📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
วิภงฺค-มูลฏีกา
๑. ขนฺธวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจทโสติ ¶ ¶ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ จตุสจฺจํ, จตุสจฺจํ ปสฺสีติ จตุสจฺจทโส. สติปิ สาวกานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ จตุสจฺจทสฺสนภาเว อนฺปุพฺพกตฺตา ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส ตตฺถ จ สพฺพฺุตาย ทสพเลสุ จ วสีภาวสฺส ปตฺติโต ปรสนฺตาเนสุ จ ปสาริตภาเวน สุปากฏตฺตา ภควาว วิเสเสน ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ โถมนํ อรหตีติ ¶ . นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสติ ปตฺเถติ, ปรสนฺตานคตํ วา กิเลสพฺยสนํ อุปตาเปติ, ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๗) วา ตํ ตํ หิตปฏิปตฺตึ ยาจตีติ อตฺโถ. ปรเมน จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต, สพฺพสตฺเต วา คุเณหิ อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติ. ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา กริสฺสามี’’ติ โสตพฺพภาเว การณํ วตฺวา ปุน สวเน นิโยเชนฺโต อาห ‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ. ‘‘โปราณฏฺกถานยํ วิคาหิตฺวา กริสฺสามี’’ติ วา เอเตน สกฺกจฺจสวเน จ การณํ วตฺวา ตตฺถ นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา ตํ สุณาถา’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ วจนํ โถมนเมว จตุปฺปเภทาย เทสนาย สมานคณนทสฺสนคุเณน, ‘‘อฏฺารสหิ พุทฺธธมฺเมหิ อุเปโต’’ติ จ อฏฺารสปฺปเภทาย เทสนาย สมานคณนคุเณหีติ ทฏฺพฺพํ. ยถาวุตฺเตน วา นิรติสเยน จตุสจฺจทสฺสเนน ภควา จตุธา ธมฺมสงฺคณึ เทเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ, อฏฺารสพุทฺธธมฺมสมนฺนาคเมน อฏฺารสธา วิภงฺคนฺติ ยถาวุตฺตเทสนาสมตฺถตาสมฺปาทกคุณนิทสฺสนเมตํ ‘‘จตุสจฺจทโส อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ อฏฺารสหี’’ติ. เตน ยถาวุตฺตาย เทสนาย สพฺพฺุภาสิตตฺตา อวิปรีตตํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ สตฺเต อุคฺคหาทีสุ นิโยเชติ, นิฏฺานคมนฺจ อตฺตโน วายามํ ทสฺเสนฺโต อฏฺกถาสวเน จ อาทรํ อุปฺปาทยติ, ยถาวุตฺตคุณรหิเตน อสพฺพฺุนา เทเสตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคปฺปกรณานํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ ตทฏฺกถาย จ สาติสยํ คารวํ ชนยติ, พุทฺธาทีนฺจ รตนานํ สมฺมาสมฺพุทฺธตาทิคุเณ วิภาเวติ.
ตตฺถ จตฺตาริ สจฺจานิ ปากฏาเนว, อฏฺารส ปน พุทฺธธมฺมา เอวํ เวทิตพฺพา – ‘‘อตีตํเส พุทฺธสฺส ภควโต อปฺปฏิหตํ าณํ, อนาคตํเส…เป… ปจฺจุปฺปนฺนํเส…เป… อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺตํ, สพฺพํ วจีกมฺมํ…เป. … สพฺพํ มโนกมฺมํ…เป… อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ ธมฺมเทสนาย, นตฺถิ วีริยสฺส, นตฺถิ สมาธิสฺส, นตฺถิ ปฺาย, นตฺถิ วิมุตฺติยา หานิ. อิเมหิ ทฺวาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นตฺถิ ทวา, นตฺถิ รวา, นตฺถิ อผุฏํ, นตฺถิ เวคายิตตฺตํ, นตฺถิ อพฺยาวฏมโน, นตฺถิ อปฺปฏิสงฺขานุเปกฺขา’’ติ.
ตตฺถ ¶ นตฺถิ ทวาติ ขิฑฺฑาธิปฺปาเยน กิริยา นตฺถิ. นตฺถิ รวาติ สหสา กิริยา นตฺถิ. นตฺถิ อผุฏนฺติ าเณน อผุสิตํ นตฺถิ. นตฺถิ เวคายิตตฺตนฺติ ตุริตกิริยา นตฺถิ. นตฺถิ อพฺยาวฏมโนติ นิรตฺถโก จิตฺตสมุทาจาโร นตฺถิ. นตฺถิ อปฺปฏิสงฺขานุเปกฺขาติ อฺาณุเปกฺขา นตฺถิ. กตฺถจิ ปน ‘‘นตฺถิ ธมฺมเทสนาย หานี’’ติ อลิขิตฺวา ‘‘นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ วีริยสฺส, นตฺถิ สตฺติยา’’ติ ลิขนฺติ.
๑. ธมฺมสงฺคเห ธมฺเม กุสลาทิเก ติกทุเกหิ สงฺคเหตฺวา เต เอว ธมฺเม สุตฺตนฺเต ขนฺธาทิวเสน วุตฺเต วิภชิตุํ วิภงฺคปฺปกรณํ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ สงฺเขเปน วุตฺตานํ ขนฺธาทีนํ วิภชนํ วิภงฺโค. โส โส วิภงฺโค ปกโต อธิกโต ยสฺสา ปาฬิยา, สา ‘‘วิภงฺคปฺปกรณ’’นฺติ วุจฺจติ. อธิกโตติ จ วตฺตพฺพภาเวน ปริคฺคหิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค ‘‘ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม. นนุ น เอตฺตกเมว สุตฺตนฺตภาชนียนฺติ? สจฺจํ, อิติ-สทฺเทน ปน อาทิ-สทฺทตฺถโชตเกน ปการตฺถโชตเกน วา สพฺพํ สุตฺตนฺตภาชนียํ สงฺคเหตฺวา วิฺาณกฺขนฺโธติ เอวมาทิ เอวํปการํ วา อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา เอกเทเสน สมุทายํ นิทสฺเสติ ปพฺพตสมุทฺทาทินิทสฺสโก วิย. ตตฺถ นิพฺพานวชฺชานํ สพฺพธมฺมานํ สงฺคาหกตฺตา สพฺพสงฺคาหเกหิ จ อายตนาทีหิ อปฺปกตรปทตฺตา ขนฺธานํ ขนฺธวิภงฺโค อาทิมฺหิ วุตฺโต.
น ตโต เหฏฺาติ รูปาทีนํ เวทยิตาทิสภาวตฺตาภาวา ยสฺมึ สภาเว อตีตาทโย ราสี กตฺวา วตฺตพฺพา, ตสฺส รุปฺปนาทิโต อฺสฺสาภาวา จ เหฏฺา คณเนสุ สงฺขตธมฺมานํ อนิฏฺานํ สาวเสสภาวํ, น เหฏฺา คณนมตฺตาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ฉฏฺสฺส ปน ขนฺธสฺส อภาวา ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. น หิ สวิภาคธมฺเมหิ นิสฺสฏสฺส อตีตาทิภาวรหิตสฺส เอกสฺส นิพฺพานสฺส ราสฏฺโ อตฺถีติ. ‘‘ราสิมฺหี’’ติ สทฺทตฺถสหิตํ ขนฺธ-สทฺทสฺส วิสยํ ทสฺเสติ. ‘‘คุเณ ปณฺณตฺติยํ รุฬฺหิย’’นฺติ วิสยเมว ขนฺธ-สทฺทสฺส ทสฺเสติ, น สทฺทตฺถํ. โลกิยโลกุตฺตรเภทฺหิ สีลาทิคุณํ นิปฺปเทเสน คเหตฺวา ปวตฺตมาโน ขนฺธ-สทฺโท สีลาทิคุณวิสิฏฺํ ราสฏฺํ ทีเปตีติ. เกจิ ปน ‘‘คุณฏฺโ เอตฺถ ขนฺธฏฺโ’’ติ วทนฺติ. ทารุกฺขนฺโธติ เอตฺถ ปน น ขนฺธ-สทฺโท ปฺตฺติ-สทฺทสฺส อตฺเถ วตฺตติ, ตาทิเส ปน ปุถุลายเต ทารุมฺหิ ทารุกฺขนฺโธติ ปฺตฺติ โหตีติ ปฺตฺติยํ นิปตตีติ วุตฺตํ. ตถา เอกสฺมิมฺปิ วิฺาเณ ¶ ปวตฺโต วิฺาณกฺขนฺโธติ ขนฺธ-สทฺโท น รุฬฺหี-สทฺทสฺส อตฺถํ วทติ, สมุทาเย ปน นิรุฬฺโห ขนฺธ-สทฺโท ตเทกเทเส ปวตฺตมาโน ตาย เอว รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ ขนฺธ-สทฺโท รุฬฺหิยํ นิปตตีติ วุตฺตํ.
ราสิโต คุณโตติ สพฺพตฺถ นิสฺสกฺกวจนํ วิสยสฺเสว ขนฺธ-สทฺทปฺปวตฺติยา การณภาวํ สนฺธาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ราสิโต’’ติ อิมมตฺถํ สทฺทตฺถวเสนปิ ¶ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ’’ติอาทิมาห. โกฏฺาสฏฺเ ขนฺธฏฺเ ฉฏฺเนปิ ขนฺเธน ภวิตพฺพํ. นิพฺพานมฺปิ หิ ฉฏฺโ โกฏฺาโสติ. ตสฺมา ‘‘ขนฺธฏฺโ นาม ราสฏฺโ’’ติ ยุตฺตํ. เยสํ วา อตีตาทิวเสน เภโท อตฺถิ, เตสํ รุปฺปนาทิลกฺขณวเสน ตํตํโกฏฺาสตา วุจฺจตีติ เภทรหิตสฺส นิพฺพานสฺส โกฏฺาสฏฺเน จ ขนฺธภาโว น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตาติ อุทฺเทสมตฺเตนาติ อตฺโถ. จตฺตาโร จ มหาภูตา…เป… รูปนฺติ เอวํ วิภตฺโต. กตฺถาติ เจ? เอกาทสสุ โอกาเสสุ. อิติ-สทฺเทน นิทสฺสนตฺเถน สพฺโพ วิภชนนโย ทสฺสิโต. อิทฺจ วิภชนํ โอฬาริกาทีสุ จกฺขายตนนฺติอาทิวิภชนฺจ ยถาสมฺภวํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ โยเชตพฺพํ, เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ. วิฺาณกฺขนฺโธ ปน เอกาทโสกาเสสุ ปุริเม โอกาสปฺจเก ‘‘จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณ’’นฺติ ฉวิฺาณกายวิเสเสน วิภตฺโต, น ตตฺถ มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตูติ วิภชนํ อตฺถิ. ตํ ปน ทฺวยํ มโนวิฺาณนฺติ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตู’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอวํ ปาฬินเยน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ปุน อฺเน ปกาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ขนฺธนิทฺเทเส.
๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒. ยํ กิฺจีติ เอตฺถ ยนฺติ สามฺเน อนิยมนิทสฺสนํ, กิฺจีติ ปการนฺตรเภทํ อามสิตฺวา อนิยมนิทสฺสนํ. อุภเยนปิ อตีตํ วา…เป… สนฺติเก วา อปฺปํ วา พหุํ วา ยาทิสํ วา ตาทิสํ วา ยํ กิฺจีติ นปุํสกนิทฺเทสารหํ สพฺพํ พฺยาเปตฺวา สงฺคณฺหาตีติ อฺเสุปิ ¶ นปุํสกนิทฺเทสารเหสุ ปสงฺคํ ทิสฺวา ตสฺส อธิปฺเปตตฺถํ อติจฺจ ปวตฺติโต อติปฺปสงฺคสฺส นิยมนตฺถํ ‘‘รูป’’นฺติ อาห. ยํกิฺจีติ สนิปาตํ ยํ-สทฺทํ กึ-สทฺทฺจ อนิยเมกตฺถทีปนวเสน เอกํ ปทนฺติ คเหตฺวา ‘‘ปททฺวเยนปี’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถาติ ตุมฺเหปิ รูปํ รูปนฺติ วเทถ, ตํ เกน การเณน วเทถาติ อตฺโถ, อถ วา เกน การเณน รูปํ, ตํ การณํ ¶ วเทถาติ อตฺโถ. อเถเตสุ ภิกฺขูสุ ตุณฺหีภูเตสุ ภควา อาห ‘‘รุปฺปตีติ โข’’ติอาทิ.
ภิชฺชตีติ สีตาทิสนฺนิปาเต วิสทิสสนฺตานุปฺปตฺติทสฺสนโต ปุริมสนฺตานสฺส เภทํ สนฺธายาห. เภโท จ วิสทิสตาวิการาปตฺตีติ ภิชฺชตีติ วิการํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. วิการาปตฺติ จ สีตาทิสนฺนิปาเต วิสทิสรูปุปฺปตฺติเยว. อรูปกฺขนฺธานํ ปน อติลหุปริวตฺติโต ยถา รูปธมฺมานํ ิติกฺขเณ สีตาทีหิ สมาคโม โหติ, เยน ตตฺถ อุตุโน ิติปฺปตฺตสฺส ปุริมสทิสสนฺตานุปฺปาทนสมตฺถตา น โหติ อาหาราทิกสฺส วา, เอวํ อฺเหิ สมาคโม นตฺถิ. สงฺฆฏฺฏเนน จ วิการาปตฺติยํ รุปฺปน-สทฺโท นิรุฬฺโห, ตสฺมา อรูปธมฺมานํ สงฺฆฏฺฏนวิรหิตตฺตา รูปธมฺมานํ วิย ปากฏสฺส วิการสฺส อภาวโต จ ‘‘รุปฺปนฺตี’’ติ ‘‘รุปฺปนลกฺขณา’’ติ จ น วุจฺจนฺติ. ชิฆจฺฉาปิปาสาหิ รุปฺปนฺจ อุทรคฺคิสนฺนิปาเตน โหตีติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ กุปฺปตีติ เอเตน กตฺตุอตฺเถ รูปปทสิทฺธึ ทสฺเสติ, ฆฏฺฏียติ ปีฬียตีติ เอเตหิ กมฺมตฺเถ. โกปาทิกิริยาเยว หิ รุปฺปนกิริยาติ. โส ปน กตฺตุภูโต กมฺมภูโต จ อตฺโถ ภิชฺชมาโน โหตีติ อิมสฺสตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา รุปฺปตีติ รูปนฺติ กมฺมกตฺตุตฺเถ รูปปทสิทฺธิ วุตฺตา. วิกาโร หิ รุปฺปนนฺติ. เตเนว ‘‘ภิชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ กมฺมกตฺตุตฺเถน ภิชฺชติ-สทฺเทน อตฺถํ ทสฺเสติ. ยํ ปน รุปฺปติ ภิชฺชติ, ตํ ยสฺมา กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ตสฺมา เอเตหิ จ ปเทหิ ปทตฺโถ ปากโฏ กโตติ. ‘‘เกนฏฺเนา’’ติ ปุจฺฉาสภาควเสน ‘‘รุปฺปนฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. น เกวลํ สทฺทตฺโถเยว รุปฺปนํ, ตสฺส ปนตฺถสฺส ลกฺขณฺจ โหตีติ อตฺถลกฺขณวเสน ‘‘รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห.
ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปตฺติยา มุจฺจิตฺวา องฺคปจฺจงฺคานํ เฉทนวเสน วา ฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกนาติ อติสีตภาวเมว สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ ¶ กปฺปสณฺานํ อุทกํ สมฺปตฺติกรํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ. ตถา หิ สติ ปถวี วิลีเยยฺยาติ. อวีจิมหานิรเยติ สอุสฺสทํ อวีจินิรยํ วุตฺตํ. เตเนว ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เปตฺติ…เป… น โหนฺตีติ เอวํวิธาปิ สตฺตา อตฺถีติ อธิปฺปาโย เอวํวิธาเยว โหนฺตีติ นิยมาภาวโต. เอวํ กาลกฺชิกาทีสุปีติ. สรนฺตา คจฺฉนฺตีติ สรีสป-สทฺทสฺส อตฺถํ วทติ.
อภิสฺูหิตฺวาติ ¶ เอตฺถ สมูหํ กตฺวาติปิ อตฺโถ. เอเตน สพฺพํ รูปํ…เป… ทสฺสิตํ โหตีติ เอเตน รูปกฺขนฺธ-สทฺทสฺส สมานาธิกรณสมาสภาวํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘น หิ รูปโต…เป… อตฺถี’’ติ.
๓. ปกฺขิปิตฺวาติ เอตฺถ เอกาทโสกาเสสุ รูปํ ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. น หิ ตตฺถ มาติกํเยว ปกฺขิปิตฺวา มาติกา ปิตา, อถ โข ปกรณปฺปตฺตํ รูปนฺติ.
อปโร นโย…เป… เอตฺเถว คณนํ คตนฺติ เอเตน อตีตํเสนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนนฺติ ทสฺเสติ. เยน ปกาเรน คณนํ คตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ สติ มหาภูตุปาทายรูปภาโว อตีตโกฏฺาเส คณนสฺส การณนฺติ อาปชฺชติ. น หิ อตีตํสานํ เวทนาทีนํ นิวตฺตนตฺถํ อิทํ วจนํ ‘‘ยํ รูป’’นฺติ เอเตเนว เตสํ นิวตฺติตตฺตา, นาปิ รูปสฺส อฺปฺปการนิวตฺตนตฺถํ สพฺพปฺปการสฺส ตตฺถ คณิตตฺตา, น จ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนาการนิวตฺตนตฺถํ อตีตํสวจเนน ตํนิวตฺตนโตติ. อถ ปน ยํ อตีตํเสน คณิตํ, ตํ จตฺตาโร จ…เป… รูปนฺติ เอวํ คณิตนฺติ อยมตฺโถ อธิปฺเปโต, เอวํ สติ คณนนฺตรทสฺสนํ อิทํ สิยา, น อตีตํเสน คณิตปฺปการทสฺสนํ, ตํทสฺสเน ปน สติ ภูตุปาทายรูปปฺปกาเรน อตีตํเส คณิตํ ตํสภาวตฺตาติ อาปนฺนเมว โหติ, น จ เอวํสภาวตา อตีตํเส คณิตตาย การณํ ภวิตุํ อรหติ เอวํสภาวสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตสุ คณิตตฺตา สุขาทิสภาวสฺส จ อตีตํเส คณิตตฺตา, ตสฺมา ปุริมนโย เอว ยุตฺโต. อชฺฌตฺตพหิทฺธานิทฺเทเสสุปิ ตาทิโส เอวตฺโถ ลพฺภตีติ.
สุตฺตนฺตปริยายโตติ ปริยายเทสนตฺตา สุตฺตสฺส วุตฺตํ. อภิธมฺมนิทฺเทสโตติ นิปฺปริยายเทสนตฺตา อภิธมฺมสฺส นิจฺฉเยน เทโส นิทฺเทโสติ กตฺวา วุตฺตํ. กิฺจาปีติอาทีสุ อยมธิปฺปาโย ¶ – สุตฺตนฺตภาชนียตฺตา ยถา ‘‘อตีตํ นนฺวาคเมยฺยา’’ติอาทีสุ อทฺธานวเสน อตีตาทิภาโวว วุตฺโต, ตถา อิธาปิ นิทฺทิสิตพฺโพ (ม. นิ. ๓.๒๗๒, ๒๗๕; อป. เถร ๒.๕๕.๒๔๔) สิยา. เอวํ สนฺเตปิ สุตฺตนฺตภาชนียมฺปิ อภิธมฺมเทสนาเยว สุตฺตนฺเต วุตฺตธมฺเม วิจินิตฺวา วิภชนวเสน ปวตฺตาติ อภิธมฺมนิทฺเทเสเนว อตีตาทิภาโว นิทฺทิฏฺโติ.
อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสนาติ ¶ เอตฺถ จุติปฏิสนฺธิปริจฺฉินฺเน กาเล อทฺธา-สทฺโท วตฺตตีติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิสุตฺตวเสน (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) วิฺายติ. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อทฺธา. กตเม ตโย? อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ (อิติวุ. ๖๓; ที. นิ. ๓.๓๐๕) เอตฺถ ปน ปรมตฺถโต ปริจฺฉิชฺชมาโน อทฺธา นิรุตฺติปถสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๖๒) ขณปริจฺฉินฺโน ยุตฺโต. ตตฺถ หิ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ ชาตํ ปาตุภูตํ, ‘อตฺถี’ติ ตสฺส สงฺขา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๖๒) วิชฺชมานสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตา ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ อตีตานาคตตา วุตฺตาติ. เยภุยฺเยน ปน จุติปฏิสนฺธิปริจฺฉินฺโน (ที. นิ. ๓.๓๐๕; อิติวุ. ๖๓) สุตฺเตสุ อตีตาทิโก อทฺธา วุตฺโตติ โส เอว อิธาปิ ‘‘อทฺธาวเสนา’’ติ วุตฺโต. สีตํ สีตสฺส สภาโค, ตถา อุณฺหํ อุณฺหสฺส. ยํ ปน สีตํ อุณฺหํ วา สรีเร สนฺนิปติตํ สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ อนูนํ อนธิกํ เอกาการํ, ตํ เอโก อุตูติ วุจฺจติ. สภาคอุตุโน อเนกนฺตสภาวโต เอกคหณํ กตํ, เอวํ อาหาเรปิ. เอกวีถิเอกชวนสมุฏฺานนฺติ ปฺจฉฏฺทฺวารวเสน วุตฺตํ. สนฺตติสมยกถา วิปสฺสกานํ อุปการตฺถาย อฏฺกถาสุ กถิตา.
นิฏฺิตเหตุปจฺจยกิจฺจํ, นิฏฺิตเหตุกิจฺจมนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ, อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ, สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ชนโก เหตุ, อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโย, เตสํ อุปฺปาทนํ อุปตฺถมฺภนฺจ กิจฺจํ. ยถา พีชสฺส องฺกุรุปฺปาทนํ ปถวีอาทีนฺจ ตทุปตฺถมฺภนํ กมฺมสฺส กฏตฺตารูปวิปากุปฺปาทนํ อาหาราทีนํ ตทุปตฺถมฺภนํ, เอวํ เอเกกสฺส กลาปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส จ ชนกานํ กมฺมานนฺตราทิปจฺจยภูตานํ อุปตฺถมฺภกานฺจ สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตานํ กิจฺจํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ อุปฺปาทกฺขเณ เหตุกิจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ตีสุปิ ขเณสุ ปจฺจยกิจฺจํ. ปถวีอาทีนํ สนฺธารณาทิกํ ผสฺสาทีนํ ผุสนาทิกฺจ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจํ สกิจฺจํ, ตสฺส กรณกฺขโณ สกิจฺจกฺขโณ. สห วา กิจฺเจน สกิจฺจํ, ยสฺมึ ขเณ สกิจฺจํ รูปํ วา อรูปํ วา โหติ, โส สกิจฺจกฺขโณ, ตสฺมึ ขเณ ปจฺจุปฺปนฺนํ.
๖. เอตฺตกเมวาติ ¶ ‘‘เตสํ เตส’’นฺติ อิมินา อาเมฑิตวจเนน อภิพฺยาปนตฺเถน วุตฺตตฺถเมว. ‘‘อปรสฺส อปรสฺสา’’ติ ทีปนํ อปรทีปนํ. ปริเยสตูติ ¶ เอเตน ปริเยสนาย อนิฏฺนามนิวตฺตนสฺส อการณภาวํ ทสฺเสติ. กมฺมโทเสน หิ จิตฺตวิปลฺลาสโทเสน จ คูถภกฺขปาณาทโย อุมฺมตฺตกาทโย จ ปริเยเสยฺยุํ ทิฏฺิวิปลฺลาเสน จ โยนกาทโย น อารมฺมณสฺส ปริเยสิตพฺพสภาวตฺตา, อปริเยสิตพฺพสภาวตฺตา ปน เอตสฺส อนิฏฺมิจฺเจว นามนฺติ อตฺโถ.
สมฺปตฺติวิรหโตติ รูปาทีนํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติภเว กุสลกมฺมผลตา สมิทฺธโสภนตา จ สมฺปตฺติ, ตพฺพิรหโตติ อตฺโถ. ตโต เอว ตํ น ปริเยสิตพฺพนฺติ. โสภนานิ จ กานิจิ หตฺถิรูปาทีนิ อกุสลกมฺมนิพฺพตฺตานิ น เตสํเยว หตฺถิอาทีนํ สุขสฺส เหตุภาวํ คจฺฉนฺตีติ เตสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘อกนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺเสว หิ สตฺตสฺส อตฺตนา กเตน กุสเลน นิพฺพตฺตํ สุขสฺส ปจฺจโย โหติ, อกุสเลน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขสฺส. ตสฺมา กมฺมชานํ อิฏฺานิฏฺตา กมฺมการกสตฺตสฺส วเสน โยชนารหา สิยา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘กุสลกมฺมชํ อนิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ อิทเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อกุสลกมฺมชํ อิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ. เตน อกุสลกมฺมชมฺปิ โสภนํ ปรสตฺตานํ อิฏฺนฺติ อนฺุาตํ ภวิสฺสติ. กุสลกมฺมชํ ปน สพฺเพสํ อิฏฺเมวาติ วทนฺติ. ติรจฺฉานคตานํ ปน เกสฺจิ มนุสฺสรูปํ อมนาปํ, ยโต เต ทิสฺวาว ปลายนฺติ. มนุสฺสา จ เทวตารูปํ ทิสฺวา ภายนฺติ, เตสมฺปิ วิปากวิฺาณํ ตํ รูปํ อารพฺภ กุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิสสฺส ปน ปฺุสฺส อภาวา น เตสํ ตตฺถ อภิรติ โหตีติ อธิปฺปาโย. กุสลกมฺมชสฺส ปน อนิฏฺสฺสาภาโว วิย อกุสลกมฺมชสฺส โสภนสฺส อิฏฺสฺส อภาโว วตฺตพฺโพ. หตฺถิอาทีนมฺปิ หิ อกุสลกมฺมชํ มนุสฺสานํ อกุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณํ, กุสลกมฺมชํ ปน ปวตฺเต สมุฏฺิตํ กุสลวิปากสฺส. อิฏฺารมฺมเณน ปน โวมิสฺสกตฺตา อปฺปกํ อกุสลกมฺมชํ พหุลํ อกุสลวิปากุปฺปตฺติยา การณํ น ภวิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุนฺติ. วิปากํ ปน กตฺถจิ น สกฺกา วฺเจตุนฺติ วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺารมฺมณววตฺถานํ สุฏฺุ วุตฺตํ. ตสฺมา ตํ อนุคนฺตฺวา สพฺพตฺถ อิฏฺานิฏฺตา โยเชตพฺพา.
อนิฏฺา ปฺจ กามคุณาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ อิฏฺานี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖; ๒.๑๕๕; ๓.๑๙๐; สํ. นิ. ๕.๓๐) เอวมาทินา อิฏฺาเนว รูปาทีนิ ‘‘กามคุณา’’ติ วุตฺตานีติ? กามคุณสทิเสสุ ¶ กามคุณโวหารโต, สทิสตา จ รูปาทิภาโวเยว ¶ , น อิฏฺตา. ‘‘อนิฏฺา’’ติ วา วจเนน อกามคุณตา ทสฺสิตาติ กามคุณวิสภาคา รูปาทโย ‘‘กามคุณา’’ติ วุตฺตา อสิเว ‘‘สิวา’’ติ โวหาโร วิย. สพฺพานิ วา อิฏฺานิฏฺานิ รูปาทีนิ ตณฺหาวตฺถุภาวโต กามคุณาเยว. วุตฺตฺหิ ‘‘รูปา โลเก ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓). อติสเยน ปน กามนียตฺตา สุตฺเตสุ ‘‘กามคุณา’’ติ อิฏฺานิ รูปาทีนิ วุตฺตานีติ.
ทฺวีสุปิ หีนปณีตปเทสุ ‘‘อกุสลกมฺมชวเสน กุสลกมฺมชวเสนา’’ติ วจนํ ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ สตฺตวเสน นิยเมตฺวา วิภชิตตฺตา, อยฺจตฺโถ ‘‘เตสํ เตส’’นฺติ อวยวโยเค สามิวจนํ กตฺวา วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. สตฺตสนฺตานปริยาปนฺเนสุ กมฺมชํ วิสิฏฺนฺติ ‘‘กมฺมชวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ปน เตหิ เตหีติ เอตสฺมึ อตฺเถ เตสํ เตสนฺติ สามิวจนํ, วิสยวิสยีสมฺพนฺเธ วา, น กมฺมชวเสเนว รูปาทีนิ วิภตฺตานิ, สพฺเพสํ ปน อินฺทฺริยพทฺธานํ วเสน วิภตฺตานีติ วิฺายนฺติ. เอตฺถ จ ปากเฏหิ รูปาทีหิ นโย ทสฺสิโตติ จกฺขาทีสุปิ หีนปณีตตา โยเชตพฺพา.
มนาปปริยนฺตนฺติ มนาปํ ปริยนฺตํ มริยาทาภูตํ ปฺจสุ กามคุเณสุ วทามีติ อตฺโถ. กึ การณนฺติ? ยสฺมา เต เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา, ยสฺส เยว มนาปา, ตสฺส เตว ปรมา, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส อชฺฌาสยวเสน กามคุณานํ ปรมตา โหติ, น เตสํเยว สภาวโต.
เอวนฺติ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตนเยน. เอกสฺมึเยว อสฺสาทนกุชฺฌนโต อารมฺมณสภาวสฺเสว อิฏฺานิฏฺาภาวโต อนิฏฺํ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ คหณโต จ, อิฏฺํ ‘‘อนิฏฺ’’นฺติ คหณโต จ อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ. สฺาวิปลฺลาเสน จาติอาทินา นิพฺพาเน วิย อฺเสุ อารมฺมเณสุ สฺาวิปลฺลาเสน อิฏฺานิฏฺคฺคหณํ โหติ. ปิตฺตุมฺมตฺตาทีนํ ขีรสกฺกราทีสุ โทสุสฺสทสมุฏฺิตสฺาวิปลฺลาสวเสน ติตฺตคฺคหณํ วิยาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย มนาปปริยนฺตตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ.
วิภตฺตํ ¶ อตฺถีติ จ ววตฺถิตํ อตฺถีติ อตฺโถ, อฏฺกถาจริเยหิ วิภตฺตํ ปกาสิตนฺติ วา. ตฺจ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วเสน ววตฺถิตํ ปกาสิตฺจ, อฺเสฺจ วิปลฺลาสวเสน อิทํ อิฏฺํ ¶ อนิฏฺฺจ โหตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ ววตฺถิตสฺส ปนิฏฺานิฏฺสฺส อนิฏฺํ อิฏฺนฺติ จ คหเณ น เกวลํ สฺาวิปลฺลาโสว การณํ, ธาตุกฺโขภวเสน อินฺทฺริยวิการาปตฺติอาทินา กุสลากุสลวิปากุปฺปตฺติเหตุภาโวปีติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา หิ สีตุทกํ ฆมฺมาภิตตฺตานํ กุสลวิปากสฺส กายวิฺาณสฺส เหตุ โหติ, สีตาภิภูตานํ อกุสลวิปากสฺส. ตูลปิจุสมฺผสฺโส วเณ ทุกฺโข นิวเณ สุโข, มุทุตรุณหตฺถสมฺพาหนฺจ สุขํ อุปฺปาเทติ, เตเนว หตฺเถน ปหรณํ ทุกฺขํ, ตสฺมา วิปากวเสน อารมฺมณววตฺถานํ ยุตฺตํ.
กิฺจาปีติอาทินา สติปิ สฺาวิปลฺลาเส พุทฺธรูปทสฺสนาทีสุ กุสลวิปากสฺเสว คูถทสฺสนาทีสุ จ อกุสลวิปากสฺส อุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต เตน วิปาเกน อารมฺมณสฺส อิฏฺานิฏฺตํ ทสฺเสติ. วิชฺชมาเนปิ สฺาวิปลฺลาเส อารมฺมเณน วิปากนิยมทสฺสนํ อารมฺมณนิยมทสฺสนตฺถเมว กตนฺติ.
อปิจ ทฺวารวเสนปีติอาทินา ทฺวารนฺตเร ทุกฺขสฺส สุขสฺส จ ปจฺจยภูตสฺส ทฺวารนฺตเร สุขทุกฺขวิปากุปฺปาทนโต วิปาเกน อารมฺมณนิยมทสฺสเนน เอกสฺมึเยว จ ทฺวาเร สมานสฺเสว มณิรตนาทิโผฏฺพฺพสฺส สณิกํ ผุสเน โปถเน จ สุขทุกฺขุปฺปาทนโต วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺตา ทสฺสิตาติ วิฺายติ.
เหฏฺิมนโยติ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วิปากสฺส จ วเสน ววตฺถิตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ อฺุาต’’นฺติ (วิภ. ๖) จ อาทินา วุตฺตนโย. สมฺมุติมนาปนฺติ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วิปากสฺส จ วเสน สมฺมตํ ววตฺถิตํ มนาปํ, ตํ ปน สภาเวเนว ววตฺถิตนฺติ อภินฺทิตพฺพโตว น ภินฺทตีติ อธิปฺปาโย. สฺาวิปลฺลาเสน เนรยิกาทีหิปิ ปุคฺคเลหิ มนาปนฺติ คหิตํ ปุคฺคลมนาปํ ‘‘ตํ ตํ วา ปนา’’ติอาทินา ภินฺทติ. เวมานิกเปตรูปมฺปิ อกุสลกมฺมชตฺตา กมฺมการณาทิทุกฺขวตฺถุภาวโต จ ‘‘มนุสฺสรูปโต หีน’’นฺติ วุตฺตํ.
๗. โอฬาริกรูปานํ ¶ วตฺถารมฺมณปฏิฆาตวเสน สุปริคฺคหิตตา, สุขุมานํ ตถา อภาวโต ทุปฺปริคฺคหิตตา จ โยเชตพฺพา. ทุปฺปริคฺคหฏฺเเนว ลกฺขณทุปฺปฏิวิชฺฌนตา ทฏฺพฺพา. ทสวิธนฺติ ‘‘ทูเร’’ติ อวุตฺตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วุตฺตมฺปิ ปน โอกาสโต ทูเร โหติเยว.
เหฏฺิมนโยติ ¶ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ…เป… อิทํ วุจฺจติ รูปํ สนฺติเก’’ติ (วิภ. ๗) เอวํ ลกฺขณโต ทฺวาทสหตฺถวเสน ววตฺถิตโอกาสโต จ ทสฺเสตฺวา นิยฺยาติตนโย. โส ลกฺขโณกาสวเสน ทูรสนฺติเกน สห คเหตฺวา นิยฺยาติตตฺตา ภินฺทมาโน มิสฺสกํ กโรนฺโต คโต. อถ วา ภินฺทมาโนติ สรูปทสฺสเนน ลกฺขณโต เยวาปนเกน โอกาสโตติ เอวํ ลกฺขณโต โอกาสโต จ วิสุํ กโรนฺโต คโตติ อตฺโถ. อถ วา ลกฺขณโต สนฺติกทูรานํ โอกาสโต ทูรสนฺติกภาวกรเณน สนฺติกภาวํ ภินฺทิตฺวา ทูรภาวํ, ทูรภาวฺจ ภินฺทิตฺวา สนฺติกภาวํ กโรนฺโต ปวตฺโตติ ‘‘ภินฺทมาโน คโต’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปนาติ ‘‘ตํ ตํ วา ปน รูปํ อุปาทาย อุปาทายา’’ติ อิธ ปุริมนเยน ลกฺขณโต ทูรํ โอกาสโต สนฺติกภาวกรเณน น ภินฺทติ ภควา, น จ โอกาสทูรโต วิสุํ กรเณน, นาปิ โอกาสทูเรน โวมิสฺสกกรเณนาติ อตฺโถ. กึ ปน กโรตีติ? โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทติ. เอตฺถ ปน น ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ติธา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โอกาสโต ทูรํ ลกฺขณโต สนฺติกํ กโรติ, ลกฺขณโต วา วิสุํ เตน วา โวมิสฺสกนฺติ. โอกาสโต ทูรสฺส ปน โอกาสโตว สนฺติกภาวกรณํ อิธ ‘‘เภทน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทตีติ เอตฺถาปิ วา น ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ติธา เภทสฺส อกรณํ วุตฺตํ, ลกฺขณโต สนฺติกทูรานํ ปน ลกฺขณโต อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกภาโว นตฺถีติ ลกฺขณโต ทูรสฺส ลกฺขณโตว สนฺติกภาวากรณํ ลกฺขณโต ทูรสฺส อเภทนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมนโย วิย อยํ นโย น โหตีติ เอตฺตกเมว หิ เอตฺถ ทสฺเสตีติ ภินฺทมาโนติ เอตฺถ จ อฺถา เภทนํ วุตฺตํ, เภทนํ อิธ จ อฺถา วุตฺตนฺติ.
รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๘. จกฺขาทโย ¶ ปสาทา โอฬาริกมโนมยตฺตภาวปริยาปนฺนา กายโวหารํ อรหนฺตีติ ตพฺพตฺถุกา อทุกฺขมสุขา ‘‘กายิกา’’ติ ปริยาเยน วุตฺตา, น กายปสาทวตฺถุกตฺตา. น หิ จกฺขาทโย กายปสาทา โหนฺตีติ. สนฺตติวเสน ขณาทิวเสน จาติ เอตฺถ อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาวสฺส ¶ อวจนํ สุขาทิวเสน ภินฺนาย อตีตาทิภาววจนโต. น หิ สุขาเยว อทฺธาวเสน สมยวเสน จ อตีตาทิกา โหติ, ตถา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา จ กายิกเจตสิกาทิภาเวน ภินฺนา. เตน เวทนาสมุทโย อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหติ สมุทายสฺส เตหิ ปริจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา, เวทเนกเทสา ปน เอตฺถ คหิตาติ เต สนฺตติขเณหิ ปริจฺเฉทํ อรหนฺติ ตตฺถ ตถาปริจฺฉินฺทิตพฺพานํ คหิตตฺตาติ. เอกสนฺตติยํ ปน สุขาทิอเนกเภทสพฺภาเวน เตสุ โย เภโท ปริจฺฉินฺทิตพฺพภาเวน คหิโต, ตสฺส เอกปฺปการสฺส ปากฏสฺส ปริจฺเฉทิกา ตํสหิตทฺวาราลมฺพนปฺปวตฺตา, อวิจฺเฉเทน ตทุปฺปาทเกกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ สนฺตติ ภวิตุํ อรหตีติ ตสฺส เภทนฺตรํ อนามสิตฺวา ปริจฺเฉทกภาเวน คหณํ กตํ. ลหุปริวตฺติโน วา ธมฺมา ปริวตฺตเนเนว ปริจฺเฉทํ อรหนฺตีติ สนฺตติขณวเสน ปริจฺเฉโท วุตฺโต. ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตาติ เอเตน เหตุปจฺจยกิจฺจวเสน วุตฺตนยํ ทสฺเสติ.
๑๑. กิเลสคฺคิสมฺปโยคโต สทรถา. เอเตน สภาวโต โอฬาริกตํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปากฏฺเนาติ เอเตน โอฬาริกวิปากนิปฺผาทเนน กิจฺจโต. กมฺมเวคกฺขิตฺตา กมฺมปฏิพทฺธภูตา จ กายกมฺมาทิพฺยาปารวิรหโต นิรุสฺสาหา วิปากา, สอุสฺสาหา จ กิริยา อวิปากา. สวิปากา จ สคพฺภา วิย โอฬาริกาติ ตพฺพิปกฺขโต อวิปากา สุขุมาติ วุตฺตา.
อสาตฏฺเนาติ อมธุรฏฺเน. เตน สาตปฏิปกฺขํ อนิฏฺสภาวํ ทสฺเสติ. ทุกฺขฏฺเนาติ ทุกฺขมฏฺเน. เตน ทุกฺขานํ สนฺตาปนกิจฺจํ ทสฺเสติ. ‘‘ยายํ, ภนฺเต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๘; สํ. นิ. ๔.๒๖๗) วจนโต อทุกฺขมสุขา ผรณสภาววิรหโต อสนฺตานํ กามราคปฏิฆานุสยานํ ¶ อนุสยนสฺส อฏฺานตฺตา สนฺตา, สุเข นิกนฺตึ ปริยาทาย อธิคนฺตพฺพตฺตา ปธานภาวํ นีตาติ ปณีตาติ. ตถา อนธิคนฺตพฺพา จ กามาวจรชาติอาทิสงฺกรํ อกตฺวา สมานชาติยํ าณสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตาทิเก สมานเภเท สุขโต ปณีตาติ โยเชตพฺพา. อุปพฺรูหิตานํ ธาตูนํ ปจฺจยภาเวน สุขา โขเภติ วิพาธิตานํ ปจฺจยภาเวน ทุกฺขา จ. อุภยมฺปิ กายํ พฺยาเปนฺตํ วิย อุปฺปชฺชตีติ ผรติ. มทยมานนฺติ มทํ กโรนฺตํ. ฉาทยมานนฺติ อิจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตํ, อวตฺถรมานํ วา. ฆมฺมาภิตตฺตสฺส สีโตทกฆเฏน อาสิตฺตสฺส ยถา กาโย อุปพฺรูหิโต โหติ, เอวํ สุขสมงฺคิโนปีติ กตฺวา ‘‘อาสิฺจมานํ วิยา’’ติ วุตฺตํ. เอกตฺตนิมิตฺเตเยวาติ ปถวีกสิณาทิเก ¶ เอกสภาเว เอว นิมิตฺเต. จรตีติ นานาวชฺชเน ชวเน เวทนา วิย วิปฺผนฺทนรหิตตฺตา สุขุมา.
อธิปฺปาเย อกุสลตาย อโกวิโท. กุสลตฺติเก…เป… อาคตตฺตาติ ‘‘กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ เอวํ อาคตตฺตา. ภูมนฺตรเภเท ทสฺเสตุํ ‘‘ยมฺปี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิมินา นีหาเรนาติ เอเตน ‘‘กามาวจรสุขโต กามาวจรุเปกฺขา สุขุมา’’ติอาทินา สภาวาทิเภเทน จ โอฬาริกสุขุมภาวํ ตตฺร ตตฺเรว กเถนฺโต น ภินฺทตีติ นยํ ทสฺเสติ.
โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา, ตสฺมา เอกนฺตปณีเต หีนปณีตานํ อุทฺธฏตฺตา เอวเมว เอกนฺตหีเน จ ยถาสมฺภวํ หีนปณีตตา อุทฺธริตพฺพาติ อนฺุาตํ โหตีติ อุภยตฺถ ตทุทฺธรเณ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
อกุสลานํ กุสลาทีหิ สุขุมตฺตาภาวโต ปาฬิยา อาคตสฺส อปริวตฺตนียภาเวน ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ, ตํตํวาปนวเสน กถเนปิ ปริวตฺตนํ นตฺถีติ น ปริวตฺตนํ สนฺธาย ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, เหฏฺิมนยสฺส ปน วุตฺตตฺตา อวุตฺตนยํ คเหตฺวา ‘‘ตํ ตํ วา ปนา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺโพ. พหุวิปากา อกุสลา โทสุสฺสนฺนตาย โอฬาริกา, ตถา อปฺปวิปากา กุสลา. มนฺทโทสตฺตา อปฺปวิปากา อกุสลา สุขุมา, ตถา พหุวิปากา กุสลา จ. โอฬาริกสุขุมนิกนฺติวตฺถุภาวโต กามาวจราทีนํ โอฬาริกสุขุมตา ¶ . สาปีติ ภาวนามยาย เภทเนน ทานมยสีลมยานฺจ ปจฺเจกํ เภทนํ นยโต ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สาปีติ วา ติวิธาปีติ โยเชตพฺพํ.
๑๓. ชาติอาทิวเสน อสมานโกฏฺาสตา วิสภาคฏฺโ. ทุกฺขวิปากตาทิวเสน อสทิสกิจฺจตา, อสทิสสภาวตา วา วิสํสฏฺโ, น อสมฺปโยโค. ยทิ สิยา, ทูรวิปริยาเยน สนฺติกํ โหตีติ สํสฏฺฏฺเน สนฺติกตา อาปชฺชติ, น จ เวทนาย เวทนาสมฺปโยโค อตฺถิ. สนฺติกปทวณฺณนาย จ ‘‘สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จา’’ติ วกฺขตีติ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
น ¶ ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, กึ ยถา สนฺติกโต อกุสลโต อกุสลา ทูเรติ อุทฺธรียติ, ตถา ตโต ทูรโต กุสลโต กุสลา สนฺติเกติ อุทฺธริตุํ น สกฺกาติ? น สกฺกา. ตถา หิ สติ กุสลา กุสลาย สนฺติเกติ กตฺวา สนฺติกโต สนฺติกตา เอว อุทฺธริตา สิยา, ตถา จ สติ สนฺติกสนฺติกตรตาวจนเมว อาปชฺชติ, อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกตาว อิธ วุจฺจติ, ตสฺมา ทูรโต ทูรุทฺธรณํ วิย สนฺติกโต สนฺติกุทฺธรณฺจ น สกฺกา กาตุํ ทูรทูรตรตาย วิย สนฺติกสนฺติกตรตาย จ อนธิปฺเปตตฺตา. อถ ปน วเทยฺย ‘‘น กุสลา กุสลาย เอว สนฺติเกติ อุทฺธริตพฺพา, อถ โข ยโต สา ทูเร, ตสฺสา อกุสลายา’’ติ, ตฺจ นตฺถิ. น หิ อกุสลาย กุสลา กทาจิ สนฺติเก อตฺถีติ. อถาปิ วเทยฺย ‘‘ยา อกุสลา กุสลาย สนฺติเก, สา ตโต ทูรโต กุสลโต อุทฺธริตพฺพา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ. น หิ กุสเล อกุสลา อตฺถิ, ยา ตโต สนฺติเกติ อุทฺธริเยยฺย, ตสฺมา อิธ วุตฺตสฺส ทูรสฺส ทูรโต อจฺจนฺตวิสภาคตฺตา ทูเร สนฺติกํ นตฺถีติ น สกฺกา ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตุํ, สนฺติเก ปนิธ วุตฺเต ภินฺเน ตตฺเถว ทูรํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘สนฺติกโต ปน ทูรํ อุทฺธริตพฺพ’’นฺติ.
อุปาทายุปาทาย ทูรโต จ สนฺติกํ น สกฺกา อุทฺธริตุํ. โลภสหคตาย โทสสหคตา ทูเร โลภสหคตา สนฺติเกติ หิ วุจฺจมาเน สนฺติกโตว สนฺติกํ อุทฺธริตํ โหติ. ตถา โทสสหคตาย โลภสหคตา ทูเร โทสสหคตา สนฺติเกติ เอตฺถาปิ ¶ สภาคโต สภาคนฺตรสฺส อุทฺธฏตฺตา, น จ สกฺกา ‘‘โลภสหคตาย โทสสหคตา ทูเร สา เอว จ สนฺติเก’’ติ วตฺตุํ โทสสหคตาย สนฺติกภาวสฺส อการณตฺตา, ตสฺมา วิสภาคตา เภทํ อคฺคเหตฺวา น ปวตฺตตีติ สภาคาพฺยาปกตฺตา ทูรตาย ทูรโต สนฺติกุทฺธรณํ น สกฺกา กาตุํ. น หิ โทสสหคตา อกุสลสภาคํ สพฺพํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตตีติ. สภาคตา ปน เภทํ อนฺโตคธํ กตฺวา ปวตฺตตีติ วิสภาคพฺยาปกตฺตา สนฺติกตาย สนฺติกโต ทูรุทฺธรณํ สกฺกา กาตุํ. อกุสลตา หิ โลภสหคตาทิสพฺพวิสภาคพฺยาปิกาติ. เตนาห ‘‘น ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพ’’นฺติอาทิ.
เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗. จกฺขุสมฺผสฺสชา ¶ สฺาติ เอตฺถ ยทิปิ วตฺถุโต ผสฺสสฺส นามํ ผสฺสโต จ สฺาย, วตฺถุวิสิฏฺผสฺเสน ปน วิสิฏฺสฺา วตฺถุนา จ วิสิฏฺา โหติ ผสฺสสฺส วิย ตสฺสาปิ ตพฺพตฺถุกตฺตาติ ‘‘วตฺถุโต นาม’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺาติ เอตฺถาปิ ยถา ผสฺโส วตฺถารมฺมณปฏิฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺโน, ตถา ตโต ชาตสฺาปีติ ‘‘วตฺถารมฺมณโต นาม’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปฏิฆโช สมฺผสฺโส, ปฏิฆวิฺเยฺโย วา สมฺผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโสติ อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิฺเยฺยภาเว วจนํ อธิกิจฺจ ปวตฺตา, วจนาธีนา วา อรูปกฺขนฺธา, อธิวจนํ วา เอเตสํ ปกาสนํ อตฺถีติ ‘‘อธิวจนา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตโตโช สมฺผสฺโส อธิวจนสมฺผสฺโส, สมฺผสฺโสเยว วา ยถาวุตฺเตหิ อตฺเถหิ อธิวจโน จ สมฺผสฺโส จาติ อธิวจนสมฺผสฺโส, อธิวจนวิฺเยฺโย วา สมฺผสฺโส อธิวจนสมฺผสฺโส, ตโต ตสฺมึ วา ชาตา อธิวจนสมฺผสฺสชา. ปฺจทฺวาริกสมฺผสฺเสปิ ยถาวุตฺโต อตฺโถ สมฺภวตีติ เตน ปริยาเยน ตโตชาปิ สฺา ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุตฺตา. ยถา ปน อฺปฺปการาสมฺภวโต มโนสมฺผสฺสชา นิปฺปริยาเยน ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุจฺจติ, น เอวํ อยํ ปฏิฆสมฺผสฺสชา อาเวณิกปฺปการนฺตรสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.
ยทิ ¶ เอวํ จตฺตาโร ขนฺธาปิ ยถาวุตฺตสมฺผสฺสโต ชาตตฺตา ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตา, สฺาว กสฺมา เอวํ วุตฺตาติ? ติณฺณํ ขนฺธานํ อตฺถวเสน อตฺตโน ปตฺตมฺปิ นามํ ยตฺถ ปวตฺตมาโน อธิวจนสมฺผสฺสช-สทฺโท นิรุฬฺหตาย ธมฺมาภิลาโป โหติ, ตสฺสา สฺาย เอว อาโรเปตฺวา สยํ นิวตฺตนํ โหติ. เตนาห ‘‘ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทิ. อถ วา สฺาย ปฏิฆสมฺผสฺสชาติ อฺมฺปิ วิสิฏฺํ นามํ อตฺถีติ อธิวจนสมฺผสฺสชานามํ ติณฺณํเยว ขนฺธานํ ภวิตุํ อรหติ. เต ปน อตฺตโน นามํ สฺาย ทตฺวา นิวตฺตาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทิ. ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ชานิตุํ สกฺกาติ อิทํ เตน เตนาธิปฺปาเยน หตฺถวิการาทิกรเณ ตทธิปฺปายวิชานนนิมิตฺตภูตา วิฺตฺติ วิย รชฺชิตฺวา โอโลกนาทีสุ รตฺตตาทิวิชานนนิมิตฺตํ โอโลกนํ จกฺขุวิฺาณวิสยสมาคเม ปากฏํ โหตีติ ตํสมฺปยุตฺตาย สฺายปิ ตถาปากฏภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.
รชฺชิตฺวา ¶ โอโลกนาทิวเสน ปากฏา ชวนปฺปวตฺตา ภวิตุํ อรหตีติ เอติสฺสา อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปสาทวตฺถุกา เอวา’’ติ อาห. อฺํ จินฺเตนฺตนฺติ ยํ ปุพฺเพ เตน จินฺติตํ าตํ, ตโต อฺํ จินฺเตนฺตนฺติ อตฺโถ.
สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐. เหฏฺิมโกฏิยาติ เอตฺถ ภุมฺมนิทฺเทโสว. ตตฺถ หิ ปธานํ ทสฺสิตนฺติ. ยทิ เอวํ อุปริมโกฏิยา ตํ น ทสฺสิตนฺติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, อุปริมโกฏิคตภาเวน วินา เหฏฺิมโกฏิคตภาวาภาวโต. เหฏฺิมโกฏิ หิ สพฺพพฺยาปิกาติ. ทุติเย กรณนิทฺเทโส, เหฏฺิมโกฏิยา อาคตาติ สมฺพนฺโธ. ปุริเมปิ วา ‘‘เหฏฺิมโกฏิยา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตฺจ ปธานสงฺขารทสฺสนวเสนาติ สมฺพนฺธกรเณน กรณนิทฺเทโสว. ตํสมฺปยุตฺตา สงฺขาราติ เอกูนปฺาสปฺปเภเท สงฺขาเร อาห. คหิตาว โหนฺติ ตปฺปฏิพทฺธตฺตา.
สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
สมุคฺคม-สทฺโท ¶ สฺชาติยํ อาทิอุปฺปตฺติยํ นิรุฬฺโห. ตํตํปจฺจยสมาโยเค หิ ปุริมภวสงฺขาตา ปุริมนฺตโต อุทฺธงฺคมนํ สมุคฺคโม, สนฺธิยํ วา ปฏิสนฺธิยํ อุคฺคโม สมุคฺคโม. โส ปน ยตฺถ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา สมุคฺคจฺฉนฺติ, ตตฺเถว ทสฺสิโต. เอเตน นเยน อปริปุณฺณขนฺธสมุคฺคโม เอกโวการจตุโวกาเรสุ สกฺกา วิฺาตุนฺติ. อถ วา ยถาธิคตานํ ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ สห อุคฺคโม อุปฺปตฺติ สมุคฺคโม. เอตสฺมึ อตฺเถ วิกลุปฺปตฺติ อสงฺคหิตา โหติ. หิมวนฺตปฺปเทเส ชาติมนฺตเอฬกโลมํ ชาติอุณฺณา. สปฺปิมณฺฑพินฺทูติ เอวํ เอตฺถาปิ พินฺทุ-สทฺโท ¶ โยเชตพฺโพ. เอวํวณฺณปฺปฏิภาคนฺติ เอวํวณฺณํ เอวํสณฺานฺจ. ปฏิภชนํ วา ปฏิภาโค, สทิสตาภชนํ สทิสตาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวํวิโธ วณฺณปฺปฏิภาโค เอตสฺสาติ เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ.
สนฺตติสีสานีติ สนฺตติมูลานิ, สนฺตติโกฏฺาสา วา. อเนกินฺทฺริยสมาหารภาวโต หิ ปธานงฺคํ ‘‘สีส’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ วตฺถุทสกาทิโกฏฺาสา อเนกรูปสมุทายภูตา ‘‘สีสานี’’ติ วุตฺตานีติ.
ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺตีติ คณนาปาริปูรึ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตสฺส ตสฺส ขนฺธสฺส ปริปุณฺณตํ. กมฺมสมุฏฺานปเวณิยา วุตฺตตฺตา ‘‘อุตุจิตฺตาหารชปเวณี จ เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา โหตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพา สิยา, ตํ ปน ‘‘ปุพฺพาปรโต’’ติ เอตฺถ วกฺขตีติ อกเถตฺวา กมฺมชปเวณี จ น สพฺพา วุตฺตาติ อวุตฺตํ ทสฺเสตุํ โอปปาติกสมุคฺคโม นาม ทสฺสิโต. เอวํ…เป… ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺตีติ ปริปุณฺณายตนานํ วเสน นโย ทสฺสิโต, อปริปุณฺณายตนานํ ปน กามาวจรานํ รูปาวจรานํ ปริหีนายตนสฺส วเสน สนฺตติสีสหานิ เวทิตพฺพา.
ปุพฺพาปรโตติ อยํ วิจารณา น ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุปฺปตฺติยํ, อถ โข เตสํ รูปสมุฏฺาปเนติ ทฏฺพฺพา. ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํ ปนา’’ติอาทิ. อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺเนสูติ เอเตน สํสยการณํ ทสฺเสติ. สหุปฺปนฺเนสุ หิ อิทเมว ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ปจฺฉาติ อทสฺสิตํ น สกฺกา วิฺาตุํ. เอตฺถ จ ‘‘ปุพฺพาปรโต’’ติ เอติสฺสา วิจารณาย วตฺถุภาเวน ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปนฺนา ปวตฺตา ปฺจกฺขนฺธา คหิตา. ตตฺถ จ นิทฺธารเณ ¶ ภุมฺมนิทฺเทโสติ ‘‘รูปํ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ อาห. อฺถา ภาเวนภาวลกฺขณตฺเถ ภุมฺมนิทฺเทเส สติ รูปสฺส รูปสมุฏฺาปนกฺขเณ กมฺมสฺสปิ รูปสมุฏฺานํ วทนฺตีติ อุภยนฺติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. รูปารูปสนฺตติฺจ คเหตฺวา อยํ วิจารณา ปวตฺตาติ ‘‘รูปํ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ วุตฺตํ. อฺถา ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอว วิชฺชมาเน คเหตฺวา วิจารณาย กริยมานาย อรูปสฺส รูปสมุฏฺาปนเมว นตฺถีติ ปุพฺพาปรสมุฏฺาปนวิจารณาว อิธ น อุปปชฺชตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตีติ สพฺพรูปานํ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ ตํ ปจฺฉาชาตปจฺจยรหิตํ อาหาราทีหิ จ อนุปตฺถทฺธนฺติ ‘‘ทุพฺพล’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตาติ ¶ อิทํ สติปิ ภวงฺคสฺส กมฺมชภาเว สายํ วิปากสนฺตติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปุริมภวงฺคสมุฏฺาปกโต อฺเน กมฺมุนา ขิตฺตา วิย อปฺปติฏฺิตา, ตโต ปรฺจ สมานสนฺตติยํ อนนฺตรปจฺจยํ ปุเรชาตปจฺจยฺจ ลภิตฺวา ปติฏฺิตาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปเวณี ฆฏิยตีติ จกฺขาทิวตฺถุสนฺตติ เอกสฺมึ วิชฺชมาเน เอว อฺสฺส นิโรธุปฺปตฺติวเสน ฆฏิยติ, น จุติปฏิสนฺธินิสฺสยวตฺถูนํ วิย วิจฺเฉทปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. องฺคโตติ ฌานงฺคโต. ฌานงฺคานิ หิ จิตฺเตน สห รูปสมุฏฺาปกานิ, เตสํ อนุพลทายกานิ มคฺคงฺคาทีนิ เตสุ วิชฺชมาเนสุ วิเสสรูปปฺปวตฺติทสฺสนโต. อถ วา ยานิ จิตฺตงฺคานิ เจตนาทีนิ จิตฺตสฺส รูปสมุฏฺาปเน องฺคภาวํ สหายภาวํ คจฺฉนฺติ, เตสํ พลทายเกหิ ฌานงฺคาทีหิ อปริหีนนฺติ อตฺโถ. ตโต ปริหีนตฺตา หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺตีติ. โย ปน วเทยฺย ‘‘ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหชาตวตฺถุ ตสฺส ิติกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ปุเรชาตนฺติ กตฺวา ปจฺจยเวกลฺลาภาวโต ตสฺมึ ขณทฺวเย รูปํ สมุฏฺาเปตู’’ติ, ตํ นิวาเรนฺโต อาห ‘‘ยทิ หิ จิตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ิติภงฺคกฺขเณสุปิ เตสํ ธมฺมานํ วตฺถุ ปุเรชาตํ น โหตีติ น วตฺตพฺพเมเวตนฺติ อนุชานิ, ตตฺถาปิ โทสํ ทสฺเสติ. ยทิ ตทา รูปํ สมุฏฺาเปยฺย, ตว มเตน ปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ สมุฏฺาเปยฺย, ตทา ปน รูปุปฺปาทนเมว นตฺถิ. ยทา จ รูปุปฺปาทนํ, ตทา อุปฺปาทกฺขเณ ตว มเตนปิ ปจฺจยเวกลฺลเมว ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปุเรชาตนิสฺสยาภาวโต, ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อุปฺปาทกฺขเณ อฏฺ รูปานิ คเหตฺวา ¶ อุฏฺหติ. กสฺมา? อรูปธมฺมานํ อนนฺตราทิปจฺจยวเสน สเวคานํ ปริปุณฺณพลานเมว อุปฺปตฺติโต.
อวิสยตายาติ อคตปุพฺพสฺส คามสฺส อาคนฺตุกสฺส อวิสยภาวโต. อปฺปหุตตายาติ ตตฺถ ตสฺส อนิสฺสรภาวโต. จิตฺตสมุฏฺาน…เป… ิตานีติ อิทํ เยหากาเรหิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ จิตฺตเจตสิกา ปจฺจยา โหนฺติ, เตหิ สพฺเพหิ ปฏิสนฺธิยํ จิตฺตเจตสิกา สมตึสกมฺมชรูปานํ ยถาสมฺภวํ ปจฺจยา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
วฏฺฏมูลนฺติ ตณฺหา อวิชฺชา วุจฺจติ. จุติจิตฺเตน อุปฺปชฺชมานํ รูปํ ตโต ปุริมตเรหิ อุปฺปชฺชมานํ วิย น ภวนฺตเร อุปฺปชฺชตีติ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา อนุปฺปตฺติ วิจาเรตพฺพา.
รูปสฺส ¶ นตฺถิตายาติ รูปานํ นิสฺสรณตฺตา อรูปสฺส, วิราควเสน ปหีนตฺตา อุปฺปาเทตพฺพสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูโปกาเส วา รูปํ อตฺถีติ กตฺวา รูปปจฺจยานํ รูปุปฺปาทนํ โหติ, อรูปํ ปน รูปสฺส โอกาโส น โหตีติ ยสฺมึ รูเป สติ จิตฺตํ อฺํ รูปํ อุปฺปาเทยฺย, ตเทว ตตฺถ นตฺถีติ อตฺโถ. ปุริมรูปสฺสปิ หิ ปจฺจยภาโว อตฺถิ ปุตฺตสฺส ปิติสทิสตาทสฺสนโตติ.
อุตุ ปน ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ สมุฏฺาปนโตติ อธิปฺปาโย. อุตุ นาม เจส ทนฺธนิโรโธติอาทิ อุตุสฺส านกฺขเณ อุปฺปาทเน การณทสฺสนตฺถํ อรูปานํ อุปฺปาทกาลทสฺสนตฺถฺจ วุตฺตํ. ทนฺธนิโรธตฺตา หิ โส ิติกฺขเณ พลวาติ ตทา รูปํ สมุฏฺาเปติ, ตสฺมึ ธรนฺเต เอว ขิปฺปนิโรธตฺตา โสฬสสุ จิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ จิตฺตํ อุตุนา สมุฏฺิเต รูเป ปุน สมุฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมึ ธรนฺเต เอว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺตีติ เอเตน ปน วจเนน ยทิ อุปฺปาทนิโรธกฺขณา ธรมานกฺขเณ เอว คหิตา, ‘‘โสฬสจิตฺตกฺขณายุกํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ โหติ, อถุปฺปาทกฺขณํ อคฺคเหตฺวา นิโรธกฺขโณว คหิโต, ‘‘สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ, สเจ นิโรธกฺขณํ อคฺคเหตฺวา อุปฺปาทกฺขโณ คหิโต, ‘‘อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ, ยทิ ปน อุปฺปาทนิโรธกฺขณา ธรมานกฺขเณ น คหิตา, ‘‘อธิกสตฺตรสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เตสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตร’’นฺติ ¶ ปฏิสนฺธิปิ ตสฺส ธรมานกฺขเณ อุปฺปนฺเนสุ คหิตา, ตสฺมา อุปฺปาทกฺขโณ ธรมานกฺขเณ คหิโตติ นิโรธกฺขเณ อคฺคหิเต อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา วกฺขมานา, คหิเต วา โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา อธิปฺเปตาติ เวทิตพฺพา.
โอชา ขราติ สวตฺถุกํ โอชํ สนฺธายาห. สภาวโต สุขุมาย หิ โอชาย วตฺถุวเสน อตฺถิ โอฬาริกสุขุมตาติ.
จิตฺตฺเจวาติ จิตฺตสฺส ปุพฺพงฺคมตาย วุตฺตํ, ตํสมฺปยุตฺตกาปิ ปน รูปสมุฏฺาปกา โหนฺตีติ. ยถาห ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๑). จิตฺตนฺติ วา จิตฺตุปฺปาทํ คณฺหาติ, น กมฺมเจตนํ วิย เอกธมฺมเมว อวิชฺชมานํ. กมฺมสมุฏฺานฺจ ตํสมฺปยุตฺเตหิปิ สมุฏฺิตํ โหตูติ เจ? น, เตหิ สมุฏฺิตภาวสฺส อวุตฺตตฺตา, อวจนฺจ เตสํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยภาวาภาวโต.
อทฺธานปริจฺเฉทโตติ ¶ กาลปริจฺเฉทโต. ตตฺถ ‘‘สตฺตรส จิตฺตกฺขณา รูปสฺส อทฺธา, รูปสฺส สตฺตรสโม ภาโค อรูปสฺสา’’ติ เอโส อทฺธานปริจฺเฉโท อธิปฺเปโต. ปฏิสนฺธิกฺขเณติ อิทํ นยทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ตโต ปรมฺปิ รูปารูปานํ สหุปฺปตฺติสพฺภาวโต, น ปเนตํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อสหุปฺปตฺติอภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติภงฺคกฺขเณสุปิ รูปุปฺปตฺตึ สยเมว วกฺขตีติ. ผลปฺปตฺตนิทสฺสเนน จ รูปารูปานํ อสมานกาลตํ นิทสฺเสติ, น สหุปฺปาทํ ตทตฺถํ อนารทฺธตฺตา. สหุปฺปาเทน ปน อสมานกาลตา สุขทีปนา โหตีติ ตํทีปนตฺถเมว สหุปฺปาทคฺคหณํ.
ยทิ เอวํ รูปารูปานํ อสมานทฺธตฺตา อรูปํ โอหาย รูปสฺส ปวตฺติ อาปชฺชตีติ เอตสฺสา นิวารณตฺถมาห ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. เอกปฺปมาณาวาติ นิรนฺตรํ ปวตฺตมาเนสุ รูปารูปธมฺเมสุ นิจฺฉิทฺเทสุ อรูปรหิตํ รูปํ, รูปรหิตํ วา อรูปํ นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. อยฺจ กถา ปฺจโวกาเร กมฺมชรูปปฺปวตฺตึ นิพฺพานปฏิภาคนิโรธสมาปตฺติรหิตํ สนฺธาย กตาติ ทฏฺพฺพา. ปเท ปทนฺติ อตฺตโน ปเท เอว ปทํ นิกฺขิปนฺโต วิย ลหุํ ลหุํ อกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. อโนหายาติ ยาว จุติ, ตาว ¶ อวิชหิตฺวา, จุติกฺขเณ ปน สเหว นิรุชฺฌนฺตีติ. ยสฺมิฺจทฺธาเน อฺมฺํ อโนหาย ปวตฺติ, โส จ ปฏิสนฺธิจุติปริจฺฉินฺโน อุกฺกํสโต เอเตสํ อทฺธาติ. เอวนฺติ เอเตน ปุพฺเพ วุตฺตํ อวกํสโต อทฺธาปการํ อิมฺจ สงฺคณฺหาตีติ ทฏฺพฺพํ.
เอกุปฺปาทนานานิโรธโตติ เอตํ ทฺวยมปิ สห คเหตฺวา รูปารูปานํ ‘‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’’ติ เอโก ทฏฺพฺพากาโร วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เอวํ อิโต ปเรสุปิ. ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวาติ ตสฺส จุติจิตฺเตน สห นิรุชฺฌนโต นานานิโรโธ นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ตสฺส ปน เอกุปฺปาโทปิ นตฺถิ เหฏฺา โสฬสเก ปจฺฉิมสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปตฺติวจนโต. ยทิ ปน ยสฺส เอกุปฺปาทนานานิโรธา ทฺเวปิ น สนฺติ, ตํ เปตพฺพํ. สพฺพมฺปิ จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ เปตพฺพํ สิยา, ปจฺฉิมกมฺมชสฺส ปน อุปฺปตฺติโต ปรโต จิตฺเตสุ ปวตฺตมาเนสุ กมฺมชรูปสฺส อนุปฺปตฺติโต วชฺเชตพฺพํ คเหตพฺพฺจ ตทา นตฺถีติ ‘‘ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโต ปุพฺเพ ปน อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชรูปปเวณี อตฺถีติ ตตฺถ ยํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ, ตํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ ‘‘เอกุปฺปาทนานานิโรธ’’นฺติ คเหตฺวา ิติภงฺคกฺขเณสุ อุปฺปนฺนรูปานิ วชฺเชตฺวา เอวํ เอกุปฺปาทนานานิโรธโต เวทิตพฺพาติ โยชนา ¶ กตาติ ทฏฺพฺพา. ตฺหิ รูปํ อรูเปน, อรูปฺจ เตน เอกุปฺปาทนานานิโรธนฺติ. ตตฺถ สงฺขลิกสฺส วิย สมฺพนฺโธ ปเวณีติ กตฺวา อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชิยวจนํ กตํ, อฺถา เอกูนปฺาสกมฺมชิยวจนํ กตฺตพฺพํ สิยา.
นานุปฺปาท…เป… ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีเปตพฺพาติ เตน สุทีปนตฺตา วุตฺตํ. เอเตน หิ นเยน สกฺกา ตโต ปุพฺเพปิ เอกสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนรูปํ อฺสฺสปิ ภงฺคกฺขเณ เอว นิรุชฺฌตีติ ตํ อรูเปน, อรูปฺจ เตน นานุปฺปาทํ เอกนิโรธนฺติ วิฺาตุนฺติ. อุภยตฺถาปิ ปน อฺสฺส จิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส ิติกฺขเณ, ตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ิติกฺขเณ เอว นิรุชฺฌนกํ อรูปฺจ น สงฺคหิตํ, ตํ ‘‘นานุปฺปาทโต นานานิโรธโต’’ติ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. จตุสนฺตติกรูเปน หิ นานุปฺปาทนานานิโรธตาทีปนา เอตฺถ ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส ทสฺสิตตฺตา อทสฺสิตสฺส วเสน นยทสฺสนํ โหตีติ. สมตึสกมฺมชรูเปสุ เอว ิตสฺสปิ คพฺเภ คตสฺส มรณํ อตฺถีติ เตสํ เอว วเสน ปจฺฉิมกมฺปิ โยชิตํ. อมรา นาม ภเวยฺยุํ, กสฺมา? ยถา ฉนฺนํ วตฺถูนํ ปวตฺติ ¶ , เอวํ ตทุปฺปาทกกมฺเมเนว ภวงฺคาทีนฺจ ตพฺพตฺถุกานํ ปวตฺติยา ภวิตพฺพนฺติ. น หิ ตํ การณํ อตฺถิ, เยน ตํ กมฺมเชสุ เอกจฺจํ ปวตฺเตยฺย, เอกจฺจํ น ปวตฺเตยฺยาติ. ตสฺมา อายุอุสฺมาวิฺาณาทีนํ ชีวิตสงฺขารานํ อนูนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อมรา นาม ภเวยฺยุ’’นฺติ.
‘‘อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌติ, ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส ิติกฺขเณ, ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส ภงฺคกฺขเณ นิรุชฺฌตี’’ติ อิทํ อฏฺกถายํ อาคตตฺตา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺตโน ปนาธิปฺปายํ อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นิโรธกฺขเณ, ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนฺจ อุปฺปาทกฺขเณ, ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ ิติกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ ทีเปติเยว. เอวฺจ กตฺวา อทฺธานปริจฺเฉเท ‘‘ตํ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) วุตฺตํ. อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ, กสฺมา? จตุสมุฏฺานิกรูปสฺสปิ สมานายุกตาย ภวิตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา ปน เอเตหิ โยชิตํ, ตถา รูปสฺส เอกุปฺปาทนานานิโรธตา นานุปฺปาเทกนิโรธตา จ นตฺถิเยว.
ยา ปน เอเตหิ รูปสฺส สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตา วุตฺตา, ยา จ อฏฺกถายํ ตติยภาคาธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา, สา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) อตีตารมฺมณาย ¶ จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ปฏิสนฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, ตถา ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, อถาวเสสปฺจจิตฺตเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึ เยวารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทสฺสิเตน โสฬสจิตฺตกฺขณายุกภาเวน วิรุชฺฌติ. น หิ สกฺกา ‘‘ิติกฺขเณ เอว รูปํ อาปาถมาคจฺฉตี’’ติ วตฺตุํ. ตถา หิ สติ น รูปสฺส เอกาทส วา ปฺจทเสว วา จิตฺตกฺขณา อตีตา, อถ โข อติเรกเอกาทสปฺจทสจิตฺตกฺขณา. ตสฺมา ยทิปิ ปฺจทฺวาเร ิติปฺปตฺตเมว รูปํ ปสาทํ ฆฏฺเฏตีติ ยุชฺเชยฺย, มโนทฺวาเร ปน อุปฺปาทกฺขเณปิ อาปาถมาคจฺฉตีติ อิจฺฉิตพฺพเมตํ. น หิ มโนทฺวาเร อตีตาทีสุ กิฺจิ อาปาถํ นาคจฺฉตีติ. มโนทฺวาเร จ เอวํ วุตฺตํ ‘‘เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา, อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗).
โย เจตฺถ จิตฺตสฺส ิติกฺขโณ วุตฺโต, โส จ อตฺถิ นตฺถีติ วิจาเรตพฺโพ. จิตฺตยมเก (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๑๐๒) หิ ‘‘อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชมานนฺติ? ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ, โน ¶ จ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จา’’ติ. ตถา ‘‘นุปฺปชฺชมานํ นุปฺปนฺนนฺติ? ภงฺคกฺขเณ นุปฺปชฺชมานํ, โน จ นุปฺปนฺน’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จา’’ติ. เอวํ ‘‘น นิรุทฺธํ น นิรุชฺฌมานํ, น นิรุชฺฌมานํ น นิรุทฺธ’’นฺติ เอเตสํ ปริปุณฺณวิสฺสชฺชเน ‘‘อุปฺปาทกฺขเณ อนาคตฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘ิติกฺขเณ’’ติ อวจนํ, อติกฺกนฺตกาลวาเร จ ‘‘ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘ิติกฺขเณ’’ติ อวจนํ ิติกฺขณาภาวํ จิตฺตสฺส ทีเปติ. สุตฺเตสุปิ หิ ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ ตสฺเสว (สํ. นิ. ๓.๓๘; อ. นิ. ๓.๔๗) เอกสฺส อฺถตฺตาภาวโต ‘‘ยสฺสา อฺถตฺตํ ปฺายติ, สา สนฺตติิตี’’ติ น น สกฺกา วตฺตุนฺติ, วิชฺชมานํ วา ขณทฺวยสมงฺคึ ิตนฺติ.
โย เจตฺถ จิตฺตนิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาโท วุตฺโต, โส จ วิจาเรตพฺโพ ‘‘ยสฺส วา ปน สมุทยสจฺจํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตีติ? โนติ วุตฺต’’นฺติ (ยม. ๑.สจฺจยมก.๑๓๖). โย จ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ รูปนิโรโธ วุตฺโต, โส จ วิจาเรตพฺโพ ‘‘ยสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส อพฺยากตา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺตีติ? โนติอาทิ (ยม. ๓.ธมฺมยมก.๑๖๓) วุตฺต’’นฺติ. น จ จิตฺตสมุฏฺานรูปเมว สนฺธาย ปฏิกฺเขโป กโตติ สกฺกา วตฺตุํ ¶ จิตฺตสมุฏฺานรูปาธิการสฺส อภาวา, อพฺยากตสทฺทสฺส จ จิตฺตสมุฏฺานรูเปสฺเวว อปฺปวตฺติโต. ยทิ สงฺขารยมเก กายสงฺขารสฺส จิตฺตสงฺขาเรน สหุปฺปาเทกนิโรธวจนโต อพฺยากต-สทฺเทน จิตฺตสมุฏฺานเมเวตฺถ คหิตนฺติ การณํ วเทยฺย, ตมฺปิ อการณํ. น หิ เตน วจเนน อฺรูปานํ จิตฺเตน สหุปฺปาทสหนิโรธปฏิกฺเขโป กโต, นาปิ นานุปฺปาทนานานิโรธานุชานนํ, เนว จิตฺตสมุฏฺานโต อฺสฺส อพฺยากตภาวนิวารณฺจ กตํ, ตสฺมา ตถา อปฺปฏิกฺขิตฺตานานฺุาตานิวาริตาพฺยากตภาวานํ สหุปฺปาทสหนิโรธาทิกานํ กมฺมชาทีนํ เอเตน จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิโรโธ ปฏิกฺขิตฺโตติ น สกฺกา กมฺมชาทีนํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิโรธํ วตฺตุํ. ยมกปาฬิอนุสฺสรเณ จ สติ อุปฺปาทานนฺตรํ จิตฺตสฺส ภิชฺชมานตาติ ตสฺมึ ขเณ จิตฺตํ น จ รูปํ สมุฏฺาเปติ วินสฺสมานตฺตา, นาปิ จ อฺสฺส รูปสมุฏฺาปกสฺส สหายภาวํ คจฺฉตีติ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺโน อุตุ ตทนนฺตรสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. เอวฺจ สติ รูปารูปานํ อาทิมฺหิ สห รูปสมุฏฺาปนโต ปุพฺพาปรโตติ อิทมฺปิ นตฺถิ, อติลหุปริวตฺตฺจ ¶ จิตฺตนฺติ เยน สหุปฺปชฺชติ, ตํ จิตฺตกฺขเณ รูปํ อุปฺปชฺชมานเมวาติ สกฺกา วตฺตุํ. เตเนว หิ ตํ ปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อจิตฺตสมุฏฺานานํ อตฺตนา สห อุปฺปชฺชมานานํ น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตทนนฺตรฺจ ตํ ิติปฺปตฺตนฺติ ตทนนฺตรํ จิตฺตํ ตสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหติ, น สหชาตปจฺจโยติ. ยทิ เอวํ ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ? โน’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๒๘), วตฺตพฺพนฺติ เจ? น, จิตฺตนิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาทารมฺภาภาวโตติ. นิปฺปริยาเยน หิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เอว รูปํ อุปฺปชฺชมานํ โหติ, จิตฺตกฺขเณ ปน อวีติวตฺเต ตํ อตฺตโน รูปสมุฏฺาปนปุเรชาตปจฺจยกิจฺจํ น กโรติ, อรูปฺจ ตสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย น โหตีติ ิติปฺปตฺติวิเสสาลาภํ สนฺธาย ปริยาเยน อิทํ วุตฺตนฺติ.
ตโต ปรํ ปนาติ เอตสฺส ‘‘เอตฺถ ปน ยเทต’’นฺติอาทิกายปิ สงฺคหกถาย นิฏฺิตาย ปุริมกถาย สนฺนิฏฺานโต ‘‘ตโต ปฏฺาย กมฺมชรูปปเวณี น ปวตฺตตี’’ติ เอเตน สห สมฺพนฺโธติ จุติโต ปรนฺติ อตฺโถ.
รูปํ ปน รูเปน สหาติอาทินา ยถา อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตถา เอกุปฺปาเทกนิโรธตา รูปานํ อรูเปหิ, อรูปานํ รูเปหิ จ นตฺถีติ กตฺวา รูปานํ รูเปเหว, อรูปานฺจ อรูเปหิ โยชิตา.
สรีรสฺส ¶ รูปํ อวยวภูตนฺติ อตฺโถ, ฆนภูโต ปฺุชภาโว ฆนปฺุชภาโว, น ติลมุคฺคาทิปฺุชา วิย สิถิลสมฺพนฺธนานํ ปฺุโชติ อตฺโถ. เอกุปฺปาทาทิตาติ ยถาวุตฺเต ตโย ปกาเร อาห.
เหฏฺาติ รูปกณฺฑวณฺณนายํ. ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺตีติ วิการรูปาทีนฺจ รูปกณฺฑวณฺณนายํ ปรินิปฺผนฺนตาปริยาโย วุตฺโตติ กตฺวา วุตฺตํ. ปรินิปฺผนฺนนิปฺผนฺนานํ โก วิเสโสติ? ปุพฺพนฺตาปรนฺตปริจฺฉินฺโน ปจฺจเยหิ นิปฺผาทิโต ติลกฺขณาหโต สภาวธมฺโม ปรินิปฺผนฺโน, นิปฺผนฺโน ปน อสภาวธมฺโมปิ โหติ นามคฺคหณสมาปชฺชนาทิวเสน นิปฺผาทิยมาโนติ. นิโรธสมาปตฺติ ปนาติ เอเตน สพฺพมฺปิ อุปาทาปฺตฺตึ ตเทกเทเสน ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา
ทสฺสเนน ¶ ปหาตพฺพาติอาทินา ปมํ ปหาตพฺพา ปมํ วุตฺตา, ทุติยํ ปหาตพฺพา ทุติยนฺติ อยํ ปหานกฺกโม. อนุปุพฺพปณีตา ภูมิโย อนุปุพฺเพน ววตฺถิตาติ ตาสํ วเสน เทสนาย ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิโก (สํ. นิ. ๕.๓๗๒, ๓๘๒, ๓๘๓; วิภ. ๓๕๕) เอกกฺขเณปิ สติปฏฺานาทิสมฺภวโต เทสนากฺกโมว. ทานกถาทโย อนุปุพฺพุกฺกํสโต กถิตา, อุปฺปตฺติอาทิววตฺถานาภาวโต ปน ทานาทีนํ อิธ เทสนากฺกมวจนํ. เทสนากฺกโมติ จ ยถาวุตฺตววตฺถานาภาวโต อเนเกสํ วจนานํ สห ปวตฺติยา อสมฺภวโต เยน เกนจิ ปุพฺพาปริเยน เทเสตพฺพตฺตา เตน เตนาธิปฺปาเยน เทสนามตฺตสฺเสว กโม วุจฺจติ. อเภเทน หีติ รูปาทีนํ เภทํ อกตฺวา ปิณฺฑคฺคหเณนาติ อตฺโถ. จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูตนฺติ เอกเทเสน รูปกฺขนฺธํ สมุทายภูตํ วทติ. เอวนฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ) ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) จ วจนโต วิฺาณํ อธิปติ.
รูปกฺขนฺเธ ¶ ‘‘สาสวํ อุปาทานิย’’นฺติ วจนํ อนาสวานํ ธมฺมานํ สพฺภาวโต รูปกฺขนฺธสฺส ตํสภาวตานิวตฺตนตฺถํ, น อนาสวรูปนิวตฺตนตฺถนฺติ. อนาสวาว ขนฺเธสุ วุตฺตาติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, อนาสวา ขนฺเธสฺเวว วุตฺตาติ อตฺโถ.
สพฺพสงฺขตานํ สภาเคน เอกชฺฌํ สงฺคโห สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคโห. สภาคสภาเคน หิ สงฺคยฺหมานา สพฺพสงฺขตา ผสฺสาทโย ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. ตตฺถ รุปฺปนาทิสามฺเน สมานโกฏฺาสา ‘‘สภาคา’’ติ เวทิตพฺพา. เตสุ สงฺขตาภิสงฺขรณกิจฺจํ อายูหนรสาย เจตนาย พลวนฺติ สา ‘‘สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตา, อฺเ จ รุปฺปนาทิวิเสสลกฺขณรหิตา ผสฺสาทโย สงฺขตาภิสงฺขรณสามฺเนาติ ทฏฺพฺพา. ผุสนาทโย ปน สภาวา วิสุํ ขนฺธ-สทฺทวจนียา น โหนฺตีติ ธมฺมสภาววิฺุนา ตถาคเตน ผสฺสขนฺธาทโย น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพาติ. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สสฺสตวาทา สสฺสตํ โลกฺจ ปฺเปนฺติ อตฺตานฺจ, สพฺเพ เต อิเมเยว ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ นิสฺสาย ปฏิจฺจ, เอเตสํ วา อฺตร’’นฺติอาทีนฺจ สุตฺตานํ วเสน อตฺตตฺตนิยคาหวตฺถุสฺส เอตปรมตา ทฏฺพฺพา, เอเตน จ วกฺขมานสุตฺตวเสน จ ขนฺเธ เอว นิสฺสาย ¶ ปริตฺตารมฺมณาทิวเสน น วตฺตพฺพา จ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ขนฺธนิพฺพานวชฺชสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. อฺเสฺจ ขนฺธ-สทฺทวจนียานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ สพฺภาวโต น ปฺเจวาติ เอตํ โจทนํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘อฺเสฺจ ตทวโรธโต’’ติ.
ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขตาวเสน เวทนาย อาพาธกตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ราคาทิสมฺปยุตฺตสฺส วิปริณามาทิทุกฺขสฺส อิตฺถิปุริสาทิอาการคฺคาหิกา ตํตํสงฺกปฺปมูลภูตา สฺา สมุฏฺานํ. โรคสฺส ปิตฺตาทีนิ วิย อาสนฺนการณํ สมุฏฺานํ, อุตุโภชนเวสมาทีนิ วิย มูลการณํ นิทานํ. ‘‘จิตฺตสฺสงฺคภูตา เจตสิกา’’ติ จิตฺตํ คิลานูปมํ วุตฺตํ, สุขสฺาทิวเสน เวทนาการณาย เหตุภาวโต เวทนาโภชนสฺส ฉาทาปนโต จ สฺา อปราธูปมา พฺยฺชนูปมา จ, ‘‘ปฺจ วธกา ปจฺจตฺถิกาติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ อาสิวิสูปเม (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วธกาติ วุตฺตา, ‘‘ภาโรติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ ภารสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๒๒) ภาราติ, ‘‘อตีตํปาหํ อทฺธานํ รูเปน ขชฺชึ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺเนน รูเปน ขชฺชามิ, อหฺเจว โข ปน อนาคตํ รูปํ อภินนฺเทยฺยํ, อนาคเตนปาหํ รูเปน ขชฺเชยฺยํ. เสยฺยถาเปตรหิ ขชฺชามี’’ติอาทินา ขชฺชนียปริยาเยน (สํ. นิ. ๓.๗๙) ขาทกาติ ¶ , ‘‘โส อนิจฺจํ รูปํ ‘อนิจฺจํ รูป’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทินา ยมกสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๘๕) อนิจฺจาทิกาติ. ยทิปิ อิมสฺมึ วิภงฺเค อวิเสเสน ขนฺธา วุตฺตา, พาหุลฺเลน ปน อุปาทานกฺขนฺธานํ ตทนฺโตคธานํ ทฏฺพฺพตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาติ.
เทสิตาทิจฺจพนฺธุนาติ เทสิตํ อาทิจฺจพนฺธุนา, เทสิตานิ วา. คาถาสุขตฺถํ อนุนาสิกโลโป, นิการโลโป วา กโต.
คเหตุํ น สกฺกาติ นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
รูเปน สณฺาเนน ผลกสทิโส ทิสฺสมาโน ขรภาวาภาวา ผลกกิจฺจํ น กโรตีติ ‘‘น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุ’’นฺติ อาห. น ตถา ติฏฺตีติ นิจฺจาทิกา น โหตีติ อตฺโถ, ตณฺหาทิฏฺีหิ วา นิจฺจาทิคฺคหณวเสน อุปฺปาทาทิอนนฺตรํ ภิชฺชนโต คหิตาการา หุตฺวา น ติฏฺตีติ อตฺโถ. โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยาติ อิทํ ¶ น คณนปริจฺเฉททสฺสนํ, พหุภาวทสฺสนเมว ปเนตํ ทฏฺพฺพํ. อุทกชลฺลกนฺติ อุทกลสิกํ. ยถา อุทกตเล พินฺทุนิปาตชนิโต วาโต อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา ปุปฺผุฬํ นาม กโรติ, เอวํ วตฺถุมฺหิ อารมฺมณาปาถคมนชนิโต ผสฺโส อนุปจฺฉินฺนํ กิเลสชลฺลํ สหการีปจฺจยนฺตรภาเวน สงฺกฑฺฒิตฺวา เวทนํ นาม กโรติ. อิทฺจ กิเลเสหิ มูลการณภูเตหิ อารมฺมณสฺสาทนภูเตหิ จ นิพฺพตฺตํ วฏฺฏคตเวทนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วา จตฺตาโร ปจฺจยา วุตฺตา, อูเนหิปิ ปน อุปฺปชฺชเตว.
นานาลกฺขโณติ วณฺณคนฺธรสผสฺสาทีหิ นานาสภาโว. มายาย ทสฺสิตํ รูปํ ‘‘มายา’’ติ อาห. ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา อสุภาทิสภาวา เอว กิเลสาสุจิวตฺถุภาวาทิโตติ อสุภาทิโต ทฏฺพฺพา เอว. ตถาปิ กตฺถจิ โกจิ วิเสโส สุขคฺคหณีโย โหตีติ อาห ‘‘วิเสสโต จา’’ติอาทิ. ตตฺถ จตฺตาโร สติปฏฺานา จตุวิปลฺลาสปฺปหานกราติ เตสํ โคจรภาเวน รูปกฺขนฺธาทีสุ อสุภาทิวเสน ทฏฺพฺพตา วุตฺตา.
ขนฺเธหิ น วิหฺติ ปริวิทิตสภาวตฺตา. วิปสฺสโกปิ หิ เตสํ วิปตฺติยํ น ทุกฺขมาปชฺชติ, ขีณาสเวสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เต หิ อายติมฺปิ ขนฺเธหิ น พาธียนฺตีติ ¶ . กพฬีการาหารํ ปริชานาตีติ ‘‘อาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๖-๕๗) วุตฺตตฺตา อชฺฌตฺติกรูเป ฉนฺทราคํ ปชหนฺโต ตสฺส สมุทยภูเต กพฬีการาหาเรปิ ฉนฺทราคํ ปชหตีติ อตฺโถ, อยํ ปหานปริฺา. อชฺฌตฺติกรูปํ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ตสฺส ปจฺจยภูตํ กพฬีการาหารมฺปิ ปริคฺคณฺหาตีติ าตปริฺา. ตสฺส จ อุทยวยานุปสฺสี โหตีติ ตีรณปริฺา จ โยเชตพฺพา. กามราคภูตํ อภิชฺฌํ สนฺธาย ‘‘อภิชฺฌากายคนฺถ’’นฺติ อาห. อสุภานุปสฺสนาย หิ กามราคปฺปหานํ โหตีติ. กามราคมุเขน วา สพฺพโลภปฺปหานํ วทติ. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ วุตฺตตฺตา อาหารปริชานเน วุตฺตนเยน ผสฺสปริชานนฺจ โยเชตพฺพํ.
สุขตฺถเมว ภวปตฺถนา โหตีติ เวทนาย ตณฺหํ ปชหนฺโต ภโวฆํ อุตฺตรติ. สพฺพํ เวทนํ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต อตฺตโน ปเรน อปุพฺพํ ทุกฺขํ อุปฺปาทิตํ, สุขํ ¶ วา วินาสิตํ น ปสฺสติ, ตโต ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิอาฆาตวตฺถุปฺปหานโต พฺยาปาทกายคนฺถํ ภินฺทติ. ‘‘สุขพหุเล สุคติภเว สุทฺธี’’ติ คเหตฺวา โคสีลโควตาทีหิ สุทฺธึ ปรามสนฺโต สุขปตฺถนาวเสเนว ปรามสตีติ เวทนาย ตณฺหํ ปชหนฺโต สีลพฺพตุปาทานํ น อุปาทิยติ. มโนสฺเจตนา สงฺขารกฺขนฺโธว, สฺา ปน ตํสมฺปยุตฺตาติ สฺาสงฺขาเร อนตฺตโต ปสฺสนฺโต มโนสฺเจตนาย ฉนฺทราคํ ปชหติ เอว, ตฺจ ปริคฺคณฺหาติ ตีเรติ จาติ ‘‘สฺํ สงฺขาเร…เป… ปริชานาตี’’ติ วุตฺตํ.
อวิชฺชาย วิฺาเณ ฆนคฺคหณํ โหตีติ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา ตํ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต อวิชฺโชฆํ อุตฺตรติ. โมหพเลเนว สีลพฺพตปรามาสํ โหตีติ ตํ ปชหนฺโต สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถํ ภินฺทติ.
‘‘ยฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ จิตฺตํ อิติปิ มโน อิติปิ วิฺาณํ อิติปิ, ตตฺราสฺสุตวา ปุถุชฺชโน นาลํ นิพฺพินฺทิตุํ, นาลํ วิรชฺชิตุํ, นาลํ วิมุจฺจิตุํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทีฆรตฺตํเหตํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส อชฺโฌสิตํ มมายิตํ ปรามฏฺํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๑) –
วจนโต ¶ วิฺาณํ นิจฺจโต ปสฺสนฺโต ทิฏฺุปาทานํ อุปาทิยตีติ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต ตํ น อุปาทิยตีติ.
กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๔. เอวํ ยา เอกวิธาทินา วุตฺตเวทนานํ ภูมิวเสน ชานิตพฺพตา, ตํ วตฺวา ปุน สมฺปยุตฺตโต ทสฺสิตตาทิชานิตพฺพปฺปการํ วตฺตุมาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. อฏฺวิเธน ตตฺถาติ ตตฺถ-สทฺทสฺส สตฺตวิธเภเทเนว โยชนา ฉพฺพิธเภเทน โยชนาย สติ อฏฺวิธตฺตาภาวโต.
ปูรณตฺถเมว วุตฺโตติ ทสวิธตาปูรณตฺถเมว วุตฺโต, น นววิธเภเท วิย นยทานตฺถํ. กสฺมา? ตตฺถ นยสฺส ทินฺนตฺตา. ภินฺทิตพฺพสฺส หิ เภทนํ นยทานํ, ตฺจ ตตฺถ กตนฺติ. ยถา จ กุสลตฺติโก, เอวํ ‘‘กายสมฺผสฺสชา ¶ เวทนา อตฺถิ สุขา, อตฺถิ ทุกฺขา’’ติ อิทมฺปิ ปูรณตฺถเมวาติ ทีปิตํ โหติ อฏฺวิธเภเท นยสฺส ทินฺนตฺตา.
ปุพฺเพ คหิตโต อฺสฺส คหณํ วฑฺฒนํ คหณวฑฺฒนวเสน, น ปุริมคหิเต ิเต อฺุปจยวเสน. วฑฺฒน-สทฺโท วา เฉทนตฺโถ เกสวฑฺฒนาทีสุ วิยาติ ปุพฺเพ คหิตสฺส อคฺคหณํ ฉินฺทนํ วฑฺฒนํ, ทุกติกานํ อุภเยสํ วฑฺฒนํ อุภยวฑฺฒนํ, อุภยโต วา ปวตฺตํ วฑฺฒนํ อุภยวฑฺฒนํ, ตเทว อุภโตวฑฺฒนกํ, เตน นยนีหรณํ อุภโตวฑฺฒนกนีหาโร. วฑฺฒนกนโย วา วฑฺฒนกนีหาโร, อุภยโต ปวตฺโต วฑฺฒนกนีหาโร อุภโตวฑฺฒนกนีหาโร. ตตฺถ ทุกมูลกติกมูลกอุภโตวฑฺฒนเกสุ ทุวิธติวิธเภทานํเยว หิ วิเสโส. อฺเ เภทา อวิสิฏฺา, ตถาปิ ปฺาปฺปเภทชนนตฺถํ ธมฺมวิตกฺเกน าติวิตกฺกาทินิรตฺถกวิตกฺกนิวารณตฺถํ อิมฺจ ปาฬึ วิตกฺเกนฺตสฺส ธมฺมุปสํหิตปาโมชฺชชนนตฺถํ เอเกกสฺส วารสฺส คหิตสฺส นิยฺยานมุขภาวโต จ ทุวิธติวิธเภทนานตฺตวเสน อิตเรปิ เภทา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา อฺมฺาเปกฺเขสุ ¶ เอกสฺส วิเสเสน อิตเรสมฺปิ วิสิฏฺภาวโต. น เกวลํ เอกวิโธว, อถ โข ทุวิโธ จ. น จ เอกทุวิโธว, อถ โข ติวิโธปิ. นาปิ เอก…เป… นววิโธว, อถ โข ทสวิโธปีติ หิ เอวฺจ เต เภทา อฺมฺาเปกฺขา, ตสฺมา เอโก เภโท วิสิฏฺโ อตฺตนา อเปกฺขิยมาเน, อตฺตานฺจ อเปกฺขมาเน อฺเภเท วิเสเสตีติ ตสฺส วเสน เตปิ วตฺตพฺพตํ อรหนฺตีติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
สตฺตวิเธนาติอาทโย อฺปฺปเภทนิรเปกฺขา เกวลํ พหุปฺปการตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ สพฺเพหิ เตหิ ปกาเรหิ ‘‘พหุวิเธน เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสสี’’ติ วุตฺตํ. มหาวิสโย ราชา วิย สวิสเย ภควาปิ มหาวิสยตาย อปฺปฏิหโต ยถา ยถา อิจฺฉติ, ตถา ตถา เทเสตุํ สกฺโกติ สพฺพฺุตานาวรณาณโยคโตติ อตฺโถ. ทุเก วตฺวา ติกา วุตฺตาติ ติกา ทุเกสุ ปกฺขิตฺตาติ ยุตฺตํ, ทุกา ปน กถํ ติเกสุ ปกฺขิตฺตาติ? ปรโต วุตฺเตปิ ตสฺมึ ตสฺมึ ติเก อเปกฺขกาเปกฺขิตพฺพวเสน ทุกานํ โยชิตตฺตา.
กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนวเสน ลพฺภตีติ วุตฺตํ, อาวชฺชนา ปน จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา น โหติ. น หิ สมานวีถิยํ ปจฺฉิโม ธมฺโม ปุริมสฺส ¶ โกจิ ปจฺจโย โหติ. เย จ วทนฺติ ‘‘อาวชฺชนเวทนาว จกฺขุสงฺฆฏฺฏนาย อุปฺปนฺนตฺตา เอวํ วุตฺตา’’ติ, ตฺจ น ยุตฺตํ. น หิ ‘‘จกฺขุรูปปฏิฆาโต จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติ กตฺถจิ สุตฺเต วา อฏฺกถายํ วา วุตฺตํ. ยทิ โส จ จกฺขุสมฺผสฺโส สิยา, จกฺขุวิฺาณสหชาตาปิ เวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ สา อิธ อฏฺกถายํ น วชฺเชตพฺพา สิยา. ปาฬิยฺจ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนา อตฺถิ อพฺยากตา’’ติ เอตฺถ สงฺคหิตตฺตา ปุน ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย – อาวชฺชนเวทนํ วินา จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อุปฺปตฺติ นตฺถีติ ตทุปฺปาทิกา สา ตปฺปโยชนตฺตา ปริยาเยน จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ วตฺตุํ ยุตฺตาติ, นิปฺปริยาเยน ปน จกฺขุสมฺผสฺสสฺส ปรโตว เวทนา ลพฺภนฺติ.
จตุตฺตึสจิตฺตุปฺปาทวเสนาติ เอตฺถ รูปารูปาวจรานํ อคฺคหณํ เตสํ สยเมว มโนทฺวารภูตตฺตา. สพฺพภวงฺคมโน หิ มโนทฺวารํ, จุติปฏิสนฺธิโย จ ตโต อนฺาติ. อิมสฺมึ ปน จตุวีสติวิธเภเท จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาทิกุสลาทีนํ สมานวีถิยํ ลพฺภมานตา อฏฺกถายํ วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน เอกูนวีสติจตุวีสติกา สงฺขิปิตฺวา อาคตาติ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา ¶ เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ อนุปาทินฺนอนุปาทานิโย อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิโก อวิตกฺกอวิจาโร’’ติอาทินา นานาวีถิคตานํ ลพฺภมานตาย วุตฺตตฺตา กุสลตฺติกสฺสปิ นานาวีถิยํ ลพฺภมานตา โยเชตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน สมานวีถิยํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาทิกตา เอกนฺติกาติ กตฺวา เอตฺถ ลพฺภมานตา ทสฺสิตา, น ปน อสมานวีถิยํ ลพฺภมานตา ปฏิกฺขิตฺตา. เตเนว ‘‘ตานิ สตฺตวิธาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ อาห. น หิ สมานวีถิยํเยว อุปนิสฺสยโกฏิสมติกฺกมภาวนาหิ ลพฺภมานตา โหติ. ติธาปิ จ ลพฺภมานตํ สนฺธาย ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุจฺจติ.
เอตานีติ ยถาทสฺสิตานิ กุสลาทีนิ จิตฺตานิ วทติ, เวทนานิทฺเทเสปิ จ เอตสฺมึ ปุพฺพงฺคมสฺส จิตฺตสฺส วเสน กเถตุํ สุขนฺติ จิตฺตสมฺพนฺโธ กโต. เตเนว ปน จิตฺตานิ สตฺตวิธเภเท ติกภูมิวเสน, จตุวีสติวิธเภเท ทฺวารติกวเสน, ตึสวิธเภเท ทฺวารภูมิวเสน, พหุวิธเภเท ทฺวารติกภูมิวเสน ทีปิตานีติ ‘‘เตสุ ยตฺถ ¶ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กุสลาทีนํ ทีปนา กามาวจราทิภูมิวเสน กาตพฺพา, ตา จ ภูมิโย ตึสวิธเภเท สยเมวาคตา, น จ สตฺตวิธเภเท วิย ทฺวารํ อนามฏฺํ, อติพฺยตฺตา จ เอตฺถ สมานาสมานวีถีสุ ลพฺภมานตาติ ตึสวิเธ…เป… สุขทีปนานิ โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา ปน ตึสวิธสฺมึเยว ตฺวา ทีปยึสุ, นนุ ทฺวารติกภูมีนํ อามฏฺตฺตา พหุวิธเภเท ตฺวา ทีเปตพฺพานีติ? น, ทีเปตพฺพฏฺานาติกฺกมโต. สตฺตวิธเภโท หิ ทฺวารสฺส อนามฏฺตฺตา ทีปนาย อฏฺานํ, จตุวีสติวิธเภเท อามฏฺทฺวารติกา น ภูมิโย อเปกฺขิตฺวา ปิตา, ตึสวิธเภเท อามฏฺทฺวารภูมิโย วุตฺตา. เย จ ปิตา, เต เจตฺถ ติกา อเปกฺขิตพฺพรหิตา เกวลํ ภูมีหิ สห ทีเปตพฺพาว. เตเนทํ ทีปนาย านํ, ตทติกฺกเม ปน านาติกฺกโม โหตีติ.
อุปนิสฺสยโกฏิยาติ เอตฺถ ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) นานาวีถิยํ ปกตูปนิสฺสโย วุตฺโตติ เอกวีถิยํ กุสลาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ตทภาเว อภาวโต ชาติ วิย ชรามรณสฺส อุปนิสฺสยเลเสน ปจฺจโยติ วตฺตุํ ยุชฺเชยฺย, อิธ ปน ‘‘กสิณรูปทสฺสนเหตุอุปฺปนฺนา ปริกมฺมาทิเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา’’ติ วกฺขติ, ตสฺมา นานาวีถิยํ คตานิ เอตานิ จิตฺตานิ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา ลพฺภมานานีติ น อุปนิสฺสยเลโส อุปนิสฺสยโกฏิ, พลวพลวานํ ปน ปริกมฺมาทีนํ อุปนิสฺสยานํ สพฺเพสํ อาทิภูโต ¶ อุปนิสฺสโย อุปนิสฺสยโกฏิ. ‘‘วาลโกฏิ น ปฺายตี’’ติอาทีสุ วิย หิ อาทิ, อวยโว วา โกฏิ. กสิณรูปทสฺสนโต ปภุติ จ กามาวจรกุสลาทีนํ เวทนานํ อุปนิสฺสโย ปวตฺโตติ ตํ ทสฺสนํ อุปนิสฺสยโกฏิ. ปริกมฺมาทีนิ วิย วา น พลวอุปนิสฺสโย ทสฺสนนฺติ ตสฺส อุปนิสฺสยนฺตภาเวน อุปนิสฺสยโกฏิตา วุตฺตา. ฆานาทิทฺวาเรสุ ตีสุ อุปนิสฺสยโกฏิยา ลพฺภมานตฺตาภาวํ วทนฺโต อิธ สมานวีถิ น คหิตาติ ทีเปติ. ทสฺสนสวนานิ วิย หิ กสิณปริกมฺมาทีนํ ฆายนาทีนิ อุปนิสฺสยา น โหนฺตีติ ตทลาโภ ทีปิโตติ. ยทิปิ วาโยกสิณํ ผุสิตฺวาปิ คเหตพฺพํ, ปุริเมน ปน สวเนน วินา ตํ ผุสนํ สยเมว มูลุปนิสฺสโย เยภุยฺเยน น โหตีติ ตสฺส อุปนิสฺสยโกฏิตา น วุตฺตา.
อชฺฌาสเยน ¶ สมฺปตฺติคโต อชฺฌาสยสมฺปนฺโน, สมฺปนฺนชฺฌาสโยติ วุตฺตํ โหติ. วตฺตปฺปฏิวตฺตนฺติ ขุทฺทกฺเจว มหนฺตฺจ วตฺตํ, ปุพฺเพ วา กตํ วตฺตํ, ปจฺฉา กตํ ปฏิวตฺตํ. เอวํ จกฺขุวิฺาณนฺติ อาทิมฺหิ อุปฺปนฺนํ อาห, ตโต ปรํ อุปฺปนฺนานิปิ ปน กสิณรูปทสฺสนกลฺยาณมิตฺตทสฺสนสํเวควตฺถุทสฺสนาทีนิ อุปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติเยวาติ. เตน ตทุปนิสฺสยํ จกฺขุวิฺาณํ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ.
ยถาภูตสภาวาทสฺสนํ อสมเปกฺขนา. ‘‘อสฺมี’’ติ รูปาทีสุ วินิพนฺธสฺส. สภาวนฺตรามสนวเสน ปรามฏฺสฺส, ปรามฏฺวโตติ อตฺโถ. อารมฺมณาธิคหณวเสน อนุ อนุ อุปฺปชฺชนธมฺมตาย ถิรภาวกิเลสสฺส ถามคตสฺส, อปฺปหีนกามราคาทิกสฺส วา. ปริคฺคเห ิโตติ วีมํสาย ิโต. เอตฺถ จ อสมเปกฺขนายาติอาทินา โมหาทีนํ กิจฺเจน ปากเฏน เตสํ อุปฺปตฺติวเสน วิจารณา ทฏฺพฺพา. รูปทสฺสเนน อุปฺปนฺนกิเลสสมติกฺกมวเสน ปวตฺตา รูปทสฺสนเหตุกา โหตีติ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา’’ติ อาห. เอตฺถ จ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส จตุภูมิกเวทนาย อุปนิสฺสยภาโว เอว ปการนฺตเรน กถิโต, ตถา ‘‘ภาวนาวเสนา’’ติ เอตฺถ จ.
กลาปสมฺมสเนน ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิกาย วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา อาทิมฺหิ รูปารมฺมณปริคฺคเหน รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา, ตํมูลกํ วา สพฺพํ สมฺมสนํ อาทิภูเต รูปารมฺมเณ ปวตฺตตีติ กตฺวา อาห ‘‘รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา’’ติ. เอตฺถ จ ¶ นามรูปปริคฺคหาทิ สพฺพํ สมฺมสนํ ภาวนาติ เวทิตพฺพา. รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวาติ จ ยถาวุตฺตจกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณภูตํ รูปารมฺมณํ วุตฺตํ, น ยํ กิฺจิ. อารมฺมเณน หิ จกฺขุสมฺผสฺสํ ทสฺเสตีติ. เอวํ ‘‘รูปารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลส’’นฺติ เอตฺถาปิ เวทิตพฺพํ.
อิทํ โผฏฺพฺพํ กึนิสฺสิตนฺติ จกฺขุทฺวาเร วิย โยชนาย ยถาสมฺภวํ อาโปธาตุยา อฺมฺสฺส จ วเสน มหาภูตนิสฺสิตตา โยเชตพฺพา.
ชาติ…เป… พลวปจฺจโย โหตีติ ยถาวุตฺตานํ ภยโต ทิสฺสมานานํ ชาติอาทีนํ พลวปจฺจยภาเวน เตสํ ภยโต ทสฺสเนน สหชาตสฺส มโนสมฺผสฺสสฺส, ตสฺส วา ทสฺสนสฺส ทฺวารภูตสฺส ภวงฺคมโนสมฺผสฺสสฺส พลวปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ.
ธมฺมารมฺมเณติ ¶ น ปุพฺเพ วุตฺเต ชาติอาทิอารมฺมเณว, อถ โข สพฺพสฺมึ ราคาทิวตฺถุภูเต ธมฺมารมฺมเณ. วตฺถุนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ เวทนาทิสงฺขาตสฺส ธมฺมารมฺมเณกเทสสฺส ปริคฺคหมุเขน ธมฺมารมฺมณปริคฺคหํ ทสฺเสติ.
มโนสมฺผสฺโสติ วิฺาณํ สมฺผสฺสสฺส การณภาเวน คหิตํ, ตเทว อตฺตโน ผลสฺเสว ผลภาเวน วตฺตุํ น ยุตฺตํ การณผลสงฺกรภาเวน โสตูนํ สมฺโมหชนกตฺตาติ อาห ‘‘น หิ สกฺกา วิฺาณํ มโนสมฺผสฺสชนฺติ นิทฺทิสิตุ’’นฺติ, น ปน วิฺาณสฺส มโนสมฺผสฺเสน สหชาตภาวสฺส อภาวา. ยสฺมา วา ยถา ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๐, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๔.๖๐) วจนโต อินฺทฺริยวิสยา วิย วิฺาณมฺปิ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, น ตถา ผสฺโส วิฺาณสฺส, ตสฺมา อินฺทฺริยวิสยา วิย วิฺาณมฺปิ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวจนํ น อรหตีติ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิภาโว น กโตติ เวทิตพฺโพ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๑๕๐. จิตฺตุปฺปาทรูปวเสน ¶ ตํ ตํ สมุทายํ เอเกกํ ธมฺมํ กตฺวา ‘‘ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม’’ติ อาห. รชฺชนฺตสฺสาติอาทีสุ ราคาทโย ฉสุ ทฺวาเรสุ สีลาทโย จ ปฺจ สํวรา ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพา, สมฺมสนํ ปน มโนทฺวาเร เอว. รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อภิชฺฌาโทมนสฺสาทิอุปฺปตฺติ อตฺถีติ ตโต สติสํวโร าณวีริยสํวรา จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพา. ปริคฺคหวจเนน สมฺมสนปจฺจเวกฺขณานิ สงฺคณฺหาติ. เตเยวาติ จตฺตาโร ขนฺธา วุตฺตา.
สมาเน เทสิตพฺเพ เทสนามตฺตสฺส ปริวฏฺฏนํ ปริวฏฺโฏ. ตีสุปิ ปริวฏฺเฏสุ กตฺถจิ กิฺจิ อูนํ อธิกํ วา นตฺถีติ กตฺวา อาห ‘‘เอโกว ปริจฺเฉโท’’ติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อายตนวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๕๒. วิเสสโตติ ¶ ¶ อายตน-สทฺทตฺโถ วิย อสาธารณโต จกฺขาทิสทฺทตฺถโตติ อตฺโถ. อสฺสาเทตีติ จกฺขติ-สทฺโท ‘‘มธุํ จกฺขติ พฺยฺชนํ จกฺขตี’’ติ รสสายนตฺโถ อตฺถีติ ตสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. ‘‘จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๐๙) วจนโต จกฺขุ รูปํ อสฺสาเทติ. สติปิ โสตาทีนํ สทฺทารมฺมณาทิรติภาเว นิรุฬฺหตฺตา จกฺขุมฺหิเยว จกฺขุ-สทฺโท ปวตฺตติ ปทุมาทีสุ ปงฺกชาทิสทฺทา วิยาติ ทฏฺพฺพํ. วิภาเวติ จาติ สทฺทลกฺขณสิทฺธสฺส จกฺขติ-สทฺทสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. จกฺขตีติ หิ อาจิกฺขติ, อภิพฺยตฺตํ วทตีติ อตฺโถ. นยนสฺส จ วทนฺตสฺส วิย สมวิสมวิภาวนเมว อาจิกฺขนนฺติ กตฺวา อาห ‘‘วิภาเวติ จาติ อตฺโถ’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ วิภาวนตฺถตา จกฺขุ-สทฺทสฺส ทฏฺพฺพา. รตฺตทุฏฺาทิกาเลสุ กกณฺฏกรูปํ วิย อุทฺทรูปํ วิย จ วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ รูปํ หทยงฺคตภาวํ รูปยติ รูปมิว ปกาสํ กโรติ, สวิคฺคหมิว กตฺวา ทสฺเสตีติ อตฺโถ. วิตฺถารณํ วา รูป-สทฺทสฺส อตฺโถ, วิตฺถารณฺจ ปกาสนเมวาติ อาห ‘‘ปกาเสตี’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ ปกาสนตฺโถเยว รูป-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, วณฺณวาจกสฺส รูป-สทฺทสฺส รูปยตีติ นิพฺพจนํ, รูปวาจกสฺส รุปฺปตีติ อยํ วิเสโส.
อุทาหรียตีติ วุจฺจตีติ-อตฺเถ วจนเมว คหิตํ สิยา, น จ วจน-สทฺโทเยว เอตฺถ สทฺโท, อถ โข สพฺโพปิ โสตวิฺเยฺโยติ สปฺปตีติ สเกหิ ปจฺจเยหิ สปฺปียติ โสตวิฺเยฺยภาวํ คมียตีติ อตฺโถ. สูจยตีติ อตฺตโน วตฺถุํ คนฺธวเสน อปากฏํ ‘‘อิทํ สุคนฺธํ ¶ ทุคฺคนฺธ’’นฺติ ปกาเสติ, ปฏิจฺฉนฺนํ วา ปุปฺผาทิวตฺถุํ ‘‘เอตฺถ ปุปฺผํ อตฺถิ จมฺปกาทิ, ผลมตฺถิ อมฺพาที’’ติ เปสฺุํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ อตฺโถ. รสคฺคหณมูลกตฺตา อาหารชฺโฌหรณสฺส ชีวิตเหตุมฺหิ อาหารรเส นินฺนตาย ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา วุตฺตา นิรุตฺติลกฺขเณน. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ วิเสเสน กาโย วุตฺโต อนุตฺตริยเหตุภาวํ อนาคจฺฉนฺเตสุ กามราคนิทานกมฺมชนิเตสุ กามราคสฺส จ วิเสสปจฺจเยสุ ¶ ฆานชิวฺหากาเยสุ กายสฺส วิเสสตรสาสวปจฺจยตฺตา. เตน หิ โผฏฺพฺพํ อสฺสาเทนฺตา สตฺตา เมถุนมฺปิ เสวนฺติ. อุปฺปตฺติเทโสติ อุปฺปตฺติการณนฺติ อตฺโถ. กายินฺทฺริยวตฺถุกา วา จตฺตาโร ขนฺธา พลวกามาสวาทิเหตุภาวโต วิเสเสน ‘‘สาสวา’’ติ วุตฺตา, เตสํ อุปฺปชฺชนฏฺานนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยนฺตีติ เย วิเสสลกฺขเณน อายตนสทฺทปรา วตฺตพฺพา, เต จกฺขาทโย ตถา วุตฺตาติ อฺเ มโนโคจรภูตา ธมฺมา สามฺลกฺขเณเนว เอกายตนตฺตํ อุปเนตฺวา วุตฺตา. โอฬาริกวตฺถารมฺมณมนนสงฺขาเตหิ วิสยวิสยิภาเวหิ ปุริมานิ ปากฏานีติ ตถา อปากฏา จ อฺเ มโนโคจรา น อตฺตโน สภาวํ น ธาเรนฺตีติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺโถ ธมฺม-สทฺโทติ.
วายมนฺตีติ อตฺตโน กิจฺจํ กโรนฺติจฺเจว อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ อายตนฺติ เอตฺถาติ อายตนนฺติ อธิกรณตฺโถ อายตน-สทฺโท, ทุติยตติเยสุ กตฺตุอตฺโถ. เต จาติ จิตฺตเจตสิกธมฺเม. เต หิ ตํตํทฺวารารมฺมเณสุ อายนฺติ อาคจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อายาติ. วิตฺถาเรนฺตีติ ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนตฺตา ลีนานิ อปากฏานิ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปสาเรนฺติ ปากฏานิ กโรนฺติ อุปฺปาเทนฺตีติ อตฺโถ.
รุฬฺหีวเสน อายตน-สทฺทสฺสตฺถํ วตฺตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตํ นิสฺสิตตฺตาติ เอตฺถ มโน มโนวิฺาณาทีนํ จิตฺตเจตสิกานํ นิสฺสยปจฺจโย น โหตีติ ตสฺส เนสํ ทฺวารภาโว นิสฺสยภาโวติ ทฏฺพฺโพ. อตฺถโตติ วจนตฺถโต, น วจนียตฺถโต. วจนตฺโถ เหตฺถ วุตฺโต ‘‘จกฺขตี’’ติอาทินา, น วจนียตฺโถ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๙๗) วิยาติ.
ตาวตฺวโตติ อนูนาธิกภาวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ทฺวาทสายตนวินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ ธมฺมสฺส อภาวา อธิกภาวโต โจทนา นตฺถิ, สลกฺขณธารณํ ปน สพฺเพสํ สามฺลกฺขณนฺติ อูนโจทนา ¶ สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จกฺขาทโยปิ หี’’ติอาทิ. อสาธารณนฺติ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อสาธารณํ. สติปิ อสาธารณารมฺมณภาเว จกฺขาทีนํ ทฺวารภาเวน คหิตตฺตา ธมฺมายตเน อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวารารมฺมณภาเวหิ วา อสาธารณตํ สนฺธาย ‘‘อสาธารณ’’นฺติ วุตฺตํ.
เยภุยฺยสหุปฺปตฺติอาทีหิ ¶ อุปฺปตฺติกฺกมาทิอยุตฺติ โยเชตพฺพา. อชฺฌตฺติเกสุ หีติ เอเตน อชฺฌตฺติกภาเวน วิสยิภาเวน จ อชฺฌตฺติกานํ ปมํ เทเสตพฺพตํ ทสฺเสติ. เตสุ หิ ปมํ เทเสตพฺเพสุ ปากฏตฺตา ปมตรํ จกฺขายตนํ เทสิตนฺติ. ตโต ฆานายตนาทีนีติ เอตฺถ พหูปการตฺตาภาเวน จกฺขุโสเตหิ ปุริมตรํ อเทเสตพฺพานิ สห วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา เอเกน กเมน เทเสตพฺพานีติ ฆานาทิกฺกเมน เทสิตานีติ อธิปฺปาโย. อฺถาปิ หิ เทสิเตสุ น น สกฺกา โจเทตุํ, น จ สกฺกา โสเธตพฺพานิ น เทเสตุนฺติ. โคจโร วิสโย เอตสฺสาติ โคจรวิสโย, มโน. กสฺส ปน โคจโร เอตสฺส วิสโยติ? จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนมฺปิ. วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตติ เอเตน จ จกฺขาทิอนนฺตรํ รูปาทิวจนสฺส การณมาห.
ปจฺจยเภโท กมฺมาทิเภโท. นิรยาทิโก อปทาทิคตินานากรณฺจ คติเภโท. หตฺถิอสฺสาทิโก ขตฺติยาทิโก จ นิกายเภโท. ตํตํสตฺตสนฺตานเภโท ปุคฺคลเภโท. ยา จ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ อนนฺตเภทตา วุตฺตา, โสเยว หทยวตฺถุสฺส จ เภโท โหติ. ตโต มนายตนสฺส อนนฺตปฺปเภทตา โยเชตพฺพา ทุกฺขาปฏิปทาทิโต อารมฺมณาธิปติอาทิเภทโต จ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย วิปสฺสนา วุตฺตาติ วิปสฺสนุปคมนฺจ วิฺาณํ คเหตฺวา เอกาสีติเภทตา มนายตนสฺส วุตฺตา นิทฺเทสวเสน. นีลํ นีลสฺเสว สภาคํ, อฺํ วิสภาคํ, เอวํ กุสลสมุฏฺานาทิเภเทสุ โยเชตพฺพํ. เตภูมกธมฺมารมฺมณวเสนาติ ปุพฺเพ วุตฺตํ จกฺขาทิวชฺชํ ธมฺมารมฺมณํ สนฺธาย วุตฺตํ.
สปริปฺผนฺทกิริยาวเสน อีหนํ อีหา. จินฺตนวเสน พฺยาปารกรณํ พฺยาปาโร. ตตฺถ พฺยาปารํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น หิ จกฺขุ รูปาทีนํ เอวํ โหตี’’ติ. อีหํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น จ ตานี’’ติอาทิ. อุภยมฺปิ ปน อีหา จ โหติ พฺยาปาโร จาติ อุปฺปฏิปาฏิวจนํ. ธมฺมตาวาติ สภาโวว, การณสมตฺถตา วา. อีหาพฺยาปารรหิตานํ ทฺวาราทิภาโว ธมฺมตา. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ ยนฺติ เอตสฺส ยสฺมาติ อตฺโถ. ปุริมสฺมึ สมฺภวนวิเสสนํ ยํ-สทฺโท. ‘‘สฺุโ ¶ คาโมติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วจนโต สฺุคาโม วิย ทฏฺพฺพานิ. อนฺนปานสโมหิตนฺติ ¶ คหิเต สฺุคาเม ยฺเทว ภาชนํ ปรามสียติ, ตํ ตํ ริตฺตกํเยว ปรามสียติ, เอวํ ธุวาทิภาเวน คหิตานิ อุปปริกฺขิยมานานิ ริตฺตกาเนว เอตานิ ทิสฺสนฺตีติ. จกฺขาทิทฺวาเรสุ อภิชฺฌาโทมนสฺสุปฺปาทกภาเวน รูปาทีนิ จกฺขาทีนํ อภิฆาตกานีติ วุตฺตานิ. อหิสุสุมารปกฺขิกุกฺกุรสิงฺคาลมกฺกฏา ฉ ปาณกา. วิสมพิลากาสคามสุสานวนานิ เตสํ โคจรา. ตตฺถ วิสมาทิอชฺฌาสเยหิ จกฺขาทีหิ วิสมภาวพิลากาสคามสุสานสนฺนิสฺสิตสทิสุปาทินฺนธมฺมวนภาเวหิ อภิรมิตตฺตา รูปาทีนมฺปิ วิสมาทิสทิสตา โยเชตพฺพา.
หุตฺวา อภาวฏฺเนาติ อิทํ อิตเรสํ จตุนฺนํ อาการานํ สงฺคหกตฺตา วิสุํ วุตฺตํ. หุตฺวา อภาวากาโร เอว หิ อุปฺปาทวยตฺตาการาทโยติ. ตตฺถ หุตฺวาติ เอเตน ปุริมนฺตวิวิตฺตตาปุพฺพกํ มชฺเฌ วิชฺชมานตํ ทสฺเสติ, ตํ วตฺวา อภาววจเนน มชฺเฌ วิชฺชมานตาปุพฺพกํ, อปรนฺเต อวิชฺชมานตํ, อุภเยนปิ สทา อภาโว อนิจฺจลกฺขณนฺติ ทสฺเสติ. สภาววิชหนํ วิปริณาโม, ชราภงฺเคหิ วา ปริวตฺตนํ, สนฺตานวิการาปตฺติ วา. สทา อภาเวปิ จิรฏฺานํ สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ ‘‘ตาวกาลิกโต’’ติ อาห. อุปฺปาทวยฺถตฺตรหิตํ นิจฺจํ, น อิตรถาติ นิจฺจปฏิกฺเขปโต อนิจฺจํ, นิจฺจปฏิปกฺขโตติ อธิปฺปาโย.
ชาติธมฺมตาทีหิ อนิฏฺตา ปฏิปีฬนํ. ปฏิปีฬนฏฺเนาติ จ ยสฺส ตํ ปวตฺตติ, ตํ ปุคฺคลํ ปฏิปีฬนโต, สยํ วา ชราทีหิ ปฏิปีฬนตฺตาติ อตฺโถ. ปริตฺตฏฺิติกสฺสปิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อุปฺปาทาทีหิ อภิณฺหํ สมฺปฏิปีฬนตฺตา ‘‘อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต’’ติ ปุริมํ สามฺลกฺขณํ วิเสเสตฺวา วทติ, ปุคฺคลสฺส ปีฬนโต ทุกฺขมํ. สุขปฏิปกฺขภาวโต ทุกฺขํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ นิวาเรติ, ทุกฺขวจนํ วา อตฺถโต สุขํ ปฏิกฺขิปตีติ อาห ‘‘สุขปฏิกฺเขปโต’’ติ.
นตฺถิ เอตสฺส วสวตฺตนโก, นาปิ อิทํ วสวตฺตนกนฺติ อวสวตฺตนกํ, อตฺตโน ปรสฺมึ ปรสฺส จ อตฺตนิ วสวตฺตนภาโว วา วสวตฺตนกํ, ตํ เอตสฺส นตฺถีติ อวสวตฺตนกํ, อวสวตฺตนกสฺส อวสวตฺตนโก วา อตฺโถ สภาโว อวสวตฺตนกฏฺโ, อิทฺจ สามฺลกฺขณํ. เตนาติ ปรสฺส อตฺตนิ วสวตฺตนากาเรน สฺุํ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ สฺุโตติ เอตสฺเสว ¶ วิเสสนํ ‘‘อสฺสามิกโต’’ติ. อถ วา ‘‘ยสฺมา ¶ วา เอตํ…เป… มา ปาปุณาตู’’ติ เอวํ จินฺตยมานสฺส กสฺสจิ ตีสุ าเนสุ วสวตฺตนภาโว นตฺถิ, สฺุํ ตํ เตน อตฺตโนเยว วสวตฺตนากาเรนาติ อตฺโถ. น อิทํ กสฺสจิ กามการิยํ, นาปิ เอตสฺส กิฺจิ กามการิยํ อตฺถีติ อกามการิยํ. เอเตน อวสวตฺตนตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ.
วิภวคติ วินาสคมนํ. สนฺตติยํ ภวนฺตรุปฺปตฺติเยว ภวสงฺกนฺติคมนํ. สนฺตติยา ยถาปวตฺตาการวิชหนํ ปกติภาววิชหนํ. ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ วุตฺเต จกฺขุอนิจฺจ-สทฺทานํ เอกตฺถตฺตา อนิจฺจานํ เสสธมฺมานมฺปิ จกฺขุภาโว อาปชฺชตีติ เอติสฺสา โจทนาย นิวารณตฺถํ วิเสสสามฺลกฺขณวาจกานฺจ สทฺทานํ เอกเทสสมุทายโพธนวิเสสํ ทีเปตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.
กึ ทสฺสิตนฺติ วิปสฺสนาจารํ กเถนฺเตน กึ ลกฺขณํ ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘กตมา จานนฺท, อนตฺตสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘จกฺขุ อนตฺตา’ติ…เป… ‘ธมฺมา อนตฺตา’ติ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๐) อวิเสเสสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสนา วุตฺตาติ การณภูตานํ จกฺขาทีนํ, ผลภูตานฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ การณผลมตฺตตาย อนตฺตตาย อนตฺตลกฺขณวิภาวนตฺถาย อายตนเทสนาติ อาห ‘‘ทฺวาทสนฺนํ…เป… อนตฺตลกฺขณ’’นฺติ. ยทิปิ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ เอตฺถ ทสฺสิตานิ, เตหิ จ อนตฺตลกฺขณเมว วิเสเสน ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. เวติ จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท สมาปนตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ยถาสมาปิตสฺส อาโรเปตพฺพโทสสฺส นิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ ‘‘จกฺขุ อตฺตา’’ติ เอวํ วาเท สตีติ อตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ วา อิติ-สทฺโท ‘‘อิติ วทนฺตสฺสา’’ติ ปรวาทิสฺส โทสลกฺขณาการนิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ โทสคมนปฺปการนิทสฺสนตฺโถ. รูเป อตฺตนิ ‘‘เอวํ เม รูปํ โหตู’’ติ อตฺตนิเย วิย สามินิทฺเทสาปตฺตีติ เจ? น, ‘‘มม อตฺตา’’ติ คหิตตฺตา. ‘‘มม อตฺตา’’ติ หิ คหิตํ รูปํ วสวตฺติตาย ‘‘เอวํ เม โหตู’’ติ อิจฺฉิยมานฺจ ตเถว ภเวยฺย, อิจฺฉโตปิ หิ ตสฺส รูปสงฺขาโต อตฺตา อวสวตฺติ จาติ. อาพาธายาติ เอวํ ทุกฺเขน. ปฺาปนนฺติ ¶ ปเรสํ าปนํ. อนตฺตลกฺขณปฺาปนสฺส อฺเสํ อวิสยตฺตา อนตฺตลกฺขณทีปกานํ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานฺจ ปฺาปนสฺส อวิสยตา ทสฺสิตา โหติ.
เอวํ ¶ ปน ทุปฺปฺาปนตา เอเตสํ ทุรูปฏฺานตาย โหตีติ เตสํ อนุปฏฺหนการณํ ปุจฺฉนฺโต อาห ‘‘อิมานิ ปนา’’ติอาทิ. านาทีสุ นิรนฺตรํ ปวตฺตมานสฺส เหฏฺา วุตฺตสฺส อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส. ธาตุมตฺตตาย จกฺขาทีนํ สมูหโต วินิพฺภุชฺชนํ นานาธาตุวินิพฺโภโค. ฆเนนาติ จตฺตาริปิ ฆนานิ ฆนภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วทติ. ปฺาเยว สนฺตติวิโกปนาติ ทฏฺพฺพํ. ยาถาวสรสโตติ อวิปรีตสภาวโต. สภาโว หิ รสิยมาโน อวิรทฺธปฏิเวเธน อสฺสาทิยมาโน ‘‘รโส’’ติ วุจฺจติ. อนิจฺจาทีหิ อนิจฺจลกฺขณาทีนํ อฺตฺถ วจนํ รุปฺปนาทิวเสน ปวตฺตรูปาทิคฺคหณโต วิสิฏฺสฺส อนิจฺจาทิคฺคหณสฺส สพฺภาวา. น หิ นามรูปปริจฺเฉทมตฺเตน กิจฺจสิทฺธิ โหติ, อนิจฺจาทโย จ รูปาทีนํ อาการา ทฏฺพฺพา. เต ปนาการา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานา รูปาทีนํ อาการมตฺตาเยวาติ กตฺวา อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ขนฺธารมฺมณตา วุตฺตาติ อธิปฺปายมตฺเต าตุํ ยุตฺตํ, นาติธาวิตุํ. ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ จ คณฺหนฺโต ‘‘ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ น คณฺหาติ, ตถา ทุกฺขาทิคฺคหเณ อิตรสฺสาคหณํ. อนิจฺจาทิคฺคหณานิ จ นิจฺจสฺาทินิวตฺตนกานิ สทฺธาสมาธิปฺินฺทฺริยาธิกานิ ติวิธวิโมกฺขมุขภูตานิ. ตสฺมา เอเตสํ อาการานํ ปริคฺคยฺหมานานํ อฺมฺํ วิเสโส จ อตฺถีติ ตีณิ ลกฺขณานิ วุตฺตานิ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๖๗. นามรูปปริจฺเฉทกถา อภิธมฺมกถาติ สุตฺตนฺเต วิย ปจฺจยยุคฬวเสน อกเถตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อภิฺเยฺยานิ อายตนานิ อพฺโพการโต อภิธมฺมภาชนีเย กถิตานิ. อาคมฺมาติ สพฺพสงฺขาเรหิ นิพฺพินฺทสฺส วิสงฺขารนินฺนสฺส โคตฺรภุนา วิวฏฺฏิตมานสสฺส มคฺเคน สจฺฉิกรเณนาติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยมานฺหิ ตํ อธิคนฺตฺวา อารมฺมณปจฺจยภูตฺจ ¶ ปฏิจฺจ อธิปติปจฺจยภูเต จ ตมฺหิ ปรมสฺสาสภาเวน วินิมุตฺตสงฺขารสฺส จ คติภาเวน ปติฏฺานภูเต ปติฏฺาย ขยสงฺขาโต มคฺโค ราคาทโย เขเปตีติ ตํสจฺฉิกรณาภาเว ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรธคมนาภาวา ‘‘ตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺตี’’ติ ¶ วุตฺตํ. สุตฺตโต มฺุจิตฺวาติ สุตฺตปทานิ มฺุจิตฺวา. อฺโ สุตฺตสฺส อตฺโถ ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๔-๒๙๕) วิย อาหริตพฺโพ, นตฺถิ สุตฺตปเทเหว นีโต อตฺโถติ อตฺโถ.
เอกํ นานนฺติ จุณฺณิตํ ขุทฺทกํ วา กรณํ, จุณฺณีกรณนฺติ อพหุมาเนน วทติ. น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติ กึ เอตฺตกํ ตฺวเมว น ชานาสีติ อตฺโถ. นนุ าเตติ ‘‘ยทิปิ ปุพฺเพ น าตํ, อธุนาปิ าเต นนุ สาธุ โหตี’’ติ อตฺตโน ชานนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิกฺเขปํ กโรนฺตํ นิพนฺธติ. วิภชิตฺวาติ อกฺขรตฺถมตฺเต อฏฺตฺวา ลีนํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อุทฺธริตฺวา นีหริตฺวา กถิตนฺติ อตฺโถ. ราคาทีนํ ขโย นาม อภาวมตฺโต, น จ อภาวสฺส พหุภาโว อตฺถิ อตฺตโน อภาวตฺตาติ วทนฺตสฺส วจนปจฺฉินฺทนตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย’’ติอาทิ. ยทิ หิ ราคกฺขโย โทสาทีนํ ขโย น โหติ, โทสกฺขยาทโย จ ราคาทีนํ ขยา, อฺมฺวิสิฏฺา ภินฺนา อาปนฺนา โหนฺตีติ พหุนิพฺพานตา อาปนฺนา เอว โหติ, อฺมฺวิเสโส จ นาม นิสฺสภาวสฺส นตฺถีติ สสภาวตา จ นิพฺพานสฺส. นว ตณฺหามูลกา ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๓; วิภ. ๙๖๓) อาทโย, เตสุ ปริเยสนาทโย จ ปริเยสนาทิกรกิเลสา ทฏฺพฺพา. ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ นิทานกถายํ วุตฺตํ.
โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพติ อติสุขุมสฺส นิพฺพานสฺส โอฬาริกภาวโทสาปตฺติยา โพเธตพฺโพ, นิคฺคเหตพฺโพ วา. วตฺถุนฺติ อุปาทินฺนกโผฏฺพฺพํ เมถุนํ. อจฺฉาทีนมฺปิ นิพฺพานปฺปตฺติ กสฺมา วุตฺตา, นนุ ‘‘กิเลสานํ อจฺจนฺตํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ อิจฺฉนฺตสฺส กิเลสานํ วินาโส กฺจิ กาลํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ น โหตีติ? น, อภาวสามฺโต. อจฺจนฺตาปวตฺติ หิ กฺจิ กาลฺจ อปฺปวตฺติ อภาโวเยวาติ นตฺถิ วิเสโส. สวิเสสํ วา วทนฺตสฺส อภาวตา อาปชฺชตีติ. ติรจฺฉานคเตหิปิ ปาปุณิตพฺพตฺตา เตสมฺปิ ปากฏํ ปิฬนฺธนํ วิย โอฬาริกํ ถูลํ. เกวลํ ปน กณฺเณ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺโกติ, ปิฬนฺธนโตปิ วา ถูลตฺตา น สกฺกาติ อุปฺปณฺเฑนฺโต วิย นิคฺคณฺหาติ.
นิพฺพานารมฺมณกรเณน ¶ โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสกฺขยปฺปตฺติ ปนสฺส อาปนฺนาติ มฺมาโน อาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยวา’’ติอาทิ. นนุ อารมฺมณกรณมตฺเตน กิเลสกฺขโย อนุปฺปตฺโตติ น สกฺกา ¶ วตฺตุํ. จิตฺตฺหิ อตีตานาคตาทิสพฺพํ อาลมฺเพติ, น นิปฺผนฺนเมวาติ โคตฺรภุปิ มคฺเคน กิเลสานํ ยา อนุปฺปตฺติธมฺมตา กาตพฺพา, ตํ อารพฺภ ปวตฺติสฺสตีติ? น, อปฺปตฺตนิพฺพานสฺส นิพฺพานารมฺมณาณาภาวโต. น หิ อฺธมฺมา วิย นิพฺพานํ, ตํ ปน อติคมฺภีรตฺตา อปฺปตฺเตน อาลมฺพิตุํ น สกฺกา. ตสฺมา เตน โคตฺรภุนา ปตฺตพฺเพน ติกาลิกสภาวาติกฺกนฺตคมฺภีรภาเวน ภวิตพฺพํ, กิเลสกฺขยมตฺตตํ วา อิจฺฉโต โคตฺรภุโต ปุเรตรํ นิปฺผนฺเนน กิเลสกฺขเยน. เตนาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปฺเปสี’’ติ. อปฺปตฺตกิเลสกฺขยารมฺมณกรเณ หิ สติ โคตฺรภุโต ปุเรตรจิตฺตานิปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ.
มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานนฺติ มคฺคสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานํ กตมนฺติ อตฺโถ. มคฺโคติอาทินา ปุริมปุจฺฉาทฺวยเมว วิวรติ.
น จ กิฺจีติ รูปาทีสุ นิพฺพานํ กิฺจิ น โหติ, น จ กทาจิ โหติ, อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพนฺติ วทนฺติ, ตํ อาคมฺม อวิชฺชาตณฺหานํ กิฺจิ เอกเทสมตฺตมฺปิ น โหติ, ตเทว ตํ อาคมฺม กทาจิ น จ โหตีติ อตฺโถ ยุตฺโต.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๑๖๘. น…เป… นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ ยถา สารมฺมณา ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ กิฺจิ อารมฺมณํ กโรนฺติ, เอวํ กิฺจิ อาลมฺพนโต น นวตฺตพฺพโกฏฺาสํ ภชตีติ อตฺโถ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ธาตุวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. ยทิปิ ¶ ¶ ธาตุสํยุตฺตาทีสุ ‘‘ธาตุนานตฺตํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ, กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธาตุนานตฺตํ? จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตู’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๘๕) อฏฺารส ธาตุโย อาคตา, ตา ปน อภิธมฺเม จ อาคตาติ สาธารณตฺตา อคฺคเหตฺวา สุตฺตนฺเตสฺเวว อาคเต ตโย ธาตุฉกฺเก คเหตฺวา สุตฺตนฺตภาชนียํ วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพา ธาตุโยติ อฏฺารสปิ. สฺุเ สภาวมตฺเต นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. อสมฺผุฏฺธาตูติ จตูหิ มหาภูเตหิ อพฺยาปิตภาโวติ อตฺโถ.
๑๗๓. ปถวีธาตุทฺวยนฺติ อฏฺกถายํ ปทุทฺธาโร กโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘ทฺเวย’’นฺติ อาคจฺฉติ, อตฺโถ ปน ยถาวุตฺโตว. ทฺวยนฺติ ปน ปาเ สติ อยมฺปิ อตฺโถ สมฺภวติ. ทฺเว อวยวา เอตสฺสาติ ทฺวยํ, ปถวีธาตูนํ ทฺวยํ ปถวีธาตุทฺวยํ, ทฺวินฺนํ ปถวีธาตูนํ สมุทาโยติ อตฺโถ. ทฺเว เอว วา อวยวา สมุทิตา ทฺวยํ, ปถวีธาตุทฺวยนฺติ. ‘‘ตตฺถ กตมา ปถวีธาตุ? ปถวีธาตุทฺวยํ, เอสา ปถวีธาตู’’ติ สงฺเขเปน วิสฺสชฺเชติ. อตฺถิ อชฺฌตฺติกา อตฺถิ พาหิราติ เอตฺถ อชฺฌตฺติกพาหิร-สทฺทา น อชฺฌตฺติกทุเก วิย อชฺฌตฺติกพาหิรายตนวาจกา, นาปิ อชฺฌตฺตตฺติเก วุตฺเตหิ อชฺฌตฺตพหิทฺธา-สทฺเทหิ สมานตฺถา, อินฺทฺริยพทฺธานินฺทฺริยพทฺธวาจกา ปน เอเต. เตน ‘‘สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิยกชฺฌตฺตาติ จ น ปจฺจตฺตํ อตฺตนิ ชาตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข สพฺพสตฺตสนฺตาเนสุ ชาตตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ วจเนน หิ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนตาย อชฺฌตฺติกภาวํ ทสฺเสติ, น ปาฏิปุคฺคลิกตาย. สภาวาการโตติ อาปาทีหิ วิสิฏฺเน อตฺตโน เอว สภาวภูเตน คเหตพฺพากาเรน.
เกสา ¶ กกฺขฬตฺตลกฺขณาติ กกฺขฬตาธิกตาย วุตฺตา. ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ ปถวีโกฏฺาสมตฺโต สฺุโติ อตฺโถ. มตฺถลุงฺคํ อฏฺิมิฺชคฺคหเณน คหิตนฺติ อิธ วิสุํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิมินาติ ¶ ‘‘เสยฺยถิทํ เกสา’’ติอาทินา. กมฺมํ กตฺวาติ ปโยคํ วีริยํ อายูหนํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. โภคกาเมน กสิยาทีสุ วิย อรหตฺตกาเมน จ อิมสฺมึ มนสิกาเร กมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ. ปุพฺพปลิโพธาติ อาวาสาทโย ทีฆเกสาทิเก ขุทฺทกปลิโพเธ อปรปลิโพธาติ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตา.
วณฺณาทีนํ ปฺจนฺนํ วเสน มนสิกาโร ธาตุปฏิกูลวณฺณมนสิการานํ สาธารโณ ปุพฺพภาโคติ นิพฺพตฺติตธาตุมนสิการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวสาเน เอวํ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ’’ติ อาห. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตาติ การณสฺส จ ผลสฺส จ อพฺยาปารตาย ธาตุมตฺตตํ ทสฺเสติ. อาโภคปจฺจเวกฺขณาทีนมฺปิ เอวเมว อพฺยาปารตา ทฏฺพฺพา. น หิ ตานิ, เตสฺจ การณานิ อาภุชิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา จ อุปฺปชฺชนฺติ กโรนฺติ จาติ. ลกฺขณวเสนาติ ‘‘กกฺขฬํ ขริคต’’นฺติอาทิวจนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
เวกนฺตกํ เอกา โลหชาติ. นาคนาสิกโลหํ โลหสทิสํ โลหวิชาติ หลิทฺทิวิชาติ วิย. ติปุตมฺพาทีหิ มิสฺเสตฺวา กตํ กรเณน นิพฺพตฺตตฺตา กิตฺติมโลหํ. โมรกฺขาทีนิ เอวํนามาเนเวตานิ. สามุทฺทิกมุตฺตาติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, สพฺพาปิ ปน มุตฺตา มุตฺตา เอว.
๑๗๔. อปฺเปตีติ อาโป, อาพนฺธนวเสน เสสภูตตฺตยํ ปาปุณาติ สิเลสตีติ อตฺโถ. ยูสภูโตติ รสภูโต. วกฺกหทยยกนปปฺผาสานิ เตเมนฺตนฺติ เอตฺถ ยกนํ เหฏฺาภาคปูรเณน, อิตรานิ เตสํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรเณน เตเมติ. เหฏฺา เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตมยมาเนติ เตมกเตมิตพฺพานํ อพฺยาปารสามฺนิทสฺสนตฺถาเยว อุปมา ทฏฺพฺพา, น านสามฺนิทสฺสนตฺถาย. สนฺนิจิตโลหิเตน เตเมตพฺพานํ เกสฺจิ เหฏฺา, กสฺสจิ อุปริ ิตตฺหิ สติปฏฺานวิภงฺเค วกฺขตีติ, ยกนสฺส เหฏฺาภาโค ‘‘ิตํ มยิ โลหิต’’นฺติ น ชานาติ, วกฺกาทีนิ ‘‘อมฺเห เตมยมานํ โลหิตํ ิต’’นฺติ น ชานนฺตีติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. ยถา ¶ ปน เภสชฺชสิกฺขาปเท นิยโม อตฺถิ ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีร’’นฺติ, เอวมิธ นตฺถิ.
๑๗๕. เตชนวเสนาติ นิสิตภาเวน ติกฺขภาเวน. สรีรสฺส ปกตึ อติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรทหนวเสน ปวตฺโต ¶ มหาทาโห ปริทาโห. อยเมเตสํ วิเสโส. เยน ชีรียตีติ เอกาหิกาทิชรโรเคน ชีรียตีติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ. สตวารํ ตาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปีติ วทนฺติ. รสโสณิตเมทมํสนฺหารุอฏฺิอฏฺิมิฺชา รสาทโย. เกจิ นฺหารุํ อปเนตฺวา สุกฺกํ สตฺตมธาตุํ อโวจุนฺติ. ปากติโกติ โขภํ อปฺปตฺโต สทา วิชฺชมาโน. เปตคฺคิ มุขโต พหิ นิคฺคโตว อิธ คหิโต.
๑๗๖. วายนวเสนาติ สเวคคมนวเสน, สมุทีรณวเสน วา.
๑๗๗. อิมินา ยสฺมึ อากาเส…เป… ตํ กถิตนฺติ อิทํ กสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺส อกถิตตํ, อชฏากาสสฺส จ กถิตตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.
๑๗๙. สุขทุกฺขานํ ผรณภาโว สรีรฏฺกอุตุสฺส สุขทุกฺขโผฏฺพฺพสมุฏฺานปจฺจยภาเวน ยถาพลํ สรีเรกเทสสกลสรีรผรณสมตฺถตาย วุตฺโต, โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อิฏฺานิฏฺจิตฺตชสมุฏฺาปเนน ตเถว ผรณสมตฺถตาย. เอวํ เอเตสํ สรีรผรณตาย เอกสฺส านํ อิตรํ ปหรติ, อิตรสฺส จ อฺนฺติ อฺมฺเน สปฺปฏิปกฺขตํ ทสฺเสติ, อฺมฺปฏิปกฺขโอฬาริกปฺปวตฺติ เอว วา เอเตสํ ผรณํ. วตฺถารมฺมณานิ จ ปพนฺเธน ปวตฺติเหตุภูตานิ ผรณฏฺานํ ทฏฺพฺพํ, อุภยวโต จ ปุคฺคลสฺส วเสน อยํ สปฺปฏิปกฺขตา ทสฺสิตา สุขทสฺสนียตฺตา.
๑๘๑. กิเลสกามํ สนฺธายาติ ‘‘สงฺกปฺโป กาโม ราโค กาโม’’ติ (มหานิ. ๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘) เอตฺถ วุตฺตํ สงฺกปฺปํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย. โสปิ หิ วิพาธติ อุปตาเปติ จาติ กิเลสสนฺถวสมฺภวโต กิเลสกาโม วิภตฺโต กิเลสวตฺถุสมฺภวโต วา. กามปฏิสํยุตฺตาติ กามราคสงฺขาเตน กาเมน สมฺปยุตฺตา, กามปฏิพทฺธา วา. อฺเสุ จ กามปฏิสํยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ วิตกฺเกเยว กาโมปปโท ธาตุสทฺโท นิรุฬฺโห เวทิตพฺโพ วิตกฺกสฺส ¶ กามปฺปสงฺคปฺปวตฺติยา สาติสยตฺตา. เอส นโย พฺยาปาทธาตุอาทีสุ. ปรสฺส อตฺตโน จ ทุกฺขายนํ วิหึสา. วิหึสนฺตีติ หนฺตุํ อิจฺฉนฺติ.
๑๘๒. อุภยตฺถ อุปฺปนฺโนปิ อภิชฺฌาสํโยเคน กมฺมปถชนนโต อนภิชฺฌากมฺมปถภินฺทนโต จ กามวิตกฺโก ‘‘กมฺมปถเภโท’’ติ วุตฺโต ¶ . พฺยาปาโท ปนาติ พฺยาปาทวจเนน พฺยาปาทวิตกฺกํ ทสฺเสติ. โส หิ พฺยาปาทธาตูติ. ตถา วิหึสาย วิหึสาธาตุยา จ พฺยาปาทวเสน ยถาสมฺภวํ ปาณาติปาตาทิวเสน จ กมฺมปถเภโท โยเชตพฺโพ. เอตฺถาติ ทฺวีสุ ติเกสุ. สพฺพกามาวจรสพฺพกุสลสงฺคาหเกหิ อิตเร ทฺเว ทฺเว สงฺคเหตฺวา กถนํ สพฺพสงฺคาหิกกถา. เอตฺถาติ ปน เอตสฺมึ ฉกฺเกติ วุจฺจมาเน กามธาตุวจเนน กามาวจรานํ เนกฺขมฺมธาตุอาทีนฺจ คหณํ อาปชฺชติ.
ลภาเปตพฺพาติ จกฺขุธาตาทิภาวํ ลภมานา ธมฺมา นีหริตฺวา ทสฺสเนน ลภาเปตพฺพา. จรติ เอตฺถาติ จาโร, กึ จรติ? สมฺมสนํ, สมฺมสนสฺส จาโร สมฺมสนจาโร, เตภูมกธมฺมานํ อธิวจนํ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๘๓. จกฺขุสฺสาติ วิเสสการณํ อสาธารณสามิภาเวน นิทฺทิฏฺํ. ตฺหิ ปุคฺคลนฺตราสาธารณํ นีลาทิสพฺพรูปสาธารณฺจ. วิทหตีติ เอวํ เอวฺจ ตยา ปวตฺติตพฺพนฺติ วินิยุชฺชมานํ วิย อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. วิทหตีติ จ ธาตุอตฺโถ เอว วิสิฏฺโ อุปสคฺเคน ทีปิโตติ วินาปิ อุปสคฺเคน ธาตูติ เอโส สทฺโท ตมตฺถํ วทตีติ ทฏฺพฺโพ. กตฺตุกมฺมภาวกรณอธิกรเณสุ ธาตุปทสิทฺธิ โหตีติ ปฺจปิ เอเต อตฺถา วุตฺตา. สุวณฺณรชตาทิธาตุโย สุวณฺณาทีนํ พีชภูตา เสลาทโย.
อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโยติ เอตฺถาปิ ธาตีติ ธาตูติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ธาตุ-สทฺโท ¶ เอว หิ ธารณตฺโถปิ โหตีติ. กตฺตุอตฺโถปิ จายํ ปุริเมน อสทิโสติ นิสฺสตฺตสภาวมตฺตธารณฺจ ธาตุ-สทฺทสฺส ปธาโน อตฺโถติ วิสุํ วุตฺโต. ธาตุโย วิย ธาตุโยติ เอตฺถ สีห-สทฺโท วิย เกสริมฺหิ นิรุฬฺโห ปุริเสสุ, เสลาวยเวสุ นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท จ จกฺขาทีสุ อุปจริโต ทฏฺพฺโพ. าณฺจ เยฺยฺจ าณเยฺยานิ, เตสํ อวยวา ตปฺปเภทภูตา ธาตุโย าณเยฺยาวยวา. ตตฺถ าณปฺปเภทา ธมฺมธาตุเอกเทโส, เยฺยปฺปเภทา อฏฺารสาปีติ าณเยฺยาวยวมตฺตา ธาตุโย ¶ โหนฺติ. อถ วา าเณน าตพฺโพ สภาโว ธาตุสทฺเทน วุจฺจมาโน อวิปรีตโต าณเยฺโย, น ทิฏฺิอาทีหิ วิปรีตคฺคาหเกหิ เยฺโยติ อตฺโถ. ตสฺส าณเยฺยสฺส อวยวา จกฺขาทโย. วิสภาคลกฺขณาวยเวสุ รสาทีสุ นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท ตาทิเสสุ อฺาวยเวสุ จกฺขาทีสุ อุปจริโต ทฏฺพฺโพ, รสาทีสุ วิย วา จกฺขาทีสุ นิรุฬฺโหว. นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอเตน นิชฺชีวมตฺตปทตฺเถ ธาตุ-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตํ ทสฺเสติ. ฉ ธาตุโย เอตสฺสาติ ฉธาตุโย, โย โลเก ‘‘ปุริโส’’ติ ธมฺมสมุทาโย วุจฺจติ, โส ฉธาตุโร ฉนฺนํ ปถวีอาทีนํ นิชฺชีวมตฺตสภาวานํ สมุทายมตฺโต, น เอตฺถ ชีโว ปุริโส วา อตฺถีติ อตฺโถ.
จกฺขาทีนํ กโม ปุพฺเพ วุตฺโตติ อิธ เอเกกสฺมึ ติเก ติณฺณํ ติณฺณํ ธาตูนํ กมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เหตุผลานุปุพฺพววตฺถานวเสนา’’ติ. เหตุผลานํ อนุปุพฺพววตฺถานํ เหตุผลภาโวว. ตตฺถ เหตูติ ปจฺจโย อธิปฺเปโต. ผลนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนนฺติ อาห ‘‘จกฺขุธาตู’’ติอาทิ. มโนธาตุธมฺมธาตูนฺจ มโนวิฺาณสฺส เหตุภาโว ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ, ทฺวารภูตมโนวเสน วา ตสฺสา มโนธาตุยา.
สพฺพาสํ วเสนาติ ยถาวุตฺตานํ อาภาธาตุอาทีนํ ปฺจตึสาย ธาตูนํ วเสน. อปรมตฺถสภาวสฺส ปรมตฺถสภาเวสุ น กทาจิ อนฺโตคธตา อตฺถีติ อาห ‘‘สภาวโต วิชฺชมานาน’’นฺติ. จนฺทาภาสูริยาภาทิกา วณฺณนิภา เอวาติ อาห ‘‘รูปธาตุเยว หิ อาภาธาตู’’ติ. รูปาทิปฏิพทฺธาติ ราควตฺถุภาเวน คเหตพฺพากาโร สุภนิมิตฺตนฺติ สนฺธาย ‘‘รูปาทโยวา’’ติ อวตฺวา ปฏิพทฺธวจนํ อาห. อสติปิ ราควตฺถุภาเว ‘‘กุสลวิปาการมฺมณา สุภา ธาตู’’ติ ทุติโย วิกปฺโป วุตฺโต. วิหึสาธาตุ เจตนา, ปรวิเหนฉนฺโท วา. อวิหึสา กรุณา.
อุโภปีติ ¶ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย. หีนาทีสุ ปุริมนเยน หีฬิตา จกฺขาทโย หีนา, สมฺภาวิตา ปณีตา, นาติหีฬิตา นาติสมฺภาวิตา มชฺฌิมาติ ขนฺธวิภงฺเค อาคตหีนทุกโตเยว นีหริตฺวา มชฺฌิมา ธาตุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. วิฺาณธาตุ ยทิปิ ฉวิฺาณธาตุวเสน วิภตฺตา, ตถาปิ ‘‘วิฺาณธาตุคฺคหเณน ตสฺสา ปุเรจาริกปจฺฉาจาริกตฺตา มโนธาตุ คหิตาว โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ¶ ‘‘วิฺาณธาตุ…เป… สตฺตวิฺาณสงฺเขโปเยวา’’ติ. อเนเกสํ จกฺขุธาตุอาทีนํ, ตาสุ จ เอเกกิสฺสา นานปฺปการตาย นานาธาตูนํ วเสน อเนกธาตุนานาธาตุโลโก วุตฺโตติ อาห ‘‘อฏฺารสธาตุปฺปเภทมตฺตเมวา’’ติ.
‘‘จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนมโนวิฺาณธาตุเภเทนา’’ติ อฏฺกถายํ ลิขิตํ. ตตฺถ น จกฺขาทีนํ เกวเลน ธาตุ-สทฺเทน สมฺพนฺโธ อธิปฺเปโต วิชานนสภาวสฺส ปเภทวจนโต. วิฺาณธาตุ-สทฺเทน สมฺพนฺเธ กริยมาเน ทฺเว มโนคหณานิ น กตฺตพฺพานิ. น หิ ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย อตฺถีติ. ‘‘จกฺขุ…เป… กายมโนวิฺาณมโนธาตู’’ติ วา วตฺตพฺพํ อตุลฺยโยเค ทฺวนฺทสมาสาภาวโต. อยํ ปเนตฺถ ปาโ สิยา ‘‘จกฺขุ…เป… กายวิฺาณมโนมโนวิฺาณธาตุเภเทนา’’ติ.
ขนฺธายตนเทสนา สงฺเขปเทสนา, อินฺทฺริยเทสนา วิตฺถารเทสนาติ ตทุภยํ อเปกฺขิตฺวา นาติสงฺเขปวิตฺถารา ธาตุเทสนา. อถ วา สุตฺตนฺตภาชนีเย วุตฺตธาตุเทสนา อติสงฺเขปเทสนา, อาภาธาตุอาทีนํ อเนกธาตุนานาธาตุอนฺตานํ วเสน เทเสตพฺพา อติวิตฺถารเทสนาติ ตทุภยํ อเปกฺขิตฺวา อยํ ‘‘นาติสงฺเขปวิตฺถารา’’ติ.
เภรีตลํ วิย จกฺขุธาตุ สทฺทสฺส วิย วิฺาณสฺส นิสฺสยภาวโต. เอตาหิ จ อุปมาหิ นิชฺชีวานํ เภรีตลทณฺฑาทีนํ สมาโยเค นิชฺชีวานํ สทฺทาทีนํ วิย นิชฺชีวานํ จกฺขุรูปาทีนํ สมาโยเค นิชฺชีวานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปวตฺตีติ การณผลานํ ธาตุมตฺตตฺตา การกเวทกภาววิรหํ ทสฺเสติ.
ปุเรจรานุจรา วิยาติ นิชฺชีวสฺส กสฺสจิ เกจิ นิชฺชีวา ปุเรจรานุจรา วิยาติ อตฺโถ. มโนธาตุเยว วา อตฺตโน ขณํ อนติวตฺตนฺตี อตฺตโน ขณํ อนติวตฺตนฺตานํเยว จกฺขุวิฺาณาทีนํ อวิชฺชมาเนปิ ปุเรจรานุจรภาเว ปุพฺพกาลาปรกาลตาย ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพาติ ¶ อตฺโถ. สลฺลมิว สูลมิว ติวิธทุกฺขตาสมาโยคโต ทฏฺพฺโพ. อาสาเยว ทุกฺขํ อาสาทุกฺขํ, อาสาวิฆาตํ ทุกฺขํ วา. สฺา หิ อภูตํ ทุกฺขทุกฺขมฺปิ สุภาทิโต สฺชานนฺตี ตํ อาสํ ตสฺสา จ วิฆาตํ ¶ อาสีสิตสุภาทิอสิทฺธิยา ชเนตีติ. กมฺมปฺปธานา สงฺขาราติ ‘‘ปฏิสนฺธิยํ ปกฺขิปนโต’’ติอาทิมาห. ชาติทุกฺขานุพนฺธนโตติ อตฺตนา นิพฺพตฺติยมาเนน ชาติทุกฺเขน อนุพนฺธตฺตา. ภวปจฺจยา ชาติ หิ ชาติทุกฺขนฺติ. ปทุมํ วิย ทิสฺสมานํ ขุรจกฺกํ วิย รูปมฺปิ อิตฺถิยาทิภาเวน ทิสฺสมานํ นานาวิธุปทฺทวํ ชเนติ. สพฺเพ อนตฺถา ราคาทโย ชาติอาทโย จ วิสภูตา อสนฺตา สปฺปฏิภยา จาติ ตปฺปฏิปกฺขภูตตฺตา อมตาทิโต ทฏฺพฺพา.
มฺุจิตฺวาปิ อฺํ คเหตฺวาวาติ เอเตน มกฺกฏสฺส คหิตํ สาขํ มฺุจิตฺวาปิ อากาเส าตุํ อสมตฺถตา วิย คหิตารมฺมณํ มฺุจิตฺวาปิ อฺํ อคฺคเหตฺวา ปวตฺติตุํ อสมตฺถตาย มกฺกฏสมานตํ ทสฺเสติ. อฏฺิเวธวิทฺโธปิ ทมถํ อนุปคจฺฉนฺโต ทุฏฺสฺโส อสฺสขฬุงฺโก. รงฺคคโต นโฏ รงฺคนโฏ.
๑๘๔. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จาติอาทินา ทฺวารารมฺมเณสุ เอกวจนพหุวจนนิทฺเทสา เอกนานาสนฺตานคตานํ เอกสนฺตานคตวิฺาณปจฺจยภาวโต เอกนานาชาติกตฺตา จ.
สพฺพธมฺเมสูติ เอตฺถ สพฺพ-สทฺโท อธิการวเสน ยถาวุตฺตวิฺาณสงฺขาเต อารมฺมณสงฺขาเต วา ปเทสสพฺพสฺมึ ติฏฺตีติ ทฏฺพฺโพ. มโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเส ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ มโนธาตุ, มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺต’’นฺติ จกฺขุวิฺาณธาตานนฺตรํ มโนธาตุ วิย มโนธาตานนฺตรมฺปิ อุปฺปชฺชติ จิตฺตนฺติ ยาว อฺา มโนธาตุ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตาว ปวตฺตํ สพฺพํ จิตฺตํ เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เอวมฺปิ อตฺโถ ลพฺภติ. เอวฺหิ สติ มโนวิฺาณธาตานนฺตรํ อุปฺปนฺนาย มโนธาตุยา มโนวิฺาณธาตุภาวปฺปสงฺโค น โหติเยว. ปฺจวิฺาณธาตุมโนธาตุกฺกมนิทสฺสนฺหิ ตพฺพิธุรสภาเวน อุปฺปตฺติฏฺาเนน จ ปริจฺฉินฺนสฺส จิตฺตสฺส มโนวิฺาณธาตุภาวทสฺสนตฺถํ, น อนนฺตรุปฺปตฺติมตฺเตนาติ ตพฺพิธุรสภาเว เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ทสฺสนํ ยุชฺชติ. อนุปนีเตปิ เอกตฺเต ตพฺพิธุรสภาเว เอกสฺมึ ทสฺสิเต สามฺวเสน อฺมฺปิ สพฺพํ ตํ สภาวํ ทสฺสิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ปิ-สทฺเทน มโนวิฺาณธาตุสมฺปิณฺฑเน ¶ จ สติ ‘‘มโนวิฺาณธาตุยาปิ สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… ตชฺชา มโนวิฺาณธาตู’’ติ ¶ มโนวิฺาณธาตุคฺคหเณน ภวงฺคานนฺตรํ อุปฺปนฺนํ มโนธาตุจิตฺตํ นิวตฺติตํ โหตีติ เจ? น, ตสฺสา มโนวิฺาณธาตุภาวาสิทฺธิโต. น หิ ยํ โจทียติ, ตเทว ปริหาราย โหตีติ.
มโนธาตุยาปิ มโนวิฺาณธาตุยาปีติ มนทฺวยวจเนน ทฺวินฺนํ อฺมฺวิธุรสภาวตา ทสฺสิตาติ เตเนว มโนธาตาวชฺชนสฺส มโนวิฺาณธาตุภาโว นิวตฺติโตติ ทฏฺพฺโพ. วุตฺโต หิ ตสฺส มโนวิฺาณธาตุวิธุโร มโนธาตุสภาโว ‘‘สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโร อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา. สา สพฺพาปีติ เอตํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ. น หิ ชวนปริโยสานา เอว มโนวิฺาณธาตุ, ตทารมฺมณาทีนิปิ ปน โหนฺติเยวาติ. เอวํ ปฺจวิฺาณธาตุมโนธาตุวิสิฏฺสภาววเสน สพฺพํ มโนวิฺาณธาตุํ ทสฺเสตฺวา ปุน มโนทฺวารวเสน สาติสยํ ชวนมโนวิฺาณธาตุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิมาห. ยทิ ปน ฉนฺนํ ทฺวารานํ วเสน ชวนาวสานาเนว จิตฺตานิ อิธ ‘‘มโนวิฺาณธาตู’’ติ ทสฺสิตานีติ อยมตฺโถ คยฺเหยฺย, จุติปฏิสนฺธิภวงฺคานํ อคฺคหิตตฺตา สาวเสสา เทสนา อาปชฺชติ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตน นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ฉทฺวาริกจิตฺเตหิ วา สมานลกฺขณานิ อฺานิปิ ‘‘มโนวิฺาณธาตู’’ติ ทสฺสิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ปฏิจฺจาติ อาคตฏฺาเนติ เอตฺถ ‘‘มโน จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๕๕) วิสุํ กาตุํ ยุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ จ-สทฺเทน สมฺปิณฺเฑตฺวา อาวชฺชนสฺสปิ จกฺขาทิสนฺนิสฺสิตตากรณํ วิย มนฺจ ปฏิจฺจาติ อาคตฏฺาเน มโนทฺวารสงฺขาตภวงฺคสนฺนิสฺสิตเมว อาวชฺชนํ กาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
ปฺหปุจฺฉกํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธาตุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สจฺจวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
อุทฺเทสวณฺณนา
๑๘๙. สาสนกฺกโมติ ¶ ¶ อริยสจฺจานิ วุจฺจนฺติ อริยสจฺจเทสนา วา. สกลฺหิ สาสนํ ภควโต วจนํ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถีติ สจฺเจสุ กมติ, สีลสมาธิปฺาสงฺขาตํ วา สาสนํ เอเตสุ กมติ, ตสฺมา กมติ เอตฺถาติ กโม, กึ กมติ? สาสนํ, สาสนสฺส กโม สาสนกฺกโมติ สจฺจานิ สาสนปวตฺติฏฺานานิ วุจฺจนฺติ, ตํเทสนา จ ตพฺโพหาเรนาติ.
ตถาติ ตํสภาวาว. อวิตถาติ อมุสาสภาวา. อนฺถาติ อฺาการรหิตา. ทุกฺขทุกฺขตาตํนิมิตฺตตาหิ อนิฏฺตา ปีฬนฏฺโ, ทฺวิธาปิ ปริทหนํ, กิเลสทาหสมาโยโค วา สนฺตาปฏฺโติ อยเมเตสํ วิเสโส. ปุคฺคลหึสนํ วา ปีฬนํ, อตฺตโน เอว ติขิณภาโว สนฺตาปนํ สนฺตาโปติ. เอตฺถ จ ปีฬนฏฺโ ทุกฺขสฺส สรเสเนว อาวิภวนากาโร, อิตเร ยถากฺกมํ สมุทยมคฺคนิโรธทสฺสเนหิ อาวิภวนาการาติ อยํ จตุนฺนมฺปิ วิเสโส. ตตฺรตตฺราภินนฺทนวเสน พฺยาเปตฺวา อูหนํ ราสิกรณํ ทุกฺขนิพฺพตฺตนํ อายูหนํ, สมุทยโต อาคจฺฉตีติ วา อายํ, ทุกฺขํ. ตสฺส อูหนํ ปวตฺตนํ อายูหนํ, สรสาวิภาวนากาโร เอโส. นิททาติ ทุกฺขนฺติ นิทานํ, ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉาเปนฺตํ วิย สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. ทุกฺขทสฺสเนน จายํ นิทานฏฺโ อาวิ ภวติ. สํโยคปลิโพธฏฺา นิโรธมคฺคทสฺสเนหิ, เต จ สํสารสํโยชนมคฺคนิวารณาการา ทฏฺพฺพา.
นิสฺสรนฺติ ¶ เอตฺถ สตฺตา, สยเมว วา นิสฺสฏํ วิสํยุตฺตํ สพฺพสงฺขเตหิ สพฺพุปธิปฏินิสฺสคฺคภาวโตติ นิสฺสรณํ. อยมสฺส สภาเวน อาวิภวนากาโร. วิเวกาสงฺขตามตฏฺา สมุทยมคฺคทุกฺขทสฺสนาวิภวนาการา, สมุทยกฺขยอปฺปจฺจยอวินาสิตา วา. สํสารโต นิคฺคมนํ นิยฺยานํ. อยมสฺส สรเสน ปกาสนากาโร, อิตเร สมุทยนิโรธทุกฺขทสฺสเนหิ. ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสน นิพฺพานาธิคโมว นิพฺพานนิมิตฺตตา ¶ เหตฺวฏฺโ. ปฺาปธานตฺตา มคฺคสฺส นิพฺพานทสฺสนํ, จตุสจฺจทสฺสนํ วา ทสฺสนฏฺโ. จตุสจฺจทสฺสเน กิเลสทุกฺขสนฺตาปวูปสมเน จ อาธิปจฺจํ กโรนฺติ มคฺคงฺคธมฺมา สมฺปยุตฺตธมฺเมสูติ โส มคฺคสฺส อธิปเตยฺยฏฺโติ. วิเสสโต วา อารมฺมณาธิปติภูตา มคฺคงฺคธมฺมา โหนฺติ ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ติ วจนโตติ โส เตสํ อากาโร อธิปเตยฺยฏฺโ. เอวมาทิ อาหาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อภิสมยฏฺโติ อภิสเมตพฺพฏฺโ, อภิสมยสฺส วา วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโ, อภิสมยสฺเสว วา ปวตฺติอากาโร อภิสมยฏฺโ, โส เจตฺถ อภิสเมตพฺเพน ปีฬนาทินา ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺโพ.
กุจฺฉิตํ ขํ ทุกฺขํ. ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ เกวลสฺส อาคม-สทฺทสฺส เอต-สทฺทสฺส จ ปโยเค สํโยคตฺถสฺส อนุปลพฺภนโต สํ-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปลพฺภนโต ‘‘สํโยคํ ทีเปตี’’ติ อาห, เอวํ ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติ เอตฺถาปิ. อย-สทฺโท คติอตฺถสิทฺโธ เหตุ-สทฺโท วิย การณํ ทีเปติ อตฺตโน ผลนิปฺผาทเนน อยติ ปวตฺตติ, เอติ วา เอตสฺมา ผลนฺติ อโยติ, สํโยเค อุปฺปตฺติการณํ สมุทโยติ เอตฺถ วิสุํ ปยุชฺชมานาปิ อุปสคฺค-สทฺทา สธาตุกํ สํโยคตฺถํ อุปฺปาทตฺถฺจ ทีเปนฺติ กิริยาวิเสสกตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อภาโว เอตฺถ โรธสฺสาติ นิโรโธติ เอเตน นิพฺพานสฺส ทุกฺขวิเวกภาวํ ทสฺเสติ. สมธิคเต ตสฺมึ ตทธิคมวโต ปุคฺคลสฺส โรธาภาโว ปวตฺติสงฺขาตสฺส โรธสฺส ปฏิปกฺขภูตาย นิวตฺติยา อธิคตตฺตาติ เอตสฺมิฺจตฺเถ อภาโว เอตสฺมึ โรธสฺสาติ นิโรโธอิจฺเจว ปทสมาโส. ทุกฺขาภาโว ปเนตฺถ ปุคฺคลสฺส, น นิพฺพานสฺเสว. อนุปฺปาโท เอว นิโรโธ อนุปฺปาทนิโรโธ. อายติภวาทีสุ อปฺปวตฺติ, น ปน ภงฺโคติ ภงฺควาจกํ นิโรธ-สทฺทํ นิวตฺเตตฺวา อนุปฺปาทวาจกํ คณฺหาติ. เอตสฺมึ อตฺเถ การเณ ผโลปจารํ กตฺวา นิโรธปจฺจโย นิโรโธติ วุตฺโต. ปฏิปทา จ โหติ ปุคฺคลสฺส ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา. นนุ สา เอว ทุกฺขนิโรธปฺปตฺตีติ ตสฺสา เอว สา ปฏิปทาติ น ยุชฺชตีติ? น, ปุคฺคลาธิคมสฺส เยหิ โส อธิคจฺฉติ, เตสํ ¶ การณภูตธมฺมานฺจ ปตฺติภาเวน ปฏิปทาภาเวน จ วุตฺตตฺตา. สจฺฉิกิริยาสจฺฉิกรณธมฺมานํ อฺตฺตาภาเวปิ หิ ปุคฺคลสจฺฉิกิริยธมฺมภาเวหิ นานตฺตํ กตฺวา นิทฺเทโส ¶ กโต. อถ วา ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา นิฏฺานํ ผลนฺติ ตสฺสา ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทตา ทฏฺพฺพา.
พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺตีติ เอตฺถ ปฏิวิทฺธกาเล ปวตฺตํ พุทฺธาทิโวหารํ ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๔๑๐) วิย ปุริมกาเลปิ อาโรเปตฺวา ‘‘พุทฺธาทโย’’ติ วุตฺตํ. เต หิ พุทฺธาทโย จตูหิ มคฺเคหิ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ. อริยปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ เจตฺถ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อริยา อิมนฺติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ‘‘อิม’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ ตถาคตสฺส อริยตฺตา ตสฺส สจฺจานีติ อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. ตถาคเตน หิ สยํ อธิคตตฺตา, เตเนว ปกาสิตตฺตา, ตโต เอว จ อฺเหิ อธิคมนียตฺตา ตานิ ตสฺส โหนฺตีติ. อริยภาวสิทฺธิโตปีติ เอตฺถ อริยสาธกานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ ปุพฺเพ วิย อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อริยานิ สจฺจานีติปีติ เอตฺถ อวิตถภาเวน อรณียตฺตา อธิคนฺตพฺพตฺตา อริยานิ, อริยโวหาโร วา อยํ อวิสํวาทโก อวิตถรูโป ทฏฺพฺโพ.
พาธนลกฺขณนฺติ เอตฺถ ทุกฺขทุกฺขตนฺนิมิตฺตภาโว พาธนา, อุทยพฺพยปีฬิตตา วา. ภวาทีสุ ชาติอาทิวเสน จกฺขุโรคาทิวเสน จ อเนกธา ทุกฺขสฺส ปวตฺตนเมว ปุคฺคลสฺส สนฺตาปนํ, ตทสฺส กิจฺจํ รโส. ปวตฺตินิวตฺตีสุ สํสารโมกฺเขสุ ปวตฺติ หุตฺวา คยฺหตีติ ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวติ เอตสฺมา ทุกฺขํ ปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺตติ ปุริมภเวน ปจฺฉิมภโว ฆฏิโต สํยุตฺโต หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปภโว. ‘‘เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต นิพฺพตฺตตี ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ (ธ. ป. ๓๓๘) เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทนํ อนุปจฺเฉทกรณํ. ภวนิสฺสรณนิวารณํ ปลิโพโธ. ราคกฺขยาทิภาเวน สพฺพทุกฺขสนฺตตา สนฺติ. อจฺจุติรสนฺติ อจฺจุติสมฺปตฺติกํ. จวนํ วา กิจฺจนฺติ ตทภาวํ กิจฺจมิว โวหริตฺวา อจฺจุติกิจฺจนฺติ อตฺโถ. อจวนฺจ สภาวสฺสาปริจฺจชนํ อวิการตา ทฏฺพฺพา. ปฺจกฺขนฺธนิมิตฺตสฺุตาย อวิคฺคหํ หุตฺวา คยฺหตีติ อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ. อนุสยุปจฺเฉทนวเสน สํสารจารกโต นิคฺคมนูปายภาโว นิยฺยานํ. นิมิตฺตโต ปวตฺตโต จ จิตฺตสฺส วุฏฺานํ หุตฺวา คยฺหตีติ วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ.
อสุวณฺณาทิ ¶ ¶ สุวณฺณาทิ วิย ทิสฺสมานํ มายาติ วตฺถุสพฺภาวา ตสฺสา วิปรีตตา วุตฺตา. อุทกํ วิย ทิสฺสมานา ปน มรีจิ อุปคตานํ ตุจฺฉา โหติ, วตฺถุมตฺตมฺปิ ตสฺสา น ทิสฺสตีติ วิสํวาทิกา วุตฺตา. มรีจิมายาอตฺตานํ วิปกฺโข ภาโว ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว. อริยาณสฺสาติ อวิตถคาหกสฺส าณสฺส, เตน ปฏิเวธปจฺจเวกฺขณานิ คยฺหนฺติ, เตสฺจ โคจรภาโว ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาอารมฺมณภาโว จ ทฏฺพฺโพ. อคฺคิลกฺขณํ อุณฺหตฺตํ. ตฺหิ กตฺถจิ กฏฺาทิอุปาทานเภเทปิ วิสํวาทกํ วิปรีตํ อภูตํ วา กทาจิ น โหติ. ‘‘พฺยาธิธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๙; ๕.๕๗) เอตฺถ วุตฺตา ชาติอาทิกา โลกปกติ. มนุสฺสานํ อุทฺธํ ทีฆตา, เอกจฺจานํ ติรจฺฉานานํ ติริยํ ทีฆตา, วุทฺธินิฏฺํ ปตฺตานํ ปุน อวฑฺฒนํ เอวมาทิกา จาติ วทนฺติ. ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวสุ ปจฺฉิโม ตถตา, ปโม อวิตถตา, มชฺฌิโม อนฺถตาติ อยเมเตสํ วิเสโส.
ทุกฺขา อฺํ น พาธกนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตณฺหาปิ ชาติ วิย ทุกฺขนิมิตฺตตาย พาธิกาติ? น, พาธกปภวภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา. ชาติอาทีนํ วิย วา ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาโว ทุกฺขทุกฺขตา จ พาธกตา, น ทุกฺขสฺส ปภวกตาติ นตฺถิ ตณฺหาย ปภวกภาเวน คหิตาย พาธกตฺตปฺปสงฺโค. เตนาห ‘‘ทุกฺขา อฺํ น พาธก’’นฺติ. พาธกตฺตนิยาเมนาติ ทุกฺขํ พาธกเมว, ทุกฺขเมว พาธกนฺติ เอวํ ทฺวิธาปิ พาธกตฺตาวธารเณนาติ อตฺโถ. ตํ วินา นาฺโตติ สติปิ อวเสสกิเลสอวเสสากุสลสาสวกุสลมูลาวเสสสาสวกุสลธมฺมานํ ทุกฺขเหตุภาเว น ตณฺหาย วินา เตสํ ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ, เตหิ ปน วินาปิ ตณฺหาย ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ กุสเลหิ วินา อกุสเลหิ, รูปาวจราทีหิ วินา กามาวจราทีหิ จ ตณฺหาย ทุกฺขนิพฺพตฺตกตฺตา. ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตาติ ทฺวิธาปิ นิยเมน ตจฺโฉ นิยฺยานภาโว เอตสฺส, น มิจฺฉามคฺคสฺส วิย วิปรีตตาย, โลกิยมคฺคสฺส วิย วา อเนกนฺติกตาย อตจฺโฉติ ตจฺฉนิยฺยานภาโว, มคฺโค. ตสฺส ภาโว ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตํ, ตสฺมา ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา. สพฺพตฺถ ทฺวิธาปิ นิยเมน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว วุตฺโตติ อาห ‘‘อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาสา’’ติอาทิ.
สจฺจ-สทฺทสฺส ¶ สมฺภวนฺตานํ อตฺถานํ อุทฺธรณํ, สมฺภวนฺเต วา อตฺเถ วตฺวา อธิปฺเปตตฺถสฺส อุทฺธรณํ อตฺถุทฺธาโร. วิรติสจฺเจติ มุสาวาทวิรติยํ. น หิ อฺวิรตีสุ สจฺจ-สทฺโท นิรุฬฺโหติ. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ คหิตา ทิฏฺิ ทิฏฺิสจฺจํ. ‘‘อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ ¶ , ตทริยา สจฺจโต วิทู’’ติ (สุ. นิ. ๗๖๓) อโมสธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺถสจฺจํ วุตฺตํ. ตสฺส ปน ตํสมฺปาปกสฺส จ มคฺคสฺส ปชานนา ปฏิเวโธ อวิวาทการณนฺติ ทฺวยมฺปิ ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถิ, ยสฺมึ ปชา โน วิวเท ปชาน’’นฺติ (สุ. นิ. ๘๙๐; มหานิ. ๑๑๙) มิสฺสา คาถาย สจฺจนฺติ วุตฺตํ.
เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอเตน ชาติอาทีนํ ทุกฺขอริยสจฺจภาเว อวิปรีตตํ ทสฺเสติ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ อิมินา ทุกฺขอริยสจฺจภาวสฺส ชาติอาทีสุ นิยตตํ. สเจปิ กถฺจิ โกจิ เอวํจิตฺโต อาคจฺเฉยฺย, ปฺาปเน ปน สหธมฺเมน ปฺาปเน อตฺตโน วาทสฺส จ ปฺาปเน สมตฺโถ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อหเมตํ…เป… ปฺาเปสฺสามีติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ชาติอาทีนํ อนฺถตา อฺสฺส จ ตถาภูตสฺส อภาโวเยเวตฺถ านาภาโว. สเจปิ โกจิ อาคจฺเฉยฺย, อาคจฺฉตุ, านํ ปน นตฺถีติ อยเมตฺถ สุตฺตตฺโถ. เอส นโย ทุติยสุตฺเตปิ. ตตฺถ ปน สมฺปตฺตตา ปจฺจกฺขตา จ ปมตา, ตํนิมิตฺตตา ทุติยตา, ตทุปสมตา ตติยตา, ตํสมฺปาปกตา จตุตฺถตาติ ทฏฺพฺพา.
นิพฺพุติกาเมน ปริชานนาทีหิ อฺํ กิฺจิ กิจฺจํ กาตพฺพํ นตฺถิ, ธมฺมาณกิจฺจํ วา อิโต อฺํ นตฺถิ, ปริฺเยฺยาทีนิ จ เอตปฺปรมาเนวาติ จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตณฺหาย อาทีนวทสฺสาวีนํ วเสน ‘‘ตณฺหาวตฺถุอาทีนํ เอตํปรมตายา’’ติ วุตฺตํ. ตถา อาลเย ปฺจกามคุณสงฺขาเต, สกลวตฺถุกามสงฺขาเต, ภวตฺตยสงฺขาเต วา ทุกฺเข โทสทสฺสาวีนํ วเสน ‘‘อาลยาทีนํ เอตํปรมตายา’’ติ วุตฺตํ.
สเหตุเกน ทุกฺเขนาติ เอเตน ทุกฺขสฺส อพฺโพจฺฉินฺนตาทสฺสเนน อติสํเวควตฺถุตํ ทสฺเสติ.
น ¶ ปฏิเวธาณํ วิย สกิเทว พุชฺฌติ, อถ โข อนุ อนุ พุชฺฌนโต อนุโพโธ, อนุสฺสวาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติอนุคโต วา โพโธ อนุโพโธ. น หิ โส ปจฺจกฺขโต พุชฺฌติ, อนุสฺสวาทิวเสน ปน กปฺเปตฺวา คณฺหาตีติ. กิจฺจโตติ ปริชานนาทิโต. ตํกิจฺจกรเณเนว หิ ตานิ ตสฺส ปากฏานิ. วิวฏฺฏานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรหิ ปติลียมานมานสสฺส อุปฺปชฺชมานํ มคฺคาณํ วิสงฺขารํ ทุกฺขนิสฺสรณํ อารมฺมณํ กตฺวา ¶ ทุกฺขํ ปริจฺฉินฺทติ, ทุกฺขคตฺจ ตณฺหํ ปชหติ, นิโรธฺจ ผุสติ อาทิจฺโจ วิย ปภาย, สมฺมาสงฺกปฺปาทีหิ สห อุปฺปนฺนํ ตํ มคฺคํ ภาเวติ, น จ สงฺขาเร อมฺุจิตฺวา ปวตฺตมาเนน าเณน เอตํ สพฺพํ สกฺกา กาตุํ นิมิตฺตปวตฺเตหิ อวุฏฺิตตฺตา, ตสฺมา เอตานิ กิจฺจานิ กโรนฺตํ ตํ าณํ ทุกฺขาทีนิ วิภาเวติ ตตฺถ สมฺโมหนิวตฺตเนนาติ ‘‘จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ.
ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตีติ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เจ? น, ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกทสฺสิโน อฺตฺตยทสฺสิตาวิจารณาย ตสฺสา สาธนตฺถํ ควํปติตฺเถเรน อิมสฺส สุตฺตสฺส อาหริตตฺตา ปจฺเจกฺจ สจฺเจสุ ทิสฺสมาเนสุ อฺตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา. อฺถา อนุปุพฺพาภิสมเย ปุริมทิฏฺสฺส ปจฺฉา อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสิโน ทุกฺขาทิทสฺสนตา น โยเชตพฺพา สิยาติ. สุทฺธสงฺขารปฺุชมตฺตทสฺสนโต สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวาเรติ. ‘‘โลกสมุทยํ โข, กจฺจาน, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต ยา โลเก นตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ วจนโต สมุทยทสฺสนํ เหตุผลปฺปพนฺธาวิจฺเฉททสฺสนวเสน อุจฺเฉททิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวตฺเตติ. ‘‘โลกนิโรธํ โข…เป… ปสฺสโต ยา โลเก อตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕) วจนโต นิโรธทสฺสนํ เหตุนิโรธา ผลนิโรธทสฺสนวเสน สสฺสตทิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวาเรติ. อตฺตการสฺส ปจฺจกฺขทสฺสนโต มคฺคทสฺสเนน ‘‘นตฺถิ อตฺตกาเร, นตฺถิ ปรกาเร, นตฺถิ ปุริสกาเร’’ติอาทิกํ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) อกิริยทิฏฺิปริยุฏฺานํ ปชหติ. ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ…เป… วิสุทฺธิยา, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติอาทิกา อเหตุกทิฏฺิ จ อิธ อกิริยทิฏฺิคฺคหเณน คหิตาติ ทฏฺพฺพา. สาปิ หิ วิสุทฺธิมคฺคทสฺสเนน ปหียตีติ.
ทุกฺขาณํ ¶ สมุทยผลสฺส ทุกฺขสฺส อธุวาทิภาวํ ปสฺสตีติ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. ‘‘อิสฺสโร โลกํ ปวตฺเตติ นิวตฺเตติ จา’’ติ อิสฺสรการณิโน วทนฺติ, ปธานโต อาวิ ภวติ, ตตฺเถว จ ปติลียตีติ ปธานการณิโน. ‘‘กาลวเสเนว ปวตฺตติ นิวตฺตติ จา’’ติ กาลวาทิโน. ‘‘สภาเวเนว สมฺโภติ วิโภติ จา’’ติ สภาววาทิโน. อาทิ-สทฺเทน อณูหิ โลโก ปวตฺตติ, สพฺพํ ปุพฺเพกตเหตูติ เอวมาทิ อการณปริคฺคโห ทฏฺพฺโพ. รามุทกาฬาราทีนํ วิย อรูปโลเก, นิคณฺาทีนํ วิย โลกถุปิกาย อปวคฺโค โมกฺโขติ คหณํ ¶ . อาทิ-สทฺเทน ปธานสฺส อปฺปวตฺติ, คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานํ, พฺรหฺมุนา สโลกตา, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอวมาทิคฺคหณฺจ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ คุณวิยุตฺตสฺสาติ พุทฺธิสุขทุกฺขอิจฺฉาโทสปยตฺตธมฺมาธมฺมสงฺขาเรหิ นวหิ อตฺตคุเณหิ วิปฺปยุตฺตสฺสาติ กณาทภกฺขวาโท. อินฺทฺริยตปฺปนปุตฺตมุขทสฺสนาทีหิ วินา อปวคฺโค นตฺถีติ คเหตฺวา ตถาปวตฺตนํ กามสุขลฺลิกานุโยโค.
อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ กามภววิภวตณฺหาวเสน ทฺวาทส ติกา ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค วา อาคตนเยน กาลวิภาคํ อนามสิตฺวา วุตฺตานิ. วีมํสิทฺธิปาทาทโย โพธิปกฺขิยา กิจฺจนานตฺเตน วุตฺตา, อตฺถโต เอกตฺตา สมฺมาทิฏฺิมุเขน ตตฺถ อนฺโตคธา. ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโยติ โลกิยกฺขเณ อโลภเมตฺตากรุณาสมฺปโยควเสน ภินฺนา มคฺคกฺขเณ โลภพฺยาปาทวิหึสาสมุจฺเฉทวเสน ตโยติ เอโกปิ วุตฺโต. เอส นโย สมฺมาวาจาทีสุ. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตานํ ปน ภาเว สมฺมาอาชีวสมฺภวโต เตน เตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภวนฺตเรปิ ชีวิตเหตุปิ อริเยหิ อวีติกฺกมนียตฺตา อริยกนฺตานํ สมฺมาวาจาทิสีลานํ คหเณน เยน สทฺธาหตฺเถน ตานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ, โส สทฺธาหตฺโถ คหิโตเยว โหตีติ ตโต อนฺานิ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลานิ ตตฺถ อนฺโตคธานิ โหนฺติ. เตสํ อตฺถิตายาติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทานํ อตฺถิตาย สีลสฺส อตฺถิภาวโต ติวิเธนปิ สีเลน เต ตโยปิ คหิตาติ ตตฺถ อนฺโตคธา. จิตฺตสมาธีติ จิตฺติทฺธิปาทํ วทติ. ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) หิ จิตฺตมุเขน สมาธิ ¶ วุตฺโตติ สมาธิมุเขน จิตฺตมฺปิ วตฺตพฺพตํ อรหติ. จิตฺติทฺธิปาทภาวนาย ปน สมาธิปิ อธิมตฺโต โหตีติ วีมํสิทฺธิปาทาทิวจนํ วิย จิตฺติทฺธิปาทวจนํ อวตฺวา อิธ ‘‘จิตฺตสมาธี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; อ. นิ. ๓.๙๖; ๑๑.๑๒) วจนโต สมาธิอุปการา ปีติปสฺสทฺธิโย, ตสฺมา สมาธิคฺคหเณน คหิตา, อุเปกฺขา ปน สมาธิอุปการกโต ตํสทิสกิจฺจโต จ, ตสฺมา สมฺมาสมาธิวเสน เอเตสํ อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา.
ภาโร วิย วิฆาตกตฺตา. ทุพฺภิกฺขมิว พาธกตฺตา. ‘‘นิพฺพานปรมํ สุข’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๑๕, ๒๑๗; ธ. ป. ๒๐๓, ๒๐๔) สุขภาวโต ¶ สุภิกฺขมิว. อนิฏฺภาวโต สาสงฺกสปฺปฏิภยโต จ ทุกฺขํ เวรีวิสรุกฺขภยโอริมตีรูปมํ.
ตถตฺเถนาติ ตถสภาเวน, ปริฺเยฺยภาเวนาติ อตฺโถ. เอเตน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา ทุกฺขํ, น อริยสจฺจํ, สิยา อริยสจฺจํ, น ทุกฺขนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อริยสจฺจ-สทฺทปรา หิ ทุกฺขาทิสทฺทา ปริฺเยฺยาทิภาวํ วทนฺติ. เตเนว อริยสจฺจ-สทฺทานเปกฺขํ ทุกฺข-สทฺทํ สนฺธาย มคฺคสมฺปยุตฺตสามฺผลธมฺมานํ อาทิปทสงฺคโห วุตฺโต, ตทเปกฺขํ สนฺธาย จตุตฺถปทสงฺคโห. สมุทยาทีสุ อวเสสกิเลสาทโย สมุทโย, น อริยสจฺจํ, สงฺขารนิโรโธ นิโรธสมาปตฺติ จ นิโรโธ, น อริยสจฺจํ, อริยมคฺคโต อฺานิ มคฺคงฺคานิ มคฺโค, น อริยสจฺจนฺติ อิมินา นเยน โยชนา กาตพฺพา. ทุกฺขํ เวทนียมฺปิ สนฺตํ เวทกรหิตํ, เกวลํ ปน ตสฺมึ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺตมาเน ทุกฺขํ เวเทตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. เอวํ อิตเรสุปิ.
กิริยาว วิชฺชตีติ สมุทยเมว วทติ, ตสฺส วา ทุกฺขปจฺจยภาวํ. มคฺโค อตฺถีติ วตฺตพฺเพ ‘‘มคฺคมตฺถี’’ติ โอการสฺส อภาโว กโตติ ทฏฺพฺโพ. คมโกติ คนฺตา. สาสวตา อสุภตาติ กตฺวา นิโรธมคฺคา สุภา เอว. ทุกฺขาทีนํ ปริยาเยน สมุทยาทิภาโว จ อตฺถิ, น ปน นิโรธภาโว, นิโรธสฺส วา ทุกฺขาทิภาโวติ น อฺมฺสมงฺคิตาติ อาห ‘‘นิโรธสฺุานิ วา’’ติอาทิ. สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโตติ โปโนพฺภวิกาย ตณฺหาย ปุนพฺภวสฺส อภาวโต. ยถา วา ปกติวาทีนํ วิการาวิภาวโต ปุพฺเพ ปฏิปฺปลีนา จ ปกติภาเวเนว ติฏฺนฺติ, น เอวํ ¶ สมุทยสมฺปยุตฺตมฺปิ ทุกฺขํ สมุทยภาเวน ติฏฺตีติ อาห ‘‘สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต’’ติ. ยถา อวิภตฺเตหิ วิกาเรหิ มหนฺตา วิเสสินฺทฺริยภูตวิเสเสหิ ปกติภาเวเนว ิเตหิ ปกติ สคพฺภา ปกติวาทีนํ, เอวํ น ผเลน สคพฺโภ เหตูติ อตฺโถ. ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายาติ เอตํ วิวรนฺโต อาห ‘‘น เหตุสมเวตํ เหตุผล’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อิธ ตนฺตูสุ ปโฏ, กปาเลสุ ฆโฏ, พิรเณสุ กโฏ, ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุกนฺติอาทินา อิธ พุทฺธิโวหารชนโก อวิสุํ สิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สมวาโย, เตน สมวาเยน การเณสุ ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุกํ ผลํ สมเวตํ เอกีภูตมิว สมฺพนฺธํ, ตีสุ อณูสุ ติอณุกนฺติ เอวํ มหาปถวิมหาอุทกมหาอคฺคิมหาวาตกฺขนฺธปริยนฺตํ ผลํ อตฺตโน การเณสุ สมเวตนฺติ สมวายวาทิโน วทนฺติ. เอวํ ปน วทนฺเตหิ อปริมาเณสุ การเณสุ มหาปริมาณํ ¶ เอกํ ผลํ สมเวตํ อตฺตโน อนฺโตคเธหิ การเณหิ สคพฺภํ อสฺุนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธ สมวายาภาวา ผเล เหตุ นตฺถีติ เหตุสฺุํ ผลนฺติ อตฺโถ.
ปวตฺติภาวโตติ สํสารสฺส ปวตฺติภาวโต. จตุอาหารเภทโตติ อิมินา จตฺตาโร อาหารเภเท เตหิ ภินฺเน ตปฺปจฺจยธมฺมเภเท จ สงฺคณฺหาติ. รูปาภินนฺทนาทิเภโท รูปาทิขนฺธวเสน, อารมฺมณวเสน วา. อุปาทาเนหิ อุปาทียตีติ อุปาทิ, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. นิพฺพานฺจ ตํนิสฺสรณภูตํ ตสฺส วูปสโม ตํสนฺตีติ กตฺวา ตสฺส ยาว ปจฺฉิมํ จิตฺตํ, ตาว เสสตํ, ตโต ปรฺจ อนวเสสตํ อุปาทาย ‘‘สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตู’’ติ ทฺวิธา โวหรียตีติ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป วิปสฺสนา, อิตเร สมโถ’’ติ วทนฺติ. สีลมฺปิ หิ สมถสฺส อุปการกตฺตา สมถคฺคหเณน คยฺหตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. อถ วา ยานทฺวยวเสน ลทฺโธ มคฺโค สมโถ วิปสฺสนาติ อาคมนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. สปฺปเทสตฺตาติ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอกเทสตฺตาติ อตฺโถ. สีลกฺขนฺธาทโย หิ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรสีลาทิสงฺคาหกา, อริยมคฺโค โลกุตฺตโรเยวาติ ตเทกเทโส โหติ.
โอนตสหาโย วิย วายาโม ปคฺคหกิจฺจสามฺโต. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ อปิลาปนวเสน นิจฺจลภาวกรณสามฺโต. สชาติโตติ สวิตกฺกสวิจาราทิเภเทสุ สมานาย สมาธิชาติยาติ ¶ อตฺโถ. กิริยโตติ สมาธิอนุรูปกิริยโต. ตโต เอว หิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา สมาธินิมิตฺตา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สมาธิปริกฺขารา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) สติวายามานํ สมาธิสฺส นิมิตฺตปริกฺขารภาโว วุตฺโตติ.
อาโกเฏนฺเตน วิยาติ ‘‘อนิจฺจํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปฺาสทิเสน กิจฺเจน สมนฺตโต อาโกเฏนฺเตน วิย ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเนา’’ติอาทินา ปริวตฺตนฺเตน วิย จ อาทาย อูหิตฺวา ทินฺนเมว ปฺา ปฏิวิชฺฌติ. ทฺวินฺนํ สมานกาลตฺเตปิ ปจฺจยภาเวน สงฺกปฺปสฺส ปุริมกาลสฺส วิย นิทฺเทโส กโต. สชาติโตติ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีสุ สมานาย ปฺาชาติยา. กิริยโตติ เอตฺถ ปฺาสทิสกิจฺจํ กิริยาติ วุตฺตํ, ปุพฺเพ ปน สมาธิอุปการกํ ตทนุรูปํ กิจฺจนฺติ อยเมตฺถ วิเสโส. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต ¶ จตฺตาริปิ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต าตพฺพานิ, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน าตพฺพานีติ อภิฺเยฺยานิ.
ทุรภิสมฺภวตรนฺติ อภิสมฺภวิตุํ สาเธตุํ อสกฺกุเณยฺยตรํ, สตฺติวิฆาเตน ทุรธิคมนฺติ อตฺโถ. พาธกปภวสนฺตินิยฺยานลกฺขเณหิ ววตฺถานํ สลกฺขณววตฺถานํ. ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตาติ โอฬาริกา ทุกฺขสมุทยา. ติรจฺฉานคตานมฺปิ หิ ทุกฺขํ อาหาราทีสุ จ อภิลาโส ปากโฏ, ปีฬนาทิอายูหนาทิวเสน ปน ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทมสฺส การณ’’นฺติ ยาถาวโต โอคาหิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา คมฺภีรา, สณฺหสุขุมธมฺมตฺตา นิโรธมคฺคา สภาวโต เอว คมฺภีรตฺตา ทุรวคาหา, เตเนว อุปฺปนฺเน มคฺเค นตฺถิ นิโรธมคฺคานํ ยาถาวโต อนวคาโหติ. นิพฺพานมฺปิ มคฺเคน อธิคนฺตพฺพตฺตา ตสฺส ผลนฺติ อปทิสฺสตีติ อาห ‘‘ผลาปเทสโต’’ติ. วุตฺตฺหิ ‘‘ทุกฺขนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). มคฺโคปิ นิโรธสฺส สมฺปาปกภาวโต เหตูติ อปทิสฺสตีติ อาห ‘‘เหตุอปเทสโต’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). อิติ วิชฺาติ อิติ-สทฺเทน วิชานนกฺกมํ ทสฺเสติ. เอวํ ปกาเรหีติ เอวํ-สทฺเทน วิชานนการณภูเต นเย.
อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส
ชาตินิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๐. ตตฺถ ¶ …เป… อยํ มาติกาติ นิทฺเทสวารอาทิมฺหิ วุตฺเต ชาติอาทินิทฺเทเส เตสํ ชาติอาทีนํ นิทฺเทสวเสน ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย, เตสุ วา ชาติอาทีสุ เตสฺจ ทุกฺขฏฺเ เวทิตพฺเพ ชาติอาทีนํ นิทฺเทสวเสน ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย ทุกฺขทุกฺขนฺติอาทิกา ทุกฺขมาติกา เวทิตพฺพาติ อตฺโถ. อถ วา ตตฺถาติ ตสฺมึ นิทฺเทสวาเร. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา…เป… สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ อยํ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย มาติกาติ ยถาทสฺสิตสฺส ชาติอาทินิทฺเทสสฺส มาติกาภาวํ ¶ ทีเปติ. ตํ ทีเปตฺวา ปุน ยสฺมึ ปททฺวเย ตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ กเถตพฺพํ, ตสฺส นิทฺธารณตฺถํ สพฺพํ ทุกฺขํ สงฺกฑฺเฒนฺโต อาห ‘‘อิทฺหิ ทุกฺขํ นามา’’ติอาทิ.
สภาวโตติ ทุกฺขเวทยิตสภาวโต. นามโตติ เตเนว สภาเวน ลทฺธนามโต. เตน น อฺเน ปริยาเยน อิทํ ทุกฺขํ นาม, อถ โข ทุกฺขตฺตาเยวาติ สภาเวน นามํ วิเสเสติ. อถ วา นามโตติ อุทยพฺพยวนฺตตาย ลทฺธนามโต. ยถา อฺเ อุทยพฺพยวนฺโต ธมฺมา น สภาวโต ทุกฺขา, น เอวํ อิทํ, อถ โข สภาวโต ทุกฺขา, ภูตเมเวทํ ทุกฺขนฺติ ปุริเมน ทุกฺข-สทฺเทน ปจฺฉิมํ วิเสเสติ. วิปริณามวนฺตตาย สุขํ อนิฏฺเมว โหตีติ ทุกฺขํ นาม ชาตํ. เตเนวาห ‘‘ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต’’ติ. กณฺณสูลาทีหิ อภิภูตสฺส นิตฺถุนนาทีหิ ทุกฺขาภิภูตตาย วิฺายมานายปิ กึ ตว รุชฺชตีติ ปุจฺฉิตฺวาว กณฺณสูลาทิทุกฺขํ ชานิตพฺพํ โหตีติ ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขตา ตสฺส วุตฺตา. อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโตติ การณาวเสน ทุกฺขวิเสสสฺส ปากฏภาวํ ทสฺเสติ.
สภาวํ มฺุจิตฺวา ปการนฺตเรน ทุกฺขนฺติ วุจฺจมานํ ปริยายทุกฺขํ. กเถตพฺพตฺตา ปฏิฺาตํ ยถา กเถตพฺพํ, ตํปการทสฺสนตฺถํ ‘‘อริยสจฺจฺจ นาเมต’’นฺติอาทิมาห. สงฺเขโป สามฺํ, สามฺฺจ วิเสเส อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตตีติ ตตฺถ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถาโร ปน วิเสโส ชาติอาทิโก, วิเสโส จ วิเสสนฺตรนิวตฺตโกติ ชาติอาทีสุ ชราทีนํ สงฺขิปนํ น สกฺกา กาตุนฺติ ตตฺถ วิตฺถาเรเนว กเถตพฺพํ.
๑๙๑. ‘‘อปรสฺส ¶ อปรสฺสา’’ติ ทีปนํ อปรตฺถทีปนํ. สามิอตฺเถปิ หิ อปรตฺถ-สทฺโท สิชฺฌตีติ. เตสํ เตสนฺติ วา สามิวเสน วุตฺตํ อตฺถํ ภุมฺมวเสน วตฺตุกามตาย อาห ‘‘อปรตฺถทีปน’’นฺติ, อปรสฺมึ อปรสฺมึ ทีปนนฺติ อตฺโถ. อปรสฺส อปรสฺส วา ชาติสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปนํ อปรตฺถทีปนํ. ปฺจคติวเสน เอเกกายปิ คติยา ขตฺติยาทิภุมฺมเทวาทิหตฺถิอาทิชาติวเสน จาติ คติชาติวเสน.
ติณากาโร ติณชาติ, โส จ อุปาทาปฺตฺตีติ ‘‘ปฺตฺติย’’นฺติ อาห. ตทุปาทายาติ ตํ ปมํ วิฺาณํ อุปาทาย อยํ ชาติ, นาสฺส กุโตจิ นิคฺคมนํ อุปาทาย. ยสฺมา จ เอวํ, ตสฺมา สาวสฺส ชาติ ปมวิฺาณสงฺขาตาติ อตฺโถ. อถ วา ตทุปาทาย สชาโตติ วุจฺจตีติ ¶ สาวสฺส ชาติ ปมวิฺาณสงฺขาตาติ อตฺโถ. วิฺาณมุเขน จ ปฺจปิ ขนฺธา วุตฺตา โหนฺตีติ ‘‘ปฏิสนฺธิย’’นฺติ อาห. อริยภาวกรณตฺตา อริยสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวโร วุจฺจติ. ชาติอาทีนิปิ ลกฺขณานิ ธมฺมานํ อาการวิการาติ กตฺวา สหุปฺปาทกา สหวิการกาติ วุตฺตา. ชายนฏฺเนาติอาทิ อายตนวเสน โยนิวเสน จ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุริมนเย ปน เอเกเกเนว ปเทน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาติ ทสฺสิตาติ อยํ วิเสโส. เกจิ ปน ‘‘ปุริมนเย กตฺตุนิทฺเทโส, ปจฺฉิมนเย ภาวนิทฺเทโส กโต’’ติ วทนฺติ, ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ ชาตี’’ติ ปน กตฺตริ สามินิทฺเทสสฺส กตตฺตา อุภยตฺถาปิ ภาวนิทฺเทโสว ยุตฺโต. สมฺปุณฺณา ชาติ สฺชาติ. ปากฏา นิพฺพตฺติ อภินิพฺพตฺติ. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ…เป… อภินิพฺพตฺตี’’ติ สตฺตวเสน ปวตฺตตฺตา สมฺมุติกถา.
ตตฺร ตตฺราติ เอกจตุโวการภเวสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ, เสเส รูปธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ปฺจนฺนํ, กามธาตุยํ วิกลาวิกลินฺทฺริยานํ วเสน สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ ปุน ทสนฺนํ เอกาทสนฺนฺจ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เอกภวปริยาปนฺนสฺส ขนฺธสนฺตานสฺส ปมาภินิพฺพตฺติภูตา ปฏิสนฺธิกฺขนฺธาติ อาห ‘‘ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา’’ติ. ตเมว สนฺตานํ นิยฺยาเตนฺตํ วิย ‘‘หนฺท คณฺหถา’’ติ ปฏิจฺฉาเปนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ นิยฺยาตนรสา. สนฺตติยา เอว อุมฺมุชฺชนํ หุตฺวา คยฺหตีติ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา. ทุกฺขราสิสฺส วิจิตฺตตา ทุกฺขวิจิตฺตตา, ทุกฺขวิเสสา วา ตทวยวา, ตํ ปจฺจุปฏฺาเปติ ผลตีติ ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา.
ปริยายนิปฺปริยายทุกฺเขสุ ¶ ยํ ทุกฺขํ ชาติ โหติ, ตํ ทุกฺขภาโวเยว ตสฺสา ทุกฺขฏฺโ. ยทิ อกฺขาเนน ปาปุณิตพฺพํ สิยา, ภควา อาจิกฺเขยฺย. ภควตาปิ –
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตโม นุ โข มหนฺตตโร? โย จายํ มยา ปริตฺโต ปาณิมตฺโต ปาสาโณ คหิโต, โย จ หิมวา ปพฺพตราชาติ. อปฺปม…เป… คหิโต, หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ อุปนิธาย สงฺขมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ โส ปุริโส ตีหิ สตฺติสเตหิ หฺมาโน ¶ ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ตํ เนรยิกสฺส ทุกฺขสฺส อุปนิธาย สงฺขมฺปิ…เป… อุปนิธมฺปิ น อุเปตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) –
อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกทุกฺขํ. สุขุปฺปตฺติการณานิ สุจีนิ อุปฺปลาทีนีติ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตินิวารเณน ชาติยา ทุกฺขวตฺถุภาวํ ทสฺเสติ ‘‘อถ โข’’ติอาทินา. ทุกฺขุปฺปตฺติการเณ นิพฺพตฺตเนน คพฺภปริหรณูปกฺกเมน วินา มาตุกุจฺฉิสมฺภวเมว ทุกฺขํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ อฺานเปกฺขตฺตา, อุปกฺกมนิพฺพตฺตํ ปน ปริหรณมูลกํ โอกฺกนฺติมตฺตานเปกฺขตฺตา. อยเมเตสํ วิเสโส.
อตฺตโน อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนํ, ปริโต สพฺพโตภาเคน กฑฺฒนํ ปริกฑฺฒนํ. อโธ ธุนนํ โอธุนนํ, ติริยํ, สพฺพโต วา ธุนนํ นิธุนนํ. ตจฺเฉตฺวา ขารปกฺขิปนํ ขาราปฏิจฺฉกํ.
สกลสรีรนฺหาปนํ นฺหาปนํ, เอกเทสโธวนํ โธวนํ, สูริยาภิมุขปวตฺตเนน อาตาปนํ, ปฺจคฺคิตาเปน ปริตาปนํ ทฏฺพฺพํ. สพฺโพเยว วา ตาโป ทฺวิธาปิ วุตฺโต.
กุหึ นุ ปติฏฺํ ลเภถ, ชาติยา วินา น ตสฺส ทุกฺขสฺส ปติฏฺานํ อตฺถีติ อตฺโถ, ชาติยา วา วินา โส สตฺโต กุหึ นุ ปติฏฺํ, กตฺถ นุ ปติฏฺนฺโต ตํ ทุกฺขํ ลเภถาติ อตฺโถ. ตตฺถ ติรจฺฉาเนสุ กถํ ทุกฺขํ ภเวยฺย ตหึ ติรจฺฉาเนสุ ชาตึ วินา. น จสฺสาติ น เจ อสฺส. นนุ เนวตฺถีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ, นนุ อาหาติ วา. ยทโตติ ยสฺมา เนวตฺถิ, ตสฺมา อาหาติ อตฺโถ.
ชรานิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๒. ชีรณเมว ¶ ชีรณตา, ชีรณสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโต.
ยถาปุเร อสลฺลกฺเขนฺเตติ คารวกรณอุปฏฺานาทีนิ อสลฺลกฺเขนฺเต ตํนิมิตฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
สตาทีนนฺติ ¶ สติสุตวีริยปฺาทีนํ วิปฺปวาสนิมิตฺตํ อตฺตนา อปสาเทตพฺเพหิปิ อตฺตโน ปุตฺตทาเรหิ อปสาทนียโต. อวสวตฺตงฺคปจฺจงฺคตาย สุจิอสุจิอาทิวิจารณวิรเหน จ พาลกุมารกกาโล วิย ชิณฺณกาโล โหตีติ อาห ‘‘ภิยฺโย พาลตฺตปฺปตฺติยา’’ติ.
มรณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๓. ‘‘กาลสฺส อนฺตกสฺส กิริยา’’ติ ยา โลเก วุจฺจติ, สา จุติ, มรณนฺติ อตฺโถ. จวนกาโลเยว วา อนติกฺกมนียตฺตา วิเสเสน กาโลติ วุตฺโต, ตสฺส กิริยา จุติกฺขนฺธานํ เภทปฺปตฺติเยว. มจฺจุ มรณนฺติ เอตฺถาปิ สมาสํ อกตฺวา โย มจฺจุ วุจฺจติ เภโท, ยฺจ มรณํ ปาณจาโค, อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ วิสุํ สมฺพนฺโธ น น ยุชฺชติ.
ยสฺส ขนฺธเภทสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’’ติ โวหาโร โหติ, โส ขนฺธปฺปพนฺธสฺส อนุปจฺฉินฺนตาย ‘‘สมฺมุติมรณ’’นฺติ วุตฺโต, ปพนฺธสมุจฺเฉโท จ ‘‘สมุจฺเฉทมรณ’’นฺติ. มรณมฺปิ ทุกฺขนฺติ อิมสฺมึ ปนตฺเถ ทุกฺขสจฺจกถา วฏฺฏกถาติ กตฺวา ‘‘สมฺมุติมรณํ อธิปฺเปต’’นฺติ อาห. ตสฺเสว นามนฺติ ตพฺภาวโต ตเทกเทสภาวโต จ มรณ-สทฺทพหุตฺเต อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ. จุติลกฺขณนฺติ ‘‘จวนตา’’ติ นิทสฺสิตจวนลกฺขณเมว วทติ. สมฺปตฺติภวขนฺเธหิ วิโยเชตีติ วิโยครสํ, วิโยคกิริยาภูตตาย วา ‘‘วิโยครส’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺตสฺส ปุริมภวโต วิปฺปวาโส หุตฺวา อุปฏฺาตีติ วิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.
มรณนฺติกาติ มรณสฺส อาสนฺนา. ยทิ มรณํ น ภวิสฺสติ, ยถาวุตฺตํ กายิกํ เจตสิกฺจ ทุกฺขํ น ภวิสฺสตีติ อาห ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวนา’’ติ.
ปาปกมฺมาทินิมิตฺตนฺติ ¶ ปาปกมฺมนิมิตฺตํ ปาปคตินิมิตฺตฺจาติ อตฺโถ, กมฺมมฺปิ วา เอตฺถ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ อุปปตฺตินิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. ตทุปฏฺาเนปิ หิ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา อนปฺปกํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ. ภทฺทสฺสาติ กลฺยาณกมฺมสฺสาติ อตฺโถ. อวิเสสโตติ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ เอเตน โยเชตพฺพํ. สพฺเพสนฺติ จ เยสํ กายิกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, เตเยว สพฺเพ คหิตา ‘‘วิตุชฺชมานมมฺมาน’’นฺติ วิเสสิตตฺตา. สนฺธีนํ พนฺธนานิ สนฺธิพนฺธนานิ ¶ , เตสํ เฉทเนน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขํ ‘‘สนฺธิพนฺธนจฺเฉทน’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺโท วา การณตฺโถ, สนฺธิพนฺธนจฺเฉทนมูลกนฺติ อตฺโถ.
อนยพฺยสนาปาทนํ วิยาติ อนยพฺยสนาปตฺติ วิยาติ อตฺโถ. วาฬาทีหิ กเต หิ อนยพฺยสนาปาทเน อนฺโตคธา อนยพฺยสนาปตฺติ เอตฺถ นิทสฺสนนฺติ.
โสกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๔. สุขการณํ หิตํ, ตสฺส ผลํ สุขํ. าติกฺขโยติ โภคาทีหิ าตีนํ ปริหานิ มรณฺจ. อยํ ปน วิเสโสติ โภคพฺยสนาทิปทตฺถวิเสสํ โรคพฺยสนาทีสุ สมาสวิเสสฺจ สนฺธายาห. าติโภคา ปฺตฺติมตฺตา ตพฺพินาสาวาติ อิมินา อธิปฺปาเยน อปรินิปฺผนฺนตํ สนฺธาย ‘‘อนิปฺผนฺนานี’’ติ อาห. อปรินิปฺผนฺนตํเยว หิ สนฺธาย วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๔๗ อาทโย) จ ‘‘ทส รูปานิ อนิปฺผนฺนานี’’ติ วุตฺตํ. รูปกณฺฑวณฺณนายฺหิ (ธ. ส. อฏฺ. ๙๗๕ ปกิณฺณกกถา) นิ ‘‘อปรินิปฺผนฺนานี’’ติ วุตฺตานิ. ขนฺธวิภงฺเค จ นิปฺผาเทตพฺพสฺส นิโรธสมาปตฺติอาทิกสฺส นิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ อสภาวธมฺมสฺส จ นิปฺผนฺนตา, นิพฺพานสฺเสว อนิปฺผนฺนตาติ.
ธมฺม-สทฺโท เหตุอตฺโถติ อาห ‘‘ทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา’’ติ. ฌามนฺติ ทฑฺฒํ. ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณาทิกา โทมนสฺสเวทนา โสโกติ ตสฺส ปุน ลกฺขณาทโย น วตฺตพฺพา สิยุํ, ตถาปิ โทมนสฺสวิเสสตฺตา โสกสฺส จ วิสิฏฺา ลกฺขณาทโย วตฺตพฺพาติ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิมาห. วิสารรหิตํ อนฺโต เอว สงฺกุจิตํ จินฺตนํ, สุกฺขนํ วา อนฺโตนิชฺฌานํ. ปรินิชฺฌายนํ ทหนํ. าติพฺยสนาทิอนุรูปํ โสจนํ อนุโสจนํ, ตํ ตํ วา คุณํ โทสฺจ อนุคนฺตฺวา โสจนํ ตปฺปนํ อนุโสจนํ.
ชวนกฺขเณติ ¶ มโนทฺวารชวนกฺขเณ. ตถา หิ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตกา เม’’ติอาทิมาห. กายวิฺาณาทิวีถิยมฺปิ ปน ชวนกฺขเณ โทมนสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ เอว. เตเนว ‘‘ชวนกฺขเณ จา’’ติ อาห. อฺถา กายิกเจตสิกทุกฺขานํ กายวตฺถุกมโนทฺวารปฺปวตฺตานเมว ปจฺจโยติ คณฺเหยฺย ตตฺถ วิเสเสน กายิกเจตสิกสทฺทปฺปวตฺติโต.
ตุชฺชตีติ ¶ ‘‘ตุทตี’’ติ วตฺตพฺเพ พฺยตฺตยวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๕. อาเทวนฺติ เอเตนาติ อาเทโวติ อาเทวน-สทฺทํ กตฺวา อสฺสุวิโมจนาทิวิการํ อาปชฺชนฺตานํ ตพฺพิการาปตฺติยา โส สทฺโท กรณภาเวน วุตฺโตติ. วีหิปลาปาทโย วิย ตุจฺฉํ วจนํ ปลาโป. คุณโทเส กิตฺเตติ โพเธตีติ คุณโทสกิตฺตนรโส ลาลปฺป-สทฺโท. อตฺถานตฺเถ หิริยิตพฺพชเน จ อวิจาเรตฺวา ปุคฺคลสฺส สมฺภมภาโว หุตฺวา ปริเทวน-สทฺโท อุปฏฺาตีติ ‘‘สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต, โสกวตฺถุอวิฆาเตน วา สมฺภโม, น อุตฺตาสสมฺภโม, โส จ ปริเทวน-สทฺเทน ปากโฏ โหตีติ ปริเทโว ‘‘สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต.
โสกาภิภูโต ปริเทวนนิมิตฺตํ มุฏฺิโปถนาทีนิ กโรติ, ปริเทวนนิมิตฺตเมว จ าติอพฺภตฺถงฺคมนาทีนิ จินฺเตตีติ ปริเทวสฺส ทุกฺขโทมนสฺสานํ วตฺถุภาโว วุตฺโต.
ภิยฺโยติ เยน วินา น โหติ, ตโต ปริเทวสมุฏฺาปกโทมนสฺสโต, ปุพฺเพ วุตฺตทุกฺขโต วา ภิยฺโย, กณฺโฏฺตาลุอาทิโสสชโตปิ วา ภิยฺโยติ อฺฺจ กายิกํ เจตสิกํ ตํนิทานทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ.
ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๖-๗. กายิกํ ทุกฺขํ กายิกสฺส ทุกฺขสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโยติ ‘‘ทุกฺขิตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ ¶ น ลภามีติ พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ ทุกฺขสฺส โทมนสฺสวตฺถุตา โหติ.
อตฺตโน ปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย ‘‘ปีเฬตี’’ติ วุตฺตํ กายิกทุกฺขํ, ตทุปนิสฺสยโต วา.
อาวฏฺฏนฺตีติ ปริวฏฺฏนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ ปพฺภาเร ขิตฺตตฺถมฺโภ วิย ลุธนฺติ. มูลจฺฉินฺนรุกฺโข วิย ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, ปริทยฺหมานจิตฺตา ปุริมโทมนสฺสุปนิสฺสยวเสน จินฺเตนฺติ, วิคเต โทมนสฺเส ตถาจินฺตนํ นตฺถีติ.
อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๘. สพฺพวิสยปฺปฏิปตฺตินิวารณวเสน ¶ สมนฺตโต สีทนํ สํสีทนํ, อุฏฺเตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยตากรณวเสน อติพลวํ, วิรูปํ วา สีทนํ วิสีทนํ. อฺํ วิสยํ อคนฺตฺวา าติพฺยสนาทีสุ วิรูโป อาสงฺโค ตตฺเถว อวพนฺธตา พฺยาสตฺติ. นิตฺถุนนกรณโต นิตฺถุนนรโส. วิสีทนํ วิสาโท.
สยํ น ทุกฺโข โทสตฺตา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนธมฺมนฺตรตฺตา วา. เย ปน โทมนสฺสเมว อุปายาโสติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘อุปายาโส ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สมฺปยุตฺโต, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๔๙) อิมาย ปาฬิยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วิสาทปฺปตฺติยา สุขทุกฺขการณํ อคณยิตฺวา ทุกฺขฏฺานาทีนิ กโรนฺตานํ อุปายาโส กายิกทุกฺขสฺส วตฺถุ โหติ, วิสาทนวเสเนว าติวินาสาทีนิ จินฺเตนฺตานํ โทมนสฺสสฺส. อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเยว อุปายาโส โทมนสฺสสมฺปโยคโต จิตฺตํ ปริทหติ, อวิปฺผาริกตากรณวเสน กายํ วิสาเทติ, ตทุภยกรเณเนว ตโต ปรํ ตํนิมิตฺตํ กายิกํ เจตสิกฺจ อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ชนยตีติ ทุกฺโข วุตฺโต.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๙. น อปฺปิยนฺตีติ น คมิยนฺติ, น ปเวสียนฺตีติ อตฺโถ. อนตฺถนฺติ พฺยสนํ, ทุกฺขํ วา. อหิตนฺติ ตสฺส เหตุํ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อตฺถํ น กาเมนฺตีติ ¶ อนตฺถกามาติอาทิ อสมตฺถสมาโสปิ โยชิโต. ‘‘อสูริยปสฺสานิ มุขานี’’ติอาทีสุ วิย หิ เยน สมาโส, น ตสฺสายํ ปฏิเสธโก อ-กาโรติ. ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ นิพฺภเย โยคกฺเขม-สทฺโท นิรุฬฺโห ทุกฺขโยคโต เขมตฺตา.
สงฺคติอาทีสุ สงฺขารวเสน ยํ ลพฺภติ, ตํ คเหตพฺพํ. น หิ สงฺขารานํ านนิสชฺชาทโย โภชนาทิกิจฺเจสุ วา สหกรณํ วิชฺชตีติ ปจฺฉิมทฺวยํ ตทตฺถวเสน ลพฺภตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. ยํ ลพฺภตีติ วา ยํ อตฺถชาตํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. เตน ยถา ลพฺภติ สงฺคติอาทีสุ อตฺโถ, ตถา โยเชตพฺโพ. ปุคฺคลสฺส หิ สงฺคติ คนฺตฺวา สงฺขาเรหิ สํโยโค ¶ โหติ, อาคเตหิ จ เตหิ, ปุคฺคลสฺส จ อตฺตโน านาทีสุ สงฺขาเรหิ สหภาโว โหติ, สพฺพกิริยาสุ จ มิสฺสีภาโวติ. อนตฺถภาโว อุปทฺทวภาโว.
อนิฏฺานํ อาปาถคมนมตฺตํ ตํคหณมตฺตฺจ อปฺปิยสมฺปโยโค, น ปน ปถวิผสฺสาทโย วิย อปฺปิยสมฺปโยโค นาม เอโก ธมฺโม อตฺถีติ อาห ‘‘โส อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถี’’ติ. อนิฏฺานิ กณฺฏกาทีนิ อมิตฺตา จ อุสุอาทีหิ วิชฺฌนาทิทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ.
อิธาติ อิมสฺมึ โลเก ทุกฺขํ โหตีติ วา อิธ อิมสฺมึ ทุกฺขสจฺจนิทฺเทเส ทุกฺโข วุตฺโตติ วา โยเชตพฺพํ.
ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๐. มินนฺตีติ นาฬิยาทีสุ ธฺํ วิย อนฺโต ปกฺขิปนฺติ, น พหิ กโรนฺตีติ อตฺโถ. อมา-สทฺโท สหภาวทีปโก. ายนฺติ วา อชฺฌตฺติกาอิจฺเจว. าติพฺยสนาทิโก หุตฺวา อุปฏฺาตีติ พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน. โสกุปฺปาทเนเนว สรีรํ โสเสนฺติ, กิสํ กโรนฺติ, อกิสมฺปิ นิโรชตากรเณน มิลาเปนฺติ, ตโต จ กายิกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ ตทุปฺปาทกตา วุตฺตา.
โสกสรสมปฺปิตาติ เอเตน เจตสิกทุกฺขํ ทสฺเสติ, วิตุชฺชนฺตีติ เอเตน กายิกํ ทุกฺขํ.
อิจฺฉานิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๑. ยสฺมึ ¶ กาเล ชาติยา น อาคนฺตพฺพํ, ตํ กาลํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมน’’นฺติ. ยมฺปีติ เยนปีติ อตฺโถ วุตฺโต. ยทาปิ ปน ยํ-สทฺโท ‘‘อิจฺฉ’’นฺติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทาปิ อลาภวิสิฏฺา อิจฺฉา วุตฺตา โหติ. ยทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทา อิจฺฉาวิสิฏฺโ อลาโภ วุตฺโต โหติ. โส ปนตฺถโต อฺโ ธมฺโม นตฺถิ, ตถาปิ อลพฺภเนยฺยอิจฺฉาว วุตฺตา โหติ. อปาปุณิตพฺเพสุ ปวตฺตตฺตา เอว ‘‘อปฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา’’ติ วุตฺตา. ยตฺถ หิ สา อิจฺฉา ปวตฺตา, ตํ วตฺถุํ อปาปุณนฺตี หุตฺวา คยฺหตีติ.
ฉินฺนภินฺนคเณนาติ นิลฺลชฺเชน ธุตฺตคเณน, กปฺปฏิกคเณน วา.
วิฆาตมยนฺติ ¶ จิตฺตวิฆาตมยํ โทมนสฺสํ จิตฺตวิฆาตโต เอว อุปฺปนฺนํ อุพฺพนฺธนชราติสาราทิกายิกํ ทุกฺขฺจ. อิจฺฉิตาลาภนฺติ อลพฺภเนยฺยอิจฺฉเมว วทติ.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๒. วิตฺถิณฺณสฺส ทุกฺขสฺส เอตฺตกนฺติ ทสฺสนํ ทุกฺขสฺส สงฺเขโป, ตํ กาตุํ น สกฺกา วิตฺถารสฺส อนนฺตตฺตา. ทุกฺขวิตฺถารคตํ ปน เทสนาวิตฺถารํ ปหาย ยตฺถ สพฺโพ ทุกฺขวิตฺถาโร สโมธานํ คจฺฉติ, ตตฺถ เทสนาย ววตฺถานํ สงฺเขโป, ตํ กาตุํ สกฺกา ตาทิสสฺส วตฺถุโน สพฺภาวา.
เทสํ ชานนฺโต มคฺคกฺขายิกปุริโส เทสโก. ภควาปิ ทุกฺขสฺส เทสโก. ‘‘ทุกฺขนฺตเทสเกนา’’ติ วา ปาโ, ทุกฺขนฺตกฺขายิโกติ อตฺโถ.
ปาวกาทโย ยถา อินฺธนาทีนิ พาเธนฺติ, เอวํ พาธยมานา. มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตนาติ อิมินา อติปากเฏน ชาติชราทุกฺขวิฆาตชโสกาทโย ทสฺเสติ. ตโตติ ปริเทวโต อุทฺธํ. กณฺ โสสาทิ สนฺธิ พนฺธจฺเฉทนาทิ ชนก ธาตุกฺโขภ สมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ. เยสุ เกสุจีติ ติสฺสสฺส วา ผุสฺสสฺส วา อุปาทานกฺขนฺเธสุ สพฺพมฺปิ จกฺขุโรคาทิทุกฺขํ สพฺพสตฺตคตํ เอวํปการเมวาติ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโตติ อตฺโถ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. อุตฺตรปทโลปํ ¶ กตฺวา ‘‘ปุนพฺภวกรณํ ปุโนพฺภโว’’ติอาห. ‘‘มโนสมฺผสฺโส’’ติ เอตฺถ มโน วิย จ ปุริมปทสฺส โอการนฺตตา ทฏฺพฺพา. อถ วา สีลฏฺเน อิก-สทฺเทน คมิยตฺถตฺตา กิริยาวาจกสฺส สทฺทสฺส อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโก’’ติ. ‘‘ตทฺธิตา’’อิติ พหุวจนนิทฺเทสา วิจิตฺตตฺตา วา ตทฺธิตานํ อภิธานลกฺขณตฺตา ¶ วา ‘‘ปุนพฺภวํ เทตี’’ติอาทีสุ อตฺเถสุ โปโนพฺภวิกสทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ กมฺมสหชาตา ปุนพฺภวํ เทติ, กมฺมสหายภูตา ตทสหชาตา ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ทุวิธาปิ ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตติ. เตเนวาห ‘‘ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปี’’ติอาทิ. โปโนพฺภวิกาเยวาติ นามํ ลภตีติ ปุนพฺภวํ ทายิกาปิ อทายิกาปิ ปุนพฺภวํ เทติจฺเจว โปโนพฺภวิกาติ สมานวิปากาติ นามํ ลภติ สมานสภาวตฺตา ตทานุภาวตฺตา จ. เอวํ อิตเรสุ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อุปธิมฺหิ ยถานิพฺพตฺเต อตฺตภาเว วิปจฺจนกมฺมํ เอติสฺสาติ อุปธิเวปกฺกา. นนฺทนฏฺเน นนฺที, รฺชนฏฺเน ราโค. โย จ นนฺทิราโค, ยา จ ตณฺหา, อุภยเมตํ เอกตฺถํ, พฺยฺชนเมว นานนฺติ ตณฺหา ‘‘นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตํ คตา’’ติ วุตฺตา. ราคสมฺพนฺเธน ‘‘อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. รูปารูปภวราโค วิสุํ วกฺขตีติ กามภเว เอว ภวปตฺถนาอุปฺปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
ตสฺมึ ตสฺมึ ปิยรูเป ปมุปฺปตฺติวเสน ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตา, ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ‘‘นิวิสตี’’ติ, ปริยุฏฺานานุสยวเสน วา อุปฺปตฺตินิเวสา โยเชตพฺพา. สมฺปตฺติยนฺติ มนุสฺสโสภคฺเค เทวตฺเต จ. อตฺตโน จกฺขุนฺติ สวตฺถุกํ จกฺขุมาห, สปสาทํ วา มํสปิณฺฑํ. วิปฺปสนฺนปฺจปสาทนฺติ ปริสุทฺธนีลปีตโลหิตกณฺหโอทาตวณฺณปสาทํ. รชตปนาฬิกํ วิย ฉิทฺทํ อพฺภนฺตเร โอทาตตฺตา. ปามงฺคสุตฺตํ วิย ลมฺพกณฺณพทฺธํ. ตุงฺคา อุจฺจา ทีฆา นาสิกา ตุงฺคนาสิกา, เอวํ ลทฺธโวหารํ อตฺตโน ฆานํ. ‘‘ลทฺธโวหารา’’ติ วา ปาโ. ตสฺมึ สติ ตุงฺคา นาสิกา เยสํ, เต ตุงฺคนาสิกา. เอวํ ลทฺธโวหารา สตฺตา อตฺตโน ฆานนฺติ โยชนา กาตพฺพา. ชิวฺหํ…เป… มฺนฺติ วณฺณา สณฺานโต กิจฺจโต จ. มนํ…เป… อุฬารํ มฺนฺติ อตีตาทิอตฺถวิจินนสมตฺถํ. อตฺตนา ปฏิลทฺธานีติ อชฺฌตฺตฺจ สรีรคนฺธาทีนิ ¶ พหิทฺธา จ วิเลปนคนฺธาทีนิ. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตีติ ยทา อุปฺปชฺชมานา โหติ, ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ สามฺเน คหิตา อุปฺปาทกิริยา ลกฺขณภาเวน วุตฺตา, วิสยวิสิฏฺา ลกฺขิตพฺพภาเวน. น หิ สามฺวิเสเสหิ นานตฺตโวหาโร น โหตีติ. อุปฺปชฺชมานาติ วา อนิจฺฉิโต อุปฺปาโท เหตุภาเวน วุตฺโต. อุปฺปชฺชตีติ นิจฺฉิโต ผลภาเวน ‘‘ยทิ อุปฺปชฺชมานา โหติ, เอตฺถ อุปฺปชฺชตี’’ติ. โส หิ เตน อุปโยชิโต วิย โหติ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๔. อนูหเตติ ¶ อนุทฺธเต, อปฺปหีเนติ อตฺโถ.
สีโห เวธเก ปฏิปชฺชติ, น อุสุมฺหิ, สุวาโน เลฑฺฑุมฺหิ ปฏิปชฺชติ, น ปหารเก. ขยคมนวเสน วิรชฺชติ, อปฺปวตฺติคมนวเสน นิรุชฺฌติ. อนเปกฺขตาย จชนวเสน หานิวเสน จ จชียติ, ปุน ยถา น ปวตฺตติ, ตถา ทูรขิปนวเสน ปฏินิสฺสชฺชียติ, พนฺธนภูตาย โมจนวเสน มุจฺจติ, อสํกิเลสวเสน น อลฺลียติ. อายูหนํ สมุทโย, ตปฺปฏิปกฺขวเสน อนายูหนํ.
อปฺตฺตินฺติ อปฺาปนํ, ‘‘ติตฺตอลาพุ อตฺถี’’ติ โวหาราภาวํ วา. ติตฺตอลาพุวลฺลิยา อปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺโต ปุริโส วิย มคฺโค ทฏฺพฺโพ, ตสฺส ตสฺสา อปฺปวตฺตินินฺนจิตฺตสฺส มูลจฺเฉทนํ วิย มคฺคสฺส นิพฺพานารมฺมณสฺส ตณฺหาปหานํ. ตทาปฺปวตฺติ วิย ตณฺหาย อปฺปวตฺติภูตํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ. ทุติยูปมาย ทกฺขิณทฺวารํ วิย นิพฺพานํ, โจรฆาตกา วิย มคฺโค ทฏฺพฺโพ, ปุริมา วา อุปมา มคฺเคน นิรุทฺธาย ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, ปจฺฉิมา นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธายปิ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๕. อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถนฺติ ¶ ติตฺถิเยหิ กปฺปิตสฺส มคฺคสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาภาวํ ปฏิกฺเขเปตุนฺติ อตฺโถ, อฺสฺส วา มคฺคภาวปฏิกฺเขโป อฺมคฺคปฏิกฺเขโป. ปุคฺคลสฺส อริยภาวกรตฺตา อริยํ กโรตีติ อริโย, อริยผลปฏิลาภกรตฺตา อริยํ ลภาเปติ ชเนตีติ อริโย. อตฺตโน กิจฺจวเสน ผลวเสน จ อริยนามลาโภ เอว วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อฏฺ องฺคานิ อสฺสาติ อฺปทตฺถสมาสํ อกตฺวา ‘‘อฏฺงฺคานิ อสฺส สนฺตีติ อฏฺงฺคิโก’’ติ ปทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา.
จตุรงฺคสมนฺนาคตา ¶ วาจา ชนํ สงฺคณฺหาตีติ ตพฺพิปกฺขวิรติสภาวา สมฺมาวาจา เภทกรมิจฺฉาวาจาปหาเนน ชเน สมฺปยุตฺเต จ ปริคฺคณฺหนกิจฺจวตี โหตีติ ‘‘ปริคฺคหลกฺขณา’’ติ วุตฺตา. ยถา จีวรกมฺมาทิโก กมฺมนฺโต เอกํ กาตพฺพํ สมุฏฺาเปติ นิปฺผาเทติ, ตํตํกิริยานิปฺผาทโก วา เจตนาสงฺขาโต กมฺมนฺโต หตฺถปาทจลนาทิกํ กิริยํ สมุฏฺาเปติ, เอวํ สาวชฺชกตฺตพฺพกิริยาสมุฏฺาปกมิจฺฉากมฺมนฺตปฺปหาเนน สมฺมากมฺมนฺโต นิรวชฺชสมุฏฺาปนกิจฺจวา โหติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ สมุฏฺาเปนฺโต เอว ปวตฺตตีติ ‘‘สมุฏฺาปนลกฺขโณ’’ติ วุตฺโต. กายวาจานํ ขนฺธสนฺตานสฺส จ สํกิเลสภูตมิจฺฉาอาชีวปฺปหาเนน สมฺมาอาชีโว ‘‘โวทาปนลกฺขโณ’’ติ วุตฺโต.
อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลสา ทิฏฺเกฏฺา อวิชฺชาทโย. ปสฺสตีติ ปกาเสตีติ อตฺโถ. เตเนว หิ องฺเคน ตตฺถ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตตีติ. ตเถวาติ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ.
กิจฺจโตติ ปุพฺพภาเคหิ ทุกฺขาทิาเณหิ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อิธ นิปฺผตฺติโต, อิมสฺเสว วา าณสฺส ทุกฺขาทิปฺปกาสนกิจฺจโต. ตีณิ นามานิ ลภติ กามสงฺกปฺปาทิปฺปหานกิจฺจนิปฺผตฺติโต. สิกฺขาปทวิภงฺเค (วิภ. ๗๐๓ อาทโย) ‘‘วิรติเจตนา สพฺเพ สมฺปยุตฺตธมฺมา จ สิกฺขาปทานี’’ติ วุตฺตาติ ตตฺถ ปธานานํ วิรติเจตนานํ วเสน ‘‘วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปี’’ติ อาห. มุสาวาทาทีหิ วิรมณกาเล วา วิรติโย สุภาสิตาทิวาจาภาสนาทิกาเล จ เจตนาโย โยเชตพฺพา, มคฺคกฺขเณ วิรติโยว ¶ เจตนานํ อมคฺคงฺคตฺตา เอกสฺส าณสฺส ทุกฺขาทิาณตา วิย เอกาย วิรติยา มุสาวาทาทิวิรติภาโว วิย จ เอกาย เจตนาย สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสาธนสภาวาภาวา สมฺมาวาจาทิภาวาสิทฺธิโต, ตํสิทฺธิยฺจ องฺคตฺตยตฺตาสิทฺธิโต จ.
ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิ เอวาติ ยทิปิ สมาธิอุปการกานํ อภินิโรปนานุมชฺชนสมฺปิยายนพฺรูหนสนฺตสุขานํ วิตกฺกาทีนํ วเสน จตูหิ ฌาเนหิ สมฺมาสมาธิ วิภตฺโต, ตถาปิ วายาโม วิย อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิจตุวายามกิจฺจํ, สติ วิย จ อสุภาสุขานิจฺจานตฺเตสุ กายาทีสุ สุภาทิสฺาปหานจตุสติกิจฺจํ, เอโก สมาธิ จตุกฺกชฺฌานสมาธิกิจฺจํ น สาเธตีติ ปุพฺพภาเคปิ ปมชฺฌานสมาธิจิตฺเต ฌานสมาธิ ¶ ปมชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปิ, ตถา ปุพฺพภาเคปิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิจิตฺเต ฌานสมาธิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปีติ อตฺโถ.
วจีเภทสฺส อุปการโก วิตกฺโก สาวชฺชานวชฺชวจีเภทนิวตฺตนปวตฺตนกราย สมฺมาวาจายปิ อุปการโก เอวาติ ‘‘สฺวาย’’นฺติอาทิมาห. วจีเภทนิยามิกา วาจา กายิกกิริยานิยามกสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส อุปการิกา. อิทํ วีริยนฺติ จตุสมฺมปฺปธานวีริยํ. คติโยติ นิปฺผตฺติโย, กิจฺจาทิสภาเว วา. สมนฺเวสิตฺวาติ อุปธาเรตฺวา.
ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ อุคฺคณฺหิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺํ กนฺตนฺติ นิโรธมคฺเคสุ นินฺนภาวํ ทสฺเสติ, น อภินนฺทนํ, ตนฺนินฺนภาโวเยว จ ตตฺถ กมฺมกรณํ ทฏฺพฺพํ.
กิจฺจโตติ ปริฺาทิโต. อารมฺมณปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวธมาห. สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อุคฺคหาทิปฏิเวโธ จ ปฏิเวโธว, น จ โส โลกุตฺตโรติ? น, เกวเลน ปฏิเวธ-สทฺเทน อุคฺคหาทิปฏิเวธานํ อวจนียตฺตา, ปฏิเวธนิมิตฺตตฺตา วา อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตํ ทุกฺขาทีสุ ปุพฺพภาเค าณํ ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ วุตฺตํ, น ปฏิเวธตฺตา, ปฏิเวธภูตเมว ปน าณํ สนฺธายาห ‘‘สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตร’’นฺติ. อุคฺคหปริปุจฺฉาาณานิปิ สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิย’’นฺติ ติวิธเมว าณมาห. อุคฺคหาทีหิ สจฺจปริคฺคณฺหนํ ปริคฺคโห.
ปโยโคติ ¶ กิริยา, วายาโม วา. ตสฺส มหนฺตตรสฺส อิจฺฉิตพฺพตํ ทุกฺกรตรตฺจ อุปมาหิ ทสฺเสติ ‘‘ภวคฺคคหณตฺถ’’นฺติอาทินา.
ปทฆาตนฺติ เอตฺถ คตมคฺโค ‘‘ปท’’นฺติ วุจฺจติ. เยน จุปาเยน การเณน กามวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, โส ตสฺส คตมคฺโคติ ตสฺส ฆาโต ปทฆาโต. อุสฺสุกฺกาเปตฺวาติ อุทฺธํ อุทฺธํ สนฺติวิเสสยุตฺตํ กตฺวา, วฑฺเฒตฺวาติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ วิภตฺเตสูติ กตรปาฬิยํ? ธมฺมสงฺคเห ตาว อฏฺ กสิณานิ ทส อสุภา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา จตฺตาริ อารุปฺปานิ วิภตฺตานิ, อาคเมสุ ทส อนุสฺสติโย อาหาเร ปฏิกูลสฺา ¶ จตุธาตุววตฺถานนฺติ อิมานิ จาติ ตตฺถ ตตฺถ วิภตฺตํ. อิเมสุ ตีสูติ กามาทีสุ ตีสุ าเนสุ.
มิจฺฉาวาจาสงฺขาตายาติ เอเตน เอกาย เจตนาย ปหาตพฺพเอกตฺตํ ทสฺเสติ. อิธ อริยสาวโก สกลฺยาณปุถุชฺชนโก เสกฺโข. กายทฺวารวีติกฺกมาติ อาชีวเหตุกโต ปาณาติปาตาทิโต วิสุํ วิสุํ วิรมณํ โยเชตพฺพํ.
อยํ ปนสฺสาติ มคฺคภาเวน จตุพฺพิธมฺปิ เอกตฺเตน คเหตฺวา อสฺส มคฺคสฺส อยํ ฌานวเสน สพฺพสทิสสพฺพาสทิสเอกจฺจสทิสตา วิเสโส. ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหตีติ อิธ ปาทกชฺฌานนิยามํ ธุรํ กตฺวา อาห, อฏฺสาลินิยํ ปน วิปสฺสนานิยามํ ตตฺถ สพฺพวาทาวิโรธโต, อิธ ปน สมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสยวาทนิวตฺตนโต ปาทกชฺฌานนิยามํ. วิปสฺสนานิยาโม ปน สาธารณตฺตา อิธาปิ น ปฏิกฺขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อฺเ จาจริยวาทา วกฺขมานา วิภชิตพฺพาติ ยถาวุตฺตเมว ตาว ปาทกชฺฌานนิยามํ วิภชนฺโต อาห ‘‘ปาทกชฺฌานนิยาเมน ตาวา’’ติ.
อารุปฺเป จตุกฺกปฺจก…เป… วุตฺตํ อฏฺสาลินิยนฺติ อธิปฺปาโย. นนุ ตตฺถ ‘‘อารุปฺเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌาน’’นฺติ? สจฺจํ, เยสุ ปน สํสโย อตฺถิ, เตสํ อุปฺปตฺติทสฺสเนน, เตนตฺถโต จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตเมว โหตีติ เอวมาหาติ เวทิตพฺพํ. สมุทายฺจ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ตฺจ โลกุตฺตรํ, น โลกิย’’นฺติ อาห. จตุตฺถชฺฌานเมว หิ โลกิยํ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, น จตุกฺกํ ปฺจกฺจาติ. เอตฺถ ¶ กถนฺติ ปาทกชฺฌานสฺส อภาวา กถํ ทฏฺพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ ตชฺฌานิกํ ปมผลาทึ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย, ติกจตุกฺกชฺฌานิกํ ปน มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺถุปฺปนฺนสฺส อรูปชฺฌานํ ตชฺฌานิกํ ผลฺจ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนาย อฺฌานิกาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ฌานงฺคาทินิยามิกา ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺติ ปาทกํ, น สมฺมสิตพฺพาติ ผลสฺสปิ ปาทกตา ทฏฺพฺพา.
ทุกฺขาณาทีนํ รูปาทิฉฬารมฺมณตฺตา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีนํ กสิณาทิตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณตฺตา ¶ สมฺมาวาจาทีนํ องฺคานํ ตํตํวิรมิตพฺพาทิอารมฺมณตฺตา ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ อาห. ตทนุรูโปติ อวิปฺปฏิสารกรสีลํ วายามสฺส วิเสสปจฺจโยติ สีลานุรูปตา วายามสฺส วุตฺตา สมฺปยุตฺตสฺสปิ, สมฺปยุตฺตสฺเสว จ วจนโต ‘‘สีลภูมิยํ ปติฏฺิตสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปติฏฺมานสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เจตโส อสมฺโมโสติ ‘‘เอการกฺโข’’ติ เอตฺถ วุตฺเตน สตารกฺเขน เจตโส รกฺขิตตา. เตนาห ‘‘อิติ…เป… สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺสา’’ติ.
อาสวกฺขยาณสฺส วิชฺชาภาโว วุตฺโตติ อาสวกฺขยสงฺขาเต มคฺเค ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิเต ปฺากฺขนฺโธ วิชฺชา, สีลสฺส จตุนฺนฺจ ฌานานํ จรณภาโว วุตฺโตติ อิตเร ทฺเว ขนฺธา จรณํ. ยนฺติ เอเตน นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ ยานํ, วิปสฺสนาว ยานํ วิปสฺสนายานํ. สีลํ สมาธิสฺส วิเสสปจฺจโย, สมาธิ วิปสฺสนายาติ สมถสฺส อุปการตฺตา สีลกฺขนฺโธ จ สมถยาเนน สงฺคหิโต. วิปสฺสนายาเนน กาเมสุ อาทีนวํ วิภาเวนฺโต สมถยาเนน นิรามิสํ ฌานสุขํ อปริจฺจชนฺโต อนฺตทฺวยกุมฺมคฺคํ วิวชฺเชติ. ปฺา วิย โมหสฺส, สีลสมาธโย จ โทสโลภานํ อุชุวิปจฺจนีกา อโทสาโลเภหิ สาเธตพฺพตฺตา. สีลสมาธิปฺาโยคโต อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ. สีลาทีนิ หิ สาสนสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ. ยสฺมึ ิโต มคฺคฏฺโ ผลฏฺโ จ อริโย โหติ, ตํ มคฺคผลสงฺขาตํ ขนฺธตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ อริยภูมิ.
มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๐๖-๒๑๔. อริยสจฺจ-สทฺโท ¶ สมุทเย วตฺตมาโน ปริฺเยฺยภาวรหิเต เอกนฺตปหาตพฺเพ ตณฺหาสงฺขาเต สมุทเย ปวตฺตติ, น ปหาตพฺพปริฺเยฺเยสุ อวเสสกิเลสาวเสสากุสเลสุ อปฺปหาตพฺเพสุ จ สาสวกุสลมูลาวเสสสาสวกุสเลสูติ สปฺปเทโส ตตฺถ สมุทโย โหติ, เกวลํ สจฺจสทฺเท นิปฺปเทโสติ อาห ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. ทุกฺขนิโรธา ปน อริยสจฺจเทสนายํ ธมฺมโต นิปฺปเทสา เอว. น หิ ตโต อฺโ ธมฺโม อตฺถิ, โย สจฺจเทสนายํ ¶ ทุกฺขํ นิโรโธติ จ วตฺตพฺโพ สิยา, มคฺโคปิ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกวาเรสุ อปุพฺโพ นตฺถิ, ตสฺมา สมุทยเมว ‘‘นิปฺปเทสโต ทสฺเสตุ’’นฺติ วทติ ตสฺส สพฺพตฺถ ตีสุปิ วาเรสุ อปุพฺพสฺส ทสฺสิตตฺตา. อปุพฺพสมุทยทสฺสนตฺถายปิ หิ สจฺจเทสนายํ ‘‘ตตฺถ กตโม ทุกฺขสมุทโย? ตณฺหา’’ติ วจนํ เกวลาย ตณฺหาย สจฺจ-สทฺทสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. เทสนาวเสน ปน ตํ ตํ สมุทยํ เปตฺวา ทุกฺขํ ตสฺส ตสฺส ปหานวเสน นิโรโธ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกสพฺพโลกุตฺตรกุสลวเสน มคฺโค จ อริยสจฺจเทสนายํ น วุตฺโตติ ทุกฺขาทีนิ จ ตตฺถ สปฺปเทสานิ ทสฺสิตานิ โหนฺตีติ ตานิ จ นิปฺปเทสานิ ทสฺเสตุํ สจฺจเทสนา วุตฺตาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปจฺจยสงฺขาตนฺติ กมฺมกิเลสวเสน ชาติอาทิทุกฺขสฺส มูลภูตนฺติ อตฺโถ.
นิโรธสจฺจํ…เป… ปฺจหากาเรหิ นิทฺทิฏฺนฺติ อริยสจฺจเทสนโต สจฺจเทสนาย วิเสสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘ติณฺณนฺนฺจ กุสลมูลานํ อวเสสานฺจ สาสวกุสลานํ ปหาน’’นฺติ อิทํ เตสํ ปจฺจยานํ อวิชฺชาตณฺหาอุปาทานานํ ปหานวเสน, อวิชฺชาทีสุ วา ปหีเนสุ เตสํ อปฺปวตฺติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ กุสลา ปหาตพฺพาติ. ปหานนฺติ จ มคฺคกิจฺจวเสน ตทธิคมนียํ นิโรธํ ทสฺเสติ, นิโรธสฺเสว วา ตณฺหาทีนํ อปฺปวตฺติภาโว ปหานนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ยทิปิ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหติ, เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑) โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อฏฺงฺคิกมคฺคปาริปูริยา อุปนิสฺสยทสฺสนตฺถํ อิทํ ¶ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนา’’ติ วจนํ กายกมฺมาทิสุทฺธิยา ทูรตรุปนิสฺสยตํ, จกฺขาทีสุ อสารชฺชนฺตสฺส อสํยุตฺตสฺส อสมฺมูฬฺหสฺส อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต ตาเยว วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อปจยํ คจฺฉนฺเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ วิวฏฺฏนวเสน, โปโนพฺภวิกตณฺหาย ปหียมานาย กิเลสทูรีภาเวน, กายิกเจตสิกทรถสนฺตาปปริฬาเหสุ ปหียมาเนสุ ปสฺสทฺธกายจิตฺตวเสน กายิกเจตสิกสุเข ปฏิสํเวทิยมาเน ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๔๓๑) วุตฺตานํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตานํ ปฺจนฺนํ สมฺมาทิฏฺาทีนํ องฺคานํ อาสนฺนตรุปนิสฺสยตฺจ ทสฺเสตีติ อาสนฺนตรุปนิสฺสยวเสน ปฺจงฺคิกํ มคฺคํ สุขํ พุชฺฌนฺตานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน ¶ ปฺจงฺคิกมคฺคเทสนาย ปวตฺตตํ ทีเปติ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพว โข…เป… สุปริสุทฺโธ โหตีติ วจนโต’’ติอาทิ. เอวมิทํ วจนโตติ นิสฺสกฺกวจนํ เทสนุปายสฺส าปกนิทสฺสนํ โหติ, วจนโตติ วา อตฺตโน วจนานุรูปํ ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค ปฏิปทา เอวาติ ภควตา เทสิโตติ อตฺโถ. กตฺถาติ? เทวปุเร, ตสฺมา ตํ เทสิตนยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ ธมฺมสงฺคาหเกหิ. อถ วา ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺสา’’ติ วจเนเนว อชฺฌาสยวิเสสการณนิทสฺสเกน ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิโก มคฺโคปิ ปฏิปทา เอวาติ เทสิโต โหตีติ อาห ‘‘ปุพฺเพว โข ปน…เป… วจนโต ปน…เป… เทสิโต’’ติ, ตสฺมา ตํ สุตฺตนฺเต เทสิตนยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ ภควตา เทวปุเรติ อตฺโถ.
ฌาเนหิ เทสนาปเวโส, ภาวนาปเวโส วา ฌานาภินิเวโส. เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส จตุนฺนํ จตุนฺนํ นยสหสฺสานํ ทสฺสนํ คณนาสุขตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ปน ปาฬิ ิตา, ตถา เอเกกิสฺสา ปฏิปทาย สฺุตาทีสุ จ ปฺจ ปฺจ โกฏฺาเส โยเชตฺวา ปาฬิคมนํ กตนฺติ วิฺายติ. ตตฺถ อฏฺงฺคิกวาเร ทุติยชฺฌานาทีสุ ตสฺมึ สมเย สตฺตงฺคิโก มคฺโค โหตีติ โยชนา กาตพฺพา, สพฺพสงฺคาหิกวาเร จ ยถา วิชฺชมานธมฺมวเสนาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๒๑๕. เอวํ ¶ ปุริเมสุปิ ทฺวีสูติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ สุตฺตนฺตภาชนีเย ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทานิทฺเทเส โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก มคฺโค วุตฺโต. ตสฺส หิ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๐๕) ‘‘จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘ทุกฺเข าณ’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหตี’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา, ตถา สมฺมาสงฺกปฺปาทีนฺจ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกตา ทสฺสิตา ‘‘อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกฺขเณ เอกกฺขณา เอการมฺมณา’’ติอาทินา จาติ? สจฺจเมตํ, เอวํ ปน อาคมนวเสน ตตฺถาปิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานทสฺสนาทิมุเขน อริโยว ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทสฺสิโต. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหตี’’ติ มคฺคาณสฺส เอกสฺเสว ทุกฺขาณาทิตา, ‘‘มคฺคกฺขเณ ปน…เป… เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ, อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นามา’’ติอาทินา มคฺคสงฺกปฺปาทีนํ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา จ นิทฺธาริตา, ปาฬิยฺจ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อุทฺทิสิตฺวา ตเมว นิทฺทิสิตุํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน สุตฺตนฺตภาชนีเยปิ ทฺวินฺนํ โลกิยตา, ทฺวินฺนํ โลกุตฺตรตา วุตฺตา ‘‘เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสูติ เอเตนาติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๑๙. จกฺขุทฺวาเร ¶ ¶ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุทฺวารภาเว ตํทฺวาริเกหิ อตฺตโน อินฺทภาวํ ปรมิสฺสรภาวํ การยตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เต รูปคฺคหเณ อตฺตานํ อนุวตฺเตติ, เต จ ตํ อนุวตฺตนฺตีติ. เอส นโย อิตเรสุปิ. เยน ตํสมงฺคีปุคฺคโล ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา วา อฺาตาวิโน โหนฺติ, โส อฺาตาวิภาโว ปรินิฏฺิตกิจฺจชานนํ.
กตฺถจิ ทฺเวติ ‘‘ทฺวินฺนํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ขีณาสโว ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ…เป… อริยาย จ ปฺาย อริยาย จ วิมุตฺติยา. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, อริยา ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส อริยา วิมุตฺติ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖) ทฺเว, ‘‘ติณฺณํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน ภิกฺขุนา อฺา พฺยากตา…เป… สตินฺทฺริยสฺส สมาธินฺทฺริยสฺส ปฺินฺทฺริยสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๙), ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓), ‘‘ตีณิมานิ…เป… อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๒) จ เอวมาทีสุ ตีณิ, ‘‘ปฺจิมานิ, พฺราหฺมณ, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ…เป… จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… กายินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๒), ‘‘ปฺจิ…เป… สุขินฺทฺริยํ…เป… อุเปกฺขินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๐๑ อาทโย), ‘‘ปฺจิ…เป… สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๘๖ อาทโย) จ เอวมาทีสุ ปฺจ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ทุกาทิวจนํ นิสฺสรณุปายาทิภาวโต ทุกาทีนํ. สพฺพานิ ปน ¶ อินฺทฺริยานิ อภิฺเยฺยานิ, อภิฺเยฺยธมฺมเทสนา จ อภิธมฺโมติ อิธ สพฺพานิ เอกโต วุตฺตานิ.
ขีณาสวสฺส ภาวภูโต หุตฺวา อุปฺปตฺติโต ‘‘ขีณาสวสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วุตฺตํ.
ลิงฺเคติ คเมติ าเปตีติ ลิงฺคํ, ลิงฺคียติ วา เอเตนาติ ลิงฺคํ, กึ ลิงฺเคติ, กิฺจ วา ลิงฺคียตีติ? อินฺทํ อินฺโท วา, อินฺทสฺส ลิงฺคํ อินฺทลิงฺคํ, อินฺทลิงฺคสฺส อตฺโถ ตํสภาโว อินฺทลิงฺคฏฺโ, อินฺทลิงฺคเมว วา ¶ อินฺทฺริย-สทฺทสฺส อตฺโถ อินฺทลิงฺคฏฺโ. สชฺชิตํ อุปฺปาทิตนฺติ สิฏฺํ, อินฺเทน สิฏฺํ อินฺทสิฏฺํ. ชุฏฺํ เสวิตํ. กมฺมสงฺขาตสฺส อินฺทสฺส ลิงฺคานิ, เตน จ สิฏฺานีติ กมฺมชาเนว โยเชตพฺพานิ, น อฺานิ. เต จ ทฺเว อตฺถา กมฺเม เอว โยเชตพฺพา, อิตเร จ ภควติ เอวาติ ‘‘ยถาโยค’’นฺติ อาห. เตนาติ ภควโต กมฺมสฺส จ อินฺทตฺตา. เอตฺถาติ เอเตสุ อินฺทฺริเยสุ. อุลฺลิงฺเคนฺติ ปกาเสนฺติ ผลสมฺปตฺติวิปตฺตีหิ การณสมฺปตฺติวิปตฺติอวโพธโต. ‘‘โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๓๕) โคจรกรณมฺปิ อาเสวนาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘กานิจิ โคจราเสวนายา’’ติ. ตตฺถ สพฺเพสํ โคจรีกาตพฺพตฺเตปิ ‘‘กานิจี’’ติ วจนํ อวิปสฺสิตพฺพานํ พหุลีมนสิกรเณน อนาเสวนียตฺตา. ปจฺจเวกฺขณามตฺตเมว หิ เตสุ โหตีติ. ‘‘ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) ภาวนา ‘‘อาเสวนา’’ติ วุตฺตาติ ภาเวตพฺพานิ สทฺธาทีนิ สนฺธายาห ‘‘กานิจิ ภาวนาเสวนายา’’ติ. อาธิปจฺจํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว, อสติ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเว อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ อตฺตโน ปจฺจยวเสน ปวตฺตมาเนหิ ตํสหิตสนฺตาเน อฺากาเรน อนุปฺปชฺชมาเนหิ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียภาโว, อิมสฺมิฺจตฺเถ อินฺทนฺติ ปรมิสฺสริยํ กโรนฺติจฺเจว อินฺทฺริยานิ. จกฺขาทีสุ ทสฺสิเตน นเยน อฺเสฺจ ตทนุวตฺตีสุ อาธิปจฺจํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.
เหฏฺาติ อฏฺสาลินิยํ. อโมโห เอว, น วิสุํ จตฺตาโร ธมฺมา, ตสฺมา อโมหสฺส ปฺินฺทฺริยปเท วิภาวิตานิ ลกฺขณาทีนิ เตสฺจ เวทิตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. เสสานิ อฏฺสาลินิยํ ลกฺขณาทีหิ สรูเปเนว อาคตานิ. นนุ จ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานํ ตตฺถ ลกฺขณาทีนิ น วุตฺตานีติ? กิฺจาปิ น วุตฺตานิ, โสมนสฺสโทมนสฺสินฺทฺริยานํ ปน วุตฺตลกฺขณาทิวเสน วิฺเยฺยโต เอเตสมฺปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. กถํ? อิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ สุขินฺทฺริยํ, อิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกสฺสาทปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานํ ¶ . อนิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ ทุกฺขินฺทฺริยํ, อนิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกาพาธปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานนฺติ. เอตฺถ จ อิฏฺานิฏฺาการานเมว อารมฺมณานํ สมฺโภครสตา เวทิตพฺพา, น วิปรีเตปิ อิฏฺากาเรน อนิฏฺากาเรน จ สมฺโภครสตาติ.
สตฺตานํ ¶ อริยภูมิปฏิลาโภ ภควโต เทสนาย สาธารณํ ปธานฺจ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตธมฺมํ ปริฺายา’’ติอาทิ. อฏฺกถายํ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยเทสนกฺกโม วุตฺโต, โส อินฺทฺริยยมกเทสนาย สเมติ. อิธ ปน อินฺทฺริยวิภงฺเค มนินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยํ วุตฺตํ, ตํ ปุริมปจฺฉิมานํ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ อนุปาลกตฺเตน เตสํ มชฺเฌ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยฺจ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขํ. ยาว จ ทุวิธตฺตภาวานุปาลกสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺติ, ตาว ทุกฺขภูตานํ เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺตีติ าปนตฺถํ. เตน จ จกฺขาทีนํ ทุกฺขานุพนฺธตาย ปริฺเยฺยตํ าเปติ. ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตาติ ภาวนามคฺคสมฺปยุตฺตํ อฺินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทสฺสนานนฺตรา หิ ภาวนาติ.
สติปิ ปุเรชาตาทิปจฺจยภาเว อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพเมว กิจฺจํ ‘‘กิจฺจ’’นฺติ อาห ตสฺส อนฺสาธารณตฺตา อินฺทฺริยกถาย จ ปวตฺตตฺตา. ปุพฺพงฺคมภาเวน มนินฺทฺริยสฺส วสวตฺตาปนํ โหติ, นาฺเสํ. ตํสมฺปยุตฺตานิปิ หิ อินฺทฺริยานิ สาเธตพฺพภูตาเนว อตฺตโน อตฺตโน อินฺทฺริยกิจฺจํ สาเธนฺติ เจตสิกตฺตาติ. ‘‘สพฺพตฺถ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพ’’นฺติ อยํ อธิกาโร อนุวตฺตตีติ ทฏฺพฺโพ. อนุปฺปาทเน อนุปตฺถมฺเภ จ ตปฺปจฺจยานํ ตปฺปวตฺตเน นิมิตฺตภาโว อนุวิธานํ. ฉาเทตฺวา ผริตฺวา อุปฺปชฺชมานา สุขทุกฺขเวทนา สหชาเต อภิภวิตฺวา สยเมว ปากฏา โหติ, สหชาตา จ ตพฺพเสน สุขทุกฺขภาวปฺปตฺตา วิยาติ อาห ‘‘ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปน’’นฺติ. อสนฺตสฺส อปณีตสฺสปิ อกุสลตพฺพิปากาทิสมฺปยุตฺตสฺส มชฺฌตฺตาการานุปาปนํ โยเชตพฺพํ, สมานชาติยํ วา สุขทุกฺเขหิ สนฺตปณีตาการานุปาปนฺจ. ปสนฺนปคฺคหิตอุปฏฺิตสมาหิตทสฺสนาการานุปาปนํ ยถากฺกมํ สทฺธาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ, มคฺคสมฺปยุตฺตสฺเสว จ อินฺทฺริยสฺส กิจฺจํ ทสฺสิตํ, เตเนว ผลสมฺปยุตฺตสฺส ตํตํสํโยชนานํเยว ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานกิจฺจตา ทสฺสิตา โหตีติ. สพฺพกตกิจฺจํ อฺาตาวินฺทฺริยํ อฺสฺส กาตพฺพสฺส อภาวา อมตาภิมุขเมว ตพฺภาวปจฺจโย จ โหติ, น อิตรานิ วิย กิจฺจนฺตรปสุตฺจ. เตนาห ‘‘อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จา’’ติ.
๒๒๐. เอวํ ¶ ¶ สนฺเตปีติ สติปิ สพฺพสงฺคาหกตฺเต วีริยินฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กุสลากุสลวีริยาทีนิ, จกฺขุนฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กาลปุคฺคลปจฺจยาทิเภเทน ภินฺนานิ จกฺขาทีนิ สงฺคณฺหนฺติจฺเจว สพฺพสงฺคาหกานิ, น ยสฺสา ภูมิยา ยานิ น วิชฺชนฺติ, เตสํ สงฺคาหกตฺตาติ อตฺโถ. เตน จ อวิเสสิตตฺตา สพฺเพสํ สพฺพภูมิกตฺตคหณปฺปสงฺเค ตํนิวตฺตเนน สพฺพสงฺคาหกวจนํ อวิชฺชมานสฺส สงฺคาหกตฺตทีปกํ น โหตีติ ทสฺเสติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๒๒๓. อิธ อนาภฏฺนฺติ เอกนฺตานารมฺมณตฺเตน ภาสิตํ. ‘‘รูปมิสฺสกตฺตา อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ มิสฺสกตฺตา เอว ชีวิตินฺทฺริยํ อนารมฺมเณสุ อสงฺคหิตํ. น หิ อฏฺินฺทฺริยา อนารมฺมณาติ วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ชีวิตินฺทฺริยเอกเทสสฺส ปน อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อรูปโกฏฺาเสน ปริตฺตารมฺมณาทิตา อตฺถีติ สิยาปกฺเข สงฺคหิตนฺติ อธิปฺปาโย. อรูปโกฏฺาเสน ปน ปริตฺตารมฺมณาทิตา, รูปโกฏฺาเสน จ นวตฺตพฺพตา อตฺถีติ มิสฺสกสฺส สมุทายสฺเสว วเสน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ, น เอกเทสวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อนารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ น โหตีติ. ‘‘รูปฺจ นิพฺพานฺจ อนารมฺมณา, สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณา’’ติอาทิวจนฺจ อวิชฺชมานารมฺมณานารมฺมเณสุ นวตฺตพฺเพสุ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ, น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตํ, นวตฺตพฺพสฺส วา สารมฺมณตํ. น หิ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณ นิรุฬฺโห. ยทิปิ สิยา, ‘‘ติสฺโส จ เวทนา รูปฺจ นิพฺพานฺจ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’’ติอาทิ น วุจฺเจยฺย, อถาปิ ปริตฺตารมฺมณาทิสมฺพนฺโธ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณสฺเวว วตฺตติ, ‘‘ทฺวายตนา สิยา ปริตฺตารมฺมณา’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘มนายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘ธมฺมายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘สิยา อนารมฺมณ’’นฺติปิ วตฺตพฺพํ สิยา. น หิ ปฺหปุจฺฉเก สาวเสสา เทสนา อตฺถีติ ¶ . ‘‘อฏฺินฺทฺริยา สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ เอตฺถ จ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ¶ อากิฺจฺายตนกาเล อรูปสฺส รูปสฺส จ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
อุทฺเทสวารวณฺณนา
๒๒๕. ‘‘‘กึวาที ¶ ¶ ภนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ? ‘วิภชฺชวาที มหาราชา’’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.ตติยสงฺคีติกถา) โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน. เต หิ เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทนฺติ, จีวราทีนํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาวํ วา สสฺสตุจฺเฉทวาเท วา วิภชฺช วทนฺติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีนํ ปนียานํ ปนโต ราคาทิกฺขยสฺส สสฺสตสฺส ราคาทิกายทุจฺจริตาทิอุจฺเฉทสฺส จ วจนโต, น ปน เอกํสพฺยากรณียาทโย ตโย ปฺเห อปเนตฺวา วิภชฺชพฺยากรณียเมว วทนฺตีติ. วิภชฺชวาทีนํ มณฺฑลํ สมูโห วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ, วิภชฺชวาทิโน วา ภควโต ปริสา วิภชฺชวาทิมณฺฑลนฺติปิ วทนฺติ. อาจริเยหิ วุตฺตอวิปรีตตฺถทีปเนน เต อนพฺภาจิกฺขนฺเตน. ‘‘อวิชฺชา ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารานํ เหตุปจฺจโย โหตี’’ติอาทึ วทนฺโต กถาวตฺถุมฺหิ ปฏิกฺขิตฺเต ปุคฺคลวาทาทิเก จ วทนฺโต สกสมยํ โวกฺกมติ นาม, ตถา อโวกฺกมนฺเตน. ปรสมยํ โทสาโรปนพฺยาปารวิรเหน อนายูหนฺเตน. ‘‘อิทมฺปิ ยุตฺตํ คเหตพฺพ’’นฺติ ปรสมยํ อสมฺปิณฺเฑนฺเตนาติ เกจิ วทนฺติ.
‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติอาทึ (ม. นิ. ๑.๓๙๖) วทนฺโต สุตฺตํ ปฏิพาหติ นาม, ตถา อปฺปฏิพาหนฺเตน. ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ¶ ภควตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. ๔๑๘, ๔๒๙), ‘‘สุปินนฺเต กโต วีติกฺกโม อาปตฺติกโร โหตี’’ติ จ เอวมาทึ วทนฺโต วินยํ ปฏิโลเมติ นาม, ตพฺพิปริยาเยน ตํ อนุโลเมนฺเตน. ปฏิโลเมนฺโต หิ กมฺมนฺตรํ ภินฺทนฺโต ธมฺมตฺจ วิโลเมติ. สุตฺตนฺเต วุตฺเต จตฺตาโร มหาปเทเส, อฏฺกถายฺจ วุตฺเต สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติมหาปเทเส โอโลเกนฺเตน. ตํโอโลกเนน หิ สุตฺเต ¶ วินเย จ สนฺติฏฺติ นาติธาวติ. ธมฺมนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬึ. อตฺถนฺติ ตทตฺถํ. เหตุเหตุผลานิ อิธ นาธิปฺเปตานิ. ‘‘ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปริวตฺติตฺวา ปุน ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติอาทีหิ อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตน. ‘‘สงฺขารา อิมินา ปริยาเยน ภโวติ วุจฺจนฺติ, ตณฺหา อิมินา ปริยาเยน อุปาทาน’’นฺติอาทินา นิทฺทิสนฺเตนาติ วทนฺติ.
สตฺโตติ สตฺตสฺุตาติ วทนฺติ, สตฺตสฺุเสุ วา สงฺขาเรสุ สตฺตโวหาโร. ปจฺจยาการเมว จาติ ปจฺจยากาโร เอว จ, ม-กาโร ปทสนฺธิกโร.
ตสฺมาติ วุตฺตนเยน อตฺถวณฺณนาย กาตพฺพตฺตา ทุกฺกรตฺตา จ.
ปติฏฺํ นาธิคจฺฉามีติ ยตฺถ ิตสฺส วณฺณนา สุกรา โหติ, ตํ นยํ อตฺตโนเยว าณพเลน นาธิคจฺฉามีติ อตฺโถ. นิสฺสยํ ปน อาจิกฺขนฺโต อาห ‘‘สาสนํ ปนิท’’นฺติอาทิ. อิธ สาสนนฺติ ปาฬิธมฺมมาห, ปฏิจฺจสมุปฺปาทเมว วา. โส หิ อนุโลมปฏิโลมาทินานาเทสนานยมณฺฑิโต อพฺโพจฺฉินฺโน อชฺชาปิ ปวตฺตตีติ นิสฺสโย โหติ. ตทฏฺกถาสงฺขาโต จ ปุพฺพาจริยมคฺโคติ.
‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ อาทรชนเน กึ ปโยชนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถํ กตฺวา, ยถา วา น นสฺสติ, เอวํ อฏฺิคตํ วิย กโรนฺโต อฏฺึ กตฺวา. ปุพฺพกาลโต อปรกาเล ภวํ ปุพฺพาปริยํ. ปมารมฺภาทิโต ปภุติ ขเณ ขเณ าณวิเสสํ กิเลสกฺขยวิเสสฺจ ลภตีติ อตฺโถ.
กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ มูลการณตฺตา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อวิชฺชา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูลํ. ตตฺถ วลฺลิยา มูเล ทิฏฺเ ตโต ปภุติ วลฺลิยา หรณํ วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ¶ มูเล ทิฏฺเ ตโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาติ อุปมาสํสนฺทนา น กาตพฺพา. น หิ ภควโต ‘‘อิทเมว ทิฏฺํ, อิตรํ อทิฏฺ’’นฺติ วิภชนียํ อตฺถิ สพฺพสฺส ทิฏฺตฺตา. มูลโต ปภุติ ปน วลฺลิยา หรณํ วิย มูลโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา กตาติ อิทเมตฺถ สามฺมธิปฺเปตํ, โพธเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา โพเธตพฺพภาเวน มูลาทิทสฺสนสามฺฺจ โยเชตพฺพํ.
ตสฺสาติ ¶ –
‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, กุมาโร วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต…เป… รชนีเยหิ, โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป สารชฺชติ, อปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺิตกายสตี จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส. โส ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวํ อนุโรธวิโรธํ สมาปนฺโน ยํ กิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘) –
เอวํ วุตฺตสฺส. เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิ. อภิวทโตติ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ วจีเภทกรปฺปตฺตาย พลวตณฺหาย ‘‘อหํ มมา’’ติ อภิวทโต. ตโต พลวติยา โมเจตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อชฺโฌสาย ติฏฺโต. ตโตปิ พลวตี อุปาทานภูตา ตณฺหา นนฺที. เอตฺถ จ อภินนฺทนาทินา ตณฺหา วุตฺตา, นนฺทีวจเนน ตปฺปจฺจยํ อุปาทานํ จตุพฺพิธมฺปิ นนฺทิตาตทวิปฺปโยคตาหิ ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนภาเวหิ จาติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทิกฺจ ตตฺเถว มหาตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๐๒-๔๐๓) วุตฺตํ.
วิปากวฏฺฏภูเต ปฏิสนฺธิปวตฺติผสฺสาทโย กมฺมสมุฏฺานฺจ โอชํ สนฺธาย ‘‘จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา’’ติอาทิ วุตฺตํ, วฏฺฏูปตฺถมฺภกา ปน อิตเรปิ อาหารา ตณฺหาปภเว ตสฺมึ อวิชฺชมาเน น วิชฺชนฺตีติ ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏนฺติ.
ตโต ตโตติ จตุพฺพิธาสุ เทสนาสุ ตโต ตโต เทสนาโต. ายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตตีติ าโยติ ¶ มคฺโค, โสเยว วา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อริโย จสฺส าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๔๑) วจนโต. สยเมว หิ สมนฺตภทฺรกตฺตา ตถา ตถา ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา ตาย ตาย เทสนาย อตฺตโน ปฏิเวธาย สํวตฺตตีติ. สมนฺตภทฺรกตฺตํ เทสนาวิลาสปฺปตฺติ จ จตุนฺนมฺปิ เทสนานํ สมานํ การณนฺติ วิเสสการณํ ¶ วตฺตุกาโม อาห ‘‘วิเสสโต’’ติ. อสฺส ภควโต เทสนา, อสฺส วา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เทสนาติ โยเชตพฺพํ. ปวตฺติการณวิภาโค อวิชฺชาทิโกว, การณนฺติ วา คหิตานํ ปกติอาทีนํ อวิชฺชาทีนฺจ อการณตา การณตา จ. ตตฺถ สมฺมูฬฺหา เกจิ อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหนฺติ, เกจิ น กิฺจิ การณํ พุชฺฌนฺตีติ เตสํ ยถาสเกหิ อนุรูเปหิ การเณหิ สงฺขาราทิปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อนุโลมเทสนา ปวตฺตา, อิตราสํ ตทตฺถตาสมฺภเวปิ น ตาสํ ตทตฺถเมว ปวตฺติ อตฺถนฺตรสพฺภาวโต. อยํ ปน ตทตฺถา เอวาติ เอติสฺสา ตทตฺถตา วุตฺตา. ปวตฺติอาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา อาทิ, ตโต สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ ตโต วิฺาณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ.
อนุวิโลกยโต โย สมฺโพธิโต ปุพฺพภาเค ตํตํผลปฏิเวโธ ปวตฺโต, ตทนุสาเรน ตทนุคเมน ชรามรณาทิกสฺส ชาติอาทิการณํ ยํ อธิคตํ, ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถํ อสฺส ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตา, อนุวิโลกยโต ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตาติ วา สมฺพนฺโธ. เทเสนฺโตปิ หิ ภควา กิจฺฉาปนฺนํ โลกํ อนุวิโลเกตฺวา ปุพฺพภาค…เป… สนฺทสฺสนตฺถํ เทเสตีติ. อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา, สงฺขาราวิชฺชา อตีตทฺธาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา’’ติ, อาหารา วา ตณฺหาย ปภาเวตพฺพา อนาคโต อทฺธา, ตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺโน, สงฺขาราวิชฺชา อตีโตติ. ปจฺจกฺขํ ปน ผลํ ทสฺเสตฺวา ตํนิทานทสฺสนวเสน ผลการณปรมฺปราย ทสฺสนํ ยุชฺชตีติ อาหารา ปุริมตณฺหาย อุปฺปาทิตา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา, ตณฺหาทโย อตีโต, สงฺขาราวิชฺชา ตโตปิ อตีตตโร สํสารสฺส อนาทิภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ ยาว อตีตํ อทฺธานนฺติ ยาว อตีตตรํ อทฺธานนฺติ อตฺโถ ยุตฺโต.
อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา วา จตฺตาโร อาหารา –
‘‘อาหาเรตีติ อหํ น วทามิ, อาหาเรตีติ จาหํ วเทยฺยุํ, ตตฺรสฺส กลฺโล ปฺโห ¶ ‘โก นุ โข, ภนฺเต, อาหาเรตี’ติ. เอวํ จาหํ น วทามิ, เอวํ ปน อวทนฺตํ มํ โย เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, วิฺาณาหาโร’ติ. เอส กลฺโล ¶ ปฺโห, ตตฺร กลฺลํ เวยฺยากรณํ, วิฺาณาหาโร อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒) –
วจนโต ตํสมฺปยุตฺตตฺตา ผสฺสเจตนานํ ตปฺปวตฺติเหตุตฺตา จ กพฬีการาหารสฺส. เตน หิ อุปตฺถมฺภิตรูปกายสฺส, ตฺจ อิจฺฉนฺตสฺส กมฺมวิฺาณายูหนํ โหติ. โภชนฺหิ สทฺธาทีนํ ราคาทีนฺจ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตนฺติ. ตสฺมา ‘‘เต กมฺมวฏฺฏสงฺคหิตา อาหารา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ อิมสฺมึ ปริยาเย ปุริโมเยวตฺโถ ยุตฺโต. อตีตทฺธุโต ปภุติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๓) อตีเต ตโต ปรฺจ เหตุผลปฏิปาฏึ ปจฺจกฺขานํ อาหารานํ นิทานทสฺสนวเสน อาโรหิตฺวา นิวตฺตเนน วินา อพุชฺฌนฺตานํ ตํสนฺทสฺสนตฺถํ สา อยํ เทสนา ปวตฺตาติ อตฺโถ. อนาคตทฺธุโน สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อนาคตทฺธุโน ทุปฺปฏิวิชฺฌนฺตานํ อปสฺสนฺตานํ ปจฺจกฺขํ ปจฺจุปฺปนฺนํ เหตุํ ทสฺเสตฺวา เหตุผลปรมฺปราย ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.
มูลการณสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘น อการณ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส กโต. อการณํ ยทิ สิยา, สุตฺตํ ปฏิพาหิตํ สิยาติ ทสฺเสนฺโต สุตฺตํ อาหรติ. วฏฺฏกถาย สีสภาโว วฏฺฏเหตุโน กมฺมสฺสปิ เหตุภาโว. ตตฺถ ภวตณฺหายปิ เหตุภูตา อวิชฺชา, ตาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ภเว ตณฺหุปฺปตฺติโตติ อวิชฺชา วิเสเสน สีสภูตาติ ‘‘มูลการณ’’นฺติ วุตฺตา. ปุริมาย โกฏิยา อปฺายมานาย อุปฺปาทวิรหโต นิจฺจตํ คณฺเหยฺยาติ อาห ‘‘เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจตี’’ติอาทิ. เตน อิโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพตา นตฺถีติ อปฺายนโต ปุริมโกฏิอปฺายนํ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.
อวิชฺชาตณฺหาเหตุกฺกเมน ผเลสุ วตฺตพฺเพสุ ‘‘สุคติทุคฺคติคามิโน’’ติ วจนํ สทฺทลกฺขณาวิโรธนตฺถํ. ทฺวนฺเท หิ ปูชิตสฺส ปุพฺพนิปาโตติ. สวรา กิร มํสสฺส อฏฺินา อลคฺคนตฺถํ ปุนปฺปุนํ ตาเปตฺวา โกฏฺเฏตฺวา อุณฺโหทกํ ปาเยตฺวา วิริตฺตํ สูนํ อฏฺิโต มุตฺตมํสํ คาวึ มาเรนฺติ. เตนาห ‘‘อคฺคิสนฺตาปิ’’จฺจาทิ. ตตฺถ ยถา วชฺฌา คาวี จ อวิชฺชาภิภูตตาย ยถาวุตฺตํ อุณฺโหทกปานํ อารภติ, เอวํ ปุถุชฺชโน ยถาวุตฺตํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ. ยถา ปน สา อุณฺโหทกปาเน ¶ อาทีนวํ ทิสฺวา ¶ ตณฺหาวเสน สีตุทกปานํ อารภติ, เอวมยํ อวิชฺชาย มนฺทตฺตา ทุคฺคติคามิกมฺเม อาทีนวํ ทิสฺวา ตณฺหาวเสน สุคติคามิกมฺมํ อารภติ. ทุกฺเข หิ อวิชฺชํ ตณฺหา อนุวตฺตติ, สุเข ตณฺหํ อวิชฺชาติ.
เอวนฺติ อวิชฺชาย นิวุตตฺตา ตณฺหาย สํยุตฺตตฺตา จ. อยํ กาโยติ สวิฺาณกกาโย ขนฺธปฺจกํ, ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วจนโต ผสฺสการณฺเจตํ วุจฺจตีติ อายตนฉกฺกํ วา. สมุทาคโตติ อุปฺปนฺโน. พหิทฺธา จ นามรูปนฺติ พหิทฺธา สวิฺาณกกาโย ขนฺธปฺจกํ, สฬายตนานิ วา. อิตฺเถตนฺติ อิตฺถํ เอตํ. อตฺตโน จ ปเรสฺจ ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ จ ทฺวารารมฺมณภาเวน ววตฺถิตานิ ทฺวยนามานีติ อตฺโถ. ‘‘ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโสติ อฺตฺถ จกฺขุรูปาทีนิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. มหาทฺวยํ นาม กิเรต’’นฺติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๙) วุตฺตํ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – อฺตฺถ ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔๓) ‘‘จกฺขุ เจว รูปา จ…เป… มโน เจว ธมฺมา จา’’ติ วุตฺตานิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน ‘‘อยฺเจว กาโย’’ติ จกฺขาทินิสฺสเย เสสธมฺเม จกฺขาทินิสฺสิเต เอว กตฺวา วุตฺตํ, จกฺขาทิกายํ เอกตฺเตน ‘‘อชฺฌตฺติกายตน’’นฺติ คเหตฺวา ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตํ, รูปาทิอารมฺมณํ เอกตฺเตเนว พาหิรายตนนฺติ ตานิ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ ปฏิจฺจ ผสฺโส วุตฺโต, ตสฺมา มหาทฺวยํ นาเมตนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อตฺตโน จ ปรสฺส จ ปฺจหิ ขนฺเธหิ ฉหายตเนหิ จาปิ อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพวา’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๙) วุตฺตํ. ‘‘อยํ กาโย’’ติ หิ วุตฺตานิ สนิสฺสยานิ จกฺขาทีนิ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธา, ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตานิ รูปาทีนิ ปเรสํ. ตถา อยํ กาโย อตฺตโนว อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, พหิทฺธา นามรูปํ ปเรสํ พาหิรานีติ. อฺถา อชฺฌตฺติกายตนมตฺเต เอว ‘‘อยํ กาโย’’ติ วุตฺเต น อชฺฌตฺติกายตนาเนว อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺตีติ อตฺตโน จ ปเรสฺจ ปฺจกฺขนฺเธหิ ทีปนา น สมฺภเวยฺยาติ. สเฬวายตนานีติ สเฬว สมฺผสฺสการณานิ, เยหิ การณภูเตหิ อายตเนหิ อุปฺปนฺเนน ผสฺเสน ผุฏฺโ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ.
อาทิ-สทฺเทน ¶ ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรน อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ตณฺหาย ¶ สํยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ โยเชตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ สุตฺเต สงฺขาเร อวิชฺชาตณฺหานิสฺสิเต เอว กตฺวา กายคฺคหเณน วิฺาณนามรูปสฬายตนานิ คเหตฺวา เอตสฺมิฺจ กาเย สฬายตนานํ ผสฺสํ ตํนิสฺสิตเมว กตฺวา เวทนาย วิเสสปจฺจยภาวํ ทสฺเสนฺเตน ภควตา พาลปณฺฑิตานํ อตีตทฺธาวิชฺชาตณฺหามูลโก เวทนานฺโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทสฺสิโต. ปุน จ พาลปณฺฑิตานํ วิเสสํ ทสฺเสนฺเตน –
‘‘ยาย จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย นิวุตสฺส พาลสฺส ยาย จ ตณฺหาย สํยุตฺตสฺส อยํ กาโย สมุทาคโต, สา เจว อวิชฺชา พาลสฺส อปฺปหีนา, สา จ ตณฺหา อปริกฺขีณา. ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, พาโล อจริ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตสฺมา พาโล กายสฺส เภทา กายูปโค โหติ, โส กายูปโค สมาโน น ปริมุจฺจติ ชาติยา…เป… ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๙) –
เวทนาปภวํ สาวิชฺชํ ตณฺหํ ทสฺเสตฺวา อุปาทานภเว จ ตํนิสฺสิเต กตฺวา ‘‘กายูปโค โหตี’’ติอาทินา ชาติอาทิเก ทสฺเสนฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อุภยมูโลว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต, ตพฺพิปริยาเยน จ ปณฺฑิตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนเหตุปริกฺขยโต ปภุติ อุภยมูลโก ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ.
ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา อวิชฺชา ‘‘อวินฺทิยํ วินฺทตี’’ติ วุตฺตา, ตถา วิเสสปจฺจโย วินฺทิยสฺส น โหตีติ ‘‘วินฺทิยํ น วินฺทตี’ติ จ. อตฺตนิ นิสฺสิตานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปวตฺตนํ อุปฺปาทนํ อายตนํ. สมฺโมหภาเวเนว อนภิสมยภูตตฺตา อวิทิตํ อฺาตํ กโรติ. อนฺตวิรหิเต ชวาเปตีติ จ วณฺณาคมวิปริยายวิการวินาสธาตุอตฺถวิเสสโยเคหิ ปฺจวิธสฺส นิรุตฺติลกฺขณสฺส วเสน ตีสุปิ ปเทสุ อ-การ วิ-การ ช-กาเร คเหตฺวา อฺเสํ วณฺณานํ โลปํ กตฺวา ช-การสฺส จ ทุติยสฺส อาคมํ กตฺวา ‘‘อวิชฺชา’’ติ วุตฺตา. พฺยฺชนตฺถํ ทสฺเสตฺวา สภาวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานิ ‘‘อิทํ วตฺถุ, อิทมารมฺมณ’’นฺติ อวิชฺชาย าตุํ ¶ น สกฺกาติ อวิชฺชา ตปฺปฏิจฺฉาทิกา วุตฺตา. วตฺถารมฺมณสภาวจฺฉาทนโต เอว อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวสฺส, ชรามรณาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนภาวสฺส จ ฉาทนโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนฉาทนํ เวทิตพฺพํ.
สงฺขาร-สทฺทคฺคหเณน ¶ อาคตา สงฺขารา สงฺขาร-สทฺเทน อาคตสงฺขารา. ยทิปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราปิ สงฺขาร-สทฺเทน อาคตา, เต ปน อิมิสฺสา เทสนาย ปธานาติ วิสุํ วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ทุวิธา’’ติ เอตฺถ อภิสงฺขรณกสงฺขารํ สงฺขาร-สทฺเทนาคตํ สนฺธาย ตตฺถ วุตฺตมฺปิ วชฺเชตฺวา สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา โยเชตพฺพา. ‘‘สงฺขาร-สทฺเทนาคตสงฺขารา’’ติ วา สมุทาโย วุตฺโต, ตเทกเทโส จ อิธ วณฺณิตพฺพภาเวน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ, ตสฺมา วณฺณิตพฺพสพฺพสงฺคหณวเสน ทุวิธตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโรติอาทินา วิตกฺกวิจารอสฺสาสปสฺสาสสฺาเวทนาวจีสงฺขาราทโย วุตฺตา, น อวิชฺชาสงฺขาเรสุ วุตฺตา กายสฺเจตนาทโย.
ปริตสฺสตีติ ปิปาสติ. ภวตีติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภาวยตีติ กมฺมภวํ. จุติ ขนฺธานํ มรณนฺติ ‘‘มรนฺติ เอเตนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทุกฺขา เวทนา อุปฺปาททุกฺขา ิติทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) วจนโต ทฺเวธา ขณติ. อายาโสติ ปริสฺสโม วิสาโท. เกวล-สทฺโท อสมฺมิสฺสวาจโก โหติ ‘‘เกวลา สาลโย’’ติ, นิรวเสสวาจโก จ ‘‘เกวลา องฺคมคธา’’ติ, ตสฺมา ทฺเวธาปิ อตฺถํ วทติ. ตตฺถ อสมฺมิสฺสสฺสาติ สุขรหิตสฺส. น หิ เอตฺถ กิฺจิ อุปฺปาทวยรหิตํ อตฺถีติ.
ตํสมฺปยุตฺเต, ปุคฺคลํ วา สมฺโมหยตีติ สมฺโมหนรสา. อารมฺมณสภาวสฺส ฉาทนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ฉาทนปจฺจุปฏฺานา. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต อาสวปทฏฺานา. ปฏิสนฺธิชนนตฺถํ อายูหนฺติ พฺยาปารํ กโรนฺตีติ อายูหนรสา, ราสิกรณํ วา อายูหนํ. นามรูปสฺส ปุเรจาริกภาเวน ปวตฺตตีติ ปุพฺพงฺคมรสํ. ปุริมภเวน สทฺธึ ฆฏนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺานํ. วิฺาเณน สห สมฺปยุชฺชตีติ สมฺปโยครสํ. อฺมฺํ สมฺปโยคาภาวโต รูปํ วิกิรตีติ วิกิรณรสํ. เอวฺจ กตฺวา ปิสิยมานา ตณฺฑุลาทโย วิกิรนฺติ จุณฺณี ภวนฺตีติ. นามสฺส กทาจิ กุสลาทิภาโว จ อตฺถีติ ตโต ¶ วิเสสนตฺถํ ‘‘อพฺยากตปจฺจุปฏฺาน’’นฺติ อาห. ‘‘อเจตนา อพฺยากตา’’ติ เอตฺถ วิย อนารมฺมณตา วา อพฺยากตตา ทฏฺพฺพา. อายตนลกฺขณนฺติ ฆฏนลกฺขณํ, อายานํ ตนนลกฺขณํ วา. ทสฺสนาทีนํ การณภาโว ทสฺสนาทิรสตา. อกุสลวิปากุเปกฺขาย อนิฏฺภาวโต ทุกฺเขน อิตราย จ อิฏฺภาวโต สุเขน สงฺคหิตตฺตา ‘‘สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติ อาห. ทุกฺขสมุทยตฺตา เหตุลกฺขณา ตณฺหา. ‘‘ตตฺรตตฺราภินนฺทินี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓, ๔๖๐; วิภ. ๒๐๓) วจนโต ¶ อภินนฺทนรสา. จิตฺตสฺส, ปุคฺคลสฺส วา รูปาทีสุ อติตฺตภาโว หุตฺวา คยฺหตีติ อติตฺตภาวปจฺจุปฏฺานา. ตณฺหาทฬฺหตฺตํ หุตฺวา กามุปาทานํ, เสสานิ ทิฏฺิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺิปจฺจุปฏฺานา. กมฺมุปปตฺติภววเสน ภวสฺส ลกฺขณาทโย โยเชตพฺพา.
อาทิ-สทฺเทน อนุโพธาทิภาวคฺคหณํ. ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อปฺปฏิปตฺติ, อสุภาทีสุ สุภาทิวิปลฺลาสา มิจฺฉาปฏิปตฺติ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา วา อปฺปฏิปตฺติ, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา มิจฺฉาปฏิปตฺติ. น อวิชฺชาย เอว ฉทฺวาริกตา ฉฬารมฺมณตา จ, อถ โข อฺเสุปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ อรูปธมฺมานนฺติ อาห ‘‘สพฺเพสุปี’’ติ. โนภยโคจรนฺติ มนายตนมาห. น หิ อรูปธมฺมานํ เทสวเสน อาสนฺนตา ทูรตา จ อตฺถิ อสณฺานตฺตา, ตสฺมา มนายตนสฺส โคจโร น มนายตนํ สมฺปตฺโต อสมฺปตฺโต วาติ วุจฺจตีติ.
โสกาทีนํ สพฺภาวา องฺคพหุตฺตปฺปสงฺเค ‘‘ทฺวาทเสวา’’ติ องฺคานํ ววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. น หิ โสกาทโย องฺคภาเวน วุตฺตา, ผเลน ปน การณํ อวิชฺชํ มูลงฺคํ ทสฺเสตุํ เต วุตฺตาติ. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺตีติ โสกาทีนํ ชรามรณการณตา วุตฺตา. ‘‘สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒) จ สุตฺเต ชรามรณนิมิตฺตฺจ ทุกฺขํ สงฺคหิตนฺติ ตํตํนิมิตฺตานํ สาธกภาเวน วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ชรามรเณเนว โสกาทีนํ เอกสงฺเขโป กโต, ตสฺมา เตสํ ชาติปจฺจยตา ยุชฺชติ. ชรามรณปจฺจยภาเว หิ อวิชฺชาย เอกสงฺเขโป กาตพฺโพ สิยา, ชาติปจฺจยา ปน ชรามรณํ โสกาทโย จ สมฺภวนฺตีติ. ตตฺถ ชรามรณํ เอกนฺติกํ องฺคภาเวเนว คหิตํ, โสกาทโย ¶ ปน รูปภวาทีสุ อภาวโต อเนกนฺติกา เกวลํ ปากเฏน ผเลน อวิชฺชานิทสฺสนตฺถํ คหิตา. เตน อนาคเต ชาติยา สติ ตโต ปราย ปฏิสนฺธิยา เหตุเหตุภูตา อวิชฺชา ทสฺสิตาติ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉโท ทสฺสิโต โหตีติ. สุตฺตฺจ โสกาทีนํ อวิชฺชา การณนฺติ เอตสฺเสวตฺถสฺส สาธกํ ทฏฺพฺพํ, น โสกาทีนํ พาลสฺส ชรามรณนิมิตฺตตามตฺตสฺส. ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒) หิ วจเนน อวิชฺชา โสกาทีนํ การณนฺติ ทสฺสิตา, น จ ชรามรณนิมิตฺตเมว ทุกฺขํ ทุกฺขนฺติ.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๖. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ๙๒ สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตนฺติ เอเตน อวิชฺชาย วิเสสนภาเวน สงฺขารานฺจ ปธานภาเวน วุตฺตตฺตา สงฺขารานํ นิทฺทิสิตพฺพภาวสฺส การณํ ทสฺเสติ. ปิตา กถียติ ‘‘ทีโฆ สาโม, มิตฺโต รสฺโส, โอทาโต ทตฺโต’’ติ.
รสิตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สภาโว รโส, อตฺตโน รโส สรโส, ยาถาโว สรโส ยาถาวสรโส, โส เอว ลกฺขิตพฺพตฺตา ลกฺขณนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณํ. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๒; ม. นิ. ๑.๑๐๓) สุตฺเต จตฺตาเรว วุตฺตานีติ ‘‘สุตฺตนฺติกปริยาเยนา’’ติ อาห. นิกฺเขปกณฺเฑ ปนาติอาทินา อิธ จตูสุ าเนสุ กถิตาย เอว อวิชฺชาย นิกฺเขปกณฺเฑ อฏฺสุ าเนสุ กิจฺจชาติโต ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขณโต จ กถิตตฺตา ตทตฺถสํวณฺณนาวเสน วิภาวนํ กโรติ. อหาเปตฺวา วิภชิตพฺพวิภชนฺหิ อภิธมฺมปริยาโย.
ชายติ เอตฺถาติ ชาติ, อุปฺปตฺติฏฺานํ. ยทิปิ นิโรธมคฺเค อวิชฺชา อารมฺมณํ น กโรติ, เต ปน ชานิตุกามสฺส ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสน อนิโรธมคฺเคสุ นิโรธมคฺคคฺคหณกอารณวเสน จ ปวตฺตมานา ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจตีติ เตสมฺปิ อวิชฺชาย อุปฺปตฺติฏฺานตา โหติ, อิตเรสํ อารมฺมณภาเวน ¶ จาติ. สงฺฆิกพลเทวโคณาทีนํ สงฺฆาฏินงฺคลาทีนิ วิย อฺเสตาทีนํ อวิชฺชาย ทุกฺขาทิวิสยานํ อนฺธตฺตกรานํ โลภาทีนํ นิวตฺตโก อฺาณาทิสภาโว ลกฺขณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อตฺถตฺถนฺติ ผลผลํ. อาเมฑิตวจนฺหิ สพฺเพสํ อตฺถานํ วิสุํ วิสุํ ปากฏกรณภาวปฺปกาสนตฺถํ. อตฺโถ เอว วา อตฺโถ อตฺถตฺโถติ อตฺถสฺส อวิปรีตตาทสฺสนตฺถํ อตฺเถเนวตฺถํ วิเสสยติ. น หิ าณํ อนตฺถํ อตฺโถติ คณฺหาตีติ. เอวํ การณการณนฺติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. ตํ อาการนฺติ อตฺถตฺถาทิอาการํ. คเหตฺวาติ จิตฺเต ปเวเสตฺวา, จิตฺเตน ปุคฺคเลน วา คหิตํ กตฺวา. ปฏิวิทฺธสฺส ปุน อเวกฺขณา ปจฺจเวกฺขณา. ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทิลกฺขณสฺส พาลสฺส ภาโว พาลฺยํ. ปชานาตีติ ปกาเรหิ ชานาติ. พลวโมหนํ ปโมโห. สมนฺตโต โมหนํ สมฺโมโห.
ทุกฺขารมฺมณตาติ ¶ ทุกฺขารมฺมณตาย, ยาย วา อวิชฺชาย ฉาเทนฺติยา ทุกฺขารมฺมณา ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา, สา เตสํ ภาโวติ ทุกฺขารมฺมณตา, อารมฺมณเมว วา อารมฺมณตา, ทุกฺขํ อารมฺมณตา เอติสฺสาติ ทุกฺขารมฺมณตา.
ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรา น สภาวโต, ตสฺมา ตทารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, อิตเรสํ สภาวโต คมฺภีรตฺตา ตทารมฺมณตา นุปฺปชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อปิจ โข ปนาติ มคฺคสฺส สงฺขตสภาวตฺตา ตโตปิ นิโรธสฺส คมฺภีรตรตํ ทสฺเสติ.
อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา
ปุนาตีติ โสเธติ อปฺุผลโต ทุกฺขสํกิเลสโต จ, หิตสุขชฺฌาสเยน ปฺุํ กโรตีติ ตํนิปฺผาทเนน การกสฺสชฺฌาสยํ ปูเรตีติ ปฺุโ, ปูรโก ปุชฺชนิพฺพตฺตโก จ นิรุตฺติลกฺขเณน ‘‘ปฺุโ’’ติ เวทิตพฺโพ. สมาธิปจฺจนีกานํ อติทูรตาย น อิฺชติ น จลตีติ อตฺโถ. กายสฺสาติ ทฺวารสฺส สามิภาเวน นิทฺเทโส กโต.
ปฺุุปคนฺติ ¶ ภวสมฺปตฺตุปคํ. ตตฺถาติ วิภงฺคสุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๒). ตฺหิ ปธานภาเวน คหิตนฺติ. สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๐๒) ปน ‘‘ตโยเม, อาวุโส, สงฺขารา’’ติ อาคตนฺติ. สพฺพฺุชินภาสิโต ปน อยํ, น ปจฺเจกชินภาสิโต, อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ เอเตสํ สุตฺตานํ วเสน เต คหิตา. กถํ ปเนเตน คหเณนายมตฺโถ ทีปิโต โหตีติ ตํทสฺสนตฺถมาห ‘‘อภิธมฺเมปิ หิ สุตฺเตปิ เอกสทิสาว ตนฺติ นิทฺทิฏฺา’’ติ. สพฺพฺุภาสิโตติ ปากเฏน สุตฺตนฺเตน สทิสตฺตา อยมฺปิ สพฺพฺุภาสิโตติ ายตีติ วุตฺตํ โหตีติ.
‘‘เตรสาปี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ าณวิปฺปยุตฺตานํ น ภาวนามยตา ปากฏาติ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห ¶ . ปถวี ปถวีติอาทิภาวนา จ กสิณปริกมฺมกรณํ มณฺฑลกรณฺจ ภาวนํ ภชาเปนฺติ.
ทานวเสน ปวตฺตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ทานํ. ตตฺถ พฺยาปารภูตา อายูหนเจตนา ทานํ อารพฺภ ทานํ อธิกิจฺจ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจติ, เอวํ อิตเรสุ. โสมนสฺสจิตฺเตนาติ อนุโมทนาปวตฺตินิทสฺสนมตฺตเมตํ ทฏฺพฺพํ. อุเปกฺขาสหคเตนปิ หิ อนุสฺสรติ เอวาติ.
อสริกฺขกมฺปิ สริกฺขเกน จตุตฺถชฺฌานวิปาเกน เวหปฺผลาทีสุ วินาปิ อสฺเสุ กฏตฺตารูปํ. รูปเมว สผนฺทนตฺตา ‘‘สอิฺชน’’นฺติ วุตฺตํ อิฺชนกรนีวรณาทีนํ อวิกฺขมฺภนโต, รูปตณฺหาสงฺขาตสฺส อิฺชนกสฺส การณตฺตา วา. เตเนว รูปารมฺมณํ นิมิตฺตารมฺมณฺจ สพฺพมฺปิ จตุตฺถชฺฌานํ นิปฺปริยาเยน ‘‘อนิฺชน’’นฺติ น วุจฺจตีติ. มหาตุลาย ธารยมาโน นาฬิยา มินมาโน จ สมุทายเมว ธาเรติ มินติ จ, น เอเกกํ คฺุชํ, เอเกกํ ตณฺฑุลํ วา, เอวํ ภควาปิ อปริมาณา ปมกุสลเจตนาโย สมุทายวเสเนว คเหตฺวา เอกชาติกตฺตา เอกเมว กตฺวา ทสฺเสติ. เอวํ ทุติยาทโยปีติ.
‘‘กายทฺวาเร ปวตฺตา’’ติ อวตฺวา ‘‘อาทานคฺคหณโจปนํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วจนวิเสสมตฺตเมว ทสฺเสติ. กายทฺวาเร ปวตฺติ เอว หิ อาทานาทิปาปนาติ. ปุริเมน วา ทฺวารสฺส อุปลกฺขณภาโว วุตฺโต, ปจฺฉิเมน เจตนาย สวิฺตฺติรูปสมุฏฺาปนํ. ตตฺถ อากฑฺฒิตฺวา คหณํ อาทานํ, สมฺปยุตฺตสฺส คหณํ คหณํ, ผนฺทนํ โจปนํ.
เอตฺถาติ ¶ กายวจีสงฺขารคฺคหเณ, กายวจีสฺเจตนาคหเณ วา. อฏฺกถายํ อภิฺาเจตนา น คหิตา วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ. กสฺมา ปน น โหติ, นนุ สาปิ กุสลา วิปากธมฺมา จาติ? สจฺจํ, อนุปจฺฉินฺนตณฺหาวิชฺชามาเน ปน สนฺตาเน สพฺยาปารปฺปวตฺติยา ตสฺสา กุสลตา วิปากธมฺมตา จ วุตฺตา, น วิปากุปฺปาทเนน, สา ปน วิปากํ อุปฺปาทยนฺตี รูปาวจรเมว อุปฺปาเทยฺย. น หิ อฺภูมิกํ กมฺมํ อฺภูมิกํ วิปากํ อุปฺปาเทตีติ. อตฺตนา สทิสารมฺมณฺจ ติฏฺานิกํ ตํ อุปฺปาเทยฺย จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ รูปาวจรวิปากสฺส กมฺมสทิสารมฺมณสฺเสว วุตฺตตฺตา, น จ รูปาวจรวิปาโก ปริตฺตาทิอารมฺมโณ อตฺถิ, อภิฺาเจตนา จ ปริตฺตาทิอารมฺมณาว โหติ, ตสฺมา วิปากํ น อุปฺปาเทตีติ ¶ วิฺายติ. กสิเณสุ จ อุปฺปาทิตสฺส จตุตฺถชฺฌานสมาธิสฺส อานิสํสภูตา อภิฺา. ยถาห ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๒๔๔-๒๔๕; ม. นิ. ๑.๓๘๔-๓๘๖). ตสฺมา สมาธิผลสทิสา สา, น จ ผลํ เทตีติ ทานสีลานิสํโส ตสฺมึ ภเว ปจฺจยลาโภ วิย สาปิ วิปากํ น อุปฺปาเทติ. ยถา จ อภิฺาเจตนา, เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหตีติ อิทํ อุทฺธจฺจสหคเต ธมฺเม วิสุํ อุทฺธริตฺวา ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๕) วุตฺตตฺตา วิจาเรตพฺพํ.
อยํ ปเนตฺถ อมตคฺคปถานุคโต วินิจฺฉโย – ทสฺสนภาวนานํ อภาเวปิ เยสํ ปุถุชฺชนานํ เสกฺขานฺจ ทสฺสนภาวนาหิ ภวิตพฺพํ, เตสํ ตทุปฺปตฺติกาเล เตหิ ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา อกุสลา ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ จ วุจฺจนฺติ, ปุถุชฺชนานํ ปน ภาวนาย อภาวา ภาวนาย ปหาตพฺพจินฺตา นตฺถิ. เตน เตสํ ปวตฺตมานา เต ทสฺสเนน ปหาตุํ อสกฺกุเณยฺยาปิ ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ น วุจฺจนฺติ. ยทิ วุจฺเจยฺยุํ, ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกสฺจิ เกจิ กทาจิ อารมฺมณารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจโย ภเวยฺยุํ, น จ ปฏฺาเน ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกสฺจิ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. เสกฺขานํ ปน วิชฺชมานา ภาวนาย ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ภาวนาย ปหาตพฺพา. เตเนว เสกฺขานํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา จตฺตตฺตา วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา ปหีนตฺตา ปฏินิสฺสฏฺตฺตา อุกฺเขฏิตตฺตา สมุกฺเขฏิตตฺตา อสฺสาทิตพฺพา อภินนฺทิตพฺพา ¶ จ น โหนฺติ, ปหีนตาย เอว โสมนสฺสเหตุภูตา อวิกฺเขปเหตุภูตา จ น โทมนสฺสํ อุทฺธจฺจฺจ อุปฺปาเทนฺตีติ น เต เตสํ อารมฺมณารมฺมณาธิปติภาวํ ปกตูปนิสฺสยภาวฺจ คจฺฉนฺติ. น หิ ปหีเน อุปนิสฺสาย อริโย ราคาทิกิเลเส อุปฺปาเทติ.
วุตฺตฺจ ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉติ…เป… อรหตฺตมคฺเคน…เป… น ปจฺจาคจฺฉตี’’ติ (มหานิ. ๘๐; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๗), น จ ปุถุชฺชนานํ ทสฺสเนน ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา อิตเรสํ น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย โหนฺตีติ สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ทิฏฺึ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ. วิจิกิจฺฉํ อารพฺภ วิจิกิจฺฉา ทิฏฺิ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ อุทฺธจฺจารมฺมณปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. เอตฺถ หิ อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ จิตฺตุปฺปาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส ‘‘ทิฏฺึ ครุํ ¶ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ ครุํ กตฺวา ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ตสฺมา ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพานํ อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตฺเตปิ ยาทิสานํ ตาหิ อนุปฺปตฺติธมฺมตา อาปาเทตพฺพา, เตสุ ปุถุชฺชเนสุ วตฺตมานา ทสฺสนํ อเปกฺขิตฺวา เตน ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, เสกฺเขสุ วตฺตมานา ภาวนํ อเปกฺขิตฺวา ตาย ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ภาวนาย ปหาตพฺพา. เตสุ ภาวนาย ปหาตพฺพา สหายวิรหา วิปากํ น ชนยนฺตีติ ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว น วุตฺโต, อเปกฺขิตพฺพทสฺสนภาวนารหิตานํ ปน ปุถุชฺชเนสุ อุปฺปชฺชมานานํ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทสฺส จ สํโยชนตฺตยตเทกฏฺกิเลสานํ อนุปจฺฉินฺนตาย อปริกฺขีณสหายานํ วิปากุปฺปาทนํ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุนฺติ อุทฺธจฺจสหคตธมฺมานํ วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโตติ.
ยทิ เอวํ, อเปกฺขิตพฺพทสฺสนภาวนารหิตานํ อกุสลานํ เนวทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, อปฺปหาตพฺพานํ ‘‘เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) วุตฺตตฺตา, อปฺปหาตพฺพวิรุทฺธสภาวตฺตา จ อกุสลานํ. เอวมฺปิ เตสํ อิมสฺมึ ติเก นวตฺตพฺพตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ทสฺสิตานํ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ ทฺวีหิ ปเทหิ สงฺคหิตตฺตา. ยถา หิ ธมฺมวเสน สงฺขตธมฺมา ¶ สพฺเพ สงฺคหิตาติ อุปฺปนฺนตฺติเก กาลวเสน อสงฺคหิตาปิ อตีตา นวตฺตพฺพาติ น วุตฺตา จิตฺตุปฺปาทรูปภาเวน คหิเตสุ นวตฺตพฺพสฺส อภาวา, เอวมิธาปิ จิตฺตุปฺปาทภาเวน คหิเตสุ นวตฺตพฺพสฺส อภาวา นวตฺตพฺพตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ยตฺถ หิ จิตฺตุปฺปาโท โกจิ นิโยคโต นวตฺตพฺโพ อตฺถิ, ตตฺถ เตสํ จตุตฺโถ โกฏฺาโส อตฺถีติ ยถาวุตฺตปเทสุ วิย ตตฺถาปิ ภินฺทิตฺวา ภชาเปตพฺเพ จิตฺตุปฺปาเท ภินฺทิตฺวา ภชาเปติ ‘‘สิยา นวตฺตพฺพา ปริตฺตารมฺมณา’’ติอาทินา. ตทภาวา อุปฺปนฺนตฺติเก อิธ จ ตถา น วุตฺตา.
อถ วา ยถา สปฺปฏิเฆหิ สมานสภาวตฺตา รูปธาตุยํ ตโย มหาภูตา ‘‘สปฺปฏิฆา’’ติ วุตฺตา. ยถาห ‘‘อสฺสตฺตานํ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ทฺเว มหาภูตา, ทฺเว มหาภูเต ปฏิจฺจ เอกํ มหาภูต’’นฺติ (ปฏฺา. ๒.๒๒.๙). เอวํ ปุถุชฺชนานํ ปวตฺตมานา ภาวนาย ปหาตพฺพสมานสภาวา ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ วุจฺเจยฺยุนฺติ นตฺถิ นวตฺตพฺพตาปสงฺโค. เอวฺจ สติ ปุถุชฺชนานํ ปวตฺตมานาปิ ภาวนาย ปหาตพฺพา สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทโย ¶ ปรภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโย, ราโค จ ราคทิฏฺีนํ อธิปติปจฺจโยติ อยมตฺโถ ลทฺโธ โหติ. ยถา ปน อโผฏฺพฺพตฺตา รูปธาตุยํ ตโย มหาภูตา น ปรมตฺถโต สปฺปฏิฆา, เอวํ อเปกฺขิตพฺพภาวนารหิตา ปุถุชฺชเนสุ ปวตฺตมานา สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทโย น ปรมตฺถโต ภาวนาย ปหาตพฺพาติ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น วุตฺตา, น จ ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. เย หิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา, น เต ทสฺสนโต อุทฺธํ ปวตฺตนฺติ, ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยสฺสปิ ปน อุทฺธจฺจสหคตสฺส สหายเวกลฺลมตฺตเมว ทสฺสเนน กตํ, น ตสฺส โกจิ ภาโว ทสฺสเนน อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิโตติ ตสฺส เอกนฺตภาวนาย ปหาตพฺพตา วุตฺตา. ตสฺมา ตสฺส ตาทิสสฺเสว สติ สหาเย วิปากุปฺปาทนวจนํ, อสติ จ วิปากานุปฺปาทนวจนํ น วิรุชฺฌตีติ.
สาปิ วิฺาณปจฺจยภาเว ยทิ อปเนตพฺพา, กสฺมา ‘‘สมวีสติ เจตนา’’ติ วุตฺตนฺติ ตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ปน ¶ สพฺพาเปตา โหนฺตี’’ติ. ยทิ เอวํ, อภิฺาเจตนาย สห ‘‘เอกวีสตี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ? น, อวจนสฺส วุตฺตการณตฺตา, ตํ ปน อิตราวจนสฺสปิ การณนฺติ สมานเจตนาวจนการณวจเนน ยํ การณํ อเปกฺขิตฺวา เอกา วุตฺตา, เตน การเณน อิตรายปิ วตฺตพฺพตํ, ยฺจ การณํ อเปกฺขิตฺวา อิตรา น วุตฺตา, เตน การเณน วุตฺตายปิ อวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ. อาเนฺชาภิสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโร เอวาติ เภทาภาวา ปากโฏติ น ตสฺส สํโยโค ทสฺสิโต.
สุขสฺาย คเหตฺวาติ เอเตน ตณฺหาปวตฺตึ ทสฺเสติ. ตณฺหาปริกฺขาเรติ ตณฺหาย ปริวาเร, ตณฺหาย ‘‘สุขํ สุภ’’นฺติอาทินา สงฺขเต วา อลงฺกเตติ อตฺโถ. ตณฺหา หิ ทุกฺขสฺส สมุทโยติ อชานนฺโต ‘‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’’นฺติ สงฺขาเร ปริกฺขโรตีติ. อมรณตฺถาติ คหิตา ทุกฺกรกิริยา อมรตโป, เทวภาวตฺถํ ตโป วา, ทุกฺขตฺตา วา มโร มารโก ตโป อมรตโป. ทิฏฺเ อทิฏฺ-สทฺโท วิย มเรสุ อมร-สทฺโท ทฏฺพฺโพ.
ชาติอาทิปปาตทุกฺขชนนโต มรุปปาตสทิสตา ปฺุาภิสงฺขารสฺส วุตฺตา. รมณียภาเวน ¶ จ อสฺสาทภาเวน จ คยฺหมานํ ปฺุผลํ ทีปสิขามธุลิตฺตสตฺถธาราสทิสํ, ตทตฺโถ จ ปฺุาภิสงฺขาโร ตํนิปาตเลหนสทิโส.
‘‘สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๖๙) สุขสฺาย พาโล วิย คูถกีฬนํ กิเลสาภิภูตตาย โกธารติอภิภูโต อสวโส มริตุกาโม วิย วิสขาทนํ กรณผลกฺขเณสุ ชิคุจฺฉนียํ ทุกฺขฺจ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ. โลภสหคตสฺส วา คูถกีฬนสทิสตา, โทสสหคตสฺส วิสขาทนสทิสตา โยเชตพฺพา. กามคุณสมิทฺธิยา สภยสฺสปิ ปิสาจนครสฺส สุขวิปลฺลาสเหตุภาโว วิย อรูปวิปากานํ นิรนฺตรตาย อนุปลกฺขิยมานอุปฺปาทวยานํ, ทีฆสนฺตานตาย อคยฺหมานวิปริณามานํ, สงฺขารวิปริณามทุกฺขภูตานมฺปิ นิจฺจาทิวิปลฺลาสเหตุภาโวติ เตสํ ปิสาจนครสทิสตา, ตทภิมุขคมนสทิสตา จ อาเนฺชาภิสงฺขารสฺส โยเชตพฺพา.
ตาวาติ ¶ วตฺตพฺพนฺตราเปกฺโข นิปาโต, ตสฺมา อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโยติ อิทํ ตาว สิทฺธํ, อิทํ ปน อปรํ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺตีติ วุตฺตนฺติ อภิฺาเจตนานํ ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. เจโตปริยปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาเณหิ ปเรสํ อตฺตโน จ สโมหจิตฺตชานนกาเลติ โยเชตพฺพา.
อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตาติ ภวาทีนวปฏิจฺฉาทิกาย อวิชฺชาย สมฺมูฬฺหตฺตา. ราคาทีนนฺติ ราคทิฏฺิวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโทมนสฺสานํ อวิชฺชาสมฺปยุตฺตราคาทิอสฺสาทนกาเลสุ อวิชฺชํ อารพฺภ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ครุํ กตฺวา อสฺสาทนํ ราคทิฏฺิสมฺปยุตฺตาย เอว อวิชฺชาย โยเชตพฺพํ, อสฺสาทนฺจ ราโค, ตทวิปฺปยุตฺตา จ ทิฏฺีติ อสฺสาทนวจเนเนว ยถาวุตฺตํ อวิชฺชํ ครุํ กโรนฺตี ทิฏฺิ จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ราคาทีหิ จ ปาฬิยํ สรูเปน วุตฺเตหิ ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺส อวิชฺชารมฺมณาทิตํ ทสฺเสติ. อนวิชฺชารมฺมณสฺส ปมชวนสฺส อารมฺมณาธิปติอนนฺตราทิปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส วุตฺตสฺส จ สพฺพสฺส สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อาห. วุตฺตนเยนาติ สมติกฺกมภวปตฺถนาวเสน วุตฺตนเยน.
เอกการณวาโท อาปชฺชตีติ โทสปฺปสงฺโค วุตฺโต. อนิฏฺโ หิ เอกการณวาโท สพฺพสฺส สพฺพกาเล ¶ สมฺภวาปตฺติโต เอกสทิสสภาวาปตฺติโต จ. ยสฺมา ตีสุ ปกาเรสุ อวิชฺชมาเนสุ ปาริเสเสน จตุตฺเถ เอว จ วิชฺชมาเน เอกเหตุผลทีปเน อตฺโถ อตฺถิ, ตสฺมา น นุปปชฺชติ.
ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานโตติ ‘‘สุขเวทนียํ, ภิกฺขเว, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๖๒), ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ…เป… ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔๓) จ สุขเวทนียาทิจกฺขุสมฺผสฺสาทิอนุรูเปน สุขเวทนาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนาทีนํ ววตฺถานโต, สมาเนสุ จกฺขุรูปาทีสุ ผสฺสวเสน สุขาทิวิปริยายาภาวโต, สมาเนสุ จ รูปมนสิการาทีสุ จกฺขาทิสงฺฆฏฺฏนวเสน จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวิปริยายาภาวโต, อฺปจฺจยสามฺเปิ ผสฺสวเสน สุขาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาทีนํ โอฬาริกสุขุมาทิสงฺกราภาวโต จาติ อตฺโถ. สุขาทีนํ ยถาวุตฺตสมฺผสฺสสฺส อวิปรีโต ปจฺจยภาโว ¶ เอว ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานํ, การณผลวิเสเสน วา ผลการณวิเสสนิจฺฉโย โหตีติ อุภยตฺถาปิ นิจฺฉโย ววตฺถานนฺติ วุตฺโต. กมฺมาทโยติ กมฺมาหารอุตุอาทโย อปากฏา เสมฺหปฏิกาเรน โรควูปสมโต.
‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ วจนโตติ ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓-๕๔) อิมินา สุตฺเตน ตณฺหาย สงฺขารการณภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. ปุน ตสฺสาปิ อวิชฺชา การณนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโยติ วจนโต’’ติ อาห. ตณฺหา วา จตุรุปาทานภูตา กามภวทิฏฺาสวา จ สงฺขารสฺส การณนฺติ ปากฏาติ สุตฺตทฺวเยนปิ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวเมว ทสฺเสติ. อสฺสาทานุปสฺสิโนติ หิ วจเนน อาทีนวปฏิจฺฉาทนกิจฺจา อวิชฺชา ตณฺหาย การณนฺติ ทสฺสิตา โหตีติ. ยสฺมา อวิทฺวา, ตสฺมา ปฺุาภิสงฺขาราทิเก อภิสงฺขโรตีติ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวสฺส ปากฏตฺตา อวิทฺทสุภาโว สงฺขารการณภาเวน วุตฺโต ขีณาสวสฺส สงฺขาราภาวโต อสาธารณตฺตา จ. ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติ ปฺุภวาทิอาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ อสาธารณํ การณนฺติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. านวิรุทฺโธติ อตฺถิตาวิรุทฺโธ. เกจิ ปน ‘‘ปฏิสนฺธิอาทีนิ านานี’’ติ วทนฺติ, เอวํ สติ ปุริมจิตฺตํ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส านวิรุทฺโธ ปจฺจโยติ น อิทํ เอกนฺติกํ สิยา. ภวงฺคมฺปิ ¶ หิ ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจโย, ชวนํ ชวนสฺสาติ, น จ สิปฺปาทีนํ ปฏิสนฺธิอาทิานํ อตฺถีติ น ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. กมฺมํ รูปสฺส นมนรุปฺปนวิโรธา สารมฺมณานารมฺมณวิโรธา จ สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ ทธิอาทีนํ มธุรมฺพิลรสาทิสภาววิโรธา. อวิชานนกิจฺโจ อาโลโก วิชานนกิจฺจสฺส วิฺาณสฺส, อมทนกิจฺจา จ คุฬาทโย มทนกิจฺจสฺส อาสวสฺส.
โคโลมาวิโลมานิ ทพฺพาย ปจฺจโย, ทธิอาทีนิ ภูติณกสฺส. เอตฺถ จ อวีติ รตฺตา เอฬกา วุจฺจนฺติ. วิปากาเยว เต จ น, ตสฺมา ทุกฺขวิปากายปิ ¶ อวิชฺชาย ตทวิปากานํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารานํ ปจฺจยตฺตํ น น ยุชฺชตีติ อตฺโถ. ตทวิปากตฺเตปิ สาวชฺชตาย ตทวิรุทฺธานํ ตํสทิสานฺจ อปฺุาภิสงฺขารานเมว ปจฺจโย, น อิตเรสนฺติ เอตสฺส ปสงฺคสฺส นิวารณตฺถํ ‘‘วิรุทฺโธ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา. ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อิติ อยํ อวิชฺชา’’ติอาทิมาห.
อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณีนํ วิย ปุพฺพาปริยววตฺถานํ นิยติ, นิยติยา, นิยติ เอว วา สงฺคติ สมาคโม นิยติสงฺคติ, ตาย ภาเวสุ ปริณตา มนุสฺสเทววิหงฺคาทิภาวํ ปตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา. นิยติยา สงฺคติยา ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ จ อตฺถํ วทนฺติ. เอเตหิ จ วิกปฺปเนหิ อวิชฺชา อกุสลํ จิตฺตํ กตฺวา ปฺุาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส เอวํ อวิชฺชายา’’ติอาทิ.
อปริณายโก พาโลติ อรหตฺตมคฺคสมฺปฏิปาทกกลฺยาณมิตฺตรหิโตติ อตฺโถ. อรหตฺตมคฺคาวสานํ วา าณํ สมวิสมํ ทสฺเสตฺวา นิพฺพานํ นยตีติ ปริณายกนฺติ วุตฺตํ, เตน รหิโต อปริณายโก. ธมฺมํ ตฺวาติ สปฺปุริสูปนิสฺสเยน จตุสจฺจปฺปกาสกสุตฺตาทิธมฺมํ ตฺวา, มคฺคาเณเนว วา สพฺพธมฺมปวรํ นิพฺพานํ ตฺวา, ตํชานนายตฺตตฺตา ปน เสสสจฺจาภิสมยสฺส สมานกาลมฺปิ ตํ ปุริมกาลํ วิย กตฺวา วุตฺตํ.
สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๗. ยถาวุตฺตสงฺขารปจฺจยา ¶ อุปฺปชฺชมานํ ตํกมฺมนิพฺพตฺตเมว วิฺาณํ ภวิตุํ อรหตีติ ‘‘พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺตี’’ติ อาห. ธาตุกถายํ (ธาตุ. ๔๖๖) ปน วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทนิทฺเทเส –
‘‘สงฺขารปจฺจยา ¶ วิฺาเณน เย ธมฺมา…เป… สฬายตนปจฺจยา ผสฺเสน, ผสฺสปจฺจยา เวทนาย เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ…เป… สงฺคหิตา? เต ธมฺมา อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา เอเกน ขนฺเธน เอกาทสหายตเนหิ เอกาทสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา. กติหิ อสงฺคหิตา? จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ –
วจนโต สพฺพวิฺาณผสฺสเวทนาปริคฺคโห กโต. ยทิ หิ เอตฺถ วิฺาณผสฺสเวทนา สปฺปเทสา สิยุํ, ‘‘วิปากา ธมฺมา’’ติ อิมสฺส วิย วิสฺสชฺชนํ สิยา, ตสฺมา ตตฺถ อภิธมฺมภาชนียวเสน สงฺขารปจฺจยา วิฺาณาทโย คหิตาติ เวทิตพฺพา. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา จ อภิธมฺมภาชนีเย จตุภูมกกุสลสงฺขาโร อกุสลสงฺขาโร จ วุตฺโตติ โส เอว ธาตุกถายํ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. ภโว ปน ธาตุกถายํ กมฺมุปปตฺติภววิเสสทสฺสนตฺถํ น อภิธมฺมภาชนียวเสน คหิโต. เอวฺจ กตฺวา ตตฺถ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ อนุทฺธริตฺวา ‘‘กมฺมภโว’’ติอาทินาว นเยน ภโว อุทฺธโฏ. วิปากฺเหตนฺติ วิฺาณสฺส วิปากตฺตา สงฺขารปจฺจยตฺตํ สาเธติ, ตสฺส ปน สาธนตฺถํ ‘‘อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต’’ติ วุตฺตนฺติ ตํ วิวรนฺโต ‘‘วิปากฺจา’’ติอาทิมาห.
เยภุยฺเยน โลภสมฺปยุตฺตชวนาวสาเนติ ชวเนน ตทารมฺมณนิยเม โสมนสฺสสหคตานนฺตรํ โสมนสฺสสหคตตทารมฺมณสฺส วุตฺตตฺตา โสมนสฺสสหคตาเนว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปน ติเหตุกชวนาวสาเน จ กทาจิ อเหตุกํ ตทารมฺมณํ โหติ, ตสฺมา ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ อาห. สกึ วาติ ‘‘ทิรตฺตติรตฺตา’’ทีสุ วิย เวทิตพฺพํ. ทฺวิกฺขตฺตุเมว ปน อุปฺปชฺชนฺตีติ วทนฺติ. ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ เอตฺถ ปน วา-สทฺทสฺส อภาวา วจนสิลิฏฺตามตฺเตน ทิรตฺตคฺคหณํ กตนฺติ ยุชฺชติ, ‘‘นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา’’ติ. อิธ ปน วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ วุตฺโตติ สกึ ¶ เอว จ กทาจิ ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘สกึ วา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว หิ สกึ ตทารมฺมณปฺปวตฺติยา วิจาเรตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จิตฺตปฺปวตฺติคณนายนฺติ วิปากกถายํ พลวรูปาทิเก อารมฺมเณ วุตฺตํ จิตฺตปฺปวตฺติคณนํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ ทฺเวว ตทารมฺมณุปฺปตฺติวารา อาคตา. ชวนวิสยานุภวนฺหิ ตทารมฺมณํ ¶ อาสนฺนเภเท ตสฺมึ วิสเย เอกจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก น อุปฺปชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยาติ อกุสลวิปากสฺส อปายปฏิสนฺธิ, กามาวจราทิกุสลวิปากานํ กามรูปารูปสุคติปฏิสนฺธิโย ยถากมฺมํ อนุรูปา.
ปฏิสนฺธิกถา มหาวิสยาติ กตฺวา ปวตฺติเมว ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ปวตฺติยํ ปนา’’ติอาทิมาห. อเหตุกทฺวยาทีนํ ทฺวารนิยมานิยมาวจนํ ภวงฺคภูตานํ สยเมว ทฺวารตฺตา จุติปฏิสนฺธิภูตานฺจ ภวงฺคสงฺขาเตน อฺเน จ ทฺวาเรน อนุปฺปตฺติโต นิยตํ อนิยตํ วา ทฺวารํ เอเตสนฺติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. เอกสฺส สตฺตสฺส ปวตฺตรูปาวจรวิปาโก ปถวีกสิณาทีสุ ยสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺโต, ตโต อฺสฺมึ ตสฺส ปวตฺติ นตฺถีติ รูปาวจรานํ นิยตารมฺมณตา วุตฺตา. ตตฺรสฺสาติ ปวตฺติยํ พาตฺตึสวิธสฺส.
อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต เอว จกฺขุโสตทฺวารเภเทน, ตสฺส จ วิฺาณวีถิเภทายตฺตตฺตา วีถิเภเทน จ ภวิตพฺพํ, ตสฺมิฺจ สติ ‘‘อาวชฺชนานนฺตรํ ทสฺสนํ สวนํ วา ตทนนฺตรํ สมฺปฏิจฺฉน’’นฺติอาทินา จิตฺตนิยเมน ภวิตพฺพํ. ตถา จ สติ สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณานมฺปิ ภาโว สิทฺโธ โหติ, น อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาเวน ทสฺสนสวนมตฺตสฺเสว, นาปิ อินฺทฺริยานํ เอว ทสฺสนสวนกิจฺจตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จา’’ติ. ปมกุสเลน เจ ตทารมฺมณสฺส อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ปมกุสลานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ ชนกํ อนุพนฺธติ นาม, ทุติยกุสลาทิอนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ ชนกสทิสํ อนุพนฺธติ นาม, อกุสลานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานฺจ กามาวจรตาย ชนกสทิสนฺติ.
เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ…เป… ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺตีติ ตทารมฺมณภาวตาย ‘‘ตทารมฺมณ’’นฺติ ลทฺธนามานิ ตทารมฺมณภาวํ น คณฺหนฺติ, ตทารมฺมณภาเวน นปฺปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา นามโคตฺตํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ ตสฺส ชวนสฺส อารมฺมณํ น คณฺหนฺติ, นาลมฺพนฺตีติ อตฺโถ. รูปารูปธมฺเมติ รูปารูปาวจเร ธมฺเม. อิทํ ปน วตฺวา ‘‘อภิฺาาณํ ¶ อารพฺภา’’ติ วิเสสนํ ปริตฺตาทิอารมฺมณตาย กามาวจรสทิเสสุ เจว ตทารมฺมณานุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา มคฺโค วิย ภาวนาย สิทฺธา มหาพลา จาติ ตตฺถ ชวเนน ปวตฺตมาเนน สานุพนฺธเนน น ภวิตพฺพนฺติ เตสุ ตทารมฺมณํ ปฏิกฺขิตฺตํ. โลกุตฺตรธมฺเม ¶ อารพฺภาติ เอเตเนว สิทฺเธ ‘‘สมฺมตฺตนิยตธมฺเมสู’’ติ วิสุํ อุทฺธรณํ สมฺมตฺตมิจฺฉตฺตนิยตธมฺมานํ อฺมฺปฏิปกฺขาติ พลวภาเวน ตทารมฺมณสฺส อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถํ.
เอวํ ปวตฺติยํ วิฺาณปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปฏิสนฺธิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปน วุตฺต’’นฺติอาทิมาห. เกน กตฺถาติ เกน จิตฺเตน กสฺมึ ภเว. เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิโย เตน เตน จิตฺเตน ปวตฺตมานา ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมาติ เตน เตน จิตฺเตน สา สา ตตฺถ ตตฺถ ปฏิสนฺธิ โหตีติ วุตฺตา. ตสฺสาติ จิตฺตสฺส.
อาคนฺตฺวาติ อาคตํ วิย หุตฺวา. โคปกสีวลีติ รฺโ หิตารกฺเข โคปกกุเล ชาโต สีวลินามโก. กมฺมาทิอนุสฺสรณพฺยาปารรหิตตฺตา ‘‘สมฺมูฬฺหกาลกิริยา’’ติ วุตฺตา. อพฺยาปาเรเนว หิ ตตฺถ กมฺมาทิอุปฏฺานํ โหตีติ. ‘‘ปิสิยมานาย มกฺขิกาย ปมํ กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ นาวฏฺเฏติ อตฺตนา จินฺติยมานสฺส กสฺสจิ อตฺถิตายา’’ติ เกจิ การณํ วทนฺติ, ตเทตํ อการณํ ภวงฺควิสยโต อฺสฺส จินฺติยมานสฺส อภาวา อฺจิตฺตปฺปวตฺตกาเล จ ภวงฺคาวฏฺฏนสฺเสว อสมฺภวโต. อิทํ ปเนตฺถ การณํ สิยา – ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) วจนโต ตีสุ ชวนวาเรสุ อปฺปวตฺเตสฺเวว กมฺมาทิอุปฏฺาเนน ภวิตพฺพํ. อเนกชวนวารปฺปวตฺติยา หิ อชฺโฌลมฺพนํ อภิปฺปลมฺพนฺจ โหตีติ. ตสฺมา กายทฺวาราวชฺชนํ อนาวฏฺเฏตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนเมว กมฺมาทิอาลมฺพณํ ปมํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, ตโต โผฏฺพฺพสฺส พลวตฺตา ทุติยวาเร กายวิฺาณวีถิ ปจฺจุปฺปนฺเน โผฏฺพฺเพ ปวตฺตติ, ตโต ปุริมชวนวารคหิเตสฺเวว กมฺมาทีสุ กเมน มโนทฺวารชวนํ ชวิตฺวา มูลภวงฺคสงฺขาตํ อาคนฺตุกภวงฺคสงฺขาตํ วา ตทารมฺมณํ ภวงฺคํ โอตรติ, ตทารมฺมณาภาเว วา ภวงฺคเมว. เอตสฺมึ าเน กาลํ กโรตีติ ตทารมฺมณานนฺตเรน จุติจิตฺเตน, ตทารมฺมณาภาเว วา ภวงฺคสงฺขาเตเนว จุติจิตฺเตน จวตีติ อตฺโถ. ภวงฺคเมว หิ จุติจิตฺตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ จุติจิตฺตํ อิธ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุตฺตนฺติ. มโนทฺวารวิสโย ลหุโกติ ลหุกปจฺจุปฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อรูปธมฺมานํ…เป… ลหุโก’’ติ. อรูปธมฺมสฺส ¶ หิ มโนทฺวารสฺส วิสโย ลหุกปจฺจุปฏฺาโนติ. พลวติ จ รูปธมฺมสฺส กายทฺวารสฺส ¶ วิสเย อปฺปวตฺติตฺวา มโนทฺวารวิสเย กมฺมาทิมฺหิ ปมํ จิตฺตปฺปวตฺติทสฺสเนน อรูปธมฺมานํ วิสยสฺส ลหุกตา ทีปิตาติ. รูปานํ วิสยาภาเวปิ วา ‘‘อรูปธมฺมาน’’นฺติ วจนํ เยสํ วิสโย อตฺถิ, ตํทสฺสนตฺถเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เตน ลหุกมฺมาทีสุ จิตฺตปฺปวตฺติโต ลหุคหณียตา วิสยสฺส ลหุกตา.
กมฺมาทีนํ ภูมิจิตฺตุปาทาทิวเสน วิตฺถารโต อนนฺโต ปเภโทติ ‘‘สงฺเขปโต’’ติ อาห.
อวิชฺชาตณฺหาทิกิเลเสสุ อนุปจฺฉินฺเนสฺเวว กมฺมาทิโน อุปฏฺานํ, ตฺจารพฺภ จิตฺตสนฺตานสฺส ภวนฺตรนินฺนโปณปพฺภารตา โหตีติ อาห ‘‘อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิต’’นฺติ. สนฺตาเน หิ วินามิเต ตเทกเทสภูตํ ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วินามิตเมว โหติ, น จ เอกเทสวินามิตภาเวน วินา สนฺตานวินามิตตา อตฺถีติ. สพฺพตฺถ ปน ‘‘ทุคฺคติปฏิสนฺธินินฺนาย จุติยา ปุริมชวนานิ อกุสลานิ, อิตราย จ กุสลานี’’ติ นิจฺฉินนฺติ. ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ อนุพฺยฺชนสฺสาทคธิตํ วา. ตสฺมึ เจ สมเย กาลํ กโรติ, านเมตํ วิชฺชติ, ยํ ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ อุปปชฺเชยฺย นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕) วุตฺตํ. ตสฺมา อาสนฺนํ อกุสลํ ทุคฺคติยํ, กุสลฺจ สุคติยํ ปฏิสนฺธิยา อุปนิสฺสโย โหตีติ.
ราคาทิเหตุภูตํ หีนมารมฺมณนฺติ อกุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ ภวิตุํ ยุตฺตํ อนิฏฺารมฺมณํ อาห. ตมฺปิ หิ สงฺกปฺปวเสน ราคสฺสปิ เหตุ โหตีติ. อกุสลวิปากชนกกมฺมสหชาตานํ วา ตํสทิสาสนฺนจุติชวนเจตนาสหชาตานฺจ ราคาทีนํ เหตุภาโว เอว หีนตา. ตฺหิ ปจฺฉานุตาปชนกกมฺมานมารมฺมณํ กมฺมวเสน อนิฏฺํ อกุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ ภเวยฺย, อฺถา จ อิฏฺารมฺมเณ ปวตฺตสฺส อกุสลกมฺมสฺส วิปาโก กมฺมนิมิตฺตารมฺมโณ น ภเวยฺย. น หิ อกุสลวิปาโก อิฏฺารมฺมโณ ภวิตุมรหตีติ. ปฺจทฺวาเร จ อาปาถมาคจฺฉนฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ กมฺมนิมิตฺตํ อาสนฺนกตกมฺมารมฺมณสนฺตติยํ อุปฺปนฺนํ ตํสทิสฺจ ทฏฺพฺพํ, อฺถา ตเทว ปฏิสนฺธิอารมฺมณูปฏฺาปกํ ตเทว จ ปฏิสนฺธิชนกํ ภเวยฺย, น จ ปฏิสนฺธิยา อุปจารภูตานิ วิย ‘‘เอตสฺมึ ตยา ¶ ปวตฺติตพฺพ’’นฺติ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ อนุปาเทนฺตานิ วิย ¶ จ ปวตฺตานิ จุติอาสนฺนานิ ชวนานิ ปฏิสนฺธิชนกานิ ภเวยฺยุํ. ‘‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑) หิ วุตฺตํ. ตทา จ ตํสมานวีถิยํ วิย ปวตฺตมานานิ กถํ กตูปจิตานิ สิยุํ, น จ อสฺสาทิตานิ ตทา, น จ โลกิยานิ โลกุตฺตรานิ วิย สมานวีถิผลานิ โหนฺติ.
‘‘ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๓) –
อาทินา สุตฺเต มรณกาเล สมตฺตาย สมาทินฺนาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิยา จ สหชาตเจตนาย ปฏิสนฺธิทานํ วุตฺตํ, น จ ทุพฺพเลหิ ปฺจทฺวาริกชวเนหิ มิจฺฉาทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺิ วา สมตฺตา โหติ สมาทินฺนา. วกฺขติ จ –
‘‘สพฺพมฺปิ เหตํ กุสลากุสลธมฺมปฏิวิชานนาทิจวนปริโยสานํ กิจฺจํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว โหติ, น ปฺจทฺวาริเกนาติ สพฺพสฺสเปตสฺส กิจฺจสฺส กรเณ สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ ปฏิกฺขิตฺตานี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๖๖).
ตตฺถ หิ ‘‘น กิฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ ‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลํ วา อกุสลํ วา น ปฏิวิชานาตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๖๖) จ วุตฺตํ. เยสํ ปฏิวิภาวนปฺปวตฺติยา สุขํ วา ทุกฺขํ วา อนฺเวติ, เตสํ สา ปวตฺติ ปฺจทฺวาเร ปฏิกฺขิตฺตา, กุสลากุสลกมฺมสมาทานฺจ ตาทิสเมวาติ. ตทารมฺมณานนฺตรํ ปน จวนํ, ตทนนฺตรา จ อุปปตฺติ มโนทฺวาริกา เอว โหติ, น สหชวนกวีถิจิตฺเต ปริยาปนฺนาติ อิมินา อธิปฺปาเยน อิธ ปฺจทฺวาริกตทารมฺมณานนฺตรํ จุติ, ตทนนฺตรํ ปฏิสนฺธิ จ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก รูปาทิมฺหิ อุปฺปนฺนํ ปฏิสนฺธึ สนฺธาเยว ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ อุปปตฺติจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ, อวเสเสกจิตฺตกฺขณายุเก จ อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ¶ อุปปตฺติจิตฺตํ อตีตารมฺมณสฺส ¶ ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๘) วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สุทฺธาย วาติ มหคฺคตกมฺมนิมิตฺตารมฺมณาย ชวนวีถิยา ตทารมฺมณรหิตายาติ อตฺโถ. สา ปน ชวนวีถิ มหคฺคตวิปากสฺส อุปจาโร วิย ทฏฺพฺพา. เกจิ ปน ตํ วีถึ มหคฺคตาวสานํ วทนฺติ. อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธา, นวตฺตพฺพารมฺมณา สตฺตวิธา.
เอเตนานุสาเรน อารุปฺปจุติยาปิ อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘ปถวีกสิณชฺฌานาทิวเสน ปฏิลทฺธมหคฺคตสุคติยํ ิตสฺสา’’ติ เอวมาทิเก เอว นเย อยมฺปิ ปฏิสนฺธิ อวรุทฺธาติ? น, ตตฺถ รูปาวจรจุติอนนฺตราย เอว ปฏิสนฺธิยา วุตฺตตฺตา. ตตฺถ หิ ‘‘ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺตํ มหคฺคตจิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. จกฺขุโสตานํ วา’’ติอาทิเกน รูปาวจรจุติยา เอว อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ วุตฺตาติ วิฺายติ. อถาปิ ยถาสมฺภวโยชนาย อยมฺปิ ปฏิสนฺธิ ตตฺเถว อวรุทฺธา, อรูปาวจรจุติอนนฺตรา ปน รูปาวจรปฏิสนฺธิ นตฺถิ, อรูปาวจเร จ อุปรูปริจุติยา เหฏฺิมา เหฏฺิมา ปฏิสนฺธีติ จตุตฺถารุปฺปจุติยา นวตฺตพฺพารมฺมณา ปฏิสนฺธิ นตฺถิ. เตน ตโต ตตฺเถว อตีตารมฺมณา กามาวจเร จ อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ อิตราหิ จ ยถาสมฺภวํ อตีตนวตฺตพฺพารมฺมณา อารุปฺปปฏิสนฺธิ, อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ กามาวจรปฏิสนฺธิ โยเชตพฺพาติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ วิสุํ อุทฺธรณํ กตํ.
เอวํ อารมฺมณวเสน เอกวิธาย กามาวจรสุคติจุติยา ทุวิธา ทุคฺคติปฏิสนฺธิ, ทุคฺคติจุติยา ทุวิธา สุคติปฏิสนฺธิ, กามาวจรสุคติจุติยา ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสน ปฺจวิธา สุคติปฏิสนฺธิ, รูปาวจรจุติยา จ ตเถว ปฺจวิธา, ทุวิธาย อารุปฺปจุติยา ปจฺเจกํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ กามารุปฺปานํ วเสน อฏฺวิธา จ ปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา, ทุคฺคติจุติยา ปน เอกวิธาย ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทุวิธา น ทสฺสิตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุคฺคติยํ ิตสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. ยถาวุตฺตา ปน –
ทฺวิทฺวิปฺจปฺปการา จ, ปฺจาฏฺทุวิธาปิ จ;
จตุวีสติ สพฺพาปิ, ตา โหนฺติ ปฏิสนฺธิโย.
‘‘กามาวจรสฺส ¶ ¶ กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๔๓๑, ๔๕๕, ๔๙๘) นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว ทสฺสิตปฺปกาโรติ อุปนิสฺสยปจฺจยภาวเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห.
อาทินา สหาติอาทินา วิมิสฺสวิฺาเณน สห. โอมโต ทฺเว วา ตโย วา ทสกา อุปฺปชฺชนฺตีติ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน วุตฺตํ. อฺตฺถ หิ อเนเก กลาปา สห อุปฺปชฺชนฺติ. พฺรหฺมตฺตภาเวปิ หิ อเนกคาวุตปฺปมาเณ อเนเก กลาปา สหุปฺปชฺชนฺตีติ ตึสโต อธิกาเนว รูปานิ โหนฺติ คนฺธรสาหารานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา จกฺขุโสตวตฺถุสตฺตกชีวิตฉกฺกภาเวปิ เตสํ พหุตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ตตฺถปิ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตนวกสฺส จ อุปฺปตฺติ วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน ‘‘รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ เปตฺวา อสฺสตฺตานํ เทวานํ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตถา ‘‘รูปธาตุยา ฉ อายตนานิ นว ธาตุโย’’ติ สพฺพสงฺคหวเสน ตตฺถ วิชฺชมานายตนธาตุโย ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. กถาวตฺถุมฺหิ จ ฆานายตนาทีนํ วิย คนฺธายตนาทีนฺจ ตตฺถ ภาโว ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนนฺติ? อามนฺตา, อตฺถิ ตตฺถ คนฺธายตนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติอาทินา (กถา. ๕๑๙), น จ อโผฏฺพฺพายตนานํ ปถวีธาตุอาทีนํ วิย อคนฺธรสายตนานํ คนฺธรสานํ ตตฺถ ภาโว สกฺกา วตฺตุํ ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตาวินิมุตฺตสฺส ปถวีอาทิสภาวสฺส วิย คนฺธรสภาววินิมุตฺตสฺส คนฺธรสสภาวสฺส อภาวา.
ยทิ จ ฆานสมฺผสฺสาทีนํ การณภาโว นตฺถีติ อายตนานีติ เตน วุจฺเจยฺยุํ, ธาตุ-สทฺโท ปน นิสฺสตฺตนิชฺชีววาจโกติ คนฺธธาตุรสธาตูติ อวจเน นตฺถิ การณํ, ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺเตน อิจฺฉิตพฺโพ สภาวธารณาทิลกฺขณโต อฺสฺส อภาวา, ธมฺมานฺจ อายตนภาโว เอกนฺตโต ยมเก (ยม. ๑. อายตนยมก.๑๓) วุตฺโต ‘‘ธมฺโม อายตนนฺติ? อามนฺตา’’ติ. ตสฺมา เตสํ คนฺธรสายตนภาวาภาเวปิ โกจิ อายตนสภาโว วตฺตพฺโพ. ยทิ จ โผฏฺพฺพภาวโต อฺโ ปถวีธาตุอาทิภาโว วิย คนฺธรสภาวโต อฺโ เตสํ โกจิ สภาโว สิยา, เตสํ ธมฺมายตเน สงฺคโห. คนฺธรสภาเว ปน อายตนภาเว จ สติ คนฺโธ จ โส อายตนฺจ คนฺธายตนํ, รโส ¶ จ โส อายตนฺจ รสายตนนฺติ อิทมาปนฺนเมวาติ คนฺธรสายตนภาโว จ น สกฺกา นิวาเรตุํ, ‘‘ตโย อาหารา’’ติ (วิภ. ๙๙๓) จ วจนโต ¶ กพฬีการาหารสฺส ตตฺถ อภาโว วิฺายติ. ตสฺมา ยถา ปาฬิยา อวิโรโธ โหติ, ตถา รูปคณนา กาตพฺพา. เอวฺหิ ธมฺมตา น วิโลมิตา โหตีติ.
ชาติอุณฺณายาติ คพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตอุณฺณายาติปิ วทนฺติ. สมฺภวเภโทติ อตฺถิตาเภโท. นิชฺฌามตณฺหิกา กิร นิจฺจํ ทุกฺขาตุรตาย กามํ เสวิตฺวา คพฺภํ น คณฺหนฺติ.
รูปีพฺรหฺเมสุ ตาว โอปปาติกโยนิเกสูติ โอปปาติกโยนิเกหิ รูปีพฺรหฺเม นิทฺธาเรติ. ‘‘สํเสทโชปปาตีสุ อวกํสโต ตึสา’’ติ เอตํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อวกํสโต ปนา’’ติอาทิ, ตํ ปเนตํ ปาฬิยา น สเมติ. น หิ ปาฬิยํ กามาวจรานํ สํเสทโชปปาติกานํ อฆานกานํ อุปปตฺติ วุตฺตา. ธมฺมหทยวิภงฺเค (วิภ. ๑๐๐๗) หิ –
‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทสายตนานิ, กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานิ, กสฺสจิ นวายตนานิ, กสฺสจิ สตฺตายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ –
วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ. ตถา ‘‘ทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ สิยา, อฆานกอุปปตฺติยา วิชฺชมานาย ติกฺขตฺตฺุจ ‘‘นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ, น จ ตํ วุตฺตํ. เอวํ ธาตุปาตุภาวาทิปฺเหสุ ยมเกปิ ฆานชิวฺหากายานํ สหจาริตา วุตฺตาติ.
จุติปฏิสนฺธีนํ ขนฺธาทีหิ อฺมฺํ สมานตา อเภโท, อสมานตา เภโท. นยมุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตํ อวุตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหิตฺวา อาห ‘‘อยํ ตาว อรูปภูมีสุเยว นโย’’ติ. รูปารูปาวจรานํ อุปจารสฺส พลวตาย ตโต จวิตฺวา ทุคฺคติยํ อุปปตฺติ นตฺถีติ ‘‘เอกจฺจสุคติจุติยา’’ติ อาห. เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธีติ เอตฺถ เอกจฺจคฺคหณสฺส ปโยชนํ มคฺคิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย สิยา – นานตฺตกายนานตฺตสฺีสุ วุตฺตา เอกจฺเจ วินิปาติกา ติเหตุกาทิปฏิสนฺธิกา, เตสํ ตํ ปฏิสนฺธึ วินิปาตภาเวน ทุคฺคติปฏิสนฺธีติ คเหตฺวา สพฺพสุคติจุติยาว สา ¶ ปฏิสนฺธิ โหติ, น เอกจฺจสุคติจุติยา เอวาติ ตํนิวตฺตนตฺถํ เอกจฺจทุคฺคติคฺคหณํ กตํ. อปายปฏิสนฺธิ เอว หิ เอกจฺจสุคติจุติยา โหติ, น ¶ สพฺพสุคติจุติยา. อถ วา ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทุวิธา เอกจฺจสุคติจุติยา อนนฺตรา ทุคฺคติจุติยา จาติ. ตตฺถ ปจฺฉิมํ วชฺเชตฺวา ปุริมํ เอว คณฺหิตุํ อาห ‘‘เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธี’’ติ. อเหตุกจุติยา สเหตุกปฏิสนฺธีติ ทุเหตุกา ติเหตุกา จ โยเชตพฺพา. มณฺฑูกเทวปุตฺตาทีนํ วิย หิ อเหตุกจุติยา ติเหตุกปฏิสนฺธิปิ โหตีติ.
ตสฺส ตสฺส วิปรีตโต จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพนฺติ ‘‘เอกจฺจสุคติจุติยา เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธี’’ติอาทีสุ เภทวิเสเสสุ ‘‘เอกจฺจทุคฺคติจุติยา เอกจฺจสุคติปฏิสนฺธี’’ติอาทินา ยํ ยํ ยุชฺชติ, ตํ ตํ โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยุชฺชมานมตฺตาเปกฺขนวเสน นปุํสกนิทฺเทโส กโต, โยเชตพฺพนฺติ วา ภาวตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาติอาทีสุ ปน วิปรีตโยชนา น กาตพฺพา. น หิ มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาย จุติยา อรูปภูมีสุ อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณา ปฏิสนฺธิ อตฺถิ. จตุกฺขนฺธาย อรูปจุติยา ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรปฏิสนฺธีติ เอตสฺส วิปริยาโย สยเมว โยชิโต. อตีตารมฺมณจุติยา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธีติ เอตสฺส จ วิปริยาโย นตฺถิ เอวาติ. เภทวิเสโส เอว จ เอวํ วิตฺถาเรน ทสฺสิโต, อเภทวิเสโส ปน เอเกกสฺมึ เภเท ตตฺถ ตตฺเถว จุติปฏิสนฺธิโยชนาวเสน โยเชตพฺโพ ‘‘ปฺจกฺขนฺธาย กามาวจราย ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรา…เป… อวิตกฺกอวิจาราย อวิตกฺกอวิจารา’’ติ, จตุกฺขนฺธาย ปน จตุกฺขนฺธา สยเมว โยชิตา. เอเตเนว นเยน สกฺกา าตุนฺติ ปฺจกฺขนฺธาทีสุ อเภทวิเสโส น ทสฺสิโตติ. ตโต เหตุํ วินาติ ตตฺถ เหตุํ วินา.
องฺคปจฺจงฺคสนฺธีนํ พนฺธนานิ องฺคปจฺจงฺคสนฺธิพนฺธนานิ, เตสํ เฉทกานํ. นิรุทฺเธสุ จกฺขาทีสูติ อติมนฺทภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฺจทฺวาริกวิฺาณานนฺตรมฺปิ หิ ปุพฺเพ จุติ ทสฺสิตา. ยมเก จ (ยม. ๑.อายตนยมก.๑๒๐) –
‘‘ยสฺส ¶ จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส มนายตนํ นิรุชฺฌตีติ? อามนฺตา. ยสฺส วา ปน มนายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌตีติ? สจิตฺตกานํ อจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนํ นิรุชฺฌติ, โน จ เตสํ จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ. สจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนฺจ นิรุชฺฌติ, จกฺขายตนฺจ นิรุชฺฌตี’’ติ –
อาทินา ¶ จกฺขายตนาทีนํ จุติจิตฺเตน สห นิโรโธ วุตฺโตติ. ลทฺโธ อวเสโส อวิชฺชาทิโก วิฺาณสฺส ปจฺจโย เอเตนาติ ลทฺธาวเสสปจฺจโย, สงฺขาโร. อวิชฺชาปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ตสฺมึ กมฺมาทิวิสเย ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส อารมฺมณภาเวน อุปฺปตฺติฏฺานภูเต ตณฺหาย อปฺปหีนตฺตา เอว ปุริมุปฺปนฺนาย จ สนฺตติยา ปริณตตฺตา ปฏิสนฺธิฏฺานาภิมุขํ วิฺาณํ นินฺนโปณปพฺภารํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ตณฺหา นาเมตี’’ติ. สหชาตสงฺขาราติ จุติอาสนฺนชวนวิฺาณสหชาตเจตนา, สพฺเพปิ วา ผสฺสาทโย. ตสฺมึ ปฏิสนฺธิฏฺาเน กมฺมาทิวิสเย วิฺาณํ ขิปนฺติ, ขิปนฺตา วิย ตสฺมึ วิสเย ปฏิสนฺธิวเสน วิฺาณปติฏฺานสฺส เหตุภาเวน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
ตนฺติ ตํ วิฺาณํ, จุติปฏิสนฺธิตทาสนฺนวิฺาณานํ สนฺตติวเสน วิฺาณนฺติ อุปนีเตกตฺตํ. ตณฺหาย นามิยมานํ…เป… ปวตฺตตีติ นมนขิปนปุริมนิสฺสยชหนาปรนิสฺสยสฺสาทนนิสฺสยรหิตปวตฺตนานิ สนฺตติวเสน ตสฺเสเวกสฺส วิฺาณสฺส โหนฺติ, น อฺสฺสาติ ทสฺเสติ. สนฺตติวเสนาติ จ วทนฺโต ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๙๖) อิทฺจ มิจฺฉาคาหํ ปฏิกฺขิปติ. สติ หิ นานตฺตนเย สนฺตติวเสน เอกตฺตนโย โหตีติ. โอริมตีรรุกฺขวินิพทฺธรชฺชุ วิย ปุริมภวตฺตภาววินิพนฺธํ กมฺมาทิอารมฺมณํ ทฏฺพฺพํ, ปุริโส วิย วิฺาณํ, ตสฺส มาติกาติกฺกมนิจฺฉา วิย ตณฺหา, อติกฺกมนปโยโค วิย ขิปนกสงฺขารา. ยถา จ โส ปุริโส ปรตีเร ปติฏฺหมาโน ปรตีรรุกฺขวินิพทฺธํ กิฺจิ อสฺสาทยมาโน อนสฺสาทยมาโน วา เกวลํ ปถวิยํ สพลปโยเคเหว ปติฏฺาติ, เอวมิทมฺปิ ภวนฺตรตฺตภาววินิพทฺธํ หทยวตฺถุนิสฺสยํ ปฺจโวการภเว อสฺสาทยมานํ จตุโวการภเว อนสฺสาทยมานํ วา เกวลํ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺเมเหว ปวตฺตติ. ตตฺถ อสฺสาทยมานนฺติ ปาปุณนฺตํ, ปฏิลภมานนฺติ อตฺโถ.
ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโตติ ¶ ภวนฺตรสฺส อาทิสมฺพนฺธนโต, ภวนฺตราทโย วา ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสนฺตรา, เตสํ ปฏิสนฺธานโตติ อตฺโถ. กมฺมนฺติ ปฏิสนฺธิชนกํ กมฺมํ. สงฺขาราติ จุติอาสนฺนชวนวิฺาณสหคตา ขิปนกสงฺขารา.
สทฺทาทิเหตุกาติ เอตฺถ ปฏิโฆโส สทฺทเหตุโก, ปทีโป ปทีปนฺตราทิเหตุโก, มุทฺทา ลฺฉนเหตุกา, ฉายา อาทาสาทิคตมุขาทิเหตุกา. อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺตีติ สทฺทาทิปจฺจยเทสํ ¶ อคนฺตฺวา สทฺทาทิเหตุกา โหนฺติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, เอวมิทมฺปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ น เหตุเทสํ คนฺตฺวา ตํเหตุกํ โหติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, ตสฺมา น อิทํ เหตุเทสโต ปุริมภวโต อาคตํ ปฏิโฆสาทโย วิย สทฺทาทิเทสโต, นาปิ ตตฺถ เหตุนา วินา อุปฺปนฺนํ สทฺทาทีหิ วินา ปฏิโฆสาทโย วิยาติ อตฺโถ. อถ วา อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺตีติ ปุพฺเพ ปจฺจยเทเส สนฺนิหิตา หุตฺวา ตโต อฺตฺร คนฺตฺวา ตปฺปจฺจยา น โหนฺติ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อภาวา, นาปิ สทฺทาทิปจฺจยา น โหนฺติ, เอวมิทมฺปีติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. เอส นโยติ พีชงฺกุราทีสุ สพฺพเหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ ยถาสมฺภวํ โยชนา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อิธาปิ หิ เหตุเหตุสมุปฺปนฺนวิฺาณานํ เอกนฺตเมกตฺเต สติ น มนุสฺสคติโก เทวคติภูโต สิยา, เอกนฺตนานตฺเต น กมฺมวโต ผลํ สิยา. ตโต ‘‘รตฺตสฺส พีชํ, รตฺตสฺส ผล’’นฺติอาทิกสฺส วิย ‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสี’’ติอาทิกสฺส (สํ. นิ. ๑.๑๐๗) โวหารสฺส โลโป สิยา, ตสฺมา เอตฺถ สนฺตานพนฺเธ สติ เหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ น เอกนฺตเมว เอกตา วา นานตา วา อุปคนฺตพฺพา. เอตฺถ จ เอกนฺตเอกตาปฏิเสเธน ‘‘สยํกตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรติ, เอกนฺตนานตาปฏิเสเธน ‘‘ปรํกตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ, เหตุเหตุสมุปฺปนฺนภาววจเนน ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ. เอตฺถาติ เอกสนฺตาเน.
จตุมธุรอลตฺตกรสาทิภาวนา อมฺพมาตุลุงฺคาทิพีชานํ อภิสงฺขาโร. เอตฺถ พีชํ วิย กมฺมวา สตฺโต, อภิสงฺขาโร วิย กมฺมํ, พีชสฺส องฺกุราทิปฺปพนฺโธ วิย สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณาทิปฺปพนฺโธ, ตตฺถุปฺปนฺนสฺส มธุรสฺส รตฺตเกสรสฺส วา ผลสฺส วา ตสฺเสว พีชสฺส, ตโต เอว จ อภิสงฺขารโต ภาโว วิย กมฺมการกสฺเสว สตฺตสฺส, ตํกมฺมโต เอว ¶ จ ผลสฺส ภาโว เวทิตพฺโพ. พาลสรีเร กตํ วิชฺชาปริยาปุณนํ สิปฺปสิกฺขนํ โอสธปฺปโยโค จ น วุฑฺฒสรีรํ คจฺฉนฺติ. อถ จ ตํนิมิตฺตํ วิชฺชาปาฏวํ สิปฺปชานนํ อนามยตา จ วุฑฺฒสรีเร โหติ, น จ ตํ อฺสฺส โหติ ตํสนฺตติปริยาปนฺเน เอว วุฑฺฒสรีเร อุปฺปชฺชนโต, น จ ยถาปยุตฺเตน วิชฺชาปริยาปุณนาทินา วินา อฺโต โหติ ตทภาเว อภาวโต. เอวมิธาปิ สนฺตาเน ยํ ผลํ, เอตํ นาฺสฺส, น จ อฺโตติ โยเชตพฺพํ. น อฺโตติ เอเตน จ สงฺขาราภาเว ผลาภาวเมว ทสฺเสติ, นาฺปจฺจยนิวารณํ กโรติ.
ยมฺปิ วุตฺตํ, ตตฺถ วทามาติ วจนเสโส. ตตฺถ วา อุปภฺุชเก อสติ สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุตีติ สมฺพนฺโธ. ผลตีติ สมฺมุติ ผลติสมฺมุติ.
เอวํ ¶ สนฺเตปีติ อสงฺกนฺติปาตุภาเว, ตตฺถ จ ยถาวุตฺตโทสปริหรเณ สติ สิทฺเธติ อตฺโถ. ปวตฺติโต ปุพฺเพติ กมฺมายูหนกฺขณโต ปุพฺเพ. ปจฺฉา จาติ วิปจฺจนปวตฺติโต ปจฺฉา จ. อวิปกฺกวิปากา กตตฺตา เจ ปจฺจยา, วิปกฺกวิปากานมฺปิ กตตฺตํ สมานนฺติ เตสมฺปิ ผลาวหตา สิยาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘น จ นิจฺจํ ผลาวหา’’ติ. น วิชฺชมานตฺตา วา อวิชฺชมานตฺตา วาติ เอเตน วิชฺชมานตฺตํ อวิชฺชมานตฺตฺจ นิสฺสาย วุตฺตโทเสว ปริหรติ.
ตสฺสา ปาฏิโภคกิริยาย, ภณฺฑกีณนกิริยาย, อิณคหณาทิกิริยาย วา กรณมตฺตํ ตํกิริยากรณมตฺตํ. ตเทว ตทตฺถนิยฺยาตเน ปฏิภณฺฑทาเน อิณทาเน จ ปจฺจโย โหติ, อผลิตนิยฺยาตนาทิผลนฺติ อตฺโถ.
อวิเสเสนาติ ‘‘ติเหตุโก ติเหตุกสฺสา’’ติอาทิกํ เภทํ อกตฺวาว สามฺโต, ปิณฺฑวเสนาติ อตฺโถ. สพฺพตฺถ อุปนิสฺสยปจฺจโย พลวกมฺมสฺส วเสน โยเชตพฺโพ. ‘‘ทุพฺพลฺหิ อุปนิสฺสยปจฺจโย น โหตี’’ติ วกฺขมานเมเวตํ ปฏฺานวณฺณนายนฺติ. อวิเสเสนาติ สพฺพปฺุาภิสงฺขารํ สห สงฺคณฺหาติ. ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ เอตฺถ อุทฺธจฺจสหคตา กสฺมา คหิตาติ วิจาเรตพฺพเมตํ. เอกสฺส วิฺาณสฺส ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเตติ เอกสฺเสว ปจฺจยภาวนิยโม ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต. ปวตฺเต หิ สตฺตนฺนมฺปิ ปจฺจโยติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตถา กามาวจรเทวโลเกปิ อนิฏฺา รูปาทโย นตฺถี’’ติ ¶ วุตฺตํ, เทวานํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตปาตุภาวกาเล มิลาตมาลาทีนํ อนิฏฺตา กถํ น สิยา.
สฺเวว ทฺวีสุ ภเวสูติ เอตฺถ เอกูนตึสเจตนาเภทมฺปิ จิตฺตสงฺขารํ จิตฺตสงฺขารภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ‘‘สฺเววา’’ติ วุตฺตํ. ตเทกเทโส ปน กามาวจรจิตฺตสงฺขาโรว เตรสนฺนํ นวนฺนฺจ ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เอกเทสปจฺจยภาเวน หิ สมุทาโย วุตฺโตติ.
ยตฺถ จ วิตฺถารปฺปกาสนํ กตํ, ตโต ภวโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ กาตุกาโม อาห ‘‘อาทิโต ปฏฺายา’’ติ. เตน ‘‘ทฺวีสุ ภเวสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตติยชฺฌานภูมิวเสนาติ เอเตน เอกตฺตกายเอกตฺตสฺีสามฺเน จตุตฺถชฺฌานภูมิ จ อสฺารุปฺปวชฺชา คหิตาติ เวทิตพฺพา. ยถาสมฺภวนฺติ เอกวีสติยา กามาวจรรูปาวจรกุสลวิปาเกสุ จุทฺทสนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ, สตฺตนฺนํ ปวตฺเต เอว. อยํ ยถาสมฺภโว.
จตุนฺนํ ¶ วิฺาณานนฺติ ภวาทโย อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, จตูสุ อนฺโตคธานํ ปน ติณฺณํ วิฺาณานํ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จ ปจฺจยภาโว โยเชตพฺโพ, อวิฺาณเก สตฺตาวาเส สงฺขารปจฺจยา วิฺาเณ อวิชฺชมาเนปิ ตสฺส สงฺขารเหตุกตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. เอตสฺมิฺจ มุขมตฺตปฺปกาสเน ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ทุคฺคติอาทีสุ ปวตฺติยํ กุสลวิปากาทิวิฺาณานํ ปจฺจยภาโว ภเวสุ วุตฺตนเยเนว วิฺายตีติ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๘. สุตฺตนฺตาภิธมฺเมสุ นามรูปเทสนาวิเสโส เทสนาเภโท. ตโย ขนฺธาติ เอตํ ยทิปิ ปาฬิยํ นตฺถิ, อตฺถโต ปน วุตฺตเมว โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อณฺฑชานฺจ อภาวกานนฺติ โยเชตพฺพํ. สนฺตติสีสานีติ กลาปสนฺตานมูลานิ. ยทิปิ วิการรูปานิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ น สนฺติ, ลกฺขณปริจฺเฉทรูปานิ ¶ ปน สนฺตีติ ตานิ อปรินิปฺผนฺนานิ ปรมตฺถโต วิวชฺเชนฺโต อาห ‘‘รูปรูปโต’’ติ.
กามภเว ปน ยสฺมา เสสโอปปาติกานนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ กามภเว ‘‘โอปปาติกา’’ติ วุตฺตา น สนฺติ, เยน เสสคฺคหณํ สาตฺถกํ ภเวยฺย, อณฺฑชคพฺภเสยฺยเกหิ ปน โอปปาติกสํเสทชา เสสา โหนฺตีติ เสสคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา พฺรหฺมกายิกาทิเกหิ โอปปาติเกหิ วุตฺเตหิ เสเส สนฺธาย ‘‘เสสโอปปาติกาน’’นฺติ อาห. เต ปน อรูปิโนปิ สนฺตีติ ‘‘กามภเว’’ติ วุตฺตํ, อปริปุณฺณายตนานํ ปน นามรูปํ ยถาสมฺภวํ รูปมิสฺสกวิฺาณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน สกฺกา ธมฺมคณนาโต วิฺาตุนฺติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อวกํสโต ทฺเว อฏฺกาเนว อุตุจิตฺตสมุฏฺานานิ โหนฺตีติ สสทฺทกาลํ สนฺธาย ‘‘อุกฺกํสโต ทฺวินฺนํ นวกาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปุพฺเพติ ขนฺธวิภงฺเคติ วทนฺติ. ตตฺถ หิ ‘‘เอเกกจิตฺตกฺขเณ ¶ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ วุตฺตํ. อิเธว วา วุตฺตํ สนฺตติทฺวยาทิกํ สตฺตกปริโยสานํ สนฺธายาห ‘‘ปุพฺเพ วุตฺตํ กมฺมสมุฏฺานํ สตฺตติวิธ’’นฺติ, ตํ ปนุปฺปชฺชมานํ เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชตีติ อิมินาธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ. จตุทฺทิสา ววตฺถาปิตาติ อฺมฺสํสฏฺสีสา มูเลน จตูสุ ทิสาสุ ววตฺถาปิตา อฺมฺํ อาลิงฺเคตฺวา ิตา ภินฺนวาหนิกา วิย.
ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยนฺติ รูปาชนกกมฺมชํ ปฺจวิฺาณปฺปวตฺติกาลํ สหชาตวิฺาณปจฺจยฺจ สนฺธายาห. ตทา หิ ตโต นามเมว โหตีติ, กมฺมวิฺาณปจฺจยา ปน สทาปิ อุภยํ โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ, ปจฺฉาชาตวิฺาณปจฺจยา จ รูปํ อุปตฺถทฺธํ โหตีติ. อสฺเสูติอาทิ กมฺมวิฺาณปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยนฺติ ภวงฺคาทิชนกกมฺมโต อฺเน รูปุปฺปตฺติกาลํ นิโรธสมาปตฺติกาลํ ภวงฺคาทิอุปฺปตฺติกาลโต อฺกาลฺจ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ยุตฺตํ. ภวงฺคาทิอุปฺปตฺติกาเล หิ ตํชนเกเนว กมฺมุนา อุปฺปชฺชมานํ รูปํ, โส จ วิปาโก กมฺมวิฺาณปจฺจโย โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ. สหชาตวิฺาณปจฺจยานเปกฺขมฺปิ หิ ปวตฺติยํ กมฺเมน ปวตฺตมานํ รูปํ นามฺจ น กมฺมวิฺาณานเปกฺขํ โหตีติ. สพฺพตฺถาติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. สหชาตวิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, กมฺมวิฺาณปจฺจยา จ นามรูปฺจ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. นามฺจ ¶ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอตฺถ นามรูป-สทฺโท อตฺตโน เอกเทเสน นาม-สทฺเทน นาม-สทฺทสฺส สรูโป, รูป-สทฺเทน จ รูป-สทฺทสฺส, ตสฺมา ‘‘สรูปานํ เอกเสโส’’ติ นามรูป-สทฺทสฺส านํ อิตเรสฺจ นามรูป-สทฺทานํ อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ.
วิปากโต อฺํ อวิปากํ. ยโต ทฺวิธา มตํ, ตโต ยุตฺตเมว อิทนฺติ โยเชตพฺพํ. กุสลาทิจิตฺตกฺขเณติ อาทิ-สทฺเทน อกุสลกิริยจิตฺตกฺขเณ วิย วิปากจิตฺตกฺขเณปิ วิปากาชนกกมฺมสมุฏฺานํ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิปากจิตฺตกฺขเณ ปน อภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อุภยฺจ อุปลพฺภตีติ ตาทิสวิปากจิตฺตกฺขณวชฺชนตฺถํ ‘‘กุสลาทิจิตฺตกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ.
สุตฺตนฺติกปริยาเยนาติ ปฏฺาเน รูปานํ อุปนิสฺสยปจฺจยสฺส อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ, สุตฺตนฺเต ปน ‘‘ยสฺมึ สติ ยํ โหติ, อสติ จ น โหติ, โส ตสฺส อุปนิสฺสโย นิทานํ เหตุ ปภโว’’ติ ¶ กตฺวา ‘‘วิฺาณูปนิสํ นามรูป’’นฺติ รูปสฺส จ วิฺาณูปนิสฺสยตา วุตฺตา. วนปตฺถปริยาเย จ วนสณฺฑคามนิคมนครชนปทปุคฺคลูปนิสฺสโย อิริยาปถวิหาโร, ตโต จ จีวราทีนํ ชีวิตปริกฺขารานํ กสิเรน จ อปฺปกสิเรน จ สมุทาคมนํ วุตฺตํ, น จ วนสณฺฑาทโย อารมฺมณูปนิสฺสยาทิภาวํ อิริยาปถานํ จีวราทิสมุทาคมนสฺส จ ภชนฺติ, ตสฺมา วินา อภาโว เอว จ สุตฺตนฺตปริยายโต อุปนิสฺสยภาโว ทฏฺพฺโพ. นามสฺส อภิสงฺขารวิฺาณํ กมฺมารมฺมณปฏิสนฺธิอาทิกาเล อารมฺมณปจฺจโยว โหตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ รูปสฺเสว สุตฺตนฺติกปริยายโต เอกธา ปจฺจยภาโว วุตฺโต. สสํสยสฺส หิ รูปสฺส ตํปจฺจโย โหตีติ วุตฺเต นามสฺส โหตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ.
ปวตฺตสฺส ปากฏตฺตา อปากฏํ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กถํ ปเนต’’นฺติอาทินา. สุตฺตโต นามํ, ยุตฺติโต รูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตีติ ชานิตพฺพํ. ยุตฺติโต สาเธตฺวา สุตฺเตน ตํ ทฬฺหํ กโรนฺโต ‘‘กมฺมสมุฏฺานสฺสปิ หี’’ติอาทิมาห. จิตฺตสมุฏฺานสฺเสวาติ จิตฺตสมุฏฺานสฺส วิย. ยสฺมา นามรูปเมว ปวตฺตมานํ ทิสฺสติ, ตสฺมา ตเทว วทนฺเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ. สฺุตาปกาสนฺหิ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนนฺติ อธิปฺปาโย. นามรูปมตฺตตาวจเนเนว วา ปวตฺติยา ทุกฺขสจฺจมตฺตตา วุตฺตา, ทุกฺขสจฺจปฺปกาสเนน จ ตสฺส สมุทโย, ตสฺส จ ¶ นิโรโธ, นิโรธคามี จ มคฺโค ปกาสิโต เอว โหติ. อเหตุกสฺส ทุกฺขสฺส เหตุนิโรธา, อนิรุชฺฌนกสฺส จ อภาวา, นิโรธสฺส จ อุปาเยน วินา อนธิคนฺตพฺพตฺตาติ จตุสจฺจปฺปกาสนํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ โยเชตพฺพํ.
นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๙. นิยมโตติ จ อิทํ จตุนฺนํ ภูตานํ, ฉนฺนํ วตฺถูนํ, ชีวิตสฺส จ ยถาสมฺภวํ สหชาตนิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยาทินา เอกนฺเตน สฬายตนสฺส ปวตฺตมานสฺส ปจฺจยภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูปายตนาทีนํ ปน สหชาตนิสฺสยานุปาลนภาโว นตฺถีติ อคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. อารมฺมณารมฺมณปุเรชาตาทิภาโว ¶ จ เตสํ น สนฺตติปริยาปนฺนานเมว, น จ จกฺขาทีนํ วิย เอกปฺปกาเรเนวาติ อนิยมโต ปจฺจยภาโว. นิยมโต…เป… ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวนฺติ เอตฺถ เอวํ-สทฺเทน วา รูปายตนาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอตฺถ ยทิปิ ฉฏฺายตนสฬายตน-สทฺทานํ สทฺทโต สรูปตา นตฺถิ, อตฺถโต ปน สฬายตเนกเทโสว ฉฏฺายตนนฺติ เอกเทสสรูปตา อตฺถีติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถโตปิ หิ สรูปานํ เอกเทสสรูเปกเสสํ อิจฺฉนฺติ ‘‘วงฺโก จ กุฏิโล จ กุฏิลา’’ติ, ตสฺมา อตฺถโต เอกเทสสรูปานฺจ เอกเสเสน ภวิตพฺพนฺติ.
อถ วา ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจ ฉฏฺายตนนฺติ วา, มนายตนนฺติ วา, ฉฏฺายตนฺจ ฉฏฺายตนฺจ ฉฏฺายตนนฺติ วา, มนายตนฺจ มนายตนฺจ มนายตนนฺติ วา เอกเสสํ กตฺวา จกฺขาทีหิ สห ‘‘สฬายตน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ตเมว เอกเสสํ นามมตฺตปจฺจยสฺส, นามรูปปจฺจยสฺส จ มนายตนสฺส วเสน กตํ อตฺถโต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอวํ กเตกเสสสฺสา’’ติ. ยถาวุตฺโตปิ หิ เอกเสโส อตฺถโต ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจาติ เอวํ กโต นาม โหตีติ. สพฺพตฺถ จ เอกเสเส กเต เอกวจนนิทฺเทโส ¶ กเตกเสสานํ สฬายตนาทิสทฺทวจนียตาสามฺวเสน กโตติ ทฏฺพฺโพ. อพฺยากตวาเร วกฺขตีติ กิฺจาปิ อกุสลวาเร กุสลวาเร จ ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ วุตฺตํ, สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน วิปากฉฏฺายตนเมว คหิตนฺติ อธิปฺปาเยน อพฺยากตวารเมว สาธกภาเวน อุทาหฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยนเย ปน ‘‘ฉฏฺา โหติ ตํ อวกํสโต’’ติอาทินา อวิปากสฺสปิ ปจฺจโย อุทฺธโฏ, โส นิรวเสสํ วตฺตุกามตาย อุทฺธโฏติ เวทิตพฺโพ. อิธ สงฺคหิตนฺติ อิธ เอกเสสนเยน สงฺคหิตํ, ตตฺถ อพฺยากตวาเร โลกิยวิปากภาชนีเย วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
เนยฺยนฺติ เยฺยํ. อุกฺกํสาวกํโสติ เอตฺถ สตฺตธา ปจฺจยภาวโต อุกฺกํโส อฏฺธา ปจฺจยภาโว, ตโต ปน นวธา ตโต วา ทสธาติ อยํ อุกฺกํโส, อวกํโส ปน ทสธา ปจฺจยภาวโต นวธา ปจฺจยภาโว, ตโต อฏฺธา, ตโต สตฺตธาติ เอวํ เวทิตพฺโพ, น ปน สตฺตธา ปจฺจยภาวโต เอว ทฺเวปิ อุกฺกํสาวกํสา โยเชตพฺพา ตโต อวกํสาภาวโตติ.
หทยวตฺถุโน สหายํ หุตฺวาติ เอเตน อรูเป วิย อสหายํ นามํ น โหติ, หทยวตฺถุ จ ¶ นาเมน สห ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจโย โหตีติ เอตฺตกเมว ทสฺเสติ, น ปน ยถา หทยวตฺถุ ปจฺจโย โหติ, ตถา นามมฺปีติ อยมตฺโถ อธิปฺเปโต. วตฺถุ หิ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย โหติ, น นามํ, นามฺจ วิปากเหตาทิปจฺจโย โหติ, น วตฺถูติ. ปวตฺเต อรูปธมฺมา กมฺมชรูปสฺส ิติปฺปตฺตสฺเสว ปจฺจยา โหนฺติ, น อุปฺปชฺชมานสฺสาติ วิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตา จ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตาทโย เอว จกฺขาทีนํ โยเชตพฺพา.
อวเสสมนายตนสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปฺจกฺขนฺธภเว ปนา’’ติ เอตสฺส อนุวตฺตมานตฺตา ปฺจโวการภเว เอว ปวตฺตมานํ ปฺจวิฺาเณหิ อวเสสมนายตนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นามรูปสฺส สหชาตาทิสาธารณปจฺจยภาโว สมฺปยุตฺตาทิอสาธารณปจฺจยภาโว จ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ.
สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๐. ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ¶ ผสฺโส’’ติ อภิธมฺมภาชนียปาฬิ อารุปฺปํ สนฺธาย วุตฺตาติ ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ ปาฬิอนุสารโต’’ติ อาห. อชฺฌตฺตนฺติ สสนฺตติปริยาปนฺนเมว คณฺหาติ. ตฺหิ สสนฺตติปริยาปนฺนกมฺมนิพฺพตฺตํ ตาทิสสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปาทีนิ ปน พหิทฺธา อนุปาทินฺนานิ จ ผสฺสสฺส อารมฺมณํ โหนฺติ, น ตานิ จกฺขาทีนิ วิย สสนฺตติปริยาปนฺนกมฺมกิเลสนิมิตฺตปวตฺติภาเวน ผสฺสสฺส ปจฺจโยติ ปมาจริยวาเท น คหิตานิ, ทุติยาจริยวาเท ปน ยถา ตถา วา ปจฺจยภาเว สติ น สกฺกา วชฺเชตุนฺติ คหิตานีติ.
ยทิ สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺภเวยฺย, ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ เอกสฺส วจนํ ยุชฺเชยฺย. อถาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา สมฺภเวยฺยุํ, ตถาปิ สพฺพายตเนหิ สพฺพผสฺสสมฺภวโต อายตนเภเทน ผสฺสเภโท นตฺถีติ ตทเภทวเสน เอกสฺส วจนํ ยุชฺเชยฺย, ตถา ปน อสมฺภวโต น ยุตฺตนฺติ โจเทติ ‘‘น สพฺพายตเนหี’’ติอาทินา. อฺสฺสปิ วา อสมฺภวนฺตสฺส ¶ วิธานสฺส โพธนตฺถเมว ‘‘นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภตี’’ติ อิทเมว ปน เอกผสฺสวจนสฺส อยุตฺตทีปกํ การณนฺติ เวทิตพฺพํ. นิทสฺสนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ, นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา สมฺโภนฺติ, เอวํ น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภติ, ตสฺมา เอกสฺส วจนํ อยุตฺตนฺติ. ปริหารํ ปน อเนกายตเนหิ เอกผสฺสสฺส สมฺภวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺริทํ วิสฺสชฺชน’’นฺติอาทิมาห. เอโกปิ อเนกายตนปฺปภโว เอโกปเนกายตนปฺปภโว. ฉธาปจฺจยตฺเต ปฺจวิภาวเยติ เอวํ เสเสสุปิ โยชนา. ตถา จาติ ปจฺจุปฺปนฺนานิ รูปาทีนิ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ ธมฺมายตนปริยาปนฺนํ รูปรูปํ สนฺธาย วุตฺตํ. อารมฺมณปจฺจยมตฺเตนาติ ตํ สพฺพํ อปจฺจุปฺปนฺนํ อฺฺจ ธมฺมายตนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๑. ‘‘เสสาน’’นฺติ ¶ เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนสฺส จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ ยทิปิ อนนฺตราทีหิปิ ปจฺจยา โหนฺติ, อนนฺตราทีนํ ปน อุปนิสฺสเย อนฺโตคธตฺตา สนฺตีรณตทารมฺมณานฺจ สาธารณสฺส ตสฺส วเสน ‘‘เอกธา’’ติ วุตฺตํ.
เตภูมกวิปากเวทนานมฺปิ สหชาตมโนสมฺผสฺสสงฺขาโต โส ผสฺโส อฏฺธา ปจฺจโย โหตีติ โยเชตพฺพํ. ปจฺจยํ อนุปาทินฺนมฺปิ เกจิ อิจฺฉนฺตีติ ‘‘ยา ปนา’’ติอาทินา มโนทฺวาราวชฺชนผสฺสสฺส ปจฺจยภาโว วุตฺโต, ตฺจ มุขมตฺตทสฺสนตฺถํ ทฏฺพฺพํ. เอเตน นเยน สพฺพสฺส อนนฺตรสฺส อนานนฺตรสฺส จ ผสฺสสฺส ตสฺสา ตสฺสา วิปากเวทนาย อุปนิสฺสยตา โยเชตพฺพาติ.
เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๒. มมตฺเตนาติ ¶ สมฺปิยายมาเนน, อสฺสาทนตณฺหายาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุตฺโต วิย เวทนา ทฏฺพฺพา, ขีราทโย วิย เวทนาย ปจฺจยภูตา รูปาทโย, ขีราทิทายิกา ธาติ วิย รูปาทิฉฬารมฺมณทายกา จิตฺตการาทโย ฉ. ตตฺถ เวชฺโช รสายโนชาวเสน ตทุปตฺถมฺภิตชีวิตวเสน จ ธมฺมารมฺมณสฺส ทายโกติ ทฏฺพฺโพ. อารมฺมณปจฺจโย อุปฺปชฺชมานสฺส อารมฺมณมตฺตเมว โหติ, น อุปนิสฺสโย วิย อุปฺปาทโกติ อุปฺปาทกสฺส อุปนิสฺสยสฺเสว วเสน ‘‘เอกธาวา’’ติ วุตฺตํ. อุปนิสฺสเยน วา อารมฺมณูปนิสฺสโย สงฺคหิโต, เตน จ อารมฺมณภาเวน ตํสภาโว อฺโปิ อารมฺมณภาโว ทีปิโต โหตีติ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา วาติอาทินา น เกวลํ วิปากสุขเวทนา เอว, ติสฺโสปิ ปน เวทนา วิปากา วิเสเสน ตณฺหาย อุปนิสฺสยปจฺจโย, อวิเสเสน อิตรา จาติ ทสฺเสติ. อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตาติ ตสฺมา สาปิ ภิยฺโย อิจฺฉนวเสน ตณฺหาย อุปนิสฺสโยติ อธิปฺปาโย ¶ . อุเปกฺขา ปน อกุสลวิปากภูตา อนิฏฺตฺตา ทุกฺเข อวโรเธตพฺพา, อิตรา อิฏฺตฺตา สุเขติ สา ทุกฺขํ วิย สุขํ วิย จ อุปนิสฺสโย โหตีติ สกฺกา วตฺตุนฺติ. ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ วจเนน สพฺพสฺส เวทนาวโต ปจฺจยสฺส อตฺถิตาย ตณฺหุปฺปตฺติปฺปสงฺเค ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘เวทนาปจฺจยา จาปี’’ติอาทิ.
นนุ ‘‘อนุสยสหายา เวทนา ตณฺหาย ปจฺจโย โหตี’’ติ วจนสฺส อภาวา อติปฺปสงฺคนิวตฺตนํ น สกฺกา กาตุนฺติ? น, วฏฺฏกถาย ปวตฺตตฺตา. วฏฺฏสฺส หิ อนุสยวิรเห อภาวโต อนุสยสหิตาเยว ปจฺจโยติ อตฺถโต วุตฺตเมตํ โหตีติ. อถ วา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา อนุสยสหิตาว ปจฺจโยติ วิฺายติ. ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ จ เอตฺถ เวทนาปจฺจยา เอว ตณฺหา, น เวทนาย วินาติ อยํ นิยโม วิฺายติ, น เวทนาปจฺจยา ตณฺหา โหติ เอวาติ, ตสฺมา อติปฺปสงฺโค นตฺถิ เอวาติ.
วุสีมโตติ วุสิตวโต, วุสิตพฺรหฺมจริยวาสสฺสาติ อตฺโถ. วุสฺสตีติ วา ‘‘วุสี’’ติ มคฺโค ¶ วุจฺจติ, โส เอตสฺส วุตฺโถ อตฺถีติ วุสีมา. อคฺคผลํ วา ปรินิฏฺิตวาสตฺตา ‘‘วุสี’’ติ วุจฺจติ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ วุสีมา.
ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๓. สสฺสโต อตฺตาติ อิทํ ปุริมทิฏฺึ อุปาทิยมานํ อุตฺตรทิฏฺึ นิทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยถา หิ เอสา ทิฏฺิ ทฬฺหีกรณวเสน ปุริมํ อุตฺตรา อุปาทิยติ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาปีติ. อตฺตคฺคหณํ ปน อตฺตวาทุปาทานนฺติ น อิทํ ทิฏฺุปาทานทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. โลโก จาติ วา อตฺตคฺคหณวินิมุตฺตํ คหณํ ทิฏฺุปาทานภูตํ อิธ ปุริมทิฏฺิอุตฺตรทิฏฺิวจเนหิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร ปน สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ, สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว, วิตฺถารโต ปนา’’ติ เอวํ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโต สงฺเขปํ วิตฺถารฺจ นิทฺธาเรตีติ. ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเรติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ ทฏฺพฺพํ.
ปกติอณุอาทีนํ ¶ สสฺสตคาหปุพฺพงฺคโม, สรีรสฺส อุจฺเฉทคฺคาหปุพฺพงฺคโม จ เตสํ สามิภูโต โกจิ สสฺสโต อุจฺฉิชฺชมาโน วา อตฺตา อตฺถีติ อตฺตคฺคาโห กทาจิ โหตีติ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ วุตฺตํ. เยภุยฺเยน ปมํ อตฺตวาทุปาทานนฺติอาทินา วา สมฺพนฺโธ.
ยทิปิ ภวราคชวนวีถิ สพฺพปมํ ปวตฺตติ คหิตปฺปฏิสนฺธิกสฺส ภวนิกนฺติยา ปวตฺติตพฺพตฺตา, โส ปน ภวราโค ตณฺหาทฬฺหตฺตํ น โหตีติ มฺมาโน น กามุปาทานสฺส ปมุปฺปตฺติมาห. ตณฺหา กามุปาทานนฺติ ปน วิภาคสฺส อกรเณ สพฺพาปิ ตณฺหา กามุปาทานนฺติ, กรเณปิ กามราคโต อฺาปิ ตณฺหา ทฬฺหภาวํ ปตฺตา กามุปาทานนฺติ ตสฺส อรหตฺตมคฺควชฺฌตา วุตฺตา.
อุปฺปตฺติฏฺานภูตา จิตฺตุปฺปาทา วิสโย. ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อาลโย, ตตฺถ รมตีติ อาลยรามา ¶ , ปชา. เตเนว สา อาลยรามตา จ สกสนฺตาเน ปรสนฺตาเน จ ปากฏา โหตีติ. อุปนิสฺสยวจเนน อารมฺมณานนฺตรปกตูปนิสฺสยา วุตฺตาติ อนนฺตรปจฺจยาทีนมฺปิ สงฺคโห กโต โหติ.
อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๔. ผลโวหาเรน กมฺมภโว ภโวติ วุตฺโตติ อุปปตฺติภวนิพฺพจนเมว ทฺวยสฺสปิ สาธารณํ กตฺวา วทนฺโต อาห ‘‘ภวตีติ ภโว’’ติ. ภวํ คจฺฉตีติ นิปฺผาทนผลวเสน อตฺตโน ปวตฺติกาเล ภวาภิมุขํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ, นิพฺพตฺตนเมว วา เอตฺถ คมนํ อธิปฺเปตํ.
สฺาวตํ ภโว สฺาภโวติ เอตฺถ วนฺตุ-สทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ, ตสฺส วา อตฺเถ อการํ กตฺวา ‘‘สฺภโว’’ติปิ ปาโ. โวกิรียติ ปสารียติ วิตฺถารียตีติ โวกาโร, โวกิรณํ วา โวกาโร, โส เอกสฺมึ ปวตฺตตฺตา เอโก โวกาโรติ วุตฺโต, ปเทสปสฏุปฺปตฺตีติ อตฺโถ.
เจตนาสมฺปยุตฺตา ¶ วา…เป… สงฺคหิตาติ อาจยคามิตาย กมฺมสงฺขาตตํ ทสฺเสตฺวา กมฺมภเว สงฺคหิตภาวํ ปริยาเยน วทติ, นิปฺปริยาเยน ปน เจตนาว กมฺมภโว. วุตฺตฺหิ ‘‘กมฺมภโว ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สมฺปยุตฺโต, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๔๔). อุปปตฺติภโว ตีหิปิ ติเกหิ วุตฺตา อุปปตฺติกฺขนฺธาว. ยถาห ‘‘อุปปตฺติภโว กามภโว สฺาภโว ปฺจโวการภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต’’ติอาทิ (ธาตุ. ๖๗). ยทิ หิ อนุปาทินฺนกานมฺปิ คหณํ สิยา, ‘‘ทฺวาทสหายตเนหิ อฏฺารสหิ ธาตูหี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาติ.
สงฺขารภวานํ ธมฺมเภทโต น สงฺขารา เอว ปุน วุตฺตาติ ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจน’’นฺติ เอตํ น ¶ ยุตฺตนฺติ เจ? น, ภเวกเทสภาเวน สงฺขารานํ ภโวติ ปุน วุตฺตตฺตา. ปเรน วา ธมฺมวิเสสํ อคเณตฺวา ปุนวจนํ โจทิตนฺติ โจทกาภิลาสวเสน ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจน’’นฺติ วุตฺตํ.
กามภวาทินิพฺพตฺตนกสฺส กมฺมสฺส กามภวาทิภาโว ผลโวหาเรน อฏฺกถายํ วุตฺโต. อนฺโตคเธ วิสุํ อคเณตฺวา อพฺภนฺตรคเต เอว กตฺวา กามภวาทิเก กมฺมุปปตฺติภววเสน ทุคุเณ กตฺวา อาห ‘‘ฉ ภวา’’ติ.
อวิเสเสนาติ อุปาทานเภทํ อกตฺวาติ อตฺโถ. อุปาทานเภทากรเณเนว จ ทฺวาทสปฺปเภทสฺส สงฺคหวเสน สงฺคหโต ‘‘ฉ ภวา’’ติ วุตฺตํ.
โคสีเลน กุกฺกุรสีเลน จ สมตฺเตน สมาทินฺเนน คุนฺนํ กุกฺกุรานฺจ สหพฺยตา วุตฺตาติ สีลพฺพตุปาทานวโต ฌานภาวนา น อิชฺฌตีติ มฺมานา เตน รูปารูปภวา น โหนฺตีติ เกจิ วทนฺติ, วกฺขมาเนน ปน ปกาเรน ปจฺจยภาวโต ‘‘ตํ น คเหตพฺพ’’นฺติ อาห. อสุทฺธิมคฺเค จ สุทฺธิมคฺคปรามสนํ สีลพฺพตุปาทานนฺติ สุทฺธิมคฺคปรามสเนน รูปารูปาวจรชฺฌานานํ นิพฺพตฺตนํ น ยุชฺชตีติ. ปุราณภารตสีตาหรณปสุพนฺธวิธิอาทิสวนํ อสทฺธมฺมสวนํ. อาทิ-สทฺเทน อสปฺปุริสูปนิสฺสยํ ปุพฺเพ ¶ จ อกตปฺุตํ อตฺตมิจฺฉาปณิธิตฺจ สงฺคณฺหาติ. ตทนฺโตคธา เอวาติ ตสฺมึ ทุจฺจริตนิพฺพตฺเต สุจริตนิพฺพตฺเต จ กามภเว อนฺโตคธา เอวาติ อตฺโถ.
อนฺโตคธาติ จ สฺาภวปฺจโวการภวานํ เอกเทเสน อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ. น หิ เต นิรวเสสา กามภเว อนฺโตคธาติ. สปฺปเภทสฺสาติ สุคติทุคฺคติมนุสฺสาทิปฺปเภทวโต. กเมน จ อวตฺวา สีลพฺพตุปาทานสฺส อนฺเต ภวปจฺจยภาววจนํ อตฺตวาทุปาทานํ วิย อภิณฺหํ อสมุทาจรณโต อตฺตวาทุปาทานนิมิตฺตตฺตา จ.
เหตุปจฺจยปฺปเภเทหีติ เอตฺถ มคฺคปจฺจโย จ วตฺตพฺโพ. ทิฏฺุปาทานาทีนิ หิ มคฺคปจฺจยา โหนฺตีติ.
ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๕. อุปปตฺติภวุปฺปตฺติเยว ¶ ชาตีติ อาห ‘‘น อุปปตฺติภโว’’ติ. ชายมานสฺส ปน ชาติ ชาตีติ อุปปตฺติภโวปิ อสติ อภาวา ชาติยา ปจฺจโยติ สกฺกา วตฺตุํ. ชายมานรูปปทฏฺานตาปิ หิ รูปชาติยา วุตฺตา ‘‘อุปจิตรูปปทฏฺาโน (ธ. ส. อฏฺ. ๖๔๑) อุปจโย, อนุปฺปพนฺธรูปปทฏฺานา สนฺตตี’’ติ.
ขนฺธานํ ชาตานํ อฺุาตตานฺุาตตาจ หีนปณีตตา. อาทิ-สทฺเทน สุวณฺณทุพฺพณฺณาทิวิเสสํ สงฺคณฺหาติ. อชฺฌตฺตสนฺตานคตโต อฺสฺส วิเสสการกสฺส การณสฺส อภาวา ‘‘อชฺฌตฺตสนฺตาเน’’ติ อาห.
เตน เตนาติ าติพฺยสนาทินา ชรามรณโต อฺเน ทุกฺขธมฺเมน. อุปนิสฺสยโกฏิยาติ อุปนิสฺสยํเสน, อุปนิสฺสยเลเสนาติ อตฺโถ. โย หิ ปฏฺาเน อนาคโต สติ ภาวา อสติ จ อภาวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสโย, โส ‘‘อุปนิสฺสยโกฏี’’ติ วุจฺจติ.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภวจกฺกกถาวณฺณนา
๒๔๒. สมิตนฺติ ¶ สงฺคตํ, อพฺโพจฺฉินฺนนฺติ อตฺโถ. กามยานสฺสาติ กามยมานสฺส, กาโม ยานํ เอตสฺสาติ วา กามยาโน, ตสฺส กามยานสฺส. รุปฺปตีติ โสเกน รุปฺปติ.
ปริยุฏฺานตาย ติฏฺนสีโล ปริยุฏฺานฏฺายี. ‘‘ปริยุฏฺฏฺายิโน’’ติ วา ปาโ, ตตฺถ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺํ, ทิฏฺิปริยุฏฺํ, เตน ติฏฺตีติ ปริยุฏฺฏฺายีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานีติ ‘‘มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย เววณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน นาภิรมตี’’ติ (อิติวุ. ๘๓) วุตฺตานิ ปฺจ มรณปุพฺพนิมิตฺตานีติ อตฺโถ. ตานิ หิ ทิสฺวา กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺธสงฺขาเต อุปปตฺติภเว ภวฉนฺทพเลน ¶ เทวานํ พลวโสโก อุปฺปชฺชตีติ. พาโลติ อวิทฺวา. เตน อวิชฺชาย การณภาวํ ทสฺเสติ. ติวิธนฺติ ตสฺสารุปฺปกถาสวนกมฺมการณาทสฺสนมรณกาลกมฺโมปฏฺานนิทานํ โสกาทิทุกฺขํ. อาสเว สาเธนฺตีติ อาสเว คเมนฺติ โพเธนฺตีติ อตฺโถ.
เอวํ สตีติ อวิทิตาทิตาย อนาทิภาเว สติ. อาทิมตฺตกถนนฺติอาทิ เอตสฺส อตฺถีติ อาทิมํ, ภวจกฺกํ. ตสฺส ภาโว อาทิมตฺตํ, ตสฺส กถนํ อาทิมตฺตกถนํ. วิเสสนิวตฺติอตฺโถ วา มตฺต-สทฺโท, สติ อนาทิภาเว อวิชฺชา อาทิมฺหิ มชฺเฌ ปริโยสาเน จ สพฺพตฺถ สิยาติ อาทิมตฺตาย อวิชฺชาย กถนํ วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาคฺคหเณนาติ อวิชฺชาย อุปฺปาทเนน กถเนน, อปฺปหาเนน วา, อตฺตโน สนฺตาเน สนฺนิหิตภาวกรเณนาติ อตฺโถ. กมฺมาทีนีติ กมฺมวิปากวฏฺฏานิ. วฏฺฏการณภาเวน ปธานตฺตา ‘‘ปธานธมฺโม’’ติ อวิชฺชา กถิตา. วทตีติ วโท. เวเทติ, เวทิยตีติ วา เวเทยฺโย, สุขาทึ อนุภวติ, สพฺพวิสเย วา ชานาติ, ‘‘สุขิโต’’ติอาทินา อตฺตนา ปเรหิ จ ชานาติ ายติ จาติ อตฺโถ. พฺรหฺมาทินา วา อตฺตนา วาติ วา-สทฺโท จ-สทฺทตฺโถ. เตนาห ‘‘การกเวทกรหิต’’นฺติ จ-สทฺทตฺถสมาสํ.
ทฺวาทสวิธสฺุตาสฺุนฺติ อวิชฺชาทีนํ ทฺวาทสวิธานํ สฺุตาย สฺุํ, จตุพฺพิธมฺปิ วา สฺุตํ เอกํ กตฺวา ทฺวาทสงฺคตาย ทฺวาทสวิธาติ ตาย ทฺวาทสวิธาย สฺุตาย สฺุนฺติ อตฺโถ.
ปุพฺพนฺตาหรณโตติ ¶ ปุพฺพนฺตโต ปจฺจุปฺปนฺนวิปากสฺส อาหรณโต ปริจฺฉินฺนเวทนาวสานํ เอตํ ภวจกฺกนฺติ อตฺโถ. ภวจกฺเกกเทโสปิ หิ ภวจกฺกนฺติ วุจฺจติ. เวทนา วา ตณฺหาสหายาย อวิชฺชาย ปจฺจโย โหตีติ เวทนาโต อวิชฺชา, ตโต สงฺขาราติ สมฺพชฺฌนโต เวทนาวสานํ ภวจกฺกนฺติ ยุตฺตเมตํ, เอวํ ตณฺหามูลเก จ โยเชตพฺพํ. ทฺวินฺนมฺปิ หิ อฺมฺํ อนุปฺปเวโส โหตีติ. อวิชฺชา ธมฺมสภาวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิปรีตาภินิเวสํ กโรนฺตี ทิฏฺิจริเต สํสาเร นยติ, เตสํ วา สํสารํ สงฺขาราทิปวตฺตึ นยติ ปวตฺเตตีติ ‘‘สํสารนายิกา’’ติ วุตฺตา. ผลุปฺปตฺติยาติ กตฺตุนิทฺเทโส. วิฺาณาทิปจฺจุปฺปนฺนผลุปฺปตฺติ หิ อิธ ทิฏฺา, อทิฏฺานฺจ ปุริมภเว อตฺตโน เหตูนํ อวิชฺชาสงฺขารานํ ผลํ อชเนตฺวา อนุปจฺฉิชฺชนํ ปกาเสติ. อถ วา ปุริมภวจกฺกํ ทุติเยน สมฺพนฺธํ วุตฺตนฺติ เวทนาสงฺขาตสฺส ผลสฺส อุปฺปตฺติยา ตณฺหาทีนํ เหตูนํ อนุปจฺเฉทํ ปกาเสติ, ตสฺมา ผลุปฺปตฺติยา การณภูตาย ปมสฺส ภวจกฺกสฺส เหตูนํ อนุปจฺเฉทปฺปกาสนโตติ อตฺโถ. สงฺขาราทีนเมว วา ผลานํ อุปฺปตฺติยา ¶ อวิชฺชาทีนํ เหตูนํ ผลํ อชเนตฺวา อนุปจฺเฉทเมว, วิฺาณาทิเหตูนํ วา สงฺขาราทีนํ อนุพนฺธนเมว ปกาเสติ ปมํ ภวจกฺกํ, น ทุติยํ วิย ปริโยสานมฺปีติ ‘‘ผลุปฺปตฺติยา เหตูนํ อนุปจฺเฉทปฺปกาสนโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เอตฺถ อปริปุณฺณายตนกลลรูปํ วตฺวา ตโต อุทฺธํ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ สฬายตนปฺปวตฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อนุปุพฺพปวตฺติทีปนโต’’ติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ เอตฺถ น อายตนานํ กเมน อุปฺปตฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘สหุปฺปตฺติทีปนโต’’ติ.
เหตุอาทิปุพฺพกา ตโย สนฺธี เอตสฺสาติ เหตุผลเหตุปุพฺพกติสนฺธิ, ภวจกฺกํ. เหตุผลเหตุผลวเสน จตุปฺปเภโท องฺคานํ สงฺคโห เอตสฺสาติ จตุเภทสงฺคหํ. สรูปโต อวุตฺตาปิ ตสฺมึ ตสฺมึ สงฺคเห อากิรียนฺติ อวิชฺชาสงฺขาราทิคฺคหเณหิ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อตีตเหตุอาทีนํ วา ปการา อาการา. กิเลสกมฺมวิปากา วิปากกิเลสกมฺเมหิ สมฺพนฺธา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺตนฺตีติ เตสุ วฏฺฏนามํ อาโรเปตฺวา ‘‘ติวฏฺฏ’’นฺติ วุตฺตํ, วฏฺเฏกเทสตฺตา วา ‘‘วฏฺฏานี’’ติ วุตฺตานิ.
สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตาติ สนฺธีนํ ปุพฺพาปรววตฺถิตาติ อตฺโถ.
‘‘ยา ¶ กาจิ วา ปน เจตนา ภโว, เจตนาสมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา’’ติ อิทํ อิมิสฺสา ธมฺมฏฺิติาณภาชนีเย วุตฺตาย ปฏิสมฺภิทาปาฬิยา (ปฏิ. ม. ๑.๔๗) วเสน วุตฺตํ. เอตฺถ หิ ‘‘เจตนา ภโว’’ติ อาคตาติ. ภวนิทฺเทเส ปน ‘‘สาตฺถโต’’ติ เอตฺถ ‘‘เจตนาว สงฺขารา, ภโว ปน เจตนาสมฺปยุตฺตาปี’’ติ วิภงฺคปาฬิยา วเสน ทสฺสิตํ. ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลา เจตนา กามาวจรา’’ติอาทินา หิ สงฺขารานํ เจตนาภาโว วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๒๒๖) วุตฺโตติ. ตตฺถ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ ‘‘เจตนาสมฺปยุตฺตา วิปากธมฺมตฺตา สวิปาเกน อายูหนสงฺขาเตน สงฺขตาภิสงฺขรณกิจฺเจน สงฺขารา’’ติ วุตฺตา. วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๒๓๔) ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺมํ กมฺมภโว’’ติ ภวสฺส ปจฺจยภาเวน ภวคามิภาวโต กมฺมสํสฏฺสหายตาย กมฺมภาวโต จ อุปปตฺติภวํ ภาเวนฺตีติ ภโวติ วุตฺตา, อุปปตฺติภวภาวนกิจฺจํ ปน เจตนาย สาติสยนฺติ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ เจตนา ‘‘ภโว’’ติ วุตฺตา, ภวาภิสงฺขรณกิจฺจํ เจตนาย สาติสยนฺติ วิภงฺคปาฬิยํ ‘‘กุสลา เจตนา’’ติอาทินา เจตนา ‘‘สงฺขารา’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา เตน เตน ปริยาเยน อุภยํ อุภยตฺถ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ นตฺเถตฺถ วิโรโธ ¶ . คหณนฺติ กามุปาทานํ กิจฺเจนาห. ปรามสนนฺติ อิตรานิ. อายูหนาวสาเนติ ตีสุปิ อตฺถวิกปฺเปสุ วุตฺตสฺส อายูหนสฺส อวสาเน.
ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ วุตฺเต อายูหนสงฺขาเร ‘‘ตสฺส ปุพฺพภาคา’’ติ อาห, ตติเย วุตฺเต ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ. ทหรสฺส จิตฺตปฺปวตฺติ ภวงฺคพหุลา เยภุยฺเยน ภวนฺตรชนกกมฺมายูหนสมตฺถา น โหตีติ ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนาน’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมกรณกาเล สมฺโมโหติ เอเตน กมฺมสฺส ปจฺจยภูตํ สมฺโมหํ ทสฺเสติ, น กมฺมสมฺปยุตฺตเมว.
กมฺมาเนว วิปากํ สมฺภรนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ กมฺมสมฺภารา, กมฺมํ วา สงฺขารภวา, ตทุปการกานิ อวิชฺชาตณฺหุปาทานานิ กมฺมสมฺภารา, ปฏิสนฺธิทายโก วา ภโว กมฺมํ, ตทุปการกา ยถาวุตฺตอายูหนสงฺขารา อวิชฺชาทโย จ กมฺมสมฺภาราติ กมฺมฺจ กมฺมสมฺภารา จ กมฺมสมฺภาราติ เอกเสสํ กตฺวา ‘‘กมฺมสมฺภารา’’ติ อาห. ทส ธมฺมา กมฺมนฺติ อวิชฺชาทโยปิ กมฺมสหายตาย กมฺมสริกฺขกา ตทุปการกา จาติ ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตา.
สงฺขิปฺปนฺติ ¶ เอตฺถ อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขโป, กมฺมํ วิปาโก จ. กมฺมํ วิปาโกติ เอวํ สงฺขิปียตีติ วา สงฺเขโป, อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จ. สงฺเขปภาวสามฺเน ปน เอกวจนํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สงฺเขปสทฺโท วา ภาคาธิวจนนฺติ กมฺมภาโค กมฺมสงฺเขโป.
เอวํ สมุปฺปนฺนนฺติ กมฺมโต วิปาโก. ตตฺถาปิ อวิชฺชาโต สงฺขาราติ เอวํ สมุปฺปนฺนํ, ติสนฺธิอาทิวเสน วา สมุปฺปนฺนํ อิทํ ภวจกฺกนฺติ อตฺโถ. อิตฺตรนฺติ คมนธมฺมํ, วินสฺสธมฺมนฺติ อตฺโถ. เตน อุปฺปาทวยวนฺตตาทีปเกน อนิจฺจ-สทฺเทน วิการาปตฺติทีปเกน จล-สทฺเทน จ อทีปิตํ กาลนฺตรฏฺายิตาปฏิกฺเขปํ ทีเปติ, อธุวนฺติ เอเตน ถิรภาวปฏิกฺเขปํ นิสฺสารตํ. เหตู เอว สมฺภารา เหตุสมฺภารา. ‘‘านโส เหตุโส’’ติ เอตฺถ เอวํ วุตฺตํ วา านํ, อฺมฺปิ ตสฺส ตสฺส สาธารณํ การณํ สมฺภาโร, อสาธารณํ เหตุ. เอวนฺติ เอวํ เหตุโต ธมฺมมตฺตสมฺภเว เหตุนิโรธา จ วฏฺฏุปจฺเฉเท ธมฺเม จ ตํนิโรธาย เทสิเต สตีติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยํ อิธ พฺรหฺมจริยิธ. สตฺเต จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท เอวํ พฺรหฺมจริยฺจ วิชฺชติ, สสฺสตุจฺเฉทา จ น โหนฺตีติ สมุจฺจยตฺโถ. เอวฺหิ ¶ เหตุอายตฺเต ธมฺมมตฺตสมฺภเว สตฺโต นุปลพฺภติ, ตสฺมิฺจ อุปลพฺภนฺเต สสฺสโต อุจฺเฉโท วา สิยา, นุปลพฺภนฺเต ตสฺมึ เนวุจฺเฉโท น สสฺสตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สจฺจปฺปภวโตติ สจฺจโต, สจฺจานํ วา ปภวโต. กุสลากุสลํ กมฺมนฺติ วฏฺฏกถาย วตฺตมานตฺตา สาสวนฺติ วิฺายติ. อวิเสเสนาติ เจตนา เจตนาสมฺปยุตฺตกาติ วิเสสํ อกตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ ‘‘สมุทยสจฺจ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตณฺหา จ…เป… อวเสสา จ สาสวา กุสลา ธมฺมา’’ติ หิ เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตวิเสสํ อกตฺวา วุตฺตนฺติ, อริยสจฺจวิเสสํ วา อกตฺวา สมุทยสจฺจนฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
วตฺถูสูติ อารมฺมเณสุ, จกฺขาทีสุ วา ปฏิจฺฉาเทตพฺเพสุ วตฺถูสุ. โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตาติ เตสํ การณตฺตา, เตหิ สิทฺธาย อวิชฺชาย สหิเตหิ สงฺขาเรหิ ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวายาติ อธิปฺปาโย. จุติจิตฺตํ วา ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหตีติ ‘‘ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวายา’’ติ วุตฺตํ ¶ . ตํ ปน จุติจิตฺตํ อวิชฺชาสงฺขารรหิตํ ภวนฺตรสฺส ปจฺจโย น โหตีติ ตสฺส สหายทสฺสนตฺถมาห ‘‘โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตา’’ติ. ทฺวิธาติ อตฺตโนเยว สรเสน ธมฺมนฺตรปจฺจยภาเวน จาติ ทฺวิธา.
อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอเตน สงฺขารานํ ปจฺจยุปฺปนฺนตาทสฺสเนน ‘‘โก นุ โข อภิสงฺขโรตีติ เอส โน กลฺโล ปฺโห’’ติ ทสฺเสติ. เตเนตํ การกทสฺสนนิวารณนฺติ. เอวมาทิทสฺสนนิวารณนฺติ เอเตน ‘‘โสจติ ปริเทวติ ทุกฺขิโต’’ติอาทิทสฺสนนิวารณมาห. โสกาทโยปิ หิ ปจฺจยายตฺตา อวสวตฺติโนติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสก…เป… สมฺภวนฺตี’’ติ เอเตน วุตฺตนฺติ.
คณฺฑเภทปีฬกา วิยาติ คณฺฑเภทนตฺถํ ปจฺจมาเน คณฺเฑ ตสฺสปิ อุปริ ชายมานขุทฺทกปีฬกา วิย, คณฺฑสฺส วา อเนกธาเภเท ปีฬกา วิย. คณฺฑวิการา สูนตาสราคปุพฺพคหณาทโย.
ปฏลาภิภูตจกฺขุโก รูปานิ น ปสฺสติ, กิฺจิปิ ปสฺสนฺโต จ วิปรีตํ ปสฺสติ, เอวํ อวิชฺชาภิภูโต ทุกฺขาทีนิ น ปฏิปชฺชติ น ปสฺสติ, มิจฺฉา วา ปฏิปชฺชตีติ ปฏลํ วิย อวิชฺชา ¶ , กิมินา วิย อตฺตนา กตตฺตา วฏฺฏสฺส อตฺตโนเยว ปริพฺภมนการณตฺตา จ โกสปฺปเทสา วิย สงฺขารา, สงฺขารปริคฺคหํ วินา ปติฏฺํ อลภมานํ วิฺาณํ ปริณายกปริคฺคหํ วินา ปติฏฺํ อลภมาโน ราชกุมาโร วิยาติ ปริคฺคเหน วินา ปติฏฺาลาโภ เอตฺถ สามฺํ. อุปปตฺตินิมิตฺตนฺติ กมฺมาทิอารมฺมณมาห. ปริกปฺปนโตติ อารมฺมณกรณโต, สมฺปยุตฺเตน วา วิตกฺเกน วิตกฺกนโต. เทวมนุสฺสมิควิหงฺคาทิวิวิธปฺปการตาย มายา วิย นามรูปํ, ปติฏฺาวิเสเสน วุฑฺฒิวิเสสาปตฺติโต วนปฺปคุมฺโพ วิย สฬายตนํ. อายตนานํ วิสยิวิสยภูตานํ อฺมฺาภิมุขภาวโต อายตนฆฏฺฏนโต. เอตฺถ จ สงฺขาราทีนํ โกสปฺปเทสปริณายกาทีหิ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สทิสตาย ทฺเว ทฺเว อุปมา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
คมฺภีโร เอว หุตฺวา โอภาสติ ปกาสติ ทิสฺสตีติ คมฺภีราวภาโส. ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโติ ชาติปจฺจยา สมฺภูตํ หุตฺวา สหิตสฺส อตฺตโน ปจฺจยานุรูปสฺส อุทฺธํ อุทฺธํ อาคตภาโว, อนุปฺปพนฺโธติ อตฺโถ. อถ วา สมฺภูตฏฺโ จ สมุทาคตฏฺโ จ สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ. ‘‘น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา ¶ อฺโต โหตี’’ติ หิ ชาติปจฺจยสมฺภูตฏฺโ วุตฺโต. อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ ปจฺจยสมุทาคตฏฺโ, ยา ยา ชาติ ยถา ยถา ปจฺจโย โหติ, ตทนุรูปปาตุภาโวติ อตฺโถ.
อนุโลมปฏิโลมโตติ อิธ ปน ปจฺจยุปฺปาทา ปจฺจยุปฺปนฺนุปฺปาทสงฺขาตํ อนุโลมํ, นิโรธา นิโรธสงฺขาตํ ปฏิโลมฺจาห. อาทิโต ปน อนฺตคมนํ อนุโลมํ, อนฺตโต จ อาทิคมนํ ปฏิโลมมาหาติ. ‘‘อิเม จตฺตาโร อาหารา กึนิทานา’’ติอาทิกาย (สํ. นิ. ๒.๑๑) เวมชฺฌโต ปฏฺาย ปฏิโลมเทสนาย, ‘‘จกฺขุํ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทิกาย (สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๔; ๒.๔.๖๐) อนุโลมเทสนาย จ ทฺวิสนฺธิติสงฺเขปํ, ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๓-๕๔) เอกสนฺธิทฺวิสงฺเขปํ.
อวิชฺชาทีนํ สภาโว ปฏิวิชฺฌียตีติ ปฏิเวโธ. วุตฺตฺหิ ‘‘เตสํ เตสํ วา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว ปฏิเวโธ’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา). อปฺุาภิสงฺขาเรกเทโส สราโค, อฺโ วิราโค, ราคสฺส วา อปฏิปกฺขภาวโต ¶ ราคปฺปวฑฺฒโก สพฺโพปิ อปฺุาภิสงฺขาโร สราโค, อิตโร ปฏิปกฺขภาวโต วิราโค. ‘‘ทีฆรตฺตฺเหตํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส อชฺโฌสิตํ มมายิตํ ปรามฏฺํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๒) อตฺตปรามาสสฺส วิฺาณํ วิสิฏฺํ วตฺถุ วุตฺตนฺติ วิฺาณสฺส สฺุตฏฺโ คมฺภีโร, อตฺตา วิชานาติ สํสรตีติ สพฺยาปารตาสงฺกนฺติอภินิเวสพลวตาย อพฺยาปารฏฺอสงฺกนฺติปฏิสนฺธิปาตุภาวฏฺา จ คมฺภีรา, นามสฺส รูเปน, รูปสฺส จ นาเมน อสมฺปโยคโต วินิพฺโภโค, นามสฺส นาเมน อวินิพฺโภโค โยเชตพฺโพ. เอกุปฺปาเทกนิโรเธหิ อวินิพฺโภเค อธิปฺเปเต รูปสฺส จ รูเปน ลพฺภติ. อถ วา เอกจตุโวการภเวสุ นามรูปานํ อสหวตฺตนโต อฺมฺวินิพฺโภโค, ปฺจโวการภเว สหวตฺตนโต อวินิพฺโภโค จ เวทิตพฺโพ.
อธิปติยฏฺโ ¶ นาม อินฺทฺริยปจฺจยภาโว. ‘‘โลโกเปโส ทฺวาราเปสา เขตฺตมฺเปต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๙๘-๕๙๙) วุตฺตา โลกาทิอตฺถา จกฺขาทีสุ ปฺจสุ โยเชตพฺพา. มนายตนสฺสปิ ลุชฺชนโต มโนสมฺผสฺสาทีนํ ทฺวารเขตฺตภาวโต จ เอเต อตฺถา สมฺภวนฺเตว. อาปาถคตานํ รูปาทีนํ ปกาสนโยคฺยตาลกฺขณํ โอภาสนํ จกฺขาทีนํ วิสยิภาโว, มนายตนสฺส วิชานนํ. สงฺฆฏฺฏนฏฺโ วิเสเสน จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ ปฺจนฺนํ, อิตเร ฉนฺนมฺปิ โยเชตพฺพา. ผุสนฺจ ผสฺสสฺส สภาโว, สงฺฆฏฺฏนํ รโส, อิตเร อุปฏฺานาการา. อารมฺมณรสานุภวนฏฺโ รสวเสน วุตฺโต, เวทยิตฏฺโ ลกฺขณวเสน. อตฺตา เวทยตีติ อภินิเวสสฺส พลวตาย นิชฺชีวฏฺโ เวทนาย คมฺภีโร. นิชฺชีวาย เวทนาย เวทยิตํ นิชฺชีวเวทยิตํ, นิชฺชีวเวทยิตเมว อตฺโถ นิชฺชีวเวทยิตฏฺโ.
อาทานฏฺโ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ สมาโน, คหณฏฺโ กามุปาทานสฺส, อิตเรสํ ติณฺณํ อภินิเวสาทิอตฺโถ. ‘‘ทิฏฺิกนฺตาโร’’ติ หิ วจนโต ทิฏฺีนํ ทุรติกฺกมนฏฺโปีติ. ทฬฺหคหณตฺตา วา จตุนฺนมฺปิ ทุรติกฺกมนฏฺโ โยเชตพฺโพ. โยนิคติิตินิวาเสสุขิปนนฺติ สมาเส ภุมฺมวจนสฺส อโลโป ทฏฺพฺโพ, ตสฺมา เตน อายูหนาภิสงฺขรณปทานํ สมาโส โหติ. ชรามรณงฺคํ มรณปฺปธานนฺติ มรณฏฺา เอว ขยาทโย คมฺภีรา ทสฺสิตา. นวนวานฺหิ ปริกฺขเยน ขณฺฑิจฺจาทิปริปกฺกปฺปวตฺติ ชราติ, ขยฏฺโ วา ชราย วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. นวภาวาปคโม หิ ขโยติ วตฺตุํ ยุตฺโตติ. วิปริณามฏฺโ ทฺวินฺนมฺปิ. สนฺตติวเสน วา ชราย ขยวยภาโว, สมฺมุติขณิกวเสน มรณสฺส เภทวิปริณามตา โยเชตพฺพา.
อตฺถนยาติ ¶ อตฺถานํ นยา. อวิชฺชาทิอตฺเถหิ เอกตฺตาที เสน ภาเวน นียนฺติ คมฺเมนฺตีติ เอกตฺตาทโย เตสํ นยาติ วุตฺตา. นียนฺตีติ หิ นยาติ. อตฺถา เอว วา เอกตฺตาทิภาเวน นียมานา ายมานา ‘‘อตฺถนยา’’ติ วุตฺตา. นียนฺติ เอเตหีติ วา นยา, เอกตฺตาทีหิ จ อตฺถา ‘‘เอก’’นฺติอาทินา นียนฺติ, ตสฺมา เอกตฺตาทโย อตฺถานํ นยาติ อตฺถนยา. สนฺตานานุปจฺเฉเทน พีชํ รุกฺขภาวํ ปตฺตํ รุกฺขภาเวน ปวตฺตนฺติ เอกตฺเตน วุจฺจตีติ สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺตํ, เอวมิธาปิ อวิชฺชาทีนํ สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
ภินฺนสนฺตานสฺเสวาติ ¶ สมฺพนฺธรหิตสฺส นานตฺตสฺส คหณโต สตฺตนฺตโร อุจฺฉินฺโน สตฺตนฺตโร อุปฺปนฺโนติ คณฺหนฺโต อุจฺเฉททิฏฺิมุปาทิยติ.
ยโต กุโตจีติ ยทิ อฺสฺมา อฺสฺสุปฺปตฺติ สิยา, วาลิกโต เตลสฺส, อุจฺฉุโต ขีรสฺส กสฺมา อุปฺปตฺติ น สิยา, ตสฺมา น โกจิ กสฺสจิ เหตุ อตฺถีติ อเหตุกทิฏฺึ, อวิชฺชมาเนปิ เหตุมฺหิ นิยตตาย ติลคาวีสุกฺกโสณิตาทีหิ เตลขีรสรีราทีนิ ปวตฺตนฺตีติ นิยติวาทฺจ อุปาทิยตีติ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.
กสฺมา? ยสฺมา อิทฺหิ ภวจกฺกํ อปทาเลตฺวา สํสารภยมตีโต น โกจิ สุปินนฺตเรปิ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ทุรภิยานนฺติ ทุรติกฺกมํ. อสนิวิจกฺกมิวาติ อสนิมณฺฑลมิว. ตฺหิ นิมฺมถนเมว, นานิมฺมถนํ ปวตฺตมานํ อตฺถิ, เอวํ ภวจกฺกมฺปิ เอกนฺตํ ทุกฺขุปฺปาทนโต ‘‘นิจฺจนิมฺมถน’’นฺติ วุตฺตํ.
าณาสินา อปทาเลตฺวา สํสารภยํ อตีโต นตฺถีติ เอตสฺส สาธกํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ. ตนฺตูนํ อากุลกํ ตนฺตากุลกํ, ตนฺตากุลกมิว ชาตา ตนฺตากุลกชาตา, กิเลสกมฺมวิปาเกหิ อตีว ชฏิตาติ อตฺโถ. คุณาย สกุณิยา นีฑํ คุณาคุณฺฑิกํ. วฑฺฒิอภาวโต อปายํ ทุกฺขคติภาวโต ทุคฺคตึ สุขสมุสฺสยโต วินิปาตตฺตา วินิปาตฺจ จตุพฺพิธํ อปายํ, ‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏี’’ติอาทินา วุตฺตํ สํสารฺจ นาติวตฺตติ. สํสาโร เอว วา สพฺโพ อิธ วฑฺฒิอปคมาทีหิ อตฺเถหิ อปายาทินามโก วุตฺโต เกวลํ ทุกฺขกฺขนฺธภาวโต.
ภวจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๔๓. ปถวีอากาสา ¶ วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาโท มหาปตฺถฏวิตฺถาริตานํ อตฺถานํ ปริกปฺปวเสน กถิโต. ตฺหิ อปตฺถฏํ อวิตฺถตฺจ ปถวึ อากาสฺจ ปตฺถรนฺโต วิตฺถารยนฺโต วิย จ เอเกกจิตฺตาวรุทฺธํ อกตฺวา ¶ สพฺพสตฺตสพฺพจิตฺตสาธารณวเสน ปตฺถฏวิตฺถตํ กตฺวา สุตฺตนฺตภาชนีเยน ภควา ทสฺเสติ. ตตฺถ นานาจิตฺตวเสนาติ อสหชาตานํ สหชาตานฺจ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ นานาจิตฺตคตานํ ทสฺสิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. นว มูลปทานิ เอเตสนฺติ นวมูลปทา, นยา. ‘‘เอเกเกน นเยน จตุนฺนํ จตุนฺนํ วารานํ สงฺคหิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ, เอตฺถ ‘‘เอเกเกน จตุกฺเกนา’’ติ วตฺตพฺพํ. นยจตุกฺกวารา หิ เอตฺถ ววตฺถิตา ทสฺสิตานํ จตุกฺกานํ นยภาวาติ.
๑. ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา
อวิชฺชํ องฺคํ อคฺคเหตฺวา ตโต ปรํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติอาทีนิ ปจฺจยสหิตานิ ปจฺจยุปฺปนฺนานิ องฺคภาเวน วุตฺตานีติ อาห ‘‘น, ตสฺส อนงฺคตฺตา’’ติ. เอวฺจ กตฺวา นิทฺเทเส (วิภ. ๒๒๖) ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิชฺชํ วิสุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติอาทินา ตํตํปจฺจยวนฺโต สงฺขาราทโย วิสฺสชฺชิตาติ. ตีสุ ปกาเรสุ ปมปมวาโร ทุติยวาราทีสุ ปวิสนฺโต ปจฺจยวิเสสาทิสพฺพนานตฺตสาธารณตฺตา เต วารวิเสเส คณฺหาตีติ ‘‘สพฺพสงฺคาหโก’’ติ วุตฺโต. ปมวาโร เอว หิ น เกวลํ ฉฏฺายตนเมว, อถ โข นามฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, นามํ วา น เกวลํ ฉฏฺายตนสฺเสว, อถ โข ผสฺสสฺสาปีติ ปจฺจยวิเสสทสฺสนตฺถํ, เยน อตฺถวิเสเสน มหานิทานสุตฺตเทสนา ปวตฺตา, ตํทสฺสนตฺถฺจ ฉฏฺายตนงฺคํ ปริหาเปตฺวา วุตฺโตติ ตสฺส ทุติยวาเร จ ปเวโส วุตฺโต, น สพฺพงฺคสโมโรธโต.
ยตฺถาติ วารจตุกฺเก เอเกกวาเร จ. อฺถาติ สุตฺตนฺตภาชนียโต อฺถา สงฺขาโรติ วุตฺตํ. อวุตฺตนฺติ ‘‘รูปํ สฬายตน’’นฺติ, เตสุปิ จ วาเรสุ จตูสุปิ โสกาทโย อวุตฺตา สุตฺตนฺตภาชนีเยสุ วุตฺตา. ตตฺถ จ วุตฺตเมว อิธ ‘‘ฉฏฺายตน’’นฺติ อฺถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพฏฺานสาธารณโตติ ¶ วุตฺตนเยน สพฺพวารสาธารณโต, สพฺพวิฺาณปวตฺติฏฺานภวสาธารณโต วา. วินา อภาเวน วิฺาณสฺส ขนฺธตฺตยมฺปิ สมานํ ผลํ ปจฺจโย จาติ อาห ‘‘อวิเสเสนา’’ติ. ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; สํ. นิ. ๒.๔๓) วจนโต ปน วิฺาณํ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโยติ ตสฺส ผสฺโส วิสิฏฺํ ผลํ, สติปิ ปจฺจยสมฺปยุตฺตานํ อาหารปจฺจยภาเว มโนสฺเจตนาย วิฺาณาหรณํ วิสิฏฺํ กิจฺจนฺติ สงฺขาโร จสฺส วิสิฏฺโ ปจฺจโย. อจิตฺตกฺขณมตฺตานีติ ¶ จิตฺตกฺขณปฺปมาณรหิตานิ. ตสฺสตฺโถติ ตสฺส วุตฺตสฺส อวิชฺชาทิกสฺส อตฺโถ สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
เหตุกาทีนีติ เอตฺถ ยสฺมึ จตุกฺเก เหตุก-สทฺโท วุตฺโต, ตํ เหตุก-สทฺทสหจริตตฺตา ‘‘เหตุก’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เหตุ-สทฺโท คติสูจโก อวิคตตา จ วิคตตานิวารณวเสน คติ เอว โหตีติ เหตุกจตุกฺกํ อวิคตปจฺจยวเสน วุตฺตนฺติ วุตฺตํ.
ติธา จตุธา ปฺจธา วาติ วา-สทฺโท ‘‘ฉธา วา’’ติปิ วิกปฺเปตีติ ทฏฺพฺโพ. สมาธิ หิ สาธารเณหิ ตีหิ ฌานินฺทฺริยมคฺคปจฺจเยหิ จ ปจฺจโยติ. อุปาทานํ ภวสฺส มคฺคปจฺจเยน จาติ สตฺตธาติ กามุปาทานวชฺชานํ วเสน วทติ. กามุปาทานํ ปน ยถา ภวสฺส ปจฺจโย โหติ, โส ปกาโร ตณฺหายํ วุตฺโต เอวาติ น วุตฺโต.
อิมสฺมึ จตุกฺเก สหชาตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺตีติ วจนวเสนาติ อธิปฺปาโย. อตฺโถ หิ น กตฺถจิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ยถาสเกหิ ปจฺจโย น โหติ, สหชาตปจฺจยวเสเนว ปน อิมสฺส จตุกฺกสฺส วุตฺตตฺตา โสเยเวตฺถ โหตีติ วทนฺติ. ปมวาโรติ ปมจตุกฺโกติ เอวํ วตฺตพฺพํ. ภวาทีนํ ตถา อภาวนฺติ ยทิ สหชาตปจฺจยวเสเนว ปมจตุกฺโก วุตฺโต, ภโว ชาติยา, ชาติ จ มรณสฺส สหชาตปจฺจโย น โหตีติ ยถา อวิคตจตุกฺกาทีสุ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ ภวเหตุกา’’ติอาทิ น วุตฺตํ ภวาทีนํ อวิคตาทิปจฺจยตาย อภาวโต, เอวมิธาปิ ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา. ปจฺจยวจนเมว หิ เตสํ สหชาตสูจกํ อาปนฺนํ อวิคตจตุกฺกาทีสุ วิย อิธ ปจฺจยวิเสสสูจกสฺส วจนนฺตรสฺส อภาวา, น จ ตํ น วุตฺตํ, น จ ภวาทโย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา น สหชาตปจฺจยวเสเนวายํ จตุกฺโก วุตฺโต. เสสปจฺจยานฺจ สมฺภวนฺติ อิทํ ‘‘ภวาทีน’’นฺติ เอเตน ¶ สห อโยเชตฺวา สามฺเน อวิชฺชาทีนํ สหชาเตน สห เสสปจฺจยภาวานฺจ สมฺภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปจฺจยวิเสสสูจกสฺส วจนนฺตรสฺส อภาวา สหชาตโต อฺเ ปจฺจยภาวา อวิชฺชาทีนํ น สมฺภวนฺตีติ สหชาตปจฺจยวเสเนวายํ จตุกฺโก ¶ อารทฺโธติ วุจฺเจยฺย, น จ เต น สมฺภวนฺติ, ตสฺมา นายํ ตถา อารทฺโธติ.
‘‘มหานิทานสุตฺตนฺเต เอกาทสงฺคิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปน ‘‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๙๗) ทฺวิกฺขตฺตุํ อาคเต นามรูเป เอกธา คหิเต นวงฺคิโก, ทฺวิธา คหิเต ทสงฺคิโก วุตฺโต, อฺตฺถ ปน วุตฺเตสุ อวิชฺชาสงฺขาเรสุ อทฺธตฺตยทสฺสนตฺถํ โยชิยมาเนสุ เอกาทสงฺคิโก โหตีติ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. มหานิทานสุตฺตนฺตเทสนาย ปริคฺคหตฺถนฺติ ตตฺถ หิ จกฺขายตนาทีนิ วิย รูเป ฉฏฺายตนฺจ นาเม อนฺโตคธํ กตฺวา ผสฺสสฺส นิรวเสสรูปปจฺจยํ วิย นิรวเสสนามปจฺจยฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘นามรูปปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ตตฺถ ทสฺสิตวิเสสทสฺสเนน ตํเทสนาปริคฺคหตฺถํ เอกจิตฺตกฺขณิเก ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ฉฏฺายตนํ นามนฺโตคธํ กตฺวา ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
รูปปฺปวตฺติเทสํ สนฺธาย เทสิตตฺตา ‘‘อิมสฺสา’’ติ วจนเสโส, น ปุริมานนฺติ, เตเนว ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห.
โยนิวเสน โอปปาติกานนฺติ เจตฺถ สํเสทชโยนิกาปิ ปริปุณฺณายตนภาเวน โอปปาติกสงฺคหํ กตฺวา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. ปธานาย วา โยนิยา สพฺพปริปุณฺณายตนโยนึ ทสฺเสตุํ ‘‘โอปปาติกาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ สงฺคหนิทสฺสนวเสเนว หิ ธมฺมหทยวิภงฺเคปิ (วิภ. ๑๐๐๙) ‘‘โอปปาติกานํ เปตาน’’นฺติอาทินา โอปปาติกคฺคหณเมว กตํ, น สํเสทชคฺคหณนฺติ. เอกจิตฺตกฺขเณ ฉหายตเนหิ ผสฺสสฺส ปวตฺติ นตฺถิ, น เจกสฺส อกุสลผสฺสสฺส ฉฏฺายตนวชฺชํ อายตนํ สมานกฺขเณ ปวตฺตมานํ ปจฺจยภูตํ อตฺถิ, อารมฺมณปจฺจโย เจตฺถ ปวตฺตโก น โหตีติ น คยฺหติ, ตสฺมา ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ยสฺมา ปเนโส’’ติอาทิมาห.
ปุริมโยนิทฺวเย สมฺภวนฺตมฺปิ เกสฺจิ สฬายตนํ กลลาทิกาเล น สมฺภวตีติ ‘‘สทา อสมฺภวโต’’ติ ¶ อาห. ปจฺฉิมโยนิทฺวเย ปน เยสํ ¶ สมฺภวติ, เตสํ สทา สมฺภวตีติ. อิโตติ อิมสฺมา จตุกฺกโต, นยโต วา, โย วิเสโส.
ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เหตุจตุกฺกวณฺณนา
๒๔๔. ชาติกฺขณมตฺเต เอว อภาวโตติ ตโต อุทฺธํ ภาวโตติ อตฺโถ. อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต ภเว อุปาทานเหตุกคฺคหณํ น กตํ, อภาวโต อวิคตปจฺจยสฺส ชาติอาทีสุ ภวเหตุกาทิคฺคหณํ น กตนฺติ โยเชตพฺพํ. ยถา ปน ยาว วตฺถุ, ตาว อนุปลพฺภมานสฺส วิฺาณสฺส วตฺถุ อวิคตปจฺจโย โหติ วิฺาณโต อุทฺธํ ปวตฺตนกมฺปิ, เอวํ อุปาทานํ ภวสงฺคหิตานํ ชาติอาทีนํ, ภโว จ ชาติยา อวิคตปจฺจโย สิยา. อถ น สิยา, สงฺขารกฺขนฺเธ ชาติอาทีนํ สงฺคหิตตฺตา วิฺาณํ นามสฺส, นามฺจ อตกฺขณิกสมฺภวา ฉฏฺายตนสฺส อวิคตปจฺจโย น สิยาติ อิธ วิย ตตฺถาปิ เหตุกคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ สิยา, ตสฺมา ยาว อุปาทานํ, ตาว ชาติอาทีนํ อนุปลพฺโภ, ชาติกฺขณมตฺเต เอว ภวสฺส อภาโว จ การณนฺติ น สกฺกา กาตุํ. สงฺขตลกฺขณานํ ปน ชาติอาทีนํ อสภาวธมฺมานํ ภเวน สงฺคหิตตฺตา อสภาวธมฺมสฺส จ ปรมตฺถโต ภวนฺตรสฺส อภาวโต เหตุอาทิปจฺจยา น สนฺตีติ ภวสฺส อุปาทานํ น นิยเมน อวิคตปจฺจโย, ภโว ปน ชาติยา, ชาติ ชรามรณสฺส เนว อวิคตปจฺจโยติ อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ ยุตฺตํ.
นนุ เอวํ ‘‘นามํ วิฺาณเหตุกํ ฉฏฺายตนํ นามเหตุก’’นฺติ วจนํ น วตฺตพฺพํ. น หิ นามสงฺคหิตานํ ชาติอาทีนํ อวิคตปจฺจโย อฺสฺส อวิคตปจฺจยภาโว จ อตฺถิ อสภาวธมฺมตฺตาติ? น, เตสํ นาเมน อสงฺคหิตตฺตา. นมนกิจฺจปริจฺฉินฺนฺหิ นามํ, ตฺจ กิจฺจํ สภาวธมฺมานเมว โหตีติ สภาวธมฺมภูตา เอว ตโย ขนฺธา ‘‘นาม’’นฺติ วุตฺตา, ตสฺมา ตตฺถ เหตุกคฺคหณํ ยุตฺตํ, อิธ ปน ภวตีติ ภโว, น จ ชาติอาทีนิ น ภวนฺติ ‘‘ภวปจฺจยา ¶ ชาติ สมฺภวติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ สมฺภวตี’’ติ โยชนโต ¶ , ตสฺมา สงฺขรณโต สงฺขาเร วิย ภวนโต ภเว ชาติอาทีนิ สงฺคหิตานีติ นิยมาภาวาภาเวหิ ยถาวุตฺเตหิ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ.
เกจิ ปนาติอาทินา เรวตตฺเถรมตํ วทติ. อรูปกฺขนฺธา หิ อิธ ภโวติ อาคตา. วุตฺตฺหิ ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาทานปจฺจยา ภโว, เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (วิภ. ๒๔๙).
‘‘วตฺตพฺพปเทสาภาวโต’’ติ วุตฺตํ, สติปิ ปน ปเทเส อุปาทานํ วิย สภาวานิ ชาติอาทีนิ น โหนฺตีติ เปตพฺพสฺส ภาวนฺตรสฺส อภาวโต เอว ปนํ น กาตพฺพนฺติ ยุตฺตํ. ชายมานานํ ปน ชาติ, ชาตานฺจ ชรามรณนฺติ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ (วิภ. ๒๒๕) วุตฺตํ. ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโสติ ตตฺถ กตมํ นามํ? เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ. อิทํ วุจฺจติ นาม’’นฺติ (วิภ. ๒๕๙), ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ อตฺถิ นามํ อตฺถิ รูปํ. ตตฺถ กตมํ นามํ? เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ. อิทํ วุจฺจติ นามํ. ตตฺถ กตมํ รูปํ? จตฺตาโร มหาภูตา ยฺจ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตุ วตฺตติ, อิทํ วุจฺจติ รูป’’นฺติ (วิภ. ๒๖๑) จ ยํ นามรูปฺจ ผสฺสสฺส สฬายตนสฺส ปจฺจโย, ตสฺส วตฺตพฺพปเทโส นิทฺทิฏฺโ, เอวํ โย ภโว ชาติยา ปจฺจโย, ตสฺสปิ เปตพฺพคเหตพฺพวิเสเส สติ น สกฺกา วตฺตพฺพปเทโส นตฺถีติ วตฺตุนฺติ.
เหตุจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา
๒๔๖. นิปฺปเทสตฺตา ภเวน อุปาทานํ สงฺคหิตนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส อุปาทานสฺส วิสุํ ิตสฺส อภาวา ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปน ภโว ¶ นิปฺปเทโส’’ติอาทิมาห. เอวํ สติ ‘‘นามปจฺจยาปิ วิฺาณ’’นฺติ น วตฺตพฺพํ สิยา, นามํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนภูตํ ปจฺจยภูตฺจ สปฺปเทสเมว คหิตนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติอาทีสุ (วิภ. ๑๕๐-๑๕๔) ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา นามํ ¶ คหิตํ, เอวํ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ อิธาปิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ภวสฺส คหณํ น น สกฺกา กาตุํ, ตสฺมา อุปาทานสฺส อวิคตปจฺจยนิยมาภาโว วิย อฺมฺปจฺจยนิยมาภาโว ภเว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อตฺถีติ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อฺมฺปจฺจโยติ เจตฺถ สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิปจฺจโย อธิปฺเปโต สิยา. ‘‘นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, น จ วตฺถุ อกุสลวิฺาณสฺส อฺมฺปจฺจโย โหติ, ปุเรชาตวิปฺปยุตฺโต ปน โหตีติ. ตถา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ วุตฺตํ, น จ ฉฏฺายตนํ จกฺขายตนุปจยาทีนํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อฺมฺปจฺจโย โหติ, ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺโต ปน โหตีติ.
อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺขาราทิมูลกนยมาติกาวณฺณนา
๒๔๗. ‘‘อปุพฺพสฺส อฺสฺส อวิชฺชาปจฺจยสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต ภวมูลกนโย น วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทิกา ฉฏฺายตนาทิมูลกา จ น วตฺตพฺพา สิยุํ. ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอตฺถ หิ อวิชฺชาปจฺจยา สพฺเพ จตฺตาโร ขนฺธา นามนฺติ วุตฺตาติ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา – นามวิเสสานํ ฉฏฺายตนาทีนํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว วตฺตพฺโพติ ฉฏฺายตนาทิมูลกา วุตฺตา. ยเทว ปน นามํ อวิชฺชาย ปจฺจโย, ตเทว ภวปจฺจยา อวิชฺชาติ เอตฺถาปิ วุจฺเจยฺย, น วตฺตพฺพวิเสโส โกจิ, ตสฺมา อปุพฺพาภาวโต น วุตฺโตติ. ภวคฺคหเณน จ อิธ อวิชฺชาย ปจฺจยภูตา สภาวธมฺมา คณฺเหยฺยํอุ, น ชาติอาทีนีติ อปุพฺพาภาวโต น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชาติปิ ¶ วุตฺตํ สิยา’’ติ วุตฺตํ, ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘ผสฺสปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตํ น โหติ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยสฺส คหณโต, เอวมิธาปิ น สิยา, ตสฺมา ภวนวเสน สภาวธมฺมาสภาวธมฺเมสุ สามฺเน ปวตฺโต ภว-สทฺโทติ น โส อวิชฺชาย ปจฺจโยติ สกฺกา วตฺตุํ. เตน ภวมูลกนโย น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
‘‘อุปาทานปจฺจยา ¶ ภโว’’ติ เอตฺถ วิย ภเวกเทเส วิสุํ ปุพฺเพ อคฺคหิเต ภว-สทฺโท ปจฺจยโสธนตฺถํ อาทิโต วุจฺจมาโน นิรวเสสโพธโก โหติ, น นาม-สทฺโท. เอวํสภาวา หิ เอตา นิรุตฺติโยติ อิมินาวา อธิปฺปาเยน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชาติปิ วุตฺตํ สิยา’’ติ อาหาติ ทฏฺพฺพํ, อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘ภวสฺส นิปฺปเทสตฺตา ภวปจฺจยาปิ อุปาทานนฺติ น วุตฺต’’นฺติ อยมตฺโถ อฺมฺปจฺจยวาเร วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตาติ เอเตน ชาติชรามรณานํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว อนฺุาโต วิย โหติ. ชายมานานํ ปน ชาติ, น ชาติยา ชายมานา, ชียมานมียมานฺจ ชรามรณํ, น ชรามรณสฺส ชียมานมียมานาติ ชาติอาทีนิ เอกจิตฺตกฺขเณ น อวิชฺชาย ปจฺจโย โหนฺติ, ตสฺมา อสมฺภวโต เอว ตมฺมูลกา นยา น คหิตา, ปจฺเฉโทปิ ปน อตฺถีติ ‘‘ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.
มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๘-๒๔๙. อุปาทานสฺส อุปาทานปจฺจยตฺตํ อาปชฺเชยฺยาติ นนุ นายํ โทโส. กามุปาทานฺหิ ทิฏฺุปาทานสฺส, ตฺจ อิตรสฺส ปจฺจโย โหตีติ? สจฺจํ, กามุปาทานสฺส ปน ตณฺหาคหเณน คหิตตฺตา นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา จ อุปาทานคฺคหเณน ตณฺหาปจฺจยา ภวสฺส จ ปจฺจยภูตา ทิฏฺิ เอว คหิตาติ อยํ โทโส วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา จ อุปาทานฏฺาเน ปจฺจยุปฺปนฺนํ ปจฺจโย จ เอกเมว, ตสฺมา ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส, นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ เอเตสํ นิทฺเทเสสุ วิย ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตสฺส นิทฺเทเส ปจฺจโย วิสุํ ¶ น วิภตฺโต. สติปิ วา ภวสฺส ปจฺจยภาเวน กามุปาทานสฺสปิ คหเณ ‘‘เปตฺวา อุปาทาน’’นฺติ อวุจฺจมาเน กามุปาทานํ กามุปาทานสฺส, ทิฏฺิ จ ทิฏฺิยา ปจฺจโยติ อาปชฺเชยฺยาติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตานิวารณตฺถํ ‘‘เปตฺวา อุปาทาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
๒๕๒. จกฺขายตนาทิอุปตฺถมฺภกสฺส ¶ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ชนกํ วิฺาณํ จกฺขายตนุปจยาทีนํ ปจฺจโยติ วุตฺตํ ตทชนกมฺปีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺสา’’ติอาทิมาห. ตาสมฺปิ หีติ อุตุอาหารชสนฺตตีนมฺปิ หิ อุปตฺถมฺภกสมุฏฺาปนปจฺฉาชาตปจฺจยวเสน วิฺาณํ ปจฺจโย โหติ เอวาติ อตฺโถ.
๒๕๔. ยถานุรูปนฺติ มหาภูตสงฺขาตํ ปฺจนฺนํ สหชาตาทิปจฺจโย, วตฺถุสงฺขาตํ ฉฏฺสฺส ปุเรชาตาทิปจฺจโย, นามํ ปฺจนฺนํ ปจฺฉาชาตาทิปจฺจโย, ฉฏฺสฺส สหชาตาทิปจฺจโยติ เอสา ยถานุรูปตา.
๒๖๔. ยสฺสาติ ยสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส นามสฺส วิฺาณสฺส สมฺปยุตฺตปจฺจยภาโว โหตีติ โยเชตพฺพํ.
๒๗๒. ‘‘ผสฺสปจฺจยาปิ นาม’’นฺติ ผสฺสปจฺจยภาเวน วตฺตพฺพสฺเสว นามสฺส อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนน ปวตฺติ ทสฺสิตาติ ‘‘เปตฺวา ผสฺส’’นฺติ ปุน วจเน โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ น วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปี’’ติอาทิมาห.
๒๘๐. ยสฺมา อธิโมกฺโขปิ นตฺถิ, ตสฺมา อุปาทานฏฺานํ ปริหีนเมวาติ สมฺพนฺโธ. พลวกิเลเสน ปน ปทปูรณสฺส การณํ ตณฺหาย อภาโว โทมนสฺสสหคเตสุ วุตฺโต เอวาติ ตสฺส เตน สมฺพนฺโธ โยเชตพฺโพ. สพฺพตฺถาติ ตติยจิตฺตาทีสุ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อธิโมกฺโข’’ติอาทิมฺหิ วิสฺสชฺชนเมว วิเสสํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิ สํขิตฺตา. เหฏฺาติ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีสุ.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๒. ปสาโทติ ¶ สทฺธา.
๓๐๖. ‘‘อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๓.๓๔) สพฺยาปารานิ กุสลมูลานิ สงฺขารานํ นิทานานิ โหนฺติ, น กมฺมเวคกฺขิตฺเตสุ ¶ วิปาเกสุ อโลภาทิสหคตกมฺมปฏิพิมฺพภูตา วิย ปวตฺตมานา อโลภาทโยติ ปฺจวิฺาเณสุ วิย นิทานรหิตตา โสตปติตตาติ ทฏฺพฺพา. กิริยธมฺมา กิริยมตฺตตฺตา กมฺมนิทานรหิตาอิจฺเจว ปริหีนาวิชฺชาฏฺานา เวทิตพฺพา.
ตติยจตุตฺถวารา อสมฺภวโต เอวาติ กสฺมา วุตฺตํ, กึ จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขายตนุปจยาทีนํ ปจฺฉาชาตปจฺจยา น โหนฺตีติ? โหนฺติ, ตทุปตฺถมฺภกสฺส ปน จิตฺตสมุฏฺานสฺส อสมุฏฺาปนํ สนฺธาย ‘‘อสมฺภวโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สหชาตปจฺฉาชาตวิฺาณสฺส ปน วเสน ตทาปิ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ปจฺฉาชาตสหชาตนามสฺส สหชาตปุเรชาตภูตจกฺขาทิรูปสฺส จ วเสน นามรูปปจฺจยา สฬายตนฺจ ลพฺภตีติ ตติยจตุตฺถวารา น น สมฺภวนฺตีติ.
กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๔. สมฺโมหวเสนาติ กุสลผเล อนิจฺจาทิตาย สภเย สาทุรสวิสรุกฺขพีชสทิเส ตํนิพฺพตฺตกกุสเล จ อนาทีนวทสฺสิตาวเสน. สมติกฺกมตฺถํ ภาวนา สมติกฺกมภาวนา, ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน สมติกฺกมภูตา วา ภาวนา สมติกฺกมภาวนา.
ตถา อิธ น ลพฺภนฺตีติ อวิชฺชาย เอว สงฺขารานํ อวิคตาทิปจฺจยตฺตาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิฺาณาทีนํ ปน สงฺขาราทโย อวิคตาทิปจฺจยา โหนฺตีติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร, สงฺขารปจฺจยา ¶ วิฺาณํ สงฺขารเหตุกนฺติอาทินา โยชนา น น สกฺกา กาตุนฺติ อวิคตจตุกฺกาทีนิปิ น อิธ ลพฺภนฺติ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นามนฺติอาทินา หิ ยถาลาภโยชนาย นโย ทสฺสิโตติ.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔๓. ‘‘นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเย ¶ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, กึ กุสลมูลํ อกุสลมูลฺจ กมฺมปจฺจโย โหตีติ? น โหติ, กมฺมปจฺจยภูตาย ปน เจตนาย สํสฏฺํ กมฺมํ วิย ปจฺจโย โหติ. เตน เอกีภาวมิว คตตฺตาติ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถา กุสลากุสลมูเลหิ วินา กมฺมํ วิปากํ น ชเนตีติ ตานิ วิปากสฺส ปริยาเยน อุปนิสฺสโยติ วุตฺตานิ, เอวํ กมฺเมน เอกีภูตานิ สํสฏฺานิ หุตฺวา กมฺมชานํ ปจฺจยา โหนฺตีติ ปริยาเยน เตสํ กมฺมปจฺจยตา วุตฺตา. เอสาติ เอส กุสลมูลปจฺจโย อกุสลมูลปจฺจโย จาติ โยเชตพฺพํ.
กุสลากุสลวิปากานํ วิย กิริยานํ อุปฺปาทกานิ อวิชฺชากุสลากุสลมูลานิ จ น โหนฺตีติ อาห ‘‘อุปนิสฺสยตํ น ลภนฺตี’’ติ. มนสิกาโรปิ ชวนวีถิปฏิปาทกมตฺตตฺตา กุสลากุสลานิ วิย อวิชฺชํ อุปนิสฺสยํ น กโรติ, อวิชฺชูปนิสฺสยานํ ปน ปวตฺติอตฺถํ ภวงฺคาวฏฺฏนมตฺตํ โหติ, ปหีนาวิชฺชานฺจ กิริยานํ อวิชฺชา เนวุปฺปาทิกา, อารมฺมณมตฺตเมว ปน โหติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), ‘‘วิปากธมฺมธมฺโม เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๐๓) จ เอวมาทีสุ กิริยานํ อกุสลา อุปนิสฺสยปจฺจยภาเวน น อุทฺธฏาติ. อปิจ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตสฺส วเสน อวิชฺชามูลโก กุสลนโย วุตฺโต, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอตสฺส วเสน กุสลากุสลมูลโก ¶ วิปากนโย, กิริยานํ ปน เนว สงฺขารคฺคหเณน, น จ วิฺาณคฺคหเณน คหณํ คจฺฉตีติ ตํมูลโก กิริยานโย น ลพฺภตีติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
อเนกเภทโตติ อวิชฺชาทีนํ มูลปทานํ เอกจิตฺตกฺขณิกานํ กิริยนฺเต ปมนเย สหชาตาทิอเนกปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา เตสํ ปจฺจยานํ วเสน นวาทิมูลปทานํ นยานํ วเสน, อเนกปฺปการโต จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสนาติ วา อธิปฺปาโย. กุสลากุสลานํ ปน วิปาเก จาติ เอตฺถ กุสลากุสเลสุ กุสลากุสลานํ วิปาเก จาติ วตฺตพฺพํ. ปุริมปจฺฉิเมสุ หิ นเยสุ ยถา ปจฺจยากาโร วุตฺโต, ตํทสฺสนตฺถํ ¶ ‘‘อเนกเภทโต เอกธาวา’’ติ วุตฺตํ, น จ ปจฺฉิมนเย กุสเล อเนกเภทโต ปจฺจยากาโร วุตฺโต, อถ โข ‘‘เอกธาวา’’ติ. เอกธาวาติ จ มูลปเทกปจฺจยตาวเสน, เอกสฺเสว วา นยสฺส วเสน เอกปฺปกาเรนาติ อตฺโถ, ปมจตุกฺกสฺเสว วเสนาติ วา อธิปฺปาโย. ธมฺมปจฺจยเภเทติ อวิชฺชาทีนํ ธมฺมานํ ปจฺจยภาวเภเท ชรามรณาทีนํ ธมฺมานํ ชาติอาทิปจฺจยเภเท, ตํตํจิตฺตุปฺปาทสมยปริจฺฉินฺนานํ วา ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ เอกกฺขณิกาวิชฺชาทิปจฺจยเภเท. ปริยตฺติอาทีนํ กโม ปริยตฺติ…เป… ปฏิปตฺติกฺกโม. ปจฺจยากาเร หิ ปาฬิปริยาปุณนตทตฺถสวนปาฬิอตฺถจินฺตนานิ ‘‘ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตํ…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติอาทินา ภาวนาปฏิปตฺติ จ กเมน กาตพฺพาติ กม-คฺคหณํ กโรติ. ตโตติ าณปฺปเภทชนกโต กมโต. อฺํ กรณียตรํ นตฺถิ. ตทายตฺตา หิ ทุกฺขนฺตกิริยาติ.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สติปฏฺานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
อุทฺเทสวารวณฺณนา
๓๕๕. ตโย ¶ ¶ สติปฏฺานาติ สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารํ กโรติ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อาทีสุ หิ สติโคจโรติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานนฺติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ทีปเก สุตฺตปฺปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยมฺปิ อวเสสปาฬิปฺปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ทานาทีนิปิ กโรนฺตสฺส รูปาทีนิ กสิณาทีนิ จ สติยา านํ โหตีติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ปธานํ าน’’นฺติ. ป-สทฺโท หิ ปธานตฺถทีปโกติ อธิปฺปาโย.
อริโยติ อริยํ เสฏฺํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเตติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทเสน หิ สุตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ –
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… อรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ¶ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… อรหติ.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขเว สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ ¶ …เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อตฺตมนตฺจ อนตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….
‘‘ปุน จปรํ…เป… สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑) –
เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา, นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา, ตทุภยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.
ป-สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺาเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺทฺหิ พหุลํ-วจเนน กมฺมตฺถํ อิจฺฉนฺติ สทฺทวิทู, ตเถว กตฺตุอตฺถมฺปิ อิจฺฉนฺตีติ ปุน ตติยนเย ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ป-สทฺโท ภุสตฺถํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ปุน ภาวตฺเถ สติ-สทฺทํ ปฏฺาน-สทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมตฺเถ สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ.
วิเสเสน กาโย จ เวทนา จ อสฺสาทสฺส การณนฺติ ตปฺปหานตฺถํ เตสํ ตณฺหาวตฺถูนํ โอฬาริกสุขุมานํ อสุภทุกฺขตาทสฺสนานิ มนฺทติกฺขปฺเหิ ตณฺหาจริเตหิ สุกรานีติ ตานิ เตสํ วิสุทฺธิมคฺโคติ วุตฺตานิ, เอวํ ทิฏฺิยา วิเสสการเณสุ จิตฺตธมฺเมสุ อนิจฺจานตฺตตาทสฺสนานิ นาติปเภทาติปเภทคเตสุ เตสุ ตปฺปหานตฺถํ มนฺทติกฺขานํ ทิฏฺิจริตานํ สุกรานีติ ¶ เตสํ ตานิ วิสุทฺธิมคฺโคติ. ติกฺโข สมถยานิโก โอฬาริการมฺมณํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถ อฏฺตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย เวทนํ ปริคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต’’ติ. วิปสฺสนายานิกสฺส ¶ สุขุเม จิตฺเต ธมฺเมสุ จ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ตทนุปสฺสนานํ ตํวิสุทฺธิมคฺคตา วุตฺตา.
เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส ปหานตฺถนฺติ เอเตน โยชนา. ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ภเว สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภโวฆสฺส เวทนา, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺโฆสฺส จิตฺตํ, ธมฺมวินิพฺโภคสฺส ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺโชฆสฺส ธมฺมา, ตสฺมา เตสุ เตสํ ปหานตฺถํ จตฺตาโรว วุตฺตา, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส อตฺตโน สีเลน สุทฺธีติอาทิปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา…เป… สุขเวทนาสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา. สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา…เป… อวุตฺตานํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตพฺโพ.
‘‘อาหารสมุทยา กายสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย (สํ. นิ. ๕.๔๐๘), สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; อุทา. ๑) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารา กายาทิปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถ’’นฺติ. ปกรณนโยติ ตมฺพปณฺณิภาสาย วณฺณนานโย. เนตฺติเปฏกปฺปกรเณ ธมฺมกถิกานํ โยชนานโยติปิ วทนฺติ.
สรณวเสนาติ กายาทีนํ กุสลาทิธมฺมานฺจ ธารณตาวเสน. สรนฺติ คจฺฉนฺติ เอตายาติ สตีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณํ. เอตเทว หิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภูโต วา สมานตาย เอโก สติปฏฺานสภาโว ¶ ¶ เอกตฺตํ, ตตฺถ สโมสรณํ ตํสภาคตา เอกตฺตสโมสรณํ. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภาวํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตสฺมึ อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณานิ สห สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณตฺเตน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพานิ, ปุริมสฺมึ วิสุํ. สรณวเสนาติ วา คมนวเสนาติ อตฺเถ สติ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ สโมสรเณ วา สติ-สทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเน ธารณตาว สตีติ สติ-สทฺทตฺถนฺตราภาวา ปุริมํ สติภาวสฺส การณํ, ปจฺฉิมํ เอกภาวสฺสาติ นิพฺพานสโมสรเณปิ สหิตาเนว ตานิ สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณานิ.
จุทฺทสวิเธนาติ อิทํ มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) วุตฺตานํ อานาปานปพฺพาทีนํ วเสน. ตถา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนนฺติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อุฏฺานกภณฺฑสทิสตา ตํตํสติปฏฺานภาวนานุภาวสฺส ทฏฺพฺพา. ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต. วุตฺตฺหิ ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒; ที. นิ. ๓.๘๐).
กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา ภิกฺขุ โหตีติ ภิกฺขุํ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา ทสฺเสติ ภิกฺขุมฺหิ ตํนิยมโต. เตนาห ‘‘ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต’’ติ.
สมํ จเรยฺยาติ กายาทิวิสมจริยํ ปหาย กายาทีหิ สมํ จเรยฺย. ราคาทิวูปสเมน สนฺโต, อินฺทฺริยทมเนน ทนฺโต, จตุมคฺคนิยเมน นิยโต, เสฏฺจาริตาย พฺรหฺมจารี. กายทณฺฑาทิโอโรปเนน นิธาย ทณฺฑํ. โส เอวรูโป พาหิตปาปสมิตปาปภินฺนกิเลสตาหิ พฺราหฺมณาทิสมฺโ เวทิตพฺโพ.
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา
อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา, เอตฺถ ปฏิพทฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทมิสฺสโตติ อตฺโถ. อวยวีคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ ¶ วินิพฺภุชฺชนฺโต ¶ ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวีวาทิโนปิ อวยวีคาหํ น กโรนฺติ. นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ.
ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา, นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสฺาย วเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ, ตํ รูปายตนํ น โหติ, รูปายตนํ วา ตํ น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, ทิฏฺํ วา ยถาวุตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ, เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ วา ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ.
น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีกายนฺติ เกสาทิปถวึ ธมฺมสมูหตฺตา กาโยติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกปฺปเภทสกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา กาโยติ วทติ, เอวํ อฺตฺถาปิ.
อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺมานํ ฆฏิตารมฺมณํ เอกโต อารมฺมณภาโว นตฺถีติ อตฺโถ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺมา วา ฆฏิตารมฺมณํ อิทํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตีสุ ภเวสุ กิเลสานนฺติ ภวตฺตยวิสยานํ กิเลสานนฺติ อตฺโถ.
สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ภวํ. สพฺพสฺมึ ลีเน อุทฺธเฏ จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา, สพฺเพ วา ลีเน อุทฺธเฏ จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. อนฺโตสงฺเขโปติ อนฺโตโอลียนา โกสชฺชนฺติ อตฺโถ.
อวิเสเสน ทฺวีหิปิ นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กตฺวา ปุน เอเกเกน วุตฺตปฺปหานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสเสนา’’ติ อาห, ‘‘วิเนยฺย นีวรณานี’’ติ อวตฺวา อภิชฺฌาโทมนสฺสวินยสฺส วา ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิเสเสนา’’ติอาทิมาห. กายานุปสฺสนาภาวนาย อุชุวิปจฺจนีกานํ อนุโรธวิโรธาทีนํ ¶ ปหานทสฺสนฺหิ เอตสฺส ปโยชนนฺติ. กายภาวนายาติ ¶ กายานุปสฺสนาภาวนา อธิปฺเปตา. เตนาติ อนุโรธาทิปฺปหานวจเนน.
สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ พุทฺธานุสฺสติ เมตฺตา มรณสฺสติ อสุภภาวนา จ. สติสมฺปชฺเน เอเตน โยคินา ปริหริยมานํ ตํ สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ วุตฺตํ สติสมฺปชฺพเลน อวิจฺฉินฺนสฺส ตสฺส ปริหริตพฺพตฺตา, สติยา วา สมโถ วุตฺโต สมาธิกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา.
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา
เกวลํ ปนิธาติอาทินา อิธ เอตฺตกํ เวทิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. อทฺทมทกฺขีติ ทฺเวปิ เอกตฺถา. สมฺมทฺทโสติ สมฺมา ปสฺสโก.
สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย, วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ จ สุขโต ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ.
รูปาทิอารมฺมณฉนฺทาทิอธิปติาณาทิสหชาตกามาวจราทิภูมินานตฺตเภทานํ กุสลากุสลตพฺพิปากกิริยานานตฺตเภทสฺส จ อาทิ-สทฺเทน สสงฺขาริกาสงฺขาริกสวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตเภทานฺจ วเสนาติ โยเชตพฺพํ. สฺุตาธมฺมสฺสาติ ‘‘ธมฺมา โหนฺติ, ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๑) สฺุตาวาเร อาคตสฺุตาสภาวสฺส วเสน. กามฺเจตฺถาติอาทินา ปุพฺเพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทสฺเสติ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ วา เอกตฺถ ปหีนํ สพฺพตฺถ ปหีนํ โหตีติ วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ. ตตฺถ ปุริมโจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, ปจฺฉิมาย นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร. โลกิยภาวนาย หิ กาเย ปหีนํ น เวทนาทีสุ วิกฺขมฺภิตํ โหติ. ยทิปิ น ปวตฺเตยฺย, น ปฏิปกฺขภาวนาย ¶ ตตฺถ สา อภิชฺฌาโทมนสฺสสฺส อปฺปวตฺติ โหตีติ ปุน ตปฺปหานํ วตฺตพฺพเมวาติ. อุภยตฺถ วา อุภยํ สมฺภวโต โยเชตพฺพํ. เอกตฺถ ปหีนํ ¶ เสเสสุปิ ปหีนํ โหตีติ มคฺคสติปฏฺานภาวนํ, โลกิยภาวนาย วา สพฺพตฺถ อปฺปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปฺจปิ ขนฺธา โลโก’’ติ หิ จตูสุปิ วุตฺตนฺติ.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๕๖. สพฺพปฺปการวจเนน อุทฺเทเส ทสฺสิตา อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนา ปการา จ คหิตา. ตตฺถ อนฺโตคธา จุทฺทส ปการา, กายคตาสติสุตฺเต วุตฺตา เกสาทิวณฺณกสิณารมฺมณจตุกฺกชฺฌานปฺปการา, โลกิยาทิปฺปการา จาติ เตปิ คหิตา เอว. นิทฺเทเส หิ เอกปฺปการนิทฺเทเสน นิทสฺสนมตฺตํ กตนฺติ, สพฺพปฺปการคฺคหณฺจ พาหิเรสุปิ เอกเทสสมฺภวโต กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ นนุ เกสโลมนขานํ อตจปริจฺฉินฺนตา ตจสฺส จ อตฺถีติ? ยทิปิ อตฺถิ, ตจปริจฺฉินฺนพหุลตาย ปน ตจปริจฺฉินฺนตา น น โหติ กายสฺสาติ เอวํ วุตฺตํ. ตโจ ปริยนฺโต อสฺสาติ ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เอเตน ปน วจเนน กาเยกเทสภูโต ตโจ คหิโต เอว. ตปฺปฏิพทฺธา จ เกสาทโย ตทนุปวิฏฺมูลา ตจปริยนฺตาว โหนฺตีติ ทฺวตฺตึสาการสมูโห สพฺโพปิ กาโย ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
‘‘ปูรํ นานปฺปการสฺสา’’ติ วุตฺตํ, เก ปน เต ปการา? เยหิ นานปฺปการํ อสุจิ วุตฺตนฺติ เกสา โลมาติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘เอเต เกสาทโย อาการา’’ติ. อาการา ปการาติ หิ เอโก อตฺโถ.
นิสินฺนสฺส ¶ ยาว อปริปฺผนฺทนิสชฺชามูลกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ยาวตา อุฏฺาติ วา, ตาว เอโก นิสชฺชวาโร. เยน วิธินา อุคฺคเห กุสโล โหติ, โส สตฺตวิโธ วิธิ ‘‘อุคฺคหโกสลฺล’’นฺติ วุจฺจติ, ตํนิพฺพตฺตํ วา าณํ.
ปถวีธาตุพหุลภาวโต มตฺถลุงฺคสฺส กรีสาวสาเน ตนฺติอาโรปนมาห. เอตฺถ ปน มํสํ…เป… วกฺกํ…เป… เกสาติ เอวํ วกฺกปฺจกาทีสุ ¶ อนุโลมสชฺฌายํ วตฺวา ปฏิโลมสชฺฌาโย ปุริเมหิ สมฺพนฺโธ วุตฺโต. สฺวายํ เย ปรโต วิสุํ ติปฺจาหํ, ปุริเมหิ เอกโต ติปฺจาหนฺติ ฉปฺจาหํ สชฺฌายา วกฺขมานา, เตสุ อาทิอนฺตทสฺสนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อนุโลมปฏิโลมสชฺฌาเยปิ หิ ปฏิโลมสชฺฌาโย อนฺติโมติ. สชฺฌายปฺปการนฺตรํ วา เอตมฺปีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถสงฺขลิกา องฺคุลิปนฺติ. ลกฺขณปฏิเวธสฺสาติ อสุภลกฺขณปฏิเวธสฺส, ธาตุลกฺขณปฏิเวธสฺส วา.
อตฺตโน ภาโค สภาโค, สภาเคน ปริจฺเฉโท สภาคปริจฺเฉโท, เหฏฺุปริติริยนฺเตหิ สกโกฏฺาสิกเกสนฺตราทีหิ จ ปริจฺเฉโทติ อตฺโถ.
ธาตุวิภงฺโค (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ปุกฺกุสาติสุตฺตํ. สาธารณวเสนาติ เอตฺตเกเนว สิทฺเธ สพฺพ-คฺคหณํ วณฺณกสิณวเสน จตุกฺกชฺฌานิกสมถสาธารณตฺตสฺส จ ทสฺสนตฺถํ.
โอกฺกมนวิสฺสชฺชนนฺติ ปฏิปชฺชิตพฺพวชฺเชตพฺเพ มคฺเคติ อตฺโถ. พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณติ เอตฺถ กายานุปสฺสนํ หิตฺวา สุภาทิวเสน คยฺหมานา เกสาทโยปิ พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณาเนวาติ เวทิตพฺพา. อุกฺกุฏฺุกฺกฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วิย เอกตฺถ กตาย อุกฺกุฏฺิยา กเมน สพฺพตาเลสุ ปติตฺวา อุฏฺหิตฺวา ปริยนฺตตาลํ อาทิตาลฺจ อคนฺตฺวา ตโต ตโต ตตฺถ ตตฺเถว กตาย อุกฺกุฏฺิยา อุฏฺหิตฺวาติ อตฺโถ.
อธิจิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตํ. อนุยุตฺเตนาติ ยุตฺตปยุตฺเตน, ภาเวนฺเตนาติ อตฺโถ. สมาธินิมิตฺตํ อุปลกฺขณากาโร สมาธิเยว. มนสิ กาตพฺพนฺติ จิตฺเต กาตพฺพํ, อุปฺปาเทตพฺพนฺติ อตฺโถ. สมาธิการณํ วา อารมฺมณํ สมาธินิมิตฺตํ อาวชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. านํ อตฺถีติ วจนเสโส, ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย, เอตสฺส สํวตฺตนสฺส การณํ อตฺถีติ ¶ อตฺโถ. ตํ วา มนสิกรณํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺยาติ เอตสฺส านํ การณนฺติ อตฺโถ. น จ ปภงฺคูติ กมฺมนิยภาวูปคมเนน จ ปภิชฺชนสภาวนฺติ อตฺโถ.
อาลิมฺเปตีติ อาทีเปติ ชาเลติ. ตฺจาติ ตํ ปิฬนฺธนวิกติสงฺขาตํ อตฺถํ ปโยชนํ. อสฺสาติ สุวณฺณการสฺส อนุโภติ สมฺโภติ สาเธติ ¶ . อสฺส วา สุวณฺณสฺส ตํ อตฺถํ สุวณฺณกาโร อนุโภติ ปาปุณาติ.
อภิฺาย อิทฺธิวิธาทิาเณน สจฺฉิกรณียสฺส อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิกสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส. ปจฺจกฺขํ ยสฺส อตฺถิ, โส สกฺขิ, สกฺขิโน ภพฺพตา สกฺขิภพฺพตา, สกฺขิภวนตาติ วุตฺตํ โหติ. สกฺขิ จ โส ภพฺโพ จาติ วา สกฺขิภพฺโพ. อยฺหิ อิทฺธิวิธาทีนํ ภพฺโพ, ตตฺถ จ สกฺขีติ สกฺขิภพฺโพ, ตสฺส ภาโว สกฺขิภพฺพตา, ตํ ปาปุณาติ. อายตเนติ ปุพฺพเหตาทิเก การเณ สติ.
สีติภาวนฺติ นิพฺพานํ, กิเลสทรถวูปสมํ วา. สมฺปหํเสตีติ สมปวตฺตํ จิตฺตํ ตถาปวตฺติยา ปฺาย โตเสติ อุตฺเตเชติ. ยทา วา นิรสฺสาทํ จิตฺตํ ภาวนาย น ปกฺขนฺทติ, ตทา ชาติอาทีนิ สํเวควตฺถูนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมฺปหํเสติ สมุตฺเตเชติ.
ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, กถํ? ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ. อาสโยติ นิสฺสโย, ปจฺจโยติ อตฺโถ.
นขา ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนาติ วิสุํ ววตฺถิตตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว นขา เอกโต นตฺถี’’ติ อาหาติ.
สุขุมมฺปีติ ยถาวุตฺตโอฬาริกจมฺมโต สุขุมํ อนฺโตมุขจมฺมาทิ. โกฏฺาเสสุ วา ตเจน ปริจฺฉินฺนตฺตา ยํ ทุรุปลกฺขณียํ, ตํ ‘‘สุขุม’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ วุตฺตนเยน ตจํ วิวริตฺวา ปสฺสนฺตสฺส ปากฏํ โหตีติ.
ตาลคุฬปฏลํ ¶ นาม ปกฺกตาลผลลสิกํ ตาลปฏฺฏิกาย ลิมฺปิตฺวา สุกฺขาเปตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตปฏลํ.
เอวํ ติมตฺตานีติ เอวํ-มตฺต-สทฺเทหิ โคปฺผกฏฺิกาทีนิ อวุตฺตานิปิ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. กีฬาโคฬกานิ สุตฺเตน พนฺธิตฺวา อฺมฺํ ฆฏฺเฏตฺวา กีฬนโคฬกานิ.
ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานนฺติ ชณฺณุกฏฺิมฺหิ ปวิสิตฺวา ิตฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย. เตน อฏฺินา ปติฏฺิตฏฺานํ ยํ กฏิฏฺิโน, ตํ อคฺคฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสทิสํ. สีสกปฏฺฏเวกํ เวเตฺวา ปิตสีสมยํ ปฏฺฏกํ. สุตฺตกนฺตนสลากาวิทฺธา ¶ โคฬกา วฏฺฏนาติ วุจฺจนฺติ, วฏฺฏนานํ อาวลิ วฏฺฏนาวลิ. อวเลขนสตฺถกํ อุจฺฉุตจาวเลขนสตฺถกํ.
วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนนฺติ วกฺกปริยนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ.
สกฺขรสุธาวณฺณนฺติ มรุมฺเปหิ กตสุธาวณฺณํ. ‘‘เสตสกฺขรสุธาวณฺณ’’นฺติ จ ปาํ วทนฺติ, เสตสกฺขราวณฺณํ สุธาวณฺณฺจาติ อตฺโถ.
ยตฺถ อนฺนปานํ นิปติตฺวา ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ.
วิสมจฺฉินฺนกลาโป วิสมํ อุทกํ ปคฺฆรติ, เอวเมว สรีรํ เกสกูปาทิวิวเรหิ อุปริ เหฏฺา ติริยฺจ วิสมํ ปคฺฆรตีติ ทสฺเสตุํ วิสมจฺฉินฺน-คฺคหณํ กโรติ.
อติกฏุกอจฺจุณฺหาทิโก วิสภาคาหาโร อุณฺหกาเล ปวตฺตมานานํ ธาตูนํ วิสภาคตฺตา.
เอกตฺตารมฺมณพเลเนว วาติ วิกฺขมฺภิตนีวรเณน สุสมาหิตจิตฺเตน อุปฏฺิตสฺส นานารมฺมณวิปฺผนฺทนวิรเหน เอกสภาวสฺส อารมฺมณสฺส วเสน. ตฺหิ เอกตฺตารมฺมณํ อุปฏฺหมานเมว อตฺตนิ อภิรตึ, สาติสยํ ผรณปีตึ, อิฏฺาการานุภวนฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทติ. น หิ อภิรติโสมนสฺเสหิ วินา อนติกฺกนฺตปีติสุขสฺส เอกตฺตุปฏฺานํ อตฺถีติ.
อวิเสสโต ¶ ปน สาธารณวเสนาติ ปฏิกูลธาตุวณฺณวิเสสํ อกตฺวา สมถวิปสฺสนาสาธารณวเสนาติ อตฺโถ. ติวิเธนาติ อนุโลมาทินา วกฺขมาเนน. ฉ มาเสติ อทฺธมาเส อูเนปิ มาสปริจฺเฉเทน ปริจฺฉิชฺชมาเน สชฺฌาเย ฉ มาสา ปริจฺเฉทกา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริจฺฉิชฺชมานสฺส มาสนฺตรคมนนิวารณฺหิ ฉมาสคฺคหณํ, น สกลฉมาเส ปริวตฺตทสฺสนตฺถํ. อาจริยาติ อฏฺกถาจริยา.
ลกฺขณนฺติ ธาตุปฏิกูลลกฺขณํ. ชนํ น อรหนฺตีติ อชฺา, ชเน ปเวเสตุํ อยุตฺตา ชิคุจฺฉนียาติ วุตฺตํ โหติ.
ปฏิปาฏิยา อฏฺีนีติ ปฏิปาฏิยา อฏฺีนิ โกฏิยา ิตานิ. น เอตฺถ โกจิ อตฺตา นาม อตฺถิ, อฏฺีนิ เอว อฏฺิปฺุชมตฺโต เอวายํ สงฺฆาโฏติ ทสฺเสติ ¶ . อเนกสนฺธิยมิโตติ อเนเกหิ สนฺธีหิ ยมิโต สมฺพทฺโธ โส อฏฺิปฺุโชติ ทสฺเสติ. น เกหิจีติ ยเมนฺตํ อตฺตานํ ปฏิเสเธติ. โจทิโต ชราย มรณาภิมุขคมเนน โจทิโต.
มหาภูตํ อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ ‘‘นีลํ ปีตํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติอาทินา. อุปาทารูปํ มหาภูเตน ตนฺนิสฺสิตสฺส ตสฺส ตโต พหิ อภาวา. ฉายาตปานํ อาตปปจฺจยฉายุปฺปาทกภาโว อฺมฺปริจฺเฉทกตา. รูปกฺขนฺธสฺส ปริคฺคหิตตฺตา ตทนฺโตคธานํ จกฺขาทิอายตนทฺวารานํ วเสน ตํตํทฺวาริกา อรูปิโน ขนฺธา ปากฏา โหนฺติ, อายตนานิ จ ทฺวารานิ จ อายตนทฺวารานีติ วา อตฺโถ. เตน รูปายตนาทีนฺจ วเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
สปฺปจฺจยาติ สปฺปจฺจยภาวา, ปจฺจยายตฺตํ หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาโน วา สทิโส ยุตฺโต ปจฺจโย สปฺปจฺจโย, ตสฺมา สปฺปจฺจยา.
เอตฺตโกติ ยถาวุตฺเตน อากาเรน ปคุโณ โกฏฺาโส. อุคฺคโหว อุคฺคหสนฺธิ. วณฺณาทิมุเขน หิ อุปฏฺานํ เอตฺถ สนฺธียติ สมฺพชฺฌตีติ ‘‘สนฺธี’’ติ วุจฺจติ.
อุปฏฺาตีติ วณฺณาทิวเสน อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ปฺจงฺคสมนฺนาคเตติ นาติทูรนาจฺจาสนฺนคมนาคมนสมฺปนฺนนฺติ เอกงฺคํ, ทิวา อพฺโพกิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ เอกํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสนฺติ ¶ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชติ จีวร…เป… ปริกฺขาโรติ เอกํ, ตสฺมึ ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตาติ เอกํ (อ. นิ. ๑๐.๑๑). ปฺจงฺคสมนฺนาคเตนาติ อปฺปาพาธาสาเยฺยสทฺธาปฺาวีริเยหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคเตน.
อุฏฺานกทายนฺติ เตหิ เขตฺเตหิ อุฏฺานกํ, เตหิ ทาตพฺพธฺนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อฏฺกุมฺภทายกเขตฺตํ วิย มุขโธวนกิจฺจํ, โสฬสกุมฺภทายกํ วิย ขาทนภฺุชนกิจฺจํ ทฏฺพฺพํ ลหุกครุกภาวโต. ตโต ปน ยํ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, ตํ อฺฺจ ทฺวตฺตึสาการมนสิกาเรน จ นิวตฺตตีติ อาห ‘‘เอตฺเถว กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ. เอตฺตาวตาติ เอกทิวสํ ตึส วาเร มนสิการฏฺปเนน.
สหสฺสุทฺธารํ ¶ สาเธตฺวาติ สหสฺสวฑฺฒิตํ อิณํ โยเชตฺวา. อุทฺธริตพฺโพติ อุทฺธาโรติ หิ วฑฺฒิ วุจฺจตีติ. สุทฺธจิตฺเตนาติ วิกฺเขปาทิกิเลสวิรหิตจิตฺเตน. เกสาทีสุ ตเจ รชฺชนฺตา สุจฺฉวิจมฺมํ ตโจติ คเหตฺวา ‘‘สุวณฺณาทิวณฺโณ เม ตโจ’’ติอาทินา รชฺชนฺติ.
เตสุ ทฺเว เอกมคฺคํ ปฏิปชฺชมานา นาม น โหนฺตีติ ยถา ตถา วา ปลายนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ราคาทิวตฺถุภาเวน ทฺวตฺตึสาการานํ โจรสทิสตา อนตฺถาวหตา ทฏฺพฺพา.
กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านนฺติ กมฺมฏฺานํ ภาวนา วุจฺจติ. เตนาห ‘‘มนสิกโรนฺตสฺส อปฺปนํ ปาปุณาตี’’ติ. กมฺมสฺส วา ภาวนาย านํ อารมฺมณํ อปฺปนารมฺมณภาวูปคมเนน อปฺปนํ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ.
มานชาติโกติ เอเตน ลงฺฆนสมตฺถตาโยเคน อุปสมรหิตตํ ทสฺเสติ. จิตฺตมฺปิ หิ ตถา นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตํ อุปสมรหิตนฺติ ทสฺเสตพฺพนฺติ.
หตฺเถ คหิตปฺหวตฺถุ ปากติกเมวาติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตตํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ วุตฺตํ –
‘‘มาลกตฺเถโร กิร ทีฆภาณกอภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘อาวุโส อภย, อิมํ ตาว ¶ ปฺหํ อุคฺคณฺหาหี’ติ วตฺวา อาห ‘มาลกตฺเถโร ทฺวตฺตึสโกฏฺาเสสุ ทฺวตฺตึสปมชฺฌานลาภี, สเจ รตฺตึ เอกํ, ทิวา เอกํ สมาปชฺชติ, อติเรกฑฺฒมาเสน ปุน สมฺปชฺชติ. สเจ ปน เทวสิกํ เอกเมว สมาปชฺชติ, อติเรกมาเสน ปุน สมฺปชฺชตี’’’ติ.
อิทํ ปน เอกํ มนสิกโรนฺตสฺส เอกํ ปาฏิเยกฺกํ มนสิกโรนฺตสฺส ทฺวตฺตึสาติ เอตสฺส สาธนตฺถํ นิทสฺสนวเสน อานีตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อนุปาทินฺนกปกฺเข ิตานีติ เอเตน เจติยปพฺพตวาสี มหาติสฺสตฺเถโร วิย, สงฺฆรกฺขิตตฺเถรุปฏฺากสามเณโร วิย จ อนุปาทินฺนกปกฺเข เปตฺวา คเหตุํ สกฺโกนฺตสฺส ทสวิธาสุภวเสน ชีวมานกสรีเรปิ อุปฏฺิเต อุปจารปฺปตฺติ ทสฺสิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘อตฺถิสฺส กาเย’’ติ ปน สตฺตวเสน เกสาทีสุ คยฺหมาเนสุ ยถา ‘‘อิมสฺมึ ¶ กาเย’’ติ สตฺต-คฺคหณรหิเต อหํการวตฺถุมฺหิ วิทฺธสฺตาหํกาเร สทา สนฺนิหิเต ปากเฏ จ อตฺตโน กาเย อุปฏฺานํ โหติ, น ตถา ตตฺถาติ อปฺปนํ อปฺปตฺตา อาทีนวานุปสฺสนาว ตตฺถ โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อสุภานุปสฺสนาสงฺขาตา ปน วิปสฺสนาภาวนา โหตีติ เวทิตพฺพา’’ติ.
๓๕๗. อาทิมฺหิ เสวนา อาเสวนา, วฑฺฒนํ ภาวนา, ปุนปฺปุนํ กรณํ พหุลีกมฺมนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๓๖๒. วตฺถุปริฺายาติ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ วตฺถุภูตสฺส กายสฺส ปริชานเนน. อปฺปิตาติ คมิตา, สา จ วินาสิตตาติ อาห ‘‘วินาสิตา’’ติ. อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อปฺปิตาติ อยมตฺโถ นิรุตฺติสิทฺธิยา วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. วิคตนฺตา กตาติ อิทานิ กาตพฺโพ อนฺโต เอเตสํ นตฺถีติ วิคตนฺตา, เอวํภูตา กตาติ อตฺโถ. กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านํ กมฺมฏฺานํ, กมฺเม วา านํ ภาวนารมฺโภ กมฺมฏฺานํ, ตฺจ อนุปสฺสนาติ อาห ‘‘อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺาน’’นฺติ, อนุปสฺสนาย วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๓. สมฺปชานสฺส ¶ เวทิยนํ สมฺปชานเวทิยนํ. วตฺถุนฺติ สุขาทีนํ อารมฺมณมาห, เตน วตฺถุ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ วตฺถุอารมฺมณาติ สมาโส ทฏฺพฺโพ. โวหารมตฺตํ โหตีติ เอเตน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ อิทํ โวหารมตฺเตน วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
วีริยสมาธึ โยเชตฺวาติ อธิวาสนวีริยสฺส อธิมตฺตตาย ตสฺส สมตาย อุภยํ สห โยเชตฺวา. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทาหิ สห. โลกิยานมฺปิ วา สติ อุปฺปตฺติกาเล ตตฺถ สมตฺถตํ สนฺธาย ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมสีสีติ วารสมสีสี หุตฺวา ปจฺจเวกฺขณวารสฺส อนนฺตรวาเร ปรินิพฺพายีติ ¶ อตฺโถ. สงฺเขปมนสิการวเสน มหาสติปฏฺาเน, วิตฺถารมนสิการวเสน ราหุโลวาทธาตุวิภงฺคาทีสุ.
ผสฺสปฺจมเกเยวาติ เอว-สทฺเทน วุตฺเตสุ ตีสุปิ มุเขสุ ปริคฺคหสฺส สมานตํ ทสฺเสติ. นามรูปววตฺถานสฺส อธิปฺเปตตฺตา นิรวเสสรูปปริคฺคหสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘วตฺถุ นาม กรชกาโย’’ติ อาห, น จกฺขาทีนิ ฉวตฺถูนีติ. กรชกายสฺส ปน วตฺถุภาวสาธนตฺถํ ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ, เอตฺถ ปฏิพทฺธ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕; ม. นิ. ๒.๒๕๒) สุตฺตํ อาภตํ.
ผสฺสวิฺาณานํ ปากฏตา เกสฺจิ โหตีติ เยสํ น โหติ, เต สนฺธายาห ‘‘ผสฺสวเสน วา หิ…เป… น ปากฏํ โหตี’’ติ. เตสํ ปน อฺเสฺจ สพฺเพสํ เวเนยฺยานํ เวทนา ปากฏาติ อาห ‘‘เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหตี’’ติ. สตโธตสปฺปิ นาม สตวารํ วิลาเปตฺวา วิลาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตสปฺปิ.
วินิวตฺเตตฺวาติ จตุกฺขนฺธสมุทายโต วิสุํ อุทฺธริตฺวา. มหาสติปฏฺานสุตฺตาทีสุ กตฺถจิ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ วตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. กตฺถจิ อรูปกมฺมฏฺานํ เอว เวทนาวเสน อรูปราสิโต, าตปริฺาย ปริฺาตโต วา รูปารูปราสิโต วา วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถาปิ เยสุ ปมํ าตปริฺา วุตฺตา, เตสุ ตทนฺโตคธํ ¶ . เยสุ น วุตฺตา, เตสุ จ เวทนาย อารมฺมณมตฺตํ สํขิตฺตํ ปาฬิอนารุฬฺหํ รูปกมฺมฏฺานํ สนฺธาย รูปกมฺมฏฺานสฺส ปมํ กถิตตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
‘‘มโนวิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตาน’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) นเยน วุตฺตํ ฉเคหสฺสิตโสมนสฺสํ ปฺจกามคุเณสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน เอว โหตีติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา ฉ เคหสฺสิตโสมนสฺสเวทนา’’ติ.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๕. กิเลสสมฺปยุตฺตานํ ¶ ธมฺมานํ เกหิจิ กิเลเสหิ วิปฺปโยเคปิ สติ เยหิ สมฺปยุตฺตา, เตหิ สํกิเลสภาเวน สทิเสหิ สํกิลิฏฺตฺตา อิตเรหิปิ น วิสุทฺธตา โหตีติ อาห ‘‘น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺตี’’ติ. ทุวิธนฺติ วิสุํ วจนํ สราคสโทเสหิ วิสิฏฺคฺคหณตฺถํ. อวิปสฺสนุปคตฺตา ‘‘อิธ โอกาโสว นตฺถี’’ติ วุตฺตํ.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทโส
ก. นีวรณปพฺพวณฺณนา
๓๖๗. กณฺหสุกฺกานํ ยุคนทฺธตา นตฺถีติ ปชานนกาเล อภาวา ‘‘อภิณฺหสมุทาจารวเสนา’’ติ อาห.
สุภมฺปีติ ¶ กามจฺฉนฺโทปิ. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน ‘‘สุภ’’นฺติ วุจฺจติ, เตนากาเรน ปวตฺตมานกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จาติ. อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร อนุปายมนสิกาโร. ตตฺถาติ นิปฺผาเทตพฺเพ อารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต.
อสุภมฺปีติ อสุภชฺฌานมฺปิ. ตํ ปน ทสสุ อสุเภสุ เกสาทีสุ จ ปวตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เกสาทีสุ หิ สฺา อสุภสฺาติ คิริมานนฺทสุตฺเต วุตฺตาติ. เอตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ อโยนิโสมนสิการสฺส โยนิโสมนสิการสฺส จ ทสฺสนํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน อสุเภ สุภนฺติ อสุภนฺติ จ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกุลตฺตา วา อิตเรปีติ.
โภชเน มตฺตฺุโน ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามราโค ปหียตีติ วทนฺติ. โภชนนิสฺสิตํ ปน อาหาเรปฏิกูลสฺํ, ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุปนิสฺสยภูตสฺส อสุภตาทิทสฺสนํ, กายสฺส จ อาหารฏฺิติกตาทิทสฺสนํ โส ¶ อุปฺปาเทตีติ ตสฺส กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, อภิธมฺมปริยาเยน สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคนา’’ติ.
โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณานนฺติ อตฺตครุอติปฺปิยสหายมชฺฌตฺตวเสน โอทิสฺสกตา, สีมาเภเท กเต อโนทิสฺสกตา, เอกทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉาคามาทิวเสน วา โอทิสฺสกทิสาผรณํ, วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนทิสฺสกทิสาผรณนฺติ เอวํ วา ทฺวิธา อุคฺคหํ สนฺธาย ‘‘โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโห จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ, อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ สตฺตา ปาณา ภูตา ปุคฺคลา อตฺตภาวปริยาปนฺนา’’ติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา, เอเกกสฺมึ ‘‘อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา วา อโนธิโสผรณา เมตฺตา, ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย ปุริสา อริยา อนริยา เทวา มนุสฺสา วินิปาติกา’’ติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติวิธา วา โอธิโสผรณา เมตฺตา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา จ ทิสาผรณา เมตฺตา, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา อโนธิโสโอธิโสผรณา เวทิตพฺพา.
กายวินามนาติ ¶ กายสฺส วิวิเธน อากาเรน นามนา.
อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตี’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโหติ อตฺโถ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา อาห ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.
กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณํ อวูปสมสภาวเมวาติ เจตโส อวูปสโม ‘‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมวา’’ติ วุตฺโต.
พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต จ อตฺถโต จ อตฺถาทีนิ วิจินนฺตสฺส เจตโส วิกฺเขโป น โหติ ยถาวิธิปฏิปตฺติยา ยถานุรูปปติการปฺปวตฺติยา กตากตานุโสจนฺจาติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. วุฑฺฒเสวิตา จ วุฑฺฒสีลิตํ อาวหตีติ เจโตวูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานการิตา ¶ วุตฺตา. วุฑฺฒตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
ติฏฺติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉาย านียา วิจิกิจฺฉาานียา. าตพฺพาติ วา านียา, วิจิกิจฺฉา านียา เอเตสูติ วิจิกิจฺฉาานียา.
กามํ พหุสฺสุตตาปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา อาห ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘; วิภ. ๙๑๕) วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสปี’’ติ. โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ อนุปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส. อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาย วา นินฺนตา อธิมุตฺติ.
นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.
ข. โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา
ขนฺธาทิปาฬิยา ¶ อตฺโถ ขนฺธาทีนํ อตฺโถติ กตฺวา อาห ‘‘ขนฺธ…เป… วิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา’’ติ. เตน ปาฬิมุตฺตกปุจฺฉา น ตถา ปฺาสํวตฺตนิกา, ยถา อตฺถปฏิปุจฺฉาติ ทสฺเสติ.
มนฺทตฺตา อคฺคิชาลาทีสุ อาโปธาตุอาทีนํ วิย วีริยาทีนํ สกิจฺเจ อสมตฺถตา วุตฺตา.
ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สุตฺวาติ เอตฺถ ปฺจาภิฺตฺตา ทิพฺพโสเตน อสฺโสสีติ วทนฺติ.
ปสาทสิเนหาภาเวนาติ ปสาทสงฺขาตสฺส สิเนหสฺส อภาเวน. คทฺรภปิฏฺเ ลูขรโช ลูขตโร หุตฺวา ทิสฺสตีติ อติลูขตาย ตํสทิเส.
สํเวชนปสาทเนหิ เตชนํ โตสนฺจ สมฺปหํสนาติ.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถวิปสฺสนาสุทฺธวิปสฺสนาวเสน ¶ ปมสฺส อิตเรสฺจ กถิตตฺตาติ อตฺโถ. มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นามาติ อาคมนวเสน วุตฺตํ. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ กายานุปสฺสีอาทีนํ อาคมนวเสน วิเสเสตฺวา วุตฺตา สติปฏฺานเทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ อตฺโถ. น หิ สกฺกา เอกสฺส อเนกสมงฺคิตา วตฺตุํ เอกกฺขเณ อเนกสติสมฺภวาวโพธปสงฺคา, ปุคฺคลํ ปน อามสิตฺวา สกิจฺจปริจฺฉินฺเน ธมฺเม วุจฺจมาเน กิจฺจเภเทน เอกิสฺสาปิ สติยา อเนกนามตา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย ปนา’’ติอาทิมาห. ยถา หิ ปุคฺคลกิจฺจํ ธมฺมา เอวาติ ธมฺมเภเทน กายานุปสฺสีอาทิปุคฺคลเภโทว โหติ, น เอวํ ธมฺมสฺส ธมฺโม กิจฺจนฺติ น ธมฺมเภเทน ตสฺส เภโท, ตสฺมา เอกาว สติ จตุวิปลฺลาสปฺปหานภูตา มคฺเค สมิทฺธา อนตฺถนฺตเรน ตปฺปหานกิจฺจเภเทน จตฺตาริ นามานิ ลภตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๗๔. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ ‘‘กถฺจ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ กาเย กายานุปสฺสี, ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา อาคมนวเสน วิเสสิตานิ สติปฏฺานานิ ปุคฺคเล เปตฺวา เทเสตฺวา ปุน ‘‘ตตฺถ กตมํ สติปฏฺานํ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ…เป… ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา อาคมวิเสสนฺจ อกตฺวา จตุกิจฺจสาธเกกสติวเสน สุทฺธิกสติปฏฺานนโย วุตฺโตติ อยเมตฺถ นยทฺวเย วิเสโส.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมฺมปฺปธานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๓๙๐. การณปฺปธานาติ ¶ ¶ ‘‘อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิอตฺถา’’ติ คหิตา ตเถว เต โหนฺตีติ ตํ อตฺถํ สาเธนฺติเยวาติ เอตสฺส อตฺถสฺส ทีปโก สมฺมา-สทฺโทติ ยถาธิปฺเปตตฺถสฺส อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิโน การณภูตา, ปธานการณภูตาติ อตฺโถ. สมฺมาสทฺทสฺส อุปายโยนิโสอตฺถทีปกตํ สนฺธาย ‘‘อุปายปฺปธานา โยนิโสปธานา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิปนฺนโกติ ภาวนมนุยุตฺโต. ภุสํ โยโค ปโยโค, ปโยโคว ปรกฺกโม ปโยคปรกฺกโม. เอตานีติ ‘‘วายมตี’’ติอาทีนิ ‘‘อาเสวมาโน วายมตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพานิ.
อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานนฺติ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนานํ.
๓๙๑. ธมฺมจฺฉนฺโทติ ตณฺหาทิฏฺิวีริยจฺฉนฺทา วิย น อฺโ ธมฺโม, อถ โข ฉนฺทนิยสภาโว เอวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สภาวจฺฉนฺโท’’ติ. ตตฺถ ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๑๐๓) ตณฺหา ฉนฺโทติ วุตฺตาติ เวทิตพฺโพ, ‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๖๖) เอตฺถ ทิฏฺิ, ปมาทนิทฺเทเส ‘‘นิกฺขิตฺตฉนฺทตา นิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ วีริยนฺติ วณฺเณติ.
๓๙๔. วายมติ ¶ วีริยํ อารภตีติ ปททฺวยสฺสปิ นิทฺเทโส วีริยนิทฺเทโสเยวาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วีริยนิทฺเทเส’’ติ.
๔๐๖. สพฺพปุพฺพภาเคติ สพฺพมคฺคานํ ปุพฺพภาเค. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’’นฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถายํ, ตํ ปน มคฺคานุปฺปนฺนตาย ภาวโต อนุปฺปชฺชมาเน จ ตสฺมึ วฏฺฏานตฺถสํวตฺตนโต น ยุตฺตนฺติ ปฏิกฺขิปติ.
มหนฺตํ ¶ คารวํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สงฺฆคารเวน ยถารุจิ วินฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ สงฺเฆน สห น นิกฺขมิ. อติมนฺทานิ โนติ นนุ อติมนฺทานีติ อตฺโถ. สนฺตสมาปตฺติโต อฺํ สนฺถมฺภนการณํ พลวํ นตฺถีติ ‘‘ตโต ปริหีนา สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ อาห. น หิ มหารชฺชุมฺหิ ฉินฺเน สุตฺตตนฺตู สนฺธาเรตุํ สกฺโกนฺตีติ. สมเถ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา เตน สมานคติกา วิปสฺสนา จาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา…เป… สํวตฺตนฺตี’’ติ.
ตตฺถ อนุปฺปนฺนานนฺติ เอตฺถ ตตฺถ ทุวิธาย สมฺมปฺปธานกถาย, ตตฺถ วา ปาฬิยํ ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติ เอตสฺส อยํ วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโย. เอเตเยวาติ อนมตคฺเค สํสาเร อุปฺปนฺนาเยว.
จุทฺทส มหาวตฺตานิ ขนฺธเก วุตฺตานิ อาคนฺตุกอาวาสิกคมิกอนุโมทน ภตฺตคฺค ปิณฺฑจาริก อารฺิก เสนาสน ชนฺตาฆรวจฺจกุฏิ อาจริยอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกวตฺตานิ จุทฺทส. ตโต อฺานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ทฺวาสีติ ขุทฺทกวตฺตานีติ กถิตานิ ทฏฺพฺพานิ. น หิ ตานิ สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา มหาวตฺเต อคณิตานิ. ตตฺถ ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺาเปสฺสามี’’ติ อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตานิ ปกตตฺเต จริตพฺพวตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๘๒) ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ วิสุํ ¶ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คเณตพฺพานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสฺสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติวตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อิธ ¶ วิปากานุภวนวเสน ตทารมฺมณํ, อวิปกฺกวิปากสฺส สพฺพถา อวิคตตฺตา ภวิตฺวา วิคตมตฺตวเสน กมฺมฺจ ‘‘ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑) วิย รชฺชนาทิวเสน อนุภุตฺวาปคตํ ชวนํ, อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธตาวเสน ภูตาปคตสงฺขาตํ เสสสงฺขตฺจ ‘‘ภูตาปคตุปฺปนฺน’’นฺติ, ตสฺมา อิธ โอกาสกตุปฺปนฺนํ วิปากเมว วทติ, น ตตฺถ วิย กมฺมมฺปีติ. อนุสยิตกิเลสาติ อปฺปหีนา มคฺเคน ปหาตพฺพา อธิปฺเปตา. เตนาห ‘‘อตีตา วา…เป… น วตฺตพฺพา’’ติ. เตสฺหิ อมฺพตรุโณปมาย วตฺตมานาทิตา น วตฺตพฺพาติ.
อาหตขีรรุกฺโข วิย นิมิตฺตคฺคาหวเสน อธิคตํ อารมฺมณํ, อนาหตขีรรุกฺโข วิย อวิกฺขมฺภิตตาย อนฺโตคธกิเลสํ อารมฺมณํ ทฏฺพฺพํ, นิมิตฺตคฺคาหกาวิกฺขมฺภิตกิเลสา วา ปุคฺคลา อาหตานาหตขีรรุกฺขสทิสา. ปุริมนเยเนวาติ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺเน วิย ‘‘อิมสฺมึ นาม าเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา อสมุคฺฆาฏิตตฺตา’’ติ โยเชตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํ.
ปาฬิยนฺติ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑). มคฺเคน ปหีนกิเลสานเมว ติธา นวตฺตพฺพตํ อปากฏํ ปากฏํ กาตุํ อชาตผลรุกฺโข อาภโต, อตีตาทีนํ อปฺปหีนตาทสฺสนตฺถมฺปิ ‘‘ชาตผลรุกฺเขน ทีเปตพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยถา อจฺฉินฺเน รุกฺเข นิพฺพตฺติรหานิ ผลานิ ฉินฺเน อนุปฺปชฺชมานานิ น กทาจิ สสภาวานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จาติ อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพานิ, เอวํ มคฺเคน ปหีนกิเลสา จ ทฏฺพฺพา. ยถา จ เฉเท อสติ ผลานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สติ จ นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ เฉทสฺส สาตฺถกตา, เอวํ มคฺคภาวนาย จ สาตฺถกตา โยเชตพฺพา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๔๒๗. ปฺหปุจฺฉเก ¶ ยํ วุตฺตํ ‘‘วีริยเชฏฺิกาย ปน อฺสฺส วีริยสฺส อภาวา น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ วา น มคฺคาธิปตีนีติ วา’’ติ, เอตฺถ ‘‘มคฺคาธิปตีนี’’ติ ¶ น วตฺตพฺพตาย เอว อฺสฺส วีริยสฺส อภาโว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ฉนฺทสฺส ปน จิตฺตสฺส วา นมคฺคภูตสฺส อธิปติโน ตทา อภาวา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ น วตฺตพฺพานีติ วุตฺตํ. ฉนฺทจิตฺตานํ วิย นมคฺคภูตสฺส อฺสฺส วีริยาธิปติโน อภาวาติ วา อธิปฺปาโย. สมฺมปฺปธานานํ ตทา มคฺคสงฺขาตอธิปติภาวโต วา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ นวตฺตพฺพตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมฺมปฺปธานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อิทฺธิปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๔๓๑. อิทฺธิ-สทฺทสฺส ¶ ¶ ปโม กตฺตุอตฺโถ, ทุติโย กรณตฺโถ วุตฺโต, ปาท-สทฺทสฺส เอโก กรณเมวตฺโถ วุตฺโต. ปชฺชิตพฺพาว อิทฺธิ วุตฺตา, น จ อิชฺฌนฺตี ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธิ ปชฺชนกรเณน ปาเทน สมานาธิกรณา โหตีติ ‘‘ปเมนตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตถา อิทฺธิกิริยากรเณน สาเธตพฺพา จ วุทฺธิสงฺขาตา อิทฺธิ ปชฺชนกิริยากรเณน ปชฺชิตพฺพาติ ทฺวินฺนํ กรณานํ น อสมานาธิกรณตา สมฺภวตีติ ‘‘ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ปเมนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท, ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโทติ เอวํ โยชนา ยุชฺชติ.
‘‘ฉนฺทํ เจ…เป… อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติ อิมาย ปาฬิยา ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติ-สทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ, อธิปติ-สทฺทตฺถทสฺสนวเสน ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปธานภูตาติ วีริยภูตาติ เกจิ วทนฺติ. สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถฺหิ ปธานคฺคหณนฺติ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพํ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฏฺภูตาติ อตฺโถ. จตุพฺพิธสฺส ปน วีริยสฺส อธิปฺเปตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส กโต. อธิฏฺานฏฺเนาติ ทุวิธตฺถายปิ อิทฺธิยา อธิฏฺานตฺเถน. ปาทภูตนฺติ อิมินา วิสุํ สมาสโยชนาวเสน ปน โย ปุพฺเพ อิทฺธิปาทตฺโถ ปาท-สทฺทสฺส อุปายตฺถตํ คเหตฺวา ยถายุตฺโต วุตฺโต, โส วกฺขมานานํ ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ กตฺตุกรณิทฺธิภาวํ, อุตฺตรจูฬภาชนีเย วา วุตฺเตหิ ¶ ฉนฺทาทีหิ อิทฺธิปาเทหิ สาเธตพฺพาย อิทฺธิยา กตฺติทฺธิภาวํ, ฉนฺทาทีนฺจ กรณิทฺธิภาวํ สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส ‘‘วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ. ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนํ. ทฺเวเยว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ ปธานสงฺขาโร จ, ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ, ปธานสงฺขาโร ¶ ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหตีติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ, ตถา วิสิฏฺเเนว จ เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา วุตฺตา. วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอวสฺสยนวเสน โหตีติ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาท’’นฺติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาท-สทฺเท อุปายตฺเถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ. เตเนว อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา. ปฺหปุจฺฉเก จ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินาว (วิภ. ๔๖๒) อุทฺเทสํ กตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภตฺโตติ. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ, อฺถา จตุพฺพิธตา น โหตีติ อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
๔๓๓. รถธุเรติ รถสฺส ปุรโต. หีนชาติโก จณฺฑาโล อุปฏฺานาทิคุณโยเคปิ เสนาปติฏฺานาทีนิ น ลภตีติ อาห ‘‘ชาตึ โสเธตฺวา…เป… ชาตึ อวสฺสยตี’’ติ. อมนฺตนีโยติ หิตาหิตมนฺตเน น อรโห.
รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺเท สติ กถํ นานุชานิสฺสนฺตีติ สตฺตปิ ภตฺตานิ อภฺุชิตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺทเมว อวสฺสาย โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสีติ อาห ‘‘รฏฺปาลตฺเถโร วิยา’’ติ.
โมฆราชตฺเถโร วีมํสํ อวสฺสยีติ ตสฺส ภควา ‘‘สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕) สฺุตากถํ ¶ กเถสิ, ปฺานิสฺสิตมานนิคฺคหตฺถฺจ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิโต ปฺหํ น กเถสิ. ตตฺถ ปุนปฺปุนํ ฉนฺทุปฺปาทนํ โตสนํ วิย โหตีติ ฉนฺทสฺส อุปฏฺานสทิสตา วุตฺตา, ถามภาวโต วีริยสฺส สูรตฺตสทิสตา, ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๘๑ เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ) วจนโต ปุพฺพงฺคมตฺตา จิตฺตสฺส วิสิฏฺชาติสทิสตา.
อเภทโตติ ¶ ฉนฺทาทิเก ตโย ตโย ธมฺเม สมฺปิณฺเฑตฺวา, อิทฺธิอิทฺธิปาเท อมิสฺเสตฺวา วา กถนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ฉนฺทวีริยาทโย วิเสเสน อิชฺฌนฺติ เอตายาติ อิทฺธีติ วุจฺจนฺติ, อิชฺฌตีติ อิทฺธีติ อวิเสเสน สมาธิปธานสงฺขาราปีติ.
ฉนฺทิทฺธิปาทสมาธิทฺธิปาทาทโย วิสิฏฺา, ปาโท สพฺพิทฺธีนํ สาธารณตฺตา อวิสิฏฺโ, ตสฺมา วิสิฏฺเสฺเวว ปเวสํ อวตฺวา อวิสิฏฺเ จ ปเวสํ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ สพฺพตฺถ ‘‘ปาเท ปติฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ตตฺเถวาติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารอิทฺธิปาเทสุ, จตูสุ ฉนฺทาทิเกสฺเววาติ อตฺโถ. ‘‘ฉนฺทวโต โก สมาธิ น อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สมาธิภาวนามุเขน ภาวิตา สมาธิภาวิตา.
เอตฺถ ปนาติ เภทกถายํ อเภทกถนโต อภินวํ นตฺถีติ อตฺโถ. เย หิ ตโย ธมฺมา อเภทกถายํ อิทฺธิอิทฺธิปาโทตฺเวว วุตฺตา, เต เอว เภทกถายํ อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ, เสสา อิทฺธิปาทา เอวาติ เอวํ อภินวาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉนฺโท สมาธี’’ติอาทิมาห. อิเม หิ ตโย…เป… น วินา, ตสฺมา เสสา สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา เตสํ ติณฺณํ อิชฺฌเนน อิทฺธิ นาม ภเวยฺยุํ, น อตฺตโน สภาเวนาติ เต อิทฺธิปาทา เอว โหนฺติ, น อิทฺธีติ เอวมิทํ ปุริมสฺส การณภาเวน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา ติณฺณํ อิทฺธิตา อิทฺธิปาทตา จ วุตฺตา, เสสานฺจ อิทฺธิปาทตาว, ตํ สพฺพํ สาเธตุํ ‘‘อิเม หิ ตโย…เป… น วินา’’ติ อาห. เตน ยสฺมา อิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อิทฺธิ. อิชฺฌมานา จ ยสฺมา สมฺปยุตฺตเกหิ สเหว อิชฺฌนฺติ, น วินา, ตสฺมา สมฺปยุตฺตกา อิทฺธิปาทา, ตทนฺโตคธตฺตา ปน เต ตโย ธมฺมา อิทฺธิปาทาปิ โหนฺตีติ ทสฺเสติ. สมฺปยุตฺตกานมฺปิ ปน ขนฺธานํ อิทฺธิภาวปริยาโย อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺตกา ปนา’’ติอาทิมาห. จตูสุ ขนฺเธสุ เอกเทสสฺส อิทฺธิตา, จตุนฺนมฺปิ ‘‘อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อตฺเถน อิทฺธิปาทตา, ปุนปิ จตุนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อตฺเถน อิทฺธิปาทตา จ ทสฺสิตา, น อฺสฺสาติ กตฺวา อาห ‘‘น อฺสฺส ¶ กสฺสจิ อธิวจน’’นฺติ. อิมินา ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา’’ติ อิทํ วาทํ ปฏิเสเธติ.
ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ ปฏิลาภสฺเสว จ อิทฺธิอิทฺธิปาทตาวจนํ อปุพฺพนฺติ กตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘เกนฏฺเน อิทฺธิ, เกนฏฺเน ปาโท’’ติ. ปฏิลาโภ ปุพฺพภาโค ¶ จาติ วจนเสโส. อุปาโย จ อุปายภาเวเนว อตฺตโน ผลสฺส ปติฏฺา โหตีติ อาห ‘‘ปติฏฺานฏฺเเนว ปาโท’’ติ. ฉนฺโทเยว…เป… วีมํสาว วีมํสิทฺธิปาโทติ กถิตํ, ตสฺมา น จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิยา สมานกาลิกา นานากฺขณิกา วา อิทฺธิปาทา, เชฏฺกภูตา ปน ฉนฺทาทโย เอว สพฺพตฺถ อิทฺธิปาทาติ อยเมว เตสํ อฏฺกถาจริยานํ อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺตภาชนีเย หิ อภิธมฺมภาชนีเย จ สมาธิวิเสสนวเสน ทสฺสิตานํ อุปายภูตานํ อิทฺธิปาทานํ ปากฏกรณตฺถํ อุตฺตรจูฬภาชนียํ วุตฺตนฺติ. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิเถรา กิร.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๔๔. อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส ผสฺโส…เป… ปคฺคาโห อวิกฺเขโป’’ติ (วิภ. ๔๔๗) อิทฺธิอิทฺธิปาทตฺถทสฺสนตฺถํ ปคฺคาหาวิกฺเขปา วุตฺตา, จิตฺตปฺา จ สงฺขิปิตฺวาติ. จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานีติ อิทํ สาธิปติวารานํ ปริปุณฺณานํ อภาวา วิจาเรตพฺพํ. น หิ อธิปตีนํ อธิปตโย วิชฺชนฺติ, เอเกกสฺมึ ปน อิทฺธิปาทนิทฺเทเส เอเกโก อธิปติวาโร ลพฺภตีติ โสฬส โสฬส นยสตานิ ลพฺภนฺติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
นนุ ¶ จ จตฺตาโรปิ อธิปตโย เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, อฺมฺสฺส ปน อธิปตโย น ภวนฺติ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตา. ราชปุตฺโตปมาปิ หิ เอตมตฺถํ ทีเปตีติ? น, เอกกฺขเณ ทุติยสฺส อธิปติโน อภาวโต เอว, ‘‘น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตา ราชปุตฺโตปมา อธิปตึ น กโรนฺตีติ อิมเมวตฺถํ ทีเปติ, น อธิปตีนํ สหภาวํ. ตํ กถํ ชานิตพฺพนฺติ? ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส ¶ หิ อฏฺกถายํ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๓) วุตฺตา ‘‘กสฺมา ปน ยถา เหตุปจฺจยนิทฺเทเส ‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ อวตฺวา ‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’นฺติอาทินา นเยน เทสนา กตาติ? เอกกฺขเณ อภาวโต’’ติ. สติ จ จตุนฺนํ อธิปตีนํ สหภาเว ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส วีมํสาธิปเตยฺยํ มคฺคํ ภาเวนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ น กตฺตพฺพํ สิยา อวีมํสาธิปติกสฺส มคฺคสฺส อภาวา. ฉนฺทาทีนํ อฺมฺาธิปติกรณภาเว จ ‘‘วีมํสํ เปตฺวา ตํสมฺปยุตฺโต’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนํ วีมํสาธิปติกตฺตวจนํ น วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา ‘‘จตฺตาโร อริยมคฺคา สิยา มคฺคาธิปติโน, สิยา น วตฺตพฺพา มคฺคาธิปติโน’’ติ (ธ. ส. ๑๔๒๙) เอวมาทีหิปิ อธิปตีนํ สหภาโว ปฏิกฺขิตฺโต เอวาติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิทฺธิปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โพชฺฌงฺควิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
ปมนยวณฺณนา
๔๖๖. ปติฏฺานายูหนา ¶ ¶ โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑) –
‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนา. ตถา ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –
วุตฺเตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺพา.
สมฺมปฺปวตฺเต ธมฺเม ปฏิสฺจิกฺขติ, อุปปตฺติโต อิกฺขติ, ตทากาโร หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปฏิสงฺขานลกฺขโณ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา คหเณ มชฺฌตฺตตา’’ติ อุเปกฺขากิจฺจาธิมตฺตตาย สงฺขารุเปกฺขา วุตฺตา. อนุกฺกมนิกฺเขเป ปโยชนํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมปจฺฉิมการณภาโว.
๔๖๗. พลวตี ¶ เอว สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ กตฺวา พลวภาวทีปนตฺถํ ปฺา คหิตา, น ยสฺส กสฺสจิ สมฺปธารณสติ, กุสลุปฺปตฺติการณสฺส ปน สรณํ สตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตํ วา’’ติอาทิมาห. วตฺตสีเส ตฺวาติ ‘‘อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ปสีเทยฺยุํ, ปสนฺนา จ เม ปสนฺนาการํ กเรยฺยุ’’นฺติ เอวํจิตฺโต อหุตฺวา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… วิฺูหิ, อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ อาชาเนยฺยุํ, อาชานิตฺวา จ ปน ตถตฺถาย ปฏิปชฺเชยฺยุ’’นฺติ ธมฺมสุธมฺมตํ ปฏิจฺจ การฺุํ อนุทฺทยํ อนุกมฺปํ อุปาทาย มหากสฺสปตฺเถเรน วิย ภาสิตนฺติ อตฺโถ. วิมุตฺตายตนสีเสติ ‘‘น เหว โข ¶ สตฺถา, อปิจ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสสฺสามี’’ติ เอวํ วิมุตฺติการณปธานภาเว ตฺวา. จิรกตวตฺตาทิวเสน ตํสมุฏฺาปโก อรูปโกฏฺาโส วุตฺโต, ภาวตฺถตฺตา เอว วา กตภาสิต-สทฺทา กิริยาภูตสฺส อรูปโกฏฺาสสฺส วาจกาติ กตฺวา อาห ‘‘กายวิฺตฺตึ…เป… โกฏฺาส’’นฺติ.
โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปกตา ปุริมานํ ฉนฺนํ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตริกสฺส, ปเรสํ สพฺเพสํ วา ตํตํปริยาเยน สมุฏฺาปนวเสน โยเชตพฺพา. กามโลกวฏฺฏามิสาติ ตณฺหา ตทารมฺมณา ขนฺธาติ วทนฺติ, ปฺจกามคุณิโก จ ราโค ตทารมฺมณฺจ กามามิสํ, ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทินา โลกคฺคหณวเสน ปวตฺโต สสฺสตุจฺเฉทสหคโต ราโค ตทารมฺมณฺจ โลกามิสํ, โลกธมฺมา วา, วฏฺฏสฺสาทวเสน อุปฺปนฺโน สํสารชนโก ราโค ตทารมฺมณฺจ วฏฺฏามิสํ. มคฺคสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปุพฺพภาคา.
ปมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยนยวณฺณนา
๔๖๘-๔๖๙. อภิฺเยฺยา ธมฺมา นาม ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา, ทฺเว ธาตุโย, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, ปฺจ วิมุตฺตายตนานิ, ฉ อนุตฺตริยานิ, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ, อฏฺาภิภายตนานิ, นวานุปุพฺพวิหารา, ทส นิชฺชรวตฺถูนี’’ติ เอวํปเภทา ธมฺมา ¶ , ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) ทสฺสิตา ขนฺธาทโย จ. วานนฺติ วินนฺธนํ ภวาทีนํ, คมนํ วา ปิยรูปสาตรูเปสุ.
จงฺกมํ อธิฏฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ วิปสฺสนาสหคตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตเกนาติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา’’ติ เอตฺตาวตา. โลกิยนฺติ วทนฺโต น กิลมตีติ กายวิฺตฺติสมุฏฺาปกสฺส โลกิยตฺตา อโจทนีโยติ อตฺโถ. อลพฺภ…เป… ปฏิกฺขิตฺตาติ รูปาวจเร อลพฺภมานกํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปาทาย ลพฺภมานาปิ อวิตกฺกอวิจารา ปีติ ปฏิกฺขิตฺตา, ‘‘ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ติ น วุตฺโตติ อตฺโถ. กามาวจเร ¶ วา อลพฺภมานกํ อวิตกฺกอวิจารํ ปีตึ อุปาทาย ลพฺภมานกาว ปีติโพชฺฌงฺคภูตา ปฏิกฺขิตฺตา, อวิตกฺกอวิจาโร ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค น วุตฺโตติ อตฺโถ.
อชฺฌตฺตวิโมกฺขนฺติ อชฺฌตฺตธมฺเม อภินิวิสิตฺวา ตโต วุฏฺิตมคฺโค ‘‘อชฺฌตฺตวิโมกฺโข’’ติ อิธ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. น วาเรตพฺโพติ วิปสฺสนาปาทเกสุ กสิณาทิฌาเนสุ สติอาทีนํ นิพฺเพธภาคิยตฺตา น ปฏิกฺขิปิตพฺโพติ อตฺโถ. อนุทฺธรนฺตา ปน วิปสฺสนา วิย โพธิยา มคฺคสฺส อาสนฺนการณํ ฌานํ น โหติ, น จ ตถา เอกนฺติกํ การณํ, น จ วิปสฺสนากิจฺจสฺส วิย ฌานกิจฺจสฺส นิฏฺานํ มคฺโคติ กตฺวา น อุทฺธรนฺติ. ตตฺถ กสิณชฺฌานคฺคหเณน ตทายตฺตานิ อารุปฺปานิปิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. อสุภชฺฌานานํ อวจนํ อวิตกฺกาวิจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
ทุติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยนยวณฺณนา
๔๗๐-๔๗๑. ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตฺตสฺส อวจนํ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๘๒; วิภ. ๔๗๑) อิธ ภาเวตพฺพานํ โพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตา. ภาวิตโพชฺฌงฺคสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา ผลโพชฺฌงฺคา ¶ อภิธมฺมภาชนีเย วุตฺตาติ. โวสฺสคฺค-สทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ยถาวุตฺเตนาติ ตทงฺคสมุจฺเฉทปฺปกาเรน ตนฺนินฺนภาวารมฺมณกรณปฺปกาเรน จ. ปริณาเมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณ.
ตติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๗๒. อุเปกฺขนวเสนาติ ¶ สภาวนิทฺเทสตํ ทสฺเสติ, หาปนวฑฺฒเนสุ พฺยาปารํ อกตฺวา อุปปตฺติโต อิกฺขนวเสนาติ อตฺโถ. โลกิยอุเปกฺขนาย อธิกา อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนาติ อยมตฺโถ อิธ โลกุตฺตรา เอว อธิปฺเปตาติ ยุตฺโตติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
โพชฺฌงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. มคฺคงฺควิภงฺโค
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๙๐. อภิธมฺเม ¶ ¶ โลกุตฺตรจิตฺตภาชนีเยปิ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺติ…เป… อฏฺงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (ธ. ส. ๓๓๗) วุตฺตตฺตา อิธาปิ อภิธมฺมภาชนีเย อภิธมฺมานุรูปํ เทสนํ กโรนฺโต ‘‘อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ อริโยปปทตํ น กโรติ.
๔๙๓. ตสฺมึ สมเยติ โลกิยกาเลน เอเตสํ อติเรกกิจฺจํ ทสฺเสติ. วิรติอุปฺปาทเนน มิจฺฉาวาจาทีนิ ปุคฺคลํ ปชหาเปนฺตีติ สมฺมาทิฏฺาทีนิ ปฺจ ‘‘การาปกงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. สมฺมาวาจาทิกิริยา หิ วิรติ, ตฺจ เอตานิ การาเปนฺตีติ. วิรติวเสนาติ วิรมณกิริยาวเสน, น การาปกภาเวน กตฺตุภาเวน จาติ อตฺโถ. อิมํ…เป… กิจฺจาติเรกตํ ทสฺเสตุนฺติ โลกุตฺตรกฺขเณปิ อิมาเนว ปฺจ สมฺมาวาจาทิตฺตยสฺส เอกกฺขเณ การาปกานีติ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา อกุสลา จ ทสาติ วีสติ อกุสลปกฺขิยา, สมฺมาทิฏฺาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา จ กุสลา ทสาติ วีสติ กุสลปกฺขิยา จ มหาจตฺตารีสกสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๓๖) วุตฺตาติ ตสฺส เอตํ นามํ.
ปฺุภาคิยาติ ปฺุโกฏฺาเส ภวา, ปฺุาภิสงฺขาเรกเทสภูตาติ อตฺโถ. ขนฺโธปธึ วิปจฺจติ, ตตฺถ วา วิปจฺจตีติ อุปธิเวปกฺกา.
ปฺจงฺคิกมคฺคํ อุทฺทิสิตฺวา ตตฺถ เอเกกํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส ตสฺเสว สมยววตฺถานํ กตฺวา วิสฺสชฺชนํ ¶ ‘‘ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา ปาฏิเยกฺกํ วิสฺสชฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. สห ปน ปุจฺฉิตฺวา ปฺจนฺนมฺปิ สมยววตฺถานํ กตฺวา วิสฺสชฺชเน ‘‘ตตฺถ กตมา สมฺมาทิฏฺิยา ปฺา’’ติอาทิโก ปฏินิทฺเทโส เอกโต วิสฺสชฺชนปฏินิทฺเทสตฺตา น ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ นาม โหตีติ. ตตฺถ ปฺจงฺคิกวาเร เอว ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ สมฺมาทิฏฺาทีสุ การาปกงฺเคสุ เอเกกมุขาย ภาวนาย มคฺคุปฺปตฺตึ สนฺธาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ. วาจาทีนิ หิ ปุพฺพสุทฺธิยา สิชฺฌนฺติ, น มคฺคสฺส อุปจาเรนาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
มคฺคงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ฌานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
มาติกาวณฺณนา
๕๐๘. ฌานสฺส ¶ ¶ ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทา ปาติโมกฺขสํวราทิ. อสุภานุสฺสติโย โลกุตฺตรชฺฌานานิ จ อิโต พหิทฺธา นตฺถีติ สพฺพปฺปการ-คฺคหณํ กโรติ, สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภีติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) วจเนน สมณภาวกรปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาสมฺปนฺนสฺสปิ อภาวํ ทสฺเสติ. สิกฺขาปเทสุ นามกายาทิวเสน วุตฺเตสุ วจนานติกฺกมวเสน สิกฺขิตพฺเพสุ, อวีติกฺกมนวิรติเจตนาสงฺขาเตสุ วา สิกฺขาโกฏฺาเสสุ ปริปูรณวเสน สิกฺขิตพฺเพสุ สา สา ภิกฺขุสิกฺขาทิกา สิกฺขาปเทกเทสภูตา สิกฺขิตพฺพาติ อาห ‘‘สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปน’’นฺติ.
สนฺโตสาทิวเสน อิตรีตรสนฺโตสํ, ตสฺส จ วณฺณวาทิตํ, อลทฺธา จ อปริตสฺสนํ, ลทฺธา จ อคธิตปริโภคนฺติ เอเต คุเณ ทสฺเสติ. ฌานภาวนาย การโกติ ปริทีปนํ การกภาวปริทีปนํ. อรฺนฺติอาทินา เสนาสนสฺส ปเภทํ, อปฺปสทฺทนฺติอาทินา นิราทีนวตํ, ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ อานิสํสํ ทีเปตีติ อาห ‘‘เสนาสนปฺปเภเท…เป… ปริทีปน’’นฺติ.
มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิทฺเทสวณฺณนา
๕๐๙. กมฺมตฺเถหิ ¶ ทิฏฺิ-สทฺทาทีหิ สาสนํ วุตฺตนฺติ ‘‘ทิฏฺตฺตา ทิฏฺี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สภาวฏฺเนาติ อวิปรีตฏฺเน. สิกฺขิยมาโน กายาทีนิ วิเนติ, น อฺถาติ อาห ‘‘สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย’’ติ, วินโย วา สิกฺขิตพฺพานิ ¶ สิกฺขาปทานิ, ขนฺธตฺตยํ สิกฺขิตพฺพนฺติ วินโย วิยาติ วินโยติ ทสฺเสติ. สตฺถุ อนุสาสนทานภูตํ สิกฺขตฺตยนฺติ อาห ‘‘อนุสิฏฺิทานวเสนา’’ติ.
สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตาติ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจยตฺตา. ติสฺโส หิ สิกฺขา สิกฺขนฺตสฺส สมฺมาทิฏฺิ ปริปูรตีติ. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) วจนโต สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมํ สิกฺขตฺตยํ. เอตสฺมิฺจ อตฺถทฺวเย ผลการโณปจาเรหิ สิกฺขตฺตยํ ‘‘ทิฏฺี’’ติ วุตฺตํ, กุสลธมฺเมหิ วา อตฺตโน เอกเทสภูเตหีติ อธิปฺปาโย. ภควโต วินยนกิริยตฺตา วินโย สิกฺขตฺตยํ, ตํ ปน วินยนํ ธมฺเมเนว อวิสมสภาเวน, เทสนาธมฺเมน วา ปวตฺตํ, น ทณฺฑาทินาติ ‘‘ธมฺมวินโย’’ติ วุตฺตํ.
อนวชฺชธมฺมตฺถนฺติ ปรมานวชฺชนิพฺพานตฺถํ, อกุปฺปเจโตวิมุตฺติอตฺถํ วา. ธมฺเมสุ อภิฺเยฺยาทีสุ อภิชานนาทิการณํ สิกฺขตฺตยนฺติ ตํ ‘‘ธมฺมวินโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิมิสฺสา อิมสฺมิ’’นฺติ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานํ นิยมกรณํ โหติ, เอว-สทฺทโลโป วา กโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘นิยโม กโต’’ติ.
๕๑๐. ภิกฺขุโกติ อนฺตฺเถน ก-กาเรน ปทํ วฑฺฒิตนฺติ ‘‘ภิกฺขนธมฺมตายา’’ติ อตฺถมาห. ภิกฺขโกติ ปน ปาเ ภิกฺขตีติ ภิกฺขโกติ อตฺโถ. ชลฺลิกํ รชมิสฺสํ มลํ, อมิสฺสํ มลเมว. ภินฺนปฏธโรติ นิพฺพจนํ ภินฺนปฏธเร ภิกฺขุ-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา วุตฺตํ.
ยสฺส ภาเวตพฺโพ ปหาตพฺโพ จ โอธิ อวสิฏฺโ อตฺถิ, โส โอธิโส, อรหา ปน ตทภาวา โอธิรหิโตติ ‘‘อโนธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขู’’ติ วุตฺโต. โอธิ-สทฺโท วา เอกเทเส ¶ นิรุฬฺโหติ สพฺพมคฺคา สพฺพกิเลสา จ อรหตา ภาวิตา ปหีนา จ ‘‘โอธี’’ติ น วุจฺจนฺติ. ปหานาติ อิทฺจ นิพฺพจนํ เภทนปริยายวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เสกฺโขติอาทินา ¶ ภิกฺขุ-สทฺเทน วุจฺจมานํ อตฺถํ คุณวเสน ทสฺเสติ, เหฏฺา ปน ‘‘สมฺาย ปฏิฺายา’’ติ ปฺายนวเสน, ‘‘ภิกฺขตี’’ติอาทินา นิพฺพจนวเสน ทสฺสิโต.
เสกฺโข ภิกฺขูติ สตฺต เสกฺขา กถิตา, ภินฺนตฺตา ปาปกานํ…เป… ภิกฺขูติ ขีณาสโวว กถิโตติ อิทํ ทฺวยํ ‘‘เสกฺโขติ ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต อริยา, ภินฺนตฺตาติ อิมินา ปน จตฺตาโร ผลฏฺา’’ติ อิมินา ทฺวเยน น สเมติ, ตทิทํ นิปฺปริยายทสฺสนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เสสฏฺาเนสุ ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย กถิตา’’ติ วุตฺตํ, นนุ ปฏิฺาย ภิกฺขุสีโลปิ วุตฺโตติ? วุตฺโต, น ปน อิธาธิปฺเปโต สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตกสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
ภควโต วจนํ อุปสมฺปทากมฺมกรณสฺส การณตฺตา านํ, ตทนุรูปํ านารหํ, อนูนตฺติอนุสฺสาวนํ อุปฺปฏิปาฏิยา จ อวุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๕๑๑. นิปฺปริยายโต สีลํ สมาทานวิรติอวีติกฺกมนวิรติภาวโตติ อธิปฺปาโย. อนภิชฺฌาทีนิ สนฺธาย เจตสิกสีลสฺส ปริยายสีลตา วุตฺตา. นครวฑฺฒกี วตฺถุวิชฺชาจริโยติ วทนฺติ. จตุพฺพิโธ อาหาโร อสิตาทีนิ, ภกฺขิตพฺพภฺุชิตพฺพเลหิตพฺพจุพิตพฺพานิ วา.
ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต ปิหิตินฺทฺริโย โหติ ติณฺณํ สุจริตานํ อินฺทฺริยสํวราหารตฺตา, ปาติโมกฺขสํวโร วา อินฺทฺริยสํวรสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. อิติ ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตินฺทฺริโย ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ วุตฺโต. อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘สํวุโต’’ติ เอตสฺส ปิหิตินฺทฺริโยติ อตฺถมาห. ปาติโมกฺเขน จ สํวเรน จาติ อิทํ ปาติโมกฺขโต อฺํ สีลํ กายิกอวีติกฺกมาทิคฺคหเณน คหิตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุติโย ปนตฺโถ ทฺวินฺนมฺปิ เอกตฺถตํ สนฺธาย วุตฺโต.
๕๑๓. สพฺพมฺปิ ¶ ทุสฺสีลฺยนฺติ อิมินา อภิชฺฌาทโย จ คหิตาติ สนฺธายาห ‘‘มนสาปิ อาจรติ เอว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. ตตฺถาติ กายิกวีติกฺกมาทิวเสน วุตฺเตสุ อนาจาเรสุ. ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนมาปชฺชตีติ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.
อโรปิโมติ ¶ สงฺฆิกภูมิยํ อุฏฺิโต วุตฺโต. ผาติกมฺมนฺติ ครุภณฺฑนฺตรภูตํ กมฺมํ. ทณฺฑกมฺมนฺติ ยถาวุตฺตํ หตฺถกมฺมมาห. สินายนฺติ เอเตนาติ สินานํ, จุณฺณาทิ.
สจฺจาลีเกน ปิยวาที ‘‘จาฏู’’ติ วุจฺจติ, จาฏุํ อตฺตานํ อิจฺฉตีติ จาฏุกาโม, ตสฺส ภาโว จาฏุกมฺยตา. มุคฺคสูปสฺส อปฺปวิสนฏฺานํ นาม นตฺถิ สพฺพาหาเรหิ อวิรุทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปริภฏติ ธาเรติ, โปเสติ วาติ ปริภโฏ, อถ วา ปริวารภูโต ภโฏ เสวโก ปริภโฏ.
ภณฺฑาคาริกกมฺมํ คิหีนํ กริยมานํ วุตฺตํ. ปิณฺฑตฺถํ ปฏิปิณฺฑทานํ, ปิณฺฑํ ทตฺวา ปฏิปิณฺฑคฺคหณํ วา ปิณฺฑปฏิปิณฺฑํ. สงฺฆโภคเจติยโภคานํ อโยนิโส วิจารณํ สงฺฆุปฺปาทเจติยุปฺปาทปฏฺปนํ, อตฺตโน สนฺตเก วิย ปฏิปชฺชนนฺติ เกจิ.
๕๑๔. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโร, อภิณฺหํ จริตพฺพฏฺานํ. คาโว วา จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ, เตหิ จริตพฺพฏฺานํ โคจโร. อยุตฺโต โคจโร อโคจโรติ ตทฺโ ยุตฺโต ‘‘โคจโร’’ติ วุตฺโต.
วา-สทฺโท วิธุนนตฺโถปิ โหตีติ กตฺวา อาห ‘‘วินิทฺธุตกิพฺพิสานิ วา’’ติ.
๕๑๕. อวรา ปจฺฉิมา มตฺตา เอเตสนฺติ โอรมตฺตกานิ. สํยมกรณียานีติ กายวาจาสํยมมตฺเตน กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ, วิกฺขิปิตพฺพานิ วา. ‘‘ปุน น เอวํ กโรมี’’ติ จิตฺเตน สํวรมตฺเตน, อินฺทฺริยสํวเรเนว วา กรณียานิ สํวรกรณียานิ. ทิวิวิหารชนปทวาสี ทิวิวิหารวาสี. มนสฺส อธิฏฺานเมว อธิฏฺานาวิกมฺมํ. เทสนา อิธ ‘‘วุฏฺานาวิกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตา. ตตฺถ ‘‘จิตฺตุปฺปาทกรณียานิ มนสิการปฏิพทฺธานี’’ติ วจนโต ปาติโมกฺขสํวรวิสุทฺธตฺถํ ¶ อนติกฺกมนียานิ อนาปตฺติคมนียานิ วชฺชานิ วุตฺตานีติ อาจริยสฺส อธิปฺปาโย. จตุพฺพิธสฺสาติ อตฺตานุวาทปรานุวาททณฺฑทุคฺคติภยสฺส.
๕๑๖. ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติ ภิกฺขุ เอว อธิปฺเปโตติ สนฺธาย ‘‘เสสสิกฺขา ปน อตฺถุทฺธารวเสน สิกฺขา-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตา’’ติ อาห. ภิกฺขุคฺคหณํ ¶ ปน อคฺคปริสามุเขน สพฺพชฺฌานนิพฺพตฺตกานํ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ทสฺสนตฺถํ กตํ. คุณโต วา ภิกฺขุ อธิปฺเปโตติ สพฺพาปิ สิกฺขา อิธาธิปฺเปตาติ ทฏฺพฺพา. สพฺเพน สิกฺขาสมาทาเนนาติ เอตฺถ เยน สมาทาเนน สพฺพาปิ สิกฺขา สมาทินฺนา โหนฺติ, ตํ เอกมฺปิ สพฺพสมาทานกิจฺจกรตฺตา สพฺพสมาทานํ นาม โหติ, อเนเกสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรนาติ อวีติกฺกมเทสนาวุฏฺานวตฺตจรณาทิอากาเรน. วีติกฺกมนวเสน เสสสฺสปิ นิสฺเสสตากรณํ สนฺธาย ‘‘ภินฺนสฺสปี’’ติอาทิมาห.
๕๑๙. อาวรณีเยหิ จิตฺตปริโสธนภาวนา ชาคริยานุโยโคติ กตฺวา อาห ‘‘ภาวน’’นฺติ. สุปฺปปริคฺคาหกนฺติ ‘‘สุปฺปปริคฺคาหกํ นาม อิทํ อิโต ปุพฺเพ อิโต ปรฺจ นตฺถิ, อยเมตสฺส ปจฺจโย’’ติอาทินา ปริคฺคาหกํ.
๕๒๐-๕๒๑. ยุตฺโตติ อารมฺภมาโน. สาตจฺจํ เนปกฺกฺจ ปวตฺตยมาโน ชาคริยานุโยคํ อนุยุตฺโต โหตีติ สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ.
๕๒๒. โลกิยายปิ…เป… อาหาติ อิทํ วิปสฺสนาภาวนาย สติปฏฺานาทโย เอกสฺมึ อารมฺมเณ สห นปฺปวตฺตนฺติ, ปวตฺตมานานิปิ อินฺทฺริยพลานิ โพชฺฌงฺเคสฺเวว อนฺโตคธานิ โหนฺติ. ปีติสมฺโพชฺฌงฺคคฺคหเณน หิ ตทุปนิสฺสยภูตํ สทฺธินฺทฺริยํ สทฺธาพลฺจ คหิตเมว โหติ ‘‘สทฺธูปนิสํ ปาโมชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๓) วุตฺตตฺตา. มคฺคงฺคานิ ปฺเจว วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๕๒๓. สมนฺตโต, สมฺมา, สมํ วา สาตฺถกาทิปชานนํ สมฺปชานํ, ตเทว สมฺปชฺํ. เตนาติ สติสมฺปยุตฺตตฺตา เอว อุทฺเทเส อวุตฺตาปิ สติ นิทฺเทเส ‘‘สโต’’ติ อิมินา วุตฺตาติ อธิปฺปาโย.
สาตฺถกานํ ¶ อภิกฺกมาทีนํ สมฺปชานนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. เอวํ สปฺปายสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ ปน ภิกฺขาจารโคจเร อฺตฺถาปิ จ ปวตฺเตสุ อวิชหิเต กมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ.
ทฺเว ¶ กถาติ วจนกรณากรณกถา น กถิตปุพฺพา. วจนํ กโรมิ เอว, ตสฺมา สุพฺพจตฺตา ปฏิวจนํ เทมีติ อตฺโถ.
กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ กมฺมฏฺานคฺเคเนว, กมฺมฏฺานํ ปธานํ กตฺวา เอวาติ อตฺโถ. เตน ‘‘ปตฺตมฺปิ อเจตน’’นฺติอาทินา วกฺขมานํ กมฺมฏฺานํ, ยถาปริหริยมานํ วา อวิชหิตฺวาติ ทสฺเสติ. ‘‘ตสฺมา’’ติ เอตสฺส ‘‘ธมฺมกถา กเถตพฺพาเยวาติ วทนฺตี’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ภเยติ ปรจกฺกาทิภเย.
อวเสสฏฺาเนติ ยาคุอคฺคหิตฏฺาเน. านจงฺกมนเมวาติ อธิฏฺาตพฺพิริยาปถวเสน วุตฺตํ, น โภชนาทิกาเล อวสฺสํ กตฺตพฺพนิสชฺชายปิ ปฏิกฺเขปวเสน.
เถโร ทารุจีริโย –
‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ. ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต มุเต วิฺาเต. ยโต โข เต, พาหิย, ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต มุเต วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน, ยโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน. ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ, ยโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ. ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ (อุทา. ๑๐) –
เอตฺตเกน อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ.
ขาณุอาทิปริหรณตฺถํ, ปติฏฺิตปาทปริหรณตฺถํ วา ปสฺเสน หรณํ วีติหรณนฺติ วทนฺติ. ยาว ¶ ปติฏฺิตปาโท, ตาว อาหรณํ อติหรณํ, ตโต ปรํ หรณํ วีติหรณนฺติ อยํ วา เอเตสํ วิเสโส. อวีจินฺติ นิรนฺตรํ.
ปมชวเนปิ…เป… น โหตีติ อิทํ ปฺจวิฺาณวีถิยํ อิตฺถิปุริโสติ รชฺชนาทีนํ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชนโวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อิตฺถิรูปาทิมฺหิ โลโภ, อนิฏฺเ จ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ. มโนทฺวาเร ปน อิตฺถิปุริโสติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ¶ ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ ภวงฺคาทิ. เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลวเสน มูลปริฺา วุตฺตา. อาคนฺตุกตาวกาลิกตา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพติตฺตรตาวเสน. มณิสปฺโป สีหฬทีเป วิชฺชมานา เอกา สปฺปชาตีติ วทนฺติ. จลนนฺติ กมฺปนํ.
อติหรตีติ ยาว มุขา อาหรติ. วีติหรตีติ ตโต ยาว กุจฺฉิ, ตาว หรติ, กุจฺฉิคตํ วา ปสฺสโต หรติ. อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลตีติ วายุอาทีหิ อติวิโสสนํ ยถา น โหติ, ตถา ปาเลติ. อาภุชตีติ ปริเยสนชฺโฌหรณชิณฺณาชิณฺณตาทึ อาวชฺเชติ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ตํตํวิชานนนิปฺผาทโกเยว หิ ปโยโค ‘‘สมฺมาปโยโค’’ติ วุตฺโตติ. อถ วา ‘‘สมฺมาปฏิปตฺติมาคมฺม อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ภุชนโก นตฺถี’’ติอาทินา วิชานนํ อาภุชนํ.
อฏฺาเนติ มนุสฺสามนุสฺสปริคฺคหิเต อยุตฺเต าเน เขตฺตเทวายตนาทิเก. ตุมฺพโต เวฬุนาฬิอาทิอุทกภาชนโต. ตนฺติ ฉฑฺฑิตํ อุทกํ.
คเตติ คมเนติ ปุพฺเพ อภิกฺกมปฏิกฺกมคฺคหเณน คมเนปิ ปุรโต ปจฺฉโต จ กายสฺส อติหรณํ วุตฺตนฺติ อิธ คมนเมว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ, วกฺขมาโน วา เอเตสํ วิเสโส.
เอตฺตเกนาติ กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวา จตุนฺนํ อิริยาปถานํ ปวตฺตนวจนมตฺเตน โคจรสมฺปชฺํ น ปากฏํ โหตีติ อตฺโถ. เอวํ ปน สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหตีติ จงฺกมนฏฺานนิสชฺชาสุ เอว ปวตฺเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุตฺเต ปวตฺตา อปากฏา โหนฺตีติ อตฺโถ.
กายาทิกิริยามยตฺตา ¶ อาวชฺชนกิริยาสมุฏฺิตตฺตา จ ชวนํ, สพฺพมฺปิ วา ฉทฺวารปฺปวตฺตํ กิริยามยปวตฺตํ นาม, ทุติยชฺฌานํ วจีสงฺขารวิรหา ‘‘ตุณฺหีภาโว’’ติ วุจฺจติ.
๕๒๖. อุปาสนฏฺานนฺติ อิสฺสาสานํ วิย อุปาสนสฺส สิกฺขาโยคกรณสฺส กมฺมฏฺานอุปาสนสฺส านนฺติ อตฺโถ. ตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยคปถ’’นฺติ อาหาติ. สีสํ โธวตีติ อิจฺฉาทาสพฺยา ภุชิสฺสตํ าปยติ, มิจฺฉาปฏิปนฺเนหิ วา ปกฺขิตฺตํ อยสรชํ โธวติ.
๕๒๙. วินยปริยาเยน ¶ อทินฺนาทานปาราชิเก อาคตํ. สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺกสิกฺขาปเท ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ อาคตํ อารฺิกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย. น หิ โส วินยปริยายิเก อรฺเ วสนโต ‘‘อารฺโก ปนฺตเสนาสโน’’ติ สุตฺเต วุตฺโตติ.
๕๓๐. ‘‘นิตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกฺุช’’นฺติปิ ยํ วทนฺติ, ตํ กนฺทรนฺติ อปพฺพตปเทเสปิ วิทุคฺคนทีนิวตฺตนปเทสํ กนฺทรนฺติ ทสฺเสติ.
๕๓๑. ภาเชตฺวา ทสฺสิตนฺติ เอเตน ภาเชตพฺพตํ อนฺเต นิทฺเทสสฺส การณํ ทสฺเสติ.
๕๓๓. รหสฺส กิริยา รหสฺสํ, ตํ อรหติ ตสฺส โยคฺคนฺติ ราหสฺเสยฺยกํ. วิจิตฺตา หิ ตทฺธิตาติ. รหสิ วา สาธุ รหสฺสํ, ตสฺส โยคฺคํ ราหสฺเสยฺยกํ.
๕๓๗. ปริคฺคหิตนิยฺยานนฺติ ปริคฺคหิตนิยฺยานสภาวํ, กายาทีสุ สุฏฺุ ปวตฺติยา นิยฺยานสภาวยุตฺตนฺติ อตฺโถ. กายาทิปริคฺคหณํ าณํ วา ปริคฺคโห, ตํ-สมฺปยุตฺตตาย ปริคฺคหิตํ นิยฺยานภูตํ อุปฏฺานํ กตฺวาติ อตฺโถ.
๕๔๒-๕๔๓. วิการปฺปตฺติยาติ จิตฺตสฺส วิการาปตฺติภาเวนาติ อตฺโถ. สพฺพสงฺคาหิกวเสนาติ สตฺตสงฺขารคตสพฺพโกธสงฺคาหิกวเสน. สพฺพสงฺคหณฺจ สมุจฺเฉทปฺปหานสฺสปิ อธิปฺเปตตฺตา กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๕๔๖. อิทํ ¶ สนฺธายาติ ‘‘ทฺเว ธมฺมา’’ติ สนฺธาย. เอกวจเนน ‘‘ถินมิทฺธ’’นฺติ อุทฺทิสิตฺวาปิ นิทฺเทเส ‘‘สนฺตา’’ติ วจนเภโท, พหุวจนํ กตนฺติ อตฺโถ. นิโรธสนฺตตายาติ วจนํ องฺคสนฺตตาย, สภาวสนฺตตาย วา สนฺตตานิวารณตฺถํ.
๕๕๐. ถินมิทฺธวิการวิรหา ตปฺปฏิปกฺขสฺา อาโลกสฺา นาม โหติ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อยํ สฺา อาโลกา โหตี’’ติ.
๕๕๓. ‘‘วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา’’ติอาทีนิ, ‘‘อาโลกา โหตี’’ติอาทีนิ จ ‘‘จตฺตตฺตาติอาทีนี’’ติ วุตฺตานิ. อาทิ-สทฺเทน วา ทฺวินฺนมฺปิ นิทฺเทสปทานิ ¶ สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ยานิ เยสํ เววจนานิ, ตาเนว สนฺธาย ‘‘อฺมฺเววจนานี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิมฺุจโตติ เอเตน สารมฺภํ อภิภวํ ทสฺเสติ. นิราวรณา หุตฺวา อาภุชติ สมฺปชานาตีติ นิราวรณาโภคา, ตํสภาวตฺตา วิวฏา.
๕๕๖. ‘‘วิกาโล นุ โข, น นุ โข’’ติ อนิจฺฉยตาย กตวตฺถุชฺฌาจารมูลโก วิปฺปฏิสาโร วตฺถุชฺฌาจาโร การณโวหาเรน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
๕๖๒. กิลิสฺสนฺตีติ กิเลเสนฺตีติ อตฺถํ วทนฺติ, สทรถภาเวน สยเมว วา กิลิสฺสนฺติ. น หิ เต อุปฺปชฺชมานา กิเลสรหิตา อุปฺปชฺชนฺตีติ.
๕๖๔. อิเธว จ วิภงฺเค ‘‘อุเปโต โหตี’’ติอาทิ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว.
๕๘๘. นิทฺเทสวเสนาติ ‘‘ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? ยา อุเปกฺขา’’ติอาทินิทฺเทสวเสน. ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทิ ปฏินิทฺเทสวเสนาติ วทนฺติ. ‘‘ตตฺถ กตมา…เป… อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติ เอเตน ปุคฺคโล นิทฺทิฏฺโ โหติ, ‘‘สมุเปโต’’ติอาทินา ปฏินิทฺทิฏฺโ. ยาว วา ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ ปทํ, ตาว นิทฺทิฏฺโ, ‘‘เตน วุจฺจติ อุเปกฺขโก’’ติ อิมินา ปฏินิทฺทิฏฺโติ เตสํ วเสน นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา โยเชตพฺพา. ปกาเรนาติ อุเปกฺขาย ‘‘อุเปกฺขนา’’ติอาทิธมฺมปฺปกาเรน ‘‘อุเปโต สมุเปโต’’ติอาทิปุคฺคลปฺปกาเรน จ อุเปกฺขกสทฺทสฺส อตฺถํ เปนฺโต ปฏฺเปนฺติ. ‘‘อุเปกฺขา’’ติ เอตสฺส อตฺถสฺส ‘‘อุเปกฺขนา’’ติ การณํ. อุเปกฺขนาวเสน ¶ หิ อุเปกฺขาติ. ตถา ‘‘อุเปโต สมุเปโต’’ติ เอเตสํ ‘‘อุปาคโต สมุปาคโต’’ติ การณนฺติ เอวํ ธมฺมปุคฺคลวเสน ตสฺส ตสฺสตฺถสฺส การณํ ทสฺเสนฺตา วิวรนฺติ, ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ อิมสฺเสว วา อตฺถสฺส ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทินา การณํ ทสฺเสนฺตา. ‘‘อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนา สมุเปโต’’ติอาทินา พฺยฺชนานํ วิภาคํ ทสฺเสนฺตา วิภชนฺติ. อุเปกฺขก-สทฺทนฺโตคธาย วา อุเปกฺขาย ตสฺเสว จ อุเปกฺขก-สทฺทสฺส วิสุํ อตฺถวจนํ ‘‘ยา อุเปกฺขา อุเปกฺขนา’’ติอาทินา, ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทินา จ ¶ พฺยฺชนวิภาโค. สพฺพถา อฺาตตา นิกุชฺฌิตภาโว, เกนจิ ปกาเรน วิฺาเตปิ นิรวเสสปริจฺฉินฺทนาภาโว คมฺภีรภาโว.
๖๐๒. อุปริภูมิปฺปตฺติยาติ อิทํ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ เอตฺเถว โยเชตพฺพํ. วิฺาณฺจายตนาทีนิปิ วา อากาสานฺจายตนาทีนํ อุปริภูมิโยติ สพฺพตฺถาปิ น น ยุชฺชติ.
๖๑๐. วิฺาณฺจายตนนิทฺเทเส ‘‘อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ตํเยว อากาสํ วิฺาเณน ผุฏํ มนสิ กโรติ อนนฺตํ ผรติ, เตน วุจฺจติ อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ เอตฺถ วิฺาเณนาติ เอตํ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ, ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณํ มนสิ กโรตีติ กิร อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อยํ วา เอตสฺส อตฺโถ – ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณํ วิฺาณฺจายตนวิฺาเณน มนสิ กโรตีติ. อยํ ปนตฺโถ ยุตฺโต – ตํเยว อากาสํ วิฺาเณน ผุฏํ เตน คหิตาการํ มนสิ กโรติ, เอวํ ตํ วิฺาณํ อนนฺตํ ผรตีติ. ยฺหิ อากาสํ ปมารุปฺปสมงฺคี วิฺาเณน อนนฺตํ ผรติ, ตํ ผรณาการสหิตเมว วิฺาณํ มนสิกโรนฺโต ทุติยารุปฺปสมงฺคี อนนฺตํ ผรตีติ วุจฺจตีติ.
๖๑๕. ตํเยว วิฺาณํ อภาเวตีติ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กตํ, ตํเยวาติ อตฺโถ. ตสฺเสว หิ อารมฺมณภูตํ ปเมน วิย รูปนิมิตฺตํ ตติเยนารุปฺเปน อภาเวตีติ.
นิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๖๒๓. อภิธมฺมภาชนีเย ¶ ปฺจกนยทสฺสเน ‘‘ปฺจ ฌานานี’’ติ จ, ‘‘ตตฺถ กตมํ ปมํ ฌาน’’นฺติ จ อาทินา อุทฺธฏํ. อุทฺธฏานํเยว จตุนฺนํ ปมตติยจตุตฺถปฺจมชฺฌานานํ ทสฺสนโต, ทุติยสฺเสว วิเสสทสฺสนโต จ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๖๔๐. โลกุตฺตราปเนตฺถาติ ¶ เอเตสุ ตีสุฌาเนสุ ‘‘โลกุตฺตรา สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ เอวํ โกฏฺาสิกา ปน มคฺคกาเล, ผลกาเล วา โลกุตฺตรภูตา เอวาติ อธิปฺปาโย. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณาโลกกสิณานาปานพฺรหฺมวิหารจตุตฺถานิ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺเถ สงฺคหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.
พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา มคฺคํ ภาวยึสุ, ผลํ สจฺฉิกรึสูติ, ภาเวสฺสนฺติ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ จ เหฏฺิมมคฺคผลานํ วเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กุสลโต เตรสสุ หิ จตุตฺเถสุ อยํ กถา ปวตฺตา, น จ กุสลจตุตฺเถน อรหตฺตมคฺคผลานิ ทฏฺุํ สกฺโกติ.
‘‘กิริยโต เตรสนฺน’’นฺติ เอตฺถ โลกุตฺตรจตุตฺถํ กิริยํ นตฺถีติ ‘‘ทฺวาทสนฺน’’นฺติ วตฺตพฺพํ, กุสลโต วา เตรสสุ เสกฺขผลจตุตฺถํ อนฺโตคธํ กตฺวา ‘‘กิริยโต เตรสนฺน’’นฺติ อเสกฺขจตุตฺเถน สห วทตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถปาทกฺเจตฺถ ขีณาสวานํ ยานิ อภิฺาทีนิ สนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ ปาทกตฺตา สพฺพตฺถปาทกนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เตสํ วฏฺฏํ อตฺถีติ. ปริจฺฉนฺนากาสกสิณจตุตฺถาทีนิ วิย วา นวตฺตพฺพตาย สพฺพตฺถปาทกสมานตฺตา สพฺพตฺถปาทกตา ทฏฺพฺพา.
มโนสงฺขารา ¶ นาม สฺาเวทนา, จตฺตาโรปิ วา ขนฺธา. นิมิตฺตํ อารพฺภาติ เอตฺถ ‘‘นิมิตฺตํ นิพฺพานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ.
‘‘อชฺฌตฺโต ธมฺโม อชฺฌตฺตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๒๐.๒๘) เอตฺถ ‘‘อชฺฌตฺตา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตตฺตา น เจโตปริยาณํ วิย ยถากมฺมูปคาณํ ปรสนฺตานคตเมว ชานาติ, สสนฺตานคตมฺปิ ปน อปากฏํ รูปํ ทิพฺพจกฺขุ วิย อปากฏํ กมฺมํ วิภาเวติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน กมฺมชานนกาเล’’ติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฌานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อปฺปมฺาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๖๔๒. สพฺพธีติ ¶ ¶ ทิสาเทโสธินา อโนธิโสผรณํ วุตฺตํ, สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตนฺติ สตฺโตธินา. เตนาห ‘‘อโนธิโส ทสฺสนตฺถ’’นฺติ. ตถา-สทฺโท อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโตติ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ เอตสฺส อนุวตฺตกํ ตํ ทฺวยํ ตสฺส ผรณนฺตราทิฏฺานํ อฏฺานนฺติ กตฺวา น วุตฺตํ, ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๖๔๓. หิโรตฺตปฺปานุปาลิตา เมตฺตา น ปริหายติ อาสนฺนสปตฺตสฺส ราคสฺส สิเนหสฺส จ วิปตฺติยา อนุปฺปตฺติโตติ อธิปฺปาโย.
๖๔๕. อธิมฺุจิตฺวาติ สุฏฺุ ปสาเรตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อธิกภาเวนา’’ติอาทิมาห, พลวตา วา อธิโมกฺเขน อธิมุจฺจิตฺวา.
๖๔๘. เหฏฺา วุตฺโตเยวาติ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพ’’นฺติ เอเตสํ ‘‘สพฺเพน สิกฺขาสมาทาเนน สพฺพํ สิกฺขํ, สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรน สพฺพํ สิกฺข’’นฺติ จ ฌานวิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๕๑๖) อตฺโถ วุตฺโต. อิธ ปน สพฺเพน อวธินา อตฺตสมตาย สพฺพสตฺตยุตฺตตาย จ สพฺพํ โลกํ, สพฺพาวธิทิสาทิผรณากาเรหิ สพฺพํ โลกนฺติ จ อตฺโถ ยุชฺชติ.
๖๕๐. ปจฺจตฺถิกวิฆาตวเสนาติ เมตฺตาทีนํ อาสนฺนทูรปจฺจตฺถิกานํ ราคพฺยาปาทาทีนํ วิฆาตวเสน. ยํ อปฺปมาณํ, โส อเวโรติ โส อเวรภาโวติ อยํ วา ตสฺส อตฺโถติ.
๖๕๓. นิรยาทิ ¶ คติ, จณฺฑาลาทิ กุลํ, อนฺนาทีนํ อลาภิตา โภโค. อาทิ-สทฺเทน ทุพฺพณฺณตาทิ คหิตํ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๖๙๙. อิมสฺมึ ¶ ปน…เป… กถิตาติ อิมินา อิมสฺมึ วิภงฺเค กถิตานํ โลกิยภาวเมว ทสฺเสนฺโต ขนฺธวิภงฺคาทีหิ วิเสเสตีติ น อฺตฺถ โลกุตฺตรานํ อปฺปมฺานํ กถิตตา อนฺุาตา โหติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปฺปมฺาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. สิกฺขาปทวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๐๓. ปติฏฺานฏฺเนาติ ¶ ¶ สมฺปโยควเสน อุปนิสฺสยวเสน จ โอกาสภาเวน. ปิฏฺปูวโอทนกิณฺณนานาสมฺภาเร ปกฺขิปิตฺวา มทฺทิตฺวา กตา สุรา นาม. มธุกาทิปุปฺผปนสาทิผลอุจฺฉุมุทฺทิกาทินานาสมฺภารานํ รสา จิรปริวาสิตา เมรยํ นาม, อาสโวติ อตฺโถ.
๗๐๔. ตํสมฺปยุตฺตตฺตาติ วิรติสมฺปยุตฺตตฺตา, วิรติเจตนาสมฺปยุตฺตตฺตา วา.
กมฺมปถา เอวาติ อสพฺพสาธารเณสุ ฌานาทิโกฏฺาเสสุ กมฺมปถโกฏฺาสิกา เอวาติ อตฺโถ. สุราปานมฺปิ ‘‘สุราปานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ…เป… นิรยสํวตฺตนิก’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๔๐) วิสุํ กมฺมปถภาเวน อาคตนฺติ วทนฺติ. เอวํ สติ เอกาทส กมฺมปถา สิยุํ, ตสฺมาสฺส ยถาวุตฺเตสฺเวว กมฺมปเถสุ อุปการกตฺตสภาคตฺตวเสน อนุปเวโส ทฏฺพฺโพ.
สตฺตอิตฺถิปุริสารมฺมณตา ตถาคหิตสงฺขารารมฺมณตาย ทฏฺพฺพา. ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพาปิ หิ เอตา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวรเจตนาหิ เอว วิรมนฺตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๔) จ วกฺขตีติ.
โครูปสีลโก ปกติภทฺโท. กากณิกมตฺตสฺส อตฺถายาติอาทิ โลภวเสน มุสากถเน วุตฺตํ. โทสวเสน มุสากถเน จ นิฏฺปฺปตฺโต สงฺฆเภโท คหิโต. โทสวเสน ปรสฺส พฺยสนตฺถาย มุสากถเน ปน ตสฺส ตสฺส คุณวเสน อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา โยเชตพฺพา, มนฺทาธิมตฺตพฺยสนิจฺฉาวเสน ¶ จ. นิสฺสคฺคิยถาวรวิชฺชามยิทฺธิมยา สาหตฺถิกาณตฺติเกสฺเวว ปวิสนฺตีติ ทฺเว เอว คหิตา.
ปฺจปิ กมฺมปถา เอวาติ เจตนาสงฺขาตํ ปริยายสีลํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิรติสีลํ ปน มคฺคโกฏฺาสิกนฺติ. เตสํ ปนาติ เสสสีลานํ.
๗๑๒. ‘‘โกฏฺาสภาเวนา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปติฏฺานภาเวนา’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. เอตฺถ ปน สิกฺขาปทวาเร ปหีนปฺจาภพฺพฏฺานสฺส อรหโต วิรมิตพฺพเวรสฺส ¶ สพฺพถา อภาวา กิริเยสุ วิรติโย น สนฺตีติ น อุทฺธฏา, เสกฺขานํ ปน ปหีนปฺจเวรตฺเตปิ ตํสภาคตาย เวรภูตานํ อกุสลานํ เวรนิทานานํ โลภาทีนฺจ สพฺภาวา วิรตีนํ อุปฺปตฺติ น น ภวิสฺสติ. อกุสลสมุฏฺิตานิ จ กายกมฺมาทีนิ เตสํ กายทุจฺจริตาทีนิ เวราเนว, เตหิ จ เตสํ วิรติโย โหนฺเตว, ยโต นผลภูตสฺสปิ อุปริมคฺคตฺตยสฺส อฏฺงฺคิกตา โหติ. สิกฺขาวาเร จ อภาเวตพฺพตาย ผลธมฺมาปิ น สิกฺขิตพฺพา, นาปิ สิกฺขิตสิกฺขสฺส อุปฺปชฺชมานา กิริยธมฺมาติ น เกจิ อพฺยากตา สิกฺขาติ อุทฺธฏา.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๗๑๔. สมฺปตฺตวิรติวเสนาติ สมฺปตฺเต ปจฺจุปฺปนฺเน อารมฺมเณ ยถาวิรมิตพฺพโต วิรติวเสนาติ อตฺโถ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สิกฺขาปทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
๑. สงฺคหวารวณฺณนา
๗๑๘. เอเสว ¶ ¶ นโยติ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา ตเมว นยํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมปฺปเภทสฺส หี’’ติอาทิมาห. นิรุตฺติปฏิภานปฺปเภทา ตพฺพิสยานํ อตฺถาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวา เวทิตพฺพา.
‘‘ยํ กิฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺน’’นฺติ เอเตน สจฺจเหตุธมฺมปจฺจยาการวาเรสุ อาคตานิ ทุกฺขาทีนิ คหิตานิ. สจฺจปจฺจยาการวาเรสุ นิพฺพานํ, ปริยตฺติวาเร ภาสิตตฺโถ, อภิธมฺมภาชนีเย วิปาโก กิริยฺจาติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตานเมว วเสน ปฺจ อตฺถา เวทิตพฺพา, ตถา ธมฺมา จ.
วิทหตีติ นิพฺพตฺตกเหตุอาทีนํ สาธารณํ นิพฺพจนํ, ตทตฺถํ ปน วิภาเวตุมาห ‘‘ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จา’’ติ. เตสุ ปุริโม อตฺโถ มคฺควชฺเชสุ ทฏฺพฺโพ. ภาสิตมฺปิ หิ อวโพธนวเสน อตฺถํ ปวตฺเตตีติ. มคฺโค ปน นิพฺพานํ ปาเปตีติ ตสฺมึ ปจฺฉิโม.
ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเปติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท สภาววาจโกติ กตฺวา อาห ‘‘ยา สภาวนิรุตฺตี’’ติ, อวิปรีตนิรุตฺตีติ อตฺโถ. ตสฺสา อภิลาเปติ ตสฺสา นิรุตฺติยา อวจนภูตาย ปฺตฺติยา อภิลาเปติ เกจิ วณฺณยนฺติ. เอวํ สติ ปฺตฺติ อภิลปิตพฺพา ¶ , น วจนนฺติ อาปชฺชติ, น จ วจนโต อฺํ อภิลปิตพฺพํ อุจฺจาเรตพฺพํ อตฺถิ, อถาปิ ผสฺสาทิวจเนหิ โพเธตพฺพํ อภิลปิตพฺพํ สิยา, เอวํ สติ อตฺถธมฺมวชฺชํ เตหิ โพเธตพฺพํ น วิชฺชตีติ เตสํ นิรุตฺติภาโว อาปชฺชติ. ‘‘ผสฺโสติ จ สภาวนิรุตฺติ, ผสฺสํ ผสฺสาติ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ทสฺสิโตวายมตฺโถ, น จ อวจนํ เอวํปการํ อตฺถิ, ตสฺมา วจนภูตาย เอว ตสฺสา สภาวนิรุตฺติยา อภิลาเป อุจฺจารเณติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ วุตฺตตฺตา นิรุตฺติสทฺทารมฺมณาย โสตวิฺาณวีถิยา ปรโต มโนทฺวาเร นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ¶ ปวตฺตตีติ วทนฺติ. ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ จ วจนํ สทฺทํ คเหตฺวา ปจฺฉา ชานนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เอวํ ปน อฺสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณ อฺํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณนฺติ วุตฺตนฺติ อาปชฺชติ. ยถา ปน ทิพฺพโสตาณํ มนุสฺสามนุสฺสาทิสทฺทปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ตํ ตํ สทฺทวิภาวกํ, เอวํ สภาวาสภาวนิรุตฺตินิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนสภาวนิรุตฺติสทฺทารมฺมณํ ตํวิภาวกาณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ วุจฺจมาเน น ปาฬิวิโรโธ โหติ. ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาติ จ ปจฺจุปฺปนฺนสทฺทารมฺมณํ ปจฺจเวกฺขณํ ปวตฺตยนฺตสฺสาติ น น สกฺกา วตฺตุํ. ตมฺปิ หิ าณํ สภาวนิรุตฺตึ วิภาเวนฺตํเยว ตํตํสทฺทปจฺจเวกฺขณานนฺตรํ ตํตํปเภทนิจฺฉยเหตุตฺตา นิรุตฺตึ ภินฺทนฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว อุปฺปชฺชตีติ จ ปเภทคตมฺปิ โหตีติ. สภาวนิรุตฺตีติ มาคธภาสา อธิปฺเปตาติ ตโต อฺํ สกฺกฏนามาทิสทฺทํ สนฺธาย ‘‘อฺํ ปนา’’ติ อาห. พฺยฺชนนฺติ นิปาตปทมาห.
กถิตํ อฏฺกถายํ. โพธิมณฺฑ-สทฺโท ปมาภิสมฺพุทฺธฏฺาเน เอว ทฏฺพฺโพ, น ยตฺถ กตฺถจิ โพธิรุกฺขสฺส ปติฏฺิตฏฺาเน. สุวณฺณสลากนฺติ เสฏฺสลากํ, ธมฺมเทสนตฺถํ สลากํ คเหตฺวาติ อตฺโถ, น ปฏิสมฺภิทายํ ิเตน ปวาริตํ, ตสฺมา ปฏิสมฺภิทาโต อฺเเนว ปกาเรน ชานิตพฺพโต น สกฺกฏภาสาชานนํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจนฺติ อธิปฺปาโย.
อิทํ กถิตนฺติ มาคธภาสาย สภาวนิรุตฺติตาาปนตฺถํ อิทํ อิทานิ วตฺตพฺพํ กถิตนฺติ อตฺโถ. ฉทฺทนฺตวารณ (ชา. ๑.๑๖.๙๗ อาทโย) -ติตฺติรชาตกาทีสุ (ชา. ๑.๔.๗๓ อาทโย) ติรจฺฉาเนสุ จ มาคธภาสา อุสฺสนฺนา, น โอฏฺฏกาทิภาสา สกฺกฏํ วา.
ตตฺถาติ ¶ มาคธเสสภาสาสุ. เสสา ปริวตฺตนฺติ เอกนฺเตน กาลนฺตเร อฺถา โหนฺติ วินสฺสนฺติ จ. มาคธา ปน กตฺถจิ กทาจิ ปริวตฺตนฺตีปิ น สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺพถา จ ปริวตฺตติ, กปฺปวินาเสปิ ติฏฺติเยวาติ ‘‘อยเมเวกา น ปริวตฺตตี’’ติ อาห. ปปฺโจติ จิรายนนฺติ อตฺโถ. พุทฺธวจนเมว เจตสฺส วิสโย, เตเนว ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ คาถํ ปุจฺฉิโต จิตฺโต คหปติ ‘‘‘กึ นุ โข เอตํ, ภนฺเต, ภควตา ภาสิต’นฺติ? ‘เอวํ คหปตี’ติ. ‘เตน หิ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ อาคเมถ, ยาวสฺส อตฺถํ เปกฺขามี’’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๗) อาหาติ วทนฺติ.
สพฺพตฺถกาณนฺติ ¶ อตฺถาทีสุ าณํ. ตฺหิ สพฺเพสุ เตสุ ตีสุ จตูสุปิ วา ปวตฺตตฺตา, กุสลกิริยภูตาย ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ธมฺมตฺถภาวโต ตีสุ เอว วา ปวตฺตตฺตา ‘‘สพฺพตฺถกาณ’’นฺติ วุตฺตํ. อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานีติ สาตฺถกานํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพตฺตา สพฺโพ อตฺโถ เอตสฺสาติปิ สพฺพตฺถกํ, สพฺพสฺมึ ขิตฺตนฺติ วา. เสกฺเข ปวตฺตา อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทา โหนฺตีติ วทนฺติ. ปุพฺพโยโค วิย ปน อรหตฺตปฺปตฺติ อรหโตปิ ปฏิสมฺภิทาวิสทตาย ปจฺจโย น น โหตีติ ปฺจนฺนมฺปิ ยถาโยคํ เสกฺขาเสกฺขปฏิสมฺภิทาวิสทตฺตการณตา โยเชตพฺพา.
ปุจฺฉาย ปรโต ปวตฺตา กถาติ กตฺวา อฏฺกถา ‘‘ปริปุจฺฉา’’ติ วุตฺตา. ปฏิปตฺตึ ปูเรตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ ปฏิปตฺติครุตาย ลาภํ หีเฬนฺเตน สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ วาสิยา โกฏฺเฏตฺวา ปริภณฺฑกรณํ มยา กตํ อาวชฺชิตฺวา ลาภครุโน ปริยตฺติธรา ธมฺมกถิกาว ภวิตุํ น มฺิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ เถรสฺส กงฺขุปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อวิสทตํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ปฺหวิสฺสชฺชเนน อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทตา ทสฺสิตา. ติสฺสตฺเถโร อนนฺตรํ วุตฺโต ติสฺสตฺเถโร เอวาติ วทนฺติ.
ปเภโท นาม มคฺเคหิ อธิคตานํ ปฏิสมฺภิทานํ ปเภทคมนํ. อธิคโม เตหิ ปฏิลาโภ, ตสฺมา โส โลกุตฺตโร, ปเภโท กามาวจโร ทฏฺพฺโพ. น ปน ตถาติ ยถา อธิคมสฺส พลวปจฺจโย โหติ, น ตถา ปเภทสฺสาติ อตฺโถ. อิทานิ ปริยตฺติยาทีนํ อธิคมสฺส พลวปจฺจยตฺตาภาวํ, ปุพฺพโยคสฺส จ พลวปจฺจยตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิสมฺภิทา นาม นตฺถีติ ปฏิสมฺภิทาธิคโม นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ¶ ยํ วุตฺตํ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม ปนา’’ติอาทิมาห. ปุพฺพโยคาธิคมา หิ ทฺเวปิ วิสทการณาติ ‘‘ปุพฺพโยโค ปเภทสฺส พลวปจฺจโย โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ.
สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สจฺจวาราทิวณฺณนา
๗๑๙. เหตุวาเร ¶ กาลตฺตเยปิ เหตุผลธมฺมา ‘‘อตฺถา’’ติ วุตฺตา, เตสฺจ เหตุธมฺมา ‘‘ธมฺมา’’ติ, ธมฺมวาเร เวเนยฺยวเสน อตีตานฺจ สงฺคหิตตฺตา ‘‘อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ น วุตฺตนฺติ อตีตปจฺจุปฺปนฺนา ‘‘อตฺถา’’ติ วุตฺตา, ตํนิพฺพตฺตกา จ ‘‘ธมฺมา’’ติ อิทเมเตสํ ทฺวินฺนมฺปิ วารานํ นานตฺตํ.
สจฺจวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๒๕. อวุตฺตตฺตาติ ‘‘เตสํ วิปาเก าณ’’นฺติ สามฺเน วตฺวา วิเสเสน อวุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ กิริยานํ อวิปากตฺตา ธมฺมภาโว น วุตฺโตติ. ยทิ เอวํ วิปากา น โหนฺตีติ อตฺถภาโว จ น วตฺตพฺโพติ? น, ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา. เอวฺเจ กุสลากุสลานมฺปิ อตฺถภาโว อาปชฺชตีติ. นปฺปฏิสิทฺโธ, วิปากสฺส ปน ปธานเหตุตาย ปากฏตฺตา ธมฺมภาโวว เตสํ วุตฺโต. กิริยานํ ปจฺจยตฺตา ธมฺมภาโว อาปชฺชตีติ เจ? นายํ โทโส อปฺปฏิสิทฺธตฺตา, กมฺมผลสมฺพนฺธสฺส ปน อเหตุตฺตา ธมฺมภาโว น วุตฺโต. อปิจ ‘‘อยํ อิมสฺส ปจฺจโย, อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺน’’นฺติ เอวํ เภทํ อกตฺวา เกวลํ กุสลากุสเล วิปากกิริยธมฺเม จ สภาวโต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ธมฺมปฏิสมฺภิทา อตฺถปฏิสมฺภิทา จ โหตีติปิ เตสํ อตฺถธมฺมตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา ¶ . กุสลากุสลวาเรสุ จ ธมฺมปฏิสมฺภิทา กุสลากุสลานํ ปจฺจยภาวํ สตฺติวิเสสํ สนิปฺผาเทตพฺพตํ ปสฺสนฺตี นิปฺผาเทตพฺพาเปกฺขา โหตีติ ตํสมฺพนฺเธเนว ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ วุตฺตํ. สภาวทสฺสนมตฺตเมว ปน อตฺถปฏิสมฺภิทาย กิจฺจํ นิปฺผนฺนผลมตฺตทสฺสนโตติ ตสฺสา นิปฺผาทกานเปกฺขตฺตา วิปากวาเร ‘‘เตสํ วิปจฺจนเก าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สภาวปฺตฺติยาติ น สตฺตาทิปฺตฺติยา, อวิปรีตปฺตฺติยา วา. โขเภตฺวาติ โลมหํสชนนสาธุการทานาทีหิ โขเภตฺวา. ปุน ธมฺมสฺสวเน ¶ ชานิสฺสถาติ อปฺปสฺสุตตฺตา ทุติยวารํ กเถนฺโต ตเทว กเถสฺสตีติ อธิปฺปาโย.
๗๔๖. ภูมิทสฺสนตฺถนฺติ เอตฺถ กามาวจรา โลกุตฺตรา จ ภูมิ ‘‘ภูมี’’ติ เวทิตพฺพา, จิตฺตุปฺปาทา วาติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๗๔๗. ปจฺจยสมุปฺปนฺนฺจ อตฺถํ ปจฺจยธมฺมฺจาติ วจเนหิ เหตาทิปจฺจยสมุปฺปนฺนานํ กุสลากุสลรูปานมฺปิ อตฺถปริยายํ, เหตาทิปจฺจยภูตานํ วิปากกิริยรูปานมฺปิ ธมฺมปริยายฺจ ทสฺเสติ. ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย กามาวจรวิปาการมฺมณตา มหคฺคตารมฺมณตา จ ปฏิสมฺภิทาาณารมฺมณตฺเต น ยุชฺชติ ปฏิสมฺภิทาาณานํ กามาวจรโลกุตฺตรกุสเลสุ กามาวจรกิริยาโลกุตฺตรวิปาเกสุ จ อุปฺปตฺติโต. สพฺพาณารมฺมณตาย สติ ยุชฺเชยฺย, ‘‘เยน าเณน ตานิ าณานิ ชานาตี’’ติ (วิภ. ๗๒๖) วจนโต ปน น สพฺพาณารมฺมณตาติ กถยนฺติ. สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน ‘‘าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา สพฺพาณารมฺมณตา สิยา. อภิธมฺมภาชนีเยปิ จิตฺตุปฺปาทวเสน กถนํ นิรวเสสกถนนฺติ ยถาทสฺสิตวิสยวจนวเสน ‘‘เยน าเณน ตานิ าณานิ ¶ ชานาตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อฺารมฺมณตํ น ปฏิเสเธตีติ. ยถา จ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิสยานํ น นิรวเสเสน กถนํ อภิธมฺมภาชนีเย, เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยสฺสปีติ. เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย สพฺพาณวิสยตฺตา ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สิยา ปริตฺตารมฺมณา สิยา มหคฺคตารมฺมณา สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วุตฺตา.
ยทิปิ ‘‘สิยา อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วจนโต อภิธมฺมภาชนีเย วุตฺตปฏิสมฺภิทาสฺเวว ปฺหปุจฺฉกนโย ปวตฺโต. น หิ มคฺโค ปจฺจยุปฺปนฺโน น โหติ, อภิธมฺมภาชนีเย จ ปฏิสมฺภิทาาณวิสยา เอว ปฏิภานปฏิสมฺภิทา วุตฺตาติ น ตสฺสา มหคฺคตารมฺมณตาติ. เอวมปิ ทฺเวปิ เอตา ปาฬิโย วิรุชฺฌนฺติ, ตาสุ พลวตราย ตฺวา ¶ อิตราย อธิปฺปาโย มคฺคิตพฺโพ. กุสลากุสลานํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตปฏิเวโธปิ กุสลากุสลภาวปฏิเวธวินิมุตฺโต นตฺถีติ นิปฺปริยายา ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา เอกนฺตธมฺมวิสยตฺตา, ตถา วิปากกิริยานํ ปจฺจยภาวปฏิเวโธปิ วิปากกิริยภาวปฏิเวธวินิมุตฺโต นตฺถีติ นิปฺปริยายา ตตฺถ อตฺถปฏิสมฺภิทา เอกนฺติกอตฺถวิสยตฺตา. กิฺจิ ปน าณํ อปฺปฏิภานภูตํ นตฺถิ เยฺยปฺปกาสนโตติ สพฺพสฺมิมฺปิ าเณ นิปฺปริยายา ปฏิภานปฏิสมฺภิทา ภวิตุํ อรหติ. นิปฺปริยายปฏิสมฺภิทาสุ ปฺหปุจฺฉกสฺส ปวตฺติยํ ทฺเวปิ ปาฬิโย น วิรุชฺฌนฺติ.
สทฺทารมฺมณตฺตา พหิทฺธารมฺมณาติ เอตฺถ ปรสฺส อภิลาปสทฺทารมฺมณตฺตาติ ภวิตพฺพํ. น หิ สทฺทารมฺมณตา พหิทฺธารมฺมณตาย การณํ สทฺทสฺส อชฺฌตฺตสฺส จ สพฺภาวาติ. อนุวตฺตมาโน จ โส เอว สทฺโทติ วิเสสนํ น กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิสมฺภิทาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. าณวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๗๕๑. โอกาสฏฺเน ¶ ¶ สมฺปยุตฺตา ธมฺมา อารมฺมณฺจาปิ าณสฺส วตฺถุ. ยาถาวกวตฺถุวิภาวนาติ นเหตาทิอวิตเถกปฺปการวตฺถุวิภาวนา. ยถา เอกํ นเหตุ, ตถา เอกํ อฺมฺปีติ หิ คเหตพฺพํ อวิตถสามฺยุตฺตํ าณารมฺมณํ ยาถาวกวตฺถุ. ยาถาวเกน วา อวิตถสามฺเน วตฺถุวิภาวนา ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา.
ทุกานุรูเปหีติ ทุกมาติกานุรูเปหีติ วทนฺติ. โอสานทุกสฺส ปน ทุกมาติกํ อนิสฺสาย วุตฺตตฺตา ทุกภาวานุรูเปหีติ วตฺตพฺพํ. เอวํ ติกานุรูเปหีติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. โอสานทุเก ปน อตฺโถติ ผลํ, อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ ตํ ชเนตีติ อตฺถชาปิกา, การณคตา ปฺา. ชาปิโต ชนิโต อตฺโถ เอติสฺสาติ ชาปิตตฺถา, การณปฺาสทิสี ผลปฺปกาสนภูตา ผลสมฺปยุตฺตา ปฺา.
๑๐. ทสกมาติกาวณฺณนา
๗๖๐. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย. กตมา…เป… โย โข มํ, สาริปุตฺต, เอวํ ชาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๒) วจเนน จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ วุตฺตํ, ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ปฺจคติปริจฺเฉทกํ. ‘‘สํยุตฺตเก อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปน นิทานวคฺเค สตฺตสตฺตติ อาคตานิ จตุจตฺตารีสฺจ, เตสตฺตติ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค สุตมยาทีนิ อาคตานิ ¶ ทิสฺสนฺติ, น สํยุตฺตเกติ. อฺานิปีติ เอเตน อิธ เอกกาทิวเสน วุตฺตํ, อฺตฺถ จ ‘‘ปุพฺพนฺเต าณ’’นฺติอาทินา, พฺรหฺมชาลาทีสุ จ ‘‘ตยิทํ ตถาคโต ปชานาติ ‘อิมานิ ทิฏฺิฏฺานานิ เอวํ คหิตานี’ติ’’อาทินา วุตฺตํ อเนกาณปฺปเภทํ สงฺคณฺหาติ. ยาถาวปฏิเวธโต สยฺจ อกมฺปิยํ ปุคฺคลฺจ ตํสมงฺคึ เยฺเยสุ อธิพลํ กโรตีติ อาห ‘‘อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภกฏฺเน จา’’ติ.
เสฏฺฏฺานํ ¶ สพฺพฺุตํ. ปฏิชานนวเสน สพฺพฺุตํ อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, อฏฺ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา, พุทฺธา. อิทํ ปนาติ พุทฺธานํ านํ สพฺพฺุตเมว วทติ. ติฏฺมาโนวาติ อวทนฺโตปิ ติฏฺมาโนว ปฏิชานาติ นามาติ อตฺโถ. อฏฺสุ ปริสาสุ ‘‘อภิชานามหํ, สาริปุตฺต, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ…เป… ตตฺร วต มํ ภยํ วา สารชฺชํ วา โอกฺกมิสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๑) วจเนน ทสฺสิตอกมฺปิยาณยุตฺโต ทสพโลหนฺติ อภีตนาทํ นทติ. สีหนาทสุตฺเตน ขนฺธกวคฺเค อาคเตน.
‘‘เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) สุตฺตเสเสน สปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ ผลสมฺปตฺติ ปวตฺติ, ปุริมสปฺปุริสูปสฺสยาทึ อุปนิสฺสาย ปจฺฉิมสปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ สมฺปตฺติ ปวตฺติ วา วุตฺตาติ อาทิ-สทฺเทน ตตฺถ จ จกฺก-สทฺทสฺส คหณํ เวทิตพฺพํ. ปฏิเวธนิฏฺตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ ปฏิเวโธติ ‘‘ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปฏิลทฺธสฺสปิ เทสนาาณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติปรสฺส พุชฺฌนมตฺเตน โหตีติ ‘‘อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติผลกฺขเณ ปวตฺตํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ยาว ปรินิพฺพานา เทสนาาณปฺปวตฺติ ตสฺเสว ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส านนฺติ เวทิตพฺพํ, ปวตฺติตจกฺกสฺส จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนฏฺานํ วิย.
สมาทียนฺตีติ สมาทานานิ, ตานิ ปน สมาทิยิตฺวา กตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาทิยิตฺวา กตาน’’นฺติ. กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานนฺติ เอเตน สมาทาน-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวํ ทสฺเสติ มุตฺตคต-สทฺเท คต-สทฺทสฺส วิย.
อคติคามินินฺติ ¶ นิพฺพานคามินึ. วุตฺตฺหิ ‘‘นิพฺพานฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามิ นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓).
หานภาคิยธมฺมนฺติ หานภาคิยสภาวํ, กามสหคตสฺาทิธมฺมํ วา. ตํ การณนฺติ ปุพฺเพว กตาภิสงฺขาราทึ.
‘‘อิทานี’’ติ เอตสฺส ‘‘อิมินา อนุกฺกเมน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานี’’ติ อิมินา สห โยชนา กาตพฺพา. กิเลสาวรณํ ตทภาวฺจาติ กิเลสาวรณาภาวํ. กิเลสกฺขยาธิคมสฺส หิ กิเลสาวรณํ อฏฺานํ, ตทภาโว านํ. อนธิคมสฺส กิเลสาวรณํ านํ, ตทภาโว ¶ อฏฺานนฺติ. ตตฺถ ตทภาวคฺคหเณน คหิตํ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย สมฺมาทิฏฺิยา ิตึ ตพฺพิปรีตาย านาภาวฺจ อธิคมสฺส านํ ปสฺสนฺเตน อิมินา าเณน อธิคมานธิคมานํ านาฏฺานภูเต กิเลสาวรณตทภาเว ปสฺสติ ภควาติ อิมมตฺถํ สาเธนฺโต อาห ‘‘โลกิยสมฺมาทิฏฺิิติทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิานาภาวทสฺสนโต จา’’ติ. เอตฺถ จ อธิคมฏฺานทสฺสนเมว อธิปฺเปตํ อุปริ ภพฺพปุคฺคลวเสเนว วิปากาวรณาภาวทสฺสนาทิกสฺส วกฺขมานตฺตา. อิมินา ปน าเณน สิชฺฌนโต ปสงฺเคน อิตรมฺปิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ธาตุเวมตฺตทสฺสนโตติ ราคาทีนํ อธิมตฺตตาทิวเสน ตํสหิตานํ ธาตูนํ เวมตฺตตาทสฺสนโต, ‘‘อยํ อิมิสฺสา ธาตุยา อธิมตฺตตฺตา ราคจริโต’’ติอาทินา จริยาเหตูนํ วา, ราคาทโย เอว วา ปกติภาวโต ธาตูติ ราคาทิเวมตฺตทสฺสนโตติ อตฺโถ. ปโยคํ อนาทิยิตฺวาติ สนฺตติมหามตฺตองฺคุลิมาลาทีนํ วิย กามราคพฺยาปาทาทิวเสน ปโยคํ อนาทิยิตฺวา.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๑. น เหตุเมวาติ เอตฺถ จ น เหตู เอวาติ อตฺโถ, พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสน ปน รสฺสตฺตํ ม-กาโร จ กโต ‘‘อทุกฺขมสุขา’’ติ เอตฺถ วิย. อิมินาปิ นเยนาติ เอตฺถ ปุริมนเยน เหตุภาวาทิปฏิกฺเขโป, ปจฺฉิมนเยน นเหตุธมฺมาทิโกฏฺาสสงฺคโหติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. จุติคฺคหเณน จุติปริจฺฉินฺนาย เอกาย ชาติยา คหณํ ทฏฺพฺพํ, ภวคฺคหเณน นวธา วุตฺตภวสฺส. ตทนฺโตคธตาย ตตฺถ ตตฺถ ปริยาปนฺนตา วุตฺตา. อุปฺปนฺนํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ ¶ ‘‘น รูปํ วิย อุปฺปนฺนา ฉวิฺาณวิฺเยฺยา’’ติ รูปโต เอเตสํ วิเสสนํ กโรติ.
๗๖๒. กปฺปโต กปฺปํ คนฺตฺวาปิ น อุปฺปชฺชตีติ น กทาจิ ตถา อุปฺปชฺชติ. น หิ ขีราทีนํ วิย เอเตสํ ยถาวุตฺตลกฺขณวิลกฺขณตา อตฺถีติ ทสฺเสติ.
๗๖๓. สโมธาเนตฺวาติ โลเก วิชฺชมานํ สพฺพํ รูปํ สโมธาเนตฺวา. เอเตน มหตฺเตปิ อวิภาวกตฺตํ ทสฺเสนฺโต สุขุมตฺตา น วิภาเวสฺสตีติ ¶ วาทปถํ ฉินฺทติ. จกฺขุปสาเท มม วตฺถุมฺหีติ อตฺโถ. วิสโยติ อิสฺสริยฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย.
๗๖๔. อพฺโพกิณฺณาติ อพฺยวหิตา, อนนฺตริตาติ อตฺโถ. ววตฺถิตานมฺปิ ปฏิปาฏินิยโม เตน ปฏิกฺขิตฺโตติ อตฺโถ. อนนฺตรตาติ อนนฺตรปจฺจยตา เอเตน ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.
๗๖๕. สมนนฺตรตาติ จ สมนนฺตรปจฺจยตา.
๗๖๖. อาภุชนโตติ อาภุคฺคกรณโต, นิวตฺตนโต อิจฺเจว อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺจ วิฺาณา อนาโภคา’’ติ อาโภคสภาวา น โหนฺตีติ อตฺโถ, ‘‘ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ นตฺถิ อาวฏฺฏนา วา’’ติอาทีสุปิ อาวฏฺฏนภาโว วาติอาทินา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ น สพฺเพ รูปาทิธมฺมา ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ ยถาธิปฺเปตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ อาห.
รูปาทีสุ อภินิปตนํ เตหิ สมาคโม เตสนฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ อาห ‘‘รูปาทีนํ อภินิปาตมตฺต’’นฺติ. กมฺมตฺเถ วา สามิวจนํ. วิฺาเณหิ อภินิปติตพฺพานิ หิ รูปาทีนีติ. อิทํ วุตฺตํ โหตีติอาทีสุ หิ อยํ อธิปฺปาโย – อารมฺมณกรเณน ปฏิวิชานิตพฺพานิ รูปาทีนิ เปตฺวา กุสลากุสลเจตนาย ตํสมฺปยุตฺตานฺจ ยถาวุตฺตานํ สหชปุพฺพงฺคมธมฺเมน ปฏิวิชานิตพฺพานํ ปฏิวิชานนํ เอเตสํ นตฺถีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทสฺสนาทิมตฺตโต ¶ ปน มุตฺตา อฺา เอเตสํ กุสลาทิปฏิวิฺตฺติ นาม นตฺถี’’ติ กิจฺจนฺตรํ ปฏิเสเธติ.
อวิปากภาเวน อฺํ อพฺยากตสามฺํ อนิวาเรนฺโต กุสลากุสลคฺคหณฺจ กโรตีติ จวนปริโยสานฺจ กิจฺจํ. ปิ-สทฺเทน สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ปฺจทฺวาเร ปฏิเสธเน อยํ อธิปฺปาโย สิยา – ‘‘มนสา เจ ปทุฏฺเน…เป… ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตา ภาสนกรณกรา, ตํสทิสา จ สุขทุกฺขุปฺปาทกา พลวนฺโต ฉฏฺทฺวาริกา เอว ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ น เตสํ ปฺจทฺวาริกชวเนน ปฏิวิชานนํ อตฺถิ, ทุพฺพลานํ ปน ปุพฺพงฺคมปฏิวิชานนํ ตตฺถ น ปฏิสิทฺธํ ‘‘น ¶ กายกมฺมํ น วจีกมฺมํ ปฏฺเปตี’’ติ วิฺตฺติทฺวยชนกสฺเสว ปฏฺปนปฏิกฺเขเปน ทุพฺพลสฺส มโนกมฺมสฺส อนฺุาตตฺตา. ตถา กายสุจริตาทิกุสลกมฺมํ กโรมีติ, ตพฺพิปรีตํ อกุสลํ กมฺมํ กโรมีติ จ กุสลากุสลสมาทานํ ปฺจทฺวาริกชวเนน น โหติ. ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนายํ วุตฺตา ‘‘ปฺจทฺวาริกจุติ จ น ปฺจทฺวาริกจิตฺเตหิ โหติ จุติจิตฺตสฺส อตํทฺวาริกตฺตา’’ติ. ยา ปนายํ ปาฬิ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาติ อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ, ตสฺสา รูปาทีนํ อาปาถมตฺตํ มฺุจิตฺวา อฺํ กฺจิ ธมฺมสภาวํ น ปฏิวิชานาตีติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ รูปํ ปฏิคฺคณฺหนฺตมฺปิ จกฺขุวิฺาณํ รูปนฺติ จ คณฺหาตีติ. สมฺปฏิจฺฉนสฺสปิ รูปนีลาทิอาการปฏิวิชานนํ นตฺถีติ กิฺจิ ธมฺมสฺส ปฏิวิชานนํ ปฏิกฺขิตฺตํ, ปฺจหิ ปน วิฺาเณหิ สาติสยํ ตสฺส วิชานนนฺติ ‘‘อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปาฬิยํ พหิทฺธาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา, ตโต อฺํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทํ อิจฺฉนฺเตหิ ปฺจทฺวารชวเนน ปฏิสมฺภิทาาณสฺส สหุปฺปตฺติ ปฏิสิทฺธา. รูปารูปธมฺเมติ รูปารูปาวจรธมฺเมติ อตฺโถ.
ปฺจทฺวาริกจิตฺเตน น ปฏิพุชฺฌตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ รูปาทีนํ อาปาถคมเน นิทฺทาปฏิโพโธ โหตีติ? น, ปมํ มโนทฺวาริกชวนสฺส อุปฺปตฺติโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นิทฺทายนฺตสฺส หี’’ติอาทิ. ปโลเภตฺวา สจฺจสุปิเนน.
อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโตติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตสฺสา ¶ เอว วเสนาติ ตสฺสา วเสน เอกวิเธน าณวตฺถุ โหตีติ จ, เวทิตพฺพนฺติ จ โยชนา กาตพฺพา.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๗. อตฺถ-สทฺโท อฺตฺร สภาวํ คเหตฺวา อธิกรเณสุ ปวตฺตมาโน อธิกรณวเสน ลิงฺคปริวตฺตึ คจฺฉตีติ อธิปฺปาเยน ชาปิตา ¶ จ สา อตฺถา จาติ ชาปิตตฺถาติ อยมตฺโถ วิภาวิโตติ ทฏฺพฺโพ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๘. ปฺาปริณามิเตสูติ ปฺาย ปริปาจิเตสุ. ‘‘โยควิหิเตสูติ อิทฺจ วิสยวิเสสนมตฺตเมว, ตสฺมา ยานิ ปฺาย วิหิตานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จ, สพฺพานิ ตานิ โยควิหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. สิกฺขิตฺวา กาตพฺพํ สิปฺปํ, อิตรํ กมฺมํ. อยเมเตสํ วิเสโส. วฑฺฒกีกมฺมนฺติ จ อสิกฺขิตฺวาปิ กาตพฺพํ ถูลกมฺมํ ‘‘กมฺม’’นฺติ ทฏฺพฺพํ, ปฺา เอว วา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘กมฺมํ สิปฺป’’นฺติ จ เวทิตพฺพา. นาคมณฺฑลํ นาม มณฺฑลํ กตฺวา สปฺเป วิชฺชาย ปกฺโกสิตฺวา พลึ ทตฺวา วิสาปนยนํ. ปริตฺตํ รกฺขา, เยน ‘‘ผู’’ติ มุขวาตํ ทตฺวา วิสํ อปนยนฺติ, โส อุณฺณนาภิอาทิมนฺโต ผุธมนกมนฺโต. ‘‘อ อา’’ติอาทิกา มาติกา ‘‘ก กา’’ติอาทิโก ตปฺปเภโท จ เลขา.
กุสลํ ธมฺมํ สกํ, อิตรํ โนสกํ. จตุนฺนํ สจฺจานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานํ ตปฺปฏิเวธปจฺจยภาเวน อนุโลมนํ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺเพ ‘‘โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสู’’ติอาทินา ปฺา ¶ วุตฺตา, ปุน ตสฺสา เววจนวเสน ‘‘อนุโลมิกํ ขนฺติ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนุ…เป… ปฺาเววจนานี’’ติ อาห. เอตฺถ จ เอวรูปินฺติ ยถาวุตฺตกมฺมายตนาทิวิสยํ กมฺมสฺสกตสจฺจานุโลมิกสภาวํ อนิจฺจาทิปวตฺติอาการฺจาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตา จ ภูมิสภาวปวตฺติอาการนิทฺเทสา ขนฺติอาทีหิ โยเชตพฺพา. ยสฺสา ปฺาย ธมฺมา นิชฺฌานปชานนกิจฺจสงฺขาตํ โอโลกนํ ขมนฺติ อวิปรีตสภาวตฺตา, สา ปฺา ธมฺมานํ นิชฺฌานกฺขมนํ เอติสฺสา อตฺถีติ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตีติ อตฺโถ.
๗๖๙. อสํวรํ มฺุจตีติ สมาทานสมฺปตฺตวิรติสมฺปยุตฺตเจตนา ‘‘สีลํ ปูเรนฺตสฺส มฺุจเจตนา’’ติ วุตฺตา. ปุพฺพาปรปฺาย จ ทานสีลมยตาวจนโต มฺุจอปรเจตนาวเสน ‘‘อารพฺภา’’ติ, ปุพฺพเจตนาวเสน ‘‘อธิกิจฺจา’’ติ จ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ‘‘อธิกิจฺจา’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ.
๗๗๐. ปฺจสีลทสสีลานิ ¶ วิฺาณสฺส ชาติยา จ ปจฺจยภูเตสุ สงฺขารภเวสุ อนฺโตคธานีติ ‘‘อุปฺปาทา วา’’ติอาทิกาย ธมฺมฏฺิติปาฬิยา สงฺคหิตานิ. ภวนิพฺพตฺตกสีลสฺส ปฺาปนํ สติปิ สวเน น ตถาคตเทสนายตฺตนฺติ ภิกฺขุอาทีนมฺปิ ตํ วุตฺตํ.
อธิปฺาย ปฺาติ อธิปฺาย อนฺโตคธา ปฺา. อถ วา อธิปฺานิพฺพตฺเตสุ, ตทธิฏฺาเนสุ วา ธมฺเมสุ อธิปฺา-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, ตตฺถ ปฺา อธิปฺาย ปฺา.
๗๗๑. อปายุปฺปาทนกุสลตา อปายโกสลฺลํ สิยาติ มฺมาโน ปุจฺฉติ ‘‘อปายโกสลฺลํ กถํ ปฺา นาม ชาตา’’ติ. ตํ ปน ปรสฺส อธิปฺปายํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ปฺวาเยว หี’’ติอาทิมาห. ตตฺรุปายาติ ตตฺร ตตฺร อุปายภูตา. าเน อุปฺปตฺติ เอตสฺสาติ านุปฺปตฺติยํ. กึ ตํ? การณชานนํ, ภยาทีนํ อุปฺปตฺติกฺขเณ ตสฺมึเยว าเน ลหุอุปฺปชฺชนกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๙๓. น ¶ ปริตสฺสตีติ ‘‘อปิ นาม เม ตณฺฑุลาทีนิ สิยุ’’นฺติ น ปตฺเถติ, ตทภาเวน วา น อุตฺตสติ.
๗๙๖. อปรปฺปจฺจเยติ ปเรน นปตฺติยายิตพฺเพ. ธมฺเม าณนฺติ สจฺจวิสยํ าณํ. อริยสจฺเจสุ หิ ธมฺม-สทฺโท เตสํ อวิปรีตสภาวตฺตาติ. สงฺขตปวโร วา อริยมคฺโค ตสฺส จ ผลํ ธมฺโม, ตตฺถ ปฺา ตํสหคตา ธมฺเม าณํ. น อฺาณุปฺปาทนํ นยนยนํ, าณสฺเสว ปน ปวตฺติวิเสโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจ’’นฺติ. เอตฺถ จ อิมินา ธมฺเมนาติ มคฺคาเณนาติ วุตฺตํ, ทุวิธมฺปิ ปน มคฺคผลาณํ ปจฺจเวกฺขณาย จ มูลํ, การณฺจ นยนยนสฺสาติ ทุวิเธนปิ เตน ธมฺเมนาติ น น ยุชฺชติ, ตถา จตุสจฺจธมฺมสฺส าตตฺตา, มคฺคผลสงฺขาตสฺส จ ธมฺมสฺส สจฺจปฏิเวธสมฺปโยคํ คตตฺตา นยนํ โหตีติ เตน อิมินา ธมฺเมน ¶ าณวิสยภาเวน, าณสมฺปโยเคน วา าเตนาติ จ อตฺโถ น น ยุชฺชติ.
ยทิปิ สพฺเพน สพฺพํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ อภิชานนฺติ, ตถาปิ ปจฺจุปฺปนฺเน สสนฺตติปริยาปนฺเน สวิเสเส อภินิเวโส โหตีติ อาห ‘‘น ตฺเว อิม’’นฺติ. ทิฏฺเน อทิฏฺเน นยโต นยนาณํ, อทิฏฺสฺส ทิฏฺตาย การณภูตตฺตา การณาณํ, อนุรูปตฺถวาจโก วา การณ-สทฺโทติ ธมฺเม าณสฺส อนุรูปาณนฺติ อตฺโถ.
สมฺมุติมฺหิ าณนฺติ ธมฺเม าณาทีนํ วิย สาติสยสฺส ปฏิเวธกิจฺจสฺส อภาวา วิสโยภาสนมตฺตชานนสามฺเน าณนฺติ สมฺมเตสุ อนฺโตคธนฺติ อตฺโถ. สมฺมุติวเสน วา ปวตฺตํ สมฺมุติมฺหิ าณํ, อวเสสํ ปน อิตราณตฺตยวิสภาคํ าณํ ตพฺพิสภาคสามฺเน สมฺมุติาณมฺหิ ปวิฏฺตฺตา สมฺมุติาณํ นาม โหตีติ.
๗๙๗. กิเลสมูลเก จาติ นีวรณมูลเก จ กามภวธมฺเม.
๗๙๘. สา หิสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ โย ‘‘กาเมสุ วีตราโค โหตี’’ติ เอวํ วุตฺโต, อสฺส ¶ ปมชฺฌานสมงฺคิสฺสาติ อตฺโถ. สฺเววาติ เอเตน กาเมสุ วีตราคภาวนาวตฺถสฺเสว ปมชฺฌานสมงฺคิสฺส คหเณ ปวตฺเต ตสฺส ตโต ปรํ อวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเมสุ วีตราโค สมาโน’’ติ วุตฺตํ. จตุตฺถมคฺคปฺา ฉฏฺาภิฺาภาวปฺปตฺติยา ตํ ปฏิวิชฺฌติ นาม, อิตรา ตทุปนิสฺสยตฺตา. ยถานุรูปํ วา อาสวกฺขยภาวโต, ผเล วา อาสวกฺขเย สติ ยถานุรูปํ ตํนิพฺพตฺตนโต จตูสุปิ มคฺเคสุ ปฺา ฉฏฺํ อภิฺํ ปฏิวิชฺฌตีติ ทฏฺพฺพา.
๗๙๙. กามสหคตาติ วตฺถุกามารมฺมณา. โจเทนฺตีติ กามาภิมุขํ ตนฺนินฺนํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุธมฺมา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. ตา-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตทนุรูปสภาวา’’ติ. นิกนฺตึ, นิกนฺติสหคตจิตฺตุปฺปาทํ วา ‘‘มิจฺฉาสตี’’ติ วทติ. ‘‘อโห วต เม อวิตกฺกํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ อวิตกฺการมฺมณา อวิตกฺกสหคตา.
๘๐๑. อธิคมภาเวน ¶ อภิมุขํ ชานนฺตสฺส อภิชานนฺตสฺส, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน ชานนฺตสฺส, อนารมฺมณภูตฺจ ตํ านํ ปากฏํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๘๐๒. วสิตาปฺจกรหิตํ ฌานํ อปฺปคุณํ. เอตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา จตฺตาริ อารมฺมณานีติ ปฺาย ปฏิปทารมฺมณุทฺเทเสน ปฺา เอว อุทฺทิฏฺาติ สา เอว วิภตฺตาติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๔. ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธีติ สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ. ปีติผรณตาทิวจเนน หิ ตเมว วิภชติ, ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) นเยน ปีติยา สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. ปีติผรณตาสุขผรณตาหิ อารมฺมเณ ตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปาทนโต ‘‘ปาทา วิยา’’ติ ตา วุตฺตา.
ทุติยปฺจเก ¶ จ ‘‘ปฺจาณิโก’’ติ สมาธิมุเขน ปฺจาณาเนว อุทฺทิฏฺานิ นิทฺทิฏฺานิ จาติ ทฏฺพฺพานิ. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ. อฺเ กิเลสา วาเรตพฺพา, อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคเนว อธิคตตฺตา จ ปิตตฺตา จ, อปริหานิวเสน ปิตตฺตา วา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตาติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนาติ เอเตน ปริจฺฉินฺทนสติยา สโตติ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๕. วิสุทฺธิภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทูร…เป… รมฺมณายา’’ติ อาห. โสตธาตุวิสุทฺธีติ จ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา วุตฺตาติ ตตฺถ าณํ โสตธาตุวิสุทฺธิยา าณํ. ‘‘เจโตปริยาณ’’นฺติ อิทเมว อตฺถวเสน ‘‘ปรจิตฺเต าณ’’นฺติ อุทฺธฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. จุตูปปาตาณสฺส ทิพฺพจกฺขุาเณกเทสตฺตา ‘‘วณฺณธาตุอารมฺมณา’’ติ วุตฺตํ. มุทฺธปฺปตฺเตน จุตูปปาตาณสงฺขาเตน ทิพฺพจกฺขุาเณน สพฺพํ ทิพฺพจกฺขุาณนฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๖. ตเทว าณนฺติ ฉพฺพิธมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณํ วิปสฺสนารมฺมณภาเวน สห คเหตฺวา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ธมฺมฏฺิติาเณนาติ ฉปิ าณานิ สงฺขิปิตฺวา วุตฺเตน าเณน. ขยธมฺมนฺติอาทินา ¶ หิ ปกาเรน ปวตฺตาณสฺส ทสฺสนํ, าณวิปสฺสนาทสฺสนโต วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนาทสฺสนมตฺตเมวาติ น ตํ องฺคนฺติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ ปน สพฺพตฺถ าณวจเนน องฺคานํ วุตฺตตฺตา นิโรธธมฺมนฺติ าณนฺติ อิติ-สทฺเทน ปกาเสตฺวา วุตฺตํ วิปสฺสนาาณํ สตฺตมํ าณนฺติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ ยมฺปิ ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ โหติ ตําณคฺคหเณ เอตสฺมึ าณภาวทสฺสนสฺส อนธิปฺเปตตฺตา, ‘‘ขยธมฺมํ…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติ เอเตสํ สมฺพนฺธาภาวปฺปสงฺคโต จาติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๘. วิหาริตพฺพฏฺเนาติ ปจฺจนีกธมฺเม, ทุกฺขํ วา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตตพฺพฏฺเน.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทโส
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๙. อวิชฺชมานํ ¶ านํ อฏฺานํ, นตฺถิ านนฺติ วา อฏฺานํ. เอส ‘‘อนวกาโส’’ติ เอตฺถาปิ นโย. ตทตฺถนิคมนมตฺตเมว หิ ‘‘เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วจนนฺติ. อสุเข สุขนฺติ ทิฏฺิวิปลฺลาโสว อิธ สุขโต อุปคมนสฺส านนฺติ อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกนฺต…เป… อตฺตทิฏฺิวเสนา’’ติ ปธานทิฏฺิมาห. เภทานุรูปสฺส สาวนํ อนุสฺสาวนํ, เภทานุรูเปน วา วจเนน วิฺาปนํ.
ลิงฺเค ¶ ปริวตฺเต จ โส เอว เอกกมฺมนิพฺพตฺติโต ภวงฺคปฺปพนฺโธ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ จ, นาฺโติ อาห ‘‘อปิ ปริวตฺตลิงฺค’’นฺติ. อยํ ปฺโหติ าปนิจฺฉานิพฺพตฺตา กถา.
สงฺคามจตุกฺกํ สปตฺตวเสน โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺถ จ ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตํ อปฺปมาณํ, วธกจิตฺตํ ปน ตทารมฺมณฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ อานนฺตริยานานนฺตริยภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ. กสฺมา? ยถา วธกจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทนวเสน อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ, น เอวํ จาคเจตนา. สา หิ จชิตพฺพํ อารมฺมณํ กตฺวา จชนมตฺตเมว โหติ, อฺสกกรณฺจ ตสฺส จชนํ, ตสฺมา ยสฺส ตํ สกํ กตํ, ตสฺเสว ทินฺนํ โหตีติ.
สณฺ…เป… กปฺปวินาเสเยว มุจฺจตีติ อิทํ กปฺปฏฺกถาย น สเมติ. ตตฺถ หิ อฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๖๕๔-๖๕๗) วุตฺตํ ‘‘อาปายิโกติ อิทํ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. กปฺปวินาเสเยวาติ ปน อายุกปฺปวินาเสเยวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. เอตฺถ จ สณฺหนฺเตติ อิทํ สฺเว วินสฺสิสฺสตีติ วิย อภูตปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. เอกทิวสเมว ปจฺจติ ตโต ปรํ กปฺปาภาเวน อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา.
ปกตตฺโตติ อนุกฺขิตฺโต. สมานสํวาสโกติ อปาราชิโก.
กึ ¶ ปน ตนฺติ โย โส ‘‘นิยโต’’ติ วุตฺโต, ตํ กึ นิยเมตีติ อตฺโถ. ตสฺเสว ปน ยถาปุจฺฉิตสฺส นิยตสฺส มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมานํ วิย สภาวโต วิชฺชมานตํ ยถาปุจฺฉิตฺจ นิยามกเหตุํ ปฏิเสเธตฺวา เยน ‘‘นิยโต’’ติ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโก’’ติ จ วุจฺจติ, ตํ ยถาธิปฺเปตการณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน หี’’ติอาทิมาห. ชาตสฺส กุมารสฺส วิย อริยาย ชาติยา ชาตสฺส นามมตฺตเมตํ นิยตสตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ, นิยตานิยตเภทํ นามนฺติ อตฺโถ. ยทิ ปุพฺพเหตุ นิยามโก, โสตาปนฺโน จ นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคโต อุทฺธํ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสยภาวโต ปุพฺพเหตุกิจฺจํ, ตโต ปุพฺเพ ปน ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยาภาโว อาปชฺชติ. ยทิ หิ ตสฺสปิ ปุพฺพเหตุ อุปนิสฺสโย สิยา, โส จ นิยามโกติ โสตาปตฺติมคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เอว นิยโต สิยา, ตฺจ อนิฏฺํ, ตสฺมาสฺส ¶ ปุพฺพเหตุนา อเหตุกตา อาปนฺนาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตึ ปาปุณาตี’’ติ.
ปฏิลทฺธมคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, เตเนว สตฺตกฺขตฺตุปรมาทินิยเม สติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตนกสฺส ทุกฺขสฺส มูลภูตา กิเลสา เตเนว ขีณาติ อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยทิ อุปริ ตโย มคฺคา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ นิยเมนฺติ, ตโต จ อฺโ โสตาปนฺโน นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อกิจฺจกตา นิปฺปโยชนตา อาปชฺชตีติ อตฺโถ. อถ สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหานํ ทสฺสนกิจฺจํ, เตสํ ปหาเนน สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตาย ภวิตพฺพํ. สา จุปริมคฺเคหิ เอว โหตีติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺติโต เตน วินา วุฏฺาเน สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหาเนน จ เตน วินา ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปมมคฺเคน จ อนุปฺปชฺชิตฺวาว กิเลสา เขเปตพฺพา โหนฺตี’’ติ. น อฺโ โกจิ นิยเมตีติ นามกรณนิมิตฺตโต วิปสฺสนาโต อฺโ โกจิ นิยามโก นาม นตฺถีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาว นิยเมตีติ จ นามกรณนิมิตฺตตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อิติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตนามมตฺตเมว ต’’นฺติ.
น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทึ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส ¶ สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺาหํ, ภนฺเต, โนติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๙) อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินา จ พุทฺธกฺเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.
‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา วุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ มาติกา, ตาย อนฺตรหิตาย นิทานุทฺเทสสงฺขาเต ปาติโมกฺเข ปพฺพชฺชูปสมฺปทากมฺเมสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปาติโมกฺเข วา อนฺโตคธา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ตทุภยาภาเว ปาติโมกฺขาภาวโต, ตสฺมา ปาติโมกฺเข, ตาสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ วุตฺตํ. โอสกฺกิตํ นามาติ ปจฺฉิมปฏิเวธสีลเภททฺวยํ เอกโต กตฺวา ตโต ปรํ วินฏฺํ นาม โหตีติ อตฺโถ.
ตาติ รสฺมิโย. การฺุนฺติ ปริเทวนการฺุํ.
อนจฺฉริยตฺตาติ ¶ ทฺวีสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ อจฺฉริยตฺตาภาวโทสโตติ อตฺโถ. วิวาทภาวโตติ วิวาทาภาวตฺถํ ทฺเว น อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.
เอกํ พุทฺธํ ธาเรตีติ เอกพุทฺธธารณี. เอเตน เอวํสภาวา เอเต พุทฺธคุณา, เยน ทุติยพุทฺธคุเณ ธาเรตุํ อสมตฺถา อยํ โลกธาตูติ ทสฺเสติ. ปจฺจยวิเสสนิปฺผนฺนานฺหิ ธมฺมานํ สภาววิเสโส น สกฺกา ธาเรตุนฺติ. สมํ อุทฺธํ ปชฺชตีติ สมุปาทิกา, อุทกสฺโสปริ สมํ คามินีติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปีติ ทฺเวปิ, ทฺวินฺนมฺปิ วา สรีรภารํ. ฉาเทนฺตนฺติ โรจยมานํ. สกึ ภุตฺโตวาติ เอกมฺปิ อาโลปํ อชฺโฌหริตฺวาว มเรยฺยาติ อตฺโถ.
อติธมฺมภาเรนาติ ธมฺเมน นาม ปถวี ติฏฺเยฺย, สา กึ เตเนว จลตีติ อธิปฺปาโย. ปุน เถโร ‘‘รตนํ นาม โลเก กุฏุมฺพํ สนฺธาเรนฺตํ อภิมตฺจ โลเกน อตฺตโน ครุสภาวตาย สกฏภงฺคสฺส การณํ อติภารภูตํ ทิฏฺํ. เอวํ ธมฺโม จ หิตสุขวิเสเสหิ ตํสมงฺคินํ ธาเรนฺโต อภิมโต จ วิฺูหิ คมฺภีราปฺปเมยฺยภาเวน ครุสภาวตฺตา อติภารภูโต ปถวีจลนสฺส การณํ โหตี’’ติ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา’’ติอาทิมาห. เอกสฺสาติ เอกสฺมา, เอกสฺส วา สกฏสฺส รตนํ, ตสฺมา สกฏโต คเหตฺวาติ อตฺโถ. โอสาริตนฺติ ปเวสิตํ อาหฏํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
สภาวปกติกาติ อกิตฺติมปกติกาติ อตฺโถ. การณมหนฺตตฺตาติ มหนฺเตหิ ปารมิตาการเณหิ พุทฺธคุณานํ นิพฺพตฺติโตติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีอาทโย มหนฺตา อตฺตโน อตฺตโน วิสเย เอเกกาว, เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ มหนฺโต อตฺตโน วิสเย เอโก เอว. โก จ ตสฺส วิสโย? ยาวตกํ เยฺยํ, เอวํ อากาโส วิย อนนฺตวิสโย ภควา เอโก เอว โหตีติ วทนฺโต โลกธาตฺวนฺตเรสุปิ ทุติยสฺส อภาวํ ทสฺเสติ.
ปุพฺพภาเค อายูหนวเสน อายูหนสมงฺคิตา สนฺนิฏฺานเจตนาวเสน เจตนาสมงฺคิตา จ เวทิตพฺพา, สนฺตติขณวเสน วา. วิปาการหนฺติ ทุติยภวาทีสุ วิปจฺจนปกติตํ สนฺธาย วทติ. จลตีติ ปริวตฺตติ. สุนเขหิ วชนสีโล สุนขวาชิโก.
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๐. คติโต ¶ อฺา คติสมฺปตฺติ นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปนฺนา คตี’’ติ อาห. มหาสุทสฺสนาทิสุราชกาโล ปมกปฺปิกาทิสุมนุสฺสกาโล จ กาลสมฺปตฺติ.
เอกนฺตํ กุสลสฺเสว โอกาโสติ อิทํ ยทิปิ โกจิ กายสุจริตาทิปโยคสมฺปตฺติยํ ิตํ พาเธยฺย, ตํ ปน พาธนํ พาธกสฺเสว อิสฺสาทินิมิตฺเตน วิปรีตคฺคาเหน ชาตํ. สา ปโยคสมฺปตฺติ สภาวโต สุขวิปากสฺเสว ปจฺจโย, น ทุกฺขวิปากสฺสาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. มกฺกโฏ ภตฺตปุฏํ พนฺธฏฺาเน มฺุจิตฺวา ภฺุชิตุํ น ชานาติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ภินฺทิตฺวา วินาเสติ, เอวํ อนุปายฺูปิ โภเค. สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวาติอาทินา ฆาเตตฺวา ฉฑฺฑิตสฺส วุฏฺานาภาโว วิย อปายโต วุฏฺานาภาโวติ ทสฺเสติ.
‘‘ปจฺจรี’’ติปิ ¶ อุฬุมฺปสฺส นามํ, เตน เอตฺถ กตา ‘‘มหาปจฺจรี’’ติ วุจฺจติ. อุทเก มรณํ ถเล มรณฺจ เอกเมวาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ สกฺเกน ‘‘สมุทฺทารกฺขํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ วุตฺตํ, ชีวิตสฺส ลหุปริวตฺติตํ ปกาเสนฺเตหิ เถเรหิ เอวํ วุตฺตํ, ลหุปริวตฺติตาย ชีวิตเหตุ น คมิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อถ วา อุทเกติ นาคทีปํ สนฺธาย วุตฺตํ, ถเลติ ชมฺพุทีปํ.
เถโร น เทตีติ กถมหํ เอเตน าโต, เกนจิ กิฺจิ อาจิกฺขิตํ สิยาติ สฺาย น อทาสิ. เตเนว ‘‘มยมฺปิ น ชานามา’’ติ วุตฺตํ. อปรสฺสาติ อปรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตํ อาทาย…เป… เถรสฺส หตฺเถ เปสีติ โยชนา. อนายตเนติ นิกฺการเณ, อยุตฺเต วา นสฺสนฏฺาเน. ตุวํ อตฺตานํ รกฺเขยฺยาสิ, มยํ ปน มหลฺลกตฺตา กึ รกฺขิตฺวา กริสฺสาม, มหลฺลกตฺตา เอว จ รกฺขิตุํ น สกฺขิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อนาคามิตฺตา วา เถโร อตฺตนา วตฺตพฺพํ ชานิตฺวา โอวทติ.
สมฺมาปโยคสฺส คตมคฺโคติ สมฺมาปโยเคน นิปฺผาทิตตฺตา ตสฺส สฺชานนการณนฺติ อตฺโถ.
ภูตมตฺถํ ¶ กตฺวา อภูโตปมํ กถยิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ ภณฺฑาคาริกาทินิยุตฺตา มนุสฺสา มหนฺตตฺตา สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๑. อฺจิตาติ คตา. เปจฺจาติ ปุน, มริตฺวาติ วา อตฺโถ. อุสฺสนฺนตฺตาติ วิตกฺกพหุลตาย อุสฺสนฺนตฺตาติ วทนฺติ, สูรตาทีหิ วา อุสฺสนฺนตฺตา. ทิพฺพนฺตีติ กีฬนฺติ.
สฺชีวกาฬสุตฺตสงฺฆาตโรรุวมหาโรรุวตาปนมหาตาปนอวีจิโย อฏฺ มหานิรยา. เอเกกสฺส จตฺตาริ ทฺวารานิ, เอเกกสฺมึ ทฺวาเร จตฺตาโร จตฺตาโร คูถนิรยาทโยติ เอวํ โสฬส อุสฺสทนิรเย วณฺณยนฺติ.
สกฺกสุยามาทโย ¶ วิย เชฏฺกเทวราชา. ปชาปติวรุณอีสานาทโย วิย ทุติยาทิฏฺานนฺตรการโก ปริจารโก หุตฺวา.
ตติยพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๒. กปฺโปติ ทฺเวธาภูตคฺโค. เอตฺถ จ พีชาทิธาตุนานตฺตวเสน ขนฺธาทิธาตุนานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๓. อชฺฌาสยธาตูติ ¶ อชฺฌาสยสภาโว. ยถา คูถาทีนํ ธาตุสภาโว เอโส, ยํ คูถาทีเหว สํสนฺทติ, เอวํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยสฺเสเวส สภาโว, ยํ ทุสฺสีลาทโย ทุสฺสีลาทิเกเหว สํสนฺทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูปิ อาหํสูติ อฺมฺํ อาหํสุ. อาวุโส อิเม มนุสฺสา ‘‘ยถาสภาเคน ปริภฺุชถา’’ติ วทนฺตา อมฺเห สภาคาสภาเค วิทิตฺวา หีนชฺฌาสยปณีตชฺฌาสยตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ธาตุสํยุตฺตกมฺเม อุปเนนฺติ ตสฺส ปโยคํ ทฏฺุกามาติ อตฺโถ, เอวํ สภาควเสเนว อชฺฌาสยธาตุปริจฺฉินฺทนโต อชฺฌาสยธาตุสภาควเสน นิยเมตีติ อธิปฺปาโย.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา
จริตนฺติ อิธ ทุจฺจริตํ สุจริตนฺติ วุตฺตํ. อปฺปรชํ อกฺขํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขาติ อตฺโถ วิภาวิโต, อปฺปรชํ อกฺขิมฺหิ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขาติปิ สทฺทตฺโถ สมฺภวติ. เอตฺถ จ อาสยชานนาทินา เยหิ ¶ อินฺทฺริเยหิ ปโรปเรหิ สตฺตา กลฺยาณปาปาสยาทิกา โหนฺติ, เตสํ ชานนํ วิภาเวตีติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยาณานํ วิสุํ อสาธารณตา, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนานาธิมุตฺติกตาาณานํ วิสุํ พลตา จ สิทฺธา โหติ.
๘๑๕. ยทริยาติ เย อริยา. อาวสึสูติ นิสฺสาย วสึสุ. เก ปน เต? ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต เอการกฺโข จตุราปสฺเสโน ปนุณฺณปจฺเจกสจฺโจ สมวยสฏฺเสโน อนาวิลสงฺกปฺโป ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร สุวิมุตฺตจิตฺโต สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๑๐.๑๙) เอวํ วุตฺตา. เอเตสุ ปฺจงฺควิปฺปหีนปจฺเจกสจฺจปโนทนเอสนาสมวยสชฺชนานิ ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ อธิวาเสติ ปริวชฺเชติ วิโนเทตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๖๘) วุตฺเตสุ อปสฺเสเนสุ วิโนทนฺจ มคฺคกิจฺจาเนว, อิตเร จ มคฺเคเนว สมิชฺฌนฺติ. เตนาห ‘‘เอตฺหิ สุตฺตํ…เป… ทีเปตี’’ติ.
๘๑๖. อารมฺมณสนฺตานานุสยเนสุ ¶ อิฏฺารมฺมเณ อารมฺมณานุสยเนน อนุเสติ. อาจิณฺณสมาจิณฺณาติ เอเตน สมนฺตโต เวเตฺวา วิย ิตภาเวน อนุสยิตตํ ทสฺเสติ. ภวสฺสปิ วตฺถุกามตฺตา, ราควเสน วา สมานตฺตา ‘‘ภวราคานุสโย…เป… สงฺคหิโต’’ติ อาห.
๘๑๘. ‘‘ปณีตาธิมุตฺติกา ติกฺขินฺทฺริยา, อิตเร มุทินฺทฺริยา’’ติ เอวํ อินฺทฺริยวิเสสทสฺสนตฺถเมว อธิมุตฺติคฺคหณนฺติ อาห ‘‘ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยภาวทสฺสนตฺถ’’นฺติ.
๘๑๙. ปหานกฺกมวเสนาติ เอตฺถ ปหาตพฺพปชหนกฺกโม ปหานกฺกโมติ ทฏฺพฺโพ, ยสฺส ปหาเนน ภวิตพฺพํ, ตํ เตเนว ปหาเนน ปมํ วุจฺจติ, ตโต อปฺปหาตพฺพนฺติ อยํ วา ปหานกฺกโม.
๘๒๐. มคฺคสฺส อุปนิสฺสยภูตานิ อินฺทฺริยานิ อุปนิสฺสยอินฺทฺริยานิ.
๘๒๖. นิพฺพุติฉนฺทรหิตตฺตา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ยสฺมึ ภวงฺเค ปวตฺตมาเน ตํสนฺตติยํ โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺตติ, ตํ ตสฺส ปาทกํ.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๒๘. นิทฺทายิตฺวาติ ¶ กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิพุทฺโธ สมาปตฺตึ สมาปนฺโนมฺหีติ อตฺโถ. นีวรณาทีหิ วิสุทฺธจิตฺตสนฺตติ เอว จิตฺตมฺชูสา, สมาธิ วา, กมฺมฏฺานํ วา. จิตฺตํ เปตุนฺติ สมาปตฺติจิตฺตํ เปตุํ. สฺาเวทยิตานํ อปคโม เอว อปคมวิโมกฺโข.
สฺามนสิการานํ กามาทิทุติยชฺฌานาทิปกฺขนฺทนานิ ‘‘หานภาคิยวิเสสภาคิยธมฺมา’’ติ ¶ ทสฺสิตานิ, เตหิ ปน ฌานานํ ตํสภาวตา ธมฺม-สทฺเทน วุตฺตา. ปคุณภาวโวทานํ ปคุณโวทานํ. ตเทว ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺหิตฺวา ทุติยชฺฌานาทิอธิคมสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘วุฏฺานํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ อิมาย วุฏฺานปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา นิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ ‘‘ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เย ปน ‘‘นิโรธโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺาน’’นฺติ ปาฬิ นตฺถีติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) อิมาย ปาฬิยา ปฏิเสเธตพฺพา.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๓๑. ราคาทีหิ เจตโส วิมุตฺติภูโต สมาธิ เจโตวิมุตฺติ. ปฺาว วิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺติ. กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมวาติ กมฺมนฺตรสฺส วิปากนฺตรเมวาติ อตฺโถ. เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตกธมฺเม นิรยาทินิพฺพานคามินิปฏิปทาภูเต กมฺมนฺติ คเหตฺวา อาห ‘‘กมฺมปริจฺเฉทเมวา’’ติ. อปฺเปตุํ น สกฺโกติ อฏฺมนวมพลานิ วิย, ตํสทิสํ อิทฺธิวิธาณํ วิย วิกุพฺพิตุํ. เอเตน ทสพลสทิสตฺจ วาเรติ, ฌานาทิาณํ วิย วา อปฺเปตุํ วิกุพฺพิตฺุจ. ยทิปิ หิ ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาณํ สตฺตมพลนฺติ ตสฺส สวิตกฺกสวิจารตา วุตฺตา, ตถาปิ ฌานาทีหิ ¶ วินา ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ ฌานาทิสหคตํ าณํ ตทนฺโตคธํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา สพฺพฺุตฺาณํ ฌานาทิกิจฺจํ วิย น สพฺพํ พลกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตฺุจ น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน กสฺสจิ พลสฺส ฌานอิทฺธิภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
าณวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๘๓๒. ‘‘เตตฺตึสติ ¶ ¶ ติกา’’ติ วุตฺตํ, เต ปน ปฺจตึส. ตถา ‘‘ปุริสมลาทโย อฏฺ นวกา’’ติ วุตฺตํ, เต ปน อาฆาตวตฺถุอาทโย นว. เย ‘‘ทฺเว อฏฺารสกา’’ติอาทิมฺหิ วุตฺตา, เต เอว ‘‘อิติ อตีตานิ ฉตฺตึสา’’ติอาทินา ตโย ฉตฺตึสกา กตาติ อาห ‘‘ฉ อฏฺารสกา’’ติ, ทฺวาสฏฺิ ปน ทิฏฺิคตานิ อฺตฺถ วุตฺตภาเวเนว อิธ นิกฺขิตฺตานีติ น คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.
เอกกมาติกาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๔๓-๘๔๔. อตฺถิ ปฏิจฺจํ นามาติ ยถา ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภาเวน ปฏิจฺจาติ วุตฺตํ, น ตถา อิธ ขตฺติยาทิชาตีนํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานานํ นิสฺสยาทิปจฺจยตฺตสฺส อภาวา. เยสุ ปน ขนฺเธสุ สนฺเตสุ ขตฺติยาทิสมฺมุติ โหติ, เตสํ อพฺโพจฺฉินฺนตาว ขตฺติยาทิชาติยา อตฺถิตา, สา อิธ ปฏิจฺจ-สทฺเทน วิภาวิตาติ อตฺโถ. เอกิสฺสา เสณิยาติ อสมฺภินฺนายาติ อตฺโถ.
ปฺหวิสฺสชฺชนาทิกิริยาสุ ¶ ปุรโต กรณํ ปุเรกฺขาโร. นิกฺเขปราสีติ นิธานราสิ. ปตฺถฏากิตฺติโนติ วิตฺถิณฺณากิตฺติโน. รตฺตฺุมโทติ ปุราณฺุตามโทติ วทนฺติ. จิรรตฺติชาเตน, จิรรตฺติปพฺพชิเตน วา ชานิตพฺพสฺส, รตฺตีนเมว วา ชานนมโท. อุปฏฺาปกมาโนติ อาณากรณมาโน. อาณากรณฺหิ วิจารณํ อิธ ‘‘ยโส’’ติ วุตฺตนฺติ. ปริมณฺฑลตฺตภาวนิสฺสิโต มาโน ปริณาหมโท. สรีรสมฺปตฺติปาริปูริยา มโท ปาริปูริมโท.
๘๔๕. วตฺถุนา วินาปิ วตฺตพฺพตาย อวตฺถุกํ, น วตฺถุโน อภาวา.
๘๔๖. จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนนฺติ จิตฺตสฺส สติโต มุจฺจนํ, กายทุจฺจริตาทีสุ ปกฺขนฺทนํ วา โวสฺสคฺโค. ปติฏฺาภาโวติ กุสลกรเณ อฏฺานํ, อนุฏฺานนฺติ ¶ อตฺโถ. ปมาทสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส กายทุจฺจริเต จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค ปาณาติปาเต มิจฺฉาทิฏฺิยํ โกเธ อุปนาเหติ เอวมาทิโก ปริยาโย อปริยนฺโต, ตทตฺถตปฺปริยายปฺปกาสโก โวสฺสคฺคนิสฺสคฺคาทิโก พฺยฺชนปริยาโย จาติ สพฺพํ ตํ สงฺขิปิตฺวา เอวรูโปติ อิทํ อาการนิทสฺสนํ สพฺพปริยายสฺส วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา กตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปริยนฺตาภาวโต’’ติ. วิสฺสฏฺากาโรติ สติยา ปจฺจนีกภูเต จตฺตาโร ขนฺเธ ทสฺเสติ.
๘๔๗. จิตฺตสฺส ถทฺธตา ตถาปวตฺตจิตฺตเมวาติ วทนฺติ, มานวิเสโส วา ทฏฺพฺโพ. อุปสงฺกมเน วนฺทิตพฺพํ โหตีติ ปริยนฺเตเนว จรติ.
๘๔๘. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อาวุโส, ตฺวํ อาปนฺโนสี’’ติอาทินา เตน วุตฺตํ ตสฺเสว อุปริ ขิปนวเสน ‘‘ปฏิปฺผริตฺวา’’ติ วทนฺติ. ‘‘ตสฺมึ นาม ทลิทฺเท, อกุสเล วา อิทํ กโรนฺเต อหํ กสฺมา น กโรมี’’ติ เอวํ อิธ ปฏิปฺผรณํ ยุตฺตํ. กรณสฺส อุตฺตรกิริยา กรณุตฺตริยํ. อกุสลปกฺโข เอสาติ สารมฺโภติ อธิปฺปาโย.
๘๔๙. อติจฺจ อิจฺฉตีติ อติจฺจิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว อติจฺจิจฺฉตาติ วตฺตพฺเพ จฺจิ-การโลปํ กตฺวา ‘‘อติจฺฉตา’’ติ วุตฺตํ. อตฺริจฺฉตาติ จ สา เอว วุจฺจตีติ. ตตฺราปิ เนรุตฺติกวิธาเนน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยถาลทฺธํ วา อติกฺกมิตฺวา อตฺร อตฺร อิจฺฉนํ อตฺริจฺฉตา, สา เอว ร-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘อติจฺฉตา’’ติ วุตฺตา.
อตฺริจฺฉนฺติ ¶ อติจฺฉํ, อตฺร วา อิจฺฉนฺโต. เกน? อติโลเภน อติโลภมิจฺฉาสงฺขาเตน อติโลภมเทน จ. อตฺตโน หิตํ อตฺตาติ วุตฺตํ. หายติ ชีรติ, อาทิณฺโณ วา อตฺตา, ปตฺโต วา อตฺตา, นํ ชีรติ จนฺทกินฺนรึ ปตฺถยิตฺวา อสิตาภูเทวิยา วิหีโน วิย.
อิจฺฉาหตสฺสาติ อิจฺฉาย อุปทฺทุตสฺส, มุทฺทิตสฺส วา.
อติหีฬยาโนติ อวมฺมาโน. มลกนฺติ เอวํนามกํ ชนปทํ, อพฺโภกาสํ วา. โกทณฺฑเกนาติ กุทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑเกน. คทฺทุเลนาติ จ วทนฺติ. รุหิรมกฺขิตงฺโคติ รุหิรสินฺนคตฺโต.
๘๕๐. ชานนฺตสฺเสว ¶ ภิยฺโย ภิยฺโย โจเทนฺโต วิย สมฺภาเวตุกาโม โหติ. ปจฺจเยติ อุปาทานาทิปจฺจเย.
๘๕๑. เย ปติรูเปน วฺเจนฺติ, เต คณฺิกา, ทุราจาเรน วา คณฺิภูตา. คณฺิกปุตฺตา นาม คณฺิกา เอว โหนฺติ, เตน สทฺธิวิหาริกา คณฺิกภาเวน ‘‘เถโร…เป… ทีฆจงฺกเม วิหรตี’’ติ วทนฺติ.
วฏฺฏติ ภนฺเตติ อยมฺปิ เอโก ปกาโร, ลาภินา เอว ปน สกฺกา าตุนฺติ อตฺตโน สมาปตฺติลาภิตํ สูเจตีติ อตฺโถ. ปฺจตฺตยํ นาม อุปริปณฺณาสเก ทุติยสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๒๑ อาทโย). ตสฺส คมฺภีรตฺตา วทติ ‘‘ปฺจตฺตยํ โอโลเกนฺตสฺสา’’ติ.
๘๕๒. สิงฺคนฺติ สิงฺคารํ. ตฺหิ กุสลสฺส วิชฺฌนโต สมาเสวิตตาย สีเส ปริกฺขตํ สุนิขตํ วิสาณํ วิย, ถิรตฺตา จ สิงฺคํ วิยาติ สิงฺคํ, ตํ ปนตฺถโต ราโค.
๘๕๓. เตมนกรณตฺเถ ตินฺติณ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ขียนนฺติ จ เยน โลเภน ปรํ มมนฺติ วทนฺตํ ขียติ, โส วุตฺโต. ขียนํ ภณฺฑนนฺติ จ วทนฺติ. ตินฺติณนฺติ วา โลลุปฺปมิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. สฺา-สทฺโท หิ เอโส โลลุปฺปวาจโกติ.
๘๕๔. อูรุปฺปมาณาปีติ ¶ เอเตน มหนฺตฆนภาเวน อปูติตํ ทสฺเสติ. อถวาติอาทินา จีวรมณฺฑนาทีนํ วิเสสนานิ ‘‘อิมสฺส วา ปูติกายสฺส พาหิรานํ วา ปริกฺขารานํ มณฺฑนา’’ติอาทีนีติ ทสฺเสติ. จีวเรน หิ มณฺฑนา จีวรมณฺฑนา, จีวรสฺส วา มณฺฑนา จีวรมณฺฑนา, เอวํ ปตฺตมณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา จาติ อธิปฺปาโย. อูนฏฺานปูรณํ ฉวิราคสุสณฺานาทิกรณฺจ จีวราทีสุ กาเย จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. ตทหุชาตทารโก วิย โหตีติ ทารกจาปลฺยํ น มฺุจตีติ อตฺโถ.
๘๕๕. สทิสา อนุรูปา ภตฺติ สภาโค, น สภาโค อสภาโค, มานถทฺธตา, วิโรโธ วา. เตนสฺส มาตาทีสุ วตฺตนํ อสภาควุตฺติตา. เอวํวิธานํ มานาธิกานํ อกุสลานมิทํ นามํ.
๘๕๖. ปริตสฺสิตาติ ¶ สงฺกมฺปนา, อุกฺกณฺิตสฺส วา ตสฺส ตสฺส ตณฺหายนา.
๘๕๗. กุสลกรเณ กายสฺส อวิปฺผาริกตา ลีนตา ชาติอาลสฺยํ, น โรคอุตุโภชนาทีหิ กายเคลฺํ ตนฺที นาม, อถ โข ปกติอาลสฺยนฺติ อตฺโถ. กายาลสิยนฺติ นามกายสฺส อาลสิยํ, ตเทว รูปกายสฺสาปีติ ทฏฺพฺพํ.
๘๕๘. อจฺจสนาทีหิ อุปฺปนฺนธาตุกฺโขภนิมิตฺตํ อาลสิยํ วิชมฺภิตา.
๘๕๙. ภตฺตนิมิตฺเตน อุปฺปนฺนํ อาลสฺยํ ภตฺตสมฺมโท.
๘๖๐. อิเมหิ ปนาติ จิตฺตสฺส อกลฺยตาทีหิ. สพฺพตฺถ กิเลสวเสนาติ ถินมิทฺธการณานํ ราคาทีนํ วเสนาติ ทฏฺพฺพํ.
๘๖๑. สมฺมาอาชีวโต อเปโต กโตติ อปกโต. โส อาชีวุปทฺทเวน อุปทฺทุโตติ กตฺวา อาห ‘‘อุปทฺทุตสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.
ติวิธมฺปิ ตํ ตตฺถ อาคตํ ตสฺส นิสฺสยภูตาย อิมาย ปาฬิยา ทสฺเสตุนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ปาปณิกานีติ ¶ อาปณโต ฉฑฺฑิตานิ. นนฺตกานีติ อนฺตรหิตานิ, จีรานิ วา. คิลานสฺส ปจฺจยภูตา เภสชฺชสงฺขาตา ชีวิตปริกฺขารา คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา. ปูติมุตฺตนฺติ ปุราณสฺส อปุราณสฺส จ สพฺพสฺส โคมุตฺตสฺเสตํ นามํ. ปูติภาเวน ฉฑฺฑิโตสธนฺติปิ เกจิ.
อคพฺภิกา เอกทฺวารา ทีฆสาลา กิร อุทฺทณฺโฑ. กุจฺฉิตรชภูตาย ปาปิจฺฉตาย นิรตฺถกกายวจีวิปฺผนฺทนิคฺคหณํ โกรชํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ โกรชิโก, อติวิย โกรชิโก โกรชิกโกรชิโก. อติปริสงฺกิโตติ เกจิ. มุขสมฺภาวิโตติ โกรชิกโกรชิกาทิภาเวน ปวตฺตวจเนหิ อตฺตโน มุขมตฺเตน อฺเหิ สมฺภาวิโต. โส เอวรูโป เอวรูปตาย เอว อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา ‘‘อยํ สมโณ’’ติอาทึ กเถติ.
ปณิธายาติ ‘‘อรหาติ มํ ชานนฺตู’’ติ จิตฺตํ เปตฺวา, ปตฺเถตฺวา วา. อาปาถกชฺฌายีติ มนุสฺสานํ อาปาถฏฺาเน สมาธึ สมาปนฺโน วิย นิสีทนฺโต อาปาถเก ชนสฺส ปากฏฏฺาเน ฌายี.
อฺํ ¶ วิย กตฺวา อตฺตโน สมีเป ภณนํ สามนฺตชปฺปิตํ. อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘อปนา’’ติ วุตฺตํ. กุหนํ กุโห, ตสฺส อยนา ปวตฺติ กุหายนา, กุหสฺส วา ปุคฺคลสฺส อยนา คติกิริยา กุหายนา.
๘๖๒. ปุฏฺสฺสาติ ‘‘โก ติสฺโส, โก ราชปูชิโต’’ติ ปุฏฺสฺส. นหนาติ พนฺธนา ปริเวนา.
๘๖๓. นิมิตฺเตน จรนฺโต ชีวนฺโต นิมิตฺตการโก เนมิตฺติโก, ตสฺส ภาโว เนมิตฺติกตา. อตฺตโน อิจฺฉาย ปกาสนํ โอภาโส. โก ปน โสติ? ‘‘อชฺช ภิกฺขูนํ ปจฺจยา ทุลฺลภา ชาตา’’ติอาทิกา ปจฺจยปฏิสํยุตฺตกถา. อิจฺฉิตวตฺถุสฺส สมีเป กถนํ สามนฺตชปฺปา.
๘๖๔. พหิ ฉฑฺฑนํ อุกฺเขปนา. ปรปิฏฺิมํสขาทนสีโล ปรปิฏฺิมํสิโก, ตสฺส ภาโว ปรปิฏฺิมํสิกตา.
๘๖๕. นิกตฺตุํ ¶ อปฺเปน ลาเภน พหุกํ วฺเจตฺวา คเหตุํ อิจฺฉนํ นิชิคีสนํ, ตสฺส ภาโว นิชิคีสนตา. ตสฺเสว อิจฺฉนสฺส ปวตฺติอากาโร, ตํสหชาตํ วา คเวสนกมฺมํ.
๘๖๖. วณฺณสมฺปนฺนํ โปกฺขรํ วณฺณโปกฺขรนฺติ อุตฺตรปทโลโป ปุพฺพปทสฺส ทฏฺพฺโพ, วณฺณปาริปูรี วา วณฺณโปกฺขรตา. ‘‘อตฺถชาปิกา’’ติ เอตฺถ วิย ชป-สทฺโท อุปฺปตฺติวาจโกติ อาห ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ.
๘๖๗. เสยฺยสทิสมานา อุนฺนติวเสน ปวตฺตาติ อุภยตฺถาปิ ‘‘มานํ ชปฺเปตี’’ติ วุตฺตํ.
๘๖๘. หีนมาโน ปน โอนติวเสน ปวตฺติโต เกวเลน มานสทฺเทน นิทฺเทสํ นารหตีติ ตํนิทฺเทเส ‘‘โอมานํ ชปฺเปตี’’ติ (วิภ. ๘๗๔) วุตฺตํ.
๘๗๒. ราชโภเคน รฏฺภฺุชนโก ราชนิสฺสิโต รฏฺิโย.
๘๗๙. ปุคฺคลํ อนามสิตฺวาติ ยถา เสยฺยสฺส เสยฺยมานาทินิทฺเทเสสุ ‘‘ปเรหิ เสยฺยํ อตฺตานํ ทหตี’’ติ เสยฺยาทิปุคฺคโล มานุปฺปาทโก ¶ อามฏฺโ, เอวเมตสฺส เสยฺยมานภาเวปิ มานุปฺปาทกปุคฺคลวิเสสํ อนามสิตฺวา ‘‘ปเร อติมฺติ’’จฺเจว วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปเร อติกฺกมิตฺวา มฺนฺหิ ยสฺส กสฺสจิ อติมาโนติ.
๘๘๐. ปุริมมานสฺส อุปริมาโน มานาติมาโน, อติ-สทฺโท อุปริ-สทฺทสฺส อตฺถํ วทตีติ ทฏฺพฺโพ. ปุริมมานํ วา อติกฺกนฺโต มาโน มานาติมาโน.
๘๘๑. ปกฺขิชาตีสุ วายโส อนฺโต ลามโกติ กตฺวา ‘‘กากชาติ วิยา’’ติ วุตฺตํ.
๘๘๒. เถโร กิร โทสจริโต อโหสิ, ตสฺมา อาทิโตว ‘‘ตุมฺเห อขีณาสวา’’ติ อวตฺวา อุปาเยน กเถสีติ วทนฺติ, โทสจริตตฺตา วา ขิปฺปํ ตติยปทวาเร วิราคํ อุปฺปาเทสีติ อธิปฺปาโย.
๘๘๓. มานํ ¶ อนุคตจฺฉนฺโทติ มานสมฺปยุตฺตฉนฺโท, มานสภาวํ อนุคโต มานจฺฉนฺโท วา.
๘๘๔. ‘‘วิลมฺพน’’นฺติ จ อิตฺถิปุริสสมฺมานนาทิกิริยาทิวิลมฺพนปฏิสํยุตฺตํ กตฺตพฺพํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ยุตฺตมุตฺตสิลิฏฺํ ปฏิภานํ วิลมฺพนปฏิภานํ.
๘๘๗. อมรวาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, อตฺตโน อมรณตฺถาย เทวภาวตฺถาย วา วิตกฺโก อมรวิตกฺโก.
๘๘๘. ปเรสุ อนุทฺทยา ราควเสน อนุทฺทยกรณํ เอตสฺสาติ ปรานุทฺทโย, ตสฺส ภาโว ปรานุทฺทยตา, ปเรสุ วา อนุทฺทยสฺเสว สหนนฺทิตาทิกสฺส ภาโว ปรานุทฺทยตา, ตาทิโส ราโค. ตตฺถาติ ปรานุทฺทยตาย สํสฏฺวิหาเรน ทสฺสิตายาติ อตฺโถ ยุชฺชติ.
๘๙๐. อนวฺตฺตึ ปตฺเถนฺโต อนวฺตฺตตฺถเมว กามคุเณ จ ปตฺเถตีติ อาห ‘‘ปฺจกาม…เป… นิสฺสิโต หุตฺวา’’ติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙๑. อุปนยฺหตีติ ¶ พนฺธติ. อ-กาโร อนนฺตรตฺถวาจโก, มริยาทวาจกสฺส วา อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘อฏฺปนา’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘อนนฺตรฏฺปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปมุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตากาโร มริยาทา, ตํ อนติกฺกมิตฺวา ตสฺเสว ทฬฺหีกรณวเสน ปนา มริยาทฏฺปนา. ปกติฏฺปนามตฺตเมว, วิเสสนรหิตาติ อตฺโถ.
๘๙๒. นิฏฺุริยํ เขฬปาตนํ, นิฏฺุริยํ วิย นิฏฺุริยํ. ทสฺเสตฺวาติ ทนฺเตหิ ฉินฺทิตฺวา. เตน ¶ ปน ทสฺสนํ ปฬาโสติ ทสฺเสติ. ปฬาสสฺส อายนาติ ยุคคฺคาหปฺปวตฺติ. สมภาวทหนํ ชโย, ตสฺส อาหรณโต อาหาโร. ธุรํ น เทตีติ ปาโมกฺขํ น เทติ.
๘๙๔. กาเยน เจติยงฺคณาทิวตฺตํ กโรติ ‘‘เอวํ วตฺตสมฺปนฺโน สทฺโธ กถํ กายทุจฺจริตาทีนิ กริสฺสตี’’ติ ปเรสํ าปนตฺถํ. อติจฺจาติ อจฺจยํ กตฺวา. อาสรนฺตีติ อาคจฺฉนฺติ, ปุน ปฏิจฺฉาทเน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. โกนาเมวํ กโรตีติ โวจฺฉินฺทนจฺฉาทนา วา โวจฺฉาทนา.
น สมฺมา ภาสิตาติ โย น สมฺมา ภาสติ, โส สโติ ทสฺเสติ. กุจฺฉิ วา ปิฏฺิ วา ชานิตุํ น สกฺกาติ อสนฺตคุณสมฺภาวเนเนว จิตฺตานุรูปกิริยาวิรหโต ‘‘เอวํจิตฺโต เอวํกิริโย’’ติ ชานิตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ.
อโช เอว อชามิโค. เนลโกติ ตรุณวจฺโฉ. ยถา โส ยกฺโข ตาทิสํ รูปํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อชา’’ติ สฺาย อาคตาคเต ขาทติ, เอวมยมฺปิ ตํตํสทิสคุณสมฺภาวเนน เต เต วฺเจติ. เตเนตํ สาเยฺยํ มายาโต พลวตรา วฺจนาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว ‘‘ปริกฺขตฺตตา’’ติ วุตฺตํ.
๙๐๘. สกฺกายทิฏฺาทีนํ อภาเวปิ ยํ สํโยชนํ โหติ, ตํ พหิทฺธา สํโยชนโต พหิทฺธาสํโยชนสฺส ปุคฺคลสฺส วิเสสนภูตํ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๐๙. อกุสลมูลาเนว ¶ วฏฺฏมูลานีติ เตหิ กถิเตหิ วฏฺฏมูลสมุทาจาโร กถิโต โหตีติ อาห ‘‘ตีหิ…เป… กถิโต’’ติ.
๙๑๙. สสฺสโต ¶ โลโกติอาทิทสฺสนเมว พฺรหฺมจริยํ โมกฺขสมฺปาปกํ อุตฺตมจริยนฺติ ทิฏฺิคติเกหิ สมฺมตนฺติ อาห ‘‘ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺสา’’ติ. รูปารูปาวจรวิปาเกสุ สาติสโย ภวราโคติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘มหาพฺรหฺมาน’’นฺติ.
๙๒๐. กถํวิธนฺติ เกนากาเรน สณฺิตนฺติ อตฺโถติ กตฺวา อาห ‘‘อาการสณฺาน’’นฺติ. มานปนาติ เสยฺยาทิวเสน มาเนน ปนา, มานสงฺขาตา วา ปนา.
๙๒๑. เจตโส อุตฺราโส โทมนสฺสํ, โทโส วา, ตํสมฺปยุตฺตา วา เจตนาทโย.
๙๒๒. เทสนาสุขตายาติ ติณฺณํ อทฺธานํ วเสน วิจิกิจฺฉาย เทสนา สุขา ‘‘กงฺขติ วิจิกิจฺฉตี’’ติ, น ปน ตถา โมเหนาติ อธิปฺปาโย. วณฺณาทิเภทํ สุตฺวาติ เกจิ กิร วทนฺติ ‘‘ขตฺติยชีโว ปณฺฑุวณฺโณ. กสฺมา? โส หิ ปุพฺพณฺเห รมติ, ปุพฺพณฺเห จ ฉายา ปณฺฑุวณฺณา. พฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทชีวา โอทาตปีตกาฬวณฺณา. เต หิ มชฺฌนฺหสายนฺหรตฺตีสุ โอทาตปีตกาฬฉายา กาฬตมกาเลสุ รมนฺตี’’ติ เตสํ วณฺณเภทํ, ‘‘พฺยาปี ปริมณฺฑโล’’ติอาทินา กเถนฺตานํ สณฺานเภทฺจ สุตฺวา.
๙๒๓. ปุริสปุคฺคโลติ ปททฺวยํ เอกปทํ กตฺวา ชานนฺตานํ วเสนายํ สมฺมุติกถา ปวตฺตา, ปทนฺตรเมว วา อิทํ ปุคฺคลวาจกนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิมาห. อถ วา ปุริโสติ วุตฺโต จ ปุคฺคโล เอว, น ปุริสินฺทฺริยยุตฺโตวาติ ทสฺสนตฺถมฺปิ ‘‘ปุริสปุคฺคโล’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฏฺสุ อาพาเธสูติ ปิตฺตเสมฺหวาตสมุฏฺานอุตุวิปริณามชโอปกฺกมิกวิสมปริหารชสนฺนิปาตชกมฺมสมุฏฺาเนสุ. ปุพฺเพ กตนฺติ ปุราณตรกมฺมํ อิจฺฉนฺตีติ อุปปชฺชเวทนียฺจ กิร ปฏิกฺขิปนฺติ. อาณตฺติมูลเกน วาติ โยปิ อาณาเปตฺวา วธพนฺธาทิทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, ตมฺปิ ตํมูลกํ น โหติ, อิสฺสรนิมฺมานมูลเมวาติ อธิปฺปาโย.
๙๒๔. โมหสฺส ¶ อนุทหนํ ทาหการณตาย วุตฺตํ, สภาวโตปิ ปน อสมฺปฏิเวโธ สมฺปฏิเวธสุขสฺส ปจฺจนีกภูโต ทุกฺโข เอวาติ อนุทหนตา เวทิตพฺพา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อุเปกฺขา เวทนา าณสุขา อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) วุตฺตา.
๙๒๖. ปุถุนิมิตฺตารมฺมเณสูติ ¶ สุภนิมิตฺตาทิวเสน ปุถุนิมิตฺตสภาเวสุ อารมฺมเณสุ, ปุถุสภาเวสุ วา สุภนิมิตฺตาทิอารมฺมเณสุ. โกสชฺชปมาทนิทฺเทสานํ สมานตฺเตปิ อวิปฺผาริกตาสงฺขาตา ลีนวุตฺติตา โกสชฺชํ, สติโวสฺสคฺคสงฺขาตํ ปมชฺชนํ ปมาโทติ อยํ วิเสโสติ.
๙๓๑. สครุวาสนฺติ สโอตฺตปฺปวาสมาห, สเชฏฺกวาสนฺติ สหิริวาสํ. อนาทิยนา อนทฺทา โอวาทอคฺคหณํ, อจิตฺตีกาโรติ อตฺโถ. สุกฺขกฏฺสฺส วิย อนลฺลตา, อมุทุตา วา อนทฺทา. อสีลฺยนฺติ อสุขสีลตา อมุทุตา เอว.
๙๓๔. อุปารมฺโภ โทสสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาโท สิยา.
๙๓๖. ‘‘อิธ ปาสาณํ กโรตี’’ติอาทินา ปนตฺเถปิ กโรติ-สทฺโท ยุชฺชตีติ อาห ‘‘กโรตีติ เปตี’’ติ. เอตฺถ จายํ อาวชฺชนา อกุสลานํ อาสนฺนการณตฺตา ขุทฺทกวตฺถูสุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, ตทนุกูลกิจฺจตฺตา วา.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๓๙. อิตีติ นิทสฺสเน นิปาโตติ เอวํ-สทฺเทน สมานตฺโถติ ทสฺเสติ. ภวาภวเหตูติปีติ เอตฺถ ภวนฺติ ชายนฺติ เอเตนาติ ภโว, สปฺปิอาทิเภสชฺชํ. ภโว เอว ปณีตตโร อภิวุทฺโธ อภโว. ภาวนารามตาอริยวํสปฺปเหยฺยตฺตา วา ปุริมตณฺหาตฺตยวชฺชา สพฺพา ตณฺหา ‘‘ภวาภวเหตุ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
เอตายาติ ¶ ฉนฺทาทิอคติยา. น คจฺฉนฺตีติ น ปวตฺตนฺติ, ตํ ตํ กิริยํ น กโรนฺตีติ ¶ อตฺโถ. อิมินาติ ฉนฺทาทินา อคติคมเนน. ฉนฺทาทีสุ เยน นินฺโน, เตน คมนํ ยถานินฺนคมนํ.
‘‘ราชา’’ติอาทินา ราชาทินิมิตฺโต วิย อูมิอาทินิมิตฺโต จิตฺตุตฺราโส อูมิอาทิภยํ, ‘‘อูมิภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, โกธุปายาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติอาทิวจนโต (ม. นิ. ๒.๑๖๒; อ. นิ. ๔.๑๒๒; อิติวุ. ๑๐๙) โกธุปายาสโอทริกตฺตปฺจกามคุณมาตุคามา วา. ตตฺถ ปฺจกามคุณมาตุคามคฺคหเณน ตนฺนิสฺสิตฉนฺทราคคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, โอทริกตฺตฺจ โลโภว. อุกฺเขปนียาทิกมฺมํ วินยทณฺฑํ.
‘‘อถ โข ติมฺพรุโก ปริพฺพาชโก เยน ภควา…เป… เอตทโวจ ‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สยํกตํ สุขทุกฺข’นฺติ? มา เหวํ ติมฺพรุกาติ ภควา อโวจา’’ติอาทินา นิทานวคฺเค (สํ. นิ. ๒.๑๘) อาคตตฺตา ‘‘ติมฺพรุกทิฏฺี’’ติ วุตฺตา.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๐. อาคนฺตุํ ปน น เทนฺตีติ อาคมนสฺส ปจฺจยา น โหนฺตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๙๔๑. อวเทหนโตติ ปูรเณน มํสูปจยเหตุตาย จ อุปจยนโต. คิมฺหกาเล ภฺุชิตฺวา สยนฺตสฺส สุขํ โหตีติ ตํ อุตุสุขํ ‘‘เสยฺยสุข’’นฺติ วุตฺตํ, สยนิริยาปถสุขนฺติ อตฺโถ. วตนฺติ ธุตงฺคานิ. ตโปติ ขนฺธกวตฺตานิ, วีริยํ วา. สีลคฺคหเณน ขนฺธกวตฺตเมถุนวิรตีนํ คหิตตฺตา ตปพฺรหฺมจริยคฺคหณํ น กตฺตพฺพนฺติ เจ? น, อฺสีลโต วิเสเสตฺวา ตปพฺรหฺมจริยานํ เทวตฺตการณตฺตคฺคหณสฺส ทสฺสนโต, พาหิรานฺจสฺส วินิพนฺธสฺส ปวตฺติทสฺสนโต วา. เตสฺหิ อวิหึสาทิโควตาทิทุกฺกรการิกาเมถุนวิรติโย ยถากฺกมํ สีลาทีนิ, ตานิ จ เต เทวนิกายํ ปณิธาย จรนฺตีติ. อฺถา จ สทฺธารุจิอาทีหิ ‘‘ยโต ¶ โข โภ อยํ อตฺตา รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๘๕) วิกปฺเปตฺวา.
๙๔๒. พฺยสเนสุ ¶ าติโภคโรคพฺยสนคฺคหเณน ตํนิมิตฺตา โสกาทโย คหิตาติ ทฏฺพฺพา. ทสฺสนสวเนสุ ปฏิกูลตา ทสฺสนสวนปฏิกูลตา. เอตฺถ จ อาทีนเวหิ ปฺจหิ เตสํ การณภูตา อกฺขนฺติเยว ภินฺทิตฺวา กถิตาติ เวทิตพฺพา, อกฺขนฺติมูลกา วา อปฺปิยตาทิเหตุภูตา ทุกฺกฏทุพฺภาสิตตาทิโทสา.
มิจฺฉาชีวนิมิตฺตํ มรณกาเล อุปฺปนฺนภยํ ‘‘อาชีวกภย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อาชีวิกาภย’’นฺติ ปน ปาเ ปจฺจยานุปฺปตฺตึ ปสฺสโต อาชีวิกนิมิตฺโต จิตฺตุตฺราโสติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กิตฺติสทฺโท สิโลกนฺติ ตปฺปฏิปกฺขา อสิโลกํ อกิตฺติ. เตนาห ‘‘ครหภย’’นฺติ.
๙๔๓. อุปฺปิลาวิตนฺติ อุทคฺคตาสงฺขาโต อวูปสมภาโว, อวูปสมเหตุภูโต วา ปีติยา อากาโร.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๔. ‘‘โกธโน โหติ อุปนาหี’’ติอาทินา โกธาทิเหตุกา อุปนาหาทโย โกธาทีนํ สหายการณภาเวน สุตฺตนฺเต วุตฺตาติ โกธาทโย เอว วิวาทมูลานิ, เตเนตฺถ เต เอว วุตฺตา. สนฺทิฏฺิปรามสิตา อตฺตโน ทิฏฺิยํ อภินิวิฏฺตา.
๙๔๕. อปฺปติสฺสโยติ ปติสฺสยภูเตหิ ครูหิ วิรหิโต. อปฺปมาทลกฺขณนฺติ สติอวิปฺปวาสํ กุสลานุโยคสาตจฺจํ วา.
ยุตฺตปยุตฺตตาติ ¶ ตนฺนินฺนตาวเสน สุฏฺุ ยุตฺตตา. คณสงฺคณิกา กิเลสวเสน ปวตฺตา สงฺคณิกา. อิตฺถิปฏิสํยุตฺตกถาสวเน อิตฺถิสทฺทสวเน จ อสฺสาโท สวนสํสคฺโค. อิตฺถิยา กสฺสจิ ทานคฺคหณสฺสาโท ปริโภคสํสคฺโค.
๙๔๖. โสมนสฺเสน สทฺธึ อุปวิจรนฺตีติ โสมนสฺสุปวิจาราติ อกุสลโสมนสฺสสหคตา รูปวิจาราทโย อิธาธิปฺเปตาติ เวทิตพฺพา, ตถา อุเปกฺขุปวิจารา จ. ตํสมฺปยุตฺโต วาติ เอเตน วิจารคฺคหเณน วิตกฺโกปิ ¶ คหิโตติ วิตกฺกปฺปวตฺตเนน ‘‘อุปวิตกฺเกตี’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตํ โหตีติ ทสฺเสติ.
๙๔๗. อฺาณสมฺปยุตฺตาติ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตจิตฺเตสุ อุเปกฺขา โมโหติ วทนฺติ, โลภสมฺปยุตฺตุเปกฺขาปิ ปน เคหสฺสิตา น น โหติ.
๙๔๘. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิโก ‘‘อธิจฺจ สมุปฺปนฺโน อตฺตา อุปฺปนฺโน ภวิสฺสตี’’ติ คณฺหนฺโต สสฺสตทิฏฺิโก โหตีติ เอวรูปสฺส ทิฏฺิ วิยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกสฺเสวา’’ติ อาห. น โส ชาโตติ เอตฺถ ‘‘ชาตู’’ติ อยํ นิปาโต อุ-การสฺส โอ-การํ กตฺวา ชาโตติ วุตฺโต, เตน วา สมานตฺถํ นิปาตนฺตรํ เอตํ ทฏฺพฺพํ. สพฺพาสวทิฏฺีติ สพฺพาสวปริยาเยน อาคตา ทิฏฺิ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕๑. ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีสุ สตฺตกสฺส อฺสฺส อภาวา สตฺต อุจฺเฉทวาทา เอว อิธ ตถา อวตฺวา ‘‘สตฺต ทิฏฺี’’ติ วุตฺตา.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕๒. ‘‘กมฺมํ ¶ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติอาทินา โอสีทนากาเรน ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทา โกสชฺชการณานิ, โกสชฺชเมว วา โกสชฺชนฺตรการณตาย โกสชฺชการณานีติ ทฏฺพฺพานิ. มาสาจิตํ มฺเติ เอตฺถ อาจิต-สทฺโท ตินฺต-สทฺทสฺส, มฺเ-สทฺโท จ วิย-สทฺทสฺส อตฺถํ วทตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตินฺตมาโส วิยา’’ติ อยมตฺโถ วิภาวิโต, มาสจโย วิยาติ วา อตฺโถ.
๙๕๗. ผรตีติ ผุสติ, ฆฏฺเฏตีติ อตฺโถ. อฺเน การเณนาติ ‘‘อชฺช ตยา วิกาเล ภุตฺตํ, เตน ตฺวํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺโต ‘‘หิยฺโย ¶ มยา กาเล ภุตฺตํ, เตนาหํ อนาปนฺโน’’ติอาทินา อฺเน อยุตฺเตน การเณน อฺํ ยุตฺตํ การณํ ปฏิจฺฉาเทตีติ อตฺโถ. ปุจฺฉิตตฺถโต พหิทฺธา ยถา ตํ น อลฺลียติ, ตถา กถาย อปนยนํ วิกฺขิปนํ พหิทฺธา อปนามนา.
๙๕๘. อสฺีวาทาติ ปุคฺคเลหิ ทิฏฺิโย ทสฺเสติ. เยหิ วา อภินิเวเสหิ อสฺี อตฺตานํ วทนฺติ, เต อสฺีวาทา. อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตนฺติ อากาสาทึ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๙.) นวกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๐. ทสมสฺส อวุตฺตตฺตา ‘‘สตฺเตสุ อุปฺปตฺติวเสเนว กถิตานี’’ติ วุตฺตํ.
๙๖๓. สุขวินิจฺฉยนฺติ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุขสนฺนิฏฺานนฺติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตํ สุขนฺติ เสวิตพฺพํ เนกฺขมฺมสุขํ. วินิจฺฉยาติ ทฺเว วินิจฺฉยาติ อิทํ –
‘‘สาตํ ¶ อสาตนฺติ ยมาหุ โลเก,
ตมูปนิสฺสาย ปโหติ ฉนฺโท;
รูเปสุ ทิสฺวา วิภวํ ภวฺจ,
วินิจฺฉยํ กุพฺพติ ชนฺตุ โลเก’’ติ. (สุ. นิ. ๘๗๓; มหานิ. ๑๐๒) –
เอตสฺส นิทฺเทเส วุตฺตํ.
อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโตติ อิมิสฺสา วิภงฺคปาฬิยา โย ฉนฺทราคสฺส ปจฺจยสภาเวน วินิจฺฉย-สทฺเทน วุตฺโต, สกฺกปฺเหปิ (ที. นิ. ๒.๓๕๗) ฉนฺทสฺส นิทานภาเวน วิตกฺก-สทฺเทน โส เอว อาคโตติ เอวํ วิตกฺกสฺส วินิจฺฉยภาวํ ตสฺเสว อิธ คหิตตฺจ ทสฺเสติ. พลวสนฺนิฏฺานนฺติ พลวติยา ตณฺหาย อารมฺมณสฺส นิฏฺเปตฺวา คหณํ.
๙๖๔. สติปิ อฺเสฺจ สงฺขตภาเว อหนฺติ อสฺมีติ จ สาติสยา มานสฺส สงฺขตตาติ กตฺวา ‘‘สงฺขต’’นฺติ มาโน วุตฺโต. เสยฺยาทิวเสน ¶ ‘‘อหมสฺมี’’ติ อตฺตโน สงฺขรณํ วา สงฺขตํ. เอตฺถ ‘‘ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทิกา ปวตฺติ ตณฺหาทิฏฺีนํ วิเสสวตีติ ตาสมฺปิ อิฺชิตาทิภาโว วุตฺโต.
นวกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๑๐.) ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๐. ชาลกฺขิปสํวิธานาทิกุสลตาสงฺกปฺปนํ อุปายจินฺตา, ตสฺสา มิจฺฉาภาวปฏิจฺฉาทนภาเวน ปวตฺโต ตทากาโร โมโห อุปายจินฺตาวเสน อุปฺปนฺโนติ ทฏฺพฺโพ. ยถากเต ปน ปาเป อนาทีนวทสฺสนวเสน ปวตฺตา สฺา, สงฺกปฺโป วา ปจฺจเวกฺขณา, ตสฺสาปิ มิจฺฉาภาวปฏิจฺฉาทกํ ตทาการํ, อนาทีนวทสฺสนํ วา ปจฺจเวกฺขณากาเรน อุปฺปนฺโน โมโหติ. วิมุตฺตสฺิตาติ ¶ อธิมานสมฺปยุตฺตํ, ติตฺถิยานํ วา อตฺตโน ทิฏฺิยา วิมุตฺตตาสฺชานนํ. ‘‘วิมุตฺโตมฺหี’’ติ เอวํ ปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท มิจฺฉาวิมุตฺตีติ เกจิ วทนฺติ. ผลํ วิย วิมุตฺตนฺติ คหิเต ปน ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺเต ทิฏฺิ มิจฺฉาาณํ, สมาธิ จ มิจฺฉาวิมุตฺตีติ ยุตฺตํ สิยา.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๓. สมูหคาหโตติ ตณฺหามานทิฏฺีนํ สาธารณคฺคหณโตติ วทนฺติ. ‘‘อิตฺถํ เอวํ อฺถา’’ติ ปน วิเสสํ อกตฺวา คหณํ สมูหคาโหติ ทฏฺพฺโพ. อฺํ อาการนฺติ ปรสนฺตานคตํ อาการํ. อตฺถีติ สทา สํวิชฺชตีติ อตฺโถ. สีทตีติ วินสฺสติ. สํสยปริวิตกฺกวเสนาติ ‘‘กึ นุ โข อหํ สิยํ, น สิย’’นฺติ เอวํ ปริวิตกฺกวเสน. ปตฺถนากปฺปนวเสนาติ ‘‘อปิ นาม สาธุ ปนาหํ สิย’’นฺติ เอวํ ปตฺถนาย กปฺปนวเสน.
สุทฺธสีสาติ ตณฺหามานทิฏฺีนํ สาธารณสีสา วิเสสสฺส อนิสฺสิตตฺตา ‘‘สุทฺธสีสา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ ทิฏฺิสีเสหิ ทิฏฺิยา ตณฺหา ทสฺสิตา, สีสสีสมูลเกหิ ¶ มานทิฏฺีหิ สยเมว จาติ อาห ‘‘เอวเมเต…เป… ตณฺหา วิจริตธมฺมา เวทิตพฺพา’’ติ. ทิฏฺิมาเนสุปิ ‘‘ตณฺหาวิจริตานี’’ติ วจนฺจ อฺมฺํ วิปฺปโยคีนํ ทิฏฺิมานานํ ตณฺหาย อวิปฺปโยคีนํ ตํมูลกตฺตาว ตปฺปธานตาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๙๗๔. อวกฺกรีติ นิปาโต นานาภาเว วตฺตตีติ อนานากรณํ อนวกฺกริ, ตํ กตฺวา, อวกฺกริ วา อกตฺวา อนวกฺกริ กตฺวาติ เอวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวินิพฺโภคํ กตฺวา’’ติ. ‘‘อนวการึ กริตฺวา’’ติ วา ปาโ, ตตฺถ อวกิรณํ วิกฺเขปนํ สมูหสฺส เอกเทสานํ วินิพฺภุชฺชนํ อวการิ, ตํ อวการึ วินิพฺโภคํ อกตฺวา, ปฺจปิ ขนฺเธ สมูหโต เอกตฺเตเนว คเหตฺวา อตฺตโต อวินิพฺภุชฺชิตฺวา อสฺมีติ ฉนฺทมานทิฏฺิโย ปฏิลภตีติ ¶ อตฺโถ. อสิตพฺยาภงฺคิตายาติ ทาตฺเตน กาเชน จาติ เอเตน ปริกฺขาเรน, อสิตพฺยาภงฺคีหิ ลวนวหนกิริยา วา ‘‘อสิตพฺยาภงฺคี’’ติ วุตฺตา.
๙๗๖. อวการึ กริตฺวาติ รูปาทีนิ อตฺตโต วินิพฺภุชฺชิตฺวา อิมินา รูเปน…เป… อิมินา วิฺาเณน อสฺมีติ ฉนฺทํ ปฏิลภตีติ เอวํ สพฺพตฺถ อิมินาติ เอตสฺส อตฺตโต อวินิพฺภุตฺเตน รูปาทินาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตฺตโต หิ อวินิพฺภุตฺตานิ อพหิกตานิ อหมิจฺเจว คหิตานิ รูปาทีนิ อุปาทาย อุปคนฺตฺวา ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายา’’ติ วุตฺตา, อตฺตโต จ วินิพฺภุตฺตานิ พหิกตานิ อุปคนฺตฺวา ปวตฺตา ‘‘พาหิรสฺส อุปาทายา’’ติ. ขคฺเคน วา ฉตฺเตน วา อหํ นิจฺโจติ อภิมงฺคลสมฺมเตน ขคฺคาทินา มม วินาโส นตฺถีติ มฺตีติ อตฺโถ. เอเกกสฺสาติ อิทํ อนาทิมฺหิ อนนฺเต จ สํสาเร เอเกกสฺส อตีตานาคเตสุ ฉตฺตึสายปิ สมฺภวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เอเกกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ยถาลาภวเสนาติ อิทมฺปิ อนิสฺสิตตณฺหามานทิฏฺึ กตฺวา ปุถุชฺชนสฺส อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเน กสฺสจิ สมฺภวทสฺสนตฺถํ.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. ธมฺมหทยวิภงฺโค
๑. สพฺพสงฺคาหิกวารวณฺณนา
๙๗๘. ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทินา ¶ ¶ ขนฺธาทีนํ ธาตุสมฺภวปริยาปนฺนปาตุภาว ภูมนฺตรตีสุ ธาตูสุอุปฺปาทกทานาทิกุสล กมฺมตพฺพิปากอภิฺเยฺยาทิอารมฺมณทุกทฺวยทิฏฺาทิกุสลตฺติกาทิติกปฺจกรูปโลกิยทุกทฺวยเภทภินฺนานํ นิรวเสสโต สงฺคหิตตฺตา ทุติยวาราทีนฺจ เอตฺถ อนุปฺปเวสโต สพฺพสามฺเน วุตฺโต ปโม สพฺพสงฺคาหิกวาโร นาม, ทุติโย อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติทสฺสนวาโร นามาติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปน ‘‘กามธาตุยา กติ ขนฺธา กติ อายตนานี’’ติอาทินา (วิภ. ๙๙๑) เตสํ อตฺถิตา เอว วุตฺตา, กิริยาวิเสสสฺส อปฺปโยโค ‘‘อตฺถิ ภวติ สํวิชฺชตี’’ติ สามฺกิริยาย วิฺเยฺยภาวโต, เตนายํ ‘‘สมฺภวาสมฺภวทสฺสนวาโร’’ติ วตฺตุํ ยุตฺโต, จตุตฺโถ จ อุปปตฺติกฺขเณ อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติทสฺสนวาโรติ ตตฺถ ปาตุภาวาปาตุภาววจนโต.
๙๗๙. ยถาปุจฺฉนฺติ ปุจฺฉานุรูปํ อวิตถพฺยากรณํ ปเรหิ กตมฺปิ สพฺพฺุวจนํ วิฺาย กตตฺตา สพฺพฺุพฺยากรณเมว นาม โหติ, โก ปน วาโท สพฺพฺุนา เอว กเตติ อธิปฺปาโย.
๒. อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติวารวณฺณนา
๙๙๑. กามธาตุสมฺภูตานฺจาติ อิทฺธิยา รูปธาตุคตานํ กามาวจรสตฺตานฺจาติ อตฺโถ. ฆานายตนาทีนํ อภาเวนาติ เอตฺถ ยทิ ตทภาเวน คนฺธายตนาทีนิ อายตนาทิกิจฺจํ น กโรนฺติ ¶ , อสฺสตฺเตสุ จกฺขายตนสฺส อภาเวน รูปายตนํ อายตนาทิกิจฺจํ น กเรยฺย. ตโต ‘‘อสฺสตฺตานํ เทวานํ อุปปตฺติกฺขเณ ทฺวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิวจนํ น วตฺตพฺพํ สิยา. กามาวจราทิโอกาสา ตตฺถ อุปฺปชฺชมานสตฺตานํ, ตตฺถ ปริยาปนฺนธมฺมานํ วา อธิฏฺานภาเวน ‘‘ธาตู’’ติ วุจฺจนฺติ, ตถา เยสุ กามาวจราทิสตฺตนิกาเยสุ กามาวจราทิสตฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ สตฺตานํ อุปฺปตฺติ เอตฺถาติ สตฺตุปฺปตฺตีติ วุจฺจมานา เต ¶ สตฺตนิกายา จ, น ปเนตฺถ อปริยาปนฺโนกาโส อปริยาปนฺนสตฺตนิกาโย จ อตฺถิ, โย ‘‘ธาตู’’ติ วุจฺเจยฺยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอกาสวเสน วา สตฺตุปฺปตฺติวเสน วา อปริยาปนฺนธาตุ นาม นตฺถี’’ติ อาห. สตฺตุปฺปตฺติวเสนาติ อิมินา วา โอกาสสตฺตโลกทฺวยํ สห คเหตฺวา ตาทิสาย อปริยาปนฺนธาตุยา อภาวํ ทสฺเสติ, สตฺตภาเวน วา อุปฺปตฺติ สตฺตุปฺปตฺติ, สตฺตาวาสวเสน ตํตํภววเสน อุปฺปชฺชมานา อุปาทินฺนกกฺขนฺธา ตํตํปริยาปนฺนานํ สทิสาธิฏฺานภาเวน ธาตูติ วุจฺจนฺตีติ เอวํ อปริยาปนฺนธาตุ นตฺถีติ อตฺโถ.
๓. ปริยาปนฺนาปริยาปนฺนวารวณฺณนา
๙๙๙. ภววเสน โอกาสวเสน จ ปริจฺฉินฺนาติ ตตฺถ อฺตฺถ จ อุปฺปชฺชมานา อุปาทินฺนกกฺขนฺธา ตํตํปริยาปนฺนา สพฺเพ ทฏฺพฺพา.
๖. อุปฺปาทกกมฺมอายุปฺปมาณวาโร
(๑.) อุปฺปาทกกมฺมวณฺณนา
๑๐๒๑. ขนฺธาทีนํ ธาตุสมฺภวาทิวเสน ปเภทํ วตฺวา เย สตฺตา ธาตุปฺปเภทวนฺโต, ยฺจ เตสํ อุปฺปาทกกมฺมํ, โย จ ตสฺส วิปาโก, เตสํ วเสน ปเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโย เทวา’’ติอาทิโก ฉฏฺวาโร อารทฺโธ. ขนฺธาทโย เอว หิ ธาตุตฺตยภูตเทววเสน ทานาทิกมฺมวเสน ตํตํอายุปฺปมาณปริจฺฉินฺนอุปาทินฺนกกฺขนฺธวเสน จ ภินฺนาติ. จตุโทณํ อมฺพณํ, ฉโทณนฺติ เอเก.
อุปฺปาทกกมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
(๒.) อายุปฺปมาณวณฺณนา
๑๐๒๔. ตโยปิ ¶ ชนาติ ตโย ชนสมูหาติ อธิปฺปาโย.
๑๐๒๖. กฺจนปิณฺโฑ วิย สสฺสิริกา กฺจนปิณฺฑสสฺสิริกา. ตตฺถ ปน โสภนปภาย กิณฺณา สุภากิณฺณาติ วตฺตพฺเพ อา-การสฺส รสฺสตฺตํ ¶ อนฺติมณ-การสฺส ห-การฺจ กตฺวา ‘‘สุภกิณฺหา’’ติ วุตฺตา, อถ ปน สุเภน กิณฺณา สุภกิณฺณา. ปุริมปเทสุปิ ปริตฺตํ สุภํ เอเตสนฺติ ปริตฺตสุภา, อปฺปมาณํ สุภํ เอเตสนฺติ อปฺปมาณสุภาติ สุภ-สทฺเทน สมาโส โยเชตพฺโพ โหติ.
๑๐๒๗. อารมฺมณมนสิการา ปุพฺพภาเคน กถิตาติ ฌานกฺขเณ ตโต ปจฺฉา วา ปริตฺตาทิกสิณารมฺมณภาวนาย อาวชฺชเนน จ ฌานสฺส อารมฺมณมนสิการนานตฺตตา น โหติ, ปุพฺพภาคภาวนาย ปน ปุพฺพภาคาวชฺชเนน จ โหตีติ อตฺโถ. ปุพฺพภาคภาวนาย วเสน หิ ฌานํ ปริตฺตปถวีกสิณาทีสุ ตํตทารมฺมณํ โหติ, ปุพฺพภาเคน ตํตํกสิณาวชฺชเนน ตํตํมนสิการนฺติ. ฉนฺทาทโย ปน อปฺปนากฺขเณปิ วิชฺชนฺติ. ตตฺถ ปณิธีติ น ตณฺหาปตฺถนา, อถ โข ฉนฺทปตฺถนาว ทฏฺพฺพา. อธิโมกฺโข นิจฺฉโย. อภินีหาโร จิตฺตปฺปวตฺติเยว. ยทิ ปน ภวฉนฺทภวปตฺถนาทโย ตํตํภววิเสสนิยามกา อธิปฺเปตา. ‘‘อปฺปนายปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ เอตสฺส อปฺปนาย ปวตฺตาย ตโต ปจฺฉาปิ วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สฺาวิราคาทีหิ ปน วิเสสิยมานํ อารมฺมณํ ตถา ตถา ตตฺถ ปวตฺโต มนสิกาโร จ ภววิเสสนิยามโก ปุพฺพภาโคว วฏฺฏตีติ ‘‘อารมฺมณมนสิการา ปุพฺพภาเคน กถิตา’’ติ วุตฺตํ.
วิปุลา ผลาติ วิปุลสนฺตสุขายุวณฺณาทิผลา. สุฏฺุ ปสฺสนฺติ ปฺาจกฺขุนา มํสทิพฺพจกฺขูหิ จ.
๑๐๒๘. ‘‘ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) วจนโต ‘‘กมฺมเมว ¶ ปมาณ’’นฺติ อาห, อพฺพุทาทิอายุปฺปมาณปริจฺเฉโท ปน กมฺมวเสเนว กโตติ อธิปฺปาโย.
นิลียโนกาสสฺส อภาวาติ สมานชาติเกน อจฺฉราคเณน สพฺพทา ปริวาริยมานสฺส กามคุณากิณฺณสฺส ตพฺพิรหิตฏฺานสฺส อภาวาติ อตฺโถ.
กึ นิยเมตีติ กึ ฌานํ อุปปตฺตึ นิยเมตีติ อตฺโถ. นว พฺรหฺมโลเกติ พฺรหฺมปาริสชฺชาทโย นวปิ โสเธตฺวา. มตฺถเกติ เวหปฺผเลสูติ ¶ อตฺโถ. เสฏฺภวา นามาติ ตโต ปรํ อคมนโต อุตฺตมภวาติ อธิปฺปาโย. เตเนว ภวสีสานีติ คหิตา. อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ เวหปฺผลาทิฏฺานานิ เอว สนฺธาย วุตฺตํ. เวหปฺผลโต ปน ปุริเมสุ นวสุ นิพฺพตฺตอนาคามี อรูปธาตุํ อุปปชฺชตีติ กตฺวา ‘‘รูปธาตุยา จุตสฺส อรูปธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ สตฺต อนุสยา อนุเสนฺติ, กสฺสจิ ปฺจ, กสฺสจิ ตโย อนุเสนฺตี’’ติ (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๑๑) อิทํ วุตฺตํ, น เวหปฺผลาทีสุ อุปปนฺนํ สนฺธายาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย สิยา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติเยว โหติ, น เหฏฺูปปตฺตี’’ติ, เอเตน เหฏฺูปปตฺติ เอว นิวาริตา, น เตสฺเวว อุปรูปริ เวหปฺผเล จ อุปปตฺติ อรูปธาตูปปตฺติ จ. ‘‘ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต อนาคามี นว พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา มตฺถเก ิโต ปรินิพฺพาตี’’ติ อิทมฺปิ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ น เตน ตสฺส มตฺถกํ อปฺปตฺตสฺส อรูปธาตุํ อุปปตฺติ นิวาริตาติ ทฏฺพฺพา.
โย วา อฺตฺถ ตตฺถ วา มคฺคํ ภาเวตฺวา จวิตฺวา ตตฺถ อุปปนฺโน อวิกฺขมฺภิตรูปราโค อริยสาวโก, ตํ สนฺธาย อยํ อฏฺกถา วุตฺตา. เตเนว ‘‘นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกาน’’นฺติ, ‘‘ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต อนาคามี’’ติ, ‘‘อิเมสุ ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺตอนาคามิโน’’ติ จ สพฺพตฺถ นิพฺพตฺตคฺคหณํ กตํ. ตสฺส ปน เยน ตตฺถ อุปปนฺโน, ตสฺมึ รูปราเค วิกฺขมฺภิเต ปุน ภวาภิลาโส น ภวิสฺสตีติ อรูปราคุปจฺเฉโท จ ภวิสฺสติเยว. โย ปน ปุถุชฺชโน ตตฺถ นิพฺพตฺโต อริยมคฺคํ ภาเวตฺวา อรูเปหิ วิกฺขมฺภิตรูปราโค อุปฺปนฺเน มคฺเค นิพฺพตฺตภวาทีนวทสฺสนวเสน อนิวตฺติตภวาภิลาโส, ตสฺส วเสน ยมกปาฬิ ปวตฺตาติ วา อยมตฺโถ อธิปฺเปโต สิยา.
อายุปฺปมาณวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อภิฺเยฺยาทิวารวณฺณนา
๑๐๓๐. ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ ¶ ¶ รูปํ, ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส’’ติอาทินา สามฺวิเสสลกฺขณปริคฺคาหิกา สลกฺขณปริคฺคาหิกา ทิฏฺิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิโย าตปริฺา, ตโต ปรํ ยาว อนุโลมา ตีรณปริฺา, อุทยพฺพยานุปสฺสนโต ปฏฺาย ยาว มคฺคา ปหานปริฺา.
ตตฺถ ตตฺถาติ ขนฺธาทีนํ ตาว ขนฺธวิภงฺคาทีสุ ปฺหปุจฺฉกวาเร วตฺตพฺพํ วุตฺตํ, เหตุอาทีนฺจ ขนฺธาทีสุ อนฺโตคธตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหปุจฺฉกวาเร วตฺตพฺพํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
อภิฺเยฺยาทิวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมหทยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ สมฺโมหวิโนทนิยา ลีนตฺถปทวณฺณนา
วิภงฺค-มูลฏีกา สมตฺตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
วิภงฺค-อนุฏีกา
๑. ขนฺธวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา ¶ ¶ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ คาถายํ ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ นิปฺปเทสโต สจฺจานิ คหิตานีติ นิปฺปเทสโต เอว ตทตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สมาหฏานีติ สมานีตานิ, จิตฺเตน เอกโต คหิตานีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สมาหฏานี’’ติ จ เอเตน สมาหาเร อยํ สมาโสติ ทสฺเสติ. เตเนวสฺส กเตกตฺตสฺส จตุสจฺจนฺติ นปุํสกนิทฺเทโส ¶ ‘‘ติวฏฺฏ’’นฺติอาทีสุ วิย. ปตฺตาทิปกฺเขเปน หิสฺส น อิตฺถิลิงฺคตา ยถา ปฺจปตฺตํ, จตุยุคํ, ติภุวนนฺติ, ตํ จตุสจฺจํ ปสฺสิ อทกฺขิ, ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌีติ อตฺโถ. กสฺมา ปเนตฺถ อนนฺตาปริมาเณสุ อนฺสาธารเณสุ มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทีสุ พุทฺธคุเณสุ สํวิชฺชมาเนสุ สาวเกหิ, ปจฺเจกพุทฺเธหิ จ สาธารเณน จตุสจฺจทสฺสเนน ภควนฺตํ โถเมตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘สติปิ สาวกาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อนฺปุพฺพกตฺตา’’ติ อิมินา สาวเกหิ, ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทินา ปจฺเจกพุทฺเธหิ จ ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส อสาธารณตํ, นิรติสยตฺจ ทสฺเสติ. ปรสนฺตาเนสุ ปสาริตภาเวน สุปากฏตฺตาติ เทสนานุภาเวน เวเนยฺยสนฺตาเนสุ จตุสจฺจทสฺสนสฺส วิตฺถาริตภาเวน ยาว เทวมนุสฺเสสุ สุปฺปกาสิตตฺตา. นาถสทฺทํ โลเก ¶ ยาจนุปตาปิสฺสริยาสีสาสุ ปนฺตีติ ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาถตีติ นาโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ภควา จตุสจฺจทสฺสนภาเวเนว อตฺตโน หิตสุขาสีสาย กิเลสพฺยสนุปตาปนสฺส, หิตปฏิปตฺติยาจนสฺส จ มตฺถกํ ปตฺโต, ตสฺมา ตํ เตเนว ปกาสิตนฺติ อตฺถุทฺธารํ อนามสิตฺวา ปทุทฺธารวเสน นาถสทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสตี’’ติอาทิมาห. ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ วา อิมินา อนฺสาธารโณ ภควโต าณานุภาโว ปกาสิโตติ ‘‘นาโถ’’ติ อิมินา อนฺสาธารณํ กรุณานุภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘เวเนยฺยาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปรเมน จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต ภควา นาโถติ วุจฺจตีติ โยชนา. ตถา ปรเมน จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต สพฺพสตฺเต คุเณหิ อีสตีติ โยเชตพฺพํ. จิตฺติสฺสริเยนาติ อริยิทฺธิอาทินา จิตฺเต วสีภาเวน. คุเณหิ อีสตีติ ปรมุกฺกํสคเตหิ อตฺตโน สีลาทิคุเณหิ ธมฺเมน อิสฺสริยํ วตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํภูโต ยสฺมา สพฺพาภิภู นาม โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อภิภวตี’’ติ. ตถา จาห ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… อภิภู อนภิภูโต, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓; ที. นิ. ๑.๑๘๘). ทุวิเธนาปิ อิสฺสริยตฺถํ นาถสทฺทํ ทสฺเสติ.
อฏฺารสปฺปเภทาย เทสนาย โถมนเมวาติ โยชนา. สมานคณนคุเณหีติ สมานคณเนหิ คุเณหิ กรณภูเตหิ. ยถาวุตฺเตน นิรติสเยน จตุสจฺจทสฺสเนนาติ สพฺพฺุตฺาณสฺส, ทสพเลสุ วสีภาวสฺส จ ปทฏฺานภูเตน. สจฺจาภิสมฺโพเธน หิ อภินีหารานุรูปํ รูปารูปธมฺเมสุ ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุขปฺปวตฺเตน สาติสยํ สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนปฺปเภเทน มหาวชิราณสงฺขาเตน พุทฺธาเวณิเกน สมฺมสเนน สมฺภูเตน ภควา สมฺมาสมฺโพธิยํ ปติฏฺิโตว ¶ กุสลาทิเภเทน, ผสฺสาทิเภเทน จ ธมฺเม วิภชนฺโต จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทิวเสน ธมฺมสงฺคหํ จตุธา เทเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ. ตถา อตีตํเส อปฺปฏิหตาณตาทิพุทฺธธมฺมสมนฺนาคโต ภควา อตีตาทิเภทโต ขนฺธาทิเก วิภชิตฺวา เทเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถาวุตฺเตน…เป… วิภงฺค’’นฺติ. ‘‘สพฺพฺุภาสิตตฺตา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อสพฺพฺุนา เทเสตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ ทสฺเสนฺโต’’ติ เอเตน ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคานํ ¶ อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตตฺเว วิภาเวติ. สมฺมาสมฺพุทฺธตาทิคุเณติ พุทฺธรตนสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธตา, ธมฺมสงฺฆรตนานํ สฺวากฺขาตตา, สุปฺปฏิปนฺนตาติ เอวมาทิคุเณ ปกาเสติ.
นนุ จ ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติอาทินา ภควโตว คุณา วิภาวิตาติ? สจฺจํ, เตเนว ธมฺมสงฺฆานมฺปิ คุณา วิภาวิตา โหนฺติ ตปฺปภวสฺส อนฺถาภาวโต, ตทปเทเสน วา ธมฺโม, ตทาธาโร จ สงฺโฆ วุตฺโตว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘พุทฺธาทีนํ…เป… วิภาเวตี’’ติ.
อตีตํเสติ อตีตโกฏฺาเส, ปุพฺพนฺเตติ อตฺโถ. อปฺปฏิหตนฺติ นปฺปฏิหตํ, าณสฺส ปฏิฆาโต นาม อฺาณํ, สพฺพมฺปิ วา กิเลสชาตํ. ตํ ยสฺมา ภควโต สห วาสนาย ปหีนํ, ตสฺมาสฺส อตีตํเส สพฺพตฺถกเมว เยฺยาวรณปฺปหาเนน าณํ อปฺปฏิหตนฺติ วุจฺจติ. เอส นโย เสเสสุปิ. กึ ปเนตานิ ปาฏิเยกฺกํ วิสุํ าณานิ, อุทาหุ อตีตาทีสุ ปวตฺตนกาณานิ เอว? ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณานิ นาม ปาฏิเยกฺกํ ภควโต ตีณิ าณาเนวาติ วทนฺติ. เอกํเยว หุตฺวา ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ นาม สพฺพฺุตฺาณเมว. สพฺพํ กายกมฺมนฺติ ยํ กิฺจิ ภควตา กตฺตพฺพํ กายกมฺมํ. าณปุพฺพงฺคมนฺติ าณปุเรจาริกํ. าณานุปริวตฺตนฺติ าณสฺส อนุปริวตฺตนกํ, สพฺพํ กายปโยคํ ปวตฺเตนฺโต ภควา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา าณสหิตเมว ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ฉนฺทสฺสาติ กตฺตุกมฺยตาย, มหากรุณาสมาโยคโต สตฺตานํ เอกนฺตหิเตสิตาย หิตกิริยาฉนฺทสฺสาติ อตฺโถ. ธมฺมเทสนายาติ ธมฺมกถาย. อปริกฺขยาปริเมยฺยปฏิภานตาย หิ ภควโต กรณสมฺปตฺติยา จ ธมฺมเทสนา นิรนฺตรํ ปวตฺติยมานาปิ น กทาจิปิ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อฺทตฺถุ อุปรูปริ วฑฺฒเตว. วีริยสฺสาติ ปรหิตปฏิปตฺติยํ อุสฺสาหสฺส. วิมุตฺติยาติ ผลวิมุตฺติยา. เอตฺถ จ สมาธิอาทีนํ อหานิ ตํตํปฏิปกฺขสฺส สวาสนปหีนตฺตา อนฺสาธารณตาย เวทิตพฺพา. ฉนฺทาทีนํ ปน มหากรุณาสมาโยคโตปิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
๑. เต ¶ ¶ เอว ธมฺเมติ เต เอว กุสลาทิเก ติกทุเกหิ สงฺคหิเต ธมฺเม. สุตฺตนฺเต ขนฺธาทิวเสน วุตฺเต ขนฺธาทิวเสน วิภชิตุนฺติ โยชนา. นนุ สุตฺตนฺเต ปฏิสมฺภิทาวเสน เต น วุตฺตาติ? ยทิปิ สรูปโต น วุตฺตา, ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๓๓) ปน เหตุเหตุผลาทีสุ าณวิภาคสฺส วุตฺตตฺตา อตฺถโต วุตฺตา เอว โหนฺติ, ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๒.๓๐) วา ปฏิสมฺภิทานํ อาคตตฺตา สุตฺตนฺเต ปฏิสมฺภิทาวเสนปิ เต ธมฺมา วุตฺตา เอว. ตตฺถาติ ตสฺมึ สุตฺตนฺเต. สงฺเขเปนาติ สมาเสน. อุทฺเทสนิทฺเทสมตฺเตเนว หิ สุตฺตนฺเต ขนฺธาทโย เทสิตา, น ปฏินิทฺเทสาทินาติ สงฺเขเปน เต ตตฺถ วุตฺตาติ วุตฺตา. ตตฺถาติ วา ธมฺมสงฺคเห. ตตฺถาปิ หิ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๘) ขนฺธาทโย สงฺเขเปน วุตฺตาติ. วิภชียนฺติ เอตฺถ, เอเตน วา ขนฺธาทโยติ วิภงฺโค, เต เอว ปกิรียนฺติ ปฏฺปียนฺติ เอตฺถ, เอเตน วาติ ปกรณํ, วิภงฺโค จ โส ปกรณฺจาติ วิภงฺคปฺปกรณํ. อาทิสทฺทตฺถโชตเกนาติ ‘‘อิติ วา, อิติ เอวรูปา นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๓) วิย อาทิสทฺทสฺส อตฺถทีปเกน. ปการตฺถโชตเกนาติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑) วิย ปการตฺถวิภาวเกน. ‘‘เอกเทเสน สมุทายํ นิทสฺเสตี’’ติ เอเตน ‘‘รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ เอตฺถ อิติสทฺทสฺส นิทสฺสนตฺถตํ ทสฺเสติ. นิทสฺสนตฺโถปิ หิ อิติ-สทฺโท ทิฏฺโ ยถา ‘‘อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐). ปริสมาปนตฺโถ วา ‘‘ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, โน อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’ติ’’ (ม. นิ. ๑.๒๙) เอวมาทีสุ วิย. ปริสมาปนฺเหตํ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส เอกเทสทสฺสเนน ยทิทํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ ตาว ตทตฺถสฺส สงฺคหิตตฺตา. ตตฺถาติ วิภงฺคปฺปกรเณ. ‘‘นิพฺพานวชฺชาน’’นฺติ เอตฺถ ยทิ นิพฺพานวชฺชานํ…เป… อปฺปกตรปทตฺตา ขนฺธานํ ขนฺธวิภงฺโค อาทิมฺหิ วุตฺโต, นนุ สห นิพฺพาเนน สพฺพธมฺมสงฺคาหกตฺตา, สพฺพธมฺมสงฺคาหเกหิ จ อายตนาทีหิ ขนฺเธหิ จ อปฺปกตรปทตฺตา สจฺจวิภงฺโค อาทิมฺหิ วตฺตพฺโพติ ¶ ? น, ตตฺถาปิ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค เอกเทเสน ขนฺธานํ เอว วิภชิตพฺพโต. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา…เป… สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ (วิภ. ๑๙๐; ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๑.๑๒๐; ๓.๓๗๓). อิธ ปน อนวเสสโตว ขนฺธา ¶ วิภชียนฺตีติ นิพฺพานวชฺชานํ…เป… อปฺปกตรปทตฺตา ขนฺธานํ ขนฺธวิภงฺโค อาทิมฺหิ วุตฺโต.
อปิจ รูปสมฺมูฬฺหา อรูปสมฺมูฬฺหา อุภยสมฺมูฬฺหาติ ติวิธา โพธเนยฺยปุคฺคลา, ตถา สํขิตฺตรุจิโน วิตฺถารรุจิโน นาติสงฺเขปวิตฺถารรุจิโน, ติกฺขินฺทฺริยา มุทินฺทฺริยา มชฺฌิมินฺทฺริยาติ จ. เตสุ อรูปสมฺมูฬฺหานํ อุปการาย ขนฺธเทสนา, รูปสมฺมูฬฺหานํ อายตนเทสนา, อุภยสมฺมูฬฺหานํ ธาตุเทสนา. ตถา สํขิตฺตรุจีนํ ขนฺธเทสนา, นาติสงฺเขปวิตฺถารรุจีนํ อายตนเทสนา, วิตฺถารรุจีนํ ธาตุเทสนา. ติกฺขินฺทฺริยานํ ขนฺธเทสนา, มชฺฌิมินฺทฺริยานํ อายตนเทสนา, มุทินฺทฺริยานํ ธาตุเทสนาติ อิมินา ปโยชเนน อนุกฺกเมน จ ขนฺธายตนธาตุวิภงฺคานํ เทสนากฺกโมว เวทิตพฺโพ. ตํ ปเนตํ ขนฺธาทิตฺตยํ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุมุเขเนว ายมานํ ยถาภูตาวโพธาย โหติ, นาฺถาติ ทสฺสนตฺถํ สจฺจวิภงฺคเทสนา ปวตฺตา. โส จ ยถาภูตาวโพโธ วิเสสโต อินฺทฺริยสนฺนิสฺสเยนาติ อินฺทฺริยวิภงฺคเทสนา. อินฺทฺริยานฺจ อินฺทฏฺโ ตํตํปจฺจยธมฺมภูตานํ ยถาสกํ ปจฺจยุปฺปนฺเนสุ ปจฺจยภาววิเสเสเนวาติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนวิภาคสนฺทสฺสนี ปจฺจยาการวิภงฺคเทสนา. ปจฺจยาการสฺส ขนฺธาทีนฺจ อวิปรีตสภาวาวโพโธ สติปฏฺานาทีสุ สมฺมามนสิกาเรนาติ สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควิภงฺคเทสนา. สฺวายํ สติปฏฺานาทีสุ สมฺมามนสิกาโร อิมาย ปฏิปตฺติยา โหตีติ ฌานอปฺปมฺาวิภงฺคเทสนา, สา สมฺมาปฏิปตฺติ เอตฺตเก สีเล ปติฏฺิตสฺส สมฺภวตีติ สิกฺขาปทวิภงฺคเทสนา, ยถาวุตฺตาย จ สมฺมาปฏิปตฺติยา อิเม อานิสํสาติ ปฏิสมฺภิทาาณวิภงฺคเทสนา, เต จิเม าณวิเสสา อิเมสุ กิเลเสสุ ปหียนฺเตสุ จ สมฺภวนฺติ, นาฺถาติ กิเลสวิภงฺคเทสนา, เอวํ ¶ วิตฺถารโต เทสิเต ขนฺธาทิเก สงฺเขปโตปิ ชานนฺตสฺส อตฺถสิทฺธิ โหติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ ปริโยสาเน ธมฺมหทยวิภงฺคเทสนา ปวตฺตาติ เอวเมเตสํ อฏฺารสนฺนํ มหาวิภงฺคานํ เทสนากฺกมการณํ เวทิตพฺพํ.
รูปาทีนนฺติ รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณานํ. เวทยิตาทิสภาวตฺตาภาวาติ ยถากฺกมํ อนุภวนสฺชานนาภิสงฺขรณาทิสภาวตฺตาภาวา. น หิ รูปํ เวทยิตาทิสภาวํ, เวทนาทิ วา รุปฺปนาทิสภาวํ. ยโต รูปาทีนํ เวทนาสมวโรธเนน ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา’’ติอาทินา สงฺขิปิตฺวา ขนฺธา ๐๖ เทเสตพฺพา สิยุํ. รุปฺปนาทิโต อฺสฺสาภาวาติ รุปฺปนานุภวนาทิสภาวโต อฺสฺส อตีตาทิเก คเหตฺวา ราสิวเสน วตฺตพฺพสฺส สํขิตฺตสฺส สภาวสฺส อภาวา. น หิ เจตสิกาทิภาโว เวทนาทีนํ สภาโว. เหฏฺา คณเนสูติ ปฺจโต เหฏฺา คณเนสุ. อนิฏฺานนฺติ อปริโยสานํ. รูปาทีสุ หิ กติปเย, เอกมฺปิ วา อคฺคเหตฺวา วุจฺจมานา ขนฺธวเสน เทสนา อนวเสสสงฺขตธมฺมสงฺคาหินี น สมฺภวติ. ขนฺธสฺสาติ ราสฏฺสฺส ขนฺธสฺส. เตเนวาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. สวิภาคธมฺเมหีติ สปฺปเภทธมฺเมหิ.
‘‘สทฺทตฺถสหิตํ ขนฺธสทฺทสฺส วิสยํ ทสฺเสตี’’ติ เอเตน ราสิสทฺทสฺส วิย ราสฏฺเ ขนฺธสทฺทสฺส วาจกภาเวน ปวตฺตึ ทสฺเสติ ปริยายนฺตรภาวโต. คุณาทีสุ ปน เกวลํ ตพฺพิสยปโยคภาเวเนว ปวตฺติ, น วาจกภาเวนาติ อาห ‘‘คุเณ…เป… น สทฺทตฺถ’’นฺติ. ขนฺธสทฺโทติ สีลาทิสทฺเท สนฺนิธาปิโต ขนฺธสทฺโท. เตเนวาห ‘‘สีลาทิคุณวิสิฏฺํ ราสฏฺํ ทีเปตี’’ติ. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. เอตฺถาติ ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) เอตฺถ. น เกวลฺจ โส เอว, อฏฺกถาจริเยหิปิ เอตฺถ คุณตฺถตา อิจฺฉิตา เอว. ตถา หิ อฏฺสาลินิยํ ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธติอาทีสุ คุณฏฺเนา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๕) วุตฺตํ. นนุ จ เกวโลปิ ขนฺธสทฺโท ‘‘ติณฺณํ โข, มาณว, ขนฺธานํ วณฺณวาที, น โข, อาวุโส วิสาข, ตีหิ ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) จ อาทีสุ สีลาทิวาจโก ทิฏฺโติ? น, ตตฺถาปิ อธิการาทิวจฺเฉทกวเสเนวสฺส สีลาทีสุ ปวตฺติทสฺสนโต. น ขนฺธสทฺโท ปฺตฺติสทฺทสฺส อตฺเถ วตฺตตีติ นิรุตฺติโวหาราทิสทฺทา ¶ วิย ปฺตฺติปริยาโย น โหตีติ อตฺโถ. ทารุกฺขนฺโธติ ปฺตฺติ โหตีติ ตสฺส ขนฺธสทฺทสฺส ปฺตฺติวิเสสปฺปวตฺติตํ ทสฺเสติ. วิฺาณกฺขนฺโธติ ขนฺธสทฺโทติ ‘‘วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๓๒) เอตฺถ วุตฺโต ขนฺธสทฺโท. สมุทาเย นิรุฬฺโหติ อตีตาทิเภทภินฺนสฺส ปฺาย อภิสํยูหเนน ราสิกเต วิฺาณสมูเห นิรุฬฺโห. ตาย เอว รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ ตาย สมุทาเย นิรุฬฺหตาย ตทวยเว เอกสฺมิมฺปิ วิฺาเณ ปวตฺตตีติ. เอตฺถ จ าณสมฺปยุตฺเต นิรุฬฺโห โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลภาโว วิย าณวิปฺปยุตฺเต วิฺาณสมุทาเย นิรุฬฺโห ตเทกเทเสปิ รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตนฺนิมิตฺตยุตฺเต กิสฺมิฺจิเทว วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาวเสน นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺติ รุฬฺหิ ¶ นาม, ยถา มหิยํ เสตีติ มหึโส, คจฺฉนฺตีติ คาโวติ, เอวํ ขนฺธสทฺทสฺสาปิ รุฬฺหิภาโว เวทิตพฺโพ.
ราสิโต คุณโตติ สพฺพตฺถ ภุมฺมตฺเถ วา นิสฺสกฺกวจนํ ทฏฺพฺพํ. นิยเมตฺวาติ ววตฺถเปตฺวา. ปิณฺฑฏฺโติ สงฺฆาตตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฺเจว ขนฺธา วุตฺตา, โกฏฺาสฏฺเ จ ขนฺธฏฺเ นิพฺพานสฺส วเสน ฉฏฺเนาปิ ขนฺเธน ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ขนฺธฏฺโ นาม ราสฏฺโติ ยุตฺตํ. ‘‘เยสํ วา อตีตาทิวเสน เภโท อตฺถี’’ติอาทินา อตีตาทิวิภาคภินฺเนสุ รุปฺปนาทิสภาวธมฺเมสุ วิสุํ วิสุํ โกฏฺาสภาเวน คยฺหมาเนสุ ตพฺพิภาครหิตสฺส เอกสฺส นิพฺพานสฺส ราสฏฺตา วิย โกฏฺาสฏฺตาปิ น สมฺภวตีติ ทสฺเสติ. เอเตน ปฺตฺติยาปิ ขนฺเธสุ อคฺคหเณ การณํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺสาทิเก วิย สงฺขารกฺขนฺเธ อนวโรเธตฺวา เวทนาสฺา วิสุํ ขนฺธภาเวน คหิตาติ? วิวาทมูลตาทิวิเสสทสฺสนตฺถํ. คหฏฺานฺหิ วิวาทการณํ กามชฺโฌสานํ. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณํ กามานเมว เหตุ มาตาปิ ปุตฺเตน วิวทติ, ปุตฺโตปิ มาตรา วิวทตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๖๘, ๑๗๘). ปพฺพชิตานํ ทิฏฺาภินิเวโส. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘เย ทิฏฺิมุคฺคยฺห วิวาทยนฺติ, ‘อิทเมว ¶ สจฺจ’นฺติ (สุ. นิ. ๘๓๘; มหานิ. ๖๗) จ วาทยนฺตี’’ติอาทิ. เตสุ กามชฺโฌสานํ เวทนสฺสาเทน โหติ, ทิฏฺาภินิเวโส สฺาวิปลฺลาเสน. สฺาวิปลฺลาเสน หิ จิตฺตวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาเสน ทิฏฺิมานตณฺหาปปฺจานํ วิปลฺลาโสติ. ตถา เวทนานุคิทฺโธ วิปลฺลตฺถสฺโ จ สํสรติ. เวทนานุคิทฺธสฺส หิ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา สิทฺธา โหติ, ตโต จ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ อาวฏฺฏติ ภวจกฺกํ. วิปลฺลตฺถสฺิสฺส จ ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติ (สุ. นิ. ๘๘๐) วจนโต ทิฏฺิมานตณฺหาปปฺจานํ อนุปจฺเฉทโต สํสารสฺส อนุปจฺเฉโทว. อิติ วิวาทการณานํ กามชฺโฌสานทิฏฺาภินิเวสานํ การณภาโว สํสารเหตุภาโวติ อิมสฺส วิวาทมูลตาทิวิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ สงฺขารกฺขนฺเธ อนวโรเธตฺวา เวทนาสฺา วิสุํ ขนฺธภาเวน คหิตาติ เวทิตพฺพํ.
โอกาเสสูติ ¶ วิภชนกิริยาย ปวตฺติฏฺานภาวโต อตีตาทโย โอกาสาติ วุตฺตา. อิติสทฺเทนาติ ‘‘อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ อฏฺกถายํ วุตฺตอิติสทฺเทน. นิทสฺสนตฺเถนาติ อุทาหรณตฺเถน. สพฺโพติ สกโล เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต วิภชนนโย. อิทฺจ วิภชนนฺติ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา…เป… อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ วิภตฺตํ อิทฺจ วิภชนํ. โอฬาริกาทีสูติ โอฬาริกสุขุมหีนปณีตทูรสนฺติเกสุ. จกฺขายตนนฺติอาทิวิภชนฺจาติ ‘‘จกฺขายตนํ…เป… โผฏฺพฺพายตนํ อิตฺถินฺทฺริยํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโร รูปา สทฺทา คนฺธา รสา โผฏฺพฺพาติ เอวํ ปวตฺตํ วิภชนฺจ. ยถาสมฺภวนฺติ ยถารหํ. เอกาทสสุ โอกาเสสุ ยํ ยตฺถ วิภชนํ ยุตฺตํ, ตํ ตตฺถ โยเชตพฺพํ. เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีสุปีติ ยถา รูปกฺขนฺเธ ยถาสมฺภวํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภชนํ โยเชตพฺพนฺติ วุตฺตํ, เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภชนํ โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ ตาว ปุริเม โอกาสปฺจเก สุขาทิเวทนาตฺติกวเสน วิภตฺโต, อิตรสฺมึ กุสลตฺติกเวทนาตฺติกสมาปนฺนทุกสาสวทุกวเสน. สฺากฺขนฺโธ ปน ปุริเม โอกาสปฺจเก ฉผสฺสทฺวารวเสน, อิตรสฺมึ โอฬาริกทุเก ปฏิฆสมฺผสฺสทุกวเสน เจว ยถาวุตฺตกุสลตฺติกาทิวเสน ¶ จ วิภตฺโต. เสเสสุ กุสลตฺติกาทิวเสเนว. ตถา สงฺขารกฺขนฺโธ. ปฏิฆสมฺผสฺสทุโก ปเนตฺถ นตฺเถว. เจตนาย เอว เจตฺถ นิทฺเทโส สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาปฺปธานภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ สา ‘‘สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตา. ตตฺถาติ ตสฺมึ วิฺาณกฺขนฺธสฺส วิภชเน ปฏินิทฺเทเส. ตํ ปน ทฺวยนฺติ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุทฺวยํ. ยฺหิ สตฺตวิฺาณธาตุเทสนายํ ‘‘มโนธาตุ, มโนวิฺาณธาตู’’ติ ทฺวยํ เทสิตํ, ตํ ฉวิฺาณกายเทสนายํ ‘‘มโนวิฺาณ’’นฺตฺเวว วุจฺจตีติ.
ปาฬินเยนาติ ขนฺธวิภงฺคปาฬินเยน. อฺเน ปกาเรนาติ ธมฺมสงฺคเห, ตทฏฺกถายฺจ อาคเตน ปการนฺตเรน.
๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒. ‘‘กิฺจี’’ติ ปทํ ‘‘เอกจฺจ’’นฺติ อิมินา สมานตฺถนฺติ อาห ‘‘กิฺจีติ ปการนฺตรเภทํ อามสิตฺวา อนิยมนิทสฺสน’’นฺติ. อุภเยนาติ ปการเภทํ อนามสิตฺวา อามสิตฺวา ¶ จ อนิยมทสฺสนวเสน ปวตฺเตน ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ ปททฺวเยน. อธิปฺเปตตฺถนฺติ รูปํ. อติจฺจาติ อติกฺกมิตฺวา. ปวตฺติโตติ ปวตฺตนโต. นิยมนตฺถนฺติ นิวตฺตนตฺถํ.
‘‘กิฺจา’’ติ เอตฺถ กึ-สทฺโท ปุจฺฉายํ เหตุอตฺถทีปโก, กรเณ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, จ-สทฺโท วจนาลงฺกาโรติ อาห ‘‘เกน การเณน วเทถา’’ติ. ทุติยวิกปฺเป ปน วุตฺตนเยเนว การณตฺเถ ปวตฺตํ กึ-สทฺทํ ‘‘วเทถา’’ติ กิริยาปทสมฺพนฺธเนน อุปโยควเสน ปริณาเมตฺวา วทติ ‘‘ตํ การณํ วเทถา’’ติ.
ปุริมสนฺตานสฺส เภทนฺติ ปุริมสนฺตานสฺส วินาสํ, วินาสาปเทเสน เจตฺถ สนฺตาเน วิสทิสุปฺปาทเมว ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘วิสทิสสนฺตานุปฺปตฺติทสฺสนโต’’ติ. นนุ จ อรูปธมฺมานมฺปิ วิโรธิปจฺจยสมวาเย วิสทิสุปฺปตฺติ อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, สา ปน น ปากฏตรา, ปากฏตรา จ อิธาธิปฺเปตา. เตเนวาห ‘‘สีตาทิสนฺนิปาเต’’ติ. ตถา จาห ภควา ‘‘สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๗๙). อิทานิ เภท-สทฺโท อุชุกเมว วิการาปตฺตึ วทตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เภโท จา’’ติอาทิมาห ¶ . วิสทิสรูปุปฺปตฺติเยว, น อุปฺปนฺนสฺส อฺถาภาโวติ อธิปฺปาโย. เตน กาปิลิยํ ปริณามวาทํ ปฏิกฺขิปติ. ยทิ ปุริมสนฺตานโต เภโท วิสทิสุปฺปตฺติ รุปฺปนํ, เอวํ สนฺเต ลกฺขณสฺส อติปฺปสงฺโค สิยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อรูปกฺขนฺธาน’’นฺติอาทิ. เอตฺถ สีตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ยถา อุณฺหชิฆจฺฉาทโย สงฺคยฺหนฺติ, เอวํ อาหาราทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เยนาติ เยน สีตาทีหิ สมาคเมน. ตตฺถาติ เตสุ รูปธมฺเมสุ. อาหาราทิกสฺส วา ิติปฺปตฺตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ยถา รูปธมฺมานํ ิติกฺขเณ สีตาทีหิ สมาคโม โหติ, เอวํ อรูปกฺขนฺธานํ อฺเหิ สมาคโม นตฺถิ อติลหุปริวตฺติโต, ตสฺมา อรูปธมฺมา รูปธมฺมานํ วิย ปากฏสฺส วิการสฺส อภาวโต ‘‘รุปฺปนฺตี’’ติ, ‘‘รุปฺปนลกฺขณา’’ติ จ น วุจฺจนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘รุปฺปตี’’ติ ปทสฺส กตฺตุกมฺมสาธนานํ วเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ ภิชฺชตี’’ติ วุตฺตนฺติ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘กุปฺปตีติ เอเตนา’’ติอาทิมาห. โกปาทิกิริยาติ โกปสงฺฆฏฺฏนปีฬนกิริยา. โกป-สทฺโท เจตฺถ โขภปริยาโย เวทิตพฺโพ. กตฺตุภูโต กมฺมภูโต จ อตฺโถติ กตฺตุกมฺมสาธนานํ วเสน วุจฺจมาโน ภูตุปาทายรูปสงฺขาโต อตฺโถ. กมฺมกตฺตุตฺเถน ภิชฺชติ-สทฺเทนาติ ยทา กมฺมกตฺตุตฺโถ รุปฺปติ-สทฺโท, ตทา ภิชฺชติ-สทฺโทปิ ตทตฺโถ เอว เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. ตตฺถ ยทา กมฺมตฺเถ ‘‘รุปฺปตี’’ติ ปทํ, ตทา ‘‘สีเตนา’’ติอาทีสุ กตฺตุอตฺเถ ¶ กรณวจนํ. ยทา ปน ‘‘รุปฺปตี’’ติ ปทํ กตฺตุอตฺเถ กมฺมกตฺตุอตฺเถ วา, ตทา เหตุมฺหิ กรณวจนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ ปน รุปฺปตี’’ติอาทินา ‘‘กุปฺปตี’’ติอาทีนํ กตฺตุกมฺมตฺถานมฺปิ อตฺถวจนานํ วจเน การณํ ทสฺเสติ. ยทิปิ อตฺถ-สทฺโท ‘‘ปีฬนฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗; ๒.๘) สภาวปริยาโยปิ โหติ, ‘‘เกนฏฺเนา’’ติ ปเนตฺถ อภิเธยฺยปริยาโย อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘เกนฏฺเนาติ ปุจฺฉาสภาควเสน รุปฺปนฏฺเนา’’ติ, รุปฺปนสทฺทาภิเธยฺยภาเวนาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘น เกวลํ สทฺทตฺโถเยว รุปฺปน’’นฺติ. ตสฺส อตฺถสฺสาติ ตสฺส ภูตุปาทายปฺปเภทสฺส สภาวธมฺมสฺส. รุปฺปนลกฺขณฺจ นาเมตํ อนิจฺจตาทิ วิย กกฺขฬตฺตาทิโต อฺนฺติ น คเหตพฺพํ. ปฺตฺติวิเสโส หิ ตนฺติ, กกฺขฬตฺตาทีนํเยว ปน อรูปธมฺมวิธุโร สภาววิเสโสติ เวทิตพฺพํ.
มุจฺฉาปตฺติยาติ ¶ มุจฺฉาย โมหสฺส อาปชฺชเนน. กปฺปสณฺานํ อุทกนฺติ กปฺปสณฺาปกมหาเมฆวุฏฺํ อุทกํ. ตถาติ ตปฺปการตาย ขารภาเว สติ อุทเกน กปฺปวุฏฺานกาเล วิย ปถวี วิลีเยยฺย. โลกนฺตริยสตฺตานํ ปน ปาปกมฺมพเลน อขาเรปิ ขาเร วิย สรีรสฺส วิลียนา เวทิตพฺพา. เตเนวาติ สอุสฺสทนิสฺสยนิรยสฺส วุตฺตตฺตา เอว. น หิ อวีจิมฺหิ ปฺจวิธพนฺธนาทิกมฺมการณํ กโรนฺติ.
๓. ปกรณปฺปตฺตํ รูปํ ปกฺขิปิตฺวา มาติกา ปิตาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. มหาภูตุ…เป… อาปชฺชติ ตปฺปการภาเวน อตีตํเส คณนํ คตนฺติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘น หี’’ติอาทินา ธมฺมนฺตรนิวตฺตนตฺถตา ปการนฺตรนิวตฺตนตฺถตา จ ภูตุปาทายคหณสฺส นตฺถีติ ทสฺเสติ. ตํทสฺสเนติ คณนนฺตรทสฺสเน. ตํสภาวตฺตาติ ภูตุปาทายสภาวตฺตา. ‘‘น จา’’ติอาทินา ภูตุปาทายสภาโว อตีตํสคณิตตาย ตํสภาวสฺสปิ อฺถา คณิตตฺตา, อตํสภาวสฺส จ ตถา คณิตตฺตา อการณนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘อชฺฌตฺต…เป… ลพฺภตี’’ติ เอเตน ทุติยนเย น เกวลํ ยถาวุตฺโตว โทโส, อถ โข อพฺยาปิโตปิ โทโสติ ทสฺเสติ. ตเทตํ ปน อการณํ การณภาวสฺเสว อนธิปฺเปตตฺตา. น เหตฺถ ภูตุปาทายรูปภาโว อตีตํเส คณนสฺส การณนฺติ อธิปฺเปตํ, ยโต ยถาวุตฺตโทสาปตฺติ สิยา.
‘‘กินฺตี’’ติ เอตฺถ ‘‘กิ’’นฺติ ปุพฺเพ ยํ ‘‘รูป’’นฺติ สามฺโต คหิตํ, ตสฺส สรูปปุจฺฉา. อิติ-สทฺโท นิทสฺสนตฺโถ, น การณตฺโถ. เตนสฺส ยํ รูปํ อตีตํ นิรุทฺธํ…เป… อตีตํเสน ¶ สงฺคหิตํ อตีตโกฏฺาเส คณนํ คตํ, ตํ กินฺติ เจ? ‘‘จตฺตาโร จ…เป… รูป’’นฺติ ภูตุปาทายวิภาคทสฺสนมุเขน วิเสสํ นิทสฺเสติ. ยตฺตกา หิ อิธ วิเสสา นิทฺทิฏฺา จกฺขายตนาทโย, เตสมิทํ นิทสฺสนนฺติ. น เจตฺถ ปุริมนยโต อวิเสโส. ตตฺถ หิ รูปสฺส ภูตุปาทายตามตฺตสภาวทสฺสนตา วุตฺตา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อตีตรูปมฺปิ ภูตานิ เจวา’’ติอาทิ. อิธ ปน ภูตุปาทาเยน นิทสฺสนภูเตน รูปสฺส สพฺพวิเสสวิภาวนตา ทสฺสิตา. เอวฺจ กตฺวา อพฺยาปิตโทโสปิ เจตฺถ อโนกาโสว, ยํ รูปํ อชฺฌตฺตํ…เป… อุปาทินฺนํ, กินฺติ? จตฺตาโร จ…เป… รูปนฺติ ตทฺวิเสสนิทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตถา จาห ‘‘เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ.
ปริยายเทสนตฺตาติ ¶ สภาวโต ปริยายนํ ปริวตฺตนํ ปริยาโย, อุชุกํ อปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. ปริยาเยน, ปริยายภูตา วา เทสนา เอตฺถาติ ปริยายเทสนํ, สุตฺตนฺตํ. สุตฺตนฺตฺหิ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน เทเสตพฺพธมฺเม เลสโต ลพฺภมานภาวกถนํ, น อุชุนิปฺปเทสภาวกถนนฺติ ปริยายเทสนํ นาม. เตเนว ตํ ‘‘ยถานุโลมสาสน’’นฺติ วุจฺจติ. อภิธมฺโม ปน เทเสตพฺพธมฺเม อุชุนิปฺปเทสกถนนฺติ นิปฺปริยายเทสนํ นาม, ยโต ‘‘ยถาธมฺมสาสน’’นฺติ วุจฺจติ. นิจฺฉเยน เทโสติ ววตฺถานโต กถนํ. ตถา ภทฺเทกรตฺตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๗๒ อาทโย) วิย อตีตาทิภาโว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนภาโว อทฺธาวเสน อิธาปิ ขนฺธวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียตฺตา นิทฺทิสิตพฺโพ สิยาติ โยชนา.
สนฺนิปติตนฺติ สมาคตํ. สนฺตานวเสนาติ ปุพฺพาปรวเสน. ปุพฺเพนาปรสฺส สมปฺปมาณตาย อนูนํ อนธิกํ, ตโต เอว เอกาการํ. ปวตฺติกาลวเสน วา อนูนํ อนธิกํ, สมานสภาวตาย เอกาการํ. เตน วิสภาคอุตุนา อนนฺตริตตํ ทสฺเสติ. เอวํ อาหาเรปีติ เอตฺถ วิสภาคาหาเรน อนนฺตริโต อเนกวารํ อเนกทิวสมฺปิ ภุตฺโต สภาเคกาหารํ นาม. ‘‘ตโต ปุพฺเพ วิสภาคอุตุอาหารสมุฏฺานํ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคต’’นฺติ หิ วุตฺตนฺติ. ‘‘เอกาหารสมุฏฺาน’’นฺติ ปน วุตฺตตฺตา เอกสฺเสว อาหารสฺส โยชนา ยุตฺตรูปาติ อปเร. ปฺจทฺวารวเสนาติ เอตฺถ ปฺจทฺวาราวชฺชนโต ปฏฺาย ยาว ตทารมฺมณํ, ยาว ชวนํ, ยาว วา โวฏฺพฺพนํ, ตาว ปวตฺตา จิตฺตสนฺตติ เอกวีถิ. เอกชวนสมุฏฺานนฺติ เอกชวนวารสมุฏฺานํ. เอตฺถ จ สมยํ อนามสิตฺวาว สนฺตติวเสน, สนฺตติฺจ อนามสิตฺวาว สมยวเสน อตีตาทิวิภาโค คเหตพฺโพ.
เตสนฺติ ¶ เหตุปจฺจยานํ. กลาปสฺสาติ รูปกลาปสฺส. กมฺมานนฺตราทีติ กมฺมาทิ, อนนฺตราทีติ ปจฺเจกํ อาทิ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. ตตฺถ ปเมน อาทิสทฺเทน อุปนิสฺสยปจฺจยสฺส อาหาราทิโน จ ทุติเยน สมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยาทิโน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. จิตฺตุปฺปาทสฺส เจตฺถ กมฺมานนฺตราทิปจฺจยวเสน, อิตรสฺส กมฺมาทิวเสเนว ชนกภาเว โยชนา ทฏฺพฺพา. ตถา จิตฺตุปฺปาทสฺส ปุเรชาตวเสน, อิตรสฺส ปจฺฉาชาตวเสน, อุภเยสมฺปิ สหชาตวเสน อุปตฺถมฺภนํ เวทิตพฺพํ ¶ . เตเนวาห ‘‘ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพ’’นฺติ. อุปฺปาทกฺขเณติ เหตุกิจฺจกฺขเณ. เหตุกิจฺจํ นาม ตสฺส ตสฺส อุปฺปาเทตพฺพสฺส อุปฺปตฺติกรณํ, ตฺจ ตสฺมึ ขเณ อุปฺปนฺนผลตฺตา ตโต ปรํ กตฺตพฺพาภาวโต นิฏฺิตฺจาติ ทฏฺพฺพํ. อิตรํ ปน ตีสุปิ ขเณสุ ปจฺจยกิจฺจํ ทฏฺพฺพนฺติ โยชนา.
๖. อนิฏฺนามนิวตฺตนสฺสาติ อนิฏฺนามนิวตฺติยา อการณภาวทสฺสเนน อิฏฺนามลาภาปนสฺส อการณภาวํ ทสฺเสติ.
เทวมนุสฺสสมฺปตฺติภเวติ สมฺปตฺติยุตฺเต สมฺปนฺเน เทวมนุสฺสภเว. สมิทฺธโสภนตาติ อภิวุทฺธโสภนตา. ตโต เอวาติ สมฺปตฺติวิรหโต เอว, อสมฺปนฺนตฺตา เอวาติ อตฺโถ. เตสํเยว หตฺถิอาทีนํ สุขสฺส เหตุภาวํ น คจฺฉนฺติ สารณาทิวเสน ทุกฺขปจฺจยตฺตา. เตสนฺติ หตฺถิรูปาทีนํ. ‘‘ตสฺส ตสฺเสวา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ วิวรติ. อกุสเลน อตฺตนา กเตน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขสฺส ปจฺจโย โหตีติ โยชนา. ตสฺมาติ ยสฺมา กมฺมํ ยสฺมึ สนฺตาเน นิพฺพตฺตํ, ตตฺเถว สุขทุกฺขานํ ปจฺจโย โหติ, น อฺตฺถ, ตสฺมา. อฏฺกถายํ ปนาติ เอกจฺจมตทสฺสนํ. ตตฺถ ‘‘อนิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ ยสฺมา ปฏิเสธทฺวเยน กุสลกมฺมชสฺส อิฏฺภาโว นิยโต, ตสฺมา ‘‘กุสลกมฺมชเมว อิฏฺ’’นฺติ เอวํ อนิยเมตฺวา ‘‘กุสลกมฺมชํ อิฏฺเมวา’’ติ เอวเมตฺถ นิยโม คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกุสลกมฺมชมฺปี’’ติอาทิมาห. กินฺติ อกุสลกมฺมชํ โสภนํ, ยํ ปเรสํ อิฏฺํ นาม สิยา? ยทิ ทุคฺคติยํ เกสฺจิ ติรจฺฉานานํ สณฺานาทิสมฺปตฺติ สุคติยํ สตฺตานํ อกุสลนิสฺสนฺเทน วิรูปรูปตา วิย กุสลนิสฺสนฺเทน, กถํ ตสฺสา อกุสลกมฺมชตา. อถ ปน ยํ เกสฺจิ อมนาปมฺปิ สมานํ รูปํ มนาปํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ, เอวมฺปิ ยถา เกสฺจิ ติรจฺฉานาทีนํ กุสลกมฺมชํ มนุสฺสาทิรูปํ อมนาปโต อุปฏฺหนฺตมฺปิ กุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณภาวโต อตฺถโต อิฏฺเมว นาม โหติ, เอวํ อกุสลกมฺมชํ เกสฺจิ มนาปํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺตมฺปิ อกุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณภาวโต ¶ อตฺถโต อนิฏฺเมว นาม โหติ, เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ กายทุจฺจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติอาทิอฏฺานปาฬิยา (ม. นิ. ๓.๑๓๑) วิโรโธ สิยา. เตเนวาห ‘‘กุสลกมฺมชสฺส ปนา’’ติอาทิ. สพฺเพสนฺติ อตฺตโน, ปเรสฺจ ¶ . อิฏฺสฺส อภาโว วตฺตพฺโพติ ยถา ‘‘กุสลกมฺมชํ อนิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ กิฺจาปิ ‘‘อกุสลกมฺมชํ อิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ อฏฺกถายํ น วุตฺตํ, เตน ปน นยทสฺสเนน อกุสลกมฺมชสฺส อภาโว วุตฺโต เอว โหตีติ โส สํวณฺณนาวเสน นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺโพติ อธิปฺปาโย. เอเตน กุสลกมฺมชเมว อิฏฺนฺติ ปุริมปทาวธารณสฺส คเหตพฺพตํ ทสฺเสติ.
อิทานิ ‘‘หตฺถิอาทีนมฺปี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ วิวรติ. กุสลวิปากสฺสาติ เอตฺถาปิ กุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณนฺติ อตฺโถ. มนุสฺสานนฺติ จ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อิตเรสมฺปิ จ อกุสลกมฺมชํ อกุสลวิปากสฺเสว, กุสลกมฺมชฺจ กุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณนฺติ ทสฺสิโตวายํ นโยติ. กสฺมา ปน อิฏฺานิฏฺมิสฺสิเต วตฺถุมฺหิ มนาปตาว สณฺาตีติ อาห ‘‘อิฏฺารมฺมเณน…เป… สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ. สุฏฺุ วุตฺตนฺติ ‘‘อิฏฺานิฏฺํ เอกนฺตโต วิปาเกเนว ปริจฺฉิชฺชตี’’ติ วทนฺเตหิ อิฏฺานิฏฺารมฺมณววตฺถานํ สมฺมเทว วุตฺตํ. ตํ อนุคนฺตฺวาติ วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺารมฺมณววตฺถานํ อนุคนฺตฺวา. สพฺพตฺถาติ สุคติทุคฺคตีสุ, สพฺเพสุ วา อารมฺมเณสุ.
‘‘อนิฏฺา’’ติ วจเนเนว เตสํ อิฏฺตา นิวตฺติตาติ อาห ‘‘สทิสตา จ รูปาทิภาโวเยวา’’ติ. อิฏฺาเนว รูปาทีนิ กามคุณาติ สุตฺเต วุตฺตานีติ มิตฺตปฏิปกฺโข อมิตฺโต วิย อิฏฺปฏิปกฺขา อนิฏฺาติ อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘อนิฏฺาติ…เป… โวหาโร วิยา’’ติ. สพฺพานิ วาติ เอตฺถ ‘‘ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓) วจนโต กถํ อนิฏฺานํ รูปาทีนํ กามคุณภาวาปตฺตีติ เจ? เตสมฺปิ วิปลฺลาสวเสน ตณฺหาวตฺถุภาวโต ปิยรูปภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ยทิ เอวํ กถํ ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ อิฏฺานี’’ติอาทิสุตฺตปทํ (ม. นิ. ๑.๑๖๖; ๒.๑๕๕; ๓.๕๗; สํ. นิ. ๕.๓๐) นียตีติ อาห ‘‘อติสเยนา’’ติอาทิ.
อินฺทฺริยพทฺธรูปวเสน ปาฬิยํ หีนทุกนิทฺเทโส ปวตฺโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺวีสุปิ หีนปณีตปเทสู’’ติอาทิมาห. อวยวโยเค สามิวจนํ, น กตฺตรีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ ¶ อินฺทฺริยพทฺธรูเป นิทฺทิฏฺเ กสฺมา กมฺมชวเสน อตฺโถ วุตฺโต, น จตุสนฺตติวเสนาติ อาห ‘‘สตฺตสนฺตาน…เป… วุตฺต’’นฺติ. ปธานตฺตา หิ กมฺมชวเสน อตฺถํ วตฺวา เสเสสุ ‘‘เอวํ อุตุสมุฏฺานาทีสุปี’’ติ อฏฺกถายํ อติเทโส กโต ¶ . ‘‘เตหิ เตหีติ เอตสฺมึ อตฺเถ’’ติ อิมินา ‘‘เตสํ เตส’’นฺติ กตฺตริ สามิวจนํ อาสงฺกติ. ตถา สติ วิสเย วา สามิวจเน ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ ‘‘น กมฺมชวเสเนวา’’ติอาทินา, กมฺมชคฺคหณฺเจตฺถ อุปลกฺขณํ ทฏฺพฺพํ.
มริยาทาภูตนฺติ อุตฺตมมริยาทาภูตํ. เตเนวาห ‘‘ยสฺส เยว มนาปา, ตสฺส เตว ปรมา’’ติ. เตสนฺติ กามคุณานํ. สภาวโตติ ลกฺขณโต.
‘‘เอกสฺมึเยว อสฺสาทนกุชฺฌนโต’’ติอาทินา ‘‘ยสฺมา เตเยว รูปาทโย เอโก อสฺสาเทตี’’ติอาทิกํ สุตฺตนฺตวิวรณํ อิฏฺานิฏฺภาเว เหตุภาเวน วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อิฏฺานิฏฺคฺคหณํ โหตีติ นิพฺพาเน วิย อนิฏฺคฺคหณํ สฺาวิปลฺลาเสน อฺเสุปิ อารมฺมเณสุ อิฏฺานิฏฺาภินิเวโส โหตีติ อธิปฺปาโย.
วิภาโค นาม อสงฺกโร, วิตฺถาโร จาติ ‘‘วิภตฺต’’นฺติ ปทสฺส ‘‘ววตฺถิตํ, ปกาสิต’’นฺติ จ อตฺถมาห. อฺเสนฺติ อติอฑฺฒทลิทฺทานํ. อิทํ อิฏฺํ, อนิฏฺฺจ โหตีติ เอตฺถ จ-สทฺเทน อนิฏฺํ, อิฏฺฺจ โหตีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. อนิฏฺํ อิฏฺนฺติ อิฏฺสฺส ‘‘อนิฏฺ’’นฺติ, อนิฏฺสฺส ‘‘อิฏฺ’’นฺติ คหเณ ยถาสงฺขฺยํ โยชนา. อินฺทฺริยวิการาปตฺติอาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปุพฺพาภิสงฺขาราทึ สงฺคณฺหาติ. ปุเรตรํ ปวตฺตจิตฺตาภิสงฺขารวเสนาปิ หิ วินาว สฺาวิปลฺลาสํ อิฏฺํ ‘‘อนิฏฺ’’นฺติ, อนิฏฺฺจ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ คยฺหตีติ.
เตน วิปาเกนาติ เตน กุสลากุสลวิปาเกน. อารมฺมณสฺส อิฏฺานิฏฺตนฺติ ยตฺถ ตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส พุทฺธรูปาทิกสฺส คูถาทิกสฺส จ อารมฺมณสฺส ยถากฺกมํ อิฏฺตํ อนิฏฺตฺจ นิทสฺเสติ. วิชฺชมาเนปิ สฺาวิปลฺลาเส อารมฺมเณน วิปากนิยมทสฺสนนฺติ อิฏฺารมฺมเณ กุสลวิปาโกว อุปฺปชฺชติ, อนิฏฺารมฺมเณ อกุสลวิปาโกวาติ เอวํ อารมฺมเณน วิปากนิยมทสฺสนํ. อารมฺมณนิยมทสฺสนตฺถนฺติ ยํ กุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ, ตํ อิฏฺํ นาม. ยํ อกุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ, ตํ อนิฏฺํ นามาติ ทสฺสนตฺถํ. อารมฺมเณน นิยามิโต หิ วิปาโก อตฺตโน อุปการกสฺส อารมฺมณสฺส นิยามโก โหตีติ.
ทฺวารนฺตเร ¶ ¶ ทุกฺขสฺส ปจฺจยภูตสฺส อารมฺมณสฺส ทฺวารนฺตเร สุขวิปากุปฺปาทนโต, ทฺวารนฺตเร สุขสฺส ปจฺจยภูตสฺส อารมฺมณสฺส ทฺวารนฺตเร ทุกฺขวิปากุปฺปาทนโต วิปาเกน อารมฺมณนิยมทสฺสเนน วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺตา ทสฺสิตาติ โยชนา.
๗. ทุปฺปริคฺคหฏฺเน การณภูเตน ลกฺขณสฺส อินฺทฺริยาทิสภาวสฺส ทุปฺปฏิวิชฺฌตา, เอวํ สุปริคฺคหฏฺเน ลกฺขณสุปฺปฏิวิชฺฌตา เวทิตพฺพา. ‘‘ทูเร’’ติ อวุตฺตสฺสาติ ลกฺขณโต ‘‘ทูเร’’ติ อกถิตสฺส. วุตฺตมฺปีติ ลกฺขณโต ‘‘ทูเร’’ติ วุตฺตมฺปิ สุขุมรูปํ.
‘‘ภินฺทมาโน’’ติ สมฺภินฺทมาโนติ วุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘มิสฺสกํ กโรนฺโต’’ติ. ยสฺมา ปน เภทนํ วิภาคกรณมฺปิ โหติ, ตสฺมา ทุติยวิกปฺเป ‘‘ภินฺทมาโน’’ติ ปทสฺส ‘‘วิสุํ กโรนฺโต’’ติ อตฺถมาห. ตติยวิกปฺเป ปน ภินฺทมาโนติ วินาเสนฺโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สนฺติกภาวํ ภินฺทิตฺวา ทูรภาวํ, ทูรภาวฺจ ภินฺทิตฺวา สนฺติกภาวํ กโรนฺโต’’ติ. น หิ สกฺกา สนฺติกสฺส ตพฺภาวํ อวินาเสตฺวา ทูรภาวํ กาตุํ, ตถา อิตรสฺสาปิ. สนฺติกภาวกรเณน น ภินฺทติ น วินาเสติ, น จ โอกาสทูรโต ลกฺขณโต ทูรํ วิสุํ กรเณน ภินฺทติ วิภาคํ กโรติ, นาปิ โอกาสทูเรน ลกฺขณโต ทูรํ โวมิสฺสกกรเณน ภินฺทติ สมฺภินฺทตีติ โยชนา. ‘‘ติธา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ ‘‘น หี’’ติอาทินา วิวรติ. วิสุํ กโรติ, โวมิสฺสกํ กโรตีติ กโรติ-สทฺทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺถาปี’’ติอาทินา ยถา ‘‘โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทตี’’ติ เอตฺถ โอกาสโต ทูรสฺส โอกาสโต สนฺติกภาวกรณํ อธิปฺเปตนฺติ วินาสนํ เภทนํ, เอวํ ‘‘น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทตี’’ติ เอตฺถาปิ ลกฺขณโต ทูรสฺส ลกฺขณโต สนฺติกภาวากรณํ อเภทนํ อวินาสนนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. โวมิสฺสกกรณวิภาคกรณตฺถตํ สนฺธายาห ‘‘ภินฺทมาโนติ เอตฺถ จ อฺถา เภทนํ วุตฺต’’นฺติ. ปจฺฉิมนเย วินาสนตฺถเมว สนฺธาย ‘‘เภทนํ อิธ จ อฺถา วุตฺต’’นฺติ อโวจ.
รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๘. จกฺขาทโย ¶ ¶ ปสาทาติ โอฬาริกตฺตภาวปริยาปนฺนา จกฺขุโสตฆานชิวฺหาปสาทา, มโนมยตฺตภาวปริยาปนฺนา จกฺขุโสตปฺปสาทา จ. กายโวหารํ อรหนฺตีติ กายนฺโตคธตฺตา กาเยกเทสตฺตา จ กาโยติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. กาโยติ หิ อตฺตภาโวปิ วุจฺจติ ‘‘สกฺกายทิฏฺี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๑; ๓.๑๕๕), กรชกาโยปิ ‘‘โส อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๓.๑๔). ตพฺพตฺถุกาติ จกฺขาทินิสฺสิตา กายิกาติ ปริยาเยน วุตฺตา, นิปฺปริยาเยน ปน เจตสิกาว. ยถาห ‘‘ยํ ตสฺมึ สมเย ตชฺชาจกฺขุวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชํ เจตสิกํ เนว สาตํ นาสาตํ เจโตสมฺผสฺสชํ อทุกฺขมสุขํ เวทยิต’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๑๕๒). ‘‘น หิ จกฺขาทโย กายปฺปสาทา โหนฺตี’’ติ อิมินา กายปสาทนิสฺสิตา เวทนา นิปฺปริยาเยน กายิกาติ ทสฺเสติ. กายิกเจตสิกาทิภาเวนาติ อาทิ-สทฺเทน กุสลากุสลาพฺยากตาทิภาวา สงฺคยฺหนฺติ. เตนาติ สุขาทิเวทเนกเทสสฺส อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาวาภาเวน. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา ปากฏตฺตา อทฺธาวเสน, เอกมุหุตฺตาทิปุพฺพณฺหาทีสุ อุตุอาทินา รูปสฺส วิย เวทนาย วิภาโค น คยฺหตีติ สมยวเสน จ อตีตาทิเภโท น ทสฺสิโต’’ติ วทนฺติ. สนฺตานวเสน ปวตฺตานมฺปิ เวทนานํ จิตฺเตน สมูหโต คเหตพฺพตํ สนฺธายาห ‘‘เวทนาสมุทาโย’’ติ. เตหีติ อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาเวหิ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิภงฺเค. เตติ ‘‘เวทเนกเทสา’’ติ วุตฺตา กายิกเจตสิกาทิภาเวน ภินฺนา สุขาทิเวทนาวิเสสา. ยทิ เวทเนกเทสา เอตฺถ คหิตา, ขณปริจฺฉินฺนาว เต คเหตพฺพา, น สนฺตติปริจฺฉินฺนาติ อาห ‘‘เอกสนฺตติยํ ปนา’’ติอาทิ. เตสูติ สุขาทิเภเทสุ. เภโทติ วิเสโส. ตสฺสาติ สุขาทิวิเสสสฺส. ยถา เจตฺถ, เอวํ ‘‘ตํสหิตตทุปฺปาทกา’’ติ เอตฺถาปิ ตํ-สทฺเทน สุขาทิวิเสโส ปจฺจามฏฺโติ เวทิตพฺโพ. สนฺตติ ปริจฺเฉทิกา ภวิตุํ อรหตีติ สมฺพนฺโธ. สนฺตติขณวเสเนว ปริจฺเฉโท วุตฺโต, น อทฺธาสมยวเสนาติ อธิปฺปาโย.
‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตา’’ติ นิฏฺิตเหตุกิจฺจา อนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจาติ วุตฺตา, ตํ ปน อติกฺกนฺตเหตุปจฺจยกิจฺจนฺติ เอวํ วุตฺตสฺส นยสฺส อุปลกฺขณนฺติ ¶ อาห ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตาติ เอเตน เหตุปจฺจยกิจฺจวเสน วุตฺตนยํ ทสฺเสตี’’ติ. เอตฺถ กุสลากุสลกิริยเวทนานํ ¶ รูปสฺส วิย, วิปากานํ วิย จ อยํ นาม ชนกเหตูติ นิปฺปริยาเยน น สกฺกา วตฺตุํ, ปริยาเยน ปน อนนฺตรปจฺจยภูโต เหตูติ วตฺตพฺโพ.
๑๑. สนฺตาปนกิจฺจนฺติ ปริฑหนกิจฺจํ. ชาติอาทิสงฺกรนฺติ ชาติสภาวปุคฺคลโลกิยโลกุตฺตรโต สงฺกรํ สมฺเภทํ อกตฺวา. สมานชาติยนฺติ เอกชาติยํ. สุขโต ตชฺชาติยา อทุกฺขมสุขา ปณีตาติ โยเชตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. สมานเภเทติ ภูมนฺตราทิสมานวิภาเค. อุปพฺรูหิตานํ ธาตูนนฺติ อุฬารรูปสมุฏฺาปเนน ปณีตานํ รูปธมฺมานํ. วิพาธิตานนฺติ นิปฺปีฬิตานํ มิลาปิตานํ. อุภยนฺติ สุขาทิทฺวยํ. เอตฺถ จ โขภนา, อาลุฬนา จ กายิกสุขสฺส วเสน เวทิตพฺพา. อภิสนฺทนา ฌานสุขสฺส. มทยนา กามสุขสฺส. ตถา ฉาทนา. อาสิฺจนา สพฺพสฺส. ฉาทนา อาสิฺจนา วา สพฺพสฺส วเสน เวทิตพฺพา.
สภาวาทิเภเทน จาติ สภาวปุคฺคลโลกิยาทิเภเทน จ. เอกนฺตปณีเต โลกุตฺตเร หีนปณีตานํ ปฏิปทานํ วเสน หีนปณีตตา. เอกนฺตหีเน อกุสเล ฉนฺทาทิวเสน หีนปณีตตา, โอฬาริกสุขุมตา จ. ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ยา โอฬาริกา, สา หีนา. ยา สุขุมา, สา ปณีตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๑). อกุสลาทีสุ โทสสหคตาทิอนฺตรเภทวเสน อุปาทายุปาทาย โอฬาริกสุขุมตา ตํตํวาปนวเสน วุจฺจติ, น กุสลากุสลาทิวเสนาติ อาห ‘‘ตํตํวาปนวเสน กถเนปิ ปริวตฺตนํ นตฺถี’’ติ. โทสุสฺสนฺนตายาติ กิเลสาธิกตาย. ตถาติ โทสุสฺสนฺนตาย. กถํ ปน กุสเลสุ โทสุสฺสนฺนตา? อุปนิสฺสยวเสน, กิเลสาธิเกหิ สนฺตาเน ปวตฺตมานา กุสลา ธมฺมา กิเลเสหิ สมฺพาธปฺปตฺติยา ติณาทีหิ สมฺพาธปฺปตฺตานิ วิย สสฺสานิ วิปุลผลอุฬารผลา น โหนฺตีติ. ตถาติ มนฺทโทสตาย. กุสลานํ มนฺทโทสตาปิ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา. โอฬาริกสุขุมนิกนฺตีติ เอตฺถ อนฺโตคธวิเสสํ นิกนฺติยา โอฬาริกสุขุมตาสามฺํ วุตฺตํ. ยถา เหตฺถ โอฬาริกสามฺเน โอฬาริโกฬาริกตโรฬาริกตมา ¶ นิกนฺติโย คยฺหนฺติ, ตถา สุขุมสุขุมตรสุขุมตมา สุขุมตาสามฺเน คยฺหนฺตีติ. สุขุมตมนิกนฺติวตฺถุนฺติ เจตฺถ ยาว ภวคฺคํ วิปสฺสนาาณฺจ เวทิตพฺพํ.
๑๓. ยทิ สิยาติ ยทิ อสมฺปโยโค วิสํสฏฺโ สิยา.
สนฺติกโต ¶ อกุสลโตติ อกุสลภาเวน สนฺติกโต โลภสหคตาทิอกุสลเวทยิตโต. อกุสลาติ โทสสหคตาทิอกุสลเวทนา ทูเรติ ยถา อุทฺธรียติ. ตโต ทูรโต กุสลโตติ ตโต อกุสลโต ทูรโต กามาวจราทิกุสลเวทยิตโต กุสลา กามาวจราทิกุสลเวทนา. ‘‘น สกฺกา’’ติ วุตฺตํ อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ ‘‘ตถา หิ สตี’’ติอาทินา วิวรติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ทูรโต สนฺติกุทฺธรณํ วุตฺตนเยน สนฺติกโต สนฺติกุทฺธรณเมว โหติ, ตถา สติ อตฺถวิเสโส น โหติ, อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกตา อิธ วุจฺจติ. ตสฺมา สนฺติกโต สนฺติกุทฺธรณฺจ น สกฺกา กาตุํ อตฺถวิเสสาภาวโต, อนธิปฺเปตตฺตา จาติ อธิปฺปาโย.
นนุ จ อติสยวจนิจฺฉาวเสน อตฺเถว อตฺถวิเสโสติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ทูรทูรตรตาย วิย สนฺติกสนฺติกตรตาย จ อนธิปฺเปตตฺตา’’ติ. ยาติ อกุสลเวทนา. ตโตติ กุสลเวทยิตโต. อิธ วุตฺตสฺส ทูรสฺสาติ อิมสฺมึ เวทนากฺขนฺธวิภงฺเค ‘‘อกุสลา เวทนา กุสลาพฺยากตาหิ เวทนาหิ ทูเร’’ติอาทินา (วิภ. ๑๓) วุตฺตสฺส ทูรสฺส. ทูรโต อจฺจนฺตวิสภาคตฺตาติ ยโต ยํ ‘‘ทูเร’’ติ วุตฺตํ, ตโต อจฺจนฺตวิสทิสตฺตา ตสฺส วเสน ทูเร สนฺติกํ นตฺถีติ น สกฺกา ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตุํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – เหฏฺา ยา เวทนา ยาย เวทนาย ทูเรติ วุตฺตา, สา เอว ตสฺสา เกนจิปิ ปริยาเยน สนฺติเกติ น อุทฺธริตพฺพาติ. สนฺติเกติ วุตฺตเวทนํเยว สนฺธาย วทติ. ภินฺเนติ โลภสหคตาทิวเสน วิภตฺเต. ตตฺเถวาติ ‘‘สนฺติเก’’ติ วุตฺตอตฺเถ เอว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อกุสลา เวทนา อกุสลาย เวทนาย สนฺติเก’’ติ เอวํ วุตฺตอกุสลาย เวทนายเมว โลภสหคตาทิวเสน วิภตฺตาย ทูรภาโวปิ ลพฺภติ. เอวํ เสเสสุปีติ.
ยทิ ¶ สนฺติกโต ทูรํ ลพฺภติ, ยทคฺเคน ทูรํ ลพฺภติ, ตทคฺเคน ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริเยยฺยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อุปาทายุปาทาย ทูรโต จ สนฺติกํ น สกฺกา อุทฺธริตุ’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยํ สนฺติกโต ทูรํ ลพฺภติ, ยทิปิ ตํ วิสภาคฏฺเน ลพฺภติ, ตถาปิ ยํ ตตฺถ สนฺติกํ ลพฺภติ, ตํ สภาคฏฺเเนว ลพฺภตีติ สนฺติกโตว สนฺติกํ อุทฺธฏํ สิยาติ. ตสฺมาติ ยสฺมา วิสภาคฏฺเน ทูรตา, สภาคฏฺเน จ สนฺติกตา อิจฺฉิตา, ตสฺมา. โลภสหคตาย โทสสหคตา วิสภาคตาย ทูเร สมานา กถํ สนฺติเก ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. นนุ ตาสํ อกุสลสภาคตา ลพฺภเตวาติ ตตฺถ อุตฺตรมาห ‘‘วิสภาคตา’’ติอาทิ. ตตฺถ เภทํ อคฺคเหตฺวา น ปวตฺตตีติ เภทํ วิเสสํ อสทิสตํ คเหตฺวา เอว ปวตฺตติ วิสภาคตา. ทูรตายาติ ¶ อิธาธิปฺเปตาย ทูรตาย สภาคสฺส อพฺยาปกตฺตา ทูรโต สนฺติกุทฺธรณํ น สกฺกา กาตุํ. สติ หิ สภาคพฺยาปกตฺเต สิยา สนฺติกตาติ ทูรโต สนฺติกุทฺธรณํ สกฺกา กาตุนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘น หี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรติ. สภาคตาติ สามฺํ. เภทนฺติ วิเสสํ. อนฺโตคธํ กตฺวาวาติ อภิพฺยาเปตฺวาว. วิสภาคพฺยาปกตฺตา สนฺติกตายาติ อิธาธิปฺเปตวิสภาคํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตนโต เหฏฺา วุตฺตสนฺติกตาย สนฺติกโต ทูรุทฺธรณํ สกฺกา กาตุํ. ตเมวตฺถํ ‘‘อกุสลตา หี’’ติอาทินา ปากฏํ กโรติ.
เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗. ตสฺสาปีติ สฺายปิ. ตพฺพตฺถุกตฺตาติ จกฺขุวตฺถุกตฺตา. ปฏิฆวิฺเยฺโยติ ยถาวุตฺตปฏิฆโต วิชานิตพฺโพ ปฏิฆวเสน คเหตพฺโพ. อุตฺตรปทโลปํ กตฺวาติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา.
วิฺเยฺยภาเว, น อุปฺปตฺติยนฺติ อธิปฺปาโย. วจนนฺติ สทฺโท, นามนฺติ อตฺโถ. วจนาธีนาติ คเหตพฺพตํ ปติ สทฺทาธีนา, นามายตฺตคหณาติ อตฺโถ. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ นามรูปทุเก (ธ. ส. มูลฏี. ๑๐๑-๑๐๘) วุตฺตเมว. อธิวจนํ ปฺตฺติปกาสกํ ¶ าปกํ เอเตสํ อตฺถีติ อธิวจนา ยถา อริสโสติ. ตโตโชติ อธิวจนสงฺขาตโต อรูปกฺขนฺธโต ชาโต. อรูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา ผสฺเสปิ ยถาวุตฺโต อตฺโถ สมฺภวตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺผสฺโสเยว วา’’ติอาทิมาห. น เกวลํ มโนทฺวาริกผสฺเส เอว, อถ โข ปฺจทฺวาริกผสฺเสปิ ‘‘วิฺเยฺยภาเว วจนํ อธิกิจฺจ ปวตฺตา อธิวจนา’’ติอาทิวุตฺตปฺปกาโร อตฺโถ สมฺภวติ. อิตีติ ตสฺมา. เตน ปริยาเยนาติ มโนสมฺผสฺสชปริยาเยน. ตโตชาปีติ ปฺจทฺวาริกผสฺสชาตาปิ. อฺปฺปการาสมฺภวโตติ ปฏิฆสมฺผสฺสชปริยายสฺส อสมฺภวโต. อาเวณิกํ ปฏิฆสมฺผสฺสชตา. ปการนฺตรํ อธิวจนสมฺผสฺสชตา.
ยทิ ¶ เอวนฺติ ยทิ ปฺจทฺวาริกผสฺเสหิ อุปฺปนฺนสฺา ปริยายโต นิปฺปริยายโต จ ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ จตฺตาโรปิ อรูปิโน ขนฺธา เอวํ วตฺตุํ ยุตฺตา. เอวํ สนฺเต สฺาว กสฺมา ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ติณฺณํ ขนฺธาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ติณฺณํ ขนฺธานนฺติ เวทนาสงฺขารวิฺาณกฺขนฺธานํ. อตฺถวเสนาติ ‘‘วจนํ อธิกิจฺจ ปวตฺตา อธิวจนา’’ติอาทินา วุตฺตอตฺถวเสน อนฺวตฺถตาวเสน. อตฺตโน ปตฺตมฺปิ นามนฺติ ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ เอวํ อตฺตโน อนุปฺปตฺตมฺปิ นามํ. ธมฺมาภิลาโปติ สภาวนิรุตฺติ. ปุพฺเพ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ สาธารโณปิ อธิวจนสมฺผสฺสชโวหาโร รุฬฺหิวเสน สฺาย เอว ปวตฺโตติ วตฺวา อิทานิ โส ตทฺารูปกฺขนฺธสาธารโณ สฺาย นิเวสิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. รชฺชิตฺวา โอโลกนาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน กุชฺฌิตฺวา โอโลกนาทิ วิย รชฺชิตฺวา สวนาทิปิ สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพํ, ตถาโสตาวธานาทิโนปิ รตฺตตาทิวิชานนนิมิตฺตตาสมฺภวโต. จกฺขุสมฺผสฺสชาสฺาย ปน ปากฏภาวํ นิทสฺสนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘โอโลกนํ จกฺขุวิฺาณวิสยสมาคเม’’ติอาทิมาห.
โอโลกนสฺส อปากฏภาเว รตฺตตาทิวิชานนํ น โหติ, ปากฏภาเว จ โหตีติ อาห ‘‘ปสาทวตฺถุกา เอวา’’ติ. ‘‘อฺํ จินฺเตนฺต’’นฺติ ยํ ปุพฺเพ เตน กถิตํ, กาเยน วา ปกาสิตํ, ตโต อฺํ กิฺจิ อตฺถํ จินฺเตนฺตํ. เตเนวาห ‘‘าต’’นฺติ.
สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐. ‘‘เหฏฺิมโกฏิยาติ ¶ เอตฺถา’’ติ อิทํ ปมํ ‘‘เหฏฺิมโกฏิยา’’ติ วจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺส หิ ภุมฺมวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตนาห ‘‘ตตฺถ หิ ปธานํ ทสฺสิต’’นฺติ. เหฏฺิมโกฏิยาว ปธานํ ทสฺสิตนฺติ อิมมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘ยทิ เอว’’นฺติอาทินา โจเทติ. อิตโร ‘‘เหฏฺิมโกฏิยา ปธานเมว ทสฺสิต’’นฺติ เอวเมตฺถ นิยโม คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปริมโกฏิคตภาเวนา’’ติอาทินา ตํ ปริหรติ. ปธานสฺเสว ทสฺสนํ. ปธาเน หิ ทสฺสิเต อปฺปธานมฺปิ ¶ อตฺถโต ทสฺสิตเมว โหตีติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารา ปน ตาย คหิตาย คหิตาว โหนฺตี’’ติ. ยํ เหฏฺิมโกฏิยํ ลพฺภติ, ตํ อุปริมโกฏิยมฺปิ ลพฺภติ เอวาติ อาห ‘‘เหฏฺิมโกฏิ หิ สพฺพพฺยาปิกา’’ติ. ทุติเย กรณนิทฺเทสตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาคตาติ สมฺพนฺโธ’’ติ อาห. อาคมนกิริยา หิ เหฏฺิมโกฏิยา กรณภาเวน ตตฺถ วุตฺตาติ. ยถา จ อาคมนกิริยาย, เอวํ วจนกิริยายปิ เหฏฺิมโกฏิยา กรณภาโว สมฺภวตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุริเมปิ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘เอกูนปฺาสปฺปเภเท’’ติ อิทํ โลกิยจิตฺตุปฺปาเท ปาฬิอาคตานํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ อุปริมโกฏึ สนฺธาย วุตฺตํ. เยวาปนกธมฺเมหิ สทฺธึ อุปริมโกฏิยา คยฺหมานาย ‘‘เตปฺาสา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, โลกุตฺตรจิตฺตุปฺปาทวเสน ปน ‘‘สตฺตปฺาสา’’ติ.
สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
สมุคฺคม-ปทสฺส ตตฺวโต ปริยายโต จ อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สฺชาติยํ อาทิอุปฺปตฺติย’’นฺติ. เภทโต ปน สมาโยเค อุคฺคมนนฺติ. ตตฺถ เกน สมาโยเค, กุโต, กถฺจ อุคฺคมนนฺติ วิจารณายํ อาห ‘‘ตํตํปจฺจยสมาโยเค’’ติอาทิ. ตตฺเถวาติ ปฺจโวการภเว เอว. ตตฺถ หิ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา สมุคฺคจฺฉนฺติ. ยถาธิคตานํ อธิคตปฺปการานํ, ปฏิสนฺธิกานนฺติ อตฺโถ. โอปปาติกสมุคฺคเมเนว เจตฺถ สํเสทชสมุคฺคโมปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ ปฺจกฺขนฺธปริยาปนฺนานํ ตทา อุปฺปชฺชนารหานํ ¶ อุปฺปชฺชนโต. ตตฺถ สํเสทชา อุปฺปชฺชิตฺวา วฑฺฒนฺติ, อิตเร น วฑฺฒนฺตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. สุขุมชาติยโลมา เอว กิร เกจิ เอฬกา หิมวนฺเต วิชฺชนฺติ, เตสํ โลมํ สนฺธาย ‘‘ชาติมนฺตเอฬกโลม’’นฺติ วุตฺตํ อติสุขุมตฺตา เตสํ โลมานํ. เกจิ ปน ‘‘อชปากติเกฬกาทีหิ สงฺกรรหิตานํ เตสํ เอฬกวิเสสานํ นิพฺพตฺเตฬกสฺส โลมํ ชาติอุณฺณา, ตมฺปิ ตงฺขณนิพฺพตฺตสฺสา’’ติ วทนฺติ. คพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตสฺสาติ อปเร. เอวํสณฺานนฺติ ชาติอุณฺณํสุโน ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตเตลพินฺทุสณฺานํ. วณฺณปฺปฏิภาโคติ รูปปฏิจฺฉนฺโน สณฺานปฏิจฺฉนฺโน จ.
สนฺตติมูลานีติ ¶ ตสฺมึ ภเว รูปสนฺตติยา มูลภูตานิ. อเนกินฺทฺริยสมาหารภาวโตติ ยถารหํ จกฺขาทิอเนกินฺทฺริยสงฺฆาตภาวโต. ปธานงฺคนฺติ อุตฺตมงฺคํ สิโร.
น ตสฺส ตสฺส ขนฺธสฺส ปริปุณฺณตํ, ตํตํขนฺเธกเทสสฺเสว วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. กามาวจรานนฺติ กามาวจรสตฺตานํ. ปริหีนายตนสฺสาติ ปริหีนสฺส จกฺขาทิอายตนสฺส วเสน. ตตฺถ ทุคฺคติยํ อนฺธสฺส จกฺขุทสกวเสน, พธิรสฺส โสตทสกวเสน, อนฺธพธิรสฺส อุภยวเสน สนฺตติสีสหานิ เวทิตพฺพา. นปุํสกสฺส ปน ภาวหานิ วุตฺตา เอว. ตถา อนฺธพธิราฆานกสฺส จกฺขุโสตฆานวเสน. ตํ ปน ธมฺมหทยวิภงฺคปาฬิยา วิรุชฺฌติ. ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. รูปาวจรานํ ปน จกฺขุโสตวตฺถุชีวิตวเสน จตฺตาริ สนฺตติสีสานีติ อิตเรสํ วเสน สนฺตติสีสหานิ เวทิตพฺพา.
เตสนฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ. วตฺถุภาเวนาติ วิจารณาย อธิฏฺานภาเวน. ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปนฺนา ปวตฺตา ปฺจกฺขนฺธาติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺติกฺขเณ จ ปฺจกฺขนฺเธ ทสฺเสติ. ภุมฺมนิทฺเทโสติ ‘‘ปฺจสุ ขนฺเธสู’’ติ อยํ ภุมฺมนิทฺเทโส. อฺถาติ นิทฺธารเณ อนธิปฺเปเต. ‘‘ภาเวนภาวลกฺขณตฺเถ’’ติ อิทํ วิสยาทิอตฺถานํ อิธาสมฺภวโต วุตฺตํ. อุภยนฺติ รูปารูปํ. รูปารูปสนฺตตินฺติ รูปสมุฏฺาปกํ รูปสนฺตตึ อรูปสนฺตติฺจ. ‘‘วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตี’’ติ อิทํ น ปฏิสนฺธิกฺขณํ เอว, นาปิ วตฺถุรูปํ เอว สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สพฺพรูปานํ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ‘‘ตทา หี’’ติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส การณวจนํ. ตตฺถ ตนฺติ รูปํ. ‘‘กมฺมกฺขิตฺตตฺตา’’ติ อิทํ น กมฺมชตามตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข กมฺมชสฺส ¶ ปมุปฺปตฺติยํ อปติฏฺิตตํ สนฺธายาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สติปี’’ติอาทิมาห. ตโต ปรนฺติ ตโต ปฏิสนฺธิโต ปรํ. สทิสสนฺตาเน ยถา ปติฏฺิตํ, น ตถา วิสทิสสนฺตาเนติ อาห ‘‘สมานสนฺตติย’’นฺติ.
องฺคภาวนฺติ การณภาวํ. เตเนวาห ‘‘สหายภาว’’นฺติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เยหิ สทฺธึ อุปฺปนฺนํ, เตสํ ปฏิสนฺธิยํ จิตฺตเจตสิกธมฺมานํ. ตทาติ ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จ รูปุปฺปาทนเมว นตฺถิ. อนนฺตราทิปจฺจยลาเภน อุปฺปาทกฺขเณ เอว จิตฺตสฺส พลวภาโว, น อิตรตฺร. เตนาห ‘‘ยทา จ รูปุปฺปาทนํ, ตทา อุปฺปาทกฺขเณ’’ติ.
เยหากาเรหีติ ¶ อาหารินฺทฺริยปจฺจยาทิอากาเรหิ. ยถาสมฺภวํ ปจฺจยา โหนฺตีติ ผสฺสาทโย อาหาราทิวเสน ยถารหํ ปจฺจยา โหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏฺาเน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ, กฏตฺตา จ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๙).
จุติจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชมานํ, จุติจิตฺเตน วา การณภูเตน อุปฺปชฺชมานํ. ตโต ปุริมตเรหิ อุปฺปชฺชมานํ วิยาติ ยถา จุติจิตฺตโต อาสนฺเนหิ ปุริมตเรหิ อุปฺปชฺชมานํ รูปํ ภวนฺตเร น อุปฺปชฺชติ, เอวํ จุติจิตฺเตน อุปฺปชฺชมานมฺปิ อนุปจฺฉินฺเนปิ วฏฺฏมูเลติ อการณํ วฏฺฏมูลาวูปสโม จุติจิตฺตสฺส รูปุปฺปาทเนติ ทสฺเสติ.
อรูปสฺสาติ อารุปฺปสฺส.
อุตุนาติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺเนน อุตุนา. สมุฏฺิเต รูเปติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ รูเป สมุฏฺิเต ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปมภวงฺคจิตฺตํ รูปํ สมุฏฺาเปติ. อุปฺปาทนิโรธกฺขณาติ ยถาวุตฺเตสุ โสฬสสุ จิตฺเตสุ อาทิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขโณ, โสฬสมจิตฺตสฺส นิโรธกฺขโณ จาติ วทนฺติ, รูปสฺเสว ปน อุปฺปาทนิโรธกฺขณา เวทิตพฺพา.
ธรมานกฺขเณ เอวาติ ตสฺส อุตุโน วิชฺชมานกฺขเณ เอว ยทิ คหิตา, ‘‘โสฬสจิตฺตกฺขณายุกํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ โหติ โสฬสเหว จิตฺเตหิ ตสฺส ธรมานตาย ปริจฺฉินฺนตฺตา. อุปฺปาทกฺขณํ อคฺคเหตฺวาติ อุตุโน ¶ ธรมานกฺขเณ อุปฺปาทกฺขณํ อคฺคเหตฺวา นิโรธกฺขโณ อถ คหิโต, ‘‘สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ โหติ อุปฺปาทกฺขณสหิเตน จ เอกสฺส จิตฺตกฺขณสฺส คหิตตฺตา. ‘‘อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ วุตฺตํ โหติ นิโรธกฺขณสฺส พหิกตตฺตา.
เอวํ อุปฺปาทนิโรธกฺขเณสุ คหิเตสุ อคฺคหิเตสุ จ โสฬสสตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตา, ตโต อธิกจิตฺตกฺขณายุกตา จ สิยาติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ิตปกฺขํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺส ธรมานกฺขเณ อุปฺปนฺเนสูติ ตสฺส อุตุโน ธรมานกฺขเณ อุปฺปนฺเนสุ โสฬสสุ จิตฺเตสุ ปฏิสนฺธิปิ ยสฺมา คหิตา, ตสฺมา อุตุโน อุปฺปาทกฺขโณ ธรมานกฺขเณ คหิโตติ ¶ นิโรธกฺขเณ อคฺคหิเต ‘‘รูเป ธรนฺเตเยว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, ตํ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) เอวํ อฏฺกถายํ วกฺขมานา อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา อธิปฺเปตา. คหิเต วา นิโรธกฺขเณ โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา อธิปฺเปตาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ ‘‘อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา’’ติ อิทํ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขโณ คหิโตติ กตฺวา วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนายํ ‘‘ทฺเว ภวงฺคานิ, อาวชฺชนํ, ทสฺสนํ, สมฺปฏิจฺฉนํ, สนฺตีรณํ, โวฏฺพฺพนํ, ปฺจ ชวนานิ, ทฺเว ตทารมฺมณานิ, เอกํ จุติจิตฺตนฺติ ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, อถาวเสสเอกจิตฺตกฺขณายุเก’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗), ตถา ตทารมฺมณปริโยสานานิ, ‘‘เอกํ จุติจิตฺตํ, ตทวสาเน ตสฺมิฺเว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) จ วกฺขติ. ตสฺมา รูปสฺส โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตายปิ อตฺถสิทฺธิ โหติเยว. เตนาห ‘‘โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา อธิปฺเปตา’’ติ. ตถาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคจลนสฺส ปจฺจโย โหติ, น อุปฺปชฺชมานเมวาติ สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตา เวทิตพฺพา.
โอชาย สภาวสุขุมตา อุปาทารูปภาวโต. เอตฺถ จ มาตรา อชฺโฌหฏา โอชา พาหิรพฺภฺชนํ วิย คพฺภมลฺลินา ตสฺมึ สนฺตาเน โอชฏฺมกรูปุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหติ. อาหารสมุฏฺานรูปปเวณิยา โอชาย วิย เสสติสนฺตติโอชาย รูปุปฺปาทนนฺติ อุทริเย โอชา รูปํ น สมุฏฺาเปติ อุตุสมุฏฺานภาวโต, อุปาทินฺนกฏฺาเน เอว ปน สมุฏฺาเปติ, รสหรณีหิ คนฺตฺวา กายานุสฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
จิตฺตฺเจวาติ ¶ เอตฺถ จ-สทฺเทน ปฏิโยคีนํ กมฺมเมว สมุจฺจิโนติ, น จิตฺเตน สมฺปยุตฺตธมฺเมติ กตฺวา อาห ‘‘จิตฺตสฺส ปุพฺพงฺคมตาย วุตฺต’’นฺติ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทํ คณฺหาติ ‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑) วิย, น กมฺมเจตนํ วิย เอกธมฺมเมวา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยถา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส เหตุอาทโย จิตฺตสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ สมุฏฺาปกาว, เอวํ กมฺมสมุฏฺานรูปสฺส กมฺมสมฺปยุตฺตาปี’’ติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา ตสฺส ปริหารํ วตฺตุํ ‘‘กมฺมสมุฏฺานฺจา’’ติอาทิมาห.
รูปสฺสาติ รูปกฺขณสฺส, รูปสฺส วา อทฺธุโน. นยทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอว ¶ รูปารูปธมฺมานํ เอกกฺขเณ ปาตุภาโวติ อิมสฺส อตฺถสฺส อนธิปฺเปตตฺตา. เตเนวาห ‘‘ตโต ปรมฺปิ รูปารูปานํ สหุปฺปตฺติสพฺภาวโต’’ติ. ยถา จ ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอวา’’ติ นิยโม น คเหตพฺโพ, เอวํ ‘‘เอกกฺขเณ เอว ปาตุภาโว’’ติปิ นิยโม น คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ปเนต’’นฺติอาทิมาห. ตํทีปนตฺถเมวาติ อสมานกาลตาทีปนตฺถเมว, น สหุปฺปาททีปนตฺถํ. อทฺธานปริจฺเฉทกถา หิ อยนฺติ.
ยทิ เอวนฺติ ยถา ผลปตฺตานิ, เอวํ รูปารูปธมฺมา ยทิ ทนฺธลหุปริวตฺติโน. อสมานทฺธตฺตาติ อตุลฺยกาลตฺตา. นิจฺฉิทฺเทสูติ นิพฺพิวเรสุ. เตน นิรนฺตรปฺปวตฺตึ เอว วิภาเวติ. อยนฺติ อทฺธานปริจฺเฉทกถา. จิตฺตชรูปาทีนํ น ตถา นิรนฺตรภาเวน ปวตฺติ, ยถา กมฺมชรูปานนฺติ อาห ‘‘กมฺมชรูปปฺปวตฺตึ สนฺธายา’’ติ. กมฺมชรูปานํ วา อิตเรสํ มูลภาวโต ปธานนฺติ ‘‘กมฺมชรูปปฺปวตฺตึ สนฺธายา’’ติ วุตฺตํ. อจิตฺตุปฺปาทกตฺตา อพฺยาพชฺฌตาย นิโรธสมาปตฺติยา นิพฺพานปฏิภาคตา เวทิตพฺพา. ปเท ปทํ อกฺกมิตฺวาติ ลกุณฺฑกปาทตาย อตฺตโน อกฺกนฺตปทสมีเป ปทํ นิกฺขิปิตฺวา. โย หิ สีฆปทวิกฺกโม ลกุณฺฑกปาโท, โส อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ลหุํ ลหุํ อกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ’’ติ. สเหว นิรุชฺฌนฺตีติ รูปํ กมฺมชมิธาธิปฺเปตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. อุตุชํ ปน จุติโต อุทฺธมฺปิ ปวตฺตติ เอว. ปุพฺเพ วุตฺตนฺติ ‘‘รูปสฺส สตฺตรสจิตฺตกฺขณา, อรูปสฺส ตโต เอกภาโค’’ติ (วิภ. มูลฏี. ๒๐ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) เอวํ วุตฺตํ อทฺธานปฺปการํ.
เอกุปฺปาทโตติ สมานุปฺปาทโต. สมานตฺโถ หิ อยํ เอก-สทฺโท. เอโก ทฏฺพฺพากาโรติ เอโก าตปริฺาย ปสฺสิตพฺพากาโร. เอวฺหิ ¶ โสฬสาการา สิยุํ, อิตรถา วีสติ, ตโต อธิกา วา เอเต อาการา ภเวยฺยุํ. ตสฺสาติ ปจฺฉิมกมฺมชสฺส. เหฏฺา โสฬสเกติ ปริโยสานโสฬสกสฺส อนนฺตราตีตโสฬสเก. ปจฺฉิมสฺสาติ ตตฺถ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส. นานานิโรธภาวํ วิย เอกุปฺปาทภาวมฺปิ ปจฺฉิมกมฺมชสฺส ปเน การณํ อนิจฺฉนฺโต ‘‘ยทิ ปนา’’ติ สาสงฺกํ วทติ. ‘‘สพฺพมฺปี’’ติอาทินา ตตฺถ อติปฺปสงฺคํ ทสฺเสติ. วชฺเชตพฺพํ นานุปฺปาทํ เอกนิโรธํ. คเหตพฺพํ เอกุปฺปาทนานานิโรธํ. อุภยมฺปิ ตทา นตฺถิ อนุปฺปชฺชนโต. เตเนวาห ‘‘กมฺมชรูปสฺส อนุปฺปตฺติโต’’ติ. ตโต ปุพฺเพติ ปจฺฉิมกมฺมชรูปุปฺปชฺชนโต โอรํ. อฺสฺสาติ ยสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ, ตโต อฺสฺส จิตฺตสฺส. ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส เอกุปฺปาทตา, ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส นานานิโรธตา จ นตฺถีติ อาห ‘‘ิติภงฺคกฺขเณสุ ¶ อุปฺปนฺนรูปานิ วชฺเชตฺวา’’ติ. เตนาติ รูเปน. ‘‘สงฺขลิกสฺส วิย สมฺพนฺโธ’’ติ เอเตน อวิจฺฉินฺนสมฺพนฺโธ อิธ ‘‘ปเวณี’’ติ อธิปฺเปโตติ ทสฺเสติ. อฺถาติ วิจฺฉิชฺชมานมฺปิ คเหตฺวา ‘‘ปเวณี’’ติ วุจฺจมาเน. น หิ รูปธมฺมานํ อรูปธมฺมานํ วิย อนนฺตรปจฺจยภาโว อตฺถีติ รูปธมฺมานํ ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนรูปธมฺเม อคฺคเหตฺวา ‘‘อฏฺจตฺตาลีสา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ ปน คหเณ เอกูนปฺาสาว สิยาติ อาห ‘‘เอกูนปฺาสกมฺมชิยวจนํ กตฺตพฺพํ สิยา’’ติ.
สุทีปนตฺตาติ สุขทีปนตฺตา, นยทสฺสนภาเวน วา สุฏฺุ ทีปนตฺตา. เตเนวาห ‘‘เอเตน หิ นเยนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตนฺติ รูปํ. เตนาติ รูเปน. อุภยตฺถาติ ปจฺฉิมกมฺมชรูปปฺปวตฺติยํ, ตโต ปุพฺเพ จ. อฺสฺสาติ เอกสฺส จิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ตโต อฺสฺส จิตฺตสฺส. ตสฺสาติ รูปสฺส. เอตฺถ จ ปจฺฉิมกมฺมชรูปปฺปวตฺติยํ นิรุชฺฌนกนฺติ วุตฺตํ ตโต ปุเรตรปฺปวตฺตํ รูปํ เวทิตพฺพํ. จตุสนฺตติกรูเปนาติอาทิ ยถาวุตฺตสงฺคหคมนทสฺสนํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ นานุปฺปาเทกนิโรธตาทีปเน. ิติกฺขเณติ อรูปสฺส รูปสฺส จ ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส จ อรูปสฺส จ ทสฺสิตตฺตา. อทสฺสิตสฺสาติ ยถา เอว เอตฺถ, เอวํ ตตฺถ วิภชิตฺวา อทสฺสิตสฺส. กสฺมา ปเนตฺถ ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีปนายํ สมตึสกมฺมชรูปคฺคหณํ กตนฺติ อาห ‘‘สมตึส…เป… โยชิต’’นฺติ. ตโต กมฺมโต ชาตา ตํกมฺมชา, เตสุ. สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, ชีวิตฺจ ตํ สงฺขาโร จาติ ชีวิตสงฺขาโร, อายุ. ชีวิเตน สงฺขรียนฺตีติ ชีวิตสงฺขารา, อุสฺมาทโย.
อฺสฺส ¶ อุปฺปาทกฺขเณติ ยสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส ตโต สตฺตรสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ, ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส ิติกฺขเณติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ อิทํ ปาฬิยา วิรุชฺฌนฺตมฺปิ อฏฺกถายํ อาคตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ อตฺโถ. กสฺมาติ จิตฺตสมุฏฺานรูปํ สนฺธาย ปาฬิ ปวตฺตา, อฏฺกถายํ ปน กมฺมชรูปนฺติ สา ตาย เกน การเณน วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘จตุ…เป… ภวิตพฺพตฺตา’’ติ, นิปฺผนฺนสฺสาติ อธิปฺปาโย. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โย จายํ จิตฺตสมุฏฺานสฺส…เป… กมฺมาทิสมุฏฺานสฺสาปิ อยเมว ขณนิยโม’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา). เอเตหีติ ยถานีโต ยมกปาโ, ‘‘กายสงฺขาโร จิตฺตสมุฏฺาโน’’ติอาทิโก อฏฺกถาปเทโสติ เอเตหิ ¶ . นตฺถิเยว เอกุปฺปาทเอกนิโรธทีปนโตติ อธิปฺปาโย. เตน หิ วุตฺตํ ‘‘เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌตี’’ติอาทิ.
ปุน ‘‘เอเตหี’’ติ อิมินา เอกุปฺปาทนานานิโรธนานุปฺปาทเอกนิโรธทีปนวเสน ปวตฺตา อฏฺกถาปเทสา คหิตาติ เวทิตพฺพํ, อุภยตฺถาปิ วา เอเตหิ อาจริเยหีติ อตฺโถ. ตติโย ภาโค, เตน อธิกา โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา ตติย…เป… ยุกตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ตติย ภาโคติ จ อุปฺปาทฏฺิติกฺขเณ อุปาทาย ภงฺคกฺขโณ อธิปฺเปโต. ยสฺมึ เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา, อวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก, ยสฺมึ ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา, อวเสสเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึเยว อารมฺมเณติ โยเชตพฺพํ. อุภยฺเจตํ ยถากฺกมํ มโนทฺวาเร ปฺจทฺวาเร จ อาปาถคตํ เวทิตพฺพํ. น โข ปเนวํ สกฺกา วิฺาตุํ เอกจิตฺตกฺขณาตีตํ อารมฺมณํ สนฺธาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น หิ สกฺกา’’ติอาทิมาห. ปฺจทสาติ อติเรกปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺมา’’ติอาทินา ยตฺถ ขเณกเทสํ อคฺคหิตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตเมว ทสฺเสติ. เอวํ ตาว น รูปํ สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกํ, นาปิ ตติยภาคาธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกํ, อถ โข โสฬสจิตฺตกฺขณายุกเมวาติ ทสฺสิตํ โหติ.
กสฺมา ¶ ปเนตฺถ รูปเมว สมาเนปิ อนิจฺจสงฺขตาทิภาเว จิรายุกํ ชาตนฺติ? ทนฺธปริวตฺติภาวโต. อรูปธมฺมา หิ สารมฺมณา จิตฺตปุพฺพงฺคมา, เต ยถาพลํ อตฺตโน อารมฺมณวิภาวนวเสน ปวตฺตนฺตีติ ตทตฺถนิปฺผตฺติสมนนฺตรเมว นิรุชฺฌนโต ลหุปริวตฺติโน. เตนาห ภควา, ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยทิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘). รูปธมฺมา ปน อนารมฺมณา, เต อารมฺมณวเสน อรูปธมฺเมหิ วิภาเวตพฺพา. สา จ เนสํ โวหารานุคุณา วิภาเวตพฺพตา อตฺตโน ทนฺธปริวตฺติตาย, เตสฺจ ลหุปริวตฺติตาย โสฬสหิ สตฺตรสหิ วา จิตฺตกฺขเณหิ นิปฺปชฺชตีติ รูปเมเวตฺถ จิรายุกํ ชาตํ. กิฺจ – ลหุวิฺาณวิสยสนฺตติมตฺตาธีนวุตฺติตาย ติณฺณํ ขนฺธานํ, อารมฺมณูปลทฺธิมตฺตภาวโต วิฺาณสฺส จ ลหุปริวตฺติตา, ทนฺธมหาภูตปฺปจฺจยตาย ปน รูปสฺส ทนฺธปริวตฺติตา. นานาธาตูสุ ตถาคตสฺเสว ยถาภูตาณํ, เตน จ รูปเมว ปุเรชาตปจฺจโย วุตฺโต, ปจฺฉาชาตปจฺจโย จ ตสฺเสวาติ น เอตฺถ อนิจฺจสงฺขตาทิภาวสามฺเน ¶ รูปารูปํ สมานายุกํ ปริกปฺเปตพฺพํ. วุตฺตนเยน รูปเมว จิรายุกนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ยถา จ รูปสฺส สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตา, ตติยภาคาธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา วา น โหติ, ตํ ทสฺเสตฺวา ยฺวายํ อฏฺกถายํ จิตฺตสฺส ิติกฺขเณ รูปุปฺปาโท วุตฺโต, ตตฺถ ิติกฺขณเมว ตาว จิตฺตสฺส อนนุชานนฺโต ‘‘โย เจตฺถ…เป… วิจาเรตพฺโพ’’ติ วตฺวา ยมเก อุปฺปนฺนอุปฺปชฺชมานวาราทิปาฬึ อาหรนฺโต ‘‘จิตฺตยมเก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปริปุณฺณวิสฺสชฺชเนติ อุภยมฺปิ ยมกปทํ อหาเปตฺวา กตวิสฺสชฺชเน. อุปฺปาทกฺขเณ อนาคตฺจาติ อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺตํ, อนาคตฺจ จิตฺตํ น นิรุทฺธํ, นิรุชฺฌมานนฺติ อตฺโถ. ิติกฺขณาภาวํ จิตฺตสฺส ทีเปตีติ อุปฺปนฺนอุปฺปชฺชมานวาราทีสุ ‘‘ิติกฺขเณ’’ติ อวจนํ จิตฺตสฺส ิติกฺขณํ นาม นตฺถีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ โพเธติ. น หิ ยถาธมฺมสาสเน อภิธมฺเม ลพฺภมานสฺส อวจเน การณํ ทิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. น เกวลมภิธมฺเม อวจนเมว จิตฺตสฺส ิติกฺขณาภาวโชตกํ, อปิจ โข ¶ สุตฺตนฺตปาฬิปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุตฺเตสุปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อฺถตฺตํ นาม ปุพฺพาปรวิเสโส. ขณทฺวยสมงฺคึ ิตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ิตภาวมาห. อฺถตฺตํ ปน สนฺตาเนเยว เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ เกจิ ‘‘ยถาภูโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, กึ ตถาภูโตว ภิชฺชติ, อุทาหุ อฺถาภูโต? ยทิ ตถาภูโตว ภิชฺชติ, น ชรตาย สมฺภโว. อถ อฺถาภูโต, อฺโ เอว โสติ สพฺพถาปิ ิติกฺขณสฺส อภาโวเยวา’’ติ วทนฺติ. ตตฺถ เอกธมฺมาธารภาเวปิ อุปฺปาทนิโรธานํ อฺโว อุปฺปาทกฺขโณ, อฺโ นิโรธกฺขโณ. อุปฺปาทาวตฺถฺหิ อุปาทาย อุปฺปาทกฺขโณ, นิโรธาวตฺถํ อุปาทาย นิโรธกฺขโณ. อุปฺปาทาวตฺถาย จ ภินฺนา นิโรธาวตฺถาติ เอกสฺมึเยว สภาวธมฺเม ยถา อิจฺฉิตพฺพา, อฺถา อฺโว ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, อฺโ ธมฺโม นิรุชฺฌตีติ อาปชฺเชยฺย, เอวํ นิโรธาวตฺถาย วิย นิโรธาภิมุขาวตฺถายปิ ภวิตพฺพํ. สา ิติ, ชรตา จาติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมตํ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิยํ ิติกฺขโณ น วุตฺโตติ? วิเนยฺยชฺฌาสยานุโรเธน นยทสฺสนวเสน ปาฬิ คตาติ เวทิตพฺพา. อภิธมฺมเทสนาปิ หิ กทาจิ วิเนยฺยชฺฌาสยานุโรเธน ปวตฺตติ. ตถา หิ รูปสฺส อุปฺปาโท ‘‘อุปจโย, สนฺตตี’’ติ ภินฺทิตฺวา เทสิโต. เหตุสมฺปยุตฺตทุกาทิเทสนา เจตฺถ นิทสฺสิตพฺพา.
‘‘ยสฺส ¶ วา ปนา’’ติอาทิ ปุจฺฉาวจนํ. ตสฺส ‘‘โน’’ติ วิสฺสชฺชนํ. สมุทยสจฺจํ นิรุชฺฌตีติ จิตฺตุปฺปาทสฺส นิโรธกฺขโณ วุตฺโต. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ รูปํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ ทุกฺขสจฺจนฺติ กตฺวา ‘‘โน’’ติ วตฺตุํ น สกฺกา, วุตฺตฺเจตํ. ตสฺมา วิฺายติ ‘‘จิตฺตสฺส นิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาโท นตฺถี’’ติ. ตยิทมการณํ. อรูปโลกฺหิ สนฺธาย, จิตฺตสมุฏฺานรูปํ วา ‘‘โน’’ติ สกฺกา วตฺตุนฺติ. อยฺหิ ยมกเทสนาย ปกติ, ยทิทํ ยถาสมฺภวโยชนา. เอเตน ‘‘น จ จิตฺตสมุฏฺานรูปเมวา’’ติอาทิวจนํ ปฏิกฺขิตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ปจฺจาสตฺติาเยน ยํ สมุทยสจฺจํ นิรุชฺฌติ, เตน ยํ ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปาเทตพฺพํ จิตฺตเจตสิกตปฺปฏิพทฺธรูปสงฺขาตํ, ตสฺส ตทา อุปฺปตฺติ นตฺถีติ ‘‘โน’’ติ วิสฺสชฺชนํ, น สพฺพสฺส.
สหุปฺปาเทกนิโรธวจนโตติ ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ? อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๗๙) เอวํ สหุปฺปาทสหนิโรธวจนโต. เตน วจเนนาติ ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร’’ติอาทิวจเนน. อฺรูปานนฺติ ¶ กมฺมอุตุอาหารชรูปานํ. สหุปฺปาทสหนิโรธาทิกานนฺติ เอตฺถายํ โยชนา – อปฺปฏิกฺขิตฺตสหุปฺปาทสหนิโรธอนนฺุาตนานุปฺปาทนานานิโรธอนิวาริตอพฺยากตภาวานํ กมฺมชาทีนนฺติ. เอเตนาติ ‘‘ยสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทิเกน (ยม. ๓.ธมฺมยมก.๑๖๓) ปาเน, ‘‘น จิตฺตสมุฏฺานรูปเมวา’’ติ ยุตฺติวจเนน จ. ยมกปาฬิอนุสฺสรเณติ ยถาทสฺสิตจิตฺตยมกปาฬิยา ยถารุตวเสเนว อนุสฺสรเณ วิชฺชมาเน. ภิชฺชมานตาติ จิตฺตสฺส ภิชฺชมานตา นาม นิรุชฺฌมานตา ิติยา อภาวโต. สหายภาวํ นาปิ คจฺฉติ นิสฺสยตฺถิภาวาทินา ปจฺจยภาวาภาวโต. อุปฺปาทกฺขเณ เอว หิ อนนฺตราทิปจฺจยลาเภน จิตฺตสฺส พลวตา. เอวฺจ สตีติ เอวฺจ อุตุนาปิ ภวงฺคจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว รูปสมุฏฺาปเน สติ. ตํจิตฺตกฺขเณติ ตสฺส จิตฺตสฺส ขเณ, ขณทฺวเยปีติ อตฺโถ. เตเนวาติ อติลหุปริวตฺติภาเวเนว. อถ วา เตเนวาติ ทนฺธปริวตฺติกตาย รูปสฺส สกลํ เอกจิตฺตกฺขณํ อุปฺปชฺชมานภาเวเนว. ตนฺติ จิตฺตํ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วิย สหชาตรูปธมฺมานมฺปิ สหชาตาทิปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ อาห ‘‘ปฏิสนฺธิโต อุทฺธ’’นฺติ. จิตฺตสมุฏฺานานํ จิตฺตํ สหชาตาทิปจฺจโย โหติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘อจิตฺตสมุฏฺานาน’’นฺติ. ตทนนฺตรนฺติ เยน จิตฺเตน สหุปฺปนฺนํ, ตสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรํ. ตนฺติ รูปํ. ตทนนฺตรํ จิตฺตนฺติ สหุปฺปนฺนจิตฺตานนฺตรํ จิตฺตํ. ยทิ เอวนฺติ ยทิ สกลํ จิตฺตกฺขณํ รูปํ อุปฺปชฺชมานเมว โหติ, จิตฺตสฺส ¶ อุปฺปาทกฺขเณ เอว รูปสฺส อุปฺปาทารมฺโภติ อาห ‘‘น, จิตฺตนิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาทารมฺภาภาวโต’’ติ. จิตฺตกฺขเณติ อตฺตนา สหุปฺปนฺนจิตฺตสฺส ขเณ. ตนฺติ รูปํ. รูปสมุฏฺาปนปุเรชาตปจฺจยกิจฺจนฺติ รูปสมุฏฺาปนกิจฺจฺจ ปุเรชาตปจฺจยกิจฺจฺจ. ิติปฺปตฺติวิเสสาลาภนฺติ ิติปฺปตฺติยา ลทฺธพฺโพ โย วิเสโส, ตสฺส อลาภํ. อิทํ วุตฺตนฺติ ‘‘เยน สหุปฺปชฺชติ, ตํจิตฺตกฺขเณ รูปํ อุปฺปชฺชมานเมวา’’ติ อิทํ ปริยาเยน วุตฺตํ.
ยํ ยสฺส สมฺพนฺธิภาเวน วุตฺตํ, ตํ ทูเร ิตมฺปิ เตน สมฺพนฺธนียนฺติ อาห ‘‘ตโต ปรํ…เป… เอเตน สห สมฺพนฺโธ’’ติ. ตสฺมา ‘‘ตโต’’ติ เอตฺถ ตํสทฺเทน จุตึ ปจฺจามสตีติ วุตฺตํ ‘‘จุติโต ปรนฺติ อตฺโถ’’ติ.
นตฺถีติ ¶ กตฺวาติ ยทิปิ ยถา อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตถา เอกุปฺปาเทกนิโรธตา รูปานํ อรูเปหิ, อรูปานฺจ รูเปหิ นตฺถิ. ยถา จ อมฺเหหิ วุตฺตํ, ตถา อตฺเถวาติ อธิปฺปาโย.
จตุตฺถสฺส ปการสฺส วุจฺจมานตฺตา ‘‘ตโย ปกาเร อาหา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เตสํเยว รูปานํ กายวิกาโร’’ติอาทินา ปรินิปฺผนฺนานํ วิการาทิภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สพฺพํ ปรินิปฺผนฺนํ สงฺขตเมวา’’ติ วทนฺเตน ปรินิปฺผนฺนตาปริยาโย ทสฺสิโต. ปุพฺพนฺตาปรนฺตปริจฺฉินฺโนติ ปาตุภาววิทฺธํสภาวปริจฺฉินฺโน, อุทยพฺพยปริจฺฉินฺโน วา. ‘‘อยํ ทตฺโต นาม โหตู’’ติอาทินา นามกรณํ นามคฺคหณํ. สมาปชฺชนํ นิโรธสมาปตฺติยา สมถวิปสฺสนานุกฺกเมน นามกายสฺส นิโรธเมว. อาทิ-สทฺเทน สตฺตกสิณาทิปฺตฺติยา ปฺาปนํ สงฺคณฺหาติ. นิปฺผาทิยมาโนติ สาธิยมาโน.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา
อุปฺปตฺติกฺกมาทีสุ ¶ เทสนากฺกโมปิ ลพฺภเตวาติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทิโก เทสนากฺกโมวา’’ติ วุตฺตํ. อนุปุพฺพุกฺกํสโตติ ทานสีลกามาทีนวาทิทสฺสนเนกฺขมฺมกถานํ อนุกฺกเมน อุกฺกฏฺภาวโต กถานํ อนุปุพฺพุกฺกํสตา วุตฺตา. เตน อุกฺกํสกฺกโม นามายํ วิสุํ กโมติ ทสฺเสติ. ตถาปิ ทานาทีนํ เทสนากฺกมาวโรธเน การณมาห ‘‘อุปฺปตฺติอาทิววตฺถานาภาวโต’’ติ. ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปหานปฏิปตฺติภูมิกฺกเม สงฺคณฺหาติ. ‘‘จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูต’’นฺติ อิมินา ปฺจรูปินฺทฺริยโคจรตา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอกเทเสนา’’ติอาทิ. เอกเทเสนาติ พาหิโรฬาริกายตเนหิ. เอตฺถาติ ‘‘ยํ เวทยติ, ตํ สฺชานาตี’’ติ เอตสฺมึ ปเท วุตฺตนเยน.
ตํสภาวตานิวตฺตนตฺถนฺติ อนาสวธมฺมสภาวตานิวตฺตนตฺถํ. อนาสวา ขนฺเธสฺเวว วุตฺตาติ อตฺโถ สาสวานมฺปิ ขนฺเธสุ วุตฺตตฺตา. นนุ จ อนาสวธมฺโม ขนฺเธสุ อวุตฺโตปิ อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, ขนฺธาธิกาเร ขนฺธปริยาปนฺนา เอว อนาสวา คยฺหนฺตีติ นายํ โทโส.
ยถา ¶ ผสฺสาทโย วิเสสโต ตทนุคุณวุตฺติตาย สงฺขตาภิสงฺขรณสภาวาติ สงฺขารกฺขนฺเธ สมวรุทฺธา, น เอวํ เวทนาสฺาวิฺาณานีติ รูปธมฺมา วิย ตานิ วิสุํ ขนฺธภาเวน วุตฺตานิ. เอเตน ผสฺสาทีนํ วิสุํ ขนฺธสทฺทวจนียตาภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘ผุสนาทโย ปนา’’ติอาทิ. อิติอาทีนฺจ สุตฺตานนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ รูปํ อุปาทาย รูปํ อภินิวิสฺส อุปฺปชฺชนฺติ สํโยชนาภินิเวสวินิพนฺธา. เวทนาย…เป… สฺาย… สงฺขาเรสุ… วิฺาเณ สติ วิฺาณํ อุปาทาย วิฺาณํ อภินิวิสฺส อุปฺปชฺชนฺติ สํโยชนาภินิเวสวินิพนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕๘), ตถา ‘‘อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายี โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑) จ เอวมาทีนํ สุตฺตปทานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอเตนาติ อตฺตนา ทสฺสิตสุตฺเตน. วกฺขมานสุตฺตวเสน จาติ ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สตี’’ติอาทิกสฺส อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส วเสน. ‘‘ปริตฺตารมฺมณาทิวเสน น วตฺตพฺพา’’ติ เอเตน นวตฺตพฺพารมฺมณาปิ ทิฏฺิ ขนฺเธ เอว นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ, ปเคว ขนฺธารมฺมณาติ ทสฺเสติ.
เวทนาการณายาติ ¶ เวทนายาตนาย. ฉาทาปนโตติ โรจาปนโต. พาหุลฺเลนาติ พหุลภาเวน. อุปาทานกฺขนฺธา หิ พาหุลฺลปฺปวตฺติกา, น อิตเร.
ปุฏํ กตฺวาติ จ ฉตฺตสทิสํ ปุฏํ พนฺธํ กตฺวา. วตฺถุมฺหีติ จกฺขาทิวตฺถุมฺหิ. วฏฺฏคตเวทนํ สนฺธาย วุตฺตํ. สา หิ อิธ ทฏฺพฺพภาเว ิตา. อูเนหีติ วตฺถุนา, กิเลเสหิ จ อูเนหิ.
มายายาติ อินฺทชาลาทิมายาย ปโยโค มายาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘มายาย ทสฺสิตํ รูปํ ‘มายา’ติ อาหา’’ติ. วตฺถุภาวาทิโตติ อาทิ-สทฺเทน อารมฺมณสมฺปยุตฺตาทิเก สงฺคณฺหาติ. กตฺถจีติ รูปกฺขนฺธาทิเก. โกจิ วิเสโสติ อสุภาทิโกว.
ตสฺสาติ อชฺฌตฺติกรูปสฺส. ยสฺส กามราคปฺปหานมุเขน สพฺพราคปฺปหานํ สมฺภวติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘กามราคมุเขน วา สพฺพโลภปฺปหานํ วทตี’’ติ. โยเชตพฺพนฺติ เวทนาย ฉนฺทราคํ ปชหนฺโต ตสฺสา สมุทยภูเต ¶ ผสฺเสปิ ฉนฺทราคํ ปชหตีติ โยเชตพฺพนฺติ. ปริฺตฺตยสฺส โยชนา ปากฏา เอว.
ตโตติ ทุกฺขุปฺปาทนสุขวินาสนานํ อทสฺสนโต. ภินฺทตีติ วินาเสติ. ตนฺติ มโนสฺเจตนาหารํ าตตีรณปริฺาหิ ปริคฺคณฺหาติ ตีเรติ.
ตํ ปชหนฺโตติ อวิชฺชํ ปชหนฺโต. ปรามฏฺนฺติ ปรามาสสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิจฺจาทิวเสน คหิตํ. วิฺาณํ นิจฺจโต ปสฺสนฺโต ทิฏฺุปาทานํ อุปาทิยตีติ อยมตฺโถ ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ, อนฺ’’นฺติอาทิสุตฺตปเทหิ (ม. นิ. ๑.๓๙๖) ทีเปตพฺโพ.
กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๔. ตํ ¶ วตฺวาติ ตํ ภูมิวเสน ชานิตพฺพตํ ‘‘สพฺพาปิ จตุภูมิกเวทนา’’ติอาทินา วตฺวา. สมฺปยุตฺตโต ทสฺสิตตาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เหตุชาติภูมิอินฺทฺริยวตฺถุสมฺผสฺสชเภทโต ทสฺสิตตํ อนวเสสโต สงฺคณฺหาติ.
ยทิปิ ตํ-สทฺโท ปุพฺเพ วุตฺตสฺส สามฺโต ปฏินิทฺเทโส, ตถาปิ อนนฺตรเมว ปจฺจามสิตุํ ยุตฺโต อิตรตฺถ อสมฺภวโตติ อาห ‘‘อฏฺ…เป… โยชนา’’ติ. ‘‘อฏฺวิธตฺตาภาวโต’’ติ อิมินา ตํ อสมฺภวํ ทสฺเสติ.
ปูรณตฺถเมว วุตฺโต, อปุพฺพตาภาวโตติ อตฺโถ.
คหณวฑฺฒนวเสนาติ คหณสฺส วฑฺฒนวเสน. คหณนฺติ เจตฺถ กถนํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺส วฑฺฒนํ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อวุตฺตสฺส กถนํ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ คหิตโต อฺสฺส คหณํ วฑฺฒน’’นฺติ, ตโต เอว จ ‘‘ปุริมคหิเต อฺุปจยวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘วฑฺฒนสทฺโท เฉทนตฺโถ’’ติ อิทํ ยถา อสิวา ‘‘สิวา’’ติ, ทิฏฺฺจ ‘‘อทิฏฺ’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. นยนีหรณนฺติ นียตีติ นโย, เทสนา, ตสฺส นีหรณํ ปวตฺตนํ. วฑฺฒนกนโยติ ¶ ยถาวุตฺตวฑฺฒนกวเสน ปวตฺโต เทสนานโย. อฺเ เภทาติ เอกวิธจตุพฺพิธาทโย เภทา. ยทิ อวิสิฏฺา, กสฺมา วุตฺตาติ อาห ‘‘ตถาปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ปฺาปฺปเภทชนนตฺถนฺติ ธมฺมวิสยาย ปเภทคตาย ปฺาย วิเนยฺยานํ นิพฺพตฺตนตฺถํ, วิชฺชาฏฺานาทิวเสน วิเนยฺยานํ ธมฺมปฏิสมฺภิทาย อุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ. อภิฺเยฺยธมฺมวิภาคตาย สมฺมสนวารสฺส วิสยภาวโต วุตฺตํ ‘‘เอเกกสฺส วารสฺส คหิตสฺส นิยฺยานมุขภาวโต’’ติ. อิตเรปิ เภทา วุตฺตาติ ทุวิธติวิธเภทานํ ยํ นานตฺตํ, ตสฺส วเสน อิตเร เภทา อนานตฺตาปิ ยถาวุตฺตการณโต วุตฺตา. ‘‘น เกวล’’นฺติอาทินา เภทานํ อฺมฺเปกฺขตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทินา เตสํ วิสิฏฺตํ ทสฺเสติ.
ยถา ทุกมูลกาทีสุ เภทา คณนานุปุพฺพิยา ปวตฺตา ปเภทนฺตราเปกฺขา, น เอวเมเต. เอเต ปน สตฺตวิธาทิเภทา ปเภทนฺตรนิรเปกฺขา เกวลํ พหุวิธภาวสามฺเเนว วุตฺตาติ ทสฺเสติ ‘‘อฺปฺปเภทนิรเปกฺขา’’ติอาทินา. ทุกติกปทตฺถานํ ยถารหํ อเปกฺขิตพฺพาเปกฺขกภาเวน วุตฺตตฺตา ¶ ยถา ทุเก เปตฺวา วุตฺตา ติกา ตตฺถ ปกฺขิตฺตา นาม ชาตา, เอวํ ติกทุกปทตฺถานํ อเปกฺขิตพฺพาเปกฺขกภาเวน วุตฺตตฺตา ทุเก วตฺวา วุตฺเตสุปิ ติเกสุ เต ปกฺขิตฺตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ปรโต…เป… โยชิตตฺตา’’ติ.
สมานวีถิยนฺติ เอกวีถิยํ. จกฺขุสงฺฆฏฺฏนายาติ จกฺขุรูปปฏิฆาเตน. โสติ จกฺขุรูปปฏิฆาโต. ตทุปฺปาทิกาติ ตสฺส จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อุปฺปาทิกา. สาติ อาวชฺชนเวทนา. นนุ จ เวทนาปจฺจโย ผสฺโส วุตฺโต, น ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ? น, เวทนาสีเสน จิตฺตุปฺปาทสฺส คหิตตฺตาติ. ตปฺปโยชนตฺตาติ จกฺขุสมฺผสฺสปโยชนตฺตา. ปโยชยตีติ ปโยชนํ, ผลํ.
รูปาวจรารูปาวจรานํ วิปากานนฺติ อธิปฺปาโย. เต หิ อิธ อคฺคหิตา. เตเนวาห ‘‘เตสํ สยเมว มโนทฺวารภูตตฺตา’’ติอาทิ. ตโตติ ภวงฺคโต. จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาทิกุสลาทีนนฺติ เอตฺถ ปุริเมน อาทิ-สทฺเทน ‘‘โสตสมฺผสฺสปจฺจยา’’ติ เอวมาทโย สงฺคหิตา, ทุติเยน อกุสลาทโย. ‘‘กามาวจรอฏฺกุสลจิตฺตวเสนา’’ติอาทินา กุสลาพฺยากตานมฺปิ กามาวจรานํเยว โยชิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สมานวีถิยํ ลพฺภมานตา ¶ อฏฺกถายํ วุตฺตา’’ติ. เวทนาปีติสนิทสฺสนตฺติกวชฺชานํ เอกูนวีสติยา ติกานํ วเสน เอกูนวีสติจตุวีสติกา. ยทิ อสมานวีถิยมฺปิ กุสลาทีนํ ลพฺภมานตา โยเชตพฺพา, อถ กสฺมา สมานวีถิยํเยว โยชิตาติ อาห ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิ. เตเนวาติ อสมานวีถิยํ อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตาเยว.
จิตฺตสมฺพนฺโธติ จิตฺเตน สมฺพนฺโธ จิตฺตสมฺพนฺธํ กตฺวา จิตฺตสีเสน เวทนาย กถนํ. ติกภูมิวเสนาติ กุสลตฺติกาทิติกวเสน, กามาวจราทิภูมิวเสน จ. ทฺวารติกวเสนาติ จกฺขาทิอุปฺปตฺติทฺวารวเสน, กุสลตฺติกาทิติกวเสน จ. ยตฺถ กตฺถจีติ ทีเปตพฺพสฺส อตฺถสฺส วิเสสาภาวโต สตฺตวิธเภทาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ. น จ ทฺวารํ อนามฏฺนฺติ โยชนา. เตน สตฺตวิธเภทโต ตึสวิธเภเท วิเสสํ ทสฺเสติ. ยทิปิ อุภยตฺถ ภูมิโย อาคตา, รูปาวจราทิภูมิอามสเนน ปน อสมานวีถิยํ ลพฺภมานตา ทสฺสิตาติ อาห ‘‘อติพฺยตฺตา จ เอตฺถ สมานาสมานวีถีสุ ลพฺภมานตา’’ติ. สุขทีปนานิ โหนฺติ ทฺวารภูมิอามสนมุเขน เวทนากฺขนฺธสฺส วิภตฺตตฺตา. น ภูมิโย อเปกฺขิตฺวา ปิตาติ กเถตพฺพภาเวน ภูมิโย อเปกฺขิตฺวา ¶ น ปิตา, ภูมิวิภาเคน น กถิตาติ อตฺโถ. อเปกฺขิตพฺพรหิตาติ ทฺวารภูมีนํ อคฺคหิตตฺตา อากงฺขิตพฺพทฺวาราทิวิเสสรหิตา.
‘‘อุปนิสฺสยโกฏิยา’’ติ เอตฺถ นิปฺปริยายโต ปริยายโต จ อุปนิสฺสยโกฏิทสฺสนมุเขน อิธาธิปฺเปตอุปนิสฺสยโกฏึ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปนิสฺสยานนฺติ เวทนาย อุปนิสฺสยภูตานํ. ทสฺสนนฺติ จกฺขุวิฺาณํ, ทิสฺวา วา คหณํ. อุปนิสฺสยนฺตภาเวนาติ ลามกูปนิสฺสยภาเวน. ยทิ ฆายนาทีนิ อุปนิสฺสโย ภเวยฺยุํ, ปกตูปนิสฺสยาเนว สิยุํ. ปกตูปนิสฺสโย จ นานาวีถิยํเยวาติ ตทลาภวจนํ อิธ นานาวีถิโชตกนฺติ ทสฺเสติ ‘‘ฆานาทิทฺวาเรสู’’ติอาทินา. กสิณปริกมฺมาทีนนฺติ กสิณปริกมฺมสมาปตฺตินิพฺพตฺตนวิปสฺสนาวฑฺฒนาทีนํ. ตทลาโภติ อุปนิสฺสยาลาโภ, โส จ ฆายนาทีหิ ปเรสํ ปฏิปตฺติยา ชานิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. อนฺติมภวิกโพธิสตฺตาทีนํ สวเนน วินา ตํผุสนํ สิยา มูลูปนิสฺสโยติ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ วุตฺตํ.
สมฺปนฺนชฺฌาสโยติ ¶ วิวฏฺฏูปนิสฺสยสมฺปตฺติยา สมฺปนฺนชฺฌาสโย. เตนาติ ‘‘เอวํ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ วจเนน. ตทุปนิสฺสยนฺติ ตโต ปรํ อุปฺปนฺนกสิณรูปทสฺสนาทีนํ อุปนิสฺสยภูตํ.
ถามคมนํ นาม กามราคาทีนํเยว อาเวณิโก สภาโวติ อาห ‘‘อปฺปหีนกามราคาทิกสฺส วา’’ติ. ‘‘ราโค อุปฺปนฺโน’’ติอาทินา อิฏฺานิฏฺารมฺมเณ ราคปฏิฆานํ อุปฺปตฺติวิจารณาว วุตฺตา, น เนสํ กิจฺจวิเสโสติ กิจฺจวิเสเสน วุตฺเต ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมเปกฺขนายา’’ติอาทิมาห. ปวตฺตา เวทนาติ อตฺโถ. ปการนฺตเรนาติ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปนฺนกิเลสานํ สมติกฺกมนสงฺขาเตน ปการนฺตเรน. ตถา ภาวนาวเสนาติ เอตฺถ ตถา-สทฺเทน จกฺขุสมฺผสฺสสฺส จตุภูมิกเวทนาย อุปนิสฺสยภาโว เอว ปการนฺตเรน กถิโตติ อิมเมวตฺถํ อากฑฺฒติ. ภาวนาเยเวตฺถ ปการนฺตรํ.
สพฺพํ สมฺมสนํ ภาวนาติ เวทิตพฺพา, น นีวรณปฺปหานปริฺาว.
อฺมฺสฺส จาติ โผฏฺพฺพมหาภูเตสุ อิตรีตรสฺส, อาโปธาตุยา จ วเสน.
เตสนฺติ ¶ ชาติอาทีนํ, กมฺมตฺเถ เจตํ สามิวจนํ. สหชาตสฺส มโนสมฺผสฺสสฺส พลวปจฺจยภาวํ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ตสฺส วา ทสฺสนสฺสาติ ตสฺส วา ชาติอาทิเก ภยโต ทสฺสนวเสน ปวตฺตสฺส กามาวจราณสฺส.
ตเทว อตฺตโน ผลสฺเสว ผลภาเวนาติ ‘‘มโนสมฺผสฺโส’’ติ ผสฺสสฺส การณภาเวน ยํ วุตฺตํ, ตเทว วิฺาณํ อตฺตโน ผลสฺส ผลภาเวน วุตฺตสฺส ผสฺสสฺส ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสช’’นฺติอาทินา ผลภาเวน วตฺตุํ น ยุตฺตํ. ‘‘มโนสมฺผสฺโส’’ติอาทินา ลพฺภมาโนปิ วิฺาณํ ปฏิจฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจยภาโว เหตุผลสงฺกรปริหรณตฺถํ น วุตฺโตติ วตฺวา ยทิปิ ผสฺโส วิฺาณสฺส ปจฺจโย โหติ, น ปน ผสฺสสฺส วิย วิฺาณํ โส ตสฺส วิเสสปจฺจโย โหตีติ วิฺาณสฺส จกฺขุสมฺผสฺสชาทิตา น วุตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๑๕๐. ตํ ¶ ตํ สมุทายนฺติ ตํ ตํ จิตฺตุปฺปาทสงฺขาตธมฺมสมุทายํ, อนวเสสรูปธมฺมสมุทายฺจ. ยถาสมฺภวนฺติ โจปนํ ปตฺโต สํวโร ฉฏฺทฺวาเร, อิตโร ฉสุปีติ เอวํ ยถาสมฺภวํ. ตโตติ อภิชฺฌาโทมนสฺสาทิโต. ยถาโยคนฺติ โย สํวริตพฺโพ, ตทนุรูปํ.
กตฺถจีติ เต เอว ปริวฏฺเฏ สามฺเน วทติ. กตฺถจีติ วา เตสุ ปริวฏฺเฏสุ กิสฺมิฺจิปิ ปเทเส. กิฺจิปิ อปฺปกมฺปิ. เอโกว ปริจฺเฉโท, น อายตนวิภงฺคาทีสุ วิย นานาติ อธิปฺปาโย.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อายตนวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๕๔. อสาธารณโตติ ¶ ¶ อาเวณิกโต. ตํ เนสํ อสาธารณภาวํ วิปกฺขวเสน ปติฏฺาเปตุํ สาธารณํ อุทาหรณวเสน ทสฺเสติ ‘‘อายตนสทฺทตฺโถ วิยา’’ติ. อถ วา จกฺขาทิอตฺโถ เอว จกฺขาทิสทฺทวิเสสิโต อายตนตฺโถติ ตํ ตาทิสํ อายตนตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อายตนสทฺทตฺโถ วิย อสาธารณโต’’ติ.
ยทิ วิสยสฺสาทนตฺโถ จกฺขุ-สทฺโท, โสตาทีนมฺปิ อยํ สมฺา สิยาติ อติปฺปสงฺคํ ปริหรนฺโต ‘‘สติปี’’ติอาทิมาห. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป จกฺขตีติ วิฺาณาธิฏฺิตํ สมวิสมํ อาจิกฺขติ, อาจิกฺขนฺตํ วิย, วิภาเวนฺตํ วิย วา โหตีติ อตฺโถ. รูปมิว จกฺขุวิฺเยฺยํ วิย สวิคฺคหมิว สพิมฺพกํ วิย วณฺณวาจโก รูป-สทฺโท อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘วิตฺถารณํ วา รูปสทฺทสฺส อตฺโถ’’ติ.
วจนเมวาติ สวิฺตฺติกสทฺทเมว. คมียตีติ อุปนียติ. อชฺโฌหรณสฺส รสคฺคหณมูลตาวจเนน รสสฺส ปรมฺปราย ชีวิตเหตุตํ ทสฺเสติ. รสนิมิตฺตฺหิ รสคฺคหณํ, รสคฺคหณนิมิตฺตํ อชฺโฌหรณํ, ตํนิมิตฺตํ ชีวิตนฺติ. รสคฺคหณมูลตา จ อชฺโฌหรณสฺส เยภุยฺยโต เวทิตพฺพา. ทิสฺสติ อปทิสฺสติ เอเตน ผลนฺติ เทโส, เหตูติ อาห ‘‘อุปฺปตฺติเทโสติ อุปฺปตฺติการณ’’นฺติ. ตถาติ จกฺขายตนาทิปฺปกาเรน. มโนโคจรภูตาติ มนโส เอว โคจรภูตา. สามฺลกฺขเณเนวาติ อนุภวนาทิวิเสสลกฺขณํ อคฺคเหตฺวา ธมฺมภาวสงฺขาตสาธารณลกฺขเณเนว ¶ . เอกายตนตฺตํ อุปเนตฺวา วุตฺตา ทฺวาทส เอกสภาวตฺตา ภินฺทิตฺวา วจเน ปโยชนาภาวา. ทฺวาราลมฺพนวิภาคทสฺสนตฺถา หิ อายตนเทสนาติ.
ปุพฺพนฺตโตติ ปุริมภาคโต ปากภาวโต. ปากภาโว หิ สภาวธมฺมานํ ปุพฺพนฺโต, วิทฺธํสาภาโว อปรนฺโต.
นิวาสฏฺานาทีสุ อายตน-สทฺโท น อายตนตฺถาทีสุ วิย ปทตฺถวิวรณมุเขน ปวตฺโต, อถ โข ตสฺมึ ตสฺมึ เทวฆราทิเก นิรุฬฺหตาย เอวมตฺโถติ อาห ‘‘รุฬฺหิวเสน อายตนสทฺทสฺสตฺถํ วตฺตุ’’นฺติ. มโนติ ทฺวารภูตมโน ¶ . นิสฺสยภาโวติ เอตฺถ นิสฺสยสทิโส นิสฺสโย, สทิสตา จ ผลสฺส ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย ทฏฺพฺพา. วจนียตฺโถ ภาวตฺโถ.
ตาวตฺวโตติ ตตฺตกโต. อูนโจทนาติ ทฺวาทสโต อูนานิ กสฺมา น วุตฺตานีติ โจทนา. ยทิ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อสาธารณํ ธมฺมชาตํ ธมฺมายตนํ, เอวํ สนฺเต จกฺขาทีนมฺปิ ธมฺมายตนภาโว สิยาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สติปี’’ติอาทิ. ทฺวารารมฺมณภาเวหีติ น อารมฺมณภาเวเนว อสาธารณํ, อถ โข ทฺวารารมฺมณภาเวหิ อสาธารณํ สมฺภวตีติ วจนเสโส.
เยภุยฺยสหุปฺปตฺติอาทีหีติ เยภุยฺเยน จกฺขายตนาทีนิ กสฺสจิ กทาจิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา อายตนานํ อุปฺปตฺติกฺกโม ตาว น ยุชฺชติ, น ปหานกฺกโม กุสลาพฺยากตานํ อปฺปหาตพฺพโต, น ปฏิปตฺติกฺกโม อกุสลานํ, เอกจฺจอพฺยากตานฺจ อปฺปฏิปชฺชนียโต, น ภูมิกฺกโม อฑฺเฒกาทสนฺนํ อายตนานํ เอกนฺตกามาวจรตฺตา, อิตเรสํ จตุภูมิปริยาปนฺนตฺตา, เอกจฺจสฺส โลกุตฺตรภาวโต จ. เอวํ อุปฺปตฺติกฺกมาทิอยุตฺติโยชนา เวทิตพฺพา. เยสุ วิชฺชมาเนสุ อตฺตภาวสฺส ปฺาปนา, เต ‘‘มยฺหํ จกฺขุ’’นฺติอาทินา อธิกสิเนหวตฺถุภูตา จกฺขาทโย ยถา อชฺฌตฺติกตาย, เอวํ ทสฺสนาทิกิจฺจกรอินฺทฺริยตา จ ปธานาติ อาห ‘‘อชฺฌตฺติกภาเวน, วิสยิภาเวน จา’’ติ. ฆานาทิกฺกเมนาติ ฆานํ ชิวฺหา กาโยติ อิมินา กเมน.
ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา วา จกฺขาทีนิ ปมํ วุตฺตานิ, มโน ปน กิฺจิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ¶ , กิฺจิ ยาวนวตฺตพฺพารมฺมณนฺติ ปจฺฉา วุตฺตํ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณสุปิ อุปาทารูปารมฺมณานิ จตฺตาริ ปมํ วุตฺตานิ, ตโต ภูตรูปารมฺมณํ. อุปาทารูปารมฺมเณสุปิ ทูรตเร ทูเร, สีฆตรํ สีฆฺจ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนทีปนตฺถํ จกฺขาทีนํ เทสนากฺกโม. จกฺขุโสตทฺวยฺหิ ทูรโคจรนฺติ ปมํ วุตฺตํ. ตตฺราปิ จกฺขุ ทูรตรโคจรนฺติ สพฺพปมํ วุตฺตํ. ปสฺสนฺโตปิ หิ ทูรตเร นทิโสตํ น ตสฺส สทฺทํ สุณาติ. ฆานชิวฺหาสุปิ ฆานํ สีฆตรวุตฺตีติ ¶ ปมํ วุตฺตํ. ปุรโต ปิตมตฺตสฺส หิ โภชนสฺส คนฺโธ คยฺหตีติ. ยถาานํ วา เตสํ เทสนากฺกโม. อิมสฺมิฺหิ สรีเร สพฺพุปริ จกฺขุสฺส อธิฏฺานํ, ตสฺส อโธ โสตสฺส, ตสฺส อโธ ฆานสฺส, ตสฺส อโธ ชิวฺหาย, ตถา กายสฺส เยภุยฺเยน, มโน ปน อรูปีภาวโต สพฺพปจฺฉา วุตฺโต. ตํตํโคจรตฺตา ตสฺส ตสฺสานนฺตรํ พาหิรายตนานิ วุตฺตานีติ วุตฺโตวายมตฺโถติ เอวมฺปิ อิเมสํ กโม เวทิตพฺโพ.
ตโตติ หทยวตฺถุเภทโต. ยฺหิ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย เอกํ มโนวิฺาณํ ปวตฺตติ, น ตเทว นิสฺสาย อฺํ ปวตฺตติ. นิทฺเทสวเสนาติ สงฺเขปวิตฺถารนิทฺเทสวเสน. โยเชตพฺพํ ‘‘กุสลสมุฏฺานํ กุสลสมุฏฺานสฺส สภาค’’นฺติอาทินา.
สภาโวติ วิสยิวิสยภาโว, ตทภินิพฺพตฺติยฺจ โยคฺยตา. การณสมตฺถตาติ การณภูตา สมตฺถตา ปจฺจยภาโว. ทฺวาราทิภาโวติ ทฺวารารมฺมเณ ทฺวารวุตฺติภาโว. อิมสฺมึ อตฺเถติ อนนฺตรํ วุตฺตอตฺเถ. ยสฺมาติ ยาย ธมฺมตาย เยน ทฺวาราทิภาเวน การณภูเตน. สมฺภวนวิเสสนนฺติ กิริยาย ปรามสนมาห. ยํ สมฺภวนํ, ธมฺมตาเวสาติ อตฺโถ. ริตฺตกาเนวาติ ธุวาทิภาวริตฺตกาเนว. วิสมาทีสุ อชฺฌาสโย เอเตสนฺติ วิสมาทิอชฺฌาสยานิ, วิสมาทิอชฺฌาสยานิ วิย โหนฺตีติ วิสมาทิอชฺฌาสยานิ, จกฺขาทีนิ. วิสมภาว…เป… วนภาเวหีติ วิสมภาวาทิสนฺนิสฺสิตอหิอาทิสทิสุปาทินฺนธมฺเมหิ จกฺขาทีหิ, วนสนฺนิสฺสิตมกฺกฏสทิเสน จิตฺเตน จ อภิรมิตตฺตา. วนภาโวติ หิ วนชฺฌาสโยติ อตฺโถ.
ปุริมนฺตวิวิตฺตตาติ ปุพฺพภาควิรโห. อุปฺปาทโต ปุริมโกฏฺาโส หิ อิธ ปุริมนฺโต. อปรนฺเตติ อปรภาเค, ภงฺคโต อุทฺธนฺติ อตฺโถ. อุทยพฺพยปริจฺฉินฺโน หิ สภาวธมฺโม. ยํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ ‘‘อนิธานคตา ภคฺคา, ปฺุโช นตฺถิ อนาคเต’’ติ (มหานิ. ๑๐). สทา อภาโวติ น สทา อภาวปติฏฺาปนํ สพฺพกาลมฺปิ นตฺถีติ, อถ โข อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนตฺตา สทาภาวปฏิกฺเขโปติ อาห ‘‘อนิจฺจลกฺขณ’’นฺติ. สภาววิชหนนฺติ ภงฺคปฺปตฺติมาห ¶ . วิปริวตฺตนํ อุปฺปาทชราวตฺถาหิ สนฺตานํ วินา น วิการาปตฺตีติ อาห ‘‘สนฺตานวิการาปตฺติ วา’’ติ.
ชาติธมฺมตาทีหีติ ชาติชราพฺยาธิมรณาทิสภาวตาหิ. อนิฏฺตาติ น อิฏฺตา, ทุกฺขตาติ อตฺโถ. ปุริมํ สามฺลกฺขณนฺติ ‘‘ปฏิปีฬนฏฺเนา’’ติ ปุพฺเพ สามฺโต วุตฺตํ ทุกฺขลกฺขณํ. ปจฺจยวเสน ทุกฺขนากาเรน ปวตฺตมานานํ สภาวธมฺมานํ ทุกฺขนํ ปุคฺคลสฺเสว วเสน ทุกฺขมตาติ อาห ‘‘ปุคฺคลสฺส ปีฬนโต ทุกฺขม’’นฺติ. ทุกฺขวจนนฺติ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ สตฺถุ วจนํ.
‘‘นตฺถิ เอตสฺส วสวตฺตโก’’ติ อิมินา นตฺถิ เอตสฺส อตฺตาติ อนตฺตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ, ‘‘นาปิ อิทํ วสวตฺตก’’นฺติ อิมินา ปน น อตฺตาติ อนตฺตาติ. อตฺตโนติ นิยกชฺฌตฺตํ สนฺธาย วทติ. ปรสฺมินฺติ ตโต อฺสฺมึ. ปรสฺส จ อตฺตนีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตํ เอตสฺส นตฺถีติ ตํ ยถาวุตฺตปรปริกปฺปิตํ วสวตฺตกํ เอตสฺส จกฺขาทิโน นตฺถิ, เอเตน จตุโกฏิกสฺุตาย สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ‘‘สฺุํ ตํ เตน วสวตฺตนากาเรนา’’ติ อิมินา อุภยถาปิ อวสวตฺตนฏฺเ ทสฺสิตพฺเพ ตตฺถ ตาว เอกํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปรสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา ปุน ‘‘อถ วา’’ติอาทินา อิตรํ ทสฺเสติ. สามิ เอว สามิโก, น สามิโก อสฺสามิโกติ เอวํ อตฺเถ คยฺหมาเน ‘‘อสฺสามิกโต’’ติ ปทสฺส สฺุวิเสสนตาย ปโยชนํ นตฺถิ. กามการิยนฺติ ยถากามกรณียํ. อวสวตฺตนตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ สมาสทฺวยตฺถสงฺคหโต.
สสนฺตาเน ธมฺมานํ วิสทิสุปฺปตฺติ อิธ ภาวสงฺกนฺติคมนํ นามาติ อาห ‘‘สนฺตติยํ ภาวนฺตรุปฺปตฺติเยวา’’ติ. ตถา วิสทิสุปฺปตฺติยํ ปุริมาการวิคโม ปกติภาววิชหนนฺติ อาห ‘‘สนฺตติยา ยถาปวตฺตาการวิชหน’’นฺติ. ภวตีติ วา ภาโว, อวตฺถาวิเสโส, ตสฺส สงฺกมนํ ภาวสงฺกนฺติ. สภาวธมฺโม หิ อุปฺปาทกฺขณํ ิติกฺขณฺจ ปตฺวา ภิชฺชตีติ อุปฺปาทาวตฺถาย ชราวตฺถํ, ตโต ภงฺคาวตฺถํ สงฺกมตีติ วุจฺจติ. ตถา สงฺกมโต จ อตฺตลาภกฺขณโต อุทฺธํ ชรามรเณหิ ตํสภาวปริจฺจาโค ปกติภาววิชหนนฺติ ขณวเสน เจตํ โยเชตพฺพํ. ปุพฺพาปรวเสนาติ ¶ จ ขณานํ ปุพฺพาปรวเสนาติ อตฺโถ สมฺภวติ. เอกตฺถตฺตาติ ¶ สมานาธิกรณตฺตา, น ปน วิเสสนวิเสสิตพฺพภาวานํ เอกตฺตา. ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อนิจฺจํ จกฺขุ’’นฺติปิ วุตฺตเมว โหตีติ ‘‘ยํ จกฺขุ, ตํ อนิจฺจํ, ยํ อนิจฺจํ, ตํ จกฺขุ’’นฺติ อาปนฺนเมวาติ อาห ‘‘อนิจฺจานํ เสสธมฺมานมฺปิ จกฺขุภาโว อาปชฺชตี’’ติ.
เตหิ จ อนิจฺจทุกฺขลกฺขเณหิ จ อนตฺตลกฺขณเมว วิเสเสน ทสฺสิตํ ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕, ๗๖, ๘๕; ๒.๔.๑, ๒; ปฏิ. ม. ๒.๑๐) วิย. โทสลกฺขณาการนิทสฺสนตฺโถติ โทสสฺส ลกฺขิตพฺพาการนิทสฺสนตฺโถ. เอวํ ทุกฺเขนาติ เอวํ นานปฺปกาเรน อกฺขิโรคาทิทุกฺเขน อาพาธตาย. อนตฺตลกฺขณทีปกานนฺติ อนตฺตตาปฺาปนสฺส โชตกานํ อุปายภูตานํ. น หิ ฆฏเภทกณฺฏกเวธาทิวเสน ลพฺภมานา อนิจฺจทุกฺขตา สตฺตานํ เอกนฺตโต อนตฺตตาธิคมเหตู โหนฺติ. ปจฺจยปฏิพทฺธตาอภิณฺหสมฺปฏิปีฬนาทิวเสน ปน ลพฺภมานา โหนฺติ. ตถา หิ จกฺขาทีนิ กมฺมาทิมหาภูตาทิปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺตีนิ, ตโต เอว อหุตฺวา สมฺภวนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตีติ อนิจฺจานิ, อภิณฺหสมฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขานิ, เอวํภูตานิ จ อวสวตฺตนโต อนตฺตกานีติ ปริคฺคเห ิเตหิ สมุปจิตาณสมฺภาเรหิ ปสฺสิตุํ สกฺกา.
กถํ ปเนเตสํ หุตฺวา อภาโว ชานิตพฺโพติ? ขเณ ขเณ อฺถตฺตทสฺสนโต. ตํ กถํ ายตีติ? ยุตฺติโต. กา ปเนตฺถ ยุตฺตีติ? วิเสสคฺคหณํ. ยทิ จกฺขาทีนํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ น สิยา, พหิปจฺจยเภเท ยทิทํ ปจฺฉา วิเสสคฺคหณํ, ตํ น สิยา. ยสฺส หิ ตาทิสํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ นตฺถิ, ตสฺส อสติ พหิปจฺจยวิเสเส กถํ ปจฺฉา วิเสสคฺคหณํ ภเวยฺย, ภวติ จ วิเสสคฺคหณํ. ตสฺมา อตฺถิ เนสํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ ยํ สณิกํ สณิกํ วฑฺเฒนฺตํ ปจฺฉา ปากฏตรํ ชายตีติ. ตถา หิ สรีรสฺส ตาว อานาปานานํ อนวตฺถานโต ปริสฺสมโต จ วิเสสคฺคหณํ. อนวตฺถิตา หิ อสฺสาสปสฺสาสา วาตา วาเรน วาเรน ปวตฺตนโต. ยทิ หิ อสฺสสิเต วา ปสฺสสฺสิเต วา สรีรสฺส โกจิ ปจฺฉา วิเสโส น สิยา, น เนสํ ¶ โกจิ เภโท สิยา, ทิฏฺโ จ โส. ตสฺมา อสฺสสิตํ สรีรํ อฺถา โหนฺตํ กเมน ตาทิสํ อวตฺถํ ปาปุณาติ. ยา ปสฺสาสสฺส ปจฺจโย โหติ, ปสฺสสิเต จ ปุน ตเถว อสฺสาสสฺส ปจฺจโย โหตีติ อานาปานานํ อนวตฺถานโตปิ สรีรสฺส วิเสสคฺคหณํ ¶ อฺถตฺตสิทฺธิ. ตถา ปริสฺสโมปิ อสติ วิเสเส ปจฺฉา สรีรสฺส น สิยา, เยนายํ อิริยาปถนฺตราทีนิ เสวเนน ปริสฺสมวิโนทนํ กโรติ.
อถ วา รูปาทิเภทโตปิ วิเสสคฺคหณํ. รูปคนฺธรสผสฺสาทีนฺหิ วิเสเสน โย สรีเร อนินฺทฺริยพทฺเธสุ จ ขีรูทกวตฺถปุปฺผผโลสธิธฺาทีนํ ปจฺฉา วิเสโส คยฺหติ, โส อสติ พหิปจฺจยวิเสเส เนสํ ชราทิอวตฺถาสุ วณฺณพลาทิเภโท, รสวีริยวิปากานุภาวเภโท จ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ วินา กถมุปลพฺเภยฺย. ยํ ปน ตํ ธมฺมตารูปํ สิลาทิ, ตตฺถ กถนฺติ? ตสฺสาปิ สีตุณฺหสมฺผสฺสเภทโต อตฺเถว วิเสสคฺคหณํ. ตํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ วินา น ยุชฺชตีติ. สติ จ รูปาทิเภเท สิทฺโธว ตํนิสฺสยมหาภูตเภโทปิ. น หิ นิสฺสยมหาภูตเภเทน วินา นิสฺสิตเภโท สมฺภวตีติ. เอวํ ตาว รูปธมฺมานํ วิเสสคฺคหณโต ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ, ตโต จ หุตฺวา อภาวสิทฺธิ.
อรูปธมฺมานํ ปน อารมฺมณาทิเภเทน วิเสสคฺคหณํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ อารมฺมเณ อรูปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว เต ภิชฺชนฺติ, น อฺํ สงฺกมนฺติ, อารมฺมณธมฺมา จ ยถาสกํ ขณโต อุทฺธํ น ติฏฺนฺตีติ. สฺวายมตฺโถ ปทีปาทิอุทาหรเณน เวทิตพฺโพ. อฺเ เอว หิ ขเณ ขเณ รูปาทโย ปทีปชาลาย, ตถา ขีรธาราทีสุ ปตนฺตีสุ, วายุมฺหิ จ ปหรนฺเต สมฺผสฺสานิ. ยถา เจเตสํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ, กิมงฺคํ ปน จิตฺตเจตสิกานํ. กิฺจ สทฺทเภทโต, สทฺทวิเสสโตปิ ตนฺนิมิตฺตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ, ตโต วิเสสคฺคหณํ. ปคุณฺหิ คนฺถํ สีฆํ ปริวตฺเตนฺตสฺส จิตฺตสมุฏฺานานํ สทฺทานํ ¶ เภโท ทิฏฺโ. น หิ การณเภเทน วินา ผลเภโท อตฺถิ. ยถา ตํ วาทิตสทฺทานํ, เอวํ อารมฺมณเภเทน อรูปธมฺมานํ วิเสสคฺคหณํ. เตเนว เนสํ ขเณ ขเณ อฺถตฺตํ เวทิตพฺพํ. ชาติภูมิสมฺปยุตฺตธมฺมเภเทน วิเสสคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เอวํ รูปารูปธมฺมานํ วิเสสคฺคหณโต ขเณ ขเณ อฺถตฺตสิทฺธิ. ยโต หุตฺวา อภาวโต จกฺขาทีนิ อนิจฺจานีติ สิทฺธานิ, อนิจฺจตฺตา เอว อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต ทุกฺขานิ, ตโต จ อวสวตฺตนโต อนตฺตกานิ. เตนาห ภควา ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕, ๗๖, ๘๕; ๒.๔.๑, ๒; ปฏิ. ม. ๒.๑๐).
นิรนฺตรํ ¶ ปวตฺตมานสฺสาติ อภิณฺหสทฺทตฺถํ วิเสเสตฺวา วทติ. ธาตุมตฺตตายาติ ธาตุมตฺตภาเวน. สมูหโตติ สสมฺภารจกฺขาทิปิณฺฑโต. ‘‘จกฺขาทีน’’นฺติ อิทํ ‘‘สมูหโต’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา สมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ‘‘วินิพฺภุชน’’นฺติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา กมฺมตฺเถติ เวทิตพฺพํ. จตฺตาริปิ ฆนานีติ สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนานิ. ปวตฺตรูปาทิคฺคหณโตติ รุปฺปนาทิวเสน ปวตฺตฺจ ตํ รูปาทิคฺคหณฺจาติ ปวตฺตรูปาทิคฺคหณํ, ตโตติ โยเชตพฺพํ. อนิจฺจาทิคฺคหณสฺส สพฺภาวาติ รูปเวทนาทิาณโต ภินฺนสฺส อนิจฺจาทิาณสฺส ลพฺภมานตฺตา. เตน สติปิ รูปาทิอตฺถานํ อนิจฺจาทิภาเว รุปฺปนาทิภาวโต อนิจฺจาทิภาวสฺส เภทมาห. อิทานิ ตเมว เภทํ าตตีรณปริฺาวิสยตาย ปากฏํ กาตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. นาติธาวิตุนฺติ อิธ ลกฺขณลกฺขณวนฺตา ภินฺนา วุตฺตา. ตตฺถ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ขนฺธารมฺมณตาวจเนน อภินฺนาติ อฺมฺวิโรธาปาทเนน อติธาวิตุํ น ยุตฺตํ. กสฺมาติ เจ? วุตฺตํ ‘‘เต ปนาการา’’ติอาทิ. อธิปฺปาโยปิ เจตฺถ ลกฺขณานํ รูปาทิอาการมตฺตตาวิภาวนนฺติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ หิ สงฺขาเร สภาวโต สลฺลกฺเขนฺโตเยว ลกฺขณานิ จ สลฺลกฺเขตีติ. ยถา อนิจฺจาทิโต อนิจฺจตาทีนํ วุตฺตนเยน เภโท, เอวํ อนิจฺจตาทีนมฺปิ สติปิ ลกฺขณภาวสามฺเ นานาาณโคจรตาย, นานาปฏิปกฺขตาย, นานินฺทฺริยาธิกตาย จ วิโมกฺขมุขตฺตยภูตานํ อฺมฺเภโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิจฺจนฺติ จ คณฺหนฺโต’’ติอาทิมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๕๕. ปจฺจยยุคฬวเสนาติ ¶ อชฺฌตฺติกพาหิรปจฺจยทฺวยวเสน. อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อพฺโพการโตติ อชฺฌตฺติกวเสน เจว พาหิรวเสน จ อสงฺกรโต.
๑๖๗. วิสงฺขารนินฺนสฺสาติ นิพฺพานโปณสฺส. วินิมุตฺตสงฺขารสฺสาติ สมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธิวิมุตฺตีหิ สมุเขน, ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน จ สุฏฺุ วินิมุตฺตสงฺขารสฺส ปรมสฺสาสภาเวน, คติภาเวน จ ปติฏฺานภูเต. ‘‘นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปฏิ. ๓๓๙) หิ ¶ วุตฺตํ. ิติภาเวนาติ จ ปาโ. ตํสจฺฉิกรณาภาเวติ ตสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณาภาเว. นีโตติ ปาปิโต, ปกาสิโตติ อตฺโถ.
จุณฺณิตนฺติ เภทิตํ. ตฺวเมว กึ น ชานาสีติ กึ ตฺวํ น ชานาสิเยวาติ อตฺโถ. ‘‘กึ ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสิ, กึ ตฺวํ น ชานาสิ เอวา’’ติ เอวํ วิกฺเขปํ กโรนฺตํ ปรวาทึ ‘‘นนุ าเต’’ติอาทินา สกวาที นิพนฺธติ. วิภชิตฺวาติ ‘‘ราคาทีนํ ขีณนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ ภาวตฺถํ วิภชิตฺวา. ราคาทีนํ ขยา น โหนฺตีติ โยชนา. สสภาวตา จ นิพฺพานสฺส อาปนฺนา โหตีติ สมฺพนฺโธ.
นิพฺพานารมฺมณกรเณน การณภูเตน. เหตุอตฺเถ หิ อิทํ กรณวจนํ. กิเลสกฺขยมตฺตตํ วา นิพฺพานสฺส อิจฺฉโต กิเลสกฺขเยน ภวิตพฺพนฺติ โยชนา.
เอวํ กิเลสกฺขยมตฺเต นิพฺพาเน เขเปตพฺพา กิเลสา พหุวิธา นานปฺปการา, มคฺโค จ โอธิโส กิเลเส เขเปติ. สฺวายํ ‘‘กตมํ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา กตเม กิเลเส เขเปตี’’ติ ปุริมปุจฺฉาทฺวยเมว วทติ. ตเทวาติ ยํ ‘‘อวิชฺชาตณฺหานํ กิฺจิ เอกเทสมตฺตมฺปี’’ติ วุตฺตํ, ตเทว.
เอตฺถ จ ยายํ ‘‘กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’’นฺติ นิพฺพานสฺส อภาวตาโจทนา, ตตฺรายํ อาคมโต ยุตฺติโต จสฺส ภาวาภาววิภาวนา. ตฺหิ ภควตา –
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ (อุทา. ๗๓; อิติวุ. ๔๓).
‘‘อตฺถิ ¶ , ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี น อาโป น เตโช น วาโย’’ติ (อุทา. ๗๑) –
จ อาทินา, ตถา –
‘‘คมฺภีโร ¶ ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) –
‘‘อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสงฺขตคามินิฺจ ปฏิปทํ, อนตํ, อนาสวํ, สจฺจํ, ปารํ, นิปุณํ, สุทุทฺทสํ, อชชฺชรํ, ธุวํ, อปโลกิตํ, อนิทสฺสนํ, นิปฺปปฺจํ, สนฺตํ, อมตํ, ปณีตํ, สิวํ, เขมํ, ตณฺหากฺขยํ, อจฺฉริยํ, อพฺภุตํ, อนีติกํ, อนีติกธมฺมํ, นิพฺพานํ, อพฺยาพชฺฌํ, วิราคํ, สุทฺธึ, มุตฺตึ, อนาลยํ, ทีปํ, เลณํ, ตาณํ, สรณํ, ปรายณฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ ปรายณคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๗๗) –
เอวมาทีหิ จ สุตฺตปเทหิ ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา, อสงฺขตา ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗), สพฺพฺจ รูปํ อสงฺขตา จ ธาตู’’ติอาทีหิ (ธ. ส. ๑๑๙๒, ๑๑๙๘, ๑๒๐๐) อภิธมฺมปเทเสหิ จ ปรมตฺถภาเวเนว เทสิตํ. น หิ สภาววิรหิตสฺส อภาวมตฺตสฺส คมฺภีราสงฺขตาทิภาโว อพฺยากตธมฺมาทิภาโว จ ยุตฺโต, วุตฺโต จ โส. ตสฺมา น อภาวมตฺตํ นิพฺพานํ.
อปิ จายํ อภาววาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ยทิ กิเลสาภาโว นิพฺพานํ, สฺวายมภาโว เอโก วา สิยา อเนโก วา? ยทิ เอโก, เอเกเนว มคฺเคน กโต สจฺฉิกโต จ โหตีติ อุปริมานํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ. น หิ เอกํ อเนเกหิ กมฺมปฺปวตฺเตหิ สาเธตพฺพํ ทิฏฺํ. อถ สิยา เอโกว โส กิเลสาภาโว, น ปน มคฺเคหิ กาตพฺโพ, อถ โข สจฺฉิกาตพฺโพติ. เอวํ สติ สุฏฺุตรํ มคฺคสฺส นิรตฺถกตา อาปชฺชติ กิเลสานํ อปฺปหานโต. อกโรนฺโต จ มคฺโค กิเลสาภาวํ ตสฺส สจฺฉิกิริยาย ¶ กมตฺถํ สาเธยฺย, อถ มคฺคานํ สํโยชนตฺตยปฺปหานาทิปฏินิยตกิจฺจตาย ปหายกวิภาเคน กิเลสาภาวเภโท, เอวํ สติ วินา สภาวเภทํ พหุภาโว นตฺถีติ พหุภาวตาปเทเสนสฺส สสภาวตา อาปนฺนา. อถาปิ สิยา ‘‘เยสํ อภาโว, เตสํ พหุภาเวน พหุภาโวปจาโร’’ติ, เอวํ สติ เยสํ อภาโว, เตสํ สภาวตาย สสภาโวปจาโรปิ สิยา. ตถา เตสํ กิเลสสงฺขตาทิตาย กิเลสสงฺขตาทิภาวา จ สิยุํ, น เจตํ ยุตฺตนฺติ น เตสํ พหุภาโวปจาโร ยุตฺโต. เอกภาโวปิ ¶ จสฺส อสภาวตาย เอว วตฺตุํ น สกฺกาติ เจ? น, อภาวสามฺโต, อภาวสามฺเน อเภทสมฺาย เอกตฺตนิทฺเทโส. สติ จ เอกตฺเต ปุพฺเพ วุตฺตโทสานติวตฺติ.
พหุภาเว จ สสภาวตา สิทฺธา. ยทิปิ สิยา ยถา พหุภาโว สสภาวตํ, เอวํ สามฺเน สสภาวตา พหุภาวํ น พฺยภิจเรยฺยาติ สสภาวปกฺเขปิ นิพฺพานสฺส พหุภาโว อาปชฺชตีติ? ตํ น, กสฺมา? ตถา สามฺาเภทโต. น หิ เอวํ วตฺตุํ ลพฺภา ยถา ขรภาโว สสภาวตํ น พฺยภิจรติ, เอวํ สสภาวตาปิ ขรภาวํ น พฺยภิจเรยฺยาติ. เอวฺหิ สติ ตทฺสพฺพธมฺมาภาวปฺปสงฺโค สิยา, ตสฺมา พหุภาโว สสภาวตาเปกฺโข, น สสภาวตา พหุภาวาเปกฺขาติ น สสภาวสฺส นิพฺพานสฺส พหุภาวาปตฺติ. ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุตียมตฺถิ (สุ. นิ. ๘๙๐; มหานิ. ๑๑๙), เอกา นิฏฺา น ปุถุนิฏฺา’’ติอาทิวจนโต.
อปิ เจตฺถ กิเลสาภาโว นาม ราคาทีนํ สมุจฺเฉโท อจฺจนฺตปฺปหานํ อนุปฺปาทนิโรโธ. ตสฺส จ เอกตฺเต เอเกเนว มคฺเคน สาเธตพฺพตา กิจฺจวิเสสาภาวโตติ ทสฺสนาทิมคฺควิภาโค น สิยา. อิจฺฉิโต จ โส โอธิโสว กิเลสานํ ปหาตพฺพตฺตา. โส จ มคฺควิภาโค สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ นาติติกฺขติกฺขติกฺขตรติกฺขตมภาเวน เอกสฺมิมฺปิ สมุจฺเฉทปฺปหานโยคฺยภาเว ¶ สจฺฉิกิริยาวิเสเสน โหตีติ นิพฺพานสฺส สสภาวตายเยว ยุตฺโต. อภาโว ปน กิเลสานํ มคฺเคน กาตพฺโพ สิยา ‘‘มา มคฺคสฺส นิรตฺถกตา อโหสี’’ติ, น สจฺฉิกาตพฺโพ. โก หิ ตสฺส สภาโว, โย เตน สจฺฉิกริเยยฺย. โส จ กิเลสาภาโว เอเกเนว มคฺเคน สาเธตพฺโพ สิยา, น จตูหิ ‘‘มา จตุภาวนิพฺพานตาปตฺติ, นิพฺพานวิเสสาปตฺติ จ อโหสี’’ติ. ตโต ทสฺสนาทิมคฺควิภาโค น สิยาติ สพฺพํ อาวตฺตติ.
ยทิ จ อภาโว ภาวสฺส สิยาติ ตสฺส ภาวธมฺมตา อิจฺฉิตา, เอวํ สติ ยถา สงฺขตธมฺมสฺส ตสฺส ชรามรณาทีนํ วิย สงฺขตธมฺมตาปิ อาปนฺนา, เอวํ พหูนํ กิเลสานํ ธมฺมสฺส ตสฺส พหุภาวาทิปฺปสงฺโคปิ ทุนฺนิวาโรติ อตํสภาวสฺส อสงฺขตสฺเสกสฺส สสภาวสฺส นิพฺพานภาโว เวทิตพฺโพ.
ยทิ ¶ เอวํ กสฺมา ‘‘ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๕, ๓๓๐) วุตฺตนฺติ? ขเยน อธิคนฺตพฺพตฺตา. ขโย หิ อริยมคฺโค. ยถาห ‘‘ขเย าณํ, อนุปฺปาเท าณ’’นฺติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๔๒). เตน ราคาทิกฺขยปริยาเยน อริยมคฺเคน อธิคนฺตพฺพโต ‘‘ปรมตฺถํ คมฺภีรํ นิปุณํ ทุทฺทสํ ทุรนุโพธํ นิพฺพานํ ราคาทิกฺขโย’’ติ วุตฺตํ. ราคาทิปฺปหานมุเขน วา ตถา ปตฺตพฺพโต, ยถา อฺตฺถาปิ วุตฺตํ ‘‘มทนิมฺมทฺทโน ปิปาสวินโย’’ติอาทิ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐).
อปิจ ยถา ปริฺเยฺยตาย สอุตฺตรานํ กามานํ รูปานฺจ ปฏิปกฺขภูตํ ตพฺพิธุรสภาวํ นิสฺสรณํ ปฺายติ, เอวํ สสภาวานํ สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเตน ตพฺพิธุรสภาเวน นิสฺสรเณน ภวิตพฺพํ. ยฺจ ตนฺนิสฺสรณํ, สา อสงฺขตา ธาตุ. กิฺจ ภิยฺโย – สงฺขตธมฺมารมฺมณํ วิปสฺสนาาณํ อปิ อนุโลมาณํ กิเลเส ตทงฺควเสน ปชหติ, น สมุจฺเฉทวเสน ¶ ปชหิตุํ สกฺโกติ. ตถา สมฺมุติสจฺจารมฺมณํ ปมชฺฌานาทีสุ าณํ วิกฺขมฺภนวเสเนว กิเลเส ปชหติ, น สมุจฺเฉทวเสน. อิติ สงฺขตธมฺมารมฺมณสฺส, สมฺมุติสจฺจารมฺมณสฺส จ าณสฺส กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฺปหาเน อสมตฺถภาวโต เตสํ สมุจฺเฉทปฺปหานกรสฺส อริยมคฺคาณสฺส ตทุภยวิปรีตสภาเวน อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, สา อสงฺขตา ธาตุ. ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ (อุทา. ๗๓; อิติวุ. ๔๓) อิทํ นิพฺพานสฺส ปรมตฺถโต อตฺถิภาวโชตกํ วจนํ อวิปรีตตฺถํ ภควตา ภาสิตตฺตา. ยฺหิ ภควตา ภาสิตํ, ตํ อวิปรีตตฺถํ ยถา ตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙; เถรคา. ๖๗๖-๖๗๘; เนตฺติ. ๕), ตถา นิพฺพาน-สทฺโท กตฺถจิ วิสเย ยถาภูตปรมตฺถวิสโย อุปจารวุตฺติสพฺภาวโต เสยฺยถาปิ สีห-สทฺโท. อถ วา อตฺเถว ปรมตฺถโต อสงฺขตา ธาตุ อิตรตพฺพิปรีตวิมุตฺติสภาวตฺตา เสยฺยถาปิ ‘‘ปถวีธาตุ เวทนา จา’’ติ เอวมาทีหิ นเยหิ ยุตฺติโตปิ อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต อตฺถิภาโว เวทิตพฺโพ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๑๖๘. กิฺจีติ ¶ กิฺจิ อารมฺมณํ. อาลมฺพนโตติ อารมฺมณกรณโต.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ธาตุวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. อภิธมฺเม ¶ ¶ จ อาคตาติ อิมสฺมึ ธาตุวิภงฺเค อภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉเกสุ, นิกฺเขปกณฺฑธมฺมหทยวิภงฺคาทีสุ จ เทสนารุฬฺหา. ยถา ปน สุตฺตนฺเต อภิธมฺเม จ อาคตา ขนฺธาทโย สุตฺตนฺเต เทสิตนิยาเมน ขนฺธวิภงฺคาทีสุ สุตฺตนฺตภาชนียวเสน วิภตฺตา, เอวมิธาปิ จกฺขุธาตาทโย สุตฺตนฺตภาชนียวเสน วิภชิตพฺพา สิยุํ. ตตฺถ ขนฺธาทีนํ สพฺพสงฺคาหโก อภิธมฺมเทสนาวิสิฏฺโ สุตฺตนฺเต อาคโต อฺโ เทเสตพฺพากาโร นตฺถีติ เต รูปกฺขนฺธาทิวเสเนว สุตฺตนฺตภาชนีเย เทสิตา, ธาตูนํ ปน โส อตฺถีติ เต ติณฺณํ ธาตุฉกฺกานํ วเสน อิธ เทสิตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สุตฺตนฺเตสฺเวว…เป… วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพา ธาตุโย ฉหิ ฉหิ ธาตูหิ สงฺขิปิตฺวา’’ติ.
กถํ ปน ฉสุ ฉสุ ธาตูสุ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ สมวโรโธติ? สภาวนิสฺสยทฺวารารมฺมณสมฺปโยคสามฺโต. ตตฺถ ปมฉกฺเก ตาว ปถวีเตโชวาโยธาตุโย สภาวโต โผฏฺพฺพธาตุ. อาโปธาตุอากาสธาตุโย ธมฺมธาตุเอกเทโส. วิฺาณธาตุ สตฺตวิฺาณธาตุโย. จตุธาตุคฺคหเณน เจตฺถ ตทายตฺตวุตฺติกา นิสฺสยาปเทเสน, วิฺาณธาตุยา ทฺวารารมฺมณภาเวน วา อวสิฏฺา รูปธาตุโย สมวรุทฺธา, วิฺาณธาตุคฺคหเณน ตํสมฺปโยคโต ธมฺมธาตุเอกเทโสติ เอวํ สพฺพธาตุสมวโรโธ ทฏฺพฺโพ. ทุติเย ฉปิ ธาตุโย สภาวโต, ธมฺมายตเนกเทโส, ตํสมฺปโยคโต สตฺตวิฺาณธาตุโย, ยถารหํ เตสํ นิสฺสยทฺวารารมฺมณภาวโต อวสิฏฺธาตุโย สมวรุทฺธา. ตติยฉกฺเกปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ ฉสุ ฉสุ ธาตูสุ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ สมวโรโธ ทฏฺพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพา ธาตุโย ฉหิ ฉหิ ธาตูหิ สงฺขิปิตฺวา’’ติ.
สฺุโติ ¶ อตฺตสฺุโ, เตน สสภาวตาย จ อิธ ธาตุโวหาโรติ อาห ‘‘สฺุเ สภาวมตฺเต นิรุฬฺโห ธาตุสทฺโท’’ติ. ตํตํภูตวิวิตฺตตา รูปปริยนฺโตว อากาโสติ เยหิ วิวิตฺโต, เยสฺจ ¶ ปริจฺเฉโท, เตหิ อสมฺผุฏฺตา เตสํ พฺยาปกภาเว สติ น โหตีติ อาห ‘‘จตูหิ มหาภูเตหิ อพฺยาปิตภาโว’’ติ. ปริจฺฉินฺนวุตฺตีนิ หิ ภูตานีติ.
๑๗๓. อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม โกจิ นตฺถีติ ปุริมตฺถํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘ทฺเว เอว วา’’ติอาทินา สมุทาเยน วินา ทุติยตฺถมาห. ปจฺจตฺตํ อตฺตนิ ชาตตนฺติ ปาฏิปุคฺคลิกตํ.
ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ วา โลมาทิอิตรโกฏฺาเสหิ อสมฺมิสฺโส วิสุํ เอโก ปถวีโกฏฺาโสติ อตฺโถ.
ปโยคนฺติ ภาวนาปโยคํ. วีริยนฺติ ภาวนานิปฺผาทกํ อุสฺสาหํ. อายูหนนฺติ ตาทิสํ เจตนํ.
ธาตุปฏิกฺกูลวณฺณมนสิการานนฺติ ธาตุมนสิการปฏิกฺกูลมนสิการวณฺณมนสิการานํ. อพฺยาปารตายาติ ‘‘อหเมตํ นิปฺผาเทมิ, มม เอสา นิปฺผาทนา’’ติ เจตนารหิตตาย. กโรนฺตีติ อาโภคปจฺจเวกฺขณานิ อุปฺปาเทนฺติ.
ลกฺขณวเสนาติ สภาววเสน. โส ปน ยสฺมา ปถวีธาตุยา กกฺขฬขรตา โหตีติ อาห ‘‘กกฺขฬํ ขริคตนฺติอาทิวจนํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ.
เวกนฺตกํ นาม สพฺพโลหจฺเฉทนสมตฺถํ โลหํ. ตถา หิ ตํ วิกนฺตติ ฉินฺทตีติ วิกนฺตํ, วิกนฺตเมว เวกนฺตกนฺติ วุจฺจติ. โลหสทิสนฺติ โลหาการํ โลหมลํ วิย ฆนสหิตํ หุตฺวา ติฏฺติ. ตาเปตฺวา ตาฬิตํ ปน ฉินฺนํ ฉินฺนํ หุตฺวา วิสรติ, มุทุ มฏฺํ กมฺมนิยํ วา น โหติ, เตน ‘‘โลหวิชาตี’’ติ วุจฺจตีติ. ติปุตมฺพาทีหีติ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ, สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ, ชสทตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ อารกูฏํ ¶ . ยํ ปน เกวลํ ชสทธาตุวินิคฺคตํ, ยํ ‘‘ปิตฺตล’’นฺติปิ วทนฺติ, ตํ อิธ นาธิปฺเปตํ, ยถาวุตฺตมิสฺสกเมว ปน คเหตฺวา ‘‘กิตฺติม’’นฺติ วุตฺตํ.
นิทสฺสนมตฺตนฺติ มุตฺตานํ ชาติโต อเนกเภทตฺตา วุตฺตํ. ตถา หิ หตฺถิกุมฺภํ วราหทาํ ภุชงฺคสีสํ วลาหกูฏํ เวณุปพฺพํ มจฺฉสิโร สงฺโข สิปฺปีติ ¶ อฏฺ มุตฺตาโยนิโย. ตตฺถ หตฺถิกุมฺภชา ปีตวณฺณา ปภาหีนา. วราหทาชา วราหทาวณฺณาว. ภุชงฺคสีสชา นีลาทิวณฺณา สุวิสุทฺธา, วฏฺฏลา จ. วลาหกชา ภาสุรา ทุพฺพิภาครูปา รตฺติภาเค อนฺธการํ วิธมนฺตา ติฏฺนฺติ, เทวูปโภคา เอว โหนฺติ. เวณุปพฺพชา การผลสมานวณฺณา, น ภาสุรา, เต จ เวฬโว อมนุสฺสโคจเร เอว ปเทเส ชายนฺติ. มจฺฉสีสชา ปาีนปิฏฺิสมานวณฺณา, วฏฺฏลา, ลฆโว จ โหนฺติ ปภาวิหีนา, เต จ มจฺฉา สมุทฺทมชฺเฌเยว ชายนฺติ. สงฺขชา สงฺโขรจฺฉวิวณฺณา, โกลปฺปมาณาปิ โหนฺติ ปภาวิหีนาว. สิปฺปิชา ปน ปภาวิเสสยุตฺตาว โหนฺติ นานาสณฺานา. เอวํ ชาติโต อฏฺวิธาสุ มุตฺตาสุ ยา มจฺฉสงฺขสิปฺปิชา, ตา สามุทฺทิกา. ภุชงฺคชาปิ กาจิ สามุทฺทิกาติ วทนฺติ, อิตรา อสามุทฺทิกา. เตน วุตฺตํ ‘‘สามุทฺทิกมุตฺตาติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, สพฺพาปิ ปน มุตฺตา มุตฺตา เอวา’’ติ. พหุลโต วา อฏฺกถายํ เอตํ วุตฺตํ ‘‘มุตฺตาติ สามุทฺทิกมุตฺตา’’ติ. พหุลฺหิ โลเก สามุทฺทิกาว มุตฺตา ทิสฺสนฺติ. ตตฺถาปิ สิปฺปิชาว, อิตรา กทาจิ กาจีติ.
๑๗๔. อิธ นตฺถิ นิยโม เกวลํ ทฺรวภาวสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา.
๑๗๕. นิสิตภาเวนาติ สนฺตาปนาทิวสปฺปวตฺเตน ติขิณภาเวน. อุสฺมาการฺหิ นิสานํ อิธ นิสิตภาโว. ปากติโกติ สาภาวิโก กายุสฺมาติ อธิปฺเปโต. สทาติ สพฺพกาลํ ยาว ชีวิตินฺทฺริยํ ปวตฺตติ. เปตคฺคิ นิชฺฌามตณฺหิกเปตคฺคิ. อิธาติ พาหิรเตโชธาตุกถายํ.
๑๗๖. วายนํ พีชนํ, ตํ ปน ถามสา ปวตฺตีติ อาห ‘‘สเวคคมนวเสนา’’ติ. สมุทีรณํ อลฺลปริโสสนํ, ภูตสงฺฆาตสฺส เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาโว วา.
๑๗๗. ภิตฺติจฺฉิทฺทาทิวเสน ลพฺภมานํ อชฏากาสํ นิสฺสาเยว ปริจฺเฉทากาสสฺส ปริกมฺมกรณนฺติ อาห ‘‘อชฏากาสสฺส จ กถิตต’’นฺติ.
๑๗๙. สุขทุกฺขโผฏฺพฺพสมุฏฺาปนปจฺจยภาเวนาติ ¶ อิฏฺานิฏฺโผฏฺพฺพานํ นิพฺพตฺตกภูเตน ปจฺจยภาเวน. กสฺส ปน โส ปจฺจยภาโวติ อาห ‘‘สรีรฏฺกอุตุสฺสา’’ติ ¶ . ปจฺจยภาเวนาติ จ เหตุมฺหิ กรณวจนํ. เตน หิ การณภูเตน สุขทุกฺขโผฏฺพฺพานํ ยถาวุตฺตสมตฺถตา โหตีติ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘ยถาพลํ สรีเรกเทสสกลสรีร’’นฺติ อิทํ อนุกฑฺฒติ. เอวนฺติ อตฺตโน ผลูปจารสิทฺเธน ผรณปฺปกาเรน. เอเตสนฺติ สุขาทีนํ. ‘‘โอฬาริกปฺปวตฺติ เอว วา ผรณ’’นฺติ อิมินา นิรุปจารํ เอเตสํ ผรณฏฺํ ทสฺเสติ. อุภยวโตติ สุขทุกฺขวโต, โสมนสฺสโทมนสฺสวโต จ, ผรณาผรณฏฺานวโต วา.
๑๘๑. เอตฺถ วุตฺตํ สงฺกปฺปนฺติ เอตสฺมึ ‘‘สงฺกปฺโป กาโม’’ติอาทิเก (มหานิ. ๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘) นิทฺเทสปเทเส วุตฺตํ สงฺกปฺปํ. ตตฺถ หิ กิเลสกาโมว ‘‘สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๓; กถา. ๕๑๓) วิย. วตฺถุกามสฺส ตถา ตถา สงฺกปฺปนโต ปริกปฺปนโต ‘‘สงฺกปฺโป’’ติ วุตฺโต, น วิตกฺโกติ อยเมตฺถ อตฺโถ วุตฺโต. ฏีกายํ ปน วิตกฺกวเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โสปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺราปิ ปุริโม เอวตฺโถ อธิปฺเปโตติ เจ, สมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท นิรตฺถโก สิยา, ‘‘กิเลสสนฺถวสมฺภวโต’’ติ จ น วตฺตพฺพํ สิยา, ปรโต จ ‘‘พฺยาปาทวจเนน พฺยาปาทวิตกฺกํ ทสฺเสตี’’ติ วกฺขติ. กิเลสกาโม วิภตฺโต กิเลสสมฺปยุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. กามปฏิพทฺธาติ เอตฺถ กาม-สทฺเทน วตฺถุกามาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
๑๘๒. อุภยตฺถ อุปฺปนฺโนติ สตฺเตสุ, สงฺขาเรสูติ อุภยตฺถ อุปฺปนฺโน, สตฺตากาโร, สงฺขารากาโรติ วา อารมฺมณสฺส อุภยาการคฺคหณวเสน อุปฺปนฺโน. กมฺมปถวิเสโส, กมฺมปถวินาสโก จ กมฺมปถเภโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิชฺฌาสํโยเคนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา วิหึสาย วิหึสาวิตกฺกํ ทสฺเสตีติ โยชนา. วิหึสายาติ จ วิหึสาวจเนนาติ อตฺโถ. ยถาสมฺภวํ ปาณาติปาตาทิวเสนาติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานมุสาวาทเปสฺุผรุสวาจาสมฺผปฺปลาเป สงฺคณฺหาติ. สพฺพ…เป… สงฺคาหเกหิ กามเนกฺขมฺมธาตูหิ. ทฺเว ทฺเวติ พฺยาปาทวิหึสาธาตุโย, อพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย จ. ‘‘เอตฺถาติ ปนา’’ติอาทินา สํกิเลสโวทานานํ สงฺกรภาวสฺส อนิฏฺาปชฺชนสฺส จ ทสฺสเนน ปุริมํเยว อตฺถํ พฺยติเรกมุเขน สมฺปาเทติ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๑๘๓. อาเวณิกตฺโถ ¶ ¶ อติสยตฺโถ จ วิเสสสทฺโท โหตีติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุคฺคลนฺตราสาธารณํ, นีลาทิสพฺพรูปสาธารณฺจา’’ติ วุตฺตํ. อสาธารณการเณนาปิ หิ นิทฺเทโส โหติ ยถา ‘‘เภริสทฺโท, ยวงฺกุโร’’ติ. อติสยการเณนปิ ยถา ‘‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ านโส เหตุโส วิปากํ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (กถา. ๓๕๕; ปฏิ. ม. ๒.๔๔). ธาตุอตฺโถ เอวาติ ‘‘ธาตุ’’อิติ อิมสฺส ธาตุสทฺทสฺเสว อตฺโถ. ธาตุวจนีโย หิ อตฺโถ อุปสคฺเคน โชตียติ.
ปุริเมน อสทิโส วิธานธารณตฺถานํ ปากโฏ เภโทติ. วิสภาคลกฺขณา วิสทิสสภาวา อวยวา ภาคา, เตสุ.
ยถาสมฺภวนฺติ กิริยามโนธาตุ อุปนิสฺสยโกฏิยา, วิปากมโนธาตุ วิปากมโนวิฺาณสฺส อนนฺตราทินาปิ, อิตรสฺส สพฺพาปิ อุปนิสฺสยโกฏิยาว. ธมฺมธาตุ ปน เวทนาทิกา สหชาตา สหชาตาทินา, อสหชาตา อนนฺตราทินา, อุปนิสฺสเยน อารมฺมณาทินา จ มโนวิฺาณสฺส ปจฺจโยติ เอวํ มโนธาตุธมฺมธาตูนํ มโนวิฺาณสฺส เหตุภาโว ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. ทฺวารภูตมโนปิ สุตฺเต ‘‘มโนธาตู’’ติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทฺวารภูตมโนวเสน วา’’ติ. ตสฺสา มโนธาตุยา มโนวิฺาณสฺส เหตุภาโว ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพติ สมฺพนฺโธ.
ปุริมนเยนาติ วิเสสนํ ทุติยนยสฺส หีนตฺติกวเสเนว วิภตฺตตฺตา. นานาธาตูนฺจ จกฺขุธาตุอาทีนนฺติ สมฺพนฺโธ.
น หิ ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย สนฺติ อฏฺารสธาตุวิภาคทสฺสเนติ อธิปฺปาโย. ขนฺธายตนธาตินฺทฺริยานํเยว วเสน สงฺเขปาทิวิภาคทสฺสนํ เตสํ พหุลํ ปริฺเยฺยธมฺมสงฺคณฺหนโต. สจฺจเทสนา ปน อติสํขิตฺตภาวโตเยเวตฺถ พหิกตา.
นิชฺชีวสฺสาติอาทิ วิเสสโต สตฺตสฺุตาทีปนตฺถา ธาตุเทสนาติ กตฺวา วุตฺตํ. ปุริมนโย อฺเสมฺปิ กมวุตฺตีนํ ธาตูนํ สมฺภวตีติ อธิปฺปาเยน ¶ ¶ วุตฺโตติ ‘‘มโนธาตุเยว วา’’ติอาทินา ทุติยนโย วุตฺโต. ตตฺถ อวิชฺชมาเนปิ ปุเรจรานุจรภาเวติ ปุเรจรานุจราภิสนฺธิยา อภาเวปิ เกวลํ อนนฺตรปุพฺพกาลอนนฺตราปรกาลตาย มโนธาตุ ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพาติ วุตฺตา.
‘‘อฺํ อคฺคเหตฺวา ปวตฺติตุํ อสมตฺถตายา’’ติ เอเตน วิฺาณสฺส เอกนฺตสารมฺมณตาทสฺสเนน ‘‘อารมฺมเณน วินา สยเมว นีลาทิอาภาสํ จิตฺตํ ปวตฺตตี’’ติ เอวํ ปวตฺติตํ วิฺาณวาทํ ปฏิเสเธติ.
๑๘๔. เอกนานาสนฺตานคตานนฺติ เอกสนฺตานคตานํ อภินฺนสนฺตานคตานํ ทฺวารานํ, นานาสนฺตานคตานํ ภินฺนสนฺตานคตานํ อารมฺมณานนฺติ โยชนา. เอกนานาชาติกตฺตาติ จกฺขาทิเอเกกชาติกตฺตา ทฺวารานํ, นีลาทิอเนกชาติกตฺตา อารมฺมณานํ.
จกฺขาทิ เอกมฺปิ วิฺาณสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปาทิ ปน อเนกเมว สํหตนฺติ อิมสฺส วา อตฺถวิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ จกฺขุรูปาทีสุ วจนเภโท กโต. กึ ปน การณํ จกฺขาทิ เอกมฺปิ วิฺาณสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปาทิ ปน อเนกเมวาติ? ปจฺจยภาววิเสสโต. จกฺขุ หิ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหนฺตํ อตฺถิภาเวเนว โหติ ตสฺมึ สติ ตสฺส ภาวโต, อสติ อภาวโต, ยโต ตํ อตฺถิอวิคตปจฺจเยหิสฺส ปจฺจโย โหตีติ วุจฺจตีติ. ตํนิสฺสยตา จสฺส น เอกเทเสน อลฺลียนวเสน อิจฺฉิตพฺพา อรูปภาวโต, อถ โข ครุราชาทีสุ สิสฺสราชปุริสาทีนํ วิย ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย. อิตเร จ ปจฺจยา เตน เตน วิเสเสน เวทิตพฺพา. สฺวายํ ปจฺจยภาโว น เอกสฺมึ น สมฺภวตีติ เอกมฺปิ จกฺขุ จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส กโต.
รูปํ ปน ยทิปิ จกฺขุ วิย ปุเรชาตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ ปุเรตรํ อุปฺปนฺนํ หุตฺวา วิชฺชมานกฺขเณเยว อุปการกตฺตา, ตถาปิ อเนกเมว สํหตํ หุตฺวา ปจฺจโย โหติ อารมฺมณภาวโต. ยฺหิ ปจฺจยธมฺมํ สภาวภูตํ, ปริกปฺปิตาการมตฺตํ ¶ วา ¶ วิฺาณํ วิภาเวนฺตํ ปวตฺตติ, ตทฺเสฺจ สติปิ ปจฺจยภาเว โส ตสฺส สารมฺมณสภาวโต ยํ กิฺจิ อนาลมฺพิตฺวา ปวตฺติตุํ อสมตฺถสฺส โอลุพฺภ ปวตฺติการณตาย อาลมฺพนียโต อารมฺมณํ นาม. ตสฺส ยสฺมา ยถา ยถา สภาวูปลทฺธิ วิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจยลาโภ, ตสฺมา จกฺขุวิฺาณํ รูปํ อารพฺภ ปวตฺตมานํ ตสฺส สภาวํ วิภาเวนฺตเมว ปวตฺตติ. สา จสฺส อินฺทฺริยาธีนวุตฺติกสฺส อารมฺมณสภาวูปลทฺธิ น เอกทฺวิกลาปคตวณฺณวเสเนว โหติ, นาปิ กติปยกลาปวณฺณวเสน, อถ โข อาโภคานุรูปํ อาปาถคตวณฺณวเสนาติ อเนกเมว รูปํ สํหจฺจการิตาย วิฺาณสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘รูเป จา’’ติ พหุวจเนน นิทฺทิสิ.
ยํ ปน ‘‘รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา, ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑) วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ? ตมฺปิ ยาทิสํ รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย, ตาทิสเมว สนฺธาย วุตฺตํ. กีทิสํ ปน ตนฺติ? สมุทิตนฺติ ปากโฏยมตฺโถ. เอวฺจ กตฺวา ยเทเก วทนฺติ ‘‘อายตนสลฺลกฺขณวเสน จกฺขุวิฺาณาทโย สลฺลกฺขณารมฺมณา, น ทพฺยสลฺลกฺขณวเสนา’’ติ, ตํ ยุตฺตเมว โหติ. น เจตฺถ สมุทายารมฺมณตา อาสงฺกิตพฺพา สมุทายาโภคสฺเสว อภาวโต, สมุทิตา ปน วณฺณธมฺมา อารมฺมณปจฺจยา โหนฺติ. กถํ ปน ปจฺเจกํ อสมตฺถา สมุทิตา อารมฺมณา โหนฺติ, น หิ ปจฺเจกํ ทฏฺุํ อสกฺโกนฺตา อนฺธา สมุทิตา ปสฺสนฺตีติ? นยิทเมกนฺติกํ วิสุํ อสมตฺถานํ สิวิกาวหนาทีสุ สมตฺถตาย ทสฺสนโต. เกสาทีนฺจ ยสฺมึ าเน ิตานํ ปจฺเจกํ วณฺณํ คเหตุํ น สกฺกา, ตสฺมึเยว าเน สมุทิตานํ ตํ คเหตุํ สกฺกาติ ภิยฺโยปิ เตสํ สํหจฺจการิตา ปริพฺยตฺตา. เอเตน กึ จกฺขุวิฺาณสฺส ปรมาณุรูปํ อารมฺมณํ, อุทาหุ ตํสมุทาโยติอาทิกา โจทนา ¶ ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา. ‘‘โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จา’’ติอาทีสุปิ อยเมว นโย.
เอวมฺปิ ¶ อตฺโถ ลพฺภตีติ ‘‘มโนธาตุยาปี’’ติ ปิ-สทฺเทน น เกวลํ ชวนปริโยสานา มโนวิฺาณธาตุเยว สมฺปิณฺฑียติ, อถ โข ตทารมฺมณภวงฺคสงฺขาตาปิ สมฺปิณฺฑียตีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ลพฺภติ, สมฺภวตีติ อตฺโถ. เอวํ สตีติ เอวํ อฺมโนธาตุปฺปวตฺติยา โอรํ ปวตฺตจิตฺตานํ มโนวิฺาณธาตุตาทสฺสเน สติ. สติปิ มนโส สมฺภูตภาเว มโนธาตุยา มโนวิฺาณธาตุภาวปฺปสงฺโค น โหติเยว ตํสภาวสฺเสว มโนวิฺาณธาตุภาเวน นิทฺทิฏฺตฺตา. อิทานิ ตเมวตฺถํ ‘‘ปฺจวิฺาณธาตุมโนธาตู’’ติอาทินา ปากฏตรํ กโรติ. ตพฺพิธุรสภาเวนาติ ปฺจวิฺาณธาตูหิ วิสทิสสภาเวน. อุปฺปตฺติฏฺาเนน จาติ มโนธาตุกิริยมโนวิฺาณธาตุอาทีหิ ปริจฺฉินฺเนน อุปฺปชฺชนฏฺาเนน จ. อิทานิ เอกตฺตคฺคหณํ วินาปิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปนีเตปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สามฺวเสนาติ สทิสตาวเสน. ตสฺสาติ ภวงฺคานนฺตรํ อุปฺปนฺนจิตฺตสฺส. อมโนวิฺาณธาตุภาวาสิทฺธิโตติ มโนธาตุภาวาสิทฺธิโต. น หิ ‘‘มโนวิฺาณธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… ตชฺชา มโนวิฺาณธาตู’’ติ อิทํ วจนํ ภวงฺคานนฺตรํ อุปฺปนฺนจิตฺตสฺส มโนธาตุภาวํ สาเธติ. สิทฺเธ หิ มโนธาตุภาเว ตํ ตสฺส นิวตฺตกํ สิยาติ อธิปฺปาโย. มโนวิฺาณธาตุยา ปน อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตสฺส มโนวิฺาณธาตุภาวทีปกํ วจนํ ตาทิสาย มโนธาตุยาปิ มโนวิฺาณธาตุภาวเมว ทีเปยฺยาติ กถํ ตสฺสา นิวตฺตกํ สิยาติ อาห ‘‘น หิ ยํ โจทียติ, ตเทว ปริหาราย โหตี’’ติ.
ยทิ เอวํ ปฺจทฺวาราวชฺชนสฺส มโนวิฺาณธาตุภาวาปตฺติ เอวาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘มโนธาตุยาปี’’ติอาทิ. ปฺจวิฺาเณหิ มโนธาตูหิ จ วิสิฏฺโ สภาโว ปฺจวิฺาณ…เป… สภาโว, ตสฺส วเสน. จุติปฏิสนฺธิภวงฺคานนฺติ ตทารมฺมณมฺปิ ภวงฺคนฺโตคธํ กตฺวา วุตฺตํ. ชวนาวสานานีติ วา ชวนารมฺมณตฺตา ตทารมฺมณมฺปิ คหิตํ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘ฉทฺวาริกจิตฺเตหิ วา’’ติอาทิ.
วิสุํ กาตุํ ยุตฺตนฺติ อาวชฺชนมฺปิ ยทิปิ รูปาทิวิสยํ โหติ, ชวนํ วิย อารมฺมณรสานุภวนํ ปน น โหตีติ เอทิเส าเน วิสุํ กาตพฺพเมว. มโน ¶ จาติ จ-สทฺโท ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ วิย น สมฺปิณฺฑนตฺโถ, อถ โข พฺยติเรกตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
เหฏฺา ¶ วุตฺตนยตฺตาติ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ ‘‘ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺสา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๑๕๐; ๑๖๘) ปริตฺตารมฺมณาทิภาเว ทสฺสิยมาเน ‘‘จิตฺตุปฺปาทรูปวเสน ตํ ตํ สมุทายํ เอเกกํ ธมฺมํ กตฺวา’’ติอาทินา (วิภ. มูลฏี. ๑๕๐) ตทตฺถสฺส ขนฺธวิภงฺควณฺณนาทีสุ วุตฺตนยตฺตา.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธาตุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สจฺจวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
อุทฺเทสวณฺณนา
๑๘๙. สจฺจวินิมุตฺตํ ¶ ¶ นตฺถิ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุสนฺทสฺสนวเสน ปวตฺตนโต. สจฺเจสุ กมตีติ สจฺเจสุ วิสยภูเตสุ ปวตฺตติ. เทเสตพฺพตฺถวิสยา หิ เทสนาติ. เอเตสุ กมตีติ เอเตสุ อริยสจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตติ. ‘‘สีลสมาธิปฺาสงฺขาต’’นฺติ วุตฺตํ อตฺถสภาวํ กมนกิริยาย กตฺตุภาเวน คหิตนฺติ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กึ กมตี’’ติ ปุจฺฉติ. ตพฺโพหาเรนาติ ตทุปจาเรน. เอเตน นิปฺปริยาเยน อตฺถสภาวํ สาสนํ, ปริยาเยน วจนสภาวนฺติ ทสฺเสติ.
ตํสภาวาติ ทุกฺขาทิสภาวา. อมุสาสภาวาติ พาธนาทิภาเวน ภูตสภาวา. อฺาการรหิตาติ อพาธนาทิอาการวิวิตฺตา. ทฺวิธาติ ทุกฺขทุกฺขตาตนฺนิมิตฺตตาหิ. ราคาทิกิเลสปริฬาโห กิเลสทาโห. สนฺตานสฺส อวิปฺผาริกตากรณํ ปุคฺคลหึสนํ. อตฺตโน เอว ติขิณภาโวติ สงฺขตธมฺมสฺส อตฺตโน สภาเวเนว รุชาวหติกฺขภาโว. สรเสเนวาติ สภาเวเนว. สมฺปิณฺฑกสฺส สมุทยสฺส, กิเลสสนฺตาปรหิตสฺส มคฺคสฺส, อวิปริณามสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน ยถาสงฺขฺยํ ทุกฺขสฺส สงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺา อาวิ ภวนฺตีติ อาห ‘‘อิตเร ยถากฺกมํ สมุทยมคฺคนิโรธทสฺสเนหิ อาวิภวนาการา’’ติ. พฺยาเปตฺวาติ ภวาทีสุ นานารมฺมเณสุ จ วิสฏา หุตฺวา. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ‘‘อูหนํ ราสิกรณ’’นฺติ วตฺวา ปุน ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘ทุกฺขนิพฺพตฺตน’’นฺติ. เอกโวการภเวปิ หิ ราสิภูตเมว ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ อเนกธมฺมสมูหโต ¶ , ปเคว จตุปฺจโวการภเวสุ. เอตฺถ จ พฺยาปนตฺถํ อาการํ, ตสฺส จ ย-การาคมํ กตฺวา สมฺปิณฺฑนตฺถํ อายูหนนฺติ ปทํ เวทิตพฺพํ. นิททาตีติ ทุกฺขสฺส เอกนฺตการณตฺตา ตํ นิทสฺเสนฺตํ วิย ชเนตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิมาห. ทุกฺข…เป… อาวิ ภวติ โรคทสฺสเนน วิย โรคนิทานํ. สํโยค…เป… ทสฺสเนหีติ สํโยคฏฺโ วิสํโยคสภาวสฺส นิโรธสฺส, ปลิโพธฏฺโ นิยฺยานสภาวสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน อาวิ ภวตีติ อตฺโถ. เตติ สํโยคปลิโพธฏฺา.
เอตฺถาติ ¶ เอตสฺมึ อารมฺมณภูเต สติ. สมุทยโต วิเวโก วิเวกฏฺโ. นิโรโธ จ ตณฺหากฺขยภาวโต สมุทยโต วิวิตฺโต, ตสฺมา อวิเวกภูตสฺส สมุทยสฺส ทสฺสเนน นิโรธสฺส วิเวกฏฺโ อาวิ ภวติ, นิพฺพานาธิคมเหตุภูตสฺสาปิ มคฺคสฺส สปฺปจฺจยตาย สงฺขตภาวํ ปสฺสโต อปฺปจฺจยสฺส นิโรธสฺส อสงฺขตฏฺโ อาวิ ภวติ, ตถา มรณธมฺมตาย ทุกฺขํ วินสฺสนฺตํ ปสฺสโต อมรณธมฺมสฺส นิโรธสฺส อมตฏฺโ อาวิ ภวตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘วิเวกา’’ติอาทินา. อิตเร สมุทยนิโรธทุกฺขทสฺสเนหีติ เอตฺถ สมุทยทสฺสเนน ‘‘นายํ เหตุ นิพฺพานาธิคมาย, อยํ ปน เหตู’’ติ เหตุฏฺโ อาวิ ภวติ. ตถา ปรมคมฺภีรสฺส นิปุณตรสฺส ทุทฺทสสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน ทสฺสนฏฺโ สุขุมรูปทสฺสเนน จกฺขุโน วิย, ทุกฺขทสฺสเนน ปน อเนกโรคาตุรกปณชนทสฺสเนน อิสฺสรชนสฺส อุฬารภาโว วิย มคฺคสฺส อาธิปเตยฺยฏฺโ อาวิ ภวติ.
เต ปเนเต เหตุฏฺาทิเก สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสนาติ สมุทยปฺปหานวเสน. ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ติ วจนโตติ ยสฺมา สติปิ ฌานาทีนํ อารมฺมณาธิปติภาเว ‘‘ฌานาธิปติโน ธมฺมา’’ติ เอวมาทิ น วุตฺตํ, ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ อิจฺเจว ปน วุตฺตํ. ตสฺมา สาติสโย มคฺคงฺคธมฺมานํ อารมฺมณาธิปติภาโว. เตนาห ‘‘วิเสสโต วา อารมฺมณาธิปติภูตา มคฺคงฺคธมฺมา โหนฺตี’’ติ. โส เตสํ อากาโรติ โย มคฺคงฺคานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺตธมฺมานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาสงฺขาโต อากาโร, โส มคฺคสฺส อาธิปเตยฺยฏฺโ. ปุริโม ปน อาธิปเตยฺยฏฺโ สหชาตาธิปติวเสน วุตฺโต. อภิสเมตพฺพฏฺโติ ยถาวุตฺตปีฬนาทิอตฺถเมว ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาย เอกชฺฌํ กตฺวา วทติ. เตน อภิสมยสทฺทํ กมฺมตฺถํ ทสฺเสติ. อภิสมยสฺสาติ าณสฺส. ปวตฺติอากาโรติ ปริชานนาทิวิเสสากาโร. โส หิ มคฺคกฺขเณ อสมฺโมหโต ¶ สิทฺโธ, ปจฺฉา ปจฺจเวกฺขณาทินา ปากโฏ โหติ. อากาโรปิ าเณน อรณียโต อตฺโถติ วุจฺจตีติ กตฺวา ตติยนโย ทสฺสิโต. ปีฬนาทินา ทสฺสิโต วิสยวิภาเคนปิ วิสยิวิภาโค โหติ ยถา ‘‘รูปสฺา, สทฺทสฺา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๗).
กุจฺฉิตํ ¶ ขนฺติ ครหิตํ หุตฺวา อสารํ. ‘‘สมาคโม’’ติอาทินา อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สํ-สทฺทสฺส สํโยคตฺถโชตกตฺตมาห. ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ เกวลสฺส ปนฺน-สทฺทสฺส, อิต-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปฺปตฺติอตฺถสฺส อนุปลพฺภนโต, อุ-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปลพฺภนโต โส อุปฺปตฺติอตฺถํ ทีเปตีติ อาห ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนํ อุทิตนฺติ เอตฺถาปี’’ติ. วิสุํ ปยุชฺชมานาติ อาคม-อิต-ปเทหิ วินา ปยุชฺชมานา. สธาตุกนฺติ อนฺโตนีเตน ธาตุนา สธาตุกํ. เตเนว เต ‘‘อุปสคฺคา’’ติ จ วุตฺตา.
ทุกฺขวิเวกภาวนฺติ ทุกฺขวิวิตฺตตํ. นิวตฺติยาติ นิพฺพานสฺส. นิวตฺเตตฺวาติ อนุปฺปาทสทฺเทน วิเสสนวเสน นิวตฺเตตฺวา. นิโรธปจฺจยตา นิโรธสฺส มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยตา. ปุคฺคลสจฺฉิกิริยาธมฺมภาเวหีติ ปุคฺคลธมฺมภาเวน สจฺฉิกรณธมฺมภาเวน จ. ผลนฺติ อริยผลํ. ตสฺสาติ นิฏฺานภูตาย ผลสงฺขาตาย ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา อภิสมยภูตาย ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทตา ทฏฺพฺพา.
ปฏิวิชฺฌนกาเล นิปฺปริยาเยน พุทฺธาทิสมฺาติ อาห ‘‘ปฏิวิทฺธกาเล ปวตฺต’’นฺติ. ตโต เอวาติ เตน ปกาสิตตฺตา เอว.
ตนฺนิมิตฺตภาโวติ ชาติอาทิ วิย อธิฏฺานภาเวน ทุกฺขสฺส การณภาโว, น สมุทยสจฺจํ วิย ปภวภาเวน. อุทยพฺพยปีฬิตภาโว สงฺขารทุกฺขตา. ปวตฺตนเมวาติ ปวตฺติ เอว. กิจฺจํ รโสติ รสสฺส กิจฺจตฺถตํ ทสฺเสติ. ปวตฺตินิวตฺตีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. อวิการตา วิการาภาโว นิจฺจตา.
มรีจิมายาอตฺตานนฺติ มรีจิยา มายาย อตฺตโน จ อริยาณสฺสาติ อริยานํ าณสฺส. เตน อริยานํ มคฺคาณานุสาเรน ปวตฺตนกาณมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. เตนาห ‘‘อวิตถคาหกสฺสา’’ติอาทิ ¶ . เตสนฺติ ปฏิเวธปจฺจเวกฺขณาณานํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณสฺส ปฏิวิชฺฌิตพฺพตา โคจรภาโว, อิตรสฺส อารมฺมณภาโว. ปฏิวิชฺฌิตพฺพตา, อารมฺมณภาโว วา ปฏิเวธาณสฺส โคจรภาโว, อิตรสฺส อารมฺมณภาโวว.
พาธกปฺปภวภาเวนาติ พาธกสฺส อุปฺปาทกภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา น ตณฺหา พาธกภาเวน คหิตา ปวตฺติปวตฺติเหตูนํ อสงฺกรวเสน โพธนโต. เอวฺจ กตฺวา อภิธมฺมภาชนีเยปิ อยมตฺถวณฺณนา ยุชฺชเตว ¶ . ยทิปิ เอวํ ‘‘ทุกฺขเมว พาธก’’นฺติ นิยมานุปปตฺติ, สมุทยภาวปฺปสงฺโค จาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ชาติอาทีนํ วิย วา’’ติอาทิ. พาธกตฺตสฺส พาธกตฺเต จ นิยโมติ อาห ‘‘ทฺวิธาปิ พาธกตฺถาวธารเณนา’’ติ. ยถา หิ พาธกตฺตสฺส ทุกฺเข นิยตตา, เอวํ ทุกฺขสฺส จ พาธกตฺเต นิยตตาติ. สุตฺตนฺตภาชนีเย ตณฺหาย เอว สมุทยภาวสฺส ทสฺสิตตฺตา ตณฺหาวเสน นิยมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ตณฺหาย วินา’’ติอาทิมาห. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา เหสาติ. ‘‘กุสเลหิ วินา’’ติอาทินา ทุกฺขเหตุตาย ตณฺหาย ปธานภาวมาห. ตถา หิ สา กมฺมวิจิตฺตตาย เหตุภาวํ คจฺฉนฺตี วิเสเสน กมฺมสฺส สหการิการณํ โหตีติ. ทฺวิธาปิ นิยเมนาติ มคฺโคว นิยฺยานํ, นิยฺยานเมว จ มคฺโคติ ทฺวิปฺปกาเรน นิยเมน.
วจีสจฺจํ สจฺจวาจา, ตํสมุฏฺาปิกา เจตนา จาติ อาห ‘‘วิรติสจฺเจติ มุสาวาทวิรติย’’นฺติ. เกจิ ปน ‘‘วิรติสจฺจํ สมาทานวิรตี’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ น สมาทานมตฺตํ วิรติสจฺจํ, อถ โข สมาทานาวิสํวาทนํ. ตํ ปน ปฏิฺาสจฺจตฺตา มุสาวาทวิรติเยว โหติ. เตนาห ‘‘น หิ อฺวิรตีสุ สจฺจสทฺโท นิรุฬฺโห’’ติ. สติปิ ทุกฺขสมุทยาวโพเธ ยาวเทว นิโรธมคฺคาธิคมตฺถา ปฺาภาวนาติ ปจฺฉิมทฺวยสฺเสว สจฺจตฺถํ สาติสยํ, ตทธิคมสฺส จ อวิวาทเหตุกํ สุตฺเต วิภาวิตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส ปนา’’ติอาทิมาห.
านํ นตฺถีติ อตฺตโน วาทปติฏฺาปนการณํ นตฺถีติ อตฺโถ. อตฺตภาวปฏิลาเภเนว สตฺตานํ ชาติอาทีนํ ปตฺติ สมฺมุขีภาโว จ ชายตีติ อาห ‘‘สมฺปตฺตตา, ปจฺจกฺขตา จ ปมตา’’ติ. ภควโต เทสนากฺกเมเนว วา ปมาทิตา ทฏฺพฺพา.
ปริชนนาทีหีติ ¶ ปริฺาปฺปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาหิ, นิสฺสกฺกวจนฺเจตํ อฺสทฺทเปกฺขาย. ธมฺมาณกิจฺจนฺติ สภาวธมฺมาวโพธกิจฺจํ. ปริฺเยฺยาทีนิ เอตปฺปรมาเนวาติ อิโต ปรํ เนยฺยํ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
ทุกฺขาทีนํ อริยสจฺจภาวสฺส อนุรูปํ ยุตฺตํ, อาจริยปรมฺปราคตํ วา สวนํ อนุสฺสโว. สุตานุสาเรน, อฺถา วา กกฺขฬผุสนาทิอนิจฺจาทิสภาวสามฺาการปริคฺคณฺหนํ อาการปริวิตกฺโก. ยถาวิตกฺกิตาการสฺส ทิฏฺิสงฺขาตาย ทสฺสนภูตาย ปฺาย นิชฺฌานกฺขมนํ โรจนํ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ ¶ . อาทิจฺโจ วิย ปภาย นิโรธํ ผุสติ สจฺฉิกโรติ กิเลสนฺธการํ วิทฺธํเสติ. จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสตี’’ติอาทินา.
กาลนฺตรทสฺสนนฺติ นานาภิสมยํ วทติ. เอกทสฺสิโนติ เอกสจฺจทสฺสิโน. น โยเชตพฺพา สิยาติ โยชนายฺจ สพฺพทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรมนฺติ ทสฺสนานุปรโม อาปชฺเชยฺย, สจฺจานฺจ นานาภิสมเย ทุกฺขทสฺสนาทีหิ ปมมคฺคาทิปฺปเหยฺยานํ สํโยชนตฺตยาทีนํ เอกเทสปฺปหานํ อาปชฺชติ. ตถา จ สติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺตา, ตทนนฺตรฺจ ปตฺตพฺเพน ผเลน เอกเทสโสตาปนฺนตา จ อาปชฺชติ, ตสฺมา น สจฺจานํ นานาภิสมโย ยุตฺโต. ยถา จ นานาภิสมโย น ยุตฺโต, เอวํ อารมฺมณาภิสมโยปิ. ยทิ หิ อารมฺมณกรเณน จตุสจฺจาภิสมโย อิจฺฉิโต, น มคฺโค สยเมว อตฺตานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อปริปุณฺโณ สจฺจาภิสมโย สิยา. อฺเน มคฺเคน มคฺโค อาลมฺพียตีติ ปริปุณฺโณวาติ เจ? เอวํ สติ เยน มคฺเคน มคฺโค อาลมฺพิโต, โสปิ อฺเน, โสปิ อฺเนาติ อนวฏฺานํ สิยา, ตสฺมา น อารมฺมณปฏิเวธโต จตุสจฺจาภิสมโย ยุตฺโต, วุตฺตนเยเนว ปน ยุตฺโต. กิฺจ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ สมุจฺฉินฺทิตพฺพฺจ อาลมฺพิตฺวา ปริจฺเฉทสมุจฺเฉทภาวนา มคฺคาณสฺส น ยุตฺตา ตโต อนิสฺสฏภาวโต, สพฺพสงฺขตวินิสฺสฏํ นิพฺพานเมว ปน อารมฺมณตา ยุตฺตา. อเหตุกทิฏฺิ อกิริยทิฏฺิคฺคหเณน คหิตา เหตุพฺยาปาโรว ปรมตฺถโต กิริยาติ กตฺวา.
ปวตฺเตตีติ สชฺชติ, ปวตฺติยา วา เหตุ โหติ. นิวตฺเตตีติ สํหรติ ปลยํ คเมติ, ปโลกตาทิวเสน วา โมกฺขเหตุ โหติ. ปธานโตติ ปกติโต, ยํ ‘‘อพฺยตฺต’’นฺติปิ วุจฺจติ.
‘‘กาโล ¶ กโรติ ภูตานิ, กาโล สํหรตี ปชา;
กาโล สุตฺเต ชาครติ, กาโล หิ ทุรติกฺกโม’’ติ. –
เอวํวาทา กาลวาทิโน. ‘‘กณฺฏกสฺส ติขิณตา, กปิฏฺผลาทีนํ ปริมณฺฑลตา, มิคปกฺขิสรีสปาทีนํ วิจิตฺตภาโวติ เอวมาทโย เกน การิตา? สภาเวเนว สิทฺธา, เอวํ สพฺพมฺปิ, น เอตฺถ กสฺสจิ กามกาโร’’ติ เอวํวาทา สภาววาทิโน. ‘‘โลโก นิยโต อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิสทิโส ¶ , น เอตฺถ กสฺสจิ ปุริสกาโร’’ติ เอวํปวตฺตวาทา นิยติวาทิโน, –
‘‘ยทิจฺฉาย ปวตฺตนฺติ, ยทิจฺฉาย นิวตฺตเร;
ยทิจฺฉาย สุขทุกฺขํ, ตสฺมา ยทิจฺฉตี ปชา’’ติ. –
เอวํปวตฺตวาทา ยทิจฺฉาวาทิสงฺขาตา อธิจฺจสมุปฺปตฺติวาทิโน จ เอตฺถ สภาววาเท เอว อนฺโตคธาติ ทฏฺพฺพา. อณูหิ โลโก ปวตฺตตีติ อาชีวกวาทํ สนฺธายาห. โส หิ อการณปริคฺคโห. กณาทวาโท ปน อิสฺสริจฺฉาวเสน อณูนํ สํโยควิโยคโต โลกสฺส ปวตฺตินิวตฺตึ วทติ. ปธานสฺส อปฺปวตฺตีติ มหตาทิภาเวน อปริณาโม, อนภิพฺยตฺติ วา. ‘‘อหมฺโ, ปกติ อฺา’’ติ เอวํ ปวตฺตปกติปุริสนฺตรชานเนน อตฺตสุขทุกฺขโมเหสุ อวิภาคคฺคหเณ นิวตฺติเต กิร วุตฺตนเยน ปธานํ นปฺปวตฺตติ, โส วิโมกฺโขติ กาปิลา. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน มหาพฺรหฺมุโน สมีปตา, สํโยโคติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
เอกตฺตาติ เอกภาวโต เอโกปิ วุตฺโต. ตโยติ กิจฺจวิภาเคน. ตานีติ สมฺมาวาจาทิสีลานิ. ฉนฺทสฺส สทฺทหนานุกูลาปิ ฉนฺทนวเสน ปวตฺติ โหตีติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพเลหิ สทฺธึ ฉนฺทิทฺธิปาโท วุตฺโต. ตาทิเส กาเล อุเปกฺขานิมิตฺตานุพฺรูหเนน อุปการา สมาธิสฺส สมวาหิตาวเสน ตาทิสกิจฺจาว อุเปกฺขา เวทิตพฺพา.
วิฆาตกตฺตาติ สํหรณียวเสน วิหนฺตภาวโต.
อริยสจฺจทฺวยนฺติ สมุทยมคฺคสจฺจทฺวยํ. เตเนวาติ ยถาวุตฺตทุกฺขาทิสทฺทานํ ปริฺเยฺยาทิวาจกตฺตา ¶ เอว. อาทิปทสงฺคโหติ ‘‘ทุกฺขํ, น อริยสจฺจ’’นฺติ อิมินา จตุกฺเก อาทิปเท สงฺคโห. ตทเปกฺขนฺติ อริยสจฺจสทฺทาเปกฺขํ ทุกฺขสทฺทํ. จตุตฺถปทสงฺคโหติ ‘‘เนว ทุกฺขํ, น อริยสจฺจ’’นฺติ อิมินา ปเทน สงฺคโห. อวเสสกิเลสาทโยติ ตณฺหาวชฺชกิเลสา อวเสสากุสลา, สาสวานิ กุสลมูลานิ, สาสวา จ กุสลธมฺมา. เต หิ อภิธมฺมภาชนีเย สมุทยภาเวน วุตฺตา, น อริยสจฺจภาเวนาติ อาห ‘‘สมุทโย, น อริยสจฺจ’’นฺติ. อฺานิ มคฺคงฺคานีติ ผลสมฺมาทิฏฺิอาทโย. อิมินา นเยนาติ เอตฺถายํ โยชนา – อตฺถิ ¶ สมุทโย, น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ, น สมุทโย, อตฺถิ สมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว สมุทโย, น อริยสจฺจํ. ตตฺถ ปมปทํ วุตฺตตฺถํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ, น สมุทโย, ตณฺหา สมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา สามฺผลานิ จ ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ตทภาวโต เนว สมุทโย, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ อริยสจฺจํ ตสฺส ตสฺส ปภาวกฏฺเน สิยา สมุทโย, น ปน ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. อิตรจตุกฺกทฺวเยปิ อาทิปทํ วุตฺตตฺถเมว. เสเสสุ สมุทโย อริยสจฺจํ, น นิโรโธ, อสงฺขตธาตุ นิโรโธ เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, สามฺผลานิ จ ยสฺส สจฺฉิกิริยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว นิโรโธ, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ อริยสจฺจํ, นิโรธธมฺมตาย สิยา นิโรโธ, น ปน ยสฺส สจฺฉิกิริยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน. ตถา นิโรโธ อริยสจฺจํ, น มคฺโค, อริยมคฺโค มคฺโค เจว อริยสจฺจฺจ, มคฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา, สามฺผลานิ จ ยสฺส ภาวนาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน เนว มคฺโค, น อริยสจฺจํ. อิตรสจฺจทฺวยํ สิยา มคฺโค อุปปตฺติมคฺคภาวโต, น ปน ยสฺส ภาวนาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเถน.
สนฺตนฺติ สมานํ. เอวํ อิตเรสุปีติ กาตพฺพาปิ กิริยา การกรหิตา เกวลํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ตาย ปวตฺตมานาย ปจฺจยสามคฺคี กิริยํ กโรตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. นิพฺพุติคมเกสุปิ เอเสว นโย.
สาสวตา อสุภตา กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต. ทุกฺขาทีนนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคานํ. สมุทยาทิภาโวติ ทุกฺขสฺส สมุทยมคฺคภาโว, สมุทยสฺส มคฺคทุกฺขภาโว, มคฺคสฺส ทุกฺขสมุทยภาโว จ, น ปน นิโรธภาโว ทุกฺขาทีนนฺติ สมฺพนฺโธ. อฺมฺสมงฺคิตาติ ทุกฺขาทีนํ ¶ อิตรีตรสภาวโยโค. ตณฺหายาติ อาธาเร ภุมฺมํ. ปุนพฺภวสฺสาติ ปุนภวสงฺขาตสฺส อายติทุกฺขสฺส. ปกติวาทีนนฺติ กาปิลานํ. วิการาติ มหตาทโย พฺยตฺตา. วิภาวโตติ อภิพฺยตฺติโต, ปริณามโต วา ปุพฺเพ. ปฏิปฺปลีนา จาติ ปจฺฉา ปกติยํ ปลยํ คตา เวสมฺมํ มฺุจิตฺวา สตฺตาทิสมภาเวน อนฺโต สโมรุทฺธา. เตนาห ‘‘ปกติภาเวเนว ติฏฺนฺตี’’ติ. ปกติภาเวเนวาติ อพฺยตฺตภาเวเนว ¶ . สมุทยภาเวนาติ ตณฺหาสงฺขาตปภวภาเวน. อฺถา ตํสมฺปยุตฺตอวิชฺชาทีนมฺปิ สมุทยภาโว ลพฺภเตวาติ. อวิภตฺเตหีติ เวสมฺมวิรเหน ปกติภาวํ คเตหิ. ‘‘วิกาเรหี’’ติ สามฺโต วุตฺเต ‘‘มหนฺตา’’ติอาทินา สรูปโต ทสฺเสติ. ตตฺถ มหนฺโตติ มหาพุทฺธิ. ตฺหิ กาปิลา ‘‘มหาอชฺฌาสโย’’ติ จ โวหรนฺติ. รูปตมฺมตฺตาทโย ปฺจ ตมฺมตฺตา, อหํกาโร จาติ ฉ อวิเสสา. จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย วาจา ปาณิ ปาโท ปายุ อุปตฺถํ มโนติ เอกาทสินฺทฺริยานิ. ปถวี อาโป เตโช วาโย อากาสนฺติ ปฺจ ภูตวิเสสา, เตหิ. ‘‘ปกติภาเวเนว ิเตหี’’ติ อิมินา ‘‘อวิภตฺเตหี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วทติ. สคพฺภาติ สพีชา อสฺุตา. ตนฺตูสูติ สุตฺเตสุ สมวายิการณภูเตสุ. ตถา กปาเลสุ. ติวิธฺหิ เต การณํ วทนฺติ อุปาทานการณํ นิมิตฺตการณํ สมวายิการณนฺติ. ตตฺถ ตุริเวมสลากาทโย อุปาทานการณํ. ตนฺตวาโย นิมิตฺตการณํ. ตนฺตโว สมวายิการณนฺติ. ทฺวีสุ อณูสูติ ปถวีภูเตสุ วา อาโปเตโชวาโยภูเตสุ วา ทฺวีสุ ปรมาณูสุ. อิธพุทฺธิโวหารชนโกติ ‘‘อิธ ตนฺตูสุ ปโฏ, อิธ กปาเลสุ ฆโฏ, อิธ พีรเณสุ ฆโฏ’’ติอาทินา นเยน เหตุผลานํ สมฺพนฺธภูเตน สตฺตานํ อิธพุทฺธิโวหารา ชายนฺติ. โส โควิสาณานํ วิย อวิสุํ สหสิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สมวาโย. ขาณุเสนานํ วิย ปน วิสุํสิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สํโยโค. ตีสุ อณูสุ ติอณุกํ ผลํ สมเวตํ เอกีภูตมิว สมฺพนฺธนฺติ โยชนา. ‘‘สมเวต’’นฺติ เอตสฺส ‘‘เอกีภูตมิว สมฺพนฺธ’’นฺติ อิทํ อตฺถวิวรณํ. มหาปริมาณนฺติ มหนฺตปริมาณํ มหาปถวีอาทิกํ เอกํ ผลํ, ยํ เต ‘‘การิยํ ทฺรพฺย’’นฺติ วทนฺติ. เยหิ การเณหิ อารทฺธํ การิยทฺรพฺยํ, ตทนฺโตคธานิ เอว ตานิ การณานิ มฺนฺตีติ อาห ‘‘อตฺตโน อนฺโตคเธหิ การเณหี’’ติ. สติ สมวาเย เหตุมฺหิ ผลํ สมเวตนฺติ ผเล เหตุ สิยา, ตํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมวายาภาวา ผเล เหตุ นตฺถีติ เหตุสฺุํ ผล’’นฺติ.
อาหารเภเทติ กพฬีการาทิอาหารวิเสเส. ตปฺปจฺจยธมฺมเภเทติ อชฺโฌหรณียวตฺถุสฬายตนอวิชฺชาอภิสงฺขารสงฺขาเต เตสํ ปจฺจยภูตธมฺมวิเสเส, โอชฏฺมกรูปเวทนาปฏิสนฺธิวิฺาณนามรูปสงฺขาเต ¶ วา ตนฺนิพฺพตฺตธมฺมวิเสเส, เต ปจฺจยา เอเตสํ ธมฺมวิเสสานนฺติ ตปฺปจฺจยธมฺมเภทา ¶ . รูปาทิอารมฺมณวเสน วาติ โยชนา. ยานทฺวยวเสนาติ สมถวิปสฺสนายานทฺวยวเสน. กิฺจาปิ มคฺคกฺขเณ สมถวิปสฺสนา ยุคนทฺธาว, ยถา ปน สฺุตาทิสมฺา, เอวํ สมถวิปสฺสนาสมฺาปิ อาคมนโต มคฺคสฺส สิยุนฺติ อาห ‘‘อาคมนวเสน วุตฺโต’’ติ. ยสฺส วา ปฺินฺทฺริยํ อธิกํ, ตสฺส มคฺโค วิปสฺสนา, อิตรสฺส สมโถติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สมาธิชาติ สมาธานฏฺโว. ตโต เอวาติ สมาธิอนุคุณกิริยตฺตาว.
อาทาย อูหิตฺวาติ คเหตฺวา วิย ตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา. ทฺวินฺนนฺติ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปานํ. ปุริมกาลสฺส วิย นิทฺเทโส ยถา ‘‘เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติ, ‘‘เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา’’ติ จ.
โอคาหิตุนฺติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตุํ. คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย สณฺหตฺตํ. สุขุมาย ปฺาย คเหตพฺพตาย สุขุมตฺตํ. อิตีติ อิมินา กเมนาติ อยมตฺโถติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิติสทฺเทน วิชานนกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ. เอวํ ปกาเรหีติ เอวํ-สทฺเทน โชติยมาโน เอว อตฺโถ ปการ-สทฺเทน วุจฺจตีติ ‘‘เอวํ-สทฺเทน วิชานนการณภูเต นเย ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. อิตีติ วา นิทสฺสนตฺโถ. เตน วุตฺตปฺปเภเท ปจฺจามสนวเสน นิทสฺเสติ. เอวํ-สทฺโท อิทมตฺโถ. เตน เอวํ ปกาเรหีติ อิทํปกาเรหิ, อีทิเสหีติ อตฺโถ.
อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส
ชาตินิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๐. ‘‘ชาติอาทินิทฺเทเส’’ติ อิมินา ‘‘ตตฺถา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วทติ. ทุกฺขมาติกาติ ¶ ทุกฺขทุกฺขาทีนํ ทุกฺขวิเสสานํ อุทฺเทโส. ปททฺวเยติ ‘‘ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺข’’นฺติ เอตสฺมึ ปททฺวเย.
ทุกฺขตฺตาเยวาติ ¶ นิปฺปริยายทุกฺขตํ วทติ. สภาเวน นามํ วิเสเสตีติ อนฺวตฺถสฺตํ ทสฺเสติ. ปุริเมน สภาวทุกฺขวาจเกน ทุกฺขสทฺเทน. โส หิ วิเสสนํ อวจฺเฉทกภาวโต ปจฺฉิมํ สงฺขารทุกฺขฏฺํ วิเสเสติ. โส หิ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณตฺตา อวจฺฉินฺทิตพฺโพ. เตนาติ วิปริณามอธิฏฺานาทิปการวิเสเสน.
เทเสตพฺพสฺส อตฺถสฺส สงฺขิปนํ อิธ สงฺเขโป, โส จ ตพฺพิภาคานํ สาธารณภาโวติ อาห ‘‘สงฺเขโป สามฺ’’นฺติ. อนฺโตกริตฺวาติ อนฺโตคเธ กตฺวา, สงฺคเหตฺวา วา. อุภยถาปีติ สงฺเขปโตปิ วิตฺถารโตปิ. สาธารณภาคานํ วิภชนํ วิภาโค, วิตฺถาโรติ อาห ‘‘วิตฺถาโร ปน วิเสโส’’ติ. วิเสสนฺตรนิวตฺตโกติ วิภาคนฺตราสงฺคาหโก.
๑๙๑. อปรตฺถาติ ภุมฺมวจนํ สามิอตฺเถ ยถา ‘‘สพฺพตฺถ ปาทก’’นฺติ อาห ‘‘สามิอตฺเถปิ หิ อปรตฺถสทฺโท สิชฺฌตี’’ติ. สิทฺธิ ปน ‘‘อิตราหิปิ ทิสฺสตี’’ติ อิมินา เวทิตพฺพา. ยสฺมา จ เอวํ สทฺโท สมฺภวติ, ตสฺมา ปาฬิยํ สามิวเสน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ภุมฺมวเสน ทสฺสิตนฺติ ทีเปนฺโต ‘‘เตสํ เตสนฺติ วา’’ติอาทิมาห. อปรสฺสาติ อปรสฺส สตฺตสฺส. มนุสฺสาทิเภโท อุปปตฺติภโว คติ, ตพฺพิเสสภูตา ขตฺติยาทิสามฺาธิฏฺานา ขนฺธา ชาตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจคติวเสนา’’ติอาทิมาห.
ติณากาโรติ ติณวิกปฺโป, ติณวิเสโสติ อตฺโถ. เอวนฺติ นิทสฺสเน. เตน วุตฺตปฺปการํ ปมํ วิฺาณปาตุภาวํ ปจฺจามสติ. ตทุปาทายาติ ตโต ปฏฺาย. อริยภาวกรณตฺตาติ อริยภาวการณตฺตา. กโรตีติ หิ กรณํ. อริยสทิสตฺตา วา อริยสีลํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกานมฺปิ หิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ อริยสีลสทิสํ. อาการวิการาติ อุปฺปชฺชนาทิอาการวิกติโย. สหุปฺปาทกาติ อุปฺปาทสหิตา อุปฺปาทาวตฺถา ขนฺธา. อายตนวเสนาติ ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนวเสน. โยนิวเสนาติ อณฺฑชาทิโยนิวเสน. เอเกเกเนว ปเทนาติ ยถา ทุติยนเย ชาติอาทิปเทสุ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ปริปุณฺณาปริปุณฺณายตนโยนิวิภาเคน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาติ ทสฺสิตา, น เอวมิธ. อิธ ¶ ปเนเตสุ เอเกเกเนว ปเทน อวิภาคโต ¶ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา. อุภยตฺถาติ ปุริมปจฺฉิมนเยสุ ภาวนิทฺเทโสว ยุตฺโต. อนภิหิเต วิภตฺติวิธานํ, นาภิหิเตติ. ปากฏา นิพฺพตฺตีติ อภิพฺยตฺตา นิพฺพตฺติ.
ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนนฺติ เอกโวการภเว รูปายตนธมฺมายตนวเสน ทฺวินฺนํ, จตุโวการภเว มนายตนธมฺมายตนวเสน ทฺวินฺนํ. เสเสติ ปฺจโวการภเว. ปฺจนฺนนฺติ จกฺขุโสตมโนรูปธมฺมายตนวเสน ปฺจนฺนํ. ตานิ หิ รูปภเว ปฺจโวกาเร อุปปตฺติกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. กามธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานนฺติ โยชนา. วิกลาวิกลินฺทฺริยานนฺติ อปริปุณฺณปริปุณฺณายตนานํ สตฺตานํ. อินฺทฺริยวเสเนว หิ อายตนานํ เวกลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ. ตตฺถ วิกลินฺทฺริยสฺส สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ ปุนปิ ทสนฺนํ, อิตรสฺส เอกาทสนฺนํ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. สตฺตนฺนนฺติ กายมโนรูปคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมายตนวเสน สตฺตนฺนํ. คพฺภเสยฺยกฺหิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. นวนฺนนฺติ จกฺขุโสตสทฺทายตนวชฺชานํ นวนฺนํ. อนฺธพธิรวเสน หิทํ วุตฺตํ. ทสนฺนนฺติ จกฺขุสทฺทวชฺชานํ. ปุน ทสนฺนนฺติ โสตสทฺทวชฺชานํ. อนฺธวเสน, พธิรวเสน เจตํ ทฺวยํ วุตฺตํ. เอกาทสนฺนนฺติ สทฺทวชฺชานํ.
ตํทุกฺขภาโวติ ปริยายทุกฺขภาโว. ตตฺถ นิพฺพตฺตินิวารเณนาติ อุปฺปลปทุมาทีสุ อุปฺปตฺติปฏิกฺเขเปน อภาวกถเนน. ทุกฺขุปฺปตฺติการเณติ ทุกฺขุปฺปตฺติยา เหตุภูเต ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน.
มรณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๓. ขนฺธเภทสฺสาติ ขนฺธวินาสสฺส. โสติ ขนฺธเภโท. ปพนฺธสมุจฺเฉโทติ ปพนฺธสฺส อจฺจนฺตสมุจฺเฉโท. ตพฺภาวโตติ สมฺมุติมรณภาวโต. ตเทกเทสภาวโตติ ตทวยวภาวโต. ตสฺเสว นามนฺติ อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ สพฺพสฺสาปิ เอกกมฺมนิพฺพตฺตชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทภาวโต. สมฺมุติมรณเมว หิ ชาติกฺขยมรณํ, ตํ ปน ชาติกฺขยมรณํ อุปกฺกมมรณํ, สรสมรณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ สรสมรณมฺปิ อายุกฺขยมรณํ, ปฺุกฺขยมรณนฺติ ทุวิธํ. เอวเมเตสํ ตเทกเทสตา เวทิตพฺพา. ยฺเจตฺถ อุปกฺกมมรณํ, ตํ อกาลมรณํ. สรสมรณํ กาลมรณํ. มรเณน สตฺตา ยถาลทฺธอตฺตภาเวน วิยุชฺชนฺตีติ อาห ‘‘สมฺปตฺติภวกฺขนฺเธหิ วิโยเชตี’’ติ.
การณตฺโถติ ¶ ¶ มูลตฺโถ. มูลฺหิ ‘‘อาที’’ติ วุจฺจติ ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). เตนาห ‘‘สนฺธิพนฺธนจฺเฉทมูลกนฺติ อตฺโถ’’ติ.
ผลกิริยาคพฺภา อีทิสี เหตุกิริยาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อนฺโตคธา’’ติ. พฺยสนสฺส หิ อาปาทเกหิ อาปาทนํ อาปาเทตพฺพอาปตฺติยา สเหว สิชฺฌตีติ.
โสกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๔. สุขํ หิโนติ ปวตฺตติ เอเตนาติ สุขการณํ หิตํ. โภคพฺยสนาทิปทตฺถวิเสสนฺติ โภคพฺยสนํ, สีลพฺยสนนฺติ เอวํ โภคสีลปทานํ วเสน อตฺถวิเสสํ. สมาสวิเสสนฺติ ‘‘โรโคเยว พฺยสนํ, ทิฏฺิ เอว พฺยสน’’นฺติ สมานาธิกรณวเสน สมาสวิเสสํ. อนฺนปานวตฺถยานาทิ ปริภฺุชิตพฺพโต โภโคติ อธิปฺเปโต, โส จ ธมฺมสมูหภาเวน. ตพฺพินาสาติ าติโภคพฺยสนานิ วุตฺตานีติ เต วิการภาเวน ปฺาเปตพฺพตฺตา ปณฺณตฺติมตฺตา. ปรินิปฺผนฺนํ นาม ขนฺธปฺจกํ. อตํสภาวตฺตา ปณฺณตฺติ อปรินิปฺผนฺนา, อนิปฺผนฺนา จ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อปรินิปฺผนฺนตํ สนฺธาย อนิปฺผนฺนานีติ อาหา’’ติ. น หิ ปณฺณตฺติ เกนจิ นิปฺผาทียติ. อฺตฺถาปิ อปรินิปฺผนฺเน อนิปฺผนฺนโวหาโร อาคโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปรินิปฺผนฺนตํเยวา’’ติอาทิมาห. กามฺเจตฺถ อปรินิปฺผนฺนํ ‘‘อนิปฺผนฺน’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘นิปฺผนฺน’’นฺติ ปน น ปรินิปฺผนฺนเมว วุจฺจติ, นาปิ สพฺโพ สภาวธมฺโมติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ขนฺธวิภงฺเค จา’’ติอาทิมาห. นิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. อนิปฺผนฺนตา สภาวธมฺมตฺเตปิ เกนจิ น นิปฺผาทียตีติ กตฺวา.
สงฺกุจิตํ จินฺตนนฺติ ปีติโสมนสฺสปฏิปกฺขโต, โทสสมฺปโยคโต จ อารมฺมเณ อนภิรติปฺปวตฺติมาห. อนฺโต อตฺตโน นิสฺสยสฺส นิทฺทหนวเสน วา ฌานํ จินฺตนํ อนฺโตนิชฺฌานํ. สติปิ อนุโสจนภาเว อตฺตโน กตากตกุสลากุสลวิสโย มโนวิเลขภูโต วิปฺปฏิสาโร กุกฺกุจฺจํ, ยถาวุตฺตอนฺโตนิชฺฌานํ โสโกติ อุภินฺนํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
‘‘มโนทฺวารชวนกฺขเณ’’ติ ปริพฺยตฺตมนฺโตนิชฺฌานํ สนฺธายาห, อิตรํ ปน ปฺจทฺวารชวเนสุปิ ¶ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘กายวิฺาณาที’’ติอาทิ. โทมนสฺสสฺสาติ ¶ อโสจนาการสฺส โทมนสฺสสฺส, โสจนาการสฺสาปิ วา นานาวีถิกสฺส. ตมฺปิ หิ ทุกฺขเมวาติ. อฺถาติ มโนทฺวารชวเน เอว คหิเต. ตตฺถาติ กายวตฺถุกมโนทฺวาริเกสุ.
ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๕. อาเทวนสทฺทํ กตฺวาติ อาเทวิตฺวา, วิลปิตฺวาติ อตฺโถ. ปุคฺคลสฺส สมฺภมภาโวติ ยสฺส สตฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อนวฏฺานภาโว. สมฺภมํ วา อพฺภนฺตรคตํ ตสฺส ปจฺจุปฏฺาเปติ ปากฏภาวกรเณนาติ สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน.
มุฏฺีหิ โปถนาทีนิ มุฏฺิโปถนาทีนิ.
เยน โทมนสฺเสน. ปุพฺเพ วุตฺตทุกฺขโตติ ‘‘อตฺตโน ขนฺธํ มุฏฺีหิ โปเถตี’’ติอาทินา วุตฺตทุกฺขโต. ตํนิทานนฺติ ปริเทวนิทานํ.
ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๖-๗. กายทุกฺขาภิภูตสฺส ปติการาภิลาสาย ตาทิสทุกฺขาวหปโยคกาลาทีสุ กายิกทุกฺขสฺส ตทุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา. เอเตน ทุกฺเขนาติ อนาถตาหตฺถปาทจฺเฉทนาทิทุกฺเขน.
อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๘. ทุกฺขฏฺานนิสชฺชาทีนิ ทุกฺขฏฺานาทีนิ. โทมนสฺสสฺส วตฺถุ โหติ อุปายาโสติ สมฺพนฺโธ.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๙. อฺสาเปกฺขสทฺโท ¶ อสมตฺถสมาโสติ ตํ ทสฺเสติ ‘‘เยน สมาโส, น ตสฺสายํ ปฏิเสธโก อ-กาโร’’ติ.
ปจฺฉิมทฺวยนฺติ ‘‘สโมธานํ มิสฺสีภาโว’’ติ อิทํ ปททฺวยํ. ตทตฺถวเสนาติ สโมธานตฺถสฺส, มิสฺสีภาวตฺถสฺส จ วเสน สงฺขาเรสุ ลพฺภติ. อาคเตหิ จ เตหิ สงฺขาเรหิ ปุคฺคลสฺส สํโยโค โหตีติ โยชนา.
ตํคหณมตฺตนฺติ อาปาถคตารมฺมณคฺคหณมตฺตํ.
อิจฺฉานิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๑. ตํ ¶ กาลนฺติ จุติจิตฺตนิโรธโต อุทฺธํ กาลํ. ‘‘ยมฺปี’’ติ ยํ-สทฺโท กรณตฺเถ ปจฺจตฺตนฺติ เยนปีติ อตฺโถ วุตฺโต. ‘‘ยํ อิจฺฉ’’นฺติ ยํ-สทฺโท ยทา อิจฺฉาเปกฺโข, ตทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตฺถ อลาภปธานาภาวโต อิจฺฉา วิเสสียตีติ อาห ‘‘อลาภวิสิฏฺา อิจฺฉา วุตฺตา โหตี’’ติ. ‘‘อิจฺฉํ น ลภติ ย’’นฺติ เอวํ กิริยาปรามสนภูโต ยํ-สทฺโท ยทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตํ อเปกฺขติ, ตตฺถ คุณภูตา อิจฺฉา, ปธานภูโต อลาโภติ อาห ‘‘ตทา อิจฺฉาวิสิฏฺโ อลาโภ วุตฺโต โหตี’’ติ.
หิโรตฺตปฺปรหิตา ฉินฺนิกา, ธุตฺติกาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘ฉินฺนภินฺนคเณนาติ นิลฺลชฺเชน ธุตฺตคเณนา’’ติ. กปฺปฏิกา สิพฺพิตปิโลติกธาริโน.
อลพฺภเนยฺยอิจฺฉนฺติ อลพฺภเนยฺยวตฺถุสฺมึ อิจฺฉํ.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๒. ตาทิสสฺส วตฺถุโน สพฺภาวาติ สามฺโต อนวเสสคฺคหณํ สนฺธายาห.
อติปากเฏน ¶ อติ วิย ปกาเสน ทุกฺเขนาติ อตฺโถ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. มโน วิยาติ มโน-สทฺทสฺส วิย. อิก-สทฺเทนาติ ‘‘โปโนภวิกา’’ติ เอตฺถ อิก-สทฺเทน. คมิยตฺถตฺตาติ าปิตตฺถตฺตา. กรณสีลตา หิ อิธ สีลตฺโถ, โส จ อิก-สทฺเทน วุจฺจตีติ กิริยาวาจกสฺส กรณสทฺทสฺส อทสฺสนํ อปฺปโยโค. วุตฺตตฺถานฺหิ อปฺปโยโค. สติ ปจฺจยนฺตรสมวาเย ปุนพฺภวสฺส ทายิกา, ตทภาเว อทายิกาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อทายิกาปิ ปุนพฺภวํ เทติจฺเจวา’’ติ ตํสภาวานติวตฺตนโต. เตเนวาห ‘‘สมานสภาวตฺตา, ตทานุภาวตฺตา จา’’ติ. ตตฺถ สภาโว ตณฺหายนํ. อานุภาโว ¶ ปจฺจยสมวาเย ผลนิปฺผาทนสมตฺถตา. อิตเรสูติ อวสิฏฺกิเลสาทีสุ. ปวตฺติวิปากทายิโน กมฺมสฺส สหายภูตา ตณฺหา ‘‘อุปธิเวปกฺกา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อุปธิมฺหิ ยถานิพฺพตฺเต’’ติอาทิ. ยถานิพฺพตฺเตติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตปฺปกาเร. นนฺทนํ สํอุปฺปิลาวนํ อภิตสฺสนํ. รฺชนํ วตฺถสฺส วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามนํ, รมาปนํ วา. ราคสมฺพนฺเธนาติ ราคปทสมฺพนฺเธน ‘‘อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ ปุลฺลิงฺควเสน วุตฺตํ. รูปารูปภวราโค วิสุํ วกฺขตีติ เอตฺถ วกฺขติ-กิริยาปทํ กมฺมตฺเถ เวทิตพฺพํ.
‘‘สวตฺถุกํ จกฺขุ’’นฺติ อิมินา สกลํ จกฺขุทสกมาห, ทุติเยน สสมฺภารจกฺขุํ. ฉิทฺทนฺติ กณฺณสฺส ฉิทฺทปเทสํ. กณฺณพทฺธนฺติ กณฺณปาฬิ. วณฺณสณฺานโต รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย, กิจฺจโต มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ. สามฺเน คหิตาติ วิสเยน อวิเสเสตฺวา คหิตา. วิสยวิสิฏฺาติ จกฺขาทิวิสยวิสิฏฺา. เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ สมุทายาวยเวหิ วิย สามฺวิเสเสหิ น นานตฺตโวหาโร น โหติ ยถา ‘‘รุกฺโข สึสปา’’ติ. น หิ สพฺโพ รุกฺโข สึสปา. ตสฺมา กิริยาเภทสพฺภาวโต ‘‘สยานา ภฺุชนฺติ สธนา’’ติอาทีสุ วิย ‘‘อุปฺปชฺชมานา’’ติ เอตฺถ กิริยาย ลกฺขณตา, อิตรตฺถ ลกฺขิตพฺพตา จ วุตฺตา. ยทิ อุปฺปชฺชมานา ¶ โหตีติ อนิจฺฉิตตฺตา สาสงฺกํ อุปฺปาทกิริยาย อตฺถิภาวมาห. เตน อุปฺปาเท สตีติ อยเมตสฺส อตฺโถติ ‘‘อุปฺปชฺชมานา’’ติ เอตฺถ อุปฺปาโท เหตุภาเวน วุตฺโต, อิตโร จ ตสฺส ผลภาเวนาติ อาห ‘‘โส หิ เตน อุปโยชิโต วิย โหตี’’ติ. อุปฺปชฺชมานาติ วา ตณฺหาย ตตฺถ อุปฺปชฺชนสีลตา อุปฺปชฺชนสภาโว, อุปฺปชฺชนสมตฺถตา วา วุตฺตา. ตตฺเถว จสฺสา อุปฺปชฺชนสีลตา สกฺกายโต อฺสฺมึ วิสเย ปวตฺติยา อภาวโต, สมตฺถตา ปจฺจยสมวาเยน, อฺถา อสมตฺถตา, ยโต กทาจิ น อุปฺปชฺชติ. นิวิสมานา นิวิสตีติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๔. ตณฺหาย ¶ วิรชฺชนํ หลิทฺทิราคสฺส วิย ปลุชฺชนนฺติ กตฺวา อาห ‘‘ขยคมนวเสนา’’ติ. วิจฺฉินฺนํ นิรุชฺฌนนฺติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปวตฺติคมนวเสนา’’ติ. จชนํ ฉฑฺฑนํ, หาปนํ วาติ อาห ‘‘อนเปกฺขตาย จชนวเสน, หานิวเสน จา’’ติ.
ตทปฺปวตฺติ วิยาติ ตสฺสา ติตฺตอลาพุวลฺลิยา อปฺปวตฺติ วิย. อปฺปวตฺติเหตุภูตมฺปิ นิพฺพานํ ตณฺหาย อปฺปวตฺติ วิย คยฺหตีติ อาห ‘‘ตทปฺปวตฺติ วิยา’’ติ ยถา ‘‘ราคกฺขโย’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๕, ๓๓๐). อปฺปวตฺติภูตนฺติ ตณฺหาย อปฺปวตฺติยา ปตฺตํ, ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธายปิ ตณฺหาย ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ โยชนา. เอตฺถ จ ยสฺมา มคฺโค, นิพฺพานฺจ ตณฺหาย สมุจฺเฉทสาธนํ, ตสฺมา ‘‘ปุริมา วา อุปมา’’ติอาทินา อุปมาทฺวยํ อุภยตฺถ ยถากฺกมํ โยชิตํ, อุภยฏฺานิยํ ปน อุภยตฺถาปิ ลพฺภเตว.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๕. ติตฺถิเยหิ ¶ กปฺปิตสฺส มคฺคสฺส ปกติปุริสนฺตราณาทิกสฺส. อริยํ ลภาเปตีติ อริยํ สามฺผลํ ลภาเปติ.
ตพฺพิปกฺขวิรติสภาวาติ ตสฺสา สมฺมาวาจาย วิปกฺขโต มิจฺฉาวาจาย วิรติสภาวา. เภทกรมิจฺฉาวาจา ปิสุณวาจา, สพฺพาปิ วา มิจฺฉาวาจา วิสํวาทนาทิวเสน เภทกรีติ อาห ‘‘เภทกรมิจฺฉาวาจาปหาเนนา’’ติ. วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย หิ ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ มุสาวาทาทีนํ ปฏิปกฺขภูตา สินิทฺธภาเวน ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา ตปฺปจฺจยสุภาสิตสมฺปฏิคฺคาหเก ชเน, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปริคฺคณฺหนฺตี ปวตฺตตีติ ปริคฺคหลกฺขณา. เตนาห ‘‘ชเน, สมฺปยุตฺเต จ ปริคฺคณฺหนกิจฺจวตี’’ติ. จีวรกมฺมาทิโก ตาทิโส ปโยโค. กาตพฺพํ จีวรรชนาทิกํ. นิรวชฺชสมุฏฺาปนกิจฺจวาติ นิรวชฺชสฺส กตฺตพฺพสฺส, นิรวชฺชากาเรน วา สมุฏฺาปนกิจฺจวา. สมฺปยุตฺตธมฺเม จ สมุฏฺาเปนฺโตติ เอตฺถ สมุฏฺาปนํ ¶ มิจฺฉากมฺมนฺตปฏิปกฺขภูตสฺส อตฺตโน กิจฺจสฺส อนุคุณภาเวน สมฺปยุตฺตานํ ปวตฺตนเมว, อุกฺขิปนํ วา เนสํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ, อาชีวสฺเสว วา วิโสธนํ โวทาปนํ.
ทิฏฺเกฏฺาติ ทิฏฺิยา สหชปหาเนกฏฺา, ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสเนว ตํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทิฏฺเกฏฺอวิชฺชาทโย’’ติปิ ปาโ. เอตสฺมึ ปกฺเข จตุมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สงฺคโห กโต โหติ. อุปริมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา ปน ทิฏฺิฏฺาเน ตํตํมคฺควชฺโฌ มาโน คเหตพฺโพ. โส หิ ‘‘อห’’นฺติ ปวตฺติอาการโต ทิฏฺิฏฺานิโย. ปกาเสตีติ กิจฺจปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. เตเนว หิ องฺเคนาติ เตเนว สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน มคฺคงฺเคน. ตถาปวตฺติเตน กรณภูเตน, เตน วา การเณน. องฺค-สทฺโท หิ การณตฺโถปิ โหตีติ. ตตฺถาติ มคฺเค, มคฺคจิตฺตุปฺปาเท วา.
อิมสฺเสวาติ อริยมคฺคปริยาปนฺนสฺเสว. ยทิปิ วิรมิตพฺพโต วิรมนฺตสฺส เจตนาปิ ลพฺภเตว, วิรติยา เอว ปน ตทา ปธานภาโวติ อาห ‘‘วิรมณกาเล วา วิรติโย’’ติ. สุภาสิตาทีติ อสมฺผปฺปลาปาทิ. อาทิ-สทฺเทน อปิสุณาทิ สงฺคหิตา. ภาสนาทีติ เอตฺถ ปน กายสุจริตาทิ. อมคฺคงฺคตฺตาติ อมคฺคสภาวตฺตา. ตเมว เจตนาย อมคฺคสภาวตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกสฺส ¶ าณสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยํ นาม มิจฺฉาวาจาทีนํ ติณฺณํ ปาปธมฺมานํ สมุจฺฉินฺทนํ, มคฺคเจตนา จ ตํสภาวา น โหตีติ น ตสฺสา มคฺคกฺขเณ สมฺมาวาจาทิภาวสิทฺธิ. ตํสิทฺธิยนฺติ กิจฺจตฺตยสิทฺธิยํ. ยถา ปนสฺสา ปุพฺพภาเค สุภาสิตวาจาทิภาโว, เอวํ มคฺคกฺขเณปิ สิยา. เอวํ สนฺเต ยถา ตตฺถ เอกสฺส สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ติกิจฺจตา, สมฺมาทิฏฺิอาทีนฺจ เอเกกานํ จตุกิจฺจตา, เอวํ เอกา มคฺคเจตนา สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสฺส สาธิกา ภเวยฺย, ตถา จ สติ มคฺเค สมฺมาวาจาทีนิ ตีณิ องฺคานิ น ภเวยฺยุํ, ฉฬงฺคิโก จ อริยมคฺโค สิยาติ ตยิทมาห ‘‘เอกาย เจตนายา’’ติอาทินา. ยสฺมา ปเนตํ นตฺถิ, ตสฺมา มคฺคปจฺจยตาวจนโต จ น เจตนาย มคฺคภาโวติ มคฺคกฺขเณ วิรติโยว สมฺมาวาจาทโย.
พฺรูหนํ สุขํ. สนฺตสุขํ อุเปกฺขา. สา หิ ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔; วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตา. วิตกฺกาทีนนฺติ เตเยว อภินิโรปนาทโย ปากฏปริยาเยน วุตฺตา.
วจีสงฺขารภาวโต ¶ วจีเภทสฺส อุปการโก วิตกฺโก. ‘‘สาวชฺชา…เป… อุปการโก เอวา’’ติ อิมินา วจีเภทตํ สมุฏฺาปกเจตนานํ วิย วิรติยาปิ วิเสสปจฺจโย วิตกฺโกติ ทสฺเสติ. วจีเภทนิยามิกา วาจาติ วจีทุจฺจริตวิรติมาห. สา หิ สมฺมาวาจาภูตา มิจฺฉาวาจาสุ สํยมินี. ตตฺถ ยถา วิสํวาทนาทิมิจฺฉาวาจโต อวิรโต มิจฺฉากมฺมนฺตโตปิ น วิรมเตว. ยถาห – ‘‘เอกํ ธมฺมํ…เป… อการิย’’นฺติ (ธ. ป. ๑๗๖). ตถา อวิสํวาทนาทินา สมฺมาวาจาย ิโต สมฺมากมฺมนฺตมฺปิ ปูเรติเยวาติ อาห ‘‘วจีเภท…เป… อุปการิกา’’ติ. ธมฺมานํ ปวตฺตินิฏฺาภาวโต ยถา คตีติ นิพฺพตฺติ วุจฺจติ, เอวํ ปวตฺติภาวโต รสลกฺขณานิปีติ อาห ‘‘กิจฺจาทิสภาเว วา’’ติ.
อภินนฺทนนฺติ ตณฺหาทิวเสน อภินนฺทนํ.
วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห, อตฺถปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉาติ ตทุภยํ สวนาธีนนฺติ อาห ‘‘สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตี’’ติ. าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ ปริคฺคณฺหนํ.
ตสฺสาติ ¶ ปโยคสฺส.
โสติ กามวิตกฺกปฺปวตฺติยา การณภูโต สุภนิมิตฺเต อโยนิโสมนสิกาโร. ตสฺสาติ กามวิตกฺกสฺส. คตํ คมนํ ปวตฺติ, ตสฺส อุปาโยติ คตมคฺโค.
ปหาตพฺพเอกตฺตนฺติ ปหาตพฺพตาสามฺํ.
มคฺคภาเวน จตุพฺพิธมฺปิ เอกตฺเตนาติ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน จตุพฺพิธมฺปิ มคฺคภาเวน เอกตฺเตน สามฺโต คเหตฺวา ‘‘อสฺสา’’ติ เอกวจเนน วุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพสฺส มคฺคสฺส อฺมฺํ สทิสตา, ตถา อสทิสตา จ เอกจฺจสทิสตา จ ฌานงฺควเสน สพฺพสทิสสพฺพาสทิสเอกจฺจสทิสตา, โส เอว วิเสโสติ โยเชตพฺพํ. วิปสฺสนานิยามํ ธุรํ กตฺวา อาหาติ สมฺพนฺโธ. อิธ ปนาติ อิมิสฺสา สมฺโมหวิโนทนิยํ. สมฺมสิ…เป… นิวตฺตนโตติ ปมตฺเถรวาทํ วทนฺโต ตทชฺฌาสยํ ปุรกฺขตฺวา วทตีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. อิตรถา อิตรวาทาเปตฺถ ทสฺสิตา เอวาติ. ปาทกชฺฌานนิยามนฺติ ปาทกชฺฌานนิยามํ ธุรํ กตฺวา อาหาติ โยชนา. ‘‘วิปสฺสนา ¶ …เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ตสฺสา อิธ ปฏิกฺเขปตา อตฺถิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เกจิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา นิยาเมตีติ วทนฺตี’’ติ? นยิทเมวํ. อิธาปีติ อิธ ปาทกชฺฌานนิยาเมปิ วิปสฺสนานิยาโม น ปฏิกฺขิตฺโตติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สาธารณตฺตา’’ติ. ‘‘อิธ ปนา’’ติ อิมินาปิ ปมตฺเถรวาโท สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิปสฺสนานิยาโม วิสุํ คหิโตติ? วาทตฺตยาวิธุรตาทสฺสนตฺถํ. อฺเ จาจริยวาทาติ สมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสยวาทา.
‘‘อารุปฺเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ…เป… น โลกิย’’นฺติ อิทํ เถรวาเท อาคตํ โปราณฏฺกถายํ ตนฺตึ กตฺวา ปิตนฺติ อฏฺสาลินิยํ สงฺคเหตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วุตฺตํ อฏฺสาลินิยนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ. เยสูติ ปจฺฉิมชฺฌานวชฺชานิ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ หิ อรูปุปฺปตฺติยํ สํสโย, น อิตรสฺมึ. ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌาน’’นฺติ วุตฺเต อวิเสสโต สาสวานาสวํ อเปกฺขียติ, นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณวจเนเนตฺถ สาสวโต อวจฺฉินฺทนตฺถํ ‘‘ตฺจ โลกุตฺตร’’นฺติ วตฺวา นิวตฺติตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘น โลกิย’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมุทายฺจ…เป… อาหา’’ติ. อิตรถา พฺยภิจาราภาวโต ‘‘โลกุตฺตร’’นฺติ วิเสสนํ นิรตฺถกํ ¶ สิยา. ตโย มคฺคาติ ทุติยมคฺคาทโย. ตชฺฌานิกนฺติ ติกจตุกฺกชฺฌานิกํ โสตาปตฺติผลาทึ. อฺฌานิกาปีติ ติกจตุกฺกชฺฌานโต อฺฌานิกาปิ จตุกฺกชฺฌานิกาปิ มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ. ปิ-สทฺเทน ตชฺฌานิกาปิ ติกจตุกฺกชฺฌานิกาติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ จตุโวการภเวปิ ปฺจโวการภเว วิย มคฺคสฺส ติกจตุกฺกชฺฌานิกภาเว เกนสฺส ฌานงฺคาทินิยาโมติ อาห ‘‘ฌานงฺคาทินิยามิกา ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺตี’’ติ. ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺตีติ จ ปาทกภูตา อตฺตนา อติกฺกนฺตธมฺมวิราคภาเวน วิปสฺสนาย ปุพฺพาภิสงฺขารการี อรูปสมาปตฺติ, ผลสมาปตฺติ วา. เตนาห ‘‘ปาทก’’นฺติ. น สมฺมสิตพฺพาติ น สมฺมสิตพฺพา สมาปตฺติ ฌานงฺคาทินิยามิกา สมฺมสิตพฺพานํ ติกจตุกฺกชฺฌานานํ ตตฺถ อนุปฺปชฺชนโต, อิตรตฺถ จ วิเสสาภาวโต. ผลสฺสปีติ จตุตฺถปฺจมชฺฌานิกผลสฺสปิ.
ทุกฺขาณาทีนนฺติ ทุกฺขสมุทยาณานํ. ตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณตฺตาติ กามาวจราทีสุ เยน เยน กุสเลน สทฺธึ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส ตสฺส กุสลสฺส อารมฺมณํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ ตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณา ¶ , ตพฺภาวโต. ตํตํวิรมิตพฺพาทิอารมฺมณตฺตาติ วิสํวาทนวตฺถุอาทิอารมฺมณตฺตา. วีติกฺกมิตพฺพโต เอว หิ วิรตีติ. ‘‘องฺคาน’’นฺติ อิทํ ‘‘เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีน’’นฺติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํ อวยเวน วินา สมุทายาภาวโต. วิเสสปจฺจโยติ ภินฺนสีลสฺส, อปริสุทฺธสีลสฺส วา สมฺมปฺปธานาสมฺภวโต สมาธานสฺส วิย วายามสฺส สีลํ วิเสสปจฺจโย. อยฺจ อตฺโถ ยทิปิ ปุริมสิทฺธสีลวเสน ยุตฺโต, สหชาตวเสนาปิ ปน ลพฺภเตวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺตสฺสาปี’’ติ อาห. สหชเมว เจตฺถ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สมฺปยุตฺตสฺเสว จา’’ติอาทิ. สมฺโมโส ปมาโท, ตปฺปฏิปกฺโข อสมฺโมโส อปฺปมาโท, โส จิตฺตสฺส อารกฺขาติ อาห ‘‘เจตโส รกฺขิตตา’’ติ.
สีลกฺขนฺโธ จาติ จ-สทฺเทน สมาธิกฺขนฺโธ จ. ขนฺติปฺปธานตฺตา สีลสฺส อโทสสาธนตา, นีวรณเชฏฺกสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต สมาธิสฺส อโลภสาธนตา ทฏฺพฺพา. สาสนนฺติ ปฏิเวธสาสนํ, ‘‘สาสนพฺรหฺมจริย’’นฺติ จ วทนฺติ.
มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๐๖-๒๑๔. ‘‘ปริฺเยฺยภาวรหิเต ¶ เอกนฺตปหาตพฺเพ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตณฺหายปิ จกฺขาทีนํ วิย ตณฺหาวตฺถุตาวจเนน ปริฺเยฺยตา วุตฺตา. ยถาห ‘‘รูปตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓). ตปฺปฏิพทฺธสํกิเลสปฺปหานวเสน สมติกฺกมิตพฺพตา หิ ปริฺเยฺยตา. เอกนฺตปหาตพฺพตา จ น ตณฺหาย เอว, อถ โข อวเสสานํ สํกิเลสธมฺมานมฺปิ. ตถา หิ เตสํ สพฺพโส อจฺจนฺตปฺปหายิกา ทสฺสนภาวนาติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ ยถา ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๙) ตณฺหาวชฺเช อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก ปริฺเยฺยภาโว นิรุฬฺโห, น ตถา ตณฺหาย, ตณฺหาย ปน ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติอาทินา (วิภ. ๒๐๓; ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๙๑, ๔๖๐; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๔; ปฏิ. ม. ๑.๓๔) สมุทยภาโว ¶ วิย สาติสยํ ปหาตพฺพภาโว นิรุฬฺโหติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริฺเยฺยภาวรหิเต เอกนฺตปฺปหาตพฺเพ’’ติ วุตฺตํ. ยสฺส อสงฺคหิโต ปเทโส อตฺถิ, โส สปฺปเทโส, เอกเทโสติ อตฺโถ. ตตฺถาติ อริยสจฺจสทฺเท. สมุทโยติ สมุทยตฺโถ. ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุ’’นฺติ สมุทยสฺเสเวตฺถ คหเณ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขนิโรธา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺขนิโรธาติ ทุกฺขํ, นิโรโธ จ. อริยสจฺจเทสนายนฺติ อริยสจฺจเทสนายมฺปิ สจฺจเทสนายํ วิย. ธมฺมโตติ เทเสตพฺพธมฺมโต นิปฺปเทสา เอว. ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา เทสนาเภโท เอว หิ ตตฺถ วิเสโส. เตนาห ‘‘น หิ ตโต อฺโ’’ติอาทิ. อปุพฺโพ นตฺถีติ ธมฺมโต อปุพฺโพ นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ สมุทยสฺส. สพฺพตฺถ ตีสุปิ วาเรสูติ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกสพฺพสงฺคาหิกเภเทสุ มหาวาเรสุ, ตทนฺโตคเธสุ จ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ. อปุพฺพสฺสาติ ‘‘อวเสสา จ กิเลสา’’ติอาทินา ตณฺหาย อปุพฺพสฺส. อวสิฏฺกิเลสาทีนฺหิ สมุทยตาวจนํ อิธ อปุพฺพทสฺสนํ. ตสฺส ยทิปิ ทุติยตติยวาเรสุ วิเสโส นตฺถิ, ปฺจสุ ปน โกฏฺาเสสุ อุปรูปริ อปุพฺพํ ทสฺสิตนฺติ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. ตฺหิ สมุทยวิเสสทสฺสนํ, อิตรํ ปน มคฺควิเสสทสฺสนํ. ตสฺส จ ธมฺมโต อปุพฺพาภาโว ทสฺสิโตเยว. ยทิ เอวํ ทุติยาทิโกฏฺาเสสุ, ปมโกฏฺาเสปิ วา กสฺมา ตณฺหา คหิตาติ อาห ‘‘อปุพฺพสมุทยทสฺสนตฺถายปิ หี’’ติอาทิ. เกวลายาติ ตทฺกิเลสาทินิรเปกฺขาย. เทสนาวเสน น วุตฺโตติ น ธมฺมวเสนาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมา ทุกฺขาทีนิ ตตฺถ อริยสจฺจเทสนายํ ¶ สปฺปเทสานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ ปริยาเยนาติ ทฏฺพฺพํ. อภิธมฺมเทสนา ปน นิปฺปริยายกถาติ กตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุํ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ปจฺจยสงฺขาตนฺติ ปจฺจยาภิมตํ ปจฺจยภูตํ, ปจฺจยโกฏฺาสํ วา.
เตสนฺติ กุสลธมฺมานํ. ปจฺจยานํ ปหานวเสนาติ เหตุนิโรเธน ผลนิโรธํ ทสฺเสติ, ตปฺปฏิพทฺธกิเลสปฺปหาเนน วา กุสลานํ ปหานํ วุตฺตํ. ยถา ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๐). อิติ ปริยายโต กุสลานํ ปหานํ วุตฺตํ, น นิปฺปริยายโต ตทภาวโตติ อาห ‘‘น หิ กุสลา ปหาตพฺพา’’ติ. ยถา จ กุสลธมฺเมสุ, อพฺยากตธมฺเมสุปิ ¶ เอเสว นโย. นิโรธนฺติ อสงฺขตธาตุํ. อปฺปวตฺติภาโวติ โย นิโรธสฺส นิพฺพานสฺส ตณฺหาทิอปฺปวตฺติเหตุภาโว, ตํ ปหานนฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
กายกมฺมาทิสุทฺธิยาติ ปุพฺพภาคกายกมฺมวจีกมฺมอาชีวสุทฺธิยา ทูรตรูปนิสฺสยตํ อริยมคฺคสฺส ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ปฺจงฺคิกํ…เป… ปวตฺตตํ ทีเปติ, น ปน อริยมคฺคสฺส ปฺจงฺคิกตฺตาติ อธิปฺปาโย. าปกนิทสฺสนนฺติ าปกภาวนิทสฺสนํ, เอเตน ‘‘วจนโต’’ติ อิทํ เหตุอตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ทสฺเสติ. วจนโตติ วา อีทิสสฺส วจนสฺส สพฺภาวโต. ปฏิปทาย เอกเทโสปิ ปฏิปทา เอวาติ อตฺโถ. นิทฺทิฏฺโ ธมฺมสงฺคาหเกหิ สงฺคายนวเสน.
ฌาเนหิ เทสนาปเวโส ‘‘โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๒๗๗) ฌานสีเสน เทสนาว. ตถา ภาวนาปเวโส. ปาฬิคมนนฺติ ปาฬิปวตฺติ ปาเทสนา. ยถาวิชฺชมานธมฺมวเสนาติ ตสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ลพฺภมานวิตกฺกาทิธมฺมวเสน.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๒๑๕. ตสฺสาติ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส. เอวํ ปนาติ ‘‘อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค ¶ นานากฺขณา นานารมฺมณา’’ติอาทิปฺปกาเรน. เอวฺจ กตฺวาติ โลกุตฺตรมคฺคสฺเสว มคฺคสจฺจภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาติ เตน การเณน, อริยมคฺคสฺเสว อุทฺทิสิตฺวา นิทฺทิฏฺตฺตาติ อตฺโถ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๑๙. จกฺขุทฺวารภาเวติ ¶ ¶ จกฺขุทฺวารภาวเหตุ. ตํทฺวาริเกหีติ ตสฺมึ ทฺวาเร ปวตฺตนเกหิ จิตฺตเจตสิเกหิ. เต หิ ‘‘ตํ ทฺวารํ ปวตฺติโอกาสภูตํ เอเตสํ อตฺถี’’ติ ตํทฺวาริกา. นนุ จ ตพฺพตฺถุเกหิปิ ตํ อินฺทฏฺํ กาเรติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ติกฺเข ติกฺขตฺตา, มนฺเท จ มนฺทตฺตา’’ติ? สจฺจํ กาเรติ, ตพฺพตฺถุกาปิ ปน อิธ ‘‘ตํทฺวาริกา’’อิจฺเจว วุตฺตา. อปริจฺจตฺตทฺวารภาวํเยว หิ จกฺขุ นิสฺสยฏฺเน ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ. อถ วา ตํทฺวาริเกสุ ตสฺส อินฺทฏฺโ ปากโฏติ ‘‘ตํทฺวาริเกหี’’ติ วุตฺตํ. อินฺทฏฺโ ปเรหิ อนุวตฺตนียตา ปรมิสฺสรภาโวติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตฺหิ…เป… อนุวตฺตนฺตี’’ติ อาห. ตตฺถ ตนฺติ จกฺขุํ. เตติ ตํทฺวาริเก. กิริยานิฏฺานวาจี อาวี-สทฺโท ‘‘วิชิตาวี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๘; ๒.๓๓; ๓.๑๙๙) วิยาติ อาห ‘‘ปรินิฏฺิตกิจฺจชานน’’นฺติ.
‘‘ฉ อิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ฉ? จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… มนินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๕-๔๙๙) เอวํ กตฺถจิ ฉปินฺทฺริยานิ อาคตานิ, กสฺมา ปน สุตฺตนฺเต ขนฺธาทโย วิย อินฺทฺริยานิ เอกชฺฌํ น วุตฺตานิ, อภิธมฺเม จ วุตฺตานีติ อาห ‘‘ตตฺถ สุตฺตนฺเต’’ติอาทิ. นิสฺสรณูปายาทิภาวโตติ เอตฺถ โลกุตฺตเรสุ มคฺคปริยาปนฺนานิ นิสฺสรณํ, อิตรานิ นิสฺสรณผลํ, วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิเตน นิพฺพตฺติตานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ นิสฺสรณูปาโย, อิตเรสุ กานิจิ ปวตฺติภูตานิ, กานิจิ ปวตฺติอุปาโยติ เวทิตพฺพานิ.
ขีณาสวสฺส ภาวภูโตติ ฉฬงฺคุเปกฺขา วิย ขีณาสวสฺเสว ธมฺมภูโต.
ทฺเว ¶ อตฺถาติ อินฺทลิงฺคอินฺทสิฏฺฏฺา. อตฺตโน ปจฺจยวเสนาติ ยถาสกํ กมฺมาทิปจฺจยวเสน. ตํสหิตสนฺตาเนติ อิตฺถินฺทฺริยสหิเต, ปุริสินฺทฺริยสหิเต จ สนฺตาเน. อฺากาเรนาติ อิตฺถิอาทิโต อฺเน อากาเรน. อนุวตฺตนียภาโว อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ อาธิปจฺจนฺติ โยชนา. อิมสฺมิฺจตฺเถติ อาธิปจฺจตฺเถ.
เตสนฺติ ¶ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ ติณฺณํ. ยา สุขทุกฺขินฺทฺริยานํ อิฏฺานิฏฺาการสมฺโภครสตา วุตฺตา, สา อารมฺมณสภาเวเนว เวทิตพฺพา, น เอกจฺจโสมนสฺสินฺทฺริยาทีนํ วิย ปริกปฺปวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห.
ยทิปิ ปุริสินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยํ รูปกณฺเฑปิ (ธ. ส. ๕๘๔) เทสิตํ, ตํ ปน รูปชีวิตินฺทฺริยํ, น จ ตตฺถ มนินฺทฺริยํ วตฺวา อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ วุตฺตานิ. อิธ ปน อฏฺกถายํ อินฺทฺริยานุกฺกโม วุตฺโต สพฺพากาเรน ยมกเทสนาย สํสนฺทตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส อินฺทฺริยยมกเทสนาย สเมตี’’ติ. ปุริมปจฺฉิมานํ อชฺฌตฺติกพาหิรานนฺติ จกฺขาทีนํ ปุริมานํ อชฺฌตฺติกานํ, อิตฺถินฺทฺริยาทีนํ ปจฺฉิมานํ พาหิรานํ. เตสํ มชฺเฌ วุตฺตํ อุภเยสํ อุปการกตาทีปนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. เตน เอวมฺปิ เทสนนฺตรานุโรเธน ชีวิตินฺทฺริยสฺส อนุกฺกมํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. กามฺเจตฺถ เอวํ วุตฺตํ, ปรโต ปน กิจฺจวินิจฺฉเย อิธ ปาฬิยํ อาคตนิยาเมเนว มนินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส, ตทนนฺตรฺจ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ กิจฺจวินิจฺฉยํ ทสฺเสสฺสติ. สพฺพํ ตํ ทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขภาเวน, ยถารหํ วา ทุกฺขทุกฺขตาทิภาเวน. ทุวิธตฺตภาวานุปาลกสฺสาติ รูปารูปวเสน ทุวิธสฺส อตฺตภาวสฺส อนุปาลกสฺส. รูปารูปวเสน ทุวิธมฺปิ หิ ชีวิตินฺทฺริยํ อิธ คหิตํ. ‘‘ปวตฺตี’’ติ เอเตน สหชาตธมฺมานํ ปวตฺตนรเสน ชีวิตินฺทฺริเยน เวทยิตานํ ปวตฺเตตพฺพตํ ทีเปติ. ‘‘ภาวนามคฺคสมฺปยุตฺต’’นฺติ อิมินา ผลภูตํ อฺินฺทฺริยํ นิวตฺเตติ. ภาวนาคหณฺเจตฺถ สกฺกา อวตฺตุํ. ‘‘ภาเวตพฺพตฺตา’’ติ วุตฺตตฺตา ภาวนาภาโว ปากโฏว. ทสฺสนานนฺตราติ สมานชาติภูมิเกน อพฺยวหิตตํ สนฺธายาห, น อนนฺตรปจฺจยํ.
ตสฺสาติ อินฺทฺริยปจฺจยภาวสฺส. อนฺสาธารณตฺตาติ อฺเหิ อนินฺทฺริเยหิ อสาธารณตฺตา. เอวํ สามตฺถิยโต กิจฺจวิเสสํ ววตฺถเปตฺวา ปกรณโตปิ ตํ ทสฺเสติ ‘‘อินฺทฺริยกถาย จ ปวตฺตตฺตา’’ติ. อฺเสนฺติ อฺเสํ อินฺทฺริยสภาวานมฺปิ สหชาตธมฺมานํ. เยหิ ¶ เต อินฺทฏฺํ กาเรนฺติ, เตสํ วสวตฺตาปนํ นตฺถิ, ยถา มนินฺทฺริยสฺส ปุพฺพงฺคมสภาวาภาวโต สยฺจ เต อฺทตฺถุ มนินฺทฺริยสฺเสว วเส วตฺตนฺติ. เตนาห ‘‘ตํสมฺปยุตฺตานิปิ หี’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ กถํ เตสํ อินฺทฏฺโติ? ‘‘สุขนาทิลกฺขเณ สมฺปยุตฺตานํ อตฺตาการานุวิธาปนมตฺต’’นฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ ¶ . ‘‘เจตสิกตฺตา’’ติ อิมินา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ จิตฺตสฺส ปธานตํ ทสฺเสติ. ตโต หิ ‘‘เจตสิกา’’ติ วุจฺจนฺติ. สพฺพตฺถาติ วสวตฺตาปนํ สหชาตธมฺมานุปาลนนฺติ เอวํ ยาว อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จ สมฺปยุตฺตานนฺติ ตํกิจฺจนิทฺเทเส. ‘‘อนุปฺปาทเน, อนุปตฺถมฺเภ จ สตี’’ติ ปทํ อาหริตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. น หิ ปทตฺโถ สพฺภาวํ พฺยภิจรตีติ ชนกุปตฺถมฺภกตฺตาภาเวปีติ วุตฺตํ โหติ. ตปฺปจฺจยานนฺติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตาทิปจฺจยานํ กมฺมาทีนํ. ตปฺปวตฺตเน นิมิตฺตภาโวติ อิตฺถินิมิตฺตาทิอาการรูปนิพฺพตฺตเน การณภาโว. สฺวายํ อิตฺถินฺทฺริยาทีนํ ตตฺถ อตฺถิภาโวเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมิฺหิ สติ ยํ โหติ, อสติ จ น โหติ, ตํ ตสฺส การณนฺติ. ‘‘นิมิตฺตภาโว อนุวิธาน’’นฺติ อิมินา อนุวิธานสทฺทสฺส กมฺมตฺถตํ ทสฺเสติ. สุขทุกฺขภาวปฺปตฺตา วิยาติ สยํ สุขทุกฺขสภาวปฺปตฺตา วิย, สุขนฺตา ทุกฺขนฺตา จ วิยาติ อตฺโถ. อสนฺตสฺส…เป… มชฺฌตฺตาการานุปาปนํ อฺาณุเปกฺขนาทิวเสน เวทิตพฺพํ. สมานชาติยนฺติ อกุสเลหิ สุขทุกฺเขหิ อกุสลูเปกฺขาย, อพฺยากเตหิ อพฺยากตูเปกฺขาย, กุสลสุขโต กุสลูเปกฺขาย. ตตฺถาปิ ภูมิวิภาเคนายมตฺโถ ภินฺทิตฺวา โยเชตพฺโพ. ตํ สพฺพํ ขนฺธวิภงฺเค วุตฺตโอฬาริกสุขุมวิภาเคน ทีเปตพฺพํ. อาทิสทฺเทนาติ ‘‘กามราคพฺยาปาทาที’’ติ เอตฺถ วุตฺตอาทิสทฺเทน. สํโยชนสมุจฺฉินฺทนตทุปนิสฺสยตา เอว สนฺธาย อฺาตาวินฺทฺริยสฺส กิจฺจนฺตราปสุตตา วุตฺตา, ตสฺสาปิ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจตา ลพฺภเตว. อพฺยาปีภาวโต วา อฺาตาวินฺทฺริยสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจํ น วตฺตพฺพํ, ตโต อฺินฺทฺริยสฺสาปิ ตํ อฏฺกถายํ อนุทฺธฏํ. มคฺคานนฺตรฺหิ ผลํ ‘‘ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติอาทิวจนโต (ธ. ส. อฏฺ. ๕๐๕) กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน ปวตฺตติ, น อิตรํ. อฺถา อริยา สพฺพกาลํ อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสทรถา สิยุํ. อิตรสฺส ปน นิจฺฉนฺทราเคสุ สตฺตโวหาโร วิย รุฬฺหิวเสน ปฏิปฺปสฺสทฺธิกิจฺจตา เวทิตพฺพา.
เอตฺถาห – กสฺมา ปน เอตฺตกาเนว อินฺทฺริยานิ วุตฺตานิ, เอตานิ เอว จ วุตฺตานีติ? อาธิปจฺจตฺถสมฺภวโตติ เจ. อาธิปจฺจํ นาม อิสฺสริยนฺติ วุตฺตเมตํ. ตยิทํ อาธิปจฺจํ อตฺตโน กิจฺเจ พลวนฺติ อฺเสมฺปิ สภาวธมฺมานํ ลพฺภเตว. ปจฺจยาธีนวุตฺติกา ¶ หิ ปจฺจยุปฺปนฺนา ¶ . ตสฺมา เต เตหิ อนุวตฺตียนฺติ, เต จ เต อนุวตฺตนฺตีติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ อตฺถิ เตสํ วิเสโส. สฺวายํ วิเสโส ‘‘จกฺขุวิฺาณาทิปฺปวตฺติยฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจ’’นฺติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๑๙) อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว.
อปิจ ขนฺธปฺจเก ยายํ สตฺตปฺตฺติ, ตสฺสา วิเสสนิสฺสโย ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานีติ ตานิ ตาว อาธิปจฺจตฺถํ อุปาทาย ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… มนินฺทฺริย’’นฺติอาทิโต วุตฺตานิ. ตานิ ปน เยน ธมฺเมน ปวตฺตนฺติ, อยํ โส ธมฺโม เตสํ ิติเหตูติ ทสฺสนตฺถํ ชีวิตํ. ตยิเม อินฺทฺริยปฏิพทฺธา ธมฺมา อิเมสํ วเสน ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ โวหรียนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ภาวทฺวยํ. สฺวายํ สตฺตสฺิโต ธมฺมปฺุโช ปพนฺธวเสน ปวตฺตมาโน อิมาหิ เวทนาหิ สํกิลิสฺสตีติ ทสฺสนตฺถํ เวทนาปฺจกํ. ตโต วิสุทฺธตฺถิกานํ โวทานสมฺภารทสฺสนตฺถํ สทฺธาทิปฺจกํ. ตโต โวทานสมฺภารา อิเมหิ วิสุชฺฌนฺติ, วิสุทฺธิปฺปตฺตา, นิฏฺิตกิจฺจา จ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อนฺเต อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนิ ตีณิ วุตฺตานิ. สพฺพตฺถ ‘‘อาธิปจฺจตฺถํ อุปาทายา’’ติ ปทํ โยเชตพฺพํ. เอตฺตาวตา อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ อฺเสํ อคฺคหณํ.
อถ วา ปวตฺตินิวตฺตีนํ นิสฺสยาทิทสฺสนตฺถมฺปิ เอตานิ เอว วุตฺตานิ. ปวตฺติยา หิ วิเสสโต มูลนิสฺสยภูตานิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. ยถาห ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติอาทิ (สุ. นิ. ๑๗๑). ตสฺสา อุปฺปตฺติ อิตฺถิปุริสินฺทฺริเยหิ. วิสภาควตฺถุสราคนิมิตฺตา หิ เยภุยฺเยน สตฺตกายสฺส อภินิพฺพตฺติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ติณฺณํ โข ปน, มหาราช, สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหติ, อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คพฺโภ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘; ๒.๔๑๑; มิ. ป. ๔.๑.๖). อวฏฺานํ ชีวิตินฺทฺริเยน เตน อนุปาเลตพฺพโต. เตนาห ‘‘อายุ ิติ ยปนา ยาปนา’’ติอาทิ. อุปโภโค เวทนาหิ ¶ . เวทนาวเสน หิ อิฏฺาทิสพฺพวิสยุปโภโค. ยถาห – ‘‘เวทยติ เวทยตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙). เอวํ ปวตฺติยา นิสฺสยสมุปฺปาทฏฺิติสมฺโภคทสฺสนตฺถํ จกฺขุนฺทฺริยํ ยาว อุเปกฺขินฺทฺริยนฺติ จุทฺทสินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. ยถา เจตานิ ปวตฺติยา, เอวํ อิตรานิ นิวตฺติยา. วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิเตน หิ นิพฺพตฺติตานิ ¶ สทฺธาทีนิ ปฺจ อินฺทฺริยานิ นิวตฺติยา นิสฺสโย. อุปฺปาโท อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริเยน ตสฺส ปมํ อุปฺปชฺชนโต. อวฏฺานํ อฺินฺทฺริเยน. อุปโภโค อฺาตาวินฺทฺริเยน อคฺคผลสมุปโภคโต. เอวมฺปิ เอตานิ เอว อินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. เอตฺตาวตา ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิโต อฺเสํ อคฺคหณํ. เอเตนาปิ เนสํ เทสนานุกฺกโมปิ สํวณฺณิโต เวทิตพฺโพ.
๒๒๐. กุสลากุสลวีริยาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน กุสลสมาธิอาทีนํ, อพฺยากตวีริยาทีนฺจ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปจฺจยาทีติ อาทิ-สทฺเทน เทสารมฺมณาทโย คหิตา, ยถาวุตฺตวีริยาทีนิ, จกฺขาทีนิ จ สงฺคณฺหาติ. อิจฺเจวํ สพฺพสงฺคาหิกานิ วีริยินฺทฺริยาทิปทานิ, จกฺขุนฺทฺริยาทิปทานิ จ. เตนาติ ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทินา ภูมิวิภาคกถเนน. ตนฺนิวตฺตเนนาติ สพฺเพสํ สพฺพภูมิกตฺตนิวตฺตเนน. อวิชฺชมานสงฺคาหกตฺตนฺติ ตสฺสํ ตสฺสํ ภูมิยํ อนุปลพฺภมานสฺส อินฺทฺริยสฺส สงฺคาหกตา.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
อิธ อิมสฺมึ ‘‘สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณา’’ติ เอวํ เอกนฺตานารมฺมณตฺเต วุจฺจมาเน น อาภฏฺํ ชีวิตินฺทฺริยํ น ภาสิตํ. ฏีกายํ ปน อนาภฏฺนฺติ กตสมาสํ กตฺวา วุตฺตํ. รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตตนฺติ ‘‘รูป’’นฺติ คณิตตํ. อรูปโกฏฺาเสน อรูปภาเวน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ. กสฺมา? ตสฺส ¶ ปริตฺตารมฺมณาทิตา อตฺถีติ. ยสฺมา ปน รูปารูปมิสฺสกสฺเสว วเสน สิยาปกฺขสงฺคโห ยุตฺโต, น เอกเทสสฺส, ตสฺมา เอกเทสสฺส ตํ อนิจฺฉนฺโต อาห ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘อรูปโกฏฺาเสน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นวตฺตพฺพตาติ ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพตา. กถํ ปน รูปโกฏฺาเสนสฺสานารมฺมณสฺส นวตฺตพฺพตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น หิ อนารมฺมณ’’นฺติอาทิ. ‘‘อวิชฺชมานารมฺมณานารมฺมเณสู’’ติ อิมินา ‘‘อนารมฺมณา’’ติ พาหิรตฺถสมาโส อยนฺติ ทสฺเสติ ¶ . นวตฺตพฺเพสูติ สารมฺมณภาเวน นวตฺตพฺเพสุ. อนารมฺมณตฺตาติ อารมฺมณรหิตตฺตา. ‘‘นวินฺทฺริยา สิยา ปริตฺตารมฺมณา, สิยา มหคฺคตารมฺมณา, สิยา อปฺปมาณารมฺมณา, สิยา น วตฺตพฺพา ‘ปริตฺตารมฺมณา’ติปิ ‘มหคฺคตารมฺมณา’ติปิ ‘อปฺปมาณารมฺมณา’ติปี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๒๓) วิย น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ. ยถา จ น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตาปริยาโย, อถ โข อนารมฺมณสฺสาปีติ สารมฺมเณ นิยมาภาโว. เอวํ นวตฺตพฺพํ สารมฺมณเมวาติ อยมฺปิ นิยโม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นวตฺตพฺพสฺส วา สารมฺมณต’’นฺติ อาห. ตสฺส น ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น หี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ วิวรติ.
ตตฺถ รูปนิพฺพานานํ สุขาทิสมฺปยุตฺตภาเวน นวตฺตพฺพตา, น ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวนาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อถาปี’’ติอาทิ. ตตฺถ อถาปิ วตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. สิยา อนารมฺมณนฺติปิ วตฺตพฺพํ สิยาติ อนารมฺมณํ ธมฺมายตนํ สารมฺมเณหิ วิสุํ กตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ สิยา. นวตฺตพฺพ-สทฺโท ยทิ สารมฺมเณสฺเวว วตฺเตยฺย, น เจวํ วุตฺตํ, อวจเน จ อฺํ การณํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น หิ ปฺหปุจฺฉเก สาวเสสา เทสนา อตฺถี’’ติ. ตสฺมา นวตฺตพฺพ-สทฺโท อนารมฺมเณสุปิ วตฺตเตวาติ อธิปฺปาโย. ยาปิ ‘‘อฏฺินฺทฺริยา สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ อชฺฌตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพตา วุตฺตา, สา ชีวิตินฺทฺริยสฺส อากิฺจฺายตนกาเล ปมารุปฺปวิฺาณาภาวมตฺตารมฺมณตํ สนฺธาย วุตฺตา, น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ, นาปิ อนารมฺมณสฺส ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพตาภาวทสฺสนตฺถนฺติ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘อฏฺินฺทฺริยา สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณาติ เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณาตีติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน อวสิฏฺปาฬิสงฺคณฺหเนน ‘‘สิยา น วตฺตพฺพา ‘อชฺฌตฺตารมฺมณา’ติปิ ‘พหิทฺธารมฺมณา’ติปิ ‘อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา’ติปี’’ติ อิมาย ปาฬิยา วุตฺตมตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ทสฺเสนฺโต ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส…เป… นวตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา’’ติ อาห, ตํ วุตฺตตฺถเมว.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
อุทฺเทสวารวณฺณนา
๒๒๕. ‘‘วุตฺตตฺตา’’ติ ¶ ¶ อิทํ นิสฺสกฺกํ กึ ลกฺขณํ? เหตุลกฺขณํ. ยทิ เอวํ ตํเหตุโก วิภชฺชวาทิภาโว อาปชฺชติ. น หิ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตตฺตา พุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน อเหสุนฺติ? นยิทเมวํ. ติวิโธ หิ เหตุ าปโก, การโก, สมฺปาปโกติ. เตสุ าปกเหตุ อิธาธิปฺเปโต, ตสฺมา เตน มหาเถเรน ‘‘กึ วาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ ปุฏฺเน ‘‘วิภชฺชวาที, มหาราชา’’ติ ตทา วุตฺตวจเนน ายติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ กึ…เป… วุตฺตตฺตา…เป… วิภชฺชวาทิโน’’ติ. ‘‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติอาทินา (ปารา. ๕-๙) เวรฺชพฺราหฺมณสฺส ภควตา เวนยิกาทิภาโว วิภชฺช วุตฺโตติ ตํ อนุวทนฺตา สาวกาปิ ตถา วทนฺตีติ อาห ‘‘เต หิ เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทนฺตี’’ติ. จีวราทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โสมนสฺสาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตานิปิ หิ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาเวน วิภชฺช วุตฺตานิ. วิภชฺชวาทิปริสา วิภชฺชวาทิมณฺฑลนฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ ยถา ตํ โอติณฺโณ นาม โหติ, ตํทสฺสนตฺถํ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สกสมยาโวกฺกมาทิ หิ ปรมตฺถโต ตโทตาโร. ‘‘อสํกิลิฏฺาปิ อวิชฺชา อตฺถิ อมคฺควชฺฌา, ยาย นิวุตา ขีณาสวาปิ นามโคตฺตาทีสุ เอกจฺจํ น ชานนฺติ, สา กุสลจิตฺตุปฺปาเทสุปิ ปวตฺตตี’’ติ นิกายนฺตริยา. ตํ สนฺธายาห ‘‘อวิชฺชา ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารานํ เหตุปจฺจโย โหตีติอาทึ วทนฺโต’’ติ. อุปลกฺขณฺเหตํ สหชาตโกฏิยา. อาทิ-สทฺเทน ¶ อกุสลจิตฺเตนปิ าณํ อุปฺปชฺชติ, ยา สํกิลิฏฺา ปฺาติ, อเจตสิกํ สีลํ, อวิฺตฺติสงฺขาตํ รูปภาวํ ทุสฺสิลฺยนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. ปรสมยายูหนํ ปรสมเย พฺยาปาราปตฺติยา. โย ตตฺถ สกสมเยน วิรุทฺโธ อตฺโถ, ตสฺส วา ทีปเนน สิยา, ปรสมเย วาทาโรปเนน วา ¶ . เตสุ ปุริมํ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติ อิมินา อปนีตนฺติ อิตรํ ทสฺเสติ ‘‘ปรสมยํ…เป… อนายูหนฺเตนา’’ติ. อสมฺปิณฺเฑนฺเตนาติ อุปจยตฺถํ สนฺธาย วทนฺติ. อายูหน-สทฺโท ปน อุปจยตฺโถ น โหตีติ เกจิวาโท น สารโต คเหตพฺโพ.
ตพฺพิปริยาเยนาติ ยถาวินยํ อวฏฺาเนน. สาวชฺชสฺส อนวชฺชตาทีปนาทินา กมฺมนฺตรํ ภินฺทนฺโต วินาเสนฺโต, อาโลเฬนฺโต วา ธมฺมตํ ธมฺมสภาวํ วิโลเมติ วิปรีตโต ทหติ. มหาปเทเสติ มหาอปเทเส, พุทฺธาทโย มหนฺเต มหนฺเต อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ มหาการณานิ. มหาปเทเสติ วา มหาโอกาเส, มหนฺตานิ ธมฺมสฺส ปติฏฺานฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อปทิสียตีติ อปเทโส, พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. อตฺถโต จายํ มหาปเทโส ‘‘สมฺมุขา เมตํ ภควโต สุต’’นฺติอาทินา เกนจิ อาภตสฺส ‘‘ธมฺโม’’ติ วา ‘‘อธมฺโม’’ติ วา วินิจฺฉยเน การณํ. กึ ปน ตนฺติ? ตสฺส ยถาภตสฺส สุตฺโตตรณาทิ เอว. ยทิ เอวํ กถํ จตฺตาโรติ? ธมฺมสฺส ทฺเว สมฺปทาโย ภควา, สาวกา จ. เตสุ สาวกา สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ติวิธา. เอวํ ‘‘อมุมฺหา มยา อยํ ธมฺโม ปฏิคฺคหิโต’’ติ อปทิสิตพฺพานํ เภเทน จตฺตาโร. เตนาห ‘‘สมฺมุขา เมตํ ภควโต สุต’’นฺติอาทิ. เนตฺติยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘พุทฺธาปเทโส สงฺฆาปเทโส สมฺพหุลตฺเถราปเทโส เอกตฺเถราปเทโส’’ติ.
สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติมหาปเทเสติ เอตฺถ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหานิ ตีณิ ปิฏกานิ อตฺถสูจนาทิอตฺเถน สุตฺตํ. ยถาวุตฺตสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมโต ยถาวุตฺตา เอว จตฺตาโร มหาปเทสา สุตฺตานุโลมํ. ปาฬิยา อตฺถคาหเณน ธมฺมตายํ ปติฏฺาปนโต อฏฺกถา อาจริยวาโท. นยคฺคาเหน อนุพุทฺธิยา อตฺตโน ปฏิภานํ อตฺตโนมติ. เอตฺถ จ สุตฺตอาจริยวาทอตฺตโนมตีนมฺปิ เกนจิ อาภตสฺส ธมฺมาธมฺมาทิภาววินิจฺฉยเน การณภาวสภาวโต มหาปเทสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สนฺติฏฺติ อปฺปฏิพาหนฺโต, อวิโลเมนฺโต จ. ตพฺพิปริยาเยน อติธาวติ. เอกสฺส ปทสฺส เอเกน ปกาเรน อตฺถํ วตฺวา ตสฺเสว ปุน ปการนฺตเรน อตฺถํ วทนฺโต ¶ วา อปเรหิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสติ นาม ยถา ‘‘อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ¶ ยาถาวสรสลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตี’’ติอาทึ วตฺวา ปุน ‘‘อยํ อวิชฺชา ทุกฺขาทีสุ อฺาณ’’นฺติ วุตฺตาปิ ‘‘ทุกฺขสจฺจสฺส เอกเทโส โหตี’’ติอาทิวจนํ. อถ วา เหตุภาเวน วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปุน ผลภาเวน วจนํ ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา นิทฺทิสนํ ยถา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ วจนํ. อถ วา ‘‘สพฺพเมตํ ภวจกฺกํ กมฺมฺเจว วิปาโก จ. กิเลสกมฺมวิปากวเสน ติวิธ’’นฺติ จ อาทินา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ทุวิธติวิธาทิวิภาคทสฺสนํ ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา นิทฺทิสนนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สตฺตโวหาโรติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺา. เย หิ ธมฺเม สมูหภูเต สนฺตานวเสน วตฺตมาเน อุปาทาย สตฺตปฺตฺติ, ตสฺสา ตโต อฺถานาฺถาอจฺจนฺตาภาวสงฺขาเต อนฺเต อนุปคมฺม ยาถาวโต สงฺคหณํ, โพธนฺจ ธมฺมตายํ อกุสลสฺส ทุกฺกรํ ทุรภิสมฺภวนฺติ. อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส สงฺขาราทิปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมํ ปติ เหตุอาทินา ปจฺจเยน ปจฺจยภาโว ปจฺจยากาโร, ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อตฺโถ.
วุตฺตนเยนาติ ‘‘อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. กามฺเจตฺถ สพฺพาปิ อตฺถวณฺณนา อิมินาว นเยน กาตพฺพา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนาย ปน ครุตรภาวํ ทสฺเสนฺโต เอวํ วทติ.
ปาฬิธมฺมนฺติ เตปิฏกพุทฺธวจนํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬึ.
อตฺถํ กตฺวาติ หิตํ กตฺวา. ยถายํ หิตาวโห โหติ, เอวํ กตฺวา. อฏฺึ กตฺวาติ วา อตฺตานํ อตฺถิกํ กตฺวา. สุตจินฺตามยาทึ าณวิเสสํ. ตทงฺควิกฺขมฺภนาทินา กิเลสกฺขยวิเสสํ.
ภวาทีสุ อาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนโต, พลวูปนิสฺสยโต, กมฺมสฺส วิเสสเหตุภาวโต จ วฏฺฏสฺส มูลการณํ อวิชฺชา. วิปากวฏฺฏนิมิตฺตสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส การณภูตมฺปิ กิเลสวฏฺฏํ อวิชฺชามูลกนฺติ ทสฺสนตฺถํ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา. ตณฺหาปิ หิ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว เอว วิสเย อสฺสาทานุปสฺสิโน ปวตฺตติ, น อฺถา. มูลาทิทสฺสนสามฺฺจาติ ¶ วลฺลิยา มูลมชฺฌปริโยสานสฺส ทสฺสเนน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ตํทสฺสนสามฺฺจ โยเชตพฺพํ, สมนฺตจกฺขุนา สพฺพสฺส ทิฏฺตฺเตปิ ¶ เทสนากาเล เทสนาาณจกฺขุนา โพเธตพฺพตาวเสน เอกเทสทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
ทิฏฺิสหิตาย มานสหิตาย วา ตณฺหาย ‘‘อห’’นฺติ, อิตราย ‘‘มม’’นฺติ อภิวทโต. ‘‘อภินนฺทนโต’’ติ หิ อิมินา สปฺปีติกาย ตณฺหาย ปวตฺติ ทสฺสิตา. ‘‘อภิวทโต’’ติ อิมินา ตโต พลวตราย ทิฏฺิสหิตาย มานสหิตาย วา. ‘‘อชฺโฌสาย ติฏฺโต’’ติ อิมินา ปน ตโตปิ พลวตมาย ทิฏฺิสหิตาย, เกวลาย วา ตณฺหาย ปวตฺติ ทสฺสิตา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา านฺหิ อชฺโฌสานํ. ตปฺปจฺจยนฺติ ตณฺหาปจฺจยํ. กถํ ปน นนฺทิวจเนน จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นนฺทิตา’’ติอาทิ. ตตฺถ นนฺทิตาตทวิปฺปโยคตาหีติ นนฺทิภาเวน สภาวโต ตณฺหุปาทานํ, ตาย นนฺทิยา ตณฺหาย อวิปฺปโยเคน อวินาภาเวน ทิฏฺุปาทานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทิฏฺาภินนฺทนภาเวนา’’ติ อิมินา ทิฏฺิยาปิ นนฺทิภาวมาห.
ปฏิสนฺธิปวตฺติผสฺสาทโยติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ อุปฺปนฺนผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณานิ. ‘‘วิปากวฏฺฏภูเต’’ติ จ อิทํ ปวตฺตวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. วฏฺฏูปตฺถมฺภกาติ วฏฺฏตฺตยูปนิสฺสยา. อิตเรติ อกมฺมชา. ตสฺมินฺติ ยถาวุตฺเต อาหารจตุกฺเก. วตฺตุํ วฏฺฏนฺตีติ ตณฺหานิทานูปนิสฺสยโต ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชนฺติ.
ยถา อริยมคฺโค อนฺตทฺวยวชฺชิตมชฺฌิมปฏิปทาภาวโต ‘‘าโย’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทปีติ อาห ‘‘าโยติ มคฺโค, โสเยว วา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ. อตฺตโน ปฏิเวธาย สํวตฺตติ อสมฺโมหปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา. สํวตฺตตีติ จ นิมิตฺตสฺส กตฺตูปจารวเสเนตํ วุตฺตํ ยถา ‘‘อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานี’’ติ. ปกติอาทโย เหฏฺา สจฺจวิภงฺเค เหตุวิปฺปฏิปตฺติกถายํ ทสฺสิตา เอว. อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหนฺติ ยถา กาปิลาทโย. น กิฺจิ การณํ พุชฺฌนฺติ ยถา ตํ อฺเ พาลปุถุชฺชนา. อิตราสนฺติ มชฺฌโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา เทสนาทีนํ ติสฺสนฺนํ. ตทตฺถตาสมฺภเวปีติ ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติทสฺสนตฺถตาสมฺภเวปิ. อตฺถนฺตรสพฺภาวโตติ ปโยชนนฺตรสพฺภาวโต. วุตฺตานิ หิ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๕) ‘‘ชรามรณาทิกสฺส ¶ ทุกฺขสฺส อตฺตนา อธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํ. อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน ¶ อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํ. อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถ’’นฺติ ติสฺสนฺนํ ยถากฺกมํ ตีณิ ปโยชนานิ.
ตํตํผลปฏิเวโธติ ชาติอาทีนํ ชรามรณาทิตํตํผลาวคโม. อนุวิโลกยโตติ ปุริเม วิกปฺเป วิปสฺสนานิมิตฺตํ อนุวิโลกนํ, ทุติเย เทสนานิมิตฺตํ. กามุปาทานภูตา ตณฺหา มโนสฺเจตนาหารสงฺขาตสฺส ภวสฺส, ตํสมฺปยุตฺตานํ, ตนฺนิมิตฺตานฺจ เสสาหารานํ วิเสสปจฺจโย โหตีติ อาห ‘‘อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ยาว วิฺาณํ คเหตพฺพํ. อาหารตณฺหาทโยติ เอตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมวฏฺฏปริยาปนฺเน อาหาเร คเหตฺวา อทฺธโยชนํ กตฺวา อนาคตวิปากวฏฺฏปริยาปนฺเน คเหตฺวา โยเชตุํ วุตฺตํ ‘‘อาหารา วา ตณฺหาย ปภาเวตพฺพา อนาคโต อทฺธา’’ติ. ปภาเวตพฺพาติ อายตึ อุปฺปาเทตพฺพา. ยุชฺชตีติ ผลภูเต อาหาเร ปจฺจุปฺปนฺเน ปจฺจกฺขโต ทสฺเสตฺวา ‘‘ตํนิทานํ ตณฺหํ ตสฺสา นิทาน’’นฺติอาทินา ผลปรมฺปราย การณปรมฺปราย จ ทสฺสนํ ตถาพุชฺฌนกานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยานุโลมโต, ธมฺมสภาวาวิโลมนโต จ ยุตฺติยา สงฺคยฺหติ. ยทิ ตณฺหาทโย อตีโต อทฺธา, ตณฺหาคฺคหเณเนว สงฺขาราวิชฺชา คหิตาติ กิมตฺถํ ปุน เต คหิตาติ อาห ‘‘สงฺขาราวิชฺชา ตโตปิ อตีตตโร อทฺธา วุตฺโต สํสารสฺส อนาทิภาวทสฺสนตฺถ’’นฺติ. อตีตนฺติ วา อตีตตาสามฺเน อตีตตรมฺปิ สงฺคหิตํ ทฏฺพฺพํ.
ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกาติ ปุนพฺภวูปปตฺติปจฺจยา. อิติ วจนโตติ เอวํ วุตฺตวจนสพฺภาวโต. วิฺาณาหาโร ตาว ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา เหตุ, อิตเร ปน กถนฺติ อาห ‘‘ตํสมฺปยุตฺตตฺตา…เป… กพฬีการาหารสฺสา’’ติ. ตสฺส อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา จตฺตาโร อาหาราติ สมฺพนฺโธ. สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยตา ปริจฺจาคาทิกาเล, ราคาทีนํ คธิตสฺส โภชนาทิกาเล. เตน ยถากฺกมํ กุสลากุสลกมฺมวิฺาณายูหนํ ทสฺสิตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา จตฺตาโร อาหารา คยฺหนฺติ, ตสฺมา. ปุริโมเยวตฺโถติ ¶ ‘‘อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา’’ติอาทินา วุตฺตอตฺโถ. อตีเตติ อตีเต อทฺธนิ. ตโต ปรนฺติ ตโต อตีตทฺธโต ปรํ ปจฺจุปฺปนฺเน อนาคเต จ อทฺธนิ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติอาทินา. ปจฺจกฺขานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภวปริยาปนฺนตาย ปจฺจกฺขภูตานํ. ปจฺจุปฺปนฺนํ เหตุนฺติ เอตรหิ วตฺตมานํ ตณฺหาทิกํ อาหาราทีนํ เหตุํ.
สุตฺตํ ¶ อาหรติ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓). วฏฺฏเหตุโนติ วิปากวฏฺฏเหตุโน, สกลวฏฺฏเหตุโน วา. อกุสลฺหิ กมฺมํ กมฺมวฏฺฏสฺส กิเลสวฏฺฏสฺส จ ปจฺจโย โหติเยว. ‘‘ภวตณฺหายปิ เหตุภูตา’’ติ อิมินา กิเลสวฏฺฏสฺสาปิ อวิชฺชาย ปจฺจยภาวมาห. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจตี’’ติอาทินา วฏฺฏสีสานมฺปิ อวิชฺชาตณฺหานํ สปฺปจฺจยตาทสฺสนาปเทเสน สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ เหตุผลปรมฺปราวิจฺเฉทวุตฺติยา ปุริมาย โกฏิยา อปฺายนํ วิภาเวติ.
อวิชฺชํ ตณฺหา อนุวตฺตตีติ ทุกฺเข ตณฺหํ อภิภวิตฺวา ปวตฺติยา ตโต อวิชฺชาย พลวภาวมาห. อวิชฺชาภิภูตา หิ สตฺตา สติปิ ตณฺหาปริตสฺสิเต เอกนฺตานตฺถสฺิตํ อตฺตกิลมถานุโยคทุกฺขมนุยฺุชนฺติ. ตณฺหํ อวิชฺชา อนุวตฺตตีติ สุเข อวิชฺชํ อภิภวิตฺวา ปวตฺติยา ตโต ตณฺหาย พลวภาวมาห. ยทิปิ สาวชฺชสุขานุภเว พลวตีเยว อวิชฺชา วิชฺชมานอาทีนวํ ปฏิจฺฉาเทนฺตี ติฏฺติ, ตณฺหา ปน ตโตปิ พลวตรตาย สตฺเต วิปุลานตฺถสฺหิเต อนริเย สุเข นิโยเชตีติ อวิชฺชาย ตทนุวตฺตนํ วุตฺตํ.
อายตนฉกฺกํ วา กาโยติ สมฺพนฺโธ. จกฺขาทินิสฺสเย เสสธมฺเมติ จกฺขาทินิสฺสยภูเต, ตปฺปฏิพทฺเธ จ สสนฺตานปริยาปนฺเน ธมฺเม. จกฺขาทินิสฺสิเต เอว กตฺวาติ จกฺขาทิคฺคหเณเนว คหิเต กตฺวา. จกฺขาทิกายนฺติ จกฺขาทิธมฺมสมูหํ ปเรสํ ปฺจกฺขนฺธํ. ผสฺเสน ผุฏฺโติ อารมฺมณํ ผุสนฺเตน วิย อุปฺปนฺเนน สุขเวทนิเยน, ทุกฺขเวทนิเยน จ ผสฺเสน ผุฏฺโ. ผสฺเส หิ ตถา อุปฺปนฺเน ตํสมงฺคีปุคฺคโล ผุฏฺโติ โวหาโร โหตีติ.
ยถา สฬายตนานิ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, เอวํ เวทนายปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สฬายตนานํ เวทนาย วิเสสปจฺจยภาว’’นฺติ อาห. ตนฺนิสฺสิตนฺติ ¶ สฬายตนนิสฺสิตํ. อตีตทฺธาวิชฺชาตณฺหามูลโกติ อตีตทฺธภูตอวิชฺชาตณฺหามูลโก. กายสฺส เภทา กายูปโคติ อุภยตฺถาปิ กายสทฺเทน อุปาทินฺนกฺขนฺธปฺจโก คหิโต. ตทุปคตา อุปปชฺชนํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ. อุภยมูโลติ อวิชฺชาตณฺหามูโล.
อนภิสมยภูตตฺตาติ อภิสมยสฺส ปฏิปกฺขภูตตฺตา. อวิชฺชายาติ อวิชฺชาย สติ.
คหณนฺติ ¶ คเหตพฺพตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา สติ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารตฺเตปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา ปธานตาย วิสุํ วุตฺตา โคพลีพทฺทาเยน, ตสฺมา. ตตฺถ วุตฺตมฺปีติ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเรสุ วุตฺตมฺปิ อภิสงฺขรณกสงฺขารํ วชฺเชตฺวา อคฺคเหตฺวา อิตเร สงฺขารา โยเชตพฺพา. เอวฺหิ อตฺถสฺส อุทฺธรณุทฺธริตพฺพตาทฺวยํ อสงฺกรโต ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘อิธ วณฺเณตพฺพภาเวนา’’ติ อิมินา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารานํ สติปิ สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารภาเว ยถาวุตฺตเมว ปธานภาวํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ตเทกเทโส วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สงฺคณฺหนวเสน สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาเรหิ สงฺคหิตาปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา อิธ วณฺเณตพฺพภาเวน ปธานาติ วิสุํ คหิตา, ปุริมสฺมึ เต วชฺเชตฺวาติ อยํ วิเสโส. เตนาห ‘‘วณฺเณตพฺพสพฺพสงฺคหณวเสน ทุวิธตา วุตฺตา’’ติ. สามฺโต สงฺคยฺหมานมฺปิ ปธานภาวโชตนตฺถํ วิสุํ คยฺหติ ยถา ตํ ‘‘ปฺุาณสมฺภารา’’ติ.
เยน กุสลากุสลธมฺมา ‘‘วิปากธมฺมา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตํ อายูหนํ, กึ ปน ตนฺติ? อนุปจฺฉินฺนตณฺหาวิชฺชามาเน สนฺตาเน สพฺยาปารตา. เตนาห ‘‘ปฏิสนฺธิ…เป… อายูหนรสา’’ติ. เจตนาปธานตฺตา ปน ตสฺส เจตนากิจฺจํ กตฺวา วุตฺตํ. ราสิกรณํ, อายูหนนฺติ จ ราสิภูตสฺส รูปารูปสงฺขาตสฺส ผลสฺส นิพฺพตฺตนโต วุตฺตํ. ‘‘อนารมฺมณตา อพฺยากตตา’’ติ อิทํ อพฺยากตสฺเสว อนารมฺมณตฺตา อพฺยากตสมฺพนฺธินี อนารมฺมณตาติ กตฺวา วุตฺตํ. อายตนํ, ฆฏนนฺติ จ ตํตํทฺวาริกธมฺมปฺปวตฺตนเมว ทฏฺพฺพํ.
อนนุโพธาทโย อวิชฺชาปทนิทฺเทเส อาคตา. อวิชฺชาปทสมฺพนฺเธน ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตาติ อิตฺถิลิงฺคนิทฺเทโส. อสณฺานตฺตาติ อวิคฺคหตฺตา.
โสกาทีนํ ¶ สพฺภาวาติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อนิฏฺาเปตฺวา ตทนนฺตรํ โสกาทีนมฺปิ วุตฺตานํ วิชฺชมานตฺตา เตสํ วเสน องฺคพหุตฺตปฺปสงฺเค ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ พหุภาเว อาปนฺเน. ทฺวาทเสวาติ กถํ ทฺวาทเสว, นนุ โสกาทโยปิ ธมฺมนฺตรภูตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนายํ วุตฺตาติ? สจฺจํ วุตฺตา, น ปน องฺคนฺตรภาเวนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ผเลนาติ ผลภูเตน ชรามรณงฺคสงฺคหิเตน โสกาทินา. มูลงฺคํ ทสฺเสตุนฺติ อิมาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาย มูลภูตํ อวิชฺชงฺคํ โสจนาทีหิ สมฺโมหาปตฺติกถเนน ทสฺเสตุํ เต โสกาทโย วุตฺตา ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ. ชรามรณํ การณํ เอเตสนฺติ ชรามรณการณา ¶ , โสกาทโย, ตพฺภาโว ชรามรณการณตา. ชรามรณํ นิมิตฺตํ เอตสฺสาติ ชรามรณนิมิตฺตํ. ตํ ตนฺนิมิตฺตานนฺติ เอตฺถ ตนฺติ สุตฺตํ. ตนฺนิมิตฺตานํ ทุกฺขนิมิตฺตานํ โสกาทีนํ. ตโต ปรายาติ อนาคเต ทุติยตฺตภาวโต ปราย ตติยตฺตภาวาทีสุ ปฏิสนฺธิยา. เหตุเหตุภูตาติ การณสฺส การณภูตา. ปฏิสนฺธิยา หิ สงฺขารา การณํ, เตสํ อวิชฺชา. สุตฺตนฺติ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๒, ๑๗; สํ. นิ. ๒.๖๑; ธ. ส. ๑๐๐๗) อิมํ สุตฺตํ สนฺธาย วทติ. อวิชฺชา โสกาทีนํ การณนฺติ ทสฺสิตา อสฺสุตวตาย อวิชฺชาภิภวนทีปนิยา ตทุปฺปตฺติวจนโต. ‘‘น โสกาทีนํ พาลสฺส ชรามรณนิมิตฺตตามตฺตสฺส สาธกํ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘น จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน น จ ชรามรณนิมิตฺตเมว ทุกฺขํ ทุกฺขํ, อถ โข อวิชฺชานิมิตฺตมฺเปตฺถ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เอวํ ชรามรเณน โสกาทีนํ เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
กสฺมา ปเนตฺถ ชรามรณนฺตา เอว เทสนา กตา, กึ ตโต ปรา ปวตฺติ นตฺถีติ? โน นตฺถิ, อปฺปหีนกิเลสสฺส หิ กมฺมโต, วิฺาณาทิปริโยสานภูตาย จ จุติยา ปฏิสนฺธิปาตุภาโวติ ปวตฺติตทุปรมภูตํ ชรามรณํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตินิมิตฺตํ. ตํ ปน กมฺมูปปตฺติภวโต ชาติยา ทสฺสิตตฺตา ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ อิมินาว ปกาสิตนฺติ น ปุน วุจฺจติ, น ตโต ปรํ ปวตฺติยา อภาวโต. เอกกมฺมนิพฺพตฺตสฺส จ สนฺตานสฺส ¶ ชรามรณํ ปริโยสานํ. สติ กิเลสวฏฺเฏ กมฺมุนา ตโต ปุนพฺภวูปปตฺติ, อสติ ปน ตสฺมึ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ ชรามรณปริโยสานาว เทสนา กตา. ยสฺมา ปน น อมรณา ชรา อตฺถิ สพฺเพสํ อุปฺปตฺติมนฺตานํ ปากานนฺตรเภทโต, น จาชรํ มรณํ อปากเภทาภาวา, ตสฺมา ตทุภยเมกมงฺคํ กตํ, น นามรูปํ วิย อุภยฏฺาเน เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติยา, สฬายตนํ วิย วา อายตนภาเวน กิจฺจสมตาย. ยา ปนายํ โอสานํ คตา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ทีปิตา, ตาย ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติอาทิ, กิเลสกมฺมาภาเว ตทภาวโต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอวมาทิ เอว วา อตฺถโต ปกาสิโต โหตีติ วฏฺฏตฺตยสฺส อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนํ ทสฺสิตํ โหติ. อถ วา ชราคหเณน ปริปกฺกปริปกฺกตราทิกฺกเมน วตฺตมานํ นามรูปาทิ, โสกาทิ จ คยฺหติ, ตถาสฺส ปริปากกาลวตฺตินี อวิชฺชา จ. ยถาห –
‘‘ส ¶ โข โส, ภิกฺขเว, กุมาโร วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ…เป… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ…เป… รชนีเยหิ. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป สารชฺชติ, อปฺปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺิตกายสติ จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).
เอตฺถ หิ ปริปกฺกินฺทฺริยสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ สราคาทิคฺคหเณน ตทวินาภาวิตาย วิมุตฺติยา อปฺปชานเน จ โสกาทีนํ ปจฺจยภูตา อวิชฺชา ปกาสิตา. อปิจ ‘‘ปิยปฺปภวา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ วจนโต กามาสวภวาสเวหิ, ‘‘ตสฺส ‘อหํ รูปํ, มม รูปนฺติ ปริยุฏฺฏฺายิโน…เป… รูปวิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑) วจนโต ทิฏฺาสวโต, ‘‘อสฺสุตวา’’ติอาทิวจนโต ¶ อวิชฺชาสวโต โสกาทีนํ ปวตฺติ ทีปิตาติ เตสํ เหตุตาย ตคฺคหเณน คหิตา อาสวา. เตสํ สยฺจ ชราสภาวตาย ชราคหเณน คยฺหนฺติ, ตโต จ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ วจนโต อาสวนิมิตฺตาย จ อวิชฺชาย ชราคหเณน คหณํ. ตโต จ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อาวฏฺฏติ ภวจกฺกํ. อปิจ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วตฺวา ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ วทนฺเตนปิ ภวจกฺกสฺส อนวฏฺานโต ปริพฺภมนํ ทสฺสิตํ. เอตฺถ หิ วิฺาเณน อวิชฺชานิวุตสฺส ปุนพฺภโว ทสฺสิโต, ชาติยา ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส, อุภยตฺถ อุภินฺนํ อนุวตฺตมานตฺตาติ อวิชฺชาตณฺหานิมิตฺตํ ภวจกฺกํ อนวฏฺานโต ปริพฺภมตีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ ชรามรณนฺตาปิ เทสนา น ตโต ปรํ ปวตฺติยา อภาวํ สูเจติ อตทตฺถตฺตา, น จ ปจฺจยนฺตรทสฺสนตฺถเมว ปุน วจนนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ เอกตฺเรว ตทุภยเทสนาย ตสฺส สิทฺธตฺตา. ตถา ยํ กมฺมํ อวิชฺชาเหตุกํ, ตํ ตณฺหาเหตุกมฺปิ. ยํ ตณฺหาเหตุกํ, ตํ อวิชฺชาเหตุกมฺปิ เวทิตพฺพํ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ ภวมูลานํ อฺมฺาวิรหโต. ยถา หิ ตณฺหาปจฺจยา กามุปาทานเหตุกํ กมฺมภวสงฺขารํ วทนฺโต น วินา ภวตณฺหาย อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโยติ ทสฺเสติ. ตถา ตเมว อวิชฺชาปจฺจยํ เทเสนฺโต น อนฺตเรน อวิชฺชาย ภวตณฺหา กมฺมภวสฺส ปจฺจโยติ. ตโต จ ปุพฺเพ ปวตฺตา อวิชฺชาทิปจฺจยา สงฺขาราทโย ¶ , ตณฺหุปาทานาทิปจฺจยา ภวาทโย จ, ตถา ตณฺหาเหตุอุปาทานปจฺจยา ภโว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, ภวปจฺจยา ชาติ, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ, วิฺาณาทิปจฺจยานามรูปาทีติ เอวเมเตสํ องฺคานํ ปุพฺพาปรสมฺพนฺโธ ทสฺสิโต โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๖. ปิตา ¶ กถียตีติ อสุโก อสุกสฺส ปิตาติ ปิตุภาเวน กถียติ. กถิยมาโน จ อสนฺเทหตฺถํ อฺเหิ มิตฺตทตฺเตหิ วิเสเสตฺวา กถียตีติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทีโฆ…เป… ทตฺโต’’ติ.
ยาถาโวติ อวิปรีโต. กิจฺจชาติโตติ ปฏิจฺฉาทนกิจฺจโต, อุปฺปชฺชนฏฺานโต จ.
คหณการณวเสนาติ คหณสฺส การณภาววเสน. อฺเสตาทีนํ นิวตฺตกานีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.
ฉาเทนฺติยาติ ฉาทนากาเรน ปวตฺตนฺติยา. ตถา ปวตฺตนเหตุ ตํสมฺปยุตฺตา อวิชฺชาสมฺปยุตฺตา ทุกฺขารมฺมณา โหนฺติ.
ตสฺมาติ สภาวโต อคมฺภีรตฺตา เตสํ ทุทฺทสภาวกรณี ตทารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ. อิตเรสนฺติ นิโรธมคฺคานํ. สมาเนปิ ปณีตอสํกิเลสิกาทิภาเว สปฺปจฺจยโต อปฺปจฺจยสฺส วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา
‘‘โสเธติ ¶ อปฺุผลโต’’ติ อิมินา ปฺุสฺส วิปากทุกฺขวิวิตฺตตํ อาห, ‘‘ทุกฺขโต’’ติ อิมินา เจโตทุกฺขวิวิตฺตตํ, ‘‘สํกิเลสโต’’ติ อิมินา กิเลสทุกฺขวิวิตฺตตํ. ‘‘อปฺุผลโต’’ติ วา อิมินา ปฺุสฺส อายตึ หิตตํ ทสฺเสติ. ‘‘ทุกฺขสํกิเลสโต’’ติ อิมินา ปวตฺติหิตตํ ปวตฺติสุขตฺจ ทสฺเสติ. ตํนิปฺผาทเนนาติ หิตสุขนิพฺพตฺตเนน. ปุชฺชภวนิพฺพตฺตโก ปุชฺชนิพฺพตฺตโก.
‘‘เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติอาทีสุ ปฺุผลมฺปิ ปฺุนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ปฺุุปคนฺติ ภวสมฺปตฺตุปค’’นฺติ.
อาทิภาวนาติ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา กสิเณสุ ปวตฺตภาวนา. ปถวี ปถวีติ วา เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ¶ อิตรกสิณานํ คหณํ. อาทิภาวนาติอาทิภูตา ภาวนา. สา หิ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. มณฺฑลกรณํ กสิณมณฺฑลกรณํ.
ทานวเสนาติ เทยฺยธมฺมปริจฺจาควเสน. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ทานํ ทิยฺยติ เอเตนาติ. ตตฺถาติ เตสุ จิตฺตเจตสิเกสุ. ทานํ อารพฺภาติ เตหิ นิพฺพตฺติยมานํ ปริจฺจาคํ อุทฺทิสฺส. ยถา วา โส นิปฺปชฺชติ, ตถา เปตฺวา. อธิกิจฺจาติ ตสฺเสว เววจนํ. ยถา วา สมฺปยุตฺเตหิ นิพฺพตฺติยมานา ทานกิริยา นิปฺผตฺติวเสน อธิกตํ ปาปุณาติ, ตถา กตฺวา. เจตนาวเสเนว หิ ทานาทิกมฺมนิปฺผตฺติ. อิตเรสูติ ‘‘สีลํ อารพฺภา’’ติอาทีสุ.
อสริกฺขกมฺปีติ อตฺตนา อสทิสมฺปิ กฏตฺตารูปนฺติ สมฺพนฺโธ. วินาปิ จตุตฺถชฺฌานวิปาเกน. รูปตณฺหาสงฺขาตสฺสาติ ‘‘รูปตณฺหา’’ติ เอตฺถ วุตฺตรูปตณฺหมาห. คฺุชนฺติ คฺุชผลปริมาณํ ธารณียวตฺถุํ. ตถา ตณฺฑุลํ.
‘‘วจนวิเสสมตฺตเมวา’’ติ อตฺถวิเสสาภาโว วุตฺโตติ อตฺถวิเสสาภาวมาห ‘‘กายทฺวาเร ปวตฺติ ¶ เอว หิ อาทานาทิปาปนา’’ติ. ปุริเมนาติ ‘‘กายทฺวาเร ปวตฺตา’’ติ อิมินา. ตฺหิ ปวตฺติมตฺตกถนโต ทฺวารูปลกฺขณํ โหติ. ปจฺฉิเมนาติ ‘‘อาทานา’’ทิวจเนน.
กายวจีสงฺขารคฺคหเณติ อุทฺเทสํ สนฺธายาห. กายวจีสฺเจตนาคหเณติ นิทฺเทสํ. วิฺาณสฺสาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. สหชาตสฺส ปน อนนฺตรสฺส จ ปจฺจโย โหติเยว. ‘‘กุสลา วิปากธมฺมา จา’’ติ อิทํ เสกฺขปุถุชฺชนสนฺตาเน อภิฺาเจตนา อิธาธิปฺเปตา, น อิตราติ กตฺวา วุตฺตํ. เตน ยถาวุตฺตอภิฺาเจตนาปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจโย สิยา กุสลสภาวตฺตา, วิปากธมฺมตฺตา วา ตทฺกุสลากุสลเจตนา วิยาติ ทสฺเสติ. ตยิทํ โลกุตฺตรกุสลาย อเนกนฺติกํ. น หิ สา ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจโย. อถ วิปากทายินีติ วุจฺเจยฺย, เอวมฺปิ อโหสิกมฺเมน อเนกนฺติกํ. น หิ ตสฺสา วิปากุปฺปาทนํ อตฺถีติ อาห ‘‘น วิปากุปฺปาทเนน กุสลตา วิปากธมฺมตา จา’’ติ. เกวลฺหิ ยา อฺเสํ วิปากธมฺมานํ สพฺยาปารา สอุสฺสาหา ปวตฺติ, ตทาการาวสฺสา อปฺปหีนกิเลเส สนฺตาเน ปวตฺตีติ วิปากธมฺมตา, อนวชฺชฏฺเน กุสลตา จ วุตฺตา. เอวมฺปิ ยทิ วิปากธมฺมา อภิฺาเจตนา, กถํ อวิปากาติ? อสมฺภวโตติ ตํ ¶ อสมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภิฺาเจตนา หิ ยทิ วิปากํ อุปฺปาเทยฺย, สภูมิกํ วา อุปฺปาเทยฺย อฺภูมิกํ วา. ตตฺถ อฺภูมิกสฺส ตาว อุปฺปาทนํ อยุตฺตํ ปจฺจยาภาวโต, ตถา อทสฺสนโต จ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. สภูมิกํ นวตฺตพฺพารมฺมณํ วา อุปฺปาเทยฺย ปริตฺตาทิอารมฺมณํ วา, เตสุ อตฺตโน กมฺมสมานารมฺมณตาย รูปาวจรวิปากสฺส ทสฺสิตตฺตา, ปริตฺตาทิอารมฺมณตฺตา จ อภิฺาเจตนาย นวตฺตพฺพารมฺมณํ น อุปฺปาเทยฺย. ตถา เอกนฺตนวตฺตพฺพารมฺมณตฺตา รูปาวจรวิปากสฺส ปริตฺตาทิอารมฺมณฺจ น อุปฺปาเทยฺยาติ อยมสมฺภโว. เตนาห ‘‘อตฺตนา สทิสารมฺมณฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ ติฏฺานิกนฺติ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน านตฺตยวนฺตํ. ‘‘ปถวีกสิณํ อาโปกสิณ’’นฺติอาทินา กุสเลน อภินฺนํ กตฺวา วิปากสฺส อารมฺมณํ เทสิตนฺติ อาห ‘‘จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. ‘‘รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานานิ กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส วิปาโก อากาสานฺจายตนํ อากิฺจฺายตนํ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’ติปิ ‘มหคฺคตารมฺมณา’ติปิ ‘อปฺปมาณารมฺมณา’ติปี’’ติ วจนโต รูปาวจรวิปาโก เอกนฺตนวตฺตพฺพารมฺมโณติ อาห ‘‘น จ รูปาวจรวิปาโก ปริตฺตาทิอารมฺมโณ อตฺถี’’ติ. สฺวายมสมฺภโว ปริตฺตาทิอารมฺมณาย อภิฺาเจตนาย วิปากาภาวํ สาเธติ, น นวตฺตพฺพารมฺมณาย ¶ . นวตฺตพฺพารมฺมณาปิ หิ สา อตฺถีติ น พฺยาปีติ วิปากานุปฺปาทเน ตสฺสา อฺํ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กสิเณสุ จา’’ติอาทิมาห. สมาธิวิชมฺภนภูตา อภิฺา สมาธิสฺส อานิสํสมตฺตนฺติ ‘‘สมาธิผลสทิสา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺส อธิฏฺานวิกุพฺพนทิพฺพสทฺทสวนาทิกสฺส ยทิจฺฉิตสฺส กิจฺจสฺส นิปฺผาทนมตฺตํ ปน อภิฺาเจตนา, น กาลนฺตรผลา, ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วิย นาปิ วิปากผลา, อถ โข ยถาวุตฺตอานิสํสผลา ทฏฺพฺพา.
เกจิ ปน ‘‘สมานภูมิกโต อาเสวนลาเภน พลวนฺตานิ ฌานานีติ ตานิ วิปากํ เทนฺติ สมาปตฺติภาวโต, อภิฺา ปน สติปิ ฌานภาเว ตทภาวโต ตสฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ อาคนฺตุกาวาติ ทุพฺพลา, ตสฺมา วิปากํ น เทตี’’ติ วทนฺติ. ตํ อการณํ ปุนปฺปุนํ ปริกมฺมวเสน อภิฺายปิ วสีภาวสพฺภาวโต. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘ปาทกชฺฌาเน อตฺตนา สมานสภาเวหิ ชวเนหิ ลทฺธาเสวเน สมฺมเทว วสีภาวปฺปตฺเต ¶ ปริสุทฺธตาทิอฏฺงฺคสมนฺนาคเมน สาติสเย ชาเต อภิฺา นิพฺพตฺตนฺติ, ตาสฺจ จตุตฺถชฺฌานิกตฺตา จตุตฺถชฺฌานภูมิโก เอว วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, โส จ ยถาวุตฺตคุเณน พลวตา ปาทกชฺฌาเนเนว กโตกาเสน สิชฺฌตีติ อโนกาสตาย อภิฺา น วิปากํ เทตี’’ติ. ตมฺปิ อการณํ อวิปากภาวโต ตาสํ. สติ หิ วิปากทายิภาเว วิปากสฺส อโนกาสโจทนา ยุตฺตา, อวิปากตา จ ตาสํ วุตฺตนยา เอว.
น โหตีติ วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ. อุทฺธจฺจเจตนาปิ อภิฺาเจตนาโต นิพฺพิเสเสน วุตฺตาติ มฺมาโน ‘‘วิปาเก’’ติ จ วจนํ น วิปาการหตามตฺตวาจโก, อถ โข วิปากสพฺภาววาจโกติ อาห ‘‘วิจาเรตพฺพ’’นฺติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘น หิ ‘วิปาเก’ติ วจนํ วิปากธมฺมวจนํ วิย วิปาการหตํ วทตี’’ติ. ตตฺถ ยํ วิจาเรตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – ยสฺมา อุทฺธจฺจเจตนา ปวตฺติวิปากเมว เทติ, น ปฏิสนฺธิวิปากํ, ตสฺมา ตสฺสา ปวตฺติวิปากสฺส วเสน วิภงฺเค วิปาโก อุทฺธโฏ. อุภยวิปากทายิกาย ปน เจตนาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย วุจฺจตีติ ตทภาวโต ปฏฺาเน ตสฺสา โส น วุตฺโต. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส) วุตฺตํ, ตํ ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ ¶ น โหตี’’ติ อิทมฺปิ วิฺาณสฺส ปจฺจยตาภาวมตฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เอวฺเหตฺถ อฺมฺํ ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อวิโรโธ ทฏฺพฺโพ.
เอตฺถาติ อุทฺธจฺจเจตนาย วิปากทาเน. อมตคฺคปเถติ เอวํนามเก ปกรเณ. ‘‘ปุถุชฺชนสนฺตาเน อกุสลา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, เสกฺขสนฺตาเน ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘ปุถุชฺชนานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘น วุจฺจนฺตี’’ติ อิมินา ปุถุชฺชเน ปวตฺตพหิทฺธาสํโยชนาทีนํ ภาวนาย ปหาตพฺพปริยายาภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ยทิ วุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา ตเมวตฺถํ ยุตฺติโต จ อาคมโต จ วิภาเวติ. ตตฺถ เกสฺจีติ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ. เกจีติ สกฺกายทิฏฺิอาทโย. กทาจีติ อตีตาทิเก กิสฺมิฺจิ กาเล. จตฺตตฺตาติอาทิ ¶ ปริยายวจนํ. อุปนิสฺสายาติ อุปนิสฺสยปจฺจเย กตฺวา.
อิตเรสนฺติ นทสฺสเนนปหาตพฺพานํ. น จ น โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอวฺจ กตฺวาติ ยถาวุตฺตปาฬิยํ อุทฺธจฺจคฺคหเณน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาโท คหิโต, น ยตฺถ กตฺถจิ อุทฺธจฺจนฺติ เอวมตฺเถ สติ. ตนฺติ ทิฏฺึ. ‘‘อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตฺเต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อนาคตา เอว ปหาตพฺพาติ? น, อุปฺปชฺชนารหา นิปฺปริยาเยน อนาคตา นาม, ปหาตพฺพา ปน น อุปฺปชฺชนารหาติ เตสํ อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตา วุตฺตา. ทสฺสนํ อเปกฺขิตฺวาติ ภาวิตํ ทสฺสนมคฺคํ อุปนิธาย. สหายวิรหาติ ทสฺสนปหาตพฺพสงฺขาตสหการิการณาภาวโต. วิปากํ น ชนยนฺตีติ สกลกิเลสปริกฺขเย วิย เอกจฺจปริกฺขเยปิ ตนฺนิมิตฺตํ ตํ เอกจฺจํ กมฺมํ น วิปจฺจตีติ อธิปฺปาโย. วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโตติ ปฏิสนฺธิปวตฺติเภทํ ทุวิธมฺปิ วิปากํ สนฺธายาห.
อกุสลานนฺติ ยถาวุตฺตวิเสสานํ ปุถุชฺชนสนฺตาเน อกุสลานํ. อปฺปหาตพฺพานนฺติ อปฺปหาตพฺพสภาวานํ กุสลาทีนํ. อปฺปหาตพฺพวิรุทฺธสภาวตา สาวชฺชตา. ‘‘เอวมฺปี’’ติอาทิ โทสนฺตรทสฺสนํ. เตน ยทิปิ เตสํ อกุสลานํ อิมสฺมึ ติเก ตติยปทสงฺคโห น สิยา, นวตฺตพฺพตา ปน อาปชฺชตีติ ทีเปติ. สพฺเพน สพฺพํ ธมฺมวเสน อสงฺคหิตสฺส ติกทุเกสุ นวตฺตพฺพตาปตฺตีติ อาห ‘‘นาปชฺชตี’’ติ. อิทานิ ตํ นวตฺตพฺพตานาปชฺชนํ ‘‘จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ’’ติอาทินา การณโต, นิทสฺสนโต จ วิภาเวติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ ติเก. นิโยคโตติ นิยมโต เอกนฺตโต. เตสนฺติ ปทตฺตยสงฺคหิตธมฺมานํ. ยถาวุตฺตปเทสุ วิยาติ ยถาวุตฺเตสุ ¶ ปมาทีสุ ตีสุ ปเทสุ. ยถา ภินฺทิตพฺพา จิตฺตุปฺปาทา, อิตเร จ ยถารหํ ราสิตฺตยวเสน ภินฺทิตฺวา ภชาปิตา ตํตํโกฏฺาสโต กตา, เอวํ. ตตฺถาปีติ จตุตฺถโกฏฺาเสปิ. ภชาเปตพฺเพติ นวตฺตพฺพภาวํ ภชาเปตพฺเพ. ตทภาวาติ ตสฺส จตุตฺถโกฏฺาสสฺส อภาวา. ตถาติ นวตฺตพฺพภาเวน.
อุปฺปนฺนตฺติเก อตีตา, อิธ ยถาวุตฺตอกุสลา น วุตฺตา, อเปกฺขิตพฺพภาเวนารหิตาปิ ตํสภาวานติวตฺตนโต ตถา วุจฺจนฺตีติ นวตฺตพฺพตาปตฺติโทสํ ปริหรนฺโต ตสฺส อุทาหรณํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อถ ¶ วา ยถา สปฺปฏิเฆหี’’ติอาทิมาห. ตํสภาโว เจตฺถ สาวชฺชตาวิสิฏฺโ ทสฺสนปหาตพฺพภาวาภาโว. ‘‘เอวฺจ สตี’’ติอาทินา อิมสฺมึ ปกฺเข ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ. ภาวนาย ปหาตพฺพานนฺติ ปริยาเยน นิปฺปริยาเยน จ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ, ตตฺถ ปุริมานํ อมุขฺยสภาวตฺตา, ปจฺฉิมานํ อวิปากตฺตา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว นตฺถิ, เอวํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํ วเสน เตสํ ปจฺจยลาโภปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ…เป… วุตฺตา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘เย หิ…เป… ปวตฺตนฺตี’’ติ. ตตฺถ น เต ทสฺสนโต อุทฺธํ ปวตฺตนฺตีติ เย ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา, เต ทสฺสเนน ปหาตพฺพปกฺขิกา เอวาติ เตสํ ภาวนาย ปหาตพฺพปริยาโย เอว นตฺถิ, กถํ เตสํ วเสน ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุจฺเจยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา เย ปุถุชฺชนสนฺตาเน น ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, น เต ปรมตฺถโต ภาวนาย ปหาตพฺพา. เย ปน เต เสกฺขสนฺตาเน, น เตสํ ปจฺจยภูตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา อตฺถีติ เอวมฺปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโยติ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ ทสฺสเนนปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา ทสฺสนปกฺขิกา, ตปฺปจฺจยํ อุทฺธจฺจสหคตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยาติ กถํ ตสฺส เอกนฺตภาวนาย ปหาตพฺพตา วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สราควีตราคสนฺตาเนสุ สหายเวกลฺเลน กมฺมสฺส วิปากาวิปากธมฺมตา วิย ปุถุชฺชนเสกฺขสนฺตาเนสุ อุทฺธจฺจสหคตสฺส วุตฺตนเยน สวิปากาวิปากตา สิทฺธา, ตสฺมา. ตสฺสาติ อุทฺธจฺจสหคตสฺส. ตาทิสสฺเสวาติ อุทฺธจฺจสหคตภาเวน เอกสภาวสฺส.
เอตฺถ จ ยํ ‘‘น ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ อตฺถิ อุทฺธจฺจสหคต’’นฺติอาทิ อมตคฺคปเถ วุตฺตํ, ตํ อการณํ, กสฺมา? ตสฺส เอกนฺเตน ภาวนาย ปหาตพฺพตฺตา. ยถาห ¶ ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา? อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ (ธ. ส. ๑๕๘๓). ยทิ หิ อุทฺธจฺจสหคตํ น ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ อภวิสฺส, ยถา อตีตารมฺมณตฺติเก ‘‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’’ติ ¶ วตฺวา ‘‘กามาวจรกุสลสฺส วิปากโต ทส จิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา ปุน วิภชิตฺวา วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา? นิโยคา ภาวนาย ปหาตพฺพา นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท สิยา ภาวนาย ปหาตพฺโพ, สิยา น วตฺตพฺโพ ‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ’ติปิ ‘ภาวนาย ปหาตพฺโพ’ติปี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ ตถา วุตฺตํ. ยา จ ตมตฺถํ ปฏิปาเทนฺเตน ‘‘ยทิ วุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา ยุตฺติ วุตฺตา, สาปิ อยุตฺติ. กสฺมา? ทสฺสเนน ปหาตพฺพารมฺมณานํ ราคทิฏฺิวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจานํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาวสฺเสว อิจฺฉิตตฺตา.
ยฺจ ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาโท วุตฺโตติ ทสฺเสตุํ อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส อุทฺธจฺจสฺส อนุทฺธรณํ การณภาเวน วุตฺตํ, ตมฺปิ อการณํ อฺถาปิ สาวเสสปาทสฺสนโต. ตถา หิ ‘‘อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส, อนาคโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๘.๒) เอเตสํ วิภงฺเค เจโตปริยาณคฺคหณํ กตฺวา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ อิมสฺส วิภงฺเค ลพฺภมานมฺปิ เจโตปริยาณคฺคหณํ น กตํ.
สหายภาโว จ ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํ ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส วิปากทานํ ปติ วิจาเรตพฺโพ. กึ อวิชฺชาทิ วิย ทานาทีนํ อุปฺปตฺติยา เอว วิกุปฺปาทนสมตฺถตาปาทเนน ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ สหการิการณํ โหนฺติ, อุทาหุ กิเลโส วิย กมฺมสฺส ปฏิสนฺธิทาเน สตีติ, กิฺเจตฺถ – ยทิ ปุริมนโย, โสตาปนฺนาทิเสกฺขสนฺตาเน ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส กิริยภาโว อาปชฺชติ, สหายเวกลฺเลน อวิปากสภาวตาย อาปาทิตตฺตา ขีณตณฺหาวิชฺชามาเน สนฺตาเน ทานาทิ วิย. อถ ทุติโย, ภาวนาย ปหาตพฺพาภิมตสฺสาปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาโว อาปชฺชติ, ปฏิสนฺธิทาเน สติ อปายคมนียสภาวานติวตฺตนโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว, ตสฺมา ปาฬิยา อฏฺกถาย ¶ จ อวิรุชฺฌนวเสเนตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สาติ ¶ อุทฺธจฺจเจตนา. วิฺาณปจฺจยภาเวติ สมฺปุณฺณวิปากวิฺาณปจฺจยภาเว. การณํ ทสฺเสนฺโตติ อวิกลผลุปฺปาทนาธิกาเร ตทภาวโต ยทิปิ อุทฺธจฺจเจตนา วิฺาณสฺส ปจฺจยภาเว อปเนตพฺพา, อวิชฺชาย ปน ปจฺจยุปฺปนฺนภาเว คเหตพฺพาติ อิมํ การณํ ทสฺเสนฺโต. สพฺพาปีติ วีสติปิ. เตนาห ‘‘เอกวีสตีติ วตฺตพฺพ’’นฺติ. ตนฺติ เยน การเณน สงฺขารคฺคหเณน อภิฺาเจตนาย อคฺคหณํ, ตํ การณํ. อิตราวจนสฺสาปีติ อุทฺธจฺจเจตนาวจนสฺสาปิ. กึ ปน ตํ? วิฺาณสฺส ปจฺจยภาวาภาโว เอว. เภทาภาวาติ กายวจีสงฺขารวเสน วิภาคาภาวโต. สํโยโคติ ติกนฺตรปทวเสน สํโยชนํ, ตถา สงฺคโหติ อตฺโถ.
สุขสฺาย คหณํ อสฺสาทนนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘สุขสฺาย…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘สุขสฺายา’’ติ จ อิทํ กรณตฺเถ กรณวจนํ. วิปลฺลาโส หิ ทุกฺเข สุขสฺา. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘อฺาเณนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เหตุมฺหิ กรณวจนํ วิปลฺลาสสฺสาทนานํ อวิชฺชาย เหตุภาวทสฺสนโต. ‘‘รโถ เสตปริกฺขาโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) ปริวารตฺโถปิ ปริกฺขารสทฺโท โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาย ปริวาเร’’ติ. ตณฺหาปริวาเรติ จ ตณฺหาย กิจฺจสาธเนน สงฺขารานํ สหการิการณภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริกฺขารฏฺโ สงฺขารฏฺโ วิย ภูสนฏฺโ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺขเต อลงฺกเต’’ติ อาห. ปริกฺขโรติ ยถา ผลทานสมตฺถา โหนฺติ, ตถา สงฺขโรติ. อมรณตฺถาติ อมตตฺถา, นิพฺพานตฺถาติ อตฺโถ. ทุกฺกรกิริยาติ ปฺจาตปตปฺปนาทิทุกฺกรจริยา. เทวภาวาย ตโป เทวภาวตฺถํ ตโป. มาเรตีติ มโร เหตุอตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา. อมงฺคลมฺปิ มงฺคลปริยาเยน โวหรนฺติ มงฺคลิกาติ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺเ อทิฏฺสทฺโท วิยา’’ติ ยถา ‘‘อสิเว สิวา’’ติ.
ปปาตํ ปตนทุกฺขสทิสนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ชาติอาทิปปาตทุกฺข’’นฺติ. อินฺททุทฺทพฺรหฺมกูฏสฺิตปพฺพตสิขรปฺปปาโต มรุปปาโต. ตํ ปฺุผลํ อตฺโถ ปโยชนํ เอตสฺสาติ ตทตฺโถ.
ปริพฺพาชิกาย ¶ ตรุณิยา. อสวโส อเสริวิหารี. กิเลสาสุจิปคฺฆรเณน ปณฺฑิเตหิ ชิคุจฺฉนียํ. ราคาทิปริฬาเหน, กฏุกวิปากตาย จ ทุกฺขํ. อารภติ กโรติ. สภยสฺสาปิ ปิสาจนครสฺส กามคุณสมิทฺธิยา สุขวิปลฺลาสเหตุภาโว วิยาติ โยชนา. ภินฺนชาติเยน อโวมิสฺสตา นิรนฺตรตา. ชราย มรเณน จ อฺถตฺตํ วิปริณาโม.
‘‘น ¶ ตาวาหํ ปาปิม ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วจนโต ‘‘ตาต เอหิ, ตาว อิทํ รชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติอาทีสุ ยทิปิ ปริมาณนิยมนกมปทปูรณมตฺตาทีสุปิ ตาว-สทฺโท ทิสฺสติ, อิธ ปน วกฺขมานตฺตาเปกฺโข อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ตาวาติ วตฺตพฺพนฺตราเปกฺโข นิปาโต’’ติ. อวิชฺชาปจฺจยา ปน…เป… ทสฺเสตีติ ปุพฺเพนาปรํ อฏฺกถายํ อวิรุชฺฌนมาห.
ราคาทิอสฺสาทนกาเลสูติ ราคาทีนํ อสฺสาทนกาเลสุ. ‘‘ราคทิฏฺิสมฺปยุตฺตายา’’ติ เอตฺถ ราคสมฺปยุตฺตาย ตาว อวิชฺชาย โยชนา โหตุ ราคสฺส อสฺสาทนภาวโต, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาย ปน กถนฺติ อาห ‘‘ตทวิปฺปยุตฺตา จ ทิฏฺี…เป… เวทิตพฺพา’’ติ. ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺสาติ ราคาทิสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺส. อวิชฺชารมฺมณาทิตนฺติ อวิชฺชาย อารมฺมณาทิตํ. อาทิ-สทฺเทน อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสเย, อนนฺตราทิเก จ ปจฺจเย สงฺคณฺหาติ. อนวิชฺชารมฺมณสฺสาติ น อวิชฺชารมฺมณสฺส อวิชฺชํ อนารพฺภ ปวตฺตสฺส. อารมฺมณาธิปติอนนฺตราทิปจฺจยวจเนสูติ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส อนวิชฺชารมฺมณสฺส, อนนฺตราทิปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส ปมชวนสฺส, ทฺวีสุปิ วุตฺตสฺส อวิชฺชารมฺมณสฺส ทุติยาทิชวนสฺสาติ โยเชตพฺพํ. อนนฺตรปจฺจยลาภิโน อนนฺตราทินา, สหชาตสฺส เหตุอาทินา, อสหชาตสฺส อุปนิสฺสยาทินา สงฺขารสฺส อวิชฺชา ปจฺจโย โหตีติ อยมตฺโถ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติอาทินา ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ. สมติกฺกมภวปตฺถนาวเสนาติ อวิชฺชาสมติกฺกมตฺถาย อรูปาวจรชฺฌานานิ อุปฺปาเทนฺตสฺส, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา อรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ฌานานิ นิพฺพตฺเตนฺตสฺสาติ ปฺุาภิสงฺขาเร วุตฺเตน นเยน, วุตฺตนยานุสาเรนาติ อตฺโถ.
เอกการณวาโท ¶ อาปชฺชติ ยถา ปกติอิสฺสรปชาปติปุริสกาลาทิวาทา. เอกสฺมึเยว โลกสฺส การณภูเต สติ ตโต สกลาย ปวตฺติยา อนวเสสโต, สพฺพทา จ ปวตฺติตพฺพํ อเปกฺขิตพฺพสฺส การณนฺตรสฺส อภาวโต. น เจตํ อตฺถิ กเมเนว ปวตฺติยา ทสฺสนโต. การณนฺตราเปกฺขตาย ปน เอกการณวาโท อปหโต สิยา เอกสฺส จ อเนกสภาวตาภาวา. ยตฺตกา ตโต นิพฺพตฺตนฺติ, สพฺเพหิ เตหิ สมานสภาเวเหว ภวิตพฺพํ, น วิสทิเสหิ, อิตรถา ตสฺส เอกภาโว เอว น สิยาติ อิมมตฺถมาห ‘‘สพฺพสฺส…เป… ปตฺติโต จา’’ติ. ปาริเสเสนาติ เอกโต เอกํ, เอกโต อเนกํ, อเนกโต เอกนฺติ อิเมสุ ตีสุ ปกาเรสุ อวิชฺชมาเนสุ อนุปลพฺภมาเนสุ ปาริเสสาเยน. อเนกโต อเนกนฺติ เอกสฺมึ จตุตฺเถ เอว จ ¶ ปกาเร วิชฺชมาเน. ยทิทํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทินา เอกเหตุผลทีปนํ, ตํ เอตฺถ เทสนาวิลาเสน, วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา ธมฺมานํ ปธานปากฏาสาธารณภาววิภาวนตฺถนฺติ เอกเหตุผลทีปนํ น นุปปชฺชติ อุปปชฺชติเยวาติ ทสฺเสติ ‘‘ยสฺมา’’ติอาทินา.
ยถาผสฺสนฺติ สุขเวทนียาทิจกฺขุสมฺผสฺสาทิตํตํผสฺสานุรูปนฺติ วุตฺตํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขเวทนีย’’นฺติอาทึ วตฺวา ‘‘เวทนาววตฺถานโต’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมาเนสูติ อวิสิฏฺเสุ. ผสฺสวเสนาติ สุขเวทนียาทิผสฺสวเสน. วิปริยายาภาวโตติ พฺยตฺตยาภาวโต. น หิ กทาจิ สุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ทุกฺขเวทนา, ทุกฺขาทิเวทนียํ วา ผสฺสํ ปฏิจฺจ สุขเวทนา อุปฺปชฺชติ. สุขาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาทีนนฺติ สุขาทีนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชาทีนฺจ เวทนานํ. โอฬาริกสุขุมาทีติ อาทิ-สทฺเทน หีนปณีตาทิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยํ อุปาทาย ยา เวทนา ‘‘โอฬาริกา, หีนา’’ติ วา วุจฺจติ, น ตํเยว อุปาทาย ตสฺสา กทาจิปิ สุขุมตา ปณีตตา วา อตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘โอฬาริกสุขุมาทิสงฺกราภาวโต’’ติ. ยถาวุตฺตสมฺผสฺสสฺสาติ สุขเวทนียาทิผสฺสสฺส. สุขเวทนียผสฺสโตเยว สุขเวทนา, น อิตรผสฺสโต. สุขเวทนียผสฺสโต สุขเวทนาว, น อิตรเวทนา. ตถา เสเสสุปีติ อุภยปทนิยมวเสน ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานํ, ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานนฺติ ปททฺวเยน การณนฺตราสมฺมิสฺสตา ผลสฺส, ผลนฺตราสมฺมิสฺสตา ¶ จ การณสฺส ทสฺสิตา ปมปกฺเข อสํกิณฺณตาววตฺถานนฺติ กตฺวา. ทุติยปกฺเข ปน ปจฺจยเภทภินฺเนน การณวิเสเสน ผลวิเสโส, ผลวิเสเสน จ การณวิเสโส นิจฺฉียตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต สนฺนิฏฺานํ ววตฺถานนฺติ กตฺวา. ปุริมสฺมิฺจ ปกฺเข ธมฺมานํ อสงฺกรโต ววตฺถานํ วุตฺตํ, ทุติยสฺมิฺจ ยถาววตฺถิตภาวชานนนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. อุตุอาทโยติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตวิสมาจารา ปิตฺตวาตาทโยปิ สงฺคยฺหนฺติ. เอกสฺมึ โทเส กุปิเต อิตเรปิ โขภํ คจฺฉนฺติ. สนฺเตสุปิ เตสุ เสมฺหปฏิกาเรน โรควูปสมโต เสมฺโห ปากโฏติ อตฺโถ.
‘‘ภโว’’ติ วุตฺตานํ สงฺขารานํ การณสฺส ปการณํ, การณเมว วา ตณฺหาติ อาห ‘‘ตณฺหาย สงฺขารการณภาวสฺส วุตฺตตฺตา’’ติ. ตสฺสาปีติ ตณฺหายปิ. ตณฺหา หิ กามาสโว ภวาสโว จ. กามาสวภวาสวา กามุปาทานํ, ทิฏฺาสโว อิตรุปาทานนฺติ อาห ‘‘จตุรุปาทานภูตา ¶ กามภวทิฏฺาสวา’’ติ. เต จ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ วจนโต อุปาทานฺจ, ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ วจนโต ตณฺหา จ สงฺขารสฺส การณนฺติ ปากฏา. อนสฺสาทนีเยสุ อเนกาทีนวโวกิณฺเณสุ สงฺขาเรสุ อสฺสาทานุปสฺสนา อวิชฺชาย วินา น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน…เป… ทสฺสิตา โหตี’’ติ. ขีณาสวสฺส สงฺขาราภาวโตติ พฺยติเรเกนปิ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวํ วิภาเวติ. เอกนฺเตน หิ ขีณาสโวว วิทฺทสุ. เอเตน พาลานํ เอว สมฺภวโต อวิชฺชาย อสาธารณตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ. วตฺถารมฺมณาทีนิ หิ อิตเรสมฺปิ สาธารณานิ. วตฺถารมฺมณตณฺหุปาทานาทีนิ วิย อวิชฺชาปิ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณการณนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปฺุภวาที’’ติอาทิ. ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปฺุาเนฺชภวา คเหตพฺพา. ปฺุภโวติ ปฺุาภิสงฺขารเหตุโก อุปปตฺติภโว. เอส นโย เสเสสุ. เอตฺถ จ กิจฺจกรณฏฺานเภเทน กิจฺจวตี อวิชฺชา ภินฺทิตฺวา ทสฺสิตา. น หิ ยทวตฺถา อวิชฺชา ปฺุาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสโย, ตทวตฺถา เอว อิตเรสํ อุปนิสฺสโยติ สกฺกา วิฺาตุํ. เอตฺถ จ ภวาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนนฺติ อตฺถโต ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ตํตํภวสงฺขาตทุกฺขเหตุสภาวานภิสมยนิมิตฺตตา.
านนฺติ ¶ ธรมานตา อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘านวิรุทฺโธติ อตฺถิตาวิรุทฺโธ’’ติ. านาวิรุทฺธา จกฺขุรูปาทโย. ‘‘ปุริมจิตฺตฺหี’’ติอาทินา านวิรุทฺโธ จ อุทาหโฏติ อาห ‘‘น อิทํ เอกนฺติกํ สิยา’’ติ. ‘‘จกฺขุรูปาทโย’’ติอาทินา หิ ปรโต านาวิรุทฺธา อุทาหรียนฺตีติ. ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา หิ ปจฺฉา ปวตฺตมานสิปฺปาทิกิริยานํ สโมธานาสมฺภวา านวิโรโธติ ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถตุํ ‘‘น จ สิปฺปาทีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตนฺติ ปฏิสนฺธิอาทิานํ. อิธาติ านสภาวกิจฺจาทิคฺคหเณ. อาทิ-สทฺเทน อารมฺมณภูมิสนฺตานาทิวิรุทฺธา คเหตพฺพา, เต จ อนุโลมโต โคตฺรภุสฺส, โคตฺรภุโต มคฺคสฺส ลิงฺคปริวตฺตนาทิวเสน จ ปวตฺติยํ เวทิตพฺพา. นมนรุปฺปนวิโรธา สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโยติ โยชนา. ตตฺถ นมนรุปฺปนนฺติ อรูปรูปภาวเมว ทสฺเสติ. กมฺมํ เจตนาสภาวํ, รูปํ รุปฺปนสภาวนฺติ สภาววิรุทฺธํ. มธุรมฺพิลรสาทีติ ขีรํ มธุรรสํ ปิตฺตุปสมนํ มธุรวิปากสภาวํ, ทธิ อมฺพิลรสํ ปิตฺตพฺรูหนํ กฏุกวิปากสภาวนฺติ อโต สภาววิโรธา.
ทธิอาทีนีติ ทธิปลาลานิ. ภูติณกสฺสาติ ภูติณกนามกสฺส โอสธิวิเสสสฺส. อวี ¶ นาม เอฬกา, ตา ปน เยภุยฺเยน รตฺตโลมกา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘รตฺตา เอฬกา’’ติ. วิปากานมฺปิ ปจฺจยภาวโต, อวิปากานมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวโต น วิปากธมฺมวิปากาเปกฺขา ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาติ วุตฺตํ ‘‘วิปากาเยว เต จ นา’’ติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตทวิปากานนฺติ ตสฺสา อวิชฺชาย อวิปากภูตานํ. น น ยุชฺชติ ยุชฺชติ เอว ปจฺจยุปฺปนฺนตามตฺตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตทวิรุทฺธานนฺติ ตาย อวิชฺชาย อวิรุทฺธานํ.
ปุพฺพาปริยววตฺถานนฺติ กายปวตฺติคติชาติอาทีนํ ยถารหํ ปุพฺพาปรภาเวน ปวตฺติ, สา ปน เกนจิ อกฏา อกฏวิธา ปฏินิยตสภาวาติ ทสฺเสตุํ นิยติวาทินา วุตฺตนิทสฺสนํ อาหรนฺโต ‘‘อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณีนํ วิยา’’ติ อาห. ทุติยวิกปฺเป สงฺคตีติ อธิจฺจสมุปฺปาโท ยาทิจฺฉิกตา, ยํ สนฺธาย ‘‘ยทิจฺฉาย ปวตฺตนํ นิวตฺตนํ ยทิจฺฉายา’’ติอาทิ วุจฺจติ. ภาโวติ ธมฺมานํ สภาวสิทฺธิตา, ยํ สนฺธาย วทนฺติ ‘‘กณฺฏกสฺส โกฏิติขิณภาวํ, กปิฏฺผลสฺส วฏฺฏภาวํ, มิคปกฺขีนํ วา วิจิตฺตวณฺณสณฺานาทิตํ โก อภิสงฺขโรติ, เกวลํ สภาวสิทฺโธวายํ วิเสโส’’ติ. เตนาห ‘‘สพฺเพ สตฺตา, สพฺเพ ปาณา ¶ , สพฺเพ ภูตา, สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๘). เอเตหิ วิกปฺปเนหีติ จุติอาทีสุ สมฺมูฬฺหตาย ‘‘สตฺโต มรตี’’ติอาทิวิกปฺปเนหิ การณภูเตหิ. อกุสลํ จิตฺตํ กตฺวาติ อโยนิโสมนสิการปริพฺรูหเนน จิตฺตํ อกุสลํ กตฺวา.
สุตฺตาทิธมฺมนฺติ สุตฺตเคยฺยาทิปริยตฺติธมฺมํ. ปริยตฺติธมฺมฺหิ สมฺมเทว ชานนฺโต ปฏิปตฺติธมฺมํ ปริปูเรตฺวา ปฏิเวธธมฺเม ปติฏฺหติ. ตนฺติ ตํ ชานนํ, นิพฺพานาภิสมโยติ อตฺโถ.
สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๗. ยถาวุตฺตสงฺขารปจฺจยาติ ปฺุาภิสงฺขาราทิวุตฺตปฺปการสงฺขารปจฺจยา. วิฺาณาทโย เวทนาปริโยสานา ¶ เอตรหิ วิปากวฏฺฏภูตา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ตํกมฺมนิพฺพตฺตเมว วิฺาณํ ภวิตุํ อรหตี’’ติ. อยฺจ อตฺถวณฺณนา ธาตุกถาปาฬิยา น สเมตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธาตุกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธาตุกถายํ วจนโต สพฺพวิฺาณผสฺสเวทนาปริคฺคโห กโต ธาตุกถายนฺติ โยชนา. สปฺปเทสาติ สาวเสสา, วิปากา เอวาติ อธิปฺปาโย. วิฺาณาทีสุ หิ วิปาเกสุเยว อธิปฺเปเตสุ ยถา –
‘‘วิปาเกหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ปฺจหิ ขนฺเธหิ ทฺวาทสหายตเนหิ เตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา. กติหิ อสงฺคหิตา? น เกหิจิ ขนฺเธหิ น เกหิจิ อายตเนหิ ปฺจหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๔๗๗) –
วิปากวิปฺปยุตฺตานํ สงฺคหาสงฺคหา วิสฺสชฺชิตา, เอวมิธาปิ วิสฺสชฺชิตพฺพํ สิยา. เตนาห ‘‘วิปากา ธมฺมาติ อิมสฺส วิย วิสฺสชฺชนํ สิยา’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตาสงฺคหิตปทนิทฺเทเส นิปฺปเทสาว วิฺาณผสฺสเวทนา คหิตา, ตสฺมา. ตตฺถาติ ธาตุกถายํ. อภิธมฺมภาชนียวเสนาติ ¶ อิมสฺมึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค อภิธมฺมภาชนียวเสน. เตนาห ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา จา’’ติอาทิ. เตน ยถาวุตฺตอตฺถวณฺณนา สุตฺตนฺตภาชนียวเสน วุตฺตาติ ยถาทสฺสิตํ วิโรธํ ปริหรติ. ยทิ อภิธมฺมภาชนียวเสน ธาตุกถาปาฬิ ปวตฺตา, อถ กสฺมา ‘‘กามภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. รูปภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ ปฺจหายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต’’ติอาทินา (ธาตุ. ๖๗-๖๘) อุปาทินฺนกฺขนฺธวเสน ภโว วิสฺสชฺชิโตติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ภโว ปน…เป… น อภิธมฺมภาชนียวเสน คหิโต’’ติ. เอวฺจ กตฺวาติ อภิธมฺมภาชนียวเสน อคฺคหิตตฺตา เอว. ตตฺถาติ ธาตุกถายํ. วิปากฺเหตนฺติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ยถาวุตฺตพาตฺตึสวิธวิฺาณํ วิปากํ, ตสฺมา ตํ สงฺขารปจฺจยนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณสฺส วิปากตฺตา’’ติอาทิมาห.
‘‘โสมนสฺสสหคตาเนว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ อิทํ วิจาเรตพฺพํ อุเปกฺขาสหคตกุสลากุสลชวนานนฺตรมฺปิ โสมนสฺสสหคตตทารมฺมณสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ อฏฺกถายํ ‘‘จตุนฺนํ ปน ทุเหตุกกุสลจิตฺตานํ อฺตรชวนสฺส ปริโยสาเน อเหตุกจิตฺตํ ตทารมฺมณภาเวน ¶ ปติฏฺาตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา) วตฺวา ‘‘อิฏฺารมฺมเณ ปน สนฺตีรณมฺปิ ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสสหคตเมวา’’ติ วุตฺตํ. กุสลากุสลฺหิ อภิอิฏฺมฺปิ อารมฺมณํ ตถาภิสงฺขรเณน กทาจิ น มชฺฌตฺตํ กตฺวา น ปวตฺตติ, วิปากํ ปน ยถาสภาวโตว อารมฺมณรสํ อนุภวติ. เตนาห ‘‘น สกฺกา วิปากํ วฺเจตุ’’นฺติ. กิริยชวนานํ ปน วิสยาภิสงฺขรณสฺส พลวภาวโต ตทนนฺตรานํ ตทารมฺมณานํ ยถาวิสยํ เวทนาวเสน ตทนุคุณตา อิจฺฉิตา. เย ปน กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณํ น อิจฺฉนฺติ, เตสํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยํ ปน ‘‘ชวเนน ตทารมฺมณํ นิยเมตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ จ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถาวุตฺโต วิจาเรตพฺโพ. ติเหตุกชวนาวสาเน จ ทุเหตุกชวนาวสาเน จาติ สมุจฺจยตฺโถ จ-สทฺโท. เกจิ ปน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘กุสลชวนาวสาเนปิ อเหตุกตทารมฺมณํ โหตีติ ‘เยภุยฺเยนา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. โลภจิตฺตสฺส วา สตฺตานํ พหุลํ อุปฺปชฺชนโต ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ ¶ วุตฺตํ. ‘‘สกึ วา’’ติ วจนสิลิฏฺตาวเสน วุตฺตํ ยถา ‘‘อฏฺ วา ทส วา’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิรตฺตติรตฺตาทีสุ วิย เวทิตพฺพ’’นฺติ อาห. วา-สทฺทสฺส อภาวาติ สุยฺยมานสฺส วา-สทฺทสฺส อภาเวน วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ตตฺถาปิ วา-สทฺโท ลพฺภเตว. ติรตฺตํ ปน วาสาทิเก ลพฺภมาเน ทิรตฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทิรตฺตคฺคหณํ วิสุํ น โยเชตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘วจนสิลิฏฺตามตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. เกวลํ ‘‘ติรตฺต’’นฺติ วุตฺเต อฺตฺถ วาสาทินา อนฺตริตมฺปิ ติรตฺตํ คณฺเหยฺย, ทิรตฺตวิสิฏฺํ ปน ติรตฺตํ วุจฺจมานํ เตน อนนฺตริตเมว ติรตฺตํ ทีเปตีติ อาห ‘‘นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา’’ติ. พลวรูปาทิเก อารมฺมเณติ อติมหติ รูปาทิอารมฺมเณ. ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ เอเตน เอกจิตฺตกฺขณายุเกปิ วิสเย กทาจิ ตทารมฺมณํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ ‘‘สกึ เอวา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘สพฺพทฺวาเรสุ ตทารมฺมเณ ทฺเว เอว จิตฺตวารา อาคตา’’ติ วุตฺตตฺตา อยมฺปิ อตฺโถ วิจาเรตฺวา คเหตพฺโพ. อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยาติ อตฺตโน อตฺตโน อนุจฺฉวิเกน ปฏิสนฺธานกิจฺเจน.
‘‘กติ ปฏิสนฺธิโย, กติ ปฏิสนฺธิจิตฺตานี’’ติอาทินา ปฏิสนฺธิวิจาโร ปรโต วิตฺถารโต กถียตีติ อาห ‘‘ปฏิสนฺธิกถา มหาวิสยาติ กตฺวา ปวตฺติเมว ตาว ทสฺเสนฺโต’’ติ. อเหตุกทฺวยาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหาวิปากมหคฺคตวิปาเก สงฺคณฺหาติ. ทฺวารนิยมานิยมาวจนนฺติ ทฺวารสฺส นิยตานิยตาวจนํ, นิยตทฺวารํ อนิยตทฺวารนฺติ วา อวจนนฺติ อตฺโถ. อนุปฺปตฺติโตติ น อุปฺปชฺชนโต. ยทิปิ ‘‘อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยา’’ติ ปฏิสนฺธิปิ ¶ เหฏฺา คหิตา, ‘‘ปวตฺติยํ ปนา’’ติ อธิกตตฺตา ปน ปวตฺติเยว ปจฺจามฏฺา. ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน ปมุทฺทิฏฺานิ สพฺพานิปิ โลกิยวิปากจิตฺตานิ อนฺวาเทสํ อรหนฺตีติ อาห ‘‘ตตฺรสฺสาติ ปวตฺติยํ พาตฺตึสวิธสฺสา’’ติ.
ยถา กามาวจรปฏิสนฺธิวิฺาณสงฺขาตสฺส พีชสฺส อภาเวปิ รูปภเว จกฺขุโสตินฺทฺริยปวตฺติอานุภาวโต จกฺขุโสตวิฺาณานํ สมฺภโว, เอวํ เตเนว การเณน สมฺปฏิจฺฉนาทีนมฺปิ ตตฺถ สมฺภโวติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อินฺทฺริยปวตฺติอานุภาวโต เอวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุโสตทฺวารเภเทนาติ จกฺขุโสตทฺวารวิเสเสน ภวิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ จกฺขุโสตทฺวารสฺส. ทฺวารวนฺตาเปกฺโข ทฺวารภาโวติ อาห ‘‘วิฺาณวีถิเภทายตฺตตฺตา’’ติ. ตสฺมิฺจ สตีติ ตสฺมึ ¶ ทฺวารเภเท วีถิเภเท จ สติ. ภาโวติ อุปฺปตฺติ. ชนกํ อนุพนฺธติ นามาติ ตํสทิเส ตพฺโพหารํ กตฺวา วุตฺตํ.
อิทํ ปน วตฺวาติ รูปารูปาวจรธมฺเม อารพฺภ ตทารมฺมณานุปฺปตฺตึ วตฺวา. ภาวนายาติ อกุสลภาวนาย สํกิเลสวฑฺฒเนน, สํกิลิฏฺสมาธาเนนาติ อตฺโถ. ตถา หิ โลภโทสสหคตจิตฺตุปฺปาเทปิ สมาธิ ‘‘อวฏฺิติ อวิสาหาโร อวิกฺเขโป อวิสาหฏมานสตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๑) นิทฺทิฏฺโ. อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถนฺติ อฏฺานภาวทสฺสนตฺถํ, อนารมฺมณภาวทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.
‘‘เกน กตฺถา’’ติ ปทสฺส ‘‘เกน จิตฺเตน กสฺมึ ภเว’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอกูนวีสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน เตน จิตฺเตนาติ เตน เตน อเหตุกทฺวยาทิจิตฺเตน สทฺธึ ปวตฺตมานา ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมา เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิโยติ โยชนา. เตน เตน จิตฺเตน สหชาตาทิปจฺจยตาย เหตุภูเตน, กรณภูเตน วา. ตตฺถ ตตฺถ ภเว.
อนุสฺสรณตฺโถ พฺยาปาโร อนุสฺสรณพฺยาปาโร. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. ตีสุ ชวนวาเรสุ…เป… ภวิตพฺพนฺติ กมฺมาทิอุปฏฺานสฺส ปรโต ตีหิ ชวนวาเรหิ ปวตฺติตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อเนก…เป… อภิปฺปลมฺพนฺจ โหตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกชวนวารสฺเสว กมฺมาทิอุปฏฺาเนน มรณํ น สมฺภวติ, ตสฺมา. โผฏฺพฺพสฺสาติ ปหารโผฏฺพฺพสฺส ¶ . ภวงฺคจิตฺเต วตฺตมาเน, อนฺตรนฺตรา ปฺจทฺวารวีถิยา วา วตฺตมานาย โผฏฺพฺพสมาโยเค ปมํ กายทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติ ยุตฺตา, ตถาปิ กิสฺมิฺจิ จินฺติยมาเน ตเมวารพฺภ เอกสฺมึ ชวนวาเร ปวตฺเต ปจฺฉา กายทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติ สิยา จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติภาวโตติ เกจิวาทสฺส อธิปฺปาโย. ยถา นิทฺทายนฺตสฺส โผฏฺพฺพสมาโยเคน ปพุชฺฌนกาเล มโนทฺวาราวชฺชนเมว อาวฏฺเฏติ, น กายทฺวาราวชฺชนํ. ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น ปฏิพุชฺฌตี’’ติ (วิภ. ๗๕๑) หิ วุตฺตํ. เอวํสมฺปทํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. ลหุกปจฺจุปฏฺานนฺติ ลหุอุปฏฺานํ. มโนทฺวารสฺส วิสโย กมฺมาทิโก. ลหุกตาติ ลหุปฏฺานตา. รูปานนฺติ จกฺขาทิรูปธมฺมานํ. วิสยภาเวปีติ รูปายตนาทิวิสยสพฺภาเวปิ. เยสํ วิสโย อตฺถีติ เยสํ นิปฺปริยาเยน ¶ วิสโย อตฺถิ. ตํทสฺสนตฺถเมวาติ เตสํ สารมฺมณานํเยว ทสฺสนตฺถํ. เตนาติ ตสฺมา.
‘‘ภูมิจิตฺตุปฺปาทาทิวเสนา’’ติ อิทํ กมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ, กมฺมนิมิตฺตสฺสปิ วเสน ลพฺภเตว ตสฺส ฉฬารมฺมณภาวโต. คตินิมิตฺตสฺส ปน ปเภโท นีลาทิโกเยว.
อนุปจฺฉินฺเนสุ มคฺเคน อปฺปหีเนสุ. ตฺจ กมฺมาทึ. ภวนฺตรนินฺนาทิตา จิตฺตสนฺตานสฺส ภวปตฺถนาย ตถาภิสงฺขตตฺตา. ยสฺมิฺหิ จิตฺตสนฺตาเน ปฺุาทิเจตนาย วิย ภวปตฺถนาย ปริภาวนา อนุปจฺฉินฺนา, ตตฺเถว ภวนฺตรปริยาปนฺนจิตฺตุปฺปตฺติ. ตํ ปน จิตฺตํ ตถา อุปฺปชฺชมานํ ตาย วินามิตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิต’’นฺติ. สพฺพตฺถาติ สุคติทุคฺคตีสุ. อิตรายาติ สุคติปฏิสนฺธินินฺนาย จุติยา. ‘‘นิจฺฉินนฺตี’’ติ วุตฺตสฺส นิจฺฉยสฺส นิพนฺธนํ อาคมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา’’ติอาทิมาห.
อกุสเล หิ ทุคฺคตูปนิสฺสเย นิยมิเต กุสลํ สุคตูปนิสฺสโยติ นิยมิตเมว โหตีติ.
อนิฏฺํ อารมฺมณํ อาห ยโต ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทสฺสียตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ‘‘ราคาทิเหตุภูต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตมฺปิ หิ…เป… โหตี’’ติ. ตมฺปีติ อนิฏฺารมฺมณมฺปิ. ยสฺมา ปน หีนํ อารมฺมณนฺติ อารมฺมณภูตกมฺมนิมิตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘อกุสลวิปากชนกกมฺมสหชาตานํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมนิมิตฺตภูตฺหิ อารมฺมณํ ยํ วิปากสฺส ชนกํ กมฺมํ, เตน สหชาตานํ, ตสฺส กมฺมสฺส สทิสาสนฺนชวนสหชาตานฺจ ราคาทีนํ ¶ อารมฺมณปจฺจยสงฺขาโต เหตุ โหติ, โส เอว จสฺส หีนภาโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมวเสน อนิฏฺนฺติ หีนสฺส อกุสลกมฺมสฺส อารมฺมณโต อารมฺมณตาวเสน หีนนฺติ กตฺวา อนิฏฺํ, สภาเวน อิฏฺมฺปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อฺถา จา’’ติอาทินา กมฺมนิมิตฺตารมฺมณสฺส อกุสลวิปากสฺส น สมฺภโวติ ทสฺเสติ. อาสนฺนกตกมฺมารมฺมณสนฺตติยนฺติ อาสนฺนกตสฺส กมฺมสฺส อารมฺมณสนฺตาเน. ตํสทิสนฺติ ยถาวุตฺตกมฺมารมฺมณสทิสํ. ปฏิสนฺธิอารมฺมณูปฏฺาปกนฺติ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณสฺส อุปฏฺาปกํ. จุติอาสนฺนชวนานํ ปฏิสนฺธิชนกตฺเต อยมตฺโถ ลพฺเภยฺยาติ โจทนํ มนสิ ¶ กตฺวา อาห ‘‘น จ ปฏิสนฺธิยา’’ติอาทิ. ตํสมานวีถิยนฺติ ตาย ปฏิสนฺธิยา เอกวีถิยํ. น อสฺสาทิตานีติ อสฺสาทนภูตาย ตณฺหาย น อามฏฺานิ.
สมตฺตาติ ปริปุณฺณา, ปริยตฺตา วา. ‘‘มรณกาเล…เป… สมาทินฺนา’’ติ วจนโต ยถาวุตฺตจุติอาสนฺนชวนานํ ปฏิสนฺธิทานํ สิทฺธนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น จ ทุพฺพเลหี’’ติอาทิ. ‘‘วกฺขติ จา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ อุปจเยน ปากฏตรํ กโรติ. าณวตฺถุวิภงฺควณฺณนายฺหิ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตี’’ติ ปทานํ อตฺถํ วิวรนฺโต วกฺขติ ‘‘สพฺพมฺปิ…เป… ปฏิกฺขิตฺตานี’’ติ. ตตฺถ ปฏิวิชานนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อิริยาปถกปฺปนกายวจีกมฺมุปฏฺาปนกุสลากุสลธมฺมสมาทานสมาปชฺชนวุฏฺานานิ สงฺคณฺหาติ. อุปปชฺชนสุปินทสฺสนาทีนํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว ปวตฺติ ปากฏาติ ตานิ พหิ กโรนฺโต ‘‘จวนปริโยสานํ กิจฺจ’’นฺติ อาห. สหชวนกานีติ ชวนสหิตานิ, ปฺจทฺวาริกชวเนหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ.
ตตฺถาติ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตี’’ติ ปาฬิวณฺณนายํ. น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ น สพฺเพ รูปาทิธมฺมา ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ ยถาธิปฺเปตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลํ วา อกุสลํ วา น ปฏิวิชานาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘เยส’’นฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – เยสํ กุสลากุสลธมฺมานํ ปฏิวิภาวนปฺปวตฺติยา สิทฺธา วิปากธมฺมตา โยนิโสมนสิการอโยนิโสมนสิการสมุฏฺานา, ยาย สุขํ วา ทุกฺขํ วา ตํสนฺตาเน อนฺเวติ อนุคจฺฉติ, ปฺจวิฺาณานํ สา วิปากธมฺมตา ปฏิกฺขิตฺตา ปฏิเสธิตาติ. ตาทิสเมวาติ กุสลากุสลธมฺมปฏิวิชานนสทิสเมว. ยทิ ปฺจทฺวาเร ยถาวุตฺตกิจฺจสฺส ¶ กรเณ สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ, กถํ ตตฺถ จวนุปปชฺชนานิ สมฺภวนฺตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตทารมฺมณานนฺตรํ ปนา’’ติอาทิ. นิปฺปริยาเยน มโนทฺวาริกภาโว มโนทฺวาราวชฺชนุปฺปตฺติปุพฺพโกติ ตทภาเวนาห ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติ. อวเสเสกจิตฺตกฺขณายุเก รูปาทิมฺหีติ โยชนา.
อุปจาโร วิย ทฏฺพฺพา สมานารมฺมณตฺตา, อุปปตฺตินิมิตฺตตฺตา จ. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. มหคฺคตาวสานํ วทนฺตีติ ยถาปจฺจยํ มหคฺคตสมาปตฺตึ ¶ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตสฺส สา วีถิ อุปฺปชฺชติ, ตโต จุติจิตฺตํ โหตีติ วทนฺติ. อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธาติ นว กามาวจรสุคติจุติโย, ทฺเว วิฺาณฺจายตนเนวสฺานาสฺายตนอารุปฺปจุติโยติ เอวํ อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธา สุคติจุติโย. ปฺจ รูปาวจรา, วุตฺตาวเสสา ทฺเว อรูปาวจราติ นวตฺตพฺพารมฺมณา สตฺตวิธา จุติโย. ทุคฺคติจุติ ปน ปรโต วุจฺจตีติ อิธ น คหิตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ทุคฺคติจุติยา ปน…เป… น ทสฺสิตา’’ติ.
เอวมาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สุทฺธาย วา ชวนวีถิยา’’ติอาทิวจนํ สงฺคณฺหาติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สุทฺธาย วาติ มหคฺคตกมฺมนิมิตฺตารมฺมณาย ชวนวีถิยา’’ติ. ‘‘วิฺายตี’’ติ อิมินา ยทิปิ ‘‘ปถวีกสิณาที’’ติอาทิสทฺเทน อรูปาวจรชฺฌานารมฺมณสฺสาปิ สงฺคโห สมฺภวติ, ‘‘จกฺขุโสตานํ วา’’ติ ปน ทฺวารทฺวยสฺเสว วเสน วิกปฺปนฺตรกรณํ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส าปกนฺติ ทสฺเสติ. าปกฺจ นาม อคติกา คตีติ ยถาวุตฺตํ าปกํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘อถาปี’’ติอาทิมาห. โย ยตฺถ สมฺภวติ, ตสฺส โยชนา ยถาสมฺภวโยชนา, ตาย. อยมฺปิ ปฏิสนฺธีติ อารุปฺปจุติยา อนนฺตรํ ปฏิสนฺธึ วทติ. ตตฺเถวาติ ‘‘ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปเม วิกปฺเป เอว. เหฏฺิมา เหฏฺิมา ปฏิสนฺธิ นตฺถีติ โยชนา. เตนาติ ตสฺมา. ตโตติ จตุตฺถารุปฺปจุติโต. ตตฺเถวาติ จตุตฺถารุปฺเป เอว. อตีตารมฺมณา ปฏิสนฺธิ, ตโต จตุตฺถารุปฺปจุติโต กามาวจเร อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ. อิตราหีติ อารุปฺปจุตีหิ. ทุติยา อารุปฺปปฏิสนฺธิ อตีตารมฺมณา, อิตรา นวตฺตพฺพารมฺมณาติ อาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ กามาวจรปฏิสนฺธีติ เอตฺถาปิ อิตราหีติ สมฺพนฺโธ. สพฺพตฺถ จ ‘‘โยเชตพฺพา’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิมสฺส วิเสสสฺสาติ ‘‘เตนา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสฺส วิเสสสฺส. วิสุํ อุทฺธรณํ กตํ อธิกวจนมฺมตฺถํ โพเธตีติ.
อารมฺมณวเสน ¶ เอกวิธายาติ อตีตารมฺมณตาวเสน เอกวิธาย. ทุวิธาติ อตีตารมฺมณา, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จาติ ทฺวิปฺปการา. ทุคฺคติจุติยา อารมฺมณวเสน ‘‘เอกวิธายา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตาย ทฺวิปฺปการา กามาวจรปฏิสนฺธิ, นวตฺตพฺพารมฺมณตาย ¶ เอกปฺปการา รูปาวจรปฏิสนฺธิ, นวตฺตพฺพาตีตารมฺมณตาย ทฺวิปฺปการา อารุปฺปปฏิสนฺธีติ อาห ‘‘ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสนา’’ติ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสนา’’ติ ปททฺวยํ อากฑฺฒติ. ทุวิธายาติ นวตฺตพฺพาตีตารมฺมณตาวเสน ทุวิธาย. ปจฺเจกนฺติ วิสุํ วิสุํ. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ กามารุปฺปานนฺติ เอตฺถายํ โยชนา – นวตฺตพฺพารมฺมณาย อารุปฺปจุติยา อนนฺตรา อตีตารมฺมณา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ ทฺเว กามปฏิสนฺธี, นวตฺตพฺพารมฺมณา อตีตารมฺมณา จ ทฺเว อารุปฺปปฏิสนฺธี, ตถา อตีตารมฺมณายปีติ อิมาสํ วเสน อฏฺวิธา.
‘‘ทฺวิทฺวี’’ติ คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ สุขคฺคหณตฺถํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ. ยทิปิ ‘‘กมฺมสฺส กตตฺตา’’ติอาทินาปิ กมฺมสฺส วิปากานํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว คหิโตเยว โหติ, ‘‘กุสลากุสลํ กมฺม’’นฺติอาทินา ปน วิสุํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว ทสฺสียตีติ ‘‘กามาวจรสฺส…เป… อาทินา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว ทสฺสิตปฺปกาโร’’ติ อาห.
อาทินา วิมิสฺสวิฺาเณนาติ เอกสฺส ภวสฺส อาทิภูเตน รูปวิมิสฺเสน ปฏิสนฺธิวิฺาเณน. อฺตฺถาติ สํเสทชโอปปาติกโยนิยํ. อวจนํ ปฏิกฺเขปํ มฺมาโน ‘‘คนฺธรสาหารานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา’’ติ วตฺวา สพฺเพน สพฺพํ รูปภเว เต นตฺถีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘จกฺขุโสตวตฺถุสตฺตกชีวิตฉกฺกภาเวปี’’ติ. ปาฬิยนฺติ ธมฺมหทยวิภงฺคปาฬิยํ. ปฺจายตนานีติ จกฺขุโสตมนรูปธมฺมายตนานิ. ปฺจ ธาตุโยติ ตา เอว ปฺจ ธาตุโย. วุตฺตฺหิ – ‘‘รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กตมานิ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ? จกฺขายตนํ รูปายตนํ โสตายตนํ มนายตนํ ธมฺมายตนํ. อิมานิ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ. กตมา ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺติ? จกฺขุธาตุ…เป… ธมฺมธาตุ. อิมา ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๑๖). ฉ อายตนานิ สทฺทายตเนน สทฺธึ ตานิเยว. นว ธาตุโยติ จกฺขุรูปจกฺขุวิฺาณโสตสทฺทโสตวิฺาณมโนธมฺมมโนวิฺาณธาตุโย. สพฺพสงฺคหวเสนาติ อนวเสสปริคฺคหวเสน. ตตฺถาติ รูปธาตุยํ. ‘‘กถาวตฺถุมฺหิ จา’’ติอาทินา น เกวลํ ธมฺมหทยวิภงฺคปาฬิยํเยว, อถ โข ปกรณนฺตเรปิ คนฺธาทโย ปฏิกฺขิตฺตาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ฆานายตนาทีนํ ¶ วิยาติ สทิสูทาหรณทสฺสนํ. ยถา ¶ ฆานายตนาทีนํ ตตฺถ รูปภเว ภาโว อตฺถิ, ตา ปฏิกฺขิตฺตา, เอวํ คนฺธายตนาทีนฺจาติ. อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ยฺหิ ตตฺถ อายตนํ นตฺถิ, ตสฺส วเสนายํ โจทนา. ตโต ปรวาที ยํ ตตฺถ อชฺฌตฺติกานํ ติณฺณํ อายตนานํ ฆานาทิกํ สณฺานนิมิตฺตํ, ตเทว อายตนนฺติ ลทฺธิยา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ. พาหิรานํ คนฺธายตนาทีนํ วเสน ปุฏฺโ ยสฺมา ฆานปฺปสาทาทโย ตตฺถ น อิจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ โคจรํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺขิปติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ชิวฺหายตนนฺติ? อามนฺตา. อตฺถิ ตตฺถ รสายตนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติอาทินยปฺปวตฺตานํ อนุโลมปฏิโลมสํสนฺทนปฺหาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อโผฏฺพฺพายตนานนฺติ โผฏฺพฺพายตนภาวรหิตานํ, อโผฏฺพฺพสภาวานนฺติ อตฺโถ.
อิทานิ อนายตนสภาเว คนฺธรเส ปฏิชานิตฺวาปิ โทสํ วทนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห. อวจเน นตฺถิ การณํ ยถาธมฺมสาสเน อภิธมฺเม, เตสํ วา นิสตฺตนิชฺชีวสภาวตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา จ ธาตุภาโว, เอวํ ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺติโก, ตถา อายตนภาโว จาติ สพฺพถาปิ ตตฺถ วิชฺชมานานํ คนฺธรสานํ อายตเนสุ อวจเน การณํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมภาโว จา’’ติอาทิมาห. อฺสฺส ปรมตฺถสฺส อภาวา. โกจิ อายตนสภาโวติ ธมฺมายตนเมว สนฺธาย วทติ. เตน ยทิ รูปภเว คนฺธรสา วิชฺชนฺติ, ยถาวุตฺตการณโต คนฺธรสายตนภาเวน อวุจฺจมานาปิ ธมฺมายตนภาเวน วตฺตพฺพา สิยุํ, น จ วุตฺตา. ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘นตฺเถว รูปภเว คนฺธรสา’’ติ ทสฺเสติ. กิฺจ รูปธาตุยํ คนฺธรสภาเวน อวุตฺตานํ, กามธาตุยํ วุตฺตานํ เตสํ กึ คนฺธรสภาวโต อฺเน สภาเวน รูปธาตุยํ อตฺถิภาโว, อุทาหุ คนฺธรสภาเวน. ยทิ ปุริโม ปกฺโข ธมฺมายตเน เตสํ สงฺคโห สิยา อนายตนสภาวสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวา, อถ ทุติโย เตเนว การเณน เนสํ คนฺธรสายตนภาโว สิทฺโธติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห. ตสฺมาติ ยสฺมา คนฺธรสา ธมฺมหทยวิภงฺเค น วุตฺตา, กถาวตฺถุมฺหิ จ เตสํ ภาโว ปฏิกฺขิตฺโต, ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยา ปถวีอาทโย วิย ฆายิตุํ สายิตฺุจ อสกฺกุเณยฺยา เต นตฺถิ, ธาตุสทฺเทน จ เต คหิตา, ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺติโก, ตสฺมิฺจ ¶ สติ สิทฺโธ อายตนภาโว, ตสฺมา. ตถาติ ปาฬิยํ อวุตฺตธมฺเม หาเปตฺวา จกฺขุสตฺตกาทิวเสน. เอวนฺติ จกฺขุสตฺตกาทิวเสน รูปคณนาย กริยมานาย. ธมฺมตาติ ปาฬิธมฺโม ¶ , รูปภเว วา ปวตฺตนกรูปธมฺมตา. ‘‘น วิโลมิตา’’ติ อิมินา ยถาปฏิฺาตํ ธมฺมํ ทีปิตํ อุลฺลิงฺเคติ.
เอตฺถ จ รูปาวจรสตฺตานํ ฆานชิวฺหายตนาภาวโต วิชฺชมานาปิ คนฺธรสา อายตนกิจฺจํ น กโรนฺตีติ เต อนามสิตฺวา ปาฬิยํ ‘‘ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ฉ อายตนานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตโย อาหารา’’ติ จ อชฺโฌหริตพฺพสฺส อาหารสฺส อภาเวน โอชฏฺมกรูปสมุฏฺาปนสงฺขาตสฺส อาหารกิจฺจสฺส อกรณโต, น สพฺเพน สพฺพํ คนฺธรสานํ โอชาย จ อภาวโต. อิติ วิสยิโน กิจฺจสฺส จ อภาเวน วิสโย, กิจฺจวา จ ธมฺโม น วุตฺโต. ยสฺมิฺหิ ภเว วิสยี นตฺถิ, ตสฺมึ ตํเหตุโก นิปฺปริยาเยน วิสยสฺส อายตนภาโว นตฺถีติ วิชฺชมานสฺสาปิ อวจนํ, ยถา รูปภเว ปถวีเตโชวาโยธาตูนํ โผฏฺพฺพายตนภาเวน. ยสฺส ปน ยตฺถ วจนํ, ตสฺส ตตฺถ วิสยีสพฺภาวเหตุโก นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว วุตฺโต ทิฏฺโ ยถา ตตฺเถว รูปายตนสฺส. ยทิ วิสยีสพฺภาวเหตุโก วิสยสฺส นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว, กถํ อสฺสตฺตานํ เทวานํ ทฺเว อายตนานิ ปาตุภวนฺตีติ. อสฺสตฺตานฺหิ จกฺขายตนํ นตฺถิ, อจกฺขายตนภาเวน จ เนสํ รูปายตนํ อฺเสํ อวิสโยติ? นายํ วิโรโธ. เยน อธิปฺปาเยน รูปธาตุยํ สฺีนํ คนฺธายตนาทีนํ อวจนํ, เตน รูปายตนสฺสาปิ อวจนนฺติ อสฺีนํ เอกํ อายตนํ วตฺตพฺพํ. ยถาสกฺหิ อินฺทฺริยโคจรภาวาเปกฺขาย เยสํ นิปฺปริยาเยน อายตนภาโว อตฺถิ, เตสุ นิทฺทิสิยมาเนสุ ตทภาวโต รูปธาตุยํ สฺีนํ คนฺธาทิเก วิสุํ อายตนภาเวน อวตฺวา ธมฺมสภาวานติวตฺตนโต, มโนวิฺาณสฺส จ วิสยภาวูปคมนโต ธมฺมายตนนฺโตคเธ กตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เอตทตฺถฺหิ ‘‘ธมฺมายตน’’นฺติ สามฺโต นามกรณํ, ปิฏฺิวฏฺฏกานิ วา ตานิ กตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ วุตฺตํ. เยน จ ปน อธิปฺปาเยน อสฺีนํ รูปายตนํ วุตฺตํ, เตน สฺีนมฺปิ คนฺธาทีนํ วิสุํ คหณํ กาตพฺพนฺติ อิมสฺส นยสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อสฺสตฺตานํ เทวานํ ทฺเว อายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ ¶ (วิภ. ๑๐๑๗) วุตฺตํ. อสติปิ หิ อตฺตโน อินฺทฺริเย รูปสฺส วณฺณายตนสภาวาติกฺกโม นตฺเถวาติ ตํ รูปายตนนฺตฺเวว วุจฺจติ. อิมินา จ นยทสฺสเนน คนฺธาทีนิ ตีณิ ปกฺขิปิตฺวา สฺีนํ อฏฺ อายตนานิ, อสฺีนํ ปฺจาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา รูปโลเก ผุสิตุมสกฺกุเณยฺยตาย ปถวีอาทีนํ วจีโฆโส เอว น สิยา. น หิ ปฏิฆฏฺฏนานิฆํสมนฺตเรน สทฺทปฺปวตฺติ อตฺถิ, น จ ผุสนสภาวานํ กตฺถจิ อผุสนสภาวตา สกฺกา ¶ วิฺาตุํ. โผฏฺพฺพายตนสงฺขาตสฺส จ ภูตตฺตยสฺส อภาเว รูปภเว รูปายตนาทีนมฺปิ สมฺภโว เอว น สิยา, ตสฺมา ผุสิตุํ สกฺกุเณยฺยตายปิ ปถวีอาทีนํ ตตฺถ กายินฺทฺริยาภาเวน เตสํ โผฏฺพฺพภาโว น วุตฺโต. เอวฺจ กตฺวา รูปธาตุยํ เตสํ สปฺปฏิฆวจนฺจ สมตฺถิตํ โหติ. วุตฺตฺหิ ‘‘อสฺสตฺตานํ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ทฺเว มหาภูตา’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๒.๒๒.๑๗). ปฏิโฆ เหตฺถ ภูตตฺตยสฺส กายปฺปสาทํ ปติ ตํนิสฺสยภูตฆฏฺฏนทฺวาเรน อภิมุขภาโว, โส จ ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยสภาวสฺส ฆฏฺฏนาย อภาวโต นตฺถิ. นนุ ‘‘ทฺเว อายตนานี’’ติ เอตฺถ ปริยายายตนํ อธิปฺเปตํ, อถ กสฺมา คนฺธายตนาทีนิปิ คเหตฺวา ‘‘ปฺจายตนานี’’ติ น วุตฺตนฺติ? ‘‘นยทสฺสนวเสน เทสนา ปวตฺตา’’ติ วุตฺโตวายมตฺโถ. อถ วา ตตฺถ รูปายตนสฺเสว วจนํ กทาจิ อฺภูมิกานํ ปสาทสฺส วิสยภาวํ สนฺธาย, น ปน อิตเรสํ อภาวโต. นาปิ ปริยาเยน คนฺธายตนาทีนํ อายตนสภาวาภาวโต. อสฺีนฺหิ รูปายตนํ สมานภูมิกานํ เวหปฺผลานํ, อุปริภูมิกานฺจ สุทฺธวาสานํ ปสาทสฺส วิสยภาวํ คจฺฉติ, น ปน คนฺธรสาติ เตสํเยว ตตฺถาวจนํ ยุตฺตํ. กถาวตฺถุมฺหิ จ นิปฺปริยาเยน คนฺธายตนาทีนํ อตฺถิภาวํ ปฏิชานนฺตํ สนฺธาย ปฏิเสโธ กโต. ยทิปิ เจตํ วจนํ ตตฺถ คนฺธายตนาทีนํ อภาววิภาวนํ น โหติ, อตฺถิภาวทีปนมฺปิ ปน อฺวจนํ นตฺเถวาติ? นยิทเมวํ อฏฺกถาสุ ตตฺถ เนสํ อตฺถิภาวสฺส นิทฺธาเรตฺวา วุตฺตตฺตา. ยฺหิ อฏฺกถาวจนํ ปาฬิยา น วิรุชฺฌติ, ตํ ปาฬิ วิย ปมาณภูตํ อครหิตาย อาจริยปรมฺปราย ยาวชฺชตนา อาคตตฺตา. ตตฺถ สิยา – ยํ ปาฬิยา น วิรุชฺฌติ อฏฺกถาวจนํ, ตํ ปมาณํ. อิทํ ปน วิรุชฺฌตีติ? นยิทเมวํ ยถา น วิรุชฺฌติ ¶ , ตถา ปฏิปาทิตตฺตา. จกฺขาทีนํ อายตนานํ, ตนฺนิสฺสยานฺจ วิฺาณานํ สตฺตสฺุตาสนฺทสฺสนตฺถํ ภควโต ธาตุเทสนาติ อายตนภาเวน วุตฺตานํเยว ธาตุภาวทีปนโต ธาตุภาวสฺสาปิ เนสํ อวจนํ ยุชฺชติ เอว, ตสฺมา ยถา ปาฬิยา อวิโรโธ โหติ, ตถา จกฺขุทสกาทิวเสน อฏฺกถายํ รูปคณนา กตาติ น เอตฺถ ธมฺมตาวิโลมนาสงฺกาย โอกาโสติ เวทิตพฺพํ.
เอฬกสฺส ชาตกาเล อุณฺณา ชาติอุณฺณาติ ปโม อตฺโถ. ตโต สุขุมตรตํ สนฺธาย ‘‘คพฺภํ…เป… อิติปิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สมฺภวนสฺส เภโท วา สมฺภวเภโท, ปวตฺติเภโทติ อตฺโถ.
รูปีพฺรหฺเมสูติ ¶ อธิกรเณ ภุมฺมํ, โอปปาติกโยนิเกสูติ นิทฺธารเณติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอปปาติกโยนิเกหิ รูปีพฺรหฺเม นิทฺธาเรตี’’ติ อาห. เตน ‘‘โอปปาติกโยนิเกสู’’ติ สามฺโต วุตฺตราสิโต ‘‘รูปีพฺรหฺเมสู’’ติ วิเสสํ นิทฺธาเรติ. น สเมตีติ น สํสนฺทติ, วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. ยาย ปาฬิยา น สเมติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมหทยวิภงฺเค หี’’ติอาทิมาห.
เอกาทสาติ ปริปุณฺณายตนสฺส สทฺทายตนวชฺชานิ เอกาทสายตนานิ. กสฺสจิ ทสายตนานีติ อนฺธสฺส จกฺขายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานีติ พธิรสฺส โสตายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ นวายตนานีติ อนฺธพธิรสฺส จกฺขุโสตายตนวชฺชานิ. กสฺสจิ สตฺตายตนานีติ คพฺภเสยฺยกสฺส รูปคนฺธรสกายโผฏฺพฺพมโนธมฺมายตนวเสน วุตฺตํ.
‘‘น วุตฺตํ อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ อิทํ ‘‘น หิ ปาฬิยํ…เป… วุตฺตา’’ติ เอตสฺส อตฺถวิวรณํ. จกฺขุโสตฆานวิกลสฺส หิ อุปปชฺชมานสฺส อฏฺเว อายตนานิ สิยุนฺติ. สติ จ อฆานกุปปตฺติยํ ปุนปิ ‘‘กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา จ สติ ยถา อนฺธพธิรสฺส วเสน ‘‘กสฺสจิ นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๐๗) เอกวารํ วุตฺตํ, เอวํ อนฺธาฆานกสฺส, พธิราฆานกสฺส จ วเสน ‘‘กสฺสจิ อปรานิ นวายตนานิ, กสฺสจิ อปรานิ นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวํ น วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตถา…เป… น ¶ จ ตํ วุตฺต’’นฺติ. เอวํ ธาตุปาตุภาวาทิปฺเหสูติ ‘‘กสฺสจิ เอกาทส ธาตุโย ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทส ธาตุโย, กสฺสจิ อปรา ทส ธาตุโย, กสฺสจิ นว ธาตุโย, กสฺสจิ สตฺต ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ (วิภ. ๑๐๐๗) เอวํ ธาตุปาตุภาวปฺโห เวทิตพฺโพ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘กสฺสจิ จุทฺทสินฺทฺริยานิ ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๐๗) นยปฺปวตฺตา อินฺทฺริยปฺหาทโย สงฺคหิตา.
เอตฺถ จ ยถา ‘‘สตฺตติ อุกฺกํสโต จ รูปานี’’ติ ปทํ ‘‘สํเสทโชปปาตีสู’’ติ เอตฺถ โยนิทฺวยวเสน โยชียติ, น เอวํ ‘‘อวกํสโต ตึสา’’ติ อิทํ, อิทํ ปน สํเสทชโยนิวเสเนว โยเชตพฺพํ, เอกโยคนิทฺทิฏฺสฺสาปิ เอกเทโส สมฺพนฺธํ ลภตีติ. สํเสทชสฺเสว จ ชจฺจนฺธพธิรอฆานกนปุํสกสฺส ชิวฺหากายวตฺถุทสกานํ วเสน ตึส รูปานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ¶ วุตฺตํ, น โอปปาติกสฺสาติ อยเมตฺถ อฏฺกถาย อธิปฺปาโย. เย ปน ‘‘โอปปาติกสฺส ชจฺจนฺธ…เป… อุปฺปชฺชนฺตีติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. โส หิ ปมาทปาโ. เอวฺจ กตฺวา อายตนยมกวณฺณนาย ‘‘กามธาตุยํ ปน อฆานโก โอปปาติโก นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, ‘กสฺสจิ อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’ติ วเทยฺยา’’ติ (ยม. อฏฺ. อายตนยมก ๑๘-๒๑) วกฺขติ. อปเร ปนาหุ ‘‘กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ยาว ‘กสฺสจิ นวายตนานี’ติ ปาฬิ โอปปาติเก สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ปุพฺเพนาปรํ อฏฺกถายํ อวิโรโธ สิทฺโธ โหติ, ตถา จ ยถาวุตฺตปาฬิยา อยมตฺถวณฺณนา อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติเยวา’’ติ. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘โอปปาติกคฺคหเณน สํเสทชาปิ สงฺคยฺหนฺติ. ตถา หิ ธมฺมหทยวิภงฺเค ‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’ติอาทีนํ (วิภ. ๑๐๐๗) อุทฺเทเส ‘โอปปาติกานํ เปตาน’นฺติอาทินา โอปปาติกคฺคหณเมว กตํ, น สํเสทชคฺคหณ’’นฺติ, ตํ ปริปุณฺณายตนานํเยว สํเสทชานํ โอปปาติเกสุ สงฺคหณวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สํเสทชโยนิกา ปริปุณฺณายตนาปริปุณฺณายตนภาเวน โอปปาติกสงฺคหํ กตฺวา วุตฺตา’’ติ ‘‘ปธานาย วา โยนิยา สพฺพํ ปริปุณฺณายตนโยนึ ทสฺเสตุํ ‘โอปปาติกาน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ จ. อฏฺกถายํ ปน ¶ โยนิทฺวยํ สรูเปเนว ปกาเสตุํ, สํเสทชโยนิวเสเนว จ อวกํสโต ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ โอปปาติกโยนิยา อิตรํ อสงฺคเหตฺวา ‘‘สํเสทโชปปาตีสู’’ติ วุตฺตนฺติ. สพฺพํ ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
จุติปฏิสนฺธีนนฺติ อนนฺตราตีตจุติยา, ตทนนฺตราย มิสฺสามิสฺสเภทาย ปฏิสนฺธิยา. ขนฺธาทีหีติ ขนฺธารมฺมณคติเหตุเวทนาปีติวิตกฺกวิจาเรหิ. มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณา, อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาติ เอวมาทิโน อรูปภูมีสุเยว จุติปฏิสนฺธีนํ เภทาเภทวิเสสสฺส สมฺภวโต ‘‘นยมุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เอกจฺจสุคตีติ มหคฺคตวชฺชสุคติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘รูปารูปาวจราน’’นฺติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘ยถา มหคฺคตาวชฺชา, เอวํ อุตฺตรกุรุกวชฺชา’’ติปิ วทนฺติ. เอกจฺจสุคติจุติยาติ วุตฺตสุคติจุติยา. ยทิปิ ‘‘อยํ นาม ทุคฺคติปฏิสนฺธิ น โหตี’’ติ นิยโม นตฺถิ, เทสนา ปน โสตปติตา คตาติ วทนฺติ. นิยตโพธิสตฺตาเปกฺขาย วา เอวํ วุตฺตํ. เตสฺหิ เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธิ นตฺถิ อวีจิอาทีสุ อนุปปชฺชนโต. ‘‘เอกจฺจทุคฺคติจุติยา’’ติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอกจฺจสุคติปฏิสนฺธีติ ¶ ปน กามาวจรสุคติปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพา. สยเมวาติ อตฺตนา เอว. ‘‘เภทวิเสโส เอว จ เอวํ วิตฺถาเรน ทสฺสิโต’’ติ อิทํ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณายา’’ติอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘จตุกฺขนฺธาย…เป… ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ อิทํ ปน อเภทวิเสสทสฺสนเมวาติ. เอเกกสฺมึ เภเทติ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณายา’’ติ เอวมาทิเก เอเกกสฺมึ ภาเค. ตตฺถ ตตฺเถวาติ ‘‘อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตพหิทฺธารมฺมณา, อมหคฺคตชฺฌตฺตารมฺมณาย มหคฺคตชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติอาทินา ตสฺมึ ตสฺมึ เภเท, ตตฺถ ตตฺเถว วา ภวาทิเก จวิตฺวา อุปปชฺชนฺตสฺส วเสน จุติปฏิสนฺธิโยชนา เวทิตพฺพา. ภุมฺมตฺเถ อยํ โต-สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตโต เหตุํ วินาติ ตตฺถ เหตุํ วินา’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ตสฺมึ ปุริมภเว นิปฺผนฺนํ อวิชฺชาสงฺขาราทิกํ การณํ วินา น โหตีติ.
อติมนฺทภาวูปคมนํ สกิจฺจาสมตฺถตา. ปฺจทฺวาริกวิฺาณวเสน จุติ ปฏิสิทฺธา, น ตทนนฺตรวิฺาณวเสน. สฺวายมตฺโถ ‘‘ปฺจนฺนํ ทฺวาราน’’นฺติอาทินา ¶ เหฏฺา อฏฺกถายมาคโตติ อาห ‘‘ปฺจทฺวาริกวิฺาณานนฺตรมฺปิ หิ ปุพฺเพ จุติ ทสฺสิตา’’ติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. จุติจิตฺเตน สทฺธึ จกฺขายตนาทีนํ นิโรโธ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยมเก จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริณตตฺตาติ ปริปากวเสน ปริโยสานํ คตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ผสฺสาทโย ยถาวุตฺตเจตนาสหชาตผสฺสาทโย. ยถาอุปฏฺิเต กมฺมาทิอารมฺมเณ อเนกวารํ อุปฺปตฺติยา สนฺตานสฺส อภิสงฺขรณํ ตตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณปติฏฺานสฺส เหตุภาโว.
สนฺตานวเสน นิปฺปชฺชมานานํ นมนาทิกิริยานํ เอกสฺมึ ปฏิสนฺธิวิฺาเณเยว อตฺถสิทฺธีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นมน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ปถวิยํ สพลปโยเคหีติ ปถวิยา อาธารณภูตาย อตฺตโน พเลน ปโยเคน จ กรณภูเตน.
สทฺทเหตุโกติ สทฺทสฺส ปธานาทิภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตาทิโส ปพฺพตกุจฺฉิอาทิปเทโสปิ ตสฺส เหตุเยว. ปทีปนฺตราทีติ อาทิ-สทฺเทน เตลวฏฺฏิอาทิเก สงฺคณฺหาติ. ตโต สทฺทาทิปฺปวตฺติโต ปุพฺเพ อภาวา. ปฏิโฆสาทีนฺหิ สทฺทาทิปฺปวตฺติโต สติ ปุริมสิทฺธิยํ เต สทฺทาทิปจฺจยเทสํ คจฺเฉยฺยุํ, น ปน เต อตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ตโต ปุพฺเพ อภาวา’’ติ. อุปเมยฺเยปิ เอวเมว อตฺโถ โยเชตพฺโพ. ยถา จ เหตุเทสํ น คจฺฉติ เหตุสมุปฺปนฺนํ, เอวํ ตโต นาคจฺฉตีติ ¶ อาห ‘‘ตสฺมา น…เป… อาคต’’นฺติ. เต สทฺทาทโย ปจฺจยา เอเตสนฺติ ตปฺปจฺจยา. วุตฺตนเยนาติ อุปมายํ วุตฺตนเยเนว. ปุริมภวเหตุเทเส สนฺนิหิตํ หุตฺวา ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ตโต อฺตฺร ภวนฺตเร ตํ อุปคนฺตฺวา ตปฺปจฺจยํ น โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจยโต นิพฺพตฺตมานํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ อฺตฺร อคนฺตฺวา ปจฺจยเทสํ อนุปคตเมว หุตฺวา นิพฺพตฺตตีติ ปโม อตฺโถ. ปมํ ปจฺจเยน สโมธานคตํ หุตฺวา ตโต อฺตฺร คนฺตฺวา ปจฺจยุปฺปนฺนวตฺถุภาวํ นาปชฺชตีติ ทุติโย อตฺโถ. ยถาสมฺภวนฺติ ยาย ‘‘น ขีรโต ทธิ สมฺภูตํ สิยา, น ขีรสามิโน ทธิ สิยา’’ติ จ ขีรทธีสุ เอกนฺตํ เอกตาย นานตาย จ โทสโยชนา กตา. อิมินา นเยน พีชาทีสุ สพฺพเหตูสุ, องฺกุราทีสุ สพฺพเหตุสมุปฺปนฺเนสุ ยถาสมฺภวํ เหตุอนุรูปํ, เหตุสมุปนฺนานุรูปฺจ โทสโยชนา กาตพฺพา. สนฺตานพทฺเธสุ ธมฺเมสุ เอกนฺตเอกตาปฏิเสเธน สสฺสตคาหสฺส ปฏิเสธิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สยํกตํ ¶ สุขํ ทุกฺขนฺติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรตี’’ติ. ตถา เอกนฺตนานตาปฏิเสเธน อุจฺเฉทคาโห ปฏิเสธิโต โหตีติ อาห ‘‘ปรํกตํ สุขํ ทุกฺขํ อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวเทตีติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรตี’’ติ. เตน กตนาโส, อกตาคโม จ นิวตฺติโต โหตีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนทิฏฺินิวารเณเนว นิยติสภาววาทปฏิเสโธปิ กโตติ ทฏฺพฺพํ.
ตตฺถาติ องฺกุราทิปฺปพนฺธสงฺขาเต ภูตุปาทารูปสนฺตาเน. ตนฺติ วิชฺชาปาฏวาทิ. อฺสฺสาติ พาลกาเล กตวิชฺชาปริยาปุณนาทิโต อฺสฺส. สงฺขารโต อฺโ ตณฺหาทิโก อฺปจฺจโย.
นิยฺยาตนาทิ เอว ผลํ นิยฺยาตนาทิผลํ, อผลิตํ นิยฺยาตนาทิผลํ เอตสฺสาติ อผลิ…เป… ผลํ, ยถาวุตฺตกิริยากรณํ.
ปิณฺฑวเสนาติ อกตาวยววิภาคสฺส สมุทายสฺส วเสน. สพฺพตฺถาติ ปฺุาภิสงฺขาราทิเก สพฺพสฺมึ ปจฺจยธมฺเม, ปฏิสนฺธิเภเท วา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม. พลวกมฺมสฺส วเสน โยเชตพฺโพ. ภุโส นิสฺสโย หิ อุปนิสฺสโย. ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺเตปิ กามาวจรปฺุาภิสงฺขาโร จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปฺจนฺนํ ปวตฺเต, อิตโร ปมชฺฌานวิปากาทีนํ ปวตฺเต จ ปฏิสนฺธิยฺจ ปจฺจโย โหตีติ ปากโฏยมตฺโถติ ตํ อวิภชิตฺวา ‘‘สพฺพปฺุาภิสงฺขารํ สห สงฺคณฺหาติ’’จฺเจว วุตฺตํ. ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ นยิทํ สมาสปทํ, สนฺธิวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. ทฺวาทสาติ จ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ทฺวาทสสุ อกุสลเจตนาสุ. อกุสลเจตนาเภโทติ ¶ เอกาทสากุสลเจตนาปเภโท, ทฺวาทสากุสลเจตนาปเภโท จาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ สติ น เอตฺถ กิฺจิ วิจาเรตพฺพํ เหฏฺา วิตฺถาริตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ อิทํ ‘ฉนฺนํ ปวตฺเต’ติอาทินา โยเชตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, เตสํ มเตน อุทฺธจฺจเจตนาย คหเณ ปโยชนํ วิจาเรตพฺพเมว ปฏิสนฺธิยาปิ ปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. เอกสฺสาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘เอกสฺเสว ปจฺจยภาวนิยโม’’ติ. มิลาตมาลาทีนนฺติ มิลาตมาลกิลิฏฺวตฺถาทีนํ. มโนปโทสิกานํ ตทฺวตฺถูนมฺปิ อนิฏฺตา กถํ น สิยา, สิยา เอวาติ อธิปฺปาโย. อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ปน ปจุรตาภาวโต ตํ อนามสิตฺวา ‘‘ตถา กามาวจรเทวโลเกปี’’ติ วุตฺตํ ¶ . เกจิ ปน ‘‘เทวโลเก อนิฏฺํ นาม ปริกปฺปนวเสน, สภาวโต ปน ตตฺถุปฺปนฺนํ อิฏฺเมวา’’ติ วทนฺติ.
‘‘เอกูนตึสเจตนาเภทมฺปี’’ติ อิมินา อุทฺธจฺจเจตนายปิ ปวตฺติวิปากทายิตํ อนุชานาติ, อฏฺกถาอธิปฺปายวเสน วา เอวมาห. ปฺจทสนฺนํ อเหตุกวิปากวิฺาณานํ ปฺจฏฺานานิ ทฺเว อปเนตฺวา อวเสสานํ เตรสนฺนํ. ทฺเว ทฺเว จกฺขุโสตสมฺปฏิจฺฉนวิฺาณานิ, ตีณิ สนฺตีรณานีติ นวนฺนํ. เอกเทสปจฺจยภาเวนาติ เอกเทสสฺส วีสติเจตนาเภทสฺส กามาวจรจิตฺตสงฺขารสฺส ปจฺจยภาเวน เอกูนตึสเจตนาเภโท สมุทาโย วุตฺโต. สฺเววาติ อวยวคเตนาปิ วิเสเสน สมุทาโย โวหรียติ ยถา ‘‘อลงฺกโต ราชกุมาโร’’ติ.
ยตฺถาติ ปฺจโวการภวํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ ‘‘กามาวจรสุคติยํ ตาว ิตสฺสา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยฺจ วิปากสฺส วิตฺถารปฺปกาสนํ กตํ. จตุตฺถชฺฌานภูมีติ เวหปฺผลภูมึ วทติ. เตนาห ‘‘อสฺารุปฺปวชฺชา’’ติ. จตุตฺถชฺฌานเมว หิ ภาวนาวิเสสปฺปวตฺตํ อสฺภูมึ อารุปฺปภูมิฺจ นิปฺผาเทติ, จตุกฺกนยวเสน วา สํวณฺณนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อฏฺ มหาวิปากา, ปริตฺตวิปาเกสุ ปจฺฉิโม, ปฺจ รูปาวจรวิปากาติ เอวํ จุทฺทสนฺนํ. สตฺตนฺนนฺติ เสสานํ ปริตฺตวิปากานํเยว สตฺตนฺนํ.
ภวาทโยติ ภวโยนิคติสตฺตาวาเส. ติณฺณํ วิฺาณานนฺติ ปุริมานํ ติณฺณํ อารุปฺปวิปากวิฺาณานํ. ตีสูติ ปฺจมาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘กามภเว ¶ ปน ทุคฺคติยํ อฏฺนฺนมฺปิ ปริตฺตวิปากวิฺาณานํ ตเถว ปจฺจโย ปวตฺเต, โน ปฏิสนฺธิย’’นฺติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) วุตฺตนเยเนว.
วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๘. ยทิปิ สุตฺตนฺเต อภิธมฺเม จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทเส รูปปทสฺส เทสนาเภโท นตฺถิ, อภิธมฺเม ปน ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๘๔) สุตฺตนฺตโต ¶ ตสฺส เทสนาเภโท อตฺเถวาติ อาห ‘‘สุตฺตนฺตา…เป… เภโท’’ติ. สงฺขฺเยยฺเยสุ ปริจฺเฉทโต คหิเตสุ อตฺถสิทฺโธ ตตฺถ สงฺขฺยาปริจฺเฉโทติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถโต ปน วุตฺตเมว โหตี’’ติ.
โอปปาติกสตฺเตสูติ วา สามฺโต สพฺเพ โอปปาติกา วุตฺตา. เตสุ พฺรหฺมกายิกาทิคฺคหเณน รูปาวจราว วุตฺตาติ ตทฺเ สนฺธาย เสสโอปปาติกานนฺติ เสสคฺคหณํ สาตฺถกเมว. วุตฺตนเยนาติ ‘‘ทฺเว วา ตโย วา ทสกา, โอมโต อาทินา สหา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) รูปมิสฺสกวิฺาเณ วุตฺตนเยน.
‘‘ทฺเว สนฺตติสีสานี’’ติ อารพฺภ ยาว ‘‘สตฺต สนฺตติสีสานี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๘) เอตฺตกํ อฏฺกถาปาํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สตฺตกปริโยสาน’’นฺติ. เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ รูปุปฺปตฺตึ อนนุชานนฺโต อาห ‘‘อิมินาธิปฺปาเยนา’’ติ. จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว สพฺพํ รูปํ อุปฺปชฺชตีติ หิ อตฺตโน อธิปฺปาโย.
‘‘รูปาชนกกมฺมช’’นฺติ อิทํ ภูตกถนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ปฺจวิฺาณานํ อตํสภาวตาภาวา. รูปาชนกกมฺมชนฺติ วา จุติจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปน ‘‘ปวตฺติย’’นฺติ อิมินาว นิวตฺติตํ. ‘‘สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตี’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๖๓๖) อฏฺสาลินีฏีกายํ วุตฺโตวายมตฺโถ. ปฺจวิฺาณกฺขเณ ตปฺปจฺจยา รูปุปฺปตฺติยา อภาเวน วุตฺตํ ‘‘ปฺจวิฺาณปฺปวตฺติกาลํ ¶ สนฺธายา’’ติ. ตตฺถาปิ อสหชาตวิฺาณปจฺจยา อตฺเถว รูปุปฺปตฺตีติ อาห ‘‘สหชาตวิฺาณปจฺจยฺจา’’ติ. ภวงฺคาทีติ ภวงฺคสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณานิ. อฺเนาติ ยถาวุตฺตกมฺมวิฺาณโต อฺเน อภิสงฺขารวิฺาเณน. รูปเมว หิ กุสลากุสลกิริยจิตฺตปฺปวตฺติกฺขเณ อภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, น นามํ ภวงฺคํ. ตํชนเกนาติ ภวงฺคาทิชนเกน. กมฺมวิฺาณปฺปจฺจยา วิปากจิตฺตปฺปวตฺติกาเล วิปากนามสฺส กมฺมสมุฏฺานรูปสฺส จ วเสน. สหชาตวิฺาณปจฺจยา ปน อิตรจิตฺตปฺปวตฺติกาเลปิ วิปาโก วิปากนามวเสน, จิตฺตสมุฏฺานรูปวเสน จ นามรูปสฺส สมฺภโว ทสฺเสตพฺโพติ อาห ‘‘สหชาต…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ. รูปสทฺเทน จ อตฺตโน เอกเทเสนาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สรูปานํ เอกเทโส เอกวิภตฺติย’’นฺติ (ปาณินี ๑.๒.๖๔) สทฺทลกฺขณํ สนฺธายาห ¶ ‘‘สรูปานํ เอกเทโส’’ติ. อิจฺฉิโต หิ เอกเทสรูปานมฺปิ เอกเทโส ยถา ‘‘นิทสฺสิตวิปกฺเขหี’’ติ. นิทสฺสิโต จ นิทสฺสิตวิปกฺโข จ นิทสฺสิตวิปกฺโขติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ‘‘าน’’นฺติ อิมินา เสสสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ. สรูเปน ปนฺหิ อิธ เสสนํ.
ยํ-ตํ-สทฺทานํ อพฺยภิจาริตสมฺพนฺธตฺตา อวุตฺตมฺปิ ตโต-สทฺทํ อาเนตฺวา อาห ‘‘ตโต ยุตฺตเมว อิทนฺติ โยเชตพฺพ’’นฺติ. วิปากสฺส อชนกํ วิปากาชนกํ, นิสฺสนฺทผลมตฺตทายกกมฺมํ, ตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ วิปากาชนกกมฺมสมุฏฺานํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘วตฺถุกายวเสน รูปโต ทฺเว สนฺตติสีสานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๒๘) วุตฺเตน นเยน. อุภยนฺติ นามํ รูปฺจ.
กมฺมารมฺมณปฏิสนฺธิอาทิกาเลติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สมฺมสนาทิกาลสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ.
ยทิปิ ‘‘อตฺถิ รูปํ จิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิวจนโต (ธ. ส. ๕๘๔) รูปสฺสปิ วิฺาณปจฺจยตา สุตฺตโต ชานิตพฺพา, วิฺาณสนฺนิสฺสิตา อิฏฺานุภวนาทโย ตสฺมึ สติ สพฺภาวโต, อสติ จ อภาวโต ยถา สทฺเธยฺยาทิวตฺถุมฺหิ สทฺธาทโยติ นามสฺสปิ ยุตฺติโต วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา, อฏฺกถายํ ปน วุตฺตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุตฺตโต นามํ…เป… ชานิตพฺพ’’นฺติ อาห. ยาวเทว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมมตฺตตาวิภาวนมุเขน อวิปรีตโต ปวตฺตินิวตฺติสนฺทสฺสนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา, ตาวเทว จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิมาห ¶ . ยสฺมา ปน ปวตฺตินิวตฺติวิภาวนโต สจฺจเทสนาว ปจฺจยาการเทสนา, สจฺจเทสนา จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. ยถาห ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม ภิกฺขเว…เป… พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติอาทิ, ตสฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ ปทสฺส สจฺจเทสนาภาวทีปเนน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘นามรูปมตฺตตาวจเนเนว วา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒๙. ยถาสมฺภวนฺติ ¶ สมฺภวานุรูปํ. เตน จตุนฺนํ ตาว ภูตานํ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ ปจฺจยภาโว, วตฺถูสุ ปน หทยวตฺถุโน ฉฏฺายตนสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตนิสฺสยอฺมฺวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน, ปวตฺติยํ ยสฺมา อนนฺตรจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปนฺนเมว วตฺถุ ิติปฺปตฺติยา พลวภาเวน ตสฺส นิสฺสโย ภวิตุํ สกฺโกติ, น สหชาตํ, ตสฺมา ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน. อิตรวตฺถูนํ ปฺจวิฺาณสงฺขาตสฺส ฉฏฺายตนสฺส อินฺทฺริยปจฺจยวเสน จ, ชีวิตสฺส อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เอกปฺปกาเรเนวาติ ยถา จกฺขาทีนํ มนายตนสฺส ปฏินิยตทสฺสนาทิกิจฺจานุวิธานโต นิยโต เอกปฺปกาเรเนว ปจฺจยภาโว, น เอวํ รูปายตนาทีนํ, เตสํ ปน รูปารมฺมณาทินา ปการนฺตเรน ตสฺส ปจฺจยภาโวติ ‘‘อนิยมโต’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘นิยมโต’’ติ ปทํ ‘‘สสนฺตติปริยาปนฺน’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตฺวา อตฺถํ วทนฺติ ‘‘เอกนฺเตน สสนฺตติปริยาปนฺน’’นฺติ.
‘‘ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจ ฉฏฺายตน’’นฺติ อิมินา วิคฺคเหน อตฺถโต, อิตเรหิ ทฺวีหิ สทฺทโตปิ อตฺถโตปิ สรูปตํ ทสฺเสติ. ‘‘จกฺขาทีหิ สห ‘สฬายตน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตนเยน เอกเสสํ กตฺวา มนายตนํ จกฺขาทีหิ สทฺธึ ‘‘สฬายตน’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ. ยถาวุตฺโตติ ‘‘ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจา’’ติอาทินา อตฺตนา ¶ วุตฺตปฺปกาโร. สพฺพตฺถาติ นามรูปสทฺเทน สฬายตนสทฺเทน จ สทฺทสรูปตาสุ, อตฺถสรูปตาสุ วา. ยทิ สุตฺตนฺตภาชนีเย วิปากฉฏฺายตนเมว อธิปฺเปตํ, อถ กสฺมา ‘‘อิตรํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิปากฺหิ ตตฺถ อิตรนฺติ อธิปฺเปตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปจฺจยนเย ปนา’’ติอาทิ.
สหชาตาทีสุ เหตุอาหารินฺทฺริยปจฺจเย ปกฺขิปิตฺวา ทสธา, ตโต เอกํ อปเนตฺวา นวธา, ตโต เอกํ อปเนตฺวา อฏฺธา ปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ. เอวเมตฺถ สาธารณวเสน อวกํโส, เหตุอาทิอสาธารณวเสน อุกฺกํโสติ ฌานาทีนมฺปิ วเสน เวทิตพฺโพ.
ปฏิสนฺธิยํ ¶ อรูปธมฺมา กมฺมชรูปสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺตีติ ‘‘ปวตฺเต’’ติ วิเสเสติ. ‘‘ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตาทโย เอวา’’ติ นิยเมน สหชาตปุเรชาตวิปฺปยุตฺตาทโย นิวตฺเตติ.
‘‘อวเสสมนายตนสฺสา’’ติ อวเสสคฺคหณมฺปิ ปกรณโต วิสิฏฺวิสยเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธภเว’’ติอาทิมาห, ยโต อฏฺกถายํ ‘‘วตฺถุรูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพติ นามรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยภาโว สหชาตาทิสาธารณปจฺจยภาโว, สมฺปยุตฺตวิปากเหตุอาหารินฺทฺริยาทิปจฺจยภาโว สมฺปยุตฺตาทิอสาธารณปจฺจยภาโว นามสฺส, รูปสฺส ปน วิปฺปยุตฺตปจฺจยภาโว โยเชตพฺโพ.
สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๐. ตทเภทวเสนาติ ตสฺส ผสฺสสฺส อเภทวเสน, ผสฺสภาวสามฺเนาติ อตฺโถ. น ยุตฺตํ เอกสฺเสว วจนํ. อฺสฺสาปีติ ยถาวุตฺตโต อฺสฺสาปิ. สพฺพายตนโต หิ เอกสฺส ผสฺสสฺส อสมฺภวโจทนายํ ตปฺปสงฺเคน เอกายตนโต อเนกสฺสาปิ สมฺภโว นตฺถีติ โจทนา ‘‘อีทิสี ธมฺมตา นตฺถี’’ติ าปนตฺถาติ ทสฺเสติ ‘‘อฺสฺสาปี’’ติอาทินา. นิทสฺสนวเสนาติ อุทาหรณทสฺสนวเสน ¶ . เอกผสฺสสฺส สมฺภวโตติ การณาปเทโส. เอกผสฺสสมฺภวสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ ภควตา วุตฺตนฺติ ปริหารํ ทสฺเสนฺโตติ โยชนา. เสเสสูติ เอกนฺติอาทีสุ. นวธา ปจฺจยตฺเต เอกํ วิปากมนายตนํ วิภาวเย. ตถา จาติ อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน. ยฺวายํ ปจฺจยภาโว ยาทิสานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนานิ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ อาห. อตีตานาคตกาลวิมุตฺตานมฺปิ อารมฺมณมตฺตตาย สมฺภวโต อาห ‘‘อารมฺมณ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ ตนฺติ รูปายตนาทึ.
ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๑. อนนฺตราทีหีติ ¶ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ. อุปนิสฺสเยติ อนนฺตรูปนิสฺสเย. อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยา หิ อนนฺตรตาวเสเนว อนนฺตรูปนิสฺสเย อนฺโตคธา. นตฺถิวิคตปจฺจยา ปน อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยธมฺมานํเยว ตถาภาวโต ตทนฺโตคธา. ตสฺสาติ อุปนิสฺสยสฺส.
สพฺพสฺสาติ วิปากสฺส, อวิปากสฺส จ. ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติจิตฺตสมฺปยุตฺตาย หิ เวทนาย สหชาตมโนสมฺผสฺโส วุตฺตนเยน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. อนนฺตโร อนนฺตราทินา, อนานนฺตโร อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ. สมฺภวทสฺสนฺเจตํ, น ตาสํ มโนทฺวาริกภาวทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๒. ยถา ¶ จ รสายนชานิ โอชาชีวิตานิ, เอวํ ตํนิมิตฺตํ สุขํ, ตทปเนยฺยํ ชราทิทุกฺขฺจ ธมฺมารมฺมณภาเวน โยเชตพฺพํ.
กมฺมผลาภิปตฺถนาวเสน สตฺตา กมฺมานิปิ อายูหนฺตีติ สาติสยํ ตณฺหาย วิปากเวทนา อุปนิสฺสโย, น ตถา อิตราติ อาห ‘‘วิปากา วิเสเสน…เป… อวิเสเสน อิตรา จา’’ติ. อิตราติ อวิปากาติ อตฺโถ. ‘‘สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ อิทํ อิฏฺสภาวํเยว อุเปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อนิฏฺสภาวํ. เตนาห ‘‘อุเปกฺขา ปนา’’ติอาทิ. สพฺพสฺสาติ อวีตราคสฺส วีตราคสฺส จ เวทนาวโต ปุคฺคลสฺส.
เวทนาปจฺจยา เอวาติ อยํ นิยโม นิยมนฺตรนิวตฺตนปโรติ นาสฺส ปจฺจยนฺตรนิวตฺตนตฺถตา ทฏฺพฺพา. เอเตน ปจฺจยุปฺปนฺนนฺตรปฏิกฺเขโปปิ นิวตฺติโต โหติ.
ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๓. ปุริมทิฏฺินฺติ ¶ ‘‘สสฺสโต อตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๑) ปเคว อภินิวิฏฺํ สสฺสตคาหํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อตฺตคฺคหณํ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อุปาทิยมานนฺติ คณฺหนฺตํ. โลโกติ วา คหณนฺติ ยํ ‘‘โลโก สสฺสโต’’ติ คหณํ, สา ทิฏฺีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ทิฏฺุปาทานภูต’’นฺติ. ‘‘ธมฺมสงฺเขป…เป… ทิฏฺิมตฺตเมวา’’ติ อิทํ พฺยวหิตานํ ปทานํ สมฺพนฺธทสฺสนํ. ตตฺถ สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ, สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว จตฺตาริ อุปาทานานีติ อธิปฺปาโย. ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโตติ สมุทายภูตโต ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโต ตทวยวภูตํ สงฺเขปํ วิตฺถารฺจ นิทฺธาเรติ.
สสฺสตคาหปุพฺพงฺคโม, อุจฺเฉทคาหปุพฺพงฺคโม จ อตฺตคาโหติ โยชนา. เตสนฺติ ยถาวุตฺตสสฺสตุจฺเฉทคาหานํ ¶ มูลภาเวน วิธายกตฺตา สามิภูโต. อาทินา วาติ ‘‘ปมํ อตฺตวาทุปาทาน’’นฺติอาทินา วา วากฺเยน.
เยน ภวสฺสาเทน คธิตจิตฺโต ภวนิพฺพตฺตกํ กมฺมํ กตฺวา อุปปนฺโน, สา ภวนิกนฺติ สนฺตาเน จิรานุพนฺธา อภิณฺหุปฺปตฺติกา อุปปนฺนมตฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ยทิปิ…เป… ปวตฺติตพฺพตฺตา’’ติ. อรหตฺตมคฺควชฺฌตฺตา ภวราคสฺสปิ กามุปาทานภาโว อตฺเถวาติ อาห ‘‘ตณฺหาทฬฺหตฺตํ น โหตีติ มฺมาโน’’ติ. ภวราโคปิ หิ สวิสเย ทฬฺหํ ปวตฺตตีติ. สพฺพาปิ ตณฺหา กามุปาทานนฺติ เอตฺถาปิ ตสฺส อรหตฺตมคฺควชฺฌตา วุตฺตาติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
อุปฺปตฺติฏฺานภูตา น อารมฺมณภูตาติ อธิปฺปาโย. เตนาติ ขนฺธานํ อาลยภาเวน. อารมฺมณานนฺตรปกตูปนิสฺสยาติ อารมฺมณูปนิสฺสยอนนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยา. อนนฺตรปจฺจยาทีนนฺติ อนนฺตรสมนนฺตรอารมฺมณปจฺจยาทีนํ.
อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๔. ‘‘ภวตี’’ติ ¶ อิทํ อุปปตฺติภวนิพฺพจนํ. ทฺวยสฺสาติ กมฺมุปปตฺติภวทฺวยสฺส. นิปฺผาทนผลํ ผลสฺส อุปฺปาทนสมตฺถตา. นิพฺพตฺตนํ นิปฺผาทนํ.
‘‘ภควํมูลกา’’ติ (อ. นิ. ๘.๘๓; ๙.๑; ๑๐.๕๘; ๑๑.๑๙) วิย ‘‘สฺาวํภโว’’ติ วตฺตพฺเพ อตฺถิ-อตฺเถ วา วํ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘สฺาภโว’’ติ. ตสฺส วา อตฺเถติ ตสฺส วนฺตุสทฺทสฺส อตฺเถ, อตฺถิ-อตฺเถติ อตฺโถ. อการํ กตฺวาติ ยถา ‘‘ปีติสุขํ อสฺส อตฺถี’’ติ อตฺเถ อการํ กตฺวา อุปฺปาเทตฺวา ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุจฺจติ, เอวํ สฺา อสฺส อตฺถีติ สฺโ, ภโว, โสว สฺภโว. เอกสฺมินฺติ รูปกฺขนฺเธ เอว. ปวตฺตตฺตาติ ปวตฺตกปวตฺตนฏฺานานํ อเภเทปิ อุปจารวเสน ภินฺนํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ.
กมฺมสงฺขาตตนฺติ ¶ ‘‘กมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพตํ, กมฺมโกฏฺาสตํ วา. ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทินา (อ. นิ. ๖.๖๓) สุตฺเตปิ เจตนาย กมฺมภาโว อาคโตว. นิปฺปริยาเยน ปน เจตนาว กมฺมภโวติ วุตฺตมตฺถํ อภิธมฺมปาฬิยาว สาเธนฺโต ‘‘วุตฺตฺหี’’ติอาทิมาห. อิมาย หิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺเธหิ, มนายตนมโนวิฺาณธาตูหิ, สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตุเอกเทเสน จ กมฺมภวสฺส สมฺปยุตฺตตํ วทนฺติยา ธาตุกถาปาฬิยา ตสฺส เจตนาภาโว ทีปิโตติ.
ธมฺมเภทโตติ เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตภาเวน, กุสลากุสลาพฺยากตภาเวน จ ธมฺมวิภาคโต. ‘‘ปุนวจน’’นฺติ อิมินาว ปุนรุตฺติโทสาปตฺติ ปฏิฺาตาติ ปรสฺส อาสงฺกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจนนฺติ เอตํ น ยุตฺตนฺติ เจ’’ติ อาห. ภเวกเทสภาเวนาติ กมฺมภวสฺส เอกเทสตฺตา สงฺขารานํ. เตน เยสํ ธมฺมานํ สมุทาโย ภโว วุตฺโต, ตเทกเทสา สงฺขารา, สมุทาเยกเทสา จ อตฺถโต ภินฺนา เอวาติ วุตฺตเมเวตนฺติ ทสฺเสติ. ปุน ยถาวุตฺตเมว เภทํ มนสิ กตฺวา อตฺถโต ปุนวจนาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปเรน วา’’ติอาทิมาห.
อนฺโตคเธติ กามภวาทิอนฺโตคเธ สฺาภวาทิเก. กามภวาทิเกติ กามรูปารูปภเว.
อุปาทานเภทนฺติ กามุปาทานาทิอุปาทานวิเสสํ.
เตนาติ ¶ สีลพฺพตุปาทาเนน. วกฺขมาเนนาติ ‘‘อิทํ สีลพฺพตํ นามา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๓๔) อฏฺกถายํ วกฺขมาเนน ปกาเรน. ปุราณํ พฺรหฺมณฺฑลิงฺคขนฺทปุราณาทิ. ‘‘เสตวธยชฺชํ อารภเต ภูติกาโม’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๒.๖๕๐) ปสุมารณวิธานยุตฺโต ยฺวิธิ ปสุพนฺธวิธิ.
อตฺตโน สุทฺธิมคฺคปรามาสมตฺตตฺตา สีลพฺพตุปาทานสฺส อตฺตวาทุปาทานนิมิตฺตํ วุตฺตํ.
มคฺคปจฺจยา โหนฺติ มิจฺฉานิยฺยานสภาวตฺตา. อนนฺตรสฺส ปน กามกมฺมภวสฺส อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนปจฺจเยหิ อุปาทานสฺส ปจฺจยภาโว ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต.
ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓๕. อุปปตฺติภวุปฺปตฺตีติ ¶ อุปปตฺติภเว, อุปปตฺติภวภาเวน วา อุปาทินฺนกฺขนฺธานํ อุปฺปตฺติ. ชายมานสฺส ขนฺธสฺส. ชาติ นิพฺพตฺติวิกาโร. อุปปตฺติภโวปิ ชาติยา ปจฺจโย. กสฺมา? อุปปตฺติภเว อสติ ชาติยา อภาวาติ โยชนา. ‘‘ชายมานรูปปทฏฺานตา’’ติอาทินาปิ ตสฺส ชาติยา ปจฺจยภาวํเยว วิภาเวติ.
สติปิ สุกฺกโสณิตาทิเก ปิตุคตวิเสสาทิการเณ พาหิเร ปจฺจเย ตสฺส ปน อนิยตตฺตา, หีนปณีตาทิวิเสสสฺส จ อธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺต…เป… อภาวา’’ติ.
ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภวจกฺกกถาวณฺณนา
๒๔๒. สมฺพนฺธํ อิตํ คตนฺติ สมิตํ. เตนาห ‘‘สงฺคต’’นฺติ.
ภวจฺฉนฺโท ภวราโค. ตสฺสารุปฺปกถาสวนนฺติ ตสฺส พาลภาวสฺส อยุตฺตการิตาย อนุจฺฉวิกกถาสวนํ. เอเตน ปรูปวาทเหตุกาทิทุกฺขํ ทสฺเสติ, ‘‘กมฺมการณาทสฺสน’’นฺติ อิมินา ทณฺฑเหตุกํ, อิตเรน ทุคฺคตินิพฺพตฺติเหตุกํ ¶ . คเมนฺตีติ าเปนฺติ. ผเลนาปิ หิ อพฺยภิจารินา เหตุ ายติ, วุฏฺินิมิตฺเตน วิย มโหเฆน อุปริเทเส วุฏฺินิปาโต. เตน วุตฺตํ ‘‘โพเธนฺตี’’ติ.
วิเสสนิวตฺติอตฺโถ มตฺตสทฺโท ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๖) วิย. อปฺปหีนาวิชฺชา การณลาเภ อุปฺปตฺติอรหตาย สมีเปเยวาติ อาห ‘‘สนฺนิหิตภาวกรเณนา’’ติ. เวเทตีติ เวทยติ. ตสฺส อตฺถวจนํ อนุภวตีติ. เวทํ วา าณํ กโรติ อุปฺปาเทตีติ เวเทติ. ตสฺส อตฺถวจนํ ชานาตีติ. เวทิยตีติ ปน กมฺมกตฺตุกมฺมานํ วเสน นิทฺเทโสติ ตสฺสปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชานาติ, ายติ จา’’ติ อาห. จ-สทฺทตฺโถติ ¶ สมุจฺจยตฺโถ, พฺรหฺมาทินา จ การเกน, อตฺตนา จ เวทเกน รหิตนฺติ อตฺโถ. จ-สทฺทตฺถสมาสนฺติ ทฺวนฺทสมาสมาห.
จตุพฺพิธมฺปิ วา สฺุตนฺติ ธุวภาวาทิสฺุตํ, อตฺตาทิสฺุตฺจ สนฺธาย วทติ.
ปุพฺพนฺตโตติ อตีตโกฏฺาสโต. เวทนาวสานมฺปิ ภวจกฺกํ ปริปุณฺณเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เวทนา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิชฺชาคหเณน วา ตณฺหุปาทานานิ, สงฺขารคฺคหเณน ภโว, วิฺาณาทิคฺคหเณน ชาติชรามรณานิ โสกาทโย จ คหิตาติ เอวมฺปิ เวทนาวสานํ ภวจกฺกนฺติ ยุตฺตเมเวตํ. ตณฺหามูลเก จาติ ตณฺหุปาทานคฺคหเณน อวิชฺชา คหิตาติอาทินา โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทฺวินฺนํ…เป… โหตี’’ติ. ตตฺถ ทฺวินฺนนฺติ ปุริมปจฺฉิมานํ อุภินฺนํ เหตุผลวชฺชานํ. วิปรีตาภินิเวสํ กโรนฺตีติ นิมิตฺตํ กตฺตุอุปจาเรน วทติ. อนุปจฺเฉทเมว ปกาเสตีติ โยชนา.
เหตุผลสนฺธิ, ผลเหตุสนฺธิ, ปุนปิ เหตุผลสนฺธีติ เอวํ เหตุอาทิปุพฺพกา เหตุผลเหตุปุพฺพกา. เหตุผลเหตุผลวเสนาติ อวิชฺชาทิเหตุ, วิฺาณาทิผล, ตณฺหาทิเหตุ, ชาติผลวเสน. อุปสคฺควิเสเสน อตฺถวิเสโส โหตีติ ‘‘อากิรียนฺตี’’ติ ปทสฺส ปกาสียนฺตีติ อตฺโถ วุตฺโต. กิเลสกมฺมวิปากาติ อวิชฺชาทิเก เวทนาปริโยสาเน วทติ. วิปากกิเลสกมฺเมหีติ วิฺาณาทีหิ ภวปริโยสาเนหิ. ปุน กมฺมสฺส วิปากสมฺพนฺโธ วุตฺตนยตฺตา น คหิโต. ‘‘วฏฺฏานี’’ติ ¶ จ อิทํ ‘‘ตีณิ วฏฺฏานี’’ติ วิคฺคหวเสน ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ.
‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๔๒) อฏฺกถาย อาคตตฺตา อาสนฺนปจฺจกฺขตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ. วิภงฺคปาฬิยา วเสน ทสฺสิตํ, ตสฺมา น อฏฺกถาย ปุพฺพาปรวิโรโธ ยถาปาํ อตฺถสฺส ปกาสิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตานฺจ เจตนาย จ สงฺขารภาเวน กมฺมภวภาเวน จ วตฺตพฺพเมวาติ ปาฬิทฺวยาธิปฺปายวิวรณวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภวสฺสาติ อุปปตฺติภวสฺส. ‘‘ภโว’’ติ วุตฺตา เจตนาสมฺปยุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. คหณนฺติ นิกามนวเสน อารมฺมณสฺส คหณํ. เตนาห ‘‘กามุปาทานํ กิจฺเจนาหา’’ติ. อิตรานิ กิจฺเจนาหาติ โยชนา. ตีสุ อตฺถวิกปฺเปสูติ ‘‘ตํ ¶ กมฺมํ กโรโต ปุริมา เจตนาโย’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ตีสุ อายูหนเจตนานํ อตฺถวิกปฺเปสุ. นนุ จ ตติเย อตฺถวิกปฺเป อายูหนสฺส อวสาเน เจตนา น วุตฺตาติ? ยทิปิ สรูปโต น วุตฺตา, ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ ปน สทฺทโต ปธานภาเวน วุตฺตสฺส อายูหนสฺส อปฺปธานภาเวน วุตฺตา อวสาเน ปจฺฉโต วุตฺตา วิย โหตีติ อิมํ ปริยายํ สนฺธาย ‘‘ตีสุปิ…เป… อวสาเน’’ติ วุตฺตํ.
นิปฺปริยาเยน ปน เยสุ อายูหนสฺส อวสาเน เจตนา วุตฺตา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺวีสุ…เป… อาหา’’ติ วุตฺตํ. ตติเย อตฺถวิกปฺเป วุตฺเต อายูหนสงฺขาเร ตํสมฺปยุตฺตาติ อาหาติ โยชนา. กมฺมสฺส ปจฺจยภูตนฺติ สงฺขารปจฺจยํ. เตน ‘‘กมฺมกรณกาเล’’ติ เอตฺถ กมฺม-สทฺเทน สพฺพสฺสปิ สงฺขารสฺส คหิตตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น กมฺมสมฺปยุตฺตเมวา’’ติ.
กมฺมาเนวาติ กมฺมานิเยว. วิปากธมฺมตาย กมฺมสริกฺขกา. สหชาตโกฏิยา, อุปนิสฺสยโกฏิยา จ ตสฺส กมฺมสฺส อุปการกาติ ตทุปการกา. สํขิปฺปนฺตีติ สํขิปียนฺติ สํยูหียนฺติ. ‘‘สํขิปฺปนฺติ เอตฺถา’’ติ อธิกรณสาธนวเสน สงฺเขปสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา ปุน กมฺมสาธนวเสน วตฺตุํ ‘‘สํขิปียตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถาปีติ ¶ ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตกมฺมสมฺภาเรปิ. คมนธมฺมนฺติ ภงฺคุปคมนธมฺมํ. เตน อิตฺตรนฺติ ภงฺคปรนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาติ วินสฺสนธมฺมตาทีปเกน อิตฺตรสทฺเทน. นิสฺสารตํ อตฺตสาราภาวํ ทีเปติ. เอวํ ‘‘อิตฺตร’’นฺติอาทินา อนิจฺจํ จลํ อิตฺตรํ อทฺธุวนฺติ จตุนฺนํ ปทานํ อตฺถวิเสสวาจิตํ ทสฺเสติ. านโสติ เอตฺถ วุตฺตฏฺานํ นาม ปจฺจโย. อฺมฺปีติ อฺตฺถ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺส ผลสฺส. ธมฺมมตฺตสมฺภเว สติ วฏฺฏุปจฺเฉเท สตีติ โยชนา. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน สมุจฺจยตฺเถ จ-สทฺเท สติ.
สจฺจานิเยว ปภโวติ สมานาธิกรณปกฺขํ สนฺธายาห ‘‘สจฺจปฺปภวโตติ สจฺจโต’’ติ. ‘‘ยสฺส ปหานตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ เอวํภูตํ อริยสจฺจํ วิเสสํ อกตฺวา.
เตหิ โสกาทีหิ. ‘‘โสกโทมนสฺสุปายาสา อวิชฺชาย อวิโยคิโน’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ¶ สิทฺธาย อวิชฺชาย. อตฺตโนเยวาติ ปจฺจยุปฺปนฺนํ อนเปกฺขิตฺวา อตฺตโนเยว ปวตฺตสงฺขาตกิจฺจโต.
โสกาทโยปิ หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ‘‘โสกาทโย ปจฺจยายตฺตา อวสวตฺติโน’’ติ อิทํ ‘‘ชาติปจฺจยา…เป… สมฺภวนฺตี’’ติ เอเตน วจเนน สิทฺธํ, ตสฺมา ตํ ‘‘อตฺตา โสจตี’’ติอาทิทสฺสนนิวารณนฺติ อตฺโถ.
สติ จ ปริคฺคเห รชฺชํ วิย คติโย อเนกานตฺถานุพนฺธนา, ตาหิ จ วิฺาณสฺส อุปทฺทุตตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารปริคฺคหิตํ…เป… รชฺเช’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถาอุปฏฺิตานิ กมฺมาทีนิ จุติอาสนฺนชวเนหิ ปริกปฺเปตฺวา วิย คหิตานิ ปฏิสนฺธิวิฺาเณนปิ ปริกปฺปิตานิ วิย โหนฺติ, ตํ ปนสฺส ปริกปฺปนํ อตฺถโต อารมฺมณกรณเมวาติ วุตฺตํ ‘‘ปริ…เป… โต’’ติ. สงฺกปฺปนํ วา ปริกปฺปนนฺติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺเกน วิตกฺกนโต’’ติ. สสมฺภารจกฺขุอาทโย สฬายตนสฺส ปติฏฺาวิเสโส.
ยทาการาย ชาติยา ยทาการํ ชรามรณํ สมฺภวติ, สมฺภวนฺตฺจ ยถานุปุพฺพํ ปวตฺตํ, โส อตฺโถ ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ, สหิตสฺส ¶ สมุทิตสฺส ปุคฺคลสฺส ชีรณภิชฺชนาวตฺถา ธมฺมา ชรามรณาปเทเสน วุตฺตา, สา จ เนสํ อวตฺถา ชาติปุพฺพิกา, เต จ สมุทิตา เอว ปวตฺตนฺตีติ เอวํ ชาติโต ชรามรณสฺส สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ เวทิตพฺโพ. ชาติโต ชรามรณํ น น โหติ โหติเยว เอกนฺเตน ชาตสฺส ชรามรณสมฺภวโต, น จ ชาตึ วินา โหติ อชาตสฺส ตทภาวโตติ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยตํ อนฺวยพฺยติเรเกหิ วิภาเวติ ‘‘น ชาติโต’’ติอาทินา. อิตฺถนฺติ ชาติปจฺจยา ชรามรณสฺส นิพฺพตฺตาการํ วทติ.
นิโรธา นิโรธสงฺขาตนฺติ ปจฺจยนิโรธา ปจฺจยุปฺปนฺนนิโรธสงฺขาตํ. อนุโลมเทสนาย จ เวมชฺฌโต ปฏฺายาติ โยชนา.
อปฺุาภิสงฺขาเรกเทโส สราโค ราเคน สหเชกฏฺโติ กตฺวา. สพฺโพปิ อปฺุาภิสงฺขาโร สราโค ปหาเนกฏฺภาวโต. ยสฺมา ปน อกุสลธมฺโม อกุสลธมฺมสฺส สภาโค, อนกุสลธมฺโม วิสภาโค, ยถารหํ ปจฺจโย จ โหติ, ตสฺมา ‘‘อปฏิปกฺขภาวโต, ราคปฺปวฑฺฒโก’’ติ จ วุตฺตํ ¶ . ‘‘ตเทว วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ มิจฺฉาภินิเวสสพฺภาวโต สํสรณกิริยายปิ สพฺยาปารตา วิฺาณสฺส วุตฺตา. สพฺยาปารตาภินิเวสพลวตาย, สงฺกนฺติอภินิเวสพลวตายาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ‘‘อสหวตฺตนโต, สหวตฺตนโต’’ติ เอเตน อสหวุตฺติ วินิพฺโภโค, สหวุตฺติ อวินิพฺโภโคติ ทสฺเสติ.
สภาวาธิคมนิมิตฺตตา โอภาสนํ. จกฺขาทิสนฺนิสฺสเยน หิ ปฺจวิฺาณานิ รูปาทิสภาวํ อุปลภนฺติ. อิตเร ผุสนสงฺคติสนฺนิปาตฏฺา. ฉนฺนนฺติ ฉนฺนมฺปิ สมฺผสฺสานํ.
อาทานนฺติ อุปสทฺเทน วินาปิ ทฬฺหคาโห อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อาทานฏฺโ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ สมาโน’’ติ. คหณนฺติ นิกามนวเสน วิสยสฺส ปฏิจฺฉนฺนนฺติ วุตฺตํ ‘‘คหณฏฺโ กามุปาทานสฺสา’’ติ. อิตเรสนฺติ ทิฏฺุปาทานาทีนํ. ตสฺมาติ วิภตฺติยา อลุตฺตภาวโต. เตนาติ ขิปนสทฺเทน. หานิ วา ขีณภาโว ขโยติ ‘‘ขยฏฺโ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวินฺนนฺติ ชรามรณานํ. มรณูปนยนรสตฺตา วา ชรายปิ มรณฏฺโ เอว ทสฺสิโต.
นียนฺติ ¶ คเมนฺตีติ นยา, เอกตฺตาทโย. เกหิ นียนฺติ? อวิชฺชาทิอตฺเถหีติ อิมมตฺถมาห ‘‘อวิชฺชาที’’ติอาทินา. เสน ภาเวนาติ สเกน อวิชฺชาทิภาเวน, ตํ อมฺุจิตฺวา เอว. น หิ อวิชฺชาทิวินิมุตฺตํ เอกตฺตํ นาม กิฺจิ ปรมตฺถโต อตฺถิ. เสน ภาเวนาติ วา สเกน เอกตฺตาทิภาเวน. อวิชฺชาทีสุ วิฺายมาโน เหตุผลธมฺมานํ เอกสนฺตติปติตาทิสงฺขาโต เอกตฺตาทิภาโว เตเนว สภาเวน ายติ, น อวิชฺชาทิภาเวนาติ. เต หิ เนตพฺพาติ เตสํ นยา. อตฺถา เอว วา อวิชฺชาทโย. อเนเกปิ สมานา ธมฺมา เยน สนฺตานานุปจฺเฉเทน ‘‘เอก’’นฺติ ายนฺติ โวหรียนฺติ, โส ตตฺถ กรณภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตถา อิตเรปีติ อาห ‘‘เอกตฺตาทีหิ จ อตฺถา ‘เอก’นฺติอาทินา นียนฺตี’’ติ. ตตฺถ นียนฺตีติ ายนฺติ, ปฺาปียนฺติ จ. ปุริมปจฺฉิมานํ ธมฺมานํ นิโรธุปฺปาทนิรนฺตรตาย นามกายสฺส, สมฺพนฺธวุตฺติตาย รูปกายสฺส, อุภยสฺส จ อฺมฺสนฺนิสฺสิตตาย ทุวิฺเยฺยนานโต เอกีภูตสฺส วิย ฆนภาวปฺปพนฺโธ เหตุผลภาเวน สมฺพนฺโธ สมฺมา ตาโนติ สนฺตาโน, ตสฺส อนุปจฺเฉโท ตถาปวตฺติ เอกตฺตนฺติ อาห ‘‘สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺต’’นฺติ.
สมฺพนฺธรหิตสฺสาติ ¶ เหตุผลภาเวน อฺมฺสมฺพนฺธภาวรหิตสฺส. สตฺตนฺตโรติ อฺโ สตฺโต. อุจฺเฉททิฏฺิมุปาทิยตีติ ยถานุรูปการณโต ผลปฺปวตฺตึ อสมนุปสฺสนฺโต นานาสนฺตาเน วิย อสมฺพนฺธนานตฺตทสฺสนโต เหตุภาวรหิตานํ นิปฺปโยชนานํ ปุริมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ นิโรเธ เหตุนิยมาภาวโต เอกนฺเตน อุปฺปตฺติ น ยุตฺตา, ตถา สนฺตาเนน อุปฺปตฺติ, สทิสภาเวน อุปฺปตฺติ, สมานชาติเทสปริณามวยรูปพลสณฺานานํ อุปฺปตฺติ น ยุตฺตาติอาทีนิ วิกปฺเปนฺโต อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ.
กสฺมา อุปฺปตฺติ น สิยาติ วาลิกาหิ วิย ติเลหิปิ เตลสฺส, อุจฺฉุโต วิย คาวิโตปิ ขีรสฺส อฺาภาวโต เกน การเณน เตหิ เตสํ อุปฺปตฺติ น สิยา, อิตเรหิ เอว จ เนสํ อุปฺปตฺติ โหตีติ. ตสฺมาติ อฺสฺส อฺโต อุปฺปตฺติยํ สพฺพสฺส สพฺพโส อุปฺปตฺติยา ภวิตพฺพํ, น เจตํ อตฺถิ, ตสฺมา. ยสฺมา นิยติวาที อนุรูปา เหตุโต ผลุปฺปตฺตึ น อิจฺฉติ, สภาวสิทฺธเมว จ ธมฺมปฺปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘อวิชฺชมาเนปิ เหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ. สภาวสิทฺธา เอว หิ อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิ วิย ¶ กมลงฺฆนรหิตา ตถา ตถา สรีรินฺทฺริยสุขาทิภาวปริณามาย นิยติยาว กายา สมาคจฺฉนฺติ, ยโต คติชาติพนฺธา, อปวคฺโค จ โหตีติ นิยติวาโท. เตนาห ‘‘นิยตตาย…เป… ปวตฺตนฺตี’’ติ. นิยติอตฺโถ วุตฺโตเยว.
เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ สุตฺตํ. อากุลเมว, อากุลภาโว วา อากุลกํ. ชฏิตาติ เหฏฺุปริยวเสน ปวตฺตมาเนหิ กิเลสกมฺมวิปาเกหิ ชาตชฏา. นีฑนฺติ กุลาวกํ. สํสารนฺติ อิธ สมฺปตฺติภวปฺปพนฺธมาห อปายาทิปเทหิ ทุคฺคติปฺปพนฺธสฺส วุตฺตตฺตา.
ภวจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๒๔๓. ตํ ¶ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ. เอเกกจิตฺตาวรุทฺธนฺติ อภิธมฺมภาชนีเย วิย เอเกกสฺมึ จิตฺเต อวรุทฺธํ อนฺโตคธํ อกตฺวา. อสหชาตานฺจ ‘‘อสหชาตานํ, สหชาตานฺจา’’ติ เอวํ ปมปเท เอกเสสนิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อสหชาตาเยว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนา ทสฺสิตา วิปากวิฺาณสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (วิภ. ๒๒๕) จ เอวมาทีสุ อสหชาตา, สหชาตา จ. ‘‘เอเกเกน นเยนา’’ติ ปุราตโน ปาโ, เอตรหิ ปน ‘‘เอเกเกน จตุกฺเกน’’ อิจฺเจว พหูสุ โปตฺถเกสุ ปาโ. นยจตุกฺกวาราติ นเยสุ จตุกฺกานํ วารา, อวิชฺชามูลกาทีสุ นวสุ นเยสุ ปจฺเจกํ ปจฺจยจตุกฺกาทีนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติอาทิวิเสสภินฺนา จตฺตาโร วาราติ อตฺโถ. ววตฺถิตาติ ยถาวุตฺตวิเสเสน อสํกิณฺณา. จตุกฺกานนฺติ วารจตุกฺกานํ วารโสฬสกสฺส นยภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑. ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา
ปจฺจยสหิตปจฺจยุปฺปนฺนานิ องฺคภาเวน วุตฺตานิ, น เกวลํ ปจฺจยา. ตสฺมา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ เอตฺถ น ฉฏฺายตนสฺส องฺคตา. เตน ¶ วุตฺตํ ‘‘น, ตสฺส อนงฺคตฺตา’’ติ. เอวฺจ กตฺวาติ ปจฺจยสหิตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส องฺคภาวโต. ตีสุ ปกาเรสูติ ‘‘ปโม สพฺพสงฺคาหิกฏฺเนา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๔๓) อฏฺกถายํ วุตฺเตสุ ตีสุปิ ปกาเรสุ. ปจฺจยวิเสสาทีติ เอตฺถ นามํ, ฉฏฺายตนฺจ ปจฺจยวิเสโส. อาทิ-สทฺเทน โยนิวิเสโส, อายตนานํ อปาริปูริปาริปูริภววิเสโส จ คหิโต. เต หิ ทุติยวาราทีนํ นานตฺตกรา. อตฺถวิเสเสนาติ ยทิปิ อฺตฺถ ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ สฬายตนปจฺจโย วุตฺโต, ตถาปิ สหชาตาทินามสนฺนิสฺสเยน ปวตฺตนโต นามมตฺตปจฺจยาปิ โส โหตีติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส นานานยวิจิตฺตตานุมิตสฺส คมฺภีรภาวสฺส วิภาวนสงฺขาเตน, อนวเสสนามปจฺจยทสฺสนสงฺขาเตน จ อตฺถวิเสเสน. ตถา หิ ‘‘เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ เยหิ อุทฺเทเสหิ นามกายสฺส ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ…เป… อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข รูปกาเย อธิวจนสมฺผสฺโส ปฺาเยถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๑๔) ผสฺสสฺส นามปจฺจยตาวิภาวนวเสน มหานิทานเทสนา ปวตฺตา. ตถา ‘‘นามรูปปจฺจยา ¶ ผสฺโสติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๗) ‘‘นามรูปปจฺจยา’’ติ วทนฺเตน ‘‘นามปจฺจยา’’ติปิ วุตฺตเมว โหตีติ.
วารจตุกฺเก ‘‘สงฺขาโร’’ติ วุตฺตํ, โสกาทโย น วุตฺตา, ปุริมสฺมึ วารทฺวเย รูปํ น วุตฺตํ, วารตฺตเย สฬายตนํ น วุตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ.
สพฺพ…เป… รณโตติ สพฺพสฺส วิฺาณสฺส ปวตฺติฏฺานภูตสพฺพภวสาธารณโต, วิฺาณสฺส วา ปวตฺติฏฺานภูตสพฺพภวสาธารณโต. สมานํ ผลํ สมาโน ปจฺจโย สหชาตาทิปจฺจเยหิ อุปกตฺตพฺพโต, อุปการกโต จ. ตสฺส วิฺาณสฺส. วิฺาณาหรณนฺติ วิปากวิฺาณนิพฺพตฺตนํ. อสฺส วิฺาณสฺส.
คติสูจโกติ หิ-สทฺทํ โลเก คติอตฺถํ วทนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วิคต’’นฺติ เอตฺถ วิ-สทฺโท ปฏิเสธทีปโกติ ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ าเปนฺตีติ อาห ‘‘วิคตตานิวารณวเสน คติ เอว โหตี’’ติ.
ติธา จตุธา ปฺจธา วาติ เอตฺถ สฺามนสิการาทโย สหชาตนิสฺสยอตฺถิปจฺจยวเสน ติธา, ผสฺสเจตนาทโย เตสฺเจว อาหาราทีนฺจ ¶ วเสน จตุธา, เวทนาวิตกฺกาทโย เตสฺเจว ฌานินฺทฺริยาทีนฺจ วเสน ปฺจธา. ยถา สมาธิ, เอวํ วีริยมฺปิ ทฏฺพฺพํ. ตมฺปิ หิ อธิปตินฺทฺริยมคฺคปจฺจเยหิ ฉธา ปจฺจโย โหติ.
‘‘วจนวเสนา’’ติ อิมินา อิมสฺมึ จตุกฺเก สหชาตปจฺจยํ ธุรํ กตฺวา เทสนา ปวตฺตาติ เตสํ อธิปฺปาโยติ ทสฺเสติ. อตฺโถติ ปจฺจยธมฺโม. กตฺถจีติ กิสฺมิฺจิ วาเร อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ยถาสเกหิ ปจฺจโย น น โหติ. ‘‘อตฺถโต’’ติ จ ปาโ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ ตํ. ตสฺมา สหชาตปจฺจยวเสเนว ปมจตุกฺโก วุตฺโตติ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น จ ตํ น วุตฺต’’นฺติอาทิ. อิมสฺส จ ‘‘ภวปจฺจยา ชาตีติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปจฺจยวจนเมวาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทีสุ วุตฺตปจฺจยวจนเมว จ. เตสนฺติ เตสํ อาจริยานํ. อโยเชตฺวา วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ ปน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สามฺเน…เป… สนฺธาย ¶ วุตฺต’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘สหชาตสูจก’’นฺติอาทินา ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วจนโต อสิทฺธิมาห, ‘‘สหชาตโต’’ติอาทินา ปน อตฺถาปตฺติโต. อสมฺภเว หิ อฺสฺส อตฺถโต สิชฺเฌยฺย วจนโต วา อตฺถโต วา อธิปฺเปตตฺถสาธนาติ.
อฺตฺถาติ อฺสฺมึ สุตฺเต. อตีตทฺธํ นิทฺธาเรตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตหิ สทฺธึ อทฺธตฺตยทสฺสนตฺถํ. ตํเทสนาปริคฺคหตฺถนฺติ มหานิทานเทสนาปริคฺคหตฺถํ. โส จ อุภินฺนํ เทสนานํ อฺมฺํ สํสนฺทนภาวทสฺสนตฺถํ. เอวํ สพฺพฺุพุทฺธภาสิตา เทสนา อฺทตฺถุ สํสนฺทตีติ.
อิมสฺสาติ อิมสฺส ตติยวารสฺส.
อปราเปกฺขตาย, อปริกิลิฏฺุปปตฺติตาย, อสุจิอมกฺขิตตาย กามาวจรเทวานํ, สพฺเพสฺจ พฺรหฺมานํ ตถา อุปปชฺชนโต จ โอปปาติกโยนิยา ปธานตา เวทิตพฺพา. สงฺคหนิทสฺสนวเสนาติ โอปปาติกโยนิยา เอว สํเสทชโยนิยา สงฺคหสฺส นิทสฺสนวเสน อุทาหรณวเสน. อารมฺมณปจฺจยสฺสาปิ ผสฺสสฺส สติปิ ปวตฺติเหตุภาเว โส ปน สหชาตาทิปจฺจยภูตสฺส อชฺฌตฺติกสฺส ฉฏฺายตนสฺส วิย น สาติสโยติ วุตฺตํ ‘‘อารมฺมณปจฺจโย เจตฺถ ปวตฺตโก น โหตี’’ติ.
เกสฺจีติ ¶ ปริปุณฺณายตนานํ คพฺภเสยฺยกานํ. ‘‘ปจฺฉิม…เป… สทา สมฺภวตี’’ติ อิทํ คพฺภเสยฺยกานํ วิย อิตรโยนิกานํ กเมน อายตนุปฺปตฺติ นตฺถีติ วุตฺตํ. ตถา จาห อฏฺกถายํ ‘‘สหุปฺปตฺติทีปนโต’’ติ.
ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เหตุจตุกฺกวณฺณนา
๒๔๔. อภาวโตติ ภาวาภาวโต. ยฺหิ ชาติกฺขณมตฺเตเยว ภวติ, น ตโต ปรํ, ตํ ¶ ชาติยา อวิคตปจฺจโย สิยา อวิคตปจฺจยนิยมสพฺภาวโต. ภโว ปน ยสฺมา ชาติกฺขณโต ปรมฺปิ ภวติ, ตสฺมา น โส ตสฺสา อวิคตปจฺจโย โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตโต อุทฺธํ ภาวโตติ อตฺโถ’’ติ. ภเวติ ภวปเท, ภเว วา นิปฺผาเทตพฺเพ. เอส นโย ชาติอาทีสูติ เอตฺถาปิ. ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทินา ‘‘อวิคตปจฺจยสฺส อภาวโต, นิยมาภาวโต จา’’ติ วุตฺตานํ เหตูนํ วุตฺตนเยน อพฺยาปิภาววิภาวเนน อการณตํ ทสฺเสติ อยาวภาวิโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส จ อวิคตปจฺจยภาวทสฺสนโต. สงฺขารกฺขนฺเธติอาทิ มคฺคโสธนวเสน วุตฺตํ. ตสฺส ปริหารํ สยเมว วทติ. โส ขโณ เอตสฺส อตฺถีติ ตงฺขณิโก, น ตงฺขณิโก อตงฺขณิโก, ตสฺส สพฺภาวา, อยาวภาวิกสพฺภาวาติ อตฺโถ. ยถา ปน เหตู โหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขตลกฺขณานํ ปนา’’ติอาทิมาห.
เอวนฺติ เอวํ ยถาวุตฺตนเย สติ, เอวํ สนฺเตติ อตฺโถ. ‘‘น หิ…เป… อตฺถี’’ติ อิมินา ชาติอาทีนํ อวิคตปจฺจยวเสน ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว วิย ปจฺจยภาโวปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อสภาวธมฺมตฺตา’’ติ.
กถํ ปน อสภาวธมฺมานํ ชาติอาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนตา, ปจฺจยตา จาติ อาห ‘‘ชายมานานํ ปนา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ ชาติชรามรณสฺส. วตฺตพฺพปเทโสติ ‘‘เปตฺวา’’ติ วตฺตพฺพปเทโส. โก ปน โสติ? ยถาวุตฺตํ นามํ, นามรูปฺจ สงฺขารกฺขนฺเธน รูปกฺขนฺเธน จ ชรามรณานํ สงฺคหิตตฺตา ¶ . ‘‘โย ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เอเตน ภวสงฺคหิตานิปิ ชาติอาทีนิ ชาติยา อปฺปจฺจยตฺตา เอว ‘‘เปตฺวา’’ติ น วุตฺตานีติ ทสฺเสติ, ปจฺจยภาวาสงฺกา เอว เนสํ ตสฺสา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตเนว เปตพฺพคเหตพฺพวิเสเส สตีติ สาสงฺกํ วทติ.
เหตุจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา
๒๔๖. ปจฺจยุปฺปนฺนสฺสาติ ¶ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวิโน. วิสุํ ิตสฺสาติ ภเวน อสงฺคหิตสฺส. สปฺปเทสเมว คหิตํ อิธ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา นิรุฬฺหตฺตา จ. ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยภูตํเยว นามํ คหิตํ, อวิคตปจฺจยนิยมาภาโว วิย ภเว อุปาทานสฺส อฺมฺปจฺจยนิยมาภาโวติ โยชนา. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สงฺขตลกฺขณานํ ปนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.
อฺมฺปจฺจโย วิย อฺมฺปจฺจโยติ อยมตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฺมฺ…เป… อธิปฺเปโต สิยา’’ติ อาห. ตถา จ วทนฺติ ‘‘อฺมฺฺเจตฺถ น ปฏฺาเน อาคตอฺมฺวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ. จกฺขายตนุปจยาทีนนฺติ อุปรูปริ จิตานิ วิย อุปฺปนฺนจกฺขายตนาทีนิ, จกฺขายตนาทีนํ วา อุปตฺถมฺภกานิ จกฺขายตนุปจยาทีนิ.
อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺขาราทิมูลกนยมาติกาวณฺณนา
๒๔๗. ยทิปิ สามฺโต คตวิเสโส, ตถาปิ สามฺคฺคหเณน นยคโต วิเสโส สรูปโต ทสฺสิโต โหตีติ ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วตฺวาปิ นามวิเสสานํ ตสฺสา ปจฺจยภาโว ทสฺเสตพฺโพติ อาห ‘‘นามวิเสสานํ…เป… วุตฺตา’’ติ. ‘‘ยเทว ปน นาม’’นฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ นามคฺคหเณน อคฺคหิโตปิ ชาติอาทิ ภวคฺคหเณน คหิโตติ ทสฺสิโตวายมตฺโถติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ภวคฺคหเณน จา’’ติอาทิ. อิธาปีติ ‘‘ภวปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ อิธาปิ. น ¶ สิยาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ วุตฺตํ น สิยา. ตสฺมาติ ยสฺมา สามฺโจทิตํ วิเสสโจทิตเมว น โหติ, ตสฺมา. โสติ ภโว. เตนาติ สภาวาสภาวธมฺมสงฺคหเณน.
อุปาทานสฺสปิ ภเวกเทสตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุปาทานปจฺจยา…เป… อคฺคหิเต’’ติ. ‘‘ภวปจฺจยา ¶ ชาตี’’ติ อิทํ วจนํ สนฺธายาห ‘‘ภวสทฺโท…เป… วุจฺจมาโน’’ติ. ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยสฺส คหณโต อวิชฺชาวินิมุตฺตา เอว จตฺตาโร ขนฺธา นามสทฺเทน วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘น นามสทฺโท นิรวเสสโพธโก’’ติ. น เจตฺถ เอกํสโต การณํ มคฺคิตพฺพํ. เยน ภว-สทฺโท นิรวเสสโพธโก, น นาม-สทฺโทติ อาห ‘‘เอวํสภาวา หิ เอตา นิรุตฺติโย’’ติ. อิมินา อธิปฺปาเยนาติ ภวสทฺโท นิรวเสสโพธโก อุปาทินฺนจตุกฺขนฺธวิสยตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน. ชายมานาทิธมฺมวิการภาวโต ชายมานาทิกฺขนฺธปฏิพทฺธา ชาติอาทโย วุจฺเจยฺยุํ, น ปน ชาติอาทิปฏิพทฺธา ชายมานาทิกฺขนฺธาติ น เอกจิตฺตกฺขเณ ชาติอาทีนํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว สมฺภวตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘ชายมานานํ ปนา’’ติอาทินา. นานาจิตฺตกฺขเณ ปน ชาติอาทโย อวิชฺชาย อุปนิสฺสยปจฺจโย โหนฺตีติ ‘‘เอกจิตฺตกฺขเณ’’ติ วิเสสิตํ. เตเนวาติ อสมฺภเวเนว.
มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔๘-๙. ตนฺติ ทิฏฺุปาทานํ. อิตรสฺสาติ กามุปาทานสฺส. ตณฺหาคหเณนาติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา’’ติ เอตฺถ ตณฺหาคหเณน คหิตตฺตา. ยทิ เอวํ นามคฺคหเณน คหิตา ตณฺหา กสฺมา ปุน วุตฺตาติ อาห ‘‘นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา’’ติ. ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ เอตฺถ หิ กามตณฺหาปิ นาเม สงฺคหิตาติ นามสฺส ยถารหํ ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ อตฺถิ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตฺตํ, อุปาทานสฺส ปน ภวสงฺคโหปิ อตฺถีติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ เอเตน ‘‘กามุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตสฺส นตฺเถว วิเสโสติ วุตฺตํ ‘‘นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา’’ติ. ตณฺหา เอติสฺสา ปจฺจโยติ ตณฺหาปจฺจยา, ทิฏฺิ ¶ . ภวสฺส ปจฺจยภูตาติ ทุวิธสฺสปิ ภวสฺส การณภูตา. อุภเยนปิ อุปาทานสฺส ภวนิทฺเทเส เปตพฺพตํเยว วิภาเวติ. ปจฺจยุปฺปนฺนํ ปจฺจโย จ เอกเมวาติ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตปจฺจยุปฺปนฺนํ, ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตฺถ วุตฺตปจฺจโย จ เอโก เอวตฺโถ, ตสฺมา ปจฺจโย วิสุํ ปจฺจยุปฺปนฺนโต ภินฺนํ กตฺวา น วิภตฺโต.
๒๕๒. อุปตฺถมฺภกสมุฏฺาปนปจฺฉาชาตปจฺจยวเสนาติ ¶ อุปตฺถมฺภกสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส สมุฏฺาปนวเสน, ปจฺฉาชาตปจฺจยวเสน จ.
๒๕๔. ปฺจนฺนนฺติ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจนฺนํ. สหชาตาทิปจฺจโยติ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตาทิปจฺจโย. วตฺถุสงฺขาตํ รูปํ. ปุเรชาตาทิปจฺจโยติ ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโย. ปจฺฉาชาตาทิปจฺจโยติ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโย. ฉฏฺสฺส สหชาตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทโย คหิตา.
๒๖๔. ยสฺสาติ ‘‘ยสฺส จ โหตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ ‘‘ยสฺสา’’ติ ปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โหตีติ โยเชตพฺพ’’นฺติ.
๒๘๐. ตสฺสาติ ‘‘พลวกิเลสภูตาย วิจิกิจฺฉายา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๘๐) ปทสฺส. เตนาติ ‘‘ตณฺหาฏฺาเน’’ติ ปเทน. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อิมสฺมึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียาทึ สงฺคณฺหาติ.
อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐๖. สพฺยาปารานีติ สอุสฺสาหานิ, วิปากธมฺมานีติ อตฺโถ. ปริหีนํ อวิชฺชาฏฺานํ เอเตสนฺติ ปริหีนาวิชฺชาฏฺานา.
สนฺธายาติ อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต วิย วทติ, สรูเปเนว ปน ‘‘น จ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๓๐๖) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. นามรูปํ น น ลพฺภตีติ โยชนา.
กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา
๓๓๔. กุสลผเลติ ¶ ¶ กุสลวิปากปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส คหิตตฺตา ตสฺส สาทุรสวิสรุกฺขพีชสทิสตา วุตฺตา.
ยทิปิ ‘‘สงฺขารเหตุก’’นฺติอาทินา โยชนา ลพฺภติ, อวิคตจตุกฺกาทีนิ ปน น ลพฺภนฺติ ยถาลาภโยชนาย ทสฺสิตตฺตา.
อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔๓. กมฺมํ วิย ปจฺจโย โหติ วิปากภาวโตติ อธิปฺปาโย. วิปากสฺส กมฺมํ ปจฺจโย โหนฺตํ สาติสยํ โหตีติ ตสฺส นิปฺปริยายตา, ตํสมฺปยุตฺตานํ ปริยายตา สิยาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปริยาเยน อุปนิสฺสยปจฺจโยติ วุตฺตานี’’ติ อาห. ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), อกุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), วิปากธมฺมธมฺโม เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๐๓) ปน วจนโต นิปฺปริยาเยน สพฺเพปิ กุสลากุสลา ธมฺมา วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. ‘‘กุสลมูลํ อกุสลมูล’’นฺติ อิเมสํ อนฺวาเทโสปิ ปจฺจยสทฺทาเปกฺขาย ‘‘เอสา’’ติ ปุลฺลิงฺควเสน วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอสาติ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ.
‘‘มนสิกาโรปี’’ติอาทินา อปฺปหีนาวิชฺชานมฺปิ กิริยาย กุสลากุสลมูลานิ, อวิชฺชา จ อุปนิสฺสยา น โหนฺตีติ ทสฺเสติ. กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏภูตานิเยว สงฺขารวิฺาณานิ ปจฺฉิมนเย อธิปฺเปตานีติ วุตฺตํ ‘‘กิริยานิ ปน…เป… คจฺฉนฺตี’’ติ. เตสํ ปจฺจยานํ วเสน อเนกปฺปการโตติ อธิปฺปาโยติ โยชนา.
นวาทิเภทานนฺติ ¶ นวอฏฺสตฺตฉาติ เอวํปเภทานํ. จตุนฺนํ จตุกฺกานนฺติ ปุริมนเย ปจฺฉิมนเย จ อาคตานํ ยถาลาภํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ. ‘‘กุสลากุสลานํ ¶ ปน วิปาเก จา’’ติ จ-สทฺเทน กุสลากุสเล จาติ สมุจฺเจตพฺโพติ อาห ‘‘กุสล…เป… วตฺตพฺพ’’นฺติ. มูลปเทกปจฺจยตาวเสนาติ มูลปทสฺส เอกปจฺจยภาววเสน อุปนิสฺสยปจฺจยตาวเสน. เอกสฺเสว นยสฺสาติ กุสลากุสเลสุ อวิชฺชามูลกสฺส, วิปาเกสุ กุสลากุสลมูลกสฺสาติ เอวํ เอกสฺเสว นยสฺส วเสน. ธมฺมปจฺจยเภเทติ ธมฺมสฺส ปจฺจยภูตสฺส, ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส วา ปจฺจยภาเวน เภเทติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิชฺชาทีน’’นฺติอาทึ วตฺวา ปุน ตเมว ‘‘ตํตํจิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา ปการนฺตเรน วิภาเวติ.
กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สติปฏฺานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
อุทฺเทสวารวณฺณนา
๓๕๕. สมานสทฺทวจนียานํ ¶ อตฺถานํ อุทฺธรณํ อตฺถุทฺธาโร. โส ยสฺมา สทฺทตฺถวิจาโร น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น อิธ…เป… อตฺถทสฺสน’’นฺติ. ป-สทฺโท ปธานตฺถทีปโก ‘‘ปณีตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๔) วิย.
อนวสฺสุตตา อนุปกิลิฏฺตา. เตนาห ‘‘ตทุภยวีติวตฺตตา’’ติ.
ภุสตฺถํ ปกฺขนฺทนนฺติ ภุสตฺถวิสิฏฺํ ปกฺขนฺทนํ อนุปวิสนํ.
อสฺสาทสฺสาติ ตณฺหาย. ‘‘นิจฺจํ อตฺตา’’ติ อภินิเวสวตฺถุตาย ทิฏฺิยา วิเสสการณานํ จิตฺตธมฺมานํ ตณฺหายปิ วตฺถุภาวโต วิเสสคฺคหณํ, ตถา กายเวทนานํ ทิฏฺิยาปิ วตฺถุภาวสมฺภวโต ‘‘วิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ. สราควีตราคาทิวิภาคทฺวยวเสเนว จิตฺตานุปสฺสนาย วุตฺตตฺตา ตํ ‘‘นาติปเภทคต’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมาติ อิธ สฺาสงฺขารกฺขนฺธา อธิปฺเปตา, สงฺขารกฺขนฺโธ จ ผสฺสาทิวเสน อเนกเภโทติ ธมฺมานุปสฺสนา ‘‘อติปเภทคตา’’ติ วุตฺตา. สราคาทิวิภาควเสน โสฬสเภทตฺตา วา จิตฺตานุปสฺสนา นาติปเภทคตา วุตฺตา, สุตฺเต อาคตนเยน นีวรณาทิวเสน อเนกเภทตฺตา ธมฺมานุปสฺสนา อติปเภทคตา วุตฺตา. ‘‘วิสุทฺธิมคฺโคติ ¶ วุตฺตานี’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ตา อนุปสฺสนา เอเตสนฺติ ตทนุปสฺสนา, จิตฺตธมฺมานุปสฺสิโน ปุคฺคลา, เตสํ.
ตตฺถ ‘‘อสุภภาวทสฺสเนนา’’ติ ยถาิตวเสนาปิ โยชนา ลพฺภเตว. ภโวฆสฺส เวทนา วตฺถุ ภวสฺสาทภาวโต. นิจฺจคฺคหณวเสนาติ อตฺตาภินิเวสวิสิฏฺสฺส นิจฺจคฺคหณสฺส วเสน. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สสฺสตสฺส อตฺตโน’’ติ. โอเฆสุ วุตฺตนยา เอว โยคาสเวสุปิ โยชนา อตฺถโต อภินฺนตฺตาติ เต น คหิตา. นิจฺจคฺคหณวเสนาติ ¶ อตฺตาภินิเวสวิสิฏฺสฺส นิจฺจคฺคหณสฺส วเสน. ปโมฆตติยจตุตฺถคนฺถโยชนายํ วุตฺตนเยเนว กายจิตฺตธมฺมานํ อิตรุปาทานวตฺถุตา คเหตพฺพาติ เวทนาย ทิฏฺุปาทานวตฺถุตา ทสฺสิตา. ตถา กายเวทนานํ ฉนฺทโทสาคติวตฺถุตา กาโมฆพฺยาปาทกายคนฺถวตฺถุตาวจเนน วุตฺตาติ. เตนาห ‘‘อวุตฺตานํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตพฺโพ’’ติ.
ธารณตา อสมฺมุสฺสนตา, อนุสฺสรณเมว วา. เอกตฺเตติ เอกสภาเว นิสฺสรณาทิวเสน. สมาคโม สจฺฉิกิริยา. สติปฏฺานสภาโว สมฺมาสติตา นิยฺยานสติตา สมานภาคตา เอกชาติตา สภาคตา. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอตสฺมึ อตฺเถ. วิสุนฺติ นานาอตฺถทฺวยภาเวน. ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ สติสทฺทตฺถนฺตราภาวา…เป… เอกภาวสฺสาติ โยเชตพฺพํ. สติสทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเนติ ‘‘เอโก สติปฏฺานสภาโว เอกตฺต’’นฺติอาทินา อวุจฺจมาเน, ‘‘เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอวํ วุจฺจมาเนติ อตฺโถ. ธารณตาว สตีติ ‘‘สรณตา’’ติ (ธ. ส. ๑๔) วุตฺตธารณตา เอว สตีติ กตฺวา. สติสทฺทตฺถนฺตราภาวาติ สติสงฺขาตสฺส สรเณกตฺตสโมสรณสทฺทตฺถโต อฺสฺส อตฺถสฺส อภาวา. ปุริมนฺติ สรณปทํ. นิพฺพานสโมสรเณปีติ ยถาวุตฺเต ทุติเย อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณปทานิ สหิตาเนว สติปฏฺาเนกภาวสฺส าปกานิ, เอวํ นิพฺพานสโมสรเณปิ ‘‘เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณ’’นฺติ เอตสฺมิมฺปิ อตฺเถ สติ…เป… การณานิ.
อานาปานปพฺพาทีนนฺติ อานาปานปพฺพอิริยาปถจตุสมฺปชฺ โกฏฺาส ธาตุมนสิการนวสิวถิกปพฺพานีติ เอเตสํ. อิเมสุ ปน ยสฺมา เกสุจิ เทวานํ กมฺมฏฺานํ น อิชฺฌติ, ตสฺมา ตานิ อนามสิตฺวา ยทิปิ โกฏฺาสธาตุมนสิการวเสเนเวตฺถ เทสนา ปวตฺตา, เทสนนฺตเร ¶ ปน อาคตํ อนวเสสํ กายานุปสฺสนาวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ ภาเวตฺวา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕) วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มหาสติปฏฺานสุตฺเต วุตฺตาน’’นฺติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๘๒) วุตฺตาน’’นฺติ อิมเมว อุปสํหรติ. ปฺจวิเธนาติ นีวรณอุปาทานกฺขนฺธายตนโพชฺฌงฺคอริยสจฺจานํ วเสน ปฺจธา. ภาวนานุภาโว อริยมคฺคคฺคหณสมตฺถตา.
ตํนิยมโตติ ¶ ตสฺสา กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา นิยมโต. ตสฺสา ภิกฺขุภาเว นิยเต สาปิ ภิกฺขุภาเว นิยตาเยว นาม โหติ.
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา
เอตฺถาติ กาเย. อวยวา อสฺส อตฺถีติ อวยวี, สมุทาโย, สมูโหติ อตฺโถ, โส ปน อวยววินิมุตฺตํ ทฺรพฺยนฺตรนฺติ คาโห ลทฺธิ อวยวีคาโห. หตฺถปาทาทิองฺคุลินขาทิองฺคปจฺจงฺเค สนฺนิเวสวิสิฏฺเ อุปาทาย ยายํ องฺคปจฺจงฺคสมฺา เจว กายสมฺา จ, ตํ อติกฺกมิตฺวา อิตฺถิปุริสรถฆฏาทิทฺรพฺยนฺติปริกปฺปนํ สมฺาติธาวนํ. อถ วา ยถาวุตฺตสมฺํ อติกฺกมิตฺวา ปกติอาทิทฺรพฺยาทิชีวาทิกายาทิปทตฺถนฺตรปริกปฺปนํ สมฺาติธาวนํ. นิจฺจสาราทิคาหภูโต อภินิเวโส สาราทานาภินิเวโส.
น ตํ ทิฏฺนฺติ ตํ อิตฺถิปุริสาทิ ทิฏฺํ น โหติ. ทิฏฺํ วา อิตฺถิปุริสาทิ น โหตีติ โยชนา. ยถาวุตฺตนฺติ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ.
เกสาทิปถวินฺติ เกสาทิสฺิตํ สสมฺภารปถวึ. ปุพฺพาปริยภาเวนาติ สนฺตานวเสน. อฺตฺถาติ ‘‘อาโปกาย’’นฺติ เอวมาทีสุ.
อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ สปรสนฺตาเน กาโย วุตฺโตติ. ‘‘กาโย’’ติ เจตฺถ สมฺมสนุปคา รูปธมฺมา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺมาน’’นฺติ. ฆฏิตํ เอกาพทฺธํ อารมฺมณํ ฆฏิตารมฺมณํ, เอการมฺมณภูตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอกโต อารมฺมณภาโว นตฺถี’’ติ.
อนฺโตโอลียนา ¶ อนฺโตสงฺโกโจ อนฺตราโวสานํ.
ทฺวีหีติ อภิชฺฌาวินยโทมนสฺสวินเยหิ.
สติ จ สมฺปชฺฺจ สติสมฺปชฺํ, เตน. เอเตน กรณภูเตน. วิปกฺขธมฺเมหิ อนนฺตริตตฺตา อวิจฺฉินฺนสฺส. ตสฺส สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานสฺส.
กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา
สุขาทีนนฺติ ¶ สุขทุกฺขาทุกฺขมสุขานํ.
รูปาทิอารมฺมณนานตฺตเภทานํ วเสน โยเชตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา จ เสเสสุปิ. สวตฺถุกาวตฺถุกาทีติ อาทิ-สทฺเทน หีนาทิโยนิอาทิเภทํ สงฺคณฺหาติ. วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทสฺเสตีติ โยชนา. เอกตฺถาติ กายาทีสุ เอกสฺมึ. ปุริมโจทนายาติ ‘‘ปุพฺเพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพ’’นฺติ โจทนาย. ปหีนนฺติ วิกฺขมฺภิตํ. ปฏิปกฺขภาวนายาติ มคฺคภาวนาย. อุภยตฺถาติ อุภยโจทนาย. อุภยนฺติ ปริหารทฺวยํ. ยสฺมา ปุริมโจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร จ สมฺภวติ, ทุติยโจทนาย ปน นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโรเยว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺภวโต โยเชตพฺพ’’นฺติ. มคฺคสติปฏฺานภาวนํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ กายาทีสุ.
เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๕๖. อชฺฌตฺตาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน อิธ วุตฺตา พหิทฺธาอชฺฌตฺตพหิทฺธาอนุปสฺสนปฺปการา วิย มหาสติปฏฺานสุตฺเต วุตฺตา สมุทยธมฺมานุปสฺสิอาทิอนุปสฺสนปฺปการาปิ กายานุปสฺสนาภาวโต คหิตา อิจฺเจว เวทิตพฺพํ. ตตฺถาติ อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนายํ. จุทฺทส ปการา มหาสติปฏฺานสุตฺเต อาคตจุทฺทสปฺปการาทิเก อเปกฺขิตฺวา อิธ วุตฺตา. อชฺฌตฺตาทิปฺปกาโร เอโก ปกาโรติ อาห ‘‘เอกปฺปการนิทฺเทเสนา’’ติ. พาหิเรสูติ เอกจฺเจสุ อฺติตฺถิเยสุ. เตสมฺปิ หิ อานาปานาทิวเสน สมถปกฺขิกา กายานุปสฺสนา สมฺภวติ. เตนาห ‘‘เอกเทสสมฺภวโต’’ติ.
ตจสฺส จ อตจปริจฺฉินฺนตา ตเจน อปริจฺฉินฺนตา อตฺถีติ โยชนา. ‘‘ทีฆพาหุ นจฺจตู’’ติอาทีสุ วิย อฺปทตฺเถปิ สมาเส อวยวปทตฺถสงฺคโห ลพฺภเตวาติ วุตฺตํ ‘‘กาเยกเทสภูโต ตโจ คหิโต เอวา’’ติ. ตจปฏิพทฺธานํ นขทนฺตนฺหารุมํสานํ, ตจปฏิพทฺธานํ ตทนุปฺปวิฏฺมูลานํ เกสโลมานํ, ตปฺปฏิพทฺธปฏิพทฺธานํ อิตเรสํ สมูหภูโต สพฺโพ กาโย ¶ ‘‘ตจปริยนฺโต’’ตฺเวว วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตปฺปฏิพทฺธา’’ติอาทิมาห. อตฺถิ เกสา, อตฺถิ โลมาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อตฺถีติ ปุถุตฺตวาจี เอกํ นิปาตปทํ, น กิริยาปทํ. กิริยาปทตฺเต หิ สนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยา, วจนวิปลฺลาเสน วา วุตฺตนฺติ.
กมฺมฏฺานสฺส วาจุคฺคตกรณาทินา อุคฺคณฺหนํ อุคฺคโห. โกฏฺาสปาฬิยา หิ วาจุคฺคตกรณํ, มนสิกิริยาย เกสาทีนํ วณฺณาทิโต อุปธารณสฺส จ ปคุณภาวาปาทนํ อิธ อุคฺคโห. เยน ปน นเยน โยคาวจโร ตตฺถ กุสโล โหติ, โส วิธีติ วุตฺโต.
ปุริเมหีติ ปุริมปุริเมหิ ปฺจกฉกฺเกหิ สมฺพนฺโธ วุตฺโต. ‘‘มํสํ…เป… วกฺก’’นฺติ หิ อนุโลมโต วกฺกปฺจกสฺส ปุน ‘‘วกฺกํ…เป… เกสา’’ติ วกฺกปฺจกสฺส, ตจปฺจกสฺส จ ปฏิโลมโต สชฺฌายกฺกโม สมฺพนฺโธ ทสฺสิโต. สฺวายํ สชฺฌาโยติ สมฺพนฺโธ. วิสุํ ติปฺจาหนฺติ อนุโลมโต ปฺจาหํ, ปฏิโลมโต ปฺจาหํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปฺจาหนฺติ เอวํ ปฺจกฉกฺเกสุ ปจฺเจกํ ติปฺจาหํ. ปุริเมหิ เอกโต ติปฺจาหนฺติ ตจปฺจกาทีหิ สทฺธึ อนุโลมโต วกฺกปฺจกาทีนิ เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว ติปฺจาหํ ¶ . อาทิอนฺตทสฺสนวเสนาติอาทิภูตสฺส อนุโลมโต สชฺฌายสฺส, อนุโลมปฏิโลมโต สชฺฌาเย อนฺตภูตสฺส ปฏิโลมโต สชฺฌายสฺส ทสฺสนวเสน. เตนาห ‘‘อนุโลม…เป… อนฺติโม’’ติ. เอตมฺปีติ ยทิทํ ปุริเมหิ สทฺธึ ปจฺฉิมสฺส ปฺจกาทิโน เอกโต สชฺฌายกรณํ, ปฺจกาทีนํ ปจฺเจกํ อนุโลมาทินา สชฺฌายปฺปการโต อฺโ สชฺฌายปฺปกาโร เอโสติ อตฺโถ. ทฺวินฺนํ หตฺถานํ เอกมุขา อฺมฺสมฺพนฺธา ปิตา องฺคุลิโย อิธ หตฺถสงฺขลิกาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘องฺคุลิปนฺตี’’ติ. อสุภลกฺขณํ เกสาทีนํ ปฏิกฺกูลภาโว. ถทฺธาทิภาโว ธาตุลกฺขณํ.
อตฺตโน โกฏฺาโส, สมาโน วา โกฏฺาโส สโกฏฺาโส, ตตฺถ ภโว สโกฏฺาสิโก, กมฺมฏฺานํ.
กายานุปสฺสนํ หิตฺวาติ อสุภโต วา ธาตุโต อนุปสฺสนํ มนสิการํ อกตฺวา. ปุพฺเพ วิย ปริยนฺตตาลฺจ อาทิตาลฺจ อคนฺตฺวา.
สมาธานาทิวิเสสโยเคน อธิกํ จิตฺตนฺติ อธิจิตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมถวิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติ. มนสิกรณํ จิตฺตนฺติ เอกนฺตํ สมาธินิมิตฺตสฺเสว สมนฺนาหารกํ ¶ จิตฺตํ. วิกฺเขปวเสน จิตฺตสฺส นานารมฺมเณ วิสฏปฺปวตฺติ อิธ ปภฺชนํ, สมาธาเนน ตทภาวโต น จ ปภฺชนสภาวํ.
สกฺขิภวนตา ปจฺจกฺขการิตา. ปุพฺพเหตาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ตทนุรูปมนสิการานุโยคาทึ สงฺคณฺหาติ.
สมปฺปวตฺตนฺติ ลีนุทฺธจฺจรหิตํ. ตถาปวตฺติยาติ มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ ปฏิปตฺติยา, ตตฺถ จ ปกฺขนฺทเนน สิทฺธาย ยถาวุตฺตสมปฺปวตฺติยา. ปฺาย โตเสตีติ ยายํ ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสตา, ตทุปควีริยวาหนา, อาเสวนาติ อิมาสํ สาธิกา ภาวนาปฺา, ตาย อธิจิตฺตํ โตเสติ ปหฏฺํ กโรติ. ยถาวุตฺตวิเสสสิทฺธิยาว หิ ตํสาธิกาย ปฺาย ตํ จิตฺตํ สมฺปหํสิตํ นาม โหติ. เอวํ สมฺปหํสนฺโต จ ยสฺมา สพฺพโส ปริพนฺธวิโสธเนน ปฺาย จิตฺตํ โวทาเปตีติ จ วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘สมุตฺเตเชติ จา’’ติ วุตฺตํ. นิรสฺสาทนฺติ ¶ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาลาเภน ภาวนารสวิรหิตํ. สมฺปหํเสตีติ ภาวนาย จิตฺตํ สมฺมา ปหาเสติ ปโมเทติ. สมุตฺเตเชตีติ สมฺมา ตตฺถ อุตฺเตเชติ.
อาสโย ปวตฺติฏฺานํ.
ววตฺถิตตนฺติ อสํกิณฺณตํ.
อนฺโตติ อพฺภนฺตเร โกฏฺาเส. สุขุมนฺติ สุขุมนฺหารุอาทึ สนฺธาย วทติ.
ตาลปฏฺฏิกา ตาลปตฺตวิลิเวหิ กตกฏสารโก.
คณนาย มตฺตา-สทฺโท กติปเยหิ อูนภาวทีปนตฺถํ วุจฺจติ. ทนฺตฏฺิวชฺชิตานิ ตีหิ อูนานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ. ตสฺมา ‘‘ติมตฺตานี’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘อติเรกติสตอฏฺิกสมุสฺสย’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๒) วุตฺตํ, ตํ ทนฺตฏฺีนิปิ คเหตฺวา สพฺพสงฺคาหิกนเยน วุตฺตํ. ‘‘โคปฺผกฏฺิกาทีนิ อวุตฺตานี’’ติ น วตฺตพฺพํ ‘‘เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺเว โคปฺผกฏฺีนี’’ติ วุตฺตตฺตา, ‘‘อานิสทฏฺิอาทีนี’’ติ ปน วตฺตพฺพํ.
เตน อฏฺินาติ อูรุฏฺินา.
มรุมฺเปหีติ มรุมฺปจุณฺเณหิ.
สุสมาหิตจิตฺเตน ¶ เหตุภูเตน. นานารมฺมณวิปฺผนฺทนวิรเหนาติ นานารมฺมณภาเวน วิปฺผนฺทนํ นานารมฺมณวิปฺผนฺทนํ, เตน วิรเหน. อนติกฺกนฺตปีติสุขสฺส ฌานจิตฺตสฺส. ตํสมงฺคีปุคฺคลสฺส วา.
ปฏิกฺกูลธาตุวณฺณวิเสสนฺติ ปฏิกฺกูลวิเสสํ, ธาตุวิเสสํ, วณฺณกสิณวิเสสํ. วกฺกปฺจกาทีสุ ปฺจสุ วิสุํ, เหฏฺิเมหิ เอกโต จ สชฺฌาเย ฉนฺนํ ฉนฺนํ ปฺจาหานํ วเสน ปฺจ ¶ มาสา ปริปุณฺณา ลพฺภนฺติ, ตจปฺจเก ปน วิสุํ ติปฺจาหเมวาติ อาห ‘‘อทฺธมาเส อูเนปี’’ติ. มาสนฺตรคมนํ สชฺฌายสฺส สตฺตมาทิมาสคมนํ.
ยเมนฺตนฺติ พนฺเธนฺตํ.
‘‘นีลํ ปีต’’นฺติอาทินา สงฺฆาเฏ นีลาทิววตฺถานํ ตํนิสฺสยตฺตา มหาภูเต อุปาทายาติ อาห ‘‘มหาภูตํ…เป… ทุคฺคนฺธนฺติอาทินา’’ติ. อุปาทายรูปํ มหาภูเตน ปริจฺฉินฺนนฺติ โยชนา. ตสฺสาติ อุปาทารูปสฺส. ตโตติ มหาภูตโต. ฉายาย อาตปปจฺจยภาโว อาตโป ปจฺจโย เอติสฺสาติ, อาตปสฺส ฉายาย อุปฺปาทกภาโว ฉายาตปานํ อาตปปจฺจยฉายุปฺปาทกภาโว. เตน อุปฺปาเทตพฺพอุปฺปาทกภาโว อฺมฺปริจฺเฉทกตาติ ทสฺเสติ. อายตนานิ จ ทฺวารานิ จาติ ทฺวาทสายตนานิ, ตเทกเทสภูตานิ ทฺวารานิ จ.
สปฺปจฺจยภาวาติ สปฺปจฺจยตฺตา.
ยถาวุตฺเตน อากาเรนาติ ‘‘อิติ อิทํ สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ สุคฺคหิตํ กตฺวา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๓๕๖), ‘‘อิมํ ปน กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมนา’’ติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๓๕๖) วา วุตฺตปฺปกาเรน วิธินา. ‘‘อวิเสสโต ปน สาธารณวเสน เอวํ เวทิตพฺพา’’ติ, ‘‘อิโต ปฏฺายา’’ติ จ วทนฺติ. วณฺณาทิมุเขนาติ วณฺณปฏิกฺกูลสฺุตามุเขน. อุปฏฺานนฺติ กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ, โย อุคฺคโหติ วุตฺโต. เอตฺถาติ จตุกฺกปฺจกชฺฌานปมชฺฌานวิปสฺสนาสุ เอกสฺมึ สนฺธียติ. เกน? กมฺมฏฺานมนสิกาเรเนว, ตสฺมา อุคฺคโหว สนฺธิ อุคฺคหสนฺธีติ เวทิตพฺพํ.
อุฏฺานกํ อุปฺปชฺชนกํ. สาติเรกานิ ฉ อมฺพณานิ กุมฺภํ. ตโตติ มุขโธวนขาทนโภชนกิจฺจโต. นิวตฺตตีติ อรหตฺตาธิคเมน อจฺจนฺตนิวตฺติวเสน นิวตฺตติ.
กมฺมเมวาติ ¶ มนสิการกมฺมเมว. อารมฺมณนฺติ ปุพฺพภาคภาวนารมฺมณํ.
ตถาติ วนมกฺกโฏ วิย.
เอกนฺติ ¶ เอกํ โกฏฺาสํ.
สตฺตคหณรหิเตติ สตฺตปฺตฺติมฺปิ อนามสิตฺวา เทสิตตฺตา วุตฺตํ. สสนฺตานตาย อหํการวตฺถุมฺหิ อปฺปหีนมานสฺส ปหีนาการํ สนฺธายาห ‘‘วิทฺธสฺตาหํกาเร’’ติ. ตตฺถาติ ปรสฺส กาเย.
๓๕๗. อาทิมฺหิ เสวนา มนสิการสฺส อุปฺปาทนา อารมฺโภ.
กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๓. สมฺปชานสฺสาติ สมฺมา ปกาเรหิ ชานนฺตสฺส, วตฺถารมฺมเณหิ สทฺธึ สุขสามิสาทิปฺปกาเรหิ อวิปรีตํ เวทนํ ชานนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปุพฺพภาคภาวนา โวหารานุสาเรเนว ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โวหารมตฺเตนา’’ติ. เวทยามีติ ‘‘อหํ เวทยามี’’ติ อตฺตุปนายิกา วุตฺตาติ, ปริฺาตเวทโนปิ วา อุปฺปนฺนาย สุขเวทนาย โลกโวหาเรน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ ชานาติ, โวหรติ จ, ปเคว อิตโร. เตนาห ‘‘โวหารมตฺเตน วุตฺต’’นฺติ.
อุภยนฺติ วีริยสมาธึ. สห โยเชตฺวาติ สมธุรกิจฺจโต อนูนาธิกํ กตฺวา. อตฺถธมฺมาทีสุ สมฺโมหวิทฺธํสนวเสน ปวตฺตา มคฺคปฺา เอว โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทา.
วณฺณมุขาทีสุ ตีสุปิ มุเขสุ. ปริคฺคหสฺสาติ อรูปปริคฺคหสฺส. ‘‘วตฺถุ นาม กรชกาโย’’ติ วจเนน นิวตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จกฺขาทีนิ ฉ วตฺถูนี’’ติ อาห. อฺมฺุปตฺถมฺเภน ¶ ิเตสุ ทฺวีสุ นฬกลาเปสุ เอกสฺส อิตรปฏิพทฺธฏฺิติตา วิย นามกายสฺส รูปกายปฏิพทฺธวุตฺติตาทสฺสนฺเหตํ นิสฺสยปจฺจยวิเสสทสฺสนนฺติ.
เตสนฺติ ¶ เยสํ ผสฺสวิฺาณานิ ปากฏานิ, เตสํ. อฺเสนฺติ ตโต อฺเสํ, เยสํ ผสฺสวิฺาณานิ น ปากฏานิ. สุขทุกฺขเวทนานํ สุวิภูตวุตฺติตาย วุตฺตํ ‘‘สพฺเพสํ วิเนยฺยานํ เวทนา ปากฏา’’ติ. วิลาเปตฺวา วิลาเปตฺวาติ สุวิสุทฺธํ นวนีตํ วิลาเปตฺวา สีติภูตํ อติสีตเล อุทเก ปกฺขิปิตฺวา ปตฺถินฺนํ ิตํ มตฺเถตฺวา ปริปิณฺเฑตฺวา ปุน วิลาเปตฺวาติ สตวารํ เอวํ กตฺวา.
ตตฺถาปีติ ยตฺถ อรูปกมฺมฏฺานํ เอว…เป… ทสฺสิตํ, ตตฺถาปิ. เยสุ สุตฺเตสุ ตทนฺโตคธํ รูปกมฺมฏฺานนฺติ โยชนา.
เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา
๓๖๕. กิเลสสมฺปยุตฺตานํ น วิสุทฺธตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. อิตเรหิปีติ อตฺตนา สมฺปยุตฺตกิเลสโต อิตเรหิปิ อสมฺปยุตฺเตหิ. วิสุํ วจนนฺติ อฺากุสลโต วิสุํ กตฺวา วจนํ. วิสิฏฺคฺคหณนฺติ วิสิฏฺตาคหณํ, อาเวณิกสโมหตาทสฺสนนฺติ อตฺโถ, ยโต ตทุภยํ โมมูหจิตฺตนฺติ วุจฺจติ.
จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทโส
ก. นีวรณปพฺพวณฺณนา
๓๖๗. เอกสฺมึ ¶ ยุเค พทฺธโคณานํ วิย เอกโต ปวตฺติ ยุคนทฺธตา.
คหณากาเรนาติ อสุเภปิ อารมฺมเณ ‘‘สุภ’’นฺติ คหณากาเรน. นิมิตฺตนฺติ จาติ สุภนิมิตฺตนฺติ จ วุจฺจตีติ โยชนา. เอกํเสน สตฺตา อตฺตโน อตฺตโน หิตสุขเมว อาสีสนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺสา’’ติ. อนุปาโย เอว จ หิตวิสิฏฺสฺส สุขสฺส อโยนิโสมนสิกาโร, อากงฺขิตสฺส วา ยถาธิปฺเปตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต. อวิชฺชนฺธา หิ ตาทิเสปิ ปวตฺตนฺตีติ. นิปฺผาเทตพฺเพติ ¶ อโยนิโสมนสิกาเรน นิพฺพตฺเตตพฺเพ กามจฺฉนฺเทติ อตฺโถ.
ตทนุกูลตฺตาติ เตสํ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ, ‘‘อสุภ’’นฺติ จ ปวตฺตานํ อโยนิโสมนสิการโยนิโสมนสิการานํ อนุกูลตฺตา. รูปาทีสุ อนิจฺจาทิอภินิเวสสฺส, อนิจฺจสฺาทีนฺจ ยถาวุตฺตมนสิการูปนิสฺสยตา ตทนุกูลตา.
อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺํ โส อุปฺปาเทตีติ สมฺพนฺโธ. ตพฺพิปริณามสฺสาติ โภชนปริณามสฺส นิสฺสนฺทาทิกสฺส. ตทาธารสฺสาติ อุทรสฺส, กายสฺเสว วา. โสติ โภชเนมตฺตฺู. สุตฺตนฺตปริยาเยน กามราโค ‘‘กามจฺฉนฺทนีวรณ’’นฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อภิธมฺมปริยาเยนา’’ติ. อภิธมฺเม หิ ‘‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นปุเรชาตปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๓.๘.๘) เอตสฺส วิภงฺเค ‘‘อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิวจนโต ภวราโคปิ กามจฺฉนฺทนีวรณํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ. เตนาห ‘‘สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณ’’นฺติ.
สีมาเภเท กเตติ อตฺตาทิมริยาทาย ภินฺนาย, อตฺตาทีสุ สพฺพตฺถ เอกรูปาย เมตฺตาภาวนายาติ อตฺโถ. วิหาราทิอุทฺเทสรหิตนฺติ วิหาราทิปเทสปริจฺเฉทรหิตํ. อุคฺคหิตาย เมตฺตาย. อฏฺวีสติวิธาติ อิตฺถิอาทิวเสน สตฺตวิธา ปจฺเจกํ อเวราทีหิ โยชนาวเสน อฏฺวีสติวิธา. สตฺตาทิอิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคนาติ เอตฺถ สตฺตาทิอเวราทิโยเคน วีสติ, อิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคน ¶ อฏฺวีสตีติ อฏฺจตฺตารีสํ เอกิสฺสา ทิสาย. ตถา เสสทิสาสุปีติ สพฺพา สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา’’ติ.
กตากตานุโสจนฺจ น โหตีติ โยชนา. ‘‘พหุกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๔.๖) พหุสฺสุตตา นวงฺคสฺส สาสนสฺส วเสน เวทิตพฺพา, น วินยมตฺตสฺเสวาติ วุฑฺฒตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา อิจฺเจว วุตฺตํ, น พหุสฺสุตตฺจาติ.
ติฏฺติ อนุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา เอตฺถ เอเตสุ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิกาย (ม. นิ. ๑.๑๘; ส. นิ. ๒.๒๐) ปวตฺติยา อเนกเภเทสุ ปุริมุปฺปนฺเนสุ วิจิกิจฺฉาธมฺเมสูติ เต านียา วุตฺตา.
อฏฺวตฺถุกาปีติ ¶ น เกวลํ โสฬสวตฺถุกา, นาปิ รตนตฺตยวตฺถุกา จ, อถ โข อฏฺวตฺถุกาปิ. รตนตฺตเย สํสยาปนฺนสฺส สิกฺขาทีสุ กงฺขาสมฺภวโต, ตตฺถ นิพฺเพมติกสฺส ตทภาวโต จ เสสวิจิกิจฺฉานํ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกตา ทฏฺพฺพา. อนุปวิสนํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ สทฺทหนวเสน อารมฺมณสฺส ปกฺขนฺทนํ.
นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.
ข. โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา
เตนาติ อตฺถสนฺนิสฺสิตคฺคหเณน.
ปจฺจยวเสน ทุพฺพลภาโว มนฺทตา.
ปพฺพตปเทสวนคหนนฺตริโตปิ คาโม น ทูเร, ปพฺพตํ ปริกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพตาย อาวาโส อรฺลกฺขณูเปโต, ตสฺมา มํสโสเตเนว อสฺโสสีติ วทนฺติ.
สมฺปตฺติเหตุตาย ¶ ปสาโท สิเนหปริยาเยน วุตฺโต.
อินฺทฺริยานํ ติกฺขภาวาปาทนํ เตชนํ. โตสนํ ปโมทนํ.
โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถวิปสฺสนาวเสน ปมสฺส สติปฏฺานสฺส, สุทฺธวิปสฺสนาวเสน อิตเรสํ. อาคมนวเสน วุตฺตํ อฺถา มคฺคสมฺมาสติยา กถํ กายารมฺมณตา สิยาติ อธิปฺปาโย. กายานุปสฺสิอาทีนํ จตุพฺพิธานํ ปุคฺคลานํ วุตฺตานํ. เตนาห ‘‘น หิ สกฺกา เอกสฺส…เป… วตฺตุ’’นฺติ. อเนกสติสมฺภวาวโพธปสงฺคาติ เอกจิตฺตุปฺปาเทน อเนกิสฺสา สติยา สมฺภวสฺส, สติ จ ตสฺมึ อเนกาวโพธสฺส จ อาปชฺชนโต. สกิจฺจปริจฺฉินฺเนติ อตฺตโน กิจฺจวิเสสวิสิฏฺเ. ธมฺมเภเทนาติ อารมฺมณเภทวิสิฏฺเน ธมฺมวิเสเสน. น ธมฺมสฺส ธมฺโม กิจฺจนฺติ เอกสฺส ธมฺมสฺส อฺธมฺโม กิจฺจํ นาม น โหติ ตทภาวโต. ธมฺมเภเทน ธมฺมสฺส วิภาเคน. ตสฺส เภโทติ ตสฺส กิจฺจสฺส เภโท นตฺถิ. ตสฺมาติ ยสฺมา นยิธ ธมฺมสฺส วิภาเคน กิจฺจเภโท อิจฺฉิโต, กิจฺจเภเทน ¶ ปน ธมฺมวิภาโค อิจฺฉิโต, ตสฺมา. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกาวา’’ติอาทิ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๓๗๔. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ อิทํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน สติปฏฺานวิเสสนํ, ตฺจ อาคมนสิทฺธํ, อฺถา ตสฺส อสมฺภวโตติ อาห ‘‘อาคมนวเสน…เป… เทเสตฺวา’’ติ. ปุคฺคลํ อนามสิตฺวาติ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอวํ ปุคฺคลํ อคฺคเหตฺวา. ตถา อนามสนโต เอว อาคมนวิเสสนํ อกตฺวา. นยทฺวเยติ อนุปสฺสนานโย, สุทฺธิกนโยติ เอตสฺมึ นยทฺวเย.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมฺมปฺปธานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๓๙๐. การณสทฺโท ¶ ¶ ยุตฺติวาจโก ‘‘สพฺพเมตํ อการณํ วทตี’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา การณปฺปธานาติ ยุตฺติปฺปธานา, อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทนาทิกิริยาย อนุรูปปฺปธานาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนุปฺปนฺนปาปกาทีนํ อนุปฺปาทาทิ อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิ.
๓๙๑. ‘‘น อฺโ ธมฺโมติ ยถา ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสวายมนสภาวานํ ตณฺหาทีนํ ฉนฺทปริยาโย อฺธมฺโม นาม โหติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตสฺส ฉนฺทนิยสฺส เตสุ อภาวา, ธมฺมจฺฉนฺโท ปน ตํสภาวตฺตา อฺธมฺโม น โหติ. เตนาห ‘‘ธมฺมจฺฉนฺโทติ สภาวจฺฉนฺโท’’ติ.
๔๐๖. อฏฺกถายนฺติ โปราณฏฺกถายํ. วฏฺฏานตฺถสํวตฺตนโตติ สํสารทุกฺขสมฺภวโต.
น สกฺโกนฺตีติ อาห ‘‘สนฺตาย สมาปตฺติยา ปริหีนา พฺรหฺมจริยวาเส สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ทุวิธายาติ โยเชตพฺพํ. อุปฺปนฺนาเยวาติ อุปฺปนฺนปุพฺพา เอว อุปฺปชฺชนฺติ สมุทาจาราทิวเสน.
สพฺพาสุ อวตฺถาสูติ ปกตตฺตาทิอวตฺถาสุ. ปกตตฺตาวตฺเถน หิ สพฺเพน สพฺพํ ตานิ น จริตพฺพานิ. อิตราวตฺเถน จ ตทวตฺถาย ตานิ ตานิเยว จริตพฺพานิ. วตฺตพฺพนฺติอาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ¶ ‘‘น เอกจฺฉนฺเน อนาวาเส วตฺถพฺพํ, น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ, น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ อิมานิ สงฺคณฺหาติ. เตสนฺติ ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีนํ วเสน. สมฺปิณฺเฑตฺวาติ สงฺกฑฺฒิตฺวา. เอเกกํ กตฺวาติ นวาปิ เอกเมกํ ¶ กตฺวา. ‘‘อภิวาทนปจฺจุฏฺานฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมํ น สาทิตพฺพํ, อาสนาภิหารํ, เสยฺยาภิหารํ, ปาโททกํ, ปาทปีํ, ปาทกถลิกํ, ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ น สาทิตพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพมฺปิ อสาทิยนสามฺเน เอกํ. ทสาติ ‘‘น สีลวิปตฺติยา, น อาจารวิปตฺติยา, น ทิฏฺิวิปตฺติยา, น อาชีววิปตฺติยา, น ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทตพฺพา, น คิหิทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตพฺโพ, น ติตฺถิยา เสวิตพฺพา, ภิกฺขู เสวิตพฺพา, ภิกฺขุสิกฺขาย สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๖๐) เอวมาคตา ทส.
‘‘กมฺมฺจา’’ติ ปจฺจตฺตวเสน วุตฺตํ กมฺมํ ‘‘อวิปกฺกวิปากสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘กมฺมสฺสา’’ติ สามิวจนวเสน ปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ. ภูตาปคตุปฺปนฺนนฺติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธาติ อิมิสฺสา สมฺโมหวิโนทนิยา. ‘‘เอวํ กเต โอกาเส วิปาโก…เป… อุปฺปนฺโนติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺโต วิปากเมว วทติ. ตตฺถาติ อฏฺสาลินิยํ. มคฺเคน สมุจฺฉินฺนา ถามคตา กามราคาทโย ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘อนุสยิต…เป… มคฺเคน ปหาตพฺพา’’ติ.
อาหตขีรรุกฺโข วิย อารมฺมณํ, กถํ? นิมิตฺตคฺคาหวเสน. ตเมวตฺถํ วิวรติ ‘‘อธิคต’’นฺติอาทินา. ตตฺถ นิมิตฺตคฺคาหวเสน อารมฺมณสฺส อธิคฺคหิตตฺตา ตํ อารมฺมณํ อนุสฺสริตานุสฺสริตกฺขเณ กิเลสุปฺปตฺติเหตุภาเวน อุปฺปตฺติฏฺานโต อธิคตเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘อธิคตํ นิมิตฺตคฺคาหวเสนา’’ติ, ตํ อารมฺมณํ ปาตุภูตกิเลสนฺติ อธิปฺปาโย. กิเลสุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย อุปฺปตฺติรหํ กิเลสํ ‘‘อารมฺมณํ อนฺโตคธกิเลส’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺจ โข คาหเก ลพฺภมานํ คเหตพฺเพ อุปจริตฺวา, ยถา นิสฺสิเต ลพฺภมานํ นิสฺสเย อุปจริตฺวา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. อิทานิ อุปจารํ มฺุจิตฺวา นิปฺปริยาเยเนว อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิมิตฺตคฺคาห…เป… สทิสา’’ติ อาห. วิตฺถาเรตพฺพนฺติ ‘‘ยถา กึ? สเจ ขีรรุกฺข’’นฺติอาทินา วิตฺถาเรตพฺพํ.
ติธาติ ¶ อตีตาทิวเสน ติธา. อาภโต อุปมาวเสน. อปฺปหีนตาทสฺสนตฺถมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ‘‘ติธา นวตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถมฺปี’’ติ วุตฺตเมว สมฺปิณฺเฑติ. เอวํ มคฺเคน ปหีนกิเลสา ทฏฺพฺพา มคฺเค อนุปฺปนฺเน อุปฺปตฺติรหานมฺปิ อุปฺปนฺเน สพฺเพน สพฺพํ อภาวโต.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๔๒๗. วีริยเชฏฺิกาย ¶ ปน มคฺคภาวนาย น วตฺตพฺพานิ สมฺมปฺปธานานิ ‘‘มคฺคาธิปตีนี’’ติ วา ‘‘นมคฺคาธิปตีนี’’ติ วาติ วาติ เอตฺถ ปมสฺส วีริยนฺตราภาโว, อิตรสฺส อิตราธิปติโน, นมคฺคภูตวีริยาธิปติโน จ อภาโว นวตฺตพฺพตาย การณนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘มคฺคาธิปตีนี’’ติอาทินา. ตทาติ วีริยเชฏฺิกมคฺคภาวนากาเล.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมฺมปฺปธานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อิทฺธิปาทวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๔๓๑. ปโม ¶ ¶ กตฺตุอตฺโถ ‘‘อิชฺฌตีติ อิทฺธี’’ติ. ทุติโย กรณตฺโถ ‘‘อิชฺฌนฺติ เอตายา’’ติ. ปชฺชิตพฺพา อิทฺธิ วุตฺตา ‘‘อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺตี’’ติ กตฺตุสาธนสฺส อิทฺธิสทฺทสฺส กรณสาธเนน ปาทสทฺเทน สมานาธิกรณตาย อสมฺภวโต, อิชฺฌนกสฺส จ อตฺถสฺส กรณภูเตน ปาเทน ปชฺชิตพฺพตฺตา ‘‘อิทฺธิ เอว ปาโท’’ติ สทฺทโยชนา น สมฺภวตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘น จ…เป… วตฺตุ’’นฺติ. อิทฺธิกิริยากรเณนาติ อิชฺฌนกิริยาย กรณภูเตน อตฺเถน สาเธตพฺพา จ อิทฺธิ ปชฺชิตพฺพาติ โยชนา. ทฺวินฺนํ กรณานนฺติ อิชฺฌนปชฺชนกิริยากรณานํ อิทฺธิปาทตฺถานํ. น อสมานาธิกรณตา สมฺภวติ ปฏิเสธทฺวยํ ปกติยํ เปตีติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปเมนตฺเถน สมานาธิกรณสมาโส, ทุติเยน สามิวจนสมาโส อิทฺธิปาทสทฺทานํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา. ยถาวุตฺตา วา ปเมนตฺเถน สมานาธิกรณสมาสวเสเนว โยชนา ยุชฺชติ ปาทสฺส ปชฺชมานโกฏฺาสภาวโต. ทุติเยนตฺเถน อิตรสมาเสเนว โยชนา ยุชฺชติ ปาทสฺส อิชฺฌนกรณูปายภาวโต.
เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. ทุวิธตฺถายาติ นิพฺพตฺติอตฺถาย, วุทฺธิอตฺถาย จ. วิสุนฺติ ‘‘อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมสฺมา วิสุํ. สมาสโยชนาวเสนาติ ‘‘อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ เอวํ สมาสโยชนาวเสน. ยถายุตฺโตติ กตฺตุกรณตฺเถสุ โย โย ยุตฺโต. ปฏิลาภปุพฺพภาคานนฺติ วิเสสาธิคมตํปุพฺพภาคานํ ยถากฺกมํ กตฺติทฺธิกรณิทฺธิภาวํ สนฺธาย วุตฺโตติ โยชนา. อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘ฉนฺโทเยว ฉนฺทิทฺธิปาโท, จิตฺตเมว, วีริยเมว, วีมํสาว ¶ วีมํสิทฺธิปาโท’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อุตฺตรจูฬภาชนีเย วา วุตฺเตหิ ฉนฺทาทีหิ อิทฺธิปาเทหี’’ติอาทิ.
ฉนฺทจิตฺตวีมํสิทฺธิปาเทสุ ตาว ยุตฺตํ ปธานสงฺขารคฺคหณํ อปุพฺพตฺตา, วีริยิทฺธิปาเท ปน กถนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส’’ติอาทิ. ยทิ ทฺเวเยว สมนฺนาคมงฺคานิ, ฉนฺทาทโย กิมตฺถิยาติ อาห ‘‘สมาธิวิเสสนานี’’ติ. น อิธ…เป… วุตฺตา โหติ อตพฺพิเสสนตฺตา. ยทิปิ ¶ สมาธิวิเสสนสมนฺนาคมงฺคทสฺสนตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตนฺติ วุตฺตํ, ตํ ปน ‘‘วีริยสมาธิสมนฺนาคต’’นฺติ เอตฺตาวตาปิ สิทฺธํ โหติ. เอวํ สิทฺเธ สติ ปุน วจนํ วีริยนฺตรสพฺภาวํ นุ โข ทีเปตีติ กทาจิ อาสงฺเกยฺยาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘‘วีริยฺจา’’ติอาทิมาห. ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโติ ฉนฺทาทีนํ อธิปติปจฺจยตาวิเสเสน วิสิฏฺโ. เตเนว หิ ฉนฺทาทิมุเขเนว อิทฺธิปาทา เทสิตา. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธิ’’นฺติอาทิ. ตํตํอวสฺสยนวเสนาติ ตสฺส ตสฺส ฉนฺทสฺส สมาธิโน อวสฺสยตาวเสน, ปจฺจยวิเสสตายาติ อตฺโถ. อุปายตฺเถน…เป… วุตฺตา โหติ อธิคมูปายตาปิ นิสฺสยภาโวเยวาติ. ‘‘เตเนวา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตํ ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตํ ปาฬิยาเยว วิภาเวติ. ตตฺถ เตเนวาติ ฉนฺทาทีนํเยว อุปายตฺถภาเวเนว อิทฺธิปาทภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมวาติ ฉนฺทาทิเก ธุเร เชฏฺเก ปุพฺพงฺคเม กตฺวา นิพฺพตฺติตสมาธิ ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิยา อธิคมูปายตาทสฺสนํ อุปายิทฺธิปาททสฺสนํ, ตทตฺถเมว ‘‘ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปาฬิยํ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ ฉนฺทาทิวิสิฏฺานํเยว เวทนากฺขนฺธาทีนํ อธิปฺเปตตฺตา. เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา เกวลํ อิทฺธิสมฺปยุตฺตานํเยว ขนฺธานํ วเสน อิทฺธิปาทภาเว คยฺหมาเน จตุพฺพิธตา น โหติ วิเสสการณาภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๔๓๓. โตสนํ สตฺถุ อาราธนํ, สิกฺขาย วา. ถามภาวโตติ ถิรภาวโต. กุลาปเทเส ชาติมา ปุริสฺสโร โหตีติ ‘‘ปุพฺพงฺคมตฺตา จิตฺตสฺส วิสิฏฺชาติสทิสตา’’ติ วุตฺตํ. วิจารณาปฺาเหตุกตฺตา มนฺตสฺส วีมํสาสทิสตา สุวิฺเยฺยาวาติ น อุทฺธฏา.
ฉนฺทาทิเกติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารา, วีริยจิตฺตวีมํสาสมาธิปธานสงฺขาราติ อิเม ตโย ตโย ธมฺเม. อเภทโต เภทํ อกตฺวา อภินฺทิตฺวา อิทฺธิภาวสามฺเน, อิทฺธิปาทภาวสามฺเน จ ¶ สงฺคณฺหิตฺวา. เตนาห ‘‘สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติ. เภทนํ วา สมฺเภทนํ มิสฺสีกรณนฺติ อาห ‘‘อมิสฺเสตฺวา’’ติ. ตถา หิ ‘‘เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยวา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๔๓๓) อิทฺธิอิทฺธิปาเท อมิสฺเสตฺวาปิ กถิตํ. วิเสเสนาติ เภเทน จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ อสมฺมิสฺสภาเวน อาเวณิกตฺตา. อาเวณิกา ¶ หิ ฉนฺทาทโย ตสฺส ตสฺส อิทฺธิปาทสฺส. อวิเสเสนาติ อเภเทน, จตุริทฺธิปาทสาธารณภาเวนาติ อตฺโถ.
ฉนฺทิทฺธิปาทสมาธิทฺธิปาทาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปธานสงฺขารํ, วีริยจิตฺตวีมํสา จ สงฺคณฺหาติ. ปาโทติ เตหิ สมฺปยุตฺตํ จตุกฺขนฺธมาห. ‘‘ฉนฺทิทฺธิปาเท ปวิสนฺตี’’ติอาทินา วิสิฏฺเสฺเวว ปเวสํ อวตฺวา. จตูสูติ ฉนฺโท, สมาธิ, ปธานสงฺขารา, ตํสมฺปยุตฺตา ขนฺธาติ เอวํ จตูสุ. ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ฉนฺทวโต โก สมาธิ น อิชฺฌิสฺสตี’’ติ. อิตีติ เอวํ อเนน ปกาเรน, ยํ สมาธิภาวนามุขํ. สมาธิภาวนานุโยเคน ภาวิตา ขนฺธา สมาธิภาวิตา.
‘‘เย หี’’ติอาทินา ‘‘อภินวํ นตฺถี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตํ วิวรติ. ติณฺณนฺติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ. อิทนฺติ ‘‘อิเม หิ ตโย’’ติอาทิวจนํ. ปุริมสฺสาติ ‘‘ฉนฺโท สมาธี’’ติอาทิวจนสฺส. การณภาเวนาติ สาธนภาเวน. เตนาติ ‘‘อิเม หิ ตโย ธมฺมา’’ติอาทิวจเนน. ยสฺมา ฉนฺทาทโย ตโย ธมฺมา อฺมฺํ, สมฺปยุตฺตกานฺจ นิสฺสยภาเวน ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา เตสมฺปิ อิทฺธิปาทภาโว วุตฺโต. โส ปน นิสฺสยภาโว สมฺปโยคาวินาภาวีติ อาห ‘‘ตทนฺโตคธตฺตา’’ติ, สมฺปยุตฺตกนฺโตคธตฺตาติ อตฺโถ. ฉนฺทาทีนํ วิย สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานํ สภาวโต อิทฺธิภาโว นตฺถีติ อาห ‘‘อิทฺธิภาวปริยาโย อตฺถี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เสสา สมฺปยุตฺตกา…เป… น อตฺตโน สภาเวนา’’ติ. เอกเทสสฺสาติ ฉนฺทาทีนํ. จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ, ฉนฺทาทีนํ วา จตุนฺนํ. ปุนปีติ ‘‘สมฺปยุตฺตกา ปนา’’ติอาทึ สนฺธายาห. อิมินา จตุกฺขนฺธตเทกเทสานํ อิทฺธิภาวทีปเนน.
ปุพฺเพ วุตฺตโต วจนกฺกเมน อฺนฺติ อาห ‘‘อปุพฺพนฺติ กตฺวา’’ติ. เกนฏฺเน อิทฺธิ ปฏิลาโภ, เกนฏฺเน ปาโท ปุพฺพภาโคติ ยถากฺกมํ โยชนา. ยทิ ปติฏฺานฏฺเน ปาโท, นิสฺสยิทฺธิปาโทเยว วุตฺโต สิยา, น อุปายิทฺธิปาโทติ อาห ‘‘อุปาโย จา’’ติอาทิ. สพฺพตฺถาติ สุตฺตนฺตภาชนีเย, อภิธมฺมภาชนีเย จ. เตนาห ‘‘สุตฺตนฺตภาชนีเย หี’’ติอาทิ. สมาธิวิเสสนภาเวนาติ ¶ ‘‘ฉนฺทาธิปติ, ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินา สมาธิสฺส วิเสสนภาเวน ¶ . ‘‘สมาธิเสวนวเสนา’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ สมาธิเสวนวเสนาติ ฉนฺทาธิเก อธิปตึ กริตฺวา สมาธิสฺส อาเสวนวเสน. อุปายภูตานนฺติ ‘‘ฉนฺทวโต เจ สมาธิ อิชฺฌติ, มยฺเหว อิชฺฌตี’’ติ สมาธิอาเสวนาย อุปายภูตานํ.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๔๔. สาธิปติวารานิ อฏฺสตานิ, เตสุ ปจฺเจกํ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา น สมฺภวนฺตีติ อาห ‘‘สาธิปติวารานํ ปริปุณฺณานํ อภาวา’’ติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘น หิ อธิปตีนํ อธิปตโย วิชฺชนฺตี’’ติ. ยทิ หิ อธิปตี สิยุํ สาธิปตีติ อิทฺธิปาทเภเทน ทฺวตฺตึส นยสตานิ, สุทฺธิกานิ อฏฺาติ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ ภเวยฺยุํ, ตํ ปน นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ยตฺตกา ปน นยา อิธ ลพฺภนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเกกสฺมึ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุทฺธิกานิ อฏฺ นยสตานิ สาธิปติกานิปิ อฏฺเวาติ จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน โสฬส นยสตานิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
สยํ เชฏฺกภาเวน ปวตฺตนโต จตฺตาโร อธิปตโย อฺมฺํ ครุํ น กโรนฺติ. ตสฺมา ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘อฺมฺสฺส ปน อธิปตโย น ภวนฺตี’’ติ. เอตมตฺถนฺติ ‘‘อธิปตโย อฺมฺสฺส อธิปตี น ภวนฺตี’’ติ เอตมตฺถํ. อธิปติโนติ อธิปติ ภวิตุํ สมตฺถสฺส. อธิปตึ น กโรนฺตีติ อธิปตึ กตฺวา ครุํ กตฺวา ¶ นปฺปวตฺตนฺติ. อธิปตีนํ สหภาเวติ อธิปติกิจฺจกรเณน สหปวตฺติยํ. ‘‘อวีมํสาธิปติกสฺส มคฺคสฺส อภาวา’’ติ อิทํ ‘‘อธิปติตาสมตฺถา ธมฺมา อธิปติภาเวเนว ปวตฺเตยฺยุ’’นฺติ โทสาโรปนวเสนาห, น ยถาธิคตวเสน. อธิปติธมฺมานฺหิ ปุพฺพาภิสงฺขาเร สติ อธิปติภาเวน ปวตฺติ, น อฺถาติ สหภาเวปิ ตทภาวํ สนฺธาย วิเสสนํ น ¶ กตฺตพฺพํ สิยาติ สกฺกา วตฺตุํ. อฺมฺาธิปติกรณภาเวติ อฺมฺํ อธิปตึ กตฺวา ปวตฺติยํ. วีมํสาธิปติกตฺตวจนนฺติ วีมํสาธิปติกภาวสฺส วจนํ. น วตฺตพฺพํ สิยา สพฺเพสมฺปิ อธิปตีนํ สาธิปติกตฺตาติ อธิปฺปาโย. สหภาโว ปฏิกฺขิตฺโต เอว สาธิปติภาวสฺส อเนกํสิกตาวจนโต.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิทฺธิปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โพชฺฌงฺควิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
ปมนยวณฺณนา
๔๖๖. ปติฏฺานํ ¶ ¶ อิธ สํสาเร อวฏฺานํ, ตสฺส มูลํ กิเลสาติ อาห ‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺาน’’นฺติ. ปติฏฺานาย ปน พฺยาปาราปตฺติ กมฺมนฺติ วุตฺตํ ‘‘อภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ. ยสฺมา กิเลเสสุ ตณฺหาทิฏฺิโย ตณฺหาทิฏฺิจริตานํ วิเสสโต สํสารนายิกา, กิเลสสหิตเมว จ กมฺมํ ปติฏฺานาย โหติ, น เกวลํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทิฏฺีหิ…เป… อายูหนา’’ติ. ตถา ตณฺหาย ภวสฺสาทภาวโต, ทิฏฺิยา วิภวาภินนฺทนภูตาย วิภวาภิสงฺขรณภาวโต ‘‘ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา’’ติ วุตฺตํ. ทิฏฺีสุปิ อนฺโตมุขปฺปวตฺตาย ภวทิฏฺิยา วิเสสโต สํสาเร อวฏฺานํ, ยโต โอลียนาติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺาน’’นฺติ. พหิมุขปฺปวตฺตาปิ วิภวทิฏฺิ ภวาภิสงฺขรณํ นาติวตฺตตีติ วุตฺตํ ‘‘อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา’’ติ. ลยาปตฺติ ยถารทฺธสฺส อารมฺภสฺส อนิฏฺานํ อนฺโตสงฺโกจภาวโตติ อาห ‘‘ลีนวเสน ปติฏฺาน’’นฺติ. อุทฺธตาปตฺติ อนุปายภูตา พฺยาปาราปตฺติ อสงฺโกจภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา’’ติ. ตถา โกสชฺชปกฺขิกตฺตา จ กามสุขานุโยคสฺส อุทฺธจฺจปกฺขิกตฺตา จ อตฺตกิลมถานุโยคสฺส ตทุภยวเสน ปติฏฺานายูหนา วุตฺตา, อิตรํ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. อิธาติ อิมิสฺสา สมฺโมหวิโนทนิยา. อวุตฺตานนฺติ ‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺาน’’นฺติอาทีนํ วเสน เวทิตพฺพา ปติฏฺานายูหนาติ โยชนา.
สมปฺปวตฺเต ธมฺเมติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน สมปฺปวตฺเต สมฺปยุตฺตธมฺเม. ปฏิสฺจิกฺขตีติ ปติรูปํ ¶ สงฺกเลติ คเณติ ตุเลติ. เตนาห ‘‘อุปปตฺติโต อิกฺขตี’’ติ. ตทากาโรติ ปฏิสงฺขานากาโร อุปปตฺติโต อิกฺขนากาโร. เอวฺจ กตฺวาติ ปฏิสงฺขานสภาวตฺตา เอว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ปจฺฉิมปจฺฉิมการณภาโวติ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส การณภาโว. ปุริมํ ปุริมฺหิ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส วิเสสปจฺจโยติ.
๔๖๗. อวิปรีตกายาทิสภาวคฺคหณสมตฺถตาย ¶ พลวตี เอว สติ. ปฺา คหิตา สติเนปกฺเกนาติ อตฺโถ. เอวํจิตฺโตติ เอวํ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิตจิตฺโต. จิรกตวตฺตาทิวเสนาติ จิรกตวตฺตาทิสีเสน. ‘‘วุตฺโต’’ติ อิมินาปิ ‘‘กตฺวา อาห กายวิฺตฺตึ…เป… โกฏฺาส’’นฺติ โยชนา.
ปเรสนฺติ น อนนฺตรานํ. สพฺเพสํ…เป… โยเชตพฺพา ‘‘สพฺเพ โพชฺฌงฺคา สพฺเพสํ ปจฺจยวิเสสา โหนฺติเยวา’’ติ. กาเมตีติ กาโม, อสฺสาทนวเสน อามสตีติ อามิสํ, กาโมว อามิสนฺติ กามามิสํ, กิเลสกาโม. วตฺถุกาโม ปน อามสียตีติ อามิสํ. เอวํ เสสทฺวยมฺปิ. เตสุ โลกียนฺติ เอตฺถ สุขวิเสสาติ โลโก, อุปปตฺติวิเสโส. วฏฺฏํ สํสาโร. กามสฺสาทวเสน ปวตฺโต โลโภ กามามิสํ. ภววิเสสปตฺถนาวเสน ปวตฺโต โลกามิสํ. วิภโว นาม กิมตฺถิโย, โก วา ตํ อภิปตฺเถยฺยาติ วฏฺฏานุเคธภูโต โลโภ วฏฺฏามิสนฺติ จ วทนฺติ. ตทารมฺมณนฺติ ตสฺสา ตณฺหาย อารมฺมณํ, รูปาทิ. โลกธมฺมา ลาภาทโย. วุตฺตาวเสสา สพฺพาว ตณฺหา สํสารชนโก ราโค.
ปมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยนยวณฺณนา
๔๖๘-๙. สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ, สฺีภวาทีสุ, เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา, ปจฺจยฏฺิติกา. เยน ปจฺจเยน เต ติฏฺนฺติ, โส เอโกว ธมฺโม าตปริฺาสงฺขาตาย ‘‘อาหารฏฺิติกา’’ติ อภิฺาย ¶ อภิฺเยฺโย. ทฺเว ธาตุโยติ สงฺขตาสงฺขตธาตุโย. ติสฺโส ธาตุโยติ กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตุโย. ปฺจ วิมุตฺตายตนานีติ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๒๒, ๓๕๕; อ. นิ. ๕.๒๖) อาคตานิ วิมุจฺจนการณานิ. อนุตฺตริยานีติ ทสฺสนานุตฺตริยาทีนิ ฉ อนุตฺตริยานิ. นิทฺทสวตฺถูนีติ เยหิ ¶ การเณหิ นิทฺทโส โหติ, ตานิ นิทฺทสวตฺถูนิ นาม. เทสนามตฺตฺเจตํ. ขีณาสโว หิ ทสวสฺโส หุตฺวา ปรินิพฺพุโต ปุน ทสวสฺโส น โหติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโส, นววสฺโสปิ…เป… เอกมุหุตฺติโกปิ น โหติเยว ปุน ปฏิสนฺธิยา อภาวา, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปเนวํ วุตฺตํ. ตานิ ปน ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๓๑) สุตฺเต อาคตานิเยว. ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติอาทีนิ (ที. นิ. ๓.๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๑๐๖) ทส นิชฺชรวตฺถูนิ. ขนฺธาทโยติ ขนฺธายตนธาตาทโย. วินนฺธนนฺติ ‘‘ภวาทิวินนฺธนฏฺเน วานํ วุจฺจติ ตณฺหา’’ติ ทสฺเสติ. คมนนฺติ อสฺสาทนวเสน อารมฺมเณ ปวตฺติมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘ปิยรูปสาตรูเปสู’’ติ.
วิปสฺสนาสหคตนฺติ เวทิตพฺพํ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตา. ‘‘มคฺคํ อปฺปตฺตํ กายิกํ วีริย’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ปน โลกุตฺตรวีริยมฺปิ ปริยาเยน กายิกํ นาม อตฺถีติ ทีปิตํ โหติ.
รูปาวจเร ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคติ น วุจฺจตีติ อาห ‘‘รูปาวจเร…เป… ปฏิกฺขิตฺตา’’ติ. ยถา วิปสฺสนาสหคตา ปีติ ปริยาเยน ‘‘ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ติ วุจฺจติ, เอวํ รูปาวจเร ปีติ นิพฺเพธภาคิยา วตฺตพฺพา สิยา. เอวํ ลพฺภมานาปิ อลพฺภมานํ อุปาทาย น วุตฺตา. ‘‘อวิตกฺกอวิจารา’’ติ วิเสสนํ สนฺตปณีตาย ปีติยา ทสฺสนตฺถํ. โพชฺฌงฺคภูตาติ ปริยายโพชฺฌงฺคภูตา. อวิตกฺกอวิจาโร ปีติ…เป… น วุตฺโต สวิตกฺกสวิจารตฺตา ตสฺส. น หิ กามาวจรา อวิตกฺกอวิจารา ปีติ อตฺถิ.
อิธ วุตฺโต ปริยาเยนาติ อตฺโถ. มคฺคปฏิเวธานุโลมนโต วิปสฺสนาย วิย ปาทกชฺฌาเนสุปิ สติอาทโย ‘‘โพชฺฌงฺคา’’ตฺเวว วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘นิพฺเพธภาคิยตฺตา น ปฏิกฺขิปิตพฺโพ’’ติ. เอวํ กสิณชฺฌานาทีสุ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺตานํ อธิปฺปายํ วตฺวา อนุทฺธรนฺตานํ ¶ อธิปฺปายํ วตฺตุํ ‘‘อนุทฺธรนฺตา ปนา’’ติอาทิมาห. เต หิ อาสนฺเนกนฺตกิจฺจนิพฺพตฺตีหิ วิปสฺสนากฺขเณ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, น ฌานกฺขเณ ตทภาวโต. เตนาห ‘‘วิปสฺสนากิจฺจสฺส วิย…เป… น อุทฺธรนฺตี’’ติ. กสิณนิสฺสนฺโท อรูปานีติ อาห ‘‘ตทายตฺตานี’’ติ.
ทุติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยนยวณฺณนา
๔๗๐-๑. โวสฺสชฺชนํ ¶ ปหานํ โวสฺสคฺโค, โวสฺสชฺชนํ วา วิสฺสฏฺภาโว นิราสงฺกานุปฺปเวโสติ อาห ‘‘โวสฺสคฺคสทฺโท…เป… ทุวิธตา วุตฺตา’’ติ. วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺคตนฺนินฺนปฺปกาเรน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทตทารมฺมณกรณปฺปกาเรน.
ตติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๗๒. อุเปกฺขนมุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส สภาโว, โส จ สมาธิวีริยสมฺโพชฺฌงฺโค วิย สมฺปยุตฺตานํ อูนาธิกภาวพฺยาวโฏ อหุตฺวา เตสํ อนูนานธิกภาเว มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตีติ อิมมตฺถํ อาห ‘‘อุเปกฺขนวเสนา’’ติอาทินา. ตตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขนนฺติ ปฏิสงฺขานมาห.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
โพชฺฌงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. มคฺคงฺควิภงฺโค
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๔๙๐. อภิธมฺเมติ ¶ ¶ ธมฺมสงฺคเห. โส หิ นิพฺพตฺติตาภิธมฺมเทสนา, น วิภงฺคเทสนา วิย สุตฺตนฺตนยวิมิสฺสา. อริโยปปทตํ น กโรติ วินาปิ เตนสฺส อริยภาวสิทฺธิโต. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ.
๔๙๓. ‘‘โลกิยกาเลนา’’ติ อิทํ ปุพฺพภาคภาวนานุภาเวน กิจฺจาติเรกสิทฺธีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอเตสนฺติ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ. อปฺปหาเน, ปหาเน จ อาทีนวานิสํสวิภาวนาทินา วิเสสปฺปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิอาทีนิ มิจฺฉาวาจาทีนิ ปชหาเปนฺตีติ วุตฺตานิ. มิจฺฉาวาจาทิโต นิวตฺติ สมฺมาวาจาทิกิริยาติ วุตฺตํ ‘‘สมฺมาวาจาทิกิริยา หิ วิรตี’’ติ. สมฺมาทิฏฺิอาทโย วิย น การาปกภาเวน, ตํสมงฺคีปุคฺคโล วิย น กตฺตุภาเวน. โลกุตฺตรกฺขเณปีติ น เกวลํ โลกิยกฺขเณเยว, อถ โข โลกุตฺตรกฺขเณปิ.
ขนฺโธปธึ วิปจฺจตีติ ปฏิสนฺธิทายิกํ สนฺธายาห. ตตฺถ วิปจฺจตีติ ปวตฺติวิปากทายิกํ.
เอเกกนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมา สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา เอเกกํ องฺคํ ปุจฺฉิตฺวา. ตสฺส ตสฺเสวาติ เอเกกองฺคสฺเสว, น องฺคสมุทายสฺส. สห ปน ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺจงฺคิโก มคฺโค’’ติ ปุจฺฉิตฺวา. เอกโต วิสฺสชฺชนปฏินิทฺเทสตฺตาติ ยทิปิ ‘‘ตตฺถ กตมา สมฺมาทิฏฺิ? ยา ปฺา’’ติอาทินา (วิภ. ๔๙๕) วิสฺสชฺชนํ กตํ, ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺจงฺคิโก ¶ มคฺโค’’ติ (วิภ. ๔๙๔) ปน เอกโต กตาย ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนวเสน ปฏินิทฺเทสภาวโต น ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ นาม โหติ. กสฺมา ปเนตฺถ ปฺจงฺคิกวาเร เอว ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํ, น อฏฺงฺคิกวาเรติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. เอเกกมุขายาติ สมฺมาทิฏฺิอาทิมุขาย. เตน วุตฺตํ ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺึ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขาร’’นฺติอาทิ ¶ (สํ. นิ. ๕.๒๘). ปุพฺพสุทฺธิยา สิชฺฌนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑), ตสฺมา สมฺมาวาจาทิมุขา ภาวนา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘น มคฺคสฺส อุปจาเรนา’’ติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
มคฺคงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ฌานวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
มาติกาวณฺณนา
๕๐๘. ปาติโมกฺขสํวราทีติ ¶ ¶ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, สติสมฺปชฺํ, ชาคริยานุโยโคติ เอวมาทิเก สงฺคณฺหาติ. อสุภานุสฺสติโยติ อสุภฌานานิ, อนุสฺสติฌานานิ จ. สติ สมณภาวกรปุพฺพภาคกรณียสมฺปตฺติยํ สมณภาโวปิ สิทฺโธเยว โหตีติ อาห ‘‘สฺุา…เป… ทสฺเสตี’’ติ. การเณ หิ สิทฺเธ ผลมฺปิ สิทฺธเมว โหตีติ. สิกฺขาปทานํ สรูปํ, สิกฺขิตพฺพาการํ, สงฺเขปโต วิภาคฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘สิกฺขาปเทสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นามกายาทิวเสนาติ นามกายปทกายพฺยฺชนกายวเสน วุตฺเตสุ. อิมินา สิกฺขาปทานํ สิกฺขาย อธิคมูปายภูตปฺตฺติสภาวตํ ทสฺเสติ. เตสุ สิกฺขิตพฺพากาโร สตฺถุอาณานติกฺกโมเยวาติ อาห ‘‘วจ…เป… ตพฺเพสู’’ติ. สิกฺขาโกฏฺาเสสูติ วุตฺตปฺปเภเทสุ อธิสีลสิกฺขาภาเคสุ. เตสุ สมาทานเมว สิกฺขิตพฺพากาโรติ วุตฺตํ ‘‘ปริปูรณวเสน สิกฺขิตพฺเพสู’’ติ. สิกฺขาปเทกเทสภูตาติ สิกฺขาปทสมุทายสฺส อวยวภูตา. ภิกฺขุสิกฺขา หิ อิธาธิปฺเปตา ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เสสสิกฺขา ปน อตฺถุทฺธารวเสน สิกฺขาสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๕๑๖).
มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิทฺเทสวณฺณนา
๕๐๙. ทิฏฺตฺตาติ ¶ สยมฺภูาเณน สจฺฉิกตตฺตา. ขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สยมฺภูาเณน สจฺฉิกรณวเสเนว หิ ภควโต ขมนรุจฺจนาทโย, น อฺเสํ วิย อนุสฺสวาการปริวิตกฺกาทิมุเขน. อวิปรีตฏฺโ เอกนฺตนิยฺยานฏฺเน เวทิตพฺโพ. สิกฺขิยมาโนติ สิกฺขาย ปฏิปชฺชิยมาโน ¶ . สิกฺขิตพฺพานิ สิกฺขาปทานีติ สิกฺขาปทปาฬึ วทติ. ขนฺธตฺตยนฺติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยํ. ‘‘สพฺพปาปสฺส…เป… พุทฺธาน สาสน’’นฺติ (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๑.๙๐; เนตฺติ. ๓๐) วจนโต อาห ‘‘อนุสาสนทานภูตํ สิกฺขตฺตย’’นฺติ.
สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจยตฺตาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา เอกนฺตเหตุภาวโต. เอตฺถ จ สมฺมาทิฏฺีติ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ, กมฺมปถสมฺมาทิฏฺิ จ. ผลการโณปจาเรหีติ ผลูปจาเรน สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา, การณูปจาเรน สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา. กุสลธมฺเมหิ อตฺตโน เอกเทสภูเตหีติ สมฺมาทิฏฺิธมฺเม สนฺธายาห. กุสลปฺาวิฺาณานํ วา ปชานนวิชานนวเสน ทสฺสนํ ทิฏฺีติ. เตน อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อุปจริตตํ ทสฺเสติ. วินยนกิริยตฺตาติ เทสนาภูตํ สิกฺขตฺตยมาห. ธมฺเมนาติ ธมฺมโต อนเปเตน. อวิสมสภาเวนาติ อวิสเมน สภาเวน, สเมนาติ อตฺโถ.
๕๑๐. อนฺตฺเถนาติ ครหาทิอฺตฺถรหิเตน สกตฺเถน. ภินฺนปฏธเรติ ภิกฺขุสารุปฺปวเสน ปฺจขณฺฑาทินา เฉเทน ฉินฺนจีวรธเร.
เภทนปริยายวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา กิเลสานํ ปหานา กิเลสานํ เภทา ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติ.
คุณวเสนาติ เสกฺขธมฺมาทิคุณานํ วเสน. เตน ภาวตฺถโต ภิกฺขุสทฺโท ทสฺสิโต โหติ.
อิทํ ทฺวยนฺติ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา ปรโต สงฺคหทสฺสนวเสน วุตฺตํ ‘‘เสกฺโข’’ติอาทิกํ วจนทฺวยํ. อิมินาติ ‘‘เสกฺโข ภิกฺขุ ภินฺนตฺตา ปาปกาน’’นฺติ ปทานํ อตฺถทสฺสเนน. น สเมติ เสกฺขอเสกฺขปุถุชฺชนาเสกฺขทีปนโต. ตทิทนฺติ ปมทฺวยํ. นิปฺปริยายทสฺสนํ อริยานํ ¶ , อเสกฺขานํเยว จ เสกฺขภินฺนกิเลสภาวทีปนโต. วุตฺโตติ ปฏิฺาวจนํ, สจฺจํ วุตฺโตติ อตฺโถ. น ปน อิธาธิปฺเปโต อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตตฺตา.
ภควโต วจนนฺติ อุปสมฺปทากมฺมวาจมาห. ตทนุรูปนฺติ ตทนุจฺฉวิกํ, ยถาวุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปริสาวตฺถุสีมาสมฺปตฺติโย ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆน อกุปฺเปนา’’ติ (วิภ. ๕๑๐) อิมินา ปกาสิตาติ ‘‘านารห’’นฺติ ปทสฺส ‘‘อนูน…เป… อวุตฺต’’นฺติ เอตฺตกเมว อตฺถมาห.
๕๑๑. อวีติกฺกมนวิรติภาวโตติ ¶ อวีติกฺกมสมาทานภูตา วิรตีติ กตฺวา วาริตฺตสีลํ ปตฺวา วิรติ เอว ปธานนฺติ เจตนาสีลสฺสปิ ปริยายตา วุตฺตา. ‘‘นครวฑฺฒกี วตฺถุวิชฺชาจริโย’’ติ อิทํ อิธาธิปฺเปตนครวฑฺฒกีทสฺสนํ. วตฺถุวิชฺชา, ปาสาทวิชฺชาติ ทุวิธา หิ วฑฺฒกีวิชฺชา. เลหิตพฺพนฺติ สายิตพฺพํ. จุพิตพฺพนฺติ ปาตพฺพํ.
อินฺทฺริยสํวราหารตฺตาติ อินฺทฺริยสํวรเหตุกตฺตา. ปาติโมกฺขสีลํ สิกฺขาปทสีลํ น ปกติสีลาทิเกน คยฺหตีติ อาห ‘‘ปาติโมกฺขโต อฺํ สีลํ กายิกอวีติกฺกมาทิคฺคหเณน คหิต’’นฺติ. ตํ ปน ปาติโมกฺขสีเลน น สงฺคยฺหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, กายิกวาจสิกสํวรสฺส ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺต’’นฺติ อาห.
ตตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย สุกรภาวโต, ปฺุกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน, อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโตปิ ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐), ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ. อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาตี. ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; ๓.๙๙; ๕.๕๒๐; กถา. ๗๕) หิ ¶ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ. ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิย ตสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน ¶ โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ. ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข วา สํสารทุกฺเข วาติ ปาตี, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตฺหิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถา นิทฺเทส ๑๐๗) จ อาทิ. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.
อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาตีนิ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.
อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร, ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ.
อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.
อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. อิทฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺขํ. ปติ ปติ ¶ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ, ปติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺขํ. โมกฺโข วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺขํ. สีลสํวโร หิ นิพฺเพธภาคิโย สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย โหติ ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโตติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํเยว ปาติโมกฺขํ.
อถ ¶ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ, โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํเยว ปาติโมกฺขนฺติ. อิทมฺปิ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส มุขมตฺตทสฺสนเมว. สพฺพากอาเรน ปน ชินปาติโมกฺโข ภควาว อนวชฺชปติโมกฺขํ ปาติโมกฺขํ สํวณฺเณยฺย.
๕๑๓. ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนกรณภูตํ เอตสฺส อตฺถีติ ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนํ. ครุภณฺฑนฺตรภูตํ ถาวราทิ. อูนกํ น วฏฺฏตีติ ผาติกมฺมํ วุตฺตํ. อติเรกคฺฆนกํ, ตทคฺฆนกเมว วา วฏฺฏตีติ. ยถาวุตฺตนฺติ โปกฺขรณิโต ปํสุอุทฺธรณาทิถาวรกมฺมํ.
ธาเรติ, โปเสติ วา ปเรสํ ทารเก.
คิหีนํ กริยมานํ วุตฺตํ, น สงฺฆสฺส, คณสฺส วาติ อตฺโถ. ปิณฺฑปฏิปิณฺฑนฺติ อุตฺตรปทโลปํ, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลปฺจ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปิณฺฑตฺถ’’นฺติอาทิ. อโยนิโส วิจารณํ อยาถาวปฏิปตฺติ.
๕๑๔. คจฺฉนฺติ ยถาสกํ วิสเย ปวตฺตนฺตีติ คาโว, จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ.
วิธุนนํ ปปฺโผฏนํ, ปวาหนนฺติ อตฺโถ.
๕๑๕. ยถา กรณตฺโถ กรณียสทฺโท, เอวํ วิกิรณตฺโถปิ โหตีติ อาห ‘‘วิกฺขิปิตพฺพานี’’ติ, วิทฺธํสิตพฺพานีติ อตฺโถ. สํยมนียานิ วา สํยมกรณียานิ, ‘‘น ปุน เอวํ กโรมี’’ติ อตฺตโน ทหนํ มนสา อธิฏฺานํ สํยมนํ, สํยมนกรณียานิ สํวรกรณียานีติ จิตฺตมตฺตายตฺตา เอว สํยมสํวรา อาจริเยน อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อนาปตฺติคมนียานี’’ติ ¶ . อนฺเตวาสิกตฺเถโร ปน เทสนาปิ จิตฺตุปฺปาทมนสิกาเรหิ วินา น โหตีติ เทสนาวิสุทฺธึ นิสฺสรณํ วทติ.
๕๑๖. ‘‘อลงฺกโต เจปิ…เป… ส ภิกฺขู’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๒) วิย อิธาปิ คุณโต ภิกฺขุ อธิปฺเปโต. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘อิธ ภิกฺขูติ ปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต เอวมาหา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕). ยตฺตกํ เอเกน ปุคฺคเลน อเสเสตฺวา สมาทาตุํ ¶ สกฺกา, ตํ สนฺธายาห ‘‘เยน สมาทาเนน สพฺพาปิ สิกฺขา สมาทินฺนา โหนฺตี’’ติ ยถา อุปสมฺปทาปาริปูริยา อเสสํ อุปสมฺปนฺนสิกฺขาสมาทานํ. ตนฺติ สมาทานํ. อเนเกสูติ วิสุํ วิสุํ สมาทาเนสุ. ยถา สมาทินฺนาย สิกฺขาย สพฺเพน สพฺพํ อวีติกฺกมนํ สิกฺขิตพฺพากาโร, เอวํ สติ วีติกฺกเม เทสนาคามินิยา เทสนา, วุฏฺานคามินิยา วุฏฺานํ ตทุปายภูตํ ปาริวาสิกวตฺตจรณาทีติ วุตฺตํ ‘‘อวีติ…เป… อากาเรนา’’ติ. ยํ สิกฺขาปทํ ปมาเทน วีติกฺกนฺตํ, ตํ สิกฺขิยมานํ น โหตีติ เสสิตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมนวเสน เสสสฺสา’’ติ.
๕๑๙. จิตฺตปริโสธนภาวนาติ จิตฺตสฺส ปริโสธนภูตา อาวรณียธมฺมวิกฺขมฺภิกา สมาธิวิปสฺสนาภาวนา จิตฺตปริโสธนภาวนา. สุปฺปปริคฺคาหกนฺติ นิทฺทาปริคฺคาหกํ. อิทนฺติ อิทํ อพฺโพกิณฺณภวงฺโคตฺตรณสงฺขาตํ กิริยมยจิตฺตานํ อปฺปวตฺตนํ สุปฺปํ นาม. อิโต ภวงฺโคตฺตรณโต. ปุพฺเพ อิโต กิริยมยจิตฺตปฺปวตฺติโต ปรฺจ นตฺถิ. อยํ กายกิลมโถ, ถินมิทฺธฺจ เอตสฺส สุตฺตสฺส ปจฺจโย.
๕๒๒. สติปฏฺานาทโยติ สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทา, เอกจฺเจ จ มคฺคธมฺมา สห น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ปาฬิยํ น วุตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอเต ตาว เอกสฺมึ อารมฺมเณ สห น ปวตฺตนฺตีติ น คณฺเหยฺยุํ, อินฺทฺริยพลานิ กสฺมา น คหิตานีติ อาห ‘‘ปวตฺต…เป… โหนฺตี’’ติ. เอวมฺปิ สทฺธินฺทฺริยพลานิ โพชฺฌงฺเคหิ น สงฺคยฺหนฺตีติ กถํ เตสํ ตทนฺโตคธตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปีติ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ.
๕๒๓. สมนฺตโตติ สพฺพภาเคสุ สพฺเพสุ อภิกฺกมาทีสุ, สพฺพภาคโต วา เตสุ เอว อภิกฺกมาทีสุ ¶ อตฺถานตฺถาทิสพฺพภาคโต สพฺพาการโต. สมฺมาติ อวิปรีตํ โยนิโส. สมนฺติ อวิสมํ, อิฏฺาทิอารมฺมเณ ราคาทิวิสมรหิตํ กตฺวาติ อตฺโถ.
ภิกฺขา จรียติ เอตฺถาติ ภิกฺขาจาโร, ภิกฺขาย จรณฏฺานํ, โส เอว โคจโร, ภิกฺขาย จรณเมว วา สมฺปชฺสฺส วิสยภาวโต โคจโร, ตสฺมึ ภิกฺขาจารโคจเร. โส ปน อภิกฺกมาทิเภทภินฺนนฺติ วิเสสนวเสน วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกมาทีสุ ปนา’’ติ. กมฺมฏฺานสงฺขาเตติ โยคกมฺมสฺส ภาวนาย ปวตฺติฏฺานสงฺขาเต อารมฺมเณ, ภาวนากมฺเมเยว ¶ วา, โยคิโน สุขวิเสสเหตุตาย วา กมฺมฏฺานสงฺขาเต สมฺปชฺสฺส วิสยภาเวน โคจเร. อภิกฺกมาทีสูติ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีสุ เจว จีวรปารุปนาทีสุ จ. อสมฺมุยฺหนํ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสเนว เตสํ ปวตฺติ, น อฺถาติ ยาถาวโต ชานนํ.
กมฺมฏฺานํ ปธานํ กตฺวาติ จีวรปารุปนาทิสรีรปริหรณกิจฺจกาเลปิ กมฺมฏฺานมนสิการเมว ปธานํ กตฺวา.
ตสฺมาติ ยสฺมา อุสฺสุกฺกชาโต หุตฺวา อติวิย มํ ยาจสิ, ยสฺมา จ ชีวิตนฺตรายานํ ทุชฺชานตํ วทสิ, อินฺทฺริยานิ จ เต ปริปากํ คตานิ, ตสฺมา. ติหาติ นิปาตมตฺตํ. เต ตยา. เอวนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพาการํ วทติ. สิกฺขิตพฺพนฺติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ติสฺสนฺนมฺปิ สิกฺขานํ วเสน สิกฺขนํ กาตพฺพํ. ยถา ปน สิกฺขิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตนฺติ รูปายตเน จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺมตฺตํ. ยถา หิ จกฺขุวิฺาณํ รูเป รูปมตฺตเมว ปสฺสติ, น นิจฺจาทิสภาวํ, เอวํ เสสตํทฺวาริกวิฺาเณหิปิ เม เอตฺถ ทิฏฺมตฺตเมว ภวิสฺสตีติ สิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ทิฏฺเ ทิฏฺํ นาม จกฺขุวิฺาณํ, รูเป รูปวิชานนนฺติ อตฺโถ. มตฺตาติ ปมาณํ. ทิฏฺํ มตฺตา เอตสฺสาติ ทิฏฺมตฺตํ, จกฺขุวิฺาณมตฺตเมว เม จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อาปาถคเต รูเป จกฺขุวิฺาณํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ ราคาทิวิรเหน จกฺขุวิฺาณมตฺตเมว เม ชวนํ ภวิสฺสติ, จกฺขุวิฺาณปฺปมาเณเนว นํ เปสฺสามีติ. อถ วา ทิฏฺํ นาม จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺรูปํ. ทิฏฺเ ทิฏฺํ นาม ตตฺเถว อุปฺปนฺนํ สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนสงฺขาตํ ¶ จิตฺตตฺตยํ. ยถา ตํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ อาปาถคเต รูเป เตเนว สมฺปฏิจฺฉนาทิปฺปมาเณน ชวนํ อุปฺปาเทสฺสามิ, นาสฺส ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ ทสฺสามีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย สุตมุเตสุ. มุตนฺติ จ ตทารมฺมณวิฺาเณหิ สทฺธึ คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ เวทิตพฺพํ. วิฺาเต วิฺาตมตฺตนฺติ เอตฺถ ปน วิฺาตํ นาม มโนทฺวาราวชฺชเนน วิฺาตารมฺมณํ, ตสฺมึ วิฺาเต. วิฺาตมตฺตนฺติ อาวชฺชนปฺปมาณํ. ยถา อาวชฺชนํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ อทตฺวา อาวชฺชนปฺปมาเณเนว จิตฺตํ เปสฺสามีติ อยเมตฺถ ¶ อตฺโถ. เอวฺหิ เต พาหิย สิกฺขิตพฺพนฺติ เอวํ อิมาย ปฏิปทาย ตยา พาหิย ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนุปวตฺตนวเสน สิกฺขิตพฺพํ. อิติ ภควา พาหิยสฺส สํขิตฺตรุจิตาย ฉหิ วิฺาณกาเยหิ สทฺธึ ฉฬารมฺมณเภทภินฺนํ วิปสฺสนาวิสยํ ทิฏฺาทีหิ จตูหิ โกฏฺาเสหิ วิภชิตฺวา ตตฺถสฺส าตตีรณปริฺํ ทสฺเสติ.
กถํ? เอตฺถ หิ รูปายตนํ ปสฺสิตพฺพฏฺเน ทิฏฺํ นาม, จกฺขุวิฺาณํ ปน สทฺธึ ตํทฺวาริกวิฺาเณหิ ทสฺสนฏฺเน, ตทุภยมฺปิ ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานํ ธมฺมมตฺตเมว, น เอตฺถ โกจิ กตฺตา วา กาเรตา วา. ยโต ตํ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขํ, อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตาติ กุโต ตตฺถ ปณฺฑิตสฺส รชฺชนาทีนํ โอกาโสติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. เอส นโย สุตาทีสุปิ.
อิทานิ าตตีรณปริฺาสุ ปติฏฺิตสฺส อุปริ สห ผเลน ปหานปริฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยโต โข เต พาหิยา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยโตติ ยทา, ยสฺมา วา. เตติ ตว. ตโตติ ตทา, ตสฺมา วา. เตนาติ เตน ทิฏฺาทินา, ทิฏฺาทิปฏิพทฺเธน วา ราคาทินา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาหิย, ตว ยสฺมึ กาเล, เยน วา การเณน ทิฏฺาทีสุ มยา วุตฺตวิธึ ปฏิปชฺชนฺตสฺส อวิปรีตสภาวาวโพเธน ทิฏฺาทิมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตสฺมึ กาเล, เตน วา การเณน ตฺวํ เตน ทิฏฺาทิปฏิพทฺเธน ราคาทินา สห น ภวิสฺสสิ, รตฺโต วา ทุฏฺโ วา มูฬฺโห วา น ภวิสฺสสิ ปหีนราคาทิกตฺตา, เตน วา ทิฏฺาทินา สห ปฏิพทฺโธ น ภวิสฺสสีติ. ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถาติ ยทา, ยสฺมา วา ตฺวํ เตน ราเคน วา รตฺโต, โทเสน วา ทุฏฺโ, โมเหน วา มูฬฺโห น ภวิสฺสสิ, ตทา, ตสฺมา วา ตฺวํ ตตฺถ ทิฏฺาทิเก น ภวิสฺสสิ, ตสฺมึ ทิฏฺเ วา สุตมุตวิฺาเต วา ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (มหาว. ๒๑) ตณฺหามานทิฏฺีหิ อลฺลีโน ปติฏฺิโต ¶ น ภวิสฺสสิ. เอตฺตาวตา ปหานปริฺํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ขีณาสวภูมิ ทสฺสิตา. ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ, น หุรํ, น อุภยมนฺตเรนาติ ยทา ตฺวํ, พาหิย, เตน ราคาทินา ตตฺถ ทิฏฺาทีสุ ปฏิพทฺโธ น ภวิสฺสสิ, ตทา ตฺวํ เนว อิธ โลเก, น ปรโลเก, น อุภยตฺถ โหสิ. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ กิเลสทุกฺขสฺส, วฏฺฏทุกฺขสฺส จ อยเมว อนฺโต อยํ ปริจฺเฉโท ปริวฏุมภาโวติ อยเมว หิ เอตฺถ อตฺโถ ¶ . เย ปน ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปทํ คเหตฺวา อนฺตราภวํ นาม อิจฺฉนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อนฺตราภวกถายํ (กถา. ๕๐๕ อาทโย ) อาวิ ภวิสฺสติ.
เอเตสนฺติ อติหรณวีติหรณานํ.
‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทินา ปฺจวิฺาณวีถิยํ ปุเรตรํ ปวตฺตอโยนิโสมนสิการวเสน อาวชฺชนาทีนํ อโยนิโส อาวชฺชนาทินา อิฏฺาทิอารมฺมเณ โลภาทิปฺปวตฺติมตฺตํ โหติ, น ปน อิตฺถิปุริสาทิวิกปฺปคาโห, มโนทฺวาเรเยว ปน โส โหตีติ ทสฺเสติ. ตสฺสาติ ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิกสฺส. ภวงฺคาทีติ ภวงฺคอาวชฺชนทสฺสนานิ, สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนปฺจทฺวาริกชวนฺจ. อปุพฺพติตฺตรตาวเสนาติ อปุพฺพตาอิตฺตรภาวานํ วเสน.
อติหรตีติ มุขทฺวารํ อติกฺกมิตฺวา หรติ. ตํตํวิชานนนิปฺผาทโกติ ตสฺส ตสฺส ปริเยสนาทิวิสยสฺส, วิชานนสฺส จ นิปฺผาทโก. เยน หิ ปโยเคน ปริเยสนาทิ นิปฺผชฺชติ, โส ตพฺพิสยํ วิชานนมฺปิ นิปฺผาเทติ นาม โหติ. สมฺมาปฏิปตฺตินฺติ ธมฺเมสุ อวิปรีตปฏิปตฺตึ ยถาภูตาวโพธํ.
คมเนปีติ คมนปโยเคปิ. อติหรณํ ยถาิตสฺเสว กายสฺส อิจฺฉิตเทสาภิมุขกรณํ. คมนํ เทสนฺตรุปฺปตฺติ. วกฺขมาโนติ ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ…เป… อทฺธาคมนวเสน กถิโต. คเต ิเต นิสินฺเนติ เอตฺถ วิหาเร จุณฺณิกปาทุทฺธารอิริยาปถวเสน กถิโต’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๕๒๓) วกฺขมาโน วิเสโส.
ปวตฺเตติ จงฺกมาทีสุ ปวตฺเต รูปารูปธมฺเม. ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อนิจฺจาทิโต.
กายิกกิริยาทินิพฺพตฺตกชวนํ ¶ ผลูปจาเรน ‘‘กายาทิกิริยามย’’นฺติ วุตฺตํ. กิริยาสมุฏฺิตตฺตาติ ปน การณูปจาเรน.
๕๒๖. กมฺมฏฺานอุปาสนสฺสาติ กมฺมฏฺานภาวนาย. โยคปถนฺติ ภาวนาโยคฺคกิริยาย ปวตฺตนมคฺคํ.
๕๓๗. กายาทีสูติ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ. สุฏฺุ ปวตฺติยาติ อสุภานุปสฺสนาทิวเสน ปวตฺติยา. นิยฺยานสภาโว สมฺมาสติตา เอว ¶ . อุปฏฺานนฺติ สตึ กิจฺจโต ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ยถาวุตฺโต ปริคฺคโห ชาโต เอติสฺสาติ ปริคฺคหิตา, ตํ ปริคฺคหิตํ นิยฺยานภูตํ สตึ กตฺวาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕๔๒-๓. ปกุปฺปนํ อิธ วิการาปตฺติภาโว.
๕๕๐. ตปฺปฏิปกฺขสฺาติ ถินมิทฺธปฏิปกฺขสฺา. สา อตฺถโต ตทงฺคาทิวเสน ถินมิทฺธวิโนทนาการปฺปวตฺตา กุสลวิตกฺกสมฺปยุตฺตสฺา, ตถาภูโต วา จิตฺตุปฺปาโท สฺาสีเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๕๕๓. สารมฺภนฺติ อารมฺภวนฺตํ, สหารมฺภนฺติ อตฺโถ. นิราวรณาโภคา ถินมิทฺธนฺธการวิคเมน นิราวรณสมนฺนาหารสฺา. วิวฏา อปฺปฏิจฺฉาทนา.
๕๖๔. ตตฺถ ตตฺถาติ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๕๑๑).
๕๘๘. ยถา เกนจิ นิกฺกุชฺชิตํ ‘‘อิทํ นาเมต’’นฺติ ปกติาเณน น ายติ, เอวํ สพฺพปฺปกาเรน อวิทิตํ นิกฺกุชฺชิตํ วิย โหตีติ อาห ‘‘สพฺพถา อฺาตตา นิกฺกุชฺชิตภาโว’’ติ. นิรวเสสปริจฺฉินฺทนาภาโวติ ทุวิฺเยฺยตาย นิรวเสสโต ปริจฺฉินฺทิตพฺพตาภาโว, ปริจฺฉินฺทิกาภาโว วา. เอกเทเสเนว หิ คมฺภีรํ ายติ.
อาจิกฺขนฺตีติอาทิโต ¶ ปริพฺยตฺตํ กเถนฺติ. เทเสนฺตีติ อุปทิสนวเสน วทนฺติ, ปโพเธนฺติ วา. ปฺาเปนฺตีติ ปชานาเปนฺติ, สํปกาเสนฺตีติ อตฺโถ. ปฏฺเปนฺตีติ ปกาเรหิ อสงฺกรโต เปนฺติ. วิวรนฺตีติ วิวฏํ กโรนฺติ. วิภชนฺตีติ วิภตฺตํ กโรนฺติ. อุตฺตานีกโรนฺตีติ อนุตฺตานํ คมฺภีรํ อุตฺตานํ ปากฏํ กโรนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺาเปนฺตี’’ติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ อตฺถปทานิ ทสฺสิตานิ. ‘‘อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺตี’’ติ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ พฺยฺชนปทานีติ เอวํ อตฺถพฺยฺชนปทสมฺปนฺนาย อุฬาราย ปสํสาย ปสํสนํ ทสฺเสติ. ยํ ปเนเตสุ อตฺถพฺยฺชนปเทสุ วตฺตพฺพํ, ตํ เนตฺติอฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓ อาทโย) วิตฺถารโต วุตฺตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๖๐๒. เอตฺเถว ¶ โยเชตพฺพํ ตสฺส เหฏฺาภูมิสมติกฺกมนมุเขน ภูมิวิเสสาธิคมุปายทีปนโต. สพฺพตฺถาปีติ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา, อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ สพฺเพสุปิ สมติกฺกมวจเนสุ.
๖๑๐. ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณนฺติ ตํเยว กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ‘‘อนนฺต’’นฺติ มนสิกาเรน ผุฏํ ผริตฺวา ิตํ ปมารุปฺปวิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กโรตีติ อตฺโถ. ทุติยวิกปฺเป ปน สามฺโชตนา วิเสเส ติฏฺตีติ ‘‘ผุฏ’’นฺติ อิมินา วิฺาณเมว วุตฺตนฺติ ผุฏํ วิฺาณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณมาห. ตฺหิ อากาสสฺส สผรณกวิฺาณํ. วิฺาเณนาติ จ กรณตฺเถ กรณวจนํ, ตฺจ ทุติยารุปฺปวิฺาณํ วทตีติ อาห ‘‘วิฺาณฺจายตนวิฺาเณน มนสิ กโรตี’’ติ. เตนาติ ปมารุปฺปวิฺาเณน. คหิตาการนฺติ อนนฺตผรณวเสน คหิตาการํ. มนสิ กโรตีติ ทุติยารุปฺปปริกมฺมมนสิกาเรน มนสิ กโรติ. เอวนฺติ ยถาวุตฺตาการํ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปมารุปฺปวิฺาเณน อนนฺตผรณวเสน โย คหิตากาโร, ตํ มนสิ กโรนฺตํเยว. ตํ วิฺาณนฺติ ตํ ทุติยารุปฺปวิฺาณํ. อนนฺตํ ผรตีติ ‘‘อนนฺต’’นฺติ ผรติ, ตสฺมา ทุติโยเยวตฺโถ ยุตฺโตติ. ‘‘ยฺหี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กโรติ. ตํผรณาการสหิตนฺติ ตสฺมึ อากาเส ผรณาการสหิตํ. วิฺาณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณํ.
๖๑๕. ปุพฺเพติ ทุติยารุปฺปปริกมฺมกาเล. ยํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กตํ, ตํเยว ¶ ปมารุปฺปวิฺาณเมว. ตํเยว หิ อภาเวติ. อารมฺมณาติกฺกมวเสน หิ เอตา สมาปตฺติโย ลทฺธพฺพาติ.
นิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๖๒๓. จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานเมว เยสํ วิจาโร โอฬาริกโต น อุปฏฺาติ, เยสฺจ อุปฏฺาติ, เตสํ วเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา เทสิตนฺติ ¶ จตุกฺกนยโต ปฺจกนโย นีหโตติ อาห ‘‘อุทฺธฏานํเยว จตุนฺนํ…เป… ทสฺสนโต จา’’ติ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๖๔๐. ตีสูติ ปมาทีสุ ตีสุ. จตุกฺกนเยน หิ ตํ วุตฺตํ. เอวํโกฏฺาสิกาติ อปฺปมาณาติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘โลกุตฺตรภูตา เอวาติ อธิปฺปาโย’’ติ. ปริจฺฉินฺนากาส…เป… จตุตฺถานํ วฏฺฏวิปสฺสนาปาทกตฺตา ‘‘สพฺพตฺถปาทกจตุตฺเถ สงฺคหิตานี’’ติ วุตฺตํ.
อยํ กถาติ ปริตฺตารมฺมณาทิกถา. เหฏฺิโม อริโย อุปริมสฺส อริยสฺส โลกุตฺตรจิตฺตานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺโกตีติ วุตฺตํ ‘‘น จ…เป… สกฺโกตี’’ติ.
‘‘กิริยโต ทฺวาทสนฺน’’นฺติ จ ปาโ อตฺถิ. สห วทติ โลกุตฺตรผลจตุตฺถตาสามฺเนาติ ¶ อธิปฺปาโย. อิธ สพฺพสทฺทสฺส ปเทสสพฺพวาจิภาวโต เอกเทสสฺส อสมฺภเวปิ สพฺพตฺถปาทกตา เอว เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพตฺถ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณจตุตฺถาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อานาปานจตุตฺถาทโย สงฺคหิตา. นวตฺตพฺพตายาติ นวตฺตพฺพารมฺมณตาย.
นิพฺพานฺจาติ วตฺตพฺพํ ตทารมฺมณสฺสาปิ พหิทฺธารมฺมณภาวโต.
‘‘สสนฺตานคตมฺปี’’ติ อิทํ รูป-สทฺเทน, กมฺม-สทฺเทน จ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘สสนฺตานคตมฺปิ อปากฏํ รูปํ ทิพฺพจกฺขุ วิย สสนฺตานคตมฺปิ อปากฏํ กมฺมํ วิภาเวตี’’ติ. ปากเฏ ปน สสนฺตานคเต รูเป, กมฺเม จ อภิฺาาเณน ปโยชนํ นตฺถีติ ‘‘อปากฏ’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฌานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อปฺปมฺาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
๖๔๒. ทิสาเทโสธินาติ ¶ ¶ ‘‘เอกํ ทิส’’นฺติอาทิทิโสธินา, วิหารคามนิคมนครชนปทรชฺชาทิเทโสธินา จ. สตฺโตธินาติ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย, สพฺเพ ปุริสา, อริยา, อนริยา’’ติอาทิวสปฺปวตฺเตน สตฺโตธินา. เอตสฺสาติ เอตสฺส ปทสฺส, ปทตฺถสฺส วา. อนุวตฺตกนฺติ อธิการวเสน ปวตฺตกํ. ตํ ทฺวยนฺติ ตถา-สทฺโท, อิติ-สทฺโทติ อุภยํ. ‘‘ตถา ทุติย’’นฺติ หิ วุตฺเต ‘‘ตถา-สทฺโท ยถา เมตฺตาสหคเตน เจตสา ปุรตฺถิมาทีสุ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยมฺปิ ทิสํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา ผริตฺวา วิหรตี’’ติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ยสฺมา อิตีติ อยํ อิติ-สทฺโท ปการตฺเถ, เอวนฺติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ยถา เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ, ทุติยํ, ตติยํ, จตุตฺถํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, เอวํ อุทฺธํ, อโธ, ติริยํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา ผริตฺวา วิหรตี’’ติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เมตฺตา…เป… ตํ ทฺวย’’นฺติ. ตสฺสาติ ทฺวยสฺส. ผรณนฺตราทิฏฺานนฺติ ผรณโต อฺํ ผรณนฺตรํ, ตํ อาทิ ยสฺส, ตํ ผรณนฺตราทิ. ผรณนฺตรฺเหตํ เมตฺตาภาวนาย, ยทิทํ วิปุลตา. อาทิ-สทฺเทน ภุมฺมนฺตรปคุณภาวาทิ คยฺหติ, ตสฺส ผรณนฺตราทิโน านํ านภูโต ‘‘วิปุเลนา’’ติอาทินา วุจฺจมาโน เมตฺตาภาวนาวิเสโส. วุตฺตปฺปการมตฺตปรามสนสฺส ตสฺส ทฺวยสฺส อฏฺานํ อโนกาโสติ. อิติ กตฺวา อิมินา การเณน น วุตฺตํ ตํ ทฺวยนฺติ อตฺโถ.
๖๔๓. ราคสฺสาติ กามราคสฺส. สิเนหสฺสาติ ปุตฺตสิเนหาทิสิเนหสฺส. วิปตฺติยาติ ราคสิเนหสงฺขาตาย เมตฺตาภาวนาย วิปตฺติยา วินาสสฺส. อนุปฺปตฺติโต หิโรตฺตปฺปพเลน อนุปฺปชฺชนโต.
๖๔๕. อธิมฺุจิตฺวาติ ¶ ภาวนาจิตฺตํ อารมฺมเณ สุฏฺุ วิสฺสชฺเชตฺวา, ตํ ปเนตฺถ อธิมุจฺจนํ ยสฺมา ผรณวเสเนว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุฏฺุ ปสาเรตฺวา’’ติ. ยสฺมา ปน อารมฺมเณ สุฏฺุ อสํสปฺปนวเสเนว ตํ เมตฺตาภาวนาย อธิมุจฺจนํ โหติ, ตสฺมา ‘‘พลวตา วา อธิโมกฺเขน อธิมุจฺจิตฺวา’’ติ จ วุตฺตํ.
๖๔๘. เอเตสํ ¶ ปทานํ สพฺเพน สกเลน ทิสาเทสาทิเภเทน อวธินา. สพฺพาวธิทิสาทิผรณากาเรหีติ สพฺพาวธิภูตทิสาเทสปุคฺคลผรณปฺปกาเรหิ.
๖๕๐. วิฆาตวเสนาติ วิกฺขมฺภนวเสน.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๖๙๙. กถิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ. อิมสฺมึ ปน อปฺปมฺาวิภงฺเค กถิตา อปฺปมฺา, ตา จ สภาวโต โลกิยา เอว, น ขนฺธวิภงฺคาทีสุ กถิตา ขนฺธาทโย วิย โลกุตฺตราปีติ เอกํสโต สพฺพาสํ อปฺปมฺานํ โลกิยภาวเมว ทีเปตุํ อฏฺกถายํ ‘‘อิมสฺมึ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิมสฺมึ ปน…เป… โหตี’’ติ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปฺปมฺาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. สิกฺขาปทวิภงฺโค
๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๐๓. สิกฺขาสงฺขาตานํ ¶ ¶ กุสลธมฺมานํ ปฺจ สีลงฺคานิ นิสฺสยภาเวน วา ปติฏฺา สิยุํ, อุปนิสฺสยภาเวน วาติ ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺปโยควเสน, อุปนิสฺสยวเสน จ โอกาสภาเวนา’’ติ.
๗๐๔. ‘‘กมฺมปถา เอวา’’ติ นิยมสฺส กตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อสพฺพสาธารเณสู’’ติ. น หิ สกฺกา อินฺทฺริยาทิสาธารณโกฏฺาสวเสน นิยมํ กาตุํ. กมฺมปถโกฏฺาสิกา เอว, น ฌานาทิโกฏฺาสิกา. กมฺมปถภาเวน อาคตนฺติ วทนฺติ, ทุคฺคติยา, ตตฺถ อุปฺปชฺชนทุกฺขสฺส จ ปวตฺติอุปายภาวโตติ อธิปฺปาโย. อสฺส สุราปานสฺส. อุปการกตฺตํ สพฺเพสํ. สภาคตฺตํ มิจฺฉาจารสฺส.
ตถาคหิตสงฺขารารมฺมณตายาติ ‘‘สตฺตํ อวหรามิ, สตฺเต วิปฺปฏิปชฺชามี’’ติอาทินา สตฺตากาเรน คหิตสงฺขารารมฺมณตาย, น ปน สตฺตปฺตฺติอารมฺมณตายาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ วิวรติ.
ตสฺส ตสฺสาติ ยสฺส ยสฺส พฺยสนตฺถาย. สยํ วา อุสุอาทึ ขิปติ, โอปาตขณนาทึ กโรติ, ตาทิสํ มนฺตํ ปริชปฺปติ, กมฺมชอิทฺธึ วฬฺเชติ, อฺเน วา ตํ สพฺพํ กาเรตีติ อาห ‘‘นิสฺสคฺคิย…เป… ทฺเว เอว คหิตา’’ติ.
ยทิปิ ¶ โกฏฺาสวาเร วิรติ สรูเปน นาคตา ‘‘เยวาปนา’’ตฺเวว วุตฺตา, ภชาปิยมานา ปน มคฺคภาวํเยว ภชตีติ อาห ‘‘วิรติสีลํ ปน มคฺคโกฏฺาสิก’’นฺติ. เสสสีลานนฺติ เสสอวีติกฺกนฺตสีลานํ.
๗๑๒. อภพฺพฏฺานาติ ปาณาติปาตาทโย. ยถา ปาณาติปาตาทโย เวรเหตุตาย เวรํ, เอวํ ตทฺเปิ อกุสลาติ วุตฺตํ ‘‘ตํสภาคตาย เวรภูตาน’’นฺติ. วิรตีนํ อุปฺปตฺติ น น ภวิสฺสติ เสกฺขานนฺติ โยชนา. ‘‘อกุสลสมุฏฺิตานิ จา’’ติอาทินาปิ เสกฺขานํ อุภเยน วิรติสพฺภาวํเยว วิภาเวติ. ตสฺสตฺโถ – ยานิ อกุสลสมุฏฺิตานิ กายกมฺมาทีนิ, ตานิ เตสํ เสกฺขานํ กายทุจฺจริตาทีนีติ เวรานิเยว ¶ , เตหิ เวเรหิ เตสํ เสกฺขานํ วิรติโย สมฺภวนฺติเยว. ยโตติ ยสฺมา ปาณาติปาตาทิวิรมิตพฺพนิปฺปริยายเวราภาเวปิ กายทุจฺจริตาทิเวรมตฺตโต เสกฺขานํ วิรติสมฺภวโต. นผลภูตสฺสาปีติ ยถา ผลสฺส มคฺคปฏิพิมฺพภูตตฺตา มคฺคสทิสํ สตฺตอฏฺงฺคิกตา สิยา, เอวํ อผลภูตสฺสาปิ สกทาคามิมคฺคาทิกสฺส ยโต วิรติสมฺภวโต อฏฺงฺคิกตา โหติ, อฺถา ปฺจงฺคิโก เอว สิยาติ อธิปฺปาโย.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๗๑๔. ยถาวิรมิตพฺพโตติ โย โย ปาณาติปาตาทิ วิรมิตพฺโพ, ตโต วิรติวเสน.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สิกฺขาปทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค
๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ
๑. สงฺคหวารวณฺณนา
๗๑๘. ‘‘เอเสว ¶ ¶ นโย’’ติ ธมฺมาทีสุ กโต อติเทโส สงฺเขปโต เตสํ ทสฺสนํ โหตีติ อาห ‘‘สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา’’ติ. เตสํ นิรุตฺติปฏิภานานํ วิสยา ตพฺพิสยา, เตสํ, นิรุตฺติปฏิภานวิสยภูตานนฺติ อตฺโถ. ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทหีติ ปจฺจยุปฺปนฺนนิพฺพานภาสิตตฺถาทิเภเทหิ.
ทุกฺขเหตุผลชาตาทิธมฺมชรามรณานิ ทุกฺขาทีนิ. สจฺจเหตุธมฺมปจฺจยาการวาเรสุ ทุกฺขสมุทยาทิปริยาเยน อาคโต ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, สจฺจปจฺจยาการวาเรสุ อริยมคฺโค, ปริยตฺติวาเร ภาสิตํ, อภิธมฺมภาชนีเย กุสลํ, อกุสลนฺติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตานํเยว วเสน ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพาติ อิมมตฺถมาห ‘‘ตถา ธมฺมา จา’’ติ อิมินา.
นิพฺพตฺตกเหตุอาทีนนฺติ นิพฺพตฺตกสมฺปาปกาปกานํ. ปุริโมติ ปวตฺตนตฺโถ. ตสฺมินฺติ มคฺเค. ปจฺฉิโมติ ปาปนตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อวิปรีตนิรุตฺตีติ พุทฺธาทีหิ อาจิณฺณา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจกภาเว นิรุฬฺหา ยาถาวนิรุตฺติ. ยสฺมา วิฺตฺติวิการสหิโต สทฺโท ปฺตฺตีติ อตฺตโน อธิปฺปาโย, ตสฺมา ปรมตโต ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวจนภูตายา’’ติ วิเสเสตฺวา ‘‘เกจิ วณฺณยนฺตี’’ติ อาห. เอวํ สตีติ ¶ เอวํ นิรุตฺติยา ปฺตฺติภาเว สติ. ปฺตฺติ อภิลปิตพฺพาติ อาปชฺชตีติ วุตฺเต, โหตุ, โก โทโส ตสฺสา วจนียภาวโตติ กทาจิ วเทยฺยาติ อาสงฺกนฺโต อาห ‘‘น จ วจนโต…เป… อุจฺจาเรตพฺพํ อตฺถี’’ติ. เตสํ อตฺถธมฺมานํ. น วจนนฺติ อวจนํ อวจนสภาวํ. เอวํปการนฺติ เอวํวิธํ เอวํ นิยตลิงฺควิเสสโชตนาการํ.
ปรโตติ ¶ ปรภาเค อนนฺตรมโนทฺวาเร. สทฺทคฺคหณานุสาเรน คหิตาย นามนิรุตฺติยํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปวตฺตตีติ วทนฺติ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘นิรุตฺติ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ปจฺฉา ชานนนฺติ สทฺทคฺคหณุตฺตรกาลํ นามนิรุตฺติยา ชานนํ. เอวนฺติ เอวํ สทฺทคฺคหณโต ปจฺฉา นามนิรุตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ คยฺหมาเน. เอวํ นิรุตฺติยา นามปฺตฺติปกฺเข ปาฬิยา, อฏฺกถาย จ วิโรธํ ทสฺเสตฺวา สทฺทปกฺเข ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํตํสทฺทวิภาวกนฺติ ยถา ตสฺส ตสฺส สทฺทปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ทิพฺพโสตาณํ สทฺทารมฺมณเมว ตํ ตํ สทฺทํ วิภูตํ กโรติ, เอวํ นิรุตฺติปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ นิรุตฺติสทฺทารมฺมณเมว นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาาณํ ตํ วิภูตํ กโรตีติ ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา. สทฺทํ ปน วิภาเวนฺตํ เอกนฺตโต สทฺทูปนิพนฺธํ ปฺตฺติมฺปิ วิภาเวติเยว, ยโต สภาวาสภาววิเสสวิภาวนํ สมฺปชฺชติ. อฺถา หิ สทฺทมตฺตคฺคหเณ วิเสสาวโพโธ เอว น สิยาติ โปราณา ปฺตฺติวิภาวนมฺปิ ตสฺส อิจฺฉนฺติ. ตํวิภาวกนฺติ นิรุตฺติสทฺทวิภาวกํ. น ปาฬิวิโรโธ โหตีติ ยทิปิ อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘ยาย นิรุตฺติยา เตสํ ธมฺมานํ ปฺตฺติ โหตี’’ติ (วิภ. ๗๒๗) วุตฺตํ, ตมฺปิ สภาวนิรุตฺติสทฺเทน ธมฺมานํ ปโพธนเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น ตพฺพินิมุตฺตํ ปฺตฺตินฺติ ‘‘นิรุตฺติสทฺทารมฺมณา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา’’ติ วุจฺจมาเน ปาฬิยา วิโรโธ น โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สทฺทํ คเหตฺวา ปจฺฉา คหิตาย ปฺตฺติยา ปจฺจเวกฺขเณน ภวิตพฺพนฺติ อาสงฺเกยฺยาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทิ. สภาวนิรุตฺตึ วิภาเวนฺตํเยวาติ สภาวนิรุตฺติวิสยสฺส สมฺโมหสฺส ปเคว วิทฺธํสิตตฺตา อตฺถสาธนวเสน อภิฺาาณํ วิย ตํ วิภาเวนฺตเมว ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘นิรุตฺตึ ภินฺทนฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว อุปฺปชฺชตี’’ติ. ปเภทคมนฺเจตฺถ อนวเสสโต นิรุตฺติวิภาคชานนํ. ตถา เสเสสุ. สกฺกฏนามาทีติ สกฺกฏวเสน วุตฺตนามาขฺยาตาทิ. นิปาตปทํ ¶ นามาทิปทานิ วิย อตฺถํ น วทติ, อถ โข พฺยฺเชติ โชเตตีติ ‘‘พฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ นิปาตปทํ.
โพธิ ¶ าณํ มณฺฑภูตํ เอตฺถาติ โพธิมณฺโฑ, มหาโพธิฏฺานํ. เตนาห ‘‘ปมาภิสมฺพุทฺธฏฺาเน’’ติ. อฺเน ปกาเรนาติ อุคฺคหาทิปฺปกาเรน.
อฺถา โหนฺตีติ ปุริสยุเค ปุริสยุเค เอกเทเสน ปริวตฺตนฺตา กาลนฺตเร อฺาการา ภวนฺติ. วินสฺสนฺตีติ ตํตํภาสานํ มนุสฺสานํ วินาเสน น ปฺายนฺติ, มนุสฺสานํ ทุรุคฺคหณาทินา กตฺถจิ กทาจิ ปริวตฺตนฺตีปิ พฺรหฺมโลกาทีสุ ยถาสภาเวเนว อวฏฺานโต น สพฺพตฺถ, สพฺพทา, สพฺพถา จ ปริวตฺตติ. เตนาห ‘‘กปฺปวินาเสปิ ติฏฺติเยวา’’ติ. เอตสฺส นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาาณสฺส.
อตฺถาทีสุ าณนฺติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทิ. อตฺถธมฺมนิรุตฺติวเสน ตีสุ. อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฏิภานวเสน จตูสุปิ วา. อตฺถธมฺมาทินา อตฺตนา โชเตตพฺเพน สห อตฺเถนาติ สาตฺถกานิ. สพฺโพ อตฺถธมฺมาทิโก อตฺโถ วิสยภูโต เอตสฺส าณสฺส อตฺถีติ สพฺพตฺถกํ. สพฺพสฺมึ อตฺถาทิเก วิสเย ขิตฺตํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปิตํ ปวตฺติตํ. อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทา โหนฺติ ปฏิปกฺขธมฺมานํ สพฺพโส วิทฺธํสิตตฺตา. ปฺจนฺนนฺติ อธิคมปริยตฺติสวนปริปุจฺฉาปุพฺพโยคานํ. ยถาโยคนฺติ ยํ ยํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส วิสทตาย ยุชฺชติ, ตถา โยเชตพฺพํ.
ปริปุจฺฉาเหตุ ปวตฺตา กถา ปริปุจฺฉาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ปุจฺฉาย…เป… ปริปุจฺฉาติ วุตฺตา’’ติ.
เตหีติ มคฺเคหิ. ปฏิลาโภ นาม ปุพฺพโยคสมฺปตฺติยา อตฺถาทิวิสยสฺส สมฺโมหสฺส สมุจฺฉินฺทนํ, ตํ ปน มคฺคกิจฺจเมวาติ อาห ‘‘โส โลกุตฺตโร’’ติ. อตฺถาทีนํ ปเภทโต สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถาปนา ยถารหํ ปริตฺตกุสลมหากิริยจิตฺตวเสน โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปเภโท กามาวจโร’’ติ. ยถา ปุพฺพโยโค อธิคมสฺส พลวปจฺจโย สภาวเหตุภาวโต, น ตถา ปเภทสฺส อสภาวเหตุตาย, ปรมฺปรปจฺจยตาย จาติ อธิปฺปาโย. ปริยตฺติอาทีนํ ปเภทสฺส พลวปจฺจยตาย ¶ , อธิคมสฺส จ ตทภาเว เอเสว นโย. ตตฺถาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ตาสุ ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉาสุ นิมิตฺตภูตาสูติ อตฺโถ. ยํ วุตฺตํ โหตีติ ‘‘เอเตสุ ปนา’’ติอาทินา อฏฺกถาวจเนน ยํ อตฺถชาตํ วุตฺตํ ¶ โหติ. ตํ ทสฺเสนฺโตติ ตํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต. ‘‘ปุพฺพโยคาธิคมา’’ติ วตฺวา ‘‘ทฺเวปี’’ติ วจนํ อธิคมสหิโตเยว ปุพฺพโยโค ปเภทสฺส พลวปจฺจโย, น เกวโลติ ทสฺสนตฺถํ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๘). ‘‘ทฺเวปิ วิสทการณา’’ติ วุตฺเต ปุพฺพโยคสฺสาปิ วิสทการณตฺตํ ลพฺภเตวาติ อาห ‘‘ทฺเวปิ วิสทการณาติ…เป… วุตฺต’’นฺติ.
สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สจฺจวาราทิวณฺณนา
๗๑๙. กาลตฺตเยปีติ อตีตาทีสุ ตีสุปิ กาเลสุ. เหตุผลธมฺมา เหตูนํ ผลภูตา ธมฺมา, ปจฺจยนิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. เตสฺจ เหตุธมฺมาติ เตสํ เหตุผลานํ ปจฺจยนิพฺพตฺตานํ เหตุภูตา ธมฺมา ‘‘ธมฺมา’’ติ วุตฺตาติ โยชนา. วิเนยฺยวเสนาติ ตถาวิเนตพฺพปุคฺคลชฺฌาสยวเสน. อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนาติอาทิ น วุตฺตนฺติ อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนา อุฏฺิตา สมุฏฺิตา ปจฺจุปฺปนฺนาติอาทิ น วุตฺตํ เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว สงฺคาหกตฺตา. ตํนิพฺพตฺตกาติ เตสํ อตฺถภาเวน วุตฺตานํ นิปฺผาทกา. ธมฺมาติ วุตฺตา ธมฺมภาเวน กถิตา.
สจฺจวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา
๗๒๕. สามฺเน ¶ วตฺวา วิเสเสน อวุตฺตตฺตาติ ‘‘เตสํ วิปาเก’’ติ ยถาวุตฺตกุสลวิปากตาทิสามฺเน วตฺวา สเหตุกาเหตุกาทิวิเสเสน อวุตฺตตฺตา, สรูเปน นิทฺธาเรตฺวา อวุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. อวิปากตฺตาติ อวิปากธมฺมตฺตา. ยทิ เอวนฺติ ปจฺจยภาวโต ลพฺภมาโนปิ ธมฺมภาโว อวิปากธมฺมตาย กิริยานํ ยทิ น วุตฺโต, เอวํ สติ. สติปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาเว อวิปากภาวโต อตฺถภาโวปิ น วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘วิปากา น โหนฺตีติ อตฺถภาโว จ น วตฺตพฺโพ’’ติ. เอวฺเจติ ยทิ ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา กิริยานํ อตฺถภาโว วุตฺโต. นปฺปฏิสิทฺโธ อิจฺฉิโตวาติ ¶ อตฺโถ. ยทิ เอวํ กสฺมา น วุตฺโตติ อาห ‘‘วิปากสฺส ปนา’’ติอาทิ. เตสนฺติ กุสลากุสลานํ, วิปากกิริยธมฺมานฺจ. อตฺถธมฺมตาติ วุตฺตนเยน ลพฺภมาโนปิ ยถากฺกมํ อตฺถภาโว, ธมฺมภาโว จ น วุตฺโต. ปจฺจยภาวํ สตฺติวิเสสํ สนิปฺผาเทตพฺพตนฺติ ปทตฺตเยนาปิ วิปากธมฺมตเมวาห. สา หิ วิปากานํ เหตุภาวโต ปจฺจยภาโว, ตทุปฺปาทนสมตฺถตาย สตฺติวิเสโส, เตหิ สคพฺภา วิย โหตีติ ‘‘สนิปฺผาเทตพฺพตา’’ติ จ วุจฺจติ. ตํ ปสฺสนฺตี นิปฺผาทกวิเสสาปิ นิปฺผาเทตพฺพาเปกฺขา โหติ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. ตํสมฺพนฺเธนาติ นิปฺผาเทตพฺพสมฺพนฺเธน. ธมฺมปฏิสมฺภิทํ วทนฺเตน อตฺถปฏิสมฺภิทาปิ วุตฺตา.
สภาวธมฺเม ปฺตฺติ สภาวปฺตฺตีติ อาห ‘‘น สตฺตาทิปฺตฺติยา’’ติ. สภาเวน, นิรุตฺติเยว วา สภาวปฺตฺตีติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อวิปรีตปฺตฺติยา วา’’ติ.
๗๔๖. โวหารภูมึ, อธิคมภูมิฺจ เอกชฺฌํ กตฺวา อาห ‘‘กามาวจรา, โลกุตฺตรา จ ภูมิ ภูมี’’ติ. จิตฺตุปฺปาทา วา ปวตฺติฏฺานภาวโต ภูมิ.
อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา
๗๔๗. สพฺพาณารมฺมณตายาติ ¶ ปฏิสมฺภิทาปฏิสมฺภิทาาณารมฺมณตาย. ‘‘สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน…เป… สิยา’’ติ อิทํ อภิธมฺมภาชนีเยน วิรุชฺฌติ, ตสฺส วา สาวเสสเทสนตา อาปชฺชตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อภิธมฺมภาชนีเย’’ติอาทิ. นิรวเสสกถนนฺติ อเสเสตฺวา กถนํ. เตน จิตฺตุปฺปาทสงฺคหิเต อตฺเถ อเสเสตฺวา เทสนา อิธ อภิธมฺมภาชนียสฺส ภาโร, น สพฺพเยฺยธมฺเมติ ทสฺเสติ. ยถาทสฺสิตวิสยวจนวเสนาติ ทสฺสิตปฺปการวิสยสฺส กถนวเสน, ธมฺมตฺถวเสน ทสฺสิเต ตํตํจิตฺตุปฺปาเท ตตฺถ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเปน าณสฺส กถนวเสนาติ อตฺโถ. อฺารมฺมณตํ น ปฏิเสเธติ อตปฺปรภาวโตติ อธิปฺปาโย. น นิรวเสเสน กถนํ อจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนสฺส วิสยสฺส อกถิตตฺตา. เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยสฺสาปิ น ¶ นิรวเสเสน กถนนฺติ สุตฺตนฺตภาชนีเย อวิเสสวจเนน สพฺพาณารมฺมณตํเยว ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ปติฏฺาเปติ. ตถา ติสฺโส ปฏิสมฺภิทาติอาทิปฺหปุจฺฉกปาฬิยาปิ. ติสฺโสติ อตฺถธมฺมปฏิภานปฏิสมฺภิทา. นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา หิ ‘‘ปริตฺตารมฺมณา’’เตว วุตฺตา.
ยทิปิ สิยา น ตสฺสา มหคฺคตารมฺมณตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น หิ มคฺโค ปจฺจยุปฺปนฺโน น โหตี’’ติ อิมินา ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ วจนสฺส ยถาวุตฺตตฺถสาธกตํ วิภาเวติ. ตสฺสาติ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย น มหคฺคตารมฺมณตา สมฺภวติ นนุ นยํ อนุสฺสรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. ทฺเวปีติ ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา, ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สิยา ปริตฺตารมฺมณา, สิยา มหคฺคตารมฺมณา, สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ จ ทฺเวปิ เอตา ปาฬิโย. ตาสุ พลวตราย านสฺส, อิตราย อธิปฺปายมคฺคนสฺส จ อุปายทสฺสนมุเขน ตาสํ อฺมฺํ อวิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘กุสลากุสลานํ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘นิปฺปริยายา ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอเตน ตตฺถ อตฺถปฏิสมฺภิทาย ปริยายภาวมาห. ตถา วิปากกิริยานนฺติอาทิ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส วิสทิสูทาหรณทสฺสนํ. อุภเยนปิ ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วจนํ สุตฺตนฺตนยานุคตํ นิปฺปริยายตฺถสฺส ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตาติ ทีเปติ. กิฺจิ ปน าณนฺติอาทิ ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติอาทิปาฬิยา สมตฺถกํ. ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส ปฏิภานํ ทีปนํ ปฏิภานํ. เตนาห ‘‘เยฺยปฺปกาสนโต’’ติ. อิติ ยา ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติ ปาฬิ, ตสฺสา พลวภาววิภาวเนน ¶ อิตราย อธิปฺปายมคฺคนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. นิปฺปริยายาติ ปริยายรหิตา อุชุกํ สรูเปเนว ปวตฺตา. นิปฺปริยาย…เป… ปวตฺติยนฺติ เอกนฺติกอตฺถารมฺมณํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, าณารมฺมณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ คเหตฺวา เทสนายํ.
โส เอวาติ ปรสฺส อภิลาปสทฺโท เอว. อนุวตฺตมานตา จสฺส นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนเมว สทฺทํ อารมฺมณํ กโรนฺตี, สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานนฺตีติ จ อาทิวจนวเสน เวทิตพฺโพ.
ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิสมฺภิทาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. าณวิภงฺโค
๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา
๗๕๑. สมฺปยุตฺตานํ ¶ ¶ นิสฺสยปจฺจยตาย, อารมฺมณสฺส ปวตฺติฏฺานตาย โอกาสฏฺโ เวทิตพฺโพ. นเหตาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อเหตุกา’’ติอาทิกํ สพฺพํ เอกวิเธน าณวตฺถุํ สงฺคณฺหาติ. เอกํ นเหตูติ นเหตุตาย เอกํ ปฺจวิฺาณํ นเหตูติ วุตฺตา เตสํ นเหตุตา. เอกนฺตาเหตุภาเวน หิ เต เอกปฺปการาวาติ. อฺมฺปีติ อเหตุกาทิ. อวิตถสามฺยุตฺตนฺติ เตเนว อเหตุกตาทินา ยถาภูเตน สมานภาเวน ยุตฺตํ. าณารมฺมณนฺติ าณสฺส อารมฺมณํ ยถาวุตฺตปฺจวิฺาณาทิ. วตฺถุวิภาวนาติ ปฺจวิฺาณาทิกสฺส าณวตฺถุสฺส ยถาวุตฺตวิเสเสน วิภาวนา ปกาสนา ปฺา.
โอสานทุกสฺสาติ ‘‘อตฺถชาปิกา ปฺา, ชาปิตตฺถา ปฺา’’ติ อิมสฺส ทุกสฺส. ทุกมาติกา ธมฺมสงฺคณิยํ วุตฺตทุกมาติกาติ อาห ‘‘ทุกมาติกํ อนิสฺสายา’’ติ.
‘‘จินฺตามยา ปฺา’’ติอาทิกา ติกมาติกํ อนิสฺสาย วุตฺตาติ อาห ‘‘เอวํ ติกานุรูเปหีติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ยทิปิ ชาป-สทฺโท พฺยตฺตวจเน, มานเส จ ปวตฺตติ, ชนนตฺเถปิ ปน ทฏฺพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทาน’’นฺติอาทิ. กุสลปฺา วิปากสงฺขาตสฺส, กิริยปฺา ปริกมฺมาทิภูตา อตฺตนา นิพฺพตฺเตตพฺพผลสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส นิพฺพตฺตนโต อตฺถชาปิกาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อตฺถชาปิกา การณคตา ปฺา’’ติ. วิปากปฺา, กิริยปฺา จ สหชาตาทิปจฺจยวเสน ตํตํวิปากาทิอตฺถํ ชาเปติ ชเนตีติ อาห ‘‘ชาปิโต ชนิโต อตฺโถ เอติสฺสาติ ชาปิตตฺถา’’ติ. สติปิ สหชาตานํ ปจฺจยภาเว วิปากกิริยปฺา ¶ น กุสลา วิย วิปากานํ นิปฺปริยาเยน การณโวหารํ ลภตีติ อาห ‘‘การณปฺาสทิสี’’ติ. วิภาวนตฺเถน ปฺา อารมฺมณํ วิย สมฺปยุตฺเตปิ ปกาเสติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘ผลปฺปกาสนภูตา’’ติ. ยโต สา อาโลโกภาสปชฺโชตปริยาเยหิ วิภาวิตา.
๑๐. ทสกมาติกาวณฺณนา
๗๖๐. ‘‘ชาติปจฺจยา ¶ ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. ภวปจฺจยา…เป… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๓๔) เอวมาคตานิ สตฺตสตฺตติ าณานิ. ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณํ, ชรามรณนิโรเธ าณํ, ชรามรณนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ. ชาติยา าณํ…เป… สงฺขาเรสุ าณํ…เป… ปฏิปทาย าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๓๓) เอวมาคตานิ จตุจตฺตารีสํ าณานิ. สุตมยาณาทีนิ อนาวรณาณปริโยสานานิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๑ อาทโย) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ. เตนาห ‘‘เตสตฺตติ ปน…เป… น สํยุตฺตเก’’ติ. ‘‘สํยุตฺตเก’’ติ วา อิทํ ‘‘สตฺตสตฺตติ าณานี’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ, น ‘‘เตสตฺตตี’’ติ อิมินา. อฺตฺถ นิกฺเขปกณฺฑาทีสุ. ยถา สมฺมาปฏิเวธาภาวโต มิจฺฉาาณาทิ ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุโก วิย อารมฺมเณ จฺจลํ โหติ, น เอวํ โหติ ยถาภูตาวโพธกํ าณนฺติ อาห ‘‘ยาถาวปฏิเวธโต สยฺจ อกมฺปิย’’นฺติ. อธิพลกรณํ อุปตฺถมฺภนนฺติ ตํ ปุคฺคเล อาโรเปนฺโต อาห ‘‘ปุคฺคลฺจ…เป… กโรตี’’ติ. วิสภาคธมฺเมสุ วา อกมฺปิยตฺโถ, สภาคธมฺเมสุ อุปตฺถมฺภนตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อภิมุขํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘อุปคจฺฉนฺตี’’ติ ปทสฺส อตฺถวจนํ. อุปคมนฺเจตฺถ สพฺพฺุตาย ปฏิชานนเมวาติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิชานนวเสนา’’ติ. อฏฺ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ เอตฺถาปิ ปฏิชานนวเสน สพฺพฺุตนฺติ โยเชตพฺพํ. อฏฺสุ ปริสาสุ ทสฺสิตอกมฺปิยาณยุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
ผลสมฺปตฺติปวตฺตีติ ¶ สปฺปุริสูปนิสฺสยาทีนํ การณสมฺปตฺตีนํ ผลภูตาย ปติรูปเทสวาสอตฺตสมฺมาปณิธิอาทิสมฺปตฺติยา ปวตฺตนํ. อาทิ-สทฺเทน สุตฺตเสสา สงฺคหิตา. ตตฺถ สปฺปุริสูปนิสฺสยาทิเก. กสฺมา ปเนตฺถ สมาเน อตฺถกิจฺเจ ปฏิเวธาณสฺส วิย เทสนาาณสฺสาปิ ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานตา น วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปฏิเวธนิฏฺตฺตา’’ติอาทิ ¶ . ปฏิเวธนิฏฺตฺตาติ ปฏิเวธสฺส ปริโยสานตฺตา. เตนาติ ปฏิเวธปริโยสานภูเตน อรหตฺตมคฺคาเณน. ตทธิคเมน หิ สมฺปตฺตสกลสพฺพฺุคุโณ ภควา อนนฺตปฏิภาโน อนุปมาย พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ. ‘‘ปฏิลทฺธสฺสาปี’’ติ อิมินา สพฺพถา ลภาปกสฺส ปฏิเวธานุรูปตา เทสนาาณสฺส อสกฺกุเณยฺยาติ ทีเปติ, เตน จ ปฏิเวธนมตฺเตเนตฺถ อตฺถสิทฺธีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เทสนาาณสฺสา’’ติอาทิ.
หานภาคิยธมฺมนฺติ วา หานภาคิยภาวสฺส การณํ. กามสหคตสฺาทิธมฺมนฺติ กามคุณารมฺมณํ สฺามนสิการาทึ. ปุพฺเพว กตาภิสงฺขาราทินฺติ ‘‘จนฺเท วา สูริเย วา เอตฺตกํ คเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติอาทินา สมาปชฺชนโต ปุพฺเพ ปวตฺตจิตฺตาภิสงฺขารปริกมฺมาทึ.
ตทภาวคฺคหเณนาติ กิเลสาวรณาภาวคฺคหเณน. ิตินฺติ อตฺถิภาวํ. ตพฺพิปรีตายาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย มิจฺฉาทิฏฺิยา. านาภาวนฺติ อปฺปวตฺตึ, นตฺถิภาวํ วา. อุปรีติ อิมิสฺสา พลานํ อนุกฺกมกถาย อุปริ อนนฺตรเมว. วิปากาวรณาภาวทสฺสนาทิกสฺสาติ อาทิ-สทฺเทน กมฺมาวรณาภาวทสฺสนํ สงฺคณฺหาติ. อิตรนฺติ อธิคมสฺส อฏฺานทสฺสนํ. ตํสหิตานํ ธาตูนนฺติ ราคาทิสหิตานํ สภาวานํ. เวมตฺตตา จ เตสํ ปจฺจยวิเสสสิทฺเธน อวตฺถาทิวิเสเสน เวทิตพฺพา. จริยาเหตูนนฺติ ราคาทิจริยาการณภูตานํ ธมฺมานํ.
๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๑. อยํ วิเสโสติ สมาเนปิ นยทฺวยสฺส เตสํ อเหตุภาวาทิทีปเน เอกสฺส เหตุภาวาทิปฏิเสธตา, อิตรสฺส ราสนฺตราสงฺคโหติ อิทํ นานากรณํ. เอกาย ชาติยาติ อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺนสฺส เอกสฺส ภวสฺส. ตทนฺโตคธตายาติ คติอนฺโตคธตาย. ตตฺถ ตตฺถาติ ตํตํคติจุติภเวสุ.
๗๖๒. ตถาติ ¶ อฺทฺวารารมฺมณตาย. ขีราทีนํ…เป… วิลกฺขณตาติ ยถา ขีรสฺส ทธิภาเวน, ทธิโน ตกฺกภาเวน วิลกฺขณตาปตฺติ, น เอวํ ปฺจวิฺาณานํ นเหตุภาวาทิโต อฺสฺส สภาวาปตฺติ อตฺถีติ อตฺโถ.
๗๖๓. มหตฺเตปีติ ¶ ปุถุตฺเตปิ. พหุภาววาจโก หิ อยํ มหา-สทฺโท ‘‘มหาชโน’’ติอาทีสุ วิย รูปสงฺฆาฏสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อฺถา สภาวธมฺมสฺส กา มหนฺตตา, สุขุมตา วา. จกฺขุวิฺาณสฺส วจนํ กตฺวา วุตฺตตฺตา อาห ‘‘จกฺขุปสาเท มม วตฺถุมฺหี’’ติ. อิสฺสริยฏฺานนฺติ อิสฺสริยปวตฺตนฏฺานํ. ตถา หิ นํ อฺตฺถ ภาวิตํ วิภาเวนฺตเมว ติฏฺติ, อฺวิฺาณานิ จ เตน ทินฺนนยาเนว ตตฺถ ปวตฺตนฺติ, อปิ ทิพฺพจกฺขุาณํ, ยโต ตํ อนฺธสฺส น นิปฺผชฺชติ.
๗๖๔. ววตฺถิตานมฺปีติ อฺมฺํ อสํกิณฺณานมฺปิ. ปฏิปาฏินิยโม นิยตานุปุพฺพิกตา. เตนาติ ‘‘อพฺโพกิณฺณา’’ติ วจเนน.
๗๖๖. อาวฏฺฏนภาโว อาวชฺชนกิจฺจตา.
เตสนฺติ รูปาทีนํ. เอเตสฺหิ รูปาทีนํ ปฺจหิ วิฺาเณหิ สมาคโม. อภินิปติตพฺพานิ อาลมฺพิตพฺพานิ, วิชานิตพฺพานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อารมฺมณกรเณน ปฏิวิชานิตพฺพานี’’ติ. กุสลากุสลเจตนาย, ตํสมฺปยุตฺตานฺจ ยถาวุตฺตานํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา…เป… อกุสลํ วา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๖๖) เอวํ วุตฺตานํ ปฏิวิชานิตพฺพานํ ปฏิวิชานนนฺติ สมฺพนฺโธ. กมฺมตฺเถ หิ เอตํ สามิวจนํ. สหชปุพฺพงฺคมธมฺเมนาติ ทสฺสนาทีหิ สหชาตผสฺสาทินา ปุพฺพงฺคเมน อาวชฺชนาทินา. กิจฺจนฺตรนฺติ ทสฺสนาทิกิจฺจโต อฺํ สมฺปฏิจฺฉนาทิกิจฺจํ.
อวิปากภาเวน การเณน, เตน วา สทฺธึ. อฺนฺติ รูปภาวาทึ. ภาสนกรณกราติ วิฺตฺติสมุฏฺาปนวเสน ปวตฺตกุสลากุสลจิตฺตุปฺปาทธมฺมา. เต เอว กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา ปวตฺตา ตํสทิสา. ปุพฺพงฺคมปฏิวิชานนนฺติ ปุพฺพงฺคมภาเวน วิชานนํ มโนทฺวาริกชวนานํ ปุเรจรภาเวน คหณํ. ตตฺถาติ ปฺจทฺวาเร. ‘‘น ปฏิสิทฺธ’’นฺติ วตฺวา สฺวายมปฺปฏิเสโธ สามตฺถิยลทฺโธติ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘น กายกมฺมํ…เป… อนฺุาตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิทํ ยถา กายวจีกมฺมปฏฺปนํ, เอวํ กุสลาทิธมฺมสมาทานมฺปิ นตฺถีติ อุปสํหรณตฺถํ เวทิตพฺพํ. ยทิ น ภวโต จวติ, กถํ ปฺจทฺวาเร จุติ วุตฺตาติ อาห ‘‘น ปฺจทฺวาริก…เป… อตํทฺวาริกตฺตา’’ติ. ตสฺสา ปาฬิยา. อาปาถมตฺตนฺติ อาปาถคมนมตฺตํ ¶ อารมฺมณปจฺจยภาวมตฺตํ. อฺนฺติ ‘‘รูปํ นีล’’นฺติ เอวมาทิธมฺมวิเสสํ. เตนาห ‘‘ธมฺมสภาว’’นฺติ. รูปนฺติ จ น คณฺหาตีติ รูปารมฺมณมฺปิ สมานํ ‘‘รูปํ นาเมต’’นฺติ น คณฺหาติ. ตถา จาหุ เอเก ‘‘จกฺขุวิฺาณสมงฺคี นีลํ วิชานาติ, โน ตุ นีล’’นฺติ. รูปนีลาทิอากาโร รูปารมฺมณรูปาทานาการปฺตฺติ. ตชฺชาปฺตฺติ เหสา ยถา อนิจฺจตาทิ. สาติสยํ สวิตกฺกสวิจารตฺตา. ตโต อฺนฺติ สทฺทารมฺมณโต อฺํ นามปฺตฺติอารมฺมณํ, อฺถา สหุปฺปตฺติปฏิเสโธ น สมฺภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย.
มโนทฺวาเรปีติ น ปฺจทฺวาเรเยว ทุติเย โมฆวาเร, อถ โข มโนทฺวาเรปิ. อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ…เป… ทฏฺพฺพํ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยํ ตถา อสมฺภวโต.
ตสฺสาติ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนาย ปฺาย.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๗. อธิกรเณสูติ ปทตฺเถสุ. อฺตฺร สภาวํ คเหตฺวาติ อตฺถสทฺทสฺส ตตฺถ ปวตฺตนาการทสฺสนํ, เตน อตฺถสทฺทสฺส สภาวตฺถตํ ทสฺเสติ. อธิกรณวเสน ลิงฺคปริวตฺตึ คจฺฉติ. ‘‘อภิเธยฺยานุรูปํ ลิงฺควจนานี’’ติ หิ สทฺทวิทู วทนฺติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖๘. ปริปาจิเตสูติ ¶ สาธิเตสุ. ‘‘วิหิเตสู’’ติ เอตฺถ ทุทฺธาทีสุ วิย ภูตกาลตา นาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘วิสยวิเสสนมตฺตเมวา’’ติ. ‘‘กมฺมํ, สิปฺป’’นฺติ ปฺา การณูปจาเรน วุตฺตาติ อาห ‘‘ปฺา เอว วา…เป… เวทิตพฺพา’’ติ.
กุสลํ ¶ กมฺมํ สกํ เอกนฺตํ หิตสุขาวหตฺตา. ตปฺปฏิปกฺขตฺตา อิตรํ อกุสลํ กมฺมํ โนสกํ. สจฺจปฏิเวธานุโลมนํ สจฺจานุโลมนํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตปฺปฏิเวธปจฺจยภาเวนา’’ติ. มคฺคสจฺจสฺส อนุโลมนโต วา สจฺจานุโลมิกตา, ตถา ปรมตฺถสจฺจสฺส อนุโลมนโต. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘มคฺคสจฺจสฺสา’’ติอาทิ. ปฺา วุตฺตา ปฺาวิสเย ปฺากิจฺจสฺส ทสฺสิตตฺตา. ‘‘โยควิหิเตสู’’ติอาทินา วุตฺตภูมินิทฺเทโส, ‘‘กมฺมสฺสกตํ สจฺจานุโลมิก’’นฺติ วุตฺตสรูปนิทฺเทโส, ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปการนิทฺเทโส จ ยถาวุตฺตา…เป… นิทฺเทสา. ‘‘โยควิหิเตสุ กมฺมายตเนสุ ขนฺตึ, กมฺมสฺสกตํ ขนฺตึ, ‘รูปํ อนิจฺจ’นฺติ ขนฺติ’’นฺติอาทินา ขนฺติอาทิปเทหิ โยเชตพฺพา. โอโลกนํ ปจฺจกฺขกรณํ. ธมฺมา โอโลกนํ ขมนฺตีติ ปฺาย ตโทโลกนสมตฺถตมาห.
๗๖๙. มฺุจตีติ ปชหติ. อารพฺภ-กิริยาย อธิฏฺานํ สมงฺคิภาโว, อธิกรณํ ปฏฺปนนฺติ อาห ‘‘มฺุจ…เป… วตฺตุํ ยุตฺต’’นฺติ.
๗๗๐. ปฺจสีลทสสีลานิ กมฺมวฏฺเฏกเทสภูตานิ สนฺธาย เตสํ ธมฺมฏฺิติยํ สมวโรโธ วุตฺโต. สติปิ สวเนติ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๓๙; กตา. ๔๘๐) ตถาคตโต สวเน สติปิ. ภิกฺขุอาทีนมฺปิ ตํ วุตฺตํ อธิสีลปฺาปนํ วิย น พุทฺธาเวณิกนฺติ.
อธิปฺานิพฺพตฺเตสูติ เปตฺวา อธิปฺํ ตทฺเสุ มคฺคผลธมฺเมสุ. ตทธิฏฺาเนสูติ ตสฺสา อธิปฺาย อธิฏฺาเนสุ วิปสฺสนาธมฺเมสุ.
๗๗๑. อปายุปฺปาทนํ อวฑฺฒินิพฺพตฺตนํ. ตสฺมึเยว าเนติ ตสฺมึเยว ขเณ.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๙๓. ปริตสฺสนํ ¶ ปริตฺตาโส, จิตฺตุตฺราโส จาติ ‘‘น ปริตสฺสตี’’ติ ปทสฺส ‘‘น ปตฺเถติ น อุตฺตสตี’’ติ อตฺถมาห.
๗๙๖. อริยสจฺเจสุ ¶ ธมฺมสทฺโท ‘‘ทิฏฺธมฺโม’’ติอาทีสุ วิย. อริยมคฺโค, ตสฺส จ ผลํ ธมฺโม ยถานุสิฏฺํ ปฏิปนฺเน อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ. ตตฺถ ปฺาติ ตสฺมึ อริยมคฺคผเล นิสฺสยภูเต ปฺา. เตนาห ‘‘ตํสหคตา’’ติ. อวิทิตํ วิทิตํ วิย เนติ าเปตีติ นโย, อนุมานํ, ตสฺส นยนํ ปวตฺตนํ, ตํ ปน วิสุํเยเวกํ าณุปฺปาทนนฺติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถมาห ‘‘น อฺ…เป… วิเสโส’’ติ. อตฺตโน หิ อธิคมานุสาเรน ปราธิคตานํ กาลตฺตเย มคฺคาทีนํ ปวตฺติอาการานุมานํ นยนยนํ. อนุมินนาการเมว หิสฺส สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘าณสฺเสว ปวตฺติวิเสโส’’ติ. การณฺจ นยนยนสฺส สจฺเจสุ ปจฺจกฺขปวตฺตนโต. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ยถา มคฺคาณโต อฺาปิ ‘‘อิมินา ธมฺเมนา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตํ, ตถา ปการนฺตเรนปิ ‘‘อิมินา ธมฺเมน าเณนา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ ยุชฺชตีติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติ. เตนาติ ตสฺมา าเณน าตโต สมฺปโยเคหิ นยนยนโต. าณวิสยภาเวนาติ ปฏิเวธาณสฺส วิสยภาเวน. าเตน ปฏิวิทฺเธน จตุสจฺจธมฺเมน, าณสมฺปโยเคน วา าเตน ชานิตฺวา ิเตน มคฺคผลธมฺเมน.
สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺพปฺปกาเรน สพฺพํ, อนวเสสนฺติ อตฺโถ. อทฺธตฺตยปริยาปนฺนฺหิ สพฺพํ เตภูมกสงฺขารคตํ สมฺมสียติ. นยนโตติ นยคฺคาหโต. อนุรูปตฺถวาจโก วา การณสทฺโท ‘‘การณํ วทตี’’ติอาทีสุ วิย.
อนฺวยาณสฺสปิ ปริโยคาเหตฺวา ปวตฺตนโต สวิเสโส วิสยาวโพโธติ วุตฺตํ ‘‘ธมฺเม าณ…เป… อภาวา’’ติ. วิสโยภาสนมตฺตชานนสามฺเนาติ อสติปิ อภิสเมจฺจ คหเณ วิสยวิภาวนสงฺขาตอวโพธสามฺมตฺเตน. ‘‘าณ’’นฺติ สมฺมเตสูติ ‘‘าณ’’นฺติ โวหริเตสุ ลทฺธาณโวหาเรสุ. สมฺมุติวเสนาติ ธมฺมาณาทิ วิย สมุเขน วิสเย อปฺปวตฺติตฺวา ปฺตฺติมุเขน ปวตฺตํ. อวเสสนฺติ สมฺมุติาณเมวาห. อิตราณตฺตยวิสภาคนฺติ ธมฺมาณาทิาณตฺตยวิธุรํ.
๗๙๗. กามภวธมฺเมติ ¶ กามภวสงฺขาเต ธมฺเม.
๗๙๘. สาติ ¶ ปมชฺฌานปฺา. วีตราคภาวนาวตฺถสฺสาติ ‘‘วีตราโค โหตี’’ติ เอวํ วุตฺตสฺส. ตนฺติ ฉฏฺาภิฺํ. มคฺคาณฺหิ กิจฺจโต มคฺคสจฺจมฺปิ ปฏิวิชฺฌติ. อิตราติ เหฏฺิมมคฺคปฺา. ตทุปนิสฺสยตฺตาติ ตสฺสา ฉฏฺาภิฺาย, ตสฺส วา ปฏิวิชฺฌนสฺส อุปนิสฺสยตฺตา ปฏิวิชฺฌติ นาม. ยถานุรูปนฺติ ทิฏฺาสวาทีนํ ยถานุรูปํ. อาสวกฺขเยติ อาสวกฺขยปริยาเย การณูปจาเรน. ตํนิพฺพตฺตนโตติ ตสฺส อาสวกฺขยสงฺขาตสฺส ผลสฺส นิพฺพตฺตนโต. อิทฺจ ‘‘อาสวานํ ขเย าณํ ฉฏฺาภิฺา’’ติ สุตฺเต อาคตตฺตา วุตฺตํ.
๘๐๑. อภิวิสิฏฺเน วา าเณน ปากฏํ กโรนฺตสฺสาติ อธิคมวเสน ปกาสํ วิภูตํ กโรนฺตสฺส.
๘๐๒. วสิตาปฺจกรหิตํ วสิภาวํ อปาปิตํ ปฏิลทฺธมตฺตํ. ปฏิปทารมฺมณสหคตา ปฺา ปฏิปทารมฺมณสมฺพนฺธินีติ อาห ‘‘ปฺาย ปฏิปทารมฺมณุทฺเทเสนา’’ติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๔. ตเมว ปฺํ ‘‘ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรเณนา’’ติอาทินา วิภชติ. อภิสนฺทนปริสนฺทนปริปูรณานิปิ ปริปฺผรณํ วิย ผรณาปีติยา, ตํสหคตสุขสฺส จ กิจฺจวิเสสภูตานิ อธิปฺเปตานีติ อาห ‘‘อภิสนฺเทตีติ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. อาทินา นเยนาติ ‘‘อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) สุตฺเต อาคตนเยน. ผรณฺเจตฺถ ปีติสุขสมุฏฺิตปณีตรูเปหิ กายสฺส อภิพฺยาปนํ ทฏฺพฺพํ. อารมฺมเณติ ปีติผรณตาสุขผรณตาสีเสน วุตฺตานํ ติกทุกฌานานํ อารมฺมเณ. ตาติ ปีติผรณตาสุขผรณตา.
สมาธิมุเขนาติ ¶ สมาธึ มุขํ ปมุขํ กตฺวา, สมาธิสีเสนาติ อตฺโถ, สมาธิปมุเขน วา อุทฺเทสนิทฺเทเสน. อฺเ กิเลสา ทิฏฺิมานาทโย ¶ . อปฺปโยเคนาติ ฌานวิโมกฺขาทีนํ วิย อุปฺปาทนียปริกมฺมปโยเคน วินา. อาวชฺชนาสทิโส หิ ผลสมาปตฺติอตฺโถ สมฺมสนจาโร. ปิตตฺตาติ ปวตฺติตตฺตา. สติพหุลตายาติ สติยา อภิณฺหุปฺปตฺติยา. ปริจฺฉินฺทนสติยา กาลสฺส สโตติ ทสฺเสตีติ โยชนา.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๕. วิสุทฺธิภาวนฺติ วิสุทฺธิยา สพฺภาวํ. ‘‘ทิพฺพจกฺขุาเณกเทสตฺตา’’ติ อิทํ ตสฺส ปริภณฺฑาณตฺตา วุตฺตํ. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๗) อารภิตฺวา ‘‘โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๒๔๖) วุตฺตํ. ทิพฺพสฺส ติโรหิตวิปฺปกฏฺาทิเภทสฺส, อิตรสฺส จ รูปายตนสฺส ทสฺสนสมตฺถสฺสาปิ ทิพฺพจกฺขุาณสฺส สิขาปตฺติ จวมาโนปปชฺชมานสตฺตทสฺสนนฺติ อาห ‘‘มุทฺธปฺปตฺเตน จา’’ติอาทิ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๖. ฉพฺพิธมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณนฺติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๘๐๖) วุตฺตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺตาณํ. สห คเหตฺวาติ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วิปสฺสนารมฺมณภาวสามฺเน เอกตฺเตน คเหตฺวา. สงฺขิปิตฺวา วุตฺเตนาติ ปุพฺเพ ฉธา ¶ วุตฺตํ วิย ทสฺสิตํ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ เอวํ สงฺขิปิตฺวา วุตฺเตน. ‘‘ขยธมฺม’’นฺติอาทินา ปกาเรน ทสฺสนนฺติ สมฺพนฺโธ. ปวตฺตาณสฺสาติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา ปวตฺตสฺส าณสฺส, ปวตฺเต วา สํสารวฏฺเฏ าณสฺส. าณารมฺมณา วิปสฺสนา าณวิปสฺสนา. วิปสฺสนาติ จ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา ¶ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม วิภาเคน ทสฺสนโต ธมฺมฏฺิติาณํ อิธาธิปฺเปตํ. ตสฺส ขยธมฺมตาทิชานนํ ปฏิวิปสฺสนา. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนาทสฺสนมตฺต’’นฺติ.
เอวเมตฺถ อฏฺกถาธิปฺปายวเสน ปาฬิยา อตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน อธิปฺปายวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ปาฬิยํ ปนา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺถาติ อทฺธตฺตเย ปจฺจยวิเสเสน ปจฺจยุปฺปนฺนวิเสสนิทฺธารเณ. าณวจเนนาติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทินา าณสฺส คหเณน. องฺคานนฺติ สตฺตสตฺตติยา องฺคานํ. อิติสทฺเทนาติ ‘‘นิโรธธมฺม’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตอิติสทฺเทน. ปกาเสตฺวาติ าณสฺส ปวตฺติอาการํ โชเตตฺวา. เตน ธมฺมฏฺิติาณโต อฺํเยว ปริโยสาเน วุตฺตํ าณนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาาณํ สตฺตมํ าณ’’นฺติ. อยเมว เจตฺถ อตฺโถ ยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ตมฺปิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ น โหตี’’ติ เอวํ สมฺพนฺโธ น ยุตฺโต องฺคนฺตรภาวสฺส อวิภาวนโตติ อตฺโถ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตําณ…เป… อนธิปฺเปตตฺตา’’ติ. น หิ วิสุํ วิสุํ วุตฺตเมว เอกชฺฌํ วจนมตฺเตน อตฺถนฺตรํ โหตีติ. ‘‘ขยธมฺมํ…เป… จา’’ติ อิมินา ปุริมสฺมึ ปกฺเข อุปจเยน โทสมาห.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๘. ปจฺจนีกธมฺเมติ นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺเม. ทุกฺขนฺติ สมาปชฺชเน อสติ อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทสกนิทฺเทโส
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐๙. น ¶ านนฺติ อฏฺานํ, อนุปลพฺภนตฺโถ อยมกาโรติ อาห ‘‘อวิชฺชมานํ านํ อฏฺาน’’นฺติ. อภาวตฺโถ วา, น อฺปฏิปกฺขาทิอตฺโถติ อาห ‘‘นตฺถิ านนฺติ วา อฏฺาน’’นฺติ. โก ปเนตสฺส อตฺถทฺวยสฺส ¶ วิเสโสติ? ปโม เหตุปจฺจเยหิ อนุปลพฺภมานตํ วทติ, ทุติโย สพฺเพน สพฺพํ อภาวนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. ตณฺหุปาทานาทีนมฺปิ สุขโต อุปคมนสฺส เหตุภาเว ทิฏฺิวิปลฺลาสสฺส โส สาติสโย อสุเขปิ ทฬฺหํ ปวตฺตาปนโตติ อาห ‘‘ทิฏฺิวิปลฺลาโสว…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ. ‘‘อตฺตทิฏฺิวเสนา’’ติ กสฺมา วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, นนุ อริยสาวกสฺส สพฺพาปิ ทิฏฺิโย นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, อตฺตทิฏฺิสนฺนิสฺสยา ปน สพฺพทิฏฺิโยติ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตทิฏฺิวเสนาติ ปธานทิฏฺิมาหา’’ติ วุตฺตํ. เภทานุรูปสฺส วตฺถุโน. เภทานุรูเปน ‘‘อธมฺเม ธมฺโม’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน.
โส เอวาติ โย ลิงฺเค อปริวตฺเต ตสฺมึ อตฺตภาเว ภวงฺคชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ, โส เอว. ตฺหิ อุปาทาย เอกชาติสมฺา, น เจตฺถ ภาวกลาปชีวิตินฺทฺริยสฺส วเสน โจทนา กาตพฺพา ตทฺสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา. ตฺหิ ตตฺถ อวิจฺเฉทวุตฺติยา ปพนฺธโวหารํ ลภติ, อิตรมฺปิ วา ภาวานุปาลนตาสามฺเนาติ อโนกาสาว โจทนา.
สปตฺตวเสน โยเชตพฺพนฺติ ‘‘สปตฺตํ มาเรมีติ อภิสนฺธินา สปตฺเตน นิปนฺนฏฺาเน นิปนฺนํ มนุสฺสภูโต มนุสฺสภูตํ มาตรํ ปิตรํ วา มาเรนฺโต’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺถาติ จตูสุปิ วิกปฺเปสุ. ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตนฺติ ปุพฺพภาคิโย มรณาธิปฺปาโย. อปฺปมาณํ เตน อตฺถสิทฺธิยา อภาวโต. ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหตีติ เอตฺถ ยถา อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภุตฺตมฺปิ ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ปุถุชฺชนทานเมว โหติ, เอวํ มรณาธิปฺปาเยน ปุถุชฺชนกาเล ปหาเร ทินฺเน อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว ปหาเรน มเต กสฺมา อรหนฺตฆาโตเยว โหติ, น ปุถุชฺชนฆาโตติ? วิเสสสมฺภวโต. ยถา หิ ทานํ เทยฺยธมฺมสฺส ปริจฺจาคมตฺเตน โหติ, น เอวํ วโธ. โส หิ ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกเจตนา, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ ปาริปูริยาว โหติ, น อปาริปูริยา. ตสฺมา อรหตฺตํ ปตฺตสฺเสว มรณนฺติ อรหนฺตฆาโตเยว โหติ ¶ , น ปุถุชฺชนฆาโต. ยสฺมา ปน ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ ยํ สนฺตานํ อารพฺภ มารณิจฺฉา, ตสฺส ปุถุชฺชนขีณาสวภาเวน ปโยคมรณกฺขณานํ วเสน สติปิ สนฺตานเภเท อเภโทเยว. ยทา จ อตฺถสิทฺธิ, ตทา ขีณาสวภาโว. ตสฺมา อรหนฺตฆาโตว ¶ โหตีติ นิจฺฉิตํ. กถํ ปเนตฺถ วธกเจตนา วตฺตมานวิสยา สิยาติ อาห ‘‘วธกจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณมฺปิ…เป… ปวตฺตตี’’ติ. ตตฺถ ปพนฺธวิจฺเฉทวเสนาติ เยน ปพนฺโธ วิจฺฉิชฺชติ, ตาทิสํ ปโยคํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. เตน ยทา ปพนฺธวิจฺเฉโท, ตทา อรหาติ ยถาวุตฺตํ อรหนฺตฆาตํ ปติฏฺาเปติ. น เอวนฺติ ยถา กาลนฺตราเปกฺขกิจฺจสิทฺธํ วธกจิตฺตํ, น เอวํ จาคเจตนา. ‘‘สา หี’’ติอาทินา จาคเจตนาย กาลนฺตรานเปกฺขกิจฺจสิทฺธิตํเยว วิภาเวติ. อฺสกกรณนฺติ อตฺตโต วินิโมเจตฺวา อฺสฺส ทกฺขิเณยฺยสฺส สนฺตกภาวกรณํ. ตสฺสาติ จชิตพฺพสฺส วตฺถุโน. ยสฺสาติ ยสฺส ปุถุชฺชนสฺส. ตสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ, สเจปิ อรหตฺตํ ปตฺวา เตน ปริภุตฺตนฺติ อตฺโถ.
‘‘กปฺปวินาเส’’ติ อิทํ ‘‘สณฺหนฺเต กปฺเป’’ติ วุตฺตตฺตา มหากปฺปวินาสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กปฺปฏฺกถาย น สเมตี’’ติ เอตฺถ อายุกปฺปสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อายุกปฺโป เจตฺถ อวีจิยํ นิพฺพตฺตสตฺตานํ อนฺตรกปฺปปริมาณํ ปรมายุ เวทิตพฺพํ. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาล’’นฺติ (กถา. อฏฺ. ๖๕๔-๖๕๗) วุตฺตํ. ตยิทํ ‘‘เอกํ กปฺป’’นฺติ ยทิ เอกํ มหากปฺปนฺติ อตฺโถ, ตถา สติ วีสติอนฺตรกปฺปปริมาโณ เอโก อสงฺขฺเยยฺยกปฺโปติ วุตฺตํ โหติ. อถ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยกปฺปนฺติ อตฺโถ, สพฺพถาปิ ‘‘จตุสฏฺิ อนฺตรกปฺปา’’ติ วจเนน วิรุชฺฌตีติ วีมํสิตพฺพํ. ยถา ปน กปฺปฏฺกถาย อยํ อฏฺกถา สเมติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กปฺปวินาเสเยวาติ ปนา’’ติอาทิมาห.
ปกตตฺโต วา อปาราชิโก. สมานสํวาสโก กมฺมลทฺธีนํ วเสน อนานาสํวาสโกติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
นิยตสฺส ปุคฺคลสฺส วิชฺชมานตํ ปฏิเสเธตฺวาติ โยชนา. ตตฺถ ปฏิเสเธตฺวาติ ‘‘ปุคฺคโล ปน นิยโต นาม นตฺถี’’ติ เอวํ ปฏิเสเธตฺวา. ตตฺถ การณมาห ‘‘มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมานํ วิย สภาวโต’’ติ. ปฺตฺติมตฺตฺเหตํ มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมนิสฺสยํ, ยทิทํ นิยโต ปุคฺคโลติ ¶ . ยถาปุจฺฉิตนฺติ ‘‘กึ ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติอาทินา ปุจฺฉิตปฺปการํ นิยามกเหตุํ. เยนาติ เยน อุปริมคฺคตฺตยวิปสฺสนาาเณน. นิยตานิยตเภทนฺติ ¶ โสตาปนฺนาทินิยตเภทํ, สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิอนิยตเภทฺจ. โสตาปนฺโน เอว หิ เอโก สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอโก โกลํโกโล นาม, เอโก เอกพีชี นามาติ โสตาปนฺนสฺส นิยตภาโว วุตฺโตติ อาห ‘‘โสตาปนฺโน จ นิยโต’’ติ. พฺยติเรกตฺโถ หิ อยํ จ-สทฺโท. ตโต ปุพฺเพติ โสตาปตฺติมคฺคโต ปุพฺเพ. ‘‘ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถี’’ติ อิทํ โสตาปนฺนสฺส นิยตตาย วุตฺตตฺตา วกฺขมานฺจ โทสํ หทเย เปตฺวา วุตฺตํ. อุปริมคฺคานํ สอุปนิสฺสยตฺเต ปมมคฺคสฺสาปิ สอุปนิสฺสยตา สิทฺธา เอวาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ. ตฺจ นิยตตฺตํ. อสฺสาติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส.
เตเนว ขีณาติ โสตาปตฺติมคฺเคเนว ขีณา. การณุปจฺเฉเทน หิ ผลุปจฺเฉโท สิยา. ตโตติ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโต. สาติ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตา. ปวตฺติโตติ วิปากปฺปพนฺธโต. เตนาติ โสตาปตฺติมคฺเคน. วุฏฺาเนติ วุฏฺาเน สติ. การเณน วินา ผลํ นตฺถีติ อาห ‘‘สกฺกาย…เป… ภวิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘นามกรณนิมิตฺตโต’’ติ อิมินา นามกรณเหตุตาย นิยามกตํ วิภาเวติ เอกพีชิอาทิสมฺานํ อนฺวตฺถสฺาภาวโต. เตนาห ‘‘วิปสฺสนา…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ.
อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สีตีภูโตสฺมิ นิพฺพุโต’’ติอาทีนิ (มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕) สงฺคยฺหนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘สทิโส เม น วิชฺชติ, เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ (มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; ม. นิ. ๑.๒๘๕). ‘อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิย’นฺติ เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺย’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วจเนหิ อิมิสฺสา โลกธาตุยา วิย อฺสฺส พุทฺธสฺส อฺิสฺสา โลกธาตุยา อุปฺปาโท นิวาริโตติ ทฏฺพฺพํ. น หิ วิชฺชมาเน ‘‘สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทิ สกฺกา วตฺตุํ. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘โลกธาตุวิเสสาเปกฺขาย วุตฺต’’นฺติ, ตมฺปิ นตฺถิ ตถา วิเสสนสฺส อภาวโต, พุทฺธานุภาวสฺส จ อสมตฺถภาววิภาวนโต. อาณาเขตฺตกิตฺตนฺเจตฺถ ธมฺมตาทสฺสนตฺถํ. สกฺโกติ หิ ภควา ยตฺถ ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ อาณํ ¶ วตฺเตตุํ. ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ จ อิทํ พุทฺธเขตฺตภูตาย โลกธาตุยา ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถายมตฺโถ – พุทฺธเขตฺตภูตา เอกาวายํ โลกธาตุ. ตตฺถ เอกสฺมึ กาเล เอโก เอว สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปฺปชฺชตีติ. เตนาห ‘‘พุทฺธเขตฺต…เป… อธิปฺปาโย’’ติ.
ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา อุปสมฺปทาธีนํ ปาติโมกฺขํ, อุปสมฺปทา จ ปพฺพชฺชาธีนา, ตสฺมา. ปาติโมกฺเข สิทฺเธ, สิทฺธาสุ ตาสุ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาสุ. ตโต ปรํ วินฏฺํ นาม โหตีติ ปจฺฉิมปฏิเวธโต ปรํ ปฏิเวธสาสนํ, ปจฺฉิมสีลเภทโต จ ปรํ ปฏิปตฺติสาสนํ วินฏฺํ นาม โหตีติ สาสนภาวสามฺเน ปน อุภยํ เอกชฺฌํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺฉิม…เป… เอกโต กตฺวา’’ติ อาห.
ปริเทวนการฺุนฺติ ปริเทวเนน กรุณายิตพฺพตา กรุณายนา.
ธมฺมานํ สภาววิเสโส น สกฺกา ธาเรตุํ, ยโต ปารมีปวิจยาทีสุ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวีกมฺโป อโหสิ, อภิสมฺโพธิทิวเส จ เปตฺวา ปุพฺพุตฺตรทิสาภาเค โพธิรุกฺขมูเล ภูมิภาโค มหาปุริสํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ, อฺทตฺถุ เอกปสฺเส ปกฺขิตฺตอติภารภริตนาวา วิย จกฺกวาฬคพฺโภ วิปริวตฺโต. ‘‘สมุปฺปาทิกา’’ติ วตฺตพฺเพ ส-กาเร อ-การสฺส อา-กาโร, เอกสฺส จ ป-การสฺส โลโป กโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมํ อุทฺธํ ปชฺชตีติ สามุปาทิกา’’ติ. สมํ อุปาทิยตีติ วา สมุปาทา, สมุปาทา เอว สามุปาทิกา, สมุปาหินีติ อตฺโถ.
สนฺตติขณวเสนาติ สนฺตติวเสน อายูหนสมงฺคิตา, สปุพฺพปจฺฉาภาคสฺส คหณวเสน เจตนากฺขณวเสน เจตนาสมงฺคิตาติ โยเชตพฺพา. เอกสฺมึ อุปฏฺิเต ปจฺจยวเสน ตทฺสฺส อุปฏฺานํ ปริวตฺตนํ.
ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๐. โภเค ¶ ภฺุชิตุํ น ชานาติ, วินาเสตีติ โยชนา.
ลหุปริวตฺติตาย ชีวิตสฺสาติ อธิปฺปาโย.
น ¶ อทาสิ ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนนฺติ อธิปฺปาเยน.
สมฺมาปโยเคนาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา.
ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑๓. ธาตุสภาโวติ ภูตาทิสงฺขาตธาตูนํ สภาโว. สภาควเสน ผลภูเตน. อชฺฌาสยธาตุปริจฺฉินฺทนโตติ อชฺฌาสยสภาวสฺส ‘‘หีนํ, ปณีต’’นฺติ วา ปริจฺฉิชฺช ชานนโต, วุฏฺินิมิตฺเตน วิย มโหเฆน อุปริเมฆวุฏฺิยา.
ปฺจมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา
สทฺทตฺโถ สมฺภวติ สมาสนฺเตเนว ตถา สทฺทสิทฺธิโต. เตสนฺติ ปโรปรานํ วิสทาวิสทานํ สทฺธาทิอินฺทฺริยานํ. เอวฺจ กตฺวาติ อาสยาทิโต อินฺทฺริยปโรปริยตฺตสฺส, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตโต จ อธิมุตฺติเภทสฺส วิสิฏฺสภาวตฺตา เอว.
๘๑๕. ‘‘เก ปน เต อริยาวาสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เต สุตฺเตเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬึ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ วุตฺตา’’ติ นิคเมตฺวา ปุน มคฺคาธิคเมเนว เตสํ อธิคมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิตเรติ ฉฬงฺคสมนฺนาคมเอการกฺขาสงฺขายปฏิเสวนาทโย.
๘๑๖. อารมฺมณสนฺตานานุสยเนสูติ ¶ อารมฺมณานุสยนํ, สนฺตานานุสยนนฺติ ทฺวีสุ อนุสยเนสุ. ยถา หิ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺโน ราโค การณลาเภ ¶ อุปฺปชฺชนารโห ถามคตฏฺเน สนฺตาเน อนุเสตีติ วุจฺจติ, เอวํ อิฏฺารมฺมเณปีติ ตสฺส อารมฺมณานุสยนํ ทฏฺพฺพํ. ตํ ปนสฺส อนุสยนํ อุปฺปตฺติยา ปากฏํ โหตีติ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ (วิภ. อฏฺ. ๘๑๖) วุตฺตํ. ‘‘อาจิณฺณสมาจิณฺณา’’ติ เอเตน อิฏฺารมฺมเณ ราคสฺส จิรปริภาวนํ วิภาเวติ. ยสฺมา ปน เอวํ จิรปริภาวิตํ ปริเวเตฺวา วิย ิตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สมนฺตโต เวเตฺวา วิย ิตภาเวน อนุสยิตตํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ อุทเก นิมุคฺคสทิโส อุทาหโฏ. ‘‘สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา กามนียฏฺเน กามา’’ติอาทิปาฬิวเสน ภวราคสฺสาปิ วตฺถุกามตา เวทิตพฺพา. ราควเสนาติ อารมฺมณรชฺชนวเสน.
๘๑๘. อินฺทฺริยวิเสโส วิเนยฺยานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ.
๘๑๙. ปหาตพฺเพน อุปทฺทุตนิโรธนตฺถํ ปหายกํ ปริเยสตีติ ปมํ ปหาตพฺพํ, ปจฺฉา ปหายกนฺติ อยํ ปหาตพฺพปชหนกฺกโม ปหานกฺกมปเทน วุตฺโต. ยสฺสาติ ปหาตพฺพสฺส. ตนฺติ ปหาตพฺพํ. ปมํ วุจฺจตีติ ปหานวิจารณานํ ปมํ วุจฺจติ. ตโต ปจฺฉา อปฺปหาตพฺพํ ยถา ตํ ทสฺสนตฺติกาทีสุ.
๘๒๖. ตนฺติ ภวงฺคํ. ตสฺสาติ โลกุตฺตรสฺส. ปาทกนฺติ อนฺติมภวิกสฺส ภวงฺคํ สนฺธายาห.
ฉฏฺพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๒๘. สมาปนฺโนมฺหีติ มฺตีติ อตฺโถ.
สมาธิ ¶ วา ตสฺส อารมฺมณภูตํ กมฺมฏฺานํ วา จิตฺตมฺชูสาติ โยชนา. เปตุนฺติ ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ สมาปตฺติจิตฺตํ ปวตฺเตตุํ.
เตหีติ ¶ สฺามนสิกาเรหิ. ตํสภาวตาติ กามาทิทุติยชฺฌานาทิอนุปกฺขนฺทนสภาวตา. ปคุณโวทานํ ปคุณภาวสิทฺธา ฌานสฺส ปฏิปกฺขโต วิสุทฺธิ.
สตฺตมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา
๘๓๑. ปฺาว วิมุตฺตีติ ราคาทีหิ วิมุตฺติภูตา ปฺาว วิมุตฺตีติ โยชนา. กมฺมนฺตรสฺส วิปากนฺตรเมวาติ อตฺโถ วิปากนฺตรชานนสฺเสว ทุติยพลกิจฺจตฺตา, กมฺมนฺตรชานนสฺส จ ตติยพลกิจฺจตฺตา. พลสทิสตนฺติ เอกจฺจพลสทิสตํ. กสฺมา ปเนตฺถ พลาณกิจฺเจ วุจฺจมาเน ฌานาทิอพลาณํ อุทาหฏนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยทิปี’’ติอาทิ. ตทนฺโตคธนฺติ ตสฺมึ ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาสภาเว สตฺตมพลาเณ อนฺโตคธํ. เอวนฺติ ฌานาทิาณํ วิย. อปฺเปตุํ, วิกุพฺพิตฺุจาติ อตฺตนา วุตฺตาการํ สนฺธายาห. สมุทยปฺปหานาทิเอกจฺจาณกิจฺจมฺปิ อกโรนฺตํ สพฺพฺุตฺาณํ กถมปฺปนาทิกํ ฌานาทิกิจฺจํ กเรยฺย, พลาเณหิ ปน ชานิตพฺพํ, ตโต อุตฺตริฺจ ชานนฺตมฺปิ ยสฺมา เอกจฺจพลกิจฺจํ น กโรติ, ตสฺมา อฺาเนว พลาณานิ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรตี’’ติอาทิ (วิภ. อฏฺ. ๘๓๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา สพฺพฺุตฺาณํ อพลกิจฺจํ เอกจฺจํ น กโรติ, เอวํ พลกิจฺจมฺปีติ อุทาหรณทสฺสนวเสน ‘‘ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.
ทสมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
าณวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค
๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๔๓-๔. อตฺถิปฏิจฺจํ ¶ ¶ นามาติ อตฺถิตา ปฏิจฺจตฺโถ นาม, อสติปิ สหชาตปุเรชาตาทิภาเว ยสฺมึ สติ ยํ โหติ, โส ตสฺส ปจฺจโยติ กตฺวา ยถา ตถา อตฺถิตามตฺตํ อิธ ปฏิจฺจตฺโถติ อตฺโถ. ตํ ปน ปฏิจฺจตฺถํ พฺยติเรกมุเขน ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิสฺสยาทิปจฺจยภาเวน ปฏิจฺจาติ วุตฺตนฺติ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต ปจฺจยภูตํ จกฺขาทิ ‘‘ปฏิจฺจา’’ติ วุตฺตํ. เอกิสฺสา เสณิยาติ อฏฺารสสุ เสณีสุ มยํ อมุกาย เสณิยา ชาตามฺห, น อฺเ วิย อปฺปฺาตาติ เอวเมตฺถ อตฺถํ วทนฺติ.
ปุรโต กรณํ ปมุขภาวกรณํ. นิธานราสีติ นิทหิตฺวา ปิตธนนิจโย. ยโสติ อิสฺสริยํ. ตํ ปน เยสุ วตฺตติ, เตสุ ปฏฺาปกอาณากรเณหิ ปากโฏ โหตีติ ‘‘ปฏฺาปกมโท, อาณากรณมโท’’ติ จ วุตฺตํ.
๘๔๕. วตฺถุนาติ ชาติอาทิปวตฺติเหตุนา.
๘๔๖. ปติฏฺาภาโวติ กุสลกมฺเมสุ ปติฏฺานาภาโว, โส ปน ยสฺมา กุสลกิริยาย านํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘กุสลกรเณ อฏฺาน’’นฺติ อาห. ปมาทสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส เอวมาทิโก ปริยาโยติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ‘‘วจีทุจฺจริเต, มโนทุจฺจริเต จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค, มกฺโข, ปฬาโส’’ติ จ เอวมาทิกสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ‘‘ปมาโท ปมชฺชนาที’’ติอาทิโก ตทตฺถปฺปกาสโก, ‘‘จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค โวสฺสคฺคานุปฺปาทน’’นฺติอาทิโก ตปฺปริยายปฺปกาสโก พฺยฺชนปริยาโย ¶ จ อปริยนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘จตฺตาโร ขนฺเธ ทสฺเสตี’’ติ อิมินา สติโวสฺสคฺคาการปฺปวตฺตา จตฺตาโร อกุสลกฺขนฺธา ปมาโทติ วทติ.
๘๔๗. อนิวาตวุตฺติตาย เหตุภูโต จิตฺตสมฺปคฺคโห มานวิเสโส.
๘๔๘. อุตฺตรภาโว อุตฺตริยํ, กรเณน อุตฺตริยํ กรณุตฺตริยํ, สารมฺเภน ปรสฺส กิริยโต อุตฺตริกิริยา.
๘๔๙. เนรุตฺติกวิธาเนนาติ ¶ อิ-การจฺจ-การานฺจ ร-การตาปาทเนน.
อตฺตหิตํ อตฺตาติ อุตฺตรปทโลเปน นิทฺเทสมาห ยถา ‘‘รูปภโว รูปํ, ภีมเสโน ภีโม’’ติ จ. อาทินฺโน, ปตฺโต วา อตฺโถ อตฺตาติ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
มุทฺทิตสฺสาติ องฺกิตสฺส.
๘๕๐. ชานนฺตสฺเสว มหาชนสฺส. อุปาทานาทิปจฺจเยติ อินฺธนุทกจีวราทิเก ปาริปูริเหตุเก.
๘๕๑. คณฺิกา สยํ คณฺิกรณโต. ปติรูปวจนโต, อฺเสํ คณฺิเภทโต จ คณฺิภูตา.
๘๕๒. อเภชฺชนฺตรตาย สมาเสวิตตาย สุฏฺุ อาเสวิตตาย.
๘๕๓. จิรกาลปริภาวิตตฺเตน เตมนกรณํ อลฺลภาวกรณํ, โลภวเสน อวสฺสวนนฺติ อตฺโถ.
เอวํ สนฺเต กถํ ขียนนฺติ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ขียนนฺติ จา’’ติอาทิ.
๘๕๔. จีวรมณฺฑนาทีนนฺติ ¶ จีวรมณฺฑนา ปตฺตมณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนาติ อิเมสํ. อิทานิ ตํ วิเสสนภาวํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จีวเรน หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๘๕๕. สภาครหิโต, สภาคปฏิปกฺโข วา อสภาโค, อนนุกูลานํ ปฏิกฺกูลตา วา. เตนาห ‘‘มานถทฺธตา, วิโรโธ วา’’ติ.
๘๕๖. สงฺกมฺปนา อุกฺกณฺนาวเสน อนวฏฺานํ, อนวธานํ วา. ตสฺส ตสฺส อารมฺมณสฺส ตณฺหายนา.
๘๕๗. กายสฺสาติ นามกายสฺส. ตสฺมิฺหิ อวิปฺผาริเก รูปกาโยปิ อวิปฺผาริโก โหติ.
๘๖๐. ราคาทีนนฺติ ¶ ราคโมหอหิริกาโนตฺตปฺปวิจิกิจฺฉาทีนํ.
๘๖๑. ติวิธมฺปิ กุหนวตฺถุํ ทสฺเสตุนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ มหานิทฺเทเส. ‘‘ตตฺถ กตมา กุหนา ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิตสฺสา’’ติอาทินา (วิภ. ๘๖๑) อิธ ขุทฺทกวิภงฺเค อาคตํ เทสนานยํ นิสฺสาย มหานิทฺเทสเทสนา ปวตฺตาติ อาห ‘‘นิสฺสยภูตาย อิมาย ปาฬิยา’’ติ.
อนฺตรหิตานีติ อนฺตวิกลานิ ฉินฺทนฺตานิ.
ลาภสกฺการสิโลกเหตุ สมฺภาวนาธิปฺปาเยน สํยตาการทสฺสนํ โกหฺนฺติ อาห ‘‘ปาปิจฺฉตาย นิรตฺถกกายวจีวิปฺผนฺทนิคฺคหณํ โกรช’’นฺติ. โย สํเวคพหุโล กุกฺกุจฺจโก ปุพฺเพนาปรํ อตฺตโนปิ กิริยํ ปริสงฺกนฺโต ปจฺจเวกฺขมาโน ติฏฺติ, ตาทิสํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อติปริสงฺกิโต’’ติ วุตฺโต.
๘๖๔. ปสํสามุเขน นินฺทนนฺติ ปสํสาวตฺถุโต ขิปนํ พหิ ฉฑฺฑนํ ยถา ‘‘อทายกํ อโห ทานปตี’’ติ.
๘๖๕. คเวสนกมฺมนฺติ ¶ อปฺปเกน ลาเภน มหนฺตสฺส ปริเยสนกพฺยาปาโร.
๘๖๖. โปกฺขรํ วุจฺจติ สุนฺทรํ, วณฺณสฺส สุนฺทรภาโว วณฺณปาริปูรี โหตีติ อาห ‘‘วณฺณปาริปูรี วา วณฺณโปกฺขรตา’’ติ.
๘๗๙. เสยฺยมานาทินิทฺเทเสสูติ ‘‘ตตฺถ กตโม เสยฺยสฺส ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ มาโน’’ติอาทินา (วิภ. ๘๖๙) นิทฺทิฏฺเสุ นวสุ มานนิทฺเทเสสุ. ‘‘เสยฺยาทิปุคฺคโล’’ติ อิทํ ตตฺถ ปาฬิยํ เสยฺยาทีนํ นวนฺนํ ปุคฺคลานํ อามฏฺตฺตา วุตฺตํ. อิธ ปน ปุคฺคลามสเน สติ เสยฺยปุคฺคโล จ อามสิตพฺโพ สิยา. เตเนวาห ‘‘เสยฺยมานภาเวปี’’ติ. เสยฺยมานภาเวปีติ ปิ-สทฺโท อากฑฺฒโก อเสยฺยมานนิทฺเทเสปิ ปุคฺคลามสนสฺส กตตฺตา. ยสฺส กสฺสจีติ เสยฺยาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ ปุคฺคลสฺส.
๘๘๐. ปุริมมานสฺสาติ ¶ ปุพฺเพ ปวตฺตสฺส สทิสมานสฺส, หีนมานสฺส วา, สทิสมานวเสเนว ปน ปาฬิ อาคตา.
๘๘๑. ‘‘มิคานํ โกตฺถุโก อนฺโต, ปกฺขีนํ ปน วายโส’’ติ (ชา. ๑.๓.๑๓๕) วจนโต อาห ‘‘ปกฺขิชาตีสุ วายโส อนฺโต ลามโก’’ติ.
๘๘๓. มานสมฺปยุตฺตจฺฉนฺโท ตณฺหาฉนฺโท. มานสภาวํ อนุคโต เสยฺยาทิโต สมฺปคฺคณฺหนวเสน ปวตฺโต มานสมฺปยุตฺตกตฺตุกมฺยตาฉนฺโท วา มานจฺฉนฺโท.
๘๘๔. ตตฺถาติ ตสฺมึ วิลมฺพเน นิปฺผาเทตพฺเพ. ยุตฺตํ อนุจฺฉวิกํ. มุตฺตํ วิสฺสฏฺํ. สิลิฏฺํ สหิตํ, อตฺถทฺวยวิภาวกํ วา.
๘๘๘. อนุทฺทยสฺเสวาติ เมตฺตายนฺตสฺส วิย อนุกมฺปนฺตสฺส วิย วิกปฺปนาติ อาห ‘‘สหนนฺทิตาทิกสฺสา’’ติ, เมตฺตาทิปติรูเปน ปวตฺตเคหสิตสิเนหสฺสาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตาทิโส ¶ ราโค’’ติ. อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวมฺปิ ‘‘ตตฺถา’’ติ ปาฬิปทสฺส อตฺโถ ยุชฺชติ. ปรานุทฺทยตาเหตุโก หิ ปรานุทฺทยตาสหิโต โส วิตกฺโกติ.
๘๙๐. กามคุณปาริปูริยา เยภุยฺเยน โลโก สมฺภาเวตีติ อาห ‘‘อนวฺตฺตตฺถเมว กามคุเณ จ ปตฺเถตี’’ติ.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙๑. พนฺธตีติ กุชฺฌนาการํ พนฺธติ ฆเฏติ. อุปนาโห หิ อาฆาตวตฺถุนา จิตฺตํ พนฺธนฺโต วิย โหติ, ยโต อฺถา ปวตฺติตฺวาปิ อวิทิเต อุปนาเห อาฆาตวตฺถุสนฺนิสฺสิโตว โหติ.
๘๙๒. ทนฺเตหิ ¶ ฉินฺทิตฺวาติ ทนฺเตหิ ฉินฺทิตฺวา วิย เอกเทสํ อปเนตฺวา เอกเทสํ คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย.
๘๙๔. อจฺจยํ กตฺวาติ วีติกฺกมํ กตฺวา. ปฏิจฺฉาทเนติ อตฺตนา กตสฺส อจฺจยสฺส ปฏิจฺฉาทเน. โวจฺฉินฺทนํ วีติกฺกมกิริยาย อปฺปฏิชานวเสน อุปจฺฉินฺทนํ, โวจฺฉินฺทเนน ฉาทนา โวจฺฉินฺทนฉาทนา.
อสมฺมาภาสเน ส-สทฺโท โลเก นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘โย น สมฺมา ภาสติ, โส สโ’’ติ. สสฺส ยกฺขสูกรสทิสตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุจฺฉิ วา ปิิ วา ชานิตุํ น สกฺกา’’ติ อาห, อินฺทชาลสทิโส วา เอโส ทฏฺพฺโพ.
โย สพฺพถา วิปนฺนชฺฌาสโยปิ สมาโน กายวจีเภทมตฺเตน อตฺตานํ สมฺปนฺนํ วิย ทสฺเสตฺวา ¶ โลกํ วฺเจนฺโต อฺถา สนฺตํ อฺถา ปเวเทติ. เตนาห ‘‘เตเนตํ สาเยฺยํ มายาโต พลวตรา วฺจนาติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนเมว หิ มายา. เตเนวาติ พลวตรวฺจนาภาเวเนว. ทฬฺหเกราฏิยฺหิ ‘‘ปริกฺขตตา’’ติ วุตฺตํ.
๙๐๘. อภาเวปีติ ปิ-สทฺเทน ‘‘โก ปน วาโท ภาเว’’ติ ทสฺเสติ. ยทิปิ หิ ปุถุชฺชนานํ, เอกจฺจานฺจ เสกฺขานํ ยถารหํ อตฺตาภินิเวสาทีหิ กตูปการํ รูปราคาทิสํโยชนกิจฺจํ สาเธติ, เอกจฺจานํ ปน วินา เอว เตหีติ กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กถฺจิปิ อวิมุตฺโต กามภโว อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตทภาวโต ‘‘พหิทฺธา’’ติ ลทฺธโวหาเร รูปารูปภเว เกวลมฺปิ สํโยชนกิจฺจํ สาเธนฺตํ ปวตฺตตีติ, ตโต เอว รูปารูปาวจรสตฺตานํ พหิทฺธาสํโยชนภาวเหตชาตนฺติ จ ‘‘พหิทฺธาสํโยชน’’นฺติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘สกฺกายทิฏฺาทีนํ…เป… โยชนํ นามา’’ติ.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๐๙. อวิชฺชาภวตณฺหาหิ ¶ วิย อิสฺสามจฺฉริยโทมนสฺสาทิสหายภูเตน โทเสนปิ ภวาภิสงฺขรณํ โหตีติ ‘‘อกุสลมูลาเนว วฏฺฏมูลานี’’ติ. เตนาห ‘‘ตีหิ…เป… กถิโต’’ติ.
๙๑๙. รูปารูปาวจรวิปากานํ สนฺตปณีตภาเวน อุฬารตมตฺตา ตตฺถ สาติสโย ภวราโค วุตฺโต.
๙๒๐. มาเนน ปนาติ มาเนน เสยฺยาทิวเสน อตฺตโน ปนา. ปนาติ จ ทหนา, ปคฺคณฺหนา วา.
๙๒๑. ตํสมฺปยุตฺตาติ ¶ โทสสมฺปยุตฺตา.
๙๒๒. เตสํ วณฺณเภทนฺติ เตสํ ชีวานํ วณฺณวิเสสํ, เตสํ วา ตถา กเถนฺตานํ สุตฺวา. พฺยาปีติ สกลโลกพฺยาปี, สกลสรีรพฺยาปี วา. ปริมณฺฑโลติ ปรมาณุปฺปมาโณ หุตฺวา ปริมณฺฑโล. อาทิ-สทฺเทน องฺคุฏฺปฺปมาโณ วยปฺปมาโณติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ.
๙๒๓. อุตุวิปริณามโช สีตาทิอุตุวิปริวตฺตชาโต. โอปกฺกมิโก อตฺตโน, ปรสฺส วา ตาทิสอุปกฺกมนิพฺพตฺโต. วิสมปริหารโช จิราสนจิรฏฺานาทินา กายสฺส วิสมปริหรณโต ชาโต. สนฺนิปาตโช สฺจยโต ปฏฺาย ปจฺเจกํ วิสมาการโต โทสตฺตยสโมธานโต ชาโต. กมฺมสมุฏฺาโน อุตุวิปริณามาทีหิ วินา กมฺมโต สมุฏฺิโต. ปิตฺตเสมฺหวาตสมุฏฺานา ปน ปิตฺตาทีนํ อธิกภาเวเนว วุตฺตา. สพฺพสฺสาปิ หิ โรคสฺส โทสตฺตยํ อาสนฺนการณํ โทสปฺปโกเปน วินา อภาวโต. กมฺมํ ปธานการณํ กโตกาเส เอว ตสฺมึ อุปฺปชฺชนโต, อิตรํ ปน ตสฺส สหการิการณํ ทฏฺพฺพํ. ตยิทํ ปุพฺเพกตเหตุวาทิโน ปฏิกฺขิปนฺติ. อุปปชฺชเวทนียผลมฺปิ ปุพฺเพกตเหตุกปกฺขิกเมว อตีตทฺธิกตฺตา กมฺมสฺสาติ อรุจิสูจนตฺถํ กิร-สทฺทคฺคหณํ กโรติ ‘‘อุปปชฺชเวทนียฺจ กิร ปฏิกฺขิปนฺตี’’ติ.
๙๒๔. ทาหการณตายาติ ราคาทิทสวิธคฺคิทาหสฺส, นรกคฺคิทาหสฺส จ การณตาย.
๙๒๖. ปุถุนิมิตฺตสภาเวสูติ ¶ ปุถุ นานากิเลสาทีนํ การณสภาเวสุ.
๙๓๑. อทฺทนํ อทฺทา มทฺทโว, อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ตปฺปฏิกฺเขเปน อนทฺทาติ อาห ‘‘อมุทุตา วา อนทฺทา’’ติ.
๙๓๖. อโยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา อาวชฺชนาย อกุสลานุกูลกิจฺจตา ทฏฺพฺพา.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๓๙. เอวํ-สทฺเทนาติ ¶ นิทสฺสนตฺเถน เอวํ-สทฺเทนาติ อธิปฺปาโย. ภโว เอว อภิวุทฺโธ อภโว ยถา ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑). ทุติยสฺมึ ปกฺเข ภวาภวสทฺเทน สมฺปตฺติวิปตฺติโย, วุทฺธิหานิโย วา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อคติยาติ อยุตฺตคติยา, อปฺปติรูปกิริยายาติ อตฺโถ.
โกธูปายาส…เป… มาตุคามา วา อูมิอาทิภยนฺติ โยชนา. ปฺจกามคุณมาตุคามคฺคหเณติ ปฺจกามคุณคฺคหเณ, มาตุคามคฺคหเณ จ.
‘‘สยํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติอาทิกา ทิฏฺิ ยทิปิ อฺเสมฺปิ ทิฏฺิคติกานํ อตฺเถว, ติมฺพรุโก ปน ตถาทิฏฺิโก ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉีติ สา ทิฏฺิ ‘‘ติมฺพรุกทิฏฺี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๘) วุตฺตา. เตนาห ‘‘ติมฺพรุโก…เป… อาคตตฺตา’’ติ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๐. อาคมนสฺส ¶ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสนาติ อธิปฺปาโย.
๙๔๑. อุปจยนโตติ วฑฺฒนโต. อฺถาติ ลาภโต ตกฺกนโต จ อฺปฺปกาโร คหิโตติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธารุจิอาทีหี’’ติ อาห. อนุสฺสวโต หิ สทฺทหนํ, รุจฺจนํ ปน ชาติสฺสราณโตปิ โหติ. อาทิ-สทฺเทน ขนฺติอาทีนํ สงฺคโห.
๙๔๒. อกฺขนฺติ ¶ มูลํ เอเตสนฺติ อกฺขนฺติมูลกา. ทุกฺกฏทุพฺภาสิตตาทิโทสา ตาทิสานิ กายวจีมโนทุจฺจริตานิ.
๙๔๓. อุทคฺคตาสงฺขาโต อวูปสโม น อุทฺธจฺจสงฺขาโตติ ปีติยา เอว สวิปฺผาริกตาสงฺขาตํ อสนฺตสภาวํ อาห. อวูปสมเหตุภูโตติ วิกฺเขปเหตุภูโต. ปีติยา อากาโรติ ปีติยา ปวตฺติอากาโร.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔๔. เตนาติ โกธาทีนํเยว วิวาทมูลตฺตา.
๙๔๕. กุสลานุโยเค สาตจฺจํ กุสลานุโยคสาตจฺจํ.
คเณน สตฺตสมูเหน สงฺคณิ สนฺนิปตนํ เยน สทฺธึ, เตน สงฺคติ คณสงฺคณิกา. กสฺสจิ ฆาสจฺฉาทนาทิกสฺส.
๙๔๖. อุปวิตกฺเกตีติ อารมฺมณํ อุเปจฺจ ตกฺเกติ.
๙๔๘. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิโกติ ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จา’’ติ เอวํวาที.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕๒. โอสีทนากาเรนาติ ¶ ¶ กตฺตพฺพกมฺเม อนุสฺสหนากาเรน.
๙๕๘. เต อภินิเวสา อสฺีวาทา วทนฺติ เอเตหีติ.
อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. นวกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๐-๙๖๓. ทสมสฺสาติ อฏฺานฆาตสฺส.
อชฺฌตฺตนฺติ โคจรชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ. เอตสฺส คาถาวจนสฺส. นิฏฺเปตฺวาติ อภินิวิสฺส.
๙๖๔. อฺเสํ ผสฺสาทีนํ สงฺขตภาเว ยถาสกํปจฺจเยหิ. เยนากาเรน มานสฺส สาติสยา ปวตฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อหนฺติ, อสฺมีติ จา’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโนติ ทิฏฺิคตปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน. ยถา มานสฺส สมฺปคฺคหวเสน, เอวํ ตณฺหาย มมตฺตวเสน, ทิฏฺิยา นิจฺจาทิวเสน ปวตฺติ วิเสสวตี สมาเนปิ อนาคตกาลามสเนติ อาห ‘‘ภวิสฺสนฺตี…เป… วุตฺโต’’ติ. ‘‘อหมสฺมี’’ติ ปน ปวตฺตมานสฺเสว ภวตีติ สพฺพปทสาธารณสฺส มานสฺเสว วเสน อิฺชิตาทิตา อฏฺกถายํ วุตฺตา.
นวกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๐. สงฺกปฺปนนฺติ ¶ ‘‘กุสลตา’’ติ วุตฺตปทสฺส อตฺถวจนํ. ตสฺสา อุปายจินฺตาย. มิจฺฉาภาโว สาวชฺชภาโว. ตทากาโร โมโหติ ยถาวุตฺตากาเรน ปวตฺเต จิตฺตุปฺปาเท โมโห. ตสฺสาปิ ยถาวุตฺตปจฺจเวกฺขณายปิ ยถากตปาเปปิ. อธิมานสมฺปยุตฺตํ สฺชานนํ ปกติปุริสนฺตรทสฺสนาทิวเสน ปวตฺตํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตํ ผลํ วิย วิมุตฺตนฺติ คหิตํ ทฏฺพฺพํ.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗๓. วิเสสํ ¶ อกตฺวาติ อนุปนิธานํ, สมโต จ อสมโต จ อุปนิธานนฺติ อิมํ วิภาคํ อกตฺวา, โย ‘‘อิตฺถํ, เอวํ, อฺถา’’ติ ปเทหิ ปกาสิโต.
วิเสสสฺสาติ ‘‘อิตฺถํ, เอวํ, อฺถา’’ติ ยถาวุตฺตสฺเสว วิเสสสฺส. ทิฏฺิยาติ ทิฏฺิยา คหิตาย ตทวินาภาวินี ตณฺหา ทสฺสิตา. สีสสีสมูลเกหีติ จตูหิ สีเสหิ, ทฺวาทสหิ จ สีสมูลเกหิ. สยเมว จ ตณฺหา ทสฺสิตาติ โยชนา. ยทิ ทิฏฺิมานคาโหปิ อิธาธิปฺเปโต, ยโต ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมูหคาหโต’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๙๗๓) อฏฺกถายํ วุตฺตํ, กถํ ‘‘ตณฺหาวิจริตานี’’ติ วจนนฺติ อาห ‘‘ทิฏฺิมาเนสู’’ติอาทิ. ตํมูลกตฺตาติ ตณฺหามูลกตฺตา.
๙๗๔. น อวกฺกรียตีติ อนวการี, ตํ อนวการึ กตฺวา, ตํ ปทนฺตเรน วิภาเวนฺโต ‘‘อนวกฺกริ, ตํ กตฺวา’’ติ อาห. วิกฺเขปนํ อวยวโต วิภาโค. อตฺตโต อวินิพฺภุชิตฺวาติ ยฺวายํ ทิฏฺิคติกปริกปฺปิโต อตฺตา, ตโต อวิสุํ กตฺวา.
๙๗๖. พหิกตานิ รูปาทีนิ อุปคนฺตฺวา ปวตฺตา ตณฺหา อุปาทายาติ วุตฺตาติ โยชนา.
เอกจฺจสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส เอกสฺมึ อตฺตภาเว กสฺสจิ ตณฺหาวิจริตสฺส อสมฺภโว, กสฺสจิเทว สมฺภโวติ อาห ‘‘กสฺสจิ สมฺภวทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ.
ตณฺหาวิจริตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. ธมฺมหทยวิภงฺโค
๑. สพฺพสงฺคาหิกวารวณฺณนา
๙๗๘. ธาตุสมฺภว…เป… ¶ ¶ สงฺคหิตตฺตาติ เอตฺถ ขนฺธาทีนํ กามธาตุอาทิธาตูสุ สมฺภวเภทภินฺนานํ นิรวเสสโต สงฺคหิตตฺตาติ วิภาเคน โยชนา, ตถา เสเสสุปิ ปริยาปนฺนปเภทภินฺนานนฺติอาทินา. ตตฺถ ‘‘นิรวเสสโต สงฺคหิตตฺตา’’ติ อิมินา ‘‘สพฺพสงฺคาหิกวาโร’’ติ อยมสฺส อตฺถานุคตา สมฺาติ ทสฺเสติ. ยสฺมา เจตฺถ ขนฺธาทีนํ ทฺวาทสนฺนํ โกฏฺาสานํ อนวเสสสงฺคโห, ตสฺมา เอวํ ทุติยวาราทีนฺเจตฺถ อนุปฺปเวโส เวทิตพฺโพ. ขนฺธาทีนเมว หิ เตสํ สมฺภวาทิวิจาโร อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติทสฺสนวาโรติ วตฺตุํ ยุตฺโตติ โยชนา. อนุปฺปตฺติทสฺสนฺเจตฺถ อตฺถาปตฺติสิทฺธํ เวทิตพฺพํ. น หิ ตตฺถ ‘‘กติ ขนฺธา น ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิปาฬิ อตฺถิ.
๙๗๙. ปุจฺฉานุรูปนฺติ เยนาธิปฺปาเยน ปุจฺฉา กตา, ตทนุรูปํ. อวิตถพฺยากรณํ นาม พุทฺธานํ เอว อาเวณิกํ, อฺเสํ ตํ ยาทิจฺฉิกํ สุตกฺขรสทิสนฺติ อาห ‘‘สพฺพฺุวจนํ วิฺาย กตตฺตา’’ติ.
สพฺพสงฺคาหิกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติวารวณฺณนา
๙๙๑. ‘‘กามภเว’’ติ ¶ อิทํ โอกาสวเสน วตฺวา ปุน สตฺตสนฺตานวเสน วตฺตุํ ‘‘กามธาตุสมฺภูตานฺจา’’ติ วุตฺตนฺติ ตมตฺถวิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทฺธิยา…เป… อตฺโถ’’ติ อาห. ‘‘น วตฺตพฺพํ สิยา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, ยทิปิ อสฺสตฺตานํ อจกฺขุกตฺตา รูปายตนํ อจฺจนฺตสุขุมตฺตา เหฏฺิมภูมิกานฺจ อโคจโร, สมานภูมิกานํ ปน เวหปฺผลานํ, อุปริภูมิกานฺจ สุทฺธาวาสานํ จกฺขายตนสฺส โคจโร โหตีติ อายตนาทิกิจฺจํ กโรติเยวาติ สกฺกา วตฺตุํ. ยํ ปเนตฺถ วิตฺถารโต วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว ¶ อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมิ’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) วุตฺตปเทสา กามาวจราทิโอกาสา. เต สตฺตนิกายา จ ธาตูติ วุจฺจนฺติ สมุทายสฺส อวยวาธารภาวโต ยถา ‘‘มาสปฺุโช มาโส’’ติ. สตฺตา อุปฺปชฺชนฺติ เอตฺถาติ สตฺตุปฺปตฺติ, อุปฺปชฺชนฏฺเน สตฺตาว อุปฺปตฺติ สตฺตุปฺปตฺตีติ เอวํ โอกาสสตฺตโลกทฺวยสฺส สตฺตุปฺปตฺติปริยาโย เวทิตพฺโพ. สตฺตภาเวน อุปฺปตฺติ, น อนุปาทินฺนกฺขนฺธา วิย สงฺขารภาเวเนวาติ อธิปฺปาโย. เก ปน เตติ อาห ‘‘สตฺตาวาสวเสน…เป… อุปาทินฺนกกฺขนฺธา’’ติ. ตํตํปริยาปนฺนานนฺติ ตํตํสตฺตาวาสปริยาปนฺนานํ สตฺตานํ, สงฺขารานเมว วา. สทิสาธิฏฺานภาเวนาติ สทิสากาเรน ปวตฺตมานานํ ขนฺธานํ ปติฏฺานภาเวน. เยภุยฺเยน หิ ตสฺมึ สตฺตาวาเส ธมฺมา สมานากาเรน ปวตฺตนฺติ.
อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปริยาปนฺนาปริยาปนฺนวารวณฺณนา
๙๙๙. ตตฺถ, อฺตฺถ จาติ ตสฺมึ, อฺสฺมิฺจ ภเว, โอกาเส จ. ปริจฺเฉทการิกาย กามาทิตณฺหาย ปริจฺฉิชฺช อาปนฺนา คหิตาติ ปริยาปนฺนาติ ตํตํภวาทิอนฺโตคธา ตํตํปริยาปนฺนา.
ปริยาปนฺนาปริยาปนฺนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุปฺปาทกกมฺมอายุปฺปมาณวาโร
๑. อุปฺปาทกกมฺมวณฺณนา
๑๐๒๑. ธาตุตฺตยภูตเทววเสนาติ ¶ กามาทิธาตุตฺตเย นิพฺพตฺตเทวานํ วเสน.
อุปฺปาทกกมฺมวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อายุปฺปมาณวณฺณนา
๑๐๒๖. สุปริมชฺชิตกฺจนาทาสํ ¶ วิย โสภติ วิชฺโชตตีติ สุโภ, สรีโรภาโส, เตน สุเภน กิณฺณา วิกิณฺณาติ สุภกิณฺณา.
๑๐๒๗. ตํตํมนสิการนฺติ ปริตฺตปถวีกสิณาทิคตมนสิการํ. อปฺปนากฺขเณปีติ ปิ-สทฺเทน ปุพฺพภาคํ สมฺปิณฺเฑติ. ฉนฺทนํ อารมฺมณปริเยสนํ ฉนฺโท, กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท. ปณิธานํ จิตฺตฏฺปนา ปณิธิ, สฺาวิราคาทีหิ อารมฺมณสฺส วิเสสนํ ตถาปวตฺตาย ภาวนาย อารมฺมณกรณเมว.
วิปุลํ วุจฺจติ มหนฺตํ, สนฺตภาโวปิ มหนียตาย มหนฺตเมวาติ อาห ‘‘วิปุลา ผลาติ วิปุลสนฺตสุขายุวณฺณาทิผลา’’ติ.
๑๐๒๘. ยํ จาตุมหาราชิกานํ อายุปฺปมาณํ, สฺชีเว เอโส เอโก รตฺติทิโว, ตาย รตฺติยา ตึส รตฺติโย มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโก สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน ปฺจ วสฺสสตานิ สฺชีเว อายุปฺปมาณํ. ยํ ตาวตึสานํ อายุปฺปมาณํ, เอโส กาฬสุตฺเต เอโก รตฺติทิโว…เป… เตน สํวจฺฉเรน วสฺสสหสฺสํ กาฬสุตฺเต อายุปฺปมาณํ. ยํ ยามานํ อายุปฺปมาณํ, เอโส สงฺฆาเต เอโก รตฺติทิโว…เป… เตน สํวจฺฉเรน ทฺเว วสฺสสหสฺสานิ สงฺฆาเต ¶ อายุปฺปมาณํ. ยํ ตุสิตานํ อายุปฺปมาณํ, โรรุเว เอโส เอโก รตฺติทิโว…เป… เตน สํวจฺฉเรน จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ โรรุเว อายุปฺปมาณํ. ยํ นิมฺมานรตีนํ อายุปฺปมาณํ, มหาโรรุเว เอโส เอโก รตฺติทิโว…เป… เตน สํวจฺฉเรน อฏฺ วสฺสสหสฺสานิ มหาโรรุเว อายุปฺปมาณํ. ยํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ, ตาปเน เอโส เอโก รตฺติทิโว…เป… เตน สํวจฺฉเรน โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ตาปเน อายุปฺปมาณํ. มหาตาปเน อุปฑฺฒนฺตรกปฺโป. อวีจิยํ เอโก อนฺตรกปฺโป จ อายุปฺปมาณนฺติ วทนฺติ. เทวานํ อธิมุตฺตกาลกิริยา วิย ตาทิเสน ปฺุพเลน อนฺตราปิ มรณํ โหตีติ ‘‘กมฺมเมว ปมาณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อพฺพุทาทิอายุปริจฺเฉโทปิ ยุตฺตตโร โหตีติ.
กึ ¶ ฌานนฺติ อฏฺสุ ฌาเนสุ กตรํ ฌานํ. ภวสีสานีติ ภวคฺคานิ, ปุถุชฺชนภวคฺคํ อริยภวคฺคํ สพฺพภวคฺคนฺติ เวหปฺผลาทีนํ สมฺา. กสฺสจิ สตฺตาติ ปุถุชฺชนสฺส, กสฺสจิ ปฺจาติ โสตาปนฺนสฺส, สกทาคามิโน จ, กสฺสจิ ตโยติ อนาคามิโน วเสน วุตฺตํ. ตสฺมา โส พฺรหฺมกายิกาทีหิ จุโต อรูปํ อุปปชฺชนฺโต เวทิตพฺโพ. ‘‘นวสุ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตอริยสาวกานํ ตตฺรูปปตฺติเยว โหติ, น เหฏฺูปปตฺตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๐๒๘) อยํ อฏฺกถาปาโติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตตฺรูปปตฺติปิ โหติ อุปรูปปตฺติปิ, น เหฏฺูปปตฺตี’’ติ ปน ปาโติ เตน ‘‘เหฏฺูปปตฺติเยว นิวาริตา’’ติอาทิวจเนน ปโยชนํ นตฺถิ. อรูปธาตูปปตฺติ จ น นิวาริตาติ สมฺพนฺโธ. อรูปธาตูปปตฺติ น นิวาริตา ‘‘มตฺถเก ิโตว ปรินิพฺพาตี’’ติ นิยมสฺส อนิจฺฉิตตฺตา.
อฺตฺถาติ กามโลเก. ตตฺถาติ รูปโลเก. อยํ อฏฺกถาติ ‘‘ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺโต…เป… ปรินิพฺพาตี’’ติ เอวํ ปวตฺตา อฏฺกถา. เตเนวาติ ยสฺมา รูปธาตุยํ อุปปนฺโน อธิปฺเปโต, น อุปปชฺชนารโห, เตเนว การเณน. ตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส รูปธาตุยํ อุปปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส. เยน รูปราเคน ตตฺถ รูปภเว อุปปนฺโน, ตสฺมึ อรูปชฺฌาเนน วิกฺขมฺภิเต สมฺมเทว ทิฏฺาทีนเวสุ ยถา กามรูปภเวสุ อายตึ ภวาภิลาโส น ภวิสฺสติ, เอวํ อรูปภเวปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปุน…เป… ภวิสฺสติเยวา’’ติ. ตตฺถ นิพฺพตฺโตติ รูปธาตุยํ อุปปนฺโน. อริยมคฺคํ ภาเวตฺวาติ เหฏฺิมํ อริยมคฺคํ สมฺปาเทตฺวา. นิพฺพตฺตภวาทีนวทสฺสนวเสนาติ ตสฺมึ รูปภเว นิพฺพตฺโตปิ ตตฺเถว อาทีนวทสฺสนวเสน. อนิวตฺติตภวาภิลาโสติ อุปริ อรูปภเว อวิสฺสฏฺภวปตฺถโน, ยโต อรูปธาตุยํ อุปปชฺชนารโห. ตสฺส วเสนาติ ตาทิสสฺส อริยสาวกสฺส ¶ วเสน. ‘‘กสฺสจิ ปฺจ, กสฺสจิ ตโย อนุสยา อนุเสนฺตี’’ติ อยํ ยมกปาฬิ (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๑๒) ปวตฺตา.
อายุปฺปมาณวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อภิฺเยฺยาทิวารวณฺณนา
๑๐๓๐. ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ ¶ รูปํ, อนุภวนลกฺขณา เวทนา’’ติอาทินา สามฺลกฺขณปริคฺคาหิกา. ‘‘ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, สาตลกฺขณํ สุข’’นฺติอาทินา วิเสสลกฺขณปริคฺคาหิกา.
‘‘จตฺตาโร ขนฺธา สิยา กุสลา’’ติอาทีสุ อิธ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เสสํ ยเทตฺถ น วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
อภิฺเยฺยาทิวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ธมฺมหทยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ สมฺโมหวิโนทนิยา ฏีกาย ลีนตฺถวณฺณนา
วิภงฺค-อนุฏีกา สมตฺตา.