📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
สมฺโมหวิโนทนี นาม
วิภงฺค-อฏฺกถา
๑. ขนฺธวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจทโส ¶ ¶ ¶ นาโถ, จตุธา ธมฺมสงฺคณึ;
ปกาสยิตฺวา สมฺพุทฺโธ, ตสฺเสว สมนนฺตรํ.
อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ, อฏฺารสหิ นายโก;
อฏฺารสนฺนํ ขนฺธาทิ-วิภงฺคานํ วเสน ยํ.
วิภงฺคํ ¶ เทสยี สตฺถา, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;
อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสตฺถวณฺณนํ.
กริสฺสามิ วิคาเหตฺวา, โปราณฏฺกถานยํ;
สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.
๑. ปฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ อิทํ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม. ตตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. ขนฺธาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺรายํ ขนฺธ-สทฺโท สมฺพหุเลสุ าเนสุ ทิสฺสติ – ราสิมฺหิ, คุเณ, ปณฺณตฺติยํ, รุฬฺหิยนฺติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา, อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว ¶ สงฺขฺยํ ¶ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕๑; ๖.๓๗) หิ ราสิโต ขนฺโธ นาม. นหิ ปริตฺตกํ อุทกํ อุทกกฺขนฺโธติ วุจฺจติ, พหุกเมว วุจฺจติ. ตถา น ปริตฺตโก รโช รชกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกา คาโว ควกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ พลํ พลกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ ปฺุํ ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจติ. พหุกเมว หิ รโช รชกฺขนฺโธ, พหุกาว ควาทโย ควกฺขนฺโธ, พลกฺขนฺโธ, ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจนฺติ. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) ปน คุณโต ขนฺโธ นาม. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑). เอตฺถ ปณฺณตฺติโต ขนฺโธ นาม. ‘‘ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป… วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๓, ๖๕) รุฬฺหิโต ขนฺโธ นาม. สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโต. อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ ปูคฏฺโ ฆฏฏฺโ ราสฏฺโ. ตสฺมา ‘ราสิลกฺขณา ขนฺธา’ติ เวทิตพฺพา. โกฏฺาสฏฺโติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; โลกสฺมิฺหิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’ติ วทนฺติ. อิติ ‘โกฏฺาสลกฺขณา ขนฺธา’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตฺถ รูปกฺขนฺโธติ รูปราสิ รูปโกฏฺาโส, เวทนากฺขนฺโธติ เวทนาราสิ เวทนาโกฏฺาโสติ อิมินา นเยน สฺากฺขนฺธาทีนํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา ¶ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยฺวายํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทีสุ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต ‘ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ ‘ฉนฺนวุติ รูปโกฏฺาสา’ติ จ เอวํปเภโท รูปราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเวทนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา เวทนากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… มโนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกสฺาราสิ ¶ , ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สฺากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเจตนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สงฺขารกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ. โย ¶ ปนายํ ‘‘จกฺขุวิฺาณํ, โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ, มโนธาตุ, มโนวิฺาณธาตู’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกจิตฺตราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา วิฺาณกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิ.
อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ จตุสมุฏฺานิกํ รูปํ รูปกฺขนฺโธ, กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตาทีหิ เอกูนนวุติจิตฺเตหิ สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทโย ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺโธ, เอกูนนวุติ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวมฺปิ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒. อิทานิ เต รูปกฺขนฺธาทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม รูปกฺขนฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ. กตโมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. รูปกฺขนฺโธติ ปุจฺฉิตธมฺมนิทสฺสนํ. อิทานิ ตํ วิภชนฺโต ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานํ. รูปนฺติ อติปฺปสงฺคนิยมนํ. เอวํ ปททฺวเยนาปิ รูปสฺส อนวเสสปริคฺคโห กโต โหติ.
ตตฺถ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน รูปํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘กิฺจ ¶ , ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ ¶ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสริสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).
ตตฺถ กินฺติ การณปุจฺฉา; เกน การเณน รูปํ วเทถ, เกน การเณน ตํ รูปํ นามาติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ เอตฺถ อิตีติ การณุทฺเทโส. ยสฺมา รุปฺปติ ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬิยติ ภิชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ อิมินา เอตฺตเกน าเนน รุปฺปนฏฺเน รูปํ วุตฺตํ. รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. รุปฺปนลกฺขณฺเหตํ.
สีเตนปิ ¶ รุปฺปตีติอาทีสุ ปน สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. ติณฺณํ ติณฺณฺหิ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย นาม โหติ อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ, ยสฺส เนว เหฏฺา ปถวี อตฺถิ, น อุปริ จนฺทิมสูริยทีปมณิอาโลโก, นิจฺจนฺธกาโร. ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ. เต วคฺคุลิโย วิย ปพฺพตปาเท ทีฆปุถุเลหิ นเขหิ ลคฺคิตฺวา อวํสิรา โอลมฺพนฺติ. ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ อถ ‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’ติ มฺมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, สีตวาเต ปหรนฺเตปิ ปกฺกมธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ. ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกน ฉินฺนจมฺมนฺหารุมํสอฏฺีหิ ภิชฺชมาเนหิ ตตฺตเตเล ปติตปิฏฺปิณฺฑิ วิย ปฏปฏายมานา วิลียนฺติ. เอวํ สีเตน รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนจฺฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.
อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.
ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ¶ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ ¶ . อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณปฺปตฺตานํ ปมาณํ นาม นตฺถิ.
ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุํ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’ติ นทึ คตานมฺปิ นที วาลิกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ มหาสมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิจรนฺติ.
เอโก ¶ กิร กาลกฺชิกอสุโร ปิปาสํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต โยชนคมฺภีรวิตฺถารํ มหาคงฺคํ โอตริ. ตสฺส คตคตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชติ, ธูโม อุคฺคจฺฉติ, ตตฺเต ปิฏฺิปาสาเณ จงฺกมนกาโล วิย โหติ. ตสฺส อุทกสทฺทํ สุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิ. อถ นํ ปาโตว ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา ตึสมตฺตา ปิณฺฑจาริกภิกฺขู ทิสฺวา – ‘‘โก นาม ตฺวํ, สปฺปุริสา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘เปโตหมสฺมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปริเยสสี’’ติ? ‘‘ปานียํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยํ คงฺคา ปริปุณฺณา, กึ ตฺวํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘น อุปกปฺปติ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ คงฺคาปิฏฺเ นิปชฺช, มุเข เต ปานียํ อาสิฺจิสฺสามา’’ติ. โส วาลิกาปุฬิเน อุตฺตาโน นิปชฺชิ. ภิกฺขู ตึสมตฺเต ปตฺเต นีหริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ตสฺส มุเข อาสิฺจึสุ. เตสํ ตถา กโรนฺตานํเยว เวลา อุปกฏฺา ชาตา. ตโต ‘‘ภิกฺขาจารกาโล อมฺหากํ, สปฺปุริส; กจฺจิ เต อสฺสาทมตฺตา ลทฺธา’’ติ อาหํสุ. เปโต ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ตึสมตฺตานํ อยฺยานํ ตึสมตฺเตหิ ปตฺเตหิ อาสิตฺตอุทกโต อฑฺฒปสตมตฺตมฺปิ ปรคลคตํ, เปตตฺตภาวโต โมกฺโข มา โหตู’’ติ อาห. เอวํ ปิปาสาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย ปากฏํ.
ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิสมฺพพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. เอตฺถ จ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, มกสาติ มกสาว วาตาติ กุจฺฉิวาตปิฏฺิวาตาทิวเสน เวทิตพฺพา. สรีรสฺมิฺหิ ¶ วาตโรโค อุปฺปชฺชิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺิอาทีนิ ภินฺทติ, กาณํ กโรติ, ขุชฺชํ กโรติ, ปีสปฺปึ กโรติ. อาตโปติ สูริยาตโป. เตน รุปฺปนํ มรุกนฺตาราทีสุ ปากฏํ. เอกา กิร อิตฺถี มรุกนฺตาเร รตฺตึ สตฺถโต โอหีนา ทิวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต วาลิกาย ตปฺปมานาย ปาเท เปตุํ อสกฺโกนฺตี สีสโต ปจฺฉึ โอตาเรตฺวา อกฺกมิ. กเมน ปจฺฉิยา อุณฺหาภิตตฺตาย ¶ าตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา อุปริ สาฏกํ เปตฺวา อกฺกมิ. ตสฺมิมฺปิ สนฺตตฺเต องฺเกน คหิตํ ปุตฺตกํ อโธมุขํ นิปชฺชาเปตฺวา กนฺทนฺตํ กนฺทนฺตํ อกฺกมิตฺวา สทฺธึ เตน ตสฺมึเยว าเน อุณฺหาภิตตฺตา กาลมกาสิ.
สรีสปาติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สรนฺตา คจฺฉนฺติ. เตสํ สมฺผสฺเสน รุปฺปนํ อาสีวิสทฏฺาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ ‘ยํ กิฺจิ รูป’นฺติ ปเทน สํคหิตํ ปฺจวีสติโกฏฺาสฉนฺนวุติโกฏฺาสปฺปเภทํ สพฺพมฺปิ รูปํ อตีตาทิโกฏฺาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อาห. ตโต ปรํ ตเทว อชฺฌตฺตทุกาทีสุ จตูสุ ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วาติอาทิ วุตฺตํ. ตโต ปรํ สพฺพมฺเปตํ เอกาทสสุ ปเทเสสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ รูปํ เอกโต ปิณฺฑํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ตเทกชฺฌนฺติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ตเทกชฺฌนฺติ ตํ เอกชฺฌํ; อภิสฺูหิตฺวาติ อภิสํหริตฺวา; อภิสงฺขิปิตฺวาติ สงฺเขปํ กตฺวา; อิทํ วุตฺตํ โหติ – สพฺพมฺเปตํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ รุปฺปนลกฺขณสงฺขาเต เอกวิธภาเว ปฺาย ราสึ กตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ วุจฺจตีติ. เอเตน สพฺพมฺปิ รูปํ รุปฺปนลกฺขเณ ราสิภาวูปคมเนน รูปกฺขนฺโธติ ทสฺสิตํ โหติ. น หิ รูปโต อฺโ รูปกฺขนฺโธ นาม อตฺถิ. ยถา จ รูปํ, เอวํ เวทนาทโยปิ เวทยิตลกฺขณาทีสุ ราสิภาวูปคมเนน. น หิ เวทนาทีหิ อฺเ เวทนากฺขนฺธาทโย นาม อตฺถิ.
๓. อิทานิ เอเกกสฺมึ โอกาเส ปกฺขิตฺตํ รูปํ วิสุํ วิสุํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตมํ รูปํ อตีตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ปิตมาติกาย ภุมฺมํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา ¶ นเยน ปิตาย มาติกาย ยํ อตีตํ รูปนฺติ วุตฺตํ, ตํ กตมนฺติ? อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทีนิ ปทานิ นิกฺเขปกณฺฑสฺส อตีตตฺติกภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๔๔) วุตฺตาเนว. จตฺตาโร จ มหาภูตาติ อิทํ อตีตนฺติ วุตฺตรูปสฺส สภาวทสฺสนํ. ยถา เจตฺถ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – อตีตรูปมฺปิ ภูตานิ เจว ภูตานิ อุปาทาย นิพฺพตฺตรูปฺจ, อนาคตมฺปิ…เป… ทูรสนฺติกมฺปิ ¶ . น หิ ภูเตหิ เจว ภูตานิ อุปาทาย ปวตฺตรูปโต จ อฺํ รูปํ นาม อตฺถีติ.
อปโร นโย – อตีตํเสน สงฺคหิตนฺติ อตีตโกฏฺาเสเนว สงฺคหิตํ, เอตฺเถว คณนํ คตํ. กินฺติ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ ¶ อุปาทายรูปนฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนนิทฺเทสปทานิปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.
อิทํ ปน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ นาม สุตฺตนฺตปริยายโต อภิธมฺมนิทฺเทสโตติ ทุวิธํ. ตํ สุตฺตนฺตปริยาเย ภเวน ปริจฺฉินฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตํ รูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกรูปํ, อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตํ โหตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนนฺตเร ปวตฺตรูปํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. อภิธมฺมนิทฺเทเส ปน ขเณน ปริจฺฉินฺนํ. ตโย หิ รูปสฺส ขณา – อุปฺปาโท, ิติ, ภงฺโคติ. อิเม ตโย ขเณ ปตฺวา นิรุทฺธํ รูปํ, สมนนฺตรนิรุทฺธํ วา โหตุ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อตีตเมว นาม. ตโย ขเณ อสมฺปตฺตํ รูปํ, เอกจิตฺตกฺขณมตฺเตน วา อสมฺปตฺตํ โหตุ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺพํ อนาคตเมว นาม. อิเม ตโย ขเณ สมฺปตฺตํ รูปํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียํ, เอวํ สนฺเตปิ อภิธมฺมนิทฺเทเสเนว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนรูปํ นิทฺทิฏฺนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ.
อปโร นโย – อิทฺหิ รูปํ อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสน จตุธา อตีตํ นาม โหติ. ตถา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนํ. อทฺธาวเสน ตาว เอกสฺส เอกสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีตํ, จุติโต อุทฺธํ อนาคตํ, อุภินฺนมนฺตเร ปจฺจุปฺปนฺนํ. สนฺตติวเสน สภาคเอกอุตุสมุฏฺานํ เอกาหารสมุฏฺานฺจ ปุพฺพาปริยวเสน ปวตฺตมานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ วิสภาคอุตุอาหารสมุฏฺานํ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. จิตฺตชํ เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติสมุฏฺานํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺส ปาฏิเยกฺกํ สนฺตติวเสน อตีตาทิเภโท นตฺถิ. เตสฺเว ปน อุตุอาหารจิตฺตสมุฏฺานานํ อุปตฺถมฺภกวเสน ตสฺส อตีตาทิเภโท เวทิตพฺโพ. สมยวเสน เอกมุหุตฺตปุพฺพณฺหสายนฺหรตฺติทิวาทีสุ สมเยสุ สนฺตานวเสน ¶ ปวตฺตมานํ ตํ ตํ สมยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. ขณวเสน อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตยปริยาปนฺนํ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ.
อปิจ อติกฺกเหตุปจฺจยกิจฺจํ อตีตํ. นิฏฺิตเหตุกิจฺจํ อนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺนํ. อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ อนาคตํ. สกิจฺจกฺขเณ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. เอตฺถ จ ขณาทิกถาว นิปฺปริยายา, เสสา สปริยายา. ตาสุ นิปฺปริยายกถา อิธ อธิปฺเปตา. อชฺฌตฺตทุกสฺสาปิ นิทฺเทสปทานิ เหฏฺา อชฺฌตฺตตฺติกนิทฺเทเส (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๕๐) วุตฺตตฺถาเนว. โอฬาริกาทีนิ รูปกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๗๔) วุตฺตตฺถาเนว.
๖. หีนทุกนิทฺเทเส เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ พหูสุ สตฺเตสุ สามิวจนํ. อปรสฺสาปิ อปรสฺสาปีติ หิ วุจฺจมาเน ทิวสมฺปิ กปฺปสตสหสฺสมฺปิ วทนฺโต เอตฺตกเมว วเทยฺย. อิติ สตฺถา ทฺวีเหว ปเทหิ อนวเสเส สตฺเต ปริยาทิยนฺโต ‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’นฺติ อาห. เอตฺตเกน หิ สพฺพมฺปิ อปรทีปนํ ¶ สิทฺธํ โหติ. อฺุาตนฺติ อวมตํ. อวฺาตนฺติ วมฺเภตฺวา าตํ. รูปนฺติปิ น วิทิตํ. หีฬิตนฺติ อคเหตพฺพฏฺเน ขิตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ชิคุจฺฉิตนฺติปิ วทนฺติ. ปริภูตนฺติ กิเมเตนาติ วาจาย ปริภวิตํ. อจิตฺตีกตนฺติ น ครุกตํ. หีนนฺติ ลามกํ. หีนมตนฺติ หีนนฺติ มตํ, ลามกํ กตฺวา าตํ. หีนสมฺมตนฺติ หีนนฺติ โลเก สมฺมตํ, หีเนหิ วา สมฺมตํ, คูถภกฺเขหิ คูโถ วิย. อนิฏฺนฺติ อปฺปิยํ, ปฏิลาภตฺถาย วา อปริเยสิตํ. สเจปิ นํ โกจิ ปริเยเสยฺย, ปริเยสตุ. เอตสฺส ปน อารมฺมณสฺส เอตเทว นามํ. อกนฺตนฺติ อกามิตํ, นิสฺสิริกํ วา. อมนาปนฺติ มนสฺมึ น อปฺปิตํ. ตาทิสฺหิ อารมฺมณํ มนสฺมึ น อปฺปียติ. อถ วา มนํ อปฺปายติ วฑฺเฒตีติ มนาปํ, น มนาปํ อมนาปํ.
อปโร นโย – อนิฏฺํ สมฺปตฺติวิรหโต. ตํ เอกนฺเตน กมฺมสมุฏฺาเนสุ อกุสลกมฺมสมุฏฺานํ. อกนฺตํ สุขสฺส อเหตุภาวโต. อมนาปํ ทุกฺขสฺส เหตุภาวโต. รูปา สทฺทาติ อิทมสฺส สภาวทีปนํ. อิมสฺมิฺหิ ปเท อกุสลกมฺมชวเสน อนิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชํ ปน อนิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว.
ปณีตปทนิทฺเทโส ¶ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน ปเท กุสลกมฺมชวเสน อิฏฺา ปฺจ กามคุณา วิภตฺตา. กุสลกมฺมชฺหิ อนิฏฺํ นาม ¶ นตฺถิ, สพฺพํ อิฏฺเมว. ยถา จ กมฺมเชสุ เอวํ อุตุสมุฏฺานาทีสุปิ อิฏฺานิฏฺตา อตฺถิ เอวาติ อิมสฺมึ ทุเก อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปฏิวิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, เตสํ เตสํ รุจิวเสน กถิตํ.
ยถาห –
‘‘มนาปปริยนฺตํ ขฺวาหํ, มหาราช, ปฺจสุ กามคุเณสุ อคฺคนฺติ วทามิ. เตว, มหาราช, รูปา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺติ. เตว, มหาราช, สทฺทา, คนฺธา, รสา, โผฏฺพฺพา เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา โหนฺตี’’ติ ¶ (สํ. นิ. ๑.๑๒๓).
เอวํ ยสฺมา เตเยว รูปาทโย เอโก อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตตฺถ โลภํ อุปฺปาเทติ. เอโก กุชฺฌติ ปฏิหฺติ, ตตฺถ โทสํ อุปฺปาเทติ. เอกสฺส อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, เอกสฺส อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา. เอโก เจเต ‘อิฏฺา กนฺตา มนาปา’ติ ทกฺขิณโต คณฺหาติ, เอโก ‘อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา’ติ วามโต. ตสฺมา อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถิ. ปจฺจนฺตวาสีนฺหิ คณฺฑุปฺปาทาปิ อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, มชฺฌิมเทสวาสีนํ อติเชคุจฺฉา. เตสฺจ โมรมํสาทีนิ อิฏฺานิ โหนฺติ, อิตเรสํ ตานิ อติเชคุจฺฉานีติ.
โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ปน ตฺวํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถีติ วเทสี’’ติ? ‘‘อาม นตฺถี’’ติ วทามิ. ปุน ตเถว ยาวตติยํ ปติฏฺาเปตฺวา ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘นิพฺพานํ นาม อิฏฺํ อุทาหุ อนิฏฺ’’นฺติ? ชานมาโน ‘‘อิฏฺ’’นฺติ วกฺขติ. สเจปิ น วเทยฺย, มา วทตุ. นิพฺพานํ ปน เอกนฺตอิฏฺเมว. ‘‘นนุ เอโก นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา – ‘ตฺวํ นิพฺพานสฺส วณฺณํ กเถสิ, กึ ตตฺถ อนฺนปานมาลาคนฺธวิเลปนสยนจฺฉาทนสมิทฺธา ปฺจ กามคุณา อตฺถี’ติ วตฺวา ‘นตฺถี’ติ วุตฺเต ‘อลํ ตว นิพฺพาเนนา’ติ นิพฺพานสฺส วณฺเณ กถิยมาเน กุชฺฌิตฺวา อุโภ กณฺเณ ถเกตีติ อิฏฺเตํ. เอตสฺส ปน ¶ วเสน ตว วาเท นิพฺพานํ อนิฏฺํ นาม โหติ ¶ . น ปเนตํ เอวํ คเหตพฺพํ. เอโส หิ วิปรีตสฺาย กเถติ. สฺาวิปลฺลาเสน จ ตเทว อารมฺมณํ เอกสฺส อิฏฺํ โหติ, เอกสฺส อนิฏฺํ’’.
อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ปน ปาฏิเยกฺกํ วิภตฺตํ อตฺถีติ. กสฺส วเสน วิภตฺตนฺติ? มชฺฌิมกสตฺตสฺส. อิทฺหิ น อติอิสฺสรานํ มหาสมฺมตมหาสุทสฺสนธมฺมาโสกาทีนํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ ทิพฺพกปฺปมฺปิ อารมฺมณํ อมนาปํ อุปฏฺาติ. น อติทุคฺคตานํ ทุลฺลภนฺนปานานํ วเสน วิภตฺตํ. เตสฺหิ กณาชกภตฺตสิตฺถานิปิ ปูติมํสรโสปิ อติมธุโร อมตสทิโส จ โหติ. มชฺฌิมกานํ ปน ¶ คณกมหามตฺตเสฏฺิกุฏุมฺพิกวาณิชาทีนํ กาเลน อิฏฺํ กาเลน อนิฏฺํ ลภมานานํ วเสน วิภตฺตํ. เอวรูปา หิ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกนฺตีติ.
ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อิฏฺานิฏฺํ นาม วิปากวเสเนว ปริจฺฉินฺนํ, น ชวนวเสน. ชวนํ ปน สฺาวิปลฺลาสวเสน อิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสติ; อนิฏฺสฺมึเยว รชฺชติ, อนิฏฺสฺมึเยว ทุสฺสตี’’ติ. วิปากวเสเนว ปเนตํ เอกนฺตโต ปริจฺฉิชฺชติ. น หิ สกฺกา วิปากจิตฺตํ วฺเจตุํ. สเจ อารมฺมณํ อิฏฺํ โหติ, กุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. สเจ อนิฏฺํ, อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ. กิฺจาปิ หิ มิจฺฉาทิฏฺิกา พุทฺธํ วา สงฺฆํ วา มหาเจติยาทีนิ วา อุฬารานิ อารมฺมณานิ ทิสฺวา อกฺขีนิ ปิทหนฺติ, โทมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมสทฺทํ สุตฺวา กณฺเณ ถเกนฺติ, จกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณานิ ปน เนสํ กุสลวิปากาเนว โหนฺติ.
กิฺจาปิ คูถสูกราทโย คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘ขาทิตุํ ลภิสฺสามา’ติ โสมนสฺสชาตา โหนฺติ, คูถทสฺสเน ปน เตสํ จกฺขุวิฺาณํ, ตสฺส คนฺธฆายเน ฆานวิฺาณํ, รสสายเน ชิวฺหาวิฺาณฺจ อกุสลวิปากเมว โหติ. พนฺธิตฺวา วรสยเน สยาปิตสูกโร จ กิฺจาปิ วิรวติ, สฺาวิปลฺลาเสน ปนสฺส ชวนสฺมึเยว โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, กายวิฺาณํ กุสลวิปากเมว. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อิฏฺตาย.
อปิจ ทฺวารวเสนาปิ อิฏฺานิฏฺตา เวทิตพฺพา. สุขสมฺผสฺสฺหิ คูถกลลํ จกฺขุทฺวารฆานทฺวาเรสุ ¶ อนิฏฺํ, กายทฺวาเร อิฏฺํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตเนน ¶ โปถิยมานสฺส, สุวณฺณสูเล อุตฺตาสิตสฺส จ มณิรตนสุวณฺณสูลานิ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺานิ โหนฺติ, กายทฺวาเร อนิฏฺานิ. กสฺมา? มหาทุกฺขสฺส อุปฺปาทนโต. เอวํ อิฏฺานิฏฺํ เอกนฺตโต วิปาเกเนว ปริจฺฉิชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. น หิ ภควา สมฺมุติมนาปํ ภินฺทติ, ปุคฺคลมนาปํ ปน ภินฺทติ. ตสฺมา ตํตํวาปนวเสเนว อุปาทายุปาทาย หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ รูปํ ¶ โกฏิปฺปตฺตํ หีนํ นาม; ตํ อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสํ รูปํ หีนํ; ตํ อุปาทาย เปตานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชานปทานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย คามโภชกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ชนปทสามิกานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ปเทสราชูนํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ รูปํ ปณีตํ นาม. ตสฺสาปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม. เตสมฺปิ หีนํ; ตํ อุปาทาย ตาวตึสานํ เทวานํ รูปํ ปณีตํ นาม…เป… อกนิฏฺเทวานํ ปน รูปํ มตฺถกปฺปตฺตํ ปณีตํ นาม.
๗. ทูรทุกนิทฺเทเส อิตฺถินฺทฺริยาทีนิ เหฏฺา วิภตฺตาเนว. อิมสฺมึ ปน ทุเก ทุปฺปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณทุปฺปฏิวิชฺฌตาย สุขุมรูปํ ทูเรติ กถิตํ. สุขปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณสุปฺปฏิวิชฺฌตาย โอฬาริกรูปํ สนฺติเกติ. กพฬีการาหารปริโยสาเน จ นิยฺยาตนฏฺาเนปิ ‘อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเร’ติ น นียฺยาติตํ. กสฺมา? ทุวิธฺหิ ทูเร นาม – ลกฺขณโต จ โอกาสโต จาติ. ตตฺถ ลกฺขณโต ทูเรติ น กถิตํ, ตํ โอกาสโต กเถตพฺพํ. ตสฺมา ทูเรติ อกถิตํ. โอฬาริกรูปํ โอกาสโต ทูเรติ ทสฺเสตุํ อนิยฺยาเตตฺวาว ยํ วา ปนฺมฺปีติอาทิมาห. สนฺติกปทนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อนาสนฺเนติ น อาสนฺเน, อนุปกฏฺเติ นิสฺสเฏ, ทูเรติ ทูรมฺหิ, อสนฺติเกติ น สนฺติเก. อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเรติ อิทํ ปณฺณรสวิธํ สุขุมรูปํ ลกฺขณโต ทูเร, ทสวิธํ ปน โอฬาริกรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต ทูเรติ วุจฺจติ. สนฺติกปทนิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.
อิทํ ¶ ¶ วุจฺจติ รูปํ สนฺติเกติ อิทํ ทสวิธํ โอฬาริกรูปํ ลกฺขณโต สนฺติเก, ปฺจทสวิธํ ปน สุขุมรูปํ เยวาปนกวเสน โอกาสโต สนฺติเกติ วุจฺจติ. กิตฺตกโต ¶ ปฏฺาย ปน รูปํ โอกาสวเสน สนฺติเก นาม? กิตฺตกโต ปฏฺาย ทูเร นามาติ? ปกติกถาย กเถนฺตานํ ทฺวาทสหตฺโถ สวนูปจาโร นาม โหติ. ตสฺส โอรโต รูปํ สนฺติเก, ปรโต ทูเร. ตตฺถ สุขุมรูปํ ทูเร โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ ทูเร โหติ; สนฺติเก โหนฺตํ ปน โอกาสโตว สนฺติเก โหติ, น ลกฺขณโต. โอฬาริกรูปํ สนฺติเก โหนฺตํ ลกฺขณโตปิ โอกาสโตปิ สนฺติเก โหติ; ทูเร โหนฺตํ โอกาสโตว ทูเร โหติ, น ลกฺขณโต.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. เหฏฺา หิ ภินฺทมาโน คโต. อิธ ปน น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทติ, โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทติ. อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกฺหิ เอตฺถ ทสฺสิตํ. อตฺตโน หิ รูปํ สนฺติเก นาม; อนฺโตกุจฺฉิคตสฺสาปิ ปรสฺส ทูเร. อนฺโตกุจฺฉิคตสฺส สนฺติเก; พหิิตสฺส ทูเร. เอกมฺเจ สยิตสฺส สนฺติเก; พหิปมุเข ิตสฺส ทูเร. อนฺโตปริเวเณ รูปํ สนฺติเก; พหิปริเวเณ ทูเร. อนฺโตสงฺฆาราเม รูปํ สนฺติเก; พหิสงฺฆาราเม ทูเร. อนฺโตสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิสีมาย ทูเร. อนฺโตคามเขตฺเต รูปํ สนฺติเก; พหิคามกฺเขตฺเต ทูเร. อนฺโตชนปเท รูปํ สนฺติเก; พหิชนปเท ทูเร. อนฺโตรชฺชสีมาย รูปํ สนฺติเก; พหิรชฺชสีมาย ทูเร. อนฺโตสมุทฺเท รูปํ สนฺติเก; พหิสมุทฺเทรูปํ ทูเร. อนฺโตจกฺกวาเฬ รูปํ สนฺติเก; พหิจกฺกวาเฬ ทูเรติ.
อยํ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส.
๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส
๘. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสาทีสุ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ ปหาย อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสาม. ยา กาจิ เวทนาติ จตุภูมิกเวทนํ ปริยาทิยติ. สุขา เวทนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺเวทนํ สภาวโต ทสฺเสตุํ ¶ วุตฺตานิ. ตตฺถ สุขา เวทนา อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา ¶ . ตถา ทุกฺขา เวทนา. อทุกฺขมสุขา ปน จกฺขาทโย ปสาทกาเย สนฺธาย ปริยาเยน ‘อตฺถิ กายิกา, อตฺถิ เจตสิกา’. ตตฺถ สพฺพาปิ กายิกา กามาวจรา. ตถา เจตสิกา ทุกฺขา เวทนา ¶ . เจตสิกา สุขา ปน เตภูมิกา. อทุกฺขมสุขา จตุภูมิกา. ตสฺสา สพฺพปฺปการายปิ สนฺตติวเสน, ขณาทิวเสน จ อตีตาทิภาโว เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ สนฺตติวเสน เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติปริยาปนฺนา, เอกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ขณาทิวเสน ขณตฺตยปริยาปนฺนา ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตา สกิจฺจฺจ กุรุมานา เวทนา ปจฺจุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ตตฺถ ขณาทิวเสน อตีตาทิภาวํ สนฺธาย อยํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๑. โอฬาริกสุขุมนิทฺเทเส อกุสลา เวทนาติอาทีนิ ชาติโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ทุกฺขา เวทนา โอฬาริกาติอาทีนิ สภาวโต. อสมาปนฺนสฺส เวทนาติอาทีนิ ปุคฺคลโต. สาสวาติอาทีนิ โลกิยโลกุตฺตรโต โอฬาริกสุขุมภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลา ตาว สทรถฏฺเน ทุกฺขวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. กุสลา นิทฺทรถฏฺเน สุขวิปากฏฺเน จ สุขุมา. อพฺยากตา นิรุสฺสาหฏฺเน อวิปากฏฺเน จ สุขุมา. กุสลากุสลา สอุสฺสาหฏฺเน สวิปากฏฺเน จ โอฬาริกา. อพฺยากตา วุตฺตนเยเนว สุขุมา.
ทุกฺขา อสาตฏฺเน ทุกฺขฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขา สาตฏฺเน สุขฏฺเน จ สุขุมา. อทุกฺขมสุขา สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน จ สุขุมา. สุขทุกฺขา โขภนฏฺเน ผรณฏฺเน จ โอฬาริกา. สุขเวทนาปิ หิ โขเภติ ผรติ. ตถา ทุกฺขเวทนาปิ. สุขฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สกลสรีรํ โขเภนฺตํ อาลุเฬนฺตํ อภิสนฺทยมานํ มทฺทยมานํ ฉาทยมานํ สีโตทกฆเฏน อาสิฺจยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. ทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ ตตฺตผาลํ อนฺโต ปเวสนฺตํ วิย ติณุกฺกาย พหิ ฌาปยมานํ วิย อุปฺปชฺชติ. อทุกฺขมสุขา ปน วุตฺตนเยเนว สุขุมา. อสมาปนฺนสฺส เวทนา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตภาวโต โอฬาริกา ¶ . สมาปนฺนสฺส เวทนา เอกตฺตนิมิตฺเตเยว จรตีติ สุขุมา. สาสวา อาสวุปฺปตฺติเหตุโต โอฬาริกา. อาสวจาโร ¶ นาม เอกนฺตโอฬาริโก. อนาสวา วุตฺตวิปริยาเยน สุขุมา.
ตตฺถ ¶ เอโก เนว กุสลตฺติเก โกวิโท โหติ, น เวทนาตฺติเก. โส ‘กุสลตฺติกํ รกฺขามี’ติ เวทนาตฺติกํ ภินฺทติ; ‘เวทนาตฺติกํ รกฺขามี’ติ กุสลตฺติกํ ภินฺทติ. เอโก ‘ติกํ รกฺขามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ. เอโก น ภินฺทติ. กถํ? ‘‘สุขทุกฺขา เวทนา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา เวทนา สุขุมา’’ติ หิ เวทนาตฺติเก วุตฺตํ. ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อทุกฺขมสุขา สุขุมา. สา หิ กุสลาปิ อตฺถิ อกุสลาปิ อพฺยากตาปิ. ตตฺถ กุสลากุสลา โอฬาริกา, อพฺยากตา สุขุมา. กสฺมา? กุสลตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ กุสลตฺติโก รกฺขิโต โหติ, เวทนาตฺติโก ปน ภินฺโน.
กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ ยํ ปน กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตํ เอโก ปฏิกฺขิปติ – น สพฺพา อพฺยากตา สุขุมา. สา หิ สุขาปิ อตฺถิ ทุกฺขาปิ อทุกฺขมสุขาปิ. ตตฺถ สุขทุกฺขา โอฬาริกา, อทุกฺขมสุขา สุขุมา. กสฺมา? เวทนาตฺติเก ปาฬิยํ อาคตตฺตาติ. เอวํ เวทนาตฺติโก รกฺขิโต โหติ, กุสลตฺติโก ปน ภินฺโน. กุสลตฺติกสฺส ปน อาคตฏฺาเน เวทนาตฺติกํ อโนโลเกตฺวา เวทนาตฺติกสฺส อาคตฏฺาเน กุสลตฺติกํ อโนโลเกตฺวา กุสลาทีนํ กุสลตฺติกลกฺขเณน, สุขาทีนํ เวทนาตฺติกลกฺขเณน โอฬาริกสุขุมตํ กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.
ยมฺปิ ‘‘กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ กุสลตฺติเก วุตฺตํ, ตตฺเถโก ‘กุสลา โลกุตฺตรเวทนาปิ สมานา โอฬาริกา นาม, วิปากา อนฺตมโส ทฺวิปฺจวิฺาณสหชาตาปิ สมานา สุขุมา นาม โหตี’ติ วทติ. โส เอวรูปํ สนฺตํ ปณีตํ โลกุตฺตรเวทนํ โอฬาริกํ นาม กโรนฺโต, ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตํ อเหตุกํ หีนํ ชฬํ เวทนํ สุขุมํ นาม กโรนฺโต ‘ติกํ รกฺขิสฺสามี’ติ ภูมนฺตรํ ภินฺทติ นาม. ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ กุสลํ ปน ตํตํภูมิวิปาเกเนว สทฺธึ โยเชตฺวา กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม. ตตฺรายํ นโย – กามาวจรกุสลา หิ โอฬาริกา; กามาวจรวิปากา สุขุมา ¶ . รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรกุสลา ¶ โอฬาริกา; รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรวิปากา สุขุมาติ. อิมินา นีหาเรน กเถนฺโต น ภินฺทติ นาม.
ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อกุสเล โอฬาริกสุขุมตา นาม น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตโอฬาริกเมว. โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา น อุทฺธริตพฺพา. ตฺหิ เอกนฺตสุขุม’’นฺติ ¶ . อิมํ กถํ อาหริตฺวา ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรสฺส กถยึสุ – เอวํ เถเรน กถิตนฺติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร อาห – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน อภิธมฺมํ ปตฺวา เอกปทสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อาคตฏฺาเน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ, นยํ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อกโต นาม นตฺถิ. อิธ ปเนกจฺโจ ‘อาจริโย อสฺมี’ติ วิจรนฺโต อกุสเล โอฬาริกสุขุมตํ อุทฺธรมาโน กุกฺกุจฺจายติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน โลกุตฺตเรปิ โอฬาริกสุขุมตา อุทฺธริตา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา อิทํ สุตฺตํ อาหริ – ‘‘ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภนฺเต, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ – ทุกฺขตฺตา ทนฺธตฺตา จา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๕๒). เอตฺถ หิ จตสฺโส ปฏิปทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ น เหฏฺิมนโย โอโลเกตพฺโพ. ตํตํวาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โทสสหคตา โอฬาริกา, โลภสหคตา สุขุมา. โทสสหคตาปิ ทุวิธา – นิยตา อนิยตา จ. ตตฺถ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. นิยตาปิ กปฺปฏฺิติกา โอฬาริกา, โนกปฺปฏฺิติกา สุขุมา. กปฺปฏฺิติกาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา. โลภสหคตาปิ ทฺวิธา – ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา จ. ตตฺถ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา สุขุมา. ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาปิ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. สาปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, สสงฺขาริกา สุขุมา.
สงฺเขปโต อกุสลํ ปตฺวา ยา วิปากํ พหุํ เทติ สา โอฬาริกา, ยา อปฺปํ สา สุขุมา. กุสลํ ปตฺวา ปน อปฺปวิปากา โอฬาริกา, พหุวิปากา ¶ สุขุมา. จตุพฺพิเธ กุสเล กามาวจรกุสลา โอฬาริกา, รูปาวจรกุสลา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกุสลา สุขุมา ¶ . สาปิ โอฬาริกา, โลกุตฺตรกุสลา สุขุมา. อยํ ตาว ภูมีสุ อเภทโต นโย.
เภทโต ปน กามาวจรา ทานสีลภาวนามยวเสน ติวิธา. ตตฺถ ทานมยา โอฬาริกา, สีลมยา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ภาวนามยา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา ติเหตุกาติ ทุวิธา. ตตฺถ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ติเหตุกาปิ สสงฺขาริกอสงฺขาริกเภทโต ¶ ทุวิธา. ตตฺถ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. รูปาวจเร ปมชฺฌานกุสลเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา สุขุมา อากาสานฺจายตนกุสลเวทนา โอฬาริกา…เป…. เนวสฺานาสฺายตนกุสลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิปสฺสนาสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติมคฺคสหชาตา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… อรหตฺตมคฺคสหชาตา สุขุมา.
จตุพฺพิเธ วิปาเก กามาวจรวิปากเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรวิปากเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… โลกุตฺตรวิปากเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต.
เภทโต ปน กามาวจรวิปากา อตฺถิ อเหตุกา, อตฺถิ สเหตุกา. สเหตุกาปิ อตฺถิ ทุเหตุกา, อตฺถิ ติเหตุกา. ตตฺถ อเหตุกา โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌานวิปากา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌานวิปากา สุขุมา…เป… จตุตฺถชฺฌานวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา…เป… เนวสฺานาสฺายตนวิปากา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, โสตาปตฺติผลเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, สกทาคามิ…เป… อรหตฺตผลเวทนา สุขุมา.
ตีสุ ¶ กิริยาสุ กามาวจรกิริยเวทนา โอฬาริกา, รูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อรูปาวจรกิริยเวทนา สุขุมา. เอวํ ตาว อเภทโต. เภทโต ปน อเหตุกาทิวเสน ภินฺนาย กามาวจรกิริยาย อเหตุกกิริยเวทนา ¶ โอฬาริกา, สเหตุกา สุขุมา. สาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ตตฺถาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา. ปมชฺฌาเน กิริยเวทนา โอฬาริกา, ทุติยชฺฌาเน สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, ตติเย…เป… จตุตฺเถ สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, อากาสานฺจายตนกิริยเวทนา สุขุมา. สาปิ โอฬาริกา, วิฺาณฺจา…เป… เนวสฺานาสฺายตนกิริยเวทนา สุขุมา. ยา โอฬาริกา สา หีนา. ยา สุขุมา สา ปณีตา.
๑๓. ทูรทุกนิทฺเทเส ¶ อกุสลเวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ กุสลาพฺยากตาหิ ทูเร. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ ทูรตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคิโน ทุกฺขาทิเวทนาสมงฺคิโน จ ตโย ตโย ชนา เอกมฺเจ นิสินฺนา โหนฺติ, เตสมฺปิ ตา เวทนา วิสภาคฏฺเน วิสํสฏฺเน จ ทูเรเยว นาม. สมาปนฺนเวทนาทิสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย. อกุสลา ปน อกุสลาย สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเก นาม. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สนฺติกตา เวทิตพฺพา. สเจปิ หิ อกุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุ ตีสุ ชเนสุ เอโก กามภเว, เอโก รูปภเว, เอโก อรูปภเว, เตสมฺปิ ตา เวทนา สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จ สนฺติเกเยว นาม. กุสลาทิเวทนาสมงฺคีสุปิ เอเสว นโย.
ตํ ตํ วา ปนาติ เอตฺถ เหฏฺิมนยํ อโนโลเกตฺวา ตํ ตํ วาปนวเสเนว กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน จ น ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพํ, สนฺติกโต ปน ทูรํ อุทฺธริตพฺพํ. ทุวิธา หิ อกุสลา – โลภสหคตา โทสสหคตา จ. ตตฺถ โลภสหคตา โลภสหคตาย สนฺติเก นาม, โทสสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตา โทสสหคตาย สนฺติเก นาม, โลภสหคตาย ทูเร นาม. โทสสหคตาปิ นิยตา นิยตาย สนฺติเก นามาติ. เอวํ อนิยตา. กปฺปฏฺิติกอสงฺขาริกสสงฺขาริกเภทํ โลภสหคตาทีสุ จ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาทิเภทํ สพฺพํ โอฬาริกทุกนิทฺเทเส วิตฺถาริตวเสน อนุคนฺตฺวา เอเกกโกฏฺาสเวทนา ¶ ¶ ตํตํโกฏฺาสเวทนาย เอว สนฺติเก, อิตรา อิตราย ทูเรติ เวทิตพฺพาติ.
อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.
๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส
๑๔. สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ยา กาจิ สฺาติ จตุภูมิกสฺํ ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสฺํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสโต จกฺขุสมฺผสฺสสฺมึ วา ชาตา จกฺขุสมฺผสฺสชา นาม. เสสาสุปิ เอเสว นโย ¶ . เอตฺถ จ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกสฺา.
๑๗. โอฬาริกทุกนิทฺเทเส ปฏิฆสมฺผสฺสชาติ สปฺปฏิเฆ จกฺขุปสาทาทโย วตฺถุํ กตฺวา สปฺปฏิเฆ รูปาทโย อารพฺภ อุปฺปนฺโน ผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส นาม. ตโต ตสฺมึ วา ชาตา ปฏิฆสมฺผสฺสชา นาม. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺา…เป… กายสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ตสฺสาเยว วตฺถุโต นามํ. รูปสฺา…เป… โผฏฺพฺพสฺาติปิ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อิทํ ปน วตฺถารมฺมณโต นามํ. สปฺปฏิฆานิ หิ วตฺถูนิ นิสฺสาย, สปฺปฏิฆานิ จ อารมฺมณานิ อารพฺภ อุปฺปตฺติโต เอสา ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺาติ วุตฺตา. มโนสมฺผสฺสชาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. จกฺขุวิฺาณฺหิ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ มโน นาม. เตน สหชาโต ผสฺโส มโนสมฺผสฺโส นาม. ตสฺมึ มโนสมฺผสฺเส, ตสฺมา วา มโนสมฺผสฺสา ชาตาติ มโนสมฺผสฺสชา.
อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน เอติสฺสา นามํ โหติเยว. ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตาย สฺาย อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ นามํ กโรนฺติ. นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกสฺา ¶ , อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกสฺา. ตตฺถ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ¶ ชานิตุํ สกฺกาติ โอฬาริกา. รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตฺหิ ‘รชฺชิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ, กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตํ ‘กุชฺฌิตฺวา อุปนิชฺฌายตี’ติ โอโลเกตฺวาว ชานนฺติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – ทฺเว กิร อิตฺถิโย นิสีทิตฺวา สุตฺตํ กนฺตนฺติ. ทฺวีสุ ทหเรสุ คาเม จรนฺเตสุ เอโก ปุรโต คจฺฉนฺโต เอกํ อิตฺถึ โอโลเกสิ. อิตรา ตํ ปุจฺฉิ ‘กสฺมา นุ โข ตํ เอโส โอโลเกสี’ติ? ‘น เอโส ภิกฺขุ มํ วิสภาคจิตฺเตน โอโลเกสิ, กนิฏฺภคินีสฺาย ปน โอโลเกสี’ติ. เตสุปิ คาเม จริตฺวา อาสนสาลาย นิสินฺเนสุ อิตโร ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘ตยา สา อิตฺถี โอโลกิตา’ติ? ‘อาม โอโลกิตา’. ‘กิมตฺถายา’ติ? ‘มยฺหํ ภคินีสริกฺขตฺตา ตํ โอโลเกสิ’นฺติ อาห. เอวํ ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ¶ ชานิตุํ สกฺกาติ เวทิตพฺพา. สา ปเนสา ปสาทวตฺถุกา เอว. เกจิ ปน ชวนปฺปวตฺตาติ ทีเปนฺติ. มโนทฺวาริกสฺา ปน เอกมฺเจ วา เอกปีเ วา นิสีทิตฺวาปิ อฺํ จินฺเตนฺตํ วิตกฺเกนฺตฺจ ‘กึ จินฺเตสิ, กึ วิตกฺเกสี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส วจนวเสเนว ชานิตพฺพโต สุขุมา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ สฺากฺขนฺธนิทฺเทโส.
๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๐. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส เย เกจิ สงฺขาราติ จตุภูมิกสงฺขาเร ปริยาทิยติ. จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนาติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺสงฺขาเร สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. จกฺขุสมฺผสฺสชาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เจตนาติ เหฏฺิมโกฏิยา ปธานสงฺขารวเสน วุตฺตํ. เหฏฺิมโกฏิยา หิ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ ปาฬิยํ อาคตา จตฺตาโร สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ เจตนา ปธานา อายูหนฏฺเน ปากฏตฺตา. ตสฺมา อยเมว คหิตา. ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารา ปน ตาย คหิตาย คหิตาว โหนฺติ. อิธาปิ ปุริมา ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว. มโนสมฺผสฺสชา หทยวตฺถุกาปิ อวตฺถุกาปิ. สพฺพา จตุภูมิกเจตนา. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทโส.
๕. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๖. วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส ¶ ¶ ยํ กิฺจิ วิฺาณนฺติ จตุภูมกวิฺาณํ ปริยาทิยติ. จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีนิ อตีตาทิวเสน นิทฺทิฏฺวิฺาณํ สภาวโต ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ¶ ปฺจ จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาเนว, มโนวิฺาณํ หทยวตฺถุกมฺปิ อวตฺถุกมฺปิ. สพฺพํ จตุภูมกวิฺาณํ. เสสํ เวทนากฺขนฺธสทิสเมวาติ.
อยํ วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทโส.
ปกิณฺณกกถา
อิทานิ ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ สมุคฺคมโต, ปุพฺพาปรโต, อทฺธานปริจฺเฉทโต, เอกุปฺปาทนานานิโรธโต, นานุปฺปาทเอกนิโรธโต, เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต, นานุปฺปาทนานานิโรธโต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนโต, อชฺฌตฺติกพาหิรโต, โอฬาริกสุขุมโต, หีนปณีตโต, ทูรสนฺติกโต, ปจฺจยโต, สมุฏฺานโต, ปรินิปฺผนฺนโต, สงฺขตโตติ โสฬสหากาเรหิ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ทุวิโธ สมุคฺคโม – คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม, โอปปาติกสมุคฺคโมติ. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกสมุคฺคโม เอวํ เวทิตพฺโพ – คพฺภเสยฺยกสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา อปจฺฉาอปุเร เอกโต ปาตุภวนฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปาตุภูตา กลลสงฺขาตา รูปสนฺตติ ปริตฺตา โหติ. ขุทฺทกมกฺขิกาย เอกวายาเมน ปาตพฺพมตฺตาติ วตฺวา ปุน ‘อติพหุํ เอตํ, สณฺหสูจิยา เตเล ปกฺขิปิตฺวา อุกฺขิตฺตาย ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอกเกเส เตลโต อุทฺธริตฺวา คหิเต ตสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘อิมสฺมึ ชนปเท มนุสฺสานํ เกเส อฏฺธา ผาลิเต ตโต เอกโกฏฺาสปฺปมาโณ อุตฺตรกุรุกานํ เกโส; ตสฺส ปสนฺนติลเตลโต อุทฺธฏสฺส อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘เอตํ พหุ, ชาติอุณฺณา นาม สุขุมา; ตสฺสา เอกอํสุโน ปสนฺนติลเตเล ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปเนตํ ¶ อจฺฉํ โหติ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปริสุทฺธํ ปสนฺนติลเตลพินฺทุสมานวณฺณํ ¶ . วุตฺตมฺปิ เจตํ –
ติลเตลสฺส ¶ ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฏิภาคํ, กลลนฺติ ปวุจฺจตีติ.
เอวํ ปริตฺตาย รูปสนฺตติยา ตีณิ สนฺตติสีสานิ โหนฺติ – วตฺถุทสกํ, กายทสกํ, อิตฺถิยา อิตฺถินฺทฺริยวเสน ปุริสสฺส ปุริสินฺทฺริยวเสน ภาวทสกนฺติ. ตตฺถ วตฺถุรูปํ, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตํนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ วตฺถุทสกํ นาม. กายปสาโท, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ กายทสกํ นาม. อิตฺถิยา อิตฺถิภาโว, ปุริสสฺส ปุริสภาโว, ตสฺส นิสฺสยานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ, ตนฺนิสฺสิตา วณฺณคนฺธรโสชา, ชีวิตนฺติ – อิทํ ภาวทสกํ นาม.
เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิยํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สมตึส กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตน ปน สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารา สงฺขารกฺขนฺโธ, ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธติ. เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. สเจ ปน นปุํสกปฏิสนฺธิ โหติ, ภาวทสกํ หายติ. ทฺวินฺนํ ทสกานํ วเสน สมวีสติ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม โหติ. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวมฺปิ คพฺภเสยฺยกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ.
อิมสฺมึ าเน ติสมุฏฺานิกปฺปเวณี กเถตพฺพา ภเวยฺย. ตํ ปน อกเถตฺวา ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม ทสฺสิโต. โอปปาติกานฺหิ ปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เหฏฺา วุตฺตานิ ตีณิ, จกฺขุโสตฆานชิวฺหาทสกานิ จาติ สตฺต รูปสนฺตติสีสานิ ปาตุภวนฺติ. ตตฺถ จกฺขุทสกาทีนิ กายทสกสทิสาเนว. นปุํสกสฺส ปน ภาวทสกํ นตฺถิ. เอวํ ปริปุณฺณายตนานํ โอปปาติกานํ สมสตฺตติ เจว ¶ สมสฏฺิ จ กมฺมชรูปานิ รูปกฺขนฺโธ นาม. เวทนากฺขนฺธาทโย วุตฺตปฺปการา เอวาติ. เอวํ โอปปาติกานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺติ. อยํ ‘โอปปาติกสมุคฺคโม’ นาม. เอวํ ตาว ปฺจกฺขนฺธา ‘สมุคฺคมโต’ เวทิตพฺพา.
‘ปุพฺพาปรโต’ติ ¶ เอวํ ปน คพฺภเสยฺยกานํ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺเนสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กึ รูปํ ¶ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ อุทาหุ อรูปนฺติ? รูปํ รูปเมว สมุฏฺาเปติ, น อรูปํ. กสฺมา? ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส น รูปชนกตฺตา. สพฺพสตฺตานฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ขีณาสวสฺส จุติจิตฺตํ, ทฺวิปฺจวิฺาณานิ, จตฺตาริ อรูปฺปวิปากานีติ โสฬส จิตฺตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ตาว วตฺถุโน ทุพฺพลตาย อปฺปติฏฺิตตาย ปจฺจยเวกลฺลตาย อาคนฺตุกตาย จ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตตฺถ หิ สหชาตํ วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตีติ วตฺถุโน ทุพฺพลตาย รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ยถา จ ปปาเต ปตนฺโต ปุริโส อฺสฺส นิสฺสโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ เอตมฺปิ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา ปปาเต ปตมานํ วิย อปฺปติฏฺิตํ. อิติ กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, อปฺปติฏฺิตตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วตฺถุนา สทฺธึ อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺนํ. ตสฺส วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ. สเจ สกฺกุเณยฺย, รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. ยตฺราปิ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, ปเวณี ฆฏิยติ, ตตฺราปิ จิตฺตํ องฺคโต อปริหีนํเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยทิ หิ จิตฺตํ านกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา รูปํ สมุฏฺาเปยฺย, ปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. น ปน จิตฺตํ ตสฺมึ ขณทฺวเย รูปํ สมุฏฺาเปติ. ยถา ปน อหิจฺฉตฺตกมกุลํ ปถวิโต อุฏฺหนฺตํ ปํสุจุณฺณํ คเหตฺวาว อุฏฺหติ, เอวํ จิตฺตํ ปุเรชาตํ วตฺถุํ นิสฺสาย อุปฺปาทกฺขเณ อฏฺ รูปานิ คเหตฺวาว อุฏฺหติ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ จ วตฺถุ ปุเรชาตํ หุตฺวา ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ ปจฺจยเวกลฺลตายปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ยถา จ อาคนฺตุกปุริโส อคตปุพฺพํ ปเทสํ คโต อฺเสํ ¶ – ‘เอถ โภ, อนฺโตคาเม โว อนฺนปานคนฺธมาลาทีนิ ทสฺสามี’ติ วตฺตุํ น สกฺโกติ, อตฺตโน อวิสยตาย อปฺปหุตตาย, เอวเมว ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อาคนฺตุกนฺติ อตฺตโน อาคนฺตุกตายปิ รูปํ น สมุฏฺาเปติ. อปิจ สมตึส กมฺมชรูปานิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ านํ คเหตฺวา ิตานีติปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
ขีณาสวสฺส ปน จุติจิตฺตํ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา น สมุฏฺาเปติ. ตสฺส หิ สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ปุนพฺภเว ปเวณี นาม ¶ นตฺถิ. โสตาปนฺนสฺส ปน สตฺต ภเว เปตฺวา อฏฺเมว วฏฺฏมูลํ วูปสนฺตํ. ตสฺมา ตสฺส จุติจิตฺตํ สตฺตสุ ภเวสุ รูปํ สมุฏฺาเปติ ¶ , สกทาคามิโน ทฺวีสุ, อนาคามิโน เอกสฺมึ. ขีณาสวสฺส สพฺพภเวสุ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา เนว สมุฏฺาเปติ.
ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ ปน ฌานงฺคํ นตฺถิ, มคฺคงฺคํ นตฺถิ, เหตุ นตฺถีติ จิตฺตงฺคํ ทุพฺพลํ โหตีติ จิตฺตงฺคทุพฺพลตาย ตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. จตฺตาริ อรูปวิปากานิ ตสฺมึ ภเว รูปสฺส นตฺถิตาย รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. น เกวลฺจ ตาเนว, ยานิ อฺานิปิ ตสฺมึ ภเว อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทส อกุสลานิ, นว กิริยจิตฺตานิ, จตฺตาริ อารุปฺปกุสลานิ, จตสฺโส อารุปฺปกิริยา, ตีณิ มคฺคจิตฺตานิ, จตฺตาริ ผลจิตฺตานีติ ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิปิ ตตฺถ รูปสฺส นตฺถิตาย เอว รูปํ น สมุฏฺาเปนฺติ. เอวํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปติ.
อุตุ ปน ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. โก เอส อุตุ นามาติ? ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ สมตึสกมฺมชรูปานํ อพฺภนฺตรา เตโชธาตุ. สา านํ ปตฺวา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. อุตุ นาม เจส ทนฺธนิโรโธ; จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ. ตสฺมึ ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปมภวงฺคจิตฺตํ อุปฺปาทกฺขเณเยว อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. ยทา ปน สทฺทสฺส อุปฺปตฺติกาโล ภวิสฺสติ, ตทา อุตุจิตฺตานิ สทฺทนวกํ นาม สมุฏฺาเปสฺสนฺติ. กพฬีการาหาโรปิ านํ ปตฺวา ¶ อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. กุโต ปนสฺส กพฬีการาหาโรติ? มาติโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยฺจสฺส ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
เอวํ กุจฺฉิคโต ทารโก มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชาย ยาเปติ. สาว านปฺปตฺตา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ. นนุ จ สา โอชา ขรา? วตฺถุ สุขุมํ? กถํ ตตฺถ ปติฏฺาตีติ? ปมํ ตาว น ปติฏฺาติ; เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา สตฺตาหานํ คตกาเล ปติฏฺาติ. ตโต ปน ปุเร วา ปติฏฺาตุ ปจฺฉา วา; ยทา มาตรา อชฺโฌหฏอนฺนปานโอชา ทารกสฺส สรีเร ปติฏฺาติ, ตทา อฏฺ รูปานิ สมุฏฺาเปติ.
โอปปาติกสฺสาปิ ¶ ¶ ปกติปฏิยตฺตานํ ขาทนียโภชนียานํ อตฺถิฏฺาเน นิพฺพตฺตสฺส ตานิ คเหตฺวา อชฺโฌหรโต านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอโก อนฺนปานรหิเต อรฺเ นิพฺพตฺตติ, มหาฉาตโก โหติ, อตฺตโนว ชิวฺหาย เขฬํ ปริวตฺเตตฺวา คิลติ. ตตฺราปิสฺส านปฺปตฺตา โอชา รูปํ สมุฏฺาเปติ.
เอวํ ปฺจวีสติยา โกฏฺาเสสุ ทฺเวว รูปานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – เตโชธาตุ จ กพฬีการาหาโร จ. อรูเปปิ ทฺเวเยว ธมฺมา รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ – จิตฺตฺเจว กมฺมเจตนา จ. ตตฺถ รูปํ อุปฺปาทกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, านกฺขเณ พลวนฺติ านกฺขเณ รูปํ สมุฏฺาเปติ. จิตฺตํ านกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ทุพฺพลํ, อุปฺปาทกฺขเณเยว พลวนฺติ อุปฺปาทกฺขเณเยว รูปํ สมุฏฺาเปติ. กมฺมเจตนา นิรุทฺธาว ปจฺจโย โหติ. อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเกปิ หิ อายูหิตํ กมฺมํ เอตรหิ ปจฺจโย โหติ. เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสปริโยสาเนปิ ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ ‘ปุพฺพาปรโต’ เวทิตพฺพา.
‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ติ รูปํ กิตฺตกํ อทฺธานํ ติฏฺติ? อรูปํ กิตฺตกนฺติ? รูปํ ครุปริณามํ ทนฺธนิโรธํ. อรูปํ ลหุปริณามํ ขิปฺปนิโรธํ. รูเป ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. ตํ ¶ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ยถา หิ ปุริโส ‘ผลํ ปาเตสฺสามี’ติ มุคฺคเรน รุกฺขสาขํ ปหเรยฺย, ผลานิ จ ปตฺตานิ จ เอกกฺขเณเยว วณฺฏโต มุจฺเจยฺยุํ. ตตฺถ ผลานิ อตฺตโน ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนฺติ, ปตฺตานิ ลหุกตาย ปจฺฉา. เอวเมว มุคฺครปฺปหาเรน ปตฺตานฺจ ผลานฺจ เอกกฺขเณ วณฺฏโต มุตฺตกาโล วิย ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมานํ เอกกฺขเณ ปาตุภาโว; ผลานํ ภาริกตาย ปมตรํ ปถวิยํ ปตนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ปตฺตานํ ลหุกตาย ปจฺฉา ปถวิยํ ปตนํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สห นิรุชฺฌนํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ รูปํ ทนฺธนิโรธํ ครุปริณามํ, จิตฺตํ ขิปฺปนิโรธํ ลหุปริณามํ, รูปํ ปน อรูปํ อรูปํ วา รูปํ โอหาย ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ เอกปฺปมาณาว ปวตฺติ. ตตฺรายํ อุปมา – เอโก ปุริโส ลกุณฺฏกปาโท, เอโก ทีฆปาโท. เตสุ เอกโต มคฺคํ คจฺฉนฺเตสุ ยาว ทีฆปาโท ¶ เอกปทวารํ อกฺกมติ, ตาว อิตโร ปเท ปทํ อกฺกมิตฺวา โสฬสปทวาเรน คจฺฉติ. ทีฆปาโท ลกุณฺฏกปาทสฺส โสฬส ปทวาเร อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา ¶ อากฑฺฒิตฺวา เอกเมว ปทวารํ กโรติ. อิติ เอโกปิ เอกํ อติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ. ทฺวินฺนมฺปิ คมนํ เอกปฺปมาณเมว โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ลกุณฺฏกปาทปุริโส วิย อรูปํ; ทีฆปาทปุริโส วิย รูปํ; ทีฆปาทสฺส เอกํ ปทวารํ อกฺกมณกาเล อิตรสฺส โสฬสปทวารอกฺกมนํ วิย รูเป ธรนฺเตเยว อรูปธมฺเมสุ โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ ลกุณฺฏกปาทปุริสสฺส โสฬส ปทวาเร อิตรสฺส อตฺตโน ปาทํ อฺฉิตฺวา อากฑฺฒิตฺวา เอกปทวารกรณํ วิย รูปสฺส สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌนํ; ทฺวินฺนํ ปุริสานํ อฺมฺํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว คมนํ วิย อรูปสฺส รูปํ รูปสฺส อรูปํ อโนหาย เอกปฺปมาเณเนว ปวตฺตนนฺติ. เอวํ ‘อทฺธานปริจฺเฉทโต’ เวทิตพฺพา.
‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ติ อิทํ ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวา ทีเปตพฺพํ. ปมฺหิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ทุติยํ ¶ ภวงฺคํ, ตติยํ ภวงฺคํ…เป… โสฬสมํ ภวงฺคํ. เตสุ เอเกกสฺส อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ตโย ตโย ขณา. ตตฺถ เอเกกสฺส จิตฺตสฺส ตีสุ ตีสุ ขเณสุ สมตึส สมตึส กมฺมชรูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ กมฺมชรูปํ สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เอวํ ทุติยภวงฺคจิตฺตํ อาทึ กตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ โยเชตฺวา นโย เนตพฺโพ. อิติ โสฬส ติกา อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ. อยํ อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชรูปปเวณี นาม. สา ปเนสา รตฺติฺจ ทิวา จ ขาทนฺตานมฺปิ ภฺุชนฺตานมฺปิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ นทีโสโต วิย เอกนฺตํ ปวตฺตติ เยวาติ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘นานุปฺปาทเอกนิโรธตา’ ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีเปตพฺพา. ตตฺถ อายุสํขารปริโยสาเน โสฬสนฺนํ จิตฺตานํ วาเร สติ เหฏฺาโสฬสกํ อุปริโสฬสกนฺติ ทฺเว เอกโต โยเชตพฺพานิ. เหฏฺาโสฬสกสฺมิฺหิ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ อุปริโสฬสกสฺมึ ปมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ิติกฺขเณเยว ¶ ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ ตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. เหฏฺิมโสฬสกสฺมึ ปน ทุติยจิตฺตสฺส…เป… โสฬสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สมุฏฺิตํ สมตึสกมฺมชรูปํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ; ตสฺส ิติกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ิติกฺขเณเยว; ภงฺคกฺขเณ สมุฏฺิตํ จุติจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณเยว นิรุชฺฌติ. ตโต ปฏฺาย กมฺมชรูปปเวณี ¶ น ปวตฺตติ. ยทิ ปวตฺเตยฺย, สตฺตา อกฺขยา อวยา อชรา อมรา นาม ภเวยฺยุํ.
เอตฺถ ปน ยเทตํ ‘สตฺตรสมสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว นิรุชฺฌตี’ติอาทินา นเยน ‘เอกสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’ติ อฏฺกถายํ อาคตตฺตา วุตฺตํ, ตํ ‘‘ยสฺส ¶ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตี’’ติ? ‘‘อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๗๙) อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. กถํ? กายสงฺขาโร หิ จิตฺตสมุฏฺาโน อสฺสาสปสฺสาสวาโต. จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว อฺานิ โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ ตาว ติฏฺติ. เตสํ โสฬสนฺนํ สพฺพปจฺฉิเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. อิติ เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ; น กสฺสจิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา นิรุชฺฌติ, นาปิ ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา อุปฺปชฺชติ. เอสา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ธมฺมตาติ นิยมโต จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ.
โย จายํ จิตฺตสมุฏฺานสฺส ขณนิยโม วุตฺโต กมฺมาทิสมุฏฺานสฺสาปิ อยเมว ขณนิยโม. ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส านกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ อิมินา นเยเนตฺถ โยชนา กาตพฺพา. ตโต ปรํ ปน อุตุสมุฏฺานิกปเวณีเยว ติฏฺติ. ‘นีหริตฺวา ฌาเปถา’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวํ ‘นานุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ติ รูปํ ปน รูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. อรูปํ อรูเปน สห เอกุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. เอวํ ‘เอกุปฺปาทเอกนิโรธโต’ เวทิตพฺพา.
‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ ¶ ปน จตุสนฺตติรูเปน ทีเปตพฺพา. อิมสฺส หิ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตสฺส สรีรสฺส ตตฺถ ตตฺถ จตุสนฺตติรูปํ ฆนปฺุชภาเวน วตฺตติ. เอวํ วตฺตมานสฺสาปิสฺส น เอกุปฺปาทาทิตา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยถา ปน อุปจิกราชิ วา กิปิลฺลิกราชิ วา โอโลกิยมานา เอกาพทฺธา วิย โหติ, น ปน เอกาพทฺธา. อฺิสฺสา หิ ¶ สีสสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา อุทรสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ, อฺิสฺสา ปาทสนฺติเก อฺิสฺสา สีสมฺปิ อุทรมฺปิ ปาทาปิ โหนฺติ. เอวเมว จตุสนฺตติรูปานมฺปิ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ¶ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ิติกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ, อฺสฺส ภงฺคกฺขเณ อฺสฺส อุปฺปาโทปิ โหติ ิติปิ ภงฺโคปิ. เอวเมตฺถ ‘นานุปฺปาทนานานิโรธตา’ เวทิตพฺพา.
‘อตีตาทีนิ’ ปน ทูรทุกปริโยสานานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว. ‘ปจฺจยสมุฏฺานานิ’ปิ ‘‘กมฺมชํ, กมฺมปจฺจยํ, กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺาน’’นฺติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๙๗๕) นเยน เหฏฺา กถิตานิเยว. ปฺจปิ ปน ขนฺธา ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺติ, โน อปรินิปฺผนฺนา; สงฺขตาว โน อสงฺขตา; อปิจ นิปฺผนฺนาปิ โหนฺติเยว. สภาวธมฺเมสุ หิ นิพฺพานเมเวกํ อปรินิปฺผนฺนํ อนิปฺผนฺนฺจ. นิโรธสมาปตฺติ ปน นามปฺตฺติ จ กถนฺติ? นิโรธสมาปตฺติ โลกิยโลกุตฺตราติ วา สงฺขตาสงฺขตาติ วา ปรินิปฺผนฺนาปรินิปฺผนฺนาติ วา น วตฺตพฺพา. นิปฺผนฺนา ปน โหติ สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺพโต. ตถา นามปฺตฺติ. สาปิ หิ โลกิยาทิเภทํ น ลภติ; นิปฺผนฺนา ปน โหติ โน อนิปฺผนฺนา; นามคฺคหณฺหิ คณฺหนฺโตว คณฺหาตีติ.
กมาทิวินิจฺฉยกถา
เอวํ ปกิณฺณกโต ขนฺเธ วิทิตฺวา ปุน เอเตสุเยว –
ขนฺเธสุ าณเภทตฺถํ, กมโตถ วิเสสโต;
อนูนาธิกโต เจว, อุปมาโต ตเถว จ.
ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา เอวํ, ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต;
วินิจฺฉยนโย สมฺมา, วิฺาตพฺโพ วิภาวินา.
ตตฺถ ¶ ¶ ‘กมโต’ติ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, ปฏิปตฺติกฺกโม, ภูมิกฺกโม, เทสนากฺกโมติ พหุวิโธ กโม.
ตตฺถ ‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุท’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๕) เอวมาทิ อุปฺปตฺติกฺกโม. ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ธมฺมา, ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) เอวมาทิ ปหานกฺกโม. ‘‘สีลวิสุทฺธิ, จิตฺตวิสุทฺธี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙; ปฏิ. ม. ๓.๔๑) เอวมาทิ ปฏิปตฺติกฺกโม. ‘‘กามาวจรา ¶ , รูปาวจรา’’ติ เอวมาทิ ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) วา ‘‘ทานกถํ สีลกถ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๖๙; ที. นิ. ๑.๒๙๘) วา เอวมาทิ เทสนากฺกโม. เตสุ อิธ อุปฺปตฺติกฺกโม ตาว น ยุชฺชติ, กลลาทีนํ วิย ขนฺธานํ ปุพฺพาปริยววตฺถาเนน อนุปฺปตฺติโต; น ปหานกฺกโม กุสลาพฺยากตานํ อปฺปหาตพฺพโต; น ปฏิปตฺติกฺกโม อกุสลานํ อปฺปฏิปชฺชนียโต; น ภูมิกฺกโม เวทนาทีนํ จตุภูมกปริยาปนฺนตฺตา.
เทสนากฺกโม ปน ยุชฺชติ. อเภเทน หิ ยํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตคฺคาหปติตํ เวเนยฺยชนํ สมูหฆนวินิพฺโภคทสฺสเนน อตฺตคฺคาหโต โมเจตุกาโม ภควา หิตกาโม ตสฺส ชนสฺส สุขคฺคหณตฺถํ จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูตํ โอฬาริกํ ปมํ รูปกฺขนฺธํ เทเสสิ. ตโต อิฏฺานิฏฺรูปสํเวทิตํ เวทนํ, ยํ เวทยติ ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกํ สฺํ, สฺาวเสน อภิสงฺขารเก สงฺขาเร, เตสํ เวทนาทีนํ นิสฺสยํ อธิปติภูตฺจ วิฺาณนฺติ เอวํ ตาว ‘กมโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘วิเสสโต’ติ ขนฺธานฺจ อุปาทานกฺขนฺธานฺจ วิเสสโต. โก ปน เตสํ วิเสโส? ขนฺธา ตาว อวิเสสโต วุตฺตา, อุปาทานกฺขนฺธา สาสวอุปาทานียภาเวน วิเสเสตฺวา. ยถาห –
‘‘ปฺจ, ภิกฺขเว, ขนฺเธ เทเสสฺสามิ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ จ, ตํ สุณาถ. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา? ยํ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, รูปกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา…เป… เย เกจิ สงฺขารา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ ¶ …เป… สนฺติเก วา – อยํ วุจฺจติ, วิฺาณกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจกฺขนฺธา. กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา? ยํ ¶ กิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ วุจฺจติ, รูปูปาทานกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ…เป… สนฺติเก วา สาสวํ อุปาทานิยํ – อยํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๔๘).
เอตฺถ จ ยถา เวทนาทโย อนาสวาปิ สาสวาปิ อตฺถิ, น เอวํ รูปํ. ยสฺมา ปนสฺส ราสฏฺเน ขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา ขนฺเธสุ วุตฺตํ. ยสฺมา ราสฏฺเน จ สาสวฏฺเน จ อุปาทานกฺขนฺธภาโว ยุชฺชติ ตสฺมา อุปาทานกฺขนฺเธสุ วุตฺตํ. เวทนาทโย ปน อนาสวาว ขนฺเธสุ วุตฺตา, สาสวา อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ‘อุปาทานกฺขนฺธา’ติ เอตฺถ จ อุปาทานโคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิธ ปน สพฺเพเปเต เอกชฺฌํ กตฺวา ขนฺธาติ อธิปฺเปตา.
‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน ภควตา ปฺเจว ขนฺธา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคหโต, อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปฺปรมโต, อฺเสฺจ ตทวโรธโต. อเนกปฺปเภเทสุ หิ สงฺขตธมฺเมสุ สภาควเสน สงฺคยฺหมาเนสุ รูปํ รูปสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ, เวทนา เวทนาสภาคสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ. เอส นโย สฺาทีสุปิ. ตสฺมา สพฺพสงฺขตสภาคสงฺคหโต ปฺเจว วุตฺตา. เอตปรมฺเจตํ อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุ ยทิทํ รูปาทโย ปฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ รูปํ อุปาทาย รูปํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๐๗). เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ…. วิฺาเณ สติ วิฺาณํ อุปาทาย วิฺาณํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ. ตสฺมา อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปรมโตปิ ปฺเจว วุตฺตา. เยปิ จฺเ สีลาทโย ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา วุตฺตา, เตปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอตฺเถว อวโรธํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา อฺเสํ ตทวโรธโตปิ ปฺเจว วุตฺตาติ. เอวํ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘อุปมาโต’ติ เอตฺถ หิ คิลานสาลูปโม รูปุปาทานกฺขนฺโธ ¶ คิลานูปมสฺส วิฺาณุปาทานกฺขนฺธสฺส ¶ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน นิวาสนฏฺานโต, เคลฺูปโม ¶ เวทนุปาทานกฺขนฺโธ อาพาธกตฺตา, เคลฺสมุฏฺานูปโม สฺุปาทานกฺขนฺโธ กามสฺาทิวเสน ราคาทิสมฺปยุตฺตเวทนาสมฺภวา, อสปฺปายเสวนูปโม สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺสฺส นิทานตฺตา. ‘‘เวทนํ เวทนตฺตาย สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) หิ วุตฺตํ. ตถา ‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ กายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ ทุกฺขสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๕๖). คิลานูปโม วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ เวทนาเคลฺเน อปริมุตฺตตฺตา. อปิจ จารกการณอปราธการณการกอปราธิกูปมา เอเต ภาชนโภชนพฺยฺชนปริเวสกภฺุชกูปมา จาติ, เอวํ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ.
‘ทฏฺพฺพโต ทฺวิธา’ติ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จาติ เอวํ ทฺวิธา ทฏฺพฺพโต เปตฺถ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ. สงฺเขปโต หิ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อาสิวิสูปเม (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วุตฺตนเยน อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกโต, ภารสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๒๒) ภารโต, ขชฺชนียปริยายวเสน (สํ. นิ. ๓.๗๙) ขาทกโต, ยมกสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๘๕) อนิจฺจทุกฺขานตฺตสงฺขตวธกโต ทฏฺพฺพา.
วิตฺถารโต ปเนตฺถ เผณปิณฺโฑ วิย รูปํ ทฏฺพฺพํ, อุทกปุพฺพุโฬ วิย เวทนา, มรีจิกา วิย สฺา, กทลิกฺขนฺโธ วิย สงฺขารา, มายา วิย วิฺาณํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เผณปิณฺฑูปมํ รูปํ, เวทนา ปุพฺพุฬูปมา;
มรีจิกูปมา สฺา, สงฺขารา กทลูปมา;
มายูปมฺจ วิฺาณํ, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);
ตตฺถ รูปาทีนํ เผณปิณฺฑาทีหิ เอวํ สทิสตา เวทิตพฺพา – ยถา หิ เผณปิณฺโฑ นิสฺสาโรว เอวํ รูปมฺปิ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรเหน นิสฺสารเมว. ยถา จ โส ‘อิมินา ปตฺตํ วา ถาลกํ วา กริสฺสามี’ติ คเหตุํ น สกฺกา, คหิโตปิ ตมตฺถํ น สาเธติ ภิชฺชเตว; เอวํ รูปมฺปิ ¶ ‘นิจฺจ’นฺติ วา ‘ธุว’นฺติ วา ‘อห’นฺติ วา ‘มม’นฺติ วา คเหตุํ น ¶ สกฺกา, คหิตมฺปิ น ตถา ติฏฺติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อสุภฺเว โหตีติ. เอวํ ‘เผณปิณฺฑสทิสเมว’ โหติ.
ยถา ¶ วา ปน เผณปิณฺโฑ ฉิทฺทาวฉิทฺโท อเนกสนฺธิฆฏิโต พหูนฺนํ อุทกสปฺปาทีนํ ปาณานํ อาวาโส, เอวํ รูปมฺปิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อเนกสนฺธิฆฏิตํ. กุลวเสน เจตฺถ อสีติ กิมิกุลานิ วสนฺติ. ตเทว เตสํ สูติฆรมฺปิ วจฺจกุฏิปิ คิลานสาลาปิ สุสานมฺปิ. น เต อฺตฺถ คนฺตฺวา คพฺภวุฏฺานาทีนิ กโรนฺติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อาทิโตว พทรปกฺกมตฺโต หุตฺวา อนุปุพฺเพน ปพฺพตกูฏมตฺโตปิ โหติ, เอวํ รูปมฺปิ อาทิโต กลลมตฺตํ หุตฺวา อนุปุพฺเพน พฺยามมตฺตมฺปิ โคมหึสหตฺถิอาทีนํ วเสน ปพฺพตกูฏมตฺตมฺปิ โหติ, มจฺฉกจฺฉปาทีนํ วเสน อเนกโยชนสตปฺปมาณมฺปิ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ. ยถา จ เผณปิณฺโฑ อุฏฺิตมตฺโตปิ ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, สมุทฺทํ ปตฺวา ปน อวสฺสเมว ภิชฺชติ; เอวเมว รูปมฺปิ กลลภาเวปิ ภิชฺชติ, อพฺพุทาทิภาเว, อนฺตรา ปน อเภชฺชมานมฺปิ วสฺสสตายุกานํ วสฺสสตํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ, มรณมุเข จุณฺณวิจุณฺณํ โหติ. เอวมฺปิ เผณปิณฺฑสทิสํ.
ยถา ปน ปุพฺพุโฬ อสาโร, เอวํ เวทนาปิ. ยถา จ โส อพโล, อคยฺหุปโค, น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุํ, คหิตคฺคหิโตปิ ภิชฺชเตว; เอวํ เวทนาปิ อพลา, อคยฺหุปคา, น สกฺกา ‘นิจฺจา’ติ วา ‘ธุวา’ติ วา คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา ติฏฺติ. เอวํ อคยฺหุปคตายปิ เวทนา ‘ปุพฺพุฬสทิสา’. ยถา ปน ตสฺมึ ตสฺมึ อุทกพินฺทุมฺหิ ปุพฺพุโฬ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติโก โหติ; เอวํ เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ เจว นิรุชฺฌติ จ, น จิรฏฺิติกา โหติ, เอกจฺฉรกฺขเณ โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ยถา จ ปุพฺพุโฬ อุทกตลํ, อุทกพินฺทุํ ¶ , อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา คหณวาตฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ; เอวํ เวทนาปิ วตฺถุํ, อารมฺมณํ, กิเลสชาลํ, ผสฺสสงฺฆฏฺฏนฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. เอวมฺปิ เวทนา ปุพฺพุฬสทิสา.
สฺาปิ อสารกฏฺเน ‘มรีจิสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน; น หิ สกฺกา ตํ คเหตฺวา ปิวิตุํ วา นฺหายิตุํ วา ภาชนํ วา ปูเรตุํ. อปิจ ยถา มรีจิ วิปฺผนฺทติ, สฺชาตูมิเวโค ¶ วิย ขายติ; เอวํ นีลสฺาทิเภทา สฺาปิ นีลาทิอนุภวนตฺถาย ผนฺทติ วิปฺผนฺทติ. ยถา จ มรีจิ มหาชนํ วิปฺปลมฺเภติ ¶ , ‘ปริปุณฺณวาปี วิย ปริปุณฺณนที วิย ทิสฺสตี’ติ วทาเปติ; เอวํ สฺาปิ วิปฺปลมฺเภติ, ‘อิทํ นีลกํ สุภํ สุขํ นิจฺจ’นฺติ วทาเปติ. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ วิปฺปลมฺภเนนาปิ มรีจิสทิสา.
สงฺขาราปิ อสารกฏฺเน ‘กทลิกฺขนฺธสทิสา’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยเถว หิ กทลิกฺขนฺธโต กิฺจิ คเหตฺวา น สกฺกา โคปานสีอาทีนมตฺถาย อุปเนตุํ, อุปนีตมฺปิ น ตถา โหติ; เอวํ สงฺขาราปิ น สกฺกา นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ, คหิตาปิ น ตถา โหนฺติ. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ พหุวฏฺฏิสโมธาโน โหติ, เอวํ สงฺขารกฺขนฺโธปิ พหุธมฺมสโมธาโน. ยถา จ กทลิกฺขนฺโธ นานาลกฺขโณ, อฺโเยว หิ พาหิราย ปตฺตวฏฺฏิยา วณฺโณ, อฺโ ตโต อพฺภนฺตรพฺภนฺตรานํ; เอวเมว สงฺขารกฺขนฺโธปิ อฺเทว ผสฺสสฺส ลกฺขณํ, อฺํ เจตนาทีนํ. สโมธาเนตฺวา ปน สงฺขารกฺขนฺโธตฺเวว วุจฺจตีติ. เอวมฺปิ สงฺขารกฺขนฺโธ กทลิกฺขนฺธสทิโส.
วิฺาณมฺปิ อสารกฏฺเน ‘มายาสทิสํ’. ตถา อคยฺหุปคฏฺเน. ยถา จ มายา อิตฺตรา ลหุปจฺจุปฏฺานา, เอวํ วิฺาณํ. ตฺหิ ตโตปิ อิตฺตรตรฺเจว ลหุปจฺจุปฏฺานตรฺจ. เตเนว หิ จิตฺเตน ปุริโส อาคโต วิย, คโต วิย, ิโต วิย, นิสินฺโน วิย โหติ. อฺเทว จาคมนกาเล จิตฺตํ, อฺํ คมนกาลาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. มายา จ มหาชนํ วฺเจติ, ยํ กิฺจิเทว ‘อิทํ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา’ติปิ คหาเปติ. วิฺาณมฺปิ ¶ มหาชนํ วฺเจติ, เตเนว จิตฺเตน อาคจฺฉนฺตํ วิย, คจฺฉนฺตํ วิย, ิตํ วิย, นิสินฺนํ วิย กตฺวา คาหาเปติ. อฺเทว จ อาคมเน จิตฺตํ, อฺํ คมนาทีสุ. เอวมฺปิ วิฺาณํ มายาสทิสํ. วิเสสโต จ สุภารมฺมณมฺปิ โอฬาริกมฺปิ อชฺฌตฺติกรูปํ อสุภนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวทนา ตีหิ ทุกฺขตาหิ อวินิมุตฺตโต ทุกฺขาติ สฺาสงฺขารา อวิเธยฺยโต อนตฺตาติ วิฺาณํ อุทยพฺพยธมฺมโต อนิจฺจนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘เอวํ ปสฺสนฺตสฺสตฺถสิทฺธิโต’ติ เอวฺจ สงฺเขปวิตฺถารวเสน ทฺวิธา ปสฺสโต ยา อตฺถสิทฺธิ โหติ, ตโตปิ วินิจฺฉยนโย วิฺาตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – สงฺเขปโต ตาว ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกาทิภาเวน ปสฺสนฺโต ขนฺเธหิ น วิหฺติ. วิตฺถารโต ปน รูปาทีนิ เผณปิณฺฑาทิสทิสภาเวน ปสฺสนฺโต น อสาเรสุ สารทสฺสี โหติ. วิเสสโต จ อชฺฌตฺติกรูปํ ¶ อสุภโต ปสฺสนฺโต กพฬีการาหารํ ปริชานาติ ¶ , อสุเภ สุภนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กาโมฆํ อุตฺตรติ, กามโยเคน วิสํยุชฺชติ, กามาสเวน อนาสโว โหติ, อภิชฺฌากายคนฺถํ ภินฺทติ, กามุปาทานํ น อุปาทิยติ. เวทนํ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต ผสฺสาหารํ ปริชานาติ, ทุกฺเข สุขนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ภโวฆํ อุตฺตรติ, ภวโยเคน วิสํยุชฺชติ, ภวาสเวน อนาสโว โหติ, พฺยาปาทกายคนฺถํ ภินฺทติ, สีลพฺพตุปาทานํ น อุปาทิยติ. สฺํ สงฺขาเร จ อนตฺตโต ปสฺสนฺโต มโนสฺเจตนาหารํ ปริชานาติ, อนตฺตนิ อตฺตาติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ทิฏฺโฆํ อุตฺตรติ, ทิฏฺิโยเคน วิสํยุชฺชติ, ทิฏฺาสเวน อนาสโว โหติ, อิทํ สจฺจาภินิเวสกายคนฺถํ ภินฺทติ, อตฺตวาทุปาทานํ น อุปาทิยติ. วิฺาณํ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต วิฺาณาหารํ ปริชานาติ, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, อวิชฺโชฆํ อุตฺตรติ, อวิชฺชาโยเคน วิสํยุชฺชติ, อวิชฺชาสเวน อนาสโว โหติ, สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถํ ภินฺทติ, ทิฏฺุปาทานํ น อุปาทิยติ.
เอวํ มหานิสํสํ, วธกาทิวเสน ทสฺสนํ ยสฺมา;
ตสฺมา ขนฺเธ ธีโร, วธกาทิวเสน ปสฺเสยฺยาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๒. อิทานิ ¶ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส เหฏฺา รูปกณฺเฑ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๓๔. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทเส เอกวิเธนาติ เอกโกฏฺาเสน. ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ ผสฺเสน สมฺปยุตฺโต. สพฺพาปิ จตุภูมิกเวทนา. สเหตุกทุเก สเหตุกา จตุภูมิกเวทนา, อเหตุกา กามาวจราว. อิมินา อุปาเยน กุสลปทาทีหิ วุตฺตา เวทนา ชานิตพฺพา. อปิจายํ เวทนากฺขนฺโธ เอกวิเธน ผสฺสสมฺปยุตฺตโต ทสฺสิโต, ทุวิเธน สเหตุกาเหตุกโต, ติวิเธน ชาติโต ¶ , จตุพฺพิเธน ภูมนฺตรโต, ปฺจวิเธน อินฺทฺริยโต. ตตฺถ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานิ กายปฺปสาทวตฺถุกานิ กามาวจราเนว. โสมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ วา อวตฺถุกํ วา เตภูมกํ ¶ . โทมนสฺสินฺทฺริยํ ฉฏฺวตฺถุกํ กามาวจรํ. อุเปกฺขินฺทฺริยํ จกฺขาทิจตุปฺปสาทวตฺถุกํ ฉฏฺวตฺถุกํ อวตฺถุกฺจ จตุภูมกํ. ฉพฺพิเธน วตฺถุโต ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุริมา ปฺจ เวทนา ปฺจปฺปสาทวตฺถุกา กามาวจราว ฉฏฺา อวตฺถุกา วา สวตฺถุกา วา จตุภูมิกา.
สตฺตวิเธน ตตฺถ มโนสมฺผสฺสชา เภทโต ทสฺสิตา, อฏฺวิเธน ตตฺถ กายสมฺผสฺสชา เภทโต, นววิเธน สตฺตวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต, ทสวิเธน อฏฺวิธเภเท มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เภทโต. เอเตสุ หิ สตฺตวิธเภเท มโนสมฺผสฺสชา มโนธาตุสมฺผสฺสชา, มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ ทฺวิธา ภินฺนา. อฏฺวิธเภเท ตาย สทฺธึ กายสมฺผสฺสชาปิ สุขา ทุกฺขาติ ทฺวิธา ภินฺนา. นววิธเภเท สตฺตวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสน ติธา ภินฺนา. ทสวิธเภเท อฏฺวิเธ วุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา กุสลาทิวเสเนว ติธา ภินฺนา.
กุสลตฺติโก เจตฺถ เกวลํ ปูรณตฺถเมว วุตฺโต. สตฺตวิธอฏฺวิธนววิธเภเทสุ ปน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน ¶ นโย ทินฺโน. อภิธมฺมฺหิ ปตฺวา ตถาคเตน นยํ ทาตุํ ยุตฺตฏฺาเน นโย อทินฺโน นาม นตฺถิ. อยํ ตาว ทุกมูลเก เอโก วาโร.
สตฺถา หิ อิมสฺมึ อภิธมฺมภาชนีเย เวทนากฺขนฺธํ ภาเชนฺโต ติเก คเหตฺวา ทุเกสุ ปกฺขิปิ, ทุเก คเหตฺวา ติเกสุ ปกฺขิปิ, ติเก จ ทุเก จ อุภโตวฑฺฒนนีหาเรน อาหริ; สตฺตวิเธน, จตุวีสติวิเธน, ตึสวิเธน, พหุวิเธนาติ สพฺพถาปิ พหุวิเธน เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? ปุคฺคลชฺฌาสเยน เจว เทสนาวิลาเสน จ. ธมฺมํ โสตุํ นิสินฺนเทวปริสาย หิ เย เทวปุตฺตา ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ สปฺปายวเสน ตถา กตฺวา เทเสสิ. เย อิตเรหิ อากาเรหิ กถิยมานํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ เตหากาเรหิ เทเสสีติ. อยเมตฺถ ‘ปุคฺคลชฺฌาสโย’. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน อตฺตโน มหาวิสยตาย ติเก วา ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา, ทุเก วา ติเกสุ อุภโตวฑฺฒเนน วา, สตฺตวิธาทินเยน วา, ยถา ¶ ยถา อิจฺฉติ ตถา ตถา เทเสตุํ สกฺโกติ. ตสฺมาปิ อิเมหากาเรหิ เทเสสีติ อยมสฺส ‘เทสนาวิลาโส’.
ตตฺถ ¶ ติเก อาทาย ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ทุกมูลโก นาม. ทุเก อาทาย ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา เทสิตวาโร ติกมูลโก นาม. ติเก จ ทุเก จ อุภโต วฑฺเฒตฺวา เทสิตวาโร อุภโตวฑฺฒิตโก นาม. อวสาเน สตฺตวิเธนาติอาทิวาโร พหุวิธวาโร นามาติ อิเม ตาว จตฺตาโร มหาวารา.
ตตฺถ ทุกมูลเก ทุเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ทุเกน สทฺธึ ติเกสุ อลพฺภมาเน เวทนาตฺติกปีติตฺติกสนิทสฺสนตฺติเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก เอกูนวีสติ ติเก โยเชตฺวา, ทุติยทุกปมตฺติกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ วารา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ปาฬิยํ สํขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
ติกมูลเกปิ ติเกสุ ลพฺภมาเนน เอเกเกน ติเกน สทฺธึ ทุเกสุ อลพฺภมาเน ปมทุกาทโย ทุเก อปเนตฺวา, เสเส ลพฺภมานเก สเหตุกทุกาทโย ปฺาส ทุเก โยเชตฺวา, ปมตฺติกทุติยทุกโยชนวาราทีนิ นววารสตานิ ปฺาสฺจ ¶ วารา โหนฺติ. เตปิ สพฺเพ ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทสฺเสตพฺพยุตฺตกํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตา. อสมฺมุยฺหนฺเตน ปน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
อุภโตวฑฺฒิตเก ทุวิธเภเท ทุติยทุกํ ติวิธเภเท จ ปมติกํ อาทึ กตฺวา ลพฺภมาเนหิ เอกูนวีสติยา ทุเกหิ ลพฺภมาเน เอกูนวีสติติเก โยเชตฺวา ทุติยทุกปมติกโยชนวาราทโย เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. เอส ทุกติกานํ วเสน อุภโตวฑฺฒิตตฺตา อุภโตวฑฺฒิตโก นาม ตติโย มหาวาโร.
พหุวิธวารสฺส สตฺตวิธนิทฺเทเส อาทิโต ปฏฺาย ลพฺภมาเนสุ เอกูนวีสติยา ติเกสุ เอเกเกน สทฺธึ จตสฺโส ภูมิโย โยเชตฺวา เอกูนวีสติ สตฺตวิธวารา วุตฺตา. จตุวีสติวิธนิทฺเทเสปิ เตสํเยว ติกานํ วเสน เอกูนวีสติวารา วุตฺตา. ตถา พหุวิธวาเร จาติ ¶ . ตึสวิธวาโร เอโกเยวาติ สพฺเพปิ อฏฺปฺาส วารา โหนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ วารปริจฺเฉทวเสน ปาฬิวณฺณนา.
อิทานิ ¶ อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ สตฺตวิธนิทฺเทโส ตาว อุตฺตานตฺโถเยว. จตุวีสติวิธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ กุสโลติ กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ อพฺยากโตติ ติสฺโส มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ มหาวิปากานิ, ทส กามาวจรกิริยาติ จตุวีสติยา จิตฺตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ อฏฺ กุสลานิ ทฺวาทส อกุสลานิ จ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนวเสน ลพฺภติ. ทฺเว วิปากมโนธาตุโย สมฺปฏิจฺฉนวเสน, ติสฺโส วิปากมโนวิฺาณธาตุโย สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน, กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนวเสน, อฏฺ มหาวิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, นว กิริยจิตฺตานิ ชวนวเสน ลพฺภนฺติ. โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
มโนทฺวาเร ปน อตฺถิ กุสโลติ จตุภูมกกุสลวเสน กถิตํ, อตฺถิ อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลวเสน. อตฺถิ อพฺยากโตติ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากานํ, ทสนฺนํ กิริยานํ ¶ , นวนฺนํ รูปาวจรารูปาวจรกิริยานํ, จตุนฺนํ สามฺผลานนฺติ จตุตฺตึสจิตฺตุปฺปาทวเสน กถิตํ. ตตฺถ จตุภูมกกุสลฺเจว อกุสลฺจ ชวนวเสน ลพฺภติ. กิริยโต อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อาวชฺชนวเสน, เอกาทส วิปากจิตฺตานิ ตทารมฺมณวเสน, เตภูมกกิริยา เจว สามฺผลานิ จ ชวนวเสเนว ลพฺภนฺติ. ตานิ สตฺตวิธาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺติ. ตึสวิเธ ปน ตฺวา ทีปิยมานานิ สุขทีปนานิ โหนฺตีติ ตึสวิธสฺมึเยว ตฺวา ทีปยึสุ.
เอตานิ หิ สพฺพานิปิ จิตฺตานิ จกฺขุทฺวาเร อุปนิสฺสยโกฏิยา, สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ตีหากาเรหิ ลพฺภนฺติ. ตถา โสตทฺวารมโนทฺวาเรสุปิ. ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน สมติกฺกมวเสน, ภาวนาวเสนาติ ทฺวีเหวากาเรหิ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. กถํ? อิธ ภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรมาโน กสิณมณฺฑลํ ทิสฺวา ‘กึ นาเมต’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ¶ ‘กสิณมณฺฑล’นฺติ วุตฺเต ปุน ‘กึ อิมินา กโรนฺตี’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส อาจิกฺขนฺติ – ‘เอวํ ภาเวตฺวา ฌานานิ อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ ¶ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏติ, น โข ปน สกฺกา เอส นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน นิพฺพตฺเตตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา สีลํ โสเธติ. ตโต สีเล ปติฏฺาย ทส ปลิโพเธ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ติจีวรปรเมน สนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ, อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา, กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตฺวา, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา, สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
จกฺขุทฺวาเร ¶ ปน รูเป อาปาถคเต ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขนาย โมโห, วินิพนฺธสฺส ปน เม มาโน อุปฺปนฺโน, ปรามฏฺสฺส ทิฏฺิ, วิกฺเขปคตสฺส อุทฺธจฺจํ, อสนฺนิฏฺาคตสฺส วิจิกิจฺฉา, ถามคตสฺส อนุสโย อุปฺปนฺโน’ติ ปริคฺคเห ิโต กุลปุตฺโต อตฺตโน กิเลสุปฺปตฺตึ ตฺวา ‘อิเม เม กิเลสา วฑฺฒมานา อนยพฺยสนาย สํวตฺติสฺสนฺติ, หนฺท เน นิคฺคณฺหามี’ติ จินฺเตตฺวา ‘น โข ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน กิเลเส นิคฺคณฺหิตุํ; อาทิโตว วีริยํ กาตุํ วฏฺฏติ สีลํ โสเธตุ’นฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อิทํ รูปํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ตโต นํ ‘ภูตนิสฺสิต’นฺติ ตฺวา จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ¶ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
อปโร ¶ ภิกฺขุ สุณาติ – ‘กสิณปริกมฺมํ กิร กตฺวา สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณนฺตี’ติ. อชฺฌาสยสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต ‘ภาริยํ เอต’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘มยาปิ เอส คุโณ นิพฺพตฺเตตุํ วฏฺฏตี’ติ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ โสตวิฺาณํ จตุภูมิกเวทนา ¶ นิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
โสตทฺวาเร ปน สทฺเท อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – อยํ สทฺโท กึ นิสฺสิโตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ สทฺทารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา โสตสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
ฆานชิวฺหากายทฺวาเรสุ ปน คนฺธารมฺมณาทีสุ อาปาถคเตสุ ‘อิฏฺเ เม อารมฺมเณ ราโค อุปฺปนฺโน’ติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีสุ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตีสุ ทฺวาเรสุ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
ฆานทฺวาราทีสุ ปน คนฺธาทีสุ อาปาถคเตสุ เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘อยํ คนฺโธ, อยํ รโส, อิทํ โผฏฺพฺพํ กึ นิสฺสิต’นฺติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ คนฺธารมฺมณาทีนิ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ ¶ อยํ เวทนา ฆานชิวฺหากายสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ตีหิปิ อากาเรหิ ลพฺภนฺติ. เอกจฺโจ หิ ชาตึ ภยโต ปสฺสติ, ชรํ พฺยาธึ มรณํ ภยโต ปสฺสติ, ภยโต ทิสฺวา ‘ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ มุจฺจิตุํ วฏฺฏติ, น โข ¶ ปน สกฺกา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตน ชาติอาทีหิ มุจฺจิตุํ, อาทิโตว วีริยํ กาตุํ สีลํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’ติ จินฺเตตฺวา จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ จตุภูมิกเวทนานิพฺพตฺติยา พลวปจฺจโย โหตีติ ¶ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ตาว ‘อุปนิสฺสยวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเตติ สพฺพํ จกฺขุทฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ ธมฺมารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สมติกฺกมิตฺวา คตาติ จตุภูมิกเวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘สมติกฺกมวเสน’ ลพฺภนฺติ.
มโนทฺวาเร ปน ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต เอโก เอวํ ปริคฺคหํ ปฏฺเปติ – ‘เอตํ ธมฺมารมฺมณํ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘วตฺถุนิสฺสิต’นฺติ. ‘วตฺถุ กึ นิสฺสิต’นฺติ? ‘มหาภูตานิ นิสฺสิต’นฺติ. โส จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ รูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ, ตทารมฺมเณ ธมฺเม อรูปนฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ตโต สปฺปจฺจยํ นามรูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปริกมฺมเวทนา กามาวจรา, อฏฺสมาปตฺติเวทนา รูปาวจรารูปาวจรา, มคฺคผลเวทนา โลกุตฺตราติ เอวํ ธมฺมารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตาติ อยํ เวทนา มโนสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา. เอวํ ‘ภาวนาวเสน’ ลพฺภนฺติ. ยา ปเนตา สพฺเพสมฺปิ จตุวีสติวิธาทีนํ วารานํ ปริโยสาเนสุ จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา…เป… มโนสมฺผสฺสชา เวทนาติ ฉ ฉ เวทนา วุตฺตา, ตา สมฺปยุตฺตปจฺจยวเสน วุตฺตาติ.
อยํ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทโส.
สฺากฺขนฺธาทโยปิ ¶ อิมินา อุปาเยน เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ สฺากฺขนฺธนิทฺเทเส ติเกสุ เวทนาตฺติกปีติตฺติกาปิ ลพฺภนฺติ, ทุเกสุ จ สุขสหคตทุกาทโยปิ. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส ผสฺสสฺสาปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา ผสฺสสมฺปยุตฺโตติ อวตฺวา จิตฺตสมฺปยุตฺโตติ วุตฺตํ. ทุเกสุ เจตฺถ เหตุทุกาทโยปิ ลพฺภนฺติ. ติกา สฺากฺขนฺธสทิสา เอว ¶ . วิฺาณกฺขนฺธนิทฺเทเส จกฺขุสมฺผสฺสชาทิภาวํ อวตฺวา จกฺขุวิฺาณนฺติอาทิ วุตฺตํ. น หิ สกฺกา วิฺาณํ มโนสมฺผสฺสชนฺติ นิทฺทิสิตุํ. เสสเมตฺถ สฺากฺขนฺเธ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ ขนฺธานํ นิทฺเทเสเยว ¶ เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสโต อติเรกติกทุกา ลทฺธา. เตสํ วเสน วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๕๐. อิทานิ ปฺหาปุจฺฉกํ โหติ. ตตฺถ ปฺหาปุจฺฉเน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘กติกุสลา? กติอกุสลา? กติอพฺยากตา’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชเน ‘‘รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต’’ติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ ตเทว อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ จ ‘เอโก ขนฺโธ’ติ วา ‘ทฺเว ขนฺธา’ติ วา ปริจฺเฉทํ อกตฺวา ‘‘สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ ปิตา, ตตฺถ ตตฺถ ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เสโส เตสํ เตสํ ขนฺธานํ กุสลาทิวิภาโค เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๙๘๕) วุตฺโตเยว.
อารมฺมณตฺติเกสุ ปน จตฺตาโร ขนฺธา ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณา โหนฺติ, สตฺตวีสติ รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา, มคฺคผลนิพฺพานานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา, ปฺตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ.
เตเยว ¶ เสกฺขาเสกฺขานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล สหชาตเหตุนา มคฺคเหตุกา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล อารมฺมณาธิปตินา มคฺคาธิปติโน ¶ , วีริยเชฏฺกํ วา วีมํสเชฏฺกํ วา มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส สหชาตาธิปตินา มคฺคาธิปติโน, ฉนฺทเชฏฺกํ ปน จิตฺตเชฏฺกํ วา ภาเวนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา นาม โหนฺติ.
อตีตานิ ปน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อตีตารมฺมณา โหนฺติ, อนาคตานิ อารพฺภ อนาคตารมฺมณา ¶ โหนฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนานิ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหนฺติ, ปฺตฺตึ วา นิพฺพานํ วา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา โหนฺติ.
ตถา อตฺตโน ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา โหนฺติ, ปเรสํ ขนฺธธาตุอายตนานิ อารพฺภ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส พหิทฺธารมฺมณา, ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเลปิ พหิทฺธารมฺมณาเยว, กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา ธมฺเมสุ เอวํ ปวตฺเตนฺตสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา, อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณาติ เวทิตพฺพา.
อิติ ภควา อิมํ ขนฺธวิภงฺคํ สุตฺตนฺตภาชนียาทิวเสน ตโย ปริวฏฺเฏ นีหริตฺวา ภาเชนฺโต ทสฺเสสิ. ตีสุปิ หิ ปริวฏฺเฏสุ เอโกว ปริจฺเฉโท. รูปกฺขนฺโธ หิ สพฺพตฺถ กามาวจโรเยว. จตฺตาโร ขนฺธา จตุภูมกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อายตนวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๕๔. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อายตนวิภงฺคนิทฺเทเส สุตฺตนฺตภาชนียํ ตาว ทสฺเสนฺโต ทฺวาทสายตนานิ จกฺขายตนํ รูปายตนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาฬิมุตฺตเกน ตาว นเยน –
อตฺถลกฺขณตาวตฺว, กมสงฺเขปวิตฺถารา;
ตถา ทฏฺพฺพโต เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ วิเสสโต ตาว จกฺขตีติ จกฺขุ; รูปํ อสฺสาเทติ, วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. รูปยตีติ รูปํ; วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ อตฺโถ. สุณาตีติ โสตํ. สปฺปตีติ สทฺโท; อุทาหริยตีติ อตฺโถ. ฆายตีติ ฆานํ. คนฺธยตีติ คนฺโธ; อตฺตโน วตฺถุํ สูจยตีติ อตฺโถ. ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา. รสนฺติ ตํ สตฺตาติ รโส; อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ. มนตีติ มโน. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยนฺตีติ ธมฺมา.
อวิเสสโต ปน อายตนโต, อายานํ ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิจฺเจน อายตนฺติ อุฏฺหนฺติ ฆฏฺเฏนฺติ วายมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺจ อนมตคฺเค สํสาเร ปวตฺตํ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ ตาว นยนฺเตว, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิติ ¶ สพฺเพปิ เม ธมฺมา อายตนโต อายานํ ตนนโต อายตสฺส จ นยนโต ‘อายตนํ อายตน’นฺติ วุจฺจนฺติ.
อปิจ นิวาสฏฺานฏฺเน, อากรฏฺเน, สโมสรณฏฺานฏฺเน ¶ , สฺชาติเทสฏฺเน, การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ ¶ . ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๒๓) การณํ.
จกฺขุรูปาทีสุ จาปิ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย เนสํ นิวาสนฏฺานํ. จกฺขาทีสุ จ เต อากิณฺณา ตํ นิสฺสิตตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโย เนสํ อากโร. จกฺขาทโย จ เนสํ สโมสรณฏฺานํ, ตตฺถ ตตฺถ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต. จกฺขาทโย จ เนสํ สฺชาติเทโส; ตํ นิสฺสยารมฺมณภาเวน ตตฺเถว อุปฺปตฺติโต. จกฺขาทโย จ เนสํ การณํ, เตสํ อภาเว อภาวโตติ. อิติ นิวาสฏฺานฏฺเน, อากรฏฺเน, สโมสรณฏฺานฏฺเน, สฺชาติเทสฏฺเน, การณฏฺเนาติ อิเมหิ การเณหิ เอเต ธมฺมา ‘อายตนํ อายตน’นฺติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมา จ เต อายตนฺจาติ ธมฺมายตนนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณโต’ติ จกฺขาทีนํ ลกฺขณโตเปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. ตานิ จ ปน เนสํ ลกฺขณานิ เหฏฺา รูปกณฺฑนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
‘ตาวตฺวโต’ติ ตาวภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จกฺขาทโยปิ หิ ธมฺมา เอว. เอวํ สติ ธมฺมายตนมิจฺเจว อวตฺวา กสฺมา ทฺวาทสายตนานิ วุตฺตานีติ เจ? ฉ วิฺาณกายุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต. อิธ ฉนฺนํ วิฺาณกายานํ ทฺวารภาเวน อารมฺมณภาเวน จ ววตฺถานโต อยเมว เตสํ เภโท โหตีติ ทฺวาทส วุตฺตานิ. จกฺขุวิฺาณวีถิปริยาปนฺนสฺส หิ วิฺาณกายสฺส จกฺขายตนเมว อุปฺปตฺติทฺวารํ, รูปายตนเมว จารมฺมณํ ¶ ¶ . ตถา อิตรานิ อิตเรสํ. ฉฏฺสฺส ปน ภวงฺคมนสงฺขาโต มนายตเนกเทโสว อุปฺปตฺติทฺวารํ, อสาธารณฺจ ธมฺมายตนํ อารมฺมณนฺติ ¶ . อิติ ฉนฺนํ วิฺาณกายานํ อุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต ทฺวาทส วุตฺตานีติ. เอวเมตฺถ ‘ตาวตฺวโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘กมโต’ติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ อุปฺปตฺติกฺกมาทีสุ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. อชฺฌตฺติเกสุ หิ อายตเนสุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยตฺตา จกฺขายตนํ ปากฏนฺติ ปมํ เทสิตํ. ตโต อนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยานิ โสตายตนาทีนิ. อถ วา ทสฺสนานุตฺตริยสวนานุตฺตริยเหตุภาเวน พหูปการตฺตา อชฺฌตฺติเกสุ จกฺขายตนโสตายตนานิ ปมํ เทสิตานิ. ตโต ฆานายตนาทีนิ ตีณิ. ปฺจนฺนมฺปิ โคจรวิสยตฺตา อนฺเต มนายตนํ. จกฺขาทีนํ ปน โคจรตฺตา ตสฺส ตสฺส อนนฺตรานิ พาหิเรสุ รูปายตนาทีนิ. อปิจ วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตปิ อยเมว เตสํ กโม เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๔๒๑) เอวํ ‘กมโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺเขปวิตฺถารา’ติ สงฺเขปโต หิ มนายตนสฺส เจว ธมฺมายตเนกเทสสฺส จ นาเมน, ตทวเสสานฺจ อายตนานํ รูเปน สงฺคหิตตฺตา ทฺวาทสาปิ อายตนานิ นามรูปมตฺตเมว โหนฺติ.
วิตฺถารโต ปน อชฺฌตฺติเกสุ ตาว จกฺขายตนํ ชาติวเสน จกฺขุปสาทมตฺตเมว, ปจฺจยคตินิกายปุคฺคลเภทโต ปน อนนฺตปฺปเภทํ. ตถา โสตายตนาทีนิ จตฺตาริ. มนายตนํ เตภูมกกุสลากุสลวิปากกิริยวิฺาณเภเทน เอกาสีติปฺปเภทํ, วตฺถุปฏิปทาทิเภทโต ปน อนนฺตปฺปเภทํ. รูปคนฺธรสายตนานิ สมุฏฺานเภทโต จตุปฺปเภทานิ, สทฺทายตนํ ทฺวิปฺปเภทํ. สภาควิสภาคเภทโต ปน สพฺพานิปิ อนนฺตปฺปเภทานิ. โผฏฺพฺพายตนํ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุวเสน ติปฺปเภทํ, สมุฏฺานโต จตุปฺปเภทํ, สภาควิสภาคโต อเนกปฺปเภทํ. ธมฺมายตนํ เตภูมกธมฺมารมฺมณวเสน อเนกปฺปเภทนฺติ. เอวํ สงฺเขปวิตฺถารา วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ทฏฺพฺพโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน สพฺพาเนเวตานิ อายตนานิ อนาคมนโต อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. น หิ ตานิ ปุพฺเพ อุทยา กุโตจิ อาคจฺฉนฺติ, นาปิ อุทฺธํ วยา กุหิฺจิ คจฺฉนฺติ; อถ โข ปุพฺเพ อุทยา อปฺปฏิลทฺธสภาวานิ, อุทฺธํ ¶ วยา ปริภินฺนสภาวานิ, ปุพฺพนฺตาปรนฺตเวมชฺเฌ ¶ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อวสานิ ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา อนาคมนโต อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. ตถา นิรีหโต อพฺยาปารโต จ. น หิ จกฺขุรูปาทีนํ เอวํ โหติ – ‘อโห วต อมฺหากํ สามคฺคิยา วิฺาณํ นาม อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ, น จ ตานิ วิฺาณุปฺปาทนตฺถํ ทฺวารภาเวน วตฺถุภาเวน อารมฺมณภาเวน วา อีหนฺติ, น พฺยาปารมาปชฺชนฺติ; อถ โข ธมฺมตาเวสา ยํ จกฺขุรูปาทีนํ สามคฺคิยํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ สมฺภวนฺติ. ตสฺมา นิรีหโต อพฺยาปารโต จ ทฏฺพฺพานิ. อปิจ อชฺฌตฺติกานิ สฺุคาโม วิย ทฏฺพฺพานิ ธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตตฺตา, พาหิรานิ คามฆาตกโจรา วิย อชฺฌตฺติกานํ อภิฆาตกตฺตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จกฺขุ, ภิกฺขเว, หฺติ มนาปามนาเปหิ รูเปหีติ วิตฺถาโร. อปิจ อชฺฌตฺติกานิ ฉ ปาณกา วิย ทฏฺพฺพานิ, พาหิรานิ เตสํ โคจรา วิยาติ. เอวมฺเปตฺถ ‘ทฏฺพฺพโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.
อิทานิ เตสํ วิปสฺสิตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ จกฺขุํ อนิจฺจนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จกฺขุ ตาว หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ. อปเรหิปิ จตูหิ การเณหิ อนิจฺจํ – อุปฺปาทวยวนฺตโต, วิปริณามโต, ตาวกาลิกโต, นิจฺจปฏิกฺเขปโตติ.
ตเทว ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขํ. ยสฺมา วา เอตํ อุปฺปนฺนํ ิตึ ปาปุณาติ, ิติยํ ชราย กิลมติ, ชรํ ปตฺวา อวสฺสํ ภิชฺชติ; ตสฺมา อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต, ทุกฺขมโต, ทุกฺขวตฺถุโต, สุขปฏิกฺเขปโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ทุกฺขํ.
อวสวตฺตนฏฺเน ปน อนตฺตา. ยสฺมา วา เอตํ อุปฺปนฺนํ ิตึ มา ปาปุณาตุ, านปฺปตฺตํ มา ชิรตุ, ชรปฺปตํ มา ภิชฺชตูติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ กสฺสจิ วสวตฺติภาโว นตฺถิ, สฺุํ เตน วสวตฺตนากาเรน; ตสฺมา สฺุโต, อสฺสามิกโต, อกามการิยโต, อตฺตปฏิกฺเขปโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ อนตฺตา.
วิภวคติกโต ¶ , ปุพฺพาปรวเสน ภวสงฺกนฺติคมนโต, ปกติภาววิชหนโต จ วิปริณามธมฺมํ. อิทํ อนิจฺจเววจนเมว. รูปา อนิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิเจตฺถ เปตฺวา จกฺขุํ เตภูมกธมฺมา อนิจฺจา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ปน จกฺขุ เจว อนิจฺจฺจ. ตถา ¶ เสสธมฺมา ทุกฺขา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ¶ ปน จกฺขุ เจว ทุกฺขฺจ. เสสธมฺมา อนตฺตา, โน จกฺขุ. จกฺขุ ปน จกฺขุ เจว อนตฺตา จาติ. รูปาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิมสฺมึ ปน สุตฺตนฺตภาชนีเย ตถาคเตน กึ ทสฺสิตนฺติ? ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อนตฺตลกฺขณํ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อนิจฺเจน วา ทสฺเสติ, ทุกฺเขน วา, อนิจฺจทุกฺเขหิ วา. ตตฺถ ‘‘จกฺขุ, อตฺตาติ โย วเทยฺย, ตํ น อุปปชฺชติ. จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ. ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย อิติ จกฺขุ อนตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๒๒). อิมสฺมึ สุตฺเต อนิจฺเจน อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา. รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, น ยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺย; ลพฺเภถ จ รูเป – เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสีติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, รูปํ อนตฺตา ตสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตติ; น จ ลพฺภติ รูเป – เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๙; มหาว. ๒๐) อิมสฺมึ สุตฺเต ทุกฺเขน อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา, ยทนตฺตา ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๑๕) อนิจฺจทุกฺเขหิ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? อนิจฺจทุกฺขานํ ปากฏตฺตา.
หตฺถโต หิ ตฏฺฏเก วา สรเก วา กิสฺมิฺจิเทว วา ปติตฺวา ภินฺเน ‘อโห อนิจฺจ’นฺติ วทนฺติ. เอวํ อนิจฺจํ ปากฏํ นาม. อตฺตภาวสฺมึ ปน คณฺฑปิฬกาทีสุ วา อุฏฺิตาสุ ขาณุกณฺฏกาทีหิ วา วิทฺธาสุ ‘อโห ทุกฺข’นฺติ วทนฺติ. เอวํ ทุกฺขํ ปากฏํ นาม. อนตฺตลกฺขณํ อปากฏํ อนฺธการํ อวิภูตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ ทุทฺทีปนํ ทุปฺปฺาปนํ ¶ . อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ปฺายนฺติ. อนตฺตลกฺขณํ วินา พุทฺธุปฺปาทา น ปฺายติ, พุทฺธุปฺปาเทเยว ปฺายติ. มหิทฺธิกา หิ มหานุภาวา ตาปสปริพฺพาชกา สรภงฺคสตฺถาราทโยปิ ‘อนิจฺจํ ทุกฺข’นฺติ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ‘อนตฺตา’ติ วตฺตุํ น สกฺโกนฺติ. สเจ หิ เต สมฺปตฺตปริสาย อนตฺตาติ วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยุํ, สมฺปตฺตปริสาย มคฺคผลปฏิเวโธ ภเวยฺย. อนตฺตลกฺขณปฺาปนฺหิ อฺสฺส กสฺสจิ อวิสโย, สพฺพฺุพุทฺธานเมว วิสโย. เอวเมตํ อนตฺตลกฺขณํ อปากฏํ. ตสฺมา สตฺถา ¶ อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ¶ อนิจฺเจน วา ทสฺเสสิ, ทุกฺเขน วา, อนิจฺจทุกฺเขหิ วา. อิธ ปน ตํ อนิจฺจทุกฺเขหิ ทสฺเสสีติ เวทิตพฺพํ.
อิมานิ ปน ลกฺขณานิ กิสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, เกน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺหนฺติ? อนิจฺจลกฺขณํ ตาว อุทยพฺพยานํ อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. ทุกฺขลกฺขณํ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. อนตฺตลกฺขณํ นานาธาตุวินิพฺโภคสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺาติ. อุทยพฺพยํ ปน ปริคฺคเหตฺวา สนฺตติยา วิโกปิตาย อนิจฺจลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนํ มนสิกตฺวา อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเต ทุกฺขลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. นานาธาตุโย วินิพฺภุชิตฺวา ฆนวินิพฺโภเค กเต อนตฺตลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ.
เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา, หุตฺวา อภาวโต วา; อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต อาการวิกาโร วา. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจนโต ปน ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต; อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ. ‘‘ยํ ¶ ทุกฺขํ ตํ อนตฺตา’’ติ ปน วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต; อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ. อิติ อฺเทว อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, อฺานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานิ. ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโยติ อิทฺหิ สพฺพมฺปิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นาม. วุตฺตปฺปการาการวิการา อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานีติ.
สงฺเขปโต ปเนตฺถ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว เตภูมกานิ. สพฺเพสุปิ สมฺมสนจาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๕๕. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ ¶ ยถา เหฏฺา วิปสฺสกานํ อุปการตฺถาย ‘‘จกฺขายตนํ รูปายตน’’นฺติ ยุคลโต อายตนานิ วุตฺตานิ, ตถา อวตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรานํ สพฺพาการโต สภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตน’’นฺติ เอวํ อชฺฌตฺติกพาหิรววตฺถานนเยน วุตฺตานิ.
๑๕๖. เตสํ นิทฺเทสวาเร ตตฺถ กตมํ จกฺขายตนนฺติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
๑๖๗. ยํ ปเนตํ ธมฺมายตนนิทฺเทเส ‘‘ตตฺถ กตมา อสงฺขตา ธาตุ? ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ วุตฺตํ, ตตฺรายมตฺโถ – อสงฺขตา ธาตูติ อสงฺขตสภาวํ นิพฺพานํ. ยสฺมา ปเนตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺติ, ตสฺมา ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํ. อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถา.
วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติ. ‘สุตฺตํ อาหรา’ติ จ วุตฺเต ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, นิพฺพานนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ นิพฺพาน’’นฺติ เอตํ ชมฺพุขาทกสุตฺตํ อาหริตฺวา ‘อิมินา สุตฺเตน เวทิตพฺพํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติ อาห. โส วตฺตพฺโพ – ‘กึ ปน ยถา เจตํ สุตฺตํ ตถา อตฺโถ’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘อาม ¶ , นตฺถิ สุตฺตโต มฺุจิตฺวา อตฺโถ’ติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘อิทํ ตาว เต สุตฺตํ อาภตํ; อนนฺตรสุตฺตํ อาหรา’ติ. อนนฺตรสุตฺตํ นาม – ‘‘อรหตฺตํ อรหตฺตนฺติ, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, อรหตฺตนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๕) อิทํ ตสฺเสวานนฺตรํ อาภตสุตฺตํ.
อิมสฺมึ ปน นํ อาภเต อาหํสุ – ‘นิพฺพานํ นาม ธมฺมายตนปริยาปนฺโน ธมฺโม, อรหตฺตํ จตฺตาโร ขนฺธา. นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา วิหรนฺโต ธมฺมเสนาปติ ¶ นิพฺพานํ ปุจฺฉิโตปิ อรหตฺตํ ปุจฺฉิโตปิ กิเลสกฺขยเมว อาห. กึ ปน นิพฺพานฺจ อรหตฺตฺจ เอกํ อุทาหุ นาน’นฺติ? ‘เอกํ ¶ วา โหตุ นานํ วา. โก เอตฺถ ตยา อติพหุํ จุณฺณีกรณํ กโรนฺเตน อตฺโถ’? ‘น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติ. นนุ าเต สาธุ โหตี’ติ เอวํ ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉิโต วฺเจตุํ อสกฺโกนฺโต อาห – ‘ราคาทีนํ ขีณนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’ติ วุจฺจตีติ. ตโต นํ อาหํสุ – ‘มหากมฺมํ เต กตํ. ลฺชํ ทตฺวาปิ ตํ วทาเปนฺโต เอตเทว วทาเปยฺย. ยเถว จ เต เอตํ วิภชิตฺวา กถิตํ, เอวํ อิทมฺปิ สลฺลกฺเขหิ – นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํ. ตีณิปิ หิ เอตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติ.
สเจ เอวํ วุตฺเต สฺตฺตึ คจฺฉติ อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, พหุนิพฺพานตาย กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย อุทาหุ โทสโมหานมฺปิ? โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโมหานมฺปิ? โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโทสานมฺปี’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย, โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย, โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย’ติ.
ตโต วตฺตพฺโพ – ‘ตว วาเท ราคกฺขโย เอกํ นิพฺพานํ โหติ, โทสกฺขโย เอกํ, โมหกฺขโย เอกํ; ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ขเย ตีณิ นิพฺพานานิ โหนฺติ, จตุนฺนํ อุปาทานานํ ขเย จตฺตาริ, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ขเย ปฺจ, ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ขเย ฉ, สตฺตนฺนํ อนุสยานํ ขเย สตฺต, อฏฺนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ ขเย อฏฺ, นวนฺนํ ตณฺหามูลกธมฺมานํ ¶ ขเย นว, ทสนฺนํ สํโยชนานํ ขเย ทส, ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสสฺส ขเย ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานนฺติ พหูนิ นิพฺพานานิ โหนฺติ. นตฺถิ ปน เต นิพฺพานานํ ปมาณนฺติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ¶ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพ. กถํ? ‘อนฺธพาลา หิ อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโยปิ กิเลสปริยุฏฺิตา วตฺถุํ ปฏิเสวนฺติ. อถ เนสํ ปฏิเสวนปริยนฺเต กิเลโส วูปสมฺมติ. ตว วาเท อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโย นิพฺพานปฺปตฺตา นาม โหนฺติ. โอฬาริกํ วต เต นิพฺพานํ ถูลํ, กณฺเณหิ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺกาติ. เอวํ ปน ¶ อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โคตฺรภุนาปิ กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ โคตฺรภุ นาม อตฺถีติ วเทสี’ติ? ‘อาม วทามี’ติ. ‘โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขียิสฺสนฺตี’ติ? น ขีณา, น ขียนฺติ; อปิจ โข ขียิสฺสนฺตีติ. ‘โคตฺรภุ ปน กึ อารมฺมณํ กโรตี’ติ? ‘นิพฺพานํ’. ‘ตว โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา น ขีณา, น ขียนฺติ; อถ โข ขียิสฺสนฺติ. ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปฺเปสิ, อปฺปหีเนสุ อนุสเยสุ อนุสยปฺปหานํ นิพฺพานํ ปฺเปสิ. ตํ เต น สเมติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’.
สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, มคฺเคน กาเรตพฺโพ. กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ มคฺคํ นาม วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติ. ‘มคฺคกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขิยิสฺสนฺตี’ติ? ชานมาโน วกฺขติ – ‘ขีณาติ วา ขียิสฺสนฺตีติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ขียนฺตีติ วตฺตุํ ¶ วฏฺฏตี’ติ. ‘ยทิ เอวํ, มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ กตมํ? มคฺเคน ขียนกกิเลสา กตเม? มคฺโค กตมํ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา กตเม กิเลเส เขเปติ? ตสฺมา มา เอวํ คณฺห. นิพฺพานํ ปน อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติ. ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติ.
เอวํ วุตฺเต เอวมาห – ‘ตฺวํ อาคมฺม อาคมฺมาติ วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติ. ‘อาคมฺม นามาติ อิทํ เต กุโต ลทฺธ’นฺติ? ‘สุตฺตโต ลทฺธ’นฺติ ¶ . ‘อาหร สุตฺต’นฺติ. ‘‘เอวํ อวิชฺชา จ ตณฺหา จ ตํ อาคมฺม, ตมฺหิ ขีณา, ตมฺหิ ภคฺคา, น จ กิฺจิ กทาจี’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปรวาที ตุณฺหีภาวํ อาปนฺโนติ.
อิธาปิ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว ปน จตุภูมกานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานีติ เวทิตพฺพานิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๖๘. อิธาปิ ¶ ปฺหาปุจฺฉเก ยํ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา ลพฺภมานวเสเนว วิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ; น เกวลฺจ อิธ, สพฺเพสุปิ ปฺหาปุจฺฉเกสุ เอเสว นโย. อิธ ปน ทสนฺนํ อายตนานํ รูปภาเวน อพฺยากตตา เวทิตพฺพา. ทฺวินฺนํ อายตนานํ ขนฺธวิภงฺเค จตุนฺนํ ขนฺธานํ วิย กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ จตฺตาโร ขนฺธา สปฺปจฺจยาว สงฺขตาว ธมฺมายตนํ ปน ‘‘สิยา อปฺปจฺจยํ, สิยา อสงฺขต’’นฺติ อาคตํ. อารมฺมณตฺติเกสุ จ อนารมฺมณํ สุขุมรูปสงฺขาตํ ธมฺมายตนํ น-วตฺตพฺพโกฏฺาสํ ภชติ. ตฺจ โข อนารมฺมณตฺตา น ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. อิธาปิ หิ จตฺตาโร ขนฺธา วิย ทฺวายตนา ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณาติ สพฺพํ ขนฺเธสุ วุตฺตสทิสเมวาติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ธาตุวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ธาตุวิภงฺเค สพฺพา ธาตุโย ฉหิ ฉหิ ธาตูหิ สงฺขิปิตฺวา ตีหิ ฉกฺเกหิ สุตฺตนฺตภาชนียํ ทสฺเสนฺโต ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. ธาตุโยติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ปถวีธาตูติอาทีสุ ธาตฺวฏฺโ นาม สภาวฏฺโ, สภาวฏฺโ นาม สฺุตฏฺโ, สฺุตฏฺโ นาม นิสฺสตฺตฏฺโติ เอวํ สภาวสฺุตนิสฺสตฺตฏฺเน ปถวีเยว ธาตุ ปถวีธาตุ. อาโปธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ ปทสมาสํ วิทิตฺวา เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ปถวีธาตูติ ปติฏฺานธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ.
๑๗๓. ปถวีธาตุทฺวยนฺติ ปถวีธาตุ ทฺเว อยํ. อยํ ปถวีธาตุ นาม น เอกา เอว อชฺฌตฺติกพาหิรเภเทน ปน ทฺเว ธาตุโย เอวาติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อตฺถิ อชฺฌตฺติกา อตฺถิ พาหิรา’’ติ. ตตฺถ อชฺฌตฺติกาติ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา นิยกชฺฌตฺตา. พาหิราติ สงฺขารสนฺตานปริยาปนฺนา อนินฺทฺริยพทฺธา. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ อุภยมฺเปตํ นิยกชฺฌตฺตาธิวจนเมว. อิทานิ ตํ สภาวาการโต ทสฺเสตุํ กกฺขฬนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขริคตนฺติ ผรุสํ. กกฺขฬตฺตนฺติ กกฺขฬภาโว. กกฺขฬภาโวติ กกฺขฬสภาโว. อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺนนฺติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาตํ อุปาทินฺนํ. อุปาทินฺนํ นาม สรีรฏฺกํ. สรีรฏฺกฺหิ กมฺมสมุฏฺานํ วา โหตุ มา วา, ตํ สนฺธาย อุปาทินฺนมฺปิ อตฺถิ อนุปาทินฺนมฺปิ; อาทินฺนคฺคหิตปรามฏฺวเสน ¶ ปน ¶ สพฺพมฺเปตํ อุปาทินฺนเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺน’’นฺติ อาห.
อิทานิ ตเมว ปถวีธาตุํ วตฺถุวเสน ทสฺเสตุํ เสยฺยถิทํ เกสา โลมาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต. ตสฺสตฺโถ – ยา สา อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ สา กตมา? ยํ วา อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ นาม ตํ กตมนฺติ? เกสา โลมาติอาทิ ตสฺสา อชฺฌตฺติกาย ปถวีธาตุยา วตฺถุวเสน ปเภททสฺสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เกสา นาม อชฺฌตฺตา อุปาทินฺนา สรีรฏฺกา กกฺขฬตฺตลกฺขณา อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส. โลมา นาม…เป… กรีสํ นาม. อิธ ปน อวุตฺตมฺปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔) ปาฬิอารุฬฺหํ มตฺถลุงฺคํ อาหริตฺวา มตฺถลุงฺคํ นาม อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺนํ สรีรฏฺกํ กกฺขฬตฺตลกฺขณํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส. ปรโต อาโปธาตุอาทีนํ นิทฺเทเส ปิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิมินา กึ ทสฺสิตํ โหติ? ธาตุมนสิกาโร. อิมสฺมึ ปน ธาตุมนสิกาเร กมฺมํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน กึ กตฺตพฺพํ? จตุปาริสุทฺธิสีลํ โสเธตพฺพํ. สีลวโต หิ กมฺมฏฺานภาวนา อิชฺฌติ. ตสฺส โสธนวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิสุทฺธสีเลน ปน สีเล ปติฏฺาย ทส ปุพฺพปลิโพธา ฉินฺทิตพฺพา. เตสมฺปิ ฉินฺทนวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ฉินฺนปลิโพเธน ธาตุมนสิการกมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตพฺพํ. อาจริเยนาปิ ธาตุมนสิการกมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหาเปนฺเตน สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ ทสวิธฺจ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อนฺเตวาสิเกนาปิ อาจริยสฺส สนฺติเก พหุวาเร สชฺฌายํ กตฺวา นิชฺชฏํ ปคุณํ กมฺมฏฺานํ กาตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ – ‘‘อาทิกมฺมิเกน ภิกฺขุนา ชรามรณา มุจฺจิตุกาเมน สตฺตหากาเรหิ อุคฺคหโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ, ทสหากาเรหิ มนสิการโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ.
ตตฺถ วจสา, มนสา, วณฺณโต, สณฺานโต, ทิสโต, โอกาสโต, ปริจฺเฉทโตติ อิเมหิ สตฺตหากาเรหิ อิมสฺมึ ธาตุมนสิการกมฺมฏฺาเน ‘อุคฺคหโกสลฺลํ’ อิจฺฉิตพฺพํ. อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต ¶ , ปณฺณตฺติสมติกฺกมโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, ลกฺขณโต, ตโย จ สุตฺตนฺตาติ อิเมหิ ทสหากาเรหิ ‘มนสิการโกสลฺลํ’ อิจฺฉิตพฺพํ. ตทุภยมฺปิ ปรโต สติปฏฺานวิภงฺเค อาวิ ภวิสฺสติ.
เอวํ ¶ อุคฺคหิตกมฺมฏฺาเนน ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺเต อฏฺารส เสนาสนโทเส วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน วสนฺเตน อตฺตนาปิ ปฺจหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน วิวิตฺโตกาสคเตน กมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. มนสิกโรนฺเตน จ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ¶ เกสาทีสุ เอเกกโกฏฺาสํ มนสิกริตฺวา อวสาเน เอวํ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ – อิเม เกสา นาม สีสกฏาหปลิเวนจมฺเม ชาตา. ตตฺถ ยถา วมฺมิกมตฺถเก ชาเตสุ กุณฺติเณสุ น วมฺมิกมตฺถโก ชานาติ ‘มยิ กุณฺติณานิ ชาตานี’ติ, นาปิ กุณฺติณานิ ชานนฺติ ‘มยํ วมฺมิกมตฺถเก ชาตานี’ติ, เอวเมว น สีสกฏาหปลิเวนจมฺมํ ชานาติ ‘มยิ เกสา ชาตา’ติ, นาปิ เกสา ชานนฺติ ‘มยํ สีสกฏาหปลิเวนจมฺเม ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เกสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
โลมา สรีรเวนจมฺเม ชาตา. ตตฺถ ยถา สฺุคามฏฺาเน ชาเตสุ ทพฺพติเณสุ น สฺุคามฏฺานํ ชานาติ ‘มยิ ทพฺพติณานิ ชาตานี’ติ, นาปิ ทพฺพติณานิ ชานนฺติ ‘มยํ สฺุคามฏฺาเน ชาตานี’ติ, เอวเมว น สรีรเวนจมฺมํ ชานาติ ‘มยิ โลมา ชาตา’ติ, นาปิ โลมา ชานนฺติ ‘มยํ สรีรเวนจมฺเม ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ โลมา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
นขา องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา. ตตฺถ ยถา กุมารเกสุ ทณฺฑเกหิ มธุกฏฺิเก วิชฺฌิตฺวา กีฬนฺเตสุ น ทณฺฑกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ มธุกฏฺิกา ปิตา’ติ, นาปิ มธุกฏฺิกา ชานนฺติ ‘มยํ ทณฺฑเกสุ ปิตา’ติ, เอวเมว น องฺคุลิโย ชานนฺติ ‘อมฺหากํ อคฺเคสุ นขา ชาตา’ติ, นาปิ นขา ชานนฺติ ‘มยํ องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา’ติ. อฺมฺํ ¶ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ นขา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ทนฺตา หนุกฏฺิเกสุ ชาตา. ตตฺถ ยถา วฑฺฒกีหิ ปาสาณอุทุกฺขเลสุ เกนจิเทว สิเลสชาเตน พนฺธิตฺวา ปิตถมฺเภสุ น อุทุกฺขลานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ ถมฺภา ิตา’ติ, นาปิ ถมฺภา ¶ ชานนฺติ ‘มยํ อุทุกฺขเลสุ ิตา’ติ, เอวเมว น หนุกฏฺิกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ ทนฺตา ชาตา’ติ ¶ , นาปิ ทนฺตา ชานนฺติ ‘มยํ หนุกฏฺิเกสุ ชาตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ทนฺตา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ตโจ สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิโต. ตตฺถ ยถา อลฺลโคจมฺมปริโยนทฺธาย มหาวีณาย น มหาวีณา ชานาติ ‘อหํ อลฺลโคจมฺเมน ปริโยนทฺธา’ติ, นาปิ อลฺลโคจมฺมํ ชานาติ ‘มยา มหาวีณา ปริโยทฺธา’ติ, เอวเมว น สรีรํ ชานาติ ‘อหํ ตเจน ปริโยนทฺธ’นฺติ, นาปิ ตโจ ชานาติ ‘มยา สรีรํ ปริโยนทฺธนฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ตโจ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
มํสํ อฏฺิสงฺฆาฏํ อนุลิมฺปิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา มหามตฺติกาย ลิตฺตาย ภิตฺติยา น ภิตฺติ ชานาติ ‘อหํ มหามตฺติกาย ลิตฺตา’ติ, นาปิ มหามตฺติกา ชานาติ ‘มยา มหาภิตฺติ ลิตฺตา’ติ, เอวเมว น อฏฺิสงฺฆาโฏ ชานาติ ‘อหํ นวมํสเปสิสตปฺปเภเทน มํเสน ลิตฺโต’ติ, นาปิ มํสํ ชานาติ ‘มยา อฏฺิสงฺฆาโฏ ลิตฺโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มํสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
นฺหารุ สรีรพฺภนฺตเร อฏฺีนิ อาพนฺธมานา ิตา. ตตฺถ ยถา วลฺลีหิ วินทฺเธสุ กุฏฺฏทารูสุ น กุฏฺฏทารูนิ ชานนฺติ ‘มยํ วลฺลีหิ วินทฺธานี’ติ, นาปิ วลฺลิโย ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ กุฏฺฏทารูนิ วินทฺธานี’ติ, เอวเมว น อฏฺีนิ ชานนฺติ ‘มยํ นฺหารูหิ อาพทฺธานี’ติ, นาปิ นฺหารู ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ อฏฺีนิ อาพทฺธานี’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา ¶ เอเต ธมฺมา. อิติ นฺหารุ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อฏฺีสุ ปณฺหิกฏฺิ โคปฺผกฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. โคปฺผกฏฺิ ชงฺฆฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. ชงฺฆฏฺิ อูรุฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. อูรุฏฺิ กฏิฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ ¶ . กฏิฏฺิ ปิฏฺิกณฺฏกํ ¶ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. ปิฏฺิกณฺฏโก คีวฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิโต. คีวฏฺิ สีสฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิตํ. สีสฏฺิ คีวฏฺิเก ปติฏฺิตํ. คีวฏฺิ ปิฏฺิกณฺฏเก ปติฏฺิตํ. ปิฏฺิกณฺฏโก กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิโต. กฏิฏฺิ อูรุฏฺิเก ปติฏฺิตํ. อูรุฏฺิ ชงฺฆฏฺิเก ปติฏฺิตํ. ชงฺฆฏฺิ โคปฺผกฏฺิเก ปติฏฺิตํ. โคปฺผกฏฺิ ปณฺหิกฏฺิเก ปติฏฺิตํ.
ตตฺถ ยถา อิฏฺกทารุโคมยาทิสฺจเยสุ น เหฏฺิมา เหฏฺิมา ชานนฺติ ‘มยํ อุปริเม อุปริเม อุกฺขิปิตฺวา ิตา’ติ, นาปิ อุปริมา อุปริมา ชานนฺติ ‘มยํ เหฏฺิเมสุ เหฏฺิเมสุ ปติฏฺิตา’ติ, เอวเมว น ปณฺหิกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น โคปฺผกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ชงฺฆฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น ชงฺฆฏฺิ ชานาติ ‘อหํ อูรุฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น อูรุฏฺิ ชานาติ ‘อหํ กฏิฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น กฏิฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏกํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น ปิฏฺิกณฺฏโก ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิโต’ติ, น คีวฏฺิ ชานาติ ‘อหํ สีสฏฺึ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ, น สีสฏฺิ ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น คีวฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏเก ปติฏฺิต’นฺติ, น ปิฏฺิกณฺฏโก ชานาติ ‘อหํ กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิโต’ติ, น กฏิฏฺิ ชานาติ ‘อหํ อูรุฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น อูรุฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ชงฺฆฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น ชงฺฆฏฺิ ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ, น โคปฺผกฏฺิ ชานาติ ‘อหํ ปณฺหิกฏฺิมฺหิ ปติฏฺิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อฏฺิ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อฏฺิมิฺชํ เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา เวฬุปพฺพาทีนํ อนฺโต ปกฺขิตฺเตสุ สินฺนเวตฺตคฺคาทีสุ ¶ น เวฬุปพฺพาทีนิ ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ เวตฺตคฺคาทีนิ ปกฺขิตฺตานี’ติ, นาปิ เวตฺตคฺคาทีนิ ชานนฺติ ‘มยํ เวฬุปพฺพาทีสุ ิตานีติ, เอวเมว น อฏฺีนิ ชานนฺติ ‘อมฺหากํ อนฺโต อฏฺิมิฺชํ ิต’นฺติ, นาปิ อฏฺิมิฺชํ ชานาติ ‘อหํ อฏฺีนํ อนฺโต ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อฏฺิมิฺชํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
วกฺกํ ¶ คลวาฏกโต นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธํ หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา วณฺฏุปนิพทฺเธ ¶ อมฺพผลทฺวเย น วณฺฏํ ชานาติ ‘มยา อมฺพผลทฺวยํ อุปนิพทฺธ’นฺติ, นาปิ อมฺพผลทฺวยํ ชานาติ ‘อหํ วณฺเฏน อุปนิพทฺธ’นฺติ, เอวเมว น ถูลนฺหารุ ชานาติ ‘มยา วกฺกํ อุปนิพทฺธ’นฺติ, นาปิ วกฺกํ ชานาติ ‘อหํ ถูลนฺหารุนา อุปนิพทฺธ’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ วกฺกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
หทยํ สรีรพฺภนฺตเร อุรฏฺิปฺชรมชฺฌํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ปิตาย มํสเปสิยา น ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย มํสเปสิ ปิตา’ติ, นาปิ มํสเปสิ ชานาติ ‘อหํ ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น อุรฏฺิปฺชรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย หทยํ ิต’นฺติ, นาปิ หทยํ ชานาติ ‘อหํ อุรฏฺิปฺชรพฺภนฺตรํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ หทยํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ยกนํ อนฺโตสรีเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา อุกฺขลิกปาลปสฺสมฺหิ ลคฺเค ยมกมํสปิณฺเฑ น อุกฺขลิกปาลปสฺสํ ชานาติ ‘มยิ ยมกมํสปิณฺโฑ ลคฺโค’ติ, นาปิ ยมกมํสปิณฺโฑ ¶ ชานาติ ‘อหํ อุกฺขลิกปาลปสฺเส ลคฺโค’ติ, เอวเมว น ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย ยกนํ ิต’นฺติ, นาปิ ยกนํ ชานาติ ‘อหํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ยกนํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
กิโลมเกสุ ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ หทยฺจ วกฺกฺจ ปริวาเรตฺวา ิตํ, อปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา ปิโลติกปลิเวิเต มํเส น มํสํ ชานาติ ‘อหํ ปิโลติกาย ปลิเวิต’นฺติ, นาปิ ปิโลติกา ชานาติ ‘มยา มํสํ ปลิเวิต’นฺติ, เอวเมว น วกฺกหทยานิ สกลสรีเร มํสฺจ ¶ ชานาติ ‘อหํ กิโลมเกน ปฏิจฺฉนฺน’นฺติ, นาปิ กิโลมกํ ชานาติ ‘มยา วกฺกหทยานิ สกลสรีเร มํสฺจ ปฏิจฺฉนฺน’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา ¶ เอเต ธมฺมา. อิติ กิโลมกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ปิหกํ หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ตตฺถ ยถา โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตาย โคมยปิณฺฑิยา น โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ ชานาติ ‘โคมยปิณฺฑิ มํ นิสฺสาย ิตา’ติ, นาปิ โคมยปิณฺฑิ ชานาติ ‘อหํ โกฏฺกมตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ ชานาติ ‘ปิหกํ มํ นิสฺสาย ิต’นฺติ, นาปิ ปิหกํ ชานาติ ‘อหํ อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปิหกํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ปปฺผาสํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร หทยฺจ ยกนฺจ อุปริฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ. ตตฺถ ยถา ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตเร โอลมฺพมาเน สกุณกุลาวเก น ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ สกุณกุลาวโก โอลมฺพมาโน ิโต’ติ, นาปิ สกุณกุลาวโก ชานาติ ‘อหํ ชิณฺณโกฏฺพฺภนฺตเร โอลมฺพมาโน ิโต’ติ ¶ , เอวเมว น สรีรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ ปปฺผาสํ โอลมฺพมานํ ิต’นฺติ, นาปิ ปปฺผาสํ ชานาติ ‘อหํ เอวรูเป สรีรพฺภนฺตเร โอลมฺพมานํ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปปฺผาสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อนฺตํ คลวาฏกโต กรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา โลหิตโทณิกาย โอภุชิตฺวา ปิเต ฉินฺนสีสธมนิกเฬวเร น โลหิตโทณิ ชานาติ ‘มยิ ธมนิกเฬวรํ ิต’นฺติ, นาปิ ธมนิกเฬวรํ ชานาติ ‘อหํ โลหิตโทณิกายํ ิต’นฺติ, เอวเมว น สรีรพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ อนฺตํ ิต’นฺติ, นาปิ อนฺตํ ชานาติ ‘อหํ สรีรพฺภนฺตเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อนฺตํ นาม ¶ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อนฺตคุณํ ¶ อนฺตนฺตเร เอกวีสติ อนฺตโภเค พนฺธิตฺวา ิตํ. ตตฺถ ยถา ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ สิพฺเพตฺวา ิเตสุ รชฺชุเกสุ น ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ ชานาติ ‘รชฺชุกา มํ สิพฺเพตฺวา ิตา’ติ, นาปิ รชฺชุกา ชานนฺติ ‘มยํ ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกํ สิพฺเพตฺวา ิตา’ติ, เอวเมว น อนฺตํ ชานาติ ‘อนฺตคุณํ มํ อาพนฺธิตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ อนฺตคุณํ ชานาติ ‘อหํ อนฺตํ พนฺธิตฺวา ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อนฺตคุณํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
อุทริยํ อุทเร ิตํ อสิตปีตขายิตสายิตํ. ตตฺถ ยถา สุวานโทณิยํ ิเต สุวานวมถุมฺหิ น สุวานโทณิ ชานาติ ‘มยิ สุวานวมถุ ิโต’ติ, นาปิ สุวานวมถุ ชานาติ ‘อหํ สุวานโทณิยํ ิโต’ติ, เอวเมว น อุทรํ ชานาติ ‘มยิ อุทริยํ ิต’นฺติ, นาปิ อุทริยํ ชานาติ ‘อหํ อุทเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อุทริยํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
กรีสํ ¶ ปกฺกาสยสงฺขาเต อฏฺงฺคุลเวฬุปพฺพสทิเส อนฺตปริโยสาเน ิตํ. ตตฺถ ยถา เวฬุปพฺเพ โอมทฺทิตฺวา ปกฺขิตฺตาย สณฺหปณฺฑุมตฺติกาย น เวฬุปพฺพํ ชานาติ ‘มยิ ปณฺฑุมตฺติกา ิตา’ติ, นาปิ ปณฺฑุมตฺติกา ชานาติ ‘อหํ เวฬุปพฺเพ ิตา’ติ, เอวเมว น ปกฺกาสโย ชานาติ ‘มยิ กรีสํ ิต’นฺติ, นาปิ กรีสํ ชานาติ ‘อหํ ปกฺกาสเย ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ กรีสํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
มตฺถลุงฺคํ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา ปุราณลาพุกฏาเห ปกฺขิตฺตาย ปิฏฺปิณฺฑิยา น ลาพุกฏาหํ ชานาติ ‘มยิ ปิฏฺปิณฺฑิ ิตา’ติ, นาปิ ปิฏฺปิณฺฑิ ชานาติ ‘อหํ ลาพุกฏาเห ิตา’ติ, เอวเมว น สีสกฏาหพฺภนฺตรํ ชานาติ ‘มยิ มตฺถลุงฺคํ ิต’นฺติ, นาปิ มตฺถลุงฺคํ ชานาติ ¶ ‘อหํ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มตฺถลุงฺคํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตูติ.
ยํ ¶ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา อาโปโกฏฺาสาทีสุ ตีสุ อนุคตํ ปถวีธาตุํ ลกฺขณวเสน เยวาปนกํ ปถวึ กตฺวา ทสฺเสติ.
พาหิรปถวีธาตุนิทฺเทเส อโยติ กาฬโลหํ. โลหนฺติ ชาติโลหํ, วิชาติโลหํ, กิตฺติมโลหํ, ปิสาจโลหนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ อโย, สชฺฌุ, สุวณฺณํ, ติปุ, สีสํ, ตมฺพโลหํ, เวกนฺตกนฺติ อิมานิ สตฺต ชาติโลหานิ นาม. นาคนาสิกโลหํ วิชาติโลหํ นาม. กํสโลหํ, วฏฺฏโลหํ, อารกูฏนฺติ ตีณิ กิตฺติมโลหานิ นาม. โมรกฺขกํ, ปุถุกํ, มลินกํ, จปลกํ, เสลกํ, อาฏกํ, ภลฺลกํ, ทูสิโลหนฺติ อฏฺ ปิสาจโลหานิ นาม. เตสุ ปฺจ ชาติโลหานิ ปาฬิยํ วิสุํ วุตฺตาเนว. ตมฺพโลหํ, เวกนฺตกโลหนฺติ อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ชาติโลเหหิ สทฺธึ เสสํ สพฺพมฺปิ อิธ โลหนฺติ เวทิตพฺพํ.
ติปูติ เสตติปุ. สีสนฺติ กาฬติปุ. สชฺฌูติ ¶ รชตํ. มุตฺตาติ สามุทฺทิกมุตฺตา. มณีติ เปตฺวา ปาฬิอาคเต เวฬุริยาทโย เสโส โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลา, ปณฺฑุสิลา, เสตสิลาติอาทิเภทา สพฺพาปิ สิลา. ปวาฬนฺติ ปวาฬเมว. รชตนฺติ กหาปโณ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. ติณาทีสุ พหิสารา อนฺตมโส นาฬิเกราทโยปิ ติณํ นาม. อนฺโตสารํ อนฺตมโส ทารุขณฺฑมฺปิ กฏฺํ นาม. สกฺขราติ มุคฺคมตฺตโต ยาว มุฏฺิปฺปมาณา มรุมฺพา สกฺขรา นาม. มุคฺคมตฺตโต ปน เหฏฺา วาลิกาติ วุจฺจติ. กลนฺติ ยํ กิฺจิ กปาลํ. ภูมีติ ปถวี. ปาสาโณติ อนฺโตมุฏฺิยํ อสณฺหนโต ปฏฺาย หตฺถิปฺปมาณํ อสมฺปตฺโต ปาสาโณ นาม. หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย ปน อุปริ ปพฺพโต ¶ นาม. ยํ วา ปนาติ อิมินา ตาลฏฺิ-นาฬิเกร-ผลาทิเภทํ เสสปถวึ คณฺหาติ. ยา จ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ ยา จ พาหิราติ อิมินา ทฺเวปิ ปถวีธาตุโย กกฺขฬฏฺเน ลกฺขณโต เอกา ปถวีธาตุ เอวาติ ทสฺเสติ.
๑๗๔. อาโปธาตุนิทฺเทสาทีสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อาโป อาโปคตนฺติอาทีสุ อาพนฺธนวเสน อาโป. ตเทว อาโปสภาวํ คตตฺตา อาโปคตํ นาม. สฺเนหวเสน สฺเนโห. โสเยว สฺเนหสภาวํ คตตฺตา สฺเนหคตํ นาม. พนฺธนตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส พนฺธนภาโว. ปิตฺตํ เสมฺหนฺติอาทีนิปิ ¶ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ¶ ปริคฺคเหตฺวา ธาตุวเสเนว มนสิกาตพฺพานิ.
ตตฺรายํ นโย – ปิตฺเตสุ หิ อพทฺธปิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธํ สกลสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ, พทฺธปิตฺตํ ปิตฺตโกสเก ิตํ. ตตฺถ ยถา ปูวํ พฺยาเปตฺวา ิเต เตเล น ปูวํ ชานาติ ‘เตลํ มํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ ปูวํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น สรีรํ ชานาติ ‘อพทฺธปิตฺตํ มํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ อพทฺธปิตฺตํ ชานาติ ‘อหํ สรีรํ พฺยาเปตฺวา ิต’นฺติ. ยถา จ วสฺโสทเกน ปุณฺเณ โกสาตกีโกสเก น โกสาตกีโกสโก ชานาติ ‘มยิ วสฺโสทกํ ิต’นฺติ, นาปิ วสฺโสทกํ ชานาติ ‘อหํ โกสาตกีโกสเก ิต’นฺติ, เอวเมว น ปิตฺตโกสโก ชานาติ มยิ พทฺธปิตฺตํ ิตนฺติ, นาปิ พทฺธปิตฺตํ ชานาติ ‘อหํ ปิตฺตโกสเก ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปิตฺตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เสมฺหํ เอกปตฺถปูรปฺปมาณํ อุทรปฏเล ิตํ. ตตฺถ ยถา อุปริ สฺชาตเผณปฏลาย จนฺทนิกาย น จนฺทนิกา ชานาติ ‘มยิ เผณปฏลํ ิต’นฺติ, นาปิ เผณปฏลํ ชานาติ ‘อหํ จนฺทนิกาย ิต’นฺติ, เอวเมว น อุทรปฏลํ ชานาติ ‘มยิ เสมฺหํ ิต’นฺติ, นาปิ เสมฺหํ ชานาติ ‘อหํ อุทรปฏเล ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เสมฺหํ ¶ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
ปุพฺโพ อนิพทฺโธกาโส, ยตฺถ ยตฺเถว ขาณุกณฺฏกปฺปหรณอคฺคิชาลาทีหิ อภิหเฏ สรีรปฺปเทเส โลหิตํ สณฺหิตฺวา ปจฺจติ, คณฺฑปีฬกาทโย วา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ติฏฺติ. ตตฺถ ยถา ผรสุปฺปหาราทิวเสน ปคฺฆริตนิยาเส รุกฺเข น รุกฺขสฺส ผรสุปฺปหาราทิปฺปเทสา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ นิยฺยาโส ิโต’ติ, นาปิ นิยฺยาโส ชานาติ ‘อหํ รุกฺขสฺส ผรสุปฺปหาราทิปฺปเทเสสุ ิโต’ติ, เอวเมว น สรีรสฺส ขาณุกณฺฏกาทีหิ อภิหฏปฺปเทสา ชานนฺติ ¶ ‘อมฺเหสุ ปุพฺโพ ิโต’ติ, นาปิ ปุพฺโพ ชานาติ ‘อหํ เตสุ ปเทเสสุ ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ปุพฺโพ นาม อิมสฺมึ ¶ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
โลหิเตสุ สํสรณโลหิตํ อพทฺธปิตฺตํ วิย สกลสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ. สนฺนิจิตโลหิตํ ยกนฏฺานสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา เอกปตฺตปูรณปฺปมาณํ วกฺกหทยยกนปปฺผาสานิ เตเมนฺตํ ิตํ. ตตฺถ สํสรณโลหิเต อพทฺธปิตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. อิตรํ ปน ยถา ชชฺชรกปาลฏฺเ อุทเก เหฏฺา เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตมยมาเน น เลฑฺฑุขณฺฑานิ ชานนฺติ ‘มยํ อุทเกน เตมิยมานา ิตา’ติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตเมมี’ติ, เอวเมว น ยกนสฺส เหฏฺาภาคฏฺานํ วกฺกาทีนิ วา ชานนฺติ ‘มยิ โลหิตํ ิตํ, อมฺเห วา เตมยมานํ ิต’นฺติ, นาปิ โลหิตํ ชานาติ ‘อหํ ยกนสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา วกฺกาทีนิ เตมยมานํ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ โลหิตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เสโท ¶ อคฺคิสนฺตาปาทิกาเลสุ เกสโลมกูปวิวรานิ ปูเรตฺวา ติฏฺติ เจว ปคฺฆรติ จ. ตตฺถ ยถา อุทกา อพฺพูฬฺหมตฺเตสุ ภิสมุฬาลกุมุทนาฬกลาเปสุ น ภิสาทิกลาปวิวรานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ อุทกํ ปคฺฆรตี’ติ, นาปิ ภิสาทิกลาปวิวเรหิ ปคฺฆรนฺตํ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ ภิสาทิกลาปวิวเรหิ ปคฺฆรามี’ติ, เอวเมว น เกสโลมกูปวิวรานิ ชานนฺติ ‘อมฺเหหิ เสโท ปคฺฆรตี’ติ, นาปิ เสโท ชานาติ ‘อหํ เกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรามี’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เสโท นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เมโท ถูลสฺส สกลสรีรํ ผริตฺวา กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ ¶ นิสฺสาย ิโต ปตฺถินฺนสฺเนโห. ตตฺถ ยถา หลิทฺทิปิโลติกปฏิจฺฉนฺเน มํสปฺุเช น มํสปฺุโช ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย หลิทฺทิปิโลติกา ิตา’ติ, นาปิ หลิทฺทิปิโลติกา ชานาติ ‘อหํ มํสปฺุชํ นิสฺสาย ิตา’ติ, เอวเมว น สกลสรีเร ชงฺฆาทีสุ วา มํสํ ชานาติ ‘มํ นิสฺสาย เมโท ิโต’ติ, นาปิ เมโท ชานาติ ‘อหํ สกลสรีเร ชงฺฆาทีสุ วา มํสํ นิสฺสาย ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เมโท นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปตฺถินฺนสฺเนโห ปตฺถินฺนยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
อสฺสุ ยทา สฺชายติ ตทา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. ตตฺถ ยถา อุทกปุณฺเณสุ ตรุณตาลฏฺิกูปเกสุ น ตรุณตาลฏฺิกูปกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ อุทกํ ิต’นฺติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ ตรุณตาลฏฺิกูปเกสุ ิต’นฺติ, เอวเมว น อกฺขิกูปกา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ อสฺสุ ิต’นฺติ, นาปิ อสฺสุ ชานาติ ‘อหํ อกฺขิกูปเกสุ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ อสฺสุ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
วสา อคฺคิสนฺตาปาทิกาเล หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิตวิลีนสฺเนโห. ตตฺถ ยถา ปกฺขิตฺตเตเล อาจาเม ¶ น อาจาโม ชานาติ ‘มํ เตลํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ อาจามํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น หตฺถตลาทิปฺปเทโส ชานาติ ‘มํ วสา อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา’ติ, นาปิ วสา ชานาติ ‘อหํ หตฺถตลาทิปฺปเทเส อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ วสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
เขโฬ ตถารูเป เขฬุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา ชิวฺหาย ติฏฺติ. ตตฺถ ยถา อพฺโพจฺฉินฺนอุทกนิสฺสนฺเท นทีตีรกูปเก น กูปตลํ ชานาติ ‘มยิ อุทกํ สนฺติฏฺตี’ติ, นาปิ อุทกํ ชานาติ ‘อหํ กูปตเล สนฺติฏฺามี’ติ ¶ , เอวเมว น ชิวฺหาตลํ ชานาติ ‘มยิ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา เขโฬ ิโต’ติ, นาปิ เขโฬ ชานาติ ‘อหํ อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอโรหิตฺวา ชิวฺหาตเล ิโต’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ เขโฬ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
สิงฺฆาณิกา ยทา สฺชายติ ตทา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. ตตฺถ ยถา ¶ ปูติทธิภริตาย สิปฺปิกาย น สิปฺปิกา ชานาติ ‘มยิ ปูติทธิ ิต’นฺติ, นาปิ ปูติทธิ ชานาติ ‘อหํ สิปฺปิกาย ิต’นฺติ, เอวเมว น นาสาปุฏา ชานนฺติ ‘อมฺเหสุ สิงฺฆาณิกา ิตา’ติ, นาปิ สิงฺฆาณิกา ชานาติ ‘อหํ นาสาปุเฏสุ ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ สิงฺฆาณิกา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
ลสิกา อฏฺิกสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อสีติสตสนฺธีสุ ิตา. ตตฺถ ยถา เตลพฺภฺชิเต อกฺเข น อกฺโข ชานาติ ‘มํ เตลํ อพฺภฺชิตฺวา ิต’นฺติ, นาปิ เตลํ ชานาติ ‘อหํ อกฺขํ อพฺภฺชิตฺวา ิต’นฺติ, เอวเมว น อสีติสตสนฺธโย ชานนฺติ ‘ลสิกา อมฺเห อพฺภฺชิตฺวา ¶ ิตา’ติ, นาปิ ลสิกา ชานาติ ‘อหํ อสีติสตสนฺธโย อพฺภฺชิตฺวา ิตา’ติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ ลสิกา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ.
มุตฺตํ วตฺถิสฺส อพฺภนฺตเร ิตํ. ตตฺถ ยถา จนฺทนิกาย ปกฺขิตฺเต อโธมุเข รวณฆเฏ น รวณฆโฏ ชานาติ ‘มยิ จนฺทนิการโส ิโต’ติ, นาปิ จนฺทนิการโส ชานาติ ‘อหํ รวณฆเฏ ิโต’ติ, เอวเมว น วตฺถิ ชานาติ ‘มยิ มุตฺตํ ิต’นฺติ, นาปิ มุตฺตํ ชานาติ ‘อหํ วตฺถิมฺหิ ิต’นฺติ. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตา เอเต ธมฺมา. อิติ มุตฺตํ นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ยูสภูโต อาพนฺธนากาโร อาโปธาตูติ. ยํ วา ปนาติ อวเสเสสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ อาโปธาตุํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ.
พาหิรอาโปธาตุนิทฺเทเส มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺโต รโส มูลรโส นาม. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. ขีราทีนิ ปากฏาเนว. ยถา ปน เภสชฺชสิกฺขาปเท เอวมิธ นิยโม นตฺถิ. ยํ กิฺจิ ขีรํ ขีรเมว. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ภุมฺมานีติ อาวาฏาทีสุ ิตอุทกานิ. อนฺตลิกฺขานีติ ปถวึ อปฺปตฺตานิ วสฺโสทกานิ. ยํ วา ปนาติ หิโมทกกปฺปวินาสกอุทกปถวีสนฺธารกอุทกาทีนิ อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺานิ.
๑๗๕. เตโชธาตุนิทฺเทเส ¶ เตชนวเสน เตโช. เตโชว เตโชภาวํ คตตฺตา เตโชคตํ. อุสฺมาติ อุณฺหากาโร. อุสฺมาว อุสฺมาภาวํ คตตฺตา อุสฺมาคตํ. อุสุมนฺติ จณฺฑอุสุมํ. ตเทว อุสุมภาวํ คตตฺตา อุสุมคตํ. เยน จาติ เยน เตโชคเตน กุปฺปิเตน. สนฺตปฺปตีติ อยํ กาโย สนฺตปฺปติ, เอกาหิกชราทิภาเวน อุสุมชาโต โหติ. เยน จ ชีรียตีติ เยน อยํ กาโย ชีรียติ, อินฺทฺริยเวกลฺลตํ พลปริกฺขยํ วลิปลิตาทิภาวฺจ ปาปุณาติ. เยน จ ปริฑยฺหตีติ เยน กุปฺปิเตน อยํ กาโย ฑยฺหติ, โส จ ¶ ปุคฺคโล ‘ฑยฺหามิ ฑยฺหามี’ติ กนฺทนฺโต สตโธตสปฺปิโคสีตจนฺทนาทิเลปนฺเจว ตาลวณฺฏวาตฺจ ปจฺจาสีสติ. เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตีติ เยเนตํ อสิตํ วา โอทนาทิ, ปีตํ วา ปานกาทิ, ขายิตํ วา ปิฏฺขชฺชกาทิ, สายิตํ วา อมฺพปกฺกมธุผาณิตาทิ สมฺมา ปริปากํ คจฺฉติ, รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมา ตโย เตโชธาตู จตุสมุฏฺานา, ปจฺฉิโม กมฺมสมุฏฺาโนว. อยํ ตาเวตฺถ ปทสํวณฺณนา.
อิทํ ปน มนสิการวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ ‘เยน สนฺตปฺปติ, อยํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปริปาจนากาโร เตโชธาตู’ติ มนสิ กโรติ; ‘เยน ชีรียติ, เยน ปริฑยฺหติ, เยน อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อยํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ¶ โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต ปริปาจนากาโร เตโชธาตู’ติ มนสิ กโรติ. ยํ วา ปนาติ อิมสฺมึ สรีเร ปากติโก เอโก อุตุ อตฺถิ, โส เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺโ.
พาหิรเตโชธาตุนิทฺเทเส กฏฺํ ปฏิจฺจ ปชฺชลิโต กฏฺุปาทาโน อคฺคิ กฏฺคฺคิ นาม. สกลิกคฺคิอาทีสุปิ เอเสว นโย. สงฺการคฺคีติ กจวรํ สํกฑฺฒิตฺวา ชาลาปิโต กจวรคฺคิ. อินฺทคฺคีติ อสนิอคฺคิ. อคฺคิสนฺตาโปติ ชาลาย วา วีตจฺจิกงฺคารานํ วา สนฺตาโป. สูริยสนฺตาโปติ อาตโป. กฏฺสนฺนิจยสนฺตาโปติ กฏฺราสิฏฺาเน สนฺตาโป. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยํ วา ปนาติ เปตคฺคิ กปฺปวินาสคฺคิ นิรยคฺคิอาทโย อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
๑๗๖. วาโยธาตุนิทฺเทเส วายนวเสน วาโย. วาโยว วาโยภาวํ คตตฺตา วาโยคตํ. ถมฺภิตตฺตํ รูปสฺสาติ อวินิพฺโภครูปสฺส ถมฺภิตภาโว. อุทฺธงฺคมา วาตาติ อุคฺคารหิกฺกาทิ ปวตฺตกา อุทฺธํ อาโรหนวาตา ¶ . อโธคมา วาตาติ อุจฺจารปสฺสาวาทินีหรณกา อโธ โอโรหนวาตา. กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา. โกฏฺาสยา วาตาติ อนฺตานํ อนฺโตวาตา. องฺคมงฺคานุสาริโน วาตาติ ธมนิชาลานุสาเรน สกลสรีเร องฺคมงฺคานิ อนุสฏา สมิฺชนปสารณาทินิพฺพตฺตกา ¶ วาตา. สตฺถกวาตาติ สนฺธิพนฺธนานิ กตฺตริยา ฉินฺทนฺตา วิย ปวตฺตวาตา. ขุรกวาตาติ ขุเรน วิย หทยํ ผาลนวาตา. อุปฺปลกวาตาติ หทยมํสเมว อุปฺปาฏนกวาตา. อสฺสาโสติ ¶ อนฺโตปวิสนนาสิกาวโต. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกาวโต. เอตฺถ จ ปุริมา สพฺเพ จตุสมุฏฺานา, อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตสมุฏฺานาว. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา.
อิทํ ปน มนสิการวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ อุทฺธงฺคมาทิเภเท วาเต อุทฺธงฺคมาทิวเสน ปริคฺคเหตฺวา ‘อุทฺธงฺคมา วาตา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ นิสฺสตฺโต วิตฺถมฺภนากาโร วาโยธาตู’ติ มนสิ กโรติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยํ วา ปนาติ เสเส วาโยโกฏฺาเส อนุคตา วาตา อิธ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
พาหิรวาโยธาตุนิทฺเทเส ปุรตฺถิมา วาตาติ ปุรตฺถิมทิสโต อาคตา วาตา. ปจฺฉิมุตฺตรทกฺขิเณสุปิ เอเสว นโย. สรชา วาตาติ สห รเชน สรชา. อรชา วาตาติ รชวิรหิตา สุทฺธา อรชา นาม. สีตาติ สีตอุตุสมุฏฺานา สีตวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา. อุณฺหาติ อุณฺหอุตุสมุฏฺานา อุณฺหวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา. ปริตฺตาติ มนฺทา ตนุกวาตา. อธิมตฺตาติ พลววาตา. กาฬาติ กาฬวลาหกนฺตเร สมุฏฺิตา, เยหิ อพฺภาหโต ฉวิวณฺโณ กาฬโก โหติ. เตสํ เอตํ อธิวจนนฺติปิ เอเก. เวรมฺภวาตาติ โยชนโต อุปริ วายนวาตา. ปกฺขวาตาติ อนฺตมโส มกฺขิกายปิ ปกฺขายูหนสมุฏฺิตา วาตา. สุปณฺณวาตาติ ครุฬวาตา. กามฺจ อิเมปิ ปกฺขวาตาว อุสฺสทวเสน ปน วิสุํ คหิตา. ตาลวณฺฏวาตาติ ตาลปณฺเณหิ วา อฺเน วา เกนจิ มณฺฑลสณฺาเนน สมุฏฺาปิตา วาตา. วิธูปนวาตาติ พีชนปตฺตเกน สมุฏฺาปิตา วาตา. อิมานิ จ ตาลวณฺฏวิธูปนานิ อนุปฺปนฺนมฺปิ วาตํ อุปฺปาเทนฺติ, อุปฺปนฺนมฺปิ ปริวตฺเตนฺติ. ยํ วา ปนาติ อิธ ปาฬิอาคเต เปตฺวา เสสวาตา เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺา.
๑๗๗. อากาสธาตุนิทฺเทเส ¶ อปฺปฏิฆฏฺฏนฏฺเน น กสฺสตีติ อากาโส. อากาโสว อากาสภาวํ คตตฺตา อากาสคตํ. อฆฏฺฏนียตาย ¶ อฆํ. อฆเมว อฆภาวํ คตตฺตา อฆคตํ ¶ . วิวโรติ อนฺตรํ. ตเทว วิวรภาวํ คตตฺตา วิวรคตํ. อสมฺผุฏฺํ มํสโลหิเตหีติ มํสโลหิเตหิ นิสฺสฏํ. กณฺณจฺฉิทฺทนฺติอาทิ ปน ตสฺเสว ปเภททสฺสนํ. ตตฺถ กณฺณจฺฉิทฺทนฺติ กณฺณสฺมึ ฉิทฺทํ วิวรํ มํสโลหิเตหิ อสมฺผุฏฺโกาโส. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เยนาติ เยน วิวเรน เอตํ อสิตาทิเภทํ อชฺโฌหรณียํ อชฺโฌหรติ, อนฺโต ปเวเสติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อนฺโตอุทรปฏลสงฺขาเต โอกาเส เอตเทว จตุพฺพิธํ อชฺโฌหรณียํ ติฏฺติ. เยนาติ เยน วิวเรน สพฺพมฺเปตํ วิปกฺกํ กสฏภาวํ อาปนฺนํ นิกฺขมติ, ตํ อุทรปฏลโต ยาว กรีสมคฺคา วิทตฺถิจตุรงฺคุลมตฺตํ ฉิทฺทํ มํสโลหิเตหิ อสมฺผุฏฺํ นิสฺสฏํ อากาสธาตูติ เวทิตพฺพํ. ยํ วา ปนาติ เอตฺถ จมฺมนฺตรํ มํสนฺตรํ นฺหารุนฺตรํ อฏฺินฺตรํ โลมนฺตรนฺติ อิทํ สพฺพํ เยวาปนกฏฺานํ ปวิฏฺํ.
พาหิรกอากาสธาตุนิทฺเทเส อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหีติ จตูหิ มหาภูเตหิ นิสฺสฏํ ภิตฺติฉิทฺทกวาฏฉิทฺทาทิกํ เวทิตพฺพํ. อิมินา ยสฺมึ อากาเส ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ ตํ กถิตํ.
๑๗๘. วิฺาณธาตุนิทฺเทเส จกฺขุวิฺาณสงฺขาตา ธาตุ จกฺขุวิฺาณธาตุ. เสสาสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิมาสุ ฉสุ ธาตูสุ ปริคฺคหิตาสุ อฏฺารส ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. กถํ? ปถวีเตโชวาโยธาตุคฺคหเณน ตาว โผฏฺพฺพธาตุ คหิตาว โหติ, อาโปธาตุอากาสธาตุคฺคหเณน ธมฺมธาตุ, วิฺาณธาตุคฺคหเณน ตสฺสา ปุเรจาริกปจฺฉาจาริกตฺตา มโนธาตุ คหิตาว โหติ. จกฺขุวิฺาณธาตุอาทโย สุตฺเต อาคตา เอว. เสสา นว อาหริตฺวา ทสฺเสตพฺพา ¶ . จกฺขุวิฺาณธาตุคฺคหเณน หิ ตสฺสา นิสฺสยภูตา จกฺขุธาตุ, อารมฺมณภูตา รูปธาตุ จ คหิตาว โหนฺติ. เอวํ โสตวิฺาณธาตุอาทิคฺคหเณน โสตธาตุอาทโยติ อฏฺารสาปิ คหิตาว โหนฺติ. ตาสุ ทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโห กถิโต โหติ. สตฺตหิ อรูปปริคฺคโห. ธมฺมธาตุยา สิยา รูปปริคฺคโห, สิยา อรูปปริคฺคโห. อิติ อฑฺเฒกาทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโห, อฑฺฒฏฺธาตูหิ อรูปปริคฺคโหติ รูปารูปปริคฺคโห กถิโต โหติ. รูปารูปํ ปฺจกฺขนฺธา. ตํ โหติ ทุกฺขสจฺจํ. ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ ¶ . อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ. ตํปชานโน มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ อิทํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ อฏฺารสธาตุวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา มตฺถกํ ปาเปตฺวา นิคมนํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๗๙. อิทานิ ¶ ทุติยฉกฺกํ ทสฺเสนฺโต อปราปิ ฉ ธาตุโยติอาทิมาห. ตตฺถ สุขธาตุ ทุกฺขธาตูติ กายปฺปสาทวตฺถุกานิ สุขทุกฺขานิ สปฺปฏิปกฺขวเสน ยุคฬกโต ทสฺสิตานิ. สุขฺหิ ทุกฺขสฺส ปฏิปกฺโข, ทุกฺขํ สุขสฺส. ยตฺตกํ สุเขน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ ทุกฺขํ ผรติ. ยตฺตกํ ทุกฺเขน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ สุขํ ผรติ. โสมนสฺสธาตุ โทมนสฺสธาตูติ อิทมฺปิ ตเถว ยุคฬกํ กตํ. โสมนสฺสฺหิ โทมนสฺสสฺส ปฏิปกฺโข, โทมนสฺสํ โสมนสฺสสฺส. ยตฺตกํ โสมนสฺเสน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ โทมนสฺสํ ผรติ. ยตฺตกํ โทมนสฺเสน ผริตฏฺานํ ตตฺตกํ โสมนสฺสํ ผรติ.
อุเปกฺขาธาตุ อวิชฺชาธาตูติ อิทํ ปน ทฺวยํ สริกฺขกวเสน ยุคฬกํ กตํ. อุภยมฺปิ เหตํ อวิภูตตฺตา สริกฺขกํ โหติ. ตตฺถ สุขทุกฺขธาตุคฺคหเณน ตํ สมฺปยุตฺตา กายวิฺาณธาตุ, วตฺถุภูตา กายธาตุ, อารมฺมณภูตา โผฏฺพฺพธาตุ จ คหิตาว โหนฺติ. โสมนสฺสโทมนสฺสธาตุคฺคหเณน ตํ สมฺปยุตฺตา มโนวิฺาณธาตุ คหิตา โหติ. อวิชฺชาธาตุคฺคหเณน ธมฺมธาตุ คหิตา. อุเปกฺขาธาตุคฺคหเณน จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตุมโนธาตุโย ¶ , ตาสํเยว วตฺถารมฺมณภูตา จกฺขุธาตุรูปธาตุอาทโย จ คหิตาติ เอวํ อฏฺารสปิ ธาตุโย คหิตาว โหนฺติ. อิทานิ ตาสุ ทสหิ ธาตูหิ รูปปริคฺคโหติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา มตฺถกํ ปาเปตฺวา นิคมนํ กถิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตมา สุขธาตุ ยํ กายิกํ สาตนฺติ อาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.
๑๘๑. ตติยฉกฺเก กาโมติ ทฺเว กามา – วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จ. ตตฺถ กิเลสกามํ สนฺธาย กามปฏิสํยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. วตฺถุกามํ สนฺธาย กาโมเยว ธาตุ กามธาตุ, กามาวจรธมฺมานเมตํ นามํ. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. พฺยาปาโทว ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, ทสอาฆาตวตฺถุกสฺส ¶ ปฏิฆสฺเสตํ นามํ. วิหึสา ปฏิสํยุตฺตา ธาตุ วิหึสาธาตุ, วิหึสาวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. วิหึสาเยว ธาตุ วิหึสาธาตุ, ปรสตฺตวิเหสนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน เหฏฺา อนาคตตฺตา เอวํ อตฺถาทิวิภาคโต เวทิตพฺพา – วิหึสนฺติ เอตาย สตฺเต, วิหึสนํ วา เอตํ สตฺตานนฺติ วิหึสา. สา วิเหนลกฺขณา, กรุณาปฏิปกฺขลกฺขณา วา; ปรสนฺตาเน อุพฺเพคชนนรสา, สกสนฺตาเน กรุณาวิทฺธํสนรสา วา; ทุกฺขายตนปจฺจุปฏฺานา; ปฏิฆปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา. เนกฺขมฺมํ ¶ วุจฺจติ โลภา นิกฺขนฺตตฺตา อโลโภ, นีวรเณหิ นิกฺขนฺตตฺตา ปมชฺฌานํ, สพฺพากุสเลหิ นิกฺขนฺตตฺตา สพฺพกุสลํ. เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺตา ธาตุ เนกฺขมฺมธาตุ, เนกฺขมฺมวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. เนกฺขมฺมเมว ธาตุ เนกฺขมฺมธาตุ, สพฺพสฺสาปิ กุสลสฺเสตํ นามํ. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา ธาตุ อพฺยาปาทธาตุ, อพฺยาปาทวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. อพฺยาปาโทว ธาตุ อพฺยาปาทธาตุ, เมตฺตาเยตํ นามํ. อวิหึสาปฏิสํยุตฺตา ธาตุ อวิหึสาธาตุ, อวิหึสา วิตกฺกสฺเสตํ ¶ นามํ. อวิหึสาว ธาตุ อวิหึสาธาตุ, กรุณาเยตํ นามํ.
๑๘๒. อิทานิ ตเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา กามธาตูติ ปทภาชนํ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฏิสํยุตฺโตติ สํปโยควเสน ปฏิสํยุตฺโต. ตกฺโก วิตกฺโกติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. วิเหเตีติ พาเธติ, ทุกฺขาเปติ. เหนาติ ปาณิปฺปหาราทีหิ พาธนา, ทุกฺขุปฺปาทนา. พลวเหนา วิเหนา. หึสนฺติ เอตายาติ หึสนา. พลวหึสนา วิหึสนา. โรสนาติ ฆฏฺฏนา. วิโรสนาติ พลวฆฏฺฏนา. สพฺพตฺถ วา ‘วิ’ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อุปหนนฺติ เอเตนาติ อุปฆาโต, ปเรสํ อุปฆาโต ปรูปฆาโต.
เมตฺตายนฺติ เอตายาติ เมตฺติ. เมตฺตายนากาโร เมตฺตายนา. เมตฺตาย อยิตสฺส เมตฺตาสมงฺคิโน ภาโว เมตฺตายิตตฺตํ. พฺยาปาเทน วิมุตฺตสฺส เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ. เอตฺถ จ ปุริเมหิ ตีหิ อุปจารปฺปตฺตาปิ อปฺปนาปตาปิ เมตฺตา กถิตา, ปจฺฉิเมน อปฺปนาปตฺตาว.
กรุณายนฺติ ¶ เอตายาติ กรุณา. กรุณายนากาโร กรุณายนา. กรุณาย อยิตสฺส กรุณาสมงฺคิโน ภาโว กรุณายิตตฺตํ. วิหึสาย วิมุตฺตสฺส เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ. อิธาปิ ปุริมนเยเนว อุปจารปฺปนาเภโท เวทิตพฺโพ. อุภยตฺถาปิ จ ปริโยสานปเท เมตฺตากรุณาติ เจโตวิมุตฺติวิเสสนตฺถํ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ กามวิตกฺโก สตฺเตสุปิ อุปฺปชฺชติ สงฺขาเรสุปิ. อุภยตฺถ อุปฺปนฺโนปิ กมฺมปถเภโทว. พฺยาปาโท ปน สตฺเตสุ อุปฺปนฺโนเยว กมฺมปถํ ภินฺทติ, น อิตโร. วิหึสายปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ทุวิธา กถา – สพฺพสงฺคาหิกา เจว อสมฺภินฺนา จ. กามธาตุคฺคหเณน หิ พฺยาปาทวิหึสาธาตุโยปิ คหิตา. กามธาตุยาเยว ปน นีหริตฺวา นีหริตฺวา ทฺเวปิ เอตา ทสฺสิตาติ. อยํ ตาเวตฺถ สพฺพสงฺคาหิกกถา ¶ . เปตฺวา ปน พฺยาปาทวิหึสาธาตุโย เสสา สพฺพาปิ ¶ กามธาตุ เอวาติ. อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม. เนกฺขมฺมธาตุคฺคหเณนาปิ อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย คหิตาเยว. เนกฺขมฺมธาตุโต ปน นีหริตฺวา นีหริตฺวา ตทุภยมฺปิ ทสฺสิตนฺติ อยเมตฺถาปิ สพฺพสงฺคาหิกกถา. เปตฺวา อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย อวเสสา เนกฺขมฺมธาตูติ อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม.
อิมาหิ จ ฉหิ ธาตูหิ ปริคฺคหิตา หิ อฏฺารส ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. สพฺพาปิ หิ ตา กามธาตุโตว นีหริตฺวา นีหริตฺวา ลภาเปตพฺพา อฏฺารส ธาตุโยว โหนฺตีติ ติณฺณํ ฉกฺกานํ วเสน อฏฺารส โหนฺติ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา เอเกกสฺมึ ฉกฺเก วุตฺตนเยน อฏฺารส อฏฺารส กตฺวา สพฺพานิปิ ตานิ อฏฺารสกานิ เอกชฺฌํ อภิสงฺขิปิตฺวา อฏฺารเสว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว เตภูมิกาติ เอวเมตฺถ สมฺมสนจาโรว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๘๓. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ สรูเปเนว สพฺพาปิ ธาตุโย ทสฺเสนฺโต อฏฺารส ธาตุโย – จกฺขุธาตุ รูปธาตูติอาทิมาห. ตตฺถ อุทฺเทสวาเร ตาว –
อตฺถโต ลกฺขณาทิโต, กมตาวตฺวสงฺขโต;
ปจฺจยา อถ ทฏฺพฺพา, เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘อตฺถโต’ติ จกฺขตีติ จกฺขุ. รูปยตีติ รูปํ. จกฺขุสฺส วิฺาณํ จกฺขุวิฺาณนฺติ เอวมาทินา ตาว นเยน จกฺขาทีนํ วิเสสตฺถโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. อวิเสเสน ปน วิทหติ, ธียเต, วิธานํ, วิธียเต เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตุ. โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา หุตฺวา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิย สุวณฺณรชตาทึ ¶ อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ ¶ ; ภารหาเรหิ จ ภาโร วิย สตฺเตหิ ธียนฺเต ธารียนฺเตติ อตฺโถ. ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา อวสวตฺตนโต. เอตาหิ จ กรณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สตฺเตหิ อนุวิธียติ; ตถาวิหิตฺเจตํ เอตาสฺเวว ธียติ ปียตีติ อตฺโถ. อิติ จกฺขาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาสมฺภวํ วิทหติ ธียเตติอาทิอตฺถวเสน ธาตูติ วุจฺจติ.
อปิจ ยถา ติตฺถิยานํ อตฺตา นาม สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตา. เอตา ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. ยถา จ โลเก วิจิตฺตา หริตาลมโนสิลาทโย สิลาวยวา ธาตุโยติ วุจฺจนฺติ, เอวเมตาปิ ธาตุโย วิย ธาตุโย. วิจิตฺตา เหตา าณเยฺยาวยวาติ. ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อฺมฺํ วิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺเนสุ ธาตุสมฺา, เอวเมเตสุปิ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส อวยเวสุ ธาตุสมฺา เวทิตพฺพา. อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺนา เหเต จกฺขาทโยติ. อปิจ ธาตูติ นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตถา หิ ภควา – ‘‘ฉ ธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๓-๓๔๔) ชีวสฺาสมูหนตฺถํ ธาตุเทสนํ อกาสีติ. ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุ ¶ …เป… มโนวิฺาณฺจ ตํ ธาตุ จาติ มโนวิฺาณธาตูติ เอวํ ตาเวตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทิโต’ติ จกฺขาทีนํ ลกฺขณาทิโต เปตฺถ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. ตานิ จ ปน เตสํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
‘กมโต’ติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ อุปฺปตฺติกฺกมาทีสุ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. โส จ ปนายํ เหตุผลานุปุพฺพววตฺถานวเสน วุตฺโต. จกฺขุธาตุ รูปธาตูติ อิทฺหิ ทฺวยํ เหตุ. จกฺขุวิฺาณธาตูติ ผลํ. เอวํ สพฺพตฺถ กมโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ตาวตฺวโต’ติ ตาวภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตสุ เตสุ หิ สุตฺตาภิธมฺมปเทเสสุ อาภาธาตุ, สุภธาตุ, อากาสานฺจายตนธาตุ, วิฺาณฺจายตนธาตุ, อากิฺจฺายตนธาตุ ¶ , เนวสฺานาสฺายตนธาตุ, สฺาเวทยิตนิโรธธาตุ, กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ, เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหึสาธาตุ, สุขธาตุ, ทุกฺขธาตุ, โสมนสฺสธาตุ, โทมนสฺสธาตุ, อุเปกฺขาธาตุ ¶ , อวิชฺชาธาตุ, อารมฺภธาตุ, นิกฺกมธาตุ, ปรกฺกมธาตุ, หีนธาตุ, มชฺฌิมธาตุ, ปณีตธาตุ, ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ, สงฺขตธาตุ, อสงฺขตธาตุ, อเนกธาตุนานาธาตุโลโกติ เอวมาทโย อฺาปิ ธาตุโย ทิสฺสนฺติ.
เอวํ สติ สพฺพาสํ วเสน ปริจฺเฉทํ อกตฺวา กสฺมา อฏฺารสาติ อยเมว ปริจฺเฉโท กโตติ เจ? สภาวโต วิชฺชมานานํ สพฺพธาตูนํ ตทนฺโตคธตฺตา. รูปธาตุเยว หิ อาภาธาตุ. สุภธาตุ ปน รูปาทิปฺปฏิพทฺธา. กสฺมา? สุภนิมิตฺตตฺตา. สุภนิมิตฺตฺหิ สุภธาตุ. ตฺจ รูปาทิวินิมุตฺตํ น วิชฺชติ, กุสลวิปาการมฺมณา วา รูปาทโย เอว สุภธาตูติ รูปาทิมตฺตเมเวสา. อากาสานฺจายตนธาตุอาทีสุ จิตฺตํ มโนวิฺาณธาตุ. เสสา ธมฺมา ธมฺมธาตุ. สฺาเวทยิตนิโรธธาตุ ปน สภาวโต นตฺถิ; ธาตุทฺวยนิโรธมตฺตเมว หิ สา. กามธาตุ ธมฺมธาตุมตฺตํ วา โหติ, ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก …เป… มิจฺฉาสงฺกปฺโป’’ติ; อฏฺารสปิ ธาตุโย ¶ วา, ยถาห ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา, รูปา, เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ – อยํ วุจฺจติ กามธาตู’’ติ. เนกฺขมฺมธาตุ ธมฺมธาตุ เอว; ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตู’’ติ วา วจนโต มโนวิฺาณธาตุปิ โหติเยว. พฺยาปาทวิหึสาอพฺยาปาทอวิหึสาสุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขาอวิชฺชาอารมฺภนิกฺกมปรกฺกมธาตุโย ธมฺมธาตุเยว.
หีนมชฺฌิมปณีตธาตุโย อฏฺารสธาตุมตฺตเมว. หีนา หิ จกฺขาทโย หีนธาตุ. มชฺฌิมปณีตา จกฺขาทโย มชฺฌิมา เจว ปณีตา จ ธาตู. นิปฺปริยาเยน ปน อกุสลา ¶ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย หีนธาตุ. โลกิยา กุสลาพฺยากตา อุโภปิ จกฺขุธาตุอาทโย จ มชฺฌิมธาตุ. โลกุตฺตรา ปน ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย ปณีตธาตุ. ปถวีเตโชวาโยธาตุโย โผฏฺพฺพธาตุเยว. อาโปธาตุ อากาสธาตุ จ ธมฺมธาตุเยว. วิฺาณธาตุ จกฺขุวิฺาณาทิสตฺตวิฺาณธาตุสงฺเขโปเยว. สตฺตรส ธาตุโย ธมฺมธาตุเอกเทโส จ สงฺขตธาตุ. อสงฺขตธาตุ ปน ธมฺมธาตุเอกเทโสว. อเนกธาตุนานาธาตุโลโก ปน อฏฺารสธาตุปฺปเภทมตฺตเมวาติ. อิติ สภาวโต วิชฺชมานานํ สพฺพธาตูนํ ตทนฺโตคธตฺตา อฏฺารเสว วุตฺตาติ.
อปิจ วิชานนสภาเว วิฺาเณ ชีวสฺีนํ ชีวสฺาสมูหนตฺถมฺปิ อฏฺารเสว วุตฺตา ¶ . สนฺติ หิ สตฺตา วิชานนสภาเว วิฺาเณ ชีวสฺิโน. เตสํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณมโนวิฺาณธาตุเภเทน ตสฺสา อเนกตฺตํ, จกฺขุรูปาทิปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อนิจฺจตฺจ ปกาเสตฺวา ทีฆรตฺตานุสยิตํ ชีวสฺํ สมูหนิตุกาเมน ภควตา อฏฺารส ธาตุโย ปกาสิตา. กิฺจ ภิยฺโย? ตถา เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน; เย จ อิมาย นาติสงฺเขปวิตฺถาราย เทสนาย เวเนยฺยา สตฺตา, ตทชฺฌาสยวเสน จ อฏฺารเสว ปกาสิตา.
สงฺเขปวิตฺถารนเยน ¶ ตถา ตถา หิ,
ธมฺมํ ปกาสยติ เอส ยถา ยถาสฺส;
สทฺธมฺมเตชวิหตํ วิลยํ ขเณน,
เวเนยฺยสตฺตหทเยสุ ตโม ปยาตีติ.
เอวเมตฺถ ‘ตาวตฺวโต’ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺขโต’ติ จกฺขุธาตุ ตาว ชาติโต เอโก ธมฺโมตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ จกฺขุปสาทวเสน. ตถา โสตฆานชิวฺหากายรูปสทฺทคนฺธรสธาตุโย โสตปสาทาทิวเสน. โผฏฺพฺพธาตุ ปน ปถวีเตโชวาโยวเสน ตโย ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. จกฺขุวิฺาณธาตุ กุสลากุสลวิปากวเสน ทฺเว ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. ตถา ¶ โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณธาตุโย. มโนธาตุ ปน ปฺจทฺวาราวชฺชนกุสลากุสลวิปากสมฺปฏิจฺฉนวเสน ตโย ธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. ธมฺมธาตุ ติณฺณํ อรูปกฺขนฺธานํ, โสฬสนฺนํ สุขุมรูปานํ, อสงฺขตาย จ ธาตุยา วเสน วีสติธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉติ. มโนวิฺาณธาตุ เสสกุสลากุสลาพฺยากตวิฺาณวเสน ฉสตฺตติธมฺมาติ สงฺขํ คจฺฉตีติ เอวเมตฺถ ‘สงฺขโต’ เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปจฺจยา’ติ จกฺขุธาตุอาทีนํ จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีสุ ปจฺจยโต เวทิตพฺโพ วินิจฺฉโย. โส ปเนเตสํ ปจฺจยภาโว นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ.
‘ทฏฺพฺพา’ติ ทฏฺพฺพโตเปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. สพฺพา เอว หิ สงฺขตา ธาตุโย ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิวิตฺตโต, ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺุโต, ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต จ ทฏฺพฺพา. วิเสสโต ปเนตฺถ เภริตลํ วิย จกฺขุธาตุ ทฏฺพฺพา, ทณฺโฑ วิย รูปธาตุ, สทฺโท วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ ¶ . ตถา อาทาสตลํ วิย จกฺขุธาตุ, มุขํ วิย รูปธาตุ, มุขนิมิตฺตํ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. อถ วา อุจฺฉุติลานิ วิย จกฺขุธาตุ, ยนฺตจกฺกยฏฺิ วิย รูปธาตุ, อุจฺฉุรสเตลานิ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. ตถา อธรารณี วิย จกฺขุธาตุ, อุตฺตรารณี วิย รูปธาตุ, อคฺคิ วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. เอส นโย โสตธาตุอาทีสุปิ.
มโนธาตุ ปน ยถาสมฺภวโต จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีนํ ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพา. ธมฺมธาตุยา เวทนากฺขนฺโธ สลฺลมิว สูลมิว จ ทฏฺพฺโพ ¶ ; สฺาสงฺขารกฺขนฺธา เวทนาสลฺลสูลโยคา อาตุรา วิย; ปุถุชฺชนานํ วา สฺา อาสาทุกฺขชนนโต ริตฺตมุฏฺิ วิย, อยถาภุจฺจนิมิตฺตคฺคาหกโต วนมิโค วิย; สงฺขารา ปฏิสนฺธิยํ ปกฺขิปนโต องฺคารกาสุยํ ขิปนกปุริโส วิย, ชาติทุกฺขานุพนฺธนโต ราชปุริสานุพนฺธโจรา วิย, สพฺพานตฺถาวหสฺส ขนฺธสนฺตานสฺส เหตุโต วิสรุกฺขพีชานิ วิย; รูปํ นานาวิธูปทฺทวนิมิตฺตโต ขุรจกฺกํ วิย ทฏฺพฺพํ.
อสงฺขตา ปน ธาตุ อมตโต สนฺตโต เขมโต จ ทฏฺพฺพา. กสฺมา? สพฺพานตฺถปฏิปกฺขภูตตฺตา. มโนวิฺาณธาตุ คหิตารมฺมณํ ¶ มฺุจิตฺวาปิ อฺํ คเหตฺวาว ปวตนโต วนมกฺกโฏ วิย, ทุทฺทมนโต อสฺสขฬุงฺโก วิย, ยตฺถกามนิปาติโต เวหาสํ ขิตฺตทณฺโฑ วิย, โลภโทสาทินานปฺปการกิเลสโยคโต รงฺคนโฏ วิย ทฏฺพฺโพติ.
๑๘๔. นิทฺเทสวาเร จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จาติ อิทฺจ ทฺวยํ ปฏิจฺจ อฺฺจ กิริยามโนธาตฺุเจว สมฺปยุตฺตขนฺธตฺตยฺจาติ อตฺโถ. จกฺขุวิฺาณธาตุยา หิ จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย โหติ, รูปํ อารมฺมณปจฺจโย, กิริยมโนธาตุ วิคตปจฺจโย, ตโย อรูปกฺขนฺธา สหชาตปจฺจโย. ตสฺมา เอสา จกฺขุวิฺาณธาตุ อิเม จตฺตาโร ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ นาม. โสตฺจ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
นิรุทฺธสมนนฺตราติ นิรุทฺธาย สมนนฺตรา. ตชฺชา มโนธาตูติ ตสฺมึ อารมฺมเณ ชาตา กุสลากุสลวิปากโต ทุวิธา มโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจา. สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโรติ เอเตสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ สพฺพธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ ปมสมนฺนาหาโร; จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีนํ ¶ วา อารมฺมณสงฺขาเตสุ สพฺพธมฺเมสุ ปมสมนฺนาหาโรติ อยเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตน ปฺจทฺวาราวชฺชนกิจฺจา กิริยมโนธาตุ คหิตาติ เวทิตพฺพา.
มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตราติ เอตฺถ ปิ-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ. ตสฺมา มโนธาตุยาปิ มโนวิฺาณธาตุยาปีติ อยเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตน ยา จ วิปากมโนธาตุยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ สนฺตีรณกิจฺจา วิปากมโนวิฺาณธาตุ, ยา จ ตสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ โวฏฺพฺพนกิจฺจา กิริยมโนวิฺาณธาตุ, ยา จ ตสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย ¶ สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ ชวนกิจฺจา มโนวิฺาณธาตุ – ตา สพฺพาปิ กถิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. มนฺจ ปฏิจฺจาติ ภวงฺคมนํ. ธมฺเม จาติ จตุภูมิกธมฺมารมฺมณํ. อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณนฺติ สหาวชฺชนกํ ชวนํ นิพฺพตฺตติ.
อิมสฺมึ ปน าเน หตฺเถ คหิตปฺหํ นาม คณฺหึสุ. มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร กิร นาม ทีฆภาณกาภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา อาห – ‘ปฏิจฺจาติ นาม อาคตฏฺาเน ¶ อาวชฺชนํ วิสุํ น กาตพฺพํ, ภวงฺคนิสฺสิตกเมว กาตพฺพ’นฺติ. ตสฺมา อิธ มโนติ สหาวชฺชนกํ ภวงฺคํ. มโนวิฺาณนฺติ ชวนมโนวิฺาณํ. อิมสฺมึ ปน อภิธมฺมภาชนีเย โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมิกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๑๘๕. ปฺหาปุจฺฉเก อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน ฉ ธาตุโย ปริตฺตารมฺมณาติ อิทํ ปน ปฺจนฺนํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ มโนธาตุยา จ เอกนฺเตน ปฺจสุ รูปารมฺมณาทีสุ ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว ธาตุโยติ วุตฺตานํ ปน ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ มนายตนธมฺมายตเนสุ วุตฺตนเยเนว ปริตฺตารมฺมณาทิตา ¶ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมิมฺปิ ปฺหาปุจฺฉเก โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมิกา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา. เอวมยํ ธาตุวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา เทสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ธาตุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สจฺจวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๘๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สจฺจวิภงฺเค จตฺตารีติ คณนปริจฺเฉโท. อริยสจฺจานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทิมฺหิ ปน อุทฺเทสวาเร –
วิภาคโต นิพฺพจน-ลกฺขณาทิปฺปเภทโต;
อตฺถตฺถุทฺธารโต เจว, อนูนาธิกโต ตถา.
กมโต อริยสจฺเจสุ, ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต;
อนฺโตคธานํ ปเภโท, อุปมาโต จตุกฺกโต.
สฺุเตกวิธาทีหิ, สภาควิสภาคโต;
วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ, วิฺุนา สาสนกฺกเม.
ตตฺถ ‘วิภาคโต’ติ ทุกฺขาทีนฺหิ จตฺตาโร จตฺตาโร อตฺถา วิภตฺตา ตถา อวิตถา อนฺถา, เย ทุกฺขาทีนิ อภิสเมนฺเตหิ อภิสเมตพฺพา. ยถาห, ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปริณามฏฺโ – อิเม จตฺตาโร ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ, นิทานฏฺโ, สํโยคฏฺโ, ปลิโพธฏฺโ…เป… นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ, วิเวกฏฺโ, อสงฺขตฏฺโ, อมตฏฺโ…เป… มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ, เหตฺวฏฺโ, ทสฺสนฏฺโ, อาธิปเตยฺยฏฺโ – อิเม จตฺตาโร มคฺคสฺส มคฺคฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๘). ตถา ¶ ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปรินามฏฺโ, อภิสมยฏฺโ’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๑) เอวมาทิ. อิติ เอวํ วิภตฺตานํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ อตฺถานํ วเสน ทุกฺขาทีนิ เวทิตพฺพานีติ. อยํ ตาเวตฺถ วิภาคโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘นิพฺพจนลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ‘นิพฺพจนโต’ ตาว อิธ ‘ทุ’อิติ อยํ สทฺโท กุจฺฉิเต ทิสฺสติ; กุจฺฉิตฺหิ ปุตฺตํ ทุปุตฺโตติ วทนฺติ. ‘ขํ’สทฺโท ปน ตุจฺเฉ; ตุจฺฉฺหิ อากาสํ ขนฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ ปมสจฺจํ กุจฺฉิตํ อเนกอุปทฺทวาธิฏฺานโต, ตุจฺฉํ พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตโต. ตสฺมา กุจฺฉิตตฺตา ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ. ‘สํ’อิติ จ อยํ ¶ สทฺโท ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๙๙; ที. นิ. ๒.๓๙๖) สํโยคํ ทีเปติ; ‘อุ’อิติ อยํ สทฺโท ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑๗๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๑) อุปฺปตฺตึ. ‘อย’สทฺโท ปน การณํ ทีเปติ. อิทฺจาปิ ทุติยสจฺจํ อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติการณํ. อิติ ทุกฺขสฺส สํโยเค อุปฺปตฺติการณตฺตา ทุกฺขสมุทยนฺติ วุจฺจติ.
ตติยสจฺจํ ปน ยสฺมา ‘นิ’สทฺโท อภาวํ ‘โรธ’สทฺโท จ จารกํ ทีเปติ, ตสฺมา อภาโว เอตฺถ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส สพฺพคติสฺุตฺตา, สมธิคเต วา ตสฺมึ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส อภาโว โหติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตาติปิ ทุกฺขนิโรธนฺติ วุจฺจติ, ทุกฺขสฺส วา อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรธนฺติ. จตุตฺถสจฺจํ ปน ยสฺมา เอตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ อารมฺมณวเสน ตทภิมุขีภูตตฺตา, ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปเนตานิ พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘จตาริมานิ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๗). กตมานิ…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. อริยา อิมานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อปิจ อริยสฺส สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อริโย, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อถ วา เอเตสํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา อริยภาวสิทฺธิโตปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ¶ ยถาภูตํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ‘อริโย’ติ วุจฺจตี’’ติ. อปิจ โข ปน อริยานิ ¶ สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ; อริยานีติ ตถานิ อวิตถานิ อวิสํวาทกานีติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. เอวเมตฺถ นิพฺพจนโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’? เอตฺถ หิ พาธนลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ, สนฺตาปนรสํ, ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวลกฺขณํ สมุทยสจฺจํ, อนุปจฺเฉทกรณรสํ, ปลิโพธปจฺจุปฏฺานํ. สนฺติลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ, อจฺจุติรสํ, อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ ¶ . นิยฺยานลกฺขณํ มคฺคสจฺจํ, กิเลสปฺปหานกรณรสํ, วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ. อปิจ ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตกลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา. ตถา สงฺขตตณฺหาอสงฺขตทสฺสนลกฺขณานิ จาติ เอวเมตฺถ ‘ลกฺขณาทิปฺปเภทโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อตฺถตฺถุทฺธารโต เจวา’ติ เอตฺถ ปน อตฺถโต ตาว โก สจฺจฏฺโติ เจ? โย ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขมานานํ มายาว วิปรีตโก, มรีจีว วิสํวาทโก, ติตฺถิยานํ อตฺตาว อนุปลพฺภสภาโว จ น โหติ; อถ โข พาธนปภวสนฺตินิยฺยานปฺปกาเรน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน อริยาณสฺส โคจโร โหติเยว; เอส อคฺคิลกฺขณํ วิย, โลกปกติ วิย จ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว สจฺจฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. อปิจ –
นาพาธกํ ยโต ทุกฺขํ, ทุกฺขา อฺํ น พาธกํ;
พาธกตฺตนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
ตํ วินา นาฺโต ทุกฺขํ, น โหติ น จ ตํ ตโต;
ทุกฺขเหตุนิยาเมน, อิติ สจฺจํ วิสตฺติกา.
นาฺา นิพฺพานโต สนฺติ, สนฺตํ น จ น ตํ ยโต;
สนฺตภาวนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
มคฺคา ¶ อฺํ น นิยฺยานํ, อนิยฺยาโน น จาปิ โส;
ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา, อิติ โส สจฺจสมฺมโต.
อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาส-ภูตภาวํ จตูสุปิ;
ทุกฺขาทีสฺววิเสเสน, สจฺจฏฺํ อาหุ ปณฺฑิตาติ.
เอวํ ¶ ‘อตฺถโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
กถํ ‘อตฺถุทฺธารโต’? อิธายํ ‘สจฺจ’สทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘สจฺจํ ภเณ, น กุชฺเฌยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๒๔) วาจาสจฺเจ. ‘‘สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๔๓๓) วิรติสจฺเจ. ‘‘กสฺมา นุ สจฺจานิ ¶ วทนฺติ นานา, ปวาทิยาเส กุสลาวทานา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๑) ทิฏฺิสจฺเจ. ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๐) ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน เจว มคฺเค จ. ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๑๖) อริยสจฺเจ. สฺวายมิธาปิ อริยสจฺเจ วตฺตตีติ เอวเมตฺถ ‘อตฺถุทฺธารโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนูนาธิกโต’ติ กสฺมา ปน จตฺตาเรว อริยสจฺจานิ วุตฺตานิ, อนูนานิ อนธิกานีติ เจ? อฺสฺสาสมฺภวโต, อฺตรสฺส จ อนปเนยฺยภาวโต; น หิ เอเตหิ อฺํ อธิกํ วา เอเตสํ วา เอกมฺปิ อปเนตพฺพํ สมฺโภติ. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เปตฺวา อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ. ยถา จาห – ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย ‘เนตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ, ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ. อหเมตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปจฺจกฺขาย อฺํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๖).
อปิจ ปวตฺติมาจิกฺขนฺโต ภควา สเหตุกํ อาจิกฺขิ, นิวตฺติฺจ สอุปายํ. อิติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตูนํ ¶ เอตปฺปรมโต จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตถา ปริฺเยฺย ปหาตพฺพ สจฺฉิกาตพฺพ ภาเวตพฺพานํ, ตณฺหาวตฺถุตณฺหาตณฺหานิโรธตณฺหานิโรธุปายานํ, อาลยาลยรามตาอาลยสมุคฺฆาตอาลยสมุคฺฆาตูปายานฺจ วเสนาปิ จตฺตาเรว วุตฺตานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนูนาธิกโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘กมโต’ติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. เอตฺถ จ โอฬาริกตฺตา สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ ¶ วุตฺตํ, ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, เหตุนิโรธา ผลนิโรโธติ าปนตฺถํ ตโต นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมุปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ วา สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ ปมํ ทุกฺขมาห. ตํ เนว อกตํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต โหติ, อิโต ปน โหตีติ ¶ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยํ. ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ทุกฺขนิสฺสรณคเวสีนํ นิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ. ตโต นิโรธาธิคมตฺถํ นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ เอวเมตฺถ ‘กมโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อริยสจฺเจสุ ยํ าณํ ตสฺส กิจฺจโต’ติ สจฺจาณกิจฺจโตปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. ทุวิธฺหิ สจฺจาณํ – อนุโพธาณฺจ ปฏิเวธาณฺจ. ตตฺถ อนุโพธาณํ โลกิยํ อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ มคฺเค จ ปวตฺตติ. ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ นิโรธารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. ยถาห – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ยํ ปเนตํ โลกิยํ, ตตฺถ ทุกฺขาณํ ปริยุฏฺานาภิภวนวเสน ปวตฺตมานํ สกฺกายทิฏฺึ นิวตฺเตติ, สมุทยาณํ อุจฺเฉททิฏฺึ, นิโรธาณํ สสฺสตทิฏฺึ, มคฺคาณํ อกิริยทิฏฺึ; ทุกฺขาณํ วา ธุวสุภสุขตฺตภาวรหิเตสุ ขนฺเธสุ ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺาสงฺขาตํ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ, สมุทยาณํ อิสฺสรปฺปธานกาลสภาวาทีหิ โลโก ปวตฺตตีติ อการเณ การณาภิมานปฺปวตฺตํ เหตุมฺหิ วิปฺปฏิปตฺตึ, นิโรธาณํ อรูปโลกโลกถูปิกาทีสุ อปวคฺคคฺคาหภูตํ นิโรเธ วิปฺปฏิปตฺตึ, มคฺคาณํ กามสุขลฺลิกอตฺตกิลมถานุโยคปฺปเภเท ¶ อวิสุทฺธิมคฺเค วิสุทฺธิมคฺคคฺคาหวเสน ปวตฺตํ อุปาเย วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
โลเก ¶ โลกปฺปภเว, โลกตฺถคเม สิเว จ ตทุปาเย;
สมฺมุยฺหติ ตาว นโร, น วิชานาติ ยาว สจฺจานีติ.
เอวเมตฺถ ‘าณกิจฺจโต’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ติ ทุกฺขสจฺจสฺมิฺหิ, เปตฺวา ตณฺหฺเจว อนาสวธมฺเม จ, เสสา สพฺพธมฺมา อนฺโตคธา; สมุทยสจฺเจ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ; นิโรธสจฺจํ อสมฺมิสฺสํ; มคฺคสจฺเจ สมฺมาทิฏฺิมุเขน วีมํสิทฺธิปาทปฺินฺทฺริยปฺาพลธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคานิ. สมฺมาสงฺกปฺปาปเทเสน ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย, สมฺมาวาจาปเทเสน จตฺตาริ วจีสุจริตานิ, สมฺมากมฺมนฺตาปเทเสน ตีณิ กายสุจริตานิ, สมฺมาอาชีวมุเขน อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา ¶ จ, สพฺเพสํเยว วา เอเตสํ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานํ อริยกนฺตสีลตฺตา สีลสฺส จ สทฺธาหตฺเถน ปฏิคฺคเหตพฺพตฺตา เตสํ อตฺถิตาย จ อตฺถิภาวโต สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทา, สมฺมาวายามาปเทเสน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยินฺทฺริยวีริยพลวีริยสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสติอปเทเสน จตุพฺพิธสติปฏฺานสตินฺทฺริยสติพลสติสมฺโพชฺฌงฺคานิ, สมฺมาสมาธิอปเทเสน สวิตกฺกสวิจาราทโย ตโย ตโย สมาธี, จิตฺตสมาธิสมาธินฺทฺริยสมาธิพลปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานิ อนฺโตคธานีติ. เอวเมตฺถ ‘อนฺโตคธานํ ปเภทา’ปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘อุปมาโต’ติ ภาโร วิย หิ ทุกฺขสจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ภาราทานมิว สมุทยสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนมิว นิโรธสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนูปาโย วิย มคฺคสจฺจํ; โรโค วิย จ ทุกฺขสจฺจํ, โรคนิทานมิว สมุทยสจฺจํ, โรควูปสโม วิย นิโรธสจฺจํ, เภสชฺชมิว มคฺคสจฺจํ; ทุพฺภิกฺขมิว วา ทุกฺขสจฺจํ, ทุพฺพุฏฺิ วิย สมุทยสจฺจํ, สุภิกฺขมิว นิโรธสจฺจํ ¶ , สุวุฏฺิ วิย มคฺคสจฺจํ. อปิจ เวรีเวรมูลเวรสมุคฺฆาตเวรสมุคฺฆาตุปาเยหิ, วิสรุกฺขรุกฺขมูลมูลุปจฺเฉทตทุปจฺเฉทุปาเยหิ, ภยภยมูลนิพฺภยตทธิคมุปาเยหิ, โอริมตีรมโหฆปาริมตีรตํสมฺปาปกวายาเมหิ จ โยเชตฺวาเปตานิ อุปมาโต เวทิตพฺพานีติ. เอวเมตฺถ ‘อุปมาโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘จตุกฺกโต’ติ อตฺถิ เจตฺถ ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ, อตฺถิ ทุกฺขฺเจว ¶ อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอส นโย สมุทยาทีสุ. ตตฺถ มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ น ทุกฺขํ. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา ทุกฺขํ อนิจฺจโต, น ปน ยสฺส ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. สพฺพากาเรน ปน อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขฺเจว อริยสจฺจฺจ อฺตฺร ตณฺหาย. มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ยสฺส ปริฺตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว ทุกฺขํ น อริยสจฺจํ. เอวํ สมุทยาทีสุปิ ยถาโยคํ โยเชตฺวา ‘จตุกฺกโต’เปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สฺุเตกวิธาทีหี’ติ ¶ เอตฺถ สฺุโต ตาว ปรมตฺเถน หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สฺุานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทุกฺขเมว หิ น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น กิริยาว วิชฺชติ;
อตฺถิ นิพฺพุติ น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชตีติ.
อถ วา –
ธุวสุภสุขตฺตสฺุํ, ปุริมทฺวยมตฺตสฺุมมตปทํ;
ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สฺุโต เตสุ.
นิโรธสฺุานิ ¶ วา ตีณิ, นิโรโธ จ เสสตฺตยสฺุโ. ผลสฺุโ วา เอตฺถ เหตุ สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต มคฺเค จ นิโรธสฺส, น ผเลน สคพฺโภ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย. เหตุสฺฺุจ ผลํ ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา, น เหตุสมเวตํ เหตุผลํ เหตุผลสมวายวาทีนํ ทฺวิอณุกาทีนิ วิย. เตเนตํ วุจฺจติ –
ตยมิธ นิโรธสฺุํ, ตเยน เตนาปิ นิพฺพุติ สฺุา;
สฺุโ ผเลน เหตุ, ผลมฺปิ ตํ เหตุนา สฺุนฺติ.
เอวํ ¶ ตาว ‘สฺุโต’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘เอกวิธาทีหี’ติ สพฺพเมว เจตฺถ ทุกฺขํ เอกวิธํ ปวตฺติภาวโต, ทุวิธํ นามรูปโต, ติวิธํ กามรูปารูปูปปติภวเภทโต, จตุพฺพิธํ จตุอาหารเภทโต, ปฺจวิธํ ปฺจุปาทานกฺขนฺธเภทโต. สมุทโยปิ เอกวิโธ ปวตฺตกภาวโต, ทุวิโธ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาสมฺปยุตฺตโต, ติวิโธ กามภววิภวตณฺหาเภทโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคปฺปเหยฺยโต, ปฺจวิโธ รูปาภินนฺทนาทิเภทโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายเภทโต. นิโรโธปิ เอกวิโธ อสงฺขตธาตุภาวโต, ปริยาเยน ปน ทุวิโธ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสโต, ติวิโธ ภวตฺตยวูปสมโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคาธิคมนียโต, ปฺจวิโธ ปฺจาภินนฺทนวูปสมโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายกฺขยเภทโต. มคฺโคปิ เอกวิโธ ภาเวตพฺพโต, ทุวิโธ สมถวิปสฺสนาเภทโต ทสฺสนภาวนาเภทโต วา ¶ , ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต. อยฺหิ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ยถาห –
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา. ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต. ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว – อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; โย จ สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ – อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา; ยา จ สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป – อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ ¶ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒).
เอตฺถ หิ สมฺมาวาจาทโย ตโย สีลเมว. ตสฺมา เต สชาติโต สีลกฺขนฺเธน สงฺคหิตา. กิฺจาปิ หิ ปาฬิยํ สีลกฺขนฺเธติ ภุมฺเมน นิทฺเทโส กโต, อตฺโถ ปน กรณวเสเนว เวทิตพฺโพ. สมฺมาวายามาทีสุ ปน ตีสุ สมาธิ อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, วีริเย ปน ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร หุตฺวา สกฺโกติ.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามาติ อุยฺยานํ ปวิฏฺเสุ ตีสุ สหาเยสุ เอโก สุปุปฺผิตํ จมฺปกรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส ทุติโย ¶ โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทเทยฺย. โส ตสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวาปิ กมฺปมาโน คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส อิตโร อํสกูฏํ อุปนาเมยฺย. โส เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ ยถารุจิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
เอกโต อุยฺยานํ ปวิฏฺา ตโย สหายา วิย หิ เอกโต ชาตา สมฺมาวายามาทโย ตโย ธมฺมา, สุปุปฺผิตจมฺปกรุกฺโข วิย อารมฺมณํ, หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ, ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม, อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย ¶ วิย สติ. ยถา เตสุ เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ อิตโร ยถารุจิ ปุปฺผํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวเมว วีริเย ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร สมาธิ สกฺโกติ อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ. ตสฺมา สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต. วายามสติโย ปน กิริยโต สงฺคหิตา โหนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺเปสุปิ ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ ¶ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุตเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ; เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทาย อาทาย ทินฺนเมว นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา อิธาปิ สมฺมาทิฏฺิเยว สชาติโต ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, สมฺมาสงฺกปฺโป ปน กิริยโต สงฺคหิโต โหติ. อิติ อิเมหิ ตีหิ ขนฺเธหิ มคฺโค สงฺคหํ คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต’’ติ. จตุพฺพิโธ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน.
อปิจ สพฺพาเนว สจฺจานิ เอกวิธานิ อวิตถตฺตา อภิฺเยฺยตฺตา วา, ทุวิธานิ โลกิยโลกุตฺตรโต สงฺขตาสงฺขตโต จ, ติวิธานิ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพโต อปฺปหาตพฺพโต เนวปหาตพฺพนาปหาตพฺพโต ¶ จ, จตุพฺพิธานิ ปริฺเยฺยาทิเภทโตติ. เอวเมตฺถ ‘เอกวิธาทีหิ’ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
‘สภาควิสภาคโต’ติ สพฺพาเนว จ สจฺจานิ อฺมฺํ สภาคานิ อวิตถโต อตฺตสฺุโต ทุกฺกรปฏิเวธโต จ. ยถาห –
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา – โย ทูรโตว สุขุเมน ตาลจฺฉิคฺคเฬน อสนํ อติปาเตยฺย โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ, โย วา สตฺตธา ¶ ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, ทุกฺกรตรฺเจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ – โย สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ. ‘‘ตโต โข เต, อานนฺท, ทุปฺปฏิวิชฺฌตรํ ปฏิวิชฺฌนฺติ เย อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕).
วิสภาคานิ สลกฺขณววตฺถานโต. ปุริมานิ จ ทฺเว สภาคานิ ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตา โลกิยตฺตา สาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ ผลเหตุเภทโต ¶ ปริฺเยฺยปฺปหาตพฺพโต จ. ปจฺฉิมานิปิ ทฺเว สภาคานิ คมฺภีรตฺเถน ทุรวคาหตฺตา โลกุตฺตรตฺตา อนาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ วิสยวิสยีเภทโต สจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพโต จ. ปมตติยานิ จาปิ สภาคานิ ผลาปเทสโต, วิสภาคานิ สงฺขตาสงฺขตโต. ทุติยจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ เหตุอปเทสโต, วิสภาคานิ เอกนฺตกุสลากุสลโต. ปมจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ สงฺขตโต, วิสภาคานิ โลกิยโลกุตฺตรโต. ทุติยตติยานิ จาปิ สภาคานิ เนวเสกฺขานาเสกฺขภาวโต, วิสภาคานิ สารมฺมณานารมฺมณโต.
อิติ เอวํ ปกาเรหิ, นเยหิ จ วิจกฺขโณ;
วิชฺา อริยสจฺจานํ, สภาควิสภาคตนฺติ.
สุตฺตนฺตภาชนียอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
ชาตินิทฺเทโส
๑๙๐. อิทานิ ¶ สงฺเขปโต อุทฺทิฏฺานิ ทุกฺขาทีนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อยํ ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ชาติปิ ทุกฺขาติ นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ชรา, มรณํ, โสโก ¶ , ปริเทโว, ทุกฺขํ, โทมนสฺสํ, อุปายาโส, อปฺปิยสมฺปโยโค, ปิยวิปฺปโยโค เวทิตพฺโพ; อปฺปิยสมฺปโยคสฺส ปิยวิปฺปโยคสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; อิจฺฉา เวทิตพฺพา, อิจฺฉาย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ; ขนฺธา เวทิตพฺพา, ขนฺธานํ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย อยํ มาติกา – อิทฺหิ ทุกฺขํ นาม อเนกํ นานปฺปการํ, เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ, วิปริณามทุกฺขํ, สงฺขารทุกฺขํ, ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.
ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘ทุกฺขทุกฺขํ’ นาม. สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต ‘วิปริณามทุกฺขํ’ นาม. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา ‘สงฺขารทุกฺขํ’ นาม. ตถา ปีฬนํ ปน มคฺคผลานมฺปิ อตฺถิ. ตสฺมา เอเต ธมฺมา ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺเตน สงฺขารทุกฺขํ นามาติ เวทิตพฺพา. กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสชปริฬาหาทิ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต ¶ อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ‘ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ’ นาม, ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ. เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ‘ปริยายทุกฺขํ’ นาม. ทุกฺขทุกฺขํ ‘นิปฺปริยายทุกฺขํ’ นาม.
ตตฺถ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ อิมสฺมึ ปททฺวเย ตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ กเถตพฺพํ. อริยสจฺจฺจ นาเมตํ ปาฬิยํ สงฺเขปโตปิ อาคจฺฉติ วิตฺถารโตปิ. สงฺเขปโต อาคตฏฺาเน สงฺเขเปนปิ วิตฺถาเรนปิ กเถตุํ วฏฺฏติ ¶ . วิตฺถารโต อาคตฏฺาเน ปน วิตฺถาเรเนว กเถตุํ วฏฺฏติ, น สงฺเขเปน. ตํ อิทํ อิมสฺมึ าเน วิตฺถาเรน อาคตนฺติ วิตฺถาเรเนว กเถตพฺพํ. ตสฺมา ยํ ตํ นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทีนิ ปทานิ คเหตฺวา ‘‘ชาติ เวทิตพฺพา, ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชาติอาทีนิ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมา ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาตี’’ติ อิมสฺส ปน ปทภาชนียสฺส วเสน เวทิตพฺพานิ.
๑๙๑. ตตฺรายํ ¶ อตฺถวณฺณนา – เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ อยํ สงฺเขปโต อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ยา เทวทตฺตสฺส ชาติ, ยา โสมทตฺตสฺส ชาตีติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺถทีปนํ สิชฺฌติ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺถทีปนํ น สิชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยา เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ. ตมฺหิ ตมฺหีติ อยํ ชาติคติวเสน อเนเกสํ สตฺตนิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกาเยติ สตฺตานํ นิกาเย, สตฺตฆฏายํ สตฺตสมูเหติ อตฺโถ.
ชาตีติ อยํ ชาติสทฺโท อเนกตฺโถ. ตถา เหส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ (ปารา. ๑๒; ม. นิ. ๒.๒๕๗) เอตฺถ ภเว อาคโต. ‘‘อตฺถิ วิสาเข ¶ , นิคณฺา นาม สมณชาติกา’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาเย. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติยํ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขเณ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาตี’’ติ (มหาว. ๑๒๔) เอตฺถ ปฏิสนฺธิยํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติยํ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๓๑) เอตฺถ กุเล. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีเล. อิธ ปนายํ สวิกาเรสุ ปมาภินิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ วตฺตติ. ตสฺมา ชายมานกวเสน ชาตีติ อิทเมตฺถ สภาวปจฺจตฺตํ. สฺชายนวเสน สฺชาตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. โอกฺกมนวเสน โอกฺกนฺติ. ชายนฏฺเน วา ชาติ, สา อปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. สฺชายนฏฺเน สฺชาติ, สา ปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺติ, สา อณฺฑชชลาพุชวเสน ยุตฺตา. เต หิ อณฺฑโกสฺจ วตฺถิโกสฺจ ¶ โอกฺกมนฺติ, โอกฺกมนฺตาปิ ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺติ. สา สํเสทชโอปปาติกวเสน ยุตฺตา. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อยํ ตาว สมฺมุติกถา.
อิทานิ ¶ ปรมตฺถกถา โหติ. ขนฺธา เอว หิ ปรมตฺถโต ปาตุภวนฺติ, น สตฺตา. ตตฺถ จ ขนฺธานนฺติ เอกโวการภเว เอกสฺส, จตุโวการภเว จตุนฺนํ, ปฺจโวการภเว ปฺจนฺนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปาตุภาโวติ อุปฺปตฺติ. อายตนานนฺติ เอตฺถ ตตฺร ตตฺร อุปฺปชฺชมานายตนวเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฏิลาโภติ สนฺตติยํ ปาตุภาโวเยว; ปาตุภวนฺตาเนว หิ ตานิ ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ชาตีติ อยํ ชาติ นาม กถิยติ. สา ปเนสา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา, นียฺยาตนรสา, อตีตภวโต อิธ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา, ผลวเสน ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา วา.
อิทานิ ‘ชาติยา ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ อยฺหิ ชาติ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ ¶ วุตฺตา. กตรทุกฺขสฺส ปนายํ วตฺถูติ? ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยํ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สพฺพสฺสาปิ เอสา วตฺถุ. ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกาทีสุ นิพฺพตฺตติ. อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฑกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิรหิโต อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ. อิทํ ตาว ‘คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนอุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิคุณฺิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนนิทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขมนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกูปปนฺโน ¶ วิย, อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย, โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปฺปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขมนุโภติ – อิทํ ‘คพฺภปริหรณมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘คพฺภวิปตฺติมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ¶ ปรมสมฺพาเธน โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย นิกฺกฑฺฒิยมานสฺส มหานาคสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาฏปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘วิชายนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสฺส สุกุมารสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธารวิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ มาตุกุจฺฉิโต ‘พหิ นิกฺขมนมูลกํ’ ทุกฺขํ. ยํ ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วธนฺตสฺส, อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส, โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส, อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ – อิทํ ‘อตฺตูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ – อิทํ ‘ปรูปกฺกมมูลกํ’ ทุกฺขนฺติ. อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต,
ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ,
อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ.
ทุกฺขํ ติรจฺเฉสุ กสาปโตท-
ทณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ¶ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ,
วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสา-
วาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ,
ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต,
โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ,
ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
ยฺจาปิ ¶ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติรยฺหิ ทุกฺขา.
กึ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิทปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสี,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาตินฺติ.
ชรานิทฺเทโส
๑๙๒. ชรานิทฺเทเส ชราติ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ชราติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา, เตนสฺสา อิทํ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อิมินา อาการโต ¶ , เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิตฺตภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ขณฺฑิจฺจนฺติ อาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตาติ ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา วาตสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํสคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ. น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา; น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.
อายุโน ¶ สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสงฺขาตาย ปกติยา ทีปิตา. เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ ตสฺมา ชรา ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ สุขุมมฺปิ ¶ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’’ติ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.
สา ปเนสา เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑาทิภาวทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ‘ปากฏชรา’ นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ‘ปฏิจฺฉนฺนชรา’ นาม. ตตฺถ ยฺวายํ ขณฺฑาทิภาโว ทิสฺสติ, โส ตาทิสานํ ทนฺตาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา วณฺโณเยว. ตํ จกฺขุนา ทิสฺวา มโนทฺวาเรน จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ทนฺตา ชราย ปหฏา’’ติ ชรํ ชานาติ, อุทกฏฺาเน พทฺธานิ โคสิงฺคาทีนิ โอโลเกตฺวา เหฏฺา อุทกสฺส อตฺถิภาวํ ชานนํ วิย. ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ อยํ ชรา ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทสูริยาทีนํ มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ อปาณีนํ วิย จ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘อวีจิชรา’ นาม, นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา ‘สวีจิชรา’ นาม.
ตตฺถ ¶ สวีจิชรา อุปาทินฺนานุปาทินฺนกวเสน เอวํ ทีเปตพฺพา – ทหรกุมารกานฺหิ ปมเมว ขีรทนฺตา นาม อุฏฺหนฺติ, น เต ถิรา. เตสุ ปน ปติเตสุ ปุน ทนฺตา อุฏฺหนฺติ. เต ปมเมว เสตา โหนฺติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล กาฬกา โหนฺติ. เกสา ปน ปมเมว ตมฺพาปิ โหนฺติ กาฬกาปิ เสตาปิ. ฉวิ ปน สโลหิติกา โหติ. วฑฺฒนฺตานํ วฑฺฒนฺตานํ โอทาตานํ โอทาตภาโว, กาฬกานํ กาฬกภาโว ปฺายติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล วฬึ คณฺหาติ. สพฺพมฺปิ สสฺสํ วปิตกาเล เสตํ โหติ, ปจฺฉา นีลํ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล ปณฺฑุกํ โหติ. อมฺพงฺกุเรนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ เอว. อยํ วุจฺจติ ชราติ อยํ ¶ ชรา นาม กถิยติ. สา ปเนสา ¶ ขนฺธปริปากลกฺขณา, มรณูปนยนรสา, โยพฺพนวินาสปจฺจุปฏฺานา.
‘ชราย ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺขา, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ วุตฺตา. กตรสฺส ทุกฺขสฺส? กายทุกฺขสฺส เจว โทมนสฺสทุกฺขสฺส จ. ชิณฺณสฺส หิ อตฺตภาโว ชรสกฏํ วิย ทุพฺพโล โหติ, าตุํ วา คนฺตุํ วา นิสีทิตุํ วา วายมนฺตสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; ปุตฺตทาเร ยถาปุเร อสลฺลกฺเขนฺเต โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
องฺคานํ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปสาทนียโต เจว, ภียฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขาติ.
มรณนิทฺเทโส
๑๙๓. มรณนิทฺเทเส จวนกวเสน จุติ; เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ ¶ . อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ จุติขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุ มรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยา กาลกิริยา. เอตฺตาวตา สมฺมุติยา มรณํ ทีปิตํ โหติ.
อิทานิ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ขนฺธานํ เภโทติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ ภินฺเนสุ มโตติ โวหาโร โหติ. เอตฺถ จ จตุปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป; จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน ¶ กเฬวรสฺส ¶ นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส กเฬวรสฺส สมฺภวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท. มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ.
ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว. อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ. อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ อิทํ สพฺพมฺปิ มรณํ นาม กถิยติ.
อปิเจตฺถ ขณิกมรณํ, สมฺมุติมรณํ, สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘ขณิกมรณํ’ นาม ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท. ‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’ติ อิทํ ‘สมฺมุติมรณํ’ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา ‘สมุจฺเฉทมรณํ’ นาม. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สมฺมุติมรณํ อธิปฺเปตํ. ชาติกฺขยมรณํ, อุปกฺกมมรณํ, สรสมรณํ, อายุกฺขยมรณํ, ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ตยิทํ จุติลกฺขณํ, วิโยครสํ, วิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.
‘มรณสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อิทมฺปิ สยํ น ทุกฺขํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. มรณนฺติกาปิ หิ สารีริกา เวทนา, ปฏิวาเต คหิตา อาทิตฺตติณุกฺกา ¶ วิย, สรีรํ นิทหนฺติ. นรกนิมิตฺตาทีนํ อุปฏฺานกาเล พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. อปิ จ –
ปาปสฺส ปาปกมฺมาทิ, นิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ.
มียมานสฺส ¶ ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต;
สพฺเพสฺจาปิ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ.
วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ;
อสยฺหมปฺปฏิการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิตนฺติ.
อปิจ ¶ อิมานิ ชาติชรามรณานิ นาม อิเมสํ สตฺตานํ วธกปจฺจามิตฺตา วิย โอตารํ คเวสนฺตานิ วิจรนฺติ. ยถา หิ ปุริสสฺส ตีสุ ปจฺจามิตฺเตสุ โอตาราเปกฺเขสุ วิจรนฺเตสุ เอโก วเทยฺย – ‘‘อหํ อสุกอรฺสฺส นาม วณฺณํ กเถตฺวา เอตํ อาทาย ตตฺถ คมิสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ทุติโย วเทยฺย ‘‘อหํ ตว เอตํ คเหตฺวา คตกาเล โปเถตฺวา ทุพฺพลํ กริสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ตติโย วเทยฺย – ‘‘ตยา เอตสฺมึ โปเถตฺวา ทุพฺพเล กเต ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ นาม มยฺหํ ภาโร โหตู’’ติ. เต เอวํ วตฺวา ตถา กเรยฺยุํ.
ตตฺถ ปมปจฺจามิตฺตสฺส อรฺสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย ตตฺถ คตกาโล วิย สุหชฺชาติมณฺฑลโต นิกฺกฑฺฒิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตาปนํ นาม ชาติยา กิจฺจํ. ทุติยสฺส โปเถตฺวา ทุพฺพลกรณํ วิย นิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ นิปติตฺวา ปราธีนมฺจปรายณภาวกรณํ ชราย กิจฺจํ. ตติยสฺส ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ วิย ชีวิตกฺขยปาปนํ มรณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.
อปิเจตฺถ ชาติทุกฺขํ สาทีนวมหากนฺตารปฺปเวโส วิย ทฏฺพฺพํ. ชราทุกฺขํ ตตฺถ อนฺนปานรหิตสฺส ¶ ทุพฺพลฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. มรณทุกฺขํ ทุพฺพลสฺส อิริยาปถปวตฺตเน วิหตปรกฺกมสฺส วาฬาทีหิ อนยพฺยสนาปาทนํ วิย ทฏฺพฺพนฺติ.
โสกนิทฺเทโส
๑๙๔. โสกนิทฺเทเส พฺยสตีติ พฺยสนํ; หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ; โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺสาติ ¶ อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ; ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ; โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ; ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ น อกุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
อฺตรฺตเรนาติ ¶ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก; อิทํ เตหิ การเณหิ อุปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตเร โสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตเร สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ.
เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ฌายนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ปริทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ. อยํ วุจฺจติ โสโกติ อยํ โสโก นาม กถิยติ. โส ปนายํ กิฺจาปิ อตฺถโต โทมนสฺสเวทนาว ¶ โหติ, เอวํ ¶ สนฺเตปิ อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ, เจตโส ปรินิชฺฌายนรโส, อนุโสจนปจฺจุปฏฺาโน.
‘โสกสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยํ สภาวทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กตรทุกฺขสฺสาติ? กายิกทุกฺขสฺส เจว ชวนกฺขเณ จ โทมนสฺสทุกฺขสฺส. โสกเวเคน หิ หทเย มหาคณฺโฑ อุฏฺหิตฺวา ปริปจฺจิตฺวา ภิชฺชติ, มุขโต วา กาฬโลหิตํ นิกฺขมติ, พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ คตา, เอตฺตกา เม โภคา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส จ พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวนเปส ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.
สมาวหติ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตีติ.
ปริเทวนิทฺเทโส
๑๙๕. ปริเทวนิทฺเทเส ¶ ‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ. อุปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโป วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ ปริเทโวติ อยํ ปริเทโว นาม กถิยติ. โส ลาลปฺปนลกฺขโณ, คุณโทสปริกิตฺตนรโส, สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน.
‘ปริเทวสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, กายทุกฺขโทมนสฺสทุกฺขานํ ปน วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. ปริเทวนฺโต หิ อตฺตโน ขนฺธํ มุฏฺีหิ ¶ โปเถติ, อุโภหิ หตฺเถหิ อุรํ ปหรติ ¶ ปึสติ, สีเสน ภิตฺติยา สทฺธึ ยุชฺฌติ. เตนสฺส พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา เม าตโย ขยํ วยํ อพฺภตฺถํ คตา’ติอาทีนิ จินฺเตติ. เตนสฺส พลวํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน,
กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ,
ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหาติ.
ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทโส
๑๙๖-๗. ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสา เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วณฺณิตตฺตา ปากฏา เอว. ลกฺขณาทีนิ ปน เตสํ ตตฺถ วุตฺตาเนว.
‘ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ, โทมนสฺสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อุภยมฺเปตํ สยฺจ ทุกฺขตฺตา กายิกเจตสิกทุกฺขานฺจ วตฺถุภาเวน ทุกฺขนฺติ วุตฺตํ. หตฺถปาทานฺหิ กณฺณนาสิกานฺจ เฉทนทุกฺเขน ทุกฺขิตสฺส ¶ , อนาถสาลายํ อุจฺฉิฏฺกปาลํ ปุรโต กตฺวา นิปนฺนสฺส, วณมุเขหิ ปุฬุวเกสุ นิกฺขมนฺเตสุ พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ; นานารงฺครตฺตวตฺถมนฺุาลงฺการํ นกฺขตฺตํ กีฬนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เอวํ ตาว ทุกฺขสฺส ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺตนฺติ.
เจโตทุกฺขสมปฺปิตา ปน เกเส ปกิริย อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ ¶ . ตํ ตํ วิปรีตํ วตฺถุํ ตถา ตถา วิปฺปฏิสาริโน ปริฑยฺหมานจิตฺตา จินฺเตนฺติ. เอวํ โทมนสฺสสฺส อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาโว เวทิตพฺโพ. อปิจ –
ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหูติ.
อุปายาสนิทฺเทโส
๑๙๘. อุปายาสนิทฺเทเส ¶ อายาสนฏฺเน อายาโส; สํสีทนวิสีทนาการปฺปวตฺตสฺส จิตฺตกิลมถสฺเสตํ นามํ. พลวํ อายาโส อุปายาโส. อายาสิตภาโว อายาสิตตฺตํ. อุปายาสิตภาโว อุปายาสิตตฺตํ. อยํ วุจฺจติ อุปายาโสติ อยํ อุปายาโส นาม กถิยติ. โส ปเนส พฺยาสตฺติลกฺขโณ, นิตฺถุนนรโส, วิสาทปจฺจุปฏฺาโน.
‘อุปายาสสฺส ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน อยมฺปิ สยํ น ทุกฺโข, อุภินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ วุตฺโต. กุปิเตน หิ รฺา อิสฺสริยํ อจฺฉินฺทิตฺวา หตปุตฺตภาติกานํ อาณตฺตวธานํ ภเยน อฏวึ ปวิสิตฺวา นิลีนานํ มหาวิสาทปฺปตฺตานํ ทุกฺขฏฺาเนน ทุกฺขเสยฺยาย ทุกฺขนิสชฺชาย พลวํ กายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘เอตฺตกา โน าตกา, เอตฺตกา โภคา นฏฺา’ติ จินฺเตนฺตานํ พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺโขติ เวทิตพฺโพติ. อปิจ –
จิตฺตสฺส ¶ ปริทหนา, กายสฺส วิสาทนา จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต.
เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเนเยว เตลาทีนํ ปาโก วิย โสโก. ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหินิกฺขมนํ วิย ปริเทโว. พหินิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทโส
๑๙๙. อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทเส ¶ ยสฺสาติ เย อสฺส. อนิฏฺาติ อปริเยสิตา. ปริเยสิตา วา โหนฺตุ อปริเยสิตา วา, นามเมเวตํ อมนาปารมฺมณานํ. มนสฺมึ น กมนฺติ, น ปวิสนฺตีติ อกนฺตา. มนสฺมึ น อปฺปิยนฺติ, น วา มนํ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา. รูปาติอาทิ เตสํ สภาวนิทสฺสนํ. อนตฺถํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามา. อหิตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามา. อผาสุกํ ทุกฺขวิหารํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกกามา. จตูหิ ¶ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ วิวฏฺฏํ น อิจฺฉนฺติ, สภยํ วฏฺฏเมว เนสํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อาโยคกฺเขมกามา.
อปิจ สทฺธาทีนํ วุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส อกามนโต เตสํเยว หานิสงฺขาตสฺส อนตฺถสฺส จ กามนโต อนตฺถกามา. สทฺธาทีนํเยว อุปายภูตสฺส หิตสฺส อกามนโต สทฺธาหานิอาทีนํ อุปายภูตสฺส อหิตสฺส จ กามนโต อหิตกามา. ผาสุกวิหารสฺส อกามนโต อผาสุกวิหารสฺส จ กามนโต อผาสุกกามา. ยสฺส กสฺสจิ นิพฺภยสฺส อกามนโต ภยสฺส จ กามนโต อโยคกฺเขมกามาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สงฺคตีติ คนฺตฺวา สํโยโค. สมาคโมติ อาคเตหิ สํโยโค. สโมธานนฺติ านนิสชฺชาทีสุ สหภาโว. มิสฺสีภาโวติ สพฺพกิจฺจานํ สหกรณํ. อยํ สตฺตวเสน โยชนา. สงฺขารวเสน ปน ยํ ลพฺภติ ตํ คเหตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อปฺปิยสมฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อนิฏฺสโมธานลกฺขโณ, จิตฺตวิฆาตกรณรโส, อนตฺถภาวปจฺจุปฏฺาโน.
โส ¶ อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ อปฺปิยสมฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อนิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ สโมธานคตานิ วิชฺฌนเฉทนผาลนาทีหิ กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, อุพฺเพคชนนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ทิสฺวาว อปฺปิเย ทุกฺขํ, ปมํ โหติ เจตสิ;
ตทุปกฺกมสมฺภูต-มถ กาเย ยโต อิธ.
ตโต ¶ ทุกฺขทฺวยสฺสาปิ, วตฺถุโต โส มเหสินา;
ทุกฺโข วุตฺโตติ วิฺเยฺโย, อปฺปิเยหิ สมาคโมติ.
ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส
๒๐๐. ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. มาตา วาติอาทิ ปเนตฺถ อตฺถกาเม สรูเปน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ มมายตีติ มาตา. ปิยายตีติ ¶ ปิตา. ภชตีติ ภาตา. ตถา ภคินี. เมตฺตายนฺตีติ มิตฺตา, มินนฺตีติ วา มิตฺตา; สพฺพคุยฺเหสุ อนฺโต ปกฺขิปนฺตีติ อตฺโถ. กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. อยํ อมฺหากํ อชฺฌตฺติโกติ เอวํ ชานนฺติ ายนฺตีติ วา าตี. โลหิเตน สมฺพนฺธาติ สาโลหิตา. เอวเมตานิ ปทานิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปิเยหิ วิปฺปโยโค นาม กถิยติ. โส อิฏฺวตฺถุวิโยคลกฺขโณ, โสกุปฺปาทนรโส, พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน.
โส อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ. เกวลํ ปิยวิปฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อิฏฺานิ หิ วตฺถูนิ วิยุชฺชมานานิ สรีรสฺส โสสนมิลาปนาทิภาเวน กายิกมฺปิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, ‘ยมฺปิ โน อโหสิ, ตมฺปิ โน นตฺถี’ติ อนุโสจาปนโต มานสมฺปิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
าติธนาทิวิโยคา, โสกสรสมปฺปิตา วิตุชฺชนฺติ;
พาลา ยโต ตโต ยํ, ทุกฺโขติ มโต ปิยวิโยโคติ.
อิจฺฉานิทฺเทโส
๒๐๑. อิจฺฉานิทฺเทเส ชาติธมฺมานนฺติ ชาติสภาวานํ ชาติปกติกานํ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชตีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. อโห วตาติ ปตฺถนา. น ¶ โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพนฺติ ยํ เอตํ ‘‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เอวํ ปหีนสมุทเยสุ สาธูสุ วิชฺชมานํ อชาติธมฺมตฺตํ, ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมนํ อิจฺฉิตํ, ตํ อิจฺฉนฺตสฺสาปิ มคฺคภาวนาย วินา อปตฺตพฺพโต อนิจฺฉนฺตสฺส จ ภาวนาย ปตฺตพฺพโต น อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. อิทมฺปีติ เอตมฺปิ; อุปริ เสสานิ อุปาทาย ¶ ปิกาโร. ยมฺปิจฺฉนฺติ เยนปิ ธมฺเมน อลพฺภเนยฺยํ วตฺถุํ อิจฺฉนฺโต น ลภติ, ตํ อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนํ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. ชราธมฺมานนฺติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ อลพฺภเนยฺยวตฺถูสุ อิจฺฉาว ‘‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตา. สา อลพฺภเนยฺยวตฺถุอิจฺฉนลกฺขณา, ตปฺปริเยสนรสา, เตสํ อปฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา.
ทฺวินฺนํ ปน ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต ทุกฺขาติ วุตฺตา. เอกจฺโจ หิ ราชา ภวิสฺสตีติ สมฺภาวิโต โหติ. โส ฉินฺนภินฺนคเณน ปริวาริโต ปพฺพตวิสมํ วา วนคหนํ วา ปวิสติ. อถ ราชา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา พลกายํ เปเสติ. โส ราชปุริเสหิ นิหตปริวาโร สยมฺปิ ลทฺธปฺปหาโร ปลายมาโน รุกฺขนฺตรํ วา ปาสาณนฺตรํ วา ปวิสติ. ตสฺมึ สมเย มหาเมโฆ อุฏฺหติ, ติพฺพนฺธการา กาฬวทฺทลิกา โหติ. อถ นํ สมนฺตโต กาฬกิปิลฺลิกาทโย ปาณา ปริวาเรตฺวา คณฺหนฺติ. เตนสฺส พลวกายทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ‘มํ เอกํ นิสฺสาย เอตฺตกา าตี จ โภคา จ วินฏฺา’ติ จินฺเตนฺตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิติ อยํ อิจฺฉา อิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. อปิจ –
ตํ ตํ ปตฺถยมานานํ, ตสฺส ตสฺส อลาภโต;
ยํ วิฆาตมยํ ทุกฺขํ, สตฺตานํ อิธ ชายติ.
อลพฺภเนยฺยวตฺถูนํ, ปตฺถนา ตสฺส การณํ;
ยสฺมา ตสฺมา ชิโน ทุกฺขํ, อิจฺฉิตาลาภมพฺรวีติ.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทโส
๒๐๒. อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทเส สํขิตฺเตนาติ เทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ เอตฺตกานิ ทุกฺขสตานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสตสหสฺสานีติ ¶ วา สํขิปิตุํ น สกฺกา, เทสนา ปน สกฺกา, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขํ นาม อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ เทสนํ สงฺขิเปนฺโต เอวมาห. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส เต กตเมติ เจติ อตฺโถ. รูปูปาทานกฺขนฺโธติอาทีนํ อตฺโถ ขนฺธวิภงฺเค วณฺณิโตเยว.
‘ขนฺธานํ ¶ ทุกฺขฏฺโ เวทิตพฺโพ’ติ เอตฺถ ปน –
ชาติปฺปภุติกํ ¶ ทุกฺขํ, ยํ วุตฺตํ อิธ ตาทินา;
อวุตฺตํ ยฺจ ตํ สพฺพํ, วินา เอเต น วิชฺชติ.
ยสฺมา ตสฺมา อุปาทาน-กฺขนฺธา สงฺเขปโต อิเม;
ทุกฺขาติ วุตฺตา ทุกฺขนฺต-เทสเกน มเหสินา.
ตถา หิ อินฺธนมิว ปาวโก, ลกฺขมิว ปหรณานิ, โครูปมิว ฑํสมกสาทโย, เขตฺตมิว ลาวกา, คามํ วิย คามฆาตกา, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกเมว ชาติอาทโย นานปฺปกาเรหิ พาธยมานา, ติณลตาทีนิ วิย ภูมิยํ, ปุปฺผผลปลฺลวาทีนิ วิย รุกฺเขสุ, อุปาทานกฺขนฺเธสุเยว นิพฺพตฺตนฺติ. อุปาทานกฺขนฺธานฺจ อาทิทุกฺขํ ชาติ, มชฺเฌทุกฺขํ ชรา, ปริโยสานทุกฺขํ มรณํ. มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตน ปริฑยฺหมานทุกฺขํ โสโก, ตทสหนโต ลาลปฺปนทุกฺขํ ปริเทโว. ตโต ธาตุกฺโขภสงฺขาตอนิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ. เตน พาธิยมานานํ ปุถุชฺชนานํ ตตฺถ ปฏิฆุปฺปตฺติโต เจโตพาธนทุกฺขํ โทมนสฺสํ. โสกาทิวุฑฺฒิยา ชนิตวิสาทานํ อนุตฺถุนนทุกฺขํ อุปายาโส. มโนรถวิฆาตปฺปตฺตานํ อิจฺฉาวิฆาตทุกฺขํ อิจฺฉิตาลาโภติ เอวํ นานปฺปการโต อุปปริกฺขิยมานา อุปาทานกฺขนฺธาว ทุกฺขาติ ยเทตํ เอกเมกํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมานํ อเนเกหิ กปฺเปหิ น สกฺกา อเสสโต วตฺตุํ, ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ เอกชลพินฺทุมฺหิ สกลสมุทฺทชลรสํ วิย เยสุ เกสุจิ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ ภควา อโวจาติ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. สมุทยสจฺจนิทฺเทเส ¶ ยายํ ตณฺหาติ ยา อยํ ตณฺหา. โปโนพฺภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ¶ ปุโนพฺภโว, ปุโนพฺภโว สีลมสฺสาติ โปโนพฺภวิกา. อปิจ ปุนพฺภวํ ¶ เทติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ โปโนพฺภวิกา. สา ปเนสา ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปิ อตฺถิ อทายิกาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนิกาปิ อตฺถิ อสํวตฺตนิกาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ. สา ปุนพฺภวํ ททมานาปิ อททมานาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตมานาปิ อสํวตฺตมานาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ โปโนพฺภวิกา เอวาติ นามํ ลภติ. อภินนฺทนสงฺขาเตน นนฺทิราเคน สหคตาติ นนฺทิราคสหคตา, นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตเมว คตาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรตตฺราภินนฺทินีติ ยตฺร ยตฺร อตฺตภาโว ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, รูปาทีสุ วา อารมฺมเณสุ ตตฺรตตฺราภินนฺทินี; รูปาภินนฺทินี สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมาภินนฺทินีติ อตฺโถ. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต; ตสฺส สา กตมาติ เจติ อตฺโถ. กามตณฺหาติ กาเม ตณฺหา กามตณฺหา; ปฺจกามคุณิกราคสฺเสตํ อธิวจนํ. ภเว ตณฺหา ภวตณฺหา; ภวปตฺถนาวเสน อุปฺปนฺนสฺส สสฺสตทิฏฺิสหคตสฺส รูปารูปภวราคสฺส จ ฌานนิกนฺติยา เจตํ อธิวจนํ. วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา; อุจฺเฉททิฏฺิสหคตสฺส ราคสฺเสตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ตสฺสา ตณฺหาย วตฺถุํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ ชายติ. นิวิสตีติ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ปติฏฺหติ. ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ยํ โลกสฺมึ ปิยสภาวฺเจว มธุรสภาวฺจ. จกฺขุํ โลเกติอาทีสุ โลกสฺมิฺหิ จกฺขาทีสุ มมตฺเตน อภินิวิฏฺา สตฺตา สมฺปตฺติยํ ปติฏฺิตา อตฺตโน จกฺขุํ อาทาสาทีสุ นิมิตฺตคฺคหณานุสาเรน วิปฺปสนฺนปฺจปสาทํ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรํ วิย มฺนฺติ, โสตํ รชตปนาฬิกํ วิย ปามงฺคสุตฺตกํ วิย จ ¶ มฺนฺติ, ตุงฺคนาสาติ ลทฺธโวหารํ ฆานํ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏึ วิย มฺนฺติ, ชิวฺหํ รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ, กายํ สาลลฏฺึ วิย สุวณฺณโตรณํ วิย จ มฺนฺติ, มนํ อฺเสํ มเนน อสทิสํ อุฬารํ มฺนฺติ, รูปํ สุวณฺณกณิการปุปฺผาทิวณฺณํ วิย ¶ , สทฺทํ มตฺตกรวีกโกกิลมนฺทธมิตมณิวํสนิคฺโฆสํ วิย, อตฺตนา ปฏิลทฺธานิ จตุสมุฏฺานิกคนฺธารมฺมณาทีนิ ‘กสฺส อฺสฺส เอวรูปานิ อตฺถี’ติ มฺนฺติ. เตสํ เอวํ มฺมานานํ ตานิ จกฺขาทีนิ ปิยรูปานิ เจว โหนฺติ สาตรูปานิ จ. อถ เนสํ ตตฺถ อนุปฺปนฺนา เจว ตณฺหา อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา จ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน นิวิสติ. ตสฺมา ภควา – ‘‘จกฺขุํ โลเก ¶ ปิยรูปํ สาตรูปํ. เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชมานาติ ยทา อุปฺปชฺชติ ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถาปีติ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๔. นิโรธสจฺจนิทฺเทเส โย ตสฺสาเยว ตณฺหายาติ เอตฺถ ‘โย ตสฺเสว ทุกฺขสฺสา’ติ วตฺตพฺเพ ยสฺมา สมุทยนิโรเธเนว ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ โน อฺถา, ยถาห –
‘‘ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห,
ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ;
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต,
นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๓๘);
ตสฺมา ตํ ทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต สมุทยนิโรเธน ทสฺเสตุํ เอวมาห. สีหสมานวุตฺติโน หิ ตถาคตา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺติ, น ผเล. สุวานวุตฺติโน ปน อฺติตฺถิยา. เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา อตฺตกิลมถานุโยเคน ¶ เจว ตสฺเสว จ เทสนาย ผเล ปฏิปชฺชนฺติ, น เหตุมฺหีติ. สีหสมานวุตฺติตาย สตฺถา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต โย ตสฺสาเยวาติอาทิมาห.
ตตฺถ ตสฺสาเยวาติ ยา สา อุปฺปตฺติ นิเวสวเสน เหฏฺา ปกาสิตา ตสฺสาเยว. อเสสวิราคนิโรโธติอาทีนิ สพฺพานิ นิพฺพานเววจนาเนว ¶ . นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ตณฺหา อเสสา วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตํ ‘‘ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. นิพฺพานฺจ อาคมฺม ตณฺหา จชิยติ, ปฏินิสฺสชฺชิยติ, มุจฺจติ, น อลฺลิยติ. ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว หิ ¶ นิพฺพานํ. นามานิ ปนสฺส สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสน อเนกานิ นิพฺพานเววจนาเนว โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อเสสวิราคนิโรโธ, จาโค, ปฏินิสฺสคฺโค, มุตฺติ, อนาลโย, ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย, ตณฺหากฺขโย, อนุปฺปาโท, อปฺปวตฺตํ, อนิมิตฺตํ, อปฺปณิหิตํ, อนายูหนํ, อปฺปฏิสนฺธิ, อนุปปตฺติ, อคติ, อชาตํ, อชรํ, อพฺยาธิ, อมตํ, อโสกํ, อปริเทวํ, อนุปายาสํ, อสํกิลิฏฺนฺติอาทีนิ.
อิทานิ มคฺเคน ฉินฺนาย นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺติปตฺตายปิ จ ตณฺหาย เยสุ วตฺถูสุ ตสฺสา อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, ตตฺเถว อภาวํ ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา ปุริโส เขตฺเต ชาตํ ติตฺตอลาพุวลฺลึ ทิสฺวา อคฺคโต ปฏฺาย มูลํ ปริเยสิตฺวา ฉินฺเทยฺย, สา อนุปุพฺเพน มิลายิตฺวา อปฺปวตฺตึ คจฺเฉยฺย. ตโต ตสฺมึ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ นิรุทฺธา ปหีนาติ วุจฺเจยฺย. เอวเมว เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย จกฺขาทีสุ ตณฺหา. สา อริยมคฺเคน มูลจฺฉินฺนา นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺตึ คจฺฉติ. เอวํ คตา ปน เตสุ วตฺถูสุ เขตฺเต ติตฺตอลาพุ วิย น ปฺายติ. ยถา จ อฏวิโต โจเร อาเนตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาเร ฆาเตยฺยุํ, ตโต อฏวิยํ โจรา มตาติ วา มาริตาติ วา วุจฺเจยฺยุํ; เอวเมว อฏวิยํ โจรา วิย ยา จกฺขาทีสุ ตณฺหา, สา ทกฺขิณทฺวาเร โจรา วิย นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธตฺตา นิพฺพาเน นิรุทฺธา. เอวํ นิรุทฺธา ปน เตสุ วตฺถูสุ อฏวิยํ ¶ โจรา วิย น ปฺายติ. เตนสฺสา ตตฺเถว นิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๕. มคฺคสจฺจนิทฺเทเส ¶ อยเมวาติ อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถํ นิยมนํ. อริโยติ ตํตํมคฺควชฺเฌหิ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย ตูริยํ องฺคมตฺตเมว ¶ โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, นิพฺพานํ วา มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. เสยฺยถิทนฺติ โส กตโมติ เจติ อตฺโถ.
อิทานิ องฺคมตฺตเมว มคฺโค โหติ, องฺควินิมฺมุตฺโต นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติ อาห. ตตฺถ สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทานลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.
เตสุ จ เอเกกสฺส ตีณิ ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธํ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม ¶ อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา ปทหติ.
อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา, กิจฺจโต ปน ทุกฺเข าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ ¶ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.
อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภควตา นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา. อยฺหิ ‘‘ปฺาปชฺโชโต ปฺาสตฺถ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐, ๒๙, ๓๔) จ ¶ วุตฺตา. ตสฺมา เอตาย ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาาณสงฺขาตาย สมฺมาทิฏฺิยา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสตฺวา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต เขเมน โยคาวจโร นิพฺพานํ ปาปุณาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา’’ติ.
สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต. ยถา หิ เหรฺิโก หตฺเถน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จกฺขุนา กหาปณํ โอโลเกนฺโต ‘อยํ กูโฏ, อยํ เฉโก’ติ ชานาติ, เอวํ โยคาวจโรปิ ปุพฺพภาเค วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิปสฺสนาปฺาย โอโลกยมาโน ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจราทโย’ติ ชานาติ. ยถา วา ปน ปุริเสน โกฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ทินฺนํ มหารุกฺขํ ตจฺฉโก วาสิยา ตจฺเฉตฺวา กมฺเม อุปเนติ, เอวํ วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิตกฺกตฺวา ทินฺนธมฺเม โยคาวจโร ปฺาย ‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม ธมฺมา รูปาวจรา’ติอาทินา นเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กมฺเม อุปเนติ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร, ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต’’ติ.
สฺวายํ ยถา สมฺมาทิฏฺิยา, เอวํ สมฺมาวาจายปิ อุปการโก. ยถาห – ‘‘ปุพฺเพ โข, คหปติ, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓). ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมาวาจา วุตฺตา.
ยสฺมา ปน ‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’ติ ปมํ วาจาย สํวิทหิตฺวา โลเก กมฺมนฺเต ปโยเชนฺติ, ตสฺมา วาจา กายกมฺมสฺส อุปการิกาติ สมฺมาวาจาย อนนฺตรํ สมฺมากมฺมนฺโต วุตฺโต.
จตุพฺพิธํ ¶ ปน วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ กายทุจฺจริตํ ปหาย อุภยํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว ยสฺมา อาชีวฏฺมกสีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส, ตสฺมา ตทุภยานนฺตรํ สมฺมาอาชีโว วุตฺโต.
เอวํ สุทฺธาชีเวน ‘ปริสุทฺโธ เม อาชีโว’ติ เอตฺตาวตา ปริโตสํ อกตฺวา สุตฺตปฺปมตฺเตน วิหริตุํ น ยุตฺตํ, อถ โข สพฺพอิริยาปเถสุ อิทํ วีริยมารภิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาวายาโม วุตฺโต.
ตโต ¶ อารทฺธวีริเยนาปิ กายาทีสุ จตูสุ วตฺถูสุ สติ สุปฺปติฏฺิตา กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมฺมาสติ เทสิตา.
ยสฺมา ปน เอวํ สุปฺปติฏฺิตา สติ สมาธิสฺส อุปการานุปการานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ปโหติ เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ, ตสฺมา สมฺมาสติอนนฺตรํ สมฺมาสมาธิ เทสิโตติ เวทิตพฺโพ.
สมฺมาทิฏฺินิทฺเทเส ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ ‘‘กตเม ปฺจกฺขนฺธา? รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ; อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กมฺมํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอเกน ปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ; ทุกฺขํ ¶ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ; ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.
เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว; อปรภาเค ตีสุ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ, นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิยํ กามาวจรํ, ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ. อยฺจ อาทิกมฺมิโก. ตสฺมา สา อิธ น วุตฺตา. อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต ‘ทุกฺขํ ปริชานามิ ¶ , สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ; อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.
ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ; ขาณุกณฺฏกปฺปหาราทีสุ ‘อโห ทุกฺข’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยมฺปิ ¶ ขาทิตุกามตาภฺุชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ปน ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคหณตฺถํ หตฺถปฺปสารณํ วิย, อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปฺปสารณํ วิย, สตธา ภินฺนวาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหติ.
สมฺมาสงฺกปฺปนิทฺเทเส กามโต นิสฺสโฏติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. พฺยาปาทโต นิสฺสโฏติ อพฺยาปาทสงฺกปฺโป. วิหึสาย นิสฺสโฏติ อวิหึสาสงฺกปฺโป. ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺโก กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต ¶ อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺกสฺส, อวิหึสาวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺกสฺส. เนกฺขมฺมวิตกฺโก จ กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทอวิหึสาวิตกฺกา พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกานํ.
ตตฺถ โยคาวจโร กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ กามวิตกฺกํ วา สมฺมสติ อฺํ วา ปน กิฺจิ สงฺขารํ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปติ. อถสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ; พฺยาปาทวิตกฺกสฺสาปิ ปทฆาตนตฺถํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ; วิหึสาวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ วิหึสาวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
กามวิตกฺกาทีนํ ¶ ปน ติณฺณํ ปาฬิยํ วิภตฺเตสุ อฏฺตึสารมฺมเณสุ เอกกมฺมฏฺานมฺปิ อปจฺจนีกํ นาม นตฺถิ. เอกนฺตโต ปน กามวิตกฺกสฺส ตาว อสุเภสุ ปมชฺฌานเมว ปจฺจนีกํ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺส เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ, วิหึสาวิตกฺกสฺส กรุณาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ. ตสฺมา อสุเภ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป วิกฺขมฺภนวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ ¶ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺโน เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.
เมตฺตาย ปน ปริกมฺมํ กตฺวา, กรุณาย ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปชฺชตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอวํ อุปฺปนฺโน อพฺยาปาทสงฺกปฺโปติ วุจฺจติ, อวิหึสาสงฺกปฺโปติ จ วุจฺจตีติ ¶ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย วิปสฺสนาฌานวเสน อุปฺปตฺตีนํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.
สมฺมาวาจานิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเนฺเน ปิสุณวาจาทีหิ, ตสฺมา จตสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉาวาจาสงฺขาตาย จตุพฺพิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาวาจาสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.
สมฺมากมฺมนฺตนิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน ปาณาติปาตา วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานา, อฺเน กาเมสุมิจฺฉาจารา, ตสฺมา ติสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา; มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉากมฺมนฺตสงฺขาตาย ติวิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา อกุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.
สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส ¶ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อริยสาวโกติ อริยสฺส พุทฺธสฺส สาวโก. มิจฺฉาอาชีวํ ปหายาติ ปาปกํ อาชีวํ ปชหิตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปสตฺเถน กุสลอาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตปฺปวตฺตึ ปวตฺเตติ. อิธาปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ; อฺเน วจีทฺวารวีติกฺกมา, ตสฺมา ปุพฺพภาเค นานากฺขเณสุ อุปฺปชฺชติ; มคฺคกฺขเณ ปน ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ สตฺตนฺนํ กมฺมปถานํ วเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาอาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาอาชีวสงฺขาตา กุสลเวรมณี อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.
สมฺมาวายามนิทฺเทโส ¶ สมฺมปฺปธานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยํ ปน ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ¶ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย วายามํ กโรติ, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ปหานาย; อฺเเนว จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย, อฺเน อุปฺปนฺนานํ ิติยา; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกเมว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตํ วีริยํ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลพฺภติ.
สมฺมาสตินิทฺเทโสปิ สติปฏฺานวิภงฺเค อนุปทวณฺณนาวเสน อาวิภวิสฺสติ. อยมฺปิ จ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเนฺเน เวทนาทีนิ; มคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภติ. เอกาเยว หิ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ.
สมฺมาสมาธินิทฺเทเส จตฺตาริ ฌานานิ ปุพฺพภาเคปิ นานา, มคฺคกฺขเณปิ. ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา, ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ.
อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหติ. ปาทกชฺฌานนิยาเมน ตาว ปมชฺฌานลาภิโน ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ¶ ปมชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ทุติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต อุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค ตติยชฺฌานิโก โหติ; มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา.
อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. ตฺจ โข โลกุตฺตรํ โน โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต อุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อารุปฺปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โย อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ ¶ . เอวํ ¶ ปาทกชฺฌานเมว นิยาเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยาเมนฺตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยาเมตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ วาทวินิจฺฉโย เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ โลกุตฺตรปทภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจติ สมฺมาสมาธีติ ยา อิเมสุ จตูสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา, อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธิ นาม วุจฺจตีติ. เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ภควา มคฺคสจฺจํ เทเสสิ.
ตตฺถ โลกิยมคฺเค สพฺพาเนว มคฺคงฺคานิ ยถานุรูปํ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรมคฺเค ปน จตุสจฺจปฏิเวธาย ปวตฺตสฺส อริยสฺส นิพฺพานารมฺมณํ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตกํ ปฺาจกฺขุ สมฺมาทิฏฺิ. ตถา สมฺปนฺนทิฏฺิสฺส ตํสมฺปยุตฺตํ ติวิธมิจฺฉาสงฺกปฺปสมุคฺฆาตกํ เจตโส นิพฺพานปทาภินิโรปนํ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตถา ปสฺสนฺตสฺส วิตกฺเกนฺตสฺส จ ตํสมฺปยุตฺตาว จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสมุคฺฆาติกาย มิจฺฉาวาจาย วิรติ สมฺมาวาจา. ตถา วิรมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกา ติวิธกายทุจฺจริตวิรติ สมฺมากมฺมนฺโต. เตสํเยว สมฺมาวาจากมฺมนฺตานํ โวทานภูตา ตํสมฺปยุตฺตาว กุหนาทิสมุจฺเฉทิกา มิจฺฉาอาชีววิรติ สมฺมาอาชีโว. อิมิสฺสา สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวสํขาตาย สีลภูมิยํ ปติฏฺมานสฺส ตทนุรูโป ตํสมฺปยุตฺโตว โกสชฺชสมุจฺเฉทโก ¶ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อกุสลกุสลานํ อนุปฺปาทปหานุปฺปาทฏฺิติสาธโก จ วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม. เอวํ วายมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺโตว มิจฺฉาสติวินิทฺธุนนโก กายาทีสุ กายานุปสฺสนาทิสาธโก จ เจตโส อสมฺโมโส สมฺมาสติ. อิติ อนุตฺตราย สติยา สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉาสมาธิสมุคฺฆาติกา จิตฺเตกคฺคตา สมฺมาสมาธีติ. เอส ¶ โลกุตฺตโร อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค โย สห โลกิเยน มคฺเคน ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สงฺขํ คโต.
โส โข ปเนส มคฺโค สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปานํ วิชฺชาย, เสสธมฺมานํ จรเณน สงฺคหิตตฺตา วิชฺชา เจว จรณฺจ. ตถา เตสํ ทฺวินฺนํ วิปสฺสนายาเนน, อิตเรสํ สมถยาเนน สงฺคหิตตฺตา สมโถ เจว วิปสฺสนา จ. เตสํ วา ทฺวินฺนํ ปฺากฺขนฺเธน, ตทนนฺตรานํ ติณฺณํ สีลกฺขนฺเธน, อวเสสานํ สมาธิกฺขนฺเธน อธิปฺาอธิสีลอธิจิตฺตสิกฺขาหิ จ สงฺคหิตตฺตา ขนฺธตฺตยฺเจว สิกฺขาตฺตยฺจ โหติ; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก ทสฺสนสมตฺเถหิ จกฺขูหิ คมนสมตฺเถหิ จ ¶ ปาเทหิ สมนฺนาคโต อทฺธิโก วิย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน หุตฺวา วิปสฺสนายาเนน กามสุขลฺลิกานุโยคํ, สมถยาเนน อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อนฺตทฺวยํ ปริวชฺเชตฺวา มชฺฌิมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ปฺากฺขนฺเธน โมหกฺขนฺธํ, สีลกฺขนฺเธน โทสกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺเธน จ โลภกฺขนฺธํ ปทาเลนฺโต อธิปฺาสิกฺขาย ปฺาสมฺปทํ, อธิสีลสิกฺขาย สีลสมฺปทํ, อธิจิตฺตสิกฺขาย สมาธิสมฺปทนฺติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปตฺวา อมตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมรตนวิจิตฺตํ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยภูมิฺจ โอกฺกนฺโต โหตีติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๐๖-๒๑๔. อิทานิ อภิธมฺมภาชนียํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อริยสจฺจานีติ หิ วุตฺเต อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา, ตีณิ จ กุสลมูลานิ สาสวานิ, อวเสสา จ สาสวา กุสลา ธมฺมา น สงฺคยฺหนฺติ. น จ เกวลํ ตณฺหาว ทุกฺขํ สมุทาเนติ, อิเมปิ อวเสสา จ กิเลสาทโย ปจฺจยา สมุทาเนนฺติเยว. อิติ อิเมปิ ปจฺจยา ทุกฺขํ สมุทาเนนฺติเยวาติ นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ.
นิทฺเทสวาเร ¶ จ เนสํ ปมํ ทุกฺขํ อนิทฺทิสิตฺวา ตสฺเสว ทุกฺขสฺส สุขนิทฺเทสตฺถํ ทุกฺขสมุทโย นิทฺทิฏฺโ. ตสฺมิฺหิ นิทฺทิฏฺเ ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา นเยน ทุกฺขสจฺจํ สุขนิทฺเทสํ โหติ. นิโรธสจฺจมฺเปตฺถ ตณฺหาย ปหานํ ‘‘ตณฺหาย จ อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติ เอวํ ยถาวุตฺตสฺส สมุทยสฺส ปหานวเสน ปฺจหากาเรหิ นิทฺทิฏฺํ. มคฺคสจฺจํ ปเนตฺถ ปมชฺฌานิกโสตาปตฺติมคฺควเสน ธมฺมสงฺคณิยํ วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. ตํ อุปริ ปกาสยิสฺสาม.
ยสฺมา ¶ ปน น เกวลํ อฏฺงฺคิโก มคฺโคว ปฏิปทา ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๓) วจนโต ปน ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค ปฏิปทา เอวาติ เทสิโต, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ยสฺมา จ น เกวลํ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกมคฺคาว ปฏิปทา, สมฺปยุตฺตกา ปน อติเรกปฺาสธมฺมาปิ ปฏิปทา เอว, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ตติโย สพฺพสงฺคาหิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ. ตตฺถ ‘‘อวเสสา ธมฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย สมฺปยุตฺตา’’ติ อิทํ ปริหายติ. เสสํ สพฺพตฺถ สทิสเมว.
ตตฺถ อฏฺงฺคิกวารสฺส ‘‘ตณฺหาย อวเสสานฺจ กิเลสานํ ปหาน’’นฺติอาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปมโกฏฺาเส ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตํ, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ วาเรสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคฺคุณิตานิ อฏฺ ¶ . อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตี อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ยถา จ ปมโกฏฺาเส จตฺตาริ, เอวํ เสเสสุปีติ อฏฺงฺคิกวาเร ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ วีสติ นยสหสฺสานิ โหนฺติ. ตถา ปฺจงฺคิกวาเร สพฺพสงฺคาหิกวาเร จาติ สพฺพานิปิ สฏฺิ ¶ นยสหสฺสานิ สตฺถารา วิภตฺตานิ. ปาฬิ ปน สงฺเขเปน อาคตา. เอวมิทํ ติวิธมหาวารํ ปฺจทสโกฏฺาสํ สฏฺินยสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ อภิธมฺมภาชนียํ นาม นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๒๑๕. ปฺหาปุจฺฉเก จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ ขนฺธวิภงฺเค วุตฺตนยานุสาเรเนว กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สมุทยสจฺจํ กามาวจรธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณํ โหติ, มหคฺคตธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณํ, ปฺตฺตึ อสฺสาเทนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณํ. ทุกฺขสจฺจํ ¶ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปนฺนํ ปริตฺตารมฺมณํ, รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, นว โลกุตฺตรธมฺเม ปจฺจเวกฺขณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ, ปณฺณตฺตึ ปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. มคฺคสจฺจํ สหชาตเหตุวเสน สพฺพทาปิ มคฺคเหตุกํ วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺเตสุ อฺตราธิปติกาเล นวตฺตพฺพํ นาม โหติ. ทุกฺขสจฺจํ อริยานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณํ, เตสํเยว มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคาธิปติ, เสสธมฺมปจฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพํ โหติ.
ทฺเว สจฺจานีติ ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ. เอตานิ หิ อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ อุปฺปตฺติกาเล อตีตาทิอารมฺมณานิ โหนฺติ. สมุทยสจฺจํ อชฺฌตฺตาทิเภเท ธมฺเม อสฺสาเทนฺตสฺส อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณํ โหติ, ทุกฺขสจฺจํ อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณมฺปีติ เวทิตพฺพํ. อิติ อิมสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก ทฺเว สจฺจานิ โลกิยานิ โหนฺติ, ทฺเว โลกุตฺตรานิ. ยถา ¶ จ อิมสฺมึ, เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสุ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ตีสุปิ สุตฺตนฺตภาชนียาทีสุ โลกิยโลกุตฺตราเนว สจฺจานิ กถิตานิ. เอวมยํ สจฺจวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนียา วิภงฺคฏฺกถาย
สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๑๙. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อินฺทฺริยวิภงฺเค พาวีสตีติ คณนปริจฺเฉโท. อินฺทฺริยานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. อิทานิ ตานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํ. โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ กายินฺทฺริยํ. วิชานนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ มนินฺทฺริยํ. อิตฺถิภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อิตฺถินฺทฺริยํ. ปุริสภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ปุริสินฺทฺริยํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ. สุขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สุขินฺทฺริยํ. ทุกฺขโสมนสฺส โทมนสฺส อุเปกฺขาลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อุเปกฺขินฺทฺริยํ. อธิโมกฺขลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สทฺธินฺทฺริยํ. ปคฺคหลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ วีริยินฺทฺริยํ. อุปฏฺานลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สตินฺทฺริยํ. อวิกฺเขปลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ปฺินฺทฺริยํ. อนฺาตฺสฺสามีติ ปวตฺเต ชานนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. าตานํเยว ธมฺมานํ ปุน อาชานเน อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อฺินฺทฺริยํ. อฺาตาวีภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
อิธ สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม น คหิตํ. กสฺมา? สุตฺตนฺเต อิมาย ปฏิปาฏิยา พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ อนาคตตฺตา. สุตฺตนฺตสฺมิฺหิ กตฺถจิ ทฺเว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ, กตฺถจิ ตีณิ, กตฺถจิ ปฺจ. เอวํ ปน นิรนฺตรํ ทฺวาวีสติ อาคตานิ นาม นตฺถิ. อยํ ตาเวตฺถ อฏฺกถานโย. อยํ ปน อปโร นโย – เอเตสุ หิ
อตฺถโต ¶ ลกฺขณาทีหิ, กมโต จ วิชานิยา;
เภทาเภทา ตถา กิจฺจา, ภูมิโต จ วินิจฺฉยํ.
ตตฺถ ¶ จกฺขาทีนํ ตาว ‘‘จกฺขตีติ จกฺขู’’ติอาทินา นเยน อตฺโถ ปกาสิโต. ปจฺฉิเมสุ ปน ตีสุ ปมํ ‘ปุพฺพภาเค อนฺาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมํ วา ชานิสฺสามี’ติ เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ. ทุติยํ อาชานนโต จ อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อฺินฺทฺริยํ. ตติยํ อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส ¶ ขีณาสวสฺเสว อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
โก ปเนส อินฺทฺริยฏฺโ นามาติ? อินฺทลิงฺคฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทเทสิตฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺททิฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทสิฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ, อินฺทชุฏฺฏฺโ อินฺทฺริยฏฺโ. โส สพฺโพปิ อิธ ยถาโยคํ ยุชฺชติ. ภควา หิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปรมิสฺสริยภาวโต อินฺโท. กุสลากุสลฺจ กมฺมํ กมฺเมสุ กสฺสจิ อิสฺสริยาภาวโต. เตเนเวตฺถ กมฺมสฺชนิตานิ อินฺทฺริยานิ กุสลากุสลกมฺมํ อุลฺลิงฺเคนฺติ. เตน จ สิฏฺานีติ อินฺทลิงฺคฏฺเน อินฺทสิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. สพฺพาเนว ปเนตานิ ภควตา ยถาภูตโต ปกาสิตานิ จ อภิสมฺพุทฺธานิ จาติ อินฺทเทสิตฏฺเน อินฺททิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. เตเนว ภควตา มุนินฺเทน กานิจิ โคจราเสวนาย, กานิจิ ภาวนาเสวนาย เสวิตานีติ อินฺทชุฏฺฏฺเนปิ อินฺทฺริยานิ. อปิจ อาธิปจฺจสงฺขาเตน อิสฺสริยฏฺเนาปิ เอตานิ อินฺทฺริยานิ. จกฺขุวิฺาณาทิปฺปวตฺติยฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจํ; ตสฺมึ ติกฺเข ติกฺขตฺตา มนฺเท จ มนฺทตฺตาติ. อยํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทีหี’ติ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺาเนหิปิ จกฺขาทีนํ วินิจฺฉยํ วิชานิยาติ อตฺโถ. ตานิ เนสํ ลกฺขณาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. ปฺินฺทฺริยาทีนิ หิ จตฺตาริ อตฺถโต อโมโหเยว. เสสานิ ตตฺถ สรูเปเนวาคตานิ.
‘กมโต’ติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. ตตฺถ อชฺฌตฺตธมฺมํ ปริฺาย อริยภูมิปฏิลาโภ โหตีติ อตฺตภาวปริยาปนฺนานิ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ปมํ เทสิตานิ. โส ปนตฺตภาโว ยํ ธมฺมํ อุปาทาย อิตฺถีติ วา ปุริโสติ ¶ วา สงฺขํ คจฺฉติ, อยํ โสติ นิทสฺสนตฺถํ ตโต อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยฺจ ¶ . โส ทุวิโธปิ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธวุตฺตีติ าปนตฺถํ ตโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ยาว ตสฺส ปวตฺติ ตาว เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺติ. ยํ กิฺจิ เวทยิตํ สพฺพํ ตํ สุขทุกฺขนฺติ าปนตฺถํ ตโต สุขินฺทฺริยาทีนิ. ตํนิโรธตฺถํ ปน เอเต ธมฺมา ภาเวตพฺพาติ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ตโต สทฺธาทีนิ. อิมาย ปฏิปตฺติยา เอส ธมฺโม ปมํ อตฺตนิ ปาตุภวตีติ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนตฺถํ ตโต อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. ตสฺเสว ผลตฺตา ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตา จ ตโต อฺินฺทฺริยํ. อิโต ปรํ ภาวนาย อิมสฺส อธิคโม, อธิคเต จ ปนิมสฺมึ นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ ¶ กรณียนฺติ าปนตฺถํ อนฺเต ปรมสฺสาสภูตํ อฺาตาวินฺทฺริยํ เทสิตนฺติ อยเมตฺถ กโม.
‘เภทาเภทา’ติ ชีวิตินฺทฺริยสฺเสว เจตฺถ เภโท. ตฺหิ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ทุวิธํ โหติ. เสสานํ อเภโทติ เอวเมตฺถ เภทาเภทโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา.
‘กิจฺจา’ติ กึ อินฺทฺริยานํ กิจฺจนฺติ เจ? จกฺขุนฺทฺริยสฺส ตาว ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วจนโต ยํ ตํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพํ อตฺตโน ติกฺขมนฺทาทิภาเวน จกฺขุวิฺาณาทิธมฺมานํ ติกฺขมนฺทาทิสงฺขาตํ อตฺตาการานุวตฺตาปนํ อิทํ ‘กิจฺจํ’. เอวํ โสตฆานชิวฺหากายานํ. มนินฺทฺริยสฺส ปน สหชาตธมฺมานํ อตฺตโน วสวตฺตาปนํ, ชีวิตินฺทฺริยสฺส สหชาตธมฺมานุปาลนํ, อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยานํ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตกุตฺตากปฺปาการานุวิธานํ, สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสินฺทฺริยานํ สหชาตธมฺเม อภิภวิตฺวา ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปนํ, อุเปกฺขินฺทฺริยสฺส สนฺตปณีตมชฺฌตฺตาการานุปาปนํ, สทฺธาทีนํ ปฏิปกฺขาภิภวนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ ปสนฺนาการาทิภาวสมฺปาปนํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส สํโยชนตฺตยปฺปหานฺเจว สมฺปยุตฺตกานฺจ ¶ ตปฺปหานาภิมุขภาวกรณํ, อฺินฺทฺริยสฺส กามราคพฺยาปาทาทิตนุกรณปหานฺเจว สหชาตานฺจ อตฺตโน วสานุวตฺตาปนํ, อฺาตาวินฺทฺริยสฺส สพฺพกิจฺเจสุ อุสฺสุกฺกปฺปหานฺเจว อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จ สมฺปยุตฺตานนฺติ เอวเมตฺถ กิจฺจโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา.
‘ภูมิโต’ติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิปุริสสุขทุกฺขโทมนสฺสินฺทฺริยานิ เจตฺถ กามาวจราเนว ¶ . มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ, สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยานิ จ จตุภูมิปริยาปนฺนานิ. โสมนสฺสินฺทฺริยํ กามาวจร-รูปาวจร-โลกุตฺตรวเสน ภูมิตฺตยปริยาปนฺนํ. อวสาเน ตีณิ โลกุตฺตราเนวาติ เอวํ ภูมิโต วินิจฺฉยํ วิชานิยา. เอวฺหิ วิชานนฺโต –
สํเวคพหุโล ภิกฺขุ, ิโต อินฺทฺริยสํวเร;
อินฺทฺริยานิ ปริฺาย, ทุกฺขสฺสนฺตํ นิคจฺฉตีติ.
๒๒๐. นิทฺเทสวาเร ¶ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทิ สพฺพํ ธมฺมสงฺคณิยํ ปทภาชเน (ธ. ส. อฏฺ. ๕๙๕ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วีริยินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยนิทฺเทสาทีสุ จ สมฺมาวายาโม มิจฺฉาวายาโม สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาสมาธีติอาทีนิ น วุตฺตานิ. กสฺมา? สพฺพสงฺคาหกตฺตา. สพฺพสงฺคาหกานิ หิ อิธ อินฺทฺริยานิ กถิตานิ. เอวํ สนฺเตเปตฺถ ทส อินฺทฺริยานิ โลกิยานิ กามาวจราเนว, ตีณิ โลกุตฺตรานิ, นว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานีติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๒. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๒๒๑. ปฺหาปุจฺฉเก สพฺเพสมฺปิ อินฺทฺริยานํ กุสลาทิวิภาโค ปาฬินยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพ.
๒๒๓. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณาติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยํ ปน อรูปมิสฺสกตฺตา อิธ อนาภฏฺํ. ทฺวินฺทฺริยาติ ทฺเว อินฺทฺริยา; สุขทุกฺขทฺวยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตฺหิ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณํ. โทมนสฺสินฺทฺริยํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ, สิยา มหคฺคตารมฺมณนฺติ ¶ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ ¶ , รูปาวจรารูปาวจเร ปน อารพฺภ ปวตฺติกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. นวินฺทฺริยา สิยา ปริตฺตารมฺมณาติ มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยโสมนสฺสินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ เจว สทฺธาทิปฺจกฺจ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ รูปมิสฺสกตฺตา อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตมฺปิ อรูปโกฏฺาเสน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ.
จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ สุขทุกฺขโทมนสฺสอฺาตาวินฺทฺริยานิ. ตานิ หิ มคฺคารมฺมณตฺติเก น ภชนฺติ. มคฺคเหตุกนฺติ สหชาตเหตุํ สนฺธาย วุตฺตํ. วีริยวีมํสาเชฏฺกกาเล สิยา มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺตเชฏฺกกาเล สิยา นวตฺตพฺพา.
ทสินฺทฺริยา ¶ สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อุปฺปาทิโนติ สตฺต รูปินฺทฺริยานิ ตีณิ จ วิปากินฺทฺริยานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทสินฺทฺริยานิ โทมนสฺเสน สทฺธึ เหฏฺา วุตฺตาเนว. ตตฺถ โทมนสฺสินฺทฺริยํ ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ, เสสานิ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเลปิ. ตีณินฺทฺริยานิ พหิทฺธารมฺมณานีติ ตีณิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานิ. จตฺตารีติ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานิ. ตานิ หิ อชฺฌตฺตธมฺเมปิ พหิทฺธาธมฺเมปิ อารพฺภ ปวตฺตนฺติ. อฏฺินฺทฺริยาติ มนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ เจว สทฺธาทิปฺจกฺจ. ตตฺถ อากิฺจฺายตนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณตา เวทิตพฺพา.
อิติ อิมสฺมิมฺปิ ปฺหาปุจฺฉเก ทสินฺทฺริยานิ กามาวจรานิ, ตีณิ โลกุตฺตรานิ, นว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว กถิตานีติ. อยมฺปิ อภิธมฺมภาชนีเยน สทฺธึ เอกปริจฺเฉโทว โหติ. อยํ ปน อินฺทฺริยวิภงฺโค ทฺเวปริวฏฺฏํ นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๒๒๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค ยา ‘‘อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน ตนฺติ นิกฺขิตฺตา, ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ โอตริตฺวา อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตน สกสมยํ อโวกฺกมนฺเตน ปรสมยํ อนายูหนฺเตน สุตฺตํ อปฺปฏิพาหนฺเตน วินยํ อนุโลเมนฺเตน มหาปเทเส โอโลเกนฺเตน ธมฺมํ ทีเปนฺเตน อตฺถํ สงฺคหนฺเตน ตเมวตฺถํ ปุน อาวตฺเตตฺวา อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตน จ ยสฺมา อตฺถสํวณฺณนา กาตพฺพา โหติ, ปกติยาปิ จ ทุกฺกราว ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถสํวณฺณนา, ยถาหุ โปราณา –
‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;
ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตฺุจ สุทุกฺกรา’’ติ.
ตสฺมา ‘‘อฺตฺร อาคมาธิคมปฺปตฺเตหิ น สุกรา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถวณฺณนา’’ติ ปริตุลยิตฺวา –
วตฺตุกาโม อหํ อชฺช, ปจฺจยาการวณฺณนํ;
ปติฏฺํ นาธิคจฺฉามิ, อชฺโฌคาฬฺโหว สาครํ.
สาสนํ ¶ ปนิทํ นานา-เทสนานยมณฺฑิตํ;
ปุพฺพาจริยมคฺโค จ, อพฺโพจฺฉินฺโน ปวตฺตติ.
ยสฺมา ตสฺมา ตทุภยํ, สนฺนิสฺสายตฺถวณฺณนํ;
อารภิสฺสามิ เอตสฺส, ตํ สุณาถ สมาหิตา.
วุตฺตฺเหตํ ปุพฺพาจริเยหิ –
‘‘โย โกจิมํ อฏฺึ กตฺวา สุเณยฺย,
ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,
อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.
อวิชฺชาปจฺจยา ¶ ¶ สงฺขาราติอาทีสุ หิ อาทิโตเยว ตาว –
เทสนาเภทโต อตฺถ-ลกฺขเณกวิธาทิโต;
องฺคานฺจ ววตฺถานา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘เทสนาเภทโต’ติ ภควโต หิ วลฺลิหารกานํ จตุนฺนํ ปุริสานํ วลฺลิคฺคหณํ วิย อาทิโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว ปริโยสานํ, ตถา ปริโยสานโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺาย ยาว อาทีติ จตุพฺพิธา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา. ยถา หิ วลฺลิหารเกสุ จตูสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มูลเมว ปมํ ปสฺสติ, โส ตํ มูเล เฉตฺวา สพฺพํ อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อาทิโต (ม. นิ. ๑.๔๐๒) ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌํ ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา อุปริภาคํเยว อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ตสฺส ตํ เวทนํ อภินนฺทโต ¶ อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต อุปฺปชฺชติ นนฺที; ยา เวทนาสุ นนฺที, ตทุปาทานํ, ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๙; สํ. นิ. ๓.๕) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานาปิ เทเสติ.
ยถา จ เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา อคฺคํ ปมํ ปสฺสติ, โส อคฺเค คเหตฺวา อคฺคานุสาเรน ยาว มูลา สพฺพํ อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ชาติปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, ชรามรณํ โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘ชาติปจฺจยา, ภนฺเต, ชรามรณํ; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ…เป… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, อวิชฺชาปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, สงฺขารา โน วา กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา, ภนฺเต, สงฺขารา; เอวํ โน เอตฺถ โหติ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปริโยสานโต ปฏฺาย ยาว อาทิโตปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติ.
ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌเมว ปมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา โอตรนฺโต ยาว มูลา ¶ อาทาย กมฺเม อุปเนติ ¶ , เอวํ ภควา ‘‘อิเม, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหารา กึ นิทานา, กึ สมุทยา, กึ ชาติกา, กึ ปภวา? อิเม จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา, ตณฺหาสมุทยา, ตณฺหาชาติกา, ตณฺหาปภวา. ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเว, กึ นิทานา? เวทนา, ผสฺโส, สฬายตนํ, นามรูปํ, วิฺาณํ. สงฺขารา กึ นิทานา…เป… สงฺขารา อวิชฺชานิทานา, อวิชฺชาสมุทยา, อวิชฺชาชาติกา, อวิชฺชาปภวา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิโต เทเสติ.
กสฺมา ปเนวํ เทเสตีติ? ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สมนฺตภทฺทกตฺตา, สยฺจ เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา. สมนฺตภทฺทโก หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ตโต ตโต ายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตติเยว. เทสนาวิลาสปฺปตฺโต จ ภควา จตุเวสารชฺชปฺปฏิสมฺภิทาโยเคน จตุพฺพิธคมฺภีรภาวปฺปตฺติยา จ. โส เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา นานานเยเหว ธมฺมํ เทเสติ. วิเสสโต ปนสฺส ยา อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา, สา ปวตฺติการณวิภาคสมฺมูฬฺหํ เวเนยฺยชนํ สมนุปสฺสโต ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ ปวตฺติตาติ าตพฺพา.
ยา ¶ ปริโยสานโต ปฏฺาย ปฏิโลมเทสนา, สา ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชียติ จ มียติ จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๕๗) อาทินา นเยน กิจฺฉาปนฺนํ โลกมนุวิโลกยโต ปุพฺพภาคปฺปฏิเวธานุสาเรน ตสฺส ตสฺส ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสฺส อตฺตนาธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว อาทิ, สา อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํ. ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา ปวตฺตา, สา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาเน อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถํ. ตาสุ ยา สา ปวตฺติการณสมฺมูฬฺหสฺส เวเนยฺยชนสฺส ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ อาทิโต ปฏฺาย อนุโลมเทสนา วุตฺตา, สา อิธ นิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.
กสฺมา ¶ ปเนตฺถ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา? กึ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย อวิชฺชาปิ อการณํ มูลการณํ โลกสฺสาติ? น อการณํ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ อวิชฺชาย การณํ วุตฺตํ. อตฺถิ ¶ ปน ปริยาโย เยน มูลการณํ สิยา. โก ปน โสติ? วฏฺฏกถาย สีสภาโว. ภควา หิ วฏฺฏกถํ กเถนฺโต ทฺเว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสิ – อวิชฺชํ วา ภวตณฺหํ วา. ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑); ภวตณฺหํ วา, ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒).
กสฺมา ปน ภควา วฏฺฏกถํ กเถนฺโต อิเม ทฺเวว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถสีติ? สุคติทุคฺคติคามิโน กมฺมสฺส วิเสสเหตุภูตตฺตา. ทุคฺคติคามิโน หิ กมฺมสฺส วิเสสเหตุ อวิชฺชา. กสฺมา? ยสฺมา อวิชฺชาภิภูโต ปุถุชฺชโน, อคฺคิสนฺตาปลคุฬาภิฆาตปริสฺสมาภิภูตา วชฺฌคาวี ตาย ปริสฺสมาตุรตาย นิรสฺสาทมฺปิ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ จ อุณฺโหทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปโต นิรสฺสาทมฺปิ ทุคฺคติวินิปาตโต จ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ ปาณาติปาตาทิมเนกปฺปการํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ อารภติ. สุคติคามิโน ปน กมฺมสฺส วิเสสเหตุ ภวตณฺหา. กสฺมา? ยสฺมา ภวตณฺหาภิภูโต ปุถุชฺชโน, ยถา วุตฺตปฺปการา คาวี ¶ สีตุทกตณฺหาย สอสฺสาทํ อตฺตโน ปริสฺสมวิโนทนฺจ สีตุทกปานํ วิย, กิเลสสนฺตาปวิรหโต สอสฺสาทํ สุคติสมฺปาปเนน อตฺตโน ทุคฺคติทุกฺขปริสฺสมวิโนทนฺจ ปาณาติปาตาเวรมณีอาทิมเนกปฺปการํ สุคติคามิกมฺมํ อารภติ.
เอเตสุ ปน วฏฺฏกถาย สีสภูเตสุ ธมฺเมสุ กตฺถจิ ภควา ¶ เอกธมฺมมูลิกํ เทสนํ เทเสติ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชูปนิสา สงฺขารา, สงฺขารูปนิสํ วิฺาณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๓). ตถา ‘‘อุปาทานีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๕๒). กตฺถจิ อุภยมูลิกมฺปิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, พาลสฺส ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส เอวมยํ กาโย สมุทาคโต. อิติ อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูปํ อิตฺเถตํ ¶ ทฺวยํ, ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส, สเฬวายตนานิ เยหิ ผุฏฺโ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑๙). ตาสุ ตาสุ เทสนาสุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยมิธ อวิชฺชาวเสน เอกธมฺมมูลิกา เทสนาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ตาเวตฺถ เทสนาเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘อตฺถโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ปทานํ อตฺถโต, เสยฺยถิทํ – ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม; อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม. ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อาธิปเตยฺยฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา.
ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา เตน; ตํ อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิ จ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา.
สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ ¶ สงฺขารา. อปิจ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา จาติ ทุวิธา สงฺขารา. ตตฺถ ปฺุาปฺุาเนฺชาภิสงฺขารา ตโย, กายวจีจิตฺตสงฺขารา ตโยติ อิเม ฉ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ¶ . เต สพฺเพปิ โลกิยกุสลากุสลเจตนามตฺตเมว โหนฺติ.
สงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขรณสงฺขาโร, ปโยคาภิสงฺขาโรติ อิเม ปน จตฺตาโร สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา. ตตฺถ ¶ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓) วุตฺตา สพฺเพปิ สปฺปจฺจยา ธมฺมา ‘สงฺขตสงฺขารา’ นาม. กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกา รูปารูปธมฺมา ‘อภิสงฺขตสงฺขารา’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. วิสุํ ปน เนสํ อาคตฏฺานํ น ปฺายติ. เตภูมกกุสลากุสลเจตนา ปน ‘อภิสงฺขรณกสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. ตสฺส ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อาคตฏฺานํ ปฺายติ. กายิกเจตสิกํ ปน วีริยํ ‘ปโยคาภิสงฺขาโร’ติ วุจฺจติ. โส ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคโต.
น เกวลฺจ เอเตเยว, อฺเปิ ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๖๔) นเยน สงฺขารสทฺเทน อาคตา อเนกสงฺขารา. เตสุ นตฺถิ โส สงฺขาโร, โย สงฺขตสงฺขาเร สงฺคหํ น คจฺเฉยฺย. อิโต ปรํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติอาทีสุ ยํ วุตฺตํ ตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อวุตฺเต ปน วิชานาตีติ วิฺาณํ. นมตีติ นามํ. รุปฺปตีติ รูปํ. อาเย ตโนติ, อายตฺจ นยตีติ อายตนํ. ผุสตีติ ผสฺโส. เวทยตีติ เวทนา. ปริตสฺสตีติ ตณฺหา. อุปาทิยตีติ อุปาทานํ. ภวติ ภาวยติ จาติ ภโว. ชนนํ ชาติ. ชีรณํ ชรา. มรนฺติ ¶ เอเตนาติ มรณํ. โสจนํ โสโก. ปริเทวนํ ปริเทโว. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ; อุปฺปาทฏฺิติวเสน วา ทฺเวธา ขณตีติ ทุกฺขํ. ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส.
สมฺภวนฺตีติ ¶ นิพฺพตฺตนฺติ. น เกวลฺจ โสกาทีเหว, อถ โข สพฺพปเทหิ ‘สมฺภวนฺตี’ติ สทฺทสฺส โยชนา กาตพฺพา. อิตรถา หิ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ วุตฺเต กึ กโรนฺตีติ น ปฺาเยยฺยุํ. ‘‘สมฺภวนฺตี’’ติ ปน โยชนาย สติ ‘‘อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย; ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตี’’ติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ กตํ โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวนฺติ ¶ นิทฺทิฏฺนยนิทสฺสนํ. เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส. เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส สกลสฺส วา. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส, น สุขสุภาทีนํ. สมุทโยติ นิพฺพตฺติ. โหตีติ สมฺภวติ. เอวเมตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ลกฺขณาทิโต’ติ อวิชฺชาทีนํ ลกฺขณาทิโต, เสยฺยถิทํ – อฺาณลกฺขณา อวิชฺชา, สมฺโมหนรสา, ฉาทนปจฺจุปฏฺานา, อาสวปทฏฺานา. อภิสงฺขรณลกฺขณา สงฺขารา, อายูหนรสา, เจตนาปจฺจุปฏฺานา, อวิชฺชาปทฏฺานา. วิชานนลกฺขณํ วิฺาณํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺานํ, สงฺขารปทฏฺานํ, วตฺถารมฺมณปทฏฺานํ วา. นมนลกฺขณํ นามํ, สมฺปโยครสํ, อวินิพฺโภคปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, วิกิรณรสํ, อพฺยากตปจฺจุปฏฺานํ, วิฺาณปทฏฺานํ. อายตนลกฺขณํ สฬายตนํ, ทสฺสนาทิรสํ, วตฺถุทฺวารภาวปจฺจุปฏฺานํ ¶ , นามรูปปทฏฺานํ. ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส, สงฺคติปจฺจุปฏฺาโน, สฬายตนปทฏฺาโน. อนุภวนลกฺขณา เวทนา, วิสยรสสมฺโภครสา, สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺานา, ผสฺสปทฏฺานา. เหตุลกฺขณา ตณฺหา, อภินนฺทนรสา, อติตฺติภาวปจฺจุปฏฺานา, เวทนาปทฏฺานา. คหณลกฺขณํ อุปาทานํ, อมฺุจนรสํ, ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺิปจฺจุปฏฺานํ, ตณฺหาปทฏฺานํ. กมฺมกมฺมผลลกฺขโณ ภโว, ภาวนภวนรโส, กุสลากุสลาพฺยากตปจฺจุปฏฺาโน, อุปาทานปทฏฺาโน. ชาติอาทีนํ ลกฺขณาทีนิ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ ลกฺขณาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เอกวิธาทิโต’ติ เอตฺถ อวิชฺชา อฺาณาทสฺสนโมหาทิภาวโต เอกวิธา, อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติโต ทุวิธา ตถา สงฺขาราสงฺขารโต, เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต ติวิธา, จตุสจฺจอปฺปฏิเวธโต ¶ จตุพฺพิธา, คติปฺจกาทีนวจฺฉาทนโต ปฺจวิธา, ทฺวารารมฺมณโต ปน สพฺเพสุปิ อรูปธมฺเมสุ ฉพฺพิธตา เวทิตพฺพา.
สงฺขารา สาสววิปากธมฺมธมฺมาทิภาวโต เอกวิธา, กุสลากุสลโต ทุวิธา ตถา ปริตฺตมหคฺคตหีนมชฺฌิมมิจฺฉตฺตนิยตานิยตโต, ติวิธา ปฺุาภิสงฺขาราทิภาวโต, จตุพฺพิธา จตุโยนิสํวตฺตนโต, ปฺจวิธา ปฺจคติคามิโต.
วิฺาณํ ¶ โลกิยวิปากาทิภาวโต เอกวิธํ, สเหตุกาเหตุกาทิโต ทุวิธํ, ภวตฺตยปริยาปนฺนโต เวทนาตฺตยสมฺปโยคโต อเหตุกทุเหตุกติเหตุกโต จ ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
นามรูปํ วิฺาณสนฺนิสฺสยโต กมฺมปจฺจยโต จ เอกวิธํ, สารมฺมณานารมฺมณโต ทุวิธํ, อตีตาทิโต ติวิธํ, โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจ.
สฬายตนํ สฺชาติสโมสรณฏฺานโต เอกวิธํ, ภูตปฺปสาทวิฺาณาทิโต ทุวิธํ, สมฺปตฺตาสมฺปตฺตโนภยโคจรโต ติวิธํ, โยนิคติปริยาปนฺนโต จตุพฺพิธํ ปฺจวิธฺจาติ อิมินา นเยน ผสฺสาทีนมฺปิ เอกวิธาทิภาโว เวทิตพฺโพติ. เอวเมตฺถ เอกวิธาทิโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘องฺคานฺจ ¶ ววตฺถานา’ติ โสกาทโย เจตฺถ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺติ. ยถาห – ‘‘อสฺสุตวา, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหมาปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒). ยาว จ เตสํ ปวตฺติ ตาว อวิชฺชายาติ ปุนปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ สมฺพนฺธเมว โหติ ภวจกฺกํ. ตสฺมา เตสมฺปิ ชรามรเณเนว เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานีติ เวทิตพฺพานิ. เอวเมตฺถ องฺคานํ ววตฺถานโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. อยํ ตาเวตฺถ อุทฺเทสวารวเสน สงฺเขปกถา.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส
๒๒๖. อิทานิ ¶ นิทฺเทสวารวเสน วิตฺถารกถา โหติ. ‘‘อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจเยสุ สงฺขาเรสุ ทสฺเสตพฺเพสุ ยสฺมา ปุตฺเต กเถตพฺเพ ปมํ ปิตา กถียติ. เอวฺหิ สติ ‘มิตฺตสฺส ¶ ปุตฺโต, ทตฺตสฺส ปุตฺโต’ติ ปุตฺโต สุกถิโต โหติ. ตสฺมา เทสนากุสโล สตฺถา สงฺขารานํ ชนกตฺเถน ปิตุสทิสํ อวิชฺชํ ตาว ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา ทุกฺขสมุทยสฺส ทุกฺขนิโรธสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ จตูสุ าเนสุ สุตฺตนฺติกปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
นิกฺเขปกณฺเฑ (ธ. ส. ๑๐๖๗) ปน อภิธมฺมปริยาเยน ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ อปเรสุปิ จตูสุ าเนสุ อฺาณํ คหิตํ. ตตฺถ ¶ ปุพฺพนฺเตติ อตีโต อทฺธา, อตีตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. อปรนฺเตติ อนาคโต อทฺธา, อนาคตานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ. ปุพฺพนฺตาปรนฺเตติ ตทุภยํ. อิทปฺปจฺจยตาติ สงฺขาราทีนํ การณานิ อวิชฺชาทีนิ องฺคานิ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมาติ อวิชฺชาทีหิ นิพฺพตฺตา สงฺขาราทโย ธมฺมา. ตตฺรายํ อวิชฺชา ยสฺมา อตีตานํ ขนฺธาทีนํ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา อนาคตานํ ขนฺธาทีนํ, อตีตานาคตานํ ขนฺธาทีนํ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมานฺจ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา คนฺเถตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณนฺติ วุจฺจติ. อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อภิธมฺมปริยาเยน อฺาณํ อวิชฺชาติ กถิตํ.
เอวํ กึ กถิตํ โหติ? กิจฺจโต เจว ชาติโต จ อวิชฺชา กถิตา นาม โหติ. กถํ ¶ ? อยฺหิ อวิชฺชา อิมานิ อฏฺ านานิ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ กิจฺจโต กถิตา; อุปฺปชฺชมานาปิ อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อุปฺปชฺชตีติ ชาติโตปิ กถิตา. เอวํ กเถตฺวา ปุน ‘‘ยํ ¶ เอวรูปํ อฺาณํ อทสฺสน’’นฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ ปทานิ อวิชฺชาย ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ คหิตานิ.
ตตฺถ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อิเมหิ อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ยถา ปุริโส นฏฺํ โคณํ ปริเยสมาโน มนุสฺเส ปุจฺเฉยฺย – ‘‘อปิ, อยฺยา, เสตํ โคณํ ปสฺสถ, รตฺตํ โคณํ ปสฺสถา’’ติ? เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อิมสฺมึ รฏฺเ เสตรตฺตานํ โคณานํ อนฺโต นตฺถิ, กึ เต โคณสฺส ลกฺขณ’’นฺติ? อถ เตน ‘สงฺฆาฏิ’ วา ‘นงฺคลํ’ วาติ วุตฺเต โคโณ สุกถิโต นาม ภเวยฺย; เอวเมว ยสฺมา อยํ อวิชฺชา อฏฺหิ ปเทหิ กถิตาปิ ปุน ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขเณ อกถิเต สุกถิตา ¶ นาม น โหติ, ลกฺขเณ ปน กถิเตเยว สุกถิตา นาม โหติ. ตสฺมา ยานสฺสา ลกฺขณทสฺสนตฺถํ ปฺจวีสติ ปทานิ กถิตานิ, เตสมฺปิ วเสน เวทิตพฺพา.
เสยฺยถิทํ – าณํ นาม ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. อยํ ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ วิทิตํ ปากฏํ กาตุํ น เทตีติ าณปจฺจนีกโต อฺาณํ. ทสฺสนนฺติปิ ปฺา. สาปิ ตํ อาการํ ปสฺสติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปสฺสิตุํ น เทตีติ อทสฺสนํ. อภิสมโยติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อภิสเมติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อภิสเมตุํ น เทตีติ อนภิสมโย. อนุโพโธ สมฺโพโธ ปฏิเวโธติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ อนุพุชฺฌติ สมฺพุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อนุพุชฺฌิตุํ สํพุชฺฌิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ. สงฺคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ คเหตฺวา ฆํสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อสงฺคาหนา. ปริโยคาหนาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา คณฺหิตุํ น เทตีติ อปริโยคาหนา. สมเปกฺขนาติปิ ปฺา ¶ . สา ตํ อาการํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ สมํ สมฺมา จ เปกฺขิตุํ น เทตีติ อสมเปกฺขนา. ปจฺจเวกฺขณาติปิ ปฺา. สา ตํ อาการํ ปจฺจเวกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขิตุํ น เทตีติ อปจฺจเวกฺขณา. นาสฺสา ¶ กิฺจิ กมฺมํ ปจฺจกฺขํ อตฺถิ, สยฺจ อปจฺจเวกฺขิตฺวา กตํ กมฺมนฺติ อปจฺจกฺขกมฺมํ. ทุมฺเมธภาวตาย ทุมฺเมชฺฌํ. พาลภาวตาย พาลฺยํ.
สมฺปชฺนฺติปิ ปฺา. สา อตฺถตฺถํ การณการณํ จตุสจฺจธมฺมํ สมฺมา ปชานาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อาการํ ปชานิตุํ น เทตีติ อสมฺปชฺํ. โมหนวเสน โมโห. ปโมหนวเสน ปโมโห. สมฺโมหนวเสน สมฺโมโห. อวินฺทิยํ วินฺทตีติอาทิวเสน อวิชฺชา. วฏฺฏสฺมึ โอหนติ โอสีทาเปตีติ อวิชฺโชโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ อวิชฺชาโยโค. อปฺปหีนวเสน ¶ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต จ อวิชฺชานุสโย. มคฺเค ปริยุฏฺิตโจรา อทฺธิเก วิย กุสลจิตฺตํ ปริยุฏฺาติ คณฺหาติ วิลุมฺปตีติ อวิชฺชาปริยุฏฺานํ. ยถา นครทฺวาเร ปลิฆสงฺขาตาย ลงฺคิยา ปติตาย อนฺโตนคเร มนุสฺสานํ พหินครคมนมฺปิ พหินคเร มนุสฺสานํ อนฺโตนครปเวสนมฺปิ ปจฺฉิชฺชติ, เอวเมว ยสฺส สกฺกายนคเร อยํ ปติตา ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ าณคมนํ ปจฺฉิชฺชตีติ อวิชฺชาลงฺคี นาม โหติ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ตํ ปน น อฺํ, อิธาธิปฺเปโต โมโหติ โมโห อกุสลมูลํ. อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ อยํ เอวํลกฺขณา อวิชฺชา นามาติ วุจฺจติ. เอวํ ปฺจวีสติปทวเสน อวิชฺชาย ลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํลกฺขณา ปนายํ อวิชฺชา ทุกฺขาทีสุ อฺาณนฺติ วุตฺตาปิ ทุกฺขสจฺจสฺส เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; สมุทยสจฺจสฺส น เอกเทโส โหติ, สหชาตา โหติ, ตํ อารมฺมณํ กโรติ, ฉาเทติ; นิโรธสจฺจสฺส เนว เอกเทโส โหติ, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ; มคฺคสจฺจสฺสาปิ น เอกเทโส, น สหชาตา, น ตํ อารมฺมณํ กโรติ, เกวลํ ฉาเทติ. ทุกฺขารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. สมุทยารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. นิโรธารมฺมณตา อวิชฺชา นุปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ. มคฺคารมฺมณตา อวิชฺชา นูปฺปชฺชติ, ตฺจ ฉาเทติ.
ทฺเว สจฺจา ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรา. ทฺเว สจฺจา คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสา. อปิจ โข ปน ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ คมฺภีรฺเจว ทุทฺทสฺจ. ตตฺถ ทุกฺขํ นาม ปากฏํ, ลกฺขณสฺส ปน ทุทฺทสตฺตา ¶ คมฺภีรํ นาม ชาตํ. สมุทเยปิ เอเสว นโย. ยถา ปน มหาสมุทฺทํ มนฺเถตฺวา โอชาย นีหรณํ นาม ภาโร, สิเนรุปาทโต ¶ วาลิกาย อุทฺธรณํ นาม ภาโร, ปพฺพตํ ปีเฬตฺวา รสสฺส นีหรณํ นาม ภาโร; เอวเมว ทฺเว สจฺจานิ คมฺภีรตาย เอว ทุทฺทสานิ, นิโรธสจฺจํ ปน อติคมฺภีรฺจ อติทุทฺทสฺจาติ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานํ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทสานํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิจฺฉาทกํ โมหนฺธการํ อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาติ.
อวิชฺชาปทนิทฺเทโส.
สงฺขารปทนิทฺเทโส
สงฺขารปเท ¶ เหฏฺา วุตฺตสงฺขาเรสุ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเร อนามสิตฺวา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาเรเยว ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปฺุโ. อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร. ปฺุโว อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร. ปฺุปฏิปกฺขโต อปฺุโ. อปฺุโว อภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร. น อิฺชตีติ อาเนฺชํ. อาเนฺชเมว อภิสงฺขาโร, อาเนฺชฺจ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. กาเยน ปวตฺติโต, กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปมตฺติโก ปริวีมํสนสุตฺตวเสน คหิโต. ตตฺถ หิ ‘‘ปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปฺุูปคํ โหติ วิฺาณํ. อปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อปฺุุปคํ โหติ วิฺาณํ. อาเนฺชฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชุปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๕๑) วุตฺตํ. ทุติยตฺติโก ตทนนฺตรสฺส วิภงฺคสุตฺตสฺส วเสน คหิโต, สมฺมาทิฏฺิสุตฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๑๐๒) คหิโตติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, สงฺขารา. กตเม ตโย? กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒) วุตฺตํ. กสฺมา ปเนเตสํ สุตฺตานํ วเสน เต คหิตาติ? อยํ อภิธมฺโม นาม ¶ น อธุนากโต, นาปิ พาหิรกอิสีหิ วา สาวเกหิ วา เทวตาหิ ¶ วา ภาสิโต. สพฺพฺุชินภาสิโต ปน อยํ. อภิธมฺเมปิ หิ สุตฺเตปิ เอกสทิสาว ตนฺติ นิทฺทิฏฺาติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ.
อิทานิ เต สงฺขาเร ปเภทโต ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลา เจตนาติ อนิยมโต จตุภูมิกเจตนาปิ วุตฺตา. กามาวจรา รูปาวจราติ นิยมิตตฺตา ปน อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ นาม. ทานมยาติอาทีหิ ตาสํเยว เจตนานํ ปฺุกิริยวตฺถุวเสน ปวตฺติ ทสฺสิตา. ตตฺถ อฏฺ กามาวจราว ทานสีลมยา โหนฺติ. ภาวนามยา ปน เตรสปิ. ยถา หิ ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายมาโน เอกํ ทฺเว อนุสนฺธิคเตปิ น ชานาติ, ปจฺฉา อาวชฺชนฺโต ชานาติ; เอวเมว กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ปคุณชฺฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปคุณกมฺมฏฺานฺจ มนสิกโรนฺตสฺส าณวิปฺปยุตฺตาปิ ภาวนา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภาวนามยา ปน เตรสปี’’ติ.
ตตฺถ ทานมยาทีสุ ‘‘ทานํ อารพฺภ ทานมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ทานมโย ปฺุาภิสงฺขาโรติ. สีลํ อารพฺภ…เป… ภาวนํ อารพฺภ ภาวนมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ภาวนามโย ปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ (วิภ. ๗๖๙) อยํ สงฺเขปเทสนา.
จีวราทีสุ ปน จตูสุ ปจฺจเยสุ รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค ปริจฺจาคกาเล ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ทานมยา นาม. สีลํ ปริปูรณตฺถาย ปน ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส ปพฺพชนฺตสฺส มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ‘ปพฺพชิโต วตมฺหิ, สาธุ สุฏฺู’ติ อาวชฺชนฺตสฺส ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา สีลมยา นาม. ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ¶ ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส รูเป…เป… ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, รูปสฺํ ¶ …เป… ธมฺมสฺํ ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา ภาวนามยา นามาติ อยํ วิตฺถารกถา.
อปฺุาภิสงฺขารนิทฺเทเส อกุสลา เจตนาติ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา. กามาวจราติ กิฺจาปิ ตตฺถ ¶ เปตฺวา ทฺเว โทมนสฺสสหคตเจตนา เสสา รูปารูปภเวปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ปน ปฏิสนฺธึ น อากฑฺฒนฺติ, กามาวจเรเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปากํ อวจาเรนฺตีติ กามาวจราตฺเวว วุตฺตา.
อาเนฺชาภิสงฺขารนิทฺเทเส กุสลา เจตนา อรูปาวจราติ จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา. เอตา หิ จตสฺโส อนิฺชนฏฺเน อนิฺชนสฺส จ อภิสงฺขรณฏฺเน อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจนฺติ. รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานโต หิ ติสฺโส กุสลวิปากกิริยาเจตนา ทฺวาทส อรูปาวจรเจตนาติ ปฺจทส ธมฺมา อนิจฺจลฏฺเน อผนฺทนฏฺเน อาเนฺชา นาม. ตตฺถ รูปาวจรา กุสลา เจตนา อนิฺชา สมานาปิ อตฺตนา สริกฺขกมฺปิ อสริกฺขกมฺปิ สอิฺชนมฺปิ อนิฺชนมฺปิ รูปารูปํ ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร นาม น โหติ. วิปากกิริยเจตนา ปน อวิปากตฺตา วิปากํ น อภิสงฺขโรนฺติ, ตถา อรูปาวจรา วิปากกิริยเจตนาปีติ เอกาทสาปิ เอตา เจตนา อาเนฺชาว น อภิสงฺขารา. จตุพฺพิธา ปน อรูปาวจรกุสลเจตนา ยถา หตฺถิอสฺสาทีนํ สทิสาว ฉายา โหนฺติ, เอวํ อตฺตนา สทิสํ นิจฺจลํ อรูปเมว ชเนตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ วุจฺจตีติ.
เอวํ ปฺุชาภิสงฺขารวเสน เตรส, อปฺุาภิสงฺขารวเสน ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขารวเสน จตสฺโสติ สพฺพาเปตา ปริปิณฺฑิตา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกกุสลากุสลเจตนา มหาตุลาย ธารยมาโน วิย, นาฬิยํ ปกฺขิปิตฺวา มินมาโน วิย จ สพฺพฺุตาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอกูนตึสเมว ทสฺเสสิ.
อิทานิ ¶ อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา เยหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺติ, ตานิ ตีณิ กมฺมทฺวารานิ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตโม กายสงฺขาโร? กายสฺเจตนาติอาทิมาห. ตตฺถ กายสฺเจตนาติ กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา กายทฺวารโต ปวตฺตา ¶ อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทส อกุสลเจตนาติ สมวีสติ เจตนา; กายทฺวาเร อาทานคฺคหณโจปนํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ กุสลากุสลเจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
วจีสฺเจตนาติ ¶ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา ตาเยว วีสติ เจตนา; วจีทฺวาเร หนุสฺโจปนํ วากฺยเภทํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา วีสติ เจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อภิฺาเจตนา ปเนตฺถ ปรโต วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ น คหิตา. ยถา จ อภิฺาเจตนา, เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหติ. ตสฺมา สาปิ วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา. อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺติ.
มโนสฺเจตนาติ อุโภปิ วิฺตฺติโย อสมุฏฺาเปตฺวา มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา. อิติ ภควา อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา กุสลากุสลกมฺมํ อายูหมานา อิเมหิ ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนฺตีติ อายูหนกมฺมทฺวารํ ทสฺเสสิ.
อิเมสํ ปน ทฺวินฺนมฺปิ ติกานํ อฺมฺํ สมฺปโยโค เวทิตพฺโพ. กถํ? ปฺุาภิสงฺขาโร หิ กายทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตา วิรมนฺตสฺส สิยา วจีสงฺขาโร. เอวํ อฏฺ กุสลเจตนา กามาวจรา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ กายสงฺขาโร จ วจีสงฺขาโร จ. มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา ปน เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร จ โหติ จิตฺตสงฺขาโร จ. อปฺุาภิสงฺขาโรปิ กายทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา กายสงฺขาโร, วจีทุจฺจริตวเสน ปวตฺติยํ สิยา วจีสงฺขาโร, ทฺเว ทฺวารานิ มฺุจิตฺวา มโนทฺวาเร ปวตฺติยํ สิยา จิตฺตสงฺขาโรติ. เอวํ อปฺุาภิสงฺขาโร กายสงฺขาโรปิ โหติ วจีสงฺขาโรปิ จิตฺตสงฺขาโรปิ.
กายสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, น อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตถา วจีสงฺขาโร. จิตฺตสงฺขาโร ปน สิยา ปฺุาภิสงฺขาโร ¶ , สิยา อปฺุาภิสงฺขาโร, สิยา อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ. อิเม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา นาม.
กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ ¶ , สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ, นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี ¶ หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิจ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณํ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปปาตํ; สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.
กามูปเสวนาทีสุ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ.
เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต; ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรติ. ยโต ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา, วิชฺชา อุปฺปนฺนา, โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เนว ปฺุาภิสงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’ติ. อิทํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘กตเมสํ สงฺขารานํ กถํ ปจฺจโย โหตี’ติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –
ปจฺจโย ¶ โหติ ปฺุานํ, ทุวิธาเนกธา ปน;
ปเรสํ ปจฺฉิมานํ สา, เอกธา ปจฺจโย มตา.
ตตฺถ ¶ ‘ปฺุานํ ทุวิธา’ติ อารมฺมณปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺเวธา ปจฺจโย โหติ. สา หิ อวิชฺชํ ขยโต วยโต สมฺมสนกาเล กามาวจรานํ ปฺุาภิสงฺขารานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อภิฺาจิตฺเตน สโมหจิตฺตชานนกาเล รูปาวจรานํ, อวิชฺชาสมติกฺกมนตฺถาย ปน ทานาทีนิ เจว กามาวจรปฺุกิริยวตฺถูนิ ปูเรนฺตสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ จ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ; ตถา อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา กามภวรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ปฺุานิ กโรนฺตสฺส.
‘อเนกธา ปน ปเรส’นฺติ อปฺุาภิสงฺขารานํ อเนกธา ปจฺจโย โหติ. กถํ? เอสา หิ อวิชฺชํ อารพฺภ ราคาทีนํ อุปฺปชฺชนกาเล อารมฺมณปจฺจเยน, ครุํ กตฺวา อสฺสาทนกาเล อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน, ทุติยชวนาทีนํ อนนฺตรสมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ, ยํ กิฺจิ อกุสลํ กโรนฺตสฺส เหตุสหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ อเนกธา ปจฺจโย โหติ.
‘ปจฺฉิมานํ สา เอกธา ปจฺจโย มตา’ติ อาเนฺชาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว เอกธา ปจฺจโย มตา. โส ปนสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ปฺุาภิสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
เอตฺถาห – ‘กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา โหนฺตี’ติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว เอกาว เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ ‘อฺเปิ สนฺติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ.
เอกโต ¶ หิ การณโต น อิธ กิฺจิ เอกํ ผลมตฺถิ, น อเนกํ. นาปิ อเนเกหิ การเณหิ เอกํ. อเนเกหิ ปน การเณหิ อเนกเมว โหติ. ตถา หิ อเนเกหิ อุตุปถวีพีชสลิลสงฺขาเตหิ การเณหิ อเนกเมว รูปคนฺธรสาทิองฺกุรสงฺขาตํ ผลมุปฺปชฺชมานํ ทิสฺสติ. ยํ ปเนตํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอเกกเหตุผลทีปนํ กตํ, ตตฺถ อตฺโถ อตฺถิ, ปโยชนํ วิชฺชติ.
ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา, เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมวเหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ; ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๗) หิ เอกเมว เหตุํ ผลฺจาห. ผสฺโส หิ เวทนาย ปธานเหตุ ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานโต. เวทนา จ ผสฺสสฺส ปธานผลํ ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานโต.
‘‘เสมฺหสมุฏฺานา อาพาธา’’ติ (มหานิ. ๕) ปากฏตฺตา เอกํ เหตุมาห. ปากโฏ เหตฺถ เสมฺโห, น กมฺมาทโย. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, อกุสลา ธมฺมา, สพฺเพเต อโยนิโสมนสิการมูลกา’’ติ อสาธารณตฺตา เอกํ เหตุมาห; อสาธารโณ หิ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลานํ, สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติ.
ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห ¶ – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
วิรุทฺโธ ¶ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น.
ธมฺมานฺหิ านสภาวกิจฺจาทิวิรุทฺโธ จ อวิรุทฺโธ จ ปจฺจโย โลเก สิทฺโธ. ปุริมจิตฺตฺหิ อปรจิตฺตสฺส านวิรุทฺโธ ปจฺจโย, ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา จ ปจฺฉาปวตฺตมานานํ สิปฺปาทิกิริยานํ. กมฺมํ รูปสฺส สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ จ ทธิอาทีนํ. อาโลโก จกฺขุวิฺาณสฺส กิจฺจวิรุทฺโธ, คุฬาทโย จ อาสวาทีนํ. จกฺขุรูปาทโย ปน จกฺขุวิฺาณาทีนํ านาวิรุทฺธา ปจฺจยา ¶ . ปุริมชวนาทโย ปจฺฉิมชวนาทีนํ สภาวาวิรุทฺธา กิจฺจาวิรุทฺธา จ.
ยถา จ วิรุทฺธาวิรุทฺธา ปจฺจยา สิทฺธา, เอวํ สทิสาสทิสาปิ. สทิสเมว หิ อุตุอาหารสงฺขาตํ รูปํ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ, สาลิพีชาทีนิ จ สาลิผลาทีนํ. อสทิสมฺปิ รูปํ อรูปสฺส, อรูปฺจ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ; โคโลมาวิโลมวิสาณทธิติลปิฏฺาทีนิ จ ทพฺพภูติณกาทีนํ. เยสฺจ ธมฺมานํ เย วิรุทฺธาวิรุทฺธา สทิสาสทิสา ปจฺจยา, น เต ธมฺมา เตสํ ธมฺมานํ วิปากาเยว. อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลสภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา.
โส จสฺสา ปจฺจยภาโว ‘‘ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต เอว.
อปิจ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –
จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
อภิสงฺขโรติ ¶ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปิ ยํ ตโตติ.
กถํ ¶ ปน โย เอเตสุ วิมุยฺหติ, โส ติวิเธเปเต สงฺขาเร กโรตีติ เจ? จุติยา ตาว วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ เภโท มรณ’’นฺติ จุตึ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต มรติ, สตฺตสฺส เทสนฺตรสงฺกมน’นฺติอาทีนิ วิกปฺเปติ. อุปปาเต วิมูฬฺโห สพฺพตฺถ ‘‘ขนฺธานํ ปาตุภาโว ชาตี’’ติ อุปปาตํ อคณฺหนฺโต ‘สตฺโต อุปปชฺชติ, สตฺตสฺส นวสรีรปาตุภาโว’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สํสาเร วิมูฬฺโห โย เอส –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ¶ วณฺณิโต สํสาโร. ตํ เอวํ อคณฺหนฺโต ‘อยํ สตฺโต อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉติ, ปรสฺมา โลกา อิมํ โลกํ อาคจฺฉตี’ติอาทีนิ วิกปฺเปติ. สงฺขารานํ ลกฺขเณ วิมูฬฺโห สงฺขารานํ สภาวลกฺขณํ สามฺลกฺขณฺจ อคณฺหนฺโต สงฺขาเร อตฺตโต อตฺตนิยโต ธุวโต สุภโต สุขโต จ วิกปฺเปติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ วิมูฬฺโห อวิชฺชาทีหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺตึ อคณฺหนฺโต ‘‘อตฺตา ชานาติ วา น ชานาติ วา, โส เอว กโรติ จ กาเรติ จ โส ปฏิสนฺธิยํ อุปปชฺชติ, ตสฺส อณุอิสฺสราทโย กลลาทิภาเวน สรีรํ สณฺเปตฺวา อินฺทฺริยานิ สมฺปาเทนฺติ, โส อินฺทฺริยสมฺปนฺโน ผุสติ เวทิยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ฆฏิยติ, โส ปุน ภวนฺตเร ภวตี’’ติ วา ‘‘สพฺเพ สตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) วา วิกปฺเปติ. โส เอวํ อวิชฺชาย อนฺธีกโต เอวํ วิกปฺเปนฺโต ยถา นาม อนฺโธ ปถวิยํ วิจรนฺโต มคฺคมฺปิ อมคฺคมฺปิ ถลมฺปิ นินฺนมฺปิ สมมฺปิ วิสมมฺปิ ปฏิปชฺชติ, เอวํ ปฺุมฺปิ อปฺุมฺปิ อาเนฺชมฺปิ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปรินายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, กุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
สํสาเร ¶ สํสรํ พาโล, ตถา อปรินายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
ยทา ¶ ตฺวา จ โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตีติ.
อยํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ ปทสฺมึ วิตฺถารกถา.
อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารปทนิทฺเทโส.
วิฺาณปทนิทฺเทโส
๒๒๗. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทเส จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน กุสลากุสลวิปากา ทฺเว มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกานิ กามาวจรวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานีติ พาวีสติวิธํ ¶ โหติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ วิฺาเณหิ สพฺพานิปิ พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรานิ ปน วฏฺฏกถายํ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ; น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ – ‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’ติ.
กตรสงฺขารปจฺจยา กตรวิฺาณนฺติ เจ? กามาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ตาว กุสลวิปากานิ ¶ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, มโนวิฺาเณ เอกา มโนธาตุ, ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ กามาวจรมหาวิปากานีติ โสฬส. ยถาห –
‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิปากา มโนธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ อุเปกฺขาสหคตา, มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ โสมนสฺสสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา ¶ าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, โสมนสฺสสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณสมฺปยุตฺตา สสงฺขาเรน, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา, อุเปกฺขาสหคตา าณวิปฺปยุตฺตา สสงฺขาเรนา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑, ๔๙๘).
รูปาวจรปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน ปฺจ รูปาวจรวิปากานิ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ…เป… ปฺจมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๔๙๙).
เอวํ ปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา เอกวีสติวิธํ วิฺาณํ โหติ.
อปฺุาภิสงฺขารปจฺจยา ปน อกุสลวิปากานิ ปฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนิ, เอกา มโนธาตุ, เอกา มโนวิฺาณธาตูติ เอวํ สตฺตวิธํ วิฺาณํ โหติ. ยถาห –
‘‘อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณํ ¶ , วิปากา มโนธาตุ, วิปากา มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๕๕๖).
อาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยา ¶ ปน จตฺตาริ อรูปวิปากานีติ เอวํ จตุพฺพิธํ วิฺาณํ โหตีติ. ยถาห –
‘‘ตสฺเสว อรูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… วิฺาณฺจายตนสฺาสหคตํ…เป… อากิฺจฺายตนสฺาสหคตํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๕๐๑).
เอวํ ยํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ โหติ, ตํ ตฺวา อิทานิสฺส เอวํ ปวตฺติ เวทิตพฺพา – สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺวิธา ปวตฺตติ. ตตฺถ ¶ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
กถํ? กุสลวิปากานิ ตาว จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ กุสลวิปาเกน วา อกุสลวิปาเกน วา นิพฺพตฺตสฺส ยถากฺกมํ ปริปากมุปคตินฺทฺริยสฺส จกฺขาทีนํ อาปาถคตํ อิฏฺํ วา อิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ อารพฺภ จกฺขาทิปสาทํ นิสฺสาย ทสฺสนสวนฆายนสายนผุสนกิจฺจํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. ตถา อกุสลวิปากานิ ปฺจ. เกวลฺหิ เตสํ อนิฏฺํ อนิฏฺมชฺฌตฺตํ วา รูปาทิอารมฺมณํ โหติ, อยเมว วิเสโส. ทสาปิ เจตานิ นิยตทฺวารารมฺมณวตฺถุฏฺานานิ นิยตกิจฺจาเนว จ ภวนฺติ.
ตโต กุสลวิปากานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรํ กุสลวิปากมโนธาตุ เตสฺเว อารมฺมณมารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา ปวตฺตติ. ตถา อกุสลวิปากานํ อนนฺตรํ อกุสลวิปากา ¶ . อิทฺจ ปน ทฺวยํ อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุฏฺานํ นิยตกิจฺจฺจ โหติ.
โสมนสฺสสหคตา ปน อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ กุสลวิปากมโนธาตุยา อนนฺตรํ ตสฺสา เอว ¶ อารมฺมณํ อารพฺภ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา จ ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ กามาวจรสตฺตานํ เยภุยฺเยน โลภสมฺปยุตฺตชวนาวสาเน ภวงฺควีถึ ปจฺฉินฺทิตฺวา ชวเนน คหิตารมฺมเณ ตทารมฺมณวเสน จ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ปวตฺตติ. จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ ปน สพฺพทฺวาเรสุ ตทารมฺมเณ ทฺเว เอว จิตฺตวารา อาคตา. อิทํ ปน จิตฺตํ ตทารมฺมณนฺติ จ ปิฏฺิภวงฺคนฺติ จาติ ทฺเว นามานิ ลภติ, อนิยตทฺวารารมฺมณํ นิยตวตฺถุกํ อนิยตฏฺานกิจฺจฺจ โหตีติ. เอวํ ตาว เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตติ.
ปวตฺติยํ ปน กุสลากุสลวิปากา ตาว ทฺเว อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย ปฺจทฺวาเร กุสลากุสลวิปากมโนธาตูนํ อนนฺตรํ สนฺตีรณกิจฺจํ ¶ , ฉสุ ทฺวาเรสุ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ จตฺตาริ กิจฺจานิ สาธยมานา นิยตวตฺถุกา อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
อฏฺ กามาวจรสเหตุกจิตฺตานิ ปวตฺติยํ วุตฺตนเยเนว ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณกิจฺจํ, อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ ตีณิ กิจฺจานิ สาธยมานานิ นิยตวตฺถุกานิ อนิยตทฺวารารมฺมณฏฺานกิจฺจานิ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ.
ปฺจ รูปาวจรานิ จตฺตาริ จ อรูปาวจรานิ อตฺตนา ทินฺนปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อสติ ภวงฺคุปจฺเฉทเก จิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคกิจฺจํ, อนฺเต จุติกิจฺจฺจาติ กิจฺจทฺวยํ สาธยมานานิ ปวตฺตนฺติ. เตสุ รูปาวจรานิ นิยตวตฺถารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ, อิตรานิ อวตฺถุกานิ นิยตารมฺมณานิ อนิยตฏฺานกิจฺจานิ ¶ หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ตาว พาตฺตึสวิธมฺปิ วิฺาณํ ปวตฺติยํ สงฺขารปจฺจยา ปวตฺตติ. ตตฺรสฺส เต เต สงฺขารา กมฺมปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจยา โหนฺติ.
ตตฺถ ยาเนตานิ เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ วุตฺตานิ, เตสุ เอกมฺปิ รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ ¶ หุตฺวา น ปวตฺตติ. กสฺมา? พีชาภาวา. ตตฺถ หิ กามาวจรวิปากสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิพีชํ นตฺถิ, ยํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติยํ ตสฺส ชนกํ ภเวยฺย. จกฺขุวิฺาณาทีนมฺปิ รูปภเว อภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น; อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จ.
ยถา เจตํ ตทารมฺมณํ เอกนฺเตน รูปารูปภเว นปฺปวตฺตติ ตถา สพฺเพปิ อกามาวจเร ธมฺเม นานุพนฺธติ. กสฺมา? อชนกตฺตา เจว ชนกสฺส จ อสทิสตฺตา. ตฺหิ ยถา นาม เคหา นิกฺขมิตฺวา พหิ คนฺตุกาโม ตรุณทารโก อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา อฺํ วา ปิตุสทิสํ หิตกามํ าตึ องฺคุลิยํ คเหตฺวา อนุพนฺธติ, น อฺํ ราชปุริสาทึ, ตถา เอตมฺปิ ภวงฺคารมฺมณโต พหิ นิกฺขมิตุกามํ สภาคตาย อตฺตโน ชนกํ ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา กามาวจรชวนเมว อนุพนฺธติ, น อฺํ มหคฺคตํ อนุตฺตรํ วา.
ยถา ¶ เจตํ มหคฺคตโลกุตฺตเร ธมฺเม นานุพนฺธติ, ตถา ยทา เอเต กามาวจรธมฺมาปิ มหคฺคตารมฺมณา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ ตทา เตปิ นานุพนฺธติ. กสฺมา? อปริจิตเทสตฺตา อจฺจนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา จ. ตฺหิ ยถา ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา าตึ อนุพนฺธนฺโตปิ ตรุณทารโก ฆรทฺวารอนฺตรวีถิจตุกฺกาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส อนุพนฺธติ, น อรฺํ วา ยุทฺธภูมึ วา คจฺฉนฺตํ; เอวํ กามาวจรธมฺเม อนุพนฺธนฺตมฺปิ อมหคฺคตาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส ปวตฺตมาเน ธมฺเม อนุพนฺธติ, น มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตมาเนติ.
ยสฺมา จสฺส ‘‘สพฺโพ กามาวจรวิปาโก กิริยมโนธาตุ กิริยอเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โสมนสฺสสหคตา อิเม ธมฺมา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ เอวํ อจฺจนฺตปริตฺตเมว อารมฺมณํ วุตฺตํ, ตสฺมาเปตํ มหคฺคตโลกุตฺตรารมฺมเณ ¶ กามาวจรธมฺเมปิ นานุพนฺธตีติ เวทิตพฺพํ.
กึ วา อิมาย ยุตฺติกถาย? อฏฺกถายฺหิ เอกนฺเตเนว วุตฺตํ – เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ นามโคตฺตํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺติ. ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ติลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. วุฏฺานคามินิยา พลววิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. รูปารูปธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. มิจฺฉตฺตนิยตธมฺเมสุ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. สมฺมตฺตนิยตธมฺเมสุ ¶ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. อภิฺาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. ปฏิสมฺภิทาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ. กามาวจเร ทุพฺพลารมฺมเณ ตทารมฺมณํ น ลพฺภติ, ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวารมฺมเณ อาปาถคเตเยว ลพฺภติ, ลพฺภมานฺจ กามาวจเรเยว ลพฺภติ. รูปารูปภเว ตทารมฺมณํ นาม นตฺถีติ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เสเสสุ เอกูนวีสติยา จิตฺเตสุ น กิฺจิ อตฺตโน อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา น ปวตฺตตี’’ติ, ตํ อติสํขิตฺตตฺตา ทุพฺพิชานํ. เตนสฺส วิตฺถารนยทสฺสนตฺถํ วุจฺจติ – ‘‘กติ ปฏิสนฺธิโย? กติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ? เกน กตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ? กึ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณ’’นฺติ?
อสฺปฏิสนฺธิยา ¶ สทฺธึ วีสติ ปฏิสนฺธิโย. วุตฺตปฺปการาเนว เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ. ตตฺถ อกุสลวิปากาย อเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา อปาเยสุ ปฏิสนฺธิ โหติ, กุสลวิปากาย มนุสฺสโลเก ชจฺจนฺธชาติพธิรชาติอุมฺมตฺตกเอฬมูคนปุํสกาทีนํ. อฏฺหิ สเหตุกมหาวิปาเกหิ กามาวจรเทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ ปฺุวนฺตานํ ปฏิสนฺธิ โหติ, ปฺจหิ รูปาวจรวิปาเกหิ รูปีพฺรหฺมโลเก, จตูหิ อรูปาวจรวิปาเกหิ อรูปโลเกติ. เยน จ ยตฺถ ปฏิสนฺธิ โหติ, สา เอว ตสฺสา อนุรูปปฏิสนฺธิ นาม.
สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ – กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ ¶ , คตินิมิตฺตนฺติ. ตตฺถ กมฺมํ นาม อายูหิตา กุสลากุสลเจตนา. กมฺมนิมิตฺตํ นาม ยํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา กมฺมํ อายูหติ. ตตฺถ อตีเต กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถกสฺมิมฺปิ กมฺเม กเต ตสฺมึ ขเณ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อาคนฺตฺวา อุปฏฺาติ.
ตตฺริทํ กมฺมนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน วตฺถุ – โคปกสีวลี กิร นาม ตาลปิฏฺิกวิหาเร เจติยํ กาเรสิ. ตสฺส มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส เจติยํ อุปฏฺาสิ. โส ตเทว นิมิตฺตํ คณฺหิตฺวา กาลํกตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. อฺา สมฺมูฬฺหกาลกิริยา นาม โหติ. ปรมฺมุขํ คจฺฉนฺตสฺส หิ ปจฺฉโต ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตสฺสาปิ ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺทนฺติ. อุทเก โอสีทาเปตฺวา มาเรนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล อฺตรํ ¶ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. อฺํ ลหุกมรณํ นาม อตฺถิ. นิขาทนทณฺฑกมตฺถกสฺมิฺหิ นิลีนมกฺขิกํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ปิสนฺติ. เอวรูเปปิ กาเล กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อุปฏฺาติ. เอวํ ปิสิยมานาย ปน มกฺขิกาย ปมํ กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ นาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาราวชฺชนเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตโต กายวิฺาณํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺปนนฺติ วีถิจิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ. ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ตติยวาเร มโนทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. เอตสฺมึ าเน กาลกิริยํ กโรติ. อิทํ กิมตฺถํ อาภตํ? อรูปธมฺมานํ วิสโย นาม เอวํ ลหุโกติ ทีปนตฺถํ.
คตินิมิตฺตํ ¶ นาม นิพฺพตฺตนกโอกาเส เอโก วณฺโณ อุปฏฺาติ. ตตฺถ นิรเย อุปฏฺหนฺเต โลหกุมฺภิสทิโส หุตฺวา อุปฏฺาติ. มนุสฺสโลเก อุปฏฺหนฺเต มาตุกุจฺฉิกมฺพลยานสทิสา หุตฺวา อุปฏฺาติ. เทวโลเก อุปฏฺหนฺเต กปฺปรุกฺขวิมานสยนาทีนิ อุปฏฺหนฺติ. เอวํ กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ, คตินิมิตฺตนฺติ สงฺเขปโต ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ.
อปโร นโย – ปฏิสนฺธิยา ตีณิ อารมฺมณานิ โหนฺติ? อตีตํ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ , นวตฺตพฺพฺจ. อสฺีปฏิสนฺธิ อนารมฺมณาติ. ตตฺถ วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนปฏิสนฺธีนํ อตีตเมว อารมฺมณํ. ทสนฺนํ กามาวจรานํ อตีตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา. เสสานํ นวตฺตพฺพํ. เอวํ ตีสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตมานา ปน ปฏิสนฺธิ ยสฺมา อตีตารมฺมณสฺส วา นวตฺตพฺพารมฺมณสฺส วา จุติจิตฺตสฺส อนนฺตรเมว โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ปน จุตฺติจิตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ทฺวีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรํ ตีสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา สุคติทุคฺคติวเสน ปวตฺตนากาโร เวทิตพฺโพ.
เสยฺยถิทํ – กามาวจรสุคติยํ ตาว ิตสฺส ปาปกมฺมิโน ปุคฺคลสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ม. นิ. ๓.๒๔๘) มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ ปาปกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ ¶ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย วุตฺตปฺปการกมฺมวเสน นรกาทีสุ อคฺคิชาลวณฺณาทิกํ ทุคฺคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตํ อารมฺมณํ อารพฺภ เอกํ อาวชฺชนํ, มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานีติ ตีณิ วีถิจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา ¶ เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย ปฺจนฺนํ ทฺวารานํ อฺตรสฺมึ ทฺวาเร ¶ ราคาทิเหตุภูตํ หีนารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยมารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ. เอตฺตาวตา ทฺเว ภวงฺคานิ, อาวชฺชนํ, ทสฺสนํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺพฺพนํ, ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานิ, เอกํ จุติจิตฺตนฺติ ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ. อถาวเสสเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึ เยว อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ. เอส ตาว อตีตารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ทุคฺคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส วุตฺตนเยเนว ตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉตีติ กณฺหปกฺเข สุกฺกปกฺขํ เปตฺวา สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย สุคติปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
สุคติยํ ิตสฺส ปน อุปจิตานวชฺชกมฺมสฺส ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺตี’’ติอาทิวจนโต มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ยถูปจิตํ อนวชฺชกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ตฺจ โข อุปจิตกามาวจรานวชฺชกมฺมสฺเสว. อุปจิตมหคฺคตกมฺมสฺส ¶ ปน กมฺมนิมิตฺตเมว อาปาถมาคจฺฉติ. ตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา อนนฺตรํ ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิตํ สุคติปริยาปนฺนํ ปฏิสนฺธิจิตฺตมุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา นวตฺตพฺพารมฺมณา วา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ¶ มรณสมเย กามาวจรานวชฺชกมฺมวเสน มนุสฺสโลเก มาตุกุจฺฉิวณฺณสงฺขาตํ วา เทวโลเก อุยฺยานกปฺปรุกฺขาทิวณฺณสงฺขาตํ วา สุคตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร ¶ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ทุคฺคตินิมิตฺเต ทสฺสิตานุกฺกเมเนว จุติจิตฺตานนฺตรํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส มรณสมเย าตกา ‘อยํ, ตาต, ตวตฺถาย พุทฺธปูชา กรียติ, จิตฺตํ ปสาเทหี’ติ วตฺวา ปุปฺผทามธชปฏากาทิวเสน รูปารมฺมณํ วา ธมฺมสฺสวนตูริยปูชาทิวเสน สทฺทารมฺมณํ วา ธูมวาสคนฺธาทิวเสน คนฺธารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, สายสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา มธุผาณิตาทิวเสน รสารมฺมณํ วา ‘อิทํ, ตาต, ผุสสฺสุ, ตวตฺถาย ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺม’นฺติ วตฺวา จีนปฏโสมารปฏาทิวเสน โผฏฺพฺพารมฺมณํ วา ปฺจทฺวาเร อุปสํหรนฺติ. ตสฺส ตสฺมึ อาปาถคเต รูปาทิอารมฺมเณ ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺปนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ, ตทวสาเน ตสฺมิฺเว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยมฺปิ อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
อปรสฺส ปน ปถวีกสิณชฺฌานาทิวเสน ปฏิลทฺธมหคฺคตสฺส สุคติยํ ิตสฺส มรณสมเย กามาวจรกุสลกมฺม-กมฺมนิมิตฺต-คตินิมิตฺตานํ อฺตรํ ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺตํ มหคฺคตจิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. จกฺขุโสตานํ วา อฺตรสฺมึ กุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ ปณีตมารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. ตสฺส ยถากฺกเมน อุปฺปนฺนโวฏฺพฺพนาวสาเน มรณสฺส อาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. มหคฺคตคติกานํ ปน ตทารมฺมณํ นตฺถิ. ตสฺมา ชวนานนฺตรํเยว ภวงฺควิสยํ อารมฺมณํ กตฺวา เอกํ จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ¶ . ตสฺสาวสาเน กามาวจรมหคฺคตสุคตีนํ อฺตรสุคติปริยาปนฺนํ ยถูปฏฺิเตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ¶ อุปฺปชฺชติ. อยํ นวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพานํ อฺตรารมฺมณา ปฏิสนฺธิ.
เอเตนานุสาเรน อารุปฺปจุติยาปิ อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพา. อยํ อตีตนวตฺตพฺพารมฺมณาย สุคติจุติยา อนนฺตรา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโร.
ทุคฺคติยํ ¶ ิตสฺส ปน ปาปกมฺมิโน วุตฺตนเยเนว ตํ กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ วา มโนทฺวาเร, ปฺจทฺวาเร ปน อกุสลุปฺปตฺติเหตุภูตํ อารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ. อถสฺส ยถากฺกเมน จุติจิตฺตาวสาเน ทุคฺคติปริยาปนฺนํ เตสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อตีตารมฺมณาย ทุคฺคติจุติยา อนนฺตรา อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาย ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตนากาโรติ. เอตฺตาวตา เอกูนวีสติวิธสฺสาปิ วิฺาณสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
ตยิทํ สพฺพมฺปิ เอวํ –
ปวตฺตมานํ สนฺธิมฺหิ, ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ;
มิสฺสาทีหิ จ เภเทหิ, เภทสฺส ทุวิธาทิโก.
อิทฺหิ เอกูนวีสติวิธมฺปิ วิปากวิฺาณํ ปฏิสนฺธิมฺหิ ปวตฺตมานํ ทฺวิธา กมฺเมน วตฺตติ. ยถาสกฺหิ เอตสฺส ชนกํ กมฺมํ นานากฺขณิกกมฺมปฺปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓). เอวํ วตฺตมานสฺส ปนสฺส มิสฺสาทีหิ เภเทหิ ทุวิธาทิโกปิ เภโท เวทิตพฺโพ, เสยฺยถิทํ – อิทฺหิ ปฏิสนฺธิวเสน เอกธา วตฺตมานมฺปิ รูเปน สห มิสฺสามิสฺสเภทโต ทุวิธํ, กามรูปารูปภวเภทโต ติวิธํ, อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกโยนิวเสน จตุพฺพิธํ, คติวเสน ปฺจวิธํ, วิฺาณฏฺิติวเสน สตฺตวิธํ, สตฺตาวาสวเสน อฏฺวิธํ โหติ. ตตฺถ –
มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา, สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา;
ทฺเว วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สห.
‘มิสฺสํ ¶ ทฺวิธา ภาวเภทา’ติ ยฺเหตเมตฺถ อฺตฺร อรูปภวา รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ รูปภเว อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยสงฺขาเตน ภาเวน วินา อุปฺปตฺติโต กามภเว อฺตฺร ชาติปณฺฑกปฏิสนฺธิยา ภาเวน สห อุปฺปตฺติโต สภาวํ อภาวนฺติ ทุวิธํ โหติ.
‘สภาวํ ตตฺถ จ ทฺวิธา’ติ ตตฺถาปิ จ ยํ สภาวํ ตํ อิตฺถิปุริสภาวานํ อฺตเรน สห อุปฺปตฺติโต ทุวิธเมว โหติ.
‘ทฺเว ¶ วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สหา’ติ ยฺเหตเมตฺถ มิสฺสํ อมิสฺสนฺติ ทฺวเย อาทิภูตํ รูปมิสฺสํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ, เตน สห วตฺถุกายทสกวเสน ทฺเว วา วตฺถุกายภาวทสกวเสน ตโย วา ทสกา โอมโต อุปฺปชฺชนฺติ, นตฺถิ อิโต ปรํ รูปปริหานีติ. ตํ ปเนตํ เอวํ โอมกปริมาณํ อุปฺปชฺชมานํ อณฺฑชชลาพุชนามิกาสุ ทฺวีสุ โยนีสุ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธตเตลสปฺปิมณฺฑปฺปมาณํ กลลนฺติ ลทฺธสงฺขํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ โยนีนํ คติวเสน สมฺภวเภโท เวทิตพฺโพ. เอตาสุ หิ –
นิรเย ภุมฺมวชฺเชสุ, เทเวสุ จ น โยนิโย;
ติสฺโส ปุริมิกา โหนฺติ, จตสฺโสปิ คติตฺตเย.
ตตฺถ เทเวสุ จาติ จสทฺเทน ยถา นิรเย จ ภุมฺมวชฺเชสุ จ เทเวสุ, เอวํ นิชฺฌามตณฺหิกเปเตสุ จ ปุริมิกา ติสฺโส โยนิโย น สนฺตีติ เวทิตพฺพา. โอปปาติกา เอว หิ เต โหนฺติ. เสเส ปน ติรจฺฉานเปตฺติวิสยมนุสฺสสงฺขาเต คติตฺตเย ปุพฺเพ วชฺชิตภุมฺมเทเวสุ จ จตสฺโส โยนิโย โหนฺติ. ตตฺถ –
ตึส นว เจว รูปีสุ, สตฺตติ อุกฺกํสโตว รูปานิ;
สํเสทโชปปาตีสุ, อถ วา อวกํสโต ตึส.
รูปีพฺรหฺเมสุ ¶ ตาว โอปปาติกโยนิเกสุ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตนวกสฺส จาติ จตุนฺนํ กลาปานํ วเสน ตึส จ นว จ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สห รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. รูปีพฺรหฺเม ปน เปตฺวา อฺเสุ สํเสทชโอปปาติเกสุ อุกฺกํสโต จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกานํ ¶ วเสน สตฺตติ. ตานิ จ นิจฺจํ เทเวสุ. ตตฺถ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา จตสฺโส จาปิ ธาตุโย จกฺขุปสาโท ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อยํ ทสรูปปริมาโณ รูปปฺุโช จกฺขุทสโก นาม. เอวํ เสสา เวทิตพฺพา. อวกํสโต ปน ชจฺจนฺธพธิรอฆานกนปุํสกสฺส ชิวฺหากายวตฺถุทสกานํ วเสน ตึส รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุกฺกํสาวกํสานํ ปน อนฺตเร อนุรูปโต วิกปฺโป เวทิตพฺโพ.
เอวํ วิทิตฺวา ปุน –
ขนฺธารมฺมณคติเหตุ-เวทนาปีติวิตกฺกวิจาเรหิ;
เภทาเภทวิเสโส, จุติสนฺธีนํ ปริฺเยฺโย.
ยาเหสา ¶ มิสฺสามิสฺสโต ทุวิธา ปฏิสนฺธิ, ยา จสฺสา อตีตานนฺตรา จุติ, ตาสํ อิเมหิ ขนฺธาทีหิ เภทาเภทวิเสโส าตพฺโพติ อตฺโถ.
กถํ? กทาจิ จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธาว อารมฺมณโตปิ อภินฺนา ปฏิสนฺธิ โหติ, กทาจิ อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณา. อยํ ตาว อรูปภูมีสุเยว นโย. กทาจิ ปน จตุกฺขนฺธาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรา ปฏิสนฺธิ. กทาจิ ปฺจกฺขนฺธาย กามาวจรจุติยา รูปาวจรจุติยา วา อนนฺตรา จตุกฺขนฺธา อารุปฺปปฏิสนฺธิ. เอวํ อตีตารมฺมณจุติยา อตีตนวตฺตพฺพปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ, เอกจฺจสุคติจุติยา เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธิ, อเหตุกจุติยา สเหตุกปฏิสนฺธิ, ทุเหตุกจุติยา ติเหตุกปฏิสนฺธิ, อุเปกฺขาสหคตจุติยา โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิ, อปฺปีติกจุติยา สปฺปีติกปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกจุติยา สวิตกฺกปฏิสนฺธิ, อวิจารจุติยา สวิจารปฏิสนฺธิ, อวิตกฺกอวิจารจุติยา สวิตกฺกสวิจารปฏิสนฺธีติ ตสฺส ตสฺส วิปรีตโต จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ.
ลทฺธปฺปจฺจยมิติธมฺม-มตฺตเมตํ ¶ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ.
อิติ ¶ เหตํ ลทฺธปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ภวนฺตรํ อุเปตีติ วุจฺจติ, น สตฺโต, น ชีโว. ตสฺส นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ปาตุภาโว. ตยิทํ ปากเฏน มนุสฺสจุติปฏิสนฺธิกฺกเมน ปกาสยิสฺสาม –
อตีตภวสฺมิฺหิ สรเสน อุปกฺกเมน วา สมาสนฺนมรณสฺส อสยฺหานํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคสนฺธิพนฺธนจฺเฉทกานํ มารณนฺติกเวทนาสตฺตานํ สนฺนิปาตํ อสหนฺตสฺส อาตเป ปกฺขิตฺตหริตตาลปณฺณมิว กเมน อุปสุสฺสมาเน สรีเร นิรุทฺเธสุ จกฺขาทีสุ อินฺทฺริเยสุ หทยวตฺถุมตฺเต ปติฏฺิเตสุ กายินฺทฺริยมนินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริเยสุ ตงฺขณาวเสสํ หทยวตฺถุสนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ครุสมาเสวิตาสนฺนปุพฺพกตานํ อฺตรํ ลทฺธาวเสสปจฺจยสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ วา ตทุปฏฺาปิตํ วา กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสงฺขาตํ วิสยมารพฺภ ปวตฺตติ. ตเทวํ ปวตฺตมานํ ตณฺหาอวิชฺชานํ อปฺปหีนตฺตา อวิชฺชาปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ตสฺมึ วิสเย ตณฺหา นาเมติ ¶ , สหชาตสงฺขารา ขิปนฺติ. ตํ สนฺตติวเสน ตณฺหาย นามิยมานํ สงฺขาเรหิ ขิปฺปมานํ โอริมตีรรุกฺขวินิพทฺธรชฺชุมาลมฺพิตฺวา มาติกาติกฺกมโก วิย ปุริมฺจ นิสฺสยํ ชหติ, อปรฺจ กมฺมสมุฏฺาปิตํ นิสฺสยํ อสฺสาทยมานํ วา อนสฺสาทยมานํ วา อารมฺมณาทีหิเยว ปจฺจเยหิ ปวตฺตติ.
เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ. ตเทตํ นาปิ ปุริมภวา อิธ อาคตํ, นาปิ ตโต กมฺมสงฺขารนติวิสยาทิเหตุํ วินา ปาตุภูตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สิยุํ นิทสฺสนาเนตฺถ, ปฏิโฆสาทิกา อถ;
สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ, เอกตา นาปิ นานตา.
เอตฺถ ¶ เจตสฺส วิฺาณสฺส ปุริมภวโต อิธ อนาคมเน อตีตภวปริยาปนฺนเหตูหิ จ อุปฺปาเท ปฏิโฆสปทีปมุทฺทาปฏิพิมฺพปฺปการา ธมฺมา นิทสฺสนานิ สิยุํ. ยถา หิ ปฏิโฆสปทีปมุทฺทจฺฉายา ¶ สทฺทาทิเหตุกา อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺติ, เอวเมว อิทํ จิตฺตํ. เอตฺถ จ ‘สนฺตานพนฺธโต นตฺถิ เอกตา นาปิ นานตา’. ยทิ หิ สนฺตานพนฺเธ สติ เอกนฺตเมกตา ภเวยฺย, น ขีรโต ทธิ สมฺภูตํ สิยา. อถาปิ เอกนฺตนานตา ภเวยฺย, น ขีรสฺสาธีโน ทธิ สิยา. เอส นโย สพฺพเหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ. เอวฺจ สติ สพฺพโลกโวหารโลโป สิยา. โส จ อนิฏฺโ. ตสฺมา เอตฺถ น เอกนฺตเมกตา วา นานตา วา อุปคนฺตพฺพาติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา? อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา? ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ. ตตฺริทํ วุจฺจติ –
สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
เอกสนฺตานสฺมิฺหิ ผลมุปฺปชฺชมานํ ตตฺถ เอกนฺตํ เอกตฺตนานตฺตานํ ปฏิสิทฺธตฺตา อฺสฺสาติ วา อฺโตติ วา น โหติ. เอตสฺส จ ปนตฺถสฺส พีชานํ อภิสงฺขาโร สาธโก. อมฺพพีชาทีนฺหิ อภิสงฺขาเรสุ กเตสุ ตสฺส พีชสฺส สนฺตาเน ลทฺธปจฺจโย กาลนฺตเร ผลวิเสโส อุปฺปชฺชมาโน น อฺพีชานํ นาปิ อฺาภิสงฺขารปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, น จ ตานิ พีชานิ ¶ เต อภิสงฺขารา วา ผลฏฺานํ ปาปุณนฺติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. วิชฺชาสิปฺโปสธาทีหิ จาปิ พาลสรีเร อุปยุตฺเตหิ กาลนฺตเร วุฑฺฒสรีราทีสุ ผลเทหิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยมฺปิ วุตฺตํ ‘อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา’ติ? ตตฺถ –
ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุติ.
ยถา ¶ หิ รุกฺขสงฺขาตานํ ธมฺมานํ เอกเทสภูตสฺส รุกฺขผลสฺส อุปฺปตฺติยา เอว รุกฺโข ผลตีติ ¶ วา ผลิโตติ วา วุจฺจติ, ตถา เทวมนุสฺสสงฺขาตานํ ขนฺธานํ เอกเทสภูตสฺส อุปโภคสงฺขาตสฺส สุขทุกฺขผลสฺส อุปฺปาเทเนว เทโว วา มนุสฺโส วา อุปภฺุชตีติ วา สุขิโตติ วา ทุกฺขิโตติ วา วุจฺจติ. ตสฺมา น เอตฺถ อฺเน อุปภฺุชเกน นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ.
โยปิ วเทยฺย – ‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ จ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสนํ.
กตตฺตา เอว หิ สงฺขารา อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น วิชฺชมานตฺตา วา อวิชฺชมานตฺตา วา. ยถาห ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๔๓๑). ยถารหสฺส อตฺตโน ผลสฺส จ ปจฺจยา หุตฺวา น ปุน ผลาวหา โหนฺติ วิปกฺกวิปากตฺตา. เอตสฺส จตฺถสฺส วิภาวเน อิทํ ปาฏิโภคาทิกํ นิทสฺสนํ เวทิตพฺพํ.
ยถา หิ โลเก โย กสฺสจิ อตฺถสฺส นิยฺยาตนตฺถํ ปาฏิโภโค โหติ, ภณฺฑํ วา กิณาติ, อิณํ วา คณฺหาติ. ตสฺส ตํ กิริยากรณมตฺตเมว ตทตฺถนิยฺยาตนาทิมฺหิ ปจฺจโย โหติ, น กิริยาย วิชฺชมานตา วา อวิชฺชมานตา วา. น จ ตทตฺถนิยฺยาตนาทิโต ปรมฺปิ ธารโกว ¶ โหติ. กสฺมา? นิยฺยาตนาทีนํ กตตฺตา. เอวํ กตตฺตาว สงฺขาราปิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, น จ ยถารหํ ผลทานโต ปรมฺปิ ผลาวหา โหนฺตีติ. เอตฺตาวตา มิสฺสามิสฺสวเสน ทฺวิธาปิ ปวตฺตมานสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส สงฺขารปจฺจยา ปวตฺติ ทีปิตา โหติ.
อิทานิ สพฺเพสฺเวเตสุ พตฺตึสวิฺาเณสุ สมฺโมหวิฆาตตฺถํ –
ปฏิสนฺธิปฺปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยา.
ตตฺถ ¶ ตโย ภวา, จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว สตฺตาวาสาติ เอเต ภวาทโย นาม. เอเตสุ ภวาทีสุ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ เอเต เยสํ วิปากวิฺาณานํ ปจฺจยา ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพาติ อตฺโถ.
ตตฺถ – ปฺุาภิสงฺขาเร ตาว กามาวจรอฏฺเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร อวิเสเสน กามภเว สุคติยํ นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. รูปาวจรปฺจกุสลเจตนาเภโท ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ปฏิสนฺธิยํ เอว ปฺจนฺนํ. วุตฺตปฺปเภทกามาวจโร ปน กามภเว สุคติยํ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุวชฺชานํ สตฺตนฺนํ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ทฺวิธา ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว รูปภเว ปฺจนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. กามภเว ปน ทุคฺคติยํ อฏฺนฺนมฺปิ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ.
ตตฺถ นิรเย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส นรกจาริกาทีสุ อิฏฺารมฺมณสมาโยเค โส ปจฺจโย โหติ. ติรจฺฉาเนสุ ปน นาคสุปณฺณเปตมหิทฺธิเกสุ จ อิฏฺารมฺมณํ ลพฺภติเยว. สฺเวว กามภเว สุคติยํ โสฬสนฺนมฺปิ กุสลวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. อวิเสเสน ปฺุาภิสงฺขาโร รูปภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโท อปฺุาภิสงฺขาโร กามภเว ทุคฺคติยํ เอกสฺส วิฺาณสฺส ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต; ฉนฺนํ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; สตฺตนฺนมฺปิ อกุสลวิปากวิฺาณานํ ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ ¶ . กามภเว ปน สุคติยํ เตสํเยว สตฺตนฺนํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ; รูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. โส จ โข กามาวจเร อนิฏฺรูปทสฺสนสทฺทสวนวเสน ¶ . พฺรหฺมโลเก ปน อนิฏฺา รูปาทโย นาม นตฺถิ, ตถา กามาวจรเทวโลเกปิ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ¶ อรูปภเว จตุนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ.
กามาวจรกุสลากุสลโต ปน สพฺพสงฺคาหิกนเยน วีสติเจตนาเภโทปิ กายสงฺขาโร กามภเว ทสนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ปฏิสนฺธิยํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย. สฺเวว กามภเว เตรสนฺนํ, รูปภเว นวนฺนํ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. สฺเวว กามภเว เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
อฏฺวีสติเอกูนตึสเจตนาเภโทปิ ปน จิตฺตสงฺขาโร ตีสุ ภเวสุ เอกูนวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต. สฺเวว ทฺวีสุ ภเวสุ เหฏฺาวุตฺตานํ เตรสนฺนฺจ นวนฺนฺจาติ ทฺวาวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตีสุ ปน ภเวสุ ทฺวตฺตึสายปิ วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต เจว ปฏิสนฺธิยฺจ. เอวํ ตาว ภเวสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ วเสน เต สงฺขารา เยสํ ปจฺจยา, ยถา จ ปจฺจยา โหนฺติ ตถา วิชานิตพฺพา. เอเตเนว นเยน โยนิอาทีสุปิ เวทิตพฺพา.
ตตฺริทํ อาทิโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ – อิเมสุ หิ สงฺขาเรสุ ยสฺมา ปฺุาภิสงฺขาโร ตาว ทฺวีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตถา อณฺฑชาทีสุ จตูสุ โยนีสุ, เทวมนุสฺสสงฺขาตาสุ ทฺวีสุ คตีสุ, นานตฺตกายนานตฺตสฺีนานตฺตกายเอกตฺตสฺีเอกตฺตกายนานตฺตสฺีเอกตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาสุ มนุสฺสานฺเจว ปมทุติยตติยชฺฌานภูมีนฺจ วเสน จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. อสฺสตฺตาวาเส ปเนส รูปมตฺตเมวาภิสงฺขโรตีติ จตูสุเยว สตฺตาวาเสสุ จ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ. ตสฺมา เอส ¶ เอเตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ทฺวีสุ คตีสุ, จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, จตูสุ ¶ สตฺตาวาเสสุ จ เอกวีสติยา วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ยถาสมฺภวํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อปฺุาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมิฺเว กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, อวเสสาสุ ตีสุ คตีสุ, นานตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาย เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, ตาทิเสเยว จ เอกสฺมึ ¶ สตฺตาวาเส ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว จตูสุ โยนีสุ, ตีสุ คตีสุ, เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา, เอกมฺหิ จ สตฺตาวาเส สตฺตนฺนํ วิปากวิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
อาเนฺชาภิสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกสฺมึ อรูปภเว, เอกิสฺสา โอปปาติกโยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, อากาสานฺจายตนาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อากาสานฺจายตนาทีสุ จ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึเยว ภเว, เอกิสฺสา โยนิยา, เอกิสฺสา เทวคติยา, ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จตูสุ สตฺตาวาเสสุ, จตุนฺนํ วิฺาณานํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ.
กายสงฺขาโรปิ ยสฺมา เอกสฺมึ กามภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา สพฺพํ อตฺตโน วิปากํ ชเนติ, ตสฺมา เอส เอกสฺมึ ภเว, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ทฺวีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ทฺวีสุ จ สตฺตาวาเสสุ เตวีสติยา วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. วจีสงฺขาเรปิ เอเสว นโย.
จิตฺตสงฺขาโร ปน ยสฺมา เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา น กตฺถจิ น วิปจฺจติ, ตสฺมา เอส ตีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, อฏฺสุ สตฺตาวาเสสุ ยถาโยคํ ทฺวตฺตึสาย วิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. อวิฺาณเก ปน สตฺตาวาเส สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ นตฺถิ.
อปิจ ปฺุาภิสงฺขาโร อสฺสตฺเตสุ กฏตฺตารูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ. เอวํ –
ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ ¶ , วเสเนเต ภวาทิสุ;
วิชานิตพฺพา สงฺขารา, ยถา เยสฺจ ปจฺจยาติ.
สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปทนิทฺเทโส.
นามรูปปทนิทฺเทโส
๒๒๘. วิฺาณปจฺจยา ¶ ¶ นามรูปนิทฺเทเส –
เทสนาเภทโต สพฺพ-ภวาทีสุ ปวตฺติโต;
สงฺคหา ปจฺจยนยา, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เทสนาเภทโต’ติ ‘‘ตตฺถ กตมํ รูปํ? จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูป’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒; ม. นิ. ๑.๑๐๐) เอวํ ตาว สุตฺตนฺเต จ อิธ รูปปทสฺส อเภทโต เอกสทิสา เทสนา กตา; นามปทสฺส ปน เภทโต.
สุตฺตนฺตสฺมิฺหิ ‘‘ตตฺถ กตมํ นามํ? เวทนา สฺา เจตนา ผสฺโส มนสิกาโร’’ติ วุตฺตํ. อิธ ‘‘เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ. ตตฺถ หิ ยมฺปิ จกฺขุวิฺาณปจฺจยา นามํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส ิติ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ เอวํ อฺธมฺมสนฺนิสฺสเยน อคฺคเหตพฺพโต ปากฏํ, ตํ ทสฺเสนฺโต เจตนาผสฺสมนสิการวเสน สงฺขารกฺขนฺธํ ติธา ภินฺทิตฺวา ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สทฺธึ เทเสสิ. อิธ ปน ตตฺถ วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ สพฺพํ นามํ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘ตโย ขนฺธา – เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ อาห.
กึ ปน อิเม ตโย ขนฺธาว นามํ, วิฺาณํ นามํ นาม น โหตีติ? โน น โหติ. ตสฺมึ ปน วิฺาเณ คยฺหมาเน นามวิฺาณสฺส จ ปจฺจยวิฺาณสฺส จาติ ทฺวินฺนํ วิฺาณานํ สหภาโว อาปชฺชติ. ตสฺมา วิฺาณํ ปจฺจยฏฺาเน เปตฺวา ปจฺจยนิพฺพตฺตํ นามํ ทสฺเสตุํ ตโยว ขนฺธา วุตฺตาติ. เอวํ ตาว ‘เทสนาเภทโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’ติ เอตฺถ ปน นามํ เอกํ สตฺตาวาสํ เปตฺวา สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติเสสสตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. รูปํ ¶ ทฺวีสุ ภเวสุ, จตูสุ โยนีสุ, ปฺจสุ คตีสุ, ปุริมาสุ จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ, ปฺจสุ จ สตฺตาวาเสสุ ปวตฺตติ. เอวํ ปวตฺตมาเน เจตสฺมึ นามรูเป ยสฺมา อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุกายวเสน รูปโต ทฺเว สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน ¶ รูปรูปโต วีสติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ ¶ เอเต เตวีสติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน เอกสนฺตติสีสโต นว รูปธมฺเม อปเนตฺวา จุทฺทส, สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส. เตสมฺปิ อคหิตคฺคหเณน สนฺตติสีสทฺวยโต อฏฺารส รูปธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
ยสฺมา จ โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตินฺทฺริยนวกสฺส จ วเสน รูปรูปโต จตฺตาริ สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต เอกูนจตฺตาลีส ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ทฺวาจตฺตาลีส ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสตฺตยโต สตฺตวีสติ ธมฺเม อปเนตฺวา ปนฺนรส.
กามภเว ปน ยสฺมา เสสโอปปาติกานํ วา สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปรูปโต สตฺต สนฺตติสีสานิ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, ตสฺมา เตสํ วิตฺถาเรน รูปรูปโต สตฺตติ ธมฺมา ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตสตฺตติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน สนฺตติสีสฉกฺกโต จตุปฺาส ธมฺเม อปเนตฺวา เอกูนวีสติ. เอส อุกฺกํสโต. อวกํเสน ปน ตํตํรูปสนฺตติสีสวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา สงฺเขปโต จ วิตฺถารโต จ ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขาตา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปฺปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปน รูปํ น สมุฏฺาเปติ. ตฺหิ ยถา ปปาเต ปติตปุริโส ปรสฺส ¶ ปจฺจโย โหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ วตฺถุทุพฺพลตาย ทุพฺพลตฺตา รูปํ สมุฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตโต ปน อุทฺธํ ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานกํ ¶ สุทฺธฏฺกํ. สทฺทปาตุภาวกาเล ปฏิสนฺธิกฺขณโต อุทฺธํ ปวตฺตอุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ. เย ปน กพฬิการาหารูปชีวิโน คพฺภเสยฺยกสตฺตา เตสํ –
‘‘ยฺจสฺส ¶ ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
วจนโต มาตรา อชฺโฌหริตาหาเรน อนุคเต สรีเร, โอปปาติกานํ สพฺพปมํ อตฺตโน มุขคตํ เขฬํ อชฺโฌหรณกาเล อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ อิทํ อาหารสมุฏฺานสฺส สุทฺธฏฺกสฺส อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ อุกฺกํสโต ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, ปุพฺเพ เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตํ กมฺมสมุฏฺานํ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ สมาสโต นวนวุติ ธมฺมา. ยสฺมา วาสทฺโท อนิยโต กทาจิเทว ปาตุภาวโต, ตสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ อปเนตฺวา อิเม สตฺตนวุติ ธมฺมา ยถาสมฺภวํ สพฺพสตฺตานํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. เตสฺหิ สุตฺตานมฺปิ ปมตฺตานมฺปิ จรนฺตานมฺปิ ขาทนฺตานมฺปิ ปิวนฺตานมฺปิ ทิวา จ รตฺติฺจ เอเต วิฺาณปจฺจยา ปวตฺตนฺติ. ตฺจ เตสํ วิฺาณปจฺจยภาวํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.
ยํ ปเนตเมตฺถ กมฺมชรูปํ ตํ ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สพฺพปมํ ปติฏฺหนฺตมฺปิ ติสมุฏฺานิกรูเปน อนุปตฺถทฺธํ น สกฺโกติ สณฺาตุํ, นาปิ ติสมุฏฺานิกํ เตน อนุปตฺถทฺธํ. อถ โข วาตพฺภาหตาปิ จตุทฺทิสววตฺถาปิตา นฬกลาปิโย วิย, อูมิเวคพฺภาหตาปิ มหาสมุทฺเท กตฺถจิ ลทฺธปติฏฺา ภินฺนวาหนิกา วิย จ อฺมฺูปตฺถทฺธาเนเวตานิ อปตมานานิ สณฺหิตฺวา เอกมฺปิ วสฺสํ ทฺเวปิ วสฺสานิ…เป… วสฺสสตมฺปิ ยาว เตสํ สตฺตานํ อายุกฺขโย วา ปฺุกฺขโย วา ตาว ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ‘สพฺพภวาทีสุ ปวตฺติโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สงฺคหา’ติ ¶ ¶ เอตฺถ จ ยํ อารุปฺเป ปวตฺติปฏิสนฺธีสุ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา นามเมว, ยฺจ อสฺีสุ สพฺพตฺถ ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยา วิฺาณปจฺจยา รูปเมว, ยฺจ ปฺจโวการภเว สพฺพตฺถ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ตํ สพฺพํ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอวํ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน สงฺคเหตฺวา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพํ. อสฺีสุ วิฺาณาภาวา อยุตฺตนฺติ เจ นายุตฺตํ. อิทฺหิ –
นามรูปสฺส ¶ ยํ เหตุ, วิฺาณํ ตํ ทฺวิธา มตํ;
วิปากมวิปากฺจ, ยุตฺตเมว ยโต อิทํ.
ยฺหิ นามรูปสฺส เหตุ วิฺาณํ ตํ วิปากาวิปากเภทโต ทฺวิธา มตํ. อิทฺจ อสฺสตฺเตสุ กมฺมสมุฏฺานตฺตา ปฺจโวการภเว ปวตฺตอภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา รูปํ, ตถา ปฺจโวกาเร ปวตฺติยํ กุสลาทิจิตฺตกฺขเณ กมฺมสมุฏฺานนฺติ ยุตฺตเมว อิทํ. เอวํ ‘สงฺคหโต’เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปจฺจยนยา’ติ เอตฺถ หิ –
นามสฺส ปากวิฺาณํ, นวธา โหติ ปจฺจโย;
วตฺถุรูปสฺส นวธา, เสสรูปสฺส อฏฺธา.
อภิสงฺขารวิฺาณํ, โหติ รูปสฺส เอกธา;
ตทฺํ ปน วิฺาณํ, ตสฺส ตสฺส ยถารหํ.
ยฺเหตํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยํ วา วิปากสงฺขาตํ นามํ, ตสฺส รูปมิสฺสสฺส วา รูปอมิสฺสสฺส วา ปฏิสนฺธิกํ วา อฺํ วา วิปากวิฺาณํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอาหารอินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. วตฺถุรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. เปตฺวา ปน วตฺถุรูปํ เสสรูปสฺส อิเมสุ นวสุ อฺมฺปจฺจยํ อปเนตฺวา เสเสหิ อฏฺหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. อภิสงฺขารวิฺาณํ ปน อสฺสตฺตรูปสฺส วา ปฺจโวกาเร วา กมฺมชสฺส สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสยวเสน ¶ เอกธาว ปจฺจโย โหติ. อวเสสํ ปมภวงฺคโต ปภุติ สพฺพมฺปิ วิฺาณํ ตสฺส ตสฺส นามรูปสฺส ยถารหํ ¶ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารโต ปน ตสฺส ปจฺจยนเย ทสฺสิยมาเน สพฺพาปิ ปฏฺานกถา วิตฺถาเรตพฺพา โหตีติ น ตํ อารภาม.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ¶ ยุตฺติโต จ. สุตฺเต หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
จิตฺตเชน หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิติ.
จิตฺเต หิ ปสนฺเน อปฺปสนฺเน วา ตทนุรูปานิ รูปานิ อุปฺปชฺชมานานิ ทิฏฺานิ. ทิฏฺเน จ อทิฏฺสฺส อนุมานํ โหตีติ อิมินา อิธ ทิฏฺเน จิตฺตชรูเปน อทิฏฺสฺสาปิ ปฏิสนฺธิรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย โหตีติ ชานิตพฺพเมตํ. กมฺมสมุฏฺานสฺสาปิ หิ ตสฺส จิตฺตสมุฏฺานสฺเสว วิฺาณปจฺจยตา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓, ๔๑๙) อาคตาติ. เอวํ ปจฺจยนยโต เปตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
เอตฺถ จ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ภาสมาเนน ภควตา ยสฺมา อุปปริกฺขมานานํ ปณฺฑิตานํ ปรมตฺถโต นามรูปมตฺตเมว ปวตฺตมานํ ทิสฺสติ, น สตฺโต, น โปโส; ตสฺมา อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ โหตีติ.
วิฺาณปจฺจยา นามรูปปทนิทฺเทโส.
สฬายตนปทนิทฺเทโส
๒๒๙. นามรูปปจฺจยา สฬายตนนิทฺเทเส –
นามํ ขนฺธตฺตยํ รูปํ, ภูตวตฺถาทิกํ มตํ;
กเตกเสสํ ตํ ตสฺส, ตาทิสสฺเสว ปจฺจโย.
ยฺเหตํ ¶ ¶ สฬายตนสฺส ปจฺจยภูตํ นามรูปํ, ตตฺถ นามนฺติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ปน สกสนฺตติปริยาปนฺนํ นิยมโต จตฺตาริ ภูตานิ ฉ วตฺถูนิ ¶ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวํ ภูตวตฺถาทิกํ มตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ ปน ‘‘นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูป’’นฺติ เอวํ กเตกเสสํ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตน’’นฺติ เอวํ กเตกเสสสฺเสว สฬายตนสฺส ปจฺจโยติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา อารุปฺเป นามเมว ปจฺจโย. ตฺจ ฉฏฺายตนสฺเสว, น อฺสฺส. ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ หิ อพฺยากตวาเร วกฺขติ. อิธ สงฺคหิตเมว หิ ตตฺถ วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถา. สา ปนสฺส ตพฺภาวภาวีภาวตา ปจฺจยนยสฺมิฺเว อาวิภวิสฺสติ. ตสฺมา –
ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ปจฺจโย โหติ, ตถา เนยฺยํ วิภาวินา.
ตตฺรายํ อตฺถทีปนา –
นามเมว หิ อารุปฺเป, ปฏิสนฺธิปวตฺติสุ;
ปจฺจโย สตฺตธา ฉฏฺา, โหติ ตํ อวกํสโต.
กถํ? ‘ปฏิสนฺธิยํ’ ตาว อวกํสโต สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ สตฺตธา นามํ ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
‘ปวตฺเต’ปิ วิปากํ วุตฺตนเยเนว ปจฺจโย โหติ. อิตรํ ปน อวกํสโต วุตฺตปฺปกาเรสุ ปจฺจเยสุ วิปากปจฺจยวชฺเชหิ ฉหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
อฺสฺมิมฺปิ ¶ ภเว นามํ, ตเถว ปฏิสนฺธิยํ;
ฉฏฺสฺส อิตเรสํ ตํ, ฉหากาเรหิ ปจฺจโย.
อารุปฺปโต ¶ หิ อฺสฺมิมฺปิ ปฺจโวการภเว ตํ วิปากนามํ หทยวตฺถุโน สหายํ หุตฺวา ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส ¶ ยถา อารุปฺเป วุตฺตํ ตเถว อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อิตเรสํ ปเนตํ ปฺจนฺนํ จกฺขายตนาทีนํ จตุมหาภูตสหายํ หุตฺวา สหชาต นิสฺสยวิปากวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยนาติ เอวํ อฺถาปิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺส วเสน อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ปวตฺเตปิ ตถา โหติ, ปากํ ปากสฺส ปจฺจโย;
อปากํ อวิปากสฺส, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย.
ปวตฺเตปิ หิ ปฺจโวการภเว ยถา ปฏิสนฺธิยํ, ตเถว วิปากนามํ วิปากสฺส ฉฏฺายตนสฺส อวกํสโต สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อวิปากํ ปน อวิปากสฺส ฉฏฺสฺส อวกํสโตว ตโต วิปากปจฺจยํ อปเนตฺวา ฉธาว ปจฺจโย โหติ. วุตฺตนเยเนว ปเนตฺถ อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ.
ตตฺเถว เสสปฺจนฺนํ, วิปากํ ปจฺจโย ภเว;
จตุธา อวิปากมฺปิ, เอวเมว ปกาสิตํ.
ตตฺเถว หิ ปวตฺเต เสสานํ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ จกฺขุปฺปสาทาทิวตฺถุกมฺปิ อิตรมฺปิ วิปากนามํ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ. ยถา จ วิปากํ, อวิปากมฺปิ เอวเมว ปกาสิตํ. ตสฺมา กุสลาทิเภทมฺปิ เตสํ จตุธา ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ตาว นามเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ, ยถา จ โหติ, ตถา เวทิตพฺพํ.
รูปํ ปเนตฺถ อารุปฺป-ภเว ภวติ ปจฺจโย;
น เอกายตนสฺสาปิ, ปฺจกฺขนฺธภเว ปน.
รูปโต ¶ สนฺธิยํ วตฺถุ, ฉธา ฉฏฺสฺส ปจฺจโย;
ภูตานิ จตุธา โหนฺติ, ปฺจนฺนํ อวิเสสโต.
รูปโต หิ ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุรูปํ ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ. จตฺตาริ ปน ภูตานิ อวิเสสโต ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ ยํ ยํ อายตนํ ¶ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ตสฺส วเสน ปฺจนฺนมฺปิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ¶ จตุธา ปจฺจยา โหนฺติ.
ติธา ชีวิตเมเตสํ, อาหาโร จ ปวตฺติยํ;
ตาเนว ฉธา ฉฏฺสฺส, วตฺถุ ตสฺเสว ปฺจธา.
เอเตสํ ปน จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ อตฺถิอวิคตอินฺทฺริยวเสน รูปชีวิตํ ติธา ปจฺจโย โหติ.
‘อาหาโร จา’ติ อาหาโร จ อตฺถิอวิคตอาหารวเสน ติธา ปจฺจโย โหติ. โส จ โข เย สตฺตา อาหารูปชีวิโน, เตสํ อาหารานุคเต กาเย ปวตฺติยํเยว, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตานิ ปน ปฺจ จกฺขายตนาทีนิ ฉฏฺสฺส จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณสงฺขาตสฺส มนายตนสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉหากาเรหิ ปจฺจยา โหนฺติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เปตฺวา ปน ปฺจ วิฺาณานิ ตสฺเสว อวเสสมนายตนสฺส วตฺถุรูปํ นิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปฺจธา ปจฺจโย โหติ ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิยํ. เอวํ รูปเมว ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต วา ยสฺส ยสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ ยถา จ โหติ ตถา เวทิตพฺพํ.
นามรูปํ ปนุภยํ, โหติ ยํ ยสฺส ปจฺจโย;
ยถา จ ตมฺปิ สพฺพตฺถ, วิฺาตพฺพํ วิภาวินา.
เสยฺยถิทํ – ปฏิสนฺธิยํ ตาว ปฺจโวการภเว ขนฺธตฺตยวตฺถุรูปสงฺขาตํ นามรูปํ ฉฏฺายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจยาทีหิ ปจฺจโย ¶ โหตีติ อิทเมตฺถ มุขมตฺตํ. วุตฺตนยานุสาเรน ปน สกฺกา สพฺพํ โยเชตุนฺติ น เอตฺถ วิตฺถาโร ทสฺสิโตติ.
นามรูปปจฺจยา สฬายตนปทนิทฺเทโส.
ผสฺสปทนิทฺเทโส
๒๓๐. สฬายตนปจฺจยา ¶ ผสฺสนิทฺเทเส –
ฉเฬว ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต.
‘สงฺเขปโต’ ¶ หิ ปาฬิยํ จกฺขุสมฺผสฺโสติ อาทโย ฉเฬว ผสฺสา อาคตา. วิตฺถาเรน ปน จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากาติ ทส, เสสา พาวีสติ โลกิยวิปากวิฺาณสมฺปยุตฺตา จ พาวีสตีติ เอวํ สพฺเพปิ สงฺขารปจฺจยา วุตฺตวิฺาณมิว พาตฺตึส โหนฺติ. ยํ ปเนตสฺส พาตฺตึสวิธสฺสาปิ ผสฺสสฺส ปจฺจโย สฬายตนํ. ตตฺถ –
ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ, จกฺขาทึ พาหิเรหิปิ;
สฬายตนมิจฺฉนฺติ, ฉหิ สทฺธึ วิจกฺขณา.
ตตฺถ เย ตาว ‘‘อุปาทินฺนกปวตฺติกถา อย’’นฺติ เอกสนฺตติปริยาปนฺนเมว ปจฺจยํ ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ ทีเปนฺติ, เต ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ ปาฬิอนุสารโต อารุปฺเป ฉฏฺายตนฺจ อฺตฺถ สพฺพสงฺคหโต สฬายตนฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจโยติ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ จกฺขาทึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตฺหิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺตฺเวว สงฺฆํ คจฺฉติ. เย ปน ปจฺจยุปฺปนฺนเมว เอกสนฺตติปริยาปนฺนํ ทีเปนฺติ, ปจฺจยํ ปน ภินฺนสนฺตานมฺปิ, เต ยํ ยํ อายตนํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ ตํ สพฺพํ ทีเปนฺตา ¶ พาหิรมฺปิ ปริคฺคเหตฺวา ตเทว ฉฏฺเน สห อชฺฌตฺตํ พาหิเรหิปิ รูปายตนาทีหิ สทฺธึ สฬายตนนฺติ อิจฺฉนฺติ. ตมฺปิ หิ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอเตสํ เอกเสเส กเต สฬายตนนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
เอตฺถาห – น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภติ, นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา, อยฺจ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ เอโกว วุตฺโต, โส กสฺมาติ? ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ – สจฺจเมตํ. สพฺเพหิ เอโก เอกมฺหา วา สพฺเพ น สมฺโภนฺติ, สมฺโภติ ปน อเนเกหิ เอโก; ยถา จกฺขุสมฺผสฺโส จกฺขายตนา รูปายตนา จกฺขุวิฺาณสงฺขาตา มนายตนา อวเสสา สมฺปยุตฺตธมฺมายตนา จาติ เอวํ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ โยเชตพฺพํ. ตสฺมา เอว หิ –
เอโก ¶ ปเนกายตน-ปฺปภโว อิติ ทีปิโต;
ผสฺโสยํ เอกวจน-นิทฺเทเสนิธ ตาทินา.
‘เอกวจนนิทฺเทเสนา’ติ ¶ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ อิมินา หิ เอกวจนนิทฺเทเสน อเนเกหิ อายตเนหิ เอโก ผสฺโส โหตีติ ตาทินา ทีปิโตติ อตฺโถ. อายตเนสุ ปน –
ฉธา ปฺจ ตโต เอกํ, นวธา พาหิรานิ ฉ;
ยถาสมฺภวเมตสฺส, ปจฺจยตฺเต วิภาวเย.
ตตฺรายํ วิภาวนา – จกฺขายตนาทีนิ ตาว ปฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทิเภทโต ปฺจวิธสฺส ผสฺสสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจยา โหนฺติ. ตโต ปรํ เอกํ วิปากมนายตนํ อเนกเภทสฺส วิปากมโนสมฺผสฺสสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน นวธา ปจฺจโย โหติ. พาหิเรสุ ปน รูปายตนํ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน จตุธา ปจฺจโย โหติ. ตถา สทฺทายตนาทีนิ โสตสมฺผสฺสาทีนํ. มโนสมฺผสฺสสฺส ปน ตานิ ธมฺมายตนฺจ ตถา จ อารมฺมณปจฺจยมตฺเตเนว จาติ เอวํ พาหิรานิ ฉ ยถาสมฺภวเมตสฺส ปจฺจยตฺเต วิภาวเยติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺสปทนิทฺเทโส.
เวทนาปทนิทฺเทโส
๒๓๑. ผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนานิทฺเทเส –
ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, เอกูนนวุตี มตา.
จกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนาติอาทินา หิ นเยน ปาฬิยํ อิมา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา ทฺวารโต ฉเฬว เวทนา วุตฺตา. ตา ปน ปเภเทน เอกูนนวุติยา จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เอกูนนวุตีติ มตา.
เวทนาสุ ปเนตาสุ, อิธ พาตฺตึส เวทนา;
วิปากจิตฺตยุตฺตาว, อธิปฺเปตาติ ภาสิตา.
อฏฺธา ¶ ตตฺถ ปฺจนฺนํ, ปฺจทฺวารมฺหิ ปจฺจโย;
เสสานํ เอกธา ผสฺโส, มโนทฺวาเรปิ โส ตถา.
ตตฺถ หิ ปฺจทฺวาเร จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกานํ ปฺจนฺนํ เวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ¶ อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. เสสานํ ปน เอเกกสฺมึ ทฺวาเร สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ.
‘มโนทฺวาเรปิ โส ตถา’ติ มโนทฺวาเรปิ หิ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรวิปากเวทนานํ โส สหชาตมโนสมฺผสฺสสงฺขาโต ผสฺโส ตเถว อฏฺธา ปจฺจโย โหติ, ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน จ ปวตฺตานํ เตภูมกวิปากเวทนานมฺปิ. ยา ปเนตา มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตา กามาวจรเวทนา, ตาสํ มโนทฺวาเร อาวชฺชนสมฺปยุตฺโต มโนสมฺผสฺโส อุปนิสฺสยวเสน เอกธา ปจฺจโย โหตีติ.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาปทนิทฺเทโส.
ตณฺหาปทนิทฺเทโส
๒๓๒. เวทนาปจฺจยา ¶ ตณฺหานิทฺเทเส –
รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
อิมสฺมิฺหิ เวทนาปจฺจยา ตณฺหานิทฺเทเส ‘เสฏฺิปุตฺโต พฺราหฺมณปุตฺโต’ติ ปิติโต นามวเสน ปุตฺโต วิย อิมา รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ อารมฺมณโต นามวเสน ฉ ตณฺหา ทีปิตา ปกาสิตา กถิตาติ อตฺโถ. ตตฺถ รูเป ตณฺหา รูปตณฺหาติ อิมินา นเยน ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตาสุ จ ปน ตณฺหาสุ เอเกกา ตณฺหา ปวตฺติอาการโต กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา มตา. รูปตณฺหา เอว หิ ยทา จกฺขุสฺส อาปาถคตํ รูปารมฺมณํ กามสฺสาทวเสน อสฺสาทยมานา ¶ ปวตฺตติ, ตทา กามตณฺหา นาม โหติ. ยทา ตเทวารมฺมณํ ธุวํ สสฺสตนฺติ ปวตฺตาย สสฺสตทิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา ภวตณฺหา นาม โหติ. สสฺสตทิฏฺิสหคโต หิ ราโค ภวตณฺหาติ วุจฺจติ. ยทา ปน ตเทวารมฺมณํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ ปวตฺตาย อุจฺเฉททิฏฺิยา สทฺธึ ปวตฺตติ, ตทา วิภวตณฺหา นาม โหติ. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต หิ ¶ ราโค วิภวตณฺหาติ วุจฺจติ. เอเสว นโย สทฺทตณฺหาทีสุปีติ เอตา อฏฺารส ตณฺหา โหนฺติ.
ตา อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธา อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตา ฉตฺตึส, อนาคตา ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนา ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ ตณฺหา โหนฺติ. ตา ปน สํงฺขิปฺปมานา รูปาทิอารมฺมณวเสน ฉ, กามตณฺหาทิวเสน วา ติสฺโสว ตณฺหา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปนิเม สตฺตา ปุตฺตํ อสฺสาเทตฺวา ปุตฺเต มมตฺเตน ธาติยา วิย รูปาทิอารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมานํ เวทนํ อสฺสาเทตฺวา เวทนาย มมตฺเตน รูปาทิอารมฺมณทายกานํ จิตฺตการคนฺธพฺพคนฺธิกสูทตนฺตวายรสายนวิธายกเวชฺชาทีนํ มหาสกฺการํ กโรนฺติ, ตสฺมา สพฺพาเปสา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา เจตฺถ ¶ อธิปฺเปตา, วิปากสุขเวทนา;
เอกาว เอกธา เจสา, ตสฺมา ตณฺหาย ปจฺจโย.
‘เอกธา’ติ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา วา –
ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา.
เวทนา ปจฺจยา จาปิ, ยสฺมา นานุสยํ วินา;
โหติ ตสฺมา น สา โหติ, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโตติ.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปทนิทฺเทโส.
อุปาทานปทนิทฺเทโส
๒๓๓. ตณฺหาปจฺจยา ¶ อุปาทานนิทฺเทเส –
อุปาทานานิ จตฺตาริ, ตานิ อตฺถวิภาคโต;
ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารา, กมโต จ วิภาวเย.
ปาฬิยฺหิ อุปาทานนฺติ กามุปาทานํ…เป… อตฺตวาทุปาทานนฺติ อิมานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ อาคตานิ. เตสํ อยํ อตฺถวิภาโค – วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ. กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. อุปาทานนฺติ ¶ ทฬฺหคฺคหณํ. ทฬฺหตฺโถ เหตฺถ อุปสทฺโท อุปายาส-อุปกฏฺาทีสุ วิย. ตถา ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺึ อุปาทิยตีติ วา ทิฏฺุปาทานํ ¶ . สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติอาทีสุ หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยติ. ตถา สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ. สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ เอวํ สุทฺธีติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานีติ. ตถา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อุปาทานํ. กึ วทนฺติ อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตาติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ. อยํ ตาว เตสํ อตฺถวิภาโค.
‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร’ ปน กามุปาทานํ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมํ กามุปาทานํ? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามราโค กามนนฺที กามตณฺหา กามสฺเนโห กามปริฬาโห กามมุจฺฉา กามชฺโฌสานํ – อิทํ วุจฺจติ กามุปาทาน’’นฺติ อาคตตฺตา สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ วุตฺตํ. ตณฺหาทฬฺหตฺตํ นาม ปุริมตณฺหาอุปนิสฺสยปจฺจเยน ทฬฺหสมฺภูตา อุตฺตรตณฺหา เอว. เกจิ ปนาหุ – อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา ตณฺหา, อนฺธกาเร โจรสฺส หตฺถปฺปสารณํ วิย. สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ, ตสฺเสว ภณฺฑคฺคหณํ วิย. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาปฏิปกฺขา จ เต ธมฺมา. ตถา ปริเยสนารกฺขทุกฺขมูลาติ. เสสุปาทานตฺตยํ ปน สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว.
วิตฺถารโต ปน ปุพฺเพ รูปาทีสุ วุตฺตาย อฏฺสตปฺปเภทายปิ ตณฺหาย ทฬฺหภาโว กามุปาทานํ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ ทิฏฺุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ทิฏฺุปาทานํ? นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ…เป… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ ยา ¶ เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ ทิฏฺุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) สีลวเตหิ สุทฺธิปรามสนํ ปน สีลพฺพตุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ สีลพฺพตุปาทานํ? อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธิ, สีลพฺพเตน สุทฺธีติ ยา เอวรูปา ทิฏฺิ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ สีลพฺพตุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๒; วิภ. ๙๓๘). วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ อตฺตวาทุปาทานํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ อตฺตวาทุปาทานํ? อิธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน…เป… สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… วิปริเยสคฺคาโห – อิทํ วุจฺจติ อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒๒๓; วิภ. ๙๓๘). อยเมตฺถ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาโร.
‘กมโต’ติ ¶ เอตฺถ ปน ติวิโธ กโม – อุปฺปตฺติกฺกโม, ปหานกฺกโม, เทสนากฺกโม จ. ตตฺถ อนมตคฺเค สํสาเร อิมสฺส ปมํ อุปฺปตฺตีติ อภาวโต กิเลสานํ นิปฺปริยาเยน อุปฺปตฺติกฺกโม น วุจฺจติ. ปริยาเยน ปน เยภุยฺเยน เอกสฺมึ ภเว อตฺตคฺคาหปุพฺพงฺคโม สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวโส. ตโต ‘‘สสฺสโต อยํ อตฺตา’’ติ คณฺหโต อตฺตวิสุทฺธตฺถํ สีลพฺพตุปาทานํ, อุจฺฉิชฺชตีติ คณฺหโต ปรโลกนิรเปกฺขสฺส กามุปาทานนฺติ เอวํ ปมํ อตฺตวาทุปาทานํ, ตโต ทิฏฺิสีลพฺพตกามุปาทานานีติ อยเมเตสํ เอกสฺมึ ภเว อุปฺปตฺติกฺกโม.
ทิฏฺุปาทานาทีนิ เจตฺถ ปมํ ปหียนฺติ โสตาปตฺติมคฺควชฺฌตฺตา. กามุปาทานํ ปจฺฉา อรหตฺตมคฺควชฺฌตฺตาติ. อยเมเตสํ ปหานกฺกโม.
มหาวิสยตฺตา ปน ปากฏตฺตา จ เอเตสุ กามุปาทานํ ปมํ เทสิตํ. มหาวิสยฺหิ ตํ อฏฺจิตฺตสมฺปโยคา. อปฺปวิสยานิ อิตรานิ จตุจิตฺตสมฺปโยคา. เยภุยฺเยน จ อาลยรามตาย ปชาย ปากฏํ กามุปาทานํ, น อิตรานิ. กามุปาทานวา วตฺถุกามานํ สมธิคมตฺถํ โกตูหลมงฺคลาทิพหุโล โหติ, น สสฺสตทิฏฺีติ ตทนนฺตรํ ทิฏฺุปาทานํ. ตํ ปภิชฺชมานํ สีลพฺพตอตฺตวาทุปาทานวเสน ทุวิธํ โหติ. ตสฺมึ ทฺวเย โคกิริยํ วา กุกฺกุรกิริยํ วา ทิสฺวาปิ เวทิตพฺพโต โอฬาริกนฺติ สีลพฺพตุปาทานํ ปมํ เทสิตํ, สุขุมตฺตา อนฺเต อตฺตวาทุปาทานนฺติ อยเมเตสํ เทสนากฺกโม.
ตณฺหา ¶ จ ปุริมสฺเสตฺถ, เอกธา โหติ ปจฺจโย;
สตฺตธา อฏฺธา วาปิ, โหติ เสสตฺตยสฺส สา.
เอตฺถ ¶ จ เอวํ เทสิเต อุปาทานจตุกฺเก ปุริมสฺส กามุปาทานสฺส กามตณฺหา อุปนิสฺสยวเสน เอกธาว ปจฺจโย โหติ ตณฺหาภินนฺทิเตสุ วิสเยสุ อุปฺปตฺติโต. เสสตฺตยสฺส ปน สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุวเสน สตฺตธา วา อุปนิสฺสเยน สห อฏฺธา วาปิ ปจฺจโย โหติ. ยทา จ สา อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย โหติ ตทา อสหชาตาว โหตีติ.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานปทนิทฺเทโส.
ภวปทนิทฺเทโส
๒๓๔. อุปาทานปจฺจยา ¶ ภวนิทฺเทเส –
อตฺถโต ธมฺมโต เจว, สาตฺถโต เภทสงฺคหา;
ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ภวตีติ ภโว. ทุวิเธนาติ ทฺวีหิ อากาเรหิ ปวตฺติโตติ อตฺโถ. อถวา ทุวิเธนาติ ปจฺจเต กรณวจนํ, ทุวิโธติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถีติ สํวิชฺชติ. กมฺมเมว ภโว กมฺมภโว. อุปปตฺติเยว ภโว อุปปตฺติภโว. เอตฺถ จ อุปปตฺติ ภวตีติ ภโว. กมฺมํ ปน ยถา สุขการณตฺตา ‘‘สุโข พุทฺธานมุปฺปาโท’’ติ (ธ. ป. ๑๙๔) วุตฺโต, เอวํ ภวการณตฺตา ผลโวหาเรน ภโวติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตโม กมฺมภโวติ เตสุ ทฺวีสุ ภเวสุ โย กมฺมภโวติ วุตฺโต, โส กตโมติ อตฺโถ. ปฺุาภิสงฺขาราทโย วุตฺตตฺถา เอว. สพฺพนฺติ อนวเสสํ. ภวํ คจฺฉติ คเมติ จาติ ภวคามิ. อิมินา โลกุตฺตรํ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ วฏฺฏกถา, ตฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตนฺติ. กรียตีติ กมฺมํ.
กามภวาทีสุ กามสงฺขาโต ภโว กามภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. สฺาวตํ ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. วิปริยาเยน ¶ อสฺาภโว. โอฬาริกสฺาย อภาวา ¶ สุขุมาย จ ภาวา เนว สฺา นาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว เอกโวการภโว. เอโก วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว. เอเสว นโย จตุโวการปฺจโวการภเวสุ. อยํ วุจฺจติ อุปปตฺติภโวติ เอส นววิโธปิ อุปปตฺติภโว นาม วุจฺจตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถโต’ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ธมฺมโต’ ปน เอตฺถ หิ ปฺุาภิสงฺขาโร ธมฺมโต เตรส เจตนา, อปฺุาภิสงฺขาโร ทฺวาทส, อาเนฺชาภิสงฺขาโร จตสฺโส. ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ เอเตน สพฺเพเปเต ธมฺมา เจตนา สมฺปยุตฺตา วา กมฺมสงฺขาตา อาจยคามิโน ธมฺมา สงฺคหิตา. กามภโว ปฺจ อุปาทินฺนกฺขนฺธา, ตถา รูปภโว, อรูปภโว จตฺตาโร, สฺาภโว จตุปฺจ, อสฺาภโว เอโก ¶ อุปาทินฺนกฺขนฺโธ, เนวสฺานาสฺาภโว จตฺตาโร. เอกโวการภวาทโย เอกจตุปฺจกฺขนฺธา อุปาทินฺนกฺขนฺเธหีติ เอวเมตฺถ ‘ธมฺมโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สาตฺถโต’ติ ยถา จ ภวนิทฺเทเส ตเถว กามฺจ สงฺขารนิทฺเทเสปิ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว วุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ ปุริมา อตีตกมฺมวเสน อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตา วุตฺตา. อิเม ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวเสน อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยตฺตาติ ปุนวจนํ สาตฺถกเมว. ปุพฺเพ วา ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลเจตนา กามาวจรา’’ติ เอวมาทินา นเยน เจตนาว สงฺขาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺม’’นฺติ วจนโต เจตนาสมฺปยุตฺตาปิ. ปุพฺเพ จ วิฺาณปจฺจยเมว กมฺมํ สงฺขาราติ วุตฺตํ, อิทานิ อสฺาภวนิพฺพตฺตกมฺปิ. กึ วา พหุนา? ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตฺถ ปฺุาภิสงฺขาราทโยว กุสลากุสลธมฺมา วุตฺตา. ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ อิธ ปน อุปปตฺติภวสฺสาปิ สงฺคหิตตฺตา กุสลากุสลาพฺยากตา ธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา สพฺพถาปิ ¶ สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจนนฺติ. เอวเมตฺถ ‘สาตฺถโต’ปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘เภทสงฺคหา’ติ อุปาทานปจฺจยา ภวสฺส เภทโต เจว สงฺคหโต จ. ยฺหิ กามุปาทานปจฺจยา กามภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ กริยติ, โส กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ กามุปาทานปจฺจยา ¶ ทฺเว กามภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวปฺจโวการภวา; ทฺเว รูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวอสฺาภวเอกโวการภวปฺจโวการภวา; ทฺเว อรูปภวา, ตทนฺโตคธาว สฺาภวเนวสฺานาสฺาภวจตุโวการภวาติ สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา. ยถา จ กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ฉ ภวา ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา เภทโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ จตุวีสติ ภวา.
สงฺคหโต ปน กมฺมภวํ อุปปตฺติภวฺจ เอกโต กตฺวา กามุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ เอโก กามภโว, ตถา รูปารูปภวาติ ตโย ภวา. ตถา เสสุปาทานปจฺจยาปีติ เอวํ อุปาทานปจฺจยา สงฺคหโต สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺวาทส ภวา. อปิจ อวิเสเสน อุปาทานปจฺจยา กามภวูปคํ กมฺมํ กมฺมภโว. ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. เอส นโย รูปารูปภเวสุ. เอวํ อุปาทานปจฺจยา สทฺธึ อนฺโตคเธหิ ทฺเว กามภวา, ทฺเว รูปภวา, ทฺเว ¶ อรูปภวาติ อปเรนปิ ปริยาเยน สงฺคหโต ฉ ภวา. กมฺมภวอุปปตฺติภวเภทํ วา อนุปคมฺม สทฺธึ อนฺโตคเธหิ กามภวาทิวเสน ตโย ภวา โหนฺติ. กามภวาทิเภทฺจาปิ อนุปคมฺม กมฺมภวอุปปตฺติภววเสน ทฺเว ภวา โหนฺติ. กมฺมุปปตฺติเภทฺจ อนุปคมฺม อุปาทานปจฺจยา ภโวติ ภววเสน เอโก ภโว โหตีติ. เอวเมตฺถ อุปาทานปจฺจยสฺส ภวสฺส เภทสงฺคหาปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ยํ ยสฺส ปจฺจโย เจวา’ติ ยฺเจตฺถ อุปาทานํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ อตฺโถ. กึ ปเนตฺถ กสฺส ปจฺจโย โหติ? ยํ กิฺจิ ยสฺส กสฺสจิ ปจฺจโย ¶ โหติเยว. อุมฺมตฺตโก วิย หิ ปุถุชฺชโน. โส ‘อิทํ ยุตฺตํ, อิทํ อยุตฺต’นฺติ อวิจาเรตฺวา ยสฺส กสฺสจิ อุปาทานสฺส วเสน ยํ กิฺจิ ภวํ ปตฺเถตฺวา ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรติเยว. ตสฺมา ยเทกจฺเจ ‘‘สีลพฺพตุปาทาเนน รูปารูปภวา น โหนฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สพฺเพน ปน สพฺโพ โหตีติ คเหตพฺพํ, เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ อนุสฺสววเสน วา ทิฏฺานุสาเรน วา ‘‘กามา นาเมเต มนุสฺสโลเก เจว ขตฺติยมหาสาลกุลาทีสุ ฉกามาวจรเทวโลเก จ สมิทฺธา’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ อธิคมตฺถํ อสทฺธมฺมสวนาทีหิ วฺจิโต ‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’ติ มฺมาโน ¶ กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ; สนฺทิฏฺิเก วา ปน กาเม ปตฺถยมาโน ปฏิลทฺเธ วา โคปยมาโน กามุปาทานวเสน กายทุจฺจริตาทีนิปิ กโรติ. โส ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว.
อปโร ปน สทฺธมฺมสวนาทีหิ อุปพฺรูหิตาโณ ‘‘อิมินา กมฺเมน กามา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ มฺมาโน กามุปาทานวเสน กายสุจริตาทีนิ กโรติ. โส สุจริตปาริปูริยา เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทสฺส สานฺโตคธสฺส กามภวสฺส ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘รูปารูปภเวสุ ตโต สมิทฺธตรา กามา’’ติ สุตฺวา วา ปริกปฺเปตฺวา วา กามุปาทานวเสเนว ¶ รูปารูปสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมาปตฺติพเลน รูปารูปพฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชติ. ตตฺราสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาอสฺา เนวสฺา นาสฺาเอกโวการจตุโวการปฺจโวการภวา ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ กามุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ รูปารูปภวานมฺปิ ปจฺจโย โหติ ¶ .
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ อุจฺฉินฺโน สุอุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทาย ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมาภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ ทิฏฺุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณมฺปิ กามรูปารูปภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อยํ อตฺตา นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ สุขี โหติ, วิคตปริฬาโห โหตี’’ติ อตฺตวาทุปาทาเนน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว ¶ . อิติ อตฺตวาทุปาทานํ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหติ.
อปโร ‘‘อิทํ สีลพฺพตํ นาม กามาวจรสมฺปตฺติภเว วา รูปารูปภวานํ วา อฺตรสฺมึ ปริปูเรนฺตสฺส สุขํ ปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ สีลพฺพตุปาทานวเสน ตทุปคํ กมฺมํ กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ กมฺมภโว, ตทภินิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว. สฺาภวาทโย ปน ตทนฺโตคธา เอว. อิติ สีลพฺพตุปาทานมฺปิ สปฺปเภทานํ สานฺโตคธานํ ติณฺณํ ภวานํ ปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ยํ ยสฺส ปจฺจโย โหติ ตโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กึ ปเนตฺถ กสฺส ภวสฺส กถํ ปจฺจโย โหตีติ เจ?
รูปารูปภวานํ, อุปนิสฺสยปจฺจโย อุปาทานํ;
สหชาตาทีหิปิ ตํ, กามภวสฺสาติ วิฺเยฺยํ.
รูปารูปภวานฺหิ กามภวปริยาปนฺนสฺส จ กามภเว กุสลกมฺมสฺเสว อุปปตฺติภวสฺส เจตํ จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน เอกธา ปจฺจโย โหติ. กามภเว อตฺตนา สมฺปยุตฺตอกุสลกมฺมภวสฺส ¶ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุปจฺจยปฺปเภเทหิ สหชาตาทีหิ ปจฺจโย โหติ. วิปฺปยุตฺตสฺส ปน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนวาติ.
อุปาทานปจฺจยา ภวปทนิทฺเทโส.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทโส
๒๓๕. ภวปจฺจยา ¶ ชาตินิทฺเทสาทีสุ ชาติอาทีนํ วินิจฺฉโย สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภโวติ ปเนตฺถ กมฺมภโวว อธิปฺเปโต. โส หิ ชาติยา ปจฺจโย, น อุปปตฺติภโว. โส ปน กมฺมปจฺจยอุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ทฺวิธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชเนตฺติสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก ¶ , สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต; น กมฺมภวโต อฺเหตุโก, ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตาทิวิเสสเหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ – ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.
ยสฺมา จ อสติ ชาติยา ชรามรณํ นาม น โหติ, โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส จ พาลสฺส ชรามรณาภิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ, ตสฺมา อยํ ชาติชรามรณสฺส เจว โสกาทีนฺจ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. สา ปน อุปนิสฺสยโกฏิยา เอกธาว ปจฺจโย โหตีติ.
ภวปจฺจยา ชาติอาทิปทนิทฺเทโส.
๒๔๒. เอวเมตสฺสาติอาทีนํ ¶ อตฺโถ อุทฺเทสวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สงฺคติอาทีนิ สมุทยเววจนาเนว.
ยสฺมา ปเนตฺถ โสกาทโย อวสาเน วุตฺตา, ตสฺมา ยา สา อวิชฺชา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ สงฺขารา’’ติ เอวเมตสฺส ภวจกฺกสฺส อาทิมฺหิ วุตฺตา, สา –
โสกาทีหิ อวิชฺชา, สิทฺธา ภวจกฺกมวิทิตาทิมิทํ;
การกเวทกรหิตํ, ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุํ.
สตตํ สมิตํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. กถํ ปเนตฺถ โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา? กถมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทิ? กถํ การกเวทกรหิตํ? กถํ ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุนฺติ เจ? เอตฺถ หิ โสกทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา อวิชฺชาย อวิโยคิโน, ปริเทโว จ นาม มูฬฺหสฺสาติ เตสุ ตาว สิทฺเธสุ สิทฺธาว โหติ อวิชฺชา. อปิจ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ หิ วุตฺตํ. อาสวสมุทยา เจเต โสกาทโย โหนฺติ. กถํ? วตฺถุกามวิโยเค ตาว โสโก กามาสวสมุทโย โหติ? ยถาห –
‘‘ตสฺส ¶ เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;
เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๓);
ยถา จาห – ‘‘กามโต ชายตี โสโก’’ติ (ธ. ป. ๒๑๕). สพฺเพปิ เจเต ทิฏฺาสวสมุทยา โหนฺติ, ยถาห – ‘‘ตสฺส อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายิโน ตํ รูปํ วิปริณมติ อฺถา โหติ. ตสฺส รูปวิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑). ยถา จ ทิฏฺาสวสมุทยา เอวํ ภวาสวสมุทยาปิ, ยถาห – ‘‘เยปิ เต เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา อุจฺเจสุ วิมาเนสุ จิรฏฺิติกา เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓) ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา มรณภเยน สนฺตชฺชิตานํ เทวานํ วิยาติ. ยถา จ ภวาสวสมุทยา เอวํ อวิชฺชาสวสมุทยาปิ ¶ , ยถาห – ‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล ทิฏฺเว ธมฺเม ติวิธํ ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖).
อิติ ยสฺมา อาสวสมุทยา เอเต โหนฺติ, ตสฺมา เอเต สิชฺฌมานา อวิชฺชาย เหตุภูเต อาสเว สาเธนฺติ. อาสเวสุ จ สิทฺเธสุ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาปิ สิทฺธาว โหตีติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘โสกาทีหิ อวิชฺชา สิทฺธา’ โหตีติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา ปน เอวํ ปจฺจยภาเว ภาวโต อวิชฺชาย สิทฺธาย ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ เหตุผลปรมฺปราย ¶ ปริโยสานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ เหตุผลสมฺพนฺธวเสน ปวตฺตํ ทฺวาทสงฺคํ ‘ภวจกฺกํ อวิทิตาที’ติ สิทฺธํ โหติ.
เอวํ สติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ อาทิมตฺตกถนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? นยิทํ อาทิมตฺตกถนํ, ปธานธมฺมกถนํ ปเนตํ. ติณฺณฺหิ วฏฺฏานํ อวิชฺชา ปธานา. อวิชฺชาคฺคหเณน หิ อวเสสํ กิเลสวฏฺฏฺจ กมฺมาทีนิ จ พาลํ ปลิเวเนฺติ, สปฺปสิรคฺคหเณน เสสํ สปฺปสรีรํ วิย พาหํ. อวิชฺชาสมุจฺเฉเท ปน กเต เตหิ วิโมกฺโข โหติ, สปฺปสิรจฺเฉเท กเต ปลิเวิตพาหาวิโมกฺโข วิย. ยถาห – ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา ¶ สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑; มหาว. ๑). อิติ ยํ คณฺหโต พนฺโธ มฺุจโต จ โมกฺโข โหติ, ตสฺส ปธานธมฺมสฺส กถนมิทํ, น อาทิมตฺตกถนนฺติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ อวิทิตาทีติ เวทิตพฺพํ. ตยิทํ ยสฺมา อวิชฺชาทีหิ การเณหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺติ, ตสฺมา ตโต อฺเน ‘‘พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา เสฏฺโ สชิตา’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน พฺรหฺมาทินา วา สํสารสฺส การเกน ‘‘โส โข ปน เม อยํ อตฺตา วโท เวเทยฺโย’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเตน อตฺตนา วา สุขทุกฺขานํ เวทเกน รหิตํ. อิติ ‘การกเวทกรหิต’นฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา อุทยพฺพยธมฺมกตฺตา ธุวภาเวน, สํกิลิฏฺตฺตา สํกิเลสิกตฺตา จ สุภภาเวน, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา สุขภาเวน, ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา วสวตฺตนภูเตน อตฺตภาเวน จ สฺุา, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ยสฺมา วา อวิชฺชา น อตฺตา, น อตฺตโน ¶ , น อตฺตนิ, น อตฺตวตี, ตถา สงฺขาราทีนิปิ องฺคานิ; ตสฺมา ‘ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุมิทํ’ ภวจกฺกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวฺจ วิทิตฺวา ปุน –
ตสฺส อวิชฺชาตณฺหา, มูลมตีตาทโย ตโย กาลา;
ทฺเว อฏฺ ทฺเว เอว จ, สรูปโต เตสุ องฺคานิ.
ตสฺส ¶ โข ปเนตสฺส ภวจกฺกสฺส อวิชฺชา ตณฺหา จาติ ทฺเว ธมฺมา มูลนฺติ เวทิตพฺพา. ตเทตํ ปุพฺพนฺตาหรณโต อวิชฺชามูลํ เวทนาวสานํ, อปรนฺตสนฺตานโต ตณฺหามูลํ ชรามรณาวสานนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ ปุริมํ ทิฏฺิจริตวเสน วุตฺตํ, ปจฺฉิมํ ตณฺหาจริตวเสน. ทิฏฺิจริตานฺหิ อวิชฺชา, ตณฺหาจริตานํ ตณฺหา สํสารนายิกา. อุจฺเฉททิฏฺิสมุคฺฆาตาย วา ปมํ, ผลุปฺปตฺติยา เหตูนํ อนุปจฺเฉทปกาสนโต; สสฺสตทิฏฺิสมุคฺฆาตาย ทุติยํ, อุปฺปนฺนานํ ชรามรณปกาสนโต; คพฺภเสยฺยกวเสน วา ปุริมํ, อนุปุพฺพปวตฺติทีปนโต; โอปปาติกวเสน ปจฺฉิมํ สหุปฺปตฺติทีปนโต.
อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตา จสฺส ตโย กาลา. เตสุ ปาฬิยํ สรูปโต อาคตวเสน อวิชฺชา สงฺขารา จาติ ทฺเว องฺคานิ อตีตกาลานิ ¶ , วิฺาณาทีนิ ภวาวสานานิ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺนกาลานิ, ชาติ เจว ชรามรณฺจ ทฺเว อนาคตกาลานีติ เวทิตพฺพานิ. ปุน –
เหตุผลเหตุปุพฺพก-ติสนฺธิจตุเภทสงฺคหฺเจตํ;
วีสติอาการารํ, ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมติ.
อิติปิ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สงฺขารานฺจ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ นาม. เวทนาย จ ตณฺหาย จ อนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ นาม. ภวสฺส จ ชาติยา จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธีติ. เอวมิทํ เหตุผลเหตุปุพฺพกติสนฺธีติ เวทิตพฺพํ. สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตา ปนสฺส จตฺตาโร สงฺคหา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อวิชฺชาสงฺขารา เอโก ¶ สงฺคโห, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา ทุติโย, ตณฺหุปาทานภวา ตติโย, ชาติชรามรณํ จตุตฺโถติ. เอวมิทํ จตุเภทสงฺคหนฺติ เวทิตพฺพํ.
อตีเต เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ;
อิทานิ เหตโว ปฺจ, อายตึ ผลปฺจกนฺติ.
เอเตหิ ปน วีสติยา อากาเรหิ อเรหิ วีสติอาการารนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อตีเต เหตโว ปฺจา’ติ อวิชฺชา สงฺขารา จาติ อิเม ตาว ทฺเว วุตฺตา ¶ เอว. ยสฺมา ปน อวิทฺวา ปริตสฺสติ, ปริตสิโต อุปาทิยติ, ตสฺส อุปาทานปจฺจยา ภโว, ตสฺมา ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตา โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว, อิเม ปฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗).
ตตฺถ ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กริยมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห, เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ กมฺมํ กโรโต ปุริมเจตนาโย, ยถา ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ ทานูปกรณานิ สชฺเชนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ปุริมเจตนาโย. ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ ทกฺขิณํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโวติ วุจฺจติ. เอกาวชฺชเนสุ วา ฉสุ ชวเนสุ เจตนา อายูหนสงฺขารา นาม. สตฺตมา เจตนา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ¶ ภโว, ตํสมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา นาม. นิกนฺติ ตณฺหาติ ยา กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ผเล อุปฺปตฺติภเว นิกามนา ปตฺถนา สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมํ ภวสฺส ปจฺจยภูตํ; ‘อิทํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามิ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อุปคมนํ คหณํ ปรามสนํ – อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ อายูหนาวสาเน วุตฺตเจตนา ภโวติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทิ เวทนาวสานํ ปาฬิยํ อาคตเมว. ยถาห ‘‘อิธ ปฏิสนฺธิ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธูปปตฺติภวสฺมึ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ ¶ ปฏิสนฺธิ วิฺาณนฺติ ยํ ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ, ตํ วิฺาณํ. โอกฺกนฺติ นามรูปนฺติ ยา คพฺเภ รูปารูปธมฺมานํ โอกฺกนฺติ, อาคนฺตฺวา ปวิสนํ วิย – อิทํ นามรูปํ. ปสาโท อายตนนฺติ อิทํ จกฺขาทิปฺจายตนวเสน ¶ วุตฺตํ. ผุฏฺโ ผสฺโสติ โย อารมฺมณํ ผุฏฺโ ผุสนฺโต อุปฺปนฺโน – อยํ ผสฺโส. เวทยิตํ เวทนาติ ยํ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน วา สฬายตนปจฺจเยน วา ผสฺเสน สหุปฺปนฺนํ วิปากเวทยิตํ, สา เวทนาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘อิทานิ เหตโว ปฺจา’ติ ตณฺหาทโย ปาฬิยํ อาคตาว ตณฺหุปาทานภวา. ภเว ปน คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคา ตํสมฺปยุตฺตา วา สงฺขารา คหิตาว โหนฺติ, ตณฺหุปาทานคฺคหเณน จ ตํสมฺปยุตฺตา, ยาย วา มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ สา อวิชฺชา คหิตาว โหตีติ เอวํ ปฺจ. เตนาห ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว. อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธ กมฺมภวสฺมึ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). ตตฺถ อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานนฺติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล สมฺโมโห ทสฺสิโต. เสสํ อุตฺตานเมว.
‘อายตึ ผลปฺจก’นฺติ วิฺาณาทีนิ ปฺจ. ตานิ ชาติคฺคหเณน วุตฺตานิ. ชรามรณํ ปน เตสํเยว ชรามรณํ. เตนาห ‘‘อายตึ ปฏิสนฺธิ ¶ วิฺาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนา. อิเม ปฺจ ธมฺมา อายตึ อุปปตฺติภวสฺมึ อิธ กตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗). เอวมิทํ วีสติอาการารํ โหติ.
ตตฺถ ปุริมภวสฺมึ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ วิปากสมฺภารา, เอตรหิ ปฺจ กมฺมสมฺภารา, อนาคเต ปฺจ วิปากธมฺมาติ ทส ธมฺมา กมฺมํ, ทส วิปาโกติ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมํ นาม, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปาโก นามาติ สพฺพมฺเปตํ ภวจกฺกํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ กมฺมฺเจว กมฺมวิปาโก จ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสงฺเขโป, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากสงฺเขโปติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสงฺเขโป เจว วิปากสงฺเขโป จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมวฏฺฏํ, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากวฏฺฏนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมวฏฺฏฺเจว วิปากวฏฺฏฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมภโว, ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากภโวติ สพฺพมฺเปตํ ¶ กมฺมภโว เจว วิปากภโว จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมปวตฺตํ ¶ , ทฺวีสุ าเนสุ วิปาโก วิปากปวตฺตนฺติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมปวตฺตฺเจว วิปากปวตฺตฺจ. ตถา ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กมฺมสนฺตติ, ทฺวีสุ วิปาโก วิปากสนฺตตีติ สพฺพมฺเปตํ กมฺมสนฺตติ เจว วิปากสนฺตติ จ. ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมํ กิริยา นาม, ทฺวีสุ วิปาโก กิริยาผลํ นามาติ สพฺพมฺเปตํ กิริยา เจว กิริยาผลฺจาติ.
เอวํ สมุปฺปนฺนมิทํ สเหตุกํ,
ทุกฺขํ อนิจฺจํ จลมิตฺตรทฺธุวํ;
ธมฺเมหิ ธมฺมา ปภวนฺติ เหตุโส,
น เหตฺถ อตฺตาว ปโรว วิชฺชติ.
ธมฺมา ธมฺเม สฺชเนนฺติ, เหตุสมฺภารปจฺจยา;
เหตูนฺจ นิโรธาย, ธมฺโม พุทฺเธน เทสิโต;
เหตูสุ อุปรุทฺเธสุ, ฉินฺนํ วฏฺฏํ น วฏฺฏติ.
เอวํ ทุกฺขนฺตกิริยาย, พฺรหฺมจริยีธ วิชฺชติ;
สตฺเต จ นูปลพฺภนฺเต, เนวุจฺเฉโท น สสฺสตํ.
ติวฏฺฏมนวฏฺิตํ ภมตีติ เอตฺถ ปน สงฺขารภวา กมฺมวฏฺฏํ, อวิชฺชาตณฺหูปาทานานิ กิเลสวฏฺฏํ, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา วิปากวฏฺฏนฺติ อิเมหิ ตีหิ วฏฺเฏหิ ติวฏฺฏมิทํ ภวจกฺกํ ยาว กิเลสวฏฺฏํ น อุปจฺฉิชฺชติ ¶ ตาว อนุปจฺฉินฺนปจฺจยตฺตา อนวฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ ปริวฏฺฏนโต ภมติเยวาติ เวทิตพฺพํ.
ตยิทเมวํ ภมมานํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ¶ ยสฺมา กุสลากุสลกมฺมํ อวิเสเสน สมุทยสจฺจนฺติ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตํ, ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อวิชฺชาย สงฺขารา ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, สงฺขาเรหิ วิฺาณํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, วิฺาณาทีหิ นามรูปาทีนิ วิปากเวทนาปริโยสานานิ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, เวทนาย ตณฺหา ปมสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, ตณฺหาย อุปาทานํ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ทุติยสจฺจํ, อุปาทานโต ภโว ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมทุติยสจฺจทฺวยํ, ภวโต ชาติ ¶ ทุติยสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจํ, ชาติยา ชรามรณํ ปมสจฺจปฺปภวํ ปมสจฺจนฺติ. เอวํ ตาวิทํ ‘สจฺจปฺปภวโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา วตฺถูสุ จ สตฺเต สมฺโมเหติ ปจฺจโย จ โหติ สงฺขารานํ ปาตุภาวาย, ตถา สงฺขารา สงฺขตฺจ อภิสงฺขโรนฺติ ปจฺจยา จ โหนฺติ วิฺาณสฺส, วิฺาณมฺปิ วตฺถฺุจ ปฏิชานาติ ปจฺจโย จ โหติ นามรูปสฺส, นามรูปมฺปิ อฺมฺฺจ อุปตฺถมฺเภติ ปจฺจโย จ โหติ สฬายตนสฺส, สฬายตนมฺปิ สวิสเย จ วตฺตติ ปจฺจโย จ โหติ ผสฺสสฺส, ผสฺโสปิ อารมฺมณฺจ ผุสติ ปจฺจโย จ โหติ เวทนาย, เวทนาปิ อารมฺมณรสฺจ อนุภวติ ปจฺจโย จ โหติ ตณฺหาย, ตณฺหาปิ รชฺชนีเย จ ธมฺเม รชฺชติ ปจฺจโย จ โหติ อุปาทานสฺส, อุปาทานมฺปิ อุปาทานีเย จ ธมฺเม อุปาทิยติ ปจฺจโย จ โหติ ภวสฺส, ภโวปิ นานาคตีสุ จ วิกฺขิปติ ปจฺจโย จ โหติ ชาติยา, ชาติปิ ขนฺเธ จ ชเนติ เตสํ อภินิพฺพตฺติภาเวน ปวตฺตตา ปจฺจโย จ โหติ ชรามรณสฺส, ชรามรณมฺปิ ขนฺธานํ ปากเภทภาวฺจ อธิติฏฺติ ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวาย โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตา, ตสฺมา สพฺพปเทสุ ทฺวิธา ปวตฺต‘กิจฺจโต’ปิ อิทํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ¶ เจตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทํ การกทสฺสนนิวารณํ, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อตฺตสงฺกนฺติทสฺสนนิวารณํ, ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ อตฺตาติปริกปฺปิตวตฺถุเภททสฺสนโต ฆนสฺานิวารณํ, ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทีสุ ‘‘อตฺตา ปสฺสติ…เป… วิชานาติ ผุสติ เวทยติ ตณฺหิยติ อุปาทิยติ ภวติ ชายติ ชียติ มียตี’’ติ เอวมาทิทสฺสนนิวารณํ, ตสฺมา มิจฺฉาทสฺสนนิวารณโตเปตํ ภวจกฺกํ ‘นิวารณโต’ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา ปเนตฺถ สลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน ธมฺมานํ อทสฺสนโต อนฺโธ วิย อวิชฺชา ¶ , อนฺธสฺส อุปกฺขลนํ วิย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, อุปกฺขลิตสฺส ปตนํ ¶ วิย สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, ปติตสฺส คณฺฑปาตุภาโว วิย วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, คณฺฑเภทปีฬกา วิย นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, คณฺฑปีฬกาฆฏฺฏนํ วิย สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ฆฏฺฏนทุกฺขํ วิย ผสฺสปจฺจยา เวทนา, ทุกฺขสฺส ปฏิการาภิลาโส วิย เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ปฏิการาภิลาเสน อสปฺปายคฺคหณํ วิย ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทินฺนอสปฺปายาเลปนํ วิย อุปาทานปจฺจยา ภโว, อสปฺปายาเลปเนน คณฺฑวิการปาตุภาโว วิย ภวปจฺจยา ชาติ, คณฺฑวิการโต คณฺฑเภโท วิย ชาติปจฺจยา ชรามรณํ.
ยสฺมา วา ปเนตฺถ อวิชฺชา อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติภาเวน สตฺเต อภิภวติ ปฏลํ วิย อกฺขีนิ, ตทภิภูโต จ พาโล โปโนพฺภวิเกหิ สงฺขาเรหิ อตฺตานํ เวเติ โกสการกิมิ วิย โกสปฺปเทเสหิ, สงฺขารปริคฺคหิตํ วิฺาณํ คตีสุ ปติฏฺํ ลภติ ปริณายกปริคฺคหิโต วิย ราชกุมาโร รชฺเช, อุปปตฺตินิมิตฺตํ ปริกปฺปนโต วิฺาณํ ปฏิสนฺธิยํ อเนกปฺปการํ นามรูปํ อภินิพฺพตฺเตติ มายากาโร วิย มายํ, นามรูเป ปติฏฺิตํ สฬายตนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ สุภูมิยํ ปติฏฺิโต วนปฺปคุมฺโพ วิย, อายตนฆฏฺฏนโต ผสฺโส ชายติ อรณีสหิตาภิมทฺทนโต อคฺคิ วิย, ผสฺเสน ผุฏฺสฺส เวทนา ปาตุภวติ อคฺคินา ผุฏฺสฺส ฑาโห วิย, เวทยมานสฺส ตณฺหา วฑฺฒติ โลณูทกํ ปิวโต ปิปาสา วิย, ตสิโต ภเวสุ อภิลาสํ กโรติ ปิปาสิโต วิย ปานีเย, ตทสฺสุปาทานํ อุปาทาเนน ภวํ อุปาทิยติ อามิสโลเภน มจฺโฉ พฬิสํ วิย, ภเว สติ ชาติ โหติ พีเช สติ องฺกุโร วิย, ชาตสฺส อวสฺสํ ชรามรณํ อุปฺปนฺนสฺส ¶ รุกฺขสฺส ปตนํ วิย, ตสฺมา เอวํ ‘อุปมาหิ’ เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ยสฺมา จ ภควตา อตฺถโตปิ ธมฺมโตปิ เทสนาโตปิ ปฏิเวธโตปิ คมฺภีรภาวํ สนฺธาย ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐) วุตฺตํ, ตสฺมา ¶ ‘คมฺภีรเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
ตตฺถ ยสฺมา น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา อฺโต โหติ, อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ เอวํ ชาติปจฺจยสมุทาคตฏฺสฺส ทุรวโพธนียโต ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตถา ชาติยา ภวปจฺจย…เป… สงฺขารานํ ¶ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ อตฺถคมฺภีรนฺติ. อยํ ตาเวตฺถ ‘อตฺถคมฺภีรตา’ เหตุผลฺหิ อตฺโถติ วุจฺจติ, ยถาห ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐).
ยสฺมา ปน เยนากาเรน ยทวตฺถา จ อวิชฺชา เตสํ เตสํ สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, ตสฺส ทุรวโพธนียโต อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตถา สงฺขารานํ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ธมฺมคมฺภีรนฺติ อยเมตฺถ ‘ธมฺมคมฺภีรตา’ เหตุโน หิ ธมฺโมติ นามํ, ยถาห ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ.
ยสฺมา จสฺส เตน เตน การเณน ตถา ตถา ปวตฺเตตพฺพตฺตา เทสนาปิ คมฺภีรา, น ตตฺถ สพฺพฺุตาณโต อฺํ าณํ ปติฏฺํ ลภติ, ตถา เหตํ กตฺถจิ สุตฺเต อนุโลมโต, กตฺถจิ ปฏิโลมโต; กตฺถจิ อนุโลมปฏิโลมโต, กตฺถจิ เวมชฺฌโต ปฏฺาย อนุโลมโต วา ปฏิโลมโต วา, กตฺถจิ ติสนฺธิจตุสงฺเขปํ, กตฺถจิ ทฺวิสนฺธิติสงฺเขปํ, กตฺถจิ เอกสนฺธิทฺวิสงฺเขปํ เทสิตํ, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ เทสนาคมฺภีรนฺติ อยํ เทสนาคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ โย อวิชฺชาทีนํ สภาโว, เยน ปฏิวิทฺเธน อวิชฺชาทโย ธมฺมา สลกฺขณโต ปฏิวิทฺธา โหนฺติ, โส ทุปฺปริโยคาหตฺตา คมฺภีโร, ตสฺมา อิทํ ภวจกฺกํ ปฏิเวธคมฺภีรํ. ตถา เหตฺถ อวิชฺชาย อฺาณาทสฺสนสจฺจาสมฺปฏิเวธฏฺโ ¶ คมฺภีโร, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณายูหนสราควิราคฏฺโ, วิฺาณสฺส สฺุตอพฺยาปารอสงฺกนฺติปฏิสนฺธิปาตุภาวฏฺโ ¶ , นามรูปสฺส เอกุปฺปาทวินิพฺโภคาวินิพฺโภคนมนรุปฺปนฏฺโ, สฬายตนสฺส อธิปติโลกทฺวารเขตฺตวิสยวิสยีภาวฏฺโ, ผสฺสสฺส ผุสนสงฺฆฏฺฏนสงฺคติสนฺนิปาตฏฺโ, เวทนาย อารมฺมณรสานุภวนสุขทุกฺขมชฺฌตฺตภาวนิชฺชีวเวทยิตฏฺโ, ตณฺหาย อภินนฺทิตชฺโฌสานสริตาลตานทีตณฺหาสมุทฺททุปฺปูรณฏฺโ, อุปาทานสฺส อาทานคฺคหณาภินิเวสปรามาสทุรติกฺกมนฏฺโ, ภวสฺส อายูหนาภิสงฺขรณโยนิคติิตินิวาเสสุ ขิปนฏฺโ, ชาติยา ชาติสฺชาติโอกฺกนฺตินิพฺพตฺติปาตุภาวฏฺโ, ชรามรณสฺส ขยวยเภทวิปริณามฏฺโ คมฺภีโรติ อยเมตฺถ ปฏิเวธคมฺภีรตา.
ยสฺมา ปเนตฺถ เอกตฺตนโย, นานตฺตนโย, อพฺยาปารนโย, เอวํธมฺมตานโยติ จตฺตาโร อตฺถนยา โหนฺติ ¶ , ตสฺมา ‘นยเภทโต’เปตํ ภวจกฺกํ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ พีชสฺส องฺกุราทิภาเวน รุกฺขภาวปฺปตฺติ วิย สนฺตานานุปจฺเฉโท ‘เอกตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานสฺส อนุปจฺเฉทาวโพธโต อุจฺเฉททิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานานุปจฺเฉทสฺส เอกตฺตคฺคหณโต สสฺสตทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีนํ ปน ยถาสกลกฺขณววตฺถานํ ‘นานตฺตนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต นวนวานํ อุปฺปาททสฺสนโต สสฺสตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เอกสนฺตานปติตสฺส ภินฺนสนฺตานสฺเสว นานตฺตคฺคหณโต อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาย ‘สงฺขารา มยา อุปฺปาเทตพฺพา’, สงฺขารานํ วา ‘วิฺาณํ อมฺเหหี’ติ เอวมาทิพฺยาปาราภาโว ‘อพฺยาปารนโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต การกสฺส อภาวาวโพธโต อตฺตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต โย อสติปิ พฺยาปาเร อวิชฺชาทีนํ สภาวนิยมสิทฺโธ เหตุภาโว ตสฺส อคฺคหณโต อกิริยทิฏฺึ อุปาทิยติ.
อวิชฺชาทีหิ ปน การเณหิ สงฺขาราทีนํเยว สมฺภโว ขีราทีหิ ¶ ทธิอาทีนํ วิย, น อฺเสนฺติ อยํ ‘เอวํธมฺมตานโย’ นาม; ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต ¶ ปจฺจยานุรูปโต ผลาวโพธโต อเหตุกทิฏฺิฺจ อกิริยทิฏฺิฺจ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต ปจฺจยานุรูปํ ผลปฺปวตฺตึ อคฺคเหตฺวา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อสมฺภวคฺคหณโต อเหตุกทิฏฺิฺเจว นิยตวาทฺจ อุปาทิยตีติ เอวมิทํ ภวจกฺกํ –
สจฺจปฺปภวโต กิจฺจา, วารณา อุปมาหิ จ;
คมฺภีรนยเภทา จ, วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
อิทฺหิ คมฺภีรโต อคาธํ นานานยคฺคหณโต ทุรภิยานํ าณาสินา สมาธิปวรสิลายํ สุนิสิเตน –
ภวจกฺกมปทาเลตฺวา ¶ ,
อสนิวิจกฺกมิว นิจฺจนิมฺมถนํ;
สํสารภยมตีโต,
น โกจิ สุปินนฺตเรปฺยตฺถิ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา – ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ. เอตสฺส, อานนฺท, ธมฺมสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมยํ ปชา ตนฺตากุลกชาตา กุลคณฺิกชาตา มฺุชปพฺพชภูตา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๕; สํ. นิ. ๒.๖๐). ตสฺมา อตฺตโน วา ปเรสํ วา หิตาย สุขาย ปฏิปนฺโน อวเสสกิจฺจานิ ปหาย –
คมฺภีเร ปจฺจยาการ-ปฺปเภเท อิธ ปณฺฑิโต;
ยถา คาธํ ลเภเถว-มนุยฺุเช สทา สโตติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๔๓. เอวํ มหาปถวึ ปตฺถรนฺโต วิย อากาสํ วิตฺถารยนฺโต วิย จ สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาโณ สตฺถา สุตฺตนฺตภาชนีเย นิคฺคณฺึ นิชฺชฏํ ปจฺจยาการํ นานาจิตฺตวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา น เกวลํ อยํ ปจฺจยากาโร นานาจิตฺเตสุเยว ¶ โหติ, เอกจิตฺเตปิ โหติเยว, ตสฺมา อภิธมฺมภาชนียวเสน เอกจิตฺตกฺขณิกํ ปจฺจยาการํ นานปฺปการโต ¶ ทสฺเสตุํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินา นเยน มาติกํ ตาว เปสิ. เอวํ ปิตาย ปน มาติกาย –
อวิชฺชาทีหิ ¶ มูเลหิ, นว มูลปทา นว;
นยา ตตฺถ จตุกฺกานิ, วารเภทฺจ ทีปเย.
ตตฺรายํ ทีปนา – เอตฺถ หิ อวิชฺชาสงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนาตณฺหาอุปาทานปฺปเภเทหิ อวิชฺชาทีหิ นวหิ มูลปเทหิ อวิชฺชาทิโก, สงฺขาราทิโก, วิฺาณาทิโก, นามาทิโก, ฉฏฺายตนาทิโก, ผสฺสาทิโก, เวทนาทิโก, ตณฺหาทิโก, อุปาทานาทิโกติ อิเม นว มูลปทา นว นยา โหนฺติ.
เตสุ โย ตาว อยํ อวิชฺชาทิโก นโย, ตตฺถ ปจฺจยจตุกฺกํ, เหตุจตุกฺกํ, สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ, อฺมฺจตุกฺกนฺติ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โหนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ เสเสสุปีติ เอเกกสฺมึ นเย จตุนฺนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน ฉตฺตึส จตุกฺกานิ. ตตฺถ เอเกเกน จตุกฺเกน จตุนฺนํ จตุนฺนํ วารานํ สงฺคหิตตฺตา จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ วเสน เอเกกสฺมึ นเย โสฬส โสฬส วาราติ จตุจตฺตาลีสาธิกํ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑. ปจฺจยจตุกฺกํ
ตตฺถ ยเทตํ สพฺพปเม อวิชฺชามูลเก นเย ปจฺจยจตุกฺกํ, ตสฺมึ ปโม นามรูปฏฺาเน นามสฺส, สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส จ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณองฺคทฺวยยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. ทุติโย นามรูปฏฺาเน นามสฺเสว, สฬายตนฏฺาเน จ น กสฺสจิ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต เอกาทสงฺคิกวาโร นาม. ตติโย สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนสฺส วุตฺตตฺตา ปริปุณฺณเอกงฺคยุตฺโต ทฺวาทสงฺคิกวาโร นาม. จตุตฺโถ ปน ปริปุณฺณทฺวาทสงฺคิโกเยว.
ตตฺถ สิยา – อยมฺปิ ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ วุตฺตตฺตา อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตเยวาติ? น, ตสฺส อนงฺคตฺตา. ผสฺโสเยว เหตฺถ องฺคํ, น ฉฏฺายตนํ. ตสฺมา ตสฺส อนงฺคตฺตา นายํ อปริปุณฺเณกงฺคยุตฺโตติ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน ¶ , ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย คพฺภเสยฺยกสตฺตานํ วเสน, จตุตฺโถ โอปปาติกสตฺตานํ ¶ วเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ปจฺจยวิเสสฏฺเน, ตติโย อปริปุณฺณายตนวเสน, จตุตฺโถ ปริปุณฺณายตนวเสน คหิโต. ตถา ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเน, ทุติโย ¶ มหานิทานสุตฺตนฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๙๕ อาทโย), ตติโย รูปภววเสน, จตุตฺโถ กามภววเสน คหิโต’’ติ.
ตตฺถ ปโม อิเมสุ ทุติยาทีสุ ตีสุ วาเรสุ น กตฺถจิ น ปวิสตีติ สพฺพสงฺคาหิโกติ วุตฺโต. เสสานํ วิเสโส ปรโต อาวิภวิสฺสติ. ตสฺสาวิภาวตฺถํ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเย.
ตตฺรายํ นโย – อวิเสเสน ตาว จตูสุปิ เอเตสุ สุตฺตนฺตภาชนิเย วิย สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ, ตํ กสฺมาติ? เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. ตตฺร หิ นานาจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร วิภตฺโต. อิธ เอกจิตฺตกฺขณิโก อารทฺโธ. เอกจิตฺตกฺขเณ จ พหู เจตนา น สนฺตีติ สงฺขาราติ อวตฺวา สงฺขาโรติ วุตฺตํ.
ปมวาเร ปเนตฺถ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนธมฺมสงฺคหณโต สพฺพฏฺานสาธารณโต จ รูปํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นาม’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ตฺหิ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนํ สพฺพฏฺานสาธารณฺจ, น กตฺถจิ วิฺาณปฺปวตฺติฏฺาเน น ปวตฺตติ. ยสฺมา จ เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺโน เอโกเวตฺถ ผสฺโส, ตสฺมา ตสฺสานุรูปํ ปจฺจยภูตํ อายตนํ คณฺหนฺโต สฬายตนฏฺาเน ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ เอกํ มนายตนํเยว อาห. ตฺหิ เอกสฺส อกุสลผสฺสสฺส อนุรูปํ ปจฺจยภูตํ. กามฺเจตํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตํ, เหตุผลวิเสสทสฺสนตฺถํ ปน องฺคปุณฺณตฺถฺจ ปุน อิธ คหิตํ. ตตฺร หิ เอตสฺส วิเสเสน สงฺขาโร เหตุ, อวิเสเสน นามํ ผลํ. อิธ ปนสฺส อวิเสเสน นามํ เหตุ, วิเสเสน ผสฺโส ผลนฺติ. โสกาทโย ปน ยสฺมา สพฺเพ เอกจิตฺตกฺขเณ น สมฺภวนฺติ, สพฺพสฺมิฺจ จิตฺตปฺปวตฺติฏฺาเน เจว จิตฺเต จ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา น คหิตา. ชาติชรามรณานิ ¶ ปน อจิตฺตกฺขณมตฺตานิปิ สมานานิ จิตฺตกฺขเณ อนฺโตคธตฺตา องฺคปริปูรณตฺถํ ¶ คหิตานิ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘ยํ อฺถา วุตฺตํ. ยฺจ อวุตฺตํ’ ตํ เวทิตพฺพํ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ อิโต ปเรสุ วาเรสุ วุตฺตํ, ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมึ ยสฺมึ ปน วาเร โย โย วิเสโส อาคโต, ตํ ตํ ตตฺถ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสาม.
‘ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺสา’ติ เอตฺถ ปน สงฺขารสฺส อวิชฺชา สมฺปยุตฺตธมฺมสาธารเณหิ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ฉหิ เหตุปจฺจเยน จาติ สตฺตธา ปจฺจโย. ตตฺถ ยสฺมา ปรโต เหตุจตุกฺกาทีนิ ตีณิ จตุกฺกานิ อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิธ ตานิ อปเนตฺวา อวเสสานํ วเสน อวิชฺชา สงฺขารสฺส จตุธา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ.
สงฺขาโร วิฺาณสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, กมฺมาหารปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา ปจฺจโย. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. วิฺาณํ นามสฺส สาธารเณหิ ฉหิ, อินฺทฺริยาหาราธิปตีหิ จาติ นวธา. อิธ ปน ตโย อปเนตฺวา ฉธา. นามํ ฉฏฺายตนสฺส สาธารเณหิ ฉหิ. กิฺจิ ปเนตฺถ อธิปติปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจยาทีหีติ อเนกธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ติธา จตุธา ปฺจธา วา. ฉฏฺายตนํ ผสฺสสฺส ยถา วิฺาณํ นามสฺส. เอวํ ผสฺโส เวทนาย สาธารเณหิ ฉหิ อาหารปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. เวทนา ตณฺหาย สาธารเณหิ ฉหิ ฌานินฺทฺริยปจฺจเยหิ จาติ อฏฺธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา ปฺจธา. ตณฺหา อุปาทานสฺส, ยถา อวิชฺชา สงฺขารสฺส. เอวํ อุปาทานํ ภวสฺส สาธารเณหิ ฉหิ มคฺคปจฺจเยน จาติ สตฺตธา. อิธ ปน เตเยว ตโย อปเนตฺวา จตุธา. ภโว ชาติยา, ยสฺมา ชาตีติ อิธ สงฺขตลกฺขณํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ปริยาเยน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปจฺจโย. ตถา ชาติ ชรามรณสฺสาติ.
เย ปน เอวํ วทนฺติ – ‘‘อิมสฺมึ จตุกฺเก สพฺเพสมฺปิ สงฺขาราทีนํ อวิชฺชาทโย สหชาตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. สหชาตปจฺจยวเสเนว หิ ปมวาโร อารทฺโธ’’ติ, เต ภวาทีนํ ตถา อภาวํ เสสปจฺจยานฺจ สมฺภวํ ¶ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. น หิ ภโว ชาติยา สหชาตปจฺจโย ¶ โหติ, น ชาติ ชรามรณสฺส. เย เจเตสํ สงฺขราทีนํ อวเสสา ปจฺจยา วุตฺตา, เตปิ สมฺภวนฺติเยว. ตสฺมา น สกฺกา ฉฑฺเฑตุนฺติ. เอวํ ตาว ปมวาเร ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ, ยฺจ ยถา ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตํ เวทิตพฺพํ. ทุติยวาราทีสุปิ เอเสว นโย.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตํ, ตํ กิมตฺถนฺติ? ปจฺจยวิเสสทสฺสนตฺถฺเจว มหานิทานเทสนาสงฺคหตฺถฺจ. ผสฺสสฺส หิ น เกวลฺจ ฉฏฺายตนเมว ปจฺจโย, เวทนากฺขนฺธาทโย ปน ตโย ขนฺธาปิ ปจฺจยาเยว. มหานิทานสุตฺตนฺเต จสฺส ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ผสฺโสติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. กึ ปจฺจยา ผสฺโสติ? อิติ เจ วเทยฺย, นามปจฺจยา ผสฺโสติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๖). เอวํ สฬายตนํ ฉฑฺเฑตฺวา เอกาทสงฺคิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต. ตสฺมา อิมสฺส ปจฺจยวิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อิมิสฺสา จ มหานิทานสุตฺตนฺตเทสนาย ปริคฺคหตฺถํ ทุติยวาเร ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วตฺวา สฬายตนฏฺาเน น กิฺจิ วุตฺตนฺติ. เอส ตาว ทุติยวาเร วิเสโส.
ตติยวาเร ปน ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ สุตฺตนฺตภาชนีเย อาคตเมว จตุตฺถมงฺคํ วุตฺตํ, ตํ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ปจฺจยาการสฺส อิธ อยุตฺตนฺติ เจ? ตํ นายุตฺตํ. กสฺมา? สกกฺขเณ ปจฺจยภาวโต. สเจปิ หิ ตตฺถ รูปํ จิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ ติฏฺติ, ตถาปิสฺส ตํ วิฺาณํ สกกฺขเณ ปจฺจโย โหติ. กถํ? ปุเรชาตสฺส ตาว จิตฺตสมุฏฺานสฺส อฺสฺส วา ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑). สหชาตสฺส ปน จิตฺตสมุฏฺานสฺส นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ยถาห ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘).
ยทิ ¶ เอวํ, ปุริมวาเรสุ กสฺมา เอวํ น วุตฺตนฺติ ¶ ? รูปปฺปวตฺติเทสํ สนฺธาย เทสิตตฺตา. อยฺหิ ปจฺจยากาโร รูปปฺปวตฺติเทเส กามภเว คพฺภเสยฺยกานฺเจว อปริปุณฺณายตนโอปปาติกานฺจ รูปาวจรเทวานฺจ วเสน เทสิโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ อวตฺวา ฉฏฺายตนนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. รูปํ ปน หทยรูปํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตสฺส ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจเยน เจว ปุเรชาตปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย โหตีติ เอส ตติยวาเร วิเสโส.
จตุตฺถวาโร ปน โยนิวเสน โอปปาติกานํ, อายตนวเสน ปริปุณฺณายตนานํ, ภววเสน กามาวจรสตฺตานํ วเสน วุตฺโต. เตเนเวตฺถ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามํ ฉฏฺายตนสฺส ¶ สหชาตาทีหิ, จกฺขายตนาทีนํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน. รูเป หทยรูปํ ฉฏฺายตนสฺส นิสฺสยปจฺจยปุเรชาตปจฺจเยหิ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จกฺขายตนาทีนํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคเตหิ. ยสฺมา ปเนส เอกจิตฺตกฺขณิโก ปจฺจยากาโร, ตสฺมา เอตฺถ สฬายตนปจฺจยาติ อวตฺวา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺโตติ อยํ จตุตฺถวาเร วิเสโส.
เอวเมเตสํ นานากรณํ ตฺวา ปุน สพฺเพสฺเวว เตสุ วิเสเสน ปมกา ทฺเว วารา อรูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อรูปภวสฺมิฺหิ รูเปน อสมฺมิสฺสานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ปวตฺตนฺติ. ตติโย รูปภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. รูปภวสฺมิฺหิ สติปิ รูปสมฺมิสฺสตฺเต สฬายตนํ น ปวตฺตติ. จตุตฺโถ กามภเว ปจฺจยาการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กามภวสฺมิฺหิ สกลํ สฬายตนํ ปวตฺตติ. ตติโย วา รูปภเว เจว กามภเว จ อปริปุณฺณายตนานํ อกุสลปฺปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺโต. จตุตฺโถ วา กามภเว ปริปุณฺณายตนานํ. ปโม วา สพฺพตฺถคามิตํ สนฺธาย วุตฺโต. โส หิ น กตฺถจิ จิตฺตปฺปวตฺติเทเส น ปวตฺตติ. ทุติโย ปจฺจยวิเสสํ สนฺธาย วุตฺโต. เอกาทสงฺคิกตฺตฺเหตฺถ ผสฺสสฺส จ นามปจฺจยตฺตํ ปจฺจยวิเสโส. ตติโย ปุริมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปุริมาสุ หิ ทฺวีสุ โยนีสุ ¶ โส สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส อสมฺภวโต. จตุตฺโถ ปจฺฉิมโยนิทฺวยํ สนฺธาย วุตฺโต. ปจฺฉิมาสุ หิ โส ทฺวีสุ โยนีสุ สมฺภวติ, ตตฺถ สทา สฬายตนสฺส สมฺภวโตติ.
เอตฺตาวตา ¶ จ ยํ วุตฺตํ จตูสุปิ วาเรสุ –
ยํ ยตฺถ อฺถา วุตฺตํ, อวุตฺตฺจาปิ ยํ ยหึ;
ยํ ยถา ปจฺจโย ยสฺส, ตํ สพฺพมุปลกฺขเยติ.
คาถาย อตฺถทีปนา กตา โหติ.
เอเตเนวานุสาเรน, สพฺพเมตํ นยํ อิโต;
วิเสโส โย จ ตํ ชฺา, จตุกฺเกสุ ปเรสุปิ.
๒. เหตุจตุกฺกํ
๒๔๔. ตตฺถ ¶ โย ตาว อิธ วุตฺโต นโย, โส สพฺพตฺถ ปากโฏเยว. วิเสโส ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – เหตุจตุกฺเก ตาว อวิชฺชา เหตุ อสฺสาติ อวิชฺชาเหตุโก. อวิชฺชา อสฺส สหวตฺตนโต ยาวภงฺคา ปวตฺติกา คมิกาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติ จ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สาธารณโต สงฺขารสฺส อวิชฺชา ปจฺจโยติ ทสฺเสตฺวา, ปุน ‘‘อวิชฺชาเหตุโก’’ติ เอเตเนว วิเสสโต อวิคตปจฺจยตา ทสฺสิตา. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ สงฺขารเหตุกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
กสฺมา ปน ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ? อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส. ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาทานปจฺจยา ภโว? เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ – อยํ วุจฺจติ อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต อุปาทานปจฺจยา จตุนฺนํ ขนฺธานํ อิธ ภโวติ นามํ. สงฺขารกฺขนฺเธ จ ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิวจนโต (ธาตุ. ๗๑) ชาติชรามรณานิ อนฺโตคธานิ.
ตตฺถ ยาว อุปาทานํ ตาว ชาติชรามรณานํ อนุปลพฺภนโต อุปาทานํ ภวสฺส น นิยมโต อวิคตปจฺจโย โหติ. ‘‘ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ชาตี’’ติ อาทิวจนโต สงฺขตลกฺขเณสุ ชาติยา ชรามรณสงฺขาตสฺส ภวสฺส ชาติกฺขณมตฺเตเยว อภาวโต อวิคตปจฺจยภาโว น สมฺภวติ. ตถา ชาติยา ชรามรณกฺขเณ อภาวโต ¶ . อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปน ภโว ชาติยา. ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโยติ สพฺพถาปิ อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เกจิ ¶ ปนาหุ – ‘‘ภโว ทุวิเธนา’’ติ วจนโต อุปปตฺติมิสฺสโก ภโว, น จ อุปปตฺติภวสฺส อุปาทานํ อวิคตปจฺจโย โหตีติ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว อุปาทานเหตุโก’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วุตฺโต. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปรโตปิ น วุตฺตนฺติ. ตํ อิธ อุปปตฺติมิสฺสกสฺส ภวสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อยุตฺตํ. อรูปกฺขนฺธา หิ อิธ ภโวติ อาคตา.
ภวปจฺจยา ¶ ชาตีติ เอตฺถ จ เปตฺวา ชาติชรามรณานิ อวเสโส ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ชาติอาทีนํ ชาติยา อปฺปจฺจยตฺตา. ยทิ เอวํ, เปตฺวา ชาติชรามรณานิ ภโว ชาติยา ปจฺจโยติ วตฺตพฺโพติ? อาม วตฺตพฺโพ, วตฺตพฺพปเทสาภาวโต ปน น วุตฺโต. ทสมงฺคนิทฺเทเส หิ อุปาทานปจฺจยสมฺภูโต ภโว วตฺตพฺโพ. เอกาทสมงฺคนิทฺเทเส ชาติ วตฺตพฺพา. โย ปน ภโว ชาติยา ปจฺจโย, ตสฺส วตฺตพฺพปเทโส นตฺถีติ วตฺตพฺพปเทสาภาวโต น วุตฺโต. อวุตฺโตปิ ปน ยุตฺติโต คเหตพฺโพติ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ จ วิฺาณาทีนํ อวิคตปจฺจยภาวสมฺภวโต วิฺาณเหตุกาทิวจนํ กตนฺติ เอส เหตุจตุกฺเก วิเสโส.
๓. สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ
๒๔๕. สมฺปยุตฺตจตุกฺเกปิ อวิชฺชาปจฺจยาติ เอตฺตาวตา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาสมฺปยุตฺโต’’ติ สมฺปยุตฺตปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน อรูปีนํ ธมฺมานํ รูปธมฺเมหิ สมฺปโยโค นตฺถิ, ตสฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติอาทีสุ ตติยจตุตฺถวารปเทสุ ‘‘วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นาม’’นฺติอาทินา นเยน ยํ ลพฺภติ, ตเทว คหิตนฺติ เอส สมฺปยุตฺตจตุกฺเก วิเสโส.
๔. อฺมฺจตุกฺกํ
๒๔๖. อฺมฺจตุกฺเกปิ ¶ อวิชฺชาปจฺจยาติ สหชาตาทิปจฺจยวเสน สงฺขารสฺส อวิชฺชาปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติ อฺมฺปจฺจยตา ทสฺสิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน ภโว นิปฺปเทโส, อุปาทานํ สปฺปเทสํ, สปฺปเทสธมฺโม จ นิปฺปเทสธมฺมสฺส ปจฺจโย โหติ, น นิปฺปเทสธมฺโม สปฺปเทสธมฺมสฺส, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น วุตฺตํ; เหฏฺา วา เทสนาย ปจฺฉินฺนตฺตา เอวํ น วุตฺตํ ¶ . ยสฺมา จ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ อตฺถิ, สฬายตนปจฺจยา เอกจิตฺตกฺขเณ นามรูปํ นตฺถิ, ยสฺส สฬายตนํ อฺมฺปจฺจโย ภเวยฺย, ตสฺมา จตุตฺถวาเร ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ ยํ ลพฺภติ ตเทว คหิตนฺติ เอส อฺมฺจตุกฺเก วิเสโส.
อวิชฺชามูลกนยมาติกา.
สงฺขาราทิมูลกนยมาติกา
๒๔๗. อิทานิ ¶ สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชาติ สงฺขารมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถาปิ ยถา อวิชฺชามูลเก เอวํ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โสฬส จ วารา เวทิตพฺพา. ปมจตุกฺเก ปน ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา เทสนา สํขิตฺตา. ยถา เจตฺถ เอวํ วิฺาณมูลกาทีสุปิ. ตตฺถ สพฺเพสฺเวว เตสุ สงฺขารมูลกาทีสุ อฏฺสุ นเยสุ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทินา นเยน สหชาตาทิปจฺจยวเสน อวิชฺชาย สงฺขาราทิปจฺจยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน เอกจิตฺตกฺขเณปิ ปจฺจยาการจกฺกสฺส ปวตฺติ ทสฺสิตา.
กสฺมา ปน ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตา? กึ ภวปจฺจยา อวิชฺชา น โหตีติ? โน น โหติ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอวมาทีสุ ปน วุจฺจมาเนสุ น โกจิ ภวปริยาปนฺโน ธมฺโม อวิชฺชาย ปจฺจโย น วุตฺโต. ตสฺมา อปุพฺพสฺส อฺสฺส อวิชฺชาปจฺจยสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต ภวมูลโก นโย น วุตฺโต. ภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา ‘‘ภวปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วุจฺจมาเน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชา’’ติปิ วุตฺตํ สิยา. น จ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชา อวิชฺชาย ¶ ปจฺจโย นาม โหติ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตาว ชาติชรามรณมูลกาปิ นยา น คหิตา. อปิจ ภเว ชาติชรามรณานิปิ อนฺโตคธานิ. น เจตานิ เอกจิตฺตกฺขเณ อวิชฺชาย ปจฺจยา โหนฺตีติ ภวมูลกา ชาติชรามรณมูลกา วา นยา น วุตฺตาติ.
มาติกาวณฺณนา.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๘-๒๔๙. อิทานิ ยถา เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ กุสลตฺติกํ อาทึ กตฺวา นิกฺขิตฺตมาติกาย ปฏิปาฏิยา ปมํ กุสลํ ภาชิตํ, ตถา อิธ มาติกาย อนิกฺขิตฺตตฺตา ปมํ กุสลํ อนามสิตฺวา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ อกุสลธมฺมวเสน มาติกาย นิกฺขิตฺตตฺตา นิกฺเขปปฏิปาฏิยาว อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ ¶ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา ¶ อกุสลาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๖๕) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน เอกจิตฺตกฺขเณ ตณฺหาย จ กามุปาทานสฺส จ สมฺภโว นตฺถิ, ตสฺมา ยํ เอตฺถ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ ลพฺภติ, ตเทว ทสฺเสตุํ ทิฏฺิ ทิฏฺิคตนฺติอาทิ วุตฺตํ.
ภวนิทฺเทเส จ ยสฺมา อุปาทานํ สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน อุปาทานสฺส อุปาทานปจฺจยตฺตํ อาปชฺเชยฺย. น จ ตเทว ตสฺส ปจฺจโย โหติ. ชาติอาทินิทฺเทเสสุ ยสฺมา เอเต อรูปธมฺมานํ ชาติอาทโย, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑิจฺจํ, ปาลิจฺจํ, วลิตฺตจตา, จุติ, จวนตา’’ติ น วุตฺตํ.
๒๕๐. เอวํ ปมวารํ นิฏฺเปตฺวา ปุน ทุติยวาเร ยสฺมึ สมเย ปมวาเรน ปจฺจยากาโร ทสฺสิโต, ตสฺมึเยว สมเย อปเรนปิ นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ วิสุํ สมยววตฺถานวารํ อวตฺวา ตสฺมึ สมเย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโรติอาทินาว นเยน เทสนา กตา. ตตฺถ เปตฺวา ผสฺสนฺติ อิทํ ยสฺมา ผสฺโสปิ นามปริยาปนฺโน, ตสฺมา ผสฺสสฺส นามโต นีหรณตฺถํ วุตฺตํ.
๒๕๒. ตติยวาเร ¶ ยสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส วิฺาณํ ปจฺจโย, ตสฺมึ ปวตฺตมาเน ยสฺมา เตนุปตฺถทฺธานํ จกฺขายตนาทีนํ อุปจิตตฺตํ ปฺายติ, ตสฺมา จกฺขายตนสฺส อุปจโยติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา จ กมฺมชรูปสฺสปิ ตสฺมึ สมเย วตฺตมานสฺส วิฺาณํ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตสฺมาปิ เอวํ วุตฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ กมฺมชํ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ ทฺเวว สนฺตติโย คหิตา, อิตราปิ ปน ทฺเว สนฺตติโย คเหตพฺพา. ตาสมฺปิ หิ วิฺาณํ ปจฺจโย โหติเยว.
๒๕๔. จตุตฺถวาเร ปน ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณปิ มหาภูตรูปปจฺจยา จกฺขายตนาทีนิ, หทยรูปปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, นามปจฺจยา จ ปจฺฉาชาตสหชาตาทิวเสน ยถานุรูปํ สพฺพานิปิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ กตมํ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ? จกฺขายตนนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๕๖. ทุติยจตุกฺเก ¶ ¶ สพฺพํ อุตฺตานเมว.
๒๖๔. ตติยจตุกฺเก ยสฺส สมฺปยุตฺตปจฺจยภาโว น โหติ, ยสฺส จ โหติ, ตํ วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตุํ อิทํ วุจฺจติ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นามนฺติอาทิ วุตฺตํ.
๒๗๒. จตุตฺถจตุกฺเก ผสฺสปจฺจยา นามนิทฺเทเส กิฺจาปิ ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ – อิทํ วุจฺจติ ผสฺสปจฺจยา นาม’’นฺติ น วุตฺตํ, ตถาปิ อนนฺตราตีตปทนิทฺเทเส ‘‘เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตตฺตา อวุตฺตมฺปิ ตํ วุตฺตเมว โหติ. ยเทว หิ นามํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, ผสฺโสปิ ตสฺเสว ปจฺจโยติ.
ยถา จายํ จตุจตุกฺโก โสฬสวารปฺปเภโท อวิชฺชามูลโก ปมนโย เอตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเต ปกาสิโต, เอวํ สงฺขารมูลกาทโย อฏฺ นยาปิ เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน สํขิตฺตา. เอวเมว ตสฺมึ ปมากุสลจิตฺเตเยว นว นยา, ฉตฺตึส จตุกฺกานิ, จตุจตฺตาลีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๘๐. อิทานิ อิมินาว นเยน เสสากุสลจิตฺเตสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อกุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ นตฺถิ, ตสฺมา อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ¶ ทฬฺหนิปาตินา อธิโมกฺเขน ปทํ ปูริตํ. โทมนสฺสสหคเตสุ จ ยสฺมา เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย พลวกิเลเสน ปฏิเฆน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา สนฺนิฏฺานาภาวโต อธิโมกฺโขปิ นตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลสภูตาย วิจิกิจฺฉาย ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺานํ ปริหีนเมว. อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺเต ปน ยสฺมา อธิโมกฺโข อตฺถิ, ตสฺมา ตณฺหาฏฺาเน พลวกิเลเสน อุทฺธจฺเจน ปทํ ปูริตํ. อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺเขเนว. สพฺพตฺเถว จ วิเสสมตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิ สํขิตฺตา. โย ¶ จายํ วิเสโส ทสฺสิโต, ตตฺถ เกวลํ อธิโมกฺขนิทฺเทโสว อปุพฺโพ. เสสํ เหฏฺา อาคตเมว.
อธิโมกฺขนิทฺเทเส ปน อธิมุจฺจนวเสน อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจติ วา เตน อารมฺมเณ จิตฺตํ ¶ นิพฺพิจิกิจฺฉตาย สนฺนิฏฺานํ คจฺฉตีติ อธิโมกฺโข. อธิมุจฺจนากาโร อธิมุจฺจนา. ตสฺส จิตฺตสฺส, ตสฺมึ วา อารมฺมเณ อธิมุตฺตตฺตาติ ตทธิมุตฺตตา. สพฺพจิตฺเตสุ จ ปมจิตฺเต วุตฺตนเยเนว นยจตุกฺกวารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต อุปาทานมูลกสฺส นยสฺส อภาวา อฏฺ นยา, ทฺวตฺตึส จตุกฺกานิ, อฏฺวีสาธิกฺจ วารสตํ โหตีติ.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๒. อิทานิ อิมินาว นเยน กุสลจิตฺตาทีสุปิ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ยถา ปน อกุสเล ปมํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา นิทฺเทโส กโต, น ตถา อิธ. กสฺมา? อปฺปนาวาเร นานตฺตสมฺภวโต. โลกิยกุสลาทีสุ หิ เตสํ ธมฺมานํ ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺตา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสา’’ติ อปฺปนา โหติ, โลกุตฺตรกุสลาทีสุ ‘‘เอวเมเตสํ ธมฺมาน’’นฺติ. ตสฺมา เอตฺถ สาธารณโต มาติกํ เปตุํ น สกฺกาติ ปาฏิเยกฺกํ เตสํ เตสํ กุสลาทีนํ มาติกํ อุทฺทิสิตฺวาว นิทฺเทโส กโตติ.
ตตฺถ ยสฺมา เอกจิตฺตกฺขเณ กุสลสงฺขาเรน สทฺธึ อวิชฺชา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา, อวิชฺชา วิย อกุสลานํ, กุสลานํ มูลโต กุสลมูลํ, ตณฺหุปาทานานฺจ ¶ อภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ตณฺหา วิย อารมฺมเณ อชฺโฌคาฬฺโห ปสาโท, อุปาทานฏฺาเน อุปาทานํ วิย ทฬฺหนิปาตี นาม อธิโมกฺโข วุตฺโต. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
กุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐๖. อพฺยากตํ ¶ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อาคตปฏิปาฏิยาว วิภตฺตํ. สพฺพวาเรสุ จ อวิชฺชามูลกา นยา ปริหีนา. กสฺมา? อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพสฺส อภาวโต. กุสลจิตฺเตสุ ¶ หิ อวิชฺชาฏฺาเน เปตพฺพํ กุสลมูลํ อตฺถิ, จกฺขุวิฺาณาทีสุ นตฺถิ. สเหตุเกสุ ปน กิฺจาปิ อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ตตฺถ น คหิตํ. ปฺจวิฺาณโสเต โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา.
วิเสสโต ปเนตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุ ตณฺหาฏฺานํ อุปาทานฏฺานฺจ ปริหีนํ. กสฺมา? ตณฺหาฏฺานารหสฺส พลวธมฺมสฺส อภาวา อธิโมกฺขรหิตตฺตา จ. เสสาเหตุเกสุ ตณฺหาฏฺานเมว ปริหีนํ. สเหตุเกสุ ปสาทสพฺภาวโต ตณฺหาฏฺาเน ปสาเทน ปทํ ปูริตํ. เอวเมตฺถ กุสลากุสลวิปาเกสุ จกฺขุวิฺาณาทีสุ สงฺขารวิฺาณนามฉฏฺายตนผสฺสเวทนามูลกา ฉ ฉ, เสสาเหตุเกสุ อธิโมกฺขมูลเกน สทฺธึ สตฺต สตฺต, สเหตุเกสุ ปสาทมูลเกน สทฺธึ อฏฺ อฏฺ นยา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ จกฺขุวิฺาณาทีสุปิ จตุนฺนมฺปิ จตุกฺกานํ อาทิวาโรว วุตฺโต. ทุติยวาโร ปจฺจยวิเสสฏฺเน ลพฺภมาโนปิ น วุตฺโต. ตติยจตุตฺถวารา อสมฺภวโตเยว. รูปมิสฺสกา หิ เต, น จ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ยถา จ ปมจตุกฺเก ทฺเว วารา ลพฺภนฺติ, เอวํ เสสจตุกฺเกสุปิ. ตสฺมา ปมจตุกฺเก ทุติยวาโร, เสสจตุกฺเกสุ จ ทฺเว ทฺเว วารา อวุตฺตาปิ วุตฺตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสาเหตุกาพฺยากเต สพฺพจตุกฺเกสุ สพฺเพปิ วารา ลพฺภนฺติ. อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา ปน ปรโต น คหิตา. โสตปติตาว หุตฺวา เทสนา กตาติ. เสสสเหตุกวิปาเกสุปิ ¶ เอเสว นโย อฺตฺร อรูปาวจรวิปากา. อรูปาวจรวิปากสฺมิฺหิ วารทฺวยเมว ลพฺภตีติ.
อพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๔. อิทานิ อปเรน ปริยาเยน เอกจิตฺตกฺขเณ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา ¶ กุสลาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยาติ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. กุสลเจตนาสงฺขาโต ¶ หิ สงฺขาโรเยว ตสฺมึ สมเย จิตฺเตน สหชาโต โหติ, น อวิชฺชา.
ตตฺถ โลกิยกุสลสฺส เหฏฺา สุตฺตนฺตภาชนีเย วุตฺตนเยเนว อวิชฺชา ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา ปน อปฺปหีนาวิชฺโช อวิชฺชาย ปหานตฺถํ โลกุตฺตรํ ภาเวติ, ตสฺมา ตสฺสาปิ สมติกฺกมวเสน ปจฺจโย โหติ. อวิชฺชาวโตเยว หิ กุสลายูหนํ โหติ, น อิตรสฺส. ตตฺถ เตภูมกกุสเล สมฺโมหวเสนปิ สมติกฺกมภาวนาวเสนปิ อายูหนํ ลพฺภติ; โลกุตฺตเร สมุจฺเฉทภาวนาวเสนาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อยํ ปน วิเสโส – ยถา เหฏฺา เอเกกกุสเล จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน นว โสฬสกา ลทฺธา, ตถา อิธ น ลพฺภนฺติ. กสฺมา? อวิชฺชาย อวิคตสมฺปยุตฺตอฺมฺปจฺจยาภาวโต. อุปนิสฺสยวเสน ปเนตฺถ ปมจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. นีหริตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพนฺติ.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔๓. อิทานิ อพฺยากเตสุปิ อปเรเนว นเยน ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา อพฺยากตาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสลมูลปจฺจยาติ อิทมฺปิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลวิปากสฺส หิ กุสลมูลํ ¶ , อกุสลวิปากสฺส จ อกุสลมูลํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ; นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา เอส อุปนิสฺสยปจฺจเยน เจว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน จ ปจฺจโย โหติ. เตเนว นิทฺเทสวาเร ‘‘ตตฺถ ¶ กตมํ กุสลมูล’’นฺติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม กุสลมูลปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ วิภตฺตํ. อกุสลวิปาเกปิ เอเสว นโย.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทเส วิย จ อิมสฺมิมฺปิ วิปากนิทฺเทเส ปมํ ปจฺจยจตุกฺกเมว ลพฺภติ. ตมฺปิ ปมวารํ ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตํ. ตสฺมา เอเกกสฺมึ วิปากจิตฺเต เอกเมกสฺเสว จตุกฺกสฺส วเสน กุสลมูลมูลเก อกุสลมูลมูลเก จ นเย วารปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. กิริยาธมฺมานํ ปน ยสฺมา เนว อวิชฺชา น กุสลากุสลมูลานิ อุปนิสฺสยปจฺจยตํ ลภนฺติ, ตสฺมา กิริยวเสน ปจฺจยากาโร น วุตฺโตติ.
เอวเมส ¶ –
อกุสลกุสลาพฺยากต-ธมฺเมสุ อเนกเภทโต วตฺวา;
กุสลากุสลานํ ปน, วิปาเก จ อุปนิสฺสยวเสน.
ปุน เอกธาว วุตฺโต, วาทิปฺปวเรน ปจฺจยากาโร;
ธมฺมปฺปจฺจยเภเท, าณสฺส ปเภทชนนตฺถํ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมวิวชฺชิตานฺจ;
ยสฺมา าณปเภโท, น กทาจิปิ โหติ เอตสฺมึ.
ปริยตฺติสวนจินฺตน-ปฏิปตฺติกฺกมโต สทา ธีโร;
ตตฺถ กยิรา น หฺํ, กรณียตรํ ตโต อตฺถีติ.
อยํ ปน ปจฺจยากาโร สุตฺตนฺตอภิธมฺมภาชนียวเสน ทฺเวปริวฏฺฏเมว นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโต โหติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สติปฏฺานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ อุทฺเทสวารวณฺณนา
๓๕๕. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สติปฏฺานวิภงฺเค จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา – สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิธานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ. สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานํ านนฺติ วา ปฏฺานํ; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณํ อนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺพโตติ? สติยา; สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว สติปฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ; สติเยว ปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานํ; อถวา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ¶ ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ ¶ อธิปฺเปตํ. ยทิ เอวํ, กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตนฺติ? สติยา พหุตฺตา; อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโยติ.
กสฺมา ¶ ปน ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? เวเนยฺยหิตตฺตา. ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิเกสุ หิ มนฺทติกฺขวเสน ทฺวิธา ปวตฺเตสุ มนฺทสฺส ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ทิฏฺิจริตสฺสปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต ทุติยํ. วิปสฺสนายานิกสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตารมฺมณํ ตติยํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตารมฺมณํ จตุตฺถํ. อิติ จตฺตาโรว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ.
สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา. กาโย หิ อสุโภ. ตตฺถ สุภวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ อสุภภาวทสฺสเนน ตสฺส วิปลฺลาสสฺส ปหานตฺถํ ปมํ สติปฏฺานํ วุตฺตํ. สุขํ, นิจฺจํ, อตฺตาติ คหิเตสุปิ จ เวทนาทีสุ เวทนา ทุกฺขา, จิตฺตํ อนิจฺจํ, ธมฺมา อนตฺตา. เอเตสุ จ สุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ ทุกฺขาทิภาวทสฺสเนน เตสํ วิปลฺลาสานํ ปหานตฺถํ เสสานิ ตีณิ วุตฺตานีติ. เอวํ สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตฺตาโรว วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺจ วิปลฺลาสปหานตฺถเมว, อถ โข จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถฺจ จตฺตาโรว วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาว ปกรณนโย.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ เอตเทว วุตฺตํ. ยถา ¶ หิ จตุทฺวาเร นคเร ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, ทกฺขิณโต, ปจฺฉิมโต, อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. นครํ วิย หิ นิพฺพานมหานครํ, ทฺวารํ วิย อฏฺงฺคิโก โลกุตฺตรมคฺโค. ปาจีนทิสาทโย วิย กายาทโย.
ยถา ¶ ปาจีนโต อาคจฺฉนฺตา ปาจีนทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ กายานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ¶ จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา กายานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ทกฺขิณโต อาคจฺฉนฺตา ทกฺขิณทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ เวทนานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา เวทนานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา ปจฺฉิมโต อาคจฺฉนฺตา ปจฺฉิมทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา ปจฺฉิมทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ จิตฺตานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา จิตฺตานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺติ. ยถา อุตฺตรโต อาคจฺฉนฺตา อุตฺตรทิสาย อุฏฺานกํ ภณฺฑํ คเหตฺวา อุตฺตรทฺวาเรน นครเมว ปวิสนฺติ, เอวํ ธมฺมานุปสฺสนามุเขน อาคจฺฉนฺตา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา ธมฺมานุปสฺสนาภาวนานุภาวนิพฺพตฺเตน อริยมคฺเคน เอกํ นิพฺพานเมว โอสรนฺตีติ. เอวํ สรณวเสน เจว เอกตฺตสโมสรณวเสน จ เอกเมว สติปฏฺานํ อารมฺมณวเสน จตฺตาโรติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อิธ ภิกฺขูติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภควตา เทวโลเก นิสีทิตฺวา อยํ สติปฏฺานวิภงฺโค กถิโต, เอกภิกฺขุปิ ตตฺถ ภควโต สนฺติเก นิสินฺนโก นาม นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภิกฺขู ภาเวนฺติ, ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต, ตสฺมา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. กึ ปเนเต สติปฏฺาเน ภิกฺขูเยว ภาเวนฺติ, น ภิกฺขุนีอาทโยติ? ภิกฺขุนีอาทโยปิ ¶ ภาเวนฺติ. ภิกฺขู ปน อคฺคปริสา. อิติ อคฺคปริสตฺตา อิธ ภิกฺขูติ อาลปติ. ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต เอวมาห. โย หิ อิมํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชติ, โส ภิกฺขุ นาม โหติ. ปฏิปนฺนโก หิ เทโว วา โหตุ มนุสฺโส วา, ภิกฺขูติ สงฺขํ คจฺฉติเยว. ยถาห –
‘‘อลงฺกโต เจปิ สมฺจเรยฺย,
สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี;
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,
โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๒);
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา
อชฺฌตฺตนฺติ ¶ ¶ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อชฺฌตฺตํ กาเยติ อตฺตโน กาเยติ อตฺโถ. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน, หตฺถิกายอสฺสกายรถกายาทโย วิย, กาโยติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน กาเยติ จ วตฺวาปิ ปุน กายานุปสฺสีติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา; อถ โข กาเย กายานุปสฺสี เยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี; อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสโก วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสี, นคราวยวานุปสฺสโก วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสี, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภฺุชโก วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวโก ¶ วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสีเยวาติ นานปฺปการโต สมูหวเสน กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ. ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ.
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ ¶ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสิโน โหนฺติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภภูเตเยว อิมสฺมึ ¶ กาเย นิจฺจสุขอตฺตสุภภาวานุปสฺสี; อถ โข กายานุปสฺสี อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภาการสมูหานุปสฺสีเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, ตถา อาโปกายํ, เตโชกายํ, วาโยกายํ, เกสกายํ, โลมกายํ, ฉวิกายํ, จมฺมกายํ, มํสกายํ, รุธิรกายํ, นฺหารุกายํ, อฏฺิกายํ, อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ ปฏิสมฺภิทายํ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต, ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิธมฺมสมูหสงฺขาเต กายานุปสฺสีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิจ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส ¶ อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตถา หิ อยํ กาเย กายานุปสฺสนาปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ภิกฺขุ อิมํ กายํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน อนิจฺจโต อนุปสฺสติ โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ โน นนฺทติ, วิรชฺชติ โน รชฺชติ, นิโรเธติ โน สมุเทติ, ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยติ. โส ตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ ¶ , นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) เวทิตพฺโพ.
วิหรตีติ จตูสุ อิริยาปถวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมาโยคปริทีปนเมตํ, เอกํ อิริยาปถพาธนํ อปเรน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปตมานํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ.
พหิทฺธา ¶ กาเยติ ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเยติ กาเลน อตฺตโน กาเย, กาเลน ปรสฺส กาเย. ปมนเยน หิ อตฺตโน กาเย กายปริคฺคโห วุตฺโต, ทุติยนเยน ปรสฺส กาเย, ตติยนเยน กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา ปน ฆฏิตารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ปคุณกมฺมฏฺานสฺส ปน อปราปรํ สฺจรณกาโล เอตฺถ กถิโต. อาตาปีติ กายปริคฺคาหกวีริยสมาโยคปริทีปนเมตํ. โส หิ ยสฺมา ตสฺมึ สมเย ยํ ตํ วีริยํ ตีสุ ภเวสุ กิเลสานํ อาตาปนโต อาตาโปติ วุจฺจติ, เตน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺมา อาตาปีติ วุจฺจติ.
สมฺปชาโนติ กายปริคฺคาหเกน สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ, น หิ สติวิรหิตสฺส อนุปสฺสนา นาม อตฺถิ, เตเนวาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔), ตสฺมา เอตฺถ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ เอตฺตาวตา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานกมฺมฏฺานํ ¶ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อนาตาปิโน อนฺโตสงฺเขโป อนฺตรายกโร โหติ, อสมฺปชาโน อุปายปริคฺคเห อนุปายปริวชฺชเน จ สมฺมุยฺหติ, มุฏฺสฺสตี อุปายาปริจฺจาเค อนุปายาปริคฺคเห จ อสมตฺโถว โหติ, เตนสฺส ตํ กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ; ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ ¶ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ สมฺปโยคงฺคฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ เอตฺถ ยฺวายํ อชฺฌตฺตาทิเภโท กาโย ปริคฺคหิโต สฺเวว อิธ โลโก นาม. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ วินยิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ อภิชฺฌาคหเณน กามจฺฉนฺโท, โทมนสฺสคฺคหเณน พฺยาปาโท สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา นีวรณปริยาปนฺนพลวธมฺมทฺวยทสฺสเนน นีวรณปฺปหานํ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
วิเสเสน เจตฺถ อภิชฺฌาวินเยน กายสมฺปตฺติมูลกสฺส อนุโรธสฺส, โทมนสฺสวินเยน กายวิปตฺติมูลกสฺส วิโรธสฺส, อภิชฺฌาวินเยน จ กาเย อภิรติยา, โทมนสฺสวินเยน กายภาวนาย อนภิรติยา, อภิชฺฌาวินเยน กาเย อภูตานํ สุภสุขภาวาทีนํ ปกฺเขปสฺส, โทมนสฺสวินเยน ¶ กาเย ภูตานํ อสุภาสุขภาวาทีนํ อปนยนสฺส จ ปหานํ วุตฺตํ. เตน โยคาวจรสฺส โยคานุภาโว โยคสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ. โยคานุภาโว หิ เอส ยทิทํ อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต, อรติรติสโห, อภูตปกฺเขปภูตาปนยนวิรหิโต จ โหติ. อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต เจส อรติรติสโห อภูตํ อปกฺขิปนฺโต ภูตฺจ อนปเนนฺโต โยคสมตฺโถ โหตีติ.
อปโร นโย – ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอตฺถ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานํ วุตฺตํ. วิหรตีติ เอตฺถ วุตฺตวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ. อาตาปีติอาทีสุ อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ, กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย วา; สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺธสมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา ¶ , อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว กายานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสสฺส อตฺถวณฺณนา.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา
เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานุทฺเทสาทีสุปิ อชฺฌตฺตาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอเตสุปิ หิ อตฺตโน เวทนาทีสุ, ปรสฺส เวทนาทีสุ, กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส เวทนาทีสูติ ติวิโธ ปริคฺคโห ¶ วุตฺโต. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสีติอาทีสุ จ เวทนาทีนํ ปุนวจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน เวทนาติ ติสฺโส เวทนา. ตา จ โลกิยา เอว; จิตฺตมฺปิ โลกิยํ, ตถา ธมฺมา. เตสํ วิภาโค นิทฺเทสวาเร ปากโฏ ภวิสฺสติ. เกวลํ ปนิธ ยถา เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา ตถา อนุปสฺสนฺโต ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี’’ติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย จิตฺตธมฺเมสุ. กถฺจ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพาติ? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต. ยถาห –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทโส ภิกฺขุ, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา ¶ เอว เจตา ทุกฺขาติปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา, ยถาห – ‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อปิจ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนาวเสนปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ นิทฺเทสวาเรเยว ปากฏํ ภวิสฺสติ.
จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทินุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสราคาทิเภทานฺจ วเสน ¶ อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตาธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ นิทฺเทสวาเร อาคตสนฺตาสนฺตาทิเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว. กามฺเจตฺถ ยสฺส กายสงฺขาเต โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหีนํ, ตสฺส เวทนาทิโลเกสุปิ ตํ ปหีนเมว. นานาปุคฺคลวเสน ปน นานาจิตฺตกฺขณิกสติปฏฺานภาวนาวเสน จ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. ยโต วา เอกตฺถ ปหีนํ, เสเสสุปิ ปหีนํ โหติ. เตเนวสฺส ตตฺถ ปหานทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๕๖. อิทานิ ¶ เสยฺยถาปิ นาม เฉโก วิลีวการโก ถูลกิลฺชสณฺหกิลฺชจงฺโกฏกเปฬาปุฏาทีนิ อุปกรณานิ กตฺตุกาโม เอกํ มหาเวฬุํ ลภิตฺวา จตุธา ฉินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ เวฬุขณฺฑํ คเหตฺวา ผาเลตฺวา ตํ ตํ อุปกรณํ กเรยฺย, ยถา วา ปน เฉโก สุวณฺณกาโร นานาวิหิตํ ปิฬนฺธนวิกตึ กตฺตุกาโม สุปริสุทฺธํ สุวณฺณฆฏิกํ ลภิตฺวา จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ โกฏฺาสํ คเหตฺวา ตํ ตํ ปิฬนฺธนํ กเรยฺย, เอวเมว ภควา สติปฏฺานเทสนาย สตฺตานํ อเนกปฺปการํ วิเสสาธิคมํ กตฺตุกาโม เอกเมว สมฺมาสตึ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา – อิธ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณวเสน ¶ จตุธา ภินฺทิตฺวา ตโต เอเกกํ สติปฏฺานํ คเหตฺวา วิภชนฺโต กถฺจ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเยติอาทินา นเยน นิทฺเทสวารํ วตฺตุมารทฺโธ.
ตตฺถ กถฺจาติอาทิ วิตฺถาเรตุํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เกน จ อากาเรน เกน ปกาเรน ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรตีติ? เสสปุจฺฉาวาเรสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธ-สทฺโท อชฺฌตฺตาทิวเสน สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ ¶ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). เตน วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อชฺฌตฺตํ กายนฺติ อตฺตโน กายํ. อุทฺธํ ปาทตลาติ ปาทตลโต อุปริ. อโธ เกสมตฺถกาติ เกสคฺคโต เหฏฺา. ตจปริยนฺตนฺติ ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนํ. ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขตีติ นานปฺปการเกสาทิอสุจิภริโต อยํ กาโยติ ปสฺสติ. กถํ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา…เป… มุตฺตนฺติ. ตตฺถ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติ. อิมสฺมินฺติ ยฺวายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ติริยํ ตจปริยนฺโต ปูโร นานปฺปการสฺส อสุจิโนติ วุจฺจติ ตสฺมึ. กาเยติ สรีเร. สรีรฺหิ ¶ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานํ เกสาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทีนฺจ โรคสตานํ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติ.
เกสา โลมาติ เอเต เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา. ตตฺถ อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา, อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย โลมาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิฺหิ ปาทตลโต ปฏฺาย อุปริ, เกสมตฺถกา ปฏฺาย เหฏฺา, ตจโต ปฏฺาย ติริยนฺตโตติ เอตฺตเก พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ นานปฺปการํ เกสโลมาทิเภทํ อสุจึเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺตนฺติ. อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺธโต วณฺณนา.
อิมํ ปน กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน กุลปุตฺเตน อาทิโตว จตุพฺพิธํ สีลํ ¶ โสเธตฺวา สุปริสุทฺธสีเล ปติฏฺิเตน, ยฺวายํ ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา, ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺานภาวนาย ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา, อรหตฺตํ อนาคามิผลาทีสุ วา อฺตรํ ปตฺตสฺส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน สาฏฺกถาย ปาฬิยา กตปริจยสฺส ตนฺติอาจริยสฺสาปิ กลฺยาณมิตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. วิสุทฺธํ ตถารูปํ ¶ กลฺยาณมิตฺตํ เอกวิหาเร อลภนฺเตน ตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺถ จตุพฺพิธสีลวิโสธนฺเจว (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) ปลิโพโธ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) จ ปลิโพธุปจฺเฉโท จ อาจริยสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมนวิธานฺจ สพฺพมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต กถิตํ. ตสฺมา ตํ ตตฺถ กถิตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาจริเยน ปน กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน ติวิเธน กเถตพฺพํ. เอโก ภิกฺขุ ปกติยา อุคฺคหิตกมฺมฏฺาโน โหติ. ตสฺส เอกํ ทฺเว นิสชฺชวาเร สชฺฌายํ กาเรตฺวา กเถตพฺพํ. เอโก สนฺติเก วสิตฺวา อุคฺคณฺหิตุกาโม โหติ. ตสฺส อาคตาคตเวลาย กเถตพฺพํ. เอโก อุคฺคณฺหิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุกาโม โหติ. ตสฺส นาติปปฺจํ นาติสงฺเขปํ กตฺวา ¶ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺิกํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ. กเถนฺเตน กึ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ? สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ ทสธา จ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
ตตฺถ วจสา มนสา วณฺณโต สณฺานโต ทิสโต โอกาสโต ปริจฺเฉทโตติ เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อิมสฺมิฺหิ ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺาเน โยปิ ติปิฏโก โหติ, เตนปิ มนสิการกาเล ปมํ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอกจฺจสฺส หิ สชฺฌายํ กโรนฺตสฺเสว กมฺมฏฺานํ ปากฏํ โหติ, มลยวาสีมหาเทวตฺเถรสฺส สนฺติเก อุคฺคหิตกมฺมฏฺานานํ ทฺวินฺนํ เถรานํ วิย. เถโร กิร เตหิ กมฺมฏฺานํ ยาจิโต ‘จตฺตาโร มาเส อิมํ เอวํ สชฺฌายํ กโรถา’ติ ทฺวตฺติสาการปาฬึ อทาสิ. เต, กิฺจาปิ เตสํ ทฺเว ตโย นิกายา ปคุณา, ปทกฺขิณคฺคาหิตาย ปน จตฺตาโร มาเส ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺตาว โสตาปนฺนา อเหสุํ.
ตสฺมา กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน อาจริเยน อนฺเตวาสิโก วตฺตพฺโพ – ‘ปมํ ตาว วาจาย สชฺฌายํ กโรหี’ติ. กโรนฺเตน จ ตจปฺจกาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุโลมปฏิโลมวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ‘‘เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’’ติ หิ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตทนนฺตรํ วกฺกปฺจเก ‘‘มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ ¶ วกฺก’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘วกฺกํ ¶ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปปฺผาสปฺจเก ‘‘หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาส’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต อิมํ ตนฺตึ อนารุฬฺหมฺปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๔) อาคตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสาวสาเน ตนฺตึ อาโรเปตฺวา อิมสฺมึ มตฺถลุงฺคปฺจเก ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ มตฺถลุงฺค’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต ¶ เมทฉกฺเก ‘‘ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท’’ติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ตโต มุตฺตฉกฺเก ‘‘อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’’นฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ‘‘มุตฺตํ ลสิกา สิงฺฆาณิกา เขโฬ วสา อสฺสุ เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา’’ติ เอวํ กาลสตมฺปิ กาลสหสฺสมฺปิ กาลสตสหสฺสมฺปิ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาเยน หิ กมฺมฏฺานตนฺติ ปคุณา โหติ; น อิโต จิโต จ จิตฺตํ วิธาวติ; โกฏฺาสา ปากฏา โหนฺติ, หตฺถสงฺขลิกา วิย ขายนฺติ, วติปาทปนฺติ วิย จ ขายนฺติ. ยถา จ ปน วจสา, ตเถว มนสาปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาโย หิ มนสา สชฺฌายสฺส ปจฺจโย โหติ. มนสา สชฺฌาโย ลกฺขณปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ. ลกฺขณปฏิเวโธ มคฺคผลปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ.
‘วณฺณโต’ติ เกสาทีนํ วณฺโณ ววตฺถเปตพฺโพ. ‘สณฺานโต’ติ เตสํเยว สณฺานํ ววตฺถเปตพฺพํ ¶ . ‘ทิสโต’ติ ¶ อิมสฺมึ สรีเร นาภิโต อุทฺธํ อุปริมา ทิสา, อโธ เหฏฺิมา ทิสา. ตสฺมา ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมิสฺสา นาม ทิสายา’’ติ ทิสา ววตฺถเปตพฺพา. ‘โอกาสโต’ติ ‘‘อยํ โกฏฺาโส อิมสฺมึ นาม โอกาเส ปติฏฺิโต’’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส โอกาโส ววตฺถเปตพฺโพ. ‘ปริจฺเฉทโต’ติ สภาคปริจฺเฉโท วิสภาคปริจฺเฉโทติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ‘‘อยํ โกฏฺาโส เหฏฺา จ อุปริ จ ติริยฺจ อิมินา นาม ปริจฺฉินฺโน’’ติ เอวํ สภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ‘‘เกสา น โลมา, โลมาปิ น เกสา’’ติ เอวํ อมิสฺสีกตวเสน วิสภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขนฺเตน ปน ‘‘อิทํ กมฺมฏฺานํ อสุกสฺมึ สุตฺเต ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ, อสุกสฺมึ ธาตุวเสนา’’ติ ตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. อิทฺหิ มหาสติปฏฺาเน (ที. นิ. ๒.๓๗๒; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) ปฏิกฺกูลวเสเนว กถิตํ, มหาหตฺถิปโทปม (ม. นิ. ๑.๓๐๐ อาทโย) -มหาราหุโลวาท (ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) -ธาตุวิภงฺเคสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ธาตุวเสน กถิตํ. กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓ อาทโย) ปน ยสฺส วณฺณโต อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย จตฺตาริ ฌานานิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ ธาตุวเสน กถิตํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ โหติ, ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ สมถกมฺมฏฺานํ. ตเทตํ อิธ สมถกมฺมฏฺานํ อวิเสสโต สพฺพสาธารณวเสน กถิตนฺติ วทนฺติเยวาติ.
เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต, ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, อปฺปนาโต, ตโย จ สุตฺตนฺตา’’ติ เอวํ ทสธา มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ตตฺถ ‘อนุปุพฺพโต’ติ อิทฺหิ สชฺฌายกรณโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกาย. เอกนฺตริกาย หิ มนสิกโรนฺโต ยถา นาม อกุสโล ปุริโส ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ เอกนฺตริกาย อาโรหนฺโต กิลนฺตกาโย ปตติ, น อาโรหนํ สมฺปาเทติ; เอวเมว ภาวนาสมฺปตฺติวเสน อธิคนฺตพฺพสฺส อสฺสาทสฺส อนธิคมา กิลนฺตจิตฺโต ปตติ, น ภาวนํ สมฺปาเทติ.
อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ ‘นาติสีฆโต’ มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรโต หิ ¶ ยถา นาม ติโยชนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา โอกฺกมนวิสฺสชฺชนํ อสลฺลกฺเขตฺวา ¶ สีเฆน ชเวน สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ คมนาคมนํ กโรโต ปุริสสฺส กิฺจาปิ อทฺธานํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถ โข ปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ; เอวเมว เกวลํ กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ ปาปุณาติ, อวิภูตํ ปน โหติ, น วิเสสํ อาวหติ. ตสฺมา นาติสีฆโต มนสิกาตพฺพํ.
ยถา จ นาติสีฆโต เอวํ ‘นาติสณิกโต’ปิ. อติสณิกโต มนสิกโรโต หิ ยถา นาม ตทเหว ติโยชนํ มคฺคํ คนฺตุกามสฺส ปุริสสฺส ¶ อนฺตรามคฺเค รุกฺขปพฺพตคหนาทีสุ วิลมฺพมานสฺส มคฺโค ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ทฺวีหตีเหน ปริโยสาเปตพฺโพ โหติ; เอวเมว กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, วิเสสาธิคมสฺส ปจฺจโย น โหติ.
‘วิกฺเขปปฏิพาหนโต’ติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ เจตโส วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. อปฺปฏิพาหโต หิ ยถา นาม เอกปทิกํ ปปาตมคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ปุริสสฺส อกฺกมนปทํ อสลฺลกฺเขตฺวา อิโต จิโต จ วิโลกยโต ปทวาโร วิรชฺฌติ, ตโต สตโปริเส ปปาเต ปติตพฺพํ โหติ; เอวเมว พหิทฺธา วิกฺเขเป สติ กมฺมฏฺานํ ปริหายติ, ปริธํสติ. ตสฺมา วิกฺเขปปฏิพาหนโต มนสิกาตพฺพํ.
‘ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต’ติ ยา อยํ ‘‘เกสา โลมา’’ติ อาทิกา ปณฺณตฺติ ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลนฺติ จิตฺตํ เปตพฺพํ. ยถา หิ อุทกทุลฺลภกาเล มนุสฺสา อรฺเ อุทปานํ ทิสฺวา ตตฺถ ตาลปณฺณาทิกํ กิฺจิเทว สฺาณํ พนฺธิตฺวา เตน สฺาเณน อาคนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ, ยทา ปน เตสํ อภิณฺหสฺจาเรน อาคตาคตปทํ ปากฏํ โหติ, ตทา สฺาเณน กิจฺจํ น โหติ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ คนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ; เอวเมว ปุพฺพภาเค ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺติวเสน มนสิกโรโต ปฏิกฺกูลภาโว ปากโฏ โหติ. อถ ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลภาเวเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ.
‘อนุปุพฺพมฺุจนโต’ติ โย โย โกฏฺาโส น อุปฏฺาติ, ตํ ตํ มฺุจนฺเตน อนุปุพฺพมฺุจนโต มนสิกาตพฺพํ. อาทิกมฺมิกสฺส หิ ‘เกสา’ติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มุตฺต’นฺติ ¶ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. ‘มุตฺต’นฺติ จ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘เกสา’ติ อิมํ อาทิโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. อถสฺส มนสิกโรโต เกจิ ¶ โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, เกจิ น อุปฏฺหนฺติ. เตน เย เย อุปฏฺหนฺติ เตสุ เตสุ ตาว กมฺมํ กาตพฺพํ, ยาว ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ เตสมฺปิ เอโก สุฏฺุตรํ อุปฏฺหติ. เอวํ อุปฏฺิตํ ปน ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกโรนฺเตน อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพา.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน วสนฺตํ มกฺกฏํ คเหตุกาโม ลุทฺโท อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺึ กเรยฺย; อถ โส มกฺกโฏ ปฏิปาฏิยา ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ¶ ปติตฺวา ปริยนฺตตาลเมว คจฺเฉยฺย; ตตฺถปิ คนฺตฺวา ลุทฺเทน ตเถว กเต ปุน เตเนว นเยน อาทิตาลํ อาคจฺเฉยฺย; โส เอวํ ปุนปฺปุนํ ปฏิปาฏิยา คจฺฉนฺโต อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวา ปุน อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส เวมชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมาโนปิ น อุฏฺเหยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ยถา หิ ตาลวเน ทฺวตฺตึสตาลา, เอวํ อิมสฺมึ กาเย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; มกฺกโฏ วิย จิตฺตํ; ลุทฺโท วิย โยคาวจโร; มกฺกฏสฺส ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน นิวาโส วิย โยคิโน จิตฺตสฺส ทฺวตฺตึสโกฏฺาสเก กาเย อารมฺมณวเสน อนุสํจรณํ; ลุทฺเทน อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺิยา กตาย มกฺกฏสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ปติตฺวา ปริยนฺตตาลคมนํ วิย โยคิโน ‘เกสา’ติ มนสิกาเร อารทฺเธ ปฏิปาฏิยา คนฺตฺวา ปริโยสานโกฏฺาเส เอว จิตฺตสฺส สณฺานํ; ปุน ปจฺจาคมเนปิ เอเสว นโย; ปุนปฺปุนํ ปฏิปาฏิยา คจฺฉมานสฺส มกฺกฏสฺส อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเน อุฏฺานํ วิย ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต เกสุจิ เกสุจิ อุปฏฺิเตสุ อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ ปริกมฺมกรณํ; อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส เวมชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมานสฺสาปิ ¶ อนุฏฺานํ วิย อวสาเน ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺาติ ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
อปราปิ อุปมา – ยถา นาม ปิณฺฑปาติโก ภิกฺขุ ทฺวตฺตึสกุลํ คามํ อุปนิสฺสาย วสนฺโต ปมเคเห เอว ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกํ วิสฺสชฺเชยฺย; ปุนทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺเว วิสฺสชฺเชยฺย; ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปริภฺุเชยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวตฺตึสกุลคาโม วิย หิ ทฺวตฺตึสากาโร; ปิณฺฑปาติโก วิย โยคาวจโร; ตสฺส ตํ คามํ อุปนิสฺสาย วาโส วิย โยคิโน ทฺวตฺตึสากาเร ปริกมฺมกรณํ; ปมเคเห ¶ ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกิสฺสา วิสฺสชฺชนํ วิย ทุติยทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺวินฺนํ วิสฺสชฺชนํ วิย จ มนสิกโรโต มนสิกโรโต อนุปฏฺหนฺเต อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ อุปฏฺิเตสุ ¶ ยาว โกฏฺาสทฺวเย ปริกมฺมกรณํ; ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลายํ นิสีทิตฺวา ปริโภโค วิย ทฺวีสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺหติ ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
‘อปฺปนาโต’ติ อปฺปนาโกฏฺาสโต. เกสาทีสุ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
‘ตโย จ สุตฺตนฺตา’ติ อธิจิตฺตํ, สีติภาโว, โพชฺฌงฺคโกสลฺลนฺติ อิเม ตโย สุตฺตนฺตา วีริยสมาธิโยชนตฺถํ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ตตฺถ –
‘‘อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ตีณิ นิมิตฺตานิ กาเลน กาลํ มนสิกาตพฺพานิ…กาเลน กาลํ สมาธินิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ, กาเลน กาลํ ปคฺคหนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ, กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ สมาธินิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ ปคฺคหนิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ อุเปกฺขานิมิตฺตํเยว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ น สมฺมาสมาธิเยยฺย ¶ อาสวานํ ขยาย. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ กาเลน กาลํ สมาธินิมิตฺตํ, ปคฺคหนิมิตฺตํ, อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกโรติ, ตํ โหติ จิตฺตํ มุทุ จ กมฺมนิยฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา อุกฺกํ พนฺธติ, อุกฺกํ พนฺธิตฺวา อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปติ, อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปตฺวา สณฺฑาเสน ชาตรูปํ คเหตฺวา อุกฺกามุเข ปกฺขิเปยฺย, อุกฺกามุเข ปกฺขิปิตฺวา กาเลน กาลํ อภิธมติ, กาเลน กาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขติ ¶ . สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร ¶ วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อภิธเมยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ ฑเหยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อุทเกน ปริปฺโผเสยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ นิพฺพาเยยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อชฺฌุเปกฺเขยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ น สมฺมา ปริปากํ คจฺเฉยฺย.
‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ กาเลน กาลํ อภิธมติ, กาเลน กาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลน กาลํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตํ โหติ ชาตรูปํ มุทุ จ กมฺมนิยฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา อุเปติ กมฺมาย; ยสฺสา ยสฺสา จ ปิฬนฺธนวิกติยา อากงฺขติ – ยทิ ปฏฺฏิกาย ยทิ กุณฺฑลาย ยทิ คีเวยฺยกาย ยทิ สุวณฺณมาลาย, ตฺจสฺส อตฺถํ อนุโภติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน…เป… สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย; ยสฺส ยสฺส จ อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺา สจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) อิทํ สุตฺตํ อธิจิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย ¶ จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ปณีตาธิมุตฺติโก จ โหติ นิพฺพานาภิรโต จ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕) อิทํ สุตฺตํ สีติภาโวติ เวทิตพฺพํ.
โพชฺฌงฺคโกสลฺลํ ¶ ปน ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ¶ ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) สํยุตฺตมหาวคฺเค โพชฺฌงฺคสํยุตฺเต อาคตเมว.
อิติ อิทํ สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ สุคฺคหิตํ กตฺวา อิมฺจ ทสวิธํ มนสิการโกสลฺลํ สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา เตน โยคินา อุภยโกสลฺลวเสน กมฺมฏฺานํ สาธุกํ อุคฺคเหตพฺพํ. สเจ ปนสฺส อาจริเยน สทฺธึ เอกวิหาเรเยว ผาสุ โหติ, เอวํ วิตฺถาเรน อกถาเปตฺวา กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺเตน วิเสสํ ลภิตฺวา อุปรูปริ กถาเปตพฺพํ. อฺตฺถ วสิตุกาเมน ยถาวุตฺเตน วิธินา วิตฺถารโต กถาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตตฺวา สพฺพํ คณฺิฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานภาวนาย อนนุรูปํ เสนาสนํ ปหาย มหาวาสตาทิอฏฺารสโทสวชฺชิเต อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา โย ตาว ราคจริโต โหติ, เตน ยสฺมา ราโค ปหาตพฺโพ, ตสฺมา ปฏิกฺกูลมนสิกาเร ปริกมฺมํ กาตพฺพํ.
กโรนฺเตน ปน เกเสสุ ตาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. กถํ? เอกํ วา ทฺเว วา เกเส ลฺุจิตฺวา หตฺถตเล เปตฺวา วณฺโณ ตาว ววตฺถเปตพฺโพ. ฉินฺนฏฺาเนปิ เกเส โอโลเกตุํ วฏฺฏติ; อุทกปตฺเต วา ยาคุปตฺเต วา โอโลเกตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. กาฬกกาเล ทิสฺวา กาฬกาติ มนสิกาตพฺพา; เสตกาเล เสตาติ. มิสฺสกกาเล ปน อุสฺสทวเสน มนสิกาตพฺพา โหนฺติ. ยถา จ เกเสสุ, เอวํ สกเลปิ ตจปฺจเก ทิสฺวาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. เอวํ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สพฺพโกฏฺาเสสุ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา วณฺณสณฺานคนฺธอาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถเปตพฺพา.
ตตฺรายํ ¶ สพฺพโกฏฺาเสสุ อนุปุพฺพกถา – เกสา ตาว ปกติวณฺเณน กาฬกา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, สณฺานโต ทีฆวฏฺฏลิกา ตุลาทณฺฑสณฺานา, ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา, โอกาสโต อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ, ปุรโต นลาฏนฺเตน, ปจฺฉโต คลวาฏเกน ¶ ปริจฺฉินฺนา. สีสกฏาหเวนํ อลฺลจมฺมํ เกสานํ โอกาโส. ปริจฺเฉทโต เกสา สีสเวนจมฺเม วีหคฺคมตฺตํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ อยํ สภาคปริจฺเฉโท.
‘เกสา น โลมา, โลมา น เกสา’ติ เอวํ อวเสเสหิ เอกตึสโกฏฺาเสหิ อมิสฺสีกตา ¶ เกสา นาม ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ อยํ วิสภาคปริจฺเฉโท. อิทํ เกสานํ วณฺณาทิโต ววตฺถาปนํ.
อิทํ ปน เตสํ วณฺณาทิวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถาปนํ – เกสา จ นาเมเต วณฺณโตปิ ปฏิกฺกูลา, สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปิ ปฏิกฺกูลา. มนฺุเปิ หิ ยาคุปตฺเต วา ภตฺตปตฺเต วา เกสวณฺณํ กิฺจิ ทิสฺวา ‘เกสมิสฺสกมิทํ, หรถ น’นฺติ ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ เกสา วณฺณโต ปฏิกฺกูลา. รตฺตึ ภฺุชนฺตาปิ เกสสณฺานํ อกฺกวากํ วา มกจิวากํ วา ฉุปิตฺวาปิ ตเถว ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ สณฺานโต ปฏิกฺกูลา.
เตลมกฺขนปุปฺผธูมาทิสงฺขารวิรหิตานฺจ เกสานํ คนฺโธ ปรมเชคุจฺโฉ โหติ, ตโต เชคุจฺฉตโร อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตานํ. เกสา หิ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลาปิ สิยุํ, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลาเยว. ยถา หิ ทหรสฺส กุมารสฺส วจฺจํ วณฺณโต หฬิทฺทิวณฺณํ, สณฺานโตปิ หลิทฺทิปิณฺฑสณฺานํ; สงฺขารฏฺาเน ฉฑฺฑิตฺจ อุทฺธุมาตกกาฬสุนขสรีรํ วณฺณโต ตาลปกฺกวณฺณํ, สณฺานโต วฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺมุทิงฺคสณฺานํ, ทาาปิสฺส สุมนมกุฬสทิสาติ ¶ อุภยมฺปิ วณฺณสณฺานโต สิยา อปฺปฏิกฺกูลํ, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลเมว; เอวํ เกสาปิ สิยุํ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลา, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลา เอวาติ.
ยถา ปน อสุจิฏฺาเน คามนิสฺสนฺเทน ชาตานิ สูเปยฺยปณฺณานิ นาคริกมนุสฺสานํ เชคุจฺฉานิ โหนฺติ อปริโภคานิ, เอวํ เกสาปิ ปุพฺพโลหิตมุตฺตกรีสปิตฺตเสมฺหาทินิสฺสนฺเทน ชาตตฺตา อติเชคุจฺฉาติ อิทํ เนสํ ‘อาสยโต’ ปาฏิกุลฺยํ. อิเม จ เกสา นาม คูถราสิมฺหิ อุฏฺิตกณฺณิกํ ¶ วิย เอกตฺตึสโกฏฺาสราสิมฺหิ ชาตา. เต สุสานสงฺการฏฺานาทีสุ ชาตสากํ วิย, ปริขาทีสุ ชาตกมลกุวลยาทิปุปฺผํ วิย จ อสุจิฏฺาเน ชาตตฺตา ปรมเชคุจฺฉาติ อิทํ เตสํ ‘โอกาสโต’ ปาฏิกฺกูลฺยํ.
ยถา จ เกสานํ, เอวํ สพฺพโกฏฺาสานํ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลตา ววตฺถเปตพฺพา. วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ปน สพฺเพปิ วิสุํ วิสุํ ววตฺถเปตพฺพา.
ตตฺถ ¶ โลมา ตาว ปกติวณฺณโต น เกสา วิย อสมฺภินฺนกาฬกา, กาฬปิงฺคลา ปน โหนฺติ; สณฺานโต โอนตคฺคตาลมูลสณฺานา; ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา; โอกาสโต เปตฺวา เกสานํ ปติฏฺิโตกาสฺจ หตฺถปาทตลานิ จ เยภุยฺเยน อวเสสสรีรเวนจมฺเม ชาตา; ปริจฺเฉทโต สรีรเวนจมฺเม ลิกฺขามตฺตํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว โลมา เอกโต นตฺถิ. อยํ เตสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
นขาติ วีสติยา นขปฏฺฏานํ นามํ. เต สพฺเพปิ วณฺณโต เสตา; สณฺานโต มจฺฉสกลิกสณฺานา; ทิสโต ปาทนขา เหฏฺิมทิสาย ชาตา, หตฺถนขา อุปริมทิสายาติ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา; โอกาสโต องฺคุลีนํ อคฺคปิฏฺเสุ ปติฏฺิตา; ปริจฺเฉทโต ทฺวีสุ ทิสาสุ องฺคุลิโกฏิมํเสหิ, อนฺโต องฺคุลิปิฏฺิมํเสน, พหิ เจว อคฺเค จ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว นขา เอกโต นตฺถิ. อยํ ¶ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
ทนฺตาติ ปริปุณฺณทนฺตสฺส ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺิกานิ. เตปิ วณฺณโต เสตา; สณฺานโต อเนกสณฺานา. เตสฺหิ เหฏฺิมาย ตาว ทนฺตปาฬิยา มชฺเฌ จตฺตาโร ทนฺตา มตฺติกาปิณฺเฑ ปฏิปาฏิยา ปิตอลาพุพีชสณฺานา. เตสํ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอเกโก เอกมูลโก เอกโกฏิโก มลฺลิกมกุฬสณฺาโน. ตโต เอเกโก ทฺวิมูลโก ทฺวิโกฏิโก ยานกอุปตฺถมฺภนิกสณฺาโน. ตโต ทฺเว ทฺเว ติมูลา ติโกฏิกา. ตโต ทฺเว ทฺเว จตุมูลา จตุโกฏิกาติ. อุปริมปาฬิยาปิ เอเสว นโย ¶ . ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา. โอกาสโต ทฺวีสุ หนุกฏฺิเกสุ ปติฏฺิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา หนุกฏฺิเก ปติฏฺิเตน อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. ทฺเว ทนฺตา เอกโต นตฺถิ. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
ตโจติ สกลสรีรํ เวเตฺวา ิตจมฺมํ. ตสฺส อุปริ กาฬสามปีตาทิวณฺณา ฉวิ นาม, ยา สกลสรีรโตปิ สงฺกฑฺฒิยมานา พทรฏฺิมตฺตา โหติ. ตโจ ปน วณฺณโต เสโตเยว. โส จสฺส เสตภาโว อคฺคิชาลาภิฆาตปหรณปหาราทีหิ วิทฺธํสิตาย ฉวิยา ปากโฏ โหติ. สณฺานโต สรีรสณฺาโนว โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.
วิตฺถารโต ¶ ปน ปาทงฺคุลิตฺตโจ โกสการกโกสสณฺาโน. ปิฏฺิปาทตฺตโจ ปุฏพนฺธอุปาหนสณฺาโน. ชงฺฆตฺตโจ ภตฺตปุฏกตาลปณฺณสณฺาโน. อูรุตฺตโจ ตณฺฑุลภริตทีฆตฺถวิกสณฺาโน. อานิสทตฺตโจ อุทกปูริตปฏปริสฺสาวนสณฺาโน. ปิฏฺิตฺตโจ ผลโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. กุจฺฉิตฺตโจ วีณาโทณิโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. อุรตฺตโจ เยภุยฺเยน จตุรสฺสสณฺาโน. อุภยพาหุตฺตโจ ตูณีโรนทฺธจมฺมสณฺาโน. ปิฏฺิหตฺถตฺตโจ ขุรโกสกสณฺาโน, ผณกตฺถวิกสณฺาโน วา. หตฺถงฺคุลิตฺตโจ กฺุจิกาโกสกสณฺาโน. คีวตฺตโจ คลกฺจุกสณฺาโน. มุขตฺตโจ ฉิทฺทาวจฺฉิทฺโท กีฏกุลาวกสณฺาโน. สีสตฺตโจ ปตฺตตฺถวิกสณฺาโนติ.
ตจปริคฺคณฺหเกน จ โยคาวจเรน อุตฺตโรฏฺโต ปฏฺาย ¶ อุปริ มุขํ าณํ เปเสตฺวา ปมํ ตาว มุขํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต นลาฏฏฺิจมฺมํ. ตโต ถวิกาย ปกฺขิตฺตปตฺตสฺส จ ถวิกาย จ อนฺตเรน หตฺถมิว สีสฏฺิกสฺส จ สีสจมฺมสฺส จ อนฺตเรน าณํ เปเสตฺวา อฏฺิเกน สทฺธึ จมฺมสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชนฺเตน สีสจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต ขนฺธจมฺมํ. ตโต อนุโลเมน ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณหตฺถจมฺมํ. อถ เตเนว นเยน วามหตฺถจมฺมํ. ตโต ปิฏฺิจมฺมํ. ตํ ตํ ววตฺถเปตฺวา อนุโลเมน จ ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณปาทจมฺมํ. อถ เตเนว ¶ นเยน วามปาทจมฺมํ. ตโต อนุกฺกเมเนว วตฺถิอุทรหทยคีวจมฺมานิ ววตฺถเปตพฺพานิ. อถ คีวาจมฺมานนฺตรํ เหฏฺิมหนุจมฺมํ ววตฺถเปตฺวา อธโรฏฺปริโยสานํ ปาเปตฺวา นิฏฺเปตพฺพํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ.
ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิโต. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ปติฏฺิตตเลน, อุปริ อากาเสน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
มํสนฺติ นว มํสเปสิสตานิ. ตํ สพฺพมฺปิ วณฺณโต รตฺตํ กึสุกปุปฺผสทิสํ; สณฺานโต ชงฺฆปิณฺฑิกมํสํ ตาลปณฺณปุฏภตฺตสณฺานํ, อูรุมํสํ นิสทโปตกสณฺานํ, อานิสทมํสํ อุทฺธนโกฏิสณฺานํ, ปิฏฺิมํสํ ตาลคุฬปฏลสณฺานํ, ผาสุกทฺวยมํสํ โปตฺถลิกาย กุจฺฉิยํ ตนุมตฺติกาเลปนสณฺานํ, ถนมํสํ วฏฺเฏตฺวา อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑสณฺานํ, พาหุทฺวยมํสํ ¶ ทิคุณํ กตฺวา ปิตนิจฺจมฺมมหามูสิกสณฺานํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ มํสํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต สาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ อนุลิมฺเปตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา อฏฺิสงฺฆาเต ปติฏฺิตตเลน, อุปริ ตเจน, ติริยํ อฺมฺเน ¶ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
‘นฺหารู’ติ นว นฺหารุสตานิ. วณฺณโต สพฺเพปิ นฺหารู เสตา; สณฺานโต นานาสณฺานา. เอเตสุ หิ คีวาย อุปริภาคโต ปฏฺาย ปฺจ มหานฺหารู สรีรํ วินทฺธมานา หทยสฺส ปุริมปสฺเสน โอติณฺณา, ปฺจ ปจฺฉิมปสฺเสน, ปฺจ ทกฺขิณปสฺเสน, ปฺจ วามปสฺเสน, ทกฺขิณหตฺถํ วินทฺธมานาปิ หตฺถสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ, ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ, ตถา วามหตฺถํ วินทฺธมานาปิ. ทกฺขิณปาทํ วินทฺธมานาปิ ปาทสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ, ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ, ตถา วามปาทํ วินทฺธมานาปีติ. เอวํ สรีรธารกา นาม สฏฺิ มหานฺหารู กายํ วินทฺธมานา โอติณฺณา, เย กณฺฑราติปิ วุจฺจนฺติ. เต สพฺเพปิ กนฺทลมกุฬสณฺานา.
อฺเ ¶ ปน ตํ ตํ ปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา ตโต สุขุมตรา สุตฺตรชฺชุกสณฺานา. อฺเ ตโต สุขุมตรา ปูติลตาสณฺานา. อฺเ ตโต สุขุมตรา มหาวีณาตนฺติสณฺานา. อฺเ ถูลสุตฺตกสณฺานา. หตฺถปาทปิฏฺิยํ นฺหารู สกุณปาทสณฺานา. สีสนฺหารู ทารกานํ สีสชาลกสณฺานา. ปิฏฺินฺหารู อาตเป ปสาริตอลฺลชาลสณฺานา. อวเสสา ตํตํองฺคปจฺจงฺคานุคตา นฺหารู สรีเร ปฏิมุกฺกชาลกฺจุกสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต สกลสรีเร อฏฺีนิ อาพนฺธิตฺวา ิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ติณฺณํ อฏฺิสตานํ อุปริ ปติฏฺิตตเลหิ, อุปริ มํสจมฺมานิ อาหจฺจ ิตปเทเสหิ, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
อฏฺีติ เปตฺวา ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺีนิ อวเสสานิ จตุสฏฺิ หตฺถฏฺีนิ, จตุสฏฺิ ปาทฏฺีนิ, จตุสฏฺิ มํสนิสฺสิตานิ มุทุอฏฺีนิ, ทฺเว ปณฺหิกฏฺีนิ, เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺเว โคปฺผกฏฺีนิ, ทฺเว ชงฺฆฏฺีนิ, ทฺเว ชณฺณุกฏฺีนิ, ทฺเว ¶ อูรุฏฺีนิ, ทฺเว กฏิฏฺีนิ, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ, จตุวีสติ ¶ ผาสุกฏฺีนิ, จุทฺทส อุรฏฺีนิ, เอกํ หทยฏฺิ, ทฺเว อกฺขกฏฺีนิ, ทฺเว โกฏฺฏฺีนิ, ทฺเว พาหฏฺีนิ, ทฺเว ทฺเว อคฺคพาหฏฺีนิ, สตฺต คีวฏฺีนิ, ทฺเว หนุกฏฺีนิ, เอกํ นาสิกฏฺิ, ทฺเว อกฺขิฏฺีนิ, ทฺเว กณฺณฏฺีนิ, เอกํ นลาฏฏฺิ, เอกํ มุทฺธฏฺิ, นว สีสกปาลฏฺีนีติ เอวํ ติมตฺตานิ อฏฺิสตานิ.
ตานิ สพฺพานิปิ วณฺณโต เสตานิ, สณฺานโต นานาสณฺานานิ. ตตฺถ หิ อคฺคปาทงฺคุลิฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ. ตทนนฺตรานิ มชฺฌปพฺพฏฺีนิ ปนสฏฺิสณฺานานิ. มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ. ปิฏฺิปาทฏฺีนิ โกฏฺิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ. ปณฺหิกฏฺิ เอกฏฺิตาลผลพีชสณฺานํ. โคปฺผกฏฺีนิ พนฺธกีฬาโคฬกสณฺานานิ. ชงฺฆฏฺีนํ โคปฺผกฏฺีสุ ปติฏฺิตฏฺานํ อนปนีตตจสินฺทิกฬีรสณฺานํ. ขุทฺทกชงฺฆฏฺิกํ ธนุกทณฺฑสณฺานํ, มหนฺตํ มิลาตสปฺปปิฏฺิสณฺานํ. ชณฺณุกฏฺิ เอกโต ปริกฺขีณเผณกสณฺานํ.
ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานํ อติขิณคฺคโคสิงฺคสณฺานํ. อูรุฏฺิ ทุตฺตจฺฉิตวาสิผรสุทณฺฑกสณฺานํ. ตสฺส กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิตฏฺานํ กีฬาโคฬกสณฺานํ. เตน กฏิฏฺิโน ปติฏฺิตฏฺานํ อคฺคจฺฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสณฺานํ. กฏิฏฺีนิ ทฺเวปิ เอกาพทฺธานิ หุตฺวา กุมฺภการกอุทฺธนสณฺานานิ, ปาฏิเยกฺกํ กมฺมารกูฏโยตฺตกสณฺานานิ. โกฏิยํ ิตอานิสทฏฺิ ¶ อโธมุขํ กตฺวา คหิตสปฺปผณสณฺานํ สตฺตสุ าเนสุ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ. ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ ¶ อพฺภนฺตรโต อุปรูปริ ปิตสีสกปฏฺฏเวกสณฺานานิ, พาหิรโต วฏฺฏนาวฬิสณฺานานิ. เตสํ อนฺตรนฺตรา กกจทนฺตสทิสา ทฺเว ตโย กณฺฏกา โหนฺติ. จตุวีสติยา ผาสุกฏฺีสุ อปริปุณฺณานิ อปริปุณฺณาสิตสณฺานานิ, ปริปุณฺณานิ ปริปุณฺณาสิตสณฺานานิ. สพฺพานิปิ โอทาตกุกฺกุฏสฺส ปสาริตปกฺขสณฺานานิ.
จุทฺทส อุรฏฺีนิ ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรสณฺานานิ. หทยฏฺิ ทพฺพิผณสณฺานํ. อกฺขกฏฺีนิ ขุทฺทกโลหวาสิทณฺฑสณฺานานิ. โกฏฺฏฺีนิ เอกโต ปริกฺขีณสีหฬกุทาลสณฺานานิ. พาหุฏฺีนิ อาทาสทณฺฑกสณฺานานิ. อคฺคพาหุฏฺีนิ ยมกตาลกนฺทสณฺานานิ. มณิพนฺธฏฺีนิ เอกโต อลฺลียาเปตฺวา ปิตสีสกปฏฺฏเวกสณฺานานิ. ปิฏฺิหตฺถฏฺีนิ โกฏฺฏิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ. หตฺถงฺคุลีสุ มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ; มชฺฌปพฺพฏฺีนิ อปริปุณฺณปนสฏฺิสณฺานานิ; อคฺคปพฺพฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ. สตฺต คีวฏฺีนิ ¶ ทณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ปฏิปาฏิยา ปิตวํสกฬีรจกฺกลิกสณฺานานิ. เหฏฺิมหนุกฏฺิ กมฺมารานํ อโยกูฏโยตฺตกสณฺานํ, อุปริมํ อวเลขนสตฺถกสณฺานํ.
อกฺขิกูปนาสากูปฏฺีนิ อปนีตมิฺชตรุณตาลฏฺิสณฺานานิ. นลาฏฏฺิ อโธมุขปิตสงฺขถาลกกปาลสณฺานํ. กณฺณจูฬิกฏฺีนิ นฺหาปิตขุรโกสกสณฺานานิ. นลาฏกณฺณจูฬิกานํ อุปริ ปฏฺฏพนฺธโนกาเส อฏฺิ สงฺกุฏิตฆฏปุณฺณปฏลขณฺฑสณฺานํ. มุทฺธฏฺิ มุขจฺฉินฺนวงฺกนาฬิเกรสณฺานํ. สีสฏฺีนิ สิพฺเพตฺวา ปิตชชฺชรลาพุกฏาหสณฺานานิ.
ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตานิ. โอกาสโต อวิเสเสน สกลสรีเร ¶ ิตานิ. วิเสเสน ปเนตฺถ สีสฏฺีนิ คีวฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ, คีวฏฺีนิ ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีสุ, ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ กฏิฏฺีสุ, กฏิฏฺีนิ อูรุฏฺีสุ, อูรุฏฺีนิ ชณฺณุกฏฺีสุ, ชณฺณุกฏฺีนิ ชงฺฆฏฺีสุ, ชงฺฆฏฺีนิ โคปฺผกฏฺีสุ, โคปฺผกฏฺีนิ ปิฏฺิปาทฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ. ปริจฺเฉทโต อนฺโต อฏฺิมิฺเชน, อุปริ มํเสน, อคฺเค มูเล จ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนานิ. อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อฏฺิมิฺชนฺติ ¶ เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ มิฺชํ. ตํ วณฺณโต เสตํ. สณฺานโต มหนฺตมหนฺตานํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุนาฬิยํ ปกฺขิตฺตเสทิตมหาเวตฺตคฺคสณฺานํ, ขุทฺทานุขุทฺทกานํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุยฏฺิปพฺเพสุ ปกฺขิตฺตเสทิตตนุเวตฺตคฺคสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตรตเลหิ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
วกฺกนฺติ เอกพนฺธนา ทฺเว มํสปิณฺฑา. ตํ วณฺณโต มนฺทรตฺตํ ปาฬิภทฺทกฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต ทารกานํ ยมกกีฬาโคฬกสณฺานํ, เอกวณฺฏปฏิพทฺธอมฺพผลทฺวยสณฺานํ วา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต คลวาฏกา นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธํ หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต วกฺกํ วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
หทยนฺติ หทยมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ ปทุมปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต พาหิรปตฺตานิ อปเนตฺวา ¶ อโธมุขปิตปทุมมกุฬสณฺานํ. พหิ มฏฺํ; อนฺโต โกสาตกีผลสฺส อพฺภนฺตรสทิสํ. ปฺวนฺตานํ โถกํ วิกสิตํ, มนฺทปฺานํ มกุฬิตเมว. อนฺโต จสฺส ปุนฺนาคฏฺิปติฏฺานมตฺโต อาวาฏโก โหติ, ยตฺถ อฑฺฒปสตมตฺตํ โลหิตํ สณฺาติ; ยํ นิสฺสาย มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ. ตํ ปเนตํ ราคจริตสฺส ¶ รตฺตํ โหติ, โทสจริตสฺส กาฬกํ, โมหจริตสฺส มํสโธวนุทกสทิสํ, วิตกฺกจริตสฺส กุลตฺถยูสวณฺณํ, สทฺธาจริตสฺส กณิการปุปฺผวณฺณํ, ปฺาจริตสฺส อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปณฺฑรํ ปริสุทฺธํ นิทฺโธตชาติมณิ วิย ชุติมนฺตํ ขายติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ มชฺเฌ ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต หทยํ หทยภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ยกนนฺติ ยมกมํสปฏลํ. ตํ วณฺณโต รตฺตปณฺฑุกธาตุกํ, นาติรตฺตกุมุทสฺส ปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต มูเล เอกํ, อคฺเค ยมกํ โกวิฬารปตฺตสณฺานํ ¶ . ตฺจ ทนฺธานํ เอกเมว โหติ มหนฺตํ, ปฺวนฺตานํ ทฺเว วา ตีณิ วา ขุทฺทกานิ. ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ปริจฺเฉทโต ยกนํ ยกนภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
กิโลมกนฺติ ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนเภทโต ทุวิธํ ปริโยนหนมํสํ. ตํ ทุวิธมฺปิ วณฺณโต เสตํ, ทุกูลปิโลติกวณฺณํ. สณฺานโต อตฺตโน โอกาสสณฺานํ. ทิสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ หทยฺจ วกฺกฺจ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ. อปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ กิโลมกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปิหกนฺติ อุทรชิวฺหามํสํ. ตํ วณฺณโต นีลํ นิคฺคุณฺฑิกปุปฺผวณฺณํ. สณฺานโต สตฺตงฺคุลปฺปมาณํ อพนฺธนํ กาฬวจฺฉกชิวฺหาสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมึ ปหรณปฺปหาเรน พหิ นิกฺขนฺเต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโย โหติ. ปริจฺเฉทโต ¶ ปิหกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปปฺผาสนฺติ ¶ ทฺวตฺตึสมํสขณฺฑปฺปเภทํ ปปฺผาสมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ นาติปกฺกอุทุมฺพรผลวณฺณํ. สณฺานโต วิสมจฺฉินฺนพหลปูวขณฺฑสณฺานํ. อพฺภนฺตเร อสิตปีตานํ อภาเว อุคฺคเตน กมฺมชเตชุสฺมนา อพฺภาหตตฺตา สงฺขาทิตปลาลปิณฺฑมิว นิรสํ นิโรชํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานมนฺตเร หทยฺจ ยกนฺจ ปฏิจฺฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ. ปริจฺเฉทโต ผปฺผาสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อนฺตนฺติ ปุริสสฺส ทฺวตฺตึส หตฺถา, อิตฺถิยา อฏฺวีสติหตฺถา เอกวีสติยา าเนสุ โอภคฺคา อนฺตวฏฺฏิ. ตเทตํ วณฺณโต เสตํ สกฺขรสุธาวณฺณํ ¶ . สณฺานโต โลหิตโทณิยํ อาภุชิตฺวา ปิตสีสจฺฉินฺนสปฺปสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อุปริ คลวาฏเก เหฏฺา จ กรีสมคฺเค วินิพนฺธตฺตา คลวาฏกกรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตํ. ปริจฺเฉทโต อนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อนฺตคุณนฺติ อนฺตโภคฏฺาเนสุ พนฺธนํ. ตํ วณฺณโต เสตํ ทกสีตลิกมูลวณฺณํ. สณฺานโต ทกสีตลิกมูลสณฺานเมว. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต กุทาฬผรสุกมฺมาทีนิ กโรนฺตานํ ยนฺตากฑฺฒนกาเล ยนฺตสุตฺตมิว, ยนฺตผลกานิ อนฺตโภเค เอกโต อคฬนฺเต อาพนฺธิตฺวา ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกสฺส อนฺตรา ตํ สิพฺเพตฺวา ิตรชฺชุกา วิย เอกวีสติยา าเนสุ อนฺตโภคานํ อนฺตรา ิตํ. ปริจฺเฉทโต อนฺตคุณภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อุทริยนฺติ อุทเร ภวํ อสิตปิตขายิตสายิตํ. ตํ วณฺณโต อชฺโฌหฏาหารวณฺณํ. สณฺานโต ปริสฺสาวเน สิถิลพนฺธตณฺฑุลสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทเร ิตํ. อุทรํ นาม อุภโต นิปฺปีฬิยมานสฺส ¶ อลฺลสาฏกสฺส มชฺเฌ สฺชาตโผฏกสทิสํ อนฺตปฏลํ; พหิ มฏฺํ, อนฺโต มํสกสมฺพุกปลิเวนกิลิฏฺปาวารกปุปฺผกสทิสํ, กุถิตปนสตจสฺส อพฺภนฺตรสทิสนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; ยตฺถ ตกฺโกฏกา, คณฺฑุปฺปาทกา, ตาลหีรกา, สูจิมุขกา, ปฏตนฺตสุตฺตกา อิจฺเจวมาทิทฺวตฺตึสกุลปฺปเภทา กิมโย อากุลพฺยากุลา สณฺฑสณฺฑจาริโน หุตฺวา นิวสนฺติ; เย ปานโภชนาทิมฺหิ อวิชฺชมาเน อุลฺลงฺฆิตฺวา วิรวนฺตา หทยมํสํ อภิหนนฺติ, ปานโภชนาทิอชฺโฌหรณเวลาย จ อุทฺธํมุขา หุตฺวา ปมชฺโฌหเฏ ทฺเว ตโย ¶ อาโลเป ตุริตตุริตา วิลุมฺปนฺติ; ยํ เตสํ กิมีนํ สูติฆรํ, วจฺจกุฏิ, คิลานสาลา, สุสานฺจ โหติ.
ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม จณฺฑาลคามทฺวาเร จนฺทนิกาย นิทาฆสมเย ถูลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทเกน วุยฺหมานํ มุตฺตกรีสจมฺมอฏฺินฺหารุขณฺฑเขฬสิงฺฆาณิกโลหิตปฺปภุติ นานากุณปชาตํ นิปติตฺวา กทฺทโมทกาลุฬิตํ ¶ ทฺวีหตีหจฺจเยน สฺชาตกิมิกุลํ สูริยาตปเวคสนฺตาปกุถิตํ อุปริ เผณปุพฺพุลเก มฺุจนฺตํ อภินีลวณฺณํ ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ เนว อุปคนฺตุํ น ทฏฺุํ อรหรูปตํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ, ปเคว ฆายิตุํ วา สายิตุํ วา; เอวเมว นานปฺปการปานโภชนาทิทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตเขฬลาลาปลิพุทฺธํ ตงฺขณวิคตวณฺณคนฺธรสาทิสมฺปทํ ตนฺตวายขลิสุวานวมถุสทิสํ นิปติตฺวา ปิตฺตเสมฺหวาตปลิเวิตํ หุตฺวา อุทรคฺคิสนฺตาปเวคกุถิตํ กิมิกุลากุลํ อุปรูปริ เผณปุพฺพุลกานิ มฺุจนฺตํ ปรมกสมฺพุทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ; ยํ สุตฺวาปิ ปานโภชนาทีสุ อมนฺุตา สณฺาติ, ปเคว ปฺาจกฺขุนา อวโลเกตฺวา, ยตฺถ จ ปติตํ ปานโภชนาทิ ปฺจธา วิภาคํ คจฺฉติ – เอกํ ภาคํ ปาณกา ขาทนฺติ, เอกํ ภาคํ อุทรคฺคิ ฌาเปติ, เอโก ภาโค มุตฺตํ โหติ, เอโก กรีสํ, เอโก รสภาวํ อาปชฺชิตฺวา โสณิตมํสาทีนิ อุปพฺรูหยติ. ปริจฺเฉทโต อุทรปฏเลน ¶ เจว อุทริยภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
กรีสนฺติ วจฺจํ. ตํ วณฺณโต เยภุยฺเยน อชฺโฌหฏาหารวณฺณเมว โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ปกฺกาสเย ิตํ. ปกฺกาสโย นาม เหฏฺา นาภิปิฏฺิกณฺฏกมูลานมนฺตเร อนฺตาวสาเน อุพฺเพเธน อฏฺงฺคุลมตฺโต เวฬุนาฬิกสทิโส, ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม อุปรูปริ ภูมิภาเค ปติตํ วสฺโสทกํ โอคฬิตฺวา เหฏฺา ภูมิภาคํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ; เอวเมว ยํ กิฺจิ อามาสเย ปติตํ ปานโภชนาทิกํ อุทรคฺคินา เผณุทฺเทหกํ ปกฺกํ ปกฺกํ นิสทาย ปิสิตมิว สณฺหภาวํ อาปชฺชิตฺวา อนฺตพิเลน โอคฬิตฺวา โอคฬิตฺวา มทฺทิตฺวา เวฬุปพฺเพ ปกฺขิปมานปณฺฑุมตฺติกา วิย สนฺนิจิตํ หุตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปกฺกาสยปฏเลน เจว กรีสภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
มตฺถลุงฺคนฺติ ¶ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิตมิฺชราสิ. ตํ วณฺณโต เสตํ อหิจฺฉตฺตกปิณฺฑิกวณฺณํ, ทธิภาวํ อสมฺปตฺตทุฏฺขีรวณฺณนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ¶ สีสกฏาหพฺภนฺตเร จตฺตาโร สิพฺพินิมคฺเค นิสฺสาย สโมธาเนตฺวา ปิตา จตฺตาโร ปิฏฺปิณฺฑา วิย สโมหิตํ ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต สีสกฏาหสฺส อพฺภนฺตรตเลหิ เจว มตฺถลุงฺคภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปิตฺตนฺติ ทฺเว ปิตฺตานิ – พทฺธปิตฺตฺจ อพทฺธปิตฺตฺจ. ตตฺถ พทฺธปิตฺตํ วณฺณโต พหลมธุกเตลวณฺณํ, อพทฺธปิตฺตํ มิลาตอากุลิตปุปฺผวณฺณํ. ตํ สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต พทฺธปิตฺตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อพทฺธปิตฺตํ เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ อุทกมิว เตลพินฺทุํ อวเสสสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต อกฺขีนิ ปีตกานิ โหนฺติ ภมนฺติ, คตฺตํ กมฺปติ กณฺฑุยติ. พทฺธปิตฺตํ หทยปปฺผาสานมนฺตเร ยกนมํสํ ¶ นิสฺสาย ปติฏฺิเต มหาโกสาตกีโกสกสทิเส ปิตฺตโกสเก ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต สตฺตา อุมฺมตฺตกา โหนฺติ, วิปลฺลตฺถจิตฺตา หิโรตฺตปฺปํ ฉฑฺเฑตฺวา อกตฺตพฺพํ กโรนฺติ, อภาสิตพฺพํ ภาสนฺติ, อจินฺเตตพฺพํ จินฺเตนฺติ. ปริจฺเฉทโต ปิตฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เสมฺหนฺติ สรีรพฺภนฺตเร เอกปตฺตปูรปฺปมาณํ เสมฺหํ. ตํ วณฺณโต เสตํ นาคพลปณฺณรสวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทรปฏเล ิตํ, ยํ ปานโภชนาทีนิ อชฺโฌหรณกาเล เสยฺยถาปิ นาม อุทเก เสวาลปณกํ กฏฺเ วา กปาเล วา ปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว ปานโภชนาทิมฺหิ นิปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ; ยมฺหิ จ มนฺทีภูเต ปกฺกคณฺโฑ วิย ปูติกุกฺกุฏณฺฑมิว จ อุทรํ ปรมเชคุจฺฉํ กุณปคนฺธํ โหติ; ตโต อุคฺคเตน จ คนฺเธน อุทฺเทโกปิ มุขมฺปิ ทุคฺคนฺธํ ปูติกุณปสทิสํ โหติ; โส จ ปุริโส ‘อเปหิ, ทุคฺคนฺธํ วายสี’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ; ยฺจ วฑฺฒิตฺวา พหลตฺตมาปนฺนํ ปิธานผลกมิว วจฺจกุฏิยา อุทรปฏลสฺส อพฺภนฺตเรเยว กุณปคนฺธํ สนฺนิรุชฺฌิตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ¶ เสมฺหภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ปุพฺโพติ ¶ ปูติโลหิตวเสน ปวตฺตปุพฺโพ. โส วณฺณโต ปณฺฑุปลาสวณฺโณ, มตกสรีเร ปน ปูติพหลาจามวณฺโณ โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต ปน ปุพฺพสฺส โอกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ ยตฺถ โส สนฺนิจิโต ติฏฺเยฺย; ยตฺร ยตฺร ปน ขาณุกณฺฏกปฺปหรณคฺคิชาลาทีหิ อภิหเต สรีรปฺปเทเส โลหิตํ สณฺหิตฺวา ปจฺจติ, คณฺฑปิฬกาทโย วา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺร ตตฺเรว ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺโน ¶ . อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
โลหิตนฺติ ทฺเว โลหิตานิ – สนฺนิจิตโลหิตฺจ สํสรณโลหิตฺจ. ตตฺถ สนฺนิจิตโลหิตํ วณฺณโต นิปกฺกพหลลาขารสวณฺณํ, สํสรณโลหิตํ อจฺฉลาขารสวณฺณํ. สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต สนฺนิจิตโลหิตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต สํสรณโลหิตํ, เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมฺมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ, ธมนิชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทินฺนกสรีรํ ผริตฺวา ิตํ; สนฺนิจิตโลหิตํ ยกนฏฺานสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา เอกปตฺตปูรมตฺตํ หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺตํ วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมานํ ิตํ. ตสฺมิฺหิ วกฺกหทยาทีนิ อเตเมนฺเต สตฺตา ปิปาสิตา โหนฺติ. ปริจฺเฉทโต โลหิตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เสโทติ โลมกูปาทีหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุ. โส วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต เสทสฺโสกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ, ยตฺถ โส โลหิตํ วิย สทา ติฏฺเยฺย; ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิการาทีหิ สรีรํ สนฺตปฺปติ ตทา อุทกโต อพฺพุฬฺหมตฺตวิสมจฺฉินฺนภิสมูฬาลกุมุทนาฬกลาโป วิย สพฺพเกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรติ. ตสฺมา ตสฺส สณฺานมฺปิ เกสโลมกูปวิวรานํเยว วเสน เวทิตพฺพํ. เสทปริคฺคณฺหเกน จ โยคินา เกสโลมกูปวิวเร ปูเรตฺวา ิตวเสเนว เสโท มนสิกาตพฺโพ. ปริจฺเฉทโต เสทภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เมโทติ ¶ ¶ ถินสิเนโห. โส วณฺณโต ผาลิตหลิทฺทิวณฺโณ. สณฺานโต ถูลสรีรสฺส ตาว จมฺมมํสนฺตเร ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน โหติ, กิสสรีรสฺส ชงฺฆมํสํ อูรุมํสํ ปิฏฺิกณฺฏกนิสฺสิตํ ปิฏฺมํสํ อุทรวฏฺฏิมํสนฺติ เอตานิ นิสฺสาย ทิคุณํ ติคุณํ กตฺวา ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ¶ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต ถูลสฺส สกลสรีรํ ผริตฺวา, กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ นิสฺสาย ิโต, ยํ สิเนหสงฺขํ คตมฺปิ ปรมเชคุจฺฉตฺตา เนว มุทฺธนิ เตลตฺถาย, น นาสาเตลาทีนํ อตฺถาย คณฺหนฺติ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ เมทภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
อสฺสูติ อกฺขีหิ ปคฺธรณกอาโปธาตุ. ตํ วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อกฺขิกูปเกสุ ิตํ. น เจตํ ปิตฺตโกสเก ปิตฺตมิว อกฺขิกูปเกสุ สทา สนฺนิจิตํ ติฏฺติ; ยทา ปน สตฺตา โสมนสฺสชาตา มหาหสิตํ หสนฺติ, โทมนสฺสชาตา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ ตถารูปํ วิสภาคาหารํ อาหรนฺติ, ยทา จ เนสํ อกฺขีนิ ธูมรชปํสุกาทีหิ อภิหฺนฺติ, ตทา เอเตหิ โสมนสฺสโทมนสฺสวิสภาคาหารอุตูหิ สมุฏฺหิตฺวา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. อสฺสุปริคฺคณฺหเกน ปน โยคินา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพํ. ปริจฺเฉทโต อสฺสุภาเคน ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
วสาติ วิลีนสฺเนโห. สา วณฺณโต นาฬิเกรเตลวณฺณา, อาจาเม อาสิตฺตเตลวณฺณาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกสฺส อุปริ ปริพฺภมนฺตสิเนหพินฺทุวิสฏสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต เยภุยฺเยน หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสาปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิตา. น เจสา เอเตสุ โอกาเสสุ สทา วิลีนาว หุตฺวา ติฏฺติ; ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิสภาคธาตุวิสภาเคหิ เต ปเทสา อุสฺมา ชาตา โหนฺติ, ตทา ตตฺถ นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกูปริ สิเนหพินฺทุวิสโฏ วิย อิโต จิโต จ สํสรติ. ปริจฺเฉทโต วสาภาเคน ปริจฺฉินฺนา ¶ . อยมสฺสา สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เขโฬติ ¶ อนฺโตมุเข เผณมิสฺสา อาโปธาตุ. โส วณฺณโต เสโต เผณวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน, เผณสณฺานโตติปิ ¶ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาโต. โอกาสโต อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย ิโต. น เจส เอตฺถ สทา สนฺนิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ. ยทา ปน สตฺตา ตถารูปํ อาหารํ ปสฺสนฺติ วา สรนฺติ วา อุณฺหติตฺตกฏุกโลณมฺพิลานํ วา กิฺจิ มุเข เปนฺติ, ยทา วา เนสํ หทยํ อากิลายติ, กิสฺมิฺจิเทว วา ชิคุจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตทา เขโฬ อุปฺปชฺชิตฺวา อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย สณฺาติ. อคฺคชิวฺหาย เจส ตนุโก โหติ, มูลชิวฺหาย พหโล; มุเข ปกฺขิตฺตฺจ ปุถุกํ วา ตณฺฑุลํ วา อฺํ วา กิฺจิ ขาทนียํ, นทีปุฬิเน ขตกูปกสลิลํ วิย, ปริกฺขยํ อคจฺฉนฺโตว เตเมตุํ สมตฺโถ โหติ. ปริจฺเฉทโต เขฬภาเคน ปริจฺฉินฺโน. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
สิงฺฆาณิกาติ มตฺถลุงฺคโต ปคฺฆรณกอสุจิ. สา วณฺณโต ตรุณตาลฏฺิมิฺชวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตา. โอกาสโต นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตา. น เจสา เอตฺถ สทา สนฺนิจิตา หุตฺวา ติฏฺติ; อถ โข ยถา นาม ปุริโส ปทุมินีปตฺเตน ทธึ พนฺธิตฺวา เหฏฺา กณฺฏเกน วิชฺเฌยฺย, อถ เตน ฉิทฺเทน ทธิมตฺถุ คฬิตฺวา พหิ ปเตยฺย, เอวเมว ยทา สตฺตา โรทนฺติ วา วิสภาคาหารอุตุวเสน วา สฺชาตธาตุกฺโขภา โหนฺติ, ตทา อนฺโตสีสโต ปูติเสมฺหภาวํ อาปนฺนํ มตฺถลุงฺคํ คฬิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. สิงฺฆาณิกา ปริคฺคณฺหเกน ปน โยคินา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพา. ปริจฺเฉทโต สิงฺฆาณิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
ลสิกาติ สรีรสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ปิจฺฉิลกุณปํ. สา วณฺณโต กณิการนิยฺยาสวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต อฏฺิสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อสีติสตสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ิตา. ยสฺส เจสา มนฺทา โหติ, ตสฺส อุฏฺหนฺตสฺส ¶ นิสีทนฺตสฺส อภิกฺกมนฺตสฺส ปฏิกฺกมนฺตสฺส สมฺมิฺชนฺตสฺส ปสาเรนฺตสฺส อฏฺิกานิ กฏกฏายนฺติ, อจฺฉราสทฺทํ กโรนฺโต วิย วิจรติ, เอกโยชนทฺวิโยชนมตฺตมฺปิ อทฺธานํ คตสฺส ¶ วาโยธาตุ กุปฺปติ, คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ยสฺส ปน พหุกา โหติ ตสฺส อุฏฺานนิสชฺชาทีสุ น อฏฺีนิ กฏกฏายนฺติ, ทีฆมฺปิ อทฺธานํ คตสฺส ¶ น วาโยธาตุ กุปฺปติ, น คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ปริจฺเฉทโต ลสิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
มุตฺตนฺติ วณฺณโต มาสขาโรทกวณฺณํ. สณฺานโต อโธมุขปิตอุทกกุมฺภนฺตรคตอุทกสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต วตฺถิสฺส อพฺภนฺตเร ิตํ. วตฺถิ นาม วตฺถิปุโฏ วุจฺจติ, ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม จนฺทนิกาย ปกฺขิตฺเต อมุเข รวณฆเฏ จนฺทนิกรโส ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ; เอวเมว สรีรโต มุตฺตํ ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ, นิกฺขมนมคฺโค ปน ปากโฏ โหติ; ยมฺหิ จ มุตฺตสฺส ภริเต ‘ปสฺสาวํ กโรมา’ติ สตฺตานํ อายูหนํ โหติ. ปริจฺเฉทโต วตฺถิอพฺภนฺตเรน เจว มุตฺตภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
เอวฺหิ เกสาทิเก โกฏฺาเส วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา อนุปุพฺพโต นาติสีฆโต นาติสณิกโตติอาทินา นเยน วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ‘ปฏิกฺกูลา ปฏิกฺกูลา’ติ มนสิกโรโต ปณฺณตฺติสมติกฺกมวเสน, เสยฺยถาปิ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสวณฺณานํ กุสุมานํ เอกสุตฺตคณฺิตํ มาลํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺพปุปฺผานิ อปุพฺพาปริยมิว ปากฏานิ โหนฺติ, เอวเมว ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติ อิมํ กายํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺเพ เต ธมฺมา อปุพฺพาปริยมิว ปากฏา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ มนสิการโกสลฺลกถายํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส หิ ‘เกสา’ติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มุตฺต’นฺติ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
สเจ ปน พหิทฺธาปิ มนสิการํ อุปสํหรติ, อถสฺส เอวํ สพฺพโกฏฺาเสสุ ปากฏีภูเตสุ อาหิณฺฑนฺตา มนุสฺสติรจฺฉานาทโย สตฺตาการํ วิชหิตฺวา โกฏฺาสราสิวเสเนว อุปฏฺหนฺติ; เตหิ จ อชฺโฌหริยมานํ ปานโภชนาทิ โกฏฺาสราสิมฺหิ ปกฺขิปิยมานมิว อุปฏฺาติ. อถสฺส อนุปุพฺพมฺุจนาทิวเสน ¶ ¶ ‘ปฏิกูลา ปฏิกูลา’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต อนุกฺกเมน อปฺปนา อุปฺปชฺชติ.
ตตฺถ เกสาทีนํ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน อุปฏฺานํ อุคฺคหนิมิตฺตํ, สพฺพาการโต ปฏิกูลวเสน อุปฏฺานํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. ตํ ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ¶ ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร ขนฺธา ปฏิกูลารมฺมณา โหนฺติ, ปมชฺฌานวเสน อปฺปนา ปวตฺตติ. ปุพฺพภาเค ปริกมฺมอุปจารจิตฺตานิ สวิตกฺกสวิจารานิ สปฺปีติกานิ โสมนสฺสสหคตานิ ปฏิกูลนิมิตฺตารมฺมณานิ; อปฺปนาปิ สวิตกฺกสวิจารา สปฺปีติกา โสมนสฺสสหคตาว. ภูมนฺตเรน ปน มหคฺคตา รูปาวจรา โหนฺติ. ปฏิกฺกูเลปิ จ เอตสฺมึ อารมฺมเณ อานิสํสทสฺสาวิตาย โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอกตฺตารมฺมณพเลเนว วา ตํ อุปฺปชฺชติ. ทุติยชฺฌานาทีนิ ปเนตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ. กสฺมา? โอฬาริกตฺตา. อิทฺหิ อารมฺมณํ โอฬาริกํ. วิตกฺกพเลเนเวตฺถ จิตฺเตกคฺคตา ชายติ, น วิตกฺกสมติกฺกเมนาติ. อยํ ตาว สมถวเสน กมฺมฏฺานกถา.
อวิเสสโต ปน สาธารณวเสน เอวํ เวทิตพฺพํ – อิทฺหิ กมฺมฏฺานํ ภาเวตุกาเมน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สชฺฌายกาเล เอว เกสาทีนํ วณฺณนิมิตฺตสณฺานนิมิตฺตทิสานิมิตฺตโอกาสนิมิตฺตปริจฺเฉทนิมิตฺตานิ วาจาย โปเถตฺวา โปเถตฺวา เอเกกโกฏฺาเส ‘อยํ เอตํสริกฺขโก’ติ ติวิเธน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. กถํ? ตจปฺจเก ตาว เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนุโลมโต ปฺจาหํ, ปฏิโลมโต ปฺจาหํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปฺจาหนฺติ อทฺธมาสํ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตโต อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วกฺกปฺจกํ อุคฺคณฺหิตฺวา ตเถว อทฺธมาสํ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตโต เต ทสปิ โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสํ. ปุน ปปฺผาสปฺจกาทีสุปิ เอเกกํ อุคฺคณฺหิตฺวา อทฺธมาสํ. ตโต เต ปฺจทสปิ โกฏฺาเส อทฺธมาสํ. มตฺถลุงฺคปฺจกํ อทฺธมาสํ. ตโต เตวีสติ โกฏฺาเส อทฺธมาสํ. เมทฉกฺกํ อทฺธมาสํ. ตโต เต ฉพฺพีสติปิ โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสํ. มุตฺตฉกฺกํ อทฺธมาสํ. ตโต สพฺเพปิ ¶ ทฺวตฺตึส โกฏฺาเส เอกโต กตฺวา อทฺธมาสนฺติ เอวํ ฉ มาเส สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
ตตฺถ – อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส สปฺปฺสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺตสฺเสว โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, เอกจฺจสฺส น อุปฏฺหนฺติ. เตน ‘น อุปฏฺหนฺตี’ติ วีริยํ ¶ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยตฺตกา โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ ตตฺตเก คเหตฺวา สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอวํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน ปน เนว ปฺวโต น มนฺทปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ, มชฺฌิมปฺสฺส วเสน กเถตพฺพํ. มชฺฌิมปฺสฺส หิ วเสน อาจริยา ฉหิ มาเสหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ตนฺตึ ปยึสุ. ยสฺส ปน เอตฺตาวตาปิ โกฏฺาสา ปากฏา น โหนฺติ, เตน ตโต ปรมฺปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ เอว; โน จ โข อปริจฺฉินฺทิตฺวา, ฉ ฉ มาเส ปริจฺฉินฺทิตฺวาว กาตพฺโพ.
สชฺฌายํ ¶ กโรนฺเตน วณฺโณ น ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ, น ลกฺขณํ มนสิกาตพฺพํ, โกฏฺาสวเสเนว สชฺฌาโย กาตพฺโพ. อาจริเยนาปิ ‘วณฺณวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ นิยเมตฺวา น กเถตพฺพํ. นิยเมตฺวา กถิเต โก โทโสติ? สมฺปตฺติยมฺปิ วิปตฺติสฺาอาปชฺชนํ. สเจ หิ อาจริเยน ‘วณฺณวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเต อิมสฺส ภิกฺขุโน ตถา กโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ วณฺณโต น อุปฏฺาติ, ปฏิกูลวเสน วา ธาตุวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘น อิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. ‘ปฏิกูลวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเตปิ สเจ ตสฺส ตถา กโรนฺตสฺส ปฏิกฺกูลโต น อุปฏฺาติ, วณฺณวเสน วา ธาตุวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘นยิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. ‘ธาตุวเสน ตํ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วุตฺเตปิ สเจ ตสฺส ตถา กโรนฺตสฺส ธาตุโต น อุปฏฺาติ, วณฺณวเสน วา ปฏิกูลวเสน วา อุปฏฺาติ, อเถส ‘นยิทํ กมฺมฏฺานํ วิลกฺขณ’นฺติ สฺี โหติ, อาจริเยน กถิตเมว กปฺเปตฺวา คณฺหาติ. อยํ อาจริเยน นิยเมตฺวา กถิเต โทโส.
กินฺติ ปน วตฺตพฺโพ โหตีติ? ‘โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. กถํ? ‘เกสโกฏฺาโส โลมโกฏฺาโสติ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ปนสฺส เอวํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส วณฺณโต ¶ อุปฏฺาติ, อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘อหํ ทฺวตฺตึสาการํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรมิ; มยฺหํ ปน วณฺณโต อุปฏฺาตี’ติ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา วณฺณกสิเณ ปริกมฺมํ กตปุพฺพํ ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. วณฺณวเสเนว ¶ สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ วณฺณวเสเนว สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
โส เอวํ กโรนฺโต อชฺฌตฺตํ นีลกํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตกนฺติ จตฺตาริ วณฺณกสิณานิ ลภติ. กถํ? ตสฺส หิ เกสโลมปิตฺเตสุ เจว อกฺขีนฺจ กาฬกฏฺาเน วณฺณํ ‘นีลํ นีล’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เมทสฺมึ ปน อกฺขีนฺจ ปีตกฏฺาเน วณฺณํ ‘ปีตกํ ปีตก’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. มํสโลหิเตสุ ปน อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเน วณฺณํ ‘โลหิตกํ โลหิตก’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ฌานํ ปาทกํ กตฺวา ¶ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. นขทนฺตจมฺมอฏฺีสุ ปน อกฺขีนฺจ ปณฺฑรฏฺาเน วณฺณํ ‘โอทาตํ โอทาต’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิทํ วณฺณวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
อปรสฺส โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ปฏิกูลโต อุปฏฺาติ. อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา ปฏิกูลมนสิกาเร โยโค กโต ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. ปฏิกูลวเสเนว สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ ปฏิกูลวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. ตสฺส เกสา นาม ‘อชฺา ทุคฺคนฺธา เชคุจฺฉา ปฏิกูลา’ติ เอวํ ปฏิกูลวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ปฏิกูลารมฺมเณ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺตติ. โส ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิทํ ¶ ปฏิกูลวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
อปรสฺส โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส ธาตุโต อุปฏฺาติ. ธาตุโต อุปฏฺหนฺตํ กีทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ? เกสา ตาว วมฺมิกมตฺถเก ชาตกุนฺถติณกานิ วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. โลมา ปุราณคามฏฺาเน ชาตทพฺพติณกานิ วิย. นขา ทณฺฑเกสุ ปิตมธุกผลฏฺิโกสกา วิย. ทนฺตา มตฺติกาปิณฺเฑ ปเวเสตฺวา ปิตอลาพุพีชานิ วิย. ตโจ วีณาปพฺพเก ปริโยนทฺธอลฺลโคจมฺมํ วิย, มํสํ ภิตฺติยํ อนุลิตฺตมตฺติกา ¶ วิย. นฺหารุ ทพฺพสมฺภารพทฺธวลฺลี วิย. อฏฺิ อุสฺสาเปตฺวา ปิตภิตฺติทพฺพสมฺภาโร วิย. อฏฺิมิฺชํ มหาเวฬุมฺหิ ปกฺขิตฺตเสทิตเวตฺตคฺคํ วิย. วกฺกํ, หทยํ, ยกนํ, กิโลมกํ, ปิหกํ, ปปฺผาสนฺติ อิเม ฉ โกฏฺาสา สูนการฆรํ วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. ทฺวตฺตึสหตฺถํ อนฺตํ โลหิตโทณิยํ สํเวลฺลิตฺวา ปิตฆรสปฺโป วิย. อนฺตคุณํ ปาทปฺุฉนเก สิพฺพิตรชฺชุกา วิย. อุทริยํ ปริสฺสาวเน สิถิลพนฺธตณฺฑุลํ วิย. กรีสํ เวณุปพฺเพ ปกฺขิตฺตปณฺฑุมตฺติกา วิย. มตฺถลุงฺคํ โอมทฺทิตฺวา ปิตา จตฺตาโร ตณฺฑุลปิฏฺปิณฺฑา วิย. ทฺวาทสวิธา อาโปธาตุ ปฏิปาฏิยา ปิเตสุ ทฺวาทสสุ อุทกสราวเกสุ ปูริตอุทกํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ.
อถาเนน โอวาทาจริยสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจริเยน ‘กมฺมฏฺานํ วิย อกมฺมฏฺานํ, วิลกฺขณํ ¶ เอต’นฺติ น วิสํวาเทตพฺพํ. ‘สาธุ, สปฺปุริส, ปุพฺเพ ตยา ธาตุมนสิกาเร โยโค กโต ภวิสฺสติ. เอตเทว กมฺมฏฺานํ ตุยฺหํ สปฺปายํ. ธาตุวเสเนว สชฺฌายํ กโรหี’ติ วตฺตพฺโพ. เตนปิ ธาตุวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ.
ตตฺริทํ มนสิการมุเขเนว สชฺฌายวิธานํ – อิธ ภิกฺขุ ‘เกสา สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺเม ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺเม ชาตา’ติ; สีสํ ปริโยนทฺธิตฺวา ิตจมฺมมฺปิ น ชานาติ ‘เกสา มยิ ชาตา’ติ; อเจตนา เอเต อพฺยากตา สฺุา ถทฺธา ปตฺถินฺนา ปถวีธาตุ เอสา’ติ มนสิกโรติ. ‘โลมา สรีรํ ปริโยนหนจมฺเม ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ สรีรํ ปริโยนหนจมฺเม ¶ ชาตา’ติ. สรีรํ ปริโยนหนจมฺมมฺปิ น ชานาติ ‘โลมา มยิ ชาตา’ติ เอเตปิ อเจตนา. นขา องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ องฺคุลีนํ อคฺเคสุ ชาตา’ติ. องฺคุลีนํ อคฺคานิปิ น ชานนฺติ ‘นขา อมฺเหสุ ชาตา’ติ. เอเตปิ อเจตนา. ทนฺตา หนุกฏฺิเก ชาตา. เต น ชานนฺติ ‘มยํ หนุกฏฺิเก ชาตา’ติ. หนุกฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘ทนฺตา มยิ ชาตา’ติ. เอเตปิ อเจตนา. ตโจ น ชานาติ ‘สรีรํ มยา ปริโยนทฺธ’นฺติ. สรีรมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ ตเจน ปริโยนทฺธ’นฺติ. อยมฺปิ อเจตโน. มํสํ น ชานาติ ‘มยา สรีรํ อนุลิตฺต’นฺติ. สรีรมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ มํเสน อนุลิตฺต’นฺติ. อิทมฺปิ อเจตนํ. นฺหารุ น ชานาติ ‘อหํ ¶ อฏฺิปฺุชํ อาพนฺธิตฺวา ิต’นฺติ. อฏฺิปฺุโชปิ น ชานาติ ‘นฺหารุชาเลนาหํ อาพทฺโธ’ติ. อิทมฺปิ อเจตนํ.
สีสฏฺิ น ชานาติ ‘อหํ คีวฏฺิเก ปติฏฺิต’นฺติ. คีวฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘มยิ สีสฏฺิกํ ปติฏฺิต’นฺติ. คีวฏฺิ น ชานาติ ‘อหํ ปิฏฺิกณฺฏเก ิต’นฺติ. ปิฏฺิกณฺฏฏฺิโกปิ กฏิฏฺิกํ อูรุฏฺิกํ ชงฺฆฏฺิกํ โคปฺผกฏฺิกํ น ชานาติ ‘อหํ ปณฺหิกฏฺิเก ปติฏฺิต’นฺติ. ปณฺหิกฏฺิกมฺปิ น ชานาติ ‘อหํ โคปฺผกฏฺิกํ อุกฺขิปิตฺวา ิตนฺติ…เป… คีวฏฺิกํ น ชานาติ ‘อหํ สีสฏฺิกํ อุกฺขิปิตฺวา ิต’นฺติ.
ปฏิปาฏิยา อฏฺีนิ ิตานิ โกฏิยา,
อเนกสนฺธิยมิโต น เกหิจิ;
พทฺโธ ¶ นหารูหิ ชราย โจทิโต,
อเจตโน กฏฺกลิงฺครูปโม.
‘อิทมฺปิ อเจตนํ. อฏฺิมิฺชํ; วกฺกํ…เป… มตฺถลุงฺคํ อเจตนํ อพฺยากตํ สฺุํ ถทฺธํ ปตฺถินฺนํ ปถวีธาตู’ติ มนสิกโรติ. ‘ปิตฺตํ เสมฺหํ…เป… มุตฺตํ อเจตนํ อพฺยากตํ สฺุํ ยูสคตํ อาโปธาตู’ติ มนสิกโรติ.
อิเม ทฺเว มหาภูเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุทเร อุสฺสทา เตโชธาตุ ปากฏา โหติ, นาสาย อุสฺสทา วาโยธาตุ ปากฏา โหติ. อิเม จตฺตาโร มหาภูเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปาทารูปํ ปากฏํ โหติ. มหาภูตํ นาม อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ, อุปาทารูปํ มหาภูเตน. ยถา อาตโป นาม ฉายาย ปริจฺฉินฺโน, ฉายา อาตเปน; เอวเมว มหาภูตํ อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ ¶ , อุปาทารูปํ มหาภูเตน. อถสฺส เอวํ ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ เตวีสติ อุปาทารูปานิ รูปกฺขนฺโธ’’ติ รูปกฺขนฺธํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อายตนทฺวารวเสน อรูปิโน ขนฺธา ปากฏา โหนฺติ. อิติ รูปารูปปริคฺคโห ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ, ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ โหนฺติ, ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย โหนฺตีติ ขนฺธายตนธาตุวเสน ยมกตาลกนฺธํ ผาเลนฺโต วิย ทฺเว โกฏฺาเส กตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปติ.
โส ‘‘อิทํ นามรูปํ น อเหตุ น อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตํ, สเหตุ สปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตํ. โก ปนสฺส เหตุ? โก ปน ปจฺจโย’’ติ อุปปริกฺขนฺโต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ¶ ตณฺหาปจฺจยา กมฺมปจฺจยา อาหารปจฺจยา จา’’ติ ตสฺส ปจฺจยํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อตีเตปิ ปจฺจยา เจว ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมา จ อนาคเตปิ เอตรหิปิ ปจฺจยา เจว ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺมา จ, ตโต อุทฺธํ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถิ, สุทฺธสงฺขารปฺุโช เอวา’’ติ – เอวํ ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตรติ. อยํ ปน วิปสฺสนาสงฺขารสลฺลกฺขณา าตปริฺา นาม.
เอวํ สงฺขาเร สลฺลกฺเขตฺวา ิตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส ทสพลสฺส สาสเน มูลํ โอติณฺณํ นาม โหติ, ปติฏฺา ลทฺธา นาม, จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติ นิยตคติโก. ตถารูปํ ปน อุตุสปฺปายํ, ปุคฺคลสปฺปายํ, โภชนสปฺปายํ, ธมฺมสวณสปฺปายํ ลภิตฺวา เอกาสเน เอกปลฺลงฺกวรคโต ¶ ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ คณฺหาตีติ อิทํ ธาตุวเสน อภินิวิฏฺสฺส ภิกฺขุโน ยาว อรหตฺตา นิคมนํ.
ยสฺส ปน เนว วณฺณโต อุปฏฺาติ น ปฏิกูลโต น สฺุโต เตน ‘น เม อุปฏฺาตี’ติ น กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิสีทิตพฺพํ, โกฏฺาสมนสิกาเรเยว ปน โยโค กาตพฺโพ. โปราณกตฺเถรา กิร ‘โกฏฺาสมนสิกาโรว ปมาณ’นฺติ อาหํสุ. อิจฺจสฺส ปุนปฺปุนํ โกฏฺาสวเสน สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส โกฏฺาสา ปคุณา โหนฺติ. กทา ปน ปคุณา นาม โหนฺตีติ? ยทา ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต มนสิกาโร คนฺตฺวา ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อนฺติมโกฏฺาเส ปติฏฺาติ, ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต มนสิกาโร อาคนฺตฺวา ‘เกสา’ติ อาทิโกฏฺาเส ปติฏฺาติ.
อถสฺส ยถา นาม จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสวณฺณานํ ¶ ปุปฺผานํ เอกสุตฺตคนฺถิตํ มาลํ โอโลเกนฺตสฺส ปฏิปาฏิยา วา ปน นิขาเต ทฺวตฺตึสวติปาเท ปฏิกฺกมิตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ปฏิปาฏิยาว ทฺวตฺตึสวณฺณานิ ปุปฺผานิ วติปาทา วา ปากฏา โหนฺติ, เอวเมว ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, วิจรนฺตา ติรจฺฉานคตาปิ มนุสฺสาปิ สตฺตาติ น อุปฏฺหนฺติ, โกฏฺาสาติ อุปฏฺหนฺติ, ขาทนียโภชนียํ โกฏฺาสนฺตเร ปกฺขิปฺปมานํ วิย โหติ.
โกฏฺาสานํ ปคุณกาลโต ปฏฺาย ตีสุ มุเขสุ เอเกน มุเขน วิมุจฺจิสฺสติ. กมฺมฏฺานํ วณฺณโต วา ปฏิกูลโต วา สฺุโต วา อุปฏฺาติ ¶ . ยถา นาม ปูเว ปจิตุกามา อิตฺถี มทฺทิตฺวา ปิตปิฏฺโต ยํ ยํ อิจฺฉติ ตํ ตํ ปจติ, ยถา วา ปน สเม ภูมิปฺปเทเส ปิตํ อุทกปูรํ กุมฺภํ ยโต ยโต อาวิชฺฌนฺติ ตโต ตโตว อุทกํ นิกฺขมติ; เอวเมว โกฏฺาสานํ ปคุณกาลโต ปฏฺาย ตีสุ มุเขสุ เอเกน มุเขน วิมุจฺจิสฺสติ. อากงฺขมานสฺส วณฺณโต, อากงฺขมานสฺส ปฏิกูลโต, อากงฺขมานสฺส สฺุโต กมฺมฏฺานํ อุปฏฺหิสฺสติเยว. อยํ เอตฺตโก อุคฺคหสนฺธิ นาม. อิมสฺมึ อุคฺคหสนฺธิสฺมึ ตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา ภิกฺขุ คณนปถํ วีติวตฺตา.
ยสฺส ปน อุคฺคหสนฺธิสฺมึ กมฺมฏฺานํ น อุปฏฺาติ, เตน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา, สเจ ยตฺถ อาจริโย วสติ, โส อาวาโส สปฺปาโย โหติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, สปฺปายฏฺาเน วสิตพฺพํ. วสนฺเตน อฏฺารส วิหารโทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน ¶ วสิตพฺพํ, สยมฺปิ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตโต ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน รตฺติฏฺานํ วา ทิวาฏฺานํ วา ปวิสิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ.
กถํ? อาทิโต ตาว เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนุปุพฺพโต มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกา. อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺโต หิ ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ ปทปฏิปาฏิยา อกฺกมนฺโต ปาสาทํ อารุยฺห ปาสาทานิสํสํ อนุภวนกปุริโส วิย ‘เกสา โลมา’ติ ปฏิปาฏิยา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต กมฺมฏฺานโต จ น ปริหายติ, ปาสาทานิสํสสทิเส จ นว โลกุตฺตรธมฺเม อนุภวติ. อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ นาติสีฆโต นาติสณิกโต ¶ มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรนฺตสฺส หิ กิฺจาปิ กมฺมฏฺานํ ปคุณํ โหติ, อวิภูตํ ปน โหติ. ตตฺถ โอปมฺมํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
อติสณิกโต มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, อนฺตราว โอสกฺกิตพฺพํ โหติ. ยถา หิ ปุริโส ติโยชนํ มคฺคํ สายํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ปฏิปนฺโน นิกฺขนฺตฏฺานโต ปฏฺาย สีตลจฺฉายํ ทิสฺวา วิสฺสมติ, รมณียํ วาลิกตลํ ทิสฺวา ปิฏฺึ ปสาเรติ, วนโปกฺขรณึ ทิสฺวา ปานียํ ปิวติ นฺหายติ, ปพฺพตํ ทิสฺวา อารุยฺห ปพฺพตรามเณยฺยกํ ปสฺสติ, ตํ อนฺตราเยว สีโห วา พฺยคฺโฆ วา ทีปิ วา หนติ, โจรา วา ปน ¶ วิลุปฺปนฺติ เจว หนนฺติ จ; เอวเมว อติสณิกํ มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, อนฺตราว โอสกฺกิตพฺพํ โหติ.
ตสฺมา นาติสีฆํ นาติสณิกํ เอกทิวสํ ตึสวาเร มนสิกาตพฺพํ; ปาโตว ทส วาเร, มชฺฌนฺหิเก ทสวาเร, สายนฺเห ทส วาเร สชฺฌาโย กาตพฺโพ, โน กาตุํ น วฏฺฏติ. ยถา หิ ปาโตว อุฏฺาย มุขํ โน โธวิตุํ น วฏฺฏติ, ขาทนียํ โภชนียํ โน ขาทิตุํ โน ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ; เอตํ ปน วฏฺเฏยฺย; อิทเมว เอกนฺเตน โน กาตุํ น วฏฺฏติ; กโรนฺโต มหนฺตํ อตฺถํ คเหตฺวา ติฏฺติ. ยถา หิ เอกสฺส ปุริสสฺส ตีณิ เขตฺตานิ; เอกํ เขตฺตํ อฏฺกุมฺภํ เทติ, เอกํ โสฬส, เอกํ ทฺวตฺตึส; เตน ตีณิปิ เขตฺตานิ ปฏิชคฺคิตุํ อสกฺโกนฺเตน ทฺเว ฉฑฺเฑตฺวา เอกํ ทฺวตฺตึสกุมฺภทายกเมว ปฏิชคฺคิตพฺพํ; ตตฺเถว กสนวปนนิทฺทานาทีนิ กาตพฺพานิ; ตเทวสฺส อิตเรสุ ทฺวีสุ อุฏฺานกทายํ ทสฺสติ; เอวเมว เสสํ มุขโธวนาทิกมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวาปิ เอตฺเถว ¶ กมฺมํ กาตพฺพํ, โน กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺโต มหนฺตํ อตฺถํ คณฺหิตฺวา ติฏฺตีติ เอตฺตาวตา มชฺฌิมา ปฏิปทา นาม กถิตา.
เอวํ ปฏิปนฺเนนาปิ วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. กมฺมฏฺานฺหิ วิสฺสชฺเชตฺวา จิตฺเต พหิทฺธา วิกฺเขปํ คจฺฉนฺเต กมฺมฏฺานโต ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ. ยถา หิ เอโก ปุริโส สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลภิตฺวา อทฺธานํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค กุมฺภีลมกรคาหรกฺขสสมุฏฺิตาย ¶ คมฺภีรคิริกนฺทราย อุปริ อตฺถตํ เอกปทิกํ ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห คจฺฉนฺโต อกฺกมนปทํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ปริปติตฺวา กุมฺภีลาทิภตฺตํ โหติ, เอวเมว อยมฺปิ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา สจิตฺเต พหิทฺธา วิกฺเขปํ คจฺฉนฺเต กมฺมฏฺานโต ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปุริสสฺส สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลทฺธกาโล วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อาจริยสนฺติเก กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคหิตกาโล; อนฺตรา คมฺภีรคิริกนฺทรา วิย สํสาโร; ตสฺส กุมฺภีลาทีหิ ทฏฺกาโล วิย วฏฺฏมูลกานิ มหาทุกฺขานิ; เอกปทิกทณฺฑกเสตุ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สชฺฌายวีถิ; ตสฺส ปุริสสฺส เอกปทิกํ ¶ ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห อกฺกมนปทํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกนฺตสฺส ปริปติตฺวา กุมฺภีลาทีนํ ภตฺตภาวํ อาปนฺนกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส กมฺมฏฺานโต ปริหายิตฺวา วฏฺฏภยํ สมติกฺกมิตุํ อสมตฺถภาโว เวทิตพฺโพ.
ตสฺมา เกสา มนสิกาตพฺพา. เกเส มนสิกริตฺวา จิตฺตุปฺปาทสฺส พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหิตฺวา สุทฺธจิตฺเตเนว ‘โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’ติ มนสิกาตพฺพํ. เอวํ มนสิกโรนฺโต กมฺมฏฺานโต น ปริหายติ, วฏฺฏภยํ สมติกฺกมติ. โอปมฺมํ ปเนตฺถ ตเทว ปริวตฺเตตฺวา เวทิตพฺพํ. สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวา วฑฺฒึ ลภิตฺวา เฉกสฺส ปุริสสฺส ทณฺฑกเสตุํ อารุยฺห นิวาสนปารุปนํ สํวิธาย ธาตุปตฺถทฺธกายํ กตฺวา โสตฺถินา ปรตีรคมนํ วิย เฉกสฺส ภิกฺขุโน เกเส มนสิกริตฺวา จิตฺตุปฺปาทสฺส พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหิตฺวา สุทฺธจิตฺเตเนว ‘โลมา นขา ทนฺตา ตโจ’ติ มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานโต อปริหายิตฺวา วฏฺฏภยํ สมติกฺกมนํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ พหิทฺธา วิกฺเขปํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมนโต มนสิกาตพฺพํ. ‘เกสา โลมา’ติ ปณฺณตฺตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘ปฏิกูลํ ปฏิกูล’นฺติ สติ เปตพฺพา. ปมํเยว ปน ปฏิกูลโต น อุปฏฺาติ ¶ . ยาว น อุปฏฺาติ ตาว ปณฺณตฺติ น วิสฺสชฺเชตพฺพา. ยทา อุปฏฺาติ ตทา ปณฺณตฺตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘ปฏิกูล’นฺติ มนสิกาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฺจหากาเรหิ ปฏิกูลโต มนสิกาตพฺพา. ตจปฺจกสฺมิฺหิ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสเนว ปฺจวิธมฺปิ ปาฏิกูลฺยํ ลพฺภติ. เสเสสุปิ ยํ ยํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
ตตฺถ เกสาทโย ปฺจ โกฏฺาสา สุภนิมิตฺตํ ราคฏฺานิยํ อิฏฺารมฺมณนฺติ สงฺขํ คตา. เย เกจิ รชฺชนกสตฺตา นาม, สพฺเพ เต อิเมสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ รชฺชนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ มหาชนสฺส รชฺชนฏฺาเน ‘ปฏิกูล’นฺติ อปฺปนํ ปาเปติ. ตตฺถ อปฺปนาปฺปตฺติโต ปฏฺาย ปรโต อกิลมนฺโตว อปฺปนํ ปาปุณาติ.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – ยถา หิ เฉโก ธนุคฺคโห ราชานํ อาราเธตฺวา สตสหสฺสุฏฺานกํ คามวรํ ลภิตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ ตตฺถ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ¶ ทฺวตฺตึส โจเร ทิสฺวา เตสุ ปฺจโจรเชฏฺเก ฆาเตยฺย; เตสํ ฆาติตกาลโต ปฏฺาย เตสุ ทฺเว เอกมคฺคํ ปฏิปชฺชมานา นาม น โหนฺติ; เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ธนุคฺคหสฺส ราชานํ อาราเธตฺวา คามวรํ ลทฺธกาโล วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อาจริยสนฺติเก กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา ิตกาโล; ทฺวตฺตึส โจรา วิย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; ปฺจ โจรเชฏฺกา วิย เกสาทโย ปฺจ; โจรเชฏฺกานํ ฆาติตกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สพฺพสตฺตานํ รชฺชนฏฺาเน ตจปฺจเก ‘ปฏิกูล’นฺติ อปฺปนาย ปาปิตกาโล; เสสโจรานํ ปาณิปฺปหาเรเนว ปลายิตกาโล วิย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺตสฺเสว อปฺปนาปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.
เอวํ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมนฺเตน จ อนุปุพฺพมฺุจนโต มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ – เกเส มนสิกโรนฺเตน มนสิกโรนฺเตเนว เกเสสุ สาเปกฺเขน หุตฺวา โลเมสุ สติ เปเสตพฺพา. ยาว โลมา น อุปฏฺหนฺติ ตาว ‘เกสา เกสา’ติ มนสิกาตพฺพา. ยทา ปน โลมา อุปฏฺหนฺติ ตทา เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา โลเมสุ สติ อุปฏฺเปตพฺพา. เอวํ นขาทีสุปิ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
ตตฺริทํ ¶ โอปมฺมํ – ยถา หิ ชลูกา คจฺฉมานา ยาว ปุรโต ¶ ปติฏฺํ น ลภติ ตาว ปจฺฉโต นงฺคุฏฺเน คหิตฏฺานํ น มฺุจติ; ยทา ปน ปุรโต ปติฏฺํ ลภติ ตทา นงฺคุฏฺํ อุกฺขิปิตฺวา มุเขน คหิตฏฺาเน เปติ; เอวเมว เกเส มนสิกโรนฺเตน มนสิกโรนฺเตเนว เกเสสุ สาเปกฺเขน หุตฺวา โลเมสุ สติ เปเสตพฺพา. ยาว โลมา น อุปฏฺหนฺติ ตาว ‘เกสา เกสา’ติ มนสิกาตพฺพา. ยทา โลมา อุปฏฺหนฺติ ตทา เกเส วิสฺสชฺเชตฺวา โลเมสุ สติ อุปฏฺเปตพฺพา. เอวํ นขาทีสุปิ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ.
เอวํ ปวตฺเตนฺเตน อปฺปนา โหตีติ วุตฺตมนสิการโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ. กถํ? อิทฺหิ อปฺปนากมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตสฺส อปฺปนํ ปาปุณาติ; ปมํเยว ตาว น อุปฏฺาติ; อนมตคฺคสฺมิฺหิ สํสารวฏฺเฏ จ นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตํ จิตฺตํ ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา มตฺถลุงฺเค ปติฏฺาติ. ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน อาคนฺตฺวา เกเสสุ ปติฏฺาติ. มนสิกโรนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ปน โส โส โกฏฺาโส อุปฏฺาติ. สติ ¶ สมาธินาปิ ติฏฺมานา ปวตฺตติ. เตน โย โย โกฏฺาโส อธิกตรํ อุปฏฺาติ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวิคุเณน โยคํ กตฺวา อปฺปนา ปาเปตพฺพา. เอวํ อปฺปนาย ปาปิตกาลโต ปฏฺาย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺโต อปฺปนํ ปาเปติ. ตตฺถ ตาลวนมกฺกโฏว โอปมฺมํ.
อปิเจตฺถ เอวมฺปิ โยชนา เวทิตพฺพา – ทฺวตฺตึสตาลกสฺมิฺหิ ตาลวเน มกฺกโฏ ปฏิวสติ. ตํ คเหตุกาโม ลุทฺโท โกฏิยํ ิตตาลมูเล ตฺวา อุกฺกุฏฺิมกาสิ. มานชาติโก มกฺกโฏ ตํ ตํ ตาลํ ลงฺฆิตฺวา ปริยนฺตตาเล อฏฺาสิ. ลุทฺโท ตตฺถปิ คนฺตฺวา อุกฺกุฏฺิมกาสิ. มกฺกโฏ ปุน ตเถว ปุริมตาเล ปติฏฺาสิ. โส อปราปรํ อนุพนฺธิยมาโน กิลมนฺโต ตสฺส ตสฺเสว ตาลสฺส มูเล ตฺวา อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิกาเล อุฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺโต คจฺฉนฺโต อติกิลมนฺโต เอกสฺส ตาลสฺส มกุฬปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ธนุโกฏิยา วิชฺฌิตฺวา คณฺหนฺโตปิ น ปลายติ.
ตตฺถ ทฺวตฺตึส ตาลา วิย ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา; มกฺกโฏ วิย จิตฺตํ; ลุทฺโท วิย โยคาวจโร; ลุทฺเทน ตาลมูเล ตฺวา ¶ อุกฺกุฏฺิกาเล มานชาติกสฺส มกฺกฏสฺส ปลายิตฺวา ปริยนฺตโกฏิยํ ิตกาโล วิย อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ จ นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตจิตฺตสฺส ‘เกสา’ติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา มตฺถลุงฺเค ปติฏฺานํ; ปริยนฺตโกฏิยํ ตฺวา ¶ อุกฺกุฏฺเ โอริมโกฏึ อาคมนกาโล วิย ‘มตฺถลุงฺค’นฺติ อาวชฺชิตมตฺเต สชฺฌายโสตานุสาเรน คนฺตฺวา เกเสสุ ปติฏฺานํ; อปราปรํ อนุพนฺธิยมานสฺส กิลมนฺตสฺส อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเน อุฏฺานกาโล วิย มนสิกโรนฺตสฺส มนสิกโรนฺตสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ โกฏฺาเส อุปฏฺหนฺเต สติยา ปติฏฺาย ปติฏฺาย คมนํ; ธนุโกฏิยา วิชฺฌิตฺวา คณฺหนฺตสฺสาปิ อปลายนกาโล วิย โย โกฏฺาโส อธิกตรํ อุปฏฺาติ, ตสฺมึ ทฺวิคุณํ มนสิการํ กตฺวา อปฺปนาย ปาปนํ.
ตตฺถ อปฺปนาย ปาปิตกาลโต ปฏฺาย เสสโกฏฺาเสสุ อกิลมนฺโตว อปฺปนํ ปาเปสฺสติ. ตสฺมา ‘ปฏิกูลํ ปฏิกูล’นฺติ ปุนปฺปุนํ อาวชฺชิตพฺพํ สมนฺนาหริตพฺพํ, ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กาตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส จตฺตาโร ขนฺธา ปฏิกูลารมฺมณา โหนฺติ, อปฺปนํ ปาปุณาติ. ปุพฺพภาคจิตฺตานิ ปริกมฺมอุปจารสงฺขาตานิ สวิตกฺกสวิจารานีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. เอกํ ปน โกฏฺาสํ มนสิกโรนฺตสฺส เอกเมว ¶ ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺตติ. ปาฏิเยกฺกํ มนสิกโรนฺตสฺส ทฺวตฺตึส ปมชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ. หตฺเถ คหิตปฺหาวตฺถุ ปากติกเมว.
โส ตํ นิมิตฺตนฺติ โส ภิกฺขุ ตํ กมฺมฏฺานนิมิตฺตํ. อาเสวตีติ เสวติ ภชติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. พหุลีกโรตีติ ปุนปฺปุนํ กโรติ. สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตีติ สุววตฺถิตํ กโรติ. พหิทฺธา กาเย จิตฺตํ อุปสํหรตีติ เอวํ กตฺวา พหิทฺธา ปรสฺส กาเย อตฺตโน จิตฺตํ อุปสํหรติ เปติ เปเสติ.
อตฺถิสฺส กาเยติ อตฺถิ อสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธากาเย จิตฺตํ อุปสํหรตีติ กาเลน อตฺตโน กาเลน ปเรสํ กาเย จิตฺตํ อุปนาเมติ. อตฺถิ ¶ กาเยติ อิทํ ยสฺมา น เอกนฺเตน อตฺตโน กาโย นาปิ ปรสฺเสว กาโย อธิปฺเปโต, ตสฺมา วุตฺตํ. เอตฺถ ปน อตฺตโน ชีวมานกสรีเร ‘ปฏิกูล’นฺติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส อปฺปนาปิ อุปจารมฺปิ ชายติ. ปรสฺส ชีวมานกสรีเร ‘ปฏิกูล’นฺติ มนสิกโรนฺตสฺส เนว อปฺปนา ชายติ, น อุปจารํ. นนุ จ ทสสุ อสุเภสุ อุภยมฺเปตํ ชายตีติ? อาม, ชายติ. ตานิ หิ อนุปาทินฺนกปกฺเข ิตานิ. ตสฺมา ตตฺถ อปฺปนาปิ อุปจารมฺปิ ชายติ. อิทํ ปน อุปาทินฺนกปกฺเข ิตํ. เตเนเวตฺถ อุภยมฺเปตํ น ชายติ. อสุภานุปสฺสนาสงฺขาตา ปน วิปสฺสนาภาวนา โหตีติ เวทิตพฺพา. อิมสฺมึ ปพฺเพ กึ กถิตนฺติ? สมถวิปสฺสนา กถิตา.
อิทาเนตฺถ ¶ เอวํ สพฺพํ มนสิการสาธารณํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ. เอเตสฺหิ –
นิมิตฺตโต ลกฺขณโต, ธาตุโต อถ สฺุโต;
ขนฺธาทิโต จ วิฺเยฺโย, เกสาทีนํ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘นิมิตฺตโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร สฏฺิสตํ นิมิตฺตานิ, เยสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ โกฏฺาสโต ปริคฺคณฺหาติ, เสยฺยถิทํ – เกสสฺส วณฺณนิมิตฺตํ, สณฺานนิมิตฺตํ, ทิสานิมิตฺตํ, โอกาสนิมิตฺตํ, ปริจฺเฉทนิมิตฺตนฺติ ปฺจ นิมิตฺตานิ โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ลกฺขณโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร อฏฺวีสติสตํ ลกฺขณานิ โหนฺติ, เยสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ ลกฺขณโต มนสิกโรติ, เสยฺยถิทํ ¶ – เกเส ถทฺธตฺตลกฺขณํ, อาพนฺธตฺตลกฺขณํ, อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วิตฺถมฺภนลกฺขณนฺติ จตฺตาริ ลกฺขณานิ โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ธาตุโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร ‘‘จตุธาตุโร อยํ, ภิกฺขุ, ปุริโส’’ติ วุตฺตาสุ ธาตูสุ อฏฺวีสติสตํ ธาตุโย โหนฺติ, ยาสํ วเสน โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ ธาตุโต ปริคฺคณฺหาติ, เสยฺยถิทํ – เกเส กกฺขฬตา ปถวีธาตุ, อาพนฺธนตา อาโปธาตุ, อุณฺหตา เตโชธาตุ, วิตฺถมฺภนตา วาโยธาตูติ จตสฺโส ธาตุโย โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘สฺุโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร ฉนฺนวุติ สฺุตา โหนฺติ, ยาสํ วเสน ¶ โยคาวจโร ทฺวตฺตึสาการํ สฺุโต วิปสฺสติ, เสยฺยถิทํ – เกสา สฺุา อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา นิจฺเจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธมฺเมน วาติ. เกเส ตาว อตฺตสฺุตา, อตฺตนิยสฺุตา, นิจฺจภาวสฺุตาติ ติสฺโส สฺุตา โหนฺติ. โลมาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘ขนฺธาทิโต’ติ ทฺวตฺตึสากาเร เกสาทีสุ ขนฺธาทิวเสน ปริคฺคยฺหมาเนสุ เกสา กติ ขนฺธา โหนฺติ, กติ อายตนานิ, กติ ธาตุโย, กติ สจฺจานิ, กติ สติปฏฺานานีติอาทินา นเยน เปตฺถ วินิจฺฉโย วิฺาตพฺโพ.
๓๕๗. เอวํ ¶ อชฺฌตฺตาทิเภทโต ติวิเธน กายานุปสฺสนํ วิตฺถารโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน’’ติอาทีนิ ปทานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อนุปสฺสีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยาย อนุปสฺสนาย กายานุปสฺสี นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตมา อนุปสฺสนา? ยา ปฺา ปชานนาติอาทิ วุตฺตํ. อาตาปีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ปฺา ปชานนาติอาทีนิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อุเปโตติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. อปิจ อาเสวนวเสน อุเปโต, ภาวนาวเสน สุฏฺุ อุเปโตติ สมุเปโต ¶ . อุปาคโต สมุปาคโต, อุปปนฺโน สมฺปนฺโนติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ ทุเกสุ อยเมว นโย. พหุลีการวเสน ปน สมนฺนาคโตติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมินา อาตาเปน อุเปโตติ อาทีสุปิ เอเสว นโย.
วิหรตีติ ปเท ‘ตตฺถ กตโม วิหาโร’ติ ปุจฺฉํ อกตฺวา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย เทเสนฺโต อิริยตีติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อฺตรสมงฺคีภาวโต อิริยติ. เตหิ อิริยาปถจตุกฺเกหิ กายสกฏวตฺตเนน วตฺตติ. เอกํ อิริยาปถทุกฺขํ อปเรน อิริยาปเถน พาธิตฺวา จิรฏฺิติกภาเวน สรีรกฺขนโต ปาเลติ. เอกสฺมึ อิริยาปเถ อสณฺหิตฺวา สพฺพิริยาปถวตนโต ยเปติ. เตน เตน อิริยาปเถน ตถา ตถา กายสฺส ยาปนโต ยาเปติ. จิรกาลวตฺตาปนโต จรติ. อิริยาปเถน อิริยาปถํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ชีวิตหรณโต วิหรติ.
๓๖๒. สฺเวว กาโย โลโกติ ยสฺมึ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, สฺเวว กาโย ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก. ยสฺมา ปนสฺส กาเย ปหียมานํ อภิชฺฌาโทมนสฺสํ เวทนาทีสุปิ ปหียติ เอว, ตสฺมา ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโกติ วุตฺตํ.
สนฺตาติอาทีสุปิ ¶ นิโรธวเสน สนฺตตาย สนฺตา. ภาวนาย สมิตตฺตา สมิตา. วตฺถุปริฺาย อปฺปวตฺติวูปสมวเสน วูปสนฺตา. นิโรธสงฺขาตํ อตฺถํ คตาติ อตฺถงฺคตา. ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺติยา ปฏิพาหิตตฺตา อติวิย อตฺถํ คตาติ อพฺภตฺถงฺคตา. อปฺปิตาติ วินาสิตา, อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อตฺโถ. พฺยปฺปิตาติ สุวินาสิตา, อติวิย อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อตฺโถ. ยถา ปุน น อนฺวสฺสวนฺติ เอวํ โสสิตตฺตา โสสิตา. สุฏฺุ โสสิตาติ วิโสสิตา ¶ , สุกฺขาปิตาติ อตฺโถ. วิคตนฺตา กตาติ พฺยนฺตี กตา. เอตฺถ จ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ, อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย; สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺโธ สมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา, อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๓. เวทนานุปสฺสนานิทฺเทเสปิ ¶ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุขํ เวทนํ เวทยมาโนติอาทีสุ ปน สุขํ เวทนนฺติ กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘อหํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาตีติ อตฺโถ. ตตฺถ กามํ อุตฺตานเสยฺยกาปิ ทารกา ถฺปิวนาทิกาเล สุขํ เวทยมานา ‘สุขํ เวทนํ เวทยามา’ติ ปชานนฺติ, น ปเนตํ เอวรูปํ ชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวรูปฺหิ ชานนํ สตฺตูปลทฺธึ นปฺปชหติ, สตฺตสฺํ น อุคฺฆาเฏติ, กมฺมฏฺานํ วา สติปฏฺานภาวนา วา น โหติ. อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน ชานนํ สตฺตูปลทฺธึ ปชหติ, สตฺตสฺํ อุคฺฆาเฏติ, กมฺมฏฺานฺเจว สติปฏฺานภาวนา จ โหติ. ‘อิทฺหิ โก เวทยติ, กสฺส เวทนา, กึ การณา เวทนา’ติ เอวํ สมฺปชานเวทิยนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ตตฺถ โก เวทยตีติ? น โกจิ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา เวทยติ. กสฺส เวทนาติ? น กสฺสจิ สตฺตสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา เวทนา. กึ การณา เวทนาติ? วตฺถุอารมฺมณา จ ปเนสา เวทนา. ตสฺมา เอส เอวํ ปชานาติ – ‘ตํ ตํ สุขาทีนํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยติ; ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ ¶ อุปาทาย ‘อหํ เวทยามี’ติ โวหารมตฺตํ โหตี’ติ. เอวํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยตีติ สลฺลกฺเขนฺโต ‘เอส สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ, จิตฺตลปพฺพเต อฺตโร เถโร วิย.
เถโร กิร อผาสุกกาเล พลวเวทนาย นิตฺถุนนฺโต อปราปรํ ปริวตฺตติ. ตเมโก ทหโร อาห ¶ – ‘‘กตรํ โว, ภนฺเต, านํ รุชตี’’ติ? ‘‘อาวุโส, ปาฏิเยกฺกํ รุชนฏฺานํ นาม นตฺถิ; วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยตี’’ติ. ‘‘เอวํ ชานนกาลโต ปฏฺาย อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ โน, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อธิวาเสมิ, อาวุโส’’ติ. ‘‘อธิวาสนา, ภนฺเต, เสยฺโย’’ติ. เถโร อธิวาเสสิ. วาโต ยาว หทยา ผาเลสิ. มฺจเก อนฺตานิ ราสีกตานิ อเหสุํ. เถโร ทหรสฺส ทสฺเสสิ – ‘‘วฏฺฏตาวุโส, เอตฺตกา อธิวาสนา’’ติ? ทหโร ตุณฺหี อโหสิ. เถโร วีริยสมาธึ โยเชตฺวา สหปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ.
ยถา ¶ จ สุขํ, เอวํ ทุกฺขํ…เป… นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ปชานาติ. อิติ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน กเถสิ. ทุวิธฺหิ กมฺมฏฺานํ – รูปกมฺมฏฺานํ อรูปกมฺมฏฺานฺจ; รูปปริคฺคโห อรูปปริคฺคโหติปิ เอตเทว วุจฺจติ. ตตฺถ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต สงฺเขปมนสิการวเสน วา วิตฺถารมนสิการวเสน วา จตุธาตุววตฺถานํ กเถสิ. ตทุภยมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค สพฺพาการโต ทสฺสิตเมว.
อรูปกมฺมฏฺานํ ปน กเถนฺโต เยภุยฺเยน เวทนาวเสน กเถสิ. ติวิโธ หิ อรูปกมฺมฏฺาเน อภินิเวโส – ผสฺสวเสน, เวทนาวเสน, จิตฺตวเสนาติ. กถํ? เอกจฺจสฺส หิ สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปริคฺคหิเต รูปกมฺมฏฺาเน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ ปมาภินิปาโต ตํ อารมฺมณํ ผุสนฺโต อุปฺปชฺชมาโน ผสฺโส ปากโฏ โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ อนุภวนฺตี อุปฺปชฺชมานา เวทนา ปากฏา โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา วิชานนฺตํ อุปฺปชฺชมานํ วิฺาณํ ปากฏํ โหติ.
ตตฺถ ¶ ยสฺส ผสฺโส ปากโฏ โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ ผสฺโสว อุปฺปชฺชติ; เตน สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ อนุภวมานา เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานนมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส เวทนา ปากฏา โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ เวทนาว อุปฺปชฺชติ; ตาย สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานนมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานนมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส วิฺาณํ ปากฏํ โหติ, โสปิ ‘น เกวลํ วิฺาณเมว อุปฺปชฺชติ; เตน สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ ¶ อุปฺปชฺชติ, อนุภวมานา เวทนาปิ, สฺชานนมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ อุปฺปชฺชตี’ติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ.
โส ‘อิเม ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา กึนิสฺสิตา’ติ อุปธาเรนฺโต ‘วตฺถุนิสฺสิตา’ติ ปชานาติ. วตฺถุ นาม กรชกาโย; ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถสิตํ, เอตฺถปฏิพทฺธ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕). โส อตฺถโต ภูตานิ ¶ เจว อุปาทารูปานิ จ. เอวเมตฺถ วตฺถุ รูปํ, ผสฺสปฺจมกา นามนฺติ นามรูปเมว ปสฺสติ. รูปฺเจตฺถ รูปกฺขนฺโธ, นามํ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธาติ ปฺจกฺขนฺธมตฺตํ โหติ. นามรูปวินิมุตฺตา หิ ปฺจกฺขนฺธา ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ วา นามรูปํ นตฺถิ.
โส ‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา กึเหตุกา’ติ อุปปริกฺขนฺโต ‘อวิชฺชาทิเหตุกา’ติ ปสฺสติ; ตโต ปจฺจโย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ อิทํ; อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถิ; สุทฺธสงฺขารปฺุชมตฺตเมวาติ สปฺปจฺจยนามรูปวเสนว ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ สมฺมสนฺโต วิจรติ. โส ‘อชฺช อชฺชา’ติ ปฏิเวธํ อากงฺขมาโน ตถารูเป ทิวเส อุตุสปฺปายํ, ปุคฺคลสปฺปายํ, โภชนสปฺปายํ, ธมฺมสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโนว วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอวํ อิเมสํ ติณฺณมฺปิ ชนานํ ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ กถิตํ โหติ.
อิธ ปน ภควา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน ¶ กเถสิ. ผสฺสวเสน วา หิ วิฺาณวเสน วา กถิยมานํ น ปากฏํ โหติ, อนฺธการํ วิย ขายติ. เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหติ. กสฺมา? เวทนานํ อุปฺปตฺติปากฏตาย. สุขทุกฺขเวทนานฺหิ อุปฺปตฺติ ปากฏา. ยทา สุขํ อุปฺปชฺชติ, สกลสรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ สตโธตสปฺปึ ขาทาปยนฺตํ วิย, สตปากเตลํ มกฺขาปยมานํ วิย, อุทกฆฏสหสฺเสน ปริฬาหํ นิพฺพาปยมานํ วิย, ‘อโห สุขํ! อโห สุขนฺติ’! วาจํ นิจฺฉารยมานเมว อุปฺปชฺชติ. ยทา ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, สกลสรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ ตตฺตผาลํ ปเวเสนฺตํ วิย, วิลีนตมฺพโลเหน อาสิฺจนฺตํ วิย, สุกฺขติณวนปฺปติมฺหิ อรฺเ ทารุอุกฺกากลาปํ ปกฺขิปมานํ วิย ‘อโห ทุกฺขํ! อโห ทุกฺขนฺติ!’ วิปฺปลาปยมานเมว อุปฺปชฺชติ. อิติ สุขทุกฺขเวทนานํ อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ.
อทุกฺขมสุขา ¶ ปน ทุทฺทีปนา อนฺธการา อวิภูตา. สา สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ. ยถา กึ? อนฺตรา ปิฏฺิปาสาณํ อารุหิตฺวา ปลายนฺตสฺส มิคสฺส อนุปถํ คจฺฉนฺโต มิคลุทฺทโก ปิฏฺิปาสาณสฺส โอรภาเค อปรภาเคปิ ปทํ ทิสฺวา มชฺเฌ อปสฺสนฺโตปิ ¶ ‘อิโต อารุฬฺโห, อิโต โอรุฬฺโห, มชฺเฌ ปิฏฺิปาสาเณ อิมินา ปเทเสน คโต ภวิสฺสตี’ติ นยโต ชานาติ. เอวํ อารุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย หิ สุขาย เวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ; โอรุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย ทุกฺขาย เวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ. ‘อิโต อารุฬฺโห, อิโต โอรุฬฺโห, มชฺเฌ เอวํ คโต’ติ นยโต คหณํ วิย สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ.
เอวํ ภควา ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ; น เกวลฺจ อิเธว เอวํ ทสฺเสติ, ทีฆนิกายมฺหิ มหานิทาเน, สกฺกปฺเห, มหาสติปฏฺาเน ¶ , มชฺฌิมนิกายมฺหิ สติปฏฺาเน จ จูฬตณฺหาสงฺขเย, มหาตณฺหาสงฺขเย, จูฬเวทลฺเล, มหาเวทลฺเล, รฏฺปาลสุตฺเต, มาคณฺฑิยสุตฺเต, ธาตุวิภงฺเค, อาเนฺชสปฺปาเย, สํยุตฺตนิกายมฺหิ จูฬนิทานสุตฺเต, รุกฺโขปเม, ปริวีมํสนสุตฺเต, สกเล เวทนาสํยุตฺเตติ เอวํ อเนเกสุ สุตฺเตสุ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ. ยถา จ เตสุ เตสุ, เอวํ อิมสฺมิมฺปิ สติปฏฺานวิภงฺเค ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ.
ตตฺถ สุขํ เวทนนฺติอาทีสุ อยํ อปโรปิ ปชานนปริยาโย – สุขํ เวทนํ เวทยามีติ ปชานาตีติ สุขเวทนากฺขเณ ทุกฺขาย เวทนาย อภาวโต สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. เตน ยา ปุพฺเพ ภูตปุพฺพา ทุกฺขา เวทนา, ตสฺสา อิทานิ อภาวโต อิมิสฺสา จ สุขาย อิโต ปมํ อภาวโต เวทนา นาม อนิจฺจา อทฺธุวา วิปริณามธมฺมาติ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, สุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ ¶ , อคฺคิเวสฺสน, สมเย ทุกฺขํ…เป… อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, อทุกฺขมสุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. สุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน ¶ , เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. ทุกฺขาปิ โข…เป… อทุกฺขมสุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา…เป… นิโรธธมฺมา. เอวํ ปสฺสํ, อคฺคิเวสฺสน, สุตวา อริยสาวโก สุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ทุกฺขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, อทุกฺขมสุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ; ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๐๕).
สามิสํ ¶ วา สุขนฺติอาทีสุ สามิสา สุขา นาม ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา ฉ เคหสฺสิตโสมนสฺสเวทนา; นิรามิสา สุขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสเวทนา; สามิสา ทุกฺขา นาม ฉ เคหสฺสิตโทมนสฺสเวทนา; นิรามิสา ทุกฺขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตโทมนสฺสเวทนา; สามิสา อทุกฺขมสุขา นาม ฉ เคหสิตอุเปกฺขาเวทนา; นิรามิสา อทุกฺขมสุขา นาม ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตอุเปกฺขาเวทนา. ตาสํ วิภาโค อุปริปณฺณาเส ปาฬิยํ (ม. นิ. ๓.๓๐๔ อาทโย) อาคโตเยว. โส ตํ นิมิตฺตนฺติ โส ตํ เวทนานิมิตฺตํ. พหิทฺธา เวทนาสูติ ปรปุคฺคลสฺส เวทนาสุ. สุขํ เวทนํ เวทยมานนฺติ ปรปุคฺคลํ สุขเวทนํ เวทยมานํ. อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ กาเลน อตฺตโน กาเลน ปรสฺส เวทนาสุ จิตฺตํ อุปสํหรติ. อิมสฺมึ วาเร ยสฺมา เนว อตฺตา, น ปโร นิยมิโต; ตสฺมา เวทนาปริคฺคหมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ สุขา เวทนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิมสฺมึ ปน ปพฺเพ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตาติ.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๕. จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทเสปิ ¶ เหฏฺา วุตฺตสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สราคํ วา จิตฺตนฺติอาทีสุ ปน สราคนฺติ อฏฺวิธํ โลภสหคตํ. วีตราคนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. อิทํ ปน ยสฺมา สมฺมสนํ น ¶ ธมฺมสโมธานํ, ตสฺมา อิธ เอกปเทปิ โลกุตฺตรํ น ลพฺภติ. ยสฺมา ปหาเนกฏฺวเสน ราคาทีหิ สห วตฺตนฺติ ปหียนฺติ, ตสฺมา ทฺวีสุ ปเทสุ นิปฺปริยาเยน น ลพฺภนฺตีติ น คหิตานิ. เสสานิ จตฺตาริ อกุสลจิตฺตานิ เนว ปุริมปทํ, น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺติ. สโทสนฺติ ทุวิธํ โทมนสฺสสหคตํ. วีตโทสนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. เสสานิ ทส อกุสลจิตฺตานิ เนว ปุริมปทํ, น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺติ. สโมหนฺติ วิจิกิจฺฉาสหคตฺเจว อุทฺธจฺจสหคตฺจาติ ทุวิธํ. ยสฺมา ปน โมโห สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ¶ เสสานิปิ อิธ วฏฺฏนฺติ เอว. อิมสฺมึ เยว หิ ทุเก ทฺวาทสากุสลจิตฺตานิ ปริยาทิณฺณานีติ. วีตโมหนฺติ โลกิยกุสลาพฺยากตํ. สํขิตฺตนฺติ ถินมิทฺธานุปติตํ. เอตฺหิ สงฺกุฏิตจิตฺตํ นาม. วิกฺขิตฺตนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ. เอตฺหิ ปสฏจิตฺตํ นาม.
มหคฺคตนฺติ รูปาวจรํ อรูปาวจรฺจ. อมหคฺคตนฺติ กามาวจรํ. สอุตฺตรนฺติ กามาวจรํ. อนุตฺตรนฺติ รูปาวจรฺจ อรูปาวจรฺจ. ตตฺราปิ สอุตฺตรํ รูปาวจรํ, อนุตฺตรํ อรูปาวจรเมว. สมาหิตนฺติ ยสฺส อปฺปนาสมาธิ อุปจารสมาธิ วา อตฺถิ. อสมาหิตนฺติ อุภยสมาธิวิรหิตํ. วิมุตฺตนฺติ ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺตีหิ วินิมุตฺตํ. อวิมุตฺตนฺติ อุภยวิมุตฺติรหิตํ; สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺตีนํ ปน อิธ โอกาโสว นตฺถิ. สราคมสฺส จิตฺตนฺติ สราคํ อสฺส จิตฺตํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. อิมสฺมิมฺปิ ปพฺเพ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตาติ.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
นีวรณปพฺพวณฺณนา
๓๖๗. เอตฺตาวตา ¶ ยสฺมา กายานุปสฺสนาย รูปกฺขนฺธปริคฺคโหว กถิโต, เวทนานุปสฺสนาย เวทนากฺขนฺธปริคฺคโหว จิตฺตานุปสฺสนาย วิฺาณกฺขนฺธปริคฺคโหว ตสฺมา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมสีเสน สฺาสงฺขารกฺขนฺธปริคฺคหมฺปิ กเถตุํ ธมฺมานุปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต กถฺจ ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺตนฺติ อภิณฺหสมุทาจารวเสน สํวิชฺชมานํ. อสนฺตนฺติ อสมุทาจารวเสน ¶ วา ปหีนตฺตา วา อวิชฺชมานํ. ยถา จาติ เยน การเณน กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ. ตฺจ ปชานาตีติ ตฺจ การณํ ปชานาติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ สุภนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาเรน ¶ กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ. สุภนิมิตฺตํ นาม สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตํ, สุภารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโร นาม อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิกาโร, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วา ทุกฺเข สุขนฺติ วา อนตฺตนิ อตฺตาติ วา อสุเภ สุภนฺติ วา มนสิกาโร. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อสุภนิมิตฺเต ปน โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. อสุภนิมิตฺตํ นาม อสุภมฺปิ อสุภนิมิตฺตํ, อสุภารมฺมณมฺปิ อสุภนิมิตฺตํ. โยนิโสมนสิกาโร นาม อุปายมนสิกาโร ปถมนสิกาโร, อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติ วา ทุกฺเข ทุกฺขนฺติ วา อนตฺตนิ อนตฺตาติ วา อสุเภ อสุภนฺติ วา มนสิกาโร. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต กามจฺฉนฺโท ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อสุภนิมิตฺตํ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมนาหาโร ¶ อนุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, อสุภภาวนานุโยโค, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. ทสวิธฺหิ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ, ภาเวนฺตสฺสาปิ; อินฺทฺริเยสุ ปิหิตทฺวารสฺสาปิ ¶ ; จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อาโลปานํ โอกาเส สติ อุทกํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลตาย โภชเน มตฺตฺุโนปิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓);
อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถรสทิเส อสุภภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ กามจฺฉนฺโท ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ ทสอสุภนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา กามจฺฉนฺทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
ปฏิฆนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาเรน ปน พฺยาปาทสฺส อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ ปฏิฆมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ นาม; ปฏิฆารมฺมณมฺปิ ปฏิฆนิมิตฺตํ. อโยนิโสมนสิกาโร สพฺพตฺถ เอกลกฺขโณว. ตํ ตสฺมึ นิมิตฺเต พหุลํ ปวตฺตยโต พฺยาปาโท อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปฏิฆนิมิตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
เมตฺตาย ปน เจโตวิมุตฺติยา โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. ตตฺถ เมตฺตาติ วุตฺเต อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ; เจโตวิมุตฺตีติ อปฺปนาว. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณว. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต พฺยาปาโท ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา พฺยาปาทสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒ โถกํ วิสทิสํ).
อปิจ ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, เมตฺตาภาวนานุโยโค, กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณา, ปฏิสงฺขานพหุลีกตา ¶ , กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณานฺหิ อฺตรวเสน เมตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ. โอธิโส อโนธิโส ทิสาผรณวเสน เมตฺตํ ภาเวนฺตสฺสาปิ. ‘ตฺวํ เอตสฺส กุทฺโธ กึ กริสฺสสิ, กิมสฺส สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสสิ? นนุ ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสสิ? ปรสฺส กุชฺฌนํ นาม วีตจฺจิตงฺคารตตฺตอโยสลากคูถาทีนิ คเหตฺวา ปรสฺส ปหริตุกามตาสทิสํ โหติ. เอโสปิ ตว กุทฺโธ กึ กริสฺสติ? กึ เต สีลาทีนิ วินาเสตุํ สกฺขิสฺสติ? เอส อตฺตโน กมฺเมนาคนฺตฺวา อตฺตโน กมฺเมเนว คมิสฺสติ; อปฺปฏิจฺฉิตปเหณกํ วิย ปฏิวาตขิตฺตรโชมุฏฺิ วิย ¶ จ เอตสฺเสเวส โกโธ มตฺถเก ปติสฺสตี’ติ. เอวํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ, อุภยกมฺมสฺสกตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฏิสงฺขาเน ิตสฺสาปิ, อสฺสคุตฺตตฺเถรสทิเส เมตฺตาภาวนารเต กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ พฺยาปาโท ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ เมตฺตานิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา พฺยาปาทสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
อรตีติอาทีสุ อโยนิโสมนสิกาเรน ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาโท โหติ. อรติ นาม อุกฺกณฺิตตา. ตนฺที นาม กายาลสิยตา. วิชมฺภิกา นาม กายวินามนา. ภตฺตสมฺมโท นาม ภตฺตมุจฺฉา ภตฺตปริฬาโห. เจตโส ลีนตฺตํ นาม จิตฺตสฺส ลีนากาโร. อิเมสุ อรติอาทีสุ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อรติ ตนฺที วิชมฺภิกา ภตฺตสมฺมโท เจตโส จ ลีนตฺตํ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาทาย ¶ , อุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อารมฺภธาตุอาทีสุ ปน โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. อารมฺภธาตุ นาม ปมารมฺภวีริยํ. นิกฺกมธาตุ นาม โกสชฺชโต ¶ นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตุ นาม ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตรํ. อิมสฺมึ ติปฺปเภเท วีริเย โยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต ถินมิทฺธํ ปหียติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ, นิกฺกมธาตุ, ปรกฺกมธาตุ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ถินมิทฺธสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – อติโภชเน ¶ นิมิตฺตคฺคาโห, อิริยาปถสมฺปริวตฺตนตา, อาโลกสฺามนสิกาโร, อพฺโภกาสวาโส, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. อาหรหตฺถก ภุตฺตวมิตก ตตฺรวฏฺฏก อลํสาฏก กากมาสกโภชนํ ภฺุชิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส หิ สมณธมฺมํ กโรโต ถินมิทฺธํ มหาหตฺถี วิย โอตฺถรนฺตํ อาคจฺฉติ. จตุปฺจอาโลปโอกาสํ ปน เปตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา ยาปนสีลสฺส ภิกฺขุโน ตํ น โหตีติ อติโภชเน นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ. ยสฺมึ อิริยาปเถ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ ตโต อฺํ ปริวตฺเตนฺตสฺสาปิ, รตฺตึ จนฺทาโลกทีปาโลกอุกฺกาโลเก ทิวา สูริยาโลกํ มนสิกโรนฺตสฺสาปิ, อพฺโภกาเส วสนฺตสฺสาปิ, มหากสฺสปตฺเถรสทิเส ปหีนถินมิทฺเธ กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ ถินมิทฺธํ ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส ถินมิทฺธสฺส อรหตฺตมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
เจตโส อวูปสเม อโยนิโสมนสิกาเรน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาโท โหติ. อวูปสโม นาม อวูปสนฺตากาโร; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมเวตํ อตฺถโต. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, เจตโส อวูปสโม. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ¶ อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
สมาธิสงฺขาเต ปน เจตโส วูปสเม โยนิโสมนสิกาเรนสฺส ปหานํ โหติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, เจตโส วูปสโม. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, วุฑฺฒเสวิตา ¶ , กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ. กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินยปฺตฺติยํ จิณฺณวสีภาวตาย ปกตฺุโนปิ, วุฑฺเฒ มหลฺลกตฺเถเร อุปสงฺกมนฺตสฺสาปิ, อุปาลิตฺเถรสทิเส วินยธเร กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ; านนิสชฺชาทีสุ กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจ อุทฺธจฺจสฺส อรหตฺตมคฺเคน กุกฺกุจฺจสฺส อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
วิจิกิจฺฉาานีเยสุ ธมฺเมสุ อโยนิโสมนสิกาเรน วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ. วิจิกิจฺฉาานียา ธมฺมา นาม ปุนปฺปุนํ วิจิกิจฺฉาย การณตฺตา วิจิกิจฺฉาว. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการํ พหุลํ ปวตฺตยโต วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, วิจิกิจฺฉาานียา ธมฺมา. ตตฺถ อโยนิโสมนสิการพหุลีกาโร ¶ – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
กุสลาทิธมฺเมสุ ¶ โยนิโสมนสิกาเรน ปนสฺสา ปหานํ โหติ. เตนาห ภควา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา, สาวชฺชานวชฺชา ธมฺมา, หีนปฺปณีตา ธมฺมา, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมนาหาโร อนุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนาย วา วิจิกิจฺฉาย ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).
อปิจ ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺติ – พหุสฺสุตตา, ปริปุจฺฉกตา, วินเย ปกตฺุตา, อธิโมกฺขพหุลตา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถาติ. พาหุสจฺเจนปิ หิ เอกํ วา…เป… ปฺจ วา นิกาเย ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ. ตีณิ รตนานิ อารพฺภ ปริปุจฺฉาพหุลสฺสาปิ, วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสาปิ, ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาปิ ¶ , สทฺธาธิมุตฺเต วกฺกลิตฺเถรสทิเส กลฺยาณมิตฺเต เสวนฺตสฺสาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ. านนิสฺสชฺชาทีสุ ติณฺณํ รตนานํ คุณนิสฺสิตสปฺปายกถายปิ ปหียติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉ ธมฺมา วิจิกิจฺฉาย ปหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อิเมหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย โสตาปตฺติมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท โหตีติ ปชานาติ.
นีวรณปพฺพวณฺณนา.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา
โพชฺฌงฺคปพฺเพ สนฺตนฺติ ปฏิลาภวเสน วิชฺชมานํ. อสนฺตนฺติ อปฺปฏิลาภวเสน อวิชฺชมานํ. ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺสาติอาทีสุ ปน สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ตาว –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๘๓) – เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ สติเยว สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. โยนิโสมนสิกาโร วุตฺตลกฺขโณเยว. ตํ ตตฺถ พหุลํ ปวตฺตยโต สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ.
อปิจ จตฺตาโร ธมฺมา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สติสมฺปชฺํ, มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนตา, อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อภิกฺกนฺตาทีสุ หิ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺเน, ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส มุฏฺสฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน, ติสฺสทตฺตตฺเถรอภยตฺเถรสทิเส อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคเล เสวเนน, านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เอวํ จตูหิ การเณหิ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปน –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา…เป… กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ.
อปิจ ¶ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉกตาติ ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานสมถวิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา. วตฺถุวิสทกิริยาติ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ ¶ วา อุสฺสนฺนโทสฺเจว เสทมลมกฺขิตฺจ, ตทา อชฺฌตฺติกํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ¶ ปน จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ, ตทา พาหิรํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ตสฺมา เกสาทิเฉทเนน อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ สรีรสลฺลหุกภาวกรเณน, อุจฺฉาทนนฺหาปเนน จ อชฺฌตฺติกวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. สูจิกมฺมโธวนรชนปริภณฺฑกรณาทีหิ พาหิรวตฺถุ วิสทํ กาตพฺพํ. เอตสฺมิฺหิ อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ; อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. เตน วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสทกิริยา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตตี’’ติ.
อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ, สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ ¶ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ. ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺราปิ โสณตฺเถรวตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา.
วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุทฺธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ ‘จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว กุสลํ โหตี’ติ อติธาวิตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ อกโรนฺโต นิรเย อุปฺปชฺชติ. อุภินฺนํ ปน สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ, สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา, โกสชฺชํ อธิภวติ. พลววีริยํ มนฺทสมาธึ, วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา, อุทฺธจฺจํ อธิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ. วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ ¶ ¶ . อปิจ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ โส สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ.
สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตาย อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต, โกสชฺชปกฺขิเกน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. ตสฺมา สา, โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ, สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘สติ จ ปน สพฺพตฺถิกา วุตฺตา ภควตา. กึ การณา? จิตฺตฺหิ สติปฏิสรณํ, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา ¶ จ สติ; น วินา สติยา จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคโห โหตี’’ติ.
ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานํ ทุมฺเมธปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม สมปฺาสลกฺขณปริคฺคาหิกาย อุทยพฺพยปฺาย สมนฺนาคตปุคฺคลเสวนา. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา นาม คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ นิกฺกมธาตุ ปรกฺกมธาตุ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ.
อปิจ ¶ เอกาทส ธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – อปายภยปจฺจเวกฺขณตา, อานิสํสทสฺสาวิตา, คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ปิณฺฑปาตาปจายนตา ¶ , ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
ตตฺถ นิรเยสุ ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺาย มหาทุกฺขํ อนุภวนกาเลปิ, ติรจฺฉานโยนิยํ ชาลกฺขิปกุมีนาทีหิ คหิตกาเลปิ, ปาจนกณฺฏกาทิปฺปหาราวิตุนฺนสฺส ปน สกฏวหนาทิกาเลปิ, เปตฺติวิสเย อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ เอกํ พุทฺธนฺตรมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ อาตุรีภูตกาเลปิ, กาลกฺชิกอสุเรสุ สฏฺิหตฺถอสีติหตฺถปฺปมาเณน ¶ อฏฺิจมฺมมตฺเตเนว อตฺตภาเวน วาตาตปาทิทุกฺขานุภวนกาเลปิ น สกฺกา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปฺปาเทตุํ. ‘อยเมว เต, ภิกฺขุ, กาโล วีริยกรณายา’ติ เอวํ อปายภยํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. ‘น สกฺกา กุสีเตน นว โลกุตฺตรธมฺมา ลทฺธุํ; อารทฺธวีริเยเนว สกฺกา; อยมานิสํโส วีริยสฺสา’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิโนปิ อุปฺปชฺชติ. ‘สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธมหาสาวเกเหว เต คตมคฺโค คนฺตพฺโพ; โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’นฺติ เอวํ คมนวีถึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. ‘เย ตํ ปิณฺฑปาตาทีหิ อุปฏฺหนฺติ, อิเม เต มนุสฺสา เนว าตกา, น ทาสกมฺมกรา, นาปิ ตํ นิสฺสาย ‘ชีวิสฺสามา’ติ เต ปณีตานิ ปิณฺฑปาตาทีนิ เทนฺติ; อถ โข อตฺตโน การานํ มหปฺผลตํ ปจฺจาสึสมานา เทนฺติ. สตฺถาราปิ ‘อยํ อิเม ปจฺจเย ปริภฺุชิตฺวา กายทฬฺหีพหุโล สุขํ วิหริสฺสตี’ติ น เอวฺจ สมฺปสฺสตา ตุยฺหํ ปจฺจยา อนฺุตา; อถ โข ‘อยํ อิเม ปริภฺุชมาโน สมณธมฺมํ กตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจิสฺสตี’ติ เต ปจฺจยา อนฺุาตา. โส ทานิ ตฺวํ กุสีโต วิหรนฺโต น ตํ ปิณฺฑปาตํ อปจายิสฺสสิ. อารทฺธวีริยสฺเสว หิ ปิณฺฑปาตาปจายนํ นาม โหตี’ติ เอวํ ปิณฺฑปาตาปจายนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ, มหามิตฺตตฺเถรสฺส วิย.
เถโร กิร กสฺสกเลเณ นาม ปฏิวสติ. ตสฺส จ โคจรคาเม เอกา มหาอุปาสิกา เถรํ ปุตฺตํ กตฺวา ปฏิชคฺคติ. สา เอกทิวสํ อรฺํ คจฺฉนฺตี ธีตรํ อาห – ‘‘อมฺม, อสุกสฺมึ าเน ปุราณตณฺฑุลา, อสุกสฺมึ ขีรํ, อสุกสฺมึ สปฺปิ, อสุกสฺมึ ผาณิตํ. ตว ¶ ภาติกสฺส อยฺยมิตฺตสฺส อาคตกาเล ภตฺตํ ปจิตฺวา ขีรสปฺปิผาณิเตหิ สทฺธึ เทหิ ¶ , ตฺวฺจ ภฺุเชยฺยาสี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน กึ ภฺุชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘อหํ ปน หิยฺโย ปกฺกํ ปาริวาสิกภตฺตํ กฺชิเยน ภุตฺตมฺหี’’ติ. ‘‘ทิวา กึ ภฺุชิสฺสสิ, อมฺมา’’ติ? ‘‘สากปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กณตณฺฑุเลหิ อมฺพิลยาคุํ ปจิตฺวา เปหิ, อมฺมา’’ติ.
เถโร จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สทฺทํ สุตฺวา อตฺตานํ โอวทิ – ‘มหาอุปาสิกา กิร กฺชิเยน ¶ ปาริวาสิกภตฺตํ ภฺุชิ; ทิวาปิ กณปณฺณมฺพิลยาคุํ ภฺุชิสฺสติ; ตุยฺหํ อตฺถาย ปน ปุราณตณฺฑุลาทีนิ อาจิกฺขติ. ตํ นิสฺสาย โข ปเนสา เนว เขตฺตํ, น วตฺถุํ, น ภตฺตํ, น วตฺถํ ปจฺจาสีสติ; ติสฺโส ปน สมฺปตฺติโย ปตฺถยมานา เทติ. ตฺวํ เอติสฺสา ตา สมฺปตฺติโย ทาตุํ สกฺขิสฺสสิ, น สกฺขิสฺสสีติ? อยํ โข ปน ปิณฺฑปาโต ตยา สราเคน สโทเสน สโมเหน น สกฺกา ภฺุชิตุ’นฺติ ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คณฺิกํ มฺุจิตฺวา นิวตฺติตฺวา กสฺสกเลณเมว คนฺตฺวา ปตฺตํ เหฏฺามฺเจ จีวรํ จีวรวํเส เปตฺวา ‘อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’ติ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิสีทิ. ทีฆรตฺตํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นิวุตฺถภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปุเรภตฺตเมว อรหตฺตํ ปตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ มหาขีณาสโว สิตํ กโรนฺโตว นิสีทิ. เลณทฺวาเร รุกฺขมฺหิ อธิวตฺถา เทวตา –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริสา’’ติ.
อุทานํ อุทาเนตฺวา – ‘ภนฺเต, ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ตุมฺหาทิสานํ อรหนฺตานํ ภิกฺขํ ทตฺวา มหลฺลกิตฺถิโย ทุกฺขา มุจฺจิสฺสนฺตี’ติ อาห.
เถโร อุฏฺหิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา กาลํ โอโลเกนฺโต ‘ปาโตเยวา’ติ ตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปาวิสิ. ทาริกาปิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ‘อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสติ, อิทานิ เม ภาตา อาคมิสฺสตีติ ทฺวารํ วิวริตฺวา โอโลกยมานา นิสีทิ. สา, เถเร ฆรทฺวารํ สมฺปตฺเต, ปตฺตํ คเหตฺวา สปฺปิผาณิตโยชิตสฺส ขีรปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา หตฺเถ เปสิ. เถโร ‘สุขํ โหตู’ติ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. สาปิ ตํ โอโลกยมานา อฏฺาสิ.
เถรสฺส ¶ ¶ หิ ตทา อติวิย ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ อโหสิ, วิปฺปสนฺนานิ อินฺทฺริยานิ, มุขํ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย อติวิย วิโรจิตฺถ. มหาอุปาสิกา อรฺา อาคนฺตฺวา – ‘‘กึ, อมฺม, ภาติโก เต อาคโต’’ติ ปุจฺฉิ. สา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อุปาสิกา ‘อชฺช เม ปุตฺตสฺส ปพฺพชิตกิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’นฺติ ตฺวา ‘‘อภิรมติ เต, อมฺม, ภาตา พุทฺธสาสเน, น อุกฺกณฺตี’’ติ อาห.
มหนฺตํ โข ปเนตํ สตฺถุ ทายชฺชํ ยทิทํ สตฺต อริยธนานิ นาม. ตํ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุํ. ยถา หิ ¶ วิปฺปฏิปนฺนํ ปุตฺตํ มาตาปิตโร ‘อยํ อมฺหากํ อปุตฺโต’ติ ปริพาหิรํ กโรนฺติ; โส เตสํ อจฺจเยน ทายชฺชํ น ลภติ; เอวํ กุสีโตปิ อิทํ อริยธนทายชฺชํ น ลภติ, อารทฺธวีริโยว ลภตีติ ทายชฺชมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ. ‘มหา โข ปน เต สตฺถา. สตฺถุโน หิ เต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคณฺหนกาเลปิ อภินิกฺขมเนปิ อภิสมฺโพธิยมฺปิ ธมฺมจกฺกปวตฺตนยมกปาฏิหาริยเทโวโรหนอายุสงฺขารโวสฺสชฺชเนสุปิ ปรินิพฺพานกาเลปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. ยุตฺตํ นุ เต เอวรูปสฺส สตฺถุโน สาสเน ปพฺพชิตฺวา กุสีเตน ภวิตุ’นฺติ เอวํ สตฺถุมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.
‘ชาติยาปิ ตฺวํ อิทานิ น ลามกชาติโกสิ; อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปเวณิยา อาคเต โอกฺกากราชวํเส ชาโต; สิริสุทฺโธทนมหาราชสฺส จ มหามายาเทวิยา จ นตฺตา; ราหุลภทฺทสฺส กนิฏฺโ. ตยา นาม เอวรูเปน ชินปุตฺเตน หุตฺวา น ยุตฺตํ กุสีเตน วิหริตุ’นฺติ เอวํ ชาติมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ. ‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เจว อสีติมหาสาวกา จ วีริเยเนว โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌึสุ. ตฺวํ เอเตสํ สพฺรหฺมจารีนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชสิ, นปฺปฏิปชฺชสี’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริมหตฺตํ ปจฺจเวกฺขโตปิ อุปฺปชฺชติ.
กุจฺฉึ ปูเรตฺวา ิตอชครสทิเส วิสฺสฏฺกายิกเจตสิกวีริเย กุสีตปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ อารทฺธวีริเย ปหิตตฺเต ปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ านนิสชฺชาทีสุ วิริยุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา นาม. ตสฺสา อุปฺปาทกมนสิกาโร ¶ โยนิโสมนสิกาโร นาม.
อปิจ เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
พุทฺธคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ หิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ; ธมฺมสงฺฆคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ, ทีฆรตฺตํ อกฺขณฺฑํ กตฺวา รกฺขิตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโน ทสสีลํ ปฺจสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, ทุพฺภิกฺขภยาทีสุ ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวา ‘เอวํ นาม อทมฺหา’ติ จาคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, คิหิโนปิ เอวรูเป กาเล สีลวนฺตานํ ทินฺนทานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เยหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา เทวตา เทวตฺตํ ปตฺตา ตถารูปานํ คุณานํ อตฺตนิ อตฺถิตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิเต กิเลเส สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ น สมุทาจรนฺตีติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนเถรทสฺสเนสุ อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน คทฺรภปิฏฺเ รชสทิเส ลูขปุคฺคเล ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, พุทฺธาทีสุ ปสาทพหุเล มุทุจิตฺเต สินิทฺธปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, รตนตฺตยคุณปริทีปเก ปสาทนียสุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปีติอุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ –
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, กายปสฺสทฺธิ จิตฺตปสฺสทฺธิ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. อปิจ สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา ¶ , อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธิกายปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ปณีตฺหิ สินิทฺธํ สปฺปายโภชนํ ภฺุชนฺตสฺสาปิ, สีตุณฺเหสุ อุตูสุ านาทีสุ จ อิริยาปเถสุ สปฺปายํ อุตฺุจ อิริยาปถฺจ เสวนฺตสฺสาปิ ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. โย ปน มหาปุริสชาติโก สพฺพอุตุอิริยาปถกฺขโมว โหติ, น ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยสฺส สภาควิสภาคตา อตฺถิ, ตสฺเสว วิสภาเค อุตุอิริยาปเถ วชฺเชตฺวา สภาเค เสวนฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. มชฺฌตฺตปโยโค วุจฺจติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขณา; อิมินา มชฺฌตฺตปโยเคน อุปฺปชฺชติ. โย เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปรํ วิเหยมาโนว วิจรติ, เอวรูปํ สารทฺธกายํ ปุคฺคลํ ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สํยตปาทปาณึ ปสฺสทฺธกายํ ปุคฺคลํ เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ปสฺสทฺธิอุปฺปาทนตฺถาย นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมถนิมิตฺตํ อพฺยคฺคนิมิตฺตํ. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ สมโถว สมถนิมิตฺตํ, อวิกฺเขปฏฺเน จ อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ.
อปิจ ¶ เอกาทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – วตฺถุวิสทกิริยตา ¶ , อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณนตา, สมเย สมฺปหํสนตา, สมเย อชฺฌุเปกฺขณตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยตา จ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา. สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหณนตาติ ยสฺมึ สมเย อติสิถิลวีริยตาทีหิ ¶ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส ปคฺคณฺหนํ. สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณนตาติ ยสฺมึ สมเย อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธฏํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตสฺส นิคฺคณฺหนํ. สมเย สมฺปหํสนตาติ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานธิคเมน วา นิรสฺสาทํ โหติ, ตสฺมึ สมเย อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จ ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนตาติ.
สมเย อชฺฌุเปกฺขนตา นาม ยสฺมึ สมเย สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺม อลีนํ อนุทฺธฏํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทายํ ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถี วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ. อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา นาม อุปจารํ วา อปฺปนํ วา อปฺปตฺตานํ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริวชฺชนํ. สมาหิตปุคฺคลเสวนตา นาม อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา สมาหิตจิตฺตานํ เสวนา ภชนา ปยิรุปาสนา. ตทธิมุตฺตตา นาม านนิสชฺชาทีสุ สมาธิอุปฺปาทนตฺถํเยว นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตา. เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต เอส อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ.
อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร ¶ – อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส ¶ วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ¶ อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –
เอวํ อุปฺปาโท โหติ. ตตฺถ อุเปกฺขาว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา นาม. อปิจ ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.
ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ สตฺตมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘ตฺวํ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสสิ. เอโสปิ อตฺตโน กมฺเมน อาคนฺตฺวา อตฺตโนว กมฺเมน คมิสฺสติ. ตฺวํ กํ เกลายสี’ติ เอวํ กมฺมสฺสกตปจฺจเวกฺขเณน จ ‘ปรมตฺถโต สตฺโตเยว นตฺถิ. โส ตฺวํ กํ เกลายสี’ติ เอวํ นิสฺสตฺตปจฺจเวกฺขเณน จ. ทฺวีเหวากาเรหิ สงฺขารมชฺฌตฺตตํ สมุฏฺาเปติ – ‘อิทํ จีวรํ อนุปุพฺเพน วณฺณวิการฺเจว ชิณฺณภาวฺจ อุปคนฺตฺวา ปาทปฺุฉนโจฬกํ หุตฺวา ยฏฺิโกฏิยา ฉฑฺฑนียํ ภวิสฺสติ. สเจ ปนสฺส สามิโก ภเวยฺย, นาสฺส เอวํ วินสฺสิตุํ ทเทยฺยา’ติ เอวํ อสฺสามิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ‘อนทฺธนิยํ อิทํ ตาวกาลิก’นฺติ เอวํ ตาวกาลิกภาวปจฺจเวกฺขเณน จ. ยถา จ จีวเร, เอวํ ปตฺตาทีสุปิ โยชนา กาตพฺพา.
สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตาติ เอตฺถ โย ปุคฺคโล คิหี วา อตฺตโน ปุตฺตธีตาทิเก, ปพฺพชิโต วา อตฺตโน อนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกาทิเก มมายติ, สหตฺเถเนว เนสํ เกสจฺเฉทนสูจิกมฺมจีวรโธวนรชนปตฺตปจนาทีนิ กโรติ, มุหุตฺตมฺปิ อปสฺสนฺโต ‘อสุโก สามเณโร กุหึ? อสุโก ทหโร กุหิ’นฺติ? ภนฺตมิโค วิย อิโต จิโต จ อาโลเกติ; อฺเน เกสจฺเฉทนาทีนํ อตฺถาย ‘มุหุตฺตํ ตาว อสุกํ เปเสถา’ติ ยาจิยมาโนปิ ‘อมฺเหปิ ตํ อตฺตโน กมฺมํ น กาเรม, ตุมฺเห นํ คเหตฺวา กิลเมสฺสถา’ติ น เทติ – อยํ สตฺตเกลายโน นาม.
โย ¶ ปน จีวรปตฺตถาลกกตฺตรยฏฺิอาทีนิ ¶ มมายติ, อฺสฺส หตฺเถน ปรามสิตุมฺปิ น เทติ, ตาวกาลิกํ ยาจิโตปิ ‘มยมฺปิ อิมํ มมายนฺตา น ปริภฺุชาม, ตุมฺหากํ กึ ทสฺสามา’ติ วทติ – อยํ สงฺขารเกลายโน นาม. โย ปน เตสุ ทฺวีสุปิ วตฺถูสุ มชฺฌตฺโต อุทาสีโน – อยํ สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺโต นาม. อิติ อยํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค เอวรูเป สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคเล ¶ อารกา ปริวชฺเชนฺตสฺสาปิ, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคเล เสวนฺตสฺสาปิ, านนิสชฺชาทีสุ ตทุปฺปาทนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ปนสฺส อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูริ โหตีติ ปชานาติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา.
อิเมสุปิ ทฺวีสุ ปพฺเพสุ สุทฺธวิปสฺสนาว กถิตา. อิติ อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ; โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายนุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา…. จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา…. ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ. กาเย ปน ‘สุภ’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘สุข’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘นิจฺจ’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘อตฺตา’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา ¶ สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริ ¶ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ – ‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’ติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๗๔. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ โลกุตฺตรสติปฏฺานวเสน เทสนาย อารทฺธตฺตา ยถา กายาทิอารมฺมเณสุ โลกิยสติปฏฺาเนสุ ตนฺติ ปิตา, เอวํ อฏฺเปตฺวา สพฺพานิปิ กายานุปสฺสาทีนิ สติปฏฺานานิ ธมฺมสงฺคณิยํ (ธ. ส. ๓๕๕ อาทโย) วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺานิ.
ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. กถํ? กายานุปสฺสนาย ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตํ, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคุณิตานิ อฏฺ. อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตีนิ อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ตถา เวทนานุปสฺสนาทีสุ สุทฺธิกสติปฏฺาเน จาติ โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจ นยสหสฺสานิ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ กุสเล วีสติ นยสหสฺสานิ; สฺุตาปณิหิตานิมิตฺตาทิเภเทสุ ปน ตโต ติคุเณ วิปาเก สฏฺิ นยสหสฺสานีติ. เอวเมว สกิจฺจสาธกานฺเจว สํสิทฺธิกกิจฺจานฺจ กุสลวิปากสติปฏฺานานํ นิทฺเทสวเสน ทุวิโธ กายานุปสฺสนาทิวเสน จ สุทฺธิกวเสน จ กุสเล ปฺจนฺนํ วิปาเก ปฺจนฺนนฺติ ทสนฺนํ นิทฺเทสวารานํ วเสน ทสปฺปเภโท อสีตินยสหสฺสปติมณฺฑิโต อภิธมฺมภาชนียนิทฺเทโส.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๓๘๖. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว สติปฏฺานานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺพานิปิ เอตานิ อปฺปมาณํ นิพฺพานํ ¶ อารพฺภ ปวตฺตนโต อปฺปมาณารมฺมณาเนว, น มคฺคารมฺมณานิ; สหชาตเหตุวเสน ปน มคฺคเหตุกานิ; วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปตีนิ; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺกาย ¶ มคฺคภาวนาย นวตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ ผลกาเลปิ นวตฺตพฺพาเนว; อตีตาทีสุ เอการมฺมณภาเวนปิ นวตฺตพฺพานิ; นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณานิ นาม โหนฺตีติ. เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราเนว สติปฏฺานานิ กถิตานิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมึเยว ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สติปฏฺานา กถิตา; อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปน โลกุตฺตราเยวาติ. เอวมยํ สติปฏฺานวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวา ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมฺมปฺปธานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๓๙๐. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สมฺมปฺปธานวิภงฺเค จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. เตน น ตโต เหฏฺา น อุทฺธนฺติ สมฺมปฺปธานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. สมฺมปฺปธานาติ การณปฺปธานา อุปายปฺปธานา โยนิโสปธานา. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺนโก ภิกฺขุ. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อนุปฺปาทายาติ น อุปฺปาทนตฺถาย. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ ชเนติ อุปฺปาเทติ. วายมตีติ ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ กายิกเจตสิกํ วีริยํ กโรติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ เตเนว สหชาตวีริเยน จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ ปธานวีริยํ กโรติ. ปฏิปาฏิยา ปเนตานิ จตฺตาริปิ ปทานิ อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมสาตจฺจกิริยาหิ โยเชตพฺพานิ.
อุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ อนุปฺปนฺนนฺติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานํ ปาปธมฺมานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ นิพฺพตฺตานํ. ิติยาติ ิตตฺถาย. อสมฺโมสายาติ อนสฺสนตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภาวาย. เวปุลฺลายาติ ¶ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย. อยํ ตาว จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ อุทฺเทสวารวเสน เอกปทิโก อตฺถุทฺธาโร.
๓๙๑. อิทานิ ปฏิปาฏิยา ตานิ ปทานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กถฺจ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานนฺติอาทินา ¶ นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยํ เหฏฺา ธมฺมสงฺคเห อาคตสทิสํ, ตํ ตสฺส วณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ตสฺมึ อนาคตํ, ตตฺถ ฉนฺทนิทฺเทเส ตาว โย ฉนฺโทติ โย ฉนฺทนิยวเสน ฉนฺโท. ฉนฺทิกตาติ ฉนฺทิกภาโว, ฉนฺทกรณากาโร วา. กตฺตุกมฺยตาติ กตฺตุกามตา. กุสโลติ เฉโก. ธมฺมจฺฉนฺโทติ สภาวจฺฉนฺโท. อยฺหิ ฉนฺโท นาม ตณฺหาฉนฺโท, ทิฏฺิฉนฺโท, วีริยฉนฺโท, ธมฺมจฺฉนฺโทติ พหุวิโธ นานปฺปการโก. เตสุ ¶ ธมฺมจฺฉนฺโทติ อิมสฺมึ าเน กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉนฺโท อธิปฺเปโต.
อิมํ ฉนฺทํ ชเนตีติ ฉนฺทํ กุรุมาโนว ฉนฺทํ ชเนติ นาม. สฺชเนตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อุฏฺเปตีติ ฉนฺทํ กุรุมาโนว ตํ อุฏฺเปติ นาม. สมุฏฺเปตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. นิพฺพตฺเตตีติ ฉนฺทํ กุรุมาโนว ตํ นิพฺพตฺเตติ นาม. อภินิพฺพตฺเตตีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อปิจ ฉนฺทํ กโรนฺโตว ฉนฺทํ ชเนติ นาม. ตเมว สตตํ กโรนฺโต สฺชเนติ นาม. เกนจิเทว อนฺตราเยน ปติตํ ปุน อุกฺขิปนฺโต อุฏฺเปติ นาม. ปพนฺธฏฺิตึ ปาเปนฺโต สมุฏฺเปติ นาม. ตํ ปากฏํ กโรนฺโต นิพฺพตฺเตติ นาม. อโนสกฺกนตาย อลีนวุตฺติตาย อโนลีนวุตฺติตาย อภิมุขภาเวน นิพฺพตฺเตนฺโต อภินิพฺพตฺเตติ นาม.
๓๙๔. วีริยนิทฺเทเส วีริยํ กโรนฺโตว วีริยํ อารภติ นาม. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. วีริยํ ¶ กโรนฺโตเยว จ อาเสวติ ภาเวติ นาม. ปุนปฺปุนํ กโรนฺโต วหุลีกโรติ. อาทิโตว กโรนฺโต อารภติ. ปุนปฺปุนํ กโรนฺโต สมารภติ. ภาวนาวเสน ภชนฺโต อาเสวติ. วฑฺเฒนฺโต ภาเวติ. สพฺพกิจฺเจสุ ตเทว พหุลีกโรนฺโต พหุลีกโรตีติ เวทิตพฺโพ.
๓๙๕. จิตฺตปคฺคหนิทฺเทเส วีริยปคฺคเหน โยเชนฺโต จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, อุกฺขิปตีติ อตฺโถ. ปุนปฺปุนํ ปคฺคณฺหนฺโต สมฺปคฺคณฺหาติ. เอวํ สมฺปคฺคหิตํ ยถา น ปตติ ตถา นํ วีริยุปตฺถมฺเภน อุปตฺถมฺเภนฺโต อุปตฺถมฺเภติ. อุปตฺถมฺภิตมฺปิ ถิรภาวตฺถาย ปุนปฺปุนํ อุปตฺถมฺเภนฺโต ปจฺจุปตฺถมฺเภติ นาม.
๔๐๖. ิติยาติปทสฺส นิทฺเทเส สพฺเพสมฺปิ อสมฺโมสาทีนํ ิติเววจนภาวํ ทสฺเสตุํ ยา ิติ โส อสมฺโมโสติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ ปทํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทสฺส ¶ อตฺโถ, อุปริมํ อุปริมํ ปทํ เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺส อตฺโถติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.
อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉยกถา. อยฺหิ สมฺมปฺปธานกถา นาม ทุวิธา – โลกิยา โลกุตฺตรา จ. ตตฺถ โลกิยา สพฺพปุพฺพภาเค โหติ. สา ¶ กสฺสปสํยุตฺตปริยาเยน โลกิยมคฺคกฺขเณ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘จตฺตาโร เม, อาวุโส, สมฺมปฺปธานา. กตเม จตฺตาโร?
อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ; ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ; ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ. ‘อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๕).
เอตฺถ จ ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา’ติ สมถวิปสฺสนา เจว มคฺโค จ. อุปฺปนฺนา ¶ กุสลา นาม สมถวิปสฺสนาว. มคฺโค ปน สกึ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมาโน อนตฺถาย สํวตฺตนโก นาม นตฺถิ. โส หิ ผลสฺส ปจฺจยํ ทตฺวาว นิรุชฺฌติ. ปุริมสฺมึ วา สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพาติ วุตฺตํ, ตํ ปน น ยุตฺตํ.
ตตฺถ ‘‘อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตี’’ติ อตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ อิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ขีณาสวตฺเถโร ‘มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิสฺสามี’ติ สมาปตฺติลาภินา ภณฺฑคาหกสามเณเรน สทฺธึ ชนปทโต มหาวิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารปริเวณํ ปาวิสิ; สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺเฆ เจติยํ วนฺทมาเน เจติยํ วนฺทนตฺถาย น นิกฺขมิ. กสฺมา? ขีณาสวานฺหิ ตีสุ รตเนสุ มหนฺตํ คารวํ โหติ. ตสฺมา ภิกฺขุสงฺเฆ วนฺทิตฺวา ปฏิกฺกนฺเต มนุสฺสานํ สายมาสภุตฺตเวลาย สามเณรมฺปิ อชานาเปตฺวา ‘เจติยํ วนฺทิสฺสามี’ติ เอกโกว นิกฺขมิ. สามเณโร ‘กึ นุ โข เถโร อเวลาย เอกโกว คจฺฉติ, ชานิสฺสามี’ติ อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโกว นิกฺขมิ. เถโร อนาวชฺชเนน ตสฺส อาคมนํ ¶ อชานนฺโต ทกฺขิณทฺวาเรน มหาเจติยงฺคณํ อารุฬฺโห. สามเณโรปิ อนุปทํเยว อารุฬฺโห.
มหาเถโร ¶ มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา หฏฺปหฏฺโ มหาเจติยํ วนฺทติ. สามเณโร เถรสฺส วนฺทนาการํ ทิสฺวา ‘อุปชฺฌาโย เม อติวิย ปสนฺนจิตฺโต วนฺทติ; กึ นุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูชํ กเรยฺยา’ติ จินฺเตสิ. เถเร วนฺทิตฺวา อุฏฺาย สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา ิเต สามเณโร อุกฺกาสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. เถโร ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกนฺโต ‘‘กทา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตุมฺหากํ เจติยํ วนฺทนกาเล, ภนฺเต; อติวิย ปสนฺนา เจติยํ วนฺทิตฺถ; กินฺนุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูเชยฺยาถา’’ติ? ‘‘อาม, สามเณร, อิมสฺมึ เจติเย วิย อฺตฺร เอตฺตกํ ธาตุนิธานํ นาม นตฺถิ. เอวรูปํ อสทิสํ มหาถูปํ ปุปฺผานิ ลภิตฺวา โก น ปูเชยฺยา’’ติ? ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อธิวาเสถ, อาหริสฺสามี’’ติ ตาวเทว ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนานิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา ปริสฺสาวนํ ปูเรตฺวา มหาเถเร ¶ ทกฺขิณมุขโต ปจฺฉิมมุเข อสมฺปตฺเตเยว อาคนฺตฺวา ปุปฺผปริสฺสาวนํ หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปูเชถ ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ‘‘อติมนฺทานิ โน, สามเณร, ปุปฺผานี’’ติ อาห. ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต, ภควโต คุเณ อาวชฺเชตฺวา ปูเชถา’’ติ.
เถโร ปจฺฉิมมุขนิสฺสิเตน โสปาเนน อารุยฺห กุจฺฉิเวทิกาภูมิยํ ปุปฺผปูชํ กาตุํ อารทฺโธ. เวทิกาภูมิ ปริปุณฺณา; ปุปฺผานิ ปติตฺวา ทุติยภูมิยํ ชณฺณุปฺปมาเณน โอธินา ปูรยึสุ. ตโต โอตริตฺวา ปาทปิฏฺิกปนฺตึ ปูเชสิ; สาปิ ปริปูริ; ปริปุณฺณภาวํ ตฺวา เหฏฺิมตเล วิกิรนฺโต อคมาสิ; สพฺพํ เจติยงฺคณํ ปริปูริ; ตสฺมึ ปริปุณฺเณ ‘‘สามเณร, ปุปฺผานิ น ขียนฺตี’’ติ อาห. ‘‘ปริสฺสาวนํ, ภนฺเต, อโธมุขํ กโรถา’’ติ. อโธมุขํ กตฺวา จาเลสิ. ตทา ปุปฺผานิ ขีณานิ. เถโร ปริสฺสาวนํ สามเณรสฺส ทตฺวา สทฺธึ หตฺถิปากาเรน เจติยํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ปริเวณํ คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ – ‘ยาว มหิทฺธิโก วตายํ สามเณโร; สกฺขิสฺสติ นุ โข อิมํ อิทฺธานุภาวํ รกฺขิตุนฺติ? ตโต ‘น สกฺขิสฺสตี’ติ ทิสฺวา สามเณรํ อาห – ‘‘สามเณร, ตฺวํ อิทานิ มหิทฺธิโก; เอวรูปํ ปน อิทฺธึ นาเสตฺวา ปจฺฉิมกาเล ¶ กาณเปสการิยา หตฺเถน มทฺทิตํกฺชิยํ ปิวิสฺสสี’’ติ. ทหรกภาวสฺส นาเมส โทโส ยํ โส อุปชฺฌายสฺส กถาย สํเวเชตฺวา ‘กมฺมฏฺานํ ¶ เม, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’ติ น ยาจิ; ‘อมฺหากํ อุปชฺฌาโย กึ วทตี’ติ ตํ ปน อสุณนฺโต วิย อคมาสิ.
เถโร มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิตฺวา สามเณรํ ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา อนุปุพฺเพน กุเฏฬิติสฺสมหาวิหารํ อคมาสิ. สามเณโร อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโก หุตฺวา ภิกฺขาจารํ น คจฺฉติ. ‘‘กตรํ คามํ ปวิสถ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปน ‘อิทานิ เม อุปชฺฌาโย คามทฺวารํ สมฺปตฺโต ภวิสฺสตี’ติ ตฺวา อตฺตโน จ อุปชฺฌายสฺส จ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ¶ ปิณฺฑาย ปวิสติ. เถโร สพฺพกาลํ โอวทติ – ‘‘สามเณร, มา เอวมกาสิ; ปุถุชฺชนิทฺธิ นาม จลา อนิพทฺธา; อสปฺปายํ รูปาทิอารมฺมณํ ลภิตฺวา อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ; สนฺตาย สมาปตฺติยา ปริหีนา พฺรหฺมจริยวาเส สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ. สามเณโร ‘กึ กเถติ มยฺหํ อุปชฺฌาโย’ติ โสตุํ น อิจฺฉติ, ตเถว กโรติ. เถโร อนุปุพฺเพน เจติยวนฺทนํ กโรนฺโต กมฺมุเปนฺทวิหารํ นาม คโต. ตตฺถ วสนฺเตปิ เถเร สามเณโร ตเถว กโรติ.
อเถกทิวสํ เอกา เปสการธีตา อภิรูปา ปมวเย ิตา กมฺมุเปนฺทคามโต นิกฺขมิตฺวา ปทุมสฺสรํ โอรุยฺห คายมานา ปุปฺผานิ ภฺชติ. ตสฺมึ สมเย สามเณโร ปทุมสฺสรมตฺถเกน คจฺฉติ คจฺฉนฺโต ปน, สกฺกรลสิกาย กาณมกฺขิกา วิย, ตสฺสา คีตสทฺเท พชฺฌิ; ตาวเทว อิทฺธิ อนฺตรหิตา, ฉินฺนปกฺโข กาโก วิย อโหสิ. สนฺตสมาปตฺติพเลน ปน ตตฺเถว อุทกปิฏฺเ อปติตฺวา สิมฺพลิตูลํ วิย ปตมานํ อนุปุพฺเพน ปทุมสฺสรตีเร อฏฺาสิ. โส เวเคน คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา นิวตฺติ. มหาเถโร ‘ปเคเวตํ มยา ทิฏฺํ, นิวาริยมาโนปิ น นิวตฺติสฺสตี’ติ กิฺจิ อวตฺวา ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
สามเณโร คนฺตฺวา ปทุมสฺสรตีเร อฏฺาสิ ตสฺสา ปจฺจุตฺตรณํ อาคมยมาโน. สาปิ สามเณรํ อากาเสน คจฺฉนฺตฺจ ปุนาคนฺตฺวา ิตฺจ ทิสฺวา ‘อทฺธา ¶ เอส มํ นิสฺสาย อุกฺกณฺิโต’ติ ตฺวา ‘ปฏิกฺกม สามเณรา’ติ อาห. โสปิ ปฏิปกฺกมิ. อิตรา ปจฺจุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘กึ, ภนฺเต’ติ ปุจฺฉิ. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สา พหูหิ การเณหิ ฆราวาเส อาทีนวํ พฺรหฺมจริยวาเส อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา โอวทมานาปิ ¶ ตสฺส อุกฺกณฺํ วิโนเทตุํ อสกฺโกนฺตี ‘อยํ มม การณา เอวรูปาย อิทฺธิยา ปริหีโน; น ทานิ ยุตฺตํ ปริจฺจชิตุ’นฺติ. ‘อิเธว ติฏฺา’ติ วตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เตปิ อาคนฺตฺวา นานปฺปการํ โอวทมานา วจนํ อคฺคณฺหนฺตํ อาหํสุ – ‘‘ตฺวํ อมฺเห อุจฺจากุลาติ มา สลฺลกฺเขสิ. มยํ เปสการา. สกฺขิสฺสสิ เปสการกมฺมํ กาตุ’’นฺติ? สามเณโร อาห – ‘‘อุปาสก, คิหีภูโต นาม เปสการกมฺมํ วา กเรยฺย นฬการกมฺมํ วา, กึ อิมินา, มา สาฏกมตฺเต โลภํ กโรถา’’ติ ¶ . เปสการโก อุทเร พทฺธสาฏกํ ทตฺวา ฆรํ เนตฺวา ธีตรํ อทาสิ.
โส เปสการกมฺมํ อุคฺคณฺหิตฺวา เปสกาเรหิ สทฺธึ สาลาย กมฺมํ กโรติ. อฺเสํ อิตฺถิโย ปาโตว ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา อาหรึสุ. ตสฺส ภริยา น ตาว อาคจฺฉติ. โส อิตเรสุ กมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา ภฺุชมาเนสุ ตสรํ วฏฺเฏนฺโต นิสีทิ. สา ปจฺฉา อาคมาสิ. อถ นํ โส ‘อติจิเรน อาคตาสี’ติ ตชฺเชสิ. มาตุคาโม จ นาม อปิ จกฺกวตฺติราชานํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธจิตฺตํ ตฺวา ทาสํ วิย สลฺลกฺเขติ. ตสฺมา สา เอวมาห – ‘‘อฺเสํ ฆเร ทารุปณฺณโลณาทีนิ สนฺนิหิตานิ; พาหิรโต อาหริตฺวา ทายกา เปสการกาปิ อตฺถิ. อหํ ปน เอกิกา; ตฺวมฺปิ ‘มยฺหํ ฆเร อิทํ อตฺถิ, อิทํ นตฺถี’ติ น ชานาสิ. สเจ อิจฺฉสิ ภฺุช, โน เจ อิจฺฉสิ มา ภฺุชา’’ติ. โส ‘น เกวลํ อุสฺสูเร ภตฺตํ อาหรสิ, วาจายปิ มํ ฆฏฺเฏสี’ติ กุชฺฌิตฺวา อฺํ ปหรณํ อปสฺสนฺโต ตเมว ตสรทณฺฑกํ ตสรโต ลฺุจิตฺวา ขิปิ. สา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อีสกํ ปริวตฺติ. ตสรทณฺฑกสฺส จ โกฏิ นาม ติขิณา โหติ. สา ตสฺสา ปริวตฺตมานาย อกฺขิโกฏิยํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. สา อุโภหิ หตฺเถหิ เวเคน อกฺขึ อคฺคเหสิ. ภินฺนฏฺานโต โลหิตํ ปคฺฆรติ.
โส ¶ ตสฺมึ กาเล อุปชฺฌายสฺส วจนํ อนุสฺสริ ‘อิทํ สนฺธาย มํ อุปชฺฌาโย ‘‘อนาคเต กาเล กาณเปสการิยา หตฺเถน มทฺทิตํ กฺชิยํ ปิวิสฺสสี’’ติ อาห. อิทํ เถเรน ทิฏฺํ ภวิสฺสติ. อโห ทีฆทสฺสี อยฺโย’ติ มหาสทฺเทน โรทิตุํ อารภิ. ตเมนํ อฺเ ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โรทิ; อกฺขิ นาม ภินฺนํ น สกฺกา โรทเนน ปฏิปากติกํ กาตุ’’นฺติ อาหํสุ. โส ‘‘นาหํ เอตมตฺถํ โรทามิ; อปิจ โข อิทํ สนฺธาย โรทามี’’ติ สพฺพํ ปวตฺตึ ปฏิปาฏิยา กเถสิ. เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺติ.
อปรมฺปิ ¶ วตฺถุ – ตึสมตฺตา ภิกฺขู กลฺยาณิยํ มหาเจติยํ วนฺทิตฺวา อฏวิมคฺเคน มหามคฺคํ โอตรมานา อนฺตรามคฺเค ฌามกฺเขตฺเต กมฺมํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตํ เอกํ มนุสฺสํ อทฺทสํสุ. ตสฺส สรีรํ มสิมกฺขิตํ โหติ, มสิมกฺขิตเมว จ เอกํ กาสาวํ กจฺฉํ ปีเฬตฺวา นิวตฺถํ. โอโลกิยมาโน ฌามขาณุโก วิย ขายติ. โส ทิวสภาเค ¶ กมฺมํ กตฺวา อุปฑฺฒฌายมานานํ ทารูนํ กลาปํ อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิยํ วิปฺปกิณฺเณหิ เกเสหิ กุมฺมคฺเคน อาคนฺตฺวา ภิกฺขูนํ สมฺมุเข อฏฺาสิ. สามเณรา ทิสฺวา อฺมฺํ โอโลกยมานา ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ ปิตา, ตุยฺหํ มหาปิตา, ตุยฺหํ มาตุโล’’ติ หสมานา คนฺตฺวา ‘‘โก นาโมสิ ตฺวํ, อุปาสกา’’ติ นามํ ปุจฺฉึสุ. โส นามํ ปุจฺฉิโต วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ทารุกลาปํ ฉฑฺเฑตฺวา วตฺถํ สํวิธาย นิวาเสตฺวา มหาเถเร วนฺทิตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตาว, ภนฺเต’’ติ อาห. มหาเถรา อฏฺํสุ.
ทหรสามเณรา อาคนฺตฺวา มหาเถรานํ สมฺมุขาปิ ปริหาสํ กโรนฺติ. อุปาสโก อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ ปสฺสิตฺวา ปริหสถ; เอตฺตเกเนว มตฺถกํ ปตฺตมฺหาติ สลฺลกฺเขถ. อหมฺปิ ปุพฺเพ ตุมฺหาทิโสว สมโณ อโหสึ. ตุมฺหากํ ปน จิตฺเตกคฺคตามตฺตมฺปิ นตฺถิ. อหํ อิมสฺมึ สาสเน มหิทฺธิโก มหานุภาโว อโหสึ; อากาสํ คเหตฺวา ปถวึ กโรมิ, ปถวึ อากาสํ; ทูรํ คณฺหิตฺวา สนฺติกํ กโรมิ, สนฺติกํ ทูรํ; จกฺกวาฬสหสฺสํ ขเณน วินิวิชฺฌามิ. หตฺเถ เม ปสฺสถ; อิทานิ ปน มกฺกฏหตฺถสทิสา. อหํ อิเมเหว หตฺเถหิ อิธ นิสินฺโนว จนฺทิมสูริเย ปรามสึ. อิเมสํเยว ปาทานํ จนฺทิมสูริเย ปาทกถลิกํ กตฺวา นิสีทึ. เอวรูปา เม อิทฺธิ ปมาเทน อนฺตรหิตา. ตุมฺเห มา ปมชฺชิตฺถ. ปมาเทน หิ เอวรูปํ ¶ พฺยสนํ ปาปุณนฺติ. อปฺปมตฺตา วิหรนฺตา ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กโรนฺติ. ตสฺมา ตุมฺเห มฺเว อารมฺมณํ กริตฺวา อปฺปมตฺตา โหถ, ภนฺเต’’ติ ตชฺเชตฺวา โอวาทมทาสิ. เต ตสฺส กเถนฺตสฺเสว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา วิปสฺสมานา ตึส ชนา ตตฺเถว อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ. เอวมฺปิ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาว โลกิยสมฺมปฺปธานกถาย วินิจฺฉโย.
โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปเนตํ เอกเมว วีริยํ จตุกิจฺจสาธนวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. ตตฺถ อนุปฺปนฺนานนฺติ อสมุทาจารวเสน วา อนนุภูตารมฺมณวเสน วา อนุปฺปนฺนานํ; อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา นาม นตฺถิ. อนุปฺปนฺนา ปน อุปฺปชฺชมานาปิ เอเตเยว อุปฺปชฺชนฺติ ¶ , ปหียมานาปิ เอเตเยว ปหียนฺติ.
ตตฺถ ¶ เอกจฺจสฺส วตฺตวเสน กิเลสา น สมุทาจรนฺติ. เอกจฺจสฺส คนฺถธุตงฺคสมาธิวิปสฺสนา นวกมฺมิกานํ อฺตรวเสน. กถํ? เอกจฺโจ หิ วตฺตสมฺปนฺโน โหติ. ตสฺส ทฺวาสีติขุทฺทกวตฺตานิ (จูฬว. ๒๔๓ อาทโย), จุทฺทส มหาวตฺตานิ (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย), เจติยงฺคณโพธิยงฺคณปานียมาฬอุโปสถาคารอาคนฺตุกคมิกวตฺตานิ จ กโรนฺตสฺเสว กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส วตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา ภินฺนวตฺตสฺส วิจรโต อโยนิโสมนสิการฺเจว สติโวสฺสคฺคฺจ อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ คนฺถยุตฺโต โหติ; เอกมฺปิ นิกายํ คณฺหาติ, ทฺเวปิ, ตโยปิ, จตฺตาโรปิ, ปฺจปิ. ตสฺเสว เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อตฺถวเสน ปาฬิวเสน อนุสนฺธิวเสน ปุพฺพาปรวเสน คณฺหนฺตสฺส สชฺฌายนฺตสฺส จินฺเตนฺตสฺส วาเจนฺตสฺส เทเสนฺตสฺส ปกาเสนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส คนฺถกมฺมํ ปหาย กุสีตสฺส วิจรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน ธุตงฺคธโร โหติ, เตรส ธุตงฺคคุเณ สมาทาย วตฺตติ. ตสฺส ธุตงฺคคุเณ ปริหรนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ¶ ปนสฺส ธุตงฺคานิ วิสฺสชฺเชตฺวา พาหุลฺลาย อาวฏฺฏสฺส วิจรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสี โหติ. ตสฺส ปมชฺฌานาทีสุ อาวชฺชนวสีอาทีนํ วเสน วิหรนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส ปริหีนชฺฌานสฺส วา วิสฺสฏฺชฺฌานสฺส วา ภสฺสาทีสุ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน วิปสฺสโก โหติ; สตฺตสุ วา วิปสฺสนาสุ อฏฺารสสุ ¶ วา มหาวิปสฺสนาสุ กมฺมํ กโรนฺโต วิหรติ. ตสฺเสวํ วิหรโต กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส วิปสฺสนากมฺมํ ปหาย กายทฬฺหีพหุลสฺส วิหรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค ¶ อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน นวกมฺมิโก โหติ, อุโปสถาคารโภชนสาลาทีนิ กโรติ. ตสฺส เตสํ อุปกรณานิ จินฺเตนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส นวกมฺเม นิฏฺิเต วา วิสฺสฏฺเ วา อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน พฺรหฺมโลกา อาคโต สุทฺธสตฺโต โหติ. ตสฺส อนาเสวนาย กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ; อปรภาเค ปนสฺส ลทฺธาเสวนสฺส อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ นาม. เอวํ ตาว อสมุจารวเสน อนุปฺปนฺนตา เวทิตพฺพา.
กถํ อนนุภูตารมฺมณวเสน? อิเธกจฺโจ อนนุภูตปุพฺพํ มนาปิยาทิเภทํ อารมฺมณํ ลภติ. ตสฺส ตตฺถ อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม ราคาทโย กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ อนนุภูตารมฺมณวเสน ¶ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกเมว วีริยํ.
เย จ เอวํ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เต ยถา เนว อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ เนสํ อนุปฺปาทกิจฺจํ อุปฺปนฺนานฺจ ปหานกิจฺจํ สาเธติ. ตสฺมา อุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ – วตฺตมานุปฺปนฺนํ, ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺนํ, โอกาสกตุปฺปนฺนํ, ภูมิลทฺธุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ เย กิเลสา วิชฺชมานา อุปฺปาทาทิสมงฺคิโน – อิทํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. กมฺเม ปน ชวิเต อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธวิปาโก ภุตฺวา วิคตํ นาม. กมฺมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธํ ภุตฺวา วิคตํ นาม. ตทุภยมฺปิ ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺนนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ. กุสลากุสลกมฺมํ อฺสฺส กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ¶ กเต โอกาเส วิปาโก อุปฺปชฺชมาโน โอกาสกรณโต ปฏฺาย อุปฺปนฺโนติ วุจฺจติ. อิทํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม.
ปฺจกฺขนฺธา ¶ ปน วิปสฺสนาย ภูมิ นาม. เต อตีตาทิเภทา โหนฺติ. เตสุ อนุสยิตกิเลสา ปน อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. อตีตกฺขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ หิ อปฺปหีนาว โหนฺติ. อนาคตกฺขนฺเธสุ, ปจฺจุปฺปนฺนกฺขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ อปฺปหีนาว โหนฺติ. อิทํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม. เตนาหุ โปราณา – ‘‘ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมุคฺฆาติตา กิเลสา ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาติ สงฺขํ คจฺฉนฺตี’’ติ.
อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ – สมุทาจารุปฺปนฺนํ, อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ, อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ, อสมุคฺธาติตุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ สมฺปติ วตฺตมานํเยว ‘สมุทาจารุปฺปนฺนํ’ นาม. สกึ จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา อารมฺมเณ นิมิตฺเต คหิเต อนุสฺสริตานุสฺสริตกฺขเณ กิเลสา นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อธิคหิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา ขีรรุกฺขสฺส กุาริยา อาหตาหตฏฺาเน ขีรํ น นิกฺขมิสฺสตีติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ ‘อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ’ นาม. สมาปตฺติยา อวิกฺขมฺภิตกิเลสา ปน อิมสฺมึ นาม าเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อวิกฺขมฺภิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา สเจ ขีรรุกฺขํ กุาริยา อาหเนยฺยุํ, ‘อิมสฺมึ นาม าเน ขีรํ น นิกฺขเมยฺยา’ติ ¶ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ ‘อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ’ นาม. มคฺเคน อสมุคฺฆาติตกิเลสา ปน ภวคฺเค นิพฺพตฺตสฺสาปิ นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อิทํ ‘อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนํ’ นาม.
อิเมสุ อุปฺปนฺเนสุ วตฺตมานุปฺปนฺนํ, ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนํ, โอกาสกตุปฺปนฺนํ, สมุทาจารุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ น มคฺควชฺฌํ; ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ, อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนํ, อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ, อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ มคฺควชฺฌํ. มคฺโค หิ อุปฺปชฺชมาโน เอเต กิเลเส ปชหติ. โส เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘หฺจิ อตีเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ ขีณํ เขเปติ, นิรุทฺธํ ¶ นิโรเธติ, วิคตํ วิคเมติ, อตฺถงฺคตํ อตฺถํ คเมติ, อตีตํ ยํ นตฺถิ ตํ ปชหติ. หฺจิ อนาคเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ อชาตํ ปชหติ, อนิพฺพตฺตํ อนุปฺปนฺนํ อปาตุภูตํ ปชหติ, อนาคตํ ยํ นตฺถิ ตํ ปชหติ. หฺจิ ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหติ, เตน หิ รตฺโต ราคํ ปชหติ, ทุฏฺโ โทสํ, มูฬฺโห โมหํ, วินิพทฺโธ มานํ, ปรามฏฺโ ทิฏฺึ, วิกฺเขปคโต ¶ อุทฺธจฺจํ, อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉํ, ถามคโต อนุสยํ ปชหติ; กณฺหสุกฺกธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺติ; สํกิเลสิกา มคฺคภาวนา โหติ…เป… เตน หิ นตฺถิ มคฺคภาวนา, นตฺถิ ผลสจฺฉิกิริยา, นตฺถิ กิเลสปฺปหานํ, นตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’ติ. ‘อตฺถิ มคฺคภาวนา…เป… อตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’ติ. ยถา กถํ วิย? เสยฺยถาปิ ตรุโณ รุกฺโข…เป… อปาตุภูตาเนว น ปาตุภวนฺติ’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑).
อิติ ปาฬิยํ อชาตผลรุกฺโข อาคโต; ชาตผลรุกฺเขน ปน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สผโล ตรุณอมฺพรุกฺโข. ตสฺส ผลานิ มนุสฺสา ปริภฺุเชยฺยุํ, เสสานิ ปาเตตฺวา ปจฺฉิโย ปูเรยฺยุํ. อถฺโ ปุริโส ตํ ผรสุนา ฉินฺเทยฺย. เตนสฺส เนว อตีตานิ ผลานิ นาสิตานิ โหนฺติ, น อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ จ นาสิตานิ; อตีตานิ หิ มนุสฺเสหิ ปริภุตฺตานิ, อนาคตานิ อนิพฺพตฺตานิ น สกฺกา นาเสตุํ ¶ . ยสฺมึ ปน สมเย โส ฉินฺโน ตทา ผลานิเยว นตฺถีติ ปจฺจุปฺปนฺนานิปิ อนาสิตานิ. สเจ ปน รุกฺโข อจฺฉินฺโน อสฺส, อถสฺส ปถวีรสฺจ อาโปรสฺจ อาคมฺม ยานิ ผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยุํ, ตานิ นาสิตานิ โหนฺติ. ตานิ หิ อชาตาเนว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาเนว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาเนว น ปาตุภวนฺติ. เอวเมว มคฺโค นาปิ อตีตาทิเภเท กิเลเส ปชหติ, นาปิ น ปชหติ. เยสฺหิ กิเลสานํ มคฺเคน ขนฺเธสุ อปริฺาเตสุ อุปฺปตฺติ สิยา, มคฺเคน อุปฺปชฺชิตฺวา ขนฺธานํ ปริฺาตตฺตา เต กิเลสา อชาตาว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาว น ปาตุภวนฺติ. ตรุณปุตฺตาย อิตฺถิยา ปุน อวิชายนตฺถํ พฺยาธิตานํ ¶ โรควูปสมตฺถํ ปีตเภสชฺเชหิ จาปิ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. เอวํ มคฺโค เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. น จ มคฺโค กิเลเส น ปชหติ. เย ปน มคฺโค กิเลเส ปชหติ, เต สนฺธาย ‘อุปฺปนฺนานํ ปาปกาน’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
น เกวลฺจ มคฺโค กิเลเสเยว ปชหติ, กิเลสานํ ปน อปฺปหีนตฺตา เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ อุปาทินฺนกฺขนฺธา, เตปิ ปชหติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสาเร เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ นามฺจ รูปฺจ เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖) วิตฺถาโร. อิติ มคฺโค อุปาทินฺนโต อนุปาทินฺนโต จ วุฏฺาติ. ภววเสน ปน โสตาปตฺติมคฺโค อปายภวโต วุฏฺาติ ¶ . สกทาคามิมคฺโค สุคติภเวกเทสโต; อนาคามิมคฺโค สุคติกามภวโต; วุฏฺาติ อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวโต วุฏฺาติ, สพฺพภเวหิ วุฏฺาติเยวาติปิ วทนฺติ.
อถ มคฺคกฺขเณ กถํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทาย ภาวนา โหติ? กถํ วา อุปฺปนฺนานํ ิติยาติ? มคฺคปฺปวตฺติยา เอว. มคฺโค หิ ปวตฺตมาโน ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อนุปฺปนฺโน นาม วุจฺจติ. อนาคตปุพฺพฺหิ านํ คนฺตฺวา อนนุภูตปุพฺพํ วา อารมฺมณํ อนุภวิตฺวา วตฺตาโร ภวนฺติ – ‘อนาคตฏฺานํ อาคตมฺห, อนนุภูตํ อารมฺมณํ อนุภวามา’ติ. ยา จสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามาติ ิติยา ภาเวตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตสฺส ภิกฺขุโน อิทํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ วีริยํ ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทีนิ ¶ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. อยํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ สมฺมปฺปธานกถา. เอวเมตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สมฺมปฺปธานา นิทฺทิฏฺาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๐๘. อภิธมฺมภาชนีเย สพฺพานิปิ สมฺมปฺปธานานิ ธมฺมสงฺคณิยํ วิภตฺตสฺส เทสนานยสฺส มุขมตฺตเมว ทสฺเสนฺเตน นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ นยเภโท เวทิตพฺโพ. กถํ? ปมสมฺมปฺปธาเน ¶ ตาว โสตาปตฺติมคฺเค ฌานาภินิเวเส สุทฺธิกปฏิปทา, สุทฺธิกสฺุตา, สฺุตปฏิปทา, สุทฺธิกอปฺปณิหิตา, อปฺปณิหิตปฏิปทาติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกปฺจกนยานํ วเสน ทส นยา โหนฺติ. เอวํ เสเสสุปีติ วีสติยา อภินิเวเสสุ ทฺเว นยสตานิ. ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ จตุคฺคุณิตานิ อฏฺ. อิติ สุทฺธิกานิ ทฺเว สาธิปตีนิ อฏฺาติ สพฺพมฺปิ นยสหสฺสํ โหติ. ตถาทุติยสมฺมปฺปธานาทีสุ สุทฺธิกสมฺมปฺปธาเน จาติ โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจนยสหสฺสานิ. ยถา จ โสตาปตฺติมคฺเค, เอวํ เสสมคฺเคสุปีติ กุสลวเสเนว วีสติ นยสหสฺสานิ. วิปาเก ปน สมฺมปฺปธาเนหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ ¶ นตฺถีติ วิปากวาโร น คหิโตติ. สมฺมปฺปธานานิ ปเนตฺถ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราเนว กถิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๔๒๗. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว สมฺมปฺปธานานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺพานิปิ เอตานิ อปฺปมาณํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺติโต อปฺปมาณารมฺมณาเนว, น มคฺคารมฺมณานิ; สหชาตเหตุวเสน ปน มคฺคเหตุกานิ; วีมํสํ เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล ¶ มคฺคาธิปตีนิ; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺิกาย มคฺคภาวนาย น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ; วีริยเชฏฺิกาย ปน อฺสฺส วีริยสฺส อภาวา น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ วา น มคฺคาธิปตีนีติ วา; อตีตาทีสุ เอการมฺมณภาเวนปิ น วตฺตพฺพานิ; นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณานิ นาม โหนฺตีติ. เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราเนว สมฺมปฺปธานานิ กถิตานิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สมฺมปฺปธานา กถิตา; อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปน โลกุตฺตราเยวาติ. เอวมยํ สมฺมปฺปธานวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
สมฺมปฺปธานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อิทฺธิปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๔๓๑. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อิทฺธิปาทวิภงฺเค จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. อิทฺธิปาทาติ เอตฺถ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติปิ อิทฺธิ. ปเมนตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท; ปาโทติ ปติฏฺา, อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิทานิ เต ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิธ ภิกฺขูติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ ฉนฺทเหตุโก ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. จตุกิจฺจสาธกสฺส สมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. สมนฺนาคตนฺติ ฉนฺทสมาธินา จ ปธานสงฺขาเรหิ จ อุเปตํ. อิทฺธิปาทนฺติ นิปฺผตฺติปริยาเยน วา อิชฺฌนกฏฺเน อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธีติ สงฺขํ คตานํ อุปจารชฺฌานาทิกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ อธิฏฺานฏฺเน ปาทภูตํ เสสจิตฺตเจตสิกราสินฺติ อตฺโถ. ยฺหิ ปรโต ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา อตฺเถน ยุชฺชติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยเถว หิ ฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ ¶ ฉนฺทสมาธีติ ¶ วุตฺโต, เอวํ วีริยํ…เป… จิตฺตํ. วีมํสํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ วีมํสสมาธีติ วุจฺจติ.
อิทานิ ฉนฺทสมาธิอาทีนิ ปทานิ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กถฺจ ภิกฺขูติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ฉนฺทฺเจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวาติ ยทิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อธิปตึ ฉนฺทํ เชฏฺกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา สมาธึ ปฏิลภติ นิพฺพตฺเตติ, เอวํ นิพฺพตฺติโต อยํ สมาธิ ฉนฺทสมาธิ นาม วุจฺจตีติ อตฺโถ. วีริยฺเจติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. อิเม วุจฺจนฺติ ปธานสงฺขาราติ เอตฺตาวตา ฉนฺทิทฺธิปาทํ ภาวยมานสฺส ภิกฺขุโน ปธานาภิสงฺขารสงฺขาตจตุกิจฺจสาธกํ วีริยํ กถิตํ. ตเทกชฺฌํ อภิสฺูหิตฺวาติ ตํ สพฺพํ เอกโต ราสึ กตฺวาติ อตฺโถ. สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ เอตํ โวหารํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๔๓๓. อิทานิ ‘‘ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขาโร’’ติ เอตสฺมึ ปทสมูเห ฉนฺทาทิธมฺเม ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม ฉนฺโทติอาทิ อารทฺธํ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
อุเปโต โหตีติ อิทฺธิปาทสงฺขาโต ธมฺมราสิ อุเปโต โหติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ สมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทาทิธมฺมานํ. อิทฺธิ สมิทฺธีติอาทีนิ สพฺพานิ นิปฺผตฺติเววจนาเนว. เอวํ สนฺเตปิ อิชฺฌนกฏฺเน อิทฺธิ. สมฺปุณฺณา อิทฺธิ สมิทฺธิ; อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อิชฺฌนากาโร อิชฺฌนา. สมิชฺฌนาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อตฺตโน สนฺตาเน ปาตุภาววเสน ลภนํ ลาโภ. ปริหีนานมฺปิ วีริยารมฺภวเสน ปุน ลาโภ ปฏิลาโภ; อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. ปตฺตีติ อธิคโม. อปริหานวเสน สมฺมา ปตฺตีติ สมฺปตฺติ. ผุสนาติ ปฏิลาภผุสนา. สจฺฉิกิริยาติ ¶ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาว. อุปสมฺปทาติ ปฏิลาภอุปสมฺปทา เอวาติ เวทิตพฺพา.
ตยาภูตสฺสาติ เตน อากาเรน ภูตสฺส; เต ฉนฺทาทิธมฺเม ปฏิลภิตฺวา ิตสฺสาติ อตฺโถ. เวทนากฺขนฺโธติอาทีหิ ฉนฺทาทโย อนฺโต กตฺวา จตฺตาโรปิ ขนฺธา กถิตา. เต ธมฺเมติ เต จตฺตาโร อรูปกฺขนฺเธ; ฉนฺทาทโย วา ตโย ธมฺเมติปิ วุตฺตํ. อาเสวตีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เสสอิทฺธิปาทนิทฺเทเสสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา ¶ กึ กถิตนฺติ? จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ มตฺถกปฺปตฺตํ กมฺมฏฺานํ กถิตํ. เอโก หิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อวสฺสยติ; กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉนฺเทน อตฺถนิปฺผตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ, นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ฉนฺทํ เชฏฺกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตติ. เอโก วีริยํ อวสฺสยติ. เอโก จิตฺตํ, เอโก ปฺํ อวสฺสยติ. ปฺาย อตฺถนิปฺผตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ ¶ , นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ปฺํ เชฏฺกํ ปฺํ ธุรํ ปฺํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตติ.
กถํ? ยถา หิ จตูสุ อมจฺจปุตฺเตสุ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา วิจรนฺเตสุ เอโก อุปฏฺานํ อวสฺสยิ, เอโก สูรภาวํ, เอโก ชาตึ, เอโก มนฺตํ. กถํ? เตสุ หิ ปโม ‘อุปฏฺาเน อปฺปมาทการิตาย อตฺถนิปฺผตฺติยา สติ ลพฺภมานํ ลจฺฉาเมตํ านนฺตร’นฺติ อุปฏฺานํ อวสฺสยิ. ทุติโย ‘อุปฏฺาเน อปฺปมตฺโตปิ เอกจฺโจ สงฺคาเม ปจฺจุปฏฺิเต สณฺาตุํ น สกฺโกติ; อวสฺสํ โข ปน รฺโ ปจฺจนฺโต กุปฺปิสฺสติ; ตสฺมึ กุปฺปิเต รถธุเร กมฺมํ กตฺวา ราชานํ อาราเธตฺวา อาหราเปสฺสาเมตํ านนฺตร’นฺติ สูรภาวํ อวสฺสยิ. ตติโย ‘สูรภาเวปิ สติ เอกจฺโจ หีนชาติโก โหติ; ชาตึ โสเธตฺวา านนฺตรํ ททนฺตา มยฺหํ ทสฺสนฺตี’ติ ชาตึ อวสฺสยิ. จตุตฺโถ ‘ชาติมาปิ เอโก อมนฺตนีโย โหติ; มนฺเตน กตฺตพฺพกิจฺเจ อุปฺปนฺเน อาหราเปสฺสาเมตํ านนฺตร’นฺติ มนฺตํ ¶ อวสฺสยิ. เต สพฺเพปิ อตฺตโน อตฺตโน อวสฺสยพเลน านนฺตรานิ ปาปุณึสุ.
ตตฺถ อุปฏฺาเน อปฺปมตฺโต หุตฺวา านนฺตรํ ปตฺโต วิย ฉนฺทํ อวสฺสาย กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉนฺเทน อตฺถนิพฺพตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ, นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ฉนฺทํ เชฏฺกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฏฺพฺโพ, รฏฺปาลตฺเถโร (ม. นิ. ๒.๒๙๓ อาทโย) วิย. โส หิ อายสฺมา ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. สูรภาเวน ราชานํ อาราเธตฺวา านนฺตรํ ปตฺโต วิย วีริยํ เชฏฺกํ วีริยํ ธุรํ วีริยํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฏฺพฺโพ, โสณตฺเถโร (มหาว. ๒๔๓) วิย. โส หิ อายสฺมา วีริยํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ.
ชาติสมฺปตฺติยา ¶ านนฺตรํ ปตฺโต วิย จิตฺตํ เชฏฺกํ จิตฺตํ ธุรํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฏฺพฺโพ, สมฺภูตตฺเถโร วิย. โส หิ อายสฺมา จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ. มนฺตํ อวสฺสาย านนฺตรปฺปตฺโต วิย วีมํสํ เชฏฺกํ วีมํสํ ธุรํ วีมํสํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ¶ โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฏฺพฺโพ, เถโร โมฆราชา วิย. โส หิ อายสฺมา วีมํสํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสิ.
เอตฺถ จ ตโย ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสงฺขาตา ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ. เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยว. วีริยจิตฺตวีมํสสมาธิปธานสงฺขารสงฺขาตาปิ ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ. เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยว. อยํ ตาว อเภทโต กถา.
เภทโต ปน ‘ฉนฺโท’ อิทฺธิ นาม. ฉนฺทธุเรน ภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา ฉนฺทิทฺธิปาโท นาม. สมาธิ ปธานสงฺขาโรติ ทฺเว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน ฉนฺทิทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ตตฺเถว ‘สมาธิ’ อิทฺธิ นาม. สมาธิธุเรน ภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา สมาธิทฺธิปาโท นาม. ฉนฺโท ¶ ปธานสงฺขาโรติ ทฺเว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน สมาธิทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ เอว. ตตฺเถว ‘ปธานสงฺขาโร’ อิทฺธิ นาม. ปธานสงฺขารภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา ปธานสงฺขาริทฺธิปาโท นาม. ฉนฺโท สมาธีติ ทฺเว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน ปธานสงฺขาริทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ เอว. ตตฺเถว ‘วีริยํ’ อิทฺธิ นาม, ‘จิตฺตํ’ อิทฺธิ นาม, ‘วีมํสา’ อิทฺธิ นาม…เป… ปาเท ปวิฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ เอว. อยํ เภทโต กถา นาม.
เอตฺถ ปน อภินวํ นตฺถิ; คหิตเมว วิภูตธาตุกํ กตํ. กถํ? ฉนฺโท, สมาธิ, ปธานสงฺขาโรติ อิเม ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ. เสสา สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยว. อิเม หิ ตโย ธมฺมา อิชฺฌมานา สมฺปยุตฺตเกหิ จตูหิ ขนฺเธหิ สทฺธึเยว อิชฺฌนฺติ, น วินา. สมฺปยุตฺตกา ปน จตฺตาโร ขนฺธา อิชฺฌนกฏฺเน อิทฺธิ นาม โหนฺติ, ปติฏฺานฏฺเน ปาโท นาม. ‘อิทฺธี’ติ วา ‘อิทฺธิปาโท’ติ วา น อฺสฺส กสฺสจิ อธิวจนํ, สมฺปยุตฺตกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนํ. วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขาโรติ ตโย ธมฺมา…เป… จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนํ.
อปิจ ¶ ปุพฺพภาโค ปุพฺพภาโค อิทฺธิปาโท นาม; ปฏิลาโภ ปฏิลาโภ อิทฺธิ นามาติ เวทิตพฺโพ. อยมตฺโถ อุปจาเรน วา วิปสฺสนาย วา ทีเปตพฺโพ. ปมชฺฌานปริกมฺมฺหิ อิทฺธิปาโท นาม, ปมชฺฌานํ อิทฺธิ นาม. ทุติยตติยจตุตฺถอากาสานฺจายตน, วิฺาณฺจายตนอากิฺจฺายตนเนวสฺานาสฺายตนปริกมฺมํ ¶ อิทฺธิปาโท นาม, เนวสฺานาสฺายตนํ อิทฺธิ นาม. โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนา อิทฺธิปาโท นาม, โสตาปตฺติมคฺโค อิทฺธิ นาม. สกทาคามิ, อนาคามิ, อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนา อิทฺธิปาโท นาม, อรหตฺตมคฺโค อิทฺธิ นาม. ปฏิลาเภนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติเยว. ปมชฺฌานฺหิ อิทฺธิปาโท นาม, ทุติยชฺฌานํ อิทฺธิ นาม; ทุติยชฺฌานํ อิทฺธิปาโท นาม, ตติยชฺฌานํ อิทฺธิ นาม…เป… อนาคามิมคฺโค อิทฺธิปาโท นาม, อรหตฺตมคฺโค อิทฺธิ นาม.
เกนฏฺเน ¶ อิทฺธิ? เกนฏฺเน ปาโทติ? อิชฺฌนกฏฺเเนว อิทฺธิ. ปติฏฺานฏฺเเนว ปาโท. เอวมิธาปิ อิทฺธีติ วา ปาโทติ วา น อฺสฺส กสฺสจิ อธิวจนํ, สมฺปยุตฺตกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนนฺติ. เอวํ วุตฺเต ปน อิทมาหํสุ – จตุนฺนํ ขนฺธานเมว อธิวจนํ ภเวยฺย, ยทิ สตฺถา ปรโต อุตฺตรจูฬภาชนียํ นาม น อาหเรยฺย. อุตฺตรจูฬภาชนีเย ปน ‘‘ฉนฺโทเยว ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยเมว, จิตฺตเมว, วีมํสาว วีมํสิทฺธิปาโท’’ติ กถิตํ. เกจิ ปน ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา, อิทฺธิปาโท นิปฺผนฺโน’’ติ วทึสุ. เตสํ วจนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทฺธีปิ อิทฺธิปาโทปิ ‘นิปฺผนฺโน ติลกฺขณพฺภาหโต’ติ สนฺนิฏฺานํ กตํ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา อิทฺธิปาทา กถิตาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๔๔. อภิธมฺมภาชนียํ อุตฺตานตฺถเมว. นยา ปเนตฺถ คเณตพฺพา. ‘‘ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติ วุตฺตฏฺานสฺมิฺหิ โลกุตฺตรานิ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ. วีริยสมาธิอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตถา อุตฺตรจูฬภาชนีเย ฉนฺทิทฺธิปาเท ¶ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ, วีริยจิตฺตวีมํสิทฺธิปาเท จตฺตาริ จตฺตารีติ สพฺพานิปิ อฏฺนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน ทฺวตฺตึส นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ. เอวเมตํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรานํเยว อิทฺธิปาทานํ วเสน ทฺวตฺตึสนยสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิตํ อภิธมฺมภาชนียํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๔๖๒. ปฺหาปุจฺฉเก ¶ ปาฬิอนุสาเรเนว อิทฺธิปาทานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺเพเปเต อปฺปมาณํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺติโต อปฺปมาณารมฺมณา เอว, น มคฺคารมฺมณา; สหชาตเหตุวเสน ปน มคฺคเหตุกา, น มคฺคาธิปติโน. จตฺตาโร หิ อธิปตโย อฺมฺํ ครุํ น กโรนฺติ. กสฺมา? สยํ เชฏฺกตฺตา. ยถา หิ สมชาติกา สมวยา สมถามา สมสิปฺปา จตฺตาโร ราชปุตฺตา อตฺตโน อตฺตโน เชฏฺกตาย อฺมฺสฺส ¶ อปจิตึ น กโรนฺติ, เอวมิเมปิ จตฺตาโร อธิปตโย ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ เชฏฺกธมฺมตาย อฺมฺํ ครุํ น กโรนฺตีติ เอกนฺเตเนว น มคฺคาธิปติโน. อตีตาทีสุ เอการมฺมณภาเวปิ น วตฺตพฺพา. นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณา นาม โหนฺตีติ. เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเก นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราว อิทฺธิปาทา กถิตา. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา อิทฺธิปาทา กถิตา, อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปน โลกุตฺตราเยวาติ. เอวมยํ อิทฺธิปาทวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อิทฺธิปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โพชฺฌงฺควิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๔๖๖. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร โพชฺฌงฺควิภงฺเค สตฺตาติ คณนปริจฺเฉโท. โพชฺฌงฺคาติ โพธิยา โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา เอสา ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ, พุชฺฌติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา, ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา, เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา – ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ.
อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา? โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, ปฏิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ อิมินา ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สติสมฺโพชฺฌงฺโคติอาทีสุ ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค. ตตฺถ อุปฏฺานลกฺขโณ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปวิจยลกฺขโณ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปคฺคหลกฺขโณ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ผรณลกฺขโณ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, อุปสมลกฺขโณ ¶ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อวิกฺเขปลกฺขโณ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ปฏิสงฺขานลกฺขโณ ¶ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. เตสุ ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) วจนโต สพฺเพสํ โพชฺฌงฺคานํ อุปการกตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ปมํ วุตฺโต. ตโต ปรํ ‘‘โส ตถา สโต วิหรนฺโต ¶ ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑๕๐) นเยน เอวํ อนุกฺกเมเนว นิกฺเขปปโยชนํ ปาฬิยํ อาคตเมว.
กสฺมา ปเนเต สตฺเตว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? ลีนุทฺธจฺจปฏิปกฺขโต สพฺพตฺถิกโต จ. เอตฺถ หิ ตโย โพชฺฌงฺคา ลีนสฺส ปฏิปกฺขา, ยถาห – ‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ตโย อุทฺธจฺจสฺส ปฏิปกฺขา, ยถาห – ‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). เอโก ปเนตฺถ โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺเพสุ ราชกิจฺเจสุ, สพฺพโพชฺฌงฺเคสุ อิจฺฉิตพฺพโต สพฺพตฺถิโก, ยถาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ. ‘‘สพฺพตฺถก’’นฺติปิ ปาฬิ. ทฺวินฺนมฺปิ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ ลีนุทฺธจฺจปฏิปกฺขโต สพฺพตฺถิกโต จ สตฺเตว วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
๔๖๗. อิทานิ เนสํ เอกสฺมึเยวารมฺมเณ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจวเสน นานากรณํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม สติสมฺโพชฺฌงฺโคติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. สติมา โหตีติ ปฺาย ปฺวา, ยเสน ยสวา, ธเนน ธนวา วิย สติยา สติมา โหติ, สติสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ปรเมนาติ อุตฺตเมน; ตฺหิ ปรมตฺถสจฺจสฺส นิพฺพานสฺส เจว มคฺคสฺส จ อนุโลมโต ปรมํ นาม โหติ อุตฺตมํ เสฏฺํ. สติเนปกฺเกนาติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา; สติยา เจว เนปกฺเกน ¶ จาติ อตฺโถ.
กสฺมา ปน อิมสฺมึ สติภาชนีเย ปฺา สงฺคหิตาติ? สติยา พลวภาวทีปนตฺถํ. สติ หิ ปฺาย สทฺธิมฺปิ อุปฺปชฺชติ วินาปิ, ปฺาย สทฺธึ อุปฺปชฺชมานา พลวตี โหติ, วินา อุปฺปชฺชมานา ทุพฺพลา. เตนสฺสา พลวภาวทีปนตฺถํ ปฺา สงฺคหิตา. ยถา หิ ทฺวีสุ ¶ ทิสาสุ ทฺเว ราชมหามตฺตา ติฏฺเยฺยุํ; เตสุ เอโก ราชปุตฺตํ คเหตฺวา ติฏฺเยฺย, เอโก อตฺตโน ธมฺมตาย เอกโกว เตสุ ราชปุตฺตํ คเหตฺวา ิโต อตฺตโนปิ ¶ เตเชน ราชปุตฺตสฺสปิ เตเชน เตชวา โหติ; อตฺตโน ธมฺมตาย ิโต น เตน สมเตโช โหติ; เอวเมว ราชปุตฺตํ คเหตฺวา ิตมหามตฺโต วิย ปฺาย สทฺธึ อุปฺปนฺนา สติ, อตฺตโน ธมฺมตาย ิโต วิย วินา ปฺาย อุปฺปนฺนา. ตตฺถ ยถา ราชปุตฺตํ คเหตฺวา ิโต อตฺตโนปิ เตเชน ราชปุตฺตสฺสปิ เตเชน เตชวา โหติ, เอวํ ปฺาย สทฺธึ อุปฺปนฺนา สติ พลวตี โหติ; ยถา อตฺตโน ธมฺมตาย ิโต น เตน สมเตโช โหติ, เอวํ วินา ปฺาย อุปฺปนฺนา ทุพฺพลา โหตีติ พลวภาวทีปนตฺถํ ปฺา คหิตาติ.
จิรกตมฺปีติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา กาเยน จิรกตํ วตฺตํ วา กสิณมณฺฑลํ วา กสิณปริกมฺมํ วา. จิรภาสิตมฺปีติ อตฺตนา วา ปเรน วา วาจาย จิรภาสิตํ พหุกมฺปิ, วตฺตสีเส ตฺวา ธมฺมกถํ วา กมฺมฏฺานวินิจฺฉยํ วา, วิมุตฺตายตนสีเส วา ตฺวา ธมฺมกถเมว. สริตา โหตีติ ตํ กายวิฺตฺตึ วจีวิฺตฺติฺจ สมุฏฺาเปตฺวา ปวตฺตํ อรูปธมฺมโกฏฺาสํ ‘เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ นิรุทฺโธ’ติ สริตา โหติ. อนุสฺสริตาติ ปุนปฺปุนํ สริตา. อยํ วุจฺจติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ อยํ เอวํ อุปฺปนฺนา เสสโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค นาม กถียติ.
โส ตถา สโต วิหรนฺโตติ โส ภิกฺขุ เตนากาเรน อุปฺปนฺนาย สติยา สโต หุตฺวา วิหรนฺโต. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ จิรกตํ จิรภาสิตํ เหฏฺา วุตฺตปฺปการํ ธมฺมํ. ปฺาย ปวิจินตีติ ปฺาย ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ ปวิจินติ. ปวิจรตีติ ¶ ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ ตตฺถ ปฺํ จราเปนฺโต ปวิจรติ. ปริวีมํสํ อาปชฺชตีติ โอโลกนํ คเวสนํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจตีติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปกํ วิปสฺสนาาณํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
ตสฺส ตํ ธมฺมนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน ตํ เหฏฺา วุตฺตปฺปการํ ธมฺมํ. อารทฺธํ โหตีติ ปริปุณฺณํ โหติ ปคฺคหิตํ. อสลฺลีนนฺติ อารทฺธตฺตาเยว อสลฺลีนํ. อยํ วุจฺจตีติ อิทํ โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปกํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
นิรามิสาติ ¶ ¶ กามามิสโลกามิสวฏฺฏามิสานํ อภาเวน นิรามิสา ปริสุทฺธา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ปีติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
ปีติมนสฺสาติ ปีติสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. กาโยปิ ปสฺสมฺภตีติ ขนฺธตฺตยสงฺขาโต นามกาโย กิเลสทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ปสฺสมฺภติ. จิตฺตมฺปีติ วิฺาณกฺขนฺโธปิ ตเถว ปสฺสมฺภติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ปสฺสทฺธิ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโนติ ปสฺสทฺธกายตาย อุปฺปนฺนสุเขน สุขิตสฺส. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ, นิจฺจลํ หุตฺวา อารมฺมเณ ปียติ, อปฺปนาปฺปตฺตํ วิย โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา จิตฺเตกคฺคตา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
ตถา สมาหิตนฺติ เตน อปฺปนาปฺปตฺเตน วิย สมาธินา สมาหิตํ. สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ สุฏฺุ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ; เตสํ ธมฺมานํ ปหานวฑฺฒเน อพฺยาวโฏ หุตฺวา อชฺฌุเปกฺขติ. อยํ ¶ วุจฺจตีติ อยํ ฉนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนภาวสาธโก มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค นาม วุจฺจติ.
เอตฺตาวตา กึ กถิตํ นาม โหติ? อปุพฺพํ อจริมํ เอกจิตฺตกฺขเณ นานารสลกฺขณา ปุพฺพภาควิปสฺสนา โพชฺฌงฺคา กถิตา โหนฺตีติ.
ปโม นโย.
๔๖๘-๔๖๙. อิทานิ เยน ปริยาเยน สตฺต โพชฺฌงฺคา จุทฺทส โหนฺติ, ตสฺส ปกาสนตฺถํ ทุติยนยํ ทสฺเสนฺโต ปุน สตฺต โพชฺฌงฺคาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุปุพฺพปทวณฺณนา – อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ สตีติ อชฺฌตฺติกสงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. พหิทฺธา ธมฺเมสุ สตีติ พหิทฺธาสงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา สติ. ยทปีติ ยาปิ. ตทปีติ สาปิ. อภิฺายาติ อภิฺเยฺยธมฺเม อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ สมฺโพธิ วุจฺจติ มคฺโค, มคฺคตฺถายาติ อตฺโถ. นิพฺพานายาติ ¶ วานํ วุจฺจติ ตณฺหา; สา ตตฺถ ¶ นตฺถีติ นิพฺพานํ, ตทตฺถาย, อสงฺขตาย อมตธาตุยา สจฺฉิกิริยตฺถาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคปิ เอเสว นโย.
กายิกํ วีริยนฺติ จงฺกมํ อธิฏฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. เจตสิกํ วีริยนฺติ ‘‘น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’’ติ เอวํ กายปโยคํ วินา อุปฺปนฺนวีริยํ. กายปสฺสทฺธีติ ติณฺณํ ขนฺธานํ ทรถปสฺสทฺธิ. จิตฺตปสฺสทฺธีติ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ทรถปสฺสทฺธิ. อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺเค สติสมฺโพชฺฌงฺคสทิโสว วินิจฺฉโย. อิมสฺมึ นเย สตฺต โพชฺฌงฺคา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
โปราณกตฺเถรา ปน ‘เอตฺตเกน ปากฏํ น โหตี’ติ วิภชิตฺวา ทสฺเสสุํ. เอเตสุ หิ อชฺฌตฺตธมฺเมสุ สติ ปวิจโย อุเปกฺขาติ อิเม ตโย อตฺตโน ขนฺธารมฺมณตฺตา โลกิยาว โหนฺติ. ตถา มคฺคํ อปฺปตฺตํ กายิกวีริยํ. อวิตกฺกอวิจารา ¶ ปน ปีติสมาธิโย โลกุตฺตรา โหนฺติ. เสสา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาติ.
ตตฺถ อชฺฌตฺตํ ตาว ธมฺเมสุ สติปวิจยอุเปกฺขา อชฺฌตฺตารมฺมณา, โลกุตฺตรา ปน พหิทฺธารมฺมณาติ เตสํ โลกุตฺตรภาโว มา ยุชฺชิตฺถ. จงฺกมปฺปโยเคน นิพฺพตฺตวีริยมฺปิ โลกิยนฺติ วทนฺโต น กิลมติ. อวิตกฺกอวิจารา ปน ปีติสมาธิโย กทา โลกุตฺตรา โหนฺตีติ? กามาวจเร ตาว ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ลพฺภติ, อวิตกฺกอวิจารา ปีติ น ลพฺภติ. รูปาวจเร อวิตกฺกอวิจารา ปีติ ลพฺภติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ปน น ลพฺภติ. อรูปาวจเร สพฺเพน สพฺพํ น ลพฺภติ. เอตฺถ ปน อลพฺภมานกํ อุปาทาย ลพฺภมานกาปิ ปฏิกฺขิตฺตา. เอวมยํ อวิตกฺกอวิจาโร ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค กามาวจรโตปิ นิกฺขนฺโต รูปาวจรโตปิ อรูปาวจรโตปีติ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตโร เยวาติ กถิโต.
ตถา กามาวจเร สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ลพฺภติ, อวิตกฺกอวิจาโร ปน สมาธิ น ลพฺภติ. รูปาวจรอรูปาวจเรสุ อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ ลพฺภติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ปน น ลพฺภติ. เอตฺถ ปน อลพฺภมานกํ อุปาทาย ลพฺภมานโกปิ ปฏิกฺขิตฺโต. เอวมยํ อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ กามาวจรโตปิ นิกฺขนฺโต รูปาวจรโตปิ อรูปาวจรโตปีติ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตโร เยวาติ กถิโต.
อปิจ ¶ ¶ โลกิยํ คเหตฺวา โลกุตฺตโร กาตพฺโพ; โลกุตฺตรํ คเหตฺวา โลกิโย กาตพฺโพ. อชฺฌตฺตธมฺเมสุ หิ สติปวิจยอุเปกฺขานํ โลกุตฺตรภาวนากาโลปิ อตฺถิ. ตตฺริทํ สุตฺตํ – ‘‘อชฺฌตฺตวิโมกฺขํ ขฺวาหํ, อาวุโส, สพฺพุปาทานกฺขยํ วทามิ; เอวมสฺสิเม อาสวา นานุเสนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๒ โถกํ วิสทิสํ) อิมินา สุตฺเตน โลกุตฺตรา โหนฺติ. ยทา ปน จงฺกมปโยเคน นิพฺพตฺเต กายิกวีริเย อนุปสนฺเตเยว วิปสฺสนา มคฺเคน ฆฏียติ, ตทา ตํ โลกุตฺตรํ โหติ. เย ปน เถรา ‘‘กสิณชฺฌาเน, อานาปานชฺฌาเน, พฺรหฺมวิหารชฺฌาเน จ โพชฺฌงฺโค อุทฺธรนฺโต น วาเรตพฺโพ’’ติ วทนฺติ, เตสํ วาเท อวิตกฺกอวิจารา ปีติสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา โลกิยา โหนฺตีติ.
ทุติโย นโย.
๔๗๐-๔๗๑. อิทานิ ¶ โพชฺฌงฺคานํ ภาวนาวเสน ปวตฺตํ ตติยนยํ ทสฺเสนฺโต ปุน สตฺต โพชฺฌงฺคาติอาทิมาห. ตตฺถาปิ อยํ อนุปุพฺพปทวณฺณนา – ภาเวตีติ วฑฺเฒติ; อตฺตโน สนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนติ อภินิพฺพตฺเตติ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ วิเวเก นิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. โส จายํ ตทงฺควิเวโก, วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวโกติ ปฺจวิโธ. ตตฺถ ตทงฺควิเวโก นาม วิปสฺสนา. วิกฺขมฺภนวิเวโก นาม อฏฺ สมาปตฺติโย. สมุจฺเฉทวิเวโก นาม มคฺโค. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก นาม ผลํ. นิสฺสรณวิเวโก นาม สพฺพนิมิตฺตนิสฺสฏํ นิพฺพานํ. เอวเมตสฺมึ ปฺจวิเธ วิเวเก นิสฺสิตํ วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตถา หิ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนานุโยคมนุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ. ปฺจวิเวกนิสฺสิตมฺปีติ เอเก. เต หิ น เกวลํ พลววิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุ เอว โพชฺฌงฺคํ อุทฺธรนฺติ, วิปสฺสนาปาทกกสิณชฺฌานอานาปานาสุภพฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ อุทฺธรนฺติ, น จ ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ ¶ . ตสฺมา เตสํ มเตน เอเตสํ ฌานานํ ปวตฺติกฺขเณ กิจฺจโต เอว วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตํ. ยถา จ วิปสฺสนากฺขเณ ‘‘อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิต’’นฺติ ¶ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตมฺปิ ภาเวตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสุ. วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย.
เกวลฺเจตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ – ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ‘ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค’ติ วิปสฺสนากฺขเณ จ ตทงฺควเสน มคฺคกฺขเณ จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ‘ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค’ติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก ¶ อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สติ สมฺโพชฺฌงฺโค ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ.
โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ, ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อิทํ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ โพชฺฌงฺคภาวนมนุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สติสมฺโพชฺฌงฺโค กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เอส นโย เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ. อิมสฺมิมฺปิ นเย โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา โพชฺฌงฺคา กถิตาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๗๒. อภิธมฺมภาชนีเย สตฺตปิ โพชฺฌงฺเค เอกโต ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ วเสน ทฺเว นยา. เตสํ อตฺถวณฺณนา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคนิทฺเทเส ปน อุเปกฺขนวเสน อุเปกฺขา. อุเปกฺขนากาโร อุเปกฺขนา. อุเปกฺขิตพฺพยุตฺเต สมปฺปวตฺเต ธมฺเม อิกฺขติ, น โจเทตีติ ¶ อุเปกฺขา. ปุคฺคลํ อุเปกฺขาเปตีติ อุเปกฺขนา ¶ . โพชฺฌงฺคภาวปฺปตฺติยา โลกิยอุเปกฺขนาย อธิกา อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนา. อพฺยาปาราปชฺชเนน มชฺฌตฺตภาโว มชฺฌตฺตตา. สา ปน จิตฺตสฺส, น สตฺตสฺสาติ ทีเปตุํ มชฺฌตฺตตา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตนฺติ. อยเมตฺถ อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
นยา ปเนตฺถ คเณตพฺพา – สตฺตนฺนมฺปิ หิ โพชฺฌงฺคานํ เอกโต ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชเน เอเกกมคฺเค นยสหสฺสํ นยสหสฺสนฺติ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ. ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชเน เอเกกโพชฺฌงฺควเสน จตฺตาริ จตฺตารีติ สตฺต จตุกฺกา อฏฺวีสติ. ตานิ ปุริเมหิ จตูหิ สทฺธึ ทฺวตฺตึสาติ สพฺพานิปิ อภิธมฺมภาชนีเย ทฺวตฺตึส นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ กุสลาเนว. ยสฺมา ปน ผลกฺขเณปิ โพชฺฌงฺคา ลพฺภนฺติ, กุสลเหตุกานิ จ สามฺผลานิ, ตสฺมา เตสุปิ โพชฺฌงฺคทสฺสนตฺถํ กุสลนิทฺเทสปุพฺพงฺคมาย เอว ตนฺติยา วิปากนโย อารทฺโธ. โสปิ ¶ เอกโต ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ, ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ วเสน ทุวิโธ โหติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิปาเก ปน กุสลโต ติคุณา นยา กาตพฺพาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๔๘๒. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว โพชฺฌงฺคานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺเพเปเต อปฺปมาณํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺติโต อปฺปมาณารมฺมณา เอว, น มคฺคารมฺมณา. สหชาตเหตุวเสน ปเนตฺถ กุสลา มคฺคเหตุกา, วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปติโน, ฉนฺทจิตฺตเชฏฺิกาย มคฺคภาวนาย น วตฺตพฺพา มคฺคาธิปติโนติ, ผลกาเลปิ น วตฺตพฺพา เอว.
อตีตาทีสุ เอการมฺมณภาเวนปิ น วตฺตพฺพา, นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณา นาม โหนฺตีติ. เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเกปิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราว ¶ โพชฺฌงฺคา กถิตา ¶ . สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺเสว ปมนยสฺมึ โลกิยา, ทุติยตติเยสุ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา โพชฺฌงฺคา กถิตา. อภิธมฺมภาชนียสฺส ปน จตูสุปิ นเยสุ อิมสฺมิฺจ ปฺหาปุจฺฉเก โลกุตฺตราเยวาติ เอวมยํ โพชฺฌงฺควิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
โพชฺฌงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. มคฺคงฺควิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๔๘๖. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร มคฺควิภงฺเค อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติอาทิ สพฺพํ สจฺจวิภงฺเค ทุกฺขนิโรธคามินีปฏิปทานิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภาวนาวเสน ปาฏิเยกฺกํ ทสฺสิเต ทุติยนเยปิ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทิ สพฺพํ โพชฺฌงฺควิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวมิทํ ทฺวินฺนมฺปิ นยานํ วเสน สุตฺตนฺตภาชนียํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกเมว กถิตํ.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๙๐. อภิธมฺมภาชนีเย ‘อริโย’ติ อวตฺวา อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ วุตฺตํ. เอวํ อวุตฺเตปิ อยํ อริโย เอว. ยถา หิ มุทฺธาภิสิตฺตสฺส รฺโ มุทฺธาภิสิตฺตาย เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ชาโต ปุตฺโต ราชปุตฺโตติ อวุตฺเตปิ ราชปุตฺโตเยว โหติ, เอวมยมฺปิ อริโยติ อวุตฺเตปิ อริโย เอวาติ เวทิตพฺโพ. เสสมิธาปิ สจฺจวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๙๓. ปฺจงฺคิกวาเรปิ อฏฺงฺคิโกติ อวุตฺเตปิ อฏฺงฺคิโก เอว เวทิตพฺโพ. โลกุตฺตรมคฺโค หิ ปฺจงฺคิโก นาม นตฺถิ. อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถา. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘โลกุตฺตรมคฺโค อฏฺงฺคิโก นาม นตฺถิ, ปฺจงฺคิโกเยว โหตี’’ติ. โส ‘‘สุตฺตํ อาหราหี’’ติ วุตฺโต อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต อิมํ มหาสฬายตนโต สุตฺตปฺปเทสํ อาหริสฺสติ ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. โย ตถาภูตสฺส สงฺกปฺโป, วายาโม, สติ, โย ¶ ตถาภูตสฺส สมาธิ, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ.
ตโต ‘‘เอตสฺส อนนฺตรํ สุตฺตปทํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อาหรติ อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ อาหรติ สยํ อาหริตฺวา ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑) ‘‘อิมินา ¶ ¶ เต สตฺถุสาสเนน วาโท ภินฺโน; โลกุตฺตรมคฺโค ปฺจงฺคิโก นาม นตฺถิ, อฏฺงฺคิโกว โหตี’’ติ วตฺตพฺโพ.
อิมานิ ปน ตีณิ องฺคานิ ปุพฺเพ ปริสุทฺธานิ วตฺตนฺติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปริสุทฺธตรานิ โหนฺติ. อถ ‘ปฺจงฺคิโก มคฺโค’ติ อิทํ กิมตฺถํ คหิตนฺติ? อติเรกกิจฺจทสฺสนตฺถํ. ยสฺมิฺหิ สมเย มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, สมฺมาวาจํ ปูเรติ, ตสฺมึ สมเย สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาอาชีวา นตฺถิ. อิมานิ ปฺจการาปกงฺคาเนว มิจฺฉาวาจํ ปชหนฺติ; สมฺมาวาจา ปน สยํ วิรติวเสน ปูเรติ. ยสฺมึ สมเย มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ, ตสฺมึ สมเย สมฺมาวาจาสมฺมาอาชีวา นตฺถิ. อิมานิ ปฺจ การาปกงฺคาเนว มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหนฺติ; สมฺมากมฺมนฺโต ปน สยํ วิรติวเสน ปูเรติ. ยสฺมึ สมเย มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, สมฺมาอาชีวํ ปูเรติ, ตสฺมึ สมเย สมฺมาวาจาสมฺมากมฺมนฺตา นตฺถิ. อิมานิ ปฺจ การาปกงฺคาเนว มิจฺฉาอาชีวํ ปชหนฺติ; สมฺมาอาชีโว ปน สยํ วิรติวเสน ปูเรติ. อิมํ เอเตสํ ปฺจนฺนํ การาปกงฺคานํ กิจฺจาติเรกตํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิโก มคฺโคติ คหิตํ. โลกุตฺตรมคฺโค ปน อฏฺงฺคิโกว โหติ, ปฺจงฺคิโก นาม นตฺถิ.
‘‘ยทิ สมฺมาวาจาทีหิ สทฺธึ อฏฺงฺคิโกติ วทถ, จตสฺโส สมฺมาวาจาเจตนา, ติสฺโส สมฺมากมฺมนฺตเจตนา, สตฺต สมฺมาอาชีวเจตนาติ อิมมฺหา เจตนาพหุตฺตา กถํ มุจฺจิสฺสถ? ตสฺมา ปฺจงฺคิโกว โลกุตฺตรมคฺโค’’ติ. ‘‘เจตนาพหุตฺตา จ ปมุจฺจิสฺสาม; อฏฺงฺคิโกว โลกุตฺตรมคฺโคติ จ วกฺขาม’’. ‘‘ตฺวํ ตาว มหาจตฺตารีสกภาณโก โหสิ, น โหสี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ ‘‘น โหมี’’ติ วทติ, ‘‘ตฺวํ อภาณกตฺตา น ชานาสี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ‘‘ภาณโกสฺมี’’ติ วทติ, ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ สุตฺตํ อาหรติ อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ อาหรติ สยํ อุปริปณฺณาสโต อาหริตพฺพํ –
‘‘กตมา ¶ จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา? สมฺมาวาจํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปฺุภาคิยา อุปธิเวปกฺกา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ¶ ปฺุภาคิยา อุปธิเวปกฺกา? มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย ¶ วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปฺุภาคิยา อุปธิเวปกฺกา.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา…เป….
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต? สมฺมากมฺมนฺตํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวยํ วทามิ…เป… อุปธิเวปกฺโก.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร…เป….
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว? สมฺมาอาชีวํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ…เป… อุปธิเวปกฺโก.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต มิจฺฉาอาชีวา อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๘ อาทโย).
เอวเมตฺถ ¶ จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ, ตีหิ กายทุจฺจริเตหิ, มิจฺฉาชีวโต จาติ เอเกกาว วิรติ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคาติ วุตฺตา. ‘‘กุโต เอตฺถ เจตนาพหุตฺตํ? กุโต ปฺจงฺคิโก มคฺโค? อิทํ เต สุตฺตํ อกามกสฺส โลกุตฺตรมคฺโค อฏฺงฺคิโกติ ทีเปติ’’. สเจ เอตฺตเกน สลฺลกฺเขติ อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ สลฺลกฺเขติ อฺานิปิ การณานิ อาหริตฺวา สฺาเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ น อุปลพฺภติ…เป… อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ; อิเธว ¶ , สุภทฺท, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณหิ อฺเหีติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔).
อฺเสุปิ อเนเกสุ สุตฺตสเตสุ อฏฺงฺคิโกว มคฺโค อาคโต. กถาวตฺถุปฺปกรเณปิ วุตฺตํ –
‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;
วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา’’ติ (กถา. ๘๗๒) –
‘‘อตฺเถว ¶ สุตฺตนฺโตติ’’? ‘‘อามนฺตา’’‘‘เตน หิ อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ. สเจ ปน เอตฺตเกนาปิ สฺตฺตึ น คจฺฉติ, ‘‘คจฺฉ, วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ. อุตฺตริมฺปน การณํ วกฺขตีติ อฏฺานเมตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
นยา ปเนตฺถ คเณตพฺพา. อฏฺงฺคิกมคฺคสฺมิฺหิ เอกโต ปุจฺฉิตฺวา เอกโต วิสฺสชฺชเน จตูสุ มคฺเคสุ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ. ปฺจงฺคิกมคฺเค เอกโต ปุจฺฉิตฺวา เอกโต วิสฺสชฺชเน จตฺตาริ; ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา ปาฏิเยกฺกํ วิสฺสชฺชเน จตฺตาริ จตฺตารีติ ปฺจสุ องฺเคสุ วีสติ. อิติ ปุริมานิ อฏฺ อิมานิ จ วีสตีติ สพฺพานิปิ มคฺควิภงฺเค อฏฺวีสติ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานิ. ตานิ จ โข นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรานิ กุสลาเนว. วิปาเก ปน กุสลโต ติคุณา นยา กาตพฺพาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๕๐๔. ปฺหาปุจฺฉเก ¶ ปาฬิอนุสาเรเนว มคฺคงฺคานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺพานิเปตานิ อปฺปมาณํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺติโต อปฺปมาณารมฺมณาเนว, น มคฺคารมฺมณานิ. เนว หิ มคฺโค น ผลํ มคฺคํ อารมฺมณํ กโรติ. สหชาตเหตุวเสน ปเนตฺถ กุสลานิ มคฺคเหตุกานิ; วีริยํ วา วีมํสํ วา เชฏฺกํ กตฺวา มคฺคภาวนากาเล มคฺคาธิปตีนิ; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺิกาย มคฺคภาวนาย น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ; ผลกาเลปิ น วตฺตพฺพาเนว.
อตีตาทีสุ ¶ เอการมฺมณภาเวนปิ น วตฺตพฺพานิ; นิพฺพานสฺส ปน พหิทฺธาธมฺมตฺตา พหิทฺธารมฺมณานิ นาม โหนฺตีติ เอวเมตสฺมึ ปฺหาปุจฺฉเกปิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตราเนว มคฺคงฺคานิ กถิตานิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรานิ มคฺคงฺคานิ กถิตานิ; อภิธมฺมภาชนีเย ปน ปฺหาปุจฺฉเก จ โลกุตฺตราเนวาติ เอวมยํ มคฺควิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
มคฺคงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ฌานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
มาติกาวณฺณนา
๕๐๘. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ฌานวิภงฺเค ยา ตาว อยํ สกลสฺสาปิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส ปมํ มาติกา ปิตา, ตตฺถ อิธาติ วจนํ ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาย สมฺปนฺนสฺส สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณหิ อฺเหี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑). ภิกฺขูติ เตสํ ฌานานํ นิพฺพตฺตกปุคฺคลปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวเร ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคีภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทมสฺส เหฏฺา ปาติโมกฺขสํวรสฺส อุปริ ฌานานุโยคสฺส จ อุปการธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํ. สมาทายาติ อิทมสฺส สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ อิทมสฺส สิกฺขาย สมงฺคีภาวปริทีปนํ. สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ.
อินฺทฺริเยสูติ อิทมสฺส คุตฺตทฺวารตาย ภูมิปริทีปนํ; รกฺขิตพฺโพกาสปริทีปนนฺติปิ วทนฺติ เอว. คุตฺตทฺวาโรติ อิทมสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวิหิตารกฺขภาวปริทีปนํ. โภชเน มตฺตฺูติ อิทมสฺส สนฺโตสาทิคุณปริทีปนํ. ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโตติ อิทมสฺส การณภาวปริทีปนํ. สาตจฺจํ ¶ เนปกฺกนฺติ อิทมสฺส ปฺาปริคฺคหิเตน วีริเยน สาตจฺจการิตาปริทีปนํ ¶ . โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโตติ อิทมสฺส ปฏิปตฺติยา นิพฺเพธภาคิยตฺตปริทีปนํ.
โส อภิกฺกนฺเต…เป… ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหตีติ อิทมสฺส สพฺพตฺถ สติสมฺปชฺสมนฺนาคตตฺตปริทีปนํ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชตีติ อิทมสฺส อนุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อรฺํ…เป… ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ อิทมสฺส เสนาสนปฺปเภทนิราทีนวตานิสํสปริทีปนํ. โส ¶ อรฺคโต วาติ อิทมสฺส วุตฺตปฺปกาเรน เสนาสเนน ยุตฺตภาวปริทีปนํ. นิสีทตีติ อิทมสฺส โยคานุรูปอิริยาปถปริทีปนํ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ อิทมสฺส โยคารมฺภปริทีปนํ. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหายาติอาทิ ปนสฺส กมฺมฏฺานานุโยเคน นีวรณปฺปหานปริทีปนํ. ตสฺเสว ปหีนนีวรณสฺส วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ ปฏิปาฏิยา ฌานุปฺปตฺติปริทีปนํ.
อปิ จ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ฌานุปฺปาทโก ภิกฺขุ. อิทานิ ยสฺมา ฌานุปฺปาทเกน ภิกฺขุนา จตฺตาริ สีลานิ โสเธตพฺพานิ, ตสฺมาสฺส ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลวิสุทฺธึ อุปทิสติ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติอาทินา อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ อิมินา เตสํ ทฺวินฺนํ สีลานํ อนวเสสโต อาทานํ. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ อิมินา อินฺทฺริยสํวรสีลํ. โภชเน มตฺตฺูติ อิมินา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ. ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตนฺติอาทินา สีเล ปติฏฺิตสฺส ฌานภาวนาย อุปการเก ธมฺเม. โส อภิกฺกนฺเตติอาทินา เตสํ ธมฺมานํ อปริหานาย กมฺมฏฺานสฺส จ อสมฺโมสาย สติสมฺปชฺสมาโยคํ. โส วิวิตฺตนฺติอาทินา ภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหํ. โส ¶ อรฺคโต วาติอาทินา ตํ เสนาสนํ อุปคตสฺส ฌานานุรูปอิริยาปถฺเจว ฌานภาวนารมฺภฺจ. โส อภิชฺฌนฺติอาทินา ฌานภาวนารมฺเภน ฌานปจฺจนีกธมฺมปฺปหานํ. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหายาติอาทินา เอวํ ปหีนชฺฌานปจฺจนีกธมฺมสฺส สพฺพชฺฌานานํ อุปฺปตฺติกฺกมํ อุปทิสตีติ.
มาติกาวณฺณนา.
นิทฺเทสวณฺณนา
๕๐๙. อิทานิ ¶ ยถานิกฺขิตฺตํ มาติกํ ปฏิปาฏิยา ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิธาติ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ. ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน ¶ วินโย, ตทุภเยนาปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ, อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา, อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา, อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา, อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย, อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม, อิมสฺมึ พุทฺธวินเย.
‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ โน วิราคาย, สํโยคาย สํวตฺตนฺติ โน วิสํโยคาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ โน อปจยาย, อุปาทาย สํวตฺตนฺติ โน ปฏินิสฺสคฺคิยา, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน สนฺตุฏฺิยา, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ โน ปวิเวกาย, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ โน วีริยารมฺภาย, ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ โน สุภรตายา’ติ เอกํเสน หิ, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ. เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ โน สราคาย…เป… สุภรตาย สํวตฺตนฺติ โน ทุพฺภรตายา’ติ. เอกํเสน หิ, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ – ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖).
เอวํ วุตฺเต อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย ¶ , อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน, อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย, อิมสฺมึ พุทฺธสตฺถุสาสเนติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อปิเจตํ สิกฺขาตฺตยสงฺขาตํ สกลํ สาสนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ, ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย. อตฺตโน การกํ อปาเยสุ อปตมานํ ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วินตีติ ¶ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย. กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ – ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ โน สราคาย…เป… เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’นฺติ.
ธมฺเมน ¶ วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย, วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;
อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒; ม. นิ. ๒.๓๕๒);
ตถา –
‘‘ธมฺเมน นียมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ; (มหาว. ๖๓);
ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถฺเหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา – ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห – ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสิฏฺํ วา นยตีติ วินโย. ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสิฏฺํ นิพฺพานํ นยติ. ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย; ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว วินโย. ยสฺมา วา ธมฺมาเยว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ, น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ; ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยาภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ ¶ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ; สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว สตฺถาติ วุตฺโตติ เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ¶ ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพปการชฺฌานนิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ ทิสฺสติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘อิมิสฺสา’ติ จ ‘อิมสฺมิ’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพติ. อยํ ‘อิธา’ติ มาติกาปทนิทฺเทสสฺส อตฺโถ.
๕๑๐. ภิกฺขุนิทฺเทเส สมฺายาติ ปฺตฺติยา, โวหาเรนาติ อตฺโถ. สมฺาย เอว หิ เอกจฺโจ ภิกฺขูติ ปฺายติ. ตถา หิ นิมนฺตนาทิมฺหิ ภิกฺขูสุ คณียมาเนสุ สามเณเรปิ คเหตฺวา ‘สตํ ภิกฺขู, สหสฺสํ ภิกฺขู’ติ วทนฺติ. ปฏิฺายาติ อตฺตโน ปฏิชานเนน. ปฏิฺายปิ ¶ หิ เอกจฺโจ ภิกฺขูติ ปฺายติ. ตสฺส ‘‘โก เอตฺถ อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ, อาวุโส, ภิกฺขู’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๙๖) สมฺภโว ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน อานนฺทตฺเถเรน วุตฺตตฺตา ธมฺมิกา ปฏิฺา. รตฺติภาเค ปน ทุสฺสีลาปิ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ วุตฺเต อธมฺมิกาย ปฏิฺาย อภูตตฺถาย ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺติ.
ภิกฺขตีติ ยาจติ. โย หิ โกจิ ภิกฺขติ, ภิกฺขํ เอสติ คเวสติ, โส ตํ ลภตุ วา มา วา, อถ โข ภิกฺขตีติ ภิกฺขุ. ภิกฺขโกติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ; ภิกฺขนธมฺมตาย ภิกฺขูติ อตฺโถ. ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ พุทฺธาทีหิ อชฺฌุปคตํ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโต นาม. โย หิ โกจิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, กสิโครกฺขาทีหิ ชีวิตกปฺปนํ หิตฺวา ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนเนว ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. ปรปฺปฏิพทฺธชีวิกตฺตา วา วิหารมชฺเฌ กาชภตฺตํ ภฺุชมาโนปิ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาย อุสฺสาหชาตตฺตา วา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ.
อคฺฆผสฺสวณฺณเภเทน ภินฺนํ ปฏํ ธาเรตีติ ภินฺนปฏธโร. ตตฺถ สตฺถกจฺเฉทเนน อคฺฆเภโท เวทิตพฺโพ. สหสฺสคฺฆนโกปิ หิ ปโฏ สตฺถเกน ขณฺฑาขณฺฑิกํ ¶ ฉินฺโน ภินฺนคฺโฆ โหติ, ปุริมคฺฆโต อุปฑฺฒมฺปิ น อคฺฆติ. สุตฺตสํสิพฺพเนน ผสฺสเภโท เวทิตพฺโพ. สุขสมฺผสฺโสปิ หิ ปโฏ สุตฺเตหิ สํสิพฺพิโต ภินฺนผสฺโส โหติ, ขรสมฺผสฺสตํ ปาปุณาติ. สูจิมลาทีหิ วณฺณเภโท เวทิตพฺโพ. สุปริสุทฺโธปิ หิ ปโฏ สูจิกมฺมโต ปฏฺาย สูจิมเลน, หตฺถเสทมลชลฺลิกาทีหิ ¶ , อวสาเน รชนกปฺปกรเณหิ จ ภินฺนวณฺโณ โหติ, ปกติวณฺณํ วิชหติ. เอวํ ตีหากาเรหิ ภินฺนปฏธารณโต ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ. คิหีวตฺถวิสภาคานํ วา กาสาวานํ ธารณมตฺเตเนว ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ.
ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขุ. โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจ กิเลเส ภินฺทตีติ ภิกฺขุ. สกทาคามิมคฺเคน จตฺตาโร, อนาคามิมคฺเคน จตฺตาโร, อรหตฺตมคฺเคน อฏฺ กิเลเส ภินฺทตีติ ภิกฺขุ. เอตฺตาวตา ¶ จตฺตาโร มคฺคฏฺา ทสฺสิตา. ภินฺนตฺตาติ อิมินา ปน จตฺตาโร ผลฏฺา. โสตาปนฺโน หิ โสตาปตฺติมคฺเคน ปฺจ กิเลเส ภินฺทิตฺวา ิโต. สกทาคามี สกทาคามิมคฺเคน จตฺตาโร, อนาคามี อนาคามิมคฺเคน จตฺตาโร, อรหา อรหตฺตมคฺเคน อฏฺ กิเลเส ภินฺทิตฺวา ิโต. เอวมยํ จตุพฺพิโธ ผลฏฺโ ภินฺนตฺตา ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ภิกฺขุ นาม.
โอธิโส กิเลสานํ ปหานาติ เอตฺถ ทฺเว โอธี – มคฺโคธิ จ กิเลโสธิ จ. โอธิ นาม สีมา, มริยาทา. ตตฺถ โสตาปนฺโน มคฺโคธินา โอธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ. ตสฺส หิ จตูสุ มคฺเคสุ เอเกเนว โอธินา กิเลสา ปหีนา, น สกเลน มคฺคจตุกฺเกน. สกทาคามีอนาคามีสุปิ เอเสว นโย. โสตาปนฺโน จ กิเลโสธินาปิ โอธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ. ตสฺส หิ ปหาตพฺพกิเลเสสุ โอธินาว กิเลสา ปหีนา, น สพฺเพน สพฺพํ. อรหา ปน อโนธิโสว กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ. ตสฺส หิ มคฺคจตุกฺเกน อโนธินาว กิเลสา ปหีนา, น เอกาย มคฺคสีมาย. ปหาตพฺพกิเลเสสุ จ อโนธิโสว กิเลสา ปหีนา. เอกาปิ หิ กิเลสสีมา ิตา นาม นตฺถิ. เอวํ โส อุภยถาปิ อโนธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ.
เสกฺโขติ ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต อริยา. ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. เตสุ โย โกจิ เสกฺโข ภิกฺขุติ เวทิตพฺโพ. น ¶ สิกฺขตีติ อเสกฺโข. เสกฺขธมฺเม อติกฺกมฺม อคฺคผเล ิโต ตโต อุตฺตริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต ขีณาสโว อเสกฺโขติ วุจฺจติ. อวเสโส ปุถุชฺชนภิกฺขุ ติสฺโส สิกฺขา เนว สิกฺขติ, น สิกฺขิตฺวา ิโตติ เนวเสกฺขนาเสกฺโขติ เวทิตพฺโพ.
สีลคฺคํ ¶ สมาธิคฺคํ ปฺคฺคํ วิมุตฺตคฺคนฺติ อิทํ อคฺคํ ปตฺวา ิตตฺตา อคฺโค ภิกฺขุ นาม. ภทฺโรติ อปาปโก. กลฺยาณปุถุชฺชนาทโย หิ ยาว อรหา ตาว ภทฺเรน สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน จ สมนฺนาคตตฺตา ภทฺโร ภิกฺขูติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. มณฺโฑ ภิกฺขูติ ปสนฺโน ภิกฺขุ; สปฺปิมณฺโฑ วิย อนาวิโล วิปฺปสนฺโนติ อตฺโถ. สาโรติ เตหิเยว สีลสาราทีหิ สมนฺนาคตตฺตา, นีลสมนฺนาคเมน นีโล ปโฏ วิย, สาโร ภิกฺขูติ เวทิตพฺโพ. วิคตกิเลสเผคฺคุภาวโต วา ขีณาสโวว สาโรติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ จ ‘‘ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขุ, โอธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ, เสกฺโข ภิกฺขู’’ติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ สตฺต เสกฺขา กถิตา. ‘‘ภินฺนตฺตา ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ ภิกฺขุ, อโนธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขุ, อเสกฺโข ภิกฺขุ, อคฺโค ภิกฺขุ, มณฺโฑ ภิกฺขู’’ติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ ขีณาสโวว กถิโต. ‘‘เนวเสกฺขนาเสกฺโข’’ติ เอตฺถ ปุถุชฺชโนว กถิโต. เสสฏฺาเนสุ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก, สตฺต เสกฺขา, ขีณาสโวติ อิเม สพฺเพปิ กถิตา.
เอวํ สมฺาทีหิ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุปสมฺปทาวเสน ทสฺเสตุํ สมคฺเคน สงฺเฆนาติอาทิมาห. ตตฺถ สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปฺจวคฺคกรณีเย กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เตสํ อาคตตฺตา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อาหฏตฺตา สมฺมุขีภูตานฺจ อปฺปฏิกฺโกสนโต เอกสฺมึ กมฺเม สมคฺคภาวํ อุปคเตน. ตฺติจตุตฺเถนาติ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ เอกาย จ ตฺติยา กาตพฺเพน. กมฺเมนาติ ธมฺมิเกน วินยกมฺเมน. อกุปฺเปนาติ ¶ วตฺถุตฺติอนุสฺสาวนสีมาปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนตฺตา อโกเปตพฺพตํ อปฺปฏิกฺโกสิตพฺพตํ อุปคเตน. านารเหนาติ การณารเหน สตฺถุสาสนารเหน.
อุปสมฺปนฺโน นาม อุปริภาวํ สมาปนฺโน, ปตฺโตติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโว หิ อุปริภาโว. ตฺเจส ยถาวุตฺเตน กมฺเมน สมาปนฺนตฺตา อุปสมฺปนฺโนติ วุจฺจติ. เอเตน ยา อิมา เอหิภิกฺขูปสมฺปทา, สรณาคมนูปสมฺปทา, โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา, ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ทูเตนูปสมฺปทา, อฏฺวาจิกูปสมฺปทา, ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาติ อฏฺ อุปสมฺปทา วุตฺตา, ตาสํ ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา, ทูเตนูปสมฺปทา, อฏฺวาจิกูปสมฺปทาติ อิมา ¶ ติสฺโสว ถาวรา. เสสา พุทฺเธ ธรมาเนเยว อเหสุํ. ตาสุ อุปสมฺปทาสุ อิมสฺมึ าเน อยํ ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาว อธิปฺเปตา.
๕๑๑. ปาติโมกฺขสํวรนิทฺเทเส ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํ. ตฺหิ, โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมจยติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ปาติโมกฺขนฺติ วุตฺตํ. สีลํ ปติฏฺาติอาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ สีลนฺติ กามฺเจตํ สห กมฺมวาจาปริโยสาเนน อิชฺฌนกสฺส ¶ ปาติโมกฺขสฺส เววจนํ, เอวํ สนฺเตปิ ธมฺมโต เอตํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฺปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนาทโย ธมฺมา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กึ สีล’’นฺติ? เจตนา สีลํ, เจตสิกํ สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีล’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๙).
ตตฺถ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส วิรติ. อปิจ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีนิ ปชหนฺตสฺส สตฺต กมฺมปถเจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ‘‘อภิชฺฌํ ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรตี’’ติอาทินา นเยน สํยุตฺตมหาวคฺเค วุตฺตา อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา. สํวโร สีลนฺติ เอตฺถ ปฺจวิเธน สํวโร เวทิตพฺโพ – ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร ¶ , ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ. ตสฺส นานากรณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖) วุตฺตํ. อวีติกฺกโม สีลนฺติ สมาทิณฺณสีลสฺส กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. เอตฺถ จ สํวรสีลํ อวีติกฺกมสีลนฺติ อิทเมว นิปฺปริยายโต สีลํ; เจตนา สีลํ เจตสิกํ สีลนฺติ ปริยายโต สีลนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา ปน ปาติโมกฺขสํวรสีเลน ภิกฺขุ สาสเน ปติฏฺาติ นาม, ตสฺมา ตํ ‘ปติฏฺา’ติ วุตฺตํ; ปติฏฺหติ วา เอตฺถ ภิกฺขุ, กุสลธมฺมา เอว วา เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺา. อยมตฺโถ –
‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ จ. (สํ. นิ. ๑.๒๓);
‘‘ปติฏฺา ¶ , มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลธมฺมาน’’นฺติ จ ‘‘สีเล ปติฏฺิตสฺส โข, มหาราช, สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ อาทิสุตฺตวเสน เวทิตพฺโพ.
ตเทตํ ปุพฺพุปฺปตฺติอตฺเถน อาทิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อุตฺติย, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๒).
ยถา ¶ หิ นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวา นครํ มาเปติ; เอวเมว โยคาวจโร อาทิโตว สีลํ วิโสเธติ, ตโต อปรภาเค สมถวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ. ยถา วา ปน รชโก ปมํ ตีหิ ขาเรหิ วตฺถํ โธวิตฺวา ปริสุทฺเธ วตฺเถ ยทิจฺฉกํ รงฺคชาตํ อุปเนติ; ยถา วา ปน เฉโก จิตฺตกาโร รูปํ ลิขิตุกาโม อาทิโตว ภิตฺติปริกมฺมํ กโรติ, ตโต อปรภาเค รูปํ สมุฏฺาเปติ; เอวเมว โยคาวจโร อาทิโตว สีลํ วิโสเธตฺวา อปรภาเค สมถวิปสฺสนาทโย ธมฺเม สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘อาที’’ติ วุตฺตํ.
ตเทตํ จรณสริกฺขตาย จรณํ. จรณาติ หิ ปาทา วุจฺจนฺติ. ยถา หิ ฉินฺนจรณสฺส ปุริสสฺส ทิสํคมนาภิสงฺขาโร น ชายติ, ปริปุณฺณปาทสฺเสว ชายติ; เอวเมว ยสฺส สีลํ ภินฺนํ โหติ ขณฺฑํ อปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย ¶ าณคมนํ น สมฺปชฺชติ. ยสฺส ปน ตํ อภินฺนํ โหติ อกฺขณฺฑํ ปริปุณฺณํ ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
ตเทตํ สํยมนวเสน สํยโม, สํวรณวเสน สํวโร. อุภเยนาปิ สีลสํยโม เจว สีลสํวโร จ กถิโต. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สํยเมติ วีติกฺกมวิปฺผนฺทนํ, ปุคฺคลํ วา สํยเมติ, วีติกฺกมวเสน ตสฺส วิปฺผนฺทิตุํ น เทตีติ สํยโม. วีติกฺกมสฺส ปเวสนทฺวารํ สํวรติ ปิทหตีติปิ สํวโร. โมกฺขนฺติ อุตฺตมํ มุขภูตํ วา. ยถา หิ สตฺตานํ จตุพฺพิโธ อาหาโร มุเขน ¶ ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จตุภูมกกุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โมกฺข’’นฺติ. ปมุเข สาธูติ ปาโมกฺขํ; ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ อตฺโถ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาติ จตุภูมกกุสลานํ ปฏิลาภตฺถาย ปาโมกฺขํ ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ.
กายิโก อวีติกฺกโมติ ติวิธํ กายสุจริตํ. วาจสิโกติ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ. กายิกวาจสิโกติ ตทุภยํ. อิมินา อาชีวฏฺมกสีลํ ปริยาทาย ทสฺเสติ. สํวุโตติ ปิหิโต; สํวุตินฺทฺริโย ปิหิตินฺทฺริโยติ ¶ อตฺโถ. ยถา หิ สํวุตทฺวารํ เคหํ ‘‘สํวุตเคหํ ปิหิตเคห’’นฺติ วุจฺจติ, เอวมิธ สํวุตินฺทฺริโย ‘‘สํวุโต’’ติ วุตฺโต. ปาติโมกฺขสํวเรนาติ ปาติโมกฺเขน จ สํวเรน จ, ปาติโมกฺขสงฺขาเตน วา สํวเรน. อุเปโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
๕๑๒. อิริยตีติอาทีหิ สตฺตหิปิ ปเทหิ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส ภิกฺขุโน อิริยาปถวิหาโร กถิโต.
๕๑๓. อาจารโคจรนิทฺเทเส กิฺจาปิ ภควา สมณาจรํ สมณโคจรํ กเถตุกาโม ‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อตฺถิ อาจาโร, อตฺถิ อนาจาโร’’ติ ปทํ อุทฺธริ. ยถา ปน มคฺคกุสโล ปุริโส มคฺคํ อจิกฺขนฺโต ‘วามํ มฺุจ ทกฺขิณํ คณฺหา’ติ ปมํ มฺุจิตพฺพํ สภยมคฺคํ อุปฺปถมคฺคํ อาจิกฺขติ ¶ , ปจฺฉา คเหตพฺพํ เขมมคฺคํ อุชุมคฺคํ; เอวเมว มคฺคกุสลปุริสสทิโส ธมฺมราชา ปมํ ปหาตพฺพํ พุทฺธปฺปฏิกุฏฺํ อนาจารํ อาจิกฺขิตฺวา ปจฺฉา อาจารํ อาจิกฺขิตุกาโม ‘‘ตตฺถ กตโม อนาจาโร’’ติอาทิมาห. ปุริเสน หิ อาจิกฺขิตมคฺโค สมฺปชฺเชยฺย วา น วา, ตถาคเตน อาจิกฺขิตมคฺโค อปณฺณโก, อินฺเทน วิสฺสฏฺํ วชิรํ วิย, อวิรชฺฌนโก นิพฺพานนครํเยว สโมสรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุริโส มคฺคกุสโลติ โข, ติสฺส, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๔).
ยสฺมา วา สสีสํ นหาเนน ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส ปุริสสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนวิธานํ วิย ปหีนปาปธมฺมสฺส กลฺยาณธมฺมสมาโยโค สมฺปนฺนรูโป โหติ, ตสฺมา เสทมลชลฺลิกฺกํ วิย ปหาตพฺพํ ปมํ อนาจารํ อาจิกฺขิตฺวา, ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนวิธานํ ¶ วิย ปจฺฉา อาจารํ อาจิกฺขิตุกาโมปิ ตตฺถ กตโม อนาจาโรติอาทิมาห. ตตฺถ กายิโก วีติกฺกโมติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ; วาจสิโก วีติกฺกโมติ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ; กายิกวาจสิโก วีติกฺกโมติ ตทุภยํ. เอวํ อาชีวฏฺมกสีลสฺเสว วีติกฺกมํ ทสฺเสสิ.
ยสฺมา ปน น เกวลํ กายวาจาหิ เอว อนาจารํ อาจรติ, มนสาปิ อาจรติ เอว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ อนาจาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ เอกจฺจิยํ อนาจารํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อิเธกจฺโจ เวฬุทาเนนาติอาทิมาห. ตตฺถ เวฬุทาเนนาติ ปจฺจยเหตุเกน เวฬุทาเนน. วิหาเร อุฏฺิตฺหิ อรฺโต วา อาหริตฺวา รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ ‘เอวํ เม ปจฺจยํ ทสฺสนฺตี’ติ อุปฏฺากานํ ทาตุํ น วฏฺฏติ. เอวฺหิ ชีวิตํ กปฺเปนฺโต อเนสนาย มิจฺฉาชีเวน ชีวติ. โส ทิฏฺเว ธมฺเม ครหํ ปาปุณาติ, สมฺปราเย จ อปายปริปูรโก โหติ. อตฺตโน ปุคฺคลิกเวฬุํ กุลสงฺคหตฺถาย ททนฺโต กุลทูสกทุกฺกฏมาปชฺชติ; ปรปุคฺคลิกํ เถยฺยจิตฺเตน ททมาโน ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. สงฺฆิเกปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ตํ อิสฺสรวตาย เทติ ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนมาปชฺชติ ¶ .
กตโร ปน เวฬุ ครุภณฺฑํ โหติ, กตโร น โหตีติ? โย ตาว อโรปิโม สยํชาตโก, โส สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ, ตโต ปรํ น ครุภณฺฑํ; โรปิตฏฺาเน สพฺเพน สพฺพํ ครุภณฺฑํ. โส ปน ปมาเณน ปริจฺฉินฺโน เตลนาฬิปฺปมาโณปิ ครุภณฺฑํ, น ตโต เหฏฺา. ยสฺส ปน ภิกฺขุโน เตลนาฬิยา วา กตฺตรทณฺเฑน วา อตฺโถ, เตน ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ. ผาติกมฺมํ ตทคฺฆนกํ วา อติเรกํ วา วฏฺฏติ, อูนกํ น วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมมฺปิ อุทกาหรณมตฺตํ วา อปฺปหริตกรณมตฺตํ วา น วฏฺฏติ, ตํ ถาวรํ กาตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา โปกฺขรณิโต วา ปํสุํ อุทฺธริตฺวา โสปานํ วา อตฺถราเปตฺวา วิสมฏฺานํ วา สมํ กตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คหิโต ตตฺถ วสนฺเตเนว ปริภฺุชิตพฺโพ; ปกฺกมนฺเตน สงฺฆิกํ กตฺวา เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ยตฺถ คโต สรติ, ตโต ปจฺจาหริตพฺโพ. สเจ อนฺตรา ภยํ โหติ, สมฺปตฺตวิหเร เปตฺวา คนฺตพฺพํ.
มนุสฺสา วิหารํ คนฺตฺวา เวฬุํ ยาจนฺติ. ภิกฺขู ‘สงฺฆิโก’ติ ทาตุํ น วิสหนฺติ. มนุสฺสา ปุนปฺปุนํ ยาจนฺติ วา ตชฺเชนฺติ วา. ตทา ภิกฺขูหิ ‘ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา คณฺหถา’ติ วตฺตุํ ¶ วฏฺฏติ; เวฬุทานํ นาม น โหติ. สเจ เต ทณฺฑกมฺมตฺถาย วาสิผรสุอาทีนิ วา ขาทนียโภชนียํ วา เทนฺติ, คเหตุํ น วฏฺฏติ. วินยฏฺกถายํ ปน ‘‘ทฑฺฒเคหา มนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.
สเจ ¶ สงฺฆสฺส เวฬุคุมฺเพ เวฬุทูสิกา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ อโกฏฺฏาเปนฺตานํ เวฬุ นสฺสติ, กึ กาตพฺพนฺติ? ภิกฺขาจาเร มนุสฺสานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ โกฏฺเฏตุํ น อิจฺฉนฺติ ‘สมภาคํ ลภิสฺสถา’ติ วตฺตพฺพา; น อิจฺฉนฺติเยว ‘ทฺเว โกฏฺาเส ลภิสฺสถา’ติ วตฺตพฺพา. เอวมฺปิ อนิจฺฉนฺเตสุ ‘นฏฺเน อตฺโถ นตฺถิ, ตุมฺหากํ ขเณ สติ ทณฺฑกมฺมํ กริสฺสถ, โกฏฺเฏตฺวา คณฺหถา’ติ วตฺตพฺพา; เวฬุทานํ นาม น โหติ. เวฬุคุมฺเพ อคฺคิมฺหิ อุฏฺิเตปิ, อุทเกน วุยฺหมานเวฬูสุปิ เอเสว นโย. รุกฺเขสุปิ อยเมว กถามคฺโค. รุกฺโข ปน สูจิทณฺฑกปฺปมาโณ ครุภณฺฑํ โหติ. สงฺฆิเก รุกฺเข โกฏฺฏาเปตฺวา สงฺฆํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ สงฺฆิกํ อาวาสํ กาตุํ ¶ ลพฺภติ. วจนปถจฺเฉทนตฺถํ ปน อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺโพ.
ปุคฺคลิกํ กาตุํ ลพฺภติ, น ลพฺภตีติ? น ลพฺภติ. หตฺถกมฺมสีเสน ปน เอกสฺมึ เคเห มฺจฏฺานมตฺตํ ลพฺภติ, ตีสุ เคเหสุ เอกํ เคหํ ลภติ. สเจ ทพฺภสมฺภารา ปุคฺคลิกา โหนฺติ, ภูมิ สงฺฆิกา, เอกํ เคหํ กตฺวา สมภาคํ ลภติ, ทฺวีสุ เคเหสุ เอกํ เคหํ ลภติ. สงฺฆิกรุกฺเข สงฺฆิกํ อาวาสํ พาเธนฺเต สงฺฆํ อนาปุจฺฉา หาเรตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? วฏฺฏติ. วจนปถจฺเฉทนตฺถํ ปน อาปุจฺฉิตฺวาว หาเรตพฺโพ. สเจ รุกฺขํ นิสฺสาย สงฺฆสฺส มหนฺโต ลาโภ โหติ, น หาเรตพฺโพ. ปุคฺคลิกรุกฺเข สงฺฆิกํ อาวาสํ พาเธนฺเต รุกฺขสามิกสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หริตุํ น อิจฺฉติ, เฉทาเปตฺวา หาเรตพฺโพ. ‘รุกฺขํ เม เทถา’ติ โจเทนฺตสฺส รุกฺขํ อคฺฆาเปตฺวา มูลํ ทาตพฺพํ. สงฺฆิเก รุกฺเข ปุคฺคลิกาวาสํ, ปุคฺคลิเก จ ปุคฺคลิกาวาสํ พาเธนฺเตปิ เอเสว นโย. วลฺลิยมฺปิ อยเมว กถามคฺโค. วลฺลิ ปน ยตฺถ วิกฺกายติ, ทุลฺลภา โหติ, ตตฺถ ครุภณฺฑํ. สา จ โข อุปฑฺฒพาหุปฺปมาณโต ปฏฺาย; ตโต เหฏฺา วลฺลิขณฺฑํ ครุภณฺฑํ น โหติ.
ปตฺตทานาทีสุปิ ปตฺตทาเนนาติ ปจฺจยเหตุเกน ปตฺตทาเนนาติอาทิ สพฺพํ เวฬุทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ครุภณฺฑตาย ปเนตฺถ อยํ วินิจฺฉโย. ปตฺตมฺปิ หิ ยตฺถ วิกฺกายติ, คนฺธิกาทโย ¶ คนฺธปลิเวนาทีนํ อตฺถาย คณฺหนฺติ, ตาทิเส ทุลฺลภฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ โหติ. เอส ตาว กึสุกปตฺตกณฺณปิฬนฺธนตาลปตฺตาทีสุ วินิจฺฉโย.
ตาลปณฺณมฺปิ ¶ อิมสฺมึเยว าเน กเถตพฺพํ. ตาลปณฺณมฺปิ หิ สยํชาเต ตาลวเน สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ, น ตโต ปรํ. โรปิมตาเลสุ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ. ตสฺส ปมาณํ เหฏฺิมโกฏิยา อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตโปตฺถโก. ติณมฺปิ เอตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา กเถตพฺพํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ ตตฺถ มฺุชปลาลนาฬิเกรปณฺณาทีหิปิ ฉาเทนฺติ. ตสฺมา ตานิปิ ติเณเนว สงฺคหิตานิ. อิติ มฺุชปลาลาทีสุ ยํกิฺจิ มุฏฺิปฺปมาณํ ติณํ, นาฬิเกรปณฺณาทีสุ จ เอกปณฺณมฺปิ ¶ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถชาตกํ วา พหิอาราเม สงฺฆสฺส ติณวตฺถุมฺหิ ชาตติณํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ โหติ. ตํ ปน สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา วุตฺตเวฬุมฺหิปิ เอเสว นโย.
ปุปฺผทาเน ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ยาคุภตฺตวตฺเถ อุปเนนฺตุ, เอตฺตเกสุ เสนาสนปฏิสงฺขรเณ อุปเนนฺตู’’ติ เอวํ นิยมิตฏฺาเน เอว ปุปฺผานิ ครุภณฺฑานิ โหนฺติ. ปรตีเร สามเณรา ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ปุปฺผภาชโก ภิกฺขุสงฺฆํ คเณตฺวา โกฏฺาเส กโรติ, โส สมฺปตฺตปริสาย สงฺฆํ อนาปุจฺฉิตฺวาว ทาตุํ ลภติ; อสมฺมเตน ปน อาปุจฺฉิตฺวาว ทาตพฺพํ. ภิกฺขุ ปน กสฺส ปุปฺผานิ ทาตุํ ลภติ, กสฺส น ลภตีติ? มาตาปิตูนํ เคหํ หริตฺวาปิ เคหโต ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ‘วตฺถุปูชํ กโรถา’ติ ทาตุํ ลภติ, ปิฬนฺธนตฺถาย ทาตุํ น ลภติ; เสสาตีนํ ปน หริตฺวา น ทาตพฺพํ, ปกฺโกสาเปตฺวา ‘ปูชํ กโรถา’ติ ทาตพฺพํ; เสสชนสฺส ปูชนฏฺานํ สมฺปตฺตสฺส อปจฺจาสีสนฺเตน ทาตพฺพํ; ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. วิหาเร พหูนิ ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺติ. ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จรนฺเตน มนุสฺเส ทิสฺวา ‘วิหาเร พหูนิ ปุปฺผานิ, ปูเชถา’ติ วตฺตพฺพํ. วจนมตฺเต โทโส นตฺถิ. ‘มนุสฺสา ขาทนียโภชนียํ อาทาย อาคมิสฺสนฺตี’ติ จิตฺเตน ปน น วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ, ขาทนียโภชนียํ น ปริภฺุชิตพฺพํ. มนุสฺสา อตฺตโน ธมฺมตาย ‘วิหาเร ปุปฺผานิ อตฺถี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘อสุกทิวเส วิหารํ อาคมิสฺสาม, สามเณรานํ ปุปฺผานิ โอจินิตุํ มา เทถา’ติ วทนฺติ. ภิกฺขู สามเณรานํ กเถตุํ ปมุฏฺา. สามเณเรหิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิตานิ. มนุสฺสา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ ตุมฺหากํ อสุกทิวเสเยว อาโรจยิมฺห ¶ – ‘สามเณรานํ ปุปฺผานิ โอจินิตุํ มา เทถา’ติ. กสฺมา น วารยิตฺถา’’ติ? ‘‘สติ ¶ เม ปมุฏฺา, ปุปฺผานิ โอจินิตมตฺตาเนว, ตาว น ปูชา กตา’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘คณฺหถ ปูเชถา’’ติ น วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ, อามิสํ น ปริภฺุชิตพฺพํ.
อปโร ภิกฺขุ สามเณรานํ อาจิกฺขติ ‘‘อสุกคามวาสิโน ปุปฺผานิ มา โอจินิตฺถา’’ติ อาหํสูติ. มนุสฺสาปิ ¶ อามิสํ อาหริตฺวา ทานํ ทตฺวา วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ มนุสฺสา น พหุกา, สามเณเร อมฺเหหิ สห ปุปฺผานิ โอจินิตุํ อาณาเปถา’’ติ. ‘‘สามเณเรหิ ภิกฺขา ลทฺธา; เย ภิกฺขาจารํ น คจฺฉนฺติ, เต สยเมว ชานิสฺสนฺติ, อุปาสกา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอตฺตกํ นยํ ลภิตฺวา สามเณเร ปุตฺเต วา ภาติเก วา กตฺวา ปุปฺผานิ โอจินาเปตุํ โทโส นตฺถิ; ปุปฺผทานํ นาม น โหติ.
ผลทาเน ผลมฺปิ ปุปฺผํ วิย นิยมิตเมว ครุภณฺฑํ โหติ. วิหาเร พหุกมฺหิ ผลาผเล สติ อผาสุกมนุสฺสา อาคนฺตฺวา ยาจนฺติ. ภิกฺขู ‘สงฺฆิก’นฺติ ทาตุํ น อุสฺสหนฺติ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ. ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? ผเลหิ วา รุกฺเขหิ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา กติกา กาตพฺพา – ‘อสุเกสุ จ รุกฺเขสุ เอตฺตกานิ ผลานิ คณฺหนฺตา, เอตฺตเกสุ วา รุกฺเขสุ ผลานิ คณฺหนฺตา น วาเรตพฺพา’ติ. โจรา ปน อิสฺสรา วา พลกฺกาเรน คณฺหนฺตา น วาเรตพฺพา; กุทฺธา เต สกลวิหารมฺปิ นาเสยฺยุํ. อาทีนโว ปน กเถตพฺโพติ.
สินานทาเน สินานจุณฺณานิ โกฏฺฏิตานิ น ครุภณฺฑานิ. อโกฏฺฏิโต รุกฺขตฺตโจว ครุภณฺฑํ. จุณฺณํ ปน อคิลานสฺส รชนนิปกฺกํ วฏฺฏติ. คิลานสฺส ยํกิฺจิ จุณฺณํ วฏฺฏติเยว. มตฺติกาปิ เอตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา กเถตพฺพา. มตฺติกาปิ ยตฺถ ทุลฺลภา โหติ, ตตฺเถว ครุภณฺฑํ. สาปิ เหฏฺิมโกฏิยา ตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาณาว ตโต เหฏฺา น ครุภณฺฑนฺติ.
ทนฺตกฏฺทาเน ทนฺตกฏฺํ อจฺฉินฺนกเมว ครุภณฺฑํ. เยสํ สามเณรานํ สงฺฆโต ทนฺตกฏฺวาโร ปาปุณาติ, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ ปาฏิเยกฺกํ ทาตุํ น ลภนฺติ. เยหิ ปน ‘เอตฺตกานิ ทนฺตกฏฺานิ อาหริตพฺพานี’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วารํ คหิตานิ, เต อติเรกานิ อาจริยุปชฺฌายานํ ทาตุํ ลภนฺติ. เอเกน ภิกฺขุนา ทนฺตกฏฺมาฬกโต พหูนิ ทนฺตกฏฺานิ ¶ น คเหตพฺพานิ, เทวสิกํ เอเกกเมว คเหตพฺพํ. ปาฏิเยกฺกํ วสนฺเตนาปิ ภิกฺขุสงฺฆํ คณยิตฺวา ยตฺตกานิ ¶ อตฺตโน ปาปุณนฺติ ตตฺตกาเนว คเหตฺวา คนฺตพฺพํ; อนฺตรา อาคนฺตุเกสุ วา อาคเตสุ ¶ ทิสํ วา ปกฺกมนฺเตน อาหริตฺวา คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพานิ.
จาฏุกมฺยตายาติอาทีสุ จาฏุกมฺยตา วุจฺจติ อตฺตานํ ทาสํ วิย นีจฏฺาเน เปตฺวา ปรสฺส ขลิตวจนมฺปิ สณฺเปตฺวา ปิยกามตาย ปคฺคยฺหวจนํ. มุคฺคสูปฺยตายาติ มุคฺคสูปสมานาย สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปนตาเยตํ อธิวจนํ. ยถา หิ มุคฺคสูเป ปจฺจนฺเต พหู มุคฺคา ปากํ คจฺฉนฺติ, โถกา น คจฺฉนฺติ; เอวเมว สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปเก ปุคฺคเล พหุ อลิกํ โหติ, อปฺปกํ สจฺจํ. ยถา วา มุคฺคสูปสฺส อปฺปวิสนฏฺานํ นาม นตฺถิ, เอวเมว สจฺจาลิกวุตฺติโน ปุคฺคลสฺส อปฺปวิฏฺวาจา นาม นตฺถิ; สิงฺฆาฏกํ วิย อิจฺฉิติจฺฉิตธาราย ปติฏฺาติ. เตนสฺส สา มุสาวาทิตา มุคฺคสูปฺยตาติ วุตฺตา. ปาริภฏยตาติ ปริภฏกมฺมภาโว. ปริภฏสฺส หิ กมฺมํ ปาริภฏยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏยตา; อลงฺการกรณาทีหิ ทารกกีฬาปนสฺเสตํ อธิวจนํ.
ชงฺฆเปสนิกนฺติ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ เตสํ เตสํ คิหีนํ สาสนปฏิสาสนหรณํ. อิทฺหิ ชงฺฆเปสนิกํ นาม อตฺตโน มาตาปิตูนํ, เย จสฺส มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ, เตสํ สาสนํ คเหตฺวา กตฺถจิ คมนวเสน วฏฺฏติ. เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา อตฺตโน วา กมฺมํ กโรนฺตานํ วฑฺฒกีนมฺปิ สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา ‘‘ทานํ ทสฺสาม, ปูชํ กริสฺสาม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาจิกฺขถา’’ติ วทนฺติ; ‘‘อสุกตฺเถรสฺส นาม เทถา’’ติ ปิณฺฑปาตํ วา เภสชฺชํ วา จีวรํ วา เทนฺติ; ‘‘วิหาเร ปูชํ กโรถา’’ติ มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ วา ธชปตากาทีนิ วา นียฺยาเทนฺติ, สพฺพํ หริตุํ วฏฺฏติ; ชงฺฆเปสนิกํ นาม น โหติ. เสสานํ สาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร โทโส.
อฺตรฺตเรนาติ เอเตสํ วา เวฬุทานาทีนํ อฺตรฺตเรน เวชฺชกมฺมภณฺฑาคาริกกมฺมํ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑกมฺมํ ¶ สงฺฆุปฺปาทเจติยุปฺปาทอุปฏฺาปนกมฺมนฺติ เอวรูปานํ วา มิจฺฉาชีเวน ชีวิตกปฺปนกกมฺมานํ เยน เกนจิ. พุทฺธปฏิกุฏฺเนาติ พุทฺเธหิ ครหิเตน ปฏิสิทฺเธน. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สพฺโพปิ อนาจาโร นาม กถียติ. อาจารนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๕๑๔. โคจรนิทฺเทเสปิ ¶ ¶ ปมํ อโคจรสฺส วจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ จ โคจโรติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานํ โคจโร, อยุตฺตฏฺานํ อโคจโร. เวสิยา โคจโร อสฺสาติ เวสิยโคจโร; มิตฺตสนฺถววเสน อุปสงฺกมิตฏฺานนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ เวสิยา นาม รูปูปชีวินิโย เยน เกนจิเทว สุลภชฺฌาจารตามิตฺตสตฺถวสิเนหวเสน อุปสงฺกมนฺโต เวสิยาโคจโร นาม โหติ. ตสฺมา เอวํ อุปสงฺกมิตุํ น วฏฺฏติ. กึ การณา? อารกฺขวิปตฺติโต. เอวํ อุปสงฺกมนฺตสฺส หิ จิรํ รกฺขิตโคปิโตปิ สมณธมฺโม กติปาเหเนว นสฺสติ; สเจปิ น นสฺสติ ครหํ ลภติ. ทกฺขิณาวเสน ปน อุปสงฺกมนฺเตน สตึ อุปฏฺาเปตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ. วิธวา วุจฺจนฺติ มตปติกา วา ปวุตฺถปติกา วา. ถุลฺลกุมาริโยติ มหลฺลิกา อนิวิฏฺกุมาริโย. ปณฺฑกาติ โลกามิสนิสฺสิตกถาพหุลา อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา นปุํสกา. เตสํ สพฺเพสมฺปิ อุปสงฺกมเน อาทีนโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภิกฺขุนีสุปิ เอเสว นโย. อปิจ ภิกฺขู นาม อุสฺสนฺนพฺรหฺมจริยา โหนฺติ, ตถา ภิกฺขุนิโย. เต อฺมฺํ สนฺถววเสน กติปาเหเนว รกฺขิตโคปิตสมณธมฺมํ นาเสนฺติ. คิลานปุจฺฉเกน ปน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนา ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูชนตฺถายปิ โอวาททานตฺถายปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว.
ปานาคารนฺติ สุราปานฆรํ. ตํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกเรหิ สุราโสณฺเฑหิ อวิวิตฺตํ โหติ. ตตฺถ เตหิ สทฺธึ สห โสณฺฑวเสน ¶ อุปสงฺกมิตุํ น วฏฺฏติ; พฺรหฺมจริยนฺตราโย โหติ. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหีติอาทีสุ ราชาโนติ อภิสิตฺตา วา โหนฺตุ อนภิสิตฺตา วา เย รชฺชํ อนุสาสนฺติ. ราชมหามตฺตาติ ราชูนํ อิสฺสริยสทิสาย มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตา. ติตฺถิยาติ วิปรีตทสฺสนา พาหิรปริพฺพาชกา. ติตฺถิยสาวกาติ ภตฺติวเสน เตสํ ปจฺจยทายกา. เอเตหิ สทฺธึ สํสคฺคชาโต โหตีติ อตฺโถ.
อนนุโลมิเกน สํสคฺเคนาติ อนนุโลมิกสํสคฺโค นาม ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนนุโลโม ปจฺจนีกสํสคฺโค, เยน พฺรหฺมจริยนฺตรายํ ปฺตฺติวีติกฺกมํ สลฺเลขปริหานิฺจ ปาปุณาติ, เสยฺยถิทํ – ราชราชมหามตฺเตหิ สทฺธึ สหโสกิตา, สหนนฺทิตา, สมสุขทุกฺขตา, อุปฺปนฺเนสุ ¶ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนาว โยคํ อาปชฺชนตา, ติตฺถิยติตฺถิยสาวเกหิ สทฺธึ เอกจฺฉนฺทรุจิสมาจารตา เอกจฺฉนฺทรุจิสมาจารภาวาวโห วา สิเนหพหุมานสนฺถโว. ตตฺถ ราชราชมหามตฺเตหิ ¶ สทฺธึ สํสคฺโค พฺรหฺมจริยนฺตรายํ กโรติ. อิตเรหิ ติตฺถิยสาวเกหิ เตสํ ลทฺธิคหณํ. เตสํ ปน วาทํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ คณฺหาเปตุํ สมตฺเถน อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.
อิทานิ อปเรนปิ ปริยาเยน อโคจรํ ทสฺเสตุํ ยานิ วา ปน ตานิ กุลานีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อสฺสทฺธานีติ พุทฺธาทีสุ สทฺธาวิรหิตานิ; พุทฺโธ สพฺพฺู, ธมฺโม นิยฺยานิโก, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโนติ น สทฺทหนฺติ. อปฺปสนฺนานีติ จิตฺตํ ปสนฺนํ อนาวิลํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อกฺโกสกปริภาสกานีติ อกฺโกสกานิ เจว ปริภาสกานิ จ; ‘โจโรสิ, พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, โอฏฺโสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, อาปายิโกสิ, เนรยิโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติเยว ปาฏิกงฺขา’ติ เอวํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ; ‘โหตุ, อิทานิ ตํ ปหริสฺสาม, พนฺธิสฺสาม ¶ , วธิสฺสามา’ติ เอวํ ภยทสฺสเนน ปริภาสนฺติ จาติ อตฺโถ. อนตฺถกามานีติ อตฺถํ น อิจฺฉนฺติ, อนตฺถเมว อิจฺฉนฺติ. อหิตกามานีติ อหิตเมว อิจฺฉนฺติ, หิตํ น อิจฺฉนฺติ. อผาสุกกามานีติ ผาสุกํ น อิจฺฉนฺติ, อผาสุกเมว อิจฺฉนฺติ. อโยคกฺเขมกามานีติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ น อิจฺฉนฺติ, สภยเมว อิจฺฉนฺติ. ภิกฺขูนนฺติ เอตฺถ สามเณราปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ภิกฺขุนีนนฺติ เอตฺถ สิกฺขมานสามเณริโยปิ. สพฺเพสมฺปิ หิ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตานฺเจว สรณคตานฺจ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ตานิ อนตฺถกามานิเยว. ตถารูปานิ กุลานีติ เอวรูปานิ ขตฺติยกุลาทีนิ กุลานิ. เสวตีติ นิสฺสาย ชีวติ. ภชตีติ อุปสงฺกมติ. ปยิรุปาสตีติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เวสิยาทิโคจรสฺส เวสิยาทิโก, ราชาทิสํสฏฺสฺส ราชาทิโก, อสฺสทฺธกุลาทิเสวกสฺส อสฺสทฺธกุลาทิโก จาติ ติปฺปกาโรปิ อยุตฺตโคจโร อโคจโรติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺส อิมินา ปริยาเยน อโคจรตา เวทิตพฺพา. เวสิยาทิโก ตาว ปฺจกามคุณนิสฺสยโต อโคจโรติ เวทิตพฺโพ, ยถาห – ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย? ยทิทํ ปฺจ กามคุณา’’ติ ¶ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒) ราชาทิโก ฌานานุโยคสฺส อนุปนิสฺสยโต ลาภสกฺการาสนิจกฺกนิปฺผาทนโต ทิฏฺิวิปตฺติเหตุโต จ, อสฺสทฺธกุลาทิโก สทฺธาหานิจิตฺตสนฺตาสาวหนโต อโคจโรติ.
โคจรนิทฺเทเส น เวสิยโคจโรติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. โอปานภูตานีติอาทีสุ ¶ ปน โอปานภูตานีติ อุทปานภูตานิ; ภิกฺขุสงฺฆสฺส, จาตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย, ยถาสุขํ โอคาหนกฺขมานิ จิตฺตมหามตฺตสฺส เคหสทิสานิ. ตสฺส กิร เคเห กาลตฺถมฺโภ ยุตฺโตเยว ¶ . ฆรทฺวารํ สมฺปตฺตานํ ภิกฺขูนํ ปจฺจยเวกลฺลํ นาม นตฺถิ. เอกทิวสํ เภสชฺชวตฺตเมว สฏฺิ กหาปณานิ นิกฺขมนฺติ. กาสาวปชฺโชตานีติ ภิกฺขุภิกฺขุนีหิ นิวตฺถปารุตานํ กาสาวานํเยว ปภาย เอโกภาสานิ ภูตปาลเสฏฺิกุลสทิสานิ. อิสิวาตปฏิวาตานีติ เคหํ ปวิสนฺตานํ นิกฺขมนฺตานฺจ ภิกฺขุภิกฺขุนีสงฺขาตานํ อิสีนํ จีวรวาเตน เจว สมิฺชนปสารณาทิชนิตสรีรวาเตน จ ปฏิวาตานิ ปวายิตานิ วินิทฺธุตกิพฺพิสานิ วา.
๕๑๕. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวิตานิทฺเทเส อณุมตฺตานีติ อณุปฺปมาณา. วชฺชาติ โทสา. ยานิ ตานิ วชฺชานีติ ยานิ ตานิ ครหิตพฺพฏฺเน วชฺชานิ. อปฺปมตฺตกานีติ ปริตฺตมตฺตกานิ ขุทฺทกปฺปมาณานิ. โอรมตฺตกานีติ ปริตฺตโตปิ โอริมปฺปมาณตฺตา โอรมตฺตกานิ. ลหุสานีติ ลหุกานิ. ลหุสมฺมตานีติ ลหูติ สมฺมตานิ. สํยมกรณียานีติ สํยเมน กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ. สํวรกรณียานีติ สํวเรน กาตพฺพานิ สํวเรน กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ. จิตฺตุปฺปาทกรณียานีติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ. มนสิการปฏิพทฺธานีติ มนสา อาวชฺชิตมตฺเตเนว กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ. กานิ ปน ตานีติ? ทิวาวิหารวาสี สุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘อนาปตฺติคมนียานิ จิตฺตุปฺปาทมตฺตกานิ ยานิ ‘น ปุน เอวรูปํ กริสฺสามี’ติ มนสา อาวชฺชิตมตฺเตเนว สุชฺฌนฺติ. อธิฏฺานาวิกมฺมํ นาเมตํ กถิต’’นฺติ. อนฺเตวาสิโก ปนสฺส ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปนาห – ‘‘อิทํ ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺเสว ภาชนียํ. ตสฺมา สพฺพลหุกํ ทุกฺกฏทุพฺภาสิตํ อิธ วชฺชนฺติ เวทิตพฺพํ. วุฏฺานาวิกมฺมํ นาเมตํ กถิต’’นฺติ. อิติอิเมสูติ ¶ เอวํปกาเรสุ อิเมสุ. วชฺชทสฺสาวีติ วชฺชโต โทสโต ทสฺสนสีโล. ภยทสฺสาวีติ ¶ จตุพฺพิธสฺส ภยสฺส การณตฺตา ภยโต ทสฺสนสีโล. อาทีนวทสฺสาวีติ อิธ นินฺทาวหนโต, อายตึ ทุกฺขวิปากโต, อุปริคุณานํ อนฺตรายกรณโต, วิปฺปฏิสารชนนโต จ เอเตน นานปฺปกาเรน อาทีนวโต ทสฺสนสีโล.
นิสฺสรณทสฺสาวีติ ยํ ตตฺถ นิสฺสรณํ ตสฺส ทสฺสนสีโล. กึ ปเนตฺถ นิสฺสรณนฺติ? อาจริยตฺเถรวาเท ¶ ตาว ‘‘อนาปตฺติคมนียตาย สติ อธิฏฺานาวิกมฺมํ นิสฺสรณ’’นฺติ กถิตํ. อนฺเตวาสิกตฺเถรวาเท ตาว ‘‘อาปตฺติคมนียตาย สติ วุฏฺานาวิกมฺมํ นิสฺสรณ’’นฺติ กถิตํ.
ตตฺถ ตถารูโป ภิกฺขุ อณุมตฺตานิ วชฺชานิ วชฺชโต ภยโต ปสฺสติ นาม. ตํ ทสฺเสตุํ อยํ นโย กถิโต – ปรมาณุ นาม, อณุ นาม, ตชฺชารี นาม, รถเรณุ นาม, ลิกฺขา นาม, อูกา นาม, ธฺมาโส นาม, องฺคุลํ นาม, วิทตฺถิ นาม, รตนํ นาม, ยฏฺิ นาม, อุสภํ นาม, คาวุตํ นาม, โยชนํ นาม. ตตฺถ ‘ปรมาณุ’ นาม อากาสโกฏฺาสิโก มํสจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉติ, ทิพฺพจกฺขุสฺเสว อาคจฺฉติ. ‘อณุ’ นาม ภิตฺติจฺฉิทฺทตาลจฺฉิทฺเทหิ ปวิฏฺสูริยรสฺมีสุ วฏฺฏิ วฏฺฏิ หุตฺวา ปริพฺภมนฺโต ปฺายติ. ‘ตชฺชารี’ นาม โคปถมนุสฺสปถจกฺกปเถสุ ฉิชฺชิตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ อุคฺคนฺตฺวา ติฏฺติ. ‘รถเรณุ’ นาม ตตฺถ ตตฺเถว อลฺลียติ. ลิกฺขาทโย ปากฏา เอว. เอเตสุ ปน ฉตฺตึส ปรมาณโว เอกสฺส อณุโน ปมาณํ. ฉตฺตึส อณู เอกาย ตชฺชาริยา ปมาณํ. ฉตฺตึส ตชฺชาริโย เอโก รถเรณุ. ฉตฺตึส รถเรณู เอกา ลิกฺขา. สตฺต ลิกฺขา เอกา อูกา. สตฺต อูกา เอโก ธฺมาโส. สตฺตธฺมาสปฺปมาณํ เอกํ องฺคุลํ. เตนงฺคุเลน ทฺวาทสงฺคุลานิ วิทตฺถิ. ทฺเว วิทตฺถิโย รตนํ. สตฺต รตนานิ ยฏฺิ. ตาย ยฏฺิยา วีสติ ยฏฺิโย อุสภํ. อสีติ อุสภานิ คาวุตํ. จตฺตาริ คาวุตานิ โยชนํ. เตน โยชเนน อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพโธ สิเนรุปพฺพตราชา. โย ภิกฺขุ อณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตสทิสํ กตฺวา ทฏฺุํ สกฺโกติ – อยํ ภิกฺขุ อณุมตฺตานิ ¶ วชฺชานิ ภยโต ปสฺสติ นาม. โยปิ ภิกฺขุ สพฺพลหุกํ ¶ ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺตํ ปมปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทฏฺุํ สกฺโกติ – อยํ อณุมตฺตานิ วชฺชานิ วชฺชโต ภยโต ปสฺสติ นามาติ เวทิตพฺโพ.
๕๑๖. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติปทนิทฺเทเส ภิกฺขุสิกฺขาติ ภิกฺขูหิ สิกฺขิตพฺพสิกฺขา. สา ภิกฺขุนีหิ สาธารณาปิ อสาธารณาปิ ภิกฺขุสิกฺขา เอว นาม. ภิกฺขุนีสิกฺขาติ ภิกฺขุนีหิ สิกฺขิตพฺพสิกฺขา. สาปิ ภิกฺขูหิ สาธารณาปิ อสาธารณาปิ ภิกฺขุนีสิกฺขา เอว นาม. สามเณรสิกฺขมานสามเณรีนํ สิกฺขาปิ เอตฺเถว ปวิฏฺา. อุปาสกสิกฺขาติ อุปาสเกหิ สิกฺขิตพฺพสิกฺขา. สา ปฺจสีลทสสีลวเสน วฏฺฏติ. อุปาสิกาสิกฺขาติ อุปาสิกาหิ สิกฺขิตพฺพสิกฺขา. สาปิ ปฺจสีลทสสีลวเสน วฏฺฏติ. ตตฺถ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ สิกฺขา ยาว อรหตฺตมคฺคา วฏฺฏติ. อุปาสกอุปาสิกานํ สิกฺขา ¶ ยาว อนาคามิมคฺคา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปเทสุ เอว สิกฺขติ. เสสสิกฺขา ปน อตฺถุทฺธารวเสน สิกฺขาปทสฺส อตฺถทสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. อิติ อิมาสุ สิกฺขาสูติ เอวํปการาสุ เอตาสุ สิกฺขาสุ. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพน สิกฺขาสมาทาเนน สพฺพํ สิกฺขํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรน สพฺพํ สิกฺขํ. อเสสํ นิสฺเสสนฺติ เสสาภาวโต อเสสํ; สติสมฺโมเสน ภินฺนสฺสาปิ สิกฺขาปทสฺส ปุน ปากติกกรณโต นิสฺเสสํ. สมาทาย วตฺตตีติ สมาทิยิตฺวา คเหตฺวา วตฺตติ. เตน วุจฺจตีติ เยน การเณน เอตํ สพฺพํ สิกฺขาปทํ สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรน สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ ปูเรติ, เตน วุจฺจติ ‘‘สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสู’’ติ.
๕๑๗-๘. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺูติปททฺวยสฺส นิทฺเทเส กณฺหปกฺขสฺส ปมวจเน ปโยชนํ อาจารนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กตมา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาติอาทีสุ ปน ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนายํ วุตฺตเมว.
๕๑๙. ชาคริยานุโยคนิทฺเทเส ¶ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตนฺติ เอตฺถ อฑฺฒรตฺตสงฺขาตาย รตฺติยา ปุพฺเพ ปุพฺพรตฺตํ; อิมินา ปมยามฺเจว ปจฺฉาภตฺตฺจ คณฺหาติ ¶ . รตฺติยา ปจฺฉา อปรรตฺตํ; อิมินา ปจฺฉิมยามฺเจว ปุเรภตฺตฺจ คณฺหาติ. มชฺฌิมยาโม ปนสฺส ภิกฺขุโน นิทฺทากิลมถวิโนทโนกาโสติ น คหิโต. ชาคริยานุโยคนฺติ ชาคริยสฺส อสุปนภาวสฺส อนุโยคํ. อนุยุตฺโต โหตีติ ตํ อนุโยคสงฺขาตํ อาเสวนํ ภาวนํ อนุยุตฺโต โหติ สมฺปยุตฺโต. นิทฺเทเส ปนสฺส อิธ ภิกฺขุ ทิวสนฺติ ปุพฺพณฺโห, มชฺฌนฺโห, สายนฺโหติ ตโยปิ ทิวสโกฏฺาสา คหิตา. จงฺกเมน นิสชฺชายาติ สกลมฺปิ ทิวสํ อิมินา อิริยาปถทฺวเยเนว วิหรนฺโต. จิตฺตสฺส อาวรณโต อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ ปฺจหิปิ นีวรเณหิ สพฺพากุสลธมฺเมหิ วา จิตฺตํ ปริโสเธติ. เตหิ ธมฺเมหิ วิโสเธติ ปริโมเจติ. านํ ปเนตฺถ กิฺจาปิ น คหิตํ, จงฺกมนิสชฺชาสนฺนิสฺสิตํ ปน กตฺวา คเหตพฺพเมว. ปมยามนฺติ สกลสฺมิมฺปิ ปมยาเม. มชฺฌิมยามนฺติ รตฺตินฺทิวสฺส ฉฏฺโกฏฺาสสงฺขาเต มชฺฌิมยาเม.
สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคีเสยฺยา, เปตเสยฺยา, สีหเสยฺยา, ตถาคตเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ อยํ กามโภคีเสยฺยา. เตสุ หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ. ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว ¶ , เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ อยํ เปตเสยฺยา; อปฺปมํสโลหิตตฺตา หิ อฏฺิสงฺฆาฏชฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ. สีโห, ภิกฺขเว, มิคราชา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสยฺยํ กปฺเปติ…เป… อตฺตมโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ สีหเสยฺยา; เตชุสฺสทตฺตา หิ สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน ทฺเว ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ¶ ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ; ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺตสนฺโต ปพุชฺฌติ, สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทาทีนํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขติ; สเจ กิฺจิ านํ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ ‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา น สูรภาวสฺส อนุรูป’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ; อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘ตุยฺหํ ชาติยา จ สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภิตํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ ¶ วิธุนิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ปน ตถาคตเสยฺยาติ วุจฺจติ. ตาสุ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม.
ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย อีสกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก ชาณุนา วา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, เสยฺยา อผาสุกา โหติ; ยถา ปน น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, เสยฺยา ผาสุกา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปาเท ปาทํ อจฺจาธายา’’ติ. สโต สมฺปชาโนติ สติยา เจว สมฺปชานปฺาย จ สมนฺนาคโต หุตฺวา. อิมินา สุปริคฺคาหกํ สติสมฺปชฺํ กถิตํ. อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวาติ อสุกเวลาย นาม อุฏฺหิสฺสามี’ติ เอวํ อุฏฺานเวลาปริจฺเฉทกํ อุฏฺานสฺํ จิตฺเต อุเปตฺวา. เอวํ กตฺวา นิปนฺโน หิ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลเยว อุฏฺาตุํ ยุตฺโต.
๕๒๐-๕๒๑. สาตจฺจํ เนปกฺกนฺติ สตตํ ปวตฺตยิตพฺพโต สาตจฺจสงฺขาตํ วีริยฺเจว ปริปากคตตฺตา เนปกฺกสงฺขาตํ ปฺฺจ ยุตฺโต อนุยุตฺโต ปวตฺตยมาโนเยว ชาคริยานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วีริยํ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ กถิตํ, ปฺาปิ วีริยคติกา เอว; วีริเย โลกิยมฺหิ โลกิยา, โลกุตฺตเร โลกุตฺตราติ อตฺโถ.
๕๒๒. โพธิปกฺขิยานํ ¶ ธมฺมานนฺติ จตุสจฺจโพธิสงฺขาตสฺส ¶ มคฺคาณสฺส ปกฺเข ภวานํ ธมฺมานํ. เอตฺตาวตา สพฺเพปิ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม สมูหโต คเหตฺวา โลกิยายปิ ภาวนาย เอการมฺมเณ เอกโต ปวตฺตนสมตฺเถ โพชฺฌงฺเคเยว ทสฺเสนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺคาติอาทิมาห. เต โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว กถิตาติ เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
๕๒๓. อภิกฺกนฺเตติอาทินิทฺเทเส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ ตาว อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ ปุรโต คมนํ. ปฏิกฺกนฺตนฺติ นิวตฺตนํ. ตทุภยมฺปิ จตูสุ อิริยาปเถสุ ¶ ลพฺภติ. คมเน ตาว ปุรโต กายํ อภิหรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปฏินิวตฺตนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. าเนปิ ิตโกว กายํ ปุรโต โอนาเมนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉโต อปนาเมนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิสชฺชายปิ นิสินฺนโกว อาสนฺนสฺส ปุริมองฺคาภิมุโข สํสรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉิมองฺคปฺปเทสํ ปจฺจาสํสรนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิปชฺชายปิ เอเสว นโย.
สมฺปชานการี โหตีติ สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี, สมฺปชฺสฺเสว วา การี. โส หิ อภิกฺกนฺตาทีสุ สมฺปชฺํ กโรเตว, น กตฺถจิ สมฺปชฺวิรหิโต โหติ. ตํ ปน สมฺปชฺํ ยสฺมา สติสมฺปยุตฺตเมว โหติ, เตนสฺส นิทฺเทเส ‘‘สโต สมฺปชาโน อภิกฺกมติ, สโต สมฺปชาโน ปฏิกฺกมตี’’ติ วุตฺตํ.
อยฺหิ อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา น มุฏฺสฺสตี อสมฺปชาโน โหติ; สติยา ปน สมนฺนาคโต ปฺาย จ สมฺปชาโนเยว อภิกฺกมติ เจว ปฏิกฺกมติ จ; สพฺเพสุ อภิกฺกมาทีสุ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ โอตาเรติ. จตุพฺพิธฺหิ สมฺปชฺํ – สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ. ตตฺถ อภิกฺกมนจิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อคนฺตฺวา ‘กินฺนุ เม เอตฺถ คเตน อตฺโถ อตฺถิ, นตฺถี’ติ อตฺถานตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’. ตตฺถ จ ‘อตฺโถ’ติ เจติยทสฺสนโพธิทสฺสนสงฺฆทสฺสนเถรทสฺสนอสุภทสฺสนาทิวเสน ธมฺมโต วฑฺฒิ. เจติยํ วา โพธึ วา ทิสฺวาปิ หิ พุทฺธารมฺมณํ ¶ ปีตึ, สงฺฆทสฺสเนน สงฺฆารมฺมณํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เถเร ทิสฺวา เตสํ โอวาเท ปติฏฺาย, อสุภํ ทิสฺวา ตตฺถ ปมชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา เอเตสํ ทสฺสนํ ¶ สาตฺถํ. เกจิ ปน ‘‘อามิสโตปิ วฑฺฒิ อตฺโถเยว; ตํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย ปฏิปนฺนตฺตา’’ติ วทนฺติ.
ตสฺมึ ปน คมเน สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคเหตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’, เสยฺยถิทํ – เจติยทสฺสนํ ตาว สาตฺถํ. สเจ ปน เจติยสฺส มหติยา ปูชาย ทสทฺวาทสโยชนนฺตเร ปริสา สนฺนิปตนฺติ ¶ , อตฺตโน วิภวานุรูปํ อิตฺถิโยปิ ปุริสาปิ อลงฺกตปฏิยตฺตา จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิย สฺจรนฺติ, ตตฺร จสฺส อิฏฺเ อารมฺมเณ โลโภ, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขเน โมโห อุปฺปชฺชติ, กายสํสคฺคาปตฺตึ วา อาปชฺชติ, ชีวิตพฺรหฺมจริยานํ วา อนฺตราโย โหติ. เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ. วุตฺตปฺปการอนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. โพธิทสฺสเนปิ เอเสว นโย. สงฺฆทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. สเจ ปน อนฺโตคาเม มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ กโรนฺเตสุ มนุสฺเสสุ วุตฺตปฺปกาเรเนว ชนสนฺนิปาโต เจว อนฺตราโย จ โหติ. เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ; อนฺตรายาภาเว สปฺปายํ โหติ. มหาปริสปริวารานํ เถรานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย.
อสุภทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทหรภิกฺขุ สามเณรํ คเหตฺวา ทนฺตกฏฺตฺถาย คโต. สามเณโร มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺโต อสุภํ ทิสฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ตีณิ ผลานิ สจฺฉิกตฺวา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อฏฺาสิ. ทหโร ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘สามเณรา’’ติ ปกฺโกสิ. โส ‘มยา ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา สทฺธึ ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา, อฺสฺมึ ทิวเส อุปริวิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปฏิวจนํ อทาสิ. ‘‘เอหี’’ติ จ วุตฺโต เอกวจเนเนว อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมินา ตาว มคฺเคน คนฺตฺวา มยา ิโตกาเส มุหุตฺตํ ปุรตฺถาภิมุโข ¶ ตฺวา โอโลเกถา’’ติ อาห. โส ตถา กตฺวา เตน ปตฺตวิเสสเมว ปาปุณิ. เอวํ เอกํ อสุภํ ทฺวินฺนํ ชนานํ อตฺถาย ชาตํ. เอวํ สาตฺถมฺปิ ปเนตํ ปุริสสฺส มาตุคามาสุภํ อสปฺปายํ, มาตุคามสฺส จ ปุริสาสุภํ, สภาคเมว สปฺปายนฺติ. เอวํ สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ นาม.
เอวํ ปริคฺคหิตสาตฺถสปฺปายสฺส ปน อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานสงฺขาตํ ¶ โคจรํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขาจารโคจเร ตํ คเหตฺวาว คมนํ ‘โคจรสมฺปชฺํ’ นาม. ตสฺสาวิภาวนตฺถํ อิทํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ –
อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ หรติ น ปจฺจาหรติ, เอกจฺโจ น หรติ ปจฺจาหรติ, เอกจฺโจ ปน เนว หรติ น ปจฺจาหรติ, เอกจฺโจ หรติ จ ปจฺจาหรติ ¶ จ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธตฺวา, ตถา รตฺติยา ปมยาเม มชฺฌิมยาเม เสยฺยํ กปฺเปตฺวา ปจฺฉิมยาเมปิ นิสชฺชาจงฺกเมหิ วีตินาเมตฺวา ปเคว เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺตํ กตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อาจริยุปชฺฌายวตฺตาทีนิ สพฺพานิ ขนฺธกวตฺตานิ สมาทาย วตฺตติ, โส สรีรปริกมฺมํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเก อุสุมํ คาหาเปนฺโต กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตฺวา, ภิกฺขาจารเวลาย อุฏฺหิตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว ปตฺตจีวรมาทาย เสนาสนโต นิกฺขมิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา, สเจ พุทฺธานุสฺสติกมฺมฏฺานํ โหติ ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เจติยงฺคณํ ปวิสติ, อฺํ เจ กมฺมฏฺานํ โหติ โสปานมูเล ตฺวา หตฺเถน คหิตภณฺฑํ วิย ตํ เปตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา เจติยงฺคณํ อารุยฺห มหนฺตํ เจติยํ เจ, ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ, ขุทฺทกํ เจ, ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา อฏฺสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ. เจติยํ วนฺทิตฺวา โพธิยงฺคณํ ปตฺเตนาปิ พุทฺธสฺส ภควโต สมฺมุขา วิย นิปจฺจาการํ ทสฺเสตฺวา โพธิ วนฺทิตพฺพา.
โส เอวํ เจติยฺจ โพธิฺจ วนฺทิตฺวา ปฏิสามิตฏฺานํ คนฺตฺวา, ปฏิสามิตํ ภณฺฑกํ หตฺเถน คณฺหนฺโต ¶ วิย, นิกฺขิตฺตกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คามสมีเป กมฺมฏฺานสีเสเนว จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ. อถ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา ‘อยฺโย โน อาคโต’ติ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อาสนสาลาย วา เคเห วา นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ น นิฏฺาติ ตาว ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา ปุรโต นิสีทิตฺวา ปฺหํ วา ปุจฺฉนฺติ ธมฺมํ วา โสตุกามา โหนฺติ. สเจปิ น กถาเปนฺติ ‘‘ชนสงฺคหตฺถํ ธมฺมกถา นาม กาตพฺพาเยวา’’ติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ. ธมฺมกถา หิ กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ. ตสฺมา กมฺมฏฺานสีเสเนว อาหารํ ปริภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ วตฺวา นิวตฺติยมาเนหิปิ มนุสฺเสหิ อนุคโตว คามโต นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ เต นิวตฺเตตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชติ.
อถ ¶ นํ ปุเรตรํ นิกฺขมิตฺวา พหิคาเม กตภตฺตกิจฺจา สามเณรทหรภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรมสฺส คณฺหนฺติ. โปราณกภิกฺขู กิร ‘อมฺหากํ อุปชฺฌาโย, อมฺหากํ อาจริโย’ติ น มุขํ โอโลเกตฺวา วตฺตํ กโรนฺติ, สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนว กโรนฺติ. เต ตํ ปุจฺฉนฺติ ‘‘ภนฺเต, เอเต มนุสฺสา ¶ ตุมฺหากํ กึ โหนฺติ? มาติปกฺขโต สมฺพนฺธา ปิติปกฺขโต’’ติ? ‘‘กึ ทิสฺวา ปุจฺฉถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเหสุ เอเตสํ เปมํ พหุมาน’’นฺติ. ‘‘อาวุโส, ยํ มาตาปิตูหิปิ ทุกฺกรํ ตํ เอเต มนุสฺสา อมฺหากํ กโรนฺติ. ปตฺตจีวรมฺปิ โน เอเตสํ สนฺตกเมว, เอเตสํ อานุภาเวน เนว ภเย ภยํ, น ฉาตเก ฉาตกํ ชานาม. เอทิสา นาม อมฺหากํ อุปการิโน นตฺถี’’ติ เตสํ คุเณ กเถนฺโต คจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ ‘หรติ น ปจฺจาหรตี’ติ.
ยสฺส ปน ปเคว วุตฺตปฺปการํ วตฺตปฏิปตฺตึ กโรนฺตสฺส กมฺมชเตโช ปชฺชลติ, อนุปาทินฺนกํ มฺุจิตฺวา อุปาทินฺนกํ คณฺหาติ, สรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, กมฺมฏฺานํ วีถึ นาโรหติ, โส ปเคว ปตฺตจีวรมาทาย เวคสาว เจติยํ วนฺทิตฺวา โครูปานํ นิกฺขมนเวลายเมว คามํ ยาคุภิกฺขาย ปวิสิตฺวา ยาคุํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปิวติ. อถสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อชฺโฌหรณมตฺเตเนว กมฺมชเตโชธาตุ อุปาทินฺนกํ มฺุจิตฺวา อนุปาทินฺนกํ ¶ คณฺหาติ, ฆฏสเตน นฺหาโต วิย เตโชธาตุปริฬาหนิพฺพานํ ปตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน ยาคุํ ปริภฺุชิตฺวา ปตฺตฺจ มุขฺจ โธวิตฺวา อนฺตราภตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกตฺวา อวเสสฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน อาหารํ ปริภฺุชิตฺวา ตโต ปฏฺาย โปงฺขานุโปงฺขํ อุปฏฺหมานํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อาคจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ ‘น หรติ ปจฺจาหรตี’ติ. เอทิสา จ ภิกฺขู ยาคุํ ปิวิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา พุทฺธสาสเน อรหตฺตํ ปตฺตา นาม คณนปถํ วีติวตฺตา. สีหฬทีเปเยว เตสุ เตสุ คาเมสุ อาสนสาลาย น ตํ อาสนํ อตฺถิ, ยตฺถ ยาคุํ ปิวิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตา ภิกฺขู นตฺถีติ.
โย ปมาทวิหารี โหติ นิกฺขิตฺตธุโร สพฺพวตฺตานิ ภินฺทิตฺวา ปฺจวิธเจโตขีลวินิพนฺธพทฺธจิตฺโต วิหรนฺโต ‘กมฺมฏฺานํ นาม อตฺถี’ติปิ สฺํ อกตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา อนนุโลมิเกน คิหีสํสคฺเคน สํสฏฺโ จริตฺวา จ ภฺุชิตฺวา จ ตุจฺโฉ นิกฺขมติ – อยํ วุจฺจติ ‘เนว หรติ น ปจฺจาหรตี’ติ.
โย ¶ ปนายํ ‘‘หรติ จ ปจฺจาหรติ จา’’ติ วุตฺโต, โส คตปจฺจาคติกวตฺตวเสน เวทิตพฺโพ – อตฺถกามา หิ กุลปุตฺตา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ¶ ทสมฺปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตารีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ สตมฺปิ เอกโต วสนฺตา กติกวตฺตํ กตฺวา วิหรนฺติ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห น อิณฏฺฏา, น ภยฏฺฏา, น อาชีวิกาปกตา ปพฺพชิตา; ทุกฺขา มฺุจิตุกามา ปเนตฺถ ปพฺพชิตา. ตสฺมา คมเน อุปฺปนฺนกิเลสํ คมเนเยว นิคฺคณฺหถ. าเน, นิสชฺชาย, สยเน อุปฺปนฺนกิเลสํ สยเนเยว นิคฺคณฺหถา’’ติ.
เต เอวํ กติกวตฺตํ กตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา, อฑฺฒอุสภอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตนฺตเรสุ ปาสาณา โหนฺติ, ตาย สฺาย กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตาว คจฺฉนฺติ. สเจ กสฺสจิ คมเน กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺเถว นํ นิคฺคณฺหาติ. ตถา อสกฺโกนฺโต ติฏฺติ. อถสฺส ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตปิ ติฏฺติ. โส ‘อยํ ภิกฺขุ ตุยฺหํ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ ชานาติ, อนนุจฺฉวิกํ เต เอต’นฺติ อตฺตานํ ปฏิโจเทตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยภูมึ โอกฺกมติ. ตถา อสกฺโกนฺโต นิสีทติ. อถสฺส ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตปิ นิสีทตีติ โส เอว นโย. อริยภูมึ ¶ โอกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ตํ กิเลสํ วิกฺขมฺเภตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว คจฺฉติ, น กมฺมฏฺานวิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรติ, อุทฺธรติ เจ ปฏินิวตฺติตฺวา ปุริมปเทสฺเว เอติ, อาลินฺทกวาสี มหาผุสฺสเทวตฺเถโร วิย. โส กิร เอกูนวีสติ วสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต เอว วิหาสิ. มนุสฺสาปิ อนฺตรามคฺเค กสนฺตา จ วปนฺตา จ มทฺทนฺตา จ กมฺมานิ จ กโรนฺตา เถรํ ตถาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เถโร ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา คจฺฉติ, กึ นุ โข มคฺคมูฬฺโห อุทาหุ กิฺจิ ปมุฏฺโ’’ติ สมุลฺลปนฺติ. โส ตํ อนาทิยิตฺวา กมฺมฏฺานยุตฺตจิตฺเตเนว สมณธมฺมํ กโรนฺโต วีสติวสฺสพฺภนฺตเร อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรหตฺตปตฺตทิวเส จสฺส จงฺกมนโกฏิยํ อธิวตฺถา เทวตา องฺคุลีหิ ทีปํ อุชฺชาเลตฺวา อฏฺาสิ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน สกฺโก จ เทวานมินฺโท พฺรหฺมา จ สหมฺปติ อุปฏฺานํ อาคมึสุ. ตฺจ โอภาสํ ทิสฺวา วนวาสี มหาติสฺสตฺเถโร ตํ ทุติยทิวเส ปุจฺฉิ – ‘‘รตฺติภาเค อายสฺมโต สนฺติเก โอภาโส อโหสิ. กึ โส โอภาโส’’ติ? เถโร วิกฺเขปํ กโรนฺโต ‘‘โอภาโส นาม ทีโปภาโสปิ โหติ, มณิโอภาโสปี’’ติ เอวมาทิมาห. ตโต ‘‘ปฏิจฺฉาเทถ ตุมฺเห’’ติ นิพทฺโธ ‘‘อามา’’ติ ปฏิชานิตฺวา อาโรเจสิ.
กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี ¶ มหานาคตฺเถโร วิย จ. โสปิ กิร คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต ‘ปมํ ¶ ตาว ภควโต มหาปธานํ ปูเชสฺสามี’ติ สตฺต วสฺสานิ านจงฺกมเมว อธิฏฺาสิ; ปุน โสฬส วสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต วิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตน อุทฺธเต ปาเท ปฏินิวตฺเตนฺโต คามสีมํ คนฺตฺวา ‘คาวี นุ โข, ปพฺพชิโต นุ โข’ติ อาสงฺกนียปฺปเทเส ตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา กจฺฉกนฺตรโต อุทเกน ปตฺตํ โธวิตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กโรติ. กึ การณา? ‘มา เม ภิกฺขํ ทาตุํ วา วนฺทิตุํ วา อาคเต มนุสฺเส ‘ทีฆายุกา โหถา’ติ วจนมตฺเตนาปิ กมฺมฏฺานวิกฺเขโป อโหสี’ติ. ‘อชฺช, ภนฺเต, กติมี’ติ ทิวสํ วา ภิกฺขุคณนํ วา ปฺหํ วา ปุจฺฉิโต ปน อุทกํ คิลิตฺวา อาโรเจติ; สเจ ทิวสาทิปุจฺฉกา น โหนฺติ, นิกฺขมนเวลายํ คามทฺวาเร นิฏฺุภิตฺวาว ¶ ยาติ.
กลมฺพติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตา ปฺาส ภิกฺขู วิย จ. เต กิร อาสาฬฺหิปุณฺณิมายํ กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อฺมฺํ นาลปิสฺสามา’’ติ. คามฺจ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา ปวิสึสุ, ทิวสาทีสุ ปุจฺฉิเตสุ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชึสุ. ตตฺถ มนุสฺสา นิฏฺุภนฏฺานํ ทิสฺวา ชานึสุ – ‘อชฺช เอโก อาคโต, อชฺช ทฺเว’ติ; เอวฺจ จินฺเตสุํ – ‘กินฺนุ โข เอเต อมฺเหเหว สทฺธึ น สลฺลปนฺติ อุทาหุ อฺมฺมฺปิ? ยทิ อฺมฺมฺปิ น สลฺลปนฺติ, อทฺธา วิวาทชาตา ภวิสฺสนฺติ; เอถ เน อฺมฺํ ขมาเปสฺสามา’ติ สพฺเพ วิหารํ คนฺตฺวา ปฺาสาย ภิกฺขูสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู เอโกกาเส นาทฺทสํสุ. ตโต โย เตสุ จกฺขุมา ปุริโส โส อาห – ‘‘น, โภ, กลหการกานํ วสโนกาโส อีทิโส โหติ. สุสมฺมฏฺํ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณํ, สุนิกฺขิตฺตา สมฺมชฺชนิโย, สูปฏฺิตํ ปานียปริโภชนีย’’นฺติ. เต ตโตว นิวตฺตา. เตปิ ภิกฺขู อนฺโตเตมาเสเยว อรหตฺตํ ปตฺวา มหาปวารณาย วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสุํ.
เอวํ กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร วิย, กลมฺพุติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตภิกฺขู วิย จ กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต คามสมีปํ ¶ คนฺตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา ยตฺถ สุราโสณฺฑธุตฺตาทโย กลหการกา จณฺฑหตฺถิอสฺสาทโย วา นตฺถิ, ตํ วีถึ ปฏิปชฺชติ. ตตฺถ ปิณฺฑาย จรมาโน น ตุริตตุริโต วิย ชเวน คจฺฉติ, น หิ ชวนปิณฺฑปาติกธุตงฺคํ นาม กิฺจิ อตฺถิ, วิสมภูมิภาคปฺปตฺตํ ปน อุทกสกฏํ วิย นิจฺจโล หุตฺวา คจฺฉติ, อนุฆรํ ปวิฏฺโ จ ทาตุกามํ วา อทาตุกามํ วา สลฺลกฺเขตุํ ตทนุรูปํ กาลํ อาคเมนฺโต ภิกฺขํ คเหตฺวา อนฺโตคาเม วา พหิคาเม วา วิหารเมว วา อาคนฺตฺวา ¶ , ยถาผาสุเก ปติรูเป โอกาเส นิสีทิตฺวา, กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต อาหาเร ปฏิกูลสฺํ อุปฏฺเปตฺวา, อกฺขพฺภฺชนวณาเลปนปุตฺตมํสูปมวเสน ปจฺจเวกฺขนฺโต อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรติ เนว ทวาย, น มทาย, น มณฺฑนาย, น วิภูสนาย…เป… ผาสุวิหาโร จาติ. ภุตฺตาวี จ อุทกกิจฺจํ กตฺวา มุหุตฺตํ ¶ ภตฺตกิลมถํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ยถา ปุเรภตฺตํ, เอวํ ปจฺฉาภตฺตํ ปุริมยามํ ปจฺฉิมยามฺจ กมฺมฏฺานเมว มนสิกโรติ. อยํ วุจฺจติ ‘หรติ จ ปจฺจาหรติ จา’ติ.
อิมํ ปน หรณปจฺจาหรณสงฺขาตํ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต, ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ปมวเย เอว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โน เจ ปมวเย ปาปุณาติ อถ มชฺฌิมวเย, โน เจ มชฺฌิมวเย ปาปุณาติ อถ ปจฺฉิมวเย, โน เจ ปจฺฉิมวเย ปาปุณาติ อถ มรณสมเย, โน เจ มรณสมเย ปาปุณาติ อถ เทวปุตฺโต หุตฺวา, โน เจ เทวปุตฺโต หุตฺวา ปาปุณาติ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ นิพฺพตฺโต ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, โน เจ ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ อถ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว ขิปฺปาภิฺโ วา โหติ – เสยฺยถาปิ เถโร พาหิโย ทารุจีริโย, มหาปฺโ วา – เสยฺยถาปิ เถโร สาริปุตฺโต, มหิทฺธิโก วา – เสยฺยถาปิ เถโร มหาโมคฺคลฺลาโน, ธุตงฺคธโร วา – เสยฺยถาปิ เถโร มหากสฺสโป, ทิพฺพจกฺขุโก วา – เสยฺยถาปิ เถโร อนุรุทฺโธ, วินยธโร วา – เสยฺยถาปิ เถโร อุปาลิ, ธมฺมกถิโก วา – เสยฺยถาปิ เถโร ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต, อารฺิโก วา – เสยฺยถาปิ เถโร เรวโต, พหุสฺสุโต วา – เสยฺยถาปิ เถโร อานนฺโท, สิกฺขากาโม วา – เสยฺยถาปิ เถโร ราหุโล พุทฺธปุตฺโตติ. อิติ อิมสฺมึ จตุกฺเก ยฺวายํ หรติ จ ปจฺจาหรติ จ, ตสฺส โคจรสมฺปชฺํ สิขาปฺปตฺตํ โหติ.
อภิกฺกมาทีสุ ¶ ปน อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ. ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อิธ ภิกฺขุ อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา ยถา อนฺธพาลปุถุชฺชนา อภิกฺกมาทีสุ ‘อตฺตา อภิกฺกมติ, อตฺตนา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’ติ วา ‘อหํ อภิกฺกมามิ, มยา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’ติ วา สมฺมุยฺหนฺติ, ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต ‘อภิกฺกมามี’ติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานวาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ. อิติ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสน อยํ กายสมฺมโต อฏฺิสงฺฆาโต อภิกฺกมติ. ตสฺเสวํ อภิกฺกมโต เอเกกปาทุทฺธรเณ ปถวีธาตุ อาโปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา ¶ โหนฺติ พลวติโย; ตถา อติหรณวีติหรเณสุ. โวสฺสชฺชเน เตโชธาตุ วาโยธาตูติ ¶ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา โหนฺติ พลวติโย; ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุชฺฌเนสุ ตตฺถ อุทฺธรเณ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา อติหรณํ น ปาปุณนฺติ; ตถา อติหรเณ ปวตฺตา วีติหรณํ, วีติหรเณ ปวตฺตา โวสฺสชฺชนํ, โวสฺสชฺชเน ปวตฺตา สนฺนิกฺเขปนํ, สนฺนิกฺเขปเน ปวตฺตา สนฺนิรุชฺฌนํ น ปาปุณนฺติ; ตตฺถ ตตฺเถว ปพฺพํ ปพฺพํ สนฺธิ สนฺธิ โอธิ โอธิ หุตฺวา ตตฺตกปาเล ปกฺขิตฺตติลํ วิย ปฏปฏายนฺตา ภิชฺชนฺติ. ตตฺถ โก เอโก อภิกฺกมติ? กสฺส วา เอกสฺส อภิกฺกมนํ? ปรมตฺถโต หิ ธาตูนํเยว คมนํ, ธาตูนํ านํ, ธาตูนํ นิสชฺชา, ธาตูนํ สยนํ, ตสฺมึ ตสฺมิฺหิ โกฏฺาเส สทฺธึ รูเปหิ –
อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌติ;
อวีจิมนุสมฺพนฺโธ, นทีโสโตว วตฺตตีติ.
เอวํ อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นามาติ.
นิฏฺิโต อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตีติปทสฺส อตฺโถ.
อาโลกิเต วิโลกิเตติ เอตฺถ ปน อาโลกิตํ นาม ปุรโต เปกฺขนํ, วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขนํ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขนวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตาปโลกิตานิ นาม ¶ โหนฺติ. ตานิ อิธ น คหิตานิ. สารุปฺปวเสน ปน อิมาเนว ทฺเว คหิตานิ. อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวาติ.
ตตฺถ ‘อาโลเกสฺสามี’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อโนโลเกตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’. ตํ อายสฺมนฺตํ นนฺทํ กายสกฺขึ กตฺวา เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปุรตฺถิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลเกติ – ‘เอวํ เม ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลกยโต น อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห สาตฺถกสมฺปชาโน ¶ โหติ. ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปจฺฉิมา ทิสา, อุตฺตรา ทิสา, ทกฺขิณา ทิสา, อุทฺธํ, อโธ, อนุทิสา อนุวิโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา ¶ นนฺโท อนุทิสํ อนุวิโลเกติ – เอวํ เม อนุทิสํ อนุวิโลกยโต…เป… สมฺปชาโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๙).
อปิจ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยทสฺสนาทิวเสเนว สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ เวทิตพฺพา.
กมฺมฏฺานสฺส ปน อวิชหนเมว ‘โคจรสมฺปชฺํ’. ตสฺมา ขนฺธธาตุอายตนกมฺมฏฺานิเกหิ อตฺตโน กมฺมฏฺานวเสเนว, กสิณาทิกมฺมฏฺานิเกหิ วา ปน กมฺมฏฺานสีเสเนว อาโลกนวิโลกนํ กาตพฺพํ.
อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม อาโลเกตา วา วิโลเกตา วา นตฺถิ. ‘อาโลเกสฺสามี’ติ ปน จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ. อิติ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสน เหฏฺิมํ อกฺขิทลํ อโธ สีทติ, อุปริมํ อุทฺธํ ลงฺเฆติ. โกจิ ยนฺตเกน วิวรนฺโต นาม นตฺถิ. ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาเธนฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ เอวํ ปชานนํ ปเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ นาม.
อปิจ ¶ มูลปริฺาอาคนฺตุกตาวกาลิกภาววเสน ปเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. มูลปริฺาวเสน ตาว –
ภวงฺคาวชฺชนฺเจว, ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ;
สนฺตีรณํ โวฏฺพฺพนํ, ชวนํ ภวติ สตฺตมํ.
ตตฺถ ภวงฺคํ อุปปตฺติภวสฺส องฺคกิจฺจํ สาธยมานํ ปวตฺตติ; ตํ อาวตฺเตตฺวา กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา; ตนฺนิโรธา จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาธยมานํ; ตนฺนิโรธา วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา; ตนฺนิโรธา วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา; ตนฺนิโรธา กิริยมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา; ตนฺนิโรธา สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนํ ชวติ. ตตฺถ ปมชวเนปิ ‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’ติ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ น โหติ; ทุติยชวเนปิ…เป… สตฺตมชวเนปิ. เอเตสุ ปน, ยุทฺธมณฺฑเล ¶ โยเธสุ วิย, เหฏฺุปริยวเสน ¶ ภิชฺชิตฺวา ปติเตสุ ‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’ติ รชฺชนาทิวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ โหติ. เอวํ ตาเวตฺถ ‘มูลปริฺาวเสน’ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.
จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถคเต ภวงฺคจลนโต อุทฺธํ สกสกกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อาวชฺชนาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธสุ อวสาเน ชวนํ อุปฺปชฺชติ. ตํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนานํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาคนฺตุกปุริโส วิย โหติ. ตสฺส ยถา ปรเคเห กิฺจิ ยาจิตุํ ปวิฏฺสฺส อาคนฺตุกปุริสสฺส เคหสามิเกสุปิ ตุณฺหีมาสิเนสุ อาณากรณํ น ยุตฺตํ, เอวํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาวชฺชนาทีสุปิ อรชฺชนฺเตสุ อทุสฺสนฺเตสุ อมุยฺหนฺเตสุ จ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนํ อยุตฺตนฺติ. เอวํ ‘อาคนฺตุกภาววเสน’ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.
ยานิ ปเนตานิ จกฺขุทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสานานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, อฺมฺํ น ปสฺสนฺตีติ อิตฺตรานิ ตาวกาลิกานิ โหนฺติ. ตตฺถ ยถา เอกสฺมึ ฆเร สพฺเพสุ มานุสเกสุ มเตสุ อวเสสสฺส เอกกสฺส ตงฺขณํเยว มรณธมฺมสฺส น ยุตฺตา นจฺจคีตาทีสุ อภิรติ นาม, เอวเมว เอกทฺวาเร สสมฺปยุตฺเตสุ อาวชฺชนาทีสุ ¶ ตตฺถ ตตฺเถว มเตสุ อวเสสสฺส ตงฺขณํฺเว มรณธมฺมสฺส ชวนสฺสาปิ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อภิรติ นาม น ยุตฺตาติ. เอวํ ‘ตาวกาลิกภาววเสน’ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.
อปิจ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสนเปตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ จกฺขุ เจว รูปานิ จ รูปกฺขนฺโธ, ทสฺสนํ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทิกา สงฺขารกฺขนฺโธ. เอวเมเตสํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ? โก วิโลเกติ?
ตถา จกฺขุ จกฺขายตนํ, รูปํ รูปายตนํ, ทสฺสนํ มนายตนํ, เวทนาทโย ตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ธมฺมายตนํ. เอวเมเตสํ จตุนฺนํ อายตนานํ สมวาเย ¶ อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ? โก วิโลเกติ?
ตถา จกฺขุ จกฺขุธาตุ, รูปํ รูปธาตุ, ทสฺสนํ จกฺขุวิฺาณธาตุ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโย ¶ ธมฺมา ธมฺมธาตุ. เอวเมตาสํ จตุนฺนํ ธาตูนํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ? โก วิโลเกติ?
ตถา จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย, รูปํ อารมฺมณปจฺจโย, อาวชฺชนํ อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตปจฺจโย, อาโลโก อุปนิสฺสยปจฺจโย, เวทนาทโย สหชาตาทิปจฺจยา. เอวเมเตสํ ปจฺจยานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ? โก วิโลเกตีติ? เอวเมตฺถ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสนาปิ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.
สมิฺชิเต ปสาริเตติ ปพฺพานํ สมิฺชนปสารเณ. ตตฺถ จิตฺตวเสเนว สมิฺชนปสารณํ อกตฺวา หตฺถปาทานํ สมิฺชนปสารณปจฺจยา อตฺถานตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา ตตฺถ อตฺถปริคฺคณฺหนํ ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’. ตตฺถ หตฺถปาเท อติจิรํ สมิฺชิตฺวา วา ปสาเรตฺวา เอว วา ิตสฺส ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลภติ, กมฺมฏฺานํ ปริปตติ, วิเสสํ นาธิคจฺฉติ; กาเล สมิฺชนฺตสฺส กาเล ปสาเรนฺตสฺส ปน ตา เวทนา นุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ ผาตึ คจฺฉติ, วิเสสมธิคจฺฉตีติ. เอวํ ‘อตฺถานตฺถปริคฺคณฺหนํ’ เวทิตพฺพํ.
อตฺเถ ¶ ปน สติปิ สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคเหตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’.
ตตฺรายํ นโย – มหาเจติยงฺคเณ กิร ทหรภิกฺขู สชฺฌายํ คณฺหนฺติ. เตสํ ปิฏฺิปสฺเส ทหรภิกฺขุนิโย ธมฺมํ สุณนฺติ. ตตฺเรโก ทหโร หตฺถํ ปสาเรนฺโต กายสํสคฺคํ ปตฺวา เตเนว การเณน คิหี ชาโต. อปโร ภิกฺขุ ปาทํ ปสาเรนฺโต อคฺคิมฺหิ ปสาเรสิ. อฏฺึ อาหจฺจ ปาโท ฌายิ. อปโร ภิกฺขุ วมฺมิเก ปสาเรสิ. โส อาสีวิเสน ทฏฺโ. อปโร ภิกฺขุ จีวรกุฏิทณฺฑเก ปสาเรสิ. ตํ มณิสปฺโป ฑํสิ. ตสฺมา เอวรูเป ¶ อสปฺปาเย อปสาเรตฺวา สปฺปาเย ปสาเรตพฺพํ. อิทเมตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ.
‘โคจรสมฺปชฺํ’ ปน มหาเถรวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ – มหาเถโร กิร ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ กถยมาโน สหสา หตฺถํ สมิฺชิตฺวา ปุน ยถาาเน ¶ เปตฺวา สณิกํ สมิฺเชสิ. ตํ อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สหสา หตฺถํ สมิฺชิตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สณิกํ สมิฺชิตฺถา’’ติ? ‘‘ยโต ปฏฺาย มยา, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ มนสิกาตุํ อารทฺโธ, น เม กมฺมฏฺานํ มฺุจิตฺวา หตฺโถ สมิฺชิตปุพฺโพ. อิทานิ ปน เม ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถยมาเนน กมฺมฏฺานํ มฺุจิตฺวา สมิฺชิโต. ตสฺมา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สมิฺเชสิ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ภิกฺขุนา นาม เอวรูเปน ภวิตพฺพ’’นฺติ. เอวเมตฺถาปิ กมฺมฏฺานาวิชหนเมว ‘โคจรสมฺปชฺ’นฺติ เวทิตพฺพํ.
‘อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ สมิฺเชนฺโต วา ปสาเรนฺโต วา นตฺถิ. วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรน ปน, สุตฺตากฑฺฒนวเสน ทารุยนฺตสฺส หตฺถปาทจลนํ วิย, สมิฺชนปสารณํ โหตี’ติ ปริชานนํ ปเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺ’นฺติ เวทิตพฺพํ.
สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณติ เอตฺถ สงฺฆาฏิจีวรานํ นิวาสนปารุปนวเสน ปตฺตสฺส ภิกฺขาปฏิคฺคหณาทิวเสน ปริโภโค ‘ธารณํ’ นาม. ตตฺถ สงฺฆาฏิจีวรธารเณ ตาว นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ ปิณฺฑาย จรโต ‘‘อามิสลาโภ สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา นเยน ภควตา วุตฺตปฺปกาโรเยว จ อตฺโถ ‘อตฺโถ’ นาม. ตสฺส วเสน ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อุณฺหปกติกสฺส ¶ ปน ทุพฺพลสฺส จ จีวรํ สุขุมํ สปฺปายํ, สีตาลุกสฺส ฆนํ ทุปฏฺฏํ; วิปรีตํ อสปฺปายํ. ยสฺส กสฺสจิ ชิณฺณํ อสปฺปายเมว. อคฺคฬาทิทาเนน หิสฺส ตํ ปลิโพธกรํ โหติ. ตถา ปฏฺฏุณฺณทุกูลาทิเภทํ โจรานํ โลภนียจีวรํ. ตาทิสฺหิ อรฺเ เอกกสฺส นิวาสนฺตรายกรํ ชีวิตนฺตรายกรฺจาปิ โหติ. นิปฺปริยาเยน ปน ยํ นิมิตฺตกมฺมาทิมิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ, ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ อสปฺปายํ ¶ ; วิปรีตํ สปฺปายํ. ตสฺส วเสเนตฺถ ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’ กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ ‘โคจรสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ จีวรํ ปารุปนฺโต นตฺถิ. วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน จีวรปารุปนํ โหติ. ตตฺถ จีวรมฺปิ อเจตนํ, กาโยปิ อเจตโน. จีวรํ น ชานาติ – ‘มยา กาโย ปารุปิโต’ติ, กาโยปิ น ชานาติ – ‘อหํ จีวเรน ปารุปิโต’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ, ปฏปิโลติกาย โปตฺถกรูปปฏิจฺฉาทเน วิย. ตสฺมา เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ ¶ , น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสํ. นาควมฺมิกเจติยรุกฺขาทีสุ หิ เกจิ มาลาคนฺธธูปวตฺถาทีหิ สกฺการํ กโรนฺติ, เกจิ คูถมุตฺตกทฺทมทณฺฑสตฺถปฺปหาราทีหิ อสกฺการํ. น เตหิ นาควมฺมิกรุกฺขาทโย โสมนสฺสํ วา โทมนสฺสํ วา กโรนฺติ. เอวเมว เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ, น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสนฺติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
ปตฺตธารเณปิ ปตฺตํ สหสาว อคฺคเหตฺวา ‘อิมํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จรมาโน ภิกฺขํ ลภิสฺสามี’ติ เอวํ ปตฺตคฺคหณปจฺจยา ปฏิลภิตพฺพอตฺถวเสน ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ. กิสทุพฺพลสรีรสฺส ปน ครุปตฺโต อสปฺปาโย; ยสฺส กสฺสจิ จตุปฺจคณฺิกาหโต ทุพฺพิโสธนีโย อสปฺปาโยว. ทุทฺโธตปตฺโต หิ น วฏฺฏติ; ตํ โธวนฺตสฺเสว จสฺส ปลิโพโธ โหติ. มณิวณฺณปตฺโต ปน โลภนีโยว จีวเร วุตฺตนเยเนว อสปฺปาโย. นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ปน ลทฺโธ, ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อยํ เอกนฺตาสปฺปาโยว วิปรีโต สปฺปาโย. ตสฺส วเสเนตฺถ ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’ กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว ‘โคจรสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อพฺภนฺตเร ¶ อตฺตา นาม โกจิ ปตฺตํ คณฺหนฺโต นตฺถิ. วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสเนว ปน ปตฺตคฺคหณํ นาม โหติ. ตตฺถ ปตฺโตปิ อเจตโน, หตฺถาปิ อเจตนา. ปตฺโต น ชานาติ – ‘อหํ หตฺเถหิ คหิโต’ติ. หตฺถาปิ น ชานนฺติ – ‘ปตฺโต อมฺเหหิ ¶ คหิโต’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ คณฺหนฺติ, สณฺฑาเสน อคฺคิวณฺณปตฺตคหเณ วิยาติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อปิจ ยถา ฉินฺนหตฺถปาเท วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพโลหิตกิมิกุเล นีลมกฺขิกสมฺปริกิณฺเณ อนาถสาลายํ อนาถมนุสฺเส ทิสฺวา ทยาลุกา ปุริสา เตสํ วณพนฺธปฏฺฏโจฬกานิ เจว กปาลาทีหิ จ เภสชฺชานิ อุปนาเมนฺติ. ตตฺถ โจฬกานิปิ เกสฺจิ สณฺหานิ เกสฺจิ ถูลานิ ปาปุณนฺติ. เภสชฺชกปาลกานิปิ เกสฺจิ สุสณฺานานิ เกสฺจิ ทุสฺสณฺานานิ ปาปุณนฺติ. น เต ตตฺถ สุมนา วา โหนฺติ ทุมฺมนา วา. วณปฏิจฺฉาทนมตฺเตเนว หิ โจฬเกน, เภสชฺชปริคฺคหณมตฺเตเนว จ กปาลเกน เตสํ อตฺโถ. เอวเมว โย ภิกฺขุ วณโจฬกํ วิย จีวรํ, เภสชฺชกปาลกํ วิย จ ปตฺตํ, กปาเล เภสชฺชมิว ¶ จ ปตฺเต ลทฺธภิกฺขํ สลฺลกฺเขติ – อยํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสมฺโมหสมฺปชฺเน อุตฺตมสมฺปชานการีติ เวทิตพฺโพ.
อสิตาทีสุ อสิเตติ ปิณฺฑปาตาทิโภชเน. ปีเตติ ยาคุอาทิปาเน. ขายิเตติ ปิฏฺขชฺชกาทิขาทเน. สายิเตติ มธุผาณิตาทิสายเน. ตตฺถ ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต อฏฺวิโธปิ อตฺโถ ‘อตฺโถ’ นาม. ตสฺส วเสน ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
ลูขปณีตติตฺตมธุราทีสุ ปน เยน โภชเนน ยสฺส อผาสุ โหติ, ตํ ตสฺส อสปฺปายํ. ยํ ปน นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ปฏิลทฺธํ, ยฺจสฺส ภฺุชโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ เอกนฺตํ อสปฺปายเมว; วิปรีตํ สปฺปายํ. ตสฺส วเสเนตฺถ ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’ กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ ‘โคจรสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ภฺุชโก นตฺถิ. วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน ปตฺตปฏิคฺคหณํ นาม โหติ. จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว หตฺถสฺส ปตฺเต โอตารณํ นาม โหติ. จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว อาโลปกรณํ, อาโลปอุทฺธรณํ, มุขวิวรณฺจ ¶ โหติ. น โกจิ กฺุจิกาย, น ยนฺตเกน หนุกฏฺึ วิวรติ. จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ¶ อาโลปสฺส มุเข ปนํ, อุปริทนฺตานํ มุสลกิจฺจสาธนํ, เหฏฺาทนฺตานํ อุทุกฺขลกิจฺจสาธนํ, ชิวฺหาย หตฺถกิจฺจสาธนฺจ โหติ. อิติ นํ ตตฺถ อคฺคชิวฺหาย ตนุกเขโฬ มูลชิวฺหาย พหลเขโฬ มกฺเขติ. ตํ เหฏฺาทนฺตอุทุกฺขเล ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตํ เขฬอุทกเตมิตํ อุปริทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ โกจิ กฏจฺฉุนา วา ทพฺพิยา วา อนฺโต ปเวเสนฺโต นาม นตฺถิ; วาโยธาตุยาว ปวิสติ. ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ โกจิ ปลาลสนฺถารํ กตฺวา ธาเรนฺโต นาม นตฺถิ; วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺติ. ิตํ ิตํ โกจิ อุทฺธนํ กตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา ปจนฺโต นาม นตฺถิ; เตโชธาตุยาว ปจฺจติ. ปกฺกํ ปกฺกํ โกจิ ทณฺฑเกน วา ยฏฺิยา วา พหิ นีหารโก นาม นตฺถิ; วาโยธาตุเยว นีหรติ. อิติ วาโยธาตุ อติหรติ จ วีติหรติ จ ธาเรติ จ ปริวตฺเตติ จ สฺจุณฺเณติ จ วิโสเสติ จ นีหรติ จ. ปถวีธาตุ ธาเรติ จ ปริวตฺเตติ จ สฺจุณฺเณติ จ วิโสเสติ จ นีหรติ จ. อาโปธาตุ สิเนเหติ จ อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลติ. เตโชธาตุ อนฺโตปวิฏฺํ ปริปาเจติ. อากาสธาตุ ¶ อฺชโส โหติ. วิฺาณธาตุ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคมนฺวาย อาภุชตีติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อปิจ คมนโต, ปริเยสนโต, ปริโภคโต, อาสยโต, นิธานโต, อปริปกฺกโต, ปริปกฺกโต, ผลโต, นิสฺสนฺทนโต, สมฺมกฺขนโตติ เอวํ ทสวิธปฏิกูลภาวปจฺจเวกฺขณโตเปตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค อาหารปฏิกูลสฺานิทฺเทสโต คเหตพฺพา.
อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมติ อุจฺจารสฺส จ ปสฺสาวสฺส จ กรเณ. ตตฺถ ปกฺกกาเล อุจฺจารปสฺสาวํ อกโรนฺตสฺส สกลสรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ภมนฺติ, จิตฺตํ น เอกคฺคํ โหติ, อฺเ จ โรคา อุปฺปชฺชนฺติ; กโรนฺตสฺส ปน สพฺพํ ตํ น โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตสฺส วเสน ‘สาตฺถกสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อฏฺาเน อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺตสฺส ปน อาปตฺติ โหติ, อยโส วฑฺฒติ, ชีวิตนฺตราโย โหติ; ปติรูเป าเน กโรนฺตสฺส สพฺพํ ตํ ¶ น โหตีติ อิทเมตฺถ สปฺปายํ. ตสฺส วเสน ‘สปฺปายสมฺปชฺํ’ กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว ¶ จ ‘โคจรสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ กโรนฺโต นตฺถิ. จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ โหติ. ยถา ปน ปกฺเก คณฺเฑ คณฺฑเภเทน ปุพฺพโลหิตํ อกามตาย นิกฺขมติ, ยถา จ อติภริตา อุทกภาชนา อุทกํ อกามตาย นิกฺขมติ, เอวํ ปกฺกาสยมุตฺตวตฺถีสุ สนฺนิจิตา อุจฺจารปสฺสาวา วายุเวคสมุปฺปีฬิตา อกามตายปิ นิกฺขมนฺติ. โส ปนายํ เอวํ นิกฺขมนฺโต อุจฺจารปสฺสาโว เนว ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตโน โหติ น ปรสฺส; เกวลํ ปน สรีรนิสฺสนฺโทว โหติ. ยถา กึ? ยถา อุทกตุมฺภโต ปุราณอุทกํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส เนว ตํ อตฺตโน โหติ น ปเรสํ, เกวลํ ปฏิชคฺคนมตฺตเมว โหติ, เอวนฺติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ ‘อสมฺโมหสมฺปชฺํ’ เวทิตพฺพํ.
คตาทีสุ ¶ คเตติ คมเน. ิเตติ าเน. นิสินฺเนติ นิสชฺชาย. สุตฺเตติ สยเน. ตตฺถ อภิกฺกนฺตาทีสุ วุตฺตนเยเนว สมฺปชานการิตา เวทิตพฺพา.
อยํ ปเนตฺถ อปโรปิ นโย – เอโก หิ ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต อฺํ วิตกฺเกนฺโต คจฺฉติ. เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว คจฺฉติ. ตถา เอโก ภิกฺขุ ติฏฺนฺโต, นิสีทนฺโต, สยนฺโต อฺํ จินฺเตนฺโต อฺํ วิตกฺเกนฺโต สยติ. เอโก กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยติ.
เอตฺตเกน ปน น ปากฏํ โหตีติ จงฺกเมน ทีปยึสุ. โย หิ ภิกฺขุ จงฺกมนํ โอตริตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ิโต ปริคฺคณฺหาติ; ‘ปาจีนจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, ปจฺฉิมจงฺกมนโกฏิยํ ปวตฺตาปิ ปาจีนจงฺกมนโกฏึ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมนเวมชฺเฌ ปวตฺตา อุโภ โกฏิโย อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, จงฺกมเน ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา านํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา, าเน ปวตฺตา นิสชฺชํ, นิสชฺชาย ปวตฺตา สยนํ อปฺปตฺวา เอตฺเถว นิรุทฺธา’ติ เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโตเยว ภวงฺคํ โอตาเรติ; อุฏฺหนฺโต ¶ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว อุฏฺาติ – อยํ ภิกฺขุ คตาทีสุ สมฺปชานการี นาม โหตีติ.
เอวํ ¶ ปน สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหติ. กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ น กาตพฺพํ. ตสฺมา โย ภิกฺขุ ยาว สกฺโกติ ตาว จงฺกมิตฺวา ตฺวา นิสีทิตฺวา สยมาโน เอวํ ปริคฺคเหตฺวา สยติ – ‘กาโย อเจตโน, มฺโจ อเจตโน. กาโย น ชานาติ – อหํ มฺเจ สยิโตติ. มฺโจปิ น ชานาติ – มยิ กาโย สยิโตติ. อเจตโน กาโย อเจตเน มฺเจ สยิโต’ติ. เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ปริคฺคณฺหนฺโตเยว จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตาเรติ, ปพุชฺฌมาโน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว ปพุชฺฌติ. อยํ สุตฺเต สมฺปชานการี นาม โหตีติ.
ชาคริเตติ ชาครเณ. ตตฺถ ‘กิริยามยปวตฺตสฺส อปฺปวตฺติยา สติ ชาคริตํ นาม น โหติ; กิริยามยปวตฺตวฬฺเช ปวตฺตนฺเต ชาคริตํ นาม โหตี’ติ ปริคฺคณฺหนฺโต ภิกฺขุ ชาคริเต สมฺปชานการี นาม โหติ. อปิจ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชคฺคนฺโตปิ ชาคริเต สมฺปชานการี นาม โหติ.
ภาสิเตติ ¶ กถเน. ตตฺถ ‘อุปาทารูปสฺส สทฺทายตนสฺส อปฺปวตฺเต สติ ภาสิตํ นาม น โหติ; ตสฺมึ ปวตฺตนฺเต โหตี’ติ ปริคฺคาหโก ภิกฺขุ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม โหติ. วิมุตฺตายตนสีเสน ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ พาตฺตึส ติรจฺฉานกถา ปหาย ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ กถํ กเถนฺโตปิ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม โหติ.
ตุณฺหีภาเวติ อกถเน. ตตฺถ ‘อุปาทารูปสฺส สทฺทายตนสฺส ปวตฺติยํ สติ ตุณฺหีภาโว นาม นตฺถิ; อปฺปวตฺติยํ โหตี’ติ ปริคฺคาหโก ภิกฺขุ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม โหติ. อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺโนปิ ทุติยชฺฌานํ สมาปนฺโนปิ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการีเยว นาม โหติ.
เอตฺถ จ เอโก อิริยาปโถ ทฺวีสุ าเนสุ อาคโต. โส เหฏฺา อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ ภิกฺขาจารคามํ คจฺฉโต จ อาคจฺฉโต จ อทฺธานคมนวเสน กถิโต. คเต ิเต นิสินฺเนติ เอตฺถ วิหาเร จุณฺณิกปาทุทฺธารอิริยาปถวเสน กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๕๒๔. ตตฺถ กตมา สตีติอาทิ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๕๒๖. โส ¶ ¶ วิวิตฺตนฺติ อิมินา กึ ทสฺเสติ? เอตสฺส ภิกฺขุโน อุปาสนฏฺานํ โยคปถํ สปฺปายเสนาสนํ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอตฺตกา คุณา อตฺถิ, ตสฺส อนุจฺฉวิโก อรฺวาโส. ยสฺส ปเนเต นตฺถิ, ตสฺส อนนุจฺฉวิโก. เอวรูปสฺส หิ อรฺวาโส กาฬมกฺกฏอจฺฉตรจฺฉทีปิมิคาทีนํ อฏวีวาสสทิโส โหติ. กสฺมา? อิจฺฉาย ตฺวา ปวิฏฺตฺตา. ตสฺส หิ อรฺวาสมูลโก โกจิ อตฺโถ นตฺถิ; อรฺวาสฺเจว อารฺเก จ ทูเสติ; สาสเน อปฺปสาทํ อุปฺปาเทติ. ยสฺส ปน อพฺภนฺตเร เอตฺตกา คุณา อตฺถิ, ตสฺเสว โส อนุจฺฉวิโก. โส หิ อรฺวาสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตฺวา ปรินิพฺพาติ, สกลอรฺวาสํ อุปโสเภติ, อารฺิกานํ สีสํ โธวติ, สกลสาสนํ ปสาเรติ. ตสฺมา สตฺถา เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน อุปาสนฏฺานํ โยคปถํ สปฺปายเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชตีติอาทิมาห. ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ สฺุํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ. เอตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ตฺจ อนากิณฺณนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนากิณฺณนฺติ อสงฺกิณฺณํ อสมฺพาธํ. ตตฺถ ยสฺส เสนาสนสฺส สามนฺตา คาวุตมฺปิ อฑฺฒโยชนมฺปิ ¶ ปพฺพตคหนํ วนคหนํ นทีคหนํ โหติ, น โกจิ อเวลาย อุปสงฺกมิตุํ สกฺโกติ – อิทํ สนฺติเกปิ อนากิณฺณํ นาม. ยํ ปน อฑฺฒโยชนิกํ วา โยชนิกํ วา โหติ – อิทํ ทูรตาย เอว อนากิณฺณํ นาม โหติ.
๕๒๗. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ. ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุํ มฺโจ ปีนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มฺโจติ จตฺตาโร มฺจา – มสารโก, พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ. ตถา ปีํ. ภิสีติ ปฺจ ภิสิโย – อุณฺณาภิสิ, โจฬภิสิ, วากภิสิ, ติณภิสิ, ปณฺณภิสีติ. พิมฺโพหนนฺติ สีสุปธานํ วุตฺตํ. ตํ วิตฺถารโต วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ วฏฺฏติ, ทีฆโต มฺจวิตฺถารปฺปมาณํ. วิหาโรติ สมนฺตา ปริหารปถํ อนฺโตเยว รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ ทสฺเสตฺวา กตเสนาสนํ. อฑฺฒโยโคติ ¶ สุปณฺณวงฺกเคหํ. ปาสาโทติ ทฺเว กณฺณิกานิ คเหตฺวา กโต ทีฆปาสาโท. อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬติ โภชนสาลสทิโส มณฺฑลมาโฬ; วินยฏฺกถายํ ปน เอกกูฏสงฺคหิโต ¶ จตุรสฺสปาสาโทติ วุตฺตํ. เลณนฺติ ปพฺพตํ ขณิตฺวา วา ปพฺภารสฺส อปฺปโหนกฏฺาเน กุฏฺฏํ อุฏฺาเปตฺวา วา กตเสนาสนํ. คุหาติ ภูมิทริ วา ยตฺถ รตฺตินฺทิวํ ทีปํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ปพฺพตคุหา วา ภูมิคุหา วา. รุกฺขมูลนฺติ รุกฺขสฺส เหฏฺา ปริกฺขิตฺตํ วา อปริกฺขิตฺตํ วา. เวฬุคุมฺโพติ เวฬุคจฺโฉ. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ เปตฺวา วา เอตานิ มฺจาทีนิ ยตฺถ ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ, ยํ เตสํ สนฺนิปาตารหฏฺานํ, สพฺพเมตํ เสนาสนํ.
๕๒๘. ภชตีติ อุเปติ. สมฺภชตีติ ตตฺถ อภิรติวเสน อนุกฺกณฺิโต สุฏฺุ อุเปติ. เสวตีติ นิวาสนวเสน เสวติ นิเสวตีติ อนุกฺกณฺมาโน สนฺนิสิโต หุตฺวา เสวติ. สํเสวตีติ เสนาสนวตฺตํ สมฺปาเทนฺโต สมฺมา เสวติ.
๕๒๙. อิทานิ ยํ ตํ วิวิตฺตนฺติ วุตฺตํ, ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุํ อรฺํ รุกฺขมูลนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อรฺนฺติ วินยปริยาเยน ตาว ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺ’’นฺติ (ปารา. ๑๒) อาคตํ. สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺิกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๓) อาคตํ. วินยสุตฺตนฺตา ปน อุโภปิ ปริยายเทสนา นาม. อภิธมฺโม นิปฺปริยายเทสนาติ อภิธมฺมปริยาเยน ¶ อรฺํ ทสฺเสตุํ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ วุตฺตํ; อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ.
๕๓๐. รุกฺขมูลาทีนํ ปกติยา จ สุวิฺเยฺยภาวโต รุกฺขมูลํเยว รุกฺขมูลนฺติอาทิ วุตฺตํ. อปิเจตฺถ รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สีตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา ¶ สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทริตํ อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปฺปเทสํ; ยํ นิตุมฺพนฺติปิ นทีกฺุชนฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา โหนฺติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิกฺขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตํ กตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา ¶ นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ.
๕๓๑. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา วา รุกฺขมูลาทีสุ อิทเมเวกํ ภาเชตฺวา ทสฺสิตํ, ตสฺมาสฺส นิกฺเขปปฏิปาฏิยา นิทฺเทสํ อกตฺวา สพฺพปริยนฺเต นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ. อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปฺุชนฺติ ปลาลราสิ. มหาปลาลปฺุชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ; ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. วนปตฺถนิทฺเทเส สโลมหํสานนฺติ ยตฺถ ปวิฏฺสฺส โลมหํโส อุปฺปชฺชติ; เอวรูปานํ ภีสนกเสนาสนานํ. ปริยนฺตานนฺติ ทูรภาเวน ปริยนฺเต ิตานํ. น มนุสฺสูปจารานนฺติ กสนวปนวเสน มนุสฺเสหิ อุปจริตพฺพํ วนนฺตํ อติกฺกมิตฺวา ิตานํ. ทุรภิสมฺภวานนฺติ อลทฺธวิเวกสฺสาเทหิ อภิภุยฺย วสิตุํ นสกฺกุเณยฺยานํ.
๕๓๒. อปฺปสทฺทาทินิทฺเทเส อปฺปสทฺทนฺติ วจนสทฺเทน อปฺปสทฺทํ.
๕๓๓. อปฺปนิคฺโฆสนฺติ ¶ นครนิคฺโฆสสทฺเทน อปฺปนิคฺโฆสํ. ยสฺมา ¶ ปน อุภยมฺเปตํ สทฺทฏฺเน เอกํ, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ยเทว ตํ อปฺปสทฺทํ ตเทว ตํ อปฺปนิคฺโฆส’’นฺติ วุตฺตํ. วิชนวาตนฺติ อนุสฺจรณชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตํ. วิชนวาทนฺติปิ ปาโ; อนฺโตชนวาเทน วิรหิตนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ยํ อปฺปนิคฺโฆสํ, ตเทว ชนสฺจรเณน จ ชนวาเทน จ วิรหิตํ โหติ, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ยเทว ตํ อปฺปนิคฺโฆสํ ตเทว ตํ วิชนวาต’’นฺติ วุตฺตํ. มนุสฺสราหเสยฺยกนฺติ มนุสฺสานํ รหสฺสกิริยฏฺานิยํ. ยสฺมา ปน ตํ ชนสฺจรณรหิตํ โหติ, เตนสฺส นิทฺเทเส ‘‘ยเทว ตํ วิชนวาตํ ตเทว ตํ มนุสฺสราหเสยฺยก’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ วิเวกานุรูปํ. ยสฺมา ปน ตํ นิยเมเนว ¶ มนุสฺสราหเสยฺยกํ โหติ, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ยเทว ตํ มนุสฺสราหเสยฺยกํ ตเทว ตํ ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติ วุตฺตํ.
๕๓๔. อรฺคตาทินิทฺเทเส อรฺํ วุตฺตเมว. ตถา รุกฺขมูลํ. อวเสสํ ปน สพฺพมฺปิ เสนาสนํ สฺุาคาเรน สงฺคหิตํ.
๕๓๕. ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา นุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ น อุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุฑฺฒึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.
๕๓๖. อุชุโก โหติ กาโย ิโต ปณิหิโตติ อิทมฺปิ หิ อิมเมวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๕๓๗. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา’’ติ. มุขนิมิตฺตนฺติ เจตฺถ อุตฺตโรฏฺสฺส เวมชฺฌปฺปเทโส ทฏฺพฺโพ, ยตฺถ นาสิกวาโต ปฏิหฺติ; อถ วา ¶ ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ, มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ, สตีติ อุปฏฺานฏฺโ; เตน วุจฺจติ ‘‘ปริมุขํ สติ’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ.
๕๓๘. อภิชฺฌานิทฺเทโส ¶ อุตฺตานตฺโถเยว. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปวณฺณนา – อภิชฺฌํ โลเก ปหายาติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา โลโก. ตสฺมา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ราคํ ปหาย กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
๕๓๙. วิคตาภิชฺเฌนาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนตฺตา วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณสทิเสนาติ อตฺโถ.
๕๔๑. อภิชฺฌาย ¶ จิตฺตํ ปริโสเธตีติ อภิชฺฌาโต จิตฺตํ ปริโสเธติ; ยถา นํ สา มฺุจติ เจว, มฺุจิตฺวา จ น ปุน คณฺหาติ, เอวํ กโรตีติ อตฺโถ. นิทฺเทสปเทสุ ปนสฺส อาเสวนฺโต โสเธติ, ภาเวนฺโต วิโสเธติ, พหุลีกโรนฺโต ปริโสเธตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. โมเจตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๕๔๒-๕๔๓. พฺยาปาทโทสํ ปหายาติอาทีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปกตึ ชหตีติ พฺยาปาโท. วิการปฺปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส. อุภยเมตํ โกธสฺเสวาธิวจนํ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘โย พฺยาปาโท โส ปโทโส; โย ปโทโส โส พฺยาปาโท’’ติ. ยสฺมา เจส สพฺพสงฺคาหิกวเสน นิทฺทิฏฺโ, ตสฺมา ‘‘สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี’’ติ อวตฺวา ‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.
๕๔๖. ถินํ จิตฺตเคลฺํ, มิทฺธํ เจตสิกเคลฺํ; ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. สนฺตา โหนฺตีติ อิเม ทฺเวปิ ธมฺมา นิโรธสนฺตตาย สนฺตา โหนฺตีติ. อิทํ สนฺธาเยตฺถ วจนเภโท กโต.
๕๔๙. อาโลกสฺีติ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ทิฏฺาโลกสฺชานนสมตฺถาย วิคตนีวรณาย ปริสุทฺธาย สฺาย สมนฺนาคโต.
๕๕๐. สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต. อิทํ อุภยํ อาโลกสฺาย อุปการกตฺตา วุตฺตํ.
๕๕๓. วิคตถินมิทฺธตาย ¶ ปน อาโลกสฺาย นิทฺเทสปเทสุ จตฺตตฺตาติอาทีนิ อฺมฺเววจนาเนว ¶ . ตตฺถ จตฺตตฺตาติ จตฺตการณา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. จตฺตตฺตาติ อิทํ ปเนตฺถ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วนฺตตฺตาติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺตตฺตาติ อิทํ สนฺตติโต วินิโมจนวเสน. ปหีนตฺตาติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กตฺถจิ านาภาววเสน. ปฏินิสฺสฏฺตฺตาติ อิทํ ปุพฺเพ อาทินฺนปุพฺพสฺส นิสฺสคฺคทสฺสนวเสน. ปฏิมฺุจโต วา นิสฺสฏฺตฺตา ภาวนาพเลน อภิภุยฺย ¶ นิสฺสฏฺตฺตาติ อตฺโถ. ปหีนปฏินิสฺสฏฺตฺตาติ ยถาวิกฺขมฺภนวเสเนว ปหานํ โหติ, ปุนปฺปุนํ สนฺตตึ น อชฺฌารุหติ, ตถา ปฏินิสฺสฏฺตฺตาติ. อาโลกา โหตีติ สปฺปภา โหติ. นิราวรณฏฺเน วิวฏา. นิรุปกฺกิเลสฏฺเน ปริสุทฺธา. ปภสฺสรฏฺเน ปริโยทาตา.
๕๕๖. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนฺติ เอตฺถ อุทฺธตากาโร อุทฺธจฺจํ, อารมฺมเณ อนิจฺฉยตาย วตฺถุชฺฌาจาโร กุกฺกุจฺจํ. อิธาปิ ‘‘สนฺตา โหนฺตี’’ติ ปุริมนเยเนว วจนเภโท เวทิตพฺโพ.
๕๕๘. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิโต. นิทฺเทเสปิสฺส ติณฺโณติ อิทํ วิจิกิจฺฉาย อนิมุคฺคภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อุตฺติณฺโณติ อิทํ ตสฺสา อติกฺกมทสฺสนวเสน. นิตฺติณฺโณติ อิทํ ภาวนาพเลน อภิภุยฺย อุปทฺทเว ติณฺณภาวทสฺสนวเสน. ปารงฺคโตติ นิพฺพิจิกิจฺฉาภาวสงฺขาตํ วิจิกิจฺฉาปารํ คโต. ปารมนุปฺปตฺโตติ ตเทว ปารํ ภาวนานุโยเคน ปตฺโตติ. เอวมสฺส ปฏิปตฺติยา สผลตํ ทสฺเสติ.
๕๕๙. อกถํกถีติ ‘กถมิทํ กถมิท’นฺติ เอวํ ปวตฺตาย กถํกถาย วิรหิโต. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺชธมฺเมสุ. น กงฺขตีติ ‘อิเม นุ โข กุสลา’ติ กงฺขํ น อุปฺปาเทติ. น วิจิกิจฺฉตีติ เต ธมฺเม สภาวโต วินิจฺเฉตุํ น กิจฺฉติ, น กิลมติ. อกถํกถี โหตีติ ‘กถํ นุ โข อิเม กุสลา’ติ ¶ กถํกถาย รหิโต โหติ. นิกฺกถํกถี วิคตกถํกโถติ ตสฺเสว เววจนํ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ กถํกถาโต นิกฺขนฺโตติ นิกฺกถํกโถ. วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ.
๕๖๒. อุปกฺกิเลเสติ อุปกฺกิเลสภูเต. เต หิ จิตฺตํ อุปคนฺตฺวา กิลิสฺสนฺติ. ตสฺมา อุปกฺกิเลสาติ วุจฺจนฺติ.
๕๖๓. ปฺาย ¶ ทุพฺพลีกรเณติ ยสฺมา อิเม นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนา อปิ อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ วา อภิฺาโย อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ, ตสฺมา ‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’ติ วุจฺจนฺติ. ‘อนุปฺปนฺนา เจว ปฺา น อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา ¶ จ ปฺา นิรุชฺฌตี’ติ อิทมฺปิ หิ อิมเมวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สพฺพํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ ปกาสิตตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
๕๖๔. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีสุปิ นิทฺเทเสสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖๐) รูปาวจรนิทฺเทเส อิเธว จ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว. เกวลฺหิ ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานนิทฺเทเสสุปิ ยถา ตานิ ฌานานิ เหฏฺา ‘ติวงฺคิกํ ฌานํ โหติ, ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหตี’ติ วุตฺตานิ, เอวํ อวตฺวา ‘‘อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทน’’นฺติอาทิวจนโต ปริยาเยน สมฺปสาทาทีหิ สทฺธึ ตานิ องฺคานิ คเหตฺวา ‘‘ฌานนฺติ สมฺปสาโท ปีติสุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติอาทินา นเยน ตํ ตํ ฌานํ นิทฺทิฏฺนฺติ อยเมตฺถ วิเสโส.
๕๘๘. ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺตีติปทนิทฺเทเส ปน กิฺจาปิ ‘อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺตี’ติอาทีนิ สพฺพาเนว อฺมฺเววจนานิ, เอวํ สนฺเตปิ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติอาทิอุทฺเทสวเสน อาจิกฺขนฺติ, นิทฺเทสวเสน เทเสนฺติ, ปฏินิทฺเทสวเสน ปฺาเปนฺติ, เตน เตน ปกาเรน อตฺถํ เปตฺวา ปฏฺเปนฺติ, ตสฺส ตสฺสตฺถสฺส การณํ ทสฺเสนฺตา วิวรนฺติ, พฺยฺชนวิภาคํ ทสฺเสนฺตา วิภชนฺติ, นิกฺกุชฺชิตภาวํ คมฺภีรภาวฺจ นีหริตฺวา วา โสตูนํ าณสฺส ปติฏฺํ ชนยนฺตา อุตฺตานึ กโรนฺติ, สพฺเพหิปิ อิเมหิ อากาเรหิ โสตูนํ อฺาณนฺธการํ วิธเมนฺตา ปกาเสนฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สมติกฺกมนิทฺเทเสปิ ตตฺถ ตตฺถ เตหิ เตหิ ธมฺเมหิ วุฏฺิตตฺตา อติกฺกมนฺโต, อุปริภูมิปฺปตฺติยา ¶ วีติกฺกนฺโต, ตโต อปริหานิภาเวน สมติกฺกนฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๖๒๓. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ อาคตนเยเนว ตนฺติ ปิตา. ตสฺมา ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ กุสลวิปากกิริยวเสน นิทฺทิฏฺานํ ฌานานํ ¶ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุทฺธิกนวกาทิเภโทปิ สพฺโพ ตตฺถ วุตฺตสทิโสเยวาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๖๓๘. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว ฌานานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน ติณฺณํ ฌานานํ นิมิตฺตารมฺมณตฺตา ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา. โลกุตฺตรา ปเนตฺถ มคฺคกาเล ผลกาเล วา สิยา อปฺปมาณารมฺมณา. จตุตฺถํ ฌานํ สิยา ปริตฺตารมฺมณนฺติ เอตฺถ กุสลโต เตรส จตุตฺถชฺฌานานิ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ, อิทฺธิวิธจตุตฺถํ, ทิพฺพโสตาณจตุตฺถํ, เจโตปริยาณจตุตฺถํ, ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ, ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ, ยถากมฺมูปคาณจตุตฺถํ, อนาคตํสาณจตุตฺถํ, อากาสานฺจายตนาทิจตุตฺถํ, โลกุตฺตรจตุตฺถนฺติ.
ตตฺถ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณเมว โหติ.
อิทฺธิวิธจตุตฺถํ จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมนฺตสฺส อทิสฺสมาเนน กาเยน ปาฏิหาริยกรเณ กายารมฺมณตฺตา ปริตฺตารมฺมณํ, กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมนฺตสฺส ทิสฺสมาเนน กาเยน ปาฏิหาริยํ กตฺวา พฺรหฺมโลกํ คจฺฉนฺตสฺส สมาปตฺติจิตฺตารมฺมณตฺตา มหคฺคตารมฺมณํ.
ทิพฺพโสตาณจตุตฺถํ สทฺทารมฺมณตฺตา ปริตฺตารมฺมณํ.
เจโตปริยาณจตุตฺถํ ¶ กามาวจรจิตฺตชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ, รูปาวจรารูปาวจรจิตฺตชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, โลกุตฺตรจิตฺตชานนกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ. เจโตปริยาณลาภี ปน ปุถุชฺชโน ปุถุชฺชนานํเยว จิตฺตํ ชานาติ, น อริยานํ. โสตาปนฺโน โสตาปนฺนสฺส เจว ปุถุชฺชนสฺส จ; สกทาคามี สกทาคามิโน เจว เหฏฺิมานฺจ ¶ ทฺวินฺนํ; อนาคามี อนาคามิโน เจว เหฏฺิมานฺจ ติณฺณํ; ขีณาสโว สพฺเพสมฺปิ ชานาติ.
ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ ¶ กามาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล ปริตฺตารมฺมณํ, รูปาวจรารูปาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, ‘‘อตีเต พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา มคฺคํ ภาวยึสุ, ผลํ สจฺฉิกรึสู’’ติ อนุสฺสรณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ, นามโคตฺตานุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ.
ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ วณฺณารมฺมณตฺตา ปริตฺตารมฺมณํ.
ยถากมฺมูปคาณจตุตฺถํ กามาวจรกมฺมานุสฺสรณกาเล ปริตฺตารมฺมณํ, รูปาวจรารูปาวจรกมฺมานุสฺสรณกาเล มหคฺคตารมฺมณํ.
อนาคตํสาณจตุตฺถํ อนาคเต กามธาตุยา นิพฺพตฺติชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ, รูปารูปภเวสุ นิพฺพตฺติชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ, ‘‘อนาคเต พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา มคฺคํ ภาเวสฺสนฺติ, ผลํ สจฺฉิกริสฺสนฺตี’’ติ ชานนกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ, ‘‘อนาคเต สงฺโข นาม ราชา ภวิสฺสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๑๐๘) นเยน นามโคตฺตานุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ.
อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณํ. วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนจตุตฺถํ มหคฺคตารมฺมณํ.
โลกุตฺตรจตุตฺถํ อปฺปมาณารมฺมณํ.
กิริยโตปิ เตสํ ทฺวาทสนฺนํ ฌานานํ อิทเมว อารมฺมณวิธานํ. ตีณิ ฌานานิ นมคฺคารมฺมณาติ ¶ ปจฺจเวกฺขณาณํ วา เจโตปริยาทิาณํ วา มคฺคํ อารมฺมณํ กเรยฺย, ตีณิ ฌานานิ ตถา อปฺปวตฺติโต นมคฺคารมฺมณา, สหชาตเหตุวเสน ปน สิยา มคฺคเหตุกา; วีริยเชฏฺิกาย วา วีมํสาเชฏฺิกาย วา มคฺคภาวนาย มคฺคาธิปติโน; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺกกาเล ผลกาเล จ นวตฺตพฺพา.
จตุตฺถํ ฌานนฺติ อิธาปิ กุสลโต เตรสสุ จตุตฺถชฺฌาเนสุ สพฺพตฺถปาทกอิทฺธิวิธทิพฺพโสตทิพฺพจกฺขุยถากมฺมูปคาณจตุตฺถฺเจว จตุพฺพิธฺจ อารุปฺปจตุตฺถํ มคฺคารมฺมณาทิภาเวน น วตฺตพฺพํ. เจโตปริยปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณจตุตฺถํ ปน มคฺคารมฺมณํ ¶ โหติ. น วตฺตพฺพํ มคฺคเหตุกํ มคฺคาธิปตีติ วา; โลกุตฺตรจตุตฺถํ มคฺคารมฺมณํ น โหติ; มคฺคกาเล ปน ¶ สหชาตเหตุวเสน มคฺคเหตุกํ; วีริยวีมํสาเชฏฺิกาย มคฺคภาวนาย มคฺคาธิปติ; ฉนฺทจิตฺตเชฏฺิกาย เจว มคฺคภาวนาย ผลกาเล จ น วตฺตพฺพํ. กิริยโตปิ ทฺวาทสสุ ฌาเนสุ อยเมว นโย.
ตีณิ ฌานานิ น วตฺตพฺพาติ อตีตาทีสุ เอกธมฺมมฺปิ อารพฺภ อปฺปวตฺติโต นวตฺตพฺพาติ เวทิตพฺพา.
จตุตฺถํ ฌานนฺติ กุสลโต เตรสสุ จตุตฺถชฺฌาเนสุ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณเมว. อิทฺธิวิธจตุตฺถํ กายวเสน จิตฺตปริณามเน สมาปตฺติจิตฺตารมฺมณตฺตา อตีตารมฺมณํ; ‘‘อนาคเต อิมานิ ปุปฺผานิ มา มิลายึสุ, ทีปา มา นิพฺพายึสุ, เอโก อคฺคิกฺขนฺโธ สมุฏฺาตุ, ปพฺพโต สมุฏฺาตู’’ติ อธิฏฺานกาเล อนาคตารมฺมณํ; จิตฺตวเสน กายปริณามนกาเล กายารมฺมณตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. ทิพฺพโสตาณจตุตฺถํ สทฺทารมฺมณตฺตา ปจฺจุปฺปนารมฺมณํ. เจโตปริยาณจตุตฺถํ อตีเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธจิตฺตชานนกาเล อตีตารมฺมณํ; อนาคเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชนกจิตฺตชานนกาเล อนาคตารมฺมณํ. ‘‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อมุํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตีติ. โส พหฺุเจปิ อาทิสติ, ตเถว ตํ โหติ โน อฺถา’’ติ อิมินา หิ สุตฺเตน (อ. นิ. ๓.๖๑) เจโตปริยาณสฺเสว ปวตฺติ ปกาสิตา. อทฺธานปจฺจุปฺปนฺนสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสเนว ปจฺจุปฺปนฺนํ อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ เหฏฺาอฏฺกถากณฺฑวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ ¶ อตีตกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล อตีตารมฺมณํ, นามโคตฺตานุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ. ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ วณฺณารมฺมณตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. ยถากมฺมูปคาณจตุตฺถํ อตีตกมฺมเมว อารมฺมณํ กโรตีติ อตีตารมฺมณํ. อนาคตํสาณจตุตฺถํ อนาคตกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล อนาคตารมฺมณํ, นามโคตฺตานุสฺสรณกาเล ¶ นวตฺตพฺพารมฺมณํ. อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณเมว. วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนจตุตฺถํ อตีตารมฺมณเมว. โลกุตฺตรจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณเมว. กิริยโตปิ ทฺวาทสสุ จตุตฺถชฺฌาเนสุ เอเสว นโย.
ตีณิ ¶ ฌานานิ พหิทฺธารมฺมณาติ อชฺฌตฺตโต พหิทฺธาภูตํ นิมิตฺตํ อารพฺภ ปวตฺติโต พหิทฺธารมฺมณา.
จตุตฺถํ ฌานนฺติ อิธาปิ กุสลโต เตรสสุ จตุตฺถชฺฌาเนสุ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺถํ พหิทฺธารมฺมณเมว.
อิทฺธิวิธจตุตฺถํ กายวเสน จิตฺตปริณามเนปิ จิตฺตวเสน กายปริณามเนปิ อตฺตโนว กายจิตฺตารมฺมณตฺตา อชฺฌตฺตารมฺมณํ; ‘‘พหิทฺธา หตฺถิมฺปิ ทสฺเสตี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกาเล พหิทฺธารมฺมณํ.
ทิพฺพโสตาณจตุตฺถํ อตฺตโน กุจฺฉิคตสทฺทารมฺมณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส สทฺทารมฺมณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสนาปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.
เจโตปริยาณจตุตฺถํ พหิทฺธารมฺมณเมว.
ปุพฺเพนิวาสาณจตุตฺถํ อตฺตโน ขนฺธานุสฺสรณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส ขนฺธานฺเจว นามโคตฺตสฺส จ อนุสฺสรณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ.
ทิพฺพจกฺขุาณจตุตฺถํ อตฺตโน รูปารมฺมณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส รูปารมฺมณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสนาปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.
ยถากมฺมูปคาณจตุตฺถํ ¶ อตฺตโน กมฺมชานนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส กมฺมชานนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสนาปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.
อนาคตํสาณจตุตฺถํ อตฺตโน อนาคเต นิพฺพตฺติชานนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส ขนฺธานุสฺสรณกาเล เจว นามโคตฺตานุสฺสรณกาเล จ พหิทฺธารมฺมณํ, อุภยวเสนาปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ.
อากาสานฺจายตนจตุตฺถํ พหิทฺธารมฺมณํ. อากิฺจฺายตนจตุตฺถํ นวตฺตพฺพารมฺมณํ. วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนจตุตฺถํ อชฺฌตฺตารมฺมณํ.
โลกุตฺตรจตุตฺถํ พหิทฺธารมฺมณเมว. กิริยโตปิ ทฺวาทสสุ ฌาเนสุ อยเมว นโยติ.
อิมสฺมึ ¶ ¶ ปน ฌานวิภงฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุตฺตนฺตภาชนีเยปิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาเนว ฌานานิ กถิตานิ; อภิธมฺมภาชนีเยปิ ปฺหาปุจฺฉเกปิ. ตโยปิ หิ เอเต นยา เตภูมกธมฺมมิสฺสกตฺตา เอกปริจฺเฉทา เอว. เอวมยํ ฌานวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ฌานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อปฺปมฺาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๖๔๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร อปฺปมฺาวิภงฺเค จตสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. อปฺปมฺาโยติ ผรณอปฺปมาณวเสน อปฺปมฺาโย. เอตา หิ อารมฺมณวเสน อปฺปมาเณ วา สตฺเต ผรนฺติ, เอกสตฺตมฺปิ วา อนวเสสผรณวเสน ผรนฺตีติ ผรณอปฺปมาณวเสน อปฺปมฺาโยติ วุจฺจนฺติ. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. เมตฺตาสหคเตนาติ เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกิสฺสา ทิสาย. ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ทิสาสุ ยํ กิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถฺจาติ อตฺโถ.
อิติ อุทฺธนฺติ เตเนว จ นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํทิสมฺปิ เอวเมว. เอตฺถ จ อโธติ เหฏฺา, ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑเล อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตาทิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย ‘อยํ ปรสตฺโต’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ; อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน อีสกมฺปิ ¶ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ ¶ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ.
วิปุเลนาติเอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ‘ตถา’สทฺโท ‘อิติ’สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ; นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ จ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ, ปคุณวเสน อปฺปมาณํ ¶ , สตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ, พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, โทมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺฌํ, นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ตาว ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติอาทินา นเยน ปิตาย มาติกาย อตฺโถ.
๖๔๓. อิทานิ ยเทตํ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ ปทภาชนียํ, ตตฺถ ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานํ โทสจริตสฺส สปฺปายํ, ตสฺมา ยถารูเป ปุคฺคเล อยํ เมตฺตา อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตํ เมตฺตาย วตฺถุภูตํ ปุคฺคลํ ตาว ทสฺเสตุํ เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เสยฺยถาปิ นามาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต, ยถา เอกํ ปุคฺคลนฺติ อตฺโถ. ปิยนฺติ เปมนียํ. มนาปนฺติ หทยวุฑฺฒิกรํ. ตตฺถ ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา ปิโย นาม โหติ, สีลาทิคุณสมาโยเคน มนาโป นาม; ทานสมานตฺตตาหิ วา ปิยตา, ปิยวจนอตฺถจริยตาหิ มนาปตา เวทิตพฺพา. ยสฺมา เจตฺถ ปิยตาย อิมสฺส พฺยาปาทสฺส ปหานํ โหติ, ตโต เมตฺตา สุขํ ผรติ, มนาปตาย อุทาสีนตา น สณฺาติ, หิโรตฺตปฺปฺจ ปจฺจุปฏฺาติ, ตโต หิโรตฺตปฺปานุปาลิตา เมตฺตา น ปริหายติ, ตสฺมา ตํ อุปมํ กตฺวา อิทํ วุตฺตํ – ปิยํ มนาปนฺติ. เมตฺตาเยยฺยาติ เมตฺตาย ผเรยฺย; ตสฺมึ ปุคฺคเล เมตฺตํ กเรยฺย ปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ. เอวเมว ¶ สพฺเพ สตฺเตติ ยถา ปิยํ ปุคฺคลํ เมตฺตาเยยฺย, เอวํ ตสฺมึ ปุคฺคเล อปฺปนาปฺปตฺตาย วสีภาวํ อุปคตาย เมตฺตาย มชฺฌตฺตเวริสงฺขาเตปิ สพฺเพ สตฺเต อนุกฺกเมน ผรตีติ อตฺโถ. เมตฺติ เมตฺตายนาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
๖๔๔. วิทิสํ วาติ ปทํ ติริยํ วาติ เอตสฺส อตฺถวิภาวนตฺถํ วุตฺตํ.
๖๔๕. ผริตฺวาติ ¶ อารมฺมณกรณวเสน ผุสิตฺวา. อธิมฺุจิตฺวาติ อธิกภาเวน มฺุจิตฺวา, ยถา มุตฺตํ สุมุตฺตํ โหติ สุปฺปสาริตํ สุวิตฺถตํ ตถา มฺุจิตฺวาติ อตฺโถ.
๖๔๘. สพฺพธิอาทินิทฺเทเส ยสฺมา ตีณิปิ เอตานิ ปทานิ สพฺพสงฺคาหิกานิ, ตสฺมา เนสํ เอกโตว อตฺถํ ทสฺเสตุํ สพฺเพน สพฺพนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว.
๖๕๐. วิปุลาทินิทฺเทเส ¶ ยสฺมา ยํ อปฺปนาปฺปตฺตํ หุตฺวา อนนฺตสตฺตผรณวเสน วิปุลํ, ตํ นิยมโต ภูมิวเสน มหคฺคตํ โหติ. ยฺจ มหคฺคตํ ตํ อปฺปมาณโคจรวเสน อปฺปมาณํ. ยํ อปฺปมาณํ ตํ ปจฺจตฺถิกวิฆาตวเสน อเวรํ. ยฺจ อเวรํ ตํ วิหตพฺยาปชฺชตาย อพฺยาปชฺชํ. ตสฺมา ‘‘ยํ วิปุลํ ตํ มหคฺคต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อเวโร อพฺยาปชฺโชติ เจตฺถ ลิงฺควิปริยาเยน วุตฺตํ. มเนน วา สทฺธึ โยชนา กาตพฺพา – ยํ อปฺปมาณํ จิตฺตํ, โส อเวโร มโน; โย อเวโร โส อพฺยาปชฺโชติ. อปิเจตฺถ เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ ปทํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส, อุปริมํ วา อุปริมํ เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺส อตฺโถติปิ เวทิตพฺโพ.
๖๕๓. เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลํ ทุคฺคตํ ทุรุเปตนฺติ อิทมฺปิ กรุณาย วตฺถุภูตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอวรูปสฺมิฺหิ ปุคฺคเล พลวการฺุํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ทุคฺคตนฺติ ทุกฺเขน สมงฺคีภาวํ คตํ. ทุรุเปตนฺติ กายทุจฺจริตาทีหิ อุเปตํ. คติกุลโภคาทิวเสน วา ตมภาเว ิโต ปุคฺคโล ทุคฺคโต, กายทุจฺจริตาทีหิ อุเปตตฺตา ตมปรายณภาเว ิโต ทุรุเปโตติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖๖๓. เอกํ ปุคฺคลํ ปิยํ มนาปนฺติ อิทมฺปิ มุทิตาย วตฺถุภูตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ คติกุลโภคาทิวเสน โชติภาเว ิโต ปิโย, กายสุจริตาทีหิ อุเปตตฺตา โชติปรายณภาเว ิโต มนาโปติ เวทิตพฺโพ.
๖๗๓. เนว มนาปํ น อมนาปนฺติ อิทมฺปิ อุเปกฺขาย วตฺถุภูตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ มิตฺตภาวํ อสมฺปตฺตตาย เนว มนาโป, อมิตฺตภาวํ อสมฺปตฺตตาย น อมนาโปติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ วุตฺตเมว. ภาวนาวิธานมฺปิ เอเตสํ กมฺมฏฺานานํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต กถิตเมวาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
อภิธมฺมภาชนียํ ¶ ¶ กุสลโตปิ วิปากโตปิ กิริยโตปิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ภาชิตนเยเนว ภาชิตํ. อตฺโถปิสฺส ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว เมตฺตาทีนํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน สพฺพาปิ ตีสุ ติเกสุ นวตพฺพารมฺมณา เอว. อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก พหิทฺธารมฺมณาติ. อิมสฺมึ ปน อปฺปมฺาวิภงฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธน สุตฺตนฺตภาชนีเยปิ โลกิยา เอว อปฺปมฺาโย กถิตา, อภิธมฺมภาชนีเยปิ ปฺหาปุจฺฉเกปิ. ตโยปิ หิ เอเต นยา โลกิยตฺตา เอกปริจฺเฉทา เอว. เอวมยํ อปฺปมฺาวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
อปฺปมฺาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. สิกฺขาปทวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๐๓. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร สิกฺขาปทวิภงฺเค ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. สิกฺขาปทานีติ สิกฺขิตพฺพปทานิ; สิกฺขาโกฏฺาสาติ อตฺโถ. อปิจ อุปริ อาคตา สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา. ปฺจสุ ปน สีลงฺเคสุ ยํกิฺจิ องฺคํ ตาสํ สิกฺขานํ ปติฏฺานฏฺเน ปทนฺติ สิกฺขานํ ปทตฺตา สิกฺขาปทานิ. ปาณาติปาตาติ ปาณสฺส อติปาตา ฆาตนา มารณาติ อตฺโถ. เวรมณีติ วิรติ. อทินฺนาทานาติ อทินฺนสฺส อาทานา; ปรปริคฺคหิตสฺส หรณาติ อตฺโถ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. มิจฺฉาจาราติ กิเลสกามวเสน ลามกาจารา. มุสาวาทาติ อภูตวาทโต. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานาติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺสุรา, ปูวสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, คุฬาสโว, มธฺวาสโว, สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตทุภยมฺปิ มทนียฏฺเน มชฺชํ. ยาย เจตนาย ตํ ปิวนฺติ, สา ปมาทการณตฺตา ปมาทฏฺานํ; ตสฺมา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา. อยํ ตาเวตฺถ มาติกานิกฺเขปสฺส อตฺโถ.
๗๐๔. ปทภาชนีเย ปน ยสฺมึ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. ยสฺมา ปน น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ, เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย ทสฺสิโต. ยสฺมา จ น เกวลํ เอเตเยว ทฺเว ธมฺมา สิกฺขาปทํ, เจตนาสมฺปยุตฺตา ปน ปโรปณฺณาสธมฺมาปิ สิกฺขิตพฺพโกฏฺาสโต สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตติยนโยปิ ทสฺสิโต.
ตตฺถ ¶ ทุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทฺจ. ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ. สา หิ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติ ¶ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนา. วิรมนฺโต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนาย. เจตนํ ปน อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ตถา เสสเจตนาสมฺปยุตฺตธมฺเม. วีติกฺกมกาเล หิ เวรเจตนา ทุสฺสีลฺยํ นาม. ตสฺมา สา วิรติกาเลปิ สุสีลฺยวเสน วุตฺตา. ผสฺสาทโย ตํสมฺปยุตฺตตฺตา คหิตาติ.
อิทานิ ¶ เอเตสุ สิกฺขาปเทสุ าณสมุตฺเตชนตฺถํ อิเมสํ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, สาวชฺชโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปฺจเปเต ปาณาติปาตาทโย เจตนาธมฺมาว โหนฺติ. ‘โกฏฺาสโต’ ปฺจปิ กมฺมปถา เอว.
‘อารมฺมณโต’ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมโณ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วา. มิจฺฉาจาโร อิตฺถิปุริสารมฺมโณ. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. สุราปานํ สงฺขารารมฺมณํ.
‘เวทนาโต’ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. ตฺหิ หฏฺตุฏฺสฺส อทินฺนํ อาทิยโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตกาเล ทุกฺขเวทนํ, มชฺฌตฺตสฺส หุตฺวา คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํ. มิจฺฉาจาโร สุขเวทโน วา อทุกฺขมสุขเวทโน วา. มุสาวาโท อทินฺนาทานํ วิย ติเวทโน. สุราปานํ สุขมชฺฌตฺตเวทนํ.
‘มูลโต’ ปาณาติปาโต โทสโมหมูโล. อทินฺนาทานํ กิฺจิกาเล โลภโมหมูลํ, กิฺจิกาเล โทสโมหมูลํ. มิจฺฉาจาโร โลภโมหมูโล. มุสาวาโท กิฺจิกาเล โลภโมหมูโล, กิฺจิกาเล โทสโมหมูโล. สุราปานํ โลภโมหมูลํ.
‘กมฺมโต’ มุสาวาโท เจตฺถ วจีกมฺมํ. เสสา กายกมฺมเมว.
‘สาวชฺชโต’ ¶ ปาณาติปาโต อตฺถิ อปฺปสาวชฺโช, อตฺถิ มหาสาวชฺโช. ตถา อทินฺนาทานาทีนิ. เตสํ นานากรณํ เหฏฺา ทสฺสิตเมว.
อยํ ปน อปโร นโย – กุนฺถกิปิลฺลิกสฺส หิ วโธ อปฺปสาวชฺโช, ตโต มหนฺตตรสฺส มหาสาวชฺโช; โสปิ อปฺปสาวชฺโช, ตโต มหนฺตตราย สกุณิกาย มหาสาวชฺโช; ตโต โคธาย, ตโต สสกสฺส, ตโต มิคสฺส, ตโต ควยสฺส, ตโต อสฺสสฺส, ตโต หตฺถิสฺส วโธ มหาสาวชฺโช, ตโตปิ ทุสฺสีลมนุสฺสสฺส ¶ , ตโต โครูปสีลกมนุสฺสสฺส, ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน ¶ , ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส, ตโต ขีณาสวสฺส วโธ อติมหาสาวชฺโชเยว.
อทินฺนาทานํ ทุสฺสีลสฺส สนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ตโต โครูปสีลกสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ; ตโต สรณคตสฺส, ตโต ปฺจสิกฺขาปทิกสฺส, ตโต สามเณรสฺส, ตโต ปุถุชฺชนภิกฺขุโน, ตโต โสตาปนฺนสฺส, ตโต สกทาคามิสฺส, ตโต อนาคามิสฺส สนฺตเก มหาสาวชฺชํ, ตโต ขีณาสวสฺส สนฺตเก อติมหาสาวชฺชํเยว.
มิจฺฉาจาโร ทุสฺสีลาย อิตฺถิยา วีติกฺกเม อปฺปสาวชฺโช, ตโต โครูปสีลกาย มหาสาวชฺโช; ตโต สรณคตาย, ปฺจสิกฺขาปทิกาย, สามเณริยา, ปุถุชฺชนภิกฺขุนิยา, โสตาปนฺนาย, สกทาคามินิยา, ตโต อนาคามินิยา วีติกฺกเม มหาสาวชฺโช, ขีณาสวาย ปน ภิกฺขุนิยา เอกนฺตมหาสาวชฺโชว.
มุสาวาโท กากณิกมตฺตสฺส อตฺถาย มุสากถเน อปฺปสาวชฺโช, ตโต อฑฺฒมาสกสฺส, มาสกสฺส, ปฺจมาสกสฺส, อฑฺฒกหาปณสฺส, กหาปณสฺส, ตโต อนคฺฆนิยภณฺฑสฺส อตฺถาย มุสากถเน มหาสาวชฺโช, มุสา กเถตฺวา ปน สงฺฆํ ภินฺทนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวชฺโชว.
สุราปานํ ปสตมตฺตสฺส ปาเน อปฺปสาวชฺชํ, อฺชลิมตฺตสฺส ปาเน มหาสาวชฺชํ; กายจาลนสมตฺถํ ปน พหุํ ปิวิตฺวา คามฆาตนิคมฆาตกมฺมํ กโรนฺตสฺส เอกนฺตมหาสาวชฺชเมว.
ปาณาติปาตฺหิ ¶ ปตฺวา ขีณาสวสฺส วโธ มหาสาวชฺโช; อทินฺนาทานํ ปตฺวา ขีณาสวสนฺตกสฺส หรณํ, มิจฺฉาจารํ ปตฺวา ขีณาสวาย ภิกฺขุนิยา วีติกฺกมนํ, มุสาวาทํ ปตฺวา มุสาวาเทน สงฺฆเภโท, สุราปานํ ปตฺวา กายจาลนสมตฺถํ พหุํ ปิวิตฺวา คามนิคมฆาตนํ มหาสาวชฺชํ. สพฺเพหิปิ ปเนเตหิ มุสาวาเทน สงฺฆเภทนเมว มหาสาวชฺชํ. ตฺหิ กปฺปํ นิรเย ปาจนสมตฺถํ มหากิพฺพิสํ.
‘ปโยคโต’ติ ¶ ปาณาติปาโต สาหตฺถิโกปิ โหติ อาณตฺติโกปิ. ตถา อทินฺนาทานํ. มิจฺฉาจารมุสาวาทสุราปานานิ สาหตฺถิกาเนวาติ.
เอวเมตฺถ ¶ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมาทิวเสน วินิจฺฉยํ ตฺวา ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีนมฺปิ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโต, กมฺมโต, ขณฺฑโต, สมาทานโต, ปโยคโต จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘ธมฺมโต’ติ ปริยายสีลวเสน ปฏิปาฏิยา ปฺจ เจตนาธมฺมาว. ‘โกฏฺาสโต’ติ ปฺจปิ กมฺมปถา เอว. ‘อารมฺมณโต’ติ ปาณาติปาตา เวรมณี ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ กตฺวา อตฺตโน เวรเจตนาย วิรมติ. อิตราสุปิ เอเสว นโย. สพฺพาปิ หิ เอตา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวรเจตนาหิเยว วิรมนฺติ. ‘เวทนาโต’ติ สพฺพาปิ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. ‘มูลโต’ติ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหมูลา โหนฺติ, าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสมูลา โหนฺติ. ‘กมฺมโต’ติ มุสาวาทา เวรมณีเยเวตฺถ วจีกมฺมํ; เสสา กายกมฺมํ. ‘ขณฺฑโต’ติ คหฏฺา ยํ ยํ วีติกฺกมนฺติ, ตํ ตเทว ขณฺฑํ โหติ ภิชฺชติ, อวเสสํ น ภิชฺชติ. กสฺมา? คหฏฺา หิ อนิพทฺธสีลา โหนฺติ, ยํ ยํ สกฺโกนฺติ ตํ ตเทว โคเปนฺติ. สามเณรานํ ปน เอกสฺมึ วีติกฺกมนฺเต สพฺพานิ ภิชฺชนฺติ. น เกวลฺจ เอตานิ, เสสสีลานิปิ ภิชฺชนฺติเยว. เตสํ ปน วีติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุโก. ‘ปุน เอวรูปํ น กริสฺสามี’ติ ทณฺฑกมฺเม กเต สีลํ ปริปุณฺณํ โหติ. ‘สมาทานโต’ติ สยเมว ‘ปฺจ สีลานิ อธิฏฺหามี’ติ อธิฏฺหนฺเตนปิ, ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ สมาทิยนฺเตนปิ สมาทิณฺณานิ โหนฺติ. อฺสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘ปฺจ สีลานิ สมาทิยามี’ติ สมาทิยนฺเตนปิ, ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ สมาทิยนฺเตนปิ ¶ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ. ‘ปโยคโต’ สพฺพานิปิ สาหตฺถิกปโยคาเนวาติ เวทิตพฺพานิ.
๗๑๒. อิทานิ ยาสํ สิกฺขานํ โกฏฺาสภาเวน อิมานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตานิ ทสฺเสตุํ กตเม ธมฺมา สิกฺขาติ อยํ สิกฺขาวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ¶ ยสฺมา สพฺเพปิ จตุภูมกกุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพภาวโต ¶ สิกฺขา, ตสฺมา เต ทสฺเสตุํ ยสฺมึ สมเย กามาวจรนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. ๑) วุตฺตนเยเนว ปาฬึ วิตฺถาเรตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ ปน มุขมตฺตเมว ทสฺสิตนฺติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๗๑๔. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว สิกฺขาปทานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน ยานิ สิกฺขาปทานิ เอตฺถ สตฺตารมฺมณานีติ วุตฺตานิ, ตานิ ยสฺมา สตฺโตติ สงฺขํ คเต สงฺขาเรเยว อารมฺมณํ กโรนฺติ, ยสฺมา จ สพฺพานิปิ เอตานิ สมฺปตฺตวิรติวเสเนว นิทฺทิฏฺานิ, ตสฺมา ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’ติ จ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ จ วุตฺตํ. ยโต ปน วิรมติ ตสฺส วตฺถุโน อจฺจนฺตพหิทฺธตฺตา สพฺเพสมฺปิ พหิทฺธารมฺมณตา เวทิตพฺพาติ.
อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปทวิภงฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธน อภิธมฺมภาชนีเยปิ ปฺหาปุจฺฉเกปิ โลกิยาเนว สิกฺขาปทานิ กถิตานิ. อุโภปิ หิ เอเต นยา โลกิยตฺตา เอกปริจฺเฉทา เอว. เอวมยํ สิกฺขาปทวิภงฺโค ทฺเวปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
สิกฺขาปทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
๑. สงฺคหวารวณฺณนา
๗๑๘. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค จตสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. ปฏิสมฺภิทาติ ปเภทา. ยสฺมา ปน ปรโต อตฺเถ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาติอาทิมาห, ตสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ ปเภทา, าณสฺเสว ปเภทาติ เวทิตพฺพา. อิติ ‘‘จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติ ปเทน จตฺตาโร าณปฺปเภทาติ อยมตฺโถ สงฺคหิโต. อตฺถปฏิสมฺภิทาติ อตฺเถ ปฏิสมฺภิทา; อตฺถปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนาววตฺถานกรณสมตฺถํ อตฺเถ ปเภทคตํ าณนฺติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ธมฺมปฺปเภทสฺส หิ สลฺลกฺขณวิภาวนาววตฺถานกรณสมตฺถํ ธมฺเม ปเภทคตํ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา นาม. นิรุตฺติปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนาววตฺถานกรณสมตฺถํ นิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา นาม. ปฏิภานปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนาววตฺถานกรณสมตฺถํ ปฏิภาเน ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา นาม.
อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตา ปฏิสมฺภิทา ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต อตฺเถ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺโถติ สงฺเขปโต เหตุผลํ. ตฺหิ เหตุวเสน อรณียํ คนฺตพฺพํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺมา อตฺโถติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน ยํกิฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺนํ, นิพฺพานํ, ภาสิตตฺโถ, วิปาโก, กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตฺโถติ เวทิตพฺพา. ตํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ อตฺเถ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา.
ธมฺโมติ ¶ สงฺเขปโต ปจฺจโย. โส หิ ยสฺมา ตํ ตํ วิทหติ ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จ, ตสฺมา ธมฺโมติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ ¶ , กุสลํ, อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ธมฺโมติ เวทิตพฺพา. ตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ ธมฺเม ปเภทคตํ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา.
ตตฺร ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณนฺติ ตสฺมึ อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยา สภาวนิรุตฺติ, ตสฺสา อภิลาเป ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ ¶ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา. เอวมยํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณา นาม ชาตา, น ปฺตฺติอารมฺมณา. กสฺมา? ยสฺมา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานนฺติ. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต หิ ‘‘ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ‘‘ผสฺสา’’ติ วา ‘‘ผสฺส’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ‘‘อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อฺํ ปเนส นามอาขฺยาตอุปสคฺคพฺยฺชนสทฺทํ ชานาติ น ชานาตีติ? ยทคฺเคน สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ตทคฺเคน ตมฺปิ ชานิสฺสตีติ. ตํ ปน นยิทํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจนฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วตฺถุ กถิตํ –
ติสฺสทตฺตตฺเถโร กิร โพธิมณฺเฑ สุวณฺณสลากํ คเหตฺวา อฏฺารสสุ ภาสาสุ ‘กตรภาสาย กเถมี’ติ ปวาเรสิ. ตํ ปน เตน อตฺตโน อุคฺคเห ตฺวา ปวาริตํ, น ปฏิสมฺภิทาย ิเตน. โส หิ มหาปฺตาย ตํ ตํ ภาสํ กถาเปตฺวา กถาเปตฺวา อุคฺคณฺหิ; ตโต อุคฺคเห ตฺวา เอวํ ปวาเรสิ.
ภาสํ นาม สตฺตา อุคฺคณฺหนฺตีติ วตฺวา จ ปเนตฺถ อิทํ กถิตํ. มาตาปิตโร หิ ทหรกาเล กุมารเก มฺเจ วา ปีเ วา นิปชฺชาเปตฺวา ตํ ตํ กถยมานา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ กโรนฺติ. ทารกา เตสํ ตํ ตํ ภาสํ ววตฺถาเปนฺติ – อิมินา อิทํ วุตฺตํ, อิมินา อิทํ วุตฺตนฺติ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล สพฺพมฺปิ ภาสํ ชานนฺติ. มาตา ทมิฬี, ปิตา อนฺธโก. เตสํ ชาโต ทารโก สเจ มาตุกถํ ปมํ สุณาติ, ทมิฬภาสํ ภาสิสฺสติ; สเจ ปิตุกถํ ปมํ สุณาติ, อนฺธกภาสํ ภาสิสฺสติ. อุภินฺนมฺปิ ปน กถํ อสฺสุณนฺโต มาคธภาสํ ภาสิสฺสติ.
โยปิ ¶ อคามเก มหารฺเ นิพฺพตฺโต, ตตฺถ อฺโ กเถนฺโต นาม นตฺถิ, โสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย วจนํ สมุฏฺาเปนฺโต มาคธภาสเมว ¶ ภาสิสฺสติ. นิรเย, ติรจฺฉานโยนิยํ, เปตฺติวิสเย, มนุสฺสโลเก, เทวโลเกติ สพฺพตฺถ มาคธภาสาว อุสฺสนฺนา. ตตฺถ เสสา โอฏฺฏกิราตอนฺธกโยนกทมิฬภาสาทิกา อฏฺารส ภาสา ปริวตฺตนฺติ ¶ . อยเมเวกา ยถาภุจฺจพฺรหฺมโวหารอริยโวหารสงฺขาตา มาคธภาสา น ปริวตฺตติ. สมฺมาสพุทฺโธปิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต มาคธภาสาย เอว อาโรเปสิ. กสฺมา? เอวฺหิ อตฺถํ อาหริตุํ สุขํ โหติ. มาคธภาสาย หิ ตนฺตึ อารุฬฺหสฺส พุทฺธวจนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตานํ โสตปถาคมนเมว ปปฺโจ; โสเต ปน สงฺฆฏฺฏิตมตฺเตเยว นยสเตน นยสหสฺเสน อตฺโถ อุปฏฺาติ. อฺาย ปน ภาสาย ตนฺตึ อารุฬฺหํ โปเถตฺวา โปเถตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ โหติ. พหุมฺปิ อุคฺคเหตฺวา ปน ปุถุชฺชนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติ นาม นตฺถิ. อริยสาวโก โน ปฏิสมฺภิทาปฺปโต นาม นตฺถิ.
าเณสุ าณนฺติ สพฺพตฺถกาณํ อารมฺมณํ กตฺวา าณํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ. อิมา ปน จตสฺโสปิ ปฏิสมฺภิทา ทฺวีสุ าเนสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ, ปฺจหิ การเณหิ วิสทา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. กตเมสุ ทฺวีสุ? เสกฺขภูมิยฺจ อเสกฺขภูมิยฺจ. ตตฺถ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส มหากจฺจายนตฺเถรสฺส มหาโกฏฺิตตฺเถรสฺสาติ อสีติยาปิ มหาเถรานํ ปฏิสมฺภิทา อเสกฺขภูมิยํ ปเภทํ คตา. อานนฺทตฺเถรสฺส จิตฺตสฺส คหปติโน ธมฺมิกสฺส อุปาสกสฺส อุปาลิสฺส คหปติโน ขุชฺชุตฺตราย อุปาสิกายาติ เอวมาทีนํ ปฏิสมฺภิทา เสกฺขภูมิยํ ปเภทํ คตาติ อิมาสุ ทฺวีสุ ภูมีสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ.
กตเมหิ ปฺจหิ การเณหิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺตีติ? อธิคเมน, ปริยตฺติยา, สวเนน, ปริปุจฺฉาย, ปุพฺพโยเคนาติ. ตตฺถ ‘อธิคโม’ นาม อรหตฺตํ. ตฺหิ ปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ‘ปริยตฺติ’ นาม พุทฺธวจนํ. ตฺหิ อุคฺคณฺหนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ‘สวนํ’ นาม ธมฺมสฺสวนํ. สกฺกจฺจฺหิ ธมฺมํ สุณนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา ¶ วิสทา โหนฺติ. ‘ปริปุจฺฉา’ นาม อฏฺกถา. อุคฺคหิตปาฬิยา อตฺถํ กเถนฺตสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ‘ปุพฺพโยโค’ นาม ปุพฺพโยคาวจรตา, อตีตภเว หรณปจฺจาหรณนเยน ปริคฺคหิตกมฺมฏฺานตา; ปุพฺพโยคาวจรสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ ¶ . ตตฺถ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุนพฺพสุกุฏุมฺพิกปุตฺตสฺส ติสฺสตฺเถรสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา อเหสุํ. โส กิร ตมฺพปณฺณิทีเป พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา ปรตีรํ คนฺตฺวา โยนกธมฺมรกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉนฺโต ¶ นาวํ อภิรุหนติตฺเถ เอกสฺมึ ปเท อุปฺปนฺนกงฺโข โยชนสตมคฺคํ นิวตฺติตฺวา อาจริยสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกสฺส กุฏุมฺพิกสฺส ปฺหํ กเถสิ. โส ปสีทิตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิกํ กมฺพลํ อทาสิ. โสปิ ตํ อาหริตฺวา อาจริยสฺส อทาสิ. เถโร วาสิยา โกฏฺเฏตฺวา นิสีทนฏฺาเน ปริภณฺฑํ กาเรสิ. กิมตฺถายาติ? ปจฺฉิมาย ชนตาย อนุคฺคหตฺถายาติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อมฺหากํ คตมคฺคํ อาวชฺเชตฺวา อนาคเต สพฺรหฺมจาริโน ปฏิปตฺตึ ปูเรตพฺพํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ. ติสฺสตฺเถโรปิ อาจริยสฺส สนฺติเก กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา ชมฺพุโกลปฏฺฏเน โอรุยฺห เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชนเวลาย วาลิกวิหารํ ปตฺวา สมฺมชฺชิ. ตสฺส สมฺมชฺชิตฏฺานํ ทิสฺวา ‘อิทํ วีตราคสฺส ภิกฺขุโน สมฺมฏฺฏฺาน’นฺติ เถรสฺส วีมํสนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉึสุ. เถโร ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตตาย ปุจฺฉิตปุจฺฉิเต ปฺเห กเถสีติ.
ปริยตฺติยา ปน ติสฺสทตฺตตฺเถรสฺส เจว นาคเสนตฺเถรสฺส จ ปฏิสมฺภิทา วิสทา อเหสุํ. สกฺกจฺจธมฺมสวเนน สุธมฺมสามเณรสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา อเหสุํ. โส กิร ตลงฺครวาสี ธมฺมทินฺนตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺโย ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปตฺโต มาตุลตฺเถรสฺส ธมฺมวินิจฺฉยฏฺาเน นิสีทิตฺวา สุณนฺโตเยว ตีณิ ปิฏกานิ ปคุณานิ อกาสิ. อุคฺคหิตปาฬิยา อตฺถํ กเถนฺตสฺส ปน ติสฺสทตฺตตฺเถรสฺส เอว ปฏิสมฺภิทา วิสทา อเหสุํ. คตปจฺจาคตวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา ยาว อนุโลมํ กมฺมฏฺานํ ¶ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อาคตานํ วิสทภาวปฺปตฺตปฏิสมฺภิทานํ ปุพฺพโยคาวจรานํ อนฺโต นตฺถิ.
เอเตสุ ปน การเณสุ ปริยตฺติ, สวนํ, ปริปุจฺฉาติ อิมานิ ตีณิ ปเภทสฺเสว พลวการณานิ. ปุพฺพโยโค อธิคมสฺส พลวปจฺจโย, ปเภทสฺส โหติ น โหตีติ? โหติ, น ปน ตถา. ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉา หิ ปุพฺเพ โหนฺตุ วา มา วา, ปุพฺพโยเคน ปุพฺเพ เจว เอตรหิ จ สงฺขารสมฺมสนํ วินา ปฏิสมฺภิทา นาม นตฺถิ. อิเม ปน ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา ปฏิสมฺภิทา อุปตฺถมฺเภตฺวา วิสทา กโรนฺตีติ.
สงฺคหวารวณฺณนา.
๒. สจฺจวาราทิวณฺณนา
๗๑๙. อิทานิ ¶ ¶ เย สงฺคหวาเร ปฺจ อตฺถา จ ธมฺมา จ สงฺคหิตา, เตสํ ปเภททสฺสนนเยน ปฏิสมฺภิทา วิภชิตุํ ปุน จตสฺโสติอาทินา นเยน ปเภทวาโร อารทฺโธ. โส สจฺจวารเหตุวารธมฺมวารปจฺจยาการวารปริยตฺติวารวเสน ปฺจวิโธ. ตตฺถ ปจฺจยสมุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ปจฺจเยน ปตฺตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส จ อตฺถภาวํ, ผลนิพฺพตฺตกสฺส สมุทยสฺส นิพฺพานสมฺปาปกสฺส อริยมคฺคสฺส จ ธมฺมภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘สจฺจวาโร’ วุตฺโต. ยสฺส กสฺสจิ ปน เหตุผลนิพฺพตฺตกสฺส เหตุโน ธมฺมภาวํ, เหตุผลสฺส จ อตฺถภาวํ ทสฺเสตุํ ‘เหตุวาโร’ วุตฺโต. ตตฺถ จ เหตุผลกฺกมวเสน อุปฺปฏิปาฏิยา ปมํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิทฺทิฏฺา. เย ปน ธมฺมา ตมฺหา ตมฺหา รูปารูปปฺปเภทา เหตุโต ชาตา, เตสํ อตฺถภาวํ, ตสฺส ตสฺส จ รูปารูปธมฺมปฺปเภทสฺส เหตุโน ธมฺมภาวํ ทสฺเสตุํ ‘ธมฺมวาโร’ วุตฺโต. ชรามรณาทีนํ ปน อตฺถภาวํ, ชรามรณาทิสมุทยสงฺขาตานํ ชาติอาทีนฺจ ธมฺมภาวํ ทสฺเสตุํ ‘ปจฺจยาการวาโร’ วุตฺโต. ตโต ปริยตฺติสงฺขาตสฺส ตสฺส ตสฺส ภาสิตสฺส ธมฺมภาวํ, ภาสิตสงฺขาเตน ปจฺจเยน ปตฺตพฺพสฺส ภาสิตตฺถสฺส จ อตฺถภาวํ ทสฺเสตุํ ‘ปริยตฺติวาโร’ วุตฺโต.
ตตฺถ จ ยสฺมา ภาสิตํ ตฺวา ตสฺสตฺโถ ายติ, ตสฺมา ภาสิตภาสิตตฺถกฺกเมน อุปฺปฏิปาฏิยา ปมํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิทฺทิฏฺา. ปริยตฺติธมฺมสฺส จ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘ตตฺถ กตมา ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ ปุจฺฉาปุพฺพงฺคโม ¶ ปฏินิทฺเทสวาโร วุตฺโต. ตตฺถ สุตฺตนฺติอาทีหิ นวหิ องฺเคหิ นิปฺปเทสโต ตนฺติ คหิตา. อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถติ อิมสฺมิมฺปิ าเน ภาสิตวเสน นิปฺปเทสโต ตนฺติ เอว คหิตาติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๒๕. ตตฺถ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา โลกิยา. อตฺถปฏิสมฺภิทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา ¶ . สา หิ นิพฺพานารมฺมณานํ มคฺคผลาณานํ วเสน ¶ โลกุตฺตราปิ โหติ. อภิธมฺมภาชนีเย กุสลากุสลวิปากกิริยานํ วเสน จตูหิ วาเรหิ วิภตฺตํ. ตตฺถ ยตฺตกานิ เหฏฺา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. ๑ อาทโย) กุสลจิตฺตานิ วิภตฺตานิ, เตสํ สพฺเพสมฺปิ วเสน เอเกกสฺมึ จิตฺตนิทฺเทเส จตสฺโส จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา. อกุสลจิตฺเตสุปิ เอเสว นโย. วิปากกิริยวาเรสุ วิปากกิริยานํ อตฺเถน สงฺคหิตตฺตา, ธมฺมปฏิสมฺภิทํ ฉฑฺเฑตฺวา, เอเกกสฺมึ วิปากจิตฺเต จ กิริยจิตฺเต จ ติสฺโส ติสฺโสว ปฏิสมฺภิทา วิภตฺตา. ปาฬิ ปน มุขมตฺตเมว ทสฺเสตฺวา สํขิตฺตา. สา เหฏฺา อาคตวิตฺถารวเสเนว เวทิตพฺพา.
กสฺมา ปน ยถา กุสลากุสลวาเรสุ ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘เยสํ ธมฺมานํ อิเม วิปากา, เตสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอวํ น วุตฺตนฺติ? เหฏฺา วุตฺตตฺตา. ยทิ เอวํ, ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา อยํ อตฺถปฏิสมฺภิทาปิ อิธ น วตฺตพฺพา สิยาติ? โน น วตฺตพฺพา. กสฺมา? เหฏฺา วิปากกิริยจิตฺตุปฺปาทวเสน อวุตฺตตฺตา. กิริยวาเร จ ‘‘เยสํ ธมฺมานํ อิเม กิริยา’’ติ วจนเมว น ยุชฺชตีติ ทฺวีสุปิ อิเมสุ วาเรสุ ติสฺโส ติสฺโสว ปฏิสมฺภิทา วิภตฺตา.
ตตฺถ ยาย นิรุตฺติยา เตสํ ธมฺมานํ ปฺตฺติ โหตีติ ยาย นิรุตฺติยา เตสํ ผสฺโส โหตีติอาทินา นเยน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ‘‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา’’ติ เอวํ ปฺตฺติ โหติ. ตตฺถ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณนฺติ ตสฺมึ อตฺเถ ธมฺเม จ ปวตฺตมานาย ตสฺสา ธมฺมนิรุตฺติยา สภาวปฺตฺติยา อภิลาเป าณํ. อภิลาปสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนาณเมว อิธาปิ กถิตํ. เยน าเณนาติ เยน ปฏิภานปฏิสมฺภิทาาเณน. ตานิ ¶ าณานิ ชานาตีติ อิตรานิ ตีณิ ปฏิสมฺภิทาาณานิ ชานาติ.
อิทานิ ยถา ยํ าณํ ตานิ าณานิ ชานาติ, ตถา ตสฺส เตสุ ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานีติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิทมตฺถโชตกานีติ อิมสฺส อตฺถสฺส โชตกานิ ปกาสกานิ; อิมํ นาม อตฺถํ โชเตนฺติ ปกาเสนฺติ ปริจฺฉินฺทนฺตีติ อตฺโถ. อิติ าเณสุ าณนฺติ อิมินา อากาเรน ปวตฺตํ ตีสุ าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา นาม.
ตตฺถ ¶ ¶ กิฺจาปิ อยํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา ‘อิมิสฺสา อิทํ กิจฺจํ, อิมิสฺสา อิทํ กิจฺจ’นฺติ อิตราสํ ปฏิสมฺภิทานํ กิจฺจํ ชานาติ, สยํ ปน ตาสํ กิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, พหุสฺสุตธมฺมกถิโก วิย อปฺปสฺสุตธมฺมกถิกสฺส. ทฺเว กิร ภิกฺขู. เอโก พหุสฺสุโต, เอโก อปฺปสฺสุโต. เต เอกโตว เอกํ ธมฺมกถามคฺคํ อุคฺคณฺหึสุ. ตตฺถ อปฺปสฺสุโต สรสมฺปนฺโน อโหสิ, อิตโร มนฺทสฺสโร. เตสุ อปฺปสฺสุโต คตคตฏฺาเน อตฺตโน สรสมฺปตฺติยา สกลปริสํ โขเภตฺวา ธมฺมํ กเถสิ. ธมฺมํ สุณมานา หฏฺตุฏฺมานสา หุตฺวา – ‘ยถา เอส ธมฺมํ กเถสิ, เอโก ติปิฏกธโร มฺเ ภวิสฺสตี’ติ วทนฺติ. พหุสฺสุตภิกฺขุ ปน – ‘ธมฺมสวเน ชานิสฺสถ อยํ ติปิฏกธโร วา โน วา’ติ อาห. โส กิฺจาปิ เอวมาห, ยถา ปน สกลปริสํ โขเภตฺวา ธมฺมํ กเถตุํ สกฺโกติ, เอวมสฺส กถนสมตฺถตา นตฺถิ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา, พหุสฺสุโต วิย อปฺปสฺสุตสฺส, อิตราสํ กิจฺจํ ชานาติ, สยํ ปน ตํ กิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ เวทิตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
๗๔๖. เอวํ กุสลจิตฺตุปฺปาทาทิวเสน ปฏิสมฺภิทา วิภชิตฺวา อิทานิ ตาสํ อุปฺปตฺติฏฺานภูตํ เขตฺตํ ทสฺเสตุํ ปุน จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาติอาทิมาห. ตตฺถ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา กามาวจรกุสลโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสูติ อิทํ เสกฺขานํ วเสน วุตฺตํ. เตสฺหิปิ ธมฺมปจฺจเวกฺขณกาเล เหฏฺา วุตฺตํ ปฺจปฺปการํ ธมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ าณสมฺปยุตฺตกุสลจิตฺเตสุ ธมฺมปฏิสมฺภิทา อุปฺปชฺชติ. ตถา นิรุตฺติปจฺจเวกฺขณกาเล สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา; าณํ ปจฺจเวกฺขณกาเล ¶ สพฺพตฺถกาณํ อารมฺมณํ กตฺวา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ.
กิริยโต จตูสูติ อิทํ ปน อเสกฺขานํ วเสน วุตฺตํ. เตสฺหิ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณกาเล เหฏฺา วุตฺตํ ปฺจปฺปการํ ธมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ าณสมฺปยุตฺตกิริยจิตฺเตสุ ธมฺมปฏิสมฺภิทา อุปฺปชฺชติ. ตถา นิรุตฺติปจฺจเวกฺขณกาเล สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา; าณํ ปจฺจเวกฺขณกาเล สพฺพตฺถกาณํ อารมฺมณํ กตฺวา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ.
อตฺถปฏิสมฺภิทา เอเตสุ เจว อุปฺปชฺชตีติ อิทํ ปน เสกฺขาเสกฺขานํ วเสน วุตฺตํ. ตถา หิ เสกฺขานํ อตฺถปจฺจเวกฺขณกาเล เหฏฺา วุตฺตปฺปเภทํ อตฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ าณสมฺปยุตฺตกุสลจิตฺเตสุ อยํ ¶ อุปฺปชฺชติ, มคฺคผลกาเล จ มคฺคผเลสุ. อเสกฺขสฺส ปน อตฺถํ ¶ ปจฺจเวกฺขณกาเล เหฏฺา วุตฺตปฺปเภทเมว อตฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา จตูสุ าณสมฺปยุตฺตกิริยจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ, ผลกาเล จ อุปริเม สามฺผเลติ. เอวเมตา เสกฺขาเสกฺขานํ อุปฺปชฺชมานา อิมาสุ ภูมีสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ ภูมิทสฺสนตฺถํ อยํ นโย ทสฺสิโตติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา.
๓. ปฺหาปุจฺฉกวณฺณนา
๗๔๗. ปฺหาปุจฺฉเก ปาฬิอนุสาเรเนว จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานํ กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อารมฺมณตฺติเกสุ ปน นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทเมว อารมฺมณํ กโรตีติ ปริตฺตารมฺมณา. อตฺถปฏิสมฺภิทา กามาวจรวิปากกิริยสงฺขาตฺเจว ปจฺจยสมุปฺปนฺนฺจ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณา; วุตฺตปฺปเภทเมว รูปาวจรารูปาวจรํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา; โลกุตฺตรวิปากตฺถฺเจว ปรมตฺถฺจ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา. ธมฺมปฏิสมฺภิทา กามาวจรํ กุสลธมฺมํ อกุสลธมฺมํ ปจฺจยธมฺมฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณา; รูปาวจรารูปาวจรํ กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยธมฺมฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา ¶ ; โลกุตฺตรํ กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยธมฺมฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา. ปฏิภานปฏิสมฺภิทา กามาวจรกุสลวิปากกิริยาณานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปริตฺตารมฺมณา; รูปาวจรารูปาวจรานิ กุสลวิปากกิริยาณานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส เตสํ อารมฺมณานิ วิชานนฺตสฺส มหคฺคตารมฺมณา; โลกุตฺตรานิ กุสลวิปากาณานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อปฺปมาณารมฺมณา.
อตฺถปฏิสมฺภิทา สหชาตเหตุวเสน สิยา มคฺคเหตุกา, วีริยเชฏฺิกาย มคฺคภาวนาย สิยา มคฺคาธิปติ, ฉนฺทจิตฺตเชฏฺิกาย นวตฺตพฺพา, ผลกาเลปิ นวตฺตพฺพา เอว. ธมฺมปฏิสมฺภิทา มคฺคํ ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อารมฺมณาธิปติวเสน มคฺคาธิปติ. ปฏิภานปฏิสมฺภิทา มคฺคาณํ ปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณา, มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส มคฺคาธิปติ, เสสาณํ ปฺจเวกฺขณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณา ¶ ¶ . นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนเมว สทฺทํ อารมฺมณํ กโรตีติ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา.
อตฺถปฏิสมฺภิทา อตีตํ วิปากตฺถํ กิริยตฺถํ ปจฺจยสมุปฺปนฺนฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อตีตารมฺมณา, อนาคตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนาคตารมฺมณา, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา, โลกุตฺตรํ ปรมตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส นวตฺตพฺพารมฺมณา. ธมฺมปฏิสมฺภิทา อตีตํ กุสลํ อกุสลํ ปจฺจยธมฺมฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อตีตารมฺมณา, อนาคตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนาคตารมฺมณา, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา. ปฏิภานปฏิสมฺภิทา อตีตํ กุสลาณํ วิปากาณํ กิริยาณฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อตีตารมฺมณา, อนาคตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนาคตารมฺมณา, ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา.
นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณตฺตา พหิทฺธารมฺมณา. อิตราสุ ตีสุ อตฺถปฏิสมฺภิทา อชฺฌตฺตํ วิปากตฺถํ กิริยตฺถํ ปจฺจยสมุปฺปนฺนฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา, พหิทฺธา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พหิทฺธารมฺมณา, อชฺฌตฺตพหิทฺธา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา ¶ , ปรมตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส พหิทฺธารมฺมณา เอว. ธมฺมปฏิสมฺภิทา อชฺฌตฺตํ กุสลากุสลํ ปจฺจยธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณา, พหิทฺธา กุสลากุสลํ ปจฺจยธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณกาเล พหิทฺธารมฺมณา, อชฺฌตฺตพหิทฺธา กุสลากุสลํ ปจฺจยธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณกาเล อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. ปฏิภานปฏิสมฺภิทา อชฺฌตฺตํ กุสลวิปากกิริยาณํ ปจฺจเวกฺขณกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณา, พหิทฺธา…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา กุสลวิปากกิริยาณํ ปจฺจเวกฺขณกาเล อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณาติ.
อิธาปิ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา โลกิยา; อตฺถปฏิสมฺภิทา โลกิยโลกุตฺตรา. อิมสฺมิฺหิ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโยปิ นยา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกตฺตา เอกปริจฺเฉทาว กถิตา. ตีสุปิ หิ เอตาสุ ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา โลกิยา, อตฺถปฏิสมฺภิทา โลกิยโลกุตฺตราติ. เอวมยํ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโคปิ เตปริวฏฺฏํ นีหริตฺวาว ภาเชตฺวา ทสฺสิโตติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ปฏิสมฺภิทาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. าณวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๗๕๑. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร าณวิภงฺเค เอกวิเธน าณวตฺถูติอาทินา นเยน ปมํ เอกวิธาทีหิ ทสวิธปริโยสาเนหิ ทสหิ ปริจฺเฉเทหิ มาติกํ เปตฺวา นิกฺขิตฺตปทานุกฺกเมน นิทฺเทโส กโต.
ตตฺถ เอกวิเธนาติ เอกปฺปกาเรน, เอกโกฏฺาเสน วา. าณวตฺถูติ เอตฺถ ปน าณฺจ ตํ วตฺถุ จ นานปฺปการานํ สมฺปตฺตีนนฺติ าณวตฺถุ; โอกาสฏฺเน าณสฺส วตฺถูติปิ าณวตฺถุ. อิธ ปน ปุริเมเนวตฺเถน าณวตฺถุ เวทิตพฺพํ. เตเนว เอกวิธปริจฺเฉทาวสาเน ‘‘ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺา – เอวํ เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติ วุตฺตํ. ปฺจ วิฺาณาติ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ. น เหตูติอาทีนิ เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑.๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. สงฺเขปโต ปเนตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ทุกมาติกาทิปเทสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ ตตฺเถว อาวิ ภวิสฺสติ. นิกฺเขปปริจฺเฉทมตฺตํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ ‘‘น เหตุ อเหตุกา’’ติอาทีหิ ตาว ธมฺมสงฺคหมาติกาวเสน, ‘‘อนิจฺจา ชราภิภูตา’’ติอาทีหิ อมาติกาวเสนาติ สงฺเขปโต ทุวิเธหิ ปเภทโต อฏฺสตฺตติยา ปเทหิ เอกกมาติกา นิกฺขิตฺตา.
ทุกานุรูเปหิ ปน ปฺจตึสาย ทุเกหิ ทุกมาติกา นิกฺขิตฺตา.
ติกานุรูเปหิ ‘‘จินฺตามยา ปฺา’’ติอาทีหิ จตูหิ พาหิรตฺติเกหิ, ‘‘วิปากา ปฺา’’ติอาทีหิ ¶ อนิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ จุทฺทสหิ มาติกาติเกหิ, วิตกฺกตฺติเก ปมปเทน นิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ เตรสหิ, ทุติยปเทน นิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ สตฺตหิ, ตติยปเทน นิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ ทฺวาทสหิ, ปีติตฺติเก จ ปมปเทน นิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ เตรสหิ, ตถา ทุติยปเทน, ตติยปเทน นิยมิตปฺาวเสน วุตฺเตหิ ทฺวาทสหีติ อฏฺาสีติยา ติเกหิ ติกมาติกา นิกฺขิตฺตา.
จตุกฺกมาติกา ¶ ¶ ปน ‘กมฺมสฺสกตาณ’นฺติอาทีหิ เอกวีสติยา จตุกฺเกหิ, ปฺจกมาติกา ทฺวีหิ ปฺจเกหิ, ฉกฺกมาติกา เอเกน ฉกฺเกน, สตฺตกมาติกา ‘‘สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนี’’ติ เอวํ สงฺเขปโต วุตฺเตหิ เอกาทสหิ สตฺตเกหิ, อฏฺกมาติกา เอเกน อฏฺเกน, นวกมาติกา เอเกน นวเกน.
๑๐. ทสกมาติกาวณฺณนา
๗๖๐. ทสกมาติกา ‘‘ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานี’’ติอาทินา เอเกเนว ทสเกน นิกฺขิตฺตา. ตตฺถ ทสาติ คณนปริจฺเฉโท. ตถาคตสฺสาติ ยถา วิปสฺสีอาทโย ปุพฺพกา อิสโย อาคตา ตถา อาคตสฺส; ยถา จ เต คตา ตถา คตสฺส. ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ; ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตสฺส พลํ – กายพลฺจ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสาติ. –
อิมานิ หิ ทส หตฺถิกุลานิ.
ตตฺถ ‘กาฬาวก’นฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ ตํ เอกสฺส กาฬาวกหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ กาฬาวกานํ พลํ ตํ เอกสฺส คงฺเคยสฺส. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ ตํ เอกสฺส ¶ ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ ตํ เอกสฺส มงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลานํ ตํ เอกสฺส เหมวตสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมวตานํ ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส. นารายนสงฺขาตพลนฺติปิ อิทเมว วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถีนํ ¶ คณนาย หตฺถิโกฏิสหสฺสานํ, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.
าณพลํ ¶ ปน อิธ ตาว ปาฬิยํ อาคตเมว ทสพลาณํ. มหาสีหนาเท (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย) ทสพลาณํ, จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓-๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ – เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภกฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.
เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโตติ เยหิ ทสหิ าณพเลหิ อุเปโต สมุเปโต. อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ; อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิ จ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ; วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ; สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อกมฺปนีโย นิสโภ. โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, อุปคจฺฉติ, น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ ¶ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต จ หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ¶ ปรปฺปวาทานฺจ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ¶ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท จ ปนายํ –
สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;
ทาเน รตนธมฺมูร, จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตฺจ ทฺเวธา วิภาวเย.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท, จกฺกํ ปวตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.
ตํ ปน ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ – ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ; กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ¶ ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ ¶ , ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม; ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม; ทีปงฺกรพฺยากรณโต ปฏฺาย วา ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ ¶ , ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
อิทานิ เยหิ ทสหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ยานิ อาทิโตว ‘‘ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานี’’ติ นิกฺขิตฺตานิ, ตานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ กตมานิ ทส? อิธ ตถาคโต านฺจ านโตติอาทิมาห. ตตฺถ านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ าน’’นฺติ จ ‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ อฏฺาน’นฺติ จ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปิ ตถาคตสฺสาติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ; กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตุ.
สพฺพตฺถ คามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ฆาเตนฺเตสุ ‘อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินี’ติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปชานาติ.
อเนกธาตุนฺติ ¶ ¶ จกฺขุธาตุอาทีหิ กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ¶ ธาตูนํ วิลกฺขณตาย นานปฺปการธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ.
นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ.
ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ; เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ เวเนยฺยวเสน ปน ทฺเวธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ วุฑฺฒิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ.
ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ เยน การเณน ฌานาทีหิ วุฏฺหนฺติ, ตํ การณํ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตินฺติ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธานุสฺสรณํ.
จุตูปปาตนฺติ จุติฺจ อุปปาตฺจ.
อาสวานํ ขยนฺติ กามาสวาทีนํ ขยสงฺขาตํ อาสวนิโรธํ นิพฺพานํ.
อิมานีติ ยานิ เหฏฺา ‘‘ทส ตถาคตสฺส ตถาคตพลานี’’ติ อโวจ, อิมานิ ตานีติ อปฺปนํ กโรตีติ. เอวเมตฺถ อนุปุพฺพปทวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ, โลกิยสมฺมาทิฏฺิานทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ¶ , ติเหตุกปฏิสนฺธิทสฺสนโต. สพฺพตฺถคามินีปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ, อานนฺตริยกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวํ อนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ, ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ ¶ นานาธิมุตฺติกตาาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ, ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ ¶ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ. อเถวํ ทิฏฺาธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ, สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตาปิ ปเนเต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิปริฺาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติภาวนํ, ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปตฺติจิตฺตวิเสสํ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินา อนุกฺกเมน อิมานิ ทสพลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อยํ ตาว มาติกาย อตฺถวณฺณนา.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๑. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย ‘‘ปฺจวิฺาณา น เหตุเมวา’’ติอาทินา นเยน อารทฺเธ นิทฺเทสวาเร น เหตุเมวาติ สาธารณเหตุปฏิกฺเขปนิทฺเทโส. ตตฺถ ‘‘เหตุเหตุ, ปจฺจยเหตุ, อุตฺตมเหตุ, สาธารณเหตูติ จตุพฺพิโธ เหตู’’ติอาทินา นเยน ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ รูปกณฺเฑ ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวา’’ติอาทีนํ อตฺถวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๙๔) วุตฺตเมว. อเหตุกเมวาติอาทีสุ พฺยฺชนสนฺธิวเสน มกาโร เวทิตพฺโพ; อเหตุกา เอวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อปิจ ‘‘เหตู ธมฺมา นเหตู ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑) ธมฺมโกฏฺาเสสุ ปฺจวิฺาณานิ เหตู ธมฺมาติ วา สเหตุกา ธมฺมาติ ¶ วา น โหนฺติ. เอกนฺเตน ปน น เหตูเยว, อเหตุกา เยวาติ อิมานิปิ นเยเนตฺถ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อพฺยากตเมวาติ ปทํ วิปากาพฺยากตวเสน วุตฺตํ. สารมฺมณเมวาติ โอลุพฺภารมฺมณวเสน. ปจฺจยารมฺมณํ โอลุพฺภารมฺมณนฺติ หิ ทุวิธํ อารมฺมณํ. อิมสฺมึ ปน าเน โอลุพฺภารมฺมณเมว ธุรํ, ปจฺจยารมฺมณมฺปิ ลพฺภติเยว. อเจตสิกเมวาติ ปทํ จิตฺตํ, รูปํ, นิพฺพานนฺติ ตีสุ อเจตสิเกสุ จิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โน อปริยาปนฺนเมวาติ คติปริยาปนฺนจุติปริยาปนฺนสํสารวฏฺฏภวปริยาปนฺนภาวโต ปริยาปนฺนา เอว, โน อปริยาปนฺนา. โลกโต วฏฺฏโต น นิยฺยนฺตีติ อนิยฺยานิกา ¶ . อุปฺปนฺนํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ รูปกณฺเฑ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปจฺจุปฺปนฺนาเนว รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺติโต อตีตาทิวิสยํ มโนวิฺาณมฺปิ ปฺจวิฺาณโสตปติตเมว กตฺวา ‘‘อุปปนฺนํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺย’’นฺติ (ธ. ส. ๕๘๔) วุตฺตํ. ปฺจวิฺาณา ปน ยสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนาปิ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ¶ อารมฺมณา น โหนฺติ, มโนวิฺาณสฺเสว โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวา’’ติ วุตฺตํ. อนิจฺจเมวาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจาเยว. ชราภิภูตเมวาติ ชราย อภิภูตตฺตา ชราภิภูตา เอว.
๗๖๒. อุปฺปนฺนวตฺถุกา อุปฺปนฺนารมฺมณาติ อนาคตปฏิกฺเขโป. น หิ เต อนาคเตสุ วตฺถารมฺมเณสุ อุปฺปชฺชนฺติ.
ปุเรชาตวตฺถุกา ปุเรชาตารมฺมณาติ สหุปฺปตฺติปฏิกฺเขโป. น หิ เต สหุปฺปนฺนํ วตฺถุํ วา อารมฺมณํ วา ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนฺติ, สยํ ปน ปจฺฉาชาตา หุตฺวา ปุเรชาเตสุ วตฺถารมฺมเณสุ อุปฺปชฺชนฺติ.
อชฺฌตฺติกวตฺถุกาติ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตวเสน วุตฺตํ. ตานิ หิ อชฺฌตฺติเก ปฺจ ปสาเท วตฺถุํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ. พาหิรารมฺมณาติ พาหิรรูปาทิอารมฺมณา. ตตฺถ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ – ปฺจวิฺาณา หิ ปสาทวตฺถุกตฺตา อชฺฌตฺติกา อชฺฌตฺติกวตฺถุกา, มโนวิฺาณํ หทยรูปํ วตฺถุํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกาเล อชฺฌตฺติกํ พาหิรวตฺถุกํ, ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา พาหิรา อชฺฌตฺติกวตฺถุกา ¶ , มโนวิฺาณสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา หทยรูปํ วตฺถุํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกาเล พาหิรา พาหิรวตฺถุกา.
อสมฺภินฺนวตฺถุกาติ อนิรุทฺธวตฺถุกา. น หิ เต นิรุทฺธํ อตีตํ วตฺถุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนฺติ. อสมฺภินฺนารมฺมณตายปิ เอเสว นโย.
อฺํ จกฺขุวิฺาณสฺส วตฺถุ จ อารมฺมณฺจาติอาทีสุ จกฺขุวิฺาณสฺส หิ อฺํ วตฺถุ, อฺํ อารมฺมณํ. อฺํ โสตวิฺาณาทีนํ. จกฺขุวิฺาณํ โสตปสาทาทีสุ อฺตรํ วตฺถุํ, สทฺทาทีสุ วา อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา กปฺปโต กปฺปํ คนฺตฺวาปิ น อุปฺปชฺชติ; จกฺขุปสาทเมว ปน วตฺถุํ กตฺวา รูปฺจ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวมสฺส วตฺถุปิ ทฺวารมฺปิ อารมฺมณมฺปิ นิพทฺธํ, อฺํ วตฺถุํ วา ทฺวารํ วา อารมฺมณํ วา น สงฺกมติ, นิพทฺธวตฺถุ ¶ นิพทฺธทฺวารํ นิพทฺธารมฺมณเมว หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.
๗๖๓. น ¶ อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตีติ เอตฺถ อฺมฺสฺส จกฺขุ โสตสฺส, โสตํ วา จกฺขุสฺสาติ เอวํ เอกํ เอกสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภตีติ อตฺโถ. สเจ หิ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ สโมธาเนตฺวา โสตินฺทฺริยสฺส อุปเนยฺย ‘อิงฺฆ ตาว นํ ววตฺถาเปหิ วิภาเวหิ – กึ นาเมตํ อารมฺมณ’นฺติ, จกฺขุวิฺาณํ วินาปิ มุเขน อตฺตโน ธมฺมตาย เอวํ วเทยฺย – ‘อเร อนฺธพาล, วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ปริธาวมาโน อฺตฺร มยา กุหึ เอตสฺส ชานนกํ ลภิสฺสสิ; อาหร นํ จกฺขุปสาเท อุปเนหิ; อหเมตํ อารมฺมณํ ชานิสฺสามิ – ยทิ วา นีลํ ยทิ วา ปีตกํ. น หิ เอโส อฺสฺส วิสโย; มยฺหเมเวโส วิสโย’ติ. เสสวิฺาเณสุปิ เอเสว นโย. เอวเมเต อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภนฺติ นาม.
๗๖๔. สมนฺนาหรนฺตสฺสาติ อาวชฺชเนเนว สมนฺนาหรนฺตสฺส.
มนสิกโรนฺตสฺสาติ อาวชฺชเนเนว มนสิกโรนฺตสฺส. เอตานิ หิ จิตฺตานิ อาวชฺชเนน สมนฺนาหฏกาเล มนสิกตกาเลเยว จ อุปฺปชฺชนฺติ.
น อพฺโพกิณฺณาติ อฺเน วิฺาเณน อพฺโพกิณฺณา นิรนฺตราว นุปฺปชฺชนฺติ. เอเตน เตสํ อนนฺตรตา ปฏิกฺขิตฺตา.
๗๖๕. น อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอเตน สพฺเพสมฺปิ สหุปฺปตฺติ ปฏิกฺขิตฺตา. น ¶ อฺมฺสฺส สมนนฺตราติ เอเตน สมนนฺตรตา ปฏิกฺขิตฺตา.
๗๖๖. อาวฏฺฏนา วาติอาทีนิ จตฺตาริปิ อาวชฺชนสฺเสว นามานิ. ตฺหิ ภวงฺคสฺส อาวฏฺฏนโต อาวฏฺฏนา, ตสฺเสว อาภุชนโต อาโภโค, รูปาทีนํ สมนฺนาหรณโต สมนฺนาหาโร, เตสํเยว มนสิกรณโต มนสิกาโรติ วุจฺจติ. เอวเมตฺถ สงฺเขปโต ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา อาวชฺชนาทิกิจฺจํ กาตุํ สมตฺถภาโว ปฏิกฺขิตฺโต.
น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลํ วา อกุสลํ วา น ปฏิวิชานาติ.
อฺตฺร ¶ ¶ อภินิปาตมตฺตาติ เปตฺวา รูปาทีนํ อภินิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สุปณฺฑิโตปิ ปุริโส, เปตฺวา อาปาถคตานิ รูปาทีนิ, อฺํ กุสลากุสเลสุ เอกธมฺมมฺปิ ปฺจหิ วิฺาเณหิ น ปฏิวิชานาติ. จกฺขุวิฺาณํ ปเนตฺถ ทสฺสนมตฺตเมว โหติ. โสตวิฺาณาทีนิ สวนฆายนสายนผุสนมตฺตาเนว. ทสฺสนาทิมตฺตโต ปน มุตฺตา อฺา เอเตสํ กุสลาทิปฏิวิฺตฺติ นาม นตฺถิ.
มโนธาตุยาปีติ สมฺปฏิจฺฉนมโนธาตุยาปิ. สมฺปิณฺฑนตฺโถ เจตฺถ ปิกาโร. ตสฺมา มโนธาตุยาปิ ตโต ปราหิ มโนวิฺาณธาตูหิปีติ สพฺเพหิปิ ปฺจทฺวาริกวิฺาเณหิ น กฺจิ กุสลากุสลํ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
น กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. น หิ ปฺจทฺวาริกวิฺาเณหิ คมนาทีสุ กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปติ, น กายกมฺมํ น วจีกมฺมํ ปฏฺเปติ, น กุสลากุสลํ ธมฺมํ สมาทิยติ, น สมาธึ สมาปชฺชติ โลกิยํ วา โลกุตฺตรํ วา, น สมาธิโต วุฏฺาติ โลกิยา วา โลกุตฺตรา วา, น ภวโต จวติ, น ภวนฺตเร อุปปชฺชติ. สพฺพมฺปิ เหตํ กุสลากุสลธมฺมปฏิวิชานนาทิวจนปริโยสานํ กิจฺจํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว โหติ, น ปฺจทฺวาริเกนาติ สพฺพสฺสาเปตสฺส กิจฺจสฺส กรเณ สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ. ยถา เจเตสํ ¶ เอตานิ กิจฺจานิ นตฺถิ, เอวํ นิยาโมกฺกมนาทีนิปิ. น หิ ปฺจทฺวาริกชวเนน มิจฺฉตฺตนิยามํ โอกฺกมติ, น สมฺมตฺตนิยามํ; น เจตํ ชวนํ นามโคตฺตมารพฺภ ชวติ, น กสิณาทิปณฺณตฺตึ; น ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตติ, น วุฏฺานคามินีพลววิปสฺสนาวเสน; น รูปารูปธมฺเม อารพฺภ ชวติ, น นิพฺพานํ; น เจเตน สทฺธึ ปฏิสมฺภิทาาณํ อุปฺปชฺชติ, น อภิฺาาณํ, น สาวกปารมีาณํ, น ปจฺเจกโพธิาณํ, น สพฺพฺุตาณํ. สพฺโพปิ ปเนส ปเภโท มโนทฺวาริกชวเนเยว ลพฺภติ.
น สุปติ น ปฏิพุชฺฌติ น สุปินํ ปสฺสตีติ สพฺเพนาปิ จ ปฺจทฺวาริกจิตฺเตน เนว นิทฺทํ โอกฺกมติ, น นิทฺทายติ, น ปฏิพุชฺฌติ, น กิฺจ สุปินํ ปสฺสตีติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ สห ชวเนน วีถิจิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตํ.
นิทฺทายนฺตสฺส หิ มหาวฏฺฏึ ชาเลตฺวา ทีเป จกฺขุสมีเป อุปนีเต ปมํ จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ¶ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ¶ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ. ตโต จกฺขุวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ. ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ. เตน จิตฺเตน ตฺวา ‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน อาโลโก’ติ ชานาติ.
ตถา นิทฺทายนฺตสฺส กณฺณสมีเป ตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ, ฆานสมีเป สุคนฺเธสุ วา ทุคฺคนฺเธสุ วา ปุปฺเผสุ อุปนีเตสุ, มุเข สปฺปิมฺหิ วา ผาณิเต วา ปกฺขิตฺเต, ปิฏฺิยํ ปาณินา ปหาเร ทินฺเน ปมํ โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏนฺติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺติ. ตโต โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ. ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ. เตน จิตฺเตน ตฺวา ‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน สทฺโท – สงฺขสทฺโท, เภริสทฺโท’ติ วา ‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน คนฺโธ – มูลคนฺโธ, สารคนฺโธ’ติ วา ‘กึ ¶ อิทํ มยฺหํ มุเข ปกฺขิตฺตรสํ – สปฺปีติ วา ผาณิต’นฺติ วา ‘เกนมฺหิ ปิฏฺิยํ ปหโต, อติถทฺโธ เม ปหาโร’ติ วา วตฺตาโร โหนฺติ. เอวํ มโนทฺวาริกชวเนเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. สุปินมฺปิ เตเนว ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน.
ตฺจ ปเนตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ – ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ. ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยโยเคน ขุภิตธาตุโก ‘ธาตุกฺโขภโต’ สุปินํ ปสฺสติ. ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ – ปพฺพตา ปตนฺโต วิย, อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย, วาฬมิคหตฺถิโจราทีหิ อนุพทฺโธ วิย จ โหติ. ‘อนุภูตปุพฺพโต’ ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. ‘เทวโตปสํหารโต’ ปสฺสนฺตสฺส เทวตา อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วา อตฺถาย วา อนตฺถาย วา นานาวิธานิ อารมฺมณานิ อุปสํหรนฺติ. โส ตาสํ เทวตานํ อานุภาเวน ตานิ อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปฺุาปฺุวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ ¶ โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ, โพธิสตฺโต ¶ วิย ปฺจ มหาสุปิเน (อ. นิ. ๕.๑๙๖), โกสลราชา วิย จ โสฬส สุปิเนติ (ชา. ๑.๑.๔๑).
ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ, น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ, ตํ สจฺจํ วา โหติ อลิกํ วา. กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – โรหเณ กิร นาคมหาวิหาเร มหาเถโร ภิกฺขุสงฺฆํ อนปโลเกตฺวาว เอกํ นาครุกฺขํ ฉินฺทาเปสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา เถรสฺส กุทฺธา ปมเมว นํ ปโลเภตฺวา ปจฺฉา ‘อิโต เต สตฺตทิวสมตฺถเก อุปฏฺาโก ราชา มริสฺสตี’ติ สุปิเน อาโรเจสิ. เถโร นํ กถํ อาหริตฺวา ราโชโรธานํ อาจิกฺขิ. ตา เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ วิรวึสุ. ราชา ‘กึ เอต’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ‘เอวํ เถเรน วุตฺต’นฺติ อาโรจยึสุ. ราชา ทิวเส คณาเปตฺวา สตฺตาเห วีติวตฺเต กุชฺฌิตฺวา เถรสฺส หตฺถปาเท ฉินฺทาเปสิ.
ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหติ. เอเตสฺจ จตุนฺนํ ¶ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว. ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธํ สุปินํ เสกฺขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา; อเสกฺขา น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา.
กึ ปน ตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ, ปฏิพุทฺโธ? อุทาหุ เนว สุตฺโต ปสฺสติ น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ, อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ. ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ. ตฺจ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ. สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, วินยวิโรโธ อาปชฺชติ. ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ. สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเต วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, น สุปินํ นาม ปสฺสติ. เอวฺหิ สติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชติ? น อภาโว ¶ . กสฺมา? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ (มิ. ป. ๕.๓.๕). ‘กปิมิทฺธปเรโต’ติ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ, เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา; ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ, ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ. เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ ๓๘๖. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สุปิเนเนว ‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’ติ กถนกาเลปิ อพฺยากโตเยว.
กึ ปน สุปิเน กตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ สวิปากํ อวิปากนฺติ? สวิปากํ; ทุพฺพลตฺตา ปน ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ น สกฺโกติ, ทินฺนาย อฺกมฺเมน ปฏิสนฺธิยา ปวตฺเต เวทนียํ โหติ.
เอวํ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺาติ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ น เหตฺวฏฺโ ยาถาวฏฺโ. ตํ ¶ ยาถาวฏฺํ วตฺถุํ วิภาเวตีติ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา. ตถา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ อเหตุกฏฺโ, ชราภิภูตฏฺโ, น สุปินํ ปสฺสนฏฺโ, ยาถาวฏฺโ. ตํ ยาถาวฏฺํ วตฺถุํ วิภาเวตีติ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา. อิติ ยา เหฏฺา ‘‘ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺา’’ติ มาติกาย นิกฺขิตฺตา, สา เอวํ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺาติ เวทิตพฺพา. ตสฺสา เอว จ วเสน เอวํ เอกวิเธน าณวตฺถูติ เอวํ เอเกกโกฏฺาเสน าณคณนา เอเกน วา อากาเรน าณปริจฺเฉโท โหติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๗. ทุวิเธน าณวตฺถุนิทฺเทเส จตูสุ ภูมีสุ กุสเลติ เสกฺขปุถุชฺชนานํ จตุภูมกกุสลปฺา. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค วุตฺเตสุ ปฺจสุ อตฺเถสุ ¶ อตฺตโน อตฺตโน ภูมิปริยาปนฺนํ วิปากสงฺขาตํ อตฺถํ ชาเปติ ชเนติ ปวตฺเตตีติ อตฺถชาปิกา. อรหโต อภิฺํ อุปฺปาเทนฺตสฺส สมาปตฺตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส กิริยาพฺยากเตติ อภิฺาย เจว สมาปตฺติยา จ ปริกมฺมสมเย กามาวจรกิริยปฺา. สา หิ อภิฺาสมาปตฺติปเภทํ กิริยสงฺขาตํ อตฺถํ ชาเปติ ชเนติ ปวตฺเตตีติ อตฺถชาปิกา ปฺาติ วุตฺตา. อยํ ปน อปโรปิ ปาฬิมุตฺตโก ¶ อฏฺกถานโย – ยาปิ หิ ปุริมา กามาวจรกิริยา ปจฺฉิมาย กามาวจรกิริยาย อนนฺตราทิวเสน ปจฺจโย โหติ, สาปิ ตํ กิริยตฺถํ ชาเปตีติ อตฺถชาปิกา ปฺา นาม. รูปาวจรารูปาวจเรสุปิ เอเสว นโย.
ทุติยปทนิทฺเทเส จตูสุ ภูมีสุ วิปาเกติ กามาวจรวิปาเก ปฺา สหชาตาทิปจฺจยวเสน กามาวจรวิปากตฺถํ ชาเปตฺวา ิตาติ ชาปิตตฺถา. รูปาวจราทิวิปากปฺาสุปิ เอเสว นโย. สพฺพาปิ วา เอสา อตฺตโน อตฺตโน การเณหิ ชาปิตา ชนิตา ปวตฺติตา สยมฺปิ อตฺถภูตาติปิ ชาปิตตฺถา. อรหโต อุปฺปนฺนาย อภิฺาย อุปฺปนฺนาย สมาปตฺติยาติ วุตฺตกิริยปฺายปิ เอเสว นโย. อยํ ปน อปโรปิ ปาฬิมุตฺตโก อฏฺกถานโย – กามาวจรกิริยปฺาปิ หิ สหชาตาทิวเสน กามาวจรกิริยสงฺขาตํ อตฺถํ ชาเปตฺวา ิตาติ ชาปิตตฺถา. รูปาวจรารูปาวจรกิริยปฺาสุปิ ¶ เอเสว นโย. สพฺพาปิ วา เอสา อตฺตโน อตฺตโน การเณหิ ชาปิตา ชนิตา ปวตฺติตา สยฺจ อตฺถภูตาติปิ ชาปิตตฺถา. เสสเมตฺถ สพฺพํ ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมวาติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๘. ติวิเธน าณวตฺถุนิทฺเทเส โยควิหิเตสูติ โยโค วุจฺจติ ปฺา; ปฺาวิหิเตสุ ปฺาปริณามิเตสูติ อตฺโถ. กมฺมายตเนสูติ เอตฺถ กมฺมเมว กมฺมายตนํ; อถ วา กมฺมฺจ ตํ อายตนฺจ อาชีวาทีนนฺติปิ ¶ กมฺมายตนํ. สิปฺปายตเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ทุวิธํ กมฺมํ – หีนฺจ อุกฺกฏฺฺจ. ตตฺถ หีนํ นาม วฑฺฒกีกมฺมํ, ปุปฺผฉฑฺฑกกมฺมนฺติ เอวมาทิ. อุกฺกฏฺํ นาม กสิ, วณิชฺชา, โครกฺขนฺติ เอวมาทิ. สิปฺปมฺปิ ทุวิธํ หีนฺจ อุกฺกฏฺฺจ. ตตฺถ หีนํ สิปฺปํ นาม นฬการสิปฺปํ, เปสการสิปฺปํ, กุมฺภการสิปฺปํ, จมฺมการสิปฺปํ, นฺหาปิตสิปฺปนฺติ เอวมาทิ. อุกฺกฏฺํ นาม สิปฺปํ มุทฺทา, คณนา, เลขฺจาติ เอวมาทิ วิชฺชาว วิชฺชาฏฺานํ. ตํ ธมฺมิกเมว คหิตํ. นาคมณฺฑลปริตฺตสทิสํ, ผุธมนกมนฺตสทิสํ, สาลากิยํ ¶ , สลฺลกตฺติยนฺติอาทีนิ ปน เวชฺชสตฺถานิ ‘‘อิจฺฉามหํ, อาจริย, สิปฺปํ สิกฺขิตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๒๙) สิปฺปายตเน ปวิฏฺตฺตา น คหิตานิ.
ตตฺถ เอโก ปณฺฑิโต มนุสฺสานํ ผาสุวิหารตฺถาย อตฺตโน จ ธมฺมตาย เคหปาสาทยานนาวาทีนิ อุปฺปาเทติ. โส หิ ‘อิเม มนุสฺสา วสนฏฺาเนน วินา ทุกฺขิตา’ติ หิตกิริยาย ตฺวา ทีฆจตุรสฺสาทิเภทํ เคหํ อุปฺปาเทติ, สีตุณฺหปฏิฆาตตฺถาย เอกภูมิกทฺวิภูมิกาทิเภเท ปาสาเท กโรติ, ‘ยาเน อสติ อนุสฺจรณํ นาม ทุกฺข’นฺติ ชงฺฆากิลมถปฏิวิโนทนตฺถาย วยฺหสกฏสนฺทมานิกาทีนิ อุปฺปาเทติ, ‘นาวาย อสติ สมุทฺทาทีสุ สฺจาโร นาม นตฺถี’ติ นานปฺปการํ นาวํ อุปฺปาเทติ. โส สพฺพมฺเปตํ เนว อฺเหิ กยิรมานํ ปสฺสติ, น กตํ อุคฺคณฺหาติ, น ¶ กเถนฺตานํ สุณาติ, อตฺตโน ปน ธมฺมตาย จินฺตาย กโรติ. ปฺวตา หิ อตฺตโน ธมฺมตาย กตมฺปิ อฺเหิ อุคฺคณฺหิตฺวา กโรนฺเตหิ กตสทิสเมว โหติ. อยํ ตาว หีนกมฺเม นโย.
อุกฺกฏฺกมฺเมปิ ‘กสิกมฺเม อสติ มนุสฺสานํ ชีวิตํ น ปวตฺตตี’ติ เอโก ปณฺฑิโต มนุสฺสานํ ผาสุวิหารตฺถาย ยุคนงฺคลาทีนิ กสิภณฺฑานิ อุปฺปาเทติ; ตถา นานปฺปการํ วาณิชกมฺมํ โครกฺขฺจ อุปฺปาเทติ. โส สพฺพมฺเปตํ เนว อฺเหิ กริยมานํ ปสฺสติ…เป… กตสทิสเมว โหติ. อยํ อุกฺกฏฺกมฺเม นโย.
ทุวิเธปิ ปน สิปฺปายตเน เอโก ปณฺฑิโต มนุสฺสานํ ผาสุวิหารตฺถาย นฬการสิปฺปาทีนิ หีนสิปฺปานิ, หตฺถมุทฺทาย คณนสงฺขาตํ มุทฺทํ, อจฺฉินฺนกสงฺขาตํ คณนํ, มาติกาปฺปเภทกาทิเภทฺจ เลขํ อุปฺปาเทติ. โส สพฺพมฺเปตํ เนว อฺเหิ กริยมานํ ปสฺสติ…เป… กตสทิสเมว โหติ. อยํ สิปฺปายตเน นโย.
เอกจฺโจ ¶ ปน ปณฺฑิโต อมนุสฺสสรีสปาทีหิ อุปทฺทุตานํ มนุสฺสานํ ติกิจฺฉนตฺถาย ธมฺมิกานิ นาคมณฺฑลมนฺตาทีนิ วิชฺชาฏฺานานิ อุปฺปาเทติ, ตานิ เนว อฺเหิ กริยมานานิ ปสฺสติ, น กตานิ อุคฺคณฺหาติ, น กเถนฺตานํ สุณาติ, อตฺตโน ปน ธมฺมตาย จินฺตาย กโรติ. ปฺวตา หิ อตฺตโน ธมฺมตาย กตมฺปิ อฺเหิ อุคฺคณฺหิตฺวา กโรนฺเตหิ กตสทิสเมว โหติ.
กมฺมสฺสกตํ ¶ วาติ ‘‘อิทํ กมฺมํ สตฺตานํ สกํ, อิทํ โน สก’’นฺติ เอวํ ชานนาณํ. สจฺจานุโลมิกํ วาติ วิปสฺสนาาณํ. ตฺหิ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมนโต สจฺจานุโลมิกนฺติ วุจฺจติ. อิทานิสฺส ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ รูปํ อนิจฺจนฺติ วาติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ อนิจฺจลกฺขณเมว อาคตํ, น ทุกฺขลกฺขณอนตฺตลกฺขณานิ, อตฺถวเสน ปน อาคตาเนวาติ ทฏฺพฺพานิ – ยฺหิ อนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตาติ.
ยํ เอวรูปินฺติ ยํ เอวํ เหฏฺา นิทฺทิฏฺสภาวํ อนุโลมิกํ. ขนฺตินฺติอาทีนิ สพฺพานิ ปฺาเววจนาเนว. สา หิ เหฏฺา วุตฺตานํ กมฺมายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ การณานํ อปจฺจนีกทสฺสเนน อนุโลเมตีติ อนุโลมิกา. ตถา ¶ สตฺตานํ หิตจริยาย อนุโลเมติ, มคฺคสจฺจสฺส อนุโลเมติ, ปรมตฺถสจฺจสฺส นิพฺพานสฺส อนุโลมนโต อนุโลเมตีติปิ อนุโลมิกา. สพฺพานิปิ เอตานิ การณานิ ขมติ สหติ ทฏฺุํ สกฺโกตีติ ขนฺติ, ปสฺสตีติ ทิฏฺิ, โรเจตีติ รุจิ, มุทตีติ มุทิ, เปกฺขตีติ เปกฺขา. สพฺเพปิสฺสา เต กมฺมายตนาทโย ธมฺมา นิชฺฌานํ ขมนฺติ, วิเสสโต จ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตา ธมฺมา ปุนปฺปุนํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน นิชฺฌายมานา ตํ นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ ธมฺมนิชฺฌานขนฺตี.
ปรโต อสฺสุตฺวา ปฏิลภตีติ อฺสฺส อุปเทสวจนํ อสฺสุตฺวา สยเมว จินฺเตนฺโต ปฏิลภติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ จินฺตามยา ปฺา นาม วุจฺจติ. สา ปเนสา น เยสํ เกสฺจิ อุปฺปชฺชติ, อภิฺาตานํ ปน มหาสตฺตานเมว อุปฺปชฺชติ. ตตฺถาปิ สจฺจานุโลมิกาณํ ทฺวินฺนํเยว โพธิสตฺตานํ อุปฺปชฺชติ. เสสปฺา สพฺเพสมฺปิ ปูริตปารมีนํ มหาปฺานํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา.
ปรโต ¶ สุตฺวา ปฏิลภตีติ เอตฺถ กมฺมายตนาทีนิ ปเรน กริยมานานิ วา กตานิ วา ทิสฺวาปิ ยสฺส กสฺสจิ กถยมานสฺส วจนํ สุตฺวาปิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวาปิ ปฏิลทฺธา สพฺพา ปรโต สุตฺวาเยว ปฏิลทฺธา นามาติ เวทิตพฺพา.
สมาปนฺนสฺสาติ สมาปตฺติสมงฺคิสฺส; อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺตา ปฺา ภาวนามยา นามาติ อตฺโถ.
๗๖๙. ทานํ ¶ อารพฺภาติ ทานํ ปฏิจฺจ; ทานเจตนาปจฺจยาติ อตฺโถ. ทานาธิคจฺฉาติ ทานํ อธิคจฺฉนฺตสฺส; ปาปุณนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยา อุปฺปชฺชตีติ ยา เอวํ ทานเจตนาสมฺปยุตฺตา ปฺา อุปฺปชฺชติ, อยํ ทานมยา ปฺา นาม. สา ปเนสา ‘ทานํ ทสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส, ทานํ เทนฺตสฺส, ทานํ ทตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ¶ ปุพฺพเจตนา, มฺุจเจตนา, อปรเจตนาติ ติวิเธน อุปฺปชฺชติ.
สีลํ อารพฺภ สีลาธิคจฺฉาติ อิธาปิ สีลเจตนาสมฺปยุตฺตาว สีลมยา ปฺาติ อธิปฺเปตา. อยมฺปิ ‘สีลํ ปูเรสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส, สีลํ ปูเรนฺตสฺส, สีลํ ปูเรตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปุพฺพเจตนา, มฺุจเจตนา, อปรเจตนาติ ติวิเธเนว อุปฺปชฺชติ. ภาวนามยา เหฏฺา วุตฺตาเยว.
๗๗๐. อธิสีลปฺาทีสุ สีลาทีนิ ทุวิเธน เวทิตพฺพานิ – สีลํ, อธิสีลํ; จิตฺตํ, อธิจิตฺตํ; ปฺา, อธิปฺาติ. ตตฺถ ‘‘อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐; อ. นิ. ๓.๑๓๗) อิมาย ตนฺติยา สงฺคหิตวเสน ปฺจปิ สีลานิ ทสปิ สีลานิ สีลํ นาม. ตฺหิ ตถาคเต อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โหติ. อนุปฺปนฺเน เก ปฺาเปนฺตีติ? ตาปสปริพฺพาชกา, สพฺพฺุโพธิสตฺตา, จกฺกวตฺติราชาโน จ ปฺาเปนฺติ. อุปฺปนฺเน สมฺมาสมฺพุทฺเธ ภิกฺขุสงฺโฆ, ภิกฺขุนีสงฺโฆ, อุปาสกา, อุปาสิกาโย จ ปฺาเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน สพฺพสีเลหิ อธิกํ อุปฺปนฺเนเยว ตถาคเต อุปฺปชฺชติ, โน อนุปฺปนฺเน. สพฺพฺุพุทฺธาเยว จ นํ ปฺาเปนฺติ. ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ วีติกฺกเม อิทํ นาม โหตี’’ติ ปฺาปนฺหิ อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานํเยว เอส วิสโย, พุทฺธานํ พลํ. อิติ ยสฺมา ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ, ตสฺมา ตํ อธิสีลปฺํ ทสฺเสตุํ ปาติโมกฺขสํวรํ สํวรนฺตสฺสาติอาทิ วุตฺตํ.
เหฏฺา ¶ วุตฺตาย เอว ปน ตนฺติยา สงฺคหิตวเสน วฏฺฏปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตํ นาม. ตฺหิ ตถาคเต อุปฺปนฺเนปิ โหติ อนุปฺปนฺเนปิ. อนุปฺปนฺเน เก นิพฺพตฺเตนฺตีติ? ตาปสปริพฺพาชกา เจว สพฺพฺุโพธิสตฺตา จ จกฺกวตฺติราชาโน จ. อุปฺปนฺเน ภควติ วิเสสตฺถิกา ภิกฺขุอาทโยปิ นิพฺพตฺเตนฺติเยว. วิปสฺสนาปาทิกา ปน อฏฺ สมาปตฺติโย สพฺพจิตฺเตหิ ¶ อธิกา, อุปฺปนฺเนเยว ตถาคเต อุปฺปชฺชนฺติ, โน อนุปฺปนฺเน. สพฺพฺุพุทฺธา เอว จ เอตา ปฺาเปนฺติ ¶ . อิติ ยสฺมา อฏฺ สมาปตฺติโย อธิจิตฺตํ, ตสฺมา อธิจิตฺตปฺํ ทสฺเสตุํ รูปาวจรารูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺสาติอาทิ วุตฺตํ.
เหฏฺา วุตฺตาย เอว ปน ตนฺติยา สงฺคหิตวเสน กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา นาม. ตฺหิ ตถาคเต อุปฺปนฺเนปิ โหติ อนุปฺปนฺเนปิ. อนุปฺปนฺเน เวลามทานเวสฺสนฺตรทานาทิวเสน อุปฺปชฺชติ; อุปฺปนฺเน เตน าเณน มหาทานํ ปวตฺเตนฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. มคฺคผลปฺา ปน สพฺพปฺาหิ อธิกา, อุปฺปนฺเนเยว ตถาคเต วิตฺถาริกา หุตฺวา ปวตฺตติ, โน อนุปฺปนฺเน. อิติ ยสฺมา มคฺคผลปฺา อธิปฺา, ตสฺมา อติเรกปฺาย ปฺํ ทสฺเสตุํ จตูสุ มคฺเคสูติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ สิยา – สีลํ, อธิสีลํ; จิตฺตํ, อธิจิตฺตํ; ปฺา, อธิปฺาติ อิเมสุ ฉสุ โกฏฺาเสสุ วิปสฺสนา ปฺา กตรสนฺนิสฺสิตาติ? อธิปฺาสนฺนิสฺสิตา. ตสฺมา ยถา โอมกตรปฺปมาณํ ฉตฺตํ วา ธชํ วา อุปาทาย อติเรกปฺปมาณํ อติฉตฺตํ อติธโชติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ ปฺจสีลํ ทสสีลํ อุปาทาย ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ‘อธิสีลํ’ นาม; วฏฺฏปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย อุปาทาย วิปสฺสนาปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย ‘อธิจิตฺตํ’ นาม, กมฺมสฺสกตปฺํ อุปาทาย วิปสฺสนาปฺา จ มคฺคปฺา จ ผลปฺา จ ‘อธิปฺา’ นามาติ เวทิตพฺพา.
๗๗๑. อายโกสลฺลาทินิทฺเทเส ยสฺมา อาโยติ วุฑฺฒิ, สา อนตฺถหานิโต อตฺถุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา; อปาโยติ อวุฑฺฒิ, สาปิ อตฺถหานิโต อนตฺถุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา; ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ อิเม ธมฺเม มนสิกโรโตติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ วุจฺจตีติ ยา อิเมสํ อกุสลธมฺมานํ อนุปฺปตฺติปฺปหาเนสุ กุสลธมฺมานฺจ อุปฺปตฺติฏฺิตีสุ ปฺา – อิทํ อายโกสลฺลํ ¶ นาม วุจฺจติ. ยา ปเนสา กุสลธมฺมานํ อนุปฺปชฺชนนิรุชฺฌเนสุ อกุสลธมฺมานฺจ อุปฺปตฺติฏฺิตีสุ ปฺา – อิทํ อปายโกสลฺลํ นามาติ อตฺโถ. อายโกสลฺลํ ตาว ปฺา โหตุ; อปายโกสลฺลํ กถํ ปฺา นาม ชาตาติ? ปฺวาเยว หิ ‘มยฺหํ เอวํ มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา นุปฺปชฺชนฺติ อุปฺปนฺนา จ นิรุชฺฌนฺติ; อนุปฺปนฺนา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา ปวฑฺฒนฺตี’ติ ¶ ปชานาติ. โส เอวํ ตฺวา อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปชฺชิตุํ น เทติ, อุปฺปนฺเน ปชหติ; อนุปฺปนฺเน กุสเล อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺเน ภาวนาปาริปูรึ ¶ ปาเปติ. เอวํ อปายโกสลฺลมฺปิ ปฺา เอวาติ เวทิตพฺพํ. สพฺพาปิ ตตฺรูปายา ปฺา อุปายโกสลฺลนฺติ อิทํ ปน อจฺจายิกกิจฺเจ วา ภเย วา อุปฺปนฺเน ตสฺส ติกิจฺฉนตฺถํ านุปฺปตฺติยการณชานนวเสเนว เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๙๓. จตุพฺพิเธน าณวตฺถุนิทฺเทเส อตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีสุ ทินฺนปจฺจยา ผลํ อตฺถีติ อิมินา อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทํ วุจฺจตีติ ยํ าณํ ‘อิทํ กมฺมํ สกํ, อิทํ โน สก’นฺติ ชานาติ – อิทํ กมฺมสฺสกตาณํ นาม วุจฺจตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ มโนทุจฺจริตนฺติ อิทํ น สกกมฺมํ นาม. ตีสุ ทฺวาเรสุ ทสวิธมฺปิ สุจริตํ สกกมฺมํ นาม. อตฺตโน วาปิ โหตุ ปรสฺส วา สพฺพมฺปิ อกุสลํ น สกกมฺมํ นาม. กสฺมา? อตฺถภฺชนโต อนตฺถชนนโต จ. อตฺตโน วา โหตุ ปรสฺส วา สพฺพมฺปิ กุสลํ สกกมฺมํ นาม. กสฺมา? อนตฺถภฺชนโต อตฺถชนนโต จ. เอวํ ชานนสมตฺเถ อิมสฺมึ กมฺมสฺสกตาเณ ตฺวา พหุํ ทานํ ทตฺวา สีลํ ปูเรตฺวา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา สุเขน สุขํ สมฺปตฺติยา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา นิพฺพานํ ปตฺตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. ยถา หิ สธโน ปุริโส ปฺจสุ สกฏสเตสุ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ เจว โลณติลตณฺฑุลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา กนฺตารมคฺคํ ปฏิปนฺโน เกนจิเทว กรณีเยน อตฺเถ อุปฺปนฺเน สพฺเพสํ อุปกรณานํ คหิตตฺตา น จินฺเตติ, น ปริตสฺสติ, สุเขเนว เขมนฺตํ ¶ ปาปุณาติ; เอวเมว อิมสฺมิมฺปิ กมฺมสฺสกตาเณ ตฺวา พหุํ ทานํ ทตฺวา…เป… นิพฺพานํ ปตฺตานํ คณนปโถ นตฺถิ. เปตฺวา สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ มคฺคสจฺจสฺส ปรมตฺถสจฺจสฺส จ อนุโลมนโต สจฺจานุโลมิกนฺติ ลทฺธนามํ วิปสฺสนาาณํ เปตฺวา อวเสสา สพฺพาปิ สาสวา กุสลา ปฺา กมฺมสฺสกตาณเมวาติ อตฺโถ.
๗๙๔. มคฺคสมงฺคิสฺส ¶ าณํ ทุกฺเขเปตํ าณนฺติ เอตฺถ เอกเมว ¶ มคฺคาณํ จตูสุ สจฺเจสุ เอกปฏิเวธวเสน จตูสุ าเนสุ สงฺคหิตํ.
๗๙๖. ธมฺเม าณนฺติ เอตฺถ มคฺคปฺา ตาว จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกปฏิเวธวเสน ธมฺเม าณํ นาม โหตุ; ผลปฺา กถํ ธมฺเม าณํ นามาติ? นิโรธสจฺจวเสน. ทุวิธาปิ เหสา ปฺา อปรปฺปจฺจเย อตฺถปจฺจกฺเข อริยสจฺจธมฺเม กิจฺจโต จ อารมฺมณโต จ ปวตฺตตฺตา ธมฺเม าณนฺติ เวทิตพฺพา. โส อิมินา ธมฺเมนาติ เอตฺถ มคฺคาณํ ธมฺมโคจรตฺตา โคจรโวหาเรน ธมฺโมติ วุตฺตํ, อุปโยคตฺเถ วา กรณวจนํ; อิมํ ธมฺมํ าเตนาติ อตฺโถ; จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวา ิเตน มคฺคาเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ทิฏฺเนาติ ทสฺสเนน; ธมฺมํ ปสฺสิตฺวา ิเตนาติ อตฺโถ. ปตฺเตนาติ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปตฺวา ิตตฺตา ธมฺมํ ปตฺเตน. วิทิเตนาติ มคฺคาเณน จตฺตาริ อริยสจฺจานิ วิทิตานิ ปากฏานิ กตานิ. ตสฺมา ตํ ธมฺมํ วิทิตํ นาม โหติ. เตน วิทิตธมฺเมน. ปริโยคาฬฺเหนาติ จตุสจฺจธมฺมํ ปริโยคาเหตฺวา ิเตน. นยํ เนตีติ อตีเต จ อนาคเต จ นยํ เนติ หรติ เปเสติ. อิทํ ปน น มคฺคาณสฺส กิจฺจํ, ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจํ. สตฺถารา ปน มคฺคาณํ อตีตานาคเต นยํ นยนสทิสํ กตํ. กสฺมา? มคฺคมูลกตฺตา. ภาวิตมคฺคสฺส หิ ปจฺจเวกฺขณา นาม โหติ. ตสฺมา สตฺถา มคฺคาณเมว นยํ นยนสทิสํ อกาสิ. อปิจ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ยเทตํ อิมินา จตุสจฺจโคจรํ มคฺคาณํ อธิคตํ, เตน าเณน การณภูเตน อตีตานาคเต ปจฺจเวกฺขณาณสงฺขาตํ นยํ เนติ.
อิทานิ ยถา เตน นยํ เนติ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ เย หิ เกจิ อตีตมทฺธานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อพฺภฺํสูติ ชานึสุ ปฏิวิชฺฌึสุ. อิมฺเวาติ ยํ ทุกฺขํ อตีเต อพฺภฺํสุ, ยฺจ อนาคเต อภิชานิสฺสนฺติ, น ตฺเว อิมํ; สริกฺขฏฺเน ปน เอวํ วุตฺตํ. อตีเตปิ หิ เปตฺวา ตณฺหํ เตภูมกกฺขนฺเธเยว ¶ ทุกฺขสจฺจนฺติ ปฏิวิชฺฌึสุ, ตณฺหํเยว ¶ สมุทยสจฺจนฺติ นิพฺพานเมว นิโรธสจฺจนฺติ อริยมคฺคเมว มคฺคสจฺจนฺติ ปฏิวิชฺฌึสุ, อนาคเตปิ เอวเมว ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺติ, เอตรหิปิ เอวเมว ปฏิวิชฺฌนฺตีติ สริกฺขฏฺเน ‘‘อิมฺเวา’’ติ วุตฺตํ. อิทํ วุจฺจติ อนฺวเย าณนฺติ อิทํ อนุคมนาณํ นยนาณํ การณาณนฺติ วุจฺจติ.
ปริเย ¶ าณนฺติ จิตฺตปริจฺเฉทาณํ. ปรสตฺตานนฺติ เปตฺวา อตฺตานํ เสสสตฺตานํ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาตีติ อตฺตโน จิตฺเตน เตสํ จิตฺตํ สราคาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา นานปฺปการโต ชานาติ. สราคํ วาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา สติปฏฺานวิภงฺเค วุตฺตเมว. อยํ ปน วิเสโส – อิธ อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ วา จิตฺตนฺติ เอตฺถ โลกุตฺตรมฺปิ ลพฺภติ. อวิปสฺสนูปคมฺปิ หิ ปรจิตฺตาณสฺส วิสโย โหติเยว.
อวเสสา ปฺาติ ธมฺเม าณาทิกา ติสฺโส ปฺา เปตฺวา เสสา สพฺพาปิ ปฺา าณนฺติ สมฺมตตฺตา สมฺมุติาณํ นาม โหติ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สมฺมุติมฺหิ าณนฺติ สมฺมุติาณํ.
๗๙๗. กามาวจรกุสเล ปฺาติ อยฺหิ เอกนฺเตน วฏฺฏสฺมึ จุติปฏิสนฺธึ อาจินเตว, ตสฺมา ‘‘อาจยาย โน อปจยายา’’ติ วุตฺตา. โลกุตฺตรมคฺคปฺา ปน ยสฺมา จุติปฏิสนฺธึ อปจินเตว, ตสฺมา ‘‘อปจยาย โน อาจยายา’’ติ วุตฺตา. รูปาวจรารูปาวจรปฺา จุติปฏิสนฺธิมฺปิ อาจินติ, วิกฺขมฺภนวเสน กิเลเส เจว กิเลสมูลเก จ ธมฺเม อปจินติ, ตสฺมา ‘‘อาจยาย เจว อปจยาย จา’’ติ วุตฺตา. เสสา เนว จุติปฏิสนฺธึ อาจินติ น อปจินติ, ตสฺมา ‘‘เนว อาจยาย โน อปจยายา’’ติ วุตฺตา.
๗๙๘. น จ อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ อิทํ ปมชฺฌานปฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. สา หิสฺส กามวิเวเกน ปตฺตพฺพตฺตา กิเลสนิพฺพิทาย สํวตฺตติ. ตาย เจส กาเมสุ วีตราโค โหติ, อภิฺาปาทกภาวํ ปน อปฺปตฺตตาย เนว ปฺจ อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌติ, นิมิตฺตารมฺมณตฺตา น สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. เอวมยํ ปฺา นิพฺพิทาย โหติ โน ปฏิเวธาย. สฺเววาติ ¶ ปมชฺฌานํ ปตฺวา ิโต. กาเมสุ วีตราโค สมาโนติ ตถา วิกฺขมฺภิตานํเยว กามานํ วเสน วีตราโค. อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ ¶ ปฺจ อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌติ. อิทํ จตุตฺถชฺฌานปฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. จตุตฺถชฺฌานปฺา หิ อภิฺาปาทกภาเวนาปิ ปฺจ อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌติ, อภิฺาภาวปฺปตฺติยาปิ ปฏิวิชฺฌติ เอว. ตสฺมา สา ปฏิเวธาย โหติ. ปมชฺฌานปฺาย เอว ปน กิเลเสสุปิ นิพฺพินฺทตฺตา โน นิพฺพิทาย. ยา ปนายํ ทุติยตติยชฺฌานปฺา, สา กตรโกฏฺาสํ ภชตีติ? โสมนสฺสวเสน ปมชฺฌานมฺปิ ภชติ, อวิตกฺกวเสน จตุตฺถชฺฌานมฺปิ. เอวเมสา ปมชฺฌานสนฺนิสฺสิตา วา จตุตฺถชฺฌานสนฺนิสฺสิตา วา กาตพฺพา. นิพฺพิทาย ¶ เจว ปฏิเวธาย จาติ มคฺคปฺา สพฺพสฺมิมฺปิ วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนโต นิพฺพิทาย, ฉฏฺํ อภิฺํ ปฏิวิชฺฌนโต ปฏิเวธาย จ โหติ.
๗๙๙. ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีติอาทีสุ ยฺวายํ อปฺปคุณสฺส ปมชฺฌานสฺส ลาภี. ตํ ตโต วุฏฺิตํ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ตุทนฺติ โจเทนฺติ. ตสฺส กามานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา หายติ ปริหายติ; ตสฺมา หานภาคินีติ วุตฺตา. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุรูปสภาวา. สติ สนฺติฏฺตีติ อิทํ มิจฺฉาสตึ สนฺธาย วุตฺตํ, น สมฺมาสตึ. ยสฺส หิ ปมชฺฌานานุรูปสภาวา ปมชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา อภินนฺทมานา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส นิกนฺติวเสน สา ปมชฺฌานปฺา เนว หายติ, น วฑฺฒติ, ิติโกฏฺาสิกา โหติ. เตน วุตฺตํ ิติภาคินี ปฺาติ. อวิตกฺกสหคตาติ อวิตกฺกํ ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต มนสิกโรโต อารมฺมณวเสน อวิตกฺกสหคตา. สมุทาจรนฺตีติ ปคุณโต ปมชฺฌานโต วุฏฺิตํ ทุติยชฺฌานาธิคมตฺถาย ตุทนฺติ โจเทนฺติ. ตสฺส อุปริ ทุติยชฺฌานานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปฺปตฺติฏฺานตาย วิเสสภาคินีติ วุตฺตา. นิพฺพิทาสหคตาติ ตเมว ¶ ปมชฺฌานโต วุฏฺิตํ นิพฺพิทาสงฺขาเตน วิปสฺสนาาเณน สหคตา. วิปสฺสนาาณฺหิ ฌานงฺคเภเท วตฺตนฺเต นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺติ, ตสฺมา นิพฺพิทาติ วุจฺจติ. สมุทาจรนฺตีติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย ตุทนฺติ โจเทนฺติ. วิราคูปสฺหิตาติ วิราคสงฺขาเตน นิพฺพาเนน อุปสํหิตา. วิปสฺสนาาณมฺหิ สกฺกา อิมินา มคฺเคน วิราคํ นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุนฺติ ปวตฺติโต ‘‘วิราคูปสฺหิต’’นฺติ วุจฺจติ. ตํสมฺปยุตฺตา สฺามนสิการาปิ วิราคูปสฺหิตา เอว นาม. ตสฺส เตสํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา อริยมคฺคปฏิเวธสฺส ¶ ปทฏฺานตาย นิพฺเพธภาคินีติ วุตฺตา. เอวํ จตูสุ าเนสุ ปมชฺฌานปฺาว กถิตา. ทุติยชฺฌานปฺาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๘๐๑. กิจฺเฉน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ โลกุตฺตรสมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ปุพฺพภาเค อาคมนกาเล กิจฺเฉน กสิเรน ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺตสฺส กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา อาคตสฺส. ทนฺธํ ตณฺานํ อภิชานนฺตสฺสาติ วิกฺขมฺภิเตสุ กิเลเสสุ วิปสฺสนาปริวาเส จิรํ วสิตฺวา ตํ โลกุตฺตรสมาธิสงฺขาตํ านํ ทนฺธํ สณิกํ อภิชานนฺตสฺส ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส ¶ , ปาปุณนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ ยา เอสา เอวํ อุปฺปชฺชติ, อยํ กิเลสวิกฺขมฺภนปฏิปทาย ทุกฺขตฺตา, วิปสฺสนาปริวาสปฺาย จ ทนฺธตฺตา มคฺคกาเล เอกจิตฺตกฺขเณ อุปฺปนฺนาปิ ปฺา อาคมนวเสน ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นามาติ วุจฺจติ. อุปริ ตีสุ ปเทสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๘๐๒. สมาธิสฺส น นิกามลาภิสฺสาติ โย สมาธิสฺส น นิกามลาภี โหติ, โส ตสฺส น นิกามลาภี นาม. ยสฺส สมาธิ อุปรูปริ สมาปชฺชนตฺถาย อุสฺสกฺกิตุํ ปจฺจโย น โหติ, ตสฺส อปฺปคุณชฺฌานลาภิสฺสาติ อตฺโถ. อารมฺมณํ โถกํ ผรนฺตสฺสาติ ปริตฺเต สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา อารมฺมเณ ปริกมฺมํ กตฺวา ตตฺเถว อปฺปนํ ปตฺวา ตํ อวฑฺฒิตํ โถกเมว อารมฺมณํ ผรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. นนิกามลาภีปฏิปกฺขโต หิ ปคุณชฺฌานลาภี เอตฺถ นิกามลาภีติ วุตฺโต. อวฑฺฒิตารมฺมณปฏิปกฺขโต จ วฑฺฒิตารมฺมณํ วิปุลนฺติ วุตฺตํ. เสสํ ตาทิสเมว.
ชรามรเณเปตํ ¶ าณนฺติ นิพฺพานเมว อารมฺมณํ กตฺวา จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกปฏิเวธวเสน เอตํ วุตฺตํ.
ชรามรณํ อารพฺภาติอาทีนิ ปน เอเกกํ วตฺถุํ อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปุพฺพภาเค สจฺจววตฺถาปนวเสน วุตฺตานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๔. ปฺจวิเธน ¶ าณวตฺถุนิทฺเทเส ปีติผรณตาทีสุ ปีตึ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา นาม. สุขํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา นาม. ปเรสํ เจโตผรมานา อุปฺปชฺชตีติ เจโตปริยปฺา เจโตผรณตา นาม. อาโลกํ ¶ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทิพฺพจกฺขุปฺา อาโลกผรณตา นาม. ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ นาม. เตเนว วุตฺตํ ‘‘ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา’’ติอาทิ. ตตฺถ จ ปีติผรณตา สุขผรณตา ทฺเว ปาทา วิย, เจโตผรณตา อาโลกผรณตา ทฺเว หตฺถา วิย, อภิฺาปาทกชฺฌานํ มชฺฌิมกาโย วิย, ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ สีสํ วิย. อิติ ภควา ปฺจงฺคิกํ สมฺมาสมาธึ องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺนํ ปุริสํ วิย กตฺวา ทสฺเสสิ. อยํ ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธีติ อยํ หตฺถปาทสีสสทิเสหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺโต สมฺมาสมาธีติ ปาทกชฺฌานสมาธึ กเถสิ.
อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจวาติอาทีสุ อรหตฺตผลสมาธิ อธิปฺเปโต. โส หิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข. ปุริโม ปุริโม ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส สมาธิสุขสฺส ปจฺจยตฺตา อายตึ สุขวิปาโก. สนฺตํ สุขุมํ ผลจิตฺตํ ปณีตํ มธุรรูปํ สมุฏฺาเปติ. ผลสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส หิ สพฺพกายานุคตํ สุขสมฺผสฺสํ โผฏฺพฺพํ ปฏิจฺจ สุขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. อิมินาปิ ปริยาเยน อายตึ สุขวิปาโก. กิเลเสหิ ¶ อารกตฺตา อริโย. กามามิสวฏฺฏามิสโลกามิสานํ อภาวา นิรามิโส. พุทฺธาทีหิ มหาปุริเสหิ เสวิตตฺตา อกาปุริสเสวิโต. องฺคสนฺตตาย อารมฺมณสนฺตตาย สพฺพกิเลสทรถสนฺตตาย จ สนฺโต. อตปฺปนียฏฺเน ปณีโต. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺธตฺตา กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวสฺส วา ลทฺธตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ. ปฏิปฺปสฺสทฺธํ ปฏิปฺปสฺสทฺธีติ หิ อิทํ อตฺถโต เอกํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลเสน วา อรหตา ลทฺธตฺตาปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ. เอโกทิภาเวน อธิคตตฺตา เอโกทิภาวเมว วา อธิคตตฺตา เอโกทิภาวาธิคโต. อปฺปคุณสาสวสมาธิ วิย สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน จิตฺเตน ปจฺจนีกธมฺเม นิคฺคยฺห กิเลเส วาเรตฺวา อนธิคตตฺตา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. ตฺจ สมาธึ สมาปชฺชนฺโต ตโต วา ¶ วุฏฺหนฺโต สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา สโตว สมาปชฺชติ สโตว วุฏฺหติ. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน วา สโต สมาปชฺชติ สโต วุฏฺหติ. ตสฺมา ยเทตฺถ ‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติฺจ สุขวิปาโก’’ติ เอวํ ปจฺจเวกฺขมานสฺส ปจฺจตฺตํเยว อปรปฺปจฺจยํ าณํ อุปฺปชฺชติ – ตํ เอกมงฺคํ. เอส นโย เสเสสุปิ. เอวมิเมหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาเณหิ อยํ สมาธิ ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธิ นาม วุตฺโตติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๕. ฉพฺพิเธน ¶ าณวตฺถุนิทฺเทเส อิทฺธิวิเธ าณนฺติ ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเต (ที. นิ. ๑.๔๘๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒) อิทฺธิวิเธ าณํ. อิมินา อวิตกฺกาวิจารา อุเปกฺขาสหคตา รูปาวจรา พหุธาภาวาทิสาธิกา เอกจิตฺตกฺขณิกา อปฺปนาปฺาว กถิตา. โสตธาตุวิสุทฺธิยา าณนฺติ ทูรสนฺติกาทิเภทสทฺทารมฺมณาย ทิพฺพโสตธาตุยา าณํ. อิมินาปิ อวิตกฺกาวิจารา อุเปกฺขาสหคตา รูปาวจรา ปกติโสตวิสยาตีตสทฺทารมฺมณา เอกจิตฺตกฺขณิกา อปฺปนาปฺาว กถิตา. ปรจิตฺเต ¶ าณนฺติ ปรสตฺตานํ จิตฺตปริจฺเฉเท าณํ. อิมินาปิ ยถาวุตฺตปฺปการา ปเรสํ สราคาทิจิตฺตารมฺมณา เอกจิตฺตกฺขณิกา อปฺปนาปฺาว กถิตา. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา าณนฺติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติสมฺปยุตฺตํ าณํ. อิมินาปิ ยถาวุตฺตปฺปการา ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธานุสฺสรณสติสมฺปยุตฺตา เอกจิตฺตกฺขณิกา อปฺปนาปฺาว กถิตา. สตฺตานํ จุตูปปาเต าณนฺติ สตฺตานํ จุติยฺจ อุปปาเต จ าณํ. อิมินาปิ ยถาวุตฺตปฺปการา จวนกอุปปชฺชนกานํ สตฺตานํ วณฺณธาตุอารมฺมณา เอกจิตฺตกฺขณิกา อปฺปนาปฺาว กถิตา. อาสวานํ ขเย าณนฺติ สจฺจปริจฺเฉทชานนาณํ. อิทํ โลกุตฺตรเมว. เสสานิ โลกิยานีติ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสาทิวณฺณนา
๘๐๖. สตฺตวิเธน ¶ าณวตฺถุนิทฺเทเส ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทินา นเยน ปวตฺตินิวตฺติวเสน เอกาทสสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ เอเกกสฺมึ กาลตฺตยเภทโต ปจฺจเวกฺขณาณํ วตฺวา ปุน ‘‘ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ เอวํ ตเทว าณํ สงฺเขปโต ขยธมฺมตาทีหิ ปกาเรหิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชาติปจฺจยา ชรามรณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณทฺวยํ ปจฺจุปฺปนฺนทฺธานวเสน วุตฺตํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานนฺติ เอวํ อตีเต าณทฺวยํ, อนาคเต าณทฺวยนฺติ ฉ. ตานิ ธมฺมฏฺิติาเณน สทฺธึ สตฺต. ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ ¶ ปจฺจยาการาณํ. ปจฺจยากาโร หิ ธมฺมานํ ปวตฺติฏฺิติการณตฺตา ธมฺมฏฺิตีติ วุจฺจติ; ตตฺถ าณํ ธมฺมฏฺิติาณํ. เอตสฺเสว ฉพฺพิธสฺส าณสฺเสตํ อธิวจนํ. เอวํ เอเกกสฺมึ องฺเค อิมานิ สตฺต สตฺต กตฺวา เอกาทสสุ องฺเคสุ สตฺตสตฺตติ โหนฺติ. ตตฺถ ขยธมฺมนฺติ ขยคมนสภาวํ. วยธมฺมนฺติ วยคมนสภาวํ. วิราคธมฺมนฺติ ¶ วิรชฺชนสภาวํ. นิโรธธมฺมนฺติ นิรุชฺฌนสภาวํ. อิมินา กึ กถิตํ? อปรวิปสฺสนาย ปุริมวิปสฺสนาสมฺมสนํ กถิตํ. เตน กึ กถิตํ โหติ? สตฺตกฺขตฺตุํ วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนา กถิตา. ปมาเณน หิ สพฺพสงฺขาเร อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตาติ ทิสฺวา ตํ าณํ ทุติเยน ทฏฺุํ วฏฺฏติ, ทุติยํ ตติเยน, ตติยํ จตุตฺเถน, จตุตฺถํ ปฺจเมน, ปฺจมํ ฉฏฺเน, ฉฏฺํ สตฺตเมน. เอวํ สตฺต วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนา กถิตา โหนฺตีติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา.
๘๐๗. อฏฺวิเธน าณวตฺถุนิทฺเทเส โสตาปตฺติมคฺเค ปฺาติ โสตาปตฺติมคฺคมฺหิ ปฺา. อิมินา สมฺปยุตฺตปฺาว กถิตา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
๘๐๘. นววิเธน าณวตฺถุนิทฺเทเส อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีสูติ อนุปุพฺพวิหารสงฺขาตาสุ สมาปตฺตีสุ. ตาสํ อนุปุพฺเพน อนุปฏิปาฏิยา วิหาริตพฺพฏฺเน อนุปุพฺพวิหารตา, สมาปชฺชิตพฺพฏฺเน สมาปตฺติตา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ปมชฺฌานสมาปตฺติยา ปฺาติอาทโย อฏฺ สมฺปยุตฺตปฺา เวทิตพฺพา ¶ . นวมา ปจฺจเวกฺขณปฺา. สา หิ นิโรธสมาปตฺตึ สนฺตโต ปณีตโต ปจฺจเวกฺขมานสฺส ปวตฺตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ปจฺจเวกฺขณาณ’’นฺติ.
นวกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
ปมพลนิทฺเทโส
๘๐๙. ทสวิเธน ¶ าณวตฺถุนิทฺเทเส อฏฺานนฺติ เหตุปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโป. อุภเยนาปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. การณฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส านนฺติ จ อวกาโสติ จ วุจฺจติ. ยนฺติ เยน การเณน. ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน อริยสาวโก. กฺจิ ¶ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กฺจิ เอกํ สงฺขารมฺปิ. นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ นิจฺโจติ คณฺเหยฺย. เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ นตฺถิ, น อุปลพฺภติ. ยํ ปุถุชฺชโนติ เยน การเณน ปุถุชฺชโน. านเมตํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ อตฺถิ; สสฺสตทิฏฺิยา หิ โส เตภูมเกสุ สงฺขาเรสุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. จตุตฺถภูมกสงฺขาโร ปน เตชุสฺสทตฺตา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ วิย มกฺขิกานํ ทิฏฺิยา วา อฺเสํ วา อกุสลานํ อารมฺมณํ น โหติ. อิมินา นเยน กฺจิ สงฺขารํ สุขโตติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรมฺมรณา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๑) เอวํ อตฺตทิฏฺิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหาภิภูโต ปริฬาหวูปสมตฺถํ, มตฺตหตฺถีปริตาสิโต วิย, สุจิกาโม โปกฺขพฺราหฺมโณ คูถํ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ. อตฺตวาเท กสิณาทิปณฺณตฺติสงฺคหตฺถํ สงฺขารนฺติ อวตฺวา กฺจิ ธมฺมนฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อริยสาวกสฺส จตุภูมกวเสน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ, ปุถุชฺชนสฺส เตภูมกวเสน; สพฺพวาเรสุ วา อริยสาวกสฺสาปิ เตภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท วฏฺฏติ. ยํ ยฺหิ ปุถุชฺชโน ¶ คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเติ. ปุถุชฺชโน หิ ยํ ยํ นิจฺจํ สุขํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตํ ตํ อริยสาวโก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ คณฺหนฺโต คาหํ วินิเวเติ.
มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกาว มาตา. มนุสฺสภูโตว ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ. สเจปิ ภวนฺตรคตํ อริยสาวกํ อตฺตโน อริยสาวกภาวํ อชานนฺตมฺปิ โกจิ เอวํ วเทยฺย – ‘อิมํ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’ติ, เนว โส ตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อถ วาปิ ¶ นํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สเจ อิมํ น ฆาเตสฺสสิ, สีสํ ¶ เต ฉินฺทิสฺสามา’ติ, สีสเมวสฺส ฉินฺเทยฺยุํ, เนว โส ตํ ฆาเตยฺย. ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยสาวกสฺส จ พลทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สาวชฺโช ปุถุชฺชนภาโว, ยตฺร หิ นาม ปุถุชฺชโน มาตุฆาตาทีนิปิ อานนฺตริยานิ กริสฺสติ. มหาพโล อริยสาวโก; โส เอตานิ กมฺมานิ น กโรตีติ.
ปทุฏฺเน จิตฺเตนาติ โทสสมฺปยุตฺเตน วธกจิตฺเตน. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมายํ ิตํ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปฺจหุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ – กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘).
ตตฺถ ‘กมฺเมนา’ติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. ‘อุทฺเทเสนา’ติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. ‘โวหรนฺโต’ติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปฺปตฺตีหิ ‘อธมฺมํ ธมฺโม’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. ‘อนุสฺสาวเนนา’ติ ‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ! มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ น ยุตฺตํ. กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล? กิมหํ อปายโต น ภายามี’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน ¶ . ‘สลากคฺคาเหนา’ติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺตนธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน. เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ¶ ภินฺโน นาม โหติ.
เอวํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เอตฺตาวตา มาตุฆาตาทีนิ ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ, ยานิ ปุถุชฺชโน กโรติ, น อริยสาวโก. เตสํ อาวิภาวตฺถํ –
กมฺมโต ¶ ทฺวารโต เจว, กปฺปฏฺิติยโต ตถา;
ปากสาธารณาทีหิ, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ ‘กมฺมโต’ ตาว – เอตฺถ หิ มนุสฺสภูตสฺเสว มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหติ. ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิสฺสามี’ติ สกลจกฺกวาฬํ มหาเจติยปฺปมาเณหิ กฺจนถูเปหิ ปูเรตฺวาปิ, สกลจกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา นิสินฺนภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวาปิ, พุทฺธสฺส ภควโต สงฺฆาฏิกณฺณํ อมฺุจิตฺวาว วิจริตฺวาปิ, กายสฺส เภทา นิรยเมว อุปปชฺชติ. โย ปน สยํ มนุสฺสภูโต ติรจฺฉานภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา, สยํ วา ติรจฺฉานภูโต มนุสฺสภูตํ, ติรจฺฉานภูโตเยว วา ติรจฺฉานภูตํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ โหติ, อานนฺตริยํ อาหจฺเจว ติฏฺติ. มนุสฺสชาติกานํ ปน วเสน อยํ ปฺโห กถิโต.
เอตฺถ เอฬกจตุกฺกํ, สงฺคามจตุกฺกํ, โจรจตุกฺกฺจ กเถตพฺพํ. ‘เอฬกํ มาเรมี’ติ อภิสนฺธินาปิ หิ เอฬกฏฺาเน ิตํ มนุสฺโส มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา มาเรนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติ. เอฬกาภิสนฺธินา ปน มาตาปิติอภิสนฺธินา วา เอฬกํ มาเรนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติ. มาตาปิติอภิสนฺธินา มาตาปิตโร มาเรนฺโต ผุสเตว. เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ ¶ จตุกฺกทฺวเย. ยถา จ มาตาปิตูสุ, เอวํ อรหนฺเตปิ เอตานิ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ. มนุสฺสอรหนฺตเมว จ มาเรตฺวา อานนฺตริยํ ผุสติ, น ยกฺขภูตํ; กมฺมํ ปน ภาริยํ อานนฺตริยสทิสเมว. มนุสฺสอรหนฺตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเลเยว สตฺถปฺปหาเร วา วิเส วา ทินฺเนปิ ยทิ โส อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว มรติ, อรหนฺตฆาโต โหติเยว. ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ¶ ปตฺวา ปริภฺุชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ. เสสอริยปุคฺคเล มาเรนฺตสฺส อานนฺตริยํ นตฺถิ, กมฺมํ ปน ภาริยํ อานนฺตริยสทิสเมว.
โลหิตุปฺปาเท ตถาคตสฺส อเภชฺชกายตาย ปรูปกฺกเมน จมฺมจฺเฉทํ กตฺวา โลหิตปคฺฆรณํ นาม นตฺถิ. สรีรสฺส ปน อนฺโตเยว เอกสฺมึ าเน โลหิตํ สโมสรติ. เทวทตฺเตน ปฏิวิทฺธสิลาโต ภิชฺชิตฺวา คตา สกลิกาปิ ตถาคตสฺส ปาทนฺตํ ปหริ. ผรสุนา ปหโฏ วิย ปาโท อนฺโตโลหิโตเยว อโหสิ. ตถา กโรนฺตสฺส อานนฺตริยํ โหติ. ชีวโก ¶ ปน ตถาคตสฺส รุจิยา สตฺถเกน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ตมฺหา านา ทุฏฺโลหิตํ นีหริตฺวา ผาสุกมกาสิ. ตถา กโรนฺตสฺส ปฺุกมฺมเมว โหติ.
อถ เย จ ปรินิพฺพุเต ตถาคเต เจติยํ ภินฺทนฺติ, โพธึ ฉินฺทนฺติ, ธาตุมฺหิ อุปกฺกมนฺติ, เตสํ กึ โหตีติ? ภาริยํ กมฺมํ โหติ อานนฺตริยสทิสํ. สธาตุกํ ปน ถูปํ วา ปฏิมํ วา พาธยมานํ โพธิสาขฺจ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ ตตฺถ นิลีนา สกุณา เจติเย วจฺจํ ปาเตนฺติ, ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว. ปริโภคเจติยโต หิ สรีรเจติยํ มหนฺตตรํ. เจติยวตฺถุํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺตํ โพธิมูลมฺปิ ฉินฺทิตฺวา หริตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน โพธิสาขา โพธิฆรํ พาธติ, ตํ เคหรกฺขณตฺถํ ฉินฺทิตุํ น ลพฺภติ. โพธิอตฺถฺหิ เคหํ, น เคหตฺถาย โพธิ. อาสนฆเรปิ เอเสว นโย. ยสฺมึ ปน อาสนฆเร ธาตุ นิหิตา โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถาย โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. โพธิชคฺคนตฺถํ โอโชหรณสาขํ วา ปูติฏฺานํ วา ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว; สรีรปฏิชคฺคเน วิย ปฺุมฺปิ โหติ.
สงฺฆเภเท สีมฏฺกสงฺเฆ อสนฺนิปติเต วิสุํ ปริสํ คเหตฺวา กตโวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหสฺส กมฺมํ วา กโรนฺตสฺส อุทฺเทสํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส ¶ เภโท จ โหติ อานนฺตริยกมฺมฺจ. สมคฺคสฺาย ปน วฏฺฏติ. สมคฺคสฺาย หิ กโรนฺตสฺส เนว เภโท โหติ น อานนฺตริยกมฺมํ. ตถา นวโต อูนปริสายํ. สพฺพนฺติเมน ปน ปริจฺเฉเทน นวนฺนํ ชนานํ โย สงฺฆํ ภินฺทติ, ตสฺส อานนฺตริยกมฺมํ ¶ โหติ. อนุวตฺตกานํ อธมฺมวาทีนํ มหาสาวชฺชํ กมฺมํ; ธมฺมวาทิโน อนวชฺชา. ตตฺถ นวนฺนเมว สงฺฆเภเท อิทํ สุตฺตํ – ‘‘เอกโต, อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ สลากํ คาเหติ – ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิทํ คณฺหถ, อิทํ โรเจถา’ติ. เอวํ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑).
เอเตสุ จ ปน ปฺจสุ สงฺฆเภโท วจีกมฺมํ, เสสานิ กายกมฺมานีติ. เอวํ กมฺมโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ทฺวารโต’ติ สพฺพาเนว เจตานิ กายทฺวารโตปิ วจีทฺวารโตปิ สมุฏฺหนฺติ. ปุริมานิ ปเนตฺถ ¶ จตฺตาริ อาณตฺติกวิชฺชามยปโยควเสน วจีทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ กายทฺวารเมว ปูเรนฺติ. สงฺฆเภโท หตฺถมุทฺทาย เภทํ กโรนฺตสฺส กายทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ วจีทฺวารเมว ปูเรตีติ. เอวเมตฺถ ทฺวารโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘กปฺปฏฺิติยโต’ติ สงฺฆเภโทเยว เจตฺถ กปฺปฏฺิติโย. สณฺหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติ. สเจปิ หิ ‘สฺเว กปฺโป วินสฺสิสฺสตี’ติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวเยว มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจติ. เอวํ กรณํ ปน นตฺถิ. เสสานิ จตฺตาริ กมฺมานิ อานนฺตริยาเนว โหนฺติ, น กปฺปฏฺิติยานีติ. เอวเมตฺถ กปฺปฏฺิติยโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘ปากโต’ติ เยน จ ปฺจเปตานิ กมฺมานิ กตานิ โหนฺติ, ตสฺส สงฺฆเภโทเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ. เสสานิ ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวมาทีสุ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. สงฺฆเภทาภาเว โลหิตุปฺปาโท, ตทภาเว อรหนฺตฆาโต, ตทภาเว สเจ ปิตา ¶ สีลวา โหติ, มาตา ทุสฺสีลา โน วา ตถา สีลวตี, ปิตุฆาโต ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ. สเจ มาตา มาตุฆาโต. ทฺวีสุปิ สีเลน วา ทุสฺสีเลน วา สมาเนสุ มาตุฆาโตว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ; มาตา หิ ทุกฺกรการิณี พหูปการา จ ปุตฺตานนฺติ. เอวเมตฺถ ปากโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
‘สาธารณาทีหี’ติ ¶ ปุริมานิ จตฺตาริ สพฺเพสมฺปิ คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณานิ. สงฺฆเภโท ปน ‘‘น โข, อุปาลิ, ภิกฺขุนี สงฺฆํ ภินฺทติ, น สิกฺขมานา, น สามเณโร, น สามเณรี, น อุปาสโก, น อุปาสิกา สงฺฆํ ภินฺทติ. ภิกฺขุ โข, อุปาลิ, ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต สงฺฆํ ภินฺทตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๑) วจนโต วุตฺตปฺปการสฺส ภิกฺขุโนว โหติ, น อฺสฺส; ตสฺมา อสาธารโณ. อาทิสทฺเทน สพฺเพเปเต ทุกฺขเวทนาสหคตา โทสโมหสมฺปยุตฺตา จาติ เอวเมตฺถ สาธารณาทีหิปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
อฺํ สตฺถารนฺติ ‘อยํ เม สตฺถา สตฺถุกิจฺจํ กาตุํ สมตฺโถ’ติ ภวนฺตเรปิ อฺํ ติตฺถกรํ ‘อยํ เม สตฺถา’ติ เอวํ คณฺเหยฺย – เนตํ านํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. อฏฺมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺยาติ สพฺพมนฺทปฺโปิ สตฺตมํ ภวํ อติกฺกมิตฺวา อฏฺมํ นิพฺพตฺเตยฺย – เนตํ านํ วิชฺชติ ¶ . อุตฺตมโกฏิยา หิ สตฺตมํ ภวํ สนฺธาเยเวส ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ วุตฺโต. กึ ปน ตํ นิยาเมติ? กึ ปุพฺพเหตุ นิยาเมติ อุทาหุ ปฏิลทฺธมคฺโค อุทาหุ อุปริ ตโย มคฺคาติ? สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตํ นามมตฺตเมตํ. ปุคฺคโล ปน นิยโต นาม นตฺถิ. ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยาเมตี’’ติ วุตฺเต หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสโย วุตฺโต โหติ, ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสยาภาโว อาปชฺชติ. อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตึ ปาปุณาติ. ‘‘ปฏิลทฺธมคฺโค นิยาเมตี’’ติ วุตฺเต อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจกา โหนฺติ, ปมมคฺโคว สกิจฺจโก, ปมมคฺเคเนว กิเลเส เขเปตฺวา ปรินิพฺพายิตพฺพํ โหติ. ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยาเมนฺตี’’ติ วุตฺเต ปมมคฺโค อกิจฺจโก โหติ, อุปริ ตโย มคฺคาว สกิจฺจกา, ปมมคฺคํ อนิพฺพตฺเตตฺวา อุปริ ตโย มคฺคา นิพฺพตฺเตตพฺพา โหนฺติ, ปมมคฺเคน จ อนุปฺปชฺชิตฺวาว กิเลสา เขเปตพฺพา โหนฺติ. ตสฺมา น อฺโ โกจิ นิยาเมติ, อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาว นิยาเมติ. สเจ หิ เตสํ วิปสฺสนา ¶ ติกฺขา สูรา หุตฺวา วหติ, เอกํเยว ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ¶ ปรินิพฺพาติ. ตโต มนฺทตรปฺโ ทุติเย วา ตติเย วา จตุตฺเถ วา ปฺจเม วา ฉฏฺเ วา ภเว อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพาติ. สพฺพมนฺทปฺโ สตฺตมํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อฏฺเม ภเว ปฏิสนฺธิ น โหติ. อิติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตํ นามมตฺตเมตํ. สตฺถา หิ พุทฺธตุลาย ตุเลตฺวา สพฺพฺุตาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘อยํ ปุคฺคโล สพฺพมหาปฺโ ติกฺขวิปสฺสโก เอกเมว ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘เอกพีชี’ติ นามํ อกาสิ; ‘อยํ ปุคฺคโล ทุติยํ, ตติยํ, จตุตฺถํ, ปฺจมํ, ฉฏฺํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘โกลํโกโล’ติ นามํ อกาสิ; ‘อยํ ปุคฺคโล สตฺตมํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’ติ นามํ อกาสิ.
โกจิ ปน ปุคฺคโล สตฺตนฺนํ ภวานํ นิยโต นาม นตฺถิ. อริยสาวโก ปน เยน เกนจิปิ อากาเรน มนฺทปฺโ สมาโน อฏฺมํ ภวํ อปฺปตฺวา อนฺตราว ปรินิพฺพาติ. สกฺกสทิโสปิ วฏฺฏาภิรโต สตฺตมํเยว ภวํ คจฺฉติ. สตฺตเม ภเว สพฺพกาเรน ปมาทวิหาริโนปิ วิปสฺสนาาณํ ปริปากํ คจฺฉติ. อปฺปมตฺตเกปิ อารมฺมเณ นิพฺพินฺทิตฺวา นิพฺพุตึ ปาปุณาติ. สเจปิ หิสฺส สตฺตเม ภเว นิทฺทํ วา โอกฺกมนฺตสฺส, ปรมฺมุขํ วา คจฺฉนฺตสฺส, ปจฺฉโต ตฺวา ติขิเณน อสินา โกจิเทว สีสํ ปาเตยฺย, อุทเก วา โอสาเทตฺวา มาเรยฺย, อสนิ วา ปนสฺส สีเส ปเตยฺย, เอวรูเปปิ กาเล สปฺปฏิสนฺธิกา กาลํกิริยา ¶ นาม น โหติ, อรหตฺตํ ปตฺวาว ปรินิพฺพาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฏฺมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺย – เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.
เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. ตีณิ หิ เขตฺตานิ – ชาติเขตฺตํ, อาณาเขตฺตํ, วิสยกฺเขตฺตนฺติ. ตตฺถ ‘ชาติกฺเขตฺตํ’ นาม ทสสหสฺสิโลกธาตุ. สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนกาเล, นิกฺขมนกาเล, สมฺโพธิกาเล, ธมฺมจกฺกปวตฺตเน, อายุสงฺขารโวสฺสชฺชเน, ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติ. โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน ‘อาณาเขตฺตํ’ นาม. อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนฺหิ ¶ เอตฺถ อาณา วตฺตติ. ‘วิสยเขตฺตสฺส’ ปน ปริมาณํ นตฺถิ. พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ ตาวตกํ เยฺยํ, ยาวตกํ เยฺยํ ตาวตกํ าณํ ¶ , าณปริยนฺติกํ เยฺยํ, เยฺยปริยนฺติกํ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ.
อิเมสุ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ, เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ, อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. ตีณิ ปิฏกานิ – วินยปิฏกํ, สุตฺตนฺตปิฏกํ, อภิธมฺมปิฏกนฺติ. ติสฺโส สงฺคีติโย – มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติ. อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อิมํ จกฺกวาฬํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา; เอกโต นุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก ‘‘โพธึ อปฺปตฺวา น อุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ ตาว ปุพฺเพนฺติ น เวทิตพฺพํ. โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว ชาติกฺเขตฺตปริคฺคโห กโต, อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตา โหติ. ปรินิพฺพานโต ปฏฺาย จ ยาว สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย ติฏฺนฺติ ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํ. ธาตูสุ หิ ิตาสุ พุทฺธา ิตาว โหนฺติ. ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ, ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
ตีณิ ¶ หิ อนฺตรธานานิ นาม – ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ ‘ปริยตฺตี’ติ ตีณิ ปิฏกานิ; ‘ปฏิเวโธ’ติ สจฺจปฏิเวโธ; ‘ปฏิปตฺตี’ติ ปฏิปทา. ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ปฏิเวธกรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ; ‘เอส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโน’ติ องฺคุลึ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติ. อิมสฺมึเยว ทีเป เอกวารํ กิร ปุถุชฺชนภิกฺขุ ¶ นาม นาโหสิ. ปฏิปตฺติปูรกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ, กทาจิ อปฺปา. อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ.
สาสนฏฺิติยา ปน ปริยตฺติเยว ปมาณํ. ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปฺจาภิฺา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส ‘น ชานามี’ติ อาห; ตโต อุทกสฺส ¶ สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตวิเสสํ สํสนฺเทตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ; โส อาจิกฺขิ; ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ สมฺปาเทสิ; เอวเมว ปฺวา ภิกฺขุ ปริยตฺตึ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ตสฺมา ปริยตฺติยา ิตาย สาสนํ ิตํ โหติ. ยทา ปน สา อนฺตรธายติ ตทา ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติ. ตตฺถ ปฏฺานํ สพฺพปมํ อนฺตรธายติ. อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโห. ตสฺมึ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ิเตสุ สาสนํ ิตเมว โหติ.
ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติ. เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ คจฺฉติ; สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ สภิยปุจฺฉา (สุ. นิ. ๕๑๕ อาทโย) วิย อาฬวกปุจฺฉา (สุ. นิ. ๑๘๓ อาทโย; สํ. นิ. ๑.๒๔๖) วิย จ. เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขึสุ.
ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ิเต สาสนํ ติฏฺติ. ปริวารขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ิเต ิตเมว โหติ. อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกาย ¶ ิตายปิ ิตเมว โหติ. มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาสุ ิตาสุ สาสนํ ติฏฺติ. ลิงฺคํ อทฺธานํ คจฺฉติ. เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต จ ปฏฺาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ. ตโต ปฏฺาย อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น วาริตา.
ตีณิ ¶ ปรินิพฺพานานิ นาม – กิเลสปรินิพฺพานํ, ขนฺธปรินิพฺพานํ, ธาตุปรินิพฺพานนฺติ. ตตฺถ ‘กิเลสปรินิพฺพานํ’ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ, ‘ขนฺธปรินิพฺพานํ’ กุสินารายํ, ‘ธาตุปรินิพฺพานํ’ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล ¶ อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ, มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ, ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ. นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ ธาตุ น อนฺตรา นสฺสิสฺสติ. สพฺพา ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรํสิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ. ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริสฺสนฺติ. ตโต ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพาติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การฺุํ กริสฺสนฺติ. เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา สกภาเวน สนฺธาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ. สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลาว ภวิสฺสติ; ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ ปจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ. ยาว เอวํ น อนฺตรธายติ ตาว อจริมํ นาม โหติ. เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ – เนตํ านํ วิชฺชติ.
กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ? อนจฺฉริยตฺตา. พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา, ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๒). ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น อจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เอกสฺมิฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ, ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ; ตสฺมา นุปฺปชฺชนฺติ. เทสนาย ¶ ¶ จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ, อฺเน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยา. ตโต อนจฺฉริโย สิยา. เอกสฺมึ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติ. วิวาทภาวโต จ. พหูสุ จ พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย ‘อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปฺุวา’ติ วิวเทยฺยุํ; ตสฺมาปิ เอวํ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปิเจตํ ¶ การณํ มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (มิ. ป. ๕.๑.๑) –
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ – เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๗๗; ม. นิ. ๓.๑๒๙). เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกานุสิฏฺิ, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต. ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโส มตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย. โอวทนฺตา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ. ตตฺถ เม การณํ ทสฺเสหิ ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติ.
‘‘อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ. ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย, เอกสฺมึ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา ¶ นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ¶ ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน. โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย. อปินุ สา, มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเก’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ. ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย…เป… น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาวกณฺมภิปูรยิตฺวา. โส ตโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทีคโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ภฺุเชยฺย. อปินุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยา’’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี…เป… น านมุปคจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาวสฺมา มุขสมา. เอก สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกมฺหิ สกเฏ อากิเรยฺยุํ. อปินุ ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส จเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘กินฺนุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ.
‘‘อปิจ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ. อฺมฺปิ ตตฺถ ปติรูปํ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ, อมฺหากํ ¶ อมจฺโจ’ติ อุภโตปกฺขชาตา โหนฺติ; เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ ¶ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ¶ – ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. อิทํ ตาว มหาราช เอกํ การณํ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เชฏฺโ พุทฺโธ’ติ ‘เสฏฺโ พุทฺโธ’ติ ‘วิสิฏฺโ พุทฺโธ’ติ ‘อุตฺตโม พุทฺโธ’ติ ‘ปวโร พุทฺโธ’ติ ‘อสโม พุทฺโธ’ติ ‘อสมสโม พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิสโม พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิภาคี พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ ตถโต สมฺปฏิจฺฉ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปิจ, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตฺตา สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ. อฺมฺปิ, มหาราช, ยํ โลเก มหนฺตํ ตํ เอกํเยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตา, สา เอกาเยว; สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว; สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว; อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว; สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว; มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว; ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ ตตฺถ อฺเสํ โอกาโส น โหติ. ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหี’’ติ (มิ. ป. ๕.๑.๑).
เอกิสฺสา ¶ โลกธาตุยาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ. เหฏฺา อิมินาว ปเทน ทส จกฺกวาฬสหสฺสานิ คหิตานิ. ตานิปิ เอกจกฺกวาเฬเนว ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏนฺติ. พุทฺธา หิ อุปฺปชฺชมานา อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ อุปฺปชฺชนฺติ; อุปฺปชฺชนฏฺาเน ปน วาริเต อิโต อฺเสุ จกฺกวาเฬสุ ¶ น อุปฺปชฺชนฺตีติ วาริตเมว โหติ. อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอตฺถ จกฺกรตนปาตุภาวโต ปุพฺเพ ปุพฺพํ, ตสฺเสว อนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํ. ตตฺถ ทฺวิธา จกฺกรตนสฺส อนฺตรธานํ โหติ – จกฺกวตฺติโน กาลกิริยาย วา ปพฺพชฺชาย วา. อนฺตรธายมานฺจ ปน ตํ กาลกิริยโต วา ปพฺพชฺชโต วา สตฺตเม ¶ ทิวเส อนฺตรธายติ. ตโต ปรํ จกฺกวตฺติโน ปาตุภาโว อวาริโต. กสฺมา ปน เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว จกฺกวตฺติโน นุปฺปชฺชนฺตีติ? วิวาทุปจฺเฉทโต อนจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ. ทฺวีสุ หิ อุปฺปชฺชนฺเตสุ ‘อมฺหากํ ราชา มหนฺโต, อมฺหากํ ราชา มหนฺโต’ติ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย. ‘เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตี, เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตี’ติ จ อนจฺฉริโย ภเวยฺย. โย จายํ จกฺกรตนสฺส ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อิสฺสริยานุปฺปทานสมตฺโถ มหานุภาโว, โส ปริหาเยยฺย. อิติ วิวาทุปจฺเฉทโต อนจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ น เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว อุปฺปชฺชนฺติ.
ยํ อิตฺโถ อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ ติฏฺตุ ตาว สพฺพฺุคุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา โลกตฺตารณสมตฺโถ พุทฺธภาโว, ปณิธานมตฺตมฺปิ อิตฺถิยา น สมฺปชฺชติ.
‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;
ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;
อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙);
อิมานิ หิ ปณิธานสมฺปตฺติการณานิ. อิติ ปณิธานมฺปิ สมฺปาเทตุํ อสมตฺถาย อิตฺถิยา กุโต พุทฺธภาโวติ ‘‘อฏฺานเมตํ, อนวกาโส ยํ อิตฺถี อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ. สพฺพาการปริปูโร วา ปฺุุสฺสโย สพฺพาการปริปูรเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุริโสว อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
ยํ ¶ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตีติอาทีสุปิ ยสฺมา อิตฺถิยา โกโสหิตวตฺถคุยฺหาทีนํ อภาเวน ลกฺขณานิ น ปริปูเรนฺติ, อิตฺถิรตนภาเวน สตฺตรตนสมงฺคิตา น สมฺปชฺชติ, สพฺพมนุสฺเสหิ จ อธิโก อตฺตภาโว น โหติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ สกฺกตฺตาทีนิปิ ตีณิ านานิ อุตฺตมานิ, อิตฺถิลิงฺคฺจ หีนํ ¶ , ตสฺมา ตสฺสา สกฺกตฺตาทีนิปิ ปฏิสิทฺธานิ. นนุ จ ยถา อิตฺถิลิงฺคํ เอวํ ปุริสลิงฺคมฺปิ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ยํ ปุริโส พฺรหฺมตฺตํ กาเรยฺย – านเมตํ วิชฺชตี’’ติปิ น วตฺตพฺพํ สิยาติ? โน น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อิธ ปุริสสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตนโต. พฺรหฺมตฺตนฺติ หิ มหาพฺรหฺมตฺตํ อธิปฺเปตํ. อิตฺถี จ อิธ ฌานํ ภาเวตฺวา ¶ กาลํ กตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺชานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ, น มหาพฺรหฺมานํ. ปุริโส ปน ตตฺถ น อุปฺปชฺชตีติ น วตฺตพฺโพ. สมาเนปิ เจตฺถ อุภยลิงฺคาภาเว ปุริสสณฺานาว พฺรหฺมาโน, น อิตฺถิสณฺานา. ตสฺมา สุวุตฺตเมเวตํ.
กายทุจฺจริตสฺสาติอาทีสุ ยถา นิมฺพพีชโกสาตกีพีชาทีนิ มธุรํ ผลํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อสาตํ อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ, เอวํ กายทุจฺจริตาทีนิ มธุรํ วิปากํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ. ยถา จ อุจฺฉุพีชสาลิพีชาทีนิ มธุรํ สาธุรสเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อสาตํ กฏุกํ, เอวํ กายสุจริตาทีนิ มธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อมธุรํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกนฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๖);
ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ กายทุจฺจริตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทีสุ สมงฺคีติ ปฺจวิธา สมงฺคิตา – อายูหนสมงฺคิตา, เจตนาสมงฺคิตา, กมฺมสมงฺคิตา, วิปากสมงฺคิตา, อุปฏฺานสมงฺคิตาติ. ตตฺถ กุสลากุสลกมฺมายูหนกฺขเณ ‘อายูหนสมงฺคิตา’ วุจฺจติ. ตถา ‘เจตนาสมงฺคิตา’. ยาว ปน อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ ตาว สพฺเพปิ สตฺตา ปุพฺเพ อุปจิตํ วิปาการหํ กมฺมํ สนฺธาย กมฺมสมงฺคิโนติ วุจฺจนฺติ – เอสา ‘กมฺมสมงฺคิตา’. ‘วิปากสมงฺคิตา’ ปน วิปากกฺขเณเยว เวทิตพฺพา. ยาว ปน สตฺตา อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ ตาว เตสํ ¶ ตโต ตโต จวิตฺวา นิรเย ตาว อุปฺปชฺชมานานํ อคฺคิชาลโลหกุมฺภีอาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ นิรโย, คพฺภเสยฺยกตฺตํ อาปชฺชมานานํ มาตุกุจฺฉิ, เทเวสุ อุปฺปชฺชมานานํ กปฺปรุกฺขวิมานาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ เทวโลโกติ ¶ เอวํ อุปปตฺตินิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. อิติ เนสํ อิมินา อุปฺปตฺตินิมิตฺตูปฏฺาเนน อปริมุตฺตตฺตา ‘อุปฏฺานสมงฺคิตา’ นาม. สาว จลติ, เสสา นิจฺจลา. นิรเย หิ อุปฏฺิเตปิ เทวโลโก อุปฏฺาติ; เทวโลเก อุปฏฺิเตปิ นิรโย อุปฏฺาติ; มนุสฺสโลเก อุปฏฺิเตปิ ติรจฺฉานโยนิ อุปฏฺาติ; ติรจฺฉานโยนิยา จ อุปฏฺิตายปิ มนุสฺสโลโก อุปฏฺาติเยว.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – โสณคิริปาเท กิร อเจลวิหาเร โสณตฺเถโร นาม เอโก ธมฺมกถิโก. ตสฺส ปิตา สุนขวาชิโก นาม ลุทฺทโก อโหสิ. เถโร ตํ ปฏิพาหนฺโตปิ สํวเร เปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘มา นสฺสิ วราโก’ติ มหลฺลกกาเล อกามกํ ปพฺพาเชสิ. ตสฺส คิลานเสยฺยาย นิปนฺนสฺส นิรโย อุปฏฺาสิ. โสณคิริปาทโต มหนฺตา มหนฺตา สุนขา อาคนฺตฺวา ขาทิตุกามา วิย สมฺปริวาเรสุํ. โส มหาภยภีโต ‘‘วาเรหิ, ตาต โสณ! วาเรหิ, ตาต โสณา’’ติ อาห. ‘‘กึ มหาเถรา’’ติ? ‘‘น ปสฺสสิ, ตาตา’’ติ ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. โสณตฺเถโร ‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส ปิตา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, ปติฏฺาหมสฺส ภวิสฺสามี’ติ สามเณเรหิ นานาปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ มาลาสนฺถารปูชฺจ อาสนปูชฺจ กาเรตฺวา ปิตรํ มฺเจน เจติยงฺคณํ หริตฺวา มฺเจ นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘อยํ เม, มหาเถร, ปูชา ตุมฺหากํ อตฺถาย กตา; ‘อยํ เม, ภควา, ทุคฺคตปณฺณากาโร’ติ วตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหี’’ติ อาห. โส มหาเถโร ปูชํ ทิสฺวา ตถากโรนฺโต จิตฺตํ ปสาเทสิ. ตาวเทวสฺส เทวโลโก อุปฏฺาสิ, นนฺทวนจิตฺตลตาวนมิสฺสกวนผารุสกวนวิมานานิ เจว เทวนาฏกานิ จ ปริวาเรตฺวา ิตานิ วิย อเหสุํ. โส ‘‘อเปถ, โสณ! อเปถ, โสณา’’ติ อาห. ‘‘กิมิทํ, มหาเถรา’’ติ? ‘‘เอตา เต, ตาต, มาตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติ. ‘เถโร สคฺโค อุปฏฺิโต มหาเถรสฺสา’ติ จินฺเตสิ ¶ . เอวํ อุปฏฺานสมงฺคิตา จลตีติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ สมงฺคิตาสุ อิธ อายูหนเจตนากมฺมสมงฺคิตาวเสน ‘‘กายทุจฺจริตสมงฺคี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา.
ทุติยพลนิทฺเทโส
๘๑๐. ทุติยพลนิทฺเทเส ¶ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานีติ คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ นิวาริตานิ ปฏิเสธิตานิ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ คติสมฺปตฺตีติ สมฺปนฺนา คติ เทวโลโก จ มนุสฺสโลโก จ. คติวิปตฺตีติ วิปนฺนา คติ จตฺตาโร อปายา. อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวสมิทฺธิ. อุปธิวิปตฺตีติ หีนอตฺตภาวตา. กาลสมฺปตฺตีติ สุราชสุมนุสฺสกาลสงฺขาโต ¶ สมฺปนฺนกาโล. กาลวิปตฺตีติ ทุราชทุมนุสฺสกาลสงฺขาโต วิปนฺนกาโล. ปโยคสมฺปตฺตีติ สมฺมาปโยโค. ปโยควิปตฺตีติ มิจฺฉาปโยโค.
ตตฺถ เอกจฺจสฺส พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ คติวิปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน คติสมฺปตฺติยํ เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา นิพฺพตฺโต. ตาทิเส จ าเน อกุสลสฺส วาโร นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสว วาโรติ. เอวมสฺส ตานิ กมฺมานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ อุปธิวิปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน อุปธิสมฺปตฺติยํ ิโต สุสณฺิตงฺคปจฺจงฺโค อภิรูโป ทสฺสนีโย พฺรหฺมวจฺฉสทิโส. สเจปิ ทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ ทาสชาโต โหติ ‘เอวรูโป อตฺตภาโว กิลิฏฺกมฺมสฺส นานุจฺฉวิโก’ติ หตฺถิเมณฺฑอสฺสพนฺธกโคปาลกกมฺมาทีนิ ตํ น กาเรนฺติ; สุขุมวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ภณฺฑาคาริกฏฺานาทีสุ เปนฺติ. สเจ อิตฺถี โหติ, หตฺถิภตฺตปจนาทีนิ น กาเรนฺติ; วตฺถาลงฺการํ ทตฺวา สยนปาลิกํ วา นํ กโรนฺติ, โสมเทวิ วิย วลฺลภฏฺาเน วา เปนฺติ. ภาติกราชกาเล กิร โคมํสขาทเก พหุชเน คเหตฺวา รฺโ ¶ ทสฺเสสุํ. เต ‘ทณฺฑํ ทาตุํ สกฺโกถา’ติ ปุฏฺา ‘น สกฺโกมา’ติ วทึสุ. อถ เน ราชงฺคเณ โสธเก อกํสุ. เตสํ เอกา ธีตา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา. ตํ ทิสฺวา ราชา อนฺเตปุรํ อภิเนตฺวา วลฺลภฏฺาเน เปสิ. เสสาตกาปิ ตสฺสา อานุภาเวน สุขํ ชีวึสุ. ตาทิสสฺมิฺหิ อตฺตภาเว ปาปกมฺมานิปิ วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกนฺติ. เอวํ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
เอกสฺส พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ กาลวิปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน ¶ เอเกน กลฺยาณกมฺเมน ปมกปฺปิกานํ วา จกฺกวตฺติรฺโ วา พุทฺธานํ วา อุปฺปตฺติสมเย สุราชสุมนุสฺสกาเล นิพฺพตฺโต. ตาทิเส จ กาเล นิพฺพตฺตสฺส อกุสลสฺส วิปากํ ทาตุํ โอกาโส นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสว โอกาโสติ. เอวํ กาลสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ ปโยควิปตฺติยํ ¶ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน ปโยคสมฺปตฺติยํ ิโต ปาณาติปาตาทีหิ วิรโต กายวจีมโนสุจริตานิ ปูเรติ. ตาทิเส าเน อกุสลสฺส วิปจฺจโนกาโส นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสว โอกาโสติ. เอวํ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ คติสมฺปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปเนเกน ปาปกมฺเมน คติวิปตฺติยํเยว นิพฺพตฺโต. ตตฺถสฺส ตานิ กมฺมานิ อุปคนฺตฺวา วาเรน วาเรน วิปากํ เทนฺติ – กาเลน นิรเย นิพฺพตฺตาเปนฺติ, กาเลน ติรจฺฉานโยนิยํ, กาเลน เปตฺติวิสเย, กาเลน อสุรกาเย, ทีเฆนาปิ อทฺธุนา อปายโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทนฺติ. เอวํ คติสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ คติวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ อุปธิสมฺปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ ¶ . โส ปน เอเกน ปาปกมฺเมน อุปธิวิปตฺติยํเยว ปติฏฺิโต ทุพฺพณฺโณ ทุรูโป ทุสฺสณฺิโต พีภจฺโฉ ปิสาจสทิโส. โส สเจ ทาสิยา กุจฺฉิยํ ทาสชาโต ‘อิมานิ เอตสฺส อนุจฺฉวิกานี’ติ สพฺพานิ นํ กิลิฏฺกมฺมานิ ¶ กาเรนฺติ อนฺตมโส ปุปฺผฉฑฺฑกกมฺมํ อุปาทาย. สเจ อิตฺถี โหติ ‘อิมานิ เอติสฺสา อนุจฺฉวิกานี’ติ สพฺพานิ นํ หตฺถิภตฺตปจนาทีนิ กิลิฏฺกมฺมานิ กาเรนฺติ. กุลเคเห ชาตมฺปิ พลึ สาธยมานา ราชปุริสา ‘เคหทาสี’ติ สฺํ กตฺวา พนฺธิตฺวา คจฺฉนฺติ, โกตลวาปีคาเม มหากุฏุมฺพิกสฺส ฆรณี วิย. เอวํ อุปธิสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ อุปธิวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ กาลสมฺปตฺติยํ นิพฺพาตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน ปาปกมฺเมน กาลวิปตฺติยํ ทุราชทุมนุสฺสกาเล กสเฏ นิโรเช ทสวสฺสายุกกาเล นิพฺพตฺโต, ยทา ปฺจ โครสา ปจฺฉิชฺชนฺติ, กุทฺรูสกํ อคฺคโภชนํ โหติ. กิฺจาปิ มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺโต, มิคปสุสริกฺขชีวิโก ปน โหติ. เอวรูเป กาเล กุสลสฺส วิปจฺจโนกาโส นตฺถิ, เอกนฺตํ อกุสลสฺเสว โหติ. เอวํ กาลสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ¶ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ ปโยคสมฺปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน ปโยควิปตฺติยํ ิโต ปาณาติปาตาทีนิ ทส อกุสลกมฺมานิ กโรติ. ตเมนํ สโหฑฺฒํ คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสนฺติ. ราชา พหูกมฺมการณานิ กาเรตฺวา ฆาตาเปติ. เอวํ ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ. เอวํ จตูหิ สมฺปตฺตีหิ ปฏิพาหิตํ ปาปกมฺมํ วิปากํ อทตฺวา จตสฺโส วิปตฺติโย อาคมฺม เทติ.
ยถา หิ โกจิเทว ปุริโส เกนจิเทว กมฺเมน ราชานํ อาราเธยฺย. อถสฺส ราชา านนฺตรํ ทตฺวา ชนปทํ ทเทยฺย. โส ตํ สมฺมา ปริภฺุชิตุํ อสกฺโกนฺโต มกฺกเฏน คหิตภตฺตปุฏํ วิย ภินฺเทยฺย; ยสฺส ยํ ยานํ วา วาหนํ วา ทาสํ วา ทาสึ วา อารามํ วา วตฺถุํ วา สมฺปนฺนรูปํ ปสฺสติ, สพฺพํ พลกฺกาเรน คณฺเหยฺย. มนุสฺสา ‘ราชวลฺลโภ’ติ กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺกุเณยฺยุํ. โส อฺสฺส วลฺลภตรสฺส ราชมหามตฺตสฺส วิรุชฺเฌยฺย. โส ตํ คเหตฺวา สุโปถิตํ โปถาเปตฺวา ภูมึ ปิฏฺิยา ฆํสาเปนฺโต นิกฺกฑฺฒาเปตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘อสุโก นาม เต ¶ , เทว, ชนปทํ ภินฺทตี’ติ คณฺหาเปยฺย. ราชา พนฺธนาคาเร พนฺธาเปตฺวา ‘อสุเกน นาม กสฺส กึ อวหฏ’นฺติ นคเร เภรึ จราเปยฺย. มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ‘มยฺหํ อิทํ คหิตํ, มยฺหํ อิทํ คหิต’นฺติ วิรวสหสฺสํ อุฏฺาเปยฺยุํ. ราชา ภิยฺโยโส มตฺตาย กุทฺโธ นานปฺปกาเรน ตํ พนฺธนาคาเร กิลเมตฺวา ฆาตาเปตฺวา ‘คจฺฉถ นํ สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวา สงฺขลิกา อาหรถา’ติ วเทยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ตสฺส หิ ปุริสสฺส หิ เกนจิเทว กมฺเมน ราชานํ อาราเธตฺวา านนฺตรํ ลทฺธกาโล วิย ปุถุชฺชนสฺสาปิ เกนจิเทว ปฺุกมฺเมน สคฺเค นิพฺพตฺตกาโล. ตสฺมึ ชนปทํ ภินฺทิตฺวา มนุสฺสานํ สนฺตกํ คณฺหนฺเต กสฺสจิ กิฺจิ วตฺตุํ อวิสหนกาโล วิย อิมสฺมิมฺปิ สคฺเค นิพฺพตฺเต ¶ อกุสลสฺส วิปจฺจโนกาสํ อลภนกาโล. ตสฺส เอกทิวสํ เอกสฺมึ ราชวลฺลภตเร ¶ วิรชฺฌิตฺวา เตน กุทฺเธน นํ โปถาเปตฺวา รฺโ อาโรเจตฺวา พนฺธนาคาเร พนฺธาปิตกาโล วิย อิมสฺส สคฺคโต จวิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตกาโล. มนุสฺสานํ ‘มยฺหํ อิทํ คหิตํ, มยฺหํ อิทํ คหิต’นฺติ วิรวกาโล วิย ตสฺมึ นิรเย นิพฺพตฺเต สพฺพากุสลกมฺมานํ สนฺนิปติตฺวา คหณกาโล. สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวา สงฺขลิกานํ อาหรณกาโล วิย เอเกกสฺมึ กมฺเม ขีเณ อิตรสฺส อิตรสฺส วิปาเกน นิรยโต สีสํ อนุกฺขิปิตฺวา สกลกปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจนกาโล. กปฺปฏฺิติกกมฺมฺหิ กตฺวา เอกกปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจนกสตฺตา เนว เอโก, น ทฺเว, น สตํ, น สหสฺสํ. เอวํ ปจฺจนกสตฺตา กิร คณนปถํ วีติวตฺตา.
อตฺเถกจฺจานิ กลฺยาณานิ กมฺมสมาทานานิ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติอาทีสุปิ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิเธกจฺจสฺส พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ คติสมฺปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยุํ. โส ปน เอเกน ปาปกมฺเมน คติวิปตฺติยํ นิรเย วา อสุรกาเย วา นิพฺพตฺโต. ตาทิเส จ าเน กุสลํ วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกติ, เอกนฺตํ อกุสลเมว สกฺโกตีติ. เอวมสฺส ตานิ กมฺมานิ คติวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ อุปธิสมฺปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน ปาปกมฺเมน อุปธิวิปตฺติยํ ปติฏฺิโต ทุพฺพณฺโณ โหติ ปิสาจสทิโส. โส สเจปิ ราชกุเล นิพฺพตฺโต ปิตุอจฺจเยน ¶ ‘กึ อิมสฺส นิสฺสิรีกสฺส รชฺเชนา’ติ รชฺชํ น ลภติ. เสนาปติเคหาทีสุ นิพฺพตฺโตปิ เสนาปติฏฺานาทีนิ น ลภติ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺสาวิภาวตฺถํ ทีปราชวตฺถุ กเถตพฺพํ – ราชา กิร ปุตฺเต ชาเต เทวิยา ปสีทิตฺวา วรํ อทาสิ. สา วรํ คเหตฺวา เปสิ. กุมาโร สตฺตฏฺวสฺสกาเลว ราชงฺคเณ กุกฺกุเฏ ยุชฺฌาเปสิ. เอโก กุกฺกุโฏ อุปฺปติตฺวา กุมารสฺส อกฺขีนิ ภินฺทิ. กุมารมาตา เทวี ปุตฺตสฺส ปนฺนรสโสฬสวสฺสกาเล ‘รชฺชํ วาเรสฺสามี’ติ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ กุมารสฺส ชาตกาเล วโร ทินฺโน. มยา โส คเหตฺวา ปิโต; อิทานิ นํ คณฺหามี’’ติ. ‘‘สาธุ, เทวิ, คณฺหาหี’’ติ. ‘‘มยา, เทว, ตุมฺหากํ สนฺติกา กิฺจิ อลทฺธํ นาม นตฺถิ ¶ . อิทานิ ปน มม ปุตฺตสฺส รชฺชํ วาเรมี’’ติ. ‘‘เทวิ, ตว ปุตฺโต องฺควิกโล. น สกฺกา ตสฺส รชฺชํ ทาตุ’’นฺติ ¶ . ‘‘ตุมฺเห มยฺหํ รุจฺจนกวรํ อทาตุํ อสกฺโกนฺตา กสฺมา วรํ อทตฺถา’’ติ? ราชา อติวิย นิปฺปีฬิยมาโน ‘‘น สกฺกา ตุยฺหํ ปุตฺตสฺส สกลลงฺกาทีเป รชฺชํ ทาตุํ; นาคทีเป ปน ฉตฺตํ อสฺสาเปตฺวา วสตู’’ติ นาคทีปํ เปเสสิ. โส ทีปราชา นาม อโหสิ. สเจ จกฺขุวิกโล นาภวิสฺสา ติโยชนสติเก สกลตมฺพปณฺณิทีเป สพฺพสมฺปตฺติปริวารํ รชฺชํ อลภิสฺสา. เอวํ อุปธิวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ กาลสมฺปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน ปาปกมฺเมน กาลวิปตฺติยํ ทุราชทุมนุสฺสกาเล กสเฏ นิโรเช อปฺปายุเก คติโกฏิเก นิพฺพตฺโต. ตาทิเส จ กาเล กลฺยาณกมฺมํ วิปากํ ทาตุํ น สกฺโกตีติ. เอวํ กาลวิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ ปโยคสมฺปตฺติยํ ิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํ. อยํ ปน ปโยควิปตฺติยํ ิโต ปาณํ หนฺติ…เป… สพฺพํ ทุสฺสีลฺยํ ปูเรติ. ตถา เตน สทฺธึ สมชาติกานิปิ กุลานิ อาวาหวิวาหํ น กโรนฺติ; ‘อิตฺถิธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต อยํ ปาปปุริโส’ติ อารกา ปริวชฺเชนฺติ. กลฺยาณกมฺมานิ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. เอวํ ปโยควิปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ. เอวํ จตสฺโส สมฺปตฺติโย ¶ อาคมฺม วิปากทายกํ กลฺยาณกมฺมํ จตูหิ วิปตฺตีหิ ปฏิพาหิตตฺตา น วิปจฺจติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ คติวิปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน คติสมฺปตฺติยํเยว นิพฺพตฺโต. ตตฺถสฺส ตานิ กมฺมานิ อุปคนฺตฺวา วาเรน วาเรน วิปากํ เทนฺติ – กาเลน มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตาเปนฺติ, กาเลน เทวโลเก. เอวํ คติวิปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ คติมมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ อุปธิวิปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน ¶ อุปธิสมฺปตฺติยํเยว ปติฏฺิโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก พฺรหฺมวจฺฉสทิโส. ตสฺส อุปธิสมฺปตฺติยํ ิตตฺตา กลฺยาณกมฺมานิ วิปากํ เทนฺติ. สเจ ราชกุเล นิพฺพตฺตติ อฺเสุ เชฏฺกภาติเกสุ สนฺเตสุปิ ‘เอตสฺส อตฺตภาโว ¶ สมิทฺโธ, เอตสฺส ฉตฺเต อุสฺสาปิเต โลกสฺส ผาสุ ภวิสฺสตี’ติ ตเมว รชฺเช อภิสิฺจนฺติ. อุปราชเคหาทีสุ นิพฺพตฺโต ปิตุอจฺจเยน โอปรชฺชํ, เสนาปติฏฺานํ, ภณฺฑาคาริกฏฺานํ, เสฏฺิฏฺานํ ลภติ. เอวํ อุปธิวิปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ กาลวิปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน กาลสมฺปตฺติยํ นิพฺพตฺโต สุราชสุมนุสฺสกาเล. ตาทิสาย กาลสมิทฺธิยา นิพฺพตฺตสฺส กลฺยาณกมฺมํ วิปากํ เทติ.
ตตฺริทํ มหาโสณตฺเถรสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ – พฺราหฺมณติสฺสภเย กิร จิตฺตลปพฺพเต ทฺวาทส ภิกฺขุสหสฺสานึ ปฏิวสนฺติ. ตถา ติสฺสมหาวิหาเร. ทฺวีสุปิ มหาวิหาเรสุ ติณฺณํ วสฺสานํ วฏฺฏํ เอกรตฺตเมว มหามูสิกาโย ขาทิตฺวา ถุสมตฺตเมว เปสุํ. จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุสงฺโฆ ‘ติสฺสมหาวิหาเร วฏฺฏํ วตฺติสฺสติ, ตตฺถ คนฺตฺวา วสิสฺสามา’ติ วิหารโต นิกฺขมิ. ติสฺสมหาวิหาเรปิ ภิกฺขุสงฺโฆ ‘จิตฺตลปพฺพเต วฏฺฏํ วตฺติสฺสติ, ตตฺถ คนฺตฺวา วสิสฺสามา’ติ วิหารโต นิกฺขมิ. อุภโตปิ ¶ เอกิสฺสา คมฺภีรกนฺทราย ตีเร สมาคตา ปุจฺฉิตฺวา วฏฺฏสฺส ขีณภาวํ ตฺวา ‘ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามา’ติ จตุวีสติ ภิกฺขุสหสฺสานิ คมฺภีรกนฺทรวนํ ปวิสิตฺวา นิสีทิตฺวา นิสินฺนนีหาเรเนว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายึสุ. ปจฺฉา ภเย วูปสนฺเต ภิกฺขุสงฺโฆ สกฺกํ เทวราชานํ คเหตฺวา ธาตุโย สํหริตฺวา เจติยํ อกาสิ.
พฺราหฺมณติสฺสโจโรปิ ชนปทํ วิทฺธํเสสิ. สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา มนฺเตตฺวา ‘‘โจรํ ปฏิพาหตู’’ติ สกฺกสนฺติกํ อฏฺ เถเร เปเสสิ. สกฺโก เทวราชา ‘‘มยา, ภนฺเต, อุปฺปนฺโน โจโร น ¶ สกฺกา ปฏิพาหิตุํ. สงฺโฆ ปรสมุทฺทํ คจฺฉตุ. อหํ สมุทฺทารกฺขํ กริสฺสามี’’ติ. สงฺโฆ สพฺพทิสาหิ นาคทีปํ คนฺตฺวา ชมฺพุโกลปฏฺฏเน ติภูมิกํ มหาอุฬุมฺปํ พนฺธาเปสิ. เอกา ภูมิกา อุทเก โอสีทิ. เอกิสฺสา ภิกฺขุสงฺโฆ นิสินฺโน. เอกิสฺสา ปตฺตจีวรานิ ปยึสุ. สํยุตฺตภาณกจูฬสีวตฺเถโร, อิสิทตฺตตฺเถโร, มหาโสณตฺเถโรติ ตโย เถรา ตาสํ ปริสานํ ปาโมกฺขา. เตสุ ทฺเว เถรา มหาโสณตฺเถรํ อาหํสุ – ‘‘อาวุโส มหาโสณ, อภิรุห มหาอุฬุมฺป’’นฺติ. ‘‘ตุมฺเห ปน, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อาวุโส, อุทเก มรณมฺปิ ถเล มรณมฺปิ เอกเมว ¶ . น มยํ คมิสฺสาม. ตํ นิสฺสาย ปน อนาคเต สาสนสฺส ปเวณี สฺสติ. คจฺฉ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ. ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ อคจฺฉนฺเตสุ คมิสฺสามี’’ติ ยาวตติยํ กเถตฺวาปิ เถรํ อาโรเปตุํ อสกฺโกนฺตา นิวตฺตึสุ.
อถ จูฬสีวตฺเถโร อิสิทตฺตตฺเถรํ อาห – ‘‘อาวุโส อิสิทตฺต, อนาคเต มหาโสณตฺเถรํ นิสฺสาย สาสนปเวณี สฺสติ; มา โข ตํ หตฺถโต วิสฺสชฺเชหี’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ปน, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อหํ มหาเจติยํ วนฺทิสฺสามี’’ติ ทฺเว เถเร อนุสาสิตฺวา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรนฺโต มหาวิหารํ สมฺปาปุณิ. ตสฺมึ สมเย มหาวิหาโร สฺุโ. เจติยงฺคเณ เอรณฺฑา ชาตา. เจติยํ คจฺเฉหิ ปริวาริตํ, เสวาเลน ปริโยนทฺธํ. เถโร ธรมานกพุทฺธสฺส นิปจฺจาการํ ทสฺเสนฺโต วิย มหาเจติยํ วนฺทิตฺวา ปจฺฉิมทิสาย สาลํ ปวิสิตฺวา โอโลเกนฺโต ‘เอวรูปสฺส นาม ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตสฺส สรีรธาตุเจติยฏฺานํ อนาถํ ชาต’นฺติ จินฺตยมาโน นิสีทิ.
อถ ¶ อวิทูเร รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา อทฺธิกมนุสฺสรูเปน ตณฺฑุลนาฬิฺจ คุฬปิณฺฑฺจ อาทาย เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กตฺถ คจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อหํ ทกฺขิณทิสํ, อุปาสกา’’ติ. ‘‘อหมฺปิ ตตฺเถว คนฺตุกาโม, สห คจฺฉาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อหํ ทุพฺพโล; ตว คติยา คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ; ตฺวํ ปุรโต คจฺฉ, อุปาสกา’’ติ. ‘‘อหมฺปิ ตุมฺหากํ คติยา คมิสฺสามี’’ติ เถรสฺส ปตฺตจีวรํ อคฺคเหสิ. ติสฺสวาปิปาฬึ อารุฬฺหกาเล จ ปตฺตํ อาหราเปตฺวา ปานกํ กตฺวา อทาสิ. เถรสฺส ปีตมตฺเตเยว พลมตฺตา สณฺาติ. เทวตา ปถวึ สงฺขิปิตฺวา เวณุนทีสนฺติเก เอกํ ฉฑฺฑิตวิหารํ ปตฺวา เถรสฺส วสนฏฺานํ ปฏิชคฺคิตฺวา อทาสิ.
ปุนทิวเส ¶ เถเรน มุเข โธวิตมตฺเต ยาคุํ ปจิตฺวา อทาสิ; ยาคุํ ปีตสฺส ภตฺตํ ปจิตฺวา อุปนาเมสิ. เถโร ‘‘ตุยฺหํ เปหิ, อุปาสกา’’ติ ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหิ. ‘‘อหํ น ทูรํ คมิสฺสามี’’ติ เทวตา เถรสฺเสว ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา กตภตฺตกิจฺจสฺส เถรสฺส ปตฺตจีวรมาทาย มคฺคํ ปฏิปนฺนา ปถวึ สงฺขิปิตฺวา ชชฺชรนทีสนฺติกํ เนตฺวา ‘‘ภนฺเต, เอตํ ปณฺณขาทกมนุสฺสานํ วสนฏฺานํ, ธูโม ปฺายติ. อหํ ปุรโต คมิสฺสามี’’ติ เถรํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ภวนํ อคมาสิ. เถโร สพฺพมฺปิ ภยกาลํ ปณฺณขาทกมนุสฺเส นิสฺสาย วสิ.
อิสิทตฺตตฺเถโรปิ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรนฺโต อฬชนปทํ สมฺปาปุณิ. ตตฺถ มนุสฺสา นาติปกฺกานิ ¶ มธุกผลานิ ภินฺทิตฺวา อฏฺึ อาทาย ตจํ ฉฑฺเฑตฺวา อคมํสุ. เถโร ‘‘อาวุโส มหาโสณ, ภิกฺขาหาโร ปฺายตี’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ อาหราเปตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหริตฺวา อฏฺาสิ. ตรุณทารกา เถรํ ิตํ ทิสฺวา ‘อิมินา โกจิ อตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ วาลุกํ ปฺุฉิตฺวา มธุกผลตฺตจํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อทํสุ; เถรา ปริภฺุชึสุ. สตฺตาหมตฺตํ โสเยว อาหาโร อโหสิ.
อนุปุพฺเพน โจริยสฺสรํ สมฺปาปุณึสุ. มนุสฺสา กุมุทานิ คเหตฺวา กุมุทนาเล ฉฑฺเฑตฺวา อคมํสุ. เถโร ‘‘อาวุโส มหาโสณ, ภิกฺขาหาโร ปฺายตี’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ อาหราเปตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ นีหริตฺวา อฏฺาสิ. คามทารกา กุมุทนาเล โสเธตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อทํสุ; เถรา ปริภฺุชึสุ. สตฺตาหมตฺตํ โสว อาหาโร อโหสิ.
อนุปุพฺเพน ¶ จรนฺตา ปณฺณขาทกมนุสฺสานํ วสนฏฺาเน เอกํ คามทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺถ เอกิสฺสา ทาริกาย มาตาปิตโร อรฺํ คจฺฉนฺตา ‘‘สเจ โกจิ อยฺโย อาคจฺฉติ, กตฺถจิ คนฺตุํ มา อทาสิ; อยฺยสฺส วสนฏฺานํ อาจิกฺเขยฺยาสิ, อมฺมา’’ติ อาหํสุ. สา เถเร ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสีทาเปสิ. เคเห ธฺชาติ นาม นตฺถิ. วาสึ ปน คเหตฺวา คฺุชโจจรุกฺขตฺตจํ คฺุชลตาปตฺเตหิ สทฺธึ เอกโต โกฏฺเฏตฺวา ตโย ปิณฺเฑ กตฺวา เอกํ อิสิทตฺตตฺเถรสฺส เอกํ มหาโสณตฺเถรสฺส ปตฺเต เปตฺวา ‘อติเรกปิณฺฑํ อิสิทตฺตตฺเถรสฺส ปตฺเต เปสฺสามี’ติ หตฺถํ ปสาเรสิ. หตฺโถ ปริวตฺติตฺวา มหาโสณตฺเถรสฺส ปตฺเต ¶ ปติฏฺาเปสิ. อิสิทตฺตตฺเถโร ‘พฺราหฺมณติสฺสภเย คฺุชโจจปิณฺเฑ วิปากทายกกมฺมํ เทสกาลสมฺปทาย กีวปมาณํ วิปากํ ทสฺสตี’ติ อาห. เต ตํ ปริภฺุชิตฺวา วสนฏฺานํ อคมํสุ. สาปิ อรฺโต อาคตานํ มาตาปิตูนํ อาจิกฺขิ ‘‘ทฺเว เถรา อาคตา. เตสํ เม วสนฏฺานํ อาจิกฺขิต’’นฺติ. เต อุโภปิ เถรานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ยํ มยํ ลภาม, เตน ตุมฺเห ปฏิชคฺคิสฺสาม; อิเธว วสถา’’ติ ปฏิฺํ คณฺหึสุ. เถราปิ สพฺพภยกาลํ เต อุปนิสฺสาย วสึสุ.
พฺราหฺมณติสฺสโจเร มเต ปิตุมหาราชา ฉตฺตํ อุสฺสาเปสิ. ‘ภยํ วูปสนฺตํ, ชนปโท สมฺปุณฺโณ’ติ สุตฺวา ปรสมุทฺทโต ภิกฺขุสงฺโฆ นาวาย มหาติตฺถปฏฺฏเน โอรุยฺห ‘มหาโสณตฺเถโร กหํ วสตี’ติ ปุจฺฉิตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เถโร ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร กาลกคาเม ¶ มณฺฑลารามวิหารํ สมฺปาปุณิ. ตสฺมึ สมเย กาลกคาเม สตฺตมตฺตานิ กุลสตานิ ปฏิวสนฺติ. รตฺติภาเค เทวตา อาหิณฺฑิตฺวา ‘‘มหาโสณตฺเถโร ปฺจภิกฺขุสตปริวาโร มณฺฑลารามวิหารํ ปตฺโต. เอเกโก นวหตฺถสาฏเกน สทฺธึ เอเกกกหาปณคฺฆนกํ ปิณฺฑปาตํ เทตู’’ติ มนุสฺเส อโวจุํ. ปุนทิวเส จ เถรา กาลกคามํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. มนุสฺสา นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ อทํสุ. มณฺฑลารามวาสี ติสฺสภูติตฺเถโร สงฺฆตฺเถโร หุตฺวา นิสีทิ. เอโก มหาอุปาสโก ตํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มหาโสณตฺเถโร นาม กตโร’’ติ ปุจฺฉิ. เตน สมเยน เถโร นวโก โหติ ปริยนฺเต นิสินฺโน. เถโร หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘มหาโสโณ นาม ¶ เอส, อุปาสกา’’ติ อาห. อุปาสโก ตํ วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คณฺหาติ. เถโร น เทติ. ติสฺสภูติตฺเถโร ‘‘อาวุโส โสณ, ยถา ตฺวํ น ชานาสิ, มยมฺปิ เอวเมว น ชานาม; ปฺุวนฺตานํ เทวตา ปริปาเจนฺติ; ปตฺตํ เทหิ, สพฺรหฺมจารีนํ สงฺคหํ กโรหี’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ อทาสิ. มหาอุปาสโก ปตฺตํ อาทาย คนฺตฺวา กหาปณคฺฆนกสฺส ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา นวหตฺถสาฏกํ อาธารกํ กตฺวา อาหริตฺวา เถรสฺส หตฺเถ เปสิ; อปโรปิ อุปาสโก เถรสฺสาติ สตฺต สาฏกสตานิ สตฺต จ ปิณฺฑปาตสตานิ เถรสฺเสว อทํสุ.
เถโร ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ สํวิภาคํ กตฺวา อนุปุพฺเพน มหาวิหารํ ปาปุณิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา มหาโพธึ วนฺทิตฺวา มหาเจติยํ วนฺทิตฺวา ถูปาราเม ิโต จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ทฺวารโต ยาว วฬฺชนกสาลา เอตสฺมึ อนฺตเร สฏฺิกหาปณคฺฆนกํ ปิณฺฑปาตํ ลภิ. ตโต ปฏฺาย ปน สกฺการสฺส ปมาณํ นตฺถิ. เอวํ กาลวิปตฺติยํ มธุกผลตฺตโจปิ กุมุทนาฬิปิ ทุลฺลภา ชาตา. กาลสมฺปตฺติยํ เอวรูโป มหาลาโภ อุทปาทิ.
วตฺตพฺพกนิคฺโรธตฺเถรสฺสาปิ สามเณรกาเล พฺราหฺมณติสฺสภยํ อุทปาทิ. สามเณโร จ อุปชฺฌาโย จสฺส ปรสมุทฺทํ นาคมึสุ; ‘ปณฺณขาทกมนุสฺเส อุปนิสฺสาย วสิสฺสามา’ติ ปจฺจนฺตาภิมุขา อเหสุํ. สามเณโร สตฺตาหมตฺตํ อนาหาโร หุตฺวา เอกสฺมึ คามฏฺาเน ตาลรุกฺเข ตาลปกฺกํ ทิสฺวา อุปชฺฌายํ อาห – ‘‘ภนฺเต, โถกํ อาคเมถ; ตาลปกฺกํ ปาเตสฺสามี’’ติ. ‘‘ทุพฺพโลสิ ตฺวํ, สามเณร, มา อภิรุหี’’ติ. ‘‘อภิรุหิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ ขุทฺทกวาสึ คเหตฺวา ตาลํ อารุยฺห ตาลปิณฺฑํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. วาสิผลํ นิกฺขมิตฺวา ภูมิยํ ปติ.
เถโร ¶ จินฺเตสิ ‘‘อยํ กิลนฺโตว รุกฺขํ อารุฬฺโห; กึ นุ โข อิทานิ กริสฺสตี’’ติ สามเณโร ตาลปณฺณํ ผาเลตฺวา ผาเลตฺวา วาสิทณฺฑเก พนฺธิตฺวา ฆฏฺเฏนฺโต ฆฏฺเฏนฺโต ภูมิยํ ปาเตตฺวา ‘‘ภนฺเต, สาธุ วตสฺส สเจ วาสิผลํ เอตฺถ ปเวเสยฺยาถา’’ติ อาห. เถโร ‘อุปายสมฺปนฺโน สามเณโร’ติ วาสิผลํ ปเวเสตฺวา อทาสิ. โส วาสึ อุกฺขิปิตฺวา ตาลผลานิ ปาเตสิ. เถโร วาสึ ปาตาเปตฺวา ปวฏฺฏิตฺวา ¶ คตํ ตาลผลํ ภินฺทิตฺวา สามเณรํ โอติณฺณกาเล อาห ‘‘สามเณร, ตฺวํ ทุพฺพโล, อิทํ ตาว ขาทาหี’’ติ. ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ อขาทิเต ขาทิสฺสามี’’ติ วาสึ คเหตฺวา ตาลผลานิ ภินฺทิตฺวา ปตฺตํ นีหริตฺวา ตาลมิฺชํ ปกฺขิปิตฺวา เถรสฺส ทตฺวา สยํ ขาทิ. ยาว ตาลผลานิ อเหสุํ, ตาว ตตฺเถว วสิตฺวา ผเลสุ ขีเณสุ อนุปุพฺเพน ปณฺณขาทกมนุสฺสานํ วสนฏฺาเน เอกํ ฉฑฺฑิตวิหารํ ปวิสึสุ. สามเณโร เถรสฺส วสนฏฺานํ ปฏิชคฺคิ. เถโร สามเณรสฺส โอวาทํ ทตฺวา วิหารํ ปาวิสิ. สามเณโร ‘อนายตเน นฏฺานํ อตฺตภาวานํ ปมาณํ นตฺถิ, พุทฺธานํ ¶ อุปฏฺานํ กริสฺสามี’ติ เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา อปฺปหริตํ กโรติ; สตฺตาหมตฺตํ นิราหารตาย ปเวธมาโน ปติตฺวา นิปนฺนโกว ติณานิ อุทฺธรติ. เอกจฺเจ จ มนุสฺสา อรฺเ จรนฺตา มธุํ ลภิตฺวา ทารูนิ เจว สากปณฺณฺจ คเหตฺวา ติณจลนสฺาย ‘มิโค นุ โข เอโส’ติ สามเณรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ กโรสิ, สามเณรา’’ติ อาหํสุ. ‘‘ติณคณฺึ คณฺหามิ, อุปาสกา’’ติ. ‘‘อฺโปิ โกจิ อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อาม, อุปาสกา, อุปชฺฌาโย เม อนฺโตคพฺเภ’’ติ. ‘‘มหาเถรสฺส ทตฺวา ขาเทยฺยาสิ, ภนฺเต’’ติ สามเณรสฺส มธุํ ทตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘มยํ สาขาภงฺคํ กโรนฺตา คมิสฺสาม. เอตาย สฺาย เถรํ คเหตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสิ, อยฺยา’’ติ วตฺวา อคมํสุ.
สามเณโร มธุํ คเหตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา พหิ ตฺวา ‘‘วนฺทามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ‘สามเณโร ชิฆจฺฉาย อนุฑยฺหมาโน อาคโต ภวิสฺสตี’ติ ตุณฺหี อโหสิ. โส ปุนปิ ‘‘วนฺทามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘กสฺมา, สามเณร, ทุพฺพลภิกฺขูนํ สุเขน นิปชฺชิตุํ น เทสี’’ติ? ‘‘ทฺวารํ วิวริตุํ สารุปฺปํ, ภนฺเต’’ติ? เถโร อุฏฺหิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘กึ เต, สามเณร, ลทฺธํ’’ติ อาห. มนุสฺเสหิ มธุ ทินฺนํ, ขาทิตุํ สารุปฺปํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สามเณร, เอวเมว ขาทิตุํ กิลมิสฺสาม, ปานกํ กตฺวา ปิวิสฺสามา’’ติ. สามเณโร ปานกํ กตฺวา อทาสิ. อถ นํ เถโร ‘‘มนุสฺสานํ วสนฏฺานํ ปุจฺฉสิ, สามเณรา’’ติ อาห. สยเมว อาจิกฺขึสุ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สามเณร, ปาโตว คจฺฉนฺตา กิลมิสฺสาม; อชฺเชว คมิสฺสามา’’ติ ¶ ปตฺตจีวรํ ¶ คณฺหาเปตฺวา นิกฺขมิ. เต คนฺตฺวา มนุสฺสานํ วสนฏฺานสฺส อวิทูเร นิปชฺชึสุ.
สามเณโร รตฺติภาเค จินฺเตสิ – ‘มยา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย คามนฺเต อรุณํ นาม น อุฏฺาปิตปุพฺพ’นฺติ. โส ปตฺตํ คเหตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อรฺํ อคมาสิ. มหาเถโร สามเณรํ นิปนฺนฏฺาเน อปสฺสนฺโต ‘มนุสฺสขาทเกหิ คหิโต ภวิสฺสตี’ติ จินฺเตสิ. สามเณโร อรฺเ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา ปตฺเตน อุทกฺจ ทนฺตกฏฺฺจ คเหตฺวา อาคมิ. ‘‘สามเณร, กุหึ คโตสิ? มหลฺลกภิกฺขูนํ เต วิตกฺโก อุปฺปาทิโต; ทณฺฑกมฺมํ อาหรา’’ติ. ‘‘อาหริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. เถโร มุขํ โธวิตฺวา จีวรํ ปารุปิ. อุโภปิ มนุสฺสานํ ¶ วสนฏฺานํ อคมํสุ. มนุสฺสาปิ อตฺตโน ปริโภคํ กนฺทมูลผลปณฺณํ อทํสุ. เถโรปิ ปริภฺุชิตฺวา วิหารํ อคมาสิ. สามเณโร อุทกํ อาหริตฺวา ‘‘ปาเท โธวามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘สามเณร, ตฺวํ รตฺตึ กุหึ คโต? อมฺหากํ วิตกฺกํ อุปฺปาเทสี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, คามนฺเต เม อรุณํ น อุฏฺาปิตปุพฺพํ; อรุณุฏฺาปนตฺถาย อรฺํ อคมาสิ’’นฺติ. ‘‘สามเณร, น ตุยฺหํ ทณฺฑกมฺมํ อนุจฺฉวิกํ อมฺหากเมว อนุจฺฉวิก’’นฺติ วตฺวา เถโร ตสฺมึเยว าเน วสิ; สามเณรสฺส จ สฺํ อทาสิ ‘‘มยํ ตาว มหลฺลกา; ‘อิทํ นาม ภวิสฺสตี’ติ น สกฺกา ชานิตุํ. ตุวํ อตฺตานํ รกฺเขยฺยาสี’’ติ. เถโร กิร อนาคามี. ตํ อปรภาเค มนุสฺสขาทกา ขาทึสุ. สามเณโร อตฺตานํ รกฺขิตฺวา ภเย วูปสนฺเต ตถารูเป าเน อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา อุปสมฺปนฺโน พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา ติปิฏกธโร หุตฺวา วตฺตพฺพกนิคฺโรธตฺเถโร นาม ชาโต.
ปิตุมหาราชา รชฺชํ ปฏิปชฺชิ. ปรสมุทฺทา อาคตาคตา ภิกฺขู ‘‘กหํ วตฺตพฺพกนิคฺโรธตฺเถโร, กหํ วตฺตพฺพกนิคฺโรธตฺเถโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมํสุ. มหาภิกฺขุสงฺโฆ เถรํ ปริวาเรสิ. โส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อนุปุพฺเพน มหาวิหารํ ปตฺวา มหาโพธึ มหาเจติยํ ถูปารามฺจ วนฺทิตฺวา นครํ ปายาสิ. ยาว ทกฺขิณทฺวารา คจฺฉนฺตสฺเสว นวสุ าเนสุ ติจีวรํ อุปปชฺชิ; อนฺโตนครํ ปวิฏฺกาลโต ปฏฺาย มหาสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. อิติ กาลวิปตฺติยํ ตาลผลกนฺทมูลปณฺณมฺปิ ทุลฺลภํ ชาตํ. กาลสมฺปตฺติยํ เอวรูโป มหาลาโภ อุปฺปนฺโนติ. เอวํ กาลวิปตฺติปฏิพาหิตตฺตา ¶ วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ.
อปรสฺสาปิ ¶ พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ โหนฺติ. ตานิ ปโยควิปตฺติยํ ิตสฺส น วิปจฺเจยฺยุํ. โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน สมฺมาปโยเค ปติฏฺิโต ตีณิ สุจริตานิ ปูเรติ, ปฺจสีลํ ทสสีลํ รกฺขติ. กาลสมฺปตฺติยํ นิพฺพตฺตสฺส ราชาโน สพฺพาลงฺการปติมณฺฑิตา ราชกฺาโย ‘เอตสฺส อนุจฺฉวิกา’ติ เปเสนฺติ, ยานวาหนมณิสุวณฺณรชตาทิเภทํ ตํ ตํ ปณฺณาการํ ‘เอตสฺส อนุจฺฉวิก’นฺติ เปเสนฺติ ¶ .
ปพฺพชฺชูปคโตปิ มหายโส โหติ มหานุภาโว. ตตฺริทํ วตฺถุ – กูฏกณฺณราชา กิร คิริคามกณฺณวาสิกํ จูฬสุธมฺมตฺเถรํ มมายติ. โส อุปฺปลวาปิยํ วสมาโน เถรํ ปกฺโกสาเปสิ. เถโร อาคนฺตฺวา มาลารามวิหาเร วสติ. ราชา เถรสฺส มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ เถโร ปิยายตี’’ติ? ‘‘กนฺทํ มหาราชา’’ติ. ราชา กนฺทํ คาหาเปตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา เถรสฺส ททมาโน มุขํ อุลฺโลเกตุํ นาสกฺขิ. โส นิกฺขมิตฺวา จ พหิปริเวเณ เทวึ ปุจฺฉิ – ‘‘กีทิโส เถโร’’ติ? ‘‘ตฺวํ ปุริโส หุตฺวา อุลฺโลเกตุํ น สกฺโกสิ; อหํ กถํ สกฺขิสฺสามิ? นาหํ ชานามิ กีทิโส’’ติ. ราชา ‘มม รฏฺเ พลิการคหปติปุตฺตํ อุลฺโลเกตุํ น วิสหามิ. มหนฺตํ วต โภ พุทฺธสาสนํ นามา’ติ อปฺโผเฏสิ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรมฺปิ มมายติ. ตสฺส องฺคุลิยํ เอกา ปิฬกา อุฏฺหิ. ราชา ‘เถรํ ปสฺสิสฺสามี’ติ วิหารํ คนฺตฺวา พลวเปเมน องฺคุลึ มุเขน คณฺหิ. อนฺโตมุเขเยว ปิฬกา ภินฺนา, ปุพฺพโลหิตํ อนุฏฺุภิตฺวา เถเร สิเนเหน อมตํ วิย อชฺโฌหริ. โสเยว เถโร อปรภาเค มรณมฺเจ นิปชฺชิ. ราชา คนฺตฺวา อสุจิกปลฺลกํ สีเส เปตฺวา ‘ธมฺมสกฏสฺส อกฺโข ภิชฺชติ อกฺโข ภิชฺชตี’ติ ปริเทวมาโน วิจริ. ปถวิสฺสรสฺส อสุจิกปลฺลกํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรณํ นาม กสฺส คตมคฺโค? สมฺมาปโยคสฺส คตมคฺโคติ. เอวํ ปโยควิปตฺติปฏิพาหิตตฺตา วิปากํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตานิ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติ. เอวํ จตูหิ วิปตฺตีหิ ปฏิพาหิตํ กลฺยาณกมฺมํ วิปากํ อทตฺวา จตสฺโส สมฺปตฺติโย อาคมฺม เทติ.
ตตฺริทํ ภูตมตฺถํ กตฺวา โอปมฺมํ – เอโก กิร มหาราชา เอกสฺส อมจฺจสฺส อปฺปมตฺเตน กุชฺฌิตฺวา ตํ พนฺธนาคาเร พนฺธาเปสิ. ตสฺส าตกา รฺโ ¶ กุทฺธภาวํ ตฺวา กิฺจิ อวตฺวา จณฺฑโกเป วิคเต ราชานํ ตสฺส นิรปราธภาวํ ชานาเปสุํ. ราชา มฺุจิตฺวา ตสฺส านนฺตรํ ปฏิปากติกํ อกาสิ. อถสฺส ตโต ตโต อาคจฺฉนฺตานํ ปณฺณาการานํ ปมาณํ นาโหสิ. มนุสฺสา สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ. ตตฺถ ¶ รฺโ อปฺปมตฺตเกน กุชฺฌิตฺวา ตสฺส พนฺธนาคาเร ¶ พนฺธาปิตกาโล วิย ปุถุชฺชนสฺส นิรเย นิพฺพตฺตกาโล. อถสฺส าตเกหิ ราชานํ สฺาเปตฺวา านนฺตรสฺส ปฏิปากติกกรณกาโล วิย ตสฺส สคฺเค นิพฺพตฺตกาโล. ปณฺณาการํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ อสมตฺถกาโล วิย จตสฺโส สมฺปตฺติโย อาคมฺม กลฺยาณกมฺมานํ เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, มนุสฺสโลกโต เทวโลกนฺติ เอวํ สุขฏฺานโต สุขฏฺานเมว เนตฺวา กปฺปสตสหสฺสมฺปิ สุขวิปากํ ทตฺวา นิพฺพานสมฺปาปนํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ตาว ปาฬิวเสเนว ทุติยํ พลํ ทีเปตฺวา ปุน ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔) อิมินา ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ ทีเปตพฺพํ. ตตฺถ ‘อโหสิ กมฺม’นฺติ อตีเต อายูหิตํ กมฺมํ อตีเตเยว อโหสิ. เยน ปน อตีเต วิปาโก ทินฺโน, ตํ สนฺธาย ‘อโหสิ กมฺมวิปาโก’ติ วุตฺตํ. ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุ ปน พหูสุปิ อายูหิเตสุ เอกํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วิปากํ เทติ, เสสานิ อวิปากานิ. เอกํ อุปปชฺชเวทนียํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, เสสานิ อวิปากานิ. เอเกนานนฺตริเยน นิรเย อุปปชฺชติ, เสสานิ อวิปากานิ. อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ เอกาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, เสสา อวิปากา. อิทํ สนฺธาย ‘นาโหสิ กมฺมวิปาโก’ติ วุตฺตํ. โย ปน พหุมฺปิ กุสลากุสลํ กมฺมํ กตฺวา กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย อรหตฺตํ ปาปุณาติ, เอตสฺส กมฺมวิปาโก ‘นาโหสิ’ นาม. ยํ อตีเต อายูหิตํ เอตรหิ วิปากํ เทติ ตํ ‘อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ ปุริมนเยเนว อวิปากตํ อาปชฺชติ ตํ ‘อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ อตีเต อายูหิตํ อนาคเต วิปากํ ทสฺสติ ตํ ‘อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ ปุริมนเยน อวิปากตํ อาปชฺชิสฺสติ ตํ ‘อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ นาม.
ยํ ¶ เอตรหิ อายูหิตํ เอตรหิเยว วิปากํ เทติ ตํ ‘อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ ปุริมนเยเนว ¶ อวิปากตํ อาปชฺชติ ตํ ‘อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ เอตรหิ อายูหิตํ อนาคเต วิปากํ ทสฺสติ ตํ ‘อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ นาม. ยํ ปุริมนเยเนว อวิปากตํ อาปชฺชิสฺสติ ตํ ‘อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ นาม.
ยํ สยมฺปิ อนาคตํ, วิปาโกปิสฺส อนาคโต ตํ ‘ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ ¶ นาม. ยํ สยํ ภวิสฺสติ, ปุริมนเยเนว อวิปากตํ อาปชฺชิสฺสติ ตํ ‘ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’ นาม.
อิทํ ตถาคตสฺสาติ อิทํ สพฺเพหิปิ เอเตหิ อากาเรหิ ตถาคตสฺส กมฺมนฺตรวิปากนฺตรชานนาณํ อกมฺปิยฏฺเน ทุติยพลํ เวทิตพฺพนฺติ.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา.
ตติยพลนิทฺเทโส
๘๑๑. ตติยพลนิทฺเทเส มคฺโคติ วา ปฏิปทาติ วา กมฺมสฺเสเวตํ นามํ. นิรยคามินีติอาทีสุ นิรสฺสาทฏฺเน นิรติอตฺเถน จ นิรโย. อุทฺธํ อนุคนฺตฺวา ติริยํ อฺจิตาติ ติรจฺฉานา; ติรจฺฉานาเยว ติรจฺฉานโยนิ. เปตตาย เปตฺติ; อิโต เปจฺจ คตภาเวนาติ อตฺโถ. เปตฺติเยว เปตฺติวิสโย. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา; มนุสฺสาว มนุสฺสโลโก. ทิพฺพนฺติ ปฺจหิ กามคุเณหิ อธิมตฺตาย วา านสมฺปตฺติยาติ เทวา; เทวาว เทวโลโก. วานํ วุจฺจติ ตณฺหา; ตํ ตตฺถ นตฺถีติ นิพฺพานํ. นิรยํ คจฺฉตีติ นิรยคามี. อิทํ มคฺคํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิปทา ปน นิรยคามินี นาม โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิทํ สพฺพมฺปิ ปฏิปทํ ตถาคโต ปชานาติ.
กถํ ¶ ? สกลคามวาสิเกสุปิ หิ เอกโต เอกํ สูกรํ วา มิคํ วา ชีวิตา โวโรเปนฺเตสุ สพฺเพสมฺปิ เจตนา ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณาว โหติ. ตํ ปน กมฺมํ เตสํ อายูหนกฺขเณเยว นานา โหติ. เตสุ หิ เอโก อาทเรน ฉนฺทชาโต กโรติ. เอโก ‘เอหิ ตฺวมฺปิ กโรหี’ติ ปเรหิ นิปฺปีฬิตตฺตา กโรติ. เอโก สมานจฺฉนฺโท วิย หุตฺวา อปฺปฏิพาหิยมาโน วิจรติ. เตสุ เอโก เตเนว กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เอโก ติรจฺฉานโยนิยํ, เอโก เปตฺติวิสเย. ตํ ตถาคโต อายูหนกฺขเณเยว ‘อิมินา นีหาเรน อายูหิตตฺตา เอส นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ ¶ , เอส ติรจฺฉานโยนิยํ, เอส เปตฺติวิสเย’ติ ปชานาติ ¶ . นิรเย นิพฺพตฺตมานมฺปิ ‘เอส อฏฺสุ มหานิรเยสุ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส โสฬสสุ อุสฺสทนิรเยสุ นิพฺพตฺติสฺสตี’ติ ปชานาติ. ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตมานมฺปิ ‘เอส อปาทโก ภวิสฺสติ, เอส ทฺวิปาทโก, เอส จตุปฺปาทโก, เอส พหุปฺปาทโก’ติ ปชานาติ. เปตฺติวิสเย นิพฺพตฺตมานมฺปิ ‘เอส นิชฺฌามตณฺหิโก ภวิสฺสติ, เอส ขุปฺปิปาสิโก, เอส ปรทตฺตูปชีวี’ติ ปชานาติ. เตสุ จ กมฺเมสุ ‘อิทํ กมฺมํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ น สกฺขิสฺสติ, ทุพฺพลํ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกํ ภวิสฺสตีติ ปชานาติ.
ตถา สกลคามวาสิเกสุ เอกโต ปิณฺฑปาตํ ททมาเนสุ สพฺเพสมฺปิ เจตนา ปิณฺฑปาตารมฺมณาว โหติ. ตํ ปน กมฺมํ เตสํ อายูหนกฺขเณเยว ปุริมนเยน นานา โหติ. เตสุ เกจิ เทวโลเก นิพฺพตฺติสฺสนฺติ, เกจิ มนุสฺสโลเก. ตํ ตถาคโต อายูหนกฺขเณเยว ‘อิมินา นีหาเรน อายูหิตตฺตา เอส มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส เทวโลเก’ติ ปชานาติ. เทวโลเก นิพฺพตฺตมานานมฺปิ ‘เอส ปรนิมฺมิตวสวตฺตีสุ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส นิมฺมานรตีสุ, เอส ตุสิเตสุ, เอส ยาเมสุ, เอส ตาวตึเสสุ, เอส จาตุมหาราชิเกสุ, เอส ภุมฺมเทเวสุ; เอส ปน เชฏฺกเทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส เอตสฺส ทุติยํ วา ตติยํ วา านนฺตรํ กโรนฺโต ปริจารโก หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสตี’ติ ปชานาติ. มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตมานานมฺปิ ‘เอส ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส พฺราหฺมณกุเล, เอส เวสฺสกุเล, เอส สุทฺทกุเล; เอส ปน มนุสฺเสสุ ราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส เอตสฺส ทุติยํ วา ตติยํ วา านนฺตรํ กโรนฺโต ปริจารโก หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสตี’ติ ปชานาติ ¶ . เตสุ จ กมฺเมสุ ‘อิทํ กมฺมํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ น สกฺขิสฺสติ, ทุพฺพลํ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกํ ภวิสฺสตี’ติ ปชานาติ.
ตถา วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺเตสุเยว เยน นีหาเรน วิปสฺสนา อารทฺธา, ‘เอส อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ, เอส อรหตฺตํ ปตฺตุํ น สกฺขิสฺสติ, เอส อนาคามีเยว ภวิสฺสติ, เอส สกทาคามีเยว, เอส โสตาปนฺโนเยว; เอส ปน มคฺคํ วา ผลํ วา สจฺฉิกาตุํ น สกฺขิสฺสติ, ลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนายเมว สฺสติ; เอส ปจฺจยปริคฺคเหเยว, เอส ¶ นามรูปปริคฺคเหเยว, เอส อรูปปริคฺคเหเยว, เอส รูปปริคฺคเหเยว สฺสติ, เอส มหาภูตมตฺตเมว ววตฺถาเปสฺสติ, เอส กิฺจิ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺขิสฺสตี’ติ ปชานาติ.
กสิณปริกมฺมํ กโรนฺเตสุปิ ‘เอตสฺส ปริกมฺมมตฺตเมว ภวิสฺสติ, นิมิตฺตํ อุปฺปาเทตุํ ¶ น สกฺขิสฺสติ; เอส ปน นิมิตฺตํ อุปฺปาเทตุํ สกฺขิสฺสติ, อปฺปนํ ปาเปตุํ น สกฺขิสฺสติ; เอส อปฺปนํ ปาเปตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ปชานาตีติ.
ตติยพลนิทฺเทสวณฺณนา.
จตุตฺถพลนิทฺเทโส
๘๑๒. จตุตฺถพลนิทฺเทเส ขนฺธนานตฺตนฺติ ‘อยํ รูปกฺขนฺโธ นาม…เป… อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ นามา’ติ เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปชานาติ. เตสุปิ ‘เอกวิเธน รูปกฺขนฺโธ…เป… เอกาทสวิเธน รูปกฺขนฺโธ. เอกวิเธน เวทนากฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน เวทนากฺขนฺโธ…เป… เอกวิเธน สฺากฺขนฺโธ…เป… เอกวิเธน สงฺขารกฺขนฺโธ…เป… เอกวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธ…เป… พหุวิเธน วิฺาณกฺขนฺโธ’ติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส นานตฺตํ ปชานาติ. อายตนนานตฺตนฺติ ‘อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป… อิทํ ธมฺมายตนํ นาม. ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกา’ติ เอวํ อายตนนานตฺตํ ปชานาติ. ธาตุนานตฺตนฺติ ‘อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป… อยํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกา’ติ เอวํ ธาตุนานตฺตํ ปชานาติ.
ปุน ¶ อเนกธาตุนานาธาตุโลกนานตฺตนฺติ อิทํ น เกวลํ อุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺเสว นานตฺตํ ตถาคโต ปชานาติ, อนุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺสาปิ นานตฺตํ ตถาคโต ปชานาติเยวาติ ทสฺเสตุํ คหิตํ. ปจฺเจกพุทฺธา หิ ทฺเว จ อคฺคสาวกา อุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺสาปิ นานตฺตํ เอกเทสโตว ชานนฺติ โน นิปฺปเทสโต, อนุปาทินฺนกโลกสฺส ปน นานตฺตํ น ชานนฺติ. สพฺพฺุพุทฺโธ ปน ‘อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส นาม รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาฬโก, อิมสฺส มฏฺโฏ; อิมสฺส พหลตฺตโจ, อิมสฺส ตนุตฺตโจ; อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ นาม โหติ; อิมาย ปน ธาตุยา ¶ อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส ปุปฺผํ นีลกํ โหติ, ปีตกํ, โลหิตกํ, โอทาตํ, สุคนฺธํ ¶ , ทุคฺคนฺธํ โหติ; อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย ผลํ ขุทฺทกํ โหติ, มหนฺตํ, ทีฆํ, รสฺสํ, วฏฺฏํ, สุสณฺานํ, ทุสฺสณฺานํ, มฏฺํ, ผรุสํ, สุคนฺธํ, ทุคฺคนฺธํ, มธุรํ, ติตฺตกํ, อมฺพิลํ, กฏุกํ, กสาวํ โหติ; อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส กณฺฏโก ติขิโณ โหติ, อติขิโณ, อุชุโก, กุฏิโล, ตมฺโพ, กาฬโก, นีโล, โอทาโต โหตี’ติ เอวํ อนุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺส นานตฺตํ ปชานาติ. สพฺพฺุพุทฺธานํเยว หิ เอตํ พลํ, น อฺเสนฺติ.
จตุตฺถพลนิทฺเทสวณฺณนา.
ปฺจมพลนิทฺเทโส
๘๑๓. ปฺจมพลนิทฺเทเส หีนาธิมุตฺติกาติ หีนชฺฌาสยา. ปณีตาธิมุตฺติกาติ กลฺยาณชฺฌาสยา. เสวนฺตีติ นิสฺสยนฺติ อลฺลียนฺติ. ภชนฺตีติ อุปสงฺกมนฺติ. ปยิรุปาสนฺตีติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมนฺติ. สเจ หิ อาจริยุปชฺฌายา น สีลวนฺโต โหนฺติ, สทฺธิวิหาริกา สีลวนฺโต โหนฺติ, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตนา สทิเส สารุปฺปภิกฺขูเยว อุปสงฺกมนฺติ. สเจ อาจริยุปชฺฌายา สารุปฺปภิกฺขู, อิตเร อสารุปฺปา, เตปิ น อาจริยุปชฺฌาเย อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตนา สทิเส หีนาธิมุตฺติเก เอว อุปสงฺกมนฺติ.
เอวํ ¶ อุปสงฺกมนํ ปน น เกวลํ เอตรเหว, อตีตานาคเตปีติ ทสฺเสตุํ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว. อิทํ ปน ทุสฺสีลานํ ทุสฺสีลเสวนเมว, สีลวนฺตานํ สีลวนฺตเสวนเมว, ทุปฺปฺานํ ทุปฺปฺเสวนเมว, ปฺวนฺตานํ ปฺวนฺตเสวนเมว โก นิยาเมตีติ? อชฺฌาสยธาตุ นิยาเมติ. สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู เอกํ คามํ คณภิกฺขาจารํ จรนฺติ. มนุสฺสา พหุภตฺตํ อาหริตฺวา ปตฺตานิ ปูเรตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ยถาสภาเคน ปริภฺุถา’’ติ ทตฺวา อุยฺโยเชสุํ. ภิกฺขูปิ อาหํสุ ‘‘อาวุโส, มนุสฺสา ธาตุสํยุตฺตกมฺเม ปโยเชนฺตี’’ติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโรปิ นาคทีเป เจติยํ วนฺทนาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺโต เอกสฺมึ คาเม มนุสฺเสหิ นิมนฺติโต. เถเรน จ สทฺธึ เอโก อสารุปฺปภิกฺขุ อตฺถิ. ธุรวิหาเรปิ ¶ เอโก อสารุปฺปภิกฺขุ อตฺถิ. ทฺวีสุ ภิกฺขุสงฺเฆสุ คามํ ¶ โอสรนฺเตสุ เต อุโภปิ ชนา, กิฺจาปิ อาคนฺตุเกน เนวาสิโก เนวาสิเกน วา อาคนฺตุโก น ทิฏฺปุพฺโพ, เอวํ สนฺเตปิ, เอกโต หุตฺวา หสิตฺวา หสิตฺวา กถยมานา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เถโร ทิสฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน ชานิตฺวา ธาตุสํยุตฺตํ กถิต’’นฺติ อาห.
เอวํ ‘อชฺฌาสยธาตุ นิยาเมตี’ติ วตฺวา ธาตุสํยุตฺเตน อยเมวตฺโถ ทีเปตพฺโพ. คิชฺฌกูฏปพฺพตสฺมิฺหิ คิลานเสยฺยาย นิปนฺโน ภควา อารกฺขณตฺถาย ปริวาเรตฺวา วสนฺเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทีสุ เอกเมกํ อตฺตโน อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ จงฺกมนฺตํ โอโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตํ สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ จงฺกมนฺต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สพฺเพ โข เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู มหาปฺา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๙๙) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพนฺติ.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา.
ฉฏฺพลนิทฺเทโส
๘๑๔. ฉฏฺพลนิทฺเทเส อาสยนฺติ ยตฺถ สตฺตา อาสยนฺติ นิวสนฺติ, ตํ เตสํ นิวาสฏฺานํ ทิฏฺิคตํ วา ยถาภูตํ าณํ วา. อนุสยนฺติ อปฺปหีนานุสยิตํ ¶ กิเลสํ. จริตนฺติ กายาทีหิ อภิสงฺขตํ กุสลากุสลํ. อธิมุตฺตนฺติ อชฺฌาสยํ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา. ตสฺเสว มหนฺตตาย มหารชกฺขา. อุภเยนาปิ มนฺทกิเลเส มหากิเลเส จ สตฺเต ทสฺเสติ. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ อาสยาทโย โกฏฺาสา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. วิปรีตา ทฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. วิปรีตา ทุวิฺาปยา. เย อริยมคฺคปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา, เต ภพฺพา. วิปรีตา อภพฺพา.
๘๑๕. เอวํ ¶ ฉฏฺพลสฺส มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ยถาปฏิปาฏิยา ภาเชนฺโต กตโม จ สตฺตานํ อาสโยติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ สสฺสโต โลโกติอาทีนํ อตฺโถ เหฏฺา นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๑๐๕) วุตฺโตเยว. อิติ ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วาติ เอวํ สสฺสตทิฏฺึ วา สนฺนิสฺสิตา. สสฺสตทิฏฺิ หิ เอตฺถ ภวทิฏฺีติ วุตฺตา; อุจฺเฉททิฏฺิ จ วิภวทิฏฺีติ. สพฺพทิฏฺีนฺหิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี หิ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพปิ ทิฏฺิคติกา สตฺตา อิมาว ทฺเว ทิฏฺิโย สนฺนิสฺสิตา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ทฺวยสนฺนิสฺสิโต โข ปนายํ, กจฺจาน, โลโก เยภุยฺเยน – อตฺถิตฺเจว นตฺถิตฺจา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕). เอตฺถ หิ อตฺถิตาติ สสฺสตํ, นตฺถิตาติ อุจฺเฉโท. อยํ ตาว วฏฺฏสนฺนิสฺสิตานํ ปุถุชฺชนสตฺตานํ อาสโย.
อิทานิ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตานํ สุทฺธสตฺตานํ อาสยํ ทสฺเสตุํ เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอเต วา ปนาติ เอเตเยว. อุโภ อนฺเตติ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาเต ทฺเว อนฺเต. อนุปคมฺมาติ อนลฺลียิตฺวา. อิทปฺปจฺจยตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสูติ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ. อนุโลมิกา ขนฺตีติ วิปสฺสนาาณํ. ยถาภูตํ วา าณนฺติ มคฺคาณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา ปฏิจฺจสมุปฺปาเท เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ เอเต อุโภ สสฺสตุจฺเฉทอนฺเต อนุปคนฺตฺวา วิปสฺสนา ปฏิลทฺธา, ยฺจ ตโต อุตฺตริมคฺคาณํ – อยํ สตฺตานํ อาสโย, อยํ วฏฺฏสนฺนิสฺสิตานฺจ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตานฺจ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสโย, อิทํ วสนฏฺานนฺติ. อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถา.
วิตณฺฑวาที ¶ ปนาห – ‘มคฺโค นาม วาสํ วิทฺธํเสนฺโต คจฺฉติ, นนุ ตฺวํ มคฺโค วาโสติ วเทสี’ติ? โส วตฺตพฺโพ ‘ตฺวํ อริยวาสภาณโก โหสิ น โหสี’ติ? สเจ ปน ‘น โหมี’ติ วทติ, ‘อภาณกตาย น ชานาสี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ‘ภาณโกสฺมี’ติ วทติ, ‘สุตฺตํ อาหรา’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อาหรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ อาหรติ สยํ อาหริตพฺพํ – ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยวาสา, เย อริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๙). เอตฺหิ สุตฺตํ มคฺคสฺส วาสภาวํ ทีเปติ. ตสฺมา ¶ สุกถิตเมเวตนฺติ. อิทํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต อิเมสฺจ ทิฏฺิคตานํ วิปสฺสนาาณมคฺคาณานํ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ เอว. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘กามํ ¶ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล กามครุโก กามาสโย กามาธิมุตฺโต’ติ. เนกฺขมฺมํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาสโย เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต’ติ. พฺยาปาทํ…เป… อพฺยาปาทํ… ถินมิทฺธํ…เป… อาโลกสฺํ เนกฺขมฺมํ เสวนฺตฺเว ชานาติ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล อาโลกสฺาครุโก อาโลกสฺาสโย อาโลกสฺาธิมุตฺโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓).
๘๑๖. อนุสยนิทฺเทเส กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยํ โลเก ปิยรูปนฺติ ยํ อิมสฺมึ โลเก ปิยชาติกํ. สาตรูปนฺติ สาตชาติกํ อสฺสาทปทฏฺานํ อิฏฺารมฺมณํ. เอตฺถ สตฺตานํ ราคานุสโย อนุเสตีติ เอตสฺมึ อิฏฺารมฺมเณ สตฺตานํ อปฺปหีนฏฺเน ราคานุสโย อนุเสติ. ยถา นาม อุทเก นิมุคฺคสฺส เหฏฺา จ อุปริ จ สมนฺตภาเค จ อุทกเมว โหติ, เอวเมว อิฏฺารมฺมเณ ราคุปฺปตฺติ นาม สตฺตานํ อาจิณฺณสมาจิณฺณา. ตถา อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิฆุปฺปตฺติ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสูติ เอวํ อิเมสุ ทฺวีสุ กามราคปฏิฆวนฺเตสุ อิฏฺานิฏฺารมฺมณธมฺเมสุ. อวิชฺชานุปติตาติ กามราคปฏิฆสมฺปยุตฺตา หุตฺวา อารมฺมณกรณวเสน อวิชฺชา อนุปติตา. ตเทกฏฺโติ ตาย อวิชฺชาย ¶ สมฺปยุตฺเตกฏฺวเสน เอกฏฺโ. มาโน จ ทิฏฺิ จ วิจิกิจฺฉา จาติ นววิโธ มาโน, ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ, อฏฺวตฺถุกา จ วิจิกิจฺฉา. ภวราคานุสโย ปเนตฺถ กามราคานุสเยเนว สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ.
๘๑๗. จริตนิทฺเทเส เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตตฺถ กามาวจโร ปริตฺตภูมโก, อิตโร มหาภูมโก. ตีสุปิ ¶ วา เอเตสุ โย โกจิ อปฺปวิปาโก ปริตฺตภูมโก, พหุวิปาโก มหาภูมโกติ เวทิตพฺโพ.
๘๑๘. อธิมุตฺตินิทฺเทโส เหฏฺา ปกาสิโตว. กสฺมา ปนายํ อธิมุตฺติ เหฏฺา วุตฺตาปิ ปุน คหิตาติ? อยฺหิ เหฏฺา ปาฏิเยกฺกํ พลทสฺสนวเสน คหิตา, อิธ สตฺตานํ ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยภาวทสฺสนตฺถํ.
๘๑๙. มหารชกฺขนิทฺเทเส ¶ อุสฺสทคตานีติ เวปุลฺลคตานิ. ปหานกฺกมวเสน เจส อุปฺปฏิปาฏิยา นิทฺเทโส กโต.
๘๒๐. อนุสฺสทคตานีติ อเวปุลฺลคตานึ. ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยนิทฺเทเส อุปนิสฺสยอินฺทฺริยานิ นาม กถิตานิ. อุปฺปฏิปาฏิยา นิทฺเทเส ปเนตฺถ ปโยชนํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๘๒๓. ตถา ทฺวาการนิทฺเทสาทีสุ ปาปาสยาติ อกุสลาสยา. ปาปจริตาติ อปฺุาภิสงฺขารปริปูรกา. ปาปาธิมุตฺติกาติ สกฺกายาภิรตา วฏฺฏชฺฌาสยา.
๘๒๔. สฺวาการนิทฺเทเส ยสฺมา กลฺยาณโก นาม อนุสโย นตฺถิ, ตสฺมา กลฺยาณานุสยาติ น วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพํ.
๘๒๖. ภพฺพาภพฺพนิทฺเทเส กมฺมาวรเณนาติ ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกปฏิสนฺธิยา. ยสฺมา ปน ทุเหตุกานมฺปิ อริยมคฺคปฏิเวโธ นตฺถิ, ตสฺมา ทุเหตุกปฏิสนฺธิปิ วิปากาวรณเมวาติ เวทิตพฺพา. อสฺสทฺธาติ ¶ พุทฺธาทีสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ภวงฺคปฺาย ปน ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โส ทุปฺปฺโเยว นาม. อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ มคฺคํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา.
๘๒๗. น กมฺมาวรเณนาติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพานิ. อิทํ ทฺวินฺนํ าณานํ ภาชนียํ – อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณสฺส ¶ จ อาสยานุสยาณสฺส จ. เอตฺถ หิ อาสยานุสยาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณมฺปิ ภาชิตํ. อิติ อิมานิ ทฺเว าณานิ เอกโต หุตฺวา เอกํ พลาณํ นาม ชาตนฺติ.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา.
สตฺตมพลนิทฺเทโส
๘๒๘. สตฺตมพลนิทฺเทเส ¶ ฌายตีติ ฌายี. จตฺตาโร ฌายีติ ฌายิโน จตฺตาโร ชนา วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ปมจตุกฺเก ตาว ปโม สมาปตฺติลาภี สมาโนเยว ‘น ลาภีมฺหี’ติ, กมฺมฏฺานํ สมานํเยว ‘น กมฺมฏฺาน’นฺติ สฺี โหติ. อยํ อปฺปคุณชฺฌานลาภีติ เวทิตพฺโพ. ทุติโย สมาปตฺติยา อลาภีเยว ‘ลาภีมฺหี’ติ, อกมฺมฏฺานํ สมานํเยว ‘กมฺมฏฺาน’นฺติ สฺี โหติ. อยํ นิทฺทาฌายี นาม. นิทฺทายิตฺวา ปฏิพุทฺโธ เอวํ มฺติ. ตติโย สมาปตฺติลาภี สมาโน ‘สมาปตฺติลาภีมฺหี’ติ, กมฺมฏฺานเมว สมานํ ‘กมฺมฏฺาน’นฺติ สฺี โหติ. อยํ ปคุณชฺฌานลาภีติ เวทิตพฺโพ. จตุตฺโถ อลาภีเยว ‘อลาภีมฺหี’ติ, อกมฺมฏฺานํเยว ‘อกมฺมฏฺาน’นฺติ สฺี โหติ. เอวเมตฺถ ทฺเว ชนา อชฺฌายิโนว ฌายีนํ อนฺโต ปวิฏฺตฺตา ฌายีติ วุตฺตา.
ทุติยจตุกฺเก สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน สมาธิปาริพนฺธิกธมฺเม วิกฺขมฺเภนฺโต ทนฺธํ สมาปชฺชติ นาม. เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร ตฺวา สหสา วุฏฺหนฺตา ขิปฺปํ วุฏฺหติ นาม. สุเขเนว ปน สมาธิปาริพนฺธิกธมฺเม โสเธนฺโต ขิปฺปํ สมาปชฺชติ นาม. ยถาปริจฺเฉเทน อวุฏฺหิตฺวา กาลํ ¶ อตินาเมตฺวา วุฏฺหนฺโต ทนฺธํ วุฏฺาติ นาม. อิตเร ทฺเวปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา. อิเม จตฺตาโรปิ ชนา สมาปตฺติลาภิโนว.
ตติยจตุกฺเก ‘อิทํ ฌานํ ปฺจงฺคิกํ, อิทํ จตุรงฺคิก’นฺติ เอวํ องฺคววตฺถานปริจฺเฉเท เฉโก สมาธิสฺมึ สมาธิกุสโล นาม. นีวรณานิ ปน วิกฺขมฺเภตฺวา จิตฺตมฺชูสาย จิตฺตํ เปตุํ อเฉโก โน สมาธิสฺมึ สมาปตฺติกุสโล นาม. อิตเรปิ ตโย อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา. อิเมปิ จตฺตาโร สมาปตฺติลาภิโนเยว.
อิทานิ ยานิ ฌานานิ นิสฺสาย อิเม ปุคฺคลา ‘ฌายี’ นาม ชาตา, ตานิ ทสฺเสตุํ จตฺตาริ ฌานานีติอาทิมาห. ตตฺถ จตฺตาริ ฌานานิ ¶ ตโย จ วิโมกฺขา อตฺถโต เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายเมว (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖๐, ๒๔๘) ปกาสิตา. เสสานมฺปิ วิโมกฺขฏฺโ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปฏิปาฏิยา สตฺต อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจนโต จ อารมฺมเณ จ อธิมุจฺจนโต วิโมกฺโข นาม. อฏฺโม ปน สพฺพโส สฺาเวทยิเตหิ ¶ วิมุตฺตตฺตา อปคตวิโมกฺโข นาม. สมาธีสุ จตุกฺกนยปฺจกนเยสุ ปมชฺฌานสมาธิ สวิตกฺกสวิจาโร นาม. ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธิ อวิตกฺกวิจารมตฺตสมาธิ นาม. จตุกฺกนเยปิ ปฺจกนเยปิ อุปริ ตีสุ ฌาเนสุ สมาธิ อวิตกฺก อวิจารสมาธิ นาม. สมาปตฺตีสุ หิ ปฏิปาฏิยา อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ‘สมาธี’ติปิ นามํ ‘สมาปตฺตี’ติปิ. กสฺมา? จิตฺเตกคฺคตาสพฺภาวโต. นิโรธสมาปตฺติยา ตทภาวโต น สมาธีติ นามํ.
หานภาคิโย ธมฺโมติ อปฺปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ กามาทิอนุปกฺขนฺทนํ. วิเสสภาคิโย ธมฺโมติ ปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ ทุติยชฺฌานาทิอนุปกฺขนฺทนํ. โวทานมฺปิ วุฏฺานนฺติ อิมินา ปคุณโวทานํ วุฏฺานํ นาม กถิตํ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ. ตสฺมา โวทานมฺปิ วุฏฺานนฺติ วุตฺตํ. ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺานนฺติ อิมินา ภวงฺควุฏฺานํ นาม กถิตํ. ภวงฺเคน หิ สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ. นิโรธโต ปน ผลสมาปตฺติยาว วุฏฺหนฺติ. อิทํ ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นามาติ.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา.
อฏฺมพลาทินิทฺเทโส
๘๒๙. อฏฺมพลนิทฺเทเส ¶ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสนฺติอาทิ สพฺพมฺปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. นวมพลนิทฺเทเสปิ ¶ ทิพฺเพน จกฺขุนาติอาทิ สพฺพํ ตตฺเถว วิตฺถาริตํ.
นวมพลนิทฺเทสวณฺณนา.
ทสมพลนิทฺเทโส
๘๓๑. ทสมพลนิทฺเทเส ¶ เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลาณํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. อยํ ตาเวตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถา. ปรวาที ปนาห – ‘‘ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ นตฺถิ, สพฺพฺุตาณสฺเสวายํ ปเภโท’’ติ. ตํ น ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ. สพฺพฺุตาณํ ปน ตมฺปิ ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุปิ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตกรณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริตรฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.
อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘ทสพลาณํ นาม เอตํ สวิตกฺกสวิจารํ, อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, อวิตกฺกาวิจารํ, กามาวจรํ, รูปาวจรํ, อรูปาวจรํ, โลกิยํ, โลกุตฺตร’’นฺติ? ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ; ตโต ‘‘ปรานิ ทฺเว าณานิ อวิตกฺกาวิจารานี’’ติ วกฺขติ; ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกวิจาร’’นฺติ วกฺขติ. ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา ¶ สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ; ‘‘สพฺพฺุตาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว, กามาวจรเมว, โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ. อิติ อฺเทว ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตาณนฺติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
าณวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๘๓๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเคปิ ปมํ มาติกํ เปตฺวา นิกฺขิตฺตปทานุกฺกเมน นิทฺเทโส กโต. ตตฺรายํ นิกฺเขปปริจฺเฉโท. อาทิโต ตาว ชาติมโทติอาทโย เตสตฺตติ เอกกา นิกฺขิตฺตา, ตโต โกโธ จ อุปนาโห จาติอาทโย อฏฺารส ทุกา, อกุสลมูลาทโย ปฺจตึส ติกา, อาสวจตุกฺกาทโย จุทฺทส จตุกฺกา, โอรมฺภาคิยสํโยชนาทโย ปนฺนรส ปฺจกา, วิวาทมูลาทโย จุทฺทส ฉกฺกา, อนุสยาทโย สตฺต สตฺตกา, กิเลสวตฺถุอาทโย อฏฺ อฏฺกา, อาฆาตวตฺถุอาทโย นว นวกา, กิเลสวตฺถุอาทโย สตฺต ทสกา, อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานีติอาทโย ฉ อฏฺารสกาติ สพฺพานิปิ เอตานิ อฏฺ กิเลสสตานิ นิกฺขิตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อยํ ตาว นิกฺเขปปริจฺเฉโท.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๔๓-๘๔๔. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย ตตฺถ กตโม ชาติมโทติอาทินา นเยน อารทฺเธ นิทฺเทสวาเร ชาตึ ปฏิจฺจาติ ชาตึ นิสฺสาย. เอตฺถ จ อตฺถิปฏิจฺจํ นาม กถิตํ, ตสฺมา ชาติยา สตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. โคตฺตํ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มทนวเสน มโท. มชฺชนากาโร มชฺชนา. มชฺชิตภาโว มชฺชิตตฺตํ. มาโน มฺนาติอาทีนิ เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๑๒๑) วุตฺตตฺถาเนว. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํ ชาติยา สติ ตํ ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน มชฺชนาการปฺปวตฺโต มาโน ชาติมโทติ วุจฺจติ. สฺวายํ ¶ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ อุปฺปชฺชติ. ชาติสมฺปนฺโน หิ ขตฺติโย ‘มาทิโส อฺโ นตฺถิ. อวเสสา อนฺตรา อุฏฺาย ขตฺติยา ชาตา. อหํ ปน วํสาคตขตฺติโย’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. โคตฺตมทนิทฺเทสาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ขตฺติโยปิ ¶ หิ ‘อหํ โกณฺฑฺโคตฺโต, อหํ อาทิจฺจโคตฺโต’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมโณปิ ‘อหํ กสฺสปโคตฺโต ¶ , อหํ ภารทฺวาชโคตฺโต’ติ มานํ กโรติ. เวสฺโสปิ สุทฺโทปิ อตฺตโน อตฺตโน กุลโคตฺตํ นิสฺสาย มานํ กโรติ. อฏฺารสาปิ เสณิโย ‘เอกิสฺสา เสณิยา ชาตมฺหา’ติ มานํ กโรนฺติเยว.
อาโรคฺยมทาทีสุ ‘อหํ อโรโค, อวเสสา โรคพหุลา, คทฺทุหนมตฺตมฺปิ มยฺหํ พฺยาธิ นาม นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรคฺยมโท นาม.
‘อหํ ตรุโณ, อวเสสสตฺตานํ อตฺตภาโว ปปาเต ิตรุกฺขสทิโส, อหํ ปน ปมวเย ิโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โยพฺพนมโท นาม.
‘อหํ จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ; สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ชีวิตมโท นาม.
‘อหํ ลาภี, อวเสสา สตฺตา อปฺปลาภา, มยฺหํ ปน ลาภสฺส ปมาณํ นาม นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ลาภมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ยํ วา ตํ วา ลภนฺติ, อหํ ปน สุกตํ ปณีตํ จีวราทิปจฺจยํ ลภามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สกฺการมโท นาม.
‘อวเสสภิกฺขูนํ ปาทปิฏฺิยํ อกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺตา มนุสฺสา อยํ สมโณติปิ น วนฺทนฺติ, มํ ปน ทิสฺวาว วนฺทนฺติ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กตฺวา อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ ทุราสทํ กตฺวา มฺนฺตี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ครุการมโท นาม.
‘อุปฺปนฺโน ¶ ปฺโห มยฺหเมว มุเขน ฉิชฺชติ, ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตาปิ มเมว ปุรโต กตฺวา ปริวาเรตฺวา คจฺฉนฺตี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปุเรกฺขารมโท นาม.
อคาริกสฺส ตาว มหาปริวารสฺส ‘ปุริสสตมฺปิ ปุริสสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรติ,’ อนคาริยสฺส ปน ‘สมณสตมฺปิ สมณสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรติ, เสสา อปฺปปริวารา, อหํ มหาปริวาโร เจว สุจิปริวาโร จา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริวารมโท นาม.
โภโค ¶ ปน กิฺจาปิ ลาภคฺคหเณเนว คหิโต โหติ, อิมสฺมึ ปน าเน นิกฺเขปราสิ นาม คหิโต; ตสฺมา ‘อวเสสา สตฺตา อตฺตโน ปริโภคมตฺตมฺปิ น ลภนฺติ, มยฺหํ ปน นิธานคตสฺเสว ธนสฺส ปมาณํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โภคมโท นาม.
วณฺณํ ¶ ปฏิจฺจาติ สรีรวณฺณมฺปิ คุณวณฺณมฺปิ ปฏิจฺจ. ‘อวเสสา สตฺตา ทุพฺพณฺณา ทุรูปา, อหํ ปน อภิรูโป ปาสาทิโก; อวเสสา สตฺตา นิคฺคุณา ปตฺถฏอกิตฺติโน, มยฺหํ ปน กิตฺติสทฺโท เทวมนุสฺเสสุ ปากโฏ – อิติปิ เถโร พหุสฺสุโต, อิติปิ สีลวา, อิติปิ ธุตคุณยุตฺโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน วณฺณมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา อปฺปสฺสุตา, อหํ ปน พหุสฺสุโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สุตมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา อปฺปฏิภานา, มยฺหํ ปน ปฏิภานสฺส ปมาณํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปฏิภานมโท นาม.
‘อหํ รตฺตฺู อสุกํ พุทฺธวํสํ, ราชวํสํ, ชนปทวํสํ, คามวํสํ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ, นกฺขตฺตมุหุตฺตโยคํ ชานามี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน รตฺตฺุมโท นาม.
‘อวเสสา ภิกฺขู อนฺตรา ปิณฺฑปาติกา ชาตา, อหํ ปน ชาติปิณฺฑปาติโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปิณฺฑปาติกมโท นาม.
‘อวเสสา ¶ สตฺตา อฺุาตา อวฺาตา, อหํ ปน อนฺุาโต อนวฺาโต’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อนวฺาตมโท นาม.
‘อวเสสานํ อิริยาปโถ อปาสาทิโก, มยฺหํ ปน ปาสาทิโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิริยาปถมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ฉินฺนปกฺขกากสทิสา, อหํ ปน มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ วา ‘อหํ ยํ ยํ กมฺมํ กโรมิ, ตํ ตํ อิชฺฌตี’ติ วา มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิทฺธิมโท นาม.
เหฏฺา ปริวารคฺคหเณน ยโส คหิโตว โหติ. อิมสฺมึ ปน าเน อุปฏฺากมโท นาม คหิโต. โส อคาริเกนปิ อนคาริเกนปิ ทีเปตพฺโพ. อคาริโก หิ เอกจฺโจ อฏฺารสสุ เสณีสุ เอกิสฺสา เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘อวเสเส ปุริเส อหํ ปฏฺเปมิ, อหํ วิจาเรมี’ติ ¶ ; อนคาริโกปิ เอกจฺโจ กตฺถจิ เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘อวเสสา ภิกฺขู มยฺหํ โอวาเท วตฺตนฺติ, อหํ เชฏฺโก’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ยสมโท นาม.
‘อวเสสา สตฺตา ทุสฺสีลา, อหํ ปน สีลวา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สีลมโท นาม. ‘อวเสสสตฺตานํ กุกฺกุฏสฺส อุทกปานมตฺเตปิ กาเล จิตฺเตกคฺคตา นตฺถิ, อหํ ปน อุปจารปฺปนานํ ลาภี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ฌานมโท ¶ นาม.
‘อวเสสา สตฺตา นิสฺสิปฺปา, อหํ ปน สิปฺปวา’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สิปฺปมโท นาม. ‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา, อหํ ปน ทีโฆ’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรหมโท นาม. ‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา วา โหนฺติ ทีฆา วา, อหํ นิคฺโรธปริมณฺฑโล’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริณาหมโท นาม. ‘อวเสสสตฺตานํ สรีรสณฺานํ วิรูปํ พีภจฺฉํ, มยฺหํ ปน มนาปํ ปาสาทิก’นฺติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สณฺานมโท นาม. ‘อวเสสานํ สตฺตานํ สรีเร พหู โทสา, มยฺหํ ปน สรีเร เกสคฺคมตฺตมฺปิ วชฺชํ นตฺถี’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปาริปูริมโท นาม.
๘๔๕. อิมินา ¶ เอตฺตเกน าเนน สวตฺถุกํ มานํ กเถตฺวา อิทานิ อวตฺถุกํ นิพฺพตฺติตมานเมว ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตโม มโทติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
๘๔๖. ปมาทนิทฺเทเส จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโคติ อิเมสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ สติยา อนิคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนํ; สติวิรโหติ อตฺโถ. โวสฺสคฺคานุปฺปทานนฺติ โวสฺสคฺคสฺส อนุปฺปทานํ; ปุนปฺปุนํ วิสฺสชฺชนนฺติ อตฺโถ. อสกฺกจฺจกิริยตาติ เอเตสํ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา อสกฺกจฺจกรณวเสน อสกฺกจฺจกิริยา. สตตภาโว สาตจฺจํ. น สตตภาโว อสาตจฺจํ. น สาตจฺจกิริยตา อสาตจฺจกิริยตา. อนฏฺิตกรณํ อนฏฺิตกิริยตา. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ, เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ วา ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ, ตสฺส สา ¶ กิริยา อนฏฺิตกิริยตาติ วุจฺจติ. โอลีนวุตฺติตาติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺเสว อภาเวน ลีนวุตฺติตา. นิกฺขิตฺตฉนฺทตาติ กุสลกิริยาย วีริยฉนฺทสฺส นิกฺขิตฺตภาโว. นิกฺขิตฺตธุรตาติ วีริยธุรสฺส โอโรปนํ, โอสกฺกิตมานสตาติ อตฺโถ. อนธิฏฺานนฺติ ¶ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนนุโยโคติ อนนุยฺุชนํ. ปมาโทติ ปมชฺชนํ. โย เอวรูโป ปมาโทติ อิทํ อตฺถปริยายสฺส พฺยฺชนปริยายสฺส จ ปริยนฺตาภาวโต อาการทสฺสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยฺวายํ อาทิโต ปฏฺาย ทสฺสิโต ปมาโท, โย อฺโปิ เอวมากาโร เอวํชาติโก ปมาโท ปมชฺชนาการวเสน ปมชฺชนา, ปมชฺชิตภาววเสน ปมชฺชิตตฺตนฺติ สงฺขํ คโต – อยํ วุจฺจติ ปมาโทติ. ลกฺขณโต ปเนส ปฺจสุ กามคุเณสุ สติโวสฺสคฺคลกฺขโณ, ตตฺเถว สติยา วิสฺสฏฺากาโร เวทิตพฺโพ.
๘๔๗. ถมฺภนิทฺเทเส ถทฺธฏฺเน ถมฺโภ; ขลิยา ถทฺธสาฏกสฺส วิย จิตฺตสฺส ถทฺธตา เอตฺถ กถิตา. ถมฺภนากาโร ถมฺภนา. ถมฺภิตสฺส ภาโว ถมฺภิตตฺตํ. กกฺขฬสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว กกฺขฬิยํ. ผรุสสฺส ปุคฺคลสฺส ภาโว ผารุสิยํ. อภิวาทนาทิสามีจิรหานํ ตสฺสา สามีจิยา อกรณวเสน อุชุเมว ปิตจิตฺตภาโว อุชุจิตฺตตา. ถทฺธสฺส อมุทุโน ภาโว อมุทุตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ถมฺโภ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คิลิตนงฺคลสีโส วิย อชคโร, วาตภริตา วิย ภสฺตา เจติยํ วา วุฑฺฒตเร วา ทิสฺวา โอนมิตุํ ¶ น สกฺโกติ, ปริยนฺเตเนว จรติ. สฺวายํ จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณติ เวทิตพฺโพ.
๘๔๘. สารมฺภนิทฺเทเส สารมฺภนวเสน สารมฺโภ. ปฏิปฺผริตฺวา สารมฺโภ ปฏิสารมฺโภ. สารมฺภนากาโร สารมฺภนา. ปฏิปฺผริตฺวา สารมฺภนา ปฏิสารมฺภนา. ปฏิสารมฺภิตสฺส ภาโว ปฏิสารมฺภิตตฺตํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สารมฺโภ นาม วุจฺจติ. สฺวายํ ลกฺขณโต กรณุตฺตริยลกฺขโณ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณํ กโรติ. อคาริโก สมาโน เอเกเนกสฺมึ ฆรวตฺถุสฺมึ สชฺชิเต อปโร ทฺเว วตฺถูนิ สชฺเชติ, อปโร จตฺตาริ, อปโร ¶ อฏฺ, อปโร โสฬส. อนคาริโก สมาโน เอเกเนกสฺมึ นิกาเย คหิเต, ‘นาหํ เอตสฺส เหฏฺา ภวิสฺสามี’ติ อปโร ทฺเว คณฺหาติ, อปโร ตโย, อปโร จตฺตาโร, อปโร ปฺจ. สารมฺภวเสน หิ คณฺหิตุํ น ¶ วฏฺฏติ. อกุสลปกฺโข เอส นิรยคามิมคฺโค. กุสลปกฺขวเสน ปน เอกสฺมึ เอกํ สลากภตฺตํ เทนฺเต ทฺเว ทาตุํ, ทฺเว เทนฺเต จตฺตาริ ทาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนาปิ ปเรน เอกสฺมึ นิกาเย คหิเต, ‘ทฺเว นิกาเย คเหตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส เม ผาสุ โหตี’ติ วิวฏฺฏปกฺเข ตฺวา ตทุตฺตริ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
๘๔๙. อตฺริจฺฉตานิทฺเทเส ยถา อริยวํสสุตฺเต (อ. นิ. ๔.๒๘) ‘ลามกลามกฏฺโ อิตรีตรฏฺโ’ เอวํ อคฺคเหตฺวา จีวราทีสุ ยํ ยํ ลทฺธํ โหติ, เตน เตน อสนฺตุฏฺสฺส; คิหิโน วา ปน รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ ยํ ยํ ลทฺธํ โหติ, เตน เตน อสนฺตุฏฺสฺส. ภิยฺโยกมฺยตาติ วิเสสกามตา. อิจฺฉนกวเสน อิจฺฉา. อิจฺฉาว อิจฺฉาคตา, อิจฺฉนากาโร วา. อตฺตโน ลาภํ อติจฺจ อิจฺฉนภาโว อติจฺฉตา. ราโคติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อติจฺฉตา นาม วุจฺจติ. อตฺริจฺฉตาติปิ เอติสฺสา เอว นามํ. ลกฺขณโต ปน สกลาเภ อสนฺตุฏฺิ ปรลาเภ จ ปตฺถนา – เอตํ อตฺริจฺฉตาลกฺขณํ. อตฺริจฺฉปุคฺคลสฺส หิ อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตมฺปิ ลามกํ วิย ขายติ, ปเรน ลทฺธํ ลามกมฺปิ ปณีตํ วิย ขายติ; เอกภาชเน ปกฺกยาคุ วา ภตฺตํ วา ปูโว วา อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิตฺโต ลามโก วิย, ปรสฺส ปตฺเต ปณีโต วิย ขายติ. อยํ ปน อตฺริจฺฉตา ปพฺพชิตานมฺปิ โหติ คิหีนมฺปิ ติรจฺฉานคตานมฺปิ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร กุฏุมฺพิโก ตึส ภิกฺขุนิโย นิมนฺเตตฺวา สปูวํ ภตฺตํ อทาสิ ¶ . สงฺฆตฺเถรี สพฺพภิกฺขูนีนํ ปตฺเต ปูวํ ปริวตฺตาเปตฺวา ปจฺฉา อตฺตนา ลทฺธเมว ขาทิ. พาราณสิราชาปิ ‘องฺคารปกฺกมํสํ ขาทิสฺสามี’ติ เทวึ อาทาย อรฺํ ปวิฏฺโ เอกํ กินฺนรึ ทิสฺวา, เทวึ ปหาย, ตสฺสานุปทํ คโต. เทวี นิวตฺติตฺวา อสฺสมปทํ คนฺตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย ปตฺวา นิสินฺนา ¶ ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา อคมาสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา อิมํ คาถมาห –
อตฺริจฺฉํ อติโลเภน, อติโลภมเทน จ;
เอวํ หายติ อตฺถมฺหา, อหํว อสิตาภุยาติ. (ชา. ๑.๒.๑๖๘);
ยถา ¶ จนฺทกินฺนรึ ปตฺถยนฺโต อสิตาภุยา ราชธีตาย หีโน ปริหีโน, เอวํ อตฺริจฺฉํ อติโลเภน อตฺถมฺห หายติ ชียตีติ เทวตา รฺา สทฺธึ เกฬิมกาสิ.
กสฺสปพุทฺธกาเลปิ มิตฺตวินฺทโก นาม เสฏฺิปุตฺโต อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน มาตรา ‘ตาต, อชฺช อุโปสถิโก หุตฺวา วิหาเร สพฺพรตฺตึ ธมฺมสวนํ สุณ, สหสฺสํ เต ทสฺสามี’ติ วุตฺเต ธนโลเภน อุโปสถงฺคานิ สมาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ‘อิทํ านํ อกุโตภย’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ธมฺมาสนสฺส เหฏฺา นิปนฺโน สพฺพรตฺตึ นิทฺทายิตฺวา ฆรํ อคมาสิ. มาตา ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อุปนาเมสิ. โส สหสฺสํ คเหตฺวาว ยาคุํ ปิวิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘ธนํ สํหริสฺสามี’ติ. โส นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, อิมสฺมึ กุเล จตฺตาลีสโกฏิธนํ อตฺถิ; อลํ คมเนนา’’ติ วาเรสิ. โส ตสฺสา วจนํ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ เอว. สา ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ กุชฺฌิตฺวา ‘อยํ มยฺหํ ปุรโต ติฏฺตี’ติ ปาเทน ปหริตฺวา ปติตํ มาตรํ อนฺตรํ กตฺวา อคมาสิ. มาตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘มาทิสาย มาตริ เอวรูปํ กมฺมํ กตฺวา คตสฺส เม คตฏฺาเน สุขํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํสฺี นาม ตฺวํ ปุตฺตาติ อาห. ตสฺส นาวํ อารุยฺห คจฺฉโต สตฺตเม ทิวเส นาวา อฏฺาสิ. อถ เต มนุสฺสา ‘‘อทฺธา เอตฺถ ปาปปุริโส อตฺถิ; สลากํ เทถา’’ติ สลากา ทียมานา ตสฺเสว ติกฺขตฺตุํ ปาปุณิ. เต ตสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ตํ สมุทฺเท ปกฺขิปึสุ. โส เอกํ ทีปํ คนฺตฺวา วิมานเปตีหิ สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตาหิ ‘‘ปุรโต มา อคมาสี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ตทฺทิคุณํ สมฺปตฺตึ ปสฺสนฺโต อนุปุพฺเพน ขุรจกฺกธรํ เอกํ ปุริสํ อทฺทส. ตสฺส ตํ จกฺกํ ปทุมปุปฺผํ วิย อุปฏฺาติ. โส ตํ อาห – ‘‘อมฺโภ, อิทํ ตยา ปิฬนฺธปทุมํ ¶ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘นยิทํ, สามิ ¶ , ปทุมํ; ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. โส ‘‘วฺเจสิ มํ ตฺวํ. กึ เม ปทุมํ น ทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ตฺวฺหิ โลหิตจนฺทนํ ลิมฺเปตฺวา ปิฬนฺธนํ ปทุมปุปฺผํ มยฺหํ น ทาตุกาโมสี’’ติ อาห. โส จินฺเตสิ – ‘อยมฺปิ มยา กตสทิสํ กมฺมํ กตฺวา ตสฺส ผลํ อนุภวิตุกาโม’ติ. อถ นํ ‘‘หนฺท เร’’ติ วตฺวา ¶ ตสฺส มตฺถเก จกฺกํ ปกฺขิปิตฺวา ปลายิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา อิมํ คาถมาห –
‘‘จตุพฺภิ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺหิ ปิจ โสฬส;
โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อตฺริจฺฉํ จกฺกมาสโท;
อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๐๔);
อฺตโรปิ อตฺริจฺโฉ อมจฺโจ สกวิสยํ อติกฺกมิตฺวา ปรวิสยํ ปาวิสิ. ตตฺถ โปถิโต ปลายิตฺวา เอกสฺส ตาปสสฺส วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย นิปชฺชิ. โส ตาปเสน ‘กึ เต กต’นฺติ ปุจฺฉิโต อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘สกํ นิเกตํ อติหีฬยาโน,
อตฺริจฺฉตา มลฺลคามํ อคจฺฉึ;
ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา,
โกทณฺฑเกน ปริโปถยึสุ มํ.
‘‘โส ภินฺนสีโส รุหิรมกฺขิตงฺโค,
ปจฺจาคมาสึ สกํ นิเกตํ;
ตสฺมา อหํ โปสถํ ปาลยามิ,
อตฺริจฺฉตา มา ปุนราคมาสี’’ติ. (ชา. ๑.๑๔.๑๓๘-๑๓๙);
๘๕๐. มหิจฺฉตานิทฺเทเส มหนฺตานิ วตฺถูนิ อิจฺฉติ, มหตี วาสฺส อิจฺฉาติ มหิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว มหิจฺฉตา. ลกฺขณโต ปน อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ อมตฺตฺุตา – เอตํ มหิจฺฉตาลกฺขณํ. มหิจฺโฉ หิ ปุคฺคโล ยถา นาม กจฺฉปุฏวาณิโช ปิฬนฺธนภณฺฑกํ หตฺเถน คเหตฺวา อุจฺฉงฺเคปิ ปกฺขิปิตพฺพยุตฺตกํ ปกฺขิปิตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ¶ ‘‘อมฺมา, อสุกํ คณฺหถ, อสุกํ คณฺหถา’’ติ มุเขน สํวิทหติ. เอวเมว โส อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺตโน สีลํ วา คนฺถํ วา ธุตคุณํ วา อนฺตมโส อรฺวาสมตฺตกมฺปิ มหาชนสฺส ชานนฺตสฺเสว สมฺภาเวตุกาโม ¶ โหติ, สมฺภาเวตฺวา จ ปน สกเฏหิปิ อุปนีเต ปจฺจเย ‘อล’นฺติ อวตฺวา คณฺหาติ. ตโย หิ ปูเรตุํ น สกฺกา – อคฺคิ อุปาทาเนน, สมุทฺโท อุทเกน, มหิจฺโฉ ปจฺจเยหีติ.
อคฺคิกฺขนฺโธ สมุทฺโท จ, มหิจฺโฉ จาปิ ปุคฺคโล;
พหุเก ปจฺจเย เทนฺเต, ตโย เปเต น ปูรเย.
มหิจฺฉปุคฺคโล ¶ หิ วิชาตมาตุยาปิ มนํ คณฺหิตุํ น สกฺโกติ, ปเคว อุปฏฺากานํ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เอโก กิร ทหรภิกฺขุ ปิฏฺปูเว ปิยายติ. อถสฺส มาตา ปฏิปตฺตึ วีมํสมานา ‘สเจ เม ปุตฺโต ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ ชานาติ, สกลมฺปิ นํ เตมาสํ ปูเวเหว อุปฏฺหิสฺสามี’ติ วสฺสูปนายิกทิวเส ปริวีมํสมานา ปมํ เอกํ ปูวํ อทาสิ, ตสฺมึ นิฏฺิเต ทุติยํ, ตสฺมิมฺปิ นิฏฺิเต ตติยํ. ทหโร ‘อล’นฺติ อวตฺวา ขาทิเยว. มาตา ตสฺส อมตฺตฺุภาวํ ตฺวา ‘อชฺเชว เม ปุตฺเตน สกลเตมาสสฺส ปูวา ขาทิตา’ติ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย เอกปูวมฺปิ น อทาสิ.
ติสฺสมหาราชาปิ เทวสิกํ เจติยปพฺพเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ททมาโน ‘มหาราช, กึ เอกเมว านํ ภชสิ? กึ อฺตฺถ ทาตุํ น วฏฺฏตี’ติ ชานปเทหิ วุตฺโต ทุติยทิวเส อนุราธปุเร มหาทานํ ทาเปสิ. เอกภิกฺขุปิ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ น อฺาสิ. เอกเมเกน ปฏิคฺคหิตํ ขาทนียโภชนียํ ทฺเว ตโย ชนา อุกฺขิปึสุ. ราชา ทุติยทิวเส เจติยปพฺพเต ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺตาเปตฺวา ราชนฺเตปุรํ อาคตกาเล ‘‘ปตฺตํ เทถา’’ติ อาห. ‘‘อลํ, มหาราช, อตฺตโน ปมาเณน ภิกฺขํ คณฺหิสฺสตี’’ติ เอกภิกฺขุปิ ปตฺตํ น อทาสิ. สพฺเพ ปมาณยุตฺตกเมว ปฏิคฺคเหสุํ. อถ ราชา อาห – ‘‘ปสฺสถ ตุมฺหากํ ภิกฺขูสุ เอโกปิ มตฺตํ น ชานาติ. หิยฺโย กิฺจิ อวเสสํ นาโหสิ. อชฺช คหิตํ มนฺทํ, อวเสสเมว พหู’’ติ เตสํ มตฺตฺุตาย อตฺตมโน อิตเรสฺจ อมตฺตฺุตาย อนตฺตมโน อโหสิ.
๘๕๑. ปาปิจฺฉตานิทฺเทเส ¶ อสฺสทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติอาทีสุ เอวํ อิจฺฉนฺโต กึ กโรติ? อสฺสทฺโธ สทฺธาการํ ทสฺเสติ; ทุสฺสีลาทโย สีลวนฺตาทีนํ อาการํ ทสฺเสนฺติ. กถํ? อสฺสทฺโธ ¶ ตาว มหามหทิวเส มนุสฺสานํ วิหารํ อาคมนเวลาย สมฺมชฺชนึ อาทาย วิหารํ สมฺมชฺชติ, กจวรํ ฉฑฺเฑติ, มนุสฺเสหิ ทิฏฺภาวํ ตฺวา เจติยงฺคณํ คจฺฉติ, ตตฺถาปิ สมฺมชฺชิตฺวา กจวรํ ฉฑฺเฑติ, วาลิกํ สมํ กโรติ, อาสนานิ โธวติ, โพธิมฺหิ อุทกํ สิฺจติ. มนุสฺสา ทิสฺวา ‘นตฺถิ มฺเ อฺโ ภิกฺขุ วิหารชคฺคนโก, อยเมว อิมํ วิหารํ ปฏิชคฺคติ, สทฺโธ เถโร’ติ คมนกาเล นิมนฺเตตฺวา คจฺฉนฺติ. ทุสฺสีโลปิ ¶ อุปฏฺากานํ สมฺมุเข วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, มยิ คจฺฉนฺเต โคโณ อุพฺพิคฺโค. เตน ธาวตา ติณานิ ฉินฺนานิ. สมฺมชฺชนฺตสฺส เม ติณานิ ฉิชฺชนฺติ. จงฺกมนฺตสฺส เม ปาณกา มียนฺติ. เขฬํ ปาเตนฺตสฺส อสติยา ติณมตฺถเก ปตติ; ตตฺถ ตตฺถ กึ โหตี’’ติ? ‘‘อนาปตฺติ, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา อชานนฺตสฺสา’’ติ จ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ครุกํ วิย อุปฏฺาติ; สุฏฺุ วีมํสถา’’ติ ภณติ. ตํ สุตฺวา มนุสฺสา ‘อมฺหากํ อยฺโย เอตฺตเกปิ กุกฺกุจฺจายติ! อฺสฺมึ โอฬาริเก กึ นาม กริสฺสติ; นตฺถิ อิมินา สทิโส สีลวาติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ. อปฺปสฺสุโตปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘อสุโก ติปิฏกธโร, อสุโก จตุนิกายิโก มยฺหํ อนฺเตวาสิโก, มม สนฺติเก เตหิ ธมฺโม อุคฺคหิโต’’ติ วทติ. มนุสฺสา ‘อมฺหากํ อยฺเยน สทิโส พหุสฺสุโต นตฺถิ, เอตสฺส กิร สนฺติเก อสุเกน จ อสุเกน จ ธมฺโม อุคฺคหิโต’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
สงฺคณิการาโมปิ มหามหทิวเส ทีฆปีฺจ อปสฺสยฺจ คาหาเปตฺวา วิหารปจฺจนฺเต รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทติ. มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ‘‘เถโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉนฺติ. ‘‘คณฺิกปุตฺตา นาม คณฺิกา เอว โหนฺติ. เตน เถโร เอวรูเป กาเล อิธ น นิสีทติ, วิหารปจฺจนฺเต ทิวาฏฺาเน ทีฆจงฺกเม วิหรตี’’ติ วทนฺติ. โสปิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา นลาเฏ มกฺกฏสุตฺตํ อลฺลิยาเปตฺวา ปีํ คาหาเปตฺวา อาคมฺม ปริเวณทฺวาเร นิสีทติ. มนุสฺสา ‘‘กหํ, ภนฺเต, คตตฺถ? อาคนฺตฺวา น อทฺทสมฺหา’’ติ วทนฺติ. ‘‘อุปาสกา, อนฺโตวิหาโร อากิณฺโณ; ทหรสามเณรานํ วิจรณฏฺานเมตํ สฏฺิหตฺถจงฺกเม ทิวาฏฺาเน นิสีทิมฺหา’’ติ อตฺตโน ปวิวิตฺตภาวํ ชานาเปติ.
กุสีโตปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘อุปาสกา, ตุมฺเหหิ อุกฺกาปาโต ทิฏฺโ’’ติ วทติ. ‘‘น ¶ ปสฺสาม, ภนฺเต; กาย เวลาย อโหสี’’ติ ¶ จ ปุฏฺโ ‘‘อมฺหากํ จงฺกมนเวลายา’’ติ วตฺวา ‘‘ภูมิจาลสทฺทํ อสฺสุตฺถา’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘น สุณาม, ภนฺเต; กาย เวลายา’’ติ ปุฏฺโ ‘‘มชฺฌิมยาเม อมฺหากํ อาลมฺพนผลกํ อปสฺสาย ิตกาเล’’ติ วตฺวา ‘‘มหาโอภาโส อโหสิ; โส โว ทิฏฺโ’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต’’ติ จ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ จงฺกมมฺหา โอตรณกาเล’’ติ วทติ. มนุสฺสา ¶ ‘อมฺหากํ เถโร ตีสุปิ ยาเมสุ จงฺกเมเยว โหติ; นตฺถิ อยฺเยน สทิโส อารทฺธวีริโย’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
มุฏฺสฺสตีปิ อุปฏฺากมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘มยา อสุกกาเล นาม ทีฆนิกาโย อุคฺคหิโต, อสุกกาเล มชฺฌิโม, สํยุตฺตโก, องฺคุตฺตริโก; อนฺตรา โอโลกนํ นาม นตฺถิ, อิจฺฉิติจฺฉตฏฺาเน มุขารุฬฺโหว ตนฺติ อาคจฺฉติ; อิเม ปนฺเ ภิกฺขู เอฬกา วิย มุขํ ผนฺทาเปนฺตา วิหรนฺตี’’ติ วทติ. มนุสฺสา ‘นตฺถิ อยฺเยน สทิโส อุปฏฺิตสตี’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
อสมาหิโตปิ อุปฏฺากานํ สมฺมุเข อฏฺกถาจริเย ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘กสิณํ นาม กถํ ภาเวติ? กิตฺตเกน นิมิตฺตํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ? กิตฺตเกน อุปจาโร? กิตฺตเกน อปฺปนา? ปมสฺส ฌานสฺส กติ องฺคานิ? ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส ฌานสฺส กติ องฺคานิ’’ติ ปุจฺฉติ. เตหิ อตฺตโน อุคฺคหิตานุรูเปน กถิตกาเล สิตํ กตฺวา ‘กึ, อาวุโส, เอวํ น โหสี’ติ วุตฺเต ‘วฏฺฏติ, ภนฺเต’ติ อตฺตโน สมาปตฺติลาภิตํ สูเจติ. มนุสฺสา ‘สมาปตฺติลาภี อยฺโย’ติ ปสนฺนา สกฺการํ กโรนฺติ.
ทุปฺปฺโปิ อุปฏฺากานํ มชฺเฌ นิสินฺโน ‘มชฺฌิมนิกาเย เม ปฺจตฺตยํ โอโลเกนฺตสฺส สหิทฺธิยาว มคฺโค อาคโต. ปริยตฺติ นาม อมฺหากํ น ทุกฺกรา. ปริยตฺติวาวโฏ ปน ทุกฺขโต น มุจฺจตีติ ปริยตฺตึ วิสฺสชฺชยิมฺหา’ติอาทีนิ วทนฺโต อตฺตโน มหาปฺตํ ทีเปติ. เอวํ วทนฺโต ปนสฺส สาสเน ปหารํ เทติ. อิมินา สทิโส มหาโจโร นาม นตฺถิ. น หิ ปริยตฺติธโร ทุกฺขโต น มุจฺจตีติ. อขีณาสโวปิ คามทารเก ทิสฺวา ‘ตุมฺหากํ มาตาปิตโร อมฺเห กึ วทนฺตี’’ติ? ‘‘อรหาติ ¶ วทนฺติ, ภนฺเต’’ติ. ‘ยาว เฉกา คหปติกา, น สกฺกา วฺเจตุ’นฺติ อตฺตโน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ.
อฺเปิ ¶ เจตฺถ จาฏิอรหนฺตปาโรหอรหนฺตาทโย เวทิตพฺพา – เอโก กิร กุหโก อนฺโตคพฺเภ จาฏึ นิขณิตฺวา มนุสฺสานํ อาคมนกาเล ปวิสติ. มนุสฺสา ‘กหํ เถโร’ติ ปุจฺฉนฺติ. ‘อนฺโตคพฺเภ’ติ จ วุตฺเต ปวิสิตฺวา วิจินนฺตาปิ อทิสฺวา ¶ นิกฺขมิตฺวา ‘นตฺถิ เถโร’ติ วทนฺติ. ‘อนฺโตคพฺเภเยว เถโร’ติ จ วุตฺเต ปุน ปวิสนฺติ. เถโร จาฏิโต นิกฺขมิตฺวา ปีเ นิสินฺโน โหติ. ตโต เตหิ ‘มยํ, ภนฺเต, ปุพฺเพ อทิสฺวา นิกฺขนฺตา, กหํ ตุมฺเห คตตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘สมณา นาม อตฺตโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉนฺตี’ติ วจเนน อตฺตโน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ.
อปโรปิ กุหโก เอกสฺมึ ปพฺพเต ปณฺณสาลายํ วสติ. ปณฺณสาลาย จ ปจฺฉโต ปปาตฏฺาเน เอโก กจฺฉกรุกฺโข อตฺถิ. ตสฺส ปาโรโห คนฺตฺวา ปรภาเค ภูมิยํ ปติฏฺิโต. มนุสฺสา มคฺเคนาคนฺตฺวา นิมนฺเตนฺติ. โส ปตฺตจีวรมาทาย ปาโรเหน โอตริตฺวา คามทฺวาเร อตฺตานํ ทสฺเสติ. ตโต มนุสฺเสหิ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ‘กตเรน มคฺเคน อาคตตฺถ, ภนฺเต’ติ ปุฏฺโ ‘สมณานํ อาคตมคฺโค นาม ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, อตฺตโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺาเนเนว อาคจฺฉนฺตี’ติ วจเนน ขีณาสวภาวํ ทีเปติ. ตํ ปน กุหกํ เอโก วิทฺธกณฺโณ ตฺวา ‘ปริคฺคเหสฺสามิ น’นฺติ เอกทิวสํ ปาโรเหน โอตรนฺตํ ทิสฺวา ปจฺฉโต ฉินฺทิตฺวา อปฺปมตฺตเกน เปสิ. โส ‘ปาโรหโต โอตริสฺสามี’ติ ‘’นฺติ ปติโต, มตฺติกา ปตฺโต ภิชฺชิ. โส ‘าโตมฺหี’ติ นิกฺขมิตฺวา ปลายิ. ปาปิจฺฉสฺส ภาโว ปาปิจฺฉตา. ลกฺขณโต ปน อสนฺตคุณสมฺภาวนตา, ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา; เอตํ ปาปิจฺฉตาลกฺขณนฺติ เวทิตพฺพํ.
๘๕๒. สิงฺคนิทฺเทเส วิชฺฌนฏฺเน สิงฺคํ; นาคริกภาวสงฺขาตสฺส กิเลสสิงฺคสฺเสตํ นามํ. สิงฺคารภาโว สิงฺคารตา, สิงฺคารกรณากาโร วา. จตุรภาโว จตุรตา. ตถา จาตุริยํ. ปริกฺขตภาโว ปริกฺขตตา; ปริขณิตฺวา ปิตสฺเสว ทฬฺหสิงฺคารภาวสฺเสตํ นามํ ¶ . อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. เอวํ สพฺเพหิปิ ปเทหิ กิเลสสิงฺคารตาว กถิตา.
๘๕๓. ตินฺติณนิทฺเทเส ตินฺติณนฺติ ขียนํ. ตินฺติณายนากาโร ตินฺติณายนา. ตินฺติเณน อยิตสฺส ตินฺติณสมงฺคิโน ภาโว ตินฺติณายิตตฺตํ. โลลุปภาโว โลลุปฺปํ. อิตเร ทฺเว ¶ อาการภาวนิทฺเทสา. ปุจฺฉฺชิกตาติ ¶ ลาภลภนกฏฺาเน เวธนากมฺปนา นีจวุตฺติตา. สาธุกมฺยตาติ ปณีตปณีตานํ ปตฺถนา. เอวํ สพฺเพหิปิ ปเทหิ สุวานโทณิยํ กฺชิยํ ปิวนกสุนขสฺส อฺํ สุนขํ ทิสฺวา ภุภุกฺกรณํ วิย ‘ตว สนฺตกํ, มม สนฺตก’นฺติ กิเลสวเสน ขียนากาโร กถิโต.
๘๕๔. จาปลฺยนิทฺเทเส อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตภาวาทีหิ จีวรสฺส มณฺฑนา จีวรมณฺฑนา. มณิวณฺณจฺฉวิกรณาทีหิ ปตฺตสฺส มณฺฑนา ปตฺตมณฺฑนา. จิตฺตกมฺมาทีหิ ปุคฺคลิกเสนาสนสฺส มณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา. อิมสฺส วา ปูติกายสฺสาติ อิมสฺส มนุสฺสสรีรสฺส. ยถา หิ ตทหุชาโตปิ สิงฺคาโล ชรสิงฺคาโลตฺเวว อูรุปฺปมาณาปิ จ คโฬจิลตา ปูติลตาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ, เอวํ สุวณฺณวณฺโณปิ มนุสฺสกาโย ปูติกาโยตฺเวว วุจฺจติ. ตสฺส อนฺตรนฺตรา รตฺตวณฺณปณฺฑุวณฺณาทีหิ นิวาสนปารุปนาทีหิ สชฺชนา มณฺฑนา นาม. พาหิรานํ วา ปริกฺขารานนฺติ เปตฺวา ปตฺตจีวรํ เสสปริกฺขารานํ; อถวา ยา เอสา จีวรมณฺฑนา ปตฺตมณฺฑนาติ วุตฺตา, สา เตหิ วา ปริกฺขาเรหิ กายสฺส มณฺฑนา เตสํ วา พาหิรปริกฺขารานํ มณฺเฑตฺวา ปนวเสน มณฺฑนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มณฺฑนา วิภูสนาติ เอตฺถ อูนฏฺานสฺส ปูรณวเสน มณฺฑนา, ฉวิราคาทิวเสน วิภูสนาติ เวทิตพฺพา. เกฬนาติ กีฬนา. ปริเกฬนาติ ปริกีฬนา. คิทฺธิกตาติ เคธยุตฺตตา. คิทฺธิกตฺตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. จปลภาโว จปลตา. ตถา จาปลฺยํ. อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ จาปลฺยํ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล วสฺสสติโกปิ สมาโน ตทหุชาตทารโก วิย โหติ.
๘๕๕. อสภาควุตฺตินิทฺเทเส วิปฺปฏิกูลคฺคาหิตาติ อนนุโลมคฺคาหิตา. วิปจฺจนีกสาตตาติ ¶ วิปจฺจนีเกน ปฏิวิรุทฺธกรเณน สุขายนา. อนาทรภาโว อนาทริยํ. ตถา อนาทริยตา. อคารวสฺส ภาโว อคารวตา. เชฏฺกภาวสฺส อกรณํ อปฺปติสฺสวตา. อยํ ¶ วุจฺจตีติ อยํ อสภาควุตฺติ นาม วุจฺจติ; วิสภาคชีวิกตาติ อตฺโถ; ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล มาตรํ ปิตรํ วา คิลานํ ปฏิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกติ; ปิตุสนฺตกสฺส การณา มาตรา สทฺธึ, มาตุสนฺตกสฺส การณา ปิตรา สทฺธึ กลหํ กโรติ; วิสภาคชีวิตํ ชีวติ, มาตาปิตูนํ สนฺตกสฺส การณา เชฏฺเน วา กนิฏฺเน วา ภาตรา สทฺธึ กลหํ กโรติ, นิลฺลชฺชวจนํ วทติ, อาจริยสฺส วา อุปชฺฌายสฺส วา วตฺตปฏิวตฺตํ น กโรติ, คิลานํ น อุปฏฺาติ, พุทฺธสฺส ภควโต เจติยทสฺสนฏฺาเน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, เขฬมฺปิ ¶ สิงฺฆาณิกมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนา อารุยฺห คจฺฉติ, พุทฺธสาวเกสุ น ลชฺชติ, สงฺเฆ จิตฺตีการํ น กโรติ, มาติมตฺตปิติมตฺตาทีสุ ครุฏฺานีเยสุ หิโรตฺตปฺปํ น ปจฺจุปฏฺาเปติ. ตสฺเสวํ ปวตฺตมานสฺส สพฺพา เปสา กิริยา มาตรีติอาทีสุปิ วตฺถูสุ อสภาควุตฺติตา นาม โหติ.
๘๕๖. อรตินิทฺเทเส ปนฺเตสูติ ทูเรสุ วิวิตฺเตสุ วา. อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ. อรตีติ รติปฏิกฺเขโป. อรติตาติ อรมณากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมณาติ อนภิรมณากาโร. อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา.
๘๕๗. ตนฺทีนิทฺเทเส ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ. อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ.
๘๕๘. วิชมฺภิตานิทฺเทเส ชมฺภนาติ ผนฺทนา. ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนา. อานมนาติ ¶ ปุรโต นมนา. วินมนาติ ปจฺฉโต นมนา. สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนา. ปณมนาติ ยถา หิ ตนฺตโต อุฏฺิตเปสกาโร กิสฺมิฺจิเทว คเหตฺวา อุชุกํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ปนา. พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายผนฺทนเมว กถิตํ.
๘๕๙. ภตฺตสมฺมทนิทฺเทเส ¶ ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโต. ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลฺํ; พลวภตฺเตน หิ มุจฺฉาปตฺโต วิย โหติ. ภตฺตกิลมโถติ ภตฺเตน กิลนฺตภาโว. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถ. ตสฺมิฺหิ สมเย ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย โหติ, กาโย ชีรติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ ภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมฺตา.
๘๖๐. เจตโส ลีนตฺตนิทฺเทโส เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตตฺโถเยว. อิเมหิ ปน สพฺเพหิปิ ปเทหิ กิเลสวเสน จิตฺตสฺส คิลานากาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
๘๖๑. กุหนานิทฺเทเส ¶ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิตสฺสาติ ลาภฺจ สกฺการฺจ กิตฺติสทฺทฺจ นิสฺสิตสฺส, ปตฺถยนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปาปิจฺฉสฺสาติ อสนฺตคุณทีปนกามสฺส. อิจฺฉาปกตสฺสาติ อิจฺฉาย อปกตสฺส, อุปทฺทุตสฺสาติ อตฺโถ.
อิโต ปรํ ยสฺมา ปจฺจยปฏิเสวน สามนฺตชปฺปนอิริยาปถสนฺนิสฺสิตวเสน มหานิทฺเทเส ติวิธํ กุหนวตฺถุ อาคตํ, ตสฺมา ติวิธมฺปิ ตํ ทสฺเสตุํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตน วาติ เอวมาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกสฺเสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฏิกฺขิปเนน, เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฏฺิตสทฺเธ ตฺวา ปุน เตสํ ‘อโห อยฺโย อปฺปิจฺโฉ, น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส สเจ อปฺปมตฺตกํ กิฺจิ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปเนนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตํเยว อาวิกตฺวา ปฏิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อสีติสกฏภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๘๗) –
‘‘กตมํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิธ คหปติกา ภิกฺขุํ นิมนฺเตนฺติ ¶ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. โส ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อตฺถิโก จีวร ¶ …เป… ปริกฺขารานํ ภิยฺโยกมฺยตํ อุปาทาย จีวรํ ปจฺจกฺขาติ, ปิณฺฑปาตํ ปจฺจกฺขาติ, เสนาสนํ ปจฺจกฺขาติ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปจฺจกฺขาติ. โส เอวมาห – ‘‘กึ สมณสฺส มหคฺเฆน จีวเรน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ สุสานา วา สงฺการกูฏา วา ปาปณิกา วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรยฺย. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน ปิณฺฑปาเตน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ อฺุฉาจริยาย ปิณฺฑิยาโลเปน ชีวิกํ กปฺเปยฺย. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน เสนาสเนน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ รุกฺขมูลิโก วา อสฺส โสสานิโก วา อพฺโภกาสิโก วา. กึ สมณสฺส มหคฺเฆน คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน? เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ ปูติมุตฺเตน วา หรีตกีขณฺเฑน วา โอสธํ กเรยฺยาติ. ตทุปาทาย ลูขํ จีวรํ ธาเรติ, ลูขํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, ลูขํ เสนาสนํ ปฏิเสวติ, ลูขํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิเสวติ. ตเมนํ คหปติกา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ สมโณ ¶ อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย ธุตวาโท’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย นิมนฺเตนฺติ จีวร…เป… ปริกฺขาเรหิ. โส เอวมาห – ‘ติณฺณํ สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ – สทฺธาย สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ, เทยฺยธมฺมสฺส…เป… ทกฺขิเณยฺยานํ สมฺมุขีภาวา สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุํ ปฺุํ ปสวติ. ตุมฺหากฺเจวายํ สทฺธา อตฺถิ, เทยฺยธมฺโม จ สํวิชฺชติ, อหฺจ ปฏิคฺคาหโก. สจาหํ น ปฏิคฺคเหสฺสามิ, เอวํ ตุมฺเห ปฺุเน ปริพาหิรา ภวิสฺสถ; น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ, อปิจ ตุมฺหากํ เอว อนุกมฺปาย ปฏิคฺคณฺหามี’ติ. ตทุปาทาย พหุมฺปิ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาติ, พหุมฺปิ ปิณฺฑปาตํ…เป… เภสชฺชปริกฺขารํ ปฏิคฺคณฺหาติ. ยา เอวรูปา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ¶ ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘กตมํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ ¶ ? อิเธกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย ‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’ติ อริยธมฺมสนฺนิสฺสิตํ วาจํ ภาสติ – ‘โย เอวรูปํ จีวรํ ธาเรติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ; ‘โย เอวรูปํ ปตฺตํ, โลหถาลกํ, ธมกรณํ, ปริสาวนํ, กฺุจิกํ, อุปาหนํ, กายพนฺธนํ, อาโยคํ ธาเรติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ; ‘ยสฺส เอวรูโป อุปชฺฌาโย, อาจริโย, สมานุปชฺฌาโย, สมานาจริยโก, มิตฺโต สนฺทิฏฺโ, สมฺภตฺโต, สหาโย; โย เอวรูเป วิหาเร วสติ – อฑฺฒโยเค, ปาสาเท, หมฺมิเย, คุหายํ, เลเณ, กุฏิยา, กูฏาคาเร, อฏฺเฏ, มาเฬ, อุโทสิเต, อุทฺทณฺเฑ, อุปฏฺานสาลายํ, มณฺฑเป, รุกฺขมูเล วสติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’ติ ภณติ.
‘‘อถ วา โกรชิกโกรชิโก ภากุฏิกภากุฏิโก กุหกกุหโก ลปกลปโก มุขสมฺภาวิโต ‘อยํ สมโณ อิมาสํ เอวรูปานํ สนฺตานํ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี’ติ ตาทิสํ คมฺภีรํ คูฬฺหํ นิปุณํ ปฏิจฺฉนฺนํ โลกุตฺตรํ สฺุตาปฏิสํยุตฺตํ กถํ กเถติ. ยา เอวรูปา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ปาปิจฺฉสฺเสว ¶ ปน สโต สมฺภาวนาธิปฺปายกเตน อิริยาปเถน วิมฺหาปนํ อิริยาปถสนฺนิสฺสิตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘กตมํ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิเธกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย ‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’ติ คมนํ สณฺเปติ, สยนํ สณฺเปติ, ปณิธาย คจฺฉติ, ปณิธาย ติฏฺติ, ปณิธาย นิสีทติ, ปณิธาย เสยฺยํ กปฺเปติ, สมาหิโต วิย คจฺฉติ, สมาหิโต วิย ติฏฺติ, นิสีทติ, เสยฺยํ กปฺเปติ, อาปาถกชฺฌายีว โหติ. ยา เอวรูปา อิริยาปถสฺส อาปนา ปนา สณฺปนา ภากุฏิกา ภากุฏิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ วุจฺจติ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถู’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ ปจฺจยปฏิเสวนนฺติ เอวํ สงฺขาเตน ปจฺจยปฏิเสวเนน. สามนฺตชปฺปิเตนาติ สมีเป ภณิเตน. อิริยาปถสฺสาติ จตุอิริยาปถสฺส. อาปนาติ อาทิปนา, อาทเรน วา ปนา. ปนาติ ปนากาโร. สณฺปนาติ อภิสงฺขรณา, ปาสาทิกภาวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภากุฏิกาติ ปธานปุริมฏฺิตภาวทสฺสเนน ภากุฏิกรณํ, มุขสงฺโกโจติ วุตฺตํ โหติ. ภากุฏิกรณํ สีลมสฺสาติ ภากุฏิโก; ภากุฏิกสฺส ภาโว ภากุฏิยํ. กุหนาติ วิมฺหาปนํ, กุหสฺส อายนา กุหายนา. กุหิตสฺส ภาโว กุหิตตฺตนฺติ.
๘๖๒. ลปนานิทฺเทเส อาลปนาติ วิหารํ อาคตมนุสฺเส ทิสฺวา กิมตฺถาย โภนฺโต อาคตา? กึ ภิกฺขู นิมนฺเตตุํ? ยทิ เอวํ คจฺฉถ; อหํ ปจฺฉโต ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉามี’ติ เอวํ อาทิโตว ลปนา. อถ วา อตฺตานํ อุปเนตฺวา ‘อหํ ติสฺโส, มยิ ราชา ปสนฺโน, มยิ อสุโก จ อสุโก จ ราชมหามตฺโต ปสนฺโน’ติ เอวํ อตฺตุปนายิกา ลปนา อาลปนา. ลปนาติ ปุฏฺสฺส สโต วุตฺตปฺปการเมว ลปนํ. สลฺลปนาติ คหปติกานํ อุกฺกณฺเน ภีตสฺส โอกาสํ ทตฺวา สุฏฺุ ลปนา. อุลฺลปนาติ ‘มหากุฏุมฺพิโก, มหานาวิโก, มหาทานปตี’ติ เอวํ อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. สมุลฺลปนาติ สพฺพโตภาเคน อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. อุนฺนหนาติ ‘อุปาสกา, ปุพฺเพ อีทิเส กาเล ทานํ เทถ; อิทานิ กึ น เทถา’ติ เอวํ ยาว ‘ทสฺสาม, ภนฺเต, โอกาสํ น ลภามา’ติอาทีนิ วทนฺติ ตาว อุทฺธํ นหนา, เวนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อุจฺฉุหตฺถํ ทิสฺวา ‘กุโต อาคตา, อุปาสกา’ติ ปุจฺฉติ. ‘อุจฺฉุเขตฺตโต, ภนฺเต’ติ. ‘กึ ตตฺถ อุจฺฉุ มธุร’นฺติ? ‘ขาทิตฺวา, ภนฺเต, ชานิตพฺพ’นฺติ. ‘น, อุปาสกา, ภิกฺขุสฺส ‘อุจฺฉุํ เทถา’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’ติ ยา เอวรูปา นิพฺเพเนฺตสฺสาปิ ¶ เวนกกถา, สา อุนฺนหนา ¶ . สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อุนฺนหนา สมุนฺนหนา. อุกฺกาจนาติ ‘เอตํ กุลํ มํเยว ชานาติ, สเจ เอตฺถ เทยฺยธมฺโม อุปฺปชฺชติ, มยฺหเมว เทตี’ติ เอวํ อุกฺขิปิตฺวา กาจนา อุกฺกาจนา; อุทฺทีปนาติ วุตฺตํ โหติ.
เตลกนฺทริกวตฺถุ เจตฺถ วตฺตพฺพํ. ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกํ คามํ ปวิสิตฺวา อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา เอกํ กุมาริกํ ทิสฺวา ปกฺโกสึสุ. ตาย ¶ อาคตาย ตตฺเรโก เอกํ ปุจฺฉิ – ‘อยํ, ภนฺเต, กสฺส กุมาริกา’ติ? ‘อมฺหากํ อุปฏฺายิกาย เตลกนฺทริกาย ธีตา, อาวุโส. อิมิสฺสา มาตา มยิ เคหํ คเต สปฺปึ ททมานา ฆเฏเนว เทติ, อยมฺปิ มาตา วิย ฆเฏเนว เทตี’ติ อุกฺกาเจติ.
สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อุกฺกาจนา สมุกฺกาจนา. อนุปฺปิยภาณิตาติ สจฺจานุรูปํ วา ธมฺมานุรูปํ วา อนปโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิยภณนเมว. จาฏุกมฺยตาติ นีจวุตฺติตา; อตฺตานํ เหฏฺโต เปตฺวา วตฺตนํ. มุคฺคสูปฺยตาติ มุคฺคสูปสทิสตา. ยถา มุคฺเคสุ ปจฺจมาเนสุ โกจิเทว น ปจฺจติ, อวเสสา ปจฺจนฺติ; เอวํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส วจเน กิฺจิเทว สจฺจํ โหติ, เสสํ อลิกํ – อยํ ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโยติ วุจฺจติ. ตสฺส ภาโว มุคฺคสูปฺยตา. ปาริภฏยตาติ ปาริภฏยภาโว. โย หิ กุลทารเก ธาตี วิย องฺเกน วา ขนฺเธน วา ปริภฏติ, ธาเรตีติ อตฺโถ; ตสฺส ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏยํ; ปาริภฏยสฺส ภาโว ปาริภฏยตาติ.
๘๖๓. เนมิตฺติกตานิทฺเทเส นิมิตฺตนฺติ ยํกิฺจิ ปเรสํ ปจฺจยทานสํโยชนกํ กายวจีกมฺมํ. นิมิตฺตกมฺมนฺติ นิมิตฺตสฺส กรณโกสลฺลํ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ปิณฺฑปาติโก อุปฏฺากกมฺมารสฺส เคหทฺวารํ คนฺตฺวา ‘กึ ภนฺเต’ติ ปุจฺฉิโต จีวรนฺตเรน หตฺถํ นีหริตฺวา ¶ วาสิปหรณาการํ อกาสิ. กมฺมาโร ‘สลฺลกฺขิตํ เม, ภนฺเต’ติ วาสึ กตฺวา อทาสิ. โอภาโสติ ปจฺจยปฏิสํยุตฺตกถา. โอภาสกมฺมนฺติ วจฺฉกปาลเก ทิสฺวา ‘กึ อิเม วจฺฉา ขีรโควจฺฉา, ตกฺกโควจฺฉา’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘ขีรโควจฺฉา, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘น ขีรโควจฺฉา, ยทิ ขีรโควจฺฉา สิยุํ ภิกฺขูปิ ขีรํ ลเภยฺยุ’นฺติ เอวมาทินา นเยน เตสํ ทารกานํ มาตาปิตูนํ นิเวเทตฺวา ขีรทาปนาทิกํ โอภาสกรณํ. สามนฺตชปฺปาติ สมีปํ กตฺวา ชปฺปนํ.
ชาตกภาณกวตฺถุ ¶ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอโก กิร ชาตกภาณกตฺเถโร ภฺุชิตุกาโม อุปฏฺายิกาย เคหํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ. สา อทาตุกามา ‘ตณฺฑุลา นตฺถี’ติ ภณนฺตี ตณฺฑุเล อาหริตุกามา วิย ปฏิวิสฺสกฆรํ คตา. ภิกฺขุ อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา โอโลเกนฺโต กวาฏโกเณ ¶ อุจฺฉุํ, ภาชเน คุฬํ, ปิฏเก โลณมจฺฉผาลํ, กุมฺภิยํ ตณฺฑุเล, ฆเฏ ฆตํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา นิสีทิ. ฆรณี ‘ตณฺฑุลํ นาลตฺถ’นฺติ อาคตา. เถโร ‘อุปาสิเก, อชฺช ภิกฺขา น สมฺปชฺชิสฺสตี’ติ ปฏิกจฺเจว นิมิตฺตํ อทฺทส’นฺติ อาห. ‘กึ, ภนฺเต’ติ? ‘กวาฏโกเณ นิกฺขิตฺตํ อุจฺฉุํ วิย สปฺปํ อทฺทสํ; ‘ตํ ปหริสฺสามี’ติ โอโลเกนฺโต ภาชเน ปิตํ คุฬปิณฺฑํ วิย ปาสาณํ เลฑฺฑุเกน; ปหเฏน สปฺเปน กตํ, ปิฏเก นิกฺขิตฺตโลณมจฺฉผาลสทิสํ, ผณํ; ตสฺส ตํ เลฑฺฑุํ ฑํสิตุกามสฺส, กุมฺภิยา ตณฺฑุลสทิเส ทนฺเต; อถสฺส กุปิตสฺส, ฆเฏ ปกฺขิตฺตฆตสทิสํ, มุขโต นิกฺขมนฺตํ วิสมิสฺสกํ เขฬ’นฺติ. สา ‘น สกฺกา มุณฺฑกํ วฺเจตุ’นฺติ อุจฺฉุํ ทตฺวา โอทนํ ปจิตฺวา ฆตคุฬมจฺเฉหิ สทฺธึ อทาสีติ. เอวํ สมีปํ กตฺวา ชปฺปนํ สามนฺตชปฺปาติ เวทิตพฺพํ. ปริกถาติ ยถา ตํ ลภติ ตถา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา กถนํ.
๘๖๔. นิปฺเปสิกตานิทฺเทเส อกฺโกสนาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนา. วมฺภนาติ ปริภวิตฺวา กถนํ. ครหนาติ ¶ ‘อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน’ติอาทินา นเยน โทสาโรปนา. อุกฺเขปนาติ ‘มา เอตํ เอตฺถ กเถถา’ติ วาจาย อุกฺขิปนํ. สพฺพโตภาเคน สวตฺถุกํ สเหตุกํ กตฺวา อุกฺเขปนา สมุกฺเขปนา. อถวา อเทนฺตํ ‘อโห ทานปตี’ติ เอวํ อุกฺขิปนํ อุกฺเขปนา. ‘มหาทานปตี’ติ เอวํ สุฏฺุ อุกฺเขปนา สมุกฺเขปนา. ขิปนาติ ‘กึ อิมสฺส ชีวิตํ พีชโภชิโน’ติ เอวํ อุปฺปณฺฑนา. สงฺขิปนาติ ‘กึ อิมํ อทายโกติ ภณถ โย นิจฺจกาลํ สพฺเพสมฺปิ นตฺถีติ วจนํ เทตี’ติ เอวํ สุฏฺุตรํ อุปฺปณฺฑนา. ปาปนาติ อทายกตฺตสฺส อวณฺณสฺส วา ปาปนํ. สพฺพโตภาเคน ปาปนา สมฺปาปนา. อวณฺณหาริกาติ ‘เอวํ เม อวณฺณภยาปิ ทสฺสตี’ติ เคหโต เคหํ, คามโต คามํ, ชนปทโต ชนปทํ อวณฺณหรณํ. ปรปิฏฺิมํสิกตาติ ปุรโต มธุรํ ภณิตฺวา ปรมฺมุเข อวณฺณภาสิตา. เอสา หิ อภิมุขํ โอโลเกตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปรมฺมุขานํ ปิฏฺิมํสขาทนํ วิย โหติ. ตสฺมา ปรปิฏฺิมํสิกตาติ วุตฺตา. อยํ วุจฺจติ นิปฺเปสิกตาติ อยํ ยสฺมา เวฬุเปสิกา วิย อพฺภงฺคํ ปรสฺส คุณํ นิปฺเปเสติ นิปฺุฉติ, ยสฺมา วา คนฺธชาตํ นิปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิย ¶ ปรคุเณ ¶ นิปิสิตฺวา วิจุณฺเณตฺวา เอสา ลาภมคฺคนา โหติ, ตสฺมา นิปฺเปสิกตาติ วุจฺจตีติ.
๘๖๕. ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตานิทฺเทเส นิชิคีสนตาติ มคฺคนา. อิโต ลทฺธนฺติ อิมมฺหา เคหา ลทฺธํ. อมุตฺราติ อมุกมฺหิ เคเห. เอฏฺีติ อิจฺฉนา. คเวฏฺีติ มคฺคนา. ปริเยฏฺีติ ปุนปฺปุนํ มคฺคนา. อาทิโต ปฏฺาย ลทฺธํ ลทฺธํ ภิกฺขํ ตตฺร ตตฺร กุลทารกานํ ทตฺวา อนฺเต ขีรยาคุํ ลภิตฺวา คตภิกฺขุวตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอสนาติอาทีนิ เอฏฺีติอาทีนํ เววจนานิ, ตสฺมา เอฏฺีติ เอสนา, คเวฏฺีติ คเวสนา, ปริเยฏฺีติ ปริเยสนา. อิจฺเจวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
๘๖๖. เสยฺยมานนิทฺเทเส ¶ ชาติยาติ ขตฺติยภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา. โคตฺเตนาติ โคตมโคตฺตาทินา อุกฺกฏฺโคตฺเตน. โกลปุตฺติเยนาติ มหากุลภาเวน. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย. สรีรฺหิ โปกฺขรนฺติ วุจฺจติ, ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภิรูปภาเวนาติ อตฺโถ. ธเนนาติอาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว. มานํ ชปฺเปตีติ เอเตสุ เยน เกนจิ วตฺถุนา ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ มานํ ปวตฺเตติ กโรติ.
๘๖๗. สทิสมานนิทฺเทเส มานํ ชปฺเปตีติ เอเตสุ เยน เกนจิ วตฺถุนา ‘สทิโสหมสฺมี’ติ มานํ ปวตฺเตติ. อยเมตฺถ อตฺถโต วิเสโส. ปาฬิยํ ปน นานากรณํ นตฺถิ.
๘๖๘. หีนมานนิทฺเทเส โอมานํ ชปฺเปตีติ เหฏฺามานํ ปวตฺเตติ. โอมาโนติ ลามโก เหฏฺามาโน. โอมฺนา โอมฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทโส. หีฬนาติ ชาติอาทีหิ อตฺตชิคุจฺฉนา. โอหีฬนาติ อติเรกโต หีฬนา. โอหีฬิตตฺตนฺติ ตสฺเสว ภาวนิทฺเทโส. อตฺตฺุาติ อตฺตานํ หีนํ กตฺวา ชานนา. อตฺตาวฺาติ อตฺตานํ อวชานนา. อตฺตปริภโวติ ชาติอาทิสมฺปตฺตินามเมว ชาตาติ อตฺตานํ ปริภวิตฺวา มฺนา. เอวมิเม ตโย มานา ปุคฺคลํ อนิสฺสาย ชาติอาทิวตฺถุวเสเนว กถิตา. เตสุ เอเกโก ติณฺณมฺปิ เสยฺยสทิสหีนานํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ มาโน เสยฺยสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘สทิโสหมสฺมี’ติ ¶ มาโน ¶ สทิสสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘หีโนหมสฺมี’ติ มาโน หีนสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน.
๘๖๙. ตตฺถ กตโม เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติอาทโย ปน นว มานา ปุคฺคลํ นิสฺสาย กถิตา. เตสุ ตโย ตโย เอเกกสฺส อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ ทหตีติ เปติ. ตํ นิสฺสายาติ ตํ เสยฺยโต ทหนํ นิสฺสาย. เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา โก มยา สทิโส อตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘สีลธุตงฺคาทีหิ ¶ โก มยา สทิโส อตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๐. เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๑. เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนํ วา วาหนานิ วา สมฺปนฺนานิ น โหนฺติ, โส ‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตเมว; กึ ราชา นาม อห’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘อปฺปลาภสกฺกาโร อหํ. ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตเมว. กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
๘๗๒. สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ หิ รฏฺิโย วา ‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’ติ วา ‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’นฺติ วา ‘อมจฺโจติ นามมตฺตเมว มยฺหํ; ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ. กึ อมจฺโจ นามาห’นฺติ เอเต มาเน กโรติ.
๘๗๕. หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส ¶ นาม อตฺถิ’ อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ¶ ทาสา นาม ชาตา. อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโย’ติ วา ‘ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กึ มยฺหํ นานากรณ’นฺติ วา ‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต. มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ. กึ ทาโส นาม อห’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.
เอตฺถ จ ‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา ‘สทิสสฺส สทิโสหมสฺมี’ติ ‘หีนสฺส หีโนหมสฺมี’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.
๘๗๘. เอวํ สวตฺถุเก มาเน กเถตฺวา อิทานิ อวตฺถุกํ นิพฺพตฺติตมานเมว ¶ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม มาโนติอาทิ วุตฺตํ.
๘๗๙. อติมานนิทฺเทเส เสยฺยาทิวเสน ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ชาติอาทีนํ วตฺถุวเสเนว นิทฺทิฏฺโ. ตตฺถ อติมฺตีติ ‘ชาติอาทีหิ มยา สทิโส นตฺถี’ติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ.
๘๘๐. มานาติมานนิทฺเทเส โย เอวรูโปติ โย เอโส ‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อหํ หีนตโร’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. อยํ ภาราติภาโร วิย ปุริมํ สทิสมานํ อุปาทาย มานาติมาโนติ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
๘๘๑. โอมานนิทฺเทโส หีนมานนิทฺเทสสทิโสเยว. เวเนยฺยวเสน ปน โส ‘หีโนหมสฺมี’ติ มาโน นาม วุตฺโต – อยํ โอมาโน นาม. อปิเจตฺถ ‘ตฺวํ ชาติมา, กากชาติ วิย เต ชาติ; ตฺวํ โคตฺตวา, จณฺฑาลโคตฺตํ วิย เต โคตฺตํ; ตุยฺหํ สโร อตฺถิ, กากสฺสโร วิย เต สโร’ติ เอวํ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตนวเสน อยํ โอมาโนติ เวทิตพฺโพ.
๘๘๒. อธิมานนิทฺเทเส ¶ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิตาติ จตฺตาริ สจฺจานิ อปฺปตฺวา ปตฺตสฺิตาย ¶ . อกเตติ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพกิจฺเจ อกเตเยว. อนธิคเตติ จตุสจฺจธมฺเม อนธิคเต. อสจฺฉิกเตติ อรหตฺเตน อปจฺจกฺขกเต. อยํ วุจฺจติ อธิมาโนติ อยํ อธิคตมาโน นาม วุจฺจติ.
อยํ ปน กสฺส อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ. โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข. ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘อหํ สกทาคามี’ติอาทิวเสน มาโน นุปฺปชฺชติ; ทุสฺสีลสฺสาปิ นุปฺปชฺชติ; โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติ.
ปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ; อุปฺปนฺเน จ สุทฺธสมถลาภี วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภี วา อนฺตรา เปติ. โส หิ ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ ¶ อปสฺสนฺโต ‘อหํ โสตาปนฺโน’ติ วา ‘สกทาคามี’ติ วา ‘อนาคามี’ติ วา มฺติ. สมถวิปสฺสนาลาภี ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา. ตสฺมา สฏฺิปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ; ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อฏฺตฺวาว ‘อรหา อห’นฺติ มฺติ, อุจฺจมาลงฺกวาสี มหานาคตฺเถโร วิย, หงฺกนกวาสี มหาทตฺตตฺเถโร วิย, จิตฺตลปพฺพเต นิงฺกโปณฺณปธานฆรวาสี จูฬสุมตฺเถโร วิย จ.
ตตฺริทํ เอกวตฺถุปริทีปนํ – ตลงฺครวาสี ธมฺมทินฺนตฺเถโร กิร นาม เอโก ปภินฺนปฏิสมฺภิโท มหาขีณาสโว มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาททายโก อโหสิ. โส เอกทิวสํ อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา ‘กินฺนุ โข อมฺหากํ อาจริยสฺส อุจฺจตลิงฺกวาสีมหานาคตฺเถรสฺส สมณกิจฺจํ ¶ มตฺถกํ ปตฺโต, โน’ติ อาวชฺชนฺโต ปุถุชฺชนภาวเมวสฺส ทิสฺวา ‘มยิ อคจฺฉนฺเต ปุถุชฺชนกาลกิริยเมว กริสฺสตี’ติ จ ตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส เถรสฺส สมีเป โอโรหิตฺวา วนฺทิตฺวา วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. ‘กึ, อาวุโส ธมฺมทินฺน, อกาเล อาคโตสี’ติ จ วุตฺโต ‘ปฺหํ, ภนฺเต, ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหี’ติ อาห.
ตโต ‘ปุจฺฉาวุโส, ชานมาโน กถยิสฺสามี’ติ วุตฺโต ปฺหาสหสฺสํ ปุจฺฉิ. เถโร ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ ปฺหํ อสชฺชมาโนว กเถสิ. ตโต ‘อติติกฺขํ เต, ภนฺเต, าณํ. กทา ตุมฺเหหิ อยํ ธมฺโม อธิคโต’ติ วุตฺโต ‘อิโต สฏฺิวสฺสกาเล, อาวุโส’ติ อาห. ‘สมาธิมฺปิ, ภนฺเต, วฬฺเชถา’ติ? ‘น อิทํ, อาวุโส, ภาริย’นฺติ. ‘เตน หิ, ภนฺเต, เอกํ หตฺถึ มาเปถา’ติ. เถโร สพฺพเสตํ หตฺถึ มาเปสิ. ‘อิทานิ, ภนฺเต, ยถา อยํ หตฺถี อฺจิตกณฺโณ ปสาริตนงฺคุฏฺโ โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา เภรวํ โกฺจนาทํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ อภิมุโข อาคจฺฉติ ตถา ตํ กโรถา’ติ. เถโร ตถา กตฺวา เวเคน อาคจฺฉโต หตฺถิสฺส เภรวํ อาการํ ทิสฺวา อุฏฺาย ปลายิตุํ อารทฺโธ. ตเมนํ ขีณาสวตฺเถโร หตฺถํ ¶ ปสาเรตฺวา จีวรกณฺเณ คเหตฺวา ‘ภนฺเต, ขีณาสวสฺส สารชฺชํ นาม โหตี’ติ อาห. โส ตสฺมึ กาเล อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา ‘อวสฺสโย เม, อาวุโส ธมฺมทินฺน, โหหี’ติ วตฺวา ปาทมูเล อุกฺกุฏิกํ นิสีทิ. ‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อวสฺสโย ภวิสฺสามิจฺเจวาหํ อาคโต, มา จินฺตยิตฺถา’ติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. เถโร กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห ตติเย ปทวาเร อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เถโร กิร โทสจริโต อโหสิ.
๘๘๓. อสฺมิมานนิทฺเทเส รูปํ อสฺมีติ มาโนติ ‘อหํ รูป’นฺติ อุปฺปนฺนมาโน. ฉนฺโทติ มานํ อนุคตจฺฉนฺโทว. ตถา อนุสโย. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
๘๘๔. มิจฺฉามานนิทฺเทเส ปาปเกน วา กมฺมายตเนนาติ อาทีสุ ปาปกํ กมฺมายตนํ นาม เกวฏฺฏมจฺฉพนฺธเนสาทาทีนํ กมฺมํ. ปาปกํ สิปฺปายตนํ ¶ นาม มจฺฉชาลขิปนกุมินกรเณสุ เจว ปาสโอฑฺฑนสูลาโรปนาทีสุ จ เฉกตา. ปาปกํ วิชฺชาฏฺานํ นาม ยา กาจิ ปรูปฆาตวิชฺชา. ปาปกํ สุตํ นาม ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิปฏิสํยุตฺตํ. ปาปกํ ปฏิภานํ นาม ทุพฺภาสิตยุตฺตํ กปฺปนาฏกวิลปฺปนาทิปฏิภานํ. ปาปกํ สีลํ นาม อชสีลํ โคสีลํ. วตมฺปิ อชวตโควตเมว. ปาปิกา ทิฏฺิ ปน ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ ยา กาจิ ทิฏฺิ.
๘๘๕. าติวิตกฺกนิทฺเทสาทีสุ ‘มยฺหํ าตโย สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’ติ เอวํ ปฺจกามคุณสนฺนิสฺสิเตน ¶ เคหสิตเปเมน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโกว าติวิตกฺโก นาม. ‘ขยํ คตา วยํ คตา สทฺธา ปสนฺนา’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน าติวิตกฺโก นาม น โหติ.
๘๘๖. ‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สมฺปนฺนสสฺโส’ติ ตุฏฺมานสฺส เคหสิตเปมวเสเนว อุปฺปนฺนวิตกฺโก ชนปทวิตกฺโก นาม. ‘อมฺหากํ ชนปเท มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา วยํ คตา’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน ชนปทวิตกฺโก นาม น โหติ.
๘๘๗. อมรตฺถาย วิตกฺโก, อมโร วา วิตกฺโกติ อมรวิตกฺโก. ตตฺถ ‘อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สมฺปราเย อตฺตา ¶ สุขี โหติ อมโร’ติ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺตสฺส ตาย ทุกฺกรการิกาย ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อมรตฺถาย วิตกฺโก นาม. ทิฏฺิคติโก ปน ‘สสฺสตํ วเทสี’ติอาทีนิ ปุฏฺโ ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน’ อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ (ที. นิ. ๑.๖๒) วิกฺเขปํ อาปชฺชติ, ตสฺส โส ทิฏฺิคตปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. ยถา อมโร นาม มจฺโฉ อุทเก คเหตฺวา มาเรตุํ น สกฺกา, อิโต จิโต จ ธาวติ, คาหํ น คจฺฉติ; เอวเมว เอกสฺมึ ปกฺเข อสณฺหนโต น มรตีติ อมโร นาม โหติ. ตํ ทุวิธมฺปิ เอกโต กตฺวา อยํ วุจฺจติ อมรวิตกฺโกติ วุตฺตํ.
๘๘๘. ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโตติ อนุทฺทยตาปติรูปเกน เคหสิตเปเมน ปฏิสํยุตฺโต. สหนนฺทีติอาทีสุ อุปฏฺาเกสุ นนฺทนฺเตสุ โสจนฺเตสุ จ เตหิ สทฺธึ ทิคุณํ นนฺทติ, ทิคุณํ โสจติ; เตสุ สุขิเตสุ ¶ ทิคุณํ สุขิโต โหติ, ทุกฺขิเตสุ ทิคุณํ ทุกฺขิโต โหติ. อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสูติ เตสุ มหนฺเตสุ วา ขุทฺทเกสุ วา กมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ. อตฺตนา วา โยคํ อาปชฺชตีติ ตานิ ตานิ กิจฺจานิ สาเธนฺโต ปฺตฺตึ วีติกฺกมติ, สลฺเลขํ โกเปติ. โย ตตฺถาติ โย ตสฺมึ สํสฏฺวิหาเร, ตสฺมึ วา โยคาปชฺชเน เคหสิโต วิตกฺโก – อยํ ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม.
๘๘๙. ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโตติ จีวราทิลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ สทฺธึ อารมฺมณกรณวเสน ปฏิสํยุตฺโต.
๘๙๐. อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโตติ ¶ ‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น โปเถตฺวา วิเหเตฺวา กเถยฺยุ’นฺติ เอวํ อนวฺาตภาวปตฺถนาย สทฺธึ อุปฺปชฺชนวิตกฺโก. โย ตตฺถ เคหสิโตติ โย ตสฺมึ ‘มา มํ ปเร อวชานึสู’ติ อุปฺปนฺเน จิตฺเต ปฺจกามคุณสงฺขาตเคหนิสฺสิโต หุตฺวา อุปฺปนฺนวิตกฺโก. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙๑. ทุเกสุ โกธนิทฺเทสาทโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เหฏฺา อนาคเตสุ ปน อุปนาหนิทฺเทสาทีสุ ปุพฺพกาลํ โกธํ อุปนยฺหตีติ อปรกาลโกโธ อุปนาโห นาม. อุปนยฺหนากาโร ¶ อุปนยฺหนา. อุปนยฺหิตสฺส ภาโว อุปนยฺหิตตฺตํ. อฏฺปนาติ ปมุปฺปนฺนสฺส อนนฺตรฏฺปนา มริยาทฏฺปนา วา. ปนาติ ปกติปนา. สณฺปนาติ สพฺพโตภาเคน ปุนปฺปุนํ อาฆาตฏฺปนา. อนุสํสนฺทนาติ ปมุปฺปนฺเนน โกเธน สทฺธึ อนฺตรํ อทสฺเสตฺวา เอกีภาวกรณา. อนุปฺปพนฺธนาติ ปุริเมน สทฺธึ ปจฺฉิมสฺส ฆฏนา. ทฬฺหีกมฺมนฺติ ถิรกรณํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อุปนนฺธนลกฺขโณ เวรํ อปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส อุปนาโหติ วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล เวรํ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺโกติ; ‘เอวํ นาม มํ เอส วตฺตุํ อนนุจฺฉวิโก’ติ อปราปรํ อนุพนฺธติ; อาทิตฺตปูติอลาตํ วิย ชลเตว ¶ ; โธวิยมานํ อจฺฉจมฺมํ วิย, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จ น ปริสุชฺฌติ.
๘๙๒. มกฺขนภาววเสน มกฺโข; ปรคุณมกฺขนาย ปวตฺเตนฺโตปิ อตฺตโน การณํ, คูถปหรณกํ คูโถ วิย, ปมตรํ มกฺเขตีติ อตฺโถ. ตโต ปรา ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. นิฏฺุรภาโว นิฏฺุริยํ; ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬปาตนนฺติ อตฺโถ. นิฏฺุริยกมฺมนฺติ นิฏฺุริยกรณํ. คหฏฺโ วา หิ คหฏฺํ, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุํ นิสฺสาย วสนฺโต อปฺปมตฺตเกเนว กุชฺฌิตฺวา ‘ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถี’ติ เขฬํ ปาเตตฺวา ปาเทน มทฺทนฺโต วิย นิฏฺุริยํ นาม กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ นิฏฺุริยกมฺมนฺติ วุจฺจติ. ลกฺขณาทิโต ปเนส ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ ¶ มกฺโข, เตสํ วินาสนรโส, ปเรน สุกตานํ กิริยานํ อวจฺฉาทนปจฺจุปฏฺาโน.
ปฬาสตีติ ปฬาโส; ปรสฺส คุเณ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สมํ กโรตีติ อตฺโถ. ปฬาสสฺส อายนา ปฬาสายนา. ปฬาโส จ โส อตฺตโน ชยาหรณโต อาหาโร จาติ ปฬาสาหาโร. วิวาทฏฺานนฺติ วิวาทการณํ. ยุคคฺคาโหติ สมธุรคฺคหณํ. อปฺปฏินิสฺสคฺโคติ อตฺตนา คหิตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชนํ. ลกฺขณาทิโต ¶ ปเนส ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน. ปฬาสี หิ ปุคฺคโล ทุติยสฺส ธุรํ น เทติ, สมํ ปสาเรตฺวา ติฏฺติ, สากจฺฉมณฺฑเล อฺเน ภิกฺขุนา พหูสุ สุตฺเตสุ จ การเณสุ จ อาภเตสุปิ ‘ตว จ มม จ วาเท กึ นาม นานากรณํ? นนุ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสเมว อมฺหากํ วจน’นฺติ วทติ. อิสฺสามจฺฉริยนิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๘๙๔. มายานิทฺเทเส ¶ วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ‘ปณฺณตฺตึ วีติกฺกมนฺตา ภิกฺขู ภาริยํ กโรนฺติ, อมฺหากํ ปน วีติกฺกมฏฺานํ นาม นตฺถี’ติ อุปสนฺโต วิย ภาสติ. กาเยน ปรกฺกมตีติ ‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานึสู’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติ. วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ มายา. มายาวิโน ภาโว มายาวิตา. กตฺวา ปาปํ ปุน ปฏิจฺฉาทนโต อติจฺจ อาสรนฺติ เอตาย ¶ สตฺตาติ อจฺจาสรา. กายวาจากิริยาหิ อฺถา ทสฺสนโต วฺเจตีติ วฺจนา. เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ; มิจฺฉากโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปาปานํ วิกฺขิปนโต วิกิรณา. ‘นาหํ เอวํ กโรมี’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณา. กายาทีหิ สํวรณโต คูหนา. สพฺพโตภาเคน คูหนา ปริคูหนา. ติณปณฺเณหิ วิย คูถํ กายวจีกมฺเมหิ ปาปํ ฉาเทตีติ ฉาทนา. สพฺพโตภาเคน ฉาทนา ปฏิจฺฉาทนา. น อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนุตฺตานีกมฺมํ. น ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนาวิกมฺมํ. สุฏฺุ ฉาทนา โวจฺฉาทนา. กตปฏิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ; ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมาปฏิจฺฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกปฏิจฺฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกาปลิเวิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ.
สาเยฺยนิทฺเทเส ¶ สโติ อสนฺตคุณปริทีปนโต น สมฺมา ภาสิตา. สพฺพโตภาเคน สโ ปริสโ. ยํ ตตฺถาติ ยํ ตสฺมึ ปุคฺคเล. สนฺติ อสนฺตคุณทีปนํ เกราฏิยํ. สตาติ สากาโร. กกฺกรตาติ ปทุมนาลิสฺส วิย อปรามสนกฺขโม ขรผรุสภาโว. กกฺกริยนฺติปิ ตสฺเสว เววจนํ. ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติยนฺติ ปททฺวเยน นิขณิตฺวา ปิตํ วิย ทฬฺหเกราฏิยํ วุตฺตํ. อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ นาม วุจฺจติ; เยน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา.
วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;
สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโวติ.
เอวํ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติ. อวิชฺชาทินิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๙๐๒. อนชฺชวนิทฺเทเส อนชฺชโวติ อนุชุตากาโร. อนชฺชวภาโว อนชฺชวตา. ชิมฺหตาติ จนฺทวงฺกตา. วงฺกตาติ โคมุตฺตวงฺกตา. กุฏิลตาติ นงฺคลโกฏิวงฺกตา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กายวจีจิตฺตวงฺกตาว กถิตา.
อมทฺทวนิทฺเทเส น มุทุภาโว อมุทุตา. อมทฺทวากาโร อมทฺทวตา. กกฺขฬภาโว กกฺขฬิยํ. มทฺทวกรสฺส สิเนหสฺส อภาวโต ผรุสภาโว ผารุสิยํ. อนีจวุตฺติตาย อุชุกเมว ิตจิตฺตภาโว อุชุจิตฺตตา ¶ . ปุน อมุทุตาคหณํ ตสฺสา วิเสสนตฺถํ ‘อมุทุตาสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา, น อชฺชวสงฺขาตา อุชุจิตฺตตา’ติ.
๙๐๓. อกฺขนฺตินิทฺเทสาทโย ขนฺตินิทฺเทสาทิปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพา.
๙๐๘. สํโยชนนิทฺเทเส อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว. พหิทฺธาติ รูปารูปภโว. กิฺจาปิ หิ สตฺตา กามภเว อปฺปํ ¶ กาลํ วสนฺติ กปฺปสฺส จตุตฺถเมว โกฏฺาสํ, อิตเรสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ กามภโว สฺุโ โหติ ตุจฺโฉ, รูปารูปภเว พหุํ กาลํ วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ ยสฺมา กามภเว จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา โหนฺติ, อปฺปา รูปารูปภเวสุ, ยตฺถ จ จุติปฏิสนฺธิโย พหุกา ตตฺถ อาลโยปิ ปตฺถนาปิ อภิลาโสปิ พหุ โหติ, ยตฺถ อปฺปา ตตฺถ อปฺโป, ตสฺมา กามภโว ¶ อชฺฌตฺตํ นาม ชาโต, รูปารูปภวา พหิทฺธา นาม. อิติ อชฺฌตฺตสงฺขาเต กามภเว พนฺธนํ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม, พหิทฺธาสงฺขาเตสุ รูปารูปภเวสุ พนฺธนํ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. ตตฺถ เอเกกํ ปฺจปฺจวิธํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺโจรมฺภาคิยานิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานี’’ติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํ วุจฺจติ รูปารูปธาตุ, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานีติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๐๙. ติกนิทฺเทเส ตีหิ อกุสลมูเลหิ วฏฺฏมูลสมุทาจาโร กถิโต. อกุสลวิตกฺกาทีสุ วิตกฺกนวเสน วิตกฺโก, สฺชานนวเสน สฺา, สภาวฏฺเน ธาตูติ เวทิตพฺพา. ทุจฺจริตนิทฺเทเส ปมนโย กมฺมปถวเสน วิภตฺโต, ทุติโย สพฺพสงฺคาหิกกมฺมวเสน, ตติโย นิพฺพตฺติตเจตนาวเสเนว.
๙๑๔. อาสวนิทฺเทเส สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโยว อาสวา กถิตา.
๙๑๙. เอสนานิทฺเทเส ¶ สงฺเขปโต ตตฺถ กตมา กาเมสนาติ อาทินา นเยน วุตฺโต กามคเวสนราโค กาเมสนา. โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโทติอาทินา นเยน วุตฺโต ภวคเวสนราโค ภเวสนา. สสฺสโต โลโกติอาทินา นเยน วุตฺตา ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส คเวสนา ทิฏฺิ พฺรหฺมจริเยสนาติ เวทิตพฺพา. ยสฺมา จ น เกวลํ ราคทิฏฺิโย เอว เอสนา, ตเทกฏฺํ ปน กมฺมมฺปิ เอสนา เอว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย วิภตฺโต. ตตฺถ ตเทกฏฺนฺติ สมฺปยุตฺเตกฏฺํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ¶ กามราเคกฏฺํ กามาวจรสตฺตานเมว ปวตฺตติ; ภวราเคกฏฺํ ปน มหาพฺรหฺมานํ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย จงฺกมนฺตานํ ฌานงฺคานํ อสฺสาทนกาเล อกุสลกายกมฺมํ โหติ, ‘อโห สุขํ อโห สุข’นฺติ วาจํ ภินฺทิตฺวา อสฺสาทนกาเล วจีกมฺมํ, กายงฺควาจงฺคานิ ¶ อโจเปตฺวา มนสาว อสฺสาทนกาเล มโนกมฺมํ. อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน สพฺเพสมฺปิ ทิฏฺิคติกานํ จงฺกมนาทิวเสน ตานิ โหนฺติเยว.
๙๒๐. วิธานิทฺเทเส ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) อาการสณฺานํ วิธา นาม. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) โกฏฺาโส. ‘‘วิธาสุ น วิกมฺปตี’’ติอาทีสุ (เถรคา. ๑๐๗๙) มาโน. อิธาปิ มาโนว วิธา นาม. โส หิ เสยฺยาทิวเสน วิทหนโต วิธาติ วุจฺจติ. ปนฏฺเน วา วิธา. ตสฺมา ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ เอวํ อุปฺปนฺนา มานวิธา มานปนา เสยฺโยหมสฺมีติ วิธาติ เวทิตพฺพา. เสสปททฺวเยสุปิ เอเสว นโย.
๙๒๑. ภยนิทฺเทเส ชาตึ ปฏิจฺจ ภยนฺติ ชาติปจฺจยา อุปฺปนฺนภยํ. ภยานกนฺติ อาการนิทฺเทโส. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ภยวเสน คตฺตจลนํ. โลมหํโสติ โลมานํ หํสนํ, อุทฺธคฺคภาโว. อิมินา ปททฺวเยน กิจฺจโต ภยํ ทสฺเสตฺวา ปุน เจตโส อุตฺราโสติ สภาวโต ทสฺสิตํ.
๙๒๒. ตมนิทฺเทเส วิจิกิจฺฉาสีเสน อวิชฺชา กถิตา. ‘‘ตมนฺธกาโร สมฺโมโห, อวิชฺโชโฆ มหพฺภโย’’ติ วจนโต หิ อวิชฺชา ตโม ¶ นาม. ติณฺณํ ปน อทฺธานํ วเสน เทสนาสุขตาย วิจิกิจฺฉาสีเสน เทสนา กตา. ตตฺถ ‘กึ นุ โข อหํ อตีเต ขตฺติโย อโหสึ อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส สุทฺโท กาโฬ โอทาโต รสฺโส ทีโฆ’ติ กงฺขนฺโต อตีตํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม. ‘กึ นุ โข อหํ อนาคเต ขตฺติโย ภวิสฺสามิ อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส…เป… ทีโฆ’ติ กงฺขนฺโต อนาคตํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม. ‘กึ นุ โข อหํ เอตรหิ ขตฺติโย อุทาหุ พฺราหฺมโณ เวสฺโส สุทฺโท; กึ วา อหํ รูปํ อุทาหุ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณ’นฺติ กงฺขนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ นาม.
ตตฺถ กิฺจาปิ ขตฺติโย วา อตฺตโน ขตฺติยภาวํ, พฺราหฺมโณ วา พฺราหฺมณภาวํ, เวสฺโส วา เวสฺสภาวํ, สุทฺโท วา สุทฺทภาวํ อชานนโก นาม นตฺถิ, ชีวลทฺธิโก ¶ ปน สตฺโต ขตฺติยชีวาทีนํ วณฺณาทิเภทํ สุตฺวา ‘กีทิโส นุ โข อมฺหากํ อพฺภนฺตเร ชีโว – กึ นุ โข ¶ นีลโก อุทาหุ ปีตโก โลหิตโก โอทาโต จตุรํโส ฉฬํโส อฏฺํโส’ติ กงฺขนฺโต เอวํ กงฺขติ นาม.
๙๒๓. ติตฺถายตนานีติ ติตฺถภูตานิ อายตนานิ, ติตฺถิยานํ วา อายตนานิ. ตตฺถ ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. ติตฺถิยา นาม เยสํ ตา ทิฏฺิโย รุจฺจนฺติ ขมนฺติ. อายตนฏฺโ เหฏฺา วุตฺโตเยว. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ทิฏฺิคติกา สฺชายมานา อิเมสุเยว ตีสุ าเนสุ สฺชายนฺติ, สโมสรมานาปิ เอเตสุเยว สโมสรนฺติ สนฺนิปตนฺติ, ทิฏฺิคติกภาเว จ เนสํ เอตานิเยว การณานิ, ตสฺมา ติตฺถานิ จ ตานิ สฺชาตานีติอาทินา อตฺเถน อายตนานิ จาติ ติตฺถายตนานิ; เตเนวตฺเถน ติตฺถิยานํ อายตนานีติปิ ติตฺถายตนานิ. ปุริสปุคฺคโลติ สตฺโต. กามฺจ ปุริโสติปิ ปุคฺคโลติปิ วุตฺเต สตฺโตเยว วุตฺโต, อยํ ปน สมฺมุติกถา นาม โย ยถา ชานาติ ตสฺส ตถา วุจฺจติ. ปฏิสํเวเทตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ชานาติ, ปฏิสํวิทิตํ กโรติ อนุภวติ วา. ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพ กตการณา, ปุพฺเพ กตกมฺมปจฺจเยเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ นิคณฺสมโย. เอวํวาทิโน ปน เต กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ. ปิตฺตสมุฏฺานาทีสุ (มหานิ. ๕) จ อฏฺสุ อาพาเธสุ ¶ สตฺต ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺมํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ, ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุ จ ตีสุ กมฺเมสุ ทฺเว ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ อปราปริยเวทนียเมว สมฺปฏิจฺฉนฺติ, กุสลากุสลวิปากกิริยสงฺขาตาสุ จ จตูสุ เจตนาสุ วิปากเจตนํเยว สมฺปฏิจฺฉนฺติ.
อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ อิสฺสรนิมฺมานการณา; พฺรหฺมุนา วา ปชาปตินา วา อิสฺสเรน นิมฺมิตตฺตา ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ พฺราหฺมณสมโย. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – อิมา ติสฺโส เวทนา ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตนา กตมูลเกน วา อาณตฺติมูลเกน วา ปุพฺเพ กเตน วา อเหตุอปฺปจฺจยา วา ปฏิสํเวเทตุํ นาม น สกฺกา; อิสฺสรนิมฺมานการณา เอว ปน อิมา ปฏิสํเวเทตีติ. เอวํวาทิโน ปเนเต เหฏฺา วุตฺเตสุ อฏฺสุ อาพาเธสุ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ. ตถา ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุปิ สพฺพโกฏฺาเสสุ ¶ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิพาหนฺติ.
อเหตุ อปฺปจฺจยาติ เหตฺุจ ปจฺจยฺจ วินา อการเณเนว ปฏิสํเวเทตีติ อตฺโถ. อยํ ¶ อาชีวกสมโย. เอวํ วาทิโน เอเตปิ เหฏฺา วุตฺเตสุ การเณสุ จ พฺยาธีสุ จ เอกมฺปิ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิกฺขิปนฺติ.
๙๒๔. กิฺจนาติ ปลิโพธา. ราโค กิฺจนนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต พนฺธติ ปลิพุนฺเธติ, ตสฺมา กิฺจนนฺติ วุจฺจติ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. องฺคณานีติ ‘‘อุทงฺคเณ ตตฺถ ปปํ อวินฺทุ’’นฺติ (ชา. ๑.๑.๒) อาคตฏฺาเน ภูมิปฺปเทโส องฺคณํ. ‘‘ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๔; อ. นิ. ๑๐.๕๑) อาคตฏฺาเน ยํ กิฺจิ มลํ วา ปงฺโก วา. ‘‘สางฺคโณว สมาโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๗) อาคตฏฺาเน นานปฺปกาโร ติพฺพกิเลโส. อิธาปิ ตเทว กิเลสงฺคณํ อธิปฺเปตํ. เตเนว ราโค องฺคณนฺติอาทิมาห.
มลานีติ มลินภาวกรณานิ. ราโค มลนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน จิตฺตํ มลินํ กโรติ, มลํ คาหาเปติ, ตสฺมา มลนฺติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.
วิสมนิทฺเทเส ¶ ยสฺมา ราคาทีสุ เจว กายทุจฺจริตาทีสุ จ สตฺตา ปกฺขลนฺติ, ปกฺขลิตา จ ปน สาสนโตปิ สุคติโตปิ ปตนฺติ, ตสฺมา ปกฺขลนปาตเหตุโต ราโค วิสมนฺติอาทิ วุตฺตํ.
อคฺคีติ อนุทหนฏฺเน อคฺคิ. ราคคฺคีติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต อนุทหติ ฌาเปติ, ตสฺมา อคฺคีติ วุจฺจติ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ วตฺถูนิ – เอกา กิร ทหรภิกฺขุนี จิตฺตลปพฺพตวิหาเร อุโปสถาคารํ คนฺตฺวา ทฺวารปาลกรูปํ โอโลกยมานา ิตา. อถสฺสา อนฺโต ราโค อุปฺปนฺโน. สา เตเนว ฌายิตฺวา กาลมกาสิ. ภิกฺขุนิโย คจฺฉมานา ‘อยํ ทหรา ิตา, ปกฺโกสถ น’นฺติ อาหํสุ. เอกา คนฺตฺวา ‘กสฺมา ิตาสี’ติ หตฺเถ คณฺหิ. คหิตมตฺตา ปริวตฺติตฺวา ปติตา. อิทํ ตาว ราคสฺส อนุทหนตาย วตฺถุ. โทสสฺส ปน อนุทหนตาย มโนปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหสฺส อนุทหนตาย ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหนวเสน หิ เตสํ สติสมฺโมโส โหติ. ตสฺมา ขิฑฺฑาวเสน อาหารกาลํ อติวตฺติตฺวา กาลํ กโรนฺติ. กสาวาติ ¶ กสฏา นิโรชา. ราคาทีสุ จ กายทุจฺจริตาทีสุ จ เอกมฺปิ ปณีตํ โอชวนฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา ราโค กสาโวติอาทิ วุตฺตํ.
๙๒๕. อสฺสาททิฏฺีติ ¶ อสฺสาทสมฺปยุตฺตา ทิฏฺิ. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ กิเลสกาเมน วตฺถุกามปฏิเสวนโทโส นตฺถีติ วทติ. ปาตพฺยตนฺติ ปาตพฺพภาวํ ปริภฺุชนํ อชฺโฌหรณํ. เอวํวาที หิ โส วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามํ ปิวนฺโต วิย อชฺโฌหรนฺโต วิย ปริภฺุชติ. อตฺตานุทิฏฺีติ อตฺตานํ อนุคตา ทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺีติ ลามกา ทิฏฺิ. อิทานิ ยสฺมา เอตฺถ ปมา สสฺสตทิฏฺิ โหติ, ทุติยา สกฺกายทิฏฺิ, ตติยา อุจฺเฉททิฏฺิ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ สสฺสตทิฏฺิ อสฺสาททิฏฺีติอาทิมาห.
๙๒๖. อรตินิทฺเทโส จ วิเหสานิทฺเทโส จ วุตฺตตฺโถเยว. อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมกรณนฺติ อตฺโถ. วิสมา จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. โทวจสฺสตาปาปมิตฺตตา นิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว. ปุถุนิมิตฺตารมฺมเณสุ ปวตฺติโต นานตฺเตสุ สฺา นานตฺตสฺา. ยสฺมา วา อฺาว กามสฺา, อฺา พฺยาปาทาทิสฺา, ตสฺมา ¶ นานตฺตา สฺาติปิ นานตฺตสฺา. โกสชฺชปมาทนิทฺเทเสสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ วิสฺสฏฺจิตฺตสฺส กุสลธมฺมภาวนาย อนนุโยควเสน ลีนวุตฺติตา โกสชฺชํ, ปมชฺชนวเสน ปมตฺตภาโว ปมาโทติ เวทิตพฺโพ. อสนฺตุฏฺิตาทินิทฺเทสา วุตฺตตฺถา เอว.
๙๓๑. อนาทริยนิทฺเทเส โอวาทสฺส อนาทิยนวเสน อนาทรภาโว อนาทริยํ. อนาทริยนากาโร อนาทรตา. สครุวาสํ อวสนฏฺเน อคารวภาโว อคารวตา. สเชฏฺกวาสํ อวสนฏฺเน อปฺปติสฺสวตา. อนทฺทาติ อนาทิยนา. อนทฺทายนาติ อนาทิยนากาโร. อนทฺทาย อยิตสฺส ภาโว อนทฺทายิตตฺตํ. อสีลสฺส ภาโว อสีลฺยํ. อจิตฺตีกาโรติ ครุจิตฺตีการสฺส อกรณํ.
๙๓๒. อสฺสทฺธภาโว อสฺสทฺธิยํ. อสทฺทหนากาโร อสทฺทหนา. โอกปฺเปตฺวา อนุปวิสิตฺวา อคฺคหณํ อโนกปฺปนา. อปฺปสีทนฏฺเน อนภิปฺปสาโท.
อวทฺุตาติ ถทฺธมจฺฉริยวเสน ‘เทหิ, กโรหี’ติ วจนสฺส อชานตา.
๙๓๔. พุทฺธา ¶ จ พุทฺธสาวกา จาติ เอตฺถ พุทฺธคฺคหเณน ปจฺเจกพุทฺธาปิ คหิตาว. อสเมตุกมฺยตาติ ¶ เตสํ สมีปํ อคนฺตุกามตา. สทฺธมฺมํ อโสตุกมฺยตาติ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา สทฺธมฺโม นาม, ตํ อสุณิตุกามตา. อนุคฺคเหตุกมฺยตาติ น อุคฺคเหตุกามตา.
อุปารมฺภจิตฺตตาติ อุปารมฺภจิตฺตภาโว. ยสฺมา ปน โส อตฺถโต อุปารมฺโภว โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม อุปารมฺโภติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปารมฺภนวเสน อุปารมฺโภ. ปุนปฺปุนํ อุปารมฺโภ อนุปารมฺโภ อุปารมฺภนากาโร อุปารมฺภนา. ปุนปฺปุนํ อุปารมฺภนา อนุปารมฺภนา. อนุปารมฺภิตสฺส ภาโว อนุปารมฺภิตตฺตํ. อฺุาติ เหฏฺา กตฺวา ชานนา. อวฺาติ อวชานนา. ปริภวนํ ปริภโว. รนฺธสฺส คเวสิตา รนฺธคเวสิตา. รนฺธํ วา คเวสตีติ รนฺธคเวสี, ตสฺส ภาโว รนฺธคเวสิตา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปรวชฺชานุปสฺสนลกฺขโณ อุปารมฺโภ นาม วุจฺจติ, เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล, ยถา นาม ตุนฺนกาโร ¶ สาฏกํ ปสาเรตฺวา ฉิทฺทเมว โอโลเกติ, เอวเมว ปรสฺส สพฺเพปิ คุเณ มกฺเขตฺวา อคุเณสุเยว ปติฏฺาติ.
๙๓๖. อโยนิโส มนสิกาโรติ อนุปายมนสิกาโร. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ อนิจฺเจเยว วตฺถุสฺมึ ‘อิทํ นิจฺจ’นฺติ เอวํ ปวตฺโต. ทุกฺเข สุขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สจฺจวิปฺปฏิกุเลน จาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนนุโลมวเสน. จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนาติอาทีนิ สพฺพานิปิ อาวชฺชนสฺเสว เววจนาเนว. อาวชฺชนฺหิ ภวงฺคจิตฺตํ อาวฏฺเฏตีติ จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา. อนุอนุ อาวฏฺเฏตีติ อนาวฏฺฏนา. อาภุชตีติ อาโภโค. ภวงฺคารมฺมณโต อฺํ อารมฺมณํ สมนฺนาหรตีติ สมนฺนาหาโร. ตเทวารมฺมณํ อตฺตานํ อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปชฺชมาเน มนสิกโรตีติ มนสิกาโร. กโรตีติ เปติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อนุปายมนสิกาโร อุปฺปถมนสิการลกฺขโณ อโยนิโสมนสิกาโร นาม วุจฺจติ. ตสฺส วเสน ปุคฺคโล ทุกฺขาทีนิ สจฺจานิ ยาถาวโต อาวชฺชิตุํ น สกฺโกติ.
กุมฺมคฺคเสวนานิทฺเทเส ยํ กุมฺมคฺคํ เสวโต เสวนา กุมฺมคฺคเสวนาติ วุจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม กุมฺมคฺโคติ ¶ ทุติยปุจฺฉา กตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๓๙. จตุกฺกนิทฺเทเส ¶ ตณฺหุปฺปาเทสุ จีวรเหตูติ ‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต; ยถา จีวราทิเหตุ เอวํ ภวาภวเหตูติปิ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ตณฺหุปฺปาทานํ ปหานตฺถาย ปฏิปาฏิยาว จตฺตาโร อริยวํสา เทสิตาติ เวทิตพฺพา.
อคติคมเนสุ ¶ ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ ฉนฺเทน เปเมน อคตึ คจฺฉติ, อกตฺตพฺพํ กโรติ. ปรปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ โย ‘อยํ เม มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา าตโก วา ลฺชํ วา ปน เม เทตี’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ‘อยํ เม เวรี’ติ ปกติเวรวเสน วา ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ – อยํ โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน ‘อยํ ราชวลฺลโภ วา วิสมนิสฺสิโต วา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย วา ปน ภาชิยฏฺาเน กิฺจิ ภาเชนฺโต ‘อยํ เม มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘อยํ เม เวรี’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โมมูหตฺตา ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนกํ กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘อยํ อิมสฺมึ อทียมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’ติ ภีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉติ นาม. อริยา เอตาย น คจฺฉนฺตีติ อคติ, อนริยา อิมินา อคตึ คจฺฉนฺตีติ อคติคมนํ. อิมํ ทฺวยํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํ. ฉนฺเทน คมนํ ฉนฺทคมนํ. อิทํ โทสาทีนํ อสาธารณวเสน วุตฺตํ. สกปกฺขราคฺจ ปรปกฺขโทสฺจ ปุรกฺขตฺวา อสมคฺคภาเวน คมนํ วคฺคคมนํ. อิทํ ฉนฺทโทสสาธารณวเสน วุตฺตํ. วาริโน วิย ยถานินฺนํ คมนนฺติ วาริคมนํ. อิทํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํ.
วิปริยาเสสุ ¶ อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปรีตโต เอสนฺตีติ วิปริยาสา, สฺาย วิปริยาโส สฺาวิปริยาโส. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. เอวเมเต จตุนฺนํ ¶ วตฺถูนํ วเสน จตฺตาโร, เยสุ วตฺถูสุ สฺาทีนํ วเสน ทฺวาทส โหนฺติ. เตสุ อฏฺ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมคฺเคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพา.
อนริยโวหาเรสุ ¶ อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหารา. ทิฏฺวาทิตาติ ‘ทิฏฺํ มยา’ติ เอวํ วาทิตา. เอตฺถ จ ตํ ตํ สมุฏฺาปิกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สห สทฺเทน เจตนา กถิตาติปิ วุตฺตเมว. ทุติยจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อริโย หิ อทิสฺวา วา ‘ทิฏฺํ มยา’ติ ทิสฺวา วา ‘น ทิฏฺํ มยา’ติ วตฺตา นาม นตฺถิ; อนริโยว เอวํ วทติ. ตสฺมา เอวํ วทนฺตสฺส เอตา สห สทฺเทน อฏฺ เจตนา อนริยโวหาราติ เวทิตพฺพา.
ทุจฺจริเตสุ ปมจตุกฺกํ เวรเจตนาวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ วจีทุจฺจริตวเสน.
ภเยสุ ปมจตุกฺเก ชาตึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ชาติภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ทุติยจตุกฺเก ราชโต อุปฺปนฺนํ ภยํ ราชภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตติยจตุกฺเก จตฺตาริ ภยานีติ มหาสมุทฺเท อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตภยานิ. มหาสมุทฺเท กิร มหินฺทวีจิ นาม สฏฺิ โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ. คงฺคาวีจิ นาม ปณฺณาส. โรหณวีจิ นาม จตฺตาลีส โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ. เอวรูปา อูมิโย ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ อูมิภยํ นาม. กุมฺภีลโต อุปฺปนฺนํ ภยํ กุมฺภีลภยํ. อุทกาวฏฺฏโต ภยํ อาวฏฺฏภยํ. สุสุกา วุจฺจติ จณฺฑมจฺโฉ; ตโต ภยํ สุสุกาภยํ.
จตุตฺถจตุกฺเก อตฺตานุวาทภยนฺติ ปาปกมฺมิโน อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยํ. ปรานุวาทภยนฺติ ปรสฺส อนุวาทโต อุปฺปชฺชนกภยํ. ทณฺฑภยนฺติ อคาริกสฺส รฺา ปวตฺติตทณฺฑํ, อนคาริกสฺส วินยทณฺฑํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. ทุคฺคติภยนฺติ จตฺตาโร อปาเย ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อิติ ¶ อิเมหิ จตูหิ จตุกฺเกหิ โสฬส มหาภยานิ นาม กถิตานิ.
ทิฏฺิจตุกฺเก ¶ ติมฺพรุกทิฏฺิ (สํ. นิ. ๒.๑๘) นาม กถิตา. ตตฺถ สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสโต เวทนาย เอว เวทนา กตาติ อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวฺจ สติ ตสฺสา เวทนาย ปุพฺเพปิ อตฺถิตา อาปชฺชตีติ อยํ สสฺสตทิฏฺิ นาม โหติ. สจฺจโต เถตโตติ สจฺจโต ถิรโต. ปรํกตนฺติ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนเวทนโต อฺํ เวทนาการณํ เวทนตฺตานํ สมนุปสฺสโต ‘อฺาย เวทนาย อยํ เวทนา กตา’ติ อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวํ สติ ปุริมาย การณเวทนาย อุจฺเฉโท อาปชฺชตีติ อยํ อุจฺเฉททิฏฺิ นาม โหติ. สยํกตฺจ ปรํกตฺจาติ ยถาวุตฺเตเนว อตฺเถน ‘อุปฑฺฒํ สยํกตํ, อุปฑฺฒํ ปเรน กต’นฺติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ – อยํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ นาม. จตุตฺถา อการณา เอว สุขทุกฺขํ โหตีติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ. เอวํ สติ อยํ อเหตุกทิฏฺิ นาม. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๐. ปฺจกนิทฺเทเส ยสฺมา เยสํ สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ อปฺปหีนานิ, เต ภวคฺเคปิ นิพฺพตฺเต เอตานิ อากฑฺฒิตฺวา กามภเวเยว ปาเตนฺติ, ตสฺมา โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานีติ วุตฺตานิ. อิติ เอตานิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, คตํ ปน อาเนนฺติ. รูปราคาทีนิปิ ปฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, อาคนฺตุํ ปน น เทนฺติ. ราคาทโย ปฺจ ลคฺคนฏฺเน สงฺคา, อนุปวิฏฺฏฺเน ปน สลฺลาติ วุตฺตา.
๙๔๑. เจโตขิลาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวา กจวรภาวา ขาณุกภาวา. สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา กงฺขติ. สรีเร กงฺขมาโน ‘ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. คุเณ กงฺขมาโน ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. วิจิกิจฺฉตีติ วิจินนฺโต กิจฺฉติ, ทุกฺขํ อาปชฺชติ, วินิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ. นาธิมุจฺจตีติ ¶ ‘เอวเมต’นฺติ อธิโมกฺขํ น ปฏิลภติ ¶ . น สมฺปสีทตีติ คุเณสุ โอตริตฺวา นิพฺพิจิกิจฺฉภาเวน ปสีทิตุํ อนาวิโล ภวิตุํ น สกฺโกติ.
ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม จ ปฏิเวธธมฺเม จ. ปริยตฺติธมฺเม กงฺขมาโน ‘เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วทนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตํ นตฺถี’ติ กงฺขติ. ปฏิเวธธมฺเม กงฺขมาโน ‘วิปสฺสนานิสฺสนฺโท มคฺโค นาม ¶ , มคฺคนิสฺสนฺโท ผลํ นาม, สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสคฺโค นิพฺพานํ นามาติ วทนฺติ, ตํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ’.
สงฺเฆ กงฺขตีติ ‘อุชุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปทานํ วเสน เอวรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนา จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ผลฏฺาติ อฏฺนฺนํ ปุคฺคลานํ สมูหภูโต สงฺโฆ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ. สิกฺขาย กงฺขมาโน ‘อธิสีลสิกฺขา นาม อธิจิตฺตสิกฺขา นาม อธิปฺา สิกฺขา นามาติ วทนฺติ, สา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติ.
เจตโสวินิพนฺธาติ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจตโสวินิพนฺธา. กาเมติ วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิ. กาเยติ อตฺตโน กาเย. รูเปติ พหิทฺธา รูเป. ยาวทตฺถนฺติ ยตฺตกํ อิจฺฉติ ตตฺตกํ. อุทราวเทหกนฺติ อุทรปูรํ. ตฺหิ อุทรํ อวเทหนโต อุทราวเทหกนฺติ วุจฺจติ. เสยฺยสุขนฺติ มฺจปีสุขํ อุตุสุขํ วา. ปสฺสสุขนฺติ ยถา สมฺปริวตฺตกํ สยนฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสวามปสฺสานํ สุขํ โหติ, เอวํ อุปฺปนฺนสุขํ. มิทฺธสุขนฺติ นิทฺทาสุขํ. อนุยุตฺโตติ ยุตฺตปยุตฺโต วิหรติ. ปณิธายาติ ปตฺถยิตฺวา. สีเลนาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. วตนฺติ วตสมาทานํ. ตโปติ ตปจรณํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรติ. เทโว วา ภวิสฺสามีติ มเหสกฺขเทโว วา ภวิสฺสามิ. เทวฺตโร วาติ อปฺเปสกฺขเทเวสุ วา อฺตโร. กุสลธมฺเม อาวรนฺติ นิวาเรนฺตีติ นีวรณานิ.
มาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหตีติ มนุสฺเสเนว สกชนิกา มนุสฺสมาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหติ. ปิตาปิ ¶ มนุสฺสปิตาว. อรหาปิ มนุสฺสอรหาว. ทุฏฺเน จิตฺเตนาติ วธกจิตฺเตน.
สฺีติ สฺาสมงฺคี. อโรโคติ นิจฺโจ. อิตฺเถเก อภิวทนฺตีติ อิตฺถํ เอเก อภิวทนฺติ, เอวเมเก อภิวทนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา โสฬส สฺีวาทา กถิตา. อสฺีติ ¶ สฺาวิรหิโต. อิมินา ปเทน อฏฺ อสฺีวาทา กถิตา. ตติยปเทน อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา กถิตา. สโต วา ปน สตฺตสฺสาติ อถวา ปน วิชฺชมานสฺเสว สตฺตสฺส. อุจฺเฉทนฺติ อุปจฺเฉทํ. วินาสนฺติ อทสฺสนํ. วิภวนฺติ ภาววิคมํ. สพฺพาเนตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ตตฺถ ทฺเว ชนา อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหนฺติ – ลาภี ¶ จ อลาภี จ. ตตฺถ ลาภี อรหโต ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตึ ทิสฺวา อุปปตฺตึ อปสฺสนฺโต, โย วา จุติมตฺตเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. อลาภี ‘โก ปรโลกํ ชานาตี’ติ กามสุขคิทฺธตาย วา ‘ยถา รุกฺขโต ปณฺณานิ ปติตานิ น ปุน วิรุหนฺติ, เอวํ สตฺตา’ติอาทินา วิตกฺเกน วา อุจฺเฉทํ คณฺหาติ. อิธ ปน ตณฺหาทิฏฺีนํ วเสน ตถา จ อฺถา จ วิกปฺเปตฺวาว อุปฺปนฺนา สตฺต อุจฺเฉทวาทา กถิตา. เตสฺหิ อิทํ สงฺคหวจนํ. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเกติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ. ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ; อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขา วูปสมฺมนฺติ อตฺโถ. อิทํ ปฺจนฺนํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทานํ สงฺคหวจนํ.
๙๔๒. เวราติ เวรเจตนา. พฺยสนาติ วินาสา. อกฺขนฺติยาติ อนธิวาสนาย. อปฺปิโยติ ทสฺสนสวนปฏิกูลตาย น ปิยายิตพฺโพ. จินฺเตตุมฺปิ ปฏิกูลตฺตา มโน เอตสฺมึ น อปฺเปตีติ อมนาโป. เวรพหุโลติ พหุเวโร. วชฺชพหุโลติ พหุโทโส.
อาชีวกภยนฺติ อาชีวํ ชีวิตวุตฺตึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ¶ . ตํ อคาริกสฺสปิ โหติ อนคาริกสฺสปิ. ตตฺถ อคาริเกน ตาว อาชีวเหตุ พหุํ อกุสลํ กตํ โหติ. อถสฺส มรณสมเย นิรเย อุปฏฺหนฺเต ภยํ อุปฺปชฺชติ. อนคาริเกนาปิ พหุ อเนสนา กตา โหติ. อถสฺส มรณกาเล นิรเย อุปฏฺหนฺเต ภยํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ อาชีวกภยํ นาม. อสิโลกภยนฺติ ครหภยํ ปริสสารชฺชภยนฺติ กตปาปสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิปติตํ ปริสํ อุปสงฺกมนฺตสฺส สารชฺชสงฺขาตํ ภยํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปริสสารชฺชภยํ นาม. อิตรทฺวยํ ปากฏเมว.
๙๔๓. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเรสุ ปฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปาทีหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ พนฺธเนหิ วา. สมปฺปิโตติ สุฏฺุ อปฺปิโต อลฺลีโน หุตฺวา. สมงฺคีภูโตติ สมนฺนาคโต. ปริจาเรตีติ เตสุ กามคุเณสุ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรติ สฺจาเรติ อิโต จิโต ¶ จ อุปเนติ; อถ วา ปน ลฬติ รมติ กีฬตีติ. เอตฺถ จ ทุวิธา กามคุณา – มานุสฺสกา เจว ทิพฺพา จ. มานุสฺสกา มนฺธาตุกามคุณสทิสา ทฏฺพฺพา; ทิพฺพา ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิสาติ. เอวรูเป กาเม ¶ อุปคตฺหิ เต ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตีติ วทนฺติ. ตตฺถ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ ปรมํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ.
ทุติยวาเร หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา; ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา; ปกติชหนฏฺเน วิปริณามธมฺมาติ เวทิตพฺพา. เตสํ วิปริณามฺถาภาวาติ เตสํ กามานํ วิปริณามสงฺขาตา อฺถาภาวา. ‘ยมฺปิ เม อโหสิ ตมฺปิ เม นตฺถี’ติ วุตฺตนเยน อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา. ตตฺถ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขโณ โสโก; ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปลกฺขโณ ปริเทโว; กายปฏิปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ; มโนวิฆาตลกฺขณํ โทมนสฺสํ; วิฆาตลกฺขโณ อุปายาโส.
วิตกฺกิตนฺติ อภินิโรปนวเสน ปวตฺโต วิตกฺโก. วิจาริตนฺติ อนุมชฺชนวเสน ปวตฺโต วิจาโร. เอเตน เอตนฺติ เอเตน วิตกฺเกน จ วิจาเรน จ เอตํ ปมชฺฌานํ โอฬาริกํ สกณฺฏกํ วิย ขายติ.
ปีติคตนฺติ ปีติเมว. เจตโส อุปฺปิลาวิตนฺติ จิตฺตสฺส อุปฺปิลภาวกรณํ. เจตโส อาโภโคติ ฌานา วุฏฺาย ¶ ตสฺมึ สุเข ปุนปฺปุนํ จิตฺตสฺส อาโภโค มนสิกาโรติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๔. ฉกฺกนิทฺเทเส ยสฺมา กุทฺโธ วา โกธวเสน, สนฺทิฏฺิปรามาสี วา สนฺทิฏฺิปรามาสิตาย ¶ กลหํ วิคฺคหํ วิวาทํ อาปชฺชติ, ตสฺมา โกธาทโย ‘วิวาทมูลานี’ติ วุตฺตา.
ฉนฺทราคนิทฺเทเส กามเคหสิตตฺตา ฉนฺทราคา เคหสฺสิตา ธมฺมาติ สงฺคหโต วตฺวา ปุน ปเภทโต ทสฺเสตุํ มนาปิเยสุ รูเปสูติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มนาปิเยสูติ มนวฑฺฒนเกสุ อิฏฺเสุ. วิโรธา เอว วิโรธวตฺถูนิ. อมนาปิเยสูติ อนิฏฺเสุ.
๙๔๕. อคารเวสุ อคารโวติ คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ, สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ ¶ , นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นฺหายติ, อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, ปรินิพฺพุเต วา ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ – อยํ สตฺถริ อคารโว นาม. โย ปน ธมฺมสวเน สงฺฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, สมุลฺลปนฺโต นิสีทติ, น สกฺกจฺจํ คณฺหาติ, น สกฺกจฺจํ วาเจติ – ‘อยํ ธมฺเม อคารโว นาม. โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ, ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, ติฏฺติ, นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ – อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว กเต สงฺเฆ อคารโว กโตว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปูรยมาโนว สิกฺขาย อคารโว นาม. อปฺปมาทลกฺขณํ อนนุพฺรูหยมาโน อปฺปมาเท อคารโว นาม. ทุวิธํ ปฏิสนฺถารํ อกโรนฺโต ปฏิสนฺถาเร อคารโว นาม.
ปริหานิยา ธมฺมาติ ปริหานกรา ธมฺมา. กมฺมารามตาติ ¶ นวกมฺเม วา จีวรวิจารณาทีสุ วา กมฺเมสุ อภิรติ ยุตฺตปยุตฺตตา. ภสฺสารามตาติ ติรจฺฉานกถาวเสน ภสฺเส ยุตฺตปยุตฺตตา. นิทฺทารามตาติ นิทฺทาย ยุตฺตปยุตฺตตา. สงฺคณิการามตาติ สงฺคณิกาย ยุตฺตปยุตฺตตา. สํสคฺคารามตาติ สวนสํสคฺเค, ทสฺสนสํสคฺเค, สมุลฺลาปสํสคฺเค, ปริโภคสํสคฺเค, กายสํสคฺเคติ ปฺจวิเธ สํสคฺเค ยุตฺตปยุตฺตตา. ปปฺจารามตาติ ตณฺหามานทิฏฺิปปฺเจสุ ยุตฺตปยุตฺตตา.
๙๔๖. โสมนสฺสุปวิจาราทีสุ ¶ โสมนสฺเสน สทฺธึ อุปวิจรนฺตีติ โสมนสฺสุปวิจารา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส อารมฺมณวเสน การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ วิจารปฺปวตฺตเนน อุปวิจรติ. วิตกฺโก ปน ตํสมฺปยุตฺโต วาติ อิมินา นเยน ตีสุปิ ฉกฺเกสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๙๔๗. เคหสิตานีติ กามคุณนิสฺสิตานิ. โสมนสฺสานีติ เจตสิกสุขานิ. โทมนสฺสานีติ เจตสิกทุกฺขานิ. อุเปกฺขาติ อฺาณสมฺปยุตฺตา ¶ อุเปกฺขา เวทนา, อฺาณุเปกฺขาติปิ เอตาสํเยว นามํ.
๙๔๘. อตฺถิ เม อตฺตาติ วาติ สพฺพปเทสุ วา-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ; เอวํ วา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถิ เม อตฺตาติ เจตฺถ สสฺสตทิฏฺิ สพฺพกาเลสุ อตฺตโน อตฺถิตํ คณฺหาติ. สจฺจโต เถตโตติ ภูตโต จ ถิรโต จ; อิทํ สจฺจนฺติ สุฏฺุ ทฬฺหภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. นตฺถิ เม อตฺตาติ อยํ ปน อุจฺเฉททิฏฺิ, สโต สตฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ วิภวคฺคหณโต. อถ วา ปุริมาปิ ตีสุ กาเลสุ อตฺถีติ คหณโต สสฺสตทิฏฺิ, ปจฺจุปฺปนฺนเมว อตฺถีติ คณฺหนฺตี อุจฺเฉททิฏฺิ. ปจฺฉิมาปิ อตีตานาคเตสุ นตฺถีติ คหณโต ‘ภสฺมนฺตา อาหุติโย’ติ คหิตทิฏฺิกานํ วิย อุจฺเฉททิฏฺิ, อตีเตเยว นตฺถีติ คณฺหนฺตี อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกสฺเสว สสฺสตทิฏฺิ. อตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามีติ สฺากฺขนฺธสีเสน ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย อวเสสกฺขนฺเธ สฺชานนโต ‘อิมินา อตฺตนา อิมํ อตฺตานํ สฺชานามี’ติ เอวํ โหติ. อตฺตนา วา อนตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํเยว อตฺตาติ คเหตฺวา อิตเร จตฺตาโร ขนฺเธ อนตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เตสํ ชานนโต เอวํ โหติ. อนตฺตนา วา อตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํ อนตฺตาติ ¶ อิตเร จ จตฺตาโร ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เตสํ ชานนโต เอวํ โหติ. สพฺพาปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโยว.
วโท เวเทยฺโยติ อาทโย ปน สสฺสตทิฏฺิยา เอว อภินิเวสาการา. ตตฺถ วทตีติ วโท; วจีกมฺมสฺส การโกติ วุตฺตํ โหติ. เวทยตีติ เวเทยฺโย; ชานาติ อนุภวติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ยํ โส เวเทติ ตํ ทสฺเสตุํ ตตฺร ตตฺร ทีฆรตฺตํ กลฺยาณปาปกานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ โยนิคติิตินิวาสนิกาเยสุ อารมฺมเณสุ วา. ทีฆรตฺตนฺติ จิรรตฺตํ. ปจฺจนุโภตีติ ปฏิสํเวทยติ. น โส ชาโต นาโหสีติ โส อตฺตา อชาติธมฺมโต ¶ น ชาโต นาม; สทา วิชฺชมาโน เยวาติ อตฺโถ. เตเนว อตีเต นาโหสิ, อนาคเตปิ น ภวิสฺสติ. โย หิ ชาโต โส อโหสิ, โย จ ชายิสฺสติ โส ภวิสฺสตีติ. อถวา ‘น โส ชาโต นาโหสี’ติ โส สทา วิชฺชมานตฺตา อตีเตปิ น ชาตุ นาโหสิ ¶ , อนาคเตปิ น ชาตุ น ภวิสฺสติ. นิจฺโจติ อุปฺปาทวยรหิโต. ธุโวติ ถิโร สารภูโต. สสฺสโตติ สพฺพกาลิโก. อวิปริณามธมฺโมติ อตฺตโน ปกติภาวํ อวิชหนธมฺโม กกณฺฏโก วิย นานปฺปการตฺตํ นาปชฺชติ. เอวมยํ สพฺพาสวทิฏฺิ (ม. นิ. ๑.๑๗ อาทโย) นาม กถิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๙. สตฺตกนิทฺเทเส ถามคตฏฺเน อปฺปหีนฏฺเน จ อนุเสนฺตีติ อนุสยา. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต สํโยเชนฺติ ฆเฏนฺตีติ สํโยชนานิ. สมุทาจารวเสน ปริยุฏฺหนฺตีติ ปริยุฏฺานานิ. กามราโคว ปริยุฏฺานํ กามราคปริยุฏฺานํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
๙๕๐. อสตํ ธมฺมา, ลามกฏฺเน วา อสนฺตา ธมฺมาติ อสทฺธมฺมา. ราคาทีหิ โทเสหิ ทุฏฺานิ จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. เตน เตนากาเรน มฺนฺตีติ มานา.
๙๕๑. ทิฏฺินิทฺเทเส รูปีติ รูปวา. จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. มาตาปิตูนํ เอตนฺติ มาตาเปตฺติกํ. กินฺตํ? สุกฺกโสณิตํ. มาตาเปตฺติเก สมฺภูโต ชาโตติ มาตาเปตฺติกสมฺภโว. อิธ รูปกายสีเสน มนุสฺสตฺตภาวํ อตฺตาติ วทติ. ทุติโย ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทิพฺพตฺตภาวํ วทติ. ทิพฺโพติ เทวโลเก สมฺภูโต. กามาวจโรติ ฉกามาวจรเทวปริยาปนฺโน ¶ . กพฬีการํ ภกฺขยตีติ กพฬีการภกฺโข. มโนมโยติ ฌานมเนน นิพฺพตฺโต. สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคยุตฺโต. อหีนินฺทฺริโยติ ปริปุณฺณินฺทฺริโย; ยานิ พฺรหฺมโลเก อตฺถิ เตสํ วเสน, อิตเรสฺจ สณฺานวเสเนตํ วุตฺตํ. อากาสานฺจายตนูปโคติ ¶ อากาสานฺจายตนภาวํ อุปคโต. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕๒. อฏฺกนิทฺเทเส ¶ กิเลสาเยว กิเลสวตฺถูนิ. กุสีตวตฺถูนีติ กุสีตสฺส อลสสฺส วตฺถูนิ, ปติฏฺา, โกสชฺชการณานีติ อตฺโถ. กมฺมํ กาตพฺพํ โหตีติ จีวรวิจารณาทิกมฺมํ กาตพฺพํ โหติ. น วีริยํ อารภตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ นารภติ. อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลธมฺมสฺส อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา. อนธิคตสฺสาติ ตสฺเสว อนธิคตสฺส อธิคมตฺถาย. อสจฺฉิกตสฺสาติ ตสฺเสว อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกรณตฺถาย. อิทํ ปมนฺติ ‘อิทํ หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ เอวํ โอสีทนํ ปมํ กุสีตวตฺถุ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
มาสาจิตํ มฺเติ เอตฺถ ปน มาสาจิตํ นาม ตินฺตมาโส; ยถา ตินฺตมาโส ครุโก โหติ, เอวํ ครุโกติ อธิปฺปาโย. คิลานา วุฏฺิโต โหตีติ คิลาโน หุตฺวา ปจฺฉา วุฏฺิโต โหติ.
๙๕๔. อฏฺสุ โลกธมฺเมสูติ เอตฺถ โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมา. เอเตหิ วิมุตฺโต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติ เอว. ตสฺมา ‘โลกธมฺมา’ติ วุจฺจนฺติ. ปฏิฆาโตติ ปฏิหฺนากาโร. ลาเภ สาราโคติ ‘อหํ ลาภํ ลภามี’ติ เอวํ เคหสิตโสมนสฺสวเสน อุปฺปนฺโน สาราโค; โส จิตฺตํ ปฏิหนติ. อลาเภ ปฏิวิโรโธติ ‘อหํ ลาภํ น ลภามี’ติ โทมนสฺสวเสน อุปฺปนฺนวิโรโธ; โสปิ จิตฺตํ ปฏิหนติ. ตสฺมา ‘ปฏิฆาโต’ติ วุตฺโต. ยสาทีสุปิ ‘อหํ มหาปริวาโร, อหํ อปฺปปริวาโร, อหํ ปสํสปฺปตฺโต, อหํ ครหปฺปตฺโต, อหํ สุขปฺปตฺโต, อหํ ทุกฺขปฺปโต’ติ เอวเมเตสํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อนริยโวหาราติ อนริยานํ โวหารา.
๙๕๗. ปุริสโทสาติ ¶ ปุริสานํ โทสา. น สรามีติ ‘มยา เอตสฺส กมฺมสฺส กตฏฺานํ น สรามิ น สลฺลกฺเขมี’ติ ¶ เอวํ อสฺสติภาเวน นิพฺเพเติ โมเจติ. โจทกํเยว ปฏิปฺผรตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา ผรติ, ปฏิภาณิตภาเวน ติฏฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ‘ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน นาม กึ’ โย ตฺวํ เนว วตฺถุนา อาปตฺตึ, น โจทนํ ชานาสี’ติ ทีเปติ; ‘ตฺวํ ปิ นาม เอวํ กิฺจิ อชานนฺโต ภณิตพฺพํ มฺิสฺสสี’ติ ¶ อชฺโฌตฺถรติ. ปจฺจาโรเปตีติ ‘ตฺวํ ปิ โขสี’ติอาทีนิ วทนฺโต ปฏิอาโรเปติ. ปฏิกโรหีติ เทสนาคามินึ เทเสหิ, วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาหิ ตโต สุทฺธนฺเต ปติฏฺิโต อฺํ โจเทสฺสสี’ติ ทีเปติ.
อฺเนาฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน วจเนน วา อฺํ การณํ วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ วุตฺโต ‘โก อาปนฺโน? กึ อาปนฺโน? กถํ อาปนฺโน? กิสฺมึ อาปนฺโน? กํ ภณถ? กึ ภณถา’ติ วทติ. ‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’นฺติ วุตฺเต ‘น สุณามี’ติ โสตํ วา อุปเนติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ ปุฏฺโ ‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’ติ วตฺวา ปุน ‘ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ น ปุจฺฉามา’ติ วุตฺเต ‘ตโต ราชคหํ คโตมฺหี’ติ ‘ราชคหํ วา ยาหิ, พฺราหฺมณเคหํ วา; อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’ติ? ‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’นฺติอาทีนิ วทนฺโต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติ. โกปนฺติ กุปิตภาวํ. โทสนฺติ ทุฏฺภาวํ. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว นามํ. อปฺปจฺจยนฺติ อสนฺตุฏฺาการํ; โทมนสฺสสฺเสตํ นามํ. ปาตุกโรตีติ ทสฺเสติ ปกาเสติ. พาหาวิกฺเขปกํ ภณตีติ พาหา วิกฺขิปิตฺวา อลชฺชิวจนํ วทติ. วิเหเสตีติ วิเหเติ พาธติ. อนาทิยิตฺวาติ จิตฺตีกาเรน อคฺคเหตฺวา อวชานิตฺวา; อนาทโร หุตฺวาติ อตฺโถ.
อติพาฬฺหนฺติ อติทฬฺหํ อติปฺปมาณํ. มยิ พฺยาวฏาติ มยิ พฺยาปารํ อาปนฺนา. หีนายาวตฺติตฺวาติ หีนสฺส คิหิภาวสฺส อตฺถาย อาวตฺติตฺวา; คิหี หุตฺวาติ อตฺโถ. อตฺตมนา โหถาติ ตุฏฺจิตฺตา โหถ, ‘มยา ลภิตพฺพํ ลภถ, มยา วสิตพฺพฏฺาเน วสถ, ผาสุวิหาโร โว มยา กโต’ติ อธิปฺปาเยน วทติ.
๙๕๘. อสฺีติ ปวตฺโต วาโท อสฺีวาโท; โส เตสํ อตฺถีติ อสฺีวาทา. รูปี อตฺตาติอาทีสุ ลาภิโน กสิณรูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา รูปีติ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมตฺเตเนว ¶ ¶ , อาชีวกานํ วิย. ลาภิโนเยว จ ปน อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ อตฺตาติ คเหตฺวา อรูปีติ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมตฺเตเนว, นิคณฺานํ วิย. อสฺีภาเว ปเนตฺถ เอกนฺเตเนว การณํ น ปริเยสิตพฺพํ. ทิฏฺิคติโก ¶ หิ อุมฺมตฺตโก วิย ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ. รูปี จ อรูปี จาติ รูปารูปมิสฺสกคาหวเสน วุตฺตํ. อยํ ทิฏฺิ รูปาวจรารูปาวจรสมาปตฺติลาภิโนปิ ตกฺกิกสฺสาปิ อุปฺปชฺชติ. เนว รูปี นารูปีติ ปน เอกนฺตโต ตกฺกิกทิฏฺิเยว. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณํ อตฺตโต คณฺหนฺตสฺส ทิฏฺิ. อนนฺตวาติ อปฺปมาณกสิณํ. อนฺตวา จ อนนฺตวา จาติ อุทฺธมโธ สปริยนฺตํ ติริยํ อปริยนฺตํ กสิณํ อตฺตาติ คเหตฺวา อุปฺปนฺนทิฏฺิ. เนวนฺตวา นานนฺตวาติ ตกฺกิกทิฏฺิเยว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๙.) นวกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๐. นวกนิทฺเทเส นว อาฆาตวตฺถูนีติ สตฺเตสุ อุปฺปตฺติวเสเนว กถิตานิ. ปุริสานํ มลานีติ ปุริสมลานิ. นววิธาติ นวโกฏฺาสา นวปฺปเภทา วา.
๙๖๓. ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ ตณฺหํ นิสฺสาย. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ ตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ. วินิจฺฉโย ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย. ‘‘วินิจฺฉโยติ ทฺเว วินิจฺฉยา – ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรฺจ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินาติ – ‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ ¶ , เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย ¶ , เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภฺุชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ.
ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. อิทฺหิ อิธ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ ¶ . อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ – ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชุสโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขณํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ; การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ; อารกฺขเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโตธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม ปุริโม วิโรโธ วิคฺคโห, ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม วิวาโท. ตุวํ ตุวนฺติ อคารววจนํ, ตฺวํ ตฺวนฺติ อตฺโถ.
๙๖๔. อิฺชิตานีติ อิฺชนานิ จลนานิ. อสฺมีติ อิฺชิตเมตนฺติอาทีหิ สพฺพปเทหิ มาโนว กถิโต. อหนฺติ ปวตฺโตปิ หิ มาโน อิฺชิตเมว, อยมหนฺติ ปวตฺโตปิ, เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺสนฺติ ปวตฺโตปิ. เสสนวเกหิปิ มาโนว กถิโต. มาโน หิ อิฺชนโต อิฺชิตํ, มฺนโต มฺิตํ, ผนฺทนโต ผนฺทิตํ, ปปฺจนโต ปปฺจิตํ. เตหิ เตหิ การเณหิ สงฺขตตฺตา สงฺขตนฺติ จ วุจฺจติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
นวกนิทฺเทสวณฺณนา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๖. ทสกนิทฺเทเส กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ. อาฆาตวตฺถูนิ ปเนตฺถ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทีนํ ¶ วเสน อวิโกเปตพฺเพ ขาณุกณฺฏกาทิมฺหิปิ อฏฺาเน อุปฺปนฺนาฆาเตน สทฺธึ วุตฺตานิ.
๙๗๐. มิจฺฉตฺเตสุ มิจฺฉาาณนฺติ ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตาวเสน ปาปํ กตฺวา ‘สุกตํ มยา’ติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน อุปฺปนฺโน โมโห. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ ¶ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺตสฺิตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๓. ตณฺหาวิจริตนิทฺเทเส ตณฺหาวิจริตานีติ ตณฺหาสมุทาจารา ตณฺหาปวตฺติโย. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อสฺมีติ โหตีติ ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคาหโต ‘อสฺมี’ติ โหติ, ตสฺมึ สตีติ ¶ อตฺโถ. อิตฺถสฺมีติ โหตีติอาทีสุ ปน เอวํ สมูหโต ‘อห’นฺติ คหเณ สติ ตโต อนุปนิธาย จ อุปนิธาย จาติ ทฺวิธา คหณํ โหติ. ตตฺถ อนุปนิธายาติ อฺํ อาการํ อนุปคมฺม สกภาวเมว อารมฺมณํ กตฺวา ‘อิตฺถสฺมี’ติ โหติ; ขตฺติยาทีสุ ‘อิทํปกาโร อห’นฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํ. อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ – สมโต จ อสมโต จ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวสฺมีติ จ อฺถาสฺมีติ จ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ; ยถา อยํ ขตฺติโย, ยถา อยํ พฺราหฺมโณ, เอวํ อหมฺปีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ; ยถายํ ขตฺติโย, ยถายํ พฺราหฺมโณ, ตโต อฺถา อหํ หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ. ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เสสํ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสฺมีติ สสฺสโต อสฺมิ. สาตสฺมีติ อสสฺสโต อสฺมิ. อสสฺมีติ สตสฺมีติ วา ปาโ. ตตฺถ อตฺถีติ อสํ; นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. สีทตีติ สตํ; อนิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมานิ ¶ ทฺเว สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อิโต ปรานิ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ. ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อปาหํ สิยนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ ‘‘อปิ นามาหํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิ. ตานิ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวเมเตสุ –
ทฺเว ¶ ทิฏฺิสีสา จตฺตาโร, สุทฺธสีสา สีสมูลกา;
ตโย ตโยติ เอตานิ, อฏฺารส วิภาวเย.
เอเตสุ หิ สสฺสตุจฺเฉทวเสน วุตฺตา ทฺเว ทิฏฺิสีสา นาม. อสฺมีติ, ภวิสฺสนฺติ, สิยนฺติ, อปาหํ สิยนฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสาเอว. อิตฺถสฺมีติ อาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ. เอวเมเต ทฺเว ทิฏฺิสีสา, จตฺตาโร สุทฺธสีสา, ทฺวาทส สีสมูลกาติ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา.
๙๗๔. อิทานิ ปฏิปาฏิยาว เต ธมฺเม ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ กถฺจ อสฺมีติ โหตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กฺจิ ธมฺมํ อนวการึ กริตฺวาติ รูปเวทนาทีสุ กฺจิ เอกธมฺมมฺปิ อวินิพฺโภคํ ¶ กตฺวา, เอเกกโต อคฺคเหตฺวา, สมูหโตว คเหตฺวาติ อตฺโถ. อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตีติ ปฺจกฺขนฺเธ นิรวเสสโต คเหตฺวา ‘อห’นฺติ ตณฺหํ ปฏิลภติ. มานทิฏฺีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ ตณฺหาวิจริตนิทฺเทโส, มานทิฏฺิโย ปน น วินา ตณฺหาย, ตสฺมา ตเทกฏฺวเสน อิธ วุตฺตา. ตณฺหาสีเสน วา ปปฺจตฺตยมฺปิ อุทฺทิฏฺํ. ตํ อุทฺเทสานุรูเปเนว นิทฺทิสิตุมฺปิ มานทิฏฺิโย คหิตา. ตณฺหาปปฺจํ วา ทสฺเสนฺโต เตเนว สทฺธึ เสสปปฺเจปิ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
ตสฺมึ สติ อิมานิ ปปฺจิตานีติ ตสฺมึ ‘‘อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺเต ปปฺจตฺตเย สติ ปุน อิมานิ ‘‘อิตฺถสฺมีติ วา’’ติอาทีนิ ปปฺจิตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
ขตฺติโยสฺมีติอาทีสุ อภิเสกเสนามจฺจาทินา ‘ขตฺติโย อหํ’, มนฺตชฺเฌน โปโรหิจฺจาทินา ‘พฺราหฺมโณ อหํ’, กสิโครกฺขาทินา ‘เวสฺโส อหํ’, อสิตพฺยาภงฺคิตาย ‘สุทฺโท อหํ’ ¶ , คิหิพฺยฺชเนน ‘คหฏฺโ อห’นฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ อิตฺถสฺมีติ โหตีติ เอวํ ขตฺติยาทีสุ ขตฺติยาทิปฺปการํ อตฺตนิ อุปฺปาทยิตฺวา ‘อิตฺถํปกาโร อห’นฺติ โหติ.
ยถา โส ขตฺติโยติอาทีสุ ‘ยถา โส อภิเสกเสนามจฺจาทินา ขตฺติโย, ตถา ‘อหมฺปิ ขตฺติโย’ติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทุติยนเย ‘ยถา โส อภิเสกเสนามจฺจาทินา ขตฺติโย, นาหํ ตถา ขตฺติโย; อหํ ปน ตโต หีโน วา เสฏฺโ วา’ติ ¶ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภวิสฺสนฺติอาทินิทฺเทสาทีสุปิ เอเสว นโย.
๙๗๕. เอวํ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตานิ ภาเชตฺวา อิทานิ พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริตานิ ภาเชตุํ ตตฺถ กตมานีติอาทิมาห. ตตฺถ พาหิรสฺส อุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทมฺปิ หิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อิมินาติ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วา. อวเสสํ ปน อุทฺเทสวาเร ตาว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๙๗๖. นิทฺเทสวาเร ปน อวการึ กริตฺวาติ วินิพฺโภคํ กตฺวา. อิมินา อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตีติอาทีสุ อิมินา รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ เอวํ ปฺจกฺขนฺเธ เอกเทสโต คเหตฺวา อิมินา ‘อห’นฺติ ฉนฺทาทีนิ ปฏิลภตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิมินา ขตฺติโยสฺมีติอาทีสุ ‘อิมินา ฉตฺเตน ¶ วา ขคฺเคน วา อภิเสกเสนามจฺจาทินา วา ขตฺติโย อห’นฺติ เอวํ ปุริมนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินาติ ปทมตฺตเมว เหตฺถ วิเสโส.
ยถา โส ขตฺติโยติอาทีสุปิ อิมินาติ วุตฺตปทเมว วิเสโส. ตสฺมา ตสฺส วเสน ยถา ขตฺติโย, เอวํ อหมฺปิ อิมินา ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อภิเสกเสนามจฺจาทินา วา ขตฺติโยติ เอวํ โยเชตฺวา สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา นิจฺโจสฺมีติ ปฺจกฺขนฺเธ อนวการึ กตฺวา รูปาทีสุ เอกเมว ธมฺมํ ‘อห’นฺติ คเหตฺวา ‘อิมินา ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อหํ นิจฺโจ ธุโว’ติ มฺติ. อุจฺเฉททิฏฺิยมฺปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีเต ฉตฺตึส. อนาคตานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺเสว อนาคเต ฉตฺตึส. ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอเกกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ¶ ยถาลาภวเสน พหุนํ วา ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึส. สพฺพสตฺตานํ ปน เอกํเสเนว อตีเต ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึสาติ เวทิตพฺพานิ. อนนฺตา หิ อสทิสตณฺหามานทิฏฺิเภทา สตฺตา. อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหตีติ เอตฺถ ปน อฏฺสตสงฺขาตํ ตณฺหาวิจริตํ โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา.
ทิฏฺิคตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๗. ทิฏฺิคตนิทฺเทเส ¶ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณติ พฺรหฺมชาลนามเก เวยฺยากรเณ, ทีฆนิกายสฺส ปมสุตฺตนฺเต. วุตฺตานิ ภควตาติ สตฺถารา สยํ อาหจฺจ ภาสิตานิ. จตฺตาโร สสฺสตวาทาติอาทีสุ ‘‘เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺาเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๙-๓๐) พฺรหฺมชาเล วุตฺตนเยเนว ปเภโท จ อตฺโถ จ เวทิตพฺโพติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. ธมฺมหทยวิภงฺโค
๑. สพฺพสงฺคาหิกวารวณฺณนา
๙๗๘. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ตทนนฺตเร ธมฺมหทยวิภงฺเค ปาฬิปริจฺเฉโท ตาว เอวํ เวทิตพฺโพ – เอตฺถ หิ อาทิโตว ขนฺธาทีนํ ทฺวาทสนฺนํ โกฏฺาสานํ วเสน สพฺพสงฺคาหิกวาโร นาม วุตฺโต. ทุติโย เตสํเยว ธมฺมานํ กามธาตุอาทีสุ อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติทสฺสนวาโร นาม. ตติโย ตตฺเถว ปริยาปนฺนาปริยาปนฺนทสฺสนวาโร นาม. จตุตฺโถ ตีสุ ภูมีสุ อุปฺปตฺติกฺขเณ วิชฺชมานาวิชฺชมานธมฺมทสฺสนวาโร นาม. ปฺจโม เตสํ ธมฺมานํ ภูมนฺตรวเสน ทสฺสนวาโร นาม. ฉฏฺโ คตีสุ อุปฺปาทกกมฺมอายุปฺปมาณทสฺสนวาโร นาม. สตฺตโม อภิฺเยฺยาทิวาโร นาม. อฏฺโม สารมฺมณานารมฺมณวาโร นาม. นวโม เตสํ ขนฺธาทิธมฺมานํ ทิฏฺสุตาทิวเสน สงฺคเหตฺวา ทสฺสนวาโร นาม. ทสโม กุสลตฺติกาทิวเสน สงฺคเหตฺวา ทสฺสนวาโร นาม.
๙๗๙. เอวํ ทสหิ วาเรหิ ปริจฺฉินฺนาย ปาฬิยา ปเม ตาว สพฺพสงฺคาหิกวาเร ‘‘อวีจิโต ยาว ภวคฺคํ เอตฺถนฺตเร กติ ขนฺธา’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘เอโกติ วา…เป… จตฺตาโรติ วา ฉาติ วา อวตฺวา ปฺจาติ วตฺตุํ สมตฺโถ อฺโ นตฺถี’’ติ อตฺตโน าณพลํ ทีเปนฺโต ปฺจกฺขนฺธาติ ปุจฺฉานุรูปํ วิสฺสชฺชนํ อาห. ยถาปุจฺฉํ วิสฺสชฺชนฺหิ สพฺพฺุพฺยากรณํ นามาติ วุจฺจติ. ทฺวาทสายตนานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. รูปกฺขนฺธาทีนํ ปเภโท ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๒. อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติวารวณฺณนา
๙๙๑. ทุติยวาเร ¶ เย ธมฺมา กามภเว กามธาตุสมฺภูตานฺจ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนฺติ – กามธาตุยํ ปริยาปนฺนา วา อปริยาปนฺนา วา – เต สพฺเพ สงฺคเหตฺวา กามธาตุยา ปฺจกฺขนฺธาติอาทิ วุตฺตํ. รูปธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน รูปธาตุปริยาปนฺนานํ สตฺตานํ ฆานายตนาทีนํ อภาเวน คนฺธายตนาทีนิ อายตนาทิกิจฺจํ น กโรนฺติ, ตสฺมา รูปธาตุยา ฉ อายตนานิ, นว ธาตุโยติอาทิ วุตฺตํ ¶ . ยสฺมา จ โอกาสวเสน วา สตฺตุปฺปตฺติวเสน ¶ วา อปริยาปนฺนธาตุ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อปริยาปนฺนธาตุยาติ อวตฺวา ยํ ยํ อปริยาปนฺนํ ตํ ตเทว ทสฺเสตุํ อปริยาปนฺเน กติ ขนฺธาติอาทิ วุตฺตํ.
๓. ปริยาปนฺนาปริยาปนฺนวารวณฺณนา
๙๙๙. ตติยวาเร กามธาตุปริยาปนฺนาติ กามธาตุภชนฏฺเน ปริยาปนฺนา; ตํนิสฺสิตา ตทนฺโตคธา กามธาตุตฺเวว สงฺขํ คตาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปริยาปนฺนาติ ภววเสน โอกาสวเสน จ ปริจฺฉินฺนา. อปริยาปนฺนาติ ตถา อปริจฺฉินฺนา.
๔. ธมฺมทสฺสนวารวณฺณนา
๑๐๐๗. จตุตฺถวาเร เอกาทสายตนานีติ สทฺทายตนวชฺชานิ. ตฺหิ เอกนฺเตน ปฏิสนฺธิยํ นุปฺปชฺชติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สตฺตเก ‘‘เทวานํ อสุราน’’นฺติ คติวเสน อวตฺวา อวิเสเสน คพฺภเสยฺยกานนฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยตฺถ ยตฺถ คพฺภเสยฺยกา สมฺภวนฺติ ตตฺถ ตตฺถ เตสํ สตฺตายตนานิ เวทิตพฺพานิ. ตถา ธาตุโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ปฺจมวาเร ยํ วตฺตพฺพํ ตํ ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตเมว.
๖. อุปฺปาทกกมฺมอายุปฺปมาณวารวณฺณนา
(๑.) อุปฺปาทกกมฺมํ
๑๐๒๑. ฉฏฺวาเร ¶ ปฺจหิ กามคุเณหิ นานปฺปกาเรหิ วา อิทฺธิวิเสเสหิ ทิพฺพนฺตีติ เทวา. สมฺมุติเทวาติ ‘เทโว, เทวี’ติ เอวํ โลกสมฺมุติยา เทวา. อุปปตฺติเทวาติ เทวโลเก อุปฺปนฺนตฺตา อุปปตฺติยา เทวา. วิสุทฺธิเทวาติ สพฺเพสํ เทวานํ ปูชารหา สพฺพกิเลสวิสุทฺธิยา เทวา. ราชาโนติ มุทฺธาภิสิตฺตขตฺติยา. เทวิโยติ เตสํ มเหสิโย. กุมาราติ อภิสิตฺตราชูนํ อภิสิตฺตเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ อุปฺปนฺนกุมารา.
อุโปสถกมฺมํ ¶ กตฺวาติ จาตุทฺทสาทีสุ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา. อิทานิ ยสฺมา ปริตฺตทานาทิปฺุกมฺมํ มนุสฺสโสภคฺยตาย ปจฺจโย, มตฺตโส กตํ มนุสฺสโสภคฺยตาย อธิมตฺตํ, อธิมตฺตภาเวปิ นานปฺปการเภทโต นานปฺปการสฺส ขตฺติยมหาสาลาทิภาวสฺส ปจฺจโย, ตสฺมา ตสฺส วเสน อุปปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต อปฺเปกจฺเจ คหปติมหาสาลานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ มหาสาโร เอเตสนฺติ มหาสารา; ร-การสฺส ปน ล-การํ กตฺวา มหาสาลาติ วุตฺตํ. คหปติโยว มหาสาลา, คหปตีสุ วา มหาสาลาติ คหปติมหาสาลา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ปฺจ อมฺพณานิ ทิวสวฬฺโช นิกฺขมติ – อยํ คหปติมหาสาโล นาม. ยสฺส ปน เคเห ปจฺฉิมนฺเตน อสีติโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ทสอมฺพณานิ ทิวสวฬฺโช นิกฺขมติ – อยํ พฺราหฺมณมหาสาโล นาม. ยสฺส ปน เคเห ปจฺฉิมนฺเตน โกฏิสตธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ วีสติ อมฺพณานิ ทิวสวฬฺโช นิกฺขมติ – อยํ ขตฺติยมหาสาโล นาม.
สหพฺยตนฺติ สหภาวํ; สภาคา หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ. จาตุมหาราชิกานนฺติอาทีสุ จาตุมหาราชิกา นาม สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ ปพฺพตฏฺกาปิ อตฺถิ, อากาสฏฺาปิ; เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา, มโนปโทสิกา, สีตวลาหกา, อุณฺหวลาหกา, จนฺทิมา เทวปุตฺโต, สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺกา เอว.
เตตฺตึส ¶ ชนา ตตฺถ อุปปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ตตฺถ ทิพฺพํ สุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี.
(๒.) อายุปฺปมาณํ
๑๐๒๒. อปฺปํ ¶ วา ภิยฺโยติ ทุติยํ วสฺสสตํ อปฺปตฺวา วีสาย วา ตึสาย วา จตฺตาลีสาย วา ปฺาสาย วา สฏฺิยา วา วสฺเสหิ อธิกมฺปิ วสฺสสตนฺติ อตฺโถ. สพฺพมฺปิ เหตํ ทุติยํ วสฺสสตํ อปฺปตฺตตฺตา อปฺปนฺติ วุตฺตํ.
๑๐๒๔. พฺรหฺมปาริสชฺชาทีสุ มหาพฺรหฺมานํ ปาริสชฺชา ปริจาริกาติ พฺรหฺมปาริสชฺชา. เตสํ ปุโรหิตภาเว ิตาติ พฺรหฺมปุโรหิตา. วณฺณวนฺตตาย ¶ เจว ทีฆายุกตาย จ มหนฺโต พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมา, เตสํ มหาพฺรหฺมานํ. อิเม ตโยปิ ชนา ปมชฺฌานภูมิยํ เอกตเล วสนฺติ; อายุอนฺตรํ ปน เนสํ นานา.
๑๐๒๕. ปริตฺตา อาภา เอเตสนฺติ ปริตฺตาภา. อปฺปมาณา อาภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณาภา. ทณฺฑทีปิกาย อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ วิสรตีติ อาภสฺสรา. อิเมปิ ตโย ชนา ทุติยชฺฌานภูมิยํ เอกตเล วสนฺติ; อายุอนฺตรํ ปน เนสํ นานา.
๑๐๒๖. ปริตฺตา สุภา เอเตสนฺติ ปริตฺตสุภา. อปฺปมาณา สุภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณสุภา. สุเภน โอกิณฺณา วิกิณฺณา, สุเภน สรีรปฺปภาวณฺเณน เอกคฺฆนา, สุวณฺณมฺชุสาย ปิตสมฺปชฺชลิตกฺจนปิณฺฑสสฺสิรีกาติ สุภกิณฺหา. อิเมปิ ตโย ชนา ตติยชฺฌานภูมิยํ เอกตเล วสนฺติ; อายุอนฺตรํ ปน เนสํ นานา.
๑๐๒๗. อารมฺมณนานตฺตตาติ ¶ อารมฺมณสฺส นานตฺตภาโว. มนสิการนานตฺตตาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ เอกสฺส ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ โหติ…เป… เอกสฺส โอทาตกสิณนฺติ อิทํ อารมฺมณนานตฺตํ. เอโก ปถวีกสิณํ มนสิ กโรติ…เป… เอโก โอทาตกสิณนฺติ อิทํ มนสิการนานตฺตํ. เอกสฺส ปถวีกสิเณ ฉนฺโท โหติ…เป… เอกสฺส โอทาตกสิเณติ อิทํ ฉนฺทนานตฺตํ. เอโก ปถวีกสิเณ ปตฺถนํ กโรติ…เป… เอโก โอทาตกสิเณติ อิทํ ปณิธินานตฺตํ. เอโก ปถวีกสิณวเสน อธิมุจฺจติ…เป… เอโก โอทาตกสิณวเสนาติ อิทํ อธิโมกฺขนานตฺตํ. เอโก ปถวีกสิณวเสน จิตฺตํ อภินีหรติ…เป… เอโก ¶ โอทาตกสิณวเสนาติ อิทํ อภินีหารนานตฺตํ. เอกสฺส ปถวีกสิณปริจฺฉินฺทนกปฺา โหติ…เป… เอกสฺส โอทาตกสิณปริจฺฉินฺทนกปฺาติ อิทํ ปฺานานตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมณมนสิการา ปุพฺพภาเคน กถิตา. ฉนฺทปณิธิอธิโมกฺขาภินีหารา อปฺปนายปิ วตฺตนฺติ อุปจาเรปิ. ปฺา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
อสฺสตฺตานนฺติ สฺาวิรหิตานํ สตฺตานํ. เอกจฺเจ หิ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตฺวา ‘จิตฺตํ นิสฺสาย รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนานิ นาม โหนฺตี’ติ จิตฺเต โทสํ ทิสฺวา ‘อจิตฺตกภาโว นาม โสภโน, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานเมต’นฺติ ¶ สฺาวิราคํ ชเนตฺวา ตตฺรูปคํ ปฺจมํ สมาปตฺตึ ภาเวตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺติ. เตสํ อุปปตฺติกฺขเณ เอโก รูปกฺขนฺโธเยว นิพฺพตฺตติ. ตฺวา นิพฺพตฺโต ิตโก เอว โหติ, นิสีทิตฺวา นิพฺพตฺโต นิสินฺนโกว นิปชฺชิตฺวา นิพฺพตฺโต นิปนฺโนว. จิตฺตกมฺมรูปกสทิสา หุตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ติฏฺนฺติ. เตสํ ปริโยสาเน โส รูปกาโย อนฺตรธายติ, กามาวจรสฺา อุปฺปชฺชติ; เตน อิธ สฺุปฺปาเทน เต เทวา ตมฺหา กายา จุตาติ ปฺายนฺติ.
วิปุลา ผลา เอเตสนฺติ เวหปฺผลา. อตฺตโน สมฺปตฺติยา น หายนฺติ น วิหายนฺตีติ อวิหา. น กฺจิ สตฺตํ ตปฺปนฺตีติ อตปฺปา. สุนฺทรา ทสฺสนา อภิรูปา ปาสาทิกาติ สุทสฺสา. สุฏฺ ปสฺสนฺติ, สุนฺทรเมเตสํ วา ทสฺสนนฺติ สุทสฺสี. สพฺเพหิ เอว คุเณหิ จ ภวสมฺปตฺติยา จ เชฏฺา, นตฺเถตฺถ กนิฏฺาติ อกนิฏฺา.
๑๐๒๘. อากาสานฺจายตนํ อุปคตาติ อากาสานฺจายตนูปคา. อิตเรสุปิ เอเสว นโย ¶ . อิติ ฉ กามาวจรา, นว พฺรหฺมโลกา, ปฺจ สุทฺธาวาสา, จตฺตาโร อรูปา อสฺสตฺตเวหปฺผเลหิ สทฺธึ ฉพฺพีสติ เทวโลกา; มนุสฺสโลเกน สทฺธึ สตฺตวีสติ.
ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มนุสฺสานํ เทวานฺจ อายุํ ปริจฺฉินฺทมาเนน จตูสุ อปาเยสุ ภุมฺมเทเวสุ จ อายุ ปริจฺฉินฺนํ ตํ กสฺมาติ? นิรเย ตาว กมฺมเมว ปมาณํ. ยาว กมฺมํ น ขียติ, น ตาว จวนฺติ. ตถา เสสอปาเยสุ. ภุมฺมเทวานมฺปิ กมฺมเมว ปมาณํ. ตตฺถ นิพฺพตฺตา หิ เกจิ ¶ สตฺตาหมตฺตํ ติฏฺนฺติ, เกจิ อทฺธมาสํ, เกจิ มาสํ, กปฺปํ ติฏฺมานาปิ อตฺถิเยว.
ตตฺถ มนุสฺเสสุ คิหิภาเว ิตาเยว โสตาปนฺนาปิ โหนฺติ, สกทาคามิผลมฺปิ อนาคามิผลมฺปิ อรหตฺตผลมฺปิ ปาปุณนฺติ. เตสุ โสตาปนฺนาทโย ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ. ขีณาสวา ปน ปรินิพฺพายนฺติ วา ปพฺพชนฺติ วา. กสฺมา? อรหตฺตํ นาม เสฏฺคุโณ, คิหิลิงฺคํ หีนํ, ตํ หีนตาย อุตฺตมํ คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา เต ปรินิพฺพาตุกามา วา ปพฺพชิตุกามา วา โหนฺติ.
ภุมฺมเทวา ปน อรหตฺตํ ปตฺวาปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ. ฉสุ กามาวจรเทเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโน ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ; อนาคามินา รูปภวํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, ขีณาสเวน ปรินิพฺพาตุํ. กสฺมา ¶ ? นิลียโนกาสสฺส อภาวา. รูปาวจรารูปาวจเรสุ สพฺเพปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ. ตตฺถ รูปาวจเร นิพฺพตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิโน น ปุน อิธาคจฺฉนฺติ, ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ. เอเต หิ ฌานอนาคามิโน นาม.
อฏฺสมาปตฺติลาภีนํ ปน กึ นิยเมติ? ปคุณชฺฌานํ. ยเทวสฺส ปคุณํ โหติ, เตน อุปฺปชฺชติ. สพฺเพสุ ปน ปคุเณสุ กึ นิยเมติ? ปตฺถนา. ยตฺถ อุปปตฺตึ ปตฺเถติ ตตฺเถว อุปปชฺชติ. ปตฺถนาย อสติ กึ นิยเมติ? มรณสมเย สมาปนฺนา สมาปตฺติ. มรณสมเย สมาปนฺนา นตฺถิ, กึ นิยเมติ? เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ. เอกํเสน หิ โส เนวสฺานาสฺายตเน อุปปชฺชติ. นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ น เหฏฺูปปตฺติ. ปุถุชฺชนานํ ปน ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ ¶ เหฏฺูปปตฺติปิ. ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ จตูสุ จ อรูเปสุ อริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ. ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต อนาคามี นว พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา มตฺถเก ิโต ปรินิพฺพาติ. เวหปฺผลา, อกนิฏฺา, เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม ตโย เทวโลกา เสฏฺภวา นาม. อิเมสุ ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺตอนาคามิโน เนว อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, น อโธ, ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺตีติ. อิทเมตฺถ ปกิณฺณกํ.
๗. อภิฺเยฺยาทิวารวณฺณนา
๑๐๓๐. สตฺตมวาเร ¶ สลกฺขณปริคฺคาหิกาย อภิฺาย วเสน อภิฺเยฺยตา เวทิตพฺพา. าตตีรณปหานปริฺานํ วเสน ปริฺเยฺยตา. สา จ รูปกฺขนฺโธ อภิฺเยฺโย ปริฺเยฺโย น ปหาตพฺโพติอาทีสุ าตตีรณปริฺาวเสเนว เวทิตพฺพา. สมุทยสจฺจํ อภิฺเยฺยํ ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพนฺติอาทีสุ ปหานปริฺาวเสน.
อฏฺมวาเร รูปาทิอารมฺมณานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วเสน สารมฺมณานารมฺมณตา เวทิตพฺพา. นวมวาโร อุตฺตานตฺโถเยว. ทสมวาเรปิ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺหาปุจฺฉกวาเร วุตฺตเมวาติ.
สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย
ธมฺมหทยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
อภิธมฺมํ เทเสนฺโต, ธมฺมครุ ธมฺมคารวยุตฺตานํ;
เทวานํ เทวปุเร, เทวคณสหสฺสปริวาโร.
ทุติยํ ¶ อทุติยปุริโส, ยํ อาห วิภงฺคปกรณํ นาโถ;
อฏฺารสหิ วิภงฺเคหิ, มณฺฑิตมณฺฑเปยฺยคุโณ.
อตฺถปฺปกาสนตฺถํ, ตสฺสาหํ ยาจิโต ิตคุเณน;
ยตินา อทนฺธคตินา, สุพุทฺธินา พุทฺธโฆเสน.
ยํ อารภึ รจยิตุํ, อฏฺกถํ สุนิปุเณสุ อตฺเถสุ;
สมฺโมหวิโนทนโต, สมฺโมหวิโนทนึ นาม.
โปราณฏฺกถานํ, สารํ อาทาย สา อยํ นิฏฺํ;
ปตฺตา อนนฺตราเยน, ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.
จตฺตาลีสาย ยถา, เอเกน จ เอวเมว สพฺเพปิ;
นิฏฺํ วชนฺตุ วิมลา, มโนรถา สพฺพสตฺตานํ.
สทฺธมฺมสฺส ิตตฺถํ, ยฺจ อิมํ รจยตา มยา ปฺุํ;
ปตฺตํ เตน สมตฺตํ, ปาปุณตุ สเทวโก โลโก.
สุจิรํ ติฏฺตุ ธมฺโม, ธมฺมาภิรโต สทา ภวตุ โลโก;
นิจฺจํ เขมสุภิกฺขาทิ-สมฺปทา ชนปทา โหนฺตูติ.
ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน ¶ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาปฏิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ ¶ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา ¶ พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สมฺโมหวิโนทนี นาม วิภงฺคฏฺกถา.
ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ปฺาวิสุทฺธิยา.
ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
สมฺโมหวิโนทนี นาม วิภงฺค-อฏฺกถา นิฏฺิตา.