‘‘เยว เต อริยา เตว เต สปฺปุริสา, เยว เต สปฺปุริสา เตว เต อริยา. โย เอว โส อริยานํ ธมฺโม โส เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โย เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม โส เอว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา เตว เต สปฺปุริสวินยา, เยว เต สปฺปุริสวินยา เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ วา สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา สปฺปุริสวินเยติ วา, เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.

รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ – ‘ยํ รูปํ โส อหํ, โย อหํ ตํ รูป’นฺติ รูปฺจ อตฺตานฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ยา อจฺจิ โส วณฺโณ, โย วณฺโณ สา อจฺจีติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ,’’ เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ เอวํ รูปํ อตฺตาติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ ‘อรูปํ อตฺตา’ติ คเหตฺวา, ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย, ตํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ ‘อรูปเมว อตฺตา’ติ คเหตฺวา, ปุปฺผมฺหิ คนฺธํ วิย, อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ ‘อรูปเมว อตฺตา’ติ คเหตฺวา, กรณฺฑเก มณึ วิย, อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ สุทฺธรูปเมว อตฺตาติ กถิตํ. ‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ‘อรูปํ อตฺตา’ติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ ‘รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา’ กถิโต. ตตฺถ ‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’ติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา. อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺิ. เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ. ตา สพฺพาปิ มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, ปมมคฺควชฺฌาติ เวทิตพฺพา.

๑๐๐๘. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา อุภยตฺถ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ‘ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. คุเณ กงฺขมาโน ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. อุภยตฺถ กงฺขมาโน ‘อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภานุรฺชิตาย สรีรนิปฺผตฺติยา สมนฺนาคโต สพฺพเยฺยชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต โลกตารโก พุทฺโธ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. อยฺหิสฺส อตฺตภาเว คุเณ วา กงฺขนโต อุภยตฺถ กงฺขติ นาม. วิจิกิจฺฉตีติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต กิจฺฉติ กิลมติ. นาธิมุจฺจตีติ ตตฺเถว อธิโมกฺขํ น ลภติ. น สมฺปสีทตีติ จิตฺตํ อนาวิลํ กตฺวา ปสีทิตุํ น สกฺโกติ, คุเณสุ นปฺปสีทติ.

ธมฺเม กงฺขตีติอาทีสุ ปน ‘กิเลเส ปชหนฺตา จตฺตาโร อริยมคฺคา, ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสานิ จตฺตาริ สามฺผลานิ, มคฺคผลานํ อารมฺมณปจฺจยภูตํ อมตํ มหานิพฺพานํ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ ‘อยํ ธมฺโม นิยฺยานิโก นุ โข อนิยฺยานิโก’ติ กงฺขนฺโตปิ ธมฺเม กงฺขติ นาม. ‘จตฺตาโร มคฺคฏฺกา จตฺตาโร ผลฏฺกาติ อิทํ สงฺฆรตนํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘อยํ สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโน นุ โข ทุปฺปฏิปนฺโน’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘เอตสฺมึ สงฺฆรตเน ทินฺนสฺส วิปากผลํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ สงฺเฆ กงฺขติ นาม. ‘ติสฺโส ปน สิกฺขา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ, ‘ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขิตปจฺจเยน อานิสํโส อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโตปิ สิกฺขาย กงฺขติ นาม.

ปุพฺพนฺโต วุจฺจติ อตีตานิ ขนฺธธาตายตนานิ. อปรนฺโต อนาคตานิ. ตตฺถ อตีเตสุ ขนฺธาทีสุ ‘อตีตานิ นุ โข, น นุ โข’ติ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺเต กงฺขติ นาม. อนาคเตสุ ‘อนาคตานิ นุ โข, น นุ โข’ติ กงฺขนฺโต อปรนฺเต กงฺขติ นาม. อุภยตฺถ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขติ นาม. ‘ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยวฏฺฏํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขนฺโต อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ นาม. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยา ‘อิทปฺปจฺจยา’. อิทปฺปจฺจยานํ ภาโว ‘อิทปฺปจฺจยตา’. อิทปฺปจฺจยา เอว วา ‘อิทปฺปจฺจยตา’; ชาติอาทีนเมตํ อธิวจนํ. ชาติอาทีสุ ตํ ตํ ปฏิจฺจ อาคมฺม สมุปฺปนฺนาติ ‘ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา’. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิทปฺปจฺจยตาย จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ จ ธมฺเมสุ กงฺขตีติ.

๑๐๐๙. สีเลนาติ โคสีลาทินา. วเตนาติ โควตาทินาว. สีลพฺพเตนาติ ตทุภเยน. สุทฺธีติ กิเลสสุทฺธิ; ปรมตฺถสุทฺธิภูตํ วา นิพฺพานเมว. ตเทกฏฺาติ อิธ ปหาเนกฏฺํ ธุรํ. อิมิสฺสา จ ปาฬิยา ทิฏฺิกิเลโส วิจิกิจฺฉากิเลโสติ ทฺเวเยว อาคตา. โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม ปน อฏฺ อนาคตา. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพา. เอตฺถ หิ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสุ ปหียมานาสุ อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ สพฺเพปิเม ปหาเนกฏฺา หุตฺวา ปหียนฺติ. สหเชกฏฺํ ปน อาหริตฺวา ทีเปตพฺพํ. โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสหคตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตฺจาติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ ทฺวีสุ อสงฺขาริกทิฏฺิจิตฺเตสุ ปหียนฺเตสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เสสทิฏฺิกิเลโส จ วิจิกิจฺฉากิเลโส จ ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุปิ ปหียนฺเตสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เสสทิฏฺิกิเลโส จ วิจิกิจฺฉากิเลโส จ ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เอวํ ปหาเนกฏฺสฺมึเยว สหเชกฏฺํ ลพฺภตีติ อิทํ สหเชกฏฺํ อาหริตฺวา ทีปยึสุ.

ตํสมฺปยุตฺโตติ เตหิ ตเทกฏฺเหิ อฏฺหิ กิเลเสหิ สมฺปยุตฺโต. วินิพฺโภคํ วา กตฺวา เตน โลเภน เตน โทเสนาติ เอวํ เอเกเกน สมฺปยุตฺตตา ทีเปตพฺพา. ตตฺถ โลเภ คหิเต, โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ สงฺขารกฺขนฺเธ กิเลสคโณ โลภสมฺปยุตฺโต นาม. โทเส คหิเต, โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ โทสสมฺปยุตฺโต นาม. โมเห คหิเต, โลโภ โทโส มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ โมหสมฺปยุตฺโต นาม. มาเน คหิเต, เตน สหุปฺปนฺโน โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อยํ กิเลสคโณ มานสมฺปยุตฺโต นาม. อิมินา อุปาเยน เตน ถิเนน เตน อุทฺธจฺเจน เตน อหิริเกน เตน อโนตฺตปฺเปน สมฺปยุตฺโต ตํสมฺปยุตฺโตติ โยชนา กาตพฺพา. ตํสมุฏฺานนฺติ เตน โลเภน…เป… เตน อโนตฺตปฺเปน สมุฏฺิตนฺติ อตฺโถ.

อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาติ เอตฺถ ทสฺสนํ นาม โสตาปตฺติมคฺโค; เตน ปหาตพฺพาติ อตฺโถ. ‘กสฺมา ปน โสตาปตฺติมคฺโค ทสฺสนํ นาม ชาโต’ติ? ‘ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต’. ‘นนุ โคตฺรภุ ปมตรํ ปสฺสตี’ติ? ‘โน น ปสฺสติ; ทิสฺวาปิ กตฺตพฺพกิจฺจํ ปน น กโรติ, สํโยชนานํ อปฺปหานโต. ตสฺมา ปสฺสตี’ติ น วตฺตพฺโพ. ยตฺถ กตฺถจิ ราชานํ ทิสฺวาปิ ปณฺณาการํ ทตฺวา กิจฺจนิปฺผตฺติยา อทิฏฺตฺตา ‘อชฺชาปิ ราชานํ น ปสฺสามี’ติ วทนฺโต เจตฺถ ชานปทปุริโส นิทสฺสนํ.

๑๐๑๑. อวเสโส โลโภติ ทสฺสเนน ปหีนาวเสโส. โลโภ โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. ทสฺสเนน หิ อปายคมนียาว ปหีนา. เตหิ ปน อฺเ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ. ‘ตเทกฏฺา’ติ เตหิ ปาฬิยํ อาคเตหิ ตีหิ กิเลเสหิ สมฺปโยคโตปิ ปหานโตปิ เอกฏฺา ปฺจ กิเลสา. เนว ทสฺสเนน น ภาวนายาติ อิทํ สํโยชนาทีนํ วิย เตหิ มคฺเคหิ อปฺปหาตพฺพตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติอาทินา นเยน กุสลาทีนมฺปิ ปหานํ อนุฺาตํ, ตํ เตสํ มคฺคานํ อภาวิตตฺตา เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เต อุปนิสฺสยปจฺจยานํ กิเลสานํ ปหีนตฺตา ปหีนาติ อิมํ ปริยายํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๐๑๓. ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกตฺติเก อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกาติ นิฏฺเปตฺวา, ปุน ‘ตีณิ สํโยชนานี’ติอาทิ ปหาตพฺเพ ทสฺเสตฺวา, ตเทกฏฺภาเวน เหตู เจว สเหตุเก จ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘กิฺจาปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ เหตูสุ โลภสหคโต โมโห โลเภน สเหตุโก โหติ, โทสสหคโต โมโห โทเสน, โลภโทสา จ โมเหนาติ ปหาตพฺพเหตุกปเทเปเต สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, วิจิกิจฺฉาสหคโต ปน โมโห อฺสฺส สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาเวน เหตุเยว, น สเหตุโกติ ตสฺส ปหานํ ทสฺเสตุํ อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตู’ติ วุตฺตํ.

๑๐๑๘. ทุติยปเท อุทฺธจฺจสหคตสฺส โมหสฺส ปหานํ ทสฺเสตุํ อิเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพเหตูติ วุตฺตํ. โส หิ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม สเหตุเก กตฺวา ปิฏฺิวฏฺฏโก ชาโต, วิจิกิจฺฉาสหคโต วิย อฺสฺส สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาวา ปหาตพฺพเหตุกปทํ น ภชติ. ตติยปเท อวเสสา อกุสลาติ ปุน อกุสลคฺคหณํ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานํ โมหานํ สงฺคหตฺถํ กตํ. เต หิ สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาวา ปหาตพฺพเหตุกา นาม น โหนฺติ.

๑๐๒๙. ปริตฺตารมฺมณตฺติเก อารพฺภาติ อารมฺมณํ กตฺวา. สยฺหิ ปริตฺตา วา โหนฺตุ มหคฺคตา วา, ปริตฺตธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา ปริตฺตารมฺมณา, มหคฺคเต อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา มหคฺคตารมฺมณา, อปฺปมาเณ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนา อปฺปมาณารมฺมณา. เต ปน ปริตฺตาปิ โหนฺติ มหคฺคตาปิ อปฺปมาณาปิ.

๑๐๓๕. มิจฺฉตฺตตฺติเก อานนฺตริกานีติ อนนฺตราเยน ผลทายกานิ; มาตุฆาตกกมฺมาทีนเมตํ อธิวจนํ. เตสุ หิ เอกสฺมิมฺปิ กมฺเม กเต ตํ ปฏิพาหิตฺวา อฺํ กมฺมํ อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กาตุํ น สกฺโกติ. สิเนรุปฺปมาเณปิ หิ สุวณฺณถูเป กตฺวา จกฺกวาฬมตฺตํ วา รตนมยปาการํ วิหารํ กาเรตฺวา ตํ ปูเรตฺวา นิสินฺนสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ยาวชีวํ จตฺตาโร ปจฺจเย ททโตปิ ตํ กมฺมํ เอเตสํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิพาเหตุํ น สกฺโกติ เอว. ยา จ มิจฺฉาทิฏฺิ นิยตาติ อเหตุกวาทอกิริยวาทนตฺถิกวาเทสุ อฺตรา. ตฺหิ คเหตฺวา ิตํ ปุคฺคลํ พุทฺธสตมฺปิ พุทฺธสหสฺสมฺปิ โพเธตุํ น สกฺโกติ.

๑๐๓๘. มคฺคารมฺมณตฺติเก อริยมคฺคํ อารพฺภาติ โลกุตฺตรมคฺคํ อารมฺมณํ กตฺวา. เต ปน ปริตฺตาปิ โหนฺติ มหคฺคตาปิ.

๑๐๓๙. มคฺคเหตุกนิทฺเทเส ปมนเยน ปจฺจยฏฺเน เหตุนา มคฺคสมฺปยุตฺตานํ ขนฺธานํ สเหตุกภาโว ทสฺสิโต. ทุติยนเยน มคฺคภูเตน สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน เหตุนา เสสมคฺคงฺคานํ สเหตุกภาโว ทสฺสิโต. ตติยนเยน มคฺเค อุปฺปนฺนเหตูหิ สมฺมาทิฏฺิยา สเหตุกภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๐๔๐. อธิปตึ กริตฺวาติ อารมฺมณาธิปตึ กตฺวา. เต จ โข ปริตฺตธมฺมาว โหนฺติ. อริยสาวกานฺหิ อตฺตโน มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปติ ลพฺภติ. เจโตปริยาเณน ปน อริยสาวโก ปรสฺส มคฺคํ ปจฺจเวกฺขมาโน ครุํ กโรนฺโตปิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ วิย ครุํ น กโรติ. ‘ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ ตถาคตํ ทิสฺวา ตสฺส มคฺคํ ครุํ กโรติ น กโรตี’ติ? กโรติ, น ปน อตฺตโน มคฺคํ วิย. อรหา น กิฺจิ ธมฺมํ ครุํ กโรติ เปตฺวา มคฺคํ ผลํ นิพฺพานนฺติ. เอตฺถาปิ อยเมวตฺโถ. วีมํสาธิปเตยฺยนฺติ อิทํ สหชาตาธิปตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ฉนฺทฺหิ เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส ฉนฺโท อธิปติ นาม โหติ, น มคฺโค. เสสธมฺมาปิ ฉนฺทาธิปติโน นาม โหนฺติ, น มคฺคาธิปติโน. จิตฺเตปิ เอเสว นโย. วีมํสํ ปน เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส วีมํสาธิปติ เจว โหติ มคฺโค จาติ. เสสธมฺมา มคฺคาธิปติโน นาม โหนฺติ. วีริเยปิ เอเสว นโย.

๑๐๔๑. อุปฺปนฺนตฺติกนิทฺเทเส ชาตาติ นิพฺพตฺตา, ปฏิลทฺธตฺตภาวา. ภูตาติอาทีนิ เตสํเยว เววจนานิ. ชาตา เอว หิ ภาวปฺปตฺติยา ภูตา. ปจฺจยสํโยเค ชาตตฺตา สฺชาตา. นิพฺพตฺติลกฺขณปฺปตฺตตฺตา นิพฺพตฺตา. อุปสคฺเคน ปน ปทํ วฑฺเฒตฺวา อภินิพฺพตฺตาติ วุตฺตา. ปากฏีภูตาติ ปาตุภูตา. ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปนฺนาติ อุปฺปนฺนา. อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา สมุปฺปนฺนาติ วุตฺตา. นิพฺพตฺตฏฺเเนว อุทฺธํ ิตาติ อุฏฺิตา. ปจฺจยสํโยเค อุฏฺิตาติ สมุฏฺิตา. ปุน อุปฺปนฺนาติวจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อุปฺปนฺนํเสน สงฺคหิตาติ อุปฺปนฺนโกฏฺาเสน คณนํ คตา. รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณนฺติ อิทํ เนสํ สภาวทสฺสนํ. ทุติยปทนิทฺเทโส วุตฺตปฏิเสธนเยน เวทิตพฺโพ. ตติยปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.

อยํ ปน ติโก ทฺวินฺนํ อทฺธานํ วเสน ปูเรตฺวา ทสฺสิโต. ลทฺโธกาสสฺส หิ กมฺมสฺส วิปาโก ทุวิโธ – ขณปฺปตฺโต, จ อปฺปตฺโต จ. ตตฺถ ‘ขณปฺปตฺโต’ อุปฺปนฺโน นาม. ‘อปฺปตฺโต’ จิตฺตานนฺตเร วา อุปฺปชฺชตุ, กปฺปสตสหสฺสาติกฺกเม วา. ธุวปจฺจยฏฺเน นตฺถิ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาโต. ยถา หิ – ‘‘ติฏฺเตว สายํ, โปฏฺปาท, อรูปี อตฺตา สฺามโย. อถ อิมสฺส ปุริสสฺส อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๑๙). เอตฺถ อารุปฺเป กามาวจรสฺาปวตฺติกาเล กิฺจาปิ มูลภวงฺคสฺา นิรุทฺธา กามาวจรสฺาย ปน นิรุทฺธกาเล อวสฺสํ สา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อรูปสงฺขาโต อตฺตา นตฺถีติ สงฺขฺยํ อคนฺตฺวา ‘ติฏฺเตว’ นามาติ ชาโต. เอวเมว ลทฺโธกาสสฺส กมฺมสฺส วิปาโก ทุวิโธ…เป… ธุวปจฺจยฏฺเน นตฺถิ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาโต.

ยทิ ปน อายูหิตํ กุสลากุสลกมฺมํ สพฺพํ วิปากํ ทเทยฺย, อฺสฺส โอกาโส น ภเวยฺย. ตํ ปน ทุวิธํ โหติ – ธุววิปากํ, อธุววิปากฺจ. ตตฺถ ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ, อฏฺ สมาปตฺติโย, จตฺตาโร อริยมคฺคาติ เอตํ ‘ธุววิปากํ’ นาม. ตํ ปน ขณปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปฺปตฺตมฺปิ. ตตฺถ ‘ขณปฺปตฺตํ’ อุปฺปนฺนํ นาม. ‘อปฺปตฺตํ’ อนุปฺปนฺนํ นาม. ตสฺส วิปาโก จิตฺตานนฺตเร วา อุปฺปชฺชตุ กปฺปสตสหสฺสาติกฺกเม วา. ธุวปจฺจยฏฺเน อนุปฺปนฺนํ นาม น โหติ, อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาตํ. เมตฺเตยฺยโพธิสตฺตสฺส มคฺโค อนุปฺปนฺโน นาม, ผลํ อุปฺปาทิโน ธมฺมาเยว นาม ชาตํ.

๑๐๔๔. อตีตตฺติกนิทฺเทเส อตีตาติ ขณตฺตยํ อติกฺกนฺตา. นิรุทฺธาติ นิโรธปฺปตฺตา. วิคตาติ วิภวํ คตา, วิคจฺฉิตา วา. วิปริณตาติ ปกติวิชหเนน วิปริณามํ คตา. นิโรธสงฺขาตํ อตฺถํ คตาติ อตฺถงฺคตา. อพฺภตฺถงฺคตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อุปฺปชฺชิตฺวา วิคตาติ นิพฺพตฺติตฺวา วิคจฺฉิตา. ปุน อตีตวจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ปรโต อนาคตาทีสุปิ เอเสว นโย. อตีตํเสน สงฺคหิตาติ อตีตโกฏฺาเสน คณนํ คตา. กตเม เตติ? รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. ปรโต อนาคตาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๐๔๗. อตีตารมฺมณตฺติกนิทฺเทเส อตีเต ธมฺเม อารพฺภาติอาทีสุ ปริตฺตมหคฺคตาว ธมฺมา เวทิตพฺพา. เต หิ อตีตาทีนิ อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺติ.

๑๐๕๐. อชฺฌตฺตตฺติกนิทฺเทเส เตสํ เตสนฺติ ปททฺวเยน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยติ. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ อุภยํ นิยกชฺฌตฺตาธิวจนํ. นิยตาติ อตฺตนิ ชาตา. ปาฏิปุคฺคลิกาติ ปาฏิเยกฺกสฺส ปาฏิเยกฺกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺตกา. อุปาทิณฺณาติ สรีรฏฺกา. เต หิ กมฺมนิพฺพตฺตา วา โหนฺตุ มา วา, อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน ปน อิธ อุปาทิณฺณาติ วุตฺตา.

๑๐๕๑. ปรสตฺตานนฺติ อตฺตานํ เปตฺวา อวเสสสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. ตทุภยนฺติ ตํ อุภยํ.

๑๐๕๓. อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติกสฺส ปมปเท ปริตฺตมหคฺคตา ธมฺมา เวทิตพฺพา. ทุติเย อปฺปมาณาปิ. ตติเย ปริตฺตมหคฺคตาว. อปฺปมาณา ปน กาเลน พหิทฺธา กาเลน อชฺฌตฺตํ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. สนิทสฺสนตฺติกนิทฺเทโส อุตฺตาโนเยวาติ.

ทุกนิกฺเขปกถา

๑๐๖๒. ทุเกสุ อโทสนิทฺเทเส เมตฺตายนวเสน เมตฺติ. เมตฺตากาโร เมตฺตายนา. เมตฺตาย อยิตสฺส เมตฺตาสมงฺคิโน จิตฺตสฺส ภาโว เมตฺตายิตตฺตํ. อนุทยตีติ อนุทฺทา, รกฺขตีติ อตฺโถ. อนุทฺทากาโร อนุทฺทายนา. อนุทฺทายิตสฺส ภาโว อนุทฺทายิตตฺตํ. หิตสฺส เอสนวเสน หิเตสิตา. อนุกมฺปนวเสน อนุกมฺปา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตา เมตฺตาว วุตฺตา. เสสปเทหิ โลกิยโลกุตฺตโร อโทโส กถิโต.

๑๐๖๓. อโมหนิทฺเทเส ทุกฺเข าณนฺติ ทุกฺขสจฺเจ ปฺา. ทุกฺขสมุทเยติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ทุกฺเข าณํ สวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาสุ วตฺตติ. ตถา ทุกฺขสมุทเย. นิโรเธ ปน สวนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาสุ เอว. ตถา ปฏิปทาย. ปุพฺพนฺเตติ อตีตโกฏฺาเส. อปรนฺเตติ อนาคตโกฏฺาเส. ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ ตทุภเย. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณนฺติ อยํ ปจฺจโย, อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ, อิทํ ปฏิจฺจ อิทํ นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ ปจฺจเยสุ จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ าณํ.

๑๐๖๕. โลภนิทฺเทเสปิ เหฏฺา อนาคตานํ ปทานํ อยมตฺโถ – รฺชนวเสน ราโค. พลวรฺชนฏฺเน สาราโค. วิสเยสุ สตฺตานํ อนุนยนโต อนุนโย. อนุรุชฺฌตีติ อนุโรโธ, กาเมตีติ อตฺโถ. ยตฺถ กตฺถจิ ภเว สตฺตา เอตาย นนฺทนฺติ, สยํ วา นนฺทตีติ นนฺที. นนฺที จ สา รฺชนฏฺเน ราโค จาติ นนฺทีราโค. ตตฺถ เอกสฺมึ อารมฺมเณ สกึ อุปฺปนฺนา ตณฺหา ‘นนฺที’. ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา ‘นนฺทีราโค’ติ วุจฺจติ. จิตฺตสฺส สาราโคติ โย เหฏฺา พลวรฺชนฏฺเน สาราโคติ วุตฺโต, โส น สตฺตสฺส, จิตฺตสฺเสว สาราโคติ อตฺโถ.

อิจฺฉนฺติ เอตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. พหลกิเลสภาเวน มุจฺฉนฺติ เอตาย ปาณิโนติ มุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหณวเสน อชฺโฌสานํ. อิมินา สตฺตา คิชฺฌนฺติ, เคธํ อาปชฺชนฺตีติ เคโธ; พหลฏฺเน วา เคโธ. ‘‘เคธํ วา ปวนสณฺฑ’’นฺติ หิ พหลฏฺเเนว วุตฺตํ. อนนฺตรปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. สพฺพโตภาเคน วา เคโธติ ปลิเคโธ. สฺชนฺติ เอเตนาติ สงฺโค; ลคฺคนฏฺเน วา สงฺโค. โอสีทนฏฺเน ปงฺโก. อากฑฺฒนวเสน เอชา. ‘‘เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วฺจนฏฺเน มายา. วฏฺฏสฺมึ สตฺตานํ ชนนฏฺเน ชนิกา. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) หิ วุตฺตํ. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ทุกฺเขน สํโยชยมานา ชเนตีติ สฺชนนี. ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี. อยฺหิ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต จุติปฏิสนฺธิวเสน สิพฺพติ ฆเฏติ, ตุนฺนกาโร วิย ปิโลติกาย ปิโลติกํ; ตสฺมา ฆฏนฏฺเน สิพฺพินีติ วุตฺตา. อเนกปฺปการํ วิสยชาลํ ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวสสงฺขาตํ วา ชาลมสฺสา อตฺถีติ ชาลินี.

อากฑฺฒนฏฺเน สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา. อลฺลฏฺเน วา สริตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑). อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. วิสตาติ วิสตฺติกา. วิสฏาติ วิสตฺติกา. วิสาลาติ วิสตฺติกา. วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา. วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา. วิสํหรตีติ วิสตฺติกา. วิสมูลาติ วิสตฺติกา. วิสผลาติ วิสตฺติกา. วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา. วิสตา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม กุเล คเณ วิตฺถตาติ วิสตฺติกา (มหานิ. ๓). อนยพฺยสนปาปนฏฺเน กุมฺมานุพนฺธสุตฺตกํ วิยาติ สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สุตฺตกนฺติ โข, ภิกฺขเว, นนฺทีราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๙). รูปาทีสุ วิตฺถตฏฺเน วิสฏา. ตสฺส ตสฺส ปฏิลาภตฺถาย สตฺเต อายูหาเปตีติ อายูหินี. อุกฺกณฺิตุํ อปฺปทานโต สหายฏฺเน ทุติยา. อยฺหิ สตฺตานํ วฏฺฏสฺมึ อุกฺกณฺิตุํ น เทติ, คตคตฏฺาเน ปิยสหาโย วิย อภิรมาเปติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. (อ. นิ. ๔.๙; อิติวุ. ๑๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗);

ปณิธานกวเสน ปณิธิ. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. เอตาย หิ สตฺตา, รชฺชุยา คีวาย พทฺธา โคณา วิย, อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นิยฺยนฺติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ วนติ ภชติ อลฺลียตีติ วนํ. วนติ ยาจตีติ วา วนํ. วนโถติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ. อนตฺถทุกฺขานํ วา สมุฏฺาปนฏฺเน คหนฏฺเน จ วนํ วิยาติ ‘วนํ’; พลวตณฺหาเยตํ นามํ. คหนตรฏฺเน ปน ตโต พลวตโร ‘วนโถ’ นาม. เตน วุตฺตํ –

‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;

เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๓);

สนฺถวนวเสน สนฺถโว; สํสคฺโคติ อตฺโถ. โส ทุวิโธ – ตณฺหาสนฺถโว มิตฺตสนฺถโว จ. เตสุ อิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต. สิเนหวเสน สิเนโห. อาลยกรณวเสน อเปกฺขตีติ อเปกฺขา. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อิมานิ เต เทว จตุราสีตินครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานีปมุขานิ. เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๖๖). อาลยํ กโรหีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุ. าตกฏฺเน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธุ. นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเน หิ สตฺตานํ ตณฺหาสโม พนฺธุ นาม นตฺถิ.

อารมฺมณานํ อสนโต อาสา. อชฺโฌตฺถรณโต เจว ติตฺตึ อนุปคนฺตฺวาว ปริภุฺชนโต จาติ อตฺโถ. อาสิสนวเสน อาสิสนา. อาสิสิตสฺส ภาโว อาสิสิตตฺตํ. อิทานิ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ รูปาสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสิสนวเสน อาสาติ อาสาย อตฺถํ คเหตฺวา รูเป อาสา รูปาสาติ เอวํ นวปิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ปฺจ ปฺจกามคุณวเสน วุตฺตานิ. ปริกฺขารโลภวเสน ฉฏฺํ. ตํ วิเสสโต ปพฺพชิตานํ. ตโต ปรานิ ตีณิ อติตฺติยวตฺถุวเสน คหฏฺานํ. น หิ เตสํ ธนปุตฺตชีวิเตหิ อฺํ ปิยตรํ อตฺถิ. ‘เอตํ มยฺหํ เอตํ มยฺห’นฺติ วา ‘อสุเกน เม อิทํ ทินฺนํ อิทํ ทินฺน’นฺติ วา เอวํ สตฺเต ชปฺปาเปตีติ ชปฺปา. ปรโต ทฺเว ปทานิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ. ตโต ปรํ อฺเนากาเรน วิภชิตุํ อารทฺธตฺตา ปุน ชปฺปาติ วุตฺตํ. ชปฺปนากาโร ชปฺปนา. ชปฺปิตสฺส ภาโว ชปฺปิตตฺตํ. ปุนปฺปุนํ วิสเย ลุมฺปติ อากฑฺฒตีติ โลลุโป. โลลุปสฺส ภาโว โลลุปฺปํ. โลลุปฺปากาโร โลลุปฺปายนา. โลลุปฺปสมงฺคิโน ภาโว โลลุปฺปายิตตฺตํ.

ปุจฺฉฺชิกตาติ ยาย ตณฺหาย ลาภฏฺาเนสุ, ปุจฺฉํ จาลยมานา สุนขา วิย, กมฺปมานา วิจรนฺติ, ตํ ตสฺสา กมฺปนตณฺหาย นามํ. สาธุ มนาปมนาเป วิสเย กาเมตีติ สาธุกาโม. ตสฺส ภาโว สาธุกมฺยตา. มาตา มาตุจฺฉาติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโคติ อธมฺมราโค. ยุตฺตฏฺาเนปิ พลวา หุตฺวา อุปฺปนฺนโลโภ วิสมโลโภ. ‘‘ราโค วิสม’’นฺติอาทิวจนโต (วิภ. ๙๒๔) วา ยุตฺตฏฺาเน วา อยุตฺตฏฺาเน วา อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อธมฺมฏฺเน ‘อธมฺมราโค’, วิสมฏฺเน ‘วิสมโลโภ’ติ เวทิตพฺโพ.

อารมฺมณานํ นิกามนวเสน นิกนฺติ. นิกามนากาโร นิกามนา. ปตฺถนาวเสน ปตฺถนา. ปิหายนวเสน ปิหนา. สุฏฺุ ปตฺถนา สมฺปตฺถนา. ปฺจสุ กามคุเณสุ ตณฺหา กามตณฺหา. รูปารูปภเว ตณฺหา ภวตณฺหา. อุจฺเฉทสงฺขาเต วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา. สุทฺเธ รูปภวสฺมึเยว ตณฺหา รูปตณฺหา. อรูปภเว ตณฺหา อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค ทิฏฺิราโค. นิโรเธ ตณฺหา นิโรธตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สทฺเท ตณฺหา สทฺทตณฺหา. คนฺธตณฺหาทีสุปิ เอเสว นโย. โอฆาทโย วุตฺตตฺถาว.

กุสลธมฺเม อาวรตีติ อาวรณํ. ฉาทนวเสน ฉาทนํ. สตฺเต วฏฺฏสฺมึ พนฺธตีติ พนฺธนํ. จิตฺตํ อุปคนฺตฺวา กิลิสฺสติ สํกิลิฏฺํ กโรตีติ อุปกฺกิเลโส. ถามคตฏฺเน อนุเสตีติ อนุสโย. อุปฺปชฺชมานา จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺานํ; อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน กุสลจารํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ ธุตฺตา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๓๐) หิ มคฺคํ คณฺหึสูติ อตฺโถ. เอวมิธาปิ คหณฏฺเน ปริยุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. ปลิเวนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) อาคตฏฺาเนปิ อยํ ตณฺหา ลตาติ วุตฺตา. วิวิธานิ วตฺถูนิ อิจฺฉตีติ เววิจฺฉํ. วฏฺฏทุกฺขสฺส มูลนฺติ ทุกฺขมูลํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส นิทานนฺติ ทุกฺขนิทานํ. ตํ ทุกฺขํ อิโต ปภวตีติ ทุกฺขปฺปภโว. พนฺธนฏฺเน ปาโส วิยาติ ปาโส. มารสฺส ปาโส มารปาโส. ทุรุคฺคิลนฏฺเน พฬิสํ วิยาติ พฬิสํ. มารสฺส พฬิสํ มารพฬิสํ. ตณฺหาภิภูตา มารสฺส วิสยํ นาติกฺกมนฺติ, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตตีติ อิมินา ปริยาเยน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. สนฺทนฏฺเน ตณฺหาว นที ตณฺหานที. อชฺโฌตฺถรณฏฺเน ตณฺหาว ชาลํ ตณฺหาชาลํ. ยถา สุนขา คทฺทุลพทฺธา ยทิจฺฉกํ นียนฺติ, เอวํ ตณฺหาพทฺธา สตฺตาปีติ ทฬฺหพนฺธนฏฺเน คทฺทุลํ วิยาติ คทฺทุลํ. ตณฺหาว คทฺทุลํ ตณฺหาคทฺทุลํ. ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาว สมุทฺโท ตณฺหาสมุทฺโท.

๑๐๖๖. โทสนิทฺเทเส อนตฺถํ เม อจรีติ อวุฑฺฒึ เม อกาสิ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฏฺาเน วา ปน อาฆาโตติ อการเณ โกโป – เอกจฺโจ หิ ‘เทโว อติวสฺสตี’ติ กุปฺปติ, ‘น วสฺสตี’ติ กุปฺปติ, ‘สูริโย ตปฺปตี’ติ กุปฺปติ, ‘น ตปฺปตี’ติ กุปฺปติ, วาเต วายนฺเตปิ กุปฺปติ, อวายนฺเตปิ กุปฺปติ, สมฺมชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต โพธิปณฺณานํ กุปฺปติ, จีวรํ ปารุปิตุํ อสกฺโกนฺโต วาตสฺส กุปฺปติ, อุปกฺขลิตฺวา ขาณุกสฺส กุปฺปติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – อฏฺาเน วา ปน อาฆาโต ชายตีติ. ตตฺถ เหฏฺา นวสุ าเนสุ สตฺเต อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา กมฺมปถเภโท โหติ. อฏฺานาฆาโต ปน สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺโน กมฺมปถเภทํ น กโรติ. จิตฺตํ อาฆาเตนฺโต อุปฺปนฺโนติ จิตฺตสฺส อาฆาโต. ตโต พลวตโร ปฏิฆาโต. ปฏิหฺนวเสน ปฏิฆํ. ปฏิวิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. กุปฺปนวเสน โกโป. ปโกโป สมฺปโกโปติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. ทุสฺสนวเสน โทโส. ปโทโส สมฺปโทโสติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. จิตฺตสฺส พฺยาปตฺตีติ จิตฺตสฺส วิปนฺนตา, วิปริวตฺตนากาโร. มนํ ปทูสยมาโน อุปฺปชฺชตีติ มโนปโทโส. กุชฺฌนวเสน โกโธ. กุชฺฌนากาโร กุชฺฌนา. กุชฺฌิตสฺส ภาโว กุชฺฌิตตฺตํ.

อิทานิ อกุสลนิทฺเทเส วุตฺตนยํ ทสฺเสตุํ โทโส ทุสฺสนาติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘โย เอวรูโป จิตฺตสฺส อาฆาโต…เป… กุชฺฌิตตฺต’’นฺติ จ อิธ วุตฺโต, ‘‘โทโส ทุสฺสนา’’ติอาทินา นเยน เหฏฺา วุตฺโต, อยํ วุจฺจติ โทโสติ. เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เอวฺหิ สติ ปุนรุตฺติโทโส ปฏิเสธิโต โหติ. โมหนิทฺเทโส อโมหนิทฺเทเส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. สพฺพากาเรน ปเนส วิภงฺคฏฺกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ.

๑๐๗๙. เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา สเหตุกาติ เตหิ เหตุธมฺเมหิ เย อฺเ เหตุธมฺมา วา นเหตุธมฺมา วา เต สเหตุกา. อเหตุกปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เหตุ เหตุเยว จ โหติ, ติณฺณํ วา ทฺวินฺนํ วา เอกโต อุปฺปตฺติยํ สเหตุโก จ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคโต ปน โมโห เหตุ อเหตุโก. เหตุสมฺปยุตฺตทุกนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.

๑๐๙๑. สงฺขตทุกนิทฺเทเส ปุริมทุเก วุตฺตํ อสงฺขตธาตุํ สนฺธาย โย เอว โส ธมฺโมติ เอกวจนนิทฺเทโส กโต. ปุริมทุเก ปน พหุวจนวเสน ปุจฺฉาย อุทฺธฏตฺตา อิเม ธมฺมา อปฺปจฺจยาติ ปุจฺฉานุสนฺธินเยน พหุวจนํ กตํ. อิเม ธมฺมา สนิทสฺสนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๑๐๑. เกนจิ วิฺเยฺยทุกนิทฺเทเส จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน วิชานิตพฺพา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เกนจิ วิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาณาทีสุ เกนจิ เอเกน จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา วิชานิตพฺพา. เกนจิ น วิฺเยฺยาติ เตเนว จกฺขุวิฺาเณน วา โสตวิฺาเณน วา น วิชานิตพฺพา. ‘เอวํ สนฺเต ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหตี’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา ‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา’ติ อยํ ทุโก น โหติ. รูปํ ปน จกฺขุวิฺเยฺยํ สทฺโท น จกฺขุวิฺเยฺโยติ อิมมตฺถํ คเหตฺวา ‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา, เย วา ปน เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา น เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา’ติ อยเมโก ทุโกติ เวทิตพฺโพ. เอวํ เอเกกอินฺทฺริยมูลเก จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา วีสติ ทุกา วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

กึ ปน ‘มโนวิฺาเณน เกนจิ วิฺเยฺยา เกนจิ น วิฺเยฺยา’ นตฺถิ? เตเนตฺถ ทุกา น วุตฺตาติ? โน นตฺถิ, ววตฺถานาภาวโต ปน น วุตฺตา. น หิ, ยถา จกฺขุวิฺาเณน อวิฺเยฺยา เอวาติ ววตฺถานํ อตฺถิ, เอวํ มโนวิฺาเณนาปีติ ววตฺถานาภาวโต เอตฺถ ทุกา น วุตฺตา. มโนวิฺาเณน ปน เกนจิ วิฺเยฺยา เจว อวิฺเยฺยา จาติ อยมตฺโถ อตฺถิ. ตสฺมา โส อวุตฺโตปิ ยถาลาภวเสน เวทิตพฺโพ. มโนวิฺาณนฺติ หิ สงฺขฺยํ คเตหิ กามาวจรธมฺเมหิ กามาวจรธมฺมา เอว ตาว เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตหิเยว รูปาวจราทิธมฺมาปิ เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. รูปาวจเรหิปิ กามาวจรา เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตเหว รูปาวจราทโยปิ เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. อรูปาวจเรหิ ปน กามาวจรา รูปาวจรา อปริยาปนฺนา จ เนว วิฺเยฺยา. อรูปาวจรา ปน เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตปิ จ เกจิเทว วิฺเยฺยา เกจิ อวิฺเยฺยา. อปริยาปนฺเนหิ กามาวจราทโย เนว วิฺเยฺยา. อปริยาปนฺนา ปน นิพฺพาเนน อวิฺเยฺยตฺตา เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยา. เตปิ จ มคฺคผลานํ อวิฺเยฺยตฺตา เกจิเทว วิฺเยฺยา เกจิ อวิฺเยฺยาติ.

๑๑๐๒. อาสวนิทฺเทเส ปฺจกามคุณิโก ราโค กามาสโว นาม. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหชาโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวาสโว นาม. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺาสโว นาม. อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาสโว นาม. ตตฺถ ตตฺถ อาคเตสุ ปน อาสเวสุ อสมฺโมหตฺถํ เอกวิธาทิเภโท เวทิตพฺโพ. อตฺถโต เหเต จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวาติ เอวํ เอกวิธาว โหนฺติ. วินเย ปน ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ (ปารา. ๓๙) ทุวิเธน อาคตา. สุตฺตนฺเต สฬายตเน ตาว ‘‘ตโยเม, อาวุโส, อาสวา – กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๒๑) ติวิเธน อาคตา. นิพฺเพธิกปริยาเย ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคมนียา, อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคมนียา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคมนียา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคมนียา, อตฺถิ อาสวา เทวโลกคมนียา’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓) ปฺจวิเธน อาคตา. ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต – ‘‘อตฺถิ อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๘) ฉพฺพิเธน อาคตา. สพฺพาสวปริยาเย (ม. นิ. ๑.๑๔ อาทโย) ‘ทสฺสนปหาตพฺเพหิ’ สทฺธึ สตฺตวิเธน อาคตา. อิธ ปเนเต กามาสวาทิเภทโต จตุพฺพิเธน อาคตา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ปฺจกามคุณสงฺขาเต กาเม อาสโว ‘กามาสโว’. รูปารูปสงฺขาเต กมฺมโต จ อุปปตฺติโต จ ทุวิเธปิ ภเว อาสโว ‘ภวาสโว’. ทิฏฺิ เอว อาสโว ‘ทิฏฺาสโว’. อวิชฺชาว อาสโว ‘อวิชฺชาสโว’.

๑๑๐๓. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโมว นนฺทีติ กามนนฺที. เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา ตณฺหายนฏฺเน กามตณฺหา, สิเนหนฏฺเน กามสิเนโห, ปริฑยฺหนฏฺเน กามปริฬาโห, มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา, คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อฏฺหิ ปเทหิ วิภตฺโต กามาสโว นาม วุจฺจติ.

๑๑๐๔. ภเวสุ ภวฉนฺโทติ รูปารูปภเวสุ ภวปตฺถนาวเสเนว ปวตฺโต ฉนฺโท ‘ภวฉนฺโท’. เสสปทานิปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพานิ.

๑๑๐๕. สสฺสโต โลโกติ วาติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปฺปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ เอตฺถ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘สสฺสต’นฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน ‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม โลโกติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘อนฺตวา’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘อนฺตวา โลโก’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม โลโกติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘อนนฺโต’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘อนนฺตวา โลโก’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ, อุจฺเฉททิฏฺิปิ.

ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘ชีว’นฺติ คหิตตฺตา สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ‘ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’ติ อุจฺเฉทคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเท สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ‘ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’ติ สสฺสตคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติอาทีสุ สตฺโต ตถาคโต นาม. โส ปรํ มรณา โหตีติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. น โหตีติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. โหติ จ น จ โหตีติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. เนว โหติ น นโหตีติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺิ. อิเม ธมฺมา อาสวาติ อิเม กามาสวฺจ ภวาสวฺจ ราควเสน เอกโต กตฺวา, สงฺเขปโต ตโย, วิตฺถารโต จตฺตาโร ธมฺมา อาสวา นาม.

โย ปน พฺรหฺมานํ วิมานกปฺปรุกฺขอาภรเณสุ ฉนฺทราโค อุปฺปชฺชติ, โส กามาสโว โหติ น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? ปฺจกามคุณิกสฺส ราคสฺส อิเธว ปหีนตฺตา. เหตุโคจฺฉกํ ปน ปตฺวา โลโภ เหตุ นาม โหติ. คนฺถโคจฺฉกํ ปตฺวา อภิชฺฌากายคนฺโถ นาม. กิเลสโคจฺฉกํ ปตฺวา โลโภ กิเลโส นาม โหติ. ทิฏฺิสหชาโต ปน ราโค กามาสโว โหติ น โหตีติ? น โหติ; ทิฏฺิราโค นาม โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทิฏฺิราครตฺเต ปุริสปุคฺคเล ทินฺนทานํ น มหปฺผลํ โหติ, น มหานิสํส’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๙).

อิเม ปน อาสเว กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ, มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามาสโว อนาคามิมคฺเคน ปหียติ, ภวาสโว อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺาสโว โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชาสโว อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺาสโว ปหียติ, อนาคามิมคฺเคน กามาสโว, อรหตฺตมคฺเคน ภวาสโว อวิชฺชาสโว จาติ.

๑๑๒๑. สํโยชเนสุ มานนิทฺเทเส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโนติ อุตฺตมฏฺเน ‘อหํ เสยฺโย’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. สทิโสหมสฺมีติ มาโนติ สมสมฏฺเน ‘อหํ สทิโส’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. หีโนหมสฺมีติ มาโนติ ลามกฏฺเน ‘อหํ หีโน’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เอวํ เสยฺยมาโน สทิสมาโน หีนมาโนติ อิเม ตโย มานา ติณฺณํ ชนานํ อุปฺปชฺชนฺติ. เสยฺยสฺสาปิ หิ ‘อหํ เสยฺโย สทิโส หีโน’ติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ. สทิสสฺสาปิ, หีนสฺสาปิ. ตตฺถ เสยฺยสฺส เสยฺยมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. สทิสสฺส สทิสมาโนว…เป… หีนสฺส หีนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. อิมินา กึ กถิตํ? เอกสฺส ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺตีติ กถิตํ. ขุทฺทกวตฺถุเก ปน ปมกมานภาชนีเย เอโก มาโน ติณฺณํ ชนานํ อุปฺปชฺชตีติ กถิโต.

มานกรณวเสน มาโน. มฺนา มฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทสา. อุสฺสิตฏฺเน อุนฺนติ. ยสฺสุปฺปชฺชติ ตํ ปุคฺคลํ อุนฺนาเมติ, อุกฺขิปิตฺวา เปตีติ อุนฺนโม. สมุสฺสิตฏฺเน ธโช. อุกฺขิปนฏฺเน จิตฺตํ สมฺปคฺคณฺหาตีติ สมฺปคฺคาโห. เกตุ วุจฺจติ พหูสุ ธเชสุ อจฺจุคฺคตธโช. มาโนปิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมาโน อปราปเร อุปาทาย อจฺจุคฺคตฏฺเน เกตุ วิยาติ ‘เกตุ’. เกตุํ อิจฺฉตีติ เกตุกมฺยํ, ตสฺส ภาโว เกตุกมฺยตา. สา ปน จิตฺตสฺส, น อตฺตโน. เตน วุตฺตํ – ‘เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺสา’ติ. มานสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ เกตุํ อิจฺฉติ. ตสฺส จ ภาโว เกตุกมฺยตา; เกตุสงฺขาโต มาโนติ.

๑๑๒๖. อิสฺสานิทฺเทเส ยา ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสาติ ยา เอเตสุ ปเรสํ ลาภาทีสุ ‘กึ อิมินา อิเมส’นฺติ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณา อิสฺสา. ตตฺถ ลาโภติ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ปฏิลาโภ. อิสฺสุกี หิ ปุคฺคโล ปรสฺส ตํ ลาภํ ขิยฺยติ, ‘กึ อิมสฺส อิมินา’ติ น อิจฺฉติ. สกฺกาโรติ เตสํเยว ปจฺจยานํ สุกตานํ สุนฺทรานํ ปฏิลาโภ. ครุกาโรติ ครุกิริยา, ภาริยกรณํ. มานนนฺติ มเนน ปิยกรณํ. วนฺทนนฺติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทนํ. ปูชนาติ คนฺธมาลาทีหิ ปูชนา. อิสฺสายนวเสน อิสฺสา. อิสฺสากาโร อิสฺสายนา. อิสฺสายิตภาโว อิสฺสายิตตฺตํ. อุสูยาทีนิ อิสฺสาทิเววจนานิ.

อิมิสฺสา ปน อิสฺสาย ขิยฺยนลกฺขณํ อาคาริเกนาปิ อนาคาริเกนาปิ ทีเปตพฺพํ. อาคาริโก หิ เอกจฺโจ กสิวณิชฺชาทีสุ อฺตเรน อาชีเวน อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ภทฺทกํ ยานํ วา วาหนํ วา รตนํ วา ลภติ. อปโร ตสฺส อลาภตฺถิโก เตน ลาเภน น ตุสฺสติ. ‘กทา นุ โข เอส อิมาย สมฺปตฺติยา ปริหายิตฺวา กปโณ หุตฺวา จริสฺสตี’ติ จินฺเตตฺวา เอเกน การเณน ตสฺมึ ตาย สมฺปตฺติยา ปริหีเน อตฺตมโน โหติ. อนาคาริโกปิ เอโก อิสฺสามนโก อฺํ อตฺตโน สุตปริยตฺติอาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนลาภาทิสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘กทา นุ โข เอโส อิเมหิ ลาภาทีหิ ปริหายิสฺสตี’ติ จินฺเตตฺวา, ยทา ตํ เอเกน การเณน ปริหีนํ ปสฺสติ, ตทา อตฺตมโน โหติ. เอวํ ปรสมฺปตฺติขิยฺยนลกฺขณา ‘อิสฺสา’ติ เวทิตพฺพา.

๑๑๒๗. มจฺฉริยนิทฺเทเส วตฺถุโต มจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘ปฺจ มจฺฉริยานิ อาวาสมจฺฉริย’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

อาวาโส นาม สกลาราโมปิ ปริเวณมฺปิ เอโกวรโกปิ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนิปิ. เตสุ วสนฺตา สุขํ วสนฺติ ปจฺจเย ลภนฺติ. เอโก ภิกฺขุ วตฺตสมฺปนฺนสฺเสว เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ อาคมนํ น อิจฺฉติ. อาคโตปิ ‘ขิปฺปํ คจฺฉตู’ติ จินฺเตติ. อิทํ ‘อาวาสมจฺฉริยํ’ นาม. ภณฺฑนการกาทีนํ ปน ตตฺถ วาสํ อนิจฺฉโต อาวาสมจฺฉริยํ นาม น โหติ.

กุลนฺติ อุปฏฺากกุลมฺปิ าติกุลมฺปิ. ตตฺถ อฺสฺส อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต กุลมจฺฉริยํ โหติ. ปาปปุคฺคลสฺส ปน อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉนฺโตปิ มจฺฉรี นาม น โหติ. โส หิ เตสํ ปสาทเภทาย ปฏิปชฺชติ. ปสาทํ รกฺขิตุํ สมตฺถสฺเสว ปน ภิกฺขุโน ตตฺถ อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉนฺโต มจฺฉรี นาม โหติ.

ลาโภติ จตุปจฺจยลาโภว. ตํ อฺสฺมึ สีลวนฺเตเยว ลภนฺเต ‘มา ลภตู’ติ จินฺเตนฺตสฺส ลาภมจฺฉริยํ โหติ. โย ปน สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, อปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน วินาเสติ, ปูติภาวํ คจฺฉนฺตมฺปิ อฺสฺส น เทติ, ตํ ทิสฺวา ‘สเจ อิมํ เอส น ลเภยฺย, อฺโ สีลวา ลเภยฺย, ปริโภคํ คจฺเฉยฺยา’ติ จินฺเตนฺตสฺส มจฺฉริยํ นาม นตฺถิ.

วณฺโณ นาม สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ. ตตฺถ สรีรวณฺเณ มจฺฉริปุคฺคโล ‘ปโร ปาสาทิโก รูปวา’ติ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม โหติ. คุณวณฺณมจฺฉรี สีเลน ธุตงฺเคน ปฏิปทาย อาจาเรน วณฺณํ น กเถตุกาโม โหติ.

ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม จ ปฏิเวธธมฺโม จ. ตตฺถ อริยสาวกา ปฏิเวธธมฺมํ น มจฺฉรายนฺติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺเม สเทวกสฺส โลกสฺส ปฏิเวธํ อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน ปฏิเวธํ ‘ปเร ชานนฺตู’ติ อิจฺฉนฺติ. ตนฺติธมฺเมเยว ปน ธมฺมมจฺฉริยํ นาม โหติ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยํ คุฬฺหํ คนฺถํ วา กถามคฺคํ วา ชานาติ ตํ อฺํ น ชานาเปตุกาโม โหติ. โย ปน ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน, ธมฺมํ วา อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม น โหติ.

ตตฺถ เอกจฺโจ ปุคฺคโล โลโล โหติ, กาเลน สมโณ โหติ, กาเลน พฺราหฺมโณ, กาเลน นิคณฺโ. โย หิ ภิกฺขุ ‘อยํ ปุคฺคโล ปเวณิอาคตํ ตนฺตึ สณฺหํ สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อาลุฬิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘อยํ ธมฺโม สณฺโห สุขุโม, สจายํ ปุคฺคโล คณฺหิสฺสติ อฺํ พฺยากริตฺวา อตฺตานํ อาวิกตฺวา นสฺสิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมํ อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘สจายํ อิมํ ธมฺมํ คณฺหิสฺสติ, อมฺหากํ สมยํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม โหติ.

อิเมสุ ปฺจสุ มจฺฉริเยสุ อาวาสมจฺฉริเยน ตาว ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานมานนาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภคํ วิย ปริภุฺชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉเรน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, ปเรสํ วณฺเณ ‘กึ วณฺโณ เอโส’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติธมฺมฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.

อปิจ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ. กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ. ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ. วณฺณมจฺฉริเยน ภเว ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ. ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตตีติ.

มจฺฉรายนวเสน มจฺเฉรํ. มจฺฉรายนากาโร มจฺฉรายนา. มจฺฉเรน อยิตสฺส มจฺเฉรสมงฺคิโน ภาโว มจฺฉรายิตตฺตํ. ‘มยฺหเมว โหนฺตุ มา อฺสฺสา’ติ สพฺพาปิ อตฺตโน สมฺปตฺติโย พฺยาเปตุํ น อิจฺฉตีติ วิวิจฺโฉ. วิวิจฺฉสฺส ภาโว เววิจฺฉํ, มุทุมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. กทริโย วุจฺจติ อนาทโร. ตสฺส ภาโว กทริยํ. ถทฺธมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปรมฺปิ ปเรสํ ททมานํ นิวาเรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

กทริโย ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิ อนาทโร;

ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนนฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๒);

ยาจเก ทิสฺวา กฏุกภาเวน จิตฺตํ อฺจติ สงฺโกเจตีติ กฏุกฺจุโก. ตสฺส ภาโว กฏุกฺจุกตา. อปโร นโย – กฏุกฺจุกตา วุจฺจติ กฏจฺฉุคฺคาโห. สมติตฺติกปุณฺณาย หิ อุกฺขลิยา ภตฺตํ คณฺหนฺโต สพฺพโตภาเคน สงฺกุฏิเตน อคฺคกฏจฺฉุนา คณฺหาติ, ปูเรตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ; เอวํ มจฺฉริปุคฺคลสฺส จิตฺตํ สงฺกุจติ. ตสฺมึ สงฺกุจิเต กาโยปิ ตเถว สงฺกุจติ, ปฏิกุฏติ, ปฏินิวตฺตติ, น สมฺปสาริยตีติ มจฺเฉรํ ‘กฏุกฺจุกตา’ติ วุตฺตํ.

อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ ปเรสํ อุปการกรเณ ทานาทินา อากาเรน ยถา น สมฺปสาริยติ, เอวํ อาวริตฺวา คหิตภาโว จิตฺตสฺส. ยสฺมา ปน มจฺฉริปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ อทาตุกาโม โหติ ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม, ตสฺมา ‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’ติ ปวตฺติวเสนสฺส อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณตา อตฺตสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา วา เวทิตพฺพา. เสสํ อิมสฺมึ โคจฺฉเก อุตฺตานตฺถเมว.

อิมานิ ปน สํโยชนานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, มานสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺเคน, ภวราคสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, อิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, กามราคปฏิฆา อนาคามิมคฺเคน, มานภวราคอวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคนาติ.

๑๑๔๐. คนฺถโคจฺฉเก นามกายํ คนฺเถติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อิมินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. ยสฺมา ปน อภิชฺฌากามราคานํ วิเสโส อตฺถิ, ตสฺมา อภิชฺฌากายคนฺถสฺส ปทภาชเน ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค’’ติ อวตฺวา โย ราโค สาราโคติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ยํ เหฏฺา วุตฺตํ ‘พฺรหฺมานํ วิมานาทีสุ ฉนฺทราโค กามาสโว น โหติ, คนฺถโคจฺฉกํ ปตฺวา อภิชฺฌากายคนฺโถ โหตี’ติ ตํ สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปรโต กิเลสโคจฺฉเกปิ เอเสว นโย. เปตฺวา สีลพฺพตปรามาสนฺติ อิทํ ยสฺมา สีลพฺพตปรามาโส ‘อิทเมว สจฺจ’นฺติอาทินา อากาเรน นาภินิวิสติ, ‘สีเลน สุทฺธี’ติอาทินา เอว ปน อภินิวิสติ, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺิภูตมฺปิ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘เปตฺวา’ติ อาห.

๑๑๖๒. นีวรณโคจฺฉกสฺส ถินมิทฺธนิทฺเทเส จิตฺตสฺส อกลฺลตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโน หิ อกลฺลโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ (ปารา. ๑๕๑). อกมฺมฺตาติ จิตฺตเคลฺสงฺขาโตว อกมฺมฺตากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถิกจิตฺตฺหิ อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตํ, รุกฺเข วคฺคุลิ วิย, ขีเล ลคฺคิตผาณิตวารโก วิย จ, โอลียติ. ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย โอลียนาติ วุตฺตํ. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ปฏิกุฏิตํ. อิตเร ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. ถินนฺติ สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย ฆนภาเวน ิตํ. ถิยนาติ อาการนิทฺเทโส. ถิยิตภาโว ถิยิตตฺตํ, อวิปฺผารวเสเนว ถทฺธตาติ อตฺโถ.

๑๑๖๓. กายสฺสาติ ขนฺธตฺตยสงฺขาตสฺส นามกายสฺส. อกลฺลตา อกมฺมฺตาติ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. เมโฆ วิย อากาสํ กายํ โอนยฺหตีติ โอนาโห. สพฺพโตภาเคน โอนาโห ปริโยนาโห. อพฺภนฺตเร สโมรุนฺธตีติ อนฺโตสโมโรโธ. ยถา หิ นคเร รุนฺธิตฺวา คหิเต มนุสฺสา พหิ นิกฺขมิตุํ น ลภนฺติ, เอวมฺปิ มิทฺเธน สโมรุทฺธา ธมฺมา วิปฺผารวเสน นิกฺขมิตุํ น ลภนฺติ. ตสฺมา อนฺโตสโมโรโธติ วุตฺตํ. เมธตีติ มิทฺธํ; อกมฺมฺภาเวน วิหึสตีติ อตฺโถ. สุปนฺติ เตนาติ โสปฺปํ. อกฺขิทลาทีนํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิกา. สุปนา สุปิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทสา. ยํ ปน เตสํ ปุรโต โสปฺปปทํ ตสฺส ปุนวจเน การณํ วุตฺตเมว. อิทํ วุจฺจติ ถินมิทฺธนีวรณนฺติ อิทํ ถินฺจ มิทฺธฺจ เอกโต กตฺวา อาวรณฏฺเน ถินมิทฺธนีวรณนฺติ วุจฺจติ. ยํ เยภุยฺเยน เสกฺขปุถุชฺชนานํ นิทฺทาย ปุพฺพภาคอปรภาเคสุ อุปฺปชฺชติ ตํ อรหตฺตมคฺเคน สมุจฺฉิชฺชติ. ขีณาสวานํ ปน กรชกายสฺส ทุพฺพลภาเวน ภวงฺโคตรณํ โหติ, ตสฺมึ อสมฺมิสฺเส วตฺตมาเน เต สุปนฺติ, สา เนสํ นิทฺทา นาม โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, อคฺคิเวสฺสน, คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗). เอวรูโป ปนายํ กรชกายสฺส ทุพฺพลภาโว น มคฺควชฺโฌ, อุปาทินฺนเกปิ อนุปาทินฺนเกปิ ลพฺภติ. อุปาทินฺนเก ลพฺภมาโน ยทา ขีณาสโว ทีฆมคฺคํ คโต โหติ, อฺตรํ วา ปน กมฺมํ กตฺวา กิลนฺโต, เอวรูเป กาเล ลพฺภติ. อนุปาทินฺนเก ลพฺภมาโน ปณฺณปุปฺเผสุ ลพฺภติ. เอกจฺจานฺหิ รุกฺขานํ ปณฺณานิ สูริยาตเปน ปสาริยนฺติ รตฺตึ ปฏิกุฏนฺติ, ปทุมปุปฺผาทีนิ สูริยาตเปน ปุปฺผนฺติ, รตฺตึ ปุน ปฏิกุฏนฺติ. อิทํ ปน มิทฺธํ อกุสลตฺตา ขีณาสวานํ น โหตีติ.

ตตฺถ สิยา – ‘‘น มิทฺธํ อกุสลํ. กสฺมา? รูปตฺตา. รูปฺหิ อพฺยากตํ. อิทฺจ รูปํ. เตเนเวตฺถ ‘กายสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’ติ กายคฺคหณํ กต’’นฺติ. ยทิ ‘กายสฺสา’ติ วุตฺตมตฺเตเนเวตํ รูปํ, กายปสฺสทฺธาทโยปิ ธมฺมา รูปเมว ภเวยฺยุํ. ‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ’ (ธ. ส. ๑๖๓; ที. นิ. ๑.๒๓๐) ‘กาเยน เจว ปรมสจฺจํ สจฺฉิกโรตี’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๓; อ. นิ. ๔.๑๑๓) สุขปฏิสํเวทนปรมตฺถสจฺจสจฺฉิกรณานิปิ รูปกาเยเนว สิยุํ. ตสฺมา น วตฺตพฺพเมตํ ‘รูปํ มิทฺธ’นฺติ. นามกาโย เหตฺถ กาโย นาม. ยทิ นามกาโย, อถ กสฺมา ‘โสปฺปํ ปจลายิกา’ติ วุตฺตํ? น หิ นามกาโย สุปติ, น จ ปจลายตีติ. ‘ลิงฺคาทีนิ วิย อินฺทฺริยสฺส, ตสฺส ผลตฺตา. ยถา หิ ‘อิตฺถิลิงฺคํ อิตฺถินิมิตฺตํ อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺโป’ติ อิมานิ ลิงฺคาทีนิ อิตฺถินฺทฺริยสฺส ผลตฺตา วุตฺตานิ, เอวํ อิมสฺสาปิ นามกายเคลฺสงฺขาตสฺส มิทฺธสฺส ผลตฺตา โสปฺปาทีนิ วุตฺตานิ. มิทฺเธ หิ สติ ตานิ โหนฺตีติ. ผลูปจาเรน, มิทฺธํ อรูปมฺปิ สมานํ ‘โสปฺปํ ปจลายิกา สุปนา สุปิตตฺต’นฺติ วุตฺตํ.

‘อกฺขิทลาทีนํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิกา’ติ วจนตฺเถนาปิ จายมตฺโถ สาธิโตเยวาติ น รูปํ มิทฺธํ. โอนาหาทีหิปิ จสฺส อรูปภาโว ทีปิโตเยว. น หิ รูปํ นามกายสฺส ‘โอนาโห ปริโยนาโห อนฺโตสโมโรโธ’ โหตีติ. ‘นนุ จ อิมินาว การเณเนตํ รูปํ? น หิ อรูปํ กสฺสจิ โอนาโห, น ปริโยนาโห, น อนฺโตสโมโรโธ โหตี’ติ. ยทิ เอวํ, อาวรณมฺปิ น ภเวยฺย. ตสฺมา. ยถา กามจฺฉนฺทาทโย อรูปธมฺมา อาวรณฏฺเน นีวรณา, เอวํ อิมสฺสาปิ โอนาหนาทิอตฺเถน โอนาหาทิตา เวทิตพฺพา. อปิจ ‘‘ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖; สํ. นิ. ๕.๒๓๓) วจนโตเปตํ อรูปํ. น หิ รูปํ จิตฺตุปกฺกิเลโส, น ปฺาย ทุพฺพลีกรณํ โหตีติ.

กสฺมา น โหติ? นนุ วุตฺตํ –

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สุรํ ปิวนฺติ เมรยํ, สุราเมรยปานา อปฺปฏิวิรตา, อยํ, ภิกฺขเว, ปโม สมณพฺราหฺมณานํ อุปกฺกิเลโส’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๐).

อปรมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานานุโยเค – สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ, กลหปฺปวฑฺฒนี, โรคานํ อายตนํ, อกิตฺติสฺชนนี, โกปีนนิทํสนี, ปฺาย ทุพฺพลีกรณีตฺเวว ฉฏฺํ ปทํ ภวตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๔๘). ปจฺจกฺขโตปิ เจตํ สิทฺธเมว. ยถา มชฺเช อุทรคเต, จิตฺตํ สํกิลิสฺสติ, ปฺา ทุพฺพลา โหติ, ตสฺมา มชฺชํ วิย มิทฺธมฺปิ จิตฺตสํกิเลโส เจว ปฺาย ทุพฺพลีกรณฺจ สิยาติ. น, ปจฺจยนิทฺเทสโต. ยทิ หิ มชฺชํ สํกิเลโส ภเวยฺย, โส ‘‘อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๗) วา, ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปฺจิเม จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ จิตฺตํ น เจว มุทุ โหติ, น จ กมฺมนิยํ, น จ ปภสฺสรํ, ปภงฺคุ จ, น จ สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. กตเม ปฺจ? กามจฺฉนฺโท, ภิกฺขเว, จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๑๔) วา, ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา? อภิชฺฌา วิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๑) วา – เอวมาทีสุ อุปกฺกิเลสนิทฺเทเสสุ นิทฺเทสํ อาคจฺเฉยฺย. ยสฺมา ปน ตสฺมึ ปีเต อุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ เย จิตฺตสํกิเลสา เจว ปฺาย จ ทุพฺพลีกรณา โหนฺติ, ตสฺมา ตํ เตสํ ปจฺจยตฺตา ปจฺจยนิทฺเทสโต เอวํ วุตฺตํ. มิทฺธํ ปน สยเมว จิตฺตสฺส สํกิเลโส เจว ปฺาย ทุพฺพลีกรณฺจาติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? สมฺปโยควจนโต. ‘‘ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๗๖) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา สมฺปโยควจนโต นยิทํ รูปํ. น หิ รูปํ สมฺปยุตฺตสงฺขฺยํ ลภตีติ. อถาปิ สิยา – ‘ยถาลาภวเสเนตํ วุตฺตํ. ยถา หิ ‘‘สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๙; ม. นิ. ๑.๔๓๓) เอวํ เอกโต กตฺวา ยถาลาภวเสน วุตฺตํ. สกฺขรกถลฺหิ ติฏฺติ เยว น จรติ, อิตรทฺวยํ ติฏฺติปิ จรติปิ. เอวมิธาปิ มิทฺธํ นีวรณเมว, น สมฺปยุตฺตํ, ถินํ นีวรณมฺปิ สมฺปยุตฺตมฺปีติ สพฺพํ เอกโต กตฺวา ยถาลาภวเสน ‘‘นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจา’’ติ วุตฺตํ. มิทฺธํ ปน ยถา สกฺขรกถลํ ติฏฺเตว น จรติ, เอวํ นีวรณเมว, น สมฺปยุตฺตํ. ตสฺมา รูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปภาวาสิทฺธิโต. สกฺขรกถลฺหิ น จรตีติ วินาปิ สุตฺเตน สิทฺธํ. ตสฺมา ตตฺถ ยถาลาภวเสนตฺโถ โหตุ. มิทฺธํ ปน รูปนฺติ อสิทฺธเมตํ. น สกฺกา ตสฺส อิมินา สุตฺเตน รูปภาโว สาเธตุนฺติ มิทฺธสฺส รูปภาวาสิทฺธิโต น อิทํ ยถาลาภวเสน วุตฺตนฺติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? ‘จตฺตตฺตา’ติอาทิวจนโต. วิภงฺคสฺมิฺหิ ‘‘วิคตถินมิทฺโธติ ตสฺส ถินมิทฺธสฺส จตฺตตฺตา วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา ปหีนตฺตา ปฏินิสฺสฏฺตฺตา, เตน วุจฺจติ วิคตถินมิทฺโธ’’ติ (วิภ. ๕๔๗) จ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อิมมฺหา ถินมิทฺธา โสเธติ วิโสเธติ ปริโสเธติ โมเจติ วิโมเจติ ปริโมเจติ, เตน วุจฺจติ ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ’’ จาติ (วิภ. ๕๕๑) – เอวํ ‘จตฺตตฺตา’ติอาทิ วุตฺตํ. น จ ‘รูปํ’ เอวํ วุจฺจติ, ตสฺมาปิ อรูปเมว มิทฺธนฺติ. น, จิตฺตชสฺสาสมฺภววจนโต. ติวิธฺหิ มิทฺธํ – จิตฺตชํ อุตุชํ อาหารชฺจ. ตสฺมา ยํ ตตฺถ จิตฺตชํ ตสฺส วิภงฺเค ฌานจิตฺเตหิ อสมฺภโว วุตฺโต, น อรูปภาโว สาธิโตติ รูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปภาวาสิทฺธิโตว. มิทฺธสฺส หิ รูปภาเว สิทฺเธ สกฺกา เอตํ ลทฺธุํ. ตตฺถ จิตฺตชสฺสาสมฺภโว วุตฺโต. โส เอว จ น สิชฺฌตีติ อรูปเมว มิทฺธํ.

กิฺจ ภิยฺโย? ปหานวจนโต. ภควตา หิ ‘‘ฉ, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ; กตเม ฉ? กามจฺฉนฺทํ, พฺยาปาทํ, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉํ; กาเมสุ โข ปนสฺส อาทีนโว สมฺมปฺาย สุทิฏฺโ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๗๓) จ, ‘‘อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย พลวติยา ปฺาย อตฺตตฺถํ วา ปรตฺถํ วา สฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๕๑) จ อาทีสุ มิทฺธสฺสาปิ ปหานํ วุตฺตํ. น จ รูปํ ปหาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘รูปกฺขนฺโธ อภิฺเยฺโย, ปริฺเยฺโย, น ปหาตพฺโพ, น ภาเวตพฺโพ น สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติ (วิภ. ๑๐๓๑) อิมสฺสาปิ ปหานวจนโต อรูปเมว มิทฺธนฺติ. น, รูปสฺสาปิ ปหานวจนโต. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, น ตุมฺหากํ, ตํ ปชหถา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๗; สํ. นิ. ๓.๓๓). เอตฺถ หิ รูปสฺสาปิ ปหานํ วุตฺตเมว. ตสฺมา อการณเมตนฺติ. น, อฺถา วุตฺตตฺตา. ตสฺมิฺหิ สุตฺเต ‘‘โย, ภิกฺขเว, รูเป ฉนฺทราควินโย ตํ ตตฺถ ปหาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๒๕) เอวํ ฉนฺทราคปฺปหานวเสน รูปสฺส ปหานํ วุตฺตํ, น ยถา ‘‘ฉ ธมฺเม ปหาย ปฺจ นีวรเณ ปหายา’’ติ เอวํ ปหาตพฺพเมว วุตฺตนฺติ, อฺถา วุตฺตตฺตา, น รูปํ มิทฺธํ. ตสฺมา ยาเนตานิ ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส’’ติอาทีนิ สุตฺตานิ วุตฺตานิ, เอเตหิ เจว อฺเหิ จ สุตฺเตหิ อรูปเมว มิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ –

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาวรณา นีวรณา เจตโส อชฺฌารุหา ปฺาย ทุพฺพลีกรณา. กตเม ปฺจ? กามจฺฉนฺโท, ภิกฺขเว, อาวรโณ นีวรโณ…เป… ถินมิทฺธํ, ภิกฺขเว, อาวรณํ นีวรณํ เจตโส อชฺฌารุหํ ปฺาย ทุพฺพลีกรณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๒๒๐) จ, ‘‘ถินมิทฺธนีวรณํ, ภิกฺขเว, อนฺธกรณํ อจกฺขุกรณํ อฺาณกรณํ ปฺานิโรธิกํ วิฆาตปกฺขิกํ อนิพฺพานสํวตฺตนิก’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๒๒๑) จ, ‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ยสฺมึ สมเย ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตนา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๖) จ, ‘‘อโยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺโน เจว กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ…เป… อนุปฺปนฺนฺเจว ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๑๖) จ, ‘‘เกวโลหายํ, ภิกฺขเว, อกุสลราสิ ยทิทํ ปฺจ นีวรณา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๑) จ –

เอวมาทีนิ จ อเนกานิ เอตสฺส อรูปภาวโชตกาเนว สุตฺตานิ วุตฺตานิ. ยสฺมา เจตํ อรูปํ ตสฺมา อารุปฺเปปิ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ มหาปกรเณ ปฏฺาเน – ‘‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, น ปุเรชาตปจฺจยา’’ติ เอตสฺส วิภงฺเค ‘‘อารุปฺเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธํ… อุทฺธจฺจํ อวิชฺชานีวรณ’’นฺติ (ปฏฺา. ๓.๘.๘) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺมา สนฺนิฏฺานเมตฺถ คนฺตพฺพํ อรูปเมว มิทฺธนฺติ.

๑๑๖๖. กุกฺกุจฺจนิทฺเทเส อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาติอาทีนิ มูลโต กุกฺกุจฺจทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. เอวํสฺิตาย หิ กเต วีติกมฺเม, นิฏฺิเต วตฺถุชฺฌาจาเร, ปุน สฺชาตสติโนปิ ‘ทุฏฺุ มยา กต’นฺติ เอวํ อนุตปฺปมานสฺส ปจฺฉานุตาปวเสเนตํ อุปฺปชฺชติ. เตน ตํ มูลโต ทสฺเสตุํ ‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อกปฺปิยโภชนํ กปฺปิยสฺี หุตฺวา ปริภุฺชติ, อกปฺปิยมํสํ กปฺปิยมํสสฺี หุตฺวา, อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ, ทีปิมํสํ วา มิคมํสนฺติ ขาทติ; กาเล วีติวตฺเต กาลสฺาย, ปวาเรตฺวา อปฺปวาริตสฺาย, ปตฺตสฺมึ รเช ปติเต ปฏิคฺคหิตสฺาย ภุฺชติ – เอวํ ‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. สูกรมํสํ ปน อจฺฉมํสสฺาย ขาทมาโน, กาเล จ วิกาลสฺาย ภุฺชมาโน ‘กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. อนวชฺชํ ปน กิฺจิเทว วชฺชสฺิตาย, วชฺชฺจ อนวชฺชสฺิตาย กโรนฺโต ‘อนวชฺเช วชฺชสฺาย วชฺเช จ อนวชฺชสฺาย’ วีติกฺกมํ กโรติ นาม. ยสฺมา ปเนตํ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ, กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิส’’นฺติ เอวํ อนวชฺเช วชฺชสฺิตายปิ กเต วีติกฺกเม อุปฺปชฺชติ, ตสฺมาสฺส อฺมฺปิ วตฺถุํ อนุชานนฺโต ยํ เอวรูปนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ กุกฺกุจฺจปทํ วุตฺตตฺถเมว. กุกฺกุจฺจายนากาโร กุกฺกุจฺจายนา. กุกฺกุจฺเจน อยิตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจายิตตฺตํ. เจตโส วิปฺปฏิสาโรติ เอตฺถ กตากตสฺส สาวชฺชานวชฺชสฺส วา อภิมุขคมนํ ‘วิปฺปฏิสาโร’ นาม. ยสฺมา ปน โส กตํ วา ปาปํ อกตํ น กโรติ, อกตํ วา กลฺยาณํ กตํ น กโรติ, ตสฺมา วิรูโป กุจฺฉิโต วา ปฏิสาโรติ ‘วิปฺปฏิสาโร’. โส ปน เจตโส, น สตฺตสฺสาติ าปนตฺถํ ‘เจตโส’ วิปฺปฏิสาโรติ วุตฺตํ. อยมสฺส สภาวนิทฺเทโส. อุปฺปชฺชมานํ ปน กุกฺกุจฺจํ อารคฺคมิว กํสปตฺตํ มนํ วิลิขมานเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา มโนวิเลโขติ วุตฺตํ. อยมสฺส กิจฺจนิทฺเทโส. ยํ ปน วินเย ‘‘อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควตา ปฏิกฺขิตฺตํ อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ปริภุฺชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายนฺโต น ปฏิคฺคเหสีติ (ปาจิ. ๒๐๔) กุกฺกุจฺจํ อาคตํ, น ตํ นีวรณํ. น หิ อรหโต ‘ทุฏฺุ มยา อิทํ กต’นฺติ เอวํ อนุตาโป อตฺถิ. นีวรณปติรูปกํ ปเนตํ ‘กปฺปติ น กปฺปตี’ติ วีมํสนสงฺขาตํ วินยกุกฺกุจฺจํ นาม.

๑๑๗๖. ‘‘กตเม ธมฺมา นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จา’’ติ ปทสฺส นิทฺเทเส ยสฺมา ถินมิทฺธํ อฺมฺํ น วิชหติ, ตสฺมา ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจาติ อภินฺทิตฺวา วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อุทฺธจฺเจ สติปิ กุกฺกุจฺจสฺส อภาวา กุกฺกุจฺเจน วินาปิ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ ภินฺทิตฺวา วุตฺตํ. ยฺจ เยน สมฺปโยคํ น คจฺฉติ, ตํ น โยชิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิเม ปน นีวรเณ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, ถินมิทฺธุทฺธจฺจานิ อรหตฺตมคฺเคน, กุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉา โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน กุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉา ปหียนฺติ, อนาคามิมคฺเคน กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา, อรหตฺตมคฺเคน ถินมิทฺธุทฺธจฺจาวิชฺชาติ.

๑๑๘๒. ปรามาสโคจฺฉเก เต ธมฺเม เปตฺวาติ ปุจฺฉาสภาเคน พหุวจนํ กตํ.

๑๒๑๙. อุปาทานนิทฺเทเส วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. อุปาทานนฺติ ทฬฺหคฺคหณํ. ทฬฺหตฺโถ หิ เอตฺถ อุปสทฺโท อุปายาสอุปกฏฺาทีสุ วิย. ตถา ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺึ อุปาทิยตีติ ทิฏฺุปาทานํ. ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๑) หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยหิ. ตถา สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ. สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ ‘เอวํ สุทฺธี’ติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานิ. ตถา, วทนฺติ เอเตนาติ ‘วาโท’; อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ ‘อุปาทานํ’. กึ วทนฺติ, อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ; ‘อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตา’ติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ.

๑๒๒๐. โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโทติ เอตฺถาปิ วตฺถุกามาว อนวเสสโต กามาติ อธิปฺเปตา. ตสฺมา วตฺถุกาเมสุ กามจฺฉนฺโท อิธ กามุปาทานนฺติ อนาคามิโนปิ ตํ สิทฺธํ โหติ. ปฺจกามคุณวตฺถุโก ปนสฺส กามราโคว นตฺถีติ.

๑๒๒๑. ทิฏฺุปาทานนิทฺเทเส นตฺถิ ทินฺนนฺติ. ทินฺนํ นาม อตฺถิ, สกฺกา กสฺสจิ กิฺจิ ทาตุนฺติ ชานาติ; ทินฺนสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. ตํ ยชิตุํ สกฺกาติ ชานาติ; ยิฏฺสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ หุตนฺติ อาหุนปาหุนมงฺคลกิริยา. ตํ กาตุํ สกฺกาติ ชานาติ; ตสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ, สุกตทุกฺกฏานนฺติ เอตฺถ ทส กุสลกมฺมปถา สุกตกมฺมานิ นาม. ทส อกุสลกมฺมปถา ทุกฺกฏกมฺมานิ นาม. เตสํ อตฺถิภาวํ ชานาติ ผลํ วิปาโก ปน นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ปรโลโกติ อิธ โลเก ิโต ปรโลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ มาตาปิตูนํ อตฺถิภาวํ ชานาติ, เตสุ กตปจฺจเยน โกจิ ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวนกอุปปชฺชนกา สตฺตา นตฺถีติ คณฺหาติ. สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนาติ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ นตฺถีติ คณฺหาติ. เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺเน าเณน ตฺวา ปเวทนสมตฺโถ สพฺพฺู พุทฺโธ นาม นตฺถีติ คณฺหาติ.

อิมานิ ปน อุปาทานานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา กามุปาทานํ จตูหิ มคฺเคหิ ปหียติ, เสสานิ ตีณิ โสตาปตฺติมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺุปาทานาทีนิ ปหียนฺติ, จตูหิ มคฺเคหิ กามุปาทานนฺติ.

๑๒๓๕. กิเลสโคจฺฉเก กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ. วสนฺติ วา เอตฺถ อขีณาสวา สตฺตา โลภาทีสุ ปติฏฺิตตฺตาติ ‘วตฺถูนิ’. กิเลสา จ เต ตปฺปติฏฺานํ สตฺตานํ วตฺถูนิ จาติ ‘กิเลสวตฺถูนิ’. ยสฺมา เจตฺถ อนนฺตรปจฺจยาทิภาเวน อุปฺปชฺชมานา กิเลสาปิ วสนฺติ เอว นาม, ตสฺมา กิเลสานํ วตฺถูนีติปิ ‘กิเลสวตฺถูนิ’.

๑๒๓๖. ตตฺถ กตโม โลโภ? โย ราโค สาราโคติ อยํ ปน โลโภ เหตุโคจฺฉเก คนฺถโคจฺฉเก อิมสฺมึ กิเลสโคจฺฉเกติ ตีสุ าเนสุ อติเรกปทสเตน นิทฺทิฏฺโ. อาสวสํโยชนโอฆโยคนีวรณอุปาทานโคจฺฉเกสุ อฏฺหิ อฏฺหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺโ. สฺวายํ อติเรกปทสเตน นิทฺทิฏฺฏฺาเนปิ อฏฺหิ อฏฺหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺฏฺาเนปิ นิปฺปเทสโตว คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เตสุ เหตุคนฺถนีวรณอุปาทานกิเลสโคจฺฉเกสุ จตุมคฺควชฺฌา ตณฺหา เอเกเนว โกฏฺาเสน ิตา. อาสวสํโยชนโอฆโยเคสุ จตุมคฺควชฺฌาปิ ทฺเว โกฏฺาสา หุตฺวา ิตา. กถํ? อาสเวสุ กามาสโว ภวาสโวติ, สํโยชเนสุ กามราคสํโยชนํ ภวราคสํโยชนนฺติ, โอเฆสุ กาโมโฆ ภโวโฆติ, โยเคสุ กามโยโค ภวโยโคติ.

อิมานิ ปน กิเลสวตฺถูนิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กิเลสปฏิปาฏิยา โลโภ จตูหิ มคฺเคหิ ปหียติ, โทโส อนาคามิมคฺเคน, โมหมานา อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา โสตาปตฺติมคฺเคน, ถินาทีนิ อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา ปหียนฺติ, อนาคามิมคฺเคน โทโส, อรหตฺตมคฺเคน เสสา สตฺตาติ.

๑๒๘๗. กามาวจรนิทฺเทเส เหฏฺโตติ เหฏฺาภาเคน. อวีจินิรยนฺติ วา อคฺคิชาลานํ วา สตฺตานํ วา ทุกฺขเวทนาย วีจิ, อนฺตรํ, ฉิทฺทํ เอตฺถ นตฺถีติ อวีจิ. สุขสงฺขาโต อโย เอตฺถ นตฺถีติ นิรโย. นิรติอตฺเถนปิ นิรสฺสาทตฺเถนปิ นิรโย. ปริยนฺตํ กริตฺวาติ ตํ อวีจิสงฺขาตํ นิรยํ อนฺตํ กตฺวา. อุปริโตติ อุปริภาเคน. ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเวติ ปรนิมฺมิเตสุ กาเมสุ วสํ วตฺตนโต เอวํลทฺธโวหาเร เทเว. อนฺโต กริตฺวาติ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา. ยํ เอตสฺมึ อนฺตเรติ เย เอตสฺมึ โอกาเส. เอตฺถาวจราติ อิมินา ยสฺมา เอตสฺมึ อนฺตเร อฺเปิ จรนฺติ กทาจิ กตฺถจิ สมฺภวโต, ตสฺมา เตสํ อสงฺคณฺหนตฺถํ ‘อวจรา’ติ วุตฺตํ. เตน เย เอตสฺมึ อนฺตเร โอคาฬฺหา หุตฺวา จรนฺติ สพฺพตฺถ สทา จ สมฺภวโต, อโธภาเค จรนฺติ อวีจินิรยสฺส เหฏฺา ภูตุปาทายปวตฺติภาเวน, เตสํ สงฺคโห กโต โหติ. เต หิ อวคาฬฺหาว จรนฺติ, อโธภาเคว จรนฺตีติ อวจรา. เอตฺถ ปริยาปนฺนาติ อิมินา ปน ยสฺมา เอเต เอตฺถาวจรา อฺตฺถาปิ อวจรนฺติ, น ปน ตตฺถ ปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตสฺมา เตสํ อฺตฺถาปิ อวจรนฺตานํ ปริคฺคโห กโต โหติ. อิทานิ เต เอตฺถ ปริยาปนฺนธมฺเม ราสิสุฺตปจฺจยภาวโต เจว สภาวโต จ ทสฺเสนฺโต ขนฺธาติอาทิมาห.

๑๒๘๙. รูปาวจรนิทฺเทเส พฺรหฺมโลกนฺติ ปมชฺฌานภูมิสงฺขาตํ พฺรหฺมฏฺานํ. เสสเมตฺถ กามาวจรนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สมาปนฺนสฺส วาติอาทีสุ ปมปเทน กุสลชฺฌานํ วุตฺตํ, ทุติเยน วิปากชฺฌานํ, วุตฺตํ ตติเยน กิริยชฺฌานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๒๙๑. อรูปาวจรนิทฺเทเส อากาสานฺจายตนูปเคติ อากาสานฺจายตนสงฺขาตํ ภวํ อุปคเต. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๓๐๑. สรณทุกนิทฺเทเส ยฺวายํ ตีสุ อกุสลมูเลสุ โมโห, โส โลภสมฺปยุตฺโต จ โลเภน สรโณ, โทสสมฺปยุตฺโต จ โทเสน สรโณ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺโต ปน โมโห ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตน เจว รูปราคอรูปราคสงฺขาเตน จ ราครเณน ปหาเนกฏฺภาวโต สรโณ สรโชติ เวทิตพฺโพ.

สุตฺตนฺติกทุกนิกฺเขปกถา

๑๓๐๓. สุตฺตนฺติกทุเกสุ มาติกากถายํ อตฺถโต วิเวจิตตฺตา ยานิ จ เนสํ นิทฺเทสปทานิ เตสมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สุวิฺเยฺยตฺตา เยภุยฺเยน อุตฺตานตฺถานิ เอว. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – วิชฺชูปมทุเก ตาว จกฺขุมา กิร ปุริโส เมฆนฺธกาเร รตฺตึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺส อนฺธการตาย มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา อนฺธการํ วิทฺธํเสสิ. อถสฺส อนฺธการวิคมา มคฺโค ปากโฏ อโหสิ. โส ทุติยมฺปิ คมนํ อภินีหริ. ทุติยมฺปิ อนฺธกาโร โอตฺถริ. มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา ตํ วิทฺธํเสสิ. วิคเต อนฺธกาเร มคฺโค ปากโฏ อโหสิ. ตติยมฺปิ คมนํ อภินีหริ. อนฺธกาโร โอตฺถริ. มคฺโค น ปฺายิ. วิชฺชุ นิจฺฉริตฺวา อนฺธการํ วิทฺธํเสสิ.

ตตฺถ จกฺขุมโต ปุริสสฺส อนฺธกาเร มคฺคปฏิปชฺชนํ วิย อริยสาวกสฺส โสตาปตฺติมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว. ทุติยคมนาภินีหาโร วิย สกทาคามิมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. ทุติยํ วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย สกทาคามิมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว. ตติยคมนาภินีหาโร วิย อนาคามิมคฺคตฺถาย วิปสฺสนารมฺโภ. อนฺธกาเร มคฺคสฺส อปฺายนกาโล วิย สจฺจจฺฉาทกตมํ. ตติยํ วิชฺชุยา นิจฺฉริตฺวา อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตกาโล วิย อนาคามิมคฺโคภาเสน อุปฺปชฺชิตฺวา สจฺจจฺฉาทกตมสฺส วิโนทิตกาโล. วิคเต อนฺธกาเร มคฺคสฺส ปากฏกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฏกาโล. มคฺคสฺส ปากฏํ ปน มคฺคสมงฺคิปุคฺคลสฺส ปากฏเมว.

วชิรสฺส ปน ปาสาโณ วา มณิ วา อเภชฺโช นาม นตฺถิ. ยตฺถ ปตติ ตํ วินิวิทฺธเมว โหติ. วชิรํ เขเปนฺตํ อเสเสตฺวา เขเปติ. วชิเรน คตมคฺโค นาม ปุน ปากติโก น โหติ. เอวเมว อรหตฺตมคฺคสฺส อวชฺฌกิเลโส นาม นตฺถิ. สพฺพกิเลเส วินิวิชฺฌติ วชิรํ วิย. อรหตฺตมคฺโคปิ กิเลเส เขเปนฺโต อเสเสตฺวา เขเปติ. วชิเรน คตมคฺคสฺส ปุน ปากติกตฺตาภาโว วิย อรหตฺตมคฺเคน ปหีนกิเลสานํ ปุน ปจฺจุทาวตฺตนํ นาม นตฺถีติ.

๑๓๐๗. พาลทุกนิทฺเทเส พาเลสุ อหิริกาโนตฺตปฺปานิ ปากฏานิ, มูลานิ จ เสสานํ พาลธมฺมานํ. อหิริโก หิ อโนตฺตปฺปี จ น กิฺจิ อกุสลํ น กโรติ นามาติ. เอตานิ ทฺเว ปมํเยว วิสุํ วุตฺตานิ. สุกฺกปกฺเขปิ อยเมว นโย. ตถา กณฺหทุเก.

๑๓๑๑. ตปนียทุกนิทฺเทเส กตตฺตา จ อกตตฺตา จ ตปนํ เวทิตพฺพํ. กายทุจฺจริตาทีนิ หิ กตตฺตา ตปนฺติ, กายสุจริตาทีนิ อกตตฺตา. ตถา หิ ปุคฺคโล ‘กตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายสุจริต’นฺติ ตปฺปติ. ‘กตํ เม วจีทุจฺจริต’นฺติ ตปฺปติ…เป… ‘อกตํ เม มโนสุจริต’นฺติ ตปฺปติ. อตปนีเยปิ เอเสว นโย. กลฺยาณการี หิ ปุคฺคโล ‘กตํ เม กายสุจริต’นฺติ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม กายทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปติ…เป… ‘อกตํ เม มโนทุจฺจริต’นฺติ น ตปฺปตีติ (อ. นิ. ๒.๓).

๑๓๑๓. อธิวจนทุกนิทฺเทเส ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมคฺคหณํ. สงฺขายตีติ สงฺขา, สํกถิยตีติ อตฺโถ. กินฺติ สํกถิยติ? อหนฺติ มมนฺติ ปโรติ ปรสฺสาติ สตฺโตติ ภาโวติ โปโสติ ปุคฺคโลติ นโรติ มาณโวติ ติสฺโสติ ทตฺโตติ, ‘มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ’ ‘วิหาโร ปริเวณํ ทฺวารํ วาตปาน’นฺติ เอวํ อเนเกหิ อากาเรหิ สํกถิยตีติ ‘สงฺขา’. สมฺายตีติ สมฺา. กินฺติ สมฺายติ? ‘อหนฺติ…เป… วาตปาน’นฺติ สมฺายตีติ ‘สมฺา’. ปฺาปิยตีติ ปฺตฺติ. โวหริยตีติ โวหาโร. กินฺติ โวหริยติ? ‘อห’นฺติ…เป… ‘วาตปาน’นฺติ โวหริยตีติ โวหาโร.

นามนฺติ จตุพฺพิธํ นามํ – สามฺนามํ คุณนามํ กิตฺติมนามํ โอปปาติกนามนฺติ. ตตฺถ ปมกปฺปิเกสุ มหาชเนน สมฺมนฺนิตฺวา ปิตตฺตา มหาสมฺมโตติ รฺโ นามํ ‘สามฺนามํ’ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มหาชนสมฺมโตติ โข, วาเสฏฺ, มหาสมฺมโต ตฺเวว ปมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๑). ธมฺมกถิโก ปํสุกูลิโก วินยธโร เตปิฏโก สทฺโธ ปสนฺโนติ เอวรูปํ คุณโต อาคตนามํ ‘คุณนามํ’ นาม. ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิปิ ตถาคตสฺส อเนกานิ นามสตานิ คุณนามาเนว. เตน วุตฺตํ –

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ.

ยํ ปน ชาตสฺส กุมารกสฺส นามคฺคหณทิวเส ทกฺขิเณยฺยานํ สกฺการํ กตฺวา สมีเป ิตา าตกา กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา ‘อยํ อสุโกนามา’ติ นามํ กโรนฺติ, อิทํ ‘กิตฺติมนาม’ นาม. ยา ปน ปุริมปฺตฺติ ปจฺฉิมปฺตฺติยํ ปตติ, ปุริมโวหาโร ปจฺฉิมโวหาเร ปตติ, เสยฺยถิทํ – ปุริมกปฺเปปิ จนฺโท จนฺโทเยว นาม, เอตรหิปิ จนฺโทว. อตีเต สูริโย… สมุทฺโท… ปถวี… ปพฺพโต ปพฺพโตเยว, นาม, เอตรหิปิ ปพฺพโตเยวาติ อิทํ ‘โอปปาติกนามํ’ นาม. อิทํ จตุพฺพิธมฺปิ นามํ เอตฺถ นามเมว โหติ.

นามกมฺมนฺติ นามกรณํ. นามเธยฺยนฺติ นามฏฺปนํ. นิรุตฺตีติ นามนิรุตฺติ. พฺยฺชนนฺติ นามพฺยฺชนํ. ยสฺมา ปเนตํ อตฺถํ พฺยฺเชติ ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. อภิลาโปติ นามาภิลาโปว. สพฺเพว ธมฺมา อธิวจนปถาติ อธิวจนสฺส โนปถธมฺโม นาม นตฺถิ. เอกธมฺโม สพฺพธมฺเมสุ นิปตติ, สพฺพธมฺมา เอกธมฺมสฺมึ นิปตนฺติ. กถํ? อยฺหิ นามปฺตฺติ เอกธมฺโม, โส สพฺเพสุ จตุภูมกธมฺเมสุ นิปตติ. สตฺโตปิ สงฺขาโรปิ นามโต มุตฺตโก นาม นตฺถิ.

อฏวีปพฺพตาทีสุ รุกฺโขปิ ชานปทานํ ภาโร. เต หิ ‘อยํ กึ รุกฺโข นามา’ติ ปุฏฺา ‘ขทิโร’ ‘ปลาโส’ติ อตฺตนา ชานนกนามํ กเถนฺติ. ยสฺส นามํ น ชานนฺติ ตมฺปิ ‘อนามโก’ นามาติ วทนฺติ. ตมฺปิ ตสฺส นามเธยฺยเมว หุตฺวา ติฏฺติ. สมุทฺเท มจฺฉกจฺฉปาทีสุปิ เอเสว นโย. อิตเร ทฺเว ทุกา อิมินา สมานตฺถา เอว.

๑๓๑๖. นามรูปทุเก นามกรณฏฺเน จ นมนฏฺเน จ นามนฏฺเน จ นามํ. ตตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา ตาว นามกรณฏฺเน ‘นามํ’. ยถา หิ มหาชนสมฺมตตฺตา มหาสมฺมตสฺส มหาสมฺมโตติ นามํ อโหสิ, ยถา วา มาตาปิตโร ‘อยํ ติสฺโส นาม โหตุ, ผุสฺโส นาม โหตู’ติ เอวํ ปุตฺตสฺส กิตฺติมนามํ กโรนฺติ, ยถา วา ‘ธมฺมกถิโก’ ‘วินยธโร’ติ คุณโต นามํ อาคจฺฉติ, น เอวํ เวทนาทีนํ. เวทนาทโย หิ มหาปถวีอาทโย วิย อตฺตโน นามํ กโรนฺตาว อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ อุปฺปนฺเนสุ เตสํ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. น หิ เวทนํ อุปฺปนฺนํ ‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’ติ โกจิ ภณติ. น จ ตสฺสา นามคฺคหณกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา ปถวิยา อุปฺปนฺนาย ‘ตฺวํ ปถวี นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, จกฺกวาฬสิเนรุจนฺทิมสูริยนกฺขตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘ตฺวํ จกฺกวาฬํ นาม โหหิ ตฺวํ นกฺขตฺตํ นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ, โอปปาติกปฺตฺติยํ นิปตติ, เอวํ เวทนาย อุปฺปนฺนาย ‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ตาย อุปฺปนฺนาย เวทนาติ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. โอปปาติกปฺตฺติยํ นิปตติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อตีเตปิ หิ เวทนา เวทนาเยว, สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ วิฺาณเมว. อนาคเตปิ, ปจฺจุปฺปนฺเนปิ. นิพฺพานํ ปน สทาปิ นิพฺพานเมวาติ. ‘นามกรณฏฺเน’ นามํ.

‘นมนฏฺเนา’ปิ เจตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามํ. เต หิ อารมฺมณาภิมุขา นมนฺติ. ‘นามนฏฺเน’ สพฺพมฺปิ นามํ. จตฺตาโร หิ ขนฺธา อารมฺมเณ อฺมฺํ นาเมนฺติ. นิพฺพานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาย อตฺตนิ อนวชฺชธมฺเม นาเมติ.

๑๓๑๘. อวิชฺชาภวตณฺหา วฏฺฏมูลสมุทาจารทสฺสนตฺถํ คหิตา.

๑๓๒๐. ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จาติ ขนฺธปฺจกํ อตฺตา จ โลโก จาติ คเหตฺวา ‘ตํ ภวิสฺสตี’ติ คหณากาเรน นิวิฏฺา สสฺสตทิฏฺิ. ทุติยา ‘น ภวิสฺสตี’ติ อากาเรน นิวิฏฺา อุจฺเฉททิฏฺิ.

๑๓๒๖. ปุพฺพนฺตํ อารพฺภาติ อตีตโกฏฺาสํ อารมฺมณํ กริตฺวา. อิมินา พฺรหฺมชาเล อาคตา อฏฺารส ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโย คหิตา. อปรนฺตํ อารพฺภาติ อนาคตโกฏฺาสํ อารมฺมณํ กริตฺวา. อิมินา ตตฺเถว อาคตา จตุจตฺตาลีส อปรนฺตานุทิฏฺิโย คหิตา.

๑๓๓๒. โทวจสฺสตานิทฺเทเส สหธมฺมิเก วุจฺจมาเนติ สหธมฺมิกํ นาม ยํ ภควตา ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ, ตสฺมึ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ‘อิทํ นาม ตฺวํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, อิงฺฆ เทเสหิ วุฏฺาหิ ปฏิกโรหี’ติ วุจฺจมาเน. โทวจสฺสายนฺติอาทีสุ เอวํ โจทิยมานสฺส ปฏิโจทนาย วา อปฺปทกฺขิณคาหิตาย วา ทุพฺพจสฺส กมฺมํ โทวจสฺสายํ. ตเทว โทวจสฺสนฺติปิ วุจฺจติ. ตสฺส ภาโว โทวจสฺสิยํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. วิปฺปฏิกูลคาหิตาติ วิโลมคาหิตา. วิโลมคหณสงฺขาเตน วิปจฺจนีเกน สาตํ อสฺสาติ วิปจฺจนีกสาโต. ‘ปฏาณิกคหณํ คเหตฺวา เอกปเทเนว ตํ นิสฺสทฺทมกาสิ’นฺติ สุขํ ปฏิลภนฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺส ภาโว วิปจฺจนีกสาตตา. โอวาทํ อนาทิยนวเสน อนาทรสฺส ภาโว อนาทริยํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. อนาทิยนากาโร วา อนาทรตา. ครุวาสํ อวสนวเสน อุปฺปนฺโน อคารวภาโว อคารวตา. สเชฏฺกวาสํ อวสนวเสน อุปฺปนฺโน อปฺปฏิสฺสวภาโว อปฺปฏิสฺสวตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูปา โทวจสฺสตา นาม วุจฺจติ. อตฺถโต ปเนสา เตนากาเรน ปวตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา, สงฺขารกฺขนฺโธเยว วาติ. ปาปมิตฺตตาทีสุปิ เอเสว นโย. โทวจสฺสตา ปาปมิตฺตตาทโย หิ วิสุํ เจตสิกธมฺมา นาม นตฺถิ.

๑๓๓๓. นตฺถิ เอเตสํ สทฺธาติ อสฺสทฺธา; พุทฺธาทีนิ วตฺถูนิ น สทฺทหนฺตีติ อตฺโถ. ทุสฺสีลาติ สีลสฺส ทุนฺนามํ นตฺถิ, นิสฺสีลาติ อตฺโถ. อปฺปสฺสุตาติ สุตรหิตา. ปฺจ มจฺฉริยานิ เอเตสํ อตฺถีติ มจฺฉริโน. ทุปฺปฺาติ นิปฺปฺา. เสวนกวเสน เสวนา. พลวเสวนา นิเสวนา. สพฺพโตภาเคน เสวนา สํเสวนา. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ตีหิปิ เสวนาว กถิตา. ภชนาติ อุปสงฺกมนา. สมฺภชนาติ สพฺพโตภาเคน ภชนา. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ภตฺตีติ ทฬฺหภตฺติ. สมฺภตฺตีติ สพฺพโตภาเคน ภตฺติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ทฺวีหิปิ ทฬฺหภตฺติ เอว กถิตา. ตํสมฺปวงฺกตาติ เตสุ ปุคฺคเลสุ กาเยน เจว จิตฺเตน จ สมฺปวงฺกภาโว; ตนฺนินฺนตา ตปฺโปณตา ตปฺปพฺภารตาติ อตฺโถ.

๑๓๓๔. โสวจสฺสตาทุกนิทฺเทโสปิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.

๑๓๓๖. ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธาติ มาติกานิทฺเทเสน ‘ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสสํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏ’นฺติ อิมา ปฺจ อาปตฺติโย. สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธาติ วินยนิทฺเทเสน ‘ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิต’นฺติ อิมา สตฺต อาปตฺติโย. ตตฺถ สห วตฺถุนา ตาสํ อาปตฺตีนํ ปริจฺเฉทชานนกปฺา อาปตฺติกุสลตา นาม. สห กมฺมวาจาย อาปตฺติวุฏฺานปริจฺเฉทชานนกปฺา ปน อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา นาม.

๑๓๓๘. สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ. สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทชานนกปฺา ปน สมาปตฺติกุสลตา นาม. ‘จนฺเท วา สูริเย วา นกฺขตฺเต วา เอตฺตกํ านํ คเต วุฏฺหิสฺสามี’ติ อวิรชฺฌิตฺวา ตสฺมึเยว สมเย วุฏฺานกปฺาย อตฺถิตาย สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา นาม.

๑๓๔๐. อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ อุคฺคหมนสิการสวนธารณปริจฺเฉทชานนกปฺา ธาตุกุสลตา นาม. ตาสํเยว อุคฺคหมนสิการชานนกปฺา มนสิการกุสลตา นาม.

๑๓๔๒. ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อุคฺคหมนสิการสวนธารณปริจฺเฉทชานนกปฺา ลตา นาม. ตีสุปิ วา เอตาสุ กุสลตาสุ อุคฺคโห มนสิกาโร สวนํ สมฺมสนํ ปฏิเวโธ ปจฺจเวกฺขณาติ สพฺพํ วฏฺฏติ. ตตฺถ สวนอุคฺคหปจฺจเวกฺขณา โลกิยา, ปฏิเวโธ โลกุตฺตโร. สมฺมสนมนสิการา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’ติอาทีนิ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๕) ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค อาวิภวิสฺสนฺติ. ‘อิมินา ปน ปจฺจเยน อิทํ โหตี’ติ ชานนกปฺา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา นาม.

๑๓๔๔. านาฏฺานกุสลตาทุกนิทฺเทเส เหตู ปจฺจยาติ อุภยมฺเปตํ อฺมฺเววจนํ. จกฺขุปสาโท หิ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส เหตุ เจว ปจฺจโย จ. ตถา โสตปสาทาทโย โสตวิฺาณาทีนํ, อมฺพพีชาทีนิ จ อมฺพผลาทีนํ. ทุติยนเย เย เย ธมฺมาติ วิสภาคปจฺจยธมฺมานํ นิทสฺสนํ. เยสํ เยสนฺติ วิสภาคปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมนิทสฺสนํ. น เหตู น ปจฺจยาติ จกฺขุปสาโท สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส โสตวิฺาณสฺส น เหตุ น ปจฺจโย. ตถา โสตปสาทาทโย อวเสสวิฺาณาทีนํ. อมฺพาทโย จ ตาลาทีนํ อุปฺปตฺติยาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๓๔๖. อชฺชวมทฺทวนิทฺเทเส นีจจิตฺตตาติ ปทมตฺตเมว วิเสโส. ตสฺสตฺโถ – มานาภาเวน นีจํ จิตฺตํ อสฺสาติ นีจจิตฺโต. นีจจิตฺตสฺส ภาโว นีจจิตฺตตา. เสสํ จิตฺตุชุกตาจิตฺตมุทุตานํ ปทภาชนีเย อาคตเมว.

๑๓๔๘. ขนฺตินิทฺเทเส ขมนกวเสน ขนฺติ. ขมนากาโร ขมนตา. อธิวาเสนฺติ เอตาย, อตฺตโน อุปริ อาโรเปตฺวา วาเสนฺติ, น ปฏิพาหนฺติ, น ปจฺจนีกตาย ติฏฺนฺตีติ อธิวาสนตา. อจณฺฑิกสฺส ภาโว อจณฺฑิกฺกํ. อนสุโรโปติ อสุโรโป วุจฺจติ น สมฺมาโรปิตตฺตา ทุรุตฺตวจนํ. ตปฺปฏิปกฺขโต อนสุโรโป สุรุตฺตวาจาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ ผลูปจาเรน การณํ นิทฺทิฏฺํ. อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ โสมนสฺสวเสน จิตฺตสฺส สกมนตา, อตฺตโน จิตฺตสภาโวเยว, น พฺยาปนฺนจิตฺตตาติ อตฺโถ.

๑๓๔๙. โสรจฺจนิทฺเทเส กายิโก อวีติกฺกโมติ ติวิธํ กายสุจริตํ. วาจสิโก อวีติกฺกโมติ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ. กายิกวาจสิโกติ อิมินา กายวจีทฺวารสมุฏฺิตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริยาทิยติ. อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจนฺติ อิทํ ปาปโต สุฏฺุ โอรตตฺตา โสรจฺจํ นาม วุจฺจติ. สพฺโพปิ สีลสํวโรติ อิทํ ยสฺมา น เกวลํ กายวาจาเหว อนาจารํ อาจรติ มนสาปิ อาจรติ เอว, ตสฺมา มานสิกสีลํ ปริยาทาย ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๑๓๕๐. สาขลฺยนิทฺเทเส อณฺฑกาติ ยถา สโทเส รุกฺเข อณฺฑกานิ อุฏฺหนฺติ, เอวํ สโทสตาย ขุํสนวมฺภนาทิวจเนหิ อณฺฑกา ชาตา. กกฺกสาติ ปูติกา สา ยถา นาม ปูติรุกฺโข กกฺกโส โหติ ปคฺฆริตจุณฺโณ เอวํ กกฺกสา โหติ. โสตํ ฆํสยมานา วิย ปวิสติ. เตน วุตฺตํ ‘กกฺกสา’ติ. ปรกฏุกาติ ปเรสํ กฏุกา อมนาปา โทสชนนี. ปราภิสชฺชนีติ กุฏิลกณฺฏกสาขา วิย จมฺเมสุ วิชฺฌิตฺวา ปเรสํ อภิสชฺชนี, คนฺตุกามานมฺปิ คนฺตุํ อทตฺวา ลคฺคนการี. โกธสามนฺตาติ โกธสฺส อาสนฺนา. อสมาธิสํวตฺตนิกาติ อปฺปนาสมาธิสฺส วา อุปจารสมาธิสฺส วา อสํวตฺตนิกา. อิติ สพฺพาเนเวตานิ สโทสวาจาย เววจนานิ. ตถารูปึ วาจํ ปหายาติ อิทํ ผรุสวาจํ อปฺปชหิตฺวา ิตสฺส อนฺตรนฺตเร ปวตฺตาปิ สณฺหวาจา อสณฺหวาจา เอว นามาติ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ.

เนฬาติ เอฬํ วุจฺจติ โทโส. นาสฺสา เอฬนฺติ เนฬา; นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนฬงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕; สํ. นิ. ๔.๓๔๗; เปฏโก. ๒๕) เอตฺถ วุตฺตเนฬํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ, อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี; นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ. ปิติมตฺตํ ปิตาติ ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา. ยา ตตฺถาติ ยา ตสฺมึ ปุคฺคเล. สณฺหวาจตาติ มฏฺวาจตา. สขิลวาจตาติ มุทุวาจตา. อผรุสวาจตาติ อกกฺขฬวาจตา.

๑๓๕๑. ปฏิสนฺถารนิทฺเทเส อามิสปฏิสนฺถาโรติ อามิสอลาเภน อตฺตนา สห ปเรสํ ฉิทฺทํ ยถา ปิหิตํ โหติ ปฏิจฺฉนฺนํ เอวํ อามิเสน ปฏิสนฺถรณํ. ธมฺมปฏิสนฺถาโรติ ธมฺมสฺส อปฺปฏิลาเภน อตฺตนา สห ปเรสํ ฉิทฺทํ ยถา ปิหิตํ โหติ ปฏิจฺฉนฺนํ, เอวํ ธมฺเมน ปฏิสนฺถรณํ. ปฏิสนฺถารโก โหตีติ ทฺเวเยว หิ โลกสนฺนิวาสสฺส ฉิทฺทานิ, เตสํ ปฏิสนฺถารโก โหติ. อามิสปฏิสนฺถาเรน วา ธมฺมปฏิสนฺถาเรน วาติ อิมินา ทุวิเธน ปฏิสนฺถาเรน ปฏิสนฺถารโก โหติ, ปฏิสนฺถรติ, นิรนฺตรํ กโรติ.

ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย กถา – ปฏิสนฺถารเกน หิ ภิกฺขุนา อาคนฺตุกํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตพฺพํ, อาสนํ ทาตพฺพํ, ตาลวณฺเฏน พีชิตพฺพํ, ปาทา โธวิตฺวา มกฺเขตพฺพา, สปฺปิผาณิเต สติ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ, อาวาโส ปฏิชคฺคิตพฺโพ. เอวํ เอกเทเสน อามิสปฏิสนฺถาโร กโต นาม โหติ.

สายํ ปน นวกตเรปิ อตฺตโน อุปฏฺานํ อนาคเตเยว, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นิสีทิตฺวา อวิสเย อปุจฺฉิตฺวา ตสฺส วิสเย ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ. ‘ตุมฺเห กตรภาณกา’ติ อปุจฺฉิตฺวา ตุมฺหากํ ‘อาจริยุปชฺฌายา กตรํ คนฺถํ วฬฺเชนฺตี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปโหนกฏฺาเน ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ กเถตุํ สกฺโกติ อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สกฺโกติ สยํ กเถตฺวา ทาตพฺพํ. เอวํ เอกเทเสน ธมฺมปฏิสนฺถาโร กโต นาม โหติ.

สเจ อตฺตโน สนฺติเก วสติ ตํ อาทาย นิพทฺธํ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. สเจ คนฺตุกาโม โหติ ปุนทิวเส คมนสภาเคน ตํ อาทาย เอกสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา อุยฺโยเชตพฺโพ. สเจ อฺสฺมึ ทิสาภาเค ภิกฺขู นิมนฺติตา โหนฺติ ตํ ภิกฺขุํ อิจฺฉมานํ อาทาย คนฺตพฺพํ. ‘น มยฺหํ เอสา ทิสา สภาคา’ติ คนฺตุํ อนิจฺฉนฺเต เสสภิกฺขู เปเสตฺวา ตํ อาทาย ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. อตฺตนา ลทฺธามิสํ ตสฺส ทาตพฺพํ. เอวํ ‘อามิสปฏิสนฺถาโร’ กโต นาม โหติ.

อามิสปฏิสนฺถารเกน ปน อตฺตนา ลทฺธํ กสฺส ทาตพฺพนฺติ? อาคนฺตุกสฺส ตาว ทาตพฺพํ. สเจ คิลาโน วา อวสฺสิโก วา อตฺถิ, เตสมฺปิ ทาตพฺพํ. อาจริยุปชฺฌายานํ ทาตพฺพํ. ภณฺฑคาหกสฺส ทาตพฺพํ. สาราณียธมฺมปูรเกน ปน สตวารมฺปิ สหสฺสวารมฺปิ อาคตาคตานํ เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. ปฏิสนฺถารเกน ปน เยน เยน น ลทฺธํ, ตสฺส ตสฺส ทาตพฺพํ. พหิคามํ นิกฺขมิตฺวา ชิณฺณกํ วา อนาถํ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา ทิสฺวา เตสมฺปิ ทาตพฺพํ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – โจเรหิ กิร คุตฺตสาลคาเม ปหเต ตงฺขณฺเว เอกา นิโรธโต วุฏฺิตา ขีณาสวตฺเถรี ทหรภิกฺขุนิยา ภณฺฑกํ คาหาเปตฺวา มหาชเนน สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา ิตมชฺฌนฺหิเก นกุลนครคามทฺวารํ ปตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทิ. ตสฺมึ สมเย กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร นกุลนครคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา นิกฺขนฺโต เถรึ ทิสฺวา ภตฺเตน อาปุจฺฉิ. สา ‘ปตฺโต เม นตฺถี’ติ อาห. เถโร ‘อิมินาว ภุฺชถา’ติ สห ปตฺเตน อทาสิ. เถรี ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา เถรสฺส ทตฺวา อาห – ‘อชฺช ตาว ภิกฺขาจาเรน กิลมิสฺสถ, อิโต ปฏฺาย ปน โว ภิกฺขาจารปริตฺตาโส นาม น ภวิสฺสติ, ตาตา’ติ. ตโต ปฏฺาย เถรสฺส อูนกหาปณคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต นาม น อุปฺปนฺนปุพฺโพ. อยํ ‘อามิสปฏิสนฺถาโร’ นาม.

อิมํ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ภิกฺขุนา สงฺคหปกฺเข ตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ, กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตพฺพํ, อุปฺปนฺนํ กิจฺจํ กรณียํ กาตพฺพํ, อพฺภานวุฏฺานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา. ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ภิกฺขุนิยาปิ อตฺตโน สนฺติเก อุปสมฺปทํ อากงฺขมานาย กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อยํ ‘ธมฺมปฏิสนฺถาโร’ นาม.

อิเมหิ ทฺวีหิ ปฏิสนฺถาเรหิ ปฏิสนฺถารโก ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนํ ลาภํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ ถาวรํ กโรติ, สภยฏฺาเน อตฺตโน ชีวิตํ รกฺขติ โจรนาครฺโ ปตฺตคฺคหณหตฺเถเนว อคฺคํ คเหตฺวา ปตฺเตเนว ภตฺตํ อากิรนฺโต เถโร วิย. อลทฺธลาภุปฺปาทเน ปน อิโต ปลายิตฺวา ปรตีรํ คเตน มหานาครฺา เอกสฺส เถรสฺส สนฺติเก สงฺคหํ ลภิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา รชฺเช ปติฏฺิเตน เสตมฺพงฺคเณ ยาวชีวํ ปวตฺติตํ มหาเภสชฺชทานวตฺถุ กเถตพฺพํ. อุปฺปนฺนลาภถาวรกรเณ ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส หตฺถโต ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา เจติยปพฺพเต โจเรหิ ภณฺฑกสฺส อวิลุตฺตภาเว วตฺถุ กเถตพฺพํ.

๑๓๕๒. อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตานิทฺเทเส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ, อจิตฺตกตฺตา; จิตฺตํ น ปสฺสติ, อจกฺขุกตฺตา; ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเนน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺชตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา’’ติ อยเมเวตฺถ อตฺโถติ. นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ ฉนฺทราควเสน คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺเตเยว น สณฺาติ. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุพฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต อนุพฺยฺชนนฺติ ลทฺธโวหารํ หตฺถปาทสิตหสิตกถิตอาโลกิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ คณฺหาติ. ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ, เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ อนุพนฺเธยฺยุํ อชฺโฌตฺถเรยฺยุํ. ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย น ปฏิปชฺชติ. เอวํภูโตเยว จ น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, น จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตีติ วุจฺจติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ, น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ. อปิจ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถมาคจฺฉติ ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ, ตโต วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ, ตโต วิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ. ตตฺราปิ เนว ภวงฺคสมเย น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ. ชวนกฺขเณ ปน ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ.

เอวํ โหนฺโต ปน โส ‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’ติ วุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สุสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉกํ กเรยฺยุํ. เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานีติ.

โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยา อิเมสนฺติ เอวํ สํวรํ อนาปชฺชนฺตสฺส อิเมสํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ยา อคุตฺติ ยา อโคปนา โย อนารกฺโข โย อสํวโร, อถกนํ, อปิทหนนฺติ อตฺโถ.

๑๓๕๓. โภชเน อมตฺตฺุตานิทฺเทเส อิเธกจฺโจติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก เอกจฺโจ. อปฺปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขานปฺาย อชานิตฺวา อนุปธาเรตฺวา. อโยนิโสติ อนุปาเยน. อาหารนฺติ อสิตปีตาทิอชฺโฌหรณียํ. อาหาเรตีติ ปริภุฺชติ อชฺโฌหรติ. ทวายาติอาทิ อนุปายทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนุปาเยน หิ อาหาเรนฺโต ทวตฺถาย มทตฺถาย มณฺฑนตฺถาย วิภูสนตฺถาย วา อาหาเรติ, โน อิทมตฺถิตํ ปฏิจฺจ. ยา ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตาติ ยา ตสฺมึ อโยนิโส อาหารปริโภเค อสนฺตุสฺสนา อสนฺตุฏฺิภาโว. อมตฺตฺุตาติ อมตฺตฺุภาโว, ปมาณสงฺขาตาย มตฺตาย อชานนํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อปจฺจเวกฺขิตปริโภควเสน ปวตฺตา โภชเน อมตฺตฺุตา นาม วุจฺจติ.

๑๓๕๔. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตานิทฺเทเส จกฺขุนาติอาทิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติ ฉนฺทราควเสน วุตฺตปฺปการํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ. เอวํ เสสปทานิปิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา ‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ, ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานี’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ตสฺมึ สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นครทฺวาเรสุ สุสํวุเตสุ, กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา โหนฺติ, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ – นครทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส นตฺถิ – เอวเมว ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ, อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ ‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร’ติ วุตฺโต. โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๓๕๕. โภชเน มตฺตฺุตานิทฺเทเส ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรตีติ ปฏิสงฺขานปฺาย ชานิตฺวา อุปาเยน อาหารํ ปริภุฺชติ. อิทานิ ตํ อุปายํ ทสฺเสตุํ เนว ทวายาติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ‘เนว ทวายา’ติ ทวตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นฏลงฺฆกาทโย ทวตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. ยฺหิ โภชนํ ภุตฺตสฺส นจฺจคีตกพฺยสิโลกสงฺขาโต ทโว อติเรกตเรน ปฏิภาติ, ตํ โภชนํ อธมฺเมน วิสเมน ปริเยสิตฺวา เต อาหาเรนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

มทายาติ มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ ราชราชมหามตฺตา มทตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. เต หิ อตฺตโน มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย ปิณฺฑรสโภชนาทีนิ ปณีตโภชนานิ ภุฺชนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

น มณฺฑนายาติ สรีรมณฺฑนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ รูปูปชีวินิโย มาตุคามา อนฺเตปุริกาทโย จ สปฺปิผาณิตํ นาม ปิวนฺติ, เต หิ สินิทฺธํ มุทุํ มนฺทํ โภชนํ อาหาเรนฺติ ‘เอวํ โน องฺคลฏฺิ สุสณฺิตา ภวิสฺสติ, สรีเร ฉวิวณฺโณ ปสนฺโน ภวิสฺสตี’ติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.

น วิภูสนายาติ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นิพฺพุทฺธมลฺลมุฏฺิกมลฺลาทโย สุสินิทฺเธหิ มจฺฉมํสาทีหิ สรีรมํสํ ปีเณนฺติ ‘เอวํ โน มํสํ อุสฺสทํ ภวิสฺสติ ปหารสหนตฺถายา’ติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ.

ยาวเทวาติ อาหาราหรเณ ปโยชนสฺส ปริจฺเฉทนิยมทสฺสนํ. อิมสฺส กายสฺส ิติยาติ อิมสฺส จตุมหาภูติกกรชกายสฺส ปนตฺถาย อาหาเรติ. อิทมสฺส อาหาราหรเณ ปโยชนนฺติ อตฺโถ. ยาปนายาติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนตฺถาย อาหาเรติ. วิหึสูปรติยาติ วิหึสา นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกา ขุทฺทา. ตสฺสา อุปรติยา วูปสมนตฺถาย อาหาเรติ. พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ พฺรหฺมจริยํ นาม ติสฺโส สิกฺขา, สกลํ สาสนํ, ตสฺส อนุคฺคณฺหนตฺถาย อาหาเรติ.

อิตีติ อุปายนิทสฺสนํ; อิมินา อุปาเยนาติ อตฺโถ. ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ ปุราณเวทนา นาม อภุตฺตปฺปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ปฏิหนิสฺสามีติ อาหาเรติ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ นวเวทนา นาม อติภุตฺตปฺปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ อาหาเรติ. อถ วา, ‘นวเวทนา’ นาม ภุตฺตปฺปจฺจยา นอุปฺปชฺชนกเวทนา. ตสฺสา อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว อาหาเรติ. ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ยาปนา จ เม ภวิสฺสติ. อนวชฺชตา จาติ เอตฺถ อตฺถิ สาวชฺชํ อตฺถิ อนวชฺชํ. ตตฺถ อธมฺมิกปริเยสนา อธมฺมิกปฏิคฺคหณํ อธมฺเมน ปริโภโคติ อิทํ ‘สาวชฺชํ’ นาม. ธมฺเมน ปริเยสิตฺวา ธมฺเมน ปฏิคฺคเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนํ ‘อนวชฺชํ’ นาม. เอกจฺโจ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ, ‘ลทฺธํ เม’ติ กตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ ภุฺชติ. ตํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ กิลมติ. สกลวิหาเร ภิกฺขู ตสฺส สรีรปฏิชคฺคนเภสชฺชปริเยสนาทีสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺติ. ‘กึ อิท’นฺติ วุตฺเต ‘อสุกสฺส นาม อุทรํ อุทฺธุมาต’นฺติอาทีนิ วทนฺติ. ‘เอส นิจฺจกาลมฺปิ เอวํปกติโกเยว, อตฺตโน กุจฺฉิปมาณํ นาม น ชานาตี’ติ นินฺทนฺติ ครหนฺติ. อยํ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ นาม. เอวํ อกตฺวา ‘อนวชฺชตา จ ภวิสฺสตี’ติ อาหาเรติ.

ผาสุวิหาโร จาติ เอตฺถาปิ อตฺถิ ผาสุวิหาโร อตฺถิ น ผาสุวิหาโร. ตตฺถ ‘อาหรหตฺถโก อลํสาฏโก ตตฺถวฏฺฏโก กากมาสโก ภุตฺตวมิตโก’ติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณานํ โภชนํ น ผาสุวิหาโร นาม. เอเตสุ หิ ‘อาหรหตฺถโก’ นาม พหุํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘อาหร หตฺถ’นฺติ วทติ. ‘อลํสาฏโก’ นาม อจฺจุทฺธุมาตกุจฺฉิตาย อุฏฺิโตปิ สาฏกํ นิวาเสตุํ น สกฺโกติ. ‘ตตฺถวฏฺฏโก’ นาม อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปริวฏฺฏติ. ‘กากมาสโก’ นาม ยถา กาเกหิ อามสิตุํ สกฺกา โหติ, เอวํ ยาว มุขทฺวารา อาหาเรติ. ‘ภุตฺตวมิตโก’ นาม มุเขน สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว วมติ. เอวํ อกตฺวา ‘ผาสุวิหาโร จ เม ภวิสฺสตี’ติ อาหาเรติ. ผาสุวิหาโร นาม จตูหิ ปฺจหิ อาโลเปหิ อูนูทรตา. เอตฺตกฺหิ ภุฺชิตฺวา ปานียํ ปิวโต จตฺตาโร อิริยาปถา สุเขน ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ เอวมาห –

‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;

อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);

อิมสฺมึ ปน าเน องฺคานิ สโมธาเนตพฺพานิ. ‘เนว ทวายา’ติหิ เอกํ องฺคํ, ‘น มทายา’ติ เอกํ, ‘น มณฺฑนายา’ติ เอกํ, ‘น วิภูสนายา’ติ เอกํ, ‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนายา’ติ เอกํ, ‘วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’ติ เอกํ, ‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’ติ เอกํ, ‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’ติ เอกํ องฺคํ. อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จาติ อยเมตฺถ โภชนานิสํโส. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – เหฏฺา จตฺตาริ องฺคานิ ปฏิกฺเขโป นาม. อุปริ ปน อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตพฺพานีติ – ตตฺถ ‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’ติ เอกํ องฺคํ, ‘ยาปนายา’ติ เอกํ, ‘วิหึสูปรติยาติ’ เอกํ, ‘พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’ติ เอกํ, ‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’ติ เอกํ, ‘นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’ติ เอกํ, ‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’ติ เอกํ, ‘อนวชฺชตา’ จาติ เอกํ. ผาสุวิหาโร ปน โภชนานิสํโสติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรนฺโต โภชเน มตฺตฺู นาม โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ยุตฺตปฺปมาณชานนวเสน ปวตฺโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค โภชเน มตฺตฺุตา นาม วุจฺจติ.

๑๓๕๖. มุฏฺสฺสจฺจนิทฺเทเส อสตีติ สติวิรหิตา จตฺตาโร ขนฺธา. อนนุสฺสติ อปฺปฏิสฺสตีติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อสรณตาติ อสรณากาโร. อธารณตาติ ธาเรตุํ อสมตฺถตา. ตาย หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล อาธานปฺปตฺโต นิธานกฺขโม น โหติ. อุทเก อลาพุกฏาหํ วิย อารมฺมเณ ปิลวตีติ ปิลาปนตา. สํมุสนตาติ นฏฺมุฏฺสฺสติตา. ตาย หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล นิกฺขิตฺตภตฺโต วิย กาโก, นิกฺขิตฺตมํโส วิย จ สิงฺคาโล โหติ.

๑๓๖๑. ภาวนาพลนิทฺเทเส กุสลานํ ธมฺมานนฺติ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อาเสวนาติ อาทิเสวนา. ภาวนาติ วฑฺฒนา. พหุลีกมฺมนฺติ ปุนปฺปุนํ กรณํ.

๑๓๖๘. สีลวิปตฺตินิทฺเทโส สีลสมฺปทานิทฺเทสปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ. ทิฏฺิวิปตฺตินิทฺเทโส จ ทิฏฺิสมฺปทานิทฺเทสปฏิปกฺขโต ทิฏฺิสมฺปทานิทฺเทโส จ ทิฏฺุปาทานนิทฺเทสปฏิปกฺขโต. สีลวิสุทฺธินิทฺเทโส กิฺจาปิ สีลสมฺปทานิทฺเทเสน สมาโน, ตตฺถ ปน วิสุทฺธิสมฺปาปกํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ กถิตํ, อิธ วิสุทฺธิปฺปตฺตํ สีลํ. สติ จ สมฺปชฺฺจ, ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ, สมโถ จ วิปสฺสนา จ, สมถนิมิตฺตฺจ ปคฺคหนิมิตฺตฺจ, ปคฺคาโห จ อวิกฺเขโป จ, สีลสมฺปทา จ ทิฏฺิสมฺปทา จาติ อิเมหิ ปน ฉหิ ทุเกหิ จตุภูมกาปิ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมาว กถิตา.

๑๓๗๓. ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทเส กมฺมสฺสกตฺาณนฺติ ‘อิทํ กมฺมํ สกํ, อิทํ โน สก’นฺติ ชานนปฺา. ตตฺถ อตฺตนา วา กตํ โหตุ ปเรน วา สพฺพมฺปิ อกุสลกมฺมํ โน สกํ. กสฺมา? อตฺถภฺชนโต อนตฺถชนนโต จ. กุสลกมฺมํ ปน อนตฺถภฺชนโต อตฺถชนนโต จ ‘สกํ’ นาม. ตตฺถ ยถา นาม สธโน สโภโค ปุริโส อทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา อนฺตรามคฺเค คามนิคมาทีสุ นกฺขตฺเต สงฺฆุฏฺเ ‘อหํ อาคนฺตุโก, กํ นุ โข นิสฺสาย นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย’นฺติ อจินฺเตตฺวา ยถา ยถา อิจฺฉติ เตน เตน นีหาเรน นกฺขตฺตํ กีฬนฺโต สุเขน กนฺตารํ อติกฺกมติ, เอวเมว อิมสฺมึ กมฺมสฺสกตฺาเณ ตฺวา อิเม สตฺตา พหุํ วฏฺฏคามิกมฺมํ อายูหิตฺวา สุเขน สุขํ อนุภวนฺตา อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. สจฺจานุโลมิกาณนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมํ วิปสฺสนาาณํ. มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ผลสมงฺคิสฺส าณนฺติ มคฺคาณผลาณานิเยว.

๑๓๗๔. ‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนา’ติปทสฺส นิทฺเทเส ยา ปฺา ปชานนาติอาทีหิ ปเทหิ เหฏฺา วุตฺตานิ กมฺมสฺสกตฺาณาทีเนว จตฺตาริ าณานิ วิภตฺตานิ.

๑๓๗๕. ‘ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธาน’นฺติ ปทสฺส นิทฺเทเส โย เจตสิโก วีริยารมฺโภติอาทีหิ ปเทหิ นิทฺทิฏฺํ วีริยํ ปฺาคติกเมว; ปฺาย หิ โลกิยฏฺาเน โลกิยํ โลกุตฺตรฏฺาเน โลกุตฺตรนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๗๖. สํเวคทุกนิทฺเทเส ชาติภยนฺติ ชาตึ ภยโต ทิสฺวา ิตาณํ. ชรามรณภยาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๓๗๗. อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติอาทีหิ ชาติอาทีนิ ภยโต ทิสฺวา ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ มุจฺจิตุกามสฺส อุปายปธานํ กถิตํ. ปทภาชนียสฺส ปนตฺโถ วิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๓๖๗ โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา) อาวิ ภวิสฺสติ.

๑๓๗๘. ‘อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสู’ติ ปทนิทฺเทเส ภิยฺโยกมฺยตาติ วิเสสกามตา. อิเธกจฺโจ หิ อาทิโตว ปกฺขิกภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อุโปสถิกํ วา ปาฏิปทิกํ วา เทติ, โส เตน อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา ปุน ธุรภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาวาสํ กาเรติ, จตฺตาโรปิ ปจฺจเย เทติ. ตตฺราปิ อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา สรณานิ คณฺหาติ, ปฺจ สีลานิ สมาทิยติ. ตตฺราปิ อสนฺตุฏฺโ หุตฺวา ปพฺพชติ. ปพฺพชิตฺวา เอกํ นิกายํ ทฺเว นิกาเยติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ คณฺหาติ, อฏฺ สมาปตฺติโย ภาเวติ, วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติ. อรหตฺตปฺปตฺติโต ปฏฺาย มหาสนฺตุฏฺโ นาม โหติ. เอวํ ยาว อรหตฺตา วิเสสกามตา ‘ภิยฺโยกมฺยตา’ นาม.

๑๓๗๙. ‘อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมิ’นฺติ ปทสฺส นิทฺเทเส ยสฺมา ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อุกฺกณฺมาโน ปธานํ ปฏิวาเสติ นาม, อนุกฺกณฺมาโน โน ปฏิวาเสติ นาม, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ยา กุสลานํ ธมฺมานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สกฺกจฺจกิริยตาติ กุสลานํ กรเณ สกฺกจฺจการิตา. สาตจฺจกิริยตาติ สตตเมว กรณํ. อฏฺิตกิริยตาติ ขณฺฑํ อกตฺวา อฏฺเปตฺวา กรณํ. อโนลีนวุตฺติตาติ อลีนชีวิตา, อลีนปวตฺติตา วา. อนิกฺขิตฺตฉนฺทตาติ กุสลจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิปนํ. อนิกฺขิตฺตธุรตาติ กุสลกรเณ วีริยธุรสฺส อนิกฺขิปนํ.

๑๓๘๐. ‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ วิชฺชา’ติ เอตฺถ ปุพฺเพนิวาโสติ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธา จ ขนฺธปฏิพทฺธฺจ. ปุพฺเพนิวาสสฺส อนุสฺสติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ. ตาย สมฺปยุตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ. ตยิทํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธปฏิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา เต ขนฺเธ วิทิเต ปากเฏ กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา.

จุตูปปาเต าณนฺติ จุติยฺจ อุปปาเต จ าณํ. อิทมฺปิ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิโย วิทิตา ปากฏา กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา. อาสวานํ ขเย าณนฺติ สพฺพกิเลสานํ ขยสมเย าณํ. ตยิทํ จตุสจฺจจฺฉาทกตมํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตํ ตมํ วิชฺฌิตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ วิทิตานิ ปากฏานิ กโรตีติ วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา.

๑๓๘๑. ‘จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ นิพฺพานฺจา’ติ เอตฺถ อารมฺมเณ อธิมุจฺจนฏฺเน, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุมุตฺตฏฺเน อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตสฺส อธิมุตฺติ นาม. อิตรํ ปน ‘นตฺถิ เอตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ วานํ’, ‘นิคฺคตํ วา ตสฺมา วานา’ติ นิพฺพานํ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิตกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ วุตฺตา, นิพฺพานํ ปน สพฺพกิเลเสหิ อจฺจนฺตํ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ.

๑๓๘๒. มคฺคสมงฺคิสฺส าณนฺติ จตฺตาริ มคฺคาณานิ. ผลสมงฺคิสฺส าณนฺติ จตฺตาริ ผลาณานิ. ตตฺถ ปมมคฺคาณํ ปฺจ กิเลเส เขเปนฺตํ นิโรเธนฺตํ วูปสเมนฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ขเย าณํ นาม ชาตํ. ทุติยมคฺคาณํ จตฺตาโร กิเลเส. ตถา ตติยมคฺคาณํ. จตุตฺถมคฺคาณํ ปน อฏฺ กิเลเส เขเปนฺตํ นิโรเธนฺตํ วูปสเมนฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ‘ขเย าณํ’ นาม ชาตํ. ตํ ตํ มคฺคผลาณํ ปน เตสํ เตสํ กิเลสานํ ขีณนฺเต นิรุทฺธนฺเต วูปสมนฺเต ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺเต อนุปฺปาทนฺเต อปฺปวตฺตนฺเต อุปฺปนฺนนฺติ อนุปฺปาเท าณํ นาม ชาตนฺติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อฏฺกถากณฺโฑ

ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา

๑๓๘๔. อิทานิ นิกฺเขปกณฺฑานนฺตรํ ปิตสฺส อฏฺกถากณฺฑสฺส วณฺณนากฺกโม อนุปฺปตฺโต. กสฺมา ปเนตํ อฏฺกถากณฺฑํ นาม ชาตนฺติ? เตปิฏกสฺส พุทฺธวจนสฺส อตฺถํ อุทฺธริตฺวา ปิตตฺตา. ตีสุปิ หิ ปิฏเกสุ ธมฺมนฺตรํ อาคตํ อฏฺกถากณฺเฑเนว ปริจฺฉินฺทิตฺวา วินิจฺฉิตํ สุวินิจฺฉิตํ นาม โหติ. สกเล อภิธมฺมปิฏเก นยมคฺคํ มหาปกรเณ ปฺหุทฺธารํ คณนจารํ อสลฺลกฺเขนฺเตนาปิ อฏฺกถากณฺฑโตเยว สมาเนตุํ วฏฺฏติ.

กุโต ปภวํ ปน เอตนฺติ? สาริปุตฺตตฺเถรปฺปภวํ. สาริปุตฺตตฺเถโร หิ เอกสฺส อตฺตโน สทฺธิวิหาริกสฺส นิกฺเขปกณฺเฑ อตฺถุทฺธารํ สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อฏฺกถากณฺฑํ กเถตฺวา อทาสิ. อิทํ ปน มหาอฏฺกถายํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วุตฺตํ – อภิธมฺโม นาม น สาวกวิสโย, น สาวกโคจโร; พุทฺธวิสโย เอส, พุทฺธโคจโร. ธมฺมเสนาปติ ปน สทฺธิวิหาริเกน ปุจฺฉิโต ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กเถสิ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺกถากณฺฑํ กเถตฺวา อทาสิ. กถํ? ภควา หิ ‘กตเม ธมฺมา กุสลา’ติ ปุจฺฉิ. ‘กุสลา ธมฺมา นาม กตเม’ติ สลฺลกฺเขสีติ อตฺโถ. อถสฺส ตุณฺหีภูตสฺส ‘นนุ ยํ มยา กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตีติอาทินา นเยน ภูมิเภทโต กุสลํ ทสฺสิตํ, สพฺพมฺปิ ตํ จตูสุ ภูมีสุ กุสลํ, อิเม ธมฺมา กุสลา’ติ อิมินา นเยน กณฺณิกํ กณฺณิกํ ฆฏํ ฆฏํ โคจฺฉกํ โคจฺฉกํ กตฺวา อตฺถุทฺธารวเสน กุสลาทิธมฺเม ทสฺเสนฺโต กเถตฺวา อทาสิ.

ตตฺถ จตูสูติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรอปริยาปนฺนาสุ. กุสลนฺติ ผสฺสาทิเภทํ กุสลํ. อิเม ธมฺมา กุสลาติ อิเม สพฺเพปิ ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ วุตฺตา ผสฺสาทโย ธมฺมา กุสลา นาม.

๑๓๘๕. อกุสลานํ ปน ภูมิวเสน เภทาภาวโต ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทาติ อาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาโท. จิตฺตเมว อุปฺปาโท จิตฺตุปฺปาโท. เทสนาสีสเมว เจตํ. ยถา ปน ‘ราชา อาคโต’ติ วุตฺเต อมจฺจาทีนมฺปิ อาคมนํ วุตฺตเมว โหติ, เอวํ ‘จิตฺตุปฺปาทา’ติ วุตฺเต เตหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วุตฺตาว โหนฺตีติ. สพฺพตฺถ จิตฺตุปฺปาทคฺคหเณน สสมฺปยุตฺตธมฺมํ จิตฺตํ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิโต ปรํ จตูสุ ภูมีสุ วิปาโกติอาทีนํ สพฺเพสมฺปิ ติกทุกภาชนียปทานํ อตฺโถ, เวทนาตฺติกาทีสุ จ สุขาทีนํ นวตฺตพฺพตา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปาฬิยตฺถํ วีมํสิตฺวา เวทิตพฺพา. วิเสสมตฺตเมว ปน วกฺขาม.

๑๔๒๐. ตตฺถ ปริตฺตารมฺมณตฺติเก ตาว สพฺโพ กามาวจรสฺส วิปาโกติ เอตฺถ ทฺวิปฺจวิฺาณานิ จกฺขุปสาทาทโย นิสฺสาย นิยเมเนว อิฏฺานิฏฺาทิเภเท รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตนฺตีติ ปริตฺตารมฺมณานิ. กุสลากุสลวิปากา ปน ทฺเว มโนธาตุโย หทยวตฺถุํ นิสฺสาย จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรา นิยมโต รูปาทีเนว อารพฺภ ปวตฺตนฺตีติ ปริตฺตารมฺมณา. กุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โสมนสฺสสหคตา ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณวเสน ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณวเสนาติ นิยมโต รูปาทีนิ ฉ ปริตฺตารมฺมณาเนว อารพฺภ ปวตฺตตีติ ปริตฺตารมฺมณา. กุสลากุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุทฺวยํ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณวเสน ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณวเสน นิยมโต รูปาทีนิ ฉ ปริตฺตารมฺมณาเนว อารพฺภ ปวตฺตติ. ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺตมานมฺปิ ปริตฺตํ กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ กโรติ, ปวตฺติยํ ภวงฺควเสน, ปริโยสาเน จุติวเสน ปวตฺตมานมฺปิ ตเทว อารมฺมณํ กโรตีติ ปริตฺตารมฺมณํ. อฏฺ ปน สเหตุกวิปากจิตฺตุปฺปาทา เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ตทารมฺมณวเสน ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน จ ปริตฺตธมฺเมเยว อารพฺภ ปวตฺตนฺติ. กิริยมโนธาตุ ปฺจทฺวาเร รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺตติ. โสมนสฺสสหคตาเหตุกกิริยมโนวิฺาณธาตุ ฉสุ ทฺวาเรสุ ปจฺจุปฺปนฺเน มโนทฺวาเร อตีตานาคเตปิ ปริตฺเต รูปาทิธมฺเมเยว อารพฺภ ขีณาสวานํ ปหฏฺาการํ กุรุมานา ปวตฺตตีติ ปริตฺตารมฺมณา. เอวมิเม ปฺจวีสติ จิตฺตุปฺปาทา เอกนฺเตเนว ปริตฺตารมฺมณาติ เวทิตพฺพา.

๑๔๒๑. วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนธมฺมา อตฺตโน อตฺตโน เหฏฺิมํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตนโต มหคฺคตารมฺมณา. เอว มคฺคผลธมฺมา นิพฺพานารมฺมณตฺตา อปฺปมาณารมฺมณา.

กุสลโต จตฺตาโร กิริยโต จตฺตาโรติ อฏฺ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสกฺขปุถุชฺชนขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสวนาทีสุ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปริตฺตารมฺมณา. อติปคุณานํ ปมชฺฌานาทีนํ ปจฺจเวกฺขณกาเล มหคฺคตารมฺมณา. กสิณนิมิตฺตาทิปฺตฺติปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณา. อกุสลโต จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา ปฺจปณฺณาสาย กามาวจรธมฺมานํ ‘สตฺโต สตฺโต’ติ ปรามสนอสฺสาทนาภินนฺทนกาเล ปริตฺตารมฺมณา. เตเนวากาเรน สตฺตวีสติ มหคฺคตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณา. ปณฺณตฺติธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตนกาเล สิยา นวตฺตพฺพารมฺมณา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตานํ เตเยว ธมฺเม อารพฺภ เกวลํ อสฺสาทนาภินนฺทนวเสน, ปวตฺติยํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตานํ โทมนสฺสวเสน, วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทสฺส อนิฏฺงฺคตวเสน, อุทฺธจฺจสหคตสฺส วิกฺเขปวเสน อวูปสมวเสน จ ปวตฺติยํ ปริตฺตมหคฺคตนวตฺตพฺพารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เอเตสุ ปน เอกธมฺโมปิ อปฺปมาเณ อารพฺภ ปวตฺติตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา น อปฺปมาณารมฺมณา.

กุสลโต จตฺตาโร กิริยโต จตฺตาโรติ อฏฺ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสกฺขปุถุชฺชนขีณาสวานํ สกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสวนาทีสุ ยถาวุตฺตปฺปกาเร ธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปริตฺตมหคฺคตนวตฺตพฺพารมฺมณา โหนฺติ. โคตฺรภุกาเล โลกุตฺตรธมฺเม ปจฺจเวกฺขณกาเล จ เนสํ อปฺปมาณารมฺมณตา เวทิตพฺพา.

ยํ ปเนตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ ตํ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ อากาสกสิณจตุตฺถํ อาโลกกสิณจตุตฺถํ พฺรหฺมวิหารจตุตฺถํ อานาปานจตุตฺถํ อิทฺธิวิธจตุตฺถํ ทิพฺพโสตจตุตฺถํ เจโตปริยาณจตุตฺถํ ยถากมฺมุปคาณจตุตฺถํ ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ อนาคตํสาณจตุตฺถนฺติ กุสลโตปิ กิริยโตปิ ทฺวาทสวิธํ โหติ.

ตตฺถ ‘สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ’ นาม อฏฺสุ กสิเณสุ จตุตฺถชฺฌานํ. ตฺหิ วิปสฺสนายปิ ปาทกํ โหติ, อภิฺานมฺปิ, นิโรธสฺสาปิ, วฏฺฏสฺสาปิ ปาทกํ โหติเยวาติ สพฺพตฺถปาทกนฺติ วุตฺตํ. ‘อากาสกสิณอาโลกกสิณจตุตฺถานิ’ ปน วิปสฺสนายปิ อภิฺานมฺปิ วฏฺฏสฺสาปิ ปาทกานิ โหนฺติ, นิโรธปาทกาเนว น โหนฺติ. ‘พฺรหฺมวิหารอานาปานจตุตฺถานิ’ วิปสฺสนาย เจว วฏฺฏสฺส จ ปาทกานิ โหนฺติ, อภิฺานํ ปน นิโรธสฺส จ ปาทกานิ น โหนฺติ. ตตฺถ ทสวิธมฺปิ กสิณชฺฌานํ กสิณปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา, พฺรหฺมวิหารจตุตฺถํ สตฺตปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา, อานาปานจตุตฺถํ นิมิตฺตํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา ปริตฺตาทิวเสน นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณโต นวตฺตพฺพารมฺมณํ นาม โหติ.

‘อิทฺธิวิธจตุตฺถํ’ ปริตฺตมหคฺคตารมฺมณํ โหติ. กถํ? ตฺหิ ยทา กายํ จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโม จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมติ, มหคฺคตจิตฺเต สโมทหติ, สมาโรเปติ, ตทา อุปโยคลทฺธํ อารมฺมณํ โหตีติ กตฺวา รูปกายารมฺมณโต ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. ยทา จิตฺตํ กายสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา ทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโม กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมติ, ปาทกชฺฌานจิตฺตํ รูปกาเย สโมทหติ, สมาโรเปติ, ตทา อุปโยคลทฺธํ อารมฺมณํ โหตีติ กตฺวา มหคฺคตจิตฺตารมฺมณโต มหคฺคตารมฺมณํ โหติ.

‘ทิพฺพโสตจตุตฺถํ’ สทฺทํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา เอกนฺตปริตฺตารมฺมณเมว. ‘เจโตปริยาณจตุตฺถํ’ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณารมฺมณํ โหติ. กถํ? ตฺหิ ปเรสํ กามาวจรจิตฺตชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ, รูปาวจรารูปาวจรจิตฺตชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, มคฺคผลชานนกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ โหติ. เอตฺถ จ ปุถุชฺชโน โสตาปนฺนสฺส จิตฺตํ น ชานาติ, โสตาปนฺโน วา สกทาคามิสฺสาติ เอวํ ยาว อรหโต เนตพฺพํ. อรหา ปน สพฺเพสํ จิตฺตํ ชานาติ. อฺโปิ จ อุปริโม เหฏฺิมสฺสาติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ‘ยถากมฺมุปคาณจตุตฺถํ’ กามาวจรกมฺมชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ, รูปาวจรารูปาวจรกมฺมชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ.

‘ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ’ รูปารมฺมณตฺตา เอกนฺตปริตฺตารมฺมณเมว. ‘ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ’ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณนวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ. กถํ? ตฺหิ กามาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. รูปาวจรารูปาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล มหคฺคตารมฺมณํ. อตีเต อตฺตนา วา ปเรหิ วา ภาวิตมคฺคํ สจฺฉิกตผลฺจ อนุสฺสรณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ. อตีเต พุทฺธา มคฺคํ ภาวยึสุ, ผลํ สจฺฉากํสุ, นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายึสูติ ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณวเสน มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณโตปิ อปฺปมาณารมฺมณํ. อตีเต ‘วิปสฺสี นาม ภควา’ อโหสิ. ตสฺส ‘พนฺธุมตี นาม นครํ อโหสิ, พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา, พนฺธุมตี นาม มาตา’ติอาทินา นเยน นามโคตฺตปถวีนิมิตฺตาทิอนุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ.

‘อนาคตํสาณจตุตฺเถ’ปิ เอเสว นโย. ตมฺปิ อยํ อนาคเต ‘กามาวจเร นิพฺพตฺติสฺสตี’ติ ชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. ‘รูปาวจเร วา อรูปาวจเร วา นิพฺพตฺติสฺสตี’ติ ชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ. ‘มคฺคํ ภาเวสฺสติ ผลํ สจฺฉิกริสฺสติ’ ‘นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ ชานนกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ. อนาคเต ‘‘เมตฺเตยฺโย นาม ภควา อุปฺปชฺชิสฺสติ, สุพฺรหฺมา นามสฺส พฺราหฺมโณ ปิตา ภวิสฺสติ, พฺรหฺมวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา ภวิสฺสตี’’ติอาทินา นเยน นามโคตฺตชานนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ.

อรูปาวจรจตุตฺถํ ปน อาสวานํ ขยจตุตฺถฺจ ปาฬิยํ อาคตฏฺาเนเยว กเถสฺสามิ. กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุเปกฺขาสหคตา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ กุสลากุสลกิริยจิตฺตานํ ปุเรจาริกา. ตสฺสา เตสุ วุตฺตนเยเนว อารมฺมณเภโท เวทิตพฺโพ. ปฺจทฺวาเร ปน โวฏฺพฺพนวเสน ปวตฺติยํ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณาว โหติ. รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานาทีนิ ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพธมฺมํ อารพฺภ ปวตฺติโต นวตฺตพฺพารมฺมณานิ. เอตฺถ หิ รูปาวจรานิ ปถวีกสิณาทีสุ ปวตฺตนฺติ, อากาสานฺจายตนํ อุคฺฆาฏิมากาเส, อากิฺจฺายตนํ วิฺาณาปคเมติ.

๑๔๒๙. มคฺคารมฺมณตฺติเก อาทิมฺหิ วุตฺตา อฏฺ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสกฺขาเสกฺขานํ อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคานํ ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา, มคฺเคน ปน อสหชาตตฺตา น มคฺคเหตุกา, อตฺตนา ปฏิวิทฺธมคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปติวเสน มคฺคาธิปติโน, อฺธมฺมารมฺมณกาเล น วตฺตพฺพา มคฺคารมฺมณาติปิ มคฺคาธิปติโนติปิ. จตฺตาโร อริยมคฺคา มคฺคสงฺขาตสฺส มคฺคสมฺปยุตฺตสฺส วา เหตุโน อตฺถิตาย เอกนฺตโต มคฺคเหตุกาว. วีริยํ ปน วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล สหชาตาธิปตินา สิยา มคฺคาธิปติโน, ฉนฺทจิตฺตานํ อฺตรเชฏฺกกาเล สิยา น วตฺตพฺพา มคฺคาธิปติโนติ.

ทฺวาทสวิเธ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถาทีนิ นว ฌานานิ เนว มคฺคารมฺมณานิ น มคฺคเหตุกานิ น มคฺคาธิปตีนิ. เจโตปริยาณปุพฺเพนิวาสาณอนาคตํสาณจตุตฺถานิ ปน อริยานํ มคฺคจิตฺตชานนกาเล มคฺคารมฺมณานิ โหนฺติ, มคฺเคน ปน อสหชาตตฺตา น มคฺคเหตุกานิ, มคฺคํ ครุํ กตฺวา อปฺปวตฺติโต น มคฺคาธิปตีนิ. กสฺมา ปเนตานิ น มคฺคํ ครุํ กโรนฺตีติ? อตฺตโน มหคฺคตตาย. ยถา หิ ราชานํ สพฺโพ โลโก ครุํ กโรติ, มาตาปิตโร ปน น กโรนฺติ. น หิ เต ราชานํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺหนฺติ, น อฺชลิกมฺมาทีนิ กโรนฺติ, ทหรกาเล โวหริตนเยเนว โวหรนฺติ. เอวเมตานิปิ อตฺตโน มหคฺคตตาย น มคฺคํ ครุํ กโรนฺติ.

กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุปิ อริยานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล ปจฺจเวกฺขณปุเรจาริกตฺตา มคฺคารมฺมณา โหติ, มคฺเคน อสหชาตตฺตา ปน น มคฺคเหตุกา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา อปฺปวตฺติโต น มคฺคาธิปติ. กสฺมา ครุํ น กโรตีติ? อตฺตโน อเหตุกตาย หีนตาย ชฬตาย. ยถา หิ ราชานํ สพฺโพ โลโก ครุํ กโรติ, อตฺตโน ปริชนา ปน ขุชฺชวามนกเจฏกาทโย อตฺตโน อฺาณตาย ปณฺฑิตมนุสฺสา วิย นาติครุํ กโรนฺติ, เอวเมว อิทมฺปิ จิตฺตํ อตฺตโน อเหตุกตาย หีนตาย ชฬตาย มคฺคํ ครุํ น กโรติ.

าณวิปฺปยุตฺตกุสลาทีนิ าณาภาเวน เจว โลกิยธมฺมารมฺมณตาย จ มคฺคารมฺมณาทิภาวํ น ลภนฺติ, นวตฺตพฺพารมฺมณาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพานีติ.

๑๔๓๒. อตีตารมฺมณตฺติเก วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนธมฺมา เหฏฺา อตีตสมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติตา เอกนฺเตน อตีตารมฺมณาว.

๑๔๓๓. นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถีติ นิยเมน ปาฏิเยกฺกํ จิตฺตํ อนาคตารมฺมณํ นาม นตฺถิ. นนุ จ อนาคตํสาณํ เอกนฺเตน อนาคตารมฺมณํ, เจโตปริยาณมฺปิ อนาคตํ อารพฺภ ปวตฺตตีติ? โน น ปวตฺตติ. ปาฏิเยกฺกํ ปน เอตํ เอกํ จิตฺตํ นาม นตฺถิ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน สงฺคหิตตฺตา อฺเหิ มหคฺคตจิตฺเตหิ มิสฺสกํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’ติ.

๑๔๓๔. ทฺวิปฺจวิฺาณานิ, ติสฺโส มโนธาตุโย จ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ รูปาทีสุ ปวตฺติโต ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา นาม. ทส จิตฺตุปฺปาทาติ เอตฺถ อฏฺ ตาว สเหตุกา เทวมนุสฺสานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ ปวตฺติยํ อตีตารมฺมณา. ภวงฺคจุติกาเลสุปิ เอเสว นโย. คตินิมิตฺตํ ปน อารพฺภ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล ตโต ปรํ ภวงฺคกาเล จ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา. ตถา ปฺจทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน ปวตฺติยํ. มโนทฺวาเร ปน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานํ ชวนานํ อารมฺมณํ คเหตฺวา ปวตฺติโต อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา. ‘กุสลวิปากาเหตุกอุเปกฺขาสหคตมโนวิฺาณธาตุย’มฺปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ สา มนุสฺเสสุ ชจฺจนฺธาทีนํ ปฏิสนฺธิ โหติ. ปฺจทฺวาเร จ สนฺตีรณวเสนาปิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. ‘โสมนสฺสสหคตา’ ปน ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณวเสน ตทารมฺมณวเสน จ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหติ. มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน สเหตุกวิปากา วิย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติ เวทิตพฺพา.

‘อกุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ’ ปน กุสลวิปากาย อุเปกฺขาสหคตาเหตุกาย สมานคติกา เอว. เกวลฺหิ สา อาปายิกานํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ปวตฺตตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. ‘กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ’ โสมนสฺสสหคตา ขีณาสวานํ ปฺจทฺวาเร ปหฏฺาการํ กุรุมานา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหติ. มโนทฺวาเร อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ หสิตุปฺปาทวเสน ปวตฺติยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหติ.

กามาวจรกุสลนฺติอาทีสุ กุสลโต ตาว จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา. เสกฺขปุถุชฺชนานํ อตีตาทิเภทานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ สมฺมสนฺตานํ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหนฺติ. ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขเณ นวตฺตพฺพารมฺมณา. าณวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เตหิ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ. อยเมเวตฺถ วิเสโส.

อกุสลโต จตฺตาโร ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตีตาทิเภทานํ ขนฺธธาตุอายตนานํ อสฺสาทนาภินนฺทนปรามาสกาเล อตีตาทิอารมฺมณา โหนฺติ. ปณฺณตฺตึ อารพฺภ อสฺสาเทนฺตสฺส อภินนฺทนฺตสฺส ‘สตฺโต สตฺโต’ติ ปรามสิตฺวา คณฺหนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา โหนฺติ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เตหิ ปรามาสคฺคหณํ นตฺถิ. ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ โทมนสฺสิตานํ อตีตาทิอารมฺมณา, ปณฺณตฺตึ อารพฺภ โทมนสฺสิตานํ นวตฺตพฺพารมฺมณา. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตา เตสุ เอว ธมฺเมสุ อนิฏฺงฺคตภาเวน เจว อุทฺธตภาเวน จ ปวตฺติยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพารมฺมณา. กิริยโต อฏฺ สเหตุกจิตฺตุปฺปาทา กุสลจิตฺตุปฺปาทคติกา เอว. กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุเปกฺขาสหคตา ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนวเสน ปวตฺติยํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาว. มโนทฺวาเร อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานฺเจว ปณฺณตฺตินิพฺพานารมฺมณานฺจ ชวนานํ ปุเรจาริกกาเล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพารมฺมณา.

ยถาวุตฺตปฺปเภเท รูปาวจรชฺฌาเน สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ อากาสกสิณจตุตฺถํ อาโลกกสิณจตุตฺถํ พฺรหฺมวิหารจตุตฺถํ อานาปานจตุตฺถนฺติ อิมานิ ปฺจ นวตฺตพฺพารมฺมณาเนว. ‘อิทฺธิวิธจตุตฺถํ’ กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมนฺตสฺส อตีตปาทกชฺฌานจิตฺตํ อารพฺภ ปวตฺตนโต อตีตารมฺมณํ. มหาธาตุนิธาเน มหากสฺสปตฺเถราทีนํ วิย อนาคตํ อธิฏฺหนฺตานํ อนาคตารมฺมณํ โหติ. มหากสฺสปตฺเถโร กิร มหาธาตุนิธานํ กโรนฺโต อนาคเต อฏฺารสวสฺสาธิกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ อิเม คนฺธา มา สุสฺสึสุ, ปุปฺผานิ มา มิลายึสุ, ทีปา มา นิพฺพายึสูติ อธิฏฺหิ. สพฺพํ ตเถว อโหสิ. อสฺสคุตฺตตฺเถโร วตฺตนิยเสนาสเน ภิกฺขุสงฺฆํ สุกฺขภตฺตํ ภุฺชมานํ ทิสฺวา ‘อุทกโสณฺฑิ ทิวเส ทิวเส, ปุเรภตฺตํ ทธิรสา โหตู’ติ อธิฏฺหิ. ปุเรภตฺตํ คหิตํ ทธิรสํ โหติ ปจฺฉาภตฺเต ปากติกเมว. กายํ ปน จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน คมนกาเล, อฺสฺส วา ปาฏิหาริยสฺส กรณกาเล, กายํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ.

‘ทิพฺพโสตจตุตฺถํ’ วิชฺชมานสทฺทเมว อารพฺภ ปวตฺติโต ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ. เจโตปริยาณจตุตฺถํ อตีเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร อนาคเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ปเรสํ จิตฺตํ ชานนฺตสฺส อตีตารมฺมณํ อนาคตารมฺมณฺจ โหติ. สตฺตทิวสาติกฺกเม ปน ตํ ชานิตุํ น สกฺโกติ. อตีตานาคตํสาณานฺหิ เอส วิสโย. น เอตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนชานนกาเล ปน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ.

ปจฺจุปฺปนฺนฺจ นาเมตํ ติวิธํ – ขณปจฺจุปฺปนฺนํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนฺจ. ตตฺถ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคปฺปตฺตํ ‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ’. เอกทฺวิสนฺตติวารปริยาปนฺนํ ‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ’. ตตฺถ อนฺธกาเร นิสีทิตฺวา อาโลกฏฺานํ คตสฺส น ตาว อารมฺมณํ ปากฏํ โหติ; ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร เอกทฺวิสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. อาโลกฏฺาเน วิจริตฺวา โอวรกํ ปวิฏฺสฺสาปิ น ตาว สหสา รูปํ ปากฏํ โหติ; ยาว ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร เอกทฺวิสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. ทูเร ตฺวา ปน รชกานํ หตฺถวิการํ ฆณฺฑิเภรีอาทิอาโกฏนวิการฺจ ทิสฺวาปิ น ตาว สทฺทํ สุณาติ; ยาว ปน ตํ สุณาติ, เอตสฺมิมฺปิ อนฺตเร เอกทฺวิสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. เอวํ ตาว มชฺฌิมภาณกา. สํยุตฺตภาณกา ปน ‘รูปสนฺตติ อรูปสนฺตตี’ติ ทฺเว สนฺตติโย วตฺวา, ‘อุทกํ อกฺกมิตฺวา คตสฺส ยาว ตีเร อกฺกนฺตอุทกเลขา น วิปฺปสีทติ, อทฺธานโต อาคตสฺส ยาว กาเย อุสุมภาโว น วูปสมฺมติ, อาตปา อาคนฺตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ยาว อนฺธการภาโว น วิคจฺฉติ, อนฺโตคพฺเภ กมฺมฏฺานํ มนสิกริตฺวา ทิวา วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ยาว อกฺขีนํ ผนฺทนภาโว น วูปสมฺมติ, อยํ รูปสนฺตติ นาม; ทฺเว ตโย ชวนวารา อรูปสนฺตติ นามา’ติ วตฺวา ‘ตทุภยมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นามา’ติ วทนฺติ.

เอกภวปริจฺฉินฺนํ ปน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ยํ สนฺธาย ภทฺเทกรตฺตสุตฺเต ‘‘โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๔) วุตฺตํ. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนฺเจตฺถ อฏฺกถาสุ อาคตํ. อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ สุตฺเต.

ตตฺถ เกจิ ‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ จิตฺตํ เจโตปริยาณสฺส อารมฺมณํ โหตี’ติ วทนฺติ. กึการณา? ยสฺมา อิทฺธิมสฺส จ ปรสฺส จ เอกกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ. อิทฺจ เนสํ โอปมฺมํ – ยถา อากาเส ขิตฺเต ปุปฺผมุฏฺิมฺหิ อวสฺสํ เอกํ ปุปฺผํ เอกสฺส วณฺฏํ ปฏิวิชฺฌติ วณฺเฏน วณฺฏํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวํ ปรสฺส จิตฺตํ ชานิสฺสามีติ ราสิวเสน มหาชนสฺส จิตฺเต อาวชฺชิเต อวสฺสํ เอกสฺส จิตฺตํ เอเกน จิตฺเตน อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา ปฏิวิชฺฌตีติ. ตํ ปน วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ อาวชฺชนฺโต เยน จิตฺเตน อาวชฺเชติ, เยน จ ชานาติ เตสํ ทฺวินฺนํ สหฏฺานาภาวโต อาวชฺชนชวนานฺจ อนิฏฺเ าเน นานารมฺมณภาวปฺปตฺติโทสโต อยุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ ปน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนฺจ อารมฺมณํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ยํ วตฺตมานชวนวีถิโต อตีตานาคตวเสน ทฺวิติชวนวีถิปริมาณกาเล ปรสฺส จิตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ ปน ชวนวาเรน ทีเปตพฺพนฺติ ยํ อฏฺกถายํ วุตฺตํ ตํ สุวุตฺตํ. ตตฺรายํ ทีปนา – อิทฺธิมา ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม อาวชฺเชติ. อาวชฺชนํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ อารมฺมณํ กตฺวา เตเนว สห นิรุชฺฌติ. ตโต จตฺตาริ ปฺจ ชวนานิ เยสํ ปจฺฉิมํ อิทฺธิจิตฺตํ, เสสานิ กามาวจรานิ. เตสํ สพฺเพสมฺปิ ตเทว นิรุทฺธํ จิตฺตมารมฺมณํ โหติ. น จ ตานิ นานารมฺมณานิ โหนฺติ. อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา เอการมฺมณานิ. เอการมฺมณตฺเตปิ จ อิทฺธิจิตฺตเมว ปรสฺส จิตฺตํ ปชานาติ, น อิตรานิ; ยถา จกฺขุทฺวาเร จกฺขุวิฺาณเมว รูปํ ปสฺสติ, น อิตรานีติ. อิติ อิทํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนสฺส เจว อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ วเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ. ยสฺมา วา สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเนเยว ปตติ, ตสฺมา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสเนตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ’ นามโคตฺตานุสฺสรเณ นิพฺพานนิมิตฺตปจฺจเวกฺขเณ จ นวตฺตพฺพารมฺมณํ, เสสกาเล อตีตารมฺมณเมว. ยถากมฺมุปคาณจตุตฺถมฺปิ อตีตารมฺมณเมว. ตตฺถ กิฺจาปิ ปุพฺเพนิวาสเจโตปริยาณานิปิ อตีตารมฺมณานิ โหนฺติ, อถ โข เตสํ ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อตีตกฺขนฺธา ขนฺธปฏิพทฺธฺจ กิฺจิ อนารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ตฺหิ อตีตกฺขนฺธขนฺธปฏิพทฺเธสุ ธมฺเมสุ สพฺพฺุตฺาณสมคติกํ โหติ. เจโตปริยาณสฺส จ สตฺตทิวสพฺภนฺตราตีตํ จิตฺตเมว อารมฺมณํ. ตฺหิ อฺํ ขนฺธํ วา ขนฺธปฏิพทฺธํ วา น ชานาติ, มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตารมฺมณตฺตา ปน ปริยายโต มคฺคารมฺมณนฺติ วุตฺตํ. ยถากมฺมุปคาณสฺส จ อตีตเจตนามตฺตเมวารมฺมณนฺติ. อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ อฏฺกถานโย. ยสฺมา ปน ‘‘กุสลา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมุปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๔) ปฏฺาเน วุตฺตํ, ตสฺมา จตฺตาโรปิ ขนฺธา เจโตปริยาณยถากมฺมุปคาณานํ อารมฺมณํ โหนฺติ. ตตฺราปิ ยถากมฺมุปคาณสฺส กุสลากุสลา เอวาติ.

‘ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ’ วิชฺชมานวณฺณารมฺมณตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณเมว. อนาคตํสาณจตุตฺถํ อนาคตารมฺมณเมว. ตฺหิ อนาคตกฺขนฺธขนฺธปฏิพทฺเธสุ ธมฺเมสุ ปุพฺเพนิวาสาณํ วิย สพฺพฺุตฺาณสมคติกํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ เจโตปริยาณมฺปิ อนาคตารมฺมณํ โหติ, ตํ ปน สตฺตทิวสพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชนกจิตฺตเมว อารมฺมณํ กโรติ. อิทํ อนาคเต กปฺปสตสหสฺเส อุปฺปชฺชนกจิตฺตมฺปิ ขนฺเธปิ ขนฺธปฏิพทฺธมฺปิ. รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานาทีนิ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ เอกธมฺมมฺปิ อารพฺภ อปฺปวตฺติโต เอกนฺตนวตฺตพฺพารมฺมณาเนวาติ เวทิตพฺพานิ.

๑๔๓๕. อชฺฌตฺตตฺติเก อนินฺทฺริยพทฺธรูปฺจ นิพฺพานฺจ พหิทฺธาติ อิทํ ยถา อินฺทฺริยพทฺธํ ปรปุคฺคลสนฺตาเน พหิทฺธาติ วุจฺจมานมฺปิ ตสฺส อตฺตโน สนฺตานปริยาปนฺนตฺตา นิยกชฺฌตฺตํ โหติ, เอวํ น เกนจิ ปริยาเยน อชฺฌตฺตํ โหตีติ นิยกชฺฌตฺตปริยายสฺส อภาเวน พหิทฺธาติ วุตฺตํ, น นิยกชฺฌตฺตมตฺตสฺส อสมฺภวโต. นิยกชฺฌตฺตมตฺตสฺส ปน อสมฺภวมตฺตํ สนฺธาย อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก พหิทฺธารมฺมณตา วุตฺตา. อชฺฌตฺตธมฺมาปคมมตฺตโตว อากิฺจฺายตนารมฺมณสฺส อชฺฌตฺตภาวมฺปิ พหิทฺธาภาวมฺปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธาภาวมฺปิ อนนุชานิตฺวา อากิฺจฺายตนํ น วตฺตพฺพํ อชฺฌตฺตารมฺมณนฺติปีติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ น เกวลํ ตเทว นวตฺตพฺพารมฺมณํ, ตสฺส ปน อาวชฺชนมฺปิ, อุปจารจิตฺตานิปิ, ตสฺสารมฺมณสฺส ปจฺจเวกฺขณจิตฺตานิปิ, ตสฺเสว อสฺสาทนาทิวเสน ปวตฺตานิ อกุสลจิตฺตานิปิ นวตฺตพฺพารมฺมณาเนวาติ. ตานิ ปน ตสฺมึ วุตฺเต วุตฺตาเนว โหนฺตีติ วิสุํ น วุตฺตานิ. กถํ วุตฺตาเนว โหนฺตีติ? เอตฺหิ อากิฺจฺายตนํ, ยฺจ ตสฺส ปุเรจาริกํ อาวชฺชนอุปจาราทิวเสน ปวตฺตํ, เตน สห เอการมฺมณํ ภเวยฺย. ตํ สพฺพํ อตีตารมฺมณตฺติเก ‘กามาวจรกุสลํ, อกุสลํ, กิริยโต นว จิตฺตุปฺปาทา, รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาน’นฺติ เอวํ วุตฺตานํ เอเตสํ จิตฺตุปฺปาทานํ ‘สิยา น วตฺตพฺพา อตีตารมฺมณาติปี’ติอาทินา นเยน นวตฺตพฺพารมฺมณภาวสฺส อนุฺาตตฺตา, อากิฺจฺายตนสฺส จ ‘อากิฺจฺายตนํ, จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, อิเม ธมฺมา น วตฺตพฺพา อตีตารมฺมณาติปี’ติ เอวํ เอกนฺเตน นวตฺตพฺพารมฺมณตฺตวจนโต นวตฺตพฺพารมฺมณนฺติ วุตฺตํ. อิทานิ ตํ อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก เอกมฺปิ วุจฺจมานํ ยสฺมา เหฏฺา เตน สห เอการมฺมณภาวมฺปิ สนฺธาย กามาวจรกุสลาทีนํ นวตฺตพฺพารมฺมณตา วุตฺตา, ตสฺมา อิธาปิ เตสํ นวตฺตพฺพารมฺมณภาวํ ทีเปติ. โก หิ เตน สห เอการมฺมณานํ นวตฺตพฺพารมฺมณภาเว อนฺตราโยติ? เอวํ ตสฺมึ วุตฺเต ‘วุตฺตาเนว โหนฺตี’ติ เวทิตพฺพานิ. เสสเมตฺถ อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก ปาฬิโต อุตฺตานเมว.

อารมฺมณวิภาเค ปน วิฺาณฺจายตนํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเมสํ ตาว กุสลวิปากกิริยวเสน ฉนฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ อตฺตโน สนฺตานสมฺพนฺธํ เหฏฺิมสมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติโต อชฺฌตฺตารมฺมณตา เวทิตพฺพา. เอตฺถ จ กิริยอากาสานฺจายตนํ กิริยวิฺาณฺจายตนสฺเสว อารมฺมณํ โหติ, น อิตรสฺส. กสฺมา? อากาสานฺจายตนกิริยสมงฺคิโน กุสลสฺส วา วิปากสฺส วา วิฺาณฺจายตนสฺส อภาวโต. กุสลํ ปน กุสลวิปากกิริยานํ ติณฺณมฺปิ อารมฺมณํ โหติ. กสฺมา? อากาสานฺจายตนกุสลํ นิพฺพตฺเตตฺวา ิตสฺส ตโต อุทฺธํ ติวิธสฺสปิ วิฺาณฺจายตนสฺส อุปฺปตฺติสมฺภวโต. วิปากํ ปน น กสฺสจิ อารมฺมณํ โหติ. กสฺมา? วิปากโต วุฏฺหิตฺวา จิตฺตสฺส อภินีหาราสมฺภวโต. เนวสฺานาสฺายตนสฺส อารมฺมณกรเณปิ เอเสว นโย. รูปาวจรตฺติกจตุกฺกชฺฌานาทีนํ สพฺเพสมฺปิ นิยกชฺฌตฺตโต พหิทฺธาภาเวน พหิทฺธาภูตานิ ปถวีกสิณาทีนิ อารพฺภ ปวตฺติโต พหิทฺธารมฺมณตา เวทิตพฺพา.

สพฺเพว กามาวจรา กุสลากุสลาพฺยากตา ธมฺมา, รูปาวจรํ จตุตฺถํ ฌานนฺติ เอตฺถ กุสลโต ตาว จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน ขนฺธาทีนิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา. ปเรสํ ขนฺธาทิปจฺจเวกฺขเณ ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขเณ จ พหิทฺธารมฺมณา. ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. าณวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เตสํ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณํ นตฺถิ. อกุสลโต จตฺตาโร ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน ขนฺธาทีนํ อสฺสาทนาภินนฺทนปรามาสคหณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส ขนฺธาทีสุ เจว อนินฺทฺริยพทฺธรูปกสิณาทีสุ จ ตเถว ปวตฺติกาเล พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เตสํ ปรามาสคหณํ นตฺถิ. ทฺเวปิ ปฏิฆสมฺปยุตฺตา อตฺตโน ขนฺธาทีสุ โทมนสฺสิตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส ขนฺธาทีสุ เจว อนินฺทฺริยพทฺธรูปปณฺณตฺตีสุ จ พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตานมฺปิ วุตฺตปกาเรสุ ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉนผนฺทนภาววเสน ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณตา เวทิตพฺพา.

ทฺวิปฺจวิฺาณานิ, ติสฺโส จ มโนธาตุโยติ, อิเม เตรส จิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส รูปาทีสุ ปวตฺตา พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. โสมนสฺสสหคตอเหตุกวิปากมโนวิฺาณธาตุ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน อตฺตโน ปฺจ รูปาทิธมฺเม, มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสเนว อฺเปิ อชฺฌตฺติเก กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปเรสํ ธมฺเมสุ ปวตฺตมานา พหิทฺธารมฺมณา, อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. อุเปกฺขาสหคตวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุทฺวเยปิ เอเสว นโย. เกวลํ ปเนตา สุคติยํ ทุคฺคติยฺจ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสนาปิ อชฺฌตฺตาทิเภเทสุ กมฺมาทีสุ ปวตฺตนฺติ.

อฏฺ มหาวิปากจิตฺตานิปิ ตาสํเยว ทฺวินฺนํ สมานคติกานิ. เกวลํ ปเนตานิ สนฺตีรณวเสน น ปวตฺตนฺติ. ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสเนว เอตานิ สุคติยํเยว ปวตฺตนฺติ. โสมนสฺสสหคตาเหตุกกิริยา ปฺจทฺวาเร อตฺตโน รูปาทีนิ อารพฺภ ปหฏฺาการกรณวเสน ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส รูปาทีสุ ปวตฺตา พหิทฺธารมฺมณา. มโนทฺวาเร ตถาคตสฺส โชติปาลมาณวมฆเทวราชกณฺหตาปสาทิกาเลสุ อตฺตนา กตกิริยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส หสิตุปฺปาทวเสน ปวตฺตา อชฺฌตฺตารมฺมณา.

มลฺลิกาย เทวิยา สนฺตติมหามตฺตสฺส สุมนมาลาการสฺสาติ เอวมาทีนํ กิริยากรณํ อารพฺภ ปวตฺติกาเล พหิทฺธารมฺมณา. อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. อุเปกฺขาสหคตกิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนวเสน มโนทฺวาเร จ อาวชฺชนวเสน ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณา. อฏฺ มหากิริยา กุสลจิตฺตคติกา เอว. เกวลฺหิ ตา ขีณาสวานํ อุปฺปชฺชนฺติ, กุสลานิ เสกฺขปุถุชฺชนานนฺติ เอตฺตกเมเวตฺถ นานากรณํ.

วุตฺตปฺปกาเร รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถาทีนิ ปฺจ ฌานานิ อิมสฺมึ ติเก โอกาสํ ลภนฺติ. เอตานิ หิ กสิณปณฺณตฺตินิมิตฺตารมฺมณตฺตา พหิทฺธารมฺมณานิ.

‘อิทฺธิวิธจตุตฺถํ’ กายวเสน จิตฺตํ, จิตฺตวเสน วา กายํ ปริณามนกาเล อตฺตโน กุมารกวณฺณาทินิมฺมานกาเล จ สกายจิตฺตานํ อารมฺมณกรณโต อชฺฌตฺตารมฺมณํ, พหิทฺธา หตฺถิอสฺสาทิทสฺสนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา, ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.

‘ทิพฺพโสตจตุตฺถํ’ อตฺตโน กุจฺฉิสทฺทสวนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปเรสํ สทฺทสวนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ. ‘เจโตปริยาณจตุตฺถํ’ ปเรสํ จิตฺตารมฺมณโต พหิทฺธารมฺมณเมว. อตฺตโน จิตฺตชานเน ปน เตน ปโยชนํ นตฺถิ. ‘ปุพฺเพนิวาสจตุตฺถํ’ อตฺตโน ขนฺธานุสฺสรณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส ขนฺเธ, อนิทฺริยพทฺธรูปํ, ติสฺโส จ ปณฺณตฺติโย อนุสฺสรณโต พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.

‘ทิพฺพจกฺขุจตุตฺถํ’ อตฺตโน กุจฺฉิคตาทิรูปทสฺสนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, อวเสสรูปทสฺสนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ. ‘อนาคตํสาณจตุตฺถํ’ อตฺตโน อนาคตกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส อนาคตกฺขนฺธานํ วา อนินฺทฺริยพทฺธสฺส วา รูปสฺส อนุสฺสรณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ. อากิฺจฺายตนสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณตาย การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ทุกอตฺถุทฺธารวณฺณนา

๑๔๔๑. เหตุโคจฺฉกนิทฺเทเส ตโย กุสลเหตูติอาทินา นเยน เหตู ทสฺเสตฺวา ปุน เตเยว อุปฺปตฺติฏฺานโต ทสฺเสตุํ จตูสุ ภูมีสุ กุสเลสุ อุปฺปชฺชนฺตีติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน เสสโคจฺฉเกสุปิ เทสนานโย เวทิตพฺโพ.

๑๔๗๓. ยตฺถ ทฺเว ตโย อาสวา เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถ ติวิเธน อาสวานํ เอกโต อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ อวิชฺชาสเวน, ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ ทิฏฺาสวอวิชฺชาสเวหิ สทฺธินฺติ กามาสโว ทุวิเธน เอกโต อุปฺปชฺชติ. ภวาสโว จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ อวิชฺชาสเวน สทฺธินฺติ เอกธาว เอกโต อุปฺปชฺชติ. ยถา เจตฺถ เอวํ ยตฺถ ทฺเว ตีณิ สํโยชนานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถาปิ สํโยชนานํ อุปฺปตฺติ เอกโต ทสธา ภเว. ตตฺถ กามราโค จตุธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, ปฏิโฆ ติธา, มาโน เอกธา. ตถา วิจิกิจฺฉา เจว ภวราโค จ. กถํ? กามราโค ตาว มานสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ เจว, ทิฏฺิสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ จ, สีลพฺพตปรามาสอวิชฺชาสํโยชเนหิ จ, อวิชฺชาสํโยชนมตฺเตเนว จ สทฺธินฺติ เอวํ จตุธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. ปฏิโฆ ปน อิสฺสาสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ เจว, มจฺฉริยสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ จ, อวิชฺชาสํโยชนมตฺเตเนว จ สทฺธินฺติ เอวํ ติธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. มาโน ภวราคาวิชฺชาสํโยชเนหิ สทฺธึ เอกธาว เอกโต อุปฺปชฺชติ. ตถา วิจิกิจฺฉา. สา หิ อวิชฺชาสํโยชเนน สทฺธึ เอกธา อุปฺปชฺชติ. ภวราเคปิ เอเสว นโยติ. เอวเมตฺถ ทฺเว ตีณิ สํโยชนานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ.

๑๕๑๑. ยํ ปเนตํ นีวรณโคจฺฉเก ยตฺถ ทฺเว ตีณิ นีวรณานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ, ตตฺถาปิ อฏฺธา นีวรณานํ เอกโต อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เอเตสุ หิ กามจฺฉนฺโท ทุวิธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, พฺยาปาโท จตุธา, อุทฺธจฺจํ เอกธา. ตถา วิจิกิจฺฉา. กถํ? กามจฺฉนฺโท ตาว อสงฺขาริกจิตฺเตสุ อุทฺธจฺจนีวรณอวิชฺชานีวรเณหิ, สสงฺขาริเกสุ ถินมิทฺธอุทฺธจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ สทฺธึ ทุวิธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. ยํ ปเนตํ ทฺเว ตีณีติ วุตฺตํ, ตํ เหฏฺิมปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. ตสฺมา จตุนฺนมฺปิ เอกโต อุปฺปชฺชตีติ วจนํ ยุชฺชติ เอว. พฺยาปาโท ปน อสงฺขาริกจิตฺเต อุทฺธจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ, สสงฺขาริเก ถินมิทฺธอุทฺธจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ, อสงฺขาริเกเยว อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ, สสงฺขาริเกเยว ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ สทฺธินฺติ จตุธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. อุทฺธจฺจํ ปน อวิชฺชานีวรณมตฺเตน สทฺธึ เอกธาว เอกโต อุปฺปชฺชติ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจอวิชฺชานีวรเณหิ สทฺธึ เอกธาว เอกโต อุปฺปชฺชติ.

๑๕๗๗. ยมฺปิทํ กิเลสโคจฺฉเก ยตฺถ ทฺเว ตโย กิเลสา เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ, ตตฺถ ‘ทฺเว กิเลสา อฺเหิ, ตโย วา กิเลสา อฺเหิ กิเลเสหิ สทฺธึ อุปฺปชฺชนฺตี’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ ติณฺณํเยว วา เอกโต อุปฺปตฺติยา อสมฺภวโต.

ตตฺถ ทสธา กิเลสานํ เอกโต อุปฺปตฺติ โหติ. เอตฺถ หิ โลโภ ฉธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. ปฏิโฆ ทฺวิธา. ตถา โมโหติ เวทิตพฺโพ. กถํ? โลโภ ตาว อสงฺขาริเก ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริเก โมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อสงฺขาริเกเยว โมหมานุทฺธจฺจาหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริเกเยว โมหมานถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ทิฏฺิสมฺปยุตฺเต ปน อสงฺขาริเก โมหอุทฺธจฺจทิฏฺิอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริเก โมหทิฏฺิถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ สทฺธินฺติ ฉธา เอกโต อุปฺปชฺชติ.

ปฏิโฆ ปน อสงฺขาริเก โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริเก โมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ สทฺธินฺติ เอวํ ทฺวิธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. โมโห ปน วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺเต อุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ สทฺธินฺติ เอวํ ทฺวิธา เอกโต อุปฺปชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหอฏฺกถาย

อฏฺกถากณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

จิตฺตํ รูปฺจ นิกฺเขปํ, อตฺถุทฺธารํ มโนรมํ;

ยํ โลกนาโถ ภาเชนฺโต, เทเสสิ ธมฺมสงฺคณึ.

อภิธมฺมสฺส สงฺคยฺห, ธมฺเม อนวเสสโต;

ิตาย ตสฺสา อารทฺธา, ยา มยา อตฺถวณฺณนา.

อนากุลานมตฺถานํ, สมฺภวา อฏฺสาลินี;

อิติ นาเมน สา เอสา, สนฺนิฏฺานมุปาคตา.

เอกูนจตฺตาลีสาย, ปาฬิยา ภาณวารโต;

จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, นิฏฺาเปนฺเตน ตํ มยา.

ยํ ปตฺตํ กุสลํ ตสฺส, อานุภาเวน ปาณิโน;

สพฺเพ สทฺธมฺมราชสฺส, ตฺวา ธมฺมํ สุขาวหํ.

ปาปุณนฺตุ วิสุทฺธาย, สุขาย ปฏิปตฺติยา;

อโสกมนุปายาสํ, นิพฺพานสุขมุตฺตมํ.

จิรํ ติฏฺตุ สทฺธมฺโม, ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา;

สพฺเพปิ สตฺตา กาเลน, สมฺมา เทโว ปวสฺสตุ.

ยถา รกฺขึสุ โปราณา, สุราชาโน ตเถวิมํ;

ราชา รกฺขตุ ธมฺเมน, อตฺตโนว ปชํ ปชนฺติ.

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ อฏฺสาลินี นาม ธมฺมสงฺคหฏฺกถา.

ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ปฺาวิสุทฺธิยา.

ยาว ‘พุทฺโธ’ติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.

อฏฺสาลินี นาม

ธมฺมสงฺคห-อฏฺกถา นิฏฺิตา.