📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
สมฺโมหวิโนทนี นาม
วิภงฺค-อฏฺกถา
๑. ขนฺธวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจทโส ¶ ¶ ¶ นาโถ, จตุธา ธมฺมสงฺคณึ;
ปกาสยิตฺวา สมฺพุทฺโธ, ตสฺเสว สมนนฺตรํ.
อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ, อฏฺารสหิ นายโก;
อฏฺารสนฺนํ ขนฺธาทิ-วิภงฺคานํ วเสน ยํ.
วิภงฺคํ ¶ เทสยี สตฺถา, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;
อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสตฺถวณฺณนํ.
กริสฺสามิ วิคาเหตฺวา, โปราณฏฺกถานยํ;
สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.
๑. ปฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ อิทํ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม. ตตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. ขนฺธาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺรายํ ขนฺธ-สทฺโท สมฺพหุเลสุ าเนสุ ทิสฺสติ – ราสิมฺหิ, คุเณ, ปณฺณตฺติยํ, รุฬฺหิยนฺติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา, อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว ¶ สงฺขฺยํ ¶ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕๑; ๖.๓๗) หิ ราสิโต ขนฺโธ นาม. นหิ ปริตฺตกํ อุทกํ อุทกกฺขนฺโธติ วุจฺจติ, พหุกเมว วุจฺจติ. ตถา น ปริตฺตโก รโช รชกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกา คาโว ควกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ พลํ พลกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ ปฺุํ ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจติ. พหุกเมว หิ รโช รชกฺขนฺโธ, พหุกาว ควาทโย ควกฺขนฺโธ, พลกฺขนฺโธ, ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจนฺติ. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) ปน คุณโต ขนฺโธ นาม. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑). เอตฺถ ปณฺณตฺติโต ขนฺโธ นาม. ‘‘ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป… วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๓, ๖๕) รุฬฺหิโต ขนฺโธ นาม. สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโต. อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ ปูคฏฺโ ฆฏฏฺโ ราสฏฺโ. ตสฺมา ‘ราสิลกฺขณา ขนฺธา’ติ เวทิตพฺพา. โกฏฺาสฏฺโติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; โลกสฺมิฺหิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’ติ วทนฺติ. อิติ ‘โกฏฺาสลกฺขณา ขนฺธา’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตฺถ รูปกฺขนฺโธติ รูปราสิ รูปโกฏฺาโส, เวทนากฺขนฺโธติ เวทนาราสิ เวทนาโกฏฺาโสติ อิมินา นเยน สฺากฺขนฺธาทีนํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา ¶ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยฺวายํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทีสุ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต ‘ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ ‘ฉนฺนวุติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ เอวํปเภโท รูปราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเวทนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา เวทนากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… มโนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกสฺาราสิ ¶ , ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สฺากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเจตนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สงฺขารกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ¶ ปนายํ ‘‘จกฺขุวิฺาณํ, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ, มโนธาตุ, มโนวิฺาณธาตู’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกจิตฺตราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา วิฺาณกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ.
อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ จตุสมุฏฺานิกํ รูปํ รูปกฺขนฺโธ, กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตาทีหิ เอกูนนวุติจิตฺเตหิ สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทโย ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺโธ, เอกูนนวุติ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวมฺปิ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒. อิทานิ เต รูปกฺขนฺธาทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม รูปกฺขนฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ. กตโมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. รูปกฺขนฺโธติ ปุจฺฉิตธมฺมนิทสฺสนํ. อิทานิ ตํ วิภชนฺโต ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานํ. รูปนฺติ อติปฺปสงฺคนิยมนํ. เอวํ ปททฺวเยนาปิ รูปสฺส อนวเสสปริคฺคโห กโต โหติ.
ตตฺถ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน รูปํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘กิฺจ ¶ , ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ ¶ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสริสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).
ตตฺถ กินฺติ การณปุจฺฉา; เกน การเณน รูปํ วเทถ, เกน การเณน ตํ รูปํ นามาติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ เอตฺถ อิตีติ การณุทฺเทโส. ยสฺมา รุปฺปติ ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬิยติ ภิชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ อิมินา เอตฺตเกน าเนน รุปฺปนฏฺเน รูปํ วุตฺตํ. รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. รุปฺปนลกฺขณฺเหตํ.
สีเตนปิ ¶ รุปฺปตีติอาทีสุ ปน สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. ติณฺณํ ติณฺณฺหิ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย นาม โหติ อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ, ยสฺส เนว เหฏฺา ปถวี อตฺถิ, น อุปริ จนฺทิมสูริยทีปมณิอาโลโก, นิจฺจนฺธกาโร. ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ. เต วคฺคุลิโย วิย ปพฺพตปาเท ทีฆปุถุเลหิ นเขหิ ลคฺคิตฺวา อวํสิรา โอลมฺพนฺติ. ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ อถ ‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’ติ มฺมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, สีตวาเต ปหรนฺเตปิ ปกฺกมธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ. ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกน ฉินฺนจมฺมนฺหารุมํสอฏฺีหิ ภิชฺชมาเนหิ ตตฺตเตเล ปติตปิฏฺปิณฺฑิ วิย ปฏปฏายมานา วิลียนฺติ. เอวํ สีเตน รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนจฺฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.
อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.
ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ¶ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ ¶ . อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณปฺปตฺตานํ ปมาณํ นาม นตฺถิ.
ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุํ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’ติ นทึ คตานมฺปิ นที วาลิกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ มหาสมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิจรนฺติ.
เอโก ¶ กิร กาลกฺชิกอสุโร ปิปาสํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต โยชนคมฺภีรวิตฺถารํ มหาคงฺคํ โอตริ. ตสฺส คตคตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชติ, ธูโม อุคฺคจฺฉติ, ตตฺเต ปิฏฺิปาสาเณ จงฺกมนกาโล วิย โหติ. ตสฺส อุทกสทฺทํ สุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิ. อถ นํ ปาโตว ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา ตึสมตฺตา ปิณฺฑจาริกภิกฺขู ทิสฺวา – ‘‘โก นาม ตฺวํ, สปฺปุริสา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘เปโตหมสฺมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปริเยสสี’’ติ? ‘‘ปานียํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยํ คงฺคา ปริปุณฺณา, กึ ตฺวํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘น อุปกปฺปติ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ คงฺคาปิฏฺเ นิปชฺช, มุเข เต ปานียํ อาสิฺจิสฺสามา’’ติ. โส วาลิกาปุฬิเน อุตฺตาโน นิปชฺชิ. ภิกฺขู ตึสมตฺเต ปตฺเต นีหริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ตสฺส มุเข อาสิฺจึสุ. เตสํ ตถา กโรนฺตานํเยว เวลา อุปกฏฺา ชาตา. ตโต ‘‘ภิกฺขาจารกาโล อมฺหากํ, สปฺปุริส; กจฺจิ เต อสฺสาทมตฺตา ลทฺธา’’ติ อาหํสุ. เปโต ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ตึสมตฺตานํ อยฺยานํ ตึสมตฺเตหิ ปตฺเตหิ อาสิตฺตอุทกโต อฑฺฒปสตมตฺตมฺปิ ปรคลคตํ, เปตตฺตภาวโต โมกฺโข มา โหตู’’ติ อาห. เอวํ ปิปาสาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย ปากฏํ.
ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิสมฺพพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. เอตฺถ จ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, มกสาติ มกสาว วาตาติ กุจฺฉิวาตปิฏฺิวาตาทิวเสน เวทิตพฺพา. สรีรสฺมิฺหิ ¶ วาตโรโค อุปฺปชฺชิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิอาทีนิ ภินฺทติ, กาณํ กโรติ, ขุชฺชํ กโรติ, ปีสปฺปึ กโรติ. อาตโปติ สูริยาตโป. เตน รุปฺปนํ มรุกนฺตาราทีสุ ปากฏํ. เอกา กิร อิตฺถี มรุกนฺตาเร รตฺตึ สตฺถโต โอหีนา ทิวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต วาลิกาย ตปฺปมานาย ปาเท เปตุํ อสกฺโกนฺตี สีสโต ปจฺฉึ โอตาเรตฺวา อกฺกมิ. กเมน ปจฺฉิยา อุณฺหาภิตตฺตาย ¶ าตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา อุปริ สาฏกํ เปตฺวา อกฺกมิ. ตสฺมิมฺปิ สนฺตตฺเต องฺเกน คหิตํ ปุตฺตกํ อโธมุขํ นิปชฺชาเปตฺวา กนฺทนฺตํ กนฺทนฺตํ อกฺกมิตฺวา สทฺธึ เตน ตสฺมึเยว าเน อุณฺหาภิตตฺตา กาลมกาสิ.
สรีสปาติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สรนฺตา คจฺฉนฺติ. เตสํ สมฺผสฺเสน รุปฺปนํ อาสีวิสทฏฺาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ ‘ยํ กิฺจิ รูป’นฺติ ปเทน สํคหิตํ ปฺจวีสติโกฏฺาสฉนฺนวุติโกฏฺาสปฺปเภทํ สพฺพมฺปิ รูปํ อตีตาทิโกฏฺาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อาห. ตโต ปรํ ตเทว อชฺฌตฺตทุกาทีสุ จตูสุ ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วาติอาทิ วุตฺตํ. ตโต ปรํ สพฺพมฺเปตํ เอกาทสสุ ปเทเสสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ รูปํ เอกโต ปิณฺฑํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ตเทกชฺฌนฺติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ตเทกชฺฌนฺติ ตํ เอกชฺฌํ; อภิสฺูหิตฺวาติ อภิสํหริตฺวา; อภิสงฺขิปิตฺวาติ สงฺเขปํ กตฺวา; อิทํ วุตฺตํ โหติ – สพฺพมฺเปตํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ รุปฺปนลกฺขณสงฺขาเต เอกวิธภาเว ปฺาย ราสึ กตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ วุจฺจตีติ. เอเตน สพฺพมฺปิ รูปํ รุปฺปนลกฺขเณ ราสิภาวูปคมเนน รูปกฺขนฺโธติ ทสฺสิตํ โหติ. น หิ รูปโต อฺโ รูปกฺขนฺโธ นาม อตฺถิ. ยถา จ รูปํ, เอวํ เวทนาทโยปิ เวทยิตลกฺขณาทีสุ ราสิภาวูปคมเนน. น หิ เวทนาทีหิ อฺเ เวทนากฺขนฺธาทโย นาม อตฺถิ.
๓. อิทานิ เอเกกสฺมึ โอกาเส ปกฺขิตฺตํ รูปํ วิสุํ วิสุํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตมํ รูปํ อตีตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ปิตมาติกาย ภุมฺมํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา ¶ นเยน ปิตาย มาติกาย ยํ อตีตํ รูปนฺติ วุตฺตํ, ตํ กตมนฺติ? อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทีนิ ปทานิ นิกฺเขปกณฺฑสฺส อตีตตฺติกภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๔๔) วุตฺตาเนว. จตฺตาโร จ มหาภูตาติ อิทํ อตีตนฺติ วุตฺตรูปสฺส สภาวทสฺสนํ. ยถา เจตฺถ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – อตีตรูปมฺปิ ภูตานิ เจว ภูตานิ อุปาทาย นิพฺพตฺตรูปฺจ, อนาคตมฺปิ…เป… ทูรสนฺติกมฺปิ ¶ . น หิ ภูเตหิ เจว ภูตานิ อุปาทาย ปวตฺตรูปโต จ อฺํ รูปํ นาม อตฺถีติ.
อปโร นโย – อตีตํเสน สงฺคหิตนฺติ อตีตโกฏฺาเสเนว สงฺคหิตํ, เอตฺเถว คณนํ คตํ. กินฺติ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ ¶ อุปาทายรูปนฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนนิทฺเทสปทานิปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.
อิทํ ปน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ นาม สุตฺตนฺตปริยายโต อภิธมฺมนิทฺเทสโตติ ทุวิธํ. ตํ สุตฺตนฺตปริยาเย ภเวน ปริจฺฉินฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตํ รูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกรูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนนฺตเร ปวตฺตรูปํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อภิธมฺมนิทฺเทเส ปน ขเณน ปริจฺฉินฺนํ. ตโย หิ รูปสฺส ขณา – อุปฺปาโท, ิติ, ภงฺโคติ. อิเม ตโย ขเณ ปตฺวา นิรุทฺธํ รูปํ, สมนนฺตรนิรุทฺธํ วา โหตุ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. ตโย ขเณ อสมฺปตฺตํ รูปํ, เอกจิตฺตกฺขณมตฺเตน วา อสมฺปตฺตํ โหตุ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. อิเม ตโย ขเณ สมฺปตฺตํ รูปํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียํ, เอวํ สนฺเตปิ อภิธมฺมนิทฺเทเสเนว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนรูปํ นิทฺทิฏฺนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ.
อปโร นโย – อิทฺหิ รูปํ อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสน จตุธา อตีตํ นาม โหติ. ตถา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนํ. อทฺธาวเสน ตาว เอกสฺส เอกสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีตํ, จุติโต อุทฺธํ อนาคตํ, อุภินฺนมนฺตเร ปจฺจุปฺปนฺนํ. สนฺตติวเสน สภาคเอกอุตุสมุฏฺานํ เอกาหารสมุฏฺานฺจ ปุพฺพาปริยวเสน ปวตฺตมานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ วิสภาคอุตุอาหารสมุฏฺานํ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. จิตฺตชํ เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติสมุฏฺานํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺส ปาฏิเยกฺกํ สนฺตติวเสน อตีตาทิเภโท นตฺถิ. เตสฺเว ปน อุตุอาหารจิตฺตสมุฏฺานานํ อุปตฺถมฺภกวเสน ตสฺส อตีตาทิเภโท เวทิตพฺโพ. สมยวเสน เอกมุหุตฺตปุพฺพณฺหสายนฺหรตฺติทิวาทีสุ สมเยสุ สนฺตานวเสน ¶ ปวตฺตมานํ ตํ ตํ สมยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. ขณวเสน อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตยปริยาปนฺนํ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ.
อปิจ อติกฺกเหตุปจฺจยกิจฺจํ อตีตํ. นิฏฺิตเหตุกิจฺจํ อนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ อนาคตํ. สกิจฺจกฺขเณ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. เอตฺถ จ ขณาทิกถาว นิปฺปริยายา, เสสา สปริยายา. ตาสุ นิปฺปริยายกถา อิธ อธิปฺเปตา. อชฺฌตฺตทุกสฺสาปิ นิทฺเทสปทานิ เหฏฺา อชฺฌตฺตตฺติกนิทฺเทเส (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๕๐) วุตฺตตฺถาเนว. โอฬาริกาทีนิ รูปกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๗๔) วุตฺตตฺถาเนว.
๖. หีนทุกนิทฺเทเส เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ พหูสุ สตฺเตสุ สามิวจนํ. อปรสฺสาปิ อปรสฺสาปีติ หิ วุจฺจมาเน ทิวสมฺปิ กปฺปสตสหสฺสมฺปิ วทนฺโต เอตฺตกเมว วเทยฺย. อิติ สตฺถา ทฺวีเหว ปเทหิ อนวเสเส สตฺเต ปริยาทิยนฺโต ‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’นฺติ อาห. เอตฺตเกน หิ สพฺพมฺปิ อปรทีปนํ ¶ สิทฺธํ โหติ. อฺุาตนฺติ อวมตํ. อวฺาตนฺติ วมฺเภตฺวา าตํ. รูปนฺติปิ น วิทิตํ. หีฬิตนฺติ อคเหตพฺพฏฺเน ขิตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ชิคุจฺฉิตนฺติปิ วทนฺติ. ปริภูตนฺติ กิเมเตนาติ วาจาย ปริภวิตํ. อจิตฺตีกตนฺติ น ครุกตํ. หีนนฺติ ลามกํ. หีนมตนฺติ หีนนฺติ มตํ, ลามกํ กตฺวา าตํ. หีนสมฺมตนฺติ หีนนฺติ โลเก สมฺมตํ, หีเนหิ วา สมฺมตํ, คูถภกฺเขหิ คูโถ วิย. อนิฏฺนฺติ อปฺปิยํ, ปฏิลาภตฺถาย วา อปริเยสิตํ. สเจปิ นํ โกจิ ปริเยเสยฺย, ปริเยสตุ. เอตสฺส ปน อารมฺมณสฺส เอตเทว นามํ. อกนฺตนฺติ อกามิตํ, นิสฺสิริกํ วา. อมนาปนฺติ มนสฺมึ น อปฺปิตํ. ตาทิสฺหิ อารมฺมณํ มนสฺมึ น อปฺปียติ. อถ วา มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปํ, น มนาปํ อมนาปํ.
อปโร นโย – อนิฏฺํ สมฺปตฺติวิรหโต. ตํ เอกนฺเตน กมฺมสมุฏฺาเนสุ อกุสลกมฺมสมุฏฺานํ. อกนฺตํ สุขสฺส อเหตุภาวโต. อมนาปํ ทุกฺขสฺส เหตุภาวโต. รูปา สทฺทาติ อิทมสฺส สภาวทีปนํ. อิมสฺมิฺหิ ปเท อกุสลกมฺมชวเสน อนิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชํ ปน อนิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว.
ปณีตปทนิทฺเทโส ¶ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน ปเท กุสลกมฺมชวเสน อิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชฺหิ อนิฏฺํ นาม ¶ นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว. ยถา จ กมฺมเชสุ เอวํ อุตุสมุฏฺานาทีสุปิ อิฏฺานิฏฺตา อตฺถิ เอวาติ อิมสฺมึ ทุเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปฏิวิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, เตสํ เตสํ รุจิวเสน กถิตํ.
ยถาห –
‘‘มนาปปริยนฺตํ ขฺวาหํ, มหาราช, ปฺจสุ กามคุเณสุ อคฺคนฺติ วทามิ. เตว, มหาราช, รูปา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เตว, มหาราช, สทฺทา, คนฺธา, รสา, โผฏฺพฺพา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺตี’’ติ ¶ (สํ. นิ. ๑.๑๒๓).
เอวํ ยสฺมา เตเยว รูปาทโย เอโก อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตตฺถ โลภํ อุปฺปาเทติ. เอโก กุชฺฌติ ปฏิหฺติ, ตตฺถ โทสํ อุปฺปาเทติ. เอกสฺส อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, เอกสฺส อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา. เอโก เจเต ‘อิฏฺา กนฺตา มนาปา’ติ ทกฺขิณโต คณฺหาติ, เอโก ‘อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา’ติ วามโต. ตสฺมา อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถิ. ปจฺจนฺตวาสีนฺหิ คณฺฑุปฺปาทาปิ อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, มชฺฌิมเทสวาสีนํ อติเชคุจฺฉา. เตสฺจ โมรมํสาทีนิ อิฏฺานิ โหนฺติ, อิตเรสํ ตานิ อติเชคุจฺฉานีติ.
โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ปน ตฺวํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถีติ วเทสี’’ติ? ‘‘อาม นตฺถี’’ติ วทามิ. ปุน ตเถว ยาวตติยํ ปติฏฺาเปตฺวา ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘นิพฺพานํ นาม อิฏฺํ อุทาหุ อนิฏฺ’’นฺติ? ชานมาโน ‘‘อิฏฺ’’นฺติ วกฺขติ. สเจปิ น วเทยฺย, มา วทตุ. นิพฺพานํ ปน เอกนฺตอิฏฺเมว. ‘‘นนุ เอโก นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา – ‘ตฺวํ นิพฺพานสฺส วณฺณํ กเถสิ, กึ ตตฺถ อนฺนปานมาลาคนฺธวิเลปนสยนจฺฉาทนสมิทฺธา ปฺจ กามคุณา อตฺถี’ติ วตฺวา ‘นตฺถี’ติ วุตฺเต ‘อลํ ตว นิพฺพาเนนา’ติ นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา อุโภ กณฺเณ ถเกตีติ อิฏฺเตํ. เอตสฺส ปน ¶ วเสน ตว วาเท นิพฺพานํ อนิฏฺํ นาม โหติ ¶ . น ปเนตํ เอวํ คเหตพฺพํ. เอโส หิ วิปรีตสฺาย กเถติ. สฺาวิปลฺลาเสน จ ตเทว อารมฺมณํ เอกสฺส อิฏฺํ โหติ, เอกสฺส อนิฏฺํ’’.
อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปน ปาฏิเยกฺกํ วิภตฺตํ อตฺถีติ. กสฺส วเสน วิภตฺตนฺติ? มชฺฌิมกสตฺตสฺส. อิทฺหิ น อติอิสฺสรานํ มหาสมฺมตมหาสุทสฺสนธมฺมาโสกาทีนํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ ทิพฺพกปฺปมฺปิ อารมฺมณํ อมนาปํ อุปฏฺาติ. น อติทุคฺคตานํ ทุลฺลภนฺนปานานํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ กณาชกภตฺตสิตฺถานิปิ ปูติมํสรโสปิ อติมธุโร อมตสทิโส จ โหติ. มชฺฌิมกานํ ปน ¶ คณกมหามตฺตเสฏฺิกุฏุมฺพิกวาณิชาทีนํ กาเลน อิฏฺํ กาเลน อนิฏฺํ ลภมานานํ วเสน วิภตฺตํ. เอวรูปา หิ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกนฺตีติ.
ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อิฏฺานิฏฺํ นาม วิปากวเสเนว ปริจฺฉินฺนํ, น ชวนวเสน. ชวนํ ปน สฺาวิปลฺลาสวเสน อิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสติ; อนิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อนิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสตี’’ติ. วิปากวเสเนว ปเนตํ เอกนฺตโต ปริจฺฉิชฺชติ. น หิ สกฺกา วิปากจิตฺตํ วฺเจตุํ. สเจ อารมฺมณํ อิฏฺํ โหติ, กุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. สเจ อนิฏฺํ, อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. กิฺจาปิ หิ มิจฺฉาทิฏฺิกา พุทฺธํ วา สงฺฆํ วา มหาเจติยาทีนิ วา อุฬารานิ อารมฺมณานิ ทิสฺวา อกฺขีนิ ปิทหนฺติ, โทมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมสทฺทํ สุตฺวา กณฺเณ ถเกนฺติ, จกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณานิ ปน เนสํ กุสลวิปากาเนว โหนฺติ.
กิฺจาปิ คูถสูกราทโย คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘ขาทิตุํ ลภิสฺสามา’ติ โสมนสฺสชาตา โหนฺติ, คูถทสฺสเน ปน เตสํ จกฺขุวิฺาณํ, ตสฺส คนฺธฆายเน ฆานวิฺาณํ, รสสายเน ชิวฺหาวิฺาณฺจ อกุสลวิปากเมว โหติ. พนฺธิตฺวา วรสยเน สยาปิตสูกโร จ กิฺจาปิ วิรวติ, สฺาวิปลฺลาเสน ปนสฺส ชวนสฺมึเยว โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, กายวิฺาณํ กุสลวิปากเมว. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อิฏฺตาย.
อปิจ ทฺวารวเสนาปิ อิฏฺานิฏฺตา เวทิตพฺพา. สุขสมฺผสฺสฺหิ คูถกลลํ จกฺขุทฺวารฆานทฺวาเรสุ ¶ อนิฏฺํ, กายทฺวาเร อิฏฺํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตเนน ¶ โปถิยมานสฺส, สุวณฺณสูเล อุตฺตาสิตสฺส จ มณิรตนสุวณฺณสูลานิ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺานิ โหนฺติ, กายทฺวาเร อนิฏฺานิ. กสฺมา? มหาทุกฺขสฺส อุปฺปาทนโต. เอวํ อิฏฺานิฏฺํ เอกนฺตโต วิปาเกเนว ปริจฺฉิชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. น หิ ภควา สมฺมุติมนาปํ ภินฺทติ, ปุคฺคลมนาปํ ปน ภินฺทติ. ตสฺมา ตํตํวาปนวเสเนว อุปาทายุปาทาย หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ รูปํ ¶ โกฏิปฺปตฺตํ หีนํ นาม; ตํ อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสํ รูปํ หีนํ; ตํ อุปาทาย เปตานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชานปทานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย คามโภชกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชนปทสามิกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ปเทสราชูนํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ รูปํ ปณีตํ นาม. ตสฺสาปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ตาวตึสานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม…เป… อกนิฏฺเทวานํ ปน รูปํ มตฺถกปฺปตฺตํ ปณีตํ นาม.
๗. ทูรทุกนิทฺเทเส อิตฺถินฺทฺริยาทีนิ เหฏฺา วิภตฺตาเนว. อิมสฺมึ ปน ทุเก ทุปฺปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณทุปฺปฏิวิชฺฌตาย สุขุมรูปํ ทูเรติ กถิตํ. สุขปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณสุปฺปฏิวิชฺฌตาย โอฬาริกรูปํ สนฺติเกติ. กพฬีการาหารปริโยสาเน จ นิยฺยาตนฏฺาเนปิ ‘อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเร’ติ น นียฺยาติตํ. กสฺมา? ทุวิธฺหิ ทูเร นาม – ลกฺขณโต จ โอกาสโต จาติ. ตตฺถ ลกฺขณโต ทูเรติ น กถิตํ, ตํ โอกาสโต กเถตพฺพํ. ตสฺมา ทูเรติ อกถิตํ. โอฬาริกรูปํ โอกาสโต ทูเรติ ทสฺเสตุํ อนิยฺยาเตตฺวาว ยํ วา ปนฺมฺปีติอาทิมาห. สนฺติกปทนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อนาสนฺเนติ น อาสนฺเน, อนุปกฏฺเติ นิสฺสเฏ, ทูเรติ ทูรมฺหิ, อสนฺติเกติ น สนฺติเก. อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเรติ อิทํ ปณฺณรสวิธํ สุขุมรูปํ ลกฺขณโต ทูเร, ทสวิธํ ปน โอฬาริกรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต ทูเรติ วุจฺจติ. สนฺติกปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.
อิทํ ¶ ¶ วุจฺจติ รูปํ สนฺติเกติ อิทํ ทสวิธํ โอฬาริกรูปํ ลกฺขณโต สนฺติเก, ปฺจทสวิธํ ปน สุขุมรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต สนฺติเกติ วุจฺจติ. กิตฺตกโต ¶ ปฏฺาย ปน รูปํ โอกาสวเสน สนฺติเก นาม? กิตฺตกโต ปฏฺาย ทูเร นามาติ? ปกติกถาย กเถนฺตานํ ทฺวาทสหตฺโถ สวนูปจาโร นาม โหติ. ตสฺส โอรโต รูปํ สนฺติเก, ปรโต ทูเร. ตตฺถ สุขุมรูปํ ทูเร โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ ทูเร โหติ; สนฺติเก โหนฺตํ ปน โอกาสโตว สนฺติเก โหติ, น ลกฺขณโต. โอฬาริกรูปํ สนฺติเก โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ สนฺติเก โหติ; ทูเร โหนฺตํ โอกาสโตว ทูเร โหติ, น ลกฺขณโต.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. เหฏฺา หิ ภินฺทมาโน คโต. อิธ ปน น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทติ, โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทติ. อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกฺหิ เอตฺถ ทสฺสิตํ. อตฺตโน หิ รูปํ สนฺติเก นาม; อนฺโตกุจฺฉิคตสฺสาปิ ปรสฺส ทูเร. อนฺโตกุจฺฉิคตสฺส สนฺติเก; พหิิตสฺส ทูเร. เอกมฺเจ สยิตสฺส สนฺติเก; พหิปมุเข ิตสฺส ทูเร. อนฺโตปริเวเณ รูปํ สนฺติเก; พหิปริเวเณ ทูเร. อนฺโตสงฺฆาราเม รูปํ สนฺติเก; พหิสงฺฆาราเม ทูเร. อนฺโตสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิสีมาย ทูเร. อนฺโตคามเขตฺเต รูปํ สนฺติเก; พหิคามกฺเขตฺเต ทูเร. อนฺโตชนปเท รูปํ สนฺติเก; พหิชนปเท ทูเร. อนฺโตรชฺชสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิรชฺชสีมาย ทูเร. อนฺโตสมุทฺเท รูปํ สนฺติเก; พหิสมุทฺเทรูปํ ทูเร. อนฺโตจกฺกวาเฬ รูปํ สนฺติเก; พหิจกฺกวาเฬ ทูเรติ.
อยํ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส.
๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส
๘. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสาทีสุ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ ปหาย อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสาม. ยา กาจิ เวทนาติ จตุภูมิกเวทนํ ปริยาทิยติ. สุขา เวทนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺเวทนํ สภาวโต ทสฺเสตุํ ¶ วุตฺตานิ. ตตฺถ สุขา เวทนา อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา ¶ . ตถา ทุกฺขา เวทนา. อทุกฺขมสุขา ปน จกฺขาทโย ปสาทกาเย สนฺธาย ปริยาเยน ‘อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา’. ตตฺถ สพฺพาปิ กายิกา กามาวจรา. ตถา เจตสิกา ทุกฺขา เวทนา ¶ . เจตสิกา สุขา ปน เตภูมิกา. อทุกฺขมสุขา จตุภูมิกา. ตสฺสา สพฺพปฺปการายปิ สนฺตติวเสน, ขณาทิวเสน จ อตีตาทิภาโว เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ สนฺตติวเสน เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติปริยาปนฺนา, เอกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ขณาทิวเสน ขณตฺตยปริยาปนฺนา ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตา สกิจฺจฺจ กุรุมานา เวทนา ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ตตฺถ ขณาทิวเสน อตีตาทิภาวํ สนฺธาย อยํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๑. โอฬาริกสุขุมนิทฺเทเส อกุสลา เวทนาติอาทีนิ ชาติโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ทุกฺขา เวทนา โอฬาริกาติอาทีนิ สภาวโต. อสมาปนฺนสฺส เวทนาติอาทีนิ ปุคฺคลโต. สาสวาติอาทีนิ โลกิยโลกุตฺตรโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลา ตาว สทรถฏฺเน ทุกฺขวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. กุสลา นิทฺทรถฏฺเน สุขวิปากฏฺเน จ สุขุมา. อพฺยากตา นิรุสฺสาหฏฺเน อวิปากฏฺเน จ สุขุมา. กุสลากุสลา สอุสฺสาหฏฺเน สวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. อพฺยากตา วุตฺตนเยเนว สุขุมา.
ทุกฺขา อสาตฏฺเน ทุกฺขฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขา สาตฏฺเน สุขฏฺเน จ สุขุมา. อทุกฺขมสุขา สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน จ สุขุมา. สุขทุกฺขา โขภนฏฺเน ผรณฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขเวทนาปิ หิ โขเภติ ผรติ. ตถา ทุกฺขเวทนาปิ. สุขฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สกลสรีรํ โขเภนฺตํ อาลุเฬนฺตํ อภิสนฺทยมานํ มทฺทยมานํ ฉาทยมานํ สีโตทกฆเฏน อาสิฺจยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ ตตฺตผาลํ อนฺโต ปเวสนฺตํ วิย ติณุกฺกาย พหิ ฌาปยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. อทุกฺขมสุขา ปน วุตฺตนเยเนว สุขุมา. อสมาปนฺนสฺส เวทนา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตภาวโต โอฬาริกา ¶ . สมาปนฺนสฺส เวทนา เอกตฺตนิมิตฺเตเยว จรตีติ สุขุมา. สาสวา อาสวุปฺปตฺติเหตุโต โอฬาริกา. อาสวจาโร ¶ นาม เอกนฺตโอฬาริโก. อนาสวา วุตฺตวิปริยาเยน สุขุมา.
ตตฺถ ¶ เอโก เนว กุสลตฺติเก โกวิโท โหติ, น เวทนาตฺติเก. โส ‘กุสลตฺติกํ รกฺขามี’ติ เวทนาตฺติกํ ภินฺทติ; ‘เวทนาตฺติกํ รกฺขามี’ติ กุสลตฺติกํ ภินฺทติ. เอโก ‘ติกํ รกฺขามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ. เอโก น ภินฺทติ. กถํ? ‘‘สุขทุกฺขา เวทนา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา เวทนา สุขุมา’’ติ หิ เวทนาตฺติเก วุตฺตํ. ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อทุกฺขมสุขา สุขุมา. สา หิ กุสลาปิ อตฺถิ อกุสลาปิ อพฺยากตาปิ. ตตฺถ กุสลากุสลา โอฬาริกา, อพฺยากตา สุขุมา. กสฺมา? กุสลตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ กุสลตฺติโก รกฺขิโต โหติ, เวทนาตฺติโก ปน ภินฺโน.
กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ ยํ ปน กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อพฺยากตา สุขุมา. สา หิ สุขาปิ อตฺถิ ทุกฺขาปิ อทุกฺขมสุขาปิ. ตตฺถ สุขทุกฺขา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา สุขุมา. กสฺมา? เวทนาตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ เวทนาตฺติโก รกฺขิโต โหติ, กุสลตฺติโก ปน ภินฺโน. กุสลตฺติกสฺส ปน อาคตฏฺาเน เวทนาตฺติกํ อโนโลเกตฺวา เวทนาตฺติกสฺส อาคตฏฺาเน กุสลตฺติกํ อโนโลเกตฺวา กุสลาทีนํ กุสลตฺติกลกฺขเณน, สุขาทีนํ เวทนาตฺติกลกฺขเณน โอฬาริกสุขุมตํ กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.
ยมฺปิ ‘‘กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตตฺเถโก ‘กุสลา โลกุตฺตรเวทนาปิ สมานา โอฬาริกา นาม, วิปากา อนฺตมโส ทฺวิปฺจวิฺาณสหชาตาปิ สมานา สุขุมา นาม โหตี’ติ วทติ. โส เอวรูปํ สนฺตํ ปณีตํ โลกุตฺตรเวทนํ โอฬาริกํ นาม กโรนฺโต, ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตํ อเหตุกํ หีนํ ชฬํ เวทนํ สุขุมํ นาม กโรนฺโต ‘ติกํ รกฺขิสฺสามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ นาม. ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ กุสลํ ปน ตํตํภูมิวิปาเกเนว สทฺธึ โยเชตฺวา กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม. ตตฺรายํ นโย – กามาวจรกุสลา หิ โอฬาริกา; กามาวจรวิปากา สุขุมา ¶ . รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรกุสลา ¶ โอฬาริกา; รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรวิปากา สุขุมาติ. อิมินา นีหาเรน กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.
ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อกุสเล โอฬาริกสุขุมตา นาม น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตโอฬาริกเมว. โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตสุขุม’’นฺติ ¶ . อิมํ กถํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรสฺส กถยึสุ – เอวํ เถเรน กถิตนฺติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน อภิธมฺมํ ปตฺวา เอกปทสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อาคตฏฺาเน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ, นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อกโต นาม นตฺถิ. อิธ ปเนกจฺโจ ‘อาจริโย อสฺมี’ติ วิจรนฺโต อกุสเล โอฬาริกสุขุมตํ อุทฺธรมาโน กุกฺกุจฺจายติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา อุทฺธริตา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาหริ – ‘‘ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภนฺเต, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ – ทุกฺขตฺตา ทนฺธตฺตา จา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๕๒). เอตฺถ หิ จตสฺโส ปฏิปทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. ตํตํวาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โทสสหคตา โอฬาริกา, โลภสหคตา สุขุมา. โทสสหคตาปิ ทุวิธา – นิยตา อนิยตา จ. ตตฺถ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. นิยตาปิ กปฺปฏฺิติกา โอฬาริกา, โนกปฺปฏฺิติกา สุขุมา. กปฺปฏฺิติกาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา. โลภสหคตาปิ ทฺวิธา – ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา จ. ตตฺถ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา สุขุมา. ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาปิ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. สาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา.
สงฺเขปโต อกุสลํ ปตฺวา ยา วิปากํ พหุํ เทติ สา โอฬาริกา, ยา อปฺปํ สา สุขุมา. กุสลํ ปตฺวา ปน อปฺปวิปากา โอฬาริกา, พหุวิปากา ¶ สุขุมา. จตุพฺพิเธ กุสเล กามาวจรกุสลา โอฬาริกา, รูปาวจรกุสลา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกุสลา สุขุมา ¶ . สาปิ โอฬาริกา, โลกุตฺตรกุสลา สุขุมา. อยํ ตาว ภูมีสุ อเภทโต นโย.
เภทโต ปน กามาวจรา ทานสีลภาวนามยวเสน ติวิธา. ตตฺถ ทานมยา โอฬาริกา, สีลมยา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ภาวนามยา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา ติเหตุกาติ ทุวิธา. ตตฺถ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ติเหตุกาปิ สสงฺขาริกอสงฺขาริกเภทโต ¶ ทุวิธา. ตตฺถ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. รูปาวจเร ปมชฺฌานกุสลเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา สุขุมา อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา โอฬาริกา…เป…. เนวสฺานาสฺายตนกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิปสฺสนาสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติมคฺคสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… อรหตฺตมคฺคสหชาตา สุขุมา.
จตุพฺพิเธ วิปาเก กามาวจรวิปากเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรวิปากเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… โลกุตฺตรวิปากเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต.
เภทโต ปน กามาวจรวิปากา อตฺถิ อเหตุกา, อตฺถิ สเหตุกา. สเหตุกาปิ อตฺถิ ทุเหตุกา, อตฺถิ ติเหตุกา. ตตฺถ อเหตุกา โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌานวิปากา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานวิปากา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… เนวสฺานาสฺายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติผลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, สกทาคามิ…เป… อรหตฺตผลเวทนา สุขุมา.
ตีสุ ¶ กิริยาสุ กามาวจรกิริยเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต. เภทโต ปน อเหตุกาทิวเสน ภินฺนาย กามาวจรกิริยาย อเหตุกกิริยเวทนา ¶ โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌาเน กิริยเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌาเน สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ตติเย…เป… จตุตฺเถ สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิฺาณฺจา…เป… เนวสฺานาสฺายตนกิริยเวทนา สุขุมา. ยา โอฬาริกา สา หีนา. ยา สุขุมา สา ปณีตา.
๑๓. ทูรทุกนิทฺเทเส ¶ อกุสลเวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ กุสลาพฺยากตาหิ ทูเร. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ ทูรตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคิโน ทุกฺขาทิเวทนาสมงฺคิโน จ ตโย ตโย ชนา เอกมฺเจ นิสินฺนา โหนฺติ, เตสมฺปิ ตา เวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ ทูเรเยว นาม. สมาปนฺนเวทนาทิสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย. อกุสลา ปน อกุสลาย สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเก นาม. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สนฺติกตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุ ตีสุ ชเนสุ เอโก กามภเว, เอโก รูปภเว, เอโก อรูปภเว, เตสมฺปิ ตา เวทนา สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเกเยว นาม. กุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ เหฏฺิมนยํ อโนโลเกตฺวา ตํ ตํ วาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน จ น ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพํ, สนฺติกโต ปน ทูรํ อุทฺธริตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โลภสหคตา โลภสหคตาย สนฺติเก นาม, โทสสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตา โทสสหคตาย สนฺติเก นาม, โลภสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตาปิ นิยตา นิยตาย สนฺติเก นามาติ. เอวํ อนิยตา. กปฺปฏฺิติกอสงฺขาริกสสงฺขาริกเภทํ โลภสหคตาทีสุ จ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาทิเภทํ สพฺพํ โอฬาริกทุกนิทฺเทเส วิตฺถาริตวเสน อนุคนฺตฺวา เอเกกโกฏฺาสเวทนา ¶ ¶ ตํตํโกฏฺาสเวทนาย เอว สนฺติเก, อิตรา อิตราย ทูเรติ เวทิตพฺพาติ.
อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.
๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส
๑๔. สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ยา กาจิ สฺาติ จตุภูมิกสฺํ ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสฺํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสโต จกฺขุสมฺผสฺสสฺมึ วา ชาตา จกฺขุสมฺผสฺสชา นาม. เสสาสุปิ เอเสว นโย ¶ . เอตฺถ จ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกสฺา.
๑๗. โอฬาริกทุกนิทฺเทเส ปฏิฆสมฺผสฺสชาติ สปฺปฏิเฆ จกฺขุปสาทาทโย วตฺถุํ กตฺวา สปฺปฏิเฆ รูปาทโย อารพฺภ อุปฺปนฺโน ผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส นาม. ตโต ตสฺมึ วา ชาตา ปฏิฆสมฺผสฺสชา นาม. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… กายสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ตสฺสาเยว วตฺถุโต นามํ. รูปสฺา…เป… โผฏฺพฺพสฺาติปิ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อิทํ ปน วตฺถารมฺมณโต นามํ. สปฺปฏิฆานิ หิ วตฺถูนิ นิสฺสาย, สปฺปฏิฆานิ จ อารมฺมณานิ อารพฺภ อุปฺปตฺติโต เอสา ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺาติ วุตฺตา. มโนสมฺผสฺสชาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. จกฺขุวิฺาณฺหิ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา.
อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตาย สฺาย อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ นามํ กโรนฺติ. นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกสฺา ¶ , อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกสฺา. ตตฺถ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ¶ ชานิตุํ สกฺกาติ โอฬาริกา. รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตฺหิ ‘รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ, กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตํ ‘กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ โอโลเกตฺวาว ชานนฺติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – ทฺเว กิร อิตฺถิโย นิสีทิตฺวา สุตฺตํ กนฺตนฺติ. ทฺวีสุ ทหเรสุ คาเม จรนฺเตสุ เอโก ปุรโต คจฺฉนฺโต เอกํ อิตฺถึ โอโลเกสิ. อิตรา ตํ ปุจฺฉิ ‘กสฺมา นุ โข ตํ เอโส โอโลเกสี’ติ? ‘น เอโส ภิกฺขุ มํ วิสภาคจิตฺเตน โอโลเกสิ, กนิฏฺภคินีสฺาย ปน โอโลเกสี’ติ. เตสุปิ คาเม จริตฺวา อาสนสาลาย นิสินฺเนสุ อิตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘ตยา สา อิตฺถี โอโลกิตา’ติ? ‘อาม โอโลกิตา’. ‘กิมตฺถายา’ติ? ‘มยฺหํ ภคินีสริกฺขตฺตา ตํ โอโลเกสิ’นฺติ อาห. เอวํ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ¶ ชานิตุํ สกฺกาติ เวทิตพฺพา. สา ปเนสา ปสาทวตฺถุกา เอว. เกจิ ปน ชวนปฺปวตฺตาติ ทีเปนฺติ. มโนทฺวาริกสฺา ปน เอกมฺเจ วา เอกปีเ วา นิสีทิตฺวาปิ อฺํ จินฺเตนฺตํ วิตกฺเกนฺตฺจ ‘กึ จินฺเตสิ, กึ วิตกฺเกสี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส วจนวเสเนว ชานิตพฺพโต สุขุมา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส.
๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๐. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส เย เกจิ สงฺขาราติ จตุภูมิกสงฺขาเร ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสงฺขาเร สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. จกฺขุสมฺผสฺสชาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เจตนาติ เหฏฺิมโกฏิยา ปธานสงฺขารวเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมโกฏิยา หิ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ ปาฬิยํ อาคตา จตฺตาโร สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ เจตนา ปธานา อายูหนฏฺเน ปากฏตฺตา. ตสฺมา อยเมว คหิตา. ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารา ปน ตาย คหิตาย คหิตาว โหนฺติ. อิธาปิ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกเจตนา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส.
๕. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๖. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส ¶ ¶ ยํ กิฺจิ วิฺาณนฺติ จตุภูมกวิฺาณํ ปริยาทิยติ. จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺวิฺาณํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ¶ ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาเนว, มโนวิฺาณํ หทยวตฺถุกมฺปิ อวตฺถุกมฺปิ. สพฺพํ จตุภูมกวิฺาณํ. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส.
ปกิณฺณกกถา
อิทานิ ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ สมุคฺคมโต, ปุพฺพาปรโต, อทฺธานปริจฺเฉทโต, เอกุปฺปาทนานานิโรธโต, นานุปฺปาทเอกนิโรธโต, เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต, นานุปฺปาทนานานิโรธโต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนโต, อชฺฌตฺติกพาหิรโต, โอฬาริกสุขุมโต, หีนปณีตโต, ทูรสนฺติกโต, ปจฺจยโต, สมุฏฺานโต, ปรินิปฺผนฺนโต, สงฺขตโตติ โสฬสหากาเรหิ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ทุวิโธ สมุคฺคโม – คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม, โอปปาติกสมุคฺคโมติ. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม เอวํ เวทิตพฺโพ – คพฺภเสยฺยกสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา อปจฺฉาอปุเร เอกโต ปาตุภวนฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปาตุภูตา กลลสงฺขาตา รูปสนฺตติ ปริตฺตา โหติ. ขุทฺทกมกฺขิกาย เอกวายาเมน ปาตพฺพมตฺตาติ วตฺวา ปุน ‘อติพหุํ เอตํ, สณฺหสูจิยา เตเล ปกฺขิปิตฺวา อุกฺขิตฺตาย ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอกเกเส เตลโต อุทฺธริตฺวา คหิเต ตสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘อิมสฺมึ ชนปเท มนุสฺสานํ เกเส อฏฺธา ผาลิเต ตโต เอกโกฏฺาสปฺปมาโณ อุตฺตรกุรุกานํ เกโส; ตสฺส ปสนฺนติลเตลโต อุทฺธฏสฺส อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอตํ พหุ, ชาติอุณฺณา นาม สุขุมา; ตสฺสา เอกอํสุโน ปสนฺนติลเตเล ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปเนตํ ¶ อจฺฉํ โหติ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปริสุทฺธํ ปสนฺนติลเตลพินฺทุสมานวณฺณํ ¶ . วุตฺตมฺปิ เจตํ –
ติลเตลสฺส ¶ ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฏิภาคํ, กลลนฺติ ปวุจฺจตีติ.
เอวํ ปริตฺตาย รูปสนฺตติยา ตีณิ สนฺตติสีสานิ โหนฺติ – วตฺถุทสกํ, กายทสกํ, อิตฺถิยา อิตฺถินฺทฺริยวเสน ปุริสสฺส ปุริสินฺทฺริยวเสน ภาวทสกนฺติ. ตตฺถ วตฺถุรูปํ, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตํนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ วตฺถุทสกํ นาม. กายปสาโท, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ กายทสกํ นาม. อิตฺถิยา อิตฺถิภาโว, ปุริสสฺส ปุริสภาโว, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ ภาวทสกํ นาม.
เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิยํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สมตึส กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตน ปน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารา สงฺขารกฺขนฺโธ, ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. สเจ ปน นปุํสกปฏิสนฺธิ โหติ, ภาวทสกํ หายติ. ทฺวินฺนํ ทสกานํ วเสน สมวีสติ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวมฺปิ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ.
อิมสฺมึ าเน ติสมุฏฺานิกปฺปเวณี กเถตพฺพา ภเวยฺย. ตํ ปน อกเถตฺวา ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม ทสฺสิโต. โอปปาติกานฺหิ ปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เหฏฺา วุตฺตานิ ตีณิ, จกฺขุโสตฆานชิวฺหาทสกานิ จาติ สตฺต รูปสนฺตติสีสานิ ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ จกฺขุทสกาทีนิ กายทสกสทิสาเนว. นปุํสกสฺส ปน ภาวทสกํ นตฺถิ. เอวํ ปริปุณฺณายตนานํ โอปปาติกานํ สมสตฺตติ เจว ¶ สมสฏฺิ จ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวํ โอปปาติกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. อยํ ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม. เอวํ ตาว ปฺจกฺขนฺธา ‘สมุคฺคมโต’ เวทิตพฺพา.
‘ปุพฺพาปรโต’ติ ¶ เอวํ ปน คพฺภเสยฺยกานํ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺเนสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กึ รูปํ ¶ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ อุทาหุ อรูปนฺติ? รูปํ รูปเมว สมุฏฺาเปติ, น อรูปํ. กสฺมา? ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส น รูปชนกตฺตา. สพฺพสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ขีณาสวสฺส จุติจิตฺตํ, ทฺวิปฺจวิฺาณานิ, จตฺตาริ อรูปฺปวิปากานีติ โสฬส จิตฺตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ตาว วตฺถุโน ทุพฺพลตาย อปฺปติฏฺิตตาย ปจฺจยเวกลฺลตาย อาคนฺตุกตาย จ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ หิ สหชาตํ วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตีติ วตฺถุโน ทุพฺพลตาย รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ยถา จ ปปาเต ปตนฺโต ปุริโส อฺสฺส นิสฺสโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ เอตมฺปิ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา ปปาเต ปตมานํ วิย อปฺปติฏฺิตํ. อิติ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, อปฺปติฏฺิตตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วตฺถุนา สทฺธึ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺนํ. ตสฺส วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ. สเจ สกฺกุเณยฺย, รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. ยตฺราปิ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, ปเวณี ฆฏิยติ, ตตฺราปิ จิตฺตํ องฺคโต อปริหีนํเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยทิ หิ จิตฺตํ านกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา รูปํ สมุฏฺาเปยฺย, ปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. น ปน จิตฺตํ ตสฺมึ ขณทฺวเย รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยถา ปน อหิจฺฉตฺตกมกุลํ ปถวิโต อุฏฺหนฺตํ ปํสุจุณฺณํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ, เอวํ จิตฺตํ ปุเรชาตํ วตฺถุํ นิสฺสาย อุปฺปาทกฺขเณ อฏฺ รูปานิ คเหตฺวาว อุฏฺหติ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ จ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ ปจฺจยเวกลฺลตายปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ยถา จ อาคนฺตุกปุริโส อคตปุพฺพํ ปเทสํ คโต อฺเสํ ¶ – ‘เอถ โภ, อนฺโตคาเม โว อนฺนปานคนฺธมาลาทีนิ ทสฺสามี’ติ วตฺตุํ น สกฺโกติ, อตฺตโน อวิสยตาย อปฺปหุตตาย, เอวเมว ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อาคนฺตุกนฺติ อตฺตโน อาคนฺตุกตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. อปิจ สมตึส กมฺมชรูปานิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ านํ คเหตฺวา ิตานีติปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ขีณาสวสฺส ปน จุติจิตฺตํ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา น สมุฏฺาเปติ. ตสฺส หิ สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ปุนพฺภเว ปเวณี นาม ¶ นตฺถิ. โสตาปนฺนสฺส ปน สตฺต ภเว เปตฺวา อฏฺเมว วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ. ตสฺมา ตสฺส จุติจิตฺตํ สตฺตสุ ภเวสุ รูปํ สมุฏฺาเปติ ¶ , สกทาคามิโน ทฺวีสุ, อนาคามิโน เอกสฺมึ. ขีณาสวสฺส สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา เนว สมุฏฺาเปติ.
ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ ปน ฌานงฺคํ นตฺถิ, มคฺคงฺคํ นตฺถิ, เหตุ นตฺถีติ จิตฺตงฺคํ ทุพฺพลํ โหตีติ จิตฺตงฺคทุพฺพลตาย ตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. จตฺตาริ อรูปวิปากานิ ตสฺมึ ภเว รูปสฺส นตฺถิตาย รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. น เกวลฺจ ตาเนว, ยานิ อฺานิปิ ตสฺมึ ภเว อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทส อกุสลานิ, นว กิริยจิตฺตานิ, จตฺตาริ อารุปฺปกุสลานิ, จตสฺโส อารุปฺปกิริยา, ตีณิ มคฺคจิตฺตานิ, จตฺตาริ ผลจิตฺตานีติ ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิปิ ตตฺถ รูปสฺส นตฺถิตาย เอว รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. เอวํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
อุตุ ปน ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. โก เอส อุตุ นามาติ? ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ สมตึสกมฺมชรูปานํ อพฺภนฺตรา เตโชธาตุ. สา านํ ปตฺวา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. อุตุ นาม เจส ทนฺธนิโรโธ; จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ. ตสฺมึ ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปมภวงฺคจิตฺตํ อุปฺปาทกฺขเณเยว อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. ยทา ปน สทฺทสฺส อุปฺปตฺติกาโล ภวิสฺสติ, ตทา อุตุจิตฺตานิ สทฺทนวกํ นาม สมุฏฺาเปสฺสนฺติ. กพฬีการาหาโรปิ านํ ปตฺวา ¶ อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. กุโต ปนสฺส กพฬีการาหาโรติ? มาติโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยฺจสฺส ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
เอวํ กุจฺฉิคโต ทารโก มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชาย ยาเปติ. สาว านปฺปตฺตา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. นนุ จ สา โอชา ขรา? วตฺถุ สุขุมํ? กถํ ตตฺถ ปติฏฺาตีติ? ปมํ ตาว น ปติฏฺาติ; เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา สตฺตาหานํ คตกาเล ปติฏฺาติ. ตโต ปน ปุเร วา ปติฏฺาตุ ปจฺฉา วา; ยทา มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชา ทารกสฺส สรีเร ปติฏฺาติ, ตทา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ.
โอปปาติกสฺสาปิ ¶ ¶ ปกติปฏิยตฺตานํ ขาทนียโภชนียานํ อตฺถิฏฺาเน นิพฺพตฺตสฺส ตานิ คเหตฺวา อชฺโฌหรโต านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอโก อนฺนปานรหิเต อรฺเ นิพฺพตฺตติ, มหาฉาตโก โหติ, อตฺตโนว ชิวฺหาย เขฬํ ปริวตฺเตตฺวา คิลติ. ตตฺราปิสฺส านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ.
เอวํ ปฺจวีสติยา โกฏฺาเสสุ ทฺเวว รูปานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – เตโชธาตุ จ กพฬีการาหาโร จ. อรูเปปิ ทฺเวเยว ธมฺมา รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – จิตฺตฺเจว กมฺมเจตนา จ. ตตฺถ รูปํ อุปฺปาทกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, านกฺขเณ พลวนฺติ านกฺขเณ รูปํ สมุฏฺาเปติ. จิตฺตํ านกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, อุปฺปาทกฺขเณเยว พลวนฺติ อุปฺปาทกฺขเณเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. กมฺมเจตนา นิรุทฺธาว ปจฺจโย โหติ. อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเกปิ หิ อายูหิตํ กมฺมํ เอตรหิ ปจฺจโย โหติ. เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสปริโยสาเนปิ ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ ‘ปุพฺพาปรโต’ เวทิตพฺพา.
‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ติ รูปํ กิตฺตกํ อทฺธานํ ติฏฺติ? อรูปํ กิตฺตกนฺติ? รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธํ. อรูปํ ลหุปริณามํ ขิปฺปนิโรธํ. รูเป ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. ตํ ¶ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ยถา หิ ปุริโส ‘ผลํ ปาเตสฺสามี’ติ มุคฺคเรน รุกฺขสาขํ ปหเรยฺย, ผลานิ จ ปตฺตานิ จ เอกกฺขเณเยว วณฺฏโต มุจฺเจยฺยุํ. ตตฺถ ผลานิ อตฺตโน ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนฺติ, ปตฺตานิ ลหุกตาย ปจฺฉา. เอวเมว มุคฺครปฺปหาเรน ปตฺตานฺจ ผลานฺจ เอกกฺขเณ วณฺฏโต มุตฺตกาโล วิย ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมานํ เอกกฺขเณ ปาตุภาโว; ผลานํ ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ปตฺตานํ ลหุกตาย ปจฺฉา ปถวิยํ ปตนํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สห นิรุชฺฌนํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ รูปํ ทนฺธนิโรธํ ครุปริณามํ, จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ ลหุปริณามํ, รูปํ ปน อรูปํ อรูปํ วา รูปํ โอหาย ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ เอกปฺปมาณาว ปวตฺติ. ตตฺรายํ อุปมา – เอโก ปุริโส ลกุณฺฏกปาโท, เอโก ทีฆปาโท. เตสุ เอกโต มคฺคํ คจฺฉนฺเตสุ ยาว ทีฆปาโท ¶ เอกปทวารํ อกฺกมติ, ตาว อิตโร ปเท ปทํ อกฺกมิตฺวา โสฬสปทวาเรน คจฺฉติ. ทีฆปาโท ลกุณฺฏกปาทสฺส โสฬส ปทวาเร อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา ¶ อากฑฺฒิตฺวา เอกเมว ปทวารํ กโรติ. อิติ เอโกปิ เอกํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ. ทฺวินฺนมฺปิ คมนํ เอกปฺปมาณเมว โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ลกุณฺฏกปาทปุริโส วิย อรูปํ; ทีฆปาทปุริโส วิย รูปํ; ทีฆปาทสฺส เอกํ ปทวารํ อกฺกมณกาเล อิตรสฺส โสฬสปทวารอกฺกมนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว อรูปธมฺเมสุ โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ ลกุณฺฏกปาทปุริสสฺส โสฬส ปทวาเร อิตรสฺส อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เอกปทวารกรณํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ อฺมฺํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว คมนํ วิย อรูปสฺส รูปํ รูปสฺส อรูปํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว ปวตฺตนนฺติ. เอวํ ‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ เวทิตพฺพา.
‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ติ อิทํ ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวา ทีเปตพฺพํ. ปมฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ทุติยํ ¶ ภวงฺคํ, ตติยํ ภวงฺคํ…เป… โสฬสมํ ภวงฺคํ. เตสุ เอเกกสฺส อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ตโย ตโย ขณา. ตตฺถ เอเกกสฺส จิตฺตสฺส ตีสุ ตีสุ ขเณสุ สมตึส สมตึส กมฺมชรูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ กมฺมชรูปํ สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เอวํ ทุติยภวงฺคจิตฺตํ อาทึ กตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ โยเชตฺวา นโย เนตพฺโพ. อิติ โสฬส ติกา อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ. อยํ อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชรูปปเวณี นาม. สา ปเนสา รตฺติฺจ ทิวา จ ขาทนฺตานมฺปิ ภฺุชนฺตานมฺปิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ นทีโสโต วิย เอกนฺตํ ปวตฺตติ เยวาติ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘นานุปฺปาทเอกนิโรธตา’ ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีเปตพฺพา. ตตฺถ อายุสํขารปริโยสาเน โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ วาเร สติ เหฏฺาโสฬสกํ อุปริโสฬสกนฺติ ทฺเว เอกโต โยเชตพฺพานิ. เหฏฺาโสฬสกสฺมิฺหิ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ อุปริโสฬสกสฺมึ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ิติกฺขเณเยว ¶ ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เหฏฺิมโสฬสกสฺมึ ปน ทุติยจิตฺตสฺส…เป… โสฬสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ตสฺส ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. ตโต ปฏฺาย กมฺมชรูปปเวณี ¶ น ปวตฺตติ. ยทิ ปวตฺเตยฺย, สตฺตา อกฺขยา อวยา อชรา อมรา นาม ภเวยฺยุํ.
เอตฺถ ปน ยเทตํ ‘สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌตี’ติอาทินา นเยน ‘เอกสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’ติ อฏฺกถายํ อาคตตฺตา วุตฺตํ, ตํ ‘‘ยสฺส ¶ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตี’’ติ? ‘‘อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๗๙) อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. กถํ? กายสงฺขาโร หิ จิตฺตสมุฏฺาโน อสฺสาสปสฺสาสวาโต. จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว อฺานิ โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ ตาว ติฏฺติ. เตสํ โสฬสนฺนํ สพฺพปจฺฉิเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. อิติ เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ; น กสฺสจิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา นิรุชฺฌติ, นาปิ ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา อุปฺปชฺชติ. เอสา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ธมฺมตาติ นิยมโต จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ.
โย จายํ จิตฺตสมุฏฺานสฺส ขณนิยโม วุตฺโต กมฺมาทิสมุฏฺานสฺสาปิ อยเมว ขณนิยโม. ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส านกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ อิมินา นเยเนตฺถ โยชนา กาตพฺพา. ตโต ปรํ ปน อุตุสมุฏฺานิกปเวณีเยว ติฏฺติ. ‘นีหริตฺวา ฌาเปถา’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวํ ‘นานุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ติ รูปํ ปน รูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. อรูปํ อรูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ ¶ ปน จตุสนฺตติรูเปน ทีเปตพฺพา. อิมสฺส หิ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตสฺส สรีรสฺส ตตฺถ ตตฺถ จตุสนฺตติรูปํ ฆนปฺุชภาเวน วตฺตติ. เอวํ วตฺตมานสฺสาปิสฺส น เอกุปฺปาทาทิตา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยถา ปน อุปจิกราชิ วา กิปิลฺลิกราชิ วา โอโลกิยมานา เอกาพทฺธา วิย โหติ, น ปน เอกาพทฺธา. อฺิสฺสา หิ ¶ สีสสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา อุทรสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา ปาทสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ โหนฺติ. เอวเมว จตุสนฺตติรูปานมฺปิ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ¶ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ิติกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ภงฺคกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ. เอวเมตฺถ ‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ เวทิตพฺพา.
‘อตีตาทีนิ’ ปน ทูรทุกปริโยสานานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว. ‘ปจฺจยสมุฏฺานานิ’ปิ ‘‘กมฺมชํ, กมฺมปจฺจยํ, กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’’นฺติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๙๗๕) นเยน เหฏฺา กถิตานิเยว. ปฺจปิ ปน ขนฺธา ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺติ, โน อปรินิปฺผนฺนา; สงฺขตาว โน อสงฺขตา; อปิจ นิปฺผนฺนาปิ โหนฺติเยว. สภาวธมฺเมสุ หิ นิพฺพานเมเวกํ อปรินิปฺผนฺนํ อนิปฺผนฺนฺจ. นิโรธสมาปตฺติ ปน นามปฺตฺติ จ กถนฺติ? นิโรธสมาปตฺติ โลกิยโลกุตฺตราติ วา สงฺขตาสงฺขตาติ วา ปรินิปฺผนฺนาปรินิปฺผนฺนาติ วา น วตฺตพฺพา. นิปฺผนฺนา ปน โหติ สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺพโต. ตถา นามปฺตฺติ. สาปิ หิ โลกิยาทิเภทํ น ลภติ; นิปฺผนฺนา ปน โหติ โน อนิปฺผนฺนา; นามคฺคหณฺหิ คณฺหนฺโตว คณฺหาตีติ.
กมาทิวินิจฺฉยกถา
เอวํ ปกิณฺณกโต ขนฺเธ วิทิตฺวา ปุน เอเตสุเยว –
ขนฺเธสุ าณเภทตฺถํ, กมโตถ วิเสสโต;
อนูนาธิกโต เจว, อุปมาโต ตเถว จ.
ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา เอวํ, ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต;
วินิจฺฉยนโย สมฺมา, วิฺาตพฺโพ วิภาวินา.
ตตฺถ ¶ ¶ ‘กมโต’ติ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, ปฏิปตฺติกฺกโม, ภูมิกฺกโม, เทสนากฺกโมติ พหุวิโธ กโม.
ตตฺถ ‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุท’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๕) เอวมาทิ อุปฺปตฺติกฺกโม. ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ธมฺมา, ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) เอวมาทิ ปหานกฺกโม. ‘‘สีลวิสุทฺธิ, จิตฺตวิสุทฺธี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙; ปฏิ. ม. ๓.๔๑) เอวมาทิ ปฏิปตฺติกฺกโม. ‘‘กามาวจรา ¶ , รูปาวจรา’’ติ เอวมาทิ ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) วา ‘‘ทานกถํ สีลกถ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๖๙; ที. นิ. ๑.๒๙๘) วา เอวมาทิ เทสนากฺกโม. เตสุ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม ตาว น ยุชฺชติ, กลลาทีนํ วิย ขนฺธานํ ปุพฺพาปริยววตฺถาเนน อนุปฺปตฺติโต; น ปหานกฺกโม กุสลาพฺยากตานํ อปฺปหาตพฺพโต; น ปฏิปตฺติกฺกโม อกุสลานํ อปฺปฏิปชฺชนียโต; น ภูมิกฺกโม เวทนาทีนํ จตุภูมกปริยาปนฺนตฺตา.
เทสนากฺกโม ปน ยุชฺชติ. อเภเทน หิ ยํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตคฺคาหปติตํ เวเนยฺยชนํ สมูหฆนวินิพฺโภคทสฺสเนน อตฺตคฺคาหโต โมเจตุกาโม ภควา หิตกาโม ตสฺส ชนสฺส สุขคฺคหณตฺถํ จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูตํ โอฬาริกํ ปมํ รูปกฺขนฺธํ เทเสสิ. ตโต อิฏฺานิฏฺรูปสํเวทิตํ เวทนํ, ยํ เวทยติ ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกํ สฺํ, สฺาวเสน อภิสงฺขารเก สงฺขาเร, เตสํ เวทนาทีนํ นิสฺสยํ อธิปติภูตฺจ วิฺาณนฺติ เอวํ ตาว ‘กมโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘วิเสสโต’ติ ขนฺธานฺจ อุปาทานกฺขนฺธานฺจ วิเสสโต. โก ปน เตสํ วิเสโส? ขนฺธา ตาว อวิเสสโต วุตฺตา, อุปาทานกฺขนฺธา สาสวอุปาทานียภาเวน วิเสเสตฺวา. ยถาห –
‘‘ปฺจ, ภิกฺขเว, ขนฺเธ เทเสสฺสามิ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ จ, ตํ สุณาถ. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา? ยํ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, รูปกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา…เป… เย เกจิ สงฺขารา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ ¶ …เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, วิฺาณกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา? ยํ ¶ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ วุจฺจติ, รูปูปาทานกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๔๘).
เอตฺถ จ ยถา เวทนาทโย อนาสวาปิ สาสวาปิ อตฺถิ, น เอวํ รูปํ. ยสฺมา ปนสฺส ราสฏฺเน ขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา ขนฺเธสุ วุตฺตํ. ยสฺมา ราสฏฺเน จ สาสวฏฺเน จ อุปาทานกฺขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา อุปาทานกฺขนฺเธสุ วุตฺตํ. เวทนาทโย ปน อนาสวาว ขนฺเธสุ วุตฺตา, สาสวา อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ‘อุปาทานกฺขนฺธา’ติ เอตฺถ จ อุปาทานโคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิธ ปน สพฺเพเปเต เอกชฺฌํ กตฺวา ขนฺธาติ อธิปฺเปตา.
‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน ภควตา ปฺเจว ขนฺธา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคหโต, อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปฺปรมโต, อฺเสฺจ ตทวโรธโต. อเนกปฺปเภเทสุ หิ สงฺขตธมฺเมสุ สภาควเสน สงฺคยฺหมาเนสุ รูปํ รูปสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ, เวทนา เวทนาสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ. เอส นโย สฺาทีสุปิ. ตสฺมา สพฺพสงฺขตสภาคสงฺคหโต ปฺเจว วุตฺตา. เอตปรมฺเจตํ อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุ ยทิทํ รูปาทโย ปฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ รูปํ อุปาทาย รูปํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๐๗). เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ…. วิฺาเณ สติ วิฺาณํ อุปาทาย วิฺาณํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ. ตสฺมา อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปรมโตปิ ปฺเจว วุตฺตา. เยปิ จฺเ สีลาทโย ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา วุตฺตา, เตปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอตฺเถว อวโรธํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา อฺเสํ ตทวโรธโตปิ ปฺเจว วุตฺตาติ. เอวํ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘อุปมาโต’ติ เอตฺถ หิ คิลานสาลูปโม รูปุปาทานกฺขนฺโธ ¶ คิลานูปมสฺส วิฺาณุปาทานกฺขนฺธสฺส ¶ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน นิวาสนฏฺานโต, เคลฺูปโม ¶ เวทนุปาทานกฺขนฺโธ อาพาธกตฺตา, เคลฺสมุฏฺานูปโม สฺุปาทานกฺขนฺโธ กามสฺาทิวเสน ราคาทิสมฺปยุตฺตเวทนาสมฺภวา, อสปฺปายเสวนูปโม สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺสฺส นิทานตฺตา. ‘‘เวทนํ เวทนตฺตาย สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) หิ วุตฺตํ. ตถา ‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ กายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ ทุกฺขสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๕๖). คิลานูปโม วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺเน อปริมุตฺตตฺตา. อปิจ จารกการณอปราธการณการกอปราธิกูปมา เอเต ภาชนโภชนพฺยฺชนปริเวสกภฺุชกูปมา จาติ, เอวํ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา’ติ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จาติ เอวํ ทฺวิธา ทฏฺพฺพโต เปตฺถ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ. สงฺเขปโต หิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อาสิวิสูปเม (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วุตฺตนเยน อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกโต, ภารสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๒๒) ภารโต, ขชฺชนียปริยายวเสน (สํ. นิ. ๓.๗๙) ขาทกโต, ยมกสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๘๕) อนิจฺจทุกฺขานตฺตสงฺขตวธกโต ทฏฺพฺพา.
วิตฺถารโต ปเนตฺถ เผณปิณฺโฑ วิย รูปํ ทฏฺพฺพํ, อุทกปุพฺพุโฬ วิย เวทนา, มรีจิกา วิย สฺา, กทลิกฺขนฺโธ วิย สงฺขารา, มายา วิย วิฺาณํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เผณปิณฺฑูปมํ รูปํ, เวทนา ปุพฺพุฬูปมา;
มรีจิกูปมา สฺา, สงฺขารา กทลูปมา;
มายูปมฺจ วิฺาณํ, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);
ตตฺถ รูปาทีนํ เผณปิณฺฑาทีหิ เอวํ สทิสตา เวทิตพฺพา – ยถา หิ เผณปิณฺโฑ นิสฺสาโรว เอวํ รูปมฺปิ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรเหน นิสฺสารเมว. ยถา จ โส ‘อิมินา ปตฺตํ วา ถาลกํ วา กริสฺสามี’ติ คเหตุํ น สกฺกา, คหิโตปิ ตมตฺถํ น สาเธติ ภิชฺชเตว; เอวํ รูปมฺปิ ¶ ‘นิจฺจ’นฺติ วา ‘ธุว’นฺติ วา ‘อห’นฺติ วา ‘มม’นฺติ วา คเหตุํ น ¶ สกฺกา, คหิตมฺปิ น ตถา ติฏฺติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อสุภฺเว โหตีติ. เอวํ ‘เผณปิณฺฑสทิสเมว’ โหติ.
ยถา ¶ วา ปน เผณปิณฺโฑ ฉิทฺทาวฉิทฺโท อเนกสนฺธิฆฏิโต พหูนฺนํ อุทกสปฺปาทีนํ ปาณานํ อาวาโส, เอวํ รูปมฺปิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อเนกสนฺธิฆฏิตํ. กุลวเสน เจตฺถ อสีติ กิมิกุลานิ วสนฺติ. ตเทว เตสํ สูติฆรมฺปิ วจฺจกุฏิปิ คิลานสาลาปิ สุสานมฺปิ. น เต อฺตฺถ คนฺตฺวา คพฺภวุฏฺานาทีนิ กโรนฺติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อาทิโตว พทรปกฺกมตฺโต หุตฺวา อนุปุพฺเพน ปพฺพตกูฏมตฺโตปิ โหติ, เอวํ รูปมฺปิ อาทิโต กลลมตฺตํ หุตฺวา อนุปุพฺเพน พฺยามมตฺตมฺปิ โคมหึสหตฺถิอาทีนํ วเสน ปพฺพตกูฏมตฺตมฺปิ โหติ, มจฺฉกจฺฉปาทีนํ วเสน อเนกโยชนสตปฺปมาณมฺปิ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อุฏฺิตมตฺโตปิ ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, สมุทฺทํ ปตฺวา ปน อวสฺสเมว ภิชฺชติ; เอวเมว รูปมฺปิ กลลภาเวปิ ภิชฺชติ, อพฺพุทาทิภาเว, อนฺตรา ปน อเภชฺชมานมฺปิ วสฺสสตายุกานํ วสฺสสตํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ, มรณมุเข จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ.
ยถา ปน ปุพฺพุโฬ อสาโร, เอวํ เวทนาปิ. ยถา จ โส อพโล, อคยฺหุปโค, น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุํ, คหิตคฺคหิโตปิ ภิชฺชเตว; เอวํ เวทนาปิ อพลา, อคยฺหุปคา, น สกฺกา ‘นิจฺจา’ติ วา ‘ธุวา’ติ วา คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา ติฏฺติ. เอวํ อคยฺหุปคตายปิ เวทนา ‘ปุพฺพุฬสทิสา’. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปุพฺพุโฬ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติโก โหติ; เอวํ เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติกา โหติ, เอกจฺฉรกฺขเณ โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ยถา จ ปุพฺพุโฬ อุทกตลํ, อุทกพินฺทุํ ¶ , อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา คหณวาตฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ; เอวํ เวทนาปิ วตฺถุํ, อารมฺมณํ, กิเลสชาลํ, ผสฺสสงฺฆฏฺฏนฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. เอวมฺปิ เวทนา ปุพฺพุฬสทิสา.
สฺาปิ อสารกฏฺเน ‘มรีจิสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน; น หิ สกฺกา ตํ คเหตฺวา ปิวิตุํ วา นฺหายิตุํ วา ภาชนํ วา ปูเรตุํ. อปิจ ยถา มรีจิ วิปฺผนฺทติ, สฺชาตูมิเวโค ¶ วิย ขายติ; เอวํ นีลสฺาทิเภทา สฺาปิ นีลาทิอนุภวนตฺถาย ผนฺทติ วิปฺผนฺทติ. ยถา จ มรีจิ มหาชนํ วิปฺปลมฺเภติ ¶ , ‘ปริปุณฺณวาปี วิย ปริปุณฺณนที วิย ทิสฺสตี’ติ วทาเปติ; เอวํ สฺาปิ วิปฺปลมฺเภติ, ‘อิทํ นีลกํ สุภํ สุขํ นิจฺจ’นฺติ วทาเปติ. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ วิปฺปลมฺภเนนาปิ มรีจิสทิสา.
สงฺขาราปิ อสารกฏฺเน ‘กทลิกฺขนฺธสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยเถว หิ กทลิกฺขนฺธโต กิฺจิ คเหตฺวา น สกฺกา โคปานสีอาทีนมตฺถาย อุปเนตุํ, อุปนีตมฺปิ น ตถา โหติ; เอวํ สงฺขาราปิ น สกฺกา นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา โหนฺติ. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ พหุวฏฺฏิสโมธาโน โหติ, เอวํ สงฺขารกฺขนฺโธปิ พหุธมฺมสโมธาโน. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ นานาลกฺขโณ, อฺโเยว หิ พาหิราย ปตฺตวฏฺฏิยา วณฺโณ, อฺโ ตโต อพฺภนฺตรพฺภนฺตรานํ; เอวเมว สงฺขารกฺขนฺโธปิ อฺเทว ผสฺสสฺส ลกฺขณํ, อฺํ เจตนาทีนํ. สโมธาเนตฺวา ปน สงฺขารกฺขนฺโธตฺเวว วุจฺจตีติ. เอวมฺปิ สงฺขารกฺขนฺโธ กทลิกฺขนฺธสทิโส.
วิฺาณมฺปิ อสารกฏฺเน ‘มายาสทิสํ’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยถา จ มายา อิตฺตรา ลหุปจฺจุปฏฺานา, เอวํ วิฺาณํ. ตฺหิ ตโตปิ อิตฺตรตรฺเจว ลหุปจฺจุปฏฺานตรฺจ. เตเนว หิ จิตฺเตน ปุริโส อาคโต วิย, คโต วิย, ิโต วิย, นิสินฺโน วิย โหติ. อฺเทว จาคมนกาเล จิตฺตํ, อฺํ คมนกาลาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. มายา จ มหาชนํ วฺเจติ, ยํ กิฺจิเทว ‘อิทํ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา’ติปิ คหาเปติ. วิฺาณมฺปิ ¶ มหาชนํ วฺเจติ, เตเนว จิตฺเตน อาคจฺฉนฺตํ วิย, คจฺฉนฺตํ วิย, ิตํ วิย, นิสินฺนํ วิย กตฺวา คาหาเปติ. อฺเทว จ อาคมเน จิตฺตํ, อฺํ คมนาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. วิเสสโต จ สุภารมฺมณมฺปิ โอฬาริกมฺปิ อชฺฌตฺติกรูปํ อสุภนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวทนา ตีหิ ทุกฺขตาหิ อวินิมุตฺตโต ทุกฺขาติ สฺาสงฺขารา อวิเธยฺยโต อนตฺตาติ วิฺาณํ อุทยพฺพยธมฺมโต อนิจฺจนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘เอวํ ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต’ติ เอวฺจ สงฺเขปวิตฺถารวเสน ทฺวิธา ปสฺสโต ยา อตฺถสิทฺธิ โหติ, ตโตปิ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – สงฺเขปโต ตาว ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกาทิภาเวน ปสฺสนฺโต ขนฺเธหิ น วิหฺติ. วิตฺถารโต ปน รูปาทีนิ เผณปิณฺฑาทิสทิสภาเวน ปสฺสนฺโต น อสาเรสุ สารทสฺสี โหติ. วิเสสโต จ อชฺฌตฺติกรูปํ ¶ อสุภโต ปสฺสนฺโต กพฬีการาหารํ ปริชานาติ ¶ , อสุเภ สุภนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กาโมฆํ อุตฺตรติ, กามโยเคน วิสํยุชฺชติ, กามาสเวน อนาสโว โหติ, อภิชฺฌากายคนฺถํ ภินฺทติ, กามุปาทานํ น อุปาทิยติ. เวทนํ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต ผสฺสาหารํ ปริชานาติ, ทุกฺเข สุขนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ภโวฆํ อุตฺตรติ, ภวโยเคน วิสํยุชฺชติ, ภวาสเวน อนาสโว โหติ, พฺยาปาทกายคนฺถํ ภินฺทติ, สีลพฺพตุปาทานํ น อุปาทิยติ. สฺํ สงฺขาเร จ อนตฺตโต ปสฺสนฺโต มโนสฺเจตนาหารํ ปริชานาติ, อนตฺตนิ อตฺตาติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ทิฏฺโฆํ อุตฺตรติ, ทิฏฺิโยเคน วิสํยุชฺชติ, ทิฏฺาสเวน อนาสโว โหติ, อิทํ สจฺจาภินิเวสกายคนฺถํ ภินฺทติ, อตฺตวาทุปาทานํ น อุปาทิยติ. วิฺาณํ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต วิฺาณาหารํ ปริชานาติ, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, อวิชฺโชฆํ อุตฺตรติ, อวิชฺชาโยเคน วิสํยุชฺชติ, อวิชฺชาสเวน อนาสโว โหติ, สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถํ ภินฺทติ, ทิฏฺุปาทานํ น อุปาทิยติ.
เอวํ มหานิสํสํ, วธกาทิวเสน ทสฺสนํ ยสฺมา;
ตสฺมา ขนฺเธ ธีโร, วธกาทิวเสน ปสฺเสยฺยาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๒. อิทานิ ¶ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส เหฏฺา รูปกณฺเฑ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๓๔. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทเส เอกวิเธนาติ เอกโกฏฺาเสน. ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ ผสฺเสน สมฺปยุตฺโต. สพฺพาปิ จตุภูมิกเวทนา. สเหตุกทุเก สเหตุกา จตุภูมิกเวทนา, อเหตุกา กามาวจราว. อิมินา อุปาเยน กุสลปทาทีหิ วุตฺตา เวทนา ชานิตพฺพา. อปิจายํ เวทนากฺขนฺโธ เอกวิเธน ผสฺสสมฺปยุตฺตโต ทสฺสิโต, ทุวิเธน สเหตุกาเหตุกโต, ติวิเธน ชาติโต ¶ , จตุพฺพิเธน ภูมนฺตรโต, ปฺจวิเธน อินฺทฺริยโต. ตตฺถ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานิ กายปฺปสาทวตฺถุกานิ กามาวจราเนว. โสมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ วา อวตฺถุกํ วา เตภูมกํ ¶ . โทมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ กามาวจรํ. อุเปกฺขินฺทฺริยํ จกฺขาทิจตุปฺปสาทวตฺถุกํ ฉฏฺวตฺถุกํ อวตฺถุกฺจ จตุภูมกํ. ฉพฺพิเธน วตฺถุโต ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุริมา ปฺจ เวทนา ปฺจปฺปสาทวตฺถุกา กามาวจราว ฉฏฺา อวตฺถุกา วา สวตฺถุกา วา จตุภูมิกา.
สตฺตวิเธน ตตฺถ มโนสมฺผสฺสชา เภทโต ทสฺสิตา, อฏฺวิเธน ตตฺถ กายสมฺผสฺสชา เภทโต, นววิเธน สตฺตวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต, ทสวิเธน อฏฺวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต. เอเตสุ หิ สตฺตวิธเภเท มโนสมฺผสฺสชา มโนธาตุสมฺผสฺสชา, มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ ทฺวิธา ภินฺนา. อฏฺวิธเภเท ตาย สทฺธึ กายสมฺผสฺสชาปิ สุขา ทุกฺขาติ ทฺวิธา ภินฺนา. นววิธเภเท สตฺตวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสน ติธา ภินฺนา. ทสวิธเภเท อฏฺวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสเนว ติธา ภินฺนา.
กุสลตฺติโก เจตฺถ เกวลํ ปูรณตฺถเมว วุตฺโต. สตฺตวิธอฏฺวิธนววิธเภเทสุ ปน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน ¶ นโย ทินฺโน. อภิธมฺมฺหิ ปตฺวา ตถาคเตน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ. อยํ ตาว ทุกมูลเก เอโก วาโร.
สตฺถา หิ อิมสฺมึ อภิธมฺมภาชนีเย เวทนากฺขนฺธํ ภาเชนฺโต ติเก คเหตฺวา ทุเกสุ ปกฺขิปิ, ทุเก คเหตฺวา ติเกสุ ปกฺขิปิ, ติเก จ ทุเก จ อุภโตวฑฺฒนนีหาเรน อาหริ; สตฺตวิเธน, จตุวีสติวิเธน, ตึสวิเธน, พหุวิเธนาติ สพฺพถาปิ พหุวิเธน เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ. ธมฺมํ โสตุํ นิสินฺนเทวปริสาย หิ เย เทวปุตฺตา ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน ตถา กตฺวา เทเสสิ. เย อิตเรหิ อากาเรหิ กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ เตหากาเรหิ เทเสสีติ. อยเมตฺถ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน มหาวิสยตาย ติเก วา ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา, ทุเก วา ติเกสุ อุภโตวฑฺฒเนน วา, สตฺตวิธาทินเยน วา, ยถา ¶ ยถา อิจฺฉติ ตถา ตถา เทเสตุํ สกฺโกติ. ตสฺมาปิ อิเมหากาเรหิ เทเสสีติ อยมสฺส ‘เทสนาวิลาโส’.
ตตฺถ ¶ ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ทุกมูลโก นาม. ทุเก อาทาย ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ติกมูลโก นาม. ติเก จ ทุเก จ อุภโต วฑฺเฒตฺวา เทสิตวาโร อุภโตวฑฺฒิตโก นาม. อวสาเน สตฺตวิเธนาติอาทิวาโร พหุวิธวาโร นามาติ อิเม ตาว จตฺตาโร มหาวารา.
ตตฺถ ทุกมูลเก ทุเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ทุเกน สทฺธึ ติเกสุ อลพฺภมาเน เวทนาตฺติกปีติตฺติกสนิทสฺสนตฺติเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก เอกูนวีสติ ติเก โยเชตฺวา, ทุติยทุกปมตฺติกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ วารา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ปาฬิยํ สํขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
ติกมูลเกปิ ติเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ติเกน สทฺธึ ทุเกสุ อลพฺภมาเน ปมทุกาทโย ทุเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก สเหตุกทุกาทโย ปฺาส ทุเก โยเชตฺวา, ปมตฺติกทุติยทุกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ ¶ วารา โหนฺติ. เตปิ สพฺเพ ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
อุภโตวฑฺฒิตเก ทุวิธเภเท ทุติยทุกํ ติวิธเภเท จ ปมติกํ อาทึ กตฺวา ลพฺภมาเนหิ เอกูนวีสติยา ทุเกหิ ลพฺภมาเน เอกูนวีสติติเก โยเชตฺวา ทุติยทุกปมติกโยชนวาราทโย เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. เอส ทุกติกานํ วเสน อุภโตวฑฺฒิตตฺตา อุภโตวฑฺฒิตโก นาม ตติโย มหาวาโร.
พหุวิธวารสฺส สตฺตวิธนิทฺเทเส อาทิโต ปฏฺาย ลพฺภมาเนสุ เอกูนวีสติยา ติเกสุ เอเกเกน สทฺธึ จตสฺโส ภูมิโย โยเชตฺวา เอกูนวีสติ สตฺตวิธวารา วุตฺตา. จตุวีสติวิธนิทฺเทเสปิ เตสํเยว ติกานํ วเสน เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. ตถา พหุวิธวาเร จาติ ¶ . ตึสวิธวาโร เอโกเยวาติ สพฺเพปิ อฏฺปฺาส วารา โหนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ วารปริจฺเฉทวเสน ปาฬิวณฺณนา.
อิทานิ ¶ อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ สตฺตวิธนิทฺเทโส ตาว อุตฺตานตฺโถเยว. จตุวีสติวิธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ กุสโลติ กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อพฺยากโตติ ติสฺโส มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ มหาวิปากานิ, ทส กามาวจรกิริยาติ จตุวีสติยา จิตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ อฏฺ กุสลานิ ทฺวาทส อกุสลานิ จ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนวเสน ลพฺภติ. ทฺเว วิปากมโนธาตุโย สมฺปฏิจฺฉนวเสน, ติสฺโส วิปากมโนวิฺาณธาตุโย สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน, กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนวเสน, อฏฺ มหาวิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, นว กิริยจิตฺตานิ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
มโนทฺวาเร ปน อตฺถิ กุสโลติ จตุภูมกกุสลวเสน กถิตํ, อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลวเสน. อตฺถิ อพฺยากโตติ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากานํ, ทสนฺนํ กิริยานํ ¶ , นวนฺนํ รูปาวจรารูปาวจรกิริยานํ, จตุนฺนํ สามฺผลานนฺติ จตุตฺตึสจิตฺตุปฺปาทวเสน กถิตํ. ตตฺถ จตุภูมกกุสลฺเจว อกุสลฺจ ชวนวเสน ลพฺภติ. กิริยโต อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อาวชฺชนวเสน, เอกาทส วิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, เตภูมกกิริยา เจว สามฺผลานิ จ ชวนวเสเนว ลพฺภนฺติ. ตานิ สตฺตวิธาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺติ. ตึสวิเธ ปน ตฺวา ทีปิยมานานิ สุขทีปนานิ โหนฺตีติ ตึสวิธสฺมึเยว ตฺวา ทีปยึสุ.
เอตานิ หิ สพฺพานิปิ จิตฺตานิ จกฺขุทฺวาเร อุปนิสฺสยโกฏิยา, สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ตีหากาเรหิ ลพฺภนฺติ. ตถา โสตทฺวารมโนทฺวาเรสุปิ. ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ทฺวีเหวากาเรหิ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรมาโน กสิณมณฺฑลํ ทิสฺวา ‘กึ นาเมต’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ¶ ‘กสิณมณฺฑล’นฺติ วุตฺเต ปุน ‘กึ อิมินา กโรนฺตี’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส อาจิกฺขนฺติ – ‘เอวํ ภาเวตฺวา ฌานานิ อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ ¶ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏติ, น โข ปน สกฺกา เอส นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน นิพฺพตฺเตตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา สีลํ โสเธติ. ตโต สีเล ปติฏฺาย ทส ปลิโพเธ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ติจีวรปรเมน สนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ, อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา, กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตฺวา, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา, สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
จกฺขุทฺวาเร ¶ ปน รูเป อาปาถคเต ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขนาย โมโห, วินิพนฺธสฺส ปน เม มาโน อุปฺปนฺโน, ปรามฏฺสฺส ทิฏฺิ, วิกฺเขปคตสฺส อุทฺธจฺจํ, อสนฺนิฏฺาคตสฺส วิจิกิจฺฉา, ถามคตสฺส อนุสโย อุปฺปนฺโน’ติ ปริคฺคเห ิโต กุลปุตฺโต อตฺตโน กิเลสุปฺปตฺตึ ตฺวา ‘อิเม เม กิเลสา วฑฺฒมานา อนยพฺยสนาย สํวตฺติสฺสนฺติ, หนฺท เน นิคฺคณฺหามี’ติ จินฺเตตฺวา ‘น โข ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน กิเลเส นิคฺคณฺหิตุํ; อาทิโตว วีริยํ กาตุํ วฏฺฏติ สีลํ โสเธตุ’นฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อิทํ รูปํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ตโต นํ ‘ภูตนิสฺสิต’นฺติ ตฺวา จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ¶ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
อปโร ¶ ภิกฺขุ สุณาติ – ‘กสิณปริกมฺมํ กิร กตฺวา สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏตี’ติ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ โสตวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนา ¶ นิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – อยํ สทฺโท กึ นิสฺสิโตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน คนฺธารมฺมณาทีสุ อาปาถคเตสุ ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน’ติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีสุ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตีสุ ทฺวาเรสุ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
ฆานทฺวาราทีสุ ปน คนฺธาทีสุ อาปาถคเตสุ เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อยํ คนฺโธ, อยํ รโส, อิทํ โผฏฺพฺพํ กึ นิสฺสิต’นฺติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีนิ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ ¶ อยํ เวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ตีหิปิ อากาเรหิ ลพฺภนฺติ. เอกจฺโจ หิ ชาตึ ภยโต ปสฺสติ, ชรํ พฺยาธึ มรณํ ภยโต ปสฺสติ, ภยโต ทิสฺวา ‘ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ มุจฺจิตุํ วฏฺฏติ, น โข ¶ ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน ชาติอาทีหิ มุจฺจิตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ ¶ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ ธมฺมารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘เอตํ ธมฺมารมฺมณํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘วตฺถุนิสฺสิต’นฺติ. ‘วตฺถุ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘มหาภูตานิ นิสฺสิต’นฺติ. โส จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ธมฺมารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ. ยา ปเนตา สพฺเพสมฺปิ จตุวีสติวิธาทีนํ วารานํ ปริโยสาเนสุ จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เวทนาติ ฉ ฉ เวทนา วุตฺตา, ตา สมฺปยุตฺตปจฺจยวเสน วุตฺตาติ.
อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.
สฺากฺขนฺธาทโยปิ ¶ อิมินา อุปาเยน เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ติเกสุ เวทนาตฺติกปีติตฺติกาปิ ลพฺภนฺติ, ทุเกสุ จ สุขสหคตทุกาทโยปิ. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส ผสฺสสฺสาปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ อวตฺวา จิตฺตสมฺปยุตฺโตติ วุตฺตํ. ทุเกสุ เจตฺถ เหตุทุกาทโยปิ ลพฺภนฺติ. ติกา สฺากฺขนฺธสทิสา เอว ¶ . วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสชาทิภาวํ อวตฺวา จกฺขุวิฺาณนฺติอาทิ วุตฺตํ. น หิ สกฺกา วิฺาณํ มโนสมฺผสฺสชนฺติ นิทฺทิสิตุํ. เสสเมตฺถ สฺากฺขนฺเธ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ ขนฺธานํ นิทฺเทเสเยว ¶ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสโต อติเรกติกทุกา ลทฺธา. เตสํ วเสน วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๕๐. อิทานิ ปฺหาปุจฺฉกํ โหติ. ตตฺถ ปฺหาปุจฺฉเน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘กติกุสลา? กติอกุสลา? กติอพฺยากตา’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชเน ‘‘รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ ตเทว อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ จ ‘เอโก ขนฺโธ’ติ วา ‘ทฺเว ขนฺธา’ติ วา ปริจฺเฉทํ อกตฺวา ‘‘สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ ปิตา, ตตฺถ ตตฺถ ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เสโส เตสํ เตสํ ขนฺธานํ กุสลาทิวิภาโค เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๙๘๕) วุตฺโตเยว.
อารมฺมณตฺติเกสุ ปน จตฺตาโร ขนฺธา ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณา โหนฺติ, สตฺตวีสติ รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา, มคฺคผลนิพฺพานานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา, ปฺตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ.
เตเยว ¶ เสกฺขาเสกฺขานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล สหชาตเหตุนา มคฺคเหตุกา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปตินา มคฺคาธิปติโน ¶ , วีริยเชฏฺกํ วา วีมํสเชฏฺกํ วา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส สหชาตาธิปตินา มคฺคาธิปติโน, ฉนฺทเชฏฺกํ ปน จิตฺตเชฏฺกํ วา ภาเวนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา นาม โหนฺติ.
อตีตานิ ปน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อตีตารมฺมณา โหนฺติ, อนาคตานิ อารพฺภ อนาคตารมฺมณา ¶ โหนฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนานิ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหนฺติ, ปฺตฺตึ วา นิพฺพานํ วา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา โหนฺติ.
ตถา อตฺตโน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา โหนฺติ, ปเรสํ ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส พหิทฺธารมฺมณา, ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเลปิ พหิทฺธารมฺมณาเยว, กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา ธมฺเมสุ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา, อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ เวทิตพฺพา.
อิติ ภควา อิมํ ขนฺธวิภงฺคํ สุตฺตนฺตภาชนียาทิวเสน ตโย ปริวฏฺเฏ นีหริตฺวา ภาเชนฺโต ทสฺเสสิ. ตีสุปิ หิ ปริวฏฺเฏสุ เอโกว ปริจฺเฉโท. รูปกฺขนฺโธ หิ สพฺพตฺถ กามาวจโรเยว. จตฺตาโร ขนฺธา จตุภูมกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อายตนวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๕๔. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อายตนวิภงฺคนิทฺเทเส สุตฺตนฺตภาชนียํ ตาว ทสฺเสนฺโต ทฺวาทสายตนานิ จกฺขายตนํ รูปายตนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาฬิมุตฺตเกน ตาว นเยน –
อตฺถลกฺขณตาวตฺว, กมสงฺเขปวิตฺถารา;
ตถา ทฏฺพฺพโต เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ วิเสสโต ตาว จกฺขตีติ จกฺขุ; รูปํ อสฺสาเทติ, วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. รูปยตีติ รูปํ; วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ อตฺโถ. สุณาตีติ โสตํ. สปฺปตีติ สทฺโท; อุทาหริยตีติ อตฺโถ. ฆายตีติ ฆานํ. คนฺธยตีติ คนฺโธ; อตฺตโน วตฺถุํ สูจยตีติ อตฺโถ. ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา. รสนฺติ ตํ สตฺตาติ รโส; อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ. มนตีติ มโน. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยนฺตีติ ธมฺมา.
อวิเสสโต ปน อายตนโต, อายานํ ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิจฺเจน อายตนฺติ อุฏฺหนฺติ ฆฏฺเฏนฺติ วายมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺจ อนมตคฺเค สํสาเร ปวตฺตํ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ ตาว นยนฺเตว, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิติ ¶ สพฺเพปิ เม ธมฺมา อายตนโต อายานํ ตนนโต อายตสฺส จ นยนโต ‘อายตนํ อายตน’นฺติ วุจฺจนฺติ.
อปิจ นิวาสฏฺานฏฺเน, อากรฏฺเน, สโมสรณฏฺานฏฺเน ¶ , สฺชาติเทสฏฺเน, การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ ¶ . ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๒๓) การณํ.
จกฺขุรูปาทีสุ จาปิ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย เนสํ นิวาสนฏฺานํ. จกฺขาทีสุ จ เต อากิณฺณา ตํ นิสฺสิตตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโย เนสํ อากโร. จกฺขาทโย จ เนสํ สโมสรณฏฺานํ, ตตฺถ ตตฺถ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต. จกฺขาทโย จ เนสํ สฺชาติเทโส; ตํ นิสฺสยารมฺมณภาเวน ตตฺเถว อุปฺปตฺติโต. จกฺขาทโย จ เนสํ การณํ, เตสํ อภาเว อภาวโตติ. อิติ นิวาสฏฺานฏฺเน, อากรฏฺเน, สโมสรณฏฺานฏฺเน, สฺชาติเทสฏฺเน, การณฏฺเนาติ อิเมหิ การเณหิ เอเต ธมฺมา ‘อายตนํ อายตน’นฺติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมา จ เต อายตนฺจาติ ธมฺมายตนนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณโต’ติ จกฺขาทีนํ ลกฺขณโตเปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. ตานิ จ ปน เนสํ ลกฺขณานิ เหฏฺา รูปกณฺฑนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
‘ตาวตฺวโต’ติ ตาวภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จกฺขาทโยปิ หิ ธมฺมา เอว. เอวํ สติ ธมฺมายตนมิจฺเจว อวตฺวา กสฺมา ทฺวาทสายตนานิ วุตฺตานีติ เจ? ฉ วิฺาณกายุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต. อิธ ฉนฺนํ วิฺาณกายานํ ทฺวารภาเวน อารมฺมณภาเวน จ ววตฺถานโต อยเมว เตสํ เภโท โหตีติ ทฺวาทส วุตฺตานิ. จกฺขุวิฺาณวีถิปริยาปนฺนสฺส หิ วิฺาณกายสฺส จกฺขายตนเมว อุปฺปตฺติทฺวารํ, รูปายตนเมว จารมฺมณํ ¶ ¶ . ตถา อิตรานิ อิตเรสํ. ฉฏฺสฺส ปน ภวงฺคมนสงฺขาโต มนายตเนกเทโสว อุปฺปตฺติทฺวารํ, อสาธารณฺจ ธมฺมายตนํ อารมฺมณนฺติ ¶ . อิติ ฉนฺนํ วิฺาณกายานํ อุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต ทฺวาทส วุตฺตานีติ. เอวเมตฺถ ‘ตาวตฺวโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘กมโต’ติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ อุปฺปตฺติกฺกมาทีสุ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. อชฺฌตฺติเกสุ หิ อายตเนสุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยตฺตา จกฺขายตนํ ปากฏนฺติ ปมํ เทสิตํ. ตโต อนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยานิ โสตายตนาทีนิ. อถ วา ทสฺสนานุตฺตริยสวนานุตฺตริยเหตุภาเวน พหูปการตฺตา อชฺฌตฺติเกสุ จกฺขายตนโสตายตนานิ ปมํ เทสิตานิ. ตโต ฆานายตนาทีนิ ตีณิ. ปฺจนฺนมฺปิ โคจรวิสยตฺตา อนฺเต มนายตนํ. จกฺขาทีนํ ปน โคจรตฺตา ตสฺส ตสฺส อนนฺตรานิ พาหิเรสุ รูปายตนาทีนิ. อปิจ วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตปิ อยเมว เตสํ กโม เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๔๒๑) เอวํ ‘กมโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺเขปวิตฺถารา’ติ สงฺเขปโต หิ มนายตนสฺส เจว ธมฺมายตเนกเทสสฺส จ นาเมน, ตทวเสสานฺจ อายตนานํ รูเปน สงฺคหิตตฺตา ทฺวาทสาปิ อายตนานิ นามรูปมตฺตเมว โหนฺติ.
วิตฺถารโต ปน อชฺฌตฺติเกสุ ตาว จกฺขายตนํ ชาติวเสน จกฺขุปสาทมตฺตเมว, ปจฺจยคตินิกายปุคฺคลเภทโต ปน อนนฺตปฺปเภทํ. ตถา โสตายตนาทีนิ จตฺตาริ. มนายตนํ เตภูมกกุสลากุสลวิปากกิริยวิฺาณเภเทน เอกาสีติปฺปเภทํ, วตฺถุปฏิปทาทิเภทโต ปน อนนฺตปฺปเภทํ. รูปคนฺธรสายตนานิ สมุฏฺานเภทโต จตุปฺปเภทานิ, สทฺทายตนํ ทฺวิปฺปเภทํ. สภาควิสภาคเภทโต ปน สพฺพานิปิ อนนฺตปฺปเภทานิ. โผฏฺพฺพายตนํ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุวเสน ติปฺปเภทํ, สมุฏฺานโต จตุปฺปเภทํ, สภาควิสภาคโต อเนกปฺปเภทํ. ธมฺมายตนํ เตภูมกธมฺมารมฺมณวเสน อเนกปฺปเภทนฺติ. เอวํ สงฺเขปวิตฺถารา วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ทฏฺพฺพโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน สพฺพาเนเวตานิ อายตนานิ อนาคมนโต อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. น หิ ตานิ ปุพฺเพ อุทยา กุโตจิ อาคจฺฉนฺติ, นาปิ อุทฺธํ วยา กุหิฺจิ คจฺฉนฺติ; อถ โข ปุพฺเพ อุทยา อปฺปฏิลทฺธสภาวานิ, อุทฺธํ ¶ วยา ปริภินฺนสภาวานิ, ปุพฺพนฺตาปรนฺตเวมชฺเฌ ¶ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อวสานิ ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา อนาคมนโต อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. ตถา นิรีหโต อพฺยาปารโต จ. น หิ จกฺขุรูปาทีนํ เอวํ โหติ – ‘อโห วต อมฺหากํ สามคฺคิยา วิฺาณํ นาม อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ, น จ ตานิ วิฺาณุปฺปาทนตฺถํ ทฺวารภาเวน วตฺถุภาเวน อารมฺมณภาเวน วา อีหนฺติ, น พฺยาปารมาปชฺชนฺติ; อถ โข ธมฺมตาเวสา ยํ จกฺขุรูปาทีนํ สามคฺคิยํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ สมฺภวนฺติ. ตสฺมา นิรีหโต อพฺยาปารโต จ ทฏฺพฺพานิ. อปิจ อชฺฌตฺติกานิ สฺุคาโม วิย ทฏฺพฺพานิ ธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตตฺตา, พาหิรานิ คามฆาตกโจรา วิย อชฺฌตฺติกานํ อภิฆาตกตฺตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จกฺขุ, ภิกฺขเว, หฺติ มนาปามนาเปหิ รูเปหีติ วิตฺถาโร. อปิจ อชฺฌตฺติกานิ ฉ ปาณกา วิย ทฏฺพฺพานิ, พาหิรานิ เตสํ โคจรา วิยาติ. เอวมฺเปตฺถ ‘ทฏฺพฺพโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.
อิทานิ เตสํ วิปสฺสิตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ จกฺขุํ อนิจฺจนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จกฺขุ ตาว หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ. อปเรหิปิ จตูหิ การเณหิ อนิจฺจํ – อุปฺปาทวยวนฺตโต, วิปริณามโต, ตาวกาลิกโต, นิจฺจปฏิกฺเขปโตติ.
ตเทว ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขํ. ยสฺมา วา เอตํ อุปฺปนฺนํ ิตึ ปาปุณาติ, ิติยํ ชราย กิลมติ, ชรํ ปตฺวา อวสฺสํ ภิชฺชติ; ตสฺมา อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต, ทุกฺขมโต, ทุกฺขวตฺถุโต, สุขปฏิกฺเขปโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ทุกฺขํ.
อวสวตฺตนฏฺเน ปน อนตฺตา. ยสฺมา วา เอตํ อุปฺปนฺนํ ิตึ มา ปาปุณาตุ, านปฺปตฺตํ มา ชิรตุ, ชรปฺปตํ มา ภิชฺชตูติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ กสฺสจิ วสวตฺติภาโว นตฺถิ, สฺุํ เตน วสวตฺตนากาเรน; ตสฺมา สฺุโต, อสฺสามิกโต, อกามการิยโต, อตฺตปฏิกฺเขปโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ อนตฺตา.
วิภวคติกโต ¶ , ปุพฺพาปรวเสน ภวสงฺกนฺติคมนโต, ปกติภาววิชหนโต จ วิปริณามธมฺมํ. อิทํ อนิจฺจเววจนเมว. รูปา อนิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิเจตฺถ เปตฺวา จกฺขุํ เตภูมกธมฺมา อนิจฺจา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ปน จกฺขุ เจว อนิจฺจฺจ. ตถา ¶ เสสธมฺมา ทุกฺขา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ¶ ปน จกฺขุ เจว ทุกฺขฺจ. เสสธมฺมา อนตฺตา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ปน จกฺขุ เจว อนตฺตา จาติ. รูปาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิมสฺมึ ปน สุตฺตนฺตภาชนีเย ตถาคเตน กึ ทสฺสิตนฺติ? ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อนตฺตลกฺขณํ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อนิจฺเจน วา ทสฺเสติ, ทุกฺเขน วา, อนิจฺจทุกฺเขหิ วา. ตตฺถ ‘‘จกฺขุ, อตฺตาติ โย วเทยฺย, ตํ น อุปปชฺชติ. จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย อิติ จกฺขุ อนตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๒๒). อิมสฺมึ สุตฺเต อนิจฺเจน อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา. รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, น ยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺย; ลพฺเภถ จ รูเป – เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสีติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, รูปํ อนตฺตา ตสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตติ; น จ ลพฺภติ รูเป – เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐) อิมสฺมึ สุตฺเต ทุกฺเขน อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา, ยทนตฺตา ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๑๕) อนิจฺจทุกฺเขหิ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? อนิจฺจทุกฺขานํ ปากฏตฺตา.
หตฺถโต หิ ตฏฺฏเก วา สรเก วา กิสฺมิฺจิเทว วา ปติตฺวา ภินฺเน ‘อโห อนิจฺจ’นฺติ วทนฺติ. เอวํ อนิจฺจํ ปากฏํ นาม. อตฺตภาวสฺมึ ปน คณฺฑปิฬกาทีสุ วา อุฏฺิตาสุ ขาณุกณฺฏกาทีหิ วา วิทฺธาสุ ‘อโห ทุกฺข’นฺติ วทนฺติ. เอวํ ทุกฺขํ ปากฏํ นาม. อนตฺตลกฺขณํ อปากฏํ อนฺธการํ อวิภูตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ ทุทฺทีปนํ ทุปฺปฺาปนํ ¶ . อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ปฺายนฺติ. อนตฺตลกฺขณํ วินา พุทฺธุปฺปาทา น ปฺายติ, พุทฺธุปฺปาเทเยว ปฺายติ. มหิทฺธิกา หิ มหานุภาวา ตาปสปริพฺพาชกา สรภงฺคสตฺถาราทโยปิ ‘อนิจฺจํ ทุกฺข’นฺติ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ‘อนตฺตา’ติ วตฺตุํ น สกฺโกนฺติ. สเจ หิ เต สมฺปตฺตปริสาย อนตฺตาติ วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยุํ, สมฺปตฺตปริสาย มคฺคผลปฏิเวโธ ภเวยฺย. อนตฺตลกฺขณปฺาปนฺหิ อฺสฺส กสฺสจิ อวิสโย, สพฺพฺุพุทฺธานเมว วิสโย. เอวเมตํ อนตฺตลกฺขณํ อปากฏํ. ตสฺมา สตฺถา ¶ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ¶ อนิจฺเจน วา ทสฺเสสิ, ทุกฺเขน วา, อนิจฺจทุกฺเขหิ วา. อิธ ปน ตํ อนิจฺจทุกฺเขหิ ทสฺเสสีติ เวทิตพฺพํ.
อิมานิ ปน ลกฺขณานิ กิสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, เกน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺหนฺติ? อนิจฺจลกฺขณํ ตาว อุทยพฺพยานํ อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. ทุกฺขลกฺขณํ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. อนตฺตลกฺขณํ นานาธาตุวินิพฺโภคสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. อุทยพฺพยํ ปน ปริคฺคเหตฺวา สนฺตติยา วิโกปิตาย อนิจฺจลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนํ มนสิกตฺวา อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเต ทุกฺขลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. นานาธาตุโย วินิพฺภุชิตฺวา ฆนวินิพฺโภเค กเต อนตฺตลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ.
เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา, หุตฺวา อภาวโต วา; อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต อาการวิกาโร วา. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจนโต ปน ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต; อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ. ‘‘ยํ ¶ ทุกฺขํ ตํ อนตฺตา’’ติ ปน วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต; อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ. อิติ อฺเทว อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, อฺานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานิ. ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโยติ อิทฺหิ สพฺพมฺปิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นาม. วุตฺตปฺปการาการวิการา อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานีติ.
สงฺเขปโต ปเนตฺถ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว เตภูมกานิ. สพฺเพสุปิ สมฺมสนจาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๕๕. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ ¶ ยถา เหฏฺา วิปสฺสกานํ อุปการตฺถาย ‘‘จกฺขายตนํ รูปายตน’’นฺติ ยุคลโต อายตนานิ วุตฺตานิ, ตถา อวตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรานํ สพฺพาการโต สภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตน’’นฺติ เอวํ อชฺฌตฺติกพาหิรววตฺถานนเยน วุตฺตานิ.
๑๕๖. เตสํ นิทฺเทสวาเร ตตฺถ กตมํ จกฺขายตนนฺติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
๑๖๗. ยํ ปเนตํ ธมฺมายตนนิทฺเทเส ‘‘ตตฺถ กตมา อสงฺขตา ธาตุ? ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ วุตฺตํ, ตตฺรายมตฺโถ – อสงฺขตา ธาตูติ อสงฺขตสภาวํ นิพฺพานํ. ยสฺมา ปเนตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺติ, ตสฺมา ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํ. อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถา.
วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติ. ‘สุตฺตํ อาหรา’ติ จ วุตฺเต ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, นิพฺพานนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ นิพฺพาน’’นฺติ เอตํ ชมฺพุขาทกสุตฺตํ อาหริตฺวา ‘อิมินา สุตฺเตน เวทิตพฺพํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติ อาห. โส วตฺตพฺโพ – ‘กึ ปน ยถา เจตํ สุตฺตํ ตถา อตฺโถ’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘อาม ¶ , นตฺถิ สุตฺตโต มฺุจิตฺวา อตฺโถ’ติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘อิทํ ตาว เต สุตฺตํ อาภตํ; อนนฺตรสุตฺตํ อาหรา’ติ. อนนฺตรสุตฺตํ นาม – ‘‘อรหตฺตํ อรหตฺตนฺติ, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, อรหตฺตนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๕) อิทํ ตสฺเสวานนฺตรํ อาภตสุตฺตํ.
อิมสฺมึ ปน นํ อาภเต อาหํสุ – ‘นิพฺพานํ นาม ธมฺมายตนปริยาปนฺโน ธมฺโม, อรหตฺตํ จตฺตาโร ขนฺธา. นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา วิหรนฺโต ธมฺมเสนาปติ ¶ นิพฺพานํ ปุจฺฉิโตปิ อรหตฺตํ ปุจฺฉิโตปิ กิเลสกฺขยเมว อาห. กึ ปน นิพฺพานฺจ อรหตฺตฺจ เอกํ อุทาหุ นาน’นฺติ? ‘เอกํ ¶ วา โหตุ นานํ วา. โก เอตฺถ ตยา อติพหุํ จุณฺณีกรณํ กโรนฺเตน อตฺโถ’? ‘น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติ. นนุ าเต สาธุ โหตี’ติ เอวํ ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉิโต วฺเจตุํ อสกฺโกนฺโต อาห – ‘ราคาทีนํ ขีณนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’ติ วุจฺจตีติ. ตโต นํ อาหํสุ – ‘มหากมฺมํ เต กตํ. ลฺชํ ทตฺวาปิ ตํ วทาเปนฺโต เอตเทว วทาเปยฺย. ยเถว จ เต เอตํ วิภชิตฺวา กถิตํ, เอวํ อิทมฺปิ สลฺลกฺเขหิ – นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํ. ตีณิปิ หิ เอตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติ.
สเจ เอวํ วุตฺเต สฺตฺตึ คจฺฉติ อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, พหุนิพฺพานตาย กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย อุทาหุ โทสโมหานมฺปิ? โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโมหานมฺปิ? โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโทสานมฺปี’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย, โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย, โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย’ติ.
ตโต วตฺตพฺโพ – ‘ตว วาเท ราคกฺขโย เอกํ นิพฺพานํ โหติ, โทสกฺขโย เอกํ, โมหกฺขโย เอกํ; ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ขเย ตีณิ นิพฺพานานิ โหนฺติ, จตุนฺนํ อุปาทานานํ ขเย จตฺตาริ, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ขเย ปฺจ, ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ขเย ฉ, สตฺตนฺนํ อนุสยานํ ขเย สตฺต, อฏฺนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ ขเย อฏฺ, นวนฺนํ ตณฺหามูลกธมฺมานํ ¶ ขเย นว, ทสนฺนํ สํโยชนานํ ขเย ทส, ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสสฺส ขเย ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานนฺติ พหูนิ นิพฺพานานิ โหนฺติ. นตฺถิ ปน เต นิพฺพานานํ ปมาณนฺติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ¶ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพ. กถํ? ‘อนฺธพาลา หิ อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโยปิ กิเลสปริยุฏฺิตา วตฺถุํ ปฏิเสวนฺติ. อถ เนสํ ปฏิเสวนปริยนฺเต กิเลโส วูปสมฺมติ. ตว วาเท อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโย นิพฺพานปฺปตฺตา นาม โหนฺติ. โอฬาริกํ วต เต นิพฺพานํ ถูลํ, กณฺเณหิ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺกาติ. เอวํ ปน ¶ อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โคตฺรภุนาปิ กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ โคตฺรภุ นาม อตฺถีติ วเทสี’ติ? ‘อาม วทามี’ติ. ‘โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขียิสฺสนฺตี’ติ? น ขีณา, น ขียนฺติ; อปิจ โข ขียิสฺสนฺตีติ. ‘โคตฺรภุ ปน กึ อารมฺมณํ กโรตี’ติ? ‘นิพฺพานํ’. ‘ตว โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา น ขีณา, น ขียนฺติ; อถ โข ขียิสฺสนฺติ. ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปฺเปสิ, อปฺปหีเนสุ อนุสเยสุ อนุสยปฺปหานํ นิพฺพานํ ปฺเปสิ. ตํ เต น สเมติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, มคฺเคน กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ มคฺคํ นาม วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติ. ‘มคฺคกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขิยิสฺสนฺตี’ติ? ชานมาโน วกฺขติ – ‘ขีณาติ วา ขียิสฺสนฺตีติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ขียนฺตีติ วตฺตุํ ¶ วฏฺฏตี’ติ. ‘ยทิ เอวํ, มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ กตมํ? มคฺเคน ขียนกกิเลสา กตเม? มคฺโค กตมํ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา กตเม กิเลเส เขเปติ? ตสฺมา มา เอวํ คณฺห. นิพฺพานํ ปน อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติ.
เอวํ วุตฺเต เอวมาห – ‘ตฺวํ อาคมฺม อาคมฺมาติ วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติ. ‘อาคมฺม นามาติ อิทํ เต กุโต ลทฺธ’นฺติ? ‘สุตฺตโต ลทฺธ’นฺติ ¶ . ‘อาหร สุตฺต’นฺติ. ‘‘เอวํ อวิชฺชา จ ตณฺหา จ ตํ อาคมฺม, ตมฺหิ ขีณา, ตมฺหิ ภคฺคา, น จ กิฺจิ กทาจี’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปรวาที ตุณฺหีภาวํ อาปนฺโนติ.
อิธาปิ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว ปน จตุภูมกานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานีติ เวทิตพฺพานิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๖๘. อิธาปิ ¶ ปฺหาปุจฺฉเก ยํ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา ลพฺภมานวเสเนว วิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ; น เกวลฺจ อิธ, สพฺเพสุปิ ปฺหาปุจฺฉเกสุ เอเสว นโย. อิธ ปน ทสนฺนํ อายตนานํ รูปภาเวน อพฺยากตตา เวทิตพฺพา. ทฺวินฺนํ อายตนานํ ขนฺธวิภงฺเค จตุนฺนํ ขนฺธานํ วิย กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ จตฺตาโร ขนฺธา สปฺปจฺจยาว สงฺขตาว ธมฺมายตนํ ปน ‘‘สิยา อปฺปจฺจยํ, สิยา อสงฺขต’’นฺติ อาคตํ. อารมฺมณตฺติเกสุ จ อนารมฺมณํ สุขุมรูปสงฺขาตํ ธมฺมายตนํ น-วตฺตพฺพโกฏฺาสํ ภชติ. ตฺจ โข อนารมฺมณตฺตา น ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. อิธาปิ หิ จตฺตาโร ขนฺธา วิย ทฺวายตนา ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณาติ สพฺพํ ขนฺเธสุ วุตฺตสทิสเมวาติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ธาตุวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ธาตุวิภงฺเค สพฺพา ธาตุโย ฉหิ ฉหิ ธาตูหิ สงฺขิปิตฺวา ตีหิ ฉกฺเกหิ สุตฺตนฺตภาชนียํ ทสฺเสนฺโต ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. ธาตุโยติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ปถวีธาตูติอาทีสุ ธาตฺวฏฺโ นาม สภาวฏฺโ, สภาวฏฺโ นาม สฺุตฏฺโ, สฺุตฏฺโ นาม นิสฺสตฺตฏฺโติ เอวํ สภาวสฺุตนิสฺสตฺตฏฺเน ปถวีเยว ธาตุ ปถวีธาตุ. อาโปธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ ปทสมาสํ วิทิตฺวา เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ปถวีธาตูติ ปติฏฺานธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ.
๑๗๓. ปถวีธาตุทฺวยนฺติ ปถวีธาตุ ทฺเว อยํ. อยํ ปถวีธาตุ นาม น เอกา เอว อชฺฌตฺติกพาหิรเภเทน ปน ทฺเว ธาตุโย เอวาติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อตฺถิ อชฺฌตฺติกา อตฺถิ พาหิรา’’ติ. ตตฺถ อชฺฌตฺติกาติ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา นิยกชฺฌตฺตา. พาหิราติ สงฺขารสนฺตานปริยาปนฺนา อนินฺทฺริยพทฺธา. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ อุภยมฺเปตํ นิยกชฺฌตฺตาธิวจนเมว. อิทานิ ตํ สภาวาการโต ทสฺเสตุํ กกฺขฬนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขริคตนฺติ ผรุสํ. กกฺขฬตฺตนฺติ กกฺขฬภาโว. กกฺขฬภาโวติ กกฺขฬสภาโว. อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺนนฺติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาตํ อุปาทินฺนํ. อุปาทินฺนํ นาม สรีรฏฺกํ. สรีรฏฺกฺหิ กมฺมสมุฏฺานํ วา โหตุ มา วา, ตํ สนฺธาย อุปาทินฺนมฺปิ อตฺถิ อนุปาทินฺนมฺปิ; อาทินฺนคฺคหิตปรามฏฺวเสน ¶ ปน ¶ สพฺพมฺเปตํ อุปาทินฺนเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺน’’นฺติ อาห.
อิทานิ ตเมว ปถวีธาตุํ วตฺถุวเสน ทสฺเสตุํ เสยฺยถิทํ เกสา โลมาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต. ตสฺสตฺโถ – ยา สา อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ สา กตมา? ยํ วา อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ นาม ตํ กตมนฺติ? เกสา โลมาติอาทิ ตสฺสา อชฺฌตฺติกาย ปถวีธาตุยา วตฺถุวเสน ปเภททสฺสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เกสา นาม อชฺฌตฺตา อุปาทินฺนา สรีรฏฺกา กกฺขฬตฺตลกฺขณา อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส. โลมา นาม…เป… กรีสํ นาม. อิธ ปน อวุตฺตมฺปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔) ปาฬิอารุฬฺหํ มตฺถลุงฺคํ อาหริตฺวา มตฺถลุงฺคํ นาม อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺนํ สรีรฏฺกํ กกฺขฬตฺตลกฺขณํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส. ปรโต อาโปธาตุอาทีนํ นิทฺเทเส ปิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิมินา กึ ทสฺสิตํ โหติ? ธาตุมนสิกาโร. อิมสฺมึ ปน ธาตุมนสิกาเร กมฺมํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน กึ กตฺตพฺพํ? จตุปาริสุทฺธิสีลํ โสเธตพฺพํ. สีลวโต หิ กมฺมฏฺานภาวนา อิชฺฌติ. ตสฺส โสธนวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิสุทฺธสีเลน ปน สีเล ปติฏฺาย ทส ปุพฺพปลิโพธา ฉินฺทิตพฺพา. เตสมฺปิ ฉินฺทนวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ฉินฺนปลิโพเธน ธาตุมนสิการกมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตพฺพํ. อาจริเยนาปิ ธาตุมนสิการกมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหาเปนฺเตน สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ ทสวิธฺจ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อนฺเตวาสิเกนาปิ อาจริยสฺส สนฺติเก พหุวาเร สชฺฌายํ กตฺวา นิชฺชฏํ ปคุณํ กมฺมฏฺานํ กาตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ – ‘‘อาทิกมฺมิเกน ภิกฺขุนา ชรามรณา มุจฺจิตุกาเมน สตฺตหากาเรหิ อุคฺคหโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ, ทสหากาเรหิ มนสิการโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ.
ตตฺถ วจสา, มนสา, วณฺณโต, สณฺานโต, ทิสโต, โอกาสโต, ปริจฺเฉทโตติ อิเมหิ สตฺตหากาเรหิ อิมสฺมึ ธาตุมนสิการกมฺมฏฺาเน ‘อุคฺคหโกสลฺลํ’ อิจฺฉิตพฺพํ. อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต ¶ , ปณฺณตฺติสมติกฺกมโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, ลกฺขณโต, ตโย จ สุตฺตนฺตาติ อิเมหิ ทสหากาเรหิ ‘มนสิการโกสลฺลํ’ อิจฺฉิตพฺพํ. ตทุภยมฺปิ ปรโต สติปฏฺานวิภงฺเค อาวิ ภวิสฺสติ.
เอวํ ¶ อุคฺคหิตกมฺมฏฺาเนน ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺเต อฏฺารส เสนาสนโทเส วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน วสนฺเตน อตฺตนาปิ ปฺจหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน วิวิตฺโตกาสคเตน กมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. มนสิกโรนฺเตน จ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ¶ เกสาทีสุ เอเกกโกฏฺาสํ มนสิกริตฺวา อวสาเน เอวํ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ – อิเม เกสา นาม สีสกฏาหปลิเวนจมฺเม ชาตา. ตตฺถ ยถา วมฺมิกมตฺถเก ชาเตสุ กุณฺติเณสุ น วมฺมิกมตฺถโก ชานาติ ‘มยิ กุณฺติณานิ ชาตานี’ติ, นาปิ กุณฺติณานิ ชานนฺติ ‘มยํ วมฺมิกมตฺถเก ชาตานี’ติ, เอวเมว น สีสกฏาหปลิเวนจมฺมํ ชานาติ ‘มยิ เกสา ชาตา’ติ, นาปิ เกสา ชานนฺติ ‘มยํ สีสกฏาหปลิเวนจมฺเม ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เกสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
โลมา สรีรเวนจมฺเม ชาตา. ตตฺถ ยถา สฺุคามฏฺาเน ชาเตสุ ทพฺพติเณสุ น สฺุคามฏฺานํ ชานาติ ‘มยิ ทพฺพติณานิ ชาตานี’ติ, นาปิ ทพฺพติณานิ ชานนฺติ ‘มยํ สฺุคามฏฺาเน ชาตานี’ติ, เอวเมว น สรีรเวนจมฺมํ ชานาติ ‘มยิ โลมา ชาตา’ติ, นาปิ โลมา ชานนฺติ ‘มยํ สรีรเวนจมฺเม ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ โลมา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
นขา องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา. ตตฺถ ยถา กุมารเกสุ ทณฺฑเกหิ มธุกฏฺิเก วิชฺฌิตฺวา กีฬนฺเตสุ น ทณฺฑกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ มธุกฏฺิกา ปิตา’ติ, นาปิ มธุกฏฺิกา ชานนฺติ ‘มยํ ทณฺฑเกสุ ปิตา’ติ, เอวเมว น องฺคุลิโย ชานนฺติ ‘อมฺหากํ อคฺเคสุ นขา ชาตา’ติ, นาปิ นขา ชานนฺติ ‘มยํ องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา’ติ. อฺมฺํ ¶ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ นขา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ทนฺตา หนุกฏฺิเกสุ ชาตา. ตตฺถ ยถา วฑฺฒกีหิ ปาสาณอุทุกฺขเลสุ เกนจิเทว สิเลสชาเตน พนฺธิตฺวา ปิตถมฺเภสุ น อุทุกฺขลานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ ถมฺภา ิตา’ติ, นาปิ ถมฺภา ¶ ชานนฺติ ‘มยํ อุทุกฺขเลสุ ิตา’ติ, เอวเมว น หนุกฏฺิกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ ทนฺตา ชาตา’ติ ¶ , นาปิ ทนฺตา ชานนฺติ ‘มยํ หนุกฏฺิเกสุ ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ทนฺตา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ตโจ สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิโต. ตตฺถ ยถา อลฺลโคจมฺมปริโยนทฺธาย มหาวีณาย น มหาวีณา ชานาติ ‘อหํ อลฺลโคจมฺเมน ปริโยนทฺธา’ติ, นาปิ อลฺลโคจมฺมํ ชานาติ ‘มยา มหาวีณา ปริโยทฺธา’ติ, เอวเมว น สรีรํ ชานาติ ‘อหํ ตเจน ปริโยนทฺธ’นฺติ, นาปิ ตโจ ชานาติ ‘มยา สรีรํ ปริโยนทฺธนฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ตโจ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
มํสํ อฏฺิสงฺฆาฏํ อนุลิมฺปิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา มหามตฺติกาย ลิตฺตาย ภิตฺติยา น ภิตฺติ ชานาติ ‘อหํ มหามตฺติกาย ลิตฺตา’ติ, นาปิ มหามตฺติกา ชานาติ ‘มยา มหาภิตฺติ ลิตฺตา’ติ, เอวเมว น อฏฺิสงฺฆาโฏ ชานาติ ‘อหํ นวมํสเปสิสตปฺปเภเทน มํเสน ลิตฺโต’ติ, นาปิ มํสํ ชานาติ ‘มยา อฏฺิสงฺฆาโฏ ลิตฺโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มํสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
นฺหารุ สรีรพฺภนฺตเร อฏฺีนิ อาพนฺธมานา ิตา. ตตฺถ ยถา วลฺลีหิ วินทฺเธสุ กุฏฺฏทารูสุ น กุฏฺฏทารูนิ ชานนฺติ ‘มยํ วลฺลีหิ วินทฺธานี’ติ, นาปิ วลฺลิโย ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ กุฏฺฏทารูนิ วินทฺธานี’ติ, เอวเมว น อฏฺีนิ ชานนฺติ ‘มยํ นฺหารูหิ อาพทฺธานี’ติ, นาปิ นฺหารู ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ อฏฺีนิ อาพทฺธานี’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา ¶ เอเต ธมฺมา. อิติ นฺหารุ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อฏฺีสุ ปณฺหิกฏฺิ โคปฺผกฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. โคปฺผกฏฺิ ชงฺฆฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. ชงฺฆฏฺิ อูรุฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. อูรุฏฺิ กฏิฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ ¶ . กฏิฏฺิ ปิฏฺิกณฺฏกํ ¶ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. ปิฏฺิกณฺฏโก คีวฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิโต. คีวฏฺิ สีสฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. สีสฏฺิ คีวฏฺิเก ปติฏฺิตํ. คีวฏฺิ ปิฏฺิกณฺฏเก ปติฏฺิตํ. ปิฏฺิกณฺฏโก กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิโต. กฏิฏฺิ อูรุฏฺิเก ปติฏฺิตํ. อูรุฏฺิ ชงฺฆฏฺิเก ปติฏฺิตํ. ชงฺฆฏฺิ โคปฺผกฏฺิเก ปติฏฺิตํ. โคปฺผกฏฺิ ปณฺหิกฏฺิเก ปติฏฺิตํ.
ตตฺถ ยถา อิฏฺกทารุโคมยาทิสฺจเยสุ น เหฏฺิมา เหฏฺิมา ชานนฺติ ‘มยํ อุปริเม อุปริเม อุกฺขิปิตฺวา ิตา’ติ, นาปิ อุปริมา อุปริมา ชานนฺติ ‘มยํ เหฏฺิเมสุ เหฏฺิเมสุ ปติฏฺิตา’ติ, เอวเมว น ปณฺหิกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น โคปฺผกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ชงฺฆฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น ชงฺฆฏฺิ ชานาติ ‘อหํ อูรุฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น อูรุฏฺิ ชานาติ ‘อหํ กฏิฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น กฏิฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏกํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น ปิฏฺิกณฺฏโก ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ, น คีวฏฺิ ชานาติ ‘อหํ สีสฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น สีสฏฺิ ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น คีวฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏเก ปติฏฺิต’นฺติ, น ปิฏฺิกณฺฏโก ชานาติ ‘อหํ กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิโต’ติ, น กฏิฏฺิ ชานาติ ‘อหํ อูรุฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น อูรุฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ชงฺฆฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น ชงฺฆฏฺิ ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น โคปฺผกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปณฺหิกฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อฏฺิ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อฏฺิมิฺชํ เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา เวฬุปพฺพาทีนํ อนฺโต ปกฺขิตฺเตสุ สินฺนเวตฺตคฺคาทีสุ ¶ น เวฬุปพฺพาทีนิ ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ เวตฺตคฺคาทีนิ ปกฺขิตฺตานี’ติ, นาปิ เวตฺตคฺคาทีนิ ชานนฺติ ‘มยํ เวฬุปพฺพาทีสุ ิตานีติ, เอวเมว น อฏฺีนิ ชานนฺติ ‘อมฺหากํ อนฺโต อฏฺิมิฺชํ ิต’นฺติ, นาปิ อฏฺิมิฺชํ ชานาติ ‘อหํ อฏฺีนํ อนฺโต ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อฏฺิมิฺชํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
วกฺกํ ¶ คลวาฏกโต นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธํ หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา วณฺฏุปนิพทฺเธ ¶ อมฺพผลทฺวเย น วณฺฏํ ชานาติ ‘มยา อมฺพผลทฺวยํ อุปนิพทฺธ’นฺติ, นาปิ อมฺพผลทฺวยํ ชานาติ ‘อหํ วณฺเฏน อุปนิพทฺธ’นฺติ, เอวเมว น ถูลนฺหารุ ชานาติ ‘มยา วกฺกํ อุปนิพทฺธ’นฺติ, นาปิ วกฺกํ ชานาติ ‘อหํ ถูลนฺหารุนา อุปนิพทฺธ’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ วกฺกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
หทยํ สรีรพฺภนฺตเร อุรฏฺิปฺชรมชฺฌํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ปิตาย มํสเปสิยา น ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย มํสเปสิ ปิตา’ติ, นาปิ มํสเปสิ ชานาติ ‘อหํ ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น อุรฏฺิปฺชรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย หทยํ ิต’นฺติ, นาปิ หทยํ ชานาติ ‘อหํ อุรฏฺิปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ หทยํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ยกนํ อนฺโตสรีเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา อุกฺขลิกปาลปสฺสมฺหิ ลคฺเค ยมกมํสปิณฺเฑ น อุกฺขลิกปาลปสฺสํ ชานาติ ‘มยิ ยมกมํสปิณฺโฑ ลคฺโค’ติ, นาปิ ยมกมํสปิณฺโฑ ¶ ชานาติ ‘อหํ อุกฺขลิกปาลปสฺเส ลคฺโค’ติ, เอวเมว น ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย ยกนํ ิต’นฺติ, นาปิ ยกนํ ชานาติ ‘อหํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ยกนํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
กิโลมเกสุ ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ หทยฺจ วกฺกฺจ ปริวาเรตฺวา ิตํ, อปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา ปิโลติกปลิเวิเต มํเส น มํสํ ชานาติ ‘อหํ ปิโลติกาย ปลิเวิต’นฺติ, นาปิ ปิโลติกา ชานาติ ‘มยา มํสํ ปลิเวิต’นฺติ, เอวเมว น วกฺกหทยานิ สกลสรีเร มํสฺจ ¶ ชานาติ ‘อหํ กิโลมเกน ปฏิจฺฉนฺน’นฺติ, นาปิ กิโลมกํ ชานาติ ‘มยา วกฺกหทยานิ สกลสรีเร มํสฺจ ปฏิจฺฉนฺน’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา ¶ เอเต ธมฺมา. อิติ กิโลมกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ปิหกํ หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตาย โคมยปิณฺฑิยา น โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ ชานาติ ‘โคมยปิณฺฑิ มํ นิสฺสาย ิตา’ติ, นาปิ โคมยปิณฺฑิ ชานาติ ‘อหํ โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ ชานาติ ‘ปิหกํ มํ นิสฺสาย ิต’นฺติ, นาปิ ปิหกํ ชานาติ ‘อหํ อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปิหกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ปปฺผาสํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร หทยฺจ ยกนฺจ อุปริฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ. ตตฺถ ยถา ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตเร โอลมฺพมาเน สกุณกุลาวเก น ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ สกุณกุลาวโก โอลมฺพมาโน ิโต’ติ, นาปิ สกุณกุลาวโก ชานาติ ‘อหํ ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตเร โอลมฺพมาโน ิโต’ติ ¶ , เอวเมว น สรีรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ ปปฺผาสํ โอลมฺพมานํ ิต’นฺติ, นาปิ ปปฺผาสํ ชานาติ ‘อหํ เอวรูเป สรีรพฺภนฺตเร โอลมฺพมานํ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปปฺผาสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อนฺตํ คลวาฏกโต กรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา โลหิตโทณิกาย โอภุชิตฺวา ปิเต ฉินฺนสีสธมนิกเฬวเร น โลหิตโทณิ ชานาติ ‘มยิ ธมนิกเฬวรํ ิต’นฺติ, นาปิ ธมนิกเฬวรํ ชานาติ ‘อหํ โลหิตโทณิกายํ ิต’นฺติ, เอวเมว น สรีรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ อนฺตํ ิต’นฺติ, นาปิ อนฺตํ ชานาติ ‘อหํ สรีรพฺภนฺตเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อนฺตํ นาม ¶ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อนฺตคุณํ ¶ อนฺตนฺตเร เอกวีสติ อนฺตโภเค พนฺธิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ สิพฺเพตฺวา ิเตสุ รชฺชุเกสุ น ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ ชานาติ ‘รชฺชุกา มํ สิพฺเพตฺวา ิตา’ติ, นาปิ รชฺชุกา ชานนฺติ ‘มยํ ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ สิพฺเพตฺวา ิตา’ติ, เอวเมว น อนฺตํ ชานาติ ‘อนฺตคุณํ มํ อาพนฺธิตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ อนฺตคุณํ ชานาติ ‘อหํ อนฺตํ พนฺธิตฺวา ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อนฺตคุณํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อุทริยํ อุทเร ิตํ อสิตปีตขายิตสายิตํ. ตตฺถ ยถา สุวานโทณิยํ ิเต สุวานวมถุมฺหิ น สุวานโทณิ ชานาติ ‘มยิ สุวานวมถุ ิโต’ติ, นาปิ สุวานวมถุ ชานาติ ‘อหํ สุวานโทณิยํ ิโต’ติ, เอวเมว น อุทรํ ชานาติ ‘มยิ อุทริยํ ิต’นฺติ, นาปิ อุทริยํ ชานาติ ‘อหํ อุทเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อุทริยํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
กรีสํ ¶ ปกฺกาสยสงฺขาเต อฏฺงฺคุลเวฬุปพฺพสทิเส อนฺตปริโยสาเน ิตํ. ตตฺถ ยถา เวฬุปพฺเพ โอมทฺทิตฺวา ปกฺขิตฺตาย สณฺหปณฺฑุมตฺติกาย น เวฬุปพฺพํ ชานาติ ‘มยิ ปณฺฑุมตฺติกา ิตา’ติ, นาปิ ปณฺฑุมตฺติกา ชานาติ ‘อหํ เวฬุปพฺเพ ิตา’ติ, เอวเมว น ปกฺกาสโย ชานาติ ‘มยิ กรีสํ ิต’นฺติ, นาปิ กรีสํ ชานาติ ‘อหํ ปกฺกาสเย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ กรีสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
มตฺถลุงฺคํ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา ปุราณลาพุกฏาเห ปกฺขิตฺตาย ปิฏฺปิณฺฑิยา น ลาพุกฏาหํ ชานาติ ‘มยิ ปิฏฺปิณฺฑิ ิตา’ติ, นาปิ ปิฏฺปิณฺฑิ ชานาติ ‘อหํ ลาพุกฏาเห ิตา’ติ, เอวเมว น สีสกฏาหพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ มตฺถลุงฺคํ ิต’นฺติ, นาปิ มตฺถลุงฺคํ ชานาติ ¶ ‘อหํ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มตฺถลุงฺคํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ยํ ¶ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา อาโปโกฏฺาสาทีสุ ตีสุ อนุคตํ ปถวีธาตุํ ลกฺขณวเสน เยวาปนกํ ปถวึ กตฺวา ทสฺเสติ.
พาหิรปถวีธาตุนิทฺเทเส อโยติ กาฬโลหํ. โลหนฺติ ชาติโลหํ, วิชาติโลหํ, กิตฺติมโลหํ, ปิสาจโลหนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ อโย, สชฺฌุ, สุวณฺณํ, ติปุ, สีสํ, ตมฺพโลหํ, เวกนฺตกนฺติ อิมานิ สตฺต ชาติโลหานิ นาม. นาคนาสิกโลหํ วิชาติโลหํ นาม. กํสโลหํ, วฏฺฏโลหํ, อารกูฏนฺติ ตีณิ กิตฺติมโลหานิ นาม. โมรกฺขกํ, ปุถุกํ, มลินกํ, จปลกํ, เสลกํ, อาฏกํ, ภลฺลกํ, ทูสิโลหนฺติ อฏฺ ปิสาจโลหานิ นาม. เตสุ ปฺจ ชาติโลหานิ ปาฬิยํ วิสุํ วุตฺตาเนว. ตมฺพโลหํ, เวกนฺตกโลหนฺติ อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ชาติโลเหหิ สทฺธึ เสสํ สพฺพมฺปิ อิธ โลหนฺติ เวทิตพฺพํ.
ติปูติ เสตติปุ. สีสนฺติ กาฬติปุ. สชฺฌูติ ¶ รชตํ. มุตฺตาติ สามุทฺทิกมุตฺตา. มณีติ เปตฺวา ปาฬิอาคเต เวฬุริยาทโย เสโส โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลา, ปณฺฑุสิลา, เสตสิลาติอาทิเภทา สพฺพาปิ สิลา. ปวาฬนฺติ ปวาฬเมว. รชตนฺติ กหาปโณ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. ติณาทีสุ พหิสารา อนฺตมโส นาฬิเกราทโยปิ ติณํ นาม. อนฺโตสารํ อนฺตมโส ทารุขณฺฑมฺปิ กฏฺํ นาม. สกฺขราติ มุคฺคมตฺตโต ยาว มุฏฺิปฺปมาณา มรุมฺพา สกฺขรา นาม. มุคฺคมตฺตโต ปน เหฏฺา วาลิกาติ วุจฺจติ. กลนฺติ ยํ กิฺจิ กปาลํ. ภูมีติ ปถวี. ปาสาโณติ อนฺโตมุฏฺิยํ อสณฺหนโต ปฏฺาย หตฺถิปฺปมาณํ อสมฺปตฺโต ปาสาโณ นาม. หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย ปน อุปริ ปพฺพโต ¶ นาม. ยํ วา ปนาติ อิมินา ตาลฏฺิ-นาฬิเกร-ผลาทิเภทํ เสสปถวึ คณฺหาติ. ยา จ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิราติ อิมินา ทฺเวปิ ปถวีธาตุโย กกฺขฬฏฺเน ลกฺขณโต เอกา ปถวีธาตุ เอวาติ ทสฺเสติ.
๑๗๔. อาโปธาตุนิทฺเทสาทีสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อาโป อาโปคตนฺติอาทีสุ อาพนฺธนวเสน อาโป. ตเทว อาโปสภาวํ คตตฺตา อาโปคตํ นาม. สฺเนหวเสน สฺเนโห. โสเยว สฺเนหสภาวํ คตตฺตา สฺเนหคตํ นาม. พนฺธนตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส พนฺธนภาโว. ปิตฺตํ เสมฺหนฺติอาทีนิปิ ¶ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ¶ ปริคฺคเหตฺวา ธาตุวเสเนว มนสิกาตพฺพานิ.
ตตฺรายํ นโย – ปิตฺเตสุ หิ อพทฺธปิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธํ สกลสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ, พทฺธปิตฺตํ ปิตฺตโกสเก ิตํ. ตตฺถ ยถา ปูวํ พฺยาเปตฺวา ิเต เตเล น ปูวํ ชานาติ ‘เตลํ มํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ ปูวํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น สรีรํ ชานาติ ‘อพทฺธปิตฺตํ มํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ อพทฺธปิตฺตํ ชานาติ ‘อหํ สรีรํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ. ยถา จ วสฺโสทเกน ปุณฺเณ โกสาตกีโกสเก น โกสาตกีโกสโก ชานาติ ‘มยิ วสฺโสทกํ ิต’นฺติ, นาปิ วสฺโสทกํ ชานาติ ‘อหํ โกสาตกีโกสเก ิต’นฺติ, เอวเมว น ปิตฺตโกสโก ชานาติ มยิ พทฺธปิตฺตํ ิตนฺติ, นาปิ พทฺธปิตฺตํ ชานาติ ‘อหํ ปิตฺตโกสเก ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปิตฺตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เสมฺหํ เอกปตฺถปูรปฺปมาณํ อุทรปฏเล ิตํ. ตตฺถ ยถา อุปริ สฺชาตเผณปฏลาย จนฺทนิกาย น จนฺทนิกา ชานาติ ‘มยิ เผณปฏลํ ิต’นฺติ, นาปิ เผณปฏลํ ชานาติ ‘อหํ จนฺทนิกาย ิต’นฺติ, เอวเมว น อุทรปฏลํ ชานาติ ‘มยิ เสมฺหํ ิต’นฺติ, นาปิ เสมฺหํ ชานาติ ‘อหํ อุทรปฏเล ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เสมฺหํ ¶ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
ปุพฺโพ อนิพทฺโธกาโส, ยตฺถ ยตฺเถว ขาณุกณฺฏกปฺปหรณอคฺคิชาลาทีหิ อภิหเฏ สรีรปฺปเทเส โลหิตํ สณฺหิตฺวา ปจฺจติ, คณฺฑปีฬกาทโย วา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ติฏฺติ. ตตฺถ ยถา ผรสุปฺปหาราทิวเสน ปคฺฆริตนิยาเส รุกฺเข น รุกฺขสฺส ผรสุปฺปหาราทิปฺปเทสา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ นิยฺยาโส ิโต’ติ, นาปิ นิยฺยาโส ชานาติ ‘อหํ รุกฺขสฺส ผรสุปฺปหาราทิปฺปเทเสสุ ิโต’ติ, เอวเมว น สรีรสฺส ขาณุกณฺฏกาทีหิ อภิหฏปฺปเทสา ชานนฺติ ¶ ‘อมฺเหสุ ปุพฺโพ ิโต’ติ, นาปิ ปุพฺโพ ชานาติ ‘อหํ เตสุ ปเทเสสุ ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปุพฺโพ นาม อิมสฺมึ ¶ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
โลหิเตสุ สํสรณโลหิตํ อพทฺธปิตฺตํ วิย สกลสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ. สนฺนิจิตโลหิตํ ยกนฏฺานสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา เอกปตฺตปูรณปฺปมาณํ วกฺกหทยยกนปปฺผาสานิ เตเมนฺตํ ิตํ. ตตฺถ สํสรณโลหิเต อพทฺธปิตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. อิตรํ ปน ยถา ชชฺชรกปาลฏฺเ อุทเก เหฏฺา เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตมยมาเน น เลฑฺฑุขณฺฑานิ ชานนฺติ ‘มยํ อุทเกน เตมิยมานา ิตา’ติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตเมมี’ติ, เอวเมว น ยกนสฺส เหฏฺาภาคฏฺานํ วกฺกาทีนิ วา ชานนฺติ ‘มยิ โลหิตํ ิตํ, อมฺเห วา เตมยมานํ ิต’นฺติ, นาปิ โลหิตํ ชานาติ ‘อหํ ยกนสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา วกฺกาทีนิ เตมยมานํ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ โลหิตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เสโท ¶ อคฺคิสนฺตาปาทิกาเลสุ เกสโลมกูปวิวรานิ ปูเรตฺวา ติฏฺติ เจว ปคฺฆรติ จ. ตตฺถ ยถา อุทกา อพฺพูฬฺหมตฺเตสุ ภิสมุฬาลกุมุทนาฬกลาเปสุ น ภิสาทิกลาปวิวรานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ อุทกํ ปคฺฆรตี’ติ, นาปิ ภิสาทิกลาปวิวเรหิ ปคฺฆรนฺตํ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ ภิสาทิกลาปวิวเรหิ ปคฺฆรามี’ติ, เอวเมว น เกสโลมกูปวิวรานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ เสโท ปคฺฆรตี’ติ, นาปิ เสโท ชานาติ ‘อหํ เกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรามี’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เสโท นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เมโท ถูลสฺส สกลสรีรํ ผริตฺวา กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ ¶ นิสฺสาย ิโต ปตฺถินฺนสฺเนโห. ตตฺถ ยถา หลิทฺทิปิโลติกปฏิจฺฉนฺเน มํสปฺุเช น มํสปฺุโช ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย หลิทฺทิปิโลติกา ิตา’ติ, นาปิ หลิทฺทิปิโลติกา ชานาติ ‘อหํ มํสปฺุชํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น สกลสรีเร ชงฺฆาทีสุ วา มํสํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย เมโท ิโต’ติ, นาปิ เมโท ชานาติ ‘อหํ สกลสรีเร ชงฺฆาทีสุ วา มํสํ นิสฺสาย ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เมโท นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปตฺถินฺนสฺเนโห ปตฺถินฺนยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
อสฺสุ ยทา สฺชายติ ตทา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. ตตฺถ ยถา อุทกปุณฺเณสุ ตรุณตาลฏฺิกูปเกสุ น ตรุณตาลฏฺิกูปกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ อุทกํ ิต’นฺติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ ตรุณตาลฏฺิกูปเกสุ ิต’นฺติ, เอวเมว น อกฺขิกูปกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ อสฺสุ ิต’นฺติ, นาปิ อสฺสุ ชานาติ ‘อหํ อกฺขิกูปเกสุ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อสฺสุ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
วสา อคฺคิสนฺตาปาทิกาเล หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิตวิลีนสฺเนโห. ตตฺถ ยถา ปกฺขิตฺตเตเล อาจาเม ¶ น อาจาโม ชานาติ ‘มํ เตลํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ อาจามํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น หตฺถตลาทิปฺปเทโส ชานาติ ‘มํ วสา อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา’ติ, นาปิ วสา ชานาติ ‘อหํ หตฺถตลาทิปฺปเทเส อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ วสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เขโฬ ตถารูเป เขฬุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา ชิวฺหาย ติฏฺติ. ตตฺถ ยถา อพฺโพจฺฉินฺนอุทกนิสฺสนฺเท นทีตีรกูปเก น กูปตลํ ชานาติ ‘มยิ อุทกํ สนฺติฏฺตี’ติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ กูปตเล สนฺติฏฺามี’ติ ¶ , เอวเมว น ชิวฺหาตลํ ชานาติ ‘มยิ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา เขโฬ ิโต’ติ, นาปิ เขโฬ ชานาติ ‘อหํ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา ชิวฺหาตเล ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เขโฬ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
สิงฺฆาณิกา ยทา สฺชายติ ตทา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. ตตฺถ ยถา ¶ ปูติทธิภริตาย สิปฺปิกาย น สิปฺปิกา ชานาติ ‘มยิ ปูติทธิ ิต’นฺติ, นาปิ ปูติทธิ ชานาติ ‘อหํ สิปฺปิกาย ิต’นฺติ, เอวเมว น นาสาปุฏา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ สิงฺฆาณิกา ิตา’ติ, นาปิ สิงฺฆาณิกา ชานาติ ‘อหํ นาสาปุเฏสุ ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ สิงฺฆาณิกา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
ลสิกา อฏฺิกสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อสีติสตสนฺธีสุ ิตา. ตตฺถ ยถา เตลพฺภฺชิเต อกฺเข น อกฺโข ชานาติ ‘มํ เตลํ อพฺภฺชิตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ อกฺขํ อพฺภฺชิตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น อสีติสตสนฺธโย ชานนฺติ ‘ลสิกา อมฺเห อพฺภฺชิตฺวา ¶ ิตา’ติ, นาปิ ลสิกา ชานาติ ‘อหํ อสีติสตสนฺธโย อพฺภฺชิตฺวา ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ลสิกา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
มุตฺตํ วตฺถิสฺส อพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา จนฺทนิกาย ปกฺขิตฺเต อโธมุเข รวณฆเฏ น รวณฆโฏ ชานาติ ‘มยิ จนฺทนิการโส ิโต’ติ, นาปิ จนฺทนิการโส ชานาติ ‘อหํ รวณฆเฏ ิโต’ติ, เอวเมว น วตฺถิ ชานาติ ‘มยิ มุตฺตํ ิต’นฺติ, นาปิ มุตฺตํ ชานาติ ‘อหํ วตฺถิมฺหิ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มุตฺตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ. ยํ วา ปนาติ อวเสเสสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ อาโปธาตุํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ.
พาหิรอาโปธาตุนิทฺเทเส มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺโต รโส มูลรโส นาม. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. ขีราทีนิ ปากฏาเนว. ยถา ปน เภสชฺชสิกฺขาปเท เอวมิธ นิยโม นตฺถิ. ยํ กิฺจิ ขีรํ ขีรเมว. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ภุมฺมานีติ อาวาฏาทีสุ ิตอุทกานิ. อนฺตลิกฺขานีติ ปถวึ อปฺปตฺตานิ วสฺโสทกานิ. ยํ วา ปนาติ หิโมทกกปฺปวินาสกอุทกปถวีสนฺธารกอุทกาทีนิ อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺานิ.
๑๗๕. เตโชธาตุนิทฺเทเส ¶ เตชนวเสน เตโช. เตโชว เตโชภาวํ คตตฺตา เตโชคตํ. อุสฺมาติ อุณฺหากาโร. อุสฺมาว อุสฺมาภาวํ คตตฺตา อุสฺมาคตํ. อุสุมนฺติ จณฺฑอุสุมํ. ตเทว อุสุมภาวํ คตตฺตา อุสุมคตํ. เยน จาติ เยน เตโชคเตน กุปฺปิเตน. สนฺตปฺปตีติ อยํ กาโย สนฺตปฺปติ, เอกาหิกชราทิภาเวน อุสุมชาโต โหติ. เยน จ ชีรียตีติ เยน อยํ กาโย ชีรียติ, อินฺทฺริยเวกลฺลตํ พลปริกฺขยํ วลิปลิตาทิภาวฺจ ปาปุณาติ. เยน จ ปริฑยฺหตีติ เยน กุปฺปิเตน อยํ กาโย ฑยฺหติ, โส จ ¶ ปุคฺคโล ‘ฑยฺหามิ ฑยฺหามี’ติ กนฺทนฺโต สตโธตสปฺปิโคสีตจนฺทนาทิเลปนฺเจว ตาลวณฺฏวาตฺจ ปจฺจาสีสติ. เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตีติ เยเนตํ อสิตํ วา โอทนาทิ, ปีตํ วา ปานกาทิ, ขายิตํ วา ปิฏฺขชฺชกาทิ, สายิตํ วา อมฺพปกฺกมธุผาณิตาทิ สมฺมา ปริปากํ คจฺฉติ, รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมา ตโย เตโชธาตู จตุสมุฏฺานา, ปจฺฉิโม กมฺมสมุฏฺาโนว. อยํ ตาเวตฺถ ปทสํวณฺณนา.
อิทํ ปน มนสิการวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ ‘เยน สนฺตปฺปติ, อยํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปริปาจนากาโร เตโชธาตู’ติ มนสิ กโรติ; ‘เยน ชีรียติ, เยน ปริฑยฺหติ, เยน อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อยํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปริปาจนากาโร เตโชธาตู’ติ มนสิ กโรติ. ยํ วา ปนาติ อิมสฺมึ สรีเร ปากติโก เอโก อุตุ อตฺถิ, โส เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺโ.
พาหิรเตโชธาตุนิทฺเทเส กฏฺํ ปฏิจฺจ ปชฺชลิโต กฏฺุปาทาโน อคฺคิ กฏฺคฺคิ นาม. สกลิกคฺคิอาทีสุปิ เอเสว นโย. สงฺการคฺคีติ กจวรํ สํกฑฺฒิตฺวา ชาลาปิโต กจวรคฺคิ. อินฺทคฺคีติ อสนิอคฺคิ. อคฺคิสนฺตาโปติ ชาลาย วา วีตจฺจิกงฺคารานํ วา สนฺตาโป. สูริยสนฺตาโปติ อาตโป. กฏฺสนฺนิจยสนฺตาโปติ กฏฺราสิฏฺาเน สนฺตาโป. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยํ วา ปนาติ เปตคฺคิ กปฺปวินาสคฺคิ นิรยคฺคิอาทโย อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
๑๗๖. วาโยธาตุนิทฺเทเส วายนวเสน วาโย. วาโยว วาโยภาวํ คตตฺตา วาโยคตํ. ถมฺภิตตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส ถมฺภิตภาโว. อุทฺธงฺคมา วาตาติ อุคฺคารหิกฺกาทิ ปวตฺตกา อุทฺธํ อาโรหนวาตา ¶ . อโธคมา วาตาติ อุจฺจารปสฺสาวาทินีหรณกา อโธ โอโรหนวาตา. กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา. โกฏฺาสยา วาตาติ อนฺตานํ อนฺโตวาตา. องฺคมงฺคานุสาริโน วาตาติ ธมนิชาลานุสาเรน สกลสรีเร องฺคมงฺคานิ อนุสฏา สมิฺชนปสารณาทินิพฺพตฺตกา ¶ วาตา. สตฺถกวาตาติ สนฺธิพนฺธนานิ กตฺตริยา ฉินฺทนฺตา วิย ปวตฺตวาตา. ขุรกวาตาติ ขุเรน วิย หทยํ ผาลนวาตา. อุปฺปลกวาตาติ หทยมํสเมว อุปฺปาฏนกวาตา. อสฺสาโสติ ¶ อนฺโตปวิสนนาสิกาวโต. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกาวโต. เอตฺถ จ ปุริมา สพฺเพ จตุสมุฏฺานา, อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตสมุฏฺานาว. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา.
อิทํ ปน มนสิการวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ อุทฺธงฺคมาทิเภเท วาเต อุทฺธงฺคมาทิวเสน ปริคฺคเหตฺวา ‘อุทฺธงฺคมา วาตา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต วิตฺถมฺภนากาโร วาโยธาตู’ติ มนสิ กโรติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยํ วา ปนาติ เสเส วาโยโกฏฺาเส อนุคตา วาตา อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
พาหิรวาโยธาตุนิทฺเทเส ปุรตฺถิมา วาตาติ ปุรตฺถิมทิสโต อาคตา วาตา. ปจฺฉิมุตฺตรทกฺขิเณสุปิ เอเสว นโย. สรชา วาตาติ สห รเชน สรชา. อรชา วาตาติ รชวิรหิตา สุทฺธา อรชา นาม. สีตาติ สีตอุตุสมุฏฺานา สีตวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา. อุณฺหาติ อุณฺหอุตุสมุฏฺานา อุณฺหวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา. ปริตฺตาติ มนฺทา ตนุกวาตา. อธิมตฺตาติ พลววาตา. กาฬาติ กาฬวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา, เยหิ อพฺภาหโต ฉวิวณฺโณ กาฬโก โหติ. เตสํ เอตํ อธิวจนนฺติปิ เอเก. เวรมฺภวาตาติ โยชนโต อุปริ วายนวาตา. ปกฺขวาตาติ อนฺตมโส มกฺขิกายปิ ปกฺขายูหนสมุฏฺิตา วาตา. สุปณฺณวาตาติ ครุฬวาตา. กามฺจ อิเมปิ ปกฺขวาตาว อุสฺสทวเสน ปน วิสุํ คหิตา. ตาลวณฺฏวาตาติ ตาลปณฺเณหิ วา อฺเน วา เกนจิ มณฺฑลสณฺาเนน สมุฏฺาปิตา วาตา. วิธูปนวาตาติ พีชนปตฺตเกน สมุฏฺาปิตา วาตา. อิมานิ จ ตาลวณฺฏวิธูปนานิ อนุปฺปนฺนมฺปิ วาตํ อุปฺปาเทนฺติ, อุปฺปนฺนมฺปิ ปริวตฺเตนฺติ. ยํ วา ปนาติ อิธ ปาฬิอาคเต เปตฺวา เสสวาตา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
๑๗๗. อากาสธาตุนิทฺเทเส ¶ อปฺปฏิฆฏฺฏนฏฺเน น กสฺสตีติ อากาโส. อากาโสว อากาสภาวํ คตตฺตา อากาสคตํ. อฆฏฺฏนียตาย ¶ อฆํ. อฆเมว อฆภาวํ คตตฺตา อฆคตํ ¶ . วิวโรติ อนฺตรํ. ตเทว วิวรภาวํ คตตฺตา วิวรคตํ. อสมฺผุฏฺํ มํสโลหิเตหีติ มํสโลหิเตหิ นิสฺสฏํ. กณฺณจฺฉิทฺทนฺติอาทิ ปน ตสฺเสว ปเภททสฺสนํ. ตตฺถ กณฺณจฺฉิทฺทนฺติ กณฺณสฺมึ ฉิทฺทํ วิวรํ มํสโลหิเตหิ อสมฺผุฏฺโกาโส. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เยนาติ เยน วิวเรน เอตํ อสิตาทิเภทํ อชฺโฌหรณียํ อชฺโฌหรติ, อนฺโต ปเวเสติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อนฺโตอุทรปฏลสงฺขาเต โอกาเส เอตเทว จตุพฺพิธํ อชฺโฌหรณียํ ติฏฺติ. เยนาติ เยน วิวเรน สพฺพมฺเปตํ วิปกฺกํ กสฏภาวํ อาปนฺนํ นิกฺขมติ, ตํ อุทรปฏลโต ยาว กรีสมคฺคา วิทตฺถิจตุรงฺคุลมตฺตํ ฉิทฺทํ มํสโลหิเตหิ อสมฺผุฏฺํ นิสฺสฏํ อากาสธาตูติ เวทิตพฺพํ. ยํ วา ปนาติ เอตฺถ จมฺมนฺตรํ มํสนฺตรํ นฺหารุนฺตรํ อฏฺินฺตรํ โลมนฺตรนฺติ อิทํ สพฺพํ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺํ.
พาหิรกอากาสธาตุนิทฺเทเส อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ จตูหิ มหาภูเตหิ นิสฺสฏํ ภิตฺติฉิทฺทกวาฏฉิทฺทาทิกํ เวทิตพฺพํ. อิมินา ยสฺมึ อากาเส ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ ตํ กถิตํ.
๑๗๘. วิฺาณธาตุนิทฺเทเส จกฺขุวิฺาณสงฺขาตา ธาตุ จกฺขุวิฺาณธาตุ. เสสาสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิมาสุ ฉสุ ธาตูสุ ปริคฺคหิตาสุ อฏฺารส ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. กถํ? ปถวีเตโชวาโยธาตุคฺคหเณน ตาว โผฏฺพฺพธาตุ คหิตาว โหติ, อาโปธาตุอากาสธาตุคฺคหเณน ธมฺมธาตุ, วิฺาณธาตุคฺคหเณน ตสฺสา ปุเรจาริกปจฺฉาจาริกตฺตา มโนธาตุ คหิตาว โหติ. จกฺขุวิฺาณธาตุอาทโย สุตฺเต อาคตา เอว. เสสา นว อาหริตฺวา ทสฺเสตพฺพา ¶ . จกฺขุวิฺาณธาตุคฺคหเณน หิ ตสฺสา นิสฺสยภูตา จกฺขุธาตุ, อารมฺมณภูตา รูปธาตุ จ คหิตาว โหนฺติ. เอวํ โสตวิฺาณธาตุอาทิคฺคหเณน โสตธาตุอาทโยติ อฏฺารสาปิ คหิตาว โหนฺติ. ตาสุ ทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโห กถิโต โหติ. สตฺตหิ อรูปปริคฺคโห. ธมฺมธาตุยา สิยา รูปปริคฺคโห, สิยา อรูปปริคฺคโห. อิติ อฑฺเฒกาทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโห, อฑฺฒฏฺธาตูหิ อรูปปริคฺคโหติ รูปารูปปริคฺคโห กถิโต โหติ. รูปารูปํ ปฺจกฺขนฺธา. ตํ โหติ ทุกฺขสจฺจํ. ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ ¶ . อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ. ตํปชานโน มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ อิทํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ อฏฺารสธาตุวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา มตฺถกํ ปาเปตฺวา นิคมนํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๗๙. อิทานิ ¶ ทุติยฉกฺกํ ทสฺเสนฺโต อปราปิ ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ สุขธาตุ ทุกฺขธาตูติ กายปฺปสาทวตฺถุกานิ สุขทุกฺขานิ สปฺปฏิปกฺขวเสน ยุคฬกโต ทสฺสิตานิ. สุขฺหิ ทุกฺขสฺส ปฏิปกฺโข, ทุกฺขํ สุขสฺส. ยตฺตกํ สุเขน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ ทุกฺขํ ผรติ. ยตฺตกํ ทุกฺเขน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ สุขํ ผรติ. โสมนสฺสธาตุ โทมนสฺสธาตูติ อิทมฺปิ ตเถว ยุคฬกํ กตํ. โสมนสฺสฺหิ โทมนสฺสสฺส ปฏิปกฺโข, โทมนสฺสํ โสมนสฺสสฺส. ยตฺตกํ โสมนสฺเสน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ โทมนสฺสํ ผรติ. ยตฺตกํ โทมนสฺเสน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ โสมนสฺสํ ผรติ.
อุเปกฺขาธาตุ อวิชฺชาธาตูติ อิทํ ปน ทฺวยํ สริกฺขกวเสน ยุคฬกํ กตํ. อุภยมฺปิ เหตํ อวิภูตตฺตา สริกฺขกํ โหติ. ตตฺถ สุขทุกฺขธาตุคฺคหเณน ตํ สมฺปยุตฺตา กายวิฺาณธาตุ, วตฺถุภูตา กายธาตุ, อารมฺมณภูตา โผฏฺพฺพธาตุ จ คหิตาว โหนฺติ. โสมนสฺสโทมนสฺสธาตุคฺคหเณน ตํ สมฺปยุตฺตา มโนวิฺาณธาตุ คหิตา โหติ. อวิชฺชาธาตุคฺคหเณน ธมฺมธาตุ คหิตา. อุเปกฺขาธาตุคฺคหเณน จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตุมโนธาตุโย ¶ , ตาสํเยว วตฺถารมฺมณภูตา จกฺขุธาตุรูปธาตุอาทโย จ คหิตาติ เอวํ อฏฺารสปิ ธาตุโย คหิตาว โหนฺติ. อิทานิ ตาสุ ทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโหติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา มตฺถกํ ปาเปตฺวา นิคมนํ กถิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตมา สุขธาตุ ยํ กายิกํ สาตนฺติ อาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.
๑๘๑. ตติยฉกฺเก กาโมติ ทฺเว กามา – วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จ. ตตฺถ กิเลสกามํ สนฺธาย กามปฏิสํยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. วตฺถุกามํ สนฺธาย กาโมเยว ธาตุ กามธาตุ, กามาวจรธมฺมานเมตํ นามํ. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. พฺยาปาโทว ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, ทสอาฆาตวตฺถุกสฺส ¶ ปฏิฆสฺเสตํ นามํ. วิหึสา ปฏิสํยุตฺตา ธาตุ วิหึสาธาตุ, วิหึสาวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. วิหึสาเยว ธาตุ วิหึสาธาตุ, ปรสตฺตวิเหสนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน เหฏฺา อนาคตตฺตา เอวํ อตฺถาทิวิภาคโต เวทิตพฺพา – วิหึสนฺติ เอตาย สตฺเต, วิหึสนํ วา เอตํ สตฺตานนฺติ วิหึสา. สา วิเหนลกฺขณา, กรุณาปฏิปกฺขลกฺขณา วา; ปรสนฺตาเน อุพฺเพคชนนรสา, สกสนฺตาเน กรุณาวิทฺธํสนรสา วา; ทุกฺขายตนปจฺจุปฏฺานา; ปฏิฆปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา. เนกฺขมฺมํ ¶ วุจฺจติ โลภา นิกฺขนฺตตฺตา อโลโภ, นีวรเณหิ นิกฺขนฺตตฺตา ปมชฺฌานํ, สพฺพากุสเลหิ นิกฺขนฺตตฺตา สพฺพกุสลํ. เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺตา ธาตุ เนกฺขมฺมธาตุ, เนกฺขมฺมวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. เนกฺขมฺมเมว ธาตุ เนกฺขมฺมธาตุ, สพฺพสฺสาปิ กุสลสฺเสตํ นามํ. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา ธาตุ อพฺยาปาทธาตุ, อพฺยาปาทวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. อพฺยาปาโทว ธาตุ อพฺยาปาทธาตุ, เมตฺตาเยตํ นามํ. อวิหึสาปฏิสํยุตฺตา ธาตุ อวิหึสาธาตุ, อวิหึสา วิตกฺกสฺเสตํ ¶ นามํ. อวิหึสาว ธาตุ อวิหึสาธาตุ, กรุณาเยตํ นามํ.
๑๘๒. อิทานิ ตเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา กามธาตูติ ปทภาชนํ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฏิสํยุตฺโตติ สํปโยควเสน ปฏิสํยุตฺโต. ตกฺโก วิตกฺโกติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. วิเหเตีติ พาเธติ, ทุกฺขาเปติ. เหนาติ ปาณิปฺปหาราทีหิ พาธนา, ทุกฺขุปฺปาทนา. พลวเหนา วิเหนา. หึสนฺติ เอตายาติ หึสนา. พลวหึสนา วิหึสนา. โรสนาติ ฆฏฺฏนา. วิโรสนาติ พลวฆฏฺฏนา. สพฺพตฺถ วา ‘วิ’ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อุปหนนฺติ เอเตนาติ อุปฆาโต, ปเรสํ อุปฆาโต ปรูปฆาโต.
เมตฺตายนฺติ เอตายาติ เมตฺติ. เมตฺตายนากาโร เมตฺตายนา. เมตฺตาย อยิตสฺส เมตฺตาสมงฺคิโน ภาโว เมตฺตายิตตฺตํ. พฺยาปาเทน วิมุตฺตสฺส เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ. เอตฺถ จ ปุริเมหิ ตีหิ อุปจารปฺปตฺตาปิ อปฺปนาปตาปิ เมตฺตา กถิตา, ปจฺฉิเมน อปฺปนาปตฺตาว.
กรุณายนฺติ ¶ เอตายาติ กรุณา. กรุณายนากาโร กรุณายนา. กรุณาย อยิตสฺส กรุณาสมงฺคิโน ภาโว กรุณายิตตฺตํ. วิหึสาย วิมุตฺตสฺส เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ. อิธาปิ ปุริมนเยเนว อุปจารปฺปนาเภโท เวทิตพฺโพ. อุภยตฺถาปิ จ ปริโยสานปเท เมตฺตากรุณาติ เจโตวิมุตฺติวิเสสนตฺถํ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ กามวิตกฺโก สตฺเตสุปิ อุปฺปชฺชติ สงฺขาเรสุปิ. อุภยตฺถ อุปฺปนฺโนปิ กมฺมปถเภโทว. พฺยาปาโท ปน สตฺเตสุ อุปฺปนฺโนเยว กมฺมปถํ ภินฺทติ, น อิตโร. วิหึสายปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ทุวิธา กถา – สพฺพสงฺคาหิกา เจว อสมฺภินฺนา จ. กามธาตุคฺคหเณน หิ พฺยาปาทวิหึสาธาตุโยปิ คหิตา. กามธาตุยาเยว ปน นีหริตฺวา นีหริตฺวา ทฺเวปิ เอตา ทสฺสิตาติ. อยํ ตาเวตฺถ สพฺพสงฺคาหิกกถา ¶ . เปตฺวา ปน พฺยาปาทวิหึสาธาตุโย เสสา สพฺพาปิ ¶ กามธาตุ เอวาติ. อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม. เนกฺขมฺมธาตุคฺคหเณนาปิ อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย คหิตาเยว. เนกฺขมฺมธาตุโต ปน นีหริตฺวา นีหริตฺวา ตทุภยมฺปิ ทสฺสิตนฺติ อยเมตฺถาปิ สพฺพสงฺคาหิกกถา. เปตฺวา อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย อวเสสา เนกฺขมฺมธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม.
อิมาหิ จ ฉหิ ธาตูหิ ปริคฺคหิตา หิ อฏฺารส ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. สพฺพาปิ หิ ตา กามธาตุโตว นีหริตฺวา นีหริตฺวา ลภาเปตพฺพา อฏฺารส ธาตุโยว โหนฺตีติ ติณฺณํ ฉกฺกานํ วเสน อฏฺารส โหนฺติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา เอเกกสฺมึ ฉกฺเก วุตฺตนเยน อฏฺารส อฏฺารส กตฺวา สพฺพานิปิ ตานิ อฏฺารสกานิ เอกชฺฌํ อภิสงฺขิปิตฺวา อฏฺารเสว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว เตภูมิกาติ เอวเมตฺถ สมฺมสนจาโรว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๘๓. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ สรูเปเนว สพฺพาปิ ธาตุโย ทสฺเสนฺโต อฏฺารส ธาตุโย – จกฺขุธาตุ รูปธาตูติอาทิมาห. ตตฺถ อุทฺเทสวาเร ตาว –
อตฺถโต ลกฺขณาทิโต, กมตาวตฺวสงฺขโต;
ปจฺจยา อถ ทฏฺพฺพา, เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘อตฺถโต’ติ จกฺขตีติ จกฺขุ. รูปยตีติ รูปํ. จกฺขุสฺส วิฺาณํ จกฺขุวิฺาณนฺติ เอวมาทินา ตาว นเยน จกฺขาทีนํ วิเสสตฺถโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. อวิเสเสน ปน วิทหติ, ธียเต, วิธานํ, วิธียเต เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตุ. โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา หุตฺวา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิย สุวณฺณรชตาทึ ¶ อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ ¶ ; ภารหาเรหิ จ ภาโร วิย สตฺเตหิ ธียนฺเต ธารียนฺเตติ อตฺโถ. ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา อวสวตฺตนโต. เอตาหิ จ กรณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สตฺเตหิ อนุวิธียติ; ตถาวิหิตฺเจตํ เอตาสฺเวว ธียติ ปียตีติ อตฺโถ. อิติ จกฺขาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาสมฺภวํ วิทหติ ธียเตติอาทิอตฺถวเสน ธาตูติ วุจฺจติ.
อปิจ ยถา ติตฺถิยานํ อตฺตา นาม สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตา. เอตา ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. ยถา จ โลเก วิจิตฺตา หริตาลมโนสิลาทโย สิลาวยวา ธาตุโยติ วุจฺจนฺติ, เอวเมตาปิ ธาตุโย วิย ธาตุโย. วิจิตฺตา เหตา าณเยฺยาวยวาติ. ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อฺมฺํ วิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺเนสุ ธาตุสมฺา, เอวเมเตสุปิ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส อวยเวสุ ธาตุสมฺา เวทิตพฺพา. อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺนา เหเต จกฺขาทโยติ. อปิจ ธาตูติ นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตถา หิ ภควา – ‘‘ฉ ธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๓-๓๔๔) ชีวสฺาสมูหนตฺถํ ธาตุเทสนํ อกาสีติ. ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุ ¶ …เป… มโนวิฺาณฺจ ตํ ธาตุ จาติ มโนวิฺาณธาตูติ เอวํ ตาเวตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทิโต’ติ จกฺขาทีนํ ลกฺขณาทิโต เปตฺถ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. ตานิ จ ปน เตสํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
‘กมโต’ติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ อุปฺปตฺติกฺกมาทีสุ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. โส จ ปนายํ เหตุผลานุปุพฺพววตฺถานวเสน วุตฺโต. จกฺขุธาตุ รูปธาตูติ อิทฺหิ ทฺวยํ เหตุ. จกฺขุวิฺาณธาตูติ ผลํ. เอวํ สพฺพตฺถ กมโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ตาวตฺวโต’ติ ตาวภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตสุ เตสุ หิ สุตฺตาภิธมฺมปเทเสสุ อาภาธาตุ, สุภธาตุ, อากาสานฺจายตนธาตุ, วิฺาณฺจายตนธาตุ, อากิฺจฺายตนธาตุ ¶ , เนวสฺานาสฺายตนธาตุ, สฺาเวทยิตนิโรธธาตุ, กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ, เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหึสาธาตุ, สุขธาตุ, ทุกฺขธาตุ, โสมนสฺสธาตุ, โทมนสฺสธาตุ, อุเปกฺขาธาตุ ¶ , อวิชฺชาธาตุ, อารมฺภธาตุ, นิกฺกมธาตุ, ปรกฺกมธาตุ, หีนธาตุ, มชฺฌิมธาตุ, ปณีตธาตุ, ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ, สงฺขตธาตุ, อสงฺขตธาตุ, อเนกธาตุนานาธาตุโลโกติ เอวมาทโย อฺาปิ ธาตุโย ทิสฺสนฺติ.
เอวํ สติ สพฺพาสํ วเสน ปริจฺเฉทํ อกตฺวา กสฺมา อฏฺารสาติ อยเมว ปริจฺเฉโท กโตติ เจ? สภาวโต วิชฺชมานานํ สพฺพธาตูนํ ตทนฺโตคธตฺตา. รูปธาตุเยว หิ อาภาธาตุ. สุภธาตุ ปน รูปาทิปฺปฏิพทฺธา. กสฺมา? สุภนิมิตฺตตฺตา. สุภนิมิตฺตฺหิ สุภธาตุ. ตฺจ รูปาทิวินิมุตฺตํ น วิชฺชติ, กุสลวิปาการมฺมณา วา รูปาทโย เอว สุภธาตูติ รูปาทิมตฺตเมเวสา. อากาสานฺจายตนธาตุอาทีสุ จิตฺตํ มโนวิฺาณธาตุ. เสสา ธมฺมา ธมฺมธาตุ. สฺาเวทยิตนิโรธธาตุ ปน สภาวโต นตฺถิ; ธาตุทฺวยนิโรธมตฺตเมว หิ สา. กามธาตุ ธมฺมธาตุมตฺตํ วา โหติ, ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก …เป… มิจฺฉาสงฺกปฺโป’’ติ; อฏฺารสปิ ธาตุโย ¶ วา, ยถาห ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา, รูปา, เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ – อยํ วุจฺจติ กามธาตู’’ติ. เนกฺขมฺมธาตุ ธมฺมธาตุ เอว; ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตู’’ติ วา วจนโต มโนวิฺาณธาตุปิ โหติเยว. พฺยาปาทวิหึสาอพฺยาปาทอวิหึสาสุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขาอวิชฺชาอารมฺภนิกฺกมปรกฺกมธาตุโย ธมฺมธาตุเยว.
หีนมชฺฌิมปณีตธาตุโย อฏฺารสธาตุมตฺตเมว. หีนา หิ จกฺขาทโย หีนธาตุ. มชฺฌิมปณีตา จกฺขาทโย มชฺฌิมา เจว ปณีตา จ ธาตู. นิปฺปริยาเยน ปน อกุสลา ¶ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย หีนธาตุ. โลกิยา กุสลาพฺยากตา อุโภปิ จกฺขุธาตุอาทโย จ มชฺฌิมธาตุ. โลกุตฺตรา ปน ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย ปณีตธาตุ. ปถวีเตโชวาโยธาตุโย โผฏฺพฺพธาตุเยว. อาโปธาตุ อากาสธาตุ จ ธมฺมธาตุเยว. วิฺาณธาตุ จกฺขุวิฺาณาทิสตฺตวิฺาณธาตุสงฺเขโปเยว. สตฺตรส ธาตุโย ธมฺมธาตุเอกเทโส จ สงฺขตธาตุ. อสงฺขตธาตุ ปน ธมฺมธาตุเอกเทโสว. อเนกธาตุนานาธาตุโลโก ปน อฏฺารสธาตุปฺปเภทมตฺตเมวาติ. อิติ สภาวโต วิชฺชมานานํ สพฺพธาตูนํ ตทนฺโตคธตฺตา อฏฺารเสว วุตฺตาติ.
อปิจ วิชานนสภาเว วิฺาเณ ชีวสฺีนํ ชีวสฺาสมูหนตฺถมฺปิ อฏฺารเสว วุตฺตา ¶ . สนฺติ หิ สตฺตา วิชานนสภาเว วิฺาเณ ชีวสฺิโน. เตสํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณมโนวิฺาณธาตุเภเทน ตสฺสา อเนกตฺตํ, จกฺขุรูปาทิปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อนิจฺจตฺจ ปกาเสตฺวา ทีฆรตฺตานุสยิตํ ชีวสฺํ สมูหนิตุกาเมน ภควตา อฏฺารส ธาตุโย ปกาสิตา. กิฺจ ภิยฺโย? ตถา เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน; เย จ อิมาย นาติสงฺเขปวิตฺถาราย เทสนาย เวเนยฺยา สตฺตา, ตทชฺฌาสยวเสน จ อฏฺารเสว ปกาสิตา.
สงฺเขปวิตฺถารนเยน ¶ ตถา ตถา หิ,
ธมฺมํ ปกาสยติ เอส ยถา ยถาสฺส;
สทฺธมฺมเตชวิหตํ วิลยํ ขเณน,
เวเนยฺยสตฺตหทเยสุ ตโม ปยาตีติ.
เอวเมตฺถ ‘ตาวตฺวโต’ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺขโต’ติ จกฺขุธาตุ ตาว ชาติโต เอโก ธมฺโมตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ จกฺขุปสาทวเสน. ตถา โสตฆานชิวฺหากายรูปสทฺทคนฺธรสธาตุโย โสตปสาทาทิวเสน. โผฏฺพฺพธาตุ ปน ปถวีเตโชวาโยวเสน ตโย ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. จกฺขุวิฺาณธาตุ กุสลากุสลวิปากวเสน ทฺเว ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. ตถา ¶ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณธาตุโย. มโนธาตุ ปน ปฺจทฺวาราวชฺชนกุสลากุสลวิปากสมฺปฏิจฺฉนวเสน ตโย ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. ธมฺมธาตุ ติณฺณํ อรูปกฺขนฺธานํ, โสฬสนฺนํ สุขุมรูปานํ, อสงฺขตาย จ ธาตุยา วเสน วีสติธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. มโนวิฺาณธาตุ เสสกุสลากุสลาพฺยากตวิฺาณวเสน ฉสตฺตติธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉตีติ เอวเมตฺถ ‘สงฺขโต’ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปจฺจยา’ติ จกฺขุธาตุอาทีนํ จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีสุ ปจฺจยโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. โส ปเนเตสํ ปจฺจยภาโว นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ.
‘ทฏฺพฺพา’ติ ทฏฺพฺพโตเปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. สพฺพา เอว หิ สงฺขตา ธาตุโย ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิวิตฺตโต, ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺุโต, ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต จ ทฏฺพฺพา. วิเสสโต ปเนตฺถ เภริตลํ วิย จกฺขุธาตุ ทฏฺพฺพา, ทณฺโฑ วิย รูปธาตุ, สทฺโท วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ ¶ . ตถา อาทาสตลํ วิย จกฺขุธาตุ, มุขํ วิย รูปธาตุ, มุขนิมิตฺตํ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. อถ วา อุจฺฉุติลานิ วิย จกฺขุธาตุ, ยนฺตจกฺกยฏฺิ วิย รูปธาตุ, อุจฺฉุรสเตลานิ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. ตถา อธรารณี วิย จกฺขุธาตุ, อุตฺตรารณี วิย รูปธาตุ, อคฺคิ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. เอส นโย โสตธาตุอาทีสุปิ.
มโนธาตุ ปน ยถาสมฺภวโต จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีนํ ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพา. ธมฺมธาตุยา เวทนากฺขนฺโธ สลฺลมิว สูลมิว จ ทฏฺพฺโพ ¶ ; สฺาสงฺขารกฺขนฺธา เวทนาสลฺลสูลโยคา อาตุรา วิย; ปุถุชฺชนานํ วา สฺา อาสาทุกฺขชนนโต ริตฺตมุฏฺิ วิย, อยถาภุจฺจนิมิตฺตคฺคาหกโต วนมิโค วิย; สงฺขารา ปฏิสนฺธิยํ ปกฺขิปนโต องฺคารกาสุยํ ขิปนกปุริโส วิย, ชาติทุกฺขานุพนฺธนโต ราชปุริสานุพนฺธโจรา วิย, สพฺพานตฺถาวหสฺส ขนฺธสนฺตานสฺส เหตุโต วิสรุกฺขพีชานิ วิย; รูปํ นานาวิธูปทฺทวนิมิตฺตโต ขุรจกฺกํ วิย ทฏฺพฺพํ.
อสงฺขตา ปน ธาตุ อมตโต สนฺตโต เขมโต จ ทฏฺพฺพา. กสฺมา? สพฺพานตฺถปฏิปกฺขภูตตฺตา. มโนวิฺาณธาตุ คหิตารมฺมณํ ¶ มฺุจิตฺวาปิ อฺํ คเหตฺวาว ปวตนโต วนมกฺกโฏ วิย, ทุทฺทมนโต อสฺสขฬุงฺโก วิย, ยตฺถกามนิปาติโต เวหาสํ ขิตฺตทณฺโฑ วิย, โลภโทสาทินานปฺปการกิเลสโยคโต รงฺคนโฏ วิย ทฏฺพฺโพติ.
๑๘๔. นิทฺเทสวาเร จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จาติ อิทฺจ ทฺวยํ ปฏิจฺจ อฺฺจ กิริยามโนธาตฺุเจว สมฺปยุตฺตขนฺธตฺตยฺจาติ อตฺโถ. จกฺขุวิฺาณธาตุยา หิ จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย โหติ, รูปํ อารมฺมณปจฺจโย, กิริยมโนธาตุ วิคตปจฺจโย, ตโย อรูปกฺขนฺธา สหชาตปจฺจโย. ตสฺมา เอสา จกฺขุวิฺาณธาตุ อิเม จตฺตาโร ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ นาม. โสตฺจ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
นิรุทฺธสมนนฺตราติ นิรุทฺธาย สมนนฺตรา. ตชฺชา มโนธาตูติ ตสฺมึ อารมฺมเณ ชาตา กุสลากุสลวิปากโต ทุวิธา มโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจา. สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโรติ เอเตสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ สพฺพธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ ปมสมนฺนาหาโร; จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีนํ ¶ วา อารมฺมณสงฺขาเตสุ สพฺพธมฺเมสุ ปมสมนฺนาหาโรติ อยเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตน ปฺจทฺวาราวชฺชนกิจฺจา กิริยมโนธาตุ คหิตาติ เวทิตพฺพา.
มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตราติ เอตฺถ ปิ-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ. ตสฺมา มโนธาตุยาปิ มโนวิฺาณธาตุยาปีติ อยเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตน ยา จ วิปากมโนธาตุยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ สนฺตีรณกิจฺจา วิปากมโนวิฺาณธาตุ, ยา จ ตสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ โวฏฺพฺพนกิจฺจา กิริยมโนวิฺาณธาตุ, ยา จ ตสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย ¶ สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ ชวนกิจฺจา มโนวิฺาณธาตุ – ตา สพฺพาปิ กถิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. มนฺจ ปฏิจฺจาติ ภวงฺคมนํ. ธมฺเม จาติ จตุภูมิกธมฺมารมฺมณํ. อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณนฺติ สหาวชฺชนกํ ชวนํ นิพฺพตฺตติ.
อิมสฺมึ ปน าเน หตฺเถ คหิตปฺหํ นาม คณฺหึสุ. มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร กิร นาม ทีฆภาณกาภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา อาห – ‘ปฏิจฺจาติ นาม อาคตฏฺาเน ¶ อาวชฺชนํ วิสุํ น กาตพฺพํ, ภวงฺคนิสฺสิตกเมว กาตพฺพ’นฺติ. ตสฺมา อิธ มโนติ สหาวชฺชนกํ ภวงฺคํ. มโนวิฺาณนฺติ ชวนมโนวิฺาณํ. อิมสฺมึ ปน อภิธมฺมภาชนีเย โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมิกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๘๕. ปฺหาปุจฺฉเก อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน ฉ ธาตุโย ปริตฺตารมฺมณาติ อิทํ ปน ปฺจนฺนํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ มโนธาตุยา จ เอกนฺเตน ปฺจสุ รูปารมฺมณาทีสุ ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว ธาตุโยติ วุตฺตานํ ปน ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ มนายตนธมฺมายตเนสุ วุตฺตนเยเนว ปริตฺตารมฺมณาทิตา ¶ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมิมฺปิ ปฺหาปุจฺฉเก โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมิกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. เอวมยํ ธาตุวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา เทสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ธาตุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สจฺจวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๘๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สจฺจวิภงฺเค จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อริยสจฺจานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทิมฺหิ ปน อุทฺเทสวาเร –
วิภาคโต นิพฺพจน-ลกฺขณาทิปฺปเภทโต;
อตฺถตฺถุทฺธารโต เจว, อนูนาธิกโต ตถา.
กมโต อริยสจฺเจสุ, ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต;
อนฺโตคธานํ ปเภโท, อุปมาโต จตุกฺกโต.
สฺุเตกวิธาทีหิ, สภาควิสภาคโต;
วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ, วิฺุนา สาสนกฺกเม.
ตตฺถ ‘วิภาคโต’ติ ทุกฺขาทีนฺหิ จตฺตาโร จตฺตาโร อตฺถา วิภตฺตา ตถา อวิตถา อนฺถา, เย ทุกฺขาทีนิ อภิสเมนฺเตหิ อภิสเมตพฺพา. ยถาห, ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปริณามฏฺโ – อิเม จตฺตาโร ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ, นิทานฏฺโ, สํโยคฏฺโ, ปลิโพธฏฺโ…เป… นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ, วิเวกฏฺโ, อสงฺขตฏฺโ, อมตฏฺโ…เป… มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ, เหตฺวฏฺโ, ทสฺสนฏฺโ, อาธิปเตยฺยฏฺโ – อิเม จตฺตาโร มคฺคสฺส มคฺคฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๘). ตถา ¶ ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปรินามฏฺโ, อภิสมยฏฺโ’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๑) เอวมาทิ. อิติ เอวํ วิภตฺตานํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ อตฺถานํ วเสน ทุกฺขาทีนิ เวทิตพฺพานีติ. อยํ ตาเวตฺถ วิภาคโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘นิพฺพจนลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ‘นิพฺพจนโต’ ตาว อิธ ‘ทุ’อิติ อยํ สทฺโท กุจฺฉิเต ทิสฺสติ; กุจฺฉิตฺหิ ปุตฺตํ ทุปุตฺโตติ วทนฺติ. ‘ขํ’สทฺโท ปน ตุจฺเฉ; ตุจฺฉฺหิ อากาสํ ขนฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ ปมสจฺจํ กุจฺฉิตํ อเนกอุปทฺทวาธิฏฺานโต, ตุจฺฉํ พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตโต. ตสฺมา กุจฺฉิตตฺตา ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ. ‘สํ’อิติ จ อยํ ¶ สทฺโท ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๙๙; ที. นิ. ๒.๓๙๖) สํโยคํ ทีเปติ; ‘อุ’อิติ อยํ สทฺโท ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑๗๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๑) อุปฺปตฺตึ. ‘อย’สทฺโท ปน การณํ ทีเปติ. อิทฺจาปิ ทุติยสจฺจํ อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติการณํ. อิติ ทุกฺขสฺส สํโยเค อุปฺปตฺติการณตฺตา ทุกฺขสมุทยนฺติ วุจฺจติ.
ตติยสจฺจํ ปน ยสฺมา ‘นิ’สทฺโท อภาวํ ‘โรธ’สทฺโท จ จารกํ ทีเปติ, ตสฺมา อภาโว เอตฺถ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส สพฺพคติสฺุตฺตา, สมธิคเต วา ตสฺมึ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส อภาโว โหติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตาติปิ ทุกฺขนิโรธนฺติ วุจฺจติ, ทุกฺขสฺส วา อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรธนฺติ. จตุตฺถสจฺจํ ปน ยสฺมา เอตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ อารมฺมณวเสน ตทภิมุขีภูตตฺตา, ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปเนตานิ พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘จตาริมานิ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๗). กตมานิ…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. อริยา อิมานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อปิจ อริยสฺส สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อริโย, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อถ วา เอเตสํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา อริยภาวสิทฺธิโตปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ¶ ยถาภูตํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘อริโย’ติ วุจฺจตี’’ติ. อปิจ โข ปน อริยานิ ¶ สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ; อริยานีติ ตถานิ อวิตถานิ อวิสํวาทกานีติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. เอวเมตฺถ นิพฺพจนโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’? เอตฺถ หิ พาธนลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ, สนฺตาปนรสํ, ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวลกฺขณํ สมุทยสจฺจํ, อนุปจฺเฉทกรณรสํ, ปลิโพธปจฺจุปฏฺานํ. สนฺติลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ, อจฺจุติรสํ, อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ ¶ . นิยฺยานลกฺขณํ มคฺคสจฺจํ, กิเลสปฺปหานกรณรสํ, วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ. อปิจ ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตกลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา. ตถา สงฺขตตณฺหาอสงฺขตทสฺสนลกฺขณานิ จาติ เอวเมตฺถ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อตฺถตฺถุทฺธารโต เจวา’ติ เอตฺถ ปน อตฺถโต ตาว โก สจฺจฏฺโติ เจ? โย ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขมานานํ มายาว วิปรีตโก, มรีจีว วิสํวาทโก, ติตฺถิยานํ อตฺตาว อนุปลพฺภสภาโว จ น โหติ; อถ โข พาธนปภวสนฺตินิยฺยานปฺปกาเรน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน อริยาณสฺส โคจโร โหติเยว; เอส อคฺคิลกฺขณํ วิย, โลกปกติ วิย จ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว สจฺจฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. อปิจ –
นาพาธกํ ยโต ทุกฺขํ, ทุกฺขา อฺํ น พาธกํ;
พาธกตฺตนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
ตํ วินา นาฺโต ทุกฺขํ, น โหติ น จ ตํ ตโต;
ทุกฺขเหตุนิยาเมน, อิติ สจฺจํ วิสตฺติกา.
นาฺา นิพฺพานโต สนฺติ, สนฺตํ น จ น ตํ ยโต;
สนฺตภาวนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
มคฺคา ¶ อฺํ น นิยฺยานํ, อนิยฺยาโน น จาปิ โส;
ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา, อิติ โส สจฺจสมฺมโต.
อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาส-ภูตภาวํ จตูสุปิ;
ทุกฺขาทีสฺววิเสเสน, สจฺจฏฺํ อาหุ ปณฺฑิตาติ.
เอวํ ¶ ‘อตฺถโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘อตฺถุทฺธารโต’? อิธายํ ‘สจฺจ’สทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘สจฺจํ ภเณ, น กุชฺเฌยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๒๔) วาจาสจฺเจ. ‘‘สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๔๓๓) วิรติสจฺเจ. ‘‘กสฺมา นุ สจฺจานิ ¶ วทนฺติ นานา, ปวาทิยาเส กุสลาวทานา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๑) ทิฏฺิสจฺเจ. ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๐) ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน เจว มคฺเค จ. ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๑๖) อริยสจฺเจ. สฺวายมิธาปิ อริยสจฺเจ วตฺตตีติ เอวเมตฺถ ‘อตฺถุทฺธารโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน จตฺตาเรว อริยสจฺจานิ วุตฺตานิ, อนูนานิ อนธิกานีติ เจ? อฺสฺสาสมฺภวโต, อฺตรสฺส จ อนปเนยฺยภาวโต; น หิ เอเตหิ อฺํ อธิกํ วา เอเตสํ วา เอกมฺปิ อปเนตพฺพํ สมฺโภติ. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เปตฺวา อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ. ยถา จาห – ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย ‘เนตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ, ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปจฺจกฺขาย อฺํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๖).
อปิจ ปวตฺติมาจิกฺขนฺโต ภควา สเหตุกํ อาจิกฺขิ, นิวตฺติฺจ สอุปายํ. อิติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตูนํ ¶ เอตปฺปรมโต จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตถา ปริฺเยฺย ปหาตพฺพ สจฺฉิกาตพฺพ ภาเวตพฺพานํ, ตณฺหาวตฺถุตณฺหาตณฺหานิโรธตณฺหานิโรธุปายานํ, อาลยาลยรามตาอาลยสมุคฺฆาตอาลยสมุคฺฆาตูปายานฺจ วเสนาปิ จตฺตาเรว วุตฺตานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘กมโต’ติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. เอตฺถ จ โอฬาริกตฺตา สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ ¶ วุตฺตํ, ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, เหตุนิโรธา ผลนิโรโธติ าปนตฺถํ ตโต นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมุปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ วา สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ ปมํ ทุกฺขมาห. ตํ เนว อกตํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต โหติ, อิโต ปน โหตีติ ¶ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยํ. ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ทุกฺขนิสฺสรณคเวสีนํ นิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ. ตโต นิโรธาธิคมตฺถํ นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ เอวเมตฺถ ‘กมโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อริยสจฺเจสุ ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต’ติ สจฺจาณกิจฺจโตปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. ทุวิธฺหิ สจฺจาณํ – อนุโพธาณฺจ ปฏิเวธาณฺจ. ตตฺถ อนุโพธาณํ โลกิยํ อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ มคฺเค จ ปวตฺตติ. ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ นิโรธารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. ยถาห – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ยํ ปเนตํ โลกิยํ, ตตฺถ ทุกฺขาณํ ปริยุฏฺานาภิภวนวเสน ปวตฺตมานํ สกฺกายทิฏฺึ นิวตฺเตติ, สมุทยาณํ อุจฺเฉททิฏฺึ, นิโรธาณํ สสฺสตทิฏฺึ, มคฺคาณํ อกิริยทิฏฺึ; ทุกฺขาณํ วา ธุวสุภสุขตฺตภาวรหิเตสุ ขนฺเธสุ ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺาสงฺขาตํ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ, สมุทยาณํ อิสฺสรปฺปธานกาลสภาวาทีหิ โลโก ปวตฺตตีติ อการเณ การณาภิมานปฺปวตฺตํ เหตุมฺหิ วิปฺปฏิปตฺตึ, นิโรธาณํ อรูปโลกโลกถูปิกาทีสุ อปวคฺคคฺคาหภูตํ นิโรเธ วิปฺปฏิปตฺตึ, มคฺคาณํ กามสุขลฺลิกอตฺตกิลมถานุโยคปฺปเภเท ¶ อวิสุทฺธิมคฺเค วิสุทฺธิมคฺคคฺคาหวเสน ปวตฺตํ อุปาเย วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
โลเก ¶ โลกปฺปภเว, โลกตฺถคเม สิเว จ ตทุปาเย;
สมฺมุยฺหติ ตาว นโร, น วิชานาติ ยาว สจฺจานีติ.
เอวเมตฺถ ‘าณกิจฺจโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ติ ทุกฺขสจฺจสฺมิฺหิ, เปตฺวา ตณฺหฺเจว อนาสวธมฺเม จ, เสสา สพฺพธมฺมา อนฺโตคธา; สมุทยสจฺเจ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ; นิโรธสจฺจํ อสมฺมิสฺสํ; มคฺคสจฺเจ สมฺมาทิฏฺิมุเขน วีมํสิทฺธิปาทปฺินฺทฺริยปฺาพลธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคานิ. สมฺมาสงฺกปฺปาปเทเสน ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย, สมฺมาวาจาปเทเสน จตฺตาริ วจีสุจริตานิ, สมฺมากมฺมนฺตาปเทเสน ตีณิ กายสุจริตานิ, สมฺมาอาชีวมุเขน อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา ¶ จ, สพฺเพสํเยว วา เอเตสํ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานํ อริยกนฺตสีลตฺตา สีลสฺส จ สทฺธาหตฺเถน ปฏิคฺคเหตพฺพตฺตา เตสํ อตฺถิตาย จ อตฺถิภาวโต สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทา, สมฺมาวายามาปเทเสน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยินฺทฺริยวีริยพลวีริยสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสติอปเทเสน จตุพฺพิธสติปฏฺานสตินฺทฺริยสติพลสติสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสมาธิอปเทเสน สวิตกฺกสวิจาราทโย ตโย ตโย สมาธี, จิตฺตสมาธิสมาธินฺทฺริยสมาธิพลปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานิ อนฺโตคธานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อุปมาโต’ติ ภาโร วิย หิ ทุกฺขสจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ภาราทานมิว สมุทยสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนมิว นิโรธสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนูปาโย วิย มคฺคสจฺจํ; โรโค วิย จ ทุกฺขสจฺจํ, โรคนิทานมิว สมุทยสจฺจํ, โรควูปสโม วิย นิโรธสจฺจํ, เภสชฺชมิว มคฺคสจฺจํ; ทุพฺภิกฺขมิว วา ทุกฺขสจฺจํ, ทุพฺพุฏฺิ วิย สมุทยสจฺจํ, สุภิกฺขมิว นิโรธสจฺจํ ¶ , สุวุฏฺิ วิย มคฺคสจฺจํ. อปิจ เวรีเวรมูลเวรสมุคฺฆาตเวรสมุคฺฆาตุปาเยหิ, วิสรุกฺขรุกฺขมูลมูลุปจฺเฉทตทุปจฺเฉทุปาเยหิ, ภยภยมูลนิพฺภยตทธิคมุปาเยหิ, โอริมตีรมโหฆปาริมตีรตํสมฺปาปกวายาเมหิ จ โยเชตฺวาเปตานิ อุปมาโต เวทิตพฺพานีติ. เอวเมตฺถ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘จตุกฺกโต’ติ อตฺถิ เจตฺถ ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ, อตฺถิ ทุกฺขฺเจว ¶ อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอส นโย สมุทยาทีสุ. ตตฺถ มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา ทุกฺขํ อนิจฺจโต, น ปน ยสฺส ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. สพฺพากาเรน ปน อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขฺเจว อริยสจฺจฺจ อฺตฺร ตณฺหาย. มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ยสฺส ปริฺตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอวํ สมุทยาทีสุปิ ยถาโยคํ โยเชตฺวา ‘จตุกฺกโต’เปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สฺุเตกวิธาทีหี’ติ ¶ เอตฺถ สฺุโต ตาว ปรมตฺเถน หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สฺุานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทุกฺขเมว หิ น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น กิริยาว วิชฺชติ;
อตฺถิ นิพฺพุติ น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชตีติ.
อถ วา –
ธุวสุภสุขตฺตสฺุํ, ปุริมทฺวยมตฺตสฺุมมตปทํ;
ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สฺุโต เตสุ.
นิโรธสฺุานิ ¶ วา ตีณิ, นิโรโธ จ เสสตฺตยสฺุโ. ผลสฺุโ วา เอตฺถ เหตุ สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต มคฺเค จ นิโรธสฺส, น ผเลน สคพฺโภ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย. เหตุสฺฺุจ ผลํ ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา, น เหตุสมเวตํ เหตุผลํ เหตุผลสมวายวาทีนํ ทฺวิอณุกาทีนิ วิย. เตเนตํ วุจฺจติ –
ตยมิธ นิโรธสฺุํ, ตเยน เตนาปิ นิพฺพุติ สฺุา;
สฺุโ ผเลน เหตุ, ผลมฺปิ ตํ เหตุนา สฺุนฺติ.
เอวํ ¶ ตาว ‘สฺุโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘เอกวิธาทีหี’ติ สพฺพเมว เจตฺถ ทุกฺขํ เอกวิธํ ปวตฺติภาวโต, ทุวิธํ นามรูปโต, ติวิธํ กามรูปารูปูปปติภวเภทโต, จตุพฺพิธํ จตุอาหารเภทโต, ปฺจวิธํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธเภทโต. สมุทโยปิ เอกวิโธ ปวตฺตกภาวโต, ทุวิโธ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาสมฺปยุตฺตโต, ติวิโธ กามภววิภวตณฺหาเภทโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคปฺปเหยฺยโต, ปฺจวิโธ รูปาภินนฺทนาทิเภทโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายเภทโต. นิโรโธปิ เอกวิโธ อสงฺขตธาตุภาวโต, ปริยาเยน ปน ทุวิโธ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสโต, ติวิโธ ภวตฺตยวูปสมโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคาธิคมนียโต, ปฺจวิโธ ปฺจาภินนฺทนวูปสมโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายกฺขยเภทโต. มคฺโคปิ เอกวิโธ ภาเวตพฺพโต, ทุวิโธ สมถวิปสฺสนาเภทโต ทสฺสนภาวนาเภทโต วา ¶ , ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต. อยฺหิ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ยถาห –
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา. ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต. ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว – อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; โย จ สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ – อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; ยา จ สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป – อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ ¶ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒).
เอตฺถ หิ สมฺมาวาจาทโย ตโย สีลเมว. ตสฺมา เต สชาติโต สีลกฺขนฺเธน สงฺคหิตา. กิฺจาปิ หิ ปาฬิยํ สีลกฺขนฺเธติ ภุมฺเมน นิทฺเทโส กโต, อตฺโถ ปน กรณวเสเนว เวทิตพฺโพ. สมฺมาวายามาทีสุ ปน ตีสุ สมาธิ อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, วีริเย ปน ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร หุตฺวา สกฺโกติ.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามาติ อุยฺยานํ ปวิฏฺเสุ ตีสุ สหาเยสุ เอโก สุปุปฺผิตํ จมฺปกรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส ทุติโย ¶ โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทเทยฺย. โส ตสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวาปิ กมฺปมาโน คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส อิตโร อํสกูฏํ อุปนาเมยฺย. โส เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ ยถารุจิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
เอกโต อุยฺยานํ ปวิฏฺา ตโย สหายา วิย หิ เอกโต ชาตา สมฺมาวายามาทโย ตโย ธมฺมา, สุปุปฺผิตจมฺปกรุกฺโข วิย อารมฺมณํ, หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ, ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม, อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย ¶ วิย สติ. ยถา เตสุ เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ อิตโร ยถารุจิ ปุปฺผํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวเมว วีริเย ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร สมาธิ สกฺโกติ อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ. ตสฺมา สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต. วายามสติโย ปน กิริยโต สงฺคหิตา โหนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺเปสุปิ ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ ¶ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุตเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ; เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทาย อาทาย ทินฺนเมว นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา อิธาปิ สมฺมาทิฏฺิเยว สชาติโต ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, สมฺมาสงฺกปฺโป ปน กิริยโต สงฺคหิโต โหติ. อิติ อิเมหิ ตีหิ ขนฺเธหิ มคฺโค สงฺคหํ คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต’’ติ. จตุพฺพิโธ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน.
อปิจ สพฺพาเนว สจฺจานิ เอกวิธานิ อวิตถตฺตา อภิฺเยฺยตฺตา วา, ทุวิธานิ โลกิยโลกุตฺตรโต สงฺขตาสงฺขตโต จ, ติวิธานิ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพโต อปฺปหาตพฺพโต เนวปหาตพฺพนาปหาตพฺพโต ¶ จ, จตุพฺพิธานิ ปริฺเยฺยาทิเภทโตติ. เอวเมตฺถ ‘เอกวิธาทีหิ’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สภาควิสภาคโต’ติ สพฺพาเนว จ สจฺจานิ อฺมฺํ สภาคานิ อวิตถโต อตฺตสฺุโต ทุกฺกรปฏิเวธโต จ. ยถาห –
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา – โย ทูรโตว สุขุเมน ตาลจฺฉิคฺคเฬน อสนํ อติปาเตยฺย โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ, โย วา สตฺตธา ¶ ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, ทุกฺกรตรฺเจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ – โย สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ. ‘‘ตโต โข เต, อานนฺท, ทุปฺปฏิวิชฺฌตรํ ปฏิวิชฺฌนฺติ เย อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕).
วิสภาคานิ สลกฺขณววตฺถานโต. ปุริมานิ จ ทฺเว สภาคานิ ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตา โลกิยตฺตา สาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ ผลเหตุเภทโต ¶ ปริฺเยฺยปฺปหาตพฺพโต จ. ปจฺฉิมานิปิ ทฺเว สภาคานิ คมฺภีรตฺเถน ทุรวคาหตฺตา โลกุตฺตรตฺตา อนาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ วิสยวิสยีเภทโต สจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพโต จ. ปมตติยานิ จาปิ สภาคานิ ผลาปเทสโต, วิสภาคานิ สงฺขตาสงฺขตโต. ทุติยจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ เหตุอปเทสโต, วิสภาคานิ เอกนฺตกุสลากุสลโต. ปมจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ สงฺขตโต, วิสภาคานิ โลกิยโลกุตฺตรโต. ทุติยตติยานิ จาปิ สภาคานิ เนวเสกฺขานาเสกฺขภาวโต, วิสภาคานิ สารมฺมณานารมฺมณโต.
อิติ เอวํ ปกาเรหิ, นเยหิ จ วิจกฺขโณ;
วิชฺา อริยสจฺจานํ, สภาควิสภาคตนฺติ.
สุตฺตนฺตภาชนียอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
ชาตินิทฺเทโส
๑๙๐. อิทานิ ¶ สงฺเขปโต อุทฺทิฏฺานิ ทุกฺขาทีนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อยํ ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ชาติปิ ทุกฺขาติ นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ชรา, มรณํ, โสโก ¶ , ปริเทโว, ทุกฺขํ, โทมนสฺสํ, อุปายาโส, อปฺปิยสมฺปโยโค, ปิยวิปฺปโยโค เวทิตพฺโพ; อปฺปิยสมฺปโยคสฺส ปิยวิปฺปโยคสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; อิจฺฉา เวทิตพฺพา, อิจฺฉาย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ขนฺธา เวทิตพฺพา, ขนฺธานํ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย อยํ มาติกา – อิทฺหิ ทุกฺขํ นาม อเนกํ นานปฺปการํ, เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ, วิปริณามทุกฺขํ, สงฺขารทุกฺขํ, ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.
ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘ทุกฺขทุกฺขํ’ นาม. สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต ‘วิปริณามทุกฺขํ’ นาม. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา ‘สงฺขารทุกฺขํ’ นาม. ตถา ปีฬนํ ปน มคฺคผลานมฺปิ อตฺถิ. ตสฺมา เอเต ธมฺมา ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺเตน สงฺขารทุกฺขํ นามาติ เวทิตพฺพา. กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสชปริฬาหาทิ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต ¶ อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ‘ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ‘ปริยายทุกฺขํ’ นาม. ทุกฺขทุกฺขํ ‘นิปฺปริยายทุกฺขํ’ นาม.
ตตฺถ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ อิมสฺมึ ปททฺวเย ตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ กเถตพฺพํ. อริยสจฺจฺจ นาเมตํ ปาฬิยํ สงฺเขปโตปิ อาคจฺฉติ วิตฺถารโตปิ. สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขเปนปิ วิตฺถาเรนปิ กเถตุํ วฏฺฏติ ¶ . วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน ปน วิตฺถาเรเนว กเถตุํ วฏฺฏติ, น สงฺเขเปน. ตํ อิทํ อิมสฺมึ าเน วิตฺถาเรน อาคตนฺติ วิตฺถาเรเนว กเถตพฺพํ. ตสฺมา ยํ ตํ นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทีนิ ปทานิ คเหตฺวา ‘‘ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชาติอาทีนิ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมา ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาตี’’ติ อิมสฺส ปน ปทภาชนียสฺส วเสน เวทิตพฺพานิ.
๑๙๑. ตตฺรายํ ¶ อตฺถวณฺณนา – เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ อยํ สงฺเขปโต อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ยา เทวทตฺตสฺส ชาติ, ยา โสมทตฺตสฺส ชาตีติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺถทีปนํ สิชฺฌติ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺถทีปนํ น สิชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยา เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ. ตมฺหิ ตมฺหีติ อยํ ชาติคติวเสน อเนเกสํ สตฺตนิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกาเยติ สตฺตานํ นิกาเย, สตฺตฆฏายํ สตฺตสมูเหติ อตฺโถ.
ชาตีติ อยํ ชาติสทฺโท อเนกตฺโถ. ตถา เหส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ (ปารา. ๑๒; ม. นิ. ๒.๒๕๗) เอตฺถ ภเว อาคโต. ‘‘อตฺถิ วิสาเข ¶ , นิคณฺา นาม สมณชาติกา’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาเย. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติยํ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขเณ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาตี’’ติ (มหาว. ๑๒๔) เอตฺถ ปฏิสนฺธิยํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติยํ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๓๑) เอตฺถ กุเล. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีเล. อิธ ปนายํ สวิกาเรสุ ปมาภินิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ วตฺตติ. ตสฺมา ชายมานกวเสน ชาตีติ อิทเมตฺถ สภาวปจฺจตฺตํ. สฺชายนวเสน สฺชาตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. โอกฺกมนวเสน โอกฺกนฺติ. ชายนฏฺเน วา ชาติ, สา อปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. สฺชายนฏฺเน สฺชาติ, สา ปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺติ, สา อณฺฑชชลาพุชวเสน ยุตฺตา. เต หิ อณฺฑโกสฺจ วตฺถิโกสฺจ ¶ โอกฺกมนฺติ, โอกฺกมนฺตาปิ ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺติ. สา สํเสทชโอปปาติกวเสน ยุตฺตา. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อยํ ตาว สมฺมุติกถา.
อิทานิ ¶ ปรมตฺถกถา โหติ. ขนฺธา เอว หิ ปรมตฺถโต ปาตุภวนฺติ, น สตฺตา. ตตฺถ จ ขนฺธานนฺติ เอกโวการภเว เอกสฺส, จตุโวการภเว จตุนฺนํ, ปฺจโวการภเว ปฺจนฺนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปาตุภาโวติ อุปฺปตฺติ. อายตนานนฺติ เอตฺถ ตตฺร ตตฺร อุปฺปชฺชมานายตนวเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฏิลาโภติ สนฺตติยํ ปาตุภาโวเยว; ปาตุภวนฺตาเนว หิ ตานิ ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ชาตีติ อยํ ชาติ นาม กถิยติ. สา ปเนสา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา, นียฺยาตนรสา, อตีตภวโต อิธ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา, ผลวเสน ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา วา.
อิทานิ ‘ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ อยฺหิ ชาติ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ ¶ วุตฺตา. กตรทุกฺขสฺส ปนายํ วตฺถูติ? ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยํ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สพฺพสฺสาปิ เอสา วตฺถุ. ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกาทีสุ นิพฺพตฺตติ. อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฑกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิรหิโต อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ. อิทํ ตาว ‘คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนอุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิคุณฺิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนนิทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขมนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกูปปนฺโน ¶ วิย, อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย, โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปฺปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขมนุโภติ – อิทํ ‘คพฺภปริหรณมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘คพฺภวิปตฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ¶ ปรมสมฺพาเธน โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย นิกฺกฑฺฒิยมานสฺส มหานาคสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาฏปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘วิชายนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสฺส สุกุมารสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธารวิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ มาตุกุจฺฉิโต ‘พหิ นิกฺขมนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วธนฺตสฺส, อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส, โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส, อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ – อิทํ ‘อตฺตูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘ปรูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขนฺติ. อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต,
ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ,
อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ.
ทุกฺขํ ติรจฺเฉสุ กสาปโตท-
ทณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ¶ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ,
วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสา-
วาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ,
ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต,
โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ,
ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
ยฺจาปิ ¶ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติรยฺหิ ทุกฺขา.
กึ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิทปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสี,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาตินฺติ.
ชรานิทฺเทโส
๑๙๒. ชรานิทฺเทเส ชราติ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ชราติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา, เตนสฺสา อิทํ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อิมินา อาการโต ¶ , เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิตฺตภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ขณฺฑิจฺจนฺติ อาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตาติ ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา วาตสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํสคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา; น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.
อายุโน ¶ สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสงฺขาตาย ปกติยา ทีปิตา. เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ ตสฺมา ชรา ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ สุขุมมฺปิ ¶ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’’ติ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.
สา ปเนสา เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑาทิภาวทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ‘ปากฏชรา’ นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ‘ปฏิจฺฉนฺนชรา’ นาม. ตตฺถ ยฺวายํ ขณฺฑาทิภาโว ทิสฺสติ, โส ตาทิสานํ ทนฺตาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา วณฺโณเยว. ตํ จกฺขุนา ทิสฺวา มโนทฺวาเรน จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ทนฺตา ชราย ปหฏา’’ติ ชรํ ชานาติ, อุทกฏฺาเน พทฺธานิ โคสิงฺคาทีนิ โอโลเกตฺวา เหฏฺา อุทกสฺส อตฺถิภาวํ ชานนํ วิย. ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ อยํ ชรา ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทสูริยาทีนํ มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ อปาณีนํ วิย จ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘อวีจิชรา’ นาม, นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘สวีจิชรา’ นาม.
ตตฺถ ¶ สวีจิชรา อุปาทินฺนานุปาทินฺนกวเสน เอวํ ทีเปตพฺพา – ทหรกุมารกานฺหิ ปมเมว ขีรทนฺตา นาม อุฏฺหนฺติ, น เต ถิรา. เตสุ ปน ปติเตสุ ปุน ทนฺตา อุฏฺหนฺติ. เต ปมเมว เสตา โหนฺติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล กาฬกา โหนฺติ. เกสา ปน ปมเมว ตมฺพาปิ โหนฺติ กาฬกาปิ เสตาปิ. ฉวิ ปน สโลหิติกา โหติ. วฑฺฒนฺตานํ วฑฺฒนฺตานํ โอทาตานํ โอทาตภาโว, กาฬกานํ กาฬกภาโว ปฺายติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล วฬึ คณฺหาติ. สพฺพมฺปิ สสฺสํ วปิตกาเล เสตํ โหติ, ปจฺฉา นีลํ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล ปณฺฑุกํ โหติ. อมฺพงฺกุเรนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ เอว. อยํ วุจฺจติ ชราติ อยํ ¶ ชรา นาม กถิยติ. สา ปเนสา ¶ ขนฺธปริปากลกฺขณา, มรณูปนยนรสา, โยพฺพนวินาสปจฺจุปฏฺานา.
‘ชราย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ วุตฺตา. กตรสฺส ทุกฺขสฺส? กายทุกฺขสฺส เจว โทมนสฺสทุกฺขสฺส จ. ชิณฺณสฺส หิ อตฺตภาโว ชรสกฏํ วิย ทุพฺพโล โหติ, าตุํ วา คนฺตุํ วา นิสีทิตุํ วา วายมนฺตสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; ปุตฺตทาเร ยถาปุเร อสลฺลกฺเขนฺเต โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
องฺคานํ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปสาทนียโต เจว, ภียฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขาติ.
มรณนิทฺเทโส
๑๙๓. มรณนิทฺเทเส จวนกวเสน จุติ; เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ ¶ . อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ จุติขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุ มรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยา กาลกิริยา. เอตฺตาวตา สมฺมุติยา มรณํ ทีปิตํ โหติ.
อิทานิ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ขนฺธานํ เภโทติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ ภินฺเนสุ มโตติ โวหาโร โหติ. เอตฺถ จ จตุปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป; จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน ¶ กเฬวรสฺส ¶ นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส กเฬวรสฺส สมฺภวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท. มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ.
ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว. อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ. อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ อิทํ สพฺพมฺปิ มรณํ นาม กถิยติ.
อปิเจตฺถ ขณิกมรณํ, สมฺมุติมรณํ, สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘ขณิกมรณํ’ นาม ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท. ‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’ติ อิทํ ‘สมฺมุติมรณํ’ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา ‘สมุจฺเฉทมรณํ’ นาม. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สมฺมุติมรณํ อธิปฺเปตํ. ชาติกฺขยมรณํ, อุปกฺกมมรณํ, สรสมรณํ, อายุกฺขยมรณํ, ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตยิทํ จุติลกฺขณํ, วิโยครสํ, วิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.
‘มรณสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อิทมฺปิ สยํ น ทุกฺขํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. มรณนฺติกาปิ หิ สารีริกา เวทนา, ปฏิวาเต คหิตา อาทิตฺตติณุกฺกา ¶ วิย, สรีรํ นิทหนฺติ. นรกนิมิตฺตาทีนํ อุปฏฺานกาเล พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. อปิ จ –
ปาปสฺส ปาปกมฺมาทิ, นิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ.
มียมานสฺส ¶ ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต;
สพฺเพสฺจาปิ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ.
วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ;
อสยฺหมปฺปฏิการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิตนฺติ.
อปิจ ¶ อิมานิ ชาติชรามรณานิ นาม อิเมสํ สตฺตานํ วธกปจฺจามิตฺตา วิย โอตารํ คเวสนฺตานิ วิจรนฺติ. ยถา หิ ปุริสสฺส ตีสุ ปจฺจามิตฺเตสุ โอตาราเปกฺเขสุ วิจรนฺเตสุ เอโก วเทยฺย – ‘‘อหํ อสุกอรฺสฺส นาม วณฺณํ กเถตฺวา เอตํ อาทาย ตตฺถ คมิสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ทุติโย วเทยฺย ‘‘อหํ ตว เอตํ คเหตฺวา คตกาเล โปเถตฺวา ทุพฺพลํ กริสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ตติโย วเทยฺย – ‘‘ตยา เอตสฺมึ โปเถตฺวา ทุพฺพเล กเต ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ นาม มยฺหํ ภาโร โหตู’’ติ. เต เอวํ วตฺวา ตถา กเรยฺยุํ.
ตตฺถ ปมปจฺจามิตฺตสฺส อรฺสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย ตตฺถ คตกาโล วิย สุหชฺชาติมณฺฑลโต นิกฺกฑฺฒิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตาปนํ นาม ชาติยา กิจฺจํ. ทุติยสฺส โปเถตฺวา ทุพฺพลกรณํ วิย นิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ นิปติตฺวา ปราธีนมฺจปรายณภาวกรณํ ชราย กิจฺจํ. ตติยสฺส ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ วิย ชีวิตกฺขยปาปนํ มรณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.
อปิเจตฺถ ชาติทุกฺขํ สาทีนวมหากนฺตารปฺปเวโส วิย ทฏฺพฺพํ. ชราทุกฺขํ ตตฺถ อนฺนปานรหิตสฺส ¶ ทุพฺพลฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. มรณทุกฺขํ ทุพฺพลสฺส อิริยาปถปวตฺตเน วิหตปรกฺกมสฺส วาฬาทีหิ อนยพฺยสนาปาทนํ วิย ทฏฺพฺพนฺติ.
โสกนิทฺเทโส
๑๙๔. โสกนิทฺเทเส พฺยสตีติ พฺยสนํ; หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ; โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺสาติ ¶ อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ; ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ; โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ; ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ น อกุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
อฺตรฺตเรนาติ ¶ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก; อิทํ เตหิ การเณหิ อุปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตเร โสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตเร สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ.
เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ฌายนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ปริทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ. อยํ วุจฺจติ โสโกติ อยํ โสโก นาม กถิยติ. โส ปนายํ กิฺจาปิ อตฺถโต โทมนสฺสเวทนาว ¶ โหติ, เอวํ ¶ สนฺเตปิ อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ, เจตโส ปรินิชฺฌายนรโส, อนุโสจนปจฺจุปฏฺาโน.
‘โสกสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยํ สภาวทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กตรทุกฺขสฺสาติ? กายิกทุกฺขสฺส เจว ชวนกฺขเณ จ โทมนสฺสทุกฺขสฺส. โสกเวเคน หิ หทเย มหาคณฺโฑ อุฏฺหิตฺวา ปริปจฺจิตฺวา ภิชฺชติ, มุขโต วา กาฬโลหิตํ นิกฺขมติ, พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ คตา, เอตฺตกา เม โภคา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส จ พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวนเปส ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.
สมาวหติ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตีติ.
ปริเทวนิทฺเทโส
๑๙๕. ปริเทวนิทฺเทเส ¶ ‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ. อุปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโป วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ ปริเทโวติ อยํ ปริเทโว นาม กถิยติ. โส ลาลปฺปนลกฺขโณ, คุณโทสปริกิตฺตนรโส, สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน.
‘ปริเทวสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, กายทุกฺขโทมนสฺสทุกฺขานํ ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. ปริเทวนฺโต หิ อตฺตโน ขนฺธํ มุฏฺีหิ ¶ โปเถติ, อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหรติ ¶ ปึสติ, สีเสน ภิตฺติยา สทฺธึ ยุชฺฌติ. เตนสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ วยํ อพฺภตฺถํ คตา’ติอาทีนิ จินฺเตติ. เตนสฺส พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน,
กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ,
ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหาติ.
ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทโส
๑๙๖-๗. ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสา เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วณฺณิตตฺตา ปากฏา เอว. ลกฺขณาทีนิ ปน เตสํ ตตฺถ วุตฺตาเนว.
‘ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ, โทมนสฺสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อุภยมฺเปตํ สยฺจ ทุกฺขตฺตา กายิกเจตสิกทุกฺขานฺจ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. หตฺถปาทานฺหิ กณฺณนาสิกานฺจ เฉทนทุกฺเขน ทุกฺขิตสฺส ¶ , อนาถสาลายํ อุจฺฉิฏฺกปาลํ ปุรโต กตฺวา นิปนฺนสฺส, วณมุเขหิ ปุฬุวเกสุ นิกฺขมนฺเตสุ พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; นานารงฺครตฺตวตฺถมนฺุาลงฺการํ นกฺขตฺตํ กีฬนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ตาว ทุกฺขสฺส ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺตนฺติ.
เจโตทุกฺขสมปฺปิตา ปน เกเส ปกิริย อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ ¶ . ตํ ตํ วิปรีตํ วตฺถุํ ตถา ตถา วิปฺปฏิสาริโน ปริฑยฺหมานจิตฺตา จินฺเตนฺติ. เอวํ โทมนสฺสสฺส อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหูติ.
อุปายาสนิทฺเทโส
๑๙๘. อุปายาสนิทฺเทเส ¶ อายาสนฏฺเน อายาโส; สํสีทนวิสีทนาการปฺปวตฺตสฺส จิตฺตกิลมถสฺเสตํ นามํ. พลวํ อายาโส อุปายาโส. อายาสิตภาโว อายาสิตตฺตํ. อุปายาสิตภาโว อุปายาสิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ อุปายาโสติ อยํ อุปายาโส นาม กถิยติ. โส ปเนส พฺยาสตฺติลกฺขโณ, นิตฺถุนนรโส, วิสาทปจฺจุปฏฺาโน.
‘อุปายาสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กุปิเตน หิ รฺา อิสฺสริยํ อจฺฉินฺทิตฺวา หตปุตฺตภาติกานํ อาณตฺตวธานํ ภเยน อฏวึ ปวิสิตฺวา นิลีนานํ มหาวิสาทปฺปตฺตานํ ทุกฺขฏฺาเนน ทุกฺขเสยฺยาย ทุกฺขนิสชฺชาย พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา โน าตกา, เอตฺตกา โภคา นฏฺา’ติ จินฺเตนฺตานํ พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพติ. อปิจ –
จิตฺตสฺส ¶ ปริทหนา, กายสฺส วิสาทนา จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต.
เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเนเยว เตลาทีนํ ปาโก วิย โสโก. ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหินิกฺขมนํ วิย ปริเทโว. พหินิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทโส
๑๙๙. อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทเส ¶ ยสฺสาติ เย อสฺส. อนิฏฺาติ อปริเยสิตา. ปริเยสิตา วา โหนฺตุ อปริเยสิตา วา, นามเมเวตํ อมนาปารมฺมณานํ. มนสฺมึ น กมนฺติ, น ปวิสนฺตีติ อกนฺตา. มนสฺมึ น อปฺปิยนฺติ, น วา มนํ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา. รูปาติอาทิ เตสํ สภาวนิทสฺสนํ. อนตฺถํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามา. อหิตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามา. อผาสุกํ ทุกฺขวิหารํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกกามา. จตูหิ ¶ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ วิวฏฺฏํ น อิจฺฉนฺติ, สภยํ วฏฺฏเมว เนสํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อาโยคกฺเขมกามา.
อปิจ สทฺธาทีนํ วุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส อกามนโต เตสํเยว หานิสงฺขาตสฺส อนตฺถสฺส จ กามนโต อนตฺถกามา. สทฺธาทีนํเยว อุปายภูตสฺส หิตสฺส อกามนโต สทฺธาหานิอาทีนํ อุปายภูตสฺส อหิตสฺส จ กามนโต อหิตกามา. ผาสุกวิหารสฺส อกามนโต อผาสุกวิหารสฺส จ กามนโต อผาสุกกามา. ยสฺส กสฺสจิ นิพฺภยสฺส อกามนโต ภยสฺส จ กามนโต อโยคกฺเขมกามาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สงฺคตีติ คนฺตฺวา สํโยโค. สมาคโมติ อาคเตหิ สํโยโค. สโมธานนฺติ านนิสชฺชาทีสุ สหภาโว. มิสฺสีภาโวติ สพฺพกิจฺจานํ สหกรณํ. อยํ สตฺตวเสน โยชนา. สงฺขารวเสน ปน ยํ ลพฺภติ ตํ คเหตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อปฺปิยสมฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อนิฏฺสโมธานลกฺขโณ, จิตฺตวิฆาตกรณรโส, อนตฺถภาวปจฺจุปฏฺาโน.
โส ¶ อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ อปฺปิยสมฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อนิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ สโมธานคตานิ วิชฺฌนเฉทนผาลนาทีหิ กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, อุพฺเพคชนนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทิสฺวาว อปฺปิเย ทุกฺขํ, ปมํ โหติ เจตสิ;
ตทุปกฺกมสมฺภูต-มถ กาเย ยโต อิธ.
ตโต ¶ ทุกฺขทฺวยสฺสาปิ, วตฺถุโต โส มเหสินา;
ทุกฺโข วุตฺโตติ วิฺเยฺโย, อปฺปิเยหิ สมาคโมติ.
ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส
๒๐๐. ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. มาตา วาติอาทิ ปเนตฺถ อตฺถกาเม สรูเปน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ มมายตีติ มาตา. ปิยายตีติ ¶ ปิตา. ภชตีติ ภาตา. ตถา ภคินี. เมตฺตายนฺตีติ มิตฺตา, มินนฺตีติ วา มิตฺตา; สพฺพคุยฺเหสุ อนฺโต ปกฺขิปนฺตีติ อตฺโถ. กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. อยํ อมฺหากํ อชฺฌตฺติโกติ เอวํ ชานนฺติ ายนฺตีติ วา าตี. โลหิเตน สมฺพนฺธาติ สาโลหิตา. เอวเมตานิ ปทานิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปิเยหิ วิปฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อิฏฺวตฺถุวิโยคลกฺขโณ, โสกุปฺปาทนรโส, พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน.
โส อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ ปิยวิปฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ วิยุชฺชมานานิ สรีรสฺส โสสนมิลาปนาทิภาเวน กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, ‘ยมฺปิ โน อโหสิ, ตมฺปิ โน นตฺถี’ติ อนุโสจาปนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
าติธนาทิวิโยคา, โสกสรสมปฺปิตา วิตุชฺชนฺติ;
พาลา ยโต ตโต ยํ, ทุกฺโขติ มโต ปิยวิโยโคติ.
อิจฺฉานิทฺเทโส
๒๐๑. อิจฺฉานิทฺเทเส ชาติธมฺมานนฺติ ชาติสภาวานํ ชาติปกติกานํ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชตีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. อโห วตาติ ปตฺถนา. น ¶ โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพนฺติ ยํ เอตํ ‘‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เอวํ ปหีนสมุทเยสุ สาธูสุ วิชฺชมานํ อชาติธมฺมตฺตํ, ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมนํ อิจฺฉิตํ, ตํ อิจฺฉนฺตสฺสาปิ มคฺคภาวนาย วินา อปตฺตพฺพโต อนิจฺฉนฺตสฺส จ ภาวนาย ปตฺตพฺพโต น อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. อิทมฺปีติ เอตมฺปิ; อุปริ เสสานิ อุปาทาย ¶ ปิกาโร. ยมฺปิจฺฉนฺติ เยนปิ ธมฺเมน อลพฺภเนยฺยํ วตฺถุํ อิจฺฉนฺโต น ลภติ, ตํ อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนํ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. ชราธมฺมานนฺติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ อลพฺภเนยฺยวตฺถูสุ อิจฺฉาว ‘‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตา. สา อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนลกฺขณา, ตปฺปริเยสนรสา, เตสํ อปฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา.
ทฺวินฺนํ ปน ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต ทุกฺขาติ วุตฺตา. เอกจฺโจ หิ ราชา ภวิสฺสตีติ สมฺภาวิโต โหติ. โส ฉินฺนภินฺนคเณน ปริวาริโต ปพฺพตวิสมํ วา วนคหนํ วา ปวิสติ. อถ ราชา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา พลกายํ เปเสติ. โส ราชปุริเสหิ นิหตปริวาโร สยมฺปิ ลทฺธปฺปหาโร ปลายมาโน รุกฺขนฺตรํ วา ปาสาณนฺตรํ วา ปวิสติ. ตสฺมึ สมเย มหาเมโฆ อุฏฺหติ, ติพฺพนฺธการา กาฬวทฺทลิกา โหติ. อถ นํ สมนฺตโต กาฬกิปิลฺลิกาทโย ปาณา ปริวาเรตฺวา คณฺหนฺติ. เตนสฺส พลวกายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘มํ เอกํ นิสฺสาย เอตฺตกา าตี จ โภคา จ วินฏฺา’ติ จินฺเตนฺตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อยํ อิจฺฉา อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
ตํ ตํ ปตฺถยมานานํ, ตสฺส ตสฺส อลาภโต;
ยํ วิฆาตมยํ ทุกฺขํ, สตฺตานํ อิธ ชายติ.
อลพฺภเนยฺยวตฺถูนํ, ปตฺถนา ตสฺส การณํ;
ยสฺมา ตสฺมา ชิโน ทุกฺขํ, อิจฺฉิตาลาภมพฺรวีติ.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๐๒. อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทเส สํขิตฺเตนาติ เทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ เอตฺตกานิ ทุกฺขสตานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสตสหสฺสานีติ ¶ วา สํขิปิตุํ น สกฺกา, เทสนา ปน สกฺกา, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขํ นาม อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ เทสนํ สงฺขิเปนฺโต เอวมาห. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส เต กตเมติ เจติ อตฺโถ. รูปูปาทานกฺขนฺโธติอาทีนํ อตฺโถ ขนฺธวิภงฺเค วณฺณิโตเยว.
‘ขนฺธานํ ¶ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน –
ชาติปฺปภุติกํ ¶ ทุกฺขํ, ยํ วุตฺตํ อิธ ตาทินา;
อวุตฺตํ ยฺจ ตํ สพฺพํ, วินา เอเต น วิชฺชติ.
ยสฺมา ตสฺมา อุปาทาน-กฺขนฺธา สงฺเขปโต อิเม;
ทุกฺขาติ วุตฺตา ทุกฺขนฺต-เทสเกน มเหสินา.
ตถา หิ อินฺธนมิว ปาวโก, ลกฺขมิว ปหรณานิ, โครูปมิว ฑํสมกสาทโย, เขตฺตมิว ลาวกา, คามํ วิย คามฆาตกา, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกเมว ชาติอาทโย นานปฺปกาเรหิ พาธยมานา, ติณลตาทีนิ วิย ภูมิยํ, ปุปฺผผลปลฺลวาทีนิ วิย รุกฺเขสุ, อุปาทานกฺขนฺเธสุเยว นิพฺพตฺตนฺติ. อุปาทานกฺขนฺธานฺจ อาทิทุกฺขํ ชาติ, มชฺเฌทุกฺขํ ชรา, ปริโยสานทุกฺขํ มรณํ. มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตน ปริฑยฺหมานทุกฺขํ โสโก, ตทสหนโต ลาลปฺปนทุกฺขํ ปริเทโว. ตโต ธาตุกฺโขภสงฺขาตอนิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ. เตน พาธิยมานานํ ปุถุชฺชนานํ ตตฺถ ปฏิฆุปฺปตฺติโต เจโตพาธนทุกฺขํ โทมนสฺสํ. โสกาทิวุฑฺฒิยา ชนิตวิสาทานํ อนุตฺถุนนทุกฺขํ อุปายาโส. มโนรถวิฆาตปฺปตฺตานํ อิจฺฉาวิฆาตทุกฺขํ อิจฺฉิตาลาโภติ เอวํ นานปฺปการโต อุปปริกฺขิยมานา อุปาทานกฺขนฺธาว ทุกฺขาติ ยเทตํ เอกเมกํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมานํ อเนเกหิ กปฺเปหิ น สกฺกา อเสสโต วตฺตุํ, ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ เอกชลพินฺทุมฺหิ สกลสมุทฺทชลรสํ วิย เยสุ เกสุจิ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ ภควา อโวจาติ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. สมุทยสจฺจนิทฺเทเส ¶ ยายํ ตณฺหาติ ยา อยํ ตณฺหา. โปโนพฺภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ¶ ปุโนพฺภโว, ปุโนพฺภโว สีลมสฺสาติ โปโนพฺภวิกา. อปิจ ปุนพฺภวํ ¶ เทติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ โปโนพฺภวิกา. สา ปเนสา ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปิ อตฺถิ อทายิกาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนิกาปิ อตฺถิ อสํวตฺตนิกาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ. สา ปุนพฺภวํ ททมานาปิ อททมานาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตมานาปิ อสํวตฺตมานาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ โปโนพฺภวิกา เอวาติ นามํ ลภติ. อภินนฺทนสงฺขาเตน นนฺทิราเคน สหคตาติ นนฺทิราคสหคตา, นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตเมว คตาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรตตฺราภินนฺทินีติ ยตฺร ยตฺร อตฺตภาโว ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, รูปาทีสุ วา อารมฺมเณสุ ตตฺรตตฺราภินนฺทินี; รูปาภินนฺทินี สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมาภินนฺทินีติ อตฺโถ. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส สา กตมาติ เจติ อตฺโถ. กามตณฺหาติ กาเม ตณฺหา กามตณฺหา; ปฺจกามคุณิกราคสฺเสตํ อธิวจนํ. ภเว ตณฺหา ภวตณฺหา; ภวปตฺถนาวเสน อุปฺปนฺนสฺส สสฺสตทิฏฺิสหคตสฺส รูปารูปภวราคสฺส จ ฌานนิกนฺติยา เจตํ อธิวจนํ. วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา; อุจฺเฉททิฏฺิสหคตสฺส ราคสฺเสตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ตสฺสา ตณฺหาย วตฺถุํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ ชายติ. นิวิสตีติ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ปติฏฺหติ. ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ยํ โลกสฺมึ ปิยสภาวฺเจว มธุรสภาวฺจ. จกฺขุํ โลเกติอาทีสุ โลกสฺมิฺหิ จกฺขาทีสุ มมตฺเตน อภินิวิฏฺา สตฺตา สมฺปตฺติยํ ปติฏฺิตา อตฺตโน จกฺขุํ อาทาสาทีสุ นิมิตฺตคฺคหณานุสาเรน วิปฺปสนฺนปฺจปสาทํ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรํ วิย มฺนฺติ, โสตํ รชตปนาฬิกํ วิย ปามงฺคสุตฺตกํ วิย จ ¶ มฺนฺติ, ตุงฺคนาสาติ ลทฺธโวหารํ ฆานํ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏึ วิย มฺนฺติ, ชิวฺหํ รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ, กายํ สาลลฏฺึ วิย สุวณฺณโตรณํ วิย จ มฺนฺติ, มนํ อฺเสํ มเนน อสทิสํ อุฬารํ มฺนฺติ, รูปํ สุวณฺณกณิการปุปฺผาทิวณฺณํ วิย ¶ , สทฺทํ มตฺตกรวีกโกกิลมนฺทธมิตมณิวํสนิคฺโฆสํ วิย, อตฺตนา ปฏิลทฺธานิ จตุสมุฏฺานิกคนฺธารมฺมณาทีนิ ‘กสฺส อฺสฺส เอวรูปานิ อตฺถี’ติ มฺนฺติ. เตสํ เอวํ มฺมานานํ ตานิ จกฺขาทีนิ ปิยรูปานิ เจว โหนฺติ สาตรูปานิ จ. อถ เนสํ ตตฺถ อนุปฺปนฺนา เจว ตณฺหา อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา จ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน นิวิสติ. ตสฺมา ภควา – ‘‘จกฺขุํ โลเก ¶ ปิยรูปํ สาตรูปํ. เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชมานาติ ยทา อุปฺปชฺชติ ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถาปีติ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๔. นิโรธสจฺจนิทฺเทเส โย ตสฺสาเยว ตณฺหายาติ เอตฺถ ‘โย ตสฺเสว ทุกฺขสฺสา’ติ วตฺตพฺเพ ยสฺมา สมุทยนิโรเธเนว ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ โน อฺถา, ยถาห –
‘‘ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห,
ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ;
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต,
นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๓๘);
ตสฺมา ตํ ทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต สมุทยนิโรเธน ทสฺเสตุํ เอวมาห. สีหสมานวุตฺติโน หิ ตถาคตา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺติ, น ผเล. สุวานวุตฺติโน ปน อฺติตฺถิยา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา อตฺตกิลมถานุโยเคน ¶ เจว ตสฺเสว จ เทสนาย ผเล ปฏิปชฺชนฺติ, น เหตุมฺหีติ. สีหสมานวุตฺติตาย สตฺถา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต โย ตสฺสาเยวาติอาทิมาห.
ตตฺถ ตสฺสาเยวาติ ยา สา อุปฺปตฺติ นิเวสวเสน เหฏฺา ปกาสิตา ตสฺสาเยว. อเสสวิราคนิโรโธติอาทีนิ สพฺพานิ นิพฺพานเววจนาเนว ¶ . นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ตณฺหา อเสสา วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตํ ‘‘ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. นิพฺพานฺจ อาคมฺม ตณฺหา จชิยติ, ปฏินิสฺสชฺชิยติ, มุจฺจติ, น อลฺลิยติ. ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว หิ ¶ นิพฺพานํ. นามานิ ปนสฺส สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสน อเนกานิ นิพฺพานเววจนาเนว โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อเสสวิราคนิโรโธ, จาโค, ปฏินิสฺสคฺโค, มุตฺติ, อนาลโย, ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย, ตณฺหากฺขโย, อนุปฺปาโท, อปฺปวตฺตํ, อนิมิตฺตํ, อปฺปณิหิตํ, อนายูหนํ, อปฺปฏิสนฺธิ, อนุปปตฺติ, อคติ, อชาตํ, อชรํ, อพฺยาธิ, อมตํ, อโสกํ, อปริเทวํ, อนุปายาสํ, อสํกิลิฏฺนฺติอาทีนิ.
อิทานิ มคฺเคน ฉินฺนาย นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺติปตฺตายปิ จ ตณฺหาย เยสุ วตฺถูสุ ตสฺสา อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, ตตฺเถว อภาวํ ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา ปุริโส เขตฺเต ชาตํ ติตฺตอลาพุวลฺลึ ทิสฺวา อคฺคโต ปฏฺาย มูลํ ปริเยสิตฺวา ฉินฺเทยฺย, สา อนุปุพฺเพน มิลายิตฺวา อปฺปวตฺตึ คจฺเฉยฺย. ตโต ตสฺมึ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ นิรุทฺธา ปหีนาติ วุจฺเจยฺย. เอวเมว เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย จกฺขาทีสุ ตณฺหา. สา อริยมคฺเคน มูลจฺฉินฺนา นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺตึ คจฺฉติ. เอวํ คตา ปน เตสุ วตฺถูสุ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย น ปฺายติ. ยถา จ อฏวิโต โจเร อาเนตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาเร ฆาเตยฺยุํ, ตโต อฏวิยํ โจรา มตาติ วา มาริตาติ วา วุจฺเจยฺยุํ; เอวเมว อฏวิยํ โจรา วิย ยา จกฺขาทีสุ ตณฺหา, สา ทกฺขิณทฺวาเร โจรา วิย นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธตฺตา นิพฺพาเน นิรุทฺธา. เอวํ นิรุทฺธา ปน เตสุ วตฺถูสุ อฏวิยํ ¶ โจรา วิย น ปฺายติ. เตนสฺสา ตตฺเถว นิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๕. มคฺคสจฺจนิทฺเทเส ¶ อยเมวาติ อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถํ นิยมนํ. อริโยติ ตํตํมคฺควชฺเฌหิ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย ตูริยํ องฺคมตฺตเมว ¶ โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, นิพฺพานํ วา มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. เสยฺยถิทนฺติ โส กตโมติ เจติ อตฺโถ.
อิทานิ องฺคมตฺตเมว มคฺโค โหติ, องฺควินิมฺมุตฺโต นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติ อาห. ตตฺถ สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทานลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.
เตสุ จ เอเกกสฺส ตีณิ ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธํ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม ¶ อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา ปทหติ.
อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา, กิจฺจโต ปน ทุกฺเข าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ ¶ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.
อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภควตา นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา. อยฺหิ ‘‘ปฺาปชฺโชโต ปฺาสตฺถ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐, ๒๙, ๓๔) จ ¶ วุตฺตา. ตสฺมา เอตาย ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาาณสงฺขาตาย สมฺมาทิฏฺิยา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสตฺวา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต เขเมน โยคาวจโร นิพฺพานํ ปาปุณาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา’’ติ.
สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต. ยถา หิ เหรฺิโก หตฺเถน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จกฺขุนา กหาปณํ โอโลเกนฺโต ‘อยํ กูโฏ, อยํ เฉโก’ติ ชานาติ, เอวํ โยคาวจโรปิ ปุพฺพภาเค วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิปสฺสนาปฺาย โอโลกยมาโน ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจราทโย’ติ ชานาติ. ยถา วา ปน ปุริเสน โกฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ทินฺนํ มหารุกฺขํ ตจฺฉโก วาสิยา ตจฺเฉตฺวา กมฺเม อุปเนติ, เอวํ วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิตกฺกตฺวา ทินฺนธมฺเม โยคาวจโร ปฺาย ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจรา’ติอาทินา นเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กมฺเม อุปเนติ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต’’ติ.
สฺวายํ ยถา สมฺมาทิฏฺิยา, เอวํ สมฺมาวาจายปิ อุปการโก. ยถาห – ‘‘ปุพฺเพ โข, คหปติ, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓). ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมาวาจา วุตฺตา.
ยสฺมา ปน ‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’ติ ปมํ วาจาย สํวิทหิตฺวา โลเก กมฺมนฺเต ปโยเชนฺติ, ตสฺมา วาจา กายกมฺมสฺส อุปการิกาติ สมฺมาวาจาย อนนฺตรํ สมฺมากมฺมนฺโต วุตฺโต.
จตุพฺพิธํ ¶ ปน วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ กายทุจฺจริตํ ปหาย อุภยํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว ยสฺมา อาชีวฏฺมกสีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส, ตสฺมา ตทุภยานนฺตรํ สมฺมาอาชีโว วุตฺโต.
เอวํ สุทฺธาชีเวน ‘ปริสุทฺโธ เม อาชีโว’ติ เอตฺตาวตา ปริโตสํ อกตฺวา สุตฺตปฺปมตฺเตน วิหริตุํ น ยุตฺตํ, อถ โข สพฺพอิริยาปเถสุ อิทํ วีริยมารภิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาวายาโม วุตฺโต.
ตโต ¶ อารทฺธวีริเยนาปิ กายาทีสุ จตูสุ วตฺถูสุ สติ สุปฺปติฏฺิตา กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมฺมาสติ เทสิตา.
ยสฺมา ปน เอวํ สุปฺปติฏฺิตา สติ สมาธิสฺส อุปการานุปการานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ปโหติ เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ, ตสฺมา สมฺมาสติอนนฺตรํ สมฺมาสมาธิ เทสิโตติ เวทิตพฺโพ.
สมฺมาทิฏฺินิทฺเทเส ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ ‘‘กตเม ปฺจกฺขนฺธา? รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ; อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กมฺมํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอเกน ปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ; ทุกฺขํ ¶ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ; ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.
เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว; อปรภาเค ตีสุ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ, นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิยํ กามาวจรํ, ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ. อยฺจ อาทิกมฺมิโก. ตสฺมา สา อิธ น วุตฺตา. อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต ‘ทุกฺขํ ปริชานามิ ¶ , สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ; อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.
ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ; ขาณุกณฺฏกปฺปหาราทีสุ ‘อโห ทุกฺข’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยมฺปิ ¶ ขาทิตุกามตาภฺุชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ปน ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคหณตฺถํ หตฺถปฺปสารณํ วิย, อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปฺปสารณํ วิย, สตธา ภินฺนวาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหติ.
สมฺมาสงฺกปฺปนิทฺเทเส กามโต นิสฺสโฏติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. พฺยาปาทโต นิสฺสโฏติ อพฺยาปาทสงฺกปฺโป. วิหึสาย นิสฺสโฏติ อวิหึสาสงฺกปฺโป. ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺโก กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต ¶ อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺกสฺส, อวิหึสาวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺกสฺส. เนกฺขมฺมวิตกฺโก จ กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทอวิหึสาวิตกฺกา พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกานํ.
ตตฺถ โยคาวจโร กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ กามวิตกฺกํ วา สมฺมสติ อฺํ วา ปน กิฺจิ สงฺขารํ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปติ. อถสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ; พฺยาปาทวิตกฺกสฺสาปิ ปทฆาตนตฺถํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ; วิหึสาวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ วิหึสาวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
กามวิตกฺกาทีนํ ¶ ปน ติณฺณํ ปาฬิยํ วิภตฺเตสุ อฏฺตึสารมฺมเณสุ เอกกมฺมฏฺานมฺปิ อปจฺจนีกํ นาม นตฺถิ. เอกนฺตโต ปน กามวิตกฺกสฺส ตาว อสุเภสุ ปมชฺฌานเมว ปจฺจนีกํ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺส เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ, วิหึสาวิตกฺกสฺส กรุณาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ. ตสฺมา อสุเภ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป วิกฺขมฺภนวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ ¶ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺโน เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.
เมตฺตาย ปน ปริกมฺมํ กตฺวา, กรุณาย ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปชฺชตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอวํ อุปฺปนฺโน อพฺยาปาทสงฺกปฺโปติ วุจฺจติ, อวิหึสาสงฺกปฺโปติ จ วุจฺจตีติ ¶ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย วิปสฺสนาฌานวเสน อุปฺปตฺตีนํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.
สมฺมาวาจานิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเนฺเน ปิสุณวาจาทีหิ, ตสฺมา จตสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉาวาจาสงฺขาตาย จตุพฺพิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาวาจาสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.
สมฺมากมฺมนฺตนิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน ปาณาติปาตา วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานา, อฺเน กาเมสุมิจฺฉาจารา, ตสฺมา ติสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉากมฺมนฺตสงฺขาตาย ติวิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา อกุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.
สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส ¶ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อริยสาวโกติ อริยสฺส พุทฺธสฺส สาวโก. มิจฺฉาอาชีวํ ปหายาติ ปาปกํ อาชีวํ ปชหิตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปสตฺเถน กุสลอาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตปฺปวตฺตึ ปวตฺเตติ. อิธาปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ; อฺเน วจีทฺวารวีติกฺกมา, ตสฺมา ปุพฺพภาเค นานากฺขเณสุ อุปฺปชฺชติ; มคฺคกฺขเณ ปน ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ สตฺตนฺนํ กมฺมปถานํ วเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาอาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาอาชีวสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.
สมฺมาวายามนิทฺเทโส ¶ สมฺมปฺปธานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยํ ปน ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย วายามํ กโรติ, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ปหานาย; อฺเเนว จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ิติยา; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกเมว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยํ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลพฺภติ.
สมฺมาสตินิทฺเทโสปิ สติปฏฺานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยมฺปิ จ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเนฺเน เวทนาทีนิ; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกาเยว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ.
สมฺมาสมาธินิทฺเทเส จตฺตาริ ฌานานิ ปุพฺพภาเคปิ นานา, มคฺคกฺขเณปิ. ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา, ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ.
อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหติ. ปาทกชฺฌานนิยาเมน ตาว ปมชฺฌานลาภิโน ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ¶ ปมชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ทุติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ตติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา.
อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. ตฺจ โข โลกุตฺตรํ โน โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต อุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อารุปฺปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โย อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ ¶ . เอวํ ¶ ปาทกชฺฌานเมว นิยาเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยาเมนฺตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ วาทวินิจฺฉโย เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ โลกุตฺตรปทภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจติ สมฺมาสมาธีติ ยา อิเมสุ จตูสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา, อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธิ นาม วุจฺจตีติ. เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ภควา มคฺคสจฺจํ เทเสสิ.
ตตฺถ โลกิยมคฺเค สพฺพาเนว มคฺคงฺคานิ ยถานุรูปํ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรมคฺเค ปน จตุสจฺจปฏิเวธาย ปวตฺตสฺส อริยสฺส นิพฺพานารมฺมณํ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตกํ ปฺาจกฺขุ สมฺมาทิฏฺิ. ตถา สมฺปนฺนทิฏฺิสฺส ตํสมฺปยุตฺตํ ติวิธมิจฺฉาสงฺกปฺปสมุคฺฆาตกํ เจตโส นิพฺพานปทาภินิโรปนํ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตถา ปสฺสนฺตสฺส วิตกฺเกนฺตสฺส จ ตํสมฺปยุตฺตาว จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสมุคฺฆาติกาย มิจฺฉาวาจาย วิรติ สมฺมาวาจา. ตถา วิรมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกา ติวิธกายทุจฺจริตวิรติ สมฺมากมฺมนฺโต. เตสํเยว สมฺมาวาจากมฺมนฺตานํ โวทานภูตา ตํสมฺปยุตฺตาว กุหนาทิสมุจฺเฉทิกา มิจฺฉาอาชีววิรติ สมฺมาอาชีโว. อิมิสฺสา สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวสํขาตาย สีลภูมิยํ ปติฏฺมานสฺส ตทนุรูโป ตํสมฺปยุตฺโตว โกสชฺชสมุจฺเฉทโก ¶ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อกุสลกุสลานํ อนุปฺปาทปหานุปฺปาทฏฺิติสาธโก จ วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม. เอวํ วายมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺโตว มิจฺฉาสติวินิทฺธุนนโก กายาทีสุ กายานุปสฺสนาทิสาธโก จ เจตโส อสมฺโมโส สมฺมาสติ. อิติ อนุตฺตราย สติยา สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉาสมาธิสมุคฺฆาติกา จิตฺเตกคฺคตา สมฺมาสมาธีติ. เอส ¶ โลกุตฺตโร อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค โย สห โลกิเยน มคฺเคน ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สงฺขํ คโต.
โส โข ปเนส มคฺโค สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปานํ วิชฺชาย, เสสธมฺมานํ จรเณน สงฺคหิตตฺตา วิชฺชา เจว จรณฺจ. ตถา เตสํ ทฺวินฺนํ วิปสฺสนายาเนน, อิตเรสํ สมถยาเนน สงฺคหิตตฺตา สมโถ เจว วิปสฺสนา จ. เตสํ วา ทฺวินฺนํ ปฺากฺขนฺเธน, ตทนนฺตรานํ ติณฺณํ สีลกฺขนฺเธน, อวเสสานํ สมาธิกฺขนฺเธน อธิปฺาอธิสีลอธิจิตฺตสิกฺขาหิ จ สงฺคหิตตฺตา ขนฺธตฺตยฺเจว สิกฺขาตฺตยฺจ โหติ; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก ทสฺสนสมตฺเถหิ จกฺขูหิ คมนสมตฺเถหิ จ ¶ ปาเทหิ สมนฺนาคโต อทฺธิโก วิย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน หุตฺวา วิปสฺสนายาเนน กามสุขลฺลิกานุโยคํ, สมถยาเนน อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อนฺตทฺวยํ ปริวชฺเชตฺวา มชฺฌิมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ปฺากฺขนฺเธน โมหกฺขนฺธํ, สีลกฺขนฺเธน โทสกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺเธน จ โลภกฺขนฺธํ ปทาเลนฺโต อธิปฺาสิกฺขาย ปฺาสมฺปทํ, อธิสีลสิกฺขาย สีลสมฺปทํ, อธิจิตฺตสิกฺขาย สมาธิสมฺปทนฺติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปตฺวา อมตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมรตนวิจิตฺตํ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยภูมิฺจ โอกฺกนฺโต โหตีติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๐๖-๒๑๔. อิทานิ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อริยสจฺจานีติ หิ วุตฺเต อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา, ตีณิ จ กุสลมูลานิ สาสวานิ, อวเสสา จ สาสวา กุสลา ธมฺมา น สงฺคยฺหนฺติ. น จ เกวลํ ตณฺหาว ทุกฺขํ สมุทาเนติ, อิเมปิ อวเสสา จ กิเลสาทโย ปจฺจยา สมุทาเนนฺติเยว. อิติ อิเมปิ ปจฺจยา ทุกฺขํ สมุทาเนนฺติเยวาติ นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ.
นิทฺเทสวาเร ¶ จ เนสํ ปมํ ทุกฺขํ อนิทฺทิสิตฺวา ตสฺเสว ทุกฺขสฺส สุขนิทฺเทสตฺถํ ทุกฺขสมุทโย นิทฺทิฏฺโ. ตสฺมิฺหิ นิทฺทิฏฺเ ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา นเยน ทุกฺขสจฺจํ สุขนิทฺเทสํ โหติ. นิโรธสจฺจมฺเปตฺถ ตณฺหาย ปหานํ ‘‘ตณฺหาย จ อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติ เอวํ ยถาวุตฺตสฺส สมุทยสฺส ปหานวเสน ปฺจหากาเรหิ นิทฺทิฏฺํ. มคฺคสจฺจํ ปเนตฺถ ปมชฺฌานิกโสตาปตฺติมคฺควเสน ธมฺมสงฺคณิยํ วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. ตํ อุปริ ปกาสยิสฺสาม.
ยสฺมา ¶ ปน น เกวลํ อฏฺงฺคิโก มคฺโคว ปฏิปทา ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๓) วจนโต ปน ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค ปฏิปทา เอวาติ เทสิโต, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ยสฺมา จ น เกวลํ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกมคฺคาว ปฏิปทา, สมฺปยุตฺตกา ปน อติเรกปฺาสธมฺมาปิ ปฏิปทา เอว, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ตติโย สพฺพสงฺคาหิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ตตฺถ ‘‘อวเสสา ธมฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย สมฺปยุตฺตา’’ติ อิทํ ปริหายติ. เสสํ สพฺพตฺถ สทิสเมว.
ตตฺถ อฏฺงฺคิกวารสฺส ‘‘ตณฺหาย อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติอาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปมโกฏฺาเส ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตํ, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ วาเรสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคฺคุณิตานิ อฏฺ ¶ . อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตี อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ยถา จ ปมโกฏฺาเส จตฺตาริ, เอวํ เสเสสุปีติ อฏฺงฺคิกวาเร ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ วีสติ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ตถา ปฺจงฺคิกวาเร สพฺพสงฺคาหิกวาเร จาติ สพฺพานิปิ สฏฺิ ¶ นยสหสฺสานิ สตฺถารา วิภตฺตานิ. ปาฬิ ปน สงฺเขเปน อาคตา. เอวมิทํ ติวิธมหาวารํ ปฺจทสโกฏฺาสํ สฏฺินยสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ อภิธมฺมภาชนียํ นาม นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๒๑๕. ปฺหาปุจฺฉเก จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ ขนฺธวิภงฺเค วุตฺตนยานุสาเรเนว กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สมุทยสจฺจํ กามาวจรธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณํ โหติ, มหคฺคตธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณํ, ปฺตฺตึ อสฺสาเทนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณํ. ทุกฺขสจฺจํ ¶ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปนฺนํ ปริตฺตารมฺมณํ, รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, นว โลกุตฺตรธมฺเม ปจฺจเวกฺขณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ, ปณฺณตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. มคฺคสจฺจํ สหชาตเหตุวเสน สพฺพทาปิ มคฺคเหตุกํ วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺเตสุ อฺตราธิปติกาเล นวตฺตพฺพํ นาม โหติ. ทุกฺขสจฺจํ อริยานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณํ, เตสํเยว มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคาธิปติ, เสสธมฺมปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพํ โหติ.
ทฺเว สจฺจานีติ ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ. เอตานิ หิ อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล อตีตาทิอารมฺมณานิ โหนฺติ. สมุทยสจฺจํ อชฺฌตฺตาทิเภเท ธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณํ โหติ, ทุกฺขสจฺจํ อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณมฺปีติ เวทิตพฺพํ. อิติ อิมสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก ทฺเว สจฺจานิ โลกิยานิ โหนฺติ, ทฺเว โลกุตฺตรานิ. ยถา ¶ จ อิมสฺมึ, เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสุ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ตีสุปิ สุตฺตนฺตภาชนียาทีสุ โลกิยโลกุตฺตราเนว สจฺจานิ กถิตานิ. เอวมยํ สจฺจวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนียา วิภงฺคฏฺกถาย
สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๑๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อินฺทฺริยวิภงฺเค พาวีสตีติ คณนปริจฺเฉโท. อินฺทฺริยานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. อิทานิ ตานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํ. โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ กายินฺทฺริยํ. วิชานนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ มนินฺทฺริยํ. อิตฺถิภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อิตฺถินฺทฺริยํ. ปุริสภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ปุริสินฺทฺริยํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ. สุขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สุขินฺทฺริยํ. ทุกฺขโสมนสฺส โทมนสฺส อุเปกฺขาลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อุเปกฺขินฺทฺริยํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สทฺธินฺทฺริยํ. ปคฺคหลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ วีริยินฺทฺริยํ. อุปฏฺานลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สตินฺทฺริยํ. อวิกฺเขปลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ปฺินฺทฺริยํ. อนฺาตฺสฺสามีติ ปวตฺเต ชานนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. าตานํเยว ธมฺมานํ ปุน อาชานเน อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อฺินฺทฺริยํ. อฺาตาวีภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
อิธ สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม น คหิตํ. กสฺมา? สุตฺตนฺเต อิมาย ปฏิปาฏิยา พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ อนาคตตฺตา. สุตฺตนฺตสฺมิฺหิ กตฺถจิ ทฺเว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ, กตฺถจิ ตีณิ, กตฺถจิ ปฺจ. เอวํ ปน นิรนฺตรํ ทฺวาวีสติ อาคตานิ นาม นตฺถิ. อยํ ตาเวตฺถ อฏฺกถานโย. อยํ ปน อปโร นโย – เอเตสุ หิ
อตฺถโต ¶ ลกฺขณาทีหิ, กมโต จ วิชานิยา;
เภทาเภทา ตถา กิจฺจา, ภูมิโต จ วินิจฺฉยํ.
ตตฺถ ¶ จกฺขาทีนํ ตาว ‘‘จกฺขตีติ จกฺขู’’ติอาทินา นเยน อตฺโถ ปกาสิโต. ปจฺฉิเมสุ ปน ตีสุ ปมํ ‘ปุพฺพภาเค อนฺาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมํ วา ชานิสฺสามี’ติ เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ. ทุติยํ อาชานนโต จ อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อฺินฺทฺริยํ. ตติยํ อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส ¶ ขีณาสวสฺเสว อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
โก ปเนส อินฺทฺริยฏฺโ นามาติ? อินฺทลิงฺคฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทเทสิตฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺททิฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทสิฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทชุฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ. โส สพฺโพปิ อิธ ยถาโยคํ ยุชฺชติ. ภควา หิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปรมิสฺสริยภาวโต อินฺโท. กุสลากุสลฺจ กมฺมํ กมฺเมสุ กสฺสจิ อิสฺสริยาภาวโต. เตเนเวตฺถ กมฺมสฺชนิตานิ อินฺทฺริยานิ กุสลากุสลกมฺมํ อุลฺลิงฺเคนฺติ. เตน จ สิฏฺานีติ อินฺทลิงฺคฏฺเน อินฺทสิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. สพฺพาเนว ปเนตานิ ภควตา ยถาภูตโต ปกาสิตานิ จ อภิสมฺพุทฺธานิ จาติ อินฺทเทสิตฏฺเน อินฺททิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. เตเนว ภควตา มุนินฺเทน กานิจิ โคจราเสวนาย, กานิจิ ภาวนาเสวนาย เสวิตานีติ อินฺทชุฏฺฏฺเนปิ อินฺทฺริยานิ. อปิจ อาธิปจฺจสงฺขาเตน อิสฺสริยฏฺเนาปิ เอตานิ อินฺทฺริยานิ. จกฺขุวิฺาณาทิปฺปวตฺติยฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจํ; ตสฺมึ ติกฺเข ติกฺขตฺตา มนฺเท จ มนฺทตฺตาติ. อยํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทีหี’ติ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺาเนหิปิ จกฺขาทีนํ วินิจฺฉยํ วิชานิยาติ อตฺโถ. ตานิ เนสํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. ปฺินฺทฺริยาทีนิ หิ จตฺตาริ อตฺถโต อโมโหเยว. เสสานิ ตตฺถ สรูเปเนวาคตานิ.
‘กมโต’ติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. ตตฺถ อชฺฌตฺตธมฺมํ ปริฺาย อริยภูมิปฏิลาโภ โหตีติ อตฺตภาวปริยาปนฺนานิ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ปมํ เทสิตานิ. โส ปนตฺตภาโว ยํ ธมฺมํ อุปาทาย อิตฺถีติ วา ปุริโสติ ¶ วา สงฺขํ คจฺฉติ, อยํ โสติ นิทสฺสนตฺถํ ตโต อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยฺจ ¶ . โส ทุวิโธปิ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธวุตฺตีติ าปนตฺถํ ตโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ยาว ตสฺส ปวตฺติ ตาว เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺติ. ยํ กิฺจิ เวทยิตํ สพฺพํ ตํ สุขทุกฺขนฺติ าปนตฺถํ ตโต สุขินฺทฺริยาทีนิ. ตํนิโรธตฺถํ ปน เอเต ธมฺมา ภาเวตพฺพาติ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ตโต สทฺธาทีนิ. อิมาย ปฏิปตฺติยา เอส ธมฺโม ปมํ อตฺตนิ ปาตุภวตีติ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนตฺถํ ตโต อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. ตสฺเสว ผลตฺตา ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตา จ ตโต อฺินฺทฺริยํ. อิโต ปรํ ภาวนาย อิมสฺส อธิคโม, อธิคเต จ ปนิมสฺมึ นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ ¶ กรณียนฺติ าปนตฺถํ อนฺเต ปรมสฺสาสภูตํ อฺาตาวินฺทฺริยํ เทสิตนฺติ อยเมตฺถ กโม.
‘เภทาเภทา’ติ ชีวิตินฺทฺริยสฺเสว เจตฺถ เภโท. ตฺหิ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ทุวิธํ โหติ. เสสานํ อเภโทติ เอวเมตฺถ เภทาเภทโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา.
‘กิจฺจา’ติ กึ อินฺทฺริยานํ กิจฺจนฺติ เจ? จกฺขุนฺทฺริยสฺส ตาว ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วจนโต ยํ ตํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพํ อตฺตโน ติกฺขมนฺทาทิภาเวน จกฺขุวิฺาณาทิธมฺมานํ ติกฺขมนฺทาทิสงฺขาตํ อตฺตาการานุวตฺตาปนํ อิทํ ‘กิจฺจํ’. เอวํ โสตฆานชิวฺหากายานํ. มนินฺทฺริยสฺส ปน สหชาตธมฺมานํ อตฺตโน วสวตฺตาปนํ, ชีวิตินฺทฺริยสฺส สหชาตธมฺมานุปาลนํ, อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยานํ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตกุตฺตากปฺปาการานุวิธานํ, สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสินฺทฺริยานํ สหชาตธมฺเม อภิภวิตฺวา ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปนํ, อุเปกฺขินฺทฺริยสฺส สนฺตปณีตมชฺฌตฺตาการานุปาปนํ, สทฺธาทีนํ ปฏิปกฺขาภิภวนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ ปสนฺนาการาทิภาวสมฺปาปนํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส สํโยชนตฺตยปฺปหานฺเจว สมฺปยุตฺตกานฺจ ¶ ตปฺปหานาภิมุขภาวกรณํ, อฺินฺทฺริยสฺส กามราคพฺยาปาทาทิตนุกรณปหานฺเจว สหชาตานฺจ อตฺตโน วสานุวตฺตาปนํ, อฺาตาวินฺทฺริยสฺส สพฺพกิจฺเจสุ อุสฺสุกฺกปฺปหานฺเจว อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จ สมฺปยุตฺตานนฺติ เอวเมตฺถ กิจฺจโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา.
‘ภูมิโต’ติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิปุริสสุขทุกฺขโทมนสฺสินฺทฺริยานิ เจตฺถ กามาวจราเนว ¶ . มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ, สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยานิ จ จตุภูมิปริยาปนฺนานิ. โสมนสฺสินฺทฺริยํ กามาวจร-รูปาวจร-โลกุตฺตรวเสน ภูมิตฺตยปริยาปนฺนํ. อวสาเน ตีณิ โลกุตฺตราเนวาติ เอวํ ภูมิโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา. เอวฺหิ วิชานนฺโต –
สํเวคพหุโล ภิกฺขุ, ิโต อินฺทฺริยสํวเร;
อินฺทฺริยานิ ปริฺาย, ทุกฺขสฺสนฺตํ นิคจฺฉตีติ.
๒๒๐. นิทฺเทสวาเร ¶ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทิ สพฺพํ ธมฺมสงฺคณิยํ ปทภาชเน (ธ. ส. อฏฺ. ๕๙๕ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วีริยินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยนิทฺเทสาทีสุ จ สมฺมาวายาโม มิจฺฉาวายาโม สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาสมาธีติอาทีนิ น วุตฺตานิ. กสฺมา? สพฺพสงฺคาหกตฺตา. สพฺพสงฺคาหกานิ หิ อิธ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ. เอวํ สนฺเตเปตฺถ ทส อินฺทฺริยานิ โลกิยานิ กามาวจราเนว, ตีณิ โลกุตฺตรานิ, นว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานีติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๒. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๒๒๑. ปฺหาปุจฺฉเก สพฺเพสมฺปิ อินฺทฺริยานํ กุสลาทิวิภาโค ปาฬินยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพ.
๒๒๓. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณาติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยํ ปน อรูปมิสฺสกตฺตา อิธ อนาภฏฺํ. ทฺวินฺทฺริยาติ ทฺเว อินฺทฺริยา; สุขทุกฺขทฺวยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตฺหิ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณํ. โทมนสฺสินฺทฺริยํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ, สิยา มหคฺคตารมฺมณนฺติ ¶ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ ¶ , รูปาวจรารูปาวจเร ปน อารพฺภ ปวตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. นวินฺทฺริยา สิยา ปริตฺตารมฺมณาติ มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยโสมนสฺสินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ เจว สทฺธาทิปฺจกฺจ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ รูปมิสฺสกตฺตา อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตมฺปิ อรูปโกฏฺาเสน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ.
จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ สุขทุกฺขโทมนสฺสอฺาตาวินฺทฺริยานิ. ตานิ หิ มคฺคารมฺมณตฺติเก น ภชนฺติ. มคฺคเหตุกนฺติ สหชาตเหตุํ สนฺธาย วุตฺตํ. วีริยวีมํสาเชฏฺกกาเล สิยา มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺตเชฏฺกกาเล สิยา นวตฺตพฺพา.
ทสินฺทฺริยา ¶ สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อุปฺปาทิโนติ สตฺต รูปินฺทฺริยานิ ตีณิ จ วิปากินฺทฺริยานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทสินฺทฺริยานิ โทมนสฺเสน สทฺธึ เหฏฺา วุตฺตาเนว. ตตฺถ โทมนสฺสินฺทฺริยํ ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ, เสสานิ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเลปิ. ตีณินฺทฺริยานิ พหิทฺธารมฺมณานีติ ตีณิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานิ. จตฺตารีติ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานิ. ตานิ หิ อชฺฌตฺตธมฺเมปิ พหิทฺธาธมฺเมปิ อารพฺภ ปวตฺตนฺติ. อฏฺินฺทฺริยาติ มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ เจว สทฺธาทิปฺจกฺจ. ตตฺถ อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณตา เวทิตพฺพา.
อิติ อิมสฺมิมฺปิ ปฺหาปุจฺฉเก ทสินฺทฺริยานิ กามาวจรานิ, ตีณิ โลกุตฺตรานิ, นว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว กถิตานีติ. อยมฺปิ อภิธมฺมภาชนีเยน สทฺธึ เอกปริจฺเฉโทว โหติ. อยํ ปน อินฺทฺริยวิภงฺโค ทฺเวปริวฏฺฏํ นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๒๒๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค ยา ‘‘อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ นิกฺขิตฺตา, ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ โอตริตฺวา อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตน สกสมยํ อโวกฺกมนฺเตน ปรสมยํ อนายูหนฺเตน สุตฺตํ อปฺปฏิพาหนฺเตน วินยํ อนุโลเมนฺเตน มหาปเทเส โอโลเกนฺเตน ธมฺมํ ทีเปนฺเตน อตฺถํ สงฺคหนฺเตน ตเมวตฺถํ ปุน อาวตฺเตตฺวา อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตน จ ยสฺมา อตฺถสํวณฺณนา กาตพฺพา โหติ, ปกติยาปิ จ ทุกฺกราว ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถสํวณฺณนา, ยถาหุ โปราณา –
‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;
ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตฺุจ สุทุกฺกรา’’ติ.
ตสฺมา ‘‘อฺตฺร อาคมาธิคมปฺปตฺเตหิ น สุกรา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถวณฺณนา’’ติ ปริตุลยิตฺวา –
วตฺตุกาโม อหํ อชฺช, ปจฺจยาการวณฺณนํ;
ปติฏฺํ นาธิคจฺฉามิ, อชฺโฌคาฬฺโหว สาครํ.
สาสนํ ¶ ปนิทํ นานา-เทสนานยมณฺฑิตํ;
ปุพฺพาจริยมคฺโค จ, อพฺโพจฺฉินฺโน ปวตฺตติ.
ยสฺมา ตสฺมา ตทุภยํ, สนฺนิสฺสายตฺถวณฺณนํ;
อารภิสฺสามิ เอตสฺส, ตํ สุณาถ สมาหิตา.
วุตฺตฺเหตํ ปุพฺพาจริเยหิ –
‘‘โย โกจิมํ อฏฺึ กตฺวา สุเณยฺย,
ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,
อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.
อวิชฺชาปจฺจยา ¶ ¶ สงฺขาราติอาทีสุ หิ อาทิโตเยว ตาว –
เทสนาเภทโต อตฺถ-ลกฺขเณกวิธาทิโต;
องฺคานฺจ ววตฺถานา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘เทสนาเภทโต’ติ ภควโต หิ วลฺลิหารกานํ จตุนฺนํ ปุริสานํ วลฺลิคฺคหณํ วิย อาทิโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว ปริโยสานํ, ตถา ปริโยสานโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว อาทีติ จตุพฺพิธา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา. ยถา หิ วลฺลิหารเกสุ จตูสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มูลเมว ปมํ ปสฺสติ, โส ตํ มูเล เฉตฺวา สพฺพํ อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อาทิโต (ม. นิ. ๑.๔๐๒) ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌํ ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา อุปริภาคํเยว อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ตสฺส ตํ เวทนํ อภินนฺทโต ¶ อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต อุปฺปชฺชติ นนฺที; ยา เวทนาสุ นนฺที, ตทุปาทานํ, ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๙; สํ. นิ. ๓.๕) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ เทเสติ.
ยถา จ เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา อคฺคํ ปมํ ปสฺสติ, โส อคฺเค คเหตฺวา อคฺคานุสาเรน ยาว มูลา สพฺพํ อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ชาติปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, ชรามรณํ โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘ชาติปจฺจยา, ภนฺเต, ชรามรณํ; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ…เป… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, อวิชฺชาปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, สงฺขารา โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา, ภนฺเต, สงฺขารา; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปริโยสานโต ปฏฺาย ยาว อาทิโตปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌเมว ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา โอตรนฺโต ยาว มูลา ¶ อาทาย กมฺเม อุปเนติ ¶ , เอวํ ภควา ‘‘อิเม, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหารา กึ นิทานา, กึ สมุทยา, กึ ชาติกา, กึ ปภวา? อิเม จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา, ตณฺหาสมุทยา, ตณฺหาชาติกา, ตณฺหาปภวา. ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเว, กึ นิทานา? เวทนา, ผสฺโส, สฬายตนํ, นามรูปํ, วิฺาณํ. สงฺขารา กึ นิทานา…เป… สงฺขารา อวิชฺชานิทานา, อวิชฺชาสมุทยา, อวิชฺชาชาติกา, อวิชฺชาปภวา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิโต เทเสติ.
กสฺมา ปเนวํ เทเสตีติ? ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สมนฺตภทฺทกตฺตา, สยฺจ เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา. สมนฺตภทฺทโก หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ตโต ตโต ายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตติเยว. เทสนาวิลาสปฺปตฺโต จ ภควา จตุเวสารชฺชปฺปฏิสมฺภิทาโยเคน จตุพฺพิธคมฺภีรภาวปฺปตฺติยา จ. โส เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา นานานเยเหว ธมฺมํ เทเสติ. วิเสสโต ปนสฺส ยา อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา, สา ปวตฺติการณวิภาคสมฺมูฬฺหํ เวเนยฺยชนํ สมนุปสฺสโต ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ ปวตฺติตาติ าตพฺพา.
ยา ¶ ปริโยสานโต ปฏฺาย ปฏิโลมเทสนา, สา ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชียติ จ มียติ จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๕๗) อาทินา นเยน กิจฺฉาปนฺนํ โลกมนุวิโลกยโต ปุพฺพภาคปฺปฏิเวธานุสาเรน ตสฺส ตสฺส ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสฺส อตฺตนาธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิ, สา อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา ปวตฺตา, สา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาเน อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถํ. ตาสุ ยา สา ปวตฺติการณสมฺมูฬฺหสฺส เวเนยฺยชนสฺส ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา วุตฺตา, สา อิธ นิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.
กสฺมา ¶ ปเนตฺถ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา? กึ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย อวิชฺชาปิ อการณํ มูลการณํ โลกสฺสาติ? น อการณํ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ อวิชฺชาย การณํ วุตฺตํ. อตฺถิ ¶ ปน ปริยาโย เยน มูลการณํ สิยา. โก ปน โสติ? วฏฺฏกถาย สีสภาโว. ภควา หิ วฏฺฏกถํ กเถนฺโต ทฺเว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสิ – อวิชฺชํ วา ภวตณฺหํ วา. ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑); ภวตณฺหํ วา, ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒).
กสฺมา ปน ภควา วฏฺฏกถํ กเถนฺโต อิเม ทฺเวว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสีติ? สุคติทุคฺคติคามิโน กมฺมสฺส วิเสสเหตุภูตตฺตา. ทุคฺคติคามิโน หิ กมฺมสฺส วิเสสเหตุ อวิชฺชา. กสฺมา? ยสฺมา อวิชฺชาภิภูโต ปุถุชฺชโน, อคฺคิสนฺตาปลคุฬาภิฆาตปริสฺสมาภิภูตา วชฺฌคาวี ตาย ปริสฺสมาตุรตาย นิรสฺสาทมฺปิ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ จ อุณฺโหทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปโต นิรสฺสาทมฺปิ ทุคฺคติวินิปาตโต จ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ ปาณาติปาตาทิมเนกปฺปการํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ อารภติ. สุคติคามิโน ปน กมฺมสฺส วิเสสเหตุ ภวตณฺหา. กสฺมา? ยสฺมา ภวตณฺหาภิภูโต ปุถุชฺชโน, ยถา วุตฺตปฺปการา คาวี ¶ สีตุทกตณฺหาย สอสฺสาทํ อตฺตโน ปริสฺสมวิโนทนฺจ สีตุทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปวิรหโต สอสฺสาทํ สุคติสมฺปาปเนน อตฺตโน ทุคฺคติทุกฺขปริสฺสมวิโนทนฺจ ปาณาติปาตาเวรมณีอาทิมเนกปฺปการํ สุคติคามิกมฺมํ อารภติ.
เอเตสุ ปน วฏฺฏกถาย สีสภูเตสุ ธมฺเมสุ กตฺถจิ ภควา ¶ เอกธมฺมมูลิกํ เทสนํ เทเสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชูปนิสา สงฺขารา, สงฺขารูปนิสํ วิฺาณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๓). ตถา ‘‘อุปาทานีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๕๒). กตฺถจิ อุภยมูลิกมฺปิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, พาลสฺส ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส เอวมยํ กาโย สมุทาคโต. อิติ อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูปํ อิตฺเถตํ ¶ ทฺวยํ, ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส, สเฬวายตนานิ เยหิ ผุฏฺโ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑๙). ตาสุ ตาสุ เทสนาสุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยมิธ อวิชฺชาวเสน เอกธมฺมมูลิกา เทสนาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ตาเวตฺถ เทสนาเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘อตฺถโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ปทานํ อตฺถโต, เสยฺยถิทํ – ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม; อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม. ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อาธิปเตยฺยฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา.
ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา เตน; ตํ อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิ จ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา.
สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ ¶ สงฺขารา. อปิจ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา จาติ ทุวิธา สงฺขารา. ตตฺถ ปฺุาปฺุาเนฺชาภิสงฺขารา ตโย, กายวจีจิตฺตสงฺขารา ตโยติ อิเม ฉ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ¶ . เต สพฺเพปิ โลกิยกุสลากุสลเจตนามตฺตเมว โหนฺติ.
สงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขรณสงฺขาโร, ปโยคาภิสงฺขาโรติ อิเม ปน จตฺตาโร สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา. ตตฺถ ¶ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓) วุตฺตา สพฺเพปิ สปฺปจฺจยา ธมฺมา ‘สงฺขตสงฺขารา’ นาม. กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกา รูปารูปธมฺมา ‘อภิสงฺขตสงฺขารา’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. วิสุํ ปน เนสํ อาคตฏฺานํ น ปฺายติ. เตภูมกกุสลากุสลเจตนา ปน ‘อภิสงฺขรณกสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. ตสฺส ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อาคตฏฺานํ ปฺายติ. กายิกเจตสิกํ ปน วีริยํ ‘ปโยคาภิสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. โส ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคโต.
น เกวลฺจ เอเตเยว, อฺเปิ ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๖๔) นเยน สงฺขารสทฺเทน อาคตา อเนกสงฺขารา. เตสุ นตฺถิ โส สงฺขาโร, โย สงฺขตสงฺขาเร สงฺคหํ น คจฺเฉยฺย. อิโต ปรํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติอาทีสุ ยํ วุตฺตํ ตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อวุตฺเต ปน วิชานาตีติ วิฺาณํ. นมตีติ นามํ. รุปฺปตีติ รูปํ. อาเย ตโนติ, อายตฺจ นยตีติ อายตนํ. ผุสตีติ ผสฺโส. เวทยตีติ เวทนา. ปริตสฺสตีติ ตณฺหา. อุปาทิยตีติ อุปาทานํ. ภวติ ภาวยติ จาติ ภโว. ชนนํ ชาติ. ชีรณํ ชรา. มรนฺติ ¶ เอเตนาติ มรณํ. โสจนํ โสโก. ปริเทวนํ ปริเทโว. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ; อุปฺปาทฏฺิติวเสน วา ทฺเวธา ขณตีติ ทุกฺขํ. ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส.
สมฺภวนฺตีติ ¶ นิพฺพตฺตนฺติ. น เกวลฺจ โสกาทีเหว, อถ โข สพฺพปเทหิ ‘สมฺภวนฺตี’ติ สทฺทสฺส โยชนา กาตพฺพา. อิตรถา หิ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ วุตฺเต กึ กโรนฺตีติ น ปฺาเยยฺยุํ. ‘‘สมฺภวนฺตี’’ติ ปน โยชนาย สติ ‘‘อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย; ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตี’’ติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ กตํ โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวนฺติ ¶ นิทฺทิฏฺนยนิทสฺสนํ. เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส. เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส สกลสฺส วา. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส, น สุขสุภาทีนํ. สมุทโยติ นิพฺพตฺติ. โหตีติ สมฺภวติ. เอวเมตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทิโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ลกฺขณาทิโต, เสยฺยถิทํ – อฺาณลกฺขณา อวิชฺชา, สมฺโมหนรสา, ฉาทนปจฺจุปฏฺานา, อาสวปทฏฺานา. อภิสงฺขรณลกฺขณา สงฺขารา, อายูหนรสา, เจตนาปจฺจุปฏฺานา, อวิชฺชาปทฏฺานา. วิชานนลกฺขณํ วิฺาณํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺานํ, สงฺขารปทฏฺานํ, วตฺถารมฺมณปทฏฺานํ วา. นมนลกฺขณํ นามํ, สมฺปโยครสํ, อวินิพฺโภคปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, วิกิรณรสํ, อพฺยากตปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. อายตนลกฺขณํ สฬายตนํ, ทสฺสนาทิรสํ, วตฺถุทฺวารภาวปจฺจุปฏฺานํ ¶ , นามรูปปทฏฺานํ. ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส, สงฺคติปจฺจุปฏฺาโน, สฬายตนปทฏฺาโน. อนุภวนลกฺขณา เวทนา, วิสยรสสมฺโภครสา, สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺานา, ผสฺสปทฏฺานา. เหตุลกฺขณา ตณฺหา, อภินนฺทนรสา, อติตฺติภาวปจฺจุปฏฺานา, เวทนาปทฏฺานา. คหณลกฺขณํ อุปาทานํ, อมฺุจนรสํ, ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺิปจฺจุปฏฺานํ, ตณฺหาปทฏฺานํ. กมฺมกมฺมผลลกฺขโณ ภโว, ภาวนภวนรโส, กุสลากุสลาพฺยากตปจฺจุปฏฺาโน, อุปาทานปทฏฺาโน. ชาติอาทีนํ ลกฺขณาทีนิ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ ลกฺขณาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เอกวิธาทิโต’ติ เอตฺถ อวิชฺชา อฺาณาทสฺสนโมหาทิภาวโต เอกวิธา, อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติโต ทุวิธา ตถา สงฺขาราสงฺขารโต, เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต ติวิธา, จตุสจฺจอปฺปฏิเวธโต ¶ จตุพฺพิธา, คติปฺจกาทีนวจฺฉาทนโต ปฺจวิธา, ทฺวารารมฺมณโต ปน สพฺเพสุปิ อรูปธมฺเมสุ ฉพฺพิธตา เวทิตพฺพา.
สงฺขารา สาสววิปากธมฺมธมฺมาทิภาวโต เอกวิธา, กุสลากุสลโต ทุวิธา ตถา ปริตฺตมหคฺคตหีนมชฺฌิมมิจฺฉตฺตนิยตานิยตโต, ติวิธา ปฺุาภิสงฺขาราทิภาวโต, จตุพฺพิธา จตุโยนิสํวตฺตนโต, ปฺจวิธา ปฺจคติคามิโต.
วิฺาณํ ¶ โลกิยวิปากาทิภาวโต เอกวิธํ, สเหตุกาเหตุกาทิโต ทุวิธํ, ภวตฺตยปริยาปนฺนโต เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต อเหตุกทุเหตุกติเหตุกโต จ ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
นามรูปํ วิฺาณสนฺนิสฺสยโต กมฺมปจฺจยโต จ เอกวิธํ, สารมฺมณานารมฺมณโต ทุวิธํ, อตีตาทิโต ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
สฬายตนํ สฺชาติสโมสรณฏฺานโต เอกวิธํ, ภูตปฺปสาทวิฺาณาทิโต ทุวิธํ, สมฺปตฺตาสมฺปตฺตโนภยโคจรโต ติวิธํ, โยนิคติปริยาปนฺนโต จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจาติ อิมินา นเยน ผสฺสาทีนมฺปิ เอกวิธาทิภาโว เวทิตพฺโพติ. เอวเมตฺถ เอกวิธาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘องฺคานฺจ ¶ ววตฺถานา’ติ โสกาทโย เจตฺถ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺติ. ยถาห – ‘‘อสฺสุตวา, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหมาปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒). ยาว จ เตสํ ปวตฺติ ตาว อวิชฺชายาติ ปุนปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ สมฺพนฺธเมว โหติ ภวจกฺกํ. ตสฺมา เตสมฺปิ ชรามรเณเนว เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานีติ เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ องฺคานํ ววตฺถานโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. อยํ ตาเวตฺถ อุทฺเทสวารวเสน สงฺเขปกถา.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส
๒๒๖. อิทานิ ¶ นิทฺเทสวารวเสน วิตฺถารกถา โหติ. ‘‘อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจเยสุ สงฺขาเรสุ ทสฺเสตพฺเพสุ ยสฺมา ปุตฺเต กเถตพฺเพ ปมํ ปิตา กถียติ. เอวฺหิ สติ ‘มิตฺตสฺส ¶ ปุตฺโต, ทตฺตสฺส ปุตฺโต’ติ ปุตฺโต สุกถิโต โหติ. ตสฺมา เทสนากุสโล สตฺถา สงฺขารานํ ชนกตฺเถน ปิตุสทิสํ อวิชฺชํ ตาว ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา ทุกฺขสมุทยสฺส ทุกฺขนิโรธสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ จตูสุ าเนสุ สุตฺตนฺติกปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
นิกฺเขปกณฺเฑ (ธ. ส. ๑๐๖๗) ปน อภิธมฺมปริยาเยน ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ อปเรสุปิ จตูสุ าเนสุ อฺาณํ คหิตํ. ตตฺถ ¶ ปุพฺพนฺเตติ อตีโต อทฺธา, อตีตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. อปรนฺเตติ อนาคโต อทฺธา, อนาคตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ ตทุภยํ. อิทปฺปจฺจยตาติ สงฺขาราทีนํ การณานิ อวิชฺชาทีนิ องฺคานิ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมาติ อวิชฺชาทีหิ นิพฺพตฺตา สงฺขาราทโย ธมฺมา. ตตฺรายํ อวิชฺชา ยสฺมา อตีตานํ ขนฺธาทีนํ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา อนาคตานํ ขนฺธาทีนํ, อตีตานาคตานํ ขนฺธาทีนํ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมานฺจ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อภิธมฺมปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
เอวํ กึ กถิตํ โหติ? กิจฺจโต เจว ชาติโต จ อวิชฺชา กถิตา นาม โหติ. กถํ ¶ ? อยฺหิ อวิชฺชา อิมานิ อฏฺ านานิ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ กิจฺจโต กถิตา; อุปฺปชฺชมานาปิ อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อุปฺปชฺชตีติ ชาติโตปิ กถิตา. เอวํ กเถตฺวา ปุน ‘‘ยํ ¶ เอวรูปํ อฺาณํ อทสฺสน’’นฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ ปทานิ อวิชฺชาย ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ คหิตานิ.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อิเมหิ อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ยถา ปุริโส นฏฺํ โคณํ ปริเยสมาโน มนุสฺเส ปุจฺเฉยฺย – ‘‘อปิ, อยฺยา, เสตํ โคณํ ปสฺสถ, รตฺตํ โคณํ ปสฺสถา’’ติ? เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อิมสฺมึ รฏฺเ เสตรตฺตานํ โคณานํ อนฺโต นตฺถิ, กึ เต โคณสฺส ลกฺขณ’’นฺติ? อถ เตน ‘สงฺฆาฏิ’ วา ‘นงฺคลํ’ วาติ วุตฺเต โคโณ สุกถิโต นาม ภเวยฺย; เอวเมว ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา ¶ นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ตสฺมา ยานสฺสา ลกฺขณทสฺสนตฺถํ ปฺจวีสติ ปทานิ กถิตานิ, เตสมฺปิ วเสน เวทิตพฺพา.
เสยฺยถิทํ – าณํ นาม ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. อยํ ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ วิทิตํ ปากฏํ กาตุํ น เทตีติ าณปจฺจนีกโต อฺาณํ. ทสฺสนนฺติปิ ปฺา. สาปิ ตํ อาการํ ปสฺสติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปสฺสิตุํ น เทตีติ อทสฺสนํ. อภิสมโยติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อภิสเมติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อภิสเมตุํ น เทตีติ อนภิสมโย. อนุโพโธ สมฺโพโธ ปฏิเวโธติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อนุพุชฺฌติ สมฺพุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อนุพุชฺฌิตุํ สํพุชฺฌิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ. สงฺคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อสงฺคาหนา. ปริโยคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อปริโยคาหนา. สมเปกฺขนาติปิ ปฺา ¶ . สา ตํ อาการํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขิตุํ น เทตีติ อสมเปกฺขนา. ปจฺจเวกฺขณาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ ปจฺจเวกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขิตุํ น เทตีติ อปจฺจเวกฺขณา. นาสฺสา ¶ กิฺจิ กมฺมํ ปจฺจกฺขํ อตฺถิ, สยฺจ อปจฺจเวกฺขิตฺวา กตํ กมฺมนฺติ อปจฺจกฺขกมฺมํ. ทุมฺเมธภาวตาย ทุมฺเมชฺฌํ. พาลภาวตาย พาลฺยํ.
สมฺปชฺนฺติปิ ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ สมฺมา ปชานาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อาการํ ปชานิตุํ น เทตีติ อสมฺปชฺํ. โมหนวเสน โมโห. ปโมหนวเสน ปโมโห. สมฺโมหนวเสน สมฺโมโห. อวินฺทิยํ วินฺทตีติอาทิวเสน อวิชฺชา. วฏฺฏสฺมึ โอหนติ โอสีทาเปตีติ อวิชฺโชโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ อวิชฺชาโยโค. อปฺปหีนวเสน ¶ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต จ อวิชฺชานุสโย. มคฺเค ปริยุฏฺิตโจรา อทฺธิเก วิย กุสลจิตฺตํ ปริยุฏฺาติ คณฺหาติ วิลุมฺปตีติ อวิชฺชาปริยุฏฺานํ. ยถา นครทฺวาเร ปลิฆสงฺขาตาย ลงฺคิยา ปติตาย อนฺโตนคเร มนุสฺสานํ พหินครคมนมฺปิ พหินคเร มนุสฺสานํ อนฺโตนครปเวสนมฺปิ ปจฺฉิชฺชติ, เอวเมว ยสฺส สกฺกายนคเร อยํ ปติตา ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ าณคมนํ ปจฺฉิชฺชตีติ อวิชฺชาลงฺคี นาม โหติ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ตํ ปน น อฺํ, อิธาธิปฺเปโต โมโหติ โมโห อกุสลมูลํ. อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ อยํ เอวํลกฺขณา อวิชฺชา นามาติ วุจฺจติ. เอวํ ปฺจวีสติปทวเสน อวิชฺชาย ลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํลกฺขณา ปนายํ อวิชฺชา ทุกฺขาทีสุ อฺาณนฺติ วุตฺตาปิ ทุกฺขสจฺจสฺส เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; สมุทยสจฺจสฺส น เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; นิโรธสจฺจสฺส เนว เอกเทโส โหติ, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ; มคฺคสจฺจสฺสาปิ น เอกเทโส, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ. ทุกฺขารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. สมุทยารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. นิโรธารมฺมณตา อวิชฺชา นุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. มคฺคารมฺมณตา อวิชฺชา นูปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ.
ทฺเว สจฺจา ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรา. ทฺเว สจฺจา คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสา. อปิจ โข ปน ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ คมฺภีรฺเจว ทุทฺทสฺจ. ตตฺถ ทุกฺขํ นาม ปากฏํ, ลกฺขณสฺส ปน ทุทฺทสตฺตา ¶ คมฺภีรํ นาม ชาตํ. สมุทเยปิ เอเสว นโย. ยถา ปน มหาสมุทฺทํ มนฺเถตฺวา โอชาย นีหรณํ นาม ภาโร, สิเนรุปาทโต ¶ วาลิกาย อุทฺธรณํ นาม ภาโร, ปพฺพตํ ปีเฬตฺวา รสสฺส นีหรณํ นาม ภาโร; เอวเมว ทฺเว สจฺจานิ คมฺภีรตาย เอว ทุทฺทสานิ, นิโรธสจฺจํ ปน อติคมฺภีรฺจ อติทุทฺทสฺจาติ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานํ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทสานํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิจฺฉาทกํ โมหนฺธการํ อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส.
สงฺขารปทนิทฺเทโส
สงฺขารปเท ¶ เหฏฺา วุตฺตสงฺขาเรสุ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเร อนามสิตฺวา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาเรเยว ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปฺุโ. อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร. ปฺุโว อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร. ปฺุปฏิปกฺขโต อปฺุโ. อปฺุโว อภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร. น อิฺชตีติ อาเนฺชํ. อาเนฺชเมว อภิสงฺขาโร, อาเนฺชฺจ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. กาเยน ปวตฺติโต, กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปมตฺติโก ปริวีมํสนสุตฺตวเสน คหิโต. ตตฺถ หิ ‘‘ปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปฺุูปคํ โหติ วิฺาณํ. อปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อปฺุุปคํ โหติ วิฺาณํ. อาเนฺชฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชุปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๕๑) วุตฺตํ. ทุติยตฺติโก ตทนนฺตรสฺส วิภงฺคสุตฺตสฺส วเสน คหิโต, สมฺมาทิฏฺิสุตฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๑๐๒) คหิโตติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, สงฺขารา. กตเม ตโย? กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒) วุตฺตํ. กสฺมา ปเนเตสํ สุตฺตานํ วเสน เต คหิตาติ? อยํ อภิธมฺโม นาม ¶ น อธุนากโต, นาปิ พาหิรกอิสีหิ วา สาวเกหิ วา เทวตาหิ ¶ วา ภาสิโต. สพฺพฺุชินภาสิโต ปน อยํ. อภิธมฺเมปิ หิ สุตฺเตปิ เอกสทิสาว ตนฺติ นิทฺทิฏฺาติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ.
อิทานิ เต สงฺขาเร ปเภทโต ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลา เจตนาติ อนิยมโต จตุภูมิกเจตนาปิ วุตฺตา. กามาวจรา รูปาวจราติ นิยมิตตฺตา ปน อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ นาม. ทานมยาติอาทีหิ ตาสํเยว เจตนานํ ปฺุกิริยวตฺถุวเสน ปวตฺติ ทสฺสิตา. ตตฺถ อฏฺ กามาวจราว ทานสีลมยา โหนฺติ. ภาวนามยา ปน เตรสปิ. ยถา หิ ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายมาโน เอกํ ทฺเว อนุสนฺธิคเตปิ น ชานาติ, ปจฺฉา อาวชฺชนฺโต ชานาติ; เอวเมว กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ปคุณชฺฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปคุณกมฺมฏฺานฺจ มนสิกโรนฺตสฺส าณวิปฺปยุตฺตาปิ ภาวนา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภาวนามยา ปน เตรสปี’’ติ.
ตตฺถ ทานมยาทีสุ ‘‘ทานํ อารพฺภ ทานมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ทานมโย ปฺุาภิสงฺขาโรติ. สีลํ อารพฺภ…เป… ภาวนํ อารพฺภ ภาวนมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ภาวนามโย ปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ (วิภ. ๗๖๙) อยํ สงฺเขปเทสนา.
จีวราทีสุ ปน จตูสุ ปจฺจเยสุ รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค ปริจฺจาคกาเล ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ทานมยา นาม. สีลํ ปริปูรณตฺถาย ปน ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส ปพฺพชนฺตสฺส มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ‘ปพฺพชิโต วตมฺหิ, สาธุ สุฏฺู’ติ อาวชฺชนฺตสฺส ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา สีลมยา นาม. ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ¶ ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส รูเป…เป… ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, รูปสฺํ ¶ …เป… ธมฺมสฺํ ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา ภาวนามยา นามาติ อยํ วิตฺถารกถา.
อปฺุาภิสงฺขารนิทฺเทเส อกุสลา เจตนาติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา. กามาวจราติ กิฺจาปิ ตตฺถ ¶ เปตฺวา ทฺเว โทมนสฺสสหคตเจตนา เสสา รูปารูปภเวปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ปน ปฏิสนฺธึ น อากฑฺฒนฺติ, กามาวจเรเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปากํ อวจาเรนฺตีติ กามาวจราตฺเวว วุตฺตา.
อาเนฺชาภิสงฺขารนิทฺเทเส กุสลา เจตนา อรูปาวจราติ จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา. เอตา หิ จตสฺโส อนิฺชนฏฺเน อนิฺชนสฺส จ อภิสงฺขรณฏฺเน อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจนฺติ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต หิ ติสฺโส กุสลวิปากกิริยาเจตนา ทฺวาทส อรูปาวจรเจตนาติ ปฺจทส ธมฺมา อนิจฺจลฏฺเน อผนฺทนฏฺเน อาเนฺชา นาม. ตตฺถ รูปาวจรา กุสลา เจตนา อนิฺชา สมานาปิ อตฺตนา สริกฺขกมฺปิ อสริกฺขกมฺปิ สอิฺชนมฺปิ อนิฺชนมฺปิ รูปารูปํ ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร นาม น โหติ. วิปากกิริยเจตนา ปน อวิปากตฺตา วิปากํ น อภิสงฺขโรนฺติ, ตถา อรูปาวจรา วิปากกิริยเจตนาปีติ เอกาทสาปิ เอตา เจตนา อาเนฺชาว น อภิสงฺขารา. จตุพฺพิธา ปน อรูปาวจรกุสลเจตนา ยถา หตฺถิอสฺสาทีนํ สทิสาว ฉายา โหนฺติ, เอวํ อตฺตนา สทิสํ นิจฺจลํ อรูปเมว ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจตีติ.
เอวํ ปฺุชาภิสงฺขารวเสน เตรส, อปฺุาภิสงฺขารวเสน ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขารวเสน จตสฺโสติ สพฺพาเปตา ปริปิณฺฑิตา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกกุสลากุสลเจตนา มหาตุลาย ธารยมาโน วิย, นาฬิยํ ปกฺขิปิตฺวา มินมาโน วิย จ สพฺพฺุตาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอกูนตึสเมว ทสฺเสสิ.
อิทานิ ¶ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา เยหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺติ, ตานิ ตีณิ กมฺมทฺวารานิ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตโม กายสงฺขาโร? กายสฺเจตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กายสฺเจตนาติ กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา กายทฺวารโต ปวตฺตา ¶ อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทส อกุสลเจตนาติ สมวีสติ เจตนา; กายทฺวาเร อาทานคฺคหณโจปนํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ กุสลากุสลเจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
วจีสฺเจตนาติ ¶ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา ตาเยว วีสติ เจตนา; วจีทฺวาเร หนุสฺโจปนํ วากฺยเภทํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ เจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อภิฺาเจตนา ปเนตฺถ ปรโต วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ น คหิตา. ยถา จ อภิฺาเจตนา, เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหติ. ตสฺมา สาปิ วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา. อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺติ.
มโนสฺเจตนาติ อุโภปิ วิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา อิเมหิ ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺตีติ อายูหนกมฺมทฺวารํ ทสฺเสสิ.
อิเมสํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ ติกานํ อฺมฺํ สมฺปโยโค เวทิตพฺโพ. กถํ? ปฺุาภิสงฺขาโร หิ กายทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา วจีสงฺขาโร. เอวํ อฏฺ กุสลเจตนา กามาวจรา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ กายสงฺขาโร จ วจีสงฺขาโร จ. มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา ปน เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ จิตฺตสงฺขาโร จ. อปฺุาภิสงฺขาโรปิ กายทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา วจีสงฺขาโร, ทฺเว ทฺวารานิ มฺุจิตฺวา มโนทฺวาเร ปวตฺติยํ สิยา จิตฺตสงฺขาโรติ. เอวํ อปฺุาภิสงฺขาโร กายสงฺขาโรปิ โหติ วจีสงฺขาโรปิ จิตฺตสงฺขาโรปิ.
กายสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, น อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตถา วจีสงฺขาโร. จิตฺตสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ , สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ. อิเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา นาม.
กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ ¶ , สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ, นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี ¶ หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิจ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณํ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปปาตํ; สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.
กามูปเสวนาทีสุ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ.
เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต; ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ. ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เนว ปฺุาภิสงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’ติ. อิทํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘กตเมสํ สงฺขารานํ กถํ ปจฺจโย โหตี’ติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –
ปจฺจโย ¶ โหติ ปฺุานํ, ทุวิธาเนกธา ปน;
ปเรสํ ปจฺฉิมานํ สา, เอกธา ปจฺจโย มตา.
ตตฺถ ¶ ‘ปฺุานํ ทุวิธา’ติ อารมฺมณปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺเวธา ปจฺจโย โหติ. สา หิ อวิชฺชํ ขยโต วยโต สมฺมสนกาเล กามาวจรานํ ปฺุาภิสงฺขารานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อภิฺาจิตฺเตน สโมหจิตฺตชานนกาเล รูปาวจรานํ, อวิชฺชาสมติกฺกมนตฺถาย ปน ทานาทีนิ เจว กามาวจรปฺุกิริยวตฺถูนิ ปูเรนฺตสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ จ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ; ตถา อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา กามภวรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ปฺุานิ กโรนฺตสฺส.
‘อเนกธา ปน ปเรส’นฺติ อปฺุาภิสงฺขารานํ อเนกธา ปจฺจโย โหติ. กถํ? เอสา หิ อวิชฺชํ อารพฺภ ราคาทีนํ อุปฺปชฺชนกาเล อารมฺมณปจฺจเยน, ครุํ กตฺวา อสฺสาทนกาเล อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน, ทุติยชวนาทีนํ อนนฺตรสมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ, ยํ กิฺจิ อกุสลํ กโรนฺตสฺส เหตุสหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ อเนกธา ปจฺจโย โหติ.
‘ปจฺฉิมานํ สา เอกธา ปจฺจโย มตา’ติ อาเนฺชาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว เอกธา ปจฺจโย มตา. โส ปนสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ปฺุาภิสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
เอตฺถาห – ‘กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา โหนฺตี’ติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว เอกาว เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ ‘อฺเปิ สนฺติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ.
เอกโต ¶ หิ การณโต น อิธ กิฺจิ เอกํ ผลมตฺถิ, น อเนกํ. นาปิ อเนเกหิ การเณหิ เอกํ. อเนเกหิ ปน การเณหิ อเนกเมว โหติ. ตถา หิ อเนเกหิ อุตุปถวีพีชสลิลสงฺขาเตหิ การเณหิ อเนกเมว รูปคนฺธรสาทิองฺกุรสงฺขาตํ ผลมุปฺปชฺชมานํ ทิสฺสติ. ยํ ปเนตํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอเกกเหตุผลทีปนํ กตํ, ตตฺถ อตฺโถ อตฺถิ, ปโยชนํ วิชฺชติ.
ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา, เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมวเหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ; ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๗) หิ เอกเมว เหตุํ ผลฺจาห. ผสฺโส หิ เวทนาย ปธานเหตุ ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานโต. เวทนา จ ผสฺสสฺส ปธานผลํ ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานโต.
‘‘เสมฺหสมุฏฺานา อาพาธา’’ติ (มหานิ. ๕) ปากฏตฺตา เอกํ เหตุมาห. ปากโฏ เหตฺถ เสมฺโห, น กมฺมาทโย. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, อกุสลา ธมฺมา, สพฺเพเต อโยนิโสมนสิการมูลกา’’ติ อสาธารณตฺตา เอกํ เหตุมาห; อสาธารโณ หิ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลานํ, สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติ.
ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห ¶ – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
วิรุทฺโธ ¶ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น.
ธมฺมานฺหิ านสภาวกิจฺจาทิวิรุทฺโธ จ อวิรุทฺโธ จ ปจฺจโย โลเก สิทฺโธ. ปุริมจิตฺตฺหิ อปรจิตฺตสฺส านวิรุทฺโธ ปจฺจโย, ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา จ ปจฺฉาปวตฺตมานานํ สิปฺปาทิกิริยานํ. กมฺมํ รูปสฺส สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ จ ทธิอาทีนํ. อาโลโก จกฺขุวิฺาณสฺส กิจฺจวิรุทฺโธ, คุฬาทโย จ อาสวาทีนํ. จกฺขุรูปาทโย ปน จกฺขุวิฺาณาทีนํ านาวิรุทฺธา ปจฺจยา ¶ . ปุริมชวนาทโย ปจฺฉิมชวนาทีนํ สภาวาวิรุทฺธา กิจฺจาวิรุทฺธา จ.
ยถา จ วิรุทฺธาวิรุทฺธา ปจฺจยา สิทฺธา, เอวํ สทิสาสทิสาปิ. สทิสเมว หิ อุตุอาหารสงฺขาตํ รูปํ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ, สาลิพีชาทีนิ จ สาลิผลาทีนํ. อสทิสมฺปิ รูปํ อรูปสฺส, อรูปฺจ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ; โคโลมาวิโลมวิสาณทธิติลปิฏฺาทีนิ จ ทพฺพภูติณกาทีนํ. เยสฺจ ธมฺมานํ เย วิรุทฺธาวิรุทฺธา สทิสาสทิสา ปจฺจยา, น เต ธมฺมา เตสํ ธมฺมานํ วิปากาเยว. อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลสภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา.
โส จสฺสา ปจฺจยภาโว ‘‘ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต เอว.
อปิจ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –
จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
อภิสงฺขโรติ ¶ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปิ ยํ ตโตติ.
กถํ ¶ ปน โย เอเตสุ วิมุยฺหติ, โส ติวิเธเปเต สงฺขาเร กโรตีติ เจ? จุติยา ตาว วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ เภโท มรณ’’นฺติ จุตึ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต มรติ, สตฺตสฺส เทสนฺตรสงฺกมน’นฺติอาทีนิ วิกปฺเปติ. อุปปาเต วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ ปาตุภาโว ชาตี’’ติ อุปปาตํ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต อุปปชฺชติ, สตฺตสฺส นวสรีรปาตุภาโว’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สํสาเร วิมูฬฺโห โย เอส –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ¶ วณฺณิโต สํสาโร. ตํ เอวํ อคณฺหนฺโต ‘อยํ สตฺโต อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉติ, ปรสฺมา โลกา อิมํ โลกํ อาคจฺฉตี’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สงฺขารานํ ลกฺขเณ วิมูฬฺโห สงฺขารานํ สภาวลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ อคณฺหนฺโต สงฺขาเร อตฺตโต อตฺตนิยโต ธุวโต สุภโต สุขโต จ วิกปฺเปติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ วิมูฬฺโห อวิชฺชาทีหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺตึ อคณฺหนฺโต ‘‘อตฺตา ชานาติ วา น ชานาติ วา, โส เอว กโรติ จ กาเรติ จ โส ปฏิสนฺธิยํ อุปปชฺชติ, ตสฺส อณุอิสฺสราทโย กลลาทิภาเวน สรีรํ สณฺเปตฺวา อินฺทฺริยานิ สมฺปาเทนฺติ, โส อินฺทฺริยสมฺปนฺโน ผุสติ เวทิยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ฆฏิยติ, โส ปุน ภวนฺตเร ภวตี’’ติ วา ‘‘สพฺเพ สตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) วา วิกปฺเปติ. โส เอวํ อวิชฺชาย อนฺธีกโต เอวํ วิกปฺเปนฺโต ยถา นาม อนฺโธ ปถวิยํ วิจรนฺโต มคฺคมฺปิ อมคฺคมฺปิ ถลมฺปิ นินฺนมฺปิ สมมฺปิ วิสมมฺปิ ปฏิปชฺชติ, เอวํ ปฺุมฺปิ อปฺุมฺปิ อาเนฺชมฺปิ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปรินายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, กุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
สํสาเร ¶ สํสรํ พาโล, ตถา อปรินายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
ยทา ¶ ตฺวา จ โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตีติ.
อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ ปทสฺมึ วิตฺถารกถา.
อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารปทนิทฺเทโส.
วิฺาณปทนิทฺเทโส
๒๒๗. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทเส จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน กุสลากุสลวิปากา ทฺเว มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกานิ กามาวจรวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานีติ พาวีสติวิธํ ¶ โหติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ วิฺาเณหิ สพฺพานิปิ พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรานิ ปน วฏฺฏกถายํ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ; น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ – ‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’ติ.
กตรสงฺขารปจฺจยา กตรวิฺาณนฺติ เจ? กามาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ตาว กุสลวิปากานิ ¶ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, มโนวิฺาเณ เอกา มโนธาตุ, ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ กามาวจรมหาวิปากานีติ โสฬส. ยถาห –
‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิปากา มโนธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ อุเปกฺขาสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา ¶ าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรนา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑, ๔๙๘).
รูปาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน ปฺจ รูปาวจรวิปากานิ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ…เป… ปฺจมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๔๙๙).
เอวํ ปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา เอกวีสติวิธํ วิฺาณํ โหติ.
อปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน อกุสลวิปากานิ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, เอกา มโนธาตุ, เอกา มโนวิฺาณธาตูติ เอวํ สตฺตวิธํ วิฺาณํ โหติ. ยถาห –
‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ ¶ , วิปากา มโนธาตุ, วิปากา มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๕๕๖).
อาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยา ¶ ปน จตฺตาริ อรูปวิปากานีติ เอวํ จตุพฺพิธํ วิฺาณํ โหตีติ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว อรูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… อากิฺจฺายตนสฺาสหคตํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๕๐๑).
เอวํ ยํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ โหติ, ตํ ตฺวา อิทานิสฺส เอวํ ปวตฺติ เวทิตพฺพา – สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺวิธา ปวตฺตติ. ตตฺถ ¶ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
กถํ? กุสลวิปากานิ ตาว จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ กุสลวิปาเกน วา อกุสลวิปาเกน วา นิพฺพตฺตสฺส ยถากฺกมํ ปริปากมุปคตินฺทฺริยสฺส จกฺขาทีนํ อาปาถคตํ อิฏฺํ วา อิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ อารพฺภ จกฺขาทิปสาทํ นิสฺสาย ทสฺสนสวนฆายนสายนผุสนกิจฺจํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. ตถา อกุสลวิปากานิ ปฺจ. เกวลฺหิ เตสํ อนิฏฺํ อนิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ โหติ, อยเมว วิเสโส. ทสาปิ เจตานิ นิยตทฺวารารมฺมณวตฺถุฏฺานานิ นิยตกิจฺจาเนว จ ภวนฺติ.
ตโต กุสลวิปากานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรํ กุสลวิปากมโนธาตุ เตสฺเว อารมฺมณมารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา ปวตฺตติ. ตถา อกุสลวิปากานํ อนนฺตรํ อกุสลวิปากา ¶ . อิทฺจ ปน ทฺวยํ อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุฏฺานํ นิยตกิจฺจฺจ โหติ.
โสมนสฺสสหคตา ปน อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ กุสลวิปากมโนธาตุยา อนนฺตรํ ตสฺสา เอว ¶ อารมฺมณํ อารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา จ ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ กามาวจรสตฺตานํ เยภุยฺเยน โลภสมฺปยุตฺตชวนาวสาเน ภวงฺควีถึ ปจฺฉินฺทิตฺวา ชวเนน คหิตารมฺมเณ ตทารมฺมณวเสน จ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ปวตฺตติ. จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ ปน สพฺพทฺวาเรสุ ตทารมฺมเณ ทฺเว เอว จิตฺตวารา อาคตา. อิทํ ปน จิตฺตํ ตทารมฺมณนฺติ จ ปิฏฺิภวงฺคนฺติ จาติ ทฺเว นามานิ ลภติ, อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุกํ อนิยตฏฺานกิจฺจฺจ โหตีติ. เอวํ ตาว เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตติ.
ปวตฺติยํ ปน กุสลากุสลวิปากา ตาว ทฺเว อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย ปฺจทฺวาเร กุสลากุสลวิปากมโนธาตูนํ อนนฺตรํ สนฺตีรณกิจฺจํ ¶ , ฉสุ ทฺวาเรสุ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ จตฺตาริ กิจฺจานิ สาธยมานา นิยตวตฺถุกา อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
อฏฺ กามาวจรสเหตุกจิตฺตานิ ปวตฺติยํ วุตฺตนเยเนว ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ ตีณิ กิจฺจานิ สาธยมานานิ นิยตวตฺถุกานิ อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจานิ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
ปฺจ รูปาวจรานิ จตฺตาริ จ อรูปาวจรานิ อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ กิจฺจทฺวยํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. เตสุ รูปาวจรานิ นิยตวตฺถารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ, อิตรานิ อวตฺถุกานิ นิยตารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ ¶ หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ตาว พาตฺตึสวิธมฺปิ วิฺาณํ ปวตฺติยํ สงฺขารปจฺจยา ปวตฺตติ. ตตฺรสฺส เต เต สงฺขารา กมฺมปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจยา โหนฺติ.
ตตฺถ ยาเนตานิ เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ วุตฺตานิ, เตสุ เอกมฺปิ รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ ¶ หุตฺวา น ปวตฺตติ. กสฺมา? พีชาภาวา. ตตฺถ หิ กามาวจรวิปากสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิพีชํ นตฺถิ, ยํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติยํ ตสฺส ชนกํ ภเวยฺย. จกฺขุวิฺาณาทีนมฺปิ รูปภเว อภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น; อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จ.
ยถา เจตํ ตทารมฺมณํ เอกนฺเตน รูปารูปภเว นปฺปวตฺตติ ตถา สพฺเพปิ อกามาวจเร ธมฺเม นานุพนฺธติ. กสฺมา? อชนกตฺตา เจว ชนกสฺส จ อสทิสตฺตา. ตฺหิ ยถา นาม เคหา นิกฺขมิตฺวา พหิ คนฺตุกาโม ตรุณทารโก อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา อฺํ วา ปิตุสทิสํ หิตกามํ าตึ องฺคุลิยํ คเหตฺวา อนุพนฺธติ, น อฺํ ราชปุริสาทึ, ตถา เอตมฺปิ ภวงฺคารมฺมณโต พหิ นิกฺขมิตุกามํ สภาคตาย อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา กามาวจรชวนเมว อนุพนฺธติ, น อฺํ มหคฺคตํ อนุตฺตรํ วา.
ยถา ¶ เจตํ มหคฺคตโลกุตฺตเร ธมฺเม นานุพนฺธติ, ตถา ยทา เอเต กามาวจรธมฺมาปิ มหคฺคตารมฺมณา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ ตทา เตปิ นานุพนฺธติ. กสฺมา? อปริจิตเทสตฺตา อจฺจนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา จ. ตฺหิ ยถา ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา าตึ อนุพนฺธนฺโตปิ ตรุณทารโก ฆรทฺวารอนฺตรวีถิจตุกฺกาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส อนุพนฺธติ, น อรฺํ วา ยุทฺธภูมึ วา คจฺฉนฺตํ; เอวํ กามาวจรธมฺเม อนุพนฺธนฺตมฺปิ อมหคฺคตาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส ปวตฺตมาเน ธมฺเม อนุพนฺธติ, น มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตมาเนติ.
ยสฺมา จสฺส ‘‘สพฺโพ กามาวจรวิปาโก กิริยมโนธาตุ กิริยอเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โสมนสฺสสหคตา อิเม ธมฺมา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ เอวํ อจฺจนฺตปริตฺตเมว อารมฺมณํ วุตฺตํ, ตสฺมาเปตํ มหคฺคตโลกุตฺตรารมฺมเณ ¶ กามาวจรธมฺเมปิ นานุพนฺธตีติ เวทิตพฺพํ.
กึ วา อิมาย ยุตฺติกถาย? อฏฺกถายฺหิ เอกนฺเตเนว วุตฺตํ – เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ นามโคตฺตํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺติ. ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ติลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. วุฏฺานคามินิยา พลววิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. รูปารูปธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. มิจฺฉตฺตนิยตธมฺเมสุ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. สมฺมตฺตนิยตธมฺเมสุ ¶ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. อภิฺาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ปฏิสมฺภิทาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. กามาวจเร ทุพฺพลารมฺมเณ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ, ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ อาปาถคเตเยว ลพฺภติ, ลพฺภมานฺจ กามาวจเรเยว ลพฺภติ. รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ นาม นตฺถีติ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตตี’’ติ, ตํ อติสํขิตฺตตฺตา ทุพฺพิชานํ. เตนสฺส วิตฺถารนยทสฺสนตฺถํ วุจฺจติ – ‘‘กติ ปฏิสนฺธิโย? กติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ? เกน กตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ? กึ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณ’’นฺติ?
อสฺปฏิสนฺธิยา ¶ สทฺธึ วีสติ ปฏิสนฺธิโย. วุตฺตปฺปการาเนว เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลวิปากาย อเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ โหติ, กุสลวิปากาย มนุสฺสโลเก ชจฺจนฺธชาติพธิรชาติอุมฺมตฺตกเอฬมูคนปุํสกาทีนํ. อฏฺหิ สเหตุกมหาวิปาเกหิ กามาวจรเทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ ปฺุวนฺตานํ ปฏิสนฺธิ โหติ, ปฺจหิ รูปาวจรวิปาเกหิ รูปีพฺรหฺมโลเก, จตูหิ อรูปาวจรวิปาเกหิ อรูปโลเกติ. เยน จ ยตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ, สา เอว ตสฺสา อนุรูปปฏิสนฺธิ นาม.
สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ – กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ ¶ , คตินิมิตฺตนฺติ. ตตฺถ กมฺมํ นาม อายูหิตา กุสลากุสลเจตนา. กมฺมนิมิตฺตํ นาม ยํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา กมฺมํ อายูหติ. ตตฺถ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถกสฺมิมฺปิ กมฺเม กเต ตสฺมึ ขเณ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อาคนฺตฺวา อุปฏฺาติ.
ตตฺริทํ กมฺมนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน วตฺถุ – โคปกสีวลี กิร นาม ตาลปิฏฺิกวิหาเร เจติยํ กาเรสิ. ตสฺส มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส เจติยํ อุปฏฺาสิ. โส ตเทว นิมิตฺตํ คณฺหิตฺวา กาลํกตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. อฺา สมฺมูฬฺหกาลกิริยา นาม โหติ. ปรมฺมุขํ คจฺฉนฺตสฺส หิ ปจฺฉโต ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตสฺสาปิ ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. อุทเก โอสีทาเปตฺวา มาเรนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล อฺตรํ ¶ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. อฺํ ลหุกมรณํ นาม อตฺถิ. นิขาทนทณฺฑกมตฺถกสฺมิฺหิ นิลีนมกฺขิกํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ปิสนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. เอวํ ปิสิยมานาย ปน มกฺขิกาย ปมํ กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ นาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาราวชฺชนเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตโต กายวิฺาณํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺปนนฺติ วีถิจิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ. ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ตติยวาเร มโนทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. เอตสฺมึ าเน กาลกิริยํ กโรติ. อิทํ กิมตฺถํ อาภตํ? อรูปธมฺมานํ วิสโย นาม เอวํ ลหุโกติ ทีปนตฺถํ.
คตินิมิตฺตํ ¶ นาม นิพฺพตฺตนกโอกาเส เอโก วณฺโณ อุปฏฺาติ. ตตฺถ นิรเย อุปฏฺหนฺเต โลหกุมฺภิสทิโส หุตฺวา อุปฏฺาติ. มนุสฺสโลเก อุปฏฺหนฺเต มาตุกุจฺฉิกมฺพลยานสทิสา หุตฺวา อุปฏฺาติ. เทวโลเก อุปฏฺหนฺเต กปฺปรุกฺขวิมานสยนาทีนิ อุปฏฺหนฺติ. เอวํ กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ, คตินิมิตฺตนฺติ สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ.
อปโร นโย – ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ? อตีตํ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ , นวตฺตพฺพฺจ. อสฺีปฏิสนฺธิ อนารมฺมณาติ. ตตฺถ วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนปฏิสนฺธีนํ อตีตเมว อารมฺมณํ. ทสนฺนํ กามาวจรานํ อตีตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา. เสสานํ นวตฺตพฺพํ. เอวํ ตีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตมานา ปน ปฏิสนฺธิ ยสฺมา อตีตารมฺมณสฺส วา นวตฺตพฺพารมฺมณสฺส วา จุติจิตฺตสฺส อนนฺตรเมว โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ปน จุตฺติจิตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ทฺวีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรํ ตีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา สุคติทุคฺคติวเสน ปวตฺตนากาโร เวทิตพฺโพ.
เสยฺยถิทํ – กามาวจรสุคติยํ ตาว ิตสฺส ปาปกมฺมิโน ปุคฺคลสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ม. นิ. ๓.๒๔๘) มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ ปาปกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ ¶ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย วุตฺตปฺปการกมฺมวเสน นรกาทีสุ อคฺคิชาลวณฺณาทิกํ ทุคฺคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตํ อารมฺมณํ อารพฺภ เอกํ อาวชฺชนํ, มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานีติ ตีณิ วีถิจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา ¶ เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ อฺตรสฺมึ ทฺวาเร ¶ ราคาทิเหตุภูตํ หีนารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยมารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา ทฺเว ภวงฺคานิ, อาวชฺชนํ, ทสฺสนํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺพฺพนํ, ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานิ, เอกํ จุติจิตฺตนฺติ ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึ เยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ. เอส ตาว อตีตารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ทุคฺคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส วุตฺตนเยเนว ตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉตีติ กณฺหปกฺเข สุกฺกปกฺขํ เปตฺวา สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย สุคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
สุคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตฺจ โข อุปจิตกามาวจรานวชฺชกมฺมสฺเสว. อุปจิตมหคฺคตกมฺมสฺส ¶ ปน กมฺมนิมิตฺตเมว อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ สุคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตมุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา นวตฺตพฺพารมฺมณา วา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ¶ มรณสมเย กามาวจรานวชฺชกมฺมวเสน มนุสฺสโลเก มาตุกุจฺฉิวณฺณสงฺขาตํ วา เทวโลเก อุยฺยานกปฺปรุกฺขาทิวณฺณสงฺขาตํ วา สุคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร ¶ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทุคฺคตินิมิตฺเต ทสฺสิตานุกฺกเมเนว จุติจิตฺตานนฺตรํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย าตกา ‘อยํ, ตาต, ตวตฺถาย พุทฺธปูชา กรียติ, จิตฺตํ ปสาเทหี’ติ วตฺวา ปุปฺผทามธชปฏากาทิวเสน รูปารมฺมณํ วา ธมฺมสฺสวนตูริยปูชาทิวเสน สทฺทารมฺมณํ วา ธูมวาสคนฺธาทิวเสน คนฺธารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, สายสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา มธุผาณิตาทิวเสน รสารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, ผุสสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา จีนปฏโสมารปฏาทิวเสน โผฏฺพฺพารมฺมณํ วา ปฺจทฺวาเร อุปสํหรนฺติ. ตสฺส ตสฺมึ อาปาถคเต รูปาทิอารมฺมเณ ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺปนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ, ตทวสาเน ตสฺมิฺเว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ปน ปถวีกสิณชฺฌานาทิวเสน ปฏิลทฺธมหคฺคตสฺส สุคติยํ ิตสฺส มรณสมเย กามาวจรกุสลกมฺม-กมฺมนิมิตฺต-คตินิมิตฺตานํ อฺตรํ ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺตํ มหคฺคตจิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. จกฺขุโสตานํ วา อฺตรสฺมึ กุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ ปณีตมารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. มหคฺคตคติกานํ ปน ตทารมฺมณํ นตฺถิ. ตสฺมา ชวนานนฺตรํเยว ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ¶ . ตสฺสาวสาเน กามาวจรมหคฺคตสุคตีนํ อฺตรสุคติปริยาปนฺนํ ยถูปฏฺิเตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ¶ อุปฺปชฺชติ. อยํ นวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพานํ อฺตรารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
เอเตนานุสาเรน อารุปฺปจุติยาปิ อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพา. อยํ อตีตนวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ¶ ิตสฺส ปน ปาปกมฺมิโน วุตฺตนเยเนว ตํ กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร, ปฺจทฺวาเร ปน อกุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ อารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. อถสฺส ยถากฺกเมน จุติจิตฺตาวสาเน ทุคฺคติปริยาปนฺนํ เตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโรติ. เอตฺตาวตา เอกูนวีสติวิธสฺสาปิ วิฺาณสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
ตยิทํ สพฺพมฺปิ เอวํ –
ปวตฺตมานํ สนฺธิมฺหิ, ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ;
มิสฺสาทีหิ จ เภเทหิ, เภทสฺส ทุวิธาทิโก.
อิทฺหิ เอกูนวีสติวิธมฺปิ วิปากวิฺาณํ ปฏิสนฺธิมฺหิ ปวตฺตมานํ ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ. ยถาสกฺหิ เอตสฺส ชนกํ กมฺมํ นานากฺขณิกกมฺมปฺปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓). เอวํ วตฺตมานสฺส ปนสฺส มิสฺสาทีหิ เภเทหิ ทุวิธาทิโกปิ เภโท เวทิตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – อิทฺหิ ปฏิสนฺธิวเสน เอกธา วตฺตมานมฺปิ รูเปน สห มิสฺสามิสฺสเภทโต ทุวิธํ, กามรูปารูปภวเภทโต ติวิธํ, อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกโยนิวเสน จตุพฺพิธํ, คติวเสน ปฺจวิธํ, วิฺาณฏฺิติวเสน สตฺตวิธํ, สตฺตาวาสวเสน อฏฺวิธํ โหติ. ตตฺถ –
มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา, สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา;
ทฺเว วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สห.
‘มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา’ติ ยฺเหตเมตฺถ อฺตฺร อรูปภวา รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ รูปภเว อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยสงฺขาเตน ภาเวน วินา อุปฺปตฺติโต กามภเว อฺตฺร ชาติปณฺฑกปฏิสนฺธิยา ภาเวน สห อุปฺปตฺติโต สภาวํ อภาวนฺติ ทุวิธํ โหติ.
‘สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา’ติ ตตฺถาปิ จ ยํ สภาวํ ตํ อิตฺถิปุริสภาวานํ อฺตเรน สห อุปฺปตฺติโต ทุวิธเมว โหติ.
‘ทฺเว ¶ วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สหา’ติ ยฺเหตเมตฺถ มิสฺสํ อมิสฺสนฺติ ทฺวเย อาทิภูตํ รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ, เตน สห วตฺถุกายทสกวเสน ทฺเว วา วตฺถุกายภาวทสกวเสน ตโย วา ทสกา โอมโต อุปฺปชฺชนฺติ, นตฺถิ อิโต ปรํ รูปปริหานีติ. ตํ ปเนตํ เอวํ โอมกปริมาณํ อุปฺปชฺชมานํ อณฺฑชชลาพุชนามิกาสุ ทฺวีสุ โยนีสุ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธตเตลสปฺปิมณฺฑปฺปมาณํ กลลนฺติ ลทฺธสงฺขํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ โยนีนํ คติวเสน สมฺภวเภโท เวทิตพฺโพ. เอตาสุ หิ –
นิรเย ภุมฺมวชฺเชสุ, เทเวสุ จ น โยนิโย;
ติสฺโส ปุริมิกา โหนฺติ, จตสฺโสปิ คติตฺตเย.
ตตฺถ เทเวสุ จาติ จสทฺเทน ยถา นิรเย จ ภุมฺมวชฺเชสุ จ เทเวสุ, เอวํ นิชฺฌามตณฺหิกเปเตสุ จ ปุริมิกา ติสฺโส โยนิโย น สนฺตีติ เวทิตพฺพา. โอปปาติกา เอว หิ เต โหนฺติ. เสเส ปน ติรจฺฉานเปตฺติวิสยมนุสฺสสงฺขาเต คติตฺตเย ปุพฺเพ วชฺชิตภุมฺมเทเวสุ จ จตสฺโส โยนิโย โหนฺติ. ตตฺถ –
ตึส นว เจว รูปีสุ, สตฺตติ อุกฺกํสโตว รูปานิ;
สํเสทโชปปาตีสุ, อถ วา อวกํสโต ตึส.
รูปีพฺรหฺเมสุ ¶ ตาว โอปปาติกโยนิเกสุ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตนวกสฺส จาติ จตุนฺนํ กลาปานํ วเสน ตึส จ นว จ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สห รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. รูปีพฺรหฺเม ปน เปตฺวา อฺเสุ สํเสทชโอปปาติเกสุ อุกฺกํสโต จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกานํ ¶ วเสน สตฺตติ. ตานิ จ นิจฺจํ เทเวสุ. ตตฺถ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา จตสฺโส จาปิ ธาตุโย จกฺขุปสาโท ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อยํ ทสรูปปริมาโณ รูปปฺุโช จกฺขุทสโก นาม. เอวํ เสสา เวทิตพฺพา. อวกํสโต ปน ชจฺจนฺธพธิรอฆานกนปุํสกสฺส ชิวฺหากายวตฺถุทสกานํ วเสน ตึส รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุกฺกํสาวกํสานํ ปน อนฺตเร อนุรูปโต วิกปฺโป เวทิตพฺโพ.
เอวํ วิทิตฺวา ปุน –
ขนฺธารมฺมณคติเหตุ-เวทนาปีติวิตกฺกวิจาเรหิ;
เภทาเภทวิเสโส, จุติสนฺธีนํ ปริฺเยฺโย.
ยาเหสา ¶ มิสฺสามิสฺสโต ทุวิธา ปฏิสนฺธิ, ยา จสฺสา อตีตานนฺตรา จุติ, ตาสํ อิเมหิ ขนฺธาทีหิ เภทาเภทวิเสโส าตพฺโพติ อตฺโถ.
กถํ? กทาจิ จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธาว อารมฺมณโตปิ อภินฺนา ปฏิสนฺธิ โหติ, กทาจิ อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณา. อยํ ตาว อรูปภูมีสุเยว นโย. กทาจิ ปน จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรา ปฏิสนฺธิ. กทาจิ ปฺจกฺขนฺธาย กามาวจรจุติยา รูปาวจรจุติยา วา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธา อารุปฺปปฏิสนฺธิ. เอวํ อตีตารมฺมณจุติยา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ, เอกจฺจสุคติจุติยา เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธิ, อเหตุกจุติยา สเหตุกปฏิสนฺธิ, ทุเหตุกจุติยา ติเหตุกปฏิสนฺธิ, อุเปกฺขาสหคตจุติยา โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิ, อปฺปีติกจุติยา สปฺปีติกปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกจุติยา สวิตกฺกปฏิสนฺธิ, อวิจารจุติยา สวิจารปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกอวิจารจุติยา สวิตกฺกสวิจารปฏิสนฺธีติ ตสฺส ตสฺส วิปรีตโต จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ.
ลทฺธปฺปจฺจยมิติธมฺม-มตฺตเมตํ ¶ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ.
อิติ ¶ เหตํ ลทฺธปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ภวนฺตรํ อุเปตีติ วุจฺจติ, น สตฺโต, น ชีโว. ตสฺส นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ปาตุภาโว. ตยิทํ ปากเฏน มนุสฺสจุติปฏิสนฺธิกฺกเมน ปกาสยิสฺสาม –
อตีตภวสฺมิฺหิ สรเสน อุปกฺกเมน วา สมาสนฺนมรณสฺส อสยฺหานํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคสนฺธิพนฺธนจฺเฉทกานํ มารณนฺติกเวทนาสตฺตานํ สนฺนิปาตํ อสหนฺตสฺส อาตเป ปกฺขิตฺตหริตตาลปณฺณมิว กเมน อุปสุสฺสมาเน สรีเร นิรุทฺเธสุ จกฺขาทีสุ อินฺทฺริเยสุ หทยวตฺถุมตฺเต ปติฏฺิเตสุ กายินฺทฺริยมนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริเยสุ ตงฺขณาวเสสํ หทยวตฺถุสนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ครุสมาเสวิตาสนฺนปุพฺพกตานํ อฺตรํ ลทฺธาวเสสปจฺจยสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ วา ตทุปฏฺาปิตํ วา กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสงฺขาตํ วิสยมารพฺภ ปวตฺตติ. ตเทวํ ปวตฺตมานํ ตณฺหาอวิชฺชานํ อปฺปหีนตฺตา อวิชฺชาปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ตสฺมึ วิสเย ตณฺหา นาเมติ ¶ , สหชาตสงฺขารา ขิปนฺติ. ตํ สนฺตติวเสน ตณฺหาย นามิยมานํ สงฺขาเรหิ ขิปฺปมานํ โอริมตีรรุกฺขวินิพทฺธรชฺชุมาลมฺพิตฺวา มาติกาติกฺกมโก วิย ปุริมฺจ นิสฺสยํ ชหติ, อปรฺจ กมฺมสมุฏฺาปิตํ นิสฺสยํ อสฺสาทยมานํ วา อนสฺสาทยมานํ วา อารมฺมณาทีหิเยว ปจฺจเยหิ ปวตฺตติ.
เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ. ตเทตํ นาปิ ปุริมภวา อิธ อาคตํ, นาปิ ตโต กมฺมสงฺขารนติวิสยาทิเหตุํ วินา ปาตุภูตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สิยุํ นิทสฺสนาเนตฺถ, ปฏิโฆสาทิกา อถ;
สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ, เอกตา นาปิ นานตา.
เอตฺถ ¶ เจตสฺส วิฺาณสฺส ปุริมภวโต อิธ อนาคมเน อตีตภวปริยาปนฺนเหตูหิ จ อุปฺปาเท ปฏิโฆสปทีปมุทฺทาปฏิพิมฺพปฺปการา ธมฺมา นิทสฺสนานิ สิยุํ. ยถา หิ ปฏิโฆสปทีปมุทฺทจฺฉายา ¶ สทฺทาทิเหตุกา อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺติ, เอวเมว อิทํ จิตฺตํ. เอตฺถ จ ‘สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ เอกตา นาปิ นานตา’. ยทิ หิ สนฺตานพนฺเธ สติ เอกนฺตเมกตา ภเวยฺย, น ขีรโต ทธิ สมฺภูตํ สิยา. อถาปิ เอกนฺตนานตา ภเวยฺย, น ขีรสฺสาธีโน ทธิ สิยา. เอส นโย สพฺพเหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ. เอวฺจ สติ สพฺพโลกโวหารโลโป สิยา. โส จ อนิฏฺโ. ตสฺมา เอตฺถ น เอกนฺตเมกตา วา นานตา วา อุปคนฺตพฺพาติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา? อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา? ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ. ตตฺริทํ วุจฺจติ –
สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
เอกสนฺตานสฺมิฺหิ ผลมุปฺปชฺชมานํ ตตฺถ เอกนฺตํ เอกตฺตนานตฺตานํ ปฏิสิทฺธตฺตา อฺสฺสาติ วา อฺโตติ วา น โหติ. เอตสฺส จ ปนตฺถสฺส พีชานํ อภิสงฺขาโร สาธโก. อมฺพพีชาทีนฺหิ อภิสงฺขาเรสุ กเตสุ ตสฺส พีชสฺส สนฺตาเน ลทฺธปจฺจโย กาลนฺตเร ผลวิเสโส อุปฺปชฺชมาโน น อฺพีชานํ นาปิ อฺาภิสงฺขารปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, น จ ตานิ พีชานิ ¶ เต อภิสงฺขารา วา ผลฏฺานํ ปาปุณนฺติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. วิชฺชาสิปฺโปสธาทีหิ จาปิ พาลสรีเร อุปยุตฺเตหิ กาลนฺตเร วุฑฺฒสรีราทีสุ ผลเทหิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยมฺปิ วุตฺตํ ‘อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา’ติ? ตตฺถ –
ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุติ.
ยถา ¶ หิ รุกฺขสงฺขาตานํ ธมฺมานํ เอกเทสภูตสฺส รุกฺขผลสฺส อุปฺปตฺติยา เอว รุกฺโข ผลตีติ ¶ วา ผลิโตติ วา วุจฺจติ, ตถา เทวมนุสฺสสงฺขาตานํ ขนฺธานํ เอกเทสภูตสฺส อุปโภคสงฺขาตสฺส สุขทุกฺขผลสฺส อุปฺปาเทเนว เทโว วา มนุสฺโส วา อุปภฺุชตีติ วา สุขิโตติ วา ทุกฺขิโตติ วา วุจฺจติ. ตสฺมา น เอตฺถ อฺเน อุปภฺุชเกน นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ.
โยปิ วเทยฺย – ‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ จ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสนํ.
กตตฺตา เอว หิ สงฺขารา อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น วิชฺชมานตฺตา วา อวิชฺชมานตฺตา วา. ยถาห ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๔๓๑). ยถารหสฺส อตฺตโน ผลสฺส จ ปจฺจยา หุตฺวา น ปุน ผลาวหา โหนฺติ วิปกฺกวิปากตฺตา. เอตสฺส จตฺถสฺส วิภาวเน อิทํ ปาฏิโภคาทิกํ นิทสฺสนํ เวทิตพฺพํ.
ยถา หิ โลเก โย กสฺสจิ อตฺถสฺส นิยฺยาตนตฺถํ ปาฏิโภโค โหติ, ภณฺฑํ วา กิณาติ, อิณํ วา คณฺหาติ. ตสฺส ตํ กิริยากรณมตฺตเมว ตทตฺถนิยฺยาตนาทิมฺหิ ปจฺจโย โหติ, น กิริยาย วิชฺชมานตา วา อวิชฺชมานตา วา. น จ ตทตฺถนิยฺยาตนาทิโต ปรมฺปิ ธารโกว ¶ โหติ. กสฺมา? นิยฺยาตนาทีนํ กตตฺตา. เอวํ กตตฺตาว สงฺขาราปิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น จ ยถารหํ ผลทานโต ปรมฺปิ ผลาวหา โหนฺตีติ. เอตฺตาวตา มิสฺสามิสฺสวเสน ทฺวิธาปิ ปวตฺตมานสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส สงฺขารปจฺจยา ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
อิทานิ สพฺเพสฺเวเตสุ พตฺตึสวิฺาเณสุ สมฺโมหวิฆาตตฺถํ –
ปฏิสนฺธิปฺปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยา.
ตตฺถ ¶ ตโย ภวา, จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว สตฺตาวาสาติ เอเต ภวาทโย นาม. เอเตสุ ภวาทีสุ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ เอเต เยสํ วิปากวิฺาณานํ ปจฺจยา ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพาติ อตฺโถ.
ตตฺถ – ปฺุาภิสงฺขาเร ตาว กามาวจรอฏฺเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร อวิเสเสน กามภเว สุคติยํ นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. รูปาวจรปฺจกุสลเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ปฏิสนฺธิยํ เอว ปฺจนฺนํ. วุตฺตปฺปเภทกามาวจโร ปน กามภเว สุคติยํ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุวชฺชานํ สตฺตนฺนํ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ทฺวิธา ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว รูปภเว ปฺจนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. กามภเว ปน ทุคฺคติยํ อฏฺนฺนมฺปิ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ.
ตตฺถ นิรเย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส นรกจาริกาทีสุ อิฏฺารมฺมณสมาโยเค โส ปจฺจโย โหติ. ติรจฺฉาเนสุ ปน นาคสุปณฺณเปตมหิทฺธิเกสุ จ อิฏฺารมฺมณํ ลพฺภติเยว. สฺเวว กามภเว สุคติยํ โสฬสนฺนมฺปิ กุสลวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. อวิเสเสน ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโท อปฺุาภิสงฺขาโร กามภเว ทุคฺคติยํ เอกสฺส วิฺาณสฺส ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต; ฉนฺนํ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; สตฺตนฺนมฺปิ อกุสลวิปากวิฺาณานํ ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ ¶ . กามภเว ปน สุคติยํ เตสํเยว สตฺตนฺนํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; รูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. โส จ โข กามาวจเร อนิฏฺรูปทสฺสนสทฺทสวนวเสน ¶ . พฺรหฺมโลเก ปน อนิฏฺา รูปาทโย นาม นตฺถิ, ตถา กามาวจรเทวโลเกปิ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ¶ อรูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
กามาวจรกุสลากุสลโต ปน สพฺพสงฺคาหิกนเยน วีสติเจตนาเภโทปิ กายสงฺขาโร กามภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. สฺเวว กามภเว เตรสนฺนํ, รูปภเว นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว กามภเว เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
อฏฺวีสติเอกูนตึสเจตนาเภโทปิ ปน จิตฺตสงฺขาโร ตีสุ ภเวสุ เอกูนวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต. สฺเวว ทฺวีสุ ภเวสุ เหฏฺาวุตฺตานํ เตรสนฺนฺจ นวนฺนฺจาติ ทฺวาวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตีสุ ปน ภเวสุ ทฺวตฺตึสายปิ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต เจว ปฏิสนฺธิยฺจ. เอวํ ตาว ภเวสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ วเสน เต สงฺขารา เยสํ ปจฺจยา, ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพา. เอเตเนว นเยน โยนิอาทีสุปิ เวทิตพฺพา.
ตตฺริทํ อาทิโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ – อิเมสุ หิ สงฺขาเรสุ ยสฺมา ปฺุาภิสงฺขาโร ตาว ทฺวีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตถา อณฺฑชาทีสุ จตูสุ โยนีสุ, เทวมนุสฺสสงฺขาตาสุ ทฺวีสุ คตีสุ, นานตฺตกายนานตฺตสฺีนานตฺตกายเอกตฺตสฺีเอกตฺตกายนานตฺตสฺีเอกตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาสุ มนุสฺสานฺเจว ปมทุติยตติยชฺฌานภูมีนฺจ วเสน จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. อสฺสตฺตาวาเส ปเนส รูปมตฺตเมวาภิสงฺขโรตีติ จตูสุเยว สตฺตาวาเสสุ จ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ. ตสฺมา เอส ¶ เอเตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ทฺวีสุ คตีสุ, จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, จตูสุ ¶ สตฺตาวาเสสุ จ เอกวีสติยา วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ยถาสมฺภวํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อปฺุาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมิฺเว กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, อวเสสาสุ ตีสุ คตีสุ, นานตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาย เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, ตาทิเสเยว จ เอกสฺมึ ¶ สตฺตาวาเส ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว จตูสุ โยนีสุ, ตีสุ คตีสุ, เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, เอกมฺหิ จ สตฺตาวาเส สตฺตนฺนํ วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมึ อรูปภเว, เอกิสฺสา โอปปาติกโยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, อากาสานฺจายตนาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อากาสานฺจายตนาทีสุ จ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึเยว ภเว, เอกิสฺสา โยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ, จตุนฺนํ วิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
กายสงฺขาโรปิ ยสฺมา เอกสฺมึ กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
จิตฺตสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา น กตฺถจิ น วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส ตีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อฏฺสุ สตฺตาวาเสสุ ยถาโยคํ ทฺวตฺตึสาย วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. อวิฺาณเก ปน สตฺตาวาเส สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ นตฺถิ.
อปิจ ปฺุาภิสงฺขาโร อสฺสตฺเตสุ กฏตฺตารูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ. เอวํ –
ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยาติ.
สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทโส.
นามรูปปทนิทฺเทโส
๒๒๘. วิฺาณปจฺจยา ¶ ¶ นามรูปนิทฺเทเส –
เทสนาเภทโต สพฺพ-ภวาทีสุ ปวตฺติโต;
สงฺคหา ปจฺจยนยา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เทสนาเภทโต’ติ ‘‘ตตฺถ กตมํ รูปํ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูป’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒; ม. นิ. ๑.๑๐๐) เอวํ ตาว สุตฺตนฺเต จ อิธ รูปปทสฺส อเภทโต เอกสทิสา เทสนา กตา; นามปทสฺส ปน เภทโต.
สุตฺตนฺตสฺมิฺหิ ‘‘ตตฺถ กตมํ นามํ? เวทนา สฺา เจตนา ผสฺโส มนสิกาโร’’ติ วุตฺตํ. อิธ ‘‘เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ. ตตฺถ หิ ยมฺปิ จกฺขุวิฺาณปจฺจยา นามํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส ิติ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ เอวํ อฺธมฺมสนฺนิสฺสเยน อคฺคเหตพฺพโต ปากฏํ, ตํ ทสฺเสนฺโต เจตนาผสฺสมนสิการวเสน สงฺขารกฺขนฺธํ ติธา ภินฺทิตฺวา ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สทฺธึ เทเสสิ. อิธ ปน ตตฺถ วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ สพฺพํ นามํ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘ตโย ขนฺธา – เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ อาห.
กึ ปน อิเม ตโย ขนฺธาว นามํ, วิฺาณํ นามํ นาม น โหตีติ? โน น โหติ. ตสฺมึ ปน วิฺาเณ คยฺหมาเน นามวิฺาณสฺส จ ปจฺจยวิฺาณสฺส จาติ ทฺวินฺนํ วิฺาณานํ สหภาโว อาปชฺชติ. ตสฺมา วิฺาณํ ปจฺจยฏฺาเน เปตฺวา ปจฺจยนิพฺพตฺตํ นามํ ทสฺเสตุํ ตโยว ขนฺธา วุตฺตาติ. เอวํ ตาว ‘เทสนาเภทโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’ติ เอตฺถ ปน นามํ เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติเสสสตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. รูปํ ¶ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ปุริมาสุ จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ปฺจสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. เอวํ ปวตฺตมาเน เจตสฺมึ นามรูเป ยสฺมา อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุกายวเสน รูปโต ทฺเว สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน ¶ รูปรูปโต วีสติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ ¶ เอเต เตวีสติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน เอกสนฺตติสีสโต นว รูปธมฺเม อปเนตฺวา จุทฺทส, สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส. เตสมฺปิ อคหิตคฺคหเณน สนฺตติสีสทฺวยโต อฏฺารส รูปธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
ยสฺมา จ โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตินฺทฺริยนวกสฺส จ วเสน รูปรูปโต จตฺตาริ สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต เอกูนจตฺตาลีส ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ทฺวาจตฺตาลีส ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสตฺตยโต สตฺตวีสติ ธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
กามภเว ปน ยสฺมา เสสโอปปาติกานํ วา สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปรูปโต สตฺต สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต สตฺตติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตสตฺตติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสฉกฺกโต จตุปฺาส ธมฺเม อปเนตฺวา เอกูนวีสติ. เอส อุกฺกํสโต. อวกํเสน ปน ตํตํรูปสนฺตติสีสวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขาตา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปฺปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปน รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตฺหิ ยถา ปปาเต ปติตปุริโส ปรสฺส ¶ ปจฺจโย โหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ วตฺถุทุพฺพลตาย ทุพฺพลตฺตา รูปํ สมุฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตโต ปน อุทฺธํ ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานกํ ¶ สุทฺธฏฺกํ. สทฺทปาตุภาวกาเล ปฏิสนฺธิกฺขณโต อุทฺธํ ปวตฺตอุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ. เย ปน กพฬิการาหารูปชีวิโน คพฺภเสยฺยกสตฺตา เตสํ –
‘‘ยฺจสฺส ¶ ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
วจนโต มาตรา อชฺโฌหริตาหาเรน อนุคเต สรีเร, โอปปาติกานํ สพฺพปมํ อตฺตโน มุขคตํ เขฬํ อชฺโฌหรณกาเล อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ อิทํ อาหารสมุฏฺานสฺส สุทฺธฏฺกสฺส อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ อุกฺกํสโต ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, ปุพฺเพ เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตํ กมฺมสมุฏฺานํ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ สมาสโต นวนวุติ ธมฺมา. ยสฺมา วาสทฺโท อนิยโต กทาจิเทว ปาตุภาวโต, ตสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ อปเนตฺวา อิเม สตฺตนวุติ ธมฺมา ยถาสมฺภวํ สพฺพสตฺตานํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. เตสฺหิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ จรนฺตานมฺปิ ขาทนฺตานมฺปิ ปิวนฺตานมฺปิ ทิวา จ รตฺติฺจ เอเต วิฺาณปจฺจยา ปวตฺตนฺติ. ตฺจ เตสํ วิฺาณปจฺจยภาวํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.
ยํ ปเนตเมตฺถ กมฺมชรูปํ ตํ ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สพฺพปมํ ปติฏฺหนฺตมฺปิ ติสมุฏฺานิกรูเปน อนุปตฺถทฺธํ น สกฺโกติ สณฺาตุํ, นาปิ ติสมุฏฺานิกํ เตน อนุปตฺถทฺธํ. อถ โข วาตพฺภาหตาปิ จตุทฺทิสววตฺถาปิตา นฬกลาปิโย วิย, อูมิเวคพฺภาหตาปิ มหาสมุทฺเท กตฺถจิ ลทฺธปติฏฺา ภินฺนวาหนิกา วิย จ อฺมฺูปตฺถทฺธาเนเวตานิ อปตมานานิ สณฺหิตฺวา เอกมฺปิ วสฺสํ ทฺเวปิ วสฺสานิ…เป… วสฺสสตมฺปิ ยาว เตสํ สตฺตานํ อายุกฺขโย วา ปฺุกฺขโย วา ตาว ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺคหา’ติ ¶ ¶ เอตฺถ จ ยํ อารุปฺเป ปวตฺติปฏิสนฺธีสุ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา นามเมว, ยฺจ อสฺีสุ สพฺพตฺถ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา รูปเมว, ยฺจ ปฺจโวการภเว สพฺพตฺถ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ตํ สพฺพํ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอวํ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน สงฺคเหตฺวา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพํ. อสฺีสุ วิฺาณาภาวา อยุตฺตนฺติ เจ นายุตฺตํ. อิทฺหิ –
นามรูปสฺส ¶ ยํ เหตุ, วิฺาณํ ตํ ทฺวิธา มตํ;
วิปากมวิปากฺจ, ยุตฺตเมว ยโต อิทํ.
ยฺหิ นามรูปสฺส เหตุ วิฺาณํ ตํ วิปากาวิปากเภทโต ทฺวิธา มตํ. อิทฺจ อสฺสตฺเตสุ กมฺมสมุฏฺานตฺตา ปฺจโวการภเว ปวตฺตอภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา รูปํ, ตถา ปฺจโวกาเร ปวตฺติยํ กุสลาทิจิตฺตกฺขเณ กมฺมสมุฏฺานนฺติ ยุตฺตเมว อิทํ. เอวํ ‘สงฺคหโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปจฺจยนยา’ติ เอตฺถ หิ –
นามสฺส ปากวิฺาณํ, นวธา โหติ ปจฺจโย;
วตฺถุรูปสฺส นวธา, เสสรูปสฺส อฏฺธา.
อภิสงฺขารวิฺาณํ, โหติ รูปสฺส เอกธา;
ตทฺํ ปน วิฺาณํ, ตสฺส ตสฺส ยถารหํ.
ยฺเหตํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยํ วา วิปากสงฺขาตํ นามํ, ตสฺส รูปมิสฺสสฺส วา รูปอมิสฺสสฺส วา ปฏิสนฺธิกํ วา อฺํ วา วิปากวิฺาณํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอาหารอินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. วตฺถุรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. เปตฺวา ปน วตฺถุรูปํ เสสรูปสฺส อิเมสุ นวสุ อฺมฺปจฺจยํ อปเนตฺวา เสเสหิ อฏฺหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. อภิสงฺขารวิฺาณํ ปน อสฺสตฺตรูปสฺส วา ปฺจโวกาเร วา กมฺมชสฺส สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสยวเสน ¶ เอกธาว ปจฺจโย โหติ. อวเสสํ ปมภวงฺคโต ปภุติ สพฺพมฺปิ วิฺาณํ ตสฺส ตสฺส นามรูปสฺส ยถารหํ ¶ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารโต ปน ตสฺส ปจฺจยนเย ทสฺสิยมาเน สพฺพาปิ ปฏฺานกถา วิตฺถาเรตพฺพา โหตีติ น ตํ อารภาม.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ¶ ยุตฺติโต จ. สุตฺเต หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
จิตฺตเชน หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิติ.
จิตฺเต หิ ปสนฺเน อปฺปสนฺเน วา ตทนุรูปานิ รูปานิ อุปฺปชฺชมานานิ ทิฏฺานิ. ทิฏฺเน จ อทิฏฺสฺส อนุมานํ โหตีติ อิมินา อิธ ทิฏฺเน จิตฺตชรูเปน อทิฏฺสฺสาปิ ปฏิสนฺธิรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย โหตีติ ชานิตพฺพเมตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺสาปิ หิ ตสฺส จิตฺตสมุฏฺานสฺเสว วิฺาณปจฺจยตา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓, ๔๑๙) อาคตาติ. เอวํ ปจฺจยนยโต เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
เอตฺถ จ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ภาสมาเนน ภควตา ยสฺมา อุปปริกฺขมานานํ ปณฺฑิตานํ ปรมตฺถโต นามรูปมตฺตเมว ปวตฺตมานํ ทิสฺสติ, น สตฺโต, น โปโส; ตสฺมา อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ โหตีติ.
วิฺาณปจฺจยา นามรูปปทนิทฺเทโส.
สฬายตนปทนิทฺเทโส
๒๒๙. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนิทฺเทเส –
นามํ ขนฺธตฺตยํ รูปํ, ภูตวตฺถาทิกํ มตํ;
กเตกเสสํ ตํ ตสฺส, ตาทิสสฺเสว ปจฺจโย.
ยฺเหตํ ¶ ¶ สฬายตนสฺส ปจฺจยภูตํ นามรูปํ, ตตฺถ นามนฺติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ปน สกสนฺตติปริยาปนฺนํ นิยมโต จตฺตาริ ภูตานิ ฉ วตฺถูนิ ¶ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวํ ภูตวตฺถาทิกํ มตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ ปน ‘‘นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูป’’นฺติ เอวํ กเตกเสสํ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตน’’นฺติ เอวํ กเตกเสสสฺเสว สฬายตนสฺส ปจฺจโยติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา อารุปฺเป นามเมว ปจฺจโย. ตฺจ ฉฏฺายตนสฺเสว, น อฺสฺส. ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ หิ อพฺยากตวาเร วกฺขติ. อิธ สงฺคหิตเมว หิ ตตฺถ วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถา. สา ปนสฺส ตพฺภาวภาวีภาวตา ปจฺจยนยสฺมิฺเว อาวิภวิสฺสติ. ตสฺมา –
ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ปจฺจโย โหติ, ตถา เนยฺยํ วิภาวินา.
ตตฺรายํ อตฺถทีปนา –
นามเมว หิ อารุปฺเป, ปฏิสนฺธิปวตฺติสุ;
ปจฺจโย สตฺตธา ฉฏฺา, โหติ ตํ อวกํสโต.
กถํ? ‘ปฏิสนฺธิยํ’ ตาว อวกํสโต สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ สตฺตธา นามํ ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
‘ปวตฺเต’ปิ วิปากํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ. อิตรํ ปน อวกํสโต วุตฺตปฺปกาเรสุ ปจฺจเยสุ วิปากปจฺจยวชฺเชหิ ฉหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
อฺสฺมิมฺปิ ¶ ภเว นามํ, ตเถว ปฏิสนฺธิยํ;
ฉฏฺสฺส อิตเรสํ ตํ, ฉหากาเรหิ ปจฺจโย.
อารุปฺปโต ¶ หิ อฺสฺมิมฺปิ ปฺจโวการภเว ตํ วิปากนามํ หทยวตฺถุโน สหายํ หุตฺวา ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส ¶ ยถา อารุปฺเป วุตฺตํ ตเถว อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อิตเรสํ ปเนตํ ปฺจนฺนํ จกฺขายตนาทีนํ จตุมหาภูตสหายํ หุตฺวา สหชาต นิสฺสยวิปากวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ปวตฺเตปิ ตถา โหติ, ปากํ ปากสฺส ปจฺจโย;
อปากํ อวิปากสฺส, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย.
ปวตฺเตปิ หิ ปฺจโวการภเว ยถา ปฏิสนฺธิยํ, ตเถว วิปากนามํ วิปากสฺส ฉฏฺายตนสฺส อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อวิปากํ ปน อวิปากสฺส ฉฏฺสฺส อวกํสโตว ตโต วิปากปจฺจยํ อปเนตฺวา ฉธาว ปจฺจโย โหติ. วุตฺตนเยเนว ปเนตฺถ อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ตตฺเถว เสสปฺจนฺนํ, วิปากํ ปจฺจโย ภเว;
จตุธา อวิปากมฺปิ, เอวเมว ปกาสิตํ.
ตตฺเถว หิ ปวตฺเต เสสานํ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ จกฺขุปฺปสาทาทิวตฺถุกมฺปิ อิตรมฺปิ วิปากนามํ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ. ยถา จ วิปากํ, อวิปากมฺปิ เอวเมว ปกาสิตํ. ตสฺมา กุสลาทิเภทมฺปิ เตสํ จตุธา ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ตาว นามเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ, ยถา จ โหติ, ตถา เวทิตพฺพํ.
รูปํ ปเนตฺถ อารุปฺป-ภเว ภวติ ปจฺจโย;
น เอกายตนสฺสาปิ, ปฺจกฺขนฺธภเว ปน.
รูปโต ¶ สนฺธิยํ วตฺถุ, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย;
ภูตานิ จตุธา โหนฺติ, ปฺจนฺนํ อวิเสสโต.
รูปโต หิ ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุรูปํ ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ. จตฺตาริ ปน ภูตานิ อวิเสสโต ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ ยํ ยํ อายตนํ ¶ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ตสฺส วเสน ปฺจนฺนมฺปิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ¶ จตุธา ปจฺจยา โหนฺติ.
ติธา ชีวิตเมเตสํ, อาหาโร จ ปวตฺติยํ;
ตาเนว ฉธา ฉฏฺสฺส, วตฺถุ ตสฺเสว ปฺจธา.
เอเตสํ ปน จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ อตฺถิอวิคตอินฺทฺริยวเสน รูปชีวิตํ ติธา ปจฺจโย โหติ.
‘อาหาโร จา’ติ อาหาโร จ อตฺถิอวิคตอาหารวเสน ติธา ปจฺจโย โหติ. โส จ โข เย สตฺตา อาหารูปชีวิโน, เตสํ อาหารานุคเต กาเย ปวตฺติยํเยว, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตานิ ปน ปฺจ จกฺขายตนาทีนิ ฉฏฺสฺส จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณสงฺขาตสฺส มนายตนสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจยา โหนฺติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เปตฺวา ปน ปฺจ วิฺาณานิ ตสฺเสว อวเสสมนายตนสฺส วตฺถุรูปํ นิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปฺจธา ปจฺจโย โหติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เอวํ รูปเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ ยถา จ โหติ ตถา เวทิตพฺพํ.
นามรูปํ ปนุภยํ, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ตมฺปิ สพฺพตฺถ, วิฺาตพฺพํ วิภาวินา.
เสยฺยถิทํ – ปฏิสนฺธิยํ ตาว ปฺจโวการภเว ขนฺธตฺตยวตฺถุรูปสงฺขาตํ นามรูปํ ฉฏฺายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจยาทีหิ ปจฺจโย ¶ โหตีติ อิทเมตฺถ มุขมตฺตํ. วุตฺตนยานุสาเรน ปน สกฺกา สพฺพํ โยเชตุนฺติ น เอตฺถ วิตฺถาโร ทสฺสิโตติ.
นามรูปปจฺจยา สฬายตนปทนิทฺเทโส.
ผสฺสปทนิทฺเทโส
๒๓๐. สฬายตนปจฺจยา ¶ ผสฺสนิทฺเทเส –
ฉเฬว ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต.
‘สงฺเขปโต’ ¶ หิ ปาฬิยํ จกฺขุสมฺผสฺโสติ อาทโย ฉเฬว ผสฺสา อาคตา. วิตฺถาเรน ปน จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากาติ ทส, เสสา พาวีสติ โลกิยวิปากวิฺาณสมฺปยุตฺตา จ พาวีสตีติ เอวํ สพฺเพปิ สงฺขารปจฺจยา วุตฺตวิฺาณมิว พาตฺตึส โหนฺติ. ยํ ปเนตสฺส พาตฺตึสวิธสฺสาปิ ผสฺสสฺส ปจฺจโย สฬายตนํ. ตตฺถ –
ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ, จกฺขาทึ พาหิเรหิปิ;
สฬายตนมิจฺฉนฺติ, ฉหิ สทฺธึ วิจกฺขณา.
ตตฺถ เย ตาว ‘‘อุปาทินฺนกปวตฺติกถา อย’’นฺติ เอกสนฺตติปริยาปนฺนเมว ปจฺจยํ ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ ทีเปนฺติ, เต ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ ปาฬิอนุสารโต อารุปฺเป ฉฏฺายตนฺจ อฺตฺถ สพฺพสงฺคหโต สฬายตนฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจโยติ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ จกฺขาทึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตฺหิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺตฺเวว สงฺฆํ คจฺฉติ. เย ปน ปจฺจยุปฺปนฺนเมว เอกสนฺตติปริยาปนฺนํ ทีเปนฺติ, ปจฺจยํ ปน ภินฺนสนฺตานมฺปิ, เต ยํ ยํ อายตนํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ ตํ สพฺพํ ทีเปนฺตา ¶ พาหิรมฺปิ ปริคฺคเหตฺวา ตเทว ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ พาหิเรหิปิ รูปายตนาทีหิ สทฺธึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตมฺปิ หิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอเตสํ เอกเสเส กเต สฬายตนนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
เอตฺถาห – น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภติ, นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา, อยฺจ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ เอโกว วุตฺโต, โส กสฺมาติ? ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ – สจฺจเมตํ. สพฺเพหิ เอโก เอกมฺหา วา สพฺเพ น สมฺโภนฺติ, สมฺโภติ ปน อเนเกหิ เอโก; ยถา จกฺขุสมฺผสฺโส จกฺขายตนา รูปายตนา จกฺขุวิฺาณสงฺขาตา มนายตนา อวเสสา สมฺปยุตฺตธมฺมายตนา จาติ เอวํ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมา เอว หิ –
เอโก ¶ ปเนกายตน-ปฺปภโว อิติ ทีปิโต;
ผสฺโสยํ เอกวจน-นิทฺเทเสนิธ ตาทินา.
‘เอกวจนนิทฺเทเสนา’ติ ¶ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ อิมินา หิ เอกวจนนิทฺเทเสน อเนเกหิ อายตเนหิ เอโก ผสฺโส โหตีติ ตาทินา ทีปิโตติ อตฺโถ. อายตเนสุ ปน –
ฉธา ปฺจ ตโต เอกํ, นวธา พาหิรานิ ฉ;
ยถาสมฺภวเมตสฺส, ปจฺจยตฺเต วิภาวเย.
ตตฺรายํ วิภาวนา – จกฺขายตนาทีนิ ตาว ปฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทิเภทโต ปฺจวิธสฺส ผสฺสสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจยา โหนฺติ. ตโต ปรํ เอกํ วิปากมนายตนํ อเนกเภทสฺส วิปากมโนสมฺผสฺสสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน นวธา ปจฺจโย โหติ. พาหิเรสุ ปน รูปายตนํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน จตุธา ปจฺจโย โหติ. ตถา สทฺทายตนาทีนิ โสตสมฺผสฺสาทีนํ. มโนสมฺผสฺสสฺส ปน ตานิ ธมฺมายตนฺจ ตถา จ อารมฺมณปจฺจยมตฺเตเนว จาติ เอวํ พาหิรานิ ฉ ยถาสมฺภวเมตสฺส ปจฺจยตฺเต วิภาวเยติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺสปทนิทฺเทโส.
เวทนาปทนิทฺเทโส
๒๓๑. ผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนานิทฺเทเส –
ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, เอกูนนวุตี มตา.
จกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนาติอาทินา หิ นเยน ปาฬิยํ อิมา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา ทฺวารโต ฉเฬว เวทนา วุตฺตา. ตา ปน ปเภเทน เอกูนนวุติยา จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เอกูนนวุตีติ มตา.
เวทนาสุ ปเนตาสุ, อิธ พาตฺตึส เวทนา;
วิปากจิตฺตยุตฺตาว, อธิปฺเปตาติ ภาสิตา.
อฏฺธา ¶ ตตฺถ ปฺจนฺนํ, ปฺจทฺวารมฺหิ ปจฺจโย;
เสสานํ เอกธา ผสฺโส, มโนทฺวาเรปิ โส ตถา.
ตตฺถ หิ ปฺจทฺวาเร จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกานํ ปฺจนฺนํ เวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ¶ อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. เสสานํ ปน เอเกกสฺมึ ทฺวาเร สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ.
‘มโนทฺวาเรปิ โส ตถา’ติ มโนทฺวาเรปิ หิ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ โส สหชาตมโนสมฺผสฺสสงฺขาโต ผสฺโส ตเถว อฏฺธา ปจฺจโย โหติ, ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน จ ปวตฺตานํ เตภูมกวิปากเวทนานมฺปิ. ยา ปเนตา มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตา กามาวจรเวทนา, ตาสํ มโนทฺวาเร อาวชฺชนสมฺปยุตฺโต มโนสมฺผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธา ปจฺจโย โหตีติ.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาปทนิทฺเทโส.
ตณฺหาปทนิทฺเทโส
๒๓๒. เวทนาปจฺจยา ¶ ตณฺหานิทฺเทเส –
รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
อิมสฺมิฺหิ เวทนาปจฺจยา ตณฺหานิทฺเทเส ‘เสฏฺิปุตฺโต พฺราหฺมณปุตฺโต’ติ ปิติโต นามวเสน ปุตฺโต วิย อิมา รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ อารมฺมณโต นามวเสน ฉ ตณฺหา ทีปิตา ปกาสิตา กถิตาติ อตฺโถ. ตตฺถ รูเป ตณฺหา รูปตณฺหาติ อิมินา นเยน ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตาสุ จ ปน ตณฺหาสุ เอเกกา ตณฺหา ปวตฺติอาการโต กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา มตา. รูปตณฺหา เอว หิ ยทา จกฺขุสฺส อาปาถคตํ รูปารมฺมณํ กามสฺสาทวเสน อสฺสาทยมานา ¶ ปวตฺตติ, ตทา กามตณฺหา นาม โหติ. ยทา ตเทวารมฺมณํ ธุวํ สสฺสตนฺติ ปวตฺตาย สสฺสตทิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา ภวตณฺหา นาม โหติ. สสฺสตทิฏฺิสหคโต หิ ราโค ภวตณฺหาติ วุจฺจติ. ยทา ปน ตเทวารมฺมณํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ ปวตฺตาย อุจฺเฉททิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา วิภวตณฺหา นาม โหติ. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต หิ ¶ ราโค วิภวตณฺหาติ วุจฺจติ. เอเสว นโย สทฺทตณฺหาทีสุปีติ เอตา อฏฺารส ตณฺหา โหนฺติ.
ตา อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธา อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตา ฉตฺตึส, อนาคตา ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนา ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ ตณฺหา โหนฺติ. ตา ปน สํงฺขิปฺปมานา รูปาทิอารมฺมณวเสน ฉ, กามตณฺหาทิวเสน วา ติสฺโสว ตณฺหา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปนิเม สตฺตา ปุตฺตํ อสฺสาเทตฺวา ปุตฺเต มมตฺเตน ธาติยา วิย รูปาทิอารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมานํ เวทนํ อสฺสาเทตฺวา เวทนาย มมตฺเตน รูปาทิอารมฺมณทายกานํ จิตฺตการคนฺธพฺพคนฺธิกสูทตนฺตวายรสายนวิธายกเวชฺชาทีนํ มหาสกฺการํ กโรนฺติ, ตสฺมา สพฺพาเปสา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา เจตฺถ ¶ อธิปฺเปตา, วิปากสุขเวทนา;
เอกาว เอกธา เจสา, ตสฺมา ตณฺหาย ปจฺจโย.
‘เอกธา’ติ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา วา –
ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา.
เวทนา ปจฺจยา จาปิ, ยสฺมา นานุสยํ วินา;
โหติ ตสฺมา น สา โหติ, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโตติ.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปทนิทฺเทโส.
อุปาทานปทนิทฺเทโส
๒๓๓. ตณฺหาปจฺจยา ¶ อุปาทานนิทฺเทเส –
อุปาทานานิ จตฺตาริ, ตานิ อตฺถวิภาคโต;
ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารา, กมโต จ วิภาวเย.
ปาฬิยฺหิ อุปาทานนฺติ กามุปาทานํ…เป… อตฺตวาทุปาทานนฺติ อิมานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ อาคตานิ. เตสํ อยํ อตฺถวิภาโค – วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ. กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. อุปาทานนฺติ ¶ ทฬฺหคฺคหณํ. ทฬฺหตฺโถ เหตฺถ อุปสทฺโท อุปายาส-อุปกฏฺาทีสุ วิย. ตถา ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺึ อุปาทิยตีติ วา ทิฏฺุปาทานํ ¶ . สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติอาทีสุ หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยติ. ตถา สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ. สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ เอวํ สุทฺธีติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานีติ. ตถา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อุปาทานํ. กึ วทนฺติ อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตาติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ. อยํ ตาว เตสํ อตฺถวิภาโค.
‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร’ ปน กามุปาทานํ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมํ กามุปาทานํ? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค กามนนฺที กามตณฺหา กามสฺเนโห กามปริฬาโห กามมุจฺฉา กามชฺโฌสานํ – อิทํ วุจฺจติ กามุปาทาน’’นฺติ อาคตตฺตา สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ วุตฺตํ. ตณฺหาทฬฺหตฺตํ นาม ปุริมตณฺหาอุปนิสฺสยปจฺจเยน ทฬฺหสมฺภูตา อุตฺตรตณฺหา เอว. เกจิ ปนาหุ – อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา ตณฺหา, อนฺธกาเร โจรสฺส หตฺถปฺปสารณํ วิย. สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ, ตสฺเสว ภณฺฑคฺคหณํ วิย. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาปฏิปกฺขา จ เต ธมฺมา. ตถา ปริเยสนารกฺขทุกฺขมูลาติ. เสสุปาทานตฺตยํ ปน สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว.
วิตฺถารโต ปน ปุพฺเพ รูปาทีสุ วุตฺตาย อฏฺสตปฺปเภทายปิ ตณฺหาย ทฬฺหภาโว กามุปาทานํ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ ทิฏฺุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ทิฏฺุปาทานํ? นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ…เป… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ ยา ¶ เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ ทิฏฺุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) สีลวเตหิ สุทฺธิปรามสนํ ปน สีลพฺพตุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ สีลพฺพตุปาทานํ? อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธิ, สีลพฺพเตน สุทฺธีติ ยา เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ สีลพฺพตุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๒; วิภ. ๙๓๘). วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ อตฺตวาทุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ อตฺตวาทุปาทานํ? อิธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๓; วิภ. ๙๓๘). อยเมตฺถ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาโร.
‘กมโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ติวิโธ กโม – อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, เทสนากฺกโม จ. ตตฺถ อนมตคฺเค สํสาเร อิมสฺส ปมํ อุปฺปตฺตีติ อภาวโต กิเลสานํ นิปฺปริยาเยน อุปฺปตฺติกฺกโม น วุจฺจติ. ปริยาเยน ปน เยภุยฺเยน เอกสฺมึ ภเว อตฺตคฺคาหปุพฺพงฺคโม สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวโส. ตโต ‘‘สสฺสโต อยํ อตฺตา’’ติ คณฺหโต อตฺตวิสุทฺธตฺถํ สีลพฺพตุปาทานํ, อุจฺฉิชฺชตีติ คณฺหโต ปรโลกนิรเปกฺขสฺส กามุปาทานนฺติ เอวํ ปมํ อตฺตวาทุปาทานํ, ตโต ทิฏฺิสีลพฺพตกามุปาทานานีติ อยเมเตสํ เอกสฺมึ ภเว อุปฺปตฺติกฺกโม.
ทิฏฺุปาทานาทีนิ เจตฺถ ปมํ ปหียนฺติ โสตาปตฺติมคฺควชฺฌตฺตา. กามุปาทานํ ปจฺฉา อรหตฺตมคฺควชฺฌตฺตาติ. อยเมเตสํ ปหานกฺกโม.
มหาวิสยตฺตา ปน ปากฏตฺตา จ เอเตสุ กามุปาทานํ ปมํ เทสิตํ. มหาวิสยฺหิ ตํ อฏฺจิตฺตสมฺปโยคา. อปฺปวิสยานิ อิตรานิ จตุจิตฺตสมฺปโยคา. เยภุยฺเยน จ อาลยรามตาย ปชาย ปากฏํ กามุปาทานํ, น อิตรานิ. กามุปาทานวา วตฺถุกามานํ สมธิคมตฺถํ โกตูหลมงฺคลาทิพหุโล โหติ, น สสฺสตทิฏฺีติ ตทนนฺตรํ ทิฏฺุปาทานํ. ตํ ปภิชฺชมานํ สีลพฺพตอตฺตวาทุปาทานวเสน ทุวิธํ โหติ. ตสฺมึ ทฺวเย โคกิริยํ วา กุกฺกุรกิริยํ วา ทิสฺวาปิ เวทิตพฺพโต โอฬาริกนฺติ สีลพฺพตุปาทานํ ปมํ เทสิตํ, สุขุมตฺตา อนฺเต อตฺตวาทุปาทานนฺติ อยเมเตสํ เทสนากฺกโม.
ตณฺหา ¶ จ ปุริมสฺเสตฺถ, เอกธา โหติ ปจฺจโย;
สตฺตธา อฏฺธา วาปิ, โหติ เสสตฺตยสฺส สา.
เอตฺถ ¶ จ เอวํ เทสิเต อุปาทานจตุกฺเก ปุริมสฺส กามุปาทานสฺส กามตณฺหา อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ ตณฺหาภินนฺทิเตสุ วิสเยสุ อุปฺปตฺติโต. เสสตฺตยสฺส ปน สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุวเสน สตฺตธา วา อุปนิสฺสเยน สห อฏฺธา วาปิ ปจฺจโย โหติ. ยทา จ สา อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย โหติ ตทา อสหชาตาว โหตีติ.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานปทนิทฺเทโส.
ภวปทนิทฺเทโส
๒๓๔. อุปาทานปจฺจยา ¶ ภวนิทฺเทเส –
อตฺถโต ธมฺมโต เจว, สาตฺถโต เภทสงฺคหา;
ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ภวตีติ ภโว. ทุวิเธนาติ ทฺวีหิ อากาเรหิ ปวตฺติโตติ อตฺโถ. อถวา ทุวิเธนาติ ปจฺจเต กรณวจนํ, ทุวิโธติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถีติ สํวิชฺชติ. กมฺมเมว ภโว กมฺมภโว. อุปปตฺติเยว ภโว อุปปตฺติภโว. เอตฺถ จ อุปปตฺติ ภวตีติ ภโว. กมฺมํ ปน ยถา สุขการณตฺตา ‘‘สุโข พุทฺธานมุปฺปาโท’’ติ (ธ. ป. ๑๙๔) วุตฺโต, เอวํ ภวการณตฺตา ผลโวหาเรน ภโวติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตโม กมฺมภโวติ เตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ โย กมฺมภโวติ วุตฺโต, โส กตโมติ อตฺโถ. ปฺุาภิสงฺขาราทโย วุตฺตตฺถา เอว. สพฺพนฺติ อนวเสสํ. ภวํ คจฺฉติ คเมติ จาติ ภวคามิ. อิมินา โลกุตฺตรํ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ วฏฺฏกถา, ตฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตนฺติ. กรียตีติ กมฺมํ.
กามภวาทีสุ กามสงฺขาโต ภโว กามภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. สฺาวตํ ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. วิปริยาเยน ¶ อสฺาภโว. โอฬาริกสฺาย อภาวา ¶ สุขุมาย จ ภาวา เนว สฺา นาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว เอกโวการภโว. เอโก วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว. เอเสว นโย จตุโวการปฺจโวการภเวสุ. อยํ วุจฺจติ อุปปตฺติภโวติ เอส นววิโธปิ อุปปตฺติภโว นาม วุจฺจตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ธมฺมโต’ ปน เอตฺถ หิ ปฺุาภิสงฺขาโร ธมฺมโต เตรส เจตนา, อปฺุาภิสงฺขาโร ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขาโร จตสฺโส. ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ เอเตน สพฺเพเปเต ธมฺมา เจตนา สมฺปยุตฺตา วา กมฺมสงฺขาตา อาจยคามิโน ธมฺมา สงฺคหิตา. กามภโว ปฺจ อุปาทินฺนกฺขนฺธา, ตถา รูปภโว, อรูปภโว จตฺตาโร, สฺาภโว จตุปฺจ, อสฺาภโว เอโก ¶ อุปาทินฺนกฺขนฺโธ, เนวสฺานาสฺาภโว จตฺตาโร. เอกโวการภวาทโย เอกจตุปฺจกฺขนฺธา อุปาทินฺนกฺขนฺเธหีติ เอวเมตฺถ ‘ธมฺมโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สาตฺถโต’ติ ยถา จ ภวนิทฺเทเส ตเถว กามฺจ สงฺขารนิทฺเทเสปิ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว วุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ ปุริมา อตีตกมฺมวเสน อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตา วุตฺตา. อิเม ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวเสน อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตาติ ปุนวจนํ สาตฺถกเมว. ปุพฺเพ วา ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลเจตนา กามาวจรา’’ติ เอวมาทินา นเยน เจตนาว สงฺขาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ วจนโต เจตนาสมฺปยุตฺตาปิ. ปุพฺเพ จ วิฺาณปจฺจยเมว กมฺมํ สงฺขาราติ วุตฺตํ, อิทานิ อสฺาภวนิพฺพตฺตกมฺปิ. กึ วา พหุนา? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตฺถ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว กุสลากุสลธมฺมา วุตฺตา. ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ อิธ ปน อุปปตฺติภวสฺสาปิ สงฺคหิตตฺตา กุสลากุสลาพฺยากตา ธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา สพฺพถาปิ ¶ สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจนนฺติ. เอวเมตฺถ ‘สาตฺถโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เภทสงฺคหา’ติ อุปาทานปจฺจยา ภวสฺส เภทโต เจว สงฺคหโต จ. ยฺหิ กามุปาทานปจฺจยา กามภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ กริยติ, โส กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ กามุปาทานปจฺจยา ¶ ทฺเว กามภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวปฺจโวการภวา; ทฺเว รูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวอสฺาภวเอกโวการภวปฺจโวการภวา; ทฺเว อรูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวเนวสฺานาสฺาภวจตุโวการภวาติ สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา. ยถา จ กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา เภทโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ จตุวีสติ ภวา.
สงฺคหโต ปน กมฺมภวํ อุปปตฺติภวฺจ เอกโต กตฺวา กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ เอโก กามภโว, ตถา รูปารูปภวาติ ตโย ภวา. ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา สงฺคหโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺวาทส ภวา. อปิจ อวิเสเสน อุปาทานปจฺจยา กามภวูปคํ กมฺมํ กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ อุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺเว กามภวา, ทฺเว รูปภวา, ทฺเว ¶ อรูปภวาติ อปเรนปิ ปริยาเยน สงฺคหโต ฉ ภวา. กมฺมภวอุปปตฺติภวเภทํ วา อนุปคมฺม สทฺธึ อนฺโตคเธหิ กามภวาทิวเสน ตโย ภวา โหนฺติ. กามภวาทิเภทฺจาปิ อนุปคมฺม กมฺมภวอุปปตฺติภววเสน ทฺเว ภวา โหนฺติ. กมฺมุปปตฺติเภทฺจ อนุปคมฺม อุปาทานปจฺจยา ภโวติ ภววเสน เอโก ภโว โหตีติ. เอวเมตฺถ อุปาทานปจฺจยสฺส ภวสฺส เภทสงฺคหาปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจวา’ติ ยฺเจตฺถ อุปาทานํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ อตฺโถ. กึ ปเนตฺถ กสฺส ปจฺจโย โหติ? ยํ กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ ปจฺจโย ¶ โหติเยว. อุมฺมตฺตโก วิย หิ ปุถุชฺชโน. โส ‘อิทํ ยุตฺตํ, อิทํ อยุตฺต’นฺติ อวิจาเรตฺวา ยสฺส กสฺสจิ อุปาทานสฺส วเสน ยํ กิฺจิ ภวํ ปตฺเถตฺวา ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรติเยว. ตสฺมา ยเทกจฺเจ ‘‘สีลพฺพตุปาทาเนน รูปารูปภวา น โหนฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สพฺเพน ปน สพฺโพ โหตีติ คเหตพฺพํ, เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ อนุสฺสววเสน วา ทิฏฺานุสาเรน วา ‘‘กามา นาเมเต มนุสฺสโลเก เจว ขตฺติยมหาสาลกุลาทีสุ ฉกามาวจรเทวโลเก จ สมิทฺธา’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ อธิคมตฺถํ อสทฺธมฺมสวนาทีหิ วฺจิโต ‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’ติ มฺมาโน ¶ กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ; สนฺทิฏฺิเก วา ปน กาเม ปตฺถยมาโน ปฏิลทฺเธ วา โคปยมาโน กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว.
อปโร ปน สทฺธมฺมสวนาทีหิ อุปพฺรูหิตาโณ ‘‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ มฺมาโน กามุปาทานวเสน กายสุจริตาทีนิ กโรติ. โส สุจริตปาริปูริยา เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทสฺส สานฺโตคธสฺส กามภวสฺส ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘รูปารูปภเวสุ ตโต สมิทฺธตรา กามา’’ติ สุตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา วา กามุปาทานวเสเนว ¶ รูปารูปสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมาปตฺติพเลน รูปารูปพฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาอสฺา เนวสฺา นาสฺาเอกโวการจตุโวการปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ รูปารูปภวานมฺปิ ปจฺจโย โหติ ¶ .
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ อุจฺฉินฺโน สุอุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทาย ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ ทิฏฺุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณมฺปิ กามรูปารูปภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ สุขี โหติ, วิคตปริฬาโห โหตี’’ติ อตฺตวาทุปาทาเนน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว ¶ . อิติ อตฺตวาทุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อิทํ สีลพฺพตํ นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ ปริปูเรนฺตสฺส สุขํ ปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ สีลพฺพตุปาทานวเสน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ สีลพฺพตุปาทานมฺปิ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ยํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กึ ปเนตฺถ กสฺส ภวสฺส กถํ ปจฺจโย โหตีติ เจ?
รูปารูปภวานํ, อุปนิสฺสยปจฺจโย อุปาทานํ;
สหชาตาทีหิปิ ตํ, กามภวสฺสาติ วิฺเยฺยํ.
รูปารูปภวานฺหิ กามภวปริยาปนฺนสฺส จ กามภเว กุสลกมฺมสฺเสว อุปปตฺติภวสฺส เจตํ จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน เอกธา ปจฺจโย โหติ. กามภเว อตฺตนา สมฺปยุตฺตอกุสลกมฺมภวสฺส ¶ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุปจฺจยปฺปเภเทหิ สหชาตาทีหิ ปจฺจโย โหติ. วิปฺปยุตฺตสฺส ปน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนวาติ.
อุปาทานปจฺจยา ภวปทนิทฺเทโส.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทโส
๒๓๕. ภวปจฺจยา ¶ ชาตินิทฺเทสาทีสุ ชาติอาทีนํ วินิจฺฉโย สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภโวติ ปเนตฺถ กมฺมภโวว อธิปฺเปโต. โส หิ ชาติยา ปจฺจโย, น อุปปตฺติภโว. โส ปน กมฺมปจฺจยอุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ทฺวิธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชเนตฺติสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก ¶ , สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต; น กมฺมภวโต อฺเหตุโก, ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตาทิวิเสสเหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.
ยสฺมา จ อสติ ชาติยา ชรามรณํ นาม น โหติ, โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส จ พาลสฺส ชรามรณาภิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ, ตสฺมา อยํ ชาติชรามรณสฺส เจว โสกาทีนฺจ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. สา ปน อุปนิสฺสยโกฏิยา เอกธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ภวปจฺจยา ชาติอาทิปทนิทฺเทโส.
๒๔๒. เอวเมตสฺสาติอาทีนํ ¶ อตฺโถ อุทฺเทสวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สงฺคติอาทีนิ สมุทยเววจนาเนว.
ยสฺมา ปเนตฺถ โสกาทโย อวสาเน วุตฺตา, ตสฺมา ยา สา อวิชฺชา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา’’ติ เอวเมตสฺส ภวจกฺกสฺส อาทิมฺหิ วุตฺตา, สา –
โสกาทีหิ อวิชฺชา, สิทฺธา ภวจกฺกมวิทิตาทิมิทํ;
การกเวทกรหิตํ, ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุํ.
สตตํ สมิตํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. กถํ ปเนตฺถ โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา? กถมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทิ? กถํ การกเวทกรหิตํ? กถํ ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุนฺติ เจ? เอตฺถ หิ โสกทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา อวิชฺชาย อวิโยคิโน, ปริเทโว จ นาม มูฬฺหสฺสาติ เตสุ ตาว สิทฺเธสุ สิทฺธาว โหติ อวิชฺชา. อปิจ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ วุตฺตํ. อาสวสมุทยา เจเต โสกาทโย โหนฺติ. กถํ? วตฺถุกามวิโยเค ตาว โสโก กามาสวสมุทโย โหติ? ยถาห –
‘‘ตสฺส ¶ เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;
เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๓);
ยถา จาห – ‘‘กามโต ชายตี โสโก’’ติ (ธ. ป. ๒๑๕). สพฺเพปิ เจเต ทิฏฺาสวสมุทยา โหนฺติ, ยถาห – ‘‘ตสฺส อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายิโน ตํ รูปํ วิปริณมติ อฺถา โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑). ยถา จ ทิฏฺาสวสมุทยา เอวํ ภวาสวสมุทยาปิ, ยถาห – ‘‘เยปิ เต เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา อุจฺเจสุ วิมาเนสุ จิรฏฺิติกา เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓) ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา มรณภเยน สนฺตชฺชิตานํ เทวานํ วิยาติ. ยถา จ ภวาสวสมุทยา เอวํ อวิชฺชาสวสมุทยาปิ ¶ , ยถาห – ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล ทิฏฺเว ธมฺเม ติวิธํ ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖).
อิติ ยสฺมา อาสวสมุทยา เอเต โหนฺติ, ตสฺมา เอเต สิชฺฌมานา อวิชฺชาย เหตุภูเต อาสเว สาเธนฺติ. อาสเวสุ จ สิทฺเธสุ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาปิ สิทฺธาว โหตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา’ โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา ปน เอวํ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาย สิทฺธาย ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ เหตุผลปรมฺปราย ¶ ปริโยสานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ เหตุผลสมฺพนฺธวเสน ปวตฺตํ ทฺวาทสงฺคํ ‘ภวจกฺกํ อวิทิตาที’ติ สิทฺธํ โหติ.
เอวํ สติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ อาทิมตฺตกถนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? นยิทํ อาทิมตฺตกถนํ, ปธานธมฺมกถนํ ปเนตํ. ติณฺณฺหิ วฏฺฏานํ อวิชฺชา ปธานา. อวิชฺชาคฺคหเณน หิ อวเสสํ กิเลสวฏฺฏฺจ กมฺมาทีนิ จ พาลํ ปลิเวเนฺติ, สปฺปสิรคฺคหเณน เสสํ สปฺปสรีรํ วิย พาหํ. อวิชฺชาสมุจฺเฉเท ปน กเต เตหิ วิโมกฺโข โหติ, สปฺปสิรจฺเฉเท กเต ปลิเวิตพาหาวิโมกฺโข วิย. ยถาห – ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา ¶ สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑; มหาว. ๑). อิติ ยํ คณฺหโต พนฺโธ มฺุจโต จ โมกฺโข โหติ, ตสฺส ปธานธมฺมสฺส กถนมิทํ, น อาทิมตฺตกถนนฺติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทีติ เวทิตพฺพํ. ตยิทํ ยสฺมา อวิชฺชาทีหิ การเณหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺติ, ตสฺมา ตโต อฺเน ‘‘พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา เสฏฺโ สชิตา’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน พฺรหฺมาทินา วา สํสารสฺส การเกน ‘‘โส โข ปน เม อยํ อตฺตา วโท เวเทยฺโย’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน อตฺตนา วา สุขทุกฺขานํ เวทเกน รหิตํ. อิติ ‘การกเวทกรหิต’นฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา อุทยพฺพยธมฺมกตฺตา ธุวภาเวน, สํกิลิฏฺตฺตา สํกิเลสิกตฺตา จ สุภภาเวน, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา สุขภาเวน, ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา วสวตฺตนภูเตน อตฺตภาเวน จ สฺุา, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ยสฺมา วา อวิชฺชา น อตฺตา, น อตฺตโน ¶ , น อตฺตนิ, น อตฺตวตี, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ตสฺมา ‘ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุมิทํ’ ภวจกฺกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวฺจ วิทิตฺวา ปุน –
ตสฺส อวิชฺชาตณฺหา, มูลมตีตาทโย ตโย กาลา;
ทฺเว อฏฺ ทฺเว เอว จ, สรูปโต เตสุ องฺคานิ.
ตสฺส ¶ โข ปเนตสฺส ภวจกฺกสฺส อวิชฺชา ตณฺหา จาติ ทฺเว ธมฺมา มูลนฺติ เวทิตพฺพา. ตเทตํ ปุพฺพนฺตาหรณโต อวิชฺชามูลํ เวทนาวสานํ, อปรนฺตสนฺตานโต ตณฺหามูลํ ชรามรณาวสานนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ ปุริมํ ทิฏฺิจริตวเสน วุตฺตํ, ปจฺฉิมํ ตณฺหาจริตวเสน. ทิฏฺิจริตานฺหิ อวิชฺชา, ตณฺหาจริตานํ ตณฺหา สํสารนายิกา. อุจฺเฉททิฏฺิสมุคฺฆาตาย วา ปมํ, ผลุปฺปตฺติยา เหตูนํ อนุปจฺเฉทปกาสนโต; สสฺสตทิฏฺิสมุคฺฆาตาย ทุติยํ, อุปฺปนฺนานํ ชรามรณปกาสนโต; คพฺภเสยฺยกวเสน วา ปุริมํ, อนุปุพฺพปวตฺติทีปนโต; โอปปาติกวเสน ปจฺฉิมํ สหุปฺปตฺติทีปนโต.
อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตา จสฺส ตโย กาลา. เตสุ ปาฬิยํ สรูปโต อาคตวเสน อวิชฺชา สงฺขารา จาติ ทฺเว องฺคานิ อตีตกาลานิ ¶ , วิฺาณาทีนิ ภวาวสานานิ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺนกาลานิ, ชาติ เจว ชรามรณฺจ ทฺเว อนาคตกาลานีติ เวทิตพฺพานิ. ปุน –
เหตุผลเหตุปุพฺพก-ติสนฺธิจตุเภทสงฺคหฺเจตํ;
วีสติอาการารํ, ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมติ.
อิติปิ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สงฺขารานฺจ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ นาม. เวทนาย จ ตณฺหาย จ อนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ นาม. ภวสฺส จ ชาติยา จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธีติ. เอวมิทํ เหตุผลเหตุปุพฺพกติสนฺธีติ เวทิตพฺพํ. สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตา ปนสฺส จตฺตาโร สงฺคหา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อวิชฺชาสงฺขารา เอโก ¶ สงฺคโห, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา ทุติโย, ตณฺหุปาทานภวา ตติโย, ชาติชรามรณํ จตุตฺโถติ. เอวมิทํ จตุเภทสงฺคหนฺติ เวทิตพฺพํ.
อตีเต เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ;
อิทานิ เหตโว ปฺจ, อายตึ ผลปฺจกนฺติ.
เอเตหิ ปน วีสติยา อากาเรหิ อเรหิ วีสติอาการารนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อตีเต เหตโว ปฺจา’ติ อวิชฺชา สงฺขารา จาติ อิเม ตาว ทฺเว วุตฺตา ¶ เอว. ยสฺมา ปน อวิทฺวา ปริตสฺสติ, ปริตสิโต อุปาทิยติ, ตสฺส อุปาทานปจฺจยา ภโว, ตสฺมา ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตา โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว, อิเม ปฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗).
ตตฺถ ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กริยมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห, เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ กมฺมํ กโรโต ปุริมเจตนาโย, ยถา ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ ทานูปกรณานิ สชฺเชนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ปุริมเจตนาโย. ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ ทกฺขิณํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโวติ วุจฺจติ. เอกาวชฺชเนสุ วา ฉสุ ชวเนสุ เจตนา อายูหนสงฺขารา นาม. สตฺตมา เจตนา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ¶ ภโว, ตํสมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา นาม. นิกนฺติ ตณฺหาติ ยา กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ผเล อุปฺปตฺติภเว นิกามนา ปตฺถนา สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมํ ภวสฺส ปจฺจยภูตํ; ‘อิทํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามิ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อุปคมนํ คหณํ ปรามสนํ – อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ อายูหนาวสาเน วุตฺตเจตนา ภโวติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทิ เวทนาวสานํ ปาฬิยํ อาคตเมว. ยถาห ‘‘อิธ ปฏิสนฺธิ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธูปปตฺติภวสฺมึ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ ¶ ปฏิสนฺธิ วิฺาณนฺติ ยํ ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ, ตํ วิฺาณํ. โอกฺกนฺติ นามรูปนฺติ ยา คพฺเภ รูปารูปธมฺมานํ โอกฺกนฺติ, อาคนฺตฺวา ปวิสนํ วิย – อิทํ นามรูปํ. ปสาโท อายตนนฺติ อิทํ จกฺขาทิปฺจายตนวเสน ¶ วุตฺตํ. ผุฏฺโ ผสฺโสติ โย อารมฺมณํ ผุฏฺโ ผุสนฺโต อุปฺปนฺโน – อยํ ผสฺโส. เวทยิตํ เวทนาติ ยํ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน วา สฬายตนปจฺจเยน วา ผสฺเสน สหุปฺปนฺนํ วิปากเวทยิตํ, สา เวทนาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ เหตโว ปฺจา’ติ ตณฺหาทโย ปาฬิยํ อาคตาว ตณฺหุปาทานภวา. ภเว ปน คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคา ตํสมฺปยุตฺตา วา สงฺขารา คหิตาว โหนฺติ, ตณฺหุปาทานคฺคหเณน จ ตํสมฺปยุตฺตา, ยาย วา มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ สา อวิชฺชา คหิตาว โหตีติ เอวํ ปฺจ. เตนาห ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว. อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธ กมฺมภวสฺมึ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานนฺติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล สมฺโมโห ทสฺสิโต. เสสํ อุตฺตานเมว.
‘อายตึ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทีนิ ปฺจ. ตานิ ชาติคฺคหเณน วุตฺตานิ. ชรามรณํ ปน เตสํเยว ชรามรณํ. เตนาห ‘‘อายตึ ปฏิสนฺธิ ¶ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา. อิเม ปฺจ ธมฺมา อายตึ อุปปตฺติภวสฺมึ อิธ กตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). เอวมิทํ วีสติอาการารํ โหติ.
ตตฺถ ปุริมภวสฺมึ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ วิปากสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, อนาคเต ปฺจ วิปากธมฺมาติ ทส ธมฺมา กมฺมํ, ทส วิปาโกติ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมํ นาม, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปาโก นามาติ สพฺพมฺเปตํ ภวจกฺกํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ กมฺมฺเจว กมฺมวิปาโก จ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสงฺเขโป, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากสงฺเขโปติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสงฺเขโป เจว วิปากสงฺเขโป จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมวฏฺฏํ, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากวฏฺฏนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมวฏฺฏฺเจว วิปากวฏฺฏฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมภโว, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากภโวติ สพฺพมฺเปตํ ¶ กมฺมภโว เจว วิปากภโว จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมปวตฺตํ ¶ , ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากปวตฺตนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมปวตฺตฺเจว วิปากปวตฺตฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสนฺตติ, ทฺวีสุ วิปาโก วิปากสนฺตตีติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสนฺตติ เจว วิปากสนฺตติ จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กิริยา นาม, ทฺวีสุ วิปาโก กิริยาผลํ นามาติ สพฺพมฺเปตํ กิริยา เจว กิริยาผลฺจาติ.
เอวํ สมุปฺปนฺนมิทํ สเหตุกํ,
ทุกฺขํ อนิจฺจํ จลมิตฺตรทฺธุวํ;
ธมฺเมหิ ธมฺมา ปภวนฺติ เหตุโส,
น เหตฺถ อตฺตาว ปโรว วิชฺชติ.
ธมฺมา ธมฺเม สฺชเนนฺติ, เหตุสมฺภารปจฺจยา;
เหตูนฺจ นิโรธาย, ธมฺโม พุทฺเธน เทสิโต;
เหตูสุ อุปรุทฺเธสุ, ฉินฺนํ วฏฺฏํ น วฏฺฏติ.
เอวํ ทุกฺขนฺตกิริยาย, พฺรหฺมจริยีธ วิชฺชติ;
สตฺเต จ นูปลพฺภนฺเต, เนวุจฺเฉโท น สสฺสตํ.
ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมตีติ เอตฺถ ปน สงฺขารภวา กมฺมวฏฺฏํ, อวิชฺชาตณฺหูปาทานานิ กิเลสวฏฺฏํ, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา วิปากวฏฺฏนฺติ อิเมหิ ตีหิ วฏฺเฏหิ ติวฏฺฏมิทํ ภวจกฺกํ ยาว กิเลสวฏฺฏํ น อุปจฺฉิชฺชติ ¶ ตาว อนุปจฺฉินฺนปจฺจยตฺตา อนวฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ ปริวฏฺฏนโต ภมติเยวาติ เวทิตพฺพํ.
ตยิทเมวํ ภมมานํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ¶ ยสฺมา กุสลากุสลกมฺมํ อวิเสเสน สมุทยสจฺจนฺติ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตํ, ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อวิชฺชาย สงฺขารา ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, สงฺขาเรหิ วิฺาณํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, วิฺาณาทีหิ นามรูปาทีนิ วิปากเวทนาปริโยสานานิ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, เวทนาย ตณฺหา ปมสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, ตณฺหาย อุปาทานํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, อุปาทานโต ภโว ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมทุติยสจฺจทฺวยํ, ภวโต ชาติ ¶ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, ชาติยา ชรามรณํ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจนฺติ. เอวํ ตาวิทํ ‘สจฺจปฺปภวโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา วตฺถูสุ จ สตฺเต สมฺโมเหติ ปจฺจโย จ โหติ สงฺขารานํ ปาตุภาวาย, ตถา สงฺขารา สงฺขตฺจ อภิสงฺขโรนฺติ ปจฺจยา จ โหนฺติ วิฺาณสฺส, วิฺาณมฺปิ วตฺถฺุจ ปฏิชานาติ ปจฺจโย จ โหติ นามรูปสฺส, นามรูปมฺปิ อฺมฺฺจ อุปตฺถมฺเภติ ปจฺจโย จ โหติ สฬายตนสฺส, สฬายตนมฺปิ สวิสเย จ วตฺตติ ปจฺจโย จ โหติ ผสฺสสฺส, ผสฺโสปิ อารมฺมณฺจ ผุสติ ปจฺจโย จ โหติ เวทนาย, เวทนาปิ อารมฺมณรสฺจ อนุภวติ ปจฺจโย จ โหติ ตณฺหาย, ตณฺหาปิ รชฺชนีเย จ ธมฺเม รชฺชติ ปจฺจโย จ โหติ อุปาทานสฺส, อุปาทานมฺปิ อุปาทานีเย จ ธมฺเม อุปาทิยติ ปจฺจโย จ โหติ ภวสฺส, ภโวปิ นานาคตีสุ จ วิกฺขิปติ ปจฺจโย จ โหติ ชาติยา, ชาติปิ ขนฺเธ จ ชเนติ เตสํ อภินิพฺพตฺติภาเวน ปวตฺตตา ปจฺจโย จ โหติ ชรามรณสฺส, ชรามรณมฺปิ ขนฺธานํ ปากเภทภาวฺจ อธิติฏฺติ ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวาย โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตา, ตสฺมา สพฺพปเทสุ ทฺวิธา ปวตฺต‘กิจฺจโต’ปิ อิทํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ¶ เจตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ การกทสฺสนนิวารณํ, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อตฺตสงฺกนฺติทสฺสนนิวารณํ, ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ อตฺตาติปริกปฺปิตวตฺถุเภททสฺสนโต ฆนสฺานิวารณํ, ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทีสุ ‘‘อตฺตา ปสฺสติ…เป… วิชานาติ ผุสติ เวทยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ภวติ ชายติ ชียติ มียตี’’ติ เอวมาทิทสฺสนนิวารณํ, ตสฺมา มิจฺฉาทสฺสนนิวารณโตเปตํ ภวจกฺกํ ‘นิวารณโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ สลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน ธมฺมานํ อทสฺสนโต อนฺโธ วิย อวิชฺชา ¶ , อนฺธสฺส อุปกฺขลนํ วิย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, อุปกฺขลิตสฺส ปตนํ ¶ วิย สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, ปติตสฺส คณฺฑปาตุภาโว วิย วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, คณฺฑเภทปีฬกา วิย นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, คณฺฑปีฬกาฆฏฺฏนํ วิย สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ฆฏฺฏนทุกฺขํ วิย ผสฺสปจฺจยา เวทนา, ทุกฺขสฺส ปฏิการาภิลาโส วิย เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ปฏิการาภิลาเสน อสปฺปายคฺคหณํ วิย ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทินฺนอสปฺปายาเลปนํ วิย อุปาทานปจฺจยา ภโว, อสปฺปายาเลปเนน คณฺฑวิการปาตุภาโว วิย ภวปจฺจยา ชาติ, คณฺฑวิการโต คณฺฑเภโท วิย ชาติปจฺจยา ชรามรณํ.
ยสฺมา วา ปเนตฺถ อวิชฺชา อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติภาเวน สตฺเต อภิภวติ ปฏลํ วิย อกฺขีนิ, ตทภิภูโต จ พาโล โปโนพฺภวิเกหิ สงฺขาเรหิ อตฺตานํ เวเติ โกสการกิมิ วิย โกสปฺปเทเสหิ, สงฺขารปริคฺคหิตํ วิฺาณํ คตีสุ ปติฏฺํ ลภติ ปริณายกปริคฺคหิโต วิย ราชกุมาโร รชฺเช, อุปปตฺตินิมิตฺตํ ปริกปฺปนโต วิฺาณํ ปฏิสนฺธิยํ อเนกปฺปการํ นามรูปํ อภินิพฺพตฺเตติ มายากาโร วิย มายํ, นามรูเป ปติฏฺิตํ สฬายตนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ สุภูมิยํ ปติฏฺิโต วนปฺปคุมฺโพ วิย, อายตนฆฏฺฏนโต ผสฺโส ชายติ อรณีสหิตาภิมทฺทนโต อคฺคิ วิย, ผสฺเสน ผุฏฺสฺส เวทนา ปาตุภวติ อคฺคินา ผุฏฺสฺส ฑาโห วิย, เวทยมานสฺส ตณฺหา วฑฺฒติ โลณูทกํ ปิวโต ปิปาสา วิย, ตสิโต ภเวสุ อภิลาสํ กโรติ ปิปาสิโต วิย ปานีเย, ตทสฺสุปาทานํ อุปาทาเนน ภวํ อุปาทิยติ อามิสโลเภน มจฺโฉ พฬิสํ วิย, ภเว สติ ชาติ โหติ พีเช สติ องฺกุโร วิย, ชาตสฺส อวสฺสํ ชรามรณํ อุปฺปนฺนสฺส ¶ รุกฺขสฺส ปตนํ วิย, ตสฺมา เอวํ ‘อุปมาหิ’ เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา จ ภควตา อตฺถโตปิ ธมฺมโตปิ เทสนาโตปิ ปฏิเวธโตปิ คมฺภีรภาวํ สนฺธาย ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐) วุตฺตํ, ตสฺมา ¶ ‘คมฺภีรเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ยสฺมา น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา อฺโต โหติ, อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ เอวํ ชาติปจฺจยสมุทาคตฏฺสฺส ทุรวโพธนียโต ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตถา ชาติยา ภวปจฺจย…เป… สงฺขารานํ ¶ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ อตฺถคมฺภีรนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถคมฺภีรตา’ เหตุผลฺหิ อตฺโถติ วุจฺจติ, ยถาห ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐).
ยสฺมา ปน เยนากาเรน ยทวตฺถา จ อวิชฺชา เตสํ เตสํ สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, ตสฺส ทุรวโพธนียโต อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตถา สงฺขารานํ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ธมฺมคมฺภีรนฺติ อยเมตฺถ ‘ธมฺมคมฺภีรตา’ เหตุโน หิ ธมฺโมติ นามํ, ยถาห ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ.
ยสฺมา จสฺส เตน เตน การเณน ตถา ตถา ปวตฺเตตพฺพตฺตา เทสนาปิ คมฺภีรา, น ตตฺถ สพฺพฺุตาณโต อฺํ าณํ ปติฏฺํ ลภติ, ตถา เหตํ กตฺถจิ สุตฺเต อนุโลมโต, กตฺถจิ ปฏิโลมโต; กตฺถจิ อนุโลมปฏิโลมโต, กตฺถจิ เวมชฺฌโต ปฏฺาย อนุโลมโต วา ปฏิโลมโต วา, กตฺถจิ ติสนฺธิจตุสงฺเขปํ, กตฺถจิ ทฺวิสนฺธิติสงฺเขปํ, กตฺถจิ เอกสนฺธิทฺวิสงฺเขปํ เทสิตํ, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ เทสนาคมฺภีรนฺติ อยํ เทสนาคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ โย อวิชฺชาทีนํ สภาโว, เยน ปฏิวิทฺเธน อวิชฺชาทโย ธมฺมา สลกฺขณโต ปฏิวิทฺธา โหนฺติ, โส ทุปฺปริโยคาหตฺตา คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ปฏิเวธคมฺภีรํ. ตถา เหตฺถ อวิชฺชาย อฺาณาทสฺสนสจฺจาสมฺปฏิเวธฏฺโ ¶ คมฺภีโร, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณายูหนสราควิราคฏฺโ, วิฺาณสฺส สฺุตอพฺยาปารอสงฺกนฺติปฏิสนฺธิปาตุภาวฏฺโ ¶ , นามรูปสฺส เอกุปฺปาทวินิพฺโภคาวินิพฺโภคนมนรุปฺปนฏฺโ, สฬายตนสฺส อธิปติโลกทฺวารเขตฺตวิสยวิสยีภาวฏฺโ, ผสฺสสฺส ผุสนสงฺฆฏฺฏนสงฺคติสนฺนิปาตฏฺโ, เวทนาย อารมฺมณรสานุภวนสุขทุกฺขมชฺฌตฺตภาวนิชฺชีวเวทยิตฏฺโ, ตณฺหาย อภินนฺทิตชฺโฌสานสริตาลตานทีตณฺหาสมุทฺททุปฺปูรณฏฺโ, อุปาทานสฺส อาทานคฺคหณาภินิเวสปรามาสทุรติกฺกมนฏฺโ, ภวสฺส อายูหนาภิสงฺขรณโยนิคติิตินิวาเสสุ ขิปนฏฺโ, ชาติยา ชาติสฺชาติโอกฺกนฺตินิพฺพตฺติปาตุภาวฏฺโ, ชรามรณสฺส ขยวยเภทวิปริณามฏฺโ คมฺภีโรติ อยเมตฺถ ปฏิเวธคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ เอกตฺตนโย, นานตฺตนโย, อพฺยาปารนโย, เอวํธมฺมตานโยติ จตฺตาโร อตฺถนยา โหนฺติ ¶ , ตสฺมา ‘นยเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ พีชสฺส องฺกุราทิภาเวน รุกฺขภาวปฺปตฺติ วิย สนฺตานานุปจฺเฉโท ‘เอกตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานสฺส อนุปจฺเฉทาวโพธโต อุจฺเฉททิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานานุปจฺเฉทสฺส เอกตฺตคฺคหณโต สสฺสตทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีนํ ปน ยถาสกลกฺขณววตฺถานํ ‘นานตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต นวนวานํ อุปฺปาททสฺสนโต สสฺสตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เอกสนฺตานปติตสฺส ภินฺนสนฺตานสฺเสว นานตฺตคฺคหณโต อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาย ‘สงฺขารา มยา อุปฺปาเทตพฺพา’, สงฺขารานํ วา ‘วิฺาณํ อมฺเหหี’ติ เอวมาทิพฺยาปาราภาโว ‘อพฺยาปารนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต การกสฺส อภาวาวโพธโต อตฺตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต โย อสติปิ พฺยาปาเร อวิชฺชาทีนํ สภาวนิยมสิทฺโธ เหตุภาโว ตสฺส อคฺคหณโต อกิริยทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีหิ ปน การเณหิ สงฺขาราทีนํเยว สมฺภโว ขีราทีหิ ¶ ทธิอาทีนํ วิย, น อฺเสนฺติ อยํ ‘เอวํธมฺมตานโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต ¶ ปจฺจยานุรูปโต ผลาวโพธโต อเหตุกทิฏฺิฺจ อกิริยทิฏฺิฺจ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต ปจฺจยานุรูปํ ผลปฺปวตฺตึ อคฺคเหตฺวา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อสมฺภวคฺคหณโต อเหตุกทิฏฺิฺเจว นิยตวาทฺจ อุปาทิยตีติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
อิทฺหิ คมฺภีรโต อคาธํ นานานยคฺคหณโต ทุรภิยานํ าณาสินา สมาธิปวรสิลายํ สุนิสิเตน –
ภวจกฺกมปทาเลตฺวา ¶ ,
อสนิวิจกฺกมิว นิจฺจนิมฺมถนํ;
สํสารภยมตีโต,
น โกจิ สุปินนฺตเรปฺยตฺถิ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา – ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ. เอตสฺส, อานนฺท, ธมฺมสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมยํ ปชา ตนฺตากุลกชาตา กุลคณฺิกชาตา มฺุชปพฺพชภูตา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐). ตสฺมา อตฺตโน วา ปเรสํ วา หิตาย สุขาย ปฏิปนฺโน อวเสสกิจฺจานิ ปหาย –
คมฺภีเร ปจฺจยาการ-ปฺปเภเท อิธ ปณฺฑิโต;
ยถา คาธํ ลเภเถว-มนุยฺุเช สทา สโตติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๔๓. เอวํ มหาปถวึ ปตฺถรนฺโต วิย อากาสํ วิตฺถารยนฺโต วิย จ สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาโณ สตฺถา สุตฺตนฺตภาชนีเย นิคฺคณฺึ นิชฺชฏํ ปจฺจยาการํ นานาจิตฺตวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา น เกวลํ อยํ ปจฺจยากาโร นานาจิตฺเตสุเยว ¶ โหติ, เอกจิตฺเตปิ โหติเยว, ตสฺมา อภิธมฺมภาชนียวเสน เอกจิตฺตกฺขณิกํ ปจฺจยาการํ นานปฺปการโต ¶ ทสฺเสตุํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินา นเยน มาติกํ ตาว เปสิ. เอวํ ปิตาย ปน มาติกาย –
อวิชฺชาทีหิ ¶ มูเลหิ, นว มูลปทา นว;
นยา ตตฺถ จตุกฺกานิ, วารเภทฺจ ทีปเย.
ตตฺรายํ ทีปนา – เอตฺถ หิ อวิชฺชาสงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนาตณฺหาอุปาทานปฺปเภเทหิ อวิชฺชาทีหิ นวหิ มูลปเทหิ อวิชฺชาทิโก, สงฺขาราทิโก, วิฺาณาทิโก, นามาทิโก, ฉฏฺายตนาทิโก, ผสฺสาทิโก, เวทนาทิโก, ตณฺหาทิโก, อุปาทานาทิโกติ อิเม นว มูลปทา นว นยา โหนฺติ.
เตสุ โย ตาว อยํ อวิชฺชาทิโก นโย, ตตฺถ ปจฺจยจตุกฺกํ, เหตุจตุกฺกํ, สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ, อฺมฺจตุกฺกนฺติ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โหนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ เสเสสุปีติ เอเกกสฺมึ นเย จตุนฺนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน ฉตฺตึส จตุกฺกานิ. ตตฺถ เอเกเกน จตุกฺเกน จตุนฺนํ จตุนฺนํ วารานํ สงฺคหิตตฺตา จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ วเสน เอเกกสฺมึ นเย โสฬส โสฬส วาราติ จตุจตฺตาลีสาธิกํ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑. ปจฺจยจตุกฺกํ
ตตฺถ ยเทตํ สพฺพปเม อวิชฺชามูลเก นเย ปจฺจยจตุกฺกํ, ตสฺมึ ปโม นามรูปฏฺาเน นามสฺส, สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส จ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณองฺคทฺวยยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. ทุติโย นามรูปฏฺาเน นามสฺเสว, สฬายตนฏฺาเน จ น กสฺสจิ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต เอกาทสงฺคิกวาโร นาม. ตติโย สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส วุตฺตตฺตา ปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. จตุตฺโถ ปน ปริปุณฺณทฺวาทสงฺคิโกเยว.
ตตฺถ สิยา – อยมฺปิ ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตเยวาติ? น, ตสฺส อนงฺคตฺตา. ผสฺโสเยว เหตฺถ องฺคํ, น ฉฏฺายตนํ. ตสฺมา ตสฺส อนงฺคตฺตา นายํ อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตติ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน ¶ , ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย คพฺภเสยฺยกสตฺตานํ วเสน, จตุตฺโถ โอปปาติกสตฺตานํ ¶ วเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย อปริปุณฺณายตนวเสน, จตุตฺโถ ปริปุณฺณายตนวเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ¶ มหานิทานสุตฺตนฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๙๕ อาทโย), ตติโย รูปภววเสน, จตุตฺโถ กามภววเสน คหิโต’’ติ.
ตตฺถ ปโม อิเมสุ ทุติยาทีสุ ตีสุ วาเรสุ น กตฺถจิ น ปวิสตีติ สพฺพสงฺคาหิโกติ วุตฺโต. เสสานํ วิเสโส ปรโต อาวิภวิสฺสติ. ตสฺสาวิภาวตฺถํ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเย.
ตตฺรายํ นโย – อวิเสเสน ตาว จตูสุปิ เอเตสุ สุตฺตนฺตภาชนิเย วิย สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ, ตํ กสฺมาติ? เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. ตตฺร หิ นานาจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร วิภตฺโต. อิธ เอกจิตฺตกฺขณิโก อารทฺโธ. เอกจิตฺตกฺขเณ จ พหู เจตนา น สนฺตีติ สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ.
ปมวาเร ปเนตฺถ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนธมฺมสงฺคหณโต สพฺพฏฺานสาธารณโต จ รูปํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นาม’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ตฺหิ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนํ สพฺพฏฺานสาธารณฺจ, น กตฺถจิ วิฺาณปฺปวตฺติฏฺาเน น ปวตฺตติ. ยสฺมา จ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺโน เอโกเวตฺถ ผสฺโส, ตสฺมา ตสฺสานุรูปํ ปจฺจยภูตํ อายตนํ คณฺหนฺโต สฬายตนฏฺาเน ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ เอกํ มนายตนํเยว อาห. ตฺหิ เอกสฺส อกุสลผสฺสสฺส อนุรูปํ ปจฺจยภูตํ. กามฺเจตํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตํ, เหตุผลวิเสสทสฺสนตฺถํ ปน องฺคปุณฺณตฺถฺจ ปุน อิธ คหิตํ. ตตฺร หิ เอตสฺส วิเสเสน สงฺขาโร เหตุ, อวิเสเสน นามํ ผลํ. อิธ ปนสฺส อวิเสเสน นามํ เหตุ, วิเสเสน ผสฺโส ผลนฺติ. โสกาทโย ปน ยสฺมา สพฺเพ เอกจิตฺตกฺขเณ น สมฺภวนฺติ, สพฺพสฺมิฺจ จิตฺตปฺปวตฺติฏฺาเน เจว จิตฺเต จ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา น คหิตา. ชาติชรามรณานิ ¶ ปน อจิตฺตกฺขณมตฺตานิปิ สมานานิ จิตฺตกฺขเณ อนฺโตคธตฺตา องฺคปริปูรณตฺถํ ¶ คหิตานิ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘ยํ อฺถา วุตฺตํ. ยฺจ อวุตฺตํ’ ตํ เวทิตพฺพํ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ อิโต ปเรสุ วาเรสุ วุตฺตํ, ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมึ ยสฺมึ ปน วาเร โย โย วิเสโส อาคโต, ตํ ตํ ตตฺถ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสาม.
‘ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺสา’ติ เอตฺถ ปน สงฺขารสฺส อวิชฺชา สมฺปยุตฺตธมฺมสาธารเณหิ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉหิ เหตุปจฺจเยน จาติ สตฺตธา ปจฺจโย. ตตฺถ ยสฺมา ปรโต เหตุจตุกฺกาทีนิ ตีณิ จตุกฺกานิ อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิธ ตานิ อปเนตฺวา อวเสสานํ วเสน อวิชฺชา สงฺขารสฺส จตุธา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ.
สงฺขาโร วิฺาณสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, กมฺมาหารปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา ปจฺจโย. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. วิฺาณํ นามสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, อินฺทฺริยาหาราธิปตีหิ จาติ นวธา. อิธ ปน ตโย อปเนตฺวา ฉธา. นามํ ฉฏฺายตนสฺส สาธารเณหิ ฉหิ. กิฺจิ ปเนตฺถ อธิปติปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจยาทีหีติ อเนกธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ติธา จตุธา ปฺจธา วา. ฉฏฺายตนํ ผสฺสสฺส ยถา วิฺาณํ นามสฺส. เอวํ ผสฺโส เวทนาย สาธารเณหิ ฉหิ อาหารปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. เวทนา ตณฺหาย สาธารเณหิ ฉหิ ฌานินฺทฺริยปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. ตณฺหา อุปาทานสฺส, ยถา อวิชฺชา สงฺขารสฺส. เอวํ อุปาทานํ ภวสฺส สาธารเณหิ ฉหิ มคฺคปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. ภโว ชาติยา, ยสฺมา ชาตีติ อิธ สงฺขตลกฺขณํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ปริยาเยน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปจฺจโย. ตถา ชาติ ชรามรณสฺสาติ.
เย ปน เอวํ วทนฺติ – ‘‘อิมสฺมึ จตุกฺเก สพฺเพสมฺปิ สงฺขาราทีนํ อวิชฺชาทโย สหชาตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. สหชาตปจฺจยวเสเนว หิ ปมวาโร อารทฺโธ’’ติ, เต ภวาทีนํ ตถา อภาวํ เสสปจฺจยานฺจ สมฺภวํ ¶ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. น หิ ภโว ชาติยา สหชาตปจฺจโย ¶ โหติ, น ชาติ ชรามรณสฺส. เย เจเตสํ สงฺขราทีนํ อวเสสา ปจฺจยา วุตฺตา, เตปิ สมฺภวนฺติเยว. ตสฺมา น สกฺกา ฉฑฺเฑตุนฺติ. เอวํ ตาว ปมวาเร ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ, ยฺจ ยถา ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวาราทีสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตํ, ตํ กิมตฺถนฺติ? ปจฺจยวิเสสทสฺสนตฺถฺเจว มหานิทานเทสนาสงฺคหตฺถฺจ. ผสฺสสฺส หิ น เกวลฺจ ฉฏฺายตนเมว ปจฺจโย, เวทนากฺขนฺธาทโย ปน ตโย ขนฺธาปิ ปจฺจยาเยว. มหานิทานสุตฺตนฺเต จสฺส ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ผสฺโสติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. กึ ปจฺจยา ผสฺโสติ? อิติ เจ วเทยฺย, นามปจฺจยา ผสฺโสติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๖). เอวํ สฬายตนํ ฉฑฺเฑตฺวา เอกาทสงฺคิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต. ตสฺมา อิมสฺส ปจฺจยวิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อิมิสฺสา จ มหานิทานสุตฺตนฺตเทสนาย ปริคฺคหตฺถํ ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตนฺติ. เอส ตาว ทุติยวาเร วิเสโส.
ตติยวาเร ปน ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ สุตฺตนฺตภาชนีเย อาคตเมว จตุตฺถมงฺคํ วุตฺตํ, ตํ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ปจฺจยาการสฺส อิธ อยุตฺตนฺติ เจ? ตํ นายุตฺตํ. กสฺมา? สกกฺขเณ ปจฺจยภาวโต. สเจปิ หิ ตตฺถ รูปํ จิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ ติฏฺติ, ตถาปิสฺส ตํ วิฺาณํ สกกฺขเณ ปจฺจโย โหติ. กถํ? ปุเรชาตสฺส ตาว จิตฺตสมุฏฺานสฺส อฺสฺส วา ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑). สหชาตสฺส ปน จิตฺตสมุฏฺานสฺส นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ยถาห ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘).
ยทิ ¶ เอวํ, ปุริมวาเรสุ กสฺมา เอวํ น วุตฺตนฺติ ¶ ? รูปปฺปวตฺติเทสํ สนฺธาย เทสิตตฺตา. อยฺหิ ปจฺจยากาโร รูปปฺปวตฺติเทเส กามภเว คพฺภเสยฺยกานฺเจว อปริปุณฺณายตนโอปปาติกานฺจ รูปาวจรเทวานฺจ วเสน เทสิโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ อวตฺวา ฉฏฺายตนนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. รูปํ ปน หทยรูปํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตสฺส ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจเยน เจว ปุเรชาตปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย โหตีติ เอส ตติยวาเร วิเสโส.
จตุตฺถวาโร ปน โยนิวเสน โอปปาติกานํ, อายตนวเสน ปริปุณฺณายตนานํ, ภววเสน กามาวจรสตฺตานํ วเสน วุตฺโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ ฉฏฺายตนสฺส ¶ สหชาตาทีหิ, จกฺขายตนาทีนํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. รูเป หทยรูปํ ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจยปุเรชาตปจฺจเยหิ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคเตหิ. ยสฺมา ปเนส เอกจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร, ตสฺมา เอตฺถ สฬายตนปจฺจยาติ อวตฺวา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺโตติ อยํ จตุตฺถวาเร วิเสโส.
เอวเมเตสํ นานากรณํ ตฺวา ปุน สพฺเพสฺเวว เตสุ วิเสเสน ปมกา ทฺเว วารา อรูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อรูปภวสฺมิฺหิ รูเปน อสมฺมิสฺสานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ปวตฺตนฺติ. ตติโย รูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. รูปภวสฺมิฺหิ สติปิ รูปสมฺมิสฺสตฺเต สฬายตนํ น ปวตฺตติ. จตุตฺโถ กามภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กามภวสฺมิฺหิ สกลํ สฬายตนํ ปวตฺตติ. ตติโย วา รูปภเว เจว กามภเว จ อปริปุณฺณายตนานํ อกุสลปฺปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺโต. จตุตฺโถ วา กามภเว ปริปุณฺณายตนานํ. ปโม วา สพฺพตฺถคามิตํ สนฺธาย วุตฺโต. โส หิ น กตฺถจิ จิตฺตปฺปวตฺติเทเส น ปวตฺตติ. ทุติโย ปจฺจยวิเสสํ สนฺธาย วุตฺโต. เอกาทสงฺคิกตฺตฺเหตฺถ ผสฺสสฺส จ นามปจฺจยตฺตํ ปจฺจยวิเสโส. ตติโย ปุริมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปุริมาสุ หิ ทฺวีสุ โยนีสุ ¶ โส สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส อสมฺภวโต. จตุตฺโถ ปจฺฉิมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปจฺฉิมาสุ หิ โส ทฺวีสุ โยนีสุ สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส สมฺภวโตติ.
เอตฺตาวตา ¶ จ ยํ วุตฺตํ จตูสุปิ วาเรสุ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเยติ.
คาถาย อตฺถทีปนา กตา โหติ.
เอเตเนวานุสาเรน, สพฺพเมตํ นยํ อิโต;
วิเสโส โย จ ตํ ชฺา, จตุกฺเกสุ ปเรสุปิ.
๒. เหตุจตุกฺกํ
๒๔๔. ตตฺถ ¶ โย ตาว อิธ วุตฺโต นโย, โส สพฺพตฺถ ปากโฏเยว. วิเสโส ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – เหตุจตุกฺเก ตาว อวิชฺชา เหตุ อสฺสาติ อวิชฺชาเหตุโก. อวิชฺชา อสฺส สหวตฺตนโต ยาวภงฺคา ปวตฺติกา คมิกาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติ จ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สาธารณโต สงฺขารสฺส อวิชฺชา ปจฺจโยติ ทสฺเสตฺวา, ปุน ‘‘อวิชฺชาเหตุโก’’ติ เอเตเนว วิเสสโต อวิคตปจฺจยตา ทสฺสิตา. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ สงฺขารเหตุกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
กสฺมา ปน ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ? อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส. ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาทานปจฺจยา ภโว? เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ – อยํ วุจฺจติ อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต อุปาทานปจฺจยา จตุนฺนํ ขนฺธานํ อิธ ภโวติ นามํ. สงฺขารกฺขนฺเธ จ ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิวจนโต (ธาตุ. ๗๑) ชาติชรามรณานิ อนฺโตคธานิ.
ตตฺถ ยาว อุปาทานํ ตาว ชาติชรามรณานํ อนุปลพฺภนโต อุปาทานํ ภวสฺส น นิยมโต อวิคตปจฺจโย โหติ. ‘‘ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ชาตี’’ติ อาทิวจนโต สงฺขตลกฺขเณสุ ชาติยา ชรามรณสงฺขาตสฺส ภวสฺส ชาติกฺขณมตฺเตเยว อภาวโต อวิคตปจฺจยภาโว น สมฺภวติ. ตถา ชาติยา ชรามรณกฺขเณ อภาวโต ¶ . อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปน ภโว ชาติยา. ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโยติ สพฺพถาปิ อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เกจิ ¶ ปนาหุ – ‘‘ภโว ทุวิเธนา’’ติ วจนโต อุปปตฺติมิสฺสโก ภโว, น จ อุปปตฺติภวสฺส อุปาทานํ อวิคตปจฺจโย โหตีติ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว อุปาทานเหตุโก’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วุตฺโต. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปรโตปิ น วุตฺตนฺติ. ตํ อิธ อุปปตฺติมิสฺสกสฺส ภวสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อยุตฺตํ. อรูปกฺขนฺธา หิ อิธ ภโวติ อาคตา.
ภวปจฺจยา ¶ ชาตีติ เอตฺถ จ เปตฺวา ชาติชรามรณานิ อวเสโส ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ชาติอาทีนํ ชาติยา อปฺปจฺจยตฺตา. ยทิ เอวํ, เปตฺวา ชาติชรามรณานิ ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ วตฺตพฺโพติ? อาม วตฺตพฺโพ, วตฺตพฺพปเทสาภาวโต ปน น วุตฺโต. ทสมงฺคนิทฺเทเส หิ อุปาทานปจฺจยสมฺภูโต ภโว วตฺตพฺโพ. เอกาทสมงฺคนิทฺเทเส ชาติ วตฺตพฺพา. โย ปน ภโว ชาติยา ปจฺจโย, ตสฺส วตฺตพฺพปเทโส นตฺถีติ วตฺตพฺพปเทสาภาวโต น วุตฺโต. อวุตฺโตปิ ปน ยุตฺติโต คเหตพฺโพติ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ จ วิฺาณาทีนํ อวิคตปจฺจยภาวสมฺภวโต วิฺาณเหตุกาทิวจนํ กตนฺติ เอส เหตุจตุกฺเก วิเสโส.
๓. สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ
๒๔๕. สมฺปยุตฺตจตุกฺเกปิ อวิชฺชาปจฺจยาติ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาสมฺปยุตฺโต’’ติ สมฺปยุตฺตปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน อรูปีนํ ธมฺมานํ รูปธมฺเมหิ สมฺปโยโค นตฺถิ, ตสฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ ตติยจตุตฺถวารปเทสุ ‘‘วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นาม’’นฺติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ตเทว คหิตนฺติ เอส สมฺปยุตฺตจตุกฺเก วิเสโส.
๔. อฺมฺจตุกฺกํ
๒๔๖. อฺมฺจตุกฺเกปิ ¶ อวิชฺชาปจฺจยาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติ อฺมฺปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน ภโว นิปฺปเทโส, อุปาทานํ สปฺปเทสํ, สปฺปเทสธมฺโม จ นิปฺปเทสธมฺมสฺส ปจฺจโย โหติ, น นิปฺปเทสธมฺโม สปฺปเทสธมฺมสฺส, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น วุตฺตํ; เหฏฺา วา เทสนาย ปจฺฉินฺนตฺตา เอวํ น วุตฺตํ ¶ . ยสฺมา จ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ อตฺถิ, สฬายตนปจฺจยา เอกจิตฺตกฺขเณ นามรูปํ นตฺถิ, ยสฺส สฬายตนํ อฺมฺปจฺจโย ภเวยฺย, ตสฺมา จตุตฺถวาเร ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ ยํ ลพฺภติ ตเทว คหิตนฺติ เอส อฺมฺจตุกฺเก วิเสโส.
อวิชฺชามูลกนยมาติกา.
สงฺขาราทิมูลกนยมาติกา
๒๔๗. อิทานิ ¶ สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชาติ สงฺขารมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถาปิ ยถา อวิชฺชามูลเก เอวํ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โสฬส จ วารา เวทิตพฺพา. ปมจตุกฺเก ปน ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา เทสนา สํขิตฺตา. ยถา เจตฺถ เอวํ วิฺาณมูลกาทีสุปิ. ตตฺถ สพฺเพสฺเวว เตสุ สงฺขารมูลกาทีสุ อฏฺสุ นเยสุ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทินา นเยน สหชาตาทิปจฺจยวเสน อวิชฺชาย สงฺขาราทิปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน เอกจิตฺตกฺขเณปิ ปจฺจยาการจกฺกสฺส ปวตฺติ ทสฺสิตา.
กสฺมา ปน ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตา? กึ ภวปจฺจยา อวิชฺชา น โหตีติ? โน น โหติ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอวมาทีสุ ปน วุจฺจมาเนสุ น โกจิ ภวปริยาปนฺโน ธมฺโม อวิชฺชาย ปจฺจโย น วุตฺโต. ตสฺมา อปุพฺพสฺส อฺสฺส อวิชฺชาปจฺจยสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต ภวมูลโก นโย น วุตฺโต. ภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา ‘‘ภวปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วุจฺจมาเน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชา’’ติปิ วุตฺตํ สิยา. น จ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชา อวิชฺชาย ¶ ปจฺจโย นาม โหติ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตาว ชาติชรามรณมูลกาปิ นยา น คหิตา. อปิจ ภเว ชาติชรามรณานิปิ อนฺโตคธานิ. น เจตานิ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชาย ปจฺจยา โหนฺตีติ ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตาติ.
มาติกาวณฺณนา.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๘-๒๔๙. อิทานิ ยถา เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ กุสลตฺติกํ อาทึ กตฺวา นิกฺขิตฺตมาติกาย ปฏิปาฏิยา ปมํ กุสลํ ภาชิตํ, ตถา อิธ มาติกาย อนิกฺขิตฺตตฺตา ปมํ กุสลํ อนามสิตฺวา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ อกุสลธมฺมวเสน มาติกาย นิกฺขิตฺตตฺตา นิกฺเขปปฏิปาฏิยาว อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ¶ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา ¶ อกุสลาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๖๕) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน เอกจิตฺตกฺขเณ ตณฺหาย จ กามุปาทานสฺส จ สมฺภโว นตฺถิ, ตสฺมา ยํ เอตฺถ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ ลพฺภติ, ตเทว ทสฺเสตุํ ทิฏฺิ ทิฏฺิคตนฺติอาทิ วุตฺตํ.
ภวนิทฺเทเส จ ยสฺมา อุปาทานํ สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน อุปาทานสฺส อุปาทานปจฺจยตฺตํ อาปชฺเชยฺย. น จ ตเทว ตสฺส ปจฺจโย โหติ. ชาติอาทินิทฺเทเสสุ ยสฺมา เอเต อรูปธมฺมานํ ชาติอาทโย, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑิจฺจํ, ปาลิจฺจํ, วลิตฺตจตา, จุติ, จวนตา’’ติ น วุตฺตํ.
๒๕๐. เอวํ ปมวารํ นิฏฺเปตฺวา ปุน ทุติยวาเร ยสฺมึ สมเย ปมวาเรน ปจฺจยากาโร ทสฺสิโต, ตสฺมึเยว สมเย อปเรนปิ นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ วิสุํ สมยววตฺถานวารํ อวตฺวา ตสฺมึ สมเย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินาว นเยน เทสนา กตา. ตตฺถ เปตฺวา ผสฺสนฺติ อิทํ ยสฺมา ผสฺโสปิ นามปริยาปนฺโน, ตสฺมา ผสฺสสฺส นามโต นีหรณตฺถํ วุตฺตํ.
๒๕๒. ตติยวาเร ¶ ยสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย, ตสฺมึ ปวตฺตมาเน ยสฺมา เตนุปตฺถทฺธานํ จกฺขายตนาทีนํ อุปจิตตฺตํ ปฺายติ, ตสฺมา จกฺขายตนสฺส อุปจโยติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา จ กมฺมชรูปสฺสปิ ตสฺมึ สมเย วตฺตมานสฺส วิฺาณํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตสฺมาปิ เอวํ วุตฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ กมฺมชํ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ ทฺเวว สนฺตติโย คหิตา, อิตราปิ ปน ทฺเว สนฺตติโย คเหตพฺพา. ตาสมฺปิ หิ วิฺาณํ ปจฺจโย โหติเยว.
๒๕๔. จตุตฺถวาเร ปน ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณปิ มหาภูตรูปปจฺจยา จกฺขายตนาทีนิ, หทยรูปปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, นามปจฺจยา จ ปจฺฉาชาตสหชาตาทิวเสน ยถานุรูปํ สพฺพานิปิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ กตมํ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ? จกฺขายตนนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๕๖. ทุติยจตุกฺเก ¶ ¶ สพฺพํ อุตฺตานเมว.
๒๖๔. ตติยจตุกฺเก ยสฺส สมฺปยุตฺตปจฺจยภาโว น โหติ, ยสฺส จ โหติ, ตํ วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตุํ อิทํ วุจฺจติ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นามนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๗๒. จตุตฺถจตุกฺเก ผสฺสปจฺจยา นามนิทฺเทเส กิฺจาปิ ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ – อิทํ วุจฺจติ ผสฺสปจฺจยา นาม’’นฺติ น วุตฺตํ, ตถาปิ อนนฺตราตีตปทนิทฺเทเส ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตตฺตา อวุตฺตมฺปิ ตํ วุตฺตเมว โหติ. ยเทว หิ นามํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, ผสฺโสปิ ตสฺเสว ปจฺจโยติ.
ยถา จายํ จตุจตุกฺโก โสฬสวารปฺปเภโท อวิชฺชามูลโก ปมนโย เอตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเต ปกาสิโต, เอวํ สงฺขารมูลกาทโย อฏฺ นยาปิ เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน สํขิตฺตา. เอวเมว ตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเตเยว นว นยา, ฉตฺตึส จตุกฺกานิ, จตุจตฺตาลีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๘๐. อิทานิ อิมินาว นเยน เสสากุสลจิตฺเตสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อกุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ นตฺถิ, ตสฺมา อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ¶ ทฬฺหนิปาตินา อธิโมกฺเขน ปทํ ปูริตํ. โทมนสฺสสหคเตสุ จ ยสฺมา เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย พลวกิเลเสน ปฏิเฆน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา สนฺนิฏฺานาภาวโต อธิโมกฺโขปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลสภูตาย วิจิกิจฺฉาย ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺานํ ปริหีนเมว. อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา อธิโมกฺโข อตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลเสน อุทฺธจฺเจน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. สพฺพตฺเถว จ วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิ สํขิตฺตา. โย ¶ จายํ วิเสโส ทสฺสิโต, ตตฺถ เกวลํ อธิโมกฺขนิทฺเทโสว อปุพฺโพ. เสสํ เหฏฺา อาคตเมว.
อธิโมกฺขนิทฺเทเส ปน อธิมุจฺจนวเสน อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจติ วา เตน อารมฺมเณ จิตฺตํ ¶ นิพฺพิจิกิจฺฉตาย สนฺนิฏฺานํ คจฺฉตีติ อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจนากาโร อธิมุจฺจนา. ตสฺส จิตฺตสฺส, ตสฺมึ วา อารมฺมเณ อธิมุตฺตตฺตาติ ตทธิมุตฺตตา. สพฺพจิตฺเตสุ จ ปมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว นยจตุกฺกวารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต อุปาทานมูลกสฺส นยสฺส อภาวา อฏฺ นยา, ทฺวตฺตึส จตุกฺกานิ, อฏฺวีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๒. อิทานิ อิมินาว นเยน กุสลจิตฺตาทีสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ยถา ปน อกุสเล ปมํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา นิทฺเทโส กโต, น ตถา อิธ. กสฺมา? อปฺปนาวาเร นานตฺตสมฺภวโต. โลกิยกุสลาทีสุ หิ เตสํ ธมฺมานํ ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺตา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสา’’ติ อปฺปนา โหติ, โลกุตฺตรกุสลาทีสุ ‘‘เอวเมเตสํ ธมฺมาน’’นฺติ. ตสฺมา เอตฺถ สาธารณโต มาติกํ เปตุํ น สกฺกาติ ปาฏิเยกฺกํ เตสํ เตสํ กุสลาทีนํ มาติกํ อุทฺทิสิตฺวาว นิทฺเทโส กโตติ.
ตตฺถ ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณ กุสลสงฺขาเรน สทฺธึ อวิชฺชา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา, อวิชฺชา วิย อกุสลานํ, กุสลานํ มูลโต กุสลมูลํ, ตณฺหุปาทานานฺจ ¶ อภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย อารมฺมเณ อชฺโฌคาฬฺโห ปสาโท, อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ทฬฺหนิปาตี นาม อธิโมกฺโข วุตฺโต. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐๖. อพฺยากตํ ¶ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อาคตปฏิปาฏิยาว วิภตฺตํ. สพฺพวาเรสุ จ อวิชฺชามูลกา นยา ปริหีนา. กสฺมา? อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพสฺส อภาวโต. กุสลจิตฺเตสุ ¶ หิ อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพํ กุสลมูลํ อตฺถิ, จกฺขุวิฺาณาทีสุ นตฺถิ. สเหตุเกสุ ปน กิฺจาปิ อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ตตฺถ น คหิตํ. ปฺจวิฺาณโสเต โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา.
วิเสสโต ปเนตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุ ตณฺหาฏฺานํ อุปาทานฏฺานฺจ ปริหีนํ. กสฺมา? ตณฺหาฏฺานารหสฺส พลวธมฺมสฺส อภาวา อธิโมกฺขรหิตตฺตา จ. เสสาเหตุเกสุ ตณฺหาฏฺานเมว ปริหีนํ. สเหตุเกสุ ปสาทสพฺภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ปสาเทน ปทํ ปูริตํ. เอวเมตฺถ กุสลากุสลวิปาเกสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ สงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนามูลกา ฉ ฉ, เสสาเหตุเกสุ อธิโมกฺขมูลเกน สทฺธึ สตฺต สตฺต, สเหตุเกสุ ปสาทมูลเกน สทฺธึ อฏฺ อฏฺ นยา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุปิ จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ อาทิวาโรว วุตฺโต. ทุติยวาโร ปจฺจยวิเสสฏฺเน ลพฺภมาโนปิ น วุตฺโต. ตติยจตุตฺถวารา อสมฺภวโตเยว. รูปมิสฺสกา หิ เต, น จ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ยถา จ ปมจตุกฺเก ทฺเว วารา ลพฺภนฺติ, เอวํ เสสจตุกฺเกสุปิ. ตสฺมา ปมจตุกฺเก ทุติยวาโร, เสสจตุกฺเกสุ จ ทฺเว ทฺเว วารา อวุตฺตาปิ วุตฺตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสาเหตุกาพฺยากเต สพฺพจตุกฺเกสุ สพฺเพปิ วารา ลพฺภนฺติ. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปน ปรโต น คหิตา. โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ. เสสสเหตุกวิปาเกสุปิ ¶ เอเสว นโย อฺตฺร อรูปาวจรวิปากา. อรูปาวจรวิปากสฺมิฺหิ วารทฺวยเมว ลพฺภตีติ.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๔. อิทานิ อปเรน ปริยาเยน เอกจิตฺตกฺขเณ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา ¶ กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยาติ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. กุสลเจตนาสงฺขาโต ¶ หิ สงฺขาโรเยว ตสฺมึ สมเย จิตฺเตน สหชาโต โหติ, น อวิชฺชา.
ตตฺถ โลกิยกุสลสฺส เหฏฺา สุตฺตนฺตภาชนีเย วุตฺตนเยเนว อวิชฺชา ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา ปน อปฺปหีนาวิชฺโช อวิชฺชาย ปหานตฺถํ โลกุตฺตรํ ภาเวติ, ตสฺมา ตสฺสาปิ สมติกฺกมวเสน ปจฺจโย โหติ. อวิชฺชาวโตเยว หิ กุสลายูหนํ โหติ, น อิตรสฺส. ตตฺถ เตภูมกกุสเล สมฺโมหวเสนปิ สมติกฺกมภาวนาวเสนปิ อายูหนํ ลพฺภติ; โลกุตฺตเร สมุจฺเฉทภาวนาวเสนาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อยํ ปน วิเสโส – ยถา เหฏฺา เอเกกกุสเล จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน นว โสฬสกา ลทฺธา, ตถา อิธ น ลพฺภนฺติ. กสฺมา? อวิชฺชาย อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยาภาวโต. อุปนิสฺสยวเสน ปเนตฺถ ปมจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. นีหริตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพนฺติ.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔๓. อิทานิ อพฺยากเตสุปิ อปเรเนว นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสลมูลปจฺจยาติ อิทมฺปิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลวิปากสฺส หิ กุสลมูลํ ¶ , อกุสลวิปากสฺส จ อกุสลมูลํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ; นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา เอส อุปนิสฺสยปจฺจเยน เจว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ กุสลมูล’’นฺติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม กุสลมูลปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. อกุสลวิปาเกปิ เอเสว นโย.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทเส วิย จ อิมสฺมิมฺปิ วิปากนิทฺเทเส ปมํ ปจฺจยจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารํ ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. ตสฺมา เอเกกสฺมึ วิปากจิตฺเต เอกเมกสฺเสว จตุกฺกสฺส วเสน กุสลมูลมูลเก อกุสลมูลมูลเก จ นเย วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. กิริยาธมฺมานํ ปน ยสฺมา เนว อวิชฺชา น กุสลากุสลมูลานิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ ลภนฺติ, ตสฺมา กิริยวเสน ปจฺจยากาโร น วุตฺโตติ.
เอวเมส ¶ –
อกุสลกุสลาพฺยากต-ธมฺเมสุ อเนกเภทโต วตฺวา;
กุสลากุสลานํ ปน, วิปาเก จ อุปนิสฺสยวเสน.
ปุน เอกธาว วุตฺโต, วาทิปฺปวเรน ปจฺจยากาโร;
ธมฺมปฺปจฺจยเภเท, าณสฺส ปเภทชนนตฺถํ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมวิวชฺชิตานฺจ;
ยสฺมา าณปเภโท, น กทาจิปิ โหติ เอตสฺมึ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมโต สทา ธีโร;
ตตฺถ กยิรา น หฺํ, กรณียตรํ ตโต อตฺถีติ.
อยํ ปน ปจฺจยากาโร สุตฺตนฺตอภิธมฺมภาชนียวเสน ทฺเวปริวฏฺฏเมว นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโต โหติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สติปฏฺานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๓๕๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สติปฏฺานวิภงฺเค จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา – สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิธานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ. สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานํ านนฺติ วา ปฏฺานํ; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณํ อนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺพโตติ? สติยา; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ; สติเยว ปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานํ; อถวา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ¶ ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ ¶ อธิปฺเปตํ. ยทิ เอวํ, กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตนฺติ? สติยา พหุตฺตา; อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโยติ.
กสฺมา ¶ ปน ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? เวเนยฺยหิตตฺตา. ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิเกสุ หิ มนฺทติกฺขวเสน ทฺวิธา ปวตฺเตสุ มนฺทสฺส ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ทิฏฺิจริตสฺสปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต ทุติยํ. วิปสฺสนายานิกสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตารมฺมณํ ตติยํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตารมฺมณํ จตุตฺถํ. อิติ จตฺตาโรว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ.
สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา. กาโย หิ อสุโภ. ตตฺถ สุภวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ อสุภภาวทสฺสเนน ตสฺส วิปลฺลาสสฺส ปหานตฺถํ ปมํ สติปฏฺานํ วุตฺตํ. สุขํ, นิจฺจํ, อตฺตาติ คหิเตสุปิ จ เวทนาทีสุ เวทนา ทุกฺขา, จิตฺตํ อนิจฺจํ, ธมฺมา อนตฺตา. เอเตสุ จ สุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ ทุกฺขาทิภาวทสฺสเนน เตสํ วิปลฺลาสานํ ปหานตฺถํ เสสานิ ตีณิ วุตฺตานีติ. เอวํ สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตฺตาโรว วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺจ วิปลฺลาสปหานตฺถเมว, อถ โข จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถฺจ จตฺตาโรว วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาว ปกรณนโย.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ เอตเทว วุตฺตํ. ยถา ¶ หิ จตุทฺวาเร นคเร ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, ทกฺขิณโต, ปจฺฉิมโต, อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. นครํ วิย หิ นิพฺพานมหานครํ, ทฺวารํ วิย อฏฺงฺคิโก โลกุตฺตรมคฺโค. ปาจีนทิสาทโย วิย กายาทโย.
ยถา ¶ ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ กายานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ¶ จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา กายานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ทกฺขิณโต อาคจฺฉนฺตา ทกฺขิณทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ เวทนานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา เวทนานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ปจฺฉิมโต อาคจฺฉนฺตา ปจฺฉิมทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ จิตฺตานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา จิตฺตานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ ธมฺมานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา ธมฺมานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺตีติ. เอวํ สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อิธ ภิกฺขูติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภควตา เทวโลเก นิสีทิตฺวา อยํ สติปฏฺานวิภงฺโค กถิโต, เอกภิกฺขุปิ ตตฺถ ภควโต สนฺติเก นิสินฺนโก นาม นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภิกฺขู ภาเวนฺติ, ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต, ตสฺมา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. กึ ปเนเต สติปฏฺาเน ภิกฺขูเยว ภาเวนฺติ, น ภิกฺขุนีอาทโยติ? ภิกฺขุนีอาทโยปิ ¶ ภาเวนฺติ. ภิกฺขู ปน อคฺคปริสา. อิติ อคฺคปริสตฺตา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต เอวมาห. โย หิ อิมํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชติ, โส ภิกฺขุ นาม โหติ. ปฏิปนฺนโก หิ เทโว วา โหตุ มนุสฺโส วา, ภิกฺขูติ สงฺขํ คจฺฉติเยว. ยถาห –
‘‘อลงฺกโต เจปิ สมฺจเรยฺย,
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี;
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๒);
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา
อชฺฌตฺตนฺติ ¶ ¶ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อชฺฌตฺตํ กาเยติ อตฺตโน กาเยติ อตฺโถ. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน, หตฺถิกายอสฺสกายรถกายาทโย วิย, กาโยติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน กาเยติ จ วตฺวาปิ ปุน กายานุปสฺสีติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา; อถ โข กาเย กายานุปสฺสี เยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี; อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสโก วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสี, นคราวยวานุปสฺสโก วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสี, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภฺุชโก วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวโก ¶ วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสีเยวาติ นานปฺปการโต สมูหวเสน กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ. ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ.
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ ¶ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสิโน โหนฺติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภภูเตเยว อิมสฺมึ ¶ กาเย นิจฺจสุขอตฺตสุภภาวานุปสฺสี; อถ โข กายานุปสฺสี อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภาการสมูหานุปสฺสีเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, ตถา อาโปกายํ, เตโชกายํ, วาโยกายํ, เกสกายํ, โลมกายํ, ฉวิกายํ, จมฺมกายํ, มํสกายํ, รุธิรกายํ, นฺหารุกายํ, อฏฺิกายํ, อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ ปฏิสมฺภิทายํ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต, ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิธมฺมสมูหสงฺขาเต กายานุปสฺสีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิจ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส ¶ อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตถา หิ อยํ กาเย กายานุปสฺสนาปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ภิกฺขุ อิมํ กายํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน อนิจฺจโต อนุปสฺสติ โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ โน นนฺทติ, วิรชฺชติ โน รชฺชติ, นิโรเธติ โน สมุเทติ, ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยติ. โส ตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ ¶ , นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) เวทิตพฺโพ.
วิหรตีติ จตูสุ อิริยาปถวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมาโยคปริทีปนเมตํ, เอกํ อิริยาปถพาธนํ อปเรน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปตมานํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ.
พหิทฺธา ¶ กาเยติ ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเยติ กาเลน อตฺตโน กาเย, กาเลน ปรสฺส กาเย. ปมนเยน หิ อตฺตโน กาเย กายปริคฺคโห วุตฺโต, ทุติยนเยน ปรสฺส กาเย, ตติยนเยน กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา ปน ฆฏิตารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ปคุณกมฺมฏฺานสฺส ปน อปราปรํ สฺจรณกาโล เอตฺถ กถิโต. อาตาปีติ กายปริคฺคาหกวีริยสมาโยคปริทีปนเมตํ. โส หิ ยสฺมา ตสฺมึ สมเย ยํ ตํ วีริยํ ตีสุ ภเวสุ กิเลสานํ อาตาปนโต อาตาโปติ วุจฺจติ, เตน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺมา อาตาปีติ วุจฺจติ.
สมฺปชาโนติ กายปริคฺคาหเกน สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ, น หิ สติวิรหิตสฺส อนุปสฺสนา นาม อตฺถิ, เตเนวาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔), ตสฺมา เอตฺถ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ เอตฺตาวตา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานกมฺมฏฺานํ ¶ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อนาตาปิโน อนฺโตสงฺเขโป อนฺตรายกโร โหติ, อสมฺปชาโน อุปายปริคฺคเห อนุปายปริวชฺชเน จ สมฺมุยฺหติ, มุฏฺสฺสตี อุปายาปริจฺจาเค อนุปายาปริคฺคเห จ อสมตฺโถว โหติ, เตนสฺส ตํ กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ; ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ ¶ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ สมฺปโยคงฺคฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ เอตฺถ ยฺวายํ อชฺฌตฺตาทิเภโท กาโย ปริคฺคหิโต สฺเวว อิธ โลโก นาม. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ วินยิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ อภิชฺฌาคหเณน กามจฺฉนฺโท, โทมนสฺสคฺคหเณน พฺยาปาโท สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา นีวรณปริยาปนฺนพลวธมฺมทฺวยทสฺสเนน นีวรณปฺปหานํ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
วิเสเสน เจตฺถ อภิชฺฌาวินเยน กายสมฺปตฺติมูลกสฺส อนุโรธสฺส, โทมนสฺสวินเยน กายวิปตฺติมูลกสฺส วิโรธสฺส, อภิชฺฌาวินเยน จ กาเย อภิรติยา, โทมนสฺสวินเยน กายภาวนาย อนภิรติยา, อภิชฺฌาวินเยน กาเย อภูตานํ สุภสุขภาวาทีนํ ปกฺเขปสฺส, โทมนสฺสวินเยน ¶ กาเย ภูตานํ อสุภาสุขภาวาทีนํ อปนยนสฺส จ ปหานํ วุตฺตํ. เตน โยคาวจรสฺส โยคานุภาโว โยคสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ. โยคานุภาโว หิ เอส ยทิทํ อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต, อรติรติสโห, อภูตปกฺเขปภูตาปนยนวิรหิโต จ โหติ. อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต เจส อรติรติสโห อภูตํ อปกฺขิปนฺโต ภูตฺจ อนปเนนฺโต โยคสมตฺโถ โหตีติ.
อปโร นโย – ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอตฺถ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานํ วุตฺตํ. วิหรตีติ เอตฺถ วุตฺตวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ. อาตาปีติอาทีสุ อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ, กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย วา; สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺธสมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา ¶ , อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว กายานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสสฺส อตฺถวณฺณนา.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา
เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสาทีสุปิ อชฺฌตฺตาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอเตสุปิ หิ อตฺตโน เวทนาทีสุ, ปรสฺส เวทนาทีสุ, กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส เวทนาทีสูติ ติวิโธ ปริคฺคโห ¶ วุตฺโต. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสีติอาทีสุ จ เวทนาทีนํ ปุนวจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน เวทนาติ ติสฺโส เวทนา. ตา จ โลกิยา เอว; จิตฺตมฺปิ โลกิยํ, ตถา ธมฺมา. เตสํ วิภาโค นิทฺเทสวาเร ปากโฏ ภวิสฺสติ. เกวลํ ปนิธ ยถา เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา ตถา อนุปสฺสนฺโต ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี’’ติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย จิตฺตธมฺเมสุ. กถฺจ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพาติ? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต. ยถาห –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทโส ภิกฺขุ, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา ¶ เอว เจตา ทุกฺขาติปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา, ยถาห – ‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อปิจ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนาวเสนปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ นิทฺเทสวาเรเยว ปากฏํ ภวิสฺสติ.
จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทินุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสราคาทิเภทานฺจ วเสน ¶ อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตาธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสนฺตาสนฺตาทิเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว. กามฺเจตฺถ ยสฺส กายสงฺขาเต โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหีนํ, ตสฺส เวทนาทิโลเกสุปิ ตํ ปหีนเมว. นานาปุคฺคลวเสน ปน นานาจิตฺตกฺขณิกสติปฏฺานภาวนาวเสน จ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. ยโต วา เอกตฺถ ปหีนํ, เสเสสุปิ ปหีนํ โหติ. เตเนวสฺส ตตฺถ ปหานทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๕๖. อิทานิ ¶ เสยฺยถาปิ นาม เฉโก วิลีวการโก ถูลกิลฺชสณฺหกิลฺชจงฺโกฏกเปฬาปุฏาทีนิ อุปกรณานิ กตฺตุกาโม เอกํ มหาเวฬุํ ลภิตฺวา จตุธา ฉินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ เวฬุขณฺฑํ คเหตฺวา ผาเลตฺวา ตํ ตํ อุปกรณํ กเรยฺย, ยถา วา ปน เฉโก สุวณฺณกาโร นานาวิหิตํ ปิฬนฺธนวิกตึ กตฺตุกาโม สุปริสุทฺธํ สุวณฺณฆฏิกํ ลภิตฺวา จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ โกฏฺาสํ คเหตฺวา ตํ ตํ ปิฬนฺธนํ กเรยฺย, เอวเมว ภควา สติปฏฺานเทสนาย สตฺตานํ อเนกปฺปการํ วิเสสาธิคมํ กตฺตุกาโม เอกเมว สมฺมาสตึ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา – อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณวเสน ¶ จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ สติปฏฺานํ คเหตฺวา วิภชนฺโต กถฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเยติอาทินา นเยน นิทฺเทสวารํ วตฺตุมารทฺโธ.
ตตฺถ กถฺจาติอาทิ วิตฺถาเรตุํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เกน จ อากาเรน เกน ปกาเรน ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตีติ? เสสปุจฺฉาวาเรสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธ-สทฺโท อชฺฌตฺตาทิวเสน สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ ¶ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). เตน วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อชฺฌตฺตํ กายนฺติ อตฺตโน กายํ. อุทฺธํ ปาทตลาติ ปาทตลโต อุปริ. อโธ เกสมตฺถกาติ เกสคฺคโต เหฏฺา. ตจปริยนฺตนฺติ ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนํ. ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขตีติ นานปฺปการเกสาทิอสุจิภริโต อยํ กาโยติ ปสฺสติ. กถํ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา…เป… มุตฺตนฺติ. ตตฺถ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติ. อิมสฺมินฺติ ยฺวายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ติริยํ ตจปริยนฺโต ปูโร นานปฺปการสฺส อสุจิโนติ วุจฺจติ ตสฺมึ. กาเยติ สรีเร. สรีรฺหิ ¶ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานํ เกสาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทีนฺจ โรคสตานํ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติ.
เกสา โลมาติ เอเต เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา. ตตฺถ อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา, อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย โลมาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺหิ ปาทตลโต ปฏฺาย อุปริ, เกสมตฺถกา ปฏฺาย เหฏฺา, ตจโต ปฏฺาย ติริยนฺตโตติ เอตฺตเก พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ นานปฺปการํ เกสโลมาทิเภทํ อสุจึเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺตนฺติ. อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺธโต วณฺณนา.
อิมํ ปน กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน กุลปุตฺเตน อาทิโตว จตุพฺพิธํ สีลํ ¶ โสเธตฺวา สุปริสุทฺธสีเล ปติฏฺิเตน, ยฺวายํ ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺานภาวนาย ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา, อรหตฺตํ อนาคามิผลาทีสุ วา อฺตรํ ปตฺตสฺส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน สาฏฺกถาย ปาฬิยา กตปริจยสฺส ตนฺติอาจริยสฺสาปิ กลฺยาณมิตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. วิสุทฺธํ ตถารูปํ ¶ กลฺยาณมิตฺตํ เอกวิหาเร อลภนฺเตน ตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺถ จตุพฺพิธสีลวิโสธนฺเจว (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) ปลิโพโธ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) จ ปลิโพธุปจฺเฉโท จ อาจริยสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมนวิธานฺจ สพฺพมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต กถิตํ. ตสฺมา ตํ ตตฺถ กถิตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาจริเยน ปน กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน ติวิเธน กเถตพฺพํ. เอโก ภิกฺขุ ปกติยา อุคฺคหิตกมฺมฏฺาโน โหติ. ตสฺส เอกํ ทฺเว นิสชฺชวาเร สชฺฌายํ กาเรตฺวา กเถตพฺพํ. เอโก สนฺติเก วสิตฺวา อุคฺคณฺหิตุกาโม โหติ. ตสฺส อาคตาคตเวลาย กเถตพฺพํ. เอโก อุคฺคณฺหิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุกาโม โหติ. ตสฺส นาติปปฺจํ นาติสงฺเขปํ กตฺวา ¶ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺิกํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน กึ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ? สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ ทสธา จ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
ตตฺถ วจสา มนสา วณฺณโต สณฺานโต ทิสโต โอกาสโต ปริจฺเฉทโตติ เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อิมสฺมิฺหิ ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺาเน โยปิ ติปิฏโก โหติ, เตนปิ มนสิการกาเล ปมํ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอกจฺจสฺส หิ สชฺฌายํ กโรนฺตสฺเสว กมฺมฏฺานํ ปากฏํ โหติ, มลยวาสีมหาเทวตฺเถรสฺส สนฺติเก อุคฺคหิตกมฺมฏฺานานํ ทฺวินฺนํ เถรานํ วิย. เถโร กิร เตหิ กมฺมฏฺานํ ยาจิโต ‘จตฺตาโร มาเส อิมํ เอวํ สชฺฌายํ กโรถา’ติ ทฺวตฺติสาการปาฬึ อทาสิ. เต, กิฺจาปิ เตสํ ทฺเว ตโย นิกายา ปคุณา, ปทกฺขิณคฺคาหิตาย ปน จตฺตาโร มาเส ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺตาว โสตาปนฺนา อเหสุํ.
ตสฺมา กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน อาจริเยน อนฺเตวาสิโก วตฺตพฺโพ – ‘ปมํ ตาว วาจาย สชฺฌายํ กโรหี’ติ. กโรนฺเตน จ ตจปฺจกาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุโลมปฏิโลมวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ‘‘เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’’ติ หิ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตทนนฺตรํ วกฺกปฺจเก ‘‘มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ ¶ วกฺก’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘วกฺกํ ¶ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปปฺผาสปฺจเก ‘‘หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาส’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต อิมํ ตนฺตึ อนารุฬฺหมฺปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔) อาคตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสาวสาเน ตนฺตึ อาโรเปตฺวา อิมสฺมึ มตฺถลุงฺคปฺจเก ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ มตฺถลุงฺค’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต ¶ เมทฉกฺเก ‘‘ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท’’ติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต มุตฺตฉกฺเก ‘‘อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มุตฺตํ ลสิกา สิงฺฆาณิกา เขโฬ วสา อสฺสุ เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ เอวํ กาลสตมฺปิ กาลสหสฺสมฺปิ กาลสตสหสฺสมฺปิ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาเยน หิ กมฺมฏฺานตนฺติ ปคุณา โหติ; น อิโต จิโต จ จิตฺตํ วิธาวติ; โกฏฺาสา ปากฏา โหนฺติ, หตฺถสงฺขลิกา วิย ขายนฺติ, วติปาทปนฺติ วิย จ ขายนฺติ. ยถา จ ปน วจสา, ตเถว มนสาปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาโย หิ มนสา สชฺฌายสฺส ปจฺจโย โหติ. มนสา สชฺฌาโย ลกฺขณปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ. ลกฺขณปฏิเวโธ มคฺคผลปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ.
‘วณฺณโต’ติ เกสาทีนํ วณฺโณ ววตฺถเปตพฺโพ. ‘สณฺานโต’ติ เตสํเยว สณฺานํ ววตฺถเปตพฺพํ ¶ . ‘ทิสโต’ติ ¶ อิมสฺมึ สรีเร นาภิโต อุทฺธํ อุปริมา ทิสา, อโธ เหฏฺิมา ทิสา. ตสฺมา ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมิสฺสา นาม ทิสายา’’ติ ทิสา ววตฺถเปตพฺพา. ‘โอกาสโต’ติ ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมสฺมึ นาม โอกาเส ปติฏฺิโต’’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส โอกาโส ววตฺถเปตพฺโพ. ‘ปริจฺเฉทโต’ติ สภาคปริจฺเฉโท วิสภาคปริจฺเฉโทติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ‘‘อยํ โกฏฺาโส เหฏฺา จ อุปริ จ ติริยฺจ อิมินา นาม ปริจฺฉินฺโน’’ติ เอวํ สภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ‘‘เกสา น โลมา, โลมาปิ น เกสา’’ติ เอวํ อมิสฺสีกตวเสน วิสภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขนฺเตน ปน ‘‘อิทํ กมฺมฏฺานํ อสุกสฺมึ สุตฺเต ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ, อสุกสฺมึ ธาตุวเสนา’’ติ ตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. อิทฺหิ มหาสติปฏฺาเน (ที. นิ. ๒.๓๗๒; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) ปฏิกฺกูลวเสเนว กถิตํ, มหาหตฺถิปโทปม (ม. นิ. ๑.๓๐๐ อาทโย) -มหาราหุโลวาท (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) -ธาตุวิภงฺเคสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ธาตุวเสน กถิตํ. กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓ อาทโย) ปน ยสฺส วณฺณโต อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย จตฺตาริ ฌานานิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ ธาตุวเสน กถิตํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ โหติ, ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ สมถกมฺมฏฺานํ. ตเทตํ อิธ สมถกมฺมฏฺานํ อวิเสสโต สพฺพสาธารณวเสน กถิตนฺติ วทนฺติเยวาติ.
เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต, ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, อปฺปนาโต, ตโย จ สุตฺตนฺตา’’ติ เอวํ ทสธา มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อนุปุพฺพโต’ติ อิทฺหิ สชฺฌายกรณโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกาย. เอกนฺตริกาย หิ มนสิกโรนฺโต ยถา นาม อกุสโล ปุริโส ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ เอกนฺตริกาย อาโรหนฺโต กิลนฺตกาโย ปตติ, น อาโรหนํ สมฺปาเทติ; เอวเมว ภาวนาสมฺปตฺติวเสน อธิคนฺตพฺพสฺส อสฺสาทสฺส อนธิคมา กิลนฺตจิตฺโต ปตติ, น ภาวนํ สมฺปาเทติ.
อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ ‘นาติสีฆโต’ มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรโต หิ ¶ ยถา นาม ติโยชนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา โอกฺกมนวิสฺสชฺชนํ อสลฺลกฺเขตฺวา ¶ สีเฆน ชเวน สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ คมนาคมนํ กโรโต ปุริสสฺส กิฺจาปิ อทฺธานํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถ โข ปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ; เอวเมว เกวลํ กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ ปาปุณาติ, อวิภูตํ ปน โหติ, น วิเสสํ อาวหติ. ตสฺมา นาติสีฆโต มนสิกาตพฺพํ.
ยถา จ นาติสีฆโต เอวํ ‘นาติสณิกโต’ปิ. อติสณิกโต มนสิกโรโต หิ ยถา นาม ตทเหว ติโยชนํ มคฺคํ คนฺตุกามสฺส ปุริสสฺส ¶ อนฺตรามคฺเค รุกฺขปพฺพตคหนาทีสุ วิลมฺพมานสฺส มคฺโค ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ทฺวีหตีเหน ปริโยสาเปตพฺโพ โหติ; เอวเมว กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, วิเสสาธิคมสฺส ปจฺจโย น โหติ.
‘วิกฺเขปปฏิพาหนโต’ติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ เจตโส วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. อปฺปฏิพาหโต หิ ยถา นาม เอกปทิกํ ปปาตมคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ปุริสสฺส อกฺกมนปทํ อสลฺลกฺเขตฺวา อิโต จิโต จ วิโลกยโต ปทวาโร วิรชฺฌติ, ตโต สตโปริเส ปปาเต ปติตพฺพํ โหติ; เอวเมว พหิทฺธา วิกฺเขเป สติ กมฺมฏฺานํ ปริหายติ, ปริธํสติ. ตสฺมา วิกฺเขปปฏิพาหนโต มนสิกาตพฺพํ.