📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ธมฺมสงฺคณี-มูลฏีกา

วีสติคาถาวณฺณนา

. ธมฺมสํวณฺณนายํ สตฺถริ ปณามกรณํ ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตภาเวน สตฺถริ ปสาทชนนตฺถํ, สตฺถุ จ อวิตถเทสนภาวปฺปกาสเนน ธมฺเม ปสาทชนนตฺถํ. ตทุภยปฺปสาทา หิ ธมฺมสมฺปฏิปตฺติ มหโต จ อตฺถสฺส สิทฺธิ โหตีติ. อถ วา รตนตฺตยปณามวจนํ อตฺตโน รตนตฺตยปสาทสฺส วิฺาปนตฺถํ, ตํ ปน วิฺูนํ จิตฺตาราธนตฺถํ, ตํ อฏฺกถาย คาหณตฺถํ, ตํ สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทนตฺถนฺติ. อิทํ ปน อาจริเยน อธิปฺเปตปฺปโยชนํ อนฺตรายวิโสสนํ. วกฺขติ หิ ‘‘นิปจฺจการสฺเสตสฺส…เป… อเสสโต’’ติ. รตนตฺตยปณามกรณฺหิ อนฺตรายกราปุฺวิฆาตกรปุฺวิเสสภาวโต มงฺคลภาวโต ภยาทิอุปทฺทวนิวารณโต จ อนฺตรายวิโสสเน สมตฺถํ โหติ. กถํ ปเนตสฺสาปุฺวิฆาตกราทิภาโว วิชานิตพฺโพติ? ‘‘ยสฺมึ มหานาม สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตี’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑), ‘‘ปูชา จ ปูชเนยฺยานํ, เอตํ มงฺคลมุตฺตม’’นฺติ (ขุ. ปา. ๕.๓; สุ. นิ. ๒๖๒) จ, ‘‘เอวํ พุทฺธํ สรนฺตานํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ภิกฺขโว. ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา, โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) จ วจนโตติ.

ตตฺถ ยสฺส สตฺถุโน ปณามํ กตฺตุกาโม, ตสฺส คุณวิเสสทสฺสนตฺถํ ‘‘กรุณา วิยา’’ติอาทิมาห. คุณวิเสสวา หิ ปณามารโห โหติ, ปณามารเห จ กโต ปณาโม วุตฺตปฺปโยชนสิทฺธิกโรว โหตีติ. ภควโต จ เทสนา วินยปิฏเก กรุณาปฺปธานา, สุตฺตนฺตปิฏเก ปฺากรุณาปฺปธานา. เตเนว จ การเณน วินยปิฏกสฺส สํวณฺณนํ กโรนฺเตน กรุณาปฺปธานา ภควโต โถมนา กตา, อาคมสํวณฺณนฺจ กโรนฺเตน อุภยปฺปธานา, อภิธมฺมเทสนา ปน ปฺาปฺปธานาติ กตฺวา ปฺาปฺปธานเมว โถมนํ กโรนฺโต ‘‘กรุณา วิย สตฺเตสู’’ติ กรุณํ อุปมาภาเวน คเหตฺวา ปฺาย โถเมติ.

ตตฺถ กรุณา วิยาติ นิทสฺสนวจนเมตํ, ยสฺส ยถา กรุณา สพฺเพสุ สตฺเตสุ ปวตฺติตฺถ, เอวํ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ ปฺาปิ ปวตฺติตฺถาติ อตฺโถ. สตฺเตสูติ วิสยนิทสฺสนเมตํ. ปฺาติ นิทสฺเสตพฺพธมฺมนิทสฺสนํ. ยสฺสาติ ตทธิฏฺานปุคฺคลนิทสฺสนํ. มเหสิโนติ ตพฺพิเสสนํ. เยฺยธมฺเมสูติ ปฺาวิสยนิทสฺสนํ. สพฺเพสูติ ตพฺพิเสสนํ. ปวตฺติตฺถาติ กิริยานิทสฺสนํ. ยถารุจีติ วสีภาวนิทสฺสนํ.

ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. รูปาทีสุ สตฺตา วิสตฺตาติ สตฺตา. ตสฺสา ปน ปฺตฺติยา ขนฺธสนฺตาเน นิรุฬฺหภาวโต นิจฺฉนฺทราคาปิ ‘‘สตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปชานาตีติ ปฺา, ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. ยสฺสาติ อนิยมนํ. ‘‘ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา’’ติ เอเตน นิยมนํ เวทิตพฺพํ. มเหสีติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย เอสิ คเวสีติ มเหสิ. าตพฺพาติ เยฺยา, สภาวธารณาทินา อตฺเถน ธมฺมา. ตตฺถ ‘‘เยฺยา’’ติ วจเนน ธมฺมานํ อเยฺยตฺตํ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘ธมฺมา’’ติ วจเนน เยฺยานํ สตฺตชีวาทิภาวํ ปฏิกฺขิปติ. เยฺยา จ เต ธมฺมา จาติ เยฺยธมฺมา. สพฺเพสูติ อนวเสสปริยาทานํ. เตน อฺาตาภาวํ ทสฺเสติ. ปวตฺติตฺถาติ อุปฺปชฺชิตฺถ. ยถารุจีติ ยา ยา รุจิ ยถารุจิ, รุจีติ จ อิจฺฉา, กตฺตุกามตา สา. ยา ยา ปวตฺตา ตปฺปเภทา, ยถา วา รุจิ ตถา, รุจิอนุรูปํ ปวตฺตา ‘‘ยถารุจิ ปวตฺติตฺถา’’ติ วุจฺจติ. ยถา ยถา วา รุจิ ปวตฺตา, ตถา ตถา ปวตฺตา ปฺา ‘‘ยถารุจิ ปวตฺติตฺถา’’ติ วุจฺจติ.

ตตฺถ ภควติ ปวตฺตาว กรุณา ภควโต ปฺาย นิทสฺสนนฺติ คเหตพฺพา. สา หิ อสาธารณา มหากรุณา, น อฺา. ยสฺสาติ จ กรุณาปฺานํ อุภินฺนมฺปิ อาธารปุคฺคลนิทสฺสนํ. น หิ นิราธารา กรุณา อตฺถีติ ‘‘กรุณา’’ติ วุตฺเต ตทาธารภูโต ปุคฺคโล นิทสฺเสตพฺโพ โหติ, โส จ อิธ อฺโ วุตฺโต นตฺถิ, น จ อาสนฺนํ วชฺเชตฺวา ทูรสฺส คหเณ ปโยชนํ อตฺถีติ ‘‘ยสฺสา’’ติ นิทสฺสิตปุคฺคโลว กรุณาย อาธาโร. เตน อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ยสฺส อตฺตโน กรุณา วิย ปฺาปิ ปวตฺติตฺถา’’ติ. กถํ ปน กรุณา สตฺเตสุ ปวตฺติตฺถ ยถา ปฺาปิ ธมฺเมสุ ปวตฺติตฺถาติ? นิรวเสสโต ยถารุจิ จ. ภควโต หิ กรุณา กฺจิ สตฺตํ อวชฺเชตฺวา สพฺเพสุ สตฺเตสุ นิรวเสเสสุ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานา จ รุจิวเสน เอกสฺมึ อเนเกสุ จ อฺเหิ อสาธารณา ปวตฺตติ. น หิ อฺเสํ ‘‘มโหฆปกฺขนฺทานํ สตฺตานํ นตฺถฺโ โกจิ โอฆา อุทฺธตา อฺตฺร มยา’’ติ ปสฺสนฺตานํ กรุโณกฺกมนํ โหติ ยถา ภควโตติ. ปฺาปิ ภควโต สพฺเพสุ ธมฺเมสุ นิรวเสเสสุ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานา จ เอกสฺมึ อเนเกสุ จ ธมฺเมสุ สภาวกิจฺจาทิชานเนน อนาวรณา อสาธารณา ปวตฺตติ ยถารุจิ, ยถา จ ปสฺสนฺตสฺส ภควโต กรุณา ยถารุจิ ปวตฺตติ. ตํ สพฺพํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค มหากรุณาาณวิภงฺควเสน ชานิตพฺพํ, ปฺาย จ ยถารุจิ ปวตฺติ เสสาสาธารณาณวิภงฺคาทิวเสน. ปฺาคหเณน จ ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ จตุสจฺจาณํ จตุปฏิสมฺภิทาาณํ, กรุณาคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติาณสฺส คหิตตฺตา ตํ วชฺเชตฺวา อฺานิ อสาธารณาณานิ จตุเวสารชฺชาณํ ทสพลานิ ฉ อภิฺา จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ เอวมาทโย อเนเก ปฺาปฺปเภทา สงฺคยฺหนฺติ, ตสฺมา ตสฺสา ตสฺสา ปฺาย ปวตฺติวเสน ยถารุจิ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘กรุณา วิย…เป… ยถารุจี’’ติ.

ตตฺถ กรุณาคหเณน มหาโพธิยา มูลํ ทสฺเสติ. มหาทุกฺขสมฺพาธปฺปฏิปนฺนฺหิ สตฺตนิกายํ ทิสฺวา ‘‘ตสฺส นตฺถฺโ โกจิ สรณํ, อหเมตํ มุตฺโต โมเจสฺสามี’’ติ กรุณาย สฺโจทิตมานโส อภินีหารํ ทีปงฺกรสฺส ภควโต ปาทมูเล กตฺวา โพธิสมฺภาเร สโมธาเนตฺวา อนุปุพฺเพน สมฺโพธึ ปตฺโตติ กรุณา มหาโพธิยา มูลนฺติ. สตฺเตสูติ เอเตน มหาโพธิยา ปโยชนํ ทสฺเสติ. สตฺตา หิ มหาโพธึ ปโยเชนฺติ. สตฺตสนฺตารณตฺถฺหิ สพฺพฺุตา อภิปตฺถิตา. ยถาห –

‘‘กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒. ๕๖);

ปฺาคหเณน มหาโพธึ ทสฺเสติ. สพฺพฺุตาย หิ ปทฏฺานภูตํ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ ‘‘มหาโพธี’’ติ วุจฺจตีติ. เยฺยธมฺเมสุ สพฺเพสูติ เอเตน สนฺตาเรตพฺพานํ สตฺตานํ อภิฺเยฺยปริฺเยฺยปหาตพฺพภาเวตพฺพสจฺฉิกาตพฺเพ ขนฺธายตนธาตุสจฺจินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทสติปฏฺานาทิเภเท กุสลาทิเภเท จ สพฺพธมฺเม ทสฺเสติ. ปวตฺติตฺถ ยถารุจีติ เอเตน ปฏิเวธปจฺจเวกฺขณปุพฺพงฺคมเทสนาาณปฺปวตฺติทีปเนน ปโยชนสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. สพฺพธมฺมานฺหิ ปฏิเวธาณํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ. มคฺคาณเมว หิ ตนฺติ. ปจฺจเวกฺขณาณฺจ วิเสเสน รตนฆรสตฺตาเห อโหสิ. เอวํ ปฏิวิทฺธปจฺจเวกฺขิตานํ ธมฺมานํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนาทีสุ เทสนาาณํ อโหสิ, วิเสเสน จ ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ สตฺตปฺปกรณเทสนายนฺติ. เทสนาาเณน จ เทเสนฺโต ภควา สตฺเตสุ หิตปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชตีติ. เอเตน สพฺเพน อตฺตหิตปฏิปตฺตึ ปรหิตปฏิปตฺติฺจ ทสฺเสติ. มหาโพธิทสฺสเนน หิ อตฺตหิตปฏิปตฺติ, อิตเรหิปิ ปรหิตปฏิปตฺติ ทสฺสิตาติ. เตน อตฺตหิตปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ภควโต จตุตฺถปุคฺคลภาวํ ทสฺเสติ, เตน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ นิรติสยปณามารหภาวฺจ อตฺตโน จ กิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทสฺเสติ.

เอตฺถ จ กรุณาคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต สพฺพโลกิยคุณสมฺปตฺติ ภควโต ทสฺสิตา โหติ, ปฺาคหเณนปิ สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ. กรุณาวจเนน จ อุปคมนํ นิรุปกฺกิเลสํ, ปฺาวจเนน อปคมนํ ทสฺเสติ. อุปคมนํ ทสฺเสนฺโต จ โลเก สฺชาตสํวฑฺฒภาวํ ทสฺเสติ, อปคมนํ ทสฺเสนฺโต โลเกน อนุปลิตฺตตํ. ‘‘กรุณา วิย สตฺเตสู’’ติ จ โลกสมฺานุรูปํ ภควโต ปวตฺตึ ทสฺเสติ, ‘‘เยฺยธมฺเมสุ สพฺเพสุ ยถารุจิ ปฺา ปวตฺติตฺถา’’ติ เอเตน สมฺาย อนติธาวนํ. สพฺพธมฺมสภาวานวโพเธ หิ สติ สมฺํ อติธาวิตฺวา ‘‘สตฺโต ชีโว อตฺถี’’ติ ปรามสนํ โหตีติ. สพฺเพสฺจ พุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ ตนฺนิทานภาวโต, ปฺา ปริโยสานํ ตโต อุตฺตริกรณียาภาวโต. อาทิปริโยสานทสฺสเนน จ สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตาว โหนฺติ. กรุณาคหเณน จ สีลกฺขนฺธปุพฺพงฺคโม สมาธิกฺขนฺโธ ทสฺสิโต โหติ. กรุณานิทานฺหิ สีลํ ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต ตสฺสา จ ฌานตฺตยสมฺปโยคโต. ปฺาวจเนน ปฺากฺขนฺโธ. สีลฺจ สพฺพพุทฺธคุณานํ อาทิ, สมาธิ มชฺฌํ, ปฺา ปริโยสานนฺติ เอวมฺปิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ.

. เอวํ สงฺเขเปน สพฺพพุทฺธคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา ยสฺสา สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, ตาย อภิธมฺมเทสนาย อฺเหิ อสาธารณาย โถเมตุํ ‘‘ทยาย ตายา’’ติอาทิมาห. ตสฺสา ปน เทสนาย นิทานฺจ สมุฏฺานฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ทยาย ตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิทานฺจ ทุวิธํ อพฺภนฺตรํ พาหิรฺจาติ. อพฺภนฺตรํ กรุณา, พาหิรํ เทสกาลาทิ. สมุฏฺานํ เทสนาปฺา. ตตฺถ อพฺภนฺตรนิทานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทยาย ตาย สตฺเตสุ, สมุสฺสาหิตมานโส’’ติ อาห. ตตฺถ ทยาติ กรุณา อธิปฺเปตา. ตาย หิ สมุสฺสาหิโต อภิธมฺมกถามคฺคํ สมฺปวตฺตยีติ. ตายาติ อยํ -สทฺโท ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ปฏินิทฺเทโส โหติ.

ปุริมคาถาย จ ปธานภาเวน ปฺา นิทฺทิฏฺา, ตพฺพิเสสนภาเวน กรุณา. สา หิ ตสฺสา นิทสฺสนภูตา อปฺปธานา ตํ วิเสเสตฺวา วินิวตฺตา, ตสฺมา ‘‘ตายา’’ติ ปฏินิทฺเทสํ นารหติ. ยา จ ปธานภูตา ปฺา, สา เทสนาย สมุฏฺานํ, น สมุสฺสาหินีติ ตสฺสา จ ปฏินิทฺเทโส น ยุตฺโตติ? ปฺาย ตาว ปฏินิทฺเทโส น ยุตฺโตติ สุวุตฺตเมตํ, กรุณาย ปน ปฏินิทฺเทโส โน น ยุตฺโต ‘‘ทยาย ตายา’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ สมานาธิกรณภาวโต. สมานาธิกรณานฺหิ ทฺวินฺนํ ปทานํ รูปกฺขนฺธาทีนํ วิย วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว โหติ. รูป-สทฺโท หิ อฺกฺขนฺธนิวตฺตนตฺถํ วุจฺจมาโน วิเสสนํ โหติ, ขนฺธ-สทฺโท จ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณวจนภาวโต วิเสสิตพฺโพ, เอวมิธาปิ ‘‘ทยาย ตายา’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ เอกวิภตฺติยุตฺตานํ สมานาธิกรณภาวโต วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว โหติ. ตตฺถ ทยา สมุสฺสาหินีติ ปธานา, นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณวจนฺจิทํ. ตสฺมา ‘‘ทยายา’’ติ วิเสสิตพฺพวจนเมตํ, ตสฺส จ ยถา วิเสสนํ โหติ ‘‘ตายา’’ติ อิทํ วจนํ, ตถา ตสฺส ปฏินิทฺเทสภาโว โยเชตพฺโพ. น หิ ปฺาปฏินิทฺเทสภาเว ทยาวิเสสนํ ต-สทฺโท โหติ, กรุณาปฏินิทฺเทสภาเว จ โหตีติ. ปธานฺจ ปฺํ วชฺเชตฺวา ‘‘ทยายา’’ติ เอเตน สมฺพชฺฌมาโน ‘‘ตายา’’ติ อยํ ต-สทฺโท อปฺปธานาย กรุณาย ปฏินิทฺเทโส ภวิตุมรหติ. อยเมตฺถ อตฺโถ – ยาย ทยาย สมุสฺสาหิโต, น สา ยา กาจิ, สพฺพฺุตฺาณสฺส ปน นิทสฺสนภูตา มหากรุณา, ตาย สมุสฺสาหิโตติ.

กถํ ปน กรุณา ‘‘ทยา’’ติ าตพฺพา, นนุ วุตฺตํ ‘‘ทยาปนฺโน’’ติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๘) ‘‘เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน’’ติ, ตสฺมา ทยา เมตฺตาติ ยุชฺเชยฺย, น กรุณาติ? ยทิ เอวํ ‘‘อทยาปนฺโน’’ติ เอตสฺส อฏฺกถายํ ‘‘นิกฺกรุณตํ อาปนฺโน’’ติ วุตฺตนฺติ ทยา เมตฺตาติ จ น ยุชฺเชยฺย, ตสฺมา ทยา-สทฺโท ยตฺถ ยตฺถ ปวตฺตติ, ตตฺถ ตตฺถ อธิปฺปายวเสน โยเชตพฺโพ. ทยา-สทฺโท หิ อนุรกฺขณตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตมาโน เมตฺตาย จ กรุณาย จ ปวตฺตตีติ โน น ยุชฺชติ. เอวฺหิ อฏฺกถานํ อวิโรโธ โหตีติ. กรุณา จ เทสนาย นิทานภาเวน วุตฺตา, น เมตฺตา ‘‘อจฺจนฺตเมว หิ ตํ สมยํ ภควา กรุณาวิหาเรน วิหาสี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑ มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑) เอวมาทีสุ, ตสฺมา อิธ กรุณาว ทยาวจเนน คหิตาติ เวทิตพฺพา. สา หิ สมุสฺสาหินี, น เมตฺตา, เมตฺตา ปน ปฺาคติกปวตฺตินี โหตีติ.

‘‘สตฺเตสู’’ติ กสฺมา เอวํ วุตฺตํ, นนุ ‘‘ตายา’’ติ เอเตน วจเนน สตฺตวิสยา กรุณา คหิตาติ? โน น คหิตา, ปุริมคาถาย ปน ‘‘สตฺเตสุ กรุณา ยถารุจิ ปวตฺติตฺถา’’ติ สปฺปเทสสตฺตวิสยา นิปฺปเทสสตฺตวิสยา จ สพฺพา วุตฺตา, อิธ ปน นิปฺปเทสสตฺตวิสยตํ คเหตุํ ‘‘สตฺเตสู’’ติ นิปฺปเทสสตฺตวิสยภูตา ทสฺสิตา. เตน สพฺพสตฺตวิสยาย กรุณาย สมุสฺสาหิโต อภิธมฺมกถามคฺคํ เทวานํ สมฺปวตฺตยิ, น เทววิสยาย เอว, ตสฺมา สพฺพสตฺตหิตตฺถํ อภิธมฺมกถามคฺคํ เทวานํ สมฺปวตฺตยิ, น เทวานํเยว อตฺถายาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโตว โหติ. อถ วา ‘‘สตฺเตสู’’ติ อิทํ น ทยาย อาลมฺพนนิทสฺสนํ, สมุสฺสาหนวิสโย ปน เอเตน ทสฺสิโต. อภิธมฺมกถามคฺคปฺปวตฺตนตฺถฺหิ ภควา กรุณาย น เทเวสุเยว สมุสฺสาหิโต, สพฺพโพธเนยฺเยสุ ปน สตฺเตสุ สมุสฺสาหิโต สพฺเพสํ อตฺถาย ปวตฺตตฺตา, ตสฺมา สตฺเตสุ สมุสฺสาหิตมานโสติ สตฺเตสุ วิสยภูเตสุ นิมิตฺตภูเตสุ วา สมุสฺสาหิตมานโส อุยฺโยชิตจิตฺโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

เอวํ อพฺภนฺตรนิทานํ ทสฺเสตฺวา พาหิรนิทานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปาฏิหีราวสานมฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมึ กาเล ภควตา อภิธมฺมกถามคฺโค ปวตฺติโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาฏิหีราวสานมฺหิ วสนฺโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อวสานมฺหิ วสนฺโต ติทสาลเย’’ติ วจนโต ยสฺสาวสานมฺหิ ติทสาลเย วสิ, ตํ กณฺฑมฺพมูเล กตํ ยมกปาฏิหาริยํ อิธ ‘‘ปาฏิหีร’’นฺติ วุตฺตํ, น โพธิมูลาทีสุ กตํ ปาฏิหาริยํ, นาปิ อาเทสนานุสาสนิโยติ วิฺายติ, ปากฏตฺตา จ อาสนฺนตฺตา จ ตเทว คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปาฏิหาริยปทสฺส วจนตฺถํ (อุทา. อฏฺ. ๑; อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) ‘‘ปฏิปกฺขหรณโต ราคาทิกิเลสาปนยนโต ปาฏิหาริย’’นฺติ วทนฺติ, ภควโต ปน ปฏิปกฺขา ราคาทโย น สนฺติ เย หริตพฺพา. ปุถุชฺชนานมฺปิ หิ วิคตุปกฺกิเลเส อฏฺงฺคคุณสมนฺนาคเต จิตฺเต หตปฏิปกฺเข อิทฺธิวิธํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ตตฺถ ปวตฺตโวหาเรน จ น สกฺกา อิธ ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วตฺตุํ. สเจ ปน มหาการุณิกสฺส ภควโต เวเนยฺยคตา จ กิเลสา ปฏิปกฺขา, เตสํ หรณโต ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ยุตฺตเมตํ. อถ วา ภควโต จ สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปาฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺตีติ. อถ วา ปฏีติ อยํ สทฺโท ‘‘ปจฺฉา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ โพเธติ ‘‘ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๙๘๕; จูฬนิ. ปารายนวคฺค, วตฺถุคาถา ๔) วิย, ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตุปกฺกิเลเส จ กตกิจฺเจน ปจฺฉา หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉา หรณํ ปฏิหาริยํ, อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตุปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน จ สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปกฺกิเลเสสุ ปรสตฺตานํ อุปกฺกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปฏิหาริยานิ ภวนฺติ, ปฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ. ปฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอเกกํ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ, ตสฺมึ วา นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ. ปาฏิหาริยเมว อิธ ‘‘ปาฏิหีร’’นฺติ วุตฺตํ. อวสานมฺหิ วสนฺโตติ เอเตหิ กาลํ นิทสฺเสติ. ปาฏิหีรกรณาวสาเนน หิ ติทสาลยวาเสน จ ปริจฺฉินฺโน อภิธมฺมกถามคฺคปฺปวตฺตนสฺส กาโลติ. ติทสาลเยติ เทสํ นิทสฺเสติ. โส หิ อภิธมฺมกถามคฺคปฺปวตฺตนสฺส เทโส ตตฺถ วสนฺเตน ปวตฺติตตฺตาติ.

. ตตฺถาปิ เทสวิเสสทสฺสนตฺถํ ‘‘ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยุคนฺธเรติ สีตปพฺพเตสฺเวโก ทฺเวจตฺตาลีสโยชนสหสฺสุพฺเพโธ, อาทิจฺโจ จ ตทุพฺเพธมคฺคจารี, โส สติ สมฺภเว ยถา ยุคนฺธเร โสเภยฺย, เอวํ โสภมาโน นิสินฺโนติ อตฺโถ.

๔-๕. อิทานิ ปุคฺคเล ธมฺมปฏิคฺคาหเก อปทิสนฺโต ‘‘จกฺกวาฬสหสฺเสหี’’ติอาทิมาห. สพฺพโสติ สมนฺตโต อาคมฺม สพฺเพหิ ทิสาภาเคหิ, สนฺนิเวสวเสน วา สมนฺตโต สนฺนิวิฏฺเหิ ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหีติ อธิปฺปาโย, น สพฺพโส จกฺกวาฬสหสฺเสหิ ทสหิ ทสหีติ. เอวํ สติ จตฺตาลีสจกฺกวาฬสหสฺเสหิ อธิเกหิ วา อาคมนํ วุตฺตํ สิยา, น เจตํ อธิปฺเปตนฺติ. สมนฺตโต สนฺนิสินฺเนนาติ วา โยเชตพฺพํ. สมํ, สมฺมา วา นิสินฺเนน สนฺนิสินฺเนน, อฺมฺํ อพฺยาพาเธตฺวา ภควติ คารวํ กตฺวา โสตํ โอทหิตฺวา นิสชฺชโทเส วชฺชิตพฺเพ วชฺเชตฺวา นิสินฺเนนาติ อตฺโถ. มาตรํ ปมุขํ กตฺวา สนฺนิสินฺเนน เทวานํ คเณน ปริวาริโตติ วา, มาตรํ ปมุขํ กตฺวา อภิธมฺมกถามคฺคํ สมฺปวตฺตยีติ วา โยชนา กาตพฺพา.

อิทานิ เทสนาย สมุฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺสา ปฺาย เตชสา’’ติ อาห. ยา สา อาทิมฺหิ กรุณาย อุปมิตา สพฺพเยฺยธมฺมานํ ยถาสภาวชานนสมตฺถา, เตสํ เทเสตพฺพปฺปการชานนสมตฺถา, โพเธตพฺพปุคฺคลานํ อาสยาธิมุตฺติยาทิวิภาวนสมตฺถา จ ปฺา, ตสฺสา จ ยถาวุตฺตพลโยคโตติ อตฺโถ. เตน สพฺพฺุตฺาณเมว อภิธมฺมกถาย สมุฏฺานภาเว สมตฺถํ, นาฺนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต อภิธมฺมกถาย อสาธารณภาวํ ทสฺเสติ. มคฺโคติ อุปาโย. ขนฺธายตนาทีนํ กุสลาทีนฺจ ธมฺมานํ อวโพธสฺส, สจฺจปฺปฏิเวธสฺเสว วา อุปายภาวโต ‘‘อภิธมฺมกถามคฺโค’’ติ วุตฺโต. ปพนฺโธ วา ‘‘มคฺโค’’ติ วุจฺจติ. โส หิ ทีฆตฺตา มคฺโค วิยาติ มคฺโค, ตสฺมา อภิธมฺมกถาปพนฺโธ ‘‘อภิธมฺมกถามคฺโค’’ติ วุตฺโต. เทวานํ คเณน ปริวาริโตติ วตฺวา ปุน เทวานนฺติ วจนํ เตสํ คหณสมตฺถตํ ทีเปติ. น หิ อสมตฺถานํ ภควา เทเสตีติ.

. เอวํ กรุณาปฺามุเขหิ คุเณหิ ภควโต อภิธมฺมกถามคฺคปฺปวตฺตเนน จ หิตปฺปฏิปตฺติยา ปรมปณามารหตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อธิปฺเปตํ ปณามํ กโรนฺโต อาห ‘‘ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา’’ติ. ภควโต โถมเนเนว จ ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตา สงฺฆสฺส จ สุปฺปฏิปนฺนตา ทสฺสิตา โหติ ตปฺปภวสฺส อนฺถาภาวโต, ตสฺมา ปณามารหํ ตฺจ รตนทฺวยํ ปณมนฺโต ‘‘สทฺธมฺมฺจสฺส…เป… จฺชลิ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยสฺมา พุทฺโธ ‘‘สเทวเก โลเก ตถาคโต วนฺทนีโย’’ติ, สงฺโฆ จ ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน…เป… อฺชลิกรณีโย’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา, กตฺวา สงฺฆสฺส จฺชลิ’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺโม ปน สฺวากฺขาตตาทิคุณยุตฺโต ตถานุสฺสรเณน ปูเชตพฺโพ โหติ ‘‘ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํกตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๓; อ. นิ. ๔.๒๑) วจนโต, กายวาจาจิตฺเตหิ สพฺพถา ปูเชตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘สทฺธมฺมฺจสฺส ปูเชตฺวา’’ติ วุตฺตํ. สิรีมโตติ เอตฺถ สิรีติ ปฺาปุฺานํ อธิวจนนฺติ วทนฺติ. อถ วา ปุฺนิพฺพตฺตา สรีรโสภคฺคาทิสมฺปตฺติ กตปุฺเ นิสฺสยติ, กตปุฺเหิ วา นิสฺสียตีติ ‘‘สิรี’’ติ วุจฺจติ, สา จ อติสยวตี ภควโต อตฺถีติ สิรีมา, ภควา, ตสฺส สิรีมโต.

. นิปจฺจการสฺสาติ ปณามกิริยาย. อานุภาเวนาติ พเลน. โสเสตฺวาติ สุกฺขาเปตฺวา อนฺตรธาเปตฺวา อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ สมฺพนฺโธ. อนฺตราเยติ อตฺถปฺปกาสนสฺส อุปฆาตเก. อเสสโตติ นิสฺเสเส สกเล.

. อิทานิ อภิธมฺมสฺส คมฺภีรตฺถตฺตา อตฺถปฺปกาสนสฺส ทุกฺกรภาวํ ทีเปตุํ ‘‘วิสุทฺธาจารสีเลนา’’ติอาทินา อภิยาจนํ ทสฺเสติ. ถุลฺลจฺจยาทิวิสุทฺธิยา วิสุทฺธาจาโร, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวิสุทฺธิยา วิสุทฺธสีโล. จาริตฺตวาริตฺตวิสุทฺธิยา วา วิสุทฺธาจารสีโล, เตน. สกฺกจฺจนฺติ จิตฺตึ กตฺวา. อภิยาจิโตติ อภิมุขํ ยาจิโต. เตน อนาทริยํ อตฺถปฺปกาสเน กาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ ทสฺเสติ.

. อิทานิ ยสฺส อตฺถํ ปกาเสตุกาโม, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ เทวเทโว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นฺติ อภิธมฺมํ. เทวเทโวติ วิสุทฺธิสมฺมุติอุปปตฺติเทวานํ เทโว. โลเก หิ เย ‘‘สรณํ ปรายณ’’นฺติ คนฺตพฺพา คติภูตา, เต ‘‘เทวา’’ติ วุจฺจนฺติ, ภควา จ สพฺพเทวานํ คติภูโตติ. นยโตติ สงฺเขปโต. สมาจิกฺขีติ สมฺมา อาจิกฺขิ ยถา เถโร พุชฺฌติ. เวเนยฺยสตฺเต วิเนตีติ วินายโก, นายกวิรหิโต วา, สยมฺภูติ อตฺโถ.

๑๐-๑๒. ยฺจาติ ยฺจ อภิธมฺมํ ภิกฺขูนํ ปยิรุทาหาสีติ สมฺพนฺโธ. ปยิรุทาหาสีติ กเถสิ. อิตีติ อิมินา อนุกฺกเมน. ‘‘โย ธาริโต’’ติ นฺติ อุปโยควเสน วุตฺโต ยํ-สทฺโท ธาริโตติ ปจฺจตฺเตน สมฺพชฺฌมาโน ปจฺจตฺตวเสน ปริณมติ, ตสฺมา โย ธาริโต, โย จ สงฺคีโต, ตสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ โยชนา กาตพฺพา. เวเทน ปฺาย อีหติ ปวตฺตตีติ เวเทโห, เตน มุนินา. อภิณฺหโสติ พหุโส. อภิธมฺมสฺสาติ เอตํ ‘‘อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน โยเชตพฺพํ. อิทานิ โย อตฺถปฺปกาสนสฺส นิสฺสโย, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิโตติ อาทิมฺหิ ปมสงฺคีติยํ.

๑๓. ยา อฏฺกถา สงฺคีตา, กสฺส ปน สา อฏฺกถาติ? อฺสฺส วุตฺตสฺส อภาวา ‘‘ยสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ วุตฺตํ, อธิการวเสน ‘‘ตสฺส อภิธมฺมสฺสา’’ติ วิฺายติ. สงฺคีตาติ อตฺถํ ปกาเสตุํ ยุตฺตฏฺาเน ‘‘อยํ เอตสฺส อตฺโถ, อยํ เอตสฺส อตฺโถ’’ติ สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ปจฺฉาปิ จ ทุติยตติยสงฺคีตีสุ อนุสงฺคีตา.

๑๔-๑๖. อภิสงฺขตาติ รจิตา. ตโตติ อฏฺกถาโต. ตนฺตินยานุคนฺติ ตนฺติคตึ อนุคตํ. ภาสนฺติ มาคธภาสํ. นิกายนฺตรลทฺธีหีติ อนฺตรนฺตรา อนุปฺปเวสิตาหิ. อสมฺมิสฺสนฺติ อโวกิณฺณํ. อนากุลนฺติ สนิกาเยปิ อนาวิลํ ปริจฺฉินฺนํ. อสมฺมิสฺโส อนากุโล จ โย มหาวิหารวาสีนํ อตฺถวินิจฺฉโย, ตํ ทีปยนฺโต อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ. เอเตน ติปิฏกจูฬนาคตฺเถราทีหิ วุตฺโต เถรวาโทปิ สงฺคหิโต โหติ. อถ วา ตมฺพปณฺณิภาสํ อปเนตฺวา มาคธภาสฺจ อาโรเปตฺวา ปกาสิยมาโน โย อภิธมฺมสฺส อตฺโถ อสมฺมิสฺโส อนากุโลเยว จ โหติ มหาวิหารวาสีนฺจ วินิจฺฉยภูโต, ตํ อตฺถํ ‘‘เอโส มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉโย’’ติ ทีปยนฺโต ปกาสยิสฺสามิ. ตปฺปกาสเนเนว หิ โส ตถา ทีปิโต โหตีติ.

๑๗. โตสยนฺโต วิจกฺขเณติ วิจกฺขเณ โตสยนฺโต คเหตพฺพํ คเหตฺวานาติ เอวํ โยเชตฺวา ‘‘คเหตพฺพฏฺาเนเยว คหิตํ สุฏฺุ กต’’นฺติ เอวํ โตสยนฺโตติ อตฺถํ วทนฺติ. เอวํ สติ คเหตพฺพคฺคหเณเนว โตสนํ กตํ, น อฺเน อตฺถปฺปกาสเนนาติ เอตํ อาปชฺเชยฺย. โตสยนฺโต อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ เอวํ ปน โยชนาย สติ คเหตพฺพคฺคหณํ อฺฺจ สพฺพํ อตฺถปฺปกาสนํ โหตีติ สพฺเพน เตน โตสนํ กตํ โหติ, ตสฺมา โตสยนฺโต อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ ยุตฺตรูปา.

๑๘-๒๐. อิทานิ ยํ อตฺถปฺปกาสนํ กตฺตุกาโม, ตสฺส มหตฺตํ ปริหริตุํ ‘‘กมฺมฏฺานานี’’ติอาทิมาห. อตฺถวณฺณนนฺติ เอตฺถ วณฺณนา นาม วิวริตฺวา วิตฺถาเรตฺวา วจนํ. อิตีติ ‘‘อปเนตฺวา ตโต ภาส’’นฺติ เอวมาทินา ยถาทสฺสิตปฺปกาเรน. อิติ โสตูนํ อุสฺสาหุปฺปาทนสฺส เหตุํ ทสฺเสติ. อภิธมฺมกถนฺติ อภิธมฺมฏฺกถํ. นิสาเมถาติ สุณาถ. อิทานิ อวสฺสํ อยํ โสตพฺพาเยวาติ ทฬฺหํ อุสฺสาเหนฺโต อาห ‘‘ทุลฺลภา หิ อยํ กถา’’ติ.

วีสติคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานกถาวณฺณนา

อฏฺสาลินึ ตาว วณฺเณนฺเตหิ อาจริเยหิ ตสฺสา สนฺนิเวโส วิภาเวตพฺโพ. ตสฺมา อิทํ วุจฺจติ –

‘‘วจนตฺโถ ปริจฺเฉโท, สนฺนิเวโส จ ปาฬิยา;

สาคเรหิ ตถา จินฺตา, เทสนาหิ คมฺภีรตา.

‘‘เทสนาย สรีรสฺส, ปวตฺติคฺคหณํ ตถา;

เถรสฺส วาจนามคฺค-ตปฺปภาวิตตาปิ จ.

‘‘ปฏิเวธา ตถา พุทฺธ-วจนาทีหิ อาทิโต;

อาภิธมฺมิกภาวสฺส, สาธนํ สพฺพทสฺสิโน.

‘‘วินเยนาถ โคสิงฺค-สุตฺเตน จ มเหสินา;

ภาสิตตฺตสฺส สํสิทฺธิ, นิทาเนน จ ทีปิตา.

‘‘ปกาเสตฺวา อิมํ สพฺพํ, ปฏิฺาตกถา กตา;

อฏฺสาลินิยา เอตํ, สนฺนิเวสํ วิภาวเย’’ติ.

วจนตฺถวิชานเนน วิทิตาภิธมฺมสามฺตฺถสฺส อภิธมฺมกถา วุจฺจมานา โสเภยฺยาติ อภิธมฺมปริชานนเมว อาทิมฺหิ ยุตฺตรูปนฺติ ตทตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ตตฺถ เกนฏฺเน อภิธมฺโม’’ติ. ตตฺถ ตตฺถาติ ‘‘อภิธมฺมสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ ยทิทํ วุตฺตํ, ตสฺมึ. ‘‘ยสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ ปฏิฺาตํ, โส อภิธมฺโม เกนฏฺเน อภิธมฺโมติ อตฺโถ. ตตฺถาติ วา ‘‘อภิธมฺมกถ’’นฺติ เอตสฺมึ วจเน โย อภิธมฺโม วุตฺโต, โส เกนฏฺเน อภิธมฺโมติ อตฺโถ. ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเนาติ เอตฺถ ธมฺโม อติเรโก ธมฺมาติเรโก, สุตฺตนฺตาธิกา ปาฬีติ อตฺโถ. ธมฺโม วิเสโส ธมฺมวิเสโส ธมฺมาติสโย, วิจิตฺตา ปาฬีติ อตฺโถ, ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสา เอว อตฺโถ ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺโ. ทฺวินฺนมฺปิ อตฺถานํ อภิธมฺมสทฺทสฺส อตฺถภาเวน สามฺโต เอกวจนนิทฺเทโส กโต. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘อภิกฺกมนฺติ, อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติอาทีสุ วิย อติเรกวิเสสฏฺทีปโก อภิสทฺโท, ตสฺมา อยมฺปิ ธมฺโม ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน ‘‘อภิธมฺโม’’ติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถ สิยา – ‘‘อภิกฺกมนฺติ, อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติ เอตฺถ ธาตุสทฺทสฺส ปุรโต ปยุชฺชมาโน อภิสทฺโท กิริยาย อติเรกวิเสสภาวทีปโก โหตีติ ยุตฺตํ อุปสคฺคภาวโต, ธมฺมสทฺโท ปน น ธาตุสทฺโทติ เอตสฺมา ปุรโต อภิสทฺโท ปโยคเมว นารหติ. อถาปิ ปยุชฺเชยฺย, กิริยาวิเสสกา อุปสคฺคา, น จ ธมฺโม กิริยาติ ธมฺมสฺส อติเรกวิเสสภาวทีปนํ น ยุตฺตนฺติ? โน น ยุตฺตํ. อฺสฺสปิ หิ อุปสคฺคสฺส อธาตุสทฺทา ปุรโต ปยุชฺชมานสฺส อกิริยายปิ อติเรกวิเสสภาวทีปกสฺส ทสฺสนโตติ เอตมตฺถํ วิภาเวตุํ อติฉตฺตาทิอุทาหรณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. เอวเมวาติ ยถา ฉตฺตาติเรกฉตฺตวิเสสาทิอตฺเถน อติฉตฺตาทโย โหนฺติ อติสทฺทสฺส อุปสคฺคสฺส อธาตุสทฺทสฺสปิ ปุรโต ปยุชฺชมานสฺส อกิริยาย จ ตพฺภาวทีปกตฺตา, เอวมยมฺปิ ธมฺโม ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน ‘‘อภิธมฺโม’’ติ วุจฺจติ อภิ-สทฺทสฺส อุปสคฺคสฺส อธาตุสทฺทสฺสปิ ปุรโต ปยุชฺชมานสฺส อกิริยาย จ ตพฺภาวทีปกตฺตาติ อธิปฺปาโย.

เอกเทเสเนว วิภตฺตาติ ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา? รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ. กตโม จ, ภิกฺขเว, รูปกฺขนฺโธ? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตา…เป… สนฺติเก วา, อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ติเอวมาทินา (สํ. นิ. ๓.๔๘; วิภ. ๒) อุทฺเทสนิทฺเทสมตฺเตเนว วิภตฺตา, ‘‘ตตฺถ กตมํ รูปํ อตีต’’นฺติเอวมาทินา (วิภ. ๓) ปฏินิทฺเทสสฺส อภิธมฺมภาชนียสฺส ปฺหปุจฺฉกสฺส จ อภาวา น นิปฺปเทเสน. อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน…เป… นิปฺปเทสโตว วิภตฺตา, ตสฺมา อยมฺปิ ธมฺโม ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเน ‘‘อภิธมฺโม’’ติ วุจฺจติ นิปฺปเทสานํ ติณฺณมฺปิ นยานํ อติเรกปาฬิภาวโต วิเสสปาฬิภาวโต จาติ อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺเต พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ เอกโต อนาคตตฺตา อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตี’’ติอาทินา ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ตสฺส ตสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ปจฺจยภาโว อุทฺทิฏฺโ, อุทฺทิฏฺธมฺมานฺจ กุสลาทิภาโว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ, น เจตฺถ ‘‘อวิชฺชาสงฺขารา’’ติ เอวํ วุตฺโต อุทฺเทโส อตฺถีติ ปฺหปุจฺฉกํ นตฺถิ. สุตฺตนฺเต ปฺจ สิกฺขาปทานิ อุทฺทิฏฺานิ ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีนิ. สา ปน เวรมณี ยทิ สภาวกิจฺจาทิวเสน วิภชีเยยฺย, ‘‘อารติ วิรตี’’ติอาทินา อภิธมฺมภาชนียเมว โหติ. อถาปิ จิตฺตุปฺปาทวเสน วิภชีเยยฺย, ตถาปิ อภิธมฺมภาชนียเมว โหติ. อฺโ ปน เวรมณีนํ วิภชิตพฺพปฺปกาโร นตฺถิ, เยน ปกาเรน สุตฺตนฺตภาชนียํ วตฺตพฺพํ สิยา. ตสฺมา สิกฺขาปทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ.

วจนตฺถโต อภิธมฺเม าเต ปริจฺเฉทโต าเปตุํ อาห ‘‘ปกรณปริจฺเฉทโต’’ติอาทิ. กติปยาว ปฺหวารา อวเสสาติ ธมฺมหทยวิภงฺเค อนาคตา หุตฺวา มหาธมฺมหทเย อาคตา ธมฺมหทยวิภงฺควจนวเสน อวเสสา กติปยาว ปฺหวาราติ อตฺโถ. เอตฺเถว สงฺคหิตาติ ‘‘อปุพฺพํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อปฺปมตฺติกาว ตนฺติ อวเสสาติ ธมฺมหทยวิภงฺเค อนาคนฺตฺวา มหาธมฺมหทเย อาคตตนฺติโต ยทิ ปถวีอาทีนํ วิตฺถารกถา มหาธาตุกถา รูปกณฺฑธาตุวิภงฺคาทีสุ, อถ ธาตุกถาย วิตฺถารกถา ธาตุกถาย อนาคนฺตฺวา มหาธาตุกถาย อาคตตนฺติ อปฺปมตฺติกาวาติ อธิปฺปาโย.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สาวกภาสิตตฺตา ฉฑฺเฑถ น’’นฺติ, ตํ พุทฺธภาสิตภาวทสฺสเนน ปฏิเสเธตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ หี’’ติอาทิมาห. จตูสุ ปฺเหสูติ ‘‘อุปลพฺภติ นุปลพฺภตี’’ติ ปฏิฺาย คหิตาย ปฏิกฺเขปคหณตฺถํ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติ วุตฺตํ สจฺจิกฏฺํ นิสฺสยํ กตฺวา อุปาทาย ปวตฺตา ทฺเวปิ ปฺจกา เอโก ปฺโห, ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ สรีรํ สพฺพํ วา เทสํ อุปาทาย ปวตฺตา เอโก, ‘‘สพฺพทา’’ติ กาลมุปาทาย เอโก, ‘‘สพฺเพสู’’ติ ยทิ ขนฺธายตนาทโย คหิตา, เต อุปาทาย ปวตฺตา, อถ ปน ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ สพฺพตฺถ สพฺพทา’’ติ เอเตหิ น โกจิ สจฺจิกฏฺโ เทโส กาโล วา อคฺคหิโต อตฺถิ, เต ปน สามฺวเสน คเหตฺวา อนุโยโค กโต, น เภทวเสนาติ เภทวเสน คเหตฺวา อนุยุฺชิตุํ ‘‘สพฺเพสู’’ติ วุตฺตา สจฺจิกฏฺเทสกาลปฺปเทเส อุปาทาย จ ปวตฺตา เอโกติ เอเตสุ จตูสุ. ทฺวินฺนํ ปฺจกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ…เป… มิจฺฉา’’ติ เอกํ, ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภติ…เป… มิจฺฉา’’ติ (กถา. ๑๘) เอกํ, ‘‘ตฺวํ เจ ปน มฺสิ…เป… อิทํ เต มิจฺฉา’’ติ (กถา. ๓) เอกํ, ‘‘เอเส เจ ทุนฺนิคฺคหิเต…เป… อิทํ เต มิจฺฉา’’ติ เอกํ, ‘‘น เหวํ นิคฺคเหตพฺเพ, เตน หิ ยํ นิคฺคณฺหาสิ…เป… สุกตา ปฏิปาทนา’’ติ (กถา. ๑๐) เอกนฺติ เอวํ นิคฺคหกรณํ, ปฏิกมฺมกรณํ, นิคฺคหสฺส สุนิคฺคหภาวํ อิจฺฉโต ปฏิฺาปเนน ปฏิกมฺมเวนํ, ปฏิกมฺมสฺส ทุปฺปฏิกมฺมภาวํ อิจฺฉโต ตํนิทสฺสเนน นิคฺคหสฺส ทุนฺนิคฺคหภาวทสฺสเนน นิคฺคหนิพฺเพนํ, อนิคฺคหภาวาโรปนาทินา เฉโทติ อยํ เอโก ปฺจโก, โย อฏฺกถายํ อนุโลมปฺจกปฏิกมฺมจตุกฺกนิคฺคหจตุกฺกอุปนยนจตุกฺกนิคมนจตุกฺก นาเมหิ สกวาทิปุพฺพปกฺเข อนุโลมปจฺจนีกปฺจโกติ วุตฺโต, ปรวาทิปุพฺพปกฺเข จ เอวเมว ปจฺจนียานุโลมปฺจโกติ วุตฺโต. เอวํ ทฺเว ปฺจกา เวทิตพฺพา. เอวํ เสสปฺเหสุปีติ อฏฺ ปฺจกา อฏฺมุขา วาทยุตฺตีติ วุตฺตา. ยุตฺตีติ อุปาโย, วาทสฺส ยุตฺติ วาทยุตฺติ, วาทปฺปวตฺตนสฺส อุปาโยติ อตฺโถ.

อนุโลมปจฺจนีกปฺจเก อาทินิคฺคหํ ทสฺเสตฺวา ปจฺจนียานุโลมปฺจเก จ อาทินิคฺคหเมว ทสฺเสตฺวา มาติกํ ทีเปตุํ ‘‘สา ปเนสา’’ติอาทิมาห. ปุคฺคโลติ อตฺตา สตฺโต ชีโว. อุปลพฺภตีติ ปฺาย อุปคนฺตฺวา ลพฺภติ. สจฺจิกฏฺปรมฏฺเนาติ มายามรีจิอาทโย วิย นาภูตากาเรน, อนุสฺสวาทีหิ คเหตพฺพา วิย น อนุตฺตมตฺถภาเวน, อถ โข ภูเตน อุตฺตมตฺถภาเวน อุปลพฺภตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ตาทิสํ อิจฺฉนฺโต ปฏิชานาติ. ปุน โย สจฺจิกฏฺปรมฏฺเน อุปลพฺภติ, โส สจฺจิกฏฺปรมฏฺโต อฺโ ตทาธาโร, อฺตฺร วา เตหิ, เตสํ วา อาธารภูโต, อนฺโ วา ตโต รุปฺปนาทิสภาวโต สปฺปจฺจยาทิสภาวโต วา อุปลพฺภมาโน อาปชฺชตีติ อนุยุฺชติ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ…เป… ปรมฏฺเนา’’ติ. อิตโร ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ อฺตฺตํ อนฺตฺตฺจ อนิจฺฉนฺโต ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ. ปุน สกวาที ปฏิฺาย เอกตฺตาปนฺนํ อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพํ ปฏิกฺขิปตีติ กตฺวา นิคฺคหํ อาโรเปนฺโต อาห ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ. ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติ ปุฏฺโ สกวาที ปุคฺคลทิฏฺึ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ. ปุน อิตโร โย สจฺจิกฏฺเน นุปลพฺภติ ปุคฺคโล, โส สจฺจิกฏฺปรมฏฺโต อฺโ วา อนฺโ วา นุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ อฺสฺส ปการสฺส อภาวาติ อนุยุฺชติ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ…เป… ปรมฏฺเนา’’ติ. ยสฺมา ปน ปุคฺคโล สพฺเพน สพฺพํ นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตสฺส อฺตฺตานฺตฺตานุโยโค อนนุโยโค ปุคฺคลลทฺธึ ปฏิเสเธนฺตสฺส อนาปชฺชนโตติ ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ. อิตโร ปฏิฺาย อาปชฺชนเลสเมว ปสฺสนฺโต อวิปรีตํ อตฺถํ อสมฺพุชฺฌนฺโตเยว นิคฺคหํ อาโรเปติ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ.

อิตีติ ยํ ทิสฺวา มาติกา ปิตา, เอวํ เทสิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา กินฺติ เยน ปกาเรน พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตํ, ตํ นิทสฺสนํ กินฺติ อตฺโถ. ยโตนิทานนฺติ ยํการณา ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนาทินิทานนฺติ อตฺโถ. ปปฺจสฺาสงฺขาติ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจสมฺปยุตฺตา สฺาโกฏฺาสา. สมุทาจรนฺตีติ อชฺฌาจรนฺติ. เอตฺถ เจติ เอเตสุ อายตนาทีสุ ตณฺหามานทิฏฺีหิ อภินนฺทิตพฺพํ อภิวทิตพฺพํ อชฺโฌสิตพฺพฺจ นตฺถิ เจ. นนุ นตฺถิเยว, กสฺมา ‘‘นตฺถิ เจ’’ติ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ นตฺถิ, อปฺปหีนาภินนฺทนาภิวทนชฺโฌสานานํ ปน ปุถุชฺชนานํ อภินนฺทิตพฺพาทิปฺปการานิ อายตนาทีนิ โหนฺตีติ เตสํ น สกฺกา ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺตุํ, ปหีนาภินนฺทนาทีนํ ปน สพฺพถา นตฺถีติ ‘‘นตฺถิ เจ’’ติ วุตฺตํ. เอเสวนฺโตติ อภินนฺทนาทีนํ นตฺถิภาวกโร มคฺโค ตปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิภูตํ ผลํ วา ราคานุสยาทีนํ อนฺโต อวสานํ, อปฺปวตฺตีติ อตฺโถ.

ชานํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตพฺพํ ชานาติ. น หิ ปเทสาณวา ชานิตพฺพํ สพฺพํ ชานาตีติ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุปฺาจกฺขุธมฺมจกฺขุพุทฺธจกฺขุสมนฺตจกฺขุสงฺขาเตหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ. อถ วา ชานํ ชานาตีติ ยถา อฺเ สวิปลฺลาสา กามรูปปริฺาวาทิโน ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ, น เอวํ ภควา, ภควา ปน ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชานนฺโต ชานาติเยว, ทิฏฺิทสฺสนสฺส จ อภาวา ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยวาติ อตฺโถ. จกฺขุภูโตติ ปฺาจกฺขุมยตฺตา สตฺเตสุ จ ตทุปฺปาทนโต โลกสฺส จกฺขุภูโต. าณภูโตติ เอตสฺส จ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมา โพธิปกฺขิยา. พฺรหฺมา มคฺโค, เตหิ อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต ตพฺภูโต. วตฺตาติ จตุสจฺจธมฺเม วทตีติ วตฺตา. ปวตฺตาติ จิรํ สจฺจปฺปฏิเวธํ ปวตฺเตนฺโต วทตีติ ปวตฺตา. อตฺถสฺส นินฺเนตาติ อตฺถํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตา, ปรมตฺถํ วา นิพฺพานํ ปาปยิตา. อมตสฺส ทาตาติ อมตสจฺฉิกิริยํ สตฺเตสุ อุปฺปาเทนฺโต อมตํ ททาตีติ อมตสฺส ทาตา. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตทายตฺตภาวโต ธมฺมสฺสามี. สุวณฺณาลิงฺคนฺติ สุวณฺณมยํ อาลิงฺคํ ขุทฺทกมุทิงฺคํ. สุปุปฺผิตสตปตฺตปทุมมิว สสฺสิริกํ สโสภํ สุปุปฺผิตสตปตฺตสสฺสิริกํ.

อนุโมทิตกาลโต ปฏฺาย…เป… พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตนฺติ เอเตน อนุโมทนา พุทฺธภาสิตภาวสฺส การณนฺติ อยมตฺโถ วุตฺโต วิย ทิสฺสติ, เอวฺจ สติ กถาวตฺถุสฺส พุทฺธภาสิตภาโว น สิยา อนนุโมทิตตฺตา, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ‘‘มหากจฺจายโน เอวํ วิภชิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ภควา มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิหารํ ปวิฏฺโ, ตเถว จ เถโร ภควตา ทินฺนนเยน ปิตมาติกาย วิภชีติ พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตํ, ตํ ปน อนุโมทนาย ปากฏํ ชาตนฺติ เอตมตฺถํ สนฺธาย ‘‘เอวํ สตฺถารา…เป… นาม ชาต’’นฺติ วุตฺตนฺติ.

อิทานิ ปาฬิยา สนฺนิเวสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ธมฺมสงฺคณีปกรเณ’’ติอาทิมาห. กามาวจรกุสลโต อฏฺาติ กามาวจรกุสเล จตฺตาโร ขนฺเธ คเหตฺวา ตโต อฏฺ จิตฺตานิ อุทฺธรติ. ปมา วิภตฺตีติปิ วทนฺติ. เอกูนนวุติ จิตฺตานีติ ยตฺถ เอตานิ จิตฺตานิ วิภตฺตานิ, เต ปาฬิปฺปเทสา ‘‘เอกูนนวุติ จิตฺตานี’’ติ วุตฺตา. เตสฺจ สมุทาโย จิตฺตวิภตฺติ, ตสฺมา อุปปนฺนเมตํ ‘‘เอกูนนวุติ จิตฺตานิ จิตฺตวิภตฺตี’’ติ. มาติกฺจ อุทฺทิสิตฺวา ตตฺถ เอเกกํ ปทํ อุทฺธริตฺวา ยสฺมา จิตฺตานิ วิภตฺตานิ, ตสฺมา มาติกาปิ จิตฺตวิภตฺติอนฺโตคธาเยวาติ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑํ มาติกาปทภาชนียวเสน ทุวิธนฺติ อิทมฺปิ วจนํ ยุชฺชติ.

มูลโตติ ‘‘ตีณิ กุสลมูลานี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๙๘๕) กุสลาทีนํ มูลวเสน สงฺขิปิตฺวา วจนํ. ‘‘เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทินา ขนฺธโต. ‘‘กายกมฺม’’นฺติอาทินา ทฺวารโต. ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทินา (ธ. ส. ๙๘๘) ภูมิโต. อตฺโถติ เหตุผลํ. ธมฺโมติ เหตุ. ‘‘ตีณิ กุสลมูลานิ ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๙๘๕-๙๘๖) เหตุวเสน สงฺคโห ธมฺมโต นิกฺเขโป. ‘‘ตํสมฺปยุตฺโต, ตํสมุฏฺานา ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๙๘๕-๙๘๖) เหตุผลวเสน สงฺคโห อตฺถโต นิกฺเขโป. อถ วา ธมฺโมติ ภาสิโต. อตฺโถติ ภาสิตตฺโถ. ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติ (ธ. ส. ๑๐๕๙) ธมฺโม. ‘‘ตตฺถ กตเม ตโย กุสลเหตู อโลโภ’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๐๖๐) อตฺโถ, โส จ ธมฺโม. ‘‘ตตฺถ กตโม อโลโภ’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๐๖๑) อตฺโถติ เอวํ อตฺถธมฺมวเสน นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. นามโตติ ‘‘ตีณิ กุสลมูลานี’’ติ วุตฺตธมฺมานํ อโลโภติอาทินามวเสน. ลิงฺคโตติ อุทฺทิฏฺสฺส เอกสฺเสว ธมฺมสฺส ‘‘อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๑) ปุริสาทิลิงฺควเสน นิกฺเขโป.

คณนจารนฺติ คณนปฺปวตฺตึ. สมาเนนฺตีติ สมานํ กโรนฺติ ปูเรนฺติ, ตถา สมาเนตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ. ‘‘วิชฺชาภาคิโน อวิชฺชาภาคิโน’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๑) เอวมาทีสุ เอตฺถ วิฺาเตสุ อาภิธมฺมิกตฺเถรา สุตฺตนฺตํ สุณนฺตา จินฺเตนฺตา จ สุตฺตนฺเตสุ ‘‘วิชฺชาภาคิโน’’ติอาทีสุ อาคเตสุ อตฺถสฺส วิฺาตตฺตา น กิลมนฺตีติ เอตมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาภิธมฺมิกตฺเถรานํ…เป… อกิลมตฺถํ ปิตา’’ติ.

อนมตคฺโคติ อฺาตคฺโค. ขนฺธนฺตรนฺติ ขนฺธนานตฺตํ, ขนฺธเมว วา. คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา สณฺหํ, สุขุมาย ปฺาย คเหตพฺพโต สุขุมฺจ ธมฺมํ สณฺหสุขุมธมฺมํ. พลวตา าณเวเคน ปวตฺตตฺตา พลวโต าณเวคสฺส นิมิตฺตภาวโต จ พลวํ. คมฺภีรเมว คมฺภีรคตํ, คมฺภีรานิ วา คตานิ คมนานิ เอตสฺส สนฺตีติ คมฺภีรคตํ. ยถานุปุพฺพนฺติ ยถานุปุพฺเพน. นิขิเลนาติ นิรวเสเสน เทสิตํ, ปฺจขิลรหิเตน วา ภควตา เทสิตํ. รูปคตํวาติ หตฺถคตํ รูปํ วิย จกฺขุนา. ‘‘ปฏิเวธาเณน สมนฺตปฏฺานํ โย ปสฺสติ, โส อตฺเถว, โน นตฺถี’’ติ อตฺตานํ สนฺธาย เถโร วทตีติ.

ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค อาคเตสุ เอกาธิเกสุ อฏฺสุ กิเลสสเตสุ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ อปเนตฺวา เสสา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย จ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน ทิคุณิตานิ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสานิ ทสาธิกานิ โหนฺติ, อปฺปกํ ปน อูนมธิกํ วา น คณนูปคํ โหตีติ ‘‘ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. อิตเรสํ อตีตาทิภาวามสนา อคฺคหณํ เขปเน ทฏฺพฺพํ.

เมจกปฏาติ นีลนิภา ปฏา. จิตฺตสมุฏฺานา วณฺณธาตูติ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺานา วณฺณธาตูติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. กสฺมา? น หิ จิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ พหิ นิคจฺฉตีติ, จิตฺตสมุฏฺานรูปปรมฺปราย อาคตตฺตา ปน เอวํ วุตฺตํ. อถ วา จิตฺตสมุฏฺานา วณฺณธาตูติ เอตฺถ ปจฺจยอุตุสทฺทานํ โลปํ กตฺวา โสเยว ปุพฺเพ วุตฺโต อตฺโถ สุวณฺณตา สุสฺสรตา วิย. เอตฺถ หิ ‘‘สุสฺสรตา’’ติ อุปาทินฺนกาธิกาเร อาคตํ, น จ สทฺโท อุปาทินฺนโก อตฺถิ, ตสฺมา อุปาทินฺนกรูปโอฏฺตาลุอาทินิสฺสยตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ, เอวเมตฺถาปิ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ สนฺธาย ‘‘จิตฺตสมุฏฺานา วณฺณธาตู’’ติ วทติ.

กายสกฺขินฺติ ปจฺจกฺขํ. ทนฺตาวรณนฺติ โอฏฺทฺวยํ. มุขาทานนฺติ มุขวิวรํ. สิลิฏฺนฺติ สํคตํ สุสณฺิตํ. สเร นิมิตฺตํ คเหตฺวาติ ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ ธมฺมสฺสรวเสน นิมิตฺตํ คเหตฺวา, น กิเลสานุพฺยฺชนวเสน. เอกปฺปหาเรนาติ เอตฺถ ปหาโรติ ทิวสสฺส ตติโย ภาโค วุจฺจติ. เอวํ สนฺเตติ ปุพฺเพ วุตฺตมคฺคเหตฺวา วาจนามคฺคสฺส เถรปฺปภวตฺตวจนเมว คเหตฺวา เตน ปุริมวจนฺจ ปฏิกฺขิปนฺโต โจเทติ.

เตเนตเมตสฺสาติ วินยสฺส. อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเทติ โย ตํ สุตฺตํ สชฺฌายติ สุณาติ วาเจติ จินฺเตติ เทเสติ, สุตฺเตน สงฺคหิโต สีลาทิอตฺโถ ตสฺสปิ โหติ, เตน ปรสฺส สาเธตพฺพโต ปรสฺสปิ โหตีติ ตทุภยํ ตํ สุตฺตํ สูเจติ ทีเปติ. ตถา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ โลกิยโลกุตฺตรตฺเถติ เอวมาทิเภเท อตฺเถ อาทิสทฺเทน สงฺคณฺหาติ. อตฺถสทฺโท จายํ หิตปริยายวจนํ, น ภาสิตตฺถวจนํ. ยทิ สิยา, สุตฺตํ อตฺตโนปิ ภาสิตตฺถํ สูเจติ ปรสุตฺตสฺสปีติ อยมตฺโถ สิยา, สุตฺเตน จ โย อตฺโถ ปกาสิโต, โส ตสฺเสว โหตีติ น เตน ปรตฺโถ สูจิโต โหติ, เตน จ สูเจตพฺพสฺส ปรตฺถสฺส นิวตฺเตตพฺพสฺส อภาวา อตฺตคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ, อตฺตตฺถปรตฺถวินิมุตฺตสฺส ภาสิตตฺถสฺส อภาวา อาทิคฺคหณฺจ น กตฺตพฺพํ, ตสฺมา ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส สุตฺเต อสมฺภวโต สุตฺตาธารสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน อตฺตตฺถปรตฺถา วุตฺตา.

อถ วา สุตฺตํ อนเปกฺขิตฺวา เย อตฺตตฺถาทโยปิ อตฺถปฺปเภทา วุตฺตา นิทฺเทเส (มหานิ. ๖๙; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) ‘‘อตฺตตฺโถ ปรตฺโถ อุภยตฺโถ ทิฏฺธมฺมิโก อตฺโถ สมฺปรายิโก อตฺโถ อุตฺตาโน อตฺโถ คมฺภีโร อตฺโถ คุฬฺโห อตฺโถ ปฏิจฺฉนฺโน อตฺโถ เนยฺโย อตฺโถ นีโต อตฺโถ อนวชฺโช อตฺโถ นิกฺกิเลโส อตฺโถ โวทาโน อตฺโถ ปรมตฺโถ อตฺโถ’’ติ, เต สุตฺตํ สูเจตีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหตี’’ติ อตฺตตฺถํ, ‘‘อปฺปิจฺฉกถฺจ ปเรสํ กตฺตา โหตี’’ติ ปรตฺถํ สูเจตีติ. เอวํ ‘‘อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทิสุตฺตานิ (อ. นิ. ๔.๙๙) โยเชตพฺพานิ. วินยาภิธมฺเมหิ จ วิเสเสตฺวา สุตฺตสทฺทสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา เวเนยฺยชฺฌาสยวสปฺปวตฺตาย เทสนาย อตฺตหิตปรหิตาทีนิ สาติสยํ ปกาสิตานิ โหนฺติ, น อาณาธมฺมสภาววสปฺปวตฺตายาติ อิทเมว ‘‘อตฺถานํ สูจนโต สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

สุตฺเต จ อาณาธมฺมสภาวา เวเนยฺยชฺฌาสยํ อนุวตฺตนฺติ, น วินยาภิธมฺเมสุ วิย เวเนยฺยชฺฌาสโย อาณาธมฺมสภาเว อนุวตฺตติ, ตสฺมา เวเนยฺยานํ เอกนฺตหิตปฏิลาภสํวตฺตนิกา สุตฺตนฺตเทสนา โหตีติ ‘‘สุวุตฺตา เจตฺถ อตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปสวตีติ ผลติ. ‘‘สุตฺตาณา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘สุฏฺุ จ เน ตายตี’’ติ วุตฺตํ. อตฺตตฺถปรตฺถาทิวิธาเนสุ จ สุตฺตสฺส ปมาณภาโว เตสฺจ สงฺคาหกตฺตํ โยเชตพฺพํ, ตทตฺถปฺปกาสเน ปธานตฺตา สุตฺตสฺส อิตเรหิ วิเสสนฺจ. เอตนฺติ ‘‘อตฺถานํ สูจนโต’’ติอาทิกํ อตฺถวจนํ. เอตสฺสาติ สุตฺตสฺส.

อภิกฺกมนฺตีติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท กมนสฺส วุทฺธิภาวํ อติเรกตฺตํ ทีเปติ. อภิกฺกนฺเตนาติ จ เอตฺถ กนฺติยา อธิกตฺตํ วิเสสภาวนฺติ ยุตฺตํ กิริยาวิเสสกตฺตา อุปสคฺคสฺส. อภิฺาตา, อภิราชา, อภิวินเยติ เอตฺถ ลกฺขณปูชิตปริจฺฉินฺเนสุ รตฺติอาทีสุ อภิ-สทฺโท วตฺตตีติ กถเมตํ ยุชฺเชยฺยาติ? ลกฺขณกรณาณปูชนปริจฺเฉทกิริยาทีปนโต ตาหิ จ กิริยาหิ รตฺติราชวินยานํ ยุตฺตตฺตา. ภาวนาผรณวุทฺธีหิ วุทฺธิมนฺโต. อารมฺมณาทีหีติ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺมทฺวารปฏิปทาทีหิ. อวิสิฏฺนฺติ อฺมฺวิสิฏฺเสุ วินยสุตฺตนฺตาภิธมฺเมสุ อวิสิฏฺํ สมานํ ปิฏกสทฺทนฺติ อตฺโถ. ยถาวุตฺเตเนวาติ ‘‘เอวํ ทุวิธตฺเถนา’’ติอาทินา นเยน.

กเถตพฺพานํ อตฺถานํ เทสกายตฺเตน อาณาทิวิธินา อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา. สาสิตพฺพปุคฺคลคเตน ยถาปราธาทินา สาสิตพฺพภาเวน อนุสาสนํ วินยนํ สาสนํ. กเถตพฺพสฺส สํวราสํวราทิโน อตฺถสฺส กถนํ วจนปฏิพทฺธกรณํ กถา. เภท-สทฺโท วิสุํ วิสุํ โยเชตพฺโพ ‘‘เทสนาเภทํ สาสนเภทํ กถาเภทฺจ ยถารหํ ปริทีปเย’’ติ. เภทนฺติ นานตฺตํ, นานากรณนฺติ อตฺโถ. สิกฺขา จ ปหานานิ จ คมฺภีรภาโว จ สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวํ, ตฺจ ปริทีปเย. นฺติ ปริยตฺติอาทึ. ยถาติ อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุณนาทิปฺปกาเรหิ.

ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธาติ เอตฺถ ตนฺติอตฺโถ ตนฺติเทสนา ตนฺติอตฺถปฏิเวโธ จ ตนฺติวิสยา โหนฺตีติ วินยปิฏกาทีนํ อตฺถเทสนาปฏิเวธาธารภาโว ยุตฺโต, ปิฏกานิ ปน ตนฺติโยเยวาติ ธมฺมาธารภาโว กถํ ยุชฺเชยฺยาติ? ตนฺติสมุทายสฺส อวยวตนฺติยา อาธารภาวโต, ธมฺมาทีนฺจ ทุกฺโขคาหภาวโต เตหิ วินยาทโย คมฺภีราติ วินยาทีนฺจ จตุพฺพิโธ คมฺภีรภาโว วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘ธมฺมาทโย เอว ทุกฺโขคาหตฺตา คมฺภีรา, น วินยาทโย’’ติ น โจเทตพฺพเมตํ. ตตฺถ ปฏิเวธสฺส ทุกฺกรภาวโต ธมฺมตฺถานํ, เทสนาาณสฺส ทุกฺกรภาวโต เทสนาย จ ทุกฺโขคาหภาโว เวทิตพฺโพ. ปฏิเวธสฺส ปน อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตพฺพิสยาณุปฺปตฺติยา จ ทุกฺกรภาวโต ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา.

เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทาติ เอเตน วจนตฺเถน ธมฺมสฺส เหตุภาโว กถํ าตพฺโพติ? ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอตสฺส สมาสปทสฺส อวยวปทตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เหตุมฺหิ าณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ‘‘ธมฺเม ปฏิสมฺภิทา’’ติ เอตฺถ หิ ‘‘ธมฺเม’’ติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปฏิสมฺภิทา’’ติ เอตสฺส จ อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘าณ’’นฺติ, ตสฺมา เหตุธมฺมสทฺทา เอกตฺถา าณปฏิสมฺภิทาสทฺทา จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺเตน สาธิโต ธมฺมสฺส เหตุภาโว. อตฺถสฺส เหตุผลภาโว จ เอวเมว ทฏฺพฺโพ. ยถาธมฺมนฺติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท เหตุํ เหตุผลฺจ สพฺพํ คณฺหาติ. สภาววาจโก เหส, น ปริยตฺติเหตุภาววาจโก, ตสฺมา ยถาธมฺมนฺติ โย โย อวิชฺชาสงฺขาราทิธมฺโม, ตสฺมึ ตสฺมินฺติ อตฺโถ. ธมฺมาภิลาโปติ อตฺถพฺยฺชนโก อวิปรีตาภิลาโป. เอเตน ‘‘ตตฺร ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๘-๗๒๐) เอตฺถ วุตฺตธมฺมนิรุตฺตึ ทสฺเสติ. อนุโลมาทิวเสน วา กถนนฺติ เอเตน ตสฺสา ธมฺมนิรุตฺติยา อภิลาปํ กถนํ ตสฺส วจนสฺส ปวตฺตนํ ทสฺเสติ. อธิปฺปาโยติ เอเตน ‘‘เทสนาติ ปฺตฺตี’’ติ เอตํ วจนํ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาปํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตพฺพินิมุตฺตํ ปฺตฺตึ สนฺธายาติ ทสฺเสติ.

โส จ โลกิยโลกุตฺตโรติ เอวํ วุตฺตํ อภิสมยํ เยน ปกาเรน อภิสเมติ, ยฺจ อภิสเมติ, โย จ ตสฺส สภาโว, เตหิ ปากฏํ กาตุํ ‘‘วิสยโต อสมฺโมหโต จ อตฺถาทิอนุรูปํ ธมฺมาทีสุ อวโพโธ’’ติ อาห. ตตฺถ หิ วิสยโต อตฺถาทิอนุรูปํ ธมฺมาทีสุ อวโพโธ อวิชฺชาทิธมฺมสงฺขาราทิอตฺถตทุภยปฺาปนารมฺมโณ โลกิโย อภิสมโย. อสมฺโมหโต อตฺถาทิอนุรูปํ ธมฺมาทีสุ อวโพโธ นิพฺพานารมฺมโณ มคฺคสมฺปยุตฺโต ยถาวุตฺตธมฺมตฺถปฺตฺตีสุ สมฺโมหวิทฺธํสโน โลกุตฺตโร อภิสมโยติ. อภิสมยโต อฺมฺปิ ปฏิเวธตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ เตสํ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปฏิเวธนํ ปฏิเวโธ’’ติ อิมินา หิ วจนตฺเถน อภิสมโย, ปฏิวิชฺฌียตีติ ปฏิเวโธติ อิมินา ตํตํรูปาทิธมฺมานํ อวิปรีตสภาโว จ ปฏิเวโธติ ยุชฺชติ.

ยถาวุตฺเตหิ ธมฺมาทีหิ ปิฏกานํ คมฺภีรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทานิ ยสฺมา เอเตสุ ปิฏเกสู’’ติอาทิมาห. โย เจตฺถาติ เอเตสุ ตํตํปิฏกคเตสุ ธมฺมาทีสุ โย ปฏิเวโธ เอเตสุ จ ปิฏเกสุ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ โย อวิปรีตสภาโวติ โยเชตพฺโพ. ทุกฺโขคาหตา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส ‘‘อวิปรีตสภาวสงฺขาโต ปฏิเวโธ ทุพฺพิฺเยฺยตาย เอว ทุกฺโขคาโห’’ติ.

นฺติ ปริยตฺติทุคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถนฺติ ภาสิตตฺถํ ปโยชนตฺถฺจ. น อุปปริกฺขนฺตีติ น วิจาเรนฺติ. น นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ นิชฺฌานปฺํ น ขมนฺติ, นิชฺฌายิตฺวา ปฺาย ทิสฺวา โรเจตฺวา น คเหตพฺพา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิตีติ เอวํ เอตาย ปริยตฺติยา วาทปฺปโมกฺขานิสํสา อตฺตโน อุปริ ปเรหิ อาโรปิตวาทสฺส นิคฺคหสฺส ปโมกฺขปฺปโยชนา หุตฺวา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ. วาทปฺปโมกฺโขติ วา นินฺทาปโมกฺโข. ยสฺส จตฺถายาติ ยสฺส จ สีลาทิปริปูรณสฺส อนุปาทาวิโมกฺขสฺส วา อตฺถาย. ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตีติ าเยน ปริยาปุณนฺตีติ อธิปฺปาโย. อสฺสาติ อสฺส ธมฺมสฺส. นานุโภนฺตีติ น วินฺทนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตตฺตา อุปารมฺภมานทปฺปมกฺขปลาสาทิเหตุภาเวน ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ภณฺฑาคาเร นิยุตฺโต ภณฺฑาคาริโก, ภณฺฑาคาริโก วิยาติ ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก. อฺํ อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺเสว สโต ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ.

ตาสํเยวาติ อวธารณํ ปาปุณิตพฺพานํ ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทานํ วินเย ปเภทวจนาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เวรฺชกณฺเฑ หิ ติสฺโส วิชฺชาว วิภตฺตาติ. ทุติเย ตาสํเยวาติ อวธารณํ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อเปกฺขิตฺวา กตํ, น ติสฺโส วิชฺชา. ตา หิ ฉสุ อภิฺาสุ อนฺโตคธาติ สุตฺเต วิภตฺตาเยวาติ. ตฺวา สงฺคยฺหมานนฺติ โยชนา. เตสนฺติ เตสํ ปิฏกานํ. สพฺพมฺปีติ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ.

อตฺถานุโลมนามโต อนุโลมิโก. อนุโลมิกตฺตํเยว วิภาเวตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนิกายมฺปีติ เอกสมูหมฺปิ. โปณิกา จ จิกฺขลฺลิกา จ ขตฺติยา, เตสํ นิวาโส โปณิกนิกาโย จิกฺขลฺลิกนิกาโย จ. เอวํ ธมฺมกฺขนฺธโต จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ พุทฺธวจนปิฏกาทีนิ นิฏฺาเปตฺวา อเนกจฺฉริยปาตุภาวปฏิมณฺฑิตาย สงฺคีติยา ปมพุทฺธวจนาทิโก สพฺโพ วุตฺตปฺปเภโท อฺโปิ อุทฺทานสงฺคหาทิเภโท สงฺคีติยา ายตีติ เอตสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวเมตํ สพฺพมฺปี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อยํ อภิธมฺโม ปิฏกโต อภิธมฺมปิฏกนฺติอาทินา ปิฏกาทิภาวทสฺสเนเนว มชฺฌิมพุทฺธวจนภาโว ตถาคตสฺส จ อาทิโต อาภิธมฺมิกภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ สิยา ‘‘ยทิ ตถาคตภาสิตภาโว อภิธมฺมสฺส สิทฺโธ สิยา, มชฺฌิมพุทฺธวจนภาโว จ สิทฺโธ ภเวยฺย, โส เอว จ น สิทฺโธ’’ติ ตสฺส วินยาทีหิ พุทฺธภาสิตภาวํ สาเธตุํ วตฺถุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ ธารยนฺเตสุ ภิกฺขูสู’’ติอาทิมาห. สพฺพสามยิกปริสายาติ สพฺพนิกายิกปริสาย ปฺจปิ นิกาเย ปริยาปุณนฺติยา. น อุคฺคหิตนฺติ สกลสฺส วินยปิฏกสฺส อนุคฺคหิตตฺตา อาห. วินยมตฺตํ อุคฺคหิตนฺติ วิภงฺคทฺวยสฺส อุคฺคหิตตฺตา อาห. วินยํ อวิวณฺเณตุกามตาย ‘‘อภิธมฺมํ ปริยาปุณสฺสู’’ติ ภณนฺตสฺส อนาปตฺตึ, อภิธมฺเม อโนกาสกตํ ภิกฺขุํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติยา ปาจิตฺติยฺจ วทนฺเตน ภควตา อภิธมฺมสฺส พุทฺธภาสิตภาโว ทีปิโต พุทฺธภาสิเตหิ สุตฺตาทีหิสห วจนโต, พาหิรกภาสิเตสุ จ อีทิสสฺส วจนสฺส อภาวา.

อิโตปิ พลวตรํ อาภิธมฺมิกสฺส สาธุการทาเนน วิจิกิจฺฉาวิจฺเฉทสฺส กตตฺตา. กมฺมโต อฺํ กมฺมํ กมฺมนฺตรํ, ตํ กามาวจราทึ รูปาวจราทิภาเวน, กณฺหวิปากาทึ สุกฺกวิปากาทิภาเวน กเถนฺโต อาโลเฬติ.

ชินจกฺเกติ ชินสาสเน. วิสํวาเทตีติ วิปฺปลมฺเภติ. เภทกรวตฺถูสุ เอกสฺมินฺติ ‘‘ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปตี’’ติ เอกสฺมึ สนฺทิสฺสติ. อุตฺตริปิ เอวํ วตฺตพฺโพ…เป… น อฺเสํ วิสโย…เป… นิทานกิจฺจํ นาม นตฺถีติ อปากฏานํ กาลเทสเทสกปริสานํ ปากฏภาวกรณตฺถํ ตทุปเทสสหิเตน นิทาเนน ภวิตพฺพํ, อฺเสํ อวิสยตฺตา เทสโก ปากโฏ, โอกฺกนฺติกาลาทีนํ ปากฏตฺตา กาโล จ, เทวโลเก เทสิตภาวสฺส ปากฏตฺตา เทสปริสา จ ปากฏาติ กึ นิทานกิจฺจํ สิยาติ.

ยตฺถ ขนฺธาทโย นิปฺปเทเสน วิภตฺตา, โส อภิธมฺโม นาม, ตสฺมา ตสฺส นิทาเนน ขนฺธาทีนํ นิปฺปเทสโตปิ ปฏิวิทฺธฏฺาเนน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน เถโร ‘‘มหาโพธินิทาโน อภิธมฺโม’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘โส เอวํ ปชานามิ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๒) นเยน ปจฺจยาทีหิ เวทนํ อุปปริกฺขนฺโต ขนฺธาทิปเทสานํ เวทนากฺขนฺธาทีนํ วเสน วิหาสิ. ธมฺเมติ กุสลาทิอรณนฺเต.

ธมฺมํ ปริวตฺเตนฺโตติ สาฏฺกถํ ปาฬึ ปริวตฺเตนฺโต เอตํ ปรวาทีโจทนํ ปตฺวา ‘‘อยํ ปรวาที’’ติอาทิมาห. อมฺหาทิเสสุ นิทานํ ชานนฺเตสุ ปฏิสรเณสุ วิชฺชมาเนสุ อปฺปฏิสรโณ อรฺเ กนฺทนฺโต วิย นิทานสพฺภาเว สกฺขิภูเตสุปิ อมฺเหสุ วิชฺชมาเนสุ อสกฺขิกํ อฑฺฑํ กโรนฺโต วิย โหติ, นิทานสฺส อตฺถิภาวมฺปิ น ชานาติ, นนุ เอตํ นิทานนฺติ กเถนฺโต เอวมาห. เอกเมวาติ เทสนานิทานเมว อชฺฌาสยานุรูเปน เทสิตตฺตา. ทฺเว นิทานานีติ อธิคนฺตพฺพเทเสตพฺพธมฺมานุรูเปน เทสิตตฺตา. อภิธมฺมาธิคมสฺส มูลํ อธิคมํ นิเทตีติ อธิคมนิทานํ. โพธิอภินีหารสทฺธายาติ ยาย สทฺธาย ทีปงฺกรทสพลสฺส สนฺติเก โพธิยา จิตฺตํ อภินีหริ ปณิธานํ อกาสิ.

สุเมธกถาวณฺณนา

จตุโร จ อสงฺขิเยติ (พุ. วํ. อฏฺ. ๒.๑-๒) อุทฺธํ อาโรหนวเสน อติกฺกมิตฺวา อมรํ นาม นครํ อโหสีติ วจนเสสโยชนา กาตพฺพา. ทสหีติ หตฺถิอสฺสรถเภรีสงฺขมุทิงฺควีณาคีตสมฺมตาเฬหิ ‘‘อสฺนาถ ปิวถ ขาทถา’’ติ ทสเมน สทฺเทน. เต ปน เอกเทเสน ทสฺเสตุํ ‘‘หตฺถิสทฺท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. หตฺถิสทฺทนฺติ กรณตฺเถ อุปโยโค ทฏฺพฺโพ. เภรีสงฺขรถานฺจ สทฺเทหิ อวิวิตฺตนฺติ วา โฆสิตนฺติ วา โยเชตพฺพํ. หตฺถิสทฺทนฺติ วา หตฺถิสทฺทวนฺตํ นครํ. ขาทถ ปิวถ เจวาติ อิติ-สทฺโท าตตฺถตฺตา อปฺปยุตฺโต ทฏฺพฺโพ.

สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ อุยฺยานโปกฺขรณีอาทิสมฺปนฺนตฺตา. ลกฺขเณติ อิตฺถิลกฺขเณ ปุริสลกฺขเณ จ. อิติหาเสติ โปราเณ. สธมฺเมติ อตฺตโน เตวิชฺชธมฺเม จ ยฺวิธิอาทิเก จ. ปารมินฺติ ปาราณํ ปาราธิคมํ คโต. จินฺเตสหนฺติ จินฺเตสึ อหํ สุเมธภูโตติ สตฺถา วทติ. อตฺถิ เหหิตีติ โส วิชฺชมาโน ภวิสฺสติ. น เหตุเยติ อภวิตุํ. เอวเมวาติ เอวเมวํ. น คเวสตีติ น คนฺตุํ เอสติ น อิจฺฉติ นานุคจฺฉติ วา. โธเวติ โธวนฺเต. เสรีติ สายตฺติโก. สยํวสีติ สวโส. มหาโจรสโม วิยาติ กายสาราควเสน ทุจฺจริตาเนสเนหิ กุสลภณฺฑจฺเฉทนา. นาถาติ นาถวนฺโต. ปฺจโทสวิวชฺชิตนฺติ เอวมาทิกสฺส อตฺโถ เกสุจิ อฏฺกถาโปตฺถเกสุ ลิขิโตติ กตฺวา น วกฺขาม.

สาสเนติ เอตฺถ ตาปสสาสนํ ฌานาภิฺา จ. วสีภูตสฺส สโต. มยิ เอวํภูเต ทีปงฺกโร ชิโน อุปฺปชฺชิ. โสเธติ ชโน. อฺชสํ วฏุมายนนฺติ ปริยายวจเนหิ มคฺคเมว วทติ. มา นํ อกฺกมิตฺถาติ เอตฺถ นฺติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. ฆาติยามหนฺติ เอตฺถ จ -อิติ จ หํ-อิติ จ นิปาตา, อหํ-อิติ วา เอโก นิปาโต สานุนาสิโก กโต. อาหุตีนนฺติ ทกฺขิณาหุตีนํ. นฺติ มม, มํ วา อพฺรฺวิ.

กปฺเป อติกฺกมิตฺวา วุตฺเตปิ โพธิมฺหิ มาตาทิสํกิตฺตเน สงฺคณฺหิตุํ ‘‘โพธิ ตสฺส ภควโต’’ติอาทิมาห. สุเขนาติ อุตฺตเมน สุเขน. อสโมติ ตาปเสหิ อสโม. อภิฺาสุขโตปิ วิสิฏฺํ อีทิสํ พุทฺธตฺตพฺยากรณชํ สุขํ อลภึ. ยาติ ยานิ นิมิตฺตานิ. อาภุชตีติ อาวตฺตติ. อภิรวนฺตีติ สทฺทํ กโรนฺติ. ฉุทฺธาติ นิกฺขนฺตา. นุทฺธํสตีติ น อุทฺธํ คจฺฉติ. อุภยนฺติ อุภยวจนํ. ธุวสสฺสตนฺติ เอกนฺตสสฺสตํ, อวิปรีตเมวาติ อตฺโถ. อาปนฺนสตฺตานนฺติ คพฺภินีนํ. ยาวตาทส ทิสา, ตตฺถ. ธมฺมธาตุยาติ ธมฺมธาตุยํ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ วิจินามีติ อตฺโถ.

ยสฺส สมฺปุณฺโณ, ตํ วมเตว อุทกํ นิสฺเสสํ. เอเตติ เอกิสฺสาปิ ทานปารมิตาย อเนกปฺปการตาย พหุวจนนิทฺเทโส กโต. ปฏิลคฺคิตํ รกฺขตีติ วจนเสโส, ภุมฺมตฺเถ วา อุปโยโค. จตูสุ ภูมีสูติ ปาติโมกฺขาทีสุ สํวรภูมีสุ. อทฺเวชฺฌมานโสติ กทาจิ ขมนํ กทาจิ อกฺขมนํ, กสฺสจิ ขมนํ กสฺสจิ อกฺขมนนฺติ เอวํ ทฺเวธาภาวํ อนาปนฺนมานโส หุตฺวา. สจฺจสฺส วีถิ นาม ทิฏฺาทิ จ อทิฏฺาทิ จ ยถาภูตํว วตฺถุ. อธิฏฺานนฺติ กุสลสมาทานาธิฏฺานํ, สมาทินฺเนสุ กุสเลสุ อจลตา อธิฏฺานํ นาม. ปถวิยา อุเปกฺขนํ นาม วิการานาปตฺติ. อฺตฺราติ อฺํ. สภาวรสลกฺขเณติ เอตฺถ ภาโวติ อวิปรีตตา วิชฺชมานตา, สห ภาเวน สภาโว, อวิปรีโต อตฺตโน โพธิปริปาจนกิจฺจสงฺขาโต รโส, อนวชฺชวตฺถุปริจฺจาคาทิสงฺขาตํ ลกฺขณฺจ สภาวรสลกฺขณํ, ตโต สมฺมสโต. ธมฺมเตเชนาติ าณเตเชน. จลตาติ จลตาย กมฺปนตาย. เสสีติ สยิ. มา ภาถาติ มา ภายิตฺถ. สพฺพีติโยติ สพฺพา อีติโย อุปทฺทวา ตํ วิวชฺชนฺตุ.

สุเมธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปวจฺฉตีติ เทติ. โยเคนาติ อุปาเยน. สมึสูติ สนฺนิปตึสุ. อปฺปตฺตมานสาติ อปฺปตฺตอรหตฺตา ภิกฺขู ครหิตา ภวนฺติ. ริตฺตาติ สุฺา อนฺตรหิตา. สาลกลฺยาณี นาม เอโก รุกฺโข. พุทฺธจกฺกวตฺติกาเลเยว กิร เอกาเหเนว อุปฺปชฺชติ.

ลิงฺคสมฺปตฺตีติ ปุริสลิงฺคตา. เหตูติ ติเหตุกปฏิสนฺธิตา. คุณสมฺปตฺตีติ อภิฺาสมาปตฺติลาภิตา. อธิกาโรติ พุทฺธานํ สกฺการกรณํ. ฉนฺทตาติ พุทฺธตฺตปฺปตฺติยํ ฉนฺทสมาโยโค. สพฺพงฺคสมฺปนฺนาติ อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตฺวา กตปณิธานา. ปกฺขิกาติ ปีสปฺปิกา. ปณฺฑกาติ อุภยลิงฺครหิตา. โพธิสตฺตา จ พฺรหฺมโลกูปปตฺติปมกปฺปิเกสุ กาเลสุ อุภยลิงฺครหิตา โหนฺติ, น ปน ปณฺฑกปริยาปนฺนาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริยาปนฺนา น ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ยถาวุตฺเตสุ วา โทเสสุ สพฺเพสุ ปริยาปนฺนา น ภวนฺติ, โพธิสตฺเตสุ วา ปริยาปนฺนา ตทนฺโตคธา, ปริจฺฉินฺนสํสารตฺตา วา ปริยาปนฺนา โพธิสตฺตา อุภโตพฺยฺชนปณฺฑกา น ภวนฺตีติ อตฺโถ. สพฺพตฺถ สุทฺธโคจรา ยสฺมา, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺึ น เสวนฺติ. มิจฺฉาทิฏฺินฺติ นตฺถิกาเหตุกากิริยทิฏฺึ. ภวาภเวติ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ ภเว. โภชปุตฺเตติ ลุทฺทเก. ลคนนฺติ สงฺโค. อฺถาติ ลีนตา. คามณฺฑลาติ คามทารกา. รูปนฺติ วิปฺปการํ. อยํ ตาว นิทานกถา ยาย อภิธมฺมสฺส พุทฺธภาสิตตาสิทฺธีติ อตฺถโยชนา กาตพฺพา.

นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑํ

ติกมาติกาปทวณฺณนา

อิทานิ ปฏิฺาตกถํ กาตุํ ‘‘อิทานิ อิติ เม…เป… กถโนกาโส สมฺปตฺโต’’ติอาทิมาห. อิโต ปฏฺายาติ กุสลธมฺมปทโต ปฏฺาย.

. สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโมติ ตีสุปิ ปเทสุ เวทนาสทฺทสฺส วิชฺชมานตฺตา เตน ลทฺธนาโม สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโม โหติ. นนุ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมาติ จตฺตาริ ปทานิ, เอวํ เสเสสุปีติ ทฺวาทเสตานิ ปทานิ, น ตีณีติ เวทนาสทฺทสฺส ปทตฺตยาวยวตฺตํ สนฺธาย ‘‘สพฺพปเทหี’’ติ วุจฺเจยฺย, น ยุตฺตํ. ‘‘เวทนายา’’ติ หิ วิสุํ ปทํ น กสฺสจิ ปทสฺส อวยโว โหติ, นาปิ สุขาทิปทภาวํ ภชตีติ เตน ลทฺธนาโม กถํ สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโม สิยาติ? อธิปฺเปตปฺปการตฺถคมกสฺส ปทสมุทายสฺส ปทตฺตา. ปชฺชติ อวพุชฺฌียติ เอเตนาติ หิ ปทํ, ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติ เอเตน จ ปทสมุทาเยน ยถาธิปฺเปโต อตฺโถ สมตฺโต วิฺายติ, ตสฺมา โส ปทสมุทาโย ‘‘ปท’’นฺติ วุจฺจติ. เอวํ อิตเรปิ เวทิตพฺพา. ตสฺมา เตสํ ติณฺณํ สมุทายานํ อวยเวน ลทฺธนาโม สพฺพปเทหิ ลทฺธนาโมติ ยุตฺโต.

คนฺถโต จ อตฺถโต จาติ เอตฺถ เหตุปทสเหตุกปทาทีหิ สมฺพนฺธตฺตา คนฺถโต จ เหตุอตฺถสเหตุกตฺถาทีหิ สมฺพนฺธตฺตา อตฺถโต จ อฺมฺสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. สเหตุกเหตุสมฺปยุตฺตทุกา หิ เหตุทุเก เหตูหิ สมฺพนฺธตฺตา เหตุทุกสมฺพนฺธา, เหตุสเหตุกทุโก เหตุทุกสเหตุกทุกสมฺพนฺโธ อุภเยกปทวเสน. ตถา เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก เหตุทุกเหตุสมฺปยุตฺตทุกสมฺพนฺโธ, นเหตุสเหตุกทุโก เอกทฺวิปทวเสน เหตุทุกสเหตุกทุกสมฺพนฺโธติ. กณฺณิกา วิยาติ ปุปฺผมยกณฺณิกา วิย. ฆฏา วิยาติ ปุปฺผหตฺถกาทีสุ ปุปฺผาทีนํ สมูโห วิย. กณฺณิกาฆฏาทีสุ หิ ปุปฺผาทีนิ วณฺฏาทีหิ อฺมฺสมฺพนฺธานิ โหนฺตีติ ตถาสมฺพนฺธตา เอเตสํ ทุกานํ วุตฺตา. ทุกสามฺโตติ อฺเหิ เหตุทุกาทีหิ ทุกวเสน สมานภาวา. อฺเหีติ สารมฺมณทุกาทีหิ. อสงฺคหิโต ปเทโส เยสํ อตฺถิ, เต สปฺปเทสา. เยสํ ปน นตฺถิ, เต นิปฺปเทสา.

‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสล’’นฺติ เอวํ ปุจฺฉิตเมวตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ปุจฺฉิตุํ ‘‘กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา กุสลสทฺโท อนามยตฺโถ โหติ. พาหิติกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๖๑) ภควโต กายสมาจาราทโย วณฺเณนฺเตน ธมฺมภณฺฑาคาริเกน ‘‘โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ กุสโล กายสมาจาโร วุตฺโต. น หิ ภควโต สุขวิปากํ กมฺมํ อตฺถีติ สพฺพสาวชฺชรหิตา กายสมาจาราทโย กุสลาติ วุตฺตา. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ จ โพธิปกฺขิยธมฺมา ‘‘กุสลา’’ติ วุตฺตา. เต จ วิปสฺสนามคฺคผลสมฺปยุตฺตา น เอกนฺเตน สุขวิปากาเยวาติ อนวชฺชตฺโถ กุสลสทฺโท. องฺคปจฺจงฺคานนฺติ กุสลสทฺทโยเคน ภุมฺมตฺเถ สามิวจนํ, องฺคปจฺจงฺคานํ วา นามกิริยาปโยชนาทีสูติ อตฺโถ. นจฺจคีตสฺสาติ จ สามิวจนํ ภุมฺมตฺเถ, นจฺจคีตสฺส วิเสเสสูติ วา โยเชตพฺพํ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ ปุฺวิปากนิพฺพตฺตกกมฺมํ ‘‘กุสล’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมา โหนฺตีติ สุฺธมฺมตฺตา สภาวมตฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ สุฺตตฺโถ ธมฺมสทฺโท ทฏฺพฺโพ.

สลยนฺติ…เป… วิทฺธํเสนฺตีติ เอตฺถ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺถวจนํ. อถ วา สลนสฺส อตฺถทีปนานิ จลนาทีนิ ตีณิ ตทงฺคปฺปหานาทีหิ โยเชตพฺพานิ. อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน สยมานา อกุสลา ธมฺมา ราคาทิอสุจิสมฺปโยคโต นานาวิธทุกฺขเหตุโต จ กุจฺฉิเตน อากาเรน สยนฺติ. าณวิปฺปยุตฺตานมฺปิ าณํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา กุเสน าเณน ปวตฺเตตพฺพาติ กุสลา. อุปฺปนฺนํสานุปฺปนฺนํสภาเคสุ สงฺคหิตตฺตา อุภยภาคคตํ สํกิเลสปกฺขํ ปหานานุปฺปาทเนหิ ลุนนฺติ สมฺมปฺปธานทฺวยํ วิย.

สตฺตาทิคาหกานํ จิตฺตานํ โคจรา สตฺตาทโย วิย ปฺาย อุปปริกฺขิยมานา น นิสฺสภาวา, กินฺตุ อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. น จ ธาริยมานสภาวา อฺโ ธมฺโม นาม อตฺถิ. น หิ รุปฺปนาทีหิ อฺเ รูปาทโย, กกฺขฬาทีหิ จ อฺเ ปถวีอาทโย ธมฺมา วิชฺชนฺตีติ. อฺถา ปน อวโพเธตุํ น สกฺกาติ นามวเสน วิฺาตาวิฺาเต สภาวธมฺเม อฺเ วิย กตฺวา ‘‘อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สปฺปจฺจยธมฺเมสุ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธารียนฺติ วา ปจฺจเยหี’’ติ อาห. ธารียนฺตีติ อุปธารียนฺติ, ลกฺขียนฺตีติ อตฺโถ.

อกุสลาติ กุสลปฏิเสธนมตฺตํ กุสลาภาวมตฺตวจนํ ตทฺมตฺตวจนํ วา เอตํ น โหติ, กินฺตุ ตปฺปฏิปกฺขวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิตฺตปฏิปกฺขา อมิตฺตา วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตปฺปฏิปกฺขวจนตา จ อพฺยากตตติยราสิวจเนน วิฺายติ. ยทิ หิ กุสลาภาวมตฺตวจนํ อกุสลสทฺโท, เตน น โกจิ ธมฺโม วุตฺโตติ อพฺยากตวจเนเนว จ ตติโย ราสิ วุตฺโต น สิยา, กุสลา เจว ธมฺมา อพฺยากตา จาติ ทุโกวายํ อาปชฺชติ, น ติโก, เอวฺจ สติ อกุสลวจเนน น โกจิ อตฺโถ. อถ สิยา, ‘‘อนพฺยากตา’’ติ จ วตฺตพฺพํ สิยา กุสลานํ วิย อพฺยากตานฺจ อภาวมตฺตสมฺภวา, ตสฺมา อภาวมตฺตวจเน อพฺยากตภาวมตฺตํ วิย กุสลาภาวมตฺตํ อกุสลํ น โกจิ ราสีติ ‘‘อพฺยากตา’’ติ ตติโย ราสิ น สิยา. ตติยราสิภาเวน จ อพฺยากตา วุตฺตาติ อกุสโล จ เอโก ราสีติ วิฺายติ. ตสฺมา นาภาววจนตา, สภาวธารณาทิอตฺเถน ธมฺมสทฺเทน สมานาธิกรณภาวโต จ อกุสลสทฺทสฺส กุสลาภาวมตฺตวจนตา น โหติ, นาปิ ตทฺมตฺตวจนตา ตติยราสิวจนโต เอว. ยทิ หิ กุสเลหิ อฺเ อกุสลา เจตสิเกหิ อฺเ อเจตสิกา วิย, กุสลากุสลวจเนหิ สพฺเพสํ ธมฺมานํ สงฺคหิตตฺตา อสงฺคหิตสฺส ตติยราสิสฺส อภาวา เจตสิกทุโก วิย อยฺจ ทุโก วตฺตพฺโพ สิยา ‘‘กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา’’ติ, น ‘‘อพฺยากตา’’ติ ตติโย ราสิ วตฺตพฺโพ, วุตฺโต จ โส, ตสฺมา น ตทฺมตฺตวจนํ อกุสลสทฺโท, ปาริเสเสน ตปฺปฏิปกฺเขสุ อ-การสฺส ปโยคทสฺสนโต โลเก ‘‘อมิตฺตา’’ติ สาสเน ‘‘อโลโภ’’ติ อิธาปิ ตปฺปฏิปกฺขวจนตา อกุสลสทฺทสฺส สิทฺธา, ตตฺถ นิรุฬฺหตฺตา จ น อิตรวจนตา, ตปฺปฏิปกฺขภาโว จ วิรุทฺธสภาวตฺตา ตปฺปเหยฺยภาวโต จ เวทิตพฺโพ, น กุสลวินาสนโต. น หิ กุสลา อกุสเลหิ ปหาตพฺพา, มหาพลวตาย ปน กุสลาเยว ปโยคนิปฺผาทิตา สทานุสยิเต อกุสเล ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน ปชหนฺตีติ.

พฺยากตาติ อกถิตา. กถํ ปเนเต อกถิตา โหนฺติ, นนุ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’’ติอาทีหิ ติกทุกปเทหิ จกฺขุวิฺาณาทิวจเนหิ ผสฺสาทิวจเนหิ จ กถิตาติ? โน น กถิตา, ตานิ ปน วจนานิ อิธ อนธิปฺเปตานิ อวุตฺตตฺตา อนนุวตฺตนโต. น หิ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘อพฺยากตา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา น ตานิ อิธ อนุวตฺตนฺตีติ ตพฺพจนียภาเวน อกถิตตา น โหติ, กุสลากุสลวจนานิ ปน อิธ วุตฺตตฺตา อนุวตฺตนฺตีติ ตพฺพจนียภาเวน อกถิตตา ายตีติ ‘‘กุสลากุสลภาเวน อกถิตาติ อตฺโถ’’ติ อาห. น พฺยากตาติ วา อวิปากา, อพฺยากตวจเนเนว จ อวิปากตฺถา ายนฺติ. น หิ ภควโต วจนํ าปกสาธนียํ, อาสยานุสยจริยาทิกุสเลน ภควตา เยสํ อวโพธนตฺถํ ธมฺมา วุตฺตา เตสํ วจนานนฺตรํ ตทตฺถปฏิเวธโต, ปจฺฉิเมหิ ปน ยถา เตสํ อวโพธนตฺถํ ภควตา ตํ ตํ วจนํ วุตฺตํ, ยถา จ เตหิ ตทตฺโถ ปฏิวิทฺโธ, ตํ สพฺพํ อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา สุตฺวา เวทิตพฺพํ โหติ, ตสฺมา การณํ อวตฺวา ‘‘กุสลากุสลภาเวน อกถิตาติ อตฺโถ’’ติ อาห. โย จ วเทยฺย ‘‘อกุสลวิปากภาเวน อกถิตตฺตา, กุสลา อพฺยากตาติ อาปชฺชนฺติ, กุสลวิปากภาเวน อกถิตตฺตา อกุสลาปี’’ติ, โสปิ ‘‘อฺาปกสาธนียวจโน ภควา’’ติ นิวาเรตพฺโพ อนุวตฺตมานวจนวจนียภาเวน อกถิตสฺส จ อพฺยากตภาวโต. น หิ อวิปากวจนํ วุตฺตํ กุสลวจนฺจ อวุตฺตํ, ยโต อวิปากวจนสฺส อธิกตภาโว กุสลสฺส จ ตพฺพจนียภาเวน อกถิตภาโว สิยา, ตสฺมา น กุสลานํ อพฺยากตตา, เอวํ อกุสลานฺจ อนพฺยากตภาเว โยชนา กาตพฺพา.

อถ วา วิ-สทฺโท วิโรธวจโน, อา-สทฺโท อภิมุขภาวปฺปกาสโน, ตสฺมา อตฺตโน ปจฺจเยหิ อฺมฺวิโรธาภิมุขา กตา, ลกฺขณวิโรธโต วินาสกวินาสิตพฺพโต จาติ พฺยากตา, กุสลากุสลา. น พฺยากตาติ อพฺยากตา. เต หิ ลกฺขณโต กุสลากุสลา วิย วิรุทฺธา น โหนฺติ. น หิ อวิปากตา ทุกฺขวิปากตา วิย สุขวิปากตาย สุขวิปากตา วิย จ ทุกฺขวิปากตาย สุขทุกฺขวิปากตาหิ วิรุชฺฌตีติ นาปิ เต กิฺจิ ปชหนฺติ, น จ เต เกนจิ ปหาตพฺพาติ อยเมตฺถ อตฺตโนมติ.

อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณาติ เอตฺถ นตฺถิ เอเตสํ อวชฺชนฺติ อนวชฺชา, ครหิตพฺพภาวรหิตา นิทฺโทสาติ อตฺโถ. เตน เนสํ อครหิตพฺพภาวํ ทสฺเสติ, น คารยฺหวิรหมตฺตํ. อฺเปิ อตฺถิ นิทฺโทสา อพฺยากตาติ อนวชฺชวจนมตฺเตน เตสมฺปิ กุสลตาปตฺติโทสํ ทิสฺวา ตํ ปริหริตุํ สุขวิปากวจนํ อาห. อวชฺชปฏิปกฺขา วา อิธ อนวชฺชาติ วุตฺตา, น พาหิติกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๖๑) วิย ปฏิปฺปสฺสทฺธาวชฺชา วิรหิตาวชฺชมตฺตา วา, ตสฺมา อนวชฺชวจเนน อวชฺชวินาสนภาโว ทสฺสิโต. อพฺยากเตหิ ปน วิสิฏฺํ กุสลากุสลานํ สาธารณํ สวิปากตาลกฺขณนฺติ ตสฺมึ ลกฺขเณ วิเสสทสฺสนตฺตํ สุขวิปากวจนํ อโวจ. สิทฺโธ หิ ปุริเมเนว อกุสลาพฺยากเตหิ กุสลานํ วิเสโสติ. สุโข วิปาโก เอเตสนฺติ สุขวิปากา. เตน กุสลากุสลานํ สามฺเ วิปากธมฺมภาเว สุขวิปากวิปจฺจนสภาวํ ทสฺเสติ, น เตสํ สุขวิปากสพฺภาวเมว. อนวชฺชา จ เต สุขวิปากา จาติ อนวชฺชสุขวิปากา. กุสลา ลกฺขียนฺติ เอเตนาติ ลกฺขณํ, อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณํ เอเตสนฺติ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา. นนุ เต เอว กุสลา อนวชฺชสุขวิปากา, กถํ เต สยเมว อตฺตโน ลกฺขณํ โหนฺตีติ? วิฺาตาวิฺาตสทฺทตฺถภาเวน ลกฺขณลกฺขิตพฺพภาวยุตฺติโต. กุสลสทฺทตฺถวเสน หิ อวิฺาตา กุสลา ลกฺขิตพฺพา โหนฺติ, อนวชฺชสุขวิปากสทฺทตฺถภาเวน วิฺาตา ลกฺขณนฺติ ยุตฺตเมตํ. อถ วา ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, สภาโว. อนวชฺชสุขวิปากา จ เต ลกฺขณฺจาติ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา, อนวชฺชสุขวิปากา หุตฺวา ลกฺขิยมานา สภาวา กุสลา นามาติ อตฺโถ.

อถ วา อนวชฺชวจเนน อนวชฺชตฺตํ อาห, สุขวิปากวจเนน สุขวิปากตฺตํ, ตสฺมา อนวชฺชฺจ สุขวิปาโก จ อนวชฺชสุขวิปากํ, ตํ ลกฺขณํ เอเตสํ กรณตฺเถ จ กมฺมตฺเถ จ ลกฺขณสทฺเท สภาวภูตนฺติ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา, อนวชฺชสุขวิปากสภาเวน ลกฺขิยมานา ตํสภาววนฺโต จ กุสลาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อนวชฺชวจเนน ปวตฺติสุขตํ กุสลานํ ทสฺเสติ, สุขวิปากวจเนน วิปากสุขตํ. ปุริมฺหิ อตฺตโน ปวตฺติสภาววเสน ลกฺขณตาวจนํ, ปจฺฉิมํ กาลนฺตเร วิปากุปฺปาทนสมตฺถตายาติ. ตถา ปุริเมน กุสลานํ อตฺตสุทฺธึ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน วิสุทฺธวิปากตํ. ปุริเมน จ กุสลํ อกุสลสภาวโต นิวตฺเตติ, ปจฺฉิเมน อพฺยากตสภาวโต สวิปากตฺตทีปกตฺตา ปจฺฉิมสฺส. ปุริเมน วา วชฺชปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต กิจฺจฏฺเน รเสน อกุสลวิทฺธํสนรสตํ ทีเปติ, ปจฺฉิเมน สมฺปตฺติอตฺเถน อิฏฺวิปากรสตํ. ปุริเมน จ อุปฏฺานาการฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน โวทานปจฺจุปฏฺานตํ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน ผลตฺเถน สุขวิปากปจฺจุปฏฺานตํ. ปุริเมน จ โยนิโสมนสิการํ กุสลานํ ปทฏฺานํ วิภาเวติ. ตโต หิ เต อนวชฺชา ชาตาติ. ปจฺฉิเมน กุสลานํ อฺเสํ ปทฏฺานภาวํ ทสฺเสติ. เต หิ สุขวิปากสฺส การณํ โหนฺตีติ. เอตฺถ จ สุขวิปากสทฺเท สุขสทฺโท อิฏฺปริยายวจนนฺติ ทฏฺพฺโพ. อิฏฺจตุกฺขนฺธวิปากา หิ กุสลา, น สุขเวทนาวิปากาว. สงฺขารทุกฺโขปสมสุขวิปากตาย จ สมฺภโว เอว นตฺถิ. น หิ ตํวิปาโกติ. ยทิ ปน วิปากสทฺโท ผลปริยายวจนํ, นิสฺสนฺทวิปาเกน อิฏฺรูเปนาปิ สุขวิปากตา โยเชตพฺพา.

สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณาติ เอตฺถ จ วุตฺตวิธิอนุสาเรน อตฺโถ จ โยชนา จ ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺพา. วิปาการหตา กุสลากุสลานํ ลกฺขณภาเวน วุตฺตา, ตพฺภาเวน อกถิตา อพฺยากตา อวิปาการหสภาวา โหนฺตีติ อาห ‘‘อวิปากลกฺขณา อพฺยากตา’’ติ. ยเถว หิ สุขทุกฺขวิปาการหา สุขทุกฺขวิปากาติ เอวํลกฺขณตา กุสลากุสลานํ วุตฺตา, เอวมิธาปิ อวิปาการหา อวิปากาติ เอวํลกฺขณตา อพฺยากตานํ วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔) เอวํปการานํ กุสลากุสลานํ กุสลากุสลภาวานาปตฺติ อพฺยากตภาวาปตฺติ วา น โหติ. น หิ เต สุขทุกฺขวิปาการหา น โหนฺติ วิปากธมฺมตฺตา, อวิปาการหา วา น โหนฺติ อวิปากธมฺมตฺตาภาวาติ.

กุสลาติ วา ธมฺมาติ วาติอาทีนีติ กุสลธมฺมปทานิ ทฺเว, อกุสลธมฺมปทานิ ทฺเว, อพฺยากตธมฺมปทานิ ทฺเวติ. เอกตฺถนานตฺถานีติ วิสุํ วิสุํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อฺมฺาเปกฺขํ เอกตฺถนานตฺถตํ โจเทติ, น ฉนฺนํ. โทสเมตฺถ วตฺตุกาโม โจทโก ปุจฺฉตีติ ตฺวา อาจริโย อาห ‘‘กิฺเจตฺถา’’ติ. เอตฺถ เอกตฺถนานตฺถตายํ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อสมตฺตา เต โจทนา, อวสิฏฺํ ตาว พฺรูหีติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอกตฺถานิ อินฺทสกฺกสทฺทานํ วิย สทฺทมตฺเต เอว เภโท, เอวํ กุสลธมฺมสทฺทานํ, น อตฺเถติ. ยถา ‘‘อินฺโท สกฺโก’’ติ วุตฺเต ‘‘อินฺโท อินฺโท’’ติ วุตฺตสทิสํ โหติ, เอวํ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ อิทํ วจนํ ‘‘กุสลา กุสลา’’ติ วุตฺตสทิสํ โหติ. เอวํ อิตเรสุปิ ‘‘อกุสลา อกุสลา’’ติ วุตฺตสทิสตา ‘‘อพฺยากตา อพฺยากตา’’ติ วุตฺตสทิสตา จ โยเชตพฺพา. อถ นานตฺถานิ, อินฺทกุเวรสทฺทานํ วิย สทฺทโต อตฺถโต จ กุสลธมฺมสทฺทานํ เภโท, ตถา อกุสลธมฺมสทฺทาทีนนฺติ ฉหิ ปเทหิ จตูหิ ปเทหิ จ ฉ จตฺตาโร จ อตฺถา ภินฺนา วุตฺตาติ กุสลตฺติกาทีนํ กุสลฉกฺกาทิภาโว, เหตุทุกาทีนฺจ เหตุจตุกฺกาทิภาโว อาปชฺชตีติ.

นนุ ติณฺณํ ธมฺมสทฺทานํ ติณฺณํ อินฺทสทฺทานํ วิย รูปาเภทา อตฺถาเภโทติ ฉกฺกภาโว น ภวิสฺสติ, ตสฺมา เอวมิทํ วตฺตพฺพํ สิยา ‘‘ติกทุกานํ จตุกฺกติกภาโว อาปชฺชตี’’ติ, น วตฺตพฺพํ, ติณฺณํ ธมฺมสทฺทานํ เอกตฺถานํ ติณฺณํ อินฺทสทฺทานํ วิย วจเน ปโยชนาภาวา วุตฺตานํ เตสํ มาสสทฺทานํ วิย อภินฺนรูปานฺจ อตฺถเภโท อุปปชฺชตีติ, เอวมปิ ยถา เอโก มาสสทฺโท อภินฺนรูโป กาลํ อปรณฺณวิเสสํ สุวณฺณมาสฺจ วทติ, เอวํ ธมฺมสทฺโทปิ เอโก ภินฺเน อตฺเถ วตฺตุมรหตีติ กาลาทีนํ มาสปทตฺถตาย วิย ตพฺพจนียภินฺนตฺถานํ ธมฺมปทตฺถตาย อเภโทติ จตุกฺกติกภาโว เอว อาปชฺชตีติ, นาปชฺชติ เอกสฺส สทฺทสฺส ชาติคุณกิริยาภินฺนานํ อนภิธานโต. น หิ มาส-สทฺโท เอโก ชาติภินฺนานํ กาลาทีนํ อนฺตเรน สรูเปกเสสํ วาจโก โหติ. อิธ จ ยทิ สรูเปกเสโส กโต สิยา, ทุติโย ตติโย จ ธมฺม-สทฺโท น วตฺตพฺโพ สิยา, วุตฺโต จ โส, ตสฺมา กุสลาทิ-สทฺทา วิย อภินฺนกุสลาทิชาตีสุ รูปสามฺเปิ มาส-สทฺทา วิย ตโย วินิวตฺตอฺชาตีสุ วตฺตมานา ตโย ทฺเว จ ธมฺม-สทฺทา อาปนฺนาติ ติกทุกานํ ฉกฺกจตุกฺกภาโว เอว อาปชฺชตีติ.

ปทานฺจ อสมฺพนฺโธติ กุสลธมฺมปทานํ อฺมฺํ ตถา อกุสลธมฺมปทานํ อพฺยากตธมฺมปทานฺจ อสมฺพนฺโธ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนฺหิ อิจฺฉิโต สมฺพนฺโธ, น สพฺเพสํ ฉนฺนํ จตุนฺนํ วา อฺมฺนฺติ. อิทํ ปน กสฺมา โจเทติ, นนุ นานตฺถตฺเต สติ อตฺถนฺตรทสฺสนตฺถํ วุจฺจมาเนสุ ธมฺม-สทฺเทสุ กุสลากุสลาพฺยากต-สทฺทานํ วิย อสมฺพนฺโธ วุตฺโต ยุตฺโต เอวาติ? สจฺจเมตํ, อสมฺพนฺธํ ปน สิทฺธํ กตฺวา ปุริมโจทนา กตา ‘‘ติกทุกานํ ฉกฺกจตุกฺกภาโว อาปชฺชตี’’ติ, อิธ ปน ตํ อสมฺพนฺธํ สาเธตุํ อิทํ โจทิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา – ยทิ ปน ฉกฺกจตุกฺกภาวํ น อิจฺฉสิ, ปทานํ สมฺพนฺเธน ภวิตพฺพํ ยถาวุตฺตนเยน, โส จ สมานวิภตฺตีนํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ สมฺพนฺโธ เอกตฺถตฺเต สติ ยุชฺเชยฺย, ตฺวํ ปน นานตฺถตํ วทสีติ ปทานฺจ เต อสมฺพนฺโธ อาปชฺชติ, เนว นาปชฺชตีติ. นิยมนตฺโถ -สทฺโท. ปุพฺพาปร…เป… นิปฺปโยชนานิ นาม โหนฺตีติ ฉกฺกจตุกฺกภาวํ อนิจฺฉนฺตสฺส, นานตฺถตํ ปน อิจฺฉนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. อวสฺสฺจ สมฺพนฺโธ อิจฺฉิตพฺโพ ปุพฺพาปรวิโรธาปตฺติโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาปิ เจสา’’ติอาทิมาห. ปุจฺฉา หิ ปทวิปลฺลาสกรเณน ธมฺมา เอว กุสลาติ กุสลธมฺม-สทฺทานํ อิธ อุทฺทิฏฺานํ เอกตฺถตํ ทีเปติ, ตว จ นานตฺถตํ วทนฺตสฺส เนว หิ ธมฺมา กุสลาติ กตฺวา ตายปิ ปุจฺฉาย วิโรโธ อาปชฺชติ, วุจฺจติ จ ตถา สา ปุจฺฉาติ น นานตฺถตา ยุชฺชติ.

อปโร นโยติ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติอาทีนํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ เอกตฺถตฺตเมว ติณฺณํ ธมฺมสทฺทานํ เอกตฺถนานตฺถตฺเตหิ โจเทติ. ติณฺณํ ธมฺมานํ เอกตฺตาติอาทิมฺหิ ยถา ตีหิ อินฺท-สทฺเทหิ วุจฺจมานานํ อินฺทตฺถานํ อินฺทภาเวน เอกตฺตา ตโต อนฺเสํ สกฺกปุรินฺททสหสฺสกฺขสทฺทตฺถานํ เอกตฺตํ, เอวํ ติณฺณํ ธมฺม-สทฺทตฺถานํ ธมฺมภาเวน เอกตฺตา ตโต อนฺเสํ กุสลากุสลาพฺยากต-สทฺทตฺถานํ เอกตฺตํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. ธมฺโม นาม ภาโวติ สภาวธารณาทินา อตฺเถน ธมฺโมติ วุตฺโต, โส จ สภาวสฺเสว โหติ, นาสภาวสฺสาติ อิมินา อธิปฺปาเยน วทติ. โหตุ ภาโว, ตโต กินฺติ? ยทิ ติณฺณํ ธมฺมสทฺทานํ นานตฺถตา, ตีสุ ธมฺเมสุ โย โกจิ เอโก ธมฺโม ภาโว, ตโต อนฺํ กุสลํ อกุสลํ อพฺยากตํ วา เอเกกเมว ภาโว. ภาวภูตา ปน ธมฺมา อฺเ ทฺเว อภาวา โหนฺตีติ เตหิ อนฺเ กุสลาทีสุ ทฺเว เย เกจิ อภาวา. โยปิ จ โส เอโก ธมฺโม ภาโวติ คหิโต, โสปิ สมานรูเปสุ ตีสุ ธมฺมสทฺเทสุ อยเมว ภาวตฺโถ โหตีติ นิยมสฺส อภาวา อฺสฺส ภาวตฺถตฺเต สติ อภาโว โหตีติ ตโต อนฺสฺสปิ อภาวตฺตํ อาปนฺนนฺติ กุสลาทีนํ สพฺเพสมฺปิ อภาวตฺตาปตฺติ โหติ. น หิ อินฺทสฺส อมนุสฺสตฺเต ตโต อนฺเสํ สกฺกาทีนํ มนุสฺสตฺตํ อตฺถีติ.

นนุ เอวมปิ เอกสฺส ภาวตฺตํ วินา อฺเสํ อภาวตฺตํ น สกฺกา วตฺตุํ, ตตฺถ จ เอเกเนว ภาเวน ภวิตพฺพนฺติ นิยมาภาวโต ติณฺณมฺปิ ภาวตฺเต สิทฺเธ เตหิ อนฺเสํ กุสลาทีนมฺปิ ภาวตฺตํ สิทฺธํ โหตีติ? น โหติ ติณฺณํ ธมฺม-สทฺทานํ นานตฺถภาวสฺส อนุฺาตตฺตา. น หิ ติณฺณํ ภาวตฺเต นานตฺถตา อตฺถิ, อนุฺาตา จ สา ตยาติ. นนุ ติณฺณํ ธมฺมานํ อภาวตฺเตปิ นานตฺถตา น สิยาติ? มา โหตุ นานตฺถตา, ตว ปน นานตฺถตํ ปฏิชานนฺตสฺส ‘‘เอโส โทโส’’ติ วทามิ, น ปน มยา นานตฺถตา เอกตฺถตา วา อนุฺาตาติ กุโต เม วิโรโธ สิยาติ. อถ วา อภาวตฺตํ อาปนฺเนหิ ธมฺเมหิ อนฺเ กุสลาทโยปิ อภาวา เอว สิยุนฺติ อิทํ วจนํ อนิยเมน เย เกจิ ทฺเว ธมฺมา อภาวตฺตํ อาปนฺนา, เตหิ อนฺเสํ กุสลาทีสุ เยสํ เกสฺจิ ทฺวินฺนํ กุสลาทีนํ อภาวตฺตาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ เอกสฺส ภาวตฺตา. ยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘เตหิ จ อฺโ กุสลปโรปิ อภาโว สิยา’’ติ, ตํ อนิยมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น สพฺเพสํ อภาวสาธนตฺถํ. อยฺหิ ตตฺถ อตฺโถ อกุสลปรสฺส วา อพฺยากตปรสฺส วา ธมฺมสฺส ภาวตฺเต สติ เตหิ อฺโ กุสลปโรปิ อภาโว สิยาติ.

สพฺพเมตํ อการณนฺติ เอตฺถ การณํ นาม ยุตฺติ. กุสลกุสลสทฺทานํ วิย เอกนฺตเอกตฺถตํ, กุสลรูปจกฺขุม-สทฺทานํ วิย เอกนฺตนานตฺถตฺจ วิกปฺเปตฺวา ยายํ ปุนรุตฺติ ฉกฺกจตุกฺกาปตฺติ อสมฺพนฺธวิโรธาภาวาปตฺติ โทสาโรปนยุตฺติ วุตฺตา, สพฺพา สา อยุตฺติ, ตถา เอกตฺถนานตฺถตาภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. ยา ยา อนุมติ ยถานุมติ อนุมติยา อนุมติยา โวหารสิทฺธิโต. อนุมติยา อนุรูปํ วา ยถานุมติ, ยถา อนุมติ ปวตฺตา, ตถา ตทนุรูปํ โวหารสิทฺธิโตติ อตฺโถ. อนุมติ หิ วิเสสนวิเสสิตพฺพาภาวโต อจฺจนฺตมภินฺเนสุ กตฺถจิ กิริยาคุณาทิปริคฺคหวิเสเสน อวิวฏสทฺทตฺถวิวรณตฺถํ ปวตฺตา ยถา ‘‘สกฺโก อินฺโท ปุรินฺทโท’’ติ. กตฺถจิ อจฺจนฺตํ ภินฺเนสุ ยถา ‘‘ธโว ขทิโร ปลาโส จ อานียนฺตู’’ติ. กตฺถจิ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาวโต เภทาเภทวนฺเตสุ เสยฺยถาปิ ‘‘นีลุปฺปลํ ปณฺฑิตปุริโส’’ติ, ตาย ตาย อนุมติยา ตทนุรูปฺจ เต เต โวหารา สิทฺธา. ตสฺมา อิหาปิ กุสลธมฺม-สทฺทานํ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาวโต วิเสสตฺถสามฺตฺถปริคฺคเหน สมาเน อตฺเถ เภทาเภทยุตฺเต ปวตฺติ อนุมตาติ ตาย ตาย อนุมติยา ตทนุรูปฺจ สิทฺโธ เอโส โวหาโร. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สพฺพเมตํ อการณ’’นฺติ.

อตฺตโน อตฺตโน อตฺถวิเสสํ ตสฺส ทีเปนฺตีติ อตฺตนา ปริคฺคหิตํ อตฺตนา วุจฺจมานํ อนวชฺชสุขวิปากาทิกุสลาทิภาวํ ธมฺม-สทฺทสฺส ทีเปนฺติ ตทตฺถสฺส ตพฺภาวทีปนวเสนาติ อธิปฺปาโย. น หิ ธมฺม-สทฺโท กุสลาทิภาโว โหตีติ. อิมินาวาติ ‘‘ธมฺม-สทฺโท ปริยตฺติอาทีสุ ทิสฺสตี’’ติอาทินา ‘‘อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตี’’ติอาทินา จ นเยน. โส หิ สพฺพตฺถ สมาโน, น กุสล-สทฺโท อาโรคฺยาทีสุ ทิสฺสตีติ ‘‘กุจฺฉิเต สลยนฺตี’’ติอาทิโก, โส จ วิเสสนโย ‘‘อิโต ปรํ วิเสสมตฺตเมว วกฺขามา’’ติ เอเตน อปนีโตติ ทฏฺพฺโพ. น หิ กุสลาทิวิเสสํ คเหตฺวา ปวตฺตา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตาติอาทโย วิเสสาติ.

. สุขสฺส จ ปหานาติ เอตฺถ สุขินฺทฺริยํ ‘‘สุข’’นฺติ วุตฺตํ, ตฺจ สุขเวทนาว โหตีติ ‘‘สุขเวทนายํ ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา เวทนา’’ติเอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๙ อาทโย) สุข-สทฺโท วิย สุขเวทนาสทฺเทน สมานตฺถตฺตา. อยฺหิ สุขินฺทฺริยตฺโถ สุข-สทฺโท กายสุขนํ กายานุคฺคหํ สาตวิเสสํ คเหตฺวา ปวตฺโต, น ปน สุขา เวทนา ‘‘ยํ กิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา (ม. นิ. ๑.๔๐๙), โย สุขํ ทุกฺขโต’’ติเอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๕๓) สุข-สทฺโท วิย สาตสามฺํ คเหตฺวา ปวตฺโตติ. ยสฺมึ สติ สุขเหตูนํ ปวตฺติ, ตํ สุขมูลํ. พุทฺธุปฺปาเท จ กามสมติกฺกมาทิเก วิราเค จ สติ สุขเหตูนํ ปุฺปสฺสทฺธิอาทีนํ ปวตฺติ โหตีติ ตํ ‘‘สุขมูลํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. สุขสฺส จ อารมฺมณตฺตา ‘‘รูปํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. ปุฺานีติ ยทิทํ วจนํ, ตํ สุขสฺส จ อธิวจนํ อิฏฺวิปากสฺส อธิวจนํ ตทตฺถสฺส อิฏฺวิปากวิปจฺจนโตติ อตฺโถ. สุขปจฺจยานํ รูปาทีนํ อิฏฺานํ านํ โอกาโส สคฺคา นนฺทนฺจาติ ‘‘สุขา สคฺคา สุขํ นนฺทน’’นฺติ วุตฺตํ. ทิฏฺธมฺเมติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว. สุขวิหาราติ ปมชฺฌานวิหาราที. นีวรณาทิพฺยาพาธรหิตตฺตา ‘‘อพฺยาพชฺฌา’’ติ วุตฺตา. สพฺพสงฺขารทุกฺขนิพฺพาปนโต ตํนิโรธตฺตา วา ‘‘นิพฺพานํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, สุขมิจฺเจว ภาสิต’’นฺติ อทุกฺขมสุเข. ‘‘ทฺเวปิ มยา, อานนฺท, เวทนา วุตฺตา ปริยาเยน สุขา เวทนา ทุกฺขา เวทนา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๖๗) สุโขเปกฺขาสุ จ อิฏฺาสูติ เอวมาทีสุ ปวตฺติ สงฺคหิตา.

ทุกฺขวตฺถูติ ทุกฺขสฺส โอกาโส. อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานมฺปิ หิ ตํ ทุกฺขํ ชาติอาทีสุ วิชฺชมาเนสุ ตพฺพตฺถุกํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ทุกฺขปจฺจเยติ ทุกฺขเหตุมฺหิ, ทุกฺขสฺส ชนเกติ อตฺโถ. ทุกฺขปจฺจยฏฺาเนติ ทุกฺขชนกกมฺมสฺส สหายภูตานํ อนิฏฺรูปาทิปจฺจยานํ าเน. ปจฺจยสทฺโท หิ ชนเก ชนกสหาเย จ ปวตฺตตีติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕-๔๖, ๗๖) สงฺขารทุกฺขาทีสุ ปวตฺติ ทฏฺพฺพา. สมฺปยุตฺเต วตฺถุฺจ กรชกายํ สุขยติ ลทฺธสฺสาเท อนุคฺคหิเต กโรตีติ สุขา. สุขาติ เวทนาสทฺทมเปกฺขิตฺวา สุขภาวมตฺตสฺส อปฺปกาสเนน นปุํสกลิงฺคตา น กตา. สภาวโต สงฺกปฺปโต จ ยํ อิฏฺํ, ตทนุภวนํ อิฏฺาการานุภวนํ วา อิฏฺานุภวนํ.

สมนฺติ อวิสมํ. สมา เอกีภาวูปคตา วิย ยุตฺตา, สมํ วา สห ยุตฺตาติ โยเชตพฺพํ. เอกุปฺปาทาติ เอโก สมาโน อุปฺปาโท เอเตสนฺติ เอกุปฺปาทา, สมานปจฺจเยหิ สหุปฺปตฺติกาติ อตฺโถ. สหุปฺปตฺติกานํ รูปารูปานฺจ อฺมฺสมฺปยุตฺตตา อาปชฺเชยฺยาติ ‘‘เอกนิโรธา’’ติ วุตฺตํ, เย สมานุปฺปาทา สมานนิโรธา จ, เต สมฺปยุตฺตาติ รูปารูปานํ อฺมฺสมฺปโยโค นิวาริโต โหติ. เอวมปิ อวินิพฺโภครูปานํ อฺมฺสมฺปยุตฺตตา อาปชฺเชยฺยาติ ‘‘เอกวตฺถุกา’’ติ วุตฺตํ, เย เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา จ, เต สมฺปยุตฺตาติ. เอวมปิ อวินิพฺโภครูเปสุ เอกํ มหาภูตํ เสสมหาภูโตปาทารูปานํ นิสฺสยปจฺจโย โหตีติ เตน ตานิ เอกวตฺถุกานีติ, จกฺขาทินิสฺสยภูตานิ วา ภูตานิ เอกํ วตฺถุ เอเตสุ สนฺนิสฺสิตนฺติ เอกวตฺถุกานีติ กปฺเปนฺตสฺส เตสํ สมฺปยุตฺตตาปตฺติ สิยาติ ตนฺนิวารณตฺถํ ‘‘เอการมฺมณา’’ติ วุตฺตํ, เย เอกุปฺปาทา…เป… เอการมฺมณา จ โหนฺติ, เต สมฺปยุตฺตาติ. ปฏิโลมโต วา เอการมฺมณาติ วุตฺเต เอกวีถิยฺจ ปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนานํ นานาวีถิยํ ปรสนฺตาเน จ เอกสฺมึ อารมฺมเณ อุปฺปชฺชมานานํ ภินฺนวตฺถุกานํ สมฺปยุตฺตตา อาปชฺเชยฺยาติ ‘‘เอกวตฺถุกา’’ติ วุตฺตํ, เย เอกวตฺถุกา หุตฺวา เอการมฺมณา, เต สมฺปยุตฺตาติ. เอวมปิ สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณาทีนํ สมฺปยุตฺตตา อาปชฺเชยฺยาติ ‘‘เอกนิโรธา’’ติ วุตฺตํ, เย เอกนิโรธา หุตฺวา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา, เต สมฺปยุตฺตาติ. กึ ปน นานุปฺปาทาปิ เอวํ ติวิธลกฺขณา โหนฺติ, อถ เอกุปฺปาทา เอวาติ วิจารณาย เอกุปฺปาทา เอว เอวํ ติวิธลกฺขณา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เอกุปฺปาทา’’ติ วุตฺตํ.

. วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานนฺติ ยถา สาลิพีชาทีนํ ผลานิ ตํสทิสานิ นิพฺพตฺตานิ วิปกฺกานิ นาม โหนฺติ, วิปากนิรุตฺติฺจ ลภนฺติ, น มูลงฺกุรปตฺตขนฺธนาฬานิ, เอวํ กุสลากุสลานํ ผลานิ อรูปธมฺมภาเวน สารมฺมณภาเวน สุกฺกกณฺหาทิภาเวน จ ตํสทิสานิ วิปกฺกภาวมาปนฺนานีติ วิปากนิรุตฺตึ ลภนฺติ, น รูปธมฺมา กมฺมนิพฺพตฺตาปิ กมฺมาสทิสาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ชาติชราสภาวาติ ชายนชีรณสภาวา. วิปากปกติกาติ วิปจฺจนปกติกา. วิปจฺจนสภาวตา จ อนุปจฺฉินฺนาวิชฺชาตณฺหามานสนฺตาเน สพฺยาปารตา, เตน อภิฺาทิกุสลานํ ภาวนายปหาตพฺพาทิอกุสลานฺจ วิปากานุปฺปาทเนปิ วิปากธมฺมตา สิทฺธา โหติ. วิปกฺกภาวนฺติ เจตฺถ ภาว-สทฺเทน สภาโว เอว วุตฺโต. ตํ ยถาวุตฺตํ วิปกฺกสภาวํ ทุติยสฺส วุตฺตํ วิปจฺจนสภาวฺจ คเหตฺวา ‘‘อุภยสภาวปฏิกฺเขปวเสนา’’ติ อาห.

. อุเปเตน อาทินฺนา อุปาทินฺนา. กึ ปน ตํ อุเปตํ, เกน จ อุเปตํ, กถฺจ อุเปตํ, เก จ เตน อาทินฺนาติ? สติ จ โลกุตฺตรานํ เกสฺจิ อารมฺมณภาเว ตนฺนิวตฺตนตฺถํ อุเปตสทฺทสมฺพนฺธินา อุปย-สทฺเทน วุจฺจมานาหิ จตุพฺพิธุปาทานภูตาหิ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปตํ, เตหิ จ อารมฺมณกรณวเสน อุเปตํ, น สมนฺนาคมวเสน. สติ จ สพฺพเตภูมกธมฺมานํ อุปาทานารมฺมณตฺเต เยหิ วิปากกฏตฺตารูปานิ อมฺเหหิ นิพฺพตฺตตฺตา อมฺหากํ เอตานิ ผลานีติ คณฺหนฺเตหิ วิย อาทินฺนานิ, ตานิ เตภูมกกมฺมานิ กมฺมภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา อุเปตนฺติ อิธ คหิตานิ. เตหิ จ นิพฺพตฺตานิ วิปากกฏตฺตารูปานิ อุปาทินฺนา ธมฺมาติ สพฺพเมตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณกรณวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยฺจ อตฺถนโย ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ, น วจนานุปุพฺเพนาติ. เอตฺถาห – ยทิ อารมฺมณกรณวเสน ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน อาทินฺนา อุปาทินฺนา, สพฺพเตภูมกธมฺมา จ ตณฺหาทีนํ อารมฺมณา โหนฺติ, น จ อุเปตสทฺโท กมฺเม เอว นิรุฬฺโห, เตน กมฺมสฺเสว คหเณ การณํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพเตภูมกธมฺมปจฺจยุปฺปนฺนานํ อวิชฺชาทิเหตูหิ นิพฺพตฺตานํ สงฺขาราทิผลานํ อุปาทินฺนตฺตํ อาปชฺชติ เตสมฺปิ เตหิผลภาเวน คหิตตฺตา. อุป-สทฺเทน จ อุเปตตามตฺตํ โชติตํ, น อารมฺมณกรณํ สมนฺนาคมนิวตฺตกํ, อาทินฺน-สทฺเทน จ คหิตตามตฺตํ วุตฺตํ, น กมฺมสมุฏฺานตาวิเสโส. ตสฺมา สพฺพปจฺจยุปฺปนฺนานํ อุปาทินฺนตฺตํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ โพธเนยฺยชฺฌาสยวเสน เทสนาปวตฺติโต. เยสฺหิ โพธนตฺถํ ‘‘อุปาทินฺนา’’ติ เอตํ วุตฺตํ, เต เตเนว วจเนน ยถาวุตฺตปฺปกาเร ธมฺเม พุชฺฌึสุ, เอตรหิ ปน ตาวตา พุชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺเตน สุตฺวา ตทตฺโถ เวทิตพฺโพติ เอสา อตฺถวิภาวนา กตา ‘‘กมฺมุนา’’ติ.

อยํ ปน อปโร อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – อุป-สทฺโท อุเปตํ ทีเปติ. อยฺหิ อุป-สทฺโท สมาเส ปยุชฺชมาโน ‘‘อติมาลา’’ติอาทีสุ อติ-สทฺโท วิย อติกฺกมนํ สสาธนํ อุปคมนํ สสาธนํ วทติ, อุปคมนฺจ อุปาทานอุปโย, เตน อุปคตํ อุเปตํ. กึ ปน ตนฺติ? ยํ อสติ อุปาทาเน น โหติ, ตํ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอวํ วุตฺตํ เตภูมกกมฺมํ ปจฺจยภาเวน ปุริมชาตุปฺปนฺเนน อุปาทาเนน อุปคตตฺตา ‘‘อุเปต’’นฺติ วุจฺจติ. น หิ โกจิ อนุปคฺคมฺม อนิจฺฉนฺโต กมฺมํ กโรตีติ. เตน อุเปเตน กมฺมุนา ปุนพฺภวสฺส อาทานํ โหติ. กมฺมุนา หิ สาสเวน สตฺตา อาทิยนฺติ ปุนพฺภวํ, ตสฺมา อาทาตพฺพภาเวน ปากโฏ ปุนพฺภโว. โส จ อุปปตฺติภโว เตภูมกวิปากกฏตฺตารูปสงฺคโห ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ เอตฺถ ชาติวจเน สมวรุทฺโธติ อุปาทินฺนวจเนน อุปปตฺติภโว วุจฺจติ, อุปปตฺติภโว จ เตภูมกวิปากกฏตฺตารูปานีติ ธาตุกถายํ ปกาสิตเมตํ. ตสฺมา อุเปเตน อาทินฺนาติ เต เอว ธมฺมา วุจฺจนฺตีติ สิทฺโธ อยมตฺโถติ. อุปาทินฺน-สทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา อุปาทานิย-สทฺทสฺส วิสุํ อุปาทินฺนสทฺทานเปกฺขํ อตฺถํ วตฺตุํ ‘‘อารมฺมณภาวํ อุปคนฺตฺวา’’ติอาทิมาห. ตสฺมา เอว อวิเสเสตฺวา ‘‘อุปาทานสฺส อารมฺมณปจฺจยภูตานเมตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน อุปาทานิยํ อุปาทินฺนํ อนุปาทินฺนนฺติ ทุวิธํ. ตสฺมา ตํ วิเสสเนน ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปาทินฺนา จ เต อุปาทานิยา จา’’ติอาทิมาห.

. สํกิเลโสติ ทส กิเลสวตฺถูนิ วุจฺจนฺติ. สํกิลิฏฺาติ เตหิ วิพาธิตา อุปตาปิตา จ. เต ปน ยสฺมา สํกิเลสสมฺปยุตฺตา เอกุปฺปาทาทีหิ นินฺนานตฺตา เอกีภาวมิว คตา วิสาทีหิ วิย สปฺปิอาทโย วิทูสิตา มลีนา วิพาธิตา อุปตาปิตา จ นาม โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘สํกิเลเสน สมนฺนาคตา สํกิลิฏฺา’’ติ. สํกิเลสํ อรหนฺตีติ สํกิเลสสฺส อารมฺมณภาเวน ตํ ลทฺธุํ อรหนฺตีติ อตฺโถ. อารมฺมณภาวานติกฺกมนโตติ เอเตน สํกิเลสานติกฺกมนเมว ทสฺเสติ, วตฺถยุคิกสุงฺกสาลิกสทฺทานํ วิย สํกิเลสิก-สทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

. สห วิตกฺเกน โหนฺตีติ วจนเสโส โยเชตพฺโพ อวุจฺจมานสฺสปิ ภวติ-อตฺถสฺส วิฺายมานตฺตา. มตฺตาติ ปมาณวาจกํ เอกํ ปทนฺติ คเหตฺวา ‘‘วิจาโรว มตฺตา เอเตส’’นฺติ อตฺโถ วุตฺโต. อฺตฺถ อวิปฺปโยคีสุ วิตกฺกวิจาเรสุ วิจาโรว เอเตสํ มตฺตา, ตโต อุทฺธํ วิตกฺเกน สมฺปโยคํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อยมปโร อตฺโถ – มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. สวิตกฺกสวิจารา ธมฺมา หิ วิตกฺกวิสิฏฺเน วิจาเรน สวิจารา, เอเต ปน วิจารมตฺเตน วิตกฺกสงฺขาตวิเสสรหิเตน, ตสฺมา ‘‘วิจารมตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ, วิจารมตฺตวนฺโตติ อตฺโถ. วิจารมตฺตวจเนน อวิตกฺกตฺเต สิทฺเธ อวิตกฺกานํ อฺเสมฺปิ อตฺถิภาวโชตนตฺถํ อวิตกฺกวจนํ. อวิตกฺกา หิ วิจารมตฺตา จ สนฺติ อวิจารา จาติ นิวตฺเตตพฺพา คเหตพฺพา จ โหนฺติ, เตสุ อวุจฺจมาเนสุ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสฺส อทสฺสิตตฺตา วิจารมตฺตาวอวิตกฺกาติ อาปชฺเชยฺยาติ. วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว ปน ยถากามํ โหตีติ สามฺเน อวิตกฺกภาเวน สห วิจารมตฺตตาย ธมฺมวิเสสนภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติ ปทานุกฺกโม กโต.

อถ วา สวิจารา ทุวิธา สวิตกฺกา อวิตกฺกา จ, เตสุ อวิตกฺเก นิวตฺเตตุํ อาทิปทํ วุตฺตํ. อวิจารา จ ทุวิธา สวิตกฺกา อวิตกฺกา จ, เตสุ สวิตกฺเก นิวตฺเตตุํ ตติยปทํ วุตฺตํ. เย ปน ทฺวีหิปิ นิวตฺติตา อวิตกฺกา สวิตกฺกา จ สวิจารา อวิจารา จ, เตสุ อฺตรทสฺสนํ วา กตฺตพฺพํ สิยา อุภยทสฺสนํ วา. อุภยทสฺสเน กริยมาเน ยทิ ‘‘สวิตกฺกสวิจารา’’ติ วุจฺเจยฺย, อาทิปทตฺถตาว อาปชฺชติ. อถ ‘‘อวิตกฺกอวิจารา’’ติ วุจฺเจยฺย, อนฺตปทตฺถตา. อถ ปน ‘‘อวิตกฺกสวิจารา สวิตกฺกอวิจารา’’ติ วุจฺเจยฺย, อชฺฌตฺตพหิทฺธานํ วิย อตฺถนฺตราภาโว วา สงฺกรโทโส วา เอกสฺเสว สวิตกฺกาวิตกฺกตาสวิจาราวิจารตาวิโรโธ วา อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา อฺตรทสฺสเนน อิตรมฺปิ ปกาเสตุํ อวิตกฺกวจเนน ทฺวิปฺปกาเรสุ วตฺตพฺเพสุ สวิตกฺกอวิจาเร นิวตฺเตตฺวา อวิตกฺกสวิจาเร ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติ. อถ วา วิตกฺกาภาเวน เอเต วิจารมตฺตา, น วิจารโต อฺสฺส กสฺสจิ ธมฺมสฺส อภาวาติ ทสฺเสตุํ อวิตกฺกวจเนน วิจารมตฺตา วิเสสิตา.

. อุเปกฺขตีติ เวทยมานาปิ มชฺฌตฺตเวทนา สุขากาเร ทุกฺขากาเร จ อุทาสินา โหตีติ อตฺโถ. อถ วา อุเปตา ยุตฺตา สุขทุกฺขานํ อวิรุทฺธา อิกฺขา อนุภวนํ อุเปกฺขา. วิเสสทสฺสนวเสนาติ นานตฺตทสฺสนวเสน. ยทิ หิ ปีติสหคตา เอว สุขสหคตา สิยุํ, ‘‘ปีติสหคตา’’ติ เอเตเนว สิทฺธตฺตา ‘‘สุขสหคตา’’ติ อิทํ น วตฺตพฺพํ สิยา, ‘‘สุขสหคตา’’ติ วา วุจฺจมาเน ‘‘ปีติสหคตา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตโต ติกํ ปูเรนฺเตน ทุกฺขสหคตปทํ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวฺจ สติ ‘‘เวทนาตฺติโก เอวาย’’นฺติ วุตฺตวจนํ อาปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘ปีติสหคตา’’ติ วตฺวา ‘‘สุขสหคตา’’ติ วทนฺโต ปีติวิปฺปยุตฺตมฺปิ สุขํ อตฺถีติ ตติยชฺฌานกายวิฺาณสมฺปยุตฺตํ สุขํ สปฺปีติกสุขโต ภินฺนํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อธิปฺปาโย. อถ วา ปีติสุขานํ ทุพฺพิฺเยฺยนานตฺตานํ นานตฺตทสฺสนตฺถํ อยํ ติโก วุตฺโต. ‘‘ปีติสหคตา’’ติ เอตฺถ หิ สุเขกเทโส สงฺคหิโต, น ปีติ. ‘‘สุขสหคตา’’ติ เอตฺถ ปีติ สงฺคหิตา, น สุขํ. ปีติวิปฺปยุตฺตสุขสหคตา จ ปุริเมน อสงฺคหิตา ปจฺฉิเมน สงฺคหิตาติ สิทฺโธ ปีติสุขานํ วิเสโสติ.

. นิพฺพานํ ทสฺสนโตติ นิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธายาห. อถ วา ธมฺมจกฺขุ ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตเนน ภาวนาภาวํ อปฺปตฺตํ ทสฺสนํ นาม, ธมฺมจกฺขุ จ ปริฺาทิกิจฺจกรเณน จตุสจฺจธมฺมทสฺสนํ ตทติสโย, ตสฺมา นตฺเถตฺถ โคตฺรภุสฺส ทสฺสนภาวาปตฺตีติ. อุภยปฏิกฺเขปวเสนาติ ทฺวีหิ ปเทหิ วุตฺตธมฺมปฏิกฺเขปวเสน, น ปหายกปฏิกฺเขปวเสน. ตถา หิ สติ ทสฺสนภาวนาหิ อฺโ สมุจฺเฉทวเสน ปหายโก อตฺถิ, เตน ปหาตพฺพา เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพาติ อยมตฺโถ อาปชฺชติ, น จ อฺโ ปหายโก อตฺถิ อฺเหิ วิกฺขมฺภิตานฺจ ปุนปฺปวตฺติสพฺภาวา, นาปิ ปหาตพฺพา ตติยปเทน สงฺคยฺหนฺติ, กินฺตุ อปฺปหาตพฺพา เอวาติ. ตสฺมา ปหาตพฺพปทํ ปจฺเจกํ โยเชตฺวา เนว ทสฺสเนน ปหาตพฺพา น ภาวนาย ปหาตพฺพาติ ทสฺสเนน ภาวนาย ปหาตพฺเพหิ อฺเ คหิตาติ เวทิตพฺพา.

. เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวาติ อตฺถายุตฺติโต จ สทฺทายุตฺติโต จ อคฺคเหตพฺพตํ ทสฺเสติ. ทสฺสนภาวนาหิ อปฺปหาตพฺพเหตุมตฺเตสุ หิ คยฺหมาเนสุ อเหตุกา อสงฺคหิตาติ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส อปริปุณฺณตฺตา อตฺถายุตฺติ, ปหาตพฺพสทฺทสฺส นิจฺจสาเปกฺขตฺเต จ สติ น สมฺพนฺธีสทฺทโต ปหายกโต อฺํ ปฏิเสธํ อเปกฺขมานสฺส เหตุสทฺเทน สมาโส อุปปชฺชตีติ สทฺทายุตฺติ จ เวทิตพฺพา. เอวมตฺโถ คเหตพฺโพติ ปหาตพฺพ-สทฺทํ ปฏิเสเธน อโยเชตฺวา เยสํ อฺปทตฺเถ สมาโส, ตพฺพิเสสนํ อตฺถีติ อิทํ ปฏิเสเธน โยเชตฺวา ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ เนวตฺถีติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. เอวฺจ สติ ยถาธิปฺเปตตฺโถ สพฺโพ สงฺคหิโตติ. อตฺถายุตฺติ มา โหตุ, สทฺโท ปน อิธาปิ น ยุตฺโต. เอกนฺตโยคีนํ อตฺถิ-สทฺทเมว หิ อเปกฺขมานานํ อุภินฺนํ ปหาตพฺพเหตุ-สทฺทานํ สมาโส ยุตฺโต, น ปฏิเสธํ อเปกฺขมานานนฺติ, ตสฺมา คเหตพฺพตฺถทสฺสนมตฺตํ เอตํ กตํ, สทฺโท ปน ยถา ยุชฺชติ, ตถา โยเชตพฺโพ. เอวํ ปน ยุชฺชติ – ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ ปหาตพฺพเหตุกา. เกน ปหาตพฺโพติ? ทสฺสเนน ภาวนาย จ. ตยิทํ ปหาตพฺพเหตุกปทํ ทสฺสนภาวนาปเทหิ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา เตหิ ยุตฺเตน เย ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกา เนว โหนฺติ, ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกา จ น โหนฺตีติ ปฏิเสธฺจ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา เต เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาติ วุจฺจนฺติ. เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมวจนํ วิย หิ ปุริมปททฺวยสงฺคหิตธมฺมปฏิเสธเนน ตทฺธมฺมนิทสฺสนเมตํ โหติ, น อเหตุกปทํ วิย เหตุวิรหปฺปกาสเนนาติ. เอวฺจ กตฺวา ทฺเว ปฏิเสธา ยุตฺตา โหนฺติ.

เหตุเยว หิ เตสํ นตฺถิ, โย ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ สิยาติ ปุริมสฺมิฺหิ อตฺเถ เหตูนํ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพตา ปฏิกฺขิตฺตา, ปฏิกฺเขโป จ ปหาตพฺพาสงฺกาสพฺภาเว โหติ, ปหาตพฺพาสงฺกา จ เหตุมฺหิ สติ สิยา, เตสํ ปน อเหตุกานํ เหตุเยว นตฺถิ, โย ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ สิยา, ตทภาวา ปหาตพฺพาสงฺกา นตฺถีติ ตํนิวารณตฺโถ ปฏิกฺเขโป น สมฺภวติ, ตสฺมา ‘‘เนวทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตส’’นฺติ เอวํ อเหตุกานํ คหณํ น ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา อิตรถา หิ อเหตุกานํ อคฺคหณํ ภเวยฺยาติ อตฺถสฺส ปากฏตฺตา น การณสาธนีโย เอโสติ คเหตพฺพตฺถสฺเสว การณํ วทนฺโต ‘‘เหตุเยว หิ เตสํ นตฺถี’’ติอาทิมาห. เตสฺหิ เนวทสฺสเนน น ภาวนายปหาตพฺพเหตุกปทวจนียานํ โย ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ สิยา, โส เอวํปกาโร เหตุ นตฺถิ. เต หิ อเนกปฺปการา สเหตุกา อเหตุกา จาติ, ตสฺมา เนวทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ อยมตฺโถ คเหตพฺโพติ อตฺโถ.

๑๐. ตํ อารมฺมณํ กตฺวาติ อิทํ จตุกิจฺจสาธนวเสน อารมฺมณกรณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺถา โคตฺรภุผลปจฺจเวกฺขณาทีนมฺปิ อปจยคามิตา อาปชฺเชยฺยาติ. อถ วา เหตุภาเวน อปจยํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน. นิพฺพานสฺส หิ อนิพฺพตฺตนิยตฺเตปิ สมุทยปฺปหานสมุทยนิโรธานํ อธิคมอธิคนฺตพฺพภาวโต เหตุเหตุผลภาโว มคฺคนิพฺพานานํ ยุชฺชติ. ยถาห ‘‘ทุกฺขนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). อตฺโถติ หิ เหตุผลํ. ธมฺโมติ เหตูติ. ปุริมปจฺฉิมานํ ปุริเม สสมฺปยุตฺตา วุตฺตา, ปจฺฉิเม เกวลา. ปุริเม วิย ปน ปจฺฉิเม อตฺเถปิ อริยมคฺคสีเสน สพฺพโลกุตฺตรกุสลจิตฺตุปฺปาทา คเหตพฺพา. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘อาจยํ คามิโน’’ติ วตฺตพฺเพ อนุนาสิกโลโป กโตติ ทฏฺพฺโพ. อาจินนฺตีติ วา อาจยา, อาจยา หุตฺวา คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๑. สตฺต ปน เสกฺขา สิกฺขนสีลาติ เสกฺขา, เตสํ อิเมติ เสกฺขา, อฺาสาธารณา มคฺคผลตฺตยธมฺมา. สยเมว สิกฺขนฺตีติ สิกฺขนสีลานเมตํ นิทสฺสนํ. เย หิ ธมฺมา สิกฺขนฺติ, เต สิกฺขนสีลา โหนฺตีติ. อกฺขรตฺโถ ปน สิกฺขา เอเตสํ สีลนฺติ เสกฺขาติ. น เสกฺขาติ ยตฺถ เสกฺขภาวาสงฺกา อตฺถิ, ตตฺถายํ ปฏิเสโธติ โลกิยนิพฺพาเนสุ อเสกฺขภาวานาปตฺติ ทฏฺพฺพา. สีลสมาธิปฺาสงฺขาตา หิ สิกฺขา อตฺตโน ปฏิปกฺขกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺตา ปริสุทฺธา อุปกฺกิเลสานํ อารมฺมณภาวมฺปิ อนุปคมนโต เอตา สิกฺขาติ วตฺตุํ ยุตฺตา อฏฺสุ มคฺคผเลสุ วิชฺชนฺติ, ตสฺมา จตุมคฺคเหฏฺิมผลตฺตยธมฺมา วิย อรหตฺตผลธมฺมาปิ ตาสุ สิกฺขาสุ ชาตาติ จ, ตํสิกฺขาสมงฺคิโน อรหโต อิตเรสํ วิย เสกฺขตฺเต สติ เสกฺขสฺส เอเตติ จ, สิกฺขา สีลํ เอเตสนฺติ จ เสกฺขาติ อาสงฺกิตพฺพา สิยุนฺติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘อเสกฺขา’’ติ ยถาวุตฺตเสกฺขภาวปฏิเสโธ กโต. อรหตฺตผเล หิ ปวตฺตมานา สิกฺขา ปรินิฏฺิตสิกฺขากิจฺจตฺตา น สิกฺขากิจฺจํ กโรนฺติ, เกวลํ สิกฺขาผลภาเวเนว ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตา น สิกฺขาวจนํ อรหนฺติ, นาปิ ตํสมงฺคิโน เสกฺขวจนํ, น จ ตํสมฺปยุตฺตา สิกฺขนสีลาติ สิกฺขาสุ ชาตาติอาทิอตฺเถหิ อคฺคผลธมฺมา เสกฺขา น โหนฺติ, เหฏฺิมผเลสุ ปน สิกฺขา สกทาคามิมคฺควิปสฺสนาทีนํ อุปนิสฺสยภาวโต สิกฺขากิจฺจํ กโรนฺตีติ สิกฺขาวจนํ อรหนฺติ, ตํสมงฺคิโน จ เสกฺขวจนํ, ตํสมฺปยุตฺตา จ สิกฺขนสีลวุตฺตีติ ตตฺถ ธมฺมา ยถาวุตฺเตหิ อตฺเถหิ เสกฺขา โหนฺติ เอว.

เสกฺขาติ วา อปริโยสิตสิกฺขา ทสฺสิตา. อนนฺตรเมว ‘‘อเสกฺขา’’ติ วจนํ ปริโยสิตสิกฺขานํ ทสฺสนนฺติ น โลกิยนิพฺพานานํ อเสกฺขตาปตฺติ. วุทฺธิปฺปตฺตา วา เสกฺขาติ เอตสฺมึ อตฺเถ เสกฺขธมฺเมสุ เอว เกสฺจิ วุทฺธิปฺปตฺตานํ อเสกฺขตา อาปชฺชติ, เตน อรหตฺตมคฺคธมฺมา วุทฺธิปฺปตฺตา จ ยถาวุตฺเตหิ จ อตฺเถหิ เสกฺขาติ กตฺวา อเสกฺขา อาปนฺนาติ? น, ตํสทิเสสุ ตพฺโพหารา. อรหตฺตมคฺคโต หิ นินฺนานากรณํ อรหตฺตผลํ เปตฺวา ปริฺาทิกิจฺจกรณํ วิปากภาวฺจ, ตสฺมา เต เอว เสกฺขา ธมฺมา อรหตฺตผลภาวํ อาปนฺนาติ สกฺกา วตฺตุํ, กุสลสุขโต จ วิปากสุขํ สนฺตตรตาย ปณีตตรนฺติ วุทฺธิปฺปตฺตา จ เต ธมฺมา โหนฺตีติ อเสกฺขาติ วุจฺจนฺตีติ.

๑๒. กิเลสวิกฺขมฺภนาสมตฺถตาทีหิ ปริตฺตา. ‘‘กิเลส…เป… ตายา’’ติ อตฺถตฺตยมฺปิ กุสเลสุ ยุชฺชติ, วิปากกิริเยสุ ทีฆสนฺตานตาว. ปมาณกเรหิ วา โอฬาริเกหิ กามตณฺหาทีหิ ปริจฺฉินฺนา ปริตฺตา. เตหิ อปริจฺฉินฺนตฺตา สุขุเมหิ รูปตณฺหาทีหิ ปริจฺฉินฺนา ปมาณมหตฺตํ คตาติ มหคฺคตา. อปริจฺฉินฺนา อปฺปมาณา.

๑๔. อตปฺปกฏฺเนาติ ทิวสมฺปิ ปจฺจเวกฺขิยมานา โลกุตฺตรธมฺมา ติตฺตึ น ชเนนฺติ สมาปชฺชิยมานาปิ ผลธมฺมาติ.

๑๕. มาตุฆาตาทีสุ ปวตฺตมานาปิ หิตสุขํ อิจฺฉนฺตาว ปวตฺตนฺตีติ เต ธมฺมา หิตสุขาวหา เม ภวิสฺสนฺตีติ อาสีสิตา โหนฺติ, ตถา อสุภาสุขานิจฺจานตฺเตสุ สุภาทิวิปริยาสทฬฺหตาย อานนฺตริยกมฺมนิยตมิจฺฉาทิฏฺีสุ ปวตฺติ โหตีติ เต ธมฺมา อสุภาทีสุ สุภาทิวิปรีตปฺปวตฺติกา โหนฺติ. มิจฺฉาสภาวาติ มุสาสภาวา. อเนเกสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ ยํ ตตฺถ พลวํ, ตํ วิปจฺจติ, น อิตรานีติ เอกนฺตวิปากชนกตาย นิยตตา น สกฺกา วตฺตุนฺติ ‘‘วิปากทาเน สตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขนฺธเภทานนฺตรนฺติ จุติอนนฺตรํ. จุติ หิ มรณนิทฺเทเส (วิภ. ๑๙๓) ‘‘ขนฺธานํ เภโท’’ติ วุตฺตาติ. เอเตน วจเนน สติ ผลทาเน จุติอนนฺตโร เอว, น อฺโ เอเตสํ ผลกาโลติ ผลกาลนิยเมเนว นิยตตา วุตฺตา โหติ, น ผลทานนิยเมนาติ นิยตผลกาลานํ อฺเสมฺปิ อุปปชฺชเวทนียานํ ทิฏฺธมฺมเวทนียานมฺปิ นิยตตา อาปชฺชติ, ตสฺมา วิปากธมฺมธมฺมานํ ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ อวิปจฺจมานานมฺปิ อตฺตโน สภาเวน วิปากธมฺมตา วิย พลวตา อานนฺตริเยน วิปาเก ทินฺเน อวิปจฺจมานานมฺปิ อานนฺตริยานํ ผลทาเน นิยตสภาวา อานนฺตริยสภาวา จ ปวตฺตีติ อตฺตโน สภาเวน ผลทานนิยเมเนว นิยตตา อานนฺตริยตา จ เวทิตพฺพา. อวสฺสฺจ นิยตสภาวา อานนฺตริยสภาวา จ เตสํ ปวตฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมตํ อฺสฺส พลวโต อานนฺตริยสฺส อภาเว จุติอนนฺตรํ เอกนฺเตน ผลทานโต.

นนุ เอวํ อฺเสมฺปิ อุปปชฺชเวทนียานํ อฺสฺมึ วิปากทายเก อสติ จุติอนนฺตรเมว เอกนฺเตน ผลทานโต อานนฺตริยสภาวา นิยตสภาวา จ ปวตฺติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ อสมานชาติเกน เจโตปณิธิวเสน อุปฆาตเกน จ นิวตฺเตตพฺพวิปากตฺตา อนนฺตเรกนฺตผลทายกตฺตาภาวา, น ปน อานนฺตริยกานํ ปมชฺฌานาทีนํ ทุติยชฺฌานาทีนิ วิย อสมานชาติกํ ผลนิวตฺตกํ อตฺถิ สพฺพานนฺตริยกานํ อวีจิผลตฺตา, น จ เหฏฺุปปตฺตึ อิจฺฉโต สีลวโต เจโตปณิธิ วิย อุปรูปปตฺติชนกกมฺมผลํ อานนฺตริยกผลํ นิวตฺเตตุํ สมตฺโถ เจโตปณิธิ อตฺถิ อนิจฺฉนฺตสฺเสว อวีจิปาตนโต, น จ อานนฺตริยโกปฆาตกํ กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, ตสฺมา เตสํเยว อนนฺตเรกนฺตวิปากชนกสภาวา ปวตฺตีติ.

อเนกานิ จ อานนฺตริยกานิ กตานิ เอกนฺเต วิปาเก สนฺนิยตตฺตา อุปรตาวิปจฺจนสภาวาสงฺกตฺตา นิจฺฉิตานิ สภาวโต นิยตาเนว. จุติอนนฺตรํ ปน ผลํ อนนฺตรํ นาม ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตานิ ตนฺนิพฺพตฺตเนน อนนฺตรกรณสีลานิ อนนฺตรปฺปโยชนานิ จาติ สภาวโต อานนฺตริยกาเนว จ โหนฺติ. เตสุ ปน สมานสภาเวสุ เอเกน วิปาเก ทินฺเน อิตรานิ อตฺตนา กตฺตพฺพสฺส กิจฺจสฺส เตเนว กตตฺตา น ทุติยํ ตติยมฺปิ จ ปฏิสนฺธึ กโรนฺติ, น สมตฺถตาวิฆาตตฺตาติ นตฺถิ เตสํ นิยตานนฺตริยตานิวตฺตีติ. น หิ สมานสภาวํ สมานสภาวสฺส สมตฺถตํ วิหนตีติ. เอกสฺส ปน อฺานิปิ อุปตฺถมฺภกานิ โหนฺตีติ ทฏฺพฺพานีติ. สมฺมา สภาวาติ สจฺจสภาวา.

๑๖. ปริปุณฺณมคฺคกิจฺจตฺตา จตฺตาโร อริยมคฺคาว อิธ ‘‘มคฺคา’’ติ วุตฺตา. ปจฺจยฏฺเนาติ มคฺคปจฺจยฏฺเน. นิกฺเขปกณฺเฑปิ หิ เย มคฺคปจฺจยํ ลภนฺติ, น ปน สยํ มคฺคปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ, เต มคฺคเหตุกาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส มคฺคงฺคานิ เปตฺวา’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๐๓๙) วุตฺตํ. โย ปน ตตฺเถว ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส อโลโภ อโทโส อโมโห, อิเม ธมฺมา มคฺคเหตู’’ติ อาทินโย วุตฺโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคสมฺปยุตฺตา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส สมฺมาทิฏฺิ มคฺโค เจว เหตุ จา’’ติอาทินา ปน วุตฺตนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิ สย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปน อสงฺคหิตสงฺคณฺหนวเสน ปฏิปาฏิยา ตโย นยา วุตฺตา, เหตุพหุตาวเสน ตติโย นโย อิธ ทุติโย วุตฺโต.

อภิภวิตฺวา ปวตฺตนฏฺเนาติ สหชาตาธิปติปิ ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน เชฏฺกภาเว ปวตฺตมาโน สหชาเต อตฺตโน วเส อนุวตฺตยมาโน เต อภิภวิตฺวา ปวตฺตติ, อารมฺมณาธิปติปิ ตทารมฺมเณ ธมฺเม ตเถว อตฺตานํ อนุวตฺตยมาโน เต ธมฺเม อภิภวิตฺวา อารมฺมณภาเวน ปวตฺตติ, น ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน, ตสฺมา อธิปติทฺวยมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มคฺโค อธิปติ เอเตส’’นฺติ อยฺจ อตฺโถ นิกฺเขปกณฺเฑ อุทาหรณวเสน อาคตํ อตฺถนยํ คเหตฺวา วุตฺโต. ยสฺมา ปน ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๒.๑๖.๑๑) ‘‘มคฺคาธิปตึ ธมฺมํ ปฏิจฺจ มคฺคาธิปติ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นาธิปติปจฺจยา, มคฺคาธิปตี ขนฺเธ ปฏิจฺจ มคฺคาธิปติ อธิปตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา มคฺโค อธิปติ มคฺคาธิปตีติ อยมฺปิ อตฺโถ ปาฬิยํ สรูเปกเสสวเสน สมานสทฺทตฺถวเสน วา สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๗. อนุปฺปนฺนาติ เอเตน สพฺโพ อุปฺปนฺนภาโว ปฏิสิทฺโธ, น อุปฺปนฺนธมฺมภาโว เอวาติ เตน อุปฺปนฺนา วิคตา อตีตาปิ น สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. ยทิ หิ สงฺคหิตา สิยุํ, ‘‘อนุปฺปนฺโน ธมฺโม อุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติเอวมาทิ วุจฺเจยฺย, น ตุ วุตฺตนฺติ. อนาคตานิ วิปากกฏตฺตารูปานิ อตีเต อนาคเต วา กมฺเม ปุริมนิปฺผนฺเน เอว อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, นานิปฺผนฺเนติ ปรินิฏฺิตการเณกเทสาเนว โหนฺติ, ตสฺมา ตานิ ‘‘อวสฺสํ อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อุปฺปาทิโน ธมฺมา’’ติ วุจฺจนฺติ.

๑๘. อตฺตโน สภาวนฺติ กกฺขฬผุสนาทิสภาวํ.

๒๐. เอวํ ปวตฺตมานาติ เอวํ จกฺขาทิภาเวน ผุสนาทิภาเวน จ เอกสนฺตติปริยาปนฺนตาวเสน ปวตฺตมานา. อตฺตานํ อธิ อชฺฌตฺตาติ อธิ-สทฺโท สมาสวิสเย อธิการตฺถํ ปวตฺติอตฺถฺจ คเหตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตา อชฺฌตฺตา. เตนาติ ยสฺส ฌานา วุฏฺหิตฺวา อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา อชฺฌตฺตพหิทฺธา จ สุฺตํ อาเนฺชฺจ มนสิกโรโต อชฺฌตฺตสุฺตาทีสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ นาธิมุจฺจติ, โย จ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน, เตน ภิกฺขุนา. ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเตติ ปมชฺฌานาทิสมาธินิมิตฺเต. อชฺฌตฺตเมวาติ ฌานโคจเร กสิณาทิมฺหิ. จิตฺตํ สณฺเปตพฺพนฺติ ปมชฺฌานาทิจิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ. อชฺฌตฺตรโตติ โคจรชฺฌตฺเต นิพฺพาเน รโต, สมาธิโคจเร กมฺมฏฺาเน วา รโต. ‘‘สมาหิโต เอโก สนฺตุสิโต ตมาหุ ภิกฺขุ’’นฺติ (ธ. ป. ๓๖๒) คาถาเสโส.

อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนนฺติ เอตฺถ ฌานํ สกสนฺตติปริยาปนฺนตฺตา ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติ วุตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตตฺโถ อชฺฌตฺต-สทฺโท โหติ. อชฺฌตฺตนฺติ สกสนฺตตินิยกํ. อชฺฌตฺเต ภวา อชฺฌตฺติกาติ นิยกชฺฌตฺเตสุปิ อพฺภนฺตรา จกฺขาทโย วุจฺจนฺติ. เอตฺถ ปน อชฺฌตฺติก-สทฺโท จกฺขาทีสุ ปวตฺตมาโน ทสฺสิโต, น อชฺฌตฺตสทฺโท, อตฺถิ จ อชฺฌตฺตอชฺฌตฺติกสทฺทานํ พหิทฺธาพาหิร-สทฺทานํ วิย วิเสโส. อชฺฌตฺติกสทฺโท หิ สปรสนฺตานิเกสุ สพฺเพสุ จกฺขาทีสุ รูปาทีสุ พาหิร-สทฺโท วิย ปวตฺตติ, อชฺฌตฺต-สทฺโท ปน สกสนฺตานิเกสฺเวว จกฺขุรูปาทีสุ ตโต อฺเสฺเวว พหิทฺธา-สทฺโท วิย ปวตฺตตีติ ตสฺมา สทฺทโต อตฺถโต จ อสมานตฺตา น อิทเมตฺถ อุทาหรณํ ยุตฺตนฺติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ – อชฺฌตฺเต ภวา อชฺฌตฺติกาติ อยฺหิ วจนตฺโถ. ยฺจ อชฺฌตฺเต ภวํ, เตน อชฺฌตฺเตเนว ภวิตพฺพํ, เตน ตํวาจกสฺส อชฺฌตฺต-สทฺทสฺส อชฺฌตฺติก-สทฺทสฺส จ สมานตฺถตา. อุภินฺนมฺปิ สทฺทานํ สมานตฺถภาวโต อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต ปวตฺตมาเน อชฺฌตฺติก-สทฺเท อชฺฌตฺต-สทฺโท ตตฺถ ปวตฺโตติ สกฺกา วตฺตุนฺติ.

อยํ โข ปนานนฺท, วิหาโรติ วิหารสุฺตาสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๘๗) สงฺคณิการามตาย รูปาทิรติยา จ อาทีนวํ วตฺวา ตปฺปฏิปกฺขวิหารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อชฺฌตฺตํ สุฺตนฺติ วิสยภูตํ อิสฺสริยฏฺานภูตํ สุฺตํ, สุฺตาผลสมาปตฺตินฺติ อตฺโถ. จิตฺติสฺสรา หิ พุทฺธา ภควนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺตาปิ ยํ มุหุตฺตํ ตุณฺหี ภวิตพฺพํ โหติ, ตํ มุหุตฺตํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ, ปเคว อฺสฺมึ กาเล, ตสฺมา สพฺพตฺถาปิ อิสฺสริยานํ พหุลํ ผลสมาปตฺติยํ อิสฺสริยสฺส ปวตฺตนโต ผลสมาปตฺติ ‘‘อิสฺสริยฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. อรหตฺตผลาธิคเมน วา ตถาคตานํ อิสฺสริยํ นิพฺพตฺตํ ตํชนเกเนว มคฺเคนาติ ตํ เตสํ อิสฺสริยฏฺานํ. วิสโย จ อนฺตฺถภาโวว ยถา ‘‘อากาเส สกุณา อุทเก มจฺฉา’’ติ, พุทฺธา จ อฺตฺถ ทิสฺสมานาปิ วิเวกปพฺภารตาย ผลสมาปตฺตินินฺนาว, เตน ตสฺสา ตสฺสา กิริยาย อนนฺตรํ ผลสมาปตฺติยํเยว ภวนฺตีติ สา เตสํ วิสโย, ตพฺพิสยตา จ สจฺจกสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๓๖๔ อาทโย) ทีเปตพฺพา.

๒๒. เยสํ ทฏฺพฺพภาโว อตฺถิ, เต สนิทสฺสนา. จกฺขุวิฺาณโคจรภาโวว ทฏฺพฺพภาโว, ตสฺส รูปายตนา อนฺตฺเตปิ อฺเหิ ธมฺเมหิ รูปายตนํ วิเสเสตุํ อฺํ วิย กตฺวา ‘‘สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสนา’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสภาวสามฺเน หิ เอกีภูเตสุ ธมฺเมสุ โย นานตฺตกโร สภาโว, โส อฺโ วิย กตฺวา อุปจริตุํ ยุตฺโต. เอวฺหิ อตฺถวิเสสาวโพโธ โหตีติ. สยฺจ นิสฺสยวเสน จ สมฺปตฺตานํ อสมฺปตฺตานฺจ ปฏิมุขภาโว อฺมฺปตนํ ปฏิหนนภาโว, เยน พฺยาปาราทิวิการปจฺจยนฺตรสหิเตสุ จกฺขาทีนํ วิสเยสุ วิการุปฺปตฺติ.

ติกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกมาติกาปทวณฺณนา

๑-๖. มูลฏฺเนาติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน มูลภาเวน, น ปจฺจยมตฺตฏฺเน เหตุธมฺมา เหตู ธมฺมาติ สมาสาสมาสนิทฺเทสภาโว ทฺวินฺนํ ปาานํ วิเสโส. ตเถวาติ สมฺปโยคโตว. สเหตุกานํ เหตุสมฺปยุตฺตภาวโต ‘‘สมฺปโยคโต’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, น สหสทฺทสฺส สมฺปโยคตฺถตฺตา. สห-สทฺโท ปน เอกปุฺเช อุปฺปาทโต ยาว ภงฺคา สเหตุกานํ เหตูหิ สมานเทสคหณานํ เหตุอาทิสพฺภาวํ ทีเปติ, สมฺปยุตฺต-สทฺโท เอกุปฺปาทาทิวเสน สห เหตูหิ เอกีภาวุปคมนํ, ตโต เอว จ ทฺวินฺนํ ทุกานํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ธมฺมนานตฺตาภาเวปิ หิ ปทตฺถนานตฺเตน ทุกนฺตรํ วุจฺจติ. น หิ เหตุทุกสงฺคหิเตหิ ธมฺเมหิ อฺเ สเหตุกทุกาทีหิ วุจฺจนฺติ, เต เอว ปน สเหตุกาเหตุกาทิภาวโต สเหตุกทุกาทีหิ วุตฺตา. เอวํ สเหตุกทุกสงฺคหิตา เอว เหตุสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตภาวโต เหตุสมฺปยุตฺตทุเกน วุตฺตา. น หิ ธมฺมานํ อวุตฺตตาเปกฺขํ ทุกนฺตรวจนนฺติ นตฺถิ ปุนรุตฺติโทโส. เทเสตพฺพปฺปการชานนฺหิ เทสนาวิลาโส ตถา เทสนาาณฺจาติ. เตน ธมฺมานํ ตปฺปการตา วุตฺตา โหติ. สกเลกเทสวเสน ปมทุกํ ทุติยตติเยหิ สทฺธึ โยเชตฺวา จตุตฺถาทโย ตโย ทุกา วุตฺตา. สกลฺหิ ปมทุกํ ทุติยทุเกกเทเสน สเหตุกปเทน ตติยทุเกกเทเสน เหตุสมฺปยุตฺตปเทน จ โยเชตฺวา ยถากฺกมํ จตุตฺถปฺจมทุกา วุตฺตา, ตถา ปมทุเกกเทสํ นเหตุปทํ สกเลน ทุติยทุเกน โยเชตฺวา ฉฏฺทุโก วุตฺโต. อิทมฺปิ สมฺภวตีติ เอเตน อวุตฺตมฺปิ สมฺภววเสน ทีปิตนฺติ ทสฺเสติ. สมฺภโว หิ คหณสฺส การณนฺติ. ยถา เหตุสเหตุกาติ อิทํ สมฺภวตีติ กตฺวา คหิตํ, เอวํ เหตุอเหตุกาติ อิทมฺปิ สมฺภวตีติ กตฺวา คเหตพฺพเมวาติ เอวํ อฺตฺถาปิ โยเชตพฺพํ.

เอวํ ปมทุกํ ทุติยตติยทุเกสุ ทุติยปเทหิ โยเชตฺวา ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จ, อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู, เหตู เจว ธมฺมา เหตุวิปฺปยุตฺตา จ, เหตุวิปฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา น จ เหตู’’ติ เย ทฺเว ทุกา กาตพฺพา, เตสํ สมฺภววเสเนว สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา โข ปน-ปเทน อปเรสมฺปิ ทุกานํ สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺร ยเทต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺราติ ปาฬิยํ. อยํ อติเรกตฺโถติ อิทานิ ยํ วกฺขติ, ตมตฺถมาห. ตตฺถ ปน อฺเปิ อฺถาปีติ เอเตสํ วิสุํ ปวตฺติยา ทฺเว ทุกา ทสฺสิตา, สห ปวตฺติยา ปน อยมฺปิ ทุโก เวทิตพฺโพ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา เหตุสมฺปยุตฺตาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ, เอเตสุ ปน ปฺจสุ ทุเกสุ ทุติยทุเกน ตติยทุโก วิย, จตุตฺถทุเกน ปฺจมทุโก วิย จ ฉฏฺทุเกน นินฺนานตฺถตฺตา ‘‘น เหตุ โข ปน ธมฺมา เหตุสมฺปยุตฺตาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ อยํ ทุโก น วุตฺโต. ทสฺสิตนินฺนานตฺถนโย หิ โส ปุริมทุเกหีติ. อิตเรสุ จตูสุ เหตู เจว อเหตุกทุเกน สมานตฺถตฺตา เหตู เจว เหตุวิปฺปยุตฺตทุโก, เหตุสเหตุกทุเกน สมานตฺถตฺตา เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก จ นเหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก วิย น วตฺตพฺโพ. เตสุ ปน ทฺวีสุ ปจฺฉิมทุเก ‘‘เหตู โข ปน ธมฺมา สเหตุกา’’ติ ปทํ จตุตฺถทุเก ปมปเทน นินฺนานากรณตฺตา น วตฺตพฺพํ, ‘‘เหตู โข ปน ธมฺมา อเหตุกา’’ติ ปทํ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา’’ติ เอเตน นินฺนานตฺตา น วตฺตพฺพํ. อวสิฏฺเ ปน เอกสฺมึ ทุเก ‘‘อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู’’ติ ปทํ ฉฏฺทุเก ทุติยปเทน เอกตฺถตฺตา น วตฺตพฺพํ. อิทานิ ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จา’’ติ อิทเมเวกํ ปทํ อวสิฏฺํ, น จ เอเกน ปเทน ทุโก โหตีติ ตฺจ น วุตฺตนฺติ. จตุตฺถทุเก ทุติยปเทน ปน สมานตฺถสฺส ฉฏฺทุเก ปมปทสฺส วจนํ ทุกปูรณตฺถํ, เอเตน วา คติทสฺสเนน สพฺพสฺส สมฺภวนฺตสฺส สงฺคโห กโตติ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ สพฺโพ สมฺภวทุโก ปมทุเก ทุติยตติยทุกปกฺเขเปน ทสฺสิโต, เตสุ จ ปมทุกปกฺเขเปนาติ.

๗-๑๓. สมานกาเลน อสมานกาเลน กาลวิมุตฺเตน จ ปจฺจเยน นิปฺผนฺนานํ ปจฺจยายตฺตานํ ปจฺจยภาวมตฺเตน เตสํ ปจฺจยานํ อตฺถิตํ ทีเปตุํ สปฺปจฺจยวจนํ, น สเหตุกวจนํ วิย สมานกาลานเมว, นาปิ สนิทสฺสนํ วิย ตํสภาวสฺส อนตฺถนฺตรภูตสฺส. สงฺขต-สทฺโท ปน สเมเตหิ นิปฺผาทิตภาวํ ทีเปตีติ อยเมเตสํ วิเสโส ทุกนฺตรวจเน การณํ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจยา อสงฺขตาติ พหุวจนนิทฺเทโส อวินิจฺฉิตตฺถปริจฺเฉททสฺสนวเสน มาติกาปนโต กโตติ เวทิตพฺโพ. อุทฺเทเสน หิ กุสลาทิสภาวานํ ธมฺมานํ อตฺถิตามตฺตํ วุจฺจติ, น ปริจฺเฉโทติ อปริจฺเฉเทน พหุวจเนน อุทฺเทโส วุตฺโตติ. รูปนฺติ รูปายตนํ ปถวิยาทิ วา. ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป รูปายตนสฺส อสงฺคหิตตา อาปชฺชตีติ รุปฺปนลกฺขณํ วา รูปนฺติ อยํ อตฺถนโย วุตฺโต. ตตฺถ รูปนฺติ รุปฺปนสภาโว. น ลุชฺชติ น ปลุชฺชตีติ โย คหิโต ตถา น โหติ, โส โลโกติ ตํคหณรหิตานํ โลกุตฺตรานํ นตฺถิ โลกตา. ทุกฺขสจฺจํ วา โลโก, ตตฺถ เตเนว โลกสภาเวน วิทิตาติ โลกิยา.

เอวํ สนฺเต จกฺขุวิฺาเณน วิชานิตพฺพสฺส รูปายตนสฺส เตเนว นวิชานิตพฺพสฺส สทฺทายตนาทิกสฺส จ นานตฺตา ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหติ. เอวํ ปน ทุเก วุจฺจมาเน ทุกพหุตา อาปชฺชติ, ยตฺตกานิ วิฺาณานิ, ตตฺตกา ทุกา วุตฺตา สมตฺตา เปตฺวา สพฺพธมฺมารมฺมณานิ วิฺาณานิ. เตสุ จ ทุกสฺส ปจฺเฉโท อาปชฺชติ, ตถา จ สติ ‘‘เกนจี’’ติ ปทํ สพฺพวิฺาณสงฺคาหกํ น สิยา, นิทฺเทเสน จ วิรุทฺธํ อิทํ วจนํ. โย จ ตตฺถ ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยาติ อยํ ทุโก น โหตี’’ติ ปฏิเสโธ กโต, โส จ กถํ ยุชฺเชยฺย. น หิ สมตฺถา อฏฺกถา ปาฬึ ปฏิเสเธตุนฺติ, น จ เกนจิ-สทฺทสฺส เตเนวาติ อยํ ปทตฺโถ สมฺภวติ, ‘‘เกนจี’’ติ เอตสฺส อาทิปทสฺส อนิยมิตํ ยํ กิฺจิ เอกํ ปทตฺโถ, ตํ วตฺวา วุจฺจมานสฺส ‘‘เกนจี’’ติ ทุติยปทสฺส ยํ กิฺจิ อปรํ อนิยมิตํ ปทตฺโถติ โลกสิทฺธเมตํ, ตเถว จ นิทฺเทโส ปวตฺโต, น เจตฺถ วิฺาตพฺพธมฺมเภเทน ทุกเภโท สมตฺโต อาปชฺชติ ยตฺตกา วิฺาตพฺพา, ตตฺตกา ทุกาติ, ตสฺมา นตฺถิ ทุกพหุตา. น หิ เอกํเยว วิฺาตพฺพํ เกนจิ วิฺเยฺยํ เกนจิ น วิฺเยฺยฺจ, กินฺตุ อปรมฺปิ อปรมฺปีติ สพฺพวิฺาตพฺพสงฺคเห ทุโก สมตฺโต โหติ, เอวฺจ สติ ‘‘เกนจี’’ติ ปทํ อนิยเมน สพฺพวิฺาณสงฺคาหกนฺติ สิทฺธํ โหติ, วิฺาณนานตฺเตน จ วิฺาตพฺพํ ภินฺทิตฺวา อยํ ทุโก วุตฺโต, น วิฺาตพฺพานํ อตฺถนฺตรตายาติ. เอตสฺส ปน ทุกสฺส นิกฺเขปราสินิทฺเทโส ทุกสงฺคหิตธมฺเมกเทเสสุ ทุกปททฺวยปฺปวตฺติทสฺสนวเสน ปวตฺโต. อตฺถุทฺธารนิทฺเทโส นิรวเสสทุกสงฺคหิตธมฺมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺโพ.

๑๔-๑๙. จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปีติ จกฺขุวิฺาณาทิวีถีสุ ตทนุคตมโนวิฺาณวีถีสุ จ กิฺจาปิ กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว ปน วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรณกอสุจิมฺหิ นิรุฬฺโห อาสวสทฺโทติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุนฺติ ตโต ปรํ มคฺคผเลสุ อปฺปวตฺติโต วุตฺตํ. เอเต หิ อารมฺมณกรณวเสน ธมฺเม คจฺฉนฺตา ตโต ปรํ น คจฺฉนฺตีติ. นนุ ตโต ปรํ ภวงฺคาทีนิปิ คจฺฉนฺตีติ เจ? น, เตสมฺปิ ปุพฺเพ อาลมฺพิเตสุ โลกิยธมฺเมสุ สาสวภาเวน อนฺโตคธตฺตา ตโต ปรตาภาวโต. เอตฺถ จ โคตฺรภุวจเนน โคตฺรภุโวทานผลสมาปตฺติปุเรจาริกปริกมฺมานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ, ปมมคฺคปุเรจาริกเมว วา โคตฺรภุ อวธินิทสฺสนภาเวน คหิตํ, ตโต ปรํ มคฺคผลสมานตาย ปน อฺเสุ มคฺเคสุ มคฺควีถิยํ ผลสมาปตฺติวีถิยํ นิโรธานนฺตรฺจ ปวตฺตมาเนสุ ผเลสุ นิพฺพาเน จ ปวตฺติ นิวาริตา อาสวานนฺติ เวทิตพฺพา. สวนฺตีติ คจฺฉนฺติ. ทุวิโธ หิ อวธิ อภิวิธิวิสโย อนภิวิธิวิสโย จ. อภิวิธิวิสยํ กิริยา พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ ‘‘อาภวคฺคา ภควโต ยโส คโต’’ติ, อิตรํ พหิ กตฺวา ‘‘อาปาฏลิปุตฺตา วุฏฺโ เทโว’’ติ. อยฺจ อา-กาโร อภิวิธิอตฺโถ อิธ คหิโตติ ‘‘อนฺโตกรณตฺโถ’’ติ วุตฺตํ.

จิรปาริวาสิยฏฺโ จิรปริวุตฺถตา ปุราณภาโว. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหายา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒) อิทํ สุตฺตํ สงฺคหิตํ. อวิชฺชาสวภวาสวานฺจ จิรปริวุตฺถตาย ทสฺสิตาย ตพฺภาวภาวีนํ กามาสวทิฏฺาสวานฺจ จิรปริวุตฺถตา ทสฺสิตา โหติ. อฺเสุปิ ยถาวุตฺเต ธมฺเม โอกาสฺจ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนสุ มานาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อตฺตตฺตนิยาทิคฺคาหวเสน อภิพฺยาปนํ มทกรณวเสน อาสวสทิสตา จ เอเตสํเยว, นาฺเสนฺติ เอเตสฺเวว อาสวสทฺโท นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ. อายตํ วา สวนฺติ ผลนฺตีติ อาสวา. น หิ กิฺจิ สํสารทุกฺขํ อาสเวหิ วินา อุปฺปชฺชมานํ อตฺถีติ. อารมฺมณภาเวน เย ธมฺมา วโณ วิย อาสเว ปคฺฆรนฺติ, เต อสมฺปโยเค อตพฺภาเวปิ สห อาสเวหีติ สาสวา, อาสววนฺโตติ อตฺโถ.

โอสานทุเก ‘‘โน อาสวา โข ปนา’’ติ อวตฺวา ‘‘อาสววิปฺปยุตฺตา โข ปนา’’ติ วจนํ สาสวานํ สเหตุกานํ วิย สมฺปยุตฺเตหิ ตํสหิตตา น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. เอวํ เสสโคจฺฉเกสุปิ ยถาสมฺภวํ วิปฺปยุตฺตคฺคหเณ ปโยชนํ ทฏฺพฺพํ. อปิจ ‘‘โน อาสวา โข ปน ธมฺมา สาสวา’’ติ อิทํ ปทํ จตุตฺถทุเก ทุติยปเทน นินฺนานํ, น จ เอเกน ทุโก โหติ, ตสฺมา อาสววิปฺปยุตฺตปทเมว คเหตฺวา โอสานทุกโยชนา ายาคตาติ กตา. เหตุโคจฺฉเก ปน เหตุวิปฺปยุตฺตานํ สเหตุกตา นตฺถีติ เต คเหตฺวา ทุกโยชนาย อสกฺกุเณยฺยตฺตา นเหตุปทํ คเหตฺวา โอสานทุกโยชนา กตา. เย วา ปน ปเม ทุเก ทุติยสฺส ปกฺเขเป เอโก, ตติยสฺส ทฺเว, ปมสฺส ทุติเย เอโก, ตติเย ทฺเว, ทุติยสฺส ตติเย เอโก, ทุติเย จ ตติยสฺส เอโกติ อฏฺ ทุกา ลพฺภนฺติ, เตสุ ตีหิ อิตเร จ นยโต ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอส นโย เสสโคจฺฉเกสุปิ.

๒๐-๒๕. กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ ปจฺจยภาเวน ตตฺถ สํโยเชนฺติ, สติปิ อฺเสํ ตปฺปจฺจยภาเว น วินา สํโยชนานิ เตสํ ตปฺปจฺจยภาโว อตฺถิ, โอรมฺภาคิยุทฺธมฺภาคิยสงฺคหิเตหิ จ ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมนิยโม ภวนิยโม จ โหติ, น จ อุปจฺฉินฺนสํโยชนสฺส กตานิปิ กมฺมานิ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ. สํโยเชตพฺพาติ วา สํโยชนิยา, สํโยชเน นิยุตฺตาติ วา. ทูรคตสฺสปิ อากฑฺฒนโต นิสฺสริตุํ อปฺปทานวเสน พนฺธนํ สํโยชนํ, คนฺถกรณํ สงฺขลิกจกฺกลกานํ วิย ปฏิพทฺธตากรณํ วา คนฺถนํ คนฺโถ, สํสิลิสกรณํ โยชนํ โยโคติ อยเมเตสํ วิเสโสติ เวทิตพฺโพ. ธมฺมานํ สภาวกิจฺจวิเสสฺุนา ปน ภควตา สมฺปยุตฺเตสุ อารมฺมเณสุ ตปฺปจฺจเยสุ จ เตหิ เตหิ นิปฺผาทิยมานํ ตํ ตํ กิจฺจวิเสสํ ปสฺสนฺเตน เต เต ธมฺมา ตถา ตถา อาสวสํโยชนคนฺถาทิวเสน วุตฺตาติ ‘‘กิมตฺถํ เอเตเยว ธมฺมา เอวํ วุตฺตา, กสฺมา จ วุตฺตา เอว ปุน วุตฺตา’’ติ น โจเทตพฺพเมตํ.

๒๖-๓๗. คนฺถนิยาติ เอตฺถ อยมฺโ อตฺโถ ‘‘คนฺถกรณํ คนฺถนํ, คนฺถเน นิยุตฺตาติ คนฺถนิยา, คนฺถยิตุํ สกฺกุเณยฺยา, คนฺถยิตุํ อรหนฺตีติ วา คนฺถนิยา’’ติ. เอวํ โอฆนิยาทีสุปิ ทฏฺพฺพํ. เตนาติกฺกมตีติ เอตํ ธาตฺวตฺถํ คเหตฺวา โอฆนิยาติ ปทสิทฺธิ กตา.

๕๐-๕๔. ธมฺมสภาวํ อคฺคเหตฺวา ปรโต อามสนฺตีติ ปรามาสา. ปรโตติ นิจฺจาทิโต. อามสนฺตีติ สภาวปฏิเสเธน ปริมชฺชนฺติ.

๕๕-๖๘. สภาวโต วิชฺชมานํ อวิชฺชมานํ วา วิจิตฺตสฺาย สฺิตํ อารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา อปฺปวตฺติโต อาลมฺพมานา ธมฺมา สารมฺมณา. จินฺตนํ คหณํ อารมฺมณูปลทฺธิ. เจตสิ นิยุตฺตา, เจตสา สํสฏฺา วา เจตสิกา. ทุพฺพิฺเยฺยนานตฺตตาย เอกีภาวมิวุปคมนํ นิรนฺตรภาวุปคมนํ. เยสํ รูปานํ จิตฺตํ สหชาตปจฺจโย โหติ, เตสํ จิตฺตสฺส จ สุวิฺเยฺยนานตฺตนฺติ นิรนฺตรภาวานุปคมนํ เวทิตพฺพํ. เอกโต วตฺตมานาปีติ อปิ-สทฺโท โก ปน วาโท เอกโต อวตฺตมานาติ เอตมตฺถํ ทีเปติ. อิทเมตฺถ วิจาเรตพฺพํ – อวินิพฺโภครูปานํ กึ อฺมฺํ สํสฏฺตา, อุทาหุ วิสํสฏฺตาติ? วิสุํ อารมฺมณภาเวน สุวิฺเยฺยนานตฺตตฺตา น สํสฏฺตา, นาปิ วิสํสฏฺตา สํสฏฺาติ อนาสงฺกนียสภาวตฺตา. จตุนฺนฺหิ ขนฺธานํ อฺมฺํ สํสฏฺสภาวตฺตา รูปนิพฺพาเนหิปิ โส สํสฏฺภาโว อตฺถิ นตฺถีติ สิยา อาสงฺกา, ตสฺมา เตสํ อิตเรหิ, อิตเรสฺจ เตหิ วิสํสฏฺสภาวตา วุจฺจติ, น ปน รูปานํ รูเปหิ กตฺถจิ สํสฏฺตา อตฺถีติ ตทาสงฺกาภาวโต วิสํสฏฺตา จ รูปานํ รูเปหิ น วุจฺจตีติ. เอส หิ เตสํ สภาโวติ. จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานาทิปเทสุ สํสฏฺสมุฏฺานาทิสทฺทา จิตฺตสทฺทาเปกฺขาติ ปจฺเจกํ จิตฺตสทฺทสมฺพนฺธตฺตา จิตฺตสํสฏฺา จ เต จิตฺตสมุฏฺานา จาติ ปจฺเจกํ โยเชตฺวา อตฺโถ วุตฺโต. อุปาทิยนฺเตวาติ ภูตานิ คณฺหนฺติ เอว, นิสฺสยนฺติ เอวาติ อตฺโถ. ยถา ภูตานิ อุปาทิยนฺติ คยฺหนฺติ นิสฺสียนฺติ, น ตถา เอตานิ คยฺหนฺติ นิสฺสียนฺติ, ตสฺมา อุปาทา. อถ วา ภูตานิ อมุฺจิตฺวา เตสํ วณฺณนิภาทิภาเวน คเหตพฺพโต อุปาทา.

๗๕-๘๒. สํกิลิฏฺตฺติเก วุตฺตนเยนาติ สํ-สทฺทํ อปเนตฺวา กิลิสนฺตีติ กิเลสาติอาทินา นเยน.

๘๓-๑๐๐. กามาวจราทีสุ อยมปโร อตฺโถ – กามตณฺหา กาโม, เอวํ รูปารูปตณฺหา รูปํ อรูปฺจ. อารมฺมณกรณวเสน ตานิ ยตฺถ อวจรนฺติ, เต กามาวจราทโยติ. เอวฺหิ สติ อฺภูมีสุ อุปฺปชฺชมานานํ อกามาวจราทิตา กามาวจราทิตา จ นาปชฺชตีติ สิทฺธํ โหติ. นิกฺเขปกณฺเฑปิ ‘‘เอตฺถาวจรา’’ติ วจนํ อวีจิปรนิมฺมิตปริจฺฉินฺโนกาสาย กามตณฺหาย อารมฺมณภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, ตโทกาสตา จ ตณฺหาย ตนฺนินฺนตาย เวทิตพฺพา. ยทิ ปริยาปนฺนสทฺทสฺส อนฺโตคธาติ อยมตฺโถ, มคฺคาทิธมฺมานฺจ โลกุตฺตรนฺโตคธตฺตา ปริยาปนฺนตา อาปชฺชติ. น หิ ‘‘ปริยาปนฺนา’’ติ เอตฺถ เตภูมกคหณํ อตฺถีติ? นาปชฺชติ สพฺพทา ปวตฺตมานสฺส ปจฺจกฺขสฺส โลกสฺส วเสน ปริยาปนฺนนิจฺฉยโต. อถ วา ปริจฺเฉทการิกาย ตณฺหาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาปนฺนา ปฏิปนฺนา คหิตาติ ปริยาปนฺนา.

อนีย-สทฺโท พหุลา กตฺตุอภิธายโกติ วฏฺฏจารกโต นิยฺยนฺตีติ นิยฺยานียา, นี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส จ ก-การตฺตํ กตฺวา ‘‘นิยฺยานิกา’’ติ วุตฺตํ, นิยฺยานกรณสีลา วา นิยฺยานิกา. อุตฺตริตพฺพสฺส อฺสฺส นิทฺทิฏฺสฺส อภาวา นิทฺทิสิยมานา สอุตฺตรา ธมฺมาว อุตฺตริตพฺพาติ ‘‘อตฺตาน’’นฺติ อาห. ราคาทีนนฺติ ราคาทีนํ ทสนฺนํ กิเลสานํ สพฺพนิยตากุสลานํ วา. เตหิ นานปฺปการทุกฺขนิพฺพตฺตเกหิ อภิภูตา สตฺตา กนฺทนฺติ อกนฺทนฺตาปิ กนฺทนการณภาวโต. ยสฺมา ปน ปหาเนกฏฺตาวเสน จ ‘‘สรณา’’ติ อาห, ตสฺมา ‘‘ราคาทีน’’นฺติ วจเนน ราคโทสโมหาว คหิตาติ ายติ. รณ-สทฺโท วา ราคาทิเรณูสุ นิรุฬฺโห ทฏฺพฺโพ, รณํ วา ยุทฺธํ, ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติ (สุ. นิ. ๔๓๘; มหานิ. ๒๘, ๖๘, ๑๔๙; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) เอวมาทิกา จ อกุสลา เสนา อริยมคฺคยุทฺเธน เชตพฺพตฺตา สยุทฺธตฺตา ‘‘สรณา’’ติ วุจฺจนฺตีติ. อรณวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๒๓ อาทโย) ปน สทุกฺขา สอุปฆาตา สอุปายาสา สปริฬาหา มิจฺฉาปฏิปทาภูตา กามสุขานุโยคาทโย ‘‘สรณา’’ติ วุตฺตาติ ทุกฺขาทีนํ รณภาโว ตนฺนิพฺพตฺตกสภาวานํ อกุสลานํ สรณตา จ เวทิตพฺพา.

ปิฏฺิทุกา สมตฺตา.

สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา

๑๐๑-๑๐๘. วิชฺชาราสนฺโตคธธมฺมา วิชฺชาสภาคตาย ตเทกเทเส วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติ วุตฺตา. วชิรสฺส ยตฺถ ตํ ปตติ, ตตฺถ อเภชฺชํ นาม กิฺจิ มณิปาสาณาทิ นตฺถิ, น จ เตน คมนมคฺโค วิรุหติ, เอวเมว อรหตฺตมคฺเคน ยตฺถ โส อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ สนฺตาเน อเภชฺโช กิเลโส นาม นตฺถิ, น จ ภินฺโน ปุน วิรุหตีติ วชิรุปมตา เวทิตพฺพา. ตทุปจาเรน พาลา ยถา ‘‘มฺจา โฆสนฺตี’’ติ. กณฺหาภิชาตีติ อปายา วุจฺจนฺติ มนุสฺเสสุ จ โทภคฺคิยํ. ตปนสฺส วา ทุกฺขสฺส หิตาติ ตปนิยา.

ทาสาทีสุปิ สิริวฑฺฒกาทิสทฺทา วิย อตถตฺตา วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อธิวจนา. ยสฺมา ปน อธิวจนนิรุตฺติปฺตฺติปทานิ สมานตฺถานิ, สพฺพฺจ วจนํ อธิวจนาทิภาวํ ภชติ, ตสฺมา เตสุปิ วจนวิเสเสสุ วิเสเสน ปวตฺเตหิ อธิวจนาทิสทฺเทหิ สพฺพานิ วจนานิ อตฺถปฺปกาสนสามฺเน วุตฺตานีติ เอเตนาธิปฺปาเยน อยํ อตฺถโยชนา กตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา อธิ-สทฺโท อุปริภาเค, อุปริ วจนํ อธิวจนํ. กสฺส อุปริ? ปกาเสตพฺพสฺส อตฺถสฺสาติ วิทิโตวายมตฺโถ. อธีนํ วา วจนํ อธิวจนํ. เกน อธีนํ? อตฺเถน. ตถา ตํตํอตฺถปฺปกาสเน นิจฺฉิตํ, นิยตํ วา วจนํ นิรุตฺติ. ปถวีธาตุปุริสาทิตํตํปกาเรน าปนโต ปฺตฺตีติ เอวํ อธิวจนาทิปทานํ สพฺพวจเนสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อฺถา สิริวฑฺฒกธนวฑฺฒกปฺปการานเมว อภิลาปานํ อธิวจนตา, อภิสงฺขโรนฺตีติ เอวํปการานเมว นิทฺธารณวจนานํ นิรุตฺติตา, ตกฺโก วิตกฺโกติ เอวํปการานเมว เอกเมวตฺถํ เตน เตน ปกาเรน าเปนฺตานํ ปฺตฺติตา จ อาปชฺเชยฺยาติ.

๑๐๙-๑๑๘. ผสฺโส เวทนาติ สพฺพทาปิ อรูปธมฺมานํ ผสฺสาทินามกตฺตา ปถวิยาทีนํ เกสกุมฺภาทินามนฺตราปตฺติ วิย นามนฺตรานาปชฺชนโต จ สทา อตฺตนาว กตนามตาย จตุกฺขนฺธนิพฺพานานิ นามกรณฏฺเน นามํ. นมนํ อวินาภาวโต อารมฺมณาภิมุขตา, นมนเหตุภูตตา นามนํ. อถ วา อธิวจนสมฺผสฺโส วิย อธิวจนํ นามมนฺตเรน เย อนุปจิตโพธิสมฺภารานํ คหณํ น คจฺฉนฺติ, เต นามายตฺตคฺคหณา นามํ. รูปํ ปน วินาปิ นามสาธนํ อตฺตโน รุปฺปนสภาเวน คหณํ อุปยาตีติ รูปํ.

๑๑๙-๑๒๓. อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมํ ปวตฺตํ, อิโต ปรํ ภวงฺคํ, มชฺเฌ สมาปตฺตีติ เอวํ สมาปตฺตีนํ อปฺปนาปริจฺเฉทปฺา สมาปตฺติกุสลตา. วุฏฺาเน กุสลภาโว ปุพฺเพ วุฏฺาเน ปริจฺเฉทกรณาณํ. ลกฺขณาทิวเสน อนิจฺจาทิวเสน จ มนสิ กรณํ มนสิกาโร.

๑๒๔-๑๓๔. สุจิสีลตา โสรจฺจํ. สา หิ โสภนกมฺมรตตาติ. สมฺโมทกสฺส, สมฺโมทโก วา มุทุภาโว สมฺโมทกมุทุภาโว, สณฺหวาจตา. ‘‘อคุตฺตทฺวารตา’’ติ วุตฺเต เกสุ ทฺวาเรสูติ น ปฺายตีติ ‘‘อินฺทฺริเยสู’’ติ วุตฺตํ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชฺํ. ตทปิ าณํ ยสฺมา สมฺปชานาติ, ตสฺมา ‘‘สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺ’’นฺติ อาห. อปฺปฏิสงฺขาเน นิมิตฺเต วิสเย วา. วีริยสีเสนาติ วีริยปาโมกฺเขน. อุปฺปนฺนํ พลนฺติ วีริโยปตฺถมฺเภน หิ กุสลภาวนา พลวตี ถิรา อุปฺปชฺชตีติ ตถา อุปฺปนฺนา พลวตี กุสลภาวนา พลวนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺคาติปิ วุจฺจนฺติ. กสิณนิมิตฺตํ วิย สฺาณํ วิย สวิคฺคหํ วิย จ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺพาการํ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. สมโถ จ เอวํ อากาโรติ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺโต. ตถา หิ โส ปจฺจเวกฺขนฺเตน ปจฺจเวกฺขณโต คยฺหตีติ. อุทฺธจฺจมิว จิตฺตํ น วิกฺขิปตีติ, วิกฺเขปปฏิกฺเขโป วา อวิกฺเขโป.

๑๓๕-๑๔๒. สีลเมว ปุนปฺปุนํ อาเสวิยมานํ โลกิยํ โลกุตฺตรมฺปิ สีลํ ปริปูเรตีติ ‘‘สีลปริปูรณโต’’ติ วุตฺตํ. สีลสฺส สมฺปทาติ การณสีลมฺปิ ผลสีลมฺปิ สมฺปนฺนสมุทายสฺส เอกเทสวเสน วุตฺตํ. อถ วา ‘‘กตเม จ ถปติ อกุสลา สีลา? อกุสลํ กายกมฺมํ อกุสลํ วจีกมฺมํ ปาปโก อาชีโว’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๖๔) วุตฺตตฺตา สพฺพมฺปิ กุสลากุสลํ ‘‘สีล’’นฺติ คเหตฺวา ตตฺถ กุสลสีลํ นิทฺธาเรตฺวา ‘‘สีลสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปทาปิ เวทิตพฺพา.

ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ กมฺมสฺสกตาณาทิสงฺขาตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ เจวาติ ปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนาติ จ ปททฺวยสฺส สมานตฺตา ปฺา. ยถาทิฏฺิสฺสาติ นิพฺพตฺติตปฺปการทิฏฺิสฺส นิพฺพตฺเตตพฺพปธานานุรูปทิฏฺิสฺส วา ยถาทิฏฺิปวตฺตกิริยสฺส วา. สํเวโคติ สโหตฺตปฺปํ าณํ, โอตฺตปฺปเมว วา. สมตฺตํ ตุสฺสนํ ติตฺติ สนฺตุฏฺิ, นตฺถิ เอตสฺส สนฺตุฏฺีติ อสนฺตุฏฺิ, อสนฺตุฏฺิสฺส ภาโว อสนฺตุฏฺิตา. วีริยปฺปวาเห ปวตฺตมาเน อนฺตรา เอว ปฏิคมนํ นิวตฺตนํ ปฏิวานํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ ปฏิวานี, น ปฏิวานี อปฺปฏิวานี, ตสฺส ภาโว อปฺปฏิวานิตา. วิมุจฺจนํ นาม อารมฺมเณ อธิมุตฺตตา กิเลเสหิ สพฺพสงฺขาเรหิ จ นิสฺสฏตา จ. ปฏิสนฺธิวเสนาติ กิเลสานํ ตํตํมคฺควชฺฌานํ อุปฺปนฺนมคฺเค ขนฺธสนฺตาเน ปุน สํทหนวเสน. อนุปฺปาทภูเตติ ตํตํผเล. อนุปฺปาทปริโยสาเนติ อนุปฺปาทกโร มคฺโค อนุปฺปาโท, ตสฺส ปริโยสาเน.

สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

กามาวจรกุสลปทภาชนียวณฺณนา

. ‘‘เย วา ปน…เป… อรูปิโน ธมฺมา’’ติ อิทํ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติ เอวมาทิกํ วิย น วิสุํ ‘‘เตปิ โหนฺตี’’ติ โหติ-สทฺเทน สมฺพนฺธํ กตฺวา วุตฺตํ, อุทฺทิฏฺาวเสเส จ ปน คเหตฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ อปฺเปตุํ วุตฺตนฺติ อปฺปนาย อวโรธิตํ. เอวฺจ กตฺวา นิทฺเทเสปิ เอตสฺส ปทภาชนียํ น วุตฺตนฺติ. สรูเปน ปน อทสฺสิตตฺตา ‘‘อตฺถี’’ติ วตฺวา ทุติเยน โหติ-สทฺเทน สมฺพนฺโธ นิทฺเทโส จ น กโต, สงฺเขเปน ปน อุทฺทิสิตฺวา สงฺเขเปเนว เย วา ปน ธมฺมา นิทฺทิฏฺาติ เอตสฺส ธมฺมสฺส อุทฺเทเส อวโรโธ ยุตฺโต. ธมฺมนิทฺเทเส จ นิทฺเทสาวสาเน วุตฺตสฺสาติ.

ปุจฺฉาปริจฺเฉทวจเนเนว ปุจฺฉาภาเว วิฺาเต ปุจฺฉาวิเสสาปนตฺถํ อาห ‘‘อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา’’ติ. ปฺจวิธา หีติ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒; เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘) อาคตา ปุจฺฉา ทสฺเสติ. ลกฺขณนฺติ าตุํ อิจฺฉิโต โย โกจิ สภาโว. อฺาตนฺติ เยน เกนจิ าเณน อฺาตภาวํ อาห. อทิฏฺนฺติ ทสฺสนภูเตน าเณน ปจฺจกฺขํ วิย อทิฏฺตํ. อตุลิตนฺติ ‘‘เอตฺตกํ อิท’’นฺติ ตุลาภูตาย ปฺาย อตุลิตตํ. อตีริตนฺติ ตีรณภูตาย ปฺาย อกตาณกิริยาสมาปนตํ. อวิภูตนฺติ าณสฺส อปากฏภาวํ. อวิภาวิตนฺติ าเณน อปากฏีกตภาวํ. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา. อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปุจฺฉาย หิ ‘‘กา ตุมฺหากํ อนุมตี’’ติ อนุมติ ปุจฺฉิตา โหติ. กเถตุกมฺยตาติ กเถตุกมฺยตาย.

ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนนฺติ มาติกาเทสนํ อาห. ตตฺถ หิ ปุรโต กุสลาทิเก ปเภเท วตฺวา ปจฺฉโต ธมฺมา วุตฺตาติ ‘‘ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถ’’นฺติ นิทฺเทสํ อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มาติกาย สวิเสสนา ธมฺมา วุตฺตา, เต จ วิเสสิตพฺพตฺตา ปธานา, ปธานฺจ อิติกตฺตพฺพตาย ยุชฺชตีติ ธมฺมานเมว ปธานานํ ปุจฺฉิตพฺพตา วิสฺสชฺชิตพฺพตา จ โหติ, ตสฺมา เต ปุจฺฉิตพฺเพ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ, เต ปน วิเสสวนฺโต ปุจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘กุสลา’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถํ อยํ ปทานุกฺกโม กโตติ. ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ วิสฺสชฺชเนปิ เอวเมว โยชนา กาตพฺพา. ‘‘ปเภทโต ธมฺมานํ เทสนํ ทีเปตฺวา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิมสฺมิฺหี’’ติอาทิมาห. อเนกปฺปเภทา เทเสตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ตสฺมาติ อโวหารเทสนโต ธมฺมานเมว เทเสตพฺพตฺตา เตสฺจ ฆนวินิพฺโภคปฏิสมฺภิทาาณาวหนโต ปเภทวนฺตานํ เทเสตพฺพตฺตา ‘‘กุสลา…เป… ทีเปตฺวา’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. เอวเมว หิ ยถาวุตฺตทีปนสฺส เหตุํ สการณํ ปกาเสตุํ ปุน ‘‘ธมฺมาเยวา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ. ธมฺมาติ สามฺมตฺตวจเนน สมูหาทิฆนวเสน เอกตฺตคฺคหณํ โหตีติ เอกตฺตวินิพฺโภคกรณํ ฆนวินิพฺโภคาณํ อาวหติ ปเภทเทสนา, ตถา กุสลาทิธมฺมานํ อพฺยากตาทิอตฺถานฺจ ทีปนโต ธมฺมปฏิสมฺภิทาทิาณฺจ อาวหติ. ‘‘ปเภทวนฺตทสฺสนตฺถ’’นฺติ เอตํ วิวริตุํ ‘‘อิทานิ เย เตนา’’ติอาทิมาห. ปเภท…เป… ยุชฺชติ อิติกตฺตพฺพตายุตฺตสฺส วิเสสนตฺตา. อถ วา อุทฺเทโส ธมฺมปฺปธาโน, ปุจฺฉา สํสยิตปฺปธานา, น จ ธมฺมภาโว สํสยิโต, กุสลาทิเภโท ปน สํสยิโตติ นิจฺฉิตสํสยิตวเสนายํ ปทานุกฺกโม กโต.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ วจเน. กิมตฺถมาห ภควาติ ตํ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘สมเย นิทฺทิสิ จิตฺต’’นฺติ. ปริโยสาเนติ สมเย จิตฺตนิทฺเทสสฺส ‘‘ยสฺมึ…เป… อารพฺภา’’ติ เอตสฺส ปริโยสาเน. ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ จิตฺตุปฺปาทสมเย. จิตฺเตน สมยํ นิยเมตฺวาน อถ ปจฺฉา โพเธตุนฺติ สมฺพนฺโธ. วิชฺชมาเนปิ โภชนคมนาทิสมยนานตฺเต สมวายาทินานตฺเต จ ยถาวุตฺตจิตฺตนิยมิตา วิเสสิตา อฺสฺมึ สมเย ยถาธิปฺเปตานํ ผสฺสาทีนํ อภาวา จิตฺตนิยมิเต สมเย ผสฺสาทโย โพเธตุํ วิเสสนเมว ตาว จิตฺตํ ทสฺเสตุํ สมเย จิตฺตํ นิทฺทิสีติ อตฺโถ. วิเสสิตพฺโพปิ หิ สมโย อตฺตโน อุปการตฺถํ วิเสสนภาวํ อาปชฺชติ, วิเสสนภูตฺจ จิตฺตํ ตทุปการตฺถํ วิเสสิตพฺพภาวนฺติ. สนฺตติฆนาทีนํ อยํ วิเสโส – ปุริมปจฺฉิมานํ นิรนฺตรตาย เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สนฺตติฆนตา, ตถา ผสฺสาทีนํ เอกสมูหวเสน ทุพฺพิฺเยฺยกิจฺจเภทวเสน เอการมฺมณตาวเสน จ เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สมูหาทิฆนตาติ.

กาลฺจ สมยฺจาติ ยุตฺตกาลฺจ ปจฺจยสามคฺคิฺจ. ขโณติ โอกาโส. ตถาคตุปฺปาทาทิโก หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส ตปฺปจฺจยปฏิลาภเหตุตฺตา. ขโณ เอว จ สมโย. โย ‘‘ขโณ’’ติ จ ‘‘สมโย’’ติ จ วุจฺจติ, โส เอโกวาติ อตฺโถ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. สมโยปิ โขติ สิกฺขาปริปูรณสฺส เหตุปิ. สมยปฺปวาทเกติ ทิฏฺิปฺปวาทเก. ตตฺถ หิ นิสินฺนา ติตฺถิยา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺตีติ. อตฺถาภิสมยาติ หิตปฏิลาภา. อภิสเมตพฺโพติ อภิสมโย, อภิสมโย อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ปีฬนาทีนิ อภิสมิตพฺพภาเวน เอกีภาวํ อุปเนตฺวา วุตฺตานิ, อภิสมยสฺส วา ปฏิเวธสฺส วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ตาเนว ตถา เอกตฺเตน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปีฬนํ ทุกฺขสจฺจสฺส ตํสมงฺคิโน หึ สนํ อวิปฺผาริกตากรณํ. สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิภาเวน สนฺตาปนํ ปริทหนํ.

‘‘อิธา’’ติ วจนํ อกุสเลสุ อพฺยากเตสุ จ เกสุจิ ขณสฺส อสมฺภวโต. นนุ กุสลานฺจ นวเมน ขเณน วินา อุปฺปตฺติ โหตีติ? โน น โหติ, น ปน นวโม เอว ขโณ, จตุจกฺกานิปิ ขโณติ วุตฺตานิ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อตฺตสมฺมาปณิธิขณมนฺตเรน นตฺถิ กุสลสฺส อุปฺปตฺตีติ ขโณ อิธ คหิโต. อินฺทฺริยวิสยมนสิการาธีนํ วิฺาณนฺติ เอวมาทิ สาธารณผลํ ทฏฺพฺพํ. นวโมติ อฏฺกฺขเณ อุปาทาย วุตฺตํ. จตุจกฺกํ วตฺตตีติ ปุน ปติรูปเทสวาสาทิสมฺปตฺติ จตุจกฺกํ วิปริวตฺตตีติ อตฺโถ. โอกาสภูตานีติ อตฺตโน นิพฺพตฺติยา ‘‘อิทานิ อุปฺปชฺชนฺตุ กุสลานี’’ติ อนุมติทานํ วิย ภูตานิ.

จิตฺตกาโลติ ธมฺเมเนว สตา กาโล วิเสสิโต, น ตสฺส ปวตฺติตฺถ ปวตฺติสฺสติ ปวตฺตตีติ เอเตน อวตฺถาวิเสเสน, นาปิ ตสฺส วิชานนกิจฺเจน, ตสฺมา เอวํวิเธ ธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺโตติ วุตฺโต. กมปฺปวตฺตา วิเสสา เอว ปฏิปาฏีติ พีชภาโว จ ปฏิปาฏีติ วตฺตุมรหตีติ อิมินาธิปฺปาเยน ‘‘พีชกาโลติ ธมฺมปฏิปาฏึ อุปาทาย ปฺตฺโต’’ติ อาห. ธมฺมปฏิปาฏึ วาติ อฏฺกลาปธมฺเม สนฺธายาห. สฺจิตา วิย คยฺหมานกาลา เอว กาลสฺจโย, ยถา วา ตถา วา กาโลติ เอกํ สภาวํ คเหตฺวา อภินิเวสํ กโรนฺตสฺส ตทภินิเวสนิเสธนตฺถํ ‘‘โส ปเนส สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา ปฺตฺติมตฺตโก’’ติ อาห. ตฺวา วิฺเยฺโยติ สมฺพนฺโธ. อิตโร ปน เหตูติ เอส สมโย ปจฺจโยว วิฺเยฺโย. เอตฺถาติ เอตสฺมึ อธิกาเร น เหตุเหตุ สาธารณเหตุ จาติ อตฺโถ. สมวาโย ปจฺจยสามคฺคี, เหตุ ปน เอเกโก ปจฺจโยติ อยเมเตสํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ อเนกปจฺจยทสฺสเนน ตํตํทฺวาริกานํ กุสลานฺจ ตปฺปจฺจยตํ ทสฺเสติ.

ปริคฺคโห กโต อฏฺกถาจริเยหิ. เอกการณวาโทติ ปกติการณวาโท, อิสฺสรการณวาโท วา. อฺมฺาเปกฺโขติ อวยวานํ อฺมฺาเปกฺขตาย สมุทาโย วุตฺโต. อเปกฺขา จ ยาว สหายการณสมาคโม น โหติ, ตาว ผลสฺส อนิปฺผาทนํ สมาคเม นิปฺผาทนสมตฺถสฺส นิปฺผาทนฺจ. สมาคโม จ เยสุ ยุชฺชมาเนสุ นิพฺยาปาเรสุปิ ผลสฺส ปวตฺติ, เตสํ สพฺภาโวติ.

อสามคฺคี…เป… ปตฺติโตติ จกฺขุรูปาโลกมนสิการานํ อสมเวตานํ จกฺขุวิฺาณสฺส อเหตุภาเว สติ สมเวตานฺจ ตํสภาวาวินิวตฺติโต เหตุภาวานาปตฺติโตติ อตฺโถ. น หิ สภาวนฺตรํ อฺเน สหิตํ สภาวนฺตรํ โหตีติ. เอกสฺมินฺติ อนฺธสเต เอเกกสฺมึ อนฺเธติ อธิปฺปาโย. อฺถา ยถารุตวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน เอกสฺส อนฺธสฺส ทสฺสนาสมตฺถตา สพฺเพสมฺปิ น โหติ, นาปิ เอกสฺส อสมตฺถตาย สพฺเพสมฺปิ อสมตฺถตา วุตฺตา, กินฺตุ สพฺเพสํ วิสุํ อสมตฺถตาย เอวาติ อุปมาวจนํ น ยุชฺเชยฺย, นาปิ อุปโมปมิตพฺพสมฺพนฺโธ. น หิ อุปมิตพฺเพสุ จกฺขาทีสุ เอกสฺส อสมตฺถตาย สพฺเพสมฺปิ อสมตฺถตา วุตฺตา, กินฺตุ สพฺเพสํ วิสุํ อสมตฺถตาย สหิตานํ อสมตฺถตาติ. อนฺธสตํ ปสฺสตีติ จ อนฺธสตํ สหิตํ ปสฺสตีติ อธิปฺปาโย อฺถา วุตฺตนเยน อุปมิตพฺพาสมานตาปตฺติโต. สาธา…เป… ิตภาโวติ เยสุ วิชฺชมาเนสุ ผลปฺปวตฺติ เตสํ สโมธาเน, ยถา ปวตฺตมาเนสุ เตสุ ผลปฺปวตฺติ, ตถา ปวตฺติมาห. น เยสํ เกสฺจิ อเนเกสํ สโมธานมตฺตํ สามคฺคี. น หิ สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสโมธานํ จกฺขุวิฺาณสฺส, กฏฺกปาลปาสาณสโมธานํ วา โสตวิฺาณสฺส เหตูติ. นฺติ ตํ ทสฺสนํ. อสา…เป… สิทฺโธติ นายมตฺโถ สาเธตพฺโพ วิสุํ อเหตูนํ จกฺขาทีนํ สหิตานํ เหตุภาวสฺส ปจฺจกฺขสิทฺธตฺตาติ อตฺโถ. น หิ ปจฺจกฺขสิทฺเธ ยุตฺติมคฺคนํ ยุตฺตนฺติ.

มนุสฺสตฺตาทีนํ ขณาวยวานํ สามคฺคี ขณสามคฺคี, ตํ วินา โส นวมจกฺกสมฺปตฺติสงฺขาโต ขโณ นตฺถิ. สา เอว หิ ขณสามคฺคี โส ขโณติ อตฺโถ. ขณ…เป… ทีเปติ อตฺตโน ทุลฺลภตายาติ อตฺโถ. ขณตฺโถ วา สมยสทฺโท ขณสงฺขาโต สมโยติ วุตฺโต. โส ยสฺมึ ทุลฺลเภ ขเณ สตีติ อิมสฺสตฺถสฺส วิภาวนวเสน ตทายตฺตาย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. เอเตนุปาเยน สมวาย…เป… วุตฺตึ ทีเปตีติ เอตฺถ อิโต ปเรสุ จ โยชนา ตสฺส ตสฺส ตํตํทีปเน กาตพฺพา.

ตสฺส ปุริสสฺสาติ ‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว จตฺตาโร ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหา สิกฺขิตา กตหตฺถา กตุปาสนา จตุทฺทิสา ิตา อสฺสุ, อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ‘อหํ อิเมสํ…เป… กตุปาสนานํ กณฺเฑ ขิตฺเต ขิตฺเต อปฺปติฏฺิเต ปถวิยํ คเหตฺวา อาหริสฺสามี’’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) เอวํ วุตฺตชวนปุริสสฺส. ตาว ปริตฺตโกติ คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริยาเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พทฺธขุรธาราสนฺนิปาตโต จ ปริตฺตตโร กาโล. กาลสงฺขาโต สมโย จิตฺตปริจฺฉินฺโน วุจฺจมาโน เตเนว ปริจฺเฉทกจิตฺเตน ‘‘เอวํ ปริตฺโต อห’’นฺติ อตฺตโน ปริตฺตตํ ทีเปติ. ยถา จาหํ, เอวํ สพฺโพ กุสลจิตฺตปฺปวตฺติกาโลติ ตสฺส ปริตฺตตํ ทีเปติ. สทฺทสฺส ทีปนา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.

ปกติวาทีนํ มหโต วิย อณุวาทีนํ ทฺวิอณุกสฺส วิย จ เอกสฺเสว. เหตุ…เป… วุตฺติตํ ทีเปตีติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติทีปนโต ตปฺปรภาวา เหตุสงฺขาตสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปนตา วุตฺตา. สติ ปน ปจฺจยายตฺตภาเว ปจฺจยสามคฺคีอายตฺตตา สมวายสงฺขาเตน ทีปิยตีติ อตปฺปรภาวโต ตสฺส ตํทีปนตา น วุตฺตา. อเนน สมเยน กตฺตุภูเตน, อเนน สมเยน วา กรณภูเตน ภควตา ปฏิเสธิโตติ อตฺโถ. เอส นโย ปุริมาสุ ทีปนาสุ.

อธิกรณวเสนาติ อาธารวเสน. เอตฺถาติ กาลสมูหสงฺขาเต สมเย คหิเตติ อตฺโถ. กาโลปิ หิ จิตฺตปริจฺฉินฺโน สภาวโต อวิชฺชมาโนปิ อาธารภาเวเนว สฺาโต ‘‘อธิกรณ’’นฺติ วุตฺโต ตํขณปฺปวตฺตานํ ตโต ปุพฺเพ ปรโต จ อภาวา. ภาโวติ กิริยา. กิริยาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ. ยถา คาวีสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโตติ โทหนกิริยา คมนกิริยาย ลกฺขณํ โหติ, เอวมิหาปิ ‘‘ยสฺมึ สมเย ตสฺมึ สมเย’’ติ จ วุตฺเต สตีติ อยมตฺโถ วิฺายมาโน เอว โหติ อฺกิริยาสมฺพนฺธาภาเวน ปทตฺถสฺส สตฺตาวิรหาภาวโตติ สมยสฺส สตฺตากิริยาย จิตฺตุปฺปาทกิริยา ผสฺสาทิภวนกิริยา จ ลกฺขียตีติ อุภยตฺถ สมยสทฺเท ภุมฺมนิทฺเทโส กโต ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ.

อุทฺทานโตติ อุทฺเทสโต สงฺเขปโต. กิเลสกาโม วตฺถุกามภาวํ ภชนฺโต กามนียวเสน ภชติ, น กามนวเสนาติ กามนวเสน กิเลสกาโม เอว โหติ, น วตฺถุกาโม. ทุวิโธเปโสติ วจเนน ทุวิธสฺสปิ สหิตสฺส อวจรณปฺปเทสํ สงฺคณฺหาติ. เตน วตฺถุกามสฺเสว ปวตฺติเทโส รูปารูปธาตุทฺวยํ อปนีตํ โหติ. นนุ จ ทุวิโธปิ สหิโต รูปารูปธาตูสุ ปวตฺตติ รูปารูปาวจรธมฺมานํ วตฺถุกามตฺตา ตทารมฺมณานํ รูปารูปราคานฺจ กิเลสกามภาวสิทฺธิโตติ? ตํ น, พหลกิเลสสฺส กามราคสฺส กิเลสกามภาเวน อิธ สงฺคหิตตฺตา. เอวฺจ กตฺวา รูปารูปธาตูสุ ปวตฺตมาเนสุ กามาวจรธมฺเมสุ นิกนฺติ อิธ น สงฺคหิตา สุขุมตฺตา. ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา’’ติ สพฺพกาเม อุทฺทิสิตฺวาปิ หิ ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ เอตฺถ ตเทกเทสภูตา อฺมฺสหิตตาปริจฺฉินฺนา กามราคตพฺพตฺถุกธมฺมาว สงฺคหิตาติ, นิรวเสโส วา กิเลสกาโม กามราโค กามตณฺหารูปตณฺหาอรูปตณฺหานิโรธตณฺหาเภโท อิธ ปวตฺตตีติ อนวเสสปฺปวตฺติตํ สนฺธาย ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ วุตฺตํ, วตฺถุกาโมปิ จ อปฺปโก อิธาปิ น วตฺตติ รูปารูปาวจรวิปากมตฺโต, ตถาปิ ปริปุณฺณวตฺถุกามตฺตา กามาวจรธมฺมาว อิธ คหิตา. เอวฺจ กตฺวา สสตฺถาวจโรปมา ยุตฺตา โหติ. ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; วิภ. ๖๒๕) เอตฺถ รูปภโว อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺโต, เอวมิธาปิ อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อฺถา หิ จิตฺตํ กามาวจราวจรนฺติ วุจฺเจยฺยาติ. อารมฺมณกรณวเสนาติอาทิเก ‘‘กาโม’’ติ สพฺพํ ตณฺหมาห, ตสฺมา ‘‘กามฺเจสา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ‘‘กาเม อวจาเรตีติ กามาวจาร’’นฺติ วตฺตพฺเพ จา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตํ.

รุฬฺหิสทฺเทนาติ าณสมฺปยุตฺเตสุ รุฬฺเหน สทฺเทน, าณสมฺปยุตฺเตสุ วา ปวตฺติตฺวา อนวชฺชสุขวิปากตาย ตํสทิเสสุ าณวิปฺปยุตฺเตสุ รุฬฺเหน สทฺเทน. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตํนิมิตฺตยุตฺเต กิสฺมิฺจิเทว วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาวเสน นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺติ รุฬฺหิ นาม ยถา ‘‘มหิยํ เสตีติ มหึโส, คจฺฉนฺตีติ คาโว’’ติ, เอวํ กุสลสทฺทสฺสปิ รุฬฺหิภาโว เวทิตพฺโพ. ปฺานิทฺเทเส ‘‘โกสลฺล’’นฺติ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๑๖) วุตฺตํ, ตสฺส จ ภาวา กุสลสทฺทปฺปวตฺตีติ โกสลฺลโยคา กุสลนฺติ อยํ อภิธมฺมปริยาโย โหติ. กุสลนฺติ กุสลภาวํ อาห.

วิปากาทีนํ อวชฺชปฏิปกฺขตา นตฺถีติ กุสลเมว อนวชฺชลกฺขณํ วุตฺตํ. อนวชฺชลกฺขณเมวาติ สุขวิปากสภาวสฺส ลกฺขณภาวนิวารณตฺถํ อวธารณํ กตํ, ตํนิวารณฺจ ตสฺส ปจฺจุปฏฺานตํ วตฺถุกามตาย กตํ. สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน โวทานภาวรสํ. ผลฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ. สภาโว กกฺขฬาทิผุสนาทิโก อสาธารโณ. สามฺํ สาธารโณ อนิจฺจาทิสภาโว. อิธ จ กุสลลกฺขณํ สพฺพกุสลสาธารณสภาวตฺตา สามฺํ ทฏฺพฺพํ, อกุสลาทีหิ อสาธารณตาย สภาโว วา. อุปฏฺานากาโรติ คเหตพฺพภาเวน าณสฺส อุปฏฺหนากาโร. ผลํ ปน อตฺตโน การณํ ปฏิจฺจ ตปฺปฏิพิมฺพภาเวน, ปฏิมุขํ วา อุปฏฺาตีติ ปจฺจุปฏฺานํ.

วิชานาตีติ สฺาปฺากิจฺจวิสิฏฺํ วิสยคฺคหณํ อาห. สพฺพจิตฺตสาธารณตฺตา ยตฺถ ยตฺถ ยถา ยถา อตฺโถ ลพฺภติ, ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา คเหตพฺโพติ. ยํ อาเสวนปจฺจยภาเวน จิโนติ, ยฺจ กมฺมุนา อภิสงฺขตตฺตา จิตํ, ตํ ตถา ‘‘จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน ตถา น โหติ, ตํ ปริตฺตกิริยทฺวยํ อนฺติมชวนฺจ ลพฺภมานจินฺตนวิจิตฺตตาทิวเสน ‘‘จิตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. หสิตุปฺปาโท ปน อฺชวนคติโกว. จิตฺตานํ ปนาติ วิจิตฺรานนฺติ อตฺโถ. ตทนฺโตคธตฺตา หิ สมุทายโวหาเรน อวยโวปิ ‘‘จิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ ยถา ปพฺพตนทีสมุทฺทาทิเอกเทเสสุ ทิฏฺเสุ ปพฺพตาทโย ทิฏฺาติ วุจฺจนฺตีติ. จรณํ นาม คเหตฺวา จริตพฺพจิตฺตปโฏ. รูปานีติ พิมฺพานิ.

อชฺฌตฺติกนฺติ อินฺทฺริยพทฺธํ วทติ. จิตฺตกตเมวาติ จิตฺตสฺส มูลการณตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กมฺมสฺส เหตํ จิตฺตํ การณนฺติ. ตํ ปน อตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘กายกมฺมาทิเภท’’นฺติอาทิมาห. ลิงฺคนานตฺตนฺติ สณฺานนานตฺตํ, ภินฺนสณฺานงฺคปจฺจงฺควโต สรีรสฺส วา นานตฺตํ. โวหารวเสน อิตฺถิปุริสาทิภาเวน โวหริตพฺเพสุ ปตฺถนาวิเสสา อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต กมฺมวิเสสา. เอวมิทํ กมฺมนานตฺตํ โวหารนานตฺตโต โหติ. อปา…เป… กาทิตาติ เอวมาทีสุ อาทิ-สทฺเทหิ คติยา อุปปตฺติยา อตฺตภาเว โลกธมฺเมสุ จ นานากรณานิ สุตฺตาคตานิ สงฺคณฺหาติ.

กมฺมนานตฺตาทิวเสนาติ เอตฺถ กุสลากุสลวเสน กมฺมนานตฺตํ เวทิตพฺพํ. วิสทิสสภาวตา หิ นานตฺตนฺติ. กุสลกมฺมสฺส ทานาทิวเสน กายสุจริตาทิภาเวน จ ปุถุตฺตํ, อกุสลกมฺมสฺส จ มจฺฉริยาทีหิ กายทุจฺจริตาทีหิ จ ปุถุตฺตํ เวทิตพฺพํ. พหุปฺปการตา หิ ปุถุตฺตนฺติ. อนฺนทานาทิวเสน ทานาทีนํ ปาณาติปาตาวิรติอาทิวเสน กายสุจริตาทีนํ อาวาสมจฺฉริยาทิวเสน มจฺฉริยาทีนํ ปาณาติปาตาทิวเสน กายทุจฺจริตาทีนฺจ ปเภโท เวทิตพฺโพ. เอเกกสฺส หิ ปการสฺส เภโท ปเภโทติ. นานตฺตาทีนํ ววตฺถานํ ตถา ตถา ววตฺถิตตา นิจฺฉิตตา. เอเตนุปาเยน ลิงฺคนานตฺตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. กมฺมนานตฺตาทีหิ นิพฺพตฺตานิ หิ ตานีติ.

ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ลิงฺคสฺส กมฺมโต ปวตฺตึ ตทนุกฺกเมน ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมสฺส นิปฺผตฺติฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต อนาคตลิงฺคนานตฺตาทินิปฺผตฺติทสฺสเนน สํสารํ ฆเฏนฺโต ‘‘กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริเมน กมฺมวจเนน อวิชฺชาสงฺขารา, ลิงฺคาทิวจเนน วิฺาณาทีนิ ภวปริโยสานานิ, คติอาทิวจเนน ชาติชรามรณานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. ตตฺถ คตีติ นิรยาทโย ปฺจ คติโย วุจฺจนฺติ, ตาสํ นานากรณํ อปทาทิภาโว. ตา หิ ตถา ภินฺนาติ. อุปปตฺตีติ โคมหึสาทิขตฺติยาทิจาตุมหาราชิกาทิอุปปตฺติโย, ตาสํ นานากรณํ อุจฺจาทิตา. ขตฺติโย เอว หิ เอกจฺโจ กุลโภคอิสฺสริยาทีหิ อุจฺโจ โหติ, เอกจฺโจ นีโจ. เตหิ เอว หีนตาย หีโน, ปธานภาวํ นีตตาย ปณีโต, อฑฺฒตาย สุคโต, ทลิทฺทตาย ทุคฺคโต. กุลวเสน วา อุจฺจนีจตา, อิสฺสริยวเสน หีนปณีตตา, โภควเสน สุคตทุคฺคตตา โยเชตพฺพา. สุวณฺณทุพฺพณฺณตาติ โอทาตสามาทิวณฺณสุทฺธิอสุทฺธิวเสน วุตฺตํ. สุชาตทุชฺชาตตาติ นิคฺโรธปริมณฺฑลาทิอาโรหปริณาเหหิ ลกฺขเณหิ วา อตฺตภาวปริปุณฺณาปริปุณฺณชาตตาวเสน. สุสณฺิตทุสฺสณฺิตตาติ องฺคปจฺจงฺคานํ สณฺานวเสน.

อปรมฺปิ วุตฺตํ อชฺฌตฺติกจิตฺตสฺส ยถาวุตฺตสฺส จิตฺตกตภาวสาธกํ สุตฺตํ ‘‘กมฺมโต’’ติอาทิ. กมฺมฺหิ จิตฺตโต นิพฺพตฺตนฺติ ตโต นิปฺผชฺชมานํ สพฺพมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตกตเมวาติ สาเธติ. กมฺมนิพฺพตฺตโต ลิงฺคโต ปวตฺตมานลิงฺคสฺา มูลการณโต กมฺมโต อาสนฺนการณโต ลิงฺคโต จ ปวตฺตา โหตีติ ‘‘กมฺมโต…เป… ปวตฺตเร’’ติ อาห. อถ วา ลิงฺคฺจ สฺา จ ลิงฺคสฺา, ตา ยถาสงฺขฺยํ กมฺมโต ลิงฺคโต จ ปวตฺตเรติ อตฺโถ. สฺาโต เภทํ คจฺฉนฺตีติ เต อิตฺถิปุริสาทิลิงฺคสฺาโต อิตฺถิปุริสาทิโวหารเภทํ ธมฺมา คจฺฉนฺติ, ตถา ตถา โวหริตพฺพาติ อตฺโถ. อิมาย คาถาย อตีตปจฺจุปฺปนฺนทฺธปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน จิตฺตกตํ จิตฺตํ ทสฺสิตํ.

โลโก เอว ปชาตตฺตา ปชาติ ปุริมปาทสฺส วิวรณํ ปจฺฉิมปาโท ทฏฺพฺโพ. ยถา รถสฺส อาณิ นิพนฺธนา, เอวํ สตฺตโลกรถสฺส กมฺมํ นิพนฺธนนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. อิมาย จ คาถาย อทฺธทฺวยวเสน จิตฺตสฺส กมฺมวิฺาณกตตา ทสฺสิตา. กิตฺตินฺติ ปรมฺมุขา กิตฺตนํ ปตฺถฏยสตํ. ปสํสนฺติ สมฺมุขา ปสํสนํ ถุตึ. กมฺมนานากรณนฺติ กมฺมโต นิพฺพตฺตนานากรณํ กมฺมเชหิ อนุมิยมานํ กมฺมสฺเสว วา นานากรณํ.

กมฺมสฺสกาติ กมฺมสยา. กมฺมสฺส ทายํ เตน ทาตพฺพํ อาทิยนฺตีติ กมฺมทายาทา. อณฺฑชาทีนฺจ โยนีนํ กมฺมโต นิพฺพตฺตตฺตา กมฺมเมว โยนิ อตฺตภาวปฏิลาภนิมิตฺตํ เอเตสนฺติ กมฺมโยนี. พนฺธนฏฺเน กมฺมํ พนฺธุ เอเตสนฺติ กมฺมพนฺธู.

จิตฺตสฺสาติ กมฺมวิฺาณสฺส. ตสฺส ปน อลทฺโธกาสตา อฺเน กมฺเมน ปฏิพาหิตตฺตา ตทวิปจฺจโนกาเส ปุคฺคลสฺส นิพฺพตฺตตฺตา จ เวทิตพฺพา. วิชฺชมานมฺปิ อปราปริยเวทนียกมฺมวิฺาณํ กาลคติปโยคาทิสหการีปจฺจยวิกลตาย อวเสสปจฺจยเวกลฺลํ ทฏฺพฺพํ. เอกจฺจจิตฺตนฺติ จิตฺเตน กตฺตพฺพจิตฺเรน เอกจฺจภูตํ เตน กตฺตพฺพจิตฺรมาห.

อนุภวิตฺวา ภวิตฺวา จ อปคตํ ภูตาปคตํ. อนุภูตภูตตา หิ ภูตตาสามฺเน ภูตสทฺเทน วุตฺตา. สามฺเมว หิ อุปสคฺเคน วิเสสียตีติ. อนุภูตสทฺโท จ กมฺมวจนิจฺฉาภาวโต อนุภวกวาจโก ทฏฺพฺโพ. วิกปฺปคาหวเสน ราคาทีหิ ตพฺพิปกฺเขหิ จ อกุสลํ กุสลฺจ อารมฺมณรสํ อนุภวติ, น วิปาโก กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, นาปิ กิริยา อเหตุกานํ อติทุพฺพลตาย สเหตุกานฺจ ขีณกิเลสสฺส ฉฬงฺคุเปกฺขาวโต อุปฺปชฺชมานานํ อติสนฺตวุตฺติตฺตา. เอตฺถ จ ปุริมนเย กุสลากุสลเมว วตฺตุํ อธิปฺปายวเสน ‘‘ภูตาปคต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ‘‘อุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๖๕๑-๖๖๒; วิภ. ๓๙๐-๓๙๑) เอตฺถ อุปฺปนฺนนฺติ คเหตฺวา ตํสทิสานํ ปหานํ, วุทฺธิ จ วุตฺตา, ปจฺฉิมนเย ปน -สทฺเทน กุสลากุสลฺจ อากฑฺฒิตฺวา สพฺพํ สงฺขตํ วุตฺตํ ภูตาปคตภาวาภิธานาธิปฺปาเยน.

วิปจฺจิตุํ โอกาสกรณวเสน อุปฺปติตํ อตีตกมฺมฺจ ตโต อุปฺปชฺชิตุํ อารทฺโธ อนาคโต วิปาโก จ ‘‘โอกาสกตุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺโต. ยํ อุปฺปนฺนสทฺเทน วินาปิ วิฺายมานํ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺธาย ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกาน’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗, ๒๑๙) วุตฺตํ. ตาสุ ตาสุ ภูมีสูติ มนุสฺสเทวาทิอตฺตภาวสงฺขาเตสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ตสฺมึ ตสฺมึ สนฺตาเน อนุปฺปตฺติอนาปาทิตตาย อสมูหตํ. เอตฺถ จ ลทฺธภูมิกํ ‘‘ภูมิลทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ อคฺคิอาหิโต วิย. โอกาสกตุปฺปนฺนสทฺเทปิ จ โอกาโส กโต เอเตนาติ, โอกาโส กโต เอตสฺสาติ จ ทุวิธตฺเถปิ เอวเมว กตสทฺทสฺส ปรนิปาโต เวทิตพฺโพ.

สพฺพทา อวตฺตมานมฺปิ คมิยจิตฺตํ ปฏิปกฺขปจฺจเวกฺขณาย อวิกฺขมฺภิตตฺตา ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. อนฺตรธาเปตีติ วิกฺขมฺภิกา อานาปานสฺสติ วิกฺขมฺเภติ. อนฺตราเยวาติ ภูมิลทฺเธ สภูมิยํ อพฺโพจฺฉินฺเน วิจฺฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อนตีตํ อนนาคตฺจ ขณตฺตเยกเทสคตมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘ขณตฺตยคต’’นฺติ วุตฺตํ. เทสนาย ปธาเนน คหิโต อตฺโถ ‘‘สีส’’นฺติ วุจฺจติ. โลกิยธมฺมฺหิ เทเสตพฺพํ ปตฺวา เทสนาย จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ, ธมฺมสภาวํ วา สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อกุสลาติ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา วุตฺตา. เจตนาติ เกจิ. อกุสลภาคิยาติ ราคาทโย เอกนฺตอกุสลา. อกุสลปกฺขิกาติ ผสฺสาทโยปิ ตปฺปกฺขิกา. มโน เตสํ ธมฺมานํ ปมํ อุปฺปชฺชตีติ สหชาโตปิ มโน สมฺปยุตฺเต สงฺคณฺหิตฺวา อธิปติภาเวน ปวตฺตมาโน ปมํ อุปฺปนฺโน วิย โหตีติ เอวํ วุตฺโต. สมฺปยุตฺตาปิ ตทนุวตฺตนตาย อนฺวเทว อกุสลา ธมฺมาติ วุตฺตา, อนนฺตรปจฺจยมนํ วา สนฺธาย มโนปุพฺพงฺคมตา วุตฺตา. จิตฺเตน นียตีติ อภิสงฺขารวิฺาณํ สนฺธายาห, ตณฺหาสมฺปยุตฺตํ วา. ปภสฺสรนฺติ สภาวปณฺฑรตํ สนฺธายาห. อรกฺขิเตติ สติยา อนุนยปฏิฆาทีหิ อรกฺขิเต, ราคาทีหิ พฺยาปนฺเน, เตหิ เอว อวสฺสุเต. จิตฺตสฺส ปุพฺพงฺคมภาวสาธเน อฺมฺํ พลทานวเสน สุตฺตานุรกฺขณํ, อิธ วา อุปสํหตานํ อาภิธมฺมิเกหิ วิฺาตานํ จิรกาลปฺปวตฺติวเสน เวทิตพฺพํ.

กตรปฺํ ตฺวนฺติอาทิ น ปาฬิอารุฬฺหํ, เอวํ ภควา ปุจฺฉตีติ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ. ปฺา ปน กิมตฺถิยาติ อิทมฺปิ เอกํ สุตฺตํ. ‘‘อภิฺตฺถา ปริฺตฺถา ปหานตฺถา’’ติ ตสฺส วิสฺสชฺชนํ.

สาตนฺติ สภาววเสน วุตฺตํ, มธุรนฺติ มธุรํ วิยาติ อุปมาวเสน. โปโนพฺภวิกาติ ปุนพฺภวกรณสีลา. ตตฺรตตฺราภินนฺทนโต นนฺที, นนฺทิภูโต ราโค นนฺทิราโค, นนฺทิราคภาเวน สหคตาติ นนฺทิราคสหคตาติ น เอตฺถ สมฺปโยควเสน สหคตภาโว อตฺถีติ สหคตสทฺโท ตณฺหาย นนฺทิราคภาวํ โชเตติ. นนฺทิราคภูตาติ จสฺส อตฺโถ. นิสฺสเยติ ปาทเก. รูปารูปารมฺมณานนฺติ ปถวีกสิณาทิอากาสาทิอารมฺมณานํ. สํสฏฺเติ ขีโรทกํ วิย สโมทิเต เอกีภาวมิว คเต. สหชาเตติ สมฺปยุตฺตสหชาเต, น สหชาตมตฺเต. อิธาปีติ ‘‘อิมสฺมิมฺปิ ปเท อยเมว อตฺโถ อธิปฺเปโต’’ติ อิมิสฺสา อฏฺกถาย ยถาทสฺสิตสํสฏฺสทฺโท สหชาเต อธิปฺเปโตติ. อรูปํ รูเปนาติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุนา. อุกฺกฏฺนิทฺเทโสติ อนวเสสสงฺคเหน กโต อติสยนิทฺเทโส.

อนาภฏฺตาเยวาติ ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทีสุ ทิฏฺตาทโย วิย อภาสิตพฺพตา อนาภฏฺตา. สพฺพากาเรน สทิสสฺส ทุติยจิตฺตสฺส สสงฺขาริกตาวจเนน อิมสฺส อสงฺขาริกตา วิฺายติ, ตสฺมา อภาสิตพฺพตาย น คหิโตติ อตฺโถ ยุชฺชติ. อธิปฺปาโย ปน ปาฬิยํ อภาสิตตฺตา เอว ตตฺถ เทเสตพฺพภาเวน น คหิโต น สงฺคหิโต น ตสฺสตฺถสฺส อภาวาติ. อถ วา ปาฬิยํ อนาภฏฺตาย เอว อฏฺกถายํ น คหิโต น ตสฺสตฺโถ วุตฺโต. นิยเมตฺวาวาติ ปรโต เอวํวิธสฺเสว สสงฺขาริกภาววจนโต อิธ ตทวจเนเนว อสงฺขาริกภาวํ นิยเมตฺวา.

มโนวิฺาณนฺติ เอตฺถ ทฺวารํ วตฺถูติ วุตฺตํ, ทฺวาเรน วา ตํสหายภูตํ หทยวตฺถุ วุตฺตํ. สรสภาเวนาติ สกิจฺจภาเวน. อวิชฺชา หิ สงฺขารานํ ปจฺจยภาวกิจฺจา, อฺาสาธารโณ วา รสิตพฺโพ วิฺาตพฺโพ ภาโว สรสภาโว, อวิชฺชาสภาโว สงฺขารสภาโวติ เอวมาทิโก. ‘‘สรสสภาเวนา’’ติปิ ปาโ, โสเยว อตฺโถ. อวิชฺชาปจฺจยาติ วา สรเสน, สงฺขาราติ สภาเวน.

เอกสมุฏฺานาทิตา รูปธมฺเมสุ เอว โยเชตพฺพา เตสุ ตพฺโพหารพาหุลฺลโต. อตีตาทิภาโว รูปารูปธมฺเมสุ, จิตฺตเจตสิกนิพฺพานานมฺปิ วา ยถาสภาวํ เอกทฺวินกุโตจิสมุฏฺานตา โยเชตพฺพา. อนาปาถคตาติ จกฺขาทีนํ อโคจรคตา สุขุมรชาทิรูปํ วิย วตฺถุปริตฺตตาย ตตฺตาโยคุเฬ ปติโตทกพินฺทุรูปํ วิย ขณปริตฺตตาย อติทูรตาย อจฺจาสนฺนาทิตาย อตีตานาคตตาย จ. วิสโย อนฺตฺถภาเวน, โคจโร จ ตตฺถ จรเณน วุตฺโต, ตพฺพิสยนิจฺฉเยน มโน ปฏิสรณํ. อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ อฺถา เตสํ ธมฺมารมฺมณภาเวน ‘‘เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ วจนสฺส อนุปปตฺติโต. ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตอิทฺธิวิธาเณหิ ยถาวุตฺตนเยน อนาปาถคตานิ รูปาทีนิ อาลมฺพิยมานานิ น ธมฺมารมฺมณนฺติ กตฺถจิ วุจฺจมานานิ ทิฏฺานิ, อิตรถา จ ทิฏฺานิ ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตี’’ติอาทีสูติ.

อาปาถมาคจฺฉติ มนสา ปฺจวิฺาเณหิ จ คเหตพฺพภาวูปคมเนน. ฆฏฺเฏตฺวาติ ปฏิมุขภาวาปาถํ คนฺตฺวา. สรภาณกสฺส โอสารกสฺส. ปกติยา ทิฏฺาทิวเสน อาปาถคมนฺจ โภชนปริณามอุตุโภชนวิเสสอุสฺสาหาทีหิ กลฺยํ, โรคิโน วาตาทีหิ จ อุปทฺทุตํ วา กายํ อนุวตฺตนฺตสฺส ชาครสฺส ภวงฺคสฺส จลนปจฺจยานํ กายิกสุขทุกฺขอุตุโภชนาทิอุปนิสฺสยานํ จิตฺตปณิทหนสทิสาสทิสสมฺพนฺธทสฺสนาทิปจฺจยานํ, สุตฺตสฺส จ สุปินทสฺสเน ธาตุกฺโขภาทิปจฺจยานํ วเสน เวทิตพฺพํ. อทิฏฺสฺส อสุตสฺส อนาคตพุทฺธรูปาทิโน ปสาททาตุกามตาวตฺถุสฺส ตํสทิสตาสงฺขาเตน ทิฏฺสุตสมฺพนฺเธเนว. น เกวลํ ตํสทิสตาว อุภยสมฺพนฺโธ, กินฺตุ ตพฺพิปกฺขตา ตเทกเทสตา ตํสมฺปยุตฺตตาทิโก จ เวทิตพฺโพ. เกนจิ วุตฺเต กิสฺมิฺจิ สุเต อวิจาเรตฺวา สทฺทหนํ สทฺธา, สยเมว ตํ วิจาเรตฺวา โรจนํ รุจิ, ‘‘เอวํ วา เอวํ วา ภวิสฺสตี’’ติ อาการวิจารณํ อาการปริวิตกฺโก, วิจาเรนฺตสฺส กตฺถจิ ทิฏฺิยา นิชฺฌานกฺขมนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ.

เครุกหริตาลฺชนาทิธาตูสุ. สุภนิมิตฺตํ สุภคฺคหณสฺส นิมิตฺตํ. ตํ สุภนิมิตฺตตฺตา รฺชนียตฺตา จ โลภสฺส วตฺถุ. นิยมิตสฺส จิตฺตสฺส วเสน นิยมิตวเสน. เอวมิตเรสุ ทฺวีสุ. อาโภโค อาภุชิตํ. ลูขปุคฺคลา โทสพหุลา. อโทสพหุลา สินิทฺธปุคฺคลา. ตทธิมุตฺตตาติ ปีตินินฺนจิตฺตตา. อิเมหิ…เป… เวทิตพฺโพ ปีติยา โสมนสฺสวิปฺปโยคาสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.

ชีวิตวุตฺติยา อายตนภาวโต หตฺถาโรหาทิสิปฺปเมว สิปฺปายตนํ. กสิวาณิชฺชาทิกมฺมเมว กมฺมายตนํ. อายุเวทาทิวิชฺชา เอว วิชฺชาฏฺานํ. อพฺยาปชฺเชติ โทมนสฺสพฺยาปาทรหิเต รูปภเว. ธมฺมปทาติ ธมฺมโกฏฺาสา. ปิลวนฺตีติ อุปฏฺหนฺติ ปทิสฺสนฺติ. โยคาติ ภาวนาภิโยคา สมาธิโต. วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ นิมฺมลภาวกิริยา. สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ อฺมฺานติวตฺตนํ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา. คมฺภีรานํ าเณน จริตพฺพานํ, คมฺภีราเณน วา จริตพฺพานํ สุตฺตนฺตานํ ปจฺจเวกฺขณา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา.

วํโสติ อนุกฺกโม. ตนฺตีติ สนฺตติ. ปเวณีติ สมฺพนฺโธ. สพฺพเมตํ จาริตฺตกิริยาปพนฺธสฺส วจนํ. จาริตฺตสีลตฺตา สีลมยํ. ‘‘ทสฺสามี’’ติ วจีเภเทน วตฺถุสฺส ปริณตตฺตา ตโต ปฏฺาย ทานํ อารทฺธํ นาม โหติ, ยโต ตสฺส อตฺตโน ปริณามนาทีสุ อาปตฺติ โหติ. วิชฺชมานวตฺถุสฺมึ จินฺตนกาลโต ปฏฺาย ทานํ อารทฺธนฺติ ตตฺถ ทานมยํ กุสลํ โหตีติ อธิปฺปาโย. น หิ ทานวตฺถุํ อวิชฺชมานกมฺปิ สงฺขโรนฺตสฺส กุสลํ น โหตีติ. ตํ ปน ทานมยสฺส ปุพฺพภาโคติ ตเทว ภเชยฺย, วุตฺตํ อฏฺกถายํ. กุลวํสาทิวเสนาติ อุทาหรณมตฺตเมเวตํ. อตฺตนา สมาทินฺนวตฺตวเสน สปฺปุริสวตฺตคามชนปทวตฺตาทิวเสน จ จาริตฺตสีลตา เวทิตพฺพา.

สวตฺถุกนฺติ เภริอาทิวตฺถุสหิตํ กตฺวา. วิชฺชมานกวตฺถุนฺติ เภริอาทิวตฺถุํ. ธมฺมสฺสวนโฆสนาทีสุ จ สวตฺถุกํ กตฺวา สทฺทสฺส ทานํ สทฺทวตฺถูนํ านกรณานํ สสทฺทปฺปวตฺติกรณเมวาติ ตสฺส จินฺตนํ วิชฺชมานวตฺถุปริจฺจาโค เวทิตพฺโพ. ภาเชตฺวา ทสฺเสสิ ธมฺมราชา อิธ จ รูปารมฺมณาทิภาวํ, อฺตฺถ จ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปุฺกิริยวตฺถูนี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) ทานมยาทิภาวํ, อปรตฺถ จ ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ตีณิ…เป… ตํสมุฏฺานํ กายกมฺม’’นฺติอาทินา กายกมฺมาทิภาวฺจ วทนฺโต. อปริยาปนฺนา จาติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา อฺายตนตฺตา จ อสงฺคหิตา.

ปริโภครโส ปริโภคปจฺจยํ ปีติโสมนสฺสํ. อยํ ปน รสสมานตาวเสน คหณํ อุปาทาย รสารมฺมณนฺติ วุตฺโต, น สภาวโต. สภาเวน ปน คหณํ อุปาทาย ปีติโสมนสฺสํ ธมฺมารมฺมณเมว โหตีติ ‘‘สุขา เวทนา ธมฺมารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. อารมฺมณเมว นิพทฺธนฺติ รูปารมฺมณํ…เป… ธมฺมารมฺมณนฺติ เอวํ นิยเมตฺวา วุตฺตํ. กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตาติ กมฺมสฺส อนิยตตฺตา. ยถา หิ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ อนฺารมฺมณํ โหติ, น เอวํ กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา กมฺมสฺส ทฺวารนิยมรหิตตฺตา ทฺวารมฺปิ กมฺมนิยมรหิตนฺติ อิธ อารมฺมณํ วิย นิยเมตฺวา น วุตฺตํ. วินา อารมฺมเณน อนุปฺปชฺชนโตติ เอตสฺสปิ จตฺโถ ‘‘ยถา กายกมฺมาทีสุ เอกํ กมฺมํ เตน ทฺวาเรน วินา อฺสฺมึ ทฺวาเร จรติ, น เอวํ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ เตนารมฺมเณน วินา อารมฺมณนฺตเร อุปฺปชฺชตี’’ติ เวทิตพฺโพ. น หิ ยถา วจีทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สทฺทารมฺมเณ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘รูปารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจติ.

กามาวจรกุสลํ

กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา

อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ กมฺมทฺวารานํ อฺมฺสฺมึ อนิยตตาย ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติอาทินา ปกาสนตฺถํ. ปฺจ วิฺาณานีติ เอตฺถ ฉฏฺสฺส วิฺาณสฺส ตสฺส จ ทฺวารสฺส อนุทฺเทโส ทฺวารทฺวารวนฺตานํ สหาภาวา. นิยตรูปรูปวเสน จตุสมุฏฺานิกกายา วุตฺตาติ สทฺทสฺส วิการรูปาทีนฺจ อสงฺคโห.

ปมชวนสมุฏฺิตา วาโยธาตุ ยทิปิ ตสฺมึ ขเณ รูปานํ เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จาเลตุํ น สกฺโกติ, ตถาปิ วิฺตฺติวิการสหิตาว สา เวทิตพฺพา. ทสสุ หิ ทิสาสุ ยํ ทิสํ คนฺตุกาโม องฺคปจฺจงฺคานิ วา ขิปิตุกาโม, ตํทิสาภิมุขาเนว รูปานิ สา สนฺถมฺเภติ สนฺธาเรติ จาติ ตทภิมุขภาววิการวตี โหติ, อธิปฺปายสหภาวี จ วิกาโร วิฺตฺตีติ. เอวฺจ กตฺวา อาวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาโว ยถาธิปฺปายวิการรูปุปฺปาทเนน อุปปนฺโน โหติ, ยโต พาตฺตึส จิตฺตานิ รูปิริยาปถวิฺตฺติชนกานิ วุตฺตานีติ. โยชนํ คโต, ทสโยชนํ คโตติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชาเปติ อเนกสหสฺสวารํ อุปฺปนฺนา.

วาโยธาตุยา…เป… ปจฺจโย ภวิตุนฺติ ถมฺภนจลเนสุ วาโยธาตุยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ จิตฺตสมุฏฺานมหาภูตานํ เอโก อาการวิเสโส อตฺถิ, อยํ วิฺตฺติ นาม. เตสฺหิ ตทาการตฺตา วาโยธาตุ ถมฺเภติ จาเลติ จาติ. น จิตฺตสมุฏฺานาติ เอเตน ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสติ. น หิ รูปํ อปฺปจฺจยํ อตฺถิ, น จ นิพฺพานวชฺโช อตฺโถ นิจฺโจ อตฺถีติ. วิฺตฺติตายาติ วิฺตฺติวิการตาย. จิตฺตสมุฏฺานภาโว วิย มหาภูตวิการตาย อุปาทารูปภาโว จ อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ.

กายิกกรณนฺติ กายทฺวารปฺปวตฺตํ จิตฺตกิริยํ, อธิปฺปายนฺติ อตฺโถ. กาเรติ มฺเติ เอเตน วณฺณคฺคหณานุสาเรน คหิตาย วิฺตฺติยา ยํ กรณํ วิฺาตพฺพํ, ตสฺส วิชานเนน วิฺตฺติยา วิฺาตตฺตํ ทสฺเสติ. น หิ วิฺตฺติรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ ‘‘อิทเมส กาเรตี’’ติ วิชานนํ โหตีติ. จกฺขุวิฺาณสฺส หิ รูเป อภินิปาตมตฺตํ กิจฺจํ, น อธิปฺปายสหภุโน จลนวิการสฺส คหณํ. จิตฺตสฺส ปน ลหุปริวตฺติตาย จกฺขุวิฺาณวีถิยา อนนฺตรํ มโนวิฺาเณน วิฺาตมฺปิ จลนํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย มฺนฺติ อวิเสสวิทุโน, ตสฺมา ยถา นีลาภินิปาตวสปฺปวตฺตาย จกฺขุวิฺาณวีถิยา นีลนฺติ ปวตฺตาย มโนวิฺาณวีถิยา จ อนฺตรํ น วิฺายติ, เอวํ อวิฺายมานนฺตเรน มโนทฺวารวิฺาเณน คหิเต ตสฺมึ จิตฺเตน สเหว อนุปริวตฺเต กายถมฺภนวิการโจปนสงฺขาเต ‘‘อิทเมส กาเรติ, อยมสฺส อธิปฺปาโย’’ติ วิชานนํ โหติ.

ตาลปณฺณาทิรูปานิ ทิสฺวา ตทนนฺตรปฺปวตฺตาย มโนทฺวารวีถิยา อวิฺายมานนฺตราย ตาลปณฺณาทีนํ อุทกาทิสหจาริปฺปการตํ สฺาณาการํ คเหตฺวา อุทกาทิคฺคหณํ วิย. เอตฺถ อุทกํ ภวิสฺสตีติอาทินา จ อุทกาทิสมฺพนฺธนากาเรน รูปคฺคหณานุสารวิฺาเณน ยํ อุทกาทิ วิฺาตพฺพํ, ตสฺส วิชานเนน ตทาการสฺส วิฺาตตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. เอตสฺส ปน กายิกกรณคฺคหณสฺส อุทกาทิคฺคหณสฺส จ ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธคฺคหณํ อุปนิสฺสโย โหตีติ ทฏฺพฺพํ. อถ ปน นาลมฺพิตาปิ วิฺตฺติ กายิกกรณคฺคหณสฺส จ ปจฺจโย ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธคฺคหโณปนิสฺสยวเสน สาธิปฺปายวิการภูตวณฺณคฺคหณานนฺตรํ ปวตฺตมานสฺส อธิปฺปายคฺคหณสฺส อธิปฺปายสหภูวิการาภาเว อภาวโต, เอวํ สติ วณฺณคฺคหณานนฺตเรน อุทกาทิคฺคหเณเนว ตาลปณฺณาทิสฺาณากาโร วิย วณฺณคฺคหณานนฺตเรน อธิปฺปายคฺคหเณเนว วิฺตฺติ ปากฏา โหตีติ ‘‘อิทฺจิทฺจ เอส กาเรติ มฺเ’’ติ อธิปฺปายวิชานเนเนว วิฺตฺติยา วิฺาตตา วุตฺตา.

อยํ โน ปหริตุกาโมติ อธิปฺปายวิชานเนน วิฺตฺติยา ปากฏภาวํ ทสฺเสติ. น หิ ตทปากฏภาเว อธิปฺปายวิชานนํ โหตีติ. สมฺมุขี…เป… เยว นาม โหตีติ อสมฺมุขีภูตตาย อนาปาถคตานํ รูปาทีนํ จกฺขุวิฺเยฺยาทิภาโว วิย สภาวภูตํ ตํ ทฺวิธา วิฺตฺติภาวํ สาเธติ. ปรํ โพเธตุกามตาย วินาปิ อภิกฺกมนาทิปฺปวตฺตเนน โส จิตฺตสหภูวิกาโร อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจ วิฺายตีติ ทฺวิธาปิ วิฺตฺติเยวาติ เวทิตพฺพา.

ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธาติ เตน ทฺวาเรน วิฺาตพฺพภาวโต เตเนว ทฺวาเรน นามลาภโต ตสฺมึ ทฺวาเร ปากฏภาววเสน สิทฺธา. กุสลํ วา อกุสลํ วาติ เปตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา ปรวาทิโน อวิปากสฺส กมฺมภาโว น สิทฺโธ, อิตรสฺส ปน สิทฺโธติ วิฺตฺติสมุฏฺาปกานํ เอกาทสนฺนํ กิริยจิตฺตานํ วเสน ติกํ ปูเรตฺวา เปตพฺพํ.

ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยทิ ทฺวารา ทฺวารนฺตรจาริโน โหนฺติ, ทฺวารสมฺเภทา กมฺมสมฺเภโทปีติ กายกมฺมํ กายกมฺมทฺวารนฺติ อฺมฺววตฺถานํ น สิยา, กมฺมานมฺปิ กมฺมนฺตรจรเณ เอเสว นโย. ยทิ ปน ทฺวารานมฺปิ ทฺวารภาเวน กมฺมนฺตรจรณํ กมฺมานฺจ ทฺวารนฺตรจรณํ น สิยา, สุฏฺุตรํ กมฺมทฺวารววตฺถานํ สิยา. น ปน กมฺมานํ ทฺวารนฺตเร อจรณํ อตฺถิ, กินฺตุ ทฺวาเร อฺสฺมิฺจ จรนฺติ กมฺมานิ อฺานิปิ. ยสฺมา ปน ทฺวาเร ทฺวารานิ น จรนฺติ, ตสฺมา อทฺวารจารีหิ ทฺวาเรหิ การณภูเตหิ กมฺมานิ ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ ววตฺถิตานิ. น เกวลํ กมฺมาเนว, เตหิ ปน ทฺวารานิปีติ เอวํ กมฺมทฺวารานิ อฺมฺํ ววตฺถิตานิ ‘‘เยภุยฺเยนวุตฺติตาย ตพฺพหุลวุตฺติตาย จา’’ติ วุจฺจมานาย ววตฺถานยุตฺติยา. ตตฺถ ทฺวาราเปกฺขตฺตา กมฺมานํ กายกมฺมาทิภาวสฺส อทฺวารจารีหิ ทฺวาเรหิ ววตฺถานํ โหติ, น ปน ทฺวารนฺตรจารีหิ กมฺเมหิ ทฺวารานํ อววตฺถานํ กมฺมานเปกฺขกายทฺวาราทิภาเวหิ ทฺวาเรหิ ววตฺถิตานํ กายกมฺมาทีนํ กายกมฺมทฺวาราทิววตฺถานกรตฺตา. อถ วา ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ กายาทีหิ อุปลกฺขิตาเนว จรนฺติ ปาณาติปาตาทีนํ เอวํสภาวตฺตา อาณตฺติหตฺถวิการาทีหิ วุจฺจมานสฺสปิ กายาทีหิ สาเธตพฺพสภาวาวโพธโต, ตสฺมา น กมฺมนฺตรสฺส อตฺตนิ จรนฺตสฺสปิ ทฺวารนฺตรํ สนามํ เทติ, นาปิ กมฺมํ ทฺวารสฺส, ตํตํทฺวารเมว ปน กมฺมสฺส กมฺมฺจ ทฺวารนฺตเร จรนฺตมฺปิ อตฺตโนเยว ทฺวารสฺส นามํ เทตีติ สิทฺธํ อฺมฺววตฺถานํ. ปุพฺเพ ปน ทฺวาเรสุ อนิพทฺธตา กมฺมานํ ทฺวารนฺตรจรณเมว สนฺธาย วุตฺตา, น เอตํ ววตฺถานนฺติ.

ตตฺถาติ เตสุ ทฺวารกมฺเมสุ. กายกมฺมสฺส อุปฺปชฺชนฏฺานนฺติ ตํสหชาตา วิฺตฺติเยว วุจฺจติ. กิฺจาปิ หิ สา ตสฺส เกนจิ ปกาเรน ปจฺจโย น โหติ, ตถาปิ กมฺมสฺส วิเสสิกา วิฺตฺติ ตํสหชาตา โหตีติ ตสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภาเวน วุตฺตา ยถาวุตฺตนิยเมน อฺวิเสสนสฺส กมฺมสฺส วิเสสนนฺตเร อุปฺปตฺติอภาวา. กาเยน ปน กตตฺตาติ กายวิฺตฺตึ ชเนตฺวา ตาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทาทินิปฺผาทนโต อตฺตโน นิปฺผตฺติวเสน ‘‘กาเยน กตํ กมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. การณภูโต หิ ปเนตฺถ กาโยติ.

อฺมฺํ ววตฺถิตาติ เอตฺถ กมฺมุนา กาโย กายกมฺมทฺวารนฺติ เอวํ ววตฺถิโต, น กาโย อิจฺเจว. ยถา สูจิกมฺมุนา สูจิกมฺมกรณนฺติ ววตฺถิตา, น สูจิ อิจฺเจว, ตถา อิทมฺปิ ทฏฺพฺพํ. อฺมฺํ ววตฺถิตาติ จ อฺมฺํ วิเสสิตาติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตติ ยถาวุตฺตํ ววตฺถานนิยมํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานี’’ติอาทิวจนเมว คเหตฺวา โจเทติ. ตตฺถ เอวํ สนฺเตติ กมฺมานํ ทฺวารจรเณ อฺมฺเน จ ววตฺถาเน นามลาเภ วิเสสเน สตีติ อตฺโถ.

กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา

จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตาติ เอตฺถ สุภาสิตภาสนสงฺขาตา อปิสุณวาจา, ธมฺมภาสนสงฺขาโต อสมฺผปฺปลาโป, ปิยภาสนสงฺขาตา อผรุสวาจา, สจฺจภาสนสงฺขาโต อมุสาวาโท จาติ เอตา วาจา ตถาปวตฺตา เจตนา ทฏฺพฺพา. สหสทฺทา ปนาติ ตสฺส วิการสฺส สทฺเทน สห สมฺภูตตฺตา วุตฺตํ. จิตฺตานุปริวตฺติตาย ปน โส น ยาว สทฺทภาวีติ ทฏฺพฺโพ, วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท น โสตวิฺเยฺโยติ ปวตฺเตน มหาอฏฺกถาวาเทน จิตฺตสมุฏฺานสทฺโท วินาปิ วิฺตฺติฆฏฺฏเนน อุปฺปชฺชตีติ อาปชฺชติ. ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖) หิ วจนโต อโสตวิฺเยฺยสทฺเทน สห วิฺตฺติยา อุปฺปตฺติ นตฺถีติ วิฺายตีติ.

จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนนฺติ เอตฺถ จ น โกจิ จิตฺตสมุฏฺาโน สทฺโท อสงฺคหิโต นาม อตฺถีติ อธิปฺปาเยน มหาอฏฺกถาวาทํ ปฏิเสเธติ. ฉพฺพิเธน รูปสงฺคหาทีสุ หิ ‘‘โสตวิฺเยฺย’’นฺติ ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สุต’’นฺติ จ น โกจิ สทฺโท น สงฺคยฺหตีติ. มหาอฏฺกถายํ ปน วิฺตฺติสหชเมว ชิวฺหาตาลุจลนาทิกรวิตกฺกสมุฏฺิตํ สุขุมสทฺทํ ‘‘ทิพฺพโสเตน สุตฺวา อาทิสตี’’ติ สุตฺเต ปฏฺาเน จ โอฬาริกสทฺทํ สนฺธาย ‘‘โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อโสตวิฺเยฺยตา วุตฺตา สิยา. สทฺโท จ อโสตวิฺเยฺโย จาติ วิรุทฺธเมตนฺติ ปน ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. วิฺตฺติปจฺจยา ฆฏฺฏนา วิฺตฺติฆฏฺฏนา. วิฺตฺติ เอว วา. ฆฏฺฏนาการปฺปวตฺตภูตวิกาโร หิ ‘‘ฆฏฺฏนา’’ติ วุตฺโต. สงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชติ, น ปุพฺพาปรภาเวน. ปถวีธาตุยาติ อิทํ วาโยธาตุยา วิย จาลนํ ปถวีธาตุยา สงฺฆฏฺฏนํ กิจฺจํ อธิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, วิการสฺส จ ตปฺปจฺจยภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตพฺพิการานฺหิ ภูตานํ อฺมฺสฺส ปจฺจยภาโวติ. อฺมฺปิ สพฺพํ วิธานํ กายวิฺตฺติยํ วิย เวทิตพฺพํ.

ติสมุฏฺานิกกายํ…เป… น ลพฺภติ. น หิ จาลนํ อุปาทินฺนฆฏฺฏนนฺติ. จาลนฺหิ เทสนฺตรุปฺปาทนปรมฺปรตา, ฆฏฺฏนํ ปจฺจยวิเสเสน ภูตกลาปานํ อาสนฺนตรุปฺปาโทติ. อุปตฺถมฺภนกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ อุปตฺถมฺภเนน วินา ปมจิตฺตสมุฏฺานาปิ ฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺตตีติ ฆฏฺฏนตฺถํ อุปตฺถมฺภเนน ปโยชนํ นตฺถิ, ลทฺธาเสวเนน จิตฺเตเนว ฆฏฺฏนสฺส พลวภาวโต จาติ อธิปฺปาโย. อุปตฺถมฺภนํ นตฺถิ อตฺถีติ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.

วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา

อยํ นาม เจตนา กมฺมํ น โหตีติ น วตฺตพฺพาติ อิทํ ยสฺส ทฺวารํ มโน, ตํทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กปฺเปตีติ ‘‘ตฺวํ ผุสนํ กโรหิ, ตฺวํ เวทยิต’’นฺติ เอวํ กปฺเปนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ปกปฺปนฺจ ตเทว. กึ ปิณฺฑํ กโรตีติ อายูหนตฺถวเสน ปุจฺฉติ. ผสฺสาทิธมฺเม หิ อวิปฺปกิณฺเณ กตฺวา สกิจฺเจสุ ปวตฺตนํ อายูหนํ, ตตฺเถว พฺยาปารณํ เจตยนํ, ตถากรณํ อภิสงฺขรณนฺติ. เตภูมกสฺเสว คหณํ โลกุตฺตรกมฺมสฺส กมฺมกฺขยกรตฺตา.

มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมฺมกถาวณฺณนา

เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรตีติ เอตฺถ ยสฺมา ปุริมเจตนาย เจตยิตฺวา สนฺนิฏฺานกมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เจตนาปุพฺพกํ กมฺมํ ตํเจตนาสภาวเมวาติ เจตนํ อหํ กมฺมํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา สมานกาลตฺเตปิ การณกิริยา ปุพฺพกาลา วิย วตฺตุํ ยุตฺตา, ผลกิริยา จ อปรกาลา วิย. ยสฺมา จ เจตนาย เจตยิตฺวา กายวาจาหิ โจปนกิริยํ มนสา จ อภิชฺฌาทิกิริยํ กโรติ, ตสฺมา ตสฺสา กิริยาย การิกํ เจตนํ อหํ กมฺมํ วทามีติ อตฺโถ. กาเย วาติ กายวิฺตฺติสงฺขาเต กาเย วา. สตีติ ธรมาเน, อนิโรธิเต วา. กายสมุฏฺาปิกา เจตนา กายสฺเจตนา. เอตฺถ จ สุขทุกฺขุปฺปาทเกน กมฺเมน ภวิตพฺพํ, เจตนา จ สุขทุกฺขุปฺปาทิกา วุตฺตาติ ตสฺสา กมฺมภาโว สิทฺโธ โหติ. สฺเจตนิยนฺติ สฺเจตนสภาววนฺตํ. สมิทฺธิตฺเถเรน ‘‘สฺเจตนิยํ, อาวุโส…เป… มนสา สุขํ โส เวทยตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๐; กถา. ๕๓๙) อวิภชิตฺวา พฺยากโต. สุขเวทนียนฺติอาทินา ปน วิภชิตฺวา พฺยากาตพฺโพ โส ปฺโห, ตสฺมา สมฺมา พฺยากโต นาม น โหติ. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. ยถา ปน สุตฺตานิ ิตานิ, ตถา โจปนกิริยานิสฺสยภูตา กายวาจา อภิชฺฌาทิกิริยานิสฺสโย จ มโนทฺวารานิ, ยาย ปน เจตนาย เตหิ กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺติ วาสิอาทีหิ วิย เฉทนาทึ, สา เจตนา กมฺมนฺติ ทฺวารปฺปวตฺติยมฺปิ กมฺมทฺวาราเภทนฺจ กมฺมทฺวารววตฺถานฺจ ทิสฺสติ, เอวฺจ สติ ‘‘กาเยน เจ กตํ กมฺม’’นฺติอาทิคาถาโย (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กายกมฺมทฺวาร) อติวิย ยุชฺชนฺติ.

โลกุตฺตรมคฺโค อิธ โลกิยกมฺมกถายํ อนธิปฺเปโตปิ ภชาปิยมาโน ตีณิ กมฺมานิ ภชติ. มเนน ทุสฺสีลฺยนฺติ กายิกวาจสิกวีติกฺกมวชฺชํ สพฺพํ อกุสลํ สงฺคณฺหาติ, มิจฺฉาทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธึ วา. ตมฺปิ เจตํ ‘‘มนสา สํวโร สาธู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๑๖; ธ. ป. ๓๖๑) วุตฺตสฺส สํวรสฺส ปฏิปกฺขวเสน วุตฺตํ, น สีลวิปตฺติวเสน. น หิ สา มานสิกา อตฺถีติ มคฺคสฺเสว ภชาปนํ มหาวิสยตฺตา. โพชฺฌงฺคา หิ มโนกมฺมเมว ภเชยฺยุํ, น จ น สกฺกา มคฺคภชาปเนเนว เตสํ ภชาปนํ วิฺาตุนฺติ.

กมฺมปถํ อปฺปตฺตานมฺปิ ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนํ อวโรธนํ ทฺวารนฺตเร กมฺมนฺตรุปฺปตฺติยมฺปิ กมฺมทฺวาราเภทนฺจ ทฺวารสํสนฺทนํ นาม. ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทินา (กถา. ๕๓๙) กมฺมปถปฺปตฺตาว สนฺนิฏฺาปกเจตนา กมฺมนฺติ วุตฺตาติ ปุริมเจตนา สพฺพา กายกมฺมํ น โหตีติ วุตฺตํ. อาณาเปตฺวา…เป… อลภนฺตสฺสาติ อาณตฺเตหิ อมาริตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, วจีทุจฺจริตํ นาม โหติ อกมฺมปถภาวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติ ปวตฺตพฺยาปาทวเสน เจตนาปกฺขิกา วา ภวนฺติ กายกมฺมโวหารลาภา. อพฺโพหาริกา วา มโนกมฺมโวหารวิรหา. สสมฺภารปถวีอาทีสุ อาปาทโย เอตฺถ นิทสฺสนํ.

กุลุมฺพสฺสาติ คพฺภสฺส, กุลสฺเสว วา. ติสฺโสปิ สงฺคีติโย อารุฬฺหตาย อนนุชานนโต ‘‘ตว สุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทสวิธา อิทฺธิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค อิทฺธิกถาย คเหตพฺพา. ภาวนามยนฺติ อธิฏฺานิทฺธึ สนฺธาย วทติ. ฆฏเภโท วิย ปรูปฆาโต, อุทกวินาโส วิย อิทฺธิวินาโส จ โหตีติ อุปมา สํสนฺทติ. ตว ปฺโหติ ภาวนามยาย ปรูปฆาโต โหตีติ วุตฺโต าเปตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ. อาถพฺพณิทฺธิ วิชฺชามยิทฺธิ โหติ. สตฺตเม ปเทติ มณฺฑลาทิโต สตฺตเม ปเท.

วจนนฺตเรน คเมตพฺพตฺถํ เนยฺยตฺถํ, สยเมว คมิตพฺพตฺถํ นีตตฺถํ. กิริยโต สมุฏฺาติ, อุทาหุ อกิริยโตติ เตนาธิปฺเปตํ สมฺปชานมุสาวาทํ สนฺธาย ปุจฺฉติ, น อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตํ. ตตฺถ อวุตฺตเมว หิ โส อนริยโวหารํ วุตฺตนฺติ คเหตฺวา โวหรตีติ. วาจาคิรนฺติ วาจาสงฺขาตํ คิรํ, วาจานุจฺจารณํ วา.

ขนฺทสิวาทโย เสฏฺาติ ขนฺทาติ กุมารา. สิวาติ มเหสฺสรา, มิจฺฉาทิฏฺิยา นิทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นตฺถิกทิฏฺาทโย เอว หิ กมฺมปถปฺปตฺตา กมฺมนฺติ. เจตนา ปเนตฺถ อพฺโพหาริกาติ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ สมุฏฺิตาปิ กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ น ลภติ อภิชฺฌาทิปฺปธานตฺตา. ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, มโนสฺเจตนา อกุสลํ มโนกมฺม’’นฺติ ปน วจนโต สภาเวเนว สา มโนกมฺมํ, น อภิชฺฌาทิปกฺขิกตฺตาติ ‘‘อภิชฺฌาทิปกฺขิกาวา’’ติ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน าเน กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา จินฺตนกาเล เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ มโนทฺวาเร เอว สมุฏฺหนฺติ, ตสฺมา เจตนาย อพฺโพหาริกภาโว กถฺจิ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจนโต (กถา. ๕๓๙) ปาณาติปาตาทิปฏิปกฺขภูตา ตพฺพิรติวิสิฏฺา เจตนาว ปาณาติปาตวิรติอาทิกา โหนฺตีติ ‘‘เจตนาปกฺขิกา วา’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘วิรติปกฺขิกา’’ติ. รกฺขตีติ อวินาเสตฺวา กเถติ. ภินฺทตีติ วินาเสตฺวา กเถติ.

กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จกฺขุวิฺาณทฺวารนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส ทฺวารํ. จกฺขุ จ ตํ วิฺาณทฺวารฺจาติ วา จกฺขุวิฺาณทฺวารํ. จกฺขุ วิฺาณทฺวารนฺติ วา อสมาสนิทฺเทโส. ตํ ปน จกฺขุเมว. เอส นโย เสเสสุปิ. ‘‘จกฺขุนา สํวโร สาธู’’ติอาทิกาย (ธ. ป. ๓๖๐) คาถาย ปสาทกายโจปนกายสํวเร เอกชฺฌํ กตฺวา กาเยน สํวโร วุตฺโต, ตํ อิธ ภินฺทิตฺวา อฏฺ สํวรา, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน อสํวรา อฏฺ กถิตา. สีลสํวราทโยปิ ปฺเจว สํวรา สพฺพทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชมานาปิ, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน ทุสฺสีลฺยาทีนิ อสํวราติ วุตฺตานิ. ตตฺถ ทุสฺสีลฺยํ ปาณาติปาตาทิเจตนา. มุฏฺสฺสจฺจํ สติปฏิปกฺขา อกุสลา ธมฺมา. ปมาทนฺติ เกจิ. สีตาทีสุ ปฏิโฆ อกฺขนฺติ. ถินมิทฺธํ โกสชฺชํ.

วินา วจีทฺวาเรน สุทฺธํ กายทฺวารสงฺขาตนฺติ อิทํ วจีทฺวารสลฺลกฺขิตสฺส มุสาวาทาทิโนปิ กายทฺวาเร ปวตฺติสพฺภาวา อสุทฺธตา อตฺถีติ ตํนิวารณตฺถํ วุตฺตํ. น หิ ตํ กายกมฺมํ โหติ. สุทฺธวจีทฺวาโรปลกฺขิตํ ปน วจีกมฺมเมว โหตีติ. เอตฺถ อสํวโรติ เอเตน สุทฺธกายทฺวาเรน อุปลกฺขิโต อสํวโร ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมาโนปิ วุตฺโต. ทฺวารนฺตรานุปลกฺขิตํ สพฺพํ ตํทฺวาริกากุสลฺเจติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา กมฺมปถสํสนฺทเน ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทิ ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน วจีอสํวรวเสน จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา สห อวิรุทฺธํ โหติ. อสํวโร หิ ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมาโนปิ สทฺวาเร เอวาติ วุจฺจติ, สทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนติ จ, กมฺมํ อฺทฺวาเร อฺทฺวารวเสน จาติ เอวํ อวิรุทฺธํ.

อถ วา เอตฺถาติ สุทฺธํ อสุทฺธนฺติ เอตํ อวิจาเรตฺวา เอตสฺมึ โจปเนติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ สติ ทฺวารนฺตโรปลกฺขิตํ กมฺมปถภาวปฺปตฺตตาย วจีมโนกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวาเร อุปฺปนฺนํ, เสสํ สพฺพํ ตํทฺวารุปฺปนฺนากุสลํ วิย ‘‘โจปนกายอสํวโร’’ติ วุจฺจติ. กมฺมปถภาวปฺปตฺติยา ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนํ กายกมฺมฺจ ตถา น วุจฺจตีติ กมฺมปถสํสนฺทนวิโรโธ สิยา, ตทวิโรธํ ตตฺเถว วกฺขาม. สีลสํวราทโย ปฺจ นิกฺเขปกณฺเฑ อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ตตฺถ าณสํวเร ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส, วีริยสํวเร จ อาชีวปาริสุทฺธิยา อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา.

อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา

สรเสเนว จ ปตนสภาวสฺส ปาณสฺส อนฺตรา เอว อตีว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวาว สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต. ปโยควตฺถุมหนฺตตาทีหิ มหาสาวชฺชตา เตหิ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวภาวโต. ยถาวุตฺตปจฺจยวิปริยาเยปิ ตํตํปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานาย เจตนาย พลวาพลววเสเนว อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา เวทิตพฺพา. อิทฺธิมโย กมฺมวิปากชิทฺธิมโย ทาาโกฏิกาทีนํ วิย.

โคตฺตรกฺขิตา สโคตฺเตหิ รกฺขิตา. ธมฺมรกฺขิตา สหธมฺมิเกหิ รกฺขิตา. สสามิกา สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. อตฺถภฺชโกติ กมฺมปถปฺปตฺตํ วุตฺตํ. กมฺมปถกถา เหสาติ. อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตายาติอาทิ มุสาวาทสามฺโต วุตฺตํ. หสาธิปฺปาเยน วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺเสว มุสาวาโท. สุฺภาวนฺติ ปีติวิรหิตตาย ริตฺตตํ. อตฺถวิปนฺนตาย น หทยงฺคมา. อคฺคณฺหนฺเตติ อสทฺทหนฺเต กมฺมปถเภโท น โหติ. โย โกจิ ปน สมฺผปฺปลาโป ทฺวีหิ สมฺภาเรหิ สิชฺฌตีติ. อตฺตโน ปริณามนํ จิตฺเตเนวาติ เวทิตพฺพํ. มิจฺฉา ปสฺสตีติ วิตถํ ปสฺสติ.

โกฏฺาสโตติ ผสฺสปฺจมกาทีสุ จิตฺตงฺคโกฏฺาเสสุ เย โกฏฺาสา โหนฺติ, ตโตติ อตฺโถ. นนุ จ เจตนา กมฺมปเถสุ น วุตฺตาติ ปฏิปาฏิยา สตฺตนฺนํ กมฺมปถภาโว น ยุตฺโตติ? น, อวจนสฺส อฺเหตุตฺตา. น หิ เจตนาย อกมฺมปถตฺตา กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, กทาจิ ปน กมฺมปโถ โหติ, น สพฺพทาติ กมฺมปถภาวสฺส อนิยตตฺตา อวจนํ. ยทา ปน กมฺมปโถ โหติ, ตทา กมฺมปถราสิสงฺคโห น นิวาริโตติ. ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอวา’’ติ เอเตน อทินฺนาทานาทีนํ สตฺตารมฺมณภาววิโรธํ ‘‘สตฺตสงฺขาเต สงฺขาเร เอว อารพฺภ ปวตฺติโต’’ติ สยเมว ปริหริสฺสติ. ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติ ปวตฺตมานา ทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวิสยาวาติ สงฺขารารมฺมณตา วุตฺตา. วิปากนิสฺสนฺทผลานิ ยถากฺกมํ นิรยาทิวิปากทุคฺคตตาทีนิ.

อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา

ปาณาติปาตาทีหิ ปน วิรติโยติ เอตํ ยาหิ วิรตีหิ สมฺปยุตฺตา เจตนา ‘‘กายวจีกมฺมานี’’ติ วุจฺจนฺติ, ตาสฺจ กมฺมปถภาโว ยุตฺโตติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปี’’ติ. อลฺลสสมํสนฺติ ชีวมานกสสมํสํ. โวโรเปตา หุตฺวา นาภิชานามิ. ทุสฺสีลฺยาทารมฺมณา ตทารมฺมณา. ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณา กถํ ทุสฺสีลฺยาทีนิ ปชหนฺตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนภิชฺฌา…เป… วิรมนฺตสฺสาติ อภิชฺฌํ ปชหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. น หิ มโนทุจฺจริตา วิรติ อตฺถิ อนภิชฺฌาทีเหว ตปฺปหานโต.

กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา

กมฺมปถปฺปตฺตานํ ทุสฺสีลฺยาทีนํ อสํวรานํ ตถา ทุจฺจริตานฺจ อกุสลกมฺมปเถหิ กมฺมปถปฺปตฺตานเมว จ สุสีลฺยาทีนํ สํวรานํ ตถา สุจริตานฺจ กุสลกมฺมปเถหิ อตฺถโต นานตฺตาภาวทสฺสนํ. อถ วา เตสํ ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนํ กมฺมปถสํสนฺทนนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตเทตํ วิจาเรตพฺพํ. น หิ ปฺจผสฺสทฺวารปฺจอสํวรทฺวารปฺจสํวรทฺวาเรสุ อุปฺปนฺนานํ อสํวรานํ สํวรานฺจ กมฺมปถตา อตฺถิ ปาณาติปาตาทีนํ ปรสนฺตกวตฺถุโลภปรสตฺตารมฺมณพฺยาปาทอเหตุกทิฏฺิอาทีนฺจ เตสุ ทฺวาเรสุ อนุปฺปตฺติโต. ติวิธกอายทุจฺจริตาทีนิ จ กมฺมปถาติ ปากฏา เอวาติ กึ เตสํ กมฺมปเถหิ นานตฺตาภาวทสฺสเนน, น จ ทุจฺจริตานํ สุจริตานฺจ ผสฺสทฺวาราทิวเสน อุปฺปตฺติ ทีปิตา, นาปิ อสํวรานํ สํวรานฺจ ยโต เตสํ ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนา สิยา, เกวลํ ปน ผสฺสทฺวาราทิวเสน อุปฺปนฺนานํ อสํวรานํ สํวรานฺจ กายกมฺมาทิตา ทีปิตา. ยทิ จ เอตฺตกํ กมฺมปถสํสนฺทนํ, ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน นุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ กมฺมปถสํสนฺทนํ น สิยา. เอสาปิ ฉผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธทีปนาติ เจ, วุตฺตเมว ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติ น วตฺตพฺพํ. สมุจฺจยตฺเถ จ อถ วา-สทฺเท กมฺมปถปฺปตฺตาเนว ทุสฺสีลฺยาทีนิ กายกมฺมาทินาเมหิ วทนฺเตหิ มโนกมฺมสฺส ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพา. น หิ ตํ จกฺขุทฺวาราทิวเสน อุปฺปชฺชตีติ. ยทิ จ กมฺมปถปฺปตฺตา เอว อสํวราทโย คหิตา, ทุจฺจริเตหิ อฺเสํ อสํวรานํ อภาวา เตสฺจ ตํตํกมฺมภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา. วุจฺจมาเน หิ ตสฺมึ สงฺกโร สิยา, วจีมโนกมฺมานิปิ หิ กายทฺวาเร อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา เสสทฺวาเรสุปิ กมฺมนฺตรานีติ.

อถ ปน ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมานํ กมฺมนฺตรมฺปิ ตํทฺวาริกกมฺมเมว สิยา, ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมวา’’ติอาทิ, ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน วาจาอสํวรทฺวารวเสน จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ จ วิรุชฺเฌยฺย. ทุจฺจริตานฺหิ อฺทฺวารจรณํ อตฺถิ, น จสฺส ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนํ กมฺมนฺตรํ โหตีติ. ตสฺมา เหฏฺา กมฺมปถปฺปตฺตานํ เอว กายกมฺมาทิภาวสฺส วุตฺตตฺตา เสสานฺจ ตํตํทฺวารุปฺปนฺนานํ กุสลากุสลานํ ทฺวารสํสนฺทเน ตํตํทฺวารปกฺขิกภาวสฺส กตตฺตา อิธ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานฺจ เจตนาภาวโต อกมฺมานฺจ อสํวรานํ สํวรานฺจ ภชาปิยมานานํ กมฺมปถานํ วิย กายกมฺมาทิตาทีปนํ, กมฺมปถปฺปตฺตานํ ติวิธกายทุจฺจริตาทีนํ ติวิธกายสุจริตาทีนฺจ ทฺวารนฺตรจรเณปิ กายกมฺมาทิภาวาวิชหนทีปนํ, ยถาปกาสิตานฺจ กมฺมปถภาวํ ปตฺตานํ อปตฺตานฺจ อกุสลกายกมฺมาทีนฺจ กุสลกายกมฺมาทีนฺจ ผสฺสทฺวาราทีหิ อุปฺปตฺติปกาสนฺจ กมฺมปถสํสนฺทนํ นาม. กสฺมา? อกมฺมปถานํ กมฺมปเถสุ กมฺมปถานฺจ อกมฺมปเถสุ สมานนามตาวเสน, กมฺมปถานํ กมฺมปเถสุ สามฺนามาวิชหนวเสน, อุภเยสฺจ อุปฺปตฺติวเสน ทฺวาเรสุ เอตฺถ สํสนฺทิตตฺตา.

ตตฺถ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปนฺนานํ กมฺมานํ าตกมฺมภาวตาย ตํตํกมฺมภาวสฺส อวจนียตฺตา กมฺมทฺวาเรสุ เตสํ อุปฺปตฺติยา จ วุตฺตตฺตา ปฺจวิฺาณทฺวารวเสน อสํวราทีนํ อุปฺปตฺติปริยายวจนาภาวโต จ กมฺมทฺวารวิฺาณทฺวารานิ วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ปฺจผสฺสทฺวารวเสน หิ อุปฺปนฺโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ยมฺปิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ วา’’ติอาทินา ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ กุสโล’’ติอาทินา จ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อสํวราทีนํ อุปฺปตฺติปริยาโย วุตฺโต, น จ ‘‘ยมิทํ จกฺขุวิฺาณปจฺจยา’’ติอาทิวจนํ อตฺถีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘จกฺขุวิฺาณสหชาโต หิ ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑ กมฺมกถา; มหานิ. อฏฺ. ๘๖). เตน หิ อสํวรานํ สํวรานฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทีหิ อสหชาตตฺตา มโนสมฺผสฺสสหชาตานฺจ จกฺขุสมฺผสฺสทฺวาราทิวเสน อุปฺปตฺติ ทีปิตาติ. ‘‘โส หิ กายทฺวาเร โจปนํ ปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหตี’’ติอาทินา ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา จ วจีกมฺมาทีนฺจ กมฺมปถปฺปตฺตานํ อสํวรภูตานํ กายกมฺมาทิภาเว อาปนฺเน ‘‘จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา อปวาเทน นิวตฺติ ทฏฺพฺพา. เอวฺจ กตฺวา ปุพฺเพ ทสฺสิเตสุ อสํวรวินิจฺฉเยสุ ทุติยวินิจฺฉเยสุ จ น โกจิ วิโรโธ. น หิ วจีกมฺมาทิภูโต โจปนกายอสํวโร กายกมฺมาทิ โหตีติ.

อกุสลํ มโนกมฺมํ ปน ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชติ, ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺตํ อกุสลํ กายวจีกมฺมํ โหตีติ เอตฺถ กึ ตํ อกุสลํ มโนกมฺมํ นาม, เหฏฺา ทสฺสิตนเยน จ กายวจีทฺวาเรสุ อุปฺปนฺนํ ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ โจปนํ อปฺปตฺตํ สพฺพากุสลฺจ. ยทิ เอวํ ตสฺส กายวจีกมฺมภาโว นตฺถีติ ‘‘โจปนปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมํ โหตี’’ติ น ยุชฺชตีติ? โน น ยุชฺชติ โจปนปฺปตฺตํ กาเย วาจาย จ อกุสลํ กมฺมํ โหตีติ อตฺถสิทฺธิโต. กมฺมํ ปน โหนฺตํ กึ กมฺมํ โหตีติ? มโนกมฺมเมว โหตีติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ มโนกมฺมํ โหตีติ. อถ วา ตํ-สทฺทสฺส มโนกมฺเมน สมฺพนฺธํ อกตฺวา ฉผสฺสทฺวารวเสน ยํ อุปฺปชฺชติ, ตนฺติ ยถาวุตฺตอุปฺปาทมตฺตปริจฺฉินฺเนน สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. กึ ปน ตนฺติ? กมฺมกถาย ปวตฺตมานตฺตา กมฺมนฺติ วิฺายติ, ตฺจ มโนสมฺผสฺสทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ติวิธํ กมฺมํ โหตีติ. ยถา ตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ นิยมสฺส อกตตฺตา โจปนปฺปตฺติ อุปลกฺขณภาเวน กายวจีกมฺมนามสาธิกาว, น ปน สพฺพมฺปิ โจปนปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมเมว, นาปิ กุสลปกฺเข โจปนํ อปฺปตฺตํ กายวจีกมฺมํ น โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธว โหตีติ.

อถ วา นฺติ ตํ ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชมานํ มโนกมฺมนฺติ สพฺพํ มนสาปิ นิปฺผชฺชมานํ กมฺมํ มโนกมฺมนฺติ โจทกาธิปฺปาเยน คเหตฺวา วทติ, น ปุพฺเพ ทสฺสิตมโนกมฺมนฺติ. โย หิ ปรสฺส อธิปฺปาโย ‘‘มนสา นิปฺผตฺติโต สพฺเพน มโนกมฺเมเนว ภวิตพฺพํ, น กายวจีกมฺเมนา’’ติ, ตํ นิวตฺเตตฺวา กมฺมตฺตยนิยมํ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธํ ‘‘ตํ กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ ปตฺต’’นฺติอาทิ. เอตฺถ จ สงฺกราภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. อถ วา กมฺมนฺติ อวิเสเสน กมฺมสทฺทมตฺเตน สมฺพนฺธํ กตฺวา ยถาวุตฺโต กมฺมปฺปเภโท ยถา โหติ, ตํ ปการํ ทสฺเสติ. อสงฺกโร จ วุตฺตนโยว. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘กายวจีกมฺมสหชาตา อภิชฺฌาทโย ยทา เจตนาปกฺขิกา โหนฺติ, ตทา ตานิ มโนกมฺมานิ กายวจีกมฺมานิ โหนฺตี’’ติ, ตฺจ น, เจตนาปกฺขิกานํ มโนกมฺมตฺตาภาวา. อพฺโพหาริกตฺเต จ มโนกมฺมตา สุฏฺุตรํ นตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อพฺโพหาริกา วา’’ติ. ตสฺมา มโนกมฺมสฺส กายวจีกมฺมตา น วตฺตพฺพา. อภิชฺฌาทิกิริยาการิกาย เอว เจตนาย สมฺปยุตฺตา อภิชฺฌาทโย มโนกมฺมํ, น ปาณาติปาตาทิกายวจีกิริยาการิกายาติ ภิยฺโยปิ เตสํ มโนกมฺมตาติ น เตสํ มโนกมฺมานํ สตํ กายวจีกมฺมตา วตฺตพฺพาติ. เอวํ กมฺมานํ ทฺวาเรสุ ทฺวารานฺจ กมฺเมสุ อนิยตตฺตา ทฺวารนิพนฺธนํ น กตํ. อิทานิ อกเตปิ จ ทฺวารนิพนฺธเน เยสํ ทฺวารานํ วเสน อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เตสํ ตํตํทฺวารกมฺมปถานฺจ วเสน อุปฺปตฺติยา ยถาภฏฺปาฬิยา วุตฺตาย จ ทีปนตฺถํ ‘‘ตตฺถ กามาวจร’’นฺติอาทิมาห. จิตฺตํ ติวิธกมฺมทฺวารวเสน อุปฺปชฺชตีติ อิทํ มโนกมฺมทฺวารภูตสฺส เตน สภาเวน อุปฺปตฺตึ คเหตฺวา วุตฺตํ. ยถา วา จิตฺตํ จิตฺตาธิปเตยฺยนฺติ สมฺปยุตฺตวเสน วุจฺจติ, เอวมิธาปีติ เวทิตพฺพํ. โจปนทฺวยรหิตสฺส มโนปพนฺธสฺส มโนกมฺมทฺวารภาเว ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อยํ โยชนาติ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ เอเตน สห ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส อยํ สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. โก ปนายํ สมฺพนฺโธติ? เยน วจนานิ อฺมฺํ สมฺพชฺฌนฺติ, ตํ ปุพฺพาปรวจเน ปโยชนํ สมฺพนฺโธ. อิธ จ สพฺพารมฺมณตาทิทสฺสนํ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา’’ติ เอตสฺส อนนฺตรํ ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส วจเน ปโยชนํ โยชนา ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ‘‘รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา อารพฺภา’’ติ เอตฺตเกน อาปนฺนํ โทสํ ทสฺเสตฺวา ตนฺนิวตฺตนวเสน ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติ เอตสฺส ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เหฏฺา’’ติอาทิมาห. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘ยํ ยํ วาปนา’’ติ เอเตน อปฺปธานมฺปิ รูปาทึ อากฑฺฒติ. น หิ ปธานสฺส จิตฺตสฺส อตฺตโนเยว อารมฺมณภาโว อตฺถีติ. เหฏฺา วุตฺตนเยนาติ สพฺพารมฺมณตาทินเยน. ‘‘เหฏฺา คหิตเมว คหิตนฺติ วตฺวา ตสฺส วจเน ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘รูปํ วา…เป… อิทํ วา อิทํ วา อารพฺภา’ติ กเถตุํ อิทํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิทํ วา อิทํ วาติ เอตํ สพฺพารมฺมณตาทึ สนฺธาย กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมุทฺเทสวารกถา

ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา

อาจริยานนฺติ เรวตาจริยสฺส. น ปเนตํ สารโต ทฏฺพฺพํ. น หิ ผสฺสาทีนํ กามาวจราทิภาวทสฺสนตฺถํ อิทมารทฺธํ, กินฺตุ ตสฺมึ สมเย ผสฺสาทิสภาวทสฺสนตฺถนฺติ.

จิตฺตสฺส ปมาภินิปาตตฺตาติ สพฺเพ เจตสิกา จิตฺตายตฺตา จิตฺตกิริยาภาเวน วุจฺจนฺตีติ ผสฺโส ‘‘จิตฺตสฺส ปมาภินิปาโต’’ติ วุตฺโต. กามํ อุปฺปนฺนผสฺโส ปุคฺคโล จิตฺตเจตสิกราสิ วา อารมฺมเณน ผุฏฺโ ผสฺสสหชาตาย เวทนาย ตํสมกาลเมว เวเทติ, ผสฺโส ปน โอภาสสฺส ปทีโป วิย เวทนาทีนํ ปจฺจยวิเสโส โหตีติ ปุริมกาโล วิย วุตฺโต. โคปานสีนํ อุปริ ติริยํ ปิตกฏฺํ ปกฺขปาโส. กฏฺทฺวยาทิ วิย เอกเทเสน เอกปสฺเสน อนลฺลียมาโนปิ รูเปน สห ผสฺสสฺส สามฺํ อนลฺลียมานํ สงฺฆฏฺฏนเมว, น วิสยภาโว, สงฺฆฏฺฏนฺจ ผสฺสสฺส จิตฺตารมฺมณานํ สนฺนิปตนภาโว เอว. วตฺถารมฺมณสนฺนิปาเตน สมฺปชฺชตีติ สงฺฆฏฺฏนสมฺปตฺติโก ผสฺโส. ปาณิทฺวยสฺส สนฺนิปาโต วิย จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาโต ผสฺโส จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ กิจฺจฏฺเเนว รเสน สงฺฆฏฺฏนรโส. ตถา ปจฺจยภาโว หิ ตสฺส ผสฺสสฺส สงฺฆฏฺฏนกิจฺจนฺติ. ยถา หิ ปาณิยา ปาณิมฺหิ สงฺฆฏฺฏนํ ตพฺพิเสสภูตา รูปธมฺมา, เอวํ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สงฺฆฏฺฏนํ ตพฺพิเสสภูโต เอโก เจตสิกธมฺโม ทฏฺพฺโพ. จิตฺเตเยวาติ เอเตน เจตสิกสภาวตํ วตฺถารมฺมเณหิ อสํสฏฺํ สงฺฆฏฺฏนํ เวทนาย ทสฺเสติ, น ปน วตฺถุนิสฺสยตํ ปฏิกฺขิปติ. ตสฺส ผสฺสสฺส การณภูโต ตทนุรูโป สมนฺนาหาโร ตชฺชาสมนฺนาหาโร. อินฺทฺริยสฺส ตทภิมุขภาโว อาวชฺชนาย จ อารมฺมณกรณํ วิสยสฺส ปริกฺขตตา อภิสงฺขตตา วิฺาณสฺส วิสยภาวกรณนฺติ อตฺโถ.

สุขเวทนายเมว ลพฺภติ อสฺสาทภาวโตติ อธิปฺปาโย. วิสฺสวิตายาติ อรหตาย. อเนกตฺถตฺตา หิ ธาตูนํ อรหตฺโถ วิปุพฺโพ สุสทฺโท. วิสฺสวํ วา สชนํ วสิตา กามการิตา วิสฺสวิตา. อารมฺมณรเสกเทสเมว อนุภวนฺตีติ อิทํ ผุสนาทิกิจฺจํ เอกเทสานุภวนมิว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เวทยิตสภาโว เอว หิ อนุภวนนฺติ. ผุสนาทิภาเวน วา อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนํ, เวทยิตภาเวน คหณํ ยถากามํ สพฺพานุภวนํ. เอวํ สภาวาเนว ตานิ คหณานีติ น เวทนาย วิย ผสฺสาทีนมฺปิ ยถาสกกิจฺจกรเณน สามิภาวานุภวนํ โจเทตพฺพํ. อยํ อิธาติ เอเตน ปฺจสุ เวทนาสุ อิมสฺมึ จิตฺเต อธิปฺเปตํ โสมนสฺสเวทนํ วทติ, ตสฺมา อโสมนสฺสเวทนํ อปเนตฺวา คหิตาย โสมนสฺสเวทนาย สมานา อิฏฺาการสมฺโภครสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

นิมิตฺเตน ปุนสฺชานนกิจฺจา ปจฺจาภิฺาณรสา. ปุนสฺชานนสฺส ปจฺจโย ปุนสฺชานนปจฺจโย, ตเทว นิมิตฺตํ ปุน…เป… นิมิตฺตํ, ตสฺส กรณํ ปุน…เป… กรณํ. ปุนสฺชานนปจฺจยภูตํ วา นิมิตฺตกรณํ ปุน…เป… กรณํ, ตทสฺสา กิจฺจนฺติ อตฺโถ. ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณํ นิมิตฺตการิกาย นิมิตฺเตน สฺชานนฺติยา จ สพฺพาย สฺาย สมานํ เวทิตพฺพํ. าณเมว อนุวตฺตติ, ตสฺมา อภินิเวสการิกา วิปรีตคฺคาหิกา จ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เอเตนุปาเยน สมาธิสมฺปยุตฺตาย อจิรฏฺานตา จ น โหตีติ ทฏฺพฺพา.

อภิสนฺทหตีติ ปพนฺธติ ปวตฺเตติ. เจตนาภาโว พฺยาปารภาโว. ทิคุณุสฺสาหาติ น ทิคุณํ วีริยโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺตโน เอว ปน พฺยาปารกิจฺจสฺส มหนฺตภาวํ ทีเปติ. อุสฺสาหนภาเวนาติ อาทรภาเวน. สา หิ สยํ อาทรภูตา สมฺปยุตฺเต อาทรยตีติ.

วิชานนํ อารมฺมณสฺส อุปลทฺธิ. สนฺทหนํ จิตฺตนฺตรสฺส อนุปฺปพนฺธนํ. จกฺขุนา หิ ทิฏฺนฺติ จกฺขุนา ทฏฺพฺพํ. ยถา ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาต’’นฺติ ทฏฺพฺพาทิ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ เวทิตพฺพํ. จกฺขุนา หีติอาทีสุ จกฺขุนา…เป… มนสา ทฺวาเรนาติ อตฺโถ. นครคุตฺติกสฺส วิย จิตฺตสฺส อารมฺมณวิภาวนมตฺตํ อุปธารณมตฺตํ อุปลทฺธิมตฺตํ กิจฺจํ, อารมฺมณปฏิเวธนปจฺจาภิฺาณาทิ ปน กิจฺจํ ปฺาสฺาทีนนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุริมนิทฺทิฏฺนฺติ สมยววตฺถาเน นิทฺทิฏฺํ. ภาเวนฺโต วิย น น อุปฺปชฺชติ, กินฺตุ อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ เอตํ โหติ-สทฺทสฺส อุปฺปชฺชติ-สทฺทสฺส จ สมานตฺถตฺเต สติ ยุชฺเชยฺย, ตทตฺถตฺเต จ ตตฺถ อุปฺปนฺนํ โหตีติ น วุจฺเจยฺย. น หิ ยุตฺตํ อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ. จิตฺตสฺส จ อุปฺปนฺนตา สมยววตฺถาเน วุตฺตา เอวาติ กึ ตสฺส ปุน อุปฺปตฺติทสฺสเนน. เยน จ สมยววตฺถานํ กตํ, ตสฺส นิทฺเทโส น น สกฺกา กาตุนฺติ กึ ตํ นิทฺเทสตฺถํ อุทฺเทเสน ทุติเยน, นิทฺเทเสเนว จ ผสฺสาทีหิ จ อฺตฺตํ จิตฺตสฺส สิชฺฌตีติ กึ ตทตฺเถน ปุน วจเนน, อฺปฺปโยชนตฺตา ปน ปุริมสฺส จิตฺตวจนสฺส ปจฺฉิมํ วุตฺตํ. ปุริมฺหิ สมยววตฺถานตฺถเมว วุตฺตํ, น ววตฺถิตสมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ, อิตรฺจ ตสฺมึ สมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น สมยววตฺถานตฺถํ, น จ อฺทตฺถํ วจนํ อฺทตฺถํ วทติ, น จ เลเสน วุตฺโตติ กตฺวา มหาการุณิโก อตฺถํ ปากฏํ น กโรตีติ.

ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฌานงฺคราสิวณฺณนา

วิตกฺเกตีติ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุนิวตฺตนตฺถํ ธมฺมเมว กตฺตารํ นิทฺทิสติ. ตสฺส ปน วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘วิตกฺกนํ วา’’ติ ภาวนิทฺเทโส. รูปํ รูปนฺติ ปถวี ปถวีติ วา อาโกเฏนฺโต วิย โหตีติ อาโกฏนลกฺขโณ. อาทิโต, อภิมุขํ วา หนนํ อาหนนํ, ปริโต, ปริวตฺเตตฺวา วา อาหนนํ ปริยาหนนํ. วิจารโต โอฬาริกฏฺเน วิจารสฺเสว ปุพฺพงฺคมฏฺเน อนุรวโต โอฬาริโก ตสฺส จ ปุพฺพงฺคโม ฆณฺฏาภิฆาโต วิย โหติ วิตกฺโก. โส ยถา ฆณฺฏาภิฆาโต ปมาภินิปาโต โหติ, เอวํ อารมฺมณาภิมุขนิโรปนฏฺเน ปมาภินิปาโต โหติ. วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต. อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยนฺติ อุปจาเร วา อปฺปนายํ วา สนฺตาเนน ปวตฺติยํ. ตตฺถ หิ วิตกฺโก นิจฺจโล หุตฺวา อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา ปวตฺตติ. มณฺฑลนฺติ ขลมณฺฑลํ.

ปิณยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนรสา. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ. ขุทฺทิกา ลหุํ โลมหํสนมตฺตํ กตฺวา ภินฺนา น ปุน อุปฺปชฺชติ. ขณิกา พหุลํ อุปฺปชฺชติ. อุพฺเพคโต ผรณา นิจฺจลตฺตา จิรฏฺิติกตฺตา จ ปณีตตรา. ปสฺสทฺธิยา นิมิตฺตภาเวน คพฺภํ คณฺหนฺตี. อปฺปนาสมฺปยุตฺตาว ปีติ อปฺปนาสมาธิปูริกาติ กตฺวา สา ปิตา. อิตรา ทฺเว ขณิโกปจารสมาธิปูริกา ปีตี.

สมาธิจิตฺเตนาติ สมาธิสหิตจิตฺเตน. อวิสาโร อตฺตโน เอว อวิสรณสภาโว. อวิกฺเขโป สมฺปยุตฺตานํ อวิกฺขิตฺตตา. เยน สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส ธมฺโม อวิกฺเขโปติ. วิเสสโตติ เยภุยฺเยน. สุขวิรหิโตปิ หิ อตฺถิ สมาธีติ. ปทีปนิทสฺสเนน สนฺตานฏฺิติภาวํ สมาธิสฺส ทสฺเสติ.

ฌานงฺคราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยราสิวณฺณนา

สทฺทหนฺติ เอตายาติ สทฺทหนกิริยาย ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ ตตฺถ อาธิปจฺจภาเวน สทฺธาย ปจฺจยตํ ทสฺเสติ. ตสฺสา หิ ธมฺมานํ ตถาปจฺจยภาเว สติ ‘‘ปุคฺคโล สทฺทหตี’’ติ โวหาโร โหติ. ปสาทนียฏฺาเนสุ ปสาทสฺส ปฏิปกฺขภูตํ อกุสลํ อสฺสทฺธิยํ มิจฺฉาธิโมกฺโข จ. ปสาทภูโต นิจฺฉโย วตฺถุคโต อธิโมกฺขลกฺขณํ, น เยวาปนกาธิโมกฺโขติ. อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ‘‘มํ อนฺตเรน ตุมฺหากํ อธิมุจฺจนํ นตฺถิ, มยา สทฺทหถา’’ติ วิย อตฺตานํ อนุวตฺเตติ สมฺปยุตฺตธมฺเม. เอวํ เสเสสุปิ. ปกฺขนฺทนนฺติ สํสีทนํ. ปงฺโก กทฺทมโต ฆนีภูโต โหติ. ปณกํ ปิจฺฉิลํ อุทกมลํ. ปีตํ อุทกํ. โอกปฺปนลกฺขณาติ อนุปวิสิตฺวา เอวเมตนฺติ กปฺปนลกฺขณา. อกลุสภาโว อกาลุสิยํ, อนาวิลภาโวติ อตฺโถ. พุทฺธาทิวตฺถูนิ สทฺเธยฺยานิ. สปฺปุริสูปเสวนสทฺธมฺมสวนโยนิโสมนสิการธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติโย โสตาปตฺติยงฺคานิ. กุสลธมฺมานํ อาทาเน หตฺโถ วิย, สพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทเน วิตฺตํ วิย, อมตกสิผลผลเน พีชํ วิย ทฏฺพฺพา.

วีรภาโวติ เยน วีโร นาม โหติ, โส ธมฺโมติ อตฺโถ. อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห. มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ, มคฺโค คโต, กมฺมํ กตฺตพฺพํ, กมฺมํ กตํ, อปฺปมตฺตโก อาพาโธ อุปฺปนฺโน, คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภติ…เป… ปาริปูรินฺติ เอตานิ อนุรูปปจฺจเวกฺขณาสหิตานิ อฏฺ วีริยารมฺภวตฺถูนิ ตํมูลกานิ วา ปจฺจเวกฺขณานิ.

จิรกตาทิอารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ. อุทเก อลาพุ วิย อารมฺมณํ ปิลวิตฺวา คนฺตุํ อปฺปทานํ ปาสาณสฺส วิย นิจฺจลสฺส อารมฺมณสฺส ปนํ สารณํ อสมฺมุฏฺตากรณํ อปิลาปนํ. อปิลาเป กโรติ อปิลาเปติ. คติโยติ นิปฺผตฺติโย สมฺภวโต ผลโต จ. อปโร นโยติ รสาทิทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. สมฺโมสปจฺจนีกํ กิจฺจํ อสมฺโมโส, น สมฺโมสาภาวมตฺตํ. สติยา วตฺถุภูตา กายาทโย กายาทิสติปฏฺานา, สติโยเยว วา ปุริมา ปจฺฉิมานํ ปทฏฺานํ.

วิกฺเขปสฺส อุทฺธจฺจสฺส. ปฺาเปตีติ ปกาเรหิ ชานาเปติ. เอกาโลกา โหตีติ วิปสฺสนุปกฺกิเลโสภาสํ สนฺธายาห. มนเต วิชานาติ เอเตนาติ วา มโน, เอวฺจ กตฺวา ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕) การณภาเวน มโน วุตฺโต. สพฺโพ หิ มโน อตฺตโน อนนฺตรสฺส วิฺาณสฺส การณนฺติ. วิชานาตีติ ปริจฺฉินฺโนปลทฺธิวเสน ชานาติ, น สฺาปฺา วิย สฺชานนปฏิวิชฺฌนวเสน.

ปีติโสมนสฺสสมฺปโยคโตติ วุตฺเต เยน โยคา สุมโน โหติ, ตํ โสมนสฺสนฺติ วุจฺจตีติ ปีติยา จ โสมนสฺสภาโว อาปชฺชติ, ตสฺมา วินาปิ กาเยน วตฺถุนา สาตเวทนาสมฺปโยคโตติ โยเชตพฺพํ. เอวฺจ นิปฺปีติกํ โสมนสฺสฺจ สงฺคหิตํ โหติ, ปีติอุปลกฺขิตํ วา โสมนสฺสํ สปฺปีติกํ นิปฺปีติกฺจ โสมนสฺสนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยนฺติ ปวตฺตสงฺขาตาย สนฺตติยา อธิปติภูตํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺส หิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อนุปาเลนฺตสฺส อนนฺตรฺจ สานุปาลนานํ อุปฺปตฺติยา เหตุภูตสฺส วเสน ปวตฺตํ จิรฏฺิติกํ โหติ, ตํตํกมฺมวิเสเสน วิเสสยุตฺตํ ยาว จุติ อวิเสเสน วา ยาว ปรินิพฺพานํ อวิจฺฉินฺนํ ปวตฺตติ ชีวมานตาวิเสสยุตฺตฺจาติ รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานํ สมานลกฺขณาทึ วตฺตุํ ‘‘อตฺตนา อวินิภุตฺตธมฺมาน’’นฺติ อาห. อนุปาเลตพฺพานํ อตฺถิกฺขเณเยว. อสติ หิ อนุปาเลตพฺเพ อุปฺปลาทิมฺหิ กึ อุทกํ อนุปาเลยฺยาติ. ตสฺส ตสฺสาติ อนุปาลนาทิกสฺส. สาธนโตติ สาธเนน. ตํสาธนฺจ ชีวมานวิเสสปจฺจยภาวโต.

อินฺทฺริยราสิวณฺณนา นิฏฺิตา.

มคฺคงฺคราสิวณฺณนา

สมฺมาติ อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวน. ปสตฺถตา จ เอวเมว ทฏฺพฺพา.

พลราสิวณฺณนา

อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิยการณา. อุภยปทวเสนาติ สทฺธาปทํ พลปทนฺติ เอวมาทิปททฺวยวเสน. นิยกชฺฌตฺตํ ชาติอาทิสมุฏฺานํ เอติสฺสาติ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา. ครุนา กิสฺมิฺจิ วุตฺเต คารววเสน ปติสฺสวนํ ปติสฺสโว, สห ปติสฺสเวน สปฺปติสฺสวํ, ปติสฺสวภูตํ ตํสภาคฺจ ยํกิฺจิ คารวนฺติ อตฺโถ. ชาติอาทิมหตฺตปจฺจเวกฺขเณน อุปฺปชฺชมานา จ หิรี ตตฺถ คารววเสน ปวตฺตตีติ ‘‘สปฺปติสฺสวลกฺขณา’’ติ วุจฺจติ. วชฺชํ ภายติ ตฺจ ภยโต ปสฺสตีติ วชฺชภีรุกภยทสฺสาวี. เอวํสภาวํ โอตฺตปฺปํ. หิรี ปาปธมฺเม คูถํ วิย ปสฺสติ, โอตฺตปฺปํ อุณฺหํ วิย. ทายชฺชํ นวโลกุตฺตรธมฺมาทิ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานาทิตา จ หิรีโอตฺตปฺปานํ ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวน วุตฺตา, น ปน เตสํ กทาจิ อฺมฺํ วิปฺปโยคา. น หิ ลชฺชนํ นิพฺภยํ ปาปภยํ วา อลชฺชนํ โหตีติ.

มูลราสิวณฺณนา

อเคโธ อนภิชฺฌนํ อนภิกงฺขนํ. อนลฺลีโน ภาโว อธิปฺปาโย เอตสฺสาติ อนลฺลีนภาโว, เอวฺหิ อุปมาย สเมติ. อนุกูลมิตฺโต อนุวตฺตโก. วินยรโสติ วินยนรโส. อโทโส ทุสฺสีลฺยมลสฺสาติ อิทํ ทุสฺสีลฺยสฺส โทสสมุฏฺานตํ โทสูปนิสฺสยตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. อภาวนายาติ ‘‘ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน ภาวนาอินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ภาวนา ตทุปควีริยวาหนฏฺเน ภาวนา อาเสวนฏฺเน ภาวนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ปฺาสาธนาย ภาวนาย อปฺปวตฺติ, ตปฺปฏิปกฺขภูตา วา อกุสลา อภาวนา. นิคฺคุเณปิ คุณคฺคหณํ อธิกคฺคหณํ. วิชฺชมานมฺปิ คุณํ วิทฺธํเสตฺวา คหณํ อูนคฺคหณํ. จตุวิปลฺลาสคฺคหณํ วิปรีตคฺคหณํ.

ยาถาวสภาเวติ ‘‘เอตฺตโก เอตสฺส คุโณ, เอตฺตโก โทโส’’ติ คุณโทสานํ สภาเว ‘‘ชราธมฺโม ชีรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา มา ชีรี’’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต. อโลเภน จ คหฏฺานํ เขตฺตวตฺถาทีสุ วิวาทาภาวโต. อโมเหน ปพฺพชิตานํ ทิฏฺิคตวิวาทาภาวโต. กามราคาภินิเวสวินิพนฺธา หิ คหฏฺา คหฏฺเหิ วิวทนฺติ, ทิฏฺิราคาภินิเวสวินิพนฺธา สมณา สมเณหีติ. ราควเสน มิตฺตสนฺถโว โทสวเสน วิโรโธ จ ตพฺพิเสเสน อุปคมาปคมา, อารมฺมเณ วา รูปาทิมฺหิ อนุโรธวิโรธา. อมชฺฌตฺตภาวสฺส ปฏิฆานุนยสงฺขาตสฺส โมเหน ปวตฺติ. สุขวิปริณาเม ทุกฺขสมาโยเค จ ปฏิฆปวตฺติยํ เวทนาปริคฺคโห น สิชฺฌตีติ อโทสานุภาเวน เวทนาสติปฏฺานํ สิชฺฌติ. ทิพฺพวิหารสฺสาติ จตุนฺนํ ฌานานํ. อริยวิหาโร ผลสมาปตฺติ. โมเหน อวิจาเรนฺโต อุทาสีนปกฺเขสุปิ สตฺตสงฺขาเรสุ สพฺเพสุ อภิสงฺคํ กโรตีติ อมูฬฺหสฺส ตทภาโว เวทิตพฺโพ. ทุกฺขทสฺสนสฺส อาสนฺนปฏิปกฺขตฺตา โทสสฺส ตปฺปฏิปกฺเขน อโทเสน ทุกฺขทสฺสนํ โหติ.

กมฺมปถราสิวณฺณนา

สุขาทีนิ อตฺตโน น พฺยาปาเทติ น วินาเสติ ปรสฺส จาติ ทฏฺพฺพํ. กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ กมฺมปถวเสน.

ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา

ทรโถ สารมฺโภ, ทุกฺขโทมนสฺสปจฺจยานํ อุทฺธจฺจาทิกานํ กิเลสานํ จตุนฺนํ วา ขนฺธานํ เอตํ อธิวจนํ. อุทฺธจฺจปฺปธานา กิเลสา อุทฺธจฺจาทิกิเลสา, อุทฺธจฺจํ วา อาทึ กตฺวา สพฺพกิเลเส สงฺคณฺหาติ. สุวณฺณวิสุทฺธิ วิยาติ ยถา สุวณฺณวิสุทฺธิ อลงฺการวิกติวินิโยคกฺขมา, เอวํ อยมฺปิ หิตกิริยาวินิโยคกฺขมา.

สมํ, สมนฺตโต วา ปกาเรหิ ชานนํ สมฺปชฺํ. เจติยวนฺทนาทิอตฺถํ อภิกฺกมาทีสุ อตฺถานตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. สติ จ อตฺเถ สปฺปายาสปฺปายรูปาทิปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. โคจรคามาภิกฺกมนาทีสุ กมฺมฏฺานาวิชหนํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมนาทีนํ ธาตุอาทิวเสน ปวิจโย อสมฺโมหสมฺปชฺํ. สพฺพกมฺมฏฺานภาวนานุยุตฺตานํ สพฺพโยคีนํ สพฺพทา อุปการกา อิเม ทฺเว ธมฺมา ปาริปนฺถกหรณโต ภาวนาวฑฺฒนโต จ. ยถาห ‘‘ทฺเว ธมฺมา พหุการา สติ จ สมฺปชฺฺจา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๒). ยุเค นทฺธา วิยาติ ยุคนทฺธา, อฺมฺํ นิมิตฺตภาเวน สมํ ปวตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐; ปฏิ. ม. ๒.๑) หิ สุตฺเต เอเตสํ ยุคนทฺธตา วุตฺตา. สพฺพกุสลธมฺเมสุ ลีนุทฺธจฺจาภาโว เอเตหิ ทฺวีหิ สมํ ยุตฺเตหีติ ‘‘วีริยสมาธิโยชนตฺถายา’’ติ อาห, โยควจนตฺถายาติ อตฺโถ.

เยวาปนกวณฺณนา

รูปาภาเวนาติ รุปฺปนาภาเวน. ธมฺมาติ เอตสฺส อตฺโถ สภาวโต อุปลพฺภมานาติ. เมตฺตาปุพฺพภาโคติ อปฺปนาปฺปตฺตาย เมตฺตาย ปุพฺพภาโค, ปริกมฺมเมตฺตา เอตสฺมึ จิตฺเต อตฺถีติ อตฺโถ. วิรติวเสนาติ วจีปวตฺติยา น ปูเรติ, กินฺตุ วิรติโยเคนาติ อตฺโถ. อปณฺณกงฺคานีติ อวิรทฺธงฺคานิ. ยถา ตถา วา อารมฺมเณ วินิจฺฉยนํ อธิมุจฺจนํ. น หิ อนธิมุจฺจนฺโต ปาณาติปาตาทีสุ ทานาทีสุ วา ปวตฺตติ, สทฺธา ปน ปสาทนีเยสุ ปสาทาธิโมกฺโขติ อยเมเตสํ วิเสโส. ทารกสฺส วิย อิโต จิโต จ สํสปฺปนสฺส กริสฺสามิ น กริสฺสามีติ อวินิจฺฉยสฺส ปฏิปกฺขกิริยา อสํสปฺปนํ. ปุริมมนโตติ ภวงฺคโต. วิสทิสํ วีถิชวนํ มนํ กโรตีติ มนสิการสามฺเน วีถิชวนปฏิปาทเก ทสฺเสติ. เตสุ ธมฺเมสูติ จิตฺตเจตสิกธมฺเมสุ. อตทารมฺมณตฺเตปิ หิ เตสุ สมปฺปวตฺเตสุ อุทาสีนภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ วุจฺจติ. อลีนานุทฺธตปฺปวตฺติปจฺจยตฺตา อูนาธิกนิวารณรสา. กายทุจฺจริตาทิวตฺถูนนฺติ ปาณาทีนํ. อมทฺทนา มทฺทนปฏิปกฺขภาโวว.

ตํตํราสิกิจฺจวเสน วิภาครหิตา อวิภตฺติกา. เอตฺถาติ เอเตสุ สวิภตฺติเกสุ ทุติยฏฺานาทีสุปิ ภาชิยมาเนสุ อปุพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. ปทํ ปูริตนฺติ ฌานาทิปทํ ปฺจกาทิวเสน ปูริตํ. ปฺจ หิ องฺคานิ ฌานปทสฺส อตฺโถ, เตสุ เอกสฺมิฺจ อูเน ฌานปทํ อูนํ โหตีติ. ปทสมูโห ปทโกฏฺาโส วา ตํ ตเมว วา ปทํ, อวุตฺตํ หาปิตํ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปูริต’’นฺติ. วุตฺตสฺมิฺเว วุจฺจมาเน อเนเกสํ ปุริสสทฺทานํ วิย โกจิ สมฺพนฺโธ นตฺถีติ มฺมาโน อาห ‘‘อนนุสนฺธิกา กถา’’ติ. อนฺตรนฺตรา วุตฺตสฺมิฺเว วุจฺจมาเน อนุกฺกเมน ธมฺมา กถิตา น โหนฺตีติ อาห ‘‘อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ. ผสฺสปฺจมกราสิ สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณวเสน จตุกฺขนฺธตปฺปจฺจยสงฺคหวเสน จ วุตฺโต. ยถาวุตฺเตสุ ปน ราสีสุ เอกราสิกิจฺจสฺสปิ อภาวา ฉนฺทาทโย เยวาปนกวเสน วุตฺตา. วุตฺตานมฺปิ จ ธมฺมานํ ยถา เวทนาทีนํ ฌานงฺคาทิภาโว วุตฺโต, น เอวํ โสวจสฺสตากลฺยาณมิตฺตตาทิวิเสโส วุตฺโตติ ตสฺส สงฺคณฺหนตฺถํ เกจิ ธมฺเม วิสุํ เปตฺวา เต จ ตฺจ วิเสสํ ‘‘เย วา ปนา’’ติ อาห. เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา สาวเสเส ธมฺเม วตฺวา ‘‘เย วา ปนา’’ติ วุตฺตํ.

เยวาปนกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กามาวจรกุสลํ

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา

. ผุสนกวเสนาติ สนฺเต อสนฺเตปิ วิสเย อาปาถคเต จิตฺตสฺส สนฺนิปตนวเสน ‘‘จิตฺตํ มโน’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย กิจฺจวิเสสํ, ‘‘มานส’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย สมาเน อตฺเถ สทฺทวิเสสํ, ‘‘ปณฺฑร’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๖, ๑๗) วิย คุณวิเสสํ, ‘‘เจตสิกํ สาต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๒, ๑๘) วิย นิสฺสยวิเสสํ, ‘‘จิตฺตสฺส ิตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๕, ๒๔) วิย อฺสฺส อวตฺถาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภนา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๒) วิย อฺสฺส กิริยาภาววิเสสํ, ‘‘อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๒) วิย อฺสฺส กิริยาภาวภูตตาวิเสสนฺติอาทิกํ อนเปกฺขิตฺวา ธมฺมมตฺตทีปนํ สภาวปทํ. ผุสนฺตสฺส หิ จิตฺตสฺส ผุสนกิริยา ผุสนากาโร. สมฺผุสนาติ อารมฺมณสมาคมผุสนา, น ปฏิลาภสมฺผุสนา. สมฺผุสิตสฺส อารมฺมเณน สมาคตสฺส จิตฺตสฺส ภาโว สมฺผุสิตตฺตํ. ยสฺมึ สติ จิตฺตํ สมฺผุสิตนฺติ วุจฺจติ, โส ตสฺส ภาโว. เอวํ อฺเสุปิ ภาวนิทฺเทเสสุ ทฏฺพฺพํ.

อปรสฺส เววจนสฺส, อปเรน วา ปุริมตฺถสฺส ทีปนา อปรทีปนา. ‘‘ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺล’’นฺติ เอวมาทโย ปฺาวิเสสา นานากาเล ลพฺภมานาปิ เอกสฺมึ จิตฺเต ลพฺภนฺติ. เอกสฺมิฺจ วิเสเส อิตเรปิ อนุคตา โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ตถา วิภตฺติ อตฺถโต วิภตฺติ โหติ อตฺถนานตฺเตน กตตฺตา. อถ วา ยถา ‘‘โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) สภาวาการภาวนิทฺเทเสหิ โกโธติ เอวมากาโรว อตฺโถ วุตฺโต, น เอวมิธ, อิธ ปน ปณฺฑิตาทิภาวาการภินฺโน อตฺโถ วุตฺโตติ อิทํ วิภตฺติคมนํ อตฺถวเสน โหติ. สมฺผุสิตตฺตนฺติ เอตฺถาปิ น ‘‘ผสฺโส’’ติ เอวมากาโรว อตฺโถ วุตฺโต. สมฺผสฺโสติ เอวมากาโร ปน วุตฺโตติ อตฺถโต วิภตฺติคมนนฺติ วุตฺตํ.

โทโส พฺยาปาโทติ อุทฺเทเสปิ นามนานตฺเตน นานาภูโต อุทฺทิฏฺโ. นิทฺเทเสปิ เตเนว นานตฺเตน นิทฺทิฏฺโ. เอโกว ขนฺโธ โหตีติ เอเกน ขนฺธสทฺเทน วตฺตพฺพตํ สนฺธายาห. เจตนาติ สงฺขารกฺขนฺธํ ทสฺเสติ ตปฺปมุขตฺตา. อสทฺธมฺมาติ อสตํ, อสนฺโต วา ธมฺมา, น วา สทฺธมฺมาติ อสทฺธมฺมาติ อสทฺธมฺมวจนียภาเวน เอกีภูโตปิ อสทฺธมฺโม โกธครุตาทิวิสิฏฺเน สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ คโตติ ‘‘จตฺตาโร’’ติ วุตฺตํ. น สทฺธมฺมครุตาติ วุจฺจมานา วา อสทฺธมฺมครุตา อสทฺธมฺมครุตาภาเวน เอกีภูตาปิ โกธาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ คตา. ปฏิปกฺโข วา ปฏิกฺขิปียติ เตน, สยํ วา ปฏิกฺขิปตีติ ปฏิกฺเขโปติ วุจฺจตีติ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺเตน อสทฺธมฺมครุตา อสทฺธมฺมา วา นานตฺตํ คตา. อโลโภติอาทีนํ ผสฺสาทีหิ นานตฺตํ โลภาทิวิสิฏฺเน ปฏิกฺเขเปน โลภาทิปฏิปกฺเขน วา เวทิตพฺพํ. อโลภาโทสาโมหานํ อฺมฺนานตฺตํ ยถาวุตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตน โยเชตพฺพํ. ปทตฺถสฺส ปทนฺตเรน วิภาวนํ ปทตฺถุติ. เตน หิ ตํ ปทํ มหตฺถนฺติ ทีปิตํ โหติ อลงฺกตฺจาติ. อตฺถวิเสสาภาเวปิ อาภรณวเสน จ อาทรวเสน จ ปุน วจนํ ทฬฺหีกมฺมํ.

. ตชฺชนฺติ ตสฺส ผลสฺส อนุจฺฉวิกํ. น เกวลํ นิทฺทิสิยมานํ สาตเมว อธิกตํ, อถ โข ยถานิทฺทิฏฺานิ อารมฺมณานิปีติ ‘‘เตหิ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺส วา ชาตา การณภาเวน ผสฺสตฺถํ ปวตฺตาติ ตชฺชา. ตํสมงฺคีปุคฺคลํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม วา อตฺตนิ สาทยตีติ สาตํ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. สุฏฺุ ขาทติ, ขณติ วา ทุกฺขนฺติ สุขํ.

. ปาโสติ ราคปาโส. โส หิ นิราวรณตฺตา อนฺตลิกฺขจโร. อกุสลมฺปิ ปณฺฑรนฺติ วุตฺตํ, โก ปน วาโท กุสลนฺติ อธิปฺปาโย. ตฺหิ ปณฺฑรโต นิกฺขนฺตํ สยฺจ ปณฺฑรนฺติ. อถ วา สพฺพมฺปิ จิตฺตํ สภาวโต ปณฺฑรเมว, อาคนฺตุโกปกฺกิเลสโวทาเนหิ ปน สาวชฺชานวชฺชานํ อุปกฺกิลิฏฺวิสุทฺธตรตา โหนฺตีติ. ทารุปฺปมาเณสุ สิลาทีสุ ขนฺธปฺตฺติยา อภาวา กิฺจิ นิมิตฺตํ อนเปกฺขิตฺวา ทารุมฺหิ ปวตฺตา ขนฺธปฺตฺตีติ ‘‘ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. ตํ-สทฺเทน มโนวิฺาณธาตุเยว วุจฺเจยฺย นิทฺทิสิตพฺพตฺตาติ น ตสฺสา ตชฺชตา. เตหิ อารมฺมเณหิ ชาตา ตชฺชาติ จ วุจฺจมาเน สมฺผสฺสชตา น วตฺตพฺพา. น หิ โส อารมฺมณํ, นาปิ วิเสสปจฺจโย. ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ วิฺาณเมว ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโยติ วุตฺโตติ ตสฺมา น วิฺาณํ วิเสสปจฺจยภูตํ สมฺผสฺสชตาย ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาปฺตฺตึ ลภติ, น จ ตเทว ตสฺส การณภาเวน ผลภาเวน จ วุจฺจมานํ สุวิฺเยฺยํ โหตีติ. กึ วา เอเตน, ยถา ภควตา วุตฺตา ตํสภาวาเยว เต ธมฺมาติ น เอวํวิเธสุ การณํ มคฺคิตพฺพํ.

. เอวํ ตกฺกนวเสน โลกสิทฺเธนาติ อธิปฺปาโย. เอวฺเจวฺจ ภวิตพฺพนฺติ วิวิธํ ตกฺกนํ กูเป วิย อุทกสฺส อารมฺมณสฺส อากฑฺฒนํ วิตกฺกนํ.

. สมนฺตโต จรณํ วิจรณํ.

. อตฺตมนตาติ เอตฺถ อตฺต-สทฺเทน น จิตฺตํ วุตฺตํ. น หิ จิตฺตสฺส มโน อตฺถีติ. อตฺตมนสฺส ปน ปุคฺคลสฺส ภาโว อตฺตมนตาติ วตฺวา ปุน ปุคฺคลทิฏฺินิเสธนตฺถํ ‘‘จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

๑๑. น พลวตี, กสฺมา อวฏฺิติ วุตฺตาติ? เอกคฺคจิตฺเตน ปาณวธาทิกรเณ ตถา อวฏฺานมตฺตภาวโต. วิรูปํ, วิวิธํ วา สํหรณํ วิกิรณํ วิสาหาโร, สํหรณํ วา สมฺปิณฺฑนํ, ตทภาโว วิสาหาโร.

๑๒. อฺสฺมึ ปริยาเยติ อฺสฺมึ การเณ. สมานาธิกรณภาโว ทฺวินฺนํ พหูนํ วา ปทานํ เอกสฺมึ อตฺเถ ปวตฺติ.

๑๓. อารมฺภติ จาติ อาปชฺชติ จ. อุทฺธํ ยมนํ อุยฺยาโม. ธุรนฺติ นิปฺผาเทตุํ อารทฺธํ กุสลํ, ปฏิฺํ วา.

๑๔. ติณฺณนฺติ พุทฺธาทีนํ. จิตฺเต อารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ โชตนฺจ สติเยวาติ ตสฺสา เอตํ ลกฺขณํ.

๑๖. ปาสาณสกฺขรวาลิกาทิรหิตา ภูมิ สณฺหาติ ‘‘สณฺหฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ.

๑๙. อยนฺตีติ เอกกมฺมนิพฺพตฺตมนุสฺสาทิสนฺตติอวิจฺเฉทวเสน ปวตฺตนฺติ. กุสลากุสเลสุปิ หิ ชีวิตํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สมฺปยุตฺเต ปวตฺตยมานเมว ตทวิจฺเฉทสฺส ปจฺจโย โหติ.

๓๐. ยํ หิรียตีติ หิรียติ-สทฺเทน วุตฺโต ภาโว ยํ-สทฺเทน วุจฺจตีติ นฺติ ภาวนปุํสกํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. หิริยิตพฺเพนาติ จ เหตุอตฺเถ กรณวจนํ ยุชฺชติ.

๓๒. อลุพฺภนกวเสนาติ เอตฺถ อลุพฺภนเมว อลุพฺภนกนฺติ ภาวนิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ.

๓๓. อพฺยาปชฺโชติ พฺยาปาเทน ทุกฺเขน โทมนสฺสสงฺขาเตน โทเสน วิย น พฺยาปาเทตพฺโพติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ.

๔๒-๔๓. ถินมิทฺธาทิปฏิปกฺขภาเวน กุสลธมฺเม อนิจฺจาทิมนสิกาเร จ สีฆํ สีฆํ ปริวตฺตนสมตฺถตา ลหุปริณามตา, อวิชฺชานีวรณานฺหิ ตณฺหาสํโยชนานํ สตฺตานํ อกุสลปฺปวตฺติ ปกติภูตาติ น ตตฺถ ลหุปริณามตาย อตฺโถ. เตสฺจ ภาโว ครุตาเยวาติ ตพฺพิธุรสภาวานํ ลหุตา ทฏฺพฺพา. สา หิ ปวตฺตมานา สีฆํ ภวงฺควุฏฺานสฺส ปจฺจโย โหติ.

๔๔-๔๕. เย จ ธมฺมา โมหสมฺปยุตฺตา วิย อวิปนฺนลหุตา, เตสฺจ กุสลกรเณ อปฺปฏิฆาโต มุทุตา. อปฺปฏิฆาเตน มุทุตาทิรูปสทิสตาย อรูปธมฺมานมฺปิ มุทุตา มทฺทวตาติอาทิ วุตฺตํ.

๔๖-๔๗. สิเนหวเสน กิลินฺนํ อติมุทุกํ จิตฺตํ อกมฺมฺํ โหติ วิลีนํ วิย สุวณฺณํ, มานาทิวเสน อติถทฺธฺจ อตาปิตํ วิย สุวณฺณํ, ยํ ปนานุรูปมุทุตายุตฺตํ, ตํ กมฺมฺํ โหติ ยุตฺตมทฺทวํ วิย สุวณฺณํ. ตสฺเสว มุทุกสฺส โย กมฺมฺากาโร, สา กมฺมฺตาติ มุทุตาวิสิฏฺา กมฺมฺตา เวทิตพฺพา.

๕๐-๕๑. ปจฺโจสกฺกนภาเวน ปวตฺตํ อกุสลเมว ปจฺโจสกฺกนํ. เอกวีสติ อเนสนา นาม เวชฺชกมฺมํ กโรติ, ทูตกมฺมํ กโรติ, ปหิณกมฺมํ กโรติ, คณฺฑํ ผาเลติ, อรุมกฺขนํ เทติ, อุทฺธํวิเรจนํ เทติ, อโธวิเรจนํ เทติ, นตฺถุเตลํ ปจติ, จกฺขุเตลํ ปจติ, เวฬุทานํ เทติ, ปณฺณทานํ เทติ, ปุปฺผทานํ เทติ, ผลทานํ เทติ, สินานทานํ เทติ, ทนฺตกฏฺทานํ เทติ, มุโขทกทานํ เทติ, จุณฺณทานํ เทติ, มตฺติกาทานํ เทติ, จาฏุกกมฺมํ กโรติ, มุคฺคสูปิยํ, ปาริภฏฺยํ, ชงฺฆเปสนิยํ ทฺวาวีสติมํ ทูตกมฺเมน สทิสํ, ตสฺมา เอกวีสติ. ฉ อโคจรา เวสิยาโคจโร, วิธวา, ถุลฺลกุมารี, ปณฺฑก, ปานาคาร, ภิกฺขุนีอโคจโรติ. สงฺเขปโตติ สรูเปน อนุทฺทิฏฺตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท’’ติอาทิ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ‘‘โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา’’ติอาทินิทฺเทสํ สงฺขิปิตฺวา ‘‘เย วา ปนา’’ติ นิทฺเทโส กโตติ อตฺโถ.

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โกฏฺาสวารวณฺณนา

๕๘-๑๒๐. นิทฺเทสวาเร ปุจฺฉาทีนํ ปจฺเจกํ อเนกตฺเตปิ ปุจฺฉาทิภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา จตุปริจฺเฉทตา วุตฺตา. จตฺตาโร ทฺเวติ เอวมาทิกํ สงฺขิปิตฺวา สห วา คหณํ สงฺคโห. เปตฺวา เยวาปนเกติ สงฺคเหตพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ วิสุํ วิสุํ อุทฺทิฏฺตฺตา นิทฺทิฏฺตฺตา จ วิปฺปกิณฺณาติ สงฺคเหตพฺพา โหนฺติ, น เยวาปนกา สงฺคหคมเนเนว ตถา อวิปฺปกิณฺณตฺตา. ยสฺมา ปน สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตสฺมา ตํนิทฺเทเส อขนฺธภาวนิวารณตฺถํ เยวาปนาตฺเวว วุตฺตาติ น เยวาปนกา เปตพฺพาติ. ปจฺจยสงฺขาเตนาติ อาหารปจฺจยสงฺขาเตนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘เหตุ ปจฺจโย’’ติ เอเตสุ ทฺวีสุ ชนโก เหตุ อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโยติ เอวํ วิเสสวนฺเตสุ ปจฺจยสงฺขาเตน. ยถา หิ กพฬีการาหาโร โอชฏฺมกรูปาหรเณน รูปกายํ อุปตฺถมฺเภติ, เอวมิเมปิ เวทนาทิอาหรเณน นามกายนฺติ. ตถา จ โหนฺตีติ สาธารเณ สหชาตาทิปจฺจเย สนฺธายาห. อฺถา จาติ อฺเน จ เอเกนากาเรน ปจฺจยา โหนฺติเยวาติ อาหาราติ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมา อาหรณกิจฺจรหิตานํ เหตุอธิปติอาทีนํ นตฺถิ อาหารภาวปฺปสงฺโค. ติสฺโส จ เวทนา อาหรตีติอาทิ ยถาสมฺภววเสน วุตฺตํ, น อิมสฺมึเยว จิตฺเต ผสฺสาทิวเสน. ตโย จ ภเวติ กามาทิภวภูตํ วิฺาณํ วิเสเสน, อวิเสเสน จ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ.

อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา นิชฺฌายนํ จินฺตนํ อุปนิชฺฌายนํ. เหตฺวฏฺเนาติ อุปายตฺเถน, น มูลตฺเถน. ปุพฺพภาเค คโต ปฏิปนฺโน นานากฺขณิโก อฏฺงฺคิโก มคฺโค โลกุตฺตรกฺขเณว สห ปวตฺโต ยถาคตมคฺโคติ วุตฺโต. วิปสฺสนากฺขณโต ปุพฺเพว กายกมฺมาทีนํ สุปริสุทฺธตาย อฏฺงฺคิกมคฺคุปนิสฺสยสฺส ‘‘อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑) เอวํ วุตฺเตน ปริยาเยน ปุพฺพภาคมคฺคสฺส อฏฺงฺคิกตา ยถาคตวจเนน ทีปิตา, น เอกกฺขเณ อฏฺนฺนํ องฺคานํ สพฺภาวาติ เอวมสฺสปิ ปริยายเทสนตา เวทิตพฺพา. วิชานนเมว จิตฺตวิจิตฺตตาติ ‘‘จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน เอโกว ธมฺโม วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ อาห. จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตีติอาทีสุ เวทนากฺขนฺธาทีนํ สงฺคเห กเตปิ ปุน ‘‘เอโก เวทนากฺขนฺโธ โหตี’’ติอาทิวจนํ น อเนเก เวทนากฺขนฺธาทโย ชาตินิทฺเทเสน อิธ วุตฺตาติ ทสฺสนตฺถํ. อินฺทฺริเยสุ จ เอกสฺส ชาตินิทฺเทสภาเว ปฏิกฺขิตฺเต อฺเสํ อินฺทฺริยานํ อาหาราทีนฺจ ตปฺปฏิกฺเขโป กโต โหตีติ ปุพฺพงฺคมสฺส มนินฺทฺริยสฺเสว กโตติ ทฏฺพฺโพ.

โกฏฺาสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุฺตวารวณฺณนา

๑๒๑-๑๔๕. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ยถาวุตฺเต สมเย, เอเตสุ วา ธมฺเมสุ. ภาโวติ สตฺโต, โย โกจิ วา อตฺโถ.

ทุติยจิตฺตาทิวณฺณนา

๑๔๖. สปฺปโยเคนาติ ลีนสฺส จิตฺตสฺส อุสฺสาหนปโยคสหิเตน. สอุปาเยนาติ กุสลสฺส กรณากรเณสุ อาทีนวานิสํสปจฺจเวกฺขณํ ปเรหิ อุสฺสาหนนฺติ เอวมาทิอุปายสหิเตน.

๑๕๖-๑๕๙. มหาอฏฺกถายํ อนุฺาตา นาติสมาหิตาย ภาวนายาติ เยวาปนเกหิปิ นิพฺพิเสสตํ ทสฺเสติ.

ปุฺกิริยวตฺถาทิกถาวณฺณนา

อปจิติ เอว อปจิติสหคตํ ปุฺกิริยาวตฺถุ ยถา ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ. อปจิติ วา เจตนาสมฺปยุตฺตกธมฺมา กายวจีกิริยา วา, ตํสหิตา เจตนา อปจิติสหคตํ. หิตผรเณนาติ เทสเก เมตฺตาผรเณน, ‘‘เอวํ เม หิตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปวตฺเตน หิตจิตฺเตน วา. กมฺมสฺสกตาาณํ ทิฏฺิชุกมฺมํ. นิยมลกฺขณนฺติ มหปฺผลตานิยมสฺส ลกฺขณํ. สีลมเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ จาริตฺตวเสน. อนวชฺชวตฺถุํ ปริจฺจชนฺโต วิย อพฺภนุโมทมาโนปิ ปรสฺส สมฺปตฺติยา โมทตีติ อพฺภนุโมทนา ทานมเย สงฺคหิตา. ภาเวนฺโตปีติ อสมตฺตภาวนํ สนฺธายาห. สมตฺตา หิ อปฺปนา โหตีติ. อฏฺเว โกฏฺาเส กตฺวาติ เอกสฺส สตฺตสฺส เอกสฺมึ ขเณ อุปฺปนฺนเมกํ ปมจิตฺตํ ทสฺเสตฺวา อฺานิ ตาทิสานิ อทสฺเสนฺเตน สพฺพานิ ตานิ สริกฺขฏฺเน เอกีกตานิ โหนฺติ, ตถา เสสานิปีติ เอวํ อฏฺ กตฺวา.

กามาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรกุสลํ

จตุกฺกนโย

ปมชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๐. อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา รูปภโว รูปนฺติ วุตฺโต. ฌานสฺส อมคฺคภาเวปิ สติ มคฺควจนํ อฺมคฺคภาวนิวารณตฺถนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ มคฺคคฺคหณสฺส ปโยชนํ วุตฺตํ, น สพฺพสฺส กุสลชฺฌานสฺส มคฺคภาโวติ. ตตฺถ มคฺคสฺส ภาวนาย สมยววตฺถานสฺส กตตฺตา อมคฺคภาวนาสมเย ปวตฺตานํ ผสฺสาทีนํ กุสลภาโว น ทสฺสิโต สิยา, ตสฺมา สพฺพสฺส มคฺคภาโว ทสฺเสตพฺโพติ. อิโต อฺโ มคฺโค นตฺถีติ เอวํ อฺภูมิกวิธุโร สติ ปจฺจยนฺตเร รูปูปปตฺติชนกสภาโว วิปากธมฺมสภาโว วิย วิปากธมฺมวเสน สพฺพสมาโน มคฺคสทฺเทน วุตฺโตติ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. กุสลํ ทานนฺติ อโลโภ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เจตนา ทานํ, ตํ วชฺเชตฺวา อิตเร ทฺเว เจตนาสมฺปยุตฺตกาติ วุตฺตา. วฏฺฏนฺตีติ มคฺคภาวโต ฌานวจเนน สงฺคเหตฺวา มคฺโคติ วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ. โอกปฺปนาติ สทฺทหนา. อฺตฺถ ทิฏฺํ อตฺถํ ปริจฺจชิตฺวา ‘‘ชเนติ วฑฺเฒตี’’ติ อยมตฺโถ กสฺมา วุตฺโตติ นิรุปสคฺคสฺส อฺตฺถ เอวมตฺถสฺเสว ทิฏฺตฺตาติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ปุน จปรํ อุทายี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔๖ อาทโย) สุตฺตมาหฏํ. เกสฺจิ อริยานํ อริยมคฺเคน สิทฺธานิ อฺานิ จ ฌานานิ ภาวนาสภาวาเนวาติ เตสุปิ ภาเวนฺเตน สมยววตฺถานํ อิชฺฌตีติ.

นิสฺสรนฺติ นิคฺคจฺฉนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ นิสฺสรณํ. เก นิคฺคจฺฉนฺติ? กามา. เตสํ กามานํ นิสฺสรณํ ปหานนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ ‘‘กามาน’’นฺติ กตฺตริ สามิวจนํ ยุชฺชติ. วตฺถุกาเมหิปีติ วตฺถุกาเมหิ วิวิจฺเจวาติปิ อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวํ ยุชฺชมานตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺโถ ปิ-สทฺโท, น กิเลสกามสมุจฺจยตฺโถ. กสฺมา? อิมสฺมึ อตฺเถ กิเลสกามานํ ทุติยปเทน วิเวกสฺส วุตฺตตฺตา. อกุสลสทฺเทน ยทิปิ กิเลสกามา, อถาปิ สพฺพากุสลา คหิตา, สพฺพถา ปน กิเลสกาเมหิ วิเวโก วุตฺโตติ อาห ‘‘ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต’’ติ. กามคุณาธิคมเหตุปิ ปาณาติปาตาทิอสุทฺธปฺปโยโค โหตีติ ตพฺพิเวเกน ปโยคสุทฺธิ วิภาวิตา. ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน อาสยโปสนํ.

อฺเสมฺปิ จาติ ทิฏฺิมานาทีนํ ผสฺสาทีนฺจ. อุปริ วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ อุปริชฺฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน วิปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนตฺถํ ตปฺปจฺจนีกนีวรณวจนํ. พฺยาปาทวิเวกวจเนน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิอาฆาตวตฺถุเภทวิสยสฺส โทสสฺส โมหาธิกานํ ถินมิทฺธาทีนํ วิเวกวจเนน ปฏิจฺฉาทนวเสน ทุกฺขาทิปุพฺพนฺตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต. กามราคพฺยาปาทตเทกฏฺถินมิทฺธาทิวิกฺขมฺภนกฺเจทํ สพฺพากุสลปฏิปกฺขสภาวตฺตา สพฺพกุสลานํ เตน สภาเวน สพฺพากุสลานํ ปหานํ โหนฺตมฺปิ กามราคาทิวิกฺขมฺภนสภาวเมวาติ ตํสภาวตฺตา อวิเสเสตฺวา นีวรณากุสลมูลาทีนํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ อาห.

วิตกฺกสฺส กิจฺจวิเสเสน ถิรภาวปฺปตฺเต ปมชฺฌานสมาธิมฺหิ ปจฺจนีกทูรีภาวกเตน ถิรภาเวน ตํสทิเสสุ วิตกฺกรหิเตสุ ทุติยชฺฌานาทิสมาธีสุ จ อปฺปนาติ อฏฺกถาโวหาโรติ วิตกฺกสฺส อปฺปนาโยโค วุตฺโต, อฺถา วิตกฺโกว อปฺปนาติ ตสฺส ตํสมฺปโยโค น สิยาติ. อตฺโถ…เป… ทฏฺพฺโพ ฌานสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารสมงฺคิตาทสฺสเนน ฌานสฺเสว สวิตกฺกสวิจารภาวสฺส วุตฺตตฺตา.

วิเวกชํ ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปุริมสฺมึ อตฺเถ วิเวกชนฺติ ฌานํ. ปีติสุขสทฺทโต จ อตฺถิอตฺถวิเสสวโต อสฺส, อสฺมึ วาติ เอตฺถ -กาโร วุตฺโต. ทุติเย ปีติสุขเมว วิเวกชํ. วิเวกชํปีติสุขนฺติ จ อฺปทตฺเถ สมาโส ปจฺจตฺตนิทฺเทสสฺส จ อโลโป กโต, โลเป วา สติ ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ ปาโติ อยํ วิเสโส. คณนานุปุพฺพตาติ คณนานุปุพฺพตาย, คณนานุปุพฺพตามตฺตํ วา ปมนฺติ วจนนฺติ อตฺโถ. นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหาเนน มคฺโค อสมฺโมหโต อนิจฺจาทิลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. อสมฺโมสธมฺมํ นิพฺพานํ อวิปรีตลกฺขณตฺตา อนฺถาภาวโต ตถลกฺขณํ.

ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๑-๒. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอเตน เยหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปมชฺฌานสฺส โอฬาริกตา, เตสํ สมติกฺกมา ทุติยชฺฌานสฺส สมธิคโม, น สภาวโต อโนฬาริกานํ ผสฺสาทีนํ สมติกฺกมาติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ. เอวํ ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทีสุ นโย. ตสฺมา วิตกฺกวิจารปีติสุขสมติกฺกมวจนานิ โอฬาริโกฬาริกงฺคสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมปริทีปกานีติ เตสํ เอกเทสภูตํ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนํ ตํทีปกนฺติ วุตฺตํ. อถ วา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว ตํสมติกฺกมา ทุติยาธิคมทีปเกน ปีติวิราคาทิวจนานํ ปีติยาทิสมติกฺกมา ตติยาทิอธิคมทีปกตา โหตีติ ตสฺส ตํทีปกตา วุตฺตา.

นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิยาติ นีลโยคโต วตฺถํ นีลํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เยน สมฺปสาทเนน โยคา ฌานํ สมฺปสาทนํ, ตสฺมึ ทสฺสิเต ‘‘สมฺปสาทนํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ตํโยคา ฌาเน ตํสทฺทปฺปวตฺติ ทสฺสิตาติ อวิโรโธ ยุตฺโต. เอโกทิภาเว กถนฺติ เอโกทิมฺหิ ทสฺสิเต ‘‘เอโกทิภาวํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ฌานสฺส เอโกทิวฑฺฒนตา วุตฺตา โหตีติ. เอโกทิภาวนฺติ ปนิทํ อุทฺธริตฺวา เอโกทิสฺส นิทฺเทโส น กตฺตพฺโพ สิยาติ เอโกทิภาวสทฺโท เอว สมาธิมฺหิ ปวตฺโต สมฺปสาทนสทฺโท วิย ฌานมฺหิ ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ.

อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ. ทุติยชฺฌานาทิอธิคมุปายทีปเกน อชฺฌตฺตสมฺปสาทนตาย เจตโส เอโกทิภาวตาย จ เหตุทีปเกน อวิตกฺกาวิจารภาวเหตุทีปเกน จ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว วิตกฺกวิจาราภาโว ทีปิโตติ กึ ปุน อวิตกฺกอวิจารวจเนน กเตนาติ? น, อทีปิตตฺตา. น หิ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน วิตกฺกวิจารานํ อปฺปวตฺติ วุตฺตา โหติ. วิตกฺกวิจาเรสุ หิ ตณฺหาปหานฺจ เอเตสํ วูปสมนํ. เย จ สงฺขาเรสุ ตณฺหาปหานํ กโรนฺติ, เตสุ มคฺเคสุ ปหีนตณฺเหสุ ผเลสุ จ สงฺขารปฺปวตฺติ โหติ, เอวมิธาปิ วิกฺขมฺภิตวิตกฺกวิจารตณฺหสฺส ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารสมฺปโยโค ปุริเมน น นิวาริโต สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ อาวชฺชิตุกามตาทิอติกฺกโมว เตสํ วูปสโมติ ทสฺสนตฺถฺจ ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ วุตฺตํ.

ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๓. ปริสุทฺธปกติ ขีณาสวปกติ นิกฺกิเลสตา. อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ลีนุทฺธจฺจปกฺขปาตรหิตํ มชฺฌตฺตํ วีริยํ ‘‘อุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํ, ตเทว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปวตฺเตตพฺพสฺส ตาทิสสฺส วีริยสฺส นิมิตฺตภาวโต อุเปกฺขานิมิตฺตํ. ปมชฺฌานปฺปฏิลาภตฺถาย นีวรเณ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาปฺาสงฺขารุเปกฺขาสุ าณนฺติ อิมา อฏฺ สมาปตฺติวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาเส. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาเส…เป… อรหตฺตมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาเส. อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย…เป… สุฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย…เป… อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ…เป… ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณนฺติ อิมา ทส วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ.

ยทตฺถิ ยํ ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกํ, ตํ มุฺจิตุกมฺยตาาเณน ปชหติ. ทิฏฺโสวตฺถิกตฺตยสฺส สปฺปลกฺขณวิจินเน วิย ทิฏฺลกฺขณตฺตยสฺส ภูตสฺส สงฺขารลกฺขณวิจินเน อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติ ปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ. นามกาเยน เจตสิกสุขํ กายิกสุขเหตุ รูปสมุฏฺาปเนน กายิกสุขฺจ ฌานสมงฺคี ปฏิสํเวเทตีติ วุจฺจติ. ผุฏตฺตา พฺยาปิตตฺตา. ยถา หิ อุทเกน ผุฏสรีรสฺส ตาทิเส นาติปจฺจนีเก วาตาทิเก โผฏฺพฺเพ ผุฏฺเ สุขํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ เอเตหิ ผุฏสรีรสฺสปิ.

จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา

๑๖๕. อวิภูตปจฺจุปฏฺานาติ สุขทุกฺขานิ วิย อวิภูตาการา ปิฏฺิปาสาณคตมิคมคฺโค วิย ตทนุมาตพฺพาวิภูตากาโรปฏฺานา.

จตุกฺกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกนยวณฺณนา

๑๖๗. ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยาติ สพฺพฺุตฺาณสฺส. เตน หิ ธมฺมานํ อาการเภทํ ตฺวา ตทนุรูปํ เทสนํ นิยาเมตีติ. เอตฺถ จ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ กตฺวา วิภตฺตํ ‘‘ยสฺมึ…เป… มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. กสฺมา? เอกตฺตกายนานตฺตสฺีสตฺตาวาสผลตาย ทุติยชฺฌาเนน สมานผลตฺตา ปมชฺฌานสมาธิโต ชาตตฺตา จ. ปมชฺฌานเมว หิ กาเมหิ อกุสเลหิ จ วิวิตฺตนฺติ ตทภาวา น อิธ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ, นาปิ ‘‘วิเวกช’’นฺติ. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานานิ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺติ วิตกฺกวูปสมา วิจารวูปสมา อวิตกฺกตฺตา อวิจารตฺตา จาติ.

ปฏิปทาจตุกฺกวณฺณนา

๑๗๖-๑๘๐. ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารนฺติ นีวรณวิตกฺกวิจารนิกนฺติยาทีนํ วูปสมา ถิรภูโต กามาวจรสมาธิ. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปตาภูตา, สา ปน ตทสฺสาทสงฺขาตา ตทสฺสาทสมฺปยุตฺตกฺขนฺธสงฺขาตา วา มิจฺฉาสตีติ วทนฺติ. อวิคตนิกนฺติกา ตํตํปริหรณสตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ เอวฺจ กตฺวา ‘‘สติยา วา นิกนฺติยา วา’’ติ วิกปฺโป กโต. อาคมนวเสนาปิ จ ปฏิปทา โหนฺติเยวาติ อิทํ กทาจิ ทุติยาทีนํ ปมาทิอาคมนกตปฏิปทตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อปิ-สทฺโท หิ อเนกนฺติกตํ ทีเปติ, เอตสฺส อเนกนฺติกตฺตา เอว จ ปาฬิยํ เอเกกสฺมึ ฌาเน จตสฺโส ปฏิปทา จตฺตาริ อารมฺมณานิ โสฬสกฺขตฺตุกฺจ วิสุํ วิสุํ โยชิตํ. อฺถา เอเกกสฺมึ ปฏิปทาทิมฺหิ นว นว ฌานานิ โยเชตพฺพานิ สิยุนฺติ.

อารมฺมณจตุกฺกวณฺณนา

๑๘๑. อปฺปคุณนฺติ ปฺจหิ วสิตาหิ อวสีกตํ.

อารมฺมณปฏิปทามิสฺสกวณฺณนา

๑๘๖. เหฏฺาติ โสฬสกฺขตฺตุกโต ปุพฺเพ. เย เกจิ ฌานํ อุปฺปาเทนฺติ นามาติ วจเนน เย กตาธิการา เสกฺขา มคฺเคเนว อุปฺปาทิตชฺฌานา, เตสํ ฌานานิ มคฺคปฏิพทฺธตาย สุทฺธิกนวกสงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพานิ. น หิ เต อุปฺปาเทนฺติ นามาติ.

กสิณกถาวณฺณนา

๒๐๓. นิโรธปาทกตาวจเนน อารุปฺปปาทกตา จ ทสฺสิตา. ขิปฺปทสฺสนํ ขิปฺปาภิฺตา ขิปฺปนิสนฺติภาโว.

อภิภายตนกถาวณฺณนา

๒๐๔. อฺมฺปีติ เกวลํ กสิณายตนสงฺขาตเมว อหุตฺวา อภิภายตนสงฺขาตมฺปิ ปวตฺตตีติ สติปิ อภิภายตนานํ กสิณายตนตฺเต กสิณายตนภาวโต อฺโ อภิภายตนภาโว กสิณนิมิตฺตาภิภวนกภาวนานิมิตฺตนานตฺตโตติ ทสฺเสติ. ตตฺถ อภิภวตีติ อภิภุ, ปริกมฺมํ, าณํ วา. อภิภุ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ, ฌานํ. อภิภวิตพฺพํ วา อารมฺมณสงฺขาตํ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ, ฌานํ. อารมฺมณาภิภวนโต อภิภุ จ ตํ อายตนฺจ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต มนายตนธมฺมายตนภาวโต จาติปิ สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ อภิภายตนํ. มคฺคปฺปฏิพทฺธตาย ตทา สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส อาโภโค ปุพฺพภาคภาวนาวเสน ฌานกฺขเณ ปวตฺตํ อภิภวนาการํ คเหตฺวา ปวตฺโต วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อาคเมสุ ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก…เป… ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๘.๖๕) อิเมสํ จตุนฺนํ อภิภายตนานํ อาคตตฺตา อาคมฏฺกถาสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒. ๒๔๙-๒๕๐; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) ‘‘วณฺณวเสน อาโภเค วิชฺชมาเนปิ ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’’ติ วุตฺตํ. ปริตฺตอปฺปมาณตา หิ อภิภวนสฺส การณํ วณฺณาโภเค สติปิ อสติปิ. ตตฺถ จ วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ สพฺพานิ ปริตฺตานิ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วุตฺตานิ, ตถา อปฺปมาณานีติ ทฏฺพฺพานิ. อตฺถิ หิ เอโส ปริยาโย ปริตฺตานิ อภิภุยฺย ตานิ เจ กทาจิ วณฺณวเสน อาภุชิตานิ โหนฺติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยาติ. อิธ ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วณฺณาโภครหิตานิ วิสุํ วุตฺตานิ สหิตานิ จ. อตฺถิ หิ อุภยตฺถ อภิภวนวิเสโสติ.

ตตฺถ จ ปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขานมฺปิ อภิภวนปริยาโย อตฺถีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อภิภายตนทฺวยํ วุตฺตํ, ตติยจตุตฺถอภิภายตเนสุ ทุติยวิโมกฺโข วณฺณาภิภายตเนสุ ตติยวิโมกฺโข จ อภิภวนปฺปวตฺติโต สงฺคหิโต, อิธ ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขาภิภายตนานิ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วิโมกฺเข วชฺเชตฺวา อภิภายตนานิ กถิตานิ. สพฺพานิ จ วิโมกฺขกิจฺจานิ วิโมกฺขเทสนาย วุตฺตานิ, ตเทตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อาคตสฺส อภิภายตนทฺวยสฺส อภิภายตเนสุ อวจนโต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนฺจ สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต ววตฺถานํ กตนฺติ วิฺายติ.

อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโตติ อิทํ กตฺถจิปิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปานิ ปสฺสตี’’ติ อวตฺวา สพฺพตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ, ตสฺส การณวจนํ. เตน ยํ อฺเหตุกํ, ตํ เตน เหตุนา วุตฺตํ. ยํ ปน เทสนาวิลาสเหตุกํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาย เอว อิธ วจนํ, น ตสฺส อฺํ การณํ มคฺคิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียตา จ พหิทฺธารูปานํ วิย อวิภูตตฺตา, เทสนาวิลาโส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสน เวทิตพฺโพ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ เอเตเนว สิทฺธตฺตา นีลาทิอภิภายตนานิ น วตฺตพฺพานีติ เจ? น, นีลาทีสุ กตาธิการานํ นีลาทิภาวสฺเสว อภิภวนการณตฺตา. น หิ เตสํ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณปริตฺตตา ตทปฺปมาณตา วา อภิภวนการณํ, อถ โข นีลาทิภาโว เอวาติ.

อภิภายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิโมกฺขกถาวณฺณนา

๒๔๘. รูปีติ เยนายํ สสนฺตติปริยาปนฺเนน รูเปน สมนฺนาคโต, ตํ ยสฺส ฌานสฺส เหตุภาเวน วิสิฏฺํ รูปํ โหติ. เยน วิสิฏฺเน รูปีติ วุจฺเจยฺย, ตเทว สสนฺตติปริยาปนฺนรูปนิมิตฺตํ ฌานมิว ปรมตฺถโต รูปีภาวสาธกนฺติ ทฏฺพฺพํ. กสิณเทสนา ฌานานเมว กสิณภาเวน ปวตฺตา อภิธมฺเม, สุตฺเต ปน อารมฺมณานนฺติ ‘‘อภิธมฺมวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา

๒๕๑. โสมนสฺสโทมนสฺสรหิตํ อฺาณเมว อฺาณุเปกฺขา. กิเลโสธีนํ มคฺโคธีหิ อชิตตฺตา อโนธิชินสฺส. สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตวิปากสฺส อชิตตฺตา อวิปากชินสฺส. นิทฺโทสภาเวนาติ นิปฺปฏิฆภาเวน. เอกสฺสปิ สตฺตสฺส อปฺปฏิภาคนิมิตฺตตฺตา ปริจฺเฉทคฺคหณํ นตฺถิ, น จ สมฺมุติสจฺจวเสน ปวตฺตํ สตฺตคฺคหณํ ปริจฺฉินฺนรูปาทิคฺคหณํ โหตีติ อปฺปนาปฺปตฺติยาปิ อปรามาสสตฺตคฺคหณมุทฺธภูตานํ เมตฺตาทีนํ เอกสตฺตารมฺมณานมฺปิ อปฺปมาณโคจรตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อสุภกถาวณฺณนา

๒๖๓. อุทฺธํ ธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ. เสตรตฺเตหิ ปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ. สงฺฆาโฏ องฺคานํ สุสมฺพทฺธตา. อารมฺมณสฺส ทุพฺพลตา ปฏิปกฺขภาเวน จิตฺตํ เปตุํ อสมตฺถตา. อตฺตนิ อานิสํสทสฺสนนีวรณโรควูปสมานํ ยถากฺกมํ ปุปฺผฉฑฺฑกวมนวิเรจนอุปมา โยเชตพฺพา. ปฏิกูลมนสิการสามฺเน อสุเภหิ เกสาทีหิ ปฏิกูลชฺฌานสฺส คหณํ สิวถิกาวณฺณชฺฌานสฺส จ. ตมฺปิ หิ ปฏิกูลมนสิการวเสเนว อุปฺปชฺชตีติ, สิวถิกปฺปการานิ วา สิวถิกาวณฺณานิ.

อสุภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา

๒๖๕. สพฺพากาเรนาติ เอวํ รูปนิมิตฺตํ ทณฺฑาทานสมฺภวทสฺสนาทินา สพฺเพน รูปรูปนิมิตฺเตสุ ตทารมฺมณชฺฌาเนสุ โทสทสฺสนากาเรน, รูปาทีสุ นิกนฺติปฺปหานอนาวชฺชิตุกามตาทินา วา. วิราคาติ ชิคุจฺฉนา. อาเนฺชาภิสงฺขารวจนาทีหิ อาเนฺชตา ‘‘สนฺตา อิเม จุนฺท อริยสฺส วินเย วิโมกฺขา’’ติอาทินา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา. โทสทสฺสนปฏิปกฺขภาวนาวเสน ปฏิฆสฺานํ สุปฺปหีนตฺตา มหตาปิ สทฺเทน อรูปสมาปตฺติโต น วุฏฺาติ. ตถา ปน น สุปฺปหีนตฺตา สพฺพรูปสมาปตฺติโต วุฏฺานํ สิยา, ปมชฺฌานํ ปน อปฺปกมฺปิ สทฺทํ น สหตีติ ตํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโกติ วุตฺตํ.

อารุปฺปภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ รูปสฺาปฏิฆสฺานํ ยาว อตฺตโน วิปากปฺปวตฺติ, ตาว อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน สมติกฺกโม อตฺถงฺคโม จ วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยา ตสฺมึ ภเว น อุปฺปชฺชนฺติ, ตา อโนกาสตาย น อุปฺปชฺชนฺติ, น อารุปฺปภาวนาย นิวาริตตฺตา. อนิวาริตตฺตา จ กาจิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา ตาสํ อมนสิกาโร อนาวชฺชนํ อปจฺจเวกฺขณํ, ชวนปฏิปาทเกน วา ภวงฺคมนสฺส อนฺตเร อกรณํ อปฺปเวสนํ วุตฺตํ, เตน จ นานตฺตสฺามนสิการเหตูนํ รูปานํ สมติกฺกมา สมาธิสฺส ถิรภาวํ ทสฺเสติ. รูปสมติกฺกมาภาเวเนว หิ รูปสมาปตฺตีสุ ‘‘นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ เอกสฺส อวจนนฺติ. โก อานิสํโส, น หิ สพฺพสฺสาทวตฺถุรหิเต อากาเส ปวตฺติตสฺาย อานิสํโส ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. รูปสฺาสมติกฺกมนาทิกํ วจนํ อานิสํสสฺส ปกาสนํ, น อตฺโถ.

อฺตฺถาติ สุตฺเตสุ. ตตฺถ หิ ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏเนปิ รูปวิเวกมตฺตคฺคหเณน ปริจฺเฉทสฺส อคฺคหณโต อนนฺตผรณตา จ วุตฺตา, อิธ ปน อนนฺตผรณตาสพฺภาเวปิ อุคฺฆาฏิตกสิณวเสน ปริตฺตานนฺตตา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สมยววตฺถาปนฌานวิเสสเนเนเวตฺถ อตฺโถ, น ปฏิปตฺติยาติ ตทวจนํ.

๒๖๖. ปมารุปฺปวิฺาณํ อตฺตโน ผรณากาเรเนว อนนฺตนฺติ มนสิกาตพฺพตฺตา ‘‘อนนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺฆาฏภาโว อุคฺฆาฏิมํ.

๒๖๗. อกิฺจนนฺติ วิฺาณสฺส กิฺจิ ปการํ อคฺคเหตฺวา สพฺเพน สพฺพํ วิภาวนํ อาห.

๒๖๘. ยายาติ สงฺขาราวเสสสฺาย. ตํ ตาว ปฏิปตฺตึ. อาวชฺชิสฺสามีติอาทินา ตนฺนินฺนาวชฺชนาทิปวตฺติยา อภาวํ ทสฺเสติ, น ตทติกฺกมนตฺถาย อาวชฺชนภาวนาปวตฺติยา. นาสฺาติ สฺาภาโว จ เอติสฺสา อตฺถีติ อตฺโถ. สมูหคหณวเสน ปวตฺตํ กลาปสมฺมสนํ. ผสฺสาทิเอเกกธมฺมคหณวเสน ปวตฺตา อนุปทธมฺมวิปสฺสนา.

อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยา. ตทติกฺกมโต หิ ตสฺเสว วิภาวนํ โหติ. ทุติยารุปฺปวิฺาณวิภาวเน หิ ตเทว อติกฺกนฺตํ สิยา, น ตสฺส อารมฺมณํ, น จารมฺมเณ โทสํ ทิสฺวา อนารมฺมณสฺส วิภาวนาติกฺกโม ยุชฺชติ. ปาฬิยฺจ ‘‘วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ สโต สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺหิตฺวา ตฺเว วิฺาณํ อภาเวตี’’ติ (จูฬนิ. อุปสีวมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓๙) ตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ตฺเว วิฺาณฺจายตนํ อภาเวตี’’ติ, ‘‘ตฺเว อภาเวตี’’ติ วา. ‘‘อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺชา’’ติ (วิภ. ๕๐๘) เอตฺถ ปน ทฺวยํ วุตฺตํ อารมฺมณฺจ วิฺาณํ วิฺาณฺจายตนฺจ. ตสฺมึ ทฺวเย เยน เกนจิ ยโต วา วุฏฺิโต, เตเนว ปฏฺานนิทฺทิฏฺเน ตํสทฺทสฺส สมฺพนฺเธ อาปนฺเน วิฺาณฺจายตนสฺส นิวตฺตนตฺถํ วิฺาณวจนํ, ตสฺมา ปมารุปฺปวิฺาณสฺเสว อภาวนาติกฺกโม วุตฺโต. ตนฺนิสฺสิตนฺติ เตน นิสฺสิตํ. ตํ มณฺฑปลคฺคํ อนิสฺสาย เตน วินาภูเต วิวิตฺเต พหิ โอกาเส านํ วิย อากาสลคฺควิฺาณสฺส วิเวเก ตทปคเม ตติยารุปฺปสฺส านํ.

อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตภูมกกุสลวณฺณนา

๒๖๙. อิเม ตาว ฉนฺทาธิปเตยฺเย ปฺจ นยาติ ฉนฺทาธิปเตยฺยนเย อนฺเต ปุริมนยานํ ตํนยาภิมุขปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, อยํ ปน ปกาโร น ปาฬิอนุคโต. น หิ ปาฬิยํ สุทฺธิกนยาทโย วตฺวา วีริยาธิปเตยฺยาทินยา วุตฺตาติ. มหาปกรเณ สตฺตหิ มหาวาเรหิ อนุโลมาทินยวิจิตฺเตหิ หีนตฺติโก วิภตฺโต. ตตฺถ จ มชฺฌิมธมฺเมกเทสภูตา อิเม วีสติ โลกิยมหานยาติ กตฺวา ‘‘ตตฺถ วิภตฺตา’’ติ วุตฺตํ, น เอเตน กเมน อิเมสํ นยานํ ตตฺถ อาคตตฺตา.

เอวเมเตสํ วิภตฺตฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอตสฺมึ เตภูมกกุสลกถาวสานฏฺาเน อฏฺารสกมฺมทฺวารทสฺสนตฺถํ ‘‘อิมสฺมึ ปน าเน’’ติอาทิมาห. อถ วา หีนปณีเตหิ วินิวตฺเตตฺวา มชฺฌิมราสิอนฺโตคธภาวํ ทสฺเสนฺเตน เอเตสํ เตภูมกกุสลนยานํ หีนตฺติเก วิภาโค กโต. ‘‘อิมสฺมึ ปน าเน’’ติอาทิกสฺส ยถาวุตฺโตว สมฺพนฺโธ. หีนตฺติเก มชฺฌิมราสิมฺหิ เย สวิปากา วฏฺฏนิสฺสิเตเนว ทานาทิวเสน ปวตฺติตา, เต หีนาติ กาตพฺพา. เย วิวฏฺฏนิสฺสิเตน ทานาทิวเสน ปวตฺติตา, เต ปณีตาติ กาตพฺพา. อวิปากา มชฺฌิมาติ กาตพฺพา. อวิปากตฺตา จ เตสุ มชฺฌิมราสึ เปตฺวา อิตเร ทฺเว เอกนฺตวฏฺฏนิสฺสิตา นว, วิวฏฺฏุปนิสฺสยภูตา จ นวาติ อฏฺารส กมฺมทฺวารานิ, กมฺมานิ จ ตานิ ตสฺส ตสฺส ผลสฺส การณภาเวน ทฺวารานิ จาติ กมฺมทฺวารานิ. ตตฺถ ตตฺถ วา จิตฺตานิ กมฺมทฺวารานีติ อาห. ตํตํทฺวารานิ วา กายาทีนิ. อฏฺารส ขตฺติยา จ อภพฺพา หีนหีนตฺตยาทโย นว, ภพฺพา จ ปณีตปณีตตฺตยาทโย นวาติ กมฺมานุรูเปเนว เวทิตพฺพา. เอวํ พฺราหฺมณาทโย เทวา จ โยเชตพฺพา. อฏฺจตฺตาลีส โคตฺตจรณานิ เตสฺเว ขตฺติยาทีนํ เภทา. ‘‘กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ…เป… จิตฺตาธิปเตยฺย’’นฺติ (ธ. ส. ๒๖๙-๒๗๐) เอวํ วุตฺโต จิตฺตสฺส จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว, จิตฺตเจตสิกสมุทาเย สมยววตฺถาปโก จิตฺตสทฺโท ปวตฺโตติ ‘‘สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสน วุตฺโต’’ติ อาห.

เตภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา

๒๗๗. โลกํ ตรตีติ เอเตน โลกสมติกฺกมปฏิปตฺติมาห. อุตฺตรตีติ เอเตน โลกสฺสนฺตคมนํ ผเล ปติฏฺานํ ผลํ. สมติกฺกมฺมาติอาทินา นิพฺพานํ. สมติกฺกมฺมาติ หิ นิสฺสริตฺวา. อภิภุยฺยาติ วิสํยุตฺตํ หุตฺวาติ อตฺโถ. ติวิโธปิ จตฺโถ มคฺคาทีสุ เอเกกสฺมึ โยเชตพฺโพ, มคฺเคเยว วา อิธ ตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอกจิตฺตกฺขณิกนฺติ เอกมคฺคสฺส ทฺเว วาเร อนุปฺปตฺตึ สนฺธายาห. อฺมฺํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธิกาย ปฺาย วฑฺเฒติ. ‘‘นิยฺยาตีติ นิยฺยานีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ อี-การสฺส รสฺสตฺตํ ย-การสฺส จ ก-การํ กตฺวา ‘‘นิยฺยานิก’’นฺติ วุตฺตํ. นิยฺยาติ เอเตนาติ นิยฺยานํ, นิยฺยานเมว นิยฺยานิกํ เวนยิโก วิย. เอตฺถ ‘‘เนยฺยานิก’’นฺติ วตฺตพฺเพ อิ-การสฺส เอ-การตฺตํ อกตฺวา วุตฺตํ.

ผลนฺติ จิตฺตเจตสิกราสิ วุจฺจติ, ตํ อฺมฺํ สมฺปยุตฺตานํ ธมฺมานํ อตฺตโน อวยวภูตานํ นิสฺสโย โหติ. ผลาณํ วา ผลํ, สมฺมาทิฏฺิอาทโย องฺคานิ วา. โลกุตฺตรภาเวติ โลกํ อุตฺติณฺณภาเว. เตน ผลนิพฺพานานิ สงฺคณฺหาติ. เตสุ ยํ ภวติ ผลํ, ตํ ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ. ยถา วา กมฺมนิพฺพตฺตา กามภวาทโย ตํสมงฺคิโน นิสฺสยภาเวน ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ มคฺเคน นิพฺพตฺตํ ผลํ อริยสาวกสฺส กาเลน กาลํ สมาปชฺชิตพฺพตาย นิสฺสยภาวโต ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ, ตโตเยว อริยา จิรตรํ ติฏฺนฺติ. สมุจฺเฉทวิเวกวเสนาติ เอตฺถ อปายคมนียานํ อจฺจนฺตสมุจฺเฉโท อิตเรสฺจ วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺส สมุจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ. โลกิยชฺฌานมฺปิ ปุถุชฺชนสฺส อริยสฺส จ อกตาธิการสฺส น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌติ, กตาธิการสฺส ปน อริยสฺส มคฺเคเนว สมิชฺฌนโต วิปากานํ วิย กุสเลน ตถา สมิทฺธสฺส อริยมคฺเคน สทิสตาย อภาวโต อตพฺพิปากตฺตา จ น มคฺคปฏิปทา ตสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาติ สกฺกา วตฺตุนฺติ ตตฺถ ตถา ครุํ กตฺวา ปฏิปทาหิ เอว เทสนา น กตา, ยถาวุตฺตชฺฌานสงฺคหตฺถํ สุทฺธิกเทสนาปิ กตา.

อิธ ปน กสฺสจิ วินา ปฏิปทาย อสิทฺธิโต ครุํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขปฏิปท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. โย โกจิ วาโรติ สกึ ทฺวิกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ จตุกฺขตฺตุํ อเนกกฺขตฺตุนฺติ เอวมาทีสุ วิกฺขมฺภนวาเรสุ โย โกจิ. สกึ ทฺวิกฺขตฺตุฺจ วิกฺขมฺภนวารา สุขา ปฏิปทา เอว, น จ ตโต อุทฺธํ สุขา ปฏิปทา โหตีติ ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารํ ทุกฺขา ปฏิปทาติ โรเจสุํ อฏฺกถาจริยา. ตสฺมึ ตถาโรจิเต ตโต ปเรสุ จตุกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวาราทีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ. รูปารูปานํ ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ รูปารูปปริคฺคโห, นามรูปมตฺตเมตํ, น อฺโ โกจิ สตฺตาทิโกติ ววตฺถาปนํ นามรูปววตฺถาปนํ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส มคฺคปาตุภาวทนฺธตา จ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิโต สิยาติ น รูปารูปปริคฺคหกิจฺฉตาย เอว ทุกฺขปฏิปทตา วตฺตพฺพาติ เจ? ตํ น, นามรูปววตฺถาปนาทีนํ ปจฺจนีกกิเลสมนฺทตาย สุขสิทฺธิยมฺปิ ตถาสิทฺธวิปสฺสนาสหคตานํ อินฺทฺริยานํ มนฺทตาย มคฺคปาตุภาวทนฺธภาวโต.

รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ อกิจฺเฉนปิ ปริคฺคเหตฺวา. กิจฺเฉน ปริคฺคหิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอวํ เสเสสุปิ. อิมํ วารํ โรเจสุนฺติ กลาปสมฺมสนาวสาเน อุทยพฺพยานุปสฺสนาย วตฺตมานาย อุปฺปนฺนสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺส ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภเนน กิจฺฉตาวารํ ทุกฺขา ปฏิปทาติ โรเจสุํ เอตทนฺตตฺตา ปฏิปทาย. เอตสฺส อกิจฺฉตฺเตปิ ปุริมานํ กิจฺฉตฺเต ทุกฺขปฏิปทตา วุตฺตนยาวาติ น ปฏิสิทฺธาติ ทฏฺพฺพํ. ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ รูปารูปปริคฺคหาทิกิจฺฉตํ ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารตาวเสน ‘‘อิมํ วาร’’นฺติ อาห. ยสฺส ปน สพฺพตฺถ อกิจฺฉตา, ตสฺส สุขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา. สา สินิทฺธภาวโต สมฺปยุตฺตธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ สมฺมาวาจาปจฺจยสุภาสิตโสตารฺจ ชนํ. กายิกกิริยากิจฺจํ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหตีติ สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติปิ สมุฏฺานสภาวาติ วุตฺตา. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺหนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย, ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา สุทฺธิ โวทานํ อาชีวสฺเสว วา ชีวิตินฺทฺริยวุตฺติยา.

๒๘๓. มคฺคสนฺนิสฺสิตนฺติ ปรมตฺถมคฺคสภาวตฺตา มคฺคาวยวภาเวน สมุทายสนฺนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ.

๒๘๕. ปติฏฺานํ กิเลสวเสน, อายูหนํ อภิสงฺขารวเสน. ตณฺหาวเสน วา ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนํ. โพธีติ ยา อยํ ธมฺมสามคฺคี วุจฺจตีติ โยเชตพฺพา. เสนงฺครถงฺคาทโย วิยาติ เอเตน ปุคฺคลปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ ทสฺเสติ. องฺค-สทฺโท การณตฺโถปิ โหตีติ จตุสจฺจโพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา. พุชฺฌนฺตีติ โพธิโย, โพธิโย เอว องฺคาติ ‘‘อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ วุตฺตํ. วิปสฺสนาทีนํ การณานํ พุชฺฌิตพฺพานฺจ สจฺจานํ อนุรูปํ ปจฺจกฺขภาเวน ปฏิมุขํ อวิปรีตตาย สมฺมา จ พุชฺฌนฺตีติ เอวมตฺถวิเสสทีปเกหิ อุปสคฺเคหิ ‘‘อนุพุชฺฌนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โพธิ-สทฺโท หิ สพฺพวิเสสยุตฺตํ พุชฺฌนํ สามฺเน สงฺคณฺหาตีติ.

๒๙๙. ติณฺณนฺติ ราคาทีนํ. กโรติ นาม กึ ทุจฺจริตานิ อนุวตฺตมานานิ.

๓๐๑. ปาณาติปาตาทินิปฺผาทิตปจฺจยานํ นิจฺจเสวนํ ธุวปฏิเสวนํ. สกิจฺจโกติ วิสุํ อตฺตโน กิจฺจวา. น โหตีติ อตฺถนฺตรภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปนอิริยาปถปฺปวตฺตนานิ ปาปิจฺฉตานิพฺพตฺตานิ ตีณิ กุหนวตฺถูนีติ.

๓๔๓. วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา สงฺขารุเปกฺขา สานุโลมา, สา สุฺโต ปสฺสนฺตี ‘‘สุฺตา’’ติ วุจฺจติ, ทุกฺขโต ปสฺสนฺตี ตณฺหาปณิธิโสสนโต ‘‘อปฺปณิหิต’’นฺติ. สา อาคมนียฏฺาเน มคฺคาธิคมตฺถํ อาคมนปฏิปทาาเน ตฺวา สุฺตาปฺปณิหิตนฺติ นามํ เทติ. อาคมนโต นาเม ลทฺเธ สคุณโต อารมฺมณโต จ นามํ สิทฺธเมว โหติ, น ปน สคุณารมฺมเณหิ นามลาเภ สพฺพตฺถ อาคมนโต นามํ สิทฺธํ โหตีติ ปริปุณฺณนามสิทฺธิเหตุตฺตา สคุณารมฺมเณหิ สพฺเพสมฺปิ นามตฺตยโยโค, น อาคมนโตติ ววตฺถานกรตฺตา จ นิปฺปริยายเทสนาย อาคมนโตว อิธ นามํ ลภติ, น อิตเรหีติ วุตฺตํ.

๓๕๐. อนิมิตฺตวิปสฺสนนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนํ. นิมิตฺตธมฺเมสูติ สมูหาทิฆนวเสน จ สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สปริคฺคเหสุ ขนฺเธสุ. อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ อนิจฺจานุปสฺสนมาห. เอวํสมฺปทมิทนฺติ กถมิธ อุปมาสํสนฺทนํ โหติ. น หิ ฉนฺทจิตฺตานํ มคฺคสงฺขาตอธิปติภาวาภาโว วิย สทฺธินฺทฺริยาธิกสฺส อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว อตฺถิ, น จ อมคฺคาธิปตีนํ มคฺคาธิปตินามทานาภาโว วิย อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตนามทานาภาโวติ สกฺกา วตฺตุํ อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนนิมิตฺตตาย อภาวโต. มคฺโค อธิปติ เอเตสนฺติ จ มคฺคาธิปติโนติ ยุตฺโต ตตฺถ ฉนฺทจิตฺเตหิ ตํสมฺปยุตฺตานํ มคฺคาธิปติภาวาภาโว. อิธ ปน มคฺโค อนิมิตฺตํ เอตสฺสาติ มคฺคานิมิตฺโตติ อยมตฺโถ น สมฺภวตีติ น เตน อมคฺเคน มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาโว น ยุชฺชติ, กึ วา เอตฺถ สามฺํ อธิปฺเปตนฺติ. อมคฺคงฺคมคฺคนามาภาโว. ยถา สติปิ อธิปติภาเว ฉนฺทจิตฺตานํ น มคฺคาธิปตีติ มคฺคนามํ, น จ เตหิ มคฺคสฺส เตสํ อมคฺคงฺคตฺตา, ตถา สติปิ สทฺธาย อาคมนภาเวน ตสฺสา อนิมิตฺตนฺติ มคฺคนามํ, น จ ตาย มคฺคสฺส ตสฺสา อมคฺคงฺคตฺตา. เอวํ อนิมิตฺตวิปสฺสนายปิ อนิมิตฺตภาโว นิปฺปริยาเยน นตฺถีติ ทีปิโต โหติ.

นนุ จ อิธ ฌานํ สุฺตาทินาเมน วุตฺตํ, น มคฺโคติ เจ? น, มคฺคสมฺปโยคโต ฌานสฺส สุฺตาทินามกตฺตา. สุตฺตนฺตปริยาเยน สคุณารมฺมเณหิ อิธ อภิธมฺเมปิ นามํ ลภตีติ อาหํสุ. ตสฺมา ปฏิกฺขิตฺตา ‘‘น ปน ลภนฺตี’’ติ. กึ การณา? อภิธมฺเม สรสํ อนามสิตฺวา ปจฺจนีกโตว นามลาภาติ อธิปฺปาโย. โย หิ สคุณารมฺมเณหิ นามลาโภ, โส สรสปฺปธาโน โหติ. สรเสเนว จ นามลาเภ สพฺพมคฺคานํ สุฺตาทิภาโวติ ววตฺถานํ น สิยา. ตสฺมา อภิธมฺเม สติปิ ทฺวีหิ นามลาเภ ปจฺจนีกโต นามววตฺถานกรํ คหิตนฺติ สคุณารมฺมเณหิ สุฺตาปฺปณิหิตมคฺคา นามํ น ลภนฺตีติ อาห. อถ วา น ปน ลภนฺตีติ อฺนิรเปกฺเขหิ สคุณารมฺมเณหิ น ลภนฺติ. กึ การณา? อภิธมฺเม สรสปจฺจนีเกหิ สหิเตหิ นามลาภาติ อตฺโถ. ปจฺจนีกฺหิ ววตฺถานกรํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลสฺส สรสสฺส นามเหตุภาโว อภิธมฺเม นตฺถิ อววตฺถานาปตฺติโต. ตสฺมา อตฺตาภินิเวสปณิธิปฏิปกฺขวิปสฺสนานุโลมา มคฺคา สติปิ สรสนฺตเร ปจฺจนีกสหิเตน สรเสน นามํ ลภนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคสฺส ปน วิปสฺสนา นิมิตฺตปฏิปกฺขา น โหติ สยํ นิมิตฺตคฺคหณโต นิมิตฺตคฺคหณานิวารณาติ ตทนุโลมมคฺโคปิ น นิมิตฺตสฺส ปฏิปกฺโข. ยทิ สิยา, นิมิตฺตคตวิปสฺสนายปิ ปฏิปกฺโข สิยาติ. ตสฺมา วิชฺชมาโนปิ สรโส ววตฺถานกรปจฺจนีกาภาวา อภิธมฺเม อนิมิตฺตนฺติ นามทายโก น คหิโต. อนิจฺจานุปสฺสนานุโลโม ปน มคฺโค สุทฺธิกปฏิปทานเยเยว สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา เอว จ โส นโย วุตฺโตติ. เอวนฺติ ยํ วกฺขติ ‘‘อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อนิมิตฺโต โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐), เอวํ อาหริตฺวา อฏฺกถาจริเยหิ โส อนิมิตฺตมคฺโค ทีปิโตติ อตฺโถ.

วุฏฺาน…เป… กิมารมฺมณาติ อนิจฺจาทิโต วุฏฺหนฺตสฺส วุฏฺานคามินิยา ลกฺขณารมฺมณตฺเต สติ สงฺขาเรหิ วุฏฺานํ น สิยา, สงฺขารารมฺมณตฺเต จ ลกฺขณปฏิเวโธติ มฺมาโน ปุจฺฉติ. ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา สงฺขาเรสุ ปวตฺตมาเนน าเณน ลกฺขณานิปิ ปฏิวิทฺธานิ โหนฺติ ตทาการสงฺขารคหณโตติ อาห ‘‘ลกฺขณารมฺมณา’’ติ. สงฺขารารมฺมณา เอว ยถาวุตฺตาธิปฺปาเยน ‘‘ลกฺขณารมฺมณา’’ติ วุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลกฺขณํ นามา’’ติอาทิมาห. อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนตฺตตาติ หิ วิสุํ คยฺหมานํ ลกฺขณํ ปฺตฺติคติกํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานํ, อวิชฺชมานตฺตา เอว ปริตฺตาทิวเสน นวตฺตพฺพธมฺมภูตํ. ตสฺมา วิสุํ คเหตพฺพสฺส ลกฺขณสฺส ปรมตฺถโต อภาวา ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ สงฺขาเร สภาวโต สลฺลกฺเขนฺโตว ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขติ นามาติ อาห ‘‘โย ปน อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตี’’ติ. ยสฺมา จ อนิจฺจนฺติอาทินา สงฺขาราว ทิสฺสมานา, ตสฺมา เต กณฺเ พทฺธกุณปํ วิย ปฏินิสฺสชฺชนียา โหนฺติ.

โลกุตฺตรกุสลํ

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

ตตฺราติ โลกุตฺตรชฺฌาเน. อชฺฌตฺตฺจาติ อุปฑฺฒคาถาย อภินิวิสิตพฺพํ วุฏฺาตพฺพํ วิปสฺสนาภูมึ ปฺจธา อุทฺทิสติ. สตฺตอฏฺาทีนิ องฺคานิ สตฺตฏฺงฺคานีติ อาทิสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. นิมิตฺตนฺติ ยโต วุฏฺานํ, ตานิ นิมิตฺตปวตฺตานิ นิมิตฺตวจเนเนว อุทฺทิสติ. สงฺขารุเปกฺขาาณเมว อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมติ. กสฺมา? ตโต ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สสงฺขารุเปกฺขาาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโต. เตสมฺปิ วาเทสุ…เป… วิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพา. กสฺมา? วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปมตฺเถรวาเทปิ อปาทกปมชฺฌานปาทกมคฺคา ปมชฺฌานิกาว โหนฺติ, อิตเร จ ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกา. เอวํ เสสวาเทสุปิ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ.

ปกิณฺณกสงฺขาเรติ ปาทกชฺฌานโต อฺสงฺขาเร. เตน ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสุ สมฺมสิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ตตฺราปีติ ทุติยตฺเถรวาเทปิ. ตํตํฌานิกตา ตํตํสมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติ. ตตฺราปิ หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวน โสมนสฺสสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

นฺติ ตํตํฌานสทิสภวนํ. สฺวายมตฺโถ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสเยหิ วินา อชฺฌาสยมตฺเตน อสิชฺฌนา อุปนิสฺสเยน วินา สงฺกปฺปมตฺเตน สกทาคามิผลาทีนํ อสิชฺฌนทีปเกน นนฺทโกวาเทน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. ตตฺถ หิ โสตาปนฺนายปิ ปริปุณฺณสงฺกปฺปภาวํ วทนฺเตน ภควตา ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺสาติ เตน เตน ปริปุณฺณสงฺกปฺปตา โหติ, น ตโต ปรํ สงฺกปฺปสพฺภาเวปิ อสิชฺฌนโตติ อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ. เอวมิธาปิ ยสฺส ยสฺส ทุติยาทิฌานิกสฺส มคฺคสฺส ยถาวุตฺโต อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺส สติปิ ตสฺมึ อสิชฺฌนโต. อิมสฺมึ ปน วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกนฺเตน โหติ, ตํตํผลูปนิสฺสยสพฺภาเว ตํตํสงฺกปฺโป วิยาติ ตทภาวาภาวโต อชฺฌาสโย นิยเมตีติ วุตฺตํ.

ยสฺมึ ปน ปาทกชฺฌานํ นตฺถีติ จตุตฺถชฺฌานิกวชฺชานํ ปาทกานิ โลกิยชฺฌานานิ สนฺธาย วุตฺตํ. อปฺปนาปฺปตฺติ จ โอฬาริกงฺคาติกฺกมนุปนิสฺสยาภาเว ปฺจหิ องฺเคหิ วินา น โหตีติ ‘‘โสมนสฺสสหคตมคฺโค โหตี’’ติ อาห. อุเปกฺขาสหคตมคฺโคติ เอเตน จตุตฺถชฺฌานิกตาปิ สมานา อนุสยสมุคฺฆาฏนสมตฺถสฺส น สงฺขาราวเสสตาติ ทสฺเสติ. เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ อชฺฌาสยวเสน ปฺจมชฺฌานิกตาย ปมาทิชฺฌานิกตาย จ สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหติ, อฺถา ปาทกสมฺมสิตชฺฌาเนเหว นิยมสฺส สิทฺธตฺตา อชฺฌาสโย นิยามโก วุจฺจมาโน นิรตฺถโก สิยาติ. อิธ ปน อฏฺสาลินิยา นิยามเน เอกนฺติกํ วิปสฺสนาสงฺขาตํ อตฺถเมว อุทฺธริตฺวา ‘‘เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ…เป… วิปสฺสนาว นิยเมตี’’ติ วทนฺเตน ตโยเปเต วาเท วิปสฺสนาว นิยเมตีติ ทสฺสิตํ. ตํตํวาทานฺหิ วิปสฺสนาสหิตานเมว สิทฺธิ, นาฺถาติ ทสฺสิตนฺติ.

ปเวธตีติ โคตฺรภุสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ยทิ ปฺจมจิตฺตกฺขเณ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ, กถํ ตทา โคตฺรภุ ตทนนฺตรฺจ มคฺโค ชวนสฺส ปติตกฺขเณ อุปฺปชฺชตีติ? อปุพฺพสฺส ชวนนฺตรสฺส ปติตตาภาวโต. ตเทว หิ ชวนํ อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานํ ปติตํ สิยาติ, โคตฺรภุ ปน อารมฺมณนฺตเร อุปฺปนฺนํ อปุพฺพํ ชวนํ, ตถา มคฺโค ภูมนฺตรโต จาติ. นนุ จ สตฺตมชวนเจตนาย พลวตาย อุปปชฺชเวทนียภาโว โหติ อานนฺตริยตาปีติ, ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา ‘‘ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน อนฺติมชวนเจตนาย สุสงฺขตตฺตา สา สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา อานนฺตริกา จ โหติ, น อปติตชวนเจตนา วิย พลวตายา’’ติ.

ปุน อนุโลมํ ตํ อนุพนฺเธยฺยาติ โคตฺรภุสฺส หิ สงฺขารารมฺมณตฺเต สติ ตทปิ อนุโลมเมวาติ ปุริมอนุโลมํ วิย ตํ ตทปิ อฺํ อนุโลมํ อนุพนฺเธยฺย, น มคฺโคติ มคฺควุฏฺานเมว จ น ภเวยฺย อตฺตโน สทิสาลมฺพนสฺส อาวชฺชนฏฺานิยสฺส ปจฺจยสฺส อลาภา. อปฺปหีนภาเวน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสยิตา กิเลสา สา ภูมิ เอเตหิ ลทฺธาติ กตฺวา ภูมิลทฺธา. วฏฺฏํ สิโนนฺติ พนฺธนฺตีติ กตฺวา วฏฺฏเสตู จ, เตสํ สมุคฺฆาตกรณนฺติปิ เอตเทวสฺส โลภกฺขนฺธาทิปทาลนํ วุจฺจติ. นฺติ ปวตฺตํ. เอกํ ภวนฺติ อนาคามิโน อเนกกฺขตฺตุฺจ ตตฺเถว อุปปชฺชนฺตสฺส เหฏฺา อนาคมนวเสน เอโก ภโวติ คเหตฺวา วุตฺตํ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส อุปาทินฺนกปวตฺตโต วุฏฺานสฺส. อปาเยสุ สตฺตมภวโต อุทฺธํ สุคติยฺจ วิปากทายกสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสฺส ปจฺจยฆาโต โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรโธ ทฏฺพฺโพ. ทฺวีสุ ภเวสูติ อนาคามิมคฺเค อภาวิเต สกทาคามิสฺส กามธาตุยํ เย ทฺเว ภวา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสูติ อตฺโถ. จลตีติ เอเตน จลนสภาวเมว ทสฺเสติ, น อจลนาภาวํ, ตสฺมา อจลนํ ทสฺเสตฺวา ปุน จลนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถาคตสฺส หี’’ติอาทิมาห. เยปิ วา กตฺถจิ จตฺตาโรปิ มคฺเค สมานปฏิปเท ทิสฺวา สภาวโต อจลนเมว คณฺเหยฺยุํ, เตสํ ตํคหณนิวารณตฺถํ ‘‘จลตี’’ติ วุตฺตํ, น จลนาวธารณตฺถนฺติ ยุตฺตํ อุภยทสฺสนํ. อถ วา ยทิปิ เกสฺจิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สมานปฏิปทา, ตถาปิ กิเลสินฺทฺริเยหิ สิชฺฌมานา ปฏิปทา เตสํ วเสน จลนปกติกา เอวาติ ‘‘จลติ’’จฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘น จลตี’’ติ.

โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมมคฺควีสติมหานยวณฺณนา

๓๕๗. ยสฺส ปุพฺพภาเค ‘‘มคฺคํ ภาเวมี’’ติ อชฺฌาสโย ปวตฺโต, โส มคฺคํ ภาเวติ. เอวํ สพฺพตฺถ อชฺฌาสยวิเสเสน ตํตํภาวนาวิเสโส ทฏฺพฺโพ.

๓๕๘. ฉนฺทาธิปเตยฺยนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขเณ วตฺตมาเนสุ ธมฺเมสุ กถํ ฉนฺทสฺส ตํสหชาตสฺส อธิปติภาโว วีริยาทีนฺจาติ? อุปนิสฺสยวเสน. ยสฺส หิ สเจ ฉนฺทวโต กุสลํ นิปฺผชฺชติ, ‘‘อหํ นิปฺผาเทสฺสามี’’ติ ปวตฺตมานสฺส กุสลํ นิปฺผนฺนํ, ตสฺส ตํสหชาโต ฉนฺโท เตน ปุริมุปนิสฺสเยน วิสิฏฺโ สหชาตธมฺเม อตฺตโน วเส วตฺเตติ. ตสฺมิฺจ ปวตฺตมาเน เต ปวตฺตนฺติ, นิวตฺตมาเน นิวตฺตนฺติ, ตทนุรูปพลา จ โหนฺติ ราชปุริสา วิยาติ. เอวํ วีริยาทีสุ. เสสธมฺมานํ ปน กตฺถจิ วุตฺตปฺปการปฺปวตฺติสพฺภาเวปิ อตํสภาวตฺตา อธิปติภาโว นตฺถีติ ทฏฺพฺโพ.

ทุติยมคฺควณฺณนา

๓๖๑. อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา อฺินฺทฺริยํ วุตฺตํ, อา-กาโร จ ธมฺมมริยาทตฺโถ.

ตติยจตุตฺถมคฺควณฺณนา

๓๖๒. มคฺคงฺคานิ น ปูเรนฺติ อกิจฺจกตฺตา สมฺมาทิฏฺิยาติ อธิปฺปาโย. มาเรนฺโต คจฺฉตีติ หิ มคฺโค, น เจตาย มาเรตพฺพํ อตฺถีติ. มานสฺส ทิฏฺิสทิสา ปวตฺติ อหมสฺมีติ ปวตฺตมานสฺส ทิฏฺิฏฺาเน านํ. อาโลกสฺเสว ปวตฺติกาโล วิยาติ จิรปฺปวตฺตึ สนฺธายาห. เอกเทสสามฺเน หิ ยถาธิปฺเปเตน อุปมา โหตีติ. ขาเร วาติ กฏฺาทีนํ ขารจฺฉาริกายํ. สมฺมทฺทิตฺวาติ กิเลเทตฺวา. ฉนฺโทติ ตณฺหา. อนุสโยติ ตณฺหา มานานุสโย จ. เอตสฺมิฺจ สุตฺเต อสมูหตสฺส คนฺธสฺส สมุคฺฆาฏนํ วิย อสมูหตมานาทิสมุคฺฆาตํ ทสฺเสนฺเตน อฺมฺเ กิเลเส ปชหตีติ ทสฺสิตนฺติ อานีตํ, น ยถาวุตฺตนเยน อุปมาย วุตฺตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. นิรนฺตรํ ปวตฺตมาเน จิตฺเต ตสฺส สํกิเลสโวทานกรา สาวชฺชานวชฺชา เจตสิกา อุปฺปชฺชมานา ตสฺสงฺคภูตา อวยวา วิย โหนฺตีติ ‘‘จิตฺตงฺควเสนา’’ติ วุตฺตํ.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลปทํ

ธมฺมุทฺเทสวาโร

ปมจิตฺตกถาวณฺณนา

๓๖๕. กุสเล วุตฺตนยํ อนุคนฺตฺวา ยถานุรูปํ เวทิตพฺพตาย ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ อาห. คนฺตพฺพาภาวโตติ พุชฺฌิตพฺพาภาวโต. ทิฏฺิยา คตมตฺตนฺติ ทิฏฺิยา คติมตฺตํ คหณมตฺตํ. อาสนฺนการณตฺตา อโยนิโสมนสิการสฺส วิสุํ คหณํ เอกนฺตการณตฺตา จ. สติสํวโรติ อิธ สีตาทีหิ ผุฏฺสฺส อปฺปมชฺชนํ ขมนํ ทฏฺพฺพํ. ปหานสํวโรติ วีริยสํวโร.

อสฺสาททสฺสนนฺติ อสฺสาททิฏฺิ. ผลฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน อสมฺมาปฏิปตฺติปจฺจุปฏฺาโนโมโห, สมฺมาปฏิปตฺติปฏิปกฺขภาวคฺคหณากาโร วา. สพฺพสฺส โลภสฺส อภิชฺฌาภาเว สติปิ วิเสสยุตฺตาย อภิชฺฌาย กมฺมปถปฺปตฺตาย อิธุปฺปชฺชมานาย ลกฺขณาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘สา ปรสมฺปตฺตีน’’นฺติอาทิมาห. อตฺตโน ปริณามนสฺส ปุเรจาริกา ตณฺหาภิรติ อภิรติ.

อนุปปริกฺขา โมโห. โมหวเสน หิ ทิฏฺิวเสน วา อวตฺถุสฺมึ สานุนโย อธิโมกฺโข อุปฺปชฺชตีติ. อสติยจิตฺเตติ อหิริกาทีหิ อารกฺขรหิตจิตฺเต. สติรหิตตฺตา สติปฏิปกฺขตฺตา จาติ เอเตน สติรหิตา สติปฏิปกฺขา จ อกุสลา ขนฺธา เอว มิจฺฉาสตีติ ทสฺเสติ. เต ปน อุปนาหาทิปฺปวตฺติยํ จิรกตาทิสลฺลกฺขเณ ปฏุสฺาสมฺปยุตฺตา ทฏฺพฺพา. สทรถาทิภาโว อวิเสเสน กิเลสสมฺปโยคโต วุตฺโต ลหุตาทิเอกนฺตปฏิปกฺขานํ ถินมิทฺธาทีนํ เกสฺจิ อิธ อภาวา. อวูปสโมติ อสนฺนิสินฺนสพฺภาวมาห. อนวฏฺานรสนฺติ จลนกิจฺจํ. เจตโส อวูปสเมติ นิปฺผาเทตพฺเพ ปโยชเน ภุมฺมํ, อวูปสมปจฺจยภูตํ อารมฺมณํ วา ‘‘อวูปสโม’’ติ วุตฺตํ.

ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา

๓๗๗. สหชาตธมฺเมสุ อกมฺปนํ น โกสชฺเชสุ อกมฺปนํ วิย ตปฺปฏิปกฺขภาวโต ทฏฺพฺพํ, ตํตํปาปกิริยาย อุสฺสหนวเสน ปน ถิรตา ตตฺถ อกมฺปนํ.

๓๘๑. ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ตถา ตถา สสฺสตาทิวเสน ปวตฺตา ทิฏฺิ เอว วุจฺจติ. ตรนฺตีติ ติตฺเถ วิย ปิลวนฺติ. วิปริเยสโตติ วตฺถุสฺส วิปรีตโต.

๓๙๐. สภาวปฏิจฺฉาทนวเสน ปกติอตฺตาทิอสนฺตคหณสฺส อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิวิสมคหณสฺส จ สฺาทิวิปริเยสสฺส นิสฺสยตฺตา ‘‘อสนฺตํ อสมฺจ พุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ.

ทุติยจิตฺตวณฺณนา

๓๙๙. กิฺจาปิ…เป… ปรามสนฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ ปุริมจิตฺเตน อวิเสสํ ทสฺเสติ. อนุสฺสาหนาวสีทนภาเวน สํหตภาโว ถินํ.

ตติยจิตฺตวณฺณนา

๔๐๐. อิธ มาเนน สทฺธึ ปฺจ อปณฺณกงฺคานีติ อวิรชฺฌนกงฺคานิ อุปฺปตฺติอรหงฺคานิ โหนฺตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มานสฺส อนิยตตฺตา น นิยตเยวาปนกาติ. ปฏฺาเน หิ ‘‘สํโยชนํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สํโยชโน ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๓.๔.๑) เอตฺถ ‘‘จตุกฺขตฺตุํ กามราเคน ติกฺขตฺตุํ ปฏิเฆน จ มาโน วิจิกิจฺฉา ภวราโค ตโยเปเต สกทาคามิโน สํโยชนานํ สํโยชเนหิ ทสวิธา โยชนา’’ติ ทสฺสิตาย ทสวิธาย โยชนาย ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ มานสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วตฺวา ‘‘กามราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ ‘‘มานสํโยชนํ ปฏิจฺจ ภวราคสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ จ วตฺวา ‘‘ภวราคสํโยชนํ ปฏิจฺจ อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ วุตฺตาหิ โยชนาหิ มานสฺส อนิยตภาโว ปกาสิโต, ตถา กิเลสทุเกปิ. อิธ จ วกฺขติ ‘‘ทสวิธา สํโยชนานํ โยชนา, ตถา ทสวิธา กิเลสาน’’นฺติ จ. อุนฺนมนวเสเนว สมฺปคฺคหรโส, น วีริยํ วิย ตํตํกิจฺจสาธเน อพฺภุสฺสาหนวเสน. โอมานสฺสปิ อตฺตานํ อวํกตฺวา คหณํ สมฺปคฺคโหติ ทฏฺพฺโพ.

จตุตฺถจิตฺตวณฺณนา

๔๐๒. ปริหรณตฺถํ วิกฺขิตฺตา หุตฺวา อุสฺสาหํ ชเนนฺตา ‘‘ปริหรณตฺถํ สอุสฺสาหา’’ติ วุตฺตา, เตสํ.

นวมจิตฺตวณฺณนา

๔๑๓. วิสปฺปนอนิฏฺรูปสมุฏฺานวเสน อตฺตโน ปวตฺติอาการวเสน จ วิสปฺปนรโส. โทโส อุปโยคผเลสุ อนิฏฺตฺตา วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ. อนภิรติรสาติ เอวํปกาเรสุ ปฏิกฺเขเปน รสวจเนสุ ตํตํปฏิปกฺขกิจฺจคหณํ ทฏฺพฺพํ. กฏุกาการคติ กฏุกฺจุกตา, อตฺตสมฺปตฺติ อาวาสาทิ, ปรายตฺตตาย ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ทาสพฺเย สติ ทาโส ปรายตฺโต โหติ, เอวํ กุกฺกุจฺเจ สติ ตํสมงฺคี. น หิ โส อตฺตโน ธมฺมตาย ปวตฺติตุํ สกฺโกติ กุสเลติ. อถ วา กตากตากุสลกุสลานุโสจเน อายตฺตตาย ตทุภยวเสน กุกฺกุจฺเจน ตํสมงฺคี โหตีติ ทาสพฺยํ วิย ตํ โหติ.

๔๑๘. วิรุทฺธากาโรติ วิรุทฺธสฺส ปุคฺคลสฺส, จิตฺตสฺส วา อากาโร วิรุทฺธภาโว. เตน วิรุชฺฌนํ วิโรโธติ ทสฺเสติ. วจนนฺติ เอตํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพเมว หิ กิจฺจํ เอเตน กริยมานํ สุโรปิตํ สุชนิตํ น โหตีติ. โรปสทฺทวจนตฺถเมว เกจิ วณฺเณนฺติ. ตํ อปฺปมาณนฺติ โกธสฺส ตถาปวตฺตนสภาวาภาวา อฺเน เกนจิ การเณน ปริปุณฺณตา สิยาติ สนฺธาย วุตฺตํ.

เอกาทสมจิตฺตวณฺณนา

๔๒๒. วิคตา จิกิจฺฉาติ จิกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วุตฺตํ, น สพฺพถา จิกิจฺฉาภาวา วิจิกิจฺฉายาติ ตทตฺถํ ทสฺเสติ.

๔๒๔. นิจฺฉยาภาวา อสณฺหนโต เจตโส ปวตฺติปจฺจยมตฺตตาย ‘‘ปวตฺติฏฺิติมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

๔๒๕. เอกํ อาการํ คนฺตุํ อสมตฺถตาย อตฺตโน อามุขํ สปฺปนโต โอสกฺกติ.

ทฺวาทสมจิตฺตวณฺณนา

๔๒๙. อุทฺธจฺจํ อตฺตโน คหิตากาเร เอว ตฺวา ภมตีติ เอการมฺมณสฺมึเยว วิปฺผนฺทนํ โหติ. วิจิกิจฺฉา ปน ยทิปิ รูปาทีสุ เอกสฺมิฺเวารมฺมเณ อุปฺปชฺชติ, ตถาปิ ‘‘เอวํ นุ โข, อิทํ นุ โข’’ติ อุปฺปชฺชมานา ‘‘นนุ โข, อฺํ นุ โข’’ติ อฺํ คเหตพฺพาการํ อเปกฺขตีติ นานารมฺมเณ จลนํ โหติ.

‘‘เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตาวตา อิมสฺมึ จิตฺตทฺวเย วุตฺตปกิณฺณกํ ทสฺเสตฺวา ทฺวาทสสุ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพสุปี’’ติอาทิมาห. กุสเลสุปิ อารมฺมณาธิปตึ อนุทฺธริตฺวา สหชาตาธิปติโน เอว อุทฺธฏตฺตา อิธาปิ โส เอว อุทฺธริตพฺโพ สิยาติ ‘‘สหชาตาธิปติ ลพฺภมาโนปิ น อุทฺธโฏ’’ติ วุตฺตํ นารมฺมณาธิปติโน อลพฺภมานตฺตา. โสปิ หิ อฏฺสุ โลภสหคเตสุ ลพฺภตีติ. เสโสปีติ วีมํสโต อฺโปิ สหชาตาธิปติ นตฺถิ, โย อุทฺธริตพฺโพ สิยา. อารมฺมณาธิปติมฺหิ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. กฺจิ ธมฺมนฺติ ฉนฺทาทีสุ เอกมฺปิ สหชาตํ. กุสลตฺติเก ตาว ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘น เหตุปจฺจยา อธิปติปจฺจยา’’ติ เอกสฺสปิ ปฺหสฺส อนุทฺธฏตฺตา ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธตา เวทิตพฺพา. อฺถา หิ ‘‘อกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น เหตุปจฺจยา อธิปติปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘๖) เอตสฺส วเสน ‘‘เอก’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา.

ทสฺสเนน ปหาตพฺพาภาวโตติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพสฺส อภาวโต, ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ วา อภาวโต. เอเตน ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อนาคมนนฺติ ตตฺถ อนาคมเนน ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนํ สาเธติ. อนากฑฺฒนโต อนาคมนํ ปน สาเธตุํ ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิมาห. เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺย. ตถา จ สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา อปายคมนียสฺส ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาวโต. น เจตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา, ตสฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพวิภงฺเค นาคตนฺติ อธิปฺปาโย.

กถํ ปเนตํ ายติ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อนาคมน’’นฺติ? ทสฺสเนน ปหาตพฺพานฺเว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. ทุวิธา หิ อกุสลา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพาติ. ตตฺถ ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว น วุตฺโต, อิตราสฺเว วุตฺโต. ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอตฺถ หิ สหชาตเมว วิภตฺตํ, น นานากฺขณิกนฺติ. ตถา ปจฺจนีเยปิ ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย…เป… สหชาตปจฺจเยน…เป… อุปนิสฺสยปจฺจเยน…เป…. ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อิตรตฺถ จ วุตฺตํ. อุทฺธจฺจสหคตา จ เจตนา ภาวนาย ปหาตพฺเพสุ เอว อาคตาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย น สิยาติ. ยทิ สิยา, ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนาย จ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว วุจฺเจยฺย, น ตุ วุตฺโต. ตสฺมา อุทฺธจฺจสหคตา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาเว สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ วตฺตพฺพา สิยา, ตทภาวา น วุตฺตาติ. ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ตตฺถ อนาคตาติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยาวจเนน ปน ภาวนาย ปหาตพฺพานํ ปวตฺติวิปากตา ปฏิกฺขิตฺตา. ปวตฺติวิปากสฺสปิ หิ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น สกฺกา นิวาเรตุํ. วุตฺตฺจ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, นานากฺขณิกา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๓.๕๖-๕๗). ยทิ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ วิปากทานํ นตฺถิ, กถํ เต วิปากธมฺมธมฺมา โหนฺตีติ? อภิฺาจิตฺตาทีนํ วิย วิปาการหสภาวตฺตา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมึ สมเย อกุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ…เป… อวิกฺเขโป โหติ, อิเมสุ ธมฺเมสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๓๐-๗๓๑) อิทมฺปิ เตสํ วิปาการหตฺเว สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. อิทํ ปน านํ สุฏฺุ วิจาเรตพฺพํ. อตฺถิ หิ เอตฺถ วจโนกาโส. น หิ วิปาเกติ วจนํ วิปากธมฺมวจนํ วิย วิปาการหตํ วทตีติ.

อกุสลปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อพฺยากตปทํ

อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา

๔๓๑. เตสุ วิปากาพฺยากตนฺติอาทีนํ ‘‘ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาปีติ เอตสฺส ‘‘อุปฺปตฺตึ ทีเปตุํ กามา…เป… อาทิ วุตฺต’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. อุปจิตตฺตาติ ยถา อฺสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากาภิมุขํ โหติ ตถา วฑฺฒิตตฺตา. รูปาทีนํ ปจฺจยานํ อฺวิฺาณสาธารณตฺตา อสาธารเณน วตฺถุนา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณนฺติ นามํ อุทฺธฏํ. จกฺขาทีนํ ติกฺขมนฺทภาเว วิฺาณานํ ติกฺขมนฺทภาวา วิเสสปจฺจยตฺตา จ.

จกฺขุสนฺนิสฺสิตฺจ ตํ รูปวิชานนฺจาติ จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนํ. เอวํลกฺขณํ จกฺขุวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุสนฺนิสฺสิตวจเนน รูปารมฺมณํ อฺวิฺาณํ ปฏิกฺขิปติ. รูปวิชานนวจเนน จกฺขุนิสฺสเย ผสฺสาทโย นิวตฺเตติ. จกฺขุรูปวจเนหิ จ นิสฺสยโต อารมฺมณโต จ วิชานนํ วิภาเวติ. รูปมตฺตสฺส อารมฺมณสฺส คหณํ กิจฺจเมตสฺสาติ รูปมตฺตารมฺมณรสํ. ฌานงฺควเสนาติ อิทํ ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺเชสุ วิชฺชมานานํ อุเปกฺขาสุขทุกฺเขกคฺคตานํ ฌานงฺคิกตฺตา อิธาปิ ตํสทิสานํ ตทุปจารํ กตฺวา วุตฺตํ. น หิ ฌานปจฺจยตฺตาภาเว ฌานงฺคตา อตฺถิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฌานงฺคานิ ฌานสมฺปยุตฺต…เป… รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๑๒). เอเตสฺจ ฌานปจฺจยภาโว ปฏิกฺขิตฺโต. ยถาห ‘‘อพฺยากตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ฌานปจฺจยา. ปฺจวิฺาณสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๙๘). ฌานปจฺจยตฺตาภาเวปิ เวทนาจิตฺตฏฺิตีนํ อุเปกฺขาทิภาวโต ตถาภูตานํ วจเน อฺฏฺานาภาวโต จ ทุติยราสินิทฺเทโส.

๔๓๖. วตฺถุปณฺฑรตฺตาติ สยํ กณฺหธมฺมานํ อปฺปฏิปกฺขตฺตา สภาวปริสุทฺธานํ ปสาทหทยวตฺถุนิสฺสยานํ วเสน ปณฺฑรสภาวํ ชาตนฺติ อธิปฺปาโย. อยํ ปน นโย จตุโวกาเร น ลพฺภตีติ ตตฺถ ภวงฺคสฺส ตโต นิกฺขนฺตากุสลสฺส จ ปณฺฑรตา น สิยา, ตสฺมา ตตฺถ ปณฺฑรตาย การณํ วตฺตพฺพํ. สภาโว วายํ จิตฺตสฺส ปณฺฑรตาติ.

๔๓๙. อิทมฺปีติ ปิ-สทฺโท ิติมตฺตสหิตํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วิจิกิจฺฉาสหคตํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺโต. ปกติยาติ อนติกฺกมเนน. โสปิ วิเสโส. กายปฺปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺตีติ อาปาถํ คนฺตฺวา ปฏิหฺตีติ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘รูปํ อารพฺภ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺเต น อารมฺมณุปฺปาทานํ ปุพฺพาปรกาลตา โหติ, เอวมิธาปิ ฆฏฺฏนปฏิหนเนสุ ทฏฺพฺพํ. อุปมาปิ อุภยฆฏฺฏนทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, น นิสฺสิตนิสฺสยฆฏฺฏนานํ ปุพฺพาปรตาทสฺสนตฺถํ. เอตฺถ จ พหิทฺธาติ เอตํ นิทสฺสนมตฺตํ. อชฺฌตฺตมฺปิ หิ อารมฺมณํ โหตีติ. วิฺาณธาตุนิสฺสยภูเตหิ วา อฺํ ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส พลวา โหติ, ตโต เอว อิฏฺานิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยเค สุขทุกฺขปจฺจยา ธาตุอนุคฺคหธาตุกฺโขภา จิรํ อนุวตฺตนฺติ.

๔๕๕. อฺเสํ จิตฺตานํ สภาวสุฺตสพฺภาวา มโนธาตุภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น, วิเสสสพฺภาวา. จกฺขุวิฺาณาทีนฺหิ จกฺขาทินิสฺสิตตา จกฺขาทีนํ สวิสเยสุ ทสฺสนาทิปฺปวตฺติภาวตา จ วิเสโส. มโนวิฺาณสฺส ปน อนฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตาย อฺนิสฺสยวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจยตฺตาภาเวน มโนทฺวารนิคฺคมนมุขภาวาภาวโต จ สาติสยวิชานนกิจฺจตา วิเสโส. ตพฺพิเสสวิรหา มโนมตฺตา ธาตุ มโนธาตูติ ติวิธา มโนธาตุ เอว วุจฺจติ, น วิเสสมโน. ตสฺมา เอตฺถ มโน เอว ธาตุ มโนธาตูติ เอว-สทฺโท มตฺตสทฺทตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิเสสนิวตฺตนตฺโถ หิ โส วิฺาณสฺสาติ. มโนทฺวารนิคฺคมนปเวสมุขภาวโต ปน มโนธาตุยา วิชานนวิเสสวิรโห ทฏฺพฺโพ, ตโต เอว มโนวิฺาณนฺติปิ น วุจฺจติ. น หิ ตํ วิฺาณํ มนโต ปวตฺตํ มนโส ปจฺจโย, นาปิ มนโส ปจฺจยภูตํ มนโต ปวตฺตํ, ทสฺสนาทีนํ ปน ปจฺจโย, เตหิ จ ปวตฺตํ เตสํ ปุเรจรํ อนุจรฺจาติ. สมฺมาสงฺกปฺโปติ อวจนํ มหาวิปากานํ วิย ชนกสทิสตฺตาภาวโต. ตตฺถ หิ ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาสงฺกปฺปตาทีหิ สทิสํ สเหตุกตายาติ. ปฺจวิฺาณโสเตติ เอตฺถ ยถา ปคุณํ คนฺถํ สชฺฌายนฺโต สชฺฌายโสเต ปติตํ กฺจิ กฺจิ วาจนามคฺคํ น สลฺลกฺเขติ, เอวํ ตถาคตสฺส อสลฺลกฺขณา นาม นตฺถิ, น จ ปฺจวิฺาณโสเต ฌานงฺคาภาโว อิธ อวจนสฺส การณํ. ยทิ ตทนนฺตรํ นิทฺเทโส ตํโสตปติตตา, อิโต ปเรสํ ทฺวินฺนํ มโนวิฺาณธาตูนํ ตํโสตปติตตา น สิยา. ตสฺมา ปฺจวิฺาณานํ วิย อเหตุกตาย มคฺคปจฺจยวิรหา จ วิชฺชมาเนสุปิ วิตกฺกวิจาเรสุ ฌานงฺคธมฺมานํ ทุพฺพลตฺตา ปฺจวิฺาเณสุ วิย อคณนุปคภาวา จ ปฺจวิฺาณโสตปติตตา. ตโต เอว หิ อเหตุกกิริยตฺตเยปิ ฌานงฺคานิ พลานิ จ สงฺคหวาเร น อุทฺธฏานิ, ฌานปจฺจยกิจฺจมตฺตโต ปน ปฏฺาเน ทุพฺพลานํ เอตฺถ วิตกฺกาทีนํ ฌานปจฺจยตา วุตฺตา.

๔๖๙. สมานวตฺถุกํ อนนฺตรปจฺจยํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชมานํ สนฺตีรณํ มโนธาตุโต พลวตรํ โหตีติ ตํ ยถารมฺมณํ อารมฺมณรสํ อนุภวนฺตํ อิฏฺเ โสมนสฺสสหคตํ โหติ, อิฏฺมชฺฌตฺเต อุเปกฺขาสหคตํ สาติสยานุภวตฺตา, ตสฺมา ‘‘อยฺหิ อิฏฺารมฺมณสฺมึ เยวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โวฏฺพฺพนํ ปน สติปิ พลวภาเว วิปากปฺปวตฺตึ นิวตฺเตตฺวา วิสทิสํ มนํ กโรนฺตํ มนสิการกิจฺจนฺตรโยคโต วิปาโก วิย อนุภวนเมว น โหตีติ สพฺพตฺถ อุเปกฺขาสหคตเมว โหติ, ตถา ปฺจทฺวาราวชฺชนํ มโนทฺวาราวชฺชนฺจ กิจฺจวเสน อปุพฺพตฺตา.

อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา

๔๙๘. อโลโภ อพฺยากตมูลนฺติอาทีสุ กุสลปกฺเข ตาว อโลภาโทสานํ นิทฺเทเสสุ ‘‘โย ตสฺมึ สมเย อโลโภ อลุพฺภนา…เป… อโลโภ กุสลมูล’’นฺติ (ธ. ส. ๓๒), ‘‘โย ตสฺมึ สมเย อโทโส อทุสฺสนา…เป… อโทโส กุสลมูล’’นฺติ (ธ. ส. ๓๓) จ วุตฺตตฺตา อิธาปิ ตํนิทฺเทเสสุ ‘‘อโลโภ อพฺยากตมูล’’นฺติ ‘‘อโทโส อพฺยากตมูล’’นฺติ วจนํ ยุชฺเชยฺย. ปฺินฺทฺริยาทินิทฺเทเสสุ ปน ‘‘ปฺารตนํ อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺี’’ติ (ธ. ส. ๓๔, ๓๗) เอวํ ตตฺถปิ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อโมโห กุสลมูล’’นฺติ. ตสฺมา อิธาปิ ‘‘อโมโห อพฺยากตมูล’’นฺติ ปาเน น ภวิตพฺพํ สิยา. อโลภาโทสานํ วิย อโมหสฺสปิ อพฺยากตมูลทสฺสนตฺถํ ปเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวิฺตฺติชนกโตติ กายวจีกมฺมทฺวารนิวารณํ กโรติ. อวิปากธมฺมโตติ มโนกมฺมทฺวารนิวารณฺจ. วิปากธมฺมานฺหิ กมฺมทฺวารํ วุตฺตนฺติ. ตถา อปฺปวตฺติโตติ ทานาทิปุฺกิริยภาเวน อปฺปวตฺติโต. เอเตน ปุฺกิริยวตฺถุเภทเมว นิวาเรติ.

พลวปจฺจเยหีติ ปโยเคน วินา นิปฺผนฺเนหิ อารมฺมณาทิปจฺจเยหิ. อสงฺขาริกาทีสุ หิ เยน เกนจิ จิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตปจฺจุปฏฺาเน ปฏิสนฺธิ อุปฺปชฺชมานา อสงฺขาริกา โหติ, สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กมฺมาทิปจฺจุปฏฺาเน สสงฺขาริกา. ภวงฺคจุติโย ปน ปฏิสนฺธิสทิสาว. ตทารมฺมณฺจ กุสลากุสลานิ วิย อสงฺขาริกํ สสงฺขาริกฺจ ทฏฺพฺพนฺติ. เอเตสุ พลวํ ทุพฺพลฺจ วิจาเรตุํ ‘‘ตตฺถ สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา’’ติอาทิมาห. กาลวเสน ปน ปริณมตีติ อปฺปายุกสํวตฺตนิกกมฺมพหุเล กาเล ตํกมฺมสหิตสนฺตานชนิตสุกฺกโสณิตปจฺจยานํ ตํมูลกานํ จนฺทสูริยวิสมปริวตฺตาทิชนิตอุตาหาราทิวิสมปจฺจยานฺจ วเสน ปริณมติ.

วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา

ยโต ยตฺตโก จ วิปาโก โหติ, ยสฺมิฺจ าเน วิปจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ วิปากุทฺธารกถา อารทฺธา. เอตฺเถวาติ เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเตเยว. ทุเหตุกปฏิสนฺธิวเสน ทฺวาทสกมคฺโคปิ โหติ, ทฺวาทสกปฺปกาโรปีติ อตฺโถ. อเหตุกปฏิสนฺธิวเสน อเหตุกฏฺกมฺปิ. อสงฺขาริกสสงฺขาริกานํ สสงฺขาริกอสงฺขาริกวิปากสงฺกรํ อนิจฺฉนฺโต ทุติยตฺเถโร ‘‘ทฺวาทสา’’ติอาทิมาห. ปุริมสฺส หิ ปจฺจยโตสสงฺขาริกอสงฺขาริกภาโว, อิตเรสํ กมฺมโต. ตติโย ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อนิจฺฉนฺโต ‘‘ทสา’’ติอาทิมาห.

อิมสฺมึ วิปากุทฺธารฏฺาเน กมฺมปฏิสนฺธิววตฺถานตฺถํ สาเกตปฺหํ คณฺหึสุ. กมฺมวเสน วิปากสฺส ตํตํคุณโทสุสฺสทนิมิตฺตตํ ทสฺเสตุํ อุสฺสทกิตฺตนํ คณฺหึสุ. เหตุกิตฺตนํ อิธ ปมตฺเถรสฺส อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ทุติยตฺเถรวาทาทีสุ วิเสสํ ตตฺถ ตตฺเถว วกฺขามิ. าณสฺส ชจฺจนฺธาทิวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขภาวโต ติเหตุกํ อติทุพฺพลมฺปิ สมานํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺตํ ทุเหตุกํ อากฑฺเฒยฺยาติ ‘‘อเหตุกา น โหตี’’ติ อาห. ยํ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค สุคติยํ ชจฺจนฺธพธิราทิวิปตฺติยา อเหตุกอุปปตฺตึ วชฺเชตฺวา คติสมฺปตฺติยา สเหตุโกปปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ’’จฺเจว (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๒) วุตฺตํ. เตน าณวิปฺปยุตฺเตน กมฺมุนา าณสมฺปยุตฺตปฏิสนฺธิ น โหตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตี’’ติ อิทมฺปิ วุจฺเจยฺย. ตถา หิ ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ? กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ตโย เหตู กุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว เหตู อกุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ อกุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย เหตู อพฺยากตา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ วิสฺสชฺชิตํ าณสมฺปยุตฺโตปปตฺติยํ.

เอวํ าณวิปฺปยุตฺตโต าณสมฺปยุตฺตุปปตฺติยา จ วิชฺชมานาย ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ? กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ทฺเว เหตู กุสลา’’ติ วตฺวา อฺตฺถ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิสฺสชฺชนํ กาตุนฺติ. ยถา ปน ‘‘าณสมฺปยุตฺเต สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ อวจนโต าณวิปฺปยุตฺตโต าณสมฺปยุตฺตา ปฏิสนฺธิ น โหติ, เอวํ ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเต ฉนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ’’จฺเจว (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๓) วตฺวา ‘‘สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ อวจนโต าณสมฺปยุตฺตโต าณวิปฺปยุตฺตาปิ ปฏิสนฺธิ น โหตีติ อาปนฺนํ. เอตฺถาปิ หิ น น สกฺกา กมฺมนิกนฺติกฺขเณสุ ตโย จ ทฺเว จ เหตู โยเชตฺวา ปฏิสนฺธิกฺขเณ ทฺเว โยเชตุนฺติ. อิมสฺส ปน เถรสฺส อยมธิปฺปาโย สิยา ‘‘กมฺมสริกฺขกวิปากทสฺสนวเสน อิธ ปาโ สาวเสโส กถิโต’’ติ. ‘‘าณสมฺปยุตฺเต อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ เอตฺถาปิ ปาสฺส สาวเสสตาปตฺตีติ เจ? น, ทุพฺพลสฺส ทุเหตุกกมฺมสฺส าณสมฺปยุตฺตวิปากทาเน อสมตฺถตฺตา. ติเหตุกสฺส ปน อเหตุกวิปจฺจเน วิย ทุเหตุกวิปจฺจเนปิ นตฺถิ สมตฺถตาวิฆาโตติ. อารมฺมเณน เวทนา ปริวตฺเตตพฺพาติ สนฺตีรณตทารมฺมเณ สนฺธาย วุตฺตํ. วิภาคคฺคหณสมตฺถตาภาวโต หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ อุเปกฺขาสหคตาเนว โหนฺติ, กายวิฺาณฺจ สุขสหคตเมว ปฏิฆฏฺฏนาวิเสเสนาติ.

วิเสสวตา กาเลน ตทารมฺมณปจฺจยสพฺพชวนวตา วิปากปฺปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สํวราสํวเร…เป… อุปคตสฺสา’’ติ วุตฺตํ อฺกาเล ปฺจวิฺาณาทิปริปุณฺณวิปากปฺปวตฺติอภาวา. กกฺกฏก…เป… ภวงฺโคตรณนฺติ เอเตน อิทํ ทสฺเสติ – เกทาเร ปูเรตฺวา นทีปเวสนมคฺคภูตํ มาติกํ อปฺปวิสิตฺวา กกฺกฏกมคฺคาทินา อมคฺเคน นทีโอตรณํ วิย จิตฺตสฺส ชวิตฺวา ภวงฺคปฺปเวสนมคฺคภูเต ตทารมฺมเณ อนุปฺปนฺเน มคฺเคน วินา ภวงฺโคตรณนฺติ.

เอเตสุ ตีสุ โมฆวาเรสุ ทุติโย อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ. ยทิ หิ อนุโลเม เวทนาตฺติเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว’’ติ ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว’’ติ จ วุตฺตํ สิยา, โสปิ โมฆวาโร ลพฺเภยฺย. ยทิ ปน โวฏฺพฺพนมฺปิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, กุสลากุสลานมฺปิ สิยา. น หิ อาเสวนปจฺจยํ ลทฺธุํ ยุตฺตสฺส อาเสวนปจฺจยภาวี ธมฺโม อาเสวนปจฺจโยติ อวุตฺโต อตฺถิ. โวฏฺพฺพนสฺส ปน กุสลากุสลานํ อาเสวนปจฺจยภาโว อวุตฺโต. ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นาเสวนปจฺจยา. อกุสลํ ธมฺมํ…เป… นาเสวนปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๙๓) วจนโต ปฏิกฺขิตฺโตว. อถาปิ สิยา ‘‘อสมานเวทนานํ วเสน เอวํ วุตฺต’’นฺติ, เอวมปิ ยถา ‘‘อาวชฺชนา กุสลานํ ขนฺธานํ อกุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโยติ’’ปิ วตฺตพฺพํ สิยา, ชาติเภทา น วุตฺตนฺติ เจ? ภูมิภินฺนสฺส กามาวจรสฺส รูปาวจราทีนํ อาเสวนปจฺจยภาโว วิย ชาติภินฺนสฺสปิ ภเวยฺยาติ วตฺตพฺโพ เอว สิยา. อภินฺนชาติกสฺส จ วเสน ยถา ‘‘อาวชฺชนา สเหตุกานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา, น ตุ วุตฺตํ. ตสฺมา เวทนาตฺติเกปิ สงฺขิตฺตาย คณนาย ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค เอกํ, น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ เอวํ คณนาย นิทฺธาริยมานาย โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตสฺส อภาวา ยถาวุตฺตปฺปกาโร ทุติโย โมฆวาโร วีมํสิตพฺโพ.

โวฏฺพฺพนํ ปน วีถิวิปากสนฺตติยา อาวฏฺฏนโต อาวชฺชนา, ตโต วิสทิสสฺส ชวนสฺส กรณโต มนสิกาโร จ. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน ‘‘โวฏฺพฺพนํ กุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ น วุตฺตํ, ‘‘อาวชฺชนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ตสฺมา โวฏฺพฺพนโต จตุนฺนํ วา ปฺจนฺนํ วา ชวนานํ อารมฺมณปุเรชาตํ ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ รูปาทิอาวชฺชนาทีนํ ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, อยเมตสฺส สภาโวติ ชวนาปาริปูริยา ทุติโย โมฆวาโร ทสฺเสตุํ ยุตฺโต สิยา, อยมฺปิ อฏฺกถายํ อนาคตตฺตา สุฏฺุ วิจาเรตพฺโพ. ภวงฺคสฺส ชวนานุพนฺธนภูตตฺตา ‘‘ตทารมฺมณํ ภวงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) จ วุตฺตํ ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ, ‘‘อเหตุกํ ภวงฺคํ สเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ จ. กุสลากุสลานํ สุขทุกฺขวิปากมตฺโต วิปาโก น อิฏฺานิฏฺานํ วิภาคํ กโรติ, ชวนํ ปน รชฺชนวิรชฺชนาทิวเสน อิฏฺานิฏฺวิภาคํ กโรตีติ ‘‘อารมฺมณรสํ ชวนเมว อนุภวตี’’ติ วุตฺตํ.

อวิชฺชมาเน การเก กถํ อาวชฺชนาทิภาเวน ปวตฺติ โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ปฺจวิธํ นิยามํ นาม คณฺหึสุ. นิยาโม จ ธมฺมานํ สภาวกิจฺจปจฺจยภาววิเสโสว. ตํตํสทิสผลทานนฺติ ตสฺส ตสฺส อตฺตโน อนุรูปผลสฺส ทานํ. สทิสวิปากทานนฺติ จ อนุรูปวิปากทานนฺติ อตฺโถ. อิทํ วตฺถุนฺติ เอกวจนนิทฺเทโส เอกคาถาวตฺถุภาเวน กโต. ชคติปฺปเทโสติ ยถาวุตฺตโต อฺโปิ โลกปฺปเทโส. กาลคติอุปธิปโยคปฏิพาฬฺหฺหิ ปาปํ น วิปจฺเจยฺย, น ปเทสปฏิพาฬฺหนฺติ. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานปฏิสนฺธิยาทิธมฺมานํ นิยาโม ทสสหสฺสิกมฺปนปจฺจยภาโว ธมฺมนิยาโม. อยํ อิธ อธิปฺเปโตติ เอเตน นิยามวเสน อาวชฺชนาทิภาโว, น การกวเสนาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสติ.

อิมสฺมึ าเนติ โสฬสวิปากกถาาเน. ทฺวาทสหิ วาเหตพฺพา นาฬิยนฺโตปมา น ทฺวาทสนฺนํ จิตฺตานํ เอกสฺมึ ทฺวาเร เอการมฺมเณ สห กิจฺจกรณวเสน วุตฺตา, อถ โข ทฺวาทสนฺนํ เอกสฺมึ ทฺวาเร สกิจฺจกรณมตฺตวเสน. อเหตุกปฏิสนฺธิชนกสทิสชวนานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส…เป… ปติฏฺาตี’’ติ อาห. อเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส ปน ติเหตุกชวเน ชวิเต ปฏิสนฺธิทายเกน กมฺเมน อเหตุกสฺส ตทารมฺมณสฺส นิพฺพตฺติ น ปฏิเสธิตา. เอวํ ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสปิ ติเหตุกานนฺตรํ ทุเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพํ. ปริปุณฺณวิปากสฺส จ ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสฺส วเสนายํ วิปากวิภาวนา ตสฺสา มุขนิทสฺสนมตฺตเมวาติ ปวตฺติวิปากสฺส จ เอกสฺส ติเหตุกาทิกมฺมสฺส โสฬสวิปากจิตฺตาทีนิ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพานิ. ตสฺมา เยน เกนจิ กมฺมุนา เอเกน อเนกํ ตทารมฺมณํ ปวตฺตมานํ กมฺมวิเสสาภาวา เยสํ ตํ อนุพนฺธภูตํ, เตสํ ชวนสงฺขาตานํ ปจฺจยานํ วิเสเสน วิสิฏฺํ โหตีติ ชวเนนายํ ตทารมฺมณนิยาโม วุตฺโต, น นานากมฺมุนา นิพฺพตฺตมานสฺส วเสน. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘) ‘‘สเหตุเก ขนฺเธ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. กุสลากุสเล นิรุทฺเธ อเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ าณานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ, ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ สเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ อกุสลานนฺตรฺจ สเหตุกตทารมฺมณํ วุตฺตํ, น จ ‘‘ตํ เอเตน เถเรน อทสฺสิต’’นฺติ กตฺวา ตสฺส ปฏิเสโธ กโต โหตีติ.

ยํ ปน ชวเนน…เป… ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อิทํ กุสลสฺส วิย อกุสลสฺส สทิโส วิปาโก นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. สสงฺขาริกาสงฺขาริกนิยมนํ ปน สนฺธาย ตสฺมึ วุตฺเต อกุสเลปิ น ตํ น ยุชฺชตีติ. อฏฺานเมตนฺติ อิทํ นิยมิตาทิวเสน โยนิโส อโยนิโส วา อาวฏฺฏิเต อโยนิโส โยนิโส วา ววตฺถาปนสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ปฏิสิทฺธนฺติ อวจนเมว ปฏิเสโธติ กตฺวา วุตฺตํ. กามตณฺหานิพฺพตฺเตน กมฺมุนา มหคฺคตโลกุตฺตรานุภวนวิปาโก น โหตีติ ตตฺถ ตทารมฺมณาภาโว เวทิตพฺโพ. อาปาถคเต วิสเย ตนฺนินฺนํ ภวงฺคํ อาวชฺชนํ อุปฺปาเทตีติ อาวชฺชนํ วิสเย นินฺนตฺตา อุปฺปชฺชติ. ภวงฺคํ ปน สพฺพทา สวิสเย นินฺนเมวาติ วิสยนฺตรวิฺาณสฺส ปจฺจโย หุตฺวาปิ ตทภาวา วินา อาวชฺชเนน สวิสเย นินฺนตฺตาว อุปฺปชฺชติ. จิณฺณตฺตาติ อาวชฺชเนน วินา พหุลํ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา. สมุทาจารตฺตาติ อาปาถคเต วิสเย ปฏิสนฺธิวิสเย จ พหุลํ อุปฺปาทิตปุพฺพตฺตา. จิณฺณตฺตาติ วา ปุคฺคเลน อาเสวิตภาโว วุตฺโต. สมุทาจารตฺตาติ สยํ พหุลํ ปวตฺตภาโว. นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิทํ ตทนนฺตรเมว นิโรธผุสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อรูปกฺขนฺธานํ วิย นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยภาวํ. เนวสฺานาสฺายตนํ ปน กิฺจิ ปริกมฺเมน วินา อุปฺปชฺชมานํ นตฺถิ. ปริกมฺมาวชฺชนเมว ตสฺส อาวชฺชนนฺติ อฺสฺส วิย เอตสฺสปิ สาวชฺชนตาย ภวิตพฺพํ.

อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ – เนวสฺานาสฺายตนสฺส น นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเว นินฺนาทิตา อฺตฺถ ทิฏฺา อตทตฺถปริกมฺมภาเว จ อุปฺปตฺติยา, อถ จ ตํ ตสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, ตถา จ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ยถาวุตฺตา มโนวิฺาณธาตุ อสติปิ นิราวชฺชนุปฺปตฺติยํ นินฺนาทิภาเว นิราวชฺชนา อุปฺปชฺชตีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อริยมคฺคจิตฺตํ มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานี’’ติ อิทํ วุตฺตํ. ยทิ หิ นิพฺพานารมฺมณาวชฺชนาภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ สิยา, โคตฺรภุโวทานานิ นิทสฺสนานิ สิยุํ เตเหว เอเตสํ นิราวชฺชนตาสิทฺธิโต. ผลสมาปตฺติกาเล จ ‘‘ปริตฺตารมฺมณํ มหคฺคตารมฺมณํ อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วจนโต สมานารมฺมณาวชฺชนรหิตตฺตา ‘‘มคฺคานนฺตรานิ ผลจิตฺตานี’’ติ เอวํ ผลสมาปตฺติจิตฺตานิ น วชฺเชตพฺพานิ สิยุํ, โคตฺรภุโวทานานิ ปน ยทิปิ นิพฺพาเน จิณฺณานิ สมุทาจารานิ จ น โหนฺติ, อารมฺมณนฺตเร จิณฺณสมุทาจาราเนว. ผลสมาปตฺติจิตฺตานิ จ มคฺควีถิโต อุทฺธํ ตทตฺถปริกมฺมสพฺภาวาติ เตสํ คหณํ น กตํ, อนุโลมานนฺตรฺจ ผลสมาปตฺติจิตฺตํ จิณฺณํ สมุทาจารํ, น เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรํ มคฺคานนฺตรสฺส วิย ตทตฺถปริกมฺมาภาวาติ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺสา’’ติ ตฺจ นิทสฺสนํ. อารมฺมเณน ปน วินา นุปฺปชฺชตีติ อิทํ เอตสฺส มหคฺคตารมฺมณตฺตาภาวา ปุจฺฉํ กาเรตฺวา อารมฺมณนิทฺธารณตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถาติ วิปากกถายํ. ชจฺจนฺธปีสปฺปิอุปมานิทสฺสนํ วิปากสฺส นิสฺสเยน วินา อปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ. วิสยคฺคาโหติ อิทํ จกฺขาทีนํ สวิสยคฺคหเณน จกฺขุวิฺาณาทิวิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุปนิสฺสยโต จกฺขาทีนํ ทสฺสนาทิอตฺถโต จ ตสฺเสว วิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อุปนิสฺสยมตฺถโส’’ติ วุตฺตํ. หทยวตฺถุเมวาติ ยถา ปุริมจิตฺตานิ หทยวตฺถุนิสฺสิตานิ จ ปสาทวตฺถุอนุคตานิ จ อฺารมฺมณานิ โหนฺติ, น เอวํ ภวงฺคํ, ตํ ปเนตํ วตฺถารมฺมณนฺตรรหิตํ เกวลํ หทยวตฺถุเมว นิสฺสาย ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ. หทยรูปวตฺถุกนฺติ อิธาปิ อฺวตฺถานุคตนฺติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. มกฺกฏกสฺส หิ สุตฺตาโรหณํ วิย ปสาทวตฺถุกํ จิตฺตํ, สุตฺเตน คมนาทีนิ วิย ตทนุคตานิ เสสจิตฺตานีติ. สุตฺตฆฏฺฏนมกฺกฏกจลนานิ วิย ปสาทฆฏฺฏนภวงฺคจลนานิ สห โหนฺตีติ ทีปนโต ‘‘เอเกกํ…เป… อาคจฺฉตี’’ติปิ ทีเปติ.

ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏิตกาโลติ อิทํ โทวาริกสทิสานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปาทปริมชฺชกสทิสสฺส อาวชฺชนสฺส สฺาทานสทิโส อนนฺตรปจฺจยภาโว เอว ภวงฺคาวฏฺฏนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. วิปากมโนธาตุอาทีนํ อทิสฺวาว สมฺปฏิจฺฉนาทิกรณํ คาฬฺหคฺคหณมตฺตปุถุลจตุรสฺสภาววิชานนมตฺตกหาปณภาววิชานนมตฺตกมฺโมปนยนมตฺตสามฺวเสน วุตฺตํ, น คาฬฺหคฺคาหกาทีนํ กหาปณทสฺสนสฺส อภาโว ตํสมานภาโว จ สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ.

ปณฺฑรํ เอตนฺติ ปณฺฑรรูปทสฺสนสามฺโต จกฺขุวิฺาณเมว ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทีปนํ เวทิตพฺพํ. เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิ โยเชตพฺพํ สวนาทิวเสน. สนฺตาปนวเสน คุฬสีโล คุฬปฺปโยชโน วา โคฬิยโก. อุปนิสฺสยโตติ น อุปนิสฺสยปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺมึ ปน อสติ โย น โหติ, โส อิธ ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ อธิปฺเปโต. อาโลกสนฺนิสฺสิตนฺติ อิทมฺปิ อาโลเก สติ สพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อุปนิสฺสยปจฺจยตํ. มนฺทถามคตํ นาม กิริยจิตฺตสฺส ปจฺจยภาวํ อนุปคนฺตฺวา สยเมว ปวตฺตมานํ.

อสงฺขาริกสสงฺขาริเกสุ โทสํ ทิสฺวาติ น กมฺมสฺส วิรุทฺธสภาเวน วิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ อสงฺขาริกกมฺมสฺส สสงฺขาริกวิปาเกสุ, สสงฺขาริกกมฺมสฺส จ อสงฺขาริกวิปาเกสุ โทสํ ทิสฺวา. อเหตุกานํ ปน รูปาทีสุ อภินิปาตมตฺตาทิกิจฺจานํ น สสงฺขาริกวิรุทฺโธ สภาโวติ อสงฺขาริกตา นตฺถิ, อสงฺขาริกวิรุทฺธสภาวาภาวา นาปิ สสงฺขาริกตาติ อุภยาวิโรธา อุภเยนปิ เตสํ นิพฺพตฺตึ อนุชานาติ. จิตฺตนิยามนฺติ ตทารมฺมณนิยามํ. กิริยโต ปฺจาติ อิเมสํ…เป… ปติฏฺาตีติ กิริยชวนานนฺตรฺจ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๓.๙๔) ปน ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วิปากธมฺมธมฺมานเมว อนนฺตรา ตทารมฺมณํ วุตฺตํ. กุสลตฺติเก จ ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา กุสลํ อนิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๖) กุสลากุสลชวนเมว วตฺวา ตทนนฺตรํ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ, น อพฺยากตานนฺตรํ, น จ กตฺถจิ กิริยานนฺตรํ ตทารมฺมณสฺส วุตฺตฏฺานํ ทิสฺสติ. วิชฺชมาเน จ ตสฺมึ อวจเน การณํ นตฺถิ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตพฺโพ เอโส เถรวาโท. วิปฺผาริกฺหิ ชวนํ นาวํ วิย นทีโสโต ภวงฺคํ อนุพนฺธตีติ ยุตฺตํ, น ปน ฉฬงฺคุเปกฺขวโต สนฺตวุตฺตึ กิริยชวนํ ปณฺณปุฏํ วิย นทีโสโตติ.

ปิณฺฑชวนํ ชวตีติ กุสลากุสลกิริยชวนานิ ปิณฺเฑตฺวา กถิตานีติ ตถา กถิตานิ ชวนานิ ปิณฺฑิตานิ วิย วุตฺตานิ, เอกสฺมึ วา ตทารมฺมเณ ปิณฺเฑตฺวา ทสฺสิตานิ หุตฺวา ชวิตาเนว วุตฺตานิ. อิมฺจ ปน ปิณฺฑชวนํ วทนฺเตน อกุสลโต จตฺตาริเยว อุเปกฺขาสหคตานิ คเหตฺวา ทฺวาทสุเปกฺขาสหคตชวนานิ ปิณฺฑิตานิ วิย วุตฺตานิ. ปฏฺาเน ปน ‘‘กุสลํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ. ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, อุทฺธจฺจํ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อกุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตตฺตา อิตรานิ ทฺเว อิฏฺารมฺมเณ ปวตฺตวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานิปิ กุสลวิปาเก ตทารมฺมเณ ปิณฺเฑตพฺพานิ สิยุํ. เตสํ ปน อนนฺตรํ อเหตุกวิปาเกเนว ตทารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, โส จ สนฺตีรณภาเวเนว คหิโตติ อปุพฺพํ คเหตพฺพํ นตฺถิ. อเหตุเก จ ปิณฺเฑตพฺพํ นารหนฺตีติ อธิปฺปาเยน น ปิณฺเฑตีติ.

ติเหตุกชวนาวสาเน ปเนตฺถาติ เอตสฺมึ ทุติยวาเท ติเหตุกชวนาวสาเน ติเหตุกตทารมฺมณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ยุตฺตํ วทติ ชวนสมานตฺตา, นาลพฺภมานตฺตา อฺสฺส. ปมตฺเถเรน อกุสลานนฺตรํ วุตฺตสฺส อเหตุกตทารมฺมณสฺส, กุสลานนฺตรํ วุตฺตสฺส จ สเหตุกตทารมฺมณสฺส อกุสลานนฺตรํ อุปฺปตฺตึ วทนฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิชนกํ ติเหตุกกมฺมํ ทุเหตุกาเหตุกํ วิปากํ ชนยนฺตมฺปิ ติเหตุกชวนานนฺตรํ น ชเนตีติ น เอตฺถ การณํ ทิสฺสตีติ เอวํ ยุตฺตํ คเหตพฺพํ อวุตฺตมฺปีติ อธิปฺปาโย. อถ วา ตสฺมึ ตสฺมึ เถรวาเท เยน อธิปฺปาเยน สสงฺขาราสงฺขารวิธานาทิ วุตฺตํ, ตํ เตเนว อธิปฺปาเยน ยุตฺตํ คเหตพฺพํ, น อธิปฺปายนฺตรํ อธิปฺปายนฺตเรน อาโลเฬตพฺพนฺติ อตฺโถ. เหตุสทิสเมวาติ ชนกกมฺมเหตุสทิสเมว. มหาปกรเณ อาวิ ภวิสฺสตีติ มหาปกรเณ อาคตปาฬิยา ปากฏํ อุปฺปตฺติวิธานํ อาวิ ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาเยน วทติ.

กามาวจรกุสลวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา

๔๙๙. อนนฺตราเยนาติ ปริหานิปจฺจยวิรเหน. ปฏิปทาทิเภโทติ ปฏิปทารมฺมณเภโท. ตถา หิ ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชนฺตสฺส ตํ ฌานํ ตํปฏิปทเมว โหติ. เอตสฺมึ อปริหีเน ตสฺส วิปาโก นิพฺพตฺตมาโน ตปฺปฏิปโทว ภวิตุํ อรหตีติ. ฉนฺทาธิปเตยฺยาทิภาโว ปน ตสฺมึ ขเณ วิชฺชมานานํ ฉนฺทาทีนํ อธิปติปจฺจยภาเวน โหติ, น อาคมนวเสน. ตถา หิ เอกเมว ฌานํ นานากฺขเณสุ นานาธิปเตยฺยํ โหติ. จตุตฺถชฺฌานสฺเสว หิ จตุริทฺธิปาทภาเวน ภาวนา โหติ, ตสฺมา วิปากสฺส อาคมนวเสน ฉนฺทาธิปเตยฺยาทิตา น วุตฺตา.

รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา

๕๐๕. ยถา วฏฺฏํ อาจินติ, ตถา ตณฺหาทีหิ อภิสงฺขตํ โลกิยกมฺมํ อุปจิตนฺติ วุจฺจติ. โลกุตฺตรํ ปน เอวํ น โหตีติ ตถา น วุตฺตํ. สุทฺธาคมนวเสนาติ อนิมิตฺตาปฺปณิหิตนามทายเกหิ สคุณารมฺมเณหิ วิชฺชมาเนหิปิ ผลสฺส สุฺตนามทานทีปเน อคฺคหิตภาเวเนว อโวมิสฺเสนาติ อตฺโถ. อาคมนโต สุฺตาปฺปณิหิตนามวโต มคฺคสฺส อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามตฺตยทานํ โยชิตํ, อิตรสฺสปิ ปน ตเถว โยเชตพฺพํ. นยมตฺตทสฺสนฺเหตํ. สคุณารมฺมเณหิ ปน นามตฺตยวโต อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรสฺสปิ มคฺคสฺส อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ผลสฺส นามตฺตยทานํ น นิวาริตนฺติ. วฬฺชนกผลสมาปตฺติยา จ วิปสฺสนาคมนวเสน นามลาเภ มคฺคสฺส วิย อนิมิตฺตนามลาโภ น สิยา. ยถา ปน มคฺคานนฺตรสฺส วิย วฬฺชนกผลสมาปตฺติยาปิ ฌานปฏิปทาเภโท โหติ, เอวํ สุฺตาทินามลาเภ สติ อนิมิตฺตนามฺจ ลภตีติ. อวูปสนฺตายาติ อิทํ เกนจิ อฺเน อนนฺตริตตฺตา ตาทิสาย เอว สทฺธาย…เป… ปฺาย จ อนนฺตรปจฺจยภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน ฉนฺทาทโยปิ อตฺตโน อนนฺตรสทิสานํ ฉนฺทาทีนํ อุปฺปาทกา อธิปติภูตา อธิปติภูเต เอว อุปฺปาเทนฺตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ.

๕๕๕. กิเลสสมุจฺเฉทกสฺส มคฺคสฺส สมฺมาทิฏฺิอาทิกสฺส นิยฺยานิกสภาวสฺส ผเลนปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลเสน นิยฺยานสภาเวเนว ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ผเลปิ ‘‘มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา มคฺควิภงฺเค ผเลสุ จ อฏฺงฺคิโก ปฺจงฺคิโก จ มคฺโค อุทฺธโฏ, เอวํ โพชฺฌงฺคาปีติ. มคฺคํ อุปาทายาติ มคฺคสทิสตาย มคฺโคติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห.

โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลวิปากกถาวณฺณนา

๕๕๖. อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺเตสุ วิย น อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺเตสุ สนฺตีรณวิเสโส อตฺถิ, อนิฏฺารมฺมณเมว ปน อธิมตฺตํ มนฺทฺจ เอวํ ทฺวิธา วุตฺตํ.

อกุสลวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กิริยาพฺยากตํ

มโนธาตุจิตฺตวณฺณนา

๕๖๖. วาตปุปฺผนฺติ โมฆปุปฺผํ. ตํ อจฺฉินฺเนปิ รุกฺเข น ผลติ, ฉินฺนรุกฺขปุปฺผํ ปน อจฺฉินฺเน ผเลยฺย. เอวํ อจฺฉินฺนภวมูลสฺสปิ ปวตฺตมานํ ยํ น ผลติ, ตํ วาตปุปฺผสทิสํ. อิตรสฺเสว ปน ปวตฺตมานํ ฉินฺนรุกฺขปุปฺผสทิสํ. ตฺหิ อจฺฉินฺเน ภวมูเล ผเลยฺยาติ.

กิริยมโนวิฺาณธาตุจิตฺตวณฺณนา

๕๖๘. โลลุปฺปตณฺหา ปหีนาติ อิมสฺส จิตฺตสฺส ปจฺจยภูตา ปุริมา ปวตฺติ ทสฺสิตา. อิทํ ปน จิตฺตํ วิจารณปฺารหิตนฺติ เกวลํ โสมนสฺสมตฺตํ อุปฺปาเทนฺตสฺส โหตีติ. เอวํ เจติยปูชาทีสุปิ ทฏฺพฺพํ. วตฺตํ กโรนฺโตติ อิทํ วตฺตํ กโรนฺตสฺส โผฏฺพฺพารมฺมเณ กายทฺวารจิตฺตปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจทฺวารานุคตํ หุตฺวา ลพฺภมานํ สนฺธาย ปฺจทฺวาเร เอว วา โลลุปฺปตณฺหาปหานาทิปจฺจเวกฺขณเหตุภูตํ อิทเมว ปวตฺตึ สนฺธาย ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘เอวํ ตาว ปฺจทฺวาเร ลพฺภตี’’ติ อาห. อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตํ าณํ วตฺวา ‘‘อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณานุปริวตฺตี’’ติอาทิวจนโต (มหานิ. ๑๕๖ อตฺถโต สมานํ) ‘‘ภควโต อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตวจนํ วิจาเรตพฺพํ. อเหตุกสฺส มูลาภาเวน สุปฺปติฏฺิตตา นตฺถีติ พลภาโว อปริปุณฺโณ, ตสฺมา อุทฺเทสวาเร ‘‘สมาธิพลํ โหติ, วีริยพลํ โหตี’’ติ น วุตฺตํ. ตโต เอว หิ อเหตุกานํ สงฺคหวาเร ฌานงฺคานิ จ น อุทฺธฏานิ. เตเนว อิมสฺมิมฺปิ อเหตุกทฺวเย พลานิ อนุทฺเทสาสงฺคหิตานิ. ยสฺมา ปน วีริยสฺส วิชฺชมานตฺตา เสสาเหตุเกหิ พลวํ, ยสฺมา จ เอตฺถ วิตกฺกาทีนํ ฌานปจฺจยมตฺตตา วิย สมาธิวีริยานํ พลมตฺตตา อตฺถิ, ตสฺมา นิทฺเทสวาเร ‘‘สมาธิพลํ วีริยพล’’นฺติ วตฺวา ปิตํ. ยสฺมา ปน เนว กุสลํ นากุสลํ, ตสฺมา สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาสมาธีติ, สมฺมาวายาโม มิจฺฉาวายาโมติ จ น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ สติ มหากิริยจิตฺเตสุ จ เอตํ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ, ตสฺมา สมฺมา, มิจฺฉา วา นิยฺยานิกสภาวาภาวโต มคฺคปจฺจยภาวํ อปฺปตฺตา สมาธิวายามา อิธ ตถา น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

๕๗๔. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยสพฺพฺุตานาวรณาณานิ อิมสฺสานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานิ ยมกปาฏิหาริยมหากรุณาสมาปตฺติาณานิ จ อิมสฺส อนนฺตรํ อุปฺปนฺนปริกมฺมานนฺตรานิ อิมินา อาวชฺชิตารมฺมเณเยว ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ฉ…เป… คณฺหนฺตี’’ติ. มหาวิสยตฺตา มหาคโช วิย มหนฺตนฺติ มหาคชํ.

รูปาวจรารูปาวจรกิริยจิตฺตวณฺณนา

๕๗๗. อิทานิ ยานิ กิริยานิ ชาตานิ, ตานิ เวทิตพฺพานีติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. อตฺตภาโวติ ปฺจกฺขนฺธา วุจฺจนฺติ.

จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รูปกณฺฑํ

อุทฺเทสวณฺณนา

อิทานิ รูปมพฺยากตํ ภาเชตพฺพํ, ตฺจ เกนจิ สมยววตฺถานํ กตฺวา น สกฺกา ภาเชตุํ. น หิ รูปสฺส จิตฺตุปฺปาเทน สมยววตฺถานํ สกฺกา กาตุํ อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต, จิตฺตสมุฏฺานสฺส จ อเนกจิตฺตสมุฏฺานตาย รูปสมุฏฺาปกจิตฺตานฺจ เกสฺจิ กตฺถจิ อสมุฏฺาปนตาย ววตฺถานาภาวโต, วิฺตฺติทฺวยวชฺชิตสฺส รูปสฺส อจิตฺตสหภุภาวโต จ, น จ รูปานํ อุปสมฺปชฺช วิหรเณน สมยววตฺถานํ ยุชฺชติ มหคฺคตปฺปมาณานํ ฌานานํ วิย รูปานํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพตาภาวา, อุปาทารูเปหิ จ น ยุชฺชติ เตสํ สหชาตาทิปจฺจยภาเวน อปฺปวตฺตนโต, นาปิ มหาภูเตหิ ยุชฺชติ เกสฺจิ มหาภูตานํ เกหิจิ อุปาทารูเปหิ วินา ปวตฺติโต อสมานกาลานฺจ สพฺภาวโต. น หิ ‘‘ยสฺมึ สมเย ปถวีธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ, ตสฺมึ สมเย จกฺขายตนํ โหตี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ โสตาทินิสฺสยภูตาย ปถวิยา จิตฺตาทิสมุฏฺานาย จ สห จกฺขายตนสฺส อภาวา. เอวํ โสตายตนาทีสุปิ โยเชตพฺพํ.

มหาภูเตหิ อสมานกาลานิ วิฺตฺติอุปจยาทีนิปิ ตสฺมึ สมเย โหนฺตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. เอกสฺมิฺจ กาเล อเนกานิ กลาปสหสฺสานิ อุปฺปชฺชนฺติ ปวตฺตนฺติ จ, น อรูปธมฺมานํ วิย รูปานํ กลาปทฺวยสหาภาโว อตฺถิ. เอกสฺมิฺจ กลาเป วตฺตมาเน เอว อฺสฺส นิโรโธ, อฺสฺส จุปฺปตฺติ โหตีติ สพฺพถา รูปาพฺยากตํ สมยววตฺถานํ กตฺวา น สกฺกา วิภชิตุํ. เอกกาทีหิ ปน นเยหิ น เหตุอาทินา สภาเวน วิภชิตุํ สกฺกาติ ตถา วิภชนตฺถํ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ตาว อวิภตฺตํ อพฺยากตํ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สมยววตฺถาเนน วินา อพฺยากตสฺส สภาวโตเยว นิทฺเทเส เอกเทสํ นิทฺทิสิตฺวา นิคมนกรณสฺส อนุปปตฺติโต จ วิภตฺตฺจ อวิภตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหนฺโต อาห ‘‘กตเม ธมฺมา อพฺยากตา? กุสลา…เป… อสงฺขตา จ ธาตุ. อิเม ธมฺมา อพฺยากตา’’ติ. อวิภตฺเต หิ วิภชิตพฺเพ ทสฺสิเต วิภชนํ ยุตฺตํ าตุํ อิจฺฉาย อุปฺปาทิตายาติ. เอตฺถ ปน วิปากกิริยาพฺยากตํ วิภตฺตตฺตา น วิภชิตพฺพํ, อสงฺขตา จ ธาตุ เภทาภาวโต. ยํ ปเนตฺถ เภทยุตฺตตฺตา อวิภตฺตตฺตา จ วิภชิตพฺพํ, ตํ วิภชนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ กตมํ สพฺพํ รูป’’นฺติอาทิ. อยเมตฺถ ปาฬิโยชนา.

นยํ ทสฺเสตฺวาติ เอตฺถ เหฏฺา คหณเมว นยทสฺสนํ. ตํ วิปาเกสุ กตฺวา วิฺาตตฺตา กิริยาพฺยากเตสุ นิสฺสฏฺํ. กามาวจราทิภาเวน วตฺตพฺพสฺส กิริยาพฺยากตสฺส วา ทสฺสนํ, ตํ กตฺวา กามาวจราติอาทิกํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา นิสฺสฏฺํ. ปฺจวีสติ รูปานีติ ปาฬิยํ วุตฺตานิ ทสายตนานิ ปฺจทส จ สุขุมรูปานิ, อุปจยสนฺตติโย วา เอกนฺติ กตฺวา หทยวตฺถุฺจ. ฉนฺนวุตีติ จกฺขาทิทสกา สตฺต อุตุสมุฏฺานาทโย ตโย อฏฺกา อุตุจิตฺตชา ทฺเว สทฺทา จ. กลาปภาเวน ปวตฺตรูปรูปานิ ‘‘รูปโกฏฺาสา’’ติ วุตฺตานิ รูปกลาปโกฏฺาสภาวโต. โกฏฺาสาติ จ อํสา, อวยวาติ อตฺโถ. โกฏฺนฺติ วา สรีรํ, ตสฺส อํสา เกสาทโย โกฏฺาสาติ อฺเปิ อวยวา โกฏฺาสา วิย โกฏฺาสา. นิพฺพานํ นิปฺปเทสโต คหิตนฺติ โสปาทิเสสนิรุปาทิเสสราคกฺขยาทิอสงฺขตาทิวจนียภาเวน ภินฺนํ นิปฺปเทสโต คหิตํ. อตฺถโต หิ เอกาว อสงฺขตา ธาตูติ.

๕๘๔. สพฺพนฺติ สกลํ จกฺกวาฬํ. ปริมณฺฑลํ ปริมณฺฑลสณฺานํ, ปริกฺเขปโต ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ ทส เจว สหสฺสานิ อฑฺฒจตุตฺถานิ จ โยชนสตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วฏฺฏํ ‘‘ปริมณฺฑล’’นฺติ วุตฺตํ. จตฺตาริ นหุตานีติ จตฺตาลีส สหสฺสานิ. นควฺหยาติ นคาติ อวฺหาตพฺพา นคสทฺทนามาติ อตฺโถ.

เทวทานวาทีนํ ติคาวุตาทิสรีรวเสน มหนฺตานิ ปาตุภูตานิ. ตตฺถายํ วจนตฺโถ – ภูตานิ ชาตานิ นิพฺพตฺตานิ มหนฺตานิ มหาภูตานีติ. อเนกจฺฉริยทสฺสเนน อเนกาภูตวิเสสทสฺสนวเสน จ มายากาโร มหนฺโต ภูโตติ มหาภูโต. ยกฺขาทโย ชาติวเสเนว มหนฺตา ภูตาติ มหาภูตา. นิรุฬฺโห วา อยํ มหาภูตสทฺโท เตสุ ทฏฺพฺโพ. ปถวิยาทโย ปน มหาภูตา วิย มหาภูตา. ภูตสทฺทสฺส อุภยลิงฺคตฺตา นปุํสกตา กตา. มหาปริหารโตติ เอตฺถ วจนตฺถํ วทนฺโต อาห ‘‘มหนฺเตหิ ภูตานิ, มหาปริหารานิ วา ภูตานี’’ติ. ตตฺถ ปจฺฉิมตฺเถ ปุริมปเท อุตฺตรปทสฺส ปริหารสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘มหาภูตานี’’ติ วุจฺจนฺติ.

อจฺจิมโตติ อคฺคิสฺส. โกฏิสตสหสฺสํ เอกํ โกฏิสตสหสฺเสกํ. จกฺกวาฬนฺติ ตํ สพฺพํ อาณากฺเขตฺตวเสน เอกํ กตฺวา โวหรนฺติ. วิลียติ ขาโรทเกน. วิกีรตีติ วิทฺธํสติ. อุปาทินฺนเกสุ วิการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺถทฺโธ’’ติอาทิมาห. กฏฺมุเขน วาติ วา-สทฺโท อุปมตฺโถ. ยถา กฏฺมุขสปฺเปน ทฏฺโ ปตฺถทฺโธ โหติ, เอวํ ปถวีธาตุปฺปโกเปน โส กาโย กฏฺมุเขว โหติ, กฏฺมุขมุขคโต วิย ปตฺถทฺโธ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา วา-สทฺโท เอวสทฺทสฺสตฺเถ. ‘‘ปถวีธาตุปฺปโกเปนา’’ติ เอตสฺส จ ปรโต อาหริตฺวา เวทิตพฺโพ. ตตฺรายมตฺโถ – ‘‘กฏฺมุเขน ทฏฺโปิ กาโย ปถวีธาตุปฺปโกเปเนว ปตฺถทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปถวีธาตุยา อวิยุตฺโต โส กาโย สพฺพทา กฏฺมุขมุขคโต วิย โหตี’’ติ. อถ วา อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท. ตตฺรายมตฺโถ – ‘‘กฏฺมุเขน ทฏฺโ กาโย ปตฺถทฺโธ โหติ วา น วา โหติ มนฺตาคทวเสน, ปถวีธาตุปฺปโกเปน ปน มนฺตาคทรหิโต โส กาโย กฏฺมุขมุขคโต วิย โหติ เอกนฺตปตฺถทฺโธ’’ติ. ปูติโยติ กุถิโต. มหาวิการานิ ภูตานีติ มหาวิการานิ ชาตานิ, วิชฺชมานานีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมปเท อุตฺตรปทสฺส วิการสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘มหาภูตานี’’ติ วุตฺตานิ.

ปถวีติอาทินา สพฺพโลกสฺส ปากฏานิปิ วิปลฺลาสํ มุฺจิตฺวา ยถาสภาวโต ปริคฺคยฺหมานานิ มหนฺเตน วายาเมน วินา น ปริคฺคยฺหนฺตีติ ปากฏานิปิ ทุวิฺเยฺยสภาวตฺตา ‘‘มหนฺตานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ตานิ หิ สุวิฺเยฺยานิ อมหนฺตานีติ คเหตฺวา ิโต เตสํ ทุปฺปริคฺคหิตตํ ทิสฺวา ‘‘อโห มหนฺตานิ เอตานี’’ติ ปชานาติ. อุปาทายาติ เอเตน วิฺายมานา ปจฺฉิมกาลกิริยา ปวตฺตีติ กตฺวา ‘‘ปวตฺตรูป’’นฺติ วุตฺตํ. เอวฺหิ ‘‘อุปาทายา’’ติ เอเตน ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตา วุตฺตา โหตีติ. อถ วา อุปาทายติ นิสฺสยตีติ อุปาทายํ, อุปาทายเมว รูปํ อุปาทายรูปํ, อฺนิสฺสยสฺส เอกนฺตนิสฺสิตสฺส รูปสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ปน น สตฺตสฺส, นาปิ เวทนาทิโน ตทภาเวปิ ภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทิมาห. ภวติ หิ นิสฺสยรูปานํ สามิภาโวติ.

ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา

๕๘๕. ปกิณฺณกทุเกสุ อชฺฌตฺติกทุกํ มุฺจิตฺวา อฺโ สพฺพทุเกหิ ติกวเสน โยชนํ คจฺฉนฺโต นตฺถิ, วิฺตฺติทุโก จ โยชนํ น คจฺฉตีติ สพฺพทุกโยคีสุ อาทิภูตํ อชฺฌตฺติกทุกเมว คเหตฺวา เสเสหิ สพฺพทุเกหิ โยเชตฺวา ติกา วุตฺตา. สกฺกา หิ เอเตน นเยน อฺเสมฺปิ ทุกานํ ทุกนฺตเรหิ ลพฺภมานา ติกโยชนา วิฺาตุนฺติ.

จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา

๕๘๖. จตุกฺเกสุ เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานสฺส วิฺตฺติทฺวยภาวโต วิฺตฺติทุกาทีหิ สมานคติโก จิตฺตสมุฏฺานทุโกติ เตน สห อุปาทาทุกสฺส โยชนาย ลพฺภมาโนปิ จตุกฺโก น วุตฺโต, ตถา สนิทสฺสนทุกาทีนํ เตน ตสฺส จ โอฬาริกทูรทุเกหิ โยชนาย ลพฺภมานา น วุตฺตา, ธมฺมานํ วา สภาวกิจฺจานิ โพเธตพฺพาการฺจ ยาถาวโต ชานนฺเตน ภควตา เตน อฺเสํ ตสฺส จ อฺเหิ โยชนา น กตาติ กึ เอตฺถ การณปริเยสนาย, อทฺธา สา โยชนา น กาตพฺพา, ยโต ภควตา น กตาติ เวทิตพฺพา. อฺเ ปน ปกิณฺณกทุกา อฺเหิ ปกิณฺณกทุเกหิ โยเชตุํ ยุตฺตา, เตหิ โยชิตา เอว. วตฺถุทุกาทีสุ ปน โสตสมฺผสฺสารมฺมณทุกาทโย วชฺเชตฺวา อฺเหิ อารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ อุปาทินฺนกทุกสฺส อุปาทินฺนุปาทานิยทุกสฺส จ โยชนาย จตุกฺกา ลพฺภนฺติ, จิตฺตสมุฏฺานทุกสฺส จ สพฺพารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ. อวเสเสหิ ปน เตสํ อฺเสฺจ สพฺพวตฺถุทุกาทีหิ โยชนาย น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปวิภตฺติ

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

๕๙๔. อวิชฺชมานวิภาคสฺส วิภาคาภาวทสฺสนเมว นิทฺเทโส นิจฺฉยกรณโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวา’’ติอาทินา วิภาคาภาวาวธารเณน เอว-สทฺเทน นิทฺเทสํ กโรติ. เหตุเหตูติ มูลเหตุ, เหตุปจฺจยเหตูติ วา อยมตฺโถ. มหาภูตา เหตูติ อยเมวตฺโถ มหาภูตา ปจฺจโยติ เอเตนปิ วุตฺโตติ. เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา ปจฺจโย เอว เหตุ ปจฺจยเหตุ. โย จ รูปกฺขนฺธสฺส เหตุ, โส เอว ตสฺส ปฺาปนาย เหตูติ วุตฺโต ตทภาเว อภาวโต. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากนฺติ เอตฺถ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ปจฺจเยสุ อิฏฺานิฏฺวิปากนิยามกตฺตา อุตฺตมํ ปธานํ กุสลากุสลํ คติอุปธิกอาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติฏฺานนิปฺผาทิตํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณฺจ กมฺมมิว ปธานตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน กมฺมารมฺมณานิ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตานิ. วกฺขติ จ ‘‘คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตู’’ติ. อิธ ปน กมฺมมิว อุตฺตมตฺตา อารมฺมณมฺปิ เหตุวจนํ อรหตีติ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตํ. สงฺขารานนฺติ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ อวิชฺชา สาธารณปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตา. ผรตีติ คจฺฉติ ปาปุณาติ. ปฏิกฺเขปนิทฺเทโสติ อิทํ มาติกาย อาคตปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. อิธ ปน มาติกาย น เหตุปทาทิสงฺคหิตตา จ รูปสฺส วุตฺตา ตํตํสภาวตฺตา, อวธาริตตา จ อนฺสภาวโต.

รูปีทุเก รูปีปทเมว อิธ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺตํ. เตน รูปีรูปปทานํ เอกตฺถตา สิทฺธา โหติ รุปฺปนลกฺขณยุตฺตสฺเสว รูปีรูปภาวโต. อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยนฺติ อรูปโต วิธุรํ รูปสฺส สภาวํ ทสฺเสติ. น หิ อรูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยํ ยถา รูปํ, เตน รูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยํ, น อรูปนฺติ อรูปโต นิวตฺเตตฺวา รูเป เอว เอตํ สภาวํ นิยเมติ, น รูปํ เอตสฺมึ สภาเว. อตฺถิ หิ รูปํ อตีตานาคตํ ยํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ น โหตีติ. เอตเมว จ นิยมํ ปุน เอวสทฺเทน นิยเมติ ‘‘ยถาวุตฺโต นิยโม รูเป อตฺถิ เอว, อรูเป วิย น นตฺถี’’ติ. อถ วา สพฺพํ รูปนฺติ ภูตุปาทายรูปํ กาลเภทํ อนามสิตฺวา ‘‘สพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อรูเปหิ สมานวิฺเยฺยสภาวํ อตีตานาคตํ นิวตฺเตตุํ อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน วิเสเสติ, ตํ อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยเมวาติ อตฺโถ.

นนุ เอวํ รูปายตนสฺสปิ โสตวิฺาณาทีหิ วิฺเยฺยตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ รูปํ สพฺพํ สมฺปิณฺเฑตฺวา เอกนฺตลกฺขณทสฺสนวเสน เอกีภาเวน คเหตฺวา อรูปโต วิธุรสฺส ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวสฺส ทสฺสนโต. ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยนฺติ เอตสฺมึ ปน นิยเม ‘‘สพฺพํ รูป’’นฺติ เอตฺถายํ วิฺเยฺยภาวนิยโม น วุตฺโต, อถ โข ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สพฺพรูปสฺส เอกนฺตลกฺขณนิยโม ทสฺสิโต น สิยา. ปาฬิยฺจ วิฺเยฺยเมวาติ เอว-กาโร วุตฺโต, น อุปฺปนฺนเมวาติ. ตสฺมา อุปฺปนฺนสฺเสว มโนวิฺเยฺยนิยมาปตฺติ นตฺถีติ กึ โสตปติตตฺเตน, ตสฺมา วุตฺตนเยนตฺโถ โยเชตพฺโพ.

กถํวิธนฺติ คุเณหิ กถํ สณฺิตํ. าณเมว าณวตฺถุ. สมานชาติกานํ สงฺคโห, สมานชาติยา วา สงฺคโห สชาติสงฺคโห. สฺชายนฺติ เอตฺถาติ สฺชาติ, สฺชาติยา สงฺคโห สฺชาติสงฺคโห, สฺชาติเทเสน สงฺคโหติ อตฺโถ. อฺมฺโปการวเสน อวิปฺปโยเคน จ สมาธิเทเส ชาตา สมฺมาสติอาทโย สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. ยตฺถ จ สติอาทิสหายวโต สมาธิสฺส อตฺตโน กิจฺจกรณํ, โส จิตฺตุปฺปาโท สมาธิเทโส. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส จ อปฺปนาภาวโต ปฏิเวธสทิสํ กิจฺจนฺติ สมาเนน ปฏิเวธกิจฺเจน ทิฏฺิสงฺกปฺปา ปฺกฺขนฺเธ สงฺคหิตา.

รูปวิภตฺติเอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกนิทฺเทโส

อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา

๕๙๖. อปฺปรชกฺขาทิสตฺตสมูหทสฺสนํ พุทฺธจกฺขุ, ฉสุ อสาธารณาเณสุ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพสงฺขตาสงฺขตทสฺสนํ สมนฺตจกฺขุ. ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) เอวมาทินา อากาเรน ปวตฺตํ าณทสฺสนํ าณจกฺขุ, ตมฺปิ ปุริมทฺวยมิว กามาวจรํ. จตุสจฺจธมฺมทสฺสนํ ธมฺมจกฺขุ. อุปตฺถมฺภภูตา จตุสมุฏฺานิกรูปสนฺตติโย สมฺภารา. สห สมฺภาเรหิ สสมฺภารํ, สมฺภารวนฺตํ. สมฺภโวติ อาโปธาตุเมว สมฺภวสมฺภูตมาห. สณฺานนฺติ วณฺณายตนเมว ปริมณฺฑลาทิสณฺานภูตํ. เตสํ ปน วิสุํ วจนํ ตถาภูตานํ อตถาภูตานฺจ อาโปธาตุวณฺณายตนานํ ยถาวุตฺเต มํสปิณฺเฑ วิชฺชมานตฺตา. จุทฺทสสมฺภาโร หิ มํสปิณฺโฑ. สมฺภวสฺส จตุธาตุนิสฺสิเตหิ สห วุตฺตสฺส ธาตุตฺตยนิสฺสิตตา โยเชตพฺพา. อาโปธาตุวณฺณายตนานเมว วา สมฺภวสณฺานาภาวา วิสุํ วุตฺตาติ จตุธาตุนิสฺสิตตา จ น วิรุชฺฌติ. ยํ มํสปิณฺฑํ เสตาทินา สฺชานนฺโต น ปสาทจกฺขุํ สฺชานาติ, ปตฺถิณฺณตาทิวิเสสํ วตฺตุกาโม ‘‘ปถวีปิ อตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตมฺปิ วทติ.

สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทสภูเตติ เอเตน อวเสสํ กณฺหมณฺฑลํ ปฏิกฺขิปติ. สฺเนหมิว สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ิตาเหว อตฺตโน นิสฺสยภูตาหิ จตูหิ ธาตูหิ กตูปการํ ตํนิสฺสิเตหิ เอว อายุวณฺณาทีหิ อนุปาลิตปริวาริตํ ติสนฺตติรูปสมุฏฺาปเกหิ อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ ติฏฺติ. สตฺตกฺขิปฏลานํ พฺยาปนวจเนน จ อเนกกลาปคตภาวํ จกฺขุสฺส ทสฺเสติ. ปมาณโต อูกาสิรมตฺตนฺติ อูกาสิรมตฺเต ปเทเส ปวตฺตนโต วุตฺตํ. รูปานิ มนุปสฺสตีติ -กาโร ปทสนฺธิกโร. อถ วา มนูติ มจฺโจ. อุปการภูเตหิ สงฺคหิโต. ปริยาเยนาติ จตุนฺนํ ปสาโท เตสุ เอกสฺส ทฺวินฺนฺจาติปิ วตฺตุํ ยุตฺโต สมานธนานํ ธนํ วิยาติ เอเตน ปริยาเยน. สรีรํ รูปกฺขนฺโธ เอว. ปฏิฆฏฺฏนเมว นิฆํโส ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส. รูปาภิมุขภาเวน จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวาปตฺติสงฺขาโต ปฏิฆฏฺฏนโต ชาโต วา นิฆํโส ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส.

ปริกปฺปวจนํ ‘‘สเจ อาปาถํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เหตุกิริยํ, ‘‘ปสฺเสยฺยา’’ติ ผลกิริยฺจ ปริกปฺเปตฺวา เตน ปริกปฺเปน วจนํ. เอตฺถ จ เหตุกิริยา อเนกตฺตา อวุตฺตาปิ วิฺายตีติ ทฏฺพฺพา. ‘‘ปสฺเส วา’’ติ อิมินา วจเนน ตีสุปิ กาเลสุ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวํ อนุปคจฺฉนฺตํ จกฺขุํ สงฺคณฺหาติ. ทสฺสเน ปริณายกภาโว ทสฺสนปริณายกฏฺโ. ยถา หิ อิสฺสโร ‘‘อิทฺจิทฺจ กโรถา’’ติ วทนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺเจ สปุริเส ปริณายติ ปวตฺตยติ, เอวมิทมฺปิ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ นิสฺสยภาเวน เต ธมฺเม ทสฺสนกิจฺเจ อาณาเปนฺตํ วิย ปริณายตีติ จกฺขูติ วุจฺจติ. จกฺขตีติ หิ จกฺขุ, ยถาวุตฺเตน นเยน อาจิกฺขติ ปริณายตีติ อตฺโถ. อถ วา สมวิสมานิ รูปานิ จกฺขติ อาจิกฺขติ, ปกาเสตีติ วา จกฺขุ. สฺชายนฺติ เอตฺถาติ สฺชาติ. เก สฺชายนฺติ? ผสฺสาทีนิ. ตถา สโมสรณํ. จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อตฺตโน ติกฺขมนฺทภาวานุปวตฺตเนน อินฺทฏฺํ กาเรตีติ. นิจฺจํ ธุวํ อตฺตาติ คหิตสฺสปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน. วฬฺชนฺติ ปวิสนฺติ เอเตนาติ วฬฺชนํ, ตํทฺวาริกานํ ผสฺสาทีนํ วฬฺชนฏฺเน.

๕๙๗. ปุพฺเพ วุตฺโต ปริกปฺโป เอว วิกปฺปนตฺโถ. ฆฏฺฏยมานเมวาติ ปสาทสฺส อภิมุขภาววิเสสํ คจฺฉนฺตเมว.

๕๙๙. รูปํ อารพฺภ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อุปฺปตฺติวจเนเนว เตสํ ตํทฺวาริกานํ อฺเสฺจ รูปํ อารพฺภ อุปฺปตฺติ วุตฺตา โหติ. ยถา จ เตสํ รูปํ ปจฺจโย โหติ, เตน ปจฺจเยน อุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘อิมินา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ ผสฺสาทีนนฺติ อิมินา วจเนน ตทาลมฺพนรูปารมฺมณตาย ตํสทิสานํ มโนธาตุอาทีนฺจ ปุเรชาตปจฺจเยน อุปฺปตฺติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา. ยตฺถ ปน วิเสโส อตฺถิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุทฺวารชวนวีถิปริยาปนฺนาน’’นฺติอาทิมาห. ตานิ หิ รูปํ ครุํ กตฺวา ปวตฺตมานสฺสาทนาภินนฺทนภูตานิ ตํสมฺปยุตฺตานิ จ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ อุปฺปชฺชนฺติ, อฺานิ อารมฺมณปุเรชาเตเนวาติ เอวํ ‘‘อารพฺภา’’ติ วจนํ อารมฺมณปจฺจยโต อฺปจฺจยภาวสฺสปิ ทีปกํ, อารมฺมณวจนํ อารมฺมณปจฺจยภาวสฺเสวาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๖๐๐. สุณาตีติ โสตวิฺาณสฺส นิสฺสยภาเวน สุณาติ. ชิวฺหาสทฺเทน วิฺายมานา กิริยา สายนนฺติ กตฺวา ‘‘สายนฏฺเนา’’ติ อาห. กุจฺฉิตานํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตผสฺสาทีนํ อาโยติ กาโย, ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขานํ วา. กายายตนสฺส พฺยาปิตาย จกฺขุปสาเท กายปสาทภาโวปิ อตฺถิ, เตน จกฺขุปสาทสฺส อนุวิทฺธตฺตา โน พฺยาปิตา จ น สิยา, วุตฺตา จ สา. ตสฺมา จกฺขุปสาทสฺส โผฏฺพฺพาวภาสนํ กายปสาทสฺส จ รูปาวภาสนํ อาปนฺนนฺติ ลกฺขณสมฺมิสฺสตํ โจเทติ. จกฺขุกายานํ อฺนิสฺสยตฺตา กลาปนฺตรคตตาย ‘‘อฺสฺส อฺตฺถ อภาวโต’’ติ อาห. รูปรสาทินิทสฺสนํ สมานนิสฺสยานฺจ อฺมฺสภาวานุปคเมน อฺมฺสฺมึ อภาโว, โก ปน วาโท อสมานนิสฺสยานนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

รูปาภิฆาตารโห จ โส ภูตปฺปสาโท จาติ รูปาภิฆาตารหภูตปฺปสาโท. เอวํลกฺขณํ จกฺขุ. รูปาภิฆาโตติ จ รูเป, รูปสฺส วา อภิฆาโตติ อตฺโถ. ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนตฺตภาวนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส นิทานภูตา กามตณฺหา รูปตณฺหา จ ตทายตนิกภวปตฺถนาภาวโต ทฏฺุกามตาทิโวหารํ อรหตีติ ทุติโย นโย สพฺพตฺถ วุตฺโต. ตตฺถ ทฏฺุกามตานิทานํ กมฺมํ สมุฏฺานเมเตสนฺติ ทฏฺุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานานิ, เอวํวิธานํ ภูตานํ ปสาทลกฺขณํ จกฺขุ, เอวํวิโธ วา ภูตปฺปสาโท ทฏฺุกามตานิ…เป… ปสาโท. เอวํลกฺขณํ จกฺขุ. รูเปสุ ปุคฺคลสฺส วา วิฺาณสฺส วา อาวิฺฉนรสํ.

กาโย สพฺเพสนฺติ โก เอตฺถ วิเสโส, นนุ เตชาทิอธิกานฺจ ภูตานํ ปสาทา สพฺเพสํเยวาติ? สจฺจเมตํ, อิทํ ปน ‘‘สพฺเพส’’นฺติ วจนํ ‘‘สมานาน’’นฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ อนุวตฺตมานสฺส เอกเทสาธิกภาวสฺส นิวารณวเสน วุตฺตตฺตา. เตชาทีนนฺติ ปทีปสงฺขาตสฺส เตชสฺส โอภาเสน วายุสฺส สทฺเทน ปถวิยา คนฺเธน เขฬสงฺขาตสฺส อุทกสฺส รเสนาติ ปุริมวาเท ปจฺฉิมวาเท จ ยถาโยคํ ตํตํภูตคุเณหิ อนุคฺคยฺหภาวโต รูปาทิคฺคหเณ อุปกริตพฺพโตติ อตฺโถ. รูปาทีนํ อธิกภาวทสฺสนโตติ อคฺคิมฺหิ รูปสฺส ปภสฺสรสฺส วายุมฺหิ สทฺทสฺส สภาเวน สุยฺยมานสฺส ปถวิยา สุรภิอาทิโน คนฺธสฺส อาเป จ รสสฺส มธุรสฺส วิเสสยุตฺตานํ ทสฺสนโต ‘‘รูปาทโย เตสํ คุณา’’ติ ปมวาที อาห. ตสฺเสว จ ‘‘อิจฺเฉยฺยามา’’ติอาทินา อุตฺตรมาห. อิมินาวุปาเยน ทุติยวาทิสฺสปิ นิคฺคโห โหตีติ.

อถ วา รูปาทิวิเสสคุเณหิ เตชอากาสปถวีอาปวายูหิ จกฺขาทีนิ กตานีติ วทนฺตสฺส กณาทสฺส วาทํ ตติยํ อุทฺธริตฺวา ตํ นิคฺคเหตุํ ‘‘อถาปิ วเทยฺยุ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาสเว อุปลพฺภมาโนปิ คนฺโธ ปถวิยา อาโปสํยุตฺตาย กปฺปาสโต วิสทิสายาติ น กปฺปาสคนฺธสฺส อธิกภาวาปตฺตีติ เจ? น, อนภิภูตตฺตา. อาสเวหิ อุทกสํยุตฺตา ปถวี อุทเกน อภิภูตา, น กปฺปาสปถวีติ ตสฺสาเยว อธิเกน คนฺเธน ภวิตพฺพนฺติ. อุณฺโหทกสฺุตฺโต จ อคฺคิ อุปลพฺภนีโย มหนฺโตติ กตฺวา ตสฺส ผสฺโส วิย วณฺโณปิ ปภสฺสโร อุปลพฺภิตพฺโพติ อุณฺโหทกวณฺณโต อคฺคินา อนภิสมฺพนฺธสฺส สีตุทกสฺส วณฺโณ ปริหาเยถ. ตสฺมาติ เอตสฺสุภยสฺส อภาวา. ตทภาเวน หิ รูปาทีนํ เตชาทิวิเสสคุณตา นิวตฺติตา, ตํนิวตฺตเนน ‘‘เตชาทีนํ คุเณหิ รูปาทีหิ อนุคฺคยฺหภาวโต’’ติ อิทํ การณํ นิวตฺติตนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย อุภยาภาโว วิเสสกปฺปนปฺปหานสฺส การณํ โหตีติ อาห ‘‘ตสฺมา ปหาเยเถต’’นฺติอาทิ. เอกกลาเปปิ รูปรสาทโย วิสทิสา, โก ปน วาโท นานากลาเป จกฺขาทโย ภูตวิเสสาภาเวปีติ ทสฺเสตุํ รูปรสาทินิทสฺสนํ วุตฺตํ.

ยทิ ภูตวิเสโส นตฺถิ, กึ ปน จกฺขาทิวิเสสสฺส การณนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ อฺมฺสฺสา’’ติอาทิมาห. เอกมฺปิ กมฺมํ ปฺจายตนิกตฺตภาวปตฺถนานิปฺผนฺนํ จกฺขาทีนํ วิเสสเหตุตฺตา ‘‘อฺมฺสฺส อสาธารณ’’นฺติ จ ‘‘กมฺมวิเสโส’’ติ จ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ตํ เยน วิเสเสน จกฺขุสฺส ปจฺจโย, เตเนว โสตสฺส โหติ อินฺทฺริยนฺตราภาวปฺปตฺติโต. ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ มหคฺคตา เอกา เจตนา กฏตฺตารูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๗๘) วจเนน ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิชฺชมานานํ สพฺเพสํ กฏตฺตารูปานํ เอกา เจตนา กมฺมปจฺจโย โหตีติ วิฺายติ. นานาเจตนาย หิ ตทา อินฺทฺริยุปฺปตฺติยํ สติ ปริตฺเตน จ มหคฺคเตน จ กมฺมุนา นิพฺพตฺติตํ กฏตฺตารูปํ อาปชฺเชยฺยาติ น เจกา ปฏิสนฺธิ อเนกกมฺมนิพฺพตฺตา โหตีติ สิทฺธเมเกน กมฺเมน อเนกินฺทฺริยุปฺปตฺติ โหตีติ. อนลฺลีโน นิสฺสโย เอตสฺสาติ อนลฺลีนนิสฺสโย, รูปสทฺทสงฺขาโต วิสโย. คนฺธรสานํ นิสฺสยา ฆานชิวฺหานิสฺสเย อลฺลียนฺตีติ เต นิสฺสยวเสน อลฺลีนา, โผฏฺพฺพํ สยํ กายนิสฺสยอลฺลีนํ ภูตตฺตยตฺตา. ทูเร…เป… สมฺปตฺโต เอว นาม ปฏิฆฏฺฏนนิฆํสชนกโตติ อธิปฺปาโย. สทฺโท ปน ธาตุปรมฺปราย วายุ วิย อาคนฺตฺวา นิสฺสยวเสน โสตนิสฺสเย อลฺลียิตฺวา โสตํ ฆฏฺเฏตฺวา ววตฺถานํ คจฺฉนฺโต สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตีติ วุตฺโต. เอวํ ปน สติจิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส กทาจิปิ อารมฺมณปจฺจโย น สิยา. น หิ พหิทฺธา จิตฺตสมุฏฺานุปฺปตฺติ อุปปชฺชตีติ.

จิเรน สุยฺเยยฺยาติ กสฺมา เอตํ วุตฺตํ, นนุ ทูเร ิเตหิ รชกาทิสทฺทา จิเรน สุยฺยนฺตีติ? น, ทูราสนฺนานํ ยถาปากเฏ สทฺเท คหณวิเสสโต. ยถา หิ ทูราสนฺนานํ วจนสทฺเท ยถา ปากฏีภูเต คหณวิเสสโต อาการวิเสสานํ อคฺคหณํ คหณฺจ โหติ, เอวํ รชกาทิสทฺเทปิ อาสนฺนสฺส อาทิโต ปภุติ ยาวาวสานา กเมน ปากฏีภูเต ทูรสฺส จาวสาเน มชฺเฌ วา ปิณฺฑวเสน ปวตฺติปากฏีภูเต นิจฺฉยคหณานํ โสตวิฺาณวีถิยา ปรโต ปวตฺตานํ วิเสสโต ลหุกํ สุโต จิเรน สุโตติ อภิมาโน โหติ. โส ปน สทฺโท ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตํ นิสฺสิโตว อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ โสตสฺส อาปาถมาคจฺฉติ. ทูเร ิโต ปน สทฺโท อฺตฺถ ปฏิโฆสุปฺปตฺติยา ภาชนาทิจลนสฺส จ อโยกนฺโต วิย อโยจลนสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทฏฺพฺโพ. ยถา วา ฆณฺฏาภิฆาตานุชานิ ภูตานิ อนุรวสฺส นิสฺสยภูตานิ ฆฏฺฏนสภาวานิ, เอวํ ฆฏฺฏนานุชานิ ยาว โสตปฺปสาทา อุปฺปตฺติวเสน อาคตานิ ภูตานิ ฆฏฺฏนสภาวาเนวาติ ตํนิสฺสิโต สทฺโท นิสฺสยวเสน ธาตุปรมฺปราย ฆฏฺเฏตฺวา สณิกํ ววตฺถานํ คจฺฉตีติ วุตฺโต. อสุกทิสาย นามาติ น ปฺาเยยฺย. กสฺมา? โสตปฺปเทสสฺเสว สทฺทสฺส คหณโต.

วิสเม อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ วิสมชฺฌาสโย, อชฺฌาสยรหิตมฺปิ จกฺขุ วิสมนินฺนตฺตา วิสมชฺฌาสยํ วิย โหตีติ ‘‘วิสมชฺฌาสย’’นฺติ วุตฺตํ. จกฺขุมโต วา ปุคฺคลสฺส อชฺฌาสยวเสน จกฺขุ ‘‘วิสมชฺฌาสย’’นฺติ วุตฺตํ.

กณฺณกูปฉิทฺเทเยว ปวตฺตนโต อารมฺมณคฺคหณเหตุโต จ ตตฺเถว ‘‘อชฺฌาสยํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส โสตสฺส โสตวิฺาณนิสฺสยภาเวน สทฺทสวเน. อชฏากาโสปิ วฏฺฏตีติ เอตสฺส อฏฺกถาธิปฺปาเยน อตฺถํ วทนฺโต ‘‘อนฺโตเลณสฺมิ’’นฺติอาทิมาห. อตฺตโน อธิปฺปาเยน วทนฺโต ‘‘กึ เอตาย ธมฺมตายา’’ติอาทิมโวจ.

วาตูปนิสฺสโย คนฺโธ โคจโร เอตสฺสาติ วาตูปนิสฺสยคนฺธโคจรํ. เอตฺถ จ คนฺธคฺคหณสฺส วาโต อุปนิสฺสโย, ตพฺโพหาเรน ปน คนฺโธ ‘‘วาตูปนิสฺสโย’’ติ วุตฺโต. อถ วา วาโต เอว อุปนิสฺสโย วาตูปนิสฺสโย. กสฺสาติ? ฆานวิฺาณสฺส. โส สหการีปจฺจยนฺตรภูโต เอตสฺส อตฺถีติ วาตูปนิสฺสโย, คนฺโธ ปจฺจโย.

อาโป จ สหการีปจฺจยนฺตรภูโต เขฬาทิโก. ตถา ปถวี. คเหตพฺพสฺส หิ โผฏฺพฺพสฺส อุปฺปีฬิยมานสฺส อาธารภูตา ปถวี กายสฺส จ โผฏฺพฺเพน อุปฺปีฬิยมานสฺส นิสฺสยภูตานํ อาธารภูตา สพฺพทา โผฏฺพฺพคหณสฺส อุปนิสฺสโยติ. อุปฺปีฬเนน ปน วินา โผฏฺพฺพคหเณ กายายตนสฺส นิสฺสยภูตา ปถวี อุปนิสฺสโยติ ทฏฺพฺพา. สพฺพทาปิ จ ตสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ยุตฺโต เอว.

ปฺจวณฺณานนฺติ วจนํ ตทาธารานํ สุตฺตานํ นานตฺตทสฺสนตฺถํ. ปฺจปฺปการา ปฺจวณฺณา. เอกนฺตโตติ อิทํ สพฺพทา อุปฺปีฬเนน วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานํ กลาปนฺตรรูปานํ สพฺภาวา เตสํ นิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ. น หิ ตานิ เอกนฺเตน อวินิภุตฺตานิ กลาปนฺตรคตตฺตาติ.

๖๑๖. วณฺณนิภาติ รูปายตนเมว นิทฺทิฏฺนฺติ ตเทว อเปกฺขิตฺวา ‘‘สนิทสฺสน’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส กโต. ตสฺมาติ นิปฺปริยายรูปานํ นีลาทีนํ ผุสิตฺวา อชานิตพฺพโต ทีฆาทีนฺจ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพโต น นิปฺปริยาเยน ทีฆํ รูปายตนํ. ตํ ตํ นิสฺสายาติ ทีฆาทิสนฺนิเวสํ ภูตสมุทายํ นิสฺสาย. ตถา ตถา ิตนฺติ ทีฆาทิสนฺนิเวเสน ิตํ วณฺณสมุทายภูตํ รูปายตนเมว ทีฆาทิโวหาเรน ภาสิตํ. อฺมฺปริจฺฉินฺนํ เอกสฺมึ อิตรสฺส อภาวา. วิสยโคจรานํ วิเสโส อนฺตฺถภาโว ตพฺพหุลจาริตา จ จกฺขุวิฺาณสฺส.

๖๒๐. เภริสทฺทาทีนฺจ วาทิตสทฺทตฺตา ‘‘วุตฺตาวเสสาน’’นฺติ อาห. อมนุสฺสวจเนน น มนุสฺเสหิ อฺเ ปาณิโน เอว คหิตา, อถ โข กฏฺาทโยปีติ อธิปฺปาเยน ‘‘เสโส สพฺโพปี’’ติ อาห. เอวํ สนฺเตปิ วตฺถุวิเสสกิตฺตนวเสน ปาฬิยํ อนาคโต ตถา กิตฺเตตพฺโพ เย วา ปนาติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย.

๖๒๔. วิสฺสคนฺโธติ วิรูโป มํสาทิคนฺโธ. ลมฺพิลนฺติ มธุรมฺพิลํ.

๖๓๒. สฺชานนฺติ เอเตนาติ สฺชานนํ, อุปลกฺขณํ. สเกน สเกน กมฺมจิตฺตาทินา ปจฺจเยน สมุฏฺิตานิปิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ อินฺทฺริยสหิเต สรีเร อุปฺปชฺชมานานิ ตํตทาการานิ หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ สมุฏฺหนฺตี’’ติ วุตฺตานิ. อิตฺถิลิงฺคาทีสุ เอว จ อธิปติภาวา เอตสฺส อินฺทฺริยตา วุตฺตา, อินฺทฺริยสหิเต สนฺตาเน อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปปจฺจยานํ อฺถา อนุปฺปาทนโต อิตฺถิคฺคหณสฺส จ เตสํ รูปานํ ปจฺจยภาวโต. ยสฺมา ปน ภาวทสเกปิ รูปานํ อิตฺถินฺทฺริยํ น ชนกํ, นาปิ อนุปาลกํ อุปตฺถมฺภกํ วา, น จ อฺกลาปรูปานํ, ตสฺมา ตํ ชีวิตินฺทฺริยํ วิย สกลาปรูปานํ อาหาโร วิย วา กลาปนฺตรรูปานฺจ อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจโยติ น วุตฺตํ. เอส นโย ปุริสินฺทฺริเยปิ. ลิงฺคาทิอากาเรสุ รูเปสุ รูปายตนสฺส จกฺขุวิฺเยฺยตฺตา ลิงฺคาทีนํ จกฺขุวิฺเยฺยตา วุตฺตา.

๖๓๓. อุภยมฺปิ…เป… กุสเลน ปติฏฺาตีติ สุคตึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทุคฺคติยฺหิ ปฏิสนฺธิ อกุสเลเนวาติ ตทา อุปฺปชฺชมาโน ภาโวปิ อกุสเลเนว ภเวยฺย, ปฏิสนฺธิยํ วิย ปวตฺเตปีติ. ตยิทํ ทฺวยํ ยสฺมา สนฺตาเน สห น ปวตฺตติ ‘‘ยสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? โน’’ติอาทิวจนโต (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘), ตสฺมา อุภโตพฺยฺชนกสฺสปิ เอกเมวินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ.

๖๓๕. เอกนฺตํ กายวิฺตฺติยํ กายโวหารสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘กาเยน สํวโร สาธู’’ติ (ธ. ป. ๓๖๑; สํ. นิ. ๑.๑๑๖) สาธกสุตฺตํ อาหฏํ. ภาวสฺส คมนํ ปกาสนํ โจปนํ. ถมฺภนาติ วาโยธาตุอธิกานํ ภูตานํ ถมฺภนากาโร วิฺตฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธงฺคมวาตาทโย วิย หิ โย วาตาธิโก กลาโป, ตตฺถ ภูตานํ วิฺตฺติอาการตา โหตีติ. เตเนว ‘‘กายํ ถมฺเภตฺวา ถทฺธํ กโรตีติ ถมฺภนา’’ติ วาโยธาตุกิจฺจวเสน วิฺตฺติ วุตฺตา. ตโต เอว จ ‘‘วาโยธาตุยา อากาโร กายวิฺตฺตี’’ติ จ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตถา ‘‘ปถวีธาตุยา วจีวิฺตฺตี’’ติ ปถวีธาตุอธิกภูตวิการโต.

๖๓๖. ปเภทคตา วาจา เอวาติ ติสฺส ผุสฺสาติ ปเภทคตา. อถ วา วจีสงฺขาเรหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปริคฺคหิตา สวนวิสยภาวํ อนุปนีตตาย อภินฺนา ตพฺภาวํ นียมานา วาจา ‘‘วจีเภโท’’ติ วุจฺจติ. อิริยาปถมฺปิ อุปตฺถมฺเภนฺตีติ ยถาปวตฺตํ อิริยาปถํ อุปตฺถมฺเภนฺติ. ยถา หิ อพฺโพกิณฺเณ ภวงฺเค วตฺตมาเน องฺคานิ โอสีทนฺติ ปวิฏฺานิ วิย โหนฺติ, น เอวํ ‘‘ทฺวตฺตึส ฉพฺพีสา’’ติ วุตฺเตสุ ชาครณจิตฺเตสุ วตฺตมาเนสุ. เตสุ ปน วตฺตมาเนสุ องฺคานิ อุปตฺถทฺธานิ ยถาปวตฺติริยาปถภาเวเนว ปวตฺตนฺตีติ. ขีณาสวานํ จุติจิตฺตนฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, ‘‘กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, รูปาวจเร อรูปาวจเร ปจฺฉิมภวิกานํ, เย จ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสติ, โน จ เตสํ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) ปน วจนโต อฺเสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ วิฺายติ. น หิ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสฺส คพฺภคมนาทิวินิพทฺธาภาเวน กายสงฺขาราสมุฏฺาปนํ อตฺถิ, น จ ยุตฺตํ ‘‘จุโต จ จิตฺตสมุฏฺานฺจสฺส ปวตฺตตี’’ติ, นาปิ ‘‘จุติจิตฺตํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ ปาฬิ อตฺถีติ.

๖๓๗. น กสฺสตีติ น วิเลขิยติ. คตนฺติ วิฺาตํ. อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ ยสฺมึ กลาเป ภูตานํ ปริจฺเฉโท, เตเหว อสมฺผุฏฺํ. วิชฺชมาเนปิ หิ กลาปนฺตรภูตานํ กลาปนฺตรภูตสมฺผุฏฺภาเว ตํตํภูตวิวิตฺตตา รูปปริยนฺโต อากาโสติ เยสํ โย ปริจฺเฉโท, เตหิ โส อสมฺผุฏฺโว, อฺถา ปริจฺฉินฺนภาโว น สิยา เตสํ ภูตานํ พฺยาปิตภาวาปตฺติโต. อพฺยาปิตา หิ อสมฺผุฏฺตาติ.

๖๓๘. ลหุตาทีนํ อฺมฺาวิชหเนน ทุพฺพิฺเยฺยนานตฺตตา วุตฺตาติ ตํตํวิการาธิกรูเปหิ ตํตํนานตฺตปฺปกาสนตฺถํ ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิมาห. ยถาวุตฺตา จ ปจฺจยา ตํตํวิการสฺส วิเสสปจฺจยภาวโต วุตฺตา, อวิเสเสน ปน สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยาติ.

๖๔๑. อาทิโต จโย อาจโย, ปมุปฺปตฺติ. อุปริ จโย อุปจโย. ปพนฺโธ สนฺตติ. ตตฺถ อุทฺเทเส อวุตฺโตปิ อาจโย อุปจยสทฺเทเนว วิฺายตีติ ‘‘โย อายตนานํ อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปจโย’’ติ อาห. ปาฬิยํ ปน อุป-สทฺโท ปมตฺโถ อุปริอตฺโถ จ โหตีติ ‘‘อาทิจโย อุปจโย, อุปริจโย สนฺตตี’’ติ อยมตฺโถ วิฺายตีติ. อฺถา หิ อาจยสงฺขาตสฺส ปมุปฺปาทสฺส อวุตฺตตา อาปชฺเชยฺย.

เอวนฺติ ‘‘โย อายตนานํ อาจโย’’ติอาทินิทฺเทเสน กึ กถิตํ โหติ? อายตเนน อาจโย กถิโต. อาจยูปจยสนฺตติโย หิ นิพฺพตฺติภาเวน อาจโย เอวาติ อายตเนหิ อาจยาทีนํ ปกาสิตตฺตา เตหิ อาจโย กถิโต. อายตนานํ อาจยาทิวจเนเนว อาจยสภาวานิ อุปฺปาทธมฺมานิ อายตนานีติ อาจเยน ตํปกติกานิ อายตนานิ กถิตานิ. ลกฺขณฺหิ อุปฺปาโท, น รูปรูปนฺติ. เตเนวาธิปฺปาเยนาห ‘‘อายตนเมว กถิต’’นฺติ. อาจยฺหิ ลกฺขณํ กถยนฺเตน ตํลกฺขณานิ อายตนาเนว กถิตานิ โหนฺตีติ. เอวมฺปิ กึ กถิตํ โหตีติ อายตนาจเยหิ อาจยายตเนหิ อาจยเมว อายตนเมว กเถนฺเตน อุทฺเทเส นิทฺเทเส จ อาจโยติ อิทเมว อวตฺวา อุปจยสนฺตติโย อุทฺทิสิตฺวา เตสํ วิภชนวเสน อายตเนน อาจยกถนาทินา กึ กถิตํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อาจโยติ อุปจยมาห, อุปจโยติ จ สนฺตตึ. ตเทวุภยํ ยถากฺกมํ วิวรนฺโต ‘‘นิพฺพตฺติ วฑฺฒิ กถิตา’’ติ อาห. อุปจยสนฺตติโย หิ อตฺถโต เอกตฺตา อาจโยวาติ ตทุทฺเทสวิภชนวเสน อายตเนน อาจยกถนาทินา นิพฺพตฺติวฑฺฒิอาการนานตฺตํ อาจยสฺส กถิตนฺติ อตฺโถ. อิมเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘อตฺถโต หี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา จ อุภยมฺปิ เอตํ ชาติรูปสฺเสวาธิวจนํ, ตสฺมา ชาติรูปสฺส ลกฺขณาทิวิเสเสสุ อาจยาทีสุ ปวตฺติอาทีสุ จ อาจยาทิลกฺขณาทิโก อุปจโย, ปวตฺติอาทิลกฺขณาทิกา สนฺตตีติ เวทิตพฺพาติ อตฺโถ.

๖๔๓. ปกตินิทฺเทสาติ ผลวิปจฺจนปกติยา นิทฺเทสา, ชราย ปาปุณิตพฺพํ ผลเมว วา ปกติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชราติ กลลกาลโต ปภุติ ปุริมรูปานํ ชราปตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานิ ปจฺฉิมรูปานิ ปริปกฺกรูปานุรูปานิ ปริณตปริณตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อนุกฺกเมน สุปริณตรูปปริปากกาเล อุปฺปชฺชมานานิ ขณฺฑิจฺจาทิสภาวานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ อุทกาทิมคฺเคสุ ติณรุกฺขสํภคฺคตาทโย วิย ปริปากคตมคฺคสงฺขาเตสุ ปริปกฺกรูเปสุ อุปฺปนฺนานิ ชราย คตมคฺโคอิจฺเจว วุตฺตานิ, น ชราติ. อวิฺายมานนฺตรชรา อวีจิชรา. มรเณ อุปนยนรสา.

๖๔๔. ตํ ปตฺวาติ ตํ อตฺตโน เอว ขยวยสงฺขาตํ สภาวํ ปตฺวา รูปํ ขียติ เวติ ภิชฺชติ. โปเถตฺวา ปาติตสฺส ทุพฺพลตา ปราธีนตา สยนปรายณตา จ โหติ, ตถา ชราภิภูตสฺสาติ โปถกสทิสี ชรา.

๖๔๕. กตฺตพฺพโตติ กตฺตพฺพสภาวโต. วิสาณาทีนํ ตรจฺฉเขฬเตมิตานํ ปาสาณานํ วิย ถทฺธภาวาภาวโต อหิวิจฺฉิกานํ วิย สวิสตฺตาภาวโต จ สุขุมตา วุตฺตา. โอชาลกฺขโณติ เอตฺถ องฺคมงฺคานุสาริโน รสสฺส สาโร อุปตฺถมฺภพลกาโร ภูตนิสฺสิโต เอโก วิเสโส โอชาติ.

อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา

๖๔๖. น อุปาทิยเตวาติ น นิสฺสยติ เอว, กินฺตุ นิสฺสยติ จ นิสฺสียติ จาติ อตฺโถ.

๖๔๗. ปุริมา ปนาติ ปฺจวิธสงฺคเห ปถวีธาตุอาโปธาตุเตโชธาตุวาโยธาตูนํ ปุริมุทฺเทสวเสน วุตฺตํ. โผฏฺพฺพายตนนิทฺเทเส วา วุตฺตานํ ปถวีธาตุอาทีนํ ปุริมา อุทฺเทเส วุตฺตา อาโปธาตูติ อธิปฺปาโย, วุตฺตสฺส วา โผฏฺพฺพายตนสฺส อตีตตาย ปจฺฉิมตา, อนาคตตาย จ อาโปธาตุยา ปุริมตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. อายูติ ชีวิตินฺทฺริยํ. กมฺมชเตชํ อุสฺมา. ยํ กิฺจิ ธาตุํ…เป… เอกปฺปหาเรน นุปฺปชฺชตีติ เอกสฺมึ ขเณ อเนกาสุ ปถวีสุ อาปาถคตาสุ ตาสุ ตาสุ สห นุปฺปชฺชติ, ตถา เตชวายูสุ จาติ อตฺโถ. อเนเกสุ อารมฺมเณสุ สนฺนิปติเตสุ อาภุชิตวเสน อารมฺมณปสาทาธิมตฺตตาวเสน จ ปมํ กตฺถจิ อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, อฺตฺถ จ ปน อุปฺปตฺติ อตฺถิ เอว. สายํ อารมฺมณโต อารมฺมณนฺตรสงฺกนฺติ เยน อุปาเยน โหติ, ตสฺส วิชานนตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘กถํ ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณโต สงฺกนฺติ โหตี’’ติ.

๖๕๑. อยปิณฺฑิอาทีสุ ปถวีธาตุ ตาทิสาย อาโปธาตุยา อนาพทฺธา สนฺตี วิสเรยฺย, ตสฺมา ‘‘ตานิ อาโปธาตุ อาพนฺธิตฺวา พทฺธานิ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา หิ ยุตฺตปฺปมาณํ อุทกํ ปํสุจุณฺณานิ อาพนฺธิตฺวา มตฺติกาปิณฺฑํ กตฺวา เปติ, เอวํ อโยปิณฺฑิอาทีสุปิ ตทนุรูปปจฺจเยหิ ตตฺเถว อุปฺปนฺนา อาโปธาตุ ตถา อาพนฺธิตฺวา เปตีติ ทฏฺพฺพา.

อผุสิตฺวา ปติฏฺา โหตีติ อาโปธาตุยา อโผฏฺพฺพภาวโต วุตฺตํ, ตถา ‘‘อผุสิตฺวาว อาพนฺธตี’’ติ. น หิ ยถา โผฏฺพฺพธาตูนํ โผฏฺพฺพภาเวน อฺมฺนิสฺสยตา, เอวํ โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ โหตีติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อวินิพฺโภควุตฺตีสุ หิ ภูเตสุ อฺมฺนิสฺสยตา อฺมฺปจฺจยภูเตสุ น สกฺกา นิวาเรตุํ, นาปิ สหชาเตสุ อวินิพฺโภคตาย เอกีภูเตสุ ผุสนาผุสนานิ วิจาเรตุํ ยุตฺตานีติ. น อุณฺหา หุตฺวา ฌายตีติ เตโชสภาวตํเยว ปฏิกฺขิปติ, น สีตตฺตํ อนุชานาติ, เตโชสภาวปฏิกฺเขเปเนว จ สีตตฺตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. เตโช เอว หิ สีตํ หิมปาตสมยาทีสุ สีตสฺส ปริปาจกตาทสฺสนโต, สีตุณฺหานฺจ อฺมฺปฏิปกฺขภาวโต อุณฺเหน สห น สีตํ ภูตนฺตรํ ปวตฺตตีติ ยุชฺชติ. อุณฺหกลาเป ปน สีตสฺส อปฺปวตฺติ สีตกลาเป จ อุณฺหสฺส ทฺวินฺนํ อฺมฺปฏิปกฺขตฺตา เตโชวิเสสภาเว ยุชฺชตีติ. ภาวฺถตฺตนฺติ ขรานํ คุฬาทีนํ ทวตา มุทุตา รสาทีนฺจ ทวานํ ขรตา ปจฺจยวิเสเสหิ โอมตฺตาธิมตฺตปถวีธาตุอาทิกานํ อุปฺปตฺติ. ลกฺขณฺถตฺตํ กกฺขฬาทิลกฺขณวิชหนํ, ตํ เอเตสํ น โหติ, โอมตฺตาธิมตฺตตาสงฺขาตํ ภาวฺถตฺตํเยว โหตีติ อตฺโถ.

๖๕๒. อนุปาทินฺนาทีนํเยวาติ เอกนฺตอนุปาทินฺนเอกนฺตนจิตฺตสมุฏฺานาทีนํ นิทฺเทเสสุ คหเณสุ คหิตาติ อตฺโถ. ยํ วา ปนฺมฺปีติ ปน วจเนน ปุริมานมฺปิ นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวาทิกํ ทีเปติ. ตา หิ อนุปาทินฺนาทินกมฺมสฺสกตตฺตาทิวจนานํ สมานตฺถตฺตา เอเกน อวตฺตพฺพตฺเต อิตเรนปิ อวตฺตพฺพา สิยุํ, วตฺตพฺพตฺเต วา วตฺตพฺพา. ตสฺมา เอกนฺตากมฺมชาทีสฺเวว คเหตพฺพตฺตา ตา อเนกนฺเตสุ น คหิตาติ ทฏฺพฺพา.

๖๖๖. เอกนฺต …เป… ปฺายติ เตสํ วิการตฺตา, อนิปฺผนฺนตฺตา ปน ตสฺส อุปฺปาโท น เกนจิ สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๖. ปจฺฉิมปทสฺสาติ วิฺาตปทสฺส. สพฺพเมว หิ รูปํ วิฺาตนฺติ ตสฺส อภินฺทิตพฺพตฺตา วิฺาตโต อฺํ ทิฏฺํ สุตํ มุตฺจ น โหตีติ ปุจฺฉํ อกตฺวาว วิสฺสชฺชิตํ. น หิ สกฺกา วิฺาตโต อฺํ ‘‘กตมํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตุนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา หิ ทฺวีสุ อุทฺทิฏฺเสุ โนปาทโต อฺตฺตํ สนฺธาย ‘‘กตมํ ตํ รูปํ อุปาทา’’ติ ปุจฺฉิตํ, เอวํ ทิฏฺาทีสุ จตูสุ อุทฺทิฏฺเสุ สุตาทีหิ ตีหิปิ อฺตฺตํ สนฺธาย ‘‘กตมํ ตํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพํ สิยา, ตทภาโว น ปุจฺฉิตํ, เอวํ สุตาทีสุปีติ. ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต ปน ทิฏฺาทีหิ อฺสฺส วิฺาตสฺส สพฺภาวโต จ จตุกฺโก วุตฺโต.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๖๙. เตโชภาวํ คตนฺติ สภาเวเนว เตโชภาวํ ปตฺตนฺติ อตฺโถ. วุตฺตสฺสปิ อฺเน ปกาเรน สงฺคหารหสฺส สงฺคณฺหนํ นยกรณํ อิธ ทฏฺพฺพํ, ตยิทํ ‘‘วิฺาต’’นฺติ จตุกฺกปเทปิ โยเชตพฺพํ. โผฏฺพฺพสฺส เภทสพฺภาโว อฏฺเก นโย.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

๙๗๕. นตฺถิ นีวรณาติ วจเนน มิทฺธสฺสปิ นีวรณสฺส ปหานํ วุตฺตํ, น จ รูปํ ปหาตพฺพํ, น จ รูปกายเคลฺํ มุนิโน นตฺถีติ สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ปิฏฺิ เม อาคิลายติ, ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๒) วจนโต. สวิฺาณกสทฺโทติ วิฺาเณน ปวตฺติโต วจีโฆสาทิสทฺโท. น หิ เอตานิ ชายนฺตีติ ปริปจฺจมานสฺส รูปสฺส ปริปจฺจนํ ชรา, ขียมานสฺส ขโย อนิจฺจตาติ รูปภาวมตฺตานิ เอตานิ, น สยํ สภาววนฺตานีติ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา ชายมานสฺส ชนนํ ชาติ, สา จ รูปภาโวว, น สยํ สภาววตีติ ‘‘น ปน ปรมตฺถโต ชาติ ชายตี’’ติ วุตฺตํ.

เตสํ ปจฺจโย เอติสฺสาติ ตปฺปจฺจยา, ตปฺปจฺจยาย ภาโว ตปฺปจฺจยภาโว, ตปฺปจฺจยภาเวน ปวตฺโต โวหาโร ตปฺปจฺจยภาวโวหาโร, ตํ ลภติ. อภินิพฺพตฺติตธมฺมกฺขณสฺมินฺติ อภินิพฺพตฺติยมานธมฺมกฺขณสฺมินฺติ อธิปฺปาโย. น หิ ตทา เต ธมฺมา น ชายนฺตีติ ชายมานภาโวว ชาตีติ ยุตฺตา ตสฺสา กมฺมาทิสมุฏฺานตา ตํนิพฺพตฺตตา จ, น ปน ตทา เต ธมฺมา ชียนฺติ ขียนฺติ จ, ตสฺมา น เตสํ เต ชีรณภิชฺชนภาวา จิตฺตาทิสมุฏฺานา ตํนิพฺพตฺตา จาติ วจนํ อรหนฺติ. เอวมปิ อุปาทินฺน-สทฺโท อุเปเตน กมฺมุนา อาทินฺนตํ วทติ, น นิพฺพตฺตินฺติ อุปาทินฺนปากเภทานํ อุปาทินฺนตา เตสํ วตฺตพฺพาติ เจ? น, อาทินฺน-สทฺทสฺส นิพฺพตฺติวาจกตฺตา. อุเปเตน นิพฺพตฺตฺหิ อุปาทินฺนนฺติ ปจฺจยานุภาวกฺขณฺจ นิพฺพตฺติฺจ คเหตฺวาว ปวตฺโต อยํ โวหาโร ตทา อภาวา ชรามรเณ น ปวตฺตตีติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ชรามรณตฺตา เตสํ อุปฺปาเท สติ ชรามรณํ โหติ, อสติ น โหติ. น หิ อชาตํ ปริปจฺจติ ภิชฺชติ วา, ตสฺมา ชาติปจฺจยตํ สนฺธาย ‘‘ชรามรณํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ.

นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติโตติ ชายมานปริปจฺจมานภิชฺชมานานํ ชายมานาทิภาวมตฺตตฺตา ชายมานาทินิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติกา ชาติอาทโยติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ อุปาทายรูปานฺจ จกฺขายตนาทีนํ อุปฺปาทาทิสภาวภูตา ชาติอาทโย ตํนิสฺสิตา โหนฺตีติ ภูตนิสฺสิตานํ เตสํ ลกฺขณานํ อุปาทายภาโว วิย อุปาทายรูปนิสฺสิตานํ อุปาทายุปาทายภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น, ภูตปฏิพทฺธอุปาทายรูปลกฺขณานฺจ ภูตปฏิพทฺธภาวสฺส อวินิวตฺตนโต. อปิจ เอกกลาปปริยาปนฺนานํ รูปานํ สเหว อุปฺปาทาทิปฺปวตฺติโต เอกสฺส กลาปสฺส อุปฺปาทาทโย เอเกกาว โหนฺตีติ ยถา เอเกกสฺส กลาปสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ กลาปานุปาลกํ ‘‘อุปาทายรูป’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ กลาปุปฺปาทาทิสภาวา ชาติอาทโย ‘‘อุปาทายรูปานิ’’จฺเจว วุจฺจนฺติ. เอวํ วิการปริจฺเฉทรูปานิ จ โยเชตพฺพานิ.

กมฺมสมุฏฺานสมฺพนฺธํ อุตุสมุฏฺานํ กมฺมวิเสเสน สุวณฺณทุพฺพณฺณสุสณฺิตทุสฺสณฺิตาทิวิเสสํ โหตีติ ‘‘กมฺมปจฺจย’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมวิปากานุภวนสฺส การณภูตํ พาหิรอุตุสมุฏฺานํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ. กมฺมสหาโย ปจฺจโย, กมฺมสฺส วา สหายภูโต ปจฺจโย กมฺมปจฺจโย, โสว อุตุ กมฺมปจฺจยอุตุ, โส สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานนฺติ วจนตฺโถ. สีเต อุณฺเห วา กิสฺมิฺจิ อุตุมฺหิ สมาคเต ตโต สุทฺธฏฺกํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส โส อุตุ สมุฏฺานํ. ทุติยสฺส สุทฺธฏฺกสฺส อุตุสมุฏฺานิกปฏิพนฺธกสฺส โส เอว ปุริโม อุตุ ปจฺจโย. ตติยํ ปน สุทฺธฏฺกํ ปุริมอุตุสหาเยน อุตุนา นิพฺพตฺตตฺตา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ‘‘อุตุปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมยํ ปุริโม อุตุ ติสฺโส สนฺตติโย ฆฏฺเฏติ, ตโต ปรํ อฺอุตุสมาคเม อฺสนฺตติตฺตยํ, ตโต จ อฺเน อฺนฺติ เอวํ ปวตฺติ ทฏฺพฺพา. ตเทตํ สีตุณฺหานํ อปฺปพหุภาเว ตํสมฺผสฺสสฺส อจิรปฺปวตฺติยา จิรปฺปวตฺติยา จ เวทิตพฺพํ, อนุปาทินฺเนน ทีปนา น สนฺตติตฺตยวเสน, อถ โข เมฆสมุฏฺาปกมูลอุตุวเสน ปการนฺตเรน ทฏฺพฺพา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุตุสมุฏฺาโน นาม วลาหโก’’ติอาทิมาห. รูปรูปานํ วิการาทิมตฺตภาวโต อปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตา. เตสฺหิ รูปวิการาทิภาวโต รูปตาติ อธิปฺปาโย. รูปวิการาทิภาวโต เอว ปน รูเป สติ สนฺติ, อสติ น สนฺตีติ อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ.

รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิกฺเขปกณฺฑํ

ติกนิกฺเขปกถาวณฺณนา

๙๘๕. สพฺเพสนฺติ จิตฺตุปฺปาทวเสน รูปาสงฺขตวเสน จ ภินฺนานํ สพฺเพสํ ผสฺสาทิจกฺขาทิปทภาชนนเยน วิตฺถาริโต. ตตฺถ ปน อสงฺขตสฺส เภทาภาวโต อสงฺขตา ธาตูตฺเวว ปทภาชนํ ทฏฺพฺพํ. เยวาปนกานํ ปน สุขุมุปาทายรูปสฺส จ อินฺทฺริยวิการปริจฺเฉทลกฺขณรูปุปตฺถมฺภกภาวรหิตสฺส หทยวตฺถุสฺส ปทุทฺธาเรน อิธ นิทฺเทสานรหตฺตา นิทฺเทโส น กโตติ ทฏฺพฺโพ. น หิ ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺิ อตฺถีติ. นิกฺขิปิตฺวาติ วิตฺถารเทสนํ เปตฺวา, อปเนตฺวาติ อตฺโถ, วิตฺถารเทสนํ อนฺโตคธํ กตฺวาติ วา. คาถาตฺโถ นิทาเน วุตฺโต เอว.

มูลวเสน ปจฺจยภาโว เหตุปจฺจยตฺโถ. ปภวติ เอตสฺมาติ ปภโว, โส เอว ‘‘ชนโก’’ติ วิเสสิโต. สมุฏฺาติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ, ตสฺส วิเสสนํ นิพฺพตฺตกนฺติ. สพฺพานิ วา เอตานิ ปริยายวจนานิ. อตฺถวเสนาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ กุสลมูลานํ เหตุภาวโต ธมฺมวเสนาติ ยุตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, อโลภาทีนํ ปน ติณฺณํ สมานสฺส มูลฏฺสฺส วเสน ทสฺสิตตํ สนฺธาย ‘‘อตฺถวเสนา’’ติ วุตฺตํ. อิมินา ธมฺโมติ ภาโว, อตฺโถติ ธมฺมกิจฺจํ อธิปฺเปตนฺติ วิฺายติ. ‘‘อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๓.๓๔) ตานิ กุสลมูลานิ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติปิ ตํสมุฏฺานํ. ตํ ปน เตหิ สมุฏฺิตํ โหตีติ ‘‘อโลภาทีหิ สมุฏฺิต’’นฺติ อาห. เต กุสลมูลตํสมฺปยุตฺตา สมุฏฺานํ เอตสฺสาติปิ อตฺโถ สมฺภวติ. เอตฺถ ปน เจตนํ เปตฺวา อฺเ ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ สมุฏฺานภาเว วตฺตพฺพา. ตตฺถ มูเลหิ อตฺตโน ปจฺจยโต กุสเล ปริยาทิยติ, ขนฺเธหิ สภาวโต, กมฺเมหิ อฺสฺส นิพฺพตฺตนกิจฺจโต. มูเลหิ จ กุสลานํ อนวชฺชตาย เหตุํ ทสฺเสติ, ขนฺเธหิ ตํสมฺปโยคกตํ อนวชฺชสภาวํ, กมฺเมหิ สุขวิปากตํ. มูเลหิ วา นิทานสมฺปตฺติยา อาทิกลฺยาณตํ, ขนฺเธหิ สภาวสมฺปตฺติยา มชฺเฌกลฺยาณตํ, กมฺเมหิ นิพฺพตฺติสมฺปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาณตํ.

๙๘๖. ตํ …เป… อุทฺธํ อกุสลํ นาม นตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตโมโห อตฺถีติ? สจฺจเมตํ, เตน ปน วินา ตํสมฺปยุตฺตตา นตฺถีติ ตํสมฺปยุตฺเตสุ คหิเตสุ โมโห คหิโต เอวาติ กตฺวา ‘‘ตโต อุทฺธํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ อฺตฺถ อภาวา. เอกสฺมึ ิตํ เอกฏฺํ, สหชภาเวน เอกฏฺํ สหเชกฏฺํ. ปหาตพฺพนฺติ ปหานํ, ปหานภาเวน เอกฏฺํ ปหาเนกฏฺํ. เยน หิ ยํ สห ปหาตพฺพํ, เตน ตํ เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตํ โหติ, เอกสฺมึ สมุจฺฉินฺเน อสมุจฺฉินฺเน จ อิตรสฺส สมุจฺฉินฺนตาย อสมุจฺฉินฺนตาย จ วเสน อฺมฺาวิรหิตโต.

๙๘๗. ตีณิ ลกฺขณานีติ อนิจฺจทุกฺขอนตฺตตา. นามกสิณสตฺตปฺตฺติโย ติสฺโส ปฺตฺติโย. ปรมตฺเถ อมุฺจิตฺวา โวหริยมานา วิหารมฺจาทิกา อุปาทาปฺตฺติ สตฺตปฺตฺติคฺคหเณน คหิตาติ เวทิตพฺพา, เอตานิ จ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา ทฺวีสุ กณฺเฑสุ วิฺตฺติอาทีนิ วิย น วุตฺตานิ, น จ สภาวธมฺมาติ กตฺวา น ลพฺภนฺตีติ วุตฺตานิ. น หิ โกจิ สภาโว กุสลตฺติกาสงฺคหิโตติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ.

๙๘๘. สุขภูมีติ กามาวจราทโยปิ ยุชฺชนฺติ. สุขสหคตา หิ กามาวจราทิภูมิ สุขภูมิ. กามาวจราทิภูมีติ จ กามาวจราทิตาย ธมฺมา เอว วุจฺจนฺตีติ กามาวจราทิจิตฺตุปฺปาเทสูติ อตฺถโต วิฺายติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สุขภูมิย’’นฺติ วตฺวา ตสฺสา เอว วิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘กามาวจเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภูมิ-สทฺโท จ อภิธมฺเม กามาวจราทีสุ นิรุฬฺโหติ ‘‘จตูสุ ภูมีสุ กุสล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๘๔) อฺภูมิคฺคหณํ น โหตีติ. ปาฬิโต จาติ ‘‘วิสิฏฺานํ ปากาติ วิปากา’’ติอาทิวจนตฺถวิภาวเนน ปาฬิโต. ‘‘วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานเมตํ อธิวจน’’นฺติอาทินา ภาสิตตฺถวิภาวเนน อตฺถโต จ. นามปริจฺเฉทาทีหิ ติกทุกานํ ววตฺถานทสฺสเนน วา ปาฬิโต, ตทตฺถวิฺาปเนน อตฺถโต.

๙๙๑. สาลิผลนฺติ สาลิปากมาห.

๙๙๔. อมฺหากํ มาตุลตฺเถโรติ ปุคฺคลารมฺมณสฺสปิ อุปาทานสฺส อุปาทานกฺขนฺธา เอว ปจฺจโย, น โลกุตฺตรา, โก ปน วาโท ขนฺธารมฺมณสฺส. เตนาห ‘‘อคฺคหิตานี’’ติ.

๙๙๘. ยถา อุปาทาเนหิ อคฺคเหตพฺพา อนุปาทานิยา, เอวํ สํกิเลเสหิ อคฺคเหตพฺพา อสํกิเลสิกาติ กตฺวา ‘‘อสํ…เป… เอเสว นโย’’ติ อาห.

๑๐๐๖. ทิฏฺิยา คหิโต อตฺตา น วิชฺชติ. เยสุ ปน วิปลฺลตฺถคาโห, เต อุปาทานกฺขนฺธาว วิชฺชนฺติ. ตสฺมา ยสฺมึ อวิชฺชมานนิจฺจาทิวิปริยาสาการคหณํ อตฺถิ, โสว อุปาทานกฺขนฺธปฺจกสงฺขาโต กาโย. ตตฺถ นิจฺจาทิอาการสฺส อวิชฺชมานตาทสฺสนตฺถํ รุปฺปนาทิสภาวสฺเสว จ วิชฺชมานตาทสฺสนตฺถํ วิชฺชมาโน กาโยติ วิเสเสตฺวา วุตฺโต, โลกุตฺตรา ปน น กทาจิ อวิชฺชมานากาเรน คยฺหนฺตีติ น อิทํ วิเสสนํ อรหนฺติ. สกฺกาเย ทิฏฺิ, สตี วา กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ. อตฺตนา คหิตาการสฺส อวิชฺชมานตาย สยเมว สตี, น ตาย คหิโต อตฺตา อตฺตนิยํ วาติ อตฺโถ. อยํ ปนตฺโถ สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺโต, ปุริโม เอว ปน ปธาโน. ทุติเย หิ ทิฏฺิยา วตฺถุ อวิเสสิตํ โหติ. กาโยติ หิ ขนฺธปฺจเก วุจฺจมาเน โลกุตฺตราปนยนํ นตฺถิ. น หิ โลกุตฺตเรสุ กาย-สทฺโท น วตฺตติ. กายปสฺสทฺธิอาทีสุ หิ โลกุตฺตเรสุ กาย-สทฺโทปิ โลกุตฺตรกฺขนฺธวาจโกติ. สีเลนาติ สุทฺธิยา อเหตุภูเตน สีเลน. คหิตสมาทานนฺติ อุปฺปาทิตปรามาโสว. โส หิ สมาทิยนฺติ เอเตน กุกฺกุรสีลวตาทีนีติ ‘‘สมาทาน’’นฺติ วุตฺโต. ตตฺถ อวีติกฺกมนียตาย สีลํ, ภตฺติวเสน สตตํ จริตพฺพตาย วตํ ทฏฺพฺพํ.

๑๐๐๗. อิเธว ติฏฺมานสฺสาติ อิมิสฺสาเยว อินฺทสาลคุหายํ ติฏฺมานสฺส. วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. อตฺถปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉา. กุสเลหิ สห โจทนาปริหรณวเสน วินิจฺฉยกรณํ วินิจฺฉโย. พหูนํ นานปฺปการานํ สกฺกายทิฏฺีนํ อวิหตตฺตา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ ชนิตาติ วา ปุถุชฺชนา. อวิฆาตเมว วา ชน-สทฺโท วทติ. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ เอตฺถ ปุถู ชนา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนาติ วจนตฺโถ. ปุถุ…เป… อวุฏฺิตาติ เอตฺถ ชเนตพฺพา, ชายนฺติ วา เอตฺถาติ ชนา, คติโย. ปุถู ชนา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. อิโต ปเร ชายนฺติ เอเตหีติ ชนา, อภิสงฺขาราทโย. เต เอเตสํ ปุถู วิชฺชนฺตีติ ปุถุชฺชนา. อภิสงฺขรณาทิอตฺโถ เอว วา ชน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ราคคฺคิอาทโย สนฺตาปา. เต เอว สพฺเพปิ วา กิเลสา ปริฬาหา. ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสูติ เอตฺถ ชายตีติ ชโน, ‘‘ราโค เคโธ’’ติ เอวมาทิโก. ปุถุ ชโน เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. ปุถูสุ วา ชนา ชาตา รตฺตาติ เอวํ ราคาทิอตฺโถ เอว ชน-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ปลิพุทฺธาติ สมฺพทฺธา อุปทฺทุตา วา. อสฺสุตวาติ เอเตน อนฺธตา วุตฺตาติ ‘‘อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต’’ติ อาห.

อนเยติ อวฑฺฒิยํ. สพฺพตฺถ นิรุตฺติลกฺขเณน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อเนเกสุ จ กปฺปสตสหสฺเสสุ กตํ ชานนฺติ, ปากฏฺจ กโรนฺติ อุปการํ สติชนนอามิสปฏิคฺคหณาทินา ปจฺเจกสมฺพุทฺธา, ตเถว ทุกฺขิตสฺส สกฺกจฺจํ กาตพฺพํ กโรนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อสงฺขฺเยยฺยอปฺปเมยฺเยสุปิ กตํ อุปการํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสยฺจ ชานาติ, ปากฏฺจ กโรติ, สีโห วิย จ ชวํ สพฺพตฺถ สกฺกจฺจเมว ธมฺมเทสนํ กโรติ. อริยภาโวติ เยหิ โยคโต อริยา วุจฺจนฺติ, เต มคฺคผลธมฺมา ทฏฺพฺพา. อริยกรธมฺมา อนิจฺจทสฺสนาทโย, วิปสฺสิยมานา วา อนิจฺจาทโย.

โสตานีติ ตณฺหาทิฏฺิกิเลสทุจฺจริตอวิชฺชาโสตานิ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วจเนน โสตานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทาณนฺติ วิฺายติ. ขนฺตีติ อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา ขนฺธา. ปฺาติ เอเก, อโทโส เอว วา. กายทุจฺจริตาทีนนฺติ ทุสฺสีลฺยสงฺขาตานํ กายวจีทุจฺจริตานํ มุฏฺสฺสจฺจสงฺขาตสฺส ปมาทสฺส อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปาปกานํ อกฺขนฺติอฺาณโกสชฺชานฺจ. อนุเปกฺขา สงฺขาเรหิ อวิวฏฺฏนํ, สาลยตาติ อตฺโถ. ธมฺมฏฺิติยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ปฏิโลมภาโว สสฺสตุจฺเฉทคาโห, ตปฺปฏิจฺฉาทกโมโห วา. นิพฺพาเน ปฏิโลมภาโว สงฺขาเรสุ รติ, นิพฺพานปฏิจฺฉาทโก โมโห วา. สงฺขารนิมิตฺตคฺคาโหติ ยาทิสสฺส กิเลสสฺส อปฺปหีนตฺตา วิปสฺสนา สงฺขารนิมิตฺตํ น มุฺจติ, โส กิเลโส ทฏฺพฺโพ. สงฺขารนิมิตฺตคฺคหณสฺส อติกฺกมนํ วา ปหานํ.

จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ยํ ปหานนฺติ โยชนา เวทิตพฺพา. เกน ปน ปหานนฺติ? อริยมคฺเคเหวาติ วิฺายมาโน อยมตฺโถ เตสํ ภาวิตตฺตา อปฺปวตฺติวจเนน. สมุทยปกฺขิกสฺสาติ เอตฺถ จตฺตาโรปิ มคฺคา จตุสจฺจาภิสมยาติ กตฺวา เตหิ ปหาตพฺเพน เตน เตน สมุทเยน สห ปหาตพฺพตฺตา สมุทยสภาคตฺตา จ สจฺจวิภงฺเค จ สพฺพกิเลสานํ สมุทยภาวสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สมุทยปกฺขิกา’’ติ ทิฏฺิอาทโย วุจฺจนฺติ. กายวาจาจิตฺตานํ วิรูปปฺปวตฺติยา นยนํ อปยาปนํ, กายทุจฺจริตาทีนํ วินาสนยนํ วา วินโย, เตสํ วา ชิมฺหปฺปวตฺตึ วิจฺฉินฺทิตฺวา อุชุกนยนํ วินยนํ. เอเสเสติ เอโส โส เอว, อตฺถโต อนฺโติ อตฺโถ. ตชฺชาเตติ อตฺถโต ตํสภาโวว. สปฺปุริโส อริยสภาโว, อริโย จ สปฺปุริสภาโวติ อตฺโถ.

อทฺวยนฺติ ทฺวยตารหิตํ, วณฺณเมว ‘‘อจฺจี’’ติ คเหตฺวา อจฺจึ วา ‘‘วณฺโณ เอวา’’ติ เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต วิย ยถาตกฺกิตํ อตฺตานํ ‘‘รูป’’นฺติ, ยถาทิฏฺํ วา รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา เตสํ เอกตฺตํ ปสฺสนฺโต ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติ อิมิสฺสา ปวตฺติยา อภาเวปิ รูเป อตฺตคฺคหณํ ปวตฺตมานํ อจฺจิยํ วณฺณคฺคหณํ วิย. อุปมาโย จ อนฺตฺตาทิคฺคหณนิทสฺสนวเสเนว วุตฺตา, น วณฺณาทีนํ วิย อตฺตโน วิชฺชมานตฺตสฺส, อตฺตโน วิย วา วณฺณาทีนํ อวิชฺชมานตฺตสฺส ทสฺสนตฺถํ.

๑๐๐๘. สรีรนิปฺผตฺติยาติ สรีรปาริปูริยา. นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต วิจินนฺโต กิจฺฉตีติ วิจิกิจฺฉา. อิทปฺปจฺจยานํ ภาโวติ ชาติอาทิสภาวเมว อาห, ชาติอาทีนํ วา ชรามรณาทิอุปฺปาทนสมตฺถตํ. สา ปน ชาติอาทิวินิมุตฺตา นตฺถีติ เตสํเยวาธิวจนํ โหติ ‘‘อิทปฺปจฺจยตา’’ติ.

๑๐๐๙. อิธ อนาคตกิเลสา ‘‘ตเทกฏฺา กิเลสา’’ติ วุจฺจนฺตีติ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อิมิสฺสา จ ปาฬิยา’’ติอาทิ อารทฺธํ. สหเชกฏฺวเสนาติ ตตฺถ อุปฺปนฺนทิฏฺิยา สหเชกฏฺวเสนาติ อตฺถโต วิฺายติ. ตํสมฺปยุตฺโตติ เตหิ สํโยชนกิเลเสหิ สมฺปยุตฺโตติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ. ตถา เต สํโยชนกิเลสา สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ ตํสมุฏฺานนฺติ วา. สํโยชนรหิเตหิ จ ปน กิเลเสหิ สมฺปยุตฺตานํ สมุฏฺิตานฺจ สพฺภาวโต กิเลเสเหว โยชนา กตา.

๑๐๑๑. สํโยชนาทีนํ วิยาติ สํโยชนตเทกฏฺกิเลสาทีนํ ยถาวุตฺตานํ วิย. เตหีติ ทสฺสนภาวนามคฺเคหิ. อภิสงฺขารวิฺาณํ กุสลากุสลํ, นามรูปฺจ วิปากนฺติ กตฺวา ‘‘กุสลาทีนมฺปิ ปหานํ อนุฺาต’’นฺติ อาห.

๑๐๑๓. เหตู เจวาติ ‘‘ปหาตพฺพเหตุกา’’ติ เอตสฺมึ สมาสปเท เอกเทเสน สมาสปทตฺถํ วทติ. เอตฺถ จ ปุริมนเยน ‘‘อิเม ธมฺมา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกา’’ติ อิเมเยว ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกา, น อิโต อฺเติ อยํ นิยโม ปฺายติ, น อิเม ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาเยวาติ. ตสฺมา อิเมสํ ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกภาโว อนิยโต วิจิกิจฺฉาสหคตโมหสฺส อเหตุกตฺตาติ ปุริมนโย วิวรณียตฺถวา โหติ. ตสฺมา ปุริมนเยน ธมฺมโต ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุเก นิกฺขิปิตฺวา อตฺถโต นิกฺขิปิตุํ ทุติยนโย วุตฺโต.

๑๐๒๙. มหคฺคตา วา อิทฺธิวิธาทโย. อปฺปมาณารมฺมณา มหคฺคตา เจโตปริยปุพฺเพนิวาสานาคตํสาณสมฺปยุตฺตา.

๑๐๓๕. อนนฺตเร นิยุตฺตานิ, อนนฺตรผลปฺปโยชนานิ, อนนฺตรผลกรณสีลานิ วา อานนฺตริกานิ. ตานิ ปน ปฏิปกฺเขน อนิวารณียผลตฺตา อนฺตรายรหิตานีติ ‘‘อนนฺตราเยน ผลทายกานี’’ติ วุตฺตํ. อนนฺตรายานิ วา อานนฺตริกานีติ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอกสฺมิมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อเนกสฺมิมฺปิ อายูหิเต วตฺตพฺพเมวนตฺถีติ ทสฺเสติ. น จ เตสํ อฺมฺปฏิพาหกตฺตํ อตฺถิ อปฺปฏิปกฺขตฺตา, อปฺปฏิปกฺขตา จ สมานผลตฺตา อนุพลปฺปทานโต จ. ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) เอวมาทิโก อเหตุกวาโท. ‘‘กโรโต โข การยโต ฉินฺทโต เฉทาปยโต…เป… กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอวมาทิโก อกิริยวาโท. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๒.๙๔; ๓.๙๑) เอวมาทิโก นตฺถิกวาโท. เอเตสุ ปุริมวาโท พนฺธโมกฺขานํ เหตุํ ปฏิเสเธติ, ทุติโย กมฺมํ, ตติโย วิปากนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. ตฺหีติ อเหตุกาทินิยตมิจฺฉาทิฏฺึ, น ปน นิยตภาวํ อปฺปตฺตํ.

๑๐๓๙. ปจฺจยฏฺเนาติ มคฺคปจฺจยสงฺขาเตน สมฺปโยควิสิฏฺเน ปจฺจยภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ มคฺคงฺคานํ ปนํ มคฺคปจฺจยภาวรหิเต มคฺคเหตุเก ทสฺเสตุํ, เตน มคฺคเหตุเก อสงฺกรโต ววตฺถเปติ. สเจ ปน โกจิ วเทยฺย ‘‘เอเกกํ องฺคํ เปตฺวา ตํตํสมฺปยุตฺตานํ มคฺคเหตุกภาเวปิ ‘มคฺคงฺคานิ เปตฺวา’ติ อิทํ วจนํ ยุชฺชตี’’ติ. เอวฺหิ สติ ตติยนเย วิย อิธาปิ ‘‘เปตฺวา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺเจตํ, ตสฺมา วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ. มคฺคงฺคามคฺคงฺคานฺหิ สมฺปยุตฺตานํ วิเสสทสฺสนตฺโถ อยํ นโยติ. เสสมคฺคงฺคานํ ปุพฺเพ ปิตานนฺติ อธิปฺปาโย. ผสฺสาทีนฺหิ ปุริมนเยปิ มคฺคเหตุกตา สิทฺธาติ.

สมฺมาทิฏฺิยา ทุติยนเยปิ ปิตาย ตติยนเย สเหตุกภาโว ทสฺสิโต. กถํ ทสฺสิโต, นนุ อริยมคฺคสมงฺคิสฺส ‘‘อโลโภ อโทโส อิเม ธมฺมา มคฺคเหตู’’ติ (ธ. ส. ๑๐๓๙) อวตฺวา ‘‘อโลโภ อโทโส อโมโห อิเม ธมฺมา มคฺคเหตู’’ติ วิสุํ สมฺมาทิฏฺิอาทิเก มคฺคเหตู ทสฺเสตฺวา ‘‘ตํสมฺปยุตฺโต…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (ธ. ส. ๑๐๓๙) วิสุํ มคฺคเหตุกานํ ทสฺสิตตฺตา ‘‘มคฺคเหตูสุ อโมโห’’ติ (ธ. ส. ๑๐๓๙) วุตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา มคฺคเหตุกตา น ทสฺสิตา สิยา? โน น ทสฺสิตา. ยถา หิ ตีณิ สํโยชนานิ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตเทกฏฺโ โลโภ โทโส โมโห, อิเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตู’’ติ (ธ. ส. ๑๐๑๗) วิสุํ ปหาตพฺพเหตู นิยเมตฺวา ‘‘ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติอาทิวจเนน (ธ. ส. ๑๐๑๗) โลภโทสโมหา จ อฺมฺสหเชกฏฺา อฺมฺสมฺปยุตฺตา สงฺขารกฺขนฺธภูตา จ ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาติ ทสฺสิตา โหนฺติ, เอวมิธาปิ ‘‘อโลภาทโย อิเม ธมฺมา มคฺคเหตู’’ติ นิคมิตาปิ อฺมฺสมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธภาวโต ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธวจเนน ‘‘มคฺคเหตุกา’’ติ ทสฺสิตา เอวาติ สิทฺธํ โหติ, สมฺมาทิฏฺิยาปิ อโมโหติ วุตฺตาย มคฺคเหตุกภาวทสฺสนํ. สเจ ปน โย ทุติยนเย มคฺโค เจว เหตุ จาติ วุตฺโต, ตโต อฺสฺเสว อฺเน อสาธารเณน ปริยาเยน มคฺคเหตุภาวํ ทสฺเสตฺวา ตํสมฺปโยคโต สมฺมาทิฏฺิยา มคฺคเหตุกภาวทสฺสนตฺโถ ตติยนโย สิยา. ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส อโลโภ อโทโส อิเม ธมฺมา มคฺคเหตู’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา. ยสฺมา ปน ‘‘มคฺคเหตู’’ติ อิมินา อฺเน สาธารเณน ปริยาเยน เยสํ มคฺคเหตุภาโว สมฺภวติ, เต สพฺเพ ‘‘มคฺคเหตู’’ติ ทสฺเสตฺวา ตํสมฺปยุตฺตานํ เตสํ อฺเสฺจ มคฺคเหตุกภาวทสฺสนตฺโถ ตติยนโย, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อโมโห’’ติปิ วุตฺตํ. น หิ โส มคฺคเหตุ น โหตีติ. อิเม ปน ตโยปิ นยา อตฺถวิเสสวเสน นิกฺขิตฺตตฺตา อตฺถโต นิกฺเขปา ทฏฺพฺพา. อถ วา สรูเปน วจนํ ธมฺมโต นิกฺเขโป, อตฺเถน อตฺถโตติ เอวมฺปิ โยชนา สมฺภวติ. ตตฺถ ทุติยตติยนยา สรูปโต เหตุเหตุมนฺตุทสฺสนวเสน ธมฺมโต นิกฺเขโป. ปมนโย ตถาอทสฺสนโต อตฺเถน จ มคฺคงฺคตํสมฺปยุตฺตานํ เหตุเหตุมนฺตุภาวาวคมนโต อตฺถโต นิกฺเขโปติ.

๑๐๔๐. ยสฺมึ สภาวธมฺเม นินฺนโปณปพฺภารภาเวน จิตฺตํ ปวตฺตติ, โส ตสฺส อารมฺมณาธิปติ เวทิตพฺโพ. เจโตปริยาเณน ชานิตฺวา ปจฺจเวกฺขมาโน เตน ปจฺจเวกฺขมาโนติ วุตฺโต. เอตฺถาปีติ เอตสฺมิมฺปิ อฏฺกถาวจเน, เอตฺถ วา ปฏฺาเน มคฺคาทีนิ เปตฺวา อฺเสํ อธิปติปจฺจยภาวสฺส อวจเนเนว ปฏิกฺเขปปาฬิยํ. อยเมวตฺโถติ อตฺตโน มคฺคผลํ เปตฺวาติ อตฺโถ. วีมํสาธิปเตยฺยนฺติ ปธาเนน อธิปตินา สหชาตาธิปติ นิทสฺสิโต, ตยิทํ นยทสฺสนมตฺตเมว โหตีติ อฺโปิ เอวํปกาโร สหชาโต มคฺคาธิปติ นิทสฺสิโต โหติ, ตสฺมา วีริยาธิปเตยฺยนฺติ จ โยเชตพฺพํ. อิทมฺปิ หิ อตฺถโต วุตฺตเมวาติ.

๑๐๔๑. อตฺตโน สภาโว อตฺตภาโว. ลทฺโธกาสสฺส กมฺมสฺส วิปาโก กปฺปสหสฺสาติกฺกเม อุปฺปชฺชติ อเนกกปฺปสหสฺสายุกานํ สตฺตานํ, กปฺปสหสฺสาติกฺกเมปิ วา ลทฺโธกาสํ ยํ ภวิสฺสติ, ตทปิ ลทฺโธกาสเมวาติ อตฺตโน วิปากํ สนฺธาย วุจฺจติ. นตฺถิ นาม น โหตีติ อนุปฺปนฺโน นาม น โหตีติ อธิปฺปาโย. อุปฺปาทีสุ อนฺโตคธตฺตา ‘‘อุปฺปาทิโน ธมฺมา’’ติ เอเตน วจเนน วุจฺจตีติ กตฺวา อาห ‘‘อุปฺปาทิโน ธมฺมา นาม ชาโต’’ติ. อรูปสงฺขาโต อตฺตาติ อรูปภวงฺคํ อาห. ตตฺถ อากาสานฺจายตนสฺาทิมโย อตฺตาติ หิ อตฺถโต โวหาโร ปวตฺโตติ.

ยทิ ปน อายู…เป… สพฺพํ วิปากํ ทเทยฺย, อลทฺโธกาสฺจ วิปากํ เทตีติ กตฺวา วิปกฺกวิปากฺจ ทเทยฺย, ตโต เอกสฺเสว กมฺมสฺส สพฺพวิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ อฺสฺส กมฺมสฺส โอกาโส น ภเวยฺย นิรตฺถกตฺตา, อุปฺปตฺติยาเยว โอกาโส น ภเวยฺย, อุปฺปนฺนสฺส วา ผลทาเน. อถ วา อลทฺโธกาสสฺส วิปากทาเน ปจฺจยนฺตรรหิตสฺสปิ วิปากทานํ อาปนฺนนฺติ อวิชฺชาตณฺหาทิปจฺจยนฺตรเขปกสฺส อฺสฺส อปจยคามิกมฺมสฺส กมฺมกฺขยกรสฺส โอกาโส น ภเวยฺย. ภาวิเตปิ มคฺเค อวิชฺชาทิปจฺจยนฺตรรหิตสฺส จ กมฺมสฺส วิปจฺจนโต สมตฺถตา น สิยาติ อตฺโถ. สพฺพทา วา วิปากปฺปวตฺติยา เอว ภวิตพฺพตฺตา วิปากโต อฺสฺส ปวตฺติโอกาโส น ภเวยฺย. ตํ ปนาติ อายูหิตํ กมฺมํ. อิทํ ปน ธุววิปากสฺส วิปาเกน อธุววิปากสฺสปิ ลทฺโธกาสสฺส วิปากํ อุปฺปาทีติ ทสฺเสตุํ อารทฺธนฺติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺ สมาปตฺติโย จ พลววิรเห อคฺคมคฺคภาวนาวิรเห จ อปฺปหีนสภาวโต ธุวํ วิปจฺจนฺตีติ ธุววิปากาติ วุตฺตา. อายูหิตกมฺเม วุจฺจมาเน อนุปฺปนฺนํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยํ อายูหิตํ ภวิสฺสติ, ตตฺถาปิ อายูหิต-สทฺทปฺปวตฺติสพฺภาวา.

๑๐๕๐. อุปาทินฺนาติ เอตฺถ น อุเปเตน อาทินฺนาติ อยมตฺโถ, อุปสทฺโท ปน อุปสคฺคมตฺตเมว, ตสฺมา อุปาทานารมฺมณา อุปาทาเนหิ, อฺเ จ อนภินิเวเสน ‘‘อหํ มคฺคํ ภาวยึ, มม มคฺโค อุปฺปนฺโน’’ติอาทิเกน คหเณน อาทินฺนา อิจฺเจว อุปาทินฺนา. อุปาทินฺน-สทฺเทน วา อมคฺคผลธมฺมาเยว วุตฺตา, อิตเรหิ มคฺคผลธมฺมา จาติ เวทิตพฺพํ.

ติกนิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา

๑๐๖๒. เมตฺตายนวเสนาติ เมตฺตาผรณวเสน. ‘‘เมตฺตยนวเสนา’’ติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เมตฺตา, เมทนํ วา เมตฺตายนํ, ตฺจ สิเนหวเสน. อนุทยตีติ อนุทาติ วตฺตพฺเพ ‘‘อนุทฺทา’’ติ ท-การาคมนํ กตฺวา วุตฺตํ. อนุทฺทายนากาโรติ อนุรกฺขณากาโร. รกฺขณฺหิ ทายนา. อนุทฺทายิตสฺสาติ อนุทฺทาย อยิตสฺส. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทึ สุณนฺตสฺส สวเน, อนิจฺจาทิโต สมฺมสนฺตสฺส สมฺมสเน, มคฺเคเนตฺถ สมฺโมหํ วิทฺธํเสนฺตสฺส ปฏิเวเธ, ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขเณติ จตูสุ กาเลสุ ทุกฺเข าณํ วตฺตติ.

๑๐๖๕. จิตฺตสฺส สํรฺชนํ จิตฺตสฺส สาราโค. คิชฺฌนฺตีติ อภิกงฺขนฺติ. สฺชํนฺตีติ พนฺธนฺติ. ลคฺคนฏฺเนาติ สํวรณฏฺเน, โอลมฺพนฏฺเน วา. ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺสาติ กามภวาทิสงฺขาตสฺส วิปากกฏตฺตารูปสฺส อภินิพฺพตฺติอตฺถํ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภาววเสน ปริกฑฺฒติ. จิตฺตมสฺส ภวนฺตเร วิธาวติ นิพฺพตฺตติ. ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวโส อฏฺสตตณฺหาวิจริตาทิภาเวน ตณฺหาปวตฺติเยว.

สริตานีติ ราควเสน อลฺลานิ. ตํสมฺปยุตฺตปีติวเสน สินิทฺธานิ สิเนหิตานิ. วิสตาติ วิตฺถตา. รูปาทีสุ เตภูมกธมฺเมสุ พฺยาปนวเสน วิสฏา. ปุริมวจนเมว ต-การสฺส ฏ-การํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสปฺปติ, สหติ วา. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาลิยมาโนปิ สหตีติ. โอสกฺกนํ, วิปฺผนฺทนํ วา วิสกฺกนนฺติ วทนฺติ. อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ปสฺสนฺตี วิวิเธหากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สงฺขิปติ. วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ วหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขเวทนามูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา ‘‘วิสปริโภคา’’ติ วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสตา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิตฺถภาวฺถาภาวนฺติ มนุสฺสภาวเทวาทิภาวภูตํ.

ปณิธานกวเสนาติ จิตฺตสฺส รูปาทีสุ ปนกวเสน. อฺโปิ พนฺธุ ตณฺหาย เอว โหติ, โส ปน อพนฺธุปิ โหติ. ตณฺหา ปน นิจฺจสนฺนิสฺสิตาติ ‘‘ปาฏิเยกฺโก พนฺธู’’ติ วุตฺตา. อสนโตติ พฺยาปนโต ภุฺชนโต จ. ตทุภยํ ทสฺเสติ ‘‘อชฺโฌตฺถรณโต’’ติอาทินา. อาสีสนวเสนาติ อิจฺฉนวเสน. อฺเนากาเรนาติ ชปฺปนาชปฺปิตตฺตานํ ชปฺปาย อนฺตฺตทสฺสนากาเรน. จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ จิตฺตํ มูสติ. มารปาโสติ มาเรน คหิตตาย ราโค มารปาโส.

๑๐๖๖. สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺโน กมฺมปถเภทํ น กโรตีติ เอเตน สตฺเตสุ อุปฺปนฺโน อฏฺานโกโป กโรตีติ วิฺายติ. ‘‘อตฺถํ เม นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ, ปิยสฺส เม มนาปสฺส อตฺถํ นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ, อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อนตฺถํ นาจริ, น จรติ, น จริสฺสตี’’ติ อุปฺปชฺชมาโนปิ หิ โกโป อวตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนตฺตา อฏฺานโกโป เอว ภวิตุํ ยุตฺโต. อาฆาเตนฺโตติ หนนฺโต. ปุนรุตฺติโทโส ปฏิเสธิโตติ โทส-ปทสฺส ปฏิวิโรธ-ปทสฺส จ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาคตตฺตา วุตฺตํ. ปฏิฆสฺส วา วิเสสนตฺถํ ปุพฺเพ ‘‘ปฏิวิโรโธ’’ติ, ปโทสาทิวิเสสนตฺถํ ‘‘โทโส’’ติ จ วุตฺตํ, ทุสฺสนาทิวิเสสนตฺถํ ปจฺฉา ‘‘โทโส’’ติ, วิโรธวิเสสนตฺถฺจ ‘‘ปฏิวิโรโธ’’ติ วุตฺตนฺติ นตฺถิ ปุนรุตฺติโทโส.

๑๐๙๑. อนิทฺธาริตปริจฺเฉเท ธมฺมานํ อตฺถิตามตฺตทีปเก มาติกุทฺเทเส อปริจฺเฉเทน พหุวจเนน อุทฺเทโส กโตติ พหุวจเนเนว ปุจฺฉติ – ‘‘กตเม ธมฺมา อปฺปจฺจยา’’ติ. สภาวสงฺขาปริจฺเฉทาทิวเสน หิ ธมฺเม อชานนฺตสฺส วเสน อุทฺเทโส ปุจฺฉา จ กรียตีติ. ตสฺมา ปริจฺเฉทํ อกตฺวา อุทฺทิฏฺา ปุจฺฉิตา จ. อิเมติ อสงฺขตธาตุโต อุทฺธํ นตฺถีติ ทีปนตฺถํ เอกมฺปิ ตํ นิทฺทิสิตฺวา พหุวจเนเนว นิคมนํ กตํ นิทฺเทสโต ปุพฺเพ โพธเนยฺยสฺส อชานนกาลํ อุปาทาย.

๑๑๐๑. กึ ปน นตฺถิ, กึ เตน น วุตฺตาติ โยชนา กาตพฺพา. อิทเมว มโนวิฺเยฺยนฺติ นิยมาภาโว ววตฺถานาภาโว. จกฺขุวิฺาณาทิวิฺเยฺยเมว จกฺขาทิวิฺเยฺยนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ มโนวิฺาณวิฺเยฺเยนปิ มโนวิฺเยฺเยน ภวิตพฺพนฺติ กตฺวา อฏฺกถาย ‘‘กึ ปน มโนวิฺาเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เกหิจิ วิฺเยฺยา เกหิจิ อวิฺเยฺยาติ อิทํ กามาวจรํ มโนวิฺาณํ อารมฺมณาทิวเสน ภินฺทิตฺวา โยเชตพฺพํ. รูปาวจราทิอารมฺมเณน หิ กามาวจรมโนวิฺาเณน รูปราคาทิสมฺปยุตฺเตน จ กามาวจรธมฺมา น วิฺเยฺยา, อิตเรน จ วิฺเยฺยา. เอวํ กามาวจรานเมว อารมฺมณานํ เกสฺจิ สทฺทาทีนํ รูปารมฺมณาทีหิ อวิฺเยฺยตา วิฺเยฺยตา จ โยเชตพฺพา, ตถา ทฺวารเภทวเสน. อถ วา โสมนสฺสสหคตสนฺตีรณํ อิฏฺารมฺมณเมวาติ อิตรํ เตน น วิฺเยฺยํ. เอวํ อุเปกฺขาสหคเต กุสลวิปาเก อกุสลวิปาเก จาติ สพฺพตฺถ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. รูปาวจราทโย กามาวจรวิปากาทีหิ อวิฺเยฺยา, เกจิเทว วิฺเยฺยา อรูปาวจเรหีติ โยเชตพฺพํ อนุวตฺตมานตฺตา. นิพฺพาเนน อวิฺเยฺยตฺตาติ ‘‘เกหิจิ อวิฺเยฺยา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส อตฺถสมฺภวมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น นิพฺพานสฺส อนุวตฺตมานมโนวิฺาณภาวโต.

๑๑๐๒. ปฺจกามคุณิกราโคติ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. ภวาสวํ เปตฺวา สพฺโพ โลโภ กามาสโวติ ยุตฺตํ สิยา. สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภวทิฏฺิสมฺปยุตฺตตฺตา ‘‘ภวาสโว’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺโต. ภวาสโว ปน ‘‘ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ เอว อุปฺปชฺชตี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺโต. โสปิ ราโค กามาสโว ภวิตุํ ยุตฺโต. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขานํ การณภูตา กามาสวาทโยปิ ทฺวิธา วุตฺตา.

๑๑๐๓. กามาสวนิทฺเทเส จ กาเมสูติ กามราคทิฏฺิราคาทิอารมฺมณภูเตสุ เตภูมเกสุ วตฺถุกาเมสูติ อตฺโถ สมฺภวติ. ตตฺถ หิ อุปฺปชฺชมานา สา ตณฺหา สพฺพาปิ น กามจฺฉนฺทาทินามํ น ลภตีติ. กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท อกุสเลปิ อุปฺปชฺชติ, น ปน ธมฺมจฺฉนฺโท.

๑๑๐๕. อฺํ ชีวนฺติ คหณํ ยทิปิ อุปาทานกฺขนฺเธสฺเวว ปวตฺตติ, รูเป…เป… วิฺาเณ วา ปน น ปติฏฺาติ. ตโต อฺํ กตฺวา ชีวํ คณฺหาตีติ สสฺสตทิฏฺิ โหตีติ. พฺรหฺมาทึ เอกจฺจํ อตฺตานํ ‘‘โหตี’’ติ นิจฺจโต อฺฺจ ‘‘น โหตี’’ติ อนิจฺจโต คณฺหนฺตสฺส ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. ‘‘โหตี’’ติ จ ปุฏฺเ ‘‘เนวา’’ติ, ‘‘น โหตี’’ติ จ ปุฏฺเ ‘‘น’’อิติ สพฺพตฺถ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส อมราวิกฺเขปทิฏฺิ, อมรา อนุปจฺเฉทา, อมรมจฺฉสทิสี วา วิกฺเขปทิฏฺีติ อตฺโถ.

ปฺจกามคุณิโก ราโค กามาสโวติ วุตฺโตติ กตฺวา พฺรหฺมานํ วิมานาทีสุ ราคสฺส ทิฏฺิราคสฺส จ กามาสวภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ยทิ ปน โลโภ กามาสวภวาสววินิมุตฺโต อตฺถิ, โส ยทา ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน สมฺปยุตฺโต อวิชฺชาสโว อาสววิปฺปยุตฺโตติ โทมนสฺสวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตสฺส วิย ตสฺสปิ อาสววิปฺปยุตฺตตา วตฺตพฺพา สิยา ‘‘จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ โลภสหคเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปนฺโน โมโห สิยา อาสวสมฺปยุตฺโต สิยา อาสววิปฺปยุตฺโต’’ติ. ‘‘กามาสโว อฏฺสุ โลภสหคเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ, ‘‘กามาสวํ ปฏิจฺจ ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (ปฏฺา. ๓.๓.๑) จ วจนโต ทิฏฺิสหคโต ราโค กามาสโว น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏตีติ อาสวานํ วจนํ ปหาตพฺพทสฺสนตฺถนฺติ กตฺวา เต ปหาเน อาหริยมานา ปหาตพฺพานมฺปิ เตสํ กิเลสานํ อุทฺเทสกฺกเมน อาหริตุํ วฏฺฏนฺติ ปชหนกานํ มคฺคานมฺปีติ อตฺโถ.

๑๑๒๑. ปมกมานภาชนีเยติ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานสฺส นิทฺเทเส. ตตฺถ หิ ‘‘เอกจฺโจ ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา ธเนน วา อชฺเฌเนน วา กมฺมายตเนน วา สิปฺปายตเนน วา วิชฺชาฏฺาเนน วา สุเตน วา ปฏิภาเนน วา อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนา มานํ ชปฺเปติ, โย เอวรูโป มาโน มฺนา…เป… เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺสา’’ติ (วิภ. ๘๖๖) เสยฺยสฺส สทิสสฺส หีนสฺส จ ปวตฺตมาโน ปุคฺคลวิเสสํ อนามสิตฺวา เสยฺยมาโน วิภตฺโตติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘เอโก มาโน ติณฺณํ ชนานํ อุปฺปชฺชตีติ กถิโต’’ติ อาห. น เกวลฺจายํ ปมกมานภาชนีเย เอว เอวํ กถิโต, ทุติยกตติยกมานภาชนีเยปิ กถิโต เอวาติ นิทสฺสนมตฺถํ เอตํ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ปุคฺคเล อนิสฺสาย วุตฺตานํ ติณฺณมฺปิ มานานํ ภาชนียํ ‘‘ปมกมานภาชนีเย’’ติ อาห. เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน’’ติอาทีนฺหิ ปุคฺคลํ อามสิตฺวา วุตฺตานํ นวนฺนํ มานานํ ภาชนียํ ทุติยกมานภาชนียํ โหติ, ตสฺส มานราสิสฺส ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา วุตฺตมานราสิโต ทุติยตติยกตฺตาติ, อถาปิ จ ยถาวุตฺเต ทุติยกมานภาชนีเย ‘‘เอเกกสฺส ตโย ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺตีติ กถิต’’นฺติ อิธ วุตฺตาย อตฺถวณฺณนาย สมานทสฺสนตฺถํ ‘‘ปมกมานภาชนีเย’’ติ วุตฺตํ. โส เอว มาโน อิธาคโตติ ตตฺถ กถิโต เอว อตฺโถ ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. มานกรณวเสนาติ ‘‘เสยฺโย’’ติอาทิกิจฺจกรณวเสน. อปราปเร อุปาทายาติ อิทํ ปุริมปุริมา มานา อปราปเร อุปนิสฺสยภาเวน เต อุปฺปาเทนฺตา อจฺจุคฺคจฺฉนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกตุกมฺยตาจิตฺตํ อจฺจุคฺคตภาวํ คจฺฉตีติ กตฺวา จิตฺเตเนว วิเสสิตํ.

๑๑๒๖. อกฺขมนภาวปฺปกาสนํ ขิยฺยนํ. มเนน ปิยกรณนฺติ เอวํปการํ ปูชนํ มานนนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อิสฺสากรณวเสนาติ ลาภาทิอกฺขมนกิจฺจวเสน.

๑๑๒๗. อริยสาวกาติ วจนํ ‘‘อริยสาวกานํเยว ปฏิเวโธ อตฺถิ, เต จ ตํ น มจฺฉรายนฺตี’’ติ ปฏิเวธธมฺเม มจฺฉริยาภาวทสฺสนตฺถํ. คนฺโถติ ปาฬิ. กถามคฺโคติ อฏฺกถาปพนฺโธ. ธมฺมนฺตรนฺติ กุสลาทิธมฺมํ ภินฺทิตฺวา อกุสลาทึ อตฺตโน โลลตาย ตถาคตภาสิตํ ติตฺถิยภาสิตํ วา กโรนฺโต อาโลเลสฺสติ. อตฺตานํ อาวิกตฺวาติ อตฺตานํ อฺถา สนฺตํ อฺถา ปเวทยิตฺวา. โย ปนาติ ติตฺถิโย คหฏฺโ วา อตฺตโน สมยสฺส สโทสภาวํ ทฏฺุํ อนิจฺฉนฺโต อฺาเณน อภินิเวเสน วา.

พฺยาปิตุมนิจฺโฉติ วิวิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว เววิจฺฉํ. อนาทโรติ มจฺฉริเยน ทาเน อาทรรหิโต. กฏจฺฉุนา คาโห ภตฺตสฺส กฏจฺฉุคฺคาโห, กฏจฺฉุคฺคาโห วิย กฏจฺฉุคฺคาโห. ยถา หิ กฏจฺฉุคฺคาโห ยถาวุตฺเต ภตฺเต น สํปสารยติ, เอวํ มจฺฉริยมฺปิ อาวาสาทีสูติ. คยฺหติ เอเตนาติ วา คาโห, กฏจฺฉุ เอว คาโห กฏจฺฉุคฺคาโห. โส ยถา สงฺกุฏิตคฺโค น สํปสารยติ, เอวํ มจฺฉริยมฺปีติ. อาวริตฺวา คหิตํ อคฺคหิตํ, ตสฺส ภาโว อคฺคหิตตฺตํ, มจฺฉริยํ. ‘‘อาวาสาทิ ปเรหิ สาธารณมสาธารณํ วา มยฺเหว โหตู’’ติ ปวตฺติวเสน อตฺตสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา, ‘‘มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺติวเสน อตฺตสมฺปตฺตินิคูหณลกฺขณตา จ โยเชตพฺพา. ยํ ปน ‘‘ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม’’ติ วุตฺตํ, ตํ มจฺฉริยสฺส ปรสนฺตกโลภสฺส อุปนิสฺสยภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยทิ หิ ตํ มจฺฉริยปฺปวตฺติทสฺสนํ, ปรสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา จ วตฺตพฺพา สิยาติ.

๑๑๔๐. อภิชฺฌากามราคานํ วิเสโส อาสวทฺวยเอกาสวภาโว สิยา, นอภิชฺฌาย โนอาสวภาโว จาติ โนอาสวโลภสฺส สพฺภาโว วิจาเรตพฺโพ. น หิ อตฺถิ ‘‘อาสโว จ โนอาสโว จ ธมฺมา อาสวสฺส ธมฺมสฺส อาสวสฺส จ โนอาสวสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ สตฺตโม จ นวโม จ ปฺโห. คณนาย จ ‘‘เหตุยา สตฺตา’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘นวา’’ติ. ทิฏฺิสมฺปยุตฺเต ปน โลเภ โนอาสเว วิชฺชมาเน สตฺตมนวมาปิ ปฺหวิสฺสชฺชนํ ลเภยฺยุํ, คณนา จ ‘‘เหตุยา นวา’’ติ วตฺตพฺพา สิยา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต จ โลเภ โนอาสเว วิชฺชมาเน ปุพฺเพ ทสฺสิโต โทโสติ.

๑๑๕๙. กามจฺฉนฺทนีวรณนิทฺเทเส กาเมสูติ เตภูมเกสุ สาสเวสุ สพฺเพสุ วตฺถุกาเมสุ. สพฺโพ หิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. เตเนว ตสฺส อารุปฺเป อุปฺปตฺติ วุตฺตา ‘‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ปุเรชาตปจฺจยา. อารุปฺเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณํ. อารุปฺเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณ’’นฺติ (ปฏฺา. ๓.๘.๑).

๑๑๖๒. อิริยาปถิกจิตฺตนฺติ อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ อฏฺปฺาสวิธํ จิตฺตํ. ตตฺถ ปน พลวถินมิทฺธสหคตํ จิตฺตํ ‘‘อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. โอลียตีติ โอลมฺพติ.

๑๑๖๓. โอนยฺหตีติ ฉาเทติ, อวตฺถรติ วา. นานารมฺมเณสุ ปวตฺตินิวารเณน, วิปฺผาริกตานิวารเณเนว วา อนฺโตสโมโรโธ. เอกจฺจานนฺติ สิรีสาทิรุกฺขานํ. รูปกาเยเนว สิยุํ, เตน สุขปฺปฏิสํเวทนนิพฺพานสจฺฉิกิริยานํ รูปตาปตฺติ สิยาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ‘‘กายสฺสา’’ติ วจนสฺส รูปตฺตาสาธกตฺตา. น หิ นามกาโย สุปตีติ อิทํ ถินมิทฺธสมุฏฺิตรูเปหิ รูปกายสฺส ครุภาวปฺปตฺตํ องฺคปจฺจงฺคาทีนํ สํสีทนํ โสปฺปนฺติ สนฺธาย วุตฺตํ, น ชาครณจิตฺตรหิตํ ภวงฺคสนฺตตินฺติ. ตสฺส ผลตฺตาติ ผลูปจาเรน อินฺทฺริยํ วิย มิทฺธํ ทสฺเสตุํ มิทฺธสฺส ผลตฺตา อินฺทฺริยนิทฺเทเส วิย ลิงฺคาทีนิ มิทฺธนิทฺเทเสปิ โสปฺปาทีนิ วุตฺตานีติ อตฺโถ.

รูปกายสฺส อนฺโตสโมโรโธ นตฺถีติ โส นามกาเย วุตฺโตติ วิฺายติ. เตน สห วุตฺตา โอนาหปริโยนาหา จ. รูปกายสฺส วา วิปฺผาริกาวิปฺผาริกภาโว นาม อตฺตโน สภาเวน นตฺถิ, นามกายสฺส นามกาเย วิปฺผาริเก ลหุโก, อวิปฺผาริเก ครุโกติ อวิปฺผาริกภาเวน โอนาหนาทิ นามกายสฺเสว โหตีติ โอนาหนาทโยปิ นามกาเย วิฺายนฺติ. เตนาห ‘‘น หิ รูปํ นามกายสฺส โอนาโห…เป… โหตี’’ติ. อาวรณภาโว วิย หิ โอนาหนาทิภาโวปิ นามกายสฺเสว โหตีติ. อิตโร อธิปฺปายํ อชานนฺโต เมฆาทีหิ รูเปหิ รูปานํ โอนาหนาทึ ปสฺสนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ยทิ เอวนฺติ ยทิ รูปสฺส โอนาหนาทิตา สิทฺธา, อรูปสฺส น สิยา, เสตุพนฺธาทีสุ รูปสฺส อาวรณํ ทิฏฺนฺติ อาวรณมฺปิ อรูปสฺส น ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

สุราเมรยปานํ อกุสลนฺติ กตฺวา ยุตฺโต ตสฺส อุปกฺกิเลสภาโว, สุรา…เป… ปมาทฏฺานานุโยคสฺส จ อกุสลตฺตา ปฺาย ทุพฺพลีกรณภาโว ยุตฺโต, ตถาปิ ปรสฺส อธิปฺปายํ อนุชานิตฺวา สุราเมรยสฺส อุปกฺกิเลสตา ปฺาย ทุพฺพลีกรณตา จ อุปกฺกิเลสานํ ปฺาย ทุพฺพลีกรณานฺจ ปจฺจยตฺตา ผลโวหาเรน วุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น, ปจฺจยนิทฺเทสโต’’ติ. เอวเมว โขติ ยถา ชาตรูปสฺส อโย โลหํ ติปุ สีสํ สชฺชนฺติ ปฺจุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ ชาตรูปํ น เจว มุทุ โหติ, น จ กมฺมนิยํ, น จ ปภสฺสรํ ปภงฺคุ จ, น จ สมฺมา อุเปติ กมฺมาย, เอวเมว. ปจฺจยนิทฺเทสโตติ อุปกฺกิเลสปฺาทุพฺพลีกรณานํ ปจฺจยภาวนิทฺเทสโต, ปจฺจเย ผลนิทฺเทสโตติ อตฺโถ. สยเมว กิเลโส อุปกฺกิเลสนิทฺเทเสสุ นิทฺทิฏฺโติ อธิปฺปาโย.

นีวรณํ หุตฺวาว นีวรณสมฺปยุตฺเต ทสฺสิยมาเน น นีวรณตาทสฺสนตฺโถ อารมฺโภ, อถ โข สิทฺธนีวรณภาวสฺส นีวรณสมฺปยุตฺตตาทสฺสนตฺโถติ ยถาลาภวเสน จ อสมฺปยุตฺตสฺส วจนํ น ยุชฺชติ. ยถา หิ ติฏฺนฺตมฺปิ จรนฺตมฺปีติ สิปฺปิสมฺพุกาทีสุ ยถาลาภสมฺภวํ ตํ ทฺวยํ วุตฺตํ, น เอวํ ‘‘ถินมิทฺธนีวรณํ สมฺปยุตฺตมฺปิ อสมฺปยุตฺตมฺปี’’ติ วจนํ อตฺถิ, ยํ ยถาลาภํ สมฺภเวยฺยาติ. จิตฺตชสฺสาสมฺภววจนโตติ ‘‘จตฺตตฺตา’’ติอาทิวจนสฺส ฌานกฺขเณ จิตฺตชสฺส ถินมิทฺธสฺส อสมฺภววจนภาวโตติ อตฺโถ, ‘‘จตฺตตฺตา’’ติอาทิวจเนน วา อสมฺภวสฺส วจนโต ปกาสนโตติ อตฺโถ.

กาเมสุ โข ปน…เป… สุทิฏฺโติ อิมินา กามาทีนเว อฺาณสฺส ปหานมาห. ตํ ตตฺถ ปหานนฺติ ตํ ตตฺถ รูเป ปหานนฺติ ปหานํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ต’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ วินยนนฺติ วา อตฺโถ. เตน รูปสฺส อปฺปหาตพฺพตฺตเมว ทสฺเสติ, น ปน ‘‘ฉ ธมฺเม ปหายา’’ติอาทีสุ มิทฺธสฺส อปฺปหาตพฺพตาทสฺสนโต อฺโ ปกาโร วุตฺโต. น ยถา…เป… วุตฺตนฺติ ฉ ธมฺมา ปฺจ นีวรณานิ จ ยถา ปหาตพฺพาเนว โหนฺตานิ ‘‘ปหาตพฺพานี’’ติ วุตฺตานิ, น เอวํ รูปํ ปหาตพฺพเมว โหนฺตํ ‘‘ปหาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

อฺเหิ จ สุตฺเตหีติ วุตฺตสุตฺตานํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ตถา หี’’ติอาทิมาห. กุสลปฺปวตฺตึ อาวรนฺตีติ อาวรณา. นีวาเรนฺตีติ นีวรณา. จิตฺตํ อภิภวนฺตา อาโรหนฺตีติ เจตโส อชฺฌารุหา. อาวรณาทิกิจฺจฺจ อรูปสฺเสว ยุชฺชติ, ตถา อนฺธกรณาทิกิจฺจํ. ตตฺถ จตูสุ ปเทสุ ปุริมปุริมสฺส ปจฺฉิมปจฺฉิโม อตฺโถ. สํสารทุกฺขํ วิฆาโต, ตํชนกตาย วิฆาตปกฺขิกํ. เจตโส ปริยุฏฺานํ อโยนิโสมนสิการโต อุปฺปตฺติ อกุสลราสิภาโว จ อรูปสฺเสว โหตีติ อรูปเมว มิทฺธํ.

๑๑๖๖. คณโภชนาทิอกปฺปิยโภชนํ กปฺปิยสฺี ภุฺชิตฺวา ปุน ชานิตฺวา โกจิ วิปฺปฏิสารี โหติ, อนวชฺชฺจ ภิกฺขุทสฺสนเจติยวนฺทนาทึ วชฺชสฺี อกตฺวา กตฺวา จ โกจิ อสฺสทฺโธ วิปฺปฏิสารี โหติ. วตฺถุนฺติ มูลํ. เอวรูปนฺติ มูลวเสน เอวํปการนฺติ อตฺโถ. กุกฺกุจฺจปทํ เยวาปนเกสุ ‘‘กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ภาโว’’ติ วุตฺตตฺถเมว. กุกฺกุจฺจายนากาโรติ กุกฺกุจฺจภาวนากาโร กุกฺกุจฺจกรณากาโร กุกฺกุจฺจคมนากาโร วา. เอเตน กุกฺกุจฺจํ กิริยภาเวน ทสฺเสติ. ‘‘กปฺปติ น กปฺปตี’’ติ ปวตฺตจิตฺตุปฺปาโทว วินยกุกฺกุจฺจํ.

๑๑๗๖. จิตฺตวิกฺขิปนกิจฺจสามฺเน อุทฺธจฺจํ กุกฺกุจฺจฺจ สห วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กามจฺฉนฺทสฺส อนาคามิมคฺเคน ปหานํ อุกฺกฏฺนีวรณวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยทิ หิ โลโภ โนนีวรโณ สิยา, ‘‘โนนีวรโณ ธมฺโม นีวรณสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น เจตํ วุตฺตํ. คณนาย จ ‘‘เหตุยา จตฺตารี’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘นวา’’ติ. ตสฺมา สพฺโพ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อรหตฺตมคฺเคนสฺส ปหานวจนํ ยุตฺตํ.

๑๒๑๙. กาโม จาติ กิเลสกาโม จ. ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยตีติ ปุริมทิฏฺึ ‘‘สสฺสโต’’ติ คณฺหนฺตี อุปาทิยติ, ปุริมทิฏฺิอากาเรเนว วา อุปฺปชฺชมานา อุตฺตรทิฏฺิ เตเนว ปุริมทิฏฺึ ทฬฺหํ กโรนฺตี ตํ อุปาทิยตีติ วุตฺตํ. โคสีลโควตาทีนีติ ตถาภูตํ ทิฏฺิมาห. อภินิเวสโตติ อภินิเวสภาวโต, อภินิวิสนโต วา. อตฺตวาทมตฺตเมวาติ อตฺตสฺส อภาวา ‘‘อตฺตา’’ติ อิทํ วจนมตฺตเมว. อุปาทิยนฺติ ทฬฺหํ คณฺหนฺติ. กถํ? อตฺตาติ. อตฺตาติ หิ อภินิวิสนฺตา วจนเมว ทฬฺหํ กตฺวา คณฺหนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ อตฺตวาทมตฺตเมว อุปาทิยนฺตีติ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตวาทมตฺต’’นฺติ วา วาจาวตฺถุมตฺตมาห. วาจาวตฺถุมตฺตเมว หิ ‘‘อตฺตา’’ติ อุปาทิยนฺติ อตฺถสฺส อภาวาติ.

๑๒๒๑. ทินฺนนฺติ ทานมาห, ตํ อผลตฺตา รูปํ วิย ทานํ นาม น โหตีติ ปฏิกฺขิปติ. มหาวิชิตยฺสทิโส ยฺโ มหายาโค. อามนฺเตตฺวา หวนํ ทานํ อาหุนํ, ปาหุนานํ อติถีนํ อติถิกิริยา ปาหุนํ, อาวาหาทีสุ มงฺคลตฺถํ ทานํ มงฺคลกิริยา. ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ ‘‘นตฺถี’’ติ คณฺหาตีติ อิมํ โลกํ อเวกฺขิตฺวา ปรโลโก, ปรฺจ อเวกฺขิตฺวา อยํ โลโก โหติ คนฺตพฺพโต อาคนฺตพฺพโต จาติ ปรโลกโต อิธาคมนสฺส อภาวา ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโต จิตฺเตน ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ ‘‘นตฺถี’’ติ คณฺหาตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น หิ อยํ ทิฏฺิ ปรโลเก นิพฺพตฺตสฺเสว โหตีติ. อิธโลเก ิโตติ เอตฺถาปิ อยเมว นโย. อยํ วา เอตฺถ อตฺโถ ‘‘สํสรณปฺปเทโส อิธโลโก จ ปรโลโก จ นาม โกจิ นตฺถิ สํสรณสฺส อภาวา ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโต’’ติ. ปุริมภวโต ปจฺฉิมภเว อุปปตนํ อุปปาโต, โส เยสํ สีลํ, เต โอปปาติกา. เต ปน จวนกา อุปปชฺชนกา โหนฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘จวนกอุปปชฺชนกสตฺตา นตฺถีติ คณฺหาตี’’ติ. อนุโลมปฺปฏิปทนฺติ นิพฺพานานุกูลํ สีลาทิปฺปฏิปทํ.

๑๒๓๖. นิปฺปเทสโตว คหิโตติ อิมินา ยํ อาสวโคจฺฉเก พฺรหฺมานํ กปฺปรุกฺขาทีสุ ราคสฺส จ ทิฏฺิราคสฺส จ อสงฺคหเณน นีวรณโคจฺฉเก จ กามจฺฉนฺทสฺส อนาคามิมคฺเคน ปหาตพฺพตาทสฺสเนน สปฺปเทสตฺตํ วุตฺตํ, ตํ นิวาริตํ โหติ. อรหตฺตมคฺเคนาติ วจเนน จตูหิ มคฺเคหิ ปหาตพฺพตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ปุริเมหิ อตนุกตา โมหาทโย อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ.

๑๒๘๗. นิรติอตฺเถนาติ ปีติวิรเหน, พลวนิกนฺติวิรเหน วา. น หิ ทุกฺขาย เวทนาย รชฺชนฺตีติ. อว-สทฺเทน อวคาหตฺโถ อโธอตฺโถ จาติ ทฺวิธา อว-สทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺโต.

๑๓๐๑. วิจิกิจฺฉาสหคโต โมหรโณ ปหาเนกฏฺเน ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตน ราครเณน สรโณ, อุทฺธจฺจสหคโต รูปราคอรูปราคสงฺขาเตน. อรณวิภงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๓๓) ปน ‘‘โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยโค หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, สทุกฺโข เอโส ธมฺโม สอุปฆาโต สอุปายาโส สปริฬาโห มิจฺฉาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม สรโณ’’ติอาทิวจนโต ผลภูตทุกฺขอุปฆาตอุปายาสปริฬาหสภาวภูโต มิจฺฉาปฏิปทาภาโวว ‘‘สรโณ’’ติ วิฺายตีติ เตหิ สพฺพากุสลานํ สรณตา สิทฺธา โหตีติ.

สุตฺตนฺติกทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา

๑๓๐๓. วิเวจิตตฺตาติ วิสุํ กตตฺตา ปกาสิตตฺตา. อเสเสตฺวา เขเปตีติ วชิรํ อตฺตนา ปติตฏฺานํ อเสเสตฺวา เขเปติ ปุน อปากติกตาอาปาทเนน.

๑๓๑๑. ตปฺปตีติ วิปฺปฏิสารี โหติ, อนุโสจติ วา.

๑๓๑๓. อหนฺติ อิติ-สทฺทปเรน อหํ-สทฺเทน เหตุภูเตน โย อตฺโถ วิฺายติ, โส สํกถียติ, อุทีรียตีติ อตฺโถ. อฺถา หิ วุจฺจมานสฺส วจเนน ปกาสิยมานสฺส ปทตฺถสฺส สงฺขาทิภาเว สพฺเพสํ กุสลาทิธมฺมานํ อธิวจนาทิตา สิยาติ. ภาโวติ สตฺตเววจนนฺติ ภณนฺติ, ธาตุยา วา เอตํ อธิวจนํ. ทตฺโตติ เอตฺตาวตา สตฺตปฺตฺตึ ทสฺเสตฺวา อฺมฺปิ อุปาทาปฺตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘มฺโจ’’ติอาทิมาห. อหนฺติ จ ปวตฺตํ อธิวจนํ วทนฺเตน สุณนฺเตน จ ปุพฺเพ คหิตสฺเน อตฺถปฺปกาสนภาเวน วิฺายติ. น หิ ตสฺมึ อวิฺาเต ตทตฺถวิชานนํ อตฺถีติ วิเสเสน อธิวจนํ ‘‘ายตีติ สมฺา’’ติ วุตฺตํ. เอตสฺสตฺถสฺส อหนฺติ อิทํ อธิวจนนฺติ เอวํ วา สฺาคหณวเสน ายติ สมฺายติ ปากฏา โหตีติ สมฺา. ปฺาปียตีติ อหนฺติ อิทํ เอตสฺส อธิวจนนฺติ เอวํ ปียตีติ อตฺโถ. โวหรียตีติ วุจฺจติ. อุทฺเธยฺยนฺติ อุทฺธริตพฺพํ. อปิ นามสหสฺสโตติ อเนเกหิปิ นามสหสฺเสหีติ อตฺโถ. สยเมว อุปปตนสีลํ นามํ ‘‘โอปปาติกนาม’’นฺติ วุจฺจติ.

กรียตีติ กมฺมํ, นามเมว กมฺมํ นามกมฺมํ. ตถา นามเธยฺยํ. กรณปนสทฺทาปิ หิ กมฺมตฺถา โหนฺตีติ. อถ กรณตฺถา, กรียติ จ ปียติ จ เอเตน อตฺโถ เอวํนาโมติ ปฺาปียตีติ กรณํ ปนฺจ นาม โหติ. อถ ภาวตฺถา, าปนมตฺตเมว กรณํ ปนนฺติ จ วุตฺตํ. นามนิรุตฺติ นามพฺยฺชนนฺติ นามมิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. น หิ ปถวีสงฺขาตํ อตฺถปฺปการมตฺตํ นิวทติ พฺยฺชยติ วา ปถวีติ นามํ นิวทติ พฺยฺชยติ วา, ตสฺมา อนามสฺส นิรุตฺติพฺยฺชนภาวนิวารณตฺถํ ‘‘นามนิรุตฺติ นามพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ นามาภิลาโปติ เอตฺถาปิ นโย. เอตฺถ ปน สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโรติ จตูหิ ปเทหิ ปฺาปิตพฺพโต ปฺตฺติ วุตฺตา, อิตเรหิ ปฺาปนโต.

ตตฺถ จ ‘‘ปุริมา อุปาทาปฺตฺติ อุปฺปาทวยกิจฺจรหิตา โลกสงฺเกตสิทฺธา, ปจฺฉิมา นามปฺตฺติ, ยาย ปุริมา ปฺตฺติ รูปาทโย จ โสตทฺวารวิฺาณสนฺตานานนฺตรมุปฺปนฺเนน คหิตปุพฺพสงฺเกเตน มโนทฺวารวิฺาณสนฺตาเนน คหิตาย ปฺาปียนฺตี’’ติ อาจริยา วทนฺติ. เอตสฺมึ ปน อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อตฺเถ สติ ยํ วุตฺตํ มาติกายํ ‘‘วจนมตฺตเมว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อธิวจนา นาม, สเหตุกํ กตฺวา วุจฺจมานา อภิลาปา นิรุตฺติ นาม, ปกาเรน าปนโต ปฺตฺติ นามา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๑-๑๐๘), เตน วิโรโธ สิยา. น หิ อุปฺปาทวยกิจฺจรหิตสฺส วจนมตฺตํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺติ อตฺถิ อุปฺปาทาทิสหิตสฺเสว ปวตฺติสพฺภาวโต, น จ วจนวจนตฺถวิมุตฺตสฺส นามสฺส นิทฺธาเรตฺวา สเหตุกํ กตฺวา วุจฺจมานตา อตฺถิ, นาปิ อนิทฺธาริตสภาวสฺส ปทตฺถสฺส เตน เตน ปกาเรน าปนํ อตฺถีติ.

ทุวิธา จายํ ปฺตฺติ ยถาวุตฺตปฺปการาติ อฏฺกถาวจนฺจ น ทิสฺสติ, อฏฺกถายํ ปน วิชฺชมานปฺตฺติอาทโย ฉ ปฺตฺติโยว วุตฺตา. ตตฺถ ‘‘รูปํ เวทนา’’ติอาทิกา วิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติอาทิกา อวิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘เตวิชฺโช ฉฬภิฺโ’’ติอาทิกา วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘อิตฺถิสทฺโท ปุริสสทฺโท’’ติอาทิกา อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณ’’นฺติอาทิกา วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘ขตฺติยกุมาโร พฺราหฺมณกุมาโร’’ติอาทิกา อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ. น เจตฺถ ยถาวุตฺตปฺปการา ทุวิธา ปฺตฺติ วุตฺตาติ สกฺกา วิฺาตุํ. วิชฺชมานสฺส หิ สงฺขา…เป… อภิลาโป วิชฺชมานปฺตฺติ. อวิชฺชมานสฺส จ สงฺขาทิกา อวิชฺชมานปฺตฺติ. เตสํเยว วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน ปวตฺตา สงฺขาทโย อิตราติ.

อวิชฺชมานปฺตฺติวจเนน ปฺาปิตพฺพา อุปาทาปฺตฺติ, ตสฺสา ปฺาปนภูตา นามปฺตฺติ จ วุตฺตา, อิตเรหิ นามปฺตฺติเยว ยถาวุตฺตาติ เจ? น, อสิทฺธตฺตา. สติ หิ อุชุเก ปุริเม ปาฬิอนุคเต อตฺเถ อยมตฺโถ อิมาย อฏฺกถาย วุตฺโตติ อสิทฺธเมตํ. ยทิ จ สตฺตรถฆฏาทิทิสากาลกสิณอชฏากาสกสิณุคฺฆาฏิมากาสอากิฺจฺายตนวิสยนิโรธสมาปตฺติอาทิปฺปการา อุปาทาปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺติ, เอเตเนว วจเนน ตสฺสา อวิชฺชมานตา วุตฺตาติ น สา อตฺถีติ วตฺตพฺพา. ยถา จ ปฺาปิตพฺพโต อวิชฺชมานานํ สตฺตาทีนํ อวิชฺชมานปฺตฺติภาโว, เอวํ รูปาทีนํ วิชฺชมานานํ ปฺเปตพฺพโต วิชฺชมานปฺตฺติภาโว อาปชฺชติ. ตโต ‘‘สพฺเพ ธมฺมา ปฺตฺตี’’ติ ปฺตฺติปเถหิ อวิสิฏฺโ ปฺตฺติธมฺมนิทฺเทโส วตฺตพฺโพ สิยา. อถาปิ ปฺาปิตพฺพปฺาปนวิเสสทสฺสนตฺโถ สงฺขาทินิทฺเทโส, ตถาปิ ‘‘เอกธมฺโม สพฺพธมฺเมสุ นิปตติ, สพฺพธมฺมา เอกธมฺมสฺมึ นิปตนฺตี’’ติอาทินา ปฺาปิตพฺพานํ ปฺตฺติปถภาวสฺส ทสฺสิตตฺตา ปฺาปิตพฺพานํ ปฺตฺติภาเว ปฺตฺติปถา ปฺตฺติสทฺเทเนว วุตฺตาติ ปฺตฺติปถปทํ น วตฺตพฺพํ สิยา, นาปิ สกฺกา ปฺาปิตพฺพปฺาปนวิเสสทสฺสนตฺโถ สงฺขาทินิทฺเทโสติ วตฺตุํ สงฺขาทิสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘มรเณนปิ ตํ ปหียติ, ยํ ปุริโส มมิทนฺติ มฺตี’’ติ (มหานิ. ๔๑) เอตฺถ ‘‘ปุริโสติ สงฺขา สมฺา…เป… อภิลาโป’’ติ (มหานิ. ๔๑). ตถา ‘‘มาคณฺฑิโยติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ สงฺขา สมฺา’’ติอาทิ (มหานิ. ๗๓). น จ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม’’ติ สงฺเกตคฺคหณํ ‘‘รูปํ ติสฺโส’’ติอาทิวจนคฺคหณฺจ มุฺจิตฺวา อฺสฺส อสิทฺธสภาวสฺส อตฺถปฺาปเน สมตฺถตา สมฺภวติ, เตสฺจ อสมตฺถตา. ยทิ หิ เตสํ วินา ปฺตฺติยา อตฺถปฺาปเน อสมตฺถตา สิยา, ปฺตฺติปฺาปเน จ อสมตฺถตาติ ตสฺสา อฺา ปฺตฺติ วตฺตพฺพา สิยา, ตสฺสา ตสฺสาติ อนวตฺถานํ, ตโต อตฺถวิชานนเมว น สิยา, นาปิ สงฺเกตคฺคหณํ สงฺเกตสฺส ปฺตฺติภาเว ‘‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’’ติ วา, ‘‘อิมสฺสตฺถสฺส อิทํ วจนํ โชตก’’นฺติ วา. สฺุปฺปาทมตฺเต ปน สงฺเกตคฺคหเณ วจนสฺส วจนตฺถวินิมุตฺตสฺส กปฺปเน ปโยชนํ นตฺถิ. ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต โวหาโร โลกิเย โสเต ปฏิหฺติ’’ (กถา. ๓๔๗), ‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ อานนฺท อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุตํ ยทิทํ ชนวสโภ’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๘๐), ‘‘นามฺจ สาเวติ โกณฺฑฺโ อหํ ภควา’’ติอาทีหิ (สํ. นิ. ๑.๒๑๗) จ ปฺตฺติยา วจนภาโว สิทฺโธ. ตสฺมา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อวิรุทฺโธ อตฺโถ วิจาเรตฺวา คเหตพฺโพ.

ยทิ สตฺตาทโย อวิชฺชมานปฺตฺติ น โหนฺติ, กา ปน อวิชฺชมานปฺตฺติ นามาติ? ปกาสิโต อยมตฺโถ ‘‘อวิชฺชมานานํ สตฺตาทีนํ สงฺขา…เป… อภิลาโป อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. สตฺตาทีนฺจ อวิชฺชมานตฺตา อตฺถิตา เนว วตฺตพฺพา, เย จ วเทยฺยุํ ‘‘รูปาทีนิ วิย อวิชฺชมานตฺตา อวิชฺชมานตา วุตฺตา, น นตฺถิภาวโต’’ติ, อยฺจ วาโท เหวตฺถิกถาย ปฏิสิทฺโธ, น จ รูปํ เวทนา น โหตีติ อวิชฺชมานํ นาม โหติ. เอวํ สตฺตาทโยปิ ยทิ อตฺถิ, รูปาทโย น โหนฺตีติ อวิชฺชมานาติ น วตฺตพฺพา. ยสฺมา ปน เยสุ รูปาทีสุ จกฺขาทีสุ จ ตถา ตถา ปวตฺตมาเนสุ ‘‘สตฺโต อิตฺถี รโถ ฆโฏ’’ติอาทิกา วิจิตฺตสฺา อุปฺปชฺชติ, สฺานุโลมานิ จ อธิวจนานิ, เตหิ รูปจกฺขาทีหิ อฺโ สตฺตรถาทิสฺาวลมฺพิโต วจนตฺโถ วิชฺชมาโน น โหติ, ตสฺมา สตฺตรถาทิอภิลาปา ‘‘อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ, น จ เต ‘‘มุสา’’ติ วุจฺจนฺติ โลกสมฺาวเสน ปวตฺตตฺตา. ตโต เอว เต อภิลาปา ‘‘สมฺมุติสจฺจ’’นฺติ วุจฺจนฺติ. โส จ วจนตฺโถ สยํ อวิชฺชมาโนปิ วิชฺชมานสฺส วจนสฺเสว วเสน ปฺตฺติโวหารํ ลภติ, ‘‘สมฺมุติสจฺจ’’นฺติ จ วุจฺจติ ยถาคหิตสฺาวเสน ปวตฺตวจนตฺถภาวโต. ‘‘สมฺมุติาณํ สจฺจารมฺมณเมว, นาฺารมฺมณ’’นฺติ (กถา. ๔๓๔) กถาย จ ‘‘ปถวีกสิณาทิ จีวราทิ จ สมฺมุติสจฺจมฺหี’’ติ อิมินาว อธิปฺปาเยน วุตฺตนฺติ วิฺายติ. ยสฺมา รูปาทีสุ สนฺตาเนน ปวตฺตมาเนสุ เอกตฺตคฺคหณวเสน เต อมุฺจิตฺวา ปวตฺตํ สตฺตาทิคฺคหณํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย รูปาทีสุ เตสุ ขนฺเธสุ จกฺขาทีสุ จ อสนฺตํ อวิชฺชมานํ สตฺตรถาทึ คณฺหาติ, ตสฺมา ตํ ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน น วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตถา ยํ ขนฺธสมูหสนฺตานํ เอกตฺเตน คหิตํ อุปาทาย ‘‘กลฺยาณมิตฺโต ปาปมิตฺโต ปุคฺคโล’’ติ คหณํ ปฺตฺติ จ ปวตฺตติ, ตํ ตทุปาทานภูตํ ปุคฺคลสฺาย เสวมานสฺส กุสลากุสลานํ อุปฺปตฺติ โหตีติ ‘‘ปุคฺคโลปิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๙) วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ปุคฺคโล นาม โกจิ ภาโว นตฺถิ, ตสฺมา ยถา อาโปธาตุอาทีนิ จิตฺเตน วิเวเจตฺวา ปถวีธาตุ อุปลพฺภติ, น เอวํ รูปาทโย ขนฺเธ วิเวเจตฺวา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ. ปฏิเสธิตา จ ปุคฺคลกถาย ปุคฺคลทิฏฺิ. วชิราย จ ภิกฺขุนิยา วุตฺตํ –

‘‘กํ นุ สตฺโตติ ปจฺเจสิ, มาร ทิฏฺิคตํ นุ เต;

สุทฺธสงฺขารปุฺโชยํ, นยิธ สตฺตุปลพฺภตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; มหานิ. ๑๘๖; กถา. ๒๓๓);

สตฺโตติ ปน วจนสฺส ปฺตฺติยา ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ สา เอวมาห –

‘‘ยถาปิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;

เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ สตฺโตติ สมฺมุตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; มหานิ. ๑๘๖; กถา. ๒๓๓);

ยทิ ปุคฺคโล น วิชฺชติ, กถํ ปุคฺคลคฺคหณสฺส สารมฺมณตา สิยาติ? อวิชฺชมานสฺสปิ อารมฺมณสฺส คหณโต. อวิชฺชมานมฺปิ หิ ปริกปฺปิตํ โลกสฺาตํ วา วิชฺชมานํ วา สภาวภูตํ อารมฺมณํ คเหตฺวาว อุปฺปชฺชนโต สารมฺมณตา วุตฺตา. สารมฺมณาติ หิ วจนํ จิตฺตเจตสิกานํ อารมฺมเณน วินา อปฺปวตฺติฺเว ทีเปติ, น เตหิ คหิตสฺส อารมฺมณสฺส วิชฺชมานตํ อวิชฺชมานตํ วาติ. อยํ สงฺขตาสงฺขตวินิมุตฺตสฺส อตฺถิตาปฏิเสธํ สพฺพถา อนุวตฺตนฺตานํ วินิจฺฉโย.

๑๓๑๖. นามกรณฏฺเนาติ อฺํ อนเปกฺขิตฺวา สยเมว อตฺตโน นามกรณสภาวโตติ อตฺโถ. ยฺหิ ปรสฺส นามํ กโรติ, ตสฺส จ ตทเปกฺขตฺตา อฺาเปกฺขํ นามกรณนฺติ นามกรณสภาวตา น โหติ. ตสฺมา มหาชนสฺส าตีนํ คุณานฺจ สามฺนามาทิการกานํ นามภาโว นาปชฺชติ. ยสฺส จ อฺเหิ นามํ กรียติ, ตสฺส จ นามกรณสภาวตา นตฺถีติ นตฺถิเยว นามภาโว, เวทนาทีนํ ปน สภาวสิทฺธตฺตา เวทนาทินามสฺส นามกรณสภาวโต นามตา วุตฺตา. ปถวีอาทินิทสฺสเนน นามสฺส สภาวสิทฺธตํเยว นิทสฺเสติ, น นามภาวสามฺํ, นิรุฬฺหตฺตา ปน นามสทฺโท อรูปธมฺเมสุ เอว วุตฺโต, น ปถวีอาทีสูติ น เตสํ นามภาโว. มาติกาย จ ปถวีอาทีนํ นามตานาปตฺติ วุตฺตาว. น หิ ปถวีอาทินามํ วิชหิตฺวา เกสาทินาเมหิ รูปธมฺมานํ วิย เวทนาทินามํ วิชหิตฺวา อฺเน นาเมน อรูปธมฺมานํ โวหริตพฺเพน ปิณฺฑากาเรน ปวตฺติ อตฺถีติ.

อถ วา รูปธมฺมา จกฺขาทโย รูปาทโย จ เตสํ ปกาสกปกาสิตพฺพภาวโต วินา นาเมน ปากฏา โหนฺติ, น เอวํ อรูปธมฺมาติ อธิวจนสมฺผสฺโส วิย นามายตฺตคหณียภาเวน ‘‘นาม’’นฺติ วุตฺตา, ปฏิฆสมฺผสฺโสปิ น จกฺขาทีนิ วิย นาเมน วินา ปากโฏติ ‘‘นาม’’นฺติ วุตฺโต. อรูปตาย วา อฺนามสภาคตฺตา สงฺคหิโตยํ, อฺผสฺสสภาคตฺตา วา. วจนตฺโถปิ หิ ‘‘รูปยตีติ รูปํ, นามยตีติ นาม’’นฺติ อิธ ปจฺฉิมปุริมานํ สมฺภวติ. รูปยตีติ วินาปิ นาเมน อตฺตานํ ปกาสยตีติ อตฺโถ, นามยตีติ นาเมน วินา อปากฏภาวโต อตฺตโน ปกาสกํ นามํ กโรตีติ อตฺโถ. อารมฺมณาธิปติปจฺจยตายาติ สติปิ รูปสฺส อารมฺมณาธิปติปจฺจยภาเว น ปรมสฺสาสภูตํ นิพฺพานํ วิย สาติสยํ ตํนามนสภาเวน ปจฺจโยติ นิพฺพานเมว ‘‘นาม’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๓๑๘. วฏฺฏมูลสมุทาจารทสฺสนตฺถนฺติ สตฺตานํ วฏฺฏมูลสมุทาจาโร นาม อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ, ตํทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สมุทาจรตีติ สมุทาจาโร, วฏฺฏมูลเมว สมุทาจาโร วฏฺฏมูลสมุทาจาโร, วฏฺฏมูลทสฺสเนน วฏฺฏมูลานํ ปวตฺติ ทสฺสิตา โหตีติ วฏฺฏมูลานํ สมุทาจารสฺส ทสฺสนตฺถนฺติปิ อตฺโถ.

๑๓๒๐. เอเกกสฺมิฺจ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คหณวิเสสํ อุปาทาย ‘‘อตฺตา จ โลโก จา’’ติ วุตฺตํ. เอกํ วา ขนฺธํ อตฺตโต คเหตฺวา อฺํ อตฺตโน อุปโภคภูโต โลโกติ คณฺหนฺตสฺส อตฺตโน อตฺตานํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ปรสฺส อตฺตานํ ‘‘โลโก’’ติ คณฺหนฺตสฺส วา วเสน ‘‘อตฺตา จ โลโก จา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ภวิสฺสตีติ ตํ ทฺวิธาปิ คหิตํ ขนฺธปฺจกํ ภวิสฺสตีติ นิวิฏฺา ปรามสนฺตีติ อตฺโถ.

๑๓๓๒. สห สิกฺขิตพฺโพ ธมฺโม สหธมฺโม, ตตฺถ ภวํ สหธมฺมิกํ. กมฺมตฺเถ วตฺตมานโต โทวจสฺสสทฺทโต อาย-สทฺทํ อนฺตฺถํ กตฺวา ‘‘โทวจสฺสาย’’นฺติ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทุพฺพจสฺส กมฺม’’นฺติ อาห. โทวจสฺสสฺส วา อยนํ ปวตฺติ โทวจสฺสายํ. วจนสฺส ปฏิวิรุทฺธวจนํ ปฏาณิกคหณํ. คุเณหิ ครูสุ คารเวน วสนํ ครุวาโส. ชาติอาทีหิ เชฏฺเกสุ ปฏิสฺสุณิตพฺเพสุ วสนํ สเชฏฺกวาโส. โอตฺตปฺปิตพฺพา วา ครุโน. หิริยิตพฺพา เชฏฺกา. ยาย เจตนาย ทุพฺพโจ โหติ, สา โทวจสฺสตา ภวิตุํ อรหตีติ ‘‘สงฺขารกฺขนฺโธเยวา’’ติ อาห.

๑๓๓๓. ทุ-สทฺเทน ยุตฺตํ นามํ ทุนฺนามํ. อนุปสงฺกมนฺตสฺสปิ อนุสิกฺขนํ เสวนาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ภชนาติ อุปสงฺกมนา’’ติ อาห. สพฺพโตภาเคนาติ กายวาจาจิตฺเตหิ อาวิ เจว รโห จ.

๑๓๓๖. วินโยติ วิภงฺคขนฺธกา วุตฺตา. วตฺถุวีติกฺกมโต ปุพฺเพ ปรโต จ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต นาม น โหตีติ สห วตฺถุนา อาปตฺตึ ปริจฺฉินฺทติ. เตนาห ‘‘สห วตฺถุนา…เป… อาปตฺติกุสลตา นามา’’ติ. สห กมฺมวาจายาติ อพฺภานติณวตฺถารกกมฺมวาจาย ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปชฺชิ’’นฺติอาทิกาย จ. สเหว หิ กมฺมวาจาย อาปตฺติวุฏฺานฺจ ปริจฺฉินฺทตีติ. อาปตฺติยา วา การณํ วตฺถุ, วุฏฺานสฺส การณํ กมฺมวาจาติ การเณน สห ผลสฺส ชานนวเสน ‘‘สห วตฺถุนา สห กมฺมวาจายา’’ติ วุตฺตํ.

๑๓๓๘. อยเมวตฺโถ สห ปริกมฺเมนาติ เอตฺถ วุตฺโต. วุฏฺานกปฺายาติ วุฏฺานสฺส การณภูตาย ปริกมฺมปฺาย.

๑๓๔๐. ธาตุวิสยา สพฺพาปิ ปฺา ธาตุกุสลตา, ตเทกเทสา มนสิการกุสลตาติ อธิปฺปาเยน ปุริมปเทปิ อุคฺคหมนสิการชานนปฺา วุตฺตา. ปุริมปเท วา วาจุคฺคตาย ธาตุปาฬิยา มนสิกรณํ ‘‘มนสิกาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อุคฺคณฺหนฺตี มนสิกโรนฺตี ธาตุปาฬิยา อตฺถํ สุณนฺตี คนฺถโต จ อตฺถโต จ ธาเรนฺตี ‘‘อยํ จกฺขุธาตุ นามา’’ติอาทินา สภาวโต อฏฺารเสวาติ คณนโต จ ปริจฺเฉทํ ชานนฺตี จ ปฺา อุคฺคหปฺาทิกา วุตฺตา. ปจฺฉิมปเท ปฺจวิธาปิ สา ปฺา อุคฺคโหติ ตโต จ ปวตฺโต อนิจฺจาทิมนสิกาโร ‘‘อุคฺคหมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต, ตสฺส ชานนํ ปวตฺตนเมว, ยถา ปวตฺตํ วา อุคฺคหํ, เอวเมว ปวตฺโต อุคฺคโหติ ชานนํ อุคฺคหชานนํ. มนสิกาโรปิ ‘‘เอวํ ปวตฺเตตพฺโพ เอวฺจ ปวตฺโต’’ติ ชานนํ มนสิการชานนํ. ตทุภยมฺปิ มนสิการโกสลฺลนฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโหปิ หิ มนสิการสมฺปโยคโต มนสิการนิรุตฺตึ ลทฺธุํ ยุตฺโตติ โย จ มนสิ กาตพฺโพ, โย จ มนสิกรณุปาโย, สพฺโพ โส มนสิกาโรติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ. ตตฺถ จ โกสลฺลํ มนสิการกุสลตาติ.

๑๓๔๒. ตีสุปิ วา…เป… วฏฺฏตีติ ตสฺสา จ อุคฺคหาทิภาโว วุตฺโต. สมฺมสนํ ปฺา, สา มคฺคสมฺปยุตฺตา อนิจฺจาทิสมฺมสนกิจฺจํ สาเธติ นิจฺจสฺาทิปชหนโต. มนสิกาโร สมฺมสนสมฺปยุตฺโต ตเถว อนิจฺจาทิมนสิการกิจฺจํ มคฺคสมฺปยุตฺโต สาเธติ. เตนาห ‘‘สมฺมสนมนสิการา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา’’ติ. อิมินา ปน ปจฺจเยน อิทํ โหตีติ เอวํ อวิชฺชาทีนํ สงฺขาราทิปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยภาวชานนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตาติ ทสฺเสติ.

๑๓๔๔. อมฺพพีชาทีนิ อนุปาทินฺนกทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. โสตวิฺาณาทีนํ วิสภาคา อนนุรูปา อนุปฺปาทกาเยว จกฺขาทโย ‘‘วิสภาคปจฺจยา’’ติ วุตฺตา, เตหิ อนุปฺปชฺชมานาเนว จ โสตวิฺาณาทีนิ ‘‘วิสภาคปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมา’’ติ. โสตวิฺาเณน วา วิสภาคสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโยติ วิสภาคปจฺจโย, จกฺขายตนสฺส วิสภาเคน โสตายตเนน ปจฺจเยน สมุปฺปนฺโน วิสภาคปจฺจยสมุปฺปนฺโน.

๑๓๔๖. อชฺชวนิทฺเทเส อชฺชโว อชฺชวตาติ อุชุตา อุชุกตา อิจฺเจว วุตฺตํ โหตีติ อชฺชวมทฺทวนิทฺเทเสสุ อุชุกตามุทุตานิทฺเทเสหิ วิเสสํ มทฺทวนิทฺเทเส วุตฺตํ ‘‘นีจจิตฺตตา’’ติปทมาห. ตตฺถ ‘‘นีจจิตฺตตา มุทุตา’’ติ ปุน มุทุตาวจนํ นีจจิตฺตตาย วิเสสนตฺถํ. โอมาโนปิ หิ นีจจิตฺตตา โหติ, น ปน มุทุตาติ.

๑๓๔๘. ปเรสํ ทุกฺกฏํ ทุรุตฺตฺจ ปฏิวิโรธากรเณน อตฺตโน อุปริ อาโรเปตฺวา วาเสนฺติ. จิตฺตสฺส สกมนตาติ จิตฺตสฺส อพฺยาปนฺโน สโก มโนภาโวติ อตฺโถ. จิตฺตนฺติ วา จิตฺตปฺปพนฺธํ เอกตฺเตน คเหตฺวา ตสฺส อนฺตรา อุปฺปนฺเนน ปีติสหคตมเนน สกมนตฺตํ อาห. อตฺตมโน วา ปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อตฺตมนตา. สา น สตฺตสฺสาติ ปุคฺคลทิฏฺินิวารณตฺตํ ‘‘จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

๑๓๔๙. กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส อกรเณน อสาทิยิตพฺพสฺส สาทิยเนน จ มนสาปิ อาจรติ เอว, อินฺทฺริยสํวราทิเภทนวเสน วา เอตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๕๐. สโทสวเณ รุกฺเข นิยฺยาสปิณฺฑิโย, อหิจฺฉตฺตกานิ วา อุฏฺิตานิ ‘‘อณฺฑกานี’’ติ วทนฺติ. เผคฺคุรุกฺขสฺส ปน กุถิตสฺส อณฺฑานิ วิย อุฏฺิตา จุณฺณปิณฺฑิโย คณฺิโย วา ‘‘อณฺฑกานี’’ติ เวทิตพฺพา. ปทุมนาฬํ วิย โสตํ ฆํสยมานา วิย ปวิสนฺตี กกฺกสา ทฏฺพฺพา. โกเธน นิพฺพตฺตา ตสฺส ปริวารภูตา โกธสามนฺตา. ปุเร สํวฑฺฒนารี โปรี, สา วิย สุกุมารา มุทุกา วาจา โปรี วิยาติ โปรี. ตตฺถาติ ‘‘ภาสิตา โหตี’’ติ วุตฺตาย กิริยายาติปิ โยชนา สมฺภวติ, ตตฺถ วาจายาติ วา. สณฺหวาจตาติอาทินา ตํ วาจํ ปวตฺตยมานํ เจตนํ ทสฺเสติ.

๑๓๕๑. อามิสาลาเภน ยํ ฉิทฺทํ โหติ, ตํ อามิสาลาเภน ‘‘ฉิทฺท’’นฺติ วุตฺตํ. ทฺเวเยว หีติ ยถาวุตฺตานิ อามิสธมฺมาลาเภหิ ปวตฺตมานานิ ฉิทฺทานิ อาห. คมนสภาเคนาติ คมนมคฺคสฺส อนุจฺฉวิกทิสาภาเคน. สงฺคหปกฺเข ตฺวาติ สงฺคหํ กโรมิจฺเจว กเถตพฺพํ, น ลาภสกฺการกามตาทีหีติ อตฺโถ. อวสฺสํ กาตพฺพํ กิจฺจํ, อิตรํ กรณียํ. อพฺภานโต อฺํ อาปตฺติวุฏฺานํ ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๓๕๒. สสมฺภารกถาติ ทสฺสนสฺส การณสหิตาติ อตฺโถ, สสมฺภารสฺส วา ทสฺสนสฺส กถา สสมฺภารกถา. ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตูติ วตฺวา ปุน ‘‘ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ, น อสํวรสฺสาติ. ตทิทํ ยํ จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนํ ทสฺสิตํ, ตํ อสํวุตจกฺขุนฺทฺริยสฺเสว เหตุปวตฺตํ ทสฺสิตนฺติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, ยตฺวาธิกรณนฺติ หิ ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส การณาติ อตฺโถ. กสฺส จ การณาติ? อสํวุตสฺส. กิฺจ อสํวุตํ? ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อนฺวาสฺสวนฺติ ตทุปลกฺขิตํ, ตสฺส สํวรายาติ อยมตฺถโยชนา.

ชวนกฺขเณ ปน ทุสฺสีลฺยํ วาติอาทิ ปุน อวจนตฺถํ อิเธว สพฺพํ วุตฺตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. น หิ ปฺจทฺวาเร กายวจีทุจฺจริตสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ อตฺถีติ. ยถา กินฺติอาทินา นครทฺวาเร อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ฆราทีนํ อสํวุตตา วิย ชวเน อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ทฺวาราทีนํ อสํวุตตาติ เอวํ อฺเสํ สํวเร, อฺเสํ สํวุตตาสามฺเมว นิทสฺเสติ, น ปุพฺพาปรสามฺํ อนฺโต พหิ สามฺํ วา. สติ วา ทฺวารภวงฺคาทิเก ปุน อุปฺปชฺชมานํ ชวนํ พาหิรํ วิย กตฺวา นครทฺวารสมานํ วุตฺตํ, อิตรฺจ อนฺโตนครทฺวารสมานํ. ชวเน วา อสํวเร อุปฺปนฺเน ตโต ปรํ ทฺวารภวงฺคาทีนํ อสํวรเหตุภาวาปตฺติโต นครทฺวารสทิเสน ชวเนน ปวิสิตฺวา ทุสฺสีลฺยาทิโจรานํ ทฺวารภวงฺคาทิมูสนํ กุสลภณฺฑวินาสนํ กถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๑๓๕๓. อิมินา อาหาเรน นิตฺถรณตฺเถน อตฺถิกภาโว อิทมตฺถิกตา. อาหารปริโภเค อสนฺตุสฺสนาติ อาหารปริโภคกฺขเณ ปวตฺตา อสนฺตุสฺสนา, ทวตฺถาทิอภิลาโสติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อสนฺตุฏฺิตา โลโภ, อมตฺตฺุตา อปฺปฏิสงฺขา จ โมโหติ อิเม ทฺเว ธมฺมา ‘‘โภชเน อมตฺตฺุตา’’ติ เวทิตพฺพา.

๑๓๕๕. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา ปวตฺตมาโนว มานมโท. อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย ปวตฺโต มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท. สกฺกรสปฺปิขีราทีนิ โยเชตฺวา พหลปกฺกํ โภชนํ ปิณฺฑรสโภชนํ, พหลปกฺกํ วา มํสรสาทิโภชนํ. มนฺทนฺติ อปฺปํ. ิติยาติ ิตตฺถํ. ตทตฺถฺจ ภุฺชนฺโต ยสฺมา ‘‘กายํ เปสฺสามี’’ติ ภุฺชติ, ตสฺมา ‘‘ปนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกาติ อิทํ ขุทาย วิเสสนํ ยสฺสา อปฺปวตฺติ โภชเนน กาตพฺพา, ตสฺสา ทสฺสนตฺถํ. สกลํ สาสนนฺติ ปาฬิธมฺมมฺปิ สพฺพกุสเลปิ สงฺคณฺหาติ. อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา, ภุตฺตปจฺจยา น อุปฺปชฺชนกเวทนาติ เอตาสํ โก วิเสโส? ปุริมา ยถาปวตฺตา ชิฆจฺฉานิมิตฺตา เวทนา. สา หิ อภุฺชนฺตสฺส ภิยฺโย ปวตฺตนวเสน อุปฺปชฺชตีติ. ปจฺฉิมาปิ ขุทานิมิตฺตาว องฺคทาหสูลาทิเวทนา อปฺปวตฺตา. สา หิ ภุตฺตปจฺจยา ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนาว น อุปฺปชฺชิสฺสติ. วิหึสานิมิตฺตตา เจตาสํ วิหึสาย วิเสโส.

ยาตฺราติ ยาปนา วุตฺตา, ปุพฺเพปิ ‘‘ยาปนายา’’ติ วุตฺตํ, โก เอตฺถ วิเสโส? ปุพฺเพ ‘‘ยาปนายาติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ, อิธ ปน จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนา ยาตฺราติ อยเมตฺถ วิเสโส. ทายกเทยฺยธมฺมานํ อตฺตโน จ ปมาณํ อชานิตฺวา ปฏิคฺคหณํ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนตฺถํ วา ปฏิคฺคหณํ อธมฺมิกปฏิคฺคหณํ, เยน วา อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อธมฺเมน ปริโภโค. อนวชฺเช อนินฺทิตพฺเพ ปจฺจเย สาวชฺชํ สนินฺทํ ปริโภเคน อตฺตานํ กโรติ. อนวชฺชตา จ ภวิสฺสตีติ อตฺตโน ปกติอคฺคิพลาทึ ชานิตฺวา ‘‘เอวํ เม อครหิตพฺพตา จ ภวิสฺสตี’’ติ ปมาณยุตฺตํ อาหาเรตีติ อตฺโถ.

สุโข อิริยาปถวิหาโร ผาสุวิหาโร. เอตฺตกฺหิ ภุฺชิตฺวา…เป… ปวตฺตนฺตีติ อิริยาปถานํ สุขปฺปวตฺติยา การณภูตํ ภุฺชนํ ปิวนฺจ อิริยาปเถหิ การณภาเวน คหิตตฺตา เตหิ สาธิตํ วิย วุตฺตํ. ‘‘อภุตฺวา อุทกํ ปิเว’’ติ ลิขนฺติ, ‘‘ภุตฺวานา’’ติ ปน ปาโ. ปุนปิ หิ อปฺปสฺเสว อนุชานนวเสน –

‘‘กปฺปิยํ ตํ เจ ฉาเทติ, จีวรํ อิทมตฺถิกํ;

อลํ ผาสุวิหาราย.

‘‘ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเก นาภิวสฺสติ;

อลํ ผาสุวิหารายา’’ติ. (เถรคา. ๙๘๔-๙๘๕) –

อาห.

โภชนานิสํโสติ ยถาวุตฺเตหิ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส โภชนสฺส อครหิตพฺพตา สุขวิหาโร จ อานิสํโสติ อตฺโถ. ยุตฺตสฺส นิทฺโทสสฺส โภชนสฺส ปริมาณสฺส จ วเสน ชานนํ ยุตฺตปมาณชานนํ นาม.

๑๓๕๖. วินาสํ ปตฺติยา นฏฺา, ปฏิปกฺเขหิ อภิภูตตฺตา มุฏฺา จ สติ ยสฺส, โส นฏฺมุฏฺสฺสติ, ตสฺส ภาโว นฏฺมุฏฺสฺสติตา.

๑๓๖๘. วิสุทฺธิปฺปตฺตนฺติ มคฺคผลสีลํ วุจฺจติ. โลกุตฺตรธมฺมาวาติ โลกุตฺตรสติอาทิธมฺมาว. สีลสมฺปทา ปน รูปารูปาวจรา นตฺถีติ สมฺภวโต โยเชตพฺพา.

๑๓๗๓. โภคูปกรเณหิ สโภโค. จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมนฺติ จตุสจฺจปฺปฏิเวธสฺส อนุโลมนฺติ อตฺโถ. ‘‘สจฺจาน’’นฺติ หิ ปฏิวิชฺฌิตพฺเพหิ ปฏิเวโธ วุตฺโต, จตุสจฺจปฺปฏิเวธสฺส วา อุปนิสฺสยภูตํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานํ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมนฺติ วุตฺตํ.

๑๓๗๘. ‘‘มม ฆรํ ธุรํ กตฺวา ภิกฺขํ ปวิสถา’’ติ ทิยฺยมานํ ธุรภตฺตนฺติ วทนฺติ. นิจฺจภตฺตาทิ วา อฺเปิ อาณาเปตฺวา สยํ ธุรํ หุตฺวา ทินฺนํ ธุรภตฺตํ.

๑๓๗๙. ปฏิวาเสติ นามาติ นิวตฺเตติ นาม โอสกฺเกติ นาม.

๑๓๘๐. ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธาติ ปุริมชาตีสุ สนฺตติปริยาปนฺเน ขนฺเธ อาห. ขนฺธปฏิพทฺธนฺติ วตฺถาภรณยานคามชนปทาทิ. ขยสมเยติ มคฺคกฺขณํ อาห.

๑๓๘๑. อธิมุจฺจนฏฺเนาติ อนิคฺคหิตปกฺขนฺทนสงฺขาเตน ยถาสุขํ ปวตฺตนฏฺเน.

๑๓๘๒. ขีณานํ อนฺโต อวสานํ นิฏฺิตภาโว ขีณนฺโต, ขีณานํ วา อาทิกาโล, ตสฺมึ ขีณนฺเต. เอส นโย นิรุทฺธนฺเตติอาทีสุ.

ทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อฏฺกถากณฺฑํ

ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา

๑๓๘๔. นยมคฺคนฺติ สุตฺตนฺตภาชนียาทินยคมนํ อนุโลมาทินยคมนฺจ. ตมฺปิ หิ เอตฺถ อตฺเถสุ นิจฺฉิเตสุ สุขํ สมาเนนฺติ. ปฺหุทฺธารนฺติ เอกูนปฺาสาย เอกูนปฺาสาย นวสุ นวสุ จ ปฺเหสุ ลพฺภมานสฺส อุทฺธรณํ, เตสุเยว ลพฺภมานานํ คณนานํ ปนํ คณนาจาโร. อตฺถุทฺธารนฺติ ‘‘อิเม นาม จิตฺตุปฺปาทาทโย อตฺถา กุสลาทิกา’’ติ อุทฺธรณํ. กณฺณิกํ กณฺณิกนฺติ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑรูปกณฺเฑสุ วิภตฺเต ปสเฏ ธมฺเม ‘‘จตูสุ ภูมีสุ กุสลํ ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา ราสิราสิวเสน สห คนฺเถตฺวาติ อตฺโถ. ฆฏโคจฺฉกา กณฺณิกเววจนาเนว. เอตฺถ ปน จตูสุ ภูมีสุ กุสลนฺติ เอกวจนนิทฺเทโส จตุภูมกานํ กุสลผสฺสาทีนํ กุสลภาเว เอกตฺตูปคมนโต. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑรูปกณฺเฑสุ จตุภูมิจิตฺตุปฺปาทาทิวเสน วิฺาตธมฺมสฺส วเสนายํ อตฺถุทฺธารเทสนา อารทฺธาติ ตตฺถ ยํ จตูสุ ภูมีสุ กุสลํ วิภตฺตํ ยาว วิฺาตํ, อิเม ธมฺมา กุสลาติ อตฺโถ.

ยทิปิ กุสลตฺติกวิตฺถาโร ปุพฺเพ วิฺาโต, ตถาปิ ตตฺถ ธมฺมา สมยวเสน ผสฺสาทิสภาววเสน จ วิภตฺตา ภินฺนา วิฺาตา, น ปน เอกสฺมึ ลกฺขเณ สมาเนตฺวา, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตํ สมยาทิเภทํ วชฺเชตฺวา สพฺพเภทภินฺนานํ เอกสฺมึ กุสลาทิลกฺขเณ สมาเนตฺวา โพธนตฺถํ อิธ กุสลตฺติกนิทฺเทโส ปุน วิภตฺโต. เอตฺถ จ เอกวจเนน กุสลนิทฺเทสํ กตฺวา พหุวจเนน นิคมนสฺส การณํ วุตฺตเมว. ยทิ ธมฺมานํ กุสลตฺเต เอกตฺตูปคมนํ, กสฺมา เอกวจเนน ปุจฺฉาปิ น กตา? อุทฺเทเส กุสล-สทฺทสฺส ธมฺมวิเสสนภาวโต ตพฺพิเสสนานํ ธมฺมานํ ปุจฺฉิตตฺตา เตสฺจ อนิทฺธาริตสงฺขาวิเสสตฺตา, นิทฺเทเส ปน จตูหิ ภูมีหิ วิตฺถารโต วิฺาตาหิ กุสเล วิเสเสตฺวา ทสฺเสตีติ ยุตฺตํ ‘‘จตูสุ ภูมีสุ กุสล’’นฺติ เอกตฺตํ เนตฺวา วจนํ. กุสลปทฺหิ เอตฺถ ปธานํ, ตฺจ วิเสสิตพฺพานเปกฺขํ กุสลาการเมว อตฺตโน สภาเว ิตํ คเหตฺวา ปวตฺตมานํ เอกตฺตเมว อุปาทาย ปวตฺตติ, น เภทนฺติ.

๑๓๘๕. ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทาติ เอตฺถาปิ ปมากุสลจิตฺตุปฺปาโท สมยผสฺสาทิวเสน เภทํ อนามสิตฺวา โสมนสฺสสหคตทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทภาเว เอกตฺตํ เนตฺวา วุตฺโต, เอวํ ยาว ทฺวาทสโมติ ‘‘ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ จตูสุ ภูมีสุ วิปาโกติอาทีสุปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. จิตฺตุปฺปาทาติ เอตฺถ อุปฺปชฺชติ เอตฺถาติ อุปฺปาโท, กึ อุปฺปชฺชติ? จิตฺตํ, จิตฺตสฺส อุปฺปาโท จิตฺตุปฺปาโทติ เอวํ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณวเสน อตฺโถ สมฺภวติ. เอวฺหิ สติ จิตฺตเจตสิกราสิ จิตฺตุปฺปาโทติ สิทฺโธ โหติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘จิตฺตเมว อุปฺปาโท จิตฺตุปฺปาโท’’ติ อฺสฺสุปฺปชฺชนกสฺส นิวตฺตนตฺถํ จิตฺตคฺคหณํ กตํ, จิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนกภาวนิวตฺตนตฺถํ อุปฺปาทคฺคหณํ, จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ วา ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภาโว ปากโฏติ กตฺวา ‘‘จิตฺตเมว อุปฺปาโท’’ติ วุตฺตํ, จิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนกสฺส นิวตฺเตตพฺพสฺส สพฺภาวา อุปฺปาทคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยฺจตฺโถ ‘‘ทฺเวปฺจวิฺาณานี’’ติอาทีสุ วิย จิตฺตปฺปธาโน นิทฺเทโสติ กตฺวา วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

๑๔๒๐. ฉสุ ทฺวาเรสูติ เอตฺถ ปฺจทฺวาเร วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, มโนทฺวาเรปิ ปริตฺตารมฺมณเมว ชวนํ ตทารมฺมณสงฺขาตํ ภวงฺคํ อนุพนฺธติ. ตฺหิ ปริตฺตสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, วิปาโก จ อิฏฺานิฏฺารมฺมณานุภวนํ, กมฺมานุรูโป จ วิปาโก โหตีติ ปริตฺตกมฺมวิปาโก ปริตฺตารมฺมณสฺเสว อนุภวนํ โหติ. ตสฺมา สพฺพํ ตทารมฺมณํ ‘‘ปริตฺตารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ มหคฺคตวิปาโกปิ มหคฺคตานุภวนเมว อาปชฺชตีติ เจ? น, สมาธิปฺปธานสฺส กมฺมสฺส อปฺปนาปฺปตฺตสฺส สฺาวสารมฺมณสฺส ตาทิเสเนว วิปาเกน ภวิตพฺพตฺตา. ตสฺมา สมาธิ สุขานุภวนภูโต, โสปิ กมฺมานุรูปโตเยว กมฺมารมฺมโณ โหตีติ ทฏฺพฺโพ. กมฺมานุรูปโต เอว จ ตทารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณมฺปิ มหคฺคตชวนํ นานุพนฺธติ. ตโต เอว ปฏิสนฺธิอาทิภูโต กามาวจรวิปาโก กมฺมนิมิตฺตมฺปิ ปริตฺตเมว อารมฺมณํ กโรติ, น มหคฺคตํ อปฺปมาณํ วา. ยสฺมา ปน วุตฺตํ ‘‘มหคฺคตารมฺมโณ ธมฺโม ปริตฺตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, อปฺปมาณารมฺมโณ ธมฺโม ปริตฺตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ, น จ มหคฺคตปฺปมาณวิปาโก ปริตฺตารมฺมโณ อตฺถิ, อิธ จ สพฺพกามาวจรวิปากานํ ปริตฺตารมฺมณตาว วุตฺตา, ตสฺมา กมฺมานุรูปโต มหคฺคตปฺปมาณารมฺมณมฺปิ ปริตฺตกมฺมํ ยทิ ปฏิสนฺธึ เทติ, กมฺมคตินิมิตฺตารมฺมณเมว เทติ. ปวตฺติวิปากมฺปิ รูปาทิปริตฺตารมฺมณเมวาติ เวทิตพฺพํ. ขีณาสวานํ วาสนาวเสน สติวิปฺปยุตฺตหสนํ ปวตฺตมานํ ปริตฺเตสฺเวว ปวตฺตติ, น อิตเรสุ กิเลสวิรเห ตาทิสหสนปจฺจยภาวาภาวโต. ตสฺมา ตสฺส ปริตฺตารมฺมณตา วุตฺตา. ขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานาทีนิ อาทรากรณวเสเนว เวทิตพฺพานิ, น โกสชฺชาทิอกุสลวเสน. ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพุสฺสุกฺกา หิ เต อุตฺตมปุริสาติ. เตสํ อาทรากรณฺจ นิรุสฺสุกฺกตา เอวาติ เวทิตพฺพา.

๑๔๒๑. อติปคุณานนฺติ วจนํ นิราทรสฺส าณวิปฺปยุตฺตปจฺจเวกฺขณสฺส วิสยทสฺสนํ, น ตสฺเสวาติ วิสยนิยมนํ. าณสมฺปยุตฺตสฺสปิ หิ อติปคุณานํ วิสยตา สุฏฺุตรํ โหติ เอว. ยถา ปคุณํ คนฺถํ สชฺฌายนฺโต ทฺเว ตโย วาจนามคฺเค คเตปิ น สลฺลกฺเขติ าณวิปฺปยุตฺตสติมนฺเตน สชฺฌายิตตฺตา, เอวํ ปคุณชฺฌาเนสุปิ ปวตฺติ โหตีติ อาห ‘‘อติปคุณาน’’นฺติอาทิ. กสิณนิมิตฺตาทิปฺตฺตีติ ปุพฺเพ ทสฺสิตํ สพฺพํ อุปาทาปฺตฺติมาห. ตํ ปน รูปาทโย วิย อวิชฺชมาโน วิชฺชมาโน จ อตฺโถติ อาจริยา วทนฺติ. สมฺมุติสจฺเจ ปน วุจฺจมานานํ กสิณนิมิตฺตาทิ วาจาวตฺถุมตฺตโต วจนโวหาเรเนว ปฺตฺตีติ วุจฺจติ. ตสฺส หิ ปฺาปนํ อวิชฺชมานปฺตฺตีติ ตสฺส อวิชฺชมานตฺตํ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ. อวิชฺชมานมฺปิ ปน ตํ วิชฺชมานมิว คเหตฺวา ปวตฺตมานาย สฺาย ปริตฺตาทีสุ ‘‘อยํ นาม ธมฺโม อารมฺมณ’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ เต เอว ธมฺเม อุปาทาย ปวตฺตมานายปิ ธมฺเมสฺเวว อฏฺานโต. ตสฺมา สา สสมฺปยุตฺตา ปริตฺตาทิอารมฺมณาติ น วตฺตพฺพาติ วุตฺตา. นวตฺตพฺพารมฺมณาติ อิทํ ปน วจนํ ยถาคหิตาการสฺส สฺาวิสยสฺส นวตฺตพฺพตํ สนฺธาย นวตฺตพฺพํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ นวตฺตพฺพารมฺมณา, จิตฺตุปฺปาทาติ อฺปทตฺถสมาสํ กตฺวา อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

จตุปฺาสจิตฺตุปฺปาทานํ รูปสฺส จ วเสน ปฺจปณฺณาสาย. เกวลนฺติ วินา ปรามสเนน. อนิฏฺงฺคตวเสนาติ อนิจฺฉยคมนวเสน, อนิจฺฉยํ วา ทฺเวฬฺหํ คโต จิตฺตุปฺปาโท อนิฏฺงฺคโต, เตนากาเรน ปวตฺติ ‘‘อนิฏฺงฺคตวเสน ปวตฺตี’’ติ วุตฺตา. นานารมฺมเณสุ จิตฺตสฺส วิกฺขิปนํ วิกฺเขโป. อนวฏฺานํ อวูปสโม. โคตฺรภุโวทาเน โคตฺรภูติ คเหตฺวา ‘‘โคตฺรภุกาเล’’ติ อาห.

สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถนฺติ อิธ สพฺพตฺถ-สทฺโท สามิอตฺโถ ทฏฺพฺโพ, สพฺเพสุ วา วิปสฺสนาทีสุ ปาทกํ การณํ สพฺพตฺถปาทกนฺติ ผลสฺส วิสยภาเวน นิทฺเทโส. อากาสกสิณจตุตฺถนฺติ ปริจฺเฉทากาสกสิณจตุตฺถมาห. ตฺหิ รูปาวจรํ, น อิตรนฺติ. กุสลโตปิ ทฺวาทสวิธํ กิริยโตปีติ จตุวีสติวิธตา วุตฺตา โหติ. วฏฺฏสฺสปิ ปาทกํ โหติเยวาติ กุสลํ กิริยฺจ เอกโต กตฺวา สพฺพตฺถปาทกํ วุตฺตนฺติ กิริยชฺฌานสฺส อวฏฺฏปาทกตฺตา สาสงฺกํ วทติ. มหคฺคตจิตฺเต สโมทหตีติ อิทํ ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ ปากฏํ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ ปริกมฺเมหิ คเหตฺวา จิตฺเต รูปกายํ อธิฏฺานจิตฺเตน สโมทหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ปาทกชฺฌานจิตฺตํ รูปกาเย สโมทหตีติ อิทมฺปิ ยถาวุตฺตํ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตสนฺตานํ รูปกาเย สโมทหิตํ ตทนุคติกํ กตฺวา อธิฏฺาตีติ กตฺวา วุตฺตํ, อิทํ ปน อธิฏฺานทฺวยํ อทิสฺสมานกายตํ ทิสฺสมานกายตฺจ อาปาเทติ. คนฺตุกามตาปริกมฺมวเสน ตํสมฺปยุตฺตาย สฺาย สุขสฺาลหุสฺาภาวโต คมนมฺปิ นิปฺผาเทตีติ ทฏฺพฺพํ.

โสตาปนฺนสฺส จิตฺตนฺติ โสตาปนฺนสฺส ปาฏิปุคฺคลิกํ มคฺคผลจิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มาราทีนฺหิ ภควโต จิตฺตชานนํ วุตฺตนฺติ เจโตปริยาณลาภี กสฺมา สาสวจิตฺตํ น ชานิสฺสตีติ. ฉินฺนวฏุมกา ฉินฺนสํสารวฏฺฏา พุทฺธา. มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณโตปีติ เอตฺถ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณานิ ตาว ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน มคฺคผเลสุ าเตสุ ปวตฺตนฺติ, นิพฺพานปจฺจเวกฺขณฺจ นิพฺพานารมฺมเณสุ อปฺปมาณธมฺเมสุ าเตสูติ มคฺคาทิปจฺจเวกฺขณานิ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อปฺปมาณารมฺมณตํ สาเธนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ‘‘อปฺปมาณา ขนฺธา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’อิจฺเจว (ปฏฺา. ๒.๑๒.๕๘) หิ วุตฺตํ, น นิพฺพานนฺติ. ตสฺมา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน เอว มคฺคผลปจฺจเวกฺขณกิจฺเจ วุจฺจมาเนปิ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณตา น สกฺกา วตฺตุํ, อฏฺกถายํ ปน ตสฺสปิ นิพฺพานารมฺมณตา อนุฺาตาติ ทิสฺสติ. กามาวจเรนิพฺพตฺติสฺสตีติ นิพฺพตฺตกฺขนฺธชานนมาห. นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิสฺสตีติ นิพฺพานารมฺมเณหิ มคฺคผเลหิ กิเลสปรินิพฺพานภูเตหิ ปรินิพฺพายิสฺสตีติ อตฺโถ สมฺภวติ.

๑๔๒๙. อสหชาตตฺตาติ อสมฺปยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. น หิ อรูปธมฺมานํ อรูปธมฺเมหิ สหชาตตา สมฺปโยคโต อฺา อตฺถีติ. ‘‘อฺธมฺมารมฺมณกาเล’’ติ วุตฺตํ, มคฺคารมฺมณกาเลปิ ปน ครุํ อกรเณ มคฺคาธิปติภาเวน นวตฺตพฺพตา โยเชตพฺพา.

๑๔๓๓. นิโยคาติ นิโยคโตติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘นิยเมนา’’ติ อาห, นิโยควนฺโต วา นิโยคา, นิยตาติ อตฺโถ. จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ หิ โพธิเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ เอกนฺเตน อนาคตารมฺมโณ โกจิ นตฺถีติ.

๑๔๓๔. กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ ปวตฺติยํ อตีตารมฺมณาวาติ วุตฺตํ, กมฺมนิมิตฺตํ ปน อารพฺภ ปวตฺติยํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณภาวฺจ ปฏิสนฺธิยา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนายํ วกฺขติ. ตสฺมา อิทํ มโนทฺวารจุติยํ อตีตกมฺมนิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถคตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สตทารมฺมณาย จุติยา ปฺจจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก คตินิมิตฺเต ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตาย จตฺตาริ ภวงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานิ, อิตรตฺถ จ ฉ สนฺธายาห ‘‘ตโต ปรํ ภวงฺคกาเล จา’’ติ. ยทา หิ คตินิมิตฺตารมฺมเณ ชวเน ปวตฺเต อนุปฺปนฺเน เอว ตทารมฺมเณ จุติ โหติ รูปาวจรารูปาวจรสตฺตสฺส วิย กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส, ตทา ปฏิสนฺธิโต ปรานิ ฉ ภวงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานิ โหนฺตีติ. ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตหิ อสฺสาทนาทีนิ สปรามาสาเนว ทฏฺพฺพานิ. ปณฺณตฺตินิพฺพานารมฺมณานฺจ ชวนานํ ปุเรจาริกกาเลติ เยสํ ปุเรจาริกกาเล เอกนฺเตน อาวชฺชนาย อตีตาทิอารมฺมณภาเวน นวตฺตพฺพตา, เตสํ วเสน นยํ ทสฺเสติ. นิพฺพานารมฺมณานมฺปิ ชวนานํ ปุเรจาริกกาเล สา ตถา น วตฺตพฺพา, น ปน เอกนฺเตน มคฺคผลวีถีสุ ตสฺสา อนิพฺพานารมฺมณตฺตา.

อิเม คนฺธาติ นนุ ปจฺจุปฺปนฺนา คนฺธา คหิตา, กถํ เอตฺถ อนาคตารมฺมณตา โหตีติ? ‘‘อฏฺารสวสฺสาธิกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ มา สุสฺสึสู’’ติ ปวตฺติโต, อนาคเต มา สุสฺสึ สูติ หิ อนาคตํ คนฺธํ คเหตฺวา ปวตฺตตีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมนฺโต อภิมุขีภูตํ ตทา วิชฺชมานเมว กายํ อารมฺมณํ กโรตีติ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ อธิฏฺานจิตฺตํ โหติ. ตถา อตฺตโน กายสฺส ทีฆรสฺสาณุถูลนีลาทิภาวาปาทนวเสน อฺสฺส จ ปาฏิหาริยสฺส กรเณ โยเชตพฺพํ. เอตฺถนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพาติ เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปสนฺตติอรูปสนฺตติวารา เอกทฺเวสนฺตติวารา นามาติ เวทิตพฺพาติ อตฺโถ. อติปริตฺตสภาวอุตุอาทิสมุฏฺานา วา ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารา’’ติ วุตฺตา. อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ เอตํ อุภยํ โหตีติ อตฺโถ. สํหีรตีติ ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนาหิ อากฑฺฒียติ.

เกจีติ อภยคิริวาสิโนติ วทนฺติ, เต ปน จิตฺตสฺส ิติกฺขณํ น อิจฺฉนฺตีติ ‘‘ิติกฺขเณ วา ปฏิวิชฺฌตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา เย ‘‘อิทฺธิมสฺส จ ปรสฺส จ เอกกฺขเณ วตฺตมานํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ‘‘ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา ปฏิวิชฺฌตี’’ติ วจนํ น สเมติ. น หิ ตสฺมึ ขณทฺวเย อุปฺปชฺชมานํ ปรจิตฺเตน สห เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชติ นามาติ. ิติภงฺคกฺขเณสุ จ อุปฺปชฺชมานํ เอกเทสํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ, เอกเทสํ อตีตารมฺมณํ อาปชฺชติ. ยฺจ วุตฺตํ ‘‘ปรสฺส จิตฺตํ ชานิสฺสามีติ ราสิวเสน มหาชนสฺส จิตฺเต อาวชฺชิเต’’ติ, เอตฺถ จ มหาชโน อตฺตนา ปเร อเนเก ปุคฺคลาติ ปเรสํ จิตฺตํ ชานิสฺสามีติ อาวชฺชนปฺปวตฺติ วตฺตพฺพา สิยา. อถาปิ ปรสฺสาติ มหาชนสฺสาติ อตฺโถ สมฺภเวยฺย, ตถาปิ ตสฺส ปุคฺคลสฺเสว วา จิตฺตราสึ อาวชฺชิตฺวา เอกสฺส ปฏิวิชฺฌนํ อยุตฺตํ. น หิ ราสิอาวชฺชนํ เอกเทสาวชฺชนํ โหตีติ. ตสฺมา เตหิ ‘‘มหาชนสฺส จิตฺเต อาวชฺชิเต’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ.

ยํ ปน เต วทนฺติ ‘‘ยสฺมา อิทฺธิมสฺส จ ปรสฺส จ เอกกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ, ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา – เจโตปริยาณลาภี ปรสฺส จิตฺตํ าตุกาโม ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อตีตาทิวิภาคํ อกตฺวา จิตฺตสามฺเน ‘‘อิมสฺส จิตฺตํ ชานามี’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สามฺเเนว จิตฺตํ อาวชฺชิตฺวา ติณฺณํ จตุนฺนํ วา ปริกมฺมานํ อนนฺตรา เจโตปริยาเณน ปรจิตฺตํ ปฏิวิชฺฌติ วิภาเวติ รูปํ วิย ทิพฺพจกฺขุนา. ตโต ปรํ ปน กามาวจรจิตฺเตหิ สราคาทิววตฺถานํ โหติ นีลาทิววตฺถานํ วิย. ตตฺถ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺหทยวตฺถุรูปสฺส สตฺตสฺส อภิมุขีภูตสฺส จิตฺตสามฺเน จิตฺตํ อาวชฺชยมานํ อาวชฺชนํ อภิมุขีภูตํ วิชฺชมานํ จิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาวชฺเชติ. ปริกมฺมานิ จ ตํ ตํ วิชฺชมานํ จิตฺตํ จิตฺตสามฺเเนว อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตชานนปริกมฺมานิ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. เจโตปริยาณํ ปน วิชฺชมานํ จิตฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ วิภาเวนฺตํ เตน สห เอกกฺขเณ เอว อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยสฺมา สนฺตานสฺส สนฺตานคฺคหณโต เอกตฺตวเสน อาวชฺชนาทีนิ จิตฺตนฺตฺเวว ปวตฺตานิ, ตฺจ จิตฺตเมว, ยํ เจโตปริยาเณน วิภาวิตํ, ตสฺมา สมานาการปฺปวตฺติโต น อนิฏฺเ มคฺคผลวีถิโต อฺสฺมึ าเน นานารมฺมณตา อาวชฺชนชวนานํ โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณฺจ ปริกมฺมํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส เจโตปริยาณสฺส อาเสวนปจฺจโยติ สิทฺธํ โหติ. อตีตตฺติโก จ เอวํ อภินฺโน โหติ. อฺถา สนฺตติปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเน จ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อิธ วุจฺจมาเน อตีตานาคตานฺจ ปจฺจุปฺปนฺนตา อาปชฺเชยฺย, ตถา จ สติ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ ตํ วุตฺตํ. ‘‘อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, ปุริมา ปุริมา อตีตา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ อนนฺตร…เป… อนุโลมํ โคตฺรภุสฺสา’’ติอาทิวจนโต (ปฏฺา. ๒.๑๘.๕) ปน อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺเนสฺเวว อนนฺตราตีตา จตฺตาโร ขนฺธา อตีตาติ วิฺายนฺติ, น จ อภิธมฺมมาติกาย อาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนปทสฺส อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนปทตฺถตา กตฺถจิ ปาฬิยํ วุตฺตา. ตสฺมา เตหิ อิทฺธิมสฺส จ ปรสฺส จ เอกกฺขเณ จิตฺตุปฺปตฺติยา เจโตปริยาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา. ยทา ปน ‘‘ยํ อิมสฺส จิตฺตํ ปวตฺตํ, ตํ ชานามิ. ยํ ภวิสฺสติ, ตํ ชานิสฺสามี’’ติ วา อาโภคํ กตฺวา ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนาทีนิ กโรติ, ตทา อาวชฺชนปริกมฺมานิ เจโตปริยาณฺจ อตีตานาคตารมฺมณาเนว โหนฺติ อาวชฺชเนเนว วิภาคสฺส กตตฺตา.

เย ปน ‘‘อิทฺธิมา ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม อาวชฺเชติ, อาวชฺชนํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ อารมฺมณํ กตฺวา เตเนว สห นิรุชฺฌติ, ตโต จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ. เยสํ ปจฺฉิมํ อิทฺธิจิตฺตํ, เสสานิ กามาวจรานิ, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ตเทว นิรุทฺธํ จิตฺตมารมฺมณํ โหติ, น จ ตานิ นานารมฺมณานิ โหนฺติ, อทฺธาวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา’’ติ อิทํ วจนํ นิสฺสาย ‘‘อาวชฺชนชวนานํ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณภาเวปิ นานารมฺมณตฺตาภาโว วิย เอกทฺวิติจตุปฺจจิตฺตกฺขณานาคเตสุปิ จิตฺเตสุ อาวชฺชิเตสุ อาวชฺชนชวนานํ ยถาสมฺภวํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณภาเวปิ นานารมฺมณตา น สิยา, เตน จตุปฺจจิตฺตกฺขณานาคเต อาวชฺชิเต อนาคตารมฺมณปริกมฺมานนฺตรํ ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ เจโตปริยาณํ สิทฺธ’’นฺติ วทนฺติ, เตสํ วาโท ‘‘อนาคตารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณ ธมฺโม อตีตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อิเมสํ ปฺหานํ อนุทฺธฏตฺตา คณนาย จ ‘‘อาเสวเน ตีณี’’ติ วุตฺตตฺตา น สิชฺฌติ. น หิ กุสลกิริยมหคฺคตํ อนาเสวนํ อตฺถีติ.

เอตสฺส จ วาทสฺส นิสฺสยภาโว อาวชฺชนชวนานํ ขณปจฺจุปฺปนฺนนิรุทฺธารมฺมณตาวจนสฺส น สิชฺฌติ, ยํ ปวตฺตํ ยํ ปวตฺติสฺสตีติ วา วิเสสํ อกตฺวา คหเณ อาวชฺชนสฺส อนาคตคฺคหณภาวํ, ตทภาวา ชวนานมฺปิ วตฺตมานคฺคหณาภาวฺจ สนฺธาเยว ตสฺส วุตฺตตฺตา. ตทา หิ ภวงฺคจลนานนฺตรํ อภิมุขีภูตเมว จิตฺตํ อารพฺภ อาวชฺชนา ปวตฺตตีติ. ชานนจิตฺตสฺสปิ วตฺตมานารมฺมณภาเว อาวชฺชนชานนจิตฺตานํ สหฏฺานโทสาปตฺติยา ราสิเอกเทสาวชฺชนปฏิเวเธ สมฺปตฺตสมฺปตฺตาวชฺชนชานเน จ อนิฏฺเ าเน อาวชฺชนชวนานํ นานารมฺมณภาวโทสาปตฺติยา จ ยํ วุตฺตํ ‘‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ จิตฺตํ เจโตปริยาณสฺส อารมฺมณํ โหตี’’ติ, ตํ อยุตฺตนฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยถาวุตฺตโทสานาปตฺติกาลวเสเนว อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา นานารมฺมณตาภาวํ ทิสฺวา อาวชฺชนชวนานํ วตฺตมานตํ นิรุทฺธารมฺมณภาโว วุตฺโตติ, ตมฺปิ วจนํ ปุริมวาทิโน นานุชาเนยฺยุํ. ตสฺมิฺหิ สติ อาวชฺชนา กุสลานนฺติอาทีสุ วิย อฺปทสงฺคหิตสฺส อนนฺตรปจฺจยวิธานโต ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา อาวชฺชนา อตีตารมฺมณานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตนฺติ.

กสฺมา ปเนวํ เจโตปริยาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วิจาริตา, นนุ ‘‘อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส, อนาคโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอเตสํ วิภงฺเคสุ ‘‘อตีตา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺสเจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๘.๒), ‘‘อนาคตา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๗.๓-๔), อุปฺปนฺนตฺติเก จ ‘‘อนุปฺปนฺนาขนฺธา, อุปฺปาทิโน ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เจโตปริยาณคฺคหณํ กตฺวา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺสา’’ติ เอตสฺส วิภงฺเค ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๘.๓), อุปฺปนฺนตฺติเก จ ‘‘อุปฺปนฺนา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๗.๒) เอตฺตกสฺเสว วุตฺตตฺตา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺเต เจโตปริยาณํ นปฺปวตฺตตี’’ติ วิฺายติ. ยทิ หิ ปวตฺเตยฺย, ปุริเมสุ วิย อิตเรสุ จ เจโตปริยาณคฺคหณํ กตฺตพฺพํ สิยาติ? สจฺจํ กตฺตพฺพํ, นยทสฺสนวเสน ปเนตํ สํขิตฺตนฺติ อฺาย ปาฬิยา วิฺายติ. ‘‘อตีตารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๐), อนาคตารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺสา’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๒) เอเตสฺหิ วิภงฺเคสุ ‘‘เจโตปริยาเณน อตีตารมฺมณปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตสมงฺคิสฺส จิตฺตํ ชานาติ. อตีตารมฺมณา ปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา เจโตปริยาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๒), ‘‘เจโตปริยาเณน อนาคตารมฺมณปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตสมงฺคิสฺส จิตฺตํ…เป… เจโตปริยาเณน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตสมงฺคิสฺส จิตฺตํ ชานาติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา เจโตปริยาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๑) เจโตปริยาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณ ปวตฺติ วุตฺตาติ. เตเนวายํ วิจารณา กตาติ เวทิตพฺพา.

เตสนฺติ เตสุ ทฺวีสุ าเณสูติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. กุสลา ขนฺธาติ อิทฺธิวิธปุพฺเพนิวาสานาคตํสาณาเปกฺโข พหุวจนนิทฺเทโส, น เจโตปริยาณยถากมฺมูปคาณาเปกฺโขติ. เตสํ จตุกฺขนฺธารมฺมณภาวสฺส อสาธโกติ เจ? น, อฺตฺถ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา ขนฺธา จ วิจาโร จ เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๖.๗๒) ‘‘สวิตกฺกสวิจารา ขนฺธา จ วิตกฺโก จ เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๖.๖๙) จ วุตฺตตฺตา เจโตปริยาณาเปกฺโขปิ พหุวจนนิทฺเทโสติ อิมสฺสตฺถสฺส สิทฺธิโต. เอวมปิ ยถากมฺมูปคาณสฺส ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา ขนฺธา จ วิจาโร จา’’ติอาทีสุ อวุตฺตตฺตา จตุกฺขนฺธารมฺมณตา น สิชฺฌตีติ? น, ตตฺถ อวจนสฺส อฺการณตฺตา. ยถากมฺมูปคาเณน หิ กมฺมสํสฏฺา จตฺตาโร ขนฺธา กมฺมปฺปมุเขน คยฺหนฺติ. ตฺหิ ยถา เจโตปริยาณํ ปุริมปริกมฺมวเสน สวิตกฺกาทิวิภาคํ สราคาทิวิภาคฺจ จิตฺตํ วิภาเวติ, น เอวํ สวิภาคํ วิภาเวติ, กมฺมวเสเนว ปน สมุทายํ วิภาเวตีติ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา ขนฺธา จ วิจาโร จา’’ติอาทิเก วิภาคกรเณ ตํ น วุตฺตํ, น จตุกฺขนฺธานารมฺมณโตติ. อิทํ ปน อวจนสฺส การณนฺติ. เกจิ ตตฺถาปิ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺสา’’ติ ปนฺติ เอว. น หิ ตํ กุสลากุสลวิภาคํ วิย สวิตกฺกาทิวิภาคํ กมฺมํ วิภาเวตุํ อสมตฺถํ. ทุจฺจริตสุจริตภาววิภาวนมฺปิ หิ โลภาทิอโลภาทิสมฺปโยควิเสสวิภาวนํ โหตีติ.

๑๔๓๕. นิยกชฺฌตฺตปริยายสฺส อภาเวนาติ สภาวธมฺมตฺตา เกนจิ ปริยาเยน นิยกชฺฌตฺตํ อโหนฺตํ สพฺพถา พหิทฺธาภาเวเนว ‘‘เอกนฺตพหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ, น อสภาวธมฺมตฺตา พหิทฺธาปิ อโหนฺตํ กสิณาทิ วิย นิยกชฺฌตฺตมตฺตสฺส อสมฺภวโต. อสภาวธมฺมตฺตา เอว หิ กสิณาทิอชฺฌตฺตธมฺมภูโต จ โกจิ ภาโว น โหตีติ อชฺฌตฺตตฺติเก น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตํ สพฺพํ อากิฺจฺายตนาทิ อตีตารมฺมณตฺติเก ‘‘นวตฺตพฺพารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ วุตฺตนฺติ อนุฺาตตฺตา วจนโตติ เอเตหิ การเณหิ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ ตนฺติ ‘‘เอตฺหิ อากิฺจฺายตน’’นฺติ วุตฺตํ อากิฺจฺายตนํ ตํ-สทฺเทน อากฑฺฒิตฺวา วทติ. โย ปนายเมตฺถ อตฺโถ วุตฺโต ‘‘อากิฺจฺายตนํ เอกมฺปิ อิธ วุจฺจมานํ อตีตารมฺมณตฺติเก เตน สเหการมฺมณตมฺปิ สนฺธาย กามาวจรกุสลาทีนํ นวตฺตพฺพารมฺมณตาย วุตฺตตฺตา อิธาปิ เตสํ นวตฺตพฺพารมฺมณภาวํ ทีเปตีติ กตฺวา ตสฺมึ วุตฺเต ตานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ น วุตฺตานี’’ติ, ตมฺเ นานุชานนฺติ. น หิ อีทิสํ เลสวจนํ อฏฺกถากณฺเฑ อตฺถิ. ยทิ สิยา, ปริตฺตารมฺมณตฺติเก เยสํ สมานารมฺมณานํ ปริตฺตาทิอารมฺมณตา นวตฺตพฺพตา จ วุตฺตา. ปุน อตีตารมฺมณตฺติเก เตสุ เอกเมว วตฺวา อฺํ น วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา เวทนาตฺติเก สมานเวทนานํ เยสํ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตตา วุตฺตา, เตสุ เอกเมว ปีติตฺติเก สุขสหคตนิทฺเทเส วตฺวา อฺํ น วตฺตพฺพํ สิยา. เอวํ อุเปกฺขาสหคตนิทฺเทสาทีสุ โยเชตพฺพํ. เลเสน ปน วินา อฏฺกถากณฺเฑ อตฺถุทฺธารสฺส กตตฺตา อากิฺจฺายตนสฺส วิย กามาวจรกุสลาทีนมฺปิ อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก นวตฺตพฺพตาย สติ ตานิปิ นวตฺตพฺพานีติ วตฺตพฺพานิ, น ปน วุตฺตานิ. ตสฺมา อภาวนาสามฺเปิ ยาย อภาวนานิฏฺปฺปวตฺติยา อากิฺจฺายตนํ ปวตฺตมานํ นวตฺตพฺพํ ชาตํ, ตสฺสา ปวตฺติยา อภาเวน ตานิ นวตฺตพฺพานีติ น วุตฺตานิ. คหณวิเสสนิมฺมิตาเนว หิ กสิณาทีนิ สภาวโต อวิชฺชมานานีติ ตทารมฺมณานํ พหิทฺธาคหณวเสน พหิทฺธารมฺมณตา วุตฺตา. อากิฺจฺายตนํ ปน น พหิทฺธาคหณภาเวน ปวตฺตติ, นาปิ อชฺฌตฺตคฺคหณภาเวน ปวตฺตตีติ นวตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ. เยน ปน คหณากาเรน อากิฺจฺายตนํ ปวตฺตติ, น เตน สพฺพฺุตฺาณมฺปิ ปวตฺตติ. ยทิ ปวตฺเตยฺย, ตมฺปิ อากิฺจฺายตนเมว ภเวยฺย. ยถา หิ กิเลสานํ โคจรํ ปวตฺติวิเสสฺจ สพฺพํ ชานนฺตํ สพฺพฺุตฺาณํ น ยถา เต คณฺหนฺติ, ตถา คณฺหาติ ตสฺสปิ กิเลสภาวาปตฺติโต, เอวํ อากิฺจฺายตนสฺส จ ปวตฺตนาการํ ยถาสภาวโต ชานนฺตํ ตํ อากิฺจฺายตนมิว น คณฺหาติ, กิมงฺคํ ปน อฺนฺติ. เตน กามาวจรกุสลานํ นวตฺตพฺพตา น วุตฺตาติ. อยํ ‘‘อากิฺจฺายตนสฺส วิสยภูโต อปคโม นาม เอโก อตฺโถ อตฺถี’’ติ อนิจฺฉนฺตานํ อาจริยานํ วินิจฺฉโย.

วิปากํ ปน น กสฺสจิ อารมฺมณํ โหตีติ วิปากํ อากาสานฺจายตนํ วิปากาทีสุ วิฺาณฺจายตเนสุ น กสฺสจิ อารมฺมณํ โหตีติ อตฺโถ, ตถา อากิฺจฺายตนฺจ เนวสฺานาสฺายตนสฺส. ยถา หิ วิปากตฺติเก วิปากธมฺมธมฺมเนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมมูลเกสุ ปฺเหสุ ‘‘อากาสานฺจายตนกุสลํ วิฺาณฺจายตนกุสลสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, อากิฺจฺายตนกุสลํ เนวสฺานาสฺายตนกุสลสฺส, ตถา วิปากสฺส กิริยสฺส. อากาสานฺจายตนกิริยํ วิฺาณฺจายตนกิริยสฺส. อากิฺจฺายตนกิริยํ เนวสฺานาสฺายตนกิริยสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๖, ๔๑๐) วุตฺตํ, น ตถา วิปากธมฺมมูลเกสุ ‘‘อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนวิปากา วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนวิปากกุสลกิริยานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. วิปากโต วุฏฺหิตฺวา จิตฺตสฺส อภินีหาราสมฺภวโตติ วิปากํ อารมฺมณํ กตฺวา อภินีหาราสมฺภวโตติ อตฺโถ. วิปากสฺส หิ อารมฺมณํ กตฺวา นตฺถิ อภินีหาโรติ.

อตฺตโน ขนฺธาทีนีติ อรูปกฺขนฺเธ ‘‘ขนฺธา’’ติ คเหตฺวา อาทิ-สทฺเทน รูปํ คณฺหาติ. อชฺฌตฺตํ วา คยฺหมานํ อหนฺติ ปฺตฺตึ อาทิ-สทฺเทน คณฺหาติ. เอส นโย ปเรสํ ขนฺธาทิคฺคหเณ จ. ปุน ปฺตฺติคฺคหเณน กสิณวิหาราทิอนินฺทฺริยพทฺธุปาทายปฺตฺติมาห. อาทิ-สทฺเทน วา อหํ ปรํ ปณฺณตฺติคฺคหเณ สพฺพํ อุปาทายปฺตฺตึ. กมฺมาทีสุ กมฺมํ อชฺฌตฺตํ, กมฺมนิมิตฺตํ อุภยํ, คตินิมิตฺตํ พหิทฺธาติ ทฏฺพฺพํ. อตฺตโน สรีเร เอว กิมิ หุตฺวา นิพฺพตฺตมานสฺส คตินิมิตฺตมฺปิ อชฺฌตฺตํ สิยา. มลฺลิกาย กุมฺมาสํ ททมานาย รฺโ อคฺคมเหสิฏฺานลาภํ, สนฺตติมหามตฺตสฺส หตฺถิกฺขนฺธคตสฺส อรหตฺตปฺปตฺตึ, สุมนมาลาการสฺส จ ปุปฺผมุฏฺินา ปูเชนฺตสฺส ปจฺเจกโพธิสจฺฉิกิริยํ นิสฺสาย ภควา สิตํ ปาตฺวากาสิ.

อิมสฺมึ ติเก โอกาสํ ลภนฺตีติ ปริตฺตารมฺมณาตีตารมฺมณตฺติเกสุ อลทฺโธกาสานิ นวตฺตพฺพานีติ วุตฺตานิ, อิธ ปน นวตฺตพฺพานิ น โหนฺติ, อชฺฌตฺตาทีสุ เอการมฺมณตํ ลภนฺตีติ อตฺโถ. เอตานิ หิ ปฺจ สพฺพตฺถปาทกากาสาโลกกสิณจตุตฺถานํ กสิณารมฺมณตฺตา, พฺรหฺมวิหารจตุตฺถสฺส ปฺตฺติอารมฺมณตฺตา, อานาปานจตุตฺถสฺส นิมิตฺตารมฺมณตฺตา พหิทฺธารมฺมณานีติ. สกายจิตฺตานนฺติ สกกายจิตฺตานํ, เตน ปโยชนํ นตฺถิ, ตสฺมา น ตํ อชฺฌตฺตารมฺมณนฺติ อตฺโถ. อนินฺทฺริยพทฺธสฺส วา รูปสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ติสฺสนฺนํ วา ปฺตฺตีน’’นฺติ อิทมฺปิ วา-สทฺเทน อาหริตพฺพํ, นยทสฺสนํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. อีทิเส หิ กาเล พหิทฺธารมฺมณนฺติ.

ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกอตฺถุทฺธารวณฺณนา

๑๔๗๓. มาโน …เป… เอกธาวาติ อิทํ อวุตฺตปฺปการทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อฺถา มาโน กามราคาวิชฺชาสฺโชเนหิ เอกโต อุปฺปชฺชตีติ ทฺวิธาติ วตฺตพฺโพ สิยา. เอส นโย ภวราคาทีสุ. ตถา วิจิกิจฺฉาติ เอตฺถ ตถาติ เอตสฺส เอกธาวาติ อตฺโถ.

๑๕๑๑. สสงฺขาริเกสูติ อิทํ กามจฺฉนฺทนีวรณสฺส ตีหิ นีวรเณหิ สทฺธึ อุปฺปชฺชนฏฺานทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, น นิยมโต ตตฺถ ตสฺส เตหิ อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ ถินมิทฺธสฺส อนิยตตฺตา. เหฏฺิมปริจฺเฉเทนาติ อุทฺธจฺจสฺส สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชนโต อุทฺธจฺจสหคเต ทฺเว, อฺเสุ ถินมิทฺธกุกฺกุจฺจวิรเห ตีณิ เหฏฺิมนฺตโต อุปฺปชฺชนฺตีติ กตฺวา ‘‘ทฺเว ตีณี’’ติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ยตฺตกานํ ปน เอกโต อุปฺปตฺติยํ นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จาติ อยมตฺโถ สมฺภวติ, เหฏฺิมนฺเตน เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเว’’ติ วุตฺตํ. ตโต อุทฺธมฺปิ ปวตฺติยํ อยมตฺโถ สมฺภวติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ตีณี’’ติ วุตฺตํ. ทฺเว ตีณีติ จ ทฺเว วา ตีณิ วาติ อนิยมนิทฺเทโสติ จตฺตาริ วา ปฺจ วาติปิ วิฺายติ. ยตฺถ สหุปฺปตฺติ, ตตฺถ นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จ โหนฺตีติ เอตสฺส วา ลกฺขณสฺส ทสฺสนเมตนฺติ. ยตฺถ จตฺตาริ ปฺจ จ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ จายมตฺโถ สาธิโต โหติ. เอวฺจ กตฺวา กิเลสโคจฺฉเก จ ‘‘ทฺเว ตโย’’ติ วุตฺตํ. ลกฺขณทสฺสนวเสน หิ กิเลสา เจว กิเลสสมฺปยุตฺตา จ วุตฺตา, น สพฺเพสํ สมฺภวนฺตานํ สรูเปน ทสฺสนวเสนาติ.

ยทิ อุทฺธจฺจํ สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชติ, กสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’’ติ? สุตฺตนฺเต วุตฺเตสุ ปฺจสุ นีวรเณสุ อฺนีวรณรหิตสฺส อุทฺธจฺจสฺส วิสยวิเสสทสฺสนตฺถํ. ฉฏฺํ ปน นีวรณํ อภิธมฺเม อิตเรหิ สหคตนฺติ ตสฺส อฺนีวรณรหิตสฺส น โกจิ วิสยวิเสโส อตฺถิ, อตฺตนา สหคเตหิ วินา อุปฺปชฺชนฏฺานาภาวา ตทุปลกฺขิตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อภาวา จ นตฺเถว วิสยวิเสโส, ตสฺมา ‘‘ตํ สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุทฺธจฺจสหคโต ปน วุตฺตจิตฺตุปฺปาโท เสสธมฺมานํ อุทฺธจฺจานุวตฺตนภาเวน ตทุปลกฺขิโต อุทฺธจฺจสฺส วิสยวิเสโส, ตสฺมา สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชมานํ อุทฺธจฺจํ สามฺเน ‘‘อุทฺธจฺจนีวรณ’’นฺติ คเหตฺวาปิ ตํ อตฺตโน วิสยวิเสเสน ปกาเสตุํ ‘‘อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’’ติ อาห. เอวฺจ ปกาสนํ วิสยวิเสเสสุ โลภโทมนสฺสสหคตสสงฺขาริกวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคเตสุ ปฺจ นีวรณานิ ววตฺถเปตฺวา เตสํ พฺยาปกภาเวน ฉฏฺํ ปกาเสตุํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เกจิ ปน ‘‘อุทฺธจฺจสหคเตติ สามฺเน สพฺพํ อุทฺธจฺจํ ‘อุทฺธจฺจ’นฺติ คเหตฺวา เตน สหคเต จิตฺตุปฺปาเท’’ติ วทนฺติ, อยํ ปนตฺโถ น พหุมโต ทฺวาทสมจิตฺตุปฺปาทสฺส วิย สพฺพากุสลจิตฺตุปฺปาทานํ อุทฺธจฺเจน อนุปลกฺขิตตฺตา, สติ จ อุปลกฺขิตตฺเต ‘‘อฏฺสุ โลภสหคเตสู’’ติอาทีสุ วิย อฺเสํ จิตฺตุปฺปาทานํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘ทฺวาทสสุ อุทฺธจฺจสหคเตสู’’ติ วตฺตพฺพตฺตา. อุทฺธจฺจานุปลกฺขิตตฺตา ปน สพฺพากุสลานํ อวิชฺชานีวรณํ วิย อิทมฺปิ ‘‘สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, น ปน วุตฺตํ, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ อวิชฺชานีวรณํ วิย อุทฺธจฺจนีวรณฺจ สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา นิกฺเขปกณฺเฑ ‘‘กามจฺฉนฺทนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรเณน นีวรณฺเจว นีวรณสมฺปยุตฺตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน เอกสฺมึเยว จิตฺตุปฺปาเท อุทฺธจฺจนีวรณํ อุปฺปชฺชตีติ อคฺคเหตฺวา อธิปฺปาโย มคฺคิตพฺโพติ.

กิเลสโคจฺฉเก โลภาทีนิ ทส กิเลสวตฺถูนิ อิมินา อนุกฺกเมน อิเธว อภิธมฺเม อาคตานิ. ตสฺมา อิเธว วุตฺตสฺส อุทฺธจฺจกิเลสสฺส อตฺตนา สห วุตฺเตหิ กิเลเสหิ รหิตสฺส วิสยวิเสโส นตฺถีติ วิสยวิเสเสน ปกาสนํ อกตฺวา ‘‘อุทฺธจฺจฺจ อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. กิเลสา เจว สํกิลิฏฺปทนิทฺเทเส ยสฺมา สํกิลิฏฺปทํ กิเลสสมฺปยุตฺตปเทน อสมานตฺถํ เกวลํ มเลน อุปตาปิตตํ วิพาธิตตฺจ ทีเปติ, ตสฺมา กิเลสา เจว กิเลสสมฺปยุตฺตปทนิทฺเทเสน สมานํ นิทฺเทสํ อกตฺวา ‘‘เตว กิเลสา กิเลสา เจว สํกิลิฏฺา จา’’ติ วุตฺตํ.

๑๕๗๗. ทฺเว ตโย กิเลสาติ เอตฺถ ‘‘ทฺเว ตโยติ เหตุโคจฺฉกาทีสุ วุตฺตาธิการวเสน รุฬฺหิยา วุตฺต’’นฺติ เกจิ วทนฺติ. ยทิ อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา รุฬฺหิยา วุจฺเจยฺย, คนฺถโคจฺฉเก จ ‘‘ยตฺถ ทฺเว ตโย คนฺถา เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ยฺจ วทนฺติ ‘‘ยตฺถ ทฺเว ตโย อฺเหิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ อิมสฺสตฺถสฺส สมฺภวโต เอกโต-สทฺโท กิเลสโคจฺฉเก สาตฺถโก, น เหตุโคจฺฉกาทีสุ เตน วินาปิ อธิปฺปายวิชานนโต’’ติ, ตมฺปิ น, เหตุโคจฺฉกาทีสุปิ นานาอุปฺปตฺติยํ เหตู เจว เหตุสมฺปยุตฺตาทิคฺคหณนิวารณตฺถตฺตา เอกโต-สทฺทสฺส, ตสฺมา รุฬฺหีอนฺวตฺถกถาโรปนฺจ วชฺเชตฺวา ยถาวุตฺเตเนว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ. โลโภ ฉธาติอาทินา โลภปฏิฆโมหานํ อฺเหิ เอกโต อุปฺปตฺติทสฺสเนเนว เตสมฺปิ โลภาทีหิ เอกโต อุปฺปตฺติ ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อฏฺกถากณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตฺตาริ จ สหสฺสานิ, ปุน ตีณิ สตานิ จ;

อฏฺสาลินิยา เอเต, ปทา ลีนตฺถโชตกา.

ธมฺมมิตฺโตติ นาเมน, สกฺกจฺจํ อภิยาจิโต;

อานนฺโทอิติ นาเมน, กตา คนฺถา สุพุทฺธินาติ.

อิติ อฏฺสาลินิยา ลีนตฺถปทวณฺณนา

ธมฺมสงฺคณี-มูลฏีกา สมตฺตา.