📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

วิภงฺค-มูลฏีกา

๑. ขนฺธวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

จตุสจฺจทโสติ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ จตุสจฺจํ, จตุสจฺจํ ปสฺสีติ จตุสจฺจทโส. สติปิ สาวกานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ จตุสจฺจทสฺสนภาเว อนฺปุพฺพกตฺตา ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส ตตฺถ จ สพฺพฺุตาย ทสพเลสุ จ วสีภาวสฺส ปตฺติโต ปรสนฺตาเนสุ จ ปสาริตภาเวน สุปากฏตฺตา ภควาว วิเสเสน ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ โถมนํ อรหตีติ. นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสติ ปตฺเถติ, ปรสนฺตานคตํ วา กิเลสพฺยสนํ อุปตาเปติ, ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๗) วา ตํ ตํ หิตปฏิปตฺตึ ยาจตีติ อตฺโถ. ปรเมน จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต, สพฺพสตฺเต วา คุเณหิ อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติ. ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา กริสฺสามี’’ติ โสตพฺพภาเว การณํ วตฺวา ปุน สวเน นิโยเชนฺโต อาห ‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ. ‘‘โปราณฏฺกถานยํ วิคาหิตฺวา กริสฺสามี’’ติ วา เอเตน สกฺกจฺจสวเน จ การณํ วตฺวา ตตฺถ นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา ตํ สุณาถา’’ติ.

เอตฺถ จ ‘‘จตุสจฺจทโส’’ติ วจนํ โถมนเมว จตุปฺปเภทาย เทสนาย สมานคณนทสฺสนคุเณน, ‘‘อฏฺารสหิ พุทฺธธมฺเมหิ อุเปโต’’ติ จ อฏฺารสปฺปเภทาย เทสนาย สมานคณนคุเณหีติ ทฏฺพฺพํ. ยถาวุตฺเตน วา นิรติสเยน จตุสจฺจทสฺสเนน ภควา จตุธา ธมฺมสงฺคณึ เทเสตุํ สมตฺโถ อโหสิ, อฏฺารสพุทฺธธมฺมสมนฺนาคเมน อฏฺารสธา วิภงฺคนฺติ ยถาวุตฺตเทสนาสมตฺถตาสมฺปาทกคุณนิทสฺสนเมตํ ‘‘จตุสจฺจทโส อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ อฏฺารสหี’’ติ. เตน ยถาวุตฺตาย เทสนาย สพฺพฺุภาสิตตฺตา อวิปรีตตํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ สตฺเต อุคฺคหาทีสุ นิโยเชติ, นิฏฺานคมนฺจ อตฺตโน วายามํ ทสฺเสนฺโต อฏฺกถาสวเน จ อาทรํ อุปฺปาทยติ, ยถาวุตฺตคุณรหิเตน อสพฺพฺุนา เทเสตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคปฺปกรณานํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถ ตทฏฺกถาย จ สาติสยํ คารวํ ชนยติ, พุทฺธาทีนฺจ รตนานํ สมฺมาสมฺพุทฺธตาทิคุเณ วิภาเวติ.

ตตฺถ จตฺตาริ สจฺจานิ ปากฏาเนว, อฏฺารส ปน พุทฺธธมฺมา เอวํ เวทิตพฺพา – ‘‘อตีตํเส พุทฺธสฺส ภควโต อปฺปฏิหตํ าณํ, อนาคตํเส…เป… ปจฺจุปฺปนฺนํเส…เป… อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺตํ, สพฺพํ วจีกมฺมํ…เป. … สพฺพํ มโนกมฺมํ…เป… อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ ธมฺมเทสนาย, นตฺถิ วีริยสฺส, นตฺถิ สมาธิสฺส, นตฺถิ ปฺาย, นตฺถิ วิมุตฺติยา หานิ. อิเมหิ ทฺวาทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นตฺถิ ทวา, นตฺถิ รวา, นตฺถิ อผุฏํ, นตฺถิ เวคายิตตฺตํ, นตฺถิ อพฺยาวฏมโน, นตฺถิ อปฺปฏิสงฺขานุเปกฺขา’’ติ.

ตตฺถ นตฺถิ ทวาติ ขิฑฺฑาธิปฺปาเยน กิริยา นตฺถิ. นตฺถิ รวาติ สหสา กิริยา นตฺถิ. นตฺถิ อผุฏนฺติ าเณน อผุสิตํ นตฺถิ. นตฺถิ เวคายิตตฺตนฺติ ตุริตกิริยา นตฺถิ. นตฺถิ อพฺยาวฏมโนติ นิรตฺถโก จิตฺตสมุทาจาโร นตฺถิ. นตฺถิ อปฺปฏิสงฺขานุเปกฺขาติ อฺาณุเปกฺขา นตฺถิ. กตฺถจิ ปน ‘‘นตฺถิ ธมฺมเทสนาย หานี’’ติ อลิขิตฺวา ‘‘นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ วีริยสฺส, นตฺถิ สตฺติยา’’ติ ลิขนฺติ.

. ธมฺมสงฺคเห ธมฺเม กุสลาทิเก ติกทุเกหิ สงฺคเหตฺวา เต เอว ธมฺเม สุตฺตนฺเต ขนฺธาทิวเสน วุตฺเต วิภชิตุํ วิภงฺคปฺปกรณํ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺเขเปน วุตฺตานํ ขนฺธาทีนํ วิภชนํ วิภงฺโค. โส โส วิภงฺโค ปกโต อธิกโต ยสฺสา ปาฬิยา, สา ‘‘วิภงฺคปฺปกรณ’’นฺติ วุจฺจติ. อธิกโตติ จ วตฺตพฺพภาเวน ปริคฺคหิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค ‘‘ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม. นนุ น เอตฺตกเมว สุตฺตนฺตภาชนียนฺติ? สจฺจํ, อิติ-สทฺเทน ปน อาทิ-สทฺทตฺถโชตเกน ปการตฺถโชตเกน วา สพฺพํ สุตฺตนฺตภาชนียํ สงฺคเหตฺวา วิฺาณกฺขนฺโธติ เอวมาทิ เอวํปการํ วา อิทํ สุตฺตนฺตภาชนียนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา เอกเทเสน สมุทายํ นิทสฺเสติ ปพฺพตสมุทฺทาทินิทสฺสโก วิย. ตตฺถ นิพฺพานวชฺชานํ สพฺพธมฺมานํ สงฺคาหกตฺตา สพฺพสงฺคาหเกหิ จ อายตนาทีหิ อปฺปกตรปทตฺตา ขนฺธานํ ขนฺธวิภงฺโค อาทิมฺหิ วุตฺโต.

น ตโต เหฏฺาติ รูปาทีนํ เวทยิตาทิสภาวตฺตาภาวา ยสฺมึ สภาเว อตีตาทโย ราสี กตฺวา วตฺตพฺพา, ตสฺส รุปฺปนาทิโต อฺสฺสาภาวา จ เหฏฺา คณเนสุ สงฺขตธมฺมานํ อนิฏฺานํ สาวเสสภาวํ, น เหฏฺา คณนมตฺตาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ฉฏฺสฺส ปน ขนฺธสฺส อภาวา ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. น หิ สวิภาคธมฺเมหิ นิสฺสฏสฺส อตีตาทิภาวรหิตสฺส เอกสฺส นิพฺพานสฺส ราสฏฺโ อตฺถีติ. ‘‘ราสิมฺหี’’ติ สทฺทตฺถสหิตํ ขนฺธ-สทฺทสฺส วิสยํ ทสฺเสติ. ‘‘คุเณ ปณฺณตฺติยํ รุฬฺหิย’’นฺติ วิสยเมว ขนฺธ-สทฺทสฺส ทสฺเสติ, น สทฺทตฺถํ. โลกิยโลกุตฺตรเภทฺหิ สีลาทิคุณํ นิปฺปเทเสน คเหตฺวา ปวตฺตมาโน ขนฺธ-สทฺโท สีลาทิคุณวิสิฏฺํ ราสฏฺํ ทีเปตีติ. เกจิ ปน ‘‘คุณฏฺโ เอตฺถ ขนฺธฏฺโ’’ติ วทนฺติ. ทารุกฺขนฺโธติ เอตฺถ ปน น ขนฺธ-สทฺโท ปฺตฺติ-สทฺทสฺส อตฺเถ วตฺตติ, ตาทิเส ปน ปุถุลายเต ทารุมฺหิ ทารุกฺขนฺโธติ ปฺตฺติ โหตีติ ปฺตฺติยํ นิปตตีติ วุตฺตํ. ตถา เอกสฺมิมฺปิ วิฺาเณ ปวตฺโต วิฺาณกฺขนฺโธติ ขนฺธ-สทฺโท น รุฬฺหี-สทฺทสฺส อตฺถํ วทติ, สมุทาเย ปน นิรุฬฺโห ขนฺธ-สทฺโท ตเทกเทเส ปวตฺตมาโน ตาย เอว รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ ขนฺธ-สทฺโท รุฬฺหิยํ นิปตตีติ วุตฺตํ.

ราสิโต คุณโตติ สพฺพตฺถ นิสฺสกฺกวจนํ วิสยสฺเสว ขนฺธ-สทฺทปฺปวตฺติยา การณภาวํ สนฺธาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ราสิโต’’ติ อิมมตฺถํ สทฺทตฺถวเสนปิ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ’’ติอาทิมาห. โกฏฺาสฏฺเ ขนฺธฏฺเ ฉฏฺเนปิ ขนฺเธน ภวิตพฺพํ. นิพฺพานมฺปิ หิ ฉฏฺโ โกฏฺาโสติ. ตสฺมา ‘‘ขนฺธฏฺโ นาม ราสฏฺโ’’ติ ยุตฺตํ. เยสํ วา อตีตาทิวเสน เภโท อตฺถิ, เตสํ รุปฺปนาทิลกฺขณวเสน ตํตํโกฏฺาสตา วุจฺจตีติ เภทรหิตสฺส นิพฺพานสฺส โกฏฺาสฏฺเน จ ขนฺธภาโว น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตาติ อุทฺเทสมตฺเตนาติ อตฺโถ. จตฺตาโร จ มหาภูตา…เป… รูปนฺติ เอวํ วิภตฺโต. กตฺถาติ เจ? เอกาทสสุ โอกาเสสุ. อิติ-สทฺเทน นิทสฺสนตฺเถน สพฺโพ วิภชนนโย ทสฺสิโต. อิทฺจ วิภชนํ โอฬาริกาทีสุ จกฺขายตนนฺติอาทิวิภชนฺจ ยถาสมฺภวํ เอกาทสสุ โอกาเสสุ โยเชตพฺพํ, เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ. วิฺาณกฺขนฺโธ ปน เอกาทโสกาเสสุ ปุริเม โอกาสปฺจเก ‘‘จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณ’’นฺติ ฉวิฺาณกายวิเสเสน วิภตฺโต, น ตตฺถ มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตูติ วิภชนํ อตฺถิ. ตํ ปน ทฺวยํ มโนวิฺาณนฺติ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตู’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ ปาฬินเยน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ปุน อฺเน ปกาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ขนฺธนิทฺเทเส.

๑. รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

. ยํ กิฺจีติ เอตฺถ นฺติ สามฺเน อนิยมนิทสฺสนํ, กิฺจีติ ปการนฺตรเภทํ อามสิตฺวา อนิยมนิทสฺสนํ. อุภเยนปิ อตีตํ วา…เป… สนฺติเก วา อปฺปํ วา พหุํ วา ยาทิสํ วา ตาทิสํ วา ยํ กิฺจีติ นปุํสกนิทฺเทสารหํ สพฺพํ พฺยาเปตฺวา สงฺคณฺหาตีติ อฺเสุปิ นปุํสกนิทฺเทสารเหสุ ปสงฺคํ ทิสฺวา ตสฺส อธิปฺเปตตฺถํ อติจฺจ ปวตฺติโต อติปฺปสงฺคสฺส นิยมนตฺถํ ‘‘รูป’’นฺติ อาห. ยํกิฺจีติ สนิปาตํ ยํ-สทฺทํ กึ-สทฺทฺจ อนิยเมกตฺถทีปนวเสน เอกํ ปทนฺติ คเหตฺวา ‘‘ปททฺวเยนปี’’ติ วุตฺตํ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถาติ ตุมฺเหปิ รูปํ รูปนฺติ วเทถ, ตํ เกน การเณน วเทถาติ อตฺโถ, อถ วา เกน การเณน รูปํ, ตํ การณํ วเทถาติ อตฺโถ. อเถเตสุ ภิกฺขูสุ ตุณฺหีภูเตสุ ภควา อาห ‘‘รุปฺปตีติ โข’’ติอาทิ.

ภิชฺชตีติ สีตาทิสนฺนิปาเต วิสทิสสนฺตานุปฺปตฺติทสฺสนโต ปุริมสนฺตานสฺส เภทํ สนฺธายาห. เภโท จ วิสทิสตาวิการาปตฺตีติ ภิชฺชตีติ วิการํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. วิการาปตฺติ จ สีตาทิสนฺนิปาเต วิสทิสรูปุปฺปตฺติเยว. อรูปกฺขนฺธานํ ปน อติลหุปริวตฺติโต ยถา รูปธมฺมานํ ิติกฺขเณ สีตาทีหิ สมาคโม โหติ, เยน ตตฺถ อุตุโน ิติปฺปตฺตสฺส ปุริมสทิสสนฺตานุปฺปาทนสมตฺถตา น โหติ อาหาราทิกสฺส วา, เอวํ อฺเหิ สมาคโม นตฺถิ. สงฺฆฏฺฏเนน จ วิการาปตฺติยํ รุปฺปน-สทฺโท นิรุฬฺโห, ตสฺมา อรูปธมฺมานํ สงฺฆฏฺฏนวิรหิตตฺตา รูปธมฺมานํ วิย ปากฏสฺส วิการสฺส อภาวโต จ ‘‘รุปฺปนฺตี’’ติ ‘‘รุปฺปนลกฺขณา’’ติ จ น วุจฺจนฺติ. ชิฆจฺฉาปิปาสาหิ รุปฺปนฺจ อุทรคฺคิสนฺนิปาเตน โหตีติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ กุปฺปตีติ เอเตน กตฺตุอตฺเถ รูปปทสิทฺธึ ทสฺเสติ, ฆฏฺฏียติ ปีฬียตีติ เอเตหิ กมฺมตฺเถ. โกปาทิกิริยาเยว หิ รุปฺปนกิริยาติ. โส ปน กตฺตุภูโต กมฺมภูโต จ อตฺโถ ภิชฺชมาโน โหตีติ อิมสฺสตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา รุปฺปตีติ รูปนฺติ กมฺมกตฺตุตฺเถ รูปปทสิทฺธิ วุตฺตา. วิกาโร หิ รุปฺปนนฺติ. เตเนว ‘‘ภิชฺชตีติ อตฺโถ’’ติ กมฺมกตฺตุตฺเถน ภิชฺชติ-สทฺเทน อตฺถํ ทสฺเสติ. ยํ ปน รุปฺปติ ภิชฺชติ, ตํ ยสฺมา กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ตสฺมา เอเตหิ จ ปเทหิ ปทตฺโถ ปากโฏ กโตติ. ‘‘เกนฏฺเนา’’ติ ปุจฺฉาสภาควเสน ‘‘รุปฺปนฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. น เกวลํ สทฺทตฺโถเยว รุปฺปนํ, ตสฺส ปนตฺถสฺส ลกฺขณฺจ โหตีติ อตฺถลกฺขณวเสน ‘‘รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห.

ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปตฺติยา มุจฺจิตฺวา องฺคปจฺจงฺคานํ เฉทนวเสน วา ฉิชฺชิตฺวา. อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกนาติ อติสีตภาวเมว สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยา. น หิ ตํ กปฺปสณฺานํ อุทกํ สมฺปตฺติกรํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ. ตถา หิ สติ ปถวี วิลีเยยฺยาติ. อวีจิมหานิรเยติ สอุสฺสทํ อวีจินิรยํ วุตฺตํ. เตเนว ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เปตฺติ…เป… น โหนฺตีติ เอวํวิธาปิ สตฺตา อตฺถีติ อธิปฺปาโย เอวํวิธาเยว โหนฺตีติ นิยมาภาวโต. เอวํ กาลกฺชิกาทีสุปีติ. สรนฺตา คจฺฉนฺตีติ สรีสป-สทฺทสฺส อตฺถํ วทติ.

อภิสฺูหิตฺวาติ เอตฺถ สมูหํ กตฺวาติปิ อตฺโถ. เอเตน สพฺพํ รูปํ…เป… ทสฺสิตํ โหตีติ เอเตน รูปกฺขนฺธ-สทฺทสฺส สมานาธิกรณสมาสภาวํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘น หิ รูปโต…เป… อตฺถี’’ติ.

. ปกฺขิปิตฺวาติ เอตฺถ เอกาทโสกาเสสุ รูปํ ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. น หิ ตตฺถ มาติกํเยว ปกฺขิปิตฺวา มาติกา ปิตา, อถ โข ปกรณปฺปตฺตํ รูปนฺติ.

อปโร นโย…เป… เอตฺเถว คณนํ คตนฺติ เอเตน อตีตํเสนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนนฺติ ทสฺเสติ. เยน ปกาเรน คณนํ คตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ สติ มหาภูตุปาทายรูปภาโว อตีตโกฏฺาเส คณนสฺส การณนฺติ อาปชฺชติ. น หิ อตีตํสานํ เวทนาทีนํ นิวตฺตนตฺถํ อิทํ วจนํ ‘‘ยํ รูป’’นฺติ เอเตเนว เตสํ นิวตฺติตตฺตา, นาปิ รูปสฺส อฺปฺปการนิวตฺตนตฺถํ สพฺพปฺปการสฺส ตตฺถ คณิตตฺตา, น จ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนาการนิวตฺตนตฺถํ อตีตํสวจเนน ตํนิวตฺตนโตติ. อถ ปน ยํ อตีตํเสน คณิตํ, ตํ จตฺตาโร จ…เป… รูปนฺติ เอวํ คณิตนฺติ อยมตฺโถ อธิปฺเปโต, เอวํ สติ คณนนฺตรทสฺสนํ อิทํ สิยา, น อตีตํเสน คณิตปฺปการทสฺสนํ, ตํทสฺสเน ปน สติ ภูตุปาทายรูปปฺปกาเรน อตีตํเส คณิตํ ตํสภาวตฺตาติ อาปนฺนเมว โหติ, น จ เอวํสภาวตา อตีตํเส คณิตตาย การณํ ภวิตุํ อรหติ เอวํสภาวสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตสุ คณิตตฺตา สุขาทิสภาวสฺส จ อตีตํเส คณิตตฺตา, ตสฺมา ปุริมนโย เอว ยุตฺโต. อชฺฌตฺตพหิทฺธานิทฺเทเสสุปิ ตาทิโส เอวตฺโถ ลพฺภตีติ.

สุตฺตนฺตปริยายโตติ ปริยายเทสนตฺตา สุตฺตสฺส วุตฺตํ. อภิธมฺมนิทฺเทสโตติ นิปฺปริยายเทสนตฺตา อภิธมฺมสฺส นิจฺฉเยน เทโส นิทฺเทโสติ กตฺวา วุตฺตํ. กิฺจาปีติอาทีสุ อยมธิปฺปาโย – สุตฺตนฺตภาชนียตฺตา ยถา ‘‘อตีตํ นนฺวาคเมยฺยา’’ติอาทีสุ อทฺธานวเสน อตีตาทิภาโวว วุตฺโต, ตถา อิธาปิ นิทฺทิสิตพฺโพ (ม. นิ. ๓.๒๗๒, ๒๗๕; อป. เถร ๒.๕๕.๒๔๔) สิยา. เอวํ สนฺเตปิ สุตฺตนฺตภาชนียมฺปิ อภิธมฺมเทสนาเยว สุตฺตนฺเต วุตฺตธมฺเม วิจินิตฺวา วิภชนวเสน ปวตฺตาติ อภิธมฺมนิทฺเทเสเนว อตีตาทิภาโว นิทฺทิฏฺโติ.

อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสนาติ เอตฺถ จุติปฏิสนฺธิปริจฺฉินฺเน กาเล อทฺธา-สทฺโท วตฺตตีติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิสุตฺตวเสน (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) วิฺายติ. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อทฺธา. กตเม ตโย? อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ (อิติวุ. ๖๓; ที. นิ. ๓.๓๐๕) เอตฺถ ปน ปรมตฺถโต ปริจฺฉิชฺชมาโน อทฺธา นิรุตฺติปถสุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๖๒) ขณปริจฺฉินฺโน ยุตฺโต. ตตฺถ หิ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ ชาตํ ปาตุภูตํ, ‘อตฺถี’ติ ตสฺส สงฺขา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๖๒) วิชฺชมานสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตา ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ อตีตานาคตตา วุตฺตาติ. เยภุยฺเยน ปน จุติปฏิสนฺธิปริจฺฉินฺโน (ที. นิ. ๓.๓๐๕; อิติวุ. ๖๓) สุตฺเตสุ อตีตาทิโก อทฺธา วุตฺโตติ โส เอว อิธาปิ ‘‘อทฺธาวเสนา’’ติ วุตฺโต. สีตํ สีตสฺส สภาโค, ตถา อุณฺหํ อุณฺหสฺส. ยํ ปน สีตํ อุณฺหํ วา สรีเร สนฺนิปติตํ สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ อนูนํ อนธิกํ เอกาการํ, ตํ เอโก อุตูติ วุจฺจติ. สภาคอุตุโน อเนกนฺตสภาวโต เอกคหณํ กตํ, เอวํ อาหาเรปิ. เอกวีถิเอกชวนสมุฏฺานนฺติ ปฺจฉฏฺทฺวารวเสน วุตฺตํ. สนฺตติสมยกถา วิปสฺสกานํ อุปการตฺถาย อฏฺกถาสุ กถิตา.

นิฏฺิตเหตุปจฺจยกิจฺจํ, นิฏฺิตเหตุกิจฺจมนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ, อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ, สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ชนโก เหตุ, อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโย, เตสํ อุปฺปาทนํ อุปตฺถมฺภนฺจ กิจฺจํ. ยถา พีชสฺส องฺกุรุปฺปาทนํ ปถวีอาทีนฺจ ตทุปตฺถมฺภนํ กมฺมสฺส กฏตฺตารูปวิปากุปฺปาทนํ อาหาราทีนํ ตทุปตฺถมฺภนํ, เอวํ เอเกกสฺส กลาปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส จ ชนกานํ กมฺมานนฺตราทิปจฺจยภูตานํ อุปตฺถมฺภกานฺจ สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตานํ กิจฺจํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ อุปฺปาทกฺขเณ เหตุกิจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ตีสุปิ ขเณสุ ปจฺจยกิจฺจํ. ปถวีอาทีนํ สนฺธารณาทิกํ ผสฺสาทีนํ ผุสนาทิกฺจ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจํ สกิจฺจํ, ตสฺส กรณกฺขโณ สกิจฺจกฺขโณ. สห วา กิจฺเจน สกิจฺจํ, ยสฺมึ ขเณ สกิจฺจํ รูปํ วา อรูปํ วา โหติ, โส สกิจฺจกฺขโณ, ตสฺมึ ขเณ ปจฺจุปฺปนฺนํ.

. เอตฺตกเมวาติ ‘‘เตสํ เตส’’นฺติ อิมินา อาเมฑิตวจเนน อภิพฺยาปนตฺเถน วุตฺตตฺถเมว. ‘‘อปรสฺส อปรสฺสา’’ติ ทีปนํ อปรทีปนํ. ปริเยสตูติ เอเตน ปริเยสนาย อนิฏฺนามนิวตฺตนสฺส อการณภาวํ ทสฺเสติ. กมฺมโทเสน หิ จิตฺตวิปลฺลาสโทเสน จ คูถภกฺขปาณาทโย อุมฺมตฺตกาทโย จ ปริเยเสยฺยุํ ทิฏฺิวิปลฺลาเสน จ โยนกาทโย น อารมฺมณสฺส ปริเยสิตพฺพสภาวตฺตา, อปริเยสิตพฺพสภาวตฺตา ปน เอตสฺส อนิฏฺมิจฺเจว นามนฺติ อตฺโถ.

สมฺปตฺติวิรหโตติ รูปาทีนํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติภเว กุสลกมฺมผลตา สมิทฺธโสภนตา จ สมฺปตฺติ, ตพฺพิรหโตติ อตฺโถ. ตโต เอว ตํ น ปริเยสิตพฺพนฺติ. โสภนานิ จ กานิจิ หตฺถิรูปาทีนิ อกุสลกมฺมนิพฺพตฺตานิ น เตสํเยว หตฺถิอาทีนํ สุขสฺส เหตุภาวํ คจฺฉนฺตีติ เตสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘อกนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺส ตสฺเสว หิ สตฺตสฺส อตฺตนา กเตน กุสเลน นิพฺพตฺตํ สุขสฺส ปจฺจโย โหติ, อกุสเลน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขสฺส. ตสฺมา กมฺมชานํ อิฏฺานิฏฺตา กมฺมการกสตฺตสฺส วเสน โยชนารหา สิยา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘กุสลกมฺมชํ อนิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ อิทเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อกุสลกมฺมชํ อิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ. เตน อกุสลกมฺมชมฺปิ โสภนํ ปรสตฺตานํ อิฏฺนฺติ อนุฺาตํ ภวิสฺสติ. กุสลกมฺมชํ ปน สพฺเพสํ อิฏฺเมวาติ วทนฺติ. ติรจฺฉานคตานํ ปน เกสฺจิ มนุสฺสรูปํ อมนาปํ, ยโต เต ทิสฺวาว ปลายนฺติ. มนุสฺสา จ เทวตารูปํ ทิสฺวา ภายนฺติ, เตสมฺปิ วิปากวิฺาณํ ตํ รูปํ อารพฺภ กุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิสสฺส ปน ปุฺสฺส อภาวา น เตสํ ตตฺถ อภิรติ โหตีติ อธิปฺปาโย. กุสลกมฺมชสฺส ปน อนิฏฺสฺสาภาโว วิย อกุสลกมฺมชสฺส โสภนสฺส อิฏฺสฺส อภาโว วตฺตพฺโพ. หตฺถิอาทีนมฺปิ หิ อกุสลกมฺมชํ มนุสฺสานํ อกุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณํ, กุสลกมฺมชํ ปน ปวตฺเต สมุฏฺิตํ กุสลวิปากสฺส. อิฏฺารมฺมเณน ปน โวมิสฺสกตฺตา อปฺปกํ อกุสลกมฺมชํ พหุลํ อกุสลวิปากุปฺปตฺติยา การณํ น ภวิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุนฺติ. วิปากํ ปน กตฺถจิ น สกฺกา วฺเจตุนฺติ วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺารมฺมณววตฺถานํ สุฏฺุ วุตฺตํ. ตสฺมา ตํ อนุคนฺตฺวา สพฺพตฺถ อิฏฺานิฏฺตา โยเชตพฺพา.

อนิฏฺา ปฺจ กามคุณาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ อิฏฺานี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖; ๒.๑๕๕; ๓.๑๙๐; สํ. นิ. ๕.๓๐) เอวมาทินา อิฏฺาเนว รูปาทีนิ ‘‘กามคุณา’’ติ วุตฺตานีติ? กามคุณสทิเสสุ กามคุณโวหารโต, สทิสตา จ รูปาทิภาโวเยว, น อิฏฺตา. ‘‘อนิฏฺา’’ติ วา วจเนน อกามคุณตา ทสฺสิตาติ กามคุณวิสภาคา รูปาทโย ‘‘กามคุณา’’ติ วุตฺตา อสิเว ‘‘สิวา’’ติ โวหาโร วิย. สพฺพานิ วา อิฏฺานิฏฺานิ รูปาทีนิ ตณฺหาวตฺถุภาวโต กามคุณาเยว. วุตฺตฺหิ ‘‘รูปา โลเก ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓). อติสเยน ปน กามนียตฺตา สุตฺเตสุ ‘‘กามคุณา’’ติ อิฏฺานิ รูปาทีนิ วุตฺตานีติ.

ทฺวีสุปิ หีนปณีตปเทสุ ‘‘อกุสลกมฺมชวเสน กุสลกมฺมชวเสนา’’ติ วจนํ ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติ สตฺตวเสน นิยเมตฺวา วิภชิตตฺตา, อยฺจตฺโถ ‘‘เตสํ เตส’’นฺติ อวยวโยเค สามิวจนํ กตฺวา วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. สตฺตสนฺตานปริยาปนฺเนสุ กมฺมชํ วิสิฏฺนฺติ ‘‘กมฺมชวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ปน เตหิ เตหีติ เอตสฺมึ อตฺเถ เตสํ เตสนฺติ สามิวจนํ, วิสยวิสยีสมฺพนฺเธ วา, น กมฺมชวเสเนว รูปาทีนิ วิภตฺตานิ, สพฺเพสํ ปน อินฺทฺริยพทฺธานํ วเสน วิภตฺตานีติ วิฺายนฺติ. เอตฺถ จ ปากเฏหิ รูปาทีหิ นโย ทสฺสิโตติ จกฺขาทีสุปิ หีนปณีตตา โยเชตพฺพา.

มนาปปริยนฺตนฺติ มนาปํ ปริยนฺตํ มริยาทาภูตํ ปฺจสุ กามคุเณสุ วทามีติ อตฺโถ. กึ การณนฺติ? ยสฺมา เต เอกจฺจสฺส มนาปา โหนฺติ, เอกจฺจสฺส อมนาปา, ยสฺส เยว มนาปา, ตสฺส เตว ปรมา, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส อชฺฌาสยวเสน กามคุณานํ ปรมตา โหติ, น เตสํเยว สภาวโต.

เอวนฺติ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตนเยน. เอกสฺมึเยว อสฺสาทนกุชฺฌนโต อารมฺมณสภาวสฺเสว อิฏฺานิฏฺาภาวโต อนิฏฺํ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ คหณโต จ, อิฏฺํ ‘‘อนิฏฺ’’นฺติ คหณโต จ อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาฏิเยกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ. สฺาวิปลฺลาเสน จาติอาทินา นิพฺพาเน วิย อฺเสุ อารมฺมเณสุ สฺาวิปลฺลาเสน อิฏฺานิฏฺคฺคหณํ โหติ. ปิตฺตุมฺมตฺตาทีนํ ขีรสกฺกราทีสุ โทสุสฺสทสมุฏฺิตสฺาวิปลฺลาสวเสน ติตฺตคฺคหณํ วิยาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย มนาปปริยนฺตตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ.

วิภตฺตํ อตฺถีติ จ ววตฺถิตํ อตฺถีติ อตฺโถ, อฏฺกถาจริเยหิ วิภตฺตํ ปกาสิตนฺติ วา. ตฺจ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วเสน ววตฺถิตํ ปกาสิตฺจ, อฺเสฺจ วิปลฺลาสวเสน อิทํ อิฏฺํ อนิฏฺฺจ โหตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ ววตฺถิตสฺส ปนิฏฺานิฏฺสฺส อนิฏฺํ อิฏฺนฺติ จ คหเณ น เกวลํ สฺาวิปลฺลาโสว การณํ, ธาตุกฺโขภวเสน อินฺทฺริยวิการาปตฺติอาทินา กุสลากุสลวิปากุปฺปตฺติเหตุภาโวปีติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา หิ สีตุทกํ ฆมฺมาภิตตฺตานํ กุสลวิปากสฺส กายวิฺาณสฺส เหตุ โหติ, สีตาภิภูตานํ อกุสลวิปากสฺส. ตูลปิจุสมฺผสฺโส วเณ ทุกฺโข นิวเณ สุโข, มุทุตรุณหตฺถสมฺพาหนฺจ สุขํ อุปฺปาเทติ, เตเนว หตฺเถน ปหรณํ ทุกฺขํ, ตสฺมา วิปากวเสน อารมฺมณววตฺถานํ ยุตฺตํ.

กิฺจาปีติอาทินา สติปิ สฺาวิปลฺลาเส พุทฺธรูปทสฺสนาทีสุ กุสลวิปากสฺเสว คูถทสฺสนาทีสุ จ อกุสลวิปากสฺส อุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต เตน วิปาเกน อารมฺมณสฺส อิฏฺานิฏฺตํ ทสฺเสติ. วิชฺชมาเนปิ สฺาวิปลฺลาเส อารมฺมเณน วิปากนิยมทสฺสนํ อารมฺมณนิยมทสฺสนตฺถเมว กตนฺติ.

อปิจ ทฺวารวเสนปีติอาทินา ทฺวารนฺตเร ทุกฺขสฺส สุขสฺส จ ปจฺจยภูตสฺส ทฺวารนฺตเร สุขทุกฺขวิปากุปฺปาทนโต วิปาเกน อารมฺมณนิยมทสฺสเนน เอกสฺมึเยว จ ทฺวาเร สมานสฺเสว มณิรตนาทิโผฏฺพฺพสฺส สณิกํ ผุสเน โปถเน จ สุขทุกฺขุปฺปาทนโต วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺตา ทสฺสิตาติ วิฺายติ.

เหฏฺิมนโยติ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วิปากสฺส จ วเสน ววตฺถิตํ อารมฺมณํ คเหตฺวา ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ อุฺาต’’นฺติ (วิภ. ๖) จ อาทินา วุตฺตนโย. สมฺมุติมนาปนฺติ มชฺฌิมกสตฺตสฺส วิปากสฺส จ วเสน สมฺมตํ ววตฺถิตํ มนาปํ, ตํ ปน สภาเวเนว ววตฺถิตนฺติ อภินฺทิตพฺพโตว น ภินฺทตีติ อธิปฺปาโย. สฺาวิปลฺลาเสน เนรยิกาทีหิปิ ปุคฺคเลหิ มนาปนฺติ คหิตํ ปุคฺคลมนาปํ ‘‘ตํ ตํ วา ปนา’’ติอาทินา ภินฺทติ. เวมานิกเปตรูปมฺปิ อกุสลกมฺมชตฺตา กมฺมการณาทิทุกฺขวตฺถุภาวโต จ ‘‘มนุสฺสรูปโต หีน’’นฺติ วุตฺตํ.

. โอฬาริกรูปานํ วตฺถารมฺมณปฏิฆาตวเสน สุปริคฺคหิตตา, สุขุมานํ ตถา อภาวโต ทุปฺปริคฺคหิตตา จ โยเชตพฺพา. ทุปฺปริคฺคหฏฺเเนว ลกฺขณทุปฺปฏิวิชฺฌนตา ทฏฺพฺพา. ทสวิธนฺติ ‘‘ทูเร’’ติ อวุตฺตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วุตฺตมฺปิ ปน โอกาสโต ทูเร โหติเยว.

เหฏฺิมนโยติ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ…เป… อิทํ วุจฺจติ รูปํ สนฺติเก’’ติ (วิภ. ๗) เอวํ ลกฺขณโต ทฺวาทสหตฺถวเสน ววตฺถิตโอกาสโต จ ทสฺเสตฺวา นิยฺยาติตนโย. โส ลกฺขโณกาสวเสน ทูรสนฺติเกน สห คเหตฺวา นิยฺยาติตตฺตา ภินฺทมาโน มิสฺสกํ กโรนฺโต คโต. อถ วา ภินฺทมาโนติ สรูปทสฺสเนน ลกฺขณโต เยวาปนเกน โอกาสโตติ เอวํ ลกฺขณโต โอกาสโต จ วิสุํ กโรนฺโต คโตติ อตฺโถ. อถ วา ลกฺขณโต สนฺติกทูรานํ โอกาสโต ทูรสนฺติกภาวกรเณน สนฺติกภาวํ ภินฺทิตฺวา ทูรภาวํ, ทูรภาวฺจ ภินฺทิตฺวา สนฺติกภาวํ กโรนฺโต ปวตฺโตติ ‘‘ภินฺทมาโน คโต’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปนาติ ‘‘ตํ ตํ วา ปน รูปํ อุปาทาย อุปาทายา’’ติ อิธ ปุริมนเยน ลกฺขณโต ทูรํ โอกาสโต สนฺติกภาวกรเณน น ภินฺทติ ภควา, น จ โอกาสทูรโต วิสุํ กรเณน, นาปิ โอกาสทูเรน โวมิสฺสกกรเณนาติ อตฺโถ. กึ ปน กโรตีติ? โอกาสโต ทูรเมว ภินฺทติ. เอตฺถ ปน น ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ติธา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โอกาสโต ทูรํ ลกฺขณโต สนฺติกํ กโรติ, ลกฺขณโต วา วิสุํ เตน วา โวมิสฺสกนฺติ. โอกาสโต ทูรสฺส ปน โอกาสโตว สนฺติกภาวกรณํ อิธ ‘‘เภทน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน น ลกฺขณโต ทูรํ ภินฺทตีติ เอตฺถาปิ วา น ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ติธา เภทสฺส อกรณํ วุตฺตํ, ลกฺขณโต สนฺติกทูรานํ ปน ลกฺขณโต อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกภาโว นตฺถีติ ลกฺขณโต ทูรสฺส ลกฺขณโตว สนฺติกภาวากรณํ ลกฺขณโต ทูรสฺส อเภทนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมนโย วิย อยํ นโย น โหตีติ เอตฺตกเมว หิ เอตฺถ ทสฺเสตีติ ภินฺทมาโนติ เอตฺถ จ อฺถา เภทนํ วุตฺตํ, เภทนํ อิธ จ อฺถา วุตฺตนฺติ.

รูปกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

. จกฺขาทโย ปสาทา โอฬาริกมโนมยตฺตภาวปริยาปนฺนา กายโวหารํ อรหนฺตีติ ตพฺพตฺถุกา อทุกฺขมสุขา ‘‘กายิกา’’ติ ปริยาเยน วุตฺตา, น กายปสาทวตฺถุกตฺตา. น หิ จกฺขาทโย กายปสาทา โหนฺตีติ. สนฺตติวเสน ขณาทิวเสน จาติ เอตฺถ อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาวสฺส อวจนํ สุขาทิวเสน ภินฺนาย อตีตาทิภาววจนโต. น หิ สุขาเยว อทฺธาวเสน สมยวเสน จ อตีตาทิกา โหติ, ตถา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา จ กายิกเจตสิกาทิภาเวน ภินฺนา. เตน เวทนาสมุทโย อทฺธาสมยวเสน อตีตาทิภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหติ สมุทายสฺส เตหิ ปริจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา, เวทเนกเทสา ปน เอตฺถ คหิตาติ เต สนฺตติขเณหิ ปริจฺเฉทํ อรหนฺติ ตตฺถ ตถาปริจฺฉินฺทิตพฺพานํ คหิตตฺตาติ. เอกสนฺตติยํ ปน สุขาทิอเนกเภทสพฺภาเวน เตสุ โย เภโท ปริจฺฉินฺทิตพฺพภาเวน คหิโต, ตสฺส เอกปฺปการสฺส ปากฏสฺส ปริจฺเฉทิกา ตํสหิตทฺวาราลมฺพนปฺปวตฺตา, อวิจฺเฉเทน ตทุปฺปาทเกกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ สนฺตติ ภวิตุํ อรหตีติ ตสฺส เภทนฺตรํ อนามสิตฺวา ปริจฺเฉทกภาเวน คหณํ กตํ. ลหุปริวตฺติโน วา ธมฺมา ปริวตฺตเนเนว ปริจฺเฉทํ อรหนฺตีติ สนฺตติขณวเสน ปริจฺเฉโท วุตฺโต. ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตาติ เอเตน เหตุปจฺจยกิจฺจวเสน วุตฺตนยํ ทสฺเสติ.

๑๑. กิเลสคฺคิสมฺปโยคโต สทรถา. เอเตน สภาวโต โอฬาริกตํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปากฏฺเนาติ เอเตน โอฬาริกวิปากนิปฺผาทเนน กิจฺจโต. กมฺมเวคกฺขิตฺตา กมฺมปฏิพทฺธภูตา จ กายกมฺมาทิพฺยาปารวิรหโต นิรุสฺสาหา วิปากา, สอุสฺสาหา จ กิริยา อวิปากา. สวิปากา จ สคพฺภา วิย โอฬาริกาติ ตพฺพิปกฺขโต อวิปากา สุขุมาติ วุตฺตา.

อสาตฏฺเนาติ อมธุรฏฺเน. เตน สาตปฏิปกฺขํ อนิฏฺสภาวํ ทสฺเสติ. ทุกฺขฏฺเนาติ ทุกฺขมฏฺเน. เตน ทุกฺขานํ สนฺตาปนกิจฺจํ ทสฺเสติ. ‘‘ยายํ, ภนฺเต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๘; สํ. นิ. ๔.๒๖๗) วจนโต อทุกฺขมสุขา ผรณสภาววิรหโต อสนฺตานํ กามราคปฏิฆานุสยานํ อนุสยนสฺส อฏฺานตฺตา สนฺตา, สุเข นิกนฺตึ ปริยาทาย อธิคนฺตพฺพตฺตา ปธานภาวํ นีตาติ ปณีตาติ. ตถา อนธิคนฺตพฺพา จ กามาวจรชาติอาทิสงฺกรํ อกตฺวา สมานชาติยํ าณสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตาทิเก สมานเภเท สุขโต ปณีตาติ โยเชตพฺพา. อุปพฺรูหิตานํ ธาตูนํ ปจฺจยภาเวน สุขา โขเภติ วิพาธิตานํ ปจฺจยภาเวน ทุกฺขา จ. อุภยมฺปิ กายํ พฺยาเปนฺตํ วิย อุปฺปชฺชตีติ ผรติ. มทยมานนฺติ มทํ กโรนฺตํ. ฉาทยมานนฺติ อิจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตํ, อวตฺถรมานํ วา. ฆมฺมาภิตตฺตสฺส สีโตทกฆเฏน อาสิตฺตสฺส ยถา กาโย อุปพฺรูหิโต โหติ, เอวํ สุขสมงฺคิโนปีติ กตฺวา ‘‘อาสิฺจมานํ วิยา’’ติ วุตฺตํ. เอกตฺตนิมิตฺเตเยวาติ ปถวีกสิณาทิเก เอกสภาเว เอว นิมิตฺเต. จรตีติ นานาวชฺชเน ชวเน เวทนา วิย วิปฺผนฺทนรหิตตฺตา สุขุมา.

อธิปฺปาเย อกุสลตาย อโกวิโท. กุสลตฺติเก…เป… อาคตตฺตาติ ‘‘กุสลากุสลา เวทนา โอฬาริกา, อพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติ เอวํ อาคตตฺตา. ภูมนฺตรเภเท ทสฺเสตุํ ‘‘ยมฺปี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิมินา นีหาเรนาติ เอเตน ‘‘กามาวจรสุขโต กามาวจรุเปกฺขา สุขุมา’’ติอาทินา สภาวาทิเภเทน จ โอฬาริกสุขุมภาวํ ตตฺร ตตฺเรว กเถนฺโต น ภินฺทตีติ นยํ ทสฺเสติ.

โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา, ตสฺมา เอกนฺตปณีเต หีนปณีตานํ อุทฺธฏตฺตา เอวเมว เอกนฺตหีเน จ ยถาสมฺภวํ หีนปณีตตา อุทฺธริตพฺพาติ อนุฺาตํ โหตีติ อุภยตฺถ ตทุทฺธรเณ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อกุสลานํ กุสลาทีหิ สุขุมตฺตาภาวโต ปาฬิยา อาคตสฺส อปริวตฺตนียภาเวน ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ, ตํตํวาปนวเสน กถเนปิ ปริวตฺตนํ นตฺถีติ น ปริวตฺตนํ สนฺธาย ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, เหฏฺิมนยสฺส ปน วุตฺตตฺตา อวุตฺตนยํ คเหตฺวา ‘‘ตํ ตํ วา ปนา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ‘‘เหฏฺิมนโย น โอโลเกตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺโพ. พหุวิปากา อกุสลา โทสุสฺสนฺนตาย โอฬาริกา, ตถา อปฺปวิปากา กุสลา. มนฺทโทสตฺตา อปฺปวิปากา อกุสลา สุขุมา, ตถา พหุวิปากา กุสลา จ. โอฬาริกสุขุมนิกนฺติวตฺถุภาวโต กามาวจราทีนํ โอฬาริกสุขุมตา. สาปีติ ภาวนามยาย เภทเนน ทานมยสีลมยานฺจ ปจฺเจกํ เภทนํ นยโต ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สาปีติ วา ติวิธาปีติ โยเชตพฺพํ.

๑๓. ชาติอาทิวเสน อสมานโกฏฺาสตา วิสภาคฏฺโ. ทุกฺขวิปากตาทิวเสน อสทิสกิจฺจตา, อสทิสสภาวตา วา วิสํสฏฺโ, น อสมฺปโยโค. ยทิ สิยา, ทูรวิปริยาเยน สนฺติกํ โหตีติ สํสฏฺฏฺเน สนฺติกตา อาปชฺชติ, น จ เวทนาย เวทนาสมฺปโยโค อตฺถิ. สนฺติกปทวณฺณนาย จ ‘‘สภาคฏฺเน สริกฺขฏฺเน จา’’ติ วกฺขตีติ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, กึ ยถา สนฺติกโต อกุสลโต อกุสลา ทูเรติ อุทฺธรียติ, ตถา ตโต ทูรโต กุสลโต กุสลา สนฺติเกติ อุทฺธริตุํ น สกฺกาติ? น สกฺกา. ตถา หิ สติ กุสลา กุสลาย สนฺติเกติ กตฺวา สนฺติกโต สนฺติกตา เอว อุทฺธริตา สิยา, ตถา จ สติ สนฺติกสนฺติกตรตาวจนเมว อาปชฺชติ, อุปาทายุปาทาย ทูรสนฺติกตาว อิธ วุจฺจติ, ตสฺมา ทูรโต ทูรุทฺธรณํ วิย สนฺติกโต สนฺติกุทฺธรณฺจ น สกฺกา กาตุํ ทูรทูรตรตาย วิย สนฺติกสนฺติกตรตาย จ อนธิปฺเปตตฺตา. อถ ปน วเทยฺย ‘‘น กุสลา กุสลาย เอว สนฺติเกติ อุทฺธริตพฺพา, อถ โข ยโต สา ทูเร, ตสฺสา อกุสลายา’’ติ, ตฺจ นตฺถิ. น หิ อกุสลาย กุสลา กทาจิ สนฺติเก อตฺถีติ. อถาปิ วเทยฺย ‘‘ยา อกุสลา กุสลาย สนฺติเก, สา ตโต ทูรโต กุสลโต อุทฺธริตพฺพา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ. น หิ กุสเล อกุสลา อตฺถิ, ยา ตโต สนฺติเกติ อุทฺธริเยยฺย, ตสฺมา อิธ วุตฺตสฺส ทูรสฺส ทูรโต อจฺจนฺตวิสภาคตฺตา ทูเร สนฺติกํ นตฺถีติ น สกฺกา ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตุํ, สนฺติเก ปนิธ วุตฺเต ภินฺเน ตตฺเถว ทูรํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘สนฺติกโต ปน ทูรํ อุทฺธริตพฺพ’’นฺติ.

อุปาทายุปาทาย ทูรโต จ สนฺติกํ น สกฺกา อุทฺธริตุํ. โลภสหคตาย โทสสหคตา ทูเร โลภสหคตา สนฺติเกติ หิ วุจฺจมาเน สนฺติกโตว สนฺติกํ อุทฺธริตํ โหติ. ตถา โทสสหคตาย โลภสหคตา ทูเร โทสสหคตา สนฺติเกติ เอตฺถาปิ สภาคโต สภาคนฺตรสฺส อุทฺธฏตฺตา, น จ สกฺกา ‘‘โลภสหคตาย โทสสหคตา ทูเร สา เอว จ สนฺติเก’’ติ วตฺตุํ โทสสหคตาย สนฺติกภาวสฺส อการณตฺตา, ตสฺมา วิสภาคตา เภทํ อคฺคเหตฺวา น ปวตฺตตีติ สภาคาพฺยาปกตฺตา ทูรตาย ทูรโต สนฺติกุทฺธรณํ น สกฺกา กาตุํ. น หิ โทสสหคตา อกุสลสภาคํ สพฺพํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตตีติ. สภาคตา ปน เภทํ อนฺโตคธํ กตฺวา ปวตฺตตีติ วิสภาคพฺยาปกตฺตา สนฺติกตาย สนฺติกโต ทูรุทฺธรณํ สกฺกา กาตุํ. อกุสลตา หิ โลภสหคตาทิสพฺพวิสภาคพฺยาปิกาติ. เตนาห ‘‘น ทูรโต สนฺติกํ อุทฺธริตพฺพ’’นฺติอาทิ.

เวทนากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

๑๗. จกฺขุสมฺผสฺสชา สฺาติ เอตฺถ ยทิปิ วตฺถุโต ผสฺสสฺส นามํ ผสฺสโต จ สฺาย, วตฺถุวิสิฏฺผสฺเสน ปน วิสิฏฺสฺา วตฺถุนา จ วิสิฏฺา โหติ ผสฺสสฺส วิย ตสฺสาปิ ตพฺพตฺถุกตฺตาติ ‘‘วตฺถุโต นาม’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺาติ เอตฺถาปิ ยถา ผสฺโส วตฺถารมฺมณปฏิฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺโน, ตถา ตโต ชาตสฺาปีติ ‘‘วตฺถารมฺมณโต นาม’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปฏิฆโช สมฺผสฺโส, ปฏิฆวิฺเยฺโย วา สมฺผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโสติ อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

วิฺเยฺยภาเว วจนํ อธิกิจฺจ ปวตฺตา, วจนาธีนา วา อรูปกฺขนฺธา, อธิวจนํ วา เอเตสํ ปกาสนํ อตฺถีติ ‘‘อธิวจนา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตโตโช สมฺผสฺโส อธิวจนสมฺผสฺโส, สมฺผสฺโสเยว วา ยถาวุตฺเตหิ อตฺเถหิ อธิวจโน จ สมฺผสฺโส จาติ อธิวจนสมฺผสฺโส, อธิวจนวิฺเยฺโย วา สมฺผสฺโส อธิวจนสมฺผสฺโส, ตโต ตสฺมึ วา ชาตา อธิวจนสมฺผสฺสชา. ปฺจทฺวาริกสมฺผสฺเสปิ ยถาวุตฺโต อตฺโถ สมฺภวตีติ เตน ปริยาเยน ตโตชาปิ สฺา ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุตฺตา. ยถา ปน อฺปฺปการาสมฺภวโต มโนสมฺผสฺสชา นิปฺปริยาเยน ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วุจฺจติ, น เอวํ อยํ ปฏิฆสมฺผสฺสชา อาเวณิกปฺปการนฺตรสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.

ยทิ เอวํ จตฺตาโร ขนฺธาปิ ยถาวุตฺตสมฺผสฺสโต ชาตตฺตา ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตา, สฺาว กสฺมา เอวํ วุตฺตาติ? ติณฺณํ ขนฺธานํ อตฺถวเสน อตฺตโน ปตฺตมฺปิ นามํ ยตฺถ ปวตฺตมาโน อธิวจนสมฺผสฺสช-สทฺโท นิรุฬฺหตาย ธมฺมาภิลาโป โหติ, ตสฺสา สฺาย เอว อาโรเปตฺวา สยํ นิวตฺตนํ โหติ. เตนาห ‘‘ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทิ. อถ วา สฺาย ปฏิฆสมฺผสฺสชาติ อฺมฺปิ วิสิฏฺํ นามํ อตฺถีติ อธิวจนสมฺผสฺสชานามํ ติณฺณํเยว ขนฺธานํ ภวิตุํ อรหติ. เต ปน อตฺตโน นามํ สฺาย ทตฺวา นิวตฺตาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา’’ติอาทิ. ปฺจทฺวาริกสฺา โอโลเกตฺวาปิ ชานิตุํ สกฺกาติ อิทํ เตน เตนาธิปฺปาเยน หตฺถวิการาทิกรเณ ตทธิปฺปายวิชานนนิมิตฺตภูตา วิฺตฺติ วิย รชฺชิตฺวา โอโลกนาทีสุ รตฺตตาทิวิชานนนิมิตฺตํ โอโลกนํ จกฺขุวิฺาณวิสยสมาคเม ปากฏํ โหตีติ ตํสมฺปยุตฺตาย สฺายปิ ตถาปากฏภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.

รชฺชิตฺวา โอโลกนาทิวเสน ปากฏา ชวนปฺปวตฺตา ภวิตุํ อรหตีติ เอติสฺสา อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปสาทวตฺถุกา เอวา’’ติ อาห. อฺํ จินฺเตนฺตนฺติ ยํ ปุพฺเพ เตน จินฺติตํ าตํ, ตโต อฺํ จินฺเตนฺตนฺติ อตฺโถ.

สฺากฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐. เหฏฺิมโกฏิยาติ เอตฺถ ภุมฺมนิทฺเทโสว. ตตฺถ หิ ปธานํ ทสฺสิตนฺติ. ยทิ เอวํ อุปริมโกฏิยา ตํ น ทสฺสิตนฺติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, อุปริมโกฏิคตภาเวน วินา เหฏฺิมโกฏิคตภาวาภาวโต. เหฏฺิมโกฏิ หิ สพฺพพฺยาปิกาติ. ทุติเย กรณนิทฺเทโส, เหฏฺิมโกฏิยา อาคตาติ สมฺพนฺโธ. ปุริเมปิ วา ‘‘เหฏฺิมโกฏิยา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตฺจ ปธานสงฺขารทสฺสนวเสนาติ สมฺพนฺธกรเณน กรณนิทฺเทโสว. ตํสมฺปยุตฺตา สงฺขาราติ เอกูนปฺาสปฺปเภเท สงฺขาเร อาห. คหิตาว โหนฺติ ตปฺปฏิพทฺธตฺตา.

สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

สมุคฺคม-สทฺโท สฺชาติยํ อาทิอุปฺปตฺติยํ นิรุฬฺโห. ตํตํปจฺจยสมาโยเค หิ ปุริมภวสงฺขาตา ปุริมนฺตโต อุทฺธงฺคมนํ สมุคฺคโม, สนฺธิยํ วา ปฏิสนฺธิยํ อุคฺคโม สมุคฺคโม. โส ปน ยตฺถ ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา สมุคฺคจฺฉนฺติ, ตตฺเถว ทสฺสิโต. เอเตน นเยน อปริปุณฺณขนฺธสมุคฺคโม เอกโวการจตุโวกาเรสุ สกฺกา วิฺาตุนฺติ. อถ วา ยถาธิคตานํ ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ สห อุคฺคโม อุปฺปตฺติ สมุคฺคโม. เอตสฺมึ อตฺเถ วิกลุปฺปตฺติ อสงฺคหิตา โหติ. หิมวนฺตปฺปเทเส ชาติมนฺตเอฬกโลมํ ชาติอุณฺณา. สปฺปิมณฺฑพินฺทูติ เอวํ เอตฺถาปิ พินฺทุ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. เอวํวณฺณปฺปฏิภาคนฺติ เอวํวณฺณํ เอวํสณฺานฺจ. ปฏิภชนํ วา ปฏิภาโค, สทิสตาภชนํ สทิสตาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวํวิโธ วณฺณปฺปฏิภาโค เอตสฺสาติ เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ.

สนฺตติสีสานีติ สนฺตติมูลานิ, สนฺตติโกฏฺาสา วา. อเนกินฺทฺริยสมาหารภาวโต หิ ปธานงฺคํ ‘‘สีส’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ วตฺถุทสกาทิโกฏฺาสา อเนกรูปสมุทายภูตา ‘‘สีสานี’’ติ วุตฺตานีติ.

ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺตีติ คณนาปาริปูรึ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตสฺส ตสฺส ขนฺธสฺส ปริปุณฺณตํ. กมฺมสมุฏฺานปเวณิยา วุตฺตตฺตา ‘‘อุตุจิตฺตาหารชปเวณี จ เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา โหตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพา สิยา, ตํ ปน ‘‘ปุพฺพาปรโต’’ติ เอตฺถ วกฺขตีติ อกเถตฺวา กมฺมชปเวณี จ น สพฺพา วุตฺตาติ อวุตฺตํ ทสฺเสตุํ โอปปาติกสมุคฺคโม นาม ทสฺสิโต. เอวํ…เป… ปฺจกฺขนฺธา ปริปุณฺณา โหนฺตีติ ปริปุณฺณายตนานํ วเสน นโย ทสฺสิโต, อปริปุณฺณายตนานํ ปน กามาวจรานํ รูปาวจรานํ ปริหีนายตนสฺส วเสน สนฺตติสีสหานิ เวทิตพฺพา.

ปุพฺพาปรโตติ อยํ วิจารณา น ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุปฺปตฺติยํ, อถ โข เตสํ รูปสมุฏฺาปเนติ ทฏฺพฺพา. ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํ ปนา’’ติอาทิ. อปจฺฉาอปุเร อุปฺปนฺเนสูติ เอเตน สํสยการณํ ทสฺเสติ. สหุปฺปนฺเนสุ หิ อิทเมว ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ, อิทํ ปจฺฉาติ อทสฺสิตํ น สกฺกา วิฺาตุํ. เอตฺถ จ ‘‘ปุพฺพาปรโต’’ติ เอติสฺสา วิจารณาย วตฺถุภาเวน ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปนฺนา ปวตฺตา ปฺจกฺขนฺธา คหิตา. ตตฺถ จ นิทฺธารเณ ภุมฺมนิทฺเทโสติ ‘‘รูปํ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ อาห. อฺถา ภาเวนภาวลกฺขณตฺเถ ภุมฺมนิทฺเทเส สติ รูปสฺส รูปสมุฏฺาปนกฺขเณ กมฺมสฺสปิ รูปสมุฏฺานํ วทนฺตีติ อุภยนฺติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. รูปารูปสนฺตติฺจ คเหตฺวา อยํ วิจารณา ปวตฺตาติ ‘‘รูปํ ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ วุตฺตํ. อฺถา ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอว วิชฺชมาเน คเหตฺวา วิจารณาย กริยมานาย อรูปสฺส รูปสมุฏฺาปนเมว นตฺถีติ ปุพฺพาปรสมุฏฺาปนวิจารณาว อิธ น อุปปชฺชตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. วตฺถุ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลํ โหตีติ สพฺพรูปานํ อุปฺปาทกฺขเณ ทุพฺพลตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ ตํ ปจฺฉาชาตปจฺจยรหิตํ อาหาราทีหิ จ อนุปตฺถทฺธนฺติ ‘‘ทุพฺพล’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตาติ อิทํ สติปิ ภวงฺคสฺส กมฺมชภาเว สายํ วิปากสนฺตติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปุริมภวงฺคสมุฏฺาปกโต อฺเน กมฺมุนา ขิตฺตา วิย อปฺปติฏฺิตา, ตโต ปรฺจ สมานสนฺตติยํ อนนฺตรปจฺจยํ ปุเรชาตปจฺจยฺจ ลภิตฺวา ปติฏฺิตาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ปเวณี ฆฏิยตีติ จกฺขาทิวตฺถุสนฺตติ เอกสฺมึ วิชฺชมาเน เอว อฺสฺส นิโรธุปฺปตฺติวเสน ฆฏิยติ, น จุติปฏิสนฺธินิสฺสยวตฺถูนํ วิย วิจฺเฉทปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. องฺคโตติ ฌานงฺคโต. ฌานงฺคานิ หิ จิตฺเตน สห รูปสมุฏฺาปกานิ, เตสํ อนุพลทายกานิ มคฺคงฺคาทีนิ เตสุ วิชฺชมาเนสุ วิเสสรูปปฺปวตฺติทสฺสนโต. อถ วา ยานิ จิตฺตงฺคานิ เจตนาทีนิ จิตฺตสฺส รูปสมุฏฺาปเน องฺคภาวํ สหายภาวํ คจฺฉนฺติ, เตสํ พลทายเกหิ ฌานงฺคาทีหิ อปริหีนนฺติ อตฺโถ. ตโต ปริหีนตฺตา หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺตีติ. โย ปน วเทยฺย ‘‘ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหชาตวตฺถุ ตสฺส ิติกฺขเณ จ ภงฺคกฺขเณ จ ปุเรชาตนฺติ กตฺวา ปจฺจยเวกลฺลาภาวโต ตสฺมึ ขณทฺวเย รูปํ สมุฏฺาเปตู’’ติ, ตํ นิวาเรนฺโต อาห ‘‘ยทิ หิ จิตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ิติภงฺคกฺขเณสุปิ เตสํ ธมฺมานํ วตฺถุ ปุเรชาตํ น โหตีติ น วตฺตพฺพเมเวตนฺติ อนุชานิ, ตตฺถาปิ โทสํ ทสฺเสติ. ยทิ ตทา รูปํ สมุฏฺาเปยฺย, ตว มเตน ปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ สมุฏฺาเปยฺย, ตทา ปน รูปุปฺปาทนเมว นตฺถิ. ยทา จ รูปุปฺปาทนํ, ตทา อุปฺปาทกฺขเณ ตว มเตนปิ ปจฺจยเวกลฺลเมว ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปุเรชาตนิสฺสยาภาวโต, ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อุปฺปาทกฺขเณ อฏฺ รูปานิ คเหตฺวา อุฏฺหติ. กสฺมา? อรูปธมฺมานํ อนนฺตราทิปจฺจยวเสน สเวคานํ ปริปุณฺณพลานเมว อุปฺปตฺติโต.

อวิสยตายาติ อคตปุพฺพสฺส คามสฺส อาคนฺตุกสฺส อวิสยภาวโต. อปฺปหุตตายาติ ตตฺถ ตสฺส อนิสฺสรภาวโต. จิตฺตสมุฏฺาน…เป… ิตานีติ อิทํ เยหากาเรหิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ จิตฺตเจตสิกา ปจฺจยา โหนฺติ, เตหิ สพฺเพหิ ปฏิสนฺธิยํ จิตฺตเจตสิกา สมตึสกมฺมชรูปานํ ยถาสมฺภวํ ปจฺจยา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

วฏฺฏมูลนฺติ ตณฺหา อวิชฺชา วุจฺจติ. จุติจิตฺเตน อุปฺปชฺชมานํ รูปํ ตโต ปุริมตเรหิ อุปฺปชฺชมานํ วิย น ภวนฺตเร อุปฺปชฺชตีติ วฏฺฏมูลสฺส วูปสนฺตตฺตา อนุปฺปตฺติ วิจาเรตพฺพา.

รูปสฺส นตฺถิตายาติ รูปานํ นิสฺสรณตฺตา อรูปสฺส, วิราควเสน ปหีนตฺตา อุปฺปาเทตพฺพสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูโปกาเส วา รูปํ อตฺถีติ กตฺวา รูปปจฺจยานํ รูปุปฺปาทนํ โหติ, อรูปํ ปน รูปสฺส โอกาโส น โหตีติ ยสฺมึ รูเป สติ จิตฺตํ อฺํ รูปํ อุปฺปาเทยฺย, ตเทว ตตฺถ นตฺถีติ อตฺโถ. ปุริมรูปสฺสปิ หิ ปจฺจยภาโว อตฺถิ ปุตฺตสฺส ปิติสทิสตาทสฺสนโตติ.

อุตุ ปน ปมํ รูปํ สมุฏฺาเปติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ สมุฏฺาปนโตติ อธิปฺปาโย. อุตุ นาม เจส ทนฺธนิโรโธติอาทิ อุตุสฺส านกฺขเณ อุปฺปาทเน การณทสฺสนตฺถํ อรูปานํ อุปฺปาทกาลทสฺสนตฺถฺจ วุตฺตํ. ทนฺธนิโรธตฺตา หิ โส ิติกฺขเณ พลวาติ ตทา รูปํ สมุฏฺาเปติ, ตสฺมึ ธรนฺเต เอว ขิปฺปนิโรธตฺตา โสฬสสุ จิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ จิตฺตํ อุตุนา สมุฏฺิเต รูเป ปุน สมุฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมึ ธรนฺเต เอว โสฬส จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺตีติ เอเตน ปน วจเนน ยทิ อุปฺปาทนิโรธกฺขณา ธรมานกฺขเณ เอว คหิตา, ‘‘โสฬสจิตฺตกฺขณายุกํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ โหติ, อถุปฺปาทกฺขณํ อคฺคเหตฺวา นิโรธกฺขโณว คหิโต, ‘‘สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ, สเจ นิโรธกฺขณํ อคฺคเหตฺวา อุปฺปาทกฺขโณ คหิโต, ‘‘อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ, ยทิ ปน อุปฺปาทนิโรธกฺขณา ธรมานกฺขเณ น คหิตา, ‘‘อธิกสตฺตรสจิตฺตกฺขณายุก’’นฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เตสุ ปฏิสนฺธิอนนฺตร’’นฺติ ปฏิสนฺธิปิ ตสฺส ธรมานกฺขเณ อุปฺปนฺเนสุ คหิตา, ตสฺมา อุปฺปาทกฺขโณ ธรมานกฺขเณ คหิโตติ นิโรธกฺขเณ อคฺคหิเต อธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา วกฺขมานา, คหิเต วา โสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา อธิปฺเปตาติ เวทิตพฺพา.

โอชา ขราติ สวตฺถุกํ โอชํ สนฺธายาห. สภาวโต สุขุมาย หิ โอชาย วตฺถุวเสน อตฺถิ โอฬาริกสุขุมตาติ.

จิตฺตฺเจวาติ จิตฺตสฺส ปุพฺพงฺคมตาย วุตฺตํ, ตํสมฺปยุตฺตกาปิ ปน รูปสมุฏฺาปกา โหนฺตีติ. ยถาห ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๑). จิตฺตนฺติ วา จิตฺตุปฺปาทํ คณฺหาติ, น กมฺมเจตนํ วิย เอกธมฺมเมว อวิชฺชมานํ. กมฺมสมุฏฺานฺจ ตํสมฺปยุตฺเตหิปิ สมุฏฺิตํ โหตูติ เจ? น, เตหิ สมุฏฺิตภาวสฺส อวุตฺตตฺตา, อวจนฺจ เตสํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยภาวาภาวโต.

อทฺธานปริจฺเฉทโตติ กาลปริจฺเฉทโต. ตตฺถ ‘‘สตฺตรส จิตฺตกฺขณา รูปสฺส อทฺธา, รูปสฺส สตฺตรสโม ภาโค อรูปสฺสา’’ติ เอโส อทฺธานปริจฺเฉโท อธิปฺเปโต. ปฏิสนฺธิกฺขเณติ อิทํ นยทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ตโต ปรมฺปิ รูปารูปานํ สหุปฺปตฺติสพฺภาวโต, น ปเนตํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อสหุปฺปตฺติอภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติภงฺคกฺขเณสุปิ รูปุปฺปตฺตึ สยเมว วกฺขตีติ. ผลปฺปตฺตนิทสฺสเนน จ รูปารูปานํ อสมานกาลตํ นิทสฺเสติ, น สหุปฺปาทํ ตทตฺถํ อนารทฺธตฺตา. สหุปฺปาเทน ปน อสมานกาลตา สุขทีปนา โหตีติ ตํทีปนตฺถเมว สหุปฺปาทคฺคหณํ.

ยทิ เอวํ รูปารูปานํ อสมานทฺธตฺตา อรูปํ โอหาย รูปสฺส ปวตฺติ อาปชฺชตีติ เอตสฺสา นิวารณตฺถมาห ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. เอกปฺปมาณาวาติ นิรนฺตรํ ปวตฺตมาเนสุ รูปารูปธมฺเมสุ นิจฺฉิทฺเทสุ อรูปรหิตํ รูปํ, รูปรหิตํ วา อรูปํ นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. อยฺจ กถา ปฺจโวกาเร กมฺมชรูปปฺปวตฺตึ นิพฺพานปฏิภาคนิโรธสมาปตฺติรหิตํ สนฺธาย กตาติ ทฏฺพฺพา. ปเท ปทนฺติ อตฺตโน ปเท เอว ปทํ นิกฺขิปนฺโต วิย ลหุํ ลหุํ อกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. อโนหายาติ ยาว จุติ, ตาว อวิชหิตฺวา, จุติกฺขเณ ปน สเหว นิรุชฺฌนฺตีติ. ยสฺมิฺจทฺธาเน อฺมฺํ อโนหาย ปวตฺติ, โส จ ปฏิสนฺธิจุติปริจฺฉินฺโน อุกฺกํสโต เอเตสํ อทฺธาติ. เอวนฺติ เอเตน ปุพฺเพ วุตฺตํ อวกํสโต อทฺธาปการํ อิมฺจ สงฺคณฺหาตีติ ทฏฺพฺพํ.

เอกุปฺปาทนานานิโรธโตติ เอตํ ทฺวยมปิ สห คเหตฺวา รูปารูปานํ ‘‘เอกุปฺปาทนานานิโรธโต’’ติ เอโก ทฏฺพฺพากาโร วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เอวํ อิโต ปเรสุปิ. ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวาติ ตสฺส จุติจิตฺเตน สห นิรุชฺฌนโต นานานิโรโธ นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ตสฺส ปน เอกุปฺปาโทปิ นตฺถิ เหฏฺา โสฬสเก ปจฺฉิมสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปตฺติวจนโต. ยทิ ปน ยสฺส เอกุปฺปาทนานานิโรธา ทฺเวปิ น สนฺติ, ตํ เปตพฺพํ. สพฺพมฺปิ จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ เปตพฺพํ สิยา, ปจฺฉิมกมฺมชสฺส ปน อุปฺปตฺติโต ปรโต จิตฺเตสุ ปวตฺตมาเนสุ กมฺมชรูปสฺส อนุปฺปตฺติโต วชฺเชตพฺพํ คเหตพฺพฺจ ตทา นตฺถีติ ‘‘ปจฺฉิมกมฺมชํ เปตฺวา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโต ปุพฺเพ ปน อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชรูปปเวณี อตฺถีติ ตตฺถ ยํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ, ตํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ ‘‘เอกุปฺปาทนานานิโรธ’’นฺติ คเหตฺวา ิติภงฺคกฺขเณสุ อุปฺปนฺนรูปานิ วชฺเชตฺวา เอวํ เอกุปฺปาทนานานิโรธโต เวทิตพฺพาติ โยชนา กตาติ ทฏฺพฺพา. ตฺหิ รูปํ อรูเปน, อรูปฺจ เตน เอกุปฺปาทนานานิโรธนฺติ. ตตฺถ สงฺขลิกสฺส วิย สมฺพนฺโธ ปเวณีติ กตฺวา อฏฺจตฺตาลีสกมฺมชิยวจนํ กตํ, อฺถา เอกูนปฺาสกมฺมชิยวจนํ กตฺตพฺพํ สิยา.

นานุปฺปาท…เป… ปจฺฉิมกมฺมเชน ทีเปตพฺพาติ เตน สุทีปนตฺตา วุตฺตํ. เอเตน หิ นเยน สกฺกา ตโต ปุพฺเพปิ เอกสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนรูปํ อฺสฺสปิ ภงฺคกฺขเณ เอว นิรุชฺฌตีติ ตํ อรูเปน, อรูปฺจ เตน นานุปฺปาทํ เอกนิโรธนฺติ วิฺาตุนฺติ. อุภยตฺถาปิ ปน อฺสฺส จิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ รูปํ อฺสฺส ิติกฺขเณ, ตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ิติกฺขเณ เอว นิรุชฺฌนกํ อรูปฺจ น สงฺคหิตํ, ตํ ‘‘นานุปฺปาทโต นานานิโรธโต’’ติ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. จตุสนฺตติกรูเปน หิ นานุปฺปาทนานานิโรธตาทีปนา เอตฺถ ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส ทสฺสิตตฺตา อทสฺสิตสฺส วเสน นยทสฺสนํ โหตีติ. สมตึสกมฺมชรูเปสุ เอว ิตสฺสปิ คพฺเภ คตสฺส มรณํ อตฺถีติ เตสํ เอว วเสน ปจฺฉิมกมฺปิ โยชิตํ. อมรา นาม ภเวยฺยุํ, กสฺมา? ยถา ฉนฺนํ วตฺถูนํ ปวตฺติ, เอวํ ตทุปฺปาทกกมฺเมเนว ภวงฺคาทีนฺจ ตพฺพตฺถุกานํ ปวตฺติยา ภวิตพฺพนฺติ. น หิ ตํ การณํ อตฺถิ, เยน ตํ กมฺมเชสุ เอกจฺจํ ปวตฺเตยฺย, เอกจฺจํ น ปวตฺเตยฺยาติ. ตสฺมา อายุอุสฺมาวิฺาณาทีนํ ชีวิตสงฺขารานํ อนูนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อมรา นาม ภเวยฺยุ’’นฺติ.

‘‘อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌติ, ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส ิติกฺขเณ, ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฺสฺส ภงฺคกฺขเณ นิรุชฺฌตี’’ติ อิทํ อฏฺกถายํ อาคตตฺตา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺตโน ปนาธิปฺปายํ อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นิโรธกฺขเณ, ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนฺจ อุปฺปาทกฺขเณ, ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ ิติกฺขเณ นิรุชฺฌตีติ ทีเปติเยว. เอวฺจ กตฺวา อทฺธานปริจฺเฉเท ‘‘ตํ ปน สตฺตรสเมน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) วุตฺตํ. อิมาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ, กสฺมา? จตุสมุฏฺานิกรูปสฺสปิ สมานายุกตาย ภวิตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถา ปน เอเตหิ โยชิตํ, ตถา รูปสฺส เอกุปฺปาทนานานิโรธตา นานุปฺปาเทกนิโรธตา จ นตฺถิเยว.

ยา ปน เอเตหิ รูปสฺส สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตา วุตฺตา, ยา จ อฏฺกถายํ ตติยภาคาธิกโสฬสจิตฺตกฺขณายุกตา, สา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) อตีตารมฺมณาย จุติยา อนนฺตรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ปฏิสนฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, ตถา ปฺจทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, อถาวเสสปฺจจิตฺตเอกจิตฺตกฺขณายุเก ตสฺมึ เยวารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทสฺสิเตน โสฬสจิตฺตกฺขณายุกภาเวน วิรุชฺฌติ. น หิ สกฺกา ‘‘ิติกฺขเณ เอว รูปํ อาปาถมาคจฺฉตี’’ติ วตฺตุํ. ตถา หิ สติ น รูปสฺส เอกาทส วา ปฺจทเสว วา จิตฺตกฺขณา อตีตา, อถ โข อติเรกเอกาทสปฺจทสจิตฺตกฺขณา. ตสฺมา ยทิปิ ปฺจทฺวาเร ิติปฺปตฺตเมว รูปํ ปสาทํ ฆฏฺเฏตีติ ยุชฺเชยฺย, มโนทฺวาเร ปน อุปฺปาทกฺขเณปิ อาปาถมาคจฺฉตีติ อิจฺฉิตพฺพเมตํ. น หิ มโนทฺวาเร อตีตาทีสุ กิฺจิ อาปาถํ นาคจฺฉตีติ. มโนทฺวาเร จ เอวํ วุตฺตํ ‘‘เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา, อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗).

โย เจตฺถ จิตฺตสฺส ิติกฺขโณ วุตฺโต, โส จ อตฺถิ นตฺถีติ วิจาเรตพฺโพ. จิตฺตยมเก (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๑๐๒) หิ ‘‘อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชมานนฺติ? ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ, โน จ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จา’’ติ. ตถา ‘‘นุปฺปชฺชมานํ นุปฺปนฺนนฺติ? ภงฺคกฺขเณ นุปฺปชฺชมานํ, โน จ นุปฺปนฺน’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จา’’ติ. เอวํ ‘‘น นิรุทฺธํ น นิรุชฺฌมานํ, น นิรุชฺฌมานํ น นิรุทฺธ’’นฺติ เอเตสํ ปริปุณฺณวิสฺสชฺชเน ‘‘อุปฺปาทกฺขเณ อนาคตฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘ิติกฺขเณ’’ติ อวจนํ, อติกฺกนฺตกาลวาเร จ ‘‘ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘ิติกฺขเณ’’ติ อวจนํ ิติกฺขณาภาวํ จิตฺตสฺส ทีเปติ. สุตฺเตสุปิ หิ ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ ตสฺเสว (สํ. นิ. ๓.๓๘; อ. นิ. ๓.๔๗) เอกสฺส อฺถตฺตาภาวโต ‘‘ยสฺสา อฺถตฺตํ ปฺายติ, สา สนฺตติิตี’’ติ น น สกฺกา วตฺตุนฺติ, วิชฺชมานํ วา ขณทฺวยสมงฺคึ ิตนฺติ.

โย เจตฺถ จิตฺตนิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาโท วุตฺโต, โส จ วิจาเรตพฺโพ ‘‘ยสฺส วา ปน สมุทยสจฺจํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตีติ? โนติ วุตฺต’’นฺติ (ยม. ๑.สจฺจยมก.๑๓๖). โย จ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ รูปนิโรโธ วุตฺโต, โส จ วิจาเรตพฺโพ ‘‘ยสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส อพฺยากตา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺตีติ? โนติอาทิ (ยม. ๓.ธมฺมยมก.๑๖๓) วุตฺต’’นฺติ. น จ จิตฺตสมุฏฺานรูปเมว สนฺธาย ปฏิกฺเขโป กโตติ สกฺกา วตฺตุํ จิตฺตสมุฏฺานรูปาธิการสฺส อภาวา, อพฺยากตสทฺทสฺส จ จิตฺตสมุฏฺานรูเปสฺเวว อปฺปวตฺติโต. ยทิ สงฺขารยมเก กายสงฺขารสฺส จิตฺตสงฺขาเรน สหุปฺปาเทกนิโรธวจนโต อพฺยากต-สทฺเทน จิตฺตสมุฏฺานเมเวตฺถ คหิตนฺติ การณํ วเทยฺย, ตมฺปิ อการณํ. น หิ เตน วจเนน อฺรูปานํ จิตฺเตน สหุปฺปาทสหนิโรธปฏิกฺเขโป กโต, นาปิ นานุปฺปาทนานานิโรธานุชานนํ, เนว จิตฺตสมุฏฺานโต อฺสฺส อพฺยากตภาวนิวารณฺจ กตํ, ตสฺมา ตถา อปฺปฏิกฺขิตฺตานานุฺาตานิวาริตาพฺยากตภาวานํ สหุปฺปาทสหนิโรธาทิกานํ กมฺมชาทีนํ เอเตน จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิโรโธ ปฏิกฺขิตฺโตติ น สกฺกา กมฺมชาทีนํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิโรธํ วตฺตุํ. ยมกปาฬิอนุสฺสรเณ จ สติ อุปฺปาทานนฺตรํ จิตฺตสฺส ภิชฺชมานตาติ ตสฺมึ ขเณ จิตฺตํ น จ รูปํ สมุฏฺาเปติ วินสฺสมานตฺตา, นาปิ จ อฺสฺส รูปสมุฏฺาปกสฺส สหายภาวํ คจฺฉตีติ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺโน อุตุ ตทนนฺตรสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ รูปํ สมุฏฺาเปยฺย. เอวฺจ สติ รูปารูปานํ อาทิมฺหิ สห รูปสมุฏฺาปนโต ปุพฺพาปรโตติ อิทมฺปิ นตฺถิ, อติลหุปริวตฺตฺจ จิตฺตนฺติ เยน สหุปฺปชฺชติ, ตํ จิตฺตกฺขเณ รูปํ อุปฺปชฺชมานเมวาติ สกฺกา วตฺตุํ. เตเนว หิ ตํ ปฏิสนฺธิโต อุทฺธํ อจิตฺตสมุฏฺานานํ อตฺตนา สห อุปฺปชฺชมานานํ น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตทนนฺตรฺจ ตํ ิติปฺปตฺตนฺติ ตทนนฺตรํ จิตฺตํ ตสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหติ, น สหชาตปจฺจโยติ. ยทิ เอวํ ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ? โน’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๒๘), วตฺตพฺพนฺติ เจ? น, จิตฺตนิโรธกฺขเณ รูปุปฺปาทารมฺภาภาวโตติ. นิปฺปริยาเยน หิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เอว รูปํ อุปฺปชฺชมานํ โหติ, จิตฺตกฺขเณ ปน อวีติวตฺเต ตํ อตฺตโน รูปสมุฏฺาปนปุเรชาตปจฺจยกิจฺจํ น กโรติ, อรูปฺจ ตสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย น โหตีติ ิติปฺปตฺติวิเสสาลาภํ สนฺธาย ปริยาเยน อิทํ วุตฺตนฺติ.

ตโต ปรํ ปนาติ เอตสฺส ‘‘เอตฺถ ปน ยเทต’’นฺติอาทิกายปิ สงฺคหกถาย นิฏฺิตาย ปุริมกถาย สนฺนิฏฺานโต ‘‘ตโต ปฏฺาย กมฺมชรูปปเวณี น ปวตฺตตี’’ติ เอเตน สห สมฺพนฺโธติ จุติโต ปรนฺติ อตฺโถ.

รูปํ ปน รูเปน สหาติอาทินา ยถา อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตถา เอกุปฺปาเทกนิโรธตา รูปานํ อรูเปหิ, อรูปานํ รูเปหิ จ นตฺถีติ กตฺวา รูปานํ รูเปเหว, อรูปานฺจ อรูเปหิ โยชิตา.

สรีรสฺส รูปํ อวยวภูตนฺติ อตฺโถ, ฆนภูโต ปุฺชภาโว ฆนปุฺชภาโว, น ติลมุคฺคาทิปุฺชา วิย สิถิลสมฺพนฺธนานํ ปุฺโชติ อตฺโถ. เอกุปฺปาทาทิตาติ ยถาวุตฺเต ตโย ปกาเร อาห.

เหฏฺาติ รูปกณฺฑวณฺณนายํ. ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺตีติ วิการรูปาทีนฺจ รูปกณฺฑวณฺณนายํ ปรินิปฺผนฺนตาปริยาโย วุตฺโตติ กตฺวา วุตฺตํ. ปรินิปฺผนฺนนิปฺผนฺนานํ โก วิเสโสติ? ปุพฺพนฺตาปรนฺตปริจฺฉินฺโน ปจฺจเยหิ นิปฺผาทิโต ติลกฺขณาหโต สภาวธมฺโม ปรินิปฺผนฺโน, นิปฺผนฺโน ปน อสภาวธมฺโมปิ โหติ นามคฺคหณสมาปชฺชนาทิวเสน นิปฺผาทิยมาโนติ. นิโรธสมาปตฺติ ปนาติ เอเตน สพฺพมฺปิ อุปาทาปฺตฺตึ ตเทกเทเสน ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา

ทสฺสเนน ปหาตพฺพาติอาทินา ปมํ ปหาตพฺพา ปมํ วุตฺตา, ทุติยํ ปหาตพฺพา ทุติยนฺติ อยํ ปหานกฺกโม. อนุปุพฺพปณีตา ภูมิโย อนุปุพฺเพน ววตฺถิตาติ ตาสํ วเสน เทสนาย ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิโก (สํ. นิ. ๕.๓๗๒, ๓๘๒, ๓๘๓; วิภ. ๓๕๕) เอกกฺขเณปิ สติปฏฺานาทิสมฺภวโต เทสนากฺกโมว. ทานกถาทโย อนุปุพฺพุกฺกํสโต กถิตา, อุปฺปตฺติอาทิววตฺถานาภาวโต ปน ทานาทีนํ อิธ เทสนากฺกมวจนํ. เทสนากฺกโมติ จ ยถาวุตฺตววตฺถานาภาวโต อเนเกสํ วจนานํ สห ปวตฺติยา อสมฺภวโต เยน เกนจิ ปุพฺพาปริเยน เทเสตพฺพตฺตา เตน เตนาธิปฺปาเยน เทสนามตฺตสฺเสว กโม วุจฺจติ. อเภเทน หีติ รูปาทีนํ เภทํ อกตฺวา ปิณฺฑคฺคหเณนาติ อตฺโถ. จกฺขุอาทีนมฺปิ วิสยภูตนฺติ เอกเทเสน รูปกฺขนฺธํ สมุทายภูตํ วทติ. เอวนฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ) ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) จ วจนโต วิฺาณํ อธิปติ.

รูปกฺขนฺเธ ‘‘สาสวํ อุปาทานิย’’นฺติ วจนํ อนาสวานํ ธมฺมานํ สพฺภาวโต รูปกฺขนฺธสฺส ตํสภาวตานิวตฺตนตฺถํ, น อนาสวรูปนิวตฺตนตฺถนฺติ. อนาสวาว ขนฺเธสุ วุตฺตาติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, อนาสวา ขนฺเธสฺเวว วุตฺตาติ อตฺโถ.

สพฺพสงฺขตานํ สภาเคน เอกชฺฌํ สงฺคโห สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคโห. สภาคสภาเคน หิ สงฺคยฺหมานา สพฺพสงฺขตา ผสฺสาทโย ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. ตตฺถ รุปฺปนาทิสามฺเน สมานโกฏฺาสา ‘‘สภาคา’’ติ เวทิตพฺพา. เตสุ สงฺขตาภิสงฺขรณกิจฺจํ อายูหนรสาย เจตนาย พลวนฺติ สา ‘‘สงฺขารกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตา, อฺเ จ รุปฺปนาทิวิเสสลกฺขณรหิตา ผสฺสาทโย สงฺขตาภิสงฺขรณสามฺเนาติ ทฏฺพฺพา. ผุสนาทโย ปน สภาวา วิสุํ ขนฺธ-สทฺทวจนียา น โหนฺตีติ ธมฺมสภาววิฺุนา ตถาคเตน ผสฺสขนฺธาทโย น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพาติ. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สสฺสตวาทา สสฺสตํ โลกฺจ ปฺเปนฺติ อตฺตานฺจ, สพฺเพ เต อิเมเยว ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ นิสฺสาย ปฏิจฺจ, เอเตสํ วา อฺตร’’นฺติอาทีนฺจ สุตฺตานํ วเสน อตฺตตฺตนิยคาหวตฺถุสฺส เอตปรมตา ทฏฺพฺพา, เอเตน จ วกฺขมานสุตฺตวเสน จ ขนฺเธ เอว นิสฺสาย ปริตฺตารมฺมณาทิวเสน น วตฺตพฺพา จ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ขนฺธนิพฺพานวชฺชสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. อฺเสฺจ ขนฺธ-สทฺทวจนียานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ สพฺภาวโต น ปฺเจวาติ เอตํ โจทนํ นิวตฺเตตุมาห ‘‘อฺเสฺจ ตทวโรธโต’’ติ.

ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขตาวเสน เวทนาย อาพาธกตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ราคาทิสมฺปยุตฺตสฺส วิปริณามาทิทุกฺขสฺส อิตฺถิปุริสาทิอาการคฺคาหิกา ตํตํสงฺกปฺปมูลภูตา สฺา สมุฏฺานํ. โรคสฺส ปิตฺตาทีนิ วิย อาสนฺนการณํ สมุฏฺานํ, อุตุโภชนเวสมาทีนิ วิย มูลการณํ นิทานํ. ‘‘จิตฺตสฺสงฺคภูตา เจตสิกา’’ติ จิตฺตํ คิลานูปมํ วุตฺตํ, สุขสฺาทิวเสน เวทนาการณาย เหตุภาวโต เวทนาโภชนสฺส ฉาทาปนโต จ สฺา อปราธูปมา พฺยฺชนูปมา จ, ‘‘ปฺจ วธกา ปจฺจตฺถิกาติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ อาสิวิสูปเม (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วธกาติ วุตฺตา, ‘‘ภาโรติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ ภารสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๒๒) ภาราติ, ‘‘อตีตํปาหํ อทฺธานํ รูเปน ขชฺชึ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺเนน รูเปน ขชฺชามิ, อหฺเจว โข ปน อนาคตํ รูปํ อภินนฺเทยฺยํ, อนาคเตนปาหํ รูเปน ขชฺเชยฺยํ. เสยฺยถาเปตรหิ ขชฺชามี’’ติอาทินา ขชฺชนียปริยาเยน (สํ. นิ. ๓.๗๙) ขาทกาติ, ‘‘โส อนิจฺจํ รูปํ ‘อนิจฺจํ รูป’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทินา ยมกสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๘๕) อนิจฺจาทิกาติ. ยทิปิ อิมสฺมึ วิภงฺเค อวิเสเสน ขนฺธา วุตฺตา, พาหุลฺเลน ปน อุปาทานกฺขนฺธานํ ตทนฺโตคธานํ ทฏฺพฺพตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาติ.

เทสิตาทิจฺจพนฺธุนาติ เทสิตํ อาทิจฺจพนฺธุนา, เทสิตานิ วา. คาถาสุขตฺถํ อนุนาสิกโลโป, นิการโลโป วา กโต.

คเหตุํ น สกฺกาติ นิจฺจาทิวเสน คเหตุํ น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.

รูเปน สณฺาเนน ผลกสทิโส ทิสฺสมาโน ขรภาวาภาวา ผลกกิจฺจํ น กโรตีติ ‘‘น สกฺกา ตํ คเหตฺวา ผลกํ วา อาสนํ วา กาตุ’’นฺติ อาห. น ตถา ติฏฺตีติ นิจฺจาทิกา น โหตีติ อตฺโถ, ตณฺหาทิฏฺีหิ วา นิจฺจาทิคฺคหณวเสน อุปฺปาทาทิอนนฺตรํ ภิชฺชนโต คหิตาการา หุตฺวา น ติฏฺตีติ อตฺโถ. โกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยาติ อิทํ น คณนปริจฺเฉททสฺสนํ, พหุภาวทสฺสนเมว ปเนตํ ทฏฺพฺพํ. อุทกชลฺลกนฺติ อุทกลสิกํ. ยถา อุทกตเล พินฺทุนิปาตชนิโต วาโต อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา ปุปฺผุฬํ นาม กโรติ, เอวํ วตฺถุมฺหิ อารมฺมณาปาถคมนชนิโต ผสฺโส อนุปจฺฉินฺนํ กิเลสชลฺลํ สหการีปจฺจยนฺตรภาเวน สงฺกฑฺฒิตฺวา เวทนํ นาม กโรติ. อิทฺจ กิเลเสหิ มูลการณภูเตหิ อารมฺมณสฺสาทนภูเตหิ จ นิพฺพตฺตํ วฏฺฏคตเวทนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วา จตฺตาโร ปจฺจยา วุตฺตา, อูเนหิปิ ปน อุปฺปชฺชเตว.

นานาลกฺขโณติ วณฺณคนฺธรสผสฺสาทีหิ นานาสภาโว. มายาย ทสฺสิตํ รูปํ ‘‘มายา’’ติ อาห. ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา อสุภาทิสภาวา เอว กิเลสาสุจิวตฺถุภาวาทิโตติ อสุภาทิโต ทฏฺพฺพา เอว. ตถาปิ กตฺถจิ โกจิ วิเสโส สุขคฺคหณีโย โหตีติ อาห ‘‘วิเสสโต จา’’ติอาทิ. ตตฺถ จตฺตาโร สติปฏฺานา จตุวิปลฺลาสปฺปหานกราติ เตสํ โคจรภาเวน รูปกฺขนฺธาทีสุ อสุภาทิวเสน ทฏฺพฺพตา วุตฺตา.

ขนฺเธหิ น วิหฺติ ปริวิทิตสภาวตฺตา. วิปสฺสโกปิ หิ เตสํ วิปตฺติยํ น ทุกฺขมาปชฺชติ, ขีณาสเวสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เต หิ อายติมฺปิ ขนฺเธหิ น พาธียนฺตีติ. กพฬีการาหารํ ปริชานาตีติ ‘‘อาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๖-๕๗) วุตฺตตฺตา อชฺฌตฺติกรูเป ฉนฺทราคํ ปชหนฺโต ตสฺส สมุทยภูเต กพฬีการาหาเรปิ ฉนฺทราคํ ปชหตีติ อตฺโถ, อยํ ปหานปริฺา. อชฺฌตฺติกรูปํ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ตสฺส ปจฺจยภูตํ กพฬีการาหารมฺปิ ปริคฺคณฺหาตีติ าตปริฺา. ตสฺส จ อุทยวยานุปสฺสี โหตีติ ตีรณปริฺา จ โยเชตพฺพา. กามราคภูตํ อภิชฺฌํ สนฺธาย ‘‘อภิชฺฌากายคนฺถ’’นฺติ อาห. อสุภานุปสฺสนาย หิ กามราคปฺปหานํ โหตีติ. กามราคมุเขน วา สพฺพโลภปฺปหานํ วทติ. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ วุตฺตตฺตา อาหารปริชานเน วุตฺตนเยน ผสฺสปริชานนฺจ โยเชตพฺพํ.

สุขตฺถเมว ภวปตฺถนา โหตีติ เวทนาย ตณฺหํ ปชหนฺโต ภโวฆํ อุตฺตรติ. สพฺพํ เวทนํ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต อตฺตโน ปเรน อปุพฺพํ ทุกฺขํ อุปฺปาทิตํ, สุขํ วา วินาสิตํ น ปสฺสติ, ตโต ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิอาฆาตวตฺถุปฺปหานโต พฺยาปาทกายคนฺถํ ภินฺทติ. ‘‘สุขพหุเล สุคติภเว สุทฺธี’’ติ คเหตฺวา โคสีลโควตาทีหิ สุทฺธึ ปรามสนฺโต สุขปตฺถนาวเสเนว ปรามสตีติ เวทนาย ตณฺหํ ปชหนฺโต สีลพฺพตุปาทานํ น อุปาทิยติ. มโนสฺเจตนา สงฺขารกฺขนฺโธว, สฺา ปน ตํสมฺปยุตฺตาติ สฺาสงฺขาเร อนตฺตโต ปสฺสนฺโต มโนสฺเจตนาย ฉนฺทราคํ ปชหติ เอว, ตฺจ ปริคฺคณฺหาติ ตีเรติ จาติ ‘‘สฺํ สงฺขาเร…เป… ปริชานาตี’’ติ วุตฺตํ.

อวิชฺชาย วิฺาเณ ฆนคฺคหณํ โหตีติ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา ตํ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต อวิชฺโชฆํ อุตฺตรติ. โมหพเลเนว สีลพฺพตปรามาสํ โหตีติ ตํ ปชหนฺโต สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถํ ภินฺทติ.

‘‘ยฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ จิตฺตํ อิติปิ มโน อิติปิ วิฺาณํ อิติปิ, ตตฺราสฺสุตวา ปุถุชฺชโน นาลํ นิพฺพินฺทิตุํ, นาลํ วิรชฺชิตุํ, นาลํ วิมุจฺจิตุํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทีฆรตฺตํเหตํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส อชฺโฌสิตํ มมายิตํ ปรามฏฺํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๑) –

วจนโต วิฺาณํ นิจฺจโต ปสฺสนฺโต ทิฏฺุปาทานํ อุปาทิยตีติ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต ตํ น อุปาทิยตีติ.

กมาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๓๔. เอวํ ยา เอกวิธาทินา วุตฺตเวทนานํ ภูมิวเสน ชานิตพฺพตา, ตํ วตฺวา ปุน สมฺปยุตฺตโต ทสฺสิตตาทิชานิตพฺพปฺปการํ วตฺตุมาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. อฏฺวิเธน ตตฺถาติ ตตฺถ-สทฺทสฺส สตฺตวิธเภเทเนว โยชนา ฉพฺพิธเภเทน โยชนาย สติ อฏฺวิธตฺตาภาวโต.

ปูรณตฺถเมว วุตฺโตติ ทสวิธตาปูรณตฺถเมว วุตฺโต, น นววิธเภเท วิย นยทานตฺถํ. กสฺมา? ตตฺถ นยสฺส ทินฺนตฺตา. ภินฺทิตพฺพสฺส หิ เภทนํ นยทานํ, ตฺจ ตตฺถ กตนฺติ. ยถา จ กุสลตฺติโก, เอวํ ‘‘กายสมฺผสฺสชา เวทนา อตฺถิ สุขา, อตฺถิ ทุกฺขา’’ติ อิทมฺปิ ปูรณตฺถเมวาติ ทีปิตํ โหติ อฏฺวิธเภเท นยสฺส ทินฺนตฺตา.

ปุพฺเพ คหิตโต อฺสฺส คหณํ วฑฺฒนํ คหณวฑฺฒนวเสน, น ปุริมคหิเต ิเต อฺุปจยวเสน. วฑฺฒน-สทฺโท วา เฉทนตฺโถ เกสวฑฺฒนาทีสุ วิยาติ ปุพฺเพ คหิตสฺส อคฺคหณํ ฉินฺทนํ วฑฺฒนํ, ทุกติกานํ อุภเยสํ วฑฺฒนํ อุภยวฑฺฒนํ, อุภยโต วา ปวตฺตํ วฑฺฒนํ อุภยวฑฺฒนํ, ตเทว อุภโตวฑฺฒนกํ, เตน นยนีหรณํ อุภโตวฑฺฒนกนีหาโร. วฑฺฒนกนโย วา วฑฺฒนกนีหาโร, อุภยโต ปวตฺโต วฑฺฒนกนีหาโร อุภโตวฑฺฒนกนีหาโร. ตตฺถ ทุกมูลกติกมูลกอุภโตวฑฺฒนเกสุ ทุวิธติวิธเภทานํเยว หิ วิเสโส. อฺเ เภทา อวิสิฏฺา, ตถาปิ ปฺาปฺปเภทชนนตฺถํ ธมฺมวิตกฺเกน าติวิตกฺกาทินิรตฺถกวิตกฺกนิวารณตฺถํ อิมฺจ ปาฬึ วิตกฺเกนฺตสฺส ธมฺมุปสํหิตปาโมชฺชชนนตฺถํ เอเกกสฺส วารสฺส คหิตสฺส นิยฺยานมุขภาวโต จ ทุวิธติวิธเภทนานตฺตวเสน อิตเรปิ เภทา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา อฺมฺาเปกฺเขสุ เอกสฺส วิเสเสน อิตเรสมฺปิ วิสิฏฺภาวโต. น เกวลํ เอกวิโธว, อถ โข ทุวิโธ จ. น จ เอกทุวิโธว, อถ โข ติวิโธปิ. นาปิ เอก…เป… นววิโธว, อถ โข ทสวิโธปีติ หิ เอวฺจ เต เภทา อฺมฺาเปกฺขา, ตสฺมา เอโก เภโท วิสิฏฺโ อตฺตนา อเปกฺขิยมาเน, อตฺตานฺจ อเปกฺขมาเน อฺเภเท วิเสเสตีติ ตสฺส วเสน เตปิ วตฺตพฺพตํ อรหนฺตีติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

สตฺตวิเธนาติอาทโย อฺปฺปเภทนิรเปกฺขา เกวลํ พหุปฺปการตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ สพฺเพหิ เตหิ ปกาเรหิ ‘‘พหุวิเธน เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสสี’’ติ วุตฺตํ. มหาวิสโย ราชา วิย สวิสเย ภควาปิ มหาวิสยตาย อปฺปฏิหโต ยถา ยถา อิจฺฉติ, ตถา ตถา เทเสตุํ สกฺโกติ สพฺพฺุตานาวรณาณโยคโตติ อตฺโถ. ทุเก วตฺวา ติกา วุตฺตาติ ติกา ทุเกสุ ปกฺขิตฺตาติ ยุตฺตํ, ทุกา ปน กถํ ติเกสุ ปกฺขิตฺตาติ? ปรโต วุตฺเตปิ ตสฺมึ ตสฺมึ ติเก อเปกฺขกาเปกฺขิตพฺพวเสน ทุกานํ โยชิตตฺตา.

กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนวเสน ลพฺภตีติ วุตฺตํ, อาวชฺชนา ปน จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา น โหติ. น หิ สมานวีถิยํ ปจฺฉิโม ธมฺโม ปุริมสฺส โกจิ ปจฺจโย โหติ. เย จ วทนฺติ ‘‘อาวชฺชนเวทนาว จกฺขุสงฺฆฏฺฏนาย อุปฺปนฺนตฺตา เอวํ วุตฺตา’’ติ, ตฺจ น ยุตฺตํ. น หิ ‘‘จกฺขุรูปปฏิฆาโต จกฺขุสมฺผสฺโส’’ติ กตฺถจิ สุตฺเต วา อฏฺกถายํ วา วุตฺตํ. ยทิ โส จ จกฺขุสมฺผสฺโส สิยา, จกฺขุวิฺาณสหชาตาปิ เวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ สา อิธ อฏฺกถายํ น วชฺเชตพฺพา สิยา. ปาฬิยฺจ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนา อตฺถิ อพฺยากตา’’ติ เอตฺถ สงฺคหิตตฺตา ปุน ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย – อาวชฺชนเวทนํ วินา จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อุปฺปตฺติ นตฺถีติ ตทุปฺปาทิกา สา ตปฺปโยชนตฺตา ปริยาเยน จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ วตฺตุํ ยุตฺตาติ, นิปฺปริยาเยน ปน จกฺขุสมฺผสฺสสฺส ปรโตว เวทนา ลพฺภนฺติ.

จตุตฺตึสจิตฺตุปฺปาทวเสนาติ เอตฺถ รูปารูปาวจรานํ อคฺคหณํ เตสํ สยเมว มโนทฺวารภูตตฺตา. สพฺพภวงฺคมโน หิ มโนทฺวารํ, จุติปฏิสนฺธิโย จ ตโต อนฺาติ. อิมสฺมึ ปน จตุวีสติวิธเภเท จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาทิกุสลาทีนํ สมานวีถิยํ ลพฺภมานตา อฏฺกถายํ วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน เอกูนวีสติจตุวีสติกา สงฺขิปิตฺวา อาคตาติ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา เวทนากฺขนฺโธ อตฺถิ อนุปาทินฺนอนุปาทานิโย อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิโก อวิตกฺกอวิจาโร’’ติอาทินา นานาวีถิคตานํ ลพฺภมานตาย วุตฺตตฺตา กุสลตฺติกสฺสปิ นานาวีถิยํ ลพฺภมานตา โยเชตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน สมานวีถิยํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาทิกตา เอกนฺติกาติ กตฺวา เอตฺถ ลพฺภมานตา ทสฺสิตา, น ปน อสมานวีถิยํ ลพฺภมานตา ปฏิกฺขิตฺตา. เตเนว ‘‘ตานิ สตฺตวิธาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ อาห. น หิ สมานวีถิยํเยว อุปนิสฺสยโกฏิสมติกฺกมภาวนาหิ ลพฺภมานตา โหติ. ติธาปิ จ ลพฺภมานตํ สนฺธาย ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุจฺจติ.

เอตานีติ ยถาทสฺสิตานิ กุสลาทีนิ จิตฺตานิ วทติ, เวทนานิทฺเทเสปิ จ เอตสฺมึ ปุพฺพงฺคมสฺส จิตฺตสฺส วเสน กเถตุํ สุขนฺติ จิตฺตสมฺพนฺโธ กโต. เตเนว ปน จิตฺตานิ สตฺตวิธเภเท ติกภูมิวเสน, จตุวีสติวิธเภเท ทฺวารติกวเสน, ตึสวิธเภเท ทฺวารภูมิวเสน, พหุวิธเภเท ทฺวารติกภูมิวเสน ทีปิตานีติ ‘‘เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา กเถตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กุสลาทีนํ ทีปนา กามาวจราทิภูมิวเสน กาตพฺพา, ตา จ ภูมิโย ตึสวิธเภเท สยเมวาคตา, น จ สตฺตวิธเภเท วิย ทฺวารํ อนามฏฺํ, อติพฺยตฺตา จ เอตฺถ สมานาสมานวีถีสุ ลพฺภมานตาติ ตึสวิเธ…เป… สุขทีปนานิ โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา ปน ตึสวิธสฺมึเยว ตฺวา ทีปยึสุ, นนุ ทฺวารติกภูมีนํ อามฏฺตฺตา พหุวิธเภเท ตฺวา ทีเปตพฺพานีติ? น, ทีเปตพฺพฏฺานาติกฺกมโต. สตฺตวิธเภโท หิ ทฺวารสฺส อนามฏฺตฺตา ทีปนาย อฏฺานํ, จตุวีสติวิธเภเท อามฏฺทฺวารติกา น ภูมิโย อเปกฺขิตฺวา ปิตา, ตึสวิธเภเท อามฏฺทฺวารภูมิโย วุตฺตา. เย จ ปิตา, เต เจตฺถ ติกา อเปกฺขิตพฺพรหิตา เกวลํ ภูมีหิ สห ทีเปตพฺพาว. เตเนทํ ทีปนาย านํ, ตทติกฺกเม ปน านาติกฺกโม โหตีติ.

อุปนิสฺสยโกฏิยาติ เอตฺถ ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) นานาวีถิยํ ปกตูปนิสฺสโย วุตฺโตติ เอกวีถิยํ กุสลาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ตทภาเว อภาวโต ชาติ วิย ชรามรณสฺส อุปนิสฺสยเลเสน ปจฺจโยติ วตฺตุํ ยุชฺเชยฺย, อิธ ปน ‘‘กสิณรูปทสฺสนเหตุอุปฺปนฺนา ปริกมฺมาทิเวทนา จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา’’ติ วกฺขติ, ตสฺมา นานาวีถิยํ คตานิ เอตานิ จิตฺตานิ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา ลพฺภมานานีติ น อุปนิสฺสยเลโส อุปนิสฺสยโกฏิ, พลวพลวานํ ปน ปริกมฺมาทีนํ อุปนิสฺสยานํ สพฺเพสํ อาทิภูโต อุปนิสฺสโย อุปนิสฺสยโกฏิ. ‘‘วาลโกฏิ น ปฺายตี’’ติอาทีสุ วิย หิ อาทิ, อวยโว วา โกฏิ. กสิณรูปทสฺสนโต ปภุติ จ กามาวจรกุสลาทีนํ เวทนานํ อุปนิสฺสโย ปวตฺโตติ ตํ ทสฺสนํ อุปนิสฺสยโกฏิ. ปริกมฺมาทีนิ วิย วา น พลวอุปนิสฺสโย ทสฺสนนฺติ ตสฺส อุปนิสฺสยนฺตภาเวน อุปนิสฺสยโกฏิตา วุตฺตา. ฆานาทิทฺวาเรสุ ตีสุ อุปนิสฺสยโกฏิยา ลพฺภมานตฺตาภาวํ วทนฺโต อิธ สมานวีถิ น คหิตาติ ทีเปติ. ทสฺสนสวนานิ วิย หิ กสิณปริกมฺมาทีนํ ฆายนาทีนิ อุปนิสฺสยา น โหนฺตีติ ตทลาโภ ทีปิโตติ. ยทิปิ วาโยกสิณํ ผุสิตฺวาปิ คเหตพฺพํ, ปุริเมน ปน สวเนน วินา ตํ ผุสนํ สยเมว มูลุปนิสฺสโย เยภุยฺเยน น โหตีติ ตสฺส อุปนิสฺสยโกฏิตา น วุตฺตา.

อชฺฌาสเยน สมฺปตฺติคโต อชฺฌาสยสมฺปนฺโน, สมฺปนฺนชฺฌาสโยติ วุตฺตํ โหติ. วตฺตปฺปฏิวตฺตนฺติ ขุทฺทกฺเจว มหนฺตฺจ วตฺตํ, ปุพฺเพ วา กตํ วตฺตํ, ปจฺฉา กตํ ปฏิวตฺตํ. เอวํ จกฺขุวิฺาณนฺติ อาทิมฺหิ อุปฺปนฺนํ อาห, ตโต ปรํ อุปฺปนฺนานิปิ ปน กสิณรูปทสฺสนกลฺยาณมิตฺตทสฺสนสํเวควตฺถุทสฺสนาทีนิ อุปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติเยวาติ. เตน ตทุปนิสฺสยํ จกฺขุวิฺาณํ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ.

ยถาภูตสภาวาทสฺสนํ อสมเปกฺขนา. ‘‘อสฺมี’’ติ รูปาทีสุ วินิพนฺธสฺส. สภาวนฺตรามสนวเสน ปรามฏฺสฺส, ปรามฏฺวโตติ อตฺโถ. อารมฺมณาธิคหณวเสน อนุ อนุ อุปฺปชฺชนธมฺมตาย ถิรภาวกิเลสสฺส ถามคตสฺส, อปฺปหีนกามราคาทิกสฺส วา. ปริคฺคเห ิโตติ วีมํสาย ิโต. เอตฺถ จ อสมเปกฺขนายาติอาทินา โมหาทีนํ กิจฺเจน ปากเฏน เตสํ อุปฺปตฺติวเสน วิจารณา ทฏฺพฺพา. รูปทสฺสเนน อุปฺปนฺนกิเลสสมติกฺกมวเสน ปวตฺตา รูปทสฺสนเหตุกา โหตีติ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา นาม ชาตา’’ติ อาห. เอตฺถ จ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส จตุภูมิกเวทนาย อุปนิสฺสยภาโว เอว ปการนฺตเรน กถิโต, ตถา ‘‘ภาวนาวเสนา’’ติ เอตฺถ จ.

กลาปสมฺมสเนน ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิกาย วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา อาทิมฺหิ รูปารมฺมณปริคฺคเหน รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา, ตํมูลกํ วา สพฺพํ สมฺมสนํ อาทิภูเต รูปารมฺมเณ ปวตฺตตีติ กตฺวา อาห ‘‘รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวา’’ติ. เอตฺถ จ นามรูปปริคฺคหาทิ สพฺพํ สมฺมสนํ ภาวนาติ เวทิตพฺพา. รูปารมฺมณํ สมฺมสิตฺวาติ จ ยถาวุตฺตจกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณภูตํ รูปารมฺมณํ วุตฺตํ, น ยํ กิฺจิ. อารมฺมเณน หิ จกฺขุสมฺผสฺสํ ทสฺเสตีติ. เอวํ ‘‘รูปารมฺมเณ อุปฺปนฺนํ กิเลส’’นฺติ เอตฺถาปิ เวทิตพฺพํ.

อิทํ โผฏฺพฺพํ กึนิสฺสิตนฺติ จกฺขุทฺวาเร วิย โยชนาย ยถาสมฺภวํ อาโปธาตุยา อฺมฺสฺส จ วเสน มหาภูตนิสฺสิตตา โยเชตพฺพา.

ชาติ…เป… พลวปจฺจโย โหตีติ ยถาวุตฺตานํ ภยโต ทิสฺสมานานํ ชาติอาทีนํ พลวปจฺจยภาเวน เตสํ ภยโต ทสฺสเนน สหชาตสฺส มโนสมฺผสฺสสฺส, ตสฺส วา ทสฺสนสฺส ทฺวารภูตสฺส ภวงฺคมโนสมฺผสฺสสฺส พลวปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ.

ธมฺมารมฺมเณติ น ปุพฺเพ วุตฺเต ชาติอาทิอารมฺมเณว, อถ โข สพฺพสฺมึ ราคาทิวตฺถุภูเต ธมฺมารมฺมเณ. วตฺถุนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ เวทนาทิสงฺขาตสฺส ธมฺมารมฺมเณกเทสสฺส ปริคฺคหมุเขน ธมฺมารมฺมณปริคฺคหํ ทสฺเสติ.

มโนสมฺผสฺโสติ วิฺาณํ สมฺผสฺสสฺส การณภาเวน คหิตํ, ตเทว อตฺตโน ผลสฺเสว ผลภาเวน วตฺตุํ น ยุตฺตํ การณผลสงฺกรภาเวน โสตูนํ สมฺโมหชนกตฺตาติ อาห ‘‘น หิ สกฺกา วิฺาณํ มโนสมฺผสฺสชนฺติ นิทฺทิสิตุ’’นฺติ, น ปน วิฺาณสฺส มโนสมฺผสฺเสน สหชาตภาวสฺส อภาวา. ยสฺมา วา ยถา ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๐, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๔.๖๐) วจนโต อินฺทฺริยวิสยา วิย วิฺาณมฺปิ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโย, น ตถา ผสฺโส วิฺาณสฺส, ตสฺมา อินฺทฺริยวิสยา วิย วิฺาณมฺปิ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวจนํ น อรหตีติ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิภาโว น กโตติ เวทิตพฺโพ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๑๕๐. จิตฺตุปฺปาทรูปวเสน ตํ ตํ สมุทายํ เอเกกํ ธมฺมํ กตฺวา ‘‘ปฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม’’ติ อาห. รชฺชนฺตสฺสาติอาทีสุ ราคาทโย ฉสุ ทฺวาเรสุ สีลาทโย จ ปฺจ สํวรา ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพา, สมฺมสนํ ปน มโนทฺวาเร เอว. รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อภิชฺฌาโทมนสฺสาทิอุปฺปตฺติ อตฺถีติ ตโต สติสํวโร าณวีริยสํวรา จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพา. ปริคฺคหวจเนน สมฺมสนปจฺจเวกฺขณานิ สงฺคณฺหาติ. เตเยวาติ จตฺตาโร ขนฺธา วุตฺตา.

สมาเน เทสิตพฺเพ เทสนามตฺตสฺส ปริวฏฺฏนํ ปริวฏฺโฏ. ตีสุปิ ปริวฏฺเฏสุ กตฺถจิ กิฺจิ อูนํ อธิกํ วา นตฺถีติ กตฺวา อาห ‘‘เอโกว ปริจฺเฉโท’’ติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อายตนวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๑๕๒. วิเสสโตติ อายตน-สทฺทตฺโถ วิย อสาธารณโต จกฺขาทิสทฺทตฺถโตติ อตฺโถ. อสฺสาเทตีติ จกฺขติ-สทฺโท ‘‘มธุํ จกฺขติ พฺยฺชนํ จกฺขตี’’ติ รสสายนตฺโถ อตฺถีติ ตสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. ‘‘จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๐๙) วจนโต จกฺขุ รูปํ อสฺสาเทติ. สติปิ โสตาทีนํ สทฺทารมฺมณาทิรติภาเว นิรุฬฺหตฺตา จกฺขุมฺหิเยว จกฺขุ-สทฺโท ปวตฺตติ ปทุมาทีสุ ปงฺกชาทิสทฺทา วิยาติ ทฏฺพฺพํ. วิภาเวติ จาติ สทฺทลกฺขณสิทฺธสฺส จกฺขติ-สทฺทสฺส วเสน อตฺถํ วทติ. จกฺขตีติ หิ อาจิกฺขติ, อภิพฺยตฺตํ วทตีติ อตฺโถ. นยนสฺส จ วทนฺตสฺส วิย สมวิสมวิภาวนเมว อาจิกฺขนนฺติ กตฺวา อาห ‘‘วิภาเวติ จาติ อตฺโถ’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ วิภาวนตฺถตา จกฺขุ-สทฺทสฺส ทฏฺพฺพา. รตฺตทุฏฺาทิกาเลสุ กกณฺฏกรูปํ วิย อุทฺทรูปํ วิย จ วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ รูปํ หทยงฺคตภาวํ รูปยติ รูปมิว ปกาสํ กโรติ, สวิคฺคหมิว กตฺวา ทสฺเสตีติ อตฺโถ. วิตฺถารณํ วา รูป-สทฺทสฺส อตฺโถ, วิตฺถารณฺจ ปกาสนเมวาติ อาห ‘‘ปกาเสตี’’ติ. อเนกตฺถตฺตา วา ธาตูนํ ปกาสนตฺโถเยว รูป-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, วณฺณวาจกสฺส รูป-สทฺทสฺส รูปยตีติ นิพฺพจนํ, รูปวาจกสฺส รุปฺปตีติ อยํ วิเสโส.

อุทาหรียตีติ วุจฺจตีติ-อตฺเถ วจนเมว คหิตํ สิยา, น จ วจน-สทฺโทเยว เอตฺถ สทฺโท, อถ โข สพฺโพปิ โสตวิฺเยฺโยติ สปฺปตีติ สเกหิ ปจฺจเยหิ สปฺปียติ โสตวิฺเยฺยภาวํ คมียตีติ อตฺโถ. สูจยตีติ อตฺตโน วตฺถุํ คนฺธวเสน อปากฏํ ‘‘อิทํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติ ปกาเสติ, ปฏิจฺฉนฺนํ วา ปุปฺผาทิวตฺถุํ ‘‘เอตฺถ ปุปฺผํ อตฺถิ จมฺปกาทิ, ผลมตฺถิ อมฺพาที’’ติ เปสุฺํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ อตฺโถ. รสคฺคหณมูลกตฺตา อาหารชฺโฌหรณสฺส ชีวิตเหตุมฺหิ อาหารรเส นินฺนตาย ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา วุตฺตา นิรุตฺติลกฺขเณน. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ วิเสเสน กาโย วุตฺโต อนุตฺตริยเหตุภาวํ อนาคจฺฉนฺเตสุ กามราคนิทานกมฺมชนิเตสุ กามราคสฺส จ วิเสสปจฺจเยสุ ฆานชิวฺหากาเยสุ กายสฺส วิเสสตรสาสวปจฺจยตฺตา. เตน หิ โผฏฺพฺพํ อสฺสาเทนฺตา สตฺตา เมถุนมฺปิ เสวนฺติ. อุปฺปตฺติเทโสติ อุปฺปตฺติการณนฺติ อตฺโถ. กายินฺทฺริยวตฺถุกา วา จตฺตาโร ขนฺธา พลวกามาสวาทิเหตุภาวโต วิเสเสน ‘‘สาสวา’’ติ วุตฺตา, เตสํ อุปฺปชฺชนฏฺานนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธารยนฺตีติ เย วิเสสลกฺขเณน อายตนสทฺทปรา วตฺตพฺพา, เต จกฺขาทโย ตถา วุตฺตาติ อฺเ มโนโคจรภูตา ธมฺมา สามฺลกฺขเณเนว เอกายตนตฺตํ อุปเนตฺวา วุตฺตา. โอฬาริกวตฺถารมฺมณมนนสงฺขาเตหิ วิสยวิสยิภาเวหิ ปุริมานิ ปากฏานีติ ตถา อปากฏา จ อฺเ มโนโคจรา น อตฺตโน สภาวํ น ธาเรนฺตีติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺโถ ธมฺม-สทฺโทติ.

วายมนฺตีติ อตฺตโน กิจฺจํ กโรนฺติจฺเจว อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ อายตนฺติ เอตฺถาติ อายตนนฺติ อธิกรณตฺโถ อายตน-สทฺโท, ทุติยตติเยสุ กตฺตุอตฺโถ. เต จาติ จิตฺตเจตสิกธมฺเม. เต หิ ตํตํทฺวารารมฺมเณสุ อายนฺติ อาคจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อายาติ. วิตฺถาเรนฺตีติ ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนตฺตา ลีนานิ อปากฏานิ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปสาเรนฺติ ปากฏานิ กโรนฺติ อุปฺปาเทนฺตีติ อตฺโถ.

รุฬฺหีวเสน อายตน-สทฺทสฺสตฺถํ วตฺตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตํ นิสฺสิตตฺตาติ เอตฺถ มโน มโนวิฺาณาทีนํ จิตฺตเจตสิกานํ นิสฺสยปจฺจโย น โหตีติ ตสฺส เนสํ ทฺวารภาโว นิสฺสยภาโวติ ทฏฺพฺโพ. อตฺถโตติ วจนตฺถโต, น วจนียตฺถโต. วจนตฺโถ เหตฺถ วุตฺโต ‘‘จกฺขตี’’ติอาทินา, น วจนียตฺโถ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๙๗) วิยาติ.

ตาวตฺวโตติ อนูนาธิกภาวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ทฺวาทสายตนวินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ ธมฺมสฺส อภาวา อธิกภาวโต โจทนา นตฺถิ, สลกฺขณธารณํ ปน สพฺเพสํ สามฺลกฺขณนฺติ อูนโจทนา สมฺภวตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จกฺขาทโยปิ หี’’ติอาทิ. อสาธารณนฺติ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อสาธารณํ. สติปิ อสาธารณารมฺมณภาเว จกฺขาทีนํ ทฺวารภาเวน คหิตตฺตา ธมฺมายตเน อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวารารมฺมณภาเวหิ วา อสาธารณตํ สนฺธาย ‘‘อสาธารณ’’นฺติ วุตฺตํ.

เยภุยฺยสหุปฺปตฺติอาทีหิ อุปฺปตฺติกฺกมาทิอยุตฺติ โยเชตพฺพา. อชฺฌตฺติเกสุ หีติ เอเตน อชฺฌตฺติกภาเวน วิสยิภาเวน จ อชฺฌตฺติกานํ ปมํ เทเสตพฺพตํ ทสฺเสติ. เตสุ หิ ปมํ เทเสตพฺเพสุ ปากฏตฺตา ปมตรํ จกฺขายตนํ เทสิตนฺติ. ตโต ฆานายตนาทีนีติ เอตฺถ พหูปการตฺตาภาเวน จกฺขุโสเตหิ ปุริมตรํ อเทเสตพฺพานิ สห วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา เอเกน กเมน เทเสตพฺพานีติ ฆานาทิกฺกเมน เทสิตานีติ อธิปฺปาโย. อฺถาปิ หิ เทสิเตสุ น น สกฺกา โจเทตุํ, น จ สกฺกา โสเธตพฺพานิ น เทเสตุนฺติ. โคจโร วิสโย เอตสฺสาติ โคจรวิสโย, มโน. กสฺส ปน โคจโร เอตสฺส วิสโยติ? จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนมฺปิ. วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตติ เอเตน จ จกฺขาทิอนนฺตรํ รูปาทิวจนสฺส การณมาห.

ปจฺจยเภโท กมฺมาทิเภโท. นิรยาทิโก อปทาทิคตินานากรณฺจ คติเภโท. หตฺถิอสฺสาทิโก ขตฺติยาทิโก จ นิกายเภโท. ตํตํสตฺตสนฺตานเภโท ปุคฺคลเภโท. ยา จ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ อนนฺตเภทตา วุตฺตา, โสเยว หทยวตฺถุสฺส จ เภโท โหติ. ตโต มนายตนสฺส อนนฺตปฺปเภทตา โยเชตพฺพา ทุกฺขาปฏิปทาทิโต อารมฺมณาธิปติอาทิเภทโต จ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺตภาชนีเย วิปสฺสนา วุตฺตาติ วิปสฺสนุปคมนฺจ วิฺาณํ คเหตฺวา เอกาสีติเภทตา มนายตนสฺส วุตฺตา นิทฺเทสวเสน. นีลํ นีลสฺเสว สภาคํ, อฺํ วิสภาคํ, เอวํ กุสลสมุฏฺานาทิเภเทสุ โยเชตพฺพํ. เตภูมกธมฺมารมฺมณวเสนาติ ปุพฺเพ วุตฺตํ จกฺขาทิวชฺชํ ธมฺมารมฺมณํ สนฺธาย วุตฺตํ.

สปริปฺผนฺทกิริยาวเสน อีหนํ อีหา. จินฺตนวเสน พฺยาปารกรณํ พฺยาปาโร. ตตฺถ พฺยาปารํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น หิ จกฺขุ รูปาทีนํ เอวํ โหตี’’ติ. อีหํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น จ ตานี’’ติอาทิ. อุภยมฺปิ ปน อีหา จ โหติ พฺยาปาโร จาติ อุปฺปฏิปาฏิวจนํ. ธมฺมตาวาติ สภาโวว, การณสมตฺถตา วา. อีหาพฺยาปารรหิตานํ ทฺวาราทิภาโว ธมฺมตา. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ นฺติ เอตสฺส ยสฺมาติ อตฺโถ. ปุริมสฺมึ สมฺภวนวิเสสนํ ยํ-สทฺโท. ‘‘สุฺโ คาโมติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) วจนโต สุฺคาโม วิย ทฏฺพฺพานิ. อนฺนปานสโมหิตนฺติ คหิเต สุฺคาเม ยฺเทว ภาชนํ ปรามสียติ, ตํ ตํ ริตฺตกํเยว ปรามสียติ, เอวํ ธุวาทิภาเวน คหิตานิ อุปปริกฺขิยมานานิ ริตฺตกาเนว เอตานิ ทิสฺสนฺตีติ. จกฺขาทิทฺวาเรสุ อภิชฺฌาโทมนสฺสุปฺปาทกภาเวน รูปาทีนิ จกฺขาทีนํ อภิฆาตกานีติ วุตฺตานิ. อหิสุสุมารปกฺขิกุกฺกุรสิงฺคาลมกฺกฏา ฉ ปาณกา. วิสมพิลากาสคามสุสานวนานิ เตสํ โคจรา. ตตฺถ วิสมาทิอชฺฌาสเยหิ จกฺขาทีหิ วิสมภาวพิลากาสคามสุสานสนฺนิสฺสิตสทิสุปาทินฺนธมฺมวนภาเวหิ อภิรมิตตฺตา รูปาทีนมฺปิ วิสมาทิสทิสตา โยเชตพฺพา.

หุตฺวา อภาวฏฺเนาติ อิทํ อิตเรสํ จตุนฺนํ อาการานํ สงฺคหกตฺตา วิสุํ วุตฺตํ. หุตฺวา อภาวากาโร เอว หิ อุปฺปาทวยตฺตาการาทโยติ. ตตฺถ หุตฺวาติ เอเตน ปุริมนฺตวิวิตฺตตาปุพฺพกํ มชฺเฌ วิชฺชมานตํ ทสฺเสติ, ตํ วตฺวา อภาววจเนน มชฺเฌ วิชฺชมานตาปุพฺพกํ, อปรนฺเต อวิชฺชมานตํ, อุภเยนปิ สทา อภาโว อนิจฺจลกฺขณนฺติ ทสฺเสติ. สภาววิชหนํ วิปริณาโม, ชราภงฺเคหิ วา ปริวตฺตนํ, สนฺตานวิการาปตฺติ วา. สทา อภาเวปิ จิรฏฺานํ สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ ‘‘ตาวกาลิกโต’’ติ อาห. อุปฺปาทวยฺถตฺตรหิตํ นิจฺจํ, น อิตรถาติ นิจฺจปฏิกฺเขปโต อนิจฺจํ, นิจฺจปฏิปกฺขโตติ อธิปฺปาโย.

ชาติธมฺมตาทีหิ อนิฏฺตา ปฏิปีฬนํ. ปฏิปีฬนฏฺเนาติ จ ยสฺส ตํ ปวตฺตติ, ตํ ปุคฺคลํ ปฏิปีฬนโต, สยํ วา ชราทีหิ ปฏิปีฬนตฺตาติ อตฺโถ. ปริตฺตฏฺิติกสฺสปิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อุปฺปาทาทีหิ อภิณฺหํ สมฺปฏิปีฬนตฺตา ‘‘อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต’’ติ ปุริมํ สามฺลกฺขณํ วิเสเสตฺวา วทติ, ปุคฺคลสฺส ปีฬนโต ทุกฺขมํ. สุขปฏิปกฺขภาวโต ทุกฺขํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ นิวาเรติ, ทุกฺขวจนํ วา อตฺถโต สุขํ ปฏิกฺขิปตีติ อาห ‘‘สุขปฏิกฺเขปโต’’ติ.

นตฺถิ เอตสฺส วสวตฺตนโก, นาปิ อิทํ วสวตฺตนกนฺติ อวสวตฺตนกํ, อตฺตโน ปรสฺมึ ปรสฺส จ อตฺตนิ วสวตฺตนภาโว วา วสวตฺตนกํ, ตํ เอตสฺส นตฺถีติ อวสวตฺตนกํ, อวสวตฺตนกสฺส อวสวตฺตนโก วา อตฺโถ สภาโว อวสวตฺตนกฏฺโ, อิทฺจ สามฺลกฺขณํ. เตนาติ ปรสฺส อตฺตนิ วสวตฺตนากาเรน สุฺํ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ สุฺโตติ เอตสฺเสว วิเสสนํ ‘‘อสฺสามิกโต’’ติ. อถ วา ‘‘ยสฺมา วา เอตํ…เป… มา ปาปุณาตู’’ติ เอวํ จินฺตยมานสฺส กสฺสจิ ตีสุ าเนสุ วสวตฺตนภาโว นตฺถิ, สุฺํ ตํ เตน อตฺตโนเยว วสวตฺตนากาเรนาติ อตฺโถ. น อิทํ กสฺสจิ กามการิยํ, นาปิ เอตสฺส กิฺจิ กามการิยํ อตฺถีติ อกามการิยํ. เอเตน อวสวตฺตนตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ.

วิภวคติ วินาสคมนํ. สนฺตติยํ ภวนฺตรุปฺปตฺติเยว ภวสงฺกนฺติคมนํ. สนฺตติยา ยถาปวตฺตาการวิชหนํ ปกติภาววิชหนํ. ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ วุตฺเต จกฺขุอนิจฺจ-สทฺทานํ เอกตฺถตฺตา อนิจฺจานํ เสสธมฺมานมฺปิ จกฺขุภาโว อาปชฺชตีติ เอติสฺสา โจทนาย นิวารณตฺถํ วิเสสสามฺลกฺขณวาจกานฺจ สทฺทานํ เอกเทสสมุทายโพธนวิเสสํ ทีเปตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.

กึ ทสฺสิตนฺติ วิปสฺสนาจารํ กเถนฺเตน กึ ลกฺขณํ ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘กตมา จานนฺท, อนตฺตสฺา? อิธานนฺท, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘จกฺขุ อนตฺตา’ติ…เป… ‘ธมฺมา อนตฺตา’ติ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสี วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๐) อวิเสเสสุ อายตเนสุ อนตฺตานุปสฺสนา วุตฺตาติ การณภูตานํ จกฺขาทีนํ, ผลภูตานฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ การณผลมตฺตตาย อนตฺตตาย อนตฺตลกฺขณวิภาวนตฺถาย อายตนเทสนาติ อาห ‘‘ทฺวาทสนฺนํ…เป… อนตฺตลกฺขณ’’นฺติ. ยทิปิ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานิ เอตฺถ ทสฺสิตานิ, เตหิ จ อนตฺตลกฺขณเมว วิเสเสน ทสฺสิตนฺติ อธิปฺปาโย. เวติ จาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท สมาปนตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ยถาสมาปิตสฺส อาโรเปตพฺพโทสสฺส นิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ ‘‘จกฺขุ อตฺตา’’ติ เอวํ วาเท สตีติ อตฺโถ. อิจฺจสฺสาติ วา อิติ-สทฺโท ‘‘อิติ วทนฺตสฺสา’’ติ ปรวาทิสฺส โทสลกฺขณาการนิทสฺสนตฺโถ. เอวนฺติ โทสคมนปฺปการนิทสฺสนตฺโถ. รูเป อตฺตนิ ‘‘เอวํ เม รูปํ โหตู’’ติ อตฺตนิเย วิย สามินิทฺเทสาปตฺตีติ เจ? น, ‘‘มม อตฺตา’’ติ คหิตตฺตา. ‘‘มม อตฺตา’’ติ หิ คหิตํ รูปํ วสวตฺติตาย ‘‘เอวํ เม โหตู’’ติ อิจฺฉิยมานฺจ ตเถว ภเวยฺย, อิจฺฉโตปิ หิ ตสฺส รูปสงฺขาโต อตฺตา อวสวตฺติ จาติ. อาพาธายาติ เอวํ ทุกฺเขน. ปฺาปนนฺติ ปเรสํ าปนํ. อนตฺตลกฺขณปฺาปนสฺส อฺเสํ อวิสยตฺตา อนตฺตลกฺขณทีปกานํ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณานฺจ ปฺาปนสฺส อวิสยตา ทสฺสิตา โหติ.

เอวํ ปน ทุปฺปฺาปนตา เอเตสํ ทุรูปฏฺานตาย โหตีติ เตสํ อนุปฏฺหนการณํ ปุจฺฉนฺโต อาห ‘‘อิมานิ ปนา’’ติอาทิ. านาทีสุ นิรนฺตรํ ปวตฺตมานสฺส เหฏฺา วุตฺตสฺส อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส. ธาตุมตฺตตาย จกฺขาทีนํ สมูหโต วินิพฺภุชฺชนํ นานาธาตุวินิพฺโภโค. ฆเนนาติ จตฺตาริปิ ฆนานิ ฆนภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วทติ. ปฺาเยว สนฺตติวิโกปนาติ ทฏฺพฺพํ. ยาถาวสรสโตติ อวิปรีตสภาวโต. สภาโว หิ รสิยมาโน อวิรทฺธปฏิเวเธน อสฺสาทิยมาโน ‘‘รโส’’ติ วุจฺจติ. อนิจฺจาทีหิ อนิจฺจลกฺขณาทีนํ อฺตฺถ วจนํ รุปฺปนาทิวเสน ปวตฺตรูปาทิคฺคหณโต วิสิฏฺสฺส อนิจฺจาทิคฺคหณสฺส สพฺภาวา. น หิ นามรูปปริจฺเฉทมตฺเตน กิจฺจสิทฺธิ โหติ, อนิจฺจาทโย จ รูปาทีนํ อาการา ทฏฺพฺพา. เต ปนาการา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานา รูปาทีนํ อาการมตฺตาเยวาติ กตฺวา อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย ขนฺธารมฺมณตา วุตฺตาติ อธิปฺปายมตฺเต าตุํ ยุตฺตํ, นาติธาวิตุํ. ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ จ คณฺหนฺโต ‘‘ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ น คณฺหาติ, ตถา ทุกฺขาทิคฺคหเณ อิตรสฺสาคหณํ. อนิจฺจาทิคฺคหณานิ จ นิจฺจสฺาทินิวตฺตนกานิ สทฺธาสมาธิปฺินฺทฺริยาธิกานิ ติวิธวิโมกฺขมุขภูตานิ. ตสฺมา เอเตสํ อาการานํ ปริคฺคยฺหมานานํ อฺมฺํ วิเสโส จ อตฺถีติ ตีณิ ลกฺขณานิ วุตฺตานิ.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๑๖๗. นามรูปปริจฺเฉทกถา อภิธมฺมกถาติ สุตฺตนฺเต วิย ปจฺจยยุคฬวเสน อกเถตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อภิฺเยฺยานิ อายตนานิ อพฺโพการโต อภิธมฺมภาชนีเย กถิตานิ. อาคมฺมาติ สพฺพสงฺขาเรหิ นิพฺพินฺทสฺส วิสงฺขารนินฺนสฺส โคตฺรภุนา วิวฏฺฏิตมานสสฺส มคฺเคน สจฺฉิกรเณนาติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยมานฺหิ ตํ อธิคนฺตฺวา อารมฺมณปจฺจยภูตฺจ ปฏิจฺจ อธิปติปจฺจยภูเต จ ตมฺหิ ปรมสฺสาสภาเวน วินิมุตฺตสงฺขารสฺส จ คติภาเวน ปติฏฺานภูเต ปติฏฺาย ขยสงฺขาโต มคฺโค ราคาทโย เขเปตีติ ตํสจฺฉิกรณาภาเว ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรธคมนาภาวา ‘‘ตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สุตฺตโต มุฺจิตฺวาติ สุตฺตปทานิ มุฺจิตฺวา. อฺโ สุตฺตสฺส อตฺโถ ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๔-๒๙๕) วิย อาหริตพฺโพ, นตฺถิ สุตฺตปเทเหว นีโต อตฺโถติ อตฺโถ.

เอกํ นานนฺติ จุณฺณิตํ ขุทฺทกํ วา กรณํ, จุณฺณีกรณนฺติ อพหุมาเนน วทติ. น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติ กึ เอตฺตกํ ตฺวเมว น ชานาสีติ อตฺโถ. นนุ าเตติ ‘‘ยทิปิ ปุพฺเพ น าตํ, อธุนาปิ าเต นนุ สาธุ โหตี’’ติ อตฺตโน ชานนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิกฺเขปํ กโรนฺตํ นิพนฺธติ. วิภชิตฺวาติ อกฺขรตฺถมตฺเต อฏฺตฺวา ลีนํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อุทฺธริตฺวา นีหริตฺวา กถิตนฺติ อตฺโถ. ราคาทีนํ ขโย นาม อภาวมตฺโต, น จ อภาวสฺส พหุภาโว อตฺถิ อตฺตโน อภาวตฺตาติ วทนฺตสฺส วจนปจฺฉินฺทนตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย’’ติอาทิ. ยทิ หิ ราคกฺขโย โทสาทีนํ ขโย น โหติ, โทสกฺขยาทโย จ ราคาทีนํ ขยา, อฺมฺวิสิฏฺา ภินฺนา อาปนฺนา โหนฺตีติ พหุนิพฺพานตา อาปนฺนา เอว โหติ, อฺมฺวิเสโส จ นาม นิสฺสภาวสฺส นตฺถีติ สสภาวตา จ นิพฺพานสฺส. นว ตณฺหามูลกา ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๓; วิภ. ๙๖๓) อาทโย, เตสุ ปริเยสนาทโย จ ปริเยสนาทิกรกิเลสา ทฏฺพฺพา. ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ นิทานกถายํ วุตฺตํ.

โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพติ อติสุขุมสฺส นิพฺพานสฺส โอฬาริกภาวโทสาปตฺติยา โพเธตพฺโพ, นิคฺคเหตพฺโพ วา. วตฺถุนฺติ อุปาทินฺนกโผฏฺพฺพํ เมถุนํ. อจฺฉาทีนมฺปิ นิพฺพานปฺปตฺติ กสฺมา วุตฺตา, นนุ ‘‘กิเลสานํ อจฺจนฺตํ อนุปฺปตฺตินิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ อิจฺฉนฺตสฺส กิเลสานํ วินาโส กฺจิ กาลํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ น โหตีติ? น, อภาวสามฺโต. อจฺจนฺตาปวตฺติ หิ กฺจิ กาลฺจ อปฺปวตฺติ อภาโวเยวาติ นตฺถิ วิเสโส. สวิเสสํ วา วทนฺตสฺส อภาวตา อาปชฺชตีติ. ติรจฺฉานคเตหิปิ ปาปุณิตพฺพตฺตา เตสมฺปิ ปากฏํ ปิฬนฺธนํ วิย โอฬาริกํ ถูลํ. เกวลํ ปน กณฺเณ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺโกติ, ปิฬนฺธนโตปิ วา ถูลตฺตา น สกฺกาติ อุปฺปณฺเฑนฺโต วิย นิคฺคณฺหาติ.

นิพฺพานารมฺมณกรเณน โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสกฺขยปฺปตฺติ ปนสฺส อาปนฺนาติ มฺมาโน อาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยวา’’ติอาทิ. นนุ อารมฺมณกรณมตฺเตน กิเลสกฺขโย อนุปฺปตฺโตติ น สกฺกา วตฺตุํ. จิตฺตฺหิ อตีตานาคตาทิสพฺพํ อาลมฺเพติ, น นิปฺผนฺนเมวาติ โคตฺรภุปิ มคฺเคน กิเลสานํ ยา อนุปฺปตฺติธมฺมตา กาตพฺพา, ตํ อารพฺภ ปวตฺติสฺสตีติ? น, อปฺปตฺตนิพฺพานสฺส นิพฺพานารมฺมณาณาภาวโต. น หิ อฺธมฺมา วิย นิพฺพานํ, ตํ ปน อติคมฺภีรตฺตา อปฺปตฺเตน อาลมฺพิตุํ น สกฺกา. ตสฺมา เตน โคตฺรภุนา ปตฺตพฺเพน ติกาลิกสภาวาติกฺกนฺตคมฺภีรภาเวน ภวิตพฺพํ, กิเลสกฺขยมตฺตตํ วา อิจฺฉโต โคตฺรภุโต ปุเรตรํ นิปฺผนฺเนน กิเลสกฺขเยน. เตนาห ‘‘ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปฺเปสี’’ติ. อปฺปตฺตกิเลสกฺขยารมฺมณกรเณ หิ สติ โคตฺรภุโต ปุเรตรจิตฺตานิปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ.

มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานนฺติ มคฺคสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานํ กตมนฺติ อตฺโถ. มคฺโคติอาทินา ปุริมปุจฺฉาทฺวยเมว วิวรติ.

น จ กิฺจีติ รูปาทีสุ นิพฺพานํ กิฺจิ น โหติ, น จ กทาจิ โหติ, อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพนฺติ วทนฺติ, ตํ อาคมฺม อวิชฺชาตณฺหานํ กิฺจิ เอกเทสมตฺตมฺปิ น โหติ, ตเทว ตํ อาคมฺม กทาจิ น จ โหตีติ อตฺโถ ยุตฺโต.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๑๖๘. น…เป… นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ ยถา สารมฺมณา ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ กิฺจิ อารมฺมณํ กโรนฺติ, เอวํ กิฺจิ อาลมฺพนโต น นวตฺตพฺพโกฏฺาสํ ภชตีติ อตฺโถ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ธาตุวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๑๗๒. ยทิปิ ธาตุสํยุตฺตาทีสุ ‘‘ธาตุนานตฺตํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ, กตมฺจ, ภิกฺขเว, ธาตุนานตฺตํ? จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตู’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๘๕) อฏฺารส ธาตุโย อาคตา, ตา ปน อภิธมฺเม จ อาคตาติ สาธารณตฺตา อคฺคเหตฺวา สุตฺตนฺเตสฺเวว อาคเต ตโย ธาตุฉกฺเก คเหตฺวา สุตฺตนฺตภาชนียํ วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพา ธาตุโยติ อฏฺารสปิ. สุฺเ สภาวมตฺเต นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. อสมฺผุฏฺธาตูติ จตูหิ มหาภูเตหิ อพฺยาปิตภาโวติ อตฺโถ.

๑๗๓. ปถวีธาตุทฺวยนฺติ อฏฺกถายํ ปทุทฺธาโร กโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘ทฺเวย’’นฺติ อาคจฺฉติ, อตฺโถ ปน ยถาวุตฺโตว. ทฺวยนฺติ ปน ปาเ สติ อยมฺปิ อตฺโถ สมฺภวติ. ทฺเว อวยวา เอตสฺสาติ ทฺวยํ, ปถวีธาตูนํ ทฺวยํ ปถวีธาตุทฺวยํ, ทฺวินฺนํ ปถวีธาตูนํ สมุทาโยติ อตฺโถ. ทฺเว เอว วา อวยวา สมุทิตา ทฺวยํ, ปถวีธาตุทฺวยนฺติ. ‘‘ตตฺถ กตมา ปถวีธาตุ? ปถวีธาตุทฺวยํ, เอสา ปถวีธาตู’’ติ สงฺเขเปน วิสฺสชฺเชติ. อตฺถิ อชฺฌตฺติกา อตฺถิ พาหิราติ เอตฺถ อชฺฌตฺติกพาหิร-สทฺทา น อชฺฌตฺติกทุเก วิย อชฺฌตฺติกพาหิรายตนวาจกา, นาปิ อชฺฌตฺตตฺติเก วุตฺเตหิ อชฺฌตฺตพหิทฺธา-สทฺเทหิ สมานตฺถา, อินฺทฺริยพทฺธานินฺทฺริยพทฺธวาจกา ปน เอเต. เตน ‘‘สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิยกชฺฌตฺตาติ จ น ปจฺจตฺตํ อตฺตนิ ชาตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข สพฺพสตฺตสนฺตาเนสุ ชาตตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ วจเนน หิ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนตาย อชฺฌตฺติกภาวํ ทสฺเสติ, น ปาฏิปุคฺคลิกตาย. สภาวาการโตติ อาปาทีหิ วิสิฏฺเน อตฺตโน เอว สภาวภูเตน คเหตพฺพากาเรน.

เกสา กกฺขฬตฺตลกฺขณาติ กกฺขฬตาธิกตาย วุตฺตา. ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ ปถวีโกฏฺาสมตฺโต สุฺโติ อตฺโถ. มตฺถลุงฺคํ อฏฺิมิฺชคฺคหเณน คหิตนฺติ อิธ วิสุํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิมินาติ ‘‘เสยฺยถิทํ เกสา’’ติอาทินา. กมฺมํ กตฺวาติ ปโยคํ วีริยํ อายูหนํ วา กตฺวาติ อตฺโถ. โภคกาเมน กสิยาทีสุ วิย อรหตฺตกาเมน จ อิมสฺมึ มนสิกาเร กมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ. ปุพฺพปลิโพธาติ อาวาสาทโย ทีฆเกสาทิเก ขุทฺทกปลิโพเธ อปรปลิโพธาติ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตา.

วณฺณาทีนํ ปฺจนฺนํ วเสน มนสิกาโร ธาตุปฏิกูลวณฺณมนสิการานํ สาธารโณ ปุพฺพภาโคติ นิพฺพตฺติตธาตุมนสิการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวสาเน เอวํ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ’’ติ อาห. อฺมฺํ อาโภคปจฺจเวกฺขณรหิตาติ การณสฺส จ ผลสฺส จ อพฺยาปารตาย ธาตุมตฺตตํ ทสฺเสติ. อาโภคปจฺจเวกฺขณาทีนมฺปิ เอวเมว อพฺยาปารตา ทฏฺพฺพา. น หิ ตานิ, เตสฺจ การณานิ อาภุชิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา จ อุปฺปชฺชนฺติ กโรนฺติ จาติ. ลกฺขณวเสนาติ ‘‘กกฺขฬํ ขริคต’’นฺติอาทิวจนํ สนฺธาย วุตฺตํ.

เวกนฺตกํ เอกา โลหชาติ. นาคนาสิกโลหํ โลหสทิสํ โลหวิชาติ หลิทฺทิวิชาติ วิย. ติปุตมฺพาทีหิ มิสฺเสตฺวา กตํ กรเณน นิพฺพตฺตตฺตา กิตฺติมโลหํ. โมรกฺขาทีนิ เอวํนามาเนเวตานิ. สามุทฺทิกมุตฺตาติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, สพฺพาปิ ปน มุตฺตา มุตฺตา เอว.

๑๗๔. อปฺเปตีติ อาโป, อาพนฺธนวเสน เสสภูตตฺตยํ ปาปุณาติ สิเลสตีติ อตฺโถ. ยูสภูโตติ รสภูโต. วกฺกหทยยกนปปฺผาสานิ เตเมนฺตนฺติ เอตฺถ ยกนํ เหฏฺาภาคปูรเณน, อิตรานิ เตสํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรเณน เตเมติ. เหฏฺา เลฑฺฑุขณฺฑานิ เตมยมาเนติ เตมกเตมิตพฺพานํ อพฺยาปารสามฺนิทสฺสนตฺถาเยว อุปมา ทฏฺพฺพา, น านสามฺนิทสฺสนตฺถาย. สนฺนิจิตโลหิเตน เตเมตพฺพานํ เกสฺจิ เหฏฺา, กสฺสจิ อุปริ ิตตฺหิ สติปฏฺานวิภงฺเค วกฺขตีติ, ยกนสฺส เหฏฺาภาโค ‘‘ิตํ มยิ โลหิต’’นฺติ น ชานาติ, วกฺกาทีนิ ‘‘อมฺเห เตมยมานํ โลหิตํ ิต’’นฺติ น ชานนฺตีติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. ยถา ปน เภสชฺชสิกฺขาปเท นิยโม อตฺถิ ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีร’’นฺติ, เอวมิธ นตฺถิ.

๑๗๕. เตชนวเสนาติ นิสิตภาเวน ติกฺขภาเวน. สรีรสฺส ปกตึ อติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรทหนวเสน ปวตฺโต มหาทาโห ปริทาโห. อยเมเตสํ วิเสโส. เยน ชีรียตีติ เอกาหิกาทิชรโรเคน ชีรียตีติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ. สตวารํ ตาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปีติ วทนฺติ. รสโสณิตเมทมํสนฺหารุอฏฺิอฏฺิมิฺชา รสาทโย. เกจิ นฺหารุํ อปเนตฺวา สุกฺกํ สตฺตมธาตุํ อโวจุนฺติ. ปากติโกติ โขภํ อปฺปตฺโต สทา วิชฺชมาโน. เปตคฺคิ มุขโต พหิ นิคฺคโตว อิธ คหิโต.

๑๗๖. วายนวเสนาติ สเวคคมนวเสน, สมุทีรณวเสน วา.

๑๗๗. อิมินา ยสฺมึ อากาเส…เป… ตํ กถิตนฺติ อิทํ กสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺส อกถิตตํ, อชฏากาสสฺส จ กถิตตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๑๗๙. สุขทุกฺขานํ ผรณภาโว สรีรฏฺกอุตุสฺส สุขทุกฺขโผฏฺพฺพสมุฏฺานปจฺจยภาเวน ยถาพลํ สรีเรกเทสสกลสรีรผรณสมตฺถตาย วุตฺโต, โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อิฏฺานิฏฺจิตฺตชสมุฏฺาปเนน ตเถว ผรณสมตฺถตาย. เอวํ เอเตสํ สรีรผรณตาย เอกสฺส านํ อิตรํ ปหรติ, อิตรสฺส จ อฺนฺติ อฺมฺเน สปฺปฏิปกฺขตํ ทสฺเสติ, อฺมฺปฏิปกฺขโอฬาริกปฺปวตฺติ เอว วา เอเตสํ ผรณํ. วตฺถารมฺมณานิ จ ปพนฺเธน ปวตฺติเหตุภูตานิ ผรณฏฺานํ ทฏฺพฺพํ, อุภยวโต จ ปุคฺคลสฺส วเสน อยํ สปฺปฏิปกฺขตา ทสฺสิตา สุขทสฺสนียตฺตา.

๑๘๑. กิเลสกามํ สนฺธายาติ ‘‘สงฺกปฺโป กาโม ราโค กาโม’’ติ (มหานิ. ๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘) เอตฺถ วุตฺตํ สงฺกปฺปํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย. โสปิ หิ วิพาธติ อุปตาเปติ จาติ กิเลสสนฺถวสมฺภวโต กิเลสกาโม วิภตฺโต กิเลสวตฺถุสมฺภวโต วา. กามปฏิสํยุตฺตาติ กามราคสงฺขาเตน กาเมน สมฺปยุตฺตา, กามปฏิพทฺธา วา. อฺเสุ จ กามปฏิสํยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ วิตกฺเกเยว กาโมปปโท ธาตุสทฺโท นิรุฬฺโห เวทิตพฺโพ วิตกฺกสฺส กามปฺปสงฺคปฺปวตฺติยา สาติสยตฺตา. เอส นโย พฺยาปาทธาตุอาทีสุ. ปรสฺส อตฺตโน จ ทุกฺขายนํ วิหึสา. วิหึสนฺตีติ หนฺตุํ อิจฺฉนฺติ.

๑๘๒. อุภยตฺถ อุปฺปนฺโนปิ อภิชฺฌาสํโยเคน กมฺมปถชนนโต อนภิชฺฌากมฺมปถภินฺทนโต จ กามวิตกฺโก ‘‘กมฺมปถเภโท’’ติ วุตฺโต. พฺยาปาโท ปนาติ พฺยาปาทวจเนน พฺยาปาทวิตกฺกํ ทสฺเสติ. โส หิ พฺยาปาทธาตูติ. ตถา วิหึสาย วิหึสาธาตุยา จ พฺยาปาทวเสน ยถาสมฺภวํ ปาณาติปาตาทิวเสน จ กมฺมปถเภโท โยเชตพฺโพ. เอตฺถาติ ทฺวีสุ ติเกสุ. สพฺพกามาวจรสพฺพกุสลสงฺคาหเกหิ อิตเร ทฺเว ทฺเว สงฺคเหตฺวา กถนํ สพฺพสงฺคาหิกกถา. เอตฺถาติ ปน เอตสฺมึ ฉกฺเกติ วุจฺจมาเน กามธาตุวจเนน กามาวจรานํ เนกฺขมฺมธาตุอาทีนฺจ คหณํ อาปชฺชติ.

ลภาเปตพฺพาติ จกฺขุธาตาทิภาวํ ลภมานา ธมฺมา นีหริตฺวา ทสฺสเนน ลภาเปตพฺพา. จรติ เอตฺถาติ จาโร, กึ จรติ? สมฺมสนํ, สมฺมสนสฺส จาโร สมฺมสนจาโร, เตภูมกธมฺมานํ อธิวจนํ.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๑๘๓. จกฺขุสฺสาติ วิเสสการณํ อสาธารณสามิภาเวน นิทฺทิฏฺํ. ตฺหิ ปุคฺคลนฺตราสาธารณํ นีลาทิสพฺพรูปสาธารณฺจ. วิทหตีติ เอวํ เอวฺจ ตยา ปวตฺติตพฺพนฺติ วินิยุชฺชมานํ วิย อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. วิทหตีติ จ ธาตุอตฺโถ เอว วิสิฏฺโ อุปสคฺเคน ทีปิโตติ วินาปิ อุปสคฺเคน ธาตูติ เอโส สทฺโท ตมตฺถํ วทตีติ ทฏฺพฺโพ. กตฺตุกมฺมภาวกรณอธิกรเณสุ ธาตุปทสิทฺธิ โหตีติ ปฺจปิ เอเต อตฺถา วุตฺตา. สุวณฺณรชตาทิธาตุโย สุวณฺณาทีนํ พีชภูตา เสลาทโย.

อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโยติ เอตฺถาปิ ธาตีติ ธาตูติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ธาตุ-สทฺโท เอว หิ ธารณตฺโถปิ โหตีติ. กตฺตุอตฺโถปิ จายํ ปุริเมน อสทิโสติ นิสฺสตฺตสภาวมตฺตธารณฺจ ธาตุ-สทฺทสฺส ปธาโน อตฺโถติ วิสุํ วุตฺโต. ธาตุโย วิย ธาตุโยติ เอตฺถ สีห-สทฺโท วิย เกสริมฺหิ นิรุฬฺโห ปุริเสสุ, เสลาวยเวสุ นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท จ จกฺขาทีสุ อุปจริโต ทฏฺพฺโพ. าณฺจ เยฺยฺจ าณเยฺยานิ, เตสํ อวยวา ตปฺปเภทภูตา ธาตุโย าณเยฺยาวยวา. ตตฺถ าณปฺปเภทา ธมฺมธาตุเอกเทโส, เยฺยปฺปเภทา อฏฺารสาปีติ าณเยฺยาวยวมตฺตา ธาตุโย โหนฺติ. อถ วา าเณน าตพฺโพ สภาโว ธาตุสทฺเทน วุจฺจมาโน อวิปรีตโต าณเยฺโย, น ทิฏฺิอาทีหิ วิปรีตคฺคาหเกหิ เยฺโยติ อตฺโถ. ตสฺส าณเยฺยสฺส อวยวา จกฺขาทโย. วิสภาคลกฺขณาวยเวสุ รสาทีสุ นิรุฬฺโห ธาตุ-สทฺโท ตาทิเสสุ อฺาวยเวสุ จกฺขาทีสุ อุปจริโต ทฏฺพฺโพ, รสาทีสุ วิย วา จกฺขาทีสุ นิรุฬฺโหว. นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอเตน นิชฺชีวมตฺตปทตฺเถ ธาตุ-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตํ ทสฺเสติ. ฉ ธาตุโย เอตสฺสาติ ฉธาตุโย, โย โลเก ‘‘ปุริโส’’ติ ธมฺมสมุทาโย วุจฺจติ, โส ฉธาตุโร ฉนฺนํ ปถวีอาทีนํ นิชฺชีวมตฺตสภาวานํ สมุทายมตฺโต, น เอตฺถ ชีโว ปุริโส วา อตฺถีติ อตฺโถ.

จกฺขาทีนํ กโม ปุพฺเพ วุตฺโตติ อิธ เอเกกสฺมึ ติเก ติณฺณํ ติณฺณํ ธาตูนํ กมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เหตุผลานุปุพฺพววตฺถานวเสนา’’ติ. เหตุผลานํ อนุปุพฺพววตฺถานํ เหตุผลภาโวว. ตตฺถ เหตูติ ปจฺจโย อธิปฺเปโต. ผลนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนนฺติ อาห ‘‘จกฺขุธาตู’’ติอาทิ. มโนธาตุธมฺมธาตูนฺจ มโนวิฺาณสฺส เหตุภาโว ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ, ทฺวารภูตมโนวเสน วา ตสฺสา มโนธาตุยา.

สพฺพาสํ วเสนาติ ยถาวุตฺตานํ อาภาธาตุอาทีนํ ปฺจตึสาย ธาตูนํ วเสน. อปรมตฺถสภาวสฺส ปรมตฺถสภาเวสุ น กทาจิ อนฺโตคธตา อตฺถีติ อาห ‘‘สภาวโต วิชฺชมานาน’’นฺติ. จนฺทาภาสูริยาภาทิกา วณฺณนิภา เอวาติ อาห ‘‘รูปธาตุเยว หิ อาภาธาตู’’ติ. รูปาทิปฏิพทฺธาติ ราควตฺถุภาเวน คเหตพฺพากาโร สุภนิมิตฺตนฺติ สนฺธาย ‘‘รูปาทโยวา’’ติ อวตฺวา ปฏิพทฺธวจนํ อาห. อสติปิ ราควตฺถุภาเว ‘‘กุสลวิปาการมฺมณา สุภา ธาตู’’ติ ทุติโย วิกปฺโป วุตฺโต. วิหึสาธาตุ เจตนา, ปรวิเหนฉนฺโท วา. อวิหึสา กรุณา.

อุโภปีติ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุโย. หีนาทีสุ ปุริมนเยน หีฬิตา จกฺขาทโย หีนา, สมฺภาวิตา ปณีตา, นาติหีฬิตา นาติสมฺภาวิตา มชฺฌิมาติ ขนฺธวิภงฺเค อาคตหีนทุกโตเยว นีหริตฺวา มชฺฌิมา ธาตุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. วิฺาณธาตุ ยทิปิ ฉวิฺาณธาตุวเสน วิภตฺตา, ตถาปิ ‘‘วิฺาณธาตุคฺคหเณน ตสฺสา ปุเรจาริกปจฺฉาจาริกตฺตา มโนธาตุ คหิตาว โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘วิฺาณธาตุ…เป… สตฺตวิฺาณสงฺเขโปเยวา’’ติ. อเนเกสํ จกฺขุธาตุอาทีนํ, ตาสุ จ เอเกกิสฺสา นานปฺปการตาย นานาธาตูนํ วเสน อเนกธาตุนานาธาตุโลโก วุตฺโตติ อาห ‘‘อฏฺารสธาตุปฺปเภทมตฺตเมวา’’ติ.

‘‘จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนมโนวิฺาณธาตุเภเทนา’’ติ อฏฺกถายํ ลิขิตํ. ตตฺถ น จกฺขาทีนํ เกวเลน ธาตุ-สทฺเทน สมฺพนฺโธ อธิปฺเปโต วิชานนสภาวสฺส ปเภทวจนโต. วิฺาณธาตุ-สทฺเทน สมฺพนฺเธ กริยมาเน ทฺเว มโนคหณานิ น กตฺตพฺพานิ. น หิ ทฺเว มโนวิฺาณธาตุโย อตฺถีติ. ‘‘จกฺขุ…เป… กายมโนวิฺาณมโนธาตู’’ติ วา วตฺตพฺพํ อตุลฺยโยเค ทฺวนฺทสมาสาภาวโต. อยํ ปเนตฺถ ปาโ สิยา ‘‘จกฺขุ…เป… กายวิฺาณมโนมโนวิฺาณธาตุเภเทนา’’ติ.

ขนฺธายตนเทสนา สงฺเขปเทสนา, อินฺทฺริยเทสนา วิตฺถารเทสนาติ ตทุภยํ อเปกฺขิตฺวา นาติสงฺเขปวิตฺถารา ธาตุเทสนา. อถ วา สุตฺตนฺตภาชนีเย วุตฺตธาตุเทสนา อติสงฺเขปเทสนา, อาภาธาตุอาทีนํ อเนกธาตุนานาธาตุอนฺตานํ วเสน เทเสตพฺพา อติวิตฺถารเทสนาติ ตทุภยํ อเปกฺขิตฺวา อยํ ‘‘นาติสงฺเขปวิตฺถารา’’ติ.

เภรีตลํ วิย จกฺขุธาตุ สทฺทสฺส วิย วิฺาณสฺส นิสฺสยภาวโต. เอตาหิ จ อุปมาหิ นิชฺชีวานํ เภรีตลทณฺฑาทีนํ สมาโยเค นิชฺชีวานํ สทฺทาทีนํ วิย นิชฺชีวานํ จกฺขุรูปาทีนํ สมาโยเค นิชฺชีวานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปวตฺตีติ การณผลานํ ธาตุมตฺตตฺตา การกเวทกภาววิรหํ ทสฺเสติ.

ปุเรจรานุจรา วิยาติ นิชฺชีวสฺส กสฺสจิ เกจิ นิชฺชีวา ปุเรจรานุจรา วิยาติ อตฺโถ. มโนธาตุเยว วา อตฺตโน ขณํ อนติวตฺตนฺตี อตฺตโน ขณํ อนติวตฺตนฺตานํเยว จกฺขุวิฺาณาทีนํ อวิชฺชมาเนปิ ปุเรจรานุจรภาเว ปุพฺพกาลาปรกาลตาย ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพาติ อตฺโถ. สลฺลมิว สูลมิว ติวิธทุกฺขตาสมาโยคโต ทฏฺพฺโพ. อาสาเยว ทุกฺขํ อาสาทุกฺขํ, อาสาวิฆาตํ ทุกฺขํ วา. สฺา หิ อภูตํ ทุกฺขทุกฺขมฺปิ สุภาทิโต สฺชานนฺตี ตํ อาสํ ตสฺสา จ วิฆาตํ อาสีสิตสุภาทิอสิทฺธิยา ชเนตีติ. กมฺมปฺปธานา สงฺขาราติ ‘‘ปฏิสนฺธิยํ ปกฺขิปนโต’’ติอาทิมาห. ชาติทุกฺขานุพนฺธนโตติ อตฺตนา นิพฺพตฺติยมาเนน ชาติทุกฺเขน อนุพนฺธตฺตา. ภวปจฺจยา ชาติ หิ ชาติทุกฺขนฺติ. ปทุมํ วิย ทิสฺสมานํ ขุรจกฺกํ วิย รูปมฺปิ อิตฺถิยาทิภาเวน ทิสฺสมานํ นานาวิธุปทฺทวํ ชเนติ. สพฺเพ อนตฺถา ราคาทโย ชาติอาทโย จ วิสภูตา อสนฺตา สปฺปฏิภยา จาติ ตปฺปฏิปกฺขภูตตฺตา อมตาทิโต ทฏฺพฺพา.

มุฺจิตฺวาปิ อฺํ คเหตฺวาวาติ เอเตน มกฺกฏสฺส คหิตํ สาขํ มุฺจิตฺวาปิ อากาเส าตุํ อสมตฺถตา วิย คหิตารมฺมณํ มุฺจิตฺวาปิ อฺํ อคฺคเหตฺวา ปวตฺติตุํ อสมตฺถตาย มกฺกฏสมานตํ ทสฺเสติ. อฏฺิเวธวิทฺโธปิ ทมถํ อนุปคจฺฉนฺโต ทุฏฺสฺโส อสฺสขฬุงฺโก. รงฺคคโต นโฏ รงฺคนโฏ.

๑๘๔. จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จาติอาทินา ทฺวารารมฺมเณสุ เอกวจนพหุวจนนิทฺเทสา เอกนานาสนฺตานคตานํ เอกสนฺตานคตวิฺาณปจฺจยภาวโต เอกนานาชาติกตฺตา จ.

สพฺพธมฺเมสูติ เอตฺถ สพฺพ-สทฺโท อธิการวเสน ยถาวุตฺตวิฺาณสงฺขาเต อารมฺมณสงฺขาเต วา ปเทสสพฺพสฺมึ ติฏฺตีติ ทฏฺพฺโพ. มโนวิฺาณธาตุนิทฺเทเส ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ มโนธาตุ, มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺต’’นฺติ จกฺขุวิฺาณธาตานนฺตรํ มโนธาตุ วิย มโนธาตานนฺตรมฺปิ อุปฺปชฺชติ จิตฺตนฺติ ยาว อฺา มโนธาตุ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตาว ปวตฺตํ สพฺพํ จิตฺตํ เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เอวมฺปิ อตฺโถ ลพฺภติ. เอวฺหิ สติ มโนวิฺาณธาตานนฺตรํ อุปฺปนฺนาย มโนธาตุยา มโนวิฺาณธาตุภาวปฺปสงฺโค น โหติเยว. ปฺจวิฺาณธาตุมโนธาตุกฺกมนิทสฺสนฺหิ ตพฺพิธุรสภาเวน อุปฺปตฺติฏฺาเนน จ ปริจฺฉินฺนสฺส จิตฺตสฺส มโนวิฺาณธาตุภาวทสฺสนตฺถํ, น อนนฺตรุปฺปตฺติมตฺเตนาติ ตพฺพิธุรสภาเว เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ทสฺสนํ ยุชฺชติ. อนุปนีเตปิ เอกตฺเต ตพฺพิธุรสภาเว เอกสฺมึ ทสฺสิเต สามฺวเสน อฺมฺปิ สพฺพํ ตํ สภาวํ ทสฺสิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ปิ-สทฺเทน มโนวิฺาณธาตุสมฺปิณฺฑเน จ สติ ‘‘มโนวิฺาณธาตุยาปิ สมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… ตชฺชา มโนวิฺาณธาตู’’ติ มโนวิฺาณธาตุคฺคหเณน ภวงฺคานนฺตรํ อุปฺปนฺนํ มโนธาตุจิตฺตํ นิวตฺติตํ โหตีติ เจ? น, ตสฺสา มโนวิฺาณธาตุภาวาสิทฺธิโต. น หิ ยํ โจทียติ, ตเทว ปริหาราย โหตีติ.

มโนธาตุยาปิ มโนวิฺาณธาตุยาปีติ มนทฺวยวจเนน ทฺวินฺนํ อฺมฺวิธุรสภาวตา ทสฺสิตาติ เตเนว มโนธาตาวชฺชนสฺส มโนวิฺาณธาตุภาโว นิวตฺติโตติ ทฏฺพฺโพ. วุตฺโต หิ ตสฺส มโนวิฺาณธาตุวิธุโร มโนธาตุสภาโว ‘‘สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโร อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา. สา สพฺพาปีติ เอตํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ. น หิ ชวนปริโยสานา เอว มโนวิฺาณธาตุ, ตทารมฺมณาทีนิปิ ปน โหนฺติเยวาติ. เอวํ ปฺจวิฺาณธาตุมโนธาตุวิสิฏฺสภาววเสน สพฺพํ มโนวิฺาณธาตุํ ทสฺเสตฺวา ปุน มโนทฺวารวเสน สาติสยํ ชวนมโนวิฺาณธาตุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิมาห. ยทิ ปน ฉนฺนํ ทฺวารานํ วเสน ชวนาวสานาเนว จิตฺตานิ อิธ ‘‘มโนวิฺาณธาตู’’ติ ทสฺสิตานีติ อยมตฺโถ คยฺเหยฺย, จุติปฏิสนฺธิภวงฺคานํ อคฺคหิตตฺตา สาวเสสา เทสนา อาปชฺชติ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตน นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ฉทฺวาริกจิตฺเตหิ วา สมานลกฺขณานิ อฺานิปิ ‘‘มโนวิฺาณธาตู’’ติ ทสฺสิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ปฏิจฺจาติ อาคตฏฺาเนติ เอตฺถ ‘‘มโน จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๕๕) วิสุํ กาตุํ ยุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ จ-สทฺเทน สมฺปิณฺเฑตฺวา อาวชฺชนสฺสปิ จกฺขาทิสนฺนิสฺสิตตากรณํ วิย มนฺจ ปฏิจฺจาติ อาคตฏฺาเน มโนทฺวารสงฺขาตภวงฺคสนฺนิสฺสิตเมว อาวชฺชนํ กาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

ปฺหปุจฺฉกํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สจฺจวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

อุทฺเทสวณฺณนา

๑๘๙. สาสนกฺกโมติ อริยสจฺจานิ วุจฺจนฺติ อริยสจฺจเทสนา วา. สกลฺหิ สาสนํ ภควโต วจนํ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถีติ สจฺเจสุ กมติ, สีลสมาธิปฺาสงฺขาตํ วา สาสนํ เอเตสุ กมติ, ตสฺมา กมติ เอตฺถาติ กโม, กึ กมติ? สาสนํ, สาสนสฺส กโม สาสนกฺกโมติ สจฺจานิ สาสนปวตฺติฏฺานานิ วุจฺจนฺติ, ตํเทสนา จ ตพฺโพหาเรนาติ.

ตถาติ ตํสภาวาว. อวิตถาติ อมุสาสภาวา. อนฺถาติ อฺาการรหิตา. ทุกฺขทุกฺขตาตํนิมิตฺตตาหิ อนิฏฺตา ปีฬนฏฺโ, ทฺวิธาปิ ปริทหนํ, กิเลสทาหสมาโยโค วา สนฺตาปฏฺโติ อยเมเตสํ วิเสโส. ปุคฺคลหึสนํ วา ปีฬนํ, อตฺตโน เอว ติขิณภาโว สนฺตาปนํ สนฺตาโปติ. เอตฺถ จ ปีฬนฏฺโ ทุกฺขสฺส สรเสเนว อาวิภวนากาโร, อิตเร ยถากฺกมํ สมุทยมคฺคนิโรธทสฺสเนหิ อาวิภวนาการาติ อยํ จตุนฺนมฺปิ วิเสโส. ตตฺรตตฺราภินนฺทนวเสน พฺยาเปตฺวา อูหนํ ราสิกรณํ ทุกฺขนิพฺพตฺตนํ อายูหนํ, สมุทยโต อาคจฺฉตีติ วา อายํ, ทุกฺขํ. ตสฺส อูหนํ ปวตฺตนํ อายูหนํ, สรสาวิภาวนากาโร เอโส. นิททาติ ทุกฺขนฺติ นิทานํ, ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉาเปนฺตํ วิย สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. ทุกฺขทสฺสเนน จายํ นิทานฏฺโ อาวิ ภวติ. สํโยคปลิโพธฏฺา นิโรธมคฺคทสฺสเนหิ, เต จ สํสารสํโยชนมคฺคนิวารณาการา ทฏฺพฺพา.

นิสฺสรนฺติ เอตฺถ สตฺตา, สยเมว วา นิสฺสฏํ วิสํยุตฺตํ สพฺพสงฺขเตหิ สพฺพุปธิปฏินิสฺสคฺคภาวโตติ นิสฺสรณํ. อยมสฺส สภาเวน อาวิภวนากาโร. วิเวกาสงฺขตามตฏฺา สมุทยมคฺคทุกฺขทสฺสนาวิภวนาการา, สมุทยกฺขยอปฺปจฺจยอวินาสิตา วา. สํสารโต นิคฺคมนํ นิยฺยานํ. อยมสฺส สรเสน ปกาสนากาโร, อิตเร สมุทยนิโรธทุกฺขทสฺสเนหิ. ตตฺถ ปลิโพธุปจฺเฉทวเสน นิพฺพานาธิคโมว นิพฺพานนิมิตฺตตา เหตฺวฏฺโ. ปฺาปธานตฺตา มคฺคสฺส นิพฺพานทสฺสนํ, จตุสจฺจทสฺสนํ วา ทสฺสนฏฺโ. จตุสจฺจทสฺสเน กิเลสทุกฺขสนฺตาปวูปสมเน จ อาธิปจฺจํ กโรนฺติ มคฺคงฺคธมฺมา สมฺปยุตฺตธมฺเมสูติ โส มคฺคสฺส อธิปเตยฺยฏฺโติ. วิเสสโต วา อารมฺมณาธิปติภูตา มคฺคงฺคธมฺมา โหนฺติ ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ติ วจนโตติ โส เตสํ อากาโร อธิปเตยฺยฏฺโ. เอวมาทิ อาหาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อภิสมยฏฺโติ อภิสเมตพฺพฏฺโ, อภิสมยสฺส วา วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโ, อภิสมยสฺเสว วา ปวตฺติอากาโร อภิสมยฏฺโ, โส เจตฺถ อภิสเมตพฺเพน ปีฬนาทินา ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺโพ.

กุจฺฉิตํ ขํ ทุกฺขํ. ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ เกวลสฺส อาคม-สทฺทสฺส เอต-สทฺทสฺส จ ปโยเค สํโยคตฺถสฺส อนุปลพฺภนโต สํ-สทฺทสฺส จ ปโยเค อุปลพฺภนโต ‘‘สํโยคํ ทีเปตี’’ติ อาห, เอวํ ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติ เอตฺถาปิ. อย-สทฺโท คติอตฺถสิทฺโธ เหตุ-สทฺโท วิย การณํ ทีเปติ อตฺตโน ผลนิปฺผาทเนน อยติ ปวตฺตติ, เอติ วา เอตสฺมา ผลนฺติ อโยติ, สํโยเค อุปฺปตฺติการณํ สมุทโยติ เอตฺถ วิสุํ ปยุชฺชมานาปิ อุปสคฺค-สทฺทา สธาตุกํ สํโยคตฺถํ อุปฺปาทตฺถฺจ ทีเปนฺติ กิริยาวิเสสกตฺตาติ เวทิตพฺพา.

อภาโว เอตฺถ โรธสฺสาติ นิโรโธติ เอเตน นิพฺพานสฺส ทุกฺขวิเวกภาวํ ทสฺเสติ. สมธิคเต ตสฺมึ ตทธิคมวโต ปุคฺคลสฺส โรธาภาโว ปวตฺติสงฺขาตสฺส โรธสฺส ปฏิปกฺขภูตาย นิวตฺติยา อธิคตตฺตาติ เอตสฺมิฺจตฺเถ อภาโว เอตสฺมึ โรธสฺสาติ นิโรโธอิจฺเจว ปทสมาโส. ทุกฺขาภาโว ปเนตฺถ ปุคฺคลสฺส, น นิพฺพานสฺเสว. อนุปฺปาโท เอว นิโรโธ อนุปฺปาทนิโรโธ. อายติภวาทีสุ อปฺปวตฺติ, น ปน ภงฺโคติ ภงฺควาจกํ นิโรธ-สทฺทํ นิวตฺเตตฺวา อนุปฺปาทวาจกํ คณฺหาติ. เอตสฺมึ อตฺเถ การเณ ผโลปจารํ กตฺวา นิโรธปจฺจโย นิโรโธติ วุตฺโต. ปฏิปทา จ โหติ ปุคฺคลสฺส ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา. นนุ สา เอว ทุกฺขนิโรธปฺปตฺตีติ ตสฺสา เอว สา ปฏิปทาติ น ยุชฺชตีติ? น, ปุคฺคลาธิคมสฺส เยหิ โส อธิคจฺฉติ, เตสํ การณภูตธมฺมานฺจ ปตฺติภาเวน ปฏิปทาภาเวน จ วุตฺตตฺตา. สจฺฉิกิริยาสจฺฉิกรณธมฺมานํ อฺตฺตาภาเวปิ หิ ปุคฺคลสจฺฉิกิริยธมฺมภาเวหิ นานตฺตํ กตฺวา นิทฺเทโส กโต. อถ วา ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา นิฏฺานํ ผลนฺติ ตสฺสา ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทตา ทฏฺพฺพา.

พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺตีติ เอตฺถ ปฏิวิทฺธกาเล ปวตฺตํ พุทฺธาทิโวหารํ ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๔๑๐) วิย ปุริมกาเลปิ อาโรเปตฺวา ‘‘พุทฺธาทโย’’ติ วุตฺตํ. เต หิ พุทฺธาทโย จตูหิ มคฺเคหิ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ. อริยปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ เจตฺถ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อริยา อิมนฺติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ‘‘อิม’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ ตถาคตสฺส อริยตฺตา ตสฺส สจฺจานีติ อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. ตถาคเตน หิ สยํ อธิคตตฺตา, เตเนว ปกาสิตตฺตา, ตโต เอว จ อฺเหิ อธิคมนียตฺตา ตานิ ตสฺส โหนฺตีติ. อริยภาวสิทฺธิโตปีติ เอตฺถ อริยสาธกานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ ปุพฺเพ วิย อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อริยานิ สจฺจานีติปีติ เอตฺถ อวิตถภาเวน อรณียตฺตา อธิคนฺตพฺพตฺตา อริยานิ, อริยโวหาโร วา อยํ อวิสํวาทโก อวิตถรูโป ทฏฺพฺโพ.

พาธนลกฺขณนฺติ เอตฺถ ทุกฺขทุกฺขตนฺนิมิตฺตภาโว พาธนา, อุทยพฺพยปีฬิตตา วา. ภวาทีสุ ชาติอาทิวเสน จกฺขุโรคาทิวเสน จ อเนกธา ทุกฺขสฺส ปวตฺตนเมว ปุคฺคลสฺส สนฺตาปนํ, ตทสฺส กิจฺจํ รโส. ปวตฺตินิวตฺตีสุ สํสารโมกฺเขสุ ปวตฺติ หุตฺวา คยฺหตีติ ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวติ เอตสฺมา ทุกฺขํ ปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺตติ ปุริมภเวน ปจฺฉิมภโว ฆฏิโต สํยุตฺโต หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปภโว. ‘‘เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต นิพฺพตฺตตี ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ (ธ. ป. ๓๓๘) เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทนํ อนุปจฺเฉทกรณํ. ภวนิสฺสรณนิวารณํ ปลิโพโธ. ราคกฺขยาทิภาเวน สพฺพทุกฺขสนฺตตา สนฺติ. อจฺจุติรสนฺติ อจฺจุติสมฺปตฺติกํ. จวนํ วา กิจฺจนฺติ ตทภาวํ กิจฺจมิว โวหริตฺวา อจฺจุติกิจฺจนฺติ อตฺโถ. อจวนฺจ สภาวสฺสาปริจฺจชนํ อวิการตา ทฏฺพฺพา. ปฺจกฺขนฺธนิมิตฺตสุฺตาย อวิคฺคหํ หุตฺวา คยฺหตีติ อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ. อนุสยุปจฺเฉทนวเสน สํสารจารกโต นิคฺคมนูปายภาโว นิยฺยานํ. นิมิตฺตโต ปวตฺตโต จ จิตฺตสฺส วุฏฺานํ หุตฺวา คยฺหตีติ วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ.

อสุวณฺณาทิ สุวณฺณาทิ วิย ทิสฺสมานํ มายาติ วตฺถุสพฺภาวา ตสฺสา วิปรีตตา วุตฺตา. อุทกํ วิย ทิสฺสมานา ปน มรีจิ อุปคตานํ ตุจฺฉา โหติ, วตฺถุมตฺตมฺปิ ตสฺสา น ทิสฺสตีติ วิสํวาทิกา วุตฺตา. มรีจิมายาอตฺตานํ วิปกฺโข ภาโว ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว. อริยาณสฺสาติ อวิตถคาหกสฺส าณสฺส, เตน ปฏิเวธปจฺจเวกฺขณานิ คยฺหนฺติ, เตสฺจ โคจรภาโว ปฏิวิชฺฌิตพฺพตาอารมฺมณภาโว จ ทฏฺพฺโพ. อคฺคิลกฺขณํ อุณฺหตฺตํ. ตฺหิ กตฺถจิ กฏฺาทิอุปาทานเภเทปิ วิสํวาทกํ วิปรีตํ อภูตํ วา กทาจิ น โหติ. ‘‘พฺยาธิธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๙; ๕.๕๗) เอตฺถ วุตฺตา ชาติอาทิกา โลกปกติ. มนุสฺสานํ อุทฺธํ ทีฆตา, เอกจฺจานํ ติรจฺฉานานํ ติริยํ ทีฆตา, วุทฺธินิฏฺํ ปตฺตานํ ปุน อวฑฺฒนํ เอวมาทิกา จาติ วทนฺติ. ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวสุ ปจฺฉิโม ตถตา, ปโม อวิตถตา, มชฺฌิโม อนฺถตาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ทุกฺขา อฺํ น พาธกนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตณฺหาปิ ชาติ วิย ทุกฺขนิมิตฺตตาย พาธิกาติ? น, พาธกปภวภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา. ชาติอาทีนํ วิย วา ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาโว ทุกฺขทุกฺขตา จ พาธกตา, น ทุกฺขสฺส ปภวกตาติ นตฺถิ ตณฺหาย ปภวกภาเวน คหิตาย พาธกตฺตปฺปสงฺโค. เตนาห ‘‘ทุกฺขา อฺํ น พาธก’’นฺติ. พาธกตฺตนิยาเมนาติ ทุกฺขํ พาธกเมว, ทุกฺขเมว พาธกนฺติ เอวํ ทฺวิธาปิ พาธกตฺตาวธารเณนาติ อตฺโถ. ตํ วินา นาฺโตติ สติปิ อวเสสกิเลสอวเสสากุสลสาสวกุสลมูลาวเสสสาสวกุสลธมฺมานํ ทุกฺขเหตุภาเว น ตณฺหาย วินา เตสํ ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ, เตหิ ปน วินาปิ ตณฺหาย ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ กุสเลหิ วินา อกุสเลหิ, รูปาวจราทีหิ วินา กามาวจราทีหิ จ ตณฺหาย ทุกฺขนิพฺพตฺตกตฺตา. ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตาติ ทฺวิธาปิ นิยเมน ตจฺโฉ นิยฺยานภาโว เอตสฺส, น มิจฺฉามคฺคสฺส วิย วิปรีตตาย, โลกิยมคฺคสฺส วิย วา อเนกนฺติกตาย อตจฺโฉติ ตจฺฉนิยฺยานภาโว, มคฺโค. ตสฺส ภาโว ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตํ, ตสฺมา ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา. สพฺพตฺถ ทฺวิธาปิ นิยเมน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว วุตฺโตติ อาห ‘‘อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาสา’’ติอาทิ.

สจฺจ-สทฺทสฺส สมฺภวนฺตานํ อตฺถานํ อุทฺธรณํ, สมฺภวนฺเต วา อตฺเถ วตฺวา อธิปฺเปตตฺถสฺส อุทฺธรณํ อตฺถุทฺธาโร. วิรติสจฺเจติ มุสาวาทวิรติยํ. น หิ อฺวิรตีสุ สจฺจ-สทฺโท นิรุฬฺโหติ. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ คหิตา ทิฏฺิ ทิฏฺิสจฺจํ. ‘‘อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ, ตทริยา สจฺจโต วิทู’’ติ (สุ. นิ. ๗๖๓) อโมสธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺถสจฺจํ วุตฺตํ. ตสฺส ปน ตํสมฺปาปกสฺส จ มคฺคสฺส ปชานนา ปฏิเวโธ อวิวาทการณนฺติ ทฺวยมฺปิ ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถิ, ยสฺมึ ปชา โน วิวเท ปชาน’’นฺติ (สุ. นิ. ๘๙๐; มหานิ. ๑๑๙) มิสฺสา คาถาย สจฺจนฺติ วุตฺตํ.

เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอเตน ชาติอาทีนํ ทุกฺขอริยสจฺจภาเว อวิปรีตตํ ทสฺเสติ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ อิมินา ทุกฺขอริยสจฺจภาวสฺส ชาติอาทีสุ นิยตตํ. สเจปิ กถฺจิ โกจิ เอวํจิตฺโต อาคจฺเฉยฺย, ปฺาปเน ปน สหธมฺเมน ปฺาปเน อตฺตโน วาทสฺส จ ปฺาปเน สมตฺโถ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อหเมตํ…เป… ปฺาเปสฺสามีติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ชาติอาทีนํ อนฺถตา อฺสฺส จ ตถาภูตสฺส อภาโวเยเวตฺถ านาภาโว. สเจปิ โกจิ อาคจฺเฉยฺย, อาคจฺฉตุ, านํ ปน นตฺถีติ อยเมตฺถ สุตฺตตฺโถ. เอส นโย ทุติยสุตฺเตปิ. ตตฺถ ปน สมฺปตฺตตา ปจฺจกฺขตา จ ปมตา, ตํนิมิตฺตตา ทุติยตา, ตทุปสมตา ตติยตา, ตํสมฺปาปกตา จตุตฺถตาติ ทฏฺพฺพา.

นิพฺพุติกาเมน ปริชานนาทีหิ อฺํ กิฺจิ กิจฺจํ กาตพฺพํ นตฺถิ, ธมฺมาณกิจฺจํ วา อิโต อฺํ นตฺถิ, ปริฺเยฺยาทีนิ จ เอตปฺปรมาเนวาติ จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตณฺหาย อาทีนวทสฺสาวีนํ วเสน ‘‘ตณฺหาวตฺถุอาทีนํ เอตํปรมตายา’’ติ วุตฺตํ. ตถา อาลเย ปฺจกามคุณสงฺขาเต, สกลวตฺถุกามสงฺขาเต, ภวตฺตยสงฺขาเต วา ทุกฺเข โทสทสฺสาวีนํ วเสน ‘‘อาลยาทีนํ เอตํปรมตายา’’ติ วุตฺตํ.

สเหตุเกน ทุกฺเขนาติ เอเตน ทุกฺขสฺส อพฺโพจฺฉินฺนตาทสฺสเนน อติสํเวควตฺถุตํ ทสฺเสติ.

ปฏิเวธาณํ วิย สกิเทว พุชฺฌติ, อถ โข อนุ อนุ พุชฺฌนโต อนุโพโธ, อนุสฺสวาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติอนุคโต วา โพโธ อนุโพโธ. น หิ โส ปจฺจกฺขโต พุชฺฌติ, อนุสฺสวาทิวเสน ปน กปฺเปตฺวา คณฺหาตีติ. กิจฺจโตติ ปริชานนาทิโต. ตํกิจฺจกรเณเนว หิ ตานิ ตสฺส ปากฏานิ. วิวฏฺฏานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรหิ ปติลียมานมานสสฺส อุปฺปชฺชมานํ มคฺคาณํ วิสงฺขารํ ทุกฺขนิสฺสรณํ อารมฺมณํ กตฺวา ทุกฺขํ ปริจฺฉินฺทติ, ทุกฺขคตฺจ ตณฺหํ ปชหติ, นิโรธฺจ ผุสติ อาทิจฺโจ วิย ปภาย, สมฺมาสงฺกปฺปาทีหิ สห อุปฺปนฺนํ ตํ มคฺคํ ภาเวติ, น จ สงฺขาเร อมุฺจิตฺวา ปวตฺตมาเนน าเณน เอตํ สพฺพํ สกฺกา กาตุํ นิมิตฺตปวตฺเตหิ อวุฏฺิตตฺตา, ตสฺมา เอตานิ กิจฺจานิ กโรนฺตํ ตํ าณํ ทุกฺขาทีนิ วิภาเวติ ตตฺถ สมฺโมหนิวตฺตเนนาติ ‘‘จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ.

ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตีติ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เจ? น, ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกทสฺสิโน อฺตฺตยทสฺสิตาวิจารณาย ตสฺสา สาธนตฺถํ ควํปติตฺเถเรน อิมสฺส สุตฺตสฺส อาหริตตฺตา ปจฺเจกฺจ สจฺเจสุ ทิสฺสมาเนสุ อฺตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา. อฺถา อนุปุพฺพาภิสมเย ปุริมทิฏฺสฺส ปจฺฉา อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสิโน ทุกฺขาทิทสฺสนตา น โยเชตพฺพา สิยาติ. สุทฺธสงฺขารปุฺชมตฺตทสฺสนโต สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวาเรติ. ‘‘โลกสมุทยํ โข, กจฺจาน, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต ยา โลเก นตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ วจนโต สมุทยทสฺสนํ เหตุผลปฺปพนฺธาวิจฺเฉททสฺสนวเสน อุจฺเฉททิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวตฺเตติ. ‘‘โลกนิโรธํ โข…เป… ปสฺสโต ยา โลเก อตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕) วจนโต นิโรธทสฺสนํ เหตุนิโรธา ผลนิโรธทสฺสนวเสน สสฺสตทิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวาเรติ. อตฺตการสฺส ปจฺจกฺขทสฺสนโต มคฺคทสฺสเนน ‘‘นตฺถิ อตฺตกาเร, นตฺถิ ปรกาเร, นตฺถิ ปุริสกาเร’’ติอาทิกํ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) อกิริยทิฏฺิปริยุฏฺานํ ปชหติ. ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ…เป… วิสุทฺธิยา, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติอาทิกา อเหตุกทิฏฺิ จ อิธ อกิริยทิฏฺิคฺคหเณน คหิตาติ ทฏฺพฺพา. สาปิ หิ วิสุทฺธิมคฺคทสฺสเนน ปหียตีติ.

ทุกฺขาณํ สมุทยผลสฺส ทุกฺขสฺส อธุวาทิภาวํ ปสฺสตีติ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. ‘‘อิสฺสโร โลกํ ปวตฺเตติ นิวตฺเตติ จา’’ติ อิสฺสรการณิโน วทนฺติ, ปธานโต อาวิ ภวติ, ตตฺเถว จ ปติลียตีติ ปธานการณิโน. ‘‘กาลวเสเนว ปวตฺตติ นิวตฺตติ จา’’ติ กาลวาทิโน. ‘‘สภาเวเนว สมฺโภติ วิโภติ จา’’ติ สภาววาทิโน. อาทิ-สทฺเทน อณูหิ โลโก ปวตฺตติ, สพฺพํ ปุพฺเพกตเหตูติ เอวมาทิ อการณปริคฺคโห ทฏฺพฺโพ. รามุทกาฬาราทีนํ วิย อรูปโลเก, นิคณฺาทีนํ วิย โลกถุปิกาย อปวคฺโค โมกฺโขติ คหณํ. อาทิ-สทฺเทน ปธานสฺส อปฺปวตฺติ, คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานํ, พฺรหฺมุนา สโลกตา, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอวมาทิคฺคหณฺจ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ คุณวิยุตฺตสฺสาติ พุทฺธิสุขทุกฺขอิจฺฉาโทสปยตฺตธมฺมาธมฺมสงฺขาเรหิ นวหิ อตฺตคุเณหิ วิปฺปยุตฺตสฺสาติ กณาทภกฺขวาโท. อินฺทฺริยตปฺปนปุตฺตมุขทสฺสนาทีหิ วินา อปวคฺโค นตฺถีติ คเหตฺวา ตถาปวตฺตนํ กามสุขลฺลิกานุโยโค.

อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ กามภววิภวตณฺหาวเสน ทฺวาทส ติกา ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค วา อาคตนเยน กาลวิภาคํ อนามสิตฺวา วุตฺตานิ. วีมํสิทฺธิปาทาทโย โพธิปกฺขิยา กิจฺจนานตฺเตน วุตฺตา, อตฺถโต เอกตฺตา สมฺมาทิฏฺิมุเขน ตตฺถ อนฺโตคธา. ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโยติ โลกิยกฺขเณ อโลภเมตฺตากรุณาสมฺปโยควเสน ภินฺนา มคฺคกฺขเณ โลภพฺยาปาทวิหึสาสมุจฺเฉทวเสน ตโยติ เอโกปิ วุตฺโต. เอส นโย สมฺมาวาจาทีสุ. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตานํ ปน ภาเว สมฺมาอาชีวสมฺภวโต เตน เตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภวนฺตเรปิ ชีวิตเหตุปิ อริเยหิ อวีติกฺกมนียตฺตา อริยกนฺตานํ สมฺมาวาจาทิสีลานํ คหเณน เยน สทฺธาหตฺเถน ตานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ, โส สทฺธาหตฺโถ คหิโตเยว โหตีติ ตโต อนฺานิ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลานิ ตตฺถ อนฺโตคธานิ โหนฺติ. เตสํ อตฺถิตายาติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทานํ อตฺถิตาย สีลสฺส อตฺถิภาวโต ติวิเธนปิ สีเลน เต ตโยปิ คหิตาติ ตตฺถ อนฺโตคธา. จิตฺตสมาธีติ จิตฺติทฺธิปาทํ วทติ. ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) หิ จิตฺตมุเขน สมาธิ วุตฺโตติ สมาธิมุเขน จิตฺตมฺปิ วตฺตพฺพตํ อรหติ. จิตฺติทฺธิปาทภาวนาย ปน สมาธิปิ อธิมตฺโต โหตีติ วีมํสิทฺธิปาทาทิวจนํ วิย จิตฺติทฺธิปาทวจนํ อวตฺวา อิธ ‘‘จิตฺตสมาธี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; อ. นิ. ๓.๙๖; ๑๑.๑๒) วจนโต สมาธิอุปการา ปีติปสฺสทฺธิโย, ตสฺมา สมาธิคฺคหเณน คหิตา, อุเปกฺขา ปน สมาธิอุปการกโต ตํสทิสกิจฺจโต จ, ตสฺมา สมฺมาสมาธิวเสน เอเตสํ อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา.

ภาโร วิย วิฆาตกตฺตา. ทุพฺภิกฺขมิว พาธกตฺตา. ‘‘นิพฺพานปรมํ สุข’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๑๕, ๒๑๗; ธ. ป. ๒๐๓, ๒๐๔) สุขภาวโต สุภิกฺขมิว. อนิฏฺภาวโต สาสงฺกสปฺปฏิภยโต จ ทุกฺขํ เวรีวิสรุกฺขภยโอริมตีรูปมํ.

ตถตฺเถนาติ ตถสภาเวน, ปริฺเยฺยภาเวนาติ อตฺโถ. เอเตน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา ทุกฺขํ, น อริยสจฺจํ, สิยา อริยสจฺจํ, น ทุกฺขนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อริยสจฺจ-สทฺทปรา หิ ทุกฺขาทิสทฺทา ปริฺเยฺยาทิภาวํ วทนฺติ. เตเนว อริยสจฺจ-สทฺทานเปกฺขํ ทุกฺข-สทฺทํ สนฺธาย มคฺคสมฺปยุตฺตสามฺผลธมฺมานํ อาทิปทสงฺคโห วุตฺโต, ตทเปกฺขํ สนฺธาย จตุตฺถปทสงฺคโห. สมุทยาทีสุ อวเสสกิเลสาทโย สมุทโย, น อริยสจฺจํ, สงฺขารนิโรโธ นิโรธสมาปตฺติ จ นิโรโธ, น อริยสจฺจํ, อริยมคฺคโต อฺานิ มคฺคงฺคานิ มคฺโค, น อริยสจฺจนฺติ อิมินา นเยน โยชนา กาตพฺพา. ทุกฺขํ เวทนียมฺปิ สนฺตํ เวทกรหิตํ, เกวลํ ปน ตสฺมึ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺตมาเน ทุกฺขํ เวเทตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. เอวํ อิตเรสุปิ.

กิริยาว วิชฺชตีติ สมุทยเมว วทติ, ตสฺส วา ทุกฺขปจฺจยภาวํ. มคฺโค อตฺถีติ วตฺตพฺเพ ‘‘มคฺคมตฺถี’’ติ โอการสฺส อภาโว กโตติ ทฏฺพฺโพ. คมโกติ คนฺตา. สาสวตา อสุภตาติ กตฺวา นิโรธมคฺคา สุภา เอว. ทุกฺขาทีนํ ปริยาเยน สมุทยาทิภาโว จ อตฺถิ, น ปน นิโรธภาโว, นิโรธสฺส วา ทุกฺขาทิภาโวติ น อฺมฺสมงฺคิตาติ อาห ‘‘นิโรธสุฺานิ วา’’ติอาทิ. สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโตติ โปโนพฺภวิกาย ตณฺหาย ปุนพฺภวสฺส อภาวโต. ยถา วา ปกติวาทีนํ วิการาวิภาวโต ปุพฺเพ ปฏิปฺปลีนา จ ปกติภาเวเนว ติฏฺนฺติ, น เอวํ สมุทยสมฺปยุตฺตมฺปิ ทุกฺขํ สมุทยภาเวน ติฏฺตีติ อาห ‘‘สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต’’ติ. ยถา อวิภตฺเตหิ วิกาเรหิ มหนฺตา วิเสสินฺทฺริยภูตวิเสเสหิ ปกติภาเวเนว ิเตหิ ปกติ สคพฺภา ปกติวาทีนํ, เอวํ น ผเลน สคพฺโภ เหตูติ อตฺโถ. ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายาติ เอตํ วิวรนฺโต อาห ‘‘น เหตุสมเวตํ เหตุผล’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อิธ ตนฺตูสุ ปโฏ, กปาเลสุ ฆโฏ, พิรเณสุ กโฏ, ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุกนฺติอาทินา อิธ พุทฺธิโวหารชนโก อวิสุํ สิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สมวาโย, เตน สมวาเยน การเณสุ ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุกํ ผลํ สมเวตํ เอกีภูตมิว สมฺพนฺธํ, ตีสุ อณูสุ ติอณุกนฺติ เอวํ มหาปถวิมหาอุทกมหาอคฺคิมหาวาตกฺขนฺธปริยนฺตํ ผลํ อตฺตโน การเณสุ สมเวตนฺติ สมวายวาทิโน วทนฺติ. เอวํ ปน วทนฺเตหิ อปริมาเณสุ การเณสุ มหาปริมาณํ เอกํ ผลํ สมเวตํ อตฺตโน อนฺโตคเธหิ การเณหิ สคพฺภํ อสุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ, เอวมิธ สมวายาภาวา ผเล เหตุ นตฺถีติ เหตุสุฺํ ผลนฺติ อตฺโถ.

ปวตฺติภาวโตติ สํสารสฺส ปวตฺติภาวโต. จตุอาหารเภทโตติ อิมินา จตฺตาโร อาหารเภเท เตหิ ภินฺเน ตปฺปจฺจยธมฺมเภเท จ สงฺคณฺหาติ. รูปาภินนฺทนาทิเภโท รูปาทิขนฺธวเสน, อารมฺมณวเสน วา. อุปาทาเนหิ อุปาทียตีติ อุปาทิ, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. นิพฺพานฺจ ตํนิสฺสรณภูตํ ตสฺส วูปสโม ตํสนฺตีติ กตฺวา ตสฺส ยาว ปจฺฉิมํ จิตฺตํ, ตาว เสสตํ, ตโต ปรฺจ อนวเสสตํ อุปาทาย ‘‘สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตู’’ติ ทฺวิธา โวหรียตีติ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป วิปสฺสนา, อิตเร สมโถ’’ติ วทนฺติ. สีลมฺปิ หิ สมถสฺส อุปการกตฺตา สมถคฺคหเณน คยฺหตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. อถ วา ยานทฺวยวเสน ลทฺโธ มคฺโค สมโถ วิปสฺสนาติ อาคมนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. สปฺปเทสตฺตาติ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอกเทสตฺตาติ อตฺโถ. สีลกฺขนฺธาทโย หิ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรสีลาทิสงฺคาหกา, อริยมคฺโค โลกุตฺตโรเยวาติ ตเทกเทโส โหติ.

โอนตสหาโย วิย วายาโม ปคฺคหกิจฺจสามฺโต. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ อปิลาปนวเสน นิจฺจลภาวกรณสามฺโต. สชาติโตติ สวิตกฺกสวิจาราทิเภเทสุ สมานาย สมาธิชาติยาติ อตฺโถ. กิริยโตติ สมาธิอนุรูปกิริยโต. ตโต เอว หิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา สมาธินิมิตฺตา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สมาธิปริกฺขารา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) สติวายามานํ สมาธิสฺส นิมิตฺตปริกฺขารภาโว วุตฺโตติ.

อาโกเฏนฺเตน วิยาติ ‘‘อนิจฺจํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปฺาสทิเสน กิจฺเจน สมนฺตโต อาโกเฏนฺเตน วิย ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเนา’’ติอาทินา ปริวตฺตนฺเตน วิย จ อาทาย อูหิตฺวา ทินฺนเมว ปฺา ปฏิวิชฺฌติ. ทฺวินฺนํ สมานกาลตฺเตปิ ปจฺจยภาเวน สงฺกปฺปสฺส ปุริมกาลสฺส วิย นิทฺเทโส กโต. สชาติโตติ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีสุ สมานาย ปฺาชาติยา. กิริยโตติ เอตฺถ ปฺาสทิสกิจฺจํ กิริยาติ วุตฺตํ, ปุพฺเพ ปน สมาธิอุปการกํ ตทนุรูปํ กิจฺจนฺติ อยเมตฺถ วิเสโส. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต จตฺตาริปิ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต าตพฺพานิ, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน าตพฺพานีติ อภิฺเยฺยานิ.

ทุรภิสมฺภวตรนฺติ อภิสมฺภวิตุํ สาเธตุํ อสกฺกุเณยฺยตรํ, สตฺติวิฆาเตน ทุรธิคมนฺติ อตฺโถ. พาธกปภวสนฺตินิยฺยานลกฺขเณหิ ววตฺถานํ สลกฺขณววตฺถานํ. ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตาติ โอฬาริกา ทุกฺขสมุทยา. ติรจฺฉานคตานมฺปิ หิ ทุกฺขํ อาหาราทีสุ จ อภิลาโส ปากโฏ, ปีฬนาทิอายูหนาทิวเสน ปน ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทมสฺส การณ’’นฺติ ยาถาวโต โอคาหิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา คมฺภีรา, สณฺหสุขุมธมฺมตฺตา นิโรธมคฺคา สภาวโต เอว คมฺภีรตฺตา ทุรวคาหา, เตเนว อุปฺปนฺเน มคฺเค นตฺถิ นิโรธมคฺคานํ ยาถาวโต อนวคาโหติ. นิพฺพานมฺปิ มคฺเคน อธิคนฺตพฺพตฺตา ตสฺส ผลนฺติ อปทิสฺสตีติ อาห ‘‘ผลาปเทสโต’’ติ. วุตฺตฺหิ ‘‘ทุกฺขนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). มคฺโคปิ นิโรธสฺส สมฺปาปกภาวโต เหตูติ อปทิสฺสตีติ อาห ‘‘เหตุอปเทสโต’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). อิติ วิชฺาติ อิติ-สทฺเทน วิชานนกฺกมํ ทสฺเสติ. เอวํ ปกาเรหีติ เอวํ-สทฺเทน วิชานนการณภูเต นเย.

อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส

ชาตินิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๐. ตตฺถ …เป… อยํ มาติกาติ นิทฺเทสวารอาทิมฺหิ วุตฺเต ชาติอาทินิทฺเทเส เตสํ ชาติอาทีนํ นิทฺเทสวเสน ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย, เตสุ วา ชาติอาทีสุ เตสฺจ ทุกฺขฏฺเ เวทิตพฺเพ ชาติอาทีนํ นิทฺเทสวเสน ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย ทุกฺขทุกฺขนฺติอาทิกา ทุกฺขมาติกา เวทิตพฺพาติ อตฺโถ. อถ วา ตตฺถาติ ตสฺมึ นิทฺเทสวาเร. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา…เป… สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ อยํ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส กถนตฺถาย มาติกาติ ยถาทสฺสิตสฺส ชาติอาทินิทฺเทสสฺส มาติกาภาวํ ทีเปติ. ตํ ทีเปตฺวา ปุน ยสฺมึ ปททฺวเย ตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ กเถตพฺพํ, ตสฺส นิทฺธารณตฺถํ สพฺพํ ทุกฺขํ สงฺกฑฺเฒนฺโต อาห ‘‘อิทฺหิ ทุกฺขํ นามา’’ติอาทิ.

สภาวโตติ ทุกฺขเวทยิตสภาวโต. นามโตติ เตเนว สภาเวน ลทฺธนามโต. เตน น อฺเน ปริยาเยน อิทํ ทุกฺขํ นาม, อถ โข ทุกฺขตฺตาเยวาติ สภาเวน นามํ วิเสเสติ. อถ วา นามโตติ อุทยพฺพยวนฺตตาย ลทฺธนามโต. ยถา อฺเ อุทยพฺพยวนฺโต ธมฺมา น สภาวโต ทุกฺขา, น เอวํ อิทํ, อถ โข สภาวโต ทุกฺขา, ภูตเมเวทํ ทุกฺขนฺติ ปุริเมน ทุกฺข-สทฺเทน ปจฺฉิมํ วิเสเสติ. วิปริณามวนฺตตาย สุขํ อนิฏฺเมว โหตีติ ทุกฺขํ นาม ชาตํ. เตเนวาห ‘‘ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต’’ติ. กณฺณสูลาทีหิ อภิภูตสฺส นิตฺถุนนาทีหิ ทุกฺขาภิภูตตาย วิฺายมานายปิ กึ ตว รุชฺชตีติ ปุจฺฉิตฺวาว กณฺณสูลาทิทุกฺขํ ชานิตพฺพํ โหตีติ ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขตา ตสฺส วุตฺตา. อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโตติ การณาวเสน ทุกฺขวิเสสสฺส ปากฏภาวํ ทสฺเสติ.

สภาวํ มุฺจิตฺวา ปการนฺตเรน ทุกฺขนฺติ วุจฺจมานํ ปริยายทุกฺขํ. กเถตพฺพตฺตา ปฏิฺาตํ ยถา กเถตพฺพํ, ตํปการทสฺสนตฺถํ ‘‘อริยสจฺจฺจ นาเมต’’นฺติอาทิมาห. สงฺเขโป สามฺํ, สามฺฺจ วิเสเส อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตตีติ ตตฺถ อุภยถาปิ กเถตุํ วฏฺฏติ. วิตฺถาโร ปน วิเสโส ชาติอาทิโก, วิเสโส จ วิเสสนฺตรนิวตฺตโกติ ชาติอาทีสุ ชราทีนํ สงฺขิปนํ น สกฺกา กาตุนฺติ ตตฺถ วิตฺถาเรเนว กเถตพฺพํ.

๑๙๑. ‘‘อปรสฺส อปรสฺสา’’ติ ทีปนํ อปรตฺถทีปนํ. สามิอตฺเถปิ หิ อปรตฺถ-สทฺโท สิชฺฌตีติ. เตสํ เตสนฺติ วา สามิวเสน วุตฺตํ อตฺถํ ภุมฺมวเสน วตฺตุกามตาย อาห ‘‘อปรตฺถทีปน’’นฺติ, อปรสฺมึ อปรสฺมึ ทีปนนฺติ อตฺโถ. อปรสฺส อปรสฺส วา ชาติสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปนํ อปรตฺถทีปนํ. ปฺจคติวเสน เอเกกายปิ คติยา ขตฺติยาทิภุมฺมเทวาทิหตฺถิอาทิชาติวเสน จาติ คติชาติวเสน.

ติณากาโร ติณชาติ, โส จ อุปาทาปฺตฺตีติ ‘‘ปฺตฺติย’’นฺติ อาห. ตทุปาทายาติ ตํ ปมํ วิฺาณํ อุปาทาย อยํ ชาติ, นาสฺส กุโตจิ นิคฺคมนํ อุปาทาย. ยสฺมา จ เอวํ, ตสฺมา สาวสฺส ชาติ ปมวิฺาณสงฺขาตาติ อตฺโถ. อถ วา ตทุปาทาย สชาโตติ วุจฺจตีติ สาวสฺส ชาติ ปมวิฺาณสงฺขาตาติ อตฺโถ. วิฺาณมุเขน จ ปฺจปิ ขนฺธา วุตฺตา โหนฺตีติ ‘‘ปฏิสนฺธิย’’นฺติ อาห. อริยภาวกรณตฺตา อริยสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวโร วุจฺจติ. ชาติอาทีนิปิ ลกฺขณานิ ธมฺมานํ อาการวิการาติ กตฺวา สหุปฺปาทกา สหวิการกาติ วุตฺตา. ชายนฏฺเนาติอาทิ อายตนวเสน โยนิวเสน จ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุริมนเย ปน เอเกเกเนว ปเทน สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาติ ทสฺสิตาติ อยํ วิเสโส. เกจิ ปน ‘‘ปุริมนเย กตฺตุนิทฺเทโส, ปจฺฉิมนเย ภาวนิทฺเทโส กโต’’ติ วทนฺติ, ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ ชาตี’’ติ ปน กตฺตริ สามินิทฺเทสสฺส กตตฺตา อุภยตฺถาปิ ภาวนิทฺเทโสว ยุตฺโต. สมฺปุณฺณา ชาติ สฺชาติ. ปากฏา นิพฺพตฺติ อภินิพฺพตฺติ. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ…เป… อภินิพฺพตฺตี’’ติ สตฺตวเสน ปวตฺตตฺตา สมฺมุติกถา.

ตตฺร ตตฺราติ เอกจตุโวการภเวสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ, เสเส รูปธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ปฺจนฺนํ, กามธาตุยํ วิกลาวิกลินฺทฺริยานํ วเสน สตฺตนฺนํ นวนฺนํ ทสนฺนํ ปุน ทสนฺนํ เอกาทสนฺนฺจ อายตนานํ วเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เอกภวปริยาปนฺนสฺส ขนฺธสนฺตานสฺส ปมาภินิพฺพตฺติภูตา ปฏิสนฺธิกฺขนฺธาติ อาห ‘‘ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา’’ติ. ตเมว สนฺตานํ นิยฺยาเตนฺตํ วิย ‘‘หนฺท คณฺหถา’’ติ ปฏิจฺฉาเปนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ นิยฺยาตนรสา. สนฺตติยา เอว อุมฺมุชฺชนํ หุตฺวา คยฺหตีติ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา. ทุกฺขราสิสฺส วิจิตฺตตา ทุกฺขวิจิตฺตตา, ทุกฺขวิเสสา วา ตทวยวา, ตํ ปจฺจุปฏฺาเปติ ผลตีติ ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา.

ปริยายนิปฺปริยายทุกฺเขสุ ยํ ทุกฺขํ ชาติ โหติ, ตํ ทุกฺขภาโวเยว ตสฺสา ทุกฺขฏฺโ. ยทิ อกฺขาเนน ปาปุณิตพฺพํ สิยา, ภควา อาจิกฺเขยฺย. ภควตาปิ –

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตโม นุ โข มหนฺตตโร? โย จายํ มยา ปริตฺโต ปาณิมตฺโต ปาสาโณ คหิโต, โย จ หิมวา ปพฺพตราชาติ. อปฺปม…เป… คหิโต, หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ อุปนิธาย สงฺขมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ โส ปุริโส ตีหิ สตฺติสเตหิ หฺมาโน ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ตํ เนรยิกสฺส ทุกฺขสฺส อุปนิธาย สงฺขมฺปิ…เป… อุปนิธมฺปิ น อุเปตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) –

อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกทุกฺขํ. สุขุปฺปตฺติการณานิ สุจีนิ อุปฺปลาทีนีติ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตินิวารเณน ชาติยา ทุกฺขวตฺถุภาวํ ทสฺเสติ ‘‘อถ โข’’ติอาทินา. ทุกฺขุปฺปตฺติการเณ นิพฺพตฺตเนน คพฺภปริหรณูปกฺกเมน วินา มาตุกุจฺฉิสมฺภวเมว ทุกฺขํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ อฺานเปกฺขตฺตา, อุปกฺกมนิพฺพตฺตํ ปน ปริหรณมูลกํ โอกฺกนฺติมตฺตานเปกฺขตฺตา. อยเมเตสํ วิเสโส.

อตฺตโน อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนํ, ปริโต สพฺพโตภาเคน กฑฺฒนํ ปริกฑฺฒนํ. อโธ ธุนนํ โอธุนนํ, ติริยํ, สพฺพโต วา ธุนนํ นิธุนนํ. ตจฺเฉตฺวา ขารปกฺขิปนํ ขาราปฏิจฺฉกํ.

สกลสรีรนฺหาปนํ นฺหาปนํ, เอกเทสโธวนํ โธวนํ, สูริยาภิมุขปวตฺตเนน อาตาปนํ, ปฺจคฺคิตาเปน ปริตาปนํ ทฏฺพฺพํ. สพฺโพเยว วา ตาโป ทฺวิธาปิ วุตฺโต.

กุหึ นุ ปติฏฺํ ลเภถ, ชาติยา วินา น ตสฺส ทุกฺขสฺส ปติฏฺานํ อตฺถีติ อตฺโถ, ชาติยา วา วินา โส สตฺโต กุหึ นุ ปติฏฺํ, กตฺถ นุ ปติฏฺนฺโต ตํ ทุกฺขํ ลเภถาติ อตฺโถ. ตตฺถ ติรจฺฉาเนสุ กถํ ทุกฺขํ ภเวยฺย ตหึ ติรจฺฉาเนสุ ชาตึ วินา. น จสฺสาติ น เจ อสฺส. นนุ เนวตฺถีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ, นนุ อาหาติ วา. ยทโตติ ยสฺมา เนวตฺถิ, ตสฺมา อาหาติ อตฺโถ.

ชรานิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๒. ชีรณเมว ชีรณตา, ชีรณสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโต.

ยถาปุเร อสลฺลกฺเขนฺเตติ คารวกรณอุปฏฺานาทีนิ อสลฺลกฺเขนฺเต ตํนิมิตฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

สตาทีนนฺติ สติสุตวีริยปฺาทีนํ วิปฺปวาสนิมิตฺตํ อตฺตนา อปสาเทตพฺเพหิปิ อตฺตโน ปุตฺตทาเรหิ อปสาทนียโต. อวสวตฺตงฺคปจฺจงฺคตาย สุจิอสุจิอาทิวิจารณวิรเหน จ พาลกุมารกกาโล วิย ชิณฺณกาโล โหตีติ อาห ‘‘ภิยฺโย พาลตฺตปฺปตฺติยา’’ติ.

มรณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๓. ‘‘กาลสฺส อนฺตกสฺส กิริยา’’ติ ยา โลเก วุจฺจติ, สา จุติ, มรณนฺติ อตฺโถ. จวนกาโลเยว วา อนติกฺกมนียตฺตา วิเสเสน กาโลติ วุตฺโต, ตสฺส กิริยา จุติกฺขนฺธานํ เภทปฺปตฺติเยว. มจฺจุ มรณนฺติ เอตฺถาปิ สมาสํ อกตฺวา โย มจฺจุ วุจฺจติ เภโท, ยฺจ มรณํ ปาณจาโค, อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ วิสุํ สมฺพนฺโธ น น ยุชฺชติ.

ยสฺส ขนฺธเภทสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’’ติ โวหาโร โหติ, โส ขนฺธปฺปพนฺธสฺส อนุปจฺฉินฺนตาย ‘‘สมฺมุติมรณ’’นฺติ วุตฺโต, ปพนฺธสมุจฺเฉโท จ ‘‘สมุจฺเฉทมรณ’’นฺติ. มรณมฺปิ ทุกฺขนฺติ อิมสฺมึ ปนตฺเถ ทุกฺขสจฺจกถา วฏฺฏกถาติ กตฺวา ‘‘สมฺมุติมรณํ อธิปฺเปต’’นฺติ อาห. ตสฺเสว นามนฺติ ตพฺภาวโต ตเทกเทสภาวโต จ มรณ-สทฺทพหุตฺเต อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ. จุติลกฺขณนฺติ ‘‘จวนตา’’ติ นิทสฺสิตจวนลกฺขณเมว วทติ. สมฺปตฺติภวขนฺเธหิ วิโยเชตีติ วิโยครสํ, วิโยคกิริยาภูตตาย วา ‘‘วิโยครส’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺตสฺส ปุริมภวโต วิปฺปวาโส หุตฺวา อุปฏฺาตีติ วิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.

มรณนฺติกาติ มรณสฺส อาสนฺนา. ยทิ มรณํ น ภวิสฺสติ, ยถาวุตฺตํ กายิกํ เจตสิกฺจ ทุกฺขํ น ภวิสฺสตีติ อาห ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวนา’’ติ.

ปาปกมฺมาทินิมิตฺตนฺติ ปาปกมฺมนิมิตฺตํ ปาปคตินิมิตฺตฺจาติ อตฺโถ, กมฺมมฺปิ วา เอตฺถ ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ อุปปตฺตินิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. ตทุปฏฺาเนปิ หิ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา อนปฺปกํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ. ภทฺทสฺสาติ กลฺยาณกมฺมสฺสาติ อตฺโถ. อวิเสสโตติ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ เอเตน โยเชตพฺพํ. สพฺเพสนฺติ จ เยสํ กายิกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, เตเยว สพฺเพ คหิตา ‘‘วิตุชฺชมานมมฺมาน’’นฺติ วิเสสิตตฺตา. สนฺธีนํ พนฺธนานิ สนฺธิพนฺธนานิ, เตสํ เฉทเนน นิพฺพตฺตํ ทุกฺขํ ‘‘สนฺธิพนฺธนจฺเฉทน’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺโท วา การณตฺโถ, สนฺธิพนฺธนจฺเฉทนมูลกนฺติ อตฺโถ.

อนยพฺยสนาปาทนํ วิยาติ อนยพฺยสนาปตฺติ วิยาติ อตฺโถ. วาฬาทีหิ กเต หิ อนยพฺยสนาปาทเน อนฺโตคธา อนยพฺยสนาปตฺติ เอตฺถ นิทสฺสนนฺติ.

โสกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๔. สุขการณํ หิตํ, ตสฺส ผลํ สุขํ. าติกฺขโยติ โภคาทีหิ าตีนํ ปริหานิ มรณฺจ. อยํ ปน วิเสโสติ โภคพฺยสนาทิปทตฺถวิเสสํ โรคพฺยสนาทีสุ สมาสวิเสสฺจ สนฺธายาห. าติโภคา ปฺตฺติมตฺตา ตพฺพินาสาวาติ อิมินา อธิปฺปาเยน อปรินิปฺผนฺนตํ สนฺธาย ‘‘อนิปฺผนฺนานี’’ติ อาห. อปรินิปฺผนฺนตํเยว หิ สนฺธาย วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๔๗ อาทโย) จ ‘‘ทส รูปานิ อนิปฺผนฺนานี’’ติ วุตฺตํ. รูปกณฺฑวณฺณนายฺหิ (ธ. ส. อฏฺ. ๙๗๕ ปกิณฺณกกถา) นิ ‘‘อปรินิปฺผนฺนานี’’ติ วุตฺตานิ. ขนฺธวิภงฺเค จ นิปฺผาเทตพฺพสฺส นิโรธสมาปตฺติอาทิกสฺส นิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ อสภาวธมฺมสฺส จ นิปฺผนฺนตา, นิพฺพานสฺเสว อนิปฺผนฺนตาติ.

ธมฺม-สทฺโท เหตุอตฺโถติ อาห ‘‘ทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา’’ติ. ฌามนฺติ ทฑฺฒํ. ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณาทิกา โทมนสฺสเวทนา โสโกติ ตสฺส ปุน ลกฺขณาทโย น วตฺตพฺพา สิยุํ, ตถาปิ โทมนสฺสวิเสสตฺตา โสกสฺส จ วิสิฏฺา ลกฺขณาทโย วตฺตพฺพาติ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิมาห. วิสารรหิตํ อนฺโต เอว สงฺกุจิตํ จินฺตนํ, สุกฺขนํ วา อนฺโตนิชฺฌานํ. ปรินิชฺฌายนํ ทหนํ. าติพฺยสนาทิอนุรูปํ โสจนํ อนุโสจนํ, ตํ ตํ วา คุณํ โทสฺจ อนุคนฺตฺวา โสจนํ ตปฺปนํ อนุโสจนํ.

ชวนกฺขเณติ มโนทฺวารชวนกฺขเณ. ตถา หิ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺตกา เม’’ติอาทิมาห. กายวิฺาณาทิวีถิยมฺปิ ปน ชวนกฺขเณ โทมนสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ เอว. เตเนว ‘‘ชวนกฺขเณ จา’’ติ อาห. อฺถา กายิกเจตสิกทุกฺขานํ กายวตฺถุกมโนทฺวารปฺปวตฺตานเมว ปจฺจโยติ คณฺเหยฺย ตตฺถ วิเสเสน กายิกเจตสิกสทฺทปฺปวตฺติโต.

ตุชฺชตีติ ‘‘ตุทตี’’ติ วตฺตพฺเพ พฺยตฺตยวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๕. อาเทวนฺติ เอเตนาติ อาเทโวติ อาเทวน-สทฺทํ กตฺวา อสฺสุวิโมจนาทิวิการํ อาปชฺชนฺตานํ ตพฺพิการาปตฺติยา โส สทฺโท กรณภาเวน วุตฺโตติ. วีหิปลาปาทโย วิย ตุจฺฉํ วจนํ ปลาโป. คุณโทเส กิตฺเตติ โพเธตีติ คุณโทสกิตฺตนรโส ลาลปฺป-สทฺโท. อตฺถานตฺเถ หิริยิตพฺพชเน จ อวิจาเรตฺวา ปุคฺคลสฺส สมฺภมภาโว หุตฺวา ปริเทวน-สทฺโท อุปฏฺาตีติ ‘‘สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต, โสกวตฺถุอวิฆาเตน วา สมฺภโม, น อุตฺตาสสมฺภโม, โส จ ปริเทวน-สทฺเทน ปากโฏ โหตีติ ปริเทโว ‘‘สมฺภมปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต.

โสกาภิภูโต ปริเทวนนิมิตฺตํ มุฏฺิโปถนาทีนิ กโรติ, ปริเทวนนิมิตฺตเมว จ าติอพฺภตฺถงฺคมนาทีนิ จินฺเตตีติ ปริเทวสฺส ทุกฺขโทมนสฺสานํ วตฺถุภาโว วุตฺโต.

ภิยฺโยติ เยน วินา น โหติ, ตโต ปริเทวสมุฏฺาปกโทมนสฺสโต, ปุพฺเพ วุตฺตทุกฺขโต วา ภิยฺโย, กณฺโฏฺตาลุอาทิโสสชโตปิ วา ภิยฺโยติ อฺฺจ กายิกํ เจตสิกํ ตํนิทานทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ.

ทุกฺขโทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๖-๗. กายิกํ ทุกฺขํ กายิกสฺส ทุกฺขสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโยติ ‘‘ทุกฺขิตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ น ลภามีติ พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ ทุกฺขสฺส โทมนสฺสวตฺถุตา โหติ.

อตฺตโน ปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย ‘‘ปีเฬตี’’ติ วุตฺตํ กายิกทุกฺขํ, ตทุปนิสฺสยโต วา.

อาวฏฺฏนฺตีติ ปริวฏฺฏนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ ปพฺภาเร ขิตฺตตฺถมฺโภ วิย ลุธนฺติ. มูลจฺฉินฺนรุกฺโข วิย ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, ปริทยฺหมานจิตฺตา ปุริมโทมนสฺสุปนิสฺสยวเสน จินฺเตนฺติ, วิคเต โทมนสฺเส ตถาจินฺตนํ นตฺถีติ.

อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๘. สพฺพวิสยปฺปฏิปตฺตินิวารณวเสน สมนฺตโต สีทนํ สํสีทนํ, อุฏฺเตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยตากรณวเสน อติพลวํ, วิรูปํ วา สีทนํ วิสีทนํ. อฺํ วิสยํ อคนฺตฺวา าติพฺยสนาทีสุ วิรูโป อาสงฺโค ตตฺเถว อวพนฺธตา พฺยาสตฺติ. นิตฺถุนนกรณโต นิตฺถุนนรโส. วิสีทนํ วิสาโท.

สยํ น ทุกฺโข โทสตฺตา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนธมฺมนฺตรตฺตา วา. เย ปน โทมนสฺสเมว อุปายาโสติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘อุปายาโส ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สมฺปยุตฺโต, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๔๙) อิมาย ปาฬิยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. วิสาทปฺปตฺติยา สุขทุกฺขการณํ อคณยิตฺวา ทุกฺขฏฺานาทีนิ กโรนฺตานํ อุปายาโส กายิกทุกฺขสฺส วตฺถุ โหติ, วิสาทนวเสเนว าติวินาสาทีนิ จินฺเตนฺตานํ โทมนสฺสสฺส. อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเยว อุปายาโส โทมนสฺสสมฺปโยคโต จิตฺตํ ปริทหติ, อวิปฺผาริกตากรณวเสน กายํ วิสาเทติ, ตทุภยกรเณเนว ตโต ปรํ ตํนิมิตฺตํ กายิกํ เจตสิกฺจ อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ชนยตีติ ทุกฺโข วุตฺโต.

อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๙. น อปฺปิยนฺตีติ น คมิยนฺติ, น ปเวสียนฺตีติ อตฺโถ. อนตฺถนฺติ พฺยสนํ, ทุกฺขํ วา. อหิตนฺติ ตสฺส เหตุํ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อตฺถํ น กาเมนฺตีติ อนตฺถกามาติอาทิ อสมตฺถสมาโสปิ โยชิโต. ‘‘อสูริยปสฺสานิ มุขานี’’ติอาทีสุ วิย หิ เยน สมาโส, น ตสฺสายํ ปฏิเสธโก -กาโรติ. ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ นิพฺภเย โยคกฺเขม-สทฺโท นิรุฬฺโห ทุกฺขโยคโต เขมตฺตา.

สงฺคติอาทีสุ สงฺขารวเสน ยํ ลพฺภติ, ตํ คเหตพฺพํ. น หิ สงฺขารานํ านนิสชฺชาทโย โภชนาทิกิจฺเจสุ วา สหกรณํ วิชฺชตีติ ปจฺฉิมทฺวยํ ตทตฺถวเสน ลพฺภตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. ยํ ลพฺภตีติ วา ยํ อตฺถชาตํ ลพฺภตีติ อตฺโถ. เตน ยถา ลพฺภติ สงฺคติอาทีสุ อตฺโถ, ตถา โยเชตพฺโพ. ปุคฺคลสฺส หิ สงฺคติ คนฺตฺวา สงฺขาเรหิ สํโยโค โหติ, อาคเตหิ จ เตหิ, ปุคฺคลสฺส จ อตฺตโน านาทีสุ สงฺขาเรหิ สหภาโว โหติ, สพฺพกิริยาสุ จ มิสฺสีภาโวติ. อนตฺถภาโว อุปทฺทวภาโว.

อนิฏฺานํ อาปาถคมนมตฺตํ ตํคหณมตฺตฺจ อปฺปิยสมฺปโยโค, น ปน ปถวิผสฺสาทโย วิย อปฺปิยสมฺปโยโค นาม เอโก ธมฺโม อตฺถีติ อาห ‘‘โส อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถี’’ติ. อนิฏฺานิ กณฺฏกาทีนิ อมิตฺตา จ อุสุอาทีหิ วิชฺฌนาทิทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ.

อิธาติ อิมสฺมึ โลเก ทุกฺขํ โหตีติ วา อิธ อิมสฺมึ ทุกฺขสจฺจนิทฺเทเส ทุกฺโข วุตฺโตติ วา โยเชตพฺพํ.

ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๐. มินนฺตีติ นาฬิยาทีสุ ธฺํ วิย อนฺโต ปกฺขิปนฺติ, น พหิ กโรนฺตีติ อตฺโถ. อมา-สทฺโท สหภาวทีปโก. ายนฺติ วา อชฺฌตฺติกาอิจฺเจว. าติพฺยสนาทิโก หุตฺวา อุปฏฺาตีติ พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน. โสกุปฺปาทเนเนว สรีรํ โสเสนฺติ, กิสํ กโรนฺติ, อกิสมฺปิ นิโรชตากรเณน มิลาเปนฺติ, ตโต จ กายิกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ ตทุปฺปาทกตา วุตฺตา.

โสกสรสมปฺปิตาติ เอเตน เจตสิกทุกฺขํ ทสฺเสติ, วิตุชฺชนฺตีติ เอเตน กายิกํ ทุกฺขํ.

อิจฺฉานิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๑. ยสฺมึ กาเล ชาติยา น อาคนฺตพฺพํ, ตํ กาลํ คเหตฺวา อาห ‘‘ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมน’’นฺติ. ยมฺปีติ เยนปีติ อตฺโถ วุตฺโต. ยทาปิ ปน ยํ-สทฺโท ‘‘อิจฺฉ’’นฺติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทาปิ อลาภวิสิฏฺา อิจฺฉา วุตฺตา โหติ. ยทา ‘‘น ลภตี’’ติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทา อิจฺฉาวิสิฏฺโ อลาโภ วุตฺโต โหติ. โส ปนตฺถโต อฺโ ธมฺโม นตฺถิ, ตถาปิ อลพฺภเนยฺยอิจฺฉาว วุตฺตา โหติ. อปาปุณิตพฺเพสุ ปวตฺตตฺตา เอว ‘‘อปฺปตฺติปจฺจุปฏฺานา’’ติ วุตฺตา. ยตฺถ หิ สา อิจฺฉา ปวตฺตา, ตํ วตฺถุํ อปาปุณนฺตี หุตฺวา คยฺหตีติ.

ฉินฺนภินฺนคเณนาติ นิลฺลชฺเชน ธุตฺตคเณน, กปฺปฏิกคเณน วา.

วิฆาตมยนฺติ จิตฺตวิฆาตมยํ โทมนสฺสํ จิตฺตวิฆาตโต เอว อุปฺปนฺนํ อุพฺพนฺธนชราติสาราทิกายิกํ ทุกฺขฺจ. อิจฺฉิตาลาภนฺติ อลพฺภเนยฺยอิจฺฉเมว วทติ.

อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒. วิตฺถิณฺณสฺส ทุกฺขสฺส เอตฺตกนฺติ ทสฺสนํ ทุกฺขสฺส สงฺเขโป, ตํ กาตุํ น สกฺกา วิตฺถารสฺส อนนฺตตฺตา. ทุกฺขวิตฺถารคตํ ปน เทสนาวิตฺถารํ ปหาย ยตฺถ สพฺโพ ทุกฺขวิตฺถาโร สโมธานํ คจฺฉติ, ตตฺถ เทสนาย ววตฺถานํ สงฺเขโป, ตํ กาตุํ สกฺกา ตาทิสสฺส วตฺถุโน สพฺภาวา.

เทสํ ชานนฺโต มคฺคกฺขายิกปุริโส เทสโก. ภควาปิ ทุกฺขสฺส เทสโก. ‘‘ทุกฺขนฺตเทสเกนา’’ติ วา ปาโ, ทุกฺขนฺตกฺขายิโกติ อตฺโถ.

ปาวกาทโย ยถา อินฺธนาทีนิ พาเธนฺติ, เอวํ พาธยมานา. มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตนาติ อิมินา อติปากเฏน ชาติชราทุกฺขวิฆาตชโสกาทโย ทสฺเสติ. ตโตติ ปริเทวโต อุทฺธํ. กณฺ โสสาทิ สนฺธิ พนฺธจฺเฉทนาทิ ชนก ธาตุกฺโขภ สมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ. เยสุ เกสุจีติ ติสฺสสฺส วา ผุสฺสสฺส วา อุปาทานกฺขนฺเธสุ สพฺพมฺปิ จกฺขุโรคาทิทุกฺขํ สพฺพสตฺตคตํ เอวํปการเมวาติ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโตติ อตฺโถ.

ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๓. อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘‘ปุนพฺภวกรณํ ปุโนพฺภโว’’ติอาห. ‘‘มโนสมฺผสฺโส’’ติ เอตฺถ มโน วิย จ ปุริมปทสฺส โอการนฺตตา ทฏฺพฺพา. อถ วา สีลฏฺเน อิก-สทฺเทน คมิยตฺถตฺตา กิริยาวาจกสฺส สทฺทสฺส อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโก’’ติ. ‘‘ตทฺธิตา’’อิติ พหุวจนนิทฺเทสา วิจิตฺตตฺตา วา ตทฺธิตานํ อภิธานลกฺขณตฺตา วา ‘‘ปุนพฺภวํ เทตี’’ติอาทีสุ อตฺเถสุ โปโนพฺภวิกสทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ กมฺมสหชาตา ปุนพฺภวํ เทติ, กมฺมสหายภูตา ตทสหชาตา ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ทุวิธาปิ ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตติ. เตเนวาห ‘‘ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปี’’ติอาทิ. โปโนพฺภวิกาเยวาติ นามํ ลภตีติ ปุนพฺภวํ ทายิกาปิ อทายิกาปิ ปุนพฺภวํ เทติจฺเจว โปโนพฺภวิกาติ สมานวิปากาติ นามํ ลภติ สมานสภาวตฺตา ตทานุภาวตฺตา จ. เอวํ อิตเรสุ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อุปธิมฺหิ ยถานิพฺพตฺเต อตฺตภาเว วิปจฺจนกมฺมํ เอติสฺสาติ อุปธิเวปกฺกา. นนฺทนฏฺเน นนฺที, รฺชนฏฺเน ราโค. โย จ นนฺทิราโค, ยา จ ตณฺหา, อุภยเมตํ เอกตฺถํ, พฺยฺชนเมว นานนฺติ ตณฺหา ‘‘นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตํ คตา’’ติ วุตฺตา. ราคสมฺพนฺเธน ‘‘อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. รูปารูปภวราโค วิสุํ วกฺขตีติ กามภเว เอว ภวปตฺถนาอุปฺปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ตสฺมึ ตสฺมึ ปิยรูเป ปมุปฺปตฺติวเสน ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตา, ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ‘‘นิวิสตี’’ติ, ปริยุฏฺานานุสยวเสน วา อุปฺปตฺตินิเวสา โยเชตพฺพา. สมฺปตฺติยนฺติ มนุสฺสโสภคฺเค เทวตฺเต จ. อตฺตโน จกฺขุนฺติ สวตฺถุกํ จกฺขุมาห, สปสาทํ วา มํสปิณฺฑํ. วิปฺปสนฺนปฺจปสาทนฺติ ปริสุทฺธนีลปีตโลหิตกณฺหโอทาตวณฺณปสาทํ. รชตปนาฬิกํ วิย ฉิทฺทํ อพฺภนฺตเร โอทาตตฺตา. ปามงฺคสุตฺตํ วิย ลมฺพกณฺณพทฺธํ. ตุงฺคา อุจฺจา ทีฆา นาสิกา ตุงฺคนาสิกา, เอวํ ลทฺธโวหารํ อตฺตโน ฆานํ. ‘‘ลทฺธโวหารา’’ติ วา ปาโ. ตสฺมึ สติ ตุงฺคา นาสิกา เยสํ, เต ตุงฺคนาสิกา. เอวํ ลทฺธโวหารา สตฺตา อตฺตโน ฆานนฺติ โยชนา กาตพฺพา. ชิวฺหํ…เป… มฺนฺติ วณฺณา สณฺานโต กิจฺจโต จ. มนํ…เป… อุฬารํ มฺนฺติ อตีตาทิอตฺถวิจินนสมตฺถํ. อตฺตนา ปฏิลทฺธานีติ อชฺฌตฺตฺจ สรีรคนฺธาทีนิ พหิทฺธา จ วิเลปนคนฺธาทีนิ. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตีติ ยทา อุปฺปชฺชมานา โหติ, ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ สามฺเน คหิตา อุปฺปาทกิริยา ลกฺขณภาเวน วุตฺตา, วิสยวิสิฏฺา ลกฺขิตพฺพภาเวน. น หิ สามฺวิเสเสหิ นานตฺตโวหาโร น โหตีติ. อุปฺปชฺชมานาติ วา อนิจฺฉิโต อุปฺปาโท เหตุภาเวน วุตฺโต. อุปฺปชฺชตีติ นิจฺฉิโต ผลภาเวน ‘‘ยทิ อุปฺปชฺชมานา โหติ, เอตฺถ อุปฺปชฺชตี’’ติ. โส หิ เตน อุปโยชิโต วิย โหติ.

สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๔. อนูหเตติ อนุทฺธเต, อปฺปหีเนติ อตฺโถ.

สีโห เวธเก ปฏิปชฺชติ, น อุสุมฺหิ, สุวาโน เลฑฺฑุมฺหิ ปฏิปชฺชติ, น ปหารเก. ขยคมนวเสน วิรชฺชติ, อปฺปวตฺติคมนวเสน นิรุชฺฌติ. อนเปกฺขตาย จชนวเสน หานิวเสน จ จชียติ, ปุน ยถา น ปวตฺตติ, ตถา ทูรขิปนวเสน ปฏินิสฺสชฺชียติ, พนฺธนภูตาย โมจนวเสน มุจฺจติ, อสํกิเลสวเสน น อลฺลียติ. อายูหนํ สมุทโย, ตปฺปฏิปกฺขวเสน อนายูหนํ.

อปฺตฺตินฺติ อปฺาปนํ, ‘‘ติตฺตอลาพุ อตฺถี’’ติ โวหาราภาวํ วา. ติตฺตอลาพุวลฺลิยา อปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺโต ปุริโส วิย มคฺโค ทฏฺพฺโพ, ตสฺส ตสฺสา อปฺปวตฺตินินฺนจิตฺตสฺส มูลจฺเฉทนํ วิย มคฺคสฺส นิพฺพานารมฺมณสฺส ตณฺหาปหานํ. ตทาปฺปวตฺติ วิย ตณฺหาย อปฺปวตฺติภูตํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ. ทุติยูปมาย ทกฺขิณทฺวารํ วิย นิพฺพานํ, โจรฆาตกา วิย มคฺโค ทฏฺพฺโพ, ปุริมา วา อุปมา มคฺเคน นิรุทฺธาย ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, ปจฺฉิมา นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธายปิ.

นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๕. อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถนฺติ ติตฺถิเยหิ กปฺปิตสฺส มคฺคสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาภาวํ ปฏิกฺเขเปตุนฺติ อตฺโถ, อฺสฺส วา มคฺคภาวปฏิกฺเขโป อฺมคฺคปฏิกฺเขโป. ปุคฺคลสฺส อริยภาวกรตฺตา อริยํ กโรตีติ อริโย, อริยผลปฏิลาภกรตฺตา อริยํ ลภาเปติ ชเนตีติ อริโย. อตฺตโน กิจฺจวเสน ผลวเสน จ อริยนามลาโภ เอว วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อฏฺ องฺคานิ อสฺสาติ อฺปทตฺถสมาสํ อกตฺวา ‘‘อฏฺงฺคานิ อสฺส สนฺตีติ อฏฺงฺคิโก’’ติ ปทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา.

จตุรงฺคสมนฺนาคตา วาจา ชนํ สงฺคณฺหาตีติ ตพฺพิปกฺขวิรติสภาวา สมฺมาวาจา เภทกรมิจฺฉาวาจาปหาเนน ชเน สมฺปยุตฺเต จ ปริคฺคณฺหนกิจฺจวตี โหตีติ ‘‘ปริคฺคหลกฺขณา’’ติ วุตฺตา. ยถา จีวรกมฺมาทิโก กมฺมนฺโต เอกํ กาตพฺพํ สมุฏฺาเปติ นิปฺผาเทติ, ตํตํกิริยานิปฺผาทโก วา เจตนาสงฺขาโต กมฺมนฺโต หตฺถปาทจลนาทิกํ กิริยํ สมุฏฺาเปติ, เอวํ สาวชฺชกตฺตพฺพกิริยาสมุฏฺาปกมิจฺฉากมฺมนฺตปฺปหาเนน สมฺมากมฺมนฺโต นิรวชฺชสมุฏฺาปนกิจฺจวา โหติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ สมุฏฺาเปนฺโต เอว ปวตฺตตีติ ‘‘สมุฏฺาปนลกฺขโณ’’ติ วุตฺโต. กายวาจานํ ขนฺธสนฺตานสฺส จ สํกิเลสภูตมิจฺฉาอาชีวปฺปหาเนน สมฺมาอาชีโว ‘‘โวทาปนลกฺขโณ’’ติ วุตฺโต.

อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลสา ทิฏฺเกฏฺา อวิชฺชาทโย. ปสฺสตีติ ปกาเสตีติ อตฺโถ. เตเนว หิ องฺเคน ตตฺถ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตตีติ. ตเถวาติ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ.

กิจฺจโตติ ปุพฺพภาเคหิ ทุกฺขาทิาเณหิ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อิธ นิปฺผตฺติโต, อิมสฺเสว วา าณสฺส ทุกฺขาทิปฺปกาสนกิจฺจโต. ตีณิ นามานิ ลภติ กามสงฺกปฺปาทิปฺปหานกิจฺจนิปฺผตฺติโต. สิกฺขาปทวิภงฺเค (วิภ. ๗๐๓ อาทโย) ‘‘วิรติเจตนา สพฺเพ สมฺปยุตฺตธมฺมา จ สิกฺขาปทานี’’ติ วุตฺตาติ ตตฺถ ปธานานํ วิรติเจตนานํ วเสน ‘‘วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปี’’ติ อาห. มุสาวาทาทีหิ วิรมณกาเล วา วิรติโย สุภาสิตาทิวาจาภาสนาทิกาเล จ เจตนาโย โยเชตพฺพา, มคฺคกฺขเณ วิรติโยว เจตนานํ อมคฺคงฺคตฺตา เอกสฺส าณสฺส ทุกฺขาทิาณตา วิย เอกาย วิรติยา มุสาวาทาทิวิรติภาโว วิย จ เอกาย เจตนาย สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสาธนสภาวาภาวา สมฺมาวาจาทิภาวาสิทฺธิโต, ตํสิทฺธิยฺจ องฺคตฺตยตฺตาสิทฺธิโต จ.

ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิ เอวาติ ยทิปิ สมาธิอุปการกานํ อภินิโรปนานุมชฺชนสมฺปิยายนพฺรูหนสนฺตสุขานํ วิตกฺกาทีนํ วเสน จตูหิ ฌาเนหิ สมฺมาสมาธิ วิภตฺโต, ตถาปิ วายาโม วิย อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิจตุวายามกิจฺจํ, สติ วิย จ อสุภาสุขานิจฺจานตฺเตสุ กายาทีสุ สุภาทิสฺาปหานจตุสติกิจฺจํ, เอโก สมาธิ จตุกฺกชฺฌานสมาธิกิจฺจํ น สาเธตีติ ปุพฺพภาเคปิ ปมชฺฌานสมาธิจิตฺเต ฌานสมาธิ ปมชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปิ, ตถา ปุพฺพภาเคปิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิจิตฺเต ฌานสมาธิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปีติ อตฺโถ.

วจีเภทสฺส อุปการโก วิตกฺโก สาวชฺชานวชฺชวจีเภทนิวตฺตนปวตฺตนกราย สมฺมาวาจายปิ อุปการโก เอวาติ ‘‘สฺวาย’’นฺติอาทิมาห. วจีเภทนิยามิกา วาจา กายิกกิริยานิยามกสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส อุปการิกา. อิทํ วีริยนฺติ จตุสมฺมปฺปธานวีริยํ. คติโยติ นิปฺผตฺติโย, กิจฺจาทิสภาเว วา. สมนฺเวสิตฺวาติ อุปธาเรตฺวา.

ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ อุคฺคณฺหิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺํ กนฺตนฺติ นิโรธมคฺเคสุ นินฺนภาวํ ทสฺเสติ, น อภินนฺทนํ, ตนฺนินฺนภาโวเยว จ ตตฺถ กมฺมกรณํ ทฏฺพฺพํ.

กิจฺจโตติ ปริฺาทิโต. อารมฺมณปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวธมาห. สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อุคฺคหาทิปฏิเวโธ จ ปฏิเวโธว, น จ โส โลกุตฺตโรติ? น, เกวเลน ปฏิเวธ-สทฺเทน อุคฺคหาทิปฏิเวธานํ อวจนียตฺตา, ปฏิเวธนิมิตฺตตฺตา วา อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตํ ทุกฺขาทีสุ ปุพฺพภาเค าณํ ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ วุตฺตํ, น ปฏิเวธตฺตา, ปฏิเวธภูตเมว ปน าณํ สนฺธายาห ‘‘สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตร’’นฺติ. อุคฺคหปริปุจฺฉาาณานิปิ สวนาเณ เอว อวโรธํ คจฺฉนฺตีติ ‘‘สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิย’’นฺติ ติวิธเมว าณมาห. อุคฺคหาทีหิ สจฺจปริคฺคณฺหนํ ปริคฺคโห.

ปโยโคติ กิริยา, วายาโม วา. ตสฺส มหนฺตตรสฺส อิจฺฉิตพฺพตํ ทุกฺกรตรตฺจ อุปมาหิ ทสฺเสติ ‘‘ภวคฺคคหณตฺถ’’นฺติอาทินา.

ปทฆาตนฺติ เอตฺถ คตมคฺโค ‘‘ปท’’นฺติ วุจฺจติ. เยน จุปาเยน การเณน กามวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, โส ตสฺส คตมคฺโคติ ตสฺส ฆาโต ปทฆาโต. อุสฺสุกฺกาเปตฺวาติ อุทฺธํ อุทฺธํ สนฺติวิเสสยุตฺตํ กตฺวา, วฑฺเฒตฺวาติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ วิภตฺเตสูติ กตรปาฬิยํ? ธมฺมสงฺคเห ตาว อฏฺ กสิณานิ ทส อสุภา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา จตฺตาริ อารุปฺปานิ วิภตฺตานิ, อาคเมสุ ทส อนุสฺสติโย อาหาเร ปฏิกูลสฺา จตุธาตุววตฺถานนฺติ อิมานิ จาติ ตตฺถ ตตฺถ วิภตฺตํ. อิเมสุ ตีสูติ กามาทีสุ ตีสุ าเนสุ.

มิจฺฉาวาจาสงฺขาตายาติ เอเตน เอกาย เจตนาย ปหาตพฺพเอกตฺตํ ทสฺเสติ. อิธ อริยสาวโก สกลฺยาณปุถุชฺชนโก เสกฺโข. กายทฺวารวีติกฺกมาติ อาชีวเหตุกโต ปาณาติปาตาทิโต วิสุํ วิสุํ วิรมณํ โยเชตพฺพํ.

อยํ ปนสฺสาติ มคฺคภาเวน จตุพฺพิธมฺปิ เอกตฺเตน คเหตฺวา อสฺส มคฺคสฺส อยํ ฌานวเสน สพฺพสทิสสพฺพาสทิสเอกจฺจสทิสตา วิเสโส. ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหตีติ อิธ ปาทกชฺฌานนิยามํ ธุรํ กตฺวา อาห, อฏฺสาลินิยํ ปน วิปสฺสนานิยามํ ตตฺถ สพฺพวาทาวิโรธโต, อิธ ปน สมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสยวาทนิวตฺตนโต ปาทกชฺฌานนิยามํ. วิปสฺสนานิยาโม ปน สาธารณตฺตา อิธาปิ น ปฏิกฺขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อฺเ จาจริยวาทา วกฺขมานา วิภชิตพฺพาติ ยถาวุตฺตเมว ตาว ปาทกชฺฌานนิยามํ วิภชนฺโต อาห ‘‘ปาทกชฺฌานนิยาเมน ตาวา’’ติ.

อารุปฺเป จตุกฺกปฺจก…เป… วุตฺตํ อฏฺสาลินิยนฺติ อธิปฺปาโย. นนุ ตตฺถ ‘‘อารุปฺเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, น ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌาน’’นฺติ? สจฺจํ, เยสุ ปน สํสโย อตฺถิ, เตสํ อุปฺปตฺติทสฺสเนน, เตนตฺถโต จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตเมว โหตีติ เอวมาหาติ เวทิตพฺพํ. สมุทายฺจ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ตฺจ โลกุตฺตรํ, น โลกิย’’นฺติ อาห. จตุตฺถชฺฌานเมว หิ โลกิยํ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, น จตุกฺกํ ปฺจกฺจาติ. เอตฺถ กถนฺติ ปาทกชฺฌานสฺส อภาวา กถํ ทฏฺพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ ตชฺฌานิกํ ปมผลาทึ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย, ติกจตุกฺกชฺฌานิกํ ปน มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺถุปฺปนฺนสฺส อรูปชฺฌานํ ตชฺฌานิกํ ผลฺจ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนาย อฺฌานิกาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ฌานงฺคาทินิยามิกา ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺติ ปาทกํ, น สมฺมสิตพฺพาติ ผลสฺสปิ ปาทกตา ทฏฺพฺพา.

ทุกฺขาณาทีนํ รูปาทิฉฬารมฺมณตฺตา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีนํ กสิณาทิตํตํกุสลารมฺมณารมฺมณตฺตา สมฺมาวาจาทีนํ องฺคานํ ตํตํวิรมิตพฺพาทิอารมฺมณตฺตา ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ อาห. ตทนุรูโปติ อวิปฺปฏิสารกรสีลํ วายามสฺส วิเสสปจฺจโยติ สีลานุรูปตา วายามสฺส วุตฺตา สมฺปยุตฺตสฺสปิ, สมฺปยุตฺตสฺเสว จ วจนโต ‘‘สีลภูมิยํ ปติฏฺิตสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปติฏฺมานสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เจตโส อสมฺโมโสติ ‘‘เอการกฺโข’’ติ เอตฺถ วุตฺเตน สตารกฺเขน เจตโส รกฺขิตตา. เตนาห ‘‘อิติ…เป… สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺสา’’ติ.

อาสวกฺขยาณสฺส วิชฺชาภาโว วุตฺโตติ อาสวกฺขยสงฺขาเต มคฺเค ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิเต ปฺากฺขนฺโธ วิชฺชา, สีลสฺส จตุนฺนฺจ ฌานานํ จรณภาโว วุตฺโตติ อิตเร ทฺเว ขนฺธา จรณํ. ยนฺติ เอเตน นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ ยานํ, วิปสฺสนาว ยานํ วิปสฺสนายานํ. สีลํ สมาธิสฺส วิเสสปจฺจโย, สมาธิ วิปสฺสนายาติ สมถสฺส อุปการตฺตา สีลกฺขนฺโธ จ สมถยาเนน สงฺคหิโต. วิปสฺสนายาเนน กาเมสุ อาทีนวํ วิภาเวนฺโต สมถยาเนน นิรามิสํ ฌานสุขํ อปริจฺจชนฺโต อนฺตทฺวยกุมฺมคฺคํ วิวชฺเชติ. ปฺา วิย โมหสฺส, สีลสมาธโย จ โทสโลภานํ อุชุวิปจฺจนีกา อโทสาโลเภหิ สาเธตพฺพตฺตา. สีลสมาธิปฺาโยคโต อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ. สีลาทีนิ หิ สาสนสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ. ยสฺมึ ิโต มคฺคฏฺโ ผลฏฺโ จ อริโย โหติ, ตํ มคฺคผลสงฺขาตํ ขนฺธตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ อริยภูมิ.

มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๐๖-๒๑๔. อริยสจฺจ-สทฺโท สมุทเย วตฺตมาโน ปริฺเยฺยภาวรหิเต เอกนฺตปหาตพฺเพ ตณฺหาสงฺขาเต สมุทเย ปวตฺตติ, น ปหาตพฺพปริฺเยฺเยสุ อวเสสกิเลสาวเสสากุสเลสุ อปฺปหาตพฺเพสุ จ สาสวกุสลมูลาวเสสสาสวกุสเลสูติ สปฺปเทโส ตตฺถ สมุทโย โหติ, เกวลํ สจฺจสทฺเท นิปฺปเทโสติ อาห ‘‘นิปฺปเทสโต สมุทยํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. ทุกฺขนิโรธา ปน อริยสจฺจเทสนายํ ธมฺมโต นิปฺปเทสา เอว. น หิ ตโต อฺโ ธมฺโม อตฺถิ, โย สจฺจเทสนายํ ทุกฺขํ นิโรโธติ จ วตฺตพฺโพ สิยา, มคฺโคปิ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกวาเรสุ อปุพฺโพ นตฺถิ, ตสฺมา สมุทยเมว ‘‘นิปฺปเทสโต ทสฺเสตุ’’นฺติ วทติ ตสฺส สพฺพตฺถ ตีสุปิ วาเรสุ อปุพฺพสฺส ทสฺสิตตฺตา. อปุพฺพสมุทยทสฺสนตฺถายปิ หิ สจฺจเทสนายํ ‘‘ตตฺถ กตโม ทุกฺขสมุทโย? ตณฺหา’’ติ วจนํ เกวลาย ตณฺหาย สจฺจ-สทฺทสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. เทสนาวเสน ปน ตํ ตํ สมุทยํ เปตฺวา ทุกฺขํ ตสฺส ตสฺส ปหานวเสน นิโรโธ อฏฺงฺคิกปฺจงฺคิกสพฺพโลกุตฺตรกุสลวเสน มคฺโค จ อริยสจฺจเทสนายํ น วุตฺโตติ ทุกฺขาทีนิ จ ตตฺถ สปฺปเทสานิ ทสฺสิตานิ โหนฺตีติ ตานิ จ นิปฺปเทสานิ ทสฺเสตุํ สจฺจเทสนา วุตฺตาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปจฺจยสงฺขาตนฺติ กมฺมกิเลสวเสน ชาติอาทิทุกฺขสฺส มูลภูตนฺติ อตฺโถ.

นิโรธสจฺจํ…เป… ปฺจหากาเรหิ นิทฺทิฏฺนฺติ อริยสจฺจเทสนโต สจฺจเทสนาย วิเสสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘ติณฺณนฺนฺจ กุสลมูลานํ อวเสสานฺจ สาสวกุสลานํ ปหาน’’นฺติ อิทํ เตสํ ปจฺจยานํ อวิชฺชาตณฺหาอุปาทานานํ ปหานวเสน, อวิชฺชาทีสุ วา ปหีเนสุ เตสํ อปฺปวตฺติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ กุสลา ปหาตพฺพาติ. ปหานนฺติ จ มคฺคกิจฺจวเสน ตทธิคมนียํ นิโรธํ ทสฺเสติ, นิโรธสฺเสว วา ตณฺหาทีนํ อปฺปวตฺติภาโว ปหานนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ยทิปิ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหติ, เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑) โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อฏฺงฺคิกมคฺคปาริปูริยา อุปนิสฺสยทสฺสนตฺถํ อิทํ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนา’’ติ วจนํ กายกมฺมาทิสุทฺธิยา ทูรตรุปนิสฺสยตํ, จกฺขาทีสุ อสารชฺชนฺตสฺส อสํยุตฺตสฺส อสมฺมูฬฺหสฺส อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต ตาเยว วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อายตึ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุ อปจยํ คจฺฉนฺเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ วิวฏฺฏนวเสน, โปโนพฺภวิกตณฺหาย ปหียมานาย กิเลสทูรีภาเวน, กายิกเจตสิกทรถสนฺตาปปริฬาเหสุ ปหียมาเนสุ ปสฺสทฺธกายจิตฺตวเสน กายิกเจตสิกสุเข ปฏิสํเวทิยมาเน ‘‘ยา ตถาภูตสฺส ทิฏฺิ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๔๓๑) วุตฺตานํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตานํ ปฺจนฺนํ สมฺมาทิฏฺาทีนํ องฺคานํ อาสนฺนตรุปนิสฺสยตฺจ ทสฺเสตีติ อาสนฺนตรุปนิสฺสยวเสน ปฺจงฺคิกํ มคฺคํ สุขํ พุชฺฌนฺตานํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิกมคฺคเทสนาย ปวตฺตตํ ทีเปติ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพว โข…เป… สุปริสุทฺโธ โหตีติ วจนโต’’ติอาทิ. เอวมิทํ วจนโตติ นิสฺสกฺกวจนํ เทสนุปายสฺส าปกนิทสฺสนํ โหติ, วจนโตติ วา อตฺตโน วจนานุรูปํ ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค ปฏิปทา เอวาติ ภควตา เทสิโตติ อตฺโถ. กตฺถาติ? เทวปุเร, ตสฺมา ตํ เทสิตนยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ ธมฺมสงฺคาหเกหิ. อถ วา ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺสา’’ติ วจเนเนว อชฺฌาสยวิเสสการณนิทสฺสเกน ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ปฺจงฺคิโก มคฺโคปิ ปฏิปทา เอวาติ เทสิโต โหตีติ อาห ‘‘ปุพฺเพว โข ปน…เป… วจนโต ปน…เป… เทสิโต’’ติ, ตสฺมา ตํ สุตฺตนฺเต เทสิตนยํ ทสฺเสตุํ ปฺจงฺคิกวาโรปิ นิทฺทิฏฺโ ภควตา เทวปุเรติ อตฺโถ.

ฌาเนหิ เทสนาปเวโส, ภาวนาปเวโส วา ฌานาภินิเวโส. เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส จตุนฺนํ จตุนฺนํ นยสหสฺสานํ ทสฺสนํ คณนาสุขตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ปน ปาฬิ ิตา, ตถา เอเกกิสฺสา ปฏิปทาย สุฺตาทีสุ จ ปฺจ ปฺจ โกฏฺาเส โยเชตฺวา ปาฬิคมนํ กตนฺติ วิฺายติ. ตตฺถ อฏฺงฺคิกวาเร ทุติยชฺฌานาทีสุ ตสฺมึ สมเย สตฺตงฺคิโก มคฺโค โหตีติ โยชนา กาตพฺพา, สพฺพสงฺคาหิกวาเร จ ยถา วิชฺชมานธมฺมวเสนาติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๒๑๕. เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสูติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ สุตฺตนฺตภาชนีเย ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทานิทฺเทเส โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก มคฺโค วุตฺโต. ตสฺส หิ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๐๕) ‘‘จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘ทุกฺเข าณ’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหตี’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา, ตถา สมฺมาสงฺกปฺปาทีนฺจ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกตา ทสฺสิตา ‘‘อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกฺขเณ เอกกฺขณา เอการมฺมณา’’ติอาทินา จาติ? สจฺจเมตํ, เอวํ ปน อาคมนวเสน ตตฺถาปิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานทสฺสนาทิมุเขน อริโยว อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทสฺสิโต. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว าณํ โหตี’’ติ มคฺคาณสฺส เอกสฺเสว ทุกฺขาณาทิตา, ‘‘มคฺคกฺขเณ ปน…เป… เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ, อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นามา’’ติอาทินา มคฺคสงฺกปฺปาทีนํ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา จ นิทฺธาริตา, ปาฬิยฺจ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อุทฺทิสิตฺวา ตเมว นิทฺทิสิตุํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน สุตฺตนฺตภาชนีเยปิ ทฺวินฺนํ โลกิยตา, ทฺวินฺนํ โลกุตฺตรตา วุตฺตา ‘‘เอวํ ปุริเมสุปิ ทฺวีสูติ เอเตนาติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อินฺทฺริยวิภงฺโค

๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๑๙. จกฺขุทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ จกฺขุทฺวารภาเว ตํทฺวาริเกหิ อตฺตโน อินฺทภาวํ ปรมิสฺสรภาวํ การยตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เต รูปคฺคหเณ อตฺตานํ อนุวตฺเตติ, เต จ ตํ อนุวตฺตนฺตีติ. เอส นโย อิตเรสุปิ. เยน ตํสมงฺคีปุคฺคโล ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา วา อฺาตาวิโน โหนฺติ, โส อฺาตาวิภาโว ปรินิฏฺิตกิจฺจชานนํ.

กตฺถจิ ทฺเวติ ‘‘ทฺวินฺนํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ขีณาสโว ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ…เป… อริยาย จ ปฺาย อริยาย จ วิมุตฺติยา. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, อริยา ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส อริยา วิมุตฺติ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖) ทฺเว, ‘‘ติณฺณํ โข, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน ภิกฺขุนา อฺา พฺยากตา…เป… สตินฺทฺริยสฺส สมาธินฺทฺริยสฺส ปฺินฺทฺริยสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๙), ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓), ‘‘ตีณิมานิ…เป… อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๒) จ เอวมาทีสุ ตีณิ, ‘‘ปฺจิมานิ, พฺราหฺมณ, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ…เป… จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… กายินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๒), ‘‘ปฺจิ…เป… สุขินฺทฺริยํ…เป… อุเปกฺขินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๕๐๑ อาทโย), ‘‘ปฺจิ…เป… สทฺธินฺทฺริยํ…เป… ปฺินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๘๖ อาทโย) จ เอวมาทีสุ ปฺจ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ทุกาทิวจนํ นิสฺสรณุปายาทิภาวโต ทุกาทีนํ. สพฺพานิ ปน อินฺทฺริยานิ อภิฺเยฺยานิ, อภิฺเยฺยธมฺมเทสนา จ อภิธมฺโมติ อิธ สพฺพานิ เอกโต วุตฺตานิ.

ขีณาสวสฺส ภาวภูโต หุตฺวา อุปฺปตฺติโต ‘‘ขีณาสวสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วุตฺตํ.

ลิงฺเคติ คเมติ าเปตีติ ลิงฺคํ, ลิงฺคียติ วา เอเตนาติ ลิงฺคํ, กึ ลิงฺเคติ, กิฺจ วา ลิงฺคียตีติ? อินฺทํ อินฺโท วา, อินฺทสฺส ลิงฺคํ อินฺทลิงฺคํ, อินฺทลิงฺคสฺส อตฺโถ ตํสภาโว อินฺทลิงฺคฏฺโ, อินฺทลิงฺคเมว วา อินฺทฺริย-สทฺทสฺส อตฺโถ อินฺทลิงฺคฏฺโ. สชฺชิตํ อุปฺปาทิตนฺติ สิฏฺํ, อินฺเทน สิฏฺํ อินฺทสิฏฺํ. ชุฏฺํ เสวิตํ. กมฺมสงฺขาตสฺส อินฺทสฺส ลิงฺคานิ, เตน จ สิฏฺานีติ กมฺมชาเนว โยเชตพฺพานิ, น อฺานิ. เต จ ทฺเว อตฺถา กมฺเม เอว โยเชตพฺพา, อิตเร จ ภควติ เอวาติ ‘‘ยถาโยค’’นฺติ อาห. เตนาติ ภควโต กมฺมสฺส จ อินฺทตฺตา. เอตฺถาติ เอเตสุ อินฺทฺริเยสุ. อุลฺลิงฺเคนฺติ ปกาเสนฺติ ผลสมฺปตฺติวิปตฺตีหิ การณสมฺปตฺติวิปตฺติอวโพธโต. ‘‘โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๓๕) โคจรกรณมฺปิ อาเสวนาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘กานิจิ โคจราเสวนายา’’ติ. ตตฺถ สพฺเพสํ โคจรีกาตพฺพตฺเตปิ ‘‘กานิจี’’ติ วจนํ อวิปสฺสิตพฺพานํ พหุลีมนสิกรเณน อนาเสวนียตฺตา. ปจฺจเวกฺขณามตฺตเมว หิ เตสุ โหตีติ. ‘‘ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) ภาวนา ‘‘อาเสวนา’’ติ วุตฺตาติ ภาเวตพฺพานิ สทฺธาทีนิ สนฺธายาห ‘‘กานิจิ ภาวนาเสวนายา’’ติ. อาธิปจฺจํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว, อสติ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเว อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ อตฺตโน ปจฺจยวเสน ปวตฺตมาเนหิ ตํสหิตสนฺตาเน อฺากาเรน อนุปฺปชฺชมาเนหิ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียภาโว, อิมสฺมิฺจตฺเถ อินฺทนฺติ ปรมิสฺสริยํ กโรนฺติจฺเจว อินฺทฺริยานิ. จกฺขาทีสุ ทสฺสิเตน นเยน อฺเสฺจ ตทนุวตฺตีสุ อาธิปจฺจํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

เหฏฺาติ อฏฺสาลินิยํ. อโมโห เอว, น วิสุํ จตฺตาโร ธมฺมา, ตสฺมา อโมหสฺส ปฺินฺทฺริยปเท วิภาวิตานิ ลกฺขณาทีนิ เตสฺจ เวทิตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. เสสานิ อฏฺสาลินิยํ ลกฺขณาทีหิ สรูเปเนว อาคตานิ. นนุ จ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยานํ ตตฺถ ลกฺขณาทีนิ น วุตฺตานีติ? กิฺจาปิ น วุตฺตานิ, โสมนสฺสโทมนสฺสินฺทฺริยานํ ปน วุตฺตลกฺขณาทิวเสน วิฺเยฺยโต เอเตสมฺปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. กถํ? อิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ สุขินฺทฺริยํ, อิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกสฺสาทปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานํ. อนิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ ทุกฺขินฺทฺริยํ, อนิฏฺาการสมฺโภครสํ, กายิกาพาธปจฺจุปฏฺานํ, กายินฺทฺริยปทฏฺานนฺติ. เอตฺถ จ อิฏฺานิฏฺาการานเมว อารมฺมณานํ สมฺโภครสตา เวทิตพฺพา, น วิปรีเตปิ อิฏฺากาเรน อนิฏฺากาเรน จ สมฺโภครสตาติ.

สตฺตานํ อริยภูมิปฏิลาโภ ภควโต เทสนาย สาธารณํ ปธานฺจ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตธมฺมํ ปริฺายา’’ติอาทิ. อฏฺกถายํ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยเทสนกฺกโม วุตฺโต, โส อินฺทฺริยยมกเทสนาย สเมติ. อิธ ปน อินฺทฺริยวิภงฺเค มนินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยํ วุตฺตํ, ตํ ปุริมปจฺฉิมานํ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ อนุปาลกตฺเตน เตสํ มชฺเฌ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยฺจ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขํ. ยาว จ ทุวิธตฺตภาวานุปาลกสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺติ, ตาว ทุกฺขภูตานํ เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺตีติ าปนตฺถํ. เตน จ จกฺขาทีนํ ทุกฺขานุพนฺธตาย ปริฺเยฺยตํ าเปติ. ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตาติ ภาวนามคฺคสมฺปยุตฺตํ อฺินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทสฺสนานนฺตรา หิ ภาวนาติ.

สติปิ ปุเรชาตาทิปจฺจยภาเว อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพเมว กิจฺจํ ‘‘กิจฺจ’’นฺติ อาห ตสฺส อนฺสาธารณตฺตา อินฺทฺริยกถาย จ ปวตฺตตฺตา. ปุพฺพงฺคมภาเวน มนินฺทฺริยสฺส วสวตฺตาปนํ โหติ, นาฺเสํ. ตํสมฺปยุตฺตานิปิ หิ อินฺทฺริยานิ สาเธตพฺพภูตาเนว อตฺตโน อตฺตโน อินฺทฺริยกิจฺจํ สาเธนฺติ เจตสิกตฺตาติ. ‘‘สพฺพตฺถ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพ’’นฺติ อยํ อธิกาโร อนุวตฺตตีติ ทฏฺพฺโพ. อนุปฺปาทเน อนุปตฺถมฺเภ จ ตปฺปจฺจยานํ ตปฺปวตฺตเน นิมิตฺตภาโว อนุวิธานํ. ฉาเทตฺวา ผริตฺวา อุปฺปชฺชมานา สุขทุกฺขเวทนา สหชาเต อภิภวิตฺวา สยเมว ปากฏา โหติ, สหชาตา จ ตพฺพเสน สุขทุกฺขภาวปฺปตฺตา วิยาติ อาห ‘‘ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปน’’นฺติ. อสนฺตสฺส อปณีตสฺสปิ อกุสลตพฺพิปากาทิสมฺปยุตฺตสฺส มชฺฌตฺตาการานุปาปนํ โยเชตพฺพํ, สมานชาติยํ วา สุขทุกฺเขหิ สนฺตปณีตาการานุปาปนฺจ. ปสนฺนปคฺคหิตอุปฏฺิตสมาหิตทสฺสนาการานุปาปนํ ยถากฺกมํ สทฺธาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ, มคฺคสมฺปยุตฺตสฺเสว จ อินฺทฺริยสฺส กิจฺจํ ทสฺสิตํ, เตเนว ผลสมฺปยุตฺตสฺส ตํตํสํโยชนานํเยว ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานกิจฺจตา ทสฺสิตา โหตีติ. สพฺพกตกิจฺจํ อฺาตาวินฺทฺริยํ อฺสฺส กาตพฺพสฺส อภาวา อมตาภิมุขเมว ตพฺภาวปจฺจโย จ โหติ, น อิตรานิ วิย กิจฺจนฺตรปสุตฺจ. เตนาห ‘‘อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จา’’ติ.

๒๒๐. เอวํ สนฺเตปีติ สติปิ สพฺพสงฺคาหกตฺเต วีริยินฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กุสลากุสลวีริยาทีนิ, จกฺขุนฺทฺริยปทาทีหิ สงฺคเหตพฺพานิ กาลปุคฺคลปจฺจยาทิเภเทน ภินฺนานิ จกฺขาทีนิ สงฺคณฺหนฺติจฺเจว สพฺพสงฺคาหกานิ, น ยสฺสา ภูมิยา ยานิ น วิชฺชนฺติ, เตสํ สงฺคาหกตฺตาติ อตฺโถ. เตน จ อวิเสสิตตฺตา สพฺเพสํ สพฺพภูมิกตฺตคหณปฺปสงฺเค ตํนิวตฺตเนน สพฺพสงฺคาหกวจนํ อวิชฺชมานสฺส สงฺคาหกตฺตทีปกํ น โหตีติ ทสฺเสติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๒๒๓. อิธ อนาภฏฺนฺติ เอกนฺตานารมฺมณตฺเตน ภาสิตํ. ‘‘รูปมิสฺสกตฺตา อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ มิสฺสกตฺตา เอว ชีวิตินฺทฺริยํ อนารมฺมเณสุ อสงฺคหิตํ. น หิ อฏฺินฺทฺริยา อนารมฺมณาติ วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ชีวิตินฺทฺริยเอกเทสสฺส ปน อนารมฺมเณสุ รูปธมฺเมสุ สงฺคหิตตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อรูปโกฏฺาเสน ปริตฺตารมฺมณาทิตา อตฺถีติ สิยาปกฺเข สงฺคหิตนฺติ อธิปฺปาโย. อรูปโกฏฺาเสน ปน ปริตฺตารมฺมณาทิตา, รูปโกฏฺาเสน จ นวตฺตพฺพตา อตฺถีติ มิสฺสกสฺส สมุทายสฺเสว วเสน สิยาปกฺเข สงฺคหิตํ, น เอกเทสวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อนารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณาทิภาเวน นวตฺตพฺพํ น โหตีติ. ‘‘รูปฺจ นิพฺพานฺจ อนารมฺมณา, สตฺตินฺทฺริยา อนารมฺมณา’’ติอาทิวจนฺจ อวิชฺชมานารมฺมณานารมฺมเณสุ นวตฺตพฺเพสุ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ, น สารมฺมณสฺเสว นวตฺตพฺพตํ, นวตฺตพฺพสฺส วา สารมฺมณตํ. น หิ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณ นิรุฬฺโห. ยทิปิ สิยา, ‘‘ติสฺโส จ เวทนา รูปฺจ นิพฺพานฺจ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’’ติอาทิ น วุจฺเจยฺย, อถาปิ ปริตฺตารมฺมณาทิสมฺพนฺโธ นวตฺตพฺพ-สทฺโท สารมฺมเณสฺเวว วตฺตติ, ‘‘ทฺวายตนา สิยา ปริตฺตารมฺมณา’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘มนายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘ธมฺมายตนํ สิยา ปริตฺตารมฺมณํ…เป… อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติปิ, ‘‘สิยา อนารมฺมณ’’นฺติปิ วตฺตพฺพํ สิยา. น หิ ปฺหปุจฺฉเก สาวเสสา เทสนา อตฺถีติ. ‘‘อฏฺินฺทฺริยา สิยา อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ เอตฺถ จ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อากิฺจฺายตนกาเล อรูปสฺส รูปสฺส จ อนารมฺมณตฺตา นวตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๒๒๕. ‘‘‘กึวาที ภนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ? ‘วิภชฺชวาที มหาราชา’’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.ตติยสงฺคีติกถา) โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธสาวกา วิภชฺชวาทิโน. เต หิ เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทนฺติ, จีวราทีนํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาวํ วา สสฺสตุจฺเฉทวาเท วา วิภชฺช วทนฺติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีนํ ปนียานํ ปนโต ราคาทิกฺขยสฺส สสฺสตสฺส ราคาทิกายทุจฺจริตาทิอุจฺเฉทสฺส จ วจนโต, น ปน เอกํสพฺยากรณียาทโย ตโย ปฺเห อปเนตฺวา วิภชฺชพฺยากรณียเมว วทนฺตีติ. วิภชฺชวาทีนํ มณฺฑลํ สมูโห วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ, วิภชฺชวาทิโน วา ภควโต ปริสา วิภชฺชวาทิมณฺฑลนฺติปิ วทนฺติ. อาจริเยหิ วุตฺตอวิปรีตตฺถทีปเนน เต อนพฺภาจิกฺขนฺเตน. ‘‘อวิชฺชา ปุฺาเนฺชาภิสงฺขารานํ เหตุปจฺจโย โหตี’’ติอาทึ วทนฺโต กถาวตฺถุมฺหิ ปฏิกฺขิตฺเต ปุคฺคลวาทาทิเก จ วทนฺโต สกสมยํ โวกฺกมติ นาม, ตถา อโวกฺกมนฺเตน. ปรสมยํ โทสาโรปนพฺยาปารวิรเหน อนายูหนฺเตน. ‘‘อิทมฺปิ ยุตฺตํ คเหตพฺพ’’นฺติ ปรสมยํ อสมฺปิณฺเฑนฺเตนาติ เกจิ วทนฺติ.

‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติอาทึ (ม. นิ. ๑.๓๙๖) วทนฺโต สุตฺตํ ปฏิพาหติ นาม, ตถา อปฺปฏิพาหนฺเตน. ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. ๔๑๘, ๔๒๙), ‘‘สุปินนฺเต กโต วีติกฺกโม อาปตฺติกโร โหตี’’ติ จ เอวมาทึ วทนฺโต วินยํ ปฏิโลเมติ นาม, ตพฺพิปริยาเยน ตํ อนุโลเมนฺเตน. ปฏิโลเมนฺโต หิ กมฺมนฺตรํ ภินฺทนฺโต ธมฺมตฺจ วิโลเมติ. สุตฺตนฺเต วุตฺเต จตฺตาโร มหาปเทเส, อฏฺกถายฺจ วุตฺเต สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติมหาปเทเส โอโลเกนฺเตน. ตํโอโลกเนน หิ สุตฺเต วินเย จ สนฺติฏฺติ นาติธาวติ. ธมฺมนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬึ. อตฺถนฺติ ตทตฺถํ. เหตุเหตุผลานิ อิธ นาธิปฺเปตานิ. ‘‘ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปริวตฺติตฺวา ปุน ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณ’’นฺติอาทีหิ อปเรหิปิ ปริยาเยหิ นิทฺทิสนฺเตน. ‘‘สงฺขารา อิมินา ปริยาเยน ภโวติ วุจฺจนฺติ, ตณฺหา อิมินา ปริยาเยน อุปาทาน’’นฺติอาทินา นิทฺทิสนฺเตนาติ วทนฺติ.

สตฺโตติ สตฺตสุฺตาติ วทนฺติ, สตฺตสุฺเสุ วา สงฺขาเรสุ สตฺตโวหาโร. ปจฺจยาการเมว จาติ ปจฺจยากาโร เอว จ, -กาโร ปทสนฺธิกโร.

ตสฺมาติ วุตฺตนเยน อตฺถวณฺณนาย กาตพฺพตฺตา ทุกฺกรตฺตา จ.

ปติฏฺํ นาธิคจฺฉามีติ ยตฺถ ิตสฺส วณฺณนา สุกรา โหติ, ตํ นยํ อตฺตโนเยว าณพเลน นาธิคจฺฉามีติ อตฺโถ. นิสฺสยํ ปน อาจิกฺขนฺโต อาห ‘‘สาสนํ ปนิท’’นฺติอาทิ. อิธ สาสนนฺติ ปาฬิธมฺมมาห, ปฏิจฺจสมุปฺปาทเมว วา. โส หิ อนุโลมปฏิโลมาทินานาเทสนานยมณฺฑิโต อพฺโพจฺฉินฺโน อชฺชาปิ ปวตฺตตีติ นิสฺสโย โหติ. ตทฏฺกถาสงฺขาโต จ ปุพฺพาจริยมคฺโคติ.

‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ อาทรชนเน กึ ปโยชนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถํ กตฺวา, ยถา วา น นสฺสติ, เอวํ อฏฺิคตํ วิย กโรนฺโต อฏฺึ กตฺวา. ปุพฺพกาลโต อปรกาเล ภวํ ปุพฺพาปริยํ. ปมารมฺภาทิโต ปภุติ ขเณ ขเณ าณวิเสสํ กิเลสกฺขยวิเสสฺจ ลภตีติ อตฺโถ.

กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ มูลการณตฺตา อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อวิชฺชา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูลํ. ตตฺถ วลฺลิยา มูเล ทิฏฺเ ตโต ปภุติ วลฺลิยา หรณํ วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูเล ทิฏฺเ ตโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาติ อุปมาสํสนฺทนา น กาตพฺพา. น หิ ภควโต ‘‘อิทเมว ทิฏฺํ, อิตรํ อทิฏฺ’’นฺติ วิภชนียํ อตฺถิ สพฺพสฺส ทิฏฺตฺตา. มูลโต ปภุติ ปน วลฺลิยา หรณํ วิย มูลโต ปภุติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา กตาติ อิทเมตฺถ สามฺมธิปฺเปตํ, โพธเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา โพเธตพฺพภาเวน มูลาทิทสฺสนสามฺฺจ โยเชตพฺพํ.

ตสฺสาติ

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, กุมาโร วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต…เป… รชนีเยหิ, โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป สารชฺชติ, อปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺิตกายสตี จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส. โส ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวํ อนุโรธวิโรธํ สมาปนฺโน ยํ กิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘) –

เอวํ วุตฺตสฺส. เอวํ โสตทฺวาราทีสุปิ. อภิวทโตติ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ วจีเภทกรปฺปตฺตาย พลวตณฺหาย ‘‘อหํ มมา’’ติ อภิวทโต. ตโต พลวติยา โมเจตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อชฺโฌสาย ติฏฺโต. ตโตปิ พลวตี อุปาทานภูตา ตณฺหา นนฺที. เอตฺถ จ อภินนฺทนาทินา ตณฺหา วุตฺตา, นนฺทีวจเนน ตปฺปจฺจยํ อุปาทานํ จตุพฺพิธมฺปิ นนฺทิตาตทวิปฺปโยคตาหิ ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนภาเวหิ จาติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทิกฺจ ตตฺเถว มหาตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๐๒-๔๐๓) วุตฺตํ.

วิปากวฏฺฏภูเต ปฏิสนฺธิปวตฺติผสฺสาทโย กมฺมสมุฏฺานฺจ โอชํ สนฺธาย ‘‘จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา’’ติอาทิ วุตฺตํ, วฏฺฏูปตฺถมฺภกา ปน อิตเรปิ อาหารา ตณฺหาปภเว ตสฺมึ อวิชฺชมาเน น วิชฺชนฺตีติ ‘‘ตณฺหานิทานา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏนฺติ.

ตโต ตโตติ จตุพฺพิธาสุ เทสนาสุ ตโต ตโต เทสนาโต. ายปฺปฏิเวธาย สํวตฺตตีติ าโยติ มคฺโค, โสเยว วา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อริโย จสฺส าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๔๑) วจนโต. สยเมว หิ สมนฺตภทฺรกตฺตา ตถา ตถา ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา ตาย ตาย เทสนาย อตฺตโน ปฏิเวธาย สํวตฺตตีติ. สมนฺตภทฺรกตฺตํ เทสนาวิลาสปฺปตฺติ จ จตุนฺนมฺปิ เทสนานํ สมานํ การณนฺติ วิเสสการณํ วตฺตุกาโม อาห ‘‘วิเสสโต’’ติ. อสฺส ภควโต เทสนา, อสฺส วา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เทสนาติ โยเชตพฺพํ. ปวตฺติการณวิภาโค อวิชฺชาทิโกว, การณนฺติ วา คหิตานํ ปกติอาทีนํ อวิชฺชาทีนฺจ อการณตา การณตา จ. ตตฺถ สมฺมูฬฺหา เกจิ อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหนฺติ, เกจิ น กิฺจิ การณํ พุชฺฌนฺตีติ เตสํ ยถาสเกหิ อนุรูเปหิ การเณหิ สงฺขาราทิปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อนุโลมเทสนา ปวตฺตา, อิตราสํ ตทตฺถตาสมฺภเวปิ น ตาสํ ตทตฺถเมว ปวตฺติ อตฺถนฺตรสพฺภาวโต. อยํ ปน ตทตฺถา เอวาติ เอติสฺสา ตทตฺถตา วุตฺตา. ปวตฺติอาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา อาทิ, ตโต สงฺขารา อุปฺปชฺชนฺติ ตโต วิฺาณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถฺจ.

อนุวิโลกยโต โย สมฺโพธิโต ปุพฺพภาเค ตํตํผลปฏิเวโธ ปวตฺโต, ตทนุสาเรน ตทนุคเมน ชรามรณาทิกสฺส ชาติอาทิการณํ ยํ อธิคตํ, ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถํ อสฺส ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตา, อนุวิโลกยโต ปฏิโลมเทสนา ปวตฺตาติ วา สมฺพนฺโธ. เทเสนฺโตปิ หิ ภควา กิจฺฉาปนฺนํ โลกํ อนุวิโลเกตฺวา ปุพฺพภาค…เป… สนฺทสฺสนตฺถํ เทเสตีติ. อาหารตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา, สงฺขาราวิชฺชา อตีตทฺธาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา’’ติ, อาหารา วา ตณฺหาย ปภาเวตพฺพา อนาคโต อทฺธา, ตณฺหาทโย ปจฺจุปฺปนฺโน, สงฺขาราวิชฺชา อตีโตติ. ปจฺจกฺขํ ปน ผลํ ทสฺเสตฺวา ตํนิทานทสฺสนวเสน ผลการณปรมฺปราย ทสฺสนํ ยุชฺชตีติ อาหารา ปุริมตณฺหาย อุปฺปาทิตา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา, ตณฺหาทโย อตีโต, สงฺขาราวิชฺชา ตโตปิ อตีตตโร สํสารสฺส อนาทิภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ ยาว อตีตํ อทฺธานนฺติ ยาว อตีตตรํ อทฺธานนฺติ อตฺโถ ยุตฺโต.

อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติอาหารกา วา จตฺตาโร อาหารา –

‘‘อาหาเรตีติ อหํ น วทามิ, อาหาเรตีติ จาหํ วเทยฺยุํ, ตตฺรสฺส กลฺโล ปฺโห ‘โก นุ โข, ภนฺเต, อาหาเรตี’ติ. เอวํ จาหํ น วทามิ, เอวํ ปน อวทนฺตํ มํ โย เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, วิฺาณาหาโร’ติ. เอส กลฺโล ปฺโห, ตตฺร กลฺลํ เวยฺยากรณํ, วิฺาณาหาโร อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒) –

วจนโต ตํสมฺปยุตฺตตฺตา ผสฺสเจตนานํ ตปฺปวตฺติเหตุตฺตา จ กพฬีการาหารสฺส. เตน หิ อุปตฺถมฺภิตรูปกายสฺส, ตฺจ อิจฺฉนฺตสฺส กมฺมวิฺาณายูหนํ โหติ. โภชนฺหิ สทฺธาทีนํ ราคาทีนฺจ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตนฺติ. ตสฺมา ‘‘เต กมฺมวฏฺฏสงฺคหิตา อาหารา ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ อิมสฺมึ ปริยาเย ปุริโมเยวตฺโถ ยุตฺโต. อตีตทฺธุโต ปภุติ ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๓) อตีเต ตโต ปรฺจ เหตุผลปฏิปาฏึ ปจฺจกฺขานํ อาหารานํ นิทานทสฺสนวเสน อาโรหิตฺวา นิวตฺตเนน วินา อพุชฺฌนฺตานํ ตํสนฺทสฺสนตฺถํ สา อยํ เทสนา ปวตฺตาติ อตฺโถ. อนาคตทฺธุโน สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อนาคตทฺธุโน ทุปฺปฏิวิชฺฌนฺตานํ อปสฺสนฺตานํ ปจฺจกฺขํ ปจฺจุปฺปนฺนํ เหตุํ ทสฺเสตฺวา เหตุผลปรมฺปราย ตสฺส สนฺทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.

มูลการณสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘น อการณ’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส กโต. อการณํ ยทิ สิยา, สุตฺตํ ปฏิพาหิตํ สิยาติ ทสฺเสนฺโต สุตฺตํ อาหรติ. วฏฺฏกถาย สีสภาโว วฏฺฏเหตุโน กมฺมสฺสปิ เหตุภาโว. ตตฺถ ภวตณฺหายปิ เหตุภูตา อวิชฺชา, ตาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ภเว ตณฺหุปฺปตฺติโตติ อวิชฺชา วิเสเสน สีสภูตาติ ‘‘มูลการณ’’นฺติ วุตฺตา. ปุริมาย โกฏิยา อปฺายมานาย อุปฺปาทวิรหโต นิจฺจตํ คณฺเหยฺยาติ อาห ‘‘เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจตี’’ติอาทิ. เตน อิโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพตา นตฺถีติ อปฺายนโต ปุริมโกฏิอปฺายนํ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.

อวิชฺชาตณฺหาเหตุกฺกเมน ผเลสุ วตฺตพฺเพสุ ‘‘สุคติทุคฺคติคามิโน’’ติ วจนํ สทฺทลกฺขณาวิโรธนตฺถํ. ทฺวนฺเท หิ ปูชิตสฺส ปุพฺพนิปาโตติ. สวรา กิร มํสสฺส อฏฺินา อลคฺคนตฺถํ ปุนปฺปุนํ ตาเปตฺวา โกฏฺเฏตฺวา อุณฺโหทกํ ปาเยตฺวา วิริตฺตํ สูนํ อฏฺิโต มุตฺตมํสํ คาวึ มาเรนฺติ. เตนาห ‘‘อคฺคิสนฺตาปิ’’จฺจาทิ. ตตฺถ ยถา วชฺฌา คาวี จ อวิชฺชาภิภูตตาย ยถาวุตฺตํ อุณฺโหทกปานํ อารภติ, เอวํ ปุถุชฺชโน ยถาวุตฺตํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ. ยถา ปน สา อุณฺโหทกปาเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตณฺหาวเสน สีตุทกปานํ อารภติ, เอวมยํ อวิชฺชาย มนฺทตฺตา ทุคฺคติคามิกมฺเม อาทีนวํ ทิสฺวา ตณฺหาวเสน สุคติคามิกมฺมํ อารภติ. ทุกฺเข หิ อวิชฺชํ ตณฺหา อนุวตฺตติ, สุเข ตณฺหํ อวิชฺชาติ.

เอวนฺติ อวิชฺชาย นิวุตตฺตา ตณฺหาย สํยุตฺตตฺตา จ. อยํ กาโยติ สวิฺาณกกาโย ขนฺธปฺจกํ, ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วจนโต ผสฺสการณฺเจตํ วุจฺจตีติ อายตนฉกฺกํ วา. สมุทาคโตติ อุปฺปนฺโน. พหิทฺธา จ นามรูปนฺติ พหิทฺธา สวิฺาณกกาโย ขนฺธปฺจกํ, สฬายตนานิ วา. อิตฺเถตนฺติ อิตฺถํ เอตํ. อตฺตโน จ ปเรสฺจ ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ จ ทฺวารารมฺมณภาเวน ววตฺถิตานิ ทฺวยนามานีติ อตฺโถ. ‘‘ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโสติ อฺตฺถ จกฺขุรูปาทีนิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. มหาทฺวยํ นาม กิเรต’’นฺติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๙) วุตฺตํ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – อฺตฺถ ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔๓) ‘‘จกฺขุ เจว รูปา จ…เป… มโน เจว ธมฺมา จา’’ติ วุตฺตานิ ทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน ‘‘อยฺเจว กาโย’’ติ จกฺขาทินิสฺสเย เสสธมฺเม จกฺขาทินิสฺสิเต เอว กตฺวา วุตฺตํ, จกฺขาทิกายํ เอกตฺเตน ‘‘อชฺฌตฺติกายตน’’นฺติ คเหตฺวา ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตํ, รูปาทิอารมฺมณํ เอกตฺเตเนว พาหิรายตนนฺติ ตานิ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ ปฏิจฺจ ผสฺโส วุตฺโต, ตสฺมา มหาทฺวยํ นาเมตนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อตฺตโน จ ปรสฺส จ ปฺจหิ ขนฺเธหิ ฉหายตเนหิ จาปิ อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพวา’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๙) วุตฺตํ. ‘‘อยํ กาโย’’ติ หิ วุตฺตานิ สนิสฺสยานิ จกฺขาทีนิ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธา, ‘‘พหิทฺธา นามรูป’’นฺติ วุตฺตานิ รูปาทีนิ ปเรสํ. ตถา อยํ กาโย อตฺตโนว อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, พหิทฺธา นามรูปํ ปเรสํ พาหิรานีติ. อฺถา อชฺฌตฺติกายตนมตฺเต เอว ‘‘อยํ กาโย’’ติ วุตฺเต น อชฺฌตฺติกายตนาเนว อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺตีติ อตฺตโน จ ปเรสฺจ ปฺจกฺขนฺเธหิ ทีปนา น สมฺภเวยฺยาติ. สเฬวายตนานีติ สเฬว สมฺผสฺสการณานิ, เยหิ การณภูเตหิ อายตเนหิ อุปฺปนฺเนน ผสฺเสน ผุฏฺโ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ.

อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรน อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ตณฺหาย สํยุตฺตสฺสา’’ติอาทิ โยเชตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ สุตฺเต สงฺขาเร อวิชฺชาตณฺหานิสฺสิเต เอว กตฺวา กายคฺคหเณน วิฺาณนามรูปสฬายตนานิ คเหตฺวา เอตสฺมิฺจ กาเย สฬายตนานํ ผสฺสํ ตํนิสฺสิตเมว กตฺวา เวทนาย วิเสสปจฺจยภาวํ ทสฺเสนฺเตน ภควตา พาลปณฺฑิตานํ อตีตทฺธาวิชฺชาตณฺหามูลโก เวทนานฺโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทสฺสิโต. ปุน จ พาลปณฺฑิตานํ วิเสสํ ทสฺเสนฺเตน –

‘‘ยาย จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย นิวุตสฺส พาลสฺส ยาย จ ตณฺหาย สํยุตฺตสฺส อยํ กาโย สมุทาคโต, สา เจว อวิชฺชา พาลสฺส อปฺปหีนา, สา จ ตณฺหา อปริกฺขีณา. ตํ กิสฺส เหตุ? น, ภิกฺขเว, พาโล อจริ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตสฺมา พาโล กายสฺส เภทา กายูปโค โหติ, โส กายูปโค สมาโน น ปริมุจฺจติ ชาติยา…เป… ทุกฺขสฺมาติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๙) –

เวทนาปภวํ สาวิชฺชํ ตณฺหํ ทสฺเสตฺวา อุปาทานภเว จ ตํนิสฺสิเต กตฺวา ‘‘กายูปโค โหตี’’ติอาทินา ชาติอาทิเก ทสฺเสนฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนเหตุสมุฏฺานโต ปภุติ อุภยมูโลว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต, ตพฺพิปริยาเยน จ ปณฺฑิตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนเหตุปริกฺขยโต ปภุติ อุภยมูลโก ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ.

ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา อวิชฺชา ‘‘อวินฺทิยํ วินฺทตี’’ติ วุตฺตา, ตถา วิเสสปจฺจโย วินฺทิยสฺส น โหตีติ ‘‘วินฺทิยํ น วินฺทตี’ติ จ. อตฺตนิ นิสฺสิตานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปวตฺตนํ อุปฺปาทนํ อายตนํ. สมฺโมหภาเวเนว อนภิสมยภูตตฺตา อวิทิตํ อฺาตํ กโรติ. อนฺตวิรหิเต ชวาเปตีติ จ วณฺณาคมวิปริยายวิการวินาสธาตุอตฺถวิเสสโยเคหิ ปฺจวิธสฺส นิรุตฺติลกฺขณสฺส วเสน ตีสุปิ ปเทสุ อ-การ วิ-การ ช-กาเร คเหตฺวา อฺเสํ วณฺณานํ โลปํ กตฺวา ช-การสฺส จ ทุติยสฺส อาคมํ กตฺวา ‘‘อวิชฺชา’’ติ วุตฺตา. พฺยฺชนตฺถํ ทสฺเสตฺวา สภาวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานิ ‘‘อิทํ วตฺถุ, อิทมารมฺมณ’’นฺติ อวิชฺชาย าตุํ น สกฺกาติ อวิชฺชา ตปฺปฏิจฺฉาทิกา วุตฺตา. วตฺถารมฺมณสภาวจฺฉาทนโต เอว อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวสฺส, ชรามรณาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนภาวสฺส จ ฉาทนโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนฉาทนํ เวทิตพฺพํ.

สงฺขาร-สทฺทคฺคหเณน อาคตา สงฺขารา สงฺขาร-สทฺเทน อาคตสงฺขารา. ยทิปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราปิ สงฺขาร-สทฺเทน อาคตา, เต ปน อิมิสฺสา เทสนาย ปธานาติ วิสุํ วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ทุวิธา’’ติ เอตฺถ อภิสงฺขรณกสงฺขารํ สงฺขาร-สทฺเทนาคตํ สนฺธาย ตตฺถ วุตฺตมฺปิ วชฺเชตฺวา สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขารา โยเชตพฺพา. ‘‘สงฺขาร-สทฺเทนาคตสงฺขารา’’ติ วา สมุทาโย วุตฺโต, ตเทกเทโส จ อิธ วณฺณิตพฺพภาเวน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ, ตสฺมา วณฺณิตพฺพสพฺพสงฺคหณวเสน ทุวิธตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโรติอาทินา วิตกฺกวิจารอสฺสาสปสฺสาสสฺาเวทนาวจีสงฺขาราทโย วุตฺตา, น อวิชฺชาสงฺขาเรสุ วุตฺตา กายสฺเจตนาทโย.

ปริตสฺสตีติ ปิปาสติ. ภวตีติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภาวยตีติ กมฺมภวํ. จุติ ขนฺธานํ มรณนฺติ ‘‘มรนฺติ เอเตนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทุกฺขา เวทนา อุปฺปาททุกฺขา ิติทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) วจนโต ทฺเวธา ขณติ. อายาโสติ ปริสฺสโม วิสาโท. เกวล-สทฺโท อสมฺมิสฺสวาจโก โหติ ‘‘เกวลา สาลโย’’ติ, นิรวเสสวาจโก จ ‘‘เกวลา องฺคมคธา’’ติ, ตสฺมา ทฺเวธาปิ อตฺถํ วทติ. ตตฺถ อสมฺมิสฺสสฺสาติ สุขรหิตสฺส. น หิ เอตฺถ กิฺจิ อุปฺปาทวยรหิตํ อตฺถีติ.

ตํสมฺปยุตฺเต, ปุคฺคลํ วา สมฺโมหยตีติ สมฺโมหนรสา. อารมฺมณสภาวสฺส ฉาทนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ฉาทนปจฺจุปฏฺานา. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต อาสวปทฏฺานา. ปฏิสนฺธิชนนตฺถํ อายูหนฺติ พฺยาปารํ กโรนฺตีติ อายูหนรสา, ราสิกรณํ วา อายูหนํ. นามรูปสฺส ปุเรจาริกภาเวน ปวตฺตตีติ ปุพฺพงฺคมรสํ. ปุริมภเวน สทฺธึ ฆฏนํ หุตฺวา คยฺหตีติ ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺานํ. วิฺาเณน สห สมฺปยุชฺชตีติ สมฺปโยครสํ. อฺมฺํ สมฺปโยคาภาวโต รูปํ วิกิรตีติ วิกิรณรสํ. เอวฺจ กตฺวา ปิสิยมานา ตณฺฑุลาทโย วิกิรนฺติ จุณฺณี ภวนฺตีติ. นามสฺส กทาจิ กุสลาทิภาโว จ อตฺถีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘อพฺยากตปจฺจุปฏฺาน’’นฺติ อาห. ‘‘อเจตนา อพฺยากตา’’ติ เอตฺถ วิย อนารมฺมณตา วา อพฺยากตตา ทฏฺพฺพา. อายตนลกฺขณนฺติ ฆฏนลกฺขณํ, อายานํ ตนนลกฺขณํ วา. ทสฺสนาทีนํ การณภาโว ทสฺสนาทิรสตา. อกุสลวิปากุเปกฺขาย อนิฏฺภาวโต ทุกฺเขน อิตราย จ อิฏฺภาวโต สุเขน สงฺคหิตตฺตา ‘‘สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติ อาห. ทุกฺขสมุทยตฺตา เหตุลกฺขณา ตณฺหา. ‘‘ตตฺรตตฺราภินนฺทินี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓, ๔๖๐; วิภ. ๒๐๓) วจนโต อภินนฺทนรสา. จิตฺตสฺส, ปุคฺคลสฺส วา รูปาทีสุ อติตฺตภาโว หุตฺวา คยฺหตีติ อติตฺตภาวปจฺจุปฏฺานา. ตณฺหาทฬฺหตฺตํ หุตฺวา กามุปาทานํ, เสสานิ ทิฏฺิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺิปจฺจุปฏฺานา. กมฺมุปปตฺติภววเสน ภวสฺส ลกฺขณาทโย โยเชตพฺพา.

อาทิ-สทฺเทน อนุโพธาทิภาวคฺคหณํ. ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อปฺปฏิปตฺติ, อสุภาทีสุ สุภาทิวิปลฺลาสา มิจฺฉาปฏิปตฺติ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา วา อปฺปฏิปตฺติ, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา มิจฺฉาปฏิปตฺติ. น อวิชฺชาย เอว ฉทฺวาริกตา ฉฬารมฺมณตา จ, อถ โข อฺเสุปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ อรูปธมฺมานนฺติ อาห ‘‘สพฺเพสุปี’’ติ. โนภยโคจรนฺติ มนายตนมาห. น หิ อรูปธมฺมานํ เทสวเสน อาสนฺนตา ทูรตา จ อตฺถิ อสณฺานตฺตา, ตสฺมา มนายตนสฺส โคจโร น มนายตนํ สมฺปตฺโต อสมฺปตฺโต วาติ วุจฺจตีติ.

โสกาทีนํ สพฺภาวา องฺคพหุตฺตปฺปสงฺเค ‘‘ทฺวาทเสวา’’ติ องฺคานํ ววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. น หิ โสกาทโย องฺคภาเวน วุตฺตา, ผเลน ปน การณํ อวิชฺชํ มูลงฺคํ ทสฺเสตุํ เต วุตฺตาติ. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺตีติ โสกาทีนํ ชรามรณการณตา วุตฺตา. ‘‘สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒) จ สุตฺเต ชรามรณนิมิตฺตฺจ ทุกฺขํ สงฺคหิตนฺติ ตํตํนิมิตฺตานํ สาธกภาเวน วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ชรามรเณเนว โสกาทีนํ เอกสงฺเขโป กโต, ตสฺมา เตสํ ชาติปจฺจยตา ยุชฺชติ. ชรามรณปจฺจยภาเว หิ อวิชฺชาย เอกสงฺเขโป กาตพฺโพ สิยา, ชาติปจฺจยา ปน ชรามรณํ โสกาทโย จ สมฺภวนฺตีติ. ตตฺถ ชรามรณํ เอกนฺติกํ องฺคภาเวเนว คหิตํ, โสกาทโย ปน รูปภวาทีสุ อภาวโต อเนกนฺติกา เกวลํ ปากเฏน ผเลน อวิชฺชานิทสฺสนตฺถํ คหิตา. เตน อนาคเต ชาติยา สติ ตโต ปราย ปฏิสนฺธิยา เหตุเหตุภูตา อวิชฺชา ทสฺสิตาติ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉโท ทสฺสิโต โหตีติ. สุตฺตฺจ โสกาทีนํ อวิชฺชา การณนฺติ เอตสฺเสวตฺถสฺส สาธกํ ทฏฺพฺพํ, น โสกาทีนํ พาลสฺส ชรามรณนิมิตฺตตามตฺตสฺส. ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๒) หิ วจเนน อวิชฺชา โสกาทีนํ การณนฺติ ทสฺสิตา, น จ ชรามรณนิมิตฺตเมว ทุกฺขํ ทุกฺขนฺติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๖. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ๙๒ สงฺขารา’’ติ หิ วุตฺตนฺติ เอเตน อวิชฺชาย วิเสสนภาเวน สงฺขารานฺจ ปธานภาเวน วุตฺตตฺตา สงฺขารานํ นิทฺทิสิตพฺพภาวสฺส การณํ ทสฺเสติ. ปิตา กถียติ ‘‘ทีโฆ สาโม, มิตฺโต รสฺโส, โอทาโต ทตฺโต’’ติ.

รสิตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สภาโว รโส, อตฺตโน รโส สรโส, ยาถาโว สรโส ยาถาวสรโส, โส เอว ลกฺขิตพฺพตฺตา ลกฺขณนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณํ. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๒; ม. นิ. ๑.๑๐๓) สุตฺเต จตฺตาเรว วุตฺตานีติ ‘‘สุตฺตนฺติกปริยาเยนา’’ติ อาห. นิกฺเขปกณฺเฑ ปนาติอาทินา อิธ จตูสุ าเนสุ กถิตาย เอว อวิชฺชาย นิกฺเขปกณฺเฑ อฏฺสุ าเนสุ กิจฺจชาติโต ปฺจวีสติยา ปเทหิ ลกฺขณโต จ กถิตตฺตา ตทตฺถสํวณฺณนาวเสน วิภาวนํ กโรติ. อหาเปตฺวา วิภชิตพฺพวิภชนฺหิ อภิธมฺมปริยาโย.

ชายติ เอตฺถาติ ชาติ, อุปฺปตฺติฏฺานํ. ยทิปิ นิโรธมคฺเค อวิชฺชา อารมฺมณํ น กโรติ, เต ปน ชานิตุกามสฺส ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสน อนิโรธมคฺเคสุ นิโรธมคฺคคฺคหณกอารณวเสน จ ปวตฺตมานา ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจตีติ เตสมฺปิ อวิชฺชาย อุปฺปตฺติฏฺานตา โหติ, อิตเรสํ อารมฺมณภาเวน จาติ. สงฺฆิกพลเทวโคณาทีนํ สงฺฆาฏินงฺคลาทีนิ วิย อฺเสตาทีนํ อวิชฺชาย ทุกฺขาทิวิสยานํ อนฺธตฺตกรานํ โลภาทีนํ นิวตฺตโก อฺาณาทิสภาโว ลกฺขณนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อตฺถตฺถนฺติ ผลผลํ. อาเมฑิตวจนฺหิ สพฺเพสํ อตฺถานํ วิสุํ วิสุํ ปากฏกรณภาวปฺปกาสนตฺถํ. อตฺโถ เอว วา อตฺโถ อตฺถตฺโถติ อตฺถสฺส อวิปรีตตาทสฺสนตฺถํ อตฺเถเนวตฺถํ วิเสสยติ. น หิ าณํ อนตฺถํ อตฺโถติ คณฺหาตีติ. เอวํ การณการณนฺติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. ตํ อาการนฺติ อตฺถตฺถาทิอาการํ. คเหตฺวาติ จิตฺเต ปเวเสตฺวา, จิตฺเตน ปุคฺคเลน วา คหิตํ กตฺวา. ปฏิวิทฺธสฺส ปุน อเวกฺขณา ปจฺจเวกฺขณา. ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทิลกฺขณสฺส พาลสฺส ภาโว พาลฺยํ. ปชานาตีติ ปกาเรหิ ชานาติ. พลวโมหนํ ปโมโห. สมนฺตโต โมหนํ สมฺโมโห.

ทุกฺขารมฺมณตาติ ทุกฺขารมฺมณตาย, ยาย วา อวิชฺชาย ฉาเทนฺติยา ทุกฺขารมฺมณา ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา, สา เตสํ ภาโวติ ทุกฺขารมฺมณตา, อารมฺมณเมว วา อารมฺมณตา, ทุกฺขํ อารมฺมณตา เอติสฺสาติ ทุกฺขารมฺมณตา.

ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรา น สภาวโต, ตสฺมา ตทารมฺมณตา อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, อิตเรสํ สภาวโต คมฺภีรตฺตา ตทารมฺมณตา นุปฺปชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อปิจ โข ปนาติ มคฺคสฺส สงฺขตสภาวตฺตา ตโตปิ นิโรธสฺส คมฺภีรตรตํ ทสฺเสติ.

อวิชฺชาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา

ปุนาตีติ โสเธติ อปุฺผลโต ทุกฺขสํกิเลสโต จ, หิตสุขชฺฌาสเยน ปุฺํ กโรตีติ ตํนิปฺผาทเนน การกสฺสชฺฌาสยํ ปูเรตีติ ปุฺโ, ปูรโก ปุชฺชนิพฺพตฺตโก จ นิรุตฺติลกฺขเณน ‘‘ปุฺโ’’ติ เวทิตพฺโพ. สมาธิปจฺจนีกานํ อติทูรตาย น อิฺชติ น จลตีติ อตฺโถ. กายสฺสาติ ทฺวารสฺส สามิภาเวน นิทฺเทโส กโต.

ปุฺุปคนฺติ ภวสมฺปตฺตุปคํ. ตตฺถาติ วิภงฺคสุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๒). ตฺหิ ปธานภาเวน คหิตนฺติ. สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๐๒) ปน ‘‘ตโยเม, อาวุโส, สงฺขารา’’ติ อาคตนฺติ. สพฺพฺุชินภาสิโต ปน อยํ, น ปจฺเจกชินภาสิโต, อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ เอเตสํ สุตฺตานํ วเสน เต คหิตา. กถํ ปเนเตน คหเณนายมตฺโถ ทีปิโต โหตีติ ตํทสฺสนตฺถมาห ‘‘อภิธมฺเมปิ หิ สุตฺเตปิ เอกสทิสาว ตนฺติ นิทฺทิฏฺา’’ติ. สพฺพฺุภาสิโตติ ปากเฏน สุตฺตนฺเตน สทิสตฺตา อยมฺปิ สพฺพฺุภาสิโตติ ายตีติ วุตฺตํ โหตีติ.

‘‘เตรสาปี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ าณวิปฺปยุตฺตานํ น ภาวนามยตา ปากฏาติ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. ปถวี ปถวีติอาทิภาวนา จ กสิณปริกมฺมกรณํ มณฺฑลกรณฺจ ภาวนํ ภชาเปนฺติ.

ทานวเสน ปวตฺตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ทานํ. ตตฺถ พฺยาปารภูตา อายูหนเจตนา ทานํ อารพฺภ ทานํ อธิกิจฺจ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจติ, เอวํ อิตเรสุ. โสมนสฺสจิตฺเตนาติ อนุโมทนาปวตฺตินิทสฺสนมตฺตเมตํ ทฏฺพฺพํ. อุเปกฺขาสหคเตนปิ หิ อนุสฺสรติ เอวาติ.

อสริกฺขกมฺปิ สริกฺขเกน จตุตฺถชฺฌานวิปาเกน เวหปฺผลาทีสุ วินาปิ อสฺเสุ กฏตฺตารูปํ. รูปเมว สผนฺทนตฺตา ‘‘สอิฺชน’’นฺติ วุตฺตํ อิฺชนกรนีวรณาทีนํ อวิกฺขมฺภนโต, รูปตณฺหาสงฺขาตสฺส อิฺชนกสฺส การณตฺตา วา. เตเนว รูปารมฺมณํ นิมิตฺตารมฺมณฺจ สพฺพมฺปิ จตุตฺถชฺฌานํ นิปฺปริยาเยน ‘‘อนิฺชน’’นฺติ น วุจฺจตีติ. มหาตุลาย ธารยมาโน นาฬิยา มินมาโน จ สมุทายเมว ธาเรติ มินติ จ, น เอเกกํ คุฺชํ, เอเกกํ ตณฺฑุลํ วา, เอวํ ภควาปิ อปริมาณา ปมกุสลเจตนาโย สมุทายวเสเนว คเหตฺวา เอกชาติกตฺตา เอกเมว กตฺวา ทสฺเสติ. เอวํ ทุติยาทโยปีติ.

‘‘กายทฺวาเร ปวตฺตา’’ติ อวตฺวา ‘‘อาทานคฺคหณโจปนํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วจนวิเสสมตฺตเมว ทสฺเสติ. กายทฺวาเร ปวตฺติ เอว หิ อาทานาทิปาปนาติ. ปุริเมน วา ทฺวารสฺส อุปลกฺขณภาโว วุตฺโต, ปจฺฉิเมน เจตนาย สวิฺตฺติรูปสมุฏฺาปนํ. ตตฺถ อากฑฺฒิตฺวา คหณํ อาทานํ, สมฺปยุตฺตสฺส คหณํ คหณํ, ผนฺทนํ โจปนํ.

เอตฺถาติ กายวจีสงฺขารคฺคหเณ, กายวจีสฺเจตนาคหเณ วา. อฏฺกถายํ อภิฺาเจตนา น คหิตา วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ. กสฺมา ปน น โหติ, นนุ สาปิ กุสลา วิปากธมฺมา จาติ? สจฺจํ, อนุปจฺฉินฺนตณฺหาวิชฺชามาเน ปน สนฺตาเน สพฺยาปารปฺปวตฺติยา ตสฺสา กุสลตา วิปากธมฺมตา จ วุตฺตา, น วิปากุปฺปาทเนน, สา ปน วิปากํ อุปฺปาทยนฺตี รูปาวจรเมว อุปฺปาเทยฺย. น หิ อฺภูมิกํ กมฺมํ อฺภูมิกํ วิปากํ อุปฺปาเทตีติ. อตฺตนา สทิสารมฺมณฺจ ติฏฺานิกํ ตํ อุปฺปาเทยฺย จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ รูปาวจรวิปากสฺส กมฺมสทิสารมฺมณสฺเสว วุตฺตตฺตา, น จ รูปาวจรวิปาโก ปริตฺตาทิอารมฺมโณ อตฺถิ, อภิฺาเจตนา จ ปริตฺตาทิอารมฺมณาว โหติ, ตสฺมา วิปากํ น อุปฺปาเทตีติ วิฺายติ. กสิเณสุ จ อุปฺปาทิตสฺส จตุตฺถชฺฌานสมาธิสฺส อานิสํสภูตา อภิฺา. ยถาห ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๒๔๔-๒๔๕; ม. นิ. ๑.๓๘๔-๓๘๖). ตสฺมา สมาธิผลสทิสา สา, น จ ผลํ เทตีติ ทานสีลานิสํโส ตสฺมึ ภเว ปจฺจยลาโภ วิย สาปิ วิปากํ น อุปฺปาเทติ. ยถา จ อภิฺาเจตนา, เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหตีติ อิทํ อุทฺธจฺจสหคเต ธมฺเม วิสุํ อุทฺธริตฺวา ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๕) วุตฺตตฺตา วิจาเรตพฺพํ.

อยํ ปเนตฺถ อมตคฺคปถานุคโต วินิจฺฉโย – ทสฺสนภาวนานํ อภาเวปิ เยสํ ปุถุชฺชนานํ เสกฺขานฺจ ทสฺสนภาวนาหิ ภวิตพฺพํ, เตสํ ตทุปฺปตฺติกาเล เตหิ ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา อกุสลา ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ จ วุจฺจนฺติ, ปุถุชฺชนานํ ปน ภาวนาย อภาวา ภาวนาย ปหาตพฺพจินฺตา นตฺถิ. เตน เตสํ ปวตฺตมานา เต ทสฺสเนน ปหาตุํ อสกฺกุเณยฺยาปิ ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ น วุจฺจนฺติ. ยทิ วุจฺเจยฺยุํ, ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกสฺจิ เกจิ กทาจิ อารมฺมณารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจโย ภเวยฺยุํ, น จ ปฏฺาเน ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกสฺจิ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. เสกฺขานํ ปน วิชฺชมานา ภาวนาย ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ภาวนาย ปหาตพฺพา. เตเนว เสกฺขานํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา จตฺตตฺตา วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา ปหีนตฺตา ปฏินิสฺสฏฺตฺตา อุกฺเขฏิตตฺตา สมุกฺเขฏิตตฺตา อสฺสาทิตพฺพา อภินนฺทิตพฺพา จ น โหนฺติ, ปหีนตาย เอว โสมนสฺสเหตุภูตา อวิกฺเขปเหตุภูตา จ น โทมนสฺสํ อุทฺธจฺจฺจ อุปฺปาเทนฺตีติ น เต เตสํ อารมฺมณารมฺมณาธิปติภาวํ ปกตูปนิสฺสยภาวฺจ คจฺฉนฺติ. น หิ ปหีเน อุปนิสฺสาย อริโย ราคาทิกิเลเส อุปฺปาเทติ.

วุตฺตฺจ ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉติ…เป… อรหตฺตมคฺเคน…เป… น ปจฺจาคจฺฉตี’’ติ (มหานิ. ๘๐; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๗), น จ ปุถุชฺชนานํ ทสฺสเนน ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา อิตเรสํ น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย โหนฺตีติ สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ทิฏฺึ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ. วิจิกิจฺฉํ อารพฺภ วิจิกิจฺฉา ทิฏฺิ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ อุทฺธจฺจารมฺมณปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. เอตฺถ หิ อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ จิตฺตุปฺปาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส ‘‘ทิฏฺึ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ ครุํ กตฺวา ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ตสฺมา ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพานํ อตีตาทิภาเวน นวตฺตพฺพตฺเตปิ ยาทิสานํ ตาหิ อนุปฺปตฺติธมฺมตา อาปาเทตพฺพา, เตสุ ปุถุชฺชเนสุ วตฺตมานา ทสฺสนํ อเปกฺขิตฺวา เตน ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, เสกฺเขสุ วตฺตมานา ภาวนํ อเปกฺขิตฺวา ตาย ปหาตุํ สกฺกุเณยฺยา ภาวนาย ปหาตพฺพา. เตสุ ภาวนาย ปหาตพฺพา สหายวิรหา วิปากํ น ชนยนฺตีติ ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว น วุตฺโต, อเปกฺขิตพฺพทสฺสนภาวนารหิตานํ ปน ปุถุชฺชเนสุ อุปฺปชฺชมานานํ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทสฺส จ สํโยชนตฺตยตเทกฏฺกิเลสานํ อนุปจฺฉินฺนตาย อปริกฺขีณสหายานํ วิปากุปฺปาทนํ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุนฺติ อุทฺธจฺจสหคตธมฺมานํ วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโตติ.

ยทิ เอวํ, อเปกฺขิตพฺพทสฺสนภาวนารหิตานํ อกุสลานํ เนวทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, อปฺปหาตพฺพานํ ‘‘เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) วุตฺตตฺตา, อปฺปหาตพฺพวิรุทฺธสภาวตฺตา จ อกุสลานํ. เอวมฺปิ เตสํ อิมสฺมึ ติเก นวตฺตพฺพตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ทสฺสิตานํ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ ทฺวีหิ ปเทหิ สงฺคหิตตฺตา. ยถา หิ ธมฺมวเสน สงฺขตธมฺมา สพฺเพ สงฺคหิตาติ อุปฺปนฺนตฺติเก กาลวเสน อสงฺคหิตาปิ อตีตา นวตฺตพฺพาติ น วุตฺตา จิตฺตุปฺปาทรูปภาเวน คหิเตสุ นวตฺตพฺพสฺส อภาวา, เอวมิธาปิ จิตฺตุปฺปาทภาเวน คหิเตสุ นวตฺตพฺพสฺส อภาวา นวตฺตพฺพตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ยตฺถ หิ จิตฺตุปฺปาโท โกจิ นิโยคโต นวตฺตพฺโพ อตฺถิ, ตตฺถ เตสํ จตุตฺโถ โกฏฺาโส อตฺถีติ ยถาวุตฺตปเทสุ วิย ตตฺถาปิ ภินฺทิตฺวา ภชาเปตพฺเพ จิตฺตุปฺปาเท ภินฺทิตฺวา ภชาเปติ ‘‘สิยา นวตฺตพฺพา ปริตฺตารมฺมณา’’ติอาทินา. ตทภาวา อุปฺปนฺนตฺติเก อิธ จ ตถา น วุตฺตา.

อถ วา ยถา สปฺปฏิเฆหิ สมานสภาวตฺตา รูปธาตุยํ ตโย มหาภูตา ‘‘สปฺปฏิฆา’’ติ วุตฺตา. ยถาห ‘‘อสฺสตฺตานํ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ทฺเว มหาภูตา, ทฺเว มหาภูเต ปฏิจฺจ เอกํ มหาภูต’’นฺติ (ปฏฺา. ๒.๒๒.๙). เอวํ ปุถุชฺชนานํ ปวตฺตมานา ภาวนาย ปหาตพฺพสมานสภาวา ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา’’ติ วุจฺเจยฺยุนฺติ นตฺถิ นวตฺตพฺพตาปสงฺโค. เอวฺจ สติ ปุถุชฺชนานํ ปวตฺตมานาปิ ภาวนาย ปหาตพฺพา สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทโย ปรภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโย, ราโค จ ราคทิฏฺีนํ อธิปติปจฺจโยติ อยมตฺโถ ลทฺโธ โหติ. ยถา ปน อโผฏฺพฺพตฺตา รูปธาตุยํ ตโย มหาภูตา น ปรมตฺถโต สปฺปฏิฆา, เอวํ อเปกฺขิตพฺพภาวนารหิตา ปุถุชฺชเนสุ ปวตฺตมานา สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทโย น ปรมตฺถโต ภาวนาย ปหาตพฺพาติ ภาวนาย ปหาตพฺพานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตา น วุตฺตา, น จ ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ภาวนาย ปหาตพฺพานํ เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. เย หิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยา กิเลสา, น เต ทสฺสนโต อุทฺธํ ปวตฺตนฺติ, ทสฺสเนน ปหาตพฺพปจฺจยสฺสปิ ปน อุทฺธจฺจสหคตสฺส สหายเวกลฺลมตฺตเมว ทสฺสเนน กตํ, น ตสฺส โกจิ ภาโว ทสฺสเนน อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิโตติ ตสฺส เอกนฺตภาวนาย ปหาตพฺพตา วุตฺตา. ตสฺมา ตสฺส ตาทิสสฺเสว สติ สหาเย วิปากุปฺปาทนวจนํ, อสติ จ วิปากานุปฺปาทนวจนํ น วิรุชฺฌตีติ.

สาปิ วิฺาณปจฺจยภาเว ยทิ อปเนตพฺพา, กสฺมา ‘‘สมวีสติ เจตนา’’ติ วุตฺตนฺติ ตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺตี’’ติ. ยทิ เอวํ, อภิฺาเจตนาย สห ‘‘เอกวีสตี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ? น, อวจนสฺส วุตฺตการณตฺตา, ตํ ปน อิตราวจนสฺสปิ การณนฺติ สมานเจตนาวจนการณวจเนน ยํ การณํ อเปกฺขิตฺวา เอกา วุตฺตา, เตน การเณน อิตรายปิ วตฺตพฺพตํ, ยฺจ การณํ อเปกฺขิตฺวา อิตรา น วุตฺตา, เตน การเณน วุตฺตายปิ อวตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ. อาเนฺชาภิสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโร เอวาติ เภทาภาวา ปากโฏติ น ตสฺส สํโยโค ทสฺสิโต.

สุขสฺาย คเหตฺวาติ เอเตน ตณฺหาปวตฺตึ ทสฺเสติ. ตณฺหาปริกฺขาเรติ ตณฺหาย ปริวาเร, ตณฺหาย ‘‘สุขํ สุภ’’นฺติอาทินา สงฺขเต วา อลงฺกเตติ อตฺโถ. ตณฺหา หิ ทุกฺขสฺส สมุทโยติ อชานนฺโต ‘‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’’นฺติ สงฺขาเร ปริกฺขโรตีติ. อมรณตฺถาติ คหิตา ทุกฺกรกิริยา อมรตโป, เทวภาวตฺถํ ตโป วา, ทุกฺขตฺตา วา มโร มารโก ตโป อมรตโป. ทิฏฺเ อทิฏฺ-สทฺโท วิย มเรสุ อมร-สทฺโท ทฏฺพฺโพ.

ชาติอาทิปปาตทุกฺขชนนโต มรุปปาตสทิสตา ปุฺาภิสงฺขารสฺส วุตฺตา. รมณียภาเวน จ อสฺสาทภาเวน จ คยฺหมานํ ปุฺผลํ ทีปสิขามธุลิตฺตสตฺถธาราสทิสํ, ตทตฺโถ จ ปุฺาภิสงฺขาโร ตํนิปาตเลหนสทิโส.

‘‘สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๖๙) สุขสฺาย พาโล วิย คูถกีฬนํ กิเลสาภิภูตตาย โกธารติอภิภูโต อสวโส มริตุกาโม วิย วิสขาทนํ กรณผลกฺขเณสุ ชิคุจฺฉนียํ ทุกฺขฺจ อปุฺาภิสงฺขารํ อารภติ. โลภสหคตสฺส วา คูถกีฬนสทิสตา, โทสสหคตสฺส วิสขาทนสทิสตา โยเชตพฺพา. กามคุณสมิทฺธิยา สภยสฺสปิ ปิสาจนครสฺส สุขวิปลฺลาสเหตุภาโว วิย อรูปวิปากานํ นิรนฺตรตาย อนุปลกฺขิยมานอุปฺปาทวยานํ, ทีฆสนฺตานตาย อคยฺหมานวิปริณามานํ, สงฺขารวิปริณามทุกฺขภูตานมฺปิ นิจฺจาทิวิปลฺลาสเหตุภาโวติ เตสํ ปิสาจนครสทิสตา, ตทภิมุขคมนสทิสตา จ อาเนฺชาภิสงฺขารสฺส โยเชตพฺพา.

ตาวาติ วตฺตพฺพนฺตราเปกฺโข นิปาโต, ตสฺมา อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโยติ อิทํ ตาว สิทฺธํ, อิทํ ปน อปรํ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชาปจฺจยา ปน สพฺพาเปตา โหนฺตีติ วุตฺตนฺติ อภิฺาเจตนานํ ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. เจโตปริยปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาเณหิ ปเรสํ อตฺตโน จ สโมหจิตฺตชานนกาเลติ โยเชตพฺพา.

อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตาติ ภวาทีนวปฏิจฺฉาทิกาย อวิชฺชาย สมฺมูฬฺหตฺตา. ราคาทีนนฺติ ราคทิฏฺิวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโทมนสฺสานํ อวิชฺชาสมฺปยุตฺตราคาทิอสฺสาทนกาเลสุ อวิชฺชํ อารพฺภ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ครุํ กตฺวา อสฺสาทนํ ราคทิฏฺิสมฺปยุตฺตาย เอว อวิชฺชาย โยเชตพฺพํ, อสฺสาทนฺจ ราโค, ตทวิปฺปยุตฺตา จ ทิฏฺีติ อสฺสาทนวจเนเนว ยถาวุตฺตํ อวิชฺชํ ครุํ กโรนฺตี ทิฏฺิ จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ราคาทีหิ จ ปาฬิยํ สรูเปน วุตฺเตหิ ตํสมฺปยุตฺตสงฺขารสฺส อวิชฺชารมฺมณาทิตํ ทสฺเสติ. อนวิชฺชารมฺมณสฺส ปมชวนสฺส อารมฺมณาธิปติอนนฺตราทิปจฺจยวจเนสุ อวุตฺตสฺส วุตฺตสฺส จ สพฺพสฺส สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อาห. วุตฺตนเยนาติ สมติกฺกมภวปตฺถนาวเสน วุตฺตนเยน.

เอกการณวาโท อาปชฺชตีติ โทสปฺปสงฺโค วุตฺโต. อนิฏฺโ หิ เอกการณวาโท สพฺพสฺส สพฺพกาเล สมฺภวาปตฺติโต เอกสทิสสภาวาปตฺติโต จ. ยสฺมา ตีสุ ปกาเรสุ อวิชฺชมาเนสุ ปาริเสเสน จตุตฺเถ เอว จ วิชฺชมาเน เอกเหตุผลทีปเน อตฺโถ อตฺถิ, ตสฺมา น นุปปชฺชติ.

ยถาผสฺสํ เวทนาววตฺถานโตติ ‘‘สุขเวทนียํ, ภิกฺขเว, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๖๒), ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ…เป… ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔๓) จ สุขเวทนียาทิจกฺขุสมฺผสฺสาทิอนุรูเปน สุขเวทนาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาเวทนาทีนํ ววตฺถานโต, สมาเนสุ จกฺขุรูปาทีสุ ผสฺสวเสน สุขาทิวิปริยายาภาวโต, สมาเนสุ จ รูปมนสิการาทีสุ จกฺขาทิสงฺฆฏฺฏนวเสน จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวิปริยายาภาวโต, อฺปจฺจยสามฺเปิ ผสฺสวเสน สุขาทิจกฺขุสมฺผสฺสชาทีนํ โอฬาริกสุขุมาทิสงฺกราภาวโต จาติ อตฺโถ. สุขาทีนํ ยถาวุตฺตสมฺผสฺสสฺส อวิปรีโต ปจฺจยภาโว เอว ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานํ, การณผลวิเสเสน วา ผลการณวิเสสนิจฺฉโย โหตีติ อุภยตฺถาปิ นิจฺฉโย ววตฺถานนฺติ วุตฺโต. กมฺมาทโยติ กมฺมาหารอุตุอาทโย อปากฏา เสมฺหปฏิกาเรน โรควูปสมโต.

‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ วจนโตติ ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓-๕๔) อิมินา สุตฺเตน ตณฺหาย สงฺขารการณภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. ปุน ตสฺสาปิ อวิชฺชา การณนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโยติ วจนโต’’ติ อาห. ตณฺหา วา จตุรุปาทานภูตา กามภวทิฏฺาสวา จ สงฺขารสฺส การณนฺติ ปากฏาติ สุตฺตทฺวเยนปิ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวเมว ทสฺเสติ. อสฺสาทานุปสฺสิโนติ หิ วจเนน อาทีนวปฏิจฺฉาทนกิจฺจา อวิชฺชา ตณฺหาย การณนฺติ ทสฺสิตา โหตีติ. ยสฺมา อวิทฺวา, ตสฺมา ปุฺาภิสงฺขาราทิเก อภิสงฺขโรตีติ อวิชฺชาย สงฺขารการณภาวสฺส ปากฏตฺตา อวิทฺทสุภาโว สงฺขารการณภาเวน วุตฺโต ขีณาสวสฺส สงฺขาราภาวโต อสาธารณตฺตา จ. ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติ ปุฺภวาทิอาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ อสาธารณํ การณนฺติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. านวิรุทฺโธติ อตฺถิตาวิรุทฺโธ. เกจิ ปน ‘‘ปฏิสนฺธิอาทีนิ านานี’’ติ วทนฺติ, เอวํ สติ ปุริมจิตฺตํ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส านวิรุทฺโธ ปจฺจโยติ น อิทํ เอกนฺติกํ สิยา. ภวงฺคมฺปิ หิ ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจโย, ชวนํ ชวนสฺสาติ, น จ สิปฺปาทีนํ ปฏิสนฺธิอาทิานํ อตฺถีติ น ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. กมฺมํ รูปสฺส นมนรุปฺปนวิโรธา สารมฺมณานารมฺมณวิโรธา จ สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ ทธิอาทีนํ มธุรมฺพิลรสาทิสภาววิโรธา. อวิชานนกิจฺโจ อาโลโก วิชานนกิจฺจสฺส วิฺาณสฺส, อมทนกิจฺจา จ คุฬาทโย มทนกิจฺจสฺส อาสวสฺส.

โคโลมาวิโลมานิ ทพฺพาย ปจฺจโย, ทธิอาทีนิ ภูติณกสฺส. เอตฺถ จ อวีติ รตฺตา เอฬกา วุจฺจนฺติ. วิปากาเยว เต จ น, ตสฺมา ทุกฺขวิปากายปิ อวิชฺชาย ตทวิปากานํ ปุฺาเนฺชาภิสงฺขารานํ ปจฺจยตฺตํ น น ยุชฺชตีติ อตฺโถ. ตทวิปากตฺเตปิ สาวชฺชตาย ตทวิรุทฺธานํ ตํสทิสานฺจ อปุฺาภิสงฺขารานเมว ปจฺจโย, น อิตเรสนฺติ เอตสฺส ปสงฺคสฺส นิวารณตฺถํ ‘‘วิรุทฺโธ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา. ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อิติ อยํ อวิชฺชา’’ติอาทิมาห.

อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณีนํ วิย ปุพฺพาปริยววตฺถานํ นิยติ, นิยติยา, นิยติ เอว วา สงฺคติ สมาคโม นิยติสงฺคติ, ตาย ภาเวสุ ปริณตา มนุสฺสเทววิหงฺคาทิภาวํ ปตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา. นิยติยา สงฺคติยา ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ จ อตฺถํ วทนฺติ. เอเตหิ จ วิกปฺปเนหิ อวิชฺชา อกุสลํ จิตฺตํ กตฺวา ปุฺาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส เอวํ อวิชฺชายา’’ติอาทิ.

อปริณายโก พาโลติ อรหตฺตมคฺคสมฺปฏิปาทกกลฺยาณมิตฺตรหิโตติ อตฺโถ. อรหตฺตมคฺคาวสานํ วา าณํ สมวิสมํ ทสฺเสตฺวา นิพฺพานํ นยตีติ ปริณายกนฺติ วุตฺตํ, เตน รหิโต อปริณายโก. ธมฺมํ ตฺวาติ สปฺปุริสูปนิสฺสเยน จตุสจฺจปฺปกาสกสุตฺตาทิธมฺมํ ตฺวา, มคฺคาเณเนว วา สพฺพธมฺมปวรํ นิพฺพานํ ตฺวา, ตํชานนายตฺตตฺตา ปน เสสสจฺจาภิสมยสฺส สมานกาลมฺปิ ตํ ปุริมกาลํ วิย กตฺวา วุตฺตํ.

สงฺขารปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๗. ยถาวุตฺตสงฺขารปจฺจยา อุปฺปชฺชมานํ ตํกมฺมนิพฺพตฺตเมว วิฺาณํ ภวิตุํ อรหตีติ ‘‘พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺตี’’ติ อาห. ธาตุกถายํ (ธาตุ. ๔๖๖) ปน วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทนิทฺเทเส –

‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาเณน เย ธมฺมา…เป… สฬายตนปจฺจยา ผสฺเสน, ผสฺสปจฺจยา เวทนาย เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ…เป… สงฺคหิตา? เต ธมฺมา อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา เอเกน ขนฺเธน เอกาทสหายตเนหิ เอกาทสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา. กติหิ อสงฺคหิตา? จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ –

วจนโต สพฺพวิฺาณผสฺสเวทนาปริคฺคโห กโต. ยทิ หิ เอตฺถ วิฺาณผสฺสเวทนา สปฺปเทสา สิยุํ, ‘‘วิปากา ธมฺมา’’ติ อิมสฺส วิย วิสฺสชฺชนํ สิยา, ตสฺมา ตตฺถ อภิธมฺมภาชนียวเสน สงฺขารปจฺจยา วิฺาณาทโย คหิตาติ เวทิตพฺพา. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา จ อภิธมฺมภาชนีเย จตุภูมกกุสลสงฺขาโร อกุสลสงฺขาโร จ วุตฺโตติ โส เอว ธาตุกถายํ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. ภโว ปน ธาตุกถายํ กมฺมุปปตฺติภววิเสสทสฺสนตฺถํ น อภิธมฺมภาชนียวเสน คหิโต. เอวฺจ กตฺวา ตตฺถ ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ อนุทฺธริตฺวา ‘‘กมฺมภโว’’ติอาทินาว นเยน ภโว อุทฺธโฏ. วิปากฺเหตนฺติ วิฺาณสฺส วิปากตฺตา สงฺขารปจฺจยตฺตํ สาเธติ, ตสฺส ปน สาธนตฺถํ ‘‘อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต’’ติ วุตฺตนฺติ ตํ วิวรนฺโต ‘‘วิปากฺจา’’ติอาทิมาห.

เยภุยฺเยน โลภสมฺปยุตฺตชวนาวสาเนติ ชวเนน ตทารมฺมณนิยเม โสมนสฺสสหคตานนฺตรํ โสมนสฺสสหคตตทารมฺมณสฺส วุตฺตตฺตา โสมนสฺสสหคตาเนว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปน ติเหตุกชวนาวสาเน จ กทาจิ อเหตุกํ ตทารมฺมณํ โหติ, ตสฺมา ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ อาห. สกึ วาติ ‘‘ทิรตฺตติรตฺตา’’ทีสุ วิย เวทิตพฺพํ. ทฺวิกฺขตฺตุเมว ปน อุปฺปชฺชนฺตีติ วทนฺติ. ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ เอตฺถ ปน วา-สทฺทสฺส อภาวา วจนสิลิฏฺตามตฺเตน ทิรตฺตคฺคหณํ กตนฺติ ยุชฺชติ, ‘‘นิรนฺตรติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา’’ติ. อิธ ปน วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ วุตฺโตติ สกึ เอว จ กทาจิ ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘สกึ วา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว หิ สกึ ตทารมฺมณปฺปวตฺติยา วิจาเรตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จิตฺตปฺปวตฺติคณนายนฺติ วิปากกถายํ พลวรูปาทิเก อารมฺมเณ วุตฺตํ จิตฺตปฺปวตฺติคณนํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ ทฺเวว ตทารมฺมณุปฺปตฺติวารา อาคตา. ชวนวิสยานุภวนฺหิ ตทารมฺมณํ อาสนฺนเภเท ตสฺมึ วิสเย เอกจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก น อุปฺปชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. อนุรูปาย ปฏิสนฺธิยาติ อกุสลวิปากสฺส อปายปฏิสนฺธิ, กามาวจราทิกุสลวิปากานํ กามรูปารูปสุคติปฏิสนฺธิโย ยถากมฺมํ อนุรูปา.

ปฏิสนฺธิกถา มหาวิสยาติ กตฺวา ปวตฺติเมว ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ปวตฺติยํ ปนา’’ติอาทิมาห. อเหตุกทฺวยาทีนํ ทฺวารนิยมานิยมาวจนํ ภวงฺคภูตานํ สยเมว ทฺวารตฺตา จุติปฏิสนฺธิภูตานฺจ ภวงฺคสงฺขาเตน อฺเน จ ทฺวาเรน อนุปฺปตฺติโต นิยตํ อนิยตํ วา ทฺวารํ เอเตสนฺติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. เอกสฺส สตฺตสฺส ปวตฺตรูปาวจรวิปาโก ปถวีกสิณาทีสุ ยสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺโต, ตโต อฺสฺมึ ตสฺส ปวตฺติ นตฺถีติ รูปาวจรานํ นิยตารมฺมณตา วุตฺตา. ตตฺรสฺสาติ ปวตฺติยํ พาตฺตึสวิธสฺส.

อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต เอว จกฺขุโสตทฺวารเภเทน, ตสฺส จ วิฺาณวีถิเภทายตฺตตฺตา วีถิเภเทน จ ภวิตพฺพํ, ตสฺมิฺจ สติ ‘‘อาวชฺชนานนฺตรํ ทสฺสนํ สวนํ วา ตทนนฺตรํ สมฺปฏิจฺฉน’’นฺติอาทินา จิตฺตนิยเมน ภวิตพฺพํ. ตถา จ สติ สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณานมฺปิ ภาโว สิทฺโธ โหติ, น อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาเวน ทสฺสนสวนมตฺตสฺเสว, นาปิ อินฺทฺริยานํ เอว ทสฺสนสวนกิจฺจตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จา’’ติ. ปมกุสเลน เจ ตทารมฺมณสฺส อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ปมกุสลานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ ชนกํ อนุพนฺธติ นาม, ทุติยกุสลาทิอนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ ชนกสทิสํ อนุพนฺธติ นาม, อกุสลานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานฺจ กามาวจรตาย ชนกสทิสนฺติ.

เอกาทส ตทารมฺมณจิตฺตานิ…เป… ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺตีติ ตทารมฺมณภาวตาย ‘‘ตทารมฺมณ’’นฺติ ลทฺธนามานิ ตทารมฺมณภาวํ น คณฺหนฺติ, ตทารมฺมณภาเวน นปฺปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา นามโคตฺตํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณํ ตสฺส ชวนสฺส อารมฺมณํ น คณฺหนฺติ, นาลมฺพนฺตีติ อตฺโถ. รูปารูปธมฺเมติ รูปารูปาวจเร ธมฺเม. อิทํ ปน วตฺวา ‘‘อภิฺาาณํ อารพฺภา’’ติ วิเสสนํ ปริตฺตาทิอารมฺมณตาย กามาวจรสทิเสสุ เจว ตทารมฺมณานุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา มคฺโค วิย ภาวนาย สิทฺธา มหาพลา จาติ ตตฺถ ชวเนน ปวตฺตมาเนน สานุพนฺธเนน น ภวิตพฺพนฺติ เตสุ ตทารมฺมณํ ปฏิกฺขิตฺตํ. โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภาติ เอเตเนว สิทฺเธ ‘‘สมฺมตฺตนิยตธมฺเมสู’’ติ วิสุํ อุทฺธรณํ สมฺมตฺตมิจฺฉตฺตนิยตธมฺมานํ อฺมฺปฏิปกฺขาติ พลวภาเวน ตทารมฺมณสฺส อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถํ.

เอวํ ปวตฺติยํ วิฺาณปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปฏิสนฺธิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปน วุตฺต’’นฺติอาทิมาห. เกน กตฺถาติ เกน จิตฺเตน กสฺมึ ภเว. เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิโย เตน เตน จิตฺเตน ปวตฺตมานา ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปารูปธมฺมาติ เตน เตน จิตฺเตน สา สา ตตฺถ ตตฺถ ปฏิสนฺธิ โหตีติ วุตฺตา. ตสฺสาติ จิตฺตสฺส.

อาคนฺตฺวาติ อาคตํ วิย หุตฺวา. โคปกสีวลีติ รฺโ หิตารกฺเข โคปกกุเล ชาโต สีวลินามโก. กมฺมาทิอนุสฺสรณพฺยาปารรหิตตฺตา ‘‘สมฺมูฬฺหกาลกิริยา’’ติ วุตฺตา. อพฺยาปาเรเนว หิ ตตฺถ กมฺมาทิอุปฏฺานํ โหตีติ. ‘‘ปิสิยมานาย มกฺขิกาย ปมํ กายทฺวาราวชฺชนํ ภวงฺคํ นาวฏฺเฏติ อตฺตนา จินฺติยมานสฺส กสฺสจิ อตฺถิตายา’’ติ เกจิ การณํ วทนฺติ, ตเทตํ อการณํ ภวงฺควิสยโต อฺสฺส จินฺติยมานสฺส อภาวา อฺจิตฺตปฺปวตฺตกาเล จ ภวงฺคาวฏฺฏนสฺเสว อสมฺภวโต. อิทํ ปเนตฺถ การณํ สิยา – ‘‘ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) วจนโต ตีสุ ชวนวาเรสุ อปฺปวตฺเตสฺเวว กมฺมาทิอุปฏฺาเนน ภวิตพฺพํ. อเนกชวนวารปฺปวตฺติยา หิ อชฺโฌลมฺพนํ อภิปฺปลมฺพนฺจ โหตีติ. ตสฺมา กายทฺวาราวชฺชนํ อนาวฏฺเฏตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนเมว กมฺมาทิอาลมฺพณํ ปมํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, ตโต โผฏฺพฺพสฺส พลวตฺตา ทุติยวาเร กายวิฺาณวีถิ ปจฺจุปฺปนฺเน โผฏฺพฺเพ ปวตฺตติ, ตโต ปุริมชวนวารคหิเตสฺเวว กมฺมาทีสุ กเมน มโนทฺวารชวนํ ชวิตฺวา มูลภวงฺคสงฺขาตํ อาคนฺตุกภวงฺคสงฺขาตํ วา ตทารมฺมณํ ภวงฺคํ โอตรติ, ตทารมฺมณาภาเว วา ภวงฺคเมว. เอตสฺมึ าเน กาลํ กโรตีติ ตทารมฺมณานนฺตเรน จุติจิตฺเตน, ตทารมฺมณาภาเว วา ภวงฺคสงฺขาเตเนว จุติจิตฺเตน จวตีติ อตฺโถ. ภวงฺคเมว หิ จุติจิตฺตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ จุติจิตฺตํ อิธ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุตฺตนฺติ. มโนทฺวารวิสโย ลหุโกติ ลหุกปจฺจุปฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อรูปธมฺมานํ…เป… ลหุโก’’ติ. อรูปธมฺมสฺส หิ มโนทฺวารสฺส วิสโย ลหุกปจฺจุปฏฺาโนติ. พลวติ จ รูปธมฺมสฺส กายทฺวารสฺส วิสเย อปฺปวตฺติตฺวา มโนทฺวารวิสเย กมฺมาทิมฺหิ ปมํ จิตฺตปฺปวตฺติทสฺสเนน อรูปธมฺมานํ วิสยสฺส ลหุกตา ทีปิตาติ. รูปานํ วิสยาภาเวปิ วา ‘‘อรูปธมฺมาน’’นฺติ วจนํ เยสํ วิสโย อตฺถิ, ตํทสฺสนตฺถเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เตน ลหุกมฺมาทีสุ จิตฺตปฺปวตฺติโต ลหุคหณียตา วิสยสฺส ลหุกตา.

กมฺมาทีนํ ภูมิจิตฺตุปาทาทิวเสน วิตฺถารโต อนนฺโต ปเภโทติ ‘‘สงฺเขปโต’’ติ อาห.

อวิชฺชาตณฺหาทิกิเลเสสุ อนุปจฺฉินฺเนสฺเวว กมฺมาทิโน อุปฏฺานํ, ตฺจารพฺภ จิตฺตสนฺตานสฺส ภวนฺตรนินฺนโปณปพฺภารตา โหตีติ อาห ‘‘อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวินามิต’’นฺติ. สนฺตาเน หิ วินามิเต ตเทกเทสภูตํ ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วินามิตเมว โหติ, น จ เอกเทสวินามิตภาเวน วินา สนฺตานวินามิตตา อตฺถีติ. สพฺพตฺถ ปน ‘‘ทุคฺคติปฏิสนฺธินินฺนาย จุติยา ปุริมชวนานิ อกุสลานิ, อิตราย จ กุสลานี’’ติ นิจฺฉินนฺติ. ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ อนุพฺยฺชนสฺสาทคธิตํ วา. ตสฺมึ เจ สมเย กาลํ กโรติ, านเมตํ วิชฺชติ, ยํ ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ อุปปชฺเชยฺย นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕) วุตฺตํ. ตสฺมา อาสนฺนํ อกุสลํ ทุคฺคติยํ, กุสลฺจ สุคติยํ ปฏิสนฺธิยา อุปนิสฺสโย โหตีติ.

ราคาทิเหตุภูตํ หีนมารมฺมณนฺติ อกุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ ภวิตุํ ยุตฺตํ อนิฏฺารมฺมณํ อาห. ตมฺปิ หิ สงฺกปฺปวเสน ราคสฺสปิ เหตุ โหตีติ. อกุสลวิปากชนกกมฺมสหชาตานํ วา ตํสทิสาสนฺนจุติชวนเจตนาสหชาตานฺจ ราคาทีนํ เหตุภาโว เอว หีนตา. ตฺหิ ปจฺฉานุตาปชนกกมฺมานมารมฺมณํ กมฺมวเสน อนิฏฺํ อกุสลวิปากสฺส อารมฺมณํ ภเวยฺย, อฺถา จ อิฏฺารมฺมเณ ปวตฺตสฺส อกุสลกมฺมสฺส วิปาโก กมฺมนิมิตฺตารมฺมโณ น ภเวยฺย. น หิ อกุสลวิปาโก อิฏฺารมฺมโณ ภวิตุมรหตีติ. ปฺจทฺวาเร จ อาปาถมาคจฺฉนฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ กมฺมนิมิตฺตํ อาสนฺนกตกมฺมารมฺมณสนฺตติยํ อุปฺปนฺนํ ตํสทิสฺจ ทฏฺพฺพํ, อฺถา ตเทว ปฏิสนฺธิอารมฺมณูปฏฺาปกํ ตเทว จ ปฏิสนฺธิชนกํ ภเวยฺย, น จ ปฏิสนฺธิยา อุปจารภูตานิ วิย ‘‘เอตสฺมึ ตยา ปวตฺติตพฺพ’’นฺติ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ อนุปาเทนฺตานิ วิย จ ปวตฺตานิ จุติอาสนฺนานิ ชวนานิ ปฏิสนฺธิชนกานิ ภเวยฺยุํ. ‘‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑) หิ วุตฺตํ. ตทา จ ตํสมานวีถิยํ วิย ปวตฺตมานานิ กถํ กตูปจิตานิ สิยุํ, น จ อสฺสาทิตานิ ตทา, น จ โลกิยานิ โลกุตฺตรานิ วิย สมานวีถิผลานิ โหนฺติ.

‘‘ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๓) –

อาทินา สุตฺเต มรณกาเล สมตฺตาย สมาทินฺนาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิยา จ สหชาตเจตนาย ปฏิสนฺธิทานํ วุตฺตํ, น จ ทุพฺพเลหิ ปฺจทฺวาริกชวเนหิ มิจฺฉาทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺิ วา สมตฺตา โหติ สมาทินฺนา. วกฺขติ จ –

‘‘สพฺพมฺปิ เหตํ กุสลากุสลธมฺมปฏิวิชานนาทิจวนปริโยสานํ กิจฺจํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว โหติ, น ปฺจทฺวาริเกนาติ สพฺพสฺสเปตสฺส กิจฺจสฺส กรเณ สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ ปฏิกฺขิตฺตานี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๖๖).

ตตฺถ หิ ‘‘น กิฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ ‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลํ วา อกุสลํ วา น ปฏิวิชานาตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๖๖) จ วุตฺตํ. เยสํ ปฏิวิภาวนปฺปวตฺติยา สุขํ วา ทุกฺขํ วา อนฺเวติ, เตสํ สา ปวตฺติ ปฺจทฺวาเร ปฏิกฺขิตฺตา, กุสลากุสลกมฺมสมาทานฺจ ตาทิสเมวาติ. ตทารมฺมณานนฺตรํ ปน จวนํ, ตทนนฺตรา จ อุปปตฺติ มโนทฺวาริกา เอว โหติ, น สหชวนกวีถิจิตฺเต ปริยาปนฺนาติ อิมินา อธิปฺปาเยน อิธ ปฺจทฺวาริกตทารมฺมณานนฺตรํ จุติ, ตทนนฺตรํ ปฏิสนฺธิ จ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก รูปาทิมฺหิ อุปฺปนฺนํ ปฏิสนฺธึ สนฺธาเยว ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ อุปปตฺติจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ, อวเสเสกจิตฺตกฺขณายุเก จ อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ อุปปตฺติจิตฺตํ อตีตารมฺมณสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๒๘) วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

สุทฺธาย วาติ มหคฺคตกมฺมนิมิตฺตารมฺมณาย ชวนวีถิยา ตทารมฺมณรหิตายาติ อตฺโถ. สา ปน ชวนวีถิ มหคฺคตวิปากสฺส อุปจาโร วิย ทฏฺพฺพา. เกจิ ปน ตํ วีถึ มหคฺคตาวสานํ วทนฺติ. อตีตารมฺมณา เอกาทสวิธา, นวตฺตพฺพารมฺมณา สตฺตวิธา.

เอเตนานุสาเรน อารุปฺปจุติยาปิ อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ เวทิตพฺพาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘ปถวีกสิณชฺฌานาทิวเสน ปฏิลทฺธมหคฺคตสุคติยํ ิตสฺสา’’ติ เอวมาทิเก เอว นเย อยมฺปิ ปฏิสนฺธิ อวรุทฺธาติ? น, ตตฺถ รูปาวจรจุติอนนฺตราย เอว ปฏิสนฺธิยา วุตฺตตฺตา. ตตฺถ หิ ‘‘ปถวีกสิณาทิกํ วา นิมิตฺตํ มหคฺคตจิตฺตํ วา มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. จกฺขุโสตานํ วา’’ติอาทิเกน รูปาวจรจุติยา เอว อนนฺตรา ปฏิสนฺธิ วุตฺตาติ วิฺายติ. อถาปิ ยถาสมฺภวโยชนาย อยมฺปิ ปฏิสนฺธิ ตตฺเถว อวรุทฺธา, อรูปาวจรจุติอนนฺตรา ปน รูปาวจรปฏิสนฺธิ นตฺถิ, อรูปาวจเร จ อุปรูปริจุติยา เหฏฺิมา เหฏฺิมา ปฏิสนฺธีติ จตุตฺถารุปฺปจุติยา นวตฺตพฺพารมฺมณา ปฏิสนฺธิ นตฺถิ. เตน ตโต ตตฺเถว อตีตารมฺมณา กามาวจเร จ อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธิ อิตราหิ จ ยถาสมฺภวํ อตีตนวตฺตพฺพารมฺมณา อารุปฺปปฏิสนฺธิ, อตีตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา จ กามาวจรปฏิสนฺธิ โยเชตพฺพาติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ วิสุํ อุทฺธรณํ กตํ.

เอวํ อารมฺมณวเสน เอกวิธาย กามาวจรสุคติจุติยา ทุวิธา ทุคฺคติปฏิสนฺธิ, ทุคฺคติจุติยา ทุวิธา สุคติปฏิสนฺธิ, กามาวจรสุคติจุติยา ทฺวิเอกทฺวิปฺปการานํ กามรูปารุปฺปานํ วเสน ปฺจวิธา สุคติปฏิสนฺธิ, รูปาวจรจุติยา จ ตเถว ปฺจวิธา, ทุวิธาย อารุปฺปจุติยา ปจฺเจกํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ กามารุปฺปานํ วเสน อฏฺวิธา จ ปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา, ทุคฺคติจุติยา ปน เอกวิธาย ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทุวิธา น ทสฺสิตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุคฺคติยํ ิตสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. ยถาวุตฺตา ปน –

ทฺวิทฺวิปฺจปฺปการา จ, ปฺจาฏฺทุวิธาปิ จ;

จตุวีสติ สพฺพาปิ, ตา โหนฺติ ปฏิสนฺธิโย.

‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๔๓๑, ๔๕๕, ๔๙๘) นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว ทสฺสิตปฺปกาโรติ อุปนิสฺสยปจฺจยภาวเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห.

อาทินา สหาติอาทินา วิมิสฺสวิฺาเณน สห. โอมโต ทฺเว วา ตโย วา ทสกา อุปฺปชฺชนฺตีติ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน วุตฺตํ. อฺตฺถ หิ อเนเก กลาปา สห อุปฺปชฺชนฺติ. พฺรหฺมตฺตภาเวปิ หิ อเนกคาวุตปฺปมาเณ อเนเก กลาปา สหุปฺปชฺชนฺตีติ ตึสโต อธิกาเนว รูปานิ โหนฺติ คนฺธรสาหารานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา จกฺขุโสตวตฺถุสตฺตกชีวิตฉกฺกภาเวปิ เตสํ พหุตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ตตฺถปิ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานํ ชีวิตนวกสฺส จ อุปฺปตฺติ วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน ‘‘รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ เปตฺวา อสฺสตฺตานํ เทวานํ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ปฺจ ธาตุโย ปาตุภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตถา ‘‘รูปธาตุยา ฉ อายตนานิ นว ธาตุโย’’ติ สพฺพสงฺคหวเสน ตตฺถ วิชฺชมานายตนธาตุโย ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. กถาวตฺถุมฺหิ จ ฆานายตนาทีนํ วิย คนฺธายตนาทีนฺจ ตตฺถ ภาโว ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนนฺติ? อามนฺตา, อตฺถิ ตตฺถ คนฺธายตนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติอาทินา (กถา. ๕๑๙), น จ อโผฏฺพฺพายตนานํ ปถวีธาตุอาทีนํ วิย อคนฺธรสายตนานํ คนฺธรสานํ ตตฺถ ภาโว สกฺกา วตฺตุํ ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตาวินิมุตฺตสฺส ปถวีอาทิสภาวสฺส วิย คนฺธรสภาววินิมุตฺตสฺส คนฺธรสสภาวสฺส อภาวา.

ยทิ จ ฆานสมฺผสฺสาทีนํ การณภาโว นตฺถีติ อายตนานีติ เตน วุจฺเจยฺยุํ, ธาตุ-สทฺโท ปน นิสฺสตฺตนิชฺชีววาจโกติ คนฺธธาตุรสธาตูติ อวจเน นตฺถิ การณํ, ธมฺมภาโว จ เตสํ เอกนฺเตน อิจฺฉิตพฺโพ สภาวธารณาทิลกฺขณโต อฺสฺส อภาวา, ธมฺมานฺจ อายตนภาโว เอกนฺตโต ยมเก (ยม. ๑. อายตนยมก.๑๓) วุตฺโต ‘‘ธมฺโม อายตนนฺติ? อามนฺตา’’ติ. ตสฺมา เตสํ คนฺธรสายตนภาวาภาเวปิ โกจิ อายตนสภาโว วตฺตพฺโพ. ยทิ จ โผฏฺพฺพภาวโต อฺโ ปถวีธาตุอาทิภาโว วิย คนฺธรสภาวโต อฺโ เตสํ โกจิ สภาโว สิยา, เตสํ ธมฺมายตเน สงฺคโห. คนฺธรสภาเว ปน อายตนภาเว จ สติ คนฺโธ จ โส อายตนฺจ คนฺธายตนํ, รโส จ โส อายตนฺจ รสายตนนฺติ อิทมาปนฺนเมวาติ คนฺธรสายตนภาโว จ น สกฺกา นิวาเรตุํ, ‘‘ตโย อาหารา’’ติ (วิภ. ๙๙๓) จ วจนโต กพฬีการาหารสฺส ตตฺถ อภาโว วิฺายติ. ตสฺมา ยถา ปาฬิยา อวิโรโธ โหติ, ตถา รูปคณนา กาตพฺพา. เอวฺหิ ธมฺมตา น วิโลมิตา โหตีติ.

ชาติอุณฺณายาติ คพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตอุณฺณายาติปิ วทนฺติ. สมฺภวเภโทติ อตฺถิตาเภโท. นิชฺฌามตณฺหิกา กิร นิจฺจํ ทุกฺขาตุรตาย กามํ เสวิตฺวา คพฺภํ น คณฺหนฺติ.

รูปีพฺรหฺเมสุ ตาว โอปปาติกโยนิเกสูติ โอปปาติกโยนิเกหิ รูปีพฺรหฺเม นิทฺธาเรติ. ‘‘สํเสทโชปปาตีสุ อวกํสโต ตึสา’’ติ เอตํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อวกํสโต ปนา’’ติอาทิ, ตํ ปเนตํ ปาฬิยา น สเมติ. น หิ ปาฬิยํ กามาวจรานํ สํเสทโชปปาติกานํ อฆานกานํ อุปปตฺติ วุตฺตา. ธมฺมหทยวิภงฺเค (วิภ. ๑๐๐๗) หิ –

‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทสายตนานิ, กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานิ, กสฺสจิ นวายตนานิ, กสฺสจิ สตฺตายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ –

วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ. ตถา ‘‘ทสายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ สิยา, อฆานกอุปปตฺติยา วิชฺชมานาย ติกฺขตฺตุฺจ ‘‘นวายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ, น จ ตํ วุตฺตํ. เอวํ ธาตุปาตุภาวาทิปฺเหสุ ยมเกปิ ฆานชิวฺหากายานํ สหจาริตา วุตฺตาติ.

จุติปฏิสนฺธีนํ ขนฺธาทีหิ อฺมฺํ สมานตา อเภโท, อสมานตา เภโท. นยมุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา วุตฺตํ อวุตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหิตฺวา อาห ‘‘อยํ ตาว อรูปภูมีสุเยว นโย’’ติ. รูปารูปาวจรานํ อุปจารสฺส พลวตาย ตโต จวิตฺวา ทุคฺคติยํ อุปปตฺติ นตฺถีติ ‘‘เอกจฺจสุคติจุติยา’’ติ อาห. เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธีติ เอตฺถ เอกจฺจคฺคหณสฺส ปโยชนํ มคฺคิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถาธิปฺปาโย สิยา – นานตฺตกายนานตฺตสฺีสุ วุตฺตา เอกจฺเจ วินิปาติกา ติเหตุกาทิปฏิสนฺธิกา, เตสํ ตํ ปฏิสนฺธึ วินิปาตภาเวน ทุคฺคติปฏิสนฺธีติ คเหตฺวา สพฺพสุคติจุติยาว สา ปฏิสนฺธิ โหติ, น เอกจฺจสุคติจุติยา เอวาติ ตํนิวตฺตนตฺถํ เอกจฺจทุคฺคติคฺคหณํ กตํ. อปายปฏิสนฺธิ เอว หิ เอกจฺจสุคติจุติยา โหติ, น สพฺพสุคติจุติยา. อถ วา ทุคฺคติปฏิสนฺธิ ทุวิธา เอกจฺจสุคติจุติยา อนนฺตรา ทุคฺคติจุติยา จาติ. ตตฺถ ปจฺฉิมํ วชฺเชตฺวา ปุริมํ เอว คณฺหิตุํ อาห ‘‘เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธี’’ติ. อเหตุกจุติยา สเหตุกปฏิสนฺธีติ ทุเหตุกา ติเหตุกา จ โยเชตพฺพา. มณฺฑูกเทวปุตฺตาทีนํ วิย หิ อเหตุกจุติยา ติเหตุกปฏิสนฺธิปิ โหตีติ.

ตสฺส ตสฺส วิปรีตโต จ ยถาโยคํ โยเชตพฺพนฺติ ‘‘เอกจฺจสุคติจุติยา เอกจฺจทุคฺคติปฏิสนฺธี’’ติอาทีสุ เภทวิเสเสสุ ‘‘เอกจฺจทุคฺคติจุติยา เอกจฺจสุคติปฏิสนฺธี’’ติอาทินา ยํ ยํ ยุชฺชติ, ตํ ตํ โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยุชฺชมานมตฺตาเปกฺขนวเสน นปุํสกนิทฺเทโส กโต, โยเชตพฺพนฺติ วา ภาวตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณาย มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาติอาทีสุ ปน วิปรีตโยชนา น กาตพฺพา. น หิ มหคฺคตอชฺฌตฺตารมฺมณาย จุติยา อรูปภูมีสุ อมหคฺคตพหิทฺธารมฺมณา ปฏิสนฺธิ อตฺถิ. จตุกฺขนฺธาย อรูปจุติยา ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรปฏิสนฺธีติ เอตสฺส วิปริยาโย สยเมว โยชิโต. อตีตารมฺมณจุติยา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ปฏิสนฺธีติ เอตสฺส จ วิปริยาโย นตฺถิ เอวาติ. เภทวิเสโส เอว จ เอวํ วิตฺถาเรน ทสฺสิโต, อเภทวิเสโส ปน เอเกกสฺมึ เภเท ตตฺถ ตตฺเถว จุติปฏิสนฺธิโยชนาวเสน โยเชตพฺโพ ‘‘ปฺจกฺขนฺธาย กามาวจราย ปฺจกฺขนฺธา กามาวจรา…เป… อวิตกฺกอวิจาราย อวิตกฺกอวิจารา’’ติ, จตุกฺขนฺธาย ปน จตุกฺขนฺธา สยเมว โยชิตา. เอเตเนว นเยน สกฺกา าตุนฺติ ปฺจกฺขนฺธาทีสุ อเภทวิเสโส น ทสฺสิโตติ. ตโต เหตุํ วินาติ ตตฺถ เหตุํ วินา.

องฺคปจฺจงฺคสนฺธีนํ พนฺธนานิ องฺคปจฺจงฺคสนฺธิพนฺธนานิ, เตสํ เฉทกานํ. นิรุทฺเธสุ จกฺขาทีสูติ อติมนฺทภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฺจทฺวาริกวิฺาณานนฺตรมฺปิ หิ ปุพฺเพ จุติ ทสฺสิตา. ยมเก จ (ยม. ๑.อายตนยมก.๑๒๐) –

‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส มนายตนํ นิรุชฺฌตีติ? อามนฺตา. ยสฺส วา ปน มนายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌตีติ? สจิตฺตกานํ อจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนํ นิรุชฺฌติ, โน จ เตสํ จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ. สจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนฺจ นิรุชฺฌติ, จกฺขายตนฺจ นิรุชฺฌตี’’ติ –

อาทินา จกฺขายตนาทีนํ จุติจิตฺเตน สห นิโรโธ วุตฺโตติ. ลทฺโธ อวเสโส อวิชฺชาทิโก วิฺาณสฺส ปจฺจโย เอเตนาติ ลทฺธาวเสสปจฺจโย, สงฺขาโร. อวิชฺชาปฏิจฺฉาทิตาทีนเว ตสฺมึ กมฺมาทิวิสเย ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส อารมฺมณภาเวน อุปฺปตฺติฏฺานภูเต ตณฺหาย อปฺปหีนตฺตา เอว ปุริมุปฺปนฺนาย จ สนฺตติยา ปริณตตฺตา ปฏิสนฺธิฏฺานาภิมุขํ วิฺาณํ นินฺนโปณปพฺภารํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ตณฺหา นาเมตี’’ติ. สหชาตสงฺขาราติ จุติอาสนฺนชวนวิฺาณสหชาตเจตนา, สพฺเพปิ วา ผสฺสาทโย. ตสฺมึ ปฏิสนฺธิฏฺาเน กมฺมาทิวิสเย วิฺาณํ ขิปนฺติ, ขิปนฺตา วิย ตสฺมึ วิสเย ปฏิสนฺธิวเสน วิฺาณปติฏฺานสฺส เหตุภาเวน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

นฺติ ตํ วิฺาณํ, จุติปฏิสนฺธิตทาสนฺนวิฺาณานํ สนฺตติวเสน วิฺาณนฺติ อุปนีเตกตฺตํ. ตณฺหาย นามิยมานํ…เป… ปวตฺตตีติ นมนขิปนปุริมนิสฺสยชหนาปรนิสฺสยสฺสาทนนิสฺสยรหิตปวตฺตนานิ สนฺตติวเสน ตสฺเสเวกสฺส วิฺาณสฺส โหนฺติ, น อฺสฺสาติ ทสฺเสติ. สนฺตติวเสนาติ จ วทนฺโต ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๙๖) อิทฺจ มิจฺฉาคาหํ ปฏิกฺขิปติ. สติ หิ นานตฺตนเย สนฺตติวเสน เอกตฺตนโย โหตีติ. โอริมตีรรุกฺขวินิพทฺธรชฺชุ วิย ปุริมภวตฺตภาววินิพนฺธํ กมฺมาทิอารมฺมณํ ทฏฺพฺพํ, ปุริโส วิย วิฺาณํ, ตสฺส มาติกาติกฺกมนิจฺฉา วิย ตณฺหา, อติกฺกมนปโยโค วิย ขิปนกสงฺขารา. ยถา จ โส ปุริโส ปรตีเร ปติฏฺหมาโน ปรตีรรุกฺขวินิพทฺธํ กิฺจิ อสฺสาทยมาโน อนสฺสาทยมาโน วา เกวลํ ปถวิยํ สพลปโยเคเหว ปติฏฺาติ, เอวมิทมฺปิ ภวนฺตรตฺตภาววินิพทฺธํ หทยวตฺถุนิสฺสยํ ปฺจโวการภเว อสฺสาทยมานํ จตุโวการภเว อนสฺสาทยมานํ วา เกวลํ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺเมเหว ปวตฺตติ. ตตฺถ อสฺสาทยมานนฺติ ปาปุณนฺตํ, ปฏิลภมานนฺติ อตฺโถ.

ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโตติ ภวนฺตรสฺส อาทิสมฺพนฺธนโต, ภวนฺตราทโย วา ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสนฺตรา, เตสํ ปฏิสนฺธานโตติ อตฺโถ. กมฺมนฺติ ปฏิสนฺธิชนกํ กมฺมํ. สงฺขาราติ จุติอาสนฺนชวนวิฺาณสหคตา ขิปนกสงฺขารา.

สทฺทาทิเหตุกาติ เอตฺถ ปฏิโฆโส สทฺทเหตุโก, ปทีโป ปทีปนฺตราทิเหตุโก, มุทฺทา ลฺฉนเหตุกา, ฉายา อาทาสาทิคตมุขาทิเหตุกา. อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺตีติ สทฺทาทิปจฺจยเทสํ อคนฺตฺวา สทฺทาทิเหตุกา โหนฺติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, เอวมิทมฺปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ น เหตุเทสํ คนฺตฺวา ตํเหตุกํ โหติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, ตสฺมา น อิทํ เหตุเทสโต ปุริมภวโต อาคตํ ปฏิโฆสาทโย วิย สทฺทาทิเทสโต, นาปิ ตตฺถ เหตุนา วินา อุปฺปนฺนํ สทฺทาทีหิ วินา ปฏิโฆสาทโย วิยาติ อตฺโถ. อถ วา อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺตีติ ปุพฺเพ ปจฺจยเทเส สนฺนิหิตา หุตฺวา ตโต อฺตฺร คนฺตฺวา ตปฺปจฺจยา น โหนฺติ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อภาวา, นาปิ สทฺทาทิปจฺจยา น โหนฺติ, เอวมิทมฺปีติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. เอส นโยติ พีชงฺกุราทีสุ สพฺพเหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ ยถาสมฺภวํ โยชนา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อิธาปิ หิ เหตุเหตุสมุปฺปนฺนวิฺาณานํ เอกนฺตเมกตฺเต สติ น มนุสฺสคติโก เทวคติภูโต สิยา, เอกนฺตนานตฺเต น กมฺมวโต ผลํ สิยา. ตโต ‘‘รตฺตสฺส พีชํ, รตฺตสฺส ผล’’นฺติอาทิกสฺส วิย ‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสี’’ติอาทิกสฺส (สํ. นิ. ๑.๑๐๗) โวหารสฺส โลโป สิยา, ตสฺมา เอตฺถ สนฺตานพนฺเธ สติ เหตุเหตุสมุปฺปนฺเนสุ น เอกนฺตเมว เอกตา วา นานตา วา อุปคนฺตพฺพา. เอตฺถ จ เอกนฺตเอกตาปฏิเสเธน ‘‘สยํกตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรติ, เอกนฺตนานตาปฏิเสเธน ‘‘ปรํกตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติ, เหตุเหตุสมุปฺปนฺนภาววจเนน ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ. เอตฺถาติ เอกสนฺตาเน.

จตุมธุรอลตฺตกรสาทิภาวนา อมฺพมาตุลุงฺคาทิพีชานํ อภิสงฺขาโร. เอตฺถ พีชํ วิย กมฺมวา สตฺโต, อภิสงฺขาโร วิย กมฺมํ, พีชสฺส องฺกุราทิปฺปพนฺโธ วิย สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณาทิปฺปพนฺโธ, ตตฺถุปฺปนฺนสฺส มธุรสฺส รตฺตเกสรสฺส วา ผลสฺส วา ตสฺเสว พีชสฺส, ตโต เอว จ อภิสงฺขารโต ภาโว วิย กมฺมการกสฺเสว สตฺตสฺส, ตํกมฺมโต เอว จ ผลสฺส ภาโว เวทิตพฺโพ. พาลสรีเร กตํ วิชฺชาปริยาปุณนํ สิปฺปสิกฺขนํ โอสธปฺปโยโค จ น วุฑฺฒสรีรํ คจฺฉนฺติ. อถ จ ตํนิมิตฺตํ วิชฺชาปาฏวํ สิปฺปชานนํ อนามยตา จ วุฑฺฒสรีเร โหติ, น จ ตํ อฺสฺส โหติ ตํสนฺตติปริยาปนฺเน เอว วุฑฺฒสรีเร อุปฺปชฺชนโต, น จ ยถาปยุตฺเตน วิชฺชาปริยาปุณนาทินา วินา อฺโต โหติ ตทภาเว อภาวโต. เอวมิธาปิ สนฺตาเน ยํ ผลํ, เอตํ นาฺสฺส, น จ อฺโตติ โยเชตพฺพํ. น อฺโตติ เอเตน จ สงฺขาราภาเว ผลาภาวเมว ทสฺเสติ, นาฺปจฺจยนิวารณํ กโรติ.

ยมฺปิ วุตฺตํ, ตตฺถ วทามาติ วจนเสโส. ตตฺถ วา อุปภุฺชเก อสติ สิทฺธา ภุฺชกสมฺมุตีติ สมฺพนฺโธ. ผลตีติ สมฺมุติ ผลติสมฺมุติ.

เอวํ สนฺเตปีติ อสงฺกนฺติปาตุภาเว, ตตฺถ จ ยถาวุตฺตโทสปริหรเณ สติ สิทฺเธติ อตฺโถ. ปวตฺติโต ปุพฺเพติ กมฺมายูหนกฺขณโต ปุพฺเพ. ปจฺฉา จาติ วิปจฺจนปวตฺติโต ปจฺฉา จ. อวิปกฺกวิปากา กตตฺตา เจ ปจฺจยา, วิปกฺกวิปากานมฺปิ กตตฺตํ สมานนฺติ เตสมฺปิ ผลาวหตา สิยาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘น จ นิจฺจํ ผลาวหา’’ติ. น วิชฺชมานตฺตา วา อวิชฺชมานตฺตา วาติ เอเตน วิชฺชมานตฺตํ อวิชฺชมานตฺตฺจ นิสฺสาย วุตฺตโทเสว ปริหรติ.

ตสฺสา ปาฏิโภคกิริยาย, ภณฺฑกีณนกิริยาย, อิณคหณาทิกิริยาย วา กรณมตฺตํ ตํกิริยากรณมตฺตํ. ตเทว ตทตฺถนิยฺยาตเน ปฏิภณฺฑทาเน อิณทาเน จ ปจฺจโย โหติ, อผลิตนิยฺยาตนาทิผลนฺติ อตฺโถ.

อวิเสเสนาติ ‘‘ติเหตุโก ติเหตุกสฺสา’’ติอาทิกํ เภทํ อกตฺวาว สามฺโต, ปิณฺฑวเสนาติ อตฺโถ. สพฺพตฺถ อุปนิสฺสยปจฺจโย พลวกมฺมสฺส วเสน โยเชตพฺโพ. ‘‘ทุพฺพลฺหิ อุปนิสฺสยปจฺจโย น โหตี’’ติ วกฺขมานเมเวตํ ปฏฺานวณฺณนายนฺติ. อวิเสเสนาติ สพฺพปุฺาภิสงฺขารํ สห สงฺคณฺหาติ. ทฺวาทสากุสลเจตนาเภโทติ เอตฺถ อุทฺธจฺจสหคตา กสฺมา คหิตาติ วิจาเรตพฺพเมตํ. เอกสฺส วิฺาณสฺส ตเถว ปจฺจโย ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเตติ เอกสฺเสว ปจฺจยภาวนิยโม ปฏิสนฺธิยํ, โน ปวตฺเต. ปวตฺเต หิ สตฺตนฺนมฺปิ ปจฺจโยติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตถา กามาวจรเทวโลเกปิ อนิฏฺา รูปาทโย นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, เทวานํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตปาตุภาวกาเล มิลาตมาลาทีนํ อนิฏฺตา กถํ น สิยา.

สฺเวว ทฺวีสุ ภเวสูติ เอตฺถ เอกูนตึสเจตนาเภทมฺปิ จิตฺตสงฺขารํ จิตฺตสงฺขารภาเวน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ‘‘สฺเววา’’ติ วุตฺตํ. ตเทกเทโส ปน กามาวจรจิตฺตสงฺขาโรว เตรสนฺนํ นวนฺนฺจ ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เอกเทสปจฺจยภาเวน หิ สมุทาโย วุตฺโตติ.

ยตฺถ จ วิตฺถารปฺปกาสนํ กตํ, ตโต ภวโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ กาตุกาโม อาห ‘‘อาทิโต ปฏฺายา’’ติ. เตน ‘‘ทฺวีสุ ภเวสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตติยชฺฌานภูมิวเสนาติ เอเตน เอกตฺตกายเอกตฺตสฺีสามฺเน จตุตฺถชฺฌานภูมิ จ อสฺารุปฺปวชฺชา คหิตาติ เวทิตพฺพา. ยถาสมฺภวนฺติ เอกวีสติยา กามาวจรรูปาวจรกุสลวิปาเกสุ จุทฺทสนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ, สตฺตนฺนํ ปวตฺเต เอว. อยํ ยถาสมฺภโว.

จตุนฺนํ วิฺาณานนฺติ ภวาทโย อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, จตูสุ อนฺโตคธานํ ปน ติณฺณํ วิฺาณานํ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ จ ปจฺจยภาโว โยเชตพฺโพ, อวิฺาณเก สตฺตาวาเส สงฺขารปจฺจยา วิฺาเณ อวิชฺชมาเนปิ ตสฺส สงฺขารเหตุกตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. เอตสฺมิฺจ มุขมตฺตปฺปกาสเน ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ ทุคฺคติอาทีสุ ปวตฺติยํ กุสลวิปากาทิวิฺาณานํ ปจฺจยภาโว ภเวสุ วุตฺตนเยเนว วิฺายตีติ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

วิฺาณปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๘. สุตฺตนฺตาภิธมฺเมสุ นามรูปเทสนาวิเสโส เทสนาเภโท. ตโย ขนฺธาติ เอตํ ยทิปิ ปาฬิยํ นตฺถิ, อตฺถโต ปน วุตฺตเมว โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อณฺฑชานฺจ อภาวกานนฺติ โยเชตพฺพํ. สนฺตติสีสานีติ กลาปสนฺตานมูลานิ. ยทิปิ วิการรูปานิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ น สนฺติ, ลกฺขณปริจฺเฉทรูปานิ ปน สนฺตีติ ตานิ อปรินิปฺผนฺนานิ ปรมตฺถโต วิวชฺเชนฺโต อาห ‘‘รูปรูปโต’’ติ.

กามภเว ปน ยสฺมา เสสโอปปาติกานนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ กามภเว ‘‘โอปปาติกา’’ติ วุตฺตา น สนฺติ, เยน เสสคฺคหณํ สาตฺถกํ ภเวยฺย, อณฺฑชคพฺภเสยฺยเกหิ ปน โอปปาติกสํเสทชา เสสา โหนฺตีติ เสสคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา พฺรหฺมกายิกาทิเกหิ โอปปาติเกหิ วุตฺเตหิ เสเส สนฺธาย ‘‘เสสโอปปาติกาน’’นฺติ อาห. เต ปน อรูปิโนปิ สนฺตีติ ‘‘กามภเว’’ติ วุตฺตํ, อปริปุณฺณายตนานํ ปน นามรูปํ ยถาสมฺภวํ รูปมิสฺสกวิฺาณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน สกฺกา ธมฺมคณนาโต วิฺาตุนฺติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อวกํสโต ทฺเว อฏฺกาเนว อุตุจิตฺตสมุฏฺานานิ โหนฺตีติ สสทฺทกาลํ สนฺธาย ‘‘อุกฺกํสโต ทฺวินฺนํ นวกาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปุพฺเพติ ขนฺธวิภงฺเคติ วทนฺติ. ตตฺถ หิ ‘‘เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ วุตฺตํ. อิเธว วา วุตฺตํ สนฺตติทฺวยาทิกํ สตฺตกปริโยสานํ สนฺธายาห ‘‘ปุพฺเพ วุตฺตํ กมฺมสมุฏฺานํ สตฺตติวิธ’’นฺติ, ตํ ปนุปฺปชฺชมานํ เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชตีติ อิมินาธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘เอเกกจิตฺตกฺขเณ ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ. จตุทฺทิสา ววตฺถาปิตาติ อฺมฺสํสฏฺสีสา มูเลน จตูสุ ทิสาสุ ววตฺถาปิตา อฺมฺํ อาลิงฺเคตฺวา ิตา ภินฺนวาหนิกา วิย.

ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยนฺติ รูปาชนกกมฺมชํ ปฺจวิฺาณปฺปวตฺติกาลํ สหชาตวิฺาณปจฺจยฺจ สนฺธายาห. ตทา หิ ตโต นามเมว โหตีติ, กมฺมวิฺาณปจฺจยา ปน สทาปิ อุภยํ โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ, ปจฺฉาชาตวิฺาณปจฺจยา จ รูปํ อุปตฺถทฺธํ โหตีติ. อสฺเสูติอาทิ กมฺมวิฺาณปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจโวการภเว จ ปวตฺติยนฺติ ภวงฺคาทิชนกกมฺมโต อฺเน รูปุปฺปตฺติกาลํ นิโรธสมาปตฺติกาลํ ภวงฺคาทิอุปฺปตฺติกาลโต อฺกาลฺจ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ยุตฺตํ. ภวงฺคาทิอุปฺปตฺติกาเล หิ ตํชนเกเนว กมฺมุนา อุปฺปชฺชมานํ รูปํ, โส จ วิปาโก กมฺมวิฺาณปจฺจโย โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ. สหชาตวิฺาณปจฺจยานเปกฺขมฺปิ หิ ปวตฺติยํ กมฺเมน ปวตฺตมานํ รูปํ นามฺจ น กมฺมวิฺาณานเปกฺขํ โหตีติ. สพฺพตฺถาติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ. สหชาตวิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, กมฺมวิฺาณปจฺจยา จ นามรูปฺจ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอตฺถ นามรูป-สทฺโท อตฺตโน เอกเทเสน นาม-สทฺเทน นาม-สทฺทสฺส สรูโป, รูป-สทฺเทน จ รูป-สทฺทสฺส, ตสฺมา ‘‘สรูปานํ เอกเสโส’’ติ นามรูป-สทฺทสฺส านํ อิตเรสฺจ นามรูป-สทฺทานํ อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ.

วิปากโต อฺํ อวิปากํ. ยโต ทฺวิธา มตํ, ตโต ยุตฺตเมว อิทนฺติ โยเชตพฺพํ. กุสลาทิจิตฺตกฺขเณติ อาทิ-สทฺเทน อกุสลกิริยจิตฺตกฺขเณ วิย วิปากจิตฺตกฺขเณปิ วิปากาชนกกมฺมสมุฏฺานํ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิปากจิตฺตกฺขเณ ปน อภิสงฺขารวิฺาณปจฺจยา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อุภยฺจ อุปลพฺภตีติ ตาทิสวิปากจิตฺตกฺขณวชฺชนตฺถํ ‘‘กุสลาทิจิตฺตกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ.

สุตฺตนฺติกปริยาเยนาติ ปฏฺาเน รูปานํ อุปนิสฺสยปจฺจยสฺส อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ, สุตฺตนฺเต ปน ‘‘ยสฺมึ สติ ยํ โหติ, อสติ จ น โหติ, โส ตสฺส อุปนิสฺสโย นิทานํ เหตุ ปภโว’’ติ กตฺวา ‘‘วิฺาณูปนิสํ นามรูป’’นฺติ รูปสฺส จ วิฺาณูปนิสฺสยตา วุตฺตา. วนปตฺถปริยาเย จ วนสณฺฑคามนิคมนครชนปทปุคฺคลูปนิสฺสโย อิริยาปถวิหาโร, ตโต จ จีวราทีนํ ชีวิตปริกฺขารานํ กสิเรน จ อปฺปกสิเรน จ สมุทาคมนํ วุตฺตํ, น จ วนสณฺฑาทโย อารมฺมณูปนิสฺสยาทิภาวํ อิริยาปถานํ จีวราทิสมุทาคมนสฺส จ ภชนฺติ, ตสฺมา วินา อภาโว เอว จ สุตฺตนฺตปริยายโต อุปนิสฺสยภาโว ทฏฺพฺโพ. นามสฺส อภิสงฺขารวิฺาณํ กมฺมารมฺมณปฏิสนฺธิอาทิกาเล อารมฺมณปจฺจโยว โหตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ รูปสฺเสว สุตฺตนฺติกปริยายโต เอกธา ปจฺจยภาโว วุตฺโต. สสํสยสฺส หิ รูปสฺส ตํปจฺจโย โหตีติ วุตฺเต นามสฺส โหตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ.

ปวตฺตสฺส ปากฏตฺตา อปากฏํ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กถํ ปเนต’’นฺติอาทินา. สุตฺตโต นามํ, ยุตฺติโต รูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตีติ ชานิตพฺพํ. ยุตฺติโต สาเธตฺวา สุตฺเตน ตํ ทฬฺหํ กโรนฺโต ‘‘กมฺมสมุฏฺานสฺสปิ หี’’ติอาทิมาห. จิตฺตสมุฏฺานสฺเสวาติ จิตฺตสมุฏฺานสฺส วิย. ยสฺมา นามรูปเมว ปวตฺตมานํ ทิสฺสติ, ตสฺมา ตเทว วทนฺเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ. สุฺตาปกาสนฺหิ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนนฺติ อธิปฺปาโย. นามรูปมตฺตตาวจเนเนว วา ปวตฺติยา ทุกฺขสจฺจมตฺตตา วุตฺตา, ทุกฺขสจฺจปฺปกาสเนน จ ตสฺส สมุทโย, ตสฺส จ นิโรโธ, นิโรธคามี จ มคฺโค ปกาสิโต เอว โหติ. อเหตุกสฺส ทุกฺขสฺส เหตุนิโรธา, อนิรุชฺฌนกสฺส จ อภาวา, นิโรธสฺส จ อุปาเยน วินา อนธิคนฺตพฺพตฺตาติ จตุสจฺจปฺปกาสนํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ โยเชตพฺพํ.

นามรูปปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒๙. นิยมโตติ จ อิทํ จตุนฺนํ ภูตานํ, ฉนฺนํ วตฺถูนํ, ชีวิตสฺส จ ยถาสมฺภวํ สหชาตนิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยาทินา เอกนฺเตน สฬายตนสฺส ปวตฺตมานสฺส ปจฺจยภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูปายตนาทีนํ ปน สหชาตนิสฺสยานุปาลนภาโว นตฺถีติ อคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. อารมฺมณารมฺมณปุเรชาตาทิภาโว จ เตสํ น สนฺตติปริยาปนฺนานเมว, น จ จกฺขาทีนํ วิย เอกปฺปกาเรเนวาติ อนิยมโต ปจฺจยภาโว. นิยมโต…เป… ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวนฺติ เอตฺถ เอวํ-สทฺเทน วา รูปายตนาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอตฺถ ยทิปิ ฉฏฺายตนสฬายตน-สทฺทานํ สทฺทโต สรูปตา นตฺถิ, อตฺถโต ปน สฬายตเนกเทโสว ฉฏฺายตนนฺติ เอกเทสสรูปตา อตฺถีติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถโตปิ หิ สรูปานํ เอกเทสสรูเปกเสสํ อิจฺฉนฺติ ‘‘วงฺโก จ กุฏิโล จ กุฏิลา’’ติ, ตสฺมา อตฺถโต เอกเทสสรูปานฺจ เอกเสเสน ภวิตพฺพนฺติ.

อถ วา ฉฏฺายตนฺจ มนายตนฺจ ฉฏฺายตนนฺติ วา, มนายตนนฺติ วา, ฉฏฺายตนฺจ ฉฏฺายตนฺจ ฉฏฺายตนนฺติ วา, มนายตนฺจ มนายตนฺจ มนายตนนฺติ วา เอกเสสํ กตฺวา จกฺขาทีหิ สห ‘‘สฬายตน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ตเมว เอกเสสํ นามมตฺตปจฺจยสฺส, นามรูปปจฺจยสฺส จ มนายตนสฺส วเสน กตํ อตฺถโต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอวํ กเตกเสสสฺสา’’ติ. ยถาวุตฺโตปิ หิ เอกเสโส อตฺถโต ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจาติ เอวํ กโต นาม โหตีติ. สพฺพตฺถ จ เอกเสเส กเต เอกวจนนิทฺเทโส กเตกเสสานํ สฬายตนาทิสทฺทวจนียตาสามฺวเสน กโตติ ทฏฺพฺโพ. อพฺยากตวาเร วกฺขตีติ กิฺจาปิ อกุสลวาเร กุสลวาเร จ ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตน’’นฺติ วุตฺตํ, สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน วิปากฉฏฺายตนเมว คหิตนฺติ อธิปฺปาเยน อพฺยากตวารเมว สาธกภาเวน อุทาหฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยนเย ปน ‘‘ฉฏฺา โหติ ตํ อวกํสโต’’ติอาทินา อวิปากสฺสปิ ปจฺจโย อุทฺธโฏ, โส นิรวเสสํ วตฺตุกามตาย อุทฺธโฏติ เวทิตพฺโพ. อิธ สงฺคหิตนฺติ อิธ เอกเสสนเยน สงฺคหิตํ, ตตฺถ อพฺยากตวาเร โลกิยวิปากภาชนีเย วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

เนยฺยนฺติ เยฺยํ. อุกฺกํสาวกํโสติ เอตฺถ สตฺตธา ปจฺจยภาวโต อุกฺกํโส อฏฺธา ปจฺจยภาโว, ตโต ปน นวธา ตโต วา ทสธาติ อยํ อุกฺกํโส, อวกํโส ปน ทสธา ปจฺจยภาวโต นวธา ปจฺจยภาโว, ตโต อฏฺธา, ตโต สตฺตธาติ เอวํ เวทิตพฺโพ, น ปน สตฺตธา ปจฺจยภาวโต เอว ทฺเวปิ อุกฺกํสาวกํสา โยเชตพฺพา ตโต อวกํสาภาวโตติ.

หทยวตฺถุโน สหายํ หุตฺวาติ เอเตน อรูเป วิย อสหายํ นามํ น โหติ, หทยวตฺถุ จ นาเมน สห ฉฏฺายตนสฺส ปจฺจโย โหตีติ เอตฺตกเมว ทสฺเสติ, น ปน ยถา หทยวตฺถุ ปจฺจโย โหติ, ตถา นามมฺปีติ อยมตฺโถ อธิปฺเปโต. วตฺถุ หิ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย โหติ, น นามํ, นามฺจ วิปากเหตาทิปจฺจโย โหติ, น วตฺถูติ. ปวตฺเต อรูปธมฺมา กมฺมชรูปสฺส ิติปฺปตฺตสฺเสว ปจฺจยา โหนฺติ, น อุปฺปชฺชมานสฺสาติ วิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตา จ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตาทโย เอว จกฺขาทีนํ โยเชตพฺพา.

อวเสสมนายตนสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปฺจกฺขนฺธภเว ปนา’’ติ เอตสฺส อนุวตฺตมานตฺตา ปฺจโวการภเว เอว ปวตฺตมานํ ปฺจวิฺาเณหิ อวเสสมนายตนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นามรูปสฺส สหชาตาทิสาธารณปจฺจยภาโว สมฺปยุตฺตาทิอสาธารณปจฺจยภาโว จ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ.

สฬายตนปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๐. ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ อภิธมฺมภาชนียปาฬิ อารุปฺปํ สนฺธาย วุตฺตาติ ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโสติ ปาฬิอนุสารโต’’ติ อาห. อชฺฌตฺตนฺติ สสนฺตติปริยาปนฺนเมว คณฺหาติ. ตฺหิ สสนฺตติปริยาปนฺนกมฺมนิพฺพตฺตํ ตาทิสสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปาทีนิ ปน พหิทฺธา อนุปาทินฺนานิ จ ผสฺสสฺส อารมฺมณํ โหนฺติ, น ตานิ จกฺขาทีนิ วิย สสนฺตติปริยาปนฺนกมฺมกิเลสนิมิตฺตปวตฺติภาเวน ผสฺสสฺส ปจฺจโยติ ปมาจริยวาเท น คหิตานิ, ทุติยาจริยวาเท ปน ยถา ตถา วา ปจฺจยภาเว สติ น สกฺกา วชฺเชตุนฺติ คหิตานีติ.

ยทิ สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺภเวยฺย, ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ เอกสฺส วจนํ ยุชฺเชยฺย. อถาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา สมฺภเวยฺยุํ, ตถาปิ สพฺพายตเนหิ สพฺพผสฺสสมฺภวโต อายตนเภเทน ผสฺสเภโท นตฺถีติ ตทเภทวเสน เอกสฺส วจนํ ยุชฺเชยฺย, ตถา ปน อสมฺภวโต น ยุตฺตนฺติ โจเทติ ‘‘น สพฺพายตเนหี’’ติอาทินา. อฺสฺสปิ วา อสมฺภวนฺตสฺส วิธานสฺส โพธนตฺถเมว ‘‘นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภตี’’ติ อิทเมว ปน เอกผสฺสวจนสฺส อยุตฺตทีปกํ การณนฺติ เวทิตพฺพํ. นิทสฺสนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ, นาปิ เอกมฺหา อายตนา สพฺเพ ผสฺสา สมฺโภนฺติ, เอวํ น สพฺพายตเนหิ เอโก ผสฺโส สมฺโภติ, ตสฺมา เอกสฺส วจนํ อยุตฺตนฺติ. ปริหารํ ปน อเนกายตเนหิ เอกผสฺสสฺส สมฺภวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺริทํ วิสฺสชฺชน’’นฺติอาทิมาห. เอโกปิ อเนกายตนปฺปภโว เอโกปเนกายตนปฺปภโว. ฉธาปจฺจยตฺเต ปฺจวิภาวเยติ เอวํ เสเสสุปิ โยชนา. ตถา จาติ ปจฺจุปฺปนฺนานิ รูปาทีนิ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ ธมฺมายตนปริยาปนฺนํ รูปรูปํ สนฺธาย วุตฺตํ. อารมฺมณปจฺจยมตฺเตนาติ ตํ สพฺพํ อปจฺจุปฺปนฺนํ อฺฺจ ธมฺมายตนํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ผสฺสปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๑. ‘‘เสสาน’’นฺติ เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนสฺส จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ ยทิปิ อนนฺตราทีหิปิ ปจฺจยา โหนฺติ, อนนฺตราทีนํ ปน อุปนิสฺสเย อนฺโตคธตฺตา สนฺตีรณตทารมฺมณานฺจ สาธารณสฺส ตสฺส วเสน ‘‘เอกธา’’ติ วุตฺตํ.

เตภูมกวิปากเวทนานมฺปิ สหชาตมโนสมฺผสฺสสงฺขาโต โส ผสฺโส อฏฺธา ปจฺจโย โหตีติ โยเชตพฺพํ. ปจฺจยํ อนุปาทินฺนมฺปิ เกจิ อิจฺฉนฺตีติ ‘‘ยา ปนา’’ติอาทินา มโนทฺวาราวชฺชนผสฺสสฺส ปจฺจยภาโว วุตฺโต, ตฺจ มุขมตฺตทสฺสนตฺถํ ทฏฺพฺพํ. เอเตน นเยน สพฺพสฺส อนนฺตรสฺส อนานนฺตรสฺส จ ผสฺสสฺส ตสฺสา ตสฺสา วิปากเวทนาย อุปนิสฺสยตา โยเชตพฺพาติ.

เวทนาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๒. มมตฺเตนาติ สมฺปิยายมาเนน, อสฺสาทนตณฺหายาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุตฺโต วิย เวทนา ทฏฺพฺพา, ขีราทโย วิย เวทนาย ปจฺจยภูตา รูปาทโย, ขีราทิทายิกา ธาติ วิย รูปาทิฉฬารมฺมณทายกา จิตฺตการาทโย ฉ. ตตฺถ เวชฺโช รสายโนชาวเสน ตทุปตฺถมฺภิตชีวิตวเสน จ ธมฺมารมฺมณสฺส ทายโกติ ทฏฺพฺโพ. อารมฺมณปจฺจโย อุปฺปชฺชมานสฺส อารมฺมณมตฺตเมว โหติ, น อุปนิสฺสโย วิย อุปฺปาทโกติ อุปฺปาทกสฺส อุปนิสฺสยสฺเสว วเสน ‘‘เอกธาวา’’ติ วุตฺตํ. อุปนิสฺสเยน วา อารมฺมณูปนิสฺสโย สงฺคหิโต, เตน จ อารมฺมณภาเวน ตํสภาโว อฺโปิ อารมฺมณภาโว ทีปิโต โหตีติ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

ยสฺมา วาติอาทินา น เกวลํ วิปากสุขเวทนา เอว, ติสฺโสปิ ปน เวทนา วิปากา วิเสเสน ตณฺหาย อุปนิสฺสยปจฺจโย, อวิเสเสน อิตรา จาติ ทสฺเสติ. อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตาติ ตสฺมา สาปิ ภิยฺโย อิจฺฉนวเสน ตณฺหาย อุปนิสฺสโยติ อธิปฺปาโย. อุเปกฺขา ปน อกุสลวิปากภูตา อนิฏฺตฺตา ทุกฺเข อวโรเธตพฺพา, อิตรา อิฏฺตฺตา สุเขติ สา ทุกฺขํ วิย สุขํ วิย จ อุปนิสฺสโย โหตีติ สกฺกา วตฺตุนฺติ. ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ วจเนน สพฺพสฺส เวทนาวโต ปจฺจยสฺส อตฺถิตาย ตณฺหุปฺปตฺติปฺปสงฺเค ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘เวทนาปจฺจยา จาปี’’ติอาทิ.

นนุ ‘‘อนุสยสหายา เวทนา ตณฺหาย ปจฺจโย โหตี’’ติ วจนสฺส อภาวา อติปฺปสงฺคนิวตฺตนํ น สกฺกา กาตุนฺติ? น, วฏฺฏกถาย ปวตฺตตฺตา. วฏฺฏสฺส หิ อนุสยวิรเห อภาวโต อนุสยสหิตาเยว ปจฺจโยติ อตฺถโต วุตฺตเมตํ โหตีติ. อถ วา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา อนุสยสหิตาว ปจฺจโยติ วิฺายติ. ‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ จ เอตฺถ เวทนาปจฺจยา เอว ตณฺหา, น เวทนาย วินาติ อยํ นิยโม วิฺายติ, น เวทนาปจฺจยา ตณฺหา โหติ เอวาติ, ตสฺมา อติปฺปสงฺโค นตฺถิ เอวาติ.

วุสีมโตติ วุสิตวโต, วุสิตพฺรหฺมจริยวาสสฺสาติ อตฺโถ. วุสฺสตีติ วา ‘‘วุสี’’ติ มคฺโค วุจฺจติ, โส เอตสฺส วุตฺโถ อตฺถีติ วุสีมา. อคฺคผลํ วา ปรินิฏฺิตวาสตฺตา ‘‘วุสี’’ติ วุจฺจติ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ วุสีมา.

ตณฺหาปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๓. สสฺสโต อตฺตาติ อิทํ ปุริมทิฏฺึ อุปาทิยมานํ อุตฺตรทิฏฺึ นิทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยถา หิ เอสา ทิฏฺิ ทฬฺหีกรณวเสน ปุริมํ อุตฺตรา อุปาทิยติ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาปีติ. อตฺตคฺคหณํ ปน อตฺตวาทุปาทานนฺติ น อิทํ ทิฏฺุปาทานทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. โลโก จาติ วา อตฺตคฺคหณวินิมุตฺตํ คหณํ ทิฏฺุปาทานภูตํ อิธ ปุริมทิฏฺิอุตฺตรทิฏฺิวจเนหิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร ปน สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ, สงฺเขปโต ทิฏฺิมตฺตเมว, วิตฺถารโต ปนา’’ติ เอวํ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารโต สงฺเขปํ วิตฺถารฺจ นิทฺธาเรตีติ. ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเรติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ ทฏฺพฺพํ.

ปกติอณุอาทีนํ สสฺสตคาหปุพฺพงฺคโม, สรีรสฺส อุจฺเฉทคฺคาหปุพฺพงฺคโม จ เตสํ สามิภูโต โกจิ สสฺสโต อุจฺฉิชฺชมาโน วา อตฺตา อตฺถีติ อตฺตคฺคาโห กทาจิ โหตีติ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ วุตฺตํ. เยภุยฺเยน ปมํ อตฺตวาทุปาทานนฺติอาทินา วา สมฺพนฺโธ.

ยทิปิ ภวราคชวนวีถิ สพฺพปมํ ปวตฺตติ คหิตปฺปฏิสนฺธิกสฺส ภวนิกนฺติยา ปวตฺติตพฺพตฺตา, โส ปน ภวราโค ตณฺหาทฬฺหตฺตํ น โหตีติ มฺมาโน น กามุปาทานสฺส ปมุปฺปตฺติมาห. ตณฺหา กามุปาทานนฺติ ปน วิภาคสฺส อกรเณ สพฺพาปิ ตณฺหา กามุปาทานนฺติ, กรเณปิ กามราคโต อฺาปิ ตณฺหา ทฬฺหภาวํ ปตฺตา กามุปาทานนฺติ ตสฺส อรหตฺตมคฺควชฺฌตา วุตฺตา.

อุปฺปตฺติฏฺานภูตา จิตฺตุปฺปาทา วิสโย. ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อาลโย, ตตฺถ รมตีติ อาลยรามา, ปชา. เตเนว สา อาลยรามตา จ สกสนฺตาเน ปรสนฺตาเน จ ปากฏา โหตีติ. อุปนิสฺสยวจเนน อารมฺมณานนฺตรปกตูปนิสฺสยา วุตฺตาติ อนนฺตรปจฺจยาทีนมฺปิ สงฺคโห กโต โหติ.

อุปาทานปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๔. ผลโวหาเรน กมฺมภโว ภโวติ วุตฺโตติ อุปปตฺติภวนิพฺพจนเมว ทฺวยสฺสปิ สาธารณํ กตฺวา วทนฺโต อาห ‘‘ภวตีติ ภโว’’ติ. ภวํ คจฺฉตีติ นิปฺผาทนผลวเสน อตฺตโน ปวตฺติกาเล ภวาภิมุขํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ, นิพฺพตฺตนเมว วา เอตฺถ คมนํ อธิปฺเปตํ.

สฺาวตํ ภโว สฺาภโวติ เอตฺถ วนฺตุ-สทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ, ตสฺส วา อตฺเถ อการํ กตฺวา ‘‘สฺภโว’’ติปิ ปาโ. โวกิรียติ ปสารียติ วิตฺถารียตีติ โวกาโร, โวกิรณํ วา โวกาโร, โส เอกสฺมึ ปวตฺตตฺตา เอโก โวกาโรติ วุตฺโต, ปเทสปสฏุปฺปตฺตีติ อตฺโถ.

เจตนาสมฺปยุตฺตา วา…เป… สงฺคหิตาติ อาจยคามิตาย กมฺมสงฺขาตตํ ทสฺเสตฺวา กมฺมภเว สงฺคหิตภาวํ ปริยาเยน วทติ, นิปฺปริยาเยน ปน เจตนาว กมฺมภโว. วุตฺตฺหิ ‘‘กมฺมภโว ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สมฺปยุตฺโต, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๔๔). อุปปตฺติภโว ตีหิปิ ติเกหิ วุตฺตา อุปปตฺติกฺขนฺธาว. ยถาห ‘‘อุปปตฺติภโว กามภโว สฺาภโว ปฺจโวการภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต’’ติอาทิ (ธาตุ. ๖๗). ยทิ หิ อนุปาทินฺนกานมฺปิ คหณํ สิยา, ‘‘ทฺวาทสหายตเนหิ อฏฺารสหิ ธาตูหี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาติ.

สงฺขารภวานํ ธมฺมเภทโต น สงฺขารา เอว ปุน วุตฺตาติ ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจน’’นฺติ เอตํ น ยุตฺตนฺติ เจ? น, ภเวกเทสภาเวน สงฺขารานํ ภโวติ ปุน วุตฺตตฺตา. ปเรน วา ธมฺมวิเสสํ อคเณตฺวา ปุนวจนํ โจทิตนฺติ โจทกาภิลาสวเสน ‘‘สาตฺถกเมวิทํ ปุนวจน’’นฺติ วุตฺตํ.

กามภวาทินิพฺพตฺตนกสฺส กมฺมสฺส กามภวาทิภาโว ผลโวหาเรน อฏฺกถายํ วุตฺโต. อนฺโตคเธ วิสุํ อคเณตฺวา อพฺภนฺตรคเต เอว กตฺวา กามภวาทิเก กมฺมุปปตฺติภววเสน ทุคุเณ กตฺวา อาห ‘‘ฉ ภวา’’ติ.

อวิเสเสนาติ อุปาทานเภทํ อกตฺวาติ อตฺโถ. อุปาทานเภทากรเณเนว จ ทฺวาทสปฺปเภทสฺส สงฺคหวเสน สงฺคหโต ‘‘ฉ ภวา’’ติ วุตฺตํ.

โคสีเลน กุกฺกุรสีเลน จ สมตฺเตน สมาทินฺเนน คุนฺนํ กุกฺกุรานฺจ สหพฺยตา วุตฺตาติ สีลพฺพตุปาทานวโต ฌานภาวนา น อิชฺฌตีติ มฺมานา เตน รูปารูปภวา น โหนฺตีติ เกจิ วทนฺติ, วกฺขมาเนน ปน ปกาเรน ปจฺจยภาวโต ‘‘ตํ น คเหตพฺพ’’นฺติ อาห. อสุทฺธิมคฺเค จ สุทฺธิมคฺคปรามสนํ สีลพฺพตุปาทานนฺติ สุทฺธิมคฺคปรามสเนน รูปารูปาวจรชฺฌานานํ นิพฺพตฺตนํ น ยุชฺชตีติ. ปุราณภารตสีตาหรณปสุพนฺธวิธิอาทิสวนํ อสทฺธมฺมสวนํ. อาทิ-สทฺเทน อสปฺปุริสูปนิสฺสยํ ปุพฺเพ จ อกตปุฺตํ อตฺตมิจฺฉาปณิธิตฺจ สงฺคณฺหาติ. ตทนฺโตคธา เอวาติ ตสฺมึ ทุจฺจริตนิพฺพตฺเต สุจริตนิพฺพตฺเต จ กามภเว อนฺโตคธา เอวาติ อตฺโถ.

อนฺโตคธาติ จ สฺาภวปฺจโวการภวานํ เอกเทเสน อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ. น หิ เต นิรวเสสา กามภเว อนฺโตคธาติ. สปฺปเภทสฺสาติ สุคติทุคฺคติมนุสฺสาทิปฺปเภทวโต. กเมน จ อวตฺวา สีลพฺพตุปาทานสฺส อนฺเต ภวปจฺจยภาววจนํ อตฺตวาทุปาทานํ วิย อภิณฺหํ อสมุทาจรณโต อตฺตวาทุปาทานนิมิตฺตตฺตา จ.

เหตุปจฺจยปฺปเภเทหีติ เอตฺถ มคฺคปจฺจโย จ วตฺตพฺโพ. ทิฏฺุปาทานาทีนิ หิ มคฺคปจฺจยา โหนฺตีติ.

ภวปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓๕. อุปปตฺติภวุปฺปตฺติเยว ชาตีติ อาห ‘‘น อุปปตฺติภโว’’ติ. ชายมานสฺส ปน ชาติ ชาตีติ อุปปตฺติภโวปิ อสติ อภาวา ชาติยา ปจฺจโยติ สกฺกา วตฺตุํ. ชายมานรูปปทฏฺานตาปิ หิ รูปชาติยา วุตฺตา ‘‘อุปจิตรูปปทฏฺาโน (ธ. ส. อฏฺ. ๖๔๑) อุปจโย, อนุปฺปพนฺธรูปปทฏฺานา สนฺตตี’’ติ.

ขนฺธานํ ชาตานํ อุฺาตตานุฺาตตาจ หีนปณีตตา. อาทิ-สทฺเทน สุวณฺณทุพฺพณฺณาทิวิเสสํ สงฺคณฺหาติ. อชฺฌตฺตสนฺตานคตโต อฺสฺส วิเสสการกสฺส การณสฺส อภาวา ‘‘อชฺฌตฺตสนฺตาเน’’ติ อาห.

เตน เตนาติ าติพฺยสนาทินา ชรามรณโต อฺเน ทุกฺขธมฺเมน. อุปนิสฺสยโกฏิยาติ อุปนิสฺสยํเสน, อุปนิสฺสยเลเสนาติ อตฺโถ. โย หิ ปฏฺาเน อนาคโต สติ ภาวา อสติ จ อภาวา สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสโย, โส ‘‘อุปนิสฺสยโกฏี’’ติ วุจฺจติ.

ชาติชรามรณาทิปทนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภวจกฺกกถาวณฺณนา

๒๔๒. สมิตนฺติ สงฺคตํ, อพฺโพจฺฉินฺนนฺติ อตฺโถ. กามยานสฺสาติ กามยมานสฺส, กาโม ยานํ เอตสฺสาติ วา กามยาโน, ตสฺส กามยานสฺส. รุปฺปตีติ โสเกน รุปฺปติ.

ปริยุฏฺานตาย ติฏฺนสีโล ปริยุฏฺานฏฺายี. ‘‘ปริยุฏฺฏฺายิโน’’ติ วา ปาโ, ตตฺถ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺํ, ทิฏฺิปริยุฏฺํ, เตน ติฏฺตีติ ปริยุฏฺฏฺายีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานีติ ‘‘มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย เววณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน นาภิรมตี’’ติ (อิติวุ. ๘๓) วุตฺตานิ ปฺจ มรณปุพฺพนิมิตฺตานีติ อตฺโถ. ตานิ หิ ทิสฺวา กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺธสงฺขาเต อุปปตฺติภเว ภวฉนฺทพเลน เทวานํ พลวโสโก อุปฺปชฺชตีติ. พาโลติ อวิทฺวา. เตน อวิชฺชาย การณภาวํ ทสฺเสติ. ติวิธนฺติ ตสฺสารุปฺปกถาสวนกมฺมการณาทสฺสนมรณกาลกมฺโมปฏฺานนิทานํ โสกาทิทุกฺขํ. อาสเว สาเธนฺตีติ อาสเว คเมนฺติ โพเธนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ สตีติ อวิทิตาทิตาย อนาทิภาเว สติ. อาทิมตฺตกถนนฺติอาทิ เอตสฺส อตฺถีติ อาทิมํ, ภวจกฺกํ. ตสฺส ภาโว อาทิมตฺตํ, ตสฺส กถนํ อาทิมตฺตกถนํ. วิเสสนิวตฺติอตฺโถ วา มตฺต-สทฺโท, สติ อนาทิภาเว อวิชฺชา อาทิมฺหิ มชฺเฌ ปริโยสาเน จ สพฺพตฺถ สิยาติ อาทิมตฺตาย อวิชฺชาย กถนํ วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาคฺคหเณนาติ อวิชฺชาย อุปฺปาทเนน กถเนน, อปฺปหาเนน วา, อตฺตโน สนฺตาเน สนฺนิหิตภาวกรเณนาติ อตฺโถ. กมฺมาทีนีติ กมฺมวิปากวฏฺฏานิ. วฏฺฏการณภาเวน ปธานตฺตา ‘‘ปธานธมฺโม’’ติ อวิชฺชา กถิตา. วทตีติ วโท. เวเทติ, เวทิยตีติ วา เวเทยฺโย, สุขาทึ อนุภวติ, สพฺพวิสเย วา ชานาติ, ‘‘สุขิโต’’ติอาทินา อตฺตนา ปเรหิ จ ชานาติ ายติ จาติ อตฺโถ. พฺรหฺมาทินา วา อตฺตนา วาติ วา-สทฺโท จ-สทฺทตฺโถ. เตนาห ‘‘การกเวทกรหิต’’นฺติ จ-สทฺทตฺถสมาสํ.

ทฺวาทสวิธสุฺตาสุฺนฺติ อวิชฺชาทีนํ ทฺวาทสวิธานํ สุฺตาย สุฺํ, จตุพฺพิธมฺปิ วา สุฺตํ เอกํ กตฺวา ทฺวาทสงฺคตาย ทฺวาทสวิธาติ ตาย ทฺวาทสวิธาย สุฺตาย สุฺนฺติ อตฺโถ.

ปุพฺพนฺตาหรณโตติ ปุพฺพนฺตโต ปจฺจุปฺปนฺนวิปากสฺส อาหรณโต ปริจฺฉินฺนเวทนาวสานํ เอตํ ภวจกฺกนฺติ อตฺโถ. ภวจกฺเกกเทโสปิ หิ ภวจกฺกนฺติ วุจฺจติ. เวทนา วา ตณฺหาสหายาย อวิชฺชาย ปจฺจโย โหตีติ เวทนาโต อวิชฺชา, ตโต สงฺขาราติ สมฺพชฺฌนโต เวทนาวสานํ ภวจกฺกนฺติ ยุตฺตเมตํ, เอวํ ตณฺหามูลเก จ โยเชตพฺพํ. ทฺวินฺนมฺปิ หิ อฺมฺํ อนุปฺปเวโส โหตีติ. อวิชฺชา ธมฺมสภาวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิปรีตาภินิเวสํ กโรนฺตี ทิฏฺิจริเต สํสาเร นยติ, เตสํ วา สํสารํ สงฺขาราทิปวตฺตึ นยติ ปวตฺเตตีติ ‘‘สํสารนายิกา’’ติ วุตฺตา. ผลุปฺปตฺติยาติ กตฺตุนิทฺเทโส. วิฺาณาทิปจฺจุปฺปนฺนผลุปฺปตฺติ หิ อิธ ทิฏฺา, อทิฏฺานฺจ ปุริมภเว อตฺตโน เหตูนํ อวิชฺชาสงฺขารานํ ผลํ อชเนตฺวา อนุปจฺฉิชฺชนํ ปกาเสติ. อถ วา ปุริมภวจกฺกํ ทุติเยน สมฺพนฺธํ วุตฺตนฺติ เวทนาสงฺขาตสฺส ผลสฺส อุปฺปตฺติยา ตณฺหาทีนํ เหตูนํ อนุปจฺเฉทํ ปกาเสติ, ตสฺมา ผลุปฺปตฺติยา การณภูตาย ปมสฺส ภวจกฺกสฺส เหตูนํ อนุปจฺเฉทปฺปกาสนโตติ อตฺโถ. สงฺขาราทีนเมว วา ผลานํ อุปฺปตฺติยา อวิชฺชาทีนํ เหตูนํ ผลํ อชเนตฺวา อนุปจฺเฉทเมว, วิฺาณาทิเหตูนํ วา สงฺขาราทีนํ อนุพนฺธนเมว ปกาเสติ ปมํ ภวจกฺกํ, น ทุติยํ วิย ปริโยสานมฺปีติ ‘‘ผลุปฺปตฺติยา เหตูนํ อนุปจฺเฉทปฺปกาสนโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เอตฺถ อปริปุณฺณายตนกลลรูปํ วตฺวา ตโต อุทฺธํ ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ สฬายตนปฺปวตฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อนุปุพฺพปวตฺติทีปนโต’’ติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ เอตฺถ น อายตนานํ กเมน อุปฺปตฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘สหุปฺปตฺติทีปนโต’’ติ.

เหตุอาทิปุพฺพกา ตโย สนฺธี เอตสฺสาติ เหตุผลเหตุปุพฺพกติสนฺธิ, ภวจกฺกํ. เหตุผลเหตุผลวเสน จตุปฺปเภโท องฺคานํ สงฺคโห เอตสฺสาติ จตุเภทสงฺคหํ. สรูปโต อวุตฺตาปิ ตสฺมึ ตสฺมึ สงฺคเห อากิรียนฺติ อวิชฺชาสงฺขาราทิคฺคหเณหิ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อตีตเหตุอาทีนํ วา ปการา อาการา. กิเลสกมฺมวิปากา วิปากกิเลสกมฺเมหิ สมฺพนฺธา หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺตนฺตีติ เตสุ วฏฺฏนามํ อาโรเปตฺวา ‘‘ติวฏฺฏ’’นฺติ วุตฺตํ, วฏฺเฏกเทสตฺตา วา ‘‘วฏฺฏานี’’ติ วุตฺตานิ.

สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตาติ สนฺธีนํ ปุพฺพาปรววตฺถิตาติ อตฺโถ.

‘‘ยา กาจิ วา ปน เจตนา ภโว, เจตนาสมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา’’ติ อิทํ อิมิสฺสา ธมฺมฏฺิติาณภาชนีเย วุตฺตาย ปฏิสมฺภิทาปาฬิยา (ปฏิ. ม. ๑.๔๗) วเสน วุตฺตํ. เอตฺถ หิ ‘‘เจตนา ภโว’’ติ อาคตาติ. ภวนิทฺเทเส ปน ‘‘สาตฺถโต’’ติ เอตฺถ ‘‘เจตนาว สงฺขารา, ภโว ปน เจตนาสมฺปยุตฺตาปี’’ติ วิภงฺคปาฬิยา วเสน ทสฺสิตํ. ‘‘ตตฺถ กตโม ปุฺาภิสงฺขาโร? กุสลา เจตนา กามาวจรา’’ติอาทินา หิ สงฺขารานํ เจตนาภาโว วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๒๒๖) วุตฺโตติ. ตตฺถ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ ‘‘เจตนาสมฺปยุตฺตา วิปากธมฺมตฺตา สวิปาเกน อายูหนสงฺขาเตน สงฺขตาภิสงฺขรณกิจฺเจน สงฺขารา’’ติ วุตฺตา. วิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๒๓๔) ‘‘สพฺพมฺปิ ภวคามิกมฺมํ กมฺมภโว’’ติ ภวสฺส ปจฺจยภาเวน ภวคามิภาวโต กมฺมสํสฏฺสหายตาย กมฺมภาวโต จ อุปปตฺติภวํ ภาเวนฺตีติ ภโวติ วุตฺตา, อุปปตฺติภวภาวนกิจฺจํ ปน เจตนาย สาติสยนฺติ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ เจตนา ‘‘ภโว’’ติ วุตฺตา, ภวาภิสงฺขรณกิจฺจํ เจตนาย สาติสยนฺติ วิภงฺคปาฬิยํ ‘‘กุสลา เจตนา’’ติอาทินา เจตนา ‘‘สงฺขารา’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา เตน เตน ปริยาเยน อุภยํ อุภยตฺถ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ นตฺเถตฺถ วิโรโธ. คหณนฺติ กามุปาทานํ กิจฺเจนาห. ปรามสนนฺติ อิตรานิ. อายูหนาวสาเนติ ตีสุปิ อตฺถวิกปฺเปสุ วุตฺตสฺส อายูหนสฺส อวสาเน.

ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ วุตฺเต อายูหนสงฺขาเร ‘‘ตสฺส ปุพฺพภาคา’’ติ อาห, ตติเย วุตฺเต ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ. ทหรสฺส จิตฺตปฺปวตฺติ ภวงฺคพหุลา เยภุยฺเยน ภวนฺตรชนกกมฺมายูหนสมตฺถา น โหตีติ ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนาน’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมกรณกาเล สมฺโมโหติ เอเตน กมฺมสฺส ปจฺจยภูตํ สมฺโมหํ ทสฺเสติ, น กมฺมสมฺปยุตฺตเมว.

กมฺมาเนว วิปากํ สมฺภรนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ กมฺมสมฺภารา, กมฺมํ วา สงฺขารภวา, ตทุปการกานิ อวิชฺชาตณฺหุปาทานานิ กมฺมสมฺภารา, ปฏิสนฺธิทายโก วา ภโว กมฺมํ, ตทุปการกา ยถาวุตฺตอายูหนสงฺขารา อวิชฺชาทโย จ กมฺมสมฺภาราติ กมฺมฺจ กมฺมสมฺภารา จ กมฺมสมฺภาราติ เอกเสสํ กตฺวา ‘‘กมฺมสมฺภารา’’ติ อาห. ทส ธมฺมา กมฺมนฺติ อวิชฺชาทโยปิ กมฺมสหายตาย กมฺมสริกฺขกา ตทุปการกา จาติ ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตา.

สงฺขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขโป, กมฺมํ วิปาโก จ. กมฺมํ วิปาโกติ เอวํ สงฺขิปียตีติ วา สงฺเขโป, อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จ. สงฺเขปภาวสามฺเน ปน เอกวจนํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สงฺเขปสทฺโท วา ภาคาธิวจนนฺติ กมฺมภาโค กมฺมสงฺเขโป.

เอวํ สมุปฺปนฺนนฺติ กมฺมโต วิปาโก. ตตฺถาปิ อวิชฺชาโต สงฺขาราติ เอวํ สมุปฺปนฺนํ, ติสนฺธิอาทิวเสน วา สมุปฺปนฺนํ อิทํ ภวจกฺกนฺติ อตฺโถ. อิตฺตรนฺติ คมนธมฺมํ, วินสฺสธมฺมนฺติ อตฺโถ. เตน อุปฺปาทวยวนฺตตาทีปเกน อนิจฺจ-สทฺเทน วิการาปตฺติทีปเกน จล-สทฺเทน จ อทีปิตํ กาลนฺตรฏฺายิตาปฏิกฺเขปํ ทีเปติ, อธุวนฺติ เอเตน ถิรภาวปฏิกฺเขปํ นิสฺสารตํ. เหตู เอว สมฺภารา เหตุสมฺภารา. ‘‘านโส เหตุโส’’ติ เอตฺถ เอวํ วุตฺตํ วา านํ, อฺมฺปิ ตสฺส ตสฺส สาธารณํ การณํ สมฺภาโร, อสาธารณํ เหตุ. เอวนฺติ เอวํ เหตุโต ธมฺมมตฺตสมฺภเว เหตุนิโรธา จ วฏฺฏุปจฺเฉเท ธมฺเม จ ตํนิโรธาย เทสิเต สตีติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยํ อิธ พฺรหฺมจริยิธ. สตฺเต จาติ เอตฺถ -สทฺโท เอวํ พฺรหฺมจริยฺจ วิชฺชติ, สสฺสตุจฺเฉทา จ น โหนฺตีติ สมุจฺจยตฺโถ. เอวฺหิ เหตุอายตฺเต ธมฺมมตฺตสมฺภเว สตฺโต นุปลพฺภติ, ตสฺมิฺจ อุปลพฺภนฺเต สสฺสโต อุจฺเฉโท วา สิยา, นุปลพฺภนฺเต ตสฺมึ เนวุจฺเฉโท น สสฺสตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สจฺจปฺปภวโตติ สจฺจโต, สจฺจานํ วา ปภวโต. กุสลากุสลํ กมฺมนฺติ วฏฺฏกถาย วตฺตมานตฺตา สาสวนฺติ วิฺายติ. อวิเสเสนาติ เจตนา เจตนาสมฺปยุตฺตกาติ วิเสสํ อกตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ ‘‘สมุทยสจฺจ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตณฺหา จ…เป… อวเสสา จ สาสวา กุสลา ธมฺมา’’ติ หิ เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตวิเสสํ อกตฺวา วุตฺตนฺติ, อริยสจฺจวิเสสํ วา อกตฺวา สมุทยสจฺจนฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

วตฺถูสูติ อารมฺมเณสุ, จกฺขาทีสุ วา ปฏิจฺฉาเทตพฺเพสุ วตฺถูสุ. โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตาติ เตสํ การณตฺตา, เตหิ สิทฺธาย อวิชฺชาย สหิเตหิ สงฺขาเรหิ ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวายาติ อธิปฺปาโย. จุติจิตฺตํ วา ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหตีติ ‘‘ปจฺจโย จ โหติ ภวนฺตรปาตุภาวายา’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปน จุติจิตฺตํ อวิชฺชาสงฺขารรหิตํ ภวนฺตรสฺส ปจฺจโย น โหตีติ ตสฺส สหายทสฺสนตฺถมาห ‘‘โสกาทีนํ อธิฏฺานตฺตา’’ติ. ทฺวิธาติ อตฺตโนเยว สรเสน ธมฺมนฺตรปจฺจยภาเวน จาติ ทฺวิธา.

อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอเตน สงฺขารานํ ปจฺจยุปฺปนฺนตาทสฺสเนน ‘‘โก นุ โข อภิสงฺขโรตีติ เอส โน กลฺโล ปฺโห’’ติ ทสฺเสติ. เตเนตํ การกทสฺสนนิวารณนฺติ. เอวมาทิทสฺสนนิวารณนฺติ เอเตน ‘‘โสจติ ปริเทวติ ทุกฺขิโต’’ติอาทิทสฺสนนิวารณมาห. โสกาทโยปิ หิ ปจฺจยายตฺตา อวสวตฺติโนติ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสก…เป… สมฺภวนฺตี’’ติ เอเตน วุตฺตนฺติ.

คณฺฑเภทปีฬกา วิยาติ คณฺฑเภทนตฺถํ ปจฺจมาเน คณฺเฑ ตสฺสปิ อุปริ ชายมานขุทฺทกปีฬกา วิย, คณฺฑสฺส วา อเนกธาเภเท ปีฬกา วิย. คณฺฑวิการา สูนตาสราคปุพฺพคหณาทโย.

ปฏลาภิภูตจกฺขุโก รูปานิ น ปสฺสติ, กิฺจิปิ ปสฺสนฺโต จ วิปรีตํ ปสฺสติ, เอวํ อวิชฺชาภิภูโต ทุกฺขาทีนิ น ปฏิปชฺชติ น ปสฺสติ, มิจฺฉา วา ปฏิปชฺชตีติ ปฏลํ วิย อวิชฺชา, กิมินา วิย อตฺตนา กตตฺตา วฏฺฏสฺส อตฺตโนเยว ปริพฺภมนการณตฺตา จ โกสปฺปเทสา วิย สงฺขารา, สงฺขารปริคฺคหํ วินา ปติฏฺํ อลภมานํ วิฺาณํ ปริณายกปริคฺคหํ วินา ปติฏฺํ อลภมาโน ราชกุมาโร วิยาติ ปริคฺคเหน วินา ปติฏฺาลาโภ เอตฺถ สามฺํ. อุปปตฺตินิมิตฺตนฺติ กมฺมาทิอารมฺมณมาห. ปริกปฺปนโตติ อารมฺมณกรณโต, สมฺปยุตฺเตน วา วิตกฺเกน วิตกฺกนโต. เทวมนุสฺสมิควิหงฺคาทิวิวิธปฺปการตาย มายา วิย นามรูปํ, ปติฏฺาวิเสเสน วุฑฺฒิวิเสสาปตฺติโต วนปฺปคุมฺโพ วิย สฬายตนํ. อายตนานํ วิสยิวิสยภูตานํ อฺมฺาภิมุขภาวโต อายตนฆฏฺฏนโต. เอตฺถ จ สงฺขาราทีนํ โกสปฺปเทสปริณายกาทีหิ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สทิสตาย ทฺเว ทฺเว อุปมา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

คมฺภีโร เอว หุตฺวา โอภาสติ ปกาสติ ทิสฺสตีติ คมฺภีราวภาโส. ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโติ ชาติปจฺจยา สมฺภูตํ หุตฺวา สหิตสฺส อตฺตโน ปจฺจยานุรูปสฺส อุทฺธํ อุทฺธํ อาคตภาโว, อนุปฺปพนฺโธติ อตฺโถ. อถ วา สมฺภูตฏฺโ จ สมุทาคตฏฺโ จ สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ. ‘‘น ชาติโต ชรามรณํ น โหติ, น จ ชาตึ วินา อฺโต โหตี’’ติ หิ ชาติปจฺจยสมฺภูตฏฺโ วุตฺโต. อิตฺถฺจ ชาติโต สมุทาคจฺฉตีติ ปจฺจยสมุทาคตฏฺโ, ยา ยา ชาติ ยถา ยถา ปจฺจโย โหติ, ตทนุรูปปาตุภาโวติ อตฺโถ.

อนุโลมปฏิโลมโตติ อิธ ปน ปจฺจยุปฺปาทา ปจฺจยุปฺปนฺนุปฺปาทสงฺขาตํ อนุโลมํ, นิโรธา นิโรธสงฺขาตํ ปฏิโลมฺจาห. อาทิโต ปน อนฺตคมนํ อนุโลมํ, อนฺตโต จ อาทิคมนํ ปฏิโลมมาหาติ. ‘‘อิเม จตฺตาโร อาหารา กึนิทานา’’ติอาทิกาย (สํ. นิ. ๒.๑๑) เวมชฺฌโต ปฏฺาย ปฏิโลมเทสนาย, ‘‘จกฺขุํ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทิกาย (สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๔; ๒.๔.๖๐) อนุโลมเทสนาย จ ทฺวิสนฺธิติสงฺเขปํ, ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๓-๕๔) เอกสนฺธิทฺวิสงฺเขปํ.

อวิชฺชาทีนํ สภาโว ปฏิวิชฺฌียตีติ ปฏิเวโธ. วุตฺตฺหิ ‘‘เตสํ เตสํ วา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว ปฏิเวโธ’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา). อปุฺาภิสงฺขาเรกเทโส สราโค, อฺโ วิราโค, ราคสฺส วา อปฏิปกฺขภาวโต ราคปฺปวฑฺฒโก สพฺโพปิ อปุฺาภิสงฺขาโร สราโค, อิตโร ปฏิปกฺขภาวโต วิราโค. ‘‘ทีฆรตฺตฺเหตํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส อชฺโฌสิตํ มมายิตํ ปรามฏฺํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๒) อตฺตปรามาสสฺส วิฺาณํ วิสิฏฺํ วตฺถุ วุตฺตนฺติ วิฺาณสฺส สุฺตฏฺโ คมฺภีโร, อตฺตา วิชานาติ สํสรตีติ สพฺยาปารตาสงฺกนฺติอภินิเวสพลวตาย อพฺยาปารฏฺอสงฺกนฺติปฏิสนฺธิปาตุภาวฏฺา จ คมฺภีรา, นามสฺส รูเปน, รูปสฺส จ นาเมน อสมฺปโยคโต วินิพฺโภโค, นามสฺส นาเมน อวินิพฺโภโค โยเชตพฺโพ. เอกุปฺปาเทกนิโรเธหิ อวินิพฺโภเค อธิปฺเปเต รูปสฺส จ รูเปน ลพฺภติ. อถ วา เอกจตุโวการภเวสุ นามรูปานํ อสหวตฺตนโต อฺมฺวินิพฺโภโค, ปฺจโวการภเว สหวตฺตนโต อวินิพฺโภโค จ เวทิตพฺโพ.

อธิปติยฏฺโ นาม อินฺทฺริยปจฺจยภาโว. ‘‘โลโกเปโส ทฺวาราเปสา เขตฺตมฺเปต’’นฺติ (ธ. ส. ๕๙๘-๕๙๙) วุตฺตา โลกาทิอตฺถา จกฺขาทีสุ ปฺจสุ โยเชตพฺพา. มนายตนสฺสปิ ลุชฺชนโต มโนสมฺผสฺสาทีนํ ทฺวารเขตฺตภาวโต จ เอเต อตฺถา สมฺภวนฺเตว. อาปาถคตานํ รูปาทีนํ ปกาสนโยคฺยตาลกฺขณํ โอภาสนํ จกฺขาทีนํ วิสยิภาโว, มนายตนสฺส วิชานนํ. สงฺฆฏฺฏนฏฺโ วิเสเสน จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ ปฺจนฺนํ, อิตเร ฉนฺนมฺปิ โยเชตพฺพา. ผุสนฺจ ผสฺสสฺส สภาโว, สงฺฆฏฺฏนํ รโส, อิตเร อุปฏฺานาการา. อารมฺมณรสานุภวนฏฺโ รสวเสน วุตฺโต, เวทยิตฏฺโ ลกฺขณวเสน. อตฺตา เวทยตีติ อภินิเวสสฺส พลวตาย นิชฺชีวฏฺโ เวทนาย คมฺภีโร. นิชฺชีวาย เวทนาย เวทยิตํ นิชฺชีวเวทยิตํ, นิชฺชีวเวทยิตเมว อตฺโถ นิชฺชีวเวทยิตฏฺโ.

อาทานฏฺโ จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ สมาโน, คหณฏฺโ กามุปาทานสฺส, อิตเรสํ ติณฺณํ อภินิเวสาทิอตฺโถ. ‘‘ทิฏฺิกนฺตาโร’’ติ หิ วจนโต ทิฏฺีนํ ทุรติกฺกมนฏฺโปีติ. ทฬฺหคหณตฺตา วา จตุนฺนมฺปิ ทุรติกฺกมนฏฺโ โยเชตพฺโพ. โยนิคติิตินิวาเสสุขิปนนฺติ สมาเส ภุมฺมวจนสฺส อโลโป ทฏฺพฺโพ, ตสฺมา เตน อายูหนาภิสงฺขรณปทานํ สมาโส โหติ. ชรามรณงฺคํ มรณปฺปธานนฺติ มรณฏฺา เอว ขยาทโย คมฺภีรา ทสฺสิตา. นวนวานฺหิ ปริกฺขเยน ขณฺฑิจฺจาทิปริปกฺกปฺปวตฺติ ชราติ, ขยฏฺโ วา ชราย วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. นวภาวาปคโม หิ ขโยติ วตฺตุํ ยุตฺโตติ. วิปริณามฏฺโ ทฺวินฺนมฺปิ. สนฺตติวเสน วา ชราย ขยวยภาโว, สมฺมุติขณิกวเสน มรณสฺส เภทวิปริณามตา โยเชตพฺพา.

อตฺถนยาติ อตฺถานํ นยา. อวิชฺชาทิอตฺเถหิ เอกตฺตาที เสน ภาเวน นียนฺติ คมฺเมนฺตีติ เอกตฺตาทโย เตสํ นยาติ วุตฺตา. นียนฺตีติ หิ นยาติ. อตฺถา เอว วา เอกตฺตาทิภาเวน นียมานา ายมานา ‘‘อตฺถนยา’’ติ วุตฺตา. นียนฺติ เอเตหีติ วา นยา, เอกตฺตาทีหิ จ อตฺถา ‘‘เอก’’นฺติอาทินา นียนฺติ, ตสฺมา เอกตฺตาทโย อตฺถานํ นยาติ อตฺถนยา. สนฺตานานุปจฺเฉเทน พีชํ รุกฺขภาวํ ปตฺตํ รุกฺขภาเวน ปวตฺตนฺติ เอกตฺเตน วุจฺจตีติ สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺตํ, เอวมิธาปิ อวิชฺชาทีนํ สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

ภินฺนสนฺตานสฺเสวาติ สมฺพนฺธรหิตสฺส นานตฺตสฺส คหณโต สตฺตนฺตโร อุจฺฉินฺโน สตฺตนฺตโร อุปฺปนฺโนติ คณฺหนฺโต อุจฺเฉททิฏฺิมุปาทิยติ.

ยโต กุโตจีติ ยทิ อฺสฺมา อฺสฺสุปฺปตฺติ สิยา, วาลิกโต เตลสฺส, อุจฺฉุโต ขีรสฺส กสฺมา อุปฺปตฺติ น สิยา, ตสฺมา น โกจิ กสฺสจิ เหตุ อตฺถีติ อเหตุกทิฏฺึ, อวิชฺชมาเนปิ เหตุมฺหิ นิยตตาย ติลคาวีสุกฺกโสณิตาทีหิ เตลขีรสรีราทีนิ ปวตฺตนฺตีติ นิยติวาทฺจ อุปาทิยตีติ วิฺาตพฺพํ ยถารหํ.

กสฺมา? ยสฺมา อิทฺหิ ภวจกฺกํ อปทาเลตฺวา สํสารภยมตีโต น โกจิ สุปินนฺตเรปิ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ทุรภิยานนฺติ ทุรติกฺกมํ. อสนิวิจกฺกมิวาติ อสนิมณฺฑลมิว. ตฺหิ นิมฺมถนเมว, นานิมฺมถนํ ปวตฺตมานํ อตฺถิ, เอวํ ภวจกฺกมฺปิ เอกนฺตํ ทุกฺขุปฺปาทนโต ‘‘นิจฺจนิมฺมถน’’นฺติ วุตฺตํ.

าณาสินา อปทาเลตฺวา สํสารภยํ อตีโต นตฺถีติ เอตสฺส สาธกํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ. ตนฺตูนํ อากุลกํ ตนฺตากุลกํ, ตนฺตากุลกมิว ชาตา ตนฺตากุลกชาตา, กิเลสกมฺมวิปาเกหิ อตีว ชฏิตาติ อตฺโถ. คุณาย สกุณิยา นีฑํ คุณาคุณฺฑิกํ. วฑฺฒิอภาวโต อปายํ ทุกฺขคติภาวโต ทุคฺคตึ สุขสมุสฺสยโต วินิปาตตฺตา วินิปาตฺจ จตุพฺพิธํ อปายํ, ‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏี’’ติอาทินา วุตฺตํ สํสารฺจ นาติวตฺตติ. สํสาโร เอว วา สพฺโพ อิธ วฑฺฒิอปคมาทีหิ อตฺเถหิ อปายาทินามโก วุตฺโต เกวลํ ทุกฺขกฺขนฺธภาวโต.

ภวจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๒๔๓. ปถวีอากาสา วิย ปฏิจฺจสมุปฺปาโท มหาปตฺถฏวิตฺถาริตานํ อตฺถานํ ปริกปฺปวเสน กถิโต. ตฺหิ อปตฺถฏํ อวิตฺถตฺจ ปถวึ อากาสฺจ ปตฺถรนฺโต วิตฺถารยนฺโต วิย จ เอเกกจิตฺตาวรุทฺธํ อกตฺวา สพฺพสตฺตสพฺพจิตฺตสาธารณวเสน ปตฺถฏวิตฺถตํ กตฺวา สุตฺตนฺตภาชนีเยน ภควา ทสฺเสติ. ตตฺถ นานาจิตฺตวเสนาติ อสหชาตานํ สหชาตานฺจ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ นานาจิตฺตคตานํ ทสฺสิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. นว มูลปทานิ เอเตสนฺติ นวมูลปทา, นยา. ‘‘เอเกเกน นเยน จตุนฺนํ จตุนฺนํ วารานํ สงฺคหิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ, เอตฺถ ‘‘เอเกเกน จตุกฺเกนา’’ติ วตฺตพฺพํ. นยจตุกฺกวารา หิ เอตฺถ ววตฺถิตา ทสฺสิตานํ จตุกฺกานํ นยภาวาติ.

๑. ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา

อวิชฺชํ องฺคํ อคฺคเหตฺวา ตโต ปรํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติอาทีนิ ปจฺจยสหิตานิ ปจฺจยุปฺปนฺนานิ องฺคภาเวน วุตฺตานีติ อาห ‘‘น, ตสฺส อนงฺคตฺตา’’ติ. เอวฺจ กตฺวา นิทฺเทเส (วิภ. ๒๒๖) ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิชฺชํ วิสุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติอาทินา ตํตํปจฺจยวนฺโต สงฺขาราทโย วิสฺสชฺชิตาติ. ตีสุ ปกาเรสุ ปมปมวาโร ทุติยวาราทีสุ ปวิสนฺโต ปจฺจยวิเสสาทิสพฺพนานตฺตสาธารณตฺตา เต วารวิเสเส คณฺหาตีติ ‘‘สพฺพสงฺคาหโก’’ติ วุตฺโต. ปมวาโร เอว หิ น เกวลํ ฉฏฺายตนเมว, อถ โข นามฺจ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, นามํ วา น เกวลํ ฉฏฺายตนสฺเสว, อถ โข ผสฺสสฺสาปีติ ปจฺจยวิเสสทสฺสนตฺถํ, เยน อตฺถวิเสเสน มหานิทานสุตฺตเทสนา ปวตฺตา, ตํทสฺสนตฺถฺจ ฉฏฺายตนงฺคํ ปริหาเปตฺวา วุตฺโตติ ตสฺส ทุติยวาเร จ ปเวโส วุตฺโต, น สพฺพงฺคสโมโรธโต.

ยตฺถาติ วารจตุกฺเก เอเกกวาเร จ. อฺถาติ สุตฺตนฺตภาชนียโต อฺถา สงฺขาโรติ วุตฺตํ. อวุตฺตนฺติ ‘‘รูปํ สฬายตน’’นฺติ, เตสุปิ จ วาเรสุ จตูสุปิ โสกาทโย อวุตฺตา สุตฺตนฺตภาชนีเยสุ วุตฺตา. ตตฺถ จ วุตฺตเมว อิธ ‘‘ฉฏฺายตน’’นฺติ อฺถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

สพฺพฏฺานสาธารณโตติ วุตฺตนเยน สพฺพวารสาธารณโต, สพฺพวิฺาณปวตฺติฏฺานภวสาธารณโต วา. วินา อภาเวน วิฺาณสฺส ขนฺธตฺตยมฺปิ สมานํ ผลํ ปจฺจโย จาติ อาห ‘‘อวิเสเสนา’’ติ. ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; สํ. นิ. ๒.๔๓) วจนโต ปน วิฺาณํ ผสฺสสฺส วิเสสปจฺจโยติ ตสฺส ผสฺโส วิสิฏฺํ ผลํ, สติปิ ปจฺจยสมฺปยุตฺตานํ อาหารปจฺจยภาเว มโนสฺเจตนาย วิฺาณาหรณํ วิสิฏฺํ กิจฺจนฺติ สงฺขาโร จสฺส วิสิฏฺโ ปจฺจโย. อจิตฺตกฺขณมตฺตานีติ จิตฺตกฺขณปฺปมาณรหิตานิ. ตสฺสตฺโถติ ตสฺส วุตฺตสฺส อวิชฺชาทิกสฺส อตฺโถ สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

เหตุกาทีนีติ เอตฺถ ยสฺมึ จตุกฺเก เหตุก-สทฺโท วุตฺโต, ตํ เหตุก-สทฺทสหจริตตฺตา ‘‘เหตุก’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เหตุ-สทฺโท คติสูจโก อวิคตตา จ วิคตตานิวารณวเสน คติ เอว โหตีติ เหตุกจตุกฺกํ อวิคตปจฺจยวเสน วุตฺตนฺติ วุตฺตํ.

ติธา จตุธา ปฺจธา วาติ วา-สทฺโท ‘‘ฉธา วา’’ติปิ วิกปฺเปตีติ ทฏฺพฺโพ. สมาธิ หิ สาธารเณหิ ตีหิ ฌานินฺทฺริยมคฺคปจฺจเยหิ จ ปจฺจโยติ. อุปาทานํ ภวสฺส มคฺคปจฺจเยน จาติ สตฺตธาติ กามุปาทานวชฺชานํ วเสน วทติ. กามุปาทานํ ปน ยถา ภวสฺส ปจฺจโย โหติ, โส ปกาโร ตณฺหายํ วุตฺโต เอวาติ น วุตฺโต.

อิมสฺมึ จตุกฺเก สหชาตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺตีติ วจนวเสนาติ อธิปฺปาโย. อตฺโถ หิ น กตฺถจิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ยถาสเกหิ ปจฺจโย น โหติ, สหชาตปจฺจยวเสเนว ปน อิมสฺส จตุกฺกสฺส วุตฺตตฺตา โสเยเวตฺถ โหตีติ วทนฺติ. ปมวาโรติ ปมจตุกฺโกติ เอวํ วตฺตพฺพํ. ภวาทีนํ ตถา อภาวนฺติ ยทิ สหชาตปจฺจยวเสเนว ปมจตุกฺโก วุตฺโต, ภโว ชาติยา, ชาติ จ มรณสฺส สหชาตปจฺจโย น โหตีติ ยถา อวิคตจตุกฺกาทีสุ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ ภวเหตุกา’’ติอาทิ น วุตฺตํ ภวาทีนํ อวิคตาทิปจฺจยตาย อภาวโต, เอวมิธาปิ ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา. ปจฺจยวจนเมว หิ เตสํ สหชาตสูจกํ อาปนฺนํ อวิคตจตุกฺกาทีสุ วิย อิธ ปจฺจยวิเสสสูจกสฺส วจนนฺตรสฺส อภาวา, น จ ตํ น วุตฺตํ, น จ ภวาทโย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา น สหชาตปจฺจยวเสเนวายํ จตุกฺโก วุตฺโต. เสสปจฺจยานฺจ สมฺภวนฺติ อิทํ ‘‘ภวาทีน’’นฺติ เอเตน สห อโยเชตฺวา สามฺเน อวิชฺชาทีนํ สหชาเตน สห เสสปจฺจยภาวานฺจ สมฺภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปจฺจยวิเสสสูจกสฺส วจนนฺตรสฺส อภาวา สหชาตโต อฺเ ปจฺจยภาวา อวิชฺชาทีนํ น สมฺภวนฺตีติ สหชาตปจฺจยวเสเนวายํ จตุกฺโก อารทฺโธติ วุจฺเจยฺย, น จ เต น สมฺภวนฺติ, ตสฺมา นายํ ตถา อารทฺโธติ.

‘‘มหานิทานสุตฺตนฺเต เอกาทสงฺคิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปน ‘‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๙๗) ทฺวิกฺขตฺตุํ อาคเต นามรูเป เอกธา คหิเต นวงฺคิโก, ทฺวิธา คหิเต ทสงฺคิโก วุตฺโต, อฺตฺถ ปน วุตฺเตสุ อวิชฺชาสงฺขาเรสุ อทฺธตฺตยทสฺสนตฺถํ โยชิยมาเนสุ เอกาทสงฺคิโก โหตีติ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. มหานิทานสุตฺตนฺตเทสนาย ปริคฺคหตฺถนฺติ ตตฺถ หิ จกฺขายตนาทีนิ วิย รูเป ฉฏฺายตนฺจ นาเม อนฺโตคธํ กตฺวา ผสฺสสฺส นิรวเสสรูปปจฺจยํ วิย นิรวเสสนามปจฺจยฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘นามรูปปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ตตฺถ ทสฺสิตวิเสสทสฺสเนน ตํเทสนาปริคฺคหตฺถํ เอกจิตฺตกฺขณิเก ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ฉฏฺายตนํ นามนฺโตคธํ กตฺวา ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

รูปปฺปวตฺติเทสํ สนฺธาย เทสิตตฺตา ‘‘อิมสฺสา’’ติ วจนเสโส, น ปุริมานนฺติ, เตเนว ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห.

โยนิวเสน โอปปาติกานนฺติ เจตฺถ สํเสทชโยนิกาปิ ปริปุณฺณายตนภาเวน โอปปาติกสงฺคหํ กตฺวา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. ปธานาย วา โยนิยา สพฺพปริปุณฺณายตนโยนึ ทสฺเสตุํ ‘‘โอปปาติกาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ สงฺคหนิทสฺสนวเสเนว หิ ธมฺมหทยวิภงฺเคปิ (วิภ. ๑๐๐๙) ‘‘โอปปาติกานํ เปตาน’’นฺติอาทินา โอปปาติกคฺคหณเมว กตํ, น สํเสทชคฺคหณนฺติ. เอกจิตฺตกฺขเณ ฉหายตเนหิ ผสฺสสฺส ปวตฺติ นตฺถิ, น เจกสฺส อกุสลผสฺสสฺส ฉฏฺายตนวชฺชํ อายตนํ สมานกฺขเณ ปวตฺตมานํ ปจฺจยภูตํ อตฺถิ, อารมฺมณปจฺจโย เจตฺถ ปวตฺตโก น โหตีติ น คยฺหติ, ตสฺมา ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ยสฺมา ปเนโส’’ติอาทิมาห.

ปุริมโยนิทฺวเย สมฺภวนฺตมฺปิ เกสฺจิ สฬายตนํ กลลาทิกาเล น สมฺภวตีติ ‘‘สทา อสมฺภวโต’’ติ อาห. ปจฺฉิมโยนิทฺวเย ปน เยสํ สมฺภวติ, เตสํ สทา สมฺภวตีติ. อิโตติ อิมสฺมา จตุกฺกโต, นยโต วา, โย วิเสโส.

ปจฺจยจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เหตุจตุกฺกวณฺณนา

๒๔๔. ชาติกฺขณมตฺเต เอว อภาวโตติ ตโต อุทฺธํ ภาวโตติ อตฺโถ. อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต ภเว อุปาทานเหตุกคฺคหณํ น กตํ, อภาวโต อวิคตปจฺจยสฺส ชาติอาทีสุ ภวเหตุกาทิคฺคหณํ น กตนฺติ โยเชตพฺพํ. ยถา ปน ยาว วตฺถุ, ตาว อนุปลพฺภมานสฺส วิฺาณสฺส วตฺถุ อวิคตปจฺจโย โหติ วิฺาณโต อุทฺธํ ปวตฺตนกมฺปิ, เอวํ อุปาทานํ ภวสงฺคหิตานํ ชาติอาทีนํ, ภโว จ ชาติยา อวิคตปจฺจโย สิยา. อถ น สิยา, สงฺขารกฺขนฺเธ ชาติอาทีนํ สงฺคหิตตฺตา วิฺาณํ นามสฺส, นามฺจ อตกฺขณิกสมฺภวา ฉฏฺายตนสฺส อวิคตปจฺจโย น สิยาติ อิธ วิย ตตฺถาปิ เหตุกคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ สิยา, ตสฺมา ยาว อุปาทานํ, ตาว ชาติอาทีนํ อนุปลพฺโภ, ชาติกฺขณมตฺเต เอว ภวสฺส อภาโว จ การณนฺติ น สกฺกา กาตุํ. สงฺขตลกฺขณานํ ปน ชาติอาทีนํ อสภาวธมฺมานํ ภเวน สงฺคหิตตฺตา อสภาวธมฺมสฺส จ ปรมตฺถโต ภวนฺตรสฺส อภาวโต เหตุอาทิปจฺจยา น สนฺตีติ ภวสฺส อุปาทานํ น นิยเมน อวิคตปจฺจโย, ภโว ปน ชาติยา, ชาติ ชรามรณสฺส เนว อวิคตปจฺจโยติ อวิคตปจฺจยนิยมาภาวโต อภาวโต จ อวิคตปจฺจยสฺส ภวาทีสุ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ ยุตฺตํ.

นนุ เอวํ ‘‘นามํ วิฺาณเหตุกํ ฉฏฺายตนํ นามเหตุก’’นฺติ วจนํ น วตฺตพฺพํ. น หิ นามสงฺคหิตานํ ชาติอาทีนํ อวิคตปจฺจโย อฺสฺส อวิคตปจฺจยภาโว จ อตฺถิ อสภาวธมฺมตฺตาติ? น, เตสํ นาเมน อสงฺคหิตตฺตา. นมนกิจฺจปริจฺฉินฺนฺหิ นามํ, ตฺจ กิจฺจํ สภาวธมฺมานเมว โหตีติ สภาวธมฺมภูตา เอว ตโย ขนฺธา ‘‘นาม’’นฺติ วุตฺตา, ตสฺมา ตตฺถ เหตุกคฺคหณํ ยุตฺตํ, อิธ ปน ภวตีติ ภโว, น จ ชาติอาทีนิ น ภวนฺติ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ สมฺภวติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ สมฺภวตี’’ติ โยชนโต, ตสฺมา สงฺขรณโต สงฺขาเร วิย ภวนโต ภเว ชาติอาทีนิ สงฺคหิตานีติ นิยมาภาวาภาเวหิ ยถาวุตฺเตหิ เหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ.

เกจิ ปนาติอาทินา เรวตตฺเถรมตํ วทติ. อรูปกฺขนฺธา หิ อิธ ภโวติ อาคตา. วุตฺตฺหิ ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาทานปจฺจยา ภโว, เปตฺวา อุปาทานํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (วิภ. ๒๔๙).

‘‘วตฺตพฺพปเทสาภาวโต’’ติ วุตฺตํ, สติปิ ปน ปเทเส อุปาทานํ วิย สภาวานิ ชาติอาทีนิ น โหนฺตีติ เปตพฺพสฺส ภาวนฺตรสฺส อภาวโต เอว ปนํ น กาตพฺพนฺติ ยุตฺตํ. ชายมานานํ ปน ชาติ, ชาตานฺจ ชรามรณนฺติ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ (วิภ. ๒๒๕) วุตฺตํ. ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโสติ ตตฺถ กตมํ นามํ? เปตฺวา ผสฺสํ เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ. อิทํ วุจฺจติ นาม’’นฺติ (วิภ. ๒๕๙), ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ อตฺถิ นามํ อตฺถิ รูปํ. ตตฺถ กตมํ นามํ? เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ. อิทํ วุจฺจติ นามํ. ตตฺถ กตมํ รูปํ? จตฺตาโร มหาภูตา ยฺจ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตุ วตฺตติ, อิทํ วุจฺจติ รูป’’นฺติ (วิภ. ๒๖๑) จ ยํ นามรูปฺจ ผสฺสสฺส สฬายตนสฺส ปจฺจโย, ตสฺส วตฺตพฺพปเทโส นิทฺทิฏฺโ, เอวํ โย ภโว ชาติยา ปจฺจโย, ตสฺสปิ เปตพฺพคเหตพฺพวิเสเส สติ น สกฺกา วตฺตพฺพปเทโส นตฺถีติ วตฺตุนฺติ.

เหตุจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา

๒๔๖. นิปฺปเทสตฺตา ภเวน อุปาทานํ สงฺคหิตนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส อุปาทานสฺส วิสุํ ิตสฺส อภาวา ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปน ภโว นิปฺปเทโส’’ติอาทิมาห. เอวํ สติ ‘‘นามปจฺจยาปิ วิฺาณ’’นฺติ น วตฺตพฺพํ สิยา, นามํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนภูตํ ปจฺจยภูตฺจ สปฺปเทสเมว คหิตนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติอาทีสุ (วิภ. ๑๕๐-๑๕๔) ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา นามํ คหิตํ, เอวํ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ อิธาปิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ภวสฺส คหณํ น น สกฺกา กาตุํ, ตสฺมา อุปาทานสฺส อวิคตปจฺจยนิยมาภาโว วิย อฺมฺปจฺจยนิยมาภาโว ภเว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อตฺถีติ ‘‘ภวปจฺจยาปิ อุปาทาน’’นฺติ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อฺมฺปจฺจโยติ เจตฺถ สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิปจฺจโย อธิปฺเปโต สิยา. ‘‘นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, น จ วตฺถุ อกุสลวิฺาณสฺส อฺมฺปจฺจโย โหติ, ปุเรชาตวิปฺปยุตฺโต ปน โหตีติ. ตถา ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ วุตฺตํ, น จ ฉฏฺายตนํ จกฺขายตนุปจยาทีนํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อฺมฺปจฺจโย โหติ, ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺโต ปน โหตีติ.

อฺมฺจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขาราทิมูลกนยมาติกาวณฺณนา

๒๔๗. ‘‘อปุพฺพสฺส อฺสฺส อวิชฺชาปจฺจยสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต ภวมูลกนโย น วุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ‘‘ฉฏฺายตนปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทิกา ฉฏฺายตนาทิมูลกา จ น วตฺตพฺพา สิยุํ. ‘‘นามปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ เอตฺถ หิ อวิชฺชาปจฺจยา สพฺเพ จตฺตาโร ขนฺธา นามนฺติ วุตฺตาติ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา – นามวิเสสานํ ฉฏฺายตนาทีนํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว วตฺตพฺโพติ ฉฏฺายตนาทิมูลกา วุตฺตา. ยเทว ปน นามํ อวิชฺชาย ปจฺจโย, ตเทว ภวปจฺจยา อวิชฺชาติ เอตฺถาปิ วุจฺเจยฺย, น วตฺตพฺพวิเสโส โกจิ, ตสฺมา อปุพฺพาภาวโต น วุตฺโตติ. ภวคฺคหเณน จ อิธ อวิชฺชาย ปจฺจยภูตา สภาวธมฺมา คณฺเหยฺยํอุ, น ชาติอาทีนีติ อปุพฺพาภาวโต น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชาติปิ วุตฺตํ สิยา’’ติ วุตฺตํ, ยถา ปน ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘ผสฺสปจฺจยา ผสฺโส’’ติ วุตฺตํ น โหติ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เปตฺวา ปจฺจยสฺส คหณโต, เอวมิธาปิ น สิยา, ตสฺมา ภวนวเสน สภาวธมฺมาสภาวธมฺเมสุ สามฺเน ปวตฺโต ภว-สทฺโทติ น โส อวิชฺชาย ปจฺจโยติ สกฺกา วตฺตุํ. เตน ภวมูลกนโย น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตฺถ วิย ภเวกเทเส วิสุํ ปุพฺเพ อคฺคหิเต ภว-สทฺโท ปจฺจยโสธนตฺถํ อาทิโต วุจฺจมาโน นิรวเสสโพธโก โหติ, น นาม-สทฺโท. เอวํสภาวา หิ เอตา นิรุตฺติโยติ อิมินาวา อธิปฺปาเยน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา อวิชฺชาติปิ วุตฺตํ สิยา’’ติ อาหาติ ทฏฺพฺพํ, อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘ภวสฺส นิปฺปเทสตฺตา ภวปจฺจยาปิ อุปาทานนฺติ น วุตฺต’’นฺติ อยมตฺโถ อฺมฺปจฺจยวาเร วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตาติ เอเตน ชาติชรามรณานํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาโว อนุฺาโต วิย โหติ. ชายมานานํ ปน ชาติ, น ชาติยา ชายมานา, ชียมานมียมานฺจ ชรามรณํ, น ชรามรณสฺส ชียมานมียมานาติ ชาติอาทีนิ เอกจิตฺตกฺขเณ น อวิชฺชาย ปจฺจโย โหนฺติ, ตสฺมา อสมฺภวโต เอว ตมฺมูลกา นยา น คหิตา, ปจฺเฉโทปิ ปน อตฺถีติ ‘‘ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา

๒๔๘-๒๔๙. อุปาทานสฺส อุปาทานปจฺจยตฺตํ อาปชฺเชยฺยาติ นนุ นายํ โทโส. กามุปาทานฺหิ ทิฏฺุปาทานสฺส, ตฺจ อิตรสฺส ปจฺจโย โหตีติ? สจฺจํ, กามุปาทานสฺส ปน ตณฺหาคหเณน คหิตตฺตา นาเม วิย วิเสสปจฺจยตฺตาภาวา จ อุปาทานคฺคหเณน ตณฺหาปจฺจยา ภวสฺส จ ปจฺจยภูตา ทิฏฺิ เอว คหิตาติ อยํ โทโส วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา จ อุปาทานฏฺาเน ปจฺจยุปฺปนฺนํ ปจฺจโย จ เอกเมว, ตสฺมา ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส, นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติ เอเตสํ นิทฺเทเสสุ วิย ‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’’ติ เอตสฺส นิทฺเทเส ปจฺจโย วิสุํ น วิภตฺโต. สติปิ วา ภวสฺส ปจฺจยภาเวน กามุปาทานสฺสปิ คหเณ ‘‘เปตฺวา อุปาทาน’’นฺติ อวุจฺจมาเน กามุปาทานํ กามุปาทานสฺส, ทิฏฺิ จ ทิฏฺิยา ปจฺจโยติ อาปชฺเชยฺยาติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตานิวารณตฺถํ ‘‘เปตฺวา อุปาทาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

๒๕๒. จกฺขายตนาทิอุปตฺถมฺภกสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ชนกํ วิฺาณํ จกฺขายตนุปจยาทีนํ ปจฺจโยติ วุตฺตํ ตทชนกมฺปีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺสา’’ติอาทิมาห. ตาสมฺปิ หีติ อุตุอาหารชสนฺตตีนมฺปิ หิ อุปตฺถมฺภกสมุฏฺาปนปจฺฉาชาตปจฺจยวเสน วิฺาณํ ปจฺจโย โหติ เอวาติ อตฺโถ.

๒๕๔. ยถานุรูปนฺติ มหาภูตสงฺขาตํ ปฺจนฺนํ สหชาตาทิปจฺจโย, วตฺถุสงฺขาตํ ฉฏฺสฺส ปุเรชาตาทิปจฺจโย, นามํ ปฺจนฺนํ ปจฺฉาชาตาทิปจฺจโย, ฉฏฺสฺส สหชาตาทิปจฺจโยติ เอสา ยถานุรูปตา.

๒๖๔. ยสฺสาติ ยสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส นามสฺส วิฺาณสฺส สมฺปยุตฺตปจฺจยภาโว โหตีติ โยเชตพฺพํ.

๒๗๒. ‘‘ผสฺสปจฺจยาปิ นาม’’นฺติ ผสฺสปจฺจยภาเวน วตฺตพฺพสฺเสว นามสฺส อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนน ปวตฺติ ทสฺสิตาติ ‘‘เปตฺวา ผสฺส’’นฺติ ปุน วจเน โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ น วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปี’’ติอาทิมาห.

๒๘๐. ยสฺมา อธิโมกฺโขปิ นตฺถิ, ตสฺมา อุปาทานฏฺานํ ปริหีนเมวาติ สมฺพนฺโธ. พลวกิเลเสน ปน ปทปูรณสฺส การณํ ตณฺหาย อภาโว โทมนสฺสสหคเตสุ วุตฺโต เอวาติ ตสฺส เตน สมฺพนฺโธ โยเชตพฺโพ. สพฺพตฺถาติ ตติยจิตฺตาทีสุ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อธิโมกฺโข’’ติอาทิมฺหิ วิสฺสชฺชนเมว วิเสสํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิ สํขิตฺตา. เหฏฺาติ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑาทีสุ.

อกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา

๒๙๒. ปสาโทติ สทฺธา.

๓๐๖. ‘‘อโลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๓.๓๔) สพฺยาปารานิ กุสลมูลานิ สงฺขารานํ นิทานานิ โหนฺติ, น กมฺมเวคกฺขิตฺเตสุ วิปาเกสุ อโลภาทิสหคตกมฺมปฏิพิมฺพภูตา วิย ปวตฺตมานา อโลภาทโยติ ปฺจวิฺาเณสุ วิย นิทานรหิตตา โสตปติตตาติ ทฏฺพฺพา. กิริยธมฺมา กิริยมตฺตตฺตา กมฺมนิทานรหิตาอิจฺเจว ปริหีนาวิชฺชาฏฺานา เวทิตพฺพา.

ตติยจตุตฺถวารา อสมฺภวโต เอวาติ กสฺมา วุตฺตํ, กึ จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขายตนุปจยาทีนํ ปจฺฉาชาตปจฺจยา น โหนฺตีติ? โหนฺติ, ตทุปตฺถมฺภกสฺส ปน จิตฺตสมุฏฺานสฺส อสมุฏฺาปนํ สนฺธาย ‘‘อสมฺภวโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สหชาตปจฺฉาชาตวิฺาณสฺส ปน วเสน ตทาปิ วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ปจฺฉาชาตสหชาตนามสฺส สหชาตปุเรชาตภูตจกฺขาทิรูปสฺส จ วเสน นามรูปปจฺจยา สฬายตนฺจ ลพฺภตีติ ตติยจตุตฺถวารา น น สมฺภวนฺตีติ.

กุสลาพฺยากตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา

๓๓๔. สมฺโมหวเสนาติ กุสลผเล อนิจฺจาทิตาย สภเย สาทุรสวิสรุกฺขพีชสทิเส ตํนิพฺพตฺตกกุสเล จ อนาทีนวทสฺสิตาวเสน. สมติกฺกมตฺถํ ภาวนา สมติกฺกมภาวนา, ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน สมติกฺกมภูตา วา ภาวนา สมติกฺกมภาวนา.

ตถา อิธ น ลพฺภนฺตีติ อวิชฺชาย เอว สงฺขารานํ อวิคตาทิปจฺจยตฺตาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิฺาณาทีนํ ปน สงฺขาราทโย อวิคตาทิปจฺจยา โหนฺตีติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ สงฺขารเหตุกนฺติอาทินา โยชนา น น สกฺกา กาตุนฺติ อวิคตจตุกฺกาทีนิปิ น อิธ ลพฺภนฺติ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ นามนฺติอาทินา หิ ยถาลาภโยชนาย นโย ทสฺสิโตติ.

อวิชฺชามูลกกุสลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา

๓๔๓. ‘‘นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเย ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, กึ กุสลมูลํ อกุสลมูลฺจ กมฺมปจฺจโย โหตีติ? น โหติ, กมฺมปจฺจยภูตาย ปน เจตนาย สํสฏฺํ กมฺมํ วิย ปจฺจโย โหติ. เตน เอกีภาวมิว คตตฺตาติ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถา กุสลากุสลมูเลหิ วินา กมฺมํ วิปากํ น ชเนตีติ ตานิ วิปากสฺส ปริยาเยน อุปนิสฺสโยติ วุตฺตานิ, เอวํ กมฺเมน เอกีภูตานิ สํสฏฺานิ หุตฺวา กมฺมชานํ ปจฺจยา โหนฺตีติ ปริยาเยน เตสํ กมฺมปจฺจยตา วุตฺตา. เอสาติ เอส กุสลมูลปจฺจโย อกุสลมูลปจฺจโย จาติ โยเชตพฺพํ.

กุสลากุสลวิปากานํ วิย กิริยานํ อุปฺปาทกานิ อวิชฺชากุสลากุสลมูลานิ จ น โหนฺตีติ อาห ‘‘อุปนิสฺสยตํ น ลภนฺตี’’ติ. มนสิกาโรปิ ชวนวีถิปฏิปาทกมตฺตตฺตา กุสลากุสลานิ วิย อวิชฺชํ อุปนิสฺสยํ น กโรติ, อวิชฺชูปนิสฺสยานํ ปน ปวตฺติอตฺถํ ภวงฺคาวฏฺฏนมตฺตํ โหติ, ปหีนาวิชฺชานฺจ กิริยานํ อวิชฺชา เนวุปฺปาทิกา, อารมฺมณมตฺตเมว ปน โหติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓), ‘‘วิปากธมฺมธมฺโม เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๓.๑๐๓) จ เอวมาทีสุ กิริยานํ อกุสลา อุปนิสฺสยปจฺจยภาเวน น อุทฺธฏาติ. อปิจ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตสฺส วเสน อวิชฺชามูลโก กุสลนโย วุตฺโต, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอตสฺส วเสน กุสลากุสลมูลโก วิปากนโย, กิริยานํ ปน เนว สงฺขารคฺคหเณน, น จ วิฺาณคฺคหเณน คหณํ คจฺฉตีติ ตํมูลโก กิริยานโย น ลพฺภตีติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

อเนกเภทโตติ อวิชฺชาทีนํ มูลปทานํ เอกจิตฺตกฺขณิกานํ กิริยนฺเต ปมนเย สหชาตาทิอเนกปจฺจยภาเวน คหิตตฺตา เตสํ ปจฺจยานํ วเสน นวาทิมูลปทานํ นยานํ วเสน, อเนกปฺปการโต จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสนาติ วา อธิปฺปาโย. กุสลากุสลานํ ปน วิปาเก จาติ เอตฺถ กุสลากุสเลสุ กุสลากุสลานํ วิปาเก จาติ วตฺตพฺพํ. ปุริมปจฺฉิเมสุ หิ นเยสุ ยถา ปจฺจยากาโร วุตฺโต, ตํทสฺสนตฺถํ ‘‘อเนกเภทโต เอกธาวา’’ติ วุตฺตํ, น จ ปจฺฉิมนเย กุสเล อเนกเภทโต ปจฺจยากาโร วุตฺโต, อถ โข ‘‘เอกธาวา’’ติ. เอกธาวาติ จ มูลปเทกปจฺจยตาวเสน, เอกสฺเสว วา นยสฺส วเสน เอกปฺปกาเรนาติ อตฺโถ, ปมจตุกฺกสฺเสว วเสนาติ วา อธิปฺปาโย. ธมฺมปจฺจยเภเทติ อวิชฺชาทีนํ ธมฺมานํ ปจฺจยภาวเภเท ชรามรณาทีนํ ธมฺมานํ ชาติอาทิปจฺจยเภเท, ตํตํจิตฺตุปฺปาทสมยปริจฺฉินฺนานํ วา ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ เอกกฺขณิกาวิชฺชาทิปจฺจยเภเท. ปริยตฺติอาทีนํ กโม ปริยตฺติ…เป… ปฏิปตฺติกฺกโม. ปจฺจยากาเร หิ ปาฬิปริยาปุณนตทตฺถสวนปาฬิอตฺถจินฺตนานิ ‘‘ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตํ…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติอาทินา ภาวนาปฏิปตฺติ จ กเมน กาตพฺพาติ กม-คฺคหณํ กโรติ. ตโตติ าณปฺปเภทชนกโต กมโต. อฺํ กรณียตรํ นตฺถิ. ตทายตฺตา หิ ทุกฺขนฺตกิริยาติ.

กุสลมูลกวิปากนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สติปฏฺานวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๓๕๕. ตโย สติปฏฺานาติ สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารํ กโรติ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนํ. อาทีสุ หิ สติโคจโรติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานนฺติ วุตฺตานํ สติโคจรานํ ทีปเก สุตฺตปฺปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยมฺปิ อวเสสปาฬิปฺปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ทานาทีนิปิ กโรนฺตสฺส รูปาทีนิ กสิณาทีนิ จ สติยา านํ โหตีติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ปธานํ าน’’นฺติ. -สทฺโท หิ ปธานตฺถทีปโกติ อธิปฺปาโย.

อริโยติ อริยํ เสฏฺํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเตติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทเสน หิ สุตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… อรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… อรหติ.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขเว สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ …เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อตฺตมนตฺจ อนตฺตมนตฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….

‘‘ปุน จปรํ…เป… สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑) –

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา, นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา, ตทุภยวีติวตฺตตา สติปฏฺานนฺติ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.

-สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺาเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺทฺหิ พหุลํ-วจเนน กมฺมตฺถํ อิจฺฉนฺติ สทฺทวิทู, ตเถว กตฺตุอตฺถมฺปิ อิจฺฉนฺตีติ ปุน ตติยนเย ‘‘ปติฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ -สทฺโท ภุสตฺถํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ปุน ภาวตฺเถ สติ-สทฺทํ ปฏฺาน-สทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เตน ปุริมตฺเถ สติ-สทฺโท ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ.

วิเสเสน กาโย จ เวทนา จ อสฺสาทสฺส การณนฺติ ตปฺปหานตฺถํ เตสํ ตณฺหาวตฺถูนํ โอฬาริกสุขุมานํ อสุภทุกฺขตาทสฺสนานิ มนฺทติกฺขปฺเหิ ตณฺหาจริเตหิ สุกรานีติ ตานิ เตสํ วิสุทฺธิมคฺโคติ วุตฺตานิ, เอวํ ทิฏฺิยา วิเสสการเณสุ จิตฺตธมฺเมสุ อนิจฺจานตฺตตาทสฺสนานิ นาติปเภทาติปเภทคเตสุ เตสุ ตปฺปหานตฺถํ มนฺทติกฺขานํ ทิฏฺิจริตานํ สุกรานีติ เตสํ ตานิ วิสุทฺธิมคฺโคติ. ติกฺโข สมถยานิโก โอฬาริการมฺมณํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถ อฏฺตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย เวทนํ ปริคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต’’ติ. วิปสฺสนายานิกสฺส สุขุเม จิตฺเต ธมฺเมสุ จ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ตทนุปสฺสนานํ ตํวิสุทฺธิมคฺคตา วุตฺตา.

เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส ปหานตฺถนฺติ เอเตน โยชนา. ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ภเว สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภโวฆสฺส เวทนา, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺโฆสฺส จิตฺตํ, ธมฺมวินิพฺโภคสฺส ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺโชฆสฺส ธมฺมา, ตสฺมา เตสุ เตสํ ปหานตฺถํ จตฺตาโรว วุตฺตา, ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส อตฺตโน สีเลน สุทฺธีติอาทิปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา…เป… สุขเวทนาสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา. สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา…เป… อวุตฺตานํ วุตฺตนเยน วตฺถุภาโว โยเชตพฺโพ.

‘‘อาหารสมุทยา กายสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย (สํ. นิ. ๕.๔๐๘), สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; อุทา. ๑) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารา กายาทิปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถ’’นฺติ. ปกรณนโยติ ตมฺพปณฺณิภาสาย วณฺณนานโย. เนตฺติเปฏกปฺปกรเณ ธมฺมกถิกานํ โยชนานโยติปิ วทนฺติ.

สรณวเสนาติ กายาทีนํ กุสลาทิธมฺมานฺจ ธารณตาวเสน. สรนฺติ คจฺฉนฺติ เอตายาติ สตีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอกตฺเต นิพฺพาเน สมาคโม เอกตฺตสโมสรณํ. เอตเทว หิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภูโต วา สมานตาย เอโก สติปฏฺานสภาโว เอกตฺตํ, ตตฺถ สโมสรณํ ตํสภาคตา เอกตฺตสโมสรณํ. เอกนิพฺพานปฺปเวสเหตุภาวํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตสฺมึ อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณานิ สห สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณตฺเตน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพานิ, ปุริมสฺมึ วิสุํ. สรณวเสนาติ วา คมนวเสนาติ อตฺเถ สติ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ สโมสรเณ วา สติ-สทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเน ธารณตาว สตีติ สติ-สทฺทตฺถนฺตราภาวา ปุริมํ สติภาวสฺส การณํ, ปจฺฉิมํ เอกภาวสฺสาติ นิพฺพานสโมสรเณปิ สหิตาเนว ตานิ สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณานิ.

จุทฺทสวิเธนาติ อิทํ มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) วุตฺตานํ อานาปานปพฺพาทีนํ วเสน. ตถา ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนนฺติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อุฏฺานกภณฺฑสทิสตา ตํตํสติปฏฺานภาวนานุภาวสฺส ทฏฺพฺพา. ภิกฺขุโคจรา หิ เอเต. วุตฺตฺหิ ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒; ที. นิ. ๓.๘๐).

กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา ภิกฺขุ โหตีติ ภิกฺขุํ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา ทสฺเสติ ภิกฺขุมฺหิ ตํนิยมโต. เตนาห ‘‘ปฏิปตฺติยา วา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต’’ติ.

สมํ จเรยฺยาติ กายาทิวิสมจริยํ ปหาย กายาทีหิ สมํ จเรยฺย. ราคาทิวูปสเมน สนฺโต, อินฺทฺริยทมเนน ทนฺโต, จตุมคฺคนิยเมน นิยโต, เสฏฺจาริตาย พฺรหฺมจารี. กายทณฺฑาทิโอโรปเนน นิธาย ทณฺฑํ. โส เอวรูโป พาหิตปาปสมิตปาปภินฺนกิเลสตาหิ พฺราหฺมณาทิสมฺโ เวทิตพฺโพ.

กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา

อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา, เอตฺถ ปฏิพทฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทมิสฺสโตติ อตฺโถ. อวยวีคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุชฺชนฺโต ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวีวาทิโนปิ อวยวีคาหํ น กโรนฺติ. นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ.

ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา, นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสฺาย วเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ, ตํ รูปายตนํ น โหติ, รูปายตนํ วา ตํ น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, ทิฏฺํ วา ยถาวุตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ, เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ วา ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ.

น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีกายนฺติ เกสาทิปถวึ ธมฺมสมูหตฺตา กาโยติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกปฺปเภทสกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา กาโยติ วทติ, เอวํ อฺตฺถาปิ.

อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺมานํ ฆฏิตารมฺมณํ เอกโต อารมฺมณภาโว นตฺถีติ อตฺโถ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺมา วา ฆฏิตารมฺมณํ อิทํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตีสุ ภเวสุ กิเลสานนฺติ ภวตฺตยวิสยานํ กิเลสานนฺติ อตฺโถ.

สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ภวํ. สพฺพสฺมึ ลีเน อุทฺธเฏ จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา, สพฺเพ วา ลีเน อุทฺธเฏ จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. อนฺโตสงฺเขโปติ อนฺโตโอลียนา โกสชฺชนฺติ อตฺโถ.

อวิเสเสน ทฺวีหิปิ นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กตฺวา ปุน เอเกเกน วุตฺตปฺปหานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสเสนา’’ติ อาห, ‘‘วิเนยฺย นีวรณานี’’ติ อวตฺวา อภิชฺฌาโทมนสฺสวินยสฺส วา ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิเสเสนา’’ติอาทิมาห. กายานุปสฺสนาภาวนาย อุชุวิปจฺจนีกานํ อนุโรธวิโรธาทีนํ ปหานทสฺสนฺหิ เอตสฺส ปโยชนนฺติ. กายภาวนายาติ กายานุปสฺสนาภาวนา อธิปฺเปตา. เตนาติ อนุโรธาทิปฺปหานวจเนน.

สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ พุทฺธานุสฺสติ เมตฺตา มรณสฺสติ อสุภภาวนา จ. สติสมฺปชฺเน เอเตน โยคินา ปริหริยมานํ ตํ สพฺพตฺถิกกมฺมฏฺานํ วุตฺตํ สติสมฺปชฺพเลน อวิจฺฉินฺนสฺส ตสฺส ปริหริตพฺพตฺตา, สติยา วา สมโถ วุตฺโต สมาธิกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา.

กายานุปสฺสนาอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา

เกวลํ ปนิธาติอาทินา อิธ เอตฺตกํ เวทิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. อทฺทมทกฺขีติ ทฺเวปิ เอกตฺถา. สมฺมทฺทโสติ สมฺมา ปสฺสโก.

สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย, วิปริณามฏฺิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ จ สุขโต ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ.

รูปาทิอารมฺมณฉนฺทาทิอธิปติาณาทิสหชาตกามาวจราทิภูมินานตฺตเภทานํ กุสลากุสลตพฺพิปากกิริยานานตฺตเภทสฺส จ อาทิ-สทฺเทน สสงฺขาริกาสงฺขาริกสวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตเภทานฺจ วเสนาติ โยเชตพฺพํ. สุฺตาธมฺมสฺสาติ ‘‘ธมฺมา โหนฺติ, ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๑) สุฺตาวาเร อาคตสุฺตาสภาวสฺส วเสน. กามฺเจตฺถาติอาทินา ปุพฺเพ ปหีนตฺตา ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ ทสฺเสติ, มคฺคจิตฺตกฺขเณ วา เอกตฺถ ปหีนํ สพฺพตฺถ ปหีนํ โหตีติ วิสุํ วิสุํ น วตฺตพฺพนฺติ. ตตฺถ ปุริมโจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, ปจฺฉิมาย นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร. โลกิยภาวนาย หิ กาเย ปหีนํ น เวทนาทีสุ วิกฺขมฺภิตํ โหติ. ยทิปิ น ปวตฺเตยฺย, น ปฏิปกฺขภาวนาย ตตฺถ สา อภิชฺฌาโทมนสฺสสฺส อปฺปวตฺติ โหตีติ ปุน ตปฺปหานํ วตฺตพฺพเมวาติ. อุภยตฺถ วา อุภยํ สมฺภวโต โยเชตพฺพํ. เอกตฺถ ปหีนํ เสเสสุปิ ปหีนํ โหตีติ มคฺคสติปฏฺานภาวนํ, โลกิยภาวนาย วา สพฺพตฺถ อปฺปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปฺจปิ ขนฺธา โลโก’’ติ หิ จตูสุปิ วุตฺตนฺติ.

เวทนานุปสฺสนาทิอุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๕๖. สพฺพปฺปการวจเนน อุทฺเทเส ทสฺสิตา อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนา ปการา จ คหิตา. ตตฺถ อนฺโตคธา จุทฺทส ปการา, กายคตาสติสุตฺเต วุตฺตา เกสาทิวณฺณกสิณารมฺมณจตุกฺกชฺฌานปฺปการา, โลกิยาทิปฺปการา จาติ เตปิ คหิตา เอว. นิทฺเทเส หิ เอกปฺปการนิทฺเทเสน นิทสฺสนมตฺตํ กตนฺติ, สพฺพปฺปการคฺคหณฺจ พาหิเรสุปิ เอกเทสสมฺภวโต กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ นนุ เกสโลมนขานํ อตจปริจฺฉินฺนตา ตจสฺส จ อตฺถีติ? ยทิปิ อตฺถิ, ตจปริจฺฉินฺนพหุลตาย ปน ตจปริจฺฉินฺนตา น น โหติ กายสฺสาติ เอวํ วุตฺตํ. ตโจ ปริยนฺโต อสฺสาติ ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เอเตน ปน วจเนน กาเยกเทสภูโต ตโจ คหิโต เอว. ตปฺปฏิพทฺธา จ เกสาทโย ตทนุปวิฏฺมูลา ตจปริยนฺตาว โหนฺตีติ ทฺวตฺตึสาการสมูโห สพฺโพปิ กาโย ตจปริยนฺโตติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

‘‘ปูรํ นานปฺปการสฺสา’’ติ วุตฺตํ, เก ปน เต ปการา? เยหิ นานปฺปการํ อสุจิ วุตฺตนฺติ เกสา โลมาติอาทิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘เอเต เกสาทโย อาการา’’ติ. อาการา ปการาติ หิ เอโก อตฺโถ.

นิสินฺนสฺส ยาว อปริปฺผนฺทนิสชฺชามูลกํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ยาวตา อุฏฺาติ วา, ตาว เอโก นิสชฺชวาโร. เยน วิธินา อุคฺคเห กุสโล โหติ, โส สตฺตวิโธ วิธิ ‘‘อุคฺคหโกสลฺล’’นฺติ วุจฺจติ, ตํนิพฺพตฺตํ วา าณํ.

ปถวีธาตุพหุลภาวโต มตฺถลุงฺคสฺส กรีสาวสาเน ตนฺติอาโรปนมาห. เอตฺถ ปน มํสํ…เป… วกฺกํ…เป… เกสาติ เอวํ วกฺกปฺจกาทีสุ อนุโลมสชฺฌายํ วตฺวา ปฏิโลมสชฺฌาโย ปุริเมหิ สมฺพนฺโธ วุตฺโต. สฺวายํ เย ปรโต วิสุํ ติปฺจาหํ, ปุริเมหิ เอกโต ติปฺจาหนฺติ ฉปฺจาหํ สชฺฌายา วกฺขมานา, เตสุ อาทิอนฺตทสฺสนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อนุโลมปฏิโลมสชฺฌาเยปิ หิ ปฏิโลมสชฺฌาโย อนฺติโมติ. สชฺฌายปฺปการนฺตรํ วา เอตมฺปีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถสงฺขลิกา องฺคุลิปนฺติ. ลกฺขณปฏิเวธสฺสาติ อสุภลกฺขณปฏิเวธสฺส, ธาตุลกฺขณปฏิเวธสฺส วา.

อตฺตโน ภาโค สภาโค, สภาเคน ปริจฺเฉโท สภาคปริจฺเฉโท, เหฏฺุปริติริยนฺเตหิ สกโกฏฺาสิกเกสนฺตราทีหิ จ ปริจฺเฉโทติ อตฺโถ.

ธาตุวิภงฺโค (ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ปุกฺกุสาติสุตฺตํ. สาธารณวเสนาติ เอตฺตเกเนว สิทฺเธ สพฺพ-คฺคหณํ วณฺณกสิณวเสน จตุกฺกชฺฌานิกสมถสาธารณตฺตสฺส จ ทสฺสนตฺถํ.

โอกฺกมนวิสฺสชฺชนนฺติ ปฏิปชฺชิตพฺพวชฺเชตพฺเพ มคฺเคติ อตฺโถ. พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณติ เอตฺถ กายานุปสฺสนํ หิตฺวา สุภาทิวเสน คยฺหมานา เกสาทโยปิ พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณาเนวาติ เวทิตพฺพา. อุกฺกุฏฺุกฺกฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วิย เอกตฺถ กตาย อุกฺกุฏฺิยา กเมน สพฺพตาเลสุ ปติตฺวา อุฏฺหิตฺวา ปริยนฺตตาลํ อาทิตาลฺจ อคนฺตฺวา ตโต ตโต ตตฺถ ตตฺเถว กตาย อุกฺกุฏฺิยา อุฏฺหิตฺวาติ อตฺโถ.

อธิจิตฺตนฺติ สมถวิปสฺสนาจิตฺตํ. อนุยุตฺเตนาติ ยุตฺตปยุตฺเตน, ภาเวนฺเตนาติ อตฺโถ. สมาธินิมิตฺตํ อุปลกฺขณากาโร สมาธิเยว. มนสิ กาตพฺพนฺติ จิตฺเต กาตพฺพํ, อุปฺปาเทตพฺพนฺติ อตฺโถ. สมาธิการณํ วา อารมฺมณํ สมาธินิมิตฺตํ อาวชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. านํ อตฺถีติ วจนเสโส, ตํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย, เอตสฺส สํวตฺตนสฺส การณํ อตฺถีติ อตฺโถ. ตํ วา มนสิกรณํ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺยาติ เอตสฺส านํ การณนฺติ อตฺโถ. น จ ปภงฺคูติ กมฺมนิยภาวูปคมเนน จ ปภิชฺชนสภาวนฺติ อตฺโถ.

อาลิมฺเปตีติ อาทีเปติ ชาเลติ. ตฺจาติ ตํ ปิฬนฺธนวิกติสงฺขาตํ อตฺถํ ปโยชนํ. อสฺสาติ สุวณฺณการสฺส อนุโภติ สมฺโภติ สาเธติ. อสฺส วา สุวณฺณสฺส ตํ อตฺถํ สุวณฺณกาโร อนุโภติ ปาปุณาติ.

อภิฺาย อิทฺธิวิธาทิาเณน สจฺฉิกรณียสฺส อิทฺธิวิธปจฺจนุภวนาทิกสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส. ปจฺจกฺขํ ยสฺส อตฺถิ, โส สกฺขิ, สกฺขิโน ภพฺพตา สกฺขิภพฺพตา, สกฺขิภวนตาติ วุตฺตํ โหติ. สกฺขิ จ โส ภพฺโพ จาติ วา สกฺขิภพฺโพ. อยฺหิ อิทฺธิวิธาทีนํ ภพฺโพ, ตตฺถ จ สกฺขีติ สกฺขิภพฺโพ, ตสฺส ภาโว สกฺขิภพฺพตา, ตํ ปาปุณาติ. อายตเนติ ปุพฺพเหตาทิเก การเณ สติ.

สีติภาวนฺติ นิพฺพานํ, กิเลสทรถวูปสมํ วา. สมฺปหํเสตีติ สมปวตฺตํ จิตฺตํ ตถาปวตฺติยา ปฺาย โตเสติ อุตฺเตเชติ. ยทา วา นิรสฺสาทํ จิตฺตํ ภาวนาย น ปกฺขนฺทติ, ตทา ชาติอาทีนิ สํเวควตฺถูนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมฺปหํเสติ สมุตฺเตเชติ.

ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, กถํ? ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ. อาสโยติ นิสฺสโย, ปจฺจโยติ อตฺโถ.

นขา ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนาติ วิสุํ ววตฺถิตตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว นขา เอกโต นตฺถี’’ติ อาหาติ.

สุขุมมฺปีติ ยถาวุตฺตโอฬาริกจมฺมโต สุขุมํ อนฺโตมุขจมฺมาทิ. โกฏฺาเสสุ วา ตเจน ปริจฺฉินฺนตฺตา ยํ ทุรุปลกฺขณียํ, ตํ ‘‘สุขุม’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ วุตฺตนเยน ตจํ วิวริตฺวา ปสฺสนฺตสฺส ปากฏํ โหตีติ.

ตาลคุฬปฏลํ นาม ปกฺกตาลผลลสิกํ ตาลปฏฺฏิกาย ลิมฺปิตฺวา สุกฺขาเปตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตปฏลํ.

เอวํ ติมตฺตานีติ เอวํ-มตฺต-สทฺเทหิ โคปฺผกฏฺิกาทีนิ อวุตฺตานิปิ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. กีฬาโคฬกานิ สุตฺเตน พนฺธิตฺวา อฺมฺํ ฆฏฺเฏตฺวา กีฬนโคฬกานิ.

ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานนฺติ ชณฺณุกฏฺิมฺหิ ปวิสิตฺวา ิตฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย. เตน อฏฺินา ปติฏฺิตฏฺานํ ยํ กฏิฏฺิโน, ตํ อคฺคฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสทิสํ. สีสกปฏฺฏเวกํ เวเตฺวา ปิตสีสมยํ ปฏฺฏกํ. สุตฺตกนฺตนสลากาวิทฺธา โคฬกา วฏฺฏนาติ วุจฺจนฺติ, วฏฺฏนานํ อาวลิ วฏฺฏนาวลิ. อวเลขนสตฺถกํ อุจฺฉุตจาวเลขนสตฺถกํ.

วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนนฺติ วกฺกปริยนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ.

สกฺขรสุธาวณฺณนฺติ มรุมฺเปหิ กตสุธาวณฺณํ. ‘‘เสตสกฺขรสุธาวณฺณ’’นฺติ จ ปาํ วทนฺติ, เสตสกฺขราวณฺณํ สุธาวณฺณฺจาติ อตฺโถ.

ยตฺถ อนฺนปานํ นิปติตฺวา ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ.

วิสมจฺฉินฺนกลาโป วิสมํ อุทกํ ปคฺฆรติ, เอวเมว สรีรํ เกสกูปาทิวิวเรหิ อุปริ เหฏฺา ติริยฺจ วิสมํ ปคฺฆรตีติ ทสฺเสตุํ วิสมจฺฉินฺน-คฺคหณํ กโรติ.

อติกฏุกอจฺจุณฺหาทิโก วิสภาคาหาโร อุณฺหกาเล ปวตฺตมานานํ ธาตูนํ วิสภาคตฺตา.

เอกตฺตารมฺมณพเลเนว วาติ วิกฺขมฺภิตนีวรเณน สุสมาหิตจิตฺเตน อุปฏฺิตสฺส นานารมฺมณวิปฺผนฺทนวิรเหน เอกสภาวสฺส อารมฺมณสฺส วเสน. ตฺหิ เอกตฺตารมฺมณํ อุปฏฺหมานเมว อตฺตนิ อภิรตึ, สาติสยํ ผรณปีตึ, อิฏฺาการานุภวนฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทติ. น หิ อภิรติโสมนสฺเสหิ วินา อนติกฺกนฺตปีติสุขสฺส เอกตฺตุปฏฺานํ อตฺถีติ.

อวิเสสโต ปน สาธารณวเสนาติ ปฏิกูลธาตุวณฺณวิเสสํ อกตฺวา สมถวิปสฺสนาสาธารณวเสนาติ อตฺโถ. ติวิเธนาติ อนุโลมาทินา วกฺขมาเนน. ฉ มาเสติ อทฺธมาเส อูเนปิ มาสปริจฺเฉเทน ปริจฺฉิชฺชมาเน สชฺฌาเย ฉ มาสา ปริจฺเฉทกา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริจฺฉิชฺชมานสฺส มาสนฺตรคมนนิวารณฺหิ ฉมาสคฺคหณํ, น สกลฉมาเส ปริวตฺตทสฺสนตฺถํ. อาจริยาติ อฏฺกถาจริยา.

ลกฺขณนฺติ ธาตุปฏิกูลลกฺขณํ. ชนํ น อรหนฺตีติ อชฺา, ชเน ปเวเสตุํ อยุตฺตา ชิคุจฺฉนียาติ วุตฺตํ โหติ.

ปฏิปาฏิยา อฏฺีนีติ ปฏิปาฏิยา อฏฺีนิ โกฏิยา ิตานิ. น เอตฺถ โกจิ อตฺตา นาม อตฺถิ, อฏฺีนิ เอว อฏฺิปุฺชมตฺโต เอวายํ สงฺฆาโฏติ ทสฺเสติ. อเนกสนฺธิยมิโตติ อเนเกหิ สนฺธีหิ ยมิโต สมฺพทฺโธ โส อฏฺิปุฺโชติ ทสฺเสติ. น เกหิจีติ ยเมนฺตํ อตฺตานํ ปฏิเสเธติ. โจทิโต ชราย มรณาภิมุขคมเนน โจทิโต.

มหาภูตํ อุปาทารูเปน ปริจฺฉินฺนํ ‘‘นีลํ ปีตํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติอาทินา. อุปาทารูปํ มหาภูเตน ตนฺนิสฺสิตสฺส ตสฺส ตโต พหิ อภาวา. ฉายาตปานํ อาตปปจฺจยฉายุปฺปาทกภาโว อฺมฺปริจฺเฉทกตา. รูปกฺขนฺธสฺส ปริคฺคหิตตฺตา ตทนฺโตคธานํ จกฺขาทิอายตนทฺวารานํ วเสน ตํตํทฺวาริกา อรูปิโน ขนฺธา ปากฏา โหนฺติ, อายตนานิ จ ทฺวารานิ จ อายตนทฺวารานีติ วา อตฺโถ. เตน รูปายตนาทีนฺจ วเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

สปฺปจฺจยาติ สปฺปจฺจยภาวา, ปจฺจยายตฺตํ หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาโน วา สทิโส ยุตฺโต ปจฺจโย สปฺปจฺจโย, ตสฺมา สปฺปจฺจยา.

เอตฺตโกติ ยถาวุตฺเตน อากาเรน ปคุโณ โกฏฺาโส. อุคฺคโหว อุคฺคหสนฺธิ. วณฺณาทิมุเขน หิ อุปฏฺานํ เอตฺถ สนฺธียติ สมฺพชฺฌตีติ ‘‘สนฺธี’’ติ วุจฺจติ.

อุปฏฺาตีติ วณฺณาทิวเสน อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ปฺจงฺคสมนฺนาคเตติ นาติทูรนาจฺจาสนฺนคมนาคมนสมฺปนฺนนฺติ เอกงฺคํ, ทิวา อพฺโพกิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ เอกํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสนฺติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชติ จีวร…เป… ปริกฺขาโรติ เอกํ, ตสฺมึ ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตาติ เอกํ (อ. นิ. ๑๐.๑๑). ปฺจงฺคสมนฺนาคเตนาติ อปฺปาพาธาสาเยฺยสทฺธาปฺาวีริเยหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคเตน.

อุฏฺานกทายนฺติ เตหิ เขตฺเตหิ อุฏฺานกํ, เตหิ ทาตพฺพธฺนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อฏฺกุมฺภทายกเขตฺตํ วิย มุขโธวนกิจฺจํ, โสฬสกุมฺภทายกํ วิย ขาทนภุฺชนกิจฺจํ ทฏฺพฺพํ ลหุกครุกภาวโต. ตโต ปน ยํ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, ตํ อฺฺจ ทฺวตฺตึสาการมนสิกาเรน จ นิวตฺตตีติ อาห ‘‘เอตฺเถว กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ. เอตฺตาวตาติ เอกทิวสํ ตึส วาเร มนสิการฏฺปเนน.

สหสฺสุทฺธารํ สาเธตฺวาติ สหสฺสวฑฺฒิตํ อิณํ โยเชตฺวา. อุทฺธริตพฺโพติ อุทฺธาโรติ หิ วฑฺฒิ วุจฺจตีติ. สุทฺธจิตฺเตนาติ วิกฺเขปาทิกิเลสวิรหิตจิตฺเตน. เกสาทีสุ ตเจ รชฺชนฺตา สุจฺฉวิจมฺมํ ตโจติ คเหตฺวา ‘‘สุวณฺณาทิวณฺโณ เม ตโจ’’ติอาทินา รชฺชนฺติ.

เตสุ ทฺเว เอกมคฺคํ ปฏิปชฺชมานา นาม น โหนฺตีติ ยถา ตถา วา ปลายนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ราคาทิวตฺถุภาเวน ทฺวตฺตึสาการานํ โจรสทิสตา อนตฺถาวหตา ทฏฺพฺพา.

กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านนฺติ กมฺมฏฺานํ ภาวนา วุจฺจติ. เตนาห ‘‘มนสิกโรนฺตสฺส อปฺปนํ ปาปุณาตี’’ติ. กมฺมสฺส วา ภาวนาย านํ อารมฺมณํ อปฺปนารมฺมณภาวูปคมเนน อปฺปนํ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ.

มานชาติโกติ เอเตน ลงฺฆนสมตฺถตาโยเคน อุปสมรหิตตํ ทสฺเสติ. จิตฺตมฺปิ หิ ตถา นานารมฺมเณสุ วฑฺฒิตํ อุปสมรหิตนฺติ ทสฺเสตพฺพนฺติ.

หตฺเถ คหิตปฺหวตฺถุ ปากติกเมวาติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตตํ สนฺธายาห. ตตฺถ หิ วุตฺตํ –

‘‘มาลกตฺเถโร กิร ทีฆภาณกอภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘อาวุโส อภย, อิมํ ตาว ปฺหํ อุคฺคณฺหาหี’ติ วตฺวา อาห ‘มาลกตฺเถโร ทฺวตฺตึสโกฏฺาเสสุ ทฺวตฺตึสปมชฺฌานลาภี, สเจ รตฺตึ เอกํ, ทิวา เอกํ สมาปชฺชติ, อติเรกฑฺฒมาเสน ปุน สมฺปชฺชติ. สเจ ปน เทวสิกํ เอกเมว สมาปชฺชติ, อติเรกมาเสน ปุน สมฺปชฺชตี’’’ติ.

อิทํ ปน เอกํ มนสิกโรนฺตสฺส เอกํ ปาฏิเยกฺกํ มนสิกโรนฺตสฺส ทฺวตฺตึสาติ เอตสฺส สาธนตฺถํ นิทสฺสนวเสน อานีตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อนุปาทินฺนกปกฺเข ิตานีติ เอเตน เจติยปพฺพตวาสี มหาติสฺสตฺเถโร วิย, สงฺฆรกฺขิตตฺเถรุปฏฺากสามเณโร วิย จ อนุปาทินฺนกปกฺเข เปตฺวา คเหตุํ สกฺโกนฺตสฺส ทสวิธาสุภวเสน ชีวมานกสรีเรปิ อุปฏฺิเต อุปจารปฺปตฺติ ทสฺสิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘อตฺถิสฺส กาเย’’ติ ปน สตฺตวเสน เกสาทีสุ คยฺหมาเนสุ ยถา ‘‘อิมสฺมึ กาเย’’ติ สตฺต-คฺคหณรหิเต อหํการวตฺถุมฺหิ วิทฺธสฺตาหํกาเร สทา สนฺนิหิเต ปากเฏ จ อตฺตโน กาเย อุปฏฺานํ โหติ, น ตถา ตตฺถาติ อปฺปนํ อปฺปตฺตา อาทีนวานุปสฺสนาว ตตฺถ โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อสุภานุปสฺสนาสงฺขาตา ปน วิปสฺสนาภาวนา โหตีติ เวทิตพฺพา’’ติ.

๓๕๗. อาทิมฺหิ เสวนา อาเสวนา, วฑฺฒนํ ภาวนา, ปุนปฺปุนํ กรณํ พหุลีกมฺมนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๓๖๒. วตฺถุปริฺายาติ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ วตฺถุภูตสฺส กายสฺส ปริชานเนน. อปฺปิตาติ คมิตา, สา จ วินาสิตตาติ อาห ‘‘วินาสิตา’’ติ. อปฺปวตฺติยํ ปิตาติปิ อปฺปิตาติ อยมตฺโถ นิรุตฺติสิทฺธิยา วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. วิคตนฺตา กตาติ อิทานิ กาตพฺโพ อนฺโต เอเตสํ นตฺถีติ วิคตนฺตา, เอวํภูตา กตาติ อตฺโถ. กมฺมเมว วิเสสาธิคมสฺส านํ กมฺมฏฺานํ, กมฺเม วา านํ ภาวนารมฺโภ กมฺมฏฺานํ, ตฺจ อนุปสฺสนาติ อาห ‘‘อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺาน’’นฺติ, อนุปสฺสนาย วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

กายานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๖๓. สมฺปชานสฺส เวทิยนํ สมฺปชานเวทิยนํ. วตฺถุนฺติ สุขาทีนํ อารมฺมณมาห, เตน วตฺถุ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ วตฺถุอารมฺมณาติ สมาโส ทฏฺพฺโพ. โวหารมตฺตํ โหตีติ เอเตน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ อิทํ โวหารมตฺเตน วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

วีริยสมาธึ โยเชตฺวาติ อธิวาสนวีริยสฺส อธิมตฺตตาย ตสฺส สมตาย อุภยํ สห โยเชตฺวา. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทาหิ สห. โลกิยานมฺปิ วา สติ อุปฺปตฺติกาเล ตตฺถ สมตฺถตํ สนฺธาย ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมสีสีติ วารสมสีสี หุตฺวา ปจฺจเวกฺขณวารสฺส อนนฺตรวาเร ปรินิพฺพายีติ อตฺโถ. สงฺเขปมนสิการวเสน มหาสติปฏฺาเน, วิตฺถารมนสิการวเสน ราหุโลวาทธาตุวิภงฺคาทีสุ.

ผสฺสปฺจมเกเยวาติ เอว-สทฺเทน วุตฺเตสุ ตีสุปิ มุเขสุ ปริคฺคหสฺส สมานตํ ทสฺเสติ. นามรูปววตฺถานสฺส อธิปฺเปตตฺตา นิรวเสสรูปปริคฺคหสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘วตฺถุ นาม กรชกาโย’’ติ อาห, น จกฺขาทีนิ ฉวตฺถูนีติ. กรชกายสฺส ปน วตฺถุภาวสาธนตฺถํ ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ, เอตฺถ ปฏิพทฺธ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๕; ม. นิ. ๒.๒๕๒) สุตฺตํ อาภตํ.

ผสฺสวิฺาณานํ ปากฏตา เกสฺจิ โหตีติ เยสํ น โหติ, เต สนฺธายาห ‘‘ผสฺสวเสน วา หิ…เป… น ปากฏํ โหตี’’ติ. เตสํ ปน อฺเสฺจ สพฺเพสํ เวเนยฺยานํ เวทนา ปากฏาติ อาห ‘‘เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหตี’’ติ. สตโธตสปฺปิ นาม สตวารํ วิลาเปตฺวา วิลาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตสปฺปิ.

วินิวตฺเตตฺวาติ จตุกฺขนฺธสมุทายโต วิสุํ อุทฺธริตฺวา. มหาสติปฏฺานสุตฺตาทีสุ กตฺถจิ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ วตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. กตฺถจิ อรูปกมฺมฏฺานํ เอว เวทนาวเสน อรูปราสิโต, าตปริฺาย ปริฺาตโต วา รูปารูปราสิโต วา วินิวตฺเตตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถาปิ เยสุ ปมํ าตปริฺา วุตฺตา, เตสุ ตทนฺโตคธํ. เยสุ น วุตฺตา, เตสุ จ เวทนาย อารมฺมณมตฺตํ สํขิตฺตํ ปาฬิอนารุฬฺหํ รูปกมฺมฏฺานํ สนฺธาย รูปกมฺมฏฺานสฺส ปมํ กถิตตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

‘‘มโนวิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อิฏฺานํ กนฺตาน’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) นเยน วุตฺตํ ฉเคหสฺสิตโสมนสฺสํ ปฺจกามคุเณสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน เอว โหตีติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา ฉ เคหสฺสิตโสมนสฺสเวทนา’’ติ.

เวทนานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

๓๖๕. กิเลสสมฺปยุตฺตานํ ธมฺมานํ เกหิจิ กิเลเสหิ วิปฺปโยเคปิ สติ เยหิ สมฺปยุตฺตา, เตหิ สํกิเลสภาเวน สทิเสหิ สํกิลิฏฺตฺตา อิตเรหิปิ น วิสุทฺธตา โหตีติ อาห ‘‘น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺตี’’ติ. ทุวิธนฺติ วิสุํ วจนํ สราคสโทเสหิ วิสิฏฺคฺคหณตฺถํ. อวิปสฺสนุปคตฺตา ‘‘อิธ โอกาโสว นตฺถี’’ติ วุตฺตํ.

จิตฺตานุปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนานิทฺเทโส

ก. นีวรณปพฺพวณฺณนา

๓๖๗. กณฺหสุกฺกานํ ยุคนทฺธตา นตฺถีติ ปชานนกาเล อภาวา ‘‘อภิณฺหสมุทาจารวเสนา’’ติ อาห.

สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโทปิ. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน ‘‘สุภ’’นฺติ วุจฺจติ, เตนากาเรน ปวตฺตมานกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จาติ. อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร อนุปายมนสิกาโร. ตตฺถาติ นิปฺผาเทตพฺเพ อารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิตฺเต.

อสุภมฺปีติ อสุภชฺฌานมฺปิ. ตํ ปน ทสสุ อสุเภสุ เกสาทีสุ จ ปวตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เกสาทีสุ หิ สฺา อสุภสฺาติ คิริมานนฺทสุตฺเต วุตฺตาติ. เอตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ อโยนิโสมนสิการสฺส โยนิโสมนสิการสฺส จ ทสฺสนํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน อสุเภ สุภนฺติ อสุภนฺติ จ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกุลตฺตา วา อิตเรปีติ.

โภชเน มตฺตฺุโน ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามราโค ปหียตีติ วทนฺติ. โภชนนิสฺสิตํ ปน อาหาเรปฏิกูลสฺํ, ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุปนิสฺสยภูตสฺส อสุภตาทิทสฺสนํ, กายสฺส จ อาหารฏฺิติกตาทิทสฺสนํ โส อุปฺปาเทตีติ ตสฺส กามจฺฉนฺโท ปหียเตว, อภิธมฺมปริยาเยน สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคนา’’ติ.

โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณานนฺติ อตฺตครุอติปฺปิยสหายมชฺฌตฺตวเสน โอทิสฺสกตา, สีมาเภเท กเต อโนทิสฺสกตา, เอกทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉาคามาทิวเสน วา โอทิสฺสกทิสาผรณํ, วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนทิสฺสกทิสาผรณนฺติ เอวํ วา ทฺวิธา อุคฺคหํ สนฺธาย ‘‘โอทิสฺสกาโนทิสฺสกทิสาผรณาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโห จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ, อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ สตฺตา ปาณา ภูตา ปุคฺคลา อตฺตภาวปริยาปนฺนา’’ติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา, เอเกกสฺมึ ‘‘อเวรา โหนฺตุ, อพฺยาปชฺชา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา วา อโนธิโสผรณา เมตฺตา, ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย ปุริสา อริยา อนริยา เทวา มนุสฺสา วินิปาติกา’’ติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติวิธา วา โอธิโสผรณา เมตฺตา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา จ ทิสาผรณา เมตฺตา, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถิอาทิอเวราทิโยเคน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา อโนธิโสโอธิโสผรณา เวทิตพฺพา.

กายวินามนาติ กายสฺส วิวิเธน อากาเรน นามนา.

อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห, ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตี’’ติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคฺคาโหติ อตฺโถ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา อาห ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.

กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณํ อวูปสมสภาวเมวาติ เจตโส อวูปสโม ‘‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมวา’’ติ วุตฺโต.

พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต จ อตฺถโต จ อตฺถาทีนิ วิจินนฺตสฺส เจตโส วิกฺเขโป น โหติ ยถาวิธิปฏิปตฺติยา ยถานุรูปปติการปฺปวตฺติยา กตากตานุโสจนฺจาติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. วุฑฺฒเสวิตา จ วุฑฺฒสีลิตํ อาวหตีติ เจโตวูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานการิตา วุตฺตา. วุฑฺฒตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา วินยธรา กุกฺกุจฺจวิโนทกา กลฺยาณมิตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

ติฏฺติ เอตฺถาติ านียา, วิจิกิจฺฉาย านียา วิจิกิจฺฉาานียา. าตพฺพาติ วา านียา, วิจิกิจฺฉา านียา เอเตสูติ วิจิกิจฺฉาานียา.

กามํ พหุสฺสุตตาปริปุจฺฉกตาหิ อฏฺวตฺถุกาปิ วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา อาห ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘; วิภ. ๙๑๕) วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสปี’’ติ. โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ อนุปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส. อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. สทฺธาย วา นินฺนตา อธิมุตฺติ.

นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ข. โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา

ขนฺธาทิปาฬิยา อตฺโถ ขนฺธาทีนํ อตฺโถติ กตฺวา อาห ‘‘ขนฺธ…เป… วิปสฺสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตปริปุจฺฉาพหุลตา’’ติ. เตน ปาฬิมุตฺตกปุจฺฉา น ตถา ปฺาสํวตฺตนิกา, ยถา อตฺถปฏิปุจฺฉาติ ทสฺเสติ.

มนฺทตฺตา อคฺคิชาลาทีสุ อาโปธาตุอาทีนํ วิย วีริยาทีนํ สกิจฺเจ อสมตฺถตา วุตฺตา.

ปตฺตํ นีหรนฺโตว ตํ สุตฺวาติ เอตฺถ ปฺจาภิฺตฺตา ทิพฺพโสเตน อสฺโสสีติ วทนฺติ.

ปสาทสิเนหาภาเวนาติ ปสาทสงฺขาตสฺส สิเนหสฺส อภาเวน. คทฺรภปิฏฺเ ลูขรโช ลูขตโร หุตฺวา ทิสฺสตีติ อติลูขตาย ตํสทิเส.

สํเวชนปสาทเนหิ เตชนํ โตสนฺจ สมฺปหํสนาติ.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมถวิปสฺสนาสุทฺธวิปสฺสนาวเสน ปมสฺส อิตเรสฺจ กถิตตฺตาติ อตฺโถ. มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นามาติ อาคมนวเสน วุตฺตํ. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ กายานุปสฺสีอาทีนํ อาคมนวเสน วิเสเสตฺวา วุตฺตา สติปฏฺานเทสนา ปุคฺคเล ติฏฺตีติ อตฺโถ. น หิ สกฺกา เอกสฺส อเนกสมงฺคิตา วตฺตุํ เอกกฺขเณ อเนกสติสมฺภวาวโพธปสงฺคา, ปุคฺคลํ ปน อามสิตฺวา สกิจฺจปริจฺฉินฺเน ธมฺเม วุจฺจมาเน กิจฺจเภเทน เอกิสฺสาปิ สติยา อเนกนามตา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย ปนา’’ติอาทิมาห. ยถา หิ ปุคฺคลกิจฺจํ ธมฺมา เอวาติ ธมฺมเภเทน กายานุปสฺสีอาทิปุคฺคลเภโทว โหติ, น เอวํ ธมฺมสฺส ธมฺโม กิจฺจนฺติ น ธมฺมเภเทน ตสฺส เภโท, ตสฺมา เอกาว สติ จตุวิปลฺลาสปฺปหานภูตา มคฺเค สมิทฺธา อนตฺถนฺตเรน ตปฺปหานกิจฺจเภเทน จตฺตาริ นามานิ ลภตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๓๗๔. อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘กถฺจ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ กาเย กายานุปสฺสี, ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา อาคมนวเสน วิเสสิตานิ สติปฏฺานานิ ปุคฺคเล เปตฺวา เทเสตฺวา ปุน ‘‘ตตฺถ กตมํ สติปฏฺานํ? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย…เป… ทนฺธาภิฺํ…เป… ยา ตสฺมึ สมเย สตี’’ติอาทินา ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา อาคมวิเสสนฺจ อกตฺวา จตุกิจฺจสาธเกกสติวเสน สุทฺธิกสติปฏฺานนโย วุตฺโตติ อยเมตฺถ นยทฺวเย วิเสโส.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สติปฏฺานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมฺมปฺปธานวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๓๙๐. การณปฺปธานาติ ‘‘อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิอตฺถา’’ติ คหิตา ตเถว เต โหนฺตีติ ตํ อตฺถํ สาเธนฺติเยวาติ เอตสฺส อตฺถสฺส ทีปโก สมฺมา-สทฺโทติ ยถาธิปฺเปตตฺถสฺส อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทาทิโน การณภูตา, ปธานการณภูตาติ อตฺโถ. สมฺมาสทฺทสฺส อุปายโยนิโสอตฺถทีปกตํ สนฺธาย ‘‘อุปายปฺปธานา โยนิโสปธานา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิปนฺนโกติ ภาวนมนุยุตฺโต. ภุสํ โยโค ปโยโค, ปโยโคว ปรกฺกโม ปโยคปรกฺกโม. เอตานีติ ‘‘วายมตี’’ติอาทีนิ ‘‘อาเสวมาโน วายมตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพานิ.

อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานนฺติ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนานํ.

๓๙๑. ธมฺมจฺฉนฺโทติ ตณฺหาทิฏฺิวีริยจฺฉนฺทา วิย น อฺโ ธมฺโม, อถ โข ฉนฺทนิยสภาโว เอวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สภาวจฺฉนฺโท’’ติ. ตตฺถ ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๑๐๓) ตณฺหา ฉนฺโทติ วุตฺตาติ เวทิตพฺโพ, ‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๖๖) เอตฺถ ทิฏฺิ, ปมาทนิทฺเทเส ‘‘นิกฺขิตฺตฉนฺทตา นิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ วีริยนฺติ วณฺเณติ.

๓๙๔. วายมติ วีริยํ อารภตีติ ปททฺวยสฺสปิ นิทฺเทโส วีริยนิทฺเทโสเยวาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วีริยนิทฺเทเส’’ติ.

๔๐๖. สพฺพปุพฺพภาเคติ สพฺพมคฺคานํ ปุพฺพภาเค. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’’นฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถายํ, ตํ ปน มคฺคานุปฺปนฺนตาย ภาวโต อนุปฺปชฺชมาเน จ ตสฺมึ วฏฺฏานตฺถสํวตฺตนโต น ยุตฺตนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

มหนฺตํ คารวํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สงฺฆคารเวน ยถารุจิ วินฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ สงฺเฆน สห น นิกฺขมิ. อติมนฺทานิ โนติ นนุ อติมนฺทานีติ อตฺโถ. สนฺตสมาปตฺติโต อฺํ สนฺถมฺภนการณํ พลวํ นตฺถีติ ‘‘ตโต ปริหีนา สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ อาห. น หิ มหารชฺชุมฺหิ ฉินฺเน สุตฺตตนฺตู สนฺธาเรตุํ สกฺโกนฺตีติ. สมเถ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา เตน สมานคติกา วิปสฺสนา จาติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา…เป… สํวตฺตนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อนุปฺปนฺนานนฺติ เอตฺถ ตตฺถ ทุวิธาย สมฺมปฺปธานกถาย, ตตฺถ วา ปาฬิยํ ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติ เอตสฺส อยํ วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโย. เอเตเยวาติ อนมตคฺเค สํสาเร อุปฺปนฺนาเยว.

จุทฺทส มหาวตฺตานิ ขนฺธเก วุตฺตานิ อาคนฺตุกอาวาสิกคมิกอนุโมทน ภตฺตคฺค ปิณฺฑจาริก อารฺิก เสนาสน ชนฺตาฆรวจฺจกุฏิ อาจริยอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกวตฺตานิ จุทฺทส. ตโต อฺานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ ทฺวาสีติ ขุทฺทกวตฺตานีติ กถิตานิ ทฏฺพฺพานิ. น หิ ตานิ สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา มหาวตฺเต อคณิตานิ. ตตฺถ ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺาเปสฺสามี’’ติ อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตานิ ปกตตฺเต จริตพฺพวตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๘๒) ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คเณตพฺพานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสฺสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ โหนฺติ. เอเตสฺเวว กานิจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิวตฺตานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติวตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อิธ วิปากานุภวนวเสน ตทารมฺมณํ, อวิปกฺกวิปากสฺส สพฺพถา อวิคตตฺตา ภวิตฺวา วิคตมตฺตวเสน กมฺมฺจ ‘‘ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑) วิย รชฺชนาทิวเสน อนุภุตฺวาปคตํ ชวนํ, อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธตาวเสน ภูตาปคตสงฺขาตํ เสสสงฺขตฺจ ‘‘ภูตาปคตุปฺปนฺน’’นฺติ, ตสฺมา อิธ โอกาสกตุปฺปนฺนํ วิปากเมว วทติ, น ตตฺถ วิย กมฺมมฺปีติ. อนุสยิตกิเลสาติ อปฺปหีนา มคฺเคน ปหาตพฺพา อธิปฺเปตา. เตนาห ‘‘อตีตา วา…เป… น วตฺตพฺพา’’ติ. เตสฺหิ อมฺพตรุโณปมาย วตฺตมานาทิตา น วตฺตพฺพาติ.

อาหตขีรรุกฺโข วิย นิมิตฺตคฺคาหวเสน อธิคตํ อารมฺมณํ, อนาหตขีรรุกฺโข วิย อวิกฺขมฺภิตตาย อนฺโตคธกิเลสํ อารมฺมณํ ทฏฺพฺพํ, นิมิตฺตคฺคาหกาวิกฺขมฺภิตกิเลสา วา ปุคฺคลา อาหตานาหตขีรรุกฺขสทิสา. ปุริมนเยเนวาติ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺเน วิย ‘‘อิมสฺมึ นาม าเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา อสมุคฺฆาฏิตตฺตา’’ติ โยเชตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํ.

ปาฬิยนฺติ ปฏิสมฺภิทาปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑). มคฺเคน ปหีนกิเลสานเมว ติธา นวตฺตพฺพตํ อปากฏํ ปากฏํ กาตุํ อชาตผลรุกฺโข อาภโต, อตีตาทีนํ อปฺปหีนตาทสฺสนตฺถมฺปิ ‘‘ชาตผลรุกฺเขน ทีเปตพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยถา อจฺฉินฺเน รุกฺเข นิพฺพตฺติรหานิ ผลานิ ฉินฺเน อนุปฺปชฺชมานานิ น กทาจิ สสภาวานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จาติ อตีตาทิภาเวน น วตฺตพฺพานิ, เอวํ มคฺเคน ปหีนกิเลสา จ ทฏฺพฺพา. ยถา จ เฉเท อสติ ผลานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สติ จ นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ เฉทสฺส สาตฺถกตา, เอวํ มคฺคภาวนาย จ สาตฺถกตา โยเชตพฺพา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๔๒๗. ปฺหปุจฺฉเก ยํ วุตฺตํ ‘‘วีริยเชฏฺิกาย ปน อฺสฺส วีริยสฺส อภาวา น วตฺตพฺพานิ มคฺคาธิปตีนีติ วา น มคฺคาธิปตีนีติ วา’’ติ, เอตฺถ ‘‘มคฺคาธิปตีนี’’ติ น วตฺตพฺพตาย เอว อฺสฺส วีริยสฺส อภาโว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ฉนฺทสฺส ปน จิตฺตสฺส วา นมคฺคภูตสฺส อธิปติโน ตทา อภาวา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ น วตฺตพฺพานีติ วุตฺตํ. ฉนฺทจิตฺตานํ วิย นมคฺคภูตสฺส อฺสฺส วีริยาธิปติโน อภาวาติ วา อธิปฺปาโย. สมฺมปฺปธานานํ ตทา มคฺคสงฺขาตอธิปติภาวโต วา ‘‘น มคฺคาธิปตีนี’’ติ นวตฺตพฺพตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมฺมปฺปธานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อิทฺธิปาทวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๔๓๑. อิทฺธิ-สทฺทสฺส ปโม กตฺตุอตฺโถ, ทุติโย กรณตฺโถ วุตฺโต, ปาท-สทฺทสฺส เอโก กรณเมวตฺโถ วุตฺโต. ปชฺชิตพฺพาว อิทฺธิ วุตฺตา, น จ อิชฺฌนฺตี ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธิ ปชฺชนกรเณน ปาเทน สมานาธิกรณา โหตีติ ‘‘ปเมนตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตถา อิทฺธิกิริยากรเณน สาเธตพฺพา จ วุทฺธิสงฺขาตา อิทฺธิ ปชฺชนกิริยากรเณน ปชฺชิตพฺพาติ ทฺวินฺนํ กรณานํ น อสมานาธิกรณตา สมฺภวตีติ ‘‘ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ปเมนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท, ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโทติ เอวํ โยชนา ยุชฺชติ.

‘‘ฉนฺทํ เจ…เป… อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติ อิมาย ปาฬิยา ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติ-สทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ, อธิปติ-สทฺทตฺถทสฺสนวเสน ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปธานภูตาติ วีริยภูตาติ เกจิ วทนฺติ. สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถฺหิ ปธานคฺคหณนฺติ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพํ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฏฺภูตาติ อตฺโถ. จตุพฺพิธสฺส ปน วีริยสฺส อธิปฺเปตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส กโต. อธิฏฺานฏฺเนาติ ทุวิธตฺถายปิ อิทฺธิยา อธิฏฺานตฺเถน. ปาทภูตนฺติ อิมินา วิสุํ สมาสโยชนาวเสน ปน โย ปุพฺเพ อิทฺธิปาทตฺโถ ปาท-สทฺทสฺส อุปายตฺถตํ คเหตฺวา ยถายุตฺโต วุตฺโต, โส วกฺขมานานํ ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ กตฺตุกรณิทฺธิภาวํ, อุตฺตรจูฬภาชนีเย วา วุตฺเตหิ ฉนฺทาทีหิ อิทฺธิปาเทหิ สาเธตพฺพาย อิทฺธิยา กตฺติทฺธิภาวํ, ฉนฺทาทีนฺจ กรณิทฺธิภาวํ สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส ‘‘วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ. ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนํ. ทฺเวเยว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ ปธานสงฺขาโร จ, ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ, ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหตีติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ, ตถา วิสิฏฺเเนว จ เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา วุตฺตา. วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอวสฺสยนวเสน โหตีติ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาท’’นฺติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาท-สทฺเท อุปายตฺเถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ. เตเนว อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา. ปฺหปุจฺฉเก จ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินาว (วิภ. ๔๖๒) อุทฺเทสํ กตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภตฺโตติ. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ, อฺถา จตุพฺพิธตา น โหตีติ อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๔๓๓. รถธุเรติ รถสฺส ปุรโต. หีนชาติโก จณฺฑาโล อุปฏฺานาทิคุณโยเคปิ เสนาปติฏฺานาทีนิ น ลภตีติ อาห ‘‘ชาตึ โสเธตฺวา…เป… ชาตึ อวสฺสยตี’’ติ. อมนฺตนีโยติ หิตาหิตมนฺตเน น อรโห.

รฏฺปาลตฺเถโร ฉนฺเท สติ กถํ นานุชานิสฺสนฺตีติ สตฺตปิ ภตฺตานิ อภุฺชิตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺทเมว อวสฺสาย โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตสีติ อาห ‘‘รฏฺปาลตฺเถโร วิยา’’ติ.

โมฆราชตฺเถโร วีมํสํ อวสฺสยีติ ตสฺส ภควา ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕) สุฺตากถํ กเถสิ, ปฺานิสฺสิตมานนิคฺคหตฺถฺจ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิโต ปฺหํ น กเถสิ. ตตฺถ ปุนปฺปุนํ ฉนฺทุปฺปาทนํ โตสนํ วิย โหตีติ ฉนฺทสฺส อุปฏฺานสทิสตา วุตฺตา, ถามภาวโต วีริยสฺส สูรตฺตสทิสตา, ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๘๑ เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ) วจนโต ปุพฺพงฺคมตฺตา จิตฺตสฺส วิสิฏฺชาติสทิสตา.

อเภทโตติ ฉนฺทาทิเก ตโย ตโย ธมฺเม สมฺปิณฺเฑตฺวา, อิทฺธิอิทฺธิปาเท อมิสฺเสตฺวา วา กถนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ฉนฺทวีริยาทโย วิเสเสน อิชฺฌนฺติ เอตายาติ อิทฺธีติ วุจฺจนฺติ, อิชฺฌตีติ อิทฺธีติ อวิเสเสน สมาธิปธานสงฺขาราปีติ.

ฉนฺทิทฺธิปาทสมาธิทฺธิปาทาทโย วิสิฏฺา, ปาโท สพฺพิทฺธีนํ สาธารณตฺตา อวิสิฏฺโ, ตสฺมา วิสิฏฺเสฺเวว ปเวสํ อวตฺวา อวิสิฏฺเ จ ปเวสํ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ สพฺพตฺถ ‘‘ปาเท ปติฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ตตฺเถวาติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารอิทฺธิปาเทสุ, จตูสุ ฉนฺทาทิเกสฺเววาติ อตฺโถ. ‘‘ฉนฺทวโต โก สมาธิ น อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สมาธิภาวนามุเขน ภาวิตา สมาธิภาวิตา.

เอตฺถ ปนาติ เภทกถายํ อเภทกถนโต อภินวํ นตฺถีติ อตฺโถ. เย หิ ตโย ธมฺมา อเภทกถายํ อิทฺธิอิทฺธิปาโทตฺเวว วุตฺตา, เต เอว เภทกถายํ อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ, เสสา อิทฺธิปาทา เอวาติ เอวํ อภินวาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉนฺโท สมาธี’’ติอาทิมาห. อิเม หิ ตโย…เป… น วินา, ตสฺมา เสสา สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา เตสํ ติณฺณํ อิชฺฌเนน อิทฺธิ นาม ภเวยฺยุํ, น อตฺตโน สภาเวนาติ เต อิทฺธิปาทา เอว โหนฺติ, น อิทฺธีติ เอวมิทํ ปุริมสฺส การณภาเวน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา ติณฺณํ อิทฺธิตา อิทฺธิปาทตา จ วุตฺตา, เสสานฺจ อิทฺธิปาทตาว, ตํ สพฺพํ สาเธตุํ ‘‘อิเม หิ ตโย…เป… น วินา’’ติ อาห. เตน ยสฺมา อิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อิทฺธิ. อิชฺฌมานา จ ยสฺมา สมฺปยุตฺตเกหิ สเหว อิชฺฌนฺติ, น วินา, ตสฺมา สมฺปยุตฺตกา อิทฺธิปาทา, ตทนฺโตคธตฺตา ปน เต ตโย ธมฺมา อิทฺธิปาทาปิ โหนฺตีติ ทสฺเสติ. สมฺปยุตฺตกานมฺปิ ปน ขนฺธานํ อิทฺธิภาวปริยาโย อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺตกา ปนา’’ติอาทิมาห. จตูสุ ขนฺเธสุ เอกเทสสฺส อิทฺธิตา, จตุนฺนมฺปิ ‘‘อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อตฺเถน อิทฺธิปาทตา, ปุนปิ จตุนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อตฺเถน อิทฺธิปาทตา จ ทสฺสิตา, น อฺสฺสาติ กตฺวา อาห ‘‘น อฺสฺส กสฺสจิ อธิวจน’’นฺติ. อิมินา ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา’’ติ อิทํ วาทํ ปฏิเสเธติ.

ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ ปฏิลาภสฺเสว จ อิทฺธิอิทฺธิปาทตาวจนํ อปุพฺพนฺติ กตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘เกนฏฺเน อิทฺธิ, เกนฏฺเน ปาโท’’ติ. ปฏิลาโภ ปุพฺพภาโค จาติ วจนเสโส. อุปาโย จ อุปายภาเวเนว อตฺตโน ผลสฺส ปติฏฺา โหตีติ อาห ‘‘ปติฏฺานฏฺเเนว ปาโท’’ติ. ฉนฺโทเยว…เป… วีมํสาว วีมํสิทฺธิปาโทติ กถิตํ, ตสฺมา น จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิยา สมานกาลิกา นานากฺขณิกา วา อิทฺธิปาทา, เชฏฺกภูตา ปน ฉนฺทาทโย เอว สพฺพตฺถ อิทฺธิปาทาติ อยเมว เตสํ อฏฺกถาจริยานํ อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺตภาชนีเย หิ อภิธมฺมภาชนีเย จ สมาธิวิเสสนวเสน ทสฺสิตานํ อุปายภูตานํ อิทฺธิปาทานํ ปากฏกรณตฺถํ อุตฺตรจูฬภาชนียํ วุตฺตนฺติ. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิเถรา กิร.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๔๔๔. อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส ผสฺโส…เป… ปคฺคาโห อวิกฺเขโป’’ติ (วิภ. ๔๔๗) อิทฺธิอิทฺธิปาทตฺถทสฺสนตฺถํ ปคฺคาหาวิกฺเขปา วุตฺตา, จิตฺตปฺา จ สงฺขิปิตฺวาติ. จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานีติ อิทํ สาธิปติวารานํ ปริปุณฺณานํ อภาวา วิจาเรตพฺพํ. น หิ อธิปตีนํ อธิปตโย วิชฺชนฺติ, เอเกกสฺมึ ปน อิทฺธิปาทนิทฺเทเส เอเกโก อธิปติวาโร ลพฺภตีติ โสฬส โสฬส นยสตานิ ลพฺภนฺติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

นนุ จ จตฺตาโรปิ อธิปตโย เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, อฺมฺสฺส ปน อธิปตโย น ภวนฺติ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตา. ราชปุตฺโตปมาปิ หิ เอตมตฺถํ ทีเปตีติ? น, เอกกฺขเณ ทุติยสฺส อธิปติโน อภาวโต เอว, ‘‘น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตา ราชปุตฺโตปมา อธิปตึ น กโรนฺตีติ อิมเมวตฺถํ ทีเปติ, น อธิปตีนํ สหภาวํ. ตํ กถํ ชานิตพฺพนฺติ? ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส หิ อฏฺกถายํ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๓) วุตฺตา ‘‘กสฺมา ปน ยถา เหตุปจฺจยนิทฺเทเส ‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ อวตฺวา ‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’นฺติอาทินา นเยน เทสนา กตาติ? เอกกฺขเณ อภาวโต’’ติ. สติ จ จตุนฺนํ อธิปตีนํ สหภาเว ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส วีมํสาธิปเตยฺยํ มคฺคํ ภาเวนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ น กตฺตพฺพํ สิยา อวีมํสาธิปติกสฺส มคฺคสฺส อภาวา. ฉนฺทาทีนํ อฺมฺาธิปติกรณภาเว จ ‘‘วีมํสํ เปตฺวา ตํสมฺปยุตฺโต’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนํ วีมํสาธิปติกตฺตวจนํ น วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา ‘‘จตฺตาโร อริยมคฺคา สิยา มคฺคาธิปติโน, สิยา น วตฺตพฺพา มคฺคาธิปติโน’’ติ (ธ. ส. ๑๔๒๙) เอวมาทีหิปิ อธิปตีนํ สหภาโว ปฏิกฺขิตฺโต เอวาติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิทฺธิปาทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โพชฺฌงฺควิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

ปมนยวณฺณนา

๔๖๖. ปติฏฺานายูหนา โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑) –

‘‘กิเลสวเสน ปติฏฺานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนา. ตถา ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานํ, ทิฏฺิวเสน อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –

วุตฺเตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺพา.

สมฺมปฺปวตฺเต ธมฺเม ปฏิสฺจิกฺขติ, อุปปตฺติโต อิกฺขติ, ตทากาโร หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปฏิสงฺขานลกฺขโณ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา คหเณ มชฺฌตฺตตา’’ติ อุเปกฺขากิจฺจาธิมตฺตตาย สงฺขารุเปกฺขา วุตฺตา. อนุกฺกมนิกฺเขเป ปโยชนํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมปจฺฉิมการณภาโว.

๔๖๗. พลวตี เอว สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ กตฺวา พลวภาวทีปนตฺถํ ปฺา คหิตา, น ยสฺส กสฺสจิ สมฺปธารณสติ, กุสลุปฺปตฺติการณสฺส ปน สรณํ สตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตํ วา’’ติอาทิมาห. วตฺตสีเส ตฺวาติ ‘‘อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ปสีเทยฺยุํ, ปสนฺนา จ เม ปสนฺนาการํ กเรยฺยุ’’นฺติ เอวํจิตฺโต อหุตฺวา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… วิฺูหิ, อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ อาชาเนยฺยุํ, อาชานิตฺวา จ ปน ตถตฺถาย ปฏิปชฺเชยฺยุ’’นฺติ ธมฺมสุธมฺมตํ ปฏิจฺจ การุฺํ อนุทฺทยํ อนุกมฺปํ อุปาทาย มหากสฺสปตฺเถเรน วิย ภาสิตนฺติ อตฺโถ. วิมุตฺตายตนสีเสติ ‘‘น เหว โข สตฺถา, อปิจ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสสฺสามี’’ติ เอวํ วิมุตฺติการณปธานภาเว ตฺวา. จิรกตวตฺตาทิวเสน ตํสมุฏฺาปโก อรูปโกฏฺาโส วุตฺโต, ภาวตฺถตฺตา เอว วา กตภาสิต-สทฺทา กิริยาภูตสฺส อรูปโกฏฺาสสฺส วาจกาติ กตฺวา อาห ‘‘กายวิฺตฺตึ…เป… โกฏฺาส’’นฺติ.

โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปกตา ปุริมานํ ฉนฺนํ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตริกสฺส, ปเรสํ สพฺเพสํ วา ตํตํปริยาเยน สมุฏฺาปนวเสน โยเชตพฺพา. กามโลกวฏฺฏามิสาติ ตณฺหา ตทารมฺมณา ขนฺธาติ วทนฺติ, ปฺจกามคุณิโก จ ราโค ตทารมฺมณฺจ กามามิสํ, ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทินา โลกคฺคหณวเสน ปวตฺโต สสฺสตุจฺเฉทสหคโต ราโค ตทารมฺมณฺจ โลกามิสํ, โลกธมฺมา วา, วฏฺฏสฺสาทวเสน อุปฺปนฺโน สํสารชนโก ราโค ตทารมฺมณฺจ วฏฺฏามิสํ. มคฺคสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปุพฺพภาคา.

ปมนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยนยวณฺณนา

๔๖๘-๔๖๙. อภิฺเยฺยา ธมฺมา นาม ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา, ทฺเว ธาตุโย, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, ปฺจ วิมุตฺตายตนานิ, ฉ อนุตฺตริยานิ, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ, อฏฺาภิภายตนานิ, นวานุปุพฺพวิหารา, ทส นิชฺชรวตฺถูนี’’ติ เอวํปเภทา ธมฺมา, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) ทสฺสิตา ขนฺธาทโย จ. วานนฺติ วินนฺธนํ ภวาทีนํ, คมนํ วา ปิยรูปสาตรูเปสุ.

จงฺกมํ อธิฏฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ วิปสฺสนาสหคตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตเกนาติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา’’ติ เอตฺตาวตา. โลกิยนฺติ วทนฺโต น กิลมตีติ กายวิฺตฺติสมุฏฺาปกสฺส โลกิยตฺตา อโจทนีโยติ อตฺโถ. อลพฺภ…เป… ปฏิกฺขิตฺตาติ รูปาวจเร อลพฺภมานกํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ อุปาทาย ลพฺภมานาปิ อวิตกฺกอวิจารา ปีติ ปฏิกฺขิตฺตา, ‘‘ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ติ น วุตฺโตติ อตฺโถ. กามาวจเร วา อลพฺภมานกํ อวิตกฺกอวิจารํ ปีตึ อุปาทาย ลพฺภมานกาว ปีติโพชฺฌงฺคภูตา ปฏิกฺขิตฺตา, อวิตกฺกอวิจาโร ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค น วุตฺโตติ อตฺโถ.

อชฺฌตฺตวิโมกฺขนฺติ อชฺฌตฺตธมฺเม อภินิวิสิตฺวา ตโต วุฏฺิตมคฺโค ‘‘อชฺฌตฺตวิโมกฺโข’’ติ อิธ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. น วาเรตพฺโพติ วิปสฺสนาปาทเกสุ กสิณาทิฌาเนสุ สติอาทีนํ นิพฺเพธภาคิยตฺตา น ปฏิกฺขิปิตพฺโพติ อตฺโถ. อนุทฺธรนฺตา ปน วิปสฺสนา วิย โพธิยา มคฺคสฺส อาสนฺนการณํ ฌานํ น โหติ, น จ ตถา เอกนฺติกํ การณํ, น จ วิปสฺสนากิจฺจสฺส วิย ฌานกิจฺจสฺส นิฏฺานํ มคฺโคติ กตฺวา น อุทฺธรนฺติ. ตตฺถ กสิณชฺฌานคฺคหเณน ตทายตฺตานิ อารุปฺปานิปิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. อสุภชฺฌานานํ อวจนํ อวิตกฺกาวิจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

ทุติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยนยวณฺณนา

๔๗๐-๔๗๑. ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตฺตสฺส อวจนํ ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๘๒; วิภ. ๔๗๑) อิธ ภาเวตพฺพานํ โพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตา. ภาวิตโพชฺฌงฺคสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา ผลโพชฺฌงฺคา อภิธมฺมภาชนีเย วุตฺตาติ. โวสฺสคฺค-สทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ยถาวุตฺเตนาติ ตทงฺคสมุจฺเฉทปฺปกาเรน ตนฺนินฺนภาวารมฺมณกรณปฺปกาเรน จ. ปริณาเมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณ.

ตติยนยวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๔๗๒. อุเปกฺขนวเสนาติ สภาวนิทฺเทสตํ ทสฺเสติ, หาปนวฑฺฒเนสุ พฺยาปารํ อกตฺวา อุปปตฺติโต อิกฺขนวเสนาติ อตฺโถ. โลกิยอุเปกฺขนาย อธิกา อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนาติ อยมตฺโถ อิธ โลกุตฺตรา เอว อธิปฺเปตาติ ยุตฺโตติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

โพชฺฌงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. มคฺคงฺควิภงฺโค

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๔๙๐. อภิธมฺเม โลกุตฺตรจิตฺตภาชนีเยปิ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺติ…เป… อฏฺงฺคิโก มคฺโค โหตี’’ติ (ธ. ส. ๓๓๗) วุตฺตตฺตา อิธาปิ อภิธมฺมภาชนีเย อภิธมฺมานุรูปํ เทสนํ กโรนฺโต ‘‘อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ อริโยปปทตํ น กโรติ.

๔๙๓. ตสฺมึ สมเยติ โลกิยกาเลน เอเตสํ อติเรกกิจฺจํ ทสฺเสติ. วิรติอุปฺปาทเนน มิจฺฉาวาจาทีนิ ปุคฺคลํ ปชหาเปนฺตีติ สมฺมาทิฏฺาทีนิ ปฺจ ‘‘การาปกงฺคานี’’ติ วุตฺตานิ. สมฺมาวาจาทิกิริยา หิ วิรติ, ตฺจ เอตานิ การาเปนฺตีติ. วิรติวเสนาติ วิรมณกิริยาวเสน, น การาปกภาเวน กตฺตุภาเวน จาติ อตฺโถ. อิมํ…เป… กิจฺจาติเรกตํ ทสฺเสตุนฺติ โลกุตฺตรกฺขเณปิ อิมาเนว ปฺจ สมฺมาวาจาทิตฺตยสฺส เอกกฺขเณ การาปกานีติ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา อกุสลา จ ทสาติ วีสติ อกุสลปกฺขิยา, สมฺมาทิฏฺาทิกา ทส, ตปฺปจฺจยา จ กุสลา ทสาติ วีสติ กุสลปกฺขิยา จ มหาจตฺตารีสกสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๓๖) วุตฺตาติ ตสฺส เอตํ นามํ.

ปุฺภาคิยาติ ปุฺโกฏฺาเส ภวา, ปุฺาภิสงฺขาเรกเทสภูตาติ อตฺโถ. ขนฺโธปธึ วิปจฺจติ, ตตฺถ วา วิปจฺจตีติ อุปธิเวปกฺกา.

ปฺจงฺคิกมคฺคํ อุทฺทิสิตฺวา ตตฺถ เอเกกํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส ตสฺเสว สมยววตฺถานํ กตฺวา วิสฺสชฺชนํ ‘‘ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉิตฺวา ปาฏิเยกฺกํ วิสฺสชฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. สห ปน ปุจฺฉิตฺวา ปฺจนฺนมฺปิ สมยววตฺถานํ กตฺวา วิสฺสชฺชเน ‘‘ตตฺถ กตมา สมฺมาทิฏฺิยา ปฺา’’ติอาทิโก ปฏินิทฺเทโส เอกโต วิสฺสชฺชนปฏินิทฺเทสตฺตา น ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ นาม โหตีติ. ตตฺถ ปฺจงฺคิกวาเร เอว ปาฏิเยกฺกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ สมฺมาทิฏฺาทีสุ การาปกงฺเคสุ เอเกกมุขาย ภาวนาย มคฺคุปฺปตฺตึ สนฺธาย กตนฺติ เวทิตพฺพํ. วาจาทีนิ หิ ปุพฺพสุทฺธิยา สิชฺฌนฺติ, น มคฺคสฺส อุปจาเรนาติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

มคฺคงฺควิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ฌานวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

มาติกาวณฺณนา

๕๐๘. ฌานสฺส ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทา ปาติโมกฺขสํวราทิ. อสุภานุสฺสติโย โลกุตฺตรชฺฌานานิ จ อิโต พหิทฺธา นตฺถีติ สพฺพปฺปการ-คฺคหณํ กโรติ, สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภีติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) วจเนน สมณภาวกรปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาสมฺปนฺนสฺสปิ อภาวํ ทสฺเสติ. สิกฺขาปเทสุ นามกายาทิวเสน วุตฺเตสุ วจนานติกฺกมวเสน สิกฺขิตพฺเพสุ, อวีติกฺกมนวิรติเจตนาสงฺขาเตสุ วา สิกฺขาโกฏฺาเสสุ ปริปูรณวเสน สิกฺขิตพฺเพสุ สา สา ภิกฺขุสิกฺขาทิกา สิกฺขาปเทกเทสภูตา สิกฺขิตพฺพาติ อาห ‘‘สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปน’’นฺติ.

สนฺโตสาทิวเสน อิตรีตรสนฺโตสํ, ตสฺส จ วณฺณวาทิตํ, อลทฺธา จ อปริตสฺสนํ, ลทฺธา จ อคธิตปริโภคนฺติ เอเต คุเณ ทสฺเสติ. ฌานภาวนาย การโกติ ปริทีปนํ การกภาวปริทีปนํ. อรฺนฺติอาทินา เสนาสนสฺส ปเภทํ, อปฺปสทฺทนฺติอาทินา นิราทีนวตํ, ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ อานิสํสํ ทีเปตีติ อาห ‘‘เสนาสนปฺปเภเท…เป… ปริทีปน’’นฺติ.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวณฺณนา

๕๐๙. กมฺมตฺเถหิ ทิฏฺิ-สทฺทาทีหิ สาสนํ วุตฺตนฺติ ‘‘ทิฏฺตฺตา ทิฏฺี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สภาวฏฺเนาติ อวิปรีตฏฺเน. สิกฺขิยมาโน กายาทีนิ วิเนติ, น อฺถาติ อาห ‘‘สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย’’ติ, วินโย วา สิกฺขิตพฺพานิ สิกฺขาปทานิ, ขนฺธตฺตยํ สิกฺขิตพฺพนฺติ วินโย วิยาติ วินโยติ ทสฺเสติ. สตฺถุ อนุสาสนทานภูตํ สิกฺขตฺตยนฺติ อาห ‘‘อนุสิฏฺิทานวเสนา’’ติ.

สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตาติ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺจยตฺตา. ติสฺโส หิ สิกฺขา สิกฺขนฺตสฺส สมฺมาทิฏฺิ ปริปูรตีติ. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) วจนโต สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมํ สิกฺขตฺตยํ. เอตสฺมิฺจ อตฺถทฺวเย ผลการโณปจาเรหิ สิกฺขตฺตยํ ‘‘ทิฏฺี’’ติ วุตฺตํ, กุสลธมฺเมหิ วา อตฺตโน เอกเทสภูเตหีติ อธิปฺปาโย. ภควโต วินยนกิริยตฺตา วินโย สิกฺขตฺตยํ, ตํ ปน วินยนํ ธมฺเมเนว อวิสมสภาเวน, เทสนาธมฺเมน วา ปวตฺตํ, น ทณฺฑาทินาติ ‘‘ธมฺมวินโย’’ติ วุตฺตํ.

อนวชฺชธมฺมตฺถนฺติ ปรมานวชฺชนิพฺพานตฺถํ, อกุปฺปเจโตวิมุตฺติอตฺถํ วา. ธมฺเมสุ อภิฺเยฺยาทีสุ อภิชานนาทิการณํ สิกฺขตฺตยนฺติ ตํ ‘‘ธมฺมวินโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิมิสฺสา อิมสฺมิ’’นฺติ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานํ นิยมกรณํ โหติ, เอว-สทฺทโลโป วา กโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘นิยโม กโต’’ติ.

๕๑๐. ภิกฺขุโกติ อนฺตฺเถน -กาเรน ปทํ วฑฺฒิตนฺติ ‘‘ภิกฺขนธมฺมตายา’’ติ อตฺถมาห. ภิกฺขโกติ ปน ปาเ ภิกฺขตีติ ภิกฺขโกติ อตฺโถ. ชลฺลิกํ รชมิสฺสํ มลํ, อมิสฺสํ มลเมว. ภินฺนปฏธโรติ นิพฺพจนํ ภินฺนปฏธเร ภิกฺขุ-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา วุตฺตํ.

ยสฺส ภาเวตพฺโพ ปหาตพฺโพ จ โอธิ อวสิฏฺโ อตฺถิ, โส โอธิโส, อรหา ปน ตทภาวา โอธิรหิโตติ ‘‘อโนธิโส กิเลสานํ ปหานา ภิกฺขู’’ติ วุตฺโต. โอธิ-สทฺโท วา เอกเทเส นิรุฬฺโหติ สพฺพมคฺคา สพฺพกิเลสา จ อรหตา ภาวิตา ปหีนา จ ‘‘โอธี’’ติ น วุจฺจนฺติ. ปหานาติ อิทฺจ นิพฺพจนํ เภทนปริยายวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เสกฺโขติอาทินา ภิกฺขุ-สทฺเทน วุจฺจมานํ อตฺถํ คุณวเสน ทสฺเสติ, เหฏฺา ปน ‘‘สมฺาย ปฏิฺายา’’ติ ปฺายนวเสน, ‘‘ภิกฺขตี’’ติอาทินา นิพฺพจนวเสน ทสฺสิโต.

เสกฺโข ภิกฺขูติ สตฺต เสกฺขา กถิตา, ภินฺนตฺตา ปาปกานํ…เป… ภิกฺขูติ ขีณาสโวว กถิโตติ อิทํ ทฺวยํ ‘‘เสกฺโขติ ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต อริยา, ภินฺนตฺตาติ อิมินา ปน จตฺตาโร ผลฏฺา’’ติ อิมินา ทฺวเยน น สเมติ, ตทิทํ นิปฺปริยายทสฺสนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เสสฏฺาเนสุ ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย กถิตา’’ติ วุตฺตํ, นนุ ปฏิฺาย ภิกฺขุสีโลปิ วุตฺโตติ? วุตฺโต, น ปน อิธาธิปฺเปโต สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตกสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

ภควโต วจนํ อุปสมฺปทากมฺมกรณสฺส การณตฺตา านํ, ตทนุรูปํ านารหํ, อนูนตฺติอนุสฺสาวนํ อุปฺปฏิปาฏิยา จ อวุตฺตนฺติ อตฺโถ.

๕๑๑. นิปฺปริยายโต สีลํ สมาทานวิรติอวีติกฺกมนวิรติภาวโตติ อธิปฺปาโย. อนภิชฺฌาทีนิ สนฺธาย เจตสิกสีลสฺส ปริยายสีลตา วุตฺตา. นครวฑฺฒกี วตฺถุวิชฺชาจริโยติ วทนฺติ. จตุพฺพิโธ อาหาโร อสิตาทีนิ, ภกฺขิตพฺพภุฺชิตพฺพเลหิตพฺพจุพิตพฺพานิ วา.

ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต ปิหิตินฺทฺริโย โหติ ติณฺณํ สุจริตานํ อินฺทฺริยสํวราหารตฺตา, ปาติโมกฺขสํวโร วา อินฺทฺริยสํวรสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. อิติ ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตินฺทฺริโย ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ วุตฺโต. อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘สํวุโต’’ติ เอตสฺส ปิหิตินฺทฺริโยติ อตฺถมาห. ปาติโมกฺเขน จ สํวเรน จาติ อิทํ ปาติโมกฺขโต อฺํ สีลํ กายิกอวีติกฺกมาทิคฺคหเณน คหิตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุติโย ปนตฺโถ ทฺวินฺนมฺปิ เอกตฺถตํ สนฺธาย วุตฺโต.

๕๑๓. สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยนฺติ อิมินา อภิชฺฌาทโย จ คหิตาติ สนฺธายาห ‘‘มนสาปิ อาจรติ เอว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. ตตฺถาติ กายิกวีติกฺกมาทิวเสน วุตฺเตสุ อนาจาเรสุ. ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนมาปชฺชตีติ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ.

อโรปิโมติ สงฺฆิกภูมิยํ อุฏฺิโต วุตฺโต. ผาติกมฺมนฺติ ครุภณฺฑนฺตรภูตํ กมฺมํ. ทณฺฑกมฺมนฺติ ยถาวุตฺตํ หตฺถกมฺมมาห. สินายนฺติ เอเตนาติ สินานํ, จุณฺณาทิ.

สจฺจาลีเกน ปิยวาที ‘‘จาฏู’’ติ วุจฺจติ, จาฏุํ อตฺตานํ อิจฺฉตีติ จาฏุกาโม, ตสฺส ภาโว จาฏุกมฺยตา. มุคฺคสูปสฺส อปฺปวิสนฏฺานํ นาม นตฺถิ สพฺพาหาเรหิ อวิรุทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปริภฏติ ธาเรติ, โปเสติ วาติ ปริภโฏ, อถ วา ปริวารภูโต ภโฏ เสวโก ปริภโฏ.

ภณฺฑาคาริกกมฺมํ คิหีนํ กริยมานํ วุตฺตํ. ปิณฺฑตฺถํ ปฏิปิณฺฑทานํ, ปิณฺฑํ ทตฺวา ปฏิปิณฺฑคฺคหณํ วา ปิณฺฑปฏิปิณฺฑํ. สงฺฆโภคเจติยโภคานํ อโยนิโส วิจารณํ สงฺฆุปฺปาทเจติยุปฺปาทปฏฺปนํ, อตฺตโน สนฺตเก วิย ปฏิปชฺชนนฺติ เกจิ.

๕๑๔. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโร, อภิณฺหํ จริตพฺพฏฺานํ. คาโว วา จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ, เตหิ จริตพฺพฏฺานํ โคจโร. อยุตฺโต โคจโร อโคจโรติ ตทฺโ ยุตฺโต ‘‘โคจโร’’ติ วุตฺโต.

วา-สทฺโท วิธุนนตฺโถปิ โหตีติ กตฺวา อาห ‘‘วินิทฺธุตกิพฺพิสานิ วา’’ติ.

๕๑๕. อวรา ปจฺฉิมา มตฺตา เอเตสนฺติ โอรมตฺตกานิ. สํยมกรณียานีติ กายวาจาสํยมมตฺเตน กตฺตพฺพปฏิกมฺมานิ, วิกฺขิปิตพฺพานิ วา. ‘‘ปุน น เอวํ กโรมี’’ติ จิตฺเตน สํวรมตฺเตน, อินฺทฺริยสํวเรเนว วา กรณียานิ สํวรกรณียานิ. ทิวิวิหารชนปทวาสี ทิวิวิหารวาสี. มนสฺส อธิฏฺานเมว อธิฏฺานาวิกมฺมํ. เทสนา อิธ ‘‘วุฏฺานาวิกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตา. ตตฺถ ‘‘จิตฺตุปฺปาทกรณียานิ มนสิการปฏิพทฺธานี’’ติ วจนโต ปาติโมกฺขสํวรวิสุทฺธตฺถํ อนติกฺกมนียานิ อนาปตฺติคมนียานิ วชฺชานิ วุตฺตานีติ อาจริยสฺส อธิปฺปาโย. จตุพฺพิธสฺสาติ อตฺตานุวาทปรานุวาททณฺฑทุคฺคติภยสฺส.

๕๑๖. ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติ ภิกฺขุ เอว อธิปฺเปโตติ สนฺธาย ‘‘เสสสิกฺขา ปน อตฺถุทฺธารวเสน สิกฺขา-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตา’’ติ อาห. ภิกฺขุคฺคหณํ ปน อคฺคปริสามุเขน สพฺพชฺฌานนิพฺพตฺตกานํ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ทสฺสนตฺถํ กตํ. คุณโต วา ภิกฺขุ อธิปฺเปโตติ สพฺพาปิ สิกฺขา อิธาธิปฺเปตาติ ทฏฺพฺพา. สพฺเพน สิกฺขาสมาทาเนนาติ เอตฺถ เยน สมาทาเนน สพฺพาปิ สิกฺขา สมาทินฺนา โหนฺติ, ตํ เอกมฺปิ สพฺพสมาทานกิจฺจกรตฺตา สพฺพสมาทานํ นาม โหติ, อเนเกสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรนาติ อวีติกฺกมเทสนาวุฏฺานวตฺตจรณาทิอากาเรน. วีติกฺกมนวเสน เสสสฺสปิ นิสฺเสสตากรณํ สนฺธาย ‘‘ภินฺนสฺสปี’’ติอาทิมาห.

๕๑๙. อาวรณีเยหิ จิตฺตปริโสธนภาวนา ชาคริยานุโยโคติ กตฺวา อาห ‘‘ภาวน’’นฺติ. สุปฺปปริคฺคาหกนฺติ ‘‘สุปฺปปริคฺคาหกํ นาม อิทํ อิโต ปุพฺเพ อิโต ปรฺจ นตฺถิ, อยเมตสฺส ปจฺจโย’’ติอาทินา ปริคฺคาหกํ.

๕๒๐-๕๒๑. ยุตฺโตติ อารมฺภมาโน. สาตจฺจํ เนปกฺกฺจ ปวตฺตยมาโน ชาคริยานุโยคํ อนุยุตฺโต โหตีติ สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ.

๕๒๒. โลกิยายปิ…เป… อาหาติ อิทํ วิปสฺสนาภาวนาย สติปฏฺานาทโย เอกสฺมึ อารมฺมเณ สห นปฺปวตฺตนฺติ, ปวตฺตมานานิปิ อินฺทฺริยพลานิ โพชฺฌงฺเคสฺเวว อนฺโตคธานิ โหนฺติ. ปีติสมฺโพชฺฌงฺคคฺคหเณน หิ ตทุปนิสฺสยภูตํ สทฺธินฺทฺริยํ สทฺธาพลฺจ คหิตเมว โหติ ‘‘สทฺธูปนิสํ ปาโมชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๓) วุตฺตตฺตา. มคฺคงฺคานิ ปฺเจว วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๕๒๓. สมนฺตโต, สมฺมา, สมํ วา สาตฺถกาทิปชานนํ สมฺปชานํ, ตเทว สมฺปชฺํ. เตนาติ สติสมฺปยุตฺตตฺตา เอว อุทฺเทเส อวุตฺตาปิ สติ นิทฺเทเส ‘‘สโต’’ติ อิมินา วุตฺตาติ อธิปฺปาโย.

สาตฺถกานํ อภิกฺกมาทีนํ สมฺปชานนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. เอวํ สปฺปายสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ ปน ภิกฺขาจารโคจเร อฺตฺถาปิ จ ปวตฺเตสุ อวิชหิเต กมฺมฏฺานสงฺขาเต โคจเร สมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ. อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนเมว สมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ.

ทฺเว กถาติ วจนกรณากรณกถา น กถิตปุพฺพา. วจนํ กโรมิ เอว, ตสฺมา สุพฺพจตฺตา ปฏิวจนํ เทมีติ อตฺโถ.

กมฺมฏฺานสีเสเนวาติ กมฺมฏฺานคฺเคเนว, กมฺมฏฺานํ ปธานํ กตฺวา เอวาติ อตฺโถ. เตน ‘‘ปตฺตมฺปิ อเจตน’’นฺติอาทินา วกฺขมานํ กมฺมฏฺานํ, ยถาปริหริยมานํ วา อวิชหิตฺวาติ ทสฺเสติ. ‘‘ตสฺมา’’ติ เอตสฺส ‘‘ธมฺมกถา กเถตพฺพาเยวาติ วทนฺตี’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ภเยติ ปรจกฺกาทิภเย.

อวเสสฏฺาเนติ ยาคุอคฺคหิตฏฺาเน. านจงฺกมนเมวาติ อธิฏฺาตพฺพิริยาปถวเสน วุตฺตํ, น โภชนาทิกาเล อวสฺสํ กตฺตพฺพนิสชฺชายปิ ปฏิกฺเขปวเสน.

เถโร ทารุจีริโย

‘‘ตสฺมาติห เต, พาหิย, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ. ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต มุเต วิฺาเต. ยโต โข เต, พาหิย, ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต มุเต วิฺาเต วิฺาตมตฺตํ ภวิสฺสติ, ตโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน, ยโต ตฺวํ, พาหิย, น เตน. ตโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ, ยโต ตฺวํ, พาหิย, น ตตฺถ. ตโต ตฺวํ, พาหิย, เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ (อุทา. ๑๐) –

เอตฺตเกน อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ.

ขาณุอาทิปริหรณตฺถํ, ปติฏฺิตปาทปริหรณตฺถํ วา ปสฺเสน หรณํ วีติหรณนฺติ วทนฺติ. ยาว ปติฏฺิตปาโท, ตาว อาหรณํ อติหรณํ, ตโต ปรํ หรณํ วีติหรณนฺติ อยํ วา เอเตสํ วิเสโส. อวีจินฺติ นิรนฺตรํ.

ปมชวเนปิ…เป… น โหตีติ อิทํ ปฺจวิฺาณวีถิยํ อิตฺถิปุริโสติ รชฺชนาทีนํ อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อาวชฺชนโวฏฺพฺพนานํ อโยนิโส อาวชฺชนโวฏฺพฺพนวเสน อิฏฺเ อิตฺถิรูปาทิมฺหิ โลโภ, อนิฏฺเ จ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ. มโนทฺวาเร ปน อิตฺถิปุริโสติ รชฺชนาทิ โหติ, ตสฺส ปฺจทฺวารชวนํ มูลํ, ยถาวุตฺตํ วา สพฺพํ ภวงฺคาทิ. เอวํ มโนทฺวารชวนสฺส มูลวเสน มูลปริฺา วุตฺตา. อาคนฺตุกตาวกาลิกตา ปน ปฺจทฺวารชวนสฺเสว อปุพฺพติตฺตรตาวเสน. มณิสปฺโป สีหฬทีเป วิชฺชมานา เอกา สปฺปชาตีติ วทนฺติ. จลนนฺติ กมฺปนํ.

อติหรตีติ ยาว มุขา อาหรติ. วีติหรตีติ ตโต ยาว กุจฺฉิ, ตาว หรติ, กุจฺฉิคตํ วา ปสฺสโต หรติ. อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลตีติ วายุอาทีหิ อติวิโสสนํ ยถา น โหติ, ตถา ปาเลติ. อาภุชตีติ ปริเยสนชฺโฌหรณชิณฺณาชิณฺณตาทึ อาวชฺเชติ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ตํตํวิชานนนิปฺผาทโกเยว หิ ปโยโค ‘‘สมฺมาปโยโค’’ติ วุตฺโตติ. อถ วา ‘‘สมฺมาปฏิปตฺติมาคมฺม อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ภุชนโก นตฺถี’’ติอาทินา วิชานนํ อาภุชนํ.

อฏฺาเนติ มนุสฺสามนุสฺสปริคฺคหิเต อยุตฺเต าเน เขตฺตเทวายตนาทิเก. ตุมฺพโต เวฬุนาฬิอาทิอุทกภาชนโต. นฺติ ฉฑฺฑิตํ อุทกํ.

คเตติ คมเนติ ปุพฺเพ อภิกฺกมปฏิกฺกมคฺคหเณน คมเนปิ ปุรโต ปจฺฉโต จ กายสฺส อติหรณํ วุตฺตนฺติ อิธ คมนเมว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ, วกฺขมาโน วา เอเตสํ วิเสโส.

เอตฺตเกนาติ กมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวา จตุนฺนํ อิริยาปถานํ ปวตฺตนวจนมตฺเตน โคจรสมฺปชฺํ น ปากฏํ โหตีติ อตฺโถ. เอวํ ปน สุตฺเต กมฺมฏฺานํ อวิภูตํ โหตีติ จงฺกมนฏฺานนิสชฺชาสุ เอว ปวตฺเต ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุตฺเต ปวตฺตา อปากฏา โหนฺตีติ อตฺโถ.

กายาทิกิริยามยตฺตา อาวชฺชนกิริยาสมุฏฺิตตฺตา จ ชวนํ, สพฺพมฺปิ วา ฉทฺวารปฺปวตฺตํ กิริยามยปวตฺตํ นาม, ทุติยชฺฌานํ วจีสงฺขารวิรหา ‘‘ตุณฺหีภาโว’’ติ วุจฺจติ.

๕๒๖. อุปาสนฏฺานนฺติ อิสฺสาสานํ วิย อุปาสนสฺส สิกฺขาโยคกรณสฺส กมฺมฏฺานอุปาสนสฺส านนฺติ อตฺโถ. ตเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยคปถ’’นฺติ อาหาติ. สีสํ โธวตีติ อิจฺฉาทาสพฺยา ภุชิสฺสตํ าปยติ, มิจฺฉาปฏิปนฺเนหิ วา ปกฺขิตฺตํ อยสรชํ โธวติ.

๕๒๙. วินยปริยาเยน อทินฺนาทานปาราชิเก อาคตํ. สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺกสิกฺขาปเท ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ อาคตํ อารฺิกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย. น หิ โส วินยปริยายิเก อรฺเ วสนโต ‘‘อารฺโก ปนฺตเสนาสโน’’ติ สุตฺเต วุตฺโตติ.

๕๓๐. ‘‘นิตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกุฺช’’นฺติปิ ยํ วทนฺติ, ตํ กนฺทรนฺติ อปพฺพตปเทเสปิ วิทุคฺคนทีนิวตฺตนปเทสํ กนฺทรนฺติ ทสฺเสติ.

๕๓๑. ภาเชตฺวา ทสฺสิตนฺติ เอเตน ภาเชตพฺพตํ อนฺเต นิทฺเทสสฺส การณํ ทสฺเสติ.

๕๓๓. รหสฺส กิริยา รหสฺสํ, ตํ อรหติ ตสฺส โยคฺคนฺติ ราหสฺเสยฺยกํ. วิจิตฺตา หิ ตทฺธิตาติ. รหสิ วา สาธุ รหสฺสํ, ตสฺส โยคฺคํ ราหสฺเสยฺยกํ.

๕๓๖. ปณิหิโตติ สุฏฺุ ปิโต.

๕๓๗. ปริคฺคหิตนิยฺยานนฺติ ปริคฺคหิตนิยฺยานสภาวํ, กายาทีสุ สุฏฺุ ปวตฺติยา นิยฺยานสภาวยุตฺตนฺติ อตฺโถ. กายาทิปริคฺคหณํ าณํ วา ปริคฺคโห, ตํ-สมฺปยุตฺตตาย ปริคฺคหิตํ นิยฺยานภูตํ อุปฏฺานํ กตฺวาติ อตฺโถ.

๕๔๒-๕๔๓. วิการปฺปตฺติยาติ จิตฺตสฺส วิการาปตฺติภาเวนาติ อตฺโถ. สพฺพสงฺคาหิกวเสนาติ สตฺตสงฺขารคตสพฺพโกธสงฺคาหิกวเสน. สพฺพสงฺคหณฺจ สมุจฺเฉทปฺปหานสฺสปิ อธิปฺเปตตฺตา กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๕๔๖. อิทํ สนฺธายาติ ‘‘ทฺเว ธมฺมา’’ติ สนฺธาย. เอกวจเนน ‘‘ถินมิทฺธ’’นฺติ อุทฺทิสิตฺวาปิ นิทฺเทเส ‘‘สนฺตา’’ติ วจนเภโท, พหุวจนํ กตนฺติ อตฺโถ. นิโรธสนฺตตายาติ วจนํ องฺคสนฺตตาย, สภาวสนฺตตาย วา สนฺตตานิวารณตฺถํ.

๕๕๐. ถินมิทฺธวิการวิรหา ตปฺปฏิปกฺขสฺา อาโลกสฺา นาม โหติ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อยํ สฺา อาโลกา โหตี’’ติ.

๕๕๓. ‘‘วนฺตตฺตา มุตฺตตฺตา’’ติอาทีนิ, ‘‘อาโลกา โหตี’’ติอาทีนิ จ ‘‘จตฺตตฺตาติอาทีนี’’ติ วุตฺตานิ. อาทิ-สทฺเทน วา ทฺวินฺนมฺปิ นิทฺเทสปทานิ สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ยานิ เยสํ เววจนานิ, ตาเนว สนฺธาย ‘‘อฺมฺเววจนานี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิมุฺจโตติ เอเตน สารมฺภํ อภิภวํ ทสฺเสติ. นิราวรณา หุตฺวา อาภุชติ สมฺปชานาตีติ นิราวรณาโภคา, ตํสภาวตฺตา วิวฏา.

๕๕๖. ‘‘วิกาโล นุ โข, น นุ โข’’ติ อนิจฺฉยตาย กตวตฺถุชฺฌาจารมูลโก วิปฺปฏิสาโร วตฺถุชฺฌาจาโร การณโวหาเรน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

๕๖๒. กิลิสฺสนฺตีติ กิเลเสนฺตีติ อตฺถํ วทนฺติ, สทรถภาเวน สยเมว วา กิลิสฺสนฺติ. น หิ เต อุปฺปชฺชมานา กิเลสรหิตา อุปฺปชฺชนฺตีติ.

๕๖๔. อิเธว จ วิภงฺเค ‘‘อุเปโต โหตี’’ติอาทิ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว.

๕๘๘. นิทฺเทสวเสนาติ ‘‘ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? ยา อุเปกฺขา’’ติอาทินิทฺเทสวเสน. ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทิ ปฏินิทฺเทสวเสนาติ วทนฺติ. ‘‘ตตฺถ กตมา…เป… อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติ เอเตน ปุคฺคโล นิทฺทิฏฺโ โหติ, ‘‘สมุเปโต’’ติอาทินา ปฏินิทฺทิฏฺโ. ยาว วา ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ ปทํ, ตาว นิทฺทิฏฺโ, ‘‘เตน วุจฺจติ อุเปกฺขโก’’ติ อิมินา ปฏินิทฺทิฏฺโติ เตสํ วเสน นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา โยเชตพฺพา. ปกาเรนาติ อุเปกฺขาย ‘‘อุเปกฺขนา’’ติอาทิธมฺมปฺปกาเรน ‘‘อุเปโต สมุเปโต’’ติอาทิปุคฺคลปฺปกาเรน จ อุเปกฺขกสทฺทสฺส อตฺถํ เปนฺโต ปฏฺเปนฺติ. ‘‘อุเปกฺขา’’ติ เอตสฺส อตฺถสฺส ‘‘อุเปกฺขนา’’ติ การณํ. อุเปกฺขนาวเสน หิ อุเปกฺขาติ. ตถา ‘‘อุเปโต สมุเปโต’’ติ เอเตสํ ‘‘อุปาคโต สมุปาคโต’’ติ การณนฺติ เอวํ ธมฺมปุคฺคลวเสน ตสฺส ตสฺสตฺถสฺส การณํ ทสฺเสนฺตา วิวรนฺติ, ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ อิมสฺเสว วา อตฺถสฺส ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทินา การณํ ทสฺเสนฺตา. ‘‘อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนา สมุเปโต’’ติอาทินา พฺยฺชนานํ วิภาคํ ทสฺเสนฺตา วิภชนฺติ. อุเปกฺขก-สทฺทนฺโตคธาย วา อุเปกฺขาย ตสฺเสว จ อุเปกฺขก-สทฺทสฺส วิสุํ อตฺถวจนํ ‘‘ยา อุเปกฺขา อุเปกฺขนา’’ติอาทินา, ‘‘อิมาย อุเปกฺขาย อุเปโต โหตี’’ติอาทินา จ พฺยฺชนวิภาโค. สพฺพถา อฺาตตา นิกุชฺฌิตภาโว, เกนจิ ปกาเรน วิฺาเตปิ นิรวเสสปริจฺฉินฺทนาภาโว คมฺภีรภาโว.

๖๐๒. อุปริภูมิปฺปตฺติยาติ อิทํ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ เอตฺเถว โยเชตพฺพํ. วิฺาณฺจายตนาทีนิปิ วา อากาสานฺจายตนาทีนํ อุปริภูมิโยติ สพฺพตฺถาปิ น น ยุชฺชติ.

๖๑๐. วิฺาณฺจายตนนิทฺเทเส ‘‘อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ตํเยว อากาสํ วิฺาเณน ผุฏํ มนสิ กโรติ อนนฺตํ ผรติ, เตน วุจฺจติ อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ เอตฺถ วิฺาเณนาติ เอตํ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ, ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณํ มนสิ กโรตีติ กิร อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อยํ วา เอตสฺส อตฺโถ – ตํเยว อากาสํ ผุฏํ วิฺาณํ วิฺาณฺจายตนวิฺาเณน มนสิ กโรตีติ. อยํ ปนตฺโถ ยุตฺโต – ตํเยว อากาสํ วิฺาเณน ผุฏํ เตน คหิตาการํ มนสิ กโรติ, เอวํ ตํ วิฺาณํ อนนฺตํ ผรตีติ. ยฺหิ อากาสํ ปมารุปฺปสมงฺคี วิฺาเณน อนนฺตํ ผรติ, ตํ ผรณาการสหิตเมว วิฺาณํ มนสิกโรนฺโต ทุติยารุปฺปสมงฺคี อนนฺตํ ผรตีติ วุจฺจตีติ.

๖๑๕. ตํเยว วิฺาณํ อภาเวตีติ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิ กตํ, ตํเยวาติ อตฺโถ. ตสฺเสว หิ อารมฺมณภูตํ ปเมน วิย รูปนิมิตฺตํ ตติเยนารุปฺเปน อภาเวตีติ.

นิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๖๒๓. อภิธมฺมภาชนีเย ปฺจกนยทสฺสเน ‘‘ปฺจ ฌานานี’’ติ จ, ‘‘ตตฺถ กตมํ ปมํ ฌาน’’นฺติ จ อาทินา อุทฺธฏํ. อุทฺธฏานํเยว จตุนฺนํ ปมตติยจตุตฺถปฺจมชฺฌานานํ ทสฺสนโต, ทุติยสฺเสว วิเสสทสฺสนโต จ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๖๔๐. โลกุตฺตราปเนตฺถาติ เอเตสุ ตีสุฌาเนสุ ‘‘โลกุตฺตรา สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ เอวํ โกฏฺาสิกา ปน มคฺคกาเล, ผลกาเล วา โลกุตฺตรภูตา เอวาติ อธิปฺปาโย. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณาโลกกสิณานาปานพฺรหฺมวิหารจตุตฺถานิ สพฺพตฺถปาทกจตุตฺเถ สงฺคหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.

พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา มคฺคํ ภาวยึสุ, ผลํ สจฺฉิกรึสูติ, ภาเวสฺสนฺติ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ จ เหฏฺิมมคฺคผลานํ วเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กุสลโต เตรสสุ หิ จตุตฺเถสุ อยํ กถา ปวตฺตา, น จ กุสลจตุตฺเถน อรหตฺตมคฺคผลานิ ทฏฺุํ สกฺโกติ.

‘‘กิริยโต เตรสนฺน’’นฺติ เอตฺถ โลกุตฺตรจตุตฺถํ กิริยํ นตฺถีติ ‘‘ทฺวาทสนฺน’’นฺติ วตฺตพฺพํ, กุสลโต วา เตรสสุ เสกฺขผลจตุตฺถํ อนฺโตคธํ กตฺวา ‘‘กิริยโต เตรสนฺน’’นฺติ อเสกฺขจตุตฺเถน สห วทตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถปาทกฺเจตฺถ ขีณาสวานํ ยานิ อภิฺาทีนิ สนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ ปาทกตฺตา สพฺพตฺถปาทกนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เตสํ วฏฺฏํ อตฺถีติ. ปริจฺฉนฺนากาสกสิณจตุตฺถาทีนิ วิย วา นวตฺตพฺพตาย สพฺพตฺถปาทกสมานตฺตา สพฺพตฺถปาทกตา ทฏฺพฺพา.

มโนสงฺขารา นาม สฺาเวทนา, จตฺตาโรปิ วา ขนฺธา. นิมิตฺตํ อารพฺภาติ เอตฺถ ‘‘นิมิตฺตํ นิพฺพานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ.

‘‘อชฺฌตฺโต ธมฺโม อชฺฌตฺตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๒๐.๒๘) เอตฺถ ‘‘อชฺฌตฺตา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตตฺตา น เจโตปริยาณํ วิย ยถากมฺมูปคาณํ ปรสนฺตานคตเมว ชานาติ, สสนฺตานคตมฺปิ ปน อปากฏํ รูปํ ทิพฺพจกฺขุ วิย อปากฏํ กมฺมํ วิภาเวติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน กมฺมชานนกาเล’’ติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฌานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. อปฺปมฺาวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

๖๔๒. สพฺพธีติ ทิสาเทโสธินา อโนธิโสผรณํ วุตฺตํ, สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตนฺติ สตฺโตธินา. เตนาห ‘‘อโนธิโส ทสฺสนตฺถ’’นฺติ. ตถา-สทฺโท อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโตติ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ เอตสฺส อนุวตฺตกํ ตํ ทฺวยํ ตสฺส ผรณนฺตราทิฏฺานํ อฏฺานนฺติ กตฺวา น วุตฺตํ, ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

๖๔๓. หิโรตฺตปฺปานุปาลิตา เมตฺตา น ปริหายติ อาสนฺนสปตฺตสฺส ราคสฺส สิเนหสฺส จ วิปตฺติยา อนุปฺปตฺติโตติ อธิปฺปาโย.

๖๔๕. อธิมุฺจิตฺวาติ สุฏฺุ ปสาเรตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อธิกภาเวนา’’ติอาทิมาห, พลวตา วา อธิโมกฺเขน อธิมุจฺจิตฺวา.

๖๔๘. เหฏฺา วุตฺโตเยวาติ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพ’’นฺติ เอเตสํ ‘‘สพฺเพน สิกฺขาสมาทาเนน สพฺพํ สิกฺขํ, สพฺเพน สิกฺขิตพฺพากาเรน สพฺพํ สิกฺข’’นฺติ จ ฌานวิภงฺเค (วิภ. อฏฺ. ๕๑๖) อตฺโถ วุตฺโต. อิธ ปน สพฺเพน อวธินา อตฺตสมตาย สพฺพสตฺตยุตฺตตาย จ สพฺพํ โลกํ, สพฺพาวธิทิสาทิผรณากาเรหิ สพฺพํ โลกนฺติ จ อตฺโถ ยุชฺชติ.

๖๕๐. ปจฺจตฺถิกวิฆาตวเสนาติ เมตฺตาทีนํ อาสนฺนทูรปจฺจตฺถิกานํ ราคพฺยาปาทาทีนํ วิฆาตวเสน. ยํ อปฺปมาณํ, โส อเวโรติ โส อเวรภาโวติ อยํ วา ตสฺส อตฺโถติ.

๖๕๓. นิรยาทิ คติ, จณฺฑาลาทิ กุลํ, อนฺนาทีนํ อลาภิตา โภโค. อาทิ-สทฺเทน ทุพฺพณฺณตาทิ คหิตํ.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๖๙๙. อิมสฺมึ ปน…เป… กถิตาติ อิมินา อิมสฺมึ วิภงฺเค กถิตานํ โลกิยภาวเมว ทสฺเสนฺโต ขนฺธวิภงฺคาทีหิ วิเสเสตีติ น อฺตฺถ โลกุตฺตรานํ อปฺปมฺานํ กถิตตา อนุฺาตา โหติ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปฺปมฺาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. สิกฺขาปทวิภงฺโค

๑. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๗๐๓. ปติฏฺานฏฺเนาติ สมฺปโยควเสน อุปนิสฺสยวเสน จ โอกาสภาเวน. ปิฏฺปูวโอทนกิณฺณนานาสมฺภาเร ปกฺขิปิตฺวา มทฺทิตฺวา กตา สุรา นาม. มธุกาทิปุปฺผปนสาทิผลอุจฺฉุมุทฺทิกาทินานาสมฺภารานํ รสา จิรปริวาสิตา เมรยํ นาม, อาสโวติ อตฺโถ.

๗๐๔. ตํสมฺปยุตฺตตฺตาติ วิรติสมฺปยุตฺตตฺตา, วิรติเจตนาสมฺปยุตฺตตฺตา วา.

กมฺมปถา เอวาติ อสพฺพสาธารเณสุ ฌานาทิโกฏฺาเสสุ กมฺมปถโกฏฺาสิกา เอวาติ อตฺโถ. สุราปานมฺปิ ‘‘สุราปานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ…เป… นิรยสํวตฺตนิก’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๔๐) วิสุํ กมฺมปถภาเวน อาคตนฺติ วทนฺติ. เอวํ สติ เอกาทส กมฺมปถา สิยุํ, ตสฺมาสฺส ยถาวุตฺเตสฺเวว กมฺมปเถสุ อุปการกตฺตสภาคตฺตวเสน อนุปเวโส ทฏฺพฺโพ.

สตฺตอิตฺถิปุริสารมฺมณตา ตถาคหิตสงฺขารารมฺมณตาย ทฏฺพฺพา. ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ หิ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพาปิ หิ เอตา วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวรเจตนาหิ เอว วิรมนฺตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๔) จ วกฺขตีติ.

โครูปสีลโก ปกติภทฺโท. กากณิกมตฺตสฺส อตฺถายาติอาทิ โลภวเสน มุสากถเน วุตฺตํ. โทสวเสน มุสากถเน จ นิฏฺปฺปตฺโต สงฺฆเภโท คหิโต. โทสวเสน ปรสฺส พฺยสนตฺถาย มุสากถเน ปน ตสฺส ตสฺส คุณวเสน อปฺปสาวชฺชมหาสาวชฺชตา โยเชตพฺพา, มนฺทาธิมตฺตพฺยสนิจฺฉาวเสน จ. นิสฺสคฺคิยถาวรวิชฺชามยิทฺธิมยา สาหตฺถิกาณตฺติเกสฺเวว ปวิสนฺตีติ ทฺเว เอว คหิตา.

ปฺจปิ กมฺมปถา เอวาติ เจตนาสงฺขาตํ ปริยายสีลํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิรติสีลํ ปน มคฺคโกฏฺาสิกนฺติ. เตสํ ปนาติ เสสสีลานํ.

๗๑๒. ‘‘โกฏฺาสภาเวนา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปติฏฺานภาเวนา’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. เอตฺถ ปน สิกฺขาปทวาเร ปหีนปฺจาภพฺพฏฺานสฺส อรหโต วิรมิตพฺพเวรสฺส สพฺพถา อภาวา กิริเยสุ วิรติโย น สนฺตีติ น อุทฺธฏา, เสกฺขานํ ปน ปหีนปฺจเวรตฺเตปิ ตํสภาคตาย เวรภูตานํ อกุสลานํ เวรนิทานานํ โลภาทีนฺจ สพฺภาวา วิรตีนํ อุปฺปตฺติ น น ภวิสฺสติ. อกุสลสมุฏฺิตานิ จ กายกมฺมาทีนิ เตสํ กายทุจฺจริตาทีนิ เวราเนว, เตหิ จ เตสํ วิรติโย โหนฺเตว, ยโต นผลภูตสฺสปิ อุปริมคฺคตฺตยสฺส อฏฺงฺคิกตา โหติ. สิกฺขาวาเร จ อภาเวตพฺพตาย ผลธมฺมาปิ น สิกฺขิตพฺพา, นาปิ สิกฺขิตสิกฺขสฺส อุปฺปชฺชมานา กิริยธมฺมาติ น เกจิ อพฺยากตา สิกฺขาติ อุทฺธฏา.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๗๑๔. สมฺปตฺตวิรติวเสนาติ สมฺปตฺเต ปจฺจุปฺปนฺเน อารมฺมเณ ยถาวิรมิตพฺพโต วิรติวเสนาติ อตฺโถ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขาปทวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปฏิสมฺภิทาวิภงฺโค

๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

๑. สงฺคหวารวณฺณนา

๗๑๘. เอเสว นโยติ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา ตเมว นยํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมปฺปเภทสฺส หี’’ติอาทิมาห. นิรุตฺติปฏิภานปฺปเภทา ตพฺพิสยานํ อตฺถาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวา เวทิตพฺพา.

‘‘ยํ กิฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺน’’นฺติ เอเตน สจฺจเหตุธมฺมปจฺจยาการวาเรสุ อาคตานิ ทุกฺขาทีนิ คหิตานิ. สจฺจปจฺจยาการวาเรสุ นิพฺพานํ, ปริยตฺติวาเร ภาสิตตฺโถ, อภิธมฺมภาชนีเย วิปาโก กิริยฺจาติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตานเมว วเสน ปฺจ อตฺถา เวทิตพฺพา, ตถา ธมฺมา จ.

วิทหตีติ นิพฺพตฺตกเหตุอาทีนํ สาธารณํ นิพฺพจนํ, ตทตฺถํ ปน วิภาเวตุมาห ‘‘ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จา’’ติ. เตสุ ปุริโม อตฺโถ มคฺควชฺเชสุ ทฏฺพฺโพ. ภาสิตมฺปิ หิ อวโพธนวเสน อตฺถํ ปวตฺเตตีติ. มคฺโค ปน นิพฺพานํ ปาเปตีติ ตสฺมึ ปจฺฉิโม.

ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเปติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท สภาววาจโกติ กตฺวา อาห ‘‘ยา สภาวนิรุตฺตี’’ติ, อวิปรีตนิรุตฺตีติ อตฺโถ. ตสฺสา อภิลาเปติ ตสฺสา นิรุตฺติยา อวจนภูตาย ปฺตฺติยา อภิลาเปติ เกจิ วณฺณยนฺติ. เอวํ สติ ปฺตฺติ อภิลปิตพฺพา, น วจนนฺติ อาปชฺชติ, น จ วจนโต อฺํ อภิลปิตพฺพํ อุจฺจาเรตพฺพํ อตฺถิ, อถาปิ ผสฺสาทิวจเนหิ โพเธตพฺพํ อภิลปิตพฺพํ สิยา, เอวํ สติ อตฺถธมฺมวชฺชํ เตหิ โพเธตพฺพํ น วิชฺชตีติ เตสํ นิรุตฺติภาโว อาปชฺชติ. ‘‘ผสฺโสติ จ สภาวนิรุตฺติ, ผสฺสํ ผสฺสาติ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ทสฺสิโตวายมตฺโถ, น จ อวจนํ เอวํปการํ อตฺถิ, ตสฺมา วจนภูตาย เอว ตสฺสา สภาวนิรุตฺติยา อภิลาเป อุจฺจารเณติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ วุตฺตตฺตา นิรุตฺติสทฺทารมฺมณาย โสตวิฺาณวีถิยา ปรโต มโนทฺวาเร นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปวตฺตตีติ วทนฺติ. ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ จ วจนํ สทฺทํ คเหตฺวา ปจฺฉา ชานนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เอวํ ปน อฺสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณ อฺํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณนฺติ วุตฺตนฺติ อาปชฺชติ. ยถา ปน ทิพฺพโสตาณํ มนุสฺสามนุสฺสาทิสทฺทปฺปเภทนิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ตํ ตํ สทฺทวิภาวกํ, เอวํ สภาวาสภาวนิรุตฺตินิจฺฉยสฺส ปจฺจยภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนสภาวนิรุตฺติสทฺทารมฺมณํ ตํวิภาวกาณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ วุจฺจมาเน น ปาฬิวิโรโธ โหติ. ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาติ จ ปจฺจุปฺปนฺนสทฺทารมฺมณํ ปจฺจเวกฺขณํ ปวตฺตยนฺตสฺสาติ น น สกฺกา วตฺตุํ. ตมฺปิ หิ าณํ สภาวนิรุตฺตึ วิภาเวนฺตํเยว ตํตํสทฺทปจฺจเวกฺขณานนฺตรํ ตํตํปเภทนิจฺฉยเหตุตฺตา นิรุตฺตึ ภินฺทนฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว อุปฺปชฺชตีติ จ ปเภทคตมฺปิ โหตีติ. สภาวนิรุตฺตีติ มาคธภาสา อธิปฺเปตาติ ตโต อฺํ สกฺกฏนามาทิสทฺทํ สนฺธาย ‘‘อฺํ ปนา’’ติ อาห. พฺยฺชนนฺติ นิปาตปทมาห.

กถิตํ อฏฺกถายํ. โพธิมณฺฑ-สทฺโท ปมาภิสมฺพุทฺธฏฺาเน เอว ทฏฺพฺโพ, น ยตฺถ กตฺถจิ โพธิรุกฺขสฺส ปติฏฺิตฏฺาเน. สุวณฺณสลากนฺติ เสฏฺสลากํ, ธมฺมเทสนตฺถํ สลากํ คเหตฺวาติ อตฺโถ, น ปฏิสมฺภิทายํ ิเตน ปวาริตํ, ตสฺมา ปฏิสมฺภิทาโต อฺเเนว ปกาเรน ชานิตพฺพโต น สกฺกฏภาสาชานนํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจนฺติ อธิปฺปาโย.

อิทํ กถิตนฺติ มาคธภาสาย สภาวนิรุตฺติตาาปนตฺถํ อิทํ อิทานิ วตฺตพฺพํ กถิตนฺติ อตฺโถ. ฉทฺทนฺตวารณ (ชา. ๑.๑๖.๙๗ อาทโย) -ติตฺติรชาตกาทีสุ (ชา. ๑.๔.๗๓ อาทโย) ติรจฺฉาเนสุ จ มาคธภาสา อุสฺสนฺนา, น โอฏฺฏกาทิภาสา สกฺกฏํ วา.

ตตฺถาติ มาคธเสสภาสาสุ. เสสา ปริวตฺตนฺติ เอกนฺเตน กาลนฺตเร อฺถา โหนฺติ วินสฺสนฺติ จ. มาคธา ปน กตฺถจิ กทาจิ ปริวตฺตนฺตีปิ น สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺพถา จ ปริวตฺตติ, กปฺปวินาเสปิ ติฏฺติเยวาติ ‘‘อยเมเวกา น ปริวตฺตตี’’ติ อาห. ปปฺโจติ จิรายนนฺติ อตฺโถ. พุทฺธวจนเมว เจตสฺส วิสโย, เตเนว ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ คาถํ ปุจฺฉิโต จิตฺโต คหปติ ‘‘‘กึ นุ โข เอตํ, ภนฺเต, ภควตา ภาสิต’นฺติ? ‘เอวํ คหปตี’ติ. ‘เตน หิ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ อาคเมถ, ยาวสฺส อตฺถํ เปกฺขามี’’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๗) อาหาติ วทนฺติ.

สพฺพตฺถกาณนฺติ อตฺถาทีสุ าณํ. ตฺหิ สพฺเพสุ เตสุ ตีสุ จตูสุปิ วา ปวตฺตตฺตา, กุสลกิริยภูตาย ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ธมฺมตฺถภาวโต ตีสุ เอว วา ปวตฺตตฺตา ‘‘สพฺพตฺถกาณ’’นฺติ วุตฺตํ. อิมานิ าณานิ อิทมตฺถโชตกานีติ สาตฺถกานํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพตฺตา สพฺโพ อตฺโถ เอตสฺสาติปิ สพฺพตฺถกํ, สพฺพสฺมึ ขิตฺตนฺติ วา. เสกฺเข ปวตฺตา อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทา โหนฺตีติ วทนฺติ. ปุพฺพโยโค วิย ปน อรหตฺตปฺปตฺติ อรหโตปิ ปฏิสมฺภิทาวิสทตาย ปจฺจโย น น โหตีติ ปฺจนฺนมฺปิ ยถาโยคํ เสกฺขาเสกฺขปฏิสมฺภิทาวิสทตฺตการณตา โยเชตพฺพา.

ปุจฺฉาย ปรโต ปวตฺตา กถาติ กตฺวา อฏฺกถา ‘‘ปริปุจฺฉา’’ติ วุตฺตา. ปฏิปตฺตึ ปูเรตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ ปฏิปตฺติครุตาย ลาภํ หีเฬนฺเตน สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ วาสิยา โกฏฺเฏตฺวา ปริภณฺฑกรณํ มยา กตํ อาวชฺชิตฺวา ลาภครุโน ปริยตฺติธรา ธมฺมกถิกาว ภวิตุํ น มฺิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ เถรสฺส กงฺขุปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อวิสทตํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ปฺหวิสฺสชฺชเนน อรหตฺตปฺปตฺติยา วิสทตา ทสฺสิตา. ติสฺสตฺเถโร อนนฺตรํ วุตฺโต ติสฺสตฺเถโร เอวาติ วทนฺติ.

ปเภโท นาม มคฺเคหิ อธิคตานํ ปฏิสมฺภิทานํ ปเภทคมนํ. อธิคโม เตหิ ปฏิลาโภ, ตสฺมา โส โลกุตฺตโร, ปเภโท กามาวจโร ทฏฺพฺโพ. น ปน ตถาติ ยถา อธิคมสฺส พลวปจฺจโย โหติ, น ตถา ปเภทสฺสาติ อตฺโถ. อิทานิ ปริยตฺติยาทีนํ อธิคมสฺส พลวปจฺจยตฺตาภาวํ, ปุพฺพโยคสฺส จ พลวปจฺจยตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิสมฺภิทา นาม นตฺถีติ ปฏิสมฺภิทาธิคโม นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ยํ วุตฺตํ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม ปนา’’ติอาทิมาห. ปุพฺพโยคาธิคมา หิ ทฺเวปิ วิสทการณาติ ‘‘ปุพฺพโยโค ปเภทสฺส พลวปจฺจโย โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ.

สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สจฺจวาราทิวณฺณนา

๗๑๙. เหตุวาเร กาลตฺตเยปิ เหตุผลธมฺมา ‘‘อตฺถา’’ติ วุตฺตา, เตสฺจ เหตุธมฺมา ‘‘ธมฺมา’’ติ, ธมฺมวาเร เวเนยฺยวเสน อตีตานฺจ สงฺคหิตตฺตา ‘‘อุปฺปนฺนา สมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ น วุตฺตนฺติ อตีตปจฺจุปฺปนฺนา ‘‘อตฺถา’’ติ วุตฺตา, ตํนิพฺพตฺตกา จ ‘‘ธมฺมา’’ติ อิทเมเตสํ ทฺวินฺนมฺปิ วารานํ นานตฺตํ.

สจฺจวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

๗๒๕. อวุตฺตตฺตาติ ‘‘เตสํ วิปาเก าณ’’นฺติ สามฺเน วตฺวา วิเสเสน อวุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ กิริยานํ อวิปากตฺตา ธมฺมภาโว น วุตฺโตติ. ยทิ เอวํ วิปากา น โหนฺตีติ อตฺถภาโว จ น วตฺตพฺโพติ? น, ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา. เอวฺเจ กุสลากุสลานมฺปิ อตฺถภาโว อาปชฺชตีติ. นปฺปฏิสิทฺโธ, วิปากสฺส ปน ปธานเหตุตาย ปากฏตฺตา ธมฺมภาโวว เตสํ วุตฺโต. กิริยานํ ปจฺจยตฺตา ธมฺมภาโว อาปชฺชตีติ เจ? นายํ โทโส อปฺปฏิสิทฺธตฺตา, กมฺมผลสมฺพนฺธสฺส ปน อเหตุตฺตา ธมฺมภาโว น วุตฺโต. อปิจ ‘‘อยํ อิมสฺส ปจฺจโย, อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺน’’นฺติ เอวํ เภทํ อกตฺวา เกวลํ กุสลากุสเล วิปากกิริยธมฺเม จ สภาวโต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ธมฺมปฏิสมฺภิทา อตฺถปฏิสมฺภิทา จ โหตีติปิ เตสํ อตฺถธมฺมตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กุสลากุสลวาเรสุ จ ธมฺมปฏิสมฺภิทา กุสลากุสลานํ ปจฺจยภาวํ สตฺติวิเสสํ สนิปฺผาเทตพฺพตํ ปสฺสนฺตี นิปฺผาเทตพฺพาเปกฺขา โหตีติ ตํสมฺพนฺเธเนว ‘‘เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ วุตฺตํ. สภาวทสฺสนมตฺตเมว ปน อตฺถปฏิสมฺภิทาย กิจฺจํ นิปฺผนฺนผลมตฺตทสฺสนโตติ ตสฺสา นิปฺผาทกานเปกฺขตฺตา วิปากวาเร ‘‘เตสํ วิปจฺจนเก าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

สภาวปฺตฺติยาติ น สตฺตาทิปฺตฺติยา, อวิปรีตปฺตฺติยา วา. โขเภตฺวาติ โลมหํสชนนสาธุการทานาทีหิ โขเภตฺวา. ปุน ธมฺมสฺสวเน ชานิสฺสถาติ อปฺปสฺสุตตฺตา ทุติยวารํ กเถนฺโต ตเทว กเถสฺสตีติ อธิปฺปาโย.

๗๔๖. ภูมิทสฺสนตฺถนฺติ เอตฺถ กามาวจรา โลกุตฺตรา จ ภูมิ ‘‘ภูมี’’ติ เวทิตพฺพา, จิตฺตุปฺปาทา วาติ.

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา

๗๔๗. ปจฺจยสมุปฺปนฺนฺจ อตฺถํ ปจฺจยธมฺมฺจาติ วจเนหิ เหตาทิปจฺจยสมุปฺปนฺนานํ กุสลากุสลรูปานมฺปิ อตฺถปริยายํ, เหตาทิปจฺจยภูตานํ วิปากกิริยรูปานมฺปิ ธมฺมปริยายฺจ ทสฺเสติ. ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย กามาวจรวิปาการมฺมณตา มหคฺคตารมฺมณตา จ ปฏิสมฺภิทาาณารมฺมณตฺเต น ยุชฺชติ ปฏิสมฺภิทาาณานํ กามาวจรโลกุตฺตรกุสเลสุ กามาวจรกิริยาโลกุตฺตรวิปาเกสุ จ อุปฺปตฺติโต. สพฺพาณารมฺมณตาย สติ ยุชฺเชยฺย, ‘‘เยน าเณน ตานิ าณานิ ชานาตี’’ติ (วิภ. ๗๒๖) วจนโต ปน น สพฺพาณารมฺมณตาติ กถยนฺติ. สุตฺตนฺตภาชนีเย ปน ‘‘าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา สพฺพาณารมฺมณตา สิยา. อภิธมฺมภาชนีเยปิ จิตฺตุปฺปาทวเสน กถนํ นิรวเสสกถนนฺติ ยถาทสฺสิตวิสยวจนวเสน ‘‘เยน าเณน ตานิ าณานิ ชานาตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อฺารมฺมณตํ น ปฏิเสเธตีติ. ยถา จ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิสยานํ น นิรวเสเสน กถนํ อภิธมฺมภาชนีเย, เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยสฺสปีติ. เอวํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย สพฺพาณวิสยตฺตา ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สิยา ปริตฺตารมฺมณา สิยา มหคฺคตารมฺมณา สิยา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วุตฺตา.

ยทิปิ ‘‘สิยา อตฺถปฏิสมฺภิทา น มคฺคารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙) วจนโต อภิธมฺมภาชนีเย วุตฺตปฏิสมฺภิทาสฺเวว ปฺหปุจฺฉกนโย ปวตฺโต. น หิ มคฺโค ปจฺจยุปฺปนฺโน น โหติ, อภิธมฺมภาชนีเย จ ปฏิสมฺภิทาาณวิสยา เอว ปฏิภานปฏิสมฺภิทา วุตฺตาติ น ตสฺสา มหคฺคตารมฺมณตาติ. เอวมปิ ทฺเวปิ เอตา ปาฬิโย วิรุชฺฌนฺติ, ตาสุ พลวตราย ตฺวา อิตราย อธิปฺปาโย มคฺคิตพฺโพ. กุสลากุสลานํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนตฺตปฏิเวโธปิ กุสลากุสลภาวปฏิเวธวินิมุตฺโต นตฺถีติ นิปฺปริยายา ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา เอกนฺตธมฺมวิสยตฺตา, ตถา วิปากกิริยานํ ปจฺจยภาวปฏิเวโธปิ วิปากกิริยภาวปฏิเวธวินิมุตฺโต นตฺถีติ นิปฺปริยายา ตตฺถ อตฺถปฏิสมฺภิทา เอกนฺติกอตฺถวิสยตฺตา. กิฺจิ ปน าณํ อปฺปฏิภานภูตํ นตฺถิ เยฺยปฺปกาสนโตติ สพฺพสฺมิมฺปิ าเณ นิปฺปริยายา ปฏิภานปฏิสมฺภิทา ภวิตุํ อรหติ. นิปฺปริยายปฏิสมฺภิทาสุ ปฺหปุจฺฉกสฺส ปวตฺติยํ ทฺเวปิ ปาฬิโย น วิรุชฺฌนฺติ.

สทฺทารมฺมณตฺตา พหิทฺธารมฺมณาติ เอตฺถ ปรสฺส อภิลาปสทฺทารมฺมณตฺตาติ ภวิตพฺพํ. น หิ สทฺทารมฺมณตา พหิทฺธารมฺมณตาย การณํ สทฺทสฺส อชฺฌตฺตสฺส จ สพฺภาวาติ. อนุวตฺตมาโน จ โส เอว สทฺโทติ วิเสสนํ น กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ปฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิสมฺภิทาวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. าณวิภงฺโค

๑. เอกกมาติกาทิวณฺณนา

๗๕๑. โอกาสฏฺเน สมฺปยุตฺตา ธมฺมา อารมฺมณฺจาปิ าณสฺส วตฺถุ. ยาถาวกวตฺถุวิภาวนาติ นเหตาทิอวิตเถกปฺปการวตฺถุวิภาวนา. ยถา เอกํ นเหตุ, ตถา เอกํ อฺมฺปีติ หิ คเหตพฺพํ อวิตถสามฺยุตฺตํ าณารมฺมณํ ยาถาวกวตฺถุ. ยาถาวเกน วา อวิตถสามฺเน วตฺถุวิภาวนา ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา.

ทุกานุรูเปหีติ ทุกมาติกานุรูเปหีติ วทนฺติ. โอสานทุกสฺส ปน ทุกมาติกํ อนิสฺสาย วุตฺตตฺตา ทุกภาวานุรูเปหีติ วตฺตพฺพํ. เอวํ ติกานุรูเปหีติ เอตฺถาปิ ทฏฺพฺพํ. โอสานทุเก ปน อตฺโถติ ผลํ, อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ ตํ ชเนตีติ อตฺถชาปิกา, การณคตา ปฺา. ชาปิโต ชนิโต อตฺโถ เอติสฺสาติ ชาปิตตฺถา, การณปฺาสทิสี ผลปฺปกาสนภูตา ผลสมฺปยุตฺตา ปฺา.

๑๐. ทสกมาติกาวณฺณนา

๗๖๐. ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย. กตมา…เป… โย โข มํ, สาริปุตฺต, เอวํ ชาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๒) วจเนน จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ วุตฺตํ, ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ปฺจคติปริจฺเฉทกํ. ‘‘สํยุตฺตเก อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปน นิทานวคฺเค สตฺตสตฺตติ อาคตานิ จตุจตฺตารีสฺจ, เตสตฺตติ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค สุตมยาทีนิ อาคตานิ ทิสฺสนฺติ, น สํยุตฺตเกติ. อฺานิปีติ เอเตน อิธ เอกกาทิวเสน วุตฺตํ, อฺตฺถ จ ‘‘ปุพฺพนฺเต าณ’’นฺติอาทินา, พฺรหฺมชาลาทีสุ จ ‘‘ตยิทํ ตถาคโต ปชานาติ ‘อิมานิ ทิฏฺิฏฺานานิ เอวํ คหิตานี’ติ’’อาทินา วุตฺตํ อเนกาณปฺปเภทํ สงฺคณฺหาติ. ยาถาวปฏิเวธโต สยฺจ อกมฺปิยํ ปุคฺคลฺจ ตํสมงฺคึ เยฺเยสุ อธิพลํ กโรตีติ อาห ‘‘อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภกฏฺเน จา’’ติ.

เสฏฺฏฺานํ สพฺพฺุตํ. ปฏิชานนวเสน สพฺพฺุตํ อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, อฏฺ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา, พุทฺธา. อิทํ ปนาติ พุทฺธานํ านํ สพฺพฺุตเมว วทติ. ติฏฺมาโนวาติ อวทนฺโตปิ ติฏฺมาโนว ปฏิชานาติ นามาติ อตฺโถ. อฏฺสุ ปริสาสุ ‘‘อภิชานามหํ, สาริปุตฺต, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ…เป… ตตฺร วต มํ ภยํ วา สารชฺชํ วา โอกฺกมิสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๑) วจเนน ทสฺสิตอกมฺปิยาณยุตฺโต ทสพโลหนฺติ อภีตนาทํ นทติ. สีหนาทสุตฺเตน ขนฺธกวคฺเค อาคเตน.

‘‘เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) สุตฺตเสเสน สปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ ผลสมฺปตฺติ ปวตฺติ, ปุริมสปฺปุริสูปสฺสยาทึ อุปนิสฺสาย ปจฺฉิมสปฺปุริสูปสฺสยาทีนํ สมฺปตฺติ ปวตฺติ วา วุตฺตาติ อาทิ-สทฺเทน ตตฺถ จ จกฺก-สทฺทสฺส คหณํ เวทิตพฺพํ. ปฏิเวธนิฏฺตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ ปฏิเวโธติ ‘‘ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปฏิลทฺธสฺสปิ เทสนาาณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติปรสฺส พุชฺฌนมตฺเตน โหตีติ ‘‘อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติผลกฺขเณ ปวตฺตํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปน ยาว ปรินิพฺพานา เทสนาาณปฺปวตฺติ ตสฺเสว ปวตฺติตสฺส ธมฺมจกฺกสฺส านนฺติ เวทิตพฺพํ, ปวตฺติตจกฺกสฺส จกฺกวตฺติโน จกฺกรตนฏฺานํ วิย.

สมาทียนฺตีติ สมาทานานิ, ตานิ ปน สมาทิยิตฺวา กตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาทิยิตฺวา กตาน’’นฺติ. กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานนฺติ เอเตน สมาทาน-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวํ ทสฺเสติ มุตฺตคต-สทฺเท คต-สทฺทสฺส วิย.

อคติคามินินฺติ นิพฺพานคามินึ. วุตฺตฺหิ ‘‘นิพฺพานฺจาหํ, สาริปุตฺต, ปชานามิ นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓).

หานภาคิยธมฺมนฺติ หานภาคิยสภาวํ, กามสหคตสฺาทิธมฺมํ วา. ตํ การณนฺติ ปุพฺเพว กตาภิสงฺขาราทึ.

‘‘อิทานี’’ติ เอตสฺส ‘‘อิมินา อนุกฺกเมน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานี’’ติ อิมินา สห โยชนา กาตพฺพา. กิเลสาวรณํ ตทภาวฺจาติ กิเลสาวรณาภาวํ. กิเลสกฺขยาธิคมสฺส หิ กิเลสาวรณํ อฏฺานํ, ตทภาโว านํ. อนธิคมสฺส กิเลสาวรณํ านํ, ตทภาโว อฏฺานนฺติ. ตตฺถ ตทภาวคฺคหเณน คหิตํ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาย สมฺมาทิฏฺิยา ิตึ ตพฺพิปรีตาย านาภาวฺจ อธิคมสฺส านํ ปสฺสนฺเตน อิมินา าเณน อธิคมานธิคมานํ านาฏฺานภูเต กิเลสาวรณตทภาเว ปสฺสติ ภควาติ อิมมตฺถํ สาเธนฺโต อาห ‘‘โลกิยสมฺมาทิฏฺิิติทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิานาภาวทสฺสนโต จา’’ติ. เอตฺถ จ อธิคมฏฺานทสฺสนเมว อธิปฺเปตํ อุปริ ภพฺพปุคฺคลวเสเนว วิปากาวรณาภาวทสฺสนาทิกสฺส วกฺขมานตฺตา. อิมินา ปน าเณน สิชฺฌนโต ปสงฺเคน อิตรมฺปิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ธาตุเวมตฺตทสฺสนโตติ ราคาทีนํ อธิมตฺตตาทิวเสน ตํสหิตานํ ธาตูนํ เวมตฺตตาทสฺสนโต, ‘‘อยํ อิมิสฺสา ธาตุยา อธิมตฺตตฺตา ราคจริโต’’ติอาทินา จริยาเหตูนํ วา, ราคาทโย เอว วา ปกติภาวโต ธาตูติ ราคาทิเวมตฺตทสฺสนโตติ อตฺโถ. ปโยคํ อนาทิยิตฺวาติ สนฺตติมหามตฺตองฺคุลิมาลาทีนํ วิย กามราคพฺยาปาทาทิวเสน ปโยคํ อนาทิยิตฺวา.

(๑.) เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

๗๖๑. น เหตุเมวาติ เอตฺถ จ น เหตู เอวาติ อตฺโถ, พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสน ปน รสฺสตฺตํ -กาโร จ กโต ‘‘อทุกฺขมสุขา’’ติ เอตฺถ วิย. อิมินาปิ นเยนาติ เอตฺถ ปุริมนเยน เหตุภาวาทิปฏิกฺเขโป, ปจฺฉิมนเยน นเหตุธมฺมาทิโกฏฺาสสงฺคโหติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. จุติคฺคหเณน จุติปริจฺฉินฺนาย เอกาย ชาติยา คหณํ ทฏฺพฺพํ, ภวคฺคหเณน นวธา วุตฺตภวสฺส. ตทนฺโตคธตาย ตตฺถ ตตฺถ ปริยาปนฺนตา วุตฺตา. อุปฺปนฺนํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ ‘‘น รูปํ วิย อุปฺปนฺนา ฉวิฺาณวิฺเยฺยา’’ติ รูปโต เอเตสํ วิเสสนํ กโรติ.

๗๖๒. กปฺปโต กปฺปํ คนฺตฺวาปิ น อุปฺปชฺชตีติ น กทาจิ ตถา อุปฺปชฺชติ. น หิ ขีราทีนํ วิย เอเตสํ ยถาวุตฺตลกฺขณวิลกฺขณตา อตฺถีติ ทสฺเสติ.

๗๖๓. สโมธาเนตฺวาติ โลเก วิชฺชมานํ สพฺพํ รูปํ สโมธาเนตฺวา. เอเตน มหตฺเตปิ อวิภาวกตฺตํ ทสฺเสนฺโต สุขุมตฺตา น วิภาเวสฺสตีติ วาทปถํ ฉินฺทติ. จกฺขุปสาเท มม วตฺถุมฺหีติ อตฺโถ. วิสโยติ อิสฺสริยฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย.

๗๖๔. อพฺโพกิณฺณาติ อพฺยวหิตา, อนนฺตริตาติ อตฺโถ. ววตฺถิตานมฺปิ ปฏิปาฏินิยโม เตน ปฏิกฺขิตฺโตติ อตฺโถ. อนนฺตรตาติ อนนฺตรปจฺจยตา เอเตน ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.

๗๖๕. สมนนฺตรตาติ จ สมนนฺตรปจฺจยตา.

๗๖๖. อาภุชนโตติ อาภุคฺคกรณโต, นิวตฺตนโต อิจฺเจว อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺจ วิฺาณา อนาโภคา’’ติ อาโภคสภาวา น โหนฺตีติ อตฺโถ, ‘‘ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ นตฺถิ อาวฏฺฏนา วา’’ติอาทีสุปิ อาวฏฺฏนภาโว วาติอาทินา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ น สพฺเพ รูปาทิธมฺมา ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ ยถาธิปฺเปตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ อาห.

รูปาทีสุ อภินิปตนํ เตหิ สมาคโม เตสนฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ อาห ‘‘รูปาทีนํ อภินิปาตมตฺต’’นฺติ. กมฺมตฺเถ วา สามิวจนํ. วิฺาเณหิ อภินิปติตพฺพานิ หิ รูปาทีนีติ. อิทํ วุตฺตํ โหตีติอาทีสุ หิ อยํ อธิปฺปาโย – อารมฺมณกรเณน ปฏิวิชานิตพฺพานิ รูปาทีนิ เปตฺวา กุสลากุสลเจตนาย ตํสมฺปยุตฺตานฺจ ยถาวุตฺตานํ สหชปุพฺพงฺคมธมฺเมน ปฏิวิชานิตพฺพานํ ปฏิวิชานนํ เอเตสํ นตฺถีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทสฺสนาทิมตฺตโต ปน มุตฺตา อฺา เอเตสํ กุสลาทิปฏิวิฺตฺติ นาม นตฺถี’’ติ กิจฺจนฺตรํ ปฏิเสเธติ.

อวิปากภาเวน อฺํ อพฺยากตสามฺํ อนิวาเรนฺโต กุสลากุสลคฺคหณฺจ กโรตีติ จวนปริโยสานฺจ กิจฺจํ. ปิ-สทฺเทน สหชวนกานิ วีถิจิตฺตานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ปฺจทฺวาเร ปฏิเสธเน อยํ อธิปฺปาโย สิยา – ‘‘มนสา เจ ปทุฏฺเน…เป… ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตา ภาสนกรณกรา, ตํสทิสา จ สุขทุกฺขุปฺปาทกา พลวนฺโต ฉฏฺทฺวาริกา เอว ธมฺมคฺคหเณน คหิตาติ น เตสํ ปฺจทฺวาริกชวเนน ปฏิวิชานนํ อตฺถิ, ทุพฺพลานํ ปน ปุพฺพงฺคมปฏิวิชานนํ ตตฺถ น ปฏิสิทฺธํ ‘‘น กายกมฺมํ น วจีกมฺมํ ปฏฺเปตี’’ติ วิฺตฺติทฺวยชนกสฺเสว ปฏฺปนปฏิกฺเขเปน ทุพฺพลสฺส มโนกมฺมสฺส อนุฺาตตฺตา. ตถา กายสุจริตาทิกุสลกมฺมํ กโรมีติ, ตพฺพิปรีตํ อกุสลํ กมฺมํ กโรมีติ จ กุสลากุสลสมาทานํ ปฺจทฺวาริกชวเนน น โหติ. ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนายํ วุตฺตา ‘‘ปฺจทฺวาริกจุติ จ น ปฺจทฺวาริกจิตฺเตหิ โหติ จุติจิตฺตสฺส อตํทฺวาริกตฺตา’’ติ. ยา ปนายํ ปาฬิ ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาติ อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ, ตสฺสา รูปาทีนํ อาปาถมตฺตํ มุฺจิตฺวา อฺํ กฺจิ ธมฺมสภาวํ น ปฏิวิชานาตีติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ รูปํ ปฏิคฺคณฺหนฺตมฺปิ จกฺขุวิฺาณํ รูปนฺติ จ คณฺหาตีติ. สมฺปฏิจฺฉนสฺสปิ รูปนีลาทิอาการปฏิวิชานนํ นตฺถีติ กิฺจิ ธมฺมสฺส ปฏิวิชานนํ ปฏิกฺขิตฺตํ, ปฺจหิ ปน วิฺาเณหิ สาติสยํ ตสฺส วิชานนนฺติ ‘‘อฺตฺร อภินิปาตมตฺตา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปาฬิยํ พหิทฺธาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วุตฺตา, ตโต อฺํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทํ อิจฺฉนฺเตหิ ปฺจทฺวารชวเนน ปฏิสมฺภิทาาณสฺส สหุปฺปตฺติ ปฏิสิทฺธา. รูปารูปธมฺเมติ รูปารูปาวจรธมฺเมติ อตฺโถ.

ปฺจทฺวาริกจิตฺเตน น ปฏิพุชฺฌตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ รูปาทีนํ อาปาถคมเน นิทฺทาปฏิโพโธ โหตีติ? น, ปมํ มโนทฺวาริกชวนสฺส อุปฺปตฺติโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นิทฺทายนฺตสฺส หี’’ติอาทิ. ปโลเภตฺวา สจฺจสุปิเนน.

อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโตติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ตสฺสา เอว วเสนาติ ตสฺสา วเสน เอกวิเธน าณวตฺถุ โหตีติ จ, เวทิตพฺพนฺติ จ โยชนา กาตพฺพา.

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๒.) ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

๗๖๗. อตฺถ-สทฺโท อฺตฺร สภาวํ คเหตฺวา อธิกรเณสุ ปวตฺตมาโน อธิกรณวเสน ลิงฺคปริวตฺตึ คจฺฉตีติ อธิปฺปาเยน ชาปิตา จ สา อตฺถา จาติ ชาปิตตฺถาติ อยมตฺโถ วิภาวิโตติ ทฏฺพฺโพ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๓.) ติกนิทฺเทสวณฺณนา

๗๖๘. ปฺาปริณามิเตสูติ ปฺาย ปริปาจิเตสุ. ‘‘โยควิหิเตสูติ อิทฺจ วิสยวิเสสนมตฺตเมว, ตสฺมา ยานิ ปฺาย วิหิตานิ อเหสุํ โหนฺติ ภวิสฺสนฺติ จ, สพฺพานิ ตานิ โยควิหิตานีติ ทฏฺพฺพานิ. สิกฺขิตฺวา กาตพฺพํ สิปฺปํ, อิตรํ กมฺมํ. อยเมเตสํ วิเสโส. วฑฺฒกีกมฺมนฺติ จ อสิกฺขิตฺวาปิ กาตพฺพํ ถูลกมฺมํ ‘‘กมฺม’’นฺติ ทฏฺพฺพํ, ปฺา เอว วา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘กมฺมํ สิปฺป’’นฺติ จ เวทิตพฺพา. นาคมณฺฑลํ นาม มณฺฑลํ กตฺวา สปฺเป วิชฺชาย ปกฺโกสิตฺวา พลึ ทตฺวา วิสาปนยนํ. ปริตฺตํ รกฺขา, เยน ‘‘ผู’’ติ มุขวาตํ ทตฺวา วิสํ อปนยนฺติ, โส อุณฺณนาภิอาทิมนฺโต ผุธมนกมนฺโต. ‘‘อ อา’’ติอาทิกา มาติกา ‘‘ก กา’’ติอาทิโก ตปฺปเภโท จ เลขา.

กุสลํ ธมฺมํ สกํ, อิตรํ โนสกํ. จตุนฺนํ สจฺจานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานํ ตปฺปฏิเวธปจฺจยภาเวน อนุโลมนํ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺเพ ‘‘โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสู’’ติอาทินา ปฺา วุตฺตา, ปุน ตสฺสา เววจนวเสน ‘‘อนุโลมิกํ ขนฺติ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนุ…เป… ปฺาเววจนานี’’ติ อาห. เอตฺถ จ เอวรูปินฺติ ยถาวุตฺตกมฺมายตนาทิวิสยํ กมฺมสฺสกตสจฺจานุโลมิกสภาวํ อนิจฺจาทิปวตฺติอาการฺจาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตา จ ภูมิสภาวปวตฺติอาการนิทฺเทสา ขนฺติอาทีหิ โยเชตพฺพา. ยสฺสา ปฺาย ธมฺมา นิชฺฌานปชานนกิจฺจสงฺขาตํ โอโลกนํ ขมนฺติ อวิปรีตสภาวตฺตา, สา ปฺา ธมฺมานํ นิชฺฌานกฺขมนํ เอติสฺสา อตฺถีติ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตีติ อตฺโถ.

๗๖๙. อสํวรํ มุฺจตีติ สมาทานสมฺปตฺตวิรติสมฺปยุตฺตเจตนา ‘‘สีลํ ปูเรนฺตสฺส มุฺจเจตนา’’ติ วุตฺตา. ปุพฺพาปรปฺาย จ ทานสีลมยตาวจนโต มุฺจอปรเจตนาวเสน ‘‘อารพฺภา’’ติ, ปุพฺพเจตนาวเสน ‘‘อธิกิจฺจา’’ติ จ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ‘‘อธิกิจฺจา’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ.

๗๗๐. ปฺจสีลทสสีลานิ วิฺาณสฺส ชาติยา จ ปจฺจยภูเตสุ สงฺขารภเวสุ อนฺโตคธานีติ ‘‘อุปฺปาทา วา’’ติอาทิกาย ธมฺมฏฺิติปาฬิยา สงฺคหิตานิ. ภวนิพฺพตฺตกสีลสฺส ปฺาปนํ สติปิ สวเน น ตถาคตเทสนายตฺตนฺติ ภิกฺขุอาทีนมฺปิ ตํ วุตฺตํ.

อธิปฺาย ปฺาติ อธิปฺาย อนฺโตคธา ปฺา. อถ วา อธิปฺานิพฺพตฺเตสุ, ตทธิฏฺาเนสุ วา ธมฺเมสุ อธิปฺา-สทฺโท ทฏฺพฺโพ, ตตฺถ ปฺา อธิปฺาย ปฺา.

๗๗๑. อปายุปฺปาทนกุสลตา อปายโกสลฺลํ สิยาติ มฺมาโน ปุจฺฉติ ‘‘อปายโกสลฺลํ กถํ ปฺา นาม ชาตา’’ติ. ตํ ปน ปรสฺส อธิปฺปายํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ปฺวาเยว หี’’ติอาทิมาห. ตตฺรุปายาติ ตตฺร ตตฺร อุปายภูตา. าเน อุปฺปตฺติ เอตสฺสาติ านุปฺปตฺติยํ. กึ ตํ? การณชานนํ, ภยาทีนํ อุปฺปตฺติกฺขเณ ตสฺมึเยว าเน ลหุอุปฺปชฺชนกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๔.) จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๗๙๓. ปริตสฺสตีติ ‘‘อปิ นาม เม ตณฺฑุลาทีนิ สิยุ’’นฺติ น ปตฺเถติ, ตทภาเวน วา น อุตฺตสติ.

๗๙๖. อปรปฺปจฺจเยติ ปเรน นปตฺติยายิตพฺเพ. ธมฺเม าณนฺติ สจฺจวิสยํ าณํ. อริยสจฺเจสุ หิ ธมฺม-สทฺโท เตสํ อวิปรีตสภาวตฺตาติ. สงฺขตปวโร วา อริยมคฺโค ตสฺส จ ผลํ ธมฺโม, ตตฺถ ปฺา ตํสหคตา ธมฺเม าณํ. น อฺาณุปฺปาทนํ นยนยนํ, าณสฺเสว ปน ปวตฺติวิเสโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปจฺจเวกฺขณาณสฺส กิจฺจ’’นฺติ. เอตฺถ จ อิมินา ธมฺเมนาติ มคฺคาเณนาติ วุตฺตํ, ทุวิธมฺปิ ปน มคฺคผลาณํ ปจฺจเวกฺขณาย จ มูลํ, การณฺจ นยนยนสฺสาติ ทุวิเธนปิ เตน ธมฺเมนาติ น น ยุชฺชติ, ตถา จตุสจฺจธมฺมสฺส าตตฺตา, มคฺคผลสงฺขาตสฺส จ ธมฺมสฺส สจฺจปฏิเวธสมฺปโยคํ คตตฺตา นยนํ โหตีติ เตน อิมินา ธมฺเมน าณวิสยภาเวน, าณสมฺปโยเคน วา าเตนาติ จ อตฺโถ น น ยุชฺชติ.

ยทิปิ สพฺเพน สพฺพํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ อภิชานนฺติ, ตถาปิ ปจฺจุปฺปนฺเน สสนฺตติปริยาปนฺเน สวิเสเส อภินิเวโส โหตีติ อาห ‘‘น ตฺเว อิม’’นฺติ. ทิฏฺเน อทิฏฺเน นยโต นยนาณํ, อทิฏฺสฺส ทิฏฺตาย การณภูตตฺตา การณาณํ, อนุรูปตฺถวาจโก วา การณ-สทฺโทติ ธมฺเม าณสฺส อนุรูปาณนฺติ อตฺโถ.

สมฺมุติมฺหิ าณนฺติ ธมฺเม าณาทีนํ วิย สาติสยสฺส ปฏิเวธกิจฺจสฺส อภาวา วิสโยภาสนมตฺตชานนสามฺเน าณนฺติ สมฺมเตสุ อนฺโตคธนฺติ อตฺโถ. สมฺมุติวเสน วา ปวตฺตํ สมฺมุติมฺหิ าณํ, อวเสสํ ปน อิตราณตฺตยวิสภาคํ าณํ ตพฺพิสภาคสามฺเน สมฺมุติาณมฺหิ ปวิฏฺตฺตา สมฺมุติาณํ นาม โหตีติ.

๗๙๗. กิเลสมูลเก จาติ นีวรณมูลเก จ กามภวธมฺเม.

๗๙๘. สา หิสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ โย ‘‘กาเมสุ วีตราโค โหตี’’ติ เอวํ วุตฺโต, อสฺส ปมชฺฌานสมงฺคิสฺสาติ อตฺโถ. สฺเววาติ เอเตน กาเมสุ วีตราคภาวนาวตฺถสฺเสว ปมชฺฌานสมงฺคิสฺส คหเณ ปวตฺเต ตสฺส ตโต ปรํ อวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเมสุ วีตราโค สมาโน’’ติ วุตฺตํ. จตุตฺถมคฺคปฺา ฉฏฺาภิฺาภาวปฺปตฺติยา ตํ ปฏิวิชฺฌติ นาม, อิตรา ตทุปนิสฺสยตฺตา. ยถานุรูปํ วา อาสวกฺขยภาวโต, ผเล วา อาสวกฺขเย สติ ยถานุรูปํ ตํนิพฺพตฺตนโต จตูสุปิ มคฺเคสุ ปฺา ฉฏฺํ อภิฺํ ปฏิวิชฺฌตีติ ทฏฺพฺพา.

๗๙๙. กามสหคตาติ วตฺถุกามารมฺมณา. โจเทนฺตีติ กามาภิมุขํ ตนฺนินฺนํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ตทนุธมฺมตาติ ตทนุธมฺมา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. ตา-สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตทนุรูปสภาวา’’ติ. นิกนฺตึ, นิกนฺติสหคตจิตฺตุปฺปาทํ วา ‘‘มิจฺฉาสตี’’ติ วทติ. ‘‘อโห วต เม อวิตกฺกํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ อวิตกฺการมฺมณา อวิตกฺกสหคตา.

๘๐๑. อธิคมภาเวน อภิมุขํ ชานนฺตสฺส อภิชานนฺตสฺส, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน ชานนฺตสฺส, อนารมฺมณภูตฺจ ตํ านํ ปากฏํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

๘๐๒. วสิตาปฺจกรหิตํ ฌานํ อปฺปคุณํ. เอตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา จตฺตาริ อารมฺมณานีติ ปฺาย ปฏิปทารมฺมณุทฺเทเสน ปฺา เอว อุทฺทิฏฺาติ สา เอว วิภตฺตาติ.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๕.) ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๘๐๔. ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธีติ สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ. ปีติผรณตาทิวจเนน หิ ตเมว วิภชติ, ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) นเยน ปีติยา สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. ปีติผรณตาสุขผรณตาหิ อารมฺมเณ ตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปาทนโต ‘‘ปาทา วิยา’’ติ ตา วุตฺตา.

ทุติยปฺจเก ‘‘ปฺจาณิโก’’ติ สมาธิมุเขน ปฺจาณาเนว อุทฺทิฏฺานิ นิทฺทิฏฺานิ จาติ ทฏฺพฺพานิ. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ. อฺเ กิเลสา วาเรตพฺพา, อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคเนว อธิคตตฺตา จ ปิตตฺตา จ, อปริหานิวเสน ปิตตฺตา วา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตาติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนาติ เอเตน ปริจฺฉินฺทนสติยา สโตติ.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๖.) ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๘๐๕. วิสุทฺธิภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทูร…เป… รมฺมณายา’’ติ อาห. โสตธาตุวิสุทฺธีติ จ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา วุตฺตาติ ตตฺถ าณํ โสตธาตุวิสุทฺธิยา าณํ. ‘‘เจโตปริยาณ’’นฺติ อิทเมว อตฺถวเสน ‘‘ปรจิตฺเต าณ’’นฺติ อุทฺธฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. จุตูปปาตาณสฺส ทิพฺพจกฺขุาเณกเทสตฺตา ‘‘วณฺณธาตุอารมฺมณา’’ติ วุตฺตํ. มุทฺธปฺปตฺเตน จุตูปปาตาณสงฺขาเตน ทิพฺพจกฺขุาเณน สพฺพํ ทิพฺพจกฺขุาณนฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๗.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา

๘๐๖. ตเทว าณนฺติ ฉพฺพิธมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณํ วิปสฺสนารมฺมณภาเวน สห คเหตฺวา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ธมฺมฏฺิติาเณนาติ ฉปิ าณานิ สงฺขิปิตฺวา วุตฺเตน าเณน. ขยธมฺมนฺติอาทินา หิ ปกาเรน ปวตฺตาณสฺส ทสฺสนํ, าณวิปสฺสนาทสฺสนโต วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนาทสฺสนมตฺตเมวาติ น ตํ องฺคนฺติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ ปน สพฺพตฺถ าณวจเนน องฺคานํ วุตฺตตฺตา นิโรธธมฺมนฺติ าณนฺติ อิติ-สทฺเทน ปกาเสตฺวา วุตฺตํ วิปสฺสนาาณํ สตฺตมํ าณนฺติ อยมตฺโถ ทิสฺสติ. น หิ ยมฺปิ ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ โหติ ตําณคฺคหเณ เอตสฺมึ าณภาวทสฺสนสฺส อนธิปฺเปตตฺตา, ‘‘ขยธมฺมํ…เป… นิโรธธมฺม’’นฺติ เอเตสํ สมฺพนฺธาภาวปฺปสงฺคโต จาติ.

สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๘.) อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๘๐๘. วิหาริตพฺพฏฺเนาติ ปจฺจนีกธมฺเม, ทุกฺขํ วา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตตพฺพฏฺเน.

อฏฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

(๑๐.) ทสกนิทฺเทโส

ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา

๘๐๙. อวิชฺชมานํ านํ อฏฺานํ, นตฺถิ านนฺติ วา อฏฺานํ. เอส ‘‘อนวกาโส’’ติ เอตฺถาปิ นโย. ตทตฺถนิคมนมตฺตเมว หิ ‘‘เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วจนนฺติ. อสุเข สุขนฺติ ทิฏฺิวิปลฺลาโสว อิธ สุขโต อุปคมนสฺส านนฺติ อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกนฺต…เป… อตฺตทิฏฺิวเสนา’’ติ ปธานทิฏฺิมาห. เภทานุรูปสฺส สาวนํ อนุสฺสาวนํ, เภทานุรูเปน วา วจเนน วิฺาปนํ.

ลิงฺเค ปริวตฺเต จ โส เอว เอกกมฺมนิพฺพตฺติโต ภวงฺคปฺปพนฺโธ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ จ, นาฺโติ อาห ‘‘อปิ ปริวตฺตลิงฺค’’นฺติ. อยํ ปฺโหติ าปนิจฺฉานิพฺพตฺตา กถา.

สงฺคามจตุกฺกํ สปตฺตวเสน โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺถ จ ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตํ อปฺปมาณํ, วธกจิตฺตํ ปน ตทารมฺมณฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ อานนฺตริยานานนฺตริยภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ. กสฺมา? ยถา วธกจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉทนวเสน อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ, น เอวํ จาคเจตนา. สา หิ จชิตพฺพํ อารมฺมณํ กตฺวา จชนมตฺตเมว โหติ, อฺสกกรณฺจ ตสฺส จชนํ, ตสฺมา ยสฺส ตํ สกํ กตํ, ตสฺเสว ทินฺนํ โหตีติ.

สณฺ…เป… กปฺปวินาเสเยว มุจฺจตีติ อิทํ กปฺปฏฺกถาย น สเมติ. ตตฺถ หิ อฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๖๕๔-๖๕๗) วุตฺตํ ‘‘อาปายิโกติ อิทํ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. กปฺปวินาเสเยวาติ ปน อายุกปฺปวินาเสเยวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. เอตฺถ จ สณฺหนฺเตติ อิทํ สฺเว วินสฺสิสฺสตีติ วิย อภูตปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. เอกทิวสเมว ปจฺจติ ตโต ปรํ กปฺปาภาเวน อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา.

ปกตตฺโตติ อนุกฺขิตฺโต. สมานสํวาสโกติ อปาราชิโก.

กึ ปน ตนฺติ โย โส ‘‘นิยโต’’ติ วุตฺโต, ตํ กึ นิยเมตีติ อตฺโถ. ตสฺเสว ปน ยถาปุจฺฉิตสฺส นิยตสฺส มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมานํ วิย สภาวโต วิชฺชมานตํ ยถาปุจฺฉิตฺจ นิยามกเหตุํ ปฏิเสเธตฺวา เยน ‘‘นิยโต’’ติ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิโก’’ติ จ วุจฺจติ, ตํ ยถาธิปฺเปตการณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน หี’’ติอาทิมาห. ชาตสฺส กุมารสฺส วิย อริยาย ชาติยา ชาตสฺส นามมตฺตเมตํ นิยตสตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ, นิยตานิยตเภทํ นามนฺติ อตฺโถ. ยทิ ปุพฺพเหตุ นิยามโก, โสตาปนฺโน จ นิยโตติ โสตาปตฺติมคฺคโต อุทฺธํ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสยภาวโต ปุพฺพเหตุกิจฺจํ, ตโต ปุพฺเพ ปน ปุพฺพเหตุกิจฺจํ นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยาภาโว อาปชฺชติ. ยทิ หิ ตสฺสปิ ปุพฺพเหตุ อุปนิสฺสโย สิยา, โส จ นิยามโกติ โสตาปตฺติมคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ เอว นิยโต สิยา, ตฺจ อนิฏฺํ, ตสฺมาสฺส ปุพฺพเหตุนา อเหตุกตา อาปนฺนาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺตึ ปาปุณาตี’’ติ.

ปฏิลทฺธมคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, เตเนว สตฺตกฺขตฺตุปรมาทินิยเม สติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตนกสฺส ทุกฺขสฺส มูลภูตา กิเลสา เตเนว ขีณาติ อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยทิ อุปริ ตโย มคฺคา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิกํ นิยเมนฺติ, ตโต จ อฺโ โสตาปนฺโน นตฺถีติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส อกิจฺจกตา นิปฺปโยชนตา อาปชฺชตีติ อตฺโถ. อถ สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหานํ ทสฺสนกิจฺจํ, เตสํ ปหาเนน สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิตาย ภวิตพฺพํ. สา จุปริมคฺเคหิ เอว โหตีติ สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺติโต เตน วินา วุฏฺาเน สกฺกายทิฏฺาทิปฺปหาเนน จ เตน วินา ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปมมคฺเคน จ อนุปฺปชฺชิตฺวาว กิเลสา เขเปตพฺพา โหนฺตี’’ติ. น อฺโ โกจิ นิยเมตีติ นามกรณนิมิตฺตโต วิปสฺสนาโต อฺโ โกจิ นิยามโก นาม นตฺถีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาว นิยเมตีติ จ นามกรณนิมิตฺตตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อิติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตนามมตฺตเมว ต’’นฺติ.

น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทึ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺาหํ, ภนฺเต, โนติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๙) อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินา จ พุทฺธกฺเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.

‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา วุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ มาติกา, ตาย อนฺตรหิตาย นิทานุทฺเทสสงฺขาเต ปาติโมกฺเข ปพฺพชฺชูปสมฺปทากมฺเมสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปาติโมกฺเข วา อนฺโตคธา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ตทุภยาภาเว ปาติโมกฺขาภาวโต, ตสฺมา ปาติโมกฺเข, ตาสุ จ สาสนํ ติฏฺตีติ วุตฺตํ. โอสกฺกิตํ นามาติ ปจฺฉิมปฏิเวธสีลเภททฺวยํ เอกโต กตฺวา ตโต ปรํ วินฏฺํ นาม โหตีติ อตฺโถ.

ตาติ รสฺมิโย. การุฺนฺติ ปริเทวนการุฺํ.

อนจฺฉริยตฺตาติ ทฺวีสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ อจฺฉริยตฺตาภาวโทสโตติ อตฺโถ. วิวาทภาวโตติ วิวาทาภาวตฺถํ ทฺเว น อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

เอกํ พุทฺธํ ธาเรตีติ เอกพุทฺธธารณี. เอเตน เอวํสภาวา เอเต พุทฺธคุณา, เยน ทุติยพุทฺธคุเณ ธาเรตุํ อสมตฺถา อยํ โลกธาตูติ ทสฺเสติ. ปจฺจยวิเสสนิปฺผนฺนานฺหิ ธมฺมานํ สภาววิเสโส น สกฺกา ธาเรตุนฺติ. สมํ อุทฺธํ ปชฺชตีติ สมุปาทิกา, อุทกสฺโสปริ สมํ คามินีติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปีติ ทฺเวปิ, ทฺวินฺนมฺปิ วา สรีรภารํ. ฉาเทนฺตนฺติ โรจยมานํ. สกึ ภุตฺโตวาติ เอกมฺปิ อาโลปํ อชฺโฌหริตฺวาว มเรยฺยาติ อตฺโถ.

อติธมฺมภาเรนาติ ธมฺเมน นาม ปถวี ติฏฺเยฺย, สา กึ เตเนว จลตีติ อธิปฺปาโย. ปุน เถโร ‘‘รตนํ นาม โลเก กุฏุมฺพํ สนฺธาเรนฺตํ อภิมตฺจ โลเกน อตฺตโน ครุสภาวตาย สกฏภงฺคสฺส การณํ อติภารภูตํ ทิฏฺํ. เอวํ ธมฺโม จ หิตสุขวิเสเสหิ ตํสมงฺคินํ ธาเรนฺโต อภิมโต จ วิฺูหิ คมฺภีราปฺปเมยฺยภาเวน ครุสภาวตฺตา อติภารภูโต ปถวีจลนสฺส การณํ โหตี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา’’ติอาทิมาห. เอกสฺสาติ เอกสฺมา, เอกสฺส วา สกฏสฺส รตนํ, ตสฺมา สกฏโต คเหตฺวาติ อตฺโถ. โอสาริตนฺติ ปเวสิตํ อาหฏํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

สภาวปกติกาติ อกิตฺติมปกติกาติ อตฺโถ. การณมหนฺตตฺตาติ มหนฺเตหิ ปารมิตาการเณหิ พุทฺธคุณานํ นิพฺพตฺติโตติ วุตฺตํ โหติ. ปถวีอาทโย มหนฺตา อตฺตโน อตฺตโน วิสเย เอเกกาว, เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ มหนฺโต อตฺตโน วิสเย เอโก เอว. โก จ ตสฺส วิสโย? ยาวตกํ เยฺยํ, เอวํ อากาโส วิย อนนฺตวิสโย ภควา เอโก เอว โหตีติ วทนฺโต โลกธาตฺวนฺตเรสุปิ ทุติยสฺส อภาวํ ทสฺเสติ.

ปุพฺพภาเค อายูหนวเสน อายูหนสมงฺคิตา สนฺนิฏฺานเจตนาวเสน เจตนาสมงฺคิตา จ เวทิตพฺพา, สนฺตติขณวเสน วา. วิปาการหนฺติ ทุติยภวาทีสุ วิปจฺจนปกติตํ สนฺธาย วทติ. จลตีติ ปริวตฺตติ. สุนเขหิ วชนสีโล สุนขวาชิโก.

ปมพลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยพลนิทฺเทสวณฺณนา

๘๑๐. คติโต อฺา คติสมฺปตฺติ นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปนฺนา คตี’’ติ อาห. มหาสุทสฺสนาทิสุราชกาโล ปมกปฺปิกาทิสุมนุสฺสกาโล จ กาลสมฺปตฺติ.

เอกนฺตํ กุสลสฺเสว โอกาโสติ อิทํ ยทิปิ โกจิ กายสุจริตาทิปโยคสมฺปตฺติยํ ิตํ พาเธยฺย, ตํ ปน พาธนํ พาธกสฺเสว อิสฺสาทินิมิตฺเตน วิปรีตคฺคาเหน ชาตํ. สา ปโยคสมฺปตฺติ สภาวโต สุขวิปากสฺเสว ปจฺจโย, น ทุกฺขวิปากสฺสาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. มกฺกโฏ ภตฺตปุฏํ พนฺธฏฺาเน มุฺจิตฺวา ภุฺชิตุํ น ชานาติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ภินฺทิตฺวา วินาเสติ, เอวํ อนุปายฺูปิ โภเค. สุสาเน ฉฑฺเฑตฺวาติอาทินา ฆาเตตฺวา ฉฑฺฑิตสฺส วุฏฺานาภาโว วิย อปายโต วุฏฺานาภาโวติ ทสฺเสติ.

‘‘ปจฺจรี’’ติปิ อุฬุมฺปสฺส นามํ, เตน เอตฺถ กตา ‘‘มหาปจฺจรี’’ติ วุจฺจติ. อุทเก มรณํ ถเล มรณฺจ เอกเมวาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ สกฺเกน ‘‘สมุทฺทารกฺขํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ วุตฺตํ, ชีวิตสฺส ลหุปริวตฺติตํ ปกาเสนฺเตหิ เถเรหิ เอวํ วุตฺตํ, ลหุปริวตฺติตาย ชีวิตเหตุ น คมิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อถ วา อุทเกติ นาคทีปํ สนฺธาย วุตฺตํ, ถเลติ ชมฺพุทีปํ.

เถโร น เทตีติ กถมหํ เอเตน าโต, เกนจิ กิฺจิ อาจิกฺขิตํ สิยาติ สฺาย น อทาสิ. เตเนว ‘‘มยมฺปิ น ชานามา’’ติ วุตฺตํ. อปรสฺสาติ อปรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตํ อาทาย…เป… เถรสฺส หตฺเถ เปสีติ โยชนา. อนายตเนติ นิกฺการเณ, อยุตฺเต วา นสฺสนฏฺาเน. ตุวํ อตฺตานํ รกฺเขยฺยาสิ, มยํ ปน มหลฺลกตฺตา กึ รกฺขิตฺวา กริสฺสาม, มหลฺลกตฺตา เอว จ รกฺขิตุํ น สกฺขิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. อนาคามิตฺตา วา เถโร อตฺตนา วตฺตพฺพํ ชานิตฺวา โอวทติ.

สมฺมาปโยคสฺส คตมคฺโคติ สมฺมาปโยเคน นิปฺผาทิตตฺตา ตสฺส สฺชานนการณนฺติ อตฺโถ.

ภูตมตฺถํ กตฺวา อภูโตปมํ กถยิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ ภณฺฑาคาริกาทินิยุตฺตา มนุสฺสา มหนฺ