📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ปฺจปกรณ-อฏฺกถา

ธาตุกถา-อฏฺกถา

อฏฺารสหิ เภเทหิ, วิภงฺคํ มารภฺชโน;

เทสยิตฺวา มหาวีโร, ยํ ตสฺเสว อนนฺตรํ.

อเทสยิ ธาตุกถํ, ธาตุเภทปฺปกาสโน;

ตสฺสตฺถํ ทีปยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.

๑. มาติกาวณฺณนา

๑. นยมาติกาวณฺณนา

. สงฺคโห อสงฺคโหติอาทีนฺหิ วเสน อิทํ ปกรณํ จุทฺทสวิเธน วิภตฺตนฺติ วุตฺตํ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทฺเทสนิทฺเทสโต ทฺวิธา ิตํ. ตตฺถ มาติกา อุทฺเทโส. สา ปฺจวิธา – นยมาติกา, อพฺภนฺตรมาติกา, นยมุขมาติกา, ลกฺขณมาติกา, พาหิรมาติกาติ. ตตฺถ สงฺคโห อสงฺคโห…เป… วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิตนฺติ – อยํ จุทฺทสหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา นยมาติกา นาม. อยฺหิ อิมินา สงฺคหาทิเกน นเยน ธาตุกถา ธมฺมา วิภตฺตาติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมาติกาติ วุจฺจติ. เอเตสํ ปทานํ มูลภูตตฺตา มูลมาติกาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๒. อพฺภนฺตรมาติกาวณฺณนา

. ปฺจกฺขนฺธา …เป… มนสิกาโรติ อยํ ปฺจวีสาธิเกน ปทสเตน นิกฺขิตฺตา อพฺภนฺตรมาติกา นาม. อยฺหิ ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกา’’ติ เอวํ อวตฺวา สงฺคหาทินา นเยน วิภชิตพฺเพ ขนฺธาทิธมฺเม สรูปโต ทสฺเสตฺวา ธาตุกถาย อพฺภนฺตเรเยว ปิตตฺตา อพฺภนฺตรมาติกาติ วุจฺจติ. ขนฺธาทิปทานํ ธมฺมสงฺคณีมาติกาย อสงฺคหิตตฺตา ปกิณฺณกมาติกาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๓. นยมุขมาติกาวณฺณนา

. ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห; จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโคติ อยํ จตูหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา นยมุขมาติกา นาม. อยฺหิ สพฺเพสุปิ ปฺจกฺขนฺธาทีสุ เจว กุสลตฺติกาทีสุ จ มาติกาธมฺเมสุ, ตีหิ ขนฺธายตนธาตุปเทเหว สงฺคโห จ อสงฺคโห จ โยเชตพฺโพ. ตถา จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ สมฺปโยโค จ วิปฺปโยโค จ. เอตานิ อิเมสํ สงฺคหาสงฺคหาทีนํ นยานํ มุขานีติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมุขมาติกาติ วุจฺจติ.

๔. ลกฺขณมาติกาวณฺณนา

. สภาโค, วิสภาโคติ อยํ ทฺวีหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา ลกฺขณมาติกา นาม. อยฺหิ สภาคลกฺขเณหิ ธมฺเมหิ สงฺคหนโย, วิสภาคลกฺขเณหิ อสงฺคหนโย, ตถา สมฺปโยควิปฺปโยคนโย โยเชตพฺโพติ สภาควิสภาคลกฺขณวเสน สงฺคหาทิลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา ลกฺขณมาติกาติ วุจฺจติ.

๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา

. สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกาติ อยํ ฉสฏฺิ ติกปทานิ, ทฺเว จ ทุกปทสตานิ สงฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตา พาหิรมาติกา นาม. อยฺหิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา…เป… มนสิกาโร’’ติ เอวํ ธาตุกถาย อพฺภนฺตเร อวตฺวา ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี’’ติ เอวํ ธาตุกถาย มาติกโต พหิ ปิตตฺตา พาหิรมาติกาติ วุจฺจติ.

เอวํ มาติกาย ปฺจธา ิตภาวํ วิทิตฺวา อิทานิ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีสุ สงฺคโห ตาว ชาติสฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ – ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ พฺราหฺมณา, สพฺเพ เวสฺสา, สพฺเพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ ชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพปิ ชาติยา เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ มาคธกา, สพฺเพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม; ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ สฺชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกฏฺาเน ชาตา สํวฑฺฒา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพปิ สฺชาติาเนน นิวุตฺโถกาเสน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ อสฺสาโรหา, สพฺเพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ กิริยาสงฺคโห นาม. สพฺเพว เหเต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหํ คตา. ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตี’’ติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ – ‘จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ คณนสงฺคโห นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. ตปฺปฏิปกฺเขน อสงฺคโห เวทิตพฺโพ. เตสํ วิกปฺปโต สงฺคหิเตน อสงฺคหิตาทีนิ. เอกุปฺปาเทกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาวเสน สมฺปโยโค, ตปฺปฏิปกฺขโต วิปฺปโยโค. เตสํ วิกปฺปโต สมฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตาทีนิ. ตทุภยสํสคฺควิกปฺปโต สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตนฺติอาทีนิ. ปฺจกฺขนฺธาติอาทีนิ ปน ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ผสฺสาทโย ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณโต วุตฺตาติ.

มาติกาวณฺณนา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. ปมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา

๑. ขนฺธปทวณฺณนา

. อิทานิ ปฺจกฺขนฺธาทิวเสน นิกฺขิตฺตมาติกํ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีหิ นยมาติกาปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหีติอาทินา นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘สงฺคโห อสงฺคโหติอาทิกาย นยมาติกาย ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติ นยมุขมาติกา ปิตา, ตสฺมา รูปกฺขนฺธาทีนํ สงฺคหํ ทสฺเสตุํ กติหิ ขนฺเธหิ กติหายตเนหิ กติหิ ธาตูหีติ ตีณิ ขนฺธายตนธาตุปทาเนว อุทฺธฏานิ. ‘จตฺตาริ สจฺจานี’ติอาทีสุ เอกมฺปิ น ปรามฏฺํ. ยสฺมา จ ‘‘สภาโค วิสภาโค’’ติ เอวํ ลกฺขณมาติกา ปิตา, ตสฺมา อิมสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน รูปกฺขนฺโธ เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ. สภาคา หิ ตสฺส เอเต ขนฺธาทโยติ. ตตฺถ เอเกน ขนฺเธนาติ รูปกฺขนฺเธเนว. ยฺหิ กิฺจิ รูปํ รูปกฺขนฺธสภาคตฺตา รูปกฺขนฺโธตฺเวว สงฺคหํ คจฺฉตีติ รูปกฺขนฺเธเนว คณิตํ, ตํ รูปกฺขนฺเธเนว ปริจฺฉินฺนํ. เอกาทสหายตเนหีติ มนายตนวชฺเชหิ. สพฺโพปิ หิ รูปกฺขนฺโธ ทสายตนานิ ธมฺมายตเนกเทโส จ โหติ, ตสฺมา เอกาทสหายตเนหิ คณิโต, ปริจฺฉินฺโน. เอกาทสหิ ธาตูหีติ สตฺตวิฺาณธาตุวชฺชาหิ เอกาทสหิ เอตาสุ หิ อปริยาปนฺนํ รูปํ นาม นตฺถิ.

อสงฺคหนยนิทฺเทเส กติหิ อสงฺคหิโตติ สงฺเขเปเนว ปุจฺฉา กตา. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส ยสฺมา รูปกฺขนฺธสฺส วิสภาคา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา, เอกํ มนายตนํ, สตฺต วิฺาณธาตุโย; ตสฺมา จตูหิ ขนฺเธหีติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน ขนฺธนิทฺเทเส – ‘‘รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหี’’ติอาทิมฺหิ ตาว เอกมูลเก สงฺคหนเย สรูเปเนว ทสฺสิตา ปฺจ ปุจฺฉา, ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ. อสงฺคหนเย สงฺเขเปน ทสฺสิตา ปฺจ ปุจฺฉา, ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ. อิมินา อุปาเยน ทุกมูลกาทีสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิ. รูปกฺขนฺธมูลกาเยว เจตฺถ ทุกติกจตุกฺกา ทสฺสิตา. ปฺจเก ปน ‘‘รูปกฺขนฺโธ จ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ จา’’ติ เอวํ เภทโต จ, ‘‘ปฺจกฺขนฺธา กติหิ ขนฺเธหี’’ติ เอวํ อเภทโต จาติ ทฺวิธา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ กตานิ. เอวํ ปาฬินโย เวทิตพฺโพติ.

๒. อายตนปทาทิวณฺณนา

๒๒. อายตนปทนิทฺเทสาทีสุ อายตนปทนิทฺเทเส ตาว จกฺขายตนํ เอเกน ขนฺเธนาติ เอเกน รูปกฺขนฺเธเนว, เอเกน จกฺขายตเนเนว เอกาย จกฺขุธาตุยาว สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. โสตายตนาทีสุปิ อิมินาว นเยน สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา อสงฺขตํ ธมฺมายตนํ นาม นิพฺพานํ, ตฺจ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ; ตสฺมา ‘ขนฺธโต เปตฺวา’ติ วุตฺตํ. จตูหิ ขนฺเธหีติ รูปเวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ. นิพฺพานวชฺชฺหิ ธมฺมายตนํ เอเตหิ สงฺคหิตํ. วิฺาณกฺขนฺเธน ปน เปตฺวา ธมฺมายตนธมฺมธาตุโย เสสายตนธาตูหิ จ ตํ น สงฺคยฺหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเกน ขนฺเธน, เอกาทสหายตเนหิ, สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิต’’นฺติ. ยถา จ เต เหฏฺา รูปกฺขนฺธมูลกา, เอวมิธาปิ จกฺขายตนมูลกาว นยา เวทิตพฺพา. ทุกมตฺตเมว ปน ปาฬิยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ทฺวาทสายตนานี’’ติ อเภทโตว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํ. ธาตุนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.

๔๐. สจฺจนิทฺเทเส – สพฺเพปิ ทุกติกจตุกฺกา ปาฬิยํ ทสฺสิตา. ยสฺมา จ ทุกติเกสุ สมุทยสจฺจสทิสเมว มคฺคสจฺเจปิ วิสฺสชฺชนํ, ตสฺมา ตํ สมุทยานนฺตรํ วุตฺตํ.

๕๐. อินฺทฺริยนิทฺเทเส – ชีวิตินฺทฺริยํ ทฺวีหิ ขนฺเธหีติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ รูปกฺขนฺเธน, อรูปชีวิตินฺทฺริยํ สงฺขารกฺขนฺเธน สงฺคหิตํ. เสสํ วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. ปาฬิววตฺถานํ ปเนตฺถ อายตนธาตุนิทฺเทสสทิสเมว.

๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนา

๖๑. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทเส – ‘‘อวิชฺชา กติหิ ขนฺเธหี’’ติ ปุจฺฉํ อนารภิตฺวา อวิชฺชา เอเกน ขนฺเธนาติ เอวํ วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ตตฺถ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเต จ สพฺพมฺปิ วิปากวิฺาณํ. เตเนวาห – ‘‘สตฺตหิ ธาตูหิ สงฺคหิต’’นฺติ. นามรูปมฺปิ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสเนว เวทิตพฺพํ. เตเนเวตฺถ สทฺทายตนมฺปิ สงฺคเหตฺวา เอกาทสหายตเนหิ สงฺคโห ทสฺสิโต. ผสฺสาทีสุ ขนฺธเภโท เวทิตพฺโพ. อฺเเนว หิ เอเกน ขนฺเธน ผสฺโส สงฺคหิโต, อฺเน เวทนา, ตณฺหาอุปาทานกมฺมภวา ปน สงฺขารกฺขนฺเธเนว สงฺคหิตา. ภวปทฺเจตฺถ กมฺมภวาทีนํ วเสน เอกาทสธา วิภตฺตํ. ตตฺถ กมฺมภโว ผสฺสาทีหิ สทิสวิสชฺชนตฺตา เตหิ สทฺธึ เอกโต ทสฺสิโต. อุปปตฺติภวกามภวสฺาภวปฺจโวการภวา อฺมฺสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต ทสฺสิตา. ยสฺมา เจเต อุปาทินฺนกธมฺมาว ตสฺมา ‘‘เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหี’’ติ วุตฺตํ. สทฺทายตนฺหิ อนุปาทินฺนํ, ตํ เอตฺถ น คหิตํ.

๖๘. รูปภวนิทฺเทเส – ปฺจหายตเนหีติ จกฺขุโสตมนรูปธมฺมายตเนหิ. อฏฺหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตจกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณรูปธมฺมมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ. อรูปภวาทโยปิ ตโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตาว เอกโต ทสฺสิตา. ตถา อสฺาภวเอกโวการภวา. ตตฺถ ทฺวีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตเนหิ. ธาตูสุปิ เอเสว นโย. เอกตลวาสิกานฺหิ เสสพฺรหฺมานํ จกฺขุสพฺภาวโต ตสฺสารมฺมณตฺตา ตตฺถ รูปายตนํ อุทฺธฏํ.

๗๑. ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหีติ รูปชาติ รูปกฺขนฺเธน, อรูปชาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. ชรามรเณสุปิ เอเสว นโย. โสกาทีสุปิ เอเกน ขนฺเธนาติ โสกทุกฺขโทมนสฺสานิ เวทนากฺขนฺเธน, ปริเทโว รูปกฺขนฺเธน, อุปายาสาทโย สงฺขารกฺขนฺเธนาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตพฺโพ.

๗๓. อิทฺธิปาโท ทฺวีหีติ สงฺขารวิฺาณกฺขนฺเธหิ, มนายตนธมฺมายตเนหิ, ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ จ. ฌานํ ทฺวีหีติ เวทนากฺขนฺธสงฺขารกฺขนฺเธหิ. อปฺปมฺาทโย สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต นิทฺทิฏฺา. จิตฺตํ ปน เจตนานนฺตรํ นิกฺขิตฺตมฺปิ อสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา ปจฺฉา คหิตํ. ตตฺถ อปฺปมฺาทีสุ เอเกน ขนฺเธนาติ เวทนา เวทนากฺขนฺเธน, สฺา สฺากฺขนฺเธน, เสสา สงฺขารกฺขนฺเธน สงฺคหิตาติ เอวํ ขนฺธวิเสโส เวทิตพฺโพ.

๗. ติกปทวณฺณนา

๗๗. เอวํ อพฺภนฺตรมาติกาย สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พาหิรมาติกาย สงฺคหํ ทสฺเสตุํ กุสลา ธมฺมาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เวทนาตฺติเก ตีหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณมโนวิฺาณธมฺมธาตูหิ. สตฺตหิ ธาตูหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตูหิ เจว มโนธาตุธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ จ. วิปากตฺติเก อฏฺหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณธาตุยา สทฺธึ ตาหิเยว. วิปากธมฺมธมฺมา ปน สํกิลิฏฺสํกิเลสิเกหิ สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา เอกโต คหิตา. ยถา เจเต, เอวํ สพฺพติกทุกปเทสุ ยํ ยํ ปทํ เยน เยน ปเทน สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนํ โหติ, ตํ ตํ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ เตน เตน สทฺธึ คเหตฺวา วิสฺสชฺชิตํ. ตตฺถ วุตฺตานุสาเรเนว สงฺคหาสงฺคหนโย เวทิตพฺโพติ.

สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา.

๒. ทุติยนโย สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๑. อิทานิ สงฺคหิเตน อสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ จกฺขายตเนนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ยํ ขนฺธปเทน สงฺคหิตํ หุตฺวา อายตนธาตุปเทหิ อสงฺคหิตํ, ขนฺธายตนปเทหิ วา สงฺคหิตํ หุตฺวา ธาตุปเทน อสงฺคหิตํ, ตสฺส ขนฺธาทีหิ อสงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต. โส จ อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เวทนากฺขนฺเธน จ เวทนากฺขนฺโธว สงฺคหิโต. โสปิ ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เอวํ อสงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ อฺานิ จ เอวรูปานิ มนายตนธมฺมายตนาทีนิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ รูเปกเทสํ อรูเปน อสมฺมิสฺสํ, วิฺาเณกเทสฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. ปริโยสาเน จ –

‘‘ทสายตนา สตฺตรส ธาตุโย,

สตฺตินฺทฺริยา อสฺาภโว เอกโวการภโว;

ปริเทโว สนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ,

อนิทสฺสนํ ปุนเทว สปฺปฏิฆํ อุปาทา’’ติ.

เอวํ อุทฺทานคาถาย ทสฺสิตาเนว. ตสฺมา เตสํ วเสเนว สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฺหวเสน หิ อิมสฺมึ วาเร อายตนธาตุวเสเนว สทิสวิสฺสชฺชเน วีสติ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา เอโก ปฺโห กโต, สตฺต วิฺาณธาตุโย สโมธาเนตฺวา เอโก, สตฺตินฺทฺริยานิ สโมธาเนตฺวา เอโก, ทฺเว ภเว สโมธาเนตฺวา เอโก, ปริเทเวน จ สนิทสฺสนสปฺปฏิเฆหิ จ เอโก, อนิทสฺสนสปฺปฏิเฆหิ เอโก, สนิทสฺสเนหิ เอโก, สปฺปฏิเฆหิ จ อุปาทาธมฺเมหิ จ เอโกติ อฏฺ ปฺหา กตา. เตสุ ขนฺธาทิวิภาโค เอวํ เวทิตพฺโพ เสยฺยถิทํ – ปมปฺเห ตาว จตูหิ ขนฺเธหีติ อรูปกฺขนฺเธหิ, ทฺวีหายตเนหีติ จกฺขายตนาทีสุ เอเกเกน สทฺธึ มนายตเนน, อฏฺหิ ธาตูหีติ จกฺขุธาตุอาทีสุ เอเกกาย สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.

ตตฺรายํ นโย – จกฺขายตเนน หิ ขนฺธสงฺคเหน รูปกฺขนฺโธ สงฺคหิโต. ตสฺมึ สงฺคหิเต รูปกฺขนฺเธ อายตนสงฺคเหน จกฺขายตนเมเวกํ สงฺคหิตํ. เสสานิ ทส อายตนานิ อสงฺคหิตานิ. ธาตุสงฺคเหนปิ เตน จกฺขุธาตุเยเวกา สงฺคหิตา. เสสา ทส ธาตุโย อสงฺคหิตา. อิติ ยานิ เตน อสงฺคหิตานิ ทสายตนานิ, ตานิ จกฺขายตนมนายตเนหิ ทฺวีหิ อสงฺคหิตานิ. ยาปิ เตน อสงฺคหิตา ทส ธาตุโย, ตา จกฺขุธาตุยา เจว สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหิ อสงฺคหิตาติ. รูปายตนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๗๒. ทุติยปฺเห – ยสฺมา ยาย กายจิ วิฺาณธาตุยา สงฺคหิโต วิฺาณกฺขนฺโธ มนายตเนน อสงฺคหิโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา อายตนสงฺคเหน สงฺคหิตาติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน จตูหิ ขนฺเธหีติ รูปาทีหิ จตูหิ. เอกาทสหายตเนหีติ มนายตนวชฺเชหิ. ทฺวาทสหิ ธาตูหีติ ยถานุรูปา ฉ วิฺาณธาตุโย อปเนตฺวา เสสาหิ ทฺวาทสหิ. จกฺขุวิฺาณธาตุยา หิ จกฺขุวิฺาณธาตุเยว สงฺคหิตา, อิตรา อสงฺคหิตา. โสตวิฺาณธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๗๓. ตติยปฺเห – จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ วิสฺสชฺชนํ จกฺขายตนาทิสทิสเมว. อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริเยสุ ปน ธมฺมายตเนน สทฺธึ ทฺเว อายตนานิ, ธมฺมธาตุยา จ สทฺธึ อฏฺ ธาตุโย เวทิตพฺพา.

๑๗๔. จตุตฺถปฺเห – ตีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตนมนายตเนหิ. เตสุ หิ ภเวสุ รูปายตนธมฺมายตนวเสน ทฺเวว อายตนานิ เตหิ สงฺคหิตานิ. เสสานิ นว รูปายตนานิ เตเหว จ ทฺวีหิ, มนายตเนน จาติ ตีหิ อสงฺคหิตานิ นาม โหนฺติ. นวหิ ธาตูหีติ รูปธาตุธมฺมธาตูหิ สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.

๑๗๕. ปฺจมปฺเห – ทฺวีหายตเนหีติ ปมปทํ สนฺธาย สทฺทายตนมนายตเนหิ. ทุติยปทํ สนฺธาย รูปายตนมนายตเนหิ. ธาตุโยปิ เตสํเยว เอเกเกน สทฺธึ สตฺต วิฺาณธาตุโย เวทิตพฺพา.

๑๗๖. ฉฏฺปฺเห – ทสหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตนวชฺเชหิ. โสฬสหิ ธาตูหีติ รูปธาตุธมฺมธาตุวชฺเชเหว. กถํ? อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา หิ ธมฺมา นาม นว โอฬาริกายตนานิ. เตหิ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิเต รูปกฺขนฺเธ, อายตนสงฺคเหน ตาเนว นวายตนานิ สงฺคหิตานิ. รูปายตนธมฺมายตนานิ อสงฺคหิตานิ. ธาตุสงฺคเหนปิ ตา เอว นว ธาตุโย สงฺคหิตา. รูปธาตุธมฺมธาตุโย อสงฺคหิตา. อิติ ยานิ เตหิ อสงฺคหิตานิ ทฺเว อายตนานิ, ตานิ รูปายตนวชฺเชหิ นวหิ โอฬาริกายตเนหิ, มนายตเนน จาติ ทสหิ อสงฺคหิตานิ. ยาปิ เตหิ อสงฺคหิตา ทฺเว ธาตุโย, ตา รูปธาตุวชฺชาหิ นวหิ โอฬาริกธาตูหิ, สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหีติ โสฬสหิ อสงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.

๑๗๗. สตฺตมปฺเห – ทฺวีหายตเนหีติ รูปายตนมนายตเนหิ. อฏฺหิ ธาตูหีติ รูปธาตุยา สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.

๑๗๘. อฏฺมปฺเห – เอกาทสหายตเนหีติ สปฺปฏิฆธมฺเม สนฺธาย ธมฺมายตนวชฺเชหิ, อุปาทาธมฺเม สนฺธาย โผฏฺพฺพายตนวชฺเชหิ. ธาตูสุปิ เอเสว นโย. อตฺถโยชนา ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ.

สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา.

๓. ตติยนโย อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๙. อิทานิ อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ยํ ขนฺธปเทน อสงฺคหิตํ หุตฺวา อายตนธาตุปเทหิ สงฺคหิตํ, ตสฺส ขนฺธาทีหิ สงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธวิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ จตฺตาโร ขนฺธา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เตสุ เตน เอกธมฺโมปิ อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิโต นาม นตฺถิ. นนุ จ เวทนาทโย ธมฺมายตเนน สงฺคหิตาติ? สงฺคหิตา. น ปน รูปกฺขนฺโธว ธมฺมายตนํ, รูปกฺขนฺธโต หิ สุขุมรูปมตฺตํ ธมฺมายตนํ ภชติ. ตสฺมา เย ธมฺมายตเนน สงฺคหิตา, น เต รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตา นาม. วิฺาณกฺขนฺเธนปิ อิตเร จตฺตาโร ขนฺธา อสงฺคหิตา. เตสุ เตน เอโกปิ อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิโต นาม นตฺถิ. เอวํ สงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ อฺานิ จ เอวรูปานิ จกฺขายตนาทีนิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ วิฺาเณน วา โอฬาริกรูเปน วา อสมฺมิสฺสํ ธมฺมายตเนกเทสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘ตโย ขนฺธา ตถา สจฺจา, อินฺทฺริยานิ จ โสฬส;

ปทานิ ปจฺจยากาเร, จุทฺทสูปริ จุทฺทส.

‘‘สมตึส ปทา โหนฺติ, โคจฺฉเกสุ ทสสฺวถ;

ทุเว จูฬนฺตรทุกา, อฏฺ โหนฺติ มหนฺตรา’’ติ.

เอเตสุ ปน ปเทสุ สทิสวิสฺสชฺชนานิ ปทานิ เอกโต กตฺวา สพฺเพปิ ทฺวาทส ปฺหา วุตฺตา. เตสุ เอวํ ขนฺธวิภาโค เวทิตพฺโพ. อายตนธาตูสุ ปน เภโท นตฺถิ. ตตฺถ ปมปฺเห ตาว – ตีหิ ขนฺเธหีติ รูปสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ. อายตนธาตุโย ปน ธมฺมายตนธมฺมธาตุวเสน เวทิตพฺพา.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน หิ นิพฺพานฺจ สุขุมรูปสฺาสงฺขารา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. เตสุ นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ, เสสา รูปสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อายตนธาตุสงฺคหํ ปน นิพฺพานมฺปิ คจฺฉเตว. เตน วุตฺตํ – ‘‘อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกนายตเนน, เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา’’ติ. สฺากฺขนฺธปกฺเข ปเนตฺถ สฺํ อปเนตฺวา เวทนาย สทฺธึ ตโย ขนฺธา สงฺขาราทีสุ สงฺขารกฺขนฺธํ อปเนตฺวา รูปเวทนาสฺาวเสน ตโย ขนฺธา เวทิตพฺพา.

๑๘๐. ทุติเย – จตูหิ ขนฺเธหีติ วิฺาณวชฺเชหิ. เต หิ นิโรเธน ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา.

๑๘๑. ตติเย – ทฺวีหีติ เวทนาสฺากฺขนฺเธหิ. รูปารูปชีวิตินฺทฺริเยน หิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺธา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เตสุ ปน เวทนาสฺาว อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘เวทนาสฺากฺขนฺเธหี’’ติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ขนฺธเภโท เวทิตพฺโพ. อิโต ปรฺหิ ขนฺธานํ นามมตฺตเมว วกฺขาม.

๑๘๒. จตุตฺเถ ตีหิ ขนฺเธหีติ อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริเยสุ เวทนาสฺาสงฺขาเรหิ, เวทนาปฺจเก รูปสฺาสงฺขาเรหิ; สทฺธินฺทฺริยาทีสุ ผสฺสปริโยสาเนสุ รูปเวทนาสฺากฺขนฺเธหิ. เวทนาย เวทนากฺขนฺธสทิโสว ตณฺหุปาทานกมฺมภเวสุ สงฺขารกฺขนฺธสทิโสว วินิจฺฉโย.

๑๘๓. ปฺจเม – ชาติชรามรเณสุ ชีวิตินฺทฺริยสทิโสว. ฌาเนน ปน นิพฺพานํ สุขุมรูปํ สฺา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. ตสฺมา ตํ สนฺธาย รูปกฺขนฺธสฺากฺขนฺธานํ วเสน ทฺเว ขนฺธา เวทิตพฺพา.

๑๘๔. ฉฏฺเ – โสกาทิตฺตเย เวทนาย สทิโส. อุปายาสาทีสุ สงฺขารสทิโส. ปุน เวทนาย เวทนากฺขนฺธสทิโส, สฺาย สฺากฺขนฺธสทิโส, เจตนาทีสุ สงฺขารกฺขนฺธสทิโส วินิจฺฉโย. อิมินา อุปาเยน สตฺตมปฺหาทีสุปิ สงฺคหาสงฺคโห เวทิตพฺโพติ.

อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา.

๔. จตุตฺถนโย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๑. อิทานิ สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ สมุทยสจฺเจนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ขนฺธาทีหิ สงฺคหิเตน ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ สงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ขนฺธายตนธาตูสุ เอกมฺปิ สกลโกฏฺาสํ คเหตฺวา ิตปเทสุ น ยุชฺชติ. สกเลน หิ ขนฺธาทิปเทน อฺํ ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ นาม นตฺถิ, ยํ อตฺตโน สงฺคาหกํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน เตเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ สงฺขาเรกเทสํ วา อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ – เวทเนกเทสํ วา สุขุมรูปํ วา สทฺเทกเทสํ วา, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘ทฺเว สจฺจา ปนฺนรสินฺทฺริยา, เอกาทส ปฏิจฺจปทา;

อุทฺธํ ปุน เอกาทส, โคจฺฉกปทเมตฺถ ตึสวิธ’’นฺติ.

ปฺหา ปเนตฺถ ทฺเวเยว โหนฺติ. ตตฺถ ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ, เต ธมฺเม สนฺธาย สพฺพตฺถ เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ นโย – สมุทยสจฺเจน หิ ตณฺหาวชฺชา เสสา สงฺขารา ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา. ปุน เตหิ ตณฺหาว สงฺคหิตา. สา ตณฺหา ปุน สงฺขาเรเหว ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตาติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อรูปธมฺมปุจฺฉาสุ ปเนตฺถ สงฺขารกฺขนฺโธ วา เวทนากฺขนฺโธ วา เอโก ขนฺโธ นาม. รูปธมฺมปุจฺฉาสุ รูปกฺขนฺโธ. ปริเทวปุจฺฉาย สทฺทายตนํ เอกํ อายตนํ นาม. สทฺทธาตุ เอกา ธาตุ นาม, เสสฏฺาเนสุ ธมฺมายตนธมฺมธาตุวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา.

๕. ปฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๓. อิทานิ อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิเตน ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ อสงฺคหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปฺจกฺขนฺธคฺคาหเกสุ ทุกฺขสจฺจาทีสุ วิฺาเณน สทฺธึ สุขุมรูปคฺคาหเกสุ อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาทีสุ จ ปเทสุ น ยุชฺชติ. ตาทิเสน หิ ปเทน นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหมตฺตํ น คจฺเฉยฺย. เสสา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตธมฺมา นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปฺจกฺขนฺเธ วิฺาณฺจ สุขุมรูเปน สทฺธึ เอกโต น ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘สพฺเพ ขนฺธา ตถายตนธาตุโย สจฺจโต ตโย;

อินฺทฺริยานิปิ สพฺพานิ, เตวีสติ ปฏิจฺจโต.

‘‘ปรโต โสฬส ปทา, เตจตฺตาลีสกํ ติเก;

โคจฺฉเก สตฺตติ ทฺเว จ, สตฺต จูฬนฺตเร ปทา.

‘‘มหนฺตเร ปทา วุตฺตา, อฏฺารส ตโต ปรํ;

อฏฺารเสว าตพฺพา, เสสา อิธ น ภาสิตา’’ติ.

ปฺหา ปเนตฺถ สทิสวิสฺสชฺชนานํ วเสน สโมธาเนตฺวา กติหิ สทฺธึ สพฺเพปิ จตุตฺตึส โหนฺติ. ตตฺถ ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตํ, เต ธมฺเม สนฺธาย เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน หิ จตฺตาโร ขนฺธา นิพฺพานฺจ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา. อายตนธาตุสงฺคเหน ปน เปตฺวา วิฺาณํ อวเสสา สงฺคหิตาติ วิฺาณเมว ตีหิปิ ขนฺธสงฺคหาทีหิ อสงฺคหิตํ นาม. ปุน เตน วิฺาเณน สทฺธึ นิพฺพาเนน จตฺตาโร ขนฺธา ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เต สพฺเพปิ ปุน วิฺาเณเนว ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตาติ เอเกน ขนฺเธน, เอเกนายตเนน, สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา นาม โหนฺติ. อถ วา – ยเทตํ รูปกฺขนฺเธน วิฺาณเมว ตีหิ ขนฺธาทิสงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ, เตหิปิ วิฺาณธมฺเมหิ เต รูปธมฺมาว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตา. ปุน เต รูปธมฺมา วิฺาเณเนว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตา. วิฺาณฺจ ขนฺธโต เอโก วิฺาณกฺขนฺโธ โหติ, อายตนโต เอกํ มนายตนํ, ธาตุโต สตฺต วิฺาณธาตุโย. ตสฺมา ‘‘เอเกน ขนฺเธนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทว เยหิ ธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตํ, เตสํ ธมฺมานํ วเสน ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ ทุติยปฺเห ตาว – รูปวิฺาณานํ วเสน เวทิตพฺพา. เวทนาทโย หิ รูปวิฺาเณเหว ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เต จ ทฺเว ขนฺธา เอกาทสายตนานิ สตฺตรส ธาตุโย โหนฺติ.

๑๙๕. ตติยปฺเห – วิฺาณํ รูปาทีหิ จตูหิ อสงฺคหิตนฺติ เตสํ วเสน ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา.

๑๙๖. จตุตฺถปฺเห – จกฺขายตนํ เวทนาทีหิ จตูหีติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ขนฺธาทโย เวทิตพฺพา. ปริโยสาเน – รูปฺจ ธมฺมายตนนฺติ อุทฺทานคาถาย ทสฺสิตธมฺมาเยว อฺเนากาเรน สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตาติ.

อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา.

๖. ฉฏฺนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา

๒๒๘. อิทานิ สมฺปโยควิปฺปโยคปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺโธติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ ตํ สพฺพํ ปุจฺฉาย คหิตํ. วิสฺสชฺชเน ปน ยํ น ลพฺภติ, ตํ นตฺถีติ ปฏิกฺขิตฺตํ. จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค; สภาโค วิสภาโคติ หิ วจนโต จตูหิ อรูปกฺขนฺเธเหว สภาคานํ เอกสนฺตานสฺมึ เอกกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ อรูปกฺขนฺธานํเยว อฺมฺํ สมฺปโยโค ลพฺภติ. รูปธมฺมานํ ปน รูเปน นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส จ รูเปน สทฺธึ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ. ตถา รูปนิพฺพานานํ อรูปกฺขนฺเธหิ, วิสภาคา หิ เต เตสํ. ยถา จ อรูปกฺขนฺธานํ รูปนิพฺพาเนหิ, เอวํ ภินฺนสนฺตาเนหิ นานากฺขณิเกหิ อรูปธมฺเมหิปิ สทฺธึ นตฺถิเยว. เตปิ หิ เตสํ สนฺตานกฺขณวิสภาคตาย วิสภาคาเยว. อยํ ปน วิสภาคตา สงฺคหฏฺเน วิรุชฺฌนโต สงฺคหนเย นตฺถิ. คณนูปคมตฺตฺหิ สงฺคหฏฺโ. สมฺปโยคนเย ปน อตฺถิ, เอกุปฺปาทตาทิลกฺขณฺหิ สมฺปโยคฏฺโติ. เอวเมตฺถ ยสฺส เอกธมฺเมนปิ สมฺปโยคลกฺขณํ น ยุชฺฌติ, ตสฺส ปุจฺฉาย สงฺคหํ กตฺวาปิ นตฺถีติ ปฏิกฺเขโป กโต. ยสฺส วิปฺปโยคลกฺขณํ ยุชฺชติ, ตสฺส วิปฺปโยโค ทสฺสิโต. ยานิ ปน ปทานิ สตฺตสุ วิฺาณธาตูสุ เอกายปิ อวิปฺปยุตฺเต รูเปน นิพฺพาเนน วา มิสฺสกธมฺเม ทีเปนฺติ, ตานิ สพฺพถาปิ อิธ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ, ทุกฺขสจฺจฺจ ชีวิตํ;

สฬายตนํ นามรูปํ, จตฺตาโร จ มหาภวา.

‘‘ชาติชรา จ มรณํ, ติเกสฺเวกูนวีสติ;

โคจฺฉเกสุ จ ปฺาส, อฏฺ จูฬนฺตเร ปทา.

‘‘มหนฺตเร ปนฺนรส, อฏฺารส ตโต ปเร;

เตวีส ปทสตํ เอตํ, สมฺปโยเค น ลพฺภตี’’ติ.

ธมฺมายตนฺหิ รูปนิพฺพานมิสฺสกตฺตา ตสฺมึ อปริยาปนฺเนน วิฺาเณนปิ น สกฺกา สมฺปยุตฺตนฺติ วตฺตุํ. ยสฺมา ปเนตฺถ เวทนาทโย วิฺาเณน สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา วิปฺปยุตฺตนฺติปิ น สกฺกา วตฺตุํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอวํ สพฺพตฺถาปิ เอตานิ น ยุชฺชนฺตีติ อิธ น คหิตานิ. เสสานิ ขนฺธาทีนิ ยุชฺชนฺตีติ ตานิ คเหตฺวา เอเกกวเสน จ สโมธาเนน จ ปฺหวิสฺสชฺชนํ กตํ. เตสุ ปฺเหสุ, ปเม – เอเกนายตเนนาติ มนายตเนน. เกหิจีติ ธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปนฺเนหิ เวทนาสฺาสงฺขาเรหิ.

๒๒๙. ทุติเย – ตีหีติ ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ เปตฺวา เสเสหิ. เกหิจิ สมฺปยุตฺโตติ เวทนากฺขนฺโธ สฺาสงฺขาเรหิ. อิตเรปิ อตฺตานํ เปตฺวา อิตเรหิ. เกหิจิ วิปฺปยุตฺโตติ รูปนิพฺพาเนหิ. เอวํ สพฺพตฺถ รูปสฺส วิปฺปโยเค ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ อรูปํ, อรูปสฺส วิปฺปโยเค รูปํ ทฏฺพฺพํ. ตติยปฺโห อุตฺตานตฺโถว.

๒๓๑. จตุตฺเถ – ‘กติหิ ขนฺเธหี’ติอาทึ อวตฺวา สมฺปยุตฺตนฺติ นตฺถีติ วุตฺตํ. ตํ ปน ขนฺธาทีนํเยว วเสน เวทิตพฺพํ. ปรโตปิ เอวรูเปสุ ปฺเหสุ เอเสว นโย. อาทิปฺหสฺมิฺหิ สรูปโต ทสฺเสตฺวา ปรโต ปาฬิ สํขิตฺตา. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. ยตฺถ ปน นาติปากฏา ภวิสฺสติ, ตตฺถ นํ ปากฏํ กตฺวาว คมิสฺสาม.

๒๓๔. โสฬสหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิฺาณธาตุ ตาว อตฺตานํ เปตฺวา ฉหิ วิฺาณธาตูหิ, ทสหิ จ รูปธาตูหิ. เสสาสุปิ เอเสว นโย.

๒๓๕. ตีหิ ขนฺเธหีติ สงฺขารกฺขนฺธํ เปตฺวา เสเสหิ. เอกาย ธาตุยาติ มโนวิฺาณธาตุยา. สมุทยมคฺคานฺหิ อฺาย ธาตุยา สมฺปโยโค นตฺถิ. เอเกน ขนฺเธนาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. เอเกนายตเนนาติ ธมฺมายตเนน. เอกาย ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยา. เอเตสุ หิ ตํ สจฺจทฺวยํ เกหิจิ สมฺปยุตฺตํ.

๒๓๘. สุขินฺทฺริยาทิปฺเห – ตีหีติ สฺาสงฺขารวิฺาเณหิ. เอกาย ธาตุยาติ กายวิฺาณธาตุยา, มโนวิฺาณธาตุยา จ. ฉหิ ธาตูหีติ กายวิฺาณธาตุวชฺชาหิ.

๒๔๕. รูปภวปฺเห – สพฺเพสมฺปิ อรูปกฺขนฺธานํ อรูปายตนานฺจ อตฺถิตาย น เกหิจีติ วุตฺตํ. ฆานชิวฺหากายวิฺาณธาตูนํ ปน นตฺถิตาย ตีหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺโตติ วุตฺตํ.

๒๕๖. อธิโมกฺขปฺเห – ทฺวีหิ ธาตูหีติ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ. ปนฺนรสหีติ เสสาหิ ทสหิ รูปธาตูหิ, ปฺจหิ จ จกฺขุวิฺาณาทีหิ.

๒๕๗. กุสลปฺเห – กุสเลหิ จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหิตตฺตา สมฺปโยโค ปฏิกฺขิตฺโต.

๒๕๘. เวทนาตฺติกปฺเห – เอเกน ขนฺเธนาติ เวทนากฺขนฺเธเนว. ปนฺนรสหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิฺาณธาตุมโนธาตูหิ เจว รูปธาตูหิ จ. เอกาทสหีติ กายวิฺาณธาตุยา สทฺธึ รูปธาตูหิ.

๒๖๒. เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมปฺเห – ปฺจหีติ จกฺขุวิฺาณาทีหิ. อนุปาทินฺนอนุปาทานิยปฺเห – ฉหีติ มโนวิฺาณธาตุวชฺชาหิ. สวิตกฺกสวิจารปฺเห – ปนฺนรสหีติ ปฺจหิ วิฺาเณหิ สทฺธึ รูปธาตูหิ. อวิตกฺกวิจารมตฺตปฺเห – เอเกน ขนฺเธนาติอาทิ สงฺขารกฺขนฺธวเสเนว เวทิตพฺพํ. ทุติยชฺฌานวิจารฺหิ เปตฺวา เสสา อวิตกฺกวิจารมตฺตา นาม. ปีตึ เปตฺวา เสสา ปีติสหคตา. ตตฺถ วิจาโร วิจาเรน, ปีติ จ ปีติยา น สมฺปยุตฺตาติ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นาม. โสฬสหีติ ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุวชฺชาเหว. อวิตกฺกอวิจารปฺเห เอกาย ธาตุยาติ มโนธาตุยา. สุขสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ เวทนาตฺติเก วุตฺตาว. ทสฺสเนนปหาตพฺพาทโย กุสลสทิสาว.

๒๗๑. ปริตฺตารมฺมณํ วิปากธมฺมสทิสํ. เอกาย ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยา. เกหิจีติ เย ตตฺถ ปริตฺตารมฺมณา น โหนฺติ, เตหิ. ธมฺมธาตุ ปน ปริตฺตารมฺมณานํ ฉนฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน จตูหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตตฺตา ปมปฏิกฺเขปเมว ภชติ. มหคฺคตารมฺมณาทโย กุสลสทิสาว.

๒๗๓. อนุปฺปนฺเนสุ – ปฺจหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิฺาณาทีหิ. ตานิ หิ เอกนฺเตน อุปฺปาทิธมฺมภูตาเนว, อุปฺปนฺนโกฏฺาสมฺปิ ปน ภชนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาทโย ปริตฺตารมฺมณสทิสาว. เหตุอาทโย สมุทยสทิสาว. สเหตุกา เจว น จ เหตูปิ ปีติสหคตสทิสาว. ตถา ปรามาสสมฺปยุตฺตา. อนุปาทินฺนา อนุปฺปนฺนสทิสาว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา.

๗. สตฺตมนโย สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๐๖. อิทานิ สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ วาเร ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ น ยุชฺชติ. รูปกฺขนฺเธน หิ สมฺปยุตฺตา นาม นตฺถิ. ตสฺมา ตฺจ อฺานิ จ เอวรูปานิ ปทานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ ธมฺมธาตุยา สมฺปยุตฺเต ธมฺเม วิฺาณฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘จตฺตาโร ขนฺธายตนฺจ เอกํ,

ทฺเว อินฺทฺริยา ธาตุปทานิ สตฺต;

ตโย ปฏิจฺจา อถ ผสฺสสตฺตกํ,

ติเก ตโย สตฺต มหนฺตเร จ.

‘‘เอกํ สวิตกฺกํ, สวิจารเมกํ;

ยุตฺตํ อุเปกฺขาย จ เอกเมวา’’ติ.

ปริโยสาเน – ขนฺธา จตุโรติอาทินาปิ อยเมวตฺโถ สงฺคหิโต. ตตฺถ ยานิ ปทานิ สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตานิ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ สโมธาเนตฺวา ตตฺถ เวทนากฺขนฺธาทิกา ปฺหา กตา. เตสุ เอวํ ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ. เวทนากฺขนฺธาทิปฺเห ตาว – เอเกนาติ มนายตเนน. สตฺตหีติ วิฺาณธาตูหิ. เกหิจีติ ธมฺมายตเน เวทนาทีหิ. วิฺาณธาตุปฺเห เต ธมฺมา น เกหิจีติ เต ปุจฺฉาย อุทฺธฏปทํ วิฺาณธาตุํ เปตฺวา เสสา ฉ วิฺาณธาตุธมฺมา, รูปํ, นิพฺพานฺจ. เตหิ สพฺเพสํ ขนฺธายตนานํ สงฺคหิตตฺตา น เกหิจิ ขนฺเธหิ อายตเนหิ วา วิปฺปยุตฺตา. เอกาย ธาตุยาติ ยา ยา ปุจฺฉาย อุทฺธฏา โหติ ตาย ตาย.

๓๐๙. อุเปกฺขินฺทฺริยปฺเห – ปฺจหีติ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตาหิ จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีหิ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทเนว สทฺธึ วิปฺปยุตฺตานํ วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๘. อฏฺมนโย วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๗. อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปุจฺฉา โมฆปุจฺฉาว. รูปกฺขนฺเธน หิ วิปฺปยุตฺตา นาม จตฺตาโร ขนฺธา, เตสํ อฺเหิ สมฺปโยโค นตฺถิ. เวทนากฺขนฺเธน วิปฺปยุตฺตํ รูปํ นิพฺพานฺจ, ตสฺส จ เกนจิ สมฺปโยโค นตฺถิ. เอวํ สพฺพปเทสุ. วิปฺปยุตฺตานํ ปน สมฺปโยคาภาโว เวทิตพฺโพ. อิติ ปุจฺฉาย โมฆตฺตา สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ นตฺถิ นตฺถิอิจฺเจว วุตฺตนฺติ.

วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๙. นวมนโย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๙. อิทานิ สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ขนฺธาทิวเสน สมฺปยุตฺตํ, ปุน ตสฺเสว ขนฺธาทีหิ สมฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตํ รูเปน วา รูปมิสฺสเกหิ วา สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ วา ปเทหิ สทฺธึ น ยุชฺชติ. รูเปน หิ รูปมิสฺสเกน วา อฺเสํ สมฺปโยโค นตฺถิ. สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ สพฺเพสํ สมฺปโยคารหานํ ขนฺธาทีนํ คหิตตฺตา อฺํเยว นตฺถิ, ยํ เตน สห สมฺปโยคํ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิธ น คหิตานิ. ยานิ ปน ปทานิ รูเปน อสมฺมิสฺสํ อรูเปกเทสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิ. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘อรูปกฺขนฺธา จตฺตาโร, มนายตนเมว จ;

วิฺาณธาตุโย สตฺต, ทฺเว สจฺจา จุทฺทสินฺทฺริยา.

‘‘ปจฺจเย ทฺวาทส ปทา, ตโต อุปริ โสฬส;

ติเกสุ อฏฺ โคจฺฉเก, เตจตฺตาลีสเมว จ.

‘‘มหนฺตรทุเก สตฺต, ปทา ปิฏฺิทุเกสุ ฉ;

นวมสฺส ปทสฺเสเต, นิทฺเทเส สงฺคหํ คตา’’ติ.

สพฺพปฺเหสุ ปน เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏา, เต เยหิ สมฺปยุตฺตา โหนฺติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิเภโท เวทิตพฺโพ. เวทนากฺขนฺเธน หิ อิตเร ตโย ขนฺธา สมฺปยุตฺตา, ปุน เตหิ เวทนากฺขนฺโธ สมฺปยุตฺโต. โส เตหิ สฺาทีหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน, สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, เอกสฺมึ ธมฺมายตเน, ธมฺมธาตุยา จ, เกหิจิ สฺาสงฺขาเรเหว สมฺปยุตฺโต. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.

สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๑๐. ทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๕๓. อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สมฺปโยควิปฺปโยคปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺธาทโย ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. สทิสวิสฺสชฺชนานํ ปน เอกโต คหิตตฺตา ปทานิ อฺาย ปฏิปาฏิยา อาคตานิ. ตตฺถ ยํ ปทํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ, ตํ เยหิ ธมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตํ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ. รูปกฺขนฺเธน หิ เวทนาทโย วิปฺปยุตฺตา, เตหิ จ รูปกฺขนฺโธ วิปฺปยุตฺโต. นิพฺพานํ ปน สุขุมรูปคติกเมว. โส รูปกฺขนฺโธ จตูหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ, เกหิจิ เวทนาทีหิ ธมฺเมเหว วิปฺปยุตฺโต. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.

วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๑๑. เอกาทสมนโย สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๐๙. อิทานิ สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ สมุทยสจฺเจนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทนิทฺเทเส สมุทยสจฺจาทโยว ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. สทิสวิสฺสชฺชนานํ ปน เอกโต คหิตตฺตา ปทานิ อฺาย ปฏิปาฏิยา อาคตานิ. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา, เตสํ เยหิ สมฺปโยโค วา วิปฺปโยโค วา โหติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ นโย – สมุทยสจฺเจน ตาว สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา ธมฺมา ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตา. เต จ เสเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, เอเกน มนายตเนน, สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ, สงฺขารกฺขนฺเธ ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ เปตฺวา ตณฺหํ เสเสหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นาม. เอเกน ปน รูปกฺขนฺเธน, ทสหิ รูปายตเนหิ, รูปธาตูหิ จ วิปฺปยุตฺตา, เอกสฺมึ ธมฺมายตเน ธมฺมธาตุยา จ, รูปนิพฺพาเนหิ วิปฺปยุตฺตตฺตา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา นาม. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๑๒. ทฺวาทสมนโย สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๑๗. อิทานิ สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส เวทนากฺขนฺธาทโย ธมฺมา อุทฺธฏา, สพฺพปุจฺฉาสุ เตเยว อุทฺธฏา. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺตา, เตสํ เยหิ สงฺคโห วา อสงฺคโห วา โหติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิเภโท เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺโธ หิ สฺาทีหิ สมฺปยุตฺโต. เต สฺาทโย ตีหิ สฺาทิกฺขนฺเธหิ, ทฺวีหิ ธมฺมายตนมนายตเนหิ, ธมฺมธาตุยา เจว, สตฺตหิ จ วิฺาณธาตูหีติ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, เสสาหิ ขนฺธายตนธาตูหิ อสงฺคหิตา. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา.

๑๓. เตรสมนโย อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๔๘. อิทานิ อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เย ปฺจเม อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺเธน สทิสปฺหา ธมฺมา, เย จ อรูปภเวน สทิสา, เตเยว อุทฺธฏา. เสสา ปน น รุหนฺตีติ น อุทฺธฏา. เวทนากฺขนฺเธน หิ ขนฺธาทิวเสน ปน รูปารูปธมฺมา อสงฺคหิตา โหนฺติ. เตสฺจ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ. ตสฺมา ยานิ ปทานิ รุหนฺติ, ตาเนว สทิสวิสฺสชฺชเนหิ สทฺธึ สโมธาเนตฺวา อุทฺธฏานิ. ตตฺถ เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฏธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน อสงฺคหิตา, เต เยหิ สมฺปยุตฺตา จ วิปฺปยุตฺตา จ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน ตาว วิฺาณเมว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ. ตํ เวทนาทีหิ ตีหิ ขนฺเธหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ เวทนาทีเหว สมฺปยุตฺตํ. เอเกน รูปกฺขนฺเธน, ทสหิ รูปายตนรูปธาตูหิ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ รูปนิพฺพานธมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตํ. ตํ สนฺธาย เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหีติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา.

๑๔. จุทฺทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๕๖. อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เยสํ ปทานํ วิปฺปโยโค น รุหติ, ตานิ อิมสฺมึ วาเร น คหิตานิ. กานิ ปน ตานีติ? ธมฺมายตนาทีนิ. ธมฺมายตนสฺส หิ ขนฺธาทีสุ เอเกนาปิ วิปฺปโยโค น รุหติ. ธมฺมธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ อิทมุทฺทานํ –

‘‘ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ, ชีวิตินฺทฺริยเมว จ;

นามรูปปทฺเจว, สฬายตนเมว จ.

‘‘ชาติอาทิตฺตยํ เอกํ, ปทํ วีสติเม ติเก;

ติกาวสานิกํ เอกํ, สตฺต จูฬนฺตเร ปทา.

‘‘ทเสว โคจฺฉเก โหนฺติ, มหนฺตรมฺหิ จุทฺทส;

ฉ ปทานิ ตโต อุทฺธํ สพฺพานิปิ สมาสโต;

ปทานิ จ น ลพฺภนฺติ, จตฺตาลีสฺจ สตฺต จา’’ติ.

ปริโยสาเน จ – ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตูติ คาถาปิ อิมเมวตฺถํ ทีเปตุํ วุตฺตา. อิมานิ ปน เปตฺวา เสสานิ สพฺพานิปิ ลพฺภนฺติ. เตสุ ขนฺธาทิวิภาโค วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพติ.

วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

ธาตุปฺปเภทกุสโล, ยํ ธาตุกถํ ตถาคโต อาห;

ตสฺสา นยมุขเภท-ปฺปกาสนํ นิฏฺิตํ โหติ.

อิมินา นยมุขเภท-ปฺปกาสเนน หิ วิภาวินา สกฺกา;

าตุํ สพฺเพปิ นยา, สงฺเขปกถาว อิติ วุตฺตา.

เอเกกสฺส ปน สเจ, ปทสฺส วิตฺถารเมว ภาเสยฺยํ;

วจนฺจ อติวิย พหุํ, ภเวยฺย อตฺโถ จ อวิเสโส.

อิติ อูนภาณวารทฺวยาย, ยํ ตนฺติยา มยา เอตํ;

กุรุนา ปตฺตํ ปุฺํ, สุขาย ตํ โหตุ โลกสฺสาติ.

ธาตุกถา-อฏฺกถา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ปุคฺคลปฺตฺติ-อฏฺกถา

นิปุณตฺถํ ปกรณํ, ธาตุเภทปฺปกาสโน;

สตฺถา ธาตุกถํ นาม, เทสยิตฺวา สุราลเย.

อนนฺตรํ ตสฺส ชิโน, ปฺตฺติเภททีปนํ;

อาห ปุคฺคลปฺตฺตึ, ยํ โลเก อคฺคปุคฺคโล.

ตสฺสา สํวณฺณโนกาโส, ยสฺมา ทานิ อุปาคโต;

ตสฺมา นํ วณฺณยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.

๑. มาติกาวณฺณนา

. ปฺตฺติโย – ขนฺธปฺตฺติ…เป… ปุคฺคลปฺตฺตีติ อยํ ตาว ปุคฺคลปฺตฺติยา อุทฺเทโส. ตตฺถ ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. เตน เย ธมฺเม อิธ ปฺเปตุกาโม เตสํ คณนวเสน สํเขปโต ปฺตฺติปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. ปฺตฺติโยติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺถ ‘‘อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปฏฺเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตฏฺาเน ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปฺตฺติ นาม. ‘‘สุปฺตฺตํ มฺจปี’’นฺติ (ปารา. ๒๖๙) อาคตฏฺาเน ปนา นิกฺขิปนา ปฺตฺติ นาม. อิธ อุภยมฺปิ วฏฺฏติ. ฉ ปฺตฺติโยติ หิ ฉ ปฺาปนา, ฉ ทสฺสนา ปกาสนาติปิ; ฉ ปนา นิกฺขิปนาติปิ อิธ อธิปฺเปตเมว. นามปฺตฺติ หิ เต เต ธมฺเม ทสฺเสติปิ, เตน เตน โกฏฺาเสน เปติปิ.

ขนฺธปฺตฺตีติอาทิ ปน สํเขปโต ตาสํ ปฺตฺตีนํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปนา นิกฺขิปนา ขนฺธปฺตฺติ นาม. อายตนานํ อายตนานีติ, ธาตูนํ ธาตุโยติ, สจฺจานํ สจฺจานีติ, อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ, ปุคฺคลานํ ปุคฺคลาติ ปฺาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปนา นิกฺขิปนา ปุคฺคลปฺตฺติ นาม.

ปาฬิมุตฺตเกน ปน อฏฺกถานเยน อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺตีติ. ตตฺถ กุสลากุสลสฺเสว สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน วิชฺชมานสฺส สโต สมฺภูตสฺส ธมฺมสฺส ปฺาปนา วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตถา อวิชฺชมานสฺส โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺส อิตฺถิปุริสาทิกสฺส ปฺาปนา อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. สพฺพากาเรนปิ อนุปลพฺภเนยฺยสฺส วาจาวตฺถุมตฺตสฺเสว ปฺจมสจฺจาทิกสฺส ติตฺถิยานํ อณุปกติปุริสาทิกสฺส วา ปฺาปนาปิ อวิชฺชมานปฺตฺติเยว. สา ปน สาสนาวจรา น โหตีติ อิธ น คหิตา. อิติ อิเมสํ วิชฺชมานาวิชฺชมานานํ วิกปฺปนวเสน เสสา เวทิตพฺพา. ‘เตวิชฺโช’, ‘ฉฬภิฺโ’ติอาทีสุ หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จ วิชฺชมานา, ปุคฺคโล อวิชฺชมาโน. ตสฺมา ติสฺโส วิชฺชา อสฺสาติ เตวิชฺโช, ฉ อภิฺา อสฺสาติ ฉฬภิฺโติ เอวํ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ‘อิตฺถิรูปํ’, ‘ปุริสรูป’นฺติอาทีสุ ปน อิตฺถิปุริสา อวิชฺชมานา, รูปํ วิชฺชมานํ. ตสฺมา อิตฺถิยา รูปํ อิตฺถิรูปํ, ปุริสสฺส รูปํ ปุริสรูปนฺติ เอวํ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. จกฺขุสมฺผสฺโส, โสตสมฺผสฺโสติอาทีสุ จกฺขุโสตาทโยปิ ผสฺโสปิ วิชฺชมาโนเยว. ตสฺมา จกฺขุมฺหิ สมฺผสฺโส, จกฺขุโต ชาโต สมฺผสฺโส, จกฺขุสฺส วา ผลภูโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโสติ เอวํ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ขตฺติยปุตฺโต, พฺราหฺมณปุตฺโต, เสฏฺิปุตฺโตติอาทีสุ ขตฺติยาทโยปิ อวิชฺชมานา, ปุตฺโตปิ. ตสฺมา ขตฺติยสฺส ปุตฺโต ขตฺติยปุตฺโตติ เอวํ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปฺาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตาสุ อิมสฺมึ ปกรเณ ปุริมา ติสฺโสว ปฺตฺติโย ลพฺภนฺติ. ‘‘ขนฺธปฺตฺติ…เป… อินฺทฺริยปฺตฺตี’’ติ อิมสฺมิฺหิ าเน วิชฺชมานสฺเสว ปฺาปิตตฺตา วิชฺชมานปฺตฺติ ลพฺภติ. ‘‘ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ ปเท อวิชฺชมานปฺตฺติ. ปรโต ปน ‘เตวิชฺโช’, ‘ฉฬภิฺโ’ติอาทีสุ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ ลพฺภตีติ.

อฏฺกถามุตฺตเกน ปน อาจริยนเยน อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – อุปาทาปฺตฺติ, อุปนิธาปฺตฺติ, สโมธานปฺตฺติ, อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ, ตชฺชาปฺตฺติ, สนฺตติปฺตฺตีติ. ตตฺถ โย รูปเวทนาทีหิ เอกตฺเตน วา อฺตฺเตน วา รูปเวทนาทโย วิย สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อนุปลพฺภสภาโวปิ รูปเวทนาทิเภเท ขนฺเธ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมโต สตฺโต. ตานิ ตานิ องฺคานิ อุปาทาย รโถ เคหํ มุฏฺิ อุทฺธนนฺติ จ; เต เตเยว รูปาทโย อุปาทาย ฆโฏ ปโฏ; จนฺทสูริยปริวตฺตาทโย อุปาทาย กาโล, ทิสา; ตํ ตํ ภูตนิมิตฺตฺเจว ภาวนานิสํสฺจ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมตํ เตน เตนากาเรน อุปฏฺิตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฏิภาคนิมิตฺตนฺติ อยํ เอวรูปา อุปาทาปฺตฺติ นาม. ปฺเปตพฺพฏฺเน เจสา ปฺตฺติ นาม, น ปฺาปนฏฺเน. ยา ปน ตสฺสตฺถสฺส ปฺาปนา, อยํ อวิชฺชมานปฺตฺติเยว.

ยา ปมทุติยาทีนิ อุปนิธาย ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกา, อฺมฺฺจ อุปนิธาย ทีฆํ รสฺสํ, ทูรํ, สนฺติกนฺติอาทิกา ปฺาปนา; อยํ อุปนิธาปฺตฺติ นาม. อปิเจสา อุปนิธาปฺตฺติ – ตทฺาเปกฺขูปนิธา, หตฺถคตูปนิธา, สมฺปยุตฺตูปนิธา, สมาโรปิตูปนิธา, อวิทูรคตูปนิธา, ปฏิภาคูปนิธา, ตพฺพหุลูปนิธา, ตพฺพิสิฏฺูปนิธาติอาทินา เภเทน อเนกปฺปการา.

ตตฺถ ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกาว ตทฺํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตตาย ตทฺาเปกฺขูปนิธา นาม. ฉตฺตปาณิ, สตฺถปาณีติอาทิกา หตฺถคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย หตฺถคตูปนิธา นาม. กุณฺฑลี, สิขรี, กิริฏีติอาทิกา สมฺปยุตฺตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมฺปยุตฺตูปนิธา นาม. ธฺสกฏํ, สปฺปิกุมฺโภติอาทิกา สมาโรปิตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมาโรปิตูปนิธา นาม. อินฺทสาลคุหา, ปิยงฺคุคุหา, เสรีสกนฺติอาทิกา อวิทูรคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย อวิทูรคตูปนิธา นาม. สุวณฺณวณฺโณ, อุสภคามีติอาทิกา ปฏิภาคํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ปฏิภาคูปนิธา นาม. ปทุมสฺสโร, พฺราหฺมณคาโมติอาทิกา ตพฺพหุลํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพหุลูปนิธา นาม. มณิกฏกํ, วชิรกฏกนฺติอาทิกา ตพฺพิสิฏฺํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพิสิฏฺูปนิธา นาม.

ยา ปน เตสํ เตสํ สโมธานมเปกฺขิตฺวา ติทณฺฑํ, อฏฺปทํ, ธฺราสิ, ปุปฺผราสีติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ สโมธานปฺตฺติ นาม. ยา ปุริมสฺส ปุริมสฺส อุปนิกฺขิปิตฺวา ทฺเว, ตีณิ, จตฺตารีติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ นาม. ยา ตํ ตํ ธมฺมสภาวํ อเปกฺขิตฺวา ปถวี, เตโช, กกฺขฬตา, อุณฺหตาติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ ตชฺชาปฺตฺติ นาม. ยา ปน สนฺตติวิจฺเฉทาภาวํ อเปกฺขิตฺวา อาสีติโก, นาวุติโกติอาทิกา ปฺาปนา, อยํ สนฺตติปฺตฺติ นาม. เอตาสุ ปน ตชฺชาปฺตฺติ วิชฺชมานปฺตฺติเยว. เสสา อวิชฺชมานปกฺขฺเจว, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขฺจ ภชนฺติ.

อฏฺกถามุตฺตเกน อาจริยนเยเนว อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – กิจฺจปฺตฺติ, สณฺานปฺตฺติ, ลิงฺคปฺตฺติ, ภูมิปฺตฺติ, ปจฺจตฺตปฺตฺติ, อสงฺขตปฺตฺตีติ. ตตฺถ ภาณโก, ธมฺมกถิโกติอาทิกา กิจฺจวเสน ปฺาปนา กิจฺจปฺตฺติ นาม. กิโส, ถูโล, ปริมณฺฑโล, จตุรสฺโสติอาทิกา สณฺานวเสน ปฺาปนา สณฺานปฺตฺติ นาม. อิตฺถี, ปุริโสติอาทิกา ลิงฺควเสน ปฺาปนา ลิงฺคปฺติ นาม. กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา, โกสลกา, มาธุราติอาทิกา ภูมิวเสน ปฺาปนา ภูมิปฺตฺติ นาม. ติสฺโส, นาโค, สุมโนติอาทิกา ปจฺจตฺตนามกรณมตฺตวเสน ปฺาปนา ปจฺจตฺตปฺตฺติ นาม. นิโรโธ, นิพฺพานนฺติอาทิกา อสงฺขตธมฺมสฺส ปฺาปนา อสงฺขตปฺตฺติ นาม. ตตฺถ เอกจฺจา ภูมิปฺตฺติ อสงฺขตปฺตฺติ จ วิชฺชมานปฺตฺติเยว, กิจฺจปฺตฺติ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขํ ภชติ. เสสา อวิชฺชมานปฺตฺติโย นาม.

. อิทานิ ยาสํ ปฺตฺตีนํ อุทฺเทสวาเร สงฺเขปโต สรูปทสฺสนํ กตํ, สงฺเขปโตเยว ตาว ตาสํ วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ตา ทสฺเสตุํ กิตฺตาวตาติอาทิมาห. ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยา อยํ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺาปนา, ทสฺสนา, ปนา, สา กิตฺตเกน โหตีติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปรโต กิตฺตาวตา อายตนานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. วิสฺสชฺชเนปิ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ปฺจกฺขนฺธาติ วา ปเภทโต ‘‘รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วา; ตตฺราปิ รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร, เสสา จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปฺตฺติ โหติ.

. ตถา ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ทฺวาทสายตนานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตน’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺวายตนา จตุภูมิกาติ วา, เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อายตนานํ อายตนานีติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต อฏฺารส ธาตุโยติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตู’’ติ วา; ตตฺราปิ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว ธาตุโย จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ธาตูนํ ธาตูติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต จตฺตาริ สจฺจานีติ วา, ปเภทโต ‘‘ทุกฺขสจฺจํ…เป… นิโรธสจฺจ’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทฺเว สจฺจา โลกิยา, ทฺเว สจฺจา โลกุตฺตราติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน สจฺจานํ ‘สจฺจานี’ติ ปฺตฺติ โหติ.

. ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต พาวีสตินฺทฺริยานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ…เป… อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสินฺทฺริยานิ กามาวจรานิ, นวินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, ตีณิ อินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานีติ วา เอวรูปํ ปฺาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ ปฺตฺติ โหติ. เอตฺตาวตา สงฺเขปโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปฺจ ปฺตฺติโย ทสฺสิตา โหนฺติ.

. อิทานิ วิตฺถารโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปุคฺคลปฺตฺตึ ทสฺเสตุํ สมยวิมุตฺโต อสมยวิมุตฺโตติอาทิมาห. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ ติเล วิสารยมาเนน วิย, วาเก หีรยมาเนน วิย จ, เหฏฺา วิภงฺคปฺปกรเณ อิมาสํ ปฺจนฺนํ ปฺตฺตีนํ วตฺถุภูตา ขนฺธาทโย นิปฺปเทเสน กถิตาติ เตน เต อิธ เอกเทเสเนว กเถสิ. ฉฏฺา ปุคฺคลปฺตฺติ เหฏฺา อกถิตาว. อิธาปิ อุทฺเทสวาเร เอกเทเสเนว กถิตา; ตสฺมา ตํ วิตฺถารโต กเถตุกาโม สมยวิมุตฺโต อสมยวิมุตฺโตติ เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา มาติกํ เปสีติ.

มาติกาวณฺณนา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

. อิทานิ ยถาปิตํ มาติกํ อาทิโต ปฏฺาย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ – กตโม จ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. เอกจฺโจ ปุคฺคโลติ เอโก ปุคฺคโล. กาเลน กาลนฺติ เอตฺถ ภุมฺมวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเกกสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ. สมเยน สมยนฺติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. อฏฺ วิโมกฺเขติ รูปาวจรารูปาวจรอฏฺสมาปตฺติโย. ตาสฺหิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจนโต วิโมกฺโขติ นามํ. กาเยนาติ วิโมกฺขสหชาเตน นามกาเยน. ผุสิตฺวา วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา อิริยติ. กตมสฺมึ ปเนส กาเล วิโมกฺเข ผุสิตฺวา วิหรตีติ? สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกามสฺส หิ กาโล นาม อตฺถิ, อกาโล นาม อตฺถิ. ตตฺถ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนกาโล, วตฺตกรณกาโล จ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. สรีรํ ปน ปฏิชคฺคิตฺวา วตฺตํ กตฺวา วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส ยาว ปิณฺฑาย คมนกาโล นาคจฺฉติ, เอตสฺมึ อนฺตเร สมาปชฺชนสฺส กาโล นาม.

ปิณฺฑาย คมนกาลํ ปน สลฺลกฺเขตฺวา นิกฺขนฺตสฺส เจติยวนฺทนกาโล, ภิกฺขุสงฺฆปริวุตสฺส วิตกฺกมาฬเก านกาโล ปิณฺฑาย คมนกาโล คาเม จรณกาโล; อาสนสาลาย ยาคุปานกาโล วตฺตกรณกาโลติ อยมฺปิ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. อาสนสาลาย ปน วิวิตฺเต โอกาเส สติ ยาว ภตฺตกาโล นาคจฺฉติ, เอตสฺมิมฺปิ อนฺตเร สมาปชฺชนสฺส กาโล นาม. ภตฺตํ ปน ภุฺชนกาโล, วิหารคมนกาโล, ปตฺตจีวรปฏิสามนกาโล, ทิวาวตฺตกรณกาโล, ปริปุจฺฉาทานกาโลติ อยมฺปิ สมาปชฺชนสฺส อกาโล นาม. โย อกาโล, สฺเวว อสมโย. ตํ สพฺพมฺปิ เปตฺวา อวเสเส กาเล กาเล, สมเย สมเย วุตฺตปฺปกาเร อฏฺ วิโมกฺเข สหชาตนามกาเยน ปฏิลภิตฺวา วิหรนฺโต, ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.

อปิเจส สผสฺสเกหิ สหชาตนามธมฺเมหิ สหชาตธมฺเม ผุสติเยว นาม, อุปจาเรน อปฺปนํ ผุสติเยว นาม. ปุริมาย อปฺปนาย อปรํ อปฺปนํ ผุสติเยว. เยน หิ สทฺธึ เย ธมฺมา สหชาตา, เตน เต ปฏิลทฺธา นาม โหนฺติ. ผสฺเสนาปิ ผุฏฺาเยว นาม โหนฺติ. อุปจารมฺปิ อปฺปนาย ปฏิลาภการณเมว, ตถา ปุริมา อปฺปนา อปรอปฺปนาย. ตตฺราสฺส เอวํ สหชาเตหิ สหชาตานํ ผุสนา เวทิตพฺพา – ปมชฺฌานฺหิ วิตกฺกาทีหิ ปฺจงฺคิกํ. ตสฺมึ เปตฺวา ตานิ องฺคานิ เสสา อติเรกปณฺณาสธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธา นาม โหนฺติ. เตน นามกาเยน ปมชฺฌานสมาปตฺติวิโมกฺขํ ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. ทุติยํ ฌานํ ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาหิ ติวงฺคิกํ, ตติยํ สุขจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ, จตุตฺถํ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ, ตถา อากาสานฺจายตนํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนฺจ. ตตฺถ เปตฺวา ตานิ องฺคานิ เสสา อติเรกปณฺณาสธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธา นาม โหนฺติ. เตน นามกาเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติวิโมกฺขํ ผุสิตฺวา ปฏิลภิตฺวา วิหรติ.

ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ วิปสฺสนาปฺาย สงฺขารคตํ, มคฺคปฺาย จตุสจฺจธมฺเม ปสฺสิตฺวา. เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ อุปฑฺฒุปฑฺฒา ปมมคฺคาทิวชฺฌา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโตติ เอตฺถ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน เตน นามกาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา’’ติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนสฺส จ ขีณา อาสวา นาม นตฺถิ, ตสฺมา โส น คหิโต. อฏฺสมาปตฺติลาภี ขีณาสโวปิ เตน นามกาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺส ปน อปริกฺขีณาสวา นาม นตฺถิ, ตสฺมา โสปิ น คหิโต. สมยวิมุตฺโตติ ปน ติณฺณํ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํเยเวตํ นามนฺติ เวทิตพฺพํ.

. อสมยวิมุตฺตนิทฺเทเส – ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อสมยวิมุตฺโตติ ปเนตฺถ สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวสฺเสตํ นามํ. สุกฺขวิปสฺสกา ปน โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน จ ขีณาสวา ปุถุชฺชนา จ อิมสฺมึ ทุเก น ลพฺภนฺติ, ทุกมุตฺตกปุคฺคลา นาม โหนฺติ. ตสฺมา สตฺถา อตฺตโน พุทฺธสุพุทฺธตาย เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏเกหิ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต สพฺเพปิ อริยปุคฺคลาติอาทิมาห. ตตฺถ อริเย วิโมกฺเขติ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริเยติ สงฺขํ คเต โลกุตฺตรวิโมกฺเข. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาหิรานฺหิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ สมาปชฺชนฺตสฺส สมโยปิ อตฺถิ อสมโยปิ. มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถิ. ยสฺส สทฺธา พลวตี, วิปสฺสนา จ อารทฺธา, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺส ติฏฺนฺตสฺส นิสีทนฺตสฺส นิปชฺชนฺตสฺส ขาทนฺตสฺส ภุฺชนฺตสฺส มคฺคผลปฏิเวโธ นาม น โหตีติ นตฺถิ. อิติ มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถีติ เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา อิมํ ปิฏฺิวฏฺฏกํ ตนฺตึ อาโรเปสิ ธมฺมราชา. สมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน อิมายปิ ตนฺติยา อคฺคหิโตว. ภชาปิยมาโน ปน สมาปตฺติวิกฺขมฺภิตานํ กิเลสานํ วเสน สมยวิมุตฺตภาวํ ภเชยฺย.

. กุปฺปธมฺมากุปฺปธมฺมนิทฺเทเสสุ – ยสฺส อธิคโต สมาปตฺติธมฺโม กุปฺปติ นสฺสติ, โส กุปฺปธมฺโม. รูปสหคตานนฺติ รูปนิมิตฺตสงฺขาเตน รูเปน สหคตานํ. เตน สทฺธึ ปวตฺตานํ น วินา รูปารมฺมณานํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานนฺติ อตฺโถ. อรูปสหคตานนฺติ รูปโต อฺํ, น รูปนฺติ อรูปํ. อรูเปน สหคตานํ เตน สทฺธึ ปวตฺตานํ น วินา อรูปารมฺมณานํ จตุนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานานนฺติ อตฺโถ. น นิกามลาภีติ ปฺจหากาเรหิ อจิณฺณวสิตาย อิจฺฉิตากาเรน อลทฺธตฺตา น นิกามลาภี. อปฺปคุณสมาปตฺติโกติ อตฺโถ. น อกิจฺฉลาภีติ กิจฺฉลาภี ทุกฺขลาภี. โย อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อุปจารํ ปาเปนฺโต อปฺปนํ ปาเปนฺโต จิตฺตมฺชูสํ ลภนฺโต ทุกฺเขน กิจฺเฉน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต ตํ สมฺปทํ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ, โส น อกิจฺฉลาภี นาม. น อกสิรลาภีติ อวิปุลลาภี. สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อทฺธานํ ผริตุํ น สกฺโกติ. เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร วตฺเตตฺวา สหสาว วุฏฺาตีติ อตฺโถ.

ยตฺถิจฺฉกนฺติ ยสฺมึ โอกาเส สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ อิจฺฉติ. ยทิจฺฉกนฺติ กสิณชฺฌานํ วา อานาปานชฺฌานํ วา พฺรหฺมวิหารชฺฌานํ วา อสุภชฺฌานํ วาติ ยํ ยํ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ อิจฺฉติ. ยาวติจฺฉกนฺติ อทฺธานปริจฺเฉเทน ยตฺตกํ กาลํ อิจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยตฺถ ยตฺถ ยํ ยํ สมาปตฺตึ ยตฺตกํ อทฺธานํ สมาปชฺชิตุมฺปิ วุฏฺาตุมฺปิ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ ตํ ตํ สมาปตฺตึ ตตฺตกํ อทฺธานํ สมาปชฺชิตุมฺปิ วุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกติ. จนฺทํ วา สูริยํ วา อุลฺโลเกตฺวา ‘อิมสฺมึ จนฺเท วา สูริเย วา เอตฺตกํ านํ คเต วุฏฺหิสฺสามี’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ฌานํ สมาปนฺโน ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาตุํ น สกฺโกติ, อนฺตราว วุฏฺาติ; สมาปตฺติยา อปฺปคุณตายาติ.

ปมาทมาคมฺมาติ ปมาทํ ปฏิจฺจ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํวิโธ ปุคฺคโล กุปฺปธมฺโมติ วุจฺจติ. อิทํ ปน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปุถุชฺชนสฺส โสตาปนฺนสฺส สกทาคามิโนติ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ นามํ. เอเตสฺหิ สมาธิปาริพนฺธกา วิปสฺสนาปาริพนฺธกา จ ธมฺมา น สุวิกฺขมฺภิตา, น สุวิกฺขาลิตา, เตน เตสํ สมาปตฺติ นสฺสติ ปริหายติ. สา จ โข เนว สีลเภเทน, นาปตฺติวีติกฺกเมน. น ครุกโมกฺขธมฺโม ปเนส อปฺปมตฺตเกนปิ กิจฺจกรณีเยน วา วตฺตเภทมตฺตเกน วา นสฺสติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร เถโร สมาปตฺตึ วฬฺเชติ. ตสฺมึ ปิณฺฑาย คามํ ปวิฏฺเ ทารกา ปริเวเณ กีฬิตฺวา ปกฺกมึสุ. เถโร อาคนฺตฺวา ‘ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพ’นฺติ จินฺเตตฺวา อสมฺมชฺชิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘สมาปตฺตึ อปฺเปสฺสามี’ติ นิสีทิ. โส อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต, ‘กึ นุ โข อาวรณ’นฺติ สีลํ อาวชฺชนฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ วีติกฺกมํ อทิสฺวา ‘วตฺตเภโท นุ โข อตฺถี’ติ โอโลเกนฺโต ปริเวณสฺส อสมฺมฏฺภาวํ ตฺวา สมฺมชฺชิตฺวา ปวิสิตฺวา นิสีทนฺโต สมาปตฺตึ อปฺเปนฺโตว นิสีทิ.

. อกุปฺปธมฺมนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขวเสเนว เวทิตพฺโพ. อกุปฺปธมฺโมติ อิทํ ปน อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อนาคามิสฺส เจว ขีณาสวสฺส จาติ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ นามํ. เตสฺหิ สมาธิปาริพนฺธกา วิปสฺสนาปาริพนฺธกา จ ธมฺมา สุวิกฺขมฺภิตา สุวิกฺขาลิตา; เตน เตสํ ภสฺสสงฺคณิการามาทิกิจฺเจน วา อฺเน วา เยน เกนจิ อตฺตโน อนุรูเปน ปมาเทน วีตินาเมนฺตานมฺปิ สมาปตฺติ น กุปฺปติ, น นสฺสติ. สุกฺขวิปสฺสกา ปน โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิขีณาสวา อิมสฺมึ ทุเก น ลพฺภนฺติ; ทุกมุตฺตกปุคฺคลา นาม โหนฺติ. ตสฺมา สตฺถา อตฺตโน พุทฺธสุพุทฺธตาย เหฏฺา คหิเต จ อคฺคหิเต จ สงฺกฑฺฒิตฺวา อิมสฺมิมฺปิ ทุเก สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏเกหิ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต สพฺเพปิ อริยปุคฺคลาติอาทิมาห. อฏฺนฺนฺหิ สมาปตฺตีนํ กุปฺปนํ นสฺสนํ ภเวยฺย, โลกุตฺตรธมฺมสฺส ปน สกึ ปฏิวิทฺธสฺส กุปฺปนํ นสฺสนํ นาม นตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

. ปริหานธมฺมาปริหานธมฺมนิทฺเทสาปิ กุปฺปธมฺมากุปฺปธมฺมนิทฺเทสวเสเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ อิธ ปุคฺคลสฺส ปมาทํ ปฏิจฺจ ธมฺมานํ ปริหานมฺปิ อปริหานมฺปิ คหิตนฺติ อิทํ ปริยายเทสนามตฺตเมว นานํ. เสสํ สพฺพตฺถ ตาทิสเมว.

. เจตนาภพฺพนิทฺเทเส – เจตนาภพฺโพติ เจตนาย อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ. สเจ อนุสฺเจเตตีติ, สเจ สมาปชฺชติ. สมาปตฺติฺหิ สมาปชฺชนฺโต อนุสฺเจเตติ นาม. โส น ปริหายติ, อิตโร ปริหายติ.

. อนุรกฺขณาภพฺพนิทฺเทเส – อนุรกฺขณาภพฺโพติ อนุรกฺขณาย อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ. สเจ อนุรกฺขตีติ สเจ อนุปการธมฺเม ปหาย อุปการธมฺเม เสวนฺโต สมาปชฺชติ. เอวฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต อนุรกฺขติ นาม. โส น ปริหายติ, อิตโร ปริหายติ.

อิเม ทฺเวปิ สมาปตฺตึ เปตุํ ถาวรํ กาตุํ ปฏิพลา. เจตนาภพฺพโต ปน อนุรกฺขณาภพฺโพว พลวตโร. เจตนาภพฺโพ หิ อุปการานุปกาเร ธมฺเม น ชานาติ. อชานนฺโต อุปการธมฺเม นุทติ นีหรติ, อนุปการธมฺเม เสวติ. โส เต เสวนฺโต สมาปตฺติโต ปริหายติ. อนุรกฺขณาภพฺโพ อุปการานุปกาเร ธมฺเม ชานาติ. ชานนฺโต อนุปการธมฺเม นุทติ นีหรติ, อุปการธมฺเม เสวติ. โส เต เสวนฺโต สมาปตฺติโต น ปริหายติ.

ยถา หิ ทฺเว เขตฺตปาลา เอโก ปณฺฑุโรเคน สโรโค อกฺขโม สีตาทีนํ, เอโก อโรโค สีตาทีนํ สโห. สโรโค เหฏฺากุฏึ น โอตรติ, รตฺตารกฺขํ ทิวารกฺขํ วิชหติ. ตสฺส ทิวา สุกโมราทโย เขตฺตํ โอตริตฺวา สาลิสีสํ ขาทนฺติ, รตฺตึ มิคสูกราทโย ปวิสิตฺวา ขลํ ตจฺฉิ ตํ วิย เฉตฺวา คจฺฉนฺติ. โส อตฺตโน ปมตฺตการณา ปุน พีชมตฺตมฺปิ น ลภติ. อิตโร รตฺตารกฺขํ ทิวารกฺขํ น วิชหติ. โส อตฺตโน อปฺปมตฺตการณา เอกกรีสโต จตฺตาริปิ อฏฺปิ สกฏานิ ลภติ.

ตตฺถ สโรคเขตฺตปาโล วิย เจตนาภพฺโพ, อโรโค วิย อนุรกฺขณาภพฺโพ ทฏฺพฺโพ. สโรคสฺส อตฺตโน ปมาเทน ปุน พีชมตฺตสฺสปิ อลภนํ วิย เจตนาภพฺพสฺส อุปการานุปกาเร ธมฺเม อชานิตฺวา อุปกาเร ปหาย อนุปกาเร เสวนฺตสฺส สมาปตฺติยา ปริหานํ. อิตรสฺส อตฺตโน อปฺปมาเทน เอกกรีสมตฺตโต จตุอฏฺสกฏอุทฺธรณํ วิย อนุรกฺขณาภพฺพสฺส อุปการานุปกาเร ธมฺเม ชานิตฺวา อนุปกาเร ปหาย อุปกาเร เสวนฺตสฺส สมาปตฺติยา อปริหานํ เวทิตพฺพํ. เอวํ เจตนาภพฺพโต อนุรกฺขณาภพฺโพว สมาปตฺตึ ถาวรํ กาตุํ พลวตโรติ เวทิตพฺโพ.

. ปุถุชฺชนนิทฺเทเส – ตีณิ สํโยชนานีติ ทิฏฺิสํโยชนสีลพฺพตปรามาสสํโยชนวิจิกิจฺฉาสํโยชนานิ. เอตานิ หิ ผลกฺขเณ ปหีนานิ นาม โหนฺติ. อยํ ปน ผลกฺขเณปิ น โหตีติ ทสฺเสติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ สํโยชนธมฺมานํ. มคฺคกฺขณสฺมิฺหิ เตสํ ปหานาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ. อยํ ปน มคฺคกฺขเณปิ น โหติ. เอตฺตาวตา วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาโน ถูลพาลปุถุชฺชโนว อิธ กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๐. โคตฺรภุนิทฺเทเส เยสํ ธมฺมานนฺติ เยสํ โคตฺรภุาเณน สทฺธึ อุปฺปนฺนานํ ปโรปณฺณาสกุสลธมฺมานํ. อริยธมฺมสฺสาติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส. อวกฺกนฺติ โหตีติ โอกฺกนฺติ นิพฺพตฺติ ปาตุภาโว โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ นิพฺพานารมฺมเณน าเณน สพฺพํ ปุถุชฺชนสงฺขํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ ปุถุชฺชนมณฺฑลํ ปุถุชฺชนปฺตฺตึ อติกฺกมิตฺวา อริยสงฺขํ อริยโคตฺตํ อริยมณฺฑลํ อริยปฺตฺตึ โอกฺกมนโต โคตฺรภูปุคฺคโล นาม วุจฺจติ.

๑๑. ภยูปรตนิทฺเทเส – ภเยน อุปรโตติ ภยูปรโต. สตฺตปิ เสกฺขา ปุถุชฺชนา จ ภายิตฺวา ปาปโต โอรมนฺติ ปาปํ น กโรนฺติ. ตตฺถ ปุถุชฺชนา ทุคฺคติภยํ, วฏฺฏภยํ, กิเลสภยํ, อุปวาทภยนฺติ จตฺตาริ ภยานิ ภายนฺติ. เตสุ ภายิตพฺพฏฺเน ทุคฺคติเยว ภยํ ทุคฺคติภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปุถุชฺชโน ‘สเจ ตฺวํ ปาปํ กริสฺสสิ, จตฺตาโร อปายา มุขํ วิวริตฺวา ิตจฺฉาตอชครสทิสา, เตสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต กถํ ภวิสฺสสี’ติ ทุคฺคติภยํ ภายิตฺวา ปาปํ น กโรติ. อนมตคฺคสํสารวฏฺฏํเยว ปน วฏฺฏภยํ นาม. สพฺพมฺปิ อกุสลํ กิเลสภยํ นาม. ครหา ปน อุปวาทภยํ นาม. ตานิปิ ภายิตฺวา ปุถุชฺชโน ปาปํ น กโรติ. โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน ปน ตโย เสกฺขา ทุคฺคตึ อตีตตฺตา เสสานิ ตีณิ ภยานิ ภายิตฺวา ปาปํ น กโรนฺติ. มคฺคฏฺกเสกฺขา อาคมนวเสน วา อสมุจฺฉินฺนภยตฺตา วา ภยูปรตา นาม โหนฺติ. ขีณาสโว อิเมสุ จตูสุ ภเยสุ เอกมฺปิ น ภายติ. โส หิ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนภโย; ตสฺมา อภยูปรโตติ วุจฺจติ. กึ ปน โส อุปวาทมฺปิ น ภายตีติ? น ภายติ. อุปวาทํ ปน รกฺขตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โทณุปฺปลวาปิคาเม ขีณาสวตฺเถโร วิย.

๑๒. อภพฺพาคมนนิทฺเทเส – สมฺมตฺตนิยามาคมนสฺส อภพฺโพติ อภพฺพาคมโน. กมฺมาวรเณนาติ ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิยา. อสฺสทฺธาติ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. เต เปตฺวา ชมฺพุทีปํ อิตรทีปตฺตยวาสิโน เวทิตพฺพา. เตสุ หิ มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกภาวํ ปวิฏฺา นาม. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺารหิตา. อภพฺพาติ อปฺปฏิลทฺธมคฺคผลูปนิสฺสยา. นิยามนฺติ มคฺคนิยามํ, สมฺมตฺตนิยามํ. โอกฺกมิตุนฺติ เอตํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตสงฺขาตํ นิยามํ โอกฺกมิตุํ ปวิสิตุํ ตตฺถ ปติฏฺาตุํ อภพฺพา.

๑๓. ภพฺพาคมนนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. เอวมิมสฺมึ ทุเก เย จ ปุคฺคลา ปฺจานนฺตริยกา, เย จ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกา, เยหิ จ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิ คหิตา, เย จ พุทฺธาทีนํ น สทฺทหนฺติ, เยสฺจ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท นตฺถิ, เย จ อปริปุณฺณภวงฺคปฺา, เยสฺจ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, เต สพฺเพปิ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา, วิปรีตา ภพฺพาติ วุตฺตา.

๑๔. นิยตานิยตนิทฺเทเส อานนฺตริกาติ อานฺตริกกมฺมสมงฺคิโน. มิจฺฉาทิฏฺิกาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิสมงฺคิโน. สพฺเพปิ เหเต นิรยสฺส อตฺถาย นิยตตฺตา นิยตา นาม. อฏฺ ปน อริยปุคฺคลา สมฺมาภาวาย อุปรูปริมคฺคผลตฺถาย เจว อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย จ นิยตตฺตา นิยตา นาม. อวเสสปุคฺคลา ปน อนิพทฺธคติกา. ยถา อากาเส ขิตฺตทณฺโฑ ปถวิยํ ปตนฺโต ‘อคฺเคน วา มชฺเฌน วา มูเลน วา ปติสฺสตี’ติ น ายติ; เอวเมว ‘อสุกคติยา นาม นิพฺพตฺติสฺสนฺตี’ติ นิยมาภาวา อนิยตา นามาติ เวทิตพฺพา. ยา ปน อุตฺตรกุรุกานํ นิยตคติกตา วุตฺตา, น สา นิยตธมฺมวเสน. มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมาเยว หิ นิยตา นาม. เตสฺจ วเสนายํ ปุคฺคลนิยโม กถิโตติ.

๑๕. ปฏิปนฺนกนิทฺเทเส – มคฺคสมงฺคิโนติ มคฺคฏฺกปุคฺคลา. เต หิ ผลตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา ปฏิปนฺนกา นาม. ผลสมงฺคิโนติ ผลปฏิลาภสมงฺคิตาย ผลสมงฺคิโน. ผลปฏิลาภโต ปฏฺาย หิ เต ผลสมาปตฺตึ อสมาปนฺนาปิ ผเล ิตาเยว นาม.

๑๖. สมสีสีนิทฺเทเส – อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา, เอกปฺปหาเรเนวาติ อตฺโถ. ปริยาทานนฺติ ปริกฺขโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ปุคฺคโล สมสีสี นาม วุจฺจติ. โส ปเนส ติวิโธ โหติ – อิริยาปถสมสีสี, โรคสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ. ตตฺถ โย จงฺกมนฺโตว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา จงฺกมนฺโตว ปรินิพฺพาติ ปทุมตฺเถโร วิย; ิตโกว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ิตโกว ปรินิพฺพาติ โกฏปพฺพตวิหารวาสีติสฺสตฺเถโร วิย; นิสินฺโนว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิสินฺโนว ปรินิพฺพาติ, นิปนฺโนว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิปนฺโนว ปรินิพฺพาติ – อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม.

โย ปน เอกํ โรคํ ปตฺวา อนฺโตโรเคเยว วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว โรเคน ปรินิพฺพาติ – อยํ โรคสมสีสี นาม.

กตโร ชีวิตสมสีสี นาม? ‘‘สีสนฺติ เตรส สีสานิ – ปลิโพธสีสฺจ ตณฺหา, วินิพนฺธนสีสฺจ มาโน, ปรามาสสีสฺจ ทิฏฺิ, วิกฺเขปสีสฺจ อุทฺธจฺจํ, สํกิเลสสีสฺจ อวิชฺชา, อธิโมกฺขสีสฺจ สทฺธา, ปคฺคหสีสฺจ วีริยํ, อุปฏฺานสีสฺจ สติ, อวิกฺเขปสีสฺจ สมาธิ, ทสฺสนสีสฺจ ปฺา, ปวตฺตสีสฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ, โคจรสีสฺจ วิโมกฺโข, สงฺขารสีสฺจ นิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๗). ตตฺถ กิเลสสีสํ อวิชฺชํ อรหตฺตมคฺโค ปริยาทิยติ. ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติ. อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อวิชฺชํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ, ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ. ยสฺส เจตํ สีสทฺวยํ สมํ ปริยาทานํ คจฺฉติ, โส ชีวิตสมสีสี นาม.

กถมิทํ สมํ โหตีติ? วารสมตาย. ยสฺมิฺหิ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ – โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ, สกทาคามิมคฺเค ปฺจ, อนาคามิมคฺเค ปฺจ, อรหตฺตมคฺเค จตฺตารีติ เอกูนวีสติยา ปจฺจเวกฺขณาเณ ปติฏฺาย ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายติ. อิมาย วารสมตาย อิทํ อุภยสีสปริยาทานํ สมํ โหติ นาม. เตนายํ ปุคฺคโล ชีวิตสมสีสีติ วุจฺจติ. อยเมว จ อิธ อธิปฺเปโต.

๑๗. ิตกปฺปีนิทฺเทเส – ิโต กปฺโปติ ิตกปฺโป, ิตกปฺโป อสฺส อตฺถีติ ิตกปฺปี. กปฺปํ เปตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ. อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺสาติ ฌายนกาโล ภเวยฺย. เนว ตาวาติ ยาว เอส มคฺคสมงฺคี ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลํ น สจฺฉิกโรติ, เนว ตาว กปฺโป ฌาเยยฺย. ฌายมาโนปิ อชฺฌายิตฺวาว ติฏฺเยฺย. กปฺปวินาโส หิ นาม มหาวิกาโร มหาปโยโค โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬสฺส ฌายนวเสน มหาโลกวินาโส. อยมฺปิ เอวํ มหาวินาโส ติฏฺเยฺย วาติ วทติ. สาสเน ปน ธรมาเน อยํ กปฺปวินาโส นาม นตฺถิ. กปฺปวินาเส สาสนํ นตฺถิ. คตโกฏิเก หิ กาเล กปฺปวินาโส นาม โหติ. เอวํ สนฺเตปิ สตฺถา อนฺตรายาภาวํ ทีเปตุํ อิทํ การณํ อาหริ – ‘‘อิทมฺปิ ภเวยฺย, มคฺคสมงฺคิโน ปน ผลสฺส อนฺตราโย น สกฺกา กาตุ’’นฺติ. อยํ ปน ปุคฺคโล กปฺปํ เปนฺโต กิตฺตกํ กาลํ เปยฺยาติ? ยสฺมึ วาเร มคฺควุฏฺานํ โหติ, อถ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺตํ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตโต ตีณิ อนุโลมานิ, เอกํ โคตฺรภุจิตฺตํ, เอกํ มคฺคจิตฺตํ, ทฺเว ผลจิตฺตานิ, ปฺจ ปจฺจเวกฺขณาณานีติ เอตฺตกํ กาลํ เปยฺย. อิมํ ปนตฺถํ พาหิราย อาคนฺตุกูปมายปิ เอวํ ทีปยึสุ. สเจ หิ โสตาปตฺติมคฺคสมงฺคิสฺส มตฺถกูปริ โยชนิกํ เอกคฺฆนเสลํ ติวฏฺฏาย รชฺชุยา พนฺธิตฺวา โอลมฺเพยฺย, เอกสฺมึ วฏฺเฏ ฉินฺเน ทฺวีหิ โอลมฺเพยฺย, ทฺวีสุ ฉินฺเนสุ เอเกน โอลมฺเพยฺเยว, ตสฺมิมฺปิ ฉินฺเน อพฺภกูฏํ วิย อากาเส ติฏฺเยฺย, น ตฺเวว ตสฺส ปุคฺคลสฺส มคฺคานนฺตรผลสฺส อนฺตรายํ กเรยฺยาติ. อยํ ปน ทีปนา ปริตฺตา, ปุริมาว มหนฺตา. น เกวลํ ปน โสตาปตฺติมคฺคฏฺโว กปฺปํ เปติ, อิตเร มคฺคสมงฺคิโนปิ เปนฺติเยว. เตน ภควา เหฏฺา คหิตฺจ อคฺคหิตฺจ สพฺพํ สงฺกฑฺฒิตฺวา สทฺธึ ปิฏฺิวฏฺฏกปุคฺคเลหิ อิมํ ตนฺตึ อาโรเปสิ – ‘‘สพฺเพปิ มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ิตกปฺปิโน’’ติ.

๑๘. อริยนิทฺเทเส – กิเลเสหิ อารกตฺตา อริยา. สเทวเกน โลเกน อรณียตฺตา อริยา. อริยฏฺโ นาม ปริสุทฺธฏฺโติ ปริสุทฺธตฺตาปิ อริยา. เสสา อปริสุทฺธตาย อนริยา.

๑๙. เสกฺขนิทฺเทเส – มคฺคสมงฺคิโน มคฺคกฺขเณ, ผลสมงฺคิโน จ ผลกฺขเณ, อธิสีลสิกฺขาทิกา ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขนฺติเยวาติ เสกฺขา. อรหตา ปน อรหตฺตผลกฺขเณ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขิตา. ปุน ตสฺส สิกฺขนกิจฺจํ นตฺถีติ อเสกฺขา. อิติ สตฺต อริยา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. ขีณาสวา อฺสฺส สนฺติเก สีลาทีนํ สิกฺขิตตฺตา สิกฺขิตอเสกฺขา นาม. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธา สยมฺภูตตาย อสิกฺขิตอเสกฺขา นาม. เสสปุคฺคลา เนว สิกฺขนฺติ น สิกฺขิตาติ เนวเสกฺขานาเสกฺขา.

๒๐. เตวิชฺชนิทฺเทเส – ปมํ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุาณานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ ปตฺโตปิ, ปมํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปจฺฉา ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุาณนิพฺพตฺตโกปิ เตวิชฺโชเยว นาม. สุตฺตนฺตกถา ปน ปริยายเทสนา อภิธมฺมกถา นิปฺปริยายเทสนาติ อิมสฺมึ าเน อาคมนียเมว ธุรํ. ตสฺมา ปมํ ทฺเว วิชฺชา นิพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉา อรหตฺตํ ปตฺโตว อิธ อธิปฺเปโต. ฉฬภิฺเปิ เอเสว นโย.

๒๒. สมฺมาสมฺพุทฺธนิทฺเทเส ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติ ปจฺฉิมภเว สจฺจปฺปฏิเวธโต ปุพฺเพ อฺสฺส กสฺสจิ สนฺติเก อสฺสุตปุพฺเพสุ. ตโต ปุริมปุริเมสุ ปน ภเวสุ สพฺพฺุโพธิสตฺตา พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา คตปจฺจาคตวตฺตํ อารุยฺห กมฺมฏฺานํ อนุโลมํ โคตฺรภุํ อาหจฺจ เปนฺติ. ตสฺมา ปจฺฉิมภวสฺมึเยว อนาจริยกภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตทา หิ ตถาคโต ปูริตปารมิตฺตา อฺสฺส สนฺติเก สามํ อนนุสฺสุเตสุ สงฺขตาสงฺขตธมฺเมสุ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ อตฺตปจฺจกฺเขน าเณน จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ.

ตตฺถ จาติ ตสฺมิฺจ จตุสจฺจสมฺโพธิสงฺขาเต อรหตฺตมคฺเค. สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ พเลสุ จ วสีภาวนฺติ สพฺพฺุตฺาณฺเจว พเลสุ จ จิณฺณวสีภาวํ ปาปุณาติ. พุทฺธานฺหิ สพฺพฺุตฺาณสฺส เจว ทสพลาณสฺส จ อธิคมนโต ปฏฺาย อฺํ กาตพฺพํ นาม นตฺถิ. ยถา ปน อุภโตสุชาตสฺส ขตฺติยกุมารสฺส อภิเสกปฺปตฺติโต ปฏฺาย ‘อิทํ นาม อิสฺสริยํ อนาคต’นฺติ น วตฺตพฺพํ, สพฺพํ อาคตเมว โหติ. เอวเมว พุทฺธานํ อรหตฺตมคฺคสฺส อาคมนโต ปฏฺาย ‘อยํ นาม คุโณ น อาคโต, น ปฏิวิทฺโธ, น ปจฺจกฺโข’ติ น วตฺตพฺโพ, สพฺเพปิ สพฺพฺุคุณา อาคตา ปฏิวิทฺธา ปจฺจกฺขกตาว โหนฺติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํ ปารมีปูรณสิทฺธานุภาเวน อริยมคฺเคน ปฏิวิทฺธสพฺพฺุคุโณ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ.

๒๓. ปจฺเจกพุทฺธนิทฺเทเสปิ ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติ ปเท ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ หิ ปจฺฉิมภเว อนาจริยโก อตฺตุกฺกํสิกาเณเนว ปฏิวิทฺธสจฺโจ สพฺพฺุตฺาณฺเจว พเลสุ จ จิณฺณวสีภาวํ น ปาปุณาติ.

๒๔. อุภโตภาควิมุตฺตนิทฺเทเส – อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรตีติ อฏฺ สมาปตฺติโย สหชาตนามกาเยน ปฏิลภิตฺวา วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ วิปสฺสนาปฺาย สงฺขารคตํ, มคฺคปฺาย จตฺตาริ สจฺจานิ ปสฺสิตฺวา จตฺตาโรปิ อาสวา ขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต นามาติ วุจฺจติ. อยฺหิ ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ตตฺรายํ เถรวาโท – ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน, มคฺเคน สมุจฺเฉทวิโมกฺเขน วิมุตฺโตติ อุภโตภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโต’’ติ. ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร ‘‘นามนิสฺสิตโก เอโส’’ติ วตฺวา –

‘‘อจฺจี ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา, (อุปสีวาติ ภควา;)

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;

เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต,

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺข’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๐๘๐);

วตฺวา สุตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘นามกายโต จ รูปกายโต จ สุวิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ อาห. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน เอกวารํ วิมุตฺโต มคฺเคน สมุจฺเฉทวิโมกฺเขน เอกวารํ วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ. อิเม ปน ตโยปิ เถรา ปณฺฑิตา, ‘ติณฺณมฺปิ วาเท การณํ ทิสฺสตี’ติ ติณฺณมฺปิ วาทํ ตนฺตึ กตฺวา ปยึสุ.

สงฺเขปโต ปน อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต วิมุตฺโตติ อุโภหิ ภาเคหิ วิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตสฺส อนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ตตฺถ ปุริมา จตฺตาโร สมาปตฺติสีสํ นิโรธํ น สมาปชฺชนฺตีติ ปริยาเยน อุภโตภาควิมุตฺตา นาม. อฏฺสมาปตฺติลาภี อนาคามี ตํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโตติ นิปฺปริยาเยน อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺโ นาม. นนุ จ อรูปาวจรชฺฌานมฺปิ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาหิ ทุวงฺคิกํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานมฺปิ, ตสฺมา ตมฺปิ ปทฏฺานํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺเตน อุภโตภาควิมุตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ? น ภวิตพฺพํ. กสฺมา? รูปกายโต อวิมุตฺตตฺตา. ตฺหิ กิเลสกายโตว วิมุตฺตํ, น รูปกายโต; ตสฺมา ตโต วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม น โหติ. อรูปาวจรํ ปน นามกายโต จ วิมุตฺตํ รูปกายโต จาติ ตเทว ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.

๒๕. ปฺาวิมุตฺตนิทฺเทเส – ปฺาย วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ ปฺจวิโธ โหติ. เอเตสุ หิ เอโกปิ อฏฺวิโมกฺขลาภี น โหติ. เตเนว น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเขติอาทิมาห. อรูปาวจรชฺฌาเนสุ ปน เอกสฺมึ สติ อุภโตภาควิมุตฺโตเยว นาม โหตีติ.

๒๖. กายสกฺขินิทฺเทเส – เอกจฺเจ อาสวาติ เหฏฺิมมคฺคตฺตยวชฺฌา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล กายสกฺขีติ วุจฺจติ. โส หิ ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี. ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติปิ กายสกฺขี. โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ฉพฺพิโธ โหติ.

๒๗. ทิฏฺิปฺปตฺตนิทฺเทเส อิทํ ทุกฺขนฺติ อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต อุทฺธํ ทุกฺขํ. ทุกฺขสมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถาภูตํ ปชานาตีติ เปตฺวา ตณฺหํ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ‘ทุกฺขสจฺจ’นฺติ ยาถาวสรสโต ปชานาติ. ตณฺหา ปน ทุกฺขํ ชเนติ นิพฺพตฺเตติ, ปภาเวติ, ตโต ตํ ทุกฺขํ สมุเทติ; ตสฺมา นํ อยํ ‘ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยสฺมา ปน อิทํ ทุกฺขฺจ สมุทโย จ นิพฺพานํ ปตฺวา นิรุชฺฌนฺติ วูปสมฺมนฺติ อปฺปวตฺตึ คจฺฉนฺติ; ตสฺมา นํ ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อริโย ปน อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ; เตน ตํ ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอตฺตาวตา นานากฺขเณ สจฺจววตฺถานํ ทสฺสิตํ. อิทานิ เอกกฺขเณ ทสฺเสตุํ ตถาคตปฺปเวทิตาติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคตปฺปเวทิตาติ มหาโพธิมณฺเฑ นิสีทตฺวา ตถาคเตน ปฏิวิทฺธา วิทิตา ปากฏีกตา. ธมฺมาติ จตุสจฺจธมฺมา. โวทิฏฺา โหนฺตีติ สุทิฏฺา โหนฺติ. โวจริตาติ สุจริตา. เตสุ อเนน ปฺา สุฏฺุ จราปิตา โหตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโตติ วุจฺจติ. อยฺหิ ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต. ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธ’’ติ าณํ โหติ. ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ปสฺสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺปฺปตฺโต. อยมฺปิ กายสกฺขี วิย ฉพฺพิโธว โหติ.

๒๘. สทฺธาวิมุตฺตนิทฺเทเส – โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺสาติ ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส อาสวา ปริกฺขีณา, น เอวํ สทฺธาวิมุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. กึ ปน เนสํ กิเลสปฺปหาเน นานตฺตํ อตฺถีติ? นตฺถิ. อถ กสฺมา สทฺธาวิมุตฺโต ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาตีติ? อาคมนียนานตฺเตน. ทิฏฺิปฺปโต หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปทุกฺเขน อปฺปกสิเรน อกิลมนฺโตว วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. สทฺธาวิมุตฺโต ปน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต หุตฺวา วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาติ. อปิจ เนสํ ปฺายปิ นานตฺตํ อตฺถิเยว. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณํ ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ. สทฺธาวิมุตฺตสฺส วิปสฺสนาาณํ โน ติกฺขํ สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา วหติ, ตสฺมาปิ โส ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาติ.

ยถา หิ ทฺวีสุ ตรุเณสุ สิปฺปํ ทสฺเสนฺเตสุ เอกสฺส หตฺเถ ติขิโณ อสิ, เอกสฺส กุณฺโ. ติขิเณน อสินา กทลี ฉิชฺชมานา สทฺทํ น กโรติ. กุณฺเน อสินา ฉิชฺชมานา ‘กฏกฏา’ติ สทฺทํ กโรติ. ตตฺถ ติขิเณน อสินา สทฺทํ อกโรนฺติยา เอว กทลิยา เฉทนํ วิย ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณสฺส ติขิณสูรวิปฺปสนฺนภาโว. กุณฺเน อสินา สทฺทํ กโรนฺติยาปิ กทลิยา เฉทนํ วิย สทฺธาวิมุตฺตสฺส ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาาณสฺส อติขิณอสูรอปฺปสนฺนภาโว เวทิตพฺโพ. อิมํ ปน นยํ ‘โน’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา, อาคมนียนานตฺเตเนว สทฺธาวิมุตฺโต ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาตีติ สนฺนิฏฺานํ กตํ.

อาคมฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – ‘‘เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย โอกปฺเปนฺตสฺส วิย อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม อติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ; เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน สุนิสิเตเนว อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ; เอวรูปา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา’’ติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ. อยฺหิ สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. อยมฺปิ กายสกฺขี วิย ฉพฺพิโธว โหติ.

๒๙. ธมฺมานุสารีนิทฺเทเส – ปฏิปนฺนสฺสาติ อิมินา โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ ทสฺสิโต. อธิมตฺตนฺติ พลวํ. ปฺํ วาเหตีติ ปฺาวาหี. ปฺา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ ปฺาวาหีติปิ วุตฺตํ โหติ. ปฺาปุพฺพงฺคมนฺติ ปฺํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ธมฺมานุสารีติ วุจฺจติ. โส หิ ปฺาสงฺขาเตน ธมฺเมน สรติ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสเวตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม โหติ.

๓๐. สทฺธานุสารีนิทฺเทเสปิ – สทฺธํ วาเหตีติ สทฺธาวาหี. สทฺธา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ สทฺธาวาหีติปิ วุตฺตเมว. สทฺธาปุพฺพงฺคมนฺติ สทฺธํ ปุเรจาริกํ กตฺวา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สทฺธานุสารีติ วุจฺจติ. โส หิ สทฺธาย สรติ. อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสเวตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต สทฺธาวิมุตฺโต นาม โหติ. โลกุตฺตรธมฺมฺหิ นิพฺพตฺเตนฺตานํ ทฺเว ธุรานิ นาม, ทฺเว อภินิเวสา นาม, ทฺเว สีสานิ นาม. ตตฺถ สทฺธาธุรํ ปฺาธุรนฺติ – ทฺเว ธุรานิ นาม. เอโก ปน ภิกฺขุ สมถาภินิเวเสน อภินิวิสติ, เอโก วิปสฺสนาภินิเวเสนาติ – อิเม ทฺเว อภินิเวสา นาม. เอโก จ มตฺถกํ ปาปุณนฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, เอโก ปฺาวิมุตฺโตติ – อิมานิ ทฺเว สีสานิ นาม. เย เกจิ หิ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตนฺติ, สพฺเพ เต อิเม ทฺเว ธมฺเม ธุรํ กตฺวา อิเมสุ ทฺวีสุ าเนสุ อภินิวิสิตฺวา อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ วิมุจฺจนฺติ. เตสุ โย ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปฺํ ธุรํ กตฺวา สมถวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ กายสกฺขี นาม. อรหตฺตผเล ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม.

อปโร ปฺเมว ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณเยว ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม. อรหตฺเต ปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม. อิธ ทฺเว นามานิ อปุพฺพานิ, ตานิ ปุริเมหิ สทฺธึ ปฺจ โหนฺติ. อปโร อฏฺสมาปตฺติลาภี สทฺธํ ธุรํ กตฺวา สมาธิวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ – อยํ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม. ปรโต ฉสุ าเนสุ กายสกฺขีเยว นาม. อรหตฺเต ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโตเยว นาม. อิธ เอกเมว นามํ อปุพฺพํ. เตน สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ. อปโร สทฺธเมว ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม. ปรโต ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต นาม. อรหตฺเต ปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม. อิธาปิ เอกเมว นามํ อปุพฺพํ. เตน สทฺธึ ปุริมานิ ฉ สตฺต โหนฺติ. อิเม สตฺต ปุคฺคลา โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺยา นามาติ.

๓๑. สตฺตกฺขตฺตุปรมนิทฺเทเส – สตฺตกฺขตฺตุนฺติ สตฺตวาเร. สตฺตกฺขตฺตุปรมา ภวูปปตฺติ อตฺตภาวคฺคหณํ อสฺส, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม. โสตาปนฺโน โหตีติ เอตฺถ โสโตติ อริยมคฺโค, เตน สมนฺนาคโต โสตาปนฺโน นาม. ยถาห –

‘‘โสโต โสโตติ หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสโตติ? อยเมว หิ, ภนฺเต, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค โสโต, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติ. โสตาปนฺโน โสตาปนฺโนติ, หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ. กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสตาปนฺโนติ? โย หิ, ภนฺเต, อิมินา อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สมนฺนาคโต อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโน, สฺวายํ อายสฺมา เอวํนาโม เอวํโคตฺโต อิติ วา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๑).

เอวํ มคฺคกฺขเณปิ โสตาปนฺโน นาม โหติ. อิธ ปน มคฺเคน ผลสฺส นามํ ทินฺนนฺติ ผลกฺขเณ โสตาปนฺโน อธิปฺเปโต.

อวินิปาตธมฺโมติ วินิปาตสงฺขาตํ อปายํ อุปปตฺติวเสน อนาคมนสภาโว. นิยโตติ มคฺคนิยาเมน นิยโต. สมฺโพธิปรายโณติ พุชฺฌนกภาวปรายโณ. โส หิ ปฏิลทฺธมคฺเคน พุชฺฌตีติ สมฺโพธิปรายโณ. อุปริ ตีหิ มคฺเคหิ อวสฺสํ พุชฺฌิสฺสตีติ สมฺโพธิปรายโณ. เทเว จ มนุสฺเส จาติ เทวโลกฺจ มนุสฺสโลกฺจ. สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวาติ ปฏิสนฺธิวเสน อปราปรํ คนฺตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ กโรติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม วุจฺจติ. อยํ ปน กาเลน เทวโลกสฺส กาเลน มนุสฺสโลกสฺส วเสน มิสฺสกภเวน กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

๓๒. โกลํโกลนิทฺเทเส – กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต หิ ปฏฺาย นีเจ กุเล อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภคกุเลสุเยว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานีติ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว วา ตโย วา ภเว. อิติ อยมฺปิ มิสฺสกภเวเนว กถิโต. เทสนามตฺตเมว เจตํ – ‘ทฺเว วา ตีณิ วา’ติ. ยาว ฉฏฺภวา สํสรนฺโตปิ ปน โกลํโกโลว โหติ.

๓๓. เอกพีชินิทฺเทเส – ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํเยว ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชี นาม. มานุสกํ ภวนฺติ อิทํ ปเนตฺถ เทสนามตฺตเมว. เทวภวํ นิพฺพตฺเตตีติปิ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ภควตา คหิตนามวเสเนว เจตานิ เอเตสํ นามานิ. เอตฺตกํ านํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. นิยมโต ปน อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม, อยํ โกลํโกโล, อยํ เอกพีชีติ นตฺถิ.

โก ปน เตสํ เอตํ ปเภทํ นิยเมตีติ? เกจิ ตาว เถรา ‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’ติ วทนฺติ, เกจิ ‘ปมมคฺโค’, เกจิ ‘อุปริ ตโย มคฺคา’, เกจิ ‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา’ติ. ตตฺถ ‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’ติ วาเท ‘ปมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นาม โหติ, อุปริ ตโย มคฺคา นิรุปนิสฺสยา อุปฺปนฺนา’ติ วจนํ อาปชฺชติ. ‘ปมมคฺโค นิยเมตี’ติ วาเท อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ. ‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยเมนฺตี’ติ วาเท ‘อฏฺมมคฺเค อนุปฺปนฺเนเยว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนา’ติ อาปชฺชติ. ‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยเมตี’ติ วาโท ปน ยุชฺชติ. สเจ หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา พลวตี โหติ, เอกพีชี นาม โหติ; ตโต มนฺทตราย โกลํโกโล; ตโต มนฺทตราย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ.

เอกจฺโจ หิ โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย โหติ, วฏฺฏาภิรโต, ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว วิจรติ สนฺทิสฺสติ. อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺิ, วิสาขา อุปาสิกา, จูฬรถมหารถา เทวปุตฺตา, อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต, สกฺโก เทวราชา, นาคทตฺโต เทวปุตฺโตติ อิเม หิ เอตฺตกา ชนา วฏฺฏชฺฌาสยา วฏฺฏาภิรตา อาทิโต ปฏฺาย ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺเ ตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, อิเม อิธ น คหิตา. น เกวลฺจิเม; โยปิ มนุสฺเสสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โยปิ เทวโลเก นิพฺพตฺโต เทเวสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ อปราปรํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิเมปิ อิธ น คหิตา. มิสฺสกภววเสเนว ปเนตฺถ สตฺตกฺขตฺตุปรมโกลํโกลา มานุสกภวนิพฺพตฺตโกเยว จ เอกพีชี คหิโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เอเกโก ทุกฺขาปฏิปทาทิวเสน จตุพฺพิธภาวํ อาปชฺชติ. สทฺธาธุเรเนว จตฺตาโร สตฺตกฺขตฺตุปรมา, จตฺตาโร โกลํโกลา, จตฺตาโร เอกพีชิโนติ ทฺวาทส โหนฺติ. สเจ ปฺาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, ‘อหํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’ติ เอวํ ปฺํ ธุรํ กตฺวา สตฺตกฺขตฺตุปรมาทิภาวํ ปตฺตาปิ ปฏิปทาวเสน ทฺวาทเสวาติ อิเม จตุวีสติ โสตาปนฺนา อิหฏฺกนิชฺฌานิกวเสเนว อิมสฺมึ าเน กถิตาติ เวทิตพฺพา.

๓๔. สกทาคามินิทฺเทเส – ปฏิสนฺธิวเสน สกึ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี. สกิเทวาติ เอกวารํเยว. อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวาติ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ – อิเม จตฺตาโรปิ อิธ น คหิตา. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ – อยํ เอโกว อิธ คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ เหฏฺา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ โลกุตฺตรกุสลนิทฺเทเส วุตฺตเมว. อิมสฺส ปน สกทาคามิโน เอกพีชินา สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ? เอกพีชิสฺส เอกาว ปฏิสนฺธิ, สกทาคามิสฺส ทฺเว ปฏิสนฺธิโย – อิทํ เนสํ นานากรณนฺติ.

๓๕. อนาคามินิทฺเทเส – โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานนฺติ โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ. ยสฺส อิมานิ ปฺจ พนฺธนานิ อปฺปหีนานิ โหนฺติ, โส ภวคฺเค นิพฺพตฺโตปิ คิลิตพฬิโส มจฺโฉ วิย ทีฆสุตฺตเกน ปาเท พทฺธกาโก วิย เตหิ พนฺธเนหิ อากฑฺฒิยมาโน กามธาตุยํเยว ปวตฺตตีติ ปฺจ พนฺธนานิ โอรมฺภาคิยานีติ วุจฺจนฺติ. เหฏฺาภาคิยานิ เหฏฺาโกฏฺาสิกานีติ อตฺโถ. ปริกฺขยาติ เตสํ พนฺธนานํ ปริกฺขเยน. โอปปาติโกติ อุปปาตโยนิโก. อิมินาสฺส คพฺภเสยฺยา ปฏิกฺขิตฺตา. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ตตฺถ สุทฺธาวาสโลเก ปรินิพฺพายิตา. อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ อนาวตฺตนสภาโว. พุทฺธทสฺสนเถรทสฺสนธมฺมสฺสวนานํ ปนตฺถายสฺส อาคมนํ อนิวาริตํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวํวิโธ ปุคฺคโล ปฏิสนฺธิวเสน ปุน อนาคมนโต อนาคามี นาม วุจฺจติ.

๓๖. อนฺตราปรินิพฺพายินิทฺเทเส อุปปนฺนํ วา สมนนฺตราติ อุปปนฺนสมนนฺตรา วา หุตฺวา. อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณนฺติ อายุปฺปมาณํ เวมชฺฌํ อปฺปตฺตํ วา หุตฺวา อริยมคฺคํ สฺชเนตีติ อตฺโถ. วาสทฺทวิกปฺปโต ปน เวมชฺฌํ ปตฺตนฺติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน สิทฺธา โหนฺติ. อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานนฺติ อุปริ ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ อฏฺนฺนํ วา กิเลสานํ. ปหานายาติ เอเตสํ ปชหนตฺถาย มคฺคํ สฺชเนติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อายุเวมชฺฌสฺส อนฺตราเยว ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายีติ วุจฺจติ.

๓๗. อุปหจฺจปรินิพฺพายินิทฺเทเส อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณนฺติ อายุปฺปมาณํ เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา. อุปหจฺจ วา กาลกิริยนฺติ อุปคนฺตฺวา กาลกิริยํ. อายุกฺขยสฺส อาสนฺเน ตฺวาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อวิเหสุ ตาว กปฺปสหสฺสปฺปมาณสฺส อายุโน ปฺจกปฺปสตสงฺขาตํ เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ฉฏฺเ วา กปฺปสเต สตฺตมฏฺมนวมานํ วา อฺตรสฺมึ ทสเมเยว วา กปฺปสเต ตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ วุจฺจติ.

๓๘. อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายินิทฺเทเสสุ – อสงฺขาเรน อปฺปทุกฺเขน อธิมตฺตปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพานธมฺโมติ อสงฺขารปรินิพฺพายี. สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺโมติ สสงฺขารปรินิพฺพายี.

๔๐. อุทฺธํโสตนิทฺเทเส – อุทฺธํ วาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต. อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต. อกนิฏฺํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. อวิหา จุโต อตปฺปํ คจฺฉตีติอาทีสุ อวิเห กปฺปสหสฺสํ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อตปฺปํ คจฺฉติ. ตตฺราปิ ทฺเว กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสํ คจฺฉติ. ตตฺราปิ จตฺตาริ กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา สุทสฺสึ คจฺฉติ. ตตฺราปิ อฏฺ กปฺปสหสฺสานิ วสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺกุณิตฺวา อกนิฏฺํ คจฺฉติ. ตตฺถ วสนฺโต อริยมคฺคํ สฺชเนตีติ อตฺโถ.

อิเมสํ ปน อนาคามีนํ ปเภทชานนตฺถํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โย อวิหโต ปฏฺาย จตฺตาโร เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน เหฏฺา ตโย เทวโลเก โสเธตฺวา สุทสฺสีเทวโลเก ตฺวา ปรินิพฺพายติ – อยํ อุทฺธํโสโต, น อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อิโต อกนิฏฺเมว คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน เหฏฺา จตูสุ เทวโลเกสุ ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต, น อกนิฏฺคามี นามาติ. เอวเมเต อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโน โหนฺติ.

กถํ? อวิเห ตาว ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโต เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจ, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน ปฺจาติ ทส โหนฺติ. ตถา อตปฺปาสุทสฺสาสุทสฺสีสูติ จตฺตาโร ทสกา จตฺตาลีสํ. อกนิฏฺเ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ. ตโย ปน อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี. เต อสงฺขารปรินิพฺพายิโน จตฺตาโร, สสงฺขารปรินิพฺพายิโน จตฺตาโรติ อฏฺ. เอวํ อฏฺจตฺตาลีสํ โหนฺติ.

เต สพฺเพปิ ปปฏิโกปมาย ทีปิตา – ทิวสํ สนฺตตฺตานมฺปิ หิ อารกณฺฏกวิปฺผลิกนขจฺเฉทนานํ อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อุปฺปชฺชิตฺวาว นิพฺพายติ – เอวรูโป ปโม อนฺตราปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? อุปฺปนฺนสมนนฺตราว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป ทุติโย อนฺตราปรินิพฺพายี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? เวมชฺฌํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา นิวตฺตมานา ปถวิยํ อนุปหจฺจตลา หุตฺวา ปรินิพฺพายติ – เอวรูโป ตติโย อนฺตราปรินิพฺพายี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? เวมชฺฌํ ปตฺวา อนุปหจฺจ ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา อากาสํ อุลฺลงฺฆิตฺวา ปถวิยํ ปติตฺวา อุปหจฺจตลา หุตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อุปหจฺจปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? กาลกิริยํ อุปคนฺตฺวา อายุคตึ เขเปตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา ปริตฺเต ติณกฏฺเ ปติตฺวา ตํ ปริตฺตํ ติณกฏฺํ ฌาเปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อสงฺขารปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? อปฺปโยเคน ลหุสาย คติยา ปรินิพฺพายนโต. ตโต มหนฺตตเร อโยมุเข หฺมาเน ปปฏิกา วิปุเล ติณกฏฺปุฺเช ปติตฺวา ตํ วิปุลํ ติณกฏฺปุฺชํ ฌาเปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป สสงฺขารปรินิพฺพายี เวทิตพฺโพ. กสฺมา? สปฺปโยเคน อลหุสาย คติยา ปรินิพฺพายนโต. อปรา มหนฺเตสุ ติณกฏฺปุฺเชสุ ปตติ, ตตฺถ มหนฺเตสุ ติณกฏฺปุฺเชสุ ฌายมาเนสุ วีตจฺจิตงฺคาโร วา ชาลา วา อุปฺปติตฺวา กมฺมารสาลํ ฌาเปตฺวา คามนิคมนครรฏฺํ ฌาเปตฺวา สมุทฺทนฺตํ ปตฺวา นิพฺพายติ – เอวรูโป อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี ทฏฺพฺโพ. กสฺมา? อเนกภวพีชวิปฺผารํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกตฺวา ปรินิพฺพายนโต. ยสฺมา ปน อารกณฺฏกาทิเภทํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ อโยกปาลเมว, ตสฺมา สุตฺเต สพฺพวาเรสุ อโยกปาลนฺตฺเวว วุตฺตํ (อ. นิ. ๗.๕๕). ยถาห –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ, ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหามี’’’ติ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชติ, อตฺถุตฺตริ ปทํ สนฺตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ โหติ. ตสฺส น สพฺเพน สพฺพํ มานานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ ภวราคานุสโย ปหีโน โหติ, น สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชานุสโย ปหีโน โหติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อนุปหจฺจ ตลํ นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปหจฺจ ตลํ นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา ปริตฺเต ติณปุฺเช วา กฏฺปุฺเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย, ธูมมฺปิ ชเนยฺย, อคฺคิมฺปิ ชเนตฺวา ธูมมฺปิ ชเนตฺวา ตเมว ปริตฺตํ ติณปุฺชํ วา กฏฺปุฺชํ วา ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา วิปุเล ติณปุฺเช วา กฏฺปุฺเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย…เป… ตเมว วิปุลํ ติณปุฺชํ วา กฏฺปุฺชํ วา ปริยาทิยิตฺวา อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทิวสํ สนฺตตฺเต อโยกปาเล หฺมาเน ปปฏิกา นิพฺพตฺติตฺวา อุปฺปติตฺวา มหนฺเต ติณปุฺเช วา กฏฺปุฺเช วา นิปเตยฺย, สา ตตฺถ อคฺคิมฺปิ ชเนยฺย…เป… ตเมว มหนฺตํ ติณปุฺชํ วา กฏฺปุฺชํ วา ปริยาทิยิตฺวา คจฺฉมฺปิ ทเหยฺย, ทายมฺปิ ทเหยฺย, คจฺฉมฺปิ ทหิตฺวา ทายมฺปิ ทหิตฺวา หริตนฺตํ วา ปถนฺตํ วา เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา รมณียํ วา ภูมิภาคํ อาคมฺม อนาหารา นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – โน จสฺส…เป… ปริกฺขยา อุทฺธํโสโต โหติ อกนิฏฺคามี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๕).

๔๑-๔๔. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนาทินิทฺเทสา อุตฺตานตฺถาว. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อรหาติ เอตฺถ ปน ทฺวาทส อรหนฺโต เวทิตพฺพา. กถํ? ตโย หิ วิโมกฺขา – สุฺโต, อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิโตติ. ตตฺถ สุฺตวิโมกฺเขน วิมุตฺตขีณาสโว ปฏิปทาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ; ตถา อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺเขหีติ – เอวํ ทฺวาทส อรหนฺโต เวทิตพฺพา. อิติ อิเม ทฺวาทส อรหนฺโต วิย ทฺวาทเสว สกทาคามิโน, จตุวีสติ โสตาปนฺนา, อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโนติ เอตฺตกา ปุคฺคลา อิโต มุจฺจิตฺวา พหิทฺธา นุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมิฺเว สพฺพฺุพุทฺธสาสเน อุปฺปชฺชนฺตีติ.

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา.

๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

๔๕. ทุกนิทฺเทเส โกธโนติ กุชฺฌนสีโล มหาโกโธ. เอวํ ปุคฺคลํ ปุจฺฉิตฺวาปิ ธมฺเมน ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม โกโธติอาทิมาห. อุปนาหีนิทฺเทสาทีสุปิ เอเสว นโย. โกโธ กุชฺฌนาติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. ตถา อุปนาหีนิทฺเทสาทีสุ ปุพฺพกาลํ โกโธติอาทีนิ. อยํ โกโธ อปฺปหีโนติ อยํ เอตฺตโก โกโธ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา ตทงฺคปฺปหาเนน วา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา อปฺปหีโน. ปรโต อุปนาหาทีสุปิ เอเสว นโย.

๕๓. อหิริกนิทฺเทสาทีสุ – อิมินา อหิริเกนาติ อิมินา เอวํปกาเรน อหิริกธมฺเมน สมนฺนาคโต. อิมินา อโนตฺตปฺเปนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๖๓. อชฺฌตฺตสํโยชโนติ อชฺฌตฺตพนฺธโน. พหิทฺธาสํโยชโนติ พหิทฺธาพนฺธโน. เต อุโภปิ วจฺฉกสาลูปมาย ทีเปตพฺพา. วจฺฉกสาลาย หิ อนฺโต พทฺโธ อนฺโตเยว สยิตวจฺฉโก วิย อิธฏฺกโสตาปนฺนสกทาคามิโน. เตสฺหิ พนฺธนมฺปิ อิเธว, สยมฺปิ อิเธว. อนฺโต พทฺโธ ปน พหิ สยิตวจฺฉโก วิย รูปารูปภเว โสตาปนฺนสกทาคามิโน. เตสฺหิ พนฺธนเมว อิธ, สยํ ปน พฺรหฺมโลเก ิตา. พหิ พทฺโธ พหิ สยิตวจฺฉโก วิย รูปารูปภเว อนาคามี. ตสฺส หิ พนฺธนมฺปิ พหิทฺธา, สยมฺปิ พหิทฺธาว. พหิ พทฺโธ ปน อนฺโตสยิตวจฺฉโก วิย อิธฏฺกอนาคามี. ตสฺส หิ พนฺธนํ รูปารูปภเวสุ, สยํ ปน อิธ ิโต.

๖๕. อกฺโกธนนิทฺเทสาทีสุ – ปหีโนติ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา, ตทงฺคปฺปหาเนน วา, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา ปหีโน.

๘๓. ทุลฺลภนิทฺเทเส – ทุลฺลภาติ น สุลภา. ปุพฺพการีติ ปมเมว การโก. กตเวทีติ กตํ เวเทติ, วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. เต อคาริยานคาริเยหิ ทีเปตพฺพา. อคาริเยสุ หิ มาตาปิตโร ปุพฺพการิโน นาม. ปุตฺตธีตโร ปน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. อนคาริเยสุ อาจริยุปชฺฌายา ปุพฺพการิโน นาม. อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา อาจริยุปชฺฌาเย ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นาม. เตสํ อาวิภาวตฺถาย อุปชฺฌายโปสกโสณตฺเถราทีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

อปโร นโย – ปเรน อกเตเยว อุปกาเร อตฺตนิ กตํ อุปการํ อนเปกฺขิตฺวา การโก ปุพฺพการี, เสยฺยถาปิ มาตาปิตโร เจว อาจริยุปชฺฌายา จ. โส ทุลฺลโภ; สตฺตานํ ตณฺหาภิภูตตฺตา. ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อนุรูปปฺปวตฺตึ อตฺตนิ กตํ อุปการํ อุปการโต ชานนฺโต, เวทิยนฺโต, กตฺุกตเวที. เสยฺยถาปิ มาตาปิตุอาจริยุปชฺฌาเยสุ สมฺมา ปฏิปนฺโน. โสปิ ทุลฺลโภ; สตฺตานํ อวิชฺชาภิภูตตฺตา.

อปิจ – อการณวจฺฉโล ปุพฺพการี, สการณวจฺฉโล กตฺุกตเวที. ‘กริสฺสติ เม’ติ เอวมาทิการณนิรเปกฺขกิริโย ปุพฺพการี. ‘กริสฺสติ เม’ติ เอวมาทิการณสาเปกฺขกิริโย กตฺุกตเวที. ตโมโชติปรายโณ ปุพฺพการี, โชติโชติปรายโณ กตฺุกตเวที. เทเสตา ปุพฺพการี, ปฏิปชฺชิตา กตฺุกตเวที. สเทวเก โลเก อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพการี, อริยสาวโก กตฺุกตเวทีติ. ทุกนิปาตฏฺกถายํ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๒๐) ปน – ‘‘‘ปุพฺพการี’ติ ปมํ อุปการสฺส การโก, ‘กตฺุกตเวที’ติ เตน กตํ ตฺวา ปจฺฉา การโก. เตสุ ปุพฺพการี อิณํ เทมีติ สฺํ กโรติ, ปจฺฉาการโก ‘อิณํ ชีราเปมี’ติ สฺํ กโรตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.

๘๔. ทุตฺตปฺปยนิทฺเทเส – ทุตฺตปฺปยาติ อตปฺปยา, น สกฺกา เกนจิ ตปฺเปตุํ. โย หิ อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา นิสฺสาย วสมาโน จีวเร ชิณฺเณ เตหิ ทินฺนํ จีวรํ นิกฺขิปติ, น ปริภุฺชติ. ปุนปฺปุนํ ทินฺนมฺปิ คเหตฺวา นิกฺขิปเตว. โย จ เตเนว นเยน ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชติ ปรสฺส เทติ. ปุนปฺปุนํ ลทฺธมฺปิ ตเถว กโรติ. อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สกเฏหิปิ ปจฺจเย อุปเนนฺเตน ตปฺเปตุํ น สกฺกาติ ทุตฺตปฺปยา นาม.

๘๕. สุตปฺปยนิทฺเทเส – น วิสฺสชฺเชตีติ อตฺตโน อกตฺวา ปรสฺส น เทติ. อติเรเก ปน สติ น นิกฺขิปติ ปรสฺส เทติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ปน ภิกฺขุ อุปฏฺากกุลา วา าติกุลา วา ชิณฺณจีวโร สาฏกํ ลภิตฺวา จีวรํ กตฺวา ปริภุฺชติ, น นิกฺขิปติ; อคฺคฬํ ทตฺวา ปารุปนฺโตปิ ปุน ทิยฺยมาเน สหสา น ปฏิคฺคณฺหาติ. โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ อตฺตนา ปริภุฺชติ, ปเรสํ น เทติ. อิเม ทฺเวปิ สุเขน สกฺกา ตปฺเปตุนฺติ สุตปฺปยา นามาติ.

๘๖. อาสวาติ กิเลสา. น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายตีติ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพยุตฺตกํ กุกฺกุจฺจายติ. สูกรมํสํ ลภิตฺวา อจฺฉมํสนฺติ กุกฺกุจฺจายติ, มิคมํสํ, ลภิตฺวา ทีปิมํสนฺติ กุกฺกุจฺจายติ. กาเล สนฺเตเยว ‘กาโล นตฺถี’ติ, อปฺปวาเรตฺวาว ‘ปวาริโตสฺมี’ติ, ปตฺเต รชสฺมึ อปติเตเยว ‘ปติต’นฺติ, อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส อกเตเยว ‘มํ อุทฺทิสฺส กต’นฺติ กุกฺกุจฺจายติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายตีติ กุกฺกุจฺจายิตพฺพยุตฺตกํ น กุกฺกุจฺจายติ. อจฺฉมํสํ ลภิตฺวา สูกรมํสนฺติ น กุกฺกุจฺจายติ…เป… อตฺตานํ อุทฺทิสฺส มจฺฉมํเส กเต ‘มํ อุทฺทิสฺส กต’นฺติ น กุกฺกุจฺจายติ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน – ‘‘‘น กุกฺกุจฺจายิตพฺพ’นฺติ สงฺฆโภคสฺส อปฏฺปนํ อวิจารณํ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ นาม, ตํ กุกฺกุจฺจายติ. ‘กุกฺกุจฺจายิตพฺพ’นฺติ ตสฺเสว ปฏฺปนํ วิจารณํ, ตํ น กุกฺกุจฺจายตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อิเมสนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สุภูมิยํ ติณลตาทีนิ วิย รตฺติมฺปิ ทิวาปิ อาสวา วฑฺฒนฺติเยว. สุกฺกปกฺเข กปฺปิยมํสํ ลภิตฺวา กปฺปิยมํสนฺตฺเวว คณฺหนฺโต น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ นามาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๘๘. หีนาธิมุตฺโตติ หีนชฺฌาสโย. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม.

๘๙. ปณีตาธิมุตฺโตติ ปณีตชฺฌาสโย. กลฺยาณธมฺโมติ ภทฺทกธมฺโม, สุจิธมฺโม, สุนฺทรธมฺโม.

๙๐. ติตฺโตติ สุหิโต ปริโยสิโต. ตปฺเปตาติ อฺเสมฺปิ ติตฺติกโร. ปจฺเจกสมฺพุทฺธา เย จ ตถาคตสาวกาติ เอตฺถ ปจฺเจกพุทฺธา นวหิ โลกุตฺตรธมฺเมหิ สยํ ติตฺตา ปริปุณฺณา. อฺเ ปน ตปฺเปตุํ น สกฺโกนฺติ. เตสฺหิ ธมฺมกถาย อภิสมโย น โหติ. สาวกานํ ปน ธมฺมกถาย อปริมาณานมฺปิ เทวมนุสฺสานํ อภิสมโย โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ปน เต ธมฺมํ เทเสนฺตา น อตฺตโน วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, พุทฺธานํ วจนํ กตฺวา กเถนฺติ. โสตุํ นิสินฺนปริสาปิ ‘อยํ ภิกฺขุ น อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺมํ กเถติ, พุทฺเธหิ ปฏิวิทฺธธมฺมํ กเถตี’ติ จิตฺตีการํ กโรติ. อิติ โส จิตฺตีกาโร พุทฺธานํเยว โหติ. เอวํ ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺโธว ตปฺเปตา นาม. ยถา หิ ‘อสุกสฺส นาม อิทฺจิทฺจ เทถา’ติ รฺา อาณตฺตา กิฺจาปิ อาเนตฺวา เทนฺติ, อถ โข ราชาว ตตฺถ ทายโก. เยหิปิ ลทฺธํ โหติ, เต ‘รฺา อมฺหากํ านนฺตรํ ทินฺนํ, อิสฺสริยวิภโว ทินฺโน’ตฺเวว คณฺหนฺติ, น ราชปุริเสหีติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา.

๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๑. ติกนิทฺเทเส ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล. ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. สีลวิปตฺติยา วา ทุสฺสีโล, ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาปธมฺโม. กายวจีสํวรเภเทน ทุสฺสีโล, เสสสํวรเภเทน ปาปธมฺโม. อสุทฺธปโยคตาย ทุสฺสีโล, อสุทฺธาสยตาย ปาปธมฺโม. กุสลสีลวิรเหน ทุสฺสีโล; อกุสลสีลสมนฺนาคเมน ปาปธมฺโม. อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สงฺกาย ปเรหิ สริตพฺพสมาจาโร. กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’ติ เอวํ ปเรหิ อาสงฺกนียสมาจาโร, อตฺตโนเยว วา สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร – สาสงฺกสมาจาโรติ อตฺโถ. ตสฺส หิ ทิวาฏฺานาทีสุ สนฺนิปติตฺวา กิฺจิเทว มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘อิเม เอกโต หุตฺวา มนฺเตนฺติ, กจฺจิ นุ โข มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’ติ เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหติ.

ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ปฏิจฺฉาเทตพฺพยุตฺตเกน ปาปกมฺเมน สมนฺนาคโต. อสฺสมโณ สมณปฏิฺโติ อสฺสมโณ หุตฺวาว สมณปติรูปกตาย ‘สมโณ อห’นฺติ เอวํ ปฏิฺโ. อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมชนปทราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘อหํ พฺรหฺมจารี’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘อหํ ภิกฺขู’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต. อนฺโตปูตีติ ปูตินา กมฺเมน อนฺโต อนุปวิฏฺโ, นิคฺคุณตาย วา คุณสารวิรหิตตฺตา อนฺโตปูติ. อวสฺสุโตติ ราคาทีหิ ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ สฺชาตราคาทิกจวโร. อถ วา กสมฺพุ วุจฺจติ ตินฺตกุณปคตํ กสฏอุทกํ. อิมสฺมิฺจ สาสเน ทุสฺสีโล นาม ชิคุจฺฉนียตฺตา ตินฺตกุณปกสฏอุทกสทิโส. ตสฺมา กสมฺพุ วิย ชาโตติ กสมฺพุชาโต.

ตสฺส น เอวํ โหตีติ กสฺมา น โหติ? ยตฺถ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ลทฺธุํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ภินฺนตฺตา. ยถา หิ จณฺฑาลกุมารกสฺส ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวาปิ, ยสฺมึ กุเล ปจฺจาชาตา อภิเสกํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมึ กุเล อปจฺจาชาตตฺตา น เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ขตฺติยกุมาโร วิย อภิเสกํ ปาปุเณยฺย’นฺติ; เอวเมว ทุสฺสีลสฺส ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวาปิ, ยสฺมึ สีเล ปติฏฺิเตน อรหตฺตํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺส อภาวโต ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส สีลวา วิย อรหตฺตํ ปาปุเณย’นฺติ น เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรหตฺตาสาย อภาวา นิราโสติ วุจฺจติ.

๙๒. ตสฺส เอวํ โหตีติ กสฺมา โหติ? ยสฺมึ ปติฏฺิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ถิรตฺตา. ยถา หิ สุชาตสฺส ขตฺติยกุมารสฺส ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวาว ยสฺมึ กุเล ปจฺจาชาตา อภิเสกํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมึ ปจฺจาชาตสฺส เอวํ โหติ – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ, โส กุมาโร วิย อภิเสกํ ปาปุเณยฺย’นฺติ เอวเมว สีลวโต ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวาว ยสฺมึ สีเล ปติฏฺิเตน อรหตฺตํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺสา ปติฏฺาย ถิรตฺตา – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ภิกฺขุ วิย อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย’นฺติ เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อาสํโส นาม วุจฺจติ. โส หิ อรหตฺตํ อาสํสติ ปตฺเถตีติ อาสํโส.

๙๓. ยา หิสฺส ปุพฺเพ อวิมุตฺตสฺสาติ ยา ตสฺส ขีณาสวสฺส ปุพฺเพ อรหตฺตวิมุตฺติยา อวิมุตฺตสฺส วิมุตฺตาสา อโหสิ, สา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, ตสฺมา น เอวํ โหติ. ยถา หิ อภิสิตฺตสฺส ขตฺติยสฺส ‘อสุโก นาม ขตฺติยกุมาโร รชฺเช อภิสิตฺโต’ติ สุตฺวา เอกสฺส รฺโ ทฺวินฺนํ รชฺชาภิเสกานํ ทฺวินฺนํ เสตจฺฉตฺตานํ อภาวา น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส กุมาโร วิย อภิเสกํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ; เอวเมว ขีณาสวสฺส ‘อสุโก นาม ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’ติ สุตฺวา, ทฺวินฺนํ อรหตฺตานํ อภาวา – ‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ โส ภิกฺขุ วิย อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย’นฺติ น เอวํ โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรหตฺตาสาย วิคตตฺตา วิคตาโสติ วุจฺจติ.

๙๔. คิลานูปมนิทฺเทเส – ยาย อุปมาย เต คิลานูปมาติ วุจฺจนฺติ, ตํ ตาว อุปมํ ทสฺเสตุํ ตโย คิลานาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สปฺปายานีติ หิตานิ วุทฺธิกรานิ. ปติรูปนฺติ อนุจฺฉวิกํ. เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา อเตกิจฺเฉน วาตาปมาราทินา โรเคน สมนฺนาคโต นิฏฺปฺปตฺโต คิลาโน กถิโต. วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธาติ อิมินา ขิปิตกจฺฉุติณปุปฺผกชราทิปฺปเภโท อปฺปมตฺตกาพาโธ กถิโต.

ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโตติ อิมินา ปน เยสํ ปฏิชคฺคเนน ผาสุกํ โหติ, สพฺเพปิ เต อาพาธา กถิตา. เอตฺถ จ ปติรูโป อุปฏฺาโก นาม คิลานุปฏฺากองฺเคหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต ทกฺโข อนลโส เวทิตพฺโพ.

คิลานุปฏฺาโก อนุฺาโตติ ‘ภิกฺขุสงฺเฆน ทาตพฺโพ’ติ อนุฺาโต. ตสฺมิฺหิ คิลาเน อตฺตโน ธมฺมตาย ยาเปตุํ อสกฺโกนฺเต ภิกฺขุสงฺเฆน ตสฺส ภิกฺขุโน ‘เอโก ภิกฺขุ จ สามเณโร จ อิมํ ปฏิชคฺคถา’ติ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพา. ยาว ปน เต ตํ ปฏิชคฺคนฺติ, ตาว คิลานสฺส จ เตสฺจ ทฺวินฺนํ เยนตฺโถ สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว ภาโร. อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ อิตเรปิ ทฺเว คิลานา อุปฏฺาตพฺพา. กึ การณา? โยปิ หิ นิฏฺปฺปตฺตคิลาโน, โส อนุปฏฺิยมาโน ‘สเจ มํ ปฏิชคฺเคยฺยุํ, ผาสุกํ เม ภเวยฺย, น โข ปน มํ ปฏิชคฺคนฺตี’ติ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพตฺเตยฺย. ปฏิชคฺคิยมานสฺส ปน เอวํ โหติ – ‘ภิกฺขุสงฺเฆน ยํ กตฺตพฺพํ ตํ สพฺพํ กตํ, มยฺหํ ปน กมฺมวิปาโก อีทิโส’ติ โส ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. โย ปน อปฺปมตฺตเกน พฺยาธินา สมนฺนาคโต ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ วุฏฺาติเยว, ตสฺส วินาปิ เภสชฺเชน วูปสมนกพฺยาธิ เภสชฺเช กเต ขิปฺปตรํ วูปสมฺมติ. ตโต โส พุทฺธวจนํ วา อุคฺคณฺหิตุํ สมณธมฺมํ วา กาตุํ สกฺขิสฺสติ. อิมินา การเณน อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพาติ วุตฺตํ.

เนว โอกฺกมตีติ เนว ปวิสติ. นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ มคฺคนิยามสงฺขาตํ สมฺมตฺตํ. อิมินา ปทปรโม ปุคฺคโล กถิโต. ทุติยวาเรน อุคฺฆฏิตฺู คหิโต สาสเน นาฬกตฺเถรสทิโส. พุทฺธนฺตเร เอกวารํ ปจฺเจกพุทฺธานํ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ จ. ตติยวาเรน วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล กถิโต. เนยฺโย ปน ตนฺนิสฺสิโตว โหติ.

ธมฺมเทสนา อนุฺาตาติ มาสสฺส อฏฺ วาเร ธมฺมกถา อนุฺาตา. อฺเสมฺปิ ธมฺโม เทเสตพฺโพติ อิตเรสมฺปิ ธมฺโม กเถตพฺโพ. กึ การณา? ปทปรมสฺส หิ อิมสฺมึ อตฺตภาเว ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺตสฺสาปิ อนาคเต ปจฺจโย ภวิสฺสติ. โย ปน ตถาคตสฺส รูปทสฺสนํ ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมวินยฺจ สวนาย ลภนฺโตปิ อลภนฺโตปิ ธมฺมํ อภิสเมติ; โส อลภนฺโต น ตาว อภิสเมติ, ลภนฺโต ปน ขิปฺปเมว อภิสเมสฺสตีติ อิมินา การเณน เตสํ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. ตติยสฺส ปน ปุนปฺปุนํ เทเสตพฺโพว. กายสกฺขิทิฏฺปฺปตฺตสทฺธาวิมุตฺตา เหฏฺา กถิตาเยว.

๙๘. คูถภาณีอาทีสุ – สภคฺคโตติ สภายํ ิโต. ปริสคฺคโตติ คามปริสาย ิโต. าติมชฺฌคโตติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสณีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ. อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิอปฺปมตฺตกสฺสาปิ ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล คูถสทิสวจนตฺตา คูถภาณีติ วุจฺจติ. ยถา หิ คูถํ นาม มหาชนสฺส อนิฏฺํ โหติ อกนฺตํ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อนิฏฺํ โหติ อกนฺตํ.

๙๙. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปุปฺผสทิสวจนตฺตา ปุปฺผภาณีติ วุจฺจติ. ยถา หิ ผุลฺลานิ วสฺสิกานิ วา อธิมุตฺตกานิ วา มหาชนสฺส อิฏฺานิ กนฺตานิ โหนฺติ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺํ โหติ กนฺตํ.

๑๐๐. เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส. นาสฺสา เอลนฺติ เนลา. นิทฺโทสาติ อตฺโถ, ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา. สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี. นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ. ปิติมตฺตํ ปิตาติ, มาติมตฺตํ มาตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. พหุชนสฺส กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุทฺธิกราติ พหุชนมนาปา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล มธุภาณีติ วุจฺจติ. มุทุภาณีติปิ ปาโ. อุภยตฺถาปิ มธุรวจโนติ อตฺโถ. ยถา หิ จตุมธุรํ นาม มธุรํ ปณีตํ; เอวเมว อิมสฺส ปุคฺคลสฺส วจนํ เทวมนุสฺสานํ มธุรํ โหติ.

๑๐๑. อรุกูปมจิตฺตาทีสุ – อภิสชฺชตีติ ลคฺคติ. กุปฺปตีติ โกปวเสน กุปฺปติ. พฺยาปชฺชตีติ ปกติภาวํ ปชหติ, ปูติโก โหติ. ปติตฺถียตีติ ถินภาวํ ถทฺธภาวฺจ อาปชฺชติ. โกปนฺติ ทุพฺพลโกธํ. โทสนฺติ ทุสฺสนวเสน ตโต พลวตรํ. อปฺปจฺจยนฺติ อตุฏฺาการํ โทมนสฺสํ. ทุฏฺารุโกติ ปุราณวโณ. กฏฺเนาติ ทณฺฑกโกฏิยา. กลายาติ กปาเลน. อาสวํ เทตีติ อปราปรํ สวติ. ปุราณวโณ หิ อตฺตโน ธมฺมตาย เอว ปุพฺพํ โลหิตํ ยูสนฺติ อิมานิ ตีณิ สวติ, ฆฏฺฏิโต ปน ตานิ อธิกตรํ สวติ. เอวเมวํ โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, ทุฏฺารุโก วิย หิ โกธโน ปุคฺคโล. ตสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย สวนํ วิย โกธนสฺสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อุทฺธุมาตกสฺส วิย จณฺฑิกตสฺส จรณํ. กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏนํ วิย อปฺปมตฺตกมฺปิ วจนํ ภิยฺโยโส มตฺตาย สวนํ วิย ‘มาทิสํ นาม เอส เอวํ วทตี’ติ ภิยฺโยโส มตฺตาย อุทฺธุมายนภาโว ทฏฺพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อรุกูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. ปุราณวณสทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.

๑๐๒. รตฺตนฺธการติมิสายาติ รตฺตึ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรเณ พหลตเม. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุปฺปตฺติกฺขเณ. อิธาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – จกฺขุมา ปุริโส วิย หิ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. อนฺธการํ วิย โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา กิเลสา. วิชฺชุสฺจรณํ วิย โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อุปฺปตฺติกาโล. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย สกทาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา. ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย สกทาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย สกทาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ. ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อนาคามิมคฺควชฺฌา กิเลสา. ปุน วิชฺชุสฺจรณํ วิย อนาคามิมคฺคาณสฺส อุปฺปาโท. วิชฺชนฺตริกาย จกฺขุมโต ปุริสสฺส สามนฺตา รูปทสฺสนํ วิย อนาคามิมคฺคกฺขเณ นิพฺพานทสฺสนํ เวทิตพฺพํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล วิชฺชูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. อิตฺตรกาโลภาเสน วิชฺชุสทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.

๑๐๓. วชิรูปมจิตฺตตายปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – วชิรํ วิย หิ อรหตฺตมคฺคาณํ ทฏฺพฺพํ. มณิคณฺิปาสาณคณฺิ วิย อรหตฺตมคฺควชฺฌา กิเลสา. วชิรสฺส มณิคณฺึ วา ปาสาณคณฺึ วา วินิวิชฺฌิตฺวา อคมนภาวสฺส นตฺถิภาโว วิย อรหตฺตมคฺคาเณน อจฺเฉชฺชานํ กิเลสานํ นตฺถิภาโว. วชิเรน นิพฺพิทฺธเวธสฺส ปุน อปฏิปูรณํ วิย อรหตฺตมคฺเคน ฉินฺนานํ กิเลสานํ ปุน อนุปฺปาโท ทฏฺพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล วชิรูปมจิตฺโตติ วุจฺจติ. กิเลสานํ มูลฆาตกรณสมตฺถตาย วชิเรน สทิสจิตฺโตติ อตฺโถ.

๑๐๔. อนฺธาทีสุ ตถารูปํ จกฺขุ น โหตีติ ตถาชาติกํ ตถาสภาวํ ปฺาจกฺขุ น โหติ. ผาตึ กเรยฺยาติ ผีตํ วฑฺฒิตํ กเรยฺย. สาวชฺชานวชฺเชติ สโทสนิทฺโทเส. หีนปฺปณีเตติ อธมุตฺตเม. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคติ กณฺหสุกฺกาเยว อฺมฺปฏิพาหนโต ปฏิปกฺขวเสน สปฺปฏิภาคาติ วุจฺจนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – กุสเล ธมฺเม ‘กุสลา ธมฺมา’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย, อกุสเล ธมฺเม ‘อกุสลา ธมฺมา’ติ, สาวชฺชาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเคสุ ปน กณฺหธมฺเม ‘สุกฺกสุปฺปฏิภาคา’ติ, สุกฺกธมฺเม ‘กณฺหสปฺปฏิภาคา’ติ เยน ปฺาจกฺขุนา ชาเนยฺย. ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหตีติ อิมินา นเยน เสสฏฺาเนสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน จ สมฺปรายิกตฺถโสธนปฺาจกฺขุโน จ อภาวา อนฺโธติ วุจฺจติ. ทุติโย ทิฏฺธมฺมิกโภคสํหรณปฺาจกฺขุโน ภาวา, สมฺปรายิกตฺถโสธนปฺาจกฺขุโน ปน อภาวา เอกจกฺขูติ วุจฺจติ. ตติโย ทฺวินฺนมฺปิ ภาวา ทฺวิจกฺขูติ วุจฺจติ.

๑๐๗. อวกุชฺชปฺาทีสุ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ อุปาสโก ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคโตติ อตฺตโน กมฺมํ ปหาย ธมฺมํ เทเสนฺติ. อาทิกลฺยาณนฺติ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชํ นิทฺโทสํ กตฺวา เทเสนฺติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อาทีติ ปุพฺพปฏฺปนา. มชฺฌนฺติ กถาเวมชฺฌํ. ปริโยสานนฺติ สนฺนิฏฺานํ. อิติสฺส ธมฺมํ กเถนฺตา ปุพฺพปฏฺปเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กเถนฺติ, เวมชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ. เอตฺถ จ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานานิ, อตฺถิ สาสนสฺส. ตตฺถ เทสนาย ตาว – จตุปฺปทิกคาถาย ปมปทํ อาทิ, ทฺเว ปทานิ มชฺฌํ, อวสานปทํ ปริโยสานํ. เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺส – นิทานํ อาทิ, อนุสนฺธิ มชฺฌํ, อิทมโวจาติ อปฺปนา ปริโยสานํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส – ปโม อนุสนฺธิ อาทิ, ตโต ปรํ เอโก วา อเนกา วา มชฺฌํ, ปจฺฉิโม ปริโยสานํ. อยํ ตาว เทสนาย นโย.

สาสนสฺส ปน สีลํ อาทิ, สมาธิ มชฺฌํ, วิปสฺสนา ปริโยสานํ. สมาธิ วา อาทิ, วิปสฺสนา มชฺฌํ, มคฺโค ปริโยสานํ. วิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลํ ปริโยสานํ. มคฺโค วา อาทิ, ผลํ มชฺฌํ, นิพฺพานํ ปริโยสานํ. ทฺเว ทฺเว วา กริยมาเน สีลสมาธโย อาทิ, วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสนฺติ. สพฺยฺชนนฺติ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา เทเสนฺติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ อนูนํ กตฺวา เทเสนฺติ. ปริสุทฺธนฺติ ปริสุทฺธํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา เทเสนฺติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺตีติ เอวํ เทเสนฺตา จ เสฏฺจริยภูตํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ปกาเสนฺติ. เนว อาทึ มนสิ กโรตีติ เนว ปุพฺพปฏฺปนํ มนสิ กโรติ. กุมฺโภติ ฆโฏ. นิกฺกุชฺโชติ อโธมุโข ปิโต. เอวเมวนฺติ เอตฺถ กุมฺโภ นิกฺกุชฺโช วิย อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. อุทกาสิฺจนกาโล วิย ธมฺมเทสนาย ลทฺธกาโล. อุทกสฺส วิวฏฺฏนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคเหตุํ อสมตฺถกาโล. อุทกสฺส อสณฺานกาโล วิย อุฏฺหิตฺวา อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อวกุชฺชปฺโติ วุจฺจติ. อโธมุขปฺโติ อตฺโถ.

๑๐๘. อากิณฺณานีติ ปกฺขิตฺตานิ. สติสมฺโมสา ปกิเรยฺยาติ มุฏฺสฺสติตาย วิกิเรยฺย. เอวเมวนฺติ เอตฺถ อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. นานาขชฺชกานิ วิย นานปฺปการํ พุทฺธวจนํ. อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ ขาทนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ตสฺมึ อาสเน นิสินฺนสฺส อุคฺคหณกาโล. วุฏฺหนฺตสฺส สติสมฺโมสา วิกิรณกาโล วิย ตสฺมา อาสนา วุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส อสลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุจฺฉงฺคปฺโติ วุจฺจติ. อุจฺฉงฺคสทิสปฺโติ อตฺโถ.

๑๐๙. อุกฺกุชฺโชติ อุปริมุโข ปิโต. สณฺาตีติ ปติฏฺหติ. เอวเมว โขติ เอตฺถ อุปริมุโข ปิโต กุมฺโภ วิย ปุถุปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. อุทกสฺส อาสิตฺตกาโล วิย เทสนาย ลทฺธกาโล. อุทกสฺส สณฺานกาโล วิย ตตฺถ นิสินฺนสฺส อุคฺคหณกาโล. โน วิวฏฺฏนกาโล วิย อุฏฺาย คจฺฉนฺตสฺส สลฺลกฺขณกาโล เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปุถุปฺโติ วุจฺจติ. วิตฺถาริกปฺโติ อตฺโถ.

๑๑๐. อวีตราคาทีสุ – ยถา โสตาปนฺนสกทาคามิโน, เอวํ ปุถุชฺชโนปิ ปฺจสุ กามคุเณสุ, ตีสุ จ ภเวสุ อวีตราโค. อทพฺพตาย ปน น คหิโต. ยถา หิ เฉโก วฑฺฒกี ทพฺพสมฺภารตฺถํ วนํ ปวิฏฺโ น อาทิโต ปฏฺาย สมฺปตฺตสมฺปตฺตรุกฺเข ฉินฺทติ, เย ปนสฺส ทพฺพสมฺภารูปคา โหนฺติ, เตเยว ฉินฺทติ; เอวมิธาปิ ภควตา ทพฺพชาติกา อริยาว คหิตา, ปุถุชฺชนา ปน อทพฺพตาย น คหิตาติ เวทิตพฺพา. กาเมสุ วีตราโคติ ปฺจสุ กามคุเณสุ วีตราโค. ภเวสุ อวีตราโคติ รูปารูปภเวสุ อวีตราโค.

๑๑๓. ปาสาณเลขูปมาทีสุ – อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. น ขิปฺปํ ลุชฺชตีติ น อนฺตรา นสฺสติ, กปฺปุฏฺาเนเนว นสฺสติ. เอวเมวนฺติ เอวํ ตสฺสาปิ ปุคฺคลสฺส โกโธ น อนฺตรา ปุนทิวเส วา อปรทิวเส วา นิพฺพาติ, อทฺธนิโย ปน โหติ. มรเณเนว นิพฺพาตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปาสาณเลขา วิย กุชฺฌนภาเวน จิรฏฺิติกโต ปาสาณเลขูปโมติ วุจฺจติ.

๑๑๔. โส จ ขฺวสฺส โกโธติ โส อปฺปมตฺตเกปิ การเณ สหสา กุทฺธสฺส โกโธ. น จิรนฺติ อจิรํ อปฺปหีนตาย นานุเสติ. ยถา ปน ปถวิยํ อากฑฺฒิตฺวา กตเลขา วาตาทีหิ ขิปฺปํ นสฺสติ, เอวมสฺส สหสา อุปฺปนฺโนปิ โกโธ ขิปฺปเมว นิพฺพาตีติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ปถวิยํ เลขา วิย กุชฺฌนภาเวน อจิรฏฺิติกโต ปถวีเลขูปโมติ วุจฺจติ.

๑๑๕. อาคาฬฺเหนาติ อติคาฬฺเหน มมฺมจฺเฉทเกน ถทฺธวจเนน. ผรุเสนาติ น โสตสุเขน. อมนาเปนาติ น จิตฺตสุเขน. สํสนฺทตีติ เอกีภวติ. สนฺธิยตีติ ฆฏยติ. สมฺโมทตีติ นิรนฺตโร โหติ. อถ วา – สํสนฺทตีติ จิตฺตกิริยาทีสุ จิตฺเตน สโมธานํ คจฺฉติ. ขีโรทกํ วิย เอกีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สนฺธิยตีติ านคมนาทีสุ กายกิริยาทีสุ กาเยน สโมธานํ คจฺฉติ. ติลตณฺฑุลา วิย มิสฺสีภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. สมฺโมทตีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ วจีกิริยาสุ วาจาย สโมธานํ คจฺฉติ. วิปฺปวาสคโตปิ ปิยสหายโก วิย ปิยตรภาวํ อุเปตีติ อตฺโถ. อปิจ – กิจฺจกรณีเยสุ เตหิ สทฺธึ อาทิโตว เอกกิริยภาวํ อุปคจฺฉนฺโต สํสนฺทติ. ยาว มชฺฌา ปวตฺตนฺโต สนฺธิยติ, ยาว ปริโยสานา อนิวตฺตนฺโต สมฺโมทตีติปิ เวทิตพฺโพ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล อุทกเลขา วิย ขิปฺปํ สํสนฺทนโต อุทกเลขูปโมติ วุจฺจติ.

๑๑๖. โปตฺถกูปเมสุ – ยาย อุปมาย เต โปตฺถกูปมาติ วุจฺจนฺติ, ตํ ตาว อุปมํ ทสฺเสตุํ ตโย โปตฺถกาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นโวติ นววายิโม. โปตฺถโกติ สาณวากสาฏโก. ทุพฺพณฺโณติ วิวณฺโณ. ทุกฺขสมฺผสฺโสติ ขรสมฺผสฺโส. อปฺปคฺโฆติ อติพหุํ อคฺฆนฺโต กหาปณคฺฆนโก โหติ. มชฺฌิโมติ ปริโภคมชฺฌิโม. โส หิ นวภาวํ อติกฺกมิตฺวา ชิณฺณภาวํ อปฺปตฺโต มชฺเฌ ปริโภคกาเลปิ ทุพฺพณฺโณ จ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆเยว จ โหติ. อติพหุํ อคฺฆนฺโต อฑฺฒํ อคฺฆติ. ชิณฺณกาเล ปน อฑฺฒมาสกํ วา กากณิกํ วา อคฺฆติ. อุกฺขลิปริมชฺชนนฺติ กาฬุกฺขลิปริปุฺฉนํ.

นโวติ อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺสกาลโต เหฏฺา ชาติยา สฏฺิวสฺโสปิ นโวเยว. ทุพฺพณฺณตายาติ สรีรวณฺเณนปิ คุณวณฺเณนปิ ทุพฺพณฺณตาย. ทุสฺสีลสฺส หิ ปริสมชฺเฌ นิสินฺนสฺส นิตฺเตชตาย สรีรวณฺโณปิ น สมฺปชฺชติ, คุณวณฺเณ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เย โข ปนสฺสาติ เย โข ปน ตสฺส อุปฏฺากา วา าติมิตฺตาทโย วา เอตํ ปุคฺคลํ เสวนฺติ. เตสํ ตนฺติ เตสํ ปุคฺคลานํ ฉ สตฺถาเร เสวนฺตานํ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วิย, เทวทตฺตํ เสวนฺตานํ โกกาลิกาทีนํ วิย จ ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. มชฺฌิโมติ ปฺจวสฺสกาลโต ปฏฺาย ยาว นววสฺสกาลา มชฺฌิโม นาม. เถโรติ ทสวสฺสกาลโต ปฏฺาย เถโร นาม. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ตุยฺหํ พาลสฺส ภณิเตน โก อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปนฺติ ตถาชาติกํ ตถาสภาวํ อุกฺเขปนียกมฺมสฺส การณภูตํ.

๑๑๗. กาสิกวตฺถูปเมสุ กาสิกวตฺถํ นาม ตโย กปฺปาสํสู คเหตฺวา กนฺติตสุตฺเตน วายิตํ สุขุมวตฺถํ. ตํ นววายิมํ อนคฺฆํ โหติ. ปริโภคมชฺฌิมํ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ. ชิณฺณกาเล ปน อฏฺปิ ทสปิ สหสฺสานิ อคฺฆติ.

เตสํ ตํ โหตีติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺธาทโย เสวนฺตานํ วิย ตํ เสวนํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธฺหิ เอกํ นิสฺสาย ยาวชฺชกาลา มุจฺจนกสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. ตถา สาริปุตฺตตฺเถรมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเร อวเสเส จ อสีติมหาสาวเก นิสฺสาย สคฺคํ คตสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ. ยาวชฺชกาลา เตสํ ทิฏฺานุคตึ ปฏิปนฺนสตฺตานมฺปิ ปมาณํ นตฺถิเยว. อาเธยฺยํ คจฺฉตีติ ตสฺส มหาเถรสฺส ตํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ ยถา คนฺธกรณฺฑเก กาสิกวตฺถํ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตํ คจฺฉติ, เอวํ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ หทเย จ อาธาตพฺพตํ เปตพฺพตมฺปิ คจฺฉติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

๑๑๘. สุปฺปเมยฺยาทีสุ – สุเขน ปเมตพฺโพติ สุปฺปเมยฺโย. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. อุทฺธโตติ อุทฺธจฺเจน สมนฺนาคโต. อุนฺนโฬติ อุคฺคตนโฬ; ตุจฺฉมานํ อุกฺขิปิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. จปโลติ ปตฺตมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน สมนฺนาคโต. มุขโรติ มุขขโร. วิกิณฺณวาโจติ อสํยตวจโน. อสมาหิโตติ จิตฺเตกคฺคตารหิโต. วิพฺภนฺตจิตฺโตติ ภนฺตจิตฺโต, ภนฺตคาวีภนฺตมิคีสปฺปฏิภาโค. ปากฏินฺทฺริโยติ วิวฏินฺทฺริโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ‘สุปฺปเมยฺโย’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ ปริตฺตสฺส อุทกสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหติ; เอวเมว อิเมหิ อคุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สุเขน ปมาณํ คยฺหติ. เตเนส ‘สุปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.

๑๑๙. ทุกฺเขน ปเมตพฺโพติ ทุปฺปเมยฺโย. อนุทฺธตาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ‘ทุปฺปเมยฺโย’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาสมุทฺทสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ; เอวเมว อิเมหิ คุณงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ทุกฺเขน ปมาณํ คยฺหติ. ตาทิโส ‘อนาคามี นุ โข, ขีณาสโว นุ โข’ติ วตฺตพฺพตํ คจฺฉติ, เตเนส ‘ทุปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.

๑๒๐. น สกฺกา ปเมตุนฺติ อปฺปเมยฺโย. ยถา หิ อากาสสฺส น สกฺกา ปมาณํ คเหตุํ, เอวํ ขีณาสวสฺส. เตเนส ‘อปฺปเมยฺโย’ติ วุตฺโต.

๑๒๑. น เสวิตพฺพาทีสุ – น เสวิตพฺโพติ น อุปสงฺกมิตพฺโพ. น ภชิตพฺโพติ น อลฺลียิตพฺโพ. น ปยิรุปาสิตพฺโพติ น สนฺติเก นิสีทนวเสน ปุนปฺปุนํ อุปาสิตพฺโพ. หีโน โหติ สีเลนาติอาทีสุ อุปาทายุปาทาย หีนตา เวทิตพฺพา. โย หิ ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, โส ทส สีลานิ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. โย ปน ทส สีลานิ รกฺขติ, โส จตุปาริสุทฺธิสีลํ รกฺขนฺเตน น เสวิตพฺโพ. อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปาติ เปตฺวา อนุทฺทยฺจ อนุกมฺปฺจ. อตฺตโน อตฺถาย เอว หิ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ. อนุทฺทยานุกมฺปาวเสน ปน ตํ อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๒. สทิโส โหตีติ สมาโน โหติ. สีลสามฺคตานํ สตนฺติ สีเลน สมานภาวํ คตานํ สนฺตานํ. สีลกถา จ โน ภวิสฺสตีติ เอวํ สมานสีลานํ อมฺหากํ สีลเมว อารพฺภ กถา ภวิสฺสติ. สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสตีติ สา จ สีลกถา อมฺหากํ ผาสุวิหาโร สุขวิหาโร ภวิสฺสติ. สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตีติ สา จ อมฺหากํ กถา ทิวสมฺปิ กเถนฺตานํ ปวตฺตินี ภวิสฺสติ, น ปฏิหฺิสฺสติ. ทฺวีสุ หิ สีลวนฺเตสุ เอเกน สีลสฺส วณฺเณ กถิเต อิตโร อนุโมทติ; เตน เตสํ กถา ผาสุ เจว โหติ, ปวตฺตินี จ. เอกสฺมึ ปน ทุสฺสีเล สติ ทุสฺสีลสฺส สีลกถา ทุกฺกถาติ เนว สีลกถา โหติ, น ผาสุ โหติ, น ปวตฺตินี. สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย. ทฺเว หิ สมาธิลาภิโน สมาธิกถํ, สปฺปฺา จ ปฺากถํ กเถนฺตา, รตฺตึ วา ทิวสํ วา อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานนฺติ.

๑๒๓. สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวาติ สกฺการฺเจว ครุการฺจ กริตฺวา. อธิโก โหตีติ อติเรโก โหติ. สีลกฺขนฺธนฺติ สีลราสึ. ปริปูเรสฺสามีติ ตํ อติเรกสีลํ ปุคฺคลํ นิสฺสาย อตฺตโน อปริปูรํ สีลราสึ ปริปูรํ กริสฺสามิ. ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามีติ เอตฺถ สีลสฺส อสปฺปาเย อนุปการธมฺเม วชฺเชตฺวา สปฺปาเย อุปการธมฺเม เสวนฺโต ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สีลกฺขนฺธํ ปฺาย อนุคฺคณฺหาติ นาม. สมาธิปฺากฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย.

๑๒๔. ชิคุจฺฉิตพฺพาทีสุ – ชิคุจฺฉิตพฺโพติ คูถํ วิย ชิคุจฺฉิตพฺโพ. อถ โข นนฺติ อถ โข อสฺส. กิตฺติสทฺโทติ กถาสทฺโท. เอวเมวนฺติ เอตฺถ คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยํ ทฏฺพฺพํ. คูถกูเป ปติตฺวา ิโต ธมนีอหิ วิย ทุสฺสีลปุคฺคโล. คุถกูปโต อุทฺธริยมาเนน เตน อหินา ปุริสสฺส สรีรํ อารุฬฺเหนาปิ อทฏฺภาโว วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺสาปิ ตสฺส กิริยาย การณภาโว สรีรํ คูเถน มกฺเขตฺวา อหิโน คตกาโล วิย ทุสฺสีลํ เสวมานสฺส ปาปกิตฺติสทฺทสฺส อพฺภุคฺคมนกาโล เวทิตพฺโพ.

๑๒๕. ตินฺทุกาลาตนฺติ ตินฺทุกรุกฺขอลาตํ. ภิยฺโยโส มตฺตาย จิจฺจิฏายตีติ ตฺหิ ฌายมานํ ปกติยาปิ ปปฏิกาโย มุฺจนฺตํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏาติ สทฺทํ กโรติ. ฆฏฺฏิตํ ปน อธิมตฺตํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวเมวนฺติ เอวเมวํ โกธโน อตฺตโน ธมฺมตายปิ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. อปฺปมตฺตกํ ปน วจนํ วุตฺตกาเล ‘มาทิสํ นาม เอวํ วทตี’ติ อติเรกตรํ อุทฺธโต จณฺฑิกโต หุตฺวา จรติ. คูถกูโปติ คูถปุณฺณกูโป, คูถราสิเยว วา. โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพติ ยสฺมา โกธโน อติเสวิยมาโนปิ อติอุปสงฺกมิยมาโนปิ กุชฺฌติเยว, ‘กึ อิมินา’ติ ปฏิกฺกมนฺโตปิ กุชฺฌติเยว, ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? โย หิ ปลาลคฺคึ อติอุปสงฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สรีรํ ฌายติ. โย อติปฏิกฺกมิตฺวา ตปฺปติ, ตสฺส สีตํ น วูปสมฺมติ. อนุปสงฺกมิตฺวา อปฏิกฺกมิตฺวา ปน มชฺฌตฺตภาเวน ตปฺเปนฺตสฺส สีตํ วูปสมฺมติ, กาโยปิ น ฑยฺหติ. ตสฺมา ปลาลคฺคิ วิย โกธโน ปุคฺคโล มชฺฌตฺตภาเวน อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ, น เสวิตพฺโพ, น ภชิตพฺโพ, น ปยิรุปาสิตพฺโพ.

๑๒๖. กลฺยาณมิตฺโตติ สุจิมิตฺโต. กลฺยาณสหาโยติ สุจิสหาโย. สหาโยติ สหคามี สทฺธึจโร. กลฺยาณสมฺปวงฺโกติ กลฺยาเณสุ สุจิปุคฺคเลสุ สมฺปวงฺโก, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโสติ อตฺโถ.

๑๒๗. สีเลสุ ปริปูรการีติอาทีสุ – สีเลสุ ปริปูรการิโนติ เอเต อริยสาวกา ยานิ ตานิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ, อาทิพฺรหฺมจริยกานิ, ปาราชิกสงฺขาตานิ จตฺตาริ มหาสีลสิกฺขาปทานิ, เตสํ อวีติกฺกมนโต ยานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ อาปชฺชนฺติ, เตหิ จ วุฏฺานโต สีเลสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ปริปูรํ สมตฺตํ กโรนฺตีติ ‘สีเลสุ ปริปูรการิโน’ติ วุจฺจนฺติ. สมาธิปาริพนฺธกานํ ปน กามราคพฺยาปาทานํ, ปฺาปาริพนฺธกสฺส จ สจฺจปฏิจฺฉาทกสฺส โมหสฺส อสมูหตตฺตา, สมาธึ ปฺฺจ ภาเวนฺตาปิ สมาธิปฺาสุ ยํ กตฺตพฺพํ ตํ มตฺตโส ปมาเณน ปเทสมตฺตเมว กโรนฺตีติ สมาธิสฺมึ ปฺาย จ มตฺตโส การิโนติ วุจฺจนฺติ. อิมินา อุปาเยน อิตเรสุปิ ทฺวีสุ นเยสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ อปโรปิ สุตฺตนฺตนโย –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ ตานิ อาปชฺชติปิ, วุฏฺาติปิ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตา. ยานิ จ โข ตานิ สิกฺขาปทานิ อาทิพฺรหฺมจริยกานิ พฺรหฺมจริยสารุปฺปานิ, ตตฺถ ธุวสีโล จ โหติ, ิตสีโล จ, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ, อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ…เป… โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา, ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา, สกทาคามี โหติ; สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย ปริปูรการี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗).

๑๓๐. สตฺถารนิทฺเทเส – ปริฺํ ปฺเปตีติ ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปติ. ตตฺราติ เตสุ ตีสุ ชเนสุ. เตน ทฏฺพฺโพติ เตน ปฺาปเนน โส สตฺถา รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภีติ ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ. ทุติยวาเรปิ เอเสว นโย. สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพติ เตน ติตฺถิเยหิ อสาธารเณน ปฺาปเนน อยํ ตติโย สตฺถา สพฺพฺุพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. ติตฺถิยา หิ กามานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา รูปภวํ วกฺขนฺติ. รูปานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา อรูปภวํ วกฺขนฺติ. เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปนฺตา อสฺภวํ วกฺขนฺติ. สมฺมา ปฺเปนฺตา ‘เอวํ ปฺเปยฺยุํ’, โน จ สมฺมา ปฺเปตุํ สกฺโกนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน กามานํ ปริฺํ ปหานํ อนาคามิมคฺเคน ปฺเปติ. รูปเวทนานํ ปริฺํ ปหานํ อรหตฺตมคฺเคน ปฺเปติ. อิเม ตโย สตฺถาโรติ อิเม ทฺเว ชนา พาหิรกา, เอโก สมฺมาสมฺพุทฺโธติ – อิมสฺมึ โลเก ตโย สตฺถาโร นาม.

๑๓๑. ทุติเย สตฺถารนิทฺเทเส – ทิฏฺเ เจว ธมฺเมติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว. อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปตีติ ‘‘อตฺตา นาเมโก อตฺถิ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ ภูตโต ถิรโต ปฺเปติ. อภิสมฺปรายฺจาติ อปรสฺมึ อตฺตภาเว เอวเมว ปฺเปติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ติกนิทฺเทสวณฺณนา.

๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๒. จตุกฺกนิทฺเทเส – อสปฺปุริโสติ ลามกปุริโส. ปาณํ อติปาเตตีติ ปาณาติปาตี. อทินฺนํ อาทิยตีติ อทินฺนาทายี. กาเมสุ มิจฺฉา จรตีติ กาเมสุมิจฺฉาจารี. มุสา วทตีติ มุสาวาที. สุราเมรยมชฺชปมาเท ติฏฺตีติ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี.

๑๓๓. ปาณาติปาเต สมาทเปตีติ ยถา ปาณํ อติปาเตติ, ตถา นํ ตตฺถ คหณํ คณฺหาเปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ยสฺมา สยํ กเตน จ ทุสฺสีลฺเยน สมนฺนาคโต ยฺจ สมาทปิเตน กตํ, ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาโท, ตสฺมา อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโรติ วุจฺจติ. สปฺปุริโสติ อุตฺตมปุริโส.

๑๓๕. สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโรติ อตฺตนา กเตน สุสีลฺเยน สมนฺนาคตตฺตา ยฺจ สมาทปิโต กโรติ. ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาทตฺตา อุตฺตมปุริเสน อุตฺตมปุริสตโร.

๑๓๖. ปาโปติ อกุสลกมฺมปถสงฺขาเตน ทสวิเธน ปาเปน สมนฺนาคโต.

๑๓๘. กลฺยาโณติ กุสลกมฺมปถสงฺขาเตน ทสวิเธน กลฺยาณธมฺเมน สมนฺนาคโต สุทฺธโก ภทฺรโก. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.

๑๔๐. ปาปธมฺมาทีสุ – ปาโป ธมฺโม อสฺสาติ ปาปธมฺโม. กลฺยาโณ ธมฺโม อสฺสาติ กลฺยาณธมฺโม. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๔๔. สาวชฺชาทีสุ – สาวชฺโชติ สโทโส. สาวชฺเชน กายกมฺเมนาติ สโทเสน ปาณาติปาตาทินา กายกมฺเมน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส สโทสตฺตา, คูถกุณปาทิภริโต ปเทโส วิย สาวชฺโชติ วุจฺจติ.

๑๔๕. สาวชฺเชน พหุลนฺติ ยสฺส สาวชฺชเมว กายกมฺมํ พหุ โหติ, อปฺปํ อนวชฺชํ; โส สาวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต, อปฺปํ อนวชฺเชนาติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. โก ปน เอวรูโป โหตีติ? โย คามธมฺมตาย วา นิคมธมฺมตาย วา กทาจิ กรหจิ อุโปสถํ สมาทิยติ, สีลานิ ปูเรติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เอวรูโป ปุคฺคโล ตีหิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺเมสุ สาวชฺชสฺเสว พหุลตาย อนวชฺชสฺส อปฺปตาย วชฺชพหุโลติ วุจฺจติ.

ยถา หิ เอกสฺมึ ปเทเส ทุพฺพณฺณานิ ทุคฺคนฺธานิ ปุปฺผานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ อติมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ. เอวรูโป อยํ ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. ยถา ปน เอกสฺมึ ปเทเส อติมุตฺตกวสฺสิกปาฏลานิ ราสิกตานสฺสุ, เตสํ อุปริ ตหํ ตหํ ทุพฺพณฺณทุคฺคนฺธานิ พทรปุปฺผาทีนิ ปติตานิ ภเวยฺยุํ. เอวรูโป ตติโย ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. จตุตฺโถ ปน ตีหิปิ ทฺวาเรหิ อายูหนกมฺมสฺส นิทฺโทสตฺตา, จตุมธุรภริตสุวณฺณปาติ วิย ทฏฺพฺโพ. เตสุ ปโม อนฺธพาลปุถุชฺชโน. ทุติโย อนฺตรนฺตรา กุสลสฺส การโก โลกิยปุถุชฺชโน. ตติโย โสตาปนฺโน สกทาคามิอนาคามิโนปิ เอเตเนว สงฺคหิตา. จตุตฺโถ ขีณาสโว. โส หิ เอกนฺเตน อนวชฺโชเยว. อยํ องฺคุตฺตรฏฺกถาโย.

๑๔๘. อุคฺฆฏิตฺูอาทีสุ – อุคฺฆฏิตฺูติ เอตฺถ อุคฺฆฏิตํ นาม าณุคฺฆาฏนํ, าเณ อุคฺฆฏิตมตฺเตเยว ชานาตีติ อตฺโถ. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหาเร อุทาหฏมตฺเตเยว. ธมฺมาภิสมโยติ จตุสจฺจธมฺมสฺส าเณน สทฺธึ อภิสมโย. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติอาทินา นเยน สํขิตฺเตน มาติกาย ปิยมานาย เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺูติ วุจฺจติ.

๑๔๙. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตเมว อตฺถํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. อยํ วุจฺจตีติ อยํ สงฺขิตฺเตน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรน อตฺเถ ภาชิยมาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺูติ วุจฺจติ.

๑๕๐. อุทฺเทสาทีหิ เนตพฺโพติ เนยฺโย. อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหตีติ อนุกฺกเมน อรหตฺตปฺปตฺติ.

๑๕๑. พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหตีติ น เตน อตฺตภาเวน ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ.

๑๕๒. ยุตฺตปฏิภานาทีสุ – ปฏิภานํ วุจฺจติ าณมฺปิ, าณสฺส อุปฏฺิตวจนมฺปิ. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตฺจ ปฏิภานมสฺสาติ ยุตฺตปฺปฏิภาโน. ปุจฺฉิตานนฺตรเมว สีฆํ พฺยากาตุํ อสมตฺถตาย โน มุตฺตํ ปฏิภานมสฺสาติ โน มุตฺตปฺปฏิภาโน. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปน ปโม – กิฺจิ กาลํ วีมํสิตฺวา ยุตฺตเมว เปกฺขติ, ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ ปริคฺคเหตฺวา ยุตฺตปยุตฺตการณเมว กเถติ.

ทุติโย – ปุจฺฉานนฺตรเมว เยน วา เตน วา วจเนน ปฏิพาหติ, วีมํสิตฺวาปิ จ ยุตฺตํ น เปกฺขติ จตุนิกายิกปณฺฑิตติสฺสตฺเถโร วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ ปฺหปริโยสานมฺปิ นาคเมติ, ยํ วา ตํ วา กเถติเยว. วจนตฺถํ ปนสฺส วีมํสิยมานํ กตฺถจิ น ลคฺคติ.

ตติโย – ปุจฺฉาสมกาลเมว ยุตฺตํ เปกฺขติ, ตงฺขณฺเว วจนํ พฺยากโรติ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร วิย. โส กิร ปฺหํ ปุฏฺโ สีฆเมว กเถติ, ยุตฺตปยุตฺตการโณ จ โหติ.

จตุตฺโถ – ปุฏฺโ สมาโน เนว ยุตฺตํ เปกฺขติ, น เยน วา เตน วา ปฏิพาหิตุํ สกฺโกติ ติพฺพนฺธการนิมุคฺโค วิย โหติ ลาฬุทายิตฺเถโร วิย.

๑๕๖. ธมฺมกถิเกสุ – อปฺปฺจ ภาสตีติ สมฺปตฺตปริสาย โถกเมว กเถติ. อสหิตฺจาติ กเถนฺโต จ ปน น อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตํ กเถติ. ปริสา จสฺส น กุสลา โหตีติ โสตุํ นิสินฺนปริสา จสฺส ยุตฺตายุตฺตํ การณาการณํ สิลิฏฺาสิลิฏฺํ น ชานาตีติ อตฺโถ. เอวรูโปติ อยํ เอวํชาติโก พาลธมฺมกถิโก. เอวํชาติกาย พาลปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว นามํ ลภติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ทฺเวเยว ชนา สภาวธมฺมกถิกา, อิตเร ปน ธมฺมกถิกานํ อนฺตเร ปวิฏฺตฺตา เอวํ วุตฺตา.

๑๕๗. วลาหกูปเมสุ วลาหกาติ เมฆา. คชฺชิตาติ ถนิตา. ตตฺถ คชฺชิตฺวา โน วสฺสนภาโว นาม ปาปโก. มนุสฺสา หิ ยถา เทโว คชฺชติ ‘สุวุฏฺิกา ภวิสฺสตี’ติ พีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ. อถ เทเว อวสฺสนฺเต เขตฺเต พีชานิ เขตฺเตเยว นสฺสนฺติ, เคเห พีชานิ เคเหเยว นสฺสนฺตีติ ทุพฺภิกฺขํ โหติ. โน คชฺชิตฺวา วสฺสนภาโวปิ ปาปโกว. มนุสฺสา หิ ‘อิมสฺมึ กาเล ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสตี’ติ นินฺนฏฺาเนสุเยว วปฺปํ กโรนฺติ. อถ เทโว วสฺสิตฺวา สพฺพพีชานิ มหาสมุทฺทํ ปาเปติ, ทุพฺภิกฺขเมว โหติ. คชฺชิตฺวา วสฺสนภาโว ปน ภทฺทโก. ตทา หิ สุภิกฺขํ โหติ. โน คชฺชิตฺวา โน วสฺสนภาโว เอกนฺตปาปโกว.

ภาสิตา โหติ โน กตฺตาติ ‘อิทานิ คนฺถธุรํ ปูเรสฺสามิ, วาสธุรํ ปูเรสฺสามี’ติ กเถติเยว, น ปน อุทฺเทสํ คณฺหาติ, น กมฺมฏฺานํ ภาเวติ.

กตฺตา โหติ โน ภาสิตาติ ‘คนฺถธุรํ วา ปูเรสฺสามิ วาสธุรํ วา’ติ น ภาสติ. สมฺปตฺเต ปน กาเล ตมตฺถํ สมฺปาเทติ. อิมินา นเยน อิตเรปิ เวทิตพฺพา. สพฺพํ ปเนตํ ปจฺจยทายเกเนว กถิตํ. เอโก หิ ‘อสุกทิวเส นาม ทานํ ทสฺสามี’ติ สงฺฆํ นิมนฺเตติ, สมฺปตฺตกาเล โน กโรติ. อยํ ปุคฺคโล ปุฺเน ปริหายติ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ ลาเภน ปริหายติ. อปโร สงฺฆํ อนิมนฺเตตฺวาว สกฺการํ กตฺวา ‘ภิกฺขู อาเนสฺสามี’ติ น ลภติ, สพฺเพ อฺตฺถ นิมนฺติตา โหนฺติ. อยมฺปิ ปุฺเน ปริหายติ, สงฺโฆปิ เตน ลาเภน ปริหายติ. อปโร ปมํ สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา, ปจฺฉา สกฺการํ กตฺวา ทานํ เทติ, อยํ กิจฺจการี โหติ. อปโร เนว สงฺฆํ นิมนฺเตติ, น ทานํ เทติ, อยํ ‘ปาปปุคฺคโล’ติ เวทิตพฺโพ.

๑๕๘. มูสิกูปเมสุ – คาธํ กตฺตา โน วสิตาติ อตฺตโน อาสยํ พิลํ กูปํ ขณติ, โน ตตฺถ วสติ, กิสฺมิฺจิเทว าเน วสติ, เอวํ พิฬาราทิอมิตฺตวสํ คจฺฉติ. ขตฺตาติปิ ปาโ. วสิตา โน คาธํ กตฺตาติ สยํ น ขณติ, ปเรน ขเต พิเล วสติ, เอวํ ชีวิตํ รกฺขติ. ตติยา ทฺเวปิ กโรนฺตี, ชีวิตํ รกฺขติ. จตุตฺถา ทฺเวปิ อกโรนฺตี อมิตฺตวสํ คจฺฉติ. อิมาย ปน อุปมาย อุปมิเตสุ ปุคฺคเลสุ ปโม ยถา สา มูสิกา คาธํ ขณติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน สา ตตฺถ น วสติ, กิสฺมิฺจิเทว าเน วสนฺตี, อมิตฺตวสํ คจฺฉติ; ตถา อยมฺปิ ปริยตฺติวเสน าณํ เปเสตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ น ปฏิวิชฺฌติ, โลกามิสฏฺาเนสุเยว จรนฺโต มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารสงฺขาตานํ อมิตฺตานํ วสํ คจฺฉติ. ทุติโย ยถา สา มูสิกา คาธํ น ขณติ, เอวํ นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ น อุคฺคณฺหาติ. ยถา ปน ปเรน ขตพิเล วสนฺตี ชีวิตํ รกฺขติ; เอวํ ปรสฺส กถํ สุตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติณฺณํ มารานํ วสํ อติกฺกมติ. อิมินา นเยน ตติยจตุตฺเถสุปิ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๑๕๙. อมฺพูปเมสุ – อามํ ปกฺกวณฺณีติ อนฺโต อามํ พหิ ปกฺกสทิสํ. ปกฺกํ อามวณฺณีติ อนฺโต ปกฺกํ พหิ อามสทิสํ. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยถา อมฺเพ อปกฺกภาโว อามตา โหติ, เอวํ ปุคฺคเลปิ ปุถุชฺชนภาโว อามตา, อริยภาโว ปกฺกตา. ยถา จ ตตฺถ ปกฺกสทิสตา ปกฺกวณฺณิตา; เอวํ ปุคฺคเลปิ อริยานํ อภิกฺกมนาทิสทิสตา ปกฺกวณฺณิตาติ – อิมินา นเยน อุปมิตปุคฺคเลสุ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๑๖๐. กุมฺภูปเมสุ กุมฺโภติ ฆโฏ. ตุจฺโฉติ อนฺโต ริตฺโต. ปิหิโตติ ปิทหิตฺวา ปิโต. ปุโรติ อนฺโต ปุณฺโณ. วิวโฏติ วิวริตฺวา ปิโต. อุปมิตปุคฺคเลสุ ปเนตฺถ อนฺโต คุณสารวิรหิโต ตุจฺโฉ พาหิรโสภนตาย ปิหิโต ปุคฺคโล เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

๑๖๑. อุทกรหทูปเมสุ – อุทกรหโท ตาว ชณฺณุมตฺเตปิ อุทเก สติ ปณฺณรสสมฺภินฺนวณฺณตฺตา วา พหลตฺตา วา อุทกสฺส อปฺายมานตโล อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม โหติ. ติโปริส จตุโปริเสปิ ปน อุทเก สติ อจฺฉตฺตา อุทกสฺส ปฺายมานตโล คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส นาม โหติ. อุภยการณสมฺภาวโต ปน อิตเร ทฺเว เวทิตพฺพา. ปุคฺคโลปิ กิเลสุสฺสทภาวโต คุณคมฺภีรตาย จ อภาวโต คุณคมฺภีรานํ สทิเสหิ อภิกฺกมาทีหิ ยุตฺโต อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส นาม. อิมินา นเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา.

๑๖๒. พลีพทฺทูปเมสุ พลีพทฺโท ตาว โย อตฺตโน โคคณํ ฆฏฺเฏติ อุพฺเพเชติ, ปรโคคเณ ปน โสรโต สุขสีโล โหติ – อยํ สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ นาม. ปุคฺคโลปิ อตฺตโน ปริสํ ฆฏฺเฏนฺโต วิชฺฌนฺโต ผรุเสน สมุทาจรนฺโต, ปรปริสาย ปน โสรจฺจํ นิวาตวุตฺติตํ อาปชฺชนฺโต สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ นามาติ. อิมินา นเยน เสสาปิ เวทิตพฺพา. นิทฺเทสวาเร ปเนตฺถ อุพฺเพชิตา โหตีติ ฆฏฺเฏตฺวา วิชฺฌิตฺวา อุพฺเพคปฺปตฺตํ กโรติจฺเจว อตฺโถ.

๑๖๓. อาสีวิสูปเมสุ – อาสีวิโส ตาว ยสฺส วิสํ อาสุํ อาคจฺฉติ สีฆํ ผรติ; โฆรํ ปน น โหติ, จิรกาลํ น ปีเฬติ – อยํ อาคตวิโส โน โฆรวิโส. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปุคฺคลวิภาชนํ ปน อุตฺตานตฺถเมว.

๑๖๔. อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหตีติอาทีสุ อนนุวิจฺจาติ อตุลยิตฺวา, อปริคฺคณฺหิตฺวา. อปริโยคาเหตฺวาติ ปฺาย คุเณ อโนคาเหตฺวา.

๑๖๖. ภูตํ ตจฺฉนฺติ วิชฺชมานโต ภูตํ, อวิปรีตโต ตจฺฉํ. กาเลนาติ ยุตฺตปยุตฺตกาเลน. ตตฺร กาลฺู โหตีติ ยมิทํ กาเลนาติ วุตฺตํ. ตตฺร โย ปุคฺคโล กาลฺู โหติ, กาลํ ชานาติ, ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณตฺถาย ‘‘อิมสฺมึ กาเล ปุจฺฉิเตนาปิ มยา น กเถตพฺพา, อิมสฺมึ กาเล กเถตพฺพา’’ติ – อยํ กาเลน ภณติ นาม. อุเปกฺขโก วิหรตีติ มชฺฌตฺตภูตาย อุเปกฺขาย ิโต หุตฺวา วิหรติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๖๗. อุฏฺานผลูปชีวีติอาทีสุ – โย อุฏฺานวีริเยเนว ทิวสํ วีตินาเมตฺวา ตสฺส นิสฺสนฺทผลมตฺตํ กิฺจิเทว ลภิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปติ, ตํ ปน อุฏฺานํ อาคมฺม กิฺจิ ปุฺผลํ น ปฏิลภติ, ตํ สนฺธาย ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฏฺหโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตูปริ เทวาติ ตโต อุปริ พฺรหฺมกายิกาทโย เทวา. เตสฺหิ อุฏฺานวีริเยน กิจฺจํ นาม นตฺถิ. ปุฺผลเมว อุปชีวนฺติ. ปุฺวโต จาติ อิทํ ปุฺวนฺเต ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย เจว ภุมฺมเทเว อาทึ กตฺวา นิมฺมานรติปริโยสาเน เทเว จ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺเพปิ เหเต วายามผลฺเจว ปุฺผลฺจ อนุภวนฺติ. เนรยิกา ปน เนว อุฏฺาเนน อาชีวํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, นาปิ เนสํ ปุฺผเลน โกจิ อาชีโว อุปฺปชฺชติ.

๑๖๘. ตมาทีสุ – ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม. กายทุจฺจริตาทีหิ ปุน นิรยตมูปคมนโต ตมปรายโณ. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกาทีนํ กุเล. เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขวุตฺติเก. ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ เตลกปลฺลกาทิโน ปทีปูปกรณสฺส. เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโณติ เอตฺถ เอโก ปุคฺคโล พหิทฺธา อาโลกํ อทิสฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมิฺเว กาลํ กตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺโต สกเลปิ กปฺเป สํสรติ. โสปิ ตโม ตมปรายโณว. โส ปน กุหกปุคฺคโล ภเวยฺย. กุหกสฺส หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ จณฺฑาลกุเล วาติอาทีหิ อาคมนวิปตฺติ เจว ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ จ ทสฺสิตา. ทลิทฺเทติอาทีหิ ปวตฺติปจฺจยวิปตฺติ. กสิรวุตฺติเกติอาทีหิ อาชีวุปายวิปตฺติ. ทุพฺพณฺโณติอาทีหิ รูปวิปตฺติ. พหฺวาพาโธติอาทีหิ ทุกฺขการณสมาโยโค. น ลาภีติอาทีหิ สุขการณวิปตฺติ เจว อุปโภควิปตฺติ จ. กาเยน ทุจฺจริตนฺติอาทีหิ ตมปรายณภาวสฺส การณสมาโยโค. กายสฺส เภทาติอาทีหิ สมฺปรายิกตมูปคโม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.

อปิเจตฺถ ติวิธาย กุลสมฺปตฺติยา ปจฺจาชาติอาทิเกน โชตินา ยุตฺตโต โชติ, อาโลกภูโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสุจริตาทีหิ ปน สคฺคูปปตฺติโชติภาวูปคมนโต โชติปรายโณ. ขตฺติยมหาสาลกุเล วาติอาทีสุ ขตฺติยมหาสาลาติ ขตฺติยา มหาสารา มหาสารปฺปตฺตา ขตฺติยา. เยสฺหิ ขตฺติยานํ เหฏฺิมนฺเตน โกฏิสตํ นิธานคตํ โหติ, ตโย กหาปณกุมฺภา วฬฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิตา โหนฺติ, เต ขตฺติยมหาสาลา นาม. เยสํ พฺราหฺมณานํ อสีติโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, ทิยฑฺโฒ กหาปณกุมฺโภ วฬฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต พฺราหฺมณมหาสาลา นาม. เยสํ คหปตีนํ จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, กหาปณกุมฺโภ วฬฺชตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต คหปติมหาสาลา นาม. เตสํ กุเลติ อตฺโถ. อฑฺเฒติ อิสฺสเร. นิธานคตธนสฺส มหนฺตตาย มหทฺธเน. สุวณฺณรชตภาชนาทีนํ อุปโภคภณฺฑานํ มหนฺตตาย มหาโภเค. นิธานคตสฺส ชาตรูปรชตสฺส ปหูตตาย ปหูตชาตรูปรชเต. วิตฺตูปกรณสฺส ตุฏฺิกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรเณ. โคธนาทีนฺจ สตฺตวิธธฺานฺจ ปหูตตาย ปหูตธนธฺเ. อภิรูโปติ สุนฺทรรูโป. ทสฺสนีโยติ อฺํ กมฺมํ ปหาย ทิวสมฺปิ ปสฺสิตพฺพยุตฺโต. ปาสาทิโกติ ทสฺสเนเนว จิตฺตปสาทาวโห. ปรมายาติ อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ โปกฺขรวณฺณตาย. โปกฺขรํ วุจฺจติ สรีรํ. ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. สมนฺนาคโตติ อุเปโต.

๑๖๙. โอณโตณตาทีสุ – ทิฏฺธมฺมิกาย วา สมฺปรายิกาย วา สมฺปตฺติยา วิรหิโต โอณโต. นีโจ, ลามโกติ อตฺโถ. ตพฺพิปกฺขโต อุณฺณโต. อุจฺโจ, อุคฺคโตติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ตมาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อปิจ – โอณโตณโตติ อิทานิ นีโจ, อายติมฺปิ นีโจว ภวิสฺสติ. โอณตุณฺณโตติ อิทานิ นีโจ, อายตึ อุจฺโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณโตณโตติ อิทานิ อุจฺโจ, อายตึ นีโจ ภวิสฺสติ. อุณฺณตุณฺณโตติ อิทานิ อุจฺโจ, อายติมฺปิ อุจฺโจว ภวิสฺสตีติ.

๑๗๐. รุกฺขูปเมสุ – รุกฺโข ตาว เผคฺคุสารปริวาโรติ วนเชฏฺกรุกฺโข สยํ เผคฺคุ โหติ, ปริวารรุกฺขา ปนสฺส สารา โหนฺติ. อิมินา นเยน เสสา เวทิตพฺพา. ปุคฺคเลสุ ปน สีลสารวิรหโต เผคฺคุตา, สีลาจารสมนฺนาคเมน จ สารตา เวทิตพฺพา.

๑๗๑. รูปปฺปมาณาทีสุ – สมฺปตฺติยุตฺตํ รูปํ ปมาณํ กโรตีติ รูปปฺปมาโณ. ตตฺถ ปสาทํ ชเนตีติ รูปปฺปสนฺโน. กิตฺติสทฺทภูตํ โฆสํ ปมาณํ กโรตีติ โฆสปฺปมาโณ. อาโรหํ วาติอาทีสุ ปน – อาโรหนฺติ อุจฺจตฺตนํ. ปริณาหนฺติ กิสถูลภาวาปคตํ ปริกฺเขปสมฺปตฺตึ. สณฺานนฺติ องฺคปจฺจงฺคานํ ทีฆรสฺสวฏฺฏตาทิยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาภาวํ. ปาริปูรินฺติ ยถาวุตฺตปฺปการานํ อนูนตํ, ลกฺขณปริปุณฺณภาวํ วา. ปรวณฺณนายาติ ปเรหิ ปรมฺมุขา นิจฺฉาริตาย คุณวณฺณนาย. ปรโถมนายาติ ปเรหิ ถุติวเสน คาถาทิอุปนิพนฺธเนน วุตฺตาย โถมนาย. ปรปสํสนายาติ ปเรหิ สมฺมุขา วุตฺตาย ปสํสาย. ปรวณฺณหาริกายาติ ปรมฺปรถุติวเสน ปเรหิ ปวตฺติตาย วณฺณหรณาย.

๑๗๒. จีวรลูขนฺติ จีวรสฺส ทุพฺพณฺณาทิภาเวน ลูขตํ. ปตฺตลูขนฺติ ภาชนสฺส วณฺณสณฺานวตฺถูหิ ลูขตํ. เสนาสนลูขนฺติ นาฏกาทิสมฺปตฺติวิรเหน เสนาสนสฺส ลูขตํ. วิวิธนฺติ อเจลกาทิภาเวน อเนกปฺปการํ. ทุกฺกรการิกนฺติ สรีรตาปนํ.

อปโร นโย – อิเมสุ หิ จตูสุ ปุคฺคเลสุ รูเป ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน รูปปฺปมาโณ นาม. รูปปฺปสนฺโนติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ. โฆเส ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน โฆสปฺปมาโณ นาม. จีวรลูขปตฺตลูเขสุ ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ลูขปฺปมาโณ นาม. ธมฺเม ปมาณํ คเหตฺวา ปสนฺโน ธมฺมปฺปมาโณ นาม. อิตรานิ เตสํเยว อตฺถวจนานิ. สพฺพสตฺเต จ ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ทฺเว โกฏฺาสา รูปปฺปมาณา, เอโก น รูปปฺปมาโณ. ปฺจ โกฏฺาเส กตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาสา โฆสปฺปมาณา, เอโก น โฆสปฺปมาโณ. ทส โกฏฺาเส กตฺวา นว โกฏฺาสา ลูขปฺปมาณา, เอโก น ลูขปฺปมาโณ. สตสหสฺสํ โกฏฺาเส กตฺวา ปน เอโก โกฏฺาโสว ธมฺมปฺปมาโณ, เสสา น ธมฺมปฺปมาณา. เอวมยํ จตุปฺปมาโณ โลกสนฺนิวาโส.

เอตสฺมึ จตุปฺปมาเณ โลกสนฺนิวาเส พุทฺเธสุ อปฺปสนฺนา มนฺทา, ปสนฺนาว พหุกา. รูปปฺปมาณสฺส หิ พุทฺธรูปโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ รูปํ นาม นตฺถิ. โฆสปฺปมาณสฺส พุทฺธานํ กิตฺติโฆสโต อุตฺตริ ปสาทาวโห โฆโส นาม นตฺถิ. ลูขปฺปมาณสฺส กาสิกานิ วตฺถานิ มหารหานิ กฺจนภาชนานิ ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก สพฺพสมฺปตฺติยุตฺเต ปาสาทวเร ปหาย ปํสุกูลจีวรเสลมยปตฺตรุกฺขมูลาทิเสนาสนเสวิโน พุทฺธสฺส ภควโต ลูขโต อุตฺตริ ปสาทาวหํ อฺํ ลูขํ นาม นตฺถิ. ธมฺมปฺปมาณสฺส สเทวเก โลเก อสาธารณสีลาทิคุณสฺส ตถาคตสฺส สีลาทิคุณโต อุตฺตริ ปสาทาวโห อฺโ สีลาทิคุโณ นาม นตฺถิ. อิติ ภควา อิมํ จตุปฺปมาณิกํ โลกสนฺนิวาสํ มุฏฺินา คเหตฺวา วิย ิโตติ.

๑๗๓. อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ – สีลสมฺปนฺโนติ สีเลน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. สมาธิสมฺปนฺโนติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลํ โลกิยโลกุตฺตรํ กถิตํ. ตถา สมาธิปฺา จ. วิมุตฺติ อรหตฺตผลวิมุตฺติเยว. าณทสฺสนํ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. โน ปรนฺติอาทีสุ – ปรปุคฺคลํ ‘‘ตยาปิ สีลสมฺปนฺเนน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ยถา สีลํ สมาทิยติ, เอวํ น สมาทเปติ, น คณฺหาเปติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. เอเตสุ ปน จตูสุ ปโม วกฺกลิตฺเถรสทิโส โหติ. ทุติโย อุปนนฺทสกฺยปุตฺตสทิโส. ตติโย สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานตฺเถรสทิโส. จตุตฺโถ เทวทตฺตสทิโสติ เวทิตพฺโพ.

๑๗๔. อตฺตนฺตปาทีสุ – อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. อเจลโกติ นิจฺเจโล, นคฺโค. มุตฺตาจาโรติ วิสฏฺาจาโร. อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต ิตโกว อุจฺจารํ กโรติ, ปสฺสาวํ กโรติ, ขาทติ, ภุฺชติ จ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ นิฏฺิเต ชิวฺหาย หตฺถํ อปเลขติ. อุจฺจารํ วา กตฺวา หตฺถสฺมิฺเว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปเลขตีติ ทสฺเสติ. เต กิร ทณฺฑกํ สตฺโตติ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา เตสํ ปฏิปทํ ปูเรนฺโต เอวํ กโรติ. ภิกฺขาคหณตฺถํ ‘เอหิ ภทฺทนฺเต’ติ วุตฺโต, น เอตีติ นเอหิภทฺทนฺติโก. เตน หิ ‘ติฏฺ ภทฺทนฺเต’ติ วุตฺโตปิ น ติฏฺตีติ นติฏฺภทฺทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ เหตํ ติตฺถิยา ‘‘เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ น กโรนฺติ. อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏํ ภิกฺขํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ เอวํ อาโรจิตภิกฺขํ. น นิมนฺตนนฺติ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถา’’ติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยติ, น คณฺหาติ.

กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทิยฺยมานํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. น กโฬปิมุขาติ กโฬปีติ อุกฺขลิ, ปจฺฉิ วา. ตโตปิ น คณฺหาติ. กสฺมา? กุมฺภี กโฬปิโย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตีติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา ทิยฺยมานํ น คณฺหาติ. กสฺมา? อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตีติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย. ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ ภุฺชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหติ. กสฺมา? กพฬนฺตราโย โหตีติ. น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมติ. ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหติ. ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตีติ น คณฺหาติ น สงฺกิตฺตีสูติ สงฺกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ. ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานํ อตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ สมาทเปตฺวา ภตฺตํ ปจนฺติ, อุกฺกฏฺาเจลโก ตโต น ปฏิคฺคณฺหาติ. น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข ‘ปิณฺฑํ ลภิสฺสามี’ติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ.

สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี. สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา ‘อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’ติ มานุสฺสกา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ, เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ, ตโต อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. กสฺมา? มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโตติ. ถุโสทกนฺติ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตํ โสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ. อยํ ปน เอตสฺมิมฺปิ สาวชฺชสฺี. เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมึเยว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ. เอกาโลปิโกติ โย เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ.

เอกาหิกนฺติ เอกทิวสนฺตริกํ. อฑฺฒมาสิกนฺติ อฑฺฒมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ. เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อฑฺฒมาสวาเรนาติ – เอวํ ทิวสวาเรน อาภตภตฺตโภชนํ. สากภกฺโขติ อลฺลสากภกฺโข. สามากภกฺโขติ สามากตณฺฑุลภกฺโข. นีวาราทีสุ – นีวารา นาม ตาว อรฺเ สยํ ชาตา วีหิชาติ. ททฺทุลนฺติ จมฺมกาเรหิ จมฺมํ วิลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ. หฏํ วุจฺจติ สิเลโสปิ, เสวาโลปิ กณิการาทิรุกฺขนิยฺยาโสปิ. กณนฺติ กุณฺฑกํ. อาจาโมติ ภตฺตอุกฺขลิกาย ลคฺโค ฌาโมทโน. ตํ ฉฑฺฑิตฏฺาเน คเหตฺวา ขาทติ. ‘‘โอทนกฺชิย’’นฺติปิ วทนฺติ. ปิฺากาทโย ปากฏา เอว. ปวตฺตผลโภชีติ ปติตผลโภชี.

สาณานีติ สาณวากเจลานิ. มสาณานีติ มิสฺสกเจลานิ. ฉวทุสฺสานีติ มตสรีรโต ฉฑฺฑิตวตฺถานิ. เอรกติณาทีนิ วา คนฺเถตฺวา กตนิวาสนานิ. ปํสุกูลานีติ ปถวิยํ ฉฑฺฑิตนนฺตกานิ. ติรีฏานีติ รุกฺขตฺตจวตฺถานิ. อชินนฺติ อชินมิคจมฺมํ. อชินกฺขิปนฺติ ตเทว มชฺเฌ ผาลิตํ. สขุรกนฺติปิ วทนฺติ. กุสจีรนฺติ กุสติณานิ คนฺเถตฺวา กตจีรกํ. วากจีรผลกจีเรสุปิ เอเสว นโย. เกสกมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพลํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ เกสกมฺพโล เตสํ ปติกุฏฺโ อกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๘). วาฬกมฺพลนฺติ อสฺสวาฬาทีหิ กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขนฺติ อุลูกปตฺตานิ คนฺเถตฺวา กตนิวาสนํ. อุพฺภฏฺโกติ อุทฺธํ ิตโก.

อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกวีริยํ อนุยุตฺโต. คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรติ. เสยฺยนฺติ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปติ. สายํ ตติยมสฺสาติ สายตติยกํ. ‘‘ปาโต, มชฺฌนฺหิเก, สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปาปํ ปวาเหสฺสามี’’ติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรติ.

๑๗๕. ปรํ ตปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. โอรพฺภิกาทีสุ – อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา. อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ – เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺโธ เกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรูรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.

๑๗๖. มุทฺธาวสิตฺโตติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมทิสาย. สนฺธาคารนฺติ ยฺสาลํ. ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา จ เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑุวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑุวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑุวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว สเจ กพรา วา, รตฺตา วา, วจฺโฉปิ ตาทิโสวาติ – เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ.

๑๗๗. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีตีภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฺปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา.

อิมํ ปน ปุคฺคลํ พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ – อิธ ตถาคโตติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถาวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ. อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาเนว. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ คหปติ วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ นิทฺทิสติ? นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มุฺจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา ตาทิสสฺส มานสฺส อภาวโต นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา นาม น พหุกา, คหปติกาว พหุกา. อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.

อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ธมฺมํ สุตฺวา ธมฺมสฺสามิมฺหิ ตถาคเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธเยว. รโชปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาเท จ เทววิมานาทีสุ จ สุปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ, น สชฺชติ, น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ.

อปิจ – สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย โอกาสาภาวโต. รโชปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสมฺภาวโต. นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ. เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลินํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ – ‘‘ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสุฺจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ ‘‘อคาริย’’นฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา ‘‘อนคาริย’’นฺติ าตพฺพา. ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปฏิปชฺเชยฺยํ. อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย มหา. อพนฺธนฏฺเน าติเยว าติปริวฏฺโฏ. โสปิ วีสติยา เหฏฺา อปฺโป โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา.

๑๗๘. ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ. ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ. ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ. ปาณาติปาตํ ปหายาติอาทีสุ ปาณาติปาตาทิกถา เหฏฺา วิตฺถาริตา เอว. ปหายาติ อิมํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรโต โหตีติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว โหติ. นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺโฑ เจว นิกฺขิตฺตสตฺโถ จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ, สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วินาสนภาวโต ‘สตฺถ’นฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลิกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคโต. ทยาปนฺโนติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปโก. ตาย ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตโกติ อตฺโถ. วิหรตีติ อิริยติ, ปาเลติ.

ทินฺนเมว อาทิยตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน. น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน. อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ.

อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูรจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุนาติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.

สจฺจํ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ. น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ, ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อยํ ปน น ตาทิโส. ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติเยวาติ สจฺจสนฺโธ. เถโตติ ถิโร, ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก หิ ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุโก วิย, อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ, น ถิรกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย, อินฺทขีโล วิย จ ถิรกโถ โหติ. อสินา สีเส ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพโก, สทฺธายิโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ. ‘อิทํ เกน วุตฺตํ? อสุเกนา’ติ วุตฺเต ‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ. ‘อิทํ เกน วุตฺตํ? อสุเกนา’ติ วุตฺเต ‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.

อิเมสํ เภทายาติ เยสํ อิโต สุตฺวาติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ, เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา. ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา – ‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ, เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ. อยเมว อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต. เต ปหาย อฺตฺร คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคีคุณปริทีปกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.

กาเลน วทตีติ กาลวาที. วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตถํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส. นิธานมสฺส อตฺถีติ นิธานวตี. หทเย นิธาตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ. ยุตฺตกาลํ ปน สลฺลกฺเขตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา. ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สํหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ. น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๗๙. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ, ขนฺธพีชํ, ผฬุพีชํ, อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา. เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ, สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ. อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภุฺชมาโนปิ เอกภตฺติโกว โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – เอกภตฺติโกติ. รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยสตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา. สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ อนฺตมโส มยูรนจฺจนาปนาทิวเสนปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ. มาลาทีสุ – มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม. อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม. คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนํ อกปฺปิยสนฺถตํ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ, โลหมาสโก, ชตุมาสโก, ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ. ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว นํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ.

อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิวีหิยวโคธุมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนุฺาตา อามกมจฺฉมํสานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา. อิตรา กุมาริกา นาม. ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ. ‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ’, ‘อารามิกํ ทมฺมี’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. อเชฬกาทีสุปิ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.

ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ. คิหีนํ ปหิตํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหีณคมนํ วุจฺจติ ปรฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทูเตยฺยปหีณคมนานํ อนุโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ – กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ นาม รูปกูฏํ, องฺคกูฏํ คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ. ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ, ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒกุลํ ปวิสิตฺวา สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’ติ วุตฺเต ‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉนฺติ.

มานกูฏํ นาม หทยเภทสิขาเภทรชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺา ฉิทฺเทน มาเนน ‘สณิกํ อาสิฺจา’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ. ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ. ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.

อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ อสฺสามิเก สามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต – ‘‘กึ โภ มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต, ‘‘น เม โภ มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ‘‘ทฺเว กหาปเณ เทหี’’ติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต, โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? ‘‘อาม ทินฺโน’’ติ. อิทมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ อยฺจ กหาปณคฺฆณโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตีติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.

นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณีติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค. เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยโค วฺจนสาจิโยโค นิกติสาจิโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ ‘สาจิโยโค’ติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.

เฉทนาทีสุ – เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยฺหิ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสิกกิริยา. เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.

๑๘๐. โส สนฺตุฏฺโ โหตีติ โส จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต โหติ. กายปริหาริเกนาติ กายํ ปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ อฏฺวิธํ ภิกฺขุ ปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวาว กายปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ. ‘‘มม วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติ สงฺโค วา พทฺโธ วา น โหติ. โส ชิยา มุตฺตสโร วิย ยูถา ปกฺกนฺโต, มตฺตหตฺถี วิย อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ วนสณฺฑํ รุกฺขมูลํ วนปตฺถํ ปพฺภารํ ปริภุฺชนฺโต เอโกว ติฏฺติ, เอโกว นิสีทติ. สพฺพิริยาปเถสุ เอโกว อทุติโย.

‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ,

สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;

ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี,

เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒);

เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.

อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต, ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุโณ นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปกฺขตุณฺฑาทีหิ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ. ‘‘อิทํ อชฺชตนาย, อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’’ติ เตสํ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ. อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺโข หุตฺวา โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค นิรเปกฺโขเยว ปกฺกมติ, เตน วุตฺตํ สมาทาเยว ปกฺกมตีติ. อริเยนาติ นิทฺโทเสน. อชฺฌตฺตนฺติ สเก อตฺตภาเว. อนวชฺชสุขนฺติ นิทฺโทสสุขํ.

๑๘๑. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลเสหิ อนวสิตฺตสุขํ. อวิกิณฺณสุขนฺติปิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยสํวรสุขฺหิ ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน ปวตฺตตาย อวิกิณฺณํ โหติ.

๑๘๒. โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ โส มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวเรน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิเมสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการี โหติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ ฌานวิภงฺเค วุตฺตเมว.

โส อิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ, ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวํ สทฺทํ สาเวนฺติ. หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ. ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมํ อกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ. โส หิ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยโต วยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภาสนฺติ. อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ. วิวิตฺตนฺติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตีติ เอตฺตเก าเน ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว.

๑๘๕. ตติยวิชฺชาย โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อรหตฺตมคฺคาณตฺถาย. อรหตฺตมคฺโค หิ อาสวานํ วินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติ. ตตฺร เจตํ าณํ ตปฺปริยาปนฺนตฺตาติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหรติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ – ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฺปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ, ปฏิวิชฺฌติ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ – อยํ ทุกฺขสมุทโยติ; ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ นิพฺพานํ – อยํ ทุกฺขนิโรโธติ; ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ – อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ, ปฏิวิชฺฌตีติ – เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต อิเม อาสวาติอาทิมาห. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถติ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมินฺติ อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ ทสฺเสติ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน โส ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘ขีณา ชาตี’ติอาทีนิ ปชานาติ. วุสิตนฺติ วุฏฺํ ปริวุฏฺํ กตํ จริตํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม. ขีณาสโว วุฏฺวาโส. ตสฺมา โส อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติ ปชานาติ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ ตํ กิจฺจํ กโรนฺติ; ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา โส อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต. ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ ปชานาติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ‘‘อิทานิ ปุน เอตฺถภาวาย เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ นตฺถี’’ติ ปชานาติ.

๑๘๖. สราคาทีสุ – อปฺปหีโนติ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา ตทงฺคปฺปหาเนน วา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน วา อปฺปหีโน.

๑๘๗. ลาภี โหตีติอาทีสุ – ลาภีติ ลาภวา ปฏิลภิตฺวา ิโต. อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสาติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต อตฺตโน จิตฺเต อุปฺปนฺนสฺส เจโตสมถสฺส. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนายาติ อธิปฺาสงฺขาตาย ขนฺธธมฺเมสุ อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตาย วิปสฺสนาย. รูปสหคตานนฺติ รูปนิมิตฺตารมฺมณานํ รูปาวจรสมาปตฺตีนํ. อรูปสหคตานนฺติ น รูปนิมิตฺตารมฺมณานํ อรูปสมาปตฺตีนํ. เอตฺถ จ ปโม อฏฺสมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน. ทุติโย สุกฺขวิปสฺสกอริยสาวโก. ตติโย อฏฺสมาปตฺติลาภี อริยสาวโก. จตุตฺโถ โลกิยมหาชโน เวทิตพฺโพ.

๑๘๘. อนุโสตคามีอาทีสุ – อนุโสตคามีติ วฏฺฏโสตํ อนุคโต, วฏฺฏโสเต นิมุคฺโค ปุถุชฺชโน เวทิตพฺโพ. ปฏิโสตคามีติ ปฏิโสตคมโน. อนุโสตํ อคนฺตฺวา ปฏิโสตํ คจฺฉนฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ปาปฺจ กมฺมํ น กโรตีติ ปฺตฺตํ วีติกฺกมนฺโต น กโรติ. สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนาติ กิเลสปริยุฏฺาเน สติ อุปฺปนฺเนน ทุกฺขโทมนสฺเสน สทฺธิมฺปิ. ปริปุณฺณนฺติ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ เอกายปิ อนูนํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. อิมินา วาเรน โสตาปนฺนสกทาคามิโน กถิตา. กึ ปน เต รุทนฺตา พฺรหฺมจริยํ จรนฺตีติ? อาม. กิเลสโรทเนน รุทนฺตา จรนฺติ นาม. สีลสมฺปนฺโน ปุถุชฺชนภิกฺขุปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต.

ิตตฺโตติ ิตสภาโว. อนาคามีติ กามราคพฺยาปาเทหิ อกมฺปนียจิตฺตตาย จ ตมฺหา โลกา อนาวตฺติธมฺมตาย จ ิตสภาโว นาม. ติณฺโณติ ตณฺหาโสตํ อุตฺติณฺโณ. ปารงฺคโตติ นิพฺพานปารํ คโต. ถเล ติฏฺตีติ อรหตฺตผลสมาปตฺติถเล ติฏฺติ. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลาณํ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ ขีณาสโว ‘‘ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ วุจฺจติ. พาหิตปาปตาย หิ เอส พฺราหฺมโณ นาม.

๑๘๙. อปฺปสฺสุตาทีสุ – อปฺปกํ สุตํ โหตีติ นวงฺเค สตฺถุสาสเน กิฺจิเทว โถกํ สุตํ โหติ. น อตฺถมฺาย, น ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน โหตีติ อฏฺกถฺจ ปาฬิฺจ ชานิตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปฏิปนฺโน น โหติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๙๐. สมณมจลาทีสุ – สมณมจโลติ สมณอจโล, มกาโร ปทสนฺธิกโร. นิจฺจลสมโณ, ถิรสมโณติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ โสตาปนฺโน สาสเน มูลชาตาย สทฺธาย ปติฏฺิตตฺตา ‘สมณมจโล’ติ วุจฺจติ. สกทาคามี ปน รชฺชนกิเลสสฺส อตฺถิตาย สมณปทุโมติ วุตฺโต. รตฺตฏฺโ หิ อิธ ปทุมฏฺโ นามาติ วุตฺตํ. อนาคามี กามราคสงฺขาตสฺส รชฺชนกิเลสสฺส นตฺถิตาย สมณปุณฺฑรีโกติ วุตฺโต. ปณฺฑรฏฺโ หิ อิธ ปุณฺฑรีกฏฺโ นามาติ วุตฺตํ. ขีณาสโว จ ถทฺธภาวกรานํ กิเลสานํ อภาเวน สมเณสุ สมณสุขุมาโล นามาติ วุตฺโต. อปฺปทุกฺขฏฺเนปิ เจส สมณสุขุมาโลเยวาติ.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.

๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจเก – ตตฺราติ เตสุ ‘‘อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติอาทินา นเยน เหฏฺา อุทฺทิฏฺปุคฺคเลสุ. ยฺวายนฺติ โย อยํ. อารภตีติ เอตฺถ อารมฺภสทฺโท กมฺมกิริยาหึสนวีริยวิโกปนาปตฺติวีติกฺกเมสุ วตฺตติ. ตถา เหส ‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา’’ติ (สุ. นิ. ๗๔๘) กมฺเม อาคโต. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา, น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙) กิริยายํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑-๕๒) หึสเน. ‘‘อารภถ, นิกฺขมถ, ยุฺชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) วีริเย. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔; ม. นิ. ๑.๒๙๓) วิโกปเน. ‘‘อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒) อยํ ปน อาปตฺติวีติกฺกเม อาคโต. ตสฺมา อาปตฺติวีติกฺกมวเสน อารภติ เจว ตปฺปจฺจยา วิปฺปฏิสารี จ โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ อนธิคตตฺตา ยถาสภาวโต น ชานาติ. ยตฺถสฺสาติ ยสฺมึ อสฺส, ยํ านํ ปตฺวา เอตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. กึ ปน ปตฺวา เต นิรุชฺฌนฺตีติ? อรหตฺตมคฺคํ. ผลปฺปตฺตสฺส ปน นิรุทฺธา นาม โหนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ อิธ มคฺคกิจฺจวเสน ผลเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อารมฺภชาติ อาปตฺติวีติกฺกมสมฺภวา. วิปฺปฏิสารชาติ วิปฺปฏิสารโต ชาตา. ปวฑฺฒนฺตีติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชเนน วฑฺฒนฺติ. สาธูติ อายาจนสาธุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาว อปรทฺธฺจ วต อายสฺมตา, เอวํ สนฺเตปิ มยํ อายสฺมนฺตํ ยาจาม – ‘‘เทเสตพฺพยุตฺตกสฺส เทสนาย, วุฏฺาตพฺพยุตฺตกสฺส วุฏฺาเนน, อาวิกาตพฺพยุตฺตกสฺส อาวิกิริยาย, อารมฺภเช อาสเว ปหาย, สุทฺธนฺเต ิตภาวปจฺจเวกฺขเณน วิปฺปฏิสารเช อาสเว ปฏิวิโนเทตฺวา นีหริตฺวา วิปสฺสนาจิตฺตฺเจว วิปสฺสนาปฺฺจ ภาเวตู’’ติ. อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลนาติ เอเตน ปฺจเมน ขีณาสวปุคฺคเลน. สมสโม ภวิสฺสตีติ โลกุตฺตรคุเณหิ สมภาเวเนว สโม ภวิสฺสตีติ เอวํ ขีณาสเวน โอวทิตพฺโพติ อตฺโถ.

อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหตีติ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ตํ ปน เทเสตุํ สภาคปุคฺคลํ ปริเยสติ. ตสฺมา น วิปฺปฏิสารี โหติ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน ‘‘วุฏฺิตตฺตา น วิปฺปฏิสารี โหตี’’ติ วุตฺตํ. น อารภติ วิปฺปฏิสารี โหตีติ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, วินยปฺตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา อนาปตฺติยํ อาปตฺติสฺี หุตฺวา วิปฺปฏิสารี โหติ. องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน ‘‘สกึ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปจฺฉา กิฺจาปิ นาปชฺชติ, วิปฺปฏิสารํ ปน วิโนเทตุํ น สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ. น อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหตีติ เนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น วิปฺปฏิสารี โหติ. กตโม ปเนส ปุคฺคโลติ? โอสฺสฏฺวีริยปุคฺคโล. โส หิ ‘‘กึ เม อิมสฺมึ พุทฺธกาเล ปรินิพฺพาเนน, อนาคเต เมตฺเตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วิสุทฺธสีโลปิ ปฏิปตฺตึ น ปูเรติ. โสปิ ‘‘กิมตฺถํ อายสฺมา ปมตฺโต วิหรติ ปุถุชฺชนสฺส นาม คติ อนิพทฺธา. อายสฺมา หิ เมตฺเตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สมฺมุขภาวํ ลเภยฺยปิ น ลเภยฺยาปีติ อรหตฺตตฺถาย วิปสฺสนํ ภาเวหี’’ติ โอวทิตพฺโพว. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๙๒. ทตฺวา อวชานาตีติอาทีสุ – เอโก ภิกฺขุ มหาปุฺโ จตุปจฺจยลาภี โหติ. โส จีวราทีนิ ลภิตฺวา อฺํ อปฺปปุฺํ อาปุจฺฉติ. โสปิ ตสฺมึ ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉนฺเตปิ คณฺหาติเยว. อถสฺส อิตโร โถกํ กุปิโต หุตฺวา มงฺกุภาวํ อุปฺปาเทตุกาโม วทติ – ‘‘อยํ อตฺตโน ธมฺมตาย จีวราทีนิ น ลภติ, อมฺเห นิสฺสาย ลภตี’’ติ. เอวํ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติ นาม. เอโก ปน เอเกน สทฺธึ ทฺเว ตีณิ วสฺสานิ วสนฺโต ปุพฺเพ ตํ ปุคฺคลํ ครุํ กตฺวา ปจฺฉา คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล จิตฺตีการํ น กโรติ, อาสนาปิ น วุฏฺาติ, อุปฏฺานมฺปิ น คจฺฉติ. เอวํ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติ นาม.

อาเธยฺยมุโขติ อาทิโต เธยฺยมุโข. ปมวจนสฺมึเยว ปิตมุโขติ อตฺโถ. อธิมุจฺจิตา โหตีติ สทฺธาตา โหติ. ตตฺรายํ นโย – เอโก ปุคฺคโล สารุปฺปํเยว ภิกฺขุํ ‘อสารุปฺโป เอโส’ติ กเถติ, ตํ สุตฺวา เอส นิฏฺํ คจฺฉติ. ปุน อฺเน สภาเคน ภิกฺขุนา ‘สารุปฺโป อย’นฺติ วุตฺเตปิ ตสฺส วจนํ น คณฺหาติ ‘‘อสุเกน นาม ‘อสารุปฺโป อย’นฺติ อมฺหากํ กถิต’’นฺติ ปุริมภิกฺขุโนว กถํ คณฺหาติ. อปโรปิสฺส ทุสฺสีลํ ‘สีลวา’ติ กเถติ. ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา ปุน อฺเน ‘‘อสารุปฺโป เอส ภิกฺขุ, นายํ ตุมฺหากํ สนฺติกํ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺโต’’ติ วุตฺโตปิ ตสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา ปุริมสฺเสว กถํ คณฺหาติ. อปโร วณฺณมฺปิ กถิตํ คณฺหาติ, อวณฺณมฺปิ กถิตํ คณฺหาติเยว. อยมฺปิ อาเธยฺยมุโขเยว นาม. อาธาตพฺพมุโข ยํ ยํ สุณาติ, ตตฺถ ตตฺถ ปิตมุโขติ อตฺโถ.

โลโลติ สทฺธาทีนํ อิตฺตรกาลฏฺิติกตฺตา อสฺสทฺธิยาทีหิ ลุลิตภาเวน โลโล. อิตฺตรสทฺโธติ ปริตฺตสทฺโธ, อปริปุณฺณสทฺโธ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ปุนปฺปุนํ ภชนวเสน สทฺธาว ภตฺติ. เปมํ สทฺธาเปมํ เคหสิตเปมมฺปิ วฏฺฏติ. ปสาโท สทฺธาปสาโทว. เอวํ ปุคฺคโล โลโล โหตีติ เอวํ อิตฺตรสทฺธาทิตาย ปุคฺคโล โลโล นาม โหติ. หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ โกฏฺฏิตขาณุโก วิย, อสฺสปิฏฺิยํ ปิตกุมฺภณฺฑํ วิย จ อนิพทฺธฏฺาโน มุหุตฺเตน ปสีทติ, มุหุตฺเตน กุปฺปติ.

มนฺโท โมมูโหติ อฺาณภาเวน มนฺโท อวิสทตาย โมมูโห. มหามูฬฺโหติ อตฺโถ.

๑๙๓. โยธาชีวูปเมสุ – โยธาชีวาติ ยุทฺธูปชีวิโน. รชคฺคนฺติ หตฺถิอสฺสาทีนํ ปาทปฺปหารภินฺนาย ภูมิยา อุคฺคตํ รชกฺขนฺธํ. น สนฺถมฺภตีติ สนฺถมฺภิตฺวา าตุํ น สกฺโกติ. สหติ รชคฺคนฺติ รชกฺขนฺธํ ทิสฺวาปิ อธิวาเสติ. ธชคฺคนฺติ หตฺถิอสฺสาทิปิฏฺเสุ วา รเถสุ วา อุสฺสาปิตานํ ธชานํ อคฺคํ. อุสฺสารณนฺติ หตฺถิอสฺสรถาทีนฺเจว พลกายสฺส จ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทํ. สมฺปหาเรติ สมาคเต อปฺปมตฺตเกปิ ปหาเร. หฺตีติ วิหฺติ, วิฆาตํ อาปชฺชติ. พฺยาปชฺชตีติ วิปตฺตึ อาปชฺชติ, ปกติภาวํ ชหติ. สหติ สมฺปหารนฺติ ทฺเว ตโย ปหาเร ปตฺวาปิ สหติ, อธิวาเสติ. ตเมว สงฺคามสีสนฺติ ตเมว ชยขนฺธาวารฏฺานํ. อชฺฌาวสตีติ สตฺตาหมตฺตํ อภิภวิตฺวา อาวสติ. กึ การณา? ลทฺธปฺปหารานํ ปหารชคฺคนตฺถฺเจว กตกมฺมานํ วิเสสํ ตฺวา านนฺตรทานตฺถฺจ อิสฺสริยสุขานุภวนตฺถฺจ.

๑๙๔. อิทานิ ยสฺมา สตฺถุ โยธาชีเวหิ กิจฺจํ นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน สาสเน ตถารูเป ปฺจ ปุคฺคเล ทสฺเสตุํ อิทํ โอปมฺมํ อาภตํ, ตสฺมา เต ปุคฺคเล ทสฺเสนฺโต เอวเมวนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ สํสีทตีติ มิจฺฉาวิตกฺกสฺมึ วิสีทติ, อนุปวิสติ. น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุนฺติ พฺรหฺมจริยวาสํ อนุปจฺฉิชฺชมานํ โคเปตุํ น สกฺโกติ. สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวาติ สิกฺขาย ทุพฺพลภาวํ ปกาเสตฺวา. กิมสฺส รชคฺคสฺมินฺติ กึ ตสฺส ปุคฺคลสฺส รชคฺคํ นามาติ วทติ. อภิรูปาติ อภิรูปวตี. ทสฺสนียาติ ทสฺสนโยคฺคา. ปาสาทิกาติ ทสฺสเนเนว จิตฺตปฺปสาทาวหา. ปรมายาติ อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ สรีรวณฺเณน เจว องฺคสณฺาเนน จ.

๑๙๖. อูหสตีติ อวหสติ. อุลฺลปตีติ กเถติ. อุชฺชคฺฆตีติ ปาณึ ปหริตฺวา มหาหสิตํ หสติ. อุปฺปณฺเฑตีติ อุปฺปณฺฑนกถํ กเถติ.

๑๙๗. อภินิสีทตีติ อภิภวิตฺวา สนฺติเก วา เอกาสเน วา นิสีทติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อชฺโฌตฺถรตีติ อวตฺถรติ.

๑๙๘. วินิเวเตฺวา วินิโมเจตฺวาติ คหิตฏฺานโต ตสฺส หตฺถํ วินิเวเตฺวา เจว, โมเจตฺวา จ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๙๙. ปิณฺฑปาติเกสุ – มนฺทตฺตา โมมูหตฺตาติ เนว สมาทานํ ชานาติ, น อานิสํสํ; อตฺตโน ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อฺาเณเนว ปิณฺฑปาติโก โหติ. ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโตติ ปิณฺฑปาติกสฺส เม สโต ‘‘อยํ ปิณฺฑปาติโก’’ติ จตุปจฺจยสกฺการํ กริสฺสนฺติ. ลชฺชี, อปฺปิจฺโฉติอาทีหิ จ คุเณหิ สมฺภาเวสฺสนฺตีติ. เอวํ ปาปิกาย อิจฺฉาย ตฺวา ตาย ปาปิจฺฉาย อภิภูโต หุตฺวา ปิณฺฑปาติโก โหติ. อุมฺมาทวเสน ปิณฺฑาย จรนฺโต ปน อุมฺมาทา จิตฺตวิกฺเขปา ปิณฺฑปาติโก นาม โหติ. วณฺณิตนฺติ อิทํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ นาม พุทฺเธหิ จ พุทฺธสาวเกหิ จ วณฺณิตํ ปสตฺถนฺติ ปิณฺฑปาติโก โหติ. อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสายาติอาทีสุ – ‘‘อิติ อปฺปิจฺโฉ ภวิสฺสามิ, อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺติสฺสติ; ‘อิติ สนฺตุฏฺโ ภวิสฺสามิ อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ สนฺตุฏฺิยา สํวตฺติสฺสติ’; ‘อิติ กิเลเส สํลิขิสฺสามิ’, อิทํ เม ปิณฺฑปาติกงฺคํ กิเลสสลฺเลขนตฺถาย สํวตฺติสฺสตี’’ติ ปิณฺฑปาติโก โหติ. อิทมตฺถิตนฺติ อิมาย กลฺยาณาย ปฏิปตฺติยา อตฺถิกภาวํ, อิมินา วา ปิณฺฑปาตมตฺเตน อตฺถิกภาวํ. ยํ ยํ ลทฺธํ เตน เตเนว ยาปนภาวํ นิสฺสายาติ อตฺโถ. อคฺโคติ เชฏฺโก. เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ.

ควา ขีรนฺติ คาวิโต ขีรํ นาม โหติ, น วินา คาวิยา. ขีรมฺหา ทธีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมวนฺติ ยถา เอเตสุ ปฺจสุ โครเสสุ สปฺปิมณฺโฑ อคฺโค; เอวเมวํ อิเมสุ ปฺจสุ ปิณฺฑปาติเกสุ ยฺวายํ อปฺปิจฺฉตาทีนิ นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติ. อยํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเมสุ ปน ปฺจสุ ปิณฺฑปาติเกสุ ทฺเวว ชนา ปิณฺฑปาติกา, ตโย น ปิณฺฑปาติกา. นามมตฺเตน ปน ปิณฺฑปาติกาติ เวทิตพฺพา. ขลุปจฺฉาภตฺติกาทีสุปิ เอเสว นโยติ.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา.

๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒. ฉกฺเก ตตฺราติ เตสุ ฉสุ ปุคฺคเลสุ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตน ทฏฺพฺโพติ โส ปุคฺคโล เตน อนาจริยเกน อตฺตนา อุปฺปาทิเตน สพฺพฺุตฺาเณน สพฺพฺุพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ.

ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ เตนาติอาทีสุปิ เตน ปจฺเจกสมฺโพธิาเณน โส ปุคฺคโล ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ. เตน สาวกปารมีาเณน เต ปุคฺคลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา. เตน ทุกฺขสฺส อนฺตกรเณน เต ปุคฺคลา อวเสสา อรหนฺโต. เตน อิตฺถตฺตํ อนาคมเนน โส ปุคฺคโล อนาคามี. เตน อิตฺถตฺตํ อาคมเนน เต ปุคฺคลา โสตาปนฺนสกทาคามิโน ทฏฺพฺพาติ.

ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา.

๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๓. สตฺตเก สกึ นิมุคฺโคติ เอกวารํ นิมุคฺโค. เอกนฺตกาฬเกหีติ เอกนฺเตเนว กาฬเกหิ นตฺถิกวาทอเหตุกวาทอกิริยวาทสงฺขาเตหิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺเมหิ. เอวํ ปุคฺคโลติ อิมินา การเณน ปุคฺคโล เอกวารํ นิมุคฺโค ตถา นิมุคฺโคว โหติ. เอตสฺส หิ ปุน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถีติ วทนฺติ. มกฺขลิโคสาลาทโย วิย เหฏฺา นรกคฺคีนํเยว อาหาโร โหติ.

สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กุสลธมฺเมสุ สทฺธา นาม สาธุลทฺธิกาติ อุมฺมุชฺชติ. โส ตาวตเกเนว กุสเลน อุมฺมุชฺชติ นาม. สาธุ หิรีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. หายติเยวาติ จงฺกวาเร อาสิตฺตอุทกํ วิย เอกนฺเตน ปริหายเตว. เอวํ ปุคฺคโลติ เอวํ สาหุ สทฺธาติ. อิเมสํ สทฺธาทีนํ วเสน เอกวารํ อุมฺมุชฺชิตฺวา เตสํ ปริหานิยา ปุน นิมุชฺชติเยว, เทวทตฺตาทโย วิย. เทวทตฺโต หิ อฏฺ สมาปตฺติโย, ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวาปิ ปุน พุทฺธานํ ปฏิกณฺฏกตาย เตหิ คุเณหิ ปริหีโน รุหิรุปฺปาทกมฺมํ สงฺฆเภทกมฺมฺจ กตฺวา กายสฺส เภทา ทุติยจิตฺตวาเรน นิรเย นิพฺพตฺติ. โกกาลิโก ทฺเว อคฺคสาวเก อุปวทิตฺวา ปทุมนิรเย นิพฺพตฺโต.

เนว หายติ โน วฑฺฒตีติ อปฺปโหนกกาเลปิ น หายติ, ปโหนกกาเลปิ น วฑฺฒติ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อคาริเกนปิ อนคาริเกนปิ ทีเปตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ อคาริโก อปฺปโหนกกาเล ปกฺขิกภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา วสฺสาวาสิกํ วา อุปนิพนฺธาเปติ. โส ปจฺฉา ปโหนกกาเลปิ ปกฺขิกภตฺตาทิมตฺตเมว ปวตฺเตติ. อนคาริโกปิ อาทิมฺหิ อปฺปโหนกกาเล อุทฺเทสํ วา ธุตงฺคํ วา คณฺหาติ, เมธาพลวีริยสมฺปตฺติยา ปโหนกกาเลปิ ตโต อุตฺตรึ น กโรติ. เอวํ ปุคฺคโลติ เอวํ อิมาย สทฺธาทีนํ ิติยา ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต นาม โหติ.

อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกตีติ โสตาปนฺโน ปุคฺคโล อุฏฺหิตฺวา คมนมคฺคํ คนฺตพฺพํ ทิสํ วา อาโลเกติ นาม.

อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรตีติ สกทาคามิปุคฺคโล กิเลสตนุตาย อุฏฺหิตฺวา คนฺตพฺพทิสาภิมุโข ปตรติ นาม.

ปติคาธปฺปตฺโต โหตีติ อนาคามิปุคฺคโล อุฏฺาย วิโลเกตฺวา ปตริตฺวา คนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน ปติฏฺาปตฺโต นาม โหติ, ติฏฺติ, น ปุนาคจฺฉติ.

ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺตีติ สพฺพกิเลโสฆํ ตริตฺวา ปรตีรํ คนฺตฺวา นิพฺพานถเล ิโต นาม โหติ. อิเม ปน สตฺต ปุคฺคลา อุทโกปเมน ทีปิตา.

สตฺต กิร ชงฺฆวาณิชา อทฺธานมคฺคปฏิปนฺนา อนฺตรามคฺเค เอกํ ปุณฺณนทึ ปาปุณึสุ. เตสุ ปมํ โอติณฺโณ อุทกภีรุโก ปุริโส โอติณฺณฏฺาเนเยว นิมุชฺชิตฺวา ปุน อุฏฺาตุํ นาสกฺขิ, อนฺโตเยว มจฺฉกจฺฉปภกฺโข ชาโต. ทุติโย โอติณฺณฏฺาเน นิมุชฺชิตฺวา สกึ อุฏฺหิตฺวา ปุน นิมุคฺโค อุฏฺาตุํ นาสกฺขิ, อนฺโตเยว มจฺฉกจฺฉปภกฺโข ชาโต. ตติโย นิมุชฺชิตฺวา อุฏฺหิ. โส มชฺเฌ นทิยา ตฺวา เนว โอรโต อาคนฺตุํ, น ปรโต คนฺตุํ อสกฺขิ. จตุตฺโถ อุฏฺาย ิโต อุตฺตรณติตฺถํ โอโลเกสิ. ปฺจโม โอตรณติตฺถํ โอโลเกตฺวา ปตริ. ฉฏฺโ ตริตฺวา ปาริมตีรํ คนฺตฺวา กฏิปฺปมาเณ อุทเก ิโต. สตฺตโม ปาริมตีรํ คนฺตฺวา คนฺธจุณฺณาทีหิ นฺหาตฺวา วรวตฺถานิ นิวาเสตฺวา สุรภิวิเลปนํ วิลิมฺปิตฺวา นีลุปฺปลาทีนิ ปิฬนฺธิตฺวา นานาลงฺการปฏิมณฺฑิโต มหานครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทวรมารุยฺห อุตฺตมโภชนํ ภุฺชิ.

ตตฺถ สตฺต ชงฺฆวาณิชา วิย อิเม สตฺต ปุคฺคลา. นที วิย วฏฺฏํ. ปมสฺส อุทกภีรุกสฺส ปุริสสฺส โอติณฺณฏฺาเนเยว นิมุชฺชนํ วิย มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส วฏฺเฏ นิมุชฺชนํ. อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุคฺคปุริโส วิย สทฺธาทีนํ อุปฺปตฺติมตฺตเกน อุมฺมุชฺชิตฺวา เตสํ ปริหานิยา นิมุคฺคปุคฺคโล. มชฺเฌ นทิยา ิโต วิย สทฺธาทีนํ ิติยา ิตปุคฺคโล. อุตฺตรณติตฺถํ โอโลเกนฺโต วิย คนฺตพฺพมคฺคํ คนฺตพฺพทิสํ วา โอโลเกนฺโต โสตาปนฺโน. ปตริตปุริโส วิย กิเลสตนุตาย ปตรนฺโต สกทาคามี. ตริตฺวา กฏิมตฺเต อุทเก ิตปุริโส วิย อนาวตฺติตธมฺมตาย ิโต อนาคามี. นฺหตฺวา ปาริมตีรํ อุตฺตริตฺวา ถเล ิตปุริโส วิย จตฺตาโร โอเฆ อติกฺกมิตฺวา นิพฺพานถเล ิโต ขีณาสวพฺราหฺมโณ. ถเล ิตปุริสสฺส นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทวรํ อารุยฺห อุตฺตมโภชนภุฺชนํ วิย ขีณาสวสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วีตินามนํ เวทิตพฺพํ. อุภโตภาควิมุตฺตาทโย เหฏฺา ปกาสิตาเยวาติ.

สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๐๗. อฏฺกนวกนิทฺเทสาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๙. ทสกนิทฺเทเส – อิธาติ กามาวจรภูมิยํ. กามาวจรภูมิยฺหิ สตฺตกฺขตฺตุปรมาทีนํ กามาวจรภูมิยฺเว นิฏฺา โหติ. กามาวจรตฺตภาเวเนว อรหตฺตปฺปตฺติ จ อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติ จ โหตีติ อตฺโถ.

อิธ วิหายาติ อิธ กามาวจเร อตฺตภาเว วิหาย สุทฺธาวาสตฺตภาเว ิตานํ นิฏฺา โหตีติ อตฺโถ. อนฺตราปรินิพฺพายิอาทโย หิ อิธ อนาคามิผลํ ปตฺวา อิโต จุตา สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชิตฺวา เตน อตฺตภาเวน อรหตฺตฺเจว อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุฺจ ปาปุณนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ.

ทสกนิทฺเทสวณฺณนา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

ยํ เว ปุคฺคลปฺตฺตึ, โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล;

นาติสงฺเขปโต สตฺถา, เทเสสิ ติทสาลเย.

ตสฺสา อฏฺกถฺเจว, ทีปภาสาย สงฺขตํ;

อาคมฏฺกถาโย จ, โอคาเหตฺวา อเสสโต.

สุวิภตฺโต อสํกิณฺโณ, โย โย อตฺโถ ยหึ ยหึ;

ตโต ตโต ตํ คเหตฺวา, ปหาย อติวิตฺถารํ.

วิสุทฺธิมคฺเค ยํ วุตฺตํ, ตํ อนาทาย สงฺขตา;

นาติสงฺเขปวิตฺถาร-นเยนฏฺกถา อยํ.

ตํ เอตํ สตฺตมตฺเตหิ, ภาณวาเรหิ ตนฺติยา;

จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, สงฺขโรนฺเตน ยํ มยา.

สมฺปตฺตํ กุสลํ เตน, สทฺธมฺมํ สุขุมํ สิวํ;

โอโลเกนฺตุ วิสุทฺเธน, ปาณโย ธมฺมจกฺขุนาติ.

ปุคฺคลปฺตฺติ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

กถาวตฺถุ-อฏฺกถา

นิสินฺโน เทวโลกสฺมึ, เทวสงฺฆปุรกฺขโต;

สเทวกสฺส โลกสฺส, สตฺถา อปฺปฏิปุคฺคโล.

สพฺพปฺตฺติกุสโล, ปฺตฺติปริทีปนํ;

วตฺวา ปุคฺคลปฺตฺตึ, โลเก อุตฺตมปุคฺคโล.

ยํ ปุคฺคลกถาทีนํ, กถานํ วตฺถุภาวโต;

กถาวตฺถุปฺปกรณํ, สงฺเขเปน อเทสยี.

มาติกาปเนเนว, ปิตสฺส สุราลเย;

ตสฺส โมคฺคลิปุตฺเตน, วิภตฺตสฺส มหีตเล.

อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, อตฺถสํวณฺณนากฺกโม;

ตสฺมา นํ วณฺณยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.

นิทานกถา

ยมกปาฏิหีราวสานสฺมิฺหิ ภควา ติทสปุเร ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา มาตรํ กายสกฺขึ กตฺวา เทวปริสาย อภิธมฺมกถํ กเถนฺโต ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคธาตุกถาปุคฺคลปฺตฺติปฺปกรณานิ เทสยิตฺวา กถาวตฺถุเทสนาย วาเร สมฺปตฺเต ‘‘อนาคเต มม สาวโก มหาปฺโ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม อุปฺปนฺนํ สาสนมลํ โสเธตฺวา ตติยสงฺคีตึ กโรนฺโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสินฺโน สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา อิมํ ปกรณํ ภาเชสฺสตี’’ติ ตสฺโสกาสํ กโรนฺโต ยา เจสา ปุคฺคลวาเท ตาว จตูสุ ปฺเหสุ ทฺวินฺนํ ปฺจกานํ วเสน อฏฺมุขา วาทยุตฺติ, ตํ อาทึ กตฺวา สพฺพกถามคฺเคสุ อสมฺปุณฺณภาณวารมตฺตาย ตนฺติยา มาติกํ เปสิ. อถาวเสสํ อภิธมฺมกถํ วิตฺถารนเยเนว กเถตฺวา วุตฺถวสฺโส สุวณฺณรชตโสปานมชฺเฌ มณิมเยน โสปาเนน เทวโลกโต สงฺกสฺสนคเร โอรุยฺห สตฺตหิตํ สมฺปาเทนฺโต ยาวตายุกํ ตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ.

อถสฺส มหากสฺสปปฺปมุโข วสีคโณ อชาตสตฺตุราชานํ สหายํ คเหตฺวา ธมฺมวินยสรีรํ สงฺคหํ อาโรเปสิ. ตโต วสฺสสตสฺส อจฺจเยน วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู ทส วตฺถูนิ ทีปยึสุ. ตานิ สุตฺวา กากณฺฑกสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต ยสตฺเถโร สุสุนาคปุตฺตํ กาลาโสกํ นาม ราชานํ สหายํ คเหตฺวา ทฺวาทสนฺนํ ภิกฺขุสตสหสฺสานํ อนฺตเร สตฺตเถรสตานิ อุจฺจินิตฺวา ตานิ ทสวตฺถูนิ มทฺทิตฺวา ธมฺมวินยสรีรํ สงฺคหํ อาโรเปสิ.

เตหิ ปน ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ นิคฺคหิตา ทสสหสฺสา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู ปกฺขํ ปริเยสมานา อตฺตโน อนุรูปํ ทุพฺพลปกฺขํ ลภิตฺวา วิสุํ มหาสงฺฆิกาจริยกุลํ นาม อกํสุ. ตโต ภิชฺชิตฺวา อปรานิ ทฺเว อาจริยกุลานิ ชาตานิ – โคกุลิกา จ เอกพฺโยหาริกา จ. โคกุลิกนิกายโต ภิชฺชิตฺวา อปรานิ ทฺเว อาจริยกุลานิ ชาตานิ – ปณฺณตฺติวาทา จ พาหุลิยา จ. พหุสฺสุติกาติปิ เตสํเยว นามํ. เตสํเยว อนฺตเร เจติยวาทา นาม อปเร อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. เอวํ มหาสงฺฆิกาจริยกุลโต ทุติเย วสฺสสเต ปฺจาจริยกุลานิ อุปฺปนฺนานิ. ตานิ มหาสงฺฆิเกหิ สทฺธึ ฉ โหนฺติ.

ตสฺมึเยว ทุติเย วสฺสสเต เถรวาทโต ภิชฺชิตฺวา ทฺเว อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา – มหิสาสกา จ วชฺชิปุตฺตกา จ. ตตฺถ วชฺชิปุตฺตกวาทโต ภิชฺชิตฺวา อปเร จตฺตาโร อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา – ธมฺมุตฺตริยา, ภทฺรยานิกา, ฉนฺนาคาริกา, สมิติยาติ. ปุน ตสฺมึเยว ทุติเย วสฺสสเต มหิสาสกวาทโต ภิชฺชิตฺวา สพฺพตฺถิวาทา ธมฺมคุตฺติกาติ ทฺเว อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. ปุน สพฺพตฺถิวาทกุลโต ภิชฺชิตฺวา กสฺสปิกา นาม ชาตา. กสฺสปิเกสุ ภินฺเนสุ อปเร สงฺกนฺติกา นาม ชาตา. สงฺกนฺติเกสุ ภินฺเนสุ สุตฺตวาทา นาม ชาตาติ เถรวาทโต ภิชฺชิตฺวา อิเม เอกาทส อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. เต เถรวาเทหิ สทฺธึ ทฺวาทส โหนฺติ. อิติ อิเม จ ทฺวาทส, มหาสงฺฆิกานฺจ ฉ อาจริยวาทาติ สพฺเพว อฏฺารส อาจริยวาทา ทุติเย วสฺสสเต อุปฺปนฺนา. อฏฺารส นิกายาติปิ, อฏฺารสาจริยกุลานีติปิ เอเตสํเยว นามํ. เอเตสุ ปน สตฺตรส วาทา ภินฺนกา, เถรวาโท อสมฺภินฺนโกติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ทีปวํเส

‘‘นิกฺกฑฺฒิตา ปาปภิกฺขู, เถเรหิ วชฺชิปุตฺตกา;

อฺํ ปกฺขํ ลภิตฺวาน, อธมฺมวาที พหู ชนา.

‘‘ทสสหสฺสา สมาคนฺตฺวา, อกํสุ ธมฺมสงฺคหํ;

ตสฺมายํ ธมฺมสงฺคีติ, มหาสงฺคีติ วุจฺจติ.

‘‘มหาสงฺคีติกา ภิกฺขู, วิโลมํ อกํสุ สาสเน;

ภินฺทิตฺวา มูลสงฺคหํ, อฺํ อกํสุ สงฺคหํ.

‘‘อฺตฺร สงฺคหิตา สุตฺตํ, อฺตฺร อกรึสุ เต;

อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, วินเย นิกาเยสุ จ ปฺจสุ.

‘‘ปริยายเทสิตฺจาปิ, อโถ นิปฺปริยายเทสิตํ;

นีตตฺถฺเจว เนยฺยตฺถํ, อชานิตฺวาน ภิกฺขโว.

‘‘อฺํ สนฺธาย ภณิตํ, อฺํ อตฺถํ ปยึสุ เต;

พฺยฺชนจฺฉายาย เต ภิกฺขู, พหุํ อตฺถํ วินาสยุํ.

‘‘ฉฑฺเฑตฺวาน เอกเทสํ, สุตฺตํ วินยคมฺภีรํ;

ปติรูปํ สุตฺตํ วินยํ, ตฺจ อฺํ กรึสุ เต.

‘‘ปริวารํ อตฺถุทฺธารํ, อภิธมฺมํ ฉปฺปกรณํ;

ปฏิสมฺภิทฺจ นิทฺเทสํ, เอกเทสฺจ ชาตกํ.

‘‘เอตฺตกํ วิสฺสชฺชิตฺวาน, อฺานิ อกรึสุ เต;

นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ.

‘‘ปกติภาวํ ชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต;

ปุพฺพงฺคมา ภินฺนวาทา, มหาสงฺคีติการกา.

‘‘เตสฺจ อนุกาเรน, ภินฺนวาทา พหู อหุ;

ตโต อปรกาลมฺหิ, ตสฺมึ เภโท อชายถ.

‘‘โคกุลิกา เอกพฺโยหาริ, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว;

โคกุลิกานํ ทฺเว เภทา, อปรกาลมฺหิ ชายถ.

‘‘พหุสฺสุติกา จ ปฺตฺติ, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว;

เจติยา จ ปุนวาที, มหาสงฺคีติเภทกา.

‘‘ปฺจวาทา อิเม สพฺเพ, มหาสงฺคีติมูลกา;

อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, เอกเทสฺจ สงฺคหํ.

‘‘คนฺถฺจ เอกเทสฺหิ, ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อกํสุ เต;

นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ.

‘‘ปกติภาวํ ชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต;

วิสุทฺธตฺเถรวาทมฺหิ, ปุน เภโท อชายถ.

‘‘มหิสาสกา วชฺชิปุตฺตกา, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว;

วชฺชิปุตฺตกวาทมฺหิ, จตุธา เภโท อชายถ.

‘‘ธมฺมุตฺตริกา ภทฺทยานิกา, ฉนฺนาคาริกา จ สมิติ;

มหิสาสกานํ ทฺเว เภทา, อปรกาลมฺหิ อชายถ.

‘‘สพฺพตฺถิวาทา ธมฺมคุตฺตา, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว;

สพฺพตฺถิวาทานํ กสฺสปิกา, สงฺกนฺติกสฺสปิเกน จ.

‘‘สงฺกนฺติกานํ สุตฺตวาที, อนุปุพฺเพน ภิชฺชถ;

อิเม เอกาทส วาทา, สมฺภินฺนา เถรวาทโต.

‘‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, เอกเทสฺจ สงฺคหํ;

คนฺถฺจ เอกเทสฺหิ, ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อกํสุ เต.

‘‘นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ;

ปกติภาวํ ชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต.

‘‘สตฺตรส ภินฺนวาทา, เอกวาโท อภินฺนโก;

สพฺเพวฏฺารส โหนฺติ, ภินฺนวาเทน เต สห.

‘‘นิคฺโรโธว มหารุกฺโข, เถร วาทานมุตฺตโม;

อนูนํ อนธิกฺจ, เกวลํ ชินสาสนํ.

‘‘สนฺตกา วิย รุกฺขมฺหิ, นิพฺพตฺตา วาทเสสกา;

ปเม วสฺสสเต นตฺถิ, ทุติเย วสฺสสตนฺตเร;

ภินฺนา สตฺตรส วาทา, อุปฺปนฺนา ชินสาสเน’’ติ.

อปราปรํ ปน เหมวติกา, ราชคิริกา, สิทฺธตฺถิกา, ปุพฺพเสลิยา, อปรเสลิยา, วาชิริยาติ อฺเปิ ฉ อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. เต อิธ อนธิปฺเปตา. ปุริมกานํ ปน อฏฺารสนฺนํ อาจริยวาทานํ วเสน ปวตฺตมาเน สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ อโสโก ธมฺมราชา ทิวเส ทิวเส พุทฺธปูชาย สตสหสฺสํ, ธมฺมปูชาย สตสหสฺสํ, สงฺฆปูชาย สตสหสฺสํ, อตฺตโน อาจริยสฺส นิคฺโรธตฺเถรสฺส สตสหสฺสํ, จตูสุ ทฺวาเรสุ เภสชฺชตฺถาย สตสหสฺสนฺติ ปฺจสตสหสฺสานิ ปริจฺจชนฺโต สาสเน อุฬารํ ลาภสกฺการํ ปวตฺเตสิ.

ติตฺถิยา หตลาภสกฺการา อนฺตมโส ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ อลภนฺตา ลาภสกฺการํ ปตฺถยมานา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตฺวา สกานิ สกานิ ทิฏฺิคตานิ – ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสน’’นฺติ ทีเปนฺติ. ปพฺพชฺชํ อลภมานาปิ สยเมว เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา วิหาเรสุ วิจรนฺตา อุโปสถกมฺมาทิกรณกาเล สงฺฆมชฺฌํ ปวิสนฺติ. เต ภิกฺขุสงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน นิคฺคยฺหมานาปิ ธมฺมวินยานุโลมาย ปฏิปตฺติยา อสณฺหนฺตา อเนกรูปํ สาสนสฺส อพฺพุทฺจ มลฺจ กณฺฏกฺจ สมุฏฺาเปนฺติ. เกจิ อคฺคึ ปริจรนฺติ, เกจิ ปฺจาตเป ตปนฺติ, เกจิ อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺติ, เกจิ ‘‘ธมฺมฺจ วินยฺจ โวภินฺทิสฺสามา’’ติ ตถา ตถา ปคฺคณฺหึสุ. ตทา ภิกฺขุสงฺโฆ น เตหิ สทฺธึ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา อกาสิ. อโสการาเม สตฺต วสฺสานิ อุโปสโถ อุปจฺฉิชฺชิ.

ราชา ‘‘อาณาย กาเรสฺสามี’’ติ วายมนฺโตปิ กาเรตุํ นาสกฺขิ, อฺทตฺถุ ทุคฺคหิตคาหินา พาเลน อมจฺเจน อเนเกสุ ภิกฺขูสุ ชีวิตา โวโรปิเตสุ วิปฺปฏิสารี อโหสิ. โส ตฺจ วิปฺปฏิสารํ ตฺจ สาสเน อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ วูปสเมตุกาโม ‘‘โก นุ โข อิมสฺมึ อตฺเถ ปฏิพโล’’ติ สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร, มหาราชา’’ติ สุตฺวา สงฺฆสฺส วจเนน อโหคงฺคาปพฺพตโต เถรํ ปกฺโกสาเปตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยทสฺสเนน เถรสฺส อานุภาเว นิพฺพิจิกิจฺโฉ อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิตฺวา วิปฺปฏิสารํ วูปสเมสิ. เถโรปิ ตํ ราชุยฺยาเนเยว วสนฺโต สตฺต ทิวสานิ สมยํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส อุคฺคหิตสมโย สตฺตเม ทิวเส อโสการาเม ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา สาณิปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวา สาณิปาการนฺตเร นิสินฺโน เอกลทฺธิเก เอกลทฺธิเก ภิกฺขู เอกโต เอกโต กาเรตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุสมูหํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, กึวาที สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ตโต สสฺสตวาทิโน – ‘‘สสฺสตวาที’’ติ อาหํสุ. เอกจฺจสสฺสติกา, อนฺตานนฺติกา, อมราวิกฺเขปิกา, อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, สฺีวาทา, อสฺีวาทา, เนวสฺีนาสฺีวาทา, อุจฺเฉทวาทา, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา – ‘‘ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาที’’ติ อาหํสุ. ราชา ปมเมว สมยสฺส อุคฺคหิตตฺตา นยิเม ภิกฺขู อฺติตฺถิยา อิเมติ ตฺวา เตสํ เสตกานิ วตฺถานิ ทตฺวา อุปฺปพฺพาเชสิ. เต สพฺเพปิ สฏฺิสหสฺสา อเหสุํ.

อถฺเ ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึวาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘วิภชฺชวาที, มหาราชา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ราชา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘วิภชฺชวาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ตโต ราชา ‘สุทฺธํ ทานิ, ภนฺเต, สาสนํ, กโรตุ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถ’นฺติ อารกฺขํ ทตฺวา นครํ ปาวิสิ. สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุโปสถํ อกาสิ. ตสฺมึ สนฺนิปาเต สฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ. ตสฺมึ สมาคเม โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร ยานิ จ ตทา อุปฺปนฺนานิ วตฺถูนิ, ยานิ จ อายตึ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สพฺเพสมฺปิ เตสํ ปฏิพาหนตฺถํ สตฺถารา ทินฺนนยวเสเนว ตถาคเตน ปิตมาติกํ วิภชนฺโต สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ อาหริตฺวา อิมํ ปรปฺปวาทมถนํ อายติลกฺขณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ อภาสิ.

ตโต สฏฺิสตสหสฺสสงฺขฺเยสุ ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา ติปิฏกปริยตฺติธรานํ ปภินฺนปฏิสมฺภิทานํ ภิกฺขูนํ สหสฺสเมกํ คเหตฺวา ยถา มหากสฺสปตฺเถโร จ ยสตฺเถโร จ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายึสุ; เอวเมว สงฺคายนฺโต สาสนมลํ วิโสเธตฺวา ตติยสงฺคีตึ อกาสิ. ตตฺถ อภิธมฺมํ สงฺคายนฺโต อิมํ ยถาภาสิตํ ปกรณํ สงฺคหํ อาโรเปสิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ยํ ปุคฺคลกถาทีนํ, กถานํ วตฺถุภาวโต;

กถาวตฺถุปฺปกรณํ, สงฺเขเปน อเทสยี.

‘‘มาติกาปเนเนว, ปิตสฺส สุราลเย;

ตสฺส โมคฺคลิปุตฺเตน, วิภตฺตสฺส มหีตเล.

‘‘อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, อตฺถสํวณฺณนากฺกโม;

ตสฺมา นํ วณฺณยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ.

นิทานกถา นิฏฺิตา.

มหาวคฺโค

๑. ปุคฺคลกถา

๑. สุทฺธสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

. ตตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ อยํ ปุจฺฉา. อามนฺตาติ อยํ ปฏิชานนา. กสฺส ปนายํ ปุจฺฉา, กสฺส ปฏิชานนาติ? อสุกสฺสาติ น วตฺตพฺพา. ภควตา หิ อิมสฺมึ ปกรเณ นานปฺปการานํ ลทฺธีนํ วิโสธนตฺถํ ตนฺติวเสน มาติกา ปิตา. สา เถเรน สตฺถารา ทินฺนนเย ตฺวา ตนฺติวเสน วิภตฺตา. น หิ เถโร ยตฺตกา เอตฺถ วาทมคฺคา ทสฺสิตา, ตตฺตเกหิ วาทีหิ สทฺธึ วาเทน วิคฺคาหิกกถํ กเถสิ. เอวํ สนฺเตปิ ปน ตาสํ ตาสํ กถานํ อตฺถสฺส สุขาวธารณตฺถํ สกวาทีปุจฺฉา, ปรวาทีปุจฺฉา, สกวาทีปฏิฺา, ปรวาทีปฏิฺาติ เอวํ วิภาคํ ทสฺเสตฺวาว อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม.

ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ หิ อยํ สกวาทีปุจฺฉา. ตาย ‘‘เย อตฺถิ ปุคฺคโลติ เอวํลทฺธิกา ปุคฺคลวาทิโน, เต เอวํ ปุจฺฉิตพฺพา’’ติ ทีเปติ. เก ปน ปุคฺคลวาทิโนติ? สาสเน วชฺชิปุตฺตกา เจว สมิติยา จ พหิทฺธา จ พหู อฺติตฺถิยา. ตตฺถ ปุคฺคโลติ อตฺตา, สตฺโต ชีโว. อุปลพฺภตีติ ปฺาย อุปคนฺตฺวา ลพฺภติ, ายตีติ อตฺโถ. สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ เอตฺถ สจฺจิกฏฺโติ มายามรีจิอาทโย วิย อภูตากาเรน อคฺคเหตพฺโพ ภูตฏฺโ. ปรมตฺโถติ อนุสฺสวาทิวเสน อคฺคเหตพฺโพ อุตฺตมตฺโถ. อุภเยนาปิ โย ปรโต ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, รูปฺจ อุปลพฺภตี’’ติอาทินา ขนฺธายตนธาตุอินฺทฺริยวเสน สตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท ทสฺสิโต. ยถา โส ภูเตน สภาวฏฺเน อุปลพฺภติ, เอวํ ตว ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปุจฺฉติ. ปรวาที อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปฏิชานนฺหิ กตฺถจิ ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ อาคจฺฉติ, กตฺถจิ ‘‘อาโม’’ติ ปฏิชานนํ อาคจฺฉติ. อิธ ปน ‘‘อามนฺตา’’ติ อาคตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – โส หิ ยํ ตํ ปรโต วุตฺตํ ภควตา – ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ สุตฺตํ อาคตํ, ตํ คเหตฺวา ยสฺมา ปน ภควา สจฺจวาที น วิสํวาทนปุเรกฺขาโร วาจํ ภาสติ, นาปิ อนุสฺสวาทิวเสน ธมฺมํ เทเสติ, สเทวกํ ปน โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, ตสฺมา โย เตน วุตฺโต ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ, โส สจฺจิกฏฺปรมตฺเถเนว อตฺถีติ ลทฺธึ คเหตฺวา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ.

อถสฺส ตาทิสสฺส เลสวจนสฺส ฉลวาทสฺส โอกาสํ อททมาโน สกวาที โย สจฺจิกฏฺโติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยฺวายํ ปรโต ‘‘สปฺปจฺจโย อปฺปจฺจโย, สงฺขโต อสงฺขโต, สสฺสโต, อสสฺสโต สนิมิตฺโต อนิมิตฺโต’’ติ เอวํ ปริทีปิโต รูปาทิสตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท อาคโต; น สมฺมุติสจฺจวเสน, นาปิ อนุสฺสวาทิวเสน คเหตพฺโพ. อตฺตโน ปน ภูตตาย เอว สจฺจิกฏฺโ, อตฺตปจฺจกฺขตาย จ ปรมตฺโถ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ, ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ.

ตโตติ กรณวจนเมตํ, ตสฺมา เตน สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รุปฺปนาทิเภเทน วา สปฺปจฺจยาทิเภเทน วา อากาเรน โย สจฺจิกฏฺปรมตฺโถ อุปลพฺภติ, กึ เต ปุคฺคโลปิ เตนากาเรน อุปลพฺภตีติ? น เหวํ วตฺตพฺเพติ อวชานนา ปรวาทิสฺส. โส หิ ตถารูปํ ปุคฺคลํ อนิจฺฉนฺโต อวชานาติ. ตตฺรายํ ปทจฺเฉโท – ‘น หิ เอวํ วตฺตพฺเพ’ติ, น หิ เอวนฺติปิ วฏฺฏติ. ทฺวินฺนมฺปิ เอวํ น วตฺตพฺโพติ อตฺโถ.

อาชานาหิ นิคฺคหนฺติ สกวาทิวจนํ. ยสฺมา เต ปุริมาย วตฺตพฺพปฏิฺาย ปจฺฉิมา นวตฺตพฺพปฏิฺา, ปจฺฉิมาย จ ปุริมา น สนฺธิยติ, ตสฺมาปิ นิคฺคหํ ปตฺโต. ตํ นิคฺคหํ โทสํ อปราธํ สมฺปฏิจฺฉาหีติ อตฺโถ. เอวํ นิคฺคหํ อาชานาเปตฺวา อิทานิ ตํ ปนาย เจว อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนานฺจ วเสน ปากฏํ กโรนฺโต หฺจิ ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตตฺถ หฺจิ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ยทิ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, สเจ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ อตฺโถ. อยํ ตาว ปรวาทีปกฺขสฺส ปนโต นิคฺคหปาปนาโรปนานํ ลกฺขณภูตา อนุโลมปนา นาม. เตน วต เรติอาทิ อนุโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส ปาปิตตฺตา อนุโลมปาปนา นาม. ตตฺถ เตนาติ การณวจนํ. วตาติ โอกปฺปนวจนํ. เรติ อามนฺตนวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตน, เร วตฺตพฺเพ วต, เร หมฺโภ, ภทฺรมุข, เตน การเณน วตฺตพฺโพเยวาติ. ยํ ตตฺถ วเทสีติอาทิ อนุโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส อาโรปิตตฺตา อนุโลมโรปนา นาม. ยํ ตสฺส ปริโยสาเน มิจฺฉาติปทํ ตสฺส ปุรโต อิทํ เต’ติ อาหริตพฺพํ. อิทํ เต มิจฺฉาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปรโต จ ปาฬิยํ เอตํ อาคตเมว.

โน เจ ปน วตฺตพฺเพติอาทิ ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺขิตฺตปกฺขสฺส ปิตตฺตา ปฏิโลมโต นิคฺคหปาปนาโรปนานํ ลกฺขณภูตา ปฏิโลมปนา นาม. โน จ วต เรติอาทิ ปฏิโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส ปาปิตตฺตา ปฏิโลมปาปนา นาม. ปุน ยํ ตตฺถ วเทสีติอาทิ ปฏิโลมปกฺเข นิคฺคหสฺส อาโรปิตตฺตา ปฏิโลมโรปนา นาม. อิธาปิ ปริโยสาเน มิจฺฉาติปทสฺส ปุรโต อิทํ เตติ อาหริตพฺพเมว. ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย.

ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย สงฺเขปตฺโถ – ยทิ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, เตน วต โภ โส อุปลพฺภตีติ วตฺตพฺโพ. ยํ ปน ตตฺถ วเทสิ ‘‘วตฺตพฺโพ โข ปุริมปฺเห ‘สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภตี’ติ, โน จ วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’’ติ, อิทํ เต มิจฺฉาติ เอวํ ตาว อนุโลมโต ปนาปาปนาโรปนา โหนฺติ. อถ น วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘‘ตโต โส อุปลพฺภตี’’ติ, ปุริมปฺเหปิ น วตฺตพฺโพว. ยํ ปเนตฺถ วเทสิ ‘‘วตฺตพฺโพ โข ปุริมปฺเห ‘สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภตี’ติ, โน จ วตฺตพฺโพ ทุติยปฺเห ‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’’ติ, อิทํ เต มิจฺฉาติ เอวํ ปฏิโลมโต ปนาปาปนาโรปนา โหนฺติ. เอวเมตํ นิคฺคหสฺส จ อนุโลมปฏิโลมโต จตุนฺนํ ปาปนาโรปนานฺจ วุตฺตตฺตา อุปลพฺภตีติอาทิกํ อนุโลมปฺจกํ นาม. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อนุโลมโต ปาปนาโรปนาหิ เอโก, ปฏิโลมโต ปาปนาโรปนาหิ เอโกติ ทฺเว นิคฺคหา กตา. ‘อาชานาหิ นิคฺคห’นฺติ เอตสฺเสว ปเนตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปมํ วาทํ นิสฺสาย ปมสฺส นิคฺคหสฺส ทฺวีหากาเรหิ อาโรปิตตฺตา เอโกวายํ นิคฺคโหติ ปโม นิคฺคโห.

. อิทานิ ปจฺจนีกนโย โหติ. ตตฺถ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. โส หิ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ คหิตตฺตา ‘‘นุปลพฺภตี’’ติ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺฉติ. สกวาที ยถา รูปาทิธมฺมา อุปลพฺภนฺติ, เอวํ อนุปลพฺภนียโต อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปุน อิตโร อตฺตนา อธิปฺเปตํ สจฺจิกฏฺํเยว สนฺธาย โย สจฺจิกฏฺโติอาทิมาห. สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานิ วา เอกโต กตฺวาปิ เอวมาห. สกวาที ‘ปุคฺคโล’ติ อุปาทาปฺตฺติสพฺภาวโตปิ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ เอกโต กตฺวา ปุจฺฉิตตฺตาปิ น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

อิทานิ กิฺจาปิ เตน ปมํ ปรมตฺถสจฺจวเสน นุปลพฺภนียตา สมฺปฏิจฺฉิตา, ปจฺฉา สมฺมุติสจฺจวเสน โวมิสฺสกวเสน วา ปฏิกฺขิตฺตา. ปรวาที ปน ‘นุปลพฺภตี’ติ วจนสามฺมตฺตํ ฉลวาทํ นิสฺสาย ยํ ตยา ปมํ ปฏิฺาตํ, ตํ ปจฺฉา ปฏิกฺขิตฺตนฺติ ภณฺฑนสฺส ปฏิภณฺฑนํ วิย อตฺตโน กตสฺส นิคฺคหกมฺมสฺส ปฏิกมฺมํ กโรนฺโต อาชานาหิ ปฏิกมฺมนฺติ อาห. อิทานิ ยถาสฺส อนุโลมปฺจเก สกวาทินา วาทฏฺปนํ กตฺวา อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนาหิ นิคฺคโห ปากโฏ กโต, เอวํ ปฏิกมฺมํ ปากฏํ กโรนฺโต หฺจิ ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปนา นาม ปรวาทีปกฺขสฺส ปนโต ‘‘อยํ ตว โทโส’’ติ ทสฺเสตุํ ปนมตฺตเมว โหติ, น นิคฺคหสฺส วา ปฏิกมฺมสฺส วา ปากฏภาวกรณํ, ปาปนาโรปนาหิ ปนสฺส ปากฏกรณํ โหติ. ตสฺมา อิทํ อนุโลมปฏิโลมโต ปาปนาโรปนานํ วเสน จตูหากาเรหิ. ปฏิกมฺมสฺส กตตฺตา ปฏิกมฺมจตุกฺกํ นามาติ เอกํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.

. เอวํ ปฏิกมฺมํ กตฺวา อิทานิ ยฺวาสฺส อนุโลมปฺจเก สกวาทินา นิคฺคโห กโต, ตสฺส ตเมว ฉลวาทํ นิสฺสาย ทุกฺกฏภาวํ ทสฺเสนฺโต ตฺวฺเจ ปน มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ ตฺวํ เจ ปน มฺสีติ ยทิ ตฺวํ มฺสิ. วตฺตพฺเพ โขติ อิทํ ปจฺจนีเก อามนฺตาติ ปฏิฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. โน จ วตฺตพฺเพติ อิทํ ปน น เหวาติ อวชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน ตว ตตฺถาติ เตน การเณน ตฺวํเยว ตสฺมึ นุปลพฺภตีติ ปกฺเข – ‘‘เหวํ ปฏิชานนฺตนฺติ อามนฺตา’’ติ เอวํ ปฏิชานนฺโต. เหวํ นิคฺคเหตพฺเพติ ปุน น เหวาติ อวชานนฺโต เอวํ นิคฺคเหตพฺโพ. อถ ตํ นิคฺคณฺหามาติ อเถวํ นิคฺคหารหํ ตํ นิคฺคณฺหาม. สุนิคฺคหิโต จ โหสีติ สเกน มเตน นิคฺคหิตตฺตา สุนิคฺคหิโต จ ภวสิ.

เอวมสฺส นิคฺคเหตพฺพภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ นิคฺคณฺหนฺโต หฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ ปนาปาปนาโรปนา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ปริโยสาเน ปน อิทํ เต มิจฺฉาติ อิทํ ตว วจนํ มิจฺฉา โหตีติ อตฺโถ. อิทํ ฉลวาเทน จตูหิ อากาเรหิ นิคฺคหสฺส กตตฺตา นิคฺคหจตุกฺกํ นาม.

. เอวํ นิคฺคหํ กตฺวาปิ อิทานิ ‘‘ยทิ อยํ มยา ตว มเตน กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, โย มม ตยา เหฏฺา อนุโลมปฺจเก กโต นิคฺคโห, โสปิ ทุนฺนิคฺคโห’’ติ ทสฺเสนฺโต เอเส เจ ทุนฺนิคฺคหิเตติอาทิมาห. ตตฺถ เอเส เจ ทุนฺนิคฺคหิเตติ เอโส เจ ตว วาโท มยา ทุนฺนิคฺคหิโต. อถ วา เอโส เจ ตว มยา กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห. เหวเมวํ ตตฺถ ทกฺขาติ ตตฺถาปิ ตยา มม เหฏฺา กเต นิคฺคเห เอวเมวํ ปสฺส. อิทานิ ยฺวาสฺส เหฏฺา สกวาทินา นิคฺคโห กโต, ตํ ‘‘วตฺตพฺเพ โข’’ติอาทิวจเนน ทสฺเสตฺวา ปุน ตํ นิคฺคหํ อนิคฺคหภาวํ อุปเนนฺโต โน จ มยํ ตยาติอาทิมาห. ตตฺถ โน จ มยํ ตยา ตตฺถ เหตาย ปฏิฺายาติอาทีสุ อยมตฺโถ – ยสฺมา โส ตยา มม กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, ตสฺมา มยํ ตยา ตตฺถ อนุโลมปฺจเก อามนฺตาติ เอตาย ปฏิฺาย เอวํ ปฏิชานนฺตา ปุน น เหวาติ ปฏิกฺเขเป กเตปิ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ เอวํ น นิคฺคเหตพฺโพเยว. เอวํ อนิคฺคเหตพฺพมฺปิ มํ นิคฺคณฺหาสิ, อีทิเสน ปน นิคฺคเหน ทุนฺนิคฺคหิตา มยํ โหม.

อิทานิ ยํ นิคฺคหํ สนฺธาย ‘‘ทุนฺนิคฺคหิตา จ โหมา’’ติ อโวจ, ตํ ทสฺเสตุํ หฺจิ ปุคฺคโล…เป… อิทํ เต มิจฺฉาติอาห. เอวมิทํ อนุโลมปฏิโลมโต จตูหิ ปาปนาโรปนาหิ นิคฺคหสฺส อุปนีตตฺตา อุปนยนจตุกฺกํ นาม โหติ.

. อิทานิ ‘‘น เหวํ นิคฺคเหตพฺเพ’’ติอาทิกํ นิคฺคมนจตุกฺกํ นาม โหติ. ตตฺถ น เหวํ นิคฺคเหตพฺเพติ ยถาหํ ตยา นิคฺคหิโต, น หิ เอวํ นิคฺคเหตพฺโพ. เอตสฺส หิ นิคฺคหสฺส ทุนฺนิคฺคหภาโว มยา สาธิโต. เตน หีติ เตน การเณน, ยสฺมา เอส นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห, ตสฺมา ยํ มํ นิคฺคณฺหาสิ หฺจิ ปุคฺคโล…เป… อิทํ เต มิจฺฉาติ, อิทํ นิคฺคณฺหนํ ตว มิจฺฉาติ อตฺโถ. เตน หิ เย กเต นิคฺคเหติ เยน การเณน อิทํ มิจฺฉา, เตน การเณน โย ตยา นิคฺคโห กโต, โส ทุกฺกโฏ. ยํ มยา ปฏิกมฺมํ กตํ, ตเทว สุกตํ. ยาปิ เจสา ปฏิกมฺมจตุกฺกาทิวเสน กถามคฺคสมฺปฏิปาทนา กตา, สาปิ สุกตา. เอวเมตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิกสฺส อนุโลมปฺจกสฺส นุปลพฺภตีติอาทิกานํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานํ วเสน อนุโลมปจฺจนีกปฺจกํ นาม นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา สกวาทิโน ปุพฺพปกฺเข สติ ปรวาทิโน วจนสามฺมตฺเตน ฉลวาเทน ชโย โหติ.

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

. อิทานิ ยถา ปรวาทิโน ปุพฺพปกฺเข สติ สกวาทิโน ธมฺเมเนว ตเถน สุชโย โหติ, ตถา วาทุปฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ ปจฺจนีกานุโลมปฺจกํ อารทฺธํ. ตตฺถ ปจฺจนีเก ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, รูปาทิเภทํ สจฺจิกฏฺปรมตฺถํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. สุทฺธสมฺมุติสจฺจํ วา ปรมตฺถมิสฺสกํ วา สมฺมุติสจฺจํ สนฺธาย โย สจฺจิกฏฺโติ ปุน อนุโยโค ปรวาทิสฺส, สมฺมุติวเสน นุปลพฺภตีติ นวตฺตพฺพตฺตา มิสฺสกวเสน วา อนุโยคสฺส สํกิณฺณตฺตา น เหวนฺติ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ปฏิฺาตํ ปฏิกฺขิปตีติ วจนสามฺมตฺเตน อาชานาหิ นิคฺคหนฺติอาทิวจนํ ปรวาทิสฺส. เอวมยํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ ทุติยวาทํ นิสฺสาย ทุติโย นิคฺคโห โหตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ เตน ฉเลน นิคฺคโห อาโรปิโต.

๗-๑๐. อิทานิ ธมฺเมน สเมน อตฺตโน วาเท ชยํ ทสฺเสตุํ อนุโลมนเย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธึ นิสฺสาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ลทฺธิยา โอกาสํ อทตฺวา ปรมตฺถวเสน ปุน อนุโยโค สกวาทิสฺส, ปรมตฺถวเสน ปุคฺคลสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ตโต ปรํ ธมฺเมน สเมน อตฺตโน ชยทสฺสนตฺถํ อาชานาหิ ปฏิกมฺมนฺติอาทิ สพฺพํ สกวาทีวจนเมว โหติ. ตตฺถ สพฺเพสํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวมิทํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิกสฺส ปจฺจนีกปฺจกสฺส อุปลพฺภตีติอาทีนํ ปฏิกมฺมนิคฺคโหปนยนนิคฺคมนจตุกฺกานฺจ วเสน ปจฺจนีกานุโลมปฺจกํ นาม นิทฺทิฏฺํ โหติ. เอวเมตานิ ปมสจฺจิกฏฺเ ทฺเว ปฺจกานิ นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ปุริมปฺจเก ปรวาทิสฺส สกวาทินา กโต นิคฺคโห สุนิคฺคโห. สกวาทิสฺส ปน ปรวาทินา ฉลวาทํ นิสฺสาย ปฏิกมฺมํ กตฺวา อตฺตนา สาธิโต ชโย ทุชฺชโย. ทุติยปฺจเก สกวาทิสฺส ปรวาทินา กโต นิคฺคโห ทุนฺนิคฺคโห. ปรวาทิสฺส ปน สกวาทินา ธมฺมวาทํ นิสฺสาย ปฏิกมฺมํ กตฺวา อตฺตนา สาธิโต ชโย สุชโยติ ปมสจฺจิกฏฺโ. ตตฺเถตํ วุจฺจติ –

‘‘นิคฺคโห ปรวาทิสฺส, สุทฺโธ ปมปฺจเก;

อสุทฺโธ ปน ตสฺเสว, ปฏิกมฺมชโย ตหึ.

‘‘นิคฺคโห สกวาทิสฺส, อสุทฺโธ ทุติยปฺจเก;

วิสุทฺโธ ปน ตสฺเสว, ปฏิกมฺมชโย ตหึ.

‘‘ตสฺมา ทฺวีสุปิ าเนสุ, ชโยว สกวาทิโน;

ธมฺเมน หิ ชโย นาม, อธมฺเมน กุโต ชโย.

‘‘สจฺจิกฏฺเ ยถา เจตฺถ, ปฺจกทฺวยมณฺฑิเต;

ธมฺมาธมฺมวเสเนว, วุตฺโต ชยปราชโย.

‘‘อิโต ปเรสุ สพฺเพสุ, สจฺจิกฏฺเสุ ปณฺฑิโต;

เอวเมว วิภาเวยฺย, อุโภ ชยปราชเย’’ติ.

๒. โอกาสสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๑. เอวํ สุทฺธิกสจฺจิกฏฺํ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ ตเมว อปเรหิ โอกาสาทีหิ นเยหิ วิตฺถาเรตุํ ปุน ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน สพฺพตฺถาติ สรีรํ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสนาโทสฺจ ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ อาปชฺชนโทสฺจ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อนุโลมปจฺจนีกปฺจเก เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปาโ ปน สงฺขิตฺโต. ตตฺถ ยสฺมา สรีรํ สนฺธาย ‘‘สพฺพตฺถ น อุปลพฺภตี’’ติ วุตฺเต สรีรโต พหิ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. ตสฺมา ปจฺจนีเก ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส, ปมํ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา อวชานาตีติ ฉลวาทสฺส วเสน ปฏิกมฺมํ ปรวาทิสฺส. เสสํ ปากฏเมว.

๓. กาลสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๒. ทุติยนเย สพฺพทาติ ปุริมปจฺฉิมชาติกาลฺจ ธรมานปรินิพฺพุตกาลฺจ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, สฺเวว ขตฺติโย โส พฺราหฺมโณติอาทีนํ อาปตฺติโทสฺจ ธรมานปรินิพฺพุตานํ วิเสสาภาวโทสฺจ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ ปมนเย วุตฺตสทิสเมว.

๔. อวยวสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๓. ตติยนเย สพฺเพสูติ ขนฺธายตนาทีนิ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺส, รูปสฺมึ อตฺตา, จกฺขุสฺมึ อตฺตาติอาทิโทสภเยน ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

โอกาสทิสจฺจิกฏฺาทิ

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๑๔. เอวเมตานิ ตีณิ อนุโลมปจฺจนีกปฺจเก อนุโลมมตฺตวเสเนว ตาว ปฏิปาฏิยา ภาเชตฺวา ปุน ปจฺจนีกานุโลมปฺจเก ปจฺจนีกมตฺตวเสเนว ภาเชตุํ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนุโลมปฺจกสฺส ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา อาคเต ปจฺจนีเก วุตฺตนเยเนว ปจฺจนีกสฺส จ ปาฬิยํ สงฺขิปิตฺวา อาคเต อนุโลเม วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา สุทฺธิกสฺส เจว อิเมสฺจ ติณฺณนฺติ จตุนฺนํ สจฺจิกฏฺานํ เอเกกสฺมึ สจฺจิกฏฺเ อนุโลมปจฺจนีกสฺส ปจฺจนีกานุโลมสฺส จาติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปจฺจนีกานํ วเสน อยํ อฏฺมุขา นาม วาทยุตฺติ นิทฺทิฏฺา โหตีติ เวทิตพฺพา. ยา เอเกกสฺมึ มุเข เอเกกสฺส นิคฺคหสฺส วเสน อฏฺกนิคฺคโหติ ปาฬิยํ ลิขิยติ. ตตฺเถตํ วุจฺจติ –

‘‘เอวํ จตุพฺพิเธ ปฺเห, ปฺจกทฺวยเภทโต;

เอสา อฏฺมุขา นาม, วาทยุตฺติ ปกาสิตา.

‘‘อฏฺเว นิคฺคหา ตตฺถ, จตฺตาโร เตสุ ธมฺมิกา;

อธมฺมิกา จ จตฺตาโร, สพฺพตฺถ สกวาทิโน;

ชโย ปราชโย เจว, สพฺพตฺถ ปรวาทิโน’’ติ.

สจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา

๑๗-๒๗. อิทานิ รูปาทีหิ สทฺธึ สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ โหติ. ตตฺถ รูปฺจาติ ยถา รูปํ ปรมตฺถโต อุปลพฺภติ, กึ เต ปุคฺคโลปิ ตเถว อุปลพฺภตีติ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺถิ ปุคฺคโลติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ยทิ เต รูปํ วิย ปรมตฺถโต ปุคฺคโล อตฺถิ, รูปโต เวทนาทีนํ วิย ปุคฺคลสฺสาปิ อฺตฺตํ อาปชฺชตีติ อนุโยโค สกวาทิสฺส, สมยสุตฺตวิโรธํ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสํ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ สตฺตปฺาสเภทสฺส สจฺจิกฏฺปรมตฺถสฺส วเสน สกวาทีปกฺขมูลเก อนุโลมปจฺจนีเก สตฺตปฺาส อนุโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สงฺขิตฺตานิ. ปรวาทีปกฺขมูลเกปิ ปจฺจนีกานุโลเม สตฺตปฺาส ปฏิโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สงฺขิตฺตานิ. ตตฺถ ‘‘วุตฺตํ ภควตา’’ติ วจนมตฺเตน ปุคฺคลสฺส อตฺถิตํ รูปสฺส จ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อุปลพฺภนียตํ ทสฺเสตฺวา อุภินฺนํ อฺตฺตํ ปฏิชานาปนตฺถํ วุตฺตํ ภควตาติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, สมฺมุติปรมตฺถานํ เอกตฺตนานตฺตปฺหสฺส ปนียตฺตา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. เสสมิธาปิ อตฺถโต ปากฏเมวาติ.

สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา.

๖. โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา

๒๘-๓๖. อิทานิ รูปาทีเหว สทฺธึ โอปมฺมวเสน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ โหติ. ตตฺถ รูปเวทนานํ อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา จ ปุคฺคลรูปานํ อุปลทฺธิสามฺปุจฺฉา จาติ ปุจฺฉาทฺวยมฺปิ สกวาทิสฺส, อุโภปิ ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปรวาทินา อนุฺาเตน อุปลทฺธิสามฺเน รูปเวทนานํ วิย รูปปุคฺคลานํ อฺตฺตานุโยโค สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. เสสมิธาปิ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ รูปมูลกาทีนํ จกฺกานฺจ วเสน สกวาทีปกฺเข วีสาธิกานิ นว นิคฺคหปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ. กถํ? ขนฺเธสุ ตาว รูปมูลเก จกฺเก จตฺตาริ, ตถา เวทนาทิมูลเกสูติ วีสติ. อายตเนสุ จกฺขายตนมูลเก จกฺเก เอกาทส, ตถา เสเสสูติ ทฺวตฺตึสสตํ. ธาตูสุ จกฺขุธาตุมูลเก จกฺเก สตฺตรส, ตถา เสเสสูติ ฉาธิกานิ ตีณิ สตานิ. อินฺทฺริเยสุ จกฺขุนฺทฺริยมูลเก จกฺเก เอกวีสติ, ตถา เสเสสูติ ทฺวาสฏฺาธิกานิ จตฺตาริ สตานิ. เอวํ สพฺพานิปิ วีสาธิกานิ นว นิคฺคหปฺจกสตานิ โหนฺติ.

๓๗-๔๕. ปรวาทีปกฺเขปิ รูปํ อุปลพฺภตีติ อนุโลมวเสเนว รูปเวทนาทีนํ อฺตฺตปฏิฺํ กาเรตฺวา ปุน อตฺถิ ปุคฺคโลติ สุตฺตํ นิสฺสาย ฉลวเสน ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ อุปลทฺธิสามฺํ อาโรเปตฺวา อฺตฺตานุโยโค กโต. เสสมิธาปิ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ธมฺมโตปิ สกวาทีปกฺเข วุตฺตนเยน วีสาธิกานิ นว ปฏิกมฺมปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ.

รูปาทีหิ สทฺธึ โอปมฺมวเสน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ.

๗. จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา

๔๖-๕๒. อิทานิ ยํ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภติ, เตน ยสฺมา รูปาทีสุ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺปรมตฺเถสุ อฺตเรน ภวิตพฺพํ; รูปาทินิสฺสิเตน วา, อฺตฺร วา รูปาทีหิ, รูปาทีนํ วา นิสฺสเยน, ตสฺมา อิมินา จตุกฺกนเยน สจฺจิกฏฺสํสนฺทนํ อารทฺธํ. ตตฺถ รูปํ ปุคฺคโลติ อนุโยโค สกวาทิสฺส, อุจฺเฉททิฏฺิภเยน น เหวาติ ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส, นิคฺคหาโรปนํ สกวาทิสฺส. กึ ปเนตํ ยุตฺตํ, นนุ รูปํ เวทนาติ วุตฺตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมวาติ? อาม ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. ตํ ปน รูปโต เวทนาย อฺสภาวสพฺภาวโต, น อฺตฺตาภาวโต. อยฺจ รูปาทีสุ เอกธมฺมโตปิ ปุคฺคลสฺส อฺตฺตํ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ยุตฺตํ. อยฺจ อนุโยโค รูปํ ปุคฺคโล…เป… อฺาตาวินฺทฺริยํ ปุคฺคโลติ สกลํ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธาย อารทฺโธ. สกลํ ปน ปจฺจตฺตลกฺขณวเสน เอกโต วตฺตุํ น สกฺกาติ ตนฺติวเสน อนุโยคลกฺขณมตฺตเมตํ ปิตํ. เตน วิฺู อตฺถํ วิภาเวนฺติ. วาทกาเมน ปน อิมํ ลกฺขณํ คเหตฺวา ยถา ยถา ปรวาทิสฺส โอกาโส น โหติ, ตถา ตถา วตฺตพฺพํ. อิติ ตนฺติวเสน อนุโยคลกฺขณสฺส ปิตตฺตาปิ ยุตฺตเมว. อิมินา นเยน สพฺพานุโยเคสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – รูปสฺมึ ปุคฺคโลติอาทีสุ ยถา เอกํ มหาภูตํ นิสฺสาย ตโย มหาภูตา, วตฺถุรูปํ นิสฺสาย วิฺาณํ รูปสฺมินฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ รูปสฺมึ ปุคฺคโล? ยถา จ สภาควินิพฺโภคโต เวทนาทโย สพฺพธมฺมา, อรูปา วา ปน จตฺตาโร ขนฺธา, นิพฺพานเมว วา ‘‘อฺตฺร รูปา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ ปุคฺคโล? ยถา จ จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ นิสฺสยวเสน ‘‘เวทนาย รูปํ…เป… วิฺาณสฺมึ รูป’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เต เอวํ ปุคฺคโลติ? สพฺพานุโยเคสุ ปน อุจฺเฉททิฏฺิภเยน เจว สมยวิโรเธน จ ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อตฺถโต ปากฏเมว. ธมฺมโต ปเนตฺถ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺเสุ เอเกกสฺมึ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา นิคฺคหวเสน อฏฺวีสาธิกานิ ทฺเว ปฺจกสตานิ ทสฺสิตานิ. ปรวาทีปกฺเขปิ ปฏิกมฺมวเสน ตตฺตกาเนว. ยา ปเนตฺถ อตฺถิ ปุคฺคโลติ วุตฺเต สกวาทิสฺส ปฏิฺา, สา สุตฺเต อาคเตน สมฺมุติวเสน. โย รูปํ ปุคฺคโลติอาทีสุ ปฏิกฺเขโป, โส สกฺกายทิฏฺิปฺหสฺส ปนียตฺตา. ปรวาทิสฺส ปฏิกมฺมํ ฉลวเสเนวาติ.

จตุกฺกนยสํสนฺทนํ.

นิฏฺิตา จ สํสนฺทนกถา.

๘. ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา

๕๓. อิทานิ ลกฺขณยุตฺติ นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา เปตฺวา นิพฺพานํ เสโส สจฺจิกฏฺปรมตฺโถ ปจฺจยปฏิพทฺธตาย สปฺปจฺจโย, ปจฺจเยหิ สมาคมฺม กตตฺตา สงฺขโต, อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนโต สทา อภาวโต อสสฺสโต, อุปฺปตฺติการณสงฺขาตสฺส นิมิตฺตสฺส อตฺถิตาย สนิมิตฺโต, นิพฺพานํ วุตฺตปฺปการาภาวโต อปฺปจฺจยํ อสงฺขตํ สสฺสตํ อนิมิตฺตนฺติ อิทํ สจฺจิกฏฺสฺส ลกฺขณํ. ตสฺมา ยทิ ปุคฺคโลปิ สจฺจิกฏฺปรมตฺโถว ตสฺสาปิ อิมินา ลกฺขเณน ภวิตพฺพนฺติ สนฺธาย ปุคฺคโล สปฺปจฺจโยติอาทโย อฏฺปิ อนุโยคา สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อาชานาหิ นิคฺคหนฺติอาทิ ปเนตฺถ สงฺขิตฺตํ. เอวเมตานิ สกวาทีปกฺเข อนุโลมปจฺจนีเก อนุโลมมตฺตวเสน อฏฺ ปฺจกานิ เวทิตพฺพานิ.

๕๔. ปรวาทีปกฺเขปิ ปจฺจนีกานุโลเม ปจฺจนีกมตฺตวเสน อฏฺเว. ตตฺถ ยสฺมา ปรวาทินา สุตฺตวเสน สมฺมุติสจฺจํ สาธิตํ, สมฺมุติยา จ สปฺปจฺจยาทิภาโว นตฺถิ, ตสฺมา ยาถาวโต จ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ฉลวเสน ปน วตฺตพฺพํ ‘‘อาชานาหิ ปฏิกมฺม’’นฺติอาทิ สพฺพํ อิธาปิ สงฺขิตฺตเมว.

ลกฺขณยุตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วจนโสธนวณฺณนา

๕๕-๕๙. อิทานิ วจนโสธนํ โหติ. ตตฺถ ยเทตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ วจนํ, ตํ โสเธตุํ ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อุปลพฺภติ ปุคฺคโลติ. ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – ยเทตํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยํ, ตํ เอกตฺถํ วา ภเวยฺย นานตฺถํ วา. ยทิ ตาว นานตฺถํ, ยถา อฺํ รูปํ, อฺา เวทนา, เอวํ อฺโ ปุคฺคโล, อฺโ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. อเถกตฺถํ, ยถา ยํ จิตฺตํ ตํ มโน, เอวํ สฺเวว ปุคฺคโล, โส อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ. เตน ตํ วทามิ ‘‘ยทิ เต โย ปุคฺคโล, โส อุปลพฺภติ, เอวํ สนฺเต โย โย อุปลพฺภติ, โส โส ปุคฺคโลติ อาปชฺชติ, กึ สมฺปฏิจฺฉสิ เอต’’นฺติ? ตโต ปุคฺคลวาที ยสฺมา ปุคฺคลสฺส อุปลพฺภตํ อิจฺฉติ, น อุปลพฺภมานานมฺปิ รูปาทีนํ ปุคฺคลภาวํ, ตสฺมา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อุปลพฺภติ เก หิ จิ ปุคฺคโล เก หิ จิ น ปุคฺคโลติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – มม ปุคฺคโล อตฺถิ ปุคฺคโลติ สตฺถุ วจนโต อุปลพฺภติ. โย ปน อุปลพฺภติ, น โส สพฺโพ ปุคฺคโล, อถ โข เก หิ จิ ปุคฺคโล เก หิ จิ น ปุคฺคโลติ. ตตฺถ โก-การตฺเถ เก-กาโร, หิ-กาโร จ นิปาตมตฺโต. โกจิ ปุคฺคโล, โกจิ น ปุคฺคโลติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปุคฺคโลปิ หิ รูปาทีสุปิ โย โกจิ ธมฺโม อุปลพฺภติเยว, ตตฺถ ปุคฺคโลว ปุคฺคโล. รูปาทีสุ ปน โกจิปิ น ปุคฺคโลติ. ตโต ตํ สกวาที อาห – ปุคฺคโล เก หิ จิ อุปลพฺภติ เก หิ จิ น อุปลพฺภตีติ. ตสฺสตฺโถ – ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเต ยทิ อุปลพฺภตีติ อนุฺาโต ธมฺโม ปุคฺคลโต อนฺโปิ โกจิ ปุคฺคโล โกจิ น ปุคฺคโล, ปุคฺคโลปิ เต โกจิ อุปลพฺภติ, โกจิ น อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ, กึ สมฺปฏิจฺฉสิ เอตนฺติ? โส ปุคฺคลสฺส อนุปลทฺธึ อนิจฺฉนฺโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. อิโต ปรํ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติอาทิ สพฺพํ สงฺขิตฺตํ. วิตฺถารโต ปน เวทิตพฺพํ. ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺโติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพานิ เหตานิ อุปลพฺภติเววจนาเนว, อปิจ ยสฺมา ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติสจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ อยํ ปุคฺคลวาทิโน ปฏิฺา, ตสฺมาสฺส ยเถว ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ลทฺธิ, เอวเมวํ ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺโติปิ อาปชฺชติ. ยา ปนสฺส ปุคฺคโล อตฺถีติ ลทฺธิ, ตสฺสา วิชฺชมาโนติเววจนเมว, ตสฺมา สพฺพานิเปตานิ วจนานิ โสธิตานิ.

๖๐. ตตฺถ ยํ อวสาเน ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยฺเหตํ ปรวาทินา ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ เกหิจิ ปุคฺคโล, เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยสฺมา อตฺถโต ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโลติ เอตฺตกํ โหติ, ตสฺมา นํ สกวาที สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อิทานิ นํ เอวํ อนุยุฺชติ. ตยา หิ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย ‘‘ปุคฺคโล อตฺถี’’ติ ลทฺธิ คหิตา, ยถา จ ภควตา เอตํ วุตฺตํ, ตถา ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราชา, สทา สโต’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๑๒๕) นเยน ‘‘นตฺถี’’ติปิ วุตฺตํ, ตสฺมา ยเถว เต ‘‘ปุคฺคโล อตฺถิ, อตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโล’’ติ ลทฺธิ, ตถา ปุคฺคโล นตฺถิ, นตฺถิ น สพฺโพ ปุคฺคโลติปิ อาปชฺชติ, กึ เอตํ สมฺปฏิจฺฉสีติ? อถ นํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต น เหวาติ ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ นิคฺคหาทิวิธานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๖๑-๖๖. อิทานิ ปฺตฺตานุโยโค นาม โหติ. รูปธาตุยา หิ ปุคฺคลวาที รูปึ ปุคฺคลํ ปฺเปติ, ตถา อรูปธาตุยา อรูปึ. ตสฺส ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สพฺพาปิ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส. โส หิ รูปีติ วุตฺเต รูปกายสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา อตฺถิตาย ปฏิชานาติ. กามีติ วุตฺเต วีตราคสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา นตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. อรูปีติ วุตฺเตปิ อรูปกฺขนฺธสพฺภาวโต เจว ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา อตฺถิตาย ปฏิชานาติ. ทฺวีสุปิ นเยสุ สตฺโตติ ปุคฺคลสฺส เววจนวเสน วุตฺตํ.

๖๗. อิทานิ ยสฺมา โส ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ อาคตฏฺาเน อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ กาโยติ วา สรีรนฺติ วาติอาทิ สกวาทีปุจฺฉา โหติ. ตตฺถ กายํ อปฺปิยํ กริตฺวาติ กายํ อปฺเปตพฺพํ อลฺลียาเปตพฺพํ เอกีภาวํ อุปเนตพฺพํ อวิภชิตพฺพํ กตฺวา ปุจฺฉามีติ อตฺโถ. เอเสเสติ เอโส โสเยว. เอเส เอเสติปิ ปาโ. เอโส เอโสเยวาติ อตฺโถ. เอกฏฺเติ เอกฏฺโ. สเม สมภาเค ตชฺชาเตติ สโม สมภาโค ตชฺชาติโก. วจนมตฺเตเยเวตฺถ เภโท. อตฺถโต ปน กาโยว เอโสติ ปุจฺฉติ. ปรวาที นานตฺตํ อปสฺสนฺโต อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ปุคฺคโลติ วา ชีโวติ วาติ ปุจฺฉายปิ เอเสว นโย. อฺโ กาโยติ ปุฏฺโ ปน กายานุปสฺสนาย เอวํลทฺธิกตฺตา ปฏิชานาติ. อฺํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ ปน อาหจฺจ ภาสิตํ สุตฺตํ ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺโต อวชานาติ. ตโต ปรํ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว.

๖๘. ปรวาทีปกฺเข ปน อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ ปุฏฺโ สกวาที ปนียปฺหตฺตา ปฏิกฺขิปติ, ปรวาที ฉลวเสน ปฏิกมฺมํ กโรติ. ตมฺปิ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. คติอนุโยควณฺณนา

๖๙-๗๒. อิทานิ คติปริวตฺตนมุเขน จุติปฏิสนฺธิอนุโยโค โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุคฺคลวาที ‘‘ส สตฺตกฺขตฺตุปรมํ สนฺธาวิตฺวาน ปุคฺคโล’’ติอาทีนิ (สํ. นิ. ๒.๑๓๓; อิติวุ. ๒๔) สุตฺตานิ นิสฺสาย ปุคฺคโล สนฺธาวตีติ ลทฺธึ คเหตฺวา โวหรติ, ตสฺมาสฺส ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สนฺธาวตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ สนฺธาวตีติ สํสรติ คมนาคมนํ กโรติ. อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. โส ปุคฺคโลติอาทโย อนุโยโคปิ สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ตตฺถ โสติ โสเยวาติ อตฺโถ. เอวํ ปน อนุยุตฺโต สสฺสตทิฏฺิภเยน ปฏิกฺขิปติ. อฺโติ ปุฏฺโ อุจฺเฉททิฏฺิภเยน. โส จ อฺโ จาติ ปุฏฺโ เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิภเยน. เนว โส น อฺโติ ปุฏฺโ อมราวิกฺเขปทิฏฺิภเยน. ปุน จตฺตาโรปิ ปฺเห เอกโต ปุฏฺโ จตุนฺนมฺปิ ทิฏฺีนํ ภเยน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ยานิสฺส สุตฺตานิ นิสฺสาย ลทฺธิ อุปฺปนฺนา ตานิ ทสฺเสนฺโต เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตีติอาทิมาห.

๗๖. ปุน สกวาทินา ‘‘ยฺวายํ ตว ลทฺธิยา สนฺธาวติ, กึ โส อสฺมิฺจ ปรสฺมิฺจ โลเก เอโกเยวา’’ติ อธิปฺปาเยน สฺเววาติ นิยเมตฺวา ปุฏฺโ สสฺสตภยา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ตเถว ปุฏฺโ ยสฺมา โส ปุคฺคโลว น อฺโ ภาโว, ‘‘โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’’ติอาทิสุตฺตมฺปิ (ปารา. ๑๒; ที. นิ. ๑.๒๔๕) อตฺถิ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. สฺเวว มนุสฺโสติ ปุฏฺโ มนุสฺสสฺเสว เทวตฺตาภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

๗๗. ปุน ปุฏฺโ ‘‘อหํ เตน สมเยน สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ’’นฺติอาทิสุตฺตวเสน (อ. นิ. ๗.๖๖ อตฺถโต สมานํ) ปฏิชานาติ. อถสฺส สกวาที เทวมนุสฺสุปปตฺตีนํ นานตฺตโต วจนํ มิจฺฉาติ ปกาเสนฺโต มนุสฺโส หุตฺวาติอาทิมาห.

๗๘. ตตฺถ เหวํ มรณํ น เหหิตีติ เอวํ สนฺเต มรณํ น ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิโต ปรํ ยกฺโข เปโตติ อตฺตภาวนานตฺตวเสน อนุโยคนานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

๘๒. ขตฺติโยติอาทีนิ ชาติวเสน เจว องฺคเวกลฺลาทิวเสน จ วุตฺตานิ.

๘๗. ปุน น วตฺตพฺพนฺติ ปรวาทินา ปุฏฺโ อิธฏฺกสฺส อุปปตฺติวเสน ปรโลกสฺส คมนาภาวโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส ปุน โสตาปนฺนสฺส ภวนฺตเรปิ โสตาปนฺนภาวาวิชหนโต ทุติยปฏิฺาปิ ตสฺเสว. หฺจีติอาทิวจนํ ปรวาทิสฺส.

๘๘. ปุน เทวโลเก อุปปนฺนสฺส มนุสฺสตฺตาภาวทสฺสเนน อนุโยโค สกวาทิสฺส.

๘๙. ตโต ปรํ อนฺโ อวิคโตติ เอตฺถ อนฺโติ สพฺพากาเรน เอกสทิโส. อวิคโตติ เอเกนาปิ อากาเรน อวิคโตติ อตฺโถ. น เหวนฺติ เทวโลเก อุปปนฺนสฺส มนุสฺสภาวาภาวโต เอวมาห.

๙๐. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา อนุยุตฺโต ‘‘สฺเวว ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติ ลทฺธิยา อนุชานาติ. หตฺถจฺฉินฺโนติอาทิ อาการวิคมนทสฺสเนน อวิคโต สนฺธาวตีติ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส องฺคุฏฺกา ฉินฺนา. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส มหานฺหารู ฉินฺนา.

๙๑. สรูโปติอาทีสุ ปเม ปฺเห อิมินา รูปกาเยน สทฺธึ อคมนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย อนฺตราภวปุคฺคลํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. โส หิ ตสฺส ลทฺธิยา สรูโปว คนฺตฺวา มาตุกุจฺฉึ ปวิสติ. อถสฺส ตํ รูปํ ภิชฺชติ. ตํ ชีวนฺติ เยน รูปสงฺขาเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉติ, กิมสฺส ตเทว ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ปุจฺฉติ. ปรวาที อิธ สรีรนิกฺเขปา สุตฺตวิโรธา จ ปฏิกฺขิปติ.

สเวทโนติอาทีสุ อสฺูปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ตทฺํ อุปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตํ ชีวนฺติ เยน เวทนาทิสงฺขาเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉติ. กิมสฺส ตเทว ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ปุจฺฉติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ เอติสฺสา หิ ลทฺธิยา ปฺจปิ ขนฺธา สรีรนฺติ อธิปฺเปตา. ปรวาที สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

๙๒. อรูโปติอาทีสุ ปเม ปฺเห อนฺตราภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย อรูปา รูปํ อุปปชฺชมานํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อฺํ, ชีวนฺติ ยํ รูปสงฺขาตํ สรีรํ ปหาย อรูโป สนฺธาวติ, กึ เต ตํ สรีรํ อฺํ, อฺํ ชีวนฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

อเวทโนติอาทีสุ สฺีภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ตทฺํ อุปปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อฺํ ชีวนฺติ ยํ เวทนาทิสงฺขาตํ สรีรํ ปหาย อเวทโน อวิฺาโณ สนฺธาวติ, กึ เต ตํ อฺํ สรีรํ, อฺํ ชีวนฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร สุตฺตวิโรธา ปฏิกฺขิปติ.

๙๓. รูปํ สนฺธาวตีติอาทีสุ เย รูปาทโย ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคลํ ปฺเปติ, กึ เต ตสฺมึ ปุคฺคเล สนฺธาวนฺเต ตมฺปิ รูปํ สนฺธาวตีติ ปุจฺฉติ. ปรวาที ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ สตฺตสฺเสว สนฺธาวนวจนโต ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา รูปาทิธมฺเม วินา ปุคฺคโล นตฺถิ, ตสฺมา ตสฺมึ สนฺธาวนฺเต เตนปิ รูเปน สนฺธาวิตพฺพนฺติ สฺาย ปฏิชานาติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๙๔. รูปํ น สนฺธาวตีติอาทีสุ ยสฺมา เต รูปํ ปุคฺคโล น โหติ, สฺเวว จ สนฺธาวตีติ วเทสิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ, กึ เต รูปํ น สนฺธาวตีติ อตฺโถ. อิตโร ปุคฺคเล สนฺธาวนฺเต น สกฺกา ตสฺส อุปาทานภูเตน รูเปน สนฺธาวิตุนฺติ สฺาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ สตฺตานฺเว สนฺธาวนวจนโต ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

คาถานํ ปน อยมตฺโถ – อายสฺมโต มเตน รุกฺขํ อุปาทาย ฉายา วิย, อินฺธนํ อุปาทาย อคฺคิ วิย จ, ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคโล; รูปาทีนํ สนฺธาวเน อสติ เตสุ ขนฺเธสุ ภิชฺชมาเนสุ โส ตว ปุคฺคโล ภิชฺชติ เจ, เอวํ สนฺเต อุจฺเฉทา ภวติ ทิฏฺิ, อุจฺเฉททิฏฺิ เต อาปชฺชติ. กตรา ยา พุทฺเธน วิวชฺชิตา อกุสลทิฏฺิ. ยา ปน ‘‘อุจฺเฉทวาที สมโณ โคตโม’’ติ ปริยายภาสิตา, น ตํ วทามาติ ทสฺเสติ. อถาปิ เตสุ ขนฺเธสุ ภิชฺชมาเนสุ โส ปุคฺคโล น ภิชฺชติ, เอวํ สนฺเต สสฺสโต ปุคฺคโล โหติ. ตโต โส นิพฺพาเนน สมสโม อาปชฺชติ. สมสโมติ อติวิย สโม, สเมน วา สโม, สมภาเวเนว สโม. ยเถว นิพฺพานํ นุปฺปชฺชติ น ภิชฺชติ, เอวํ เต ปุคฺคโลปิ เตน สมสโมติ.

คติปริวตฺตนมุเขน จุติปฏิสนฺธานุโยโค นิฏฺิโต.

อนุโยควณฺณนา.

๑๒. อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๙๕. อิทานิ อุปาทาปฺตฺตานุโยโค โหติ. ตตฺถ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺาปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. โส หิ รุกฺขํ อุปาทาย ฉายาย วิย, อินฺธนํ อุปาทาย อคฺคิสฺส วิย จ, รูปาทีนิ อุปาทาย ปุคฺคลสฺส ปฺตฺตึ ปฺาปนํ อวโพธนํ อิจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘รูปํ อุปาทายา’’ติ ปุฏฺโ ปฏิชานาติ. ปุน ยถา รุกฺขุปาทานา ฉายา รุกฺโข วิย, อินฺธนุปาทาโน จ อคฺคิ อินฺธนํ วิย อนิจฺจาทิธมฺโม, เอวํ เต รูปาทิอุปาทาโน ปุคฺคโล รูปาทโย วิย อนิจฺโจติ อิมมตฺถํ ปุฏฺโ อตฺตโน ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิกฺขิปติ.

๙๗. นีลํ รูปํ อุปาทาย นีโลติอาทีสุ นีลรูเปน สทฺธึ ปุคฺคลสฺส เอกตฺตํ, เอกสรีเร นีลาทีนํ พหูนํ วเสน พหุภาวฺจ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

๙๘. กุสลํ เวทนนฺติ เอตฺถาปิ เวทนาย สทฺธึ เอกตฺตํ เอกสนฺตาเน พหูนํ กุสลเวทนานํ วเสน พหุภาวฺจ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยนเย มคฺคกุสโลติอาทิวจนสพฺภาวโต เฉกฏฺํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สผโลติอาทีนิ ปุฏฺโ ตถารูปสฺส โวหารสฺส อภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

๙๙. อกุสลปกฺเข อเฉกฏฺํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๑๐๐. อพฺยากตปกฺเข สสฺสตาทิวเสน อพฺยากตภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๐๔. จกฺขุํ อุปาทายาติอาทีสุ ‘‘จกฺขุมา วิสมานีว…เป… ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ(อุทา. ๔๓) อาทิโวหารสพฺภาวโต ปฏิชานาติ. จกฺขุมตฺตาทินิโรเธน ปุคฺคลนิโรธํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

๑๐๗. รูปํ อุปาทาย เวทนํ อุปาทายาติ เอตฺถ อฺเปิ รูปมูลกา ทุกติกจตุกฺกา เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปน ขนฺเธ อุปาทาย ปุคฺคลสฺส ปฺตฺติ, ตสฺมา ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ ปฺจปิ อุปาทาย ปฺตฺตึ ปฏิชานาติ. เอกสนฺตาเน ปน ทฺวินฺนํ ปฺจนฺนํ วา อภาวา ปฏิกฺขิปติ. อายตนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๑๒. อิทานิ ยํ อุปาทาย ยสฺส ปฺตฺติ, ยถา ตสฺส อนิจฺจตาย ตสฺสาปิ อนิจฺจตา, ตโต จ อฺตฺตํ สิทฺธํ, เอวํ ตสฺส ปุคฺคลสฺสาปิ อาปชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ยถา รุกฺขนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปาทายาติ ปฏิจฺจ อาคมฺม, น วินา ตนฺติ อตฺโถ. ปรวาที ปน ตถา อนิจฺฉนฺโต ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิกฺขิปติ.

๑๑๕. นิคโฬติ สงฺขลิกพนฺธนํ. เนคฬิโกติ เตน พนฺธโก ยสฺส รูปํ โส รูปวาติ ยสฺมา ยสฺส รูปํ โส รูปวา โหติ, ตสฺมา ยถา น นิคโฬ …เป… อฺโ รูปวาติ อตฺโถ.

๑๑๖. จิตฺเต จิตฺเตติอาทีสุ สราคาทิจิตฺตวเสน สราคาทิตํ สนฺธาย จิตฺตานุปสฺสนาวเสน ปฏิชานาติ. ชายตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ปุคฺคลสฺส ขณิกภาวํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ‘‘โส’’ติ วา ‘‘อฺโ’’ติ วา ปุฏฺโ สสฺสตุจฺเฉทภเยน ปฏิกฺขิปติ. ปุน น วตฺตพฺพํ ‘‘กุมารโก’’ติ วา ‘‘กุมาริกา’’ติ วา ปุฏฺโ โลกโวหารสมุจฺเฉทภเยน วตฺตพฺพนฺติ ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว.

๑๑๘. อิทานิ ปรวาที อฺเนากาเรน ลทฺธึ ปติฏฺาเปตุกาโม น วตฺตพฺพํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิมาห. ตตฺถ น วตฺตพฺพนฺติ กึ เต อิมินา เอวํ พหุนา อุปาทาปฺตฺตานุโยเคน, อิทํ ตาว วเทหิ, กึ น วตฺตพฺพํ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ. ตโต สกวาทินา อามนฺตาติ วุตฺเต นนุ โย ปสฺสตีติอาทิมาห. ตตฺถ โยติ ปุคฺคโล. นฺติ รูปํ. เยนาติ จกฺขุนา. โสติ ปุคฺคโล. นฺติ รูปํ. เตนาติ จกฺขุนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นนุ โย ยํ รูปํ เยน จกฺขุนา ปสฺสติ, โส ตํ รูปํ เตน จกฺขุนา ปสฺสนฺโต ปุคฺคโลติ. สกวาที กิฺจาปิ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวํ คจฺฉนฺตํ จกฺขุเมว รูปํ ปสฺสติ, ตถา โสตเมว สทฺทํ สุณาติ…เป… วิฺาณเมว ธมฺมํ วิชานาติ, ‘‘อตฺถิ อรหโต จกฺขุ, ปสฺสติ อรหา จกฺขุนา รูป’’นฺติอาทิสมฺมุติวเสน ปน อามนฺตาติ ปฏิชานาติ.

๑๒๐. ตโต ฉลวาทํ นิสฺสาย ปรวาทินา ปุคฺคลสฺส วตฺตพฺพตาย สาธิตาย ตเมว วาทํ ปริวตฺเตตฺวา ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติอาทิมาห. ตตฺถ โย น ปสฺสตีติ อนฺโธ อสฺสตฺโต อรูปํ อุปปนฺโน นิโรธํ สมาปนฺโน, อนนฺโธปิ จ อฺตฺร ทสฺสนสมยา น ปสฺสติ นาม. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย. เสสํ ปาฬิวเสเนว อตฺถโต เวทิตพฺพํ.

๑๒๒. สุตฺตสํสนฺทนายํ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน รูปโคจรตฺตา รูปํ ปสฺสตีติ อาห. ทุติยวาเร ‘‘สตฺเต ปสฺสามี’’ติวจนโต ปุคฺคลํ ปสฺสตีติ อาห. ตติยวาเร ‘‘รูปํ ทิสฺวา ปุคฺคลํ วิภาเวตี’’ติ ลทฺธิโต อุโภ ปสฺสตีติ อาห. ยสฺมา ปน ปสฺสิตพฺพํ นาม ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตนฺติ จตุพฺพิเธ รูปสงฺคเห รูปายตนเมว สงฺคหิตํ, ตสฺมา สกวาที ‘‘รูปํ ปุคฺคโล, ปุคฺคโล รูปํ, อุโภ รูป’’นฺติ อนุโยคํ กโรติ. ตสฺสตฺโถ ปากโฏเยวาติ.

อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา.

๑๓. ปุริสการานุโยควณฺณนา

๑๒๓. อิทานิ ปุริสการานุโยโค โหติ. ตตฺถ กมฺเม สติ นิยมโต ตสฺส การเกนปิ ภวิตพฺพนฺติ ลทฺธิยา ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ตถารูปานํ กมฺมานํ อตฺถิตาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน กตฺตา กาเรตาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ กตฺตาติ เตสํ กมฺมานํ การโก. กาเรตาติ อาณตฺติเทสนาทีหิ อุปาเยหิ การาปโก. อิทานิ ยสฺมา ปรวาที ปุคฺคลํ สนฺธาย กตฺตาติ ปุจฺฉติ, น กรณมตฺตํ, ตสฺมา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส.

๑๒๔. ตสฺส กตฺตา กาเรตาติ เอตฺถ ยทิ ยํ ยํ อุปลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส กตฺตา ปุคฺคโล เต อุปลพฺภติ, กึ ตสฺสาปิ การโก จ การาปโก จ อฺโ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. ปรวาที ตถา อนิจฺฉนฺโต อิสฺสรนิมฺมานวาทภเยน ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ปุคฺคลํ มาตาปิตโร ชเนนฺติ นามํ กโรนฺติ โปเสนฺติ, ตสฺมาสฺส เต การกา. เย จ ปน ตํ กลฺยาณมิตฺตา วา อาจริยา วา ตานิ ตานิ วิชฺชาฏฺานสิปฺปายตนานิ สิกฺขาเปนฺติ, เต การาปกา นามาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปุริมกมฺมเมว ตสฺส กตฺตา เจว การาเปตา จาติ อธิปฺเปตํ.

๑๒๕. ตสฺส ตสฺเสวาติ อิมินา อิทํ ปุจฺฉติ – ยทิ กมฺมานํ การกสฺส กตฺตา ตสฺสาปิ กตฺตา ตสฺสาปิ กตฺตา อตฺเถว, เอวํ สนฺเต ปุริเมน ปุริเมน อวสฺสํ ปจฺฉา ปจฺฉา ปุคฺคโล กาตพฺโพติ อิมินาปิ เต กมฺมานํ การเกน ปุคฺคเลน อายตึ อฺโ ปุคฺคโล กาตพฺโพ, เตนาปิ อฺโติ นตฺถิ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา, นตฺถิ วฏฺฏสฺส อุปจฺเฉโท, นตฺถิ อปฺปจฺจยปรินิพฺพานํ. ปจฺจยาภาเวน ปจฺจยปฏิพทฺธสฺส ทุกฺขสฺส อภาวา ยํ นิพฺพานํ วุตฺตํ, นตฺถิ เต ตนฺติ. อถ วา ตสฺส ตสฺเสวาติ ยทิ กมฺมํ กมฺมมตฺตํ น โหติ, ตสฺส ปน การโก ปุคฺคโล, ตสฺสาปิ การโก, ตสฺสาปิ การโกติ เอวํ ปุคฺคลปรมฺปรา อตฺถิ. เอวํ สนฺเต ยา เอสา กมฺมวฏฺฏสฺส อปฺปวตฺติกรเณน ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา วุตฺตา, สา นตฺถีติ อตฺโถ. ปรวาที ตํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อิโต อปราสุปิ อุปลพฺภติ สามฺเน การกปุจฺฉาสุ ปุคฺคลํเยว สนฺธาย ‘‘กตฺตา กาเรตา’’ติ วุตฺตํ, น ปจฺจเย. น หิ มหาปถวีอาทีนํ ปจฺจยา นตฺถิ.

๑๓๕. อฺโ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ กตฺตาติ ปฺโห ‘‘สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทิทิฏฺิภยา ปฏิกฺขิตฺโต.

๑๓๖. วิปาโก อุปลพฺภตีติอาทิ วิปากปฏิสํเวทีวเสน ปุคฺคลํ ทสฺเสนฺตสฺส ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ วิปากปฏิสํเวทีติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, วิปากปวตฺติโต อฺสฺส เวทกสฺส อภาวา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ปุน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

๑๓๘. ตสฺส ปฏิสํเวทีติ ตสฺส วิปากปฏิสํเวทกสฺส ปฏิสํเวที ยสฺมา ปน ปฏิสํเวทิตพฺโพ นาม วิปาโก, น จ ปุคฺคโล วิปาโก, ตสฺมา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ปุฺวิปาเก ิตตฺตา วิปากปฏิสํเวที ปุตฺตํ วา ปตึ วา มาตา วา ชายา วา ปริจุมฺพติ ปริสชฺชติ, ตสฺมา ตถารูปํ ปฏิสํเวทิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ ปรวาที.

ตสฺส ตสฺเสวาติ ยทิ วิปาโก วิปากมตฺตํ น โหติ, ตสฺส ปน ปฏิสํเวที ปุคฺคโล, ตสฺสาปิ ปฏิสํเวที ตสฺสาปิ ปฏิสํเวทีติ เอวํ ปุคฺคลปรมฺปรา อตฺถิ. เอวํ สนฺเต ยา เอสา วิปากวฏฺฏสฺส อปฺปวตฺติกรเณน ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยา วุตฺตา, สา นตฺถีติ อตฺโถ. อิโต ปรํ อุปลพฺภติสามฺเน ปฏิสํเวทีปุจฺฉาสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๔๒. อฺโ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากปฏิสํเวทีติ ปฺโห ‘‘เวทนวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทิทิฏฺิภยา ปฏิกฺขิตฺโต.

๑๔๓. ทิพฺพํ สุขนฺติอาทิ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ภาเชตฺวา ทสฺสนวเสน อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สกวาทิโน เจตฺถ ปุคฺคลวเสเนว ปฏิสํเวทีปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ, น เวทยิตวเสน.

๑๔๘. มหาปถวีอาทีนิ หิ อารมฺมณํ กตฺวา เวทยิตานํ อุปฺปตฺติ อปฺปฏิสิทฺธา.

๑๗๐. กตฺตา กาเรตา วิปากปฏิสํเวทีติอาทิ โวมิสฺสกนยวเสน อารทฺธํ. ตตฺถ โส กโรตีติ ยํ ตฺวํ กตฺตาติ จ ปฏิสํเวทีติ จ วเทสิ, กึ โสเยว กโรติ, โส ปฏิสํเวเทติ. อยมนุโยโค สกวาทิสฺส, สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส.

๑๗๑. ปุน ปุฏฺโ ‘‘อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทตี’’ติอาทิสุตฺตวเสน (ธ. ป. ๑๘) ปฏิฺา ตสฺเสว. อถสฺส วจโนกาสํ ปฏิพาหนฺโต สกวาที สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ อาห.

๑๗๒. ตตฺถ อฺโ กโรตีติ การกเวทกานํ อฺตฺตปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ‘‘มนุสฺสภูโต กตฺวา เทวภูโต ปฏิสํเวเทตี’’ติ มฺมาโน ปฏิชานาติ. เอวํวาทิโน ปน ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ.

๑๗๔. โส จ อฺโ จาติ การกเวทกานํ เอกตฺตอฺตฺตปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธภเยเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ปุริเม ทฺเวปิ นเย เอกโต กตฺวา ปฏิชานาติ. เอวํวาทิโน ปน สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ.

๑๗๖. เนว โส กโรตีติ การกเวทกานํ เอกตฺตอฺตฺตปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรวาที สุตฺตวิโรธวเสเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา มนุสฺโส เทวโลกูปปตฺติยา กมฺมํ กตฺวา น มนุสฺสภูโตว ปฏิสํเวเทติ, นาปิ เยน กมฺมํ กตํ, ตโต อฺโว ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา การกโต เวทโก เนว โส โหติ, น อฺโติ มฺมาโน ปฏิชานาติ. ลทฺธิมตฺตเมเวตํ? เอวํวาทิโน ปน อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อาปชฺชตีติ ตสฺส วเสน ปุฏฺโ ปุน ปฏิกฺขิปติ. อปิจ อิมสฺมึ โวมิสฺสกนเย อาทิโต ปฏฺาย อิมินาปิ นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา หิ อยํ ปุคฺคลวาที กมฺมานํ การกฺเจว เวทกฺจ อิจฺฉติ, ตสฺมาสฺส โย การโก, เตเนว วา เวทเกน ภวิตพฺพํ, อฺเน วา อุโภหิ วา ภวิตพฺพํ, อุโภหิ วาปิ น ภวิตพฺพนฺติ อิทมาปนฺนํ โหติ. เอวมาปนฺนเมว อนุโยคํ อนุยุฺชนฺโต สกวาที ‘‘โส กโรตี’’ติอาทโย จตฺตาโรปิ วิกปฺเป อาห. เสสํ วุตฺตปฺปการเมว.

ปริโยสาเน ปน จตฺตาโรปิ ปฺหา เอกโต ปุฏฺา. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิชานนา จ สยํกตาทิโทสปฺปตฺติ จ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา. อิโต ปรํ ‘‘กลฺยาณปาปกานี’’ติ อวตฺวา เหฏฺา วุตฺตนยา เอว ‘‘กมฺมํ อตฺถี’’ติอาทินา วิกปฺเปน ทสฺสิตา. เตสมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปุริสการานุโยควณฺณนา.

กลฺยาณวคฺโคติปิ เอตสฺเสว นามํ.

๑๔. อภิฺานุโยควณฺณนา

๑๙๓. อิโต ปรํ อภิฺานุโยคาทิวเสน อรหตฺตสาธนา โหติ. ตตฺถ อามนฺตาติ สกวาทินา ปฏิฺาเต ปรวาที ‘‘พหิทฺธา อนินฺทฺริยพทฺธรูเป อิทฺธิวิธาทิวิเสสาธิคโม นตฺถิ, อชฺฌตฺตํ อตฺถิ, ตสฺมา อิทฺธาทินิพฺพตฺตเกน ปุคฺคเลน ภวิตพฺพ’’นฺติ มฺมาโน นนุ อตฺถิ โกจิ อิทฺธึ วิกุพฺพตีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.

อภิฺานุโยควณฺณนา.

๑๕-๑๘. าตกานุโยคาทิวณฺณนา

๑๙๗. อิทานิ มาตาติอาทิโก าตกานุโยโค. ขตฺติโยติอาทิโก ชาติอนุโยโค. คหฏฺโ ปพฺพชิโตติ ปฏิปตฺติอนุโยโค. เทโว มนุสฺโสติ อุปปตฺติอนุโยโค. โสตาปนฺโนติอาทิโก ปฏิเวธานุโยโค, อริยานุโยโคติปิ วุจฺจติ. เต สพฺเพ อุตฺตานตฺถาเยว. ‘‘อรหา หุตฺวา น อรหา’’ติ ปเนตฺถ โมฆปฺหตฺตา น วุตฺตํ.

๒๐๖. จตฺตาโร ปุริสยุคาติอาทิ สํฆานุโยโค, โสปิ อุตฺตานตฺโถเยว.

๒๐๙. สงฺขโตติอาทิ สจฺจิกฏฺสภาวานุโยโค. ตตฺถ ตติยา โกฏีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตถารูปสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. ปุน ปุฏฺโ ปุคฺคลํ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว.

๒๑๑. อฺโ ปุคฺคโลติปฺเหปิ สงฺขเตหิ ขนฺเธหิ อฺตฺตํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.

๒๑๒. ขนฺธา สงฺขตาติอาทิ สงฺขตาสงฺขตานิ สรูเปน ทสฺเสตฺวา อฺตฺตปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ.

๒๑๓. รูปํ สงฺขตนฺติอาทิ ขนฺเธ วิภาคโต ทสฺเสตฺวา อฺตฺตปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ.

๒๑๔. ปุคฺคลสฺส อุปฺปาโทติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ‘‘ชาติธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. สงฺขตภาวํ ปนสฺส โส น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ.

๒๑๕. ปุน น อุปฺปาโท ปฺายตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จา’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๑.๑๗๑) ปุคฺคลสฺส อุปฺปาทาทโย นาม น ยุชฺชนฺตีติ ปฏิชานาติ.

๒๑๖. อตฺถตฺถมฺหีติ อตฺถํ วุจฺจติ นิพฺพานํ. ตตฺถ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. ตสฺส อตฺถิตาย สสฺสตํ, นตฺถิตาย. อุจฺเฉโท อาปชฺชติ. ตทุภยมฺปิ อนิจฺฉนฺโต ปจฺฉา ปฏิกฺขิปติ.

าตกานุโยคาทิวณฺณนา.

๑๙. ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา

๒๑๗. ภวํ นิสฺสาย ปฺเห ภวนฺติ อุปปตฺติภวํ.

๒๑๘. เวทนํ เวทิยมานปฺเห เวทนํ เวทิยมาโน ปริคฺคหิตเวทโน โยคาวจโรว ปชานาติ, พาลปุถุชฺชโน นปฺปชานาติ.

๒๒๔. กายานุปสฺสนาทิปฺหา อุตฺตานตฺถาเยว.

๒๒๖. ปารายนคาถาย สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสูติ สตฺตสุฺตวเสน ขนฺธโลกํ โอโลเกหีติ อตฺโถ.

๒๒๘. ปุคฺคโล อเวกฺขตีติ สกวาทิปุจฺฉา. ปรวาทิสฺส หิ ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ คาถาย โย อเวกฺขติ, โส ปุคฺคโลติ ลทฺธิ, ตสฺมา นํ เอวํ ปุจฺฉติ. สห รูเปนาติ รูปกาเยน สทฺธึ. ตโต อนิสฺสโฏ หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ ปฺจโวการวเสน อนุชานิตฺวา ปุน ตํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ. วินา รูเปนาติ อิทํ จตุโวการวเสน อนุชานิตฺวา ปุน อฺํ ชีวนฺติ ปุฏฺโ สุตฺตวิโรธภเยเนว ปฏิกฺขิปติ. ‘‘อพฺภนฺตรคโต’’ติ จ ‘‘พหิทฺธา นิกฺขมิตฺวา’’ติ จ อิทํ ‘‘สห รูเปน วินา รูเปนา’’ติ เหฏฺา วุตฺตสฺส ลกฺขณวจนํ. ตตฺถ อพฺภนฺตรคโตติ รูปสฺส อนฺโตคโต, อิโต วา เอตฺโต วา อนิกฺขมิตฺวา รูปปริจฺเฉทวเสเนว ิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. นิกฺขมิตฺวาติ รูปปริจฺเฉทํ อติกฺกมิตฺวา. รูปํ อนิสฺสิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

๒๓๑. อนตฺตาติ อตฺตนา ชีเวน ปุคฺคเลน รหิโต. เอกธมฺเมปิ ปุคฺคโล นตฺถีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพสุตฺตานํ อาคมฏฺกถาสุ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธ ปน สนฺธายภาสิตมตฺตเมว วกฺขาม.

๒๓๗. วุตฺตํ ภควตา สปฺปิกุมฺโภติอาทิ ‘‘สพฺพาว เทสนา ยถารุตวเสเนว อตฺถโต น คเหตพฺพา’’ติ ทสฺสนตฺถํ อาภตํ. ยถา หิ สุวณฺณํ คเหตฺวา กโต สุวณฺณวิกาโร กุมฺโภ สุวณฺณกุมฺโภติ วุจฺจติ, น เอวํ สปฺปึ คเหตฺวา กโต สปฺปิสฺส วิกาโร สปฺปิกุมฺโภ นาม อตฺถิ. ยสฺมึ ปน กุมฺเภ สปฺปิ ปกฺขิตฺตํ, โส สปฺปิกุมฺโภ นามาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เตลกุมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถา จ นิพฺพานํ นิจฺจํ ธุวํ, น เอวํ ภตฺตํ วา ยาคุ วา อตฺถิ. กาลปริจฺเฉทํ ปน อกตฺวา ทิวเส ทิวเส ทสฺสามาติ ปฺตฺตวเสน ‘‘นิจฺจภตฺตํ ธุวยาคู’’ติ วุจฺจตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุปิ ยถา รูปาทโย ธมฺมา ปจฺจตฺตลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน อตฺถิ, น เอวํ ปุคฺคโล. รูปาทีสุ ปน สติ ‘เอวํนาโม’‘เอวํโคตฺโต’ติ โวหาโร โหติ. อิติ อิมินา โลกโวหาเรน โลกสมฺมุติยา โลกนิรุตฺติยา อตฺถิ ปุคฺคโลติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา – ‘‘อิมา โข จิตฺต, โลกสมฺา โลกนิรุตฺติโย โลกโวหารา โลกปฺตฺติโย’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๐). รูปาทิธมฺมา ปน วินาปิ โลกสมฺมุตึ ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสน ปฺาปนโต อตฺถีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

พุทฺธานํ ปน ทฺเว กถา สมฺมุติกถา จ ปรมตฺถกถา จ. ตตฺถ สตฺโต, ปุคฺคโล, เทโว, พฺรหฺมาติอาทิกา สมฺมุติกถา นาม. อนิจฺจํ, ทุกฺขํ, อนตฺตา, ขนฺธา, ธาตุโย, อายตนานิ, สติปฏฺานา, สมฺมปฺปธานาติอาทิกา ปรมตฺถกถา นาม.

ตตฺถ โย สมฺมุติเทสนาย สตฺโตติ วา…เป… พฺรหฺมาติ วาติ วุตฺเต ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ภควา อาทิโตว สตฺโตติ วา ปุคฺคโลติ วา โปโสติ วา เทโวติ วา พฺรหฺมาติ วา กเถติ. โย ปรมตฺถเทสนาย อนิจฺจนฺติ วา ทุกฺขนฺติ วาติอาทีสุ อฺตรํ สุตฺวาว ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ. ตสฺส อนิจฺจนฺติอาทีสุ อฺตรํ กเถติ. ตถา สมฺมุติกถาย พุชฺฌนกสตฺตสฺส น ปมํ ปรมตฺถกถํ กเถติ. สมฺมุติกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถติ. ปรมตฺถกถาย พุชฺฌนกสตฺตสฺสาปิ น ปมํ สมฺมุติกถํ กเถติ. ปรมตฺถกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา สมฺมุติกถํ กเถติ. ปกติยา ปน ปมเมว ปรมตฺถกถํ กเถนฺตสฺส เทสนา ลูขาการา โหติ. ตสฺมา พุทฺธา ปมํ สมฺมุติกถํ กเถตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถนฺติ. เต สมฺมุติกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ. ปรมตฺถกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ. อยฺหิ –

‘‘ทุเว สจฺจานิ อกฺขาสิ, สมฺพุทฺโธ วทตํ วโร;

สมฺมุตึ ปรมตฺถฺจ, ตติยํ นุปลพฺภติ’’.

ตตฺถ

‘‘สงฺเกตวจนํ สจฺจํ, โลกสมฺมุติการณํ;

ปรมตฺถวจนํ สจฺจํ, ธมฺมานํ ตถลกฺขณ’’นฺติ.

อปโร นโย – ทฺเว ภควโต เทสนา ปรมตฺถเทสนา จ ขนฺธาทิวเสน, สมฺมุติเทสนา จ สปฺปิกุมฺภาทิวเสน. น หิ ภควา สมฺํ อติธาวติ. ตสฺมา ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติ วจนมตฺตโต อภินิเวโส น กาตพฺโพ. สตฺถารา หิ –

‘‘ปฺตฺตึ อนติกฺกมฺม, ปรมตฺโถ ปกาสิโต;

สมฺํ นาติธาเวยฺย, ตสฺมา อฺโปิ ปณฺฑิโต;

ปรมตฺถํ ปกาเสนฺโต, สมฺํ นาติธาวเย’’.

เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปุคฺคลกถา นิฏฺิตา.

๒. ปริหานิกถา

๑. วาทยุตฺติปริหานิวณฺณนา

๒๓๙. อิทานิ ปริหานิกถา โหติ. ปริหานิธมฺโม อปริหานิธมฺโม, ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา เสกฺขสฺส, ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺติ’’ (อ. นิ. ๒.๑๘๕), ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สมยวิมุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๙) เอวมาทีนิ หิ สุตฺตานิ นิสฺสาย สมฺมิติยา วชฺชิปุตฺตกา สพฺพตฺถิวาทิโน เอกจฺเจ จ มหาสงฺฆิกา อรหโตปิ ปริหานึ อิจฺฉนฺติ, ตสฺมา เต วา โหนฺตุ อฺเเยว วา, เยสํ อยํ ลทฺธิ, เตสํ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ ปริหายติ อรหา อรหตฺตาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺร ปริหายตีติ ทฺเว ปริหานิโย ปตฺตปริหานิ จ อปฺปตฺตปริหานิ จ. ตตฺถ ‘‘ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา โคธิโก ตมฺหา สามยิกาย เจโตวิมุตฺติยา ปริหายี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) อยํ ปตฺตปริหานิ นาม. ‘‘มา โว สามฺตฺถิกานํ สตํ สามฺตฺโถ ปริหายี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๑๖-๔๑๘) อยํ อปฺปตฺตปริหานิ. ตาสุ อิธ ปตฺตปริหานิ อธิปฺเปตา. ตฺหิ สนฺธาย อามนฺตาติ ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. สกสมเย ปน อิมํ ปตฺตปริหานึ นาม โลกิยสมาปตฺติยาว อิจฺฉนฺติ, น อรหตฺตาทีหิ สามฺผเลหิ. ปรสมเยปิ นํ สพฺพสามฺผเลสุ สพฺพภเวสุ สพฺพกาเลสุ สพฺเพสฺจ ปุคฺคลานํ น อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน เตสํ ลทฺธิมตฺตเมวาติ สพฺพํ ลทฺธิชาลํ ภินฺทิตุํ ปุน สพฺพตฺถาติอาทินา นเยน เทสนา วฑฺฒิตา.

ตตฺถ ยสฺมา ปรวาที กเมน ปริหายิตฺวา โสตาปตฺติผเล ิตสฺส อรหโต ปริหานึ น อิจฺฉติ, อุปริผเลสุ ิตสฺเสว อิจฺฉติ. ยสฺมา จ รูปารูปภเวสุ ิตสฺส น อิจฺฉติ, กมฺมารามตาทีนํ ปน ปริหานิยธมฺมานํ ภาวโต กามภเว ิตสฺเสว อิจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ปุฏฺโ กามภวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สพฺพสฺมิมฺปิ หิ กามภเว ปริหานิกรา กามคุณา อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ ปริหายตีติ ตสฺส ลทฺธิ.

ตติยปุจฺฉาย ปริหานีติ ปริหานิกเร ธมฺเม ปุจฺฉติ. ตตฺถ ยสฺมา ปริหานิ นาม กมฺมารามตาทิธมฺมา, วิเสสโต วา กามราคพฺยาปาทา เอว, เต จ รูปารูปภเว นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส.

สพฺพทาติ กาลปุจฺฉา. ตตฺถ ปมปฺเห โยนิโสมนสิการกาเล อปริหายนโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย อโยนิโสมนสิกโรโต รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา สพฺพทา ปริหายนโต ปฏิชานาติ. ตติเย ปริหานิกรธมฺมสมาโยเค สติ มุหุตฺตเมว ปริหานิ นาม โหติ, ตโต ปุพฺเพ อปริหีนสฺส ปจฺฉา ปริหีนสฺส จ ปริหานิ นาม นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ.

สพฺเพว อรหนฺโตติ ปฺหานํ ปมสฺมึ ติกฺขินฺทฺริเย สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยสฺมึ มุทินฺทฺริเย สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตติยสฺมิมฺปิ ติกฺขินฺทฺริยาว อธิปฺเปตา. เตสฺหิ สพฺเพสมฺปิ ปริหานิ น โหตีติ ตสฺส ลทฺธิ.

เสฏฺิอุทาหรเณ ปมปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ทุติยา สกวาทิสฺส. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยํ มํ ตุมฺเห ปุจฺฉถ – ‘‘อรหา อรหตฺตา ปริหายนฺโต จตูหิ ผเลหิ ปริหายตี’’ติ, ตตฺร โว ปฏิปุจฺฉามิ – ‘‘จตูหิ สตสหสฺเสหิ เสฏฺี เสฏฺิตฺตํ กโรนฺโต สตสหสฺเสหิ ปริหีเน เสฏฺี เสฏฺิตฺตา ปริหีโน โหตี’’ติ. ตโต สกวาทินา เอกเทเสน ปริหานึ สนฺธาย ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺเต สพฺพสาปเตยฺยา ปริหีโน โหตีติ ปุจฺฉติ. ตถา อปริหีนตฺตา สกวาที น เหวาติ วตฺวา อถ นํ ‘‘เอวเมว อรหาปิ ปริหายติ จ. น จ จตูหิ ผเลหี’’ติ อุปฺปนฺนลทฺธิกํ ทุติยํ ภพฺพปฺหํ ปุจฺฉติ. ปรวาที เสฏฺิโน อภพฺพตาย นิยมํ อปสฺสนฺโต ปฏิชานิตฺวา อรหโต จตูหิ ผเลหิ ปริหานิภพฺพตํ ปุฏฺโ ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗) วจนสฺส อโยนิโส อตฺถํ คเหตฺวา ลทฺธิยํ ิโต โสตาปตฺติผลโต ปริหายิตุํ อภพฺพตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ตํ ปนสฺส ลทฺธิมตฺตเมวาติ.

เอตฺตาวตา วาทยุตฺติ นาม นิฏฺิตา โหติ.

๒. อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิวณฺณนา

๒๔๐. อิทานิ อริยปุคฺคลสํสนฺทนา อารทฺธา. ตตฺถ ยสฺมา เกจิ อรหโตว ปริหานึ อิจฺฉนฺติ, เกจิ อนาคามิโนปิ, เกจิ สกทาคามิสฺสปิ. โสตาปนฺนสฺส ปน สพฺเพปิ น อิจฺฉนฺติเยว. เย อรหตฺตา ปริหายิตฺวา อนาคามิสกทาคามิภาเว ิตา, เตสํ ปริหานึ อิจฺฉนฺติ, น อิตเรสํ อนาคามิสกทาคามีนํ. โสตาปนฺนสฺส ปน เตปิ สพฺพถาปิ น อิจฺฉนฺติเยว, ตสฺมา เปยฺยาลมุเขน ปุจฺฉา กตา. ตตฺถ เตสํ ลทฺธิวเสน ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺพา. ‘‘ปริหายติ อนาคามี อนาคามิผลา’’ติ หิ ปฺหสฺมึ เย อนาคามิโน ปริหานึ น อิจฺฉนฺติ, เตสํ วเสน ปฏิกฺเขโป. เย ปกติอนาคามิโน วา อรหตฺตา ปริหายิตฺวา ิตอนาคามิโน วา ปริหานึ อิจฺฉนฺติ, เตสํ วเสน ปฏิฺาติ อิทเมตฺถ นยมุขํ. ตสฺสานุสาเรน สพฺพเปยฺยาลา อตฺถโต เวทิตพฺพา.

๒๔๑. ยํ ปเนตฺถ ‘‘โสตาปตฺติผลสฺส อนนฺตรา อรหตฺตํเยว สจฺฉิกโรตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปริหีนสฺส ปุน วายมโต อรหตฺตปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตโร โสตาปตฺติผลานนฺตรํ อรหตฺตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ.

๒๔๒. ตโต ปรํ ‘‘ปริหานิ นาเมสา กิเลสปฺปหานสฺส วา มนฺทตาย ภเวยฺย, มคฺคภาวนาทีนํ วา อนธิมตฺตตาย, สจฺจานํ วา อทสฺสเนนา’’ติ เอวมาทีนํ วเสน อนุยุฺชิตุํ กสฺส พหุตรา กิเลสา ปหีนาติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานาธิปฺปายเมว สุตฺตานํ ปนตฺโถ อาคมฏฺกถาสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๒๖๒. สมยวิมุตฺโต อรหา อรหตฺตา ปริหายตีติ เอตฺถ มุทินฺทฺริโย สมยวิมุตฺโต, ติกฺขินฺทฺริโย อสมยวิมุตฺโตติ เตสํ ลทฺธิ. สกสมเย ปน อวสิปฺปตฺโต ฌานลาภี สมยวิมุตฺโต, วสิปฺปตฺโต ฌานลาภี เจว สพฺเพ จ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมกฺเข อสมยวิมุตฺตาติ สนฺนิฏฺานํ. โส ปน ตํ อตฺตโน ลทฺธึ คเหตฺวา สมยวิมุตฺโต ปริหายติ, อิตโร น ปริหายตี’’ติ อาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิวณฺณนา.

๓. สุตฺตสาธนปริหานิวณฺณนา

๒๖๕. อิทานิ สุตฺตสาธนา โหติ. ตตฺถ อุจฺจาวจาติ อุตฺตมหีนเภทโต อุจฺจา จ อวจา จ. ปฏิปาทาติ ปฏิปทา. สมเณน ปกาสิตาติ พุทฺธสมเณน โชติตา. สุขาปฏิปทา หิ ขิปฺปาภิฺา อุจฺจา. ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา อวจา. อิตรา ทฺเว เอเกนงฺเคน อุจฺจา, เอเกน อวจา. ปมํ วุตฺตา เอว วา อุจฺจา, อิตโร ติสฺโสปิ อวจา. ตาย เจตาย อุจฺจาวจาย ปฏิปทาย น ปารํ ทิคุณํ ยนฺติ, เอกมคฺเคน ทฺวิกฺขตฺตุํ นิพฺพานํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. กสฺมา? เยน มคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เตน เตสํ ปุน อปฺปหาตพฺพโต. เอเตน ปริหานิธมฺมาภาวํ ทีเปติ. นยิทํ เอกคุณํ มุตนฺติ ตฺจ อิทํ ปารํ เอกวารํเยว ผุสนารหํ น โหติ. กสฺมา? เอเกน มคฺเคน สพฺพกิเลสานํ อปฺปหานโต. เอเตน เอกมคฺเคเนว อรหตฺตาภาวํ ทีเปติ.

อตฺถิ ฉินฺนสฺส เฉทิยนฺติ ฉินฺนสฺส กิเลสวฏฺฏสฺส ปุน ฉินฺทิตพฺพํ กิฺจิ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ติกฺขินฺทฺริยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ มุทินฺทฺริยํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สกวาที สุตฺตํ อาหริตฺวา นตฺถิภาวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ โอฆปาโสติ กิเลโสโฆ เจว กิเลสปาโส จ.

๒๖๖. กตสฺส ปฏิจโยติ ภาวิตสฺส มคฺคสฺส ปุน ภาวนา. อิธาปิ ปฏิกฺเขปปฏิชานนานิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

๒๖๗. ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ ปรวาทินา อาภเต สุตฺเต ปฺจ ธมฺมา อปฺปตฺตปริหานาย เจว โลกิยสมาปตฺติปริหานาย จ สํวตฺตนฺติ. โส ปน ปตฺตสฺส อรหตฺตผลสฺส ปริหานาย สลฺลกฺเขติ. เตเนว อตฺถิ อรหโต กมฺมารามตาติ อาห. อิตโรปิ อสมยวิมุตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา อิตรํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กามราควเสน วา ปวตฺตมานํ ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิตรถา ปวตฺตมานํ ปฏิชานาติ. ราคาทีนํ ปน อตฺถิตํ ปุฏฺโ ปฏิชานิตุํ น สกฺโกติ.

๒๖๘. กึ ปริยุฏฺิโตติ เกน ปริยุฏฺิโต อนุพทฺโธ อชฺโฌตฺถโต วา หุตฺวาติ อตฺโถ. อนุสยปุจฺฉายปิ ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยวเสเนว ปฏิกฺเขปปฏิชานนานิ เวทิตพฺพานิ. กลฺยาณานุสโยติ วจนมตฺตสามฺเน วา ปฏิชานาติ. ราโค อุปจยํ คจฺฉตีติ ภาวนาย ปหีนํ สนฺธายาห. ปรโต โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ ปน ทสฺสเนน ปหีนตฺตา อุปจยํ น อิจฺฉติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สุตฺตสาธนา.

ปริหานิกถา นิฏฺิตา.

๓. พฺรหฺมจริยกถา

๑. สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๖๙. อิทานิ พฺรหฺมจริยกถา โหติ. ตตฺถ ทฺเว พฺรหฺมจริยวาสา, มคฺคภาวนา จ ปพฺพชฺชา จ. ปพฺพชฺชา สพฺพเทเวสุ นตฺถิ. มคฺคภาวนา เปตฺวา อสฺสตฺเต เสเสสุ อปฺปฏิสิทฺธา. ตตฺถ เย ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อุปาทาย ตทุปริเทเวสุ มคฺคภาวนมฺปิ น อิจฺฉนฺติ เสยฺยถาปิ สมฺมิติยา, เต สนฺธาย นตฺถิ เทเวสูติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑) อิทํ สุตฺตํ นิสฺสาย ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสา นตฺถิ เทเวสูติ อุปฺปนฺนลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน ทฺวินฺนมฺปิ พฺรหฺมจริยานํ อนฺตรายิกธมฺมวเสเนว สพฺเพ เทวา ชฬาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ หตฺถสํวาจิกาติ มูคา วิย หตฺถมุทฺธาย วตฺตาโร. ปรโต อตฺถิ เทเวสูติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, มคฺคภาวนํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปฏิฺาย อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขตฺวา ปพฺพชฺชาวเสน อนุโยโค ปรวาทิสฺส.

๒๗๐. ยตฺถ นตฺถิ ปพฺพชฺชาติ ปฺเห คิหีนฺเจว เอกจฺจานฺจ เทวานํ มคฺคปฏิลาภํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว. ปุน ปุฏฺโ ปจฺจนฺตวาสิโน เจว อสฺสตฺเต จ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. โย ปพฺพชตีติอาทีสุ ปุจฺฉาสุปิ เอเสว นโย. ปุน ‘‘อตฺถิ เทเวสู’’ติ ปฺเหปิ มคฺคภาวนํ สนฺธาเยว ปฏิฺา สกวาทิสฺส, ‘‘สพฺพเทเวสู’’ติ วุตฺเต อสฺสตฺเต สนฺธาย ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.

๒๗๑. มนุสฺเสสูติ ปฺหทฺวเย ชมฺพุทีปเก สนฺธาย ปฏิฺา. ปจฺจนฺตวาสิโน สนฺธาย ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ.

อตฺถิ ยตฺถ อตฺถีติ อตฺถิ เต เทวา, อตฺถิ วา โส ปเทโส, ยตฺถ อตฺถีติ เอวํ สตฺตปเทสวิภาคมุเขน วิสฺสชฺชนํ สกวาทิสฺส. อิมินา นเยน สพฺเพ เอกนฺตริกปฺหา เวทิตพฺพา.

๒๗๒. สุตฺตานุโยเค กุหึ ผลุปฺปตฺตีติ ตสฺส อนาคามิโน อรหตฺตผลุปฺปตฺติ กุหินฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺเถวาติ สุทฺธาวาเสสูติ อตฺโถ.

หนฺท หีติ การณตฺเถ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อนาคามิปุคฺคโล อิธ โลเก ภาวิเตน มคฺเคน ตตฺถ สุทฺธาวาเสสุ ผลํ สจฺฉิกโรติ, น ตตฺถ อฺํ มคฺคํ ภาเวติ, ตสฺมา นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโสติ.

๒. สํสนฺทนพฺรหฺมจริยวณฺณนา

๒๗๓. อิทานิ ยทิ อฺตฺถ ภาวิเตน มคฺเคน อฺตฺถ ผลสจฺฉิกิริยา โหติ, โสตาปนฺนาทีนมฺปิ สิยาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปุน อนาคามีติอาทีนํ สํสนฺทนปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อนาคามิสฺส ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิฺา, เสสานํ ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อิธ ภาวิตมคฺโค หิ อนาคามี อิธวิหายนิฏฺโ นาม โหติ. โส อิธ อนาคามิมคฺคํ ภาเวตฺวา ‘‘โอปปาติโก ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติ วจนโต ‘‘ปุน มคฺคภาวนํ วินา อุปปตฺติวเสเนว อรหตฺตผลํ สจฺฉิกโรตี’’ติ ตสฺส ลทฺธิ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน ปน ตตฺถ มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺรุปปตฺติกา นาม โหนฺตีติ เตสํ อิธาคมนฺเว นตฺถิ. อิติ โส อนาคามิสฺส ผลสจฺฉิกิริยํ ปุฏฺโ ปฏิชานาติ. อิตเรสํ ปฏิกฺขิปติ.

อนาคามี ปุคฺคโล ตตฺถ ภาวิเตน มคฺเคนาติ ปฺเห ‘‘อนาคามิโน ตตฺถ มคฺคภาวนาว นตฺถี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปติ. มคฺโค จ ภาวียติ, น จ กิเลสา ปหียนฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, รูปาวจรมคฺคํ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. รูปาวจรมคฺเคน หิ โส อิธวิหายนิฏฺโ นาม ชาโต.

อนาคามี ปุคฺคโล กตกรณีโยติ ปฺเห ‘‘โอปปาติโก ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติ วจนโต อุปปตฺติยาวสฺส กตกรณียาทิภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อรหาติ ปฺเห อิธปรินิพฺพายิโน อรหโต วเสเนว ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ตตฺถปรินิพฺพายิโน วเสน ปฏิชานาติ.

อตฺถิ อรหโต ปุนพฺภโวติอาทีสุปิ ตตฺถปรินิพฺพายี อิธปรินิพฺพายีนํ วเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปฺปฏิวิทฺธากุปฺโปว ตตฺถปรินิพฺพายตีติ ปุฏฺโ อิเธว ภาวิเตน มคฺเคน ตสฺส อกุปฺปปฏิเวธํ อิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

ยถา มิโคติ ปมํ อุทาหรณํ ปรวาทิสฺส, ทุติยํ สกวาทิสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

พฺรหฺมจริยกถา นิฏฺิตา.

๓. โอธิโสกถาวณฺณนา

๒๗๔. อิทานิ โอธิโสกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย โสตาปนฺนาทีนํ นานาภิสมยวเสน ทุกฺขทสฺสนาทีหิ โอธิโส โอธิโส เอกเทเสน เอกเทเสน กิเลสปฺปหานํ อิจฺฉนฺติ เสยฺยถาปิ เอตรหิ สมฺมิติยาทโย, เตสํ ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ โอธิโสติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน อนุโยโค สกวาทิสฺส, เอกเทเสน โสตาปนฺนาทิภาวสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺส. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

โอธิโสกถาวณฺณนา.

๔. ชหติกถา

๑. นสุตฺตาหรณกถาวณฺณนา

๒๗๙. อิทานิ ชหติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ฌานลาภี ปุถุชฺชโน สห สจฺจาภิสมยา อนาคามี นาม โหติ, ตสฺส ปุถุชฺชนกาเลเยว กามราคพฺยาปาทา ปหีนา’’ติ ลทฺธิ เสยฺยถาปิ เอตรหิ สมฺมิติยานํ, เตสํ ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ ชหติ ปุถุชฺชโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ฌานวิกฺขมฺภิตานํ ปน เตสํ ปริยุฏฺานํ อปสฺสนฺตสฺส ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ยสฺมา ปน เตสํ ฌานวิกฺขมฺภิตานมฺปิ อนาคามิมคฺเคเนว อจฺจนฺตํ ปหานํ โหติ, ตสฺมา ปุน อจฺจนฺตนฺติอาทิอนุโยโค สกวาทิสฺส, ตถารูปสฺส ปหานสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. วิกฺขมฺเภตีติ อจฺจนฺตวิกฺขมฺภนเมว สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตโต ปรํ อนาคามิมคฺคฏฺเน สทฺธึ ปุถุชฺชนสํสนฺทนํ โหติ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

๒๘๐. ตโต ปรํ อนาคามิผเล สณฺาตีติ ปุฏฺโ ฌานานาคามิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อรหตฺเต สณฺาตีติ ปุฏฺโ ทสฺสนมคฺเคน อุทฺธมฺภาคิยานํ ปหานาภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

อปุพฺพํ อจริมํ ตโย มคฺเคติ ปุฏฺโ ตถารูปาย ภาวนาย อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ติณฺณํ มคฺคานํ กิจฺจสพฺภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สามฺผลปุจฺฉาสุปิ เอเสว นโย. กตเมน มคฺเคนาติ ปุฏฺโ อนาคามิมคฺเคนาติ ฌานานาคามิตํ สนฺธาย วทติ. ปุน สํโยชนปฺปหานํ ปุฏฺโ ติณฺณํ อนาคามิมคฺเคน เตสํ กิเลสานํ อปฺปเหยฺยตฺตา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ปมมคฺคสฺเสว ฌานานาคามิมคฺคภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ชหติกถา.

๕. สพฺพมตฺถีติกถา

๑. วาทยุตฺติวณฺณนา

๒๘๒. อิทานิ สพฺพมตฺถีติวาทกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทิวจนโต (วิภ. ๒) ‘‘สพฺเพปิ อตีตาทิเภทา ธมฺมา ขนฺธสภาวํ น วิชหนฺติ, ตสฺมา สพฺพํ อตฺถิเยว นามา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ สพฺพมตฺถิวาทานํ, เตสํ ลทฺธิวิโสธนตฺถํ สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, วุตฺตปฺปการาย ลทฺธิยา ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. สพฺพถาติ สพฺพสฺมึ สรีเร สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉติ. สพฺพทาติ สพฺพสฺมึ กาเล สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉติ. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพนากาเรน สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉติ. สพฺเพสูติ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉติ. อโยคนฺติ อยุตฺตํ. นานาสภาวานฺหิ โยโค โหติ, น เอกสภาวสฺส. อิติ อิมสฺมึ ปฺเห รูปํ เวทนาย, เวทนํ วา รูเปน อนานํ เอกลกฺขณเมว กตฺวา สพฺพมตฺถีติ ปุจฺฉติ. ยมฺปิ นตฺถิ ตมฺปตฺถีติ ยมฺปิ ฉฏฺขนฺธาทิกํ สสวิสาณาทิกํ วา กิฺจิ นตฺถีติ สิทฺธํ, ตมฺปิ เต อตฺถีติ ปุจฺฉติ. สพฺพมตฺถีติ ยา ทิฏฺิ สา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺีติ, ยา ทิฏฺิ สา ทิฏฺิ สมฺมาทิฏฺีติ เหวมตฺถีติ อิมินา อิทํ ปุจฺฉติ – ยา เต เอสา สพฺพมตฺถีติ ทิฏฺิ, สา ทิฏฺิ อยาถาวกตฺตา มิจฺฉาทิฏฺีติ เอวํ ยา อมฺหากํ ทิฏฺิ, สา ทิฏฺิ ยาถาวกตฺตา สมฺมาทิฏฺีติ เอวํ ตว สมเย อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อิตโร สพฺเพสุปิ เอเตสุ นเยสุ วุตฺตปฺปการาย อตฺถิตาย อภาวโต ปฏิกฺขิปติ. อิเมสุ ปน สพฺเพสุปิ นเยสุ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ อาทึ กตฺวา สพฺโพ กถามคฺคเภโท วิตฺถารโต เวทิตพฺโพติ อยํ ตาเวตฺถ วาทยุตฺติ.

๒. กาลสํสนฺทนวณฺณนา

๒๘๓-๒๘๔. อิทานิ อตีตํ อตฺถีติ กาลสํสนฺทนํ โหติ. ตตฺถ อตีตํ อตฺถีติอาทิกํ สุทฺธิกสํสนฺทนํ. อตีตํ รูปํ อตฺถีติอาทิกํ ขนฺธวเสน กาลสํสนฺทนํ.

๒๘๕. ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ อปฺปิยํ กริตฺวาติ อตีตานาคตํ ปหาย ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว อปฺปิยํ อวิภชิตพฺพํ กริตฺวา. รูปภาวํ ชหตีติปฺเห นิรุทฺธสฺสาปิ รูปสฺส รูปกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา ปฏิกฺขิปติ. รูปภาวํ น ชหตีติ ปฏิโลมปฺเหปิ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตตฺตาว ปฏิชานาติ. โอทาตํ วตฺถํ อปฺปิยํ กริตฺวาติ เอตฺถ กิฺจาปิ น สพฺพํ วตฺถํ โอทาตํ, อิมินา ปน วตฺถนฺติ อวตฺวา ‘‘โอทาตํ วตฺถํ อปฺปิยํ กริตฺวา’’ติ วุตฺเต สกวาทินา เอกตฺถตา อนุฺาตา. โอทาตภาวํ ชหตีติ ปฺเห วณฺณวิคมํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. วตฺถภาวํ ชหตีติ เอตฺถ ปน ปฺตฺติยา อวิคตตฺตา ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว. ปฏิโลเมปิ เอเสว นโย.

๒๘๖. อตีตํ อตีตภาวํ น ชหตีติ ปุฏฺโ ‘‘ยทิ ชเหยฺย, อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา สิยา’’ติ มฺมาโน ปฏิชานาติ. อนาคตํ อนาคตภาวํ น ชหตีติ ปุฏฺโ ปน ‘‘ยทิ น ชเหยฺย, อนาคตเมวสฺส, ปจฺจุปฺปนฺนภาวํ น ปาปุเณยฺยา’’ติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ. ปจฺจุปฺปนฺนปฺเหปิ อตีตภาวํ อนาปชฺชนโทโส สิยาติ ปฏิกฺขิปติ. อนุโลมปฺเหสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๒๘๗. เอวํ สุทฺธิกนยํ วตฺวา ปุน ขนฺธวเสน ทสฺเสตุํ อตีตํ รูปนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว สกฺกา ชานิตุํ.

วจนโสธนวณฺณนา

๒๘๘. อิทานิ ‘‘อตีตํ นฺวตฺถี’’ติอาทิ วจนโสธนา โหติ. ตตฺถ หฺจิ อตีตํ นฺวตฺถีติ ยทิ อตีตํ โน อตฺถีติ อตฺโถ. อตีตํ อตฺถีติ มิจฺฉาติ อตีตฺจ ตํ อตฺถิ จาติ มิจฺฉา เอว. ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปุฏฺโ อนาคตกฺขเณเยวสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตาย อภาวํ สนฺธาย กาลนานตฺเตน ปฏิกฺขิปติ.

ทุติยํ ปุฏฺโ ยํ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อนาคตํ อโหสิ, ตสฺส อุปฺปนฺนกาเล ปจฺจุปฺปนฺนตฺตา ปฏิชานาติ. หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ ยเทตํ ตยา ‘‘อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ วทตา ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ลทฺธิวเสน ‘‘อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ. กึ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ? อิตโร หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวา อภาวโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

ทุติยํ ปุฏฺโ ยสฺมา ตํ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ สงฺขํ คตํ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ยทิ เต ตํ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ‘หุตฺวา โหตี’ติ สงฺขํ คตํ, ปุน หุตฺวา โหติ, ยํ อนาคตํ น หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ น โหนฺตํ ‘น หุตฺวา น โหตี’ติ สงฺขํ คตํ สสวิสาณํ, กึ เต ตมฺปิ ปุน น หุตฺวา น โหตี’’ติอธิปฺปาเยน น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ ปฺหํ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘ยํ นตฺถิ, ตํ นตฺถิตาย, เอว อนาคตํ น หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ น โหตีติ นหุตฺวานโหติ นาม ตาว โหตุ, ปุน นหุตฺวานโหติภาโว ปนสฺส กุโต’’ติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ. ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีตนฺติ ปฺเหปิ ปจฺจุปฺปนฺนกฺขเณเยวสฺส อตีตตาย อภาวํ สนฺธาย กาลนานตฺตา ปฏิกฺขิปติ.

ทุติยปฺเห ปุฏฺโ ยํ อตีตภาวโต ปุพฺเพ ปจฺจุปฺปนฺนํ อโหสิ, ตสฺเสว อตีตตฺตา ปฏิชานาติ. หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ ยเทตํ ตยา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ หุตฺวา อตีตํ โหตี’’ติ วทตา ‘‘ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีต’’นฺติ ลทฺธิวเสน ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วา อตีตํ วา หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ, กึ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ? อิตโร หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวา อภาวโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

ทุติยปฺเห ยสฺมา ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ หุตฺวา อตีตํ โหนฺตํ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ สงฺขํ คตํ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ยทิ เต ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ หุตฺวา อตีตํ โหนฺตํ ‘หุตฺวา โหตี’ติ สงฺขํ คตํ, ปุน หุตฺวา โหติ, ยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ น หุตฺวา อตีตํ น โหนฺตํ ‘น หุตฺวา น โหตี’ติ สงฺขํ คตํ สสวิสาณํ, กึ เต ตมฺปิ ปุน น หุตฺวา น โหตี’’ติ อธิปฺปาเยน น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ ปฺหํ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘ยํ นตฺถิ, ตํ นตฺถิตาย เอว ปจฺจุปฺปนฺนํ น หุตฺวา อตีตํ น โหตีติ นหุตฺวานโหติ นาม ตาว โหตุ. ปุน นหุตฺวานโหติภาโว ปนสฺส กุโต’’ติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ. อุภยํ เอกโต กตฺวา อาคเต ตติยปฺเหปิ อิมินาวุปาเยน โยชนา กาตพฺพา.

อปโร นโย – ยทิ ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, อนาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺเน วุตฺโต โหติภาโว, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ อนาคเต วุตฺโต หุตฺวาภาโว อาปชฺชติ. เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ หุตฺวาโหติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ หุตฺวาโหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต เอเตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ? อิตโร – ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ ปฺเห ปฏิกฺขิตฺตนเยเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ทุติเย ปฺเห ปฏิฺาตนเยเนว ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ ปฺหาวเสน เตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ ปฏิชานนฺตํ ปุริมํ ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ ปริวตฺติตฺวา ปุจฺฉนฺโต น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ ปุจฺฉติ. ตสฺสตฺโถ – นนุ ‘‘ตยา ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺเต ปมปฺหํ ปฏิกฺขิปนฺเตน อนาคตสฺส โหติภาโว ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ หุตฺวาภาโว ปฏิกฺขิตฺโตติ. เตน อนาคตํ น โหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนํ น หุตฺวา นาม.

ทุติยปฺเห จ ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปฏิฺาตํ. เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ น หุตฺวา น โหติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ น หุตฺวา น โหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต เอเตสุ เอเกกํ น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ? ปรวาที สพฺพโต อนฺธกาเรน ปริโยนทฺโธ วิย เตสํ นหุตฺวานโหติภาวํ อปสฺสนฺโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

ทุติยวาเรปิ ยทิ ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีตํ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส อตีเต วุตฺโต โหติภาโว, อตีตสฺส จ ปจฺจุปฺปนฺเน วุตฺโต หุตฺวาภาโว อาปชฺชติ, เอวํ สนฺเต ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ หุตฺวาโหติ นาม, อตีตมฺปิ หุตฺวาโหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต เอเตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ? อิตโร ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีตนฺติปฺเห ปฏิกฺขิตฺตนเยเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ทุติยปฺเห ปฏิฺาตนเยเนว ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีต’’นฺติ ปฺหาวเสน เตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ ปฏิชานนฺตํ ปุริมํ ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ ปริวตฺติตฺวา ปุจฺฉนฺโต น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ ปุจฺฉติ. ตสฺสตฺโถ – นนุ ตยา ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีตนฺติ วุตฺเต ปมปฺหํ ปฏิกฺขิปนฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนสฺส โหติภาโว, อตีตสฺส จ หุตฺวาภาโว ปฏิกฺขิตฺโตติ. เตน ปจฺจุปฺปนฺนํ นโหติ นาม. อตีตํ นหุตฺวา นาม.

ทุติยปฺเห จ เต ‘‘ตฺเว ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีต’’นฺติ ปฏิฺาตํ. เอวํ สนฺเต ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ น หุตฺวา น โหติ นาม, อตีตมฺปิ น หุตฺวา น โหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต เอเตสุ เอเกกํ น หุตฺวา น โหติ, น หุตฺวา น โหตี’’ติ. ปรวาที สพฺพโต อนฺธกาเรน ปริโยนทฺโธ วิย เตสํ นหุตฺวานโหติภาวํ อปสฺสนฺโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

ตติยวาเรปิ ยทิ ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ตํ อตีตํ; อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ปจฺจุปฺปนฺนาตีเตสุ วุตฺโต โหติภาโว, ปจฺจุปฺปนฺนาตีตานฺจ อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ วุตฺโต หุตฺวาภาโว อาปชฺชติ. เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ หุตฺวาโหติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อตีตมฺปิ หุตฺวา โหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต ตีสุปิ เอเตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ? อิตโร ‘‘ตฺเว อนาคตํ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตํ อตีต’’นฺติปฺเห ปฏิกฺขิตฺตนเยเนว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ ทุติยปฺเห ปฏิฺาตนเยเนว ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ตฺเว อนาคตํ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตํ อตีต’’นฺติ ปฺหาวเสน เตสุ เอเกกํ หุตฺวา โหติ, หุตฺวา โหตีติ ปฏิชานนฺตํ ปุริมํ ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ ปริวตฺติตฺวา ปุจฺฉนฺโต น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ ปุจฺฉติ. ตสฺสตฺโถ – นนุ ตยา ตฺเว อนาคตํ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตํ อตีตนฺติ วุตฺเต ปมปฺหํ ปฏิกฺขิปนฺเตน อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ โหติภาโว; ปจฺจุปฺปนฺนาตีตานฺจ หุตฺวาภาโว ปฏิกฺขิตฺโตติ? เตน อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ น โหติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนฺจ อตีตฺจ น หุตฺวา นาม.

ทุติยปฺเห จ เต ‘‘ตฺเว อนาคตํ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตํ อตีต’’นฺติ ปฏิฺาตํ. เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ น หุตฺวา น โหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อตีตมฺปิ น หุตฺวา น โหติเยว นาม. เตน ตํ ปุจฺฉาม – ‘‘กึ เต เอเตสุ เอเกกํ น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ? ปรวาที สพฺพโต อนฺธกาเรน ปริโยนทฺโธ วิย เตสํ น หุตฺวา น โหติภาวํ อปสฺสนฺโต น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปตีติ. นิคฺคหาทีนิ ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพานิ.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตีตจกฺขุรูปาทิกถาวณฺณนา

๒๘๙. อตีตํ จกฺขุ อตฺถีติอาทีสุปิ จกฺขาทิภาวาวิชหเนเนว อตฺถิตํ ปฏิชานาติ. ปสฺสตีติอาทีนิ ปุฏฺโ ปน เตสํ วิฺาณานํ กิจฺจาภาววเสน ปฏิกฺขิปติ.

อตีตาณาทิกถาวณฺณนา

๒๙๐. เตน าเณน าณกรณียํ กโรตีติ ปฺเห ตสฺส าณสฺส นิรุทฺธตฺตา กิจฺจภาวมสฺส อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ อตีตารมฺมณํ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณํ อตีตานํ ธมฺมานํ ชานนโต อตีตํ าณนฺติ เลเสน ปจฺจุปฺปนฺนเมว ‘‘อตีตํ าณ’’นฺติ กตฺวา เตน าเณน าณกรณียสฺส อตฺถิตาย ปฏิชานาติ. อถสฺส สกวาที เลโสกาสํ อทตฺวา เตน าเณน ทุกฺขํ ปริชานาตีติอาทิมาห. อิตโร อตีตารมฺมเณเนว าเณน อิเมสํ จตุนฺนํ กิจฺจานํ อภาวา ปฏิกฺขิปติ. อนาคตปฺเหปิ เอเสว นโย. ปจฺจุปฺปนฺนปฺโห เจว สํสนฺทนปฺโห จ อุตฺตานตฺถาเยว.

อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา

๒๙๑. อรหโต อตีโต ราโค อตฺถีติอาทีสุปิ ราคาทิภาวาวิชหนฺโต เอวํ ปฏิชานาติ. สราโคติอาทีสุ สุตฺตวิโรธภเยน เจว ยุตฺติวิโรธภเยน จ ปฏิกฺขิปติ.

ปทโสธนกถาวณฺณนา

๒๙๕. เอวํ สพฺพมฺปิ ปาฬิอนุสาเรเนว วิทิตฺวา ปรโต อตฺถิ สิยา อตีตํ, สิยา นฺวาตีตนฺติ เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยํ อตีตเมว อตฺถิ, ตํ อตีตํ. ยํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํ อตฺถิ, ตํ โน อตฺถิ, ตํ โน อตีตํ. เตนาตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตํ อตีตนฺติ เตน การเณน อตีตํ โน อตีตํ, โน อตีตํ อตีตนฺติ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนปุจฺฉาสุปิ เอเสว นโย.

สุตฺตสาธนวณฺณนา

๒๙๖. วตฺตพฺพํ ‘‘อตีตํ อตฺถิ อนาคตํ อตฺถี’’ติ สุตฺตสาธนาย ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน อตฺตโน ลทฺธึ นิสฺสาย ยํกิฺจิ, ภิกฺขเว, รูปนฺติ อนุโยโค ปรวาทิสฺเสว. ทุติยนเย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เอวํ สพฺพตฺถ ปุจฺฉา จ ปฏิฺา จ เวทิตพฺพา. ยํ ปเนตํ ปรวาทินา อนาคตสฺส อตฺถิภาวสาธนตฺถํ ‘‘นนุ วุตฺตํ ภควตา กพฬีกาเร, เจ, ภิกฺขเว’’ติ สุตฺตสฺส ปริโยสาเน อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติอาทิ ทสฺสิตํ น ตํ อนาคตสฺส อตฺถิภาวสาธกํ. ตฺหิ เหตูนํ ปรินิฏฺิตตฺตา อวสฺสํ ภาวิตํ สนฺธาย ตตฺถ วุตฺตํ. อยํ สุตฺตาธิปฺปาโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อตีตกฺขนฺธาทิกถา

๑. นสุตฺตสาธนกถาวณฺณนา

๒๙๗. อิทานิ ‘‘อตีตํ ขนฺธา’’ติอาทิกถา โหติ. ตตฺถ ขนฺธาทิภาวาวิชหนโต อตีตานาคตานํ อตฺถิตํ อิจฺฉนฺตสฺส อตีตํ ขนฺธาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อตีตสฺส ขนฺธสงฺคหิตตฺตา อามนฺตาติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน อตีตํ นตฺถีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ตสฺส นิรุตฺติปถสุตฺเตน อตฺถิตาย วาริตตฺตา ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. อายตนธาตุปุจฺฉาสุปิ อนาคตปฺเหสุปิ ปจฺจุปฺปนฺเนน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อนุโลมปฏิโลมโต อาคตปฺเหสุปิ ‘‘อตีตํ รูป’’นฺติอาทิปฺเหสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๒. สุตฺตสาธนวณฺณนา

๒๙๘. สุตฺตสาธเน ปน น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ นตฺถิ เจเตติ นตฺถิ จ เอเต ธมฺมาติ อตฺโถ. ขนฺธาทิภาเว สติ นตฺถิตํ อนิจฺฉนฺตสฺส อามนฺตาติ ปฏิฺา ปรวาทิสฺส, อถ เนสํ นตฺถิภาวสาธนตฺถํ สุตฺตาหรณํ สกวาทิสฺส. ทุติยปุจฺฉาปิ ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺส, สุตฺตาหรณํ ปรวาทิสฺส. ตํ ปน เนสํ ขนฺธาทิภาวเมว สาเธติ, น อตฺถิภาวนฺติ อาหฏมฺปิ อนาหฏสทิสเมวาติ.

อตีตํ ขนฺธาติอาทิกถาวณฺณนา.

๗. เอกจฺจํอตฺถีติกถา

๑. อตีตาทิเอกจฺจกถาวณฺณนา

๒๙๙. อิทานิ เอกจฺจํ อตฺถีติ กถา โหติ. ตตฺถ เย ‘‘เอกจฺจํ อตีตํ อตฺถี’’ติ มฺนฺติ, เสยฺยถาปิ กสฺสปิกา; เตสํ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ อตีตํ อตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, เอกจฺจํ อตฺถีติ วิสฺสชฺชนํ ปรวาทิสฺส. อยฺหิ อธิปฺปาโย – อวิปกฺกวิปากํ อตฺถิ, วิปกฺกวิปากํ นตฺถีติ. เอกจฺจํ นิรุทฺธนฺติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – ยทิ เต อตีตํ เอกจฺจํ อตฺถิ เอกจฺจํ นตฺถิ, เอวํ สนฺเต เอกจฺจํ อตีตํ นิรุทฺธํ, เอกจฺจํ อตีตํ อนิรุทฺธํ, ตเถว ิตนฺติ อาปชฺชติ. วิคตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

อวิปกฺกวิปากธมฺมา เอกจฺเจติ อิทํ ยสฺมา เยสํ โส อวิปกฺกวิปากานํ อตฺถิตํ อิจฺฉติ, เตปิ อตีตาเยว. ตสฺมา ยถา เต อตีตํ เอกจฺจํ อตฺถิ, กึ ตถา อวิปกฺกวิปากาปิ ธมฺมา เอกจฺเจ อตฺถี เอกจฺเจ นตฺถีติ โจเทตุํ วุตฺตํ. วิปกฺกวิปากาติ อิทํ เยสํ โส นตฺถิตํ อิจฺฉติ, เตสํ วเสน โจเทตุํ วุตฺตํ. อวิปากาติ อิทํ อพฺยากตานํ วเสน โจเทตุํ วุตฺตํ. อิติ อิเมสํ ติณฺณํ ราสีนํ วเสน สพฺเพสุ อนุโลมปฏิโลเมสุ ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺพา. อตีตา เอกเทสํ วิปกฺกวิปากา, เอกเทสํ อวิปกฺกวิปากาติ วิปฺปกตวิปากา วุจฺจนฺติ. เยน หิ กมฺเมน ปฏิสนฺธิ นิพฺพตฺติตา, ภวงฺคมฺปิ จุติปิ ตสฺเสว วิปาโก. ตสฺมา ปฏิสนฺธิโต ยาว จุติ, ตาว ตํ วิปฺปกตวิปากํ นาม โหติ. ตถารูเป ธมฺเม สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

วิปจฺจิสฺสนฺตีติ กตฺวา เต อตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ยถา ธมฺมธรสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺทายนฺตสฺสาปิ พหุปวตฺติโน ธมฺมา อตฺถีติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โลกโวหารวเสน อตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. วิปจฺจิสฺสนฺตีติ กตฺวา ปจฺจุปนฺนาติ ทุติยปฺเห ‘‘กมฺมานํ อวินาสสงฺขาโต กมฺมูปจโย นาเมโก อตฺถี’’ติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส.

๒. อนาคตาทิเอกจฺจกถาวณฺณนา

๓๐๐. อนาคตํ อตฺถีติอาทีสุปิ เอกจฺจํ อตฺถีติ อุปฺปาทิโน ธมฺเม สนฺธาย วทติ. เสสํ สพฺพตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

เอกจฺจํอตฺถีติกถาวณฺณนา.

๘. สติปฏฺานกถาวณฺณนา

๓๐๑. อิทานิ สติปฏฺานกถา โหติ. ‘‘ตตฺถ – จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สติปฏฺานสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เยสํ กายาทโย สติยา อารมฺมณธมฺเม คเหตฺวา ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สติปฏฺานา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ. อนฺธกา นาม ปุพฺพเสลิยา, อปรเสลิยา, ราชคิริยา, สิทฺธตฺถิกาติ อิเม ปจฺฉา อุปฺปนฺนนิกายา. เตสํ ลทฺธิวิเวจนตฺถํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ปติฏฺาติ เอเตสูติ ปฏฺานา. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานา สติปฏฺานา’’ติ อิมินา อตฺเถน สติโคจราปิ สติปฏฺานา. ‘‘ปติฏฺหนฺตีติ ปฏฺานา. กา ปติฏฺหนฺติ? สติโย. สติโยว ปฏฺานา สติปฏฺานา’’ติ อิมินา อตฺเถน สติโยว สติปฏฺานา. ตสฺมา ทฺเวปิ วาทา ปริยาเยน ยุชฺชนฺติ. เย ปน ตํ ปริยายํ ปหาย เอกนฺเตเนว ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สติปฏฺานา’’ติ วทนฺติ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อารมฺมณวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. สพฺเพ ธมฺมา สตีติ อนุยุตฺตสฺส ปน สพฺเพสํ สติสภาวาภาวโต ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว. ตตฺถ ขยคามีติอาทีนิ มคฺควิเสสนานิ. เอกายนมคฺโค หิ กิเลสานํ ขยภูตํ นิพฺพานํ คจฺฉตีติ ขยคามี. จตฺตาริ สจฺจานิ พุชฺฌนฺโต คจฺฉตีติ โพธคามี. วฏฺฏํ อปจินนฺโต คจฺฉตีติ อปจยคามี. เอวเมเตหิ ปเทหิ ‘‘กึ เต สพฺเพ ธมฺมา เอวรูโป เต เอกายโน มคฺโค โหตี’’ติ ปุจฺฉติ. อนาสวา อสํโยชนิยาติอาทีนิปิ โลกุตฺตรภาวํ ปุจฺฉนตฺถาย วุตฺตานิ. พุทฺธานุสฺสตีติอาทีนิ ปเภทปุจฺฉาวเสน วุตฺตานิ.

จกฺขายตนํ สติปฏฺานนฺติอาทิ สพฺพธมฺมานํ ปเภทปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. ตตฺถาปิ สติวเสน ปฏิกฺเขโป, อารมฺมณวเสน ปฏิฺาติ. เอวํ สพฺพปฺเหสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุตฺตสาธนา อุตฺตานตฺถาเยวาติ.

สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เหวตฺถิกถาวณฺณนา

๓๐๔. อิทานิ เหวตฺถิกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺเพปิ อตีตาทิเภทา ธมฺมา รูปาทิวเสน อตฺถิ, อตีตํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน, อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ วา อตีตาทิวเสน นตฺถิ; ตสฺมา สพฺพเมวิทํ เอวํ อตฺถิ เอวํ นตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ วุตฺตปฺปเภทานํ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตีตํ อตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. เหวตฺถิ เหว นตฺถีติ วิสฺสชฺชนํ ปรวาทิสฺส. ตตฺถ เหวาติ เอวํ. อถ นํ สกวาที ‘‘ยทิ อตีโตว เอวํ อตฺถิ, เอวํ นตฺถีติ ลทฺธิ, เอวํ สนฺเต โสเยว อตฺถิ, โสเยว นตฺถิ นามา’’ติ ปุจฺฉนฺโต เสวตฺถิ, เสว นตฺถีติ อาห. อิตโร เตเนว สภาเวน อตฺถิตํ, เตเนว นตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ สกภาเวเนว อตฺถิตํ, ปรภาเวเนว นตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตโต ปรํ อตฺถฏฺโ นตฺถฏฺโติ อตฺถิสภาโว นตฺถิสภาโว นาม โหตีติ ปุจฺฉติ. อิมินาวุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปริโยสาเน ปน ‘‘เตน หิ อตีตํ เหวตฺถิ, เหว นตฺถี’’ติ จ ‘‘เตน หิ รูปํ เหวตฺถิ, เหว นตฺถี’’ติ จาติอาทีนิ วตฺวา กิฺจาปิ ปรวาทินา ลทฺธิ ปติฏฺาปิตา, อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา ปเนสา อปฺปติฏฺาปิตาเยวาติ.

เหวตฺถิกถาวณฺณนา.

มหาวคฺโค นิฏฺิโต.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. ปรูปหารวณฺณนา

๓๐๗. อิทานิ ปรูปหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺีนํ อธิมานิกานํ กุหกานํ วา อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ ทิสฺวา ‘‘มารกายิกา เทวตา อรหโต อสุจึ อุปสํหรนฺตี’’ติ มฺนฺติ; เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยา จ อปรเสลิยา จ; เต สนฺธาย อตฺถิ อรหโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อิทานิ ยสฺมา สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหติ, ตสฺมา อตฺถิ อรหโต ราโคติ อนุโยโค อารทฺโธ. โส สพฺโพปิ อุตฺตานตฺโถเยว.

มารกายิกา เทวตา อตฺตโนติอาทิปฺเห ยสฺมา ตาสํ เทวตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม นตฺถิ, อฺเสมฺปิ สุกฺกํ คเหตฺวา น อุปสํหรนฺติ, อรหโต ปน สุกฺกเมว นตฺถิ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

เนว อตฺตโนติปฺเห ปน นิมฺมินิตฺวา อุปสํหรนฺตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. โลมกูเปหีติปฺเห สปฺปิเตลานํ วิย โลมกูเปหิ อุปสํหรณาภาวํ ทิสฺวา ปฏิกฺขิปติ.

๓๐๘. หนฺท หีติ วจสายตฺเถ นิปาโต. ‘‘อรหา นุ โข อหํ, โน’’ติ เอวํ วิมตึ คาหยิสฺสามาติ เอวํ วจสายํ กตฺวา อุปสํหรนฺตีติ อตฺโถ. อตฺถิ อรหโต วิมตีติ ปุฏฺโ อฏฺวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ทุติยํ ปุฏฺโ อิตฺถิปุริสานํ นามโคตฺตาทีสุ สนฺนิฏฺานาภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๓๐๙. อตฺถิ ตสฺส อาสโยติ ตสฺส สุกฺกสฺส อุจฺจารปสฺสาวานํ วิย ปติฏฺาโนกาโส อตฺถีติ ปุจฺฉติ.

๓๑๒. สธมฺมกุสลสฺสาติ อตฺตโน อรหตฺตธมฺมมตฺเตเยว กุสลสฺส. ปฺาวิมุตฺตํ สนฺธาเยวํ วทติ. ปรธมฺมกุสลสฺสาติ สธมฺมโต ปรสฺมึ อฏฺสมาปตฺติธมฺเมปิ กุสลสฺส. อุภโตภาควิมุตฺตํ สนฺธาเยวํ วทติ. เสสเมตฺถ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ปรูปหารกถาวณฺณนา.

๒-๓-๔. อฺาณาทิกถาวณฺณนา

๓๑๔. อิทานิ อฺาณํ, กงฺขา, ปรวิตรณาติ ติสฺโส กถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อรหโต อิตฺถิปุริสาทีนํ นามโคตฺตาทีสุ าณปฺปวตฺติยา อภาเวน อตฺถิ อฺาณํ, ตตฺเถว สนฺนิฏฺานาภาเวน อตฺถิ กงฺขา. ยสฺมา จ เนสํ ตานิ วตฺถูนิ ปเร วิตรนฺติ ปกาเสนฺติ อาจิกฺขนฺติ, ตสฺมา เนสํ อตฺถิ ปรวิตรณา’’ติ อิมา ลทฺธิโย, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยาทีนํ; เตสํ ตา ลทฺธิโย ภินฺทิตุํ ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส. ตตฺถ สพฺเพสุปิ ปฺเหสุ เจว วิสฺสชฺชเนสุ จ ปาฬึ อนุคนฺตฺวาว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อฺาณาทิกถาวณฺณนา.

๕. วจีเภทกถาวณฺณนา

๓๒๖. อิทานิ วจีเภทกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ทุกฺขนฺติ วาจา ภิชฺชตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยาทีนํ; เต สนฺธาย สมาปนฺนสฺส อตฺถิ วจีเภโทติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน สพฺพตฺถาติ ตโย ภเว สนฺธาย ปุฏฺโ อรูปํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺพทาติ กาลวเสน ปุฏฺโ ปมมคฺคกฺขเณ ปมชฺฌานิกสมาปตฺติโต อฺํ สพฺพํ สมาปตฺติกาลํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺเพสํ สมาปนฺนานนฺติ ปุฏฺโ โลกิยสมาปตฺติโย สมาปนฺเน สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สพฺพสมาปตฺตีสูติ ปุฏฺโ ทุติยชฺฌานาทิกํ โลกุตฺตรํ สพฺพฺจ โลกิยสมาปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ.

กายเภโทติ อภิกฺกมาทิวเสน ปวตฺตกายวิฺตฺติ. อิทํ ‘‘ยานิ จิตฺตานิ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปนฺติ, ตาเนว กายวิฺตฺตึ. เอวํ สนฺเต กสฺมา กายเภโทปิ น โหตี’’ติ โจทนตฺถํ ปุจฺฉติ. อิตโร ลทฺธิวเสน ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. อิทานิ ยทิ โส มคฺคกฺขเณ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วาจํ ภาสติ, ‘‘สมุทโย’’ติอาทิกมฺปิ ภาเสยฺย. ยทิ วา ตํ น ภาสติ, อิตรมฺปิ น ภาเสยฺยาติ โจทนตฺถํ ทุกฺขนฺติ ชานนฺโตติอาทโย ปฺหา วุตฺตา. อิตโร ปน อตฺตโน ลทฺธิวเสเนว ปฏิชานาติ เจว ปฏิกฺขิปติ จ. โลกุตฺตรํ ปมชฺฌานํ สมาปนฺโน ทุกฺขทุกฺขนฺติ วิปสฺสตีติ หิสฺส ลทฺธิ.

๓๒๘. าณนฺติ โลกุตฺตรํ จตุสจฺจาณํ. โสตนฺติ โสตวิฺาณํ อธิปฺเปตํ, เยน ตํ สทฺทํ สุณาติ. ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติ โสตสมฺผสฺสมโนสมฺผสฺสานํ.

๓๒๙. โน วต เร วตฺตพฺเพติ ยทิ อวิเสเสน ยํกิฺจิ สมาปนฺนสฺส นตฺถิ วจีเภโท, น อวิเสเสน วตฺตพฺพํ ‘‘สมาปนฺนสฺส อตฺถิ วจีเภโท’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว สทฺธึ สุตฺตสาธนาย. ยํ ปเนเตน ‘‘สิขิสฺส อานนฺท, ภควโต’’ติ ปริโยสาเน สุตฺตํ อาภตํ, ตตฺถ เยน สมาปตฺติจิตฺเตน โส วจีเภโท สมุฏฺิโต, กายเภโทปิ เตน สมุฏฺาติเยว, น จ ตํ โลกุตฺตรํ ปมชฺฌานจิตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

วจีเภทกถาวณฺณนา.

๖. ทุกฺขาหารกถาวณฺณนา

๓๓๔. อิทานิ ทุกฺขาหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสนฺโต ทุกฺเข าณํ อาหรติ, ตํ ทุกฺขาหาโร นาม วุจฺจติ. ตฺจ ปเนตํ มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ทุกฺขาหาโรติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. เย เกจีติ ปมปฺเห อวิปสฺสเก สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ทุติยปฺเห วิปสฺสเก สนฺธาย ปฏิชานาติ, ตํ ปนสฺส ลทฺธิมตฺตเมว. ตสฺมา ‘‘สพฺเพ เต’’ติ วาทสฺส ภินฺทนตฺถํ พาลปุถุชฺชนาติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ทุกฺขาหารกถาวณฺณนา.

๗. จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา

๓๓๕. อิทานิ จิตฺตฏฺิติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมาปตฺติจิตฺตฺเจว ภวงฺคจิตฺตฺจ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘เอกเมว จิตฺตํ จิรํ ติฏฺตี’’ติ ลทฺธิ เสยฺยถาปิ เอตรหิ เหฏฺา วุตฺตปฺปเภทานํ อนฺธกานํ, ตํลทฺธิวิโสธนตฺถํ เอกํ, จิตฺตํ ทิวสํ ติฏฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. อุปฑฺฒทิวโส อุปฺปาทกฺขโณติ เอตฺถ ิติกฺขณํ อนามสิตฺวา ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓) เทสนานเยน อุปฺปาทวยวเสเนว ปุจฺฉา กตา.

เต ธมฺมา จิตฺเตน ลหุปริวตฺตาติ ปุฏฺโ จิตฺตโต ลหุตรปริวตฺติโน ธมฺเม อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยสฺส จิตฺตสฺส ทีฆฏฺิตึ อิจฺฉติ, ตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ยาวตายุกํ ติฏฺตีติ ปฺเห ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรู’’ติอาทิวจนวเสน (มหานิ. ๑๐) อารุปฺปโต อฺตฺร ปฏิกฺขิปติ, อารุปฺเป ปฏิชานาติ. มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปฺเห ปรวาทิสฺส ‘‘อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตวิโรธภเยน ปฏิชานาติ. ิตึ ปนสฺส ลทฺธิวเสน อิจฺฉติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา.

๘. กุกฺกุฬกถาวณฺณนา

๓๓๘. อิทานิ กุกฺกุฬกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติอาทีนิ (ธ. ป. ๒๗๘) สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘นิปฺปริยาเยเนว สพฺเพ สงฺขารา กุกฺกุฬา วีตจฺจิตงฺคารสมฺมิสฺสา ฉาริกนิรยสทิสา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ โคกุลิกานํ; เตสํ นานปฺปการสุขสนฺทสฺสเนน ตํ ลทฺธึ วิเวเจตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ อโนธึ กตฺวาติ โอธึ มริยาทํ โกฏฺาสํ อกริตฺวา, อวิเสเสน สพฺเพเยวาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สุตฺตสาธนายาติ.

กุกฺกุฬกถาวณฺณนา.

๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา

๓๓๙. อิทานิ อนุปุพฺพาภิสมยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ –

‘‘อนุปุพฺเพน เมธาวี, โถกํ โถกํ ขเณ ขเณ;

กมฺมาโร รชตสฺเสว, นิทฺธเม มลมตฺตโน’’ติ. (ธ. ป. ๒๓๙) –

อาทีนิ สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน เอกจฺเจ กิเลเส ทุกฺขทสฺสเนน ปชหติ, เอกจฺเจ สมุทยนิโรธมคฺคทสฺสเนน, ตถา เสสาปีติ เอวํ โสฬสหิ โกฏฺาเสหิ อนุปุพฺเพน กิเลสปฺปหานํ กตฺวา อรหตฺตปฏิลาโภ โหตี’’ติ เอวรูปา นานาภิสมยลทฺธิ อุปฺปนฺนา, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกสพฺพตฺถิกสมฺมิติยภทฺรยานิกานํ; เตสํ ลทฺธิวิเวจนตฺถํ อนุปุพฺพาภิสมโยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อนุปุพฺเพน โสตาปตฺติมคฺคนฺติ ปุฏฺโ ปน เอกสฺส มคฺคสฺส พหุภาวาปตฺติภเยน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ทุกฺขทสฺสนาทิวเสน ปฏิชานาติ. ตานิ วา จตฺตาริปิ าณานิ เอโก โสตาปตฺติมคฺโคเยวาติ ปฏิชานาติ, ผลํ ปน เอกเมว อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. สกทาคามิมคฺคาทีสุปิ เอเสว นโย.

๓๔๔. มคฺเค ทิฏฺเ ผเล ิโตติ ปฺเห ยสฺมา ทุกฺขทสฺสนาทีหิ ทสฺสนํ อปรินิฏฺิตํ, มคฺคทสฺสเนน ปรินิฏฺิตํ นาม โหติ, ตทา โส ผเล ิโตติ สงฺขํ คจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ.

๓๔๕. ทุกฺเข ทิฏฺเ จตฺตาริ สจฺจานีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, เอกาภิสมยวเสน ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปุน ทุกฺขสจฺจํ จตฺตาริ สจฺจานีติ อนุโยเค จตุนฺนมฺปิ นานาสภาวตฺตา ปฏิกฺเขโป ตสฺเสว.

รูปกฺขนฺเธ อนิจฺจโต ทิฏฺเติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, สมุทฺทโต เอกพินฺทุสฺส รเส ปฏิวิทฺเธ เสสอุทกสฺส ปฏิเวโธ วิย เอกธมฺเม อนิจฺจาทิโต ปฏิวิทฺเธ สพฺเพปิ ปฏิวิทฺธา โหนฺตีติ ลทฺธิยา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส.

จตูหิ าเณหีติ ทุกฺเข าณาทีหิ. อฏฺหิ าเณหีติ สาวกานํ สาธารเณหิ สจฺจาเณหิ เจว ปฏิสมฺภิทาาเณหิ จ. ทฺวาทสหิ าเณหีติ ทฺวาทสงฺคปฏิจฺจสมุปฺปาทาเณหิ. จตุจตฺตารีสาย าเณหีติ ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณ’’นฺติ เอวํ นิทานวคฺเค วุตฺตาเณหิ. สตฺตสตฺตติยา าเณหีติ ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) เอวํ ตตฺเถว วุตฺตาเณหิ. เสสเมตฺถ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สุตฺตสาธเนนาติ.

อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา.

๑๐. โวหารกถาวณฺณนา

๓๔๗. อิทานิ โวหารกถา นาม โหติ. ตตฺถ พุทฺโธ ภควา โลกุตฺตเรน โวหาเรน โวหรตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิวเสน ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. โลกุตฺตเร โสเตติอาทีนิ ตสฺส อยุตฺตวาทีภาวทีปนตฺถํ วุตฺตานิ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘สทฺทายตนเมว เต โลกุตฺตรํ, อุทาหุ โสตาทีนิปี’’ติ.

หฺจิ พุทฺธสฺส ภควโต โวหาโร โลกิเย โสเต ปฏิหฺตีติ เอตฺถ ยทิ โส โลกุตฺตเร ปฏิหฺเยฺย. โลกุตฺตโร สิยาติ เอวมตฺโถ น คเหตพฺโพ. โลกิเย ปฏิหฺมานสฺส ปน โลกุตฺตรตา นาม นตฺถีติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. โลกิเยน วิฺาเณนาติ เอตฺถาปิ โลกิเยเนวาติ อตฺโถ. อิตรถา อเนกนฺตตา สิยา. โลกุตฺตรฺหิ โลกิเยนปิ าเณน ายตี. เอวํ สพฺพํ ยถานุรูปโต เวทิตพฺพํ. สพฺเพ เต มคฺคํ ภาเวนฺตีติ ปฺเหสุ เย มคฺคํ นปฺปฏิลภนฺติ, เต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. เย ปฏิลภนฺติ, เต สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๓๕๑. โสวณฺณมยายาติ สุวณฺณมยาย. อิทํ ปรวาทิสฺส อุทาหรณํ.

เอฬณฺฑิยายาติ เอฬณฺฑมยาย. อิทํ สกวาทิสฺส อุทาหรณํ. โลกิยํ โวหรนฺตสฺส โลกิโยติ อยมฺปิ เอกา ลทฺธิ. สา เอตรหิ เอกจฺจานํ อนฺธกานํ ลทฺธิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

โวหารกถาวณฺณนา.

๑๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๓๕๓. อิทานิ นิโรธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อปฺปฏิสงฺขานิโรธฺจ ปฏิสงฺขานิโรธฺจ ทฺเวปิ เอกโต กตฺวา นิโรธสจฺจนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ มหิสาสกานฺเจว อนฺธกานฺจ; เต สนฺธาย ทฺเว นิโรธาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ทฺเว ทุกฺขนิโรธาติ ปฺเหสุ ยสฺมา ทฺเว ทุกฺขสจฺจานิ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ยสฺมา ทฺวีหากาเรหิ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตีติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. ทฺเว นิโรธสจฺจานีติปฺเหสุ ทฺวินฺนํ ทุกฺขสจฺจานํ นิโรธวเสนอนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทฺวีหากาเรหิ ทุกฺขสฺส นิรุชฺฌนโต ปฏิชานาติ. ทฺเว ตาณานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

อตฺถิ ทฺวินฺนํ นิพฺพานานนฺติอาทีสุ ปุจฺฉาสุ อุจฺจนีจตาทีนิ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺเธติ เย ปฏิสงฺขาย โลกุตฺตเรน าเณน อนิรุทฺธา สุทฺธปกติกตฺตา วา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ วา วเสน น สมุทาจรณโต นิรุทฺธาติ วุจฺจนฺติ, เต สงฺขาเร. ปฏิสงฺขา นิโรเธนฺตีติ. โลกุตฺตราเณน นิโรเธนฺติ อนุปฺปตฺติภาวํ คเมนฺติ. นนุ อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺธา สงฺขาราติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ตตฺถ ภคฺคานํ ปุน อภฺชนโต อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺธานํ วา อริยมคฺเค อุปฺปนฺเน ตถา นิรุชฺฌนโตว สกวาที อจฺจนฺตภคฺคตํ ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

นิโรธกถาวณฺณนา.

ทุติโย วคฺโค.

๓. ตติยวคฺโค

๑. พลกถาวณฺณนา

๓๕๔. อิทานิ พลกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อนุรุทฺธสํยุตฺเต ‘‘อิเมสฺจ ปนาหํ, อาวุโส, จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานามี’’ติอาทีนิ (สํ. นิ. ๕.๙๑๓) ทสสุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ตถาคตพลํ สาวกสาธารณ’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ตถาคตพลฺจ นาเมตํ สาวเกหิ สาธารณมฺปิ อตฺถิ อสาธารณมฺปิ สาธารณาสาธารณมฺปิ. ตตฺถ อาสวานํ ขเย าณํ สาธารณํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณํ อสาธารณํ. เสสํ สาธารณฺจ อสาธารณฺจ. านาฏฺานาทีนิ หิ สาวกา ปเทเสน ชานนฺติ, ตถาคตา นิปฺปเทเสน. อิติ ตานิ อุทฺเทสโต สาธารณานิ, น นิทฺเทสโต. อยํ ปน อวิเสเสน สพฺพมฺปิ สาธารณนฺติ อาห. ตเมนํ ตโต วิเวเจตุํ ตถาคตพลํ สาวกพลนฺติ ปุน อนุโยโค อารทฺโธ. ตตฺถ ปมปฺเห นิทฺเทสโต สพฺพาการวิสยตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห อุทฺเทสโต านาฏฺานมตฺตาทิชานนวเสน ปฏิชานาติ. ตฺเวาติอาทิปฺเหสุ สพฺพากาเรน นินฺนานากรณตาย อภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ปุพฺพโยโคปุพฺพจริยา จ อตฺถโต เอกํ, ตถา ธมฺมกฺขานฺจ ธมฺมเทสนา จ.

อินฺทฺริยปโรปริยตฺติปฺเห เอกเทเสน สาธารณตํ สนฺธาย สาวกวิสเย ปฏิชานาติ.

๓๕๕. อิทานิ ยสฺมา อุทฺเทสโต านาฏฺานาทีนิ สาวโก ชานาติ, ตสฺมา สาวกสฺส ตถา ชานนํ ปกาเสตฺวา เตน ชานนมตฺตสามฺเน เตสํ สาวกสาธารณตฺตํ ปติฏฺาเปตุํ สาวโก านาฏฺานํ ชานาตีติอาทโย ปรวาทิปฺหา โหนฺติ. ตตฺถ อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาณํ ฉนฺนํ อสาธารณาณานํ อฺตรนฺติ น คหิตํ. อาสวกฺขเยน วา อาสวกฺขยนฺติ ยํ ตถาคตสฺส อาสวกฺขเยน สทฺธึ สาวกสฺส อาสวกฺขยํ ปฏิจฺจ วตฺตพฺพํ สิยา นานากรณํ, ตํ นตฺถิ. วิมุตฺติยา วา วิมุตฺตินฺติ ปเทปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๓๕๖. อิทานิ ยํ สกวาทินา ‘‘อาสวานํ ขเย าณํ สาธารณ’’นฺติ อนุฺาตํ, เตน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เสสานมฺปิ สาธารณภาวํ ปุจฺฉิตุํ ปุน อาสวานํ ขเยติอาทโย ปรวาทิปฺหาว โหนฺติ. เตสํ วิสฺสชฺชเน สกวาทินา อาสวกฺขเย วิเสสาภาเวน ตํ าณํ สาธารณนฺติ อนุฺาตํ. อิตเรสุปิ วิเสสาภาเวน สาธารณตา ปฏิกฺขิตฺตา. ปุน านาฏฺานาทีนํ อาสวกฺขเยเนว สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อสาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺเสว. ตตฺถ อาสวกฺขยาเณ ปฏิกฺเขโป, เสเสสุ จ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต อินฺทฺริยปโรปริยตฺเตน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อสาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. สา สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตา. ตถาปิ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต ปฏิฺา, เสเสสุ จ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. ตโต านาฏฺานาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตสฺส สาธารณปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. สาปิ สงฺขิปิตฺวาว ทสฺสิตา. ตตฺถ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต ปฏิกฺเขโป. เสเสสุ จ ปฏิฺา สกวาทิสฺสาติ.

พลกถาวณฺณนา.

๒. อริยนฺติกถาวณฺณนา

๓๕๗. อิทานิ อริยนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘น เกวลํ อาสวกฺขยาณเมว อริยํ, อถ โข ปุริมานิปิ นว พลานิ อริยานิ’’จฺเจว ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อริยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน ยทิ ตํ อริยํ, มคฺคาทีสุ เตน อฺตเรน ภวิตพฺพนฺติ มคฺคาทิวเสน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส.

ปุน สุฺตารมฺมณาทิวเสน ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ ทฺเว สุฺตา – สตฺตสุฺตา จ สงฺขารสุฺตา จ. สตฺตสุฺตา นาม ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺา ปฺจกฺขนฺธา. สงฺขารสุฺตา นาม สพฺพสงฺขาเรหิ สุฺํ วิวิตฺตํ นิสฺสฏํ นิพฺพานํ. ตตฺถ ปรวาที นิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สงฺขารารมฺมณตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. มนสิ กโรตีติ ปุฏฺโปิ นิพฺพานเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตโต สกวาทินา ‘‘านาฏฺานาทิมนสิกาโร สงฺขารารมฺมโณ, สุฺตมนสิกาโร นิพฺพานารมฺมโณ’’ติ อิมํ นยํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ สโมธานํ โหตี’’ติ ปุฏฺโ เลโสกาสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย. สตฺตนิมิตฺตาภาวโต หิ ขนฺธา อนิมิตฺตา. สงฺขารนิมิตฺตาภาวโต นิพฺพานํ. เอกธมฺมสฺมิมฺปิ อาโรเปตฺวา เปตพฺพสงฺขาเตน จ ปณิทหิตพฺพฏฺเน ปณิหิตสงฺขํ คเตน สตฺตปณิธินา อปฺปณิหิตา ขนฺธา. ตณฺหาปณิธินา ตณฺหาย วา อารมฺมณภูเตน สพฺพสงฺขารปณิธินา อปฺปณิหิตํ นิพฺพานํ. ตสฺมา อิธาปิ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา.

๓๕๘. ตโต ‘‘ยถา สติปฏฺานาทโย โลกุตฺตรธมฺมา อริยา เจว สุฺตาทิอารมฺมณา จ, กึ เต เอวํ านาฏฺานาณ’’นฺติ อนุโลมปฏิโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตตฺถ สพฺพาปิ ปฏิฺา สพฺเพ จ ปฏิกฺเขปา ปรวาทิสฺเสว. อิมินาวุปาเยน เสสาเณสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน เสสานิ สงฺขิปิตฺวา อวสาเน จุตูปปาตาณเมว วิภตฺตํ. ตโต ปรํ สกสมเยปิ ‘‘อริย’’นฺติ สิทฺเธน อาสวานํ ขยาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เสสาณานํ อนุโลมโต จ ปฏิโลมโต จ อริยภาวปุจฺฉา โหนฺติ. ตา สพฺพา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา ปฏิกฺเขโป จ สกวาทิสฺส. เต อุตฺตานตฺถาเยว. ปาฬิยํ ปเนตฺถ ปมนวมาเนว ทสฺเสตฺวา สตฺต าณานิ สงฺขิตฺตานีติ.

อริยนฺติกถาวณฺณนา.

๓. วิมุตฺติกถาวณฺณนา

๓๖๓. อิทานิ วิมุตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘วีตราคจิตฺตานํ วิมุตฺติปโยชนํ นาม นตฺถิ. ยถา ปน มลีนํ วตฺถํ โธวิยมานํ มลา วิมุจฺจติ, เอวํ สราคํ จิตฺตํ ราคโต วิมุจฺจตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สราคนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ราคสหคตนฺติอาทินา นเยน ปุฏฺโ มคฺคกฺขเณ จิตฺตํ วิมุจฺจติ นาม. ตทา จ เอวรูปํ จิตฺตํ นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ.

สผสฺสนฺติอาทินา นเยน ปุฏฺโปิ ยถา ผสฺโส จ จิตฺตฺจ อุโภ ราคโต วิมุจฺจนฺติ, เอวํ ราคสฺส วิมุตฺตึ อปสฺสมาโน ปฏิกฺขิปติ. สโทสาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

วิมุตฺติกถาวณฺณนา.

๔. วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา

๓๖๖. อิทานิ วิมุจฺจมานกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ฌาเนน วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุจฺจมานํ นาม โหตี’’ติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรส.

ปุน เอกเทสนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ เอกเทสนฺติ ภาวนปุํสกํ. ยถา วิมุตฺตํ, เอกเทเสน วา เอกเทเส วา อวิมุตฺตํ โหติ กึ เอวํ เอกเทสํ วิมุตฺตํ, เอกเทสํ อวิมุตฺตนฺติ ปุจฺฉติ. กึ การณา เอวํ ปุจฺฉตีติ? ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมาน’’นฺติ วิปฺปกตภาเวน วุตฺตตฺตา. ยถา หิ กริยมานา กฏาทโย วิปฺปกตตฺตา เอกเทเสน กตา เอกเทเสน อกตา โหนฺติ, ตถา อิทมฺปิ เอกเทสํ วิมุตฺตํ เอกเทสํ อวิมุตฺตนฺติ อาปชฺชติ. ตโต ปรวาที กฏาทีนํ วิย จิตฺตสฺส เอกเทสาภาวา ปมปฺเห ปฏิกฺขิปิตฺวา ทุติเย วิมุจฺจมานสฺส อปรินิฏฺิตวิมุตฺติตาย ปฏิชานาติ. โลกิยชฺฌานกฺขณํ วา สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. น หิ ตํ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุจฺจมานํ. โลกุตฺตรชฺฌานกฺขณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตฺหิ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺเตกเทเสน วิมุจฺจมานนฺติสฺส ลทฺธิ. ตโต สกวาที ‘‘ยทิ เต เอกเมว จิตฺตํ เอกเทสํ วิมุตฺตํ เอกเทสํ อวิมุตฺตํ, เอวํ สนฺเต โย เอเกเนว จิตฺเตน โสตาปนฺโน โหติ, โสปิ เต เอกเทสํ โสตาปนฺโน, เอกเทสํ น โสตาปนฺโน อาปชฺชตี’’ติ โจทนตฺถํ เอกเทสํ โสตาปนฺโนติอาทิมาห. อิตโร ตํ วิธานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.

อุปฺปาทกฺขณปฺเห ยทิ เอกเมว จิตฺตํ วิมุตฺตฺจ วิมุจฺจมานฺจ, เอกสฺมึ ขเณ วิมุตฺตํ เอกสฺมึ วิมุจฺจมานํ อาปชฺชติ. กึ เต เอวรูปํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ.

๓๖๗. สุตฺตสาธเน ปมสุตฺตํ ปรวาทิสฺส. ตตฺราสฺสายมธิปฺปาโย – วิมุจฺจตีติ วิปฺปกตนิทฺเทโส. ตสฺมา ยํ ตสฺส โยคิโน เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต เอเตหิ อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ตํ วิมุจฺจมานํ นาม โหตีติ. ทุติยสุตฺตํ สกวาทิสฺส. ตตฺราสฺสายมธิปฺปาโย – ยทิ เต วิมุจฺจตีติ วจนโต วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานํ, อิธ วิมุจฺจตีติ วจนาภาวโต วิมุตฺตเมว สิยา, น วิมุจฺจมานนฺติ.

อิทานิ ‘‘ยถา เต วิปฺปกตวิมุตฺติตาย วิมุจฺจมานํ, กึ เอวํ วิปฺปกตราคาทิตาย รชฺชมานาทีนิปิ อตฺถี’’ติ โจทนตฺถํ ปุน อตฺถิ จิตฺตนฺติอาทิ อารทฺธํ. ปรวาทินาปิ ตถารูปํ จิตฺตํ อปสฺสนฺเตน สพฺพํ ปฏิกฺขิตฺตํ. อถ นํ สกวาที ‘‘ทฺเวเยว โกฏิโย, ตติยา นตฺถี’’ติ อนุโพเธนฺโต นนุ รตฺตฺเจว อรตฺตฺจาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – นนุ ภทฺรมุข, ราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ รตฺตํ วิปฺปยุตฺตํ อรตฺตนฺติ ทฺเวว โกฏิโย, รชฺชมานํ นาม ตติยา โกฏิ นตฺถีติ? ทุฏฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อถ นํ อามนฺตาติ ปฏิชานิตฺวา ิตํ. วิมุตฺติปกฺเขปิ ทฺเวเยว โกฏิโย ทสฺเสตุํ หฺจิ รตฺตฺเจวาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยทิ เอตา ทฺเว โกฏิโย สมฺปฏิจฺฉสิ, อวิมุตฺตฺเจว วิมุตฺตฺจา ติ อิมาปิ สมฺปฏิจฺฉ. กิเลสสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ อวิมุตฺตํ, วิปฺปยุตฺตํ วิมุตฺตํ. วิมุจฺจมานํ นามาติ ปรมตฺถโต ตติยา โกฏิ นตฺถีติ.

วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา.

๕. อฏฺมกกถาวณฺณนา

๓๖๘. อิทานิ อฏฺมกกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อนุโลมโคตฺรภุมคฺคกฺขเณ กิเลสานํ สมุทาจาราภาวโต อฏฺมกสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺปุคฺคลสฺส ทฺเว ปริยุฏฺานา ปหีนาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เตสํ อฺตรํ สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, มคฺคกฺขณโต ปฏฺาย ทิฏฺิยา อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา ทิฏฺิ นาเมสา โสตาปนฺนสฺเสว ปหีนา, น มคฺคฏฺสฺส, ตสฺมา อฏฺมโก ปุคฺคโล โสตาปนฺโนติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. วิจิกิจฺฉาปฺเหปิ เอเสว นโย. อนุสยปฺเห ปริยุฏฺานโต อฺโ อนุสโยติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

สีลพฺพตปรามาสปฺเหปิ สีลพฺพตปรามาสปริยุฏฺานนฺติ โวหารํ น ปสฺสติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ปริยุฏฺานเมวสฺส ปหีนนฺติ ลทฺธิ.

๓๖๙. มคฺโค ภาวิโตติ ปฺเห ตสฺมึ ขเณ ภาเวติ, น ภาวิโต. ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. อมคฺเคนาติอาทิอนุโยเค ปมมคฺเคเนว ปหีนภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ยทิ หิ อมคฺเคน ปหีเยถ, โคตฺรภุปุคฺคลาทีนมฺปิ ปหีเยถาติ อาปชฺชนโต. อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, วิสฺสชฺชนํ สกวาทิสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อฏฺมกกถาวณฺณนา.

๖. อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๓๗๑. อิทานิ อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อฏฺมโก มคฺคกฺขเณ อินฺทฺริยานิ ปฏิลภติ นาม, โน จสฺส ปฏิลทฺธานิ โหนฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย นตฺถิ สทฺธินฺทฺริยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. นตฺถิ สทฺธาติ ปุฏฺโ ปน สทฺธินฺทฺริยโต สทฺธาย นานตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา ปฏิกฺขิปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยถา ปน ยสฺส อตฺถิ มโน, ตสฺส มนินฺทฺริยมฺปิ อตฺถิ; เอวํ ยสฺส สทฺธาทโย อตฺถิ, ตสฺส อตฺถิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิปีติ ทีปนตฺถํ อตฺถิ มโน อตฺถิ มนินฺทฺริยนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว สทฺธึ สุตฺตสาธเนนาติ.

อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา.

๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา

๓๗๓. อิทานิ ทิพฺพจกฺขุกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ จตุตฺถชฺฌานธมฺมูปตฺถทฺธํ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขุ นาม โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย มํสจกฺขุนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

ปุน ‘‘มํสจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ มํสจกฺขู’’ติ ปุฏฺโ ตํ มตฺตเมว ตํ น โหตีติ ปฏิกฺขิปติ. ยาทิสนฺติอาทิปุจฺฉาสุปิ อุภินฺนํ เอกสภาวาภาเวเนว ปฏิกฺขิปติ.

วิสโยติอาทีสุ อุภินฺนมฺปิ รูปายตนเมว วิสโย. มํสจกฺขุ ปน อาปาถคตเมว ปสฺสติ. อิตรํ อนาปาถคตํ ติโรปพฺพตาทิคตมฺปิ. ทิพฺพจกฺขุสฺส จ อติสุขุมมฺปิ รูปํ โคจโร, น ตาทิสํ อิตรสฺสาติ เอวเมเตสํ อานุภาวโคจรา อสทิสา.

อุปาทิณฺณํ หุตฺวา อนุปาทิณฺณํ โหตีติ ปุฏฺโ ยสฺมา มํสจกฺขุ อุปาทิณฺณํ, ทิพฺพจกฺขุ อนุปาทิณฺณํ, น จ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยสฺมา ‘‘มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท, มคฺโค ทิพฺพสฺส จกฺขุโน’’ติ วจนํ นิสฺสาย มํสจกฺขุปจฺจยา ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ รูปาวจริกานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสาโทติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. กามาวจรํ หุตฺวาติ ปุฏฺโปิ ยสฺมา น มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยน อุปฺปนฺนตฺตา รูปาวจรํ นาม ชาตนฺติ ปฏิชานาติ.

รูปาวจรํ หุตฺวา อรูปาวจรนฺติ ปุฏฺโปิ ตโต ปรํ ภาวนาย อรูปาวจรกฺขเณ รูปาวจรจิตฺตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อรูปาวจริกานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสาโท หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อปริยาปนฺนภาวํ ปนสฺส น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติเยว.

๓๗๔. ทิพฺพจกฺขุํ ธมฺมุปตฺถทฺธนฺติ กามาวจรธมฺเมน อุปตฺถมฺภิตํ หุตฺวา. ปุน ธมฺมุปตฺถทฺธนฺติ โลกุตฺตรธมฺเมน อุปตฺถทฺธํ. ทฺเวว จกฺขูนีติ ปุฏฺโ กิฺจาปิ ทิพฺพจกฺขุโน ธมฺมุปตฺถทฺธสฺส ปฺาจกฺขุภาวํ น อิจฺฉติ, ปฺาจกฺขุสฺส ปน อตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ มํสจกฺขุ ธมฺมุปตฺถทฺธํ ทิพฺพจกฺขุ โหตีติ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา.

๘. ทิพฺพโสตกถาวณฺณนา

๓๗๕. อิทานิ ทิพฺพโสตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เอกํเยว โสตนฺติ ปุฏฺโ ทฺวินฺนํ อตฺถิตาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ยสฺมา ตเทว ธมฺมุปตฺถทฺธํ ทิพฺพโสตํ นาม โหติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

ทิพฺพโสตกถาวณฺณนา.

๙. ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา

๓๗๗. อิทานิ ยถากมฺมูปคตาณกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๖) สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ยถากมฺมูปคตาณเมว ทิพฺพจกฺขุนฺติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน ยถากมฺมูปคตฺจ มนสิ กโรตีติ ปุฏฺโ เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณทฺวยาภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ นานาจิตฺตวเสน ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. อิติ ยถา อิมินา ยถากมฺมูปคตปเทน, เอวเมว อิเม วต โภนฺโต, สตฺตาติอาทิปเทหิปิ สทฺธึ โยชนาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๗๘. อายสฺมา สาริปุตฺโต ยถากมฺมูปคตํ าณํ ชานาตีติ อิทํ สกวาที ยสฺมา เถโร อปฺปิจฺฉตาย อภิฺาาณานิ น วฬฺเชตีติ เอกจฺเจ น ชานนฺติ, ตานิ ปนสฺส เนว อตฺถีติ มฺนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุโน อลาภี เถโร’’ติ มฺมานํ ปุจฺฉติ. เตเนว การเณน ‘‘อตฺถายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทิพฺพจกฺขู’’ติ ปรโต ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ, สพฺพํ ตํ เถเรน อนุปฺปตฺตนฺติ ปฏิชานาติ. อิทานิสฺส วิกฺเขปํ กโรนฺโต สกวาที นนุ อายสฺมา สาริปุตฺโตติอาทิมาห. อิมฺหิ คาถํ เถโร วฬฺชนปณิธิยา เอว อภาเวน อาห, น อภิฺาาณสฺส อภาเวน. ปรวาที ปน อภาเวเนวาติ อตฺถํ สลฺลกฺเขติ. ตสฺมา ตสฺส ลทฺธิยา เถรสฺส ยถากมฺมูปคตาณเมว อตฺถิ, โน ทิพฺพจกฺขุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เตน หิ น วตฺตพฺพํ ยถากมฺมูปคตาณํ ทิพฺพจกฺขู’’ติ.

ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา.

๑๐. สํวรกถาวณฺณนา

๓๗๙. อิทานิ สํวรกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ตาวตึเส เทเว อุปาทาย ตตุตฺตริ เทเวสุ ยสฺมา เต ปฺจ เวรานิ น สมาจรนฺติ, ตสฺมา สํวโร อตฺถีติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, เวรสมุทาจารํ อปสฺสโต ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา สํวโร นาม สํวริตพฺเพ อสํวเร สติ โหติ, ตสฺมา อสํวรปุจฺฉา สกวาทิสฺส, เทเวสุ ปาณาติปาตาทีนํ อภาเวน ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส.

อตฺถิ มนุสฺเสสูติอาทิ สํวเร สติ อสํวรสฺส อสํวเร จ สติ สํวรสฺส ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๓๘๐. ปาณาติปาตา เวรมณีติ อาทิปฺเหสุ ปาณาติปาตาทีนํ อสมาจรณวเสน ปฏิฺา, ปาณาติปาตาทีนํ นตฺถิตาย ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. ปฏิโลมปฺหา อุตฺตานตฺถาเยว.

อวสาเน นตฺถิ เทเวสุ สํวโรติปฺเห ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ปุน ตโต สํวราภาวํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต ฉลวเสน ยทิ สํวโร นตฺถิ, สพฺเพ เทวา ปาณาติปาติโนติอาทิปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. เทวานํ เวรสมุทาจารสฺส อภาเวน ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส. นเหวนฺติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปรวาทิสฺส. เอวํ ปติฏฺิตา ปน ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.

สํวรกถาวณฺณนา.

๑๑. อสฺกถาวณฺณนา

๓๘๑. อิทานิ อสฺกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วจนโต วินา วิฺาเณน ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. ‘‘สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ วจนโต อสฺสตฺตานมฺปิ จุติปฏิสนฺธิกฺขเณ สฺา อตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต นํ สกวาที ‘‘กึ เต ตํ านํ สฺาภโว’’ติอาทีหิ โจเทตุํ สฺาภโว สฺาคตีติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ ตโต ปรฺจ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อสฺกถาวณฺณนา.

๑๒. เนวสฺานาสฺายตนกถาวณฺณนา

๓๘๔. อิทานิ เนวสฺานาสฺายตนกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วจนโต น วตฺตพฺพํ ‘‘ตสฺมึ ภเว สฺา อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ สพฺพํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

เนวสฺานาสฺายตนกถาวณฺณนา.

ตติโย วคฺโค.

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา

๓๘๗. อิทานิ คิหิสฺส อรหาติ กถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ยสกุลปุตฺตาทีนํ คิหิพฺยฺชเน ิตานํ อรหตฺตปฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘คิหิ อสฺส อรหา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ คิหิสฺสาติ โย คิหิสํโยชนสมฺปยุตฺตตาย คิหิ, โส อรหํ อสฺสาติ อตฺโถ. ปรวาที ปน อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขตฺวา คิหิพฺยฺชนมตฺตเมว ปสฺสนฺโต ปฏิชานาติ. อิทานิสฺส ‘‘คิหิ นาม คิหิสํโยชเนน โหติ, น พฺยฺชนมตฺเตน. ยถาห ภควา –

‘อลงฺกโต เจปิ สมํ จเรยฺย,

สนฺโต ทนฺโต นิยโต พฺรหฺมจารี;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,

โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขู’’’ติ. (ธ. ป. ๑๔๒);

อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ อตฺถิ อรหโตติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา.

๒. อุปปตฺติกถาวณฺณนา

๓๘๘. อิทานิ อุปปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โอปปาติโก โหติ ตตฺถปรินิพฺพายี’’ติวจนานิ (ปุ. ป. ๓๕-๔๐) อโยนิโส คเหตฺวา สุทฺธาวาเสสุ อุปปตฺติยา อรหาติ ลทฺธิ, ‘‘เยสํ วา อุปหจฺจปรินิพฺพายี’’ติ ปทํ ปริวตฺติตฺวา ‘‘อุปปชฺชปรินิพฺพายี’’ติ ปริยาปุณนฺตานํ สห อุปปตฺติยา อรหา โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ ยสฺมา อุปปตฺติจิตฺตํ นาม โลกิยํ, เตน โสตาปนฺนาทโยปิ น โหนฺติ, ปเคว อรหา. ตสฺมาสฺส อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ สห อุปปตฺติยา โสตาปนฺโนติอาทิ อารทฺธํ.

๓๘๙. สาริปุตฺโตติอาทิ อิเมสุ มหาเถเรสุ โก เอโกปิ สห อุปปตฺติยา อรหา นามาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ.

๓๙๐. อุปปตฺเตสิเยนาติ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน. ตฺหิ อุปปตฺตึ เอสติ คเวสติ, ตสฺมา อุปปตฺเตสิยนฺติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อุปปตฺติกถาวณฺณนา.

๓. อนาสวกถาวณฺณนา

๓๙๑. อิทานิ อนาสวกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย ธมฺมา อนาสวสฺส อรหโต, สพฺเพ เต อนาสวาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อรหโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ อนาสวา นาม มคฺคาทโย, กึ ตสฺส เตเยว อุปฺปชฺชนฺตีติ โจทนตฺถํ มคฺโค ผลนฺติอาทิ อารทฺธํ. จกฺขุ อนาสวนฺติ ปุฏฺโ ตสฺส สาสวตฺตา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนาสวสฺเสตนฺติ ปฏิชานาติ.

๓๙๒. จีวรปฺเห เอโกว ธมฺโม อนาสโว สาสโว จ โหตีติ ลกฺขณวิโรธภยา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนาสวสฺส หุตฺวา สาสวสฺส โหตีติ ปฏิชานาติ. ตฺเว อนาสวนฺติ ปฺหาทฺวเยปิ เอเสว นโย. สกวาที ปน ตฺเวาติ อนุฺาตตฺตา ‘‘มคฺโค อนาสโว หุตฺวา’’ติอาทีหิ โจเทติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

อนาสวกถาวณฺณนา.

๔. สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๓. อิทานิ สมนฺนาคตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทฺเว สมนฺนาคมา ปจฺจุปฺปนฺนกฺขเณ สมงฺคีภาวสมนฺนาคโม จ รูปาวจราทีสุ อฺตรภูมิปฺปตฺติโต ปฏิลาภสมนฺนาคโม จ. โส ยาว อธิคตวิเสสา น ปริหายติ, ตาวเทว ลพฺภติ. เยสํ ปน เปตฺวา อิเม ทฺเว สมนฺนาคเม อฺโ อุปปตฺติธมฺมวเสน เอโก สมนฺนาคโม นาม โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ, เตสํ ปตฺติธมฺโม นาม โกจิ นตฺถีติ อนุโพธนตฺถํ อรหา จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปตฺตึ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. อถสฺส ‘‘ยทิ เต อรหา จตูหิ ขนฺเธหิ วิย จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคโต, เอวํ สนฺเต เย จตูสุ ผเลสุ จตฺตาโร ผสฺสาทโย, เตหิ เต อรหโต สมนฺนาคตตา ปาปุณาตี’’ติ โจทนตฺถํ อรหา จตูหิ ผสฺเสหีติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ ปรวาทินา เอกกฺขเณ จตุนฺนํ ผสฺสาทีนํ อภาวา ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาคามิปฺหาทีสุปิ เอเสว นโย.

๓๙๕. โสตาปตฺติผลํ วีติวตฺโตติ น ปมชฺฌานํ วิย ทุติยชฺฌานลาภี; ปุน อนุปฺปตฺติยา ปน วีติวตฺโตติ ปุจฺฉติ. โสตาปตฺติมคฺคนฺติอาทิ ยํ วีติวตฺโต, เตนสฺส ปุน อสมนฺนาคมํ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ.

๓๙๖. เตหิ จ อปริหีโนติ ปฺเห ยสฺมา ยถา ปจฺจนีกสมุทาจาเรน โลกิยชฺฌานธมฺมา ปริหายนฺติ, น เอวํ โลกุตฺตรา. มคฺเคน หิ เย กิเลสา ปหียนฺติ, ผเลน จ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, เต ตถา ปหีนาว ตถา ปฏิปฺปสฺสทฺธาเยว จ โหนฺติ, ตสฺมา สกวาทินา อามนฺตาติ ปฏิฺาตํ. สฺวายมตฺโถ ปรโต ‘‘อรหตา จตฺตาโร มคฺคา ปฏิลทฺธา’’ติอาทีสุ ปกาสิโตเยว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๕. อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๗. อรหา ฉหิ อุเปกฺขาหีติ กถายปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อรหา หิ ฉสุ ทฺวาเรสุ อุเปกฺขานํ อุปฺปตฺติภพฺพตาย ตาหิ สมนฺนาคโตติ วุจฺจติ, น เอกกฺขเณ สพฺพาสํ อุปฺปตฺติภาเวนาติ.

อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๖. โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา

๓๙๘. อิทานิ โพธิยา พุทฺโธติกถา นาม โหติ. ตตฺถ โพธีติ จตุมคฺคาณสฺสาปิ สพฺพฺุตฺาณสฺสาปิ อธิวจนํ. ตสฺมา เยสํ ยถา โอทาเตน วณฺเณน โอทาโต, สาเมน วณฺเณน สาโม, เอวํ โพธิยา พุทฺโธติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา จ อนุโยโค จ สกวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ อิตรสฺส.

อตีตายาติ ปฺเห ตสฺมึ ขเณ อภาวโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ปฏิลาภํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปุน กิจฺจวเสน ปุฏฺโ กิจฺจาภาวโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยํ เตน ตาย กรณียํ กตํ, ตตฺถ สมฺโมหาภาวํ ปฏิชานาติ. เลโสกาสํ ปน อทตฺวา ทุกฺขํ ปริชานาตีติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ตสฺส กิจฺจสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ.

อนาคตปฺเห ตสฺมึ ขเณ มคฺคาณสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ (สุ. นิ. ๔๑๐) อนาคตาย โพธิยา พุทฺธภาวํ มฺมาโน ปฏิชานาติ. โพธิกรณียํ กโรตีติ ปุฏฺโ ตสฺมึ ขเณ กิจฺจาภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ยทิ น กเรยฺย, พุทฺโธติ น วุจฺเจยฺย. ยสฺมา อวสฺสํ กริสฺสติ, ตสฺมา กโรติเยว นามาติ ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ. ปจฺจุปฺปนฺนปฺโห สทฺธึ สํสนฺทนาย อุตฺตานตฺโถว.

๓๙๙. ติสฺโส โพธิโย เอกโต กตฺวา ปุฏฺโ สพฺพฺุตฺาณํ สนฺธาย ตีหิปิ พุทฺโธติ วตฺตพฺพภาวโต ปฏิชานาติ. ปุน ตีหิติ ปุฏฺโ สพฺพาสํ เอกกฺขเณ อภาวา ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส วเสน ปฏิชานาติ. ปุน เลโสกาสํ อทตฺวา สตตํ สมิตนฺติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ.

น พตฺตพฺพํ โพธิยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, โพธิยา อภาวกฺขเณ อพุทฺธภาวาปตฺติโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส. นนุ โพธิปฏิลาภาติ ปฺเห ปน ยสฺมึ สนฺตาเน โพธิสงฺขาตํ มคฺคาณํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺถ พุทฺโธติ สมฺมุติสพฺภาวโต ปฏิฺา ตสฺเสว. ตสฺส อธิปฺปายํ อชานิตฺวา หฺจีติ ลทฺธิฏฺปนา ปรวาทิสฺส. อิทานิสฺส อสลฺลกฺขณํ ปากฏํ กาตุํ โพธิปฏิลาภา พุทฺโธติ โพธิยา พุทฺโธติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – ‘‘กึ เต ยสฺมา โพธิปฏิลาภา พุทฺโธ, ตสฺมา โพธิยา พุทฺโธ’’ติ. อิตโร ‘‘โพธิปฏิลาโภ นาม โพธิยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธายปิ สนฺตาเน อุปฺปนฺนภาโวเยว. โพธิ นาม มคฺคกฺขเณ าณ’’นฺติ อิมํ วิภาคํ อสลฺลกฺเขนฺโตว ปุน ปฏิชานาติ. ตโต สกวาทินา โพธิปฏิลาภา โพธีติ ปุฏฺโ วจโนกาสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปตีติ.

โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา.

อิติ อิมา ติสฺโสปิ กถา อุตฺตราปถกานํเยว.

๗. ลกฺขณกถาวณฺณนา

๔๐๐. อิทานิ ลกฺขณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๕๘) อิมํ สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ลกฺขณสมนฺนาคโต โพธิสตฺโตว โหตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

จกฺกวตฺติสตฺโตติ ปฺเหสุ ยสฺมา จกฺกวตฺตี สตฺโตปิ จ โพธิสตฺโตปิ, ตสฺมา อโพธิสตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. โพธิสตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๔๐๒. ทฺวตฺตึสิมานีติสุตฺตํ โพธิสตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ ปจฺฉิเม ภเว พุทฺโธ โหติ, อิตเรสุ จกฺกวตฺตี, ตสฺมา อาภตมฺปิ อนาภตสทิสเมวาติ.

ลกฺขณกถาวณฺณนา.

๘. นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา

๔๐๓. อิทานิ นิยาโมกฺกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ฆฏิการสุตฺเต โชติปาลสฺส ปพฺพชฺชํ สนฺธาย ‘‘โพธิสตฺโต กสฺสปภควโต ปาวจเน โอกฺกนฺตนิยาโม จริตพฺรหฺมจริโย’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย โพธิสตฺโตติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ยสฺมา นิยาโมติ วา พฺรหฺมจริยนฺติ วา อริยมคฺคสฺส นามํ, โพธิสตฺตานฺจ เปตฺวา ปารมีปูรณํ อฺา นิยาโมกฺกนฺติ นาม นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, โพธิสตฺโต โสตาปนฺโน สาวโก ภเวยฺย. น เจตเมวํ. เกวลฺหิ นํ พุทฺธา อตฺตโน าณพเล ตฺวา – ‘‘อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากโรนฺติ, ตสฺมา ปุน โพธิสตฺโตติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. ปจฺฉิมภวํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ทุติยปฺเห โชติปาลกาลํ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. สาวโก หุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อนุสฺสวิโยติ อนุสฺสเวน ปฏิวิทฺธธมฺโม. ปจฺฉิมภวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา โชติปาลกาเล อนุสฺสวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๔๐๔. อฺํ สตฺถารนฺติอาฬารฺจ รามปุตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. อายสฺมา อานนฺโทติอาทิ ‘‘โอกฺกนฺตนิยามาว สาวกา โหนฺติ, น อิตเร โอกฺกนฺตนิยามา เอวรูปา โหนฺตี’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

สาวโก ชาตึ วีติวตฺโตติ ยาย ชาติยา สาวโก, ตํ วีติวตฺโต อฺสฺมึ ภเว อสาวโก โหตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร โสตาปนฺนาทีนํ โสตาปนฺนาทิสาวกภาวโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา.

๙. อปราปิ สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๔๐๖. อิทานิ อปราปิ สมนฺนาคตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จตุตฺถมคฺคฏฺโ ปุคฺคโล ปตฺติธมฺมวเสน ตีหิ ผเลหิ สมนฺนาคโต’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา จตูหิ ผเลหิ สมนฺนาคตกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อปราปิ สมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

๑๐. สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา

๔๑๓. อิทานิ สํโยชนปฺปหานกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘นิปฺปริยาเยเนว สพฺพสํโยชนปฺปหานํ อรหตฺต’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน สพฺเพ สํโยชนาติ ปุฏฺโ เหฏฺา วุตฺตมคฺคตฺตเยน ปหีเน สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ เตน มคฺเคน อปฺปหีนสฺส อภาวา ปฏิชานาติ. สกฺกายทิฏฺิอาทีสุปิ ปมมคฺเคน ปหีนภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จตุตฺถมคฺเคน อนวเสสปฺปหานํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ.

สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา.

จตุตฺโถ วคฺโค.

๕. ปฺจมวคฺโค

๑. วิมุตฺติกถาวณฺณนา

๔๑๘. อิทานิ วิมุตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ วิปสฺสนา, มคฺโค, ผลํ, ปจฺจเวกฺขณนฺติ จตุนฺนํ าณานํ วิมุตฺติาณนฺติ นามํ. เตสุ วิปสฺสนาาณํ นิจฺจนิมิตฺตาทีหิ วิมุตฺตตฺตา, ตทงฺควิมุตฺติภาเวน วา วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติาณํ. มคฺโค สมุจฺเฉทวิมุตฺติ, ผลํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ, ปจฺจเวกฺขณาณํ ปน วิมุตฺตึ ชานาตีติ วิมุตฺติาณํ. เอวํ จตุพฺพิเธ วิมุตฺติาเณ นิปฺปริยาเยน ผลาณเมว วิมุตฺติ. เสสานิ ‘‘วิมุตฺตานี’’ติ วา ‘‘อวิมุตฺตานี’’ติ วา น วตฺตพฺพานิ. ตสฺมา ‘‘อิทํ นาม วิมุตฺติาณํ วิมุตฺต’’นฺติ อวตฺวา อวิเสเสเนว ‘‘วิมุตฺติาณํ วิมุตฺต’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน ยํกิฺจีติ ปุฏฺโ ปจฺจเวกฺขณาทีนิ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปฏิปนฺนสฺสาติ ปุฏฺโ มคฺคาณสฺส อนาสวตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ยสฺมา ปน ตํ โสตาปนฺนสฺส ผเล ิตสฺส าณํ น โหติ, ตสฺมา วิมุตฺตํ นาม น โหตีติ โจทนตฺถํ ปุน สกวาที โสตาปนฺนสฺสาติอาทิมาห. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

วิมุตฺติกถาวณฺณนา.

๒. อเสขาณกถาวณฺณนา

๔๒๑. อิทานิ อเสขกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อานนฺทตฺเถราทโย เสขา ‘‘อุฬาโร ภควา’’ติอาทินา นเยน อเสเข ชานนฺติ, ตสฺมา ‘‘เสขสฺส อเสขาณํ อตฺถี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ชานาติ ปสฺสตีติ อิทํ อตฺตนา อธิคตสฺส ชานนวเสน วุตฺตํ. โคตฺรภุโนติอาทิ เหฏฺิมาย ภูมิยํ ิตสฺส อุปรูปริาณสฺส อภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นนุ อายสฺมา อานนฺโท เสโข ‘‘อุฬาโร ภควา’’ติ ชานาตีติ ปรวาที อเสเข ภควติ ปวตฺตตฺตา ตํ อเสขาณนฺติ อิจฺฉติ, น ปเนตํ อเสขํ. ตสฺมา เอวํ ปติฏฺาปิตาปิ ลทฺธิ อปฺปติฏฺาปิตาว โหตีติ.

อเสขาณกถาวณฺณนา.

๓. วิปรีตกถาวณฺณนา

๔๒๔. อิทานิ วิปรีตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยฺวายํ ปถวีกสิเณ ปถวีสฺี สมาปชฺชติ, ตสฺส ตํ าณํ วิปรีตาณ’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปถวึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตฺหิ น ปถวีเยว, ตตฺร จายํ ปถวีสฺี. ตสฺมา วิปรีตาณนฺติ อยเมตสฺส อธิปฺปาโย. ตโต สกวาที ‘‘ลกฺขณปถวีปิ สสมฺภารปถวีปิ นิมิตฺตปถวีปิ ปถวีเทวตาปิ สพฺพา ปถวีเยว, ตาสุ ปถวีติ าณํ วิปรีตํ น โหติ. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติอาทิวิปริเยโส ปน วิปรีตาณํ นาม. กึ เต อิทํ เอเตสุ อฺตร’’นฺติ โจเทตุํ อนิจฺเจ นิจฺจนฺติอาทิมาห. อิตโร วิปลฺลาสลกฺขณาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ปถวีนิมิตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

กุสลนฺติ เสกฺขปุถุชฺชนานํ าณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถิ อรหโตติ ปฺเหสุปิ วิปลฺลาสลกฺขณาภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ปถวีนิมิตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สพฺเพว ปถวีติ สพฺพํ ตํ ปถวีกสิณํ ลกฺขณปถวีเยว โหตีติ ปุจฺฉติ. สกวาที ตถา อภาวโต ปฏิกฺขิปติ. นนุ ปถวี อตฺถิ, อตฺถิ จ โกจิ ปถวึ ปถวิโต สมาปชฺชตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตสฺสตฺโถ – นนุ นิมิตฺตปถวี อตฺถิ, อตฺถิ จ โกจิ ตํ ปถวึ ปถวิโตเยว สมาปชฺชติ, น อาปโต วา เตชโต วาติ. ปถวี อตฺถีติอาทิ ‘‘ยทิ ยํ ยถา อตฺถิ, ตํ ตถา สมาปชฺชนฺตสฺส าณํ วิปรีตํ โหติ, นิพฺพานํ อตฺถิ, ตมฺปิ สมาปชฺชนฺตสฺส สพฺพวิปริเยสสมุคฺฆาตนํ มคฺคาณมฺปิ เต วิปรีตํ โหตู’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ.

วิปรีตกถาวณฺณนา.

๔. นิยามกถาวณฺณนา

๔๒๘-๔๓๑. อิทานิ นิยามกถา นาม โหติ. ตตฺถ โย ปุคฺคโล สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสติ, ตํ ‘‘ภพฺโพ เอส ธมฺมํ อภิสเมตุ’’นฺติ ยสฺมา ภควา ชานาติ, ตสฺมา ‘‘อนิยตสฺส ปุถุชฺชนสฺเสว สโต ปุคฺคลสฺส นิยามคมนาย าณํ อตฺถี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อนิยตสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ นิยามคมนายาติ นิยาโม วุจฺจติ มคฺโค, มคฺคคมนาย มคฺโคกฺกมนายาติ อตฺโถ. ยํ ปนสฺส าณํ ทิสฺวา ภควา ‘‘ภพฺโพ อย’’นฺติ ชานาติ, ตํ สนฺธาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส.

อถสฺส สกวาที อยุตฺตวาทิตํ ทีเปตุํ นิยตสฺสาติ วิปรีตานุโยคมาห. ตตฺถ ปมปฺเห มคฺเคน นิยตสฺส อนิยามคมนาย าณํ นาม นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย นตฺถิภาเวน ปฏิชานาติ. ตติเย อนิยตสฺส นตฺถีติ ปุฏฺตฺตา ลทฺธิวิโรเธน ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปมปฺหเมว จตุตฺถํ กตฺวา นิยตสฺส นิยามคมนาทิวเสน ตโย ปฺหา กตา. เตสุ ปเม ยสฺมา อาทิมคฺเคน นิยตสฺส ปุน ตทตฺถาย าณํ นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. ทุติเย นตฺถิภาเวเนว ปฏิชานาติ. ตติเย ลทฺธิวิโรเธเนว ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปมปฺหํ อฏฺมํ กตฺวา อนิยตสฺส อนิยามคมนาทิวเสน ตโย ปฺหา กตา. เตสํ อตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปุน ปมปฺหเมว ทฺวาทสมํ กตฺวา ตํมูลกา อตฺถิ นิยาโมติอาทโย ปฺหา กตา. ตตฺถ ยสฺมา นิยามคมนาย าณํ นาม มคฺคาณเมว โหติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย อตฺถิ นิยาโมติ วุตฺตํ. อิตโร ปน นิยาโมติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปติ, าณนฺติ วุตฺเต ปฏิชานาติ. สติปฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. ปจฺจนีกํ อุตฺตานตฺถเมว. โคตฺรภุโนติอาทิ เยน ยํ อปฺปตฺตํ, ตสฺส ตํ นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภควา ชานาตีติ อตฺตโน าณพเลน ชานาติ, น ตสฺส นิยามคมนาณสพฺภาวโต. ตสฺมา อิมินา การเณน ปติฏฺิตาปิสฺส ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.

นิยามกถาวณฺณนา.

๕. ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา

๔๓๒-๔๓๓. อิทานิ ปฏิสมฺภิทากถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ยํกิฺจิ อริยานํ าณํ, สพฺพํ โลกุตฺตรเมวา’’ติ คเหตฺวา ‘‘สพฺพํ าณํ ปฏิสมฺภิทา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สมฺมุติาณปฺเหสุ ปถวีกสิณสมฺมุติยํ สมาปตฺติาณํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, นิรุตฺติาณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เย เกจิ สมฺมุตินฺติ ปฺเห ปุถุชฺชเน สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. เจโตปริยายปฺเหสุ ปุถุชฺชนสฺส าณํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, อริยสฺส าณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. สพฺพา ปฺาติปฺเหสุ กสิณสมาปตฺติปฺหํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, โลกุตฺตรํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปถวีกสิณสมาปตฺตินฺติอาทิ ‘‘ยา เอเตสุ เอตฺตเกสุ าเนสุ ปฺา, กึ สพฺพา สา ปฏิสมฺภิทา’’ติ ปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ. เตน หิ สพฺพํ าณนฺติ ยสฺมา สพฺพา โลกุตฺตรปฺา ปฏิสมฺภิทา, ตสฺมา สพฺพนฺติ วจนํ สามฺผเลน สทฺธึ ปติฏฺาเปตีติ.

ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา.

๖. สมฺมุติาณกถาวณฺณนา

๔๓๔-๔๓๕. อิทานิ สมฺมุติาณกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมุติสจฺจํ ปรมตฺถสจฺจนฺติ ทฺเว สจฺจานิ. เย ปน เอวํ วิภาคํ อกตฺวา สจฺจนฺติ วจนสามฺเน สมฺมุติาณมฺปิ ‘‘สจฺจารมฺมณเมวา’’ติ วทนฺติ, เสยฺยถาปิ อนฺธกา; เต อยุตฺตวาทิโนติ เตสํ วาทวิโสธนตฺถํ อยํ กถา อารทฺธา. ตตฺถ น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. สมฺมุติสจฺจมฺหีติ สมฺมุตึ อนุปวิฏฺเ สจฺจมฺหิ. ปจฺจตฺเต วา ภุมฺมวจนํ, สมฺมุติสจฺจนฺติ อตฺโถ. สมฺมุติาณํ สจฺจารมฺมณฺเวาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต นํ ‘‘ยทิ ตํ อวิเสเสน สจฺจารมฺมณฺเว, เตน าเณน ทุกฺขปริฺาทีนิ กเรยฺยา’’ติ โจเทตุํ เตน าเณนาติอาทิมาห.

สมฺมุติาณกถาวณฺณนา.

๗. จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา

๔๓๖-๔๓๘. อิทานิ จิตฺตารมฺมณกถา นาม โหติ. ตตฺถ เจโตปริยาเย าณนฺติ วจนมตฺตเมว คเหตฺวา ‘‘ตํ าณํ จิตฺตารมฺมณเมวา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถสฺส ‘‘โย สราคาทิวเสน จิตฺตํ ชานาติ, ตสฺส ราคาทโยปิ อารมฺมณา โหนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ ตํ จิตฺตารมฺมณฺเวา’’ติ โจทนตฺถํ นนุ อตฺถิ โกจีติอาทิ อารทฺธํ. ผสฺสารมฺมเณติ ผสฺสสงฺขาเต อารมฺมเณ. เวทนารมฺมเณติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุน ผสฺสารมฺมเณ าณํ น วตฺตพฺพนฺติ ปุฏฺโ ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ มนสิกโรโต ผสฺโสวารมฺมณํ โหตีติ ปฏิชานาติ. กึ ปเนตํ ผสฺสปริยาเย าณนฺติ ปุฏฺโ ปน ตาทิสสฺส สุตฺตปทสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทานิ ยํ นิสฺสาย ลทฺธิ, ตเทว ทสฺเสตฺวา ลทฺธึ ปติฏฺาเปตุํ นนุ เจโตปริยาเย าณนฺติอาทิมาห. สา ปเนสา วจนมตฺตาภินิเวเสน ปติฏฺาปิตาปิ อปฺปติฏฺาปิตาว โหตีติ.

จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา.

๘. อนาคตาณกถาวณฺณนา

๔๓๙-๔๔๐. อิทานิ อนาคตาณกถา นาม โหติ. ตตฺถ อนาคตํ นาม อนฺตรมฺปิ อตฺถิ, อนนฺตรมฺปิ. เตสุ อนนฺตเร เอกนฺเตเนว าณํ นตฺถิ. ยถา จ อนนฺตเร, ตถา เอกวีถิเอกชวนปริยาปนฺเนปิ. ตตฺถ เย สพฺพสฺมิมฺปิ อนาคเต าณํ อิจฺฉนฺติ, เสยฺยถาปิ อนฺธกา; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยํ เต อนาคเต าณํ, กึ เตน อนนฺตรํ อนาคตํ มูลาทิวเสน ชานาตี’’ติ โจเทตุํ อนาคตํ มูลโตติอาทิมาห. ตตฺถ มูลโตติอาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนาเนว. การณฺหิ ยํ อตฺตโน ผลํ กโรติ, ตํ ตตฺถ มูลยติ ปติฏฺาตีติ มูลํ. ตโต จ ตํ หิโนติ ปวตฺตยตีติ เหตุ. ตเทว ตํ นิเทติ ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ. นิยฺยาเตติ วิยาติ นิทานํ. ตโต ตํ สมฺภวตีติ สมฺภโว. ปภวตีติ ปภโว. ตตฺถ จ ตํ สมุฏฺาติ, ตํ วา นํ สมุฏฺาเปตีติ สมุฏฺานํ. ตเทว นํ อาหรตีติ อาหาโร. ตฺจสฺส อปริจฺจชิตพฺพฏฺเน อารมฺมณํ. ตเทว เจตํ ปฏิจฺจ เอตีติ ปจฺจโย. ตโต นํ สมุเทตีติ สมุทโยติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน อนนฺตรํ จิตฺตํ เอเตหากาเรหิ น สกฺกา ชานิตุํ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. อนาคตํ เหตุปจฺจยตนฺติ ยา อนนฺตรานาคเต จิตฺเต เหตุปจฺจยตา, ตํ ชานาติ. เย ตตฺถ ธมฺมา เหตุปจฺจยา โหนฺติ, เต ชานาตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. โคตฺรภุโนติอาทิ ยสฺมึ อนาคเต าณํ น อุปฺปชฺชติ, ตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปาฏลิปุตฺตสฺสาติ สุตฺตํ ยสฺมึ อนาคเต าณํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ อาหฏํ. ยสฺมา ปเนตํ น สพฺพสฺมึ อนาคเต าณสฺส สาธกํ; ตสฺมา อนาหฏเมวาติ.

อนาคตาณกถาวณฺณนา.

๙. ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา

๔๔๑-๔๔๒. อิทานิ ปฏุปฺปนฺนาณกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจโต ทิฏฺเสุ ตมฺปิ าณํ อนิจฺจโต ทิฏฺํ โหตี’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘อวิเสเสน สพฺพสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺเน าณํ อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปฏุปฺปนฺเนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ อวิเสเสน ปฏุปฺปนฺเน าณํ อตฺถิ, ขณปจฺจุปฺปนฺเนปิ เตน ภวิตพฺพํ. เอวํ สนฺเต ทฺวินฺนํ าณานํ เอกโต อภาวา เตเนว าเณน ตํ ชานิตพฺพํ โหตี’’ติ โจทนตฺถํ เตนาติ อนุโยโค สกวาทิสฺส. ตตฺถ ปมปฺเห เตเนว ตํ ชานิตุํ น สกฺกาติ ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ทุติยปฺเห สนฺตตึ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. ปฏิปาฏิโต ภงฺคํ ปสฺสนฺโต ภงฺคานุปสฺสเนเนว ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ปสฺสตีติ อธิปฺปาโย. เตน าเณน ตํ าณํ ชานาตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตน ผสฺเสน ตํ ผสฺสนฺติอาทีนิสฺส เลโสกาสนิวารณตฺถํ วุตฺตานิ. ยํ ปเนเตน ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ นนุ สพฺพสงฺขาเรติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นยโต ตํ าณํ ทิฏฺํ โหติ, น อารมฺมณโตติ อธิปฺปาเยน ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตสฺมา เอวํ ปติฏฺิตาปิสฺส ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาว โหติ.

ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา.

๑๐. ผลาณกถาวณฺณนา

๔๔๓-๔๔๔. อิทานิ ผเล าณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธาปิ สตฺตานํ อริยผลปฺปตฺติยา ธมฺมํ เทเสนฺติ สาวกาปิ, อิติ อิมินา สามฺเน พุทฺธานํ วิย สาวกานมฺปิ เตน เตน สตฺเตน ปตฺตพฺเพ ผเล าณํ อตฺถี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สาวกสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สาวกสฺส ผเล าณํ อตฺถิ, ยถา พุทฺธา สมาเนปิ โสตาปตฺติผเล อตฺตโน าณพเลน ‘อยํ เอกพีชี, อยํ โกลํโกโล, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม’ติ ผลสฺสกตํ ปฺเปนฺติ, กึ เต เอวํ สาวโกปี’’ติ โจเทตุํ สาวโก ผลสฺส กตํ ปฺเปตีติ อาห. อิตโร ปฏิกฺขิปติ.

อตฺถิ สาวกสฺส ผลปโรปริยตฺตีติอาทิ ผเล าณสฺส อตฺถิตาย ปจฺจยปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – พุทฺธานํ ‘‘อิทํ ผลํ ปรํ, อิทํ โอปร’’นฺติ เอวํ ผลานํ อุจฺจาวจภาวชานนสงฺขาตา ผเล ปโรปริยตฺติ นาม อตฺถิ. ตถา อินฺทฺริยปุคฺคลปโรปริยตฺติโย, ตาสํ อตฺถิตาย ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส เตสํ เตสํ อินฺทฺริยานํ วเสน ตํ ตํ ผลํ ชานนฺติ, กึ เต สาวกสฺสาปิ เอตา ปโรปริยตฺติโย อตฺถีติ.

อตฺถิ สาวกสฺส ขนฺธปฺตฺตีติอาทีนิปิ ‘‘ยทิ เต สาวกสฺส พุทฺธานํ วิย ผเล าณํ อตฺถิ, อิมา หิ ปิสฺส ปฺตฺตีหิ ภวิตพฺพํ. กิมสฺส ตา อตฺถิ, สกฺโกติ โส เอตา ปฺตฺติโย อตฺตโน พเลน ชานิตุํ วา ปฺเปตุํ วา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตานิ. สาวโก ชิโนติอาทิ ‘‘ยทิ สาวกสฺส พุทฺธานํ วิย ผเล าณํ อตฺถิ, เอวํ สนฺเต สฺเวว ชิโน’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. สาวโก อนุปฺปนฺนสฺสาติ ปฺเหปิ อยเมว นโย. อฺาณีติ ปฺเห อวิชฺชาสงฺขาตสฺส อฺาณสฺส วิหตตฺตา ปฏิกฺขิตฺโต, น ปนสฺส พุทฺธานํ วิย ผเล าณํ อตฺถิ. ตสฺมา อปฺปติฏฺิโตว ปรวาทีวาโทติ.

ผลาณกถาวณฺณนา.

ปฺจโม วคฺโค.

มหาปณฺณาสโก สมตฺโต.

๖. ฉฏฺวคฺโค

๑. นิยามกถาวณฺณนา

๔๔๕-๔๔๗. อิทานิ นิยามกถา นาม โหติ. ตตฺถ นิยาโมติ ‘‘ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺต’’นฺติ (ปุ. ป. ๑๓) วจนโต อริยมคฺโค วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตสฺมึ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธปิ ปุคฺคโล อนิยโต นาม น โหติ, ตสฺมา ‘‘โส นิยาโม นิจฺจฏฺเน อสงฺขโต’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตโต ‘‘ยทิ โส อสงฺขโต, เอวรูเปน เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ ทีเปนฺโต นิพฺพานนฺติอาทิมาห. สํสนฺทนปุจฺฉา อุตฺตานตฺถาเยว.

อตฺถิ เกจีติอาทิ นิยามสฺส สงฺขตภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. มคฺโค อสงฺขโตติปฺเห ตสฺส อุปฺปาทนิโรธภาวโต ปฏิกฺขิปตีติ. นิยาโม สงฺขโตติปฺเห นิรุทฺเธปิ มคฺเค นิยามสฺส อตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. โสตาปตฺตินิยาโมติอาทิปฺเหสุปิ อนุโลมโต จ ปฏิโลมโต จ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปฺจ อสงฺขตานีติ ปุฏฺโ ปฺจนฺนํ อสงฺขตานํ อาคตฏฺานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ จตุนฺนํ สมฺมตฺตนิยามานํ นิยามวจนโต นิพฺพานสฺส จ อสงฺขตภาวโต ปฏิชานาติ. มิจฺฉตฺตนิยามปฺโห นิยามวจนมตฺเตน อสงฺขตตาย อยุตฺตภาวทีปนตฺถํ วุตฺโตติ.

นิยามกถาวณฺณนา.

๒. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา

๔๔๘. อิทานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ นิทานวคฺเค ‘‘อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๒.๒๐) ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท อสงฺขโต’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานฺจ มหิสาสกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

๔๔๙. อวิชฺชา อสงฺขตาติ อาทโย ปฺหา อวิชฺชาทีนํเยว ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. เยน ปนตฺเถน ตตฺถ เอเกกํ องฺคํ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วุจฺจติ, โส ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค วุตฺโตเยว.

๔๕๑. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ ยา ตตฺถ ธมฺมฏฺิตตาติอาทิ เยน สุตฺเตน ลทฺธิ ปติฏฺาปิตา, ตสฺเสว อตฺถทสฺสเนน ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยา อยํ เหฏฺา ‘‘ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา’’ติ วุตฺตา น สา อฺตฺร อวิชฺชาทีหิ วิสุํ เอกา อตฺถิ. อวิชฺชาทีนํ ปน ปจฺจยานํเยเวตํ นามํ. อุปฺปนฺเนปิ หิ ตถาคเต อนุปฺปนฺเนปิ อวิชฺชาโต สงฺขารา สมฺภวนฺติ, สงฺขาราทีหิ จ วิฺาณาทีนิ, ตสฺมา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ยา เอตสฺมึ ปเท สงฺขารธมฺมานํ การณฏฺเน ิตตาติ ธมฺมฏฺิตตา. เตสํเยว จ ธมฺมานํ การณฏฺเเนว นิยามตาติ ธมฺมนิยามตาติ อวิชฺชา วุจฺจติ. สา จ อสงฺขตา, นิพฺพานฺจ อสงฺขตนฺติ ปุจฺฉติ. ปรวาที ลทฺธิวเสน ปฏิชานิตฺวา ปุน ทฺเว อสงฺขตานีติ ปุฏฺโ สุตฺตาภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา ลทฺธิวเสเนว ปฏิชานาติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เหฏฺา วุตฺตสทิสํ ปน ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา.

๓. สจฺจกถาวณฺณนา

๔๕๒-๔๕๔. อิทานิ สจฺจกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ นิจฺจานิ อสงฺขตานี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อยฺหิสฺส อธิปฺปาโย – ทุกฺขสมุทยมคฺเคสุ วตฺถุสจฺจํ สงฺขตํ, ลกฺขณสจฺจํ อสงฺขตํ. นิโรเธ วตฺถุสจฺจํ นาม นตฺถิ อสงฺขตเมว ตนฺติ. ตสฺมา อามนฺตาติ อาห. ตํ ปนสฺส ลทฺธิมตฺตเมว. โส หิ ทุกฺขํ วตฺถุสจฺจํ อิจฺฉติ, ตถา สมุทยํ มคฺคฺจ. ยานิ ปน เนสํ พาธนปภวนิยฺยานิกลกฺขณานิ, ตานิ ลกฺขณสจฺจํ นามาติ, น จ พาธนลกฺขณาทีหิ อฺานิ ทุกฺขาทีนิ นาม อตฺถีติ. ตาณานีติอาทีสุ อธิปฺปาโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ทุกฺขสจฺจนฺติ ปฺเห ลทฺธิวเสน ลกฺขณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ทุกฺขนฺติ ปฺเห วตฺถุํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. อิโต ปรํ สุทฺธิกปฺหา จ สํสนฺทนปฺหา จ สพฺเพ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพา. อวสาเน ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ อาหฏสุตฺตํ อตฺถสฺส มิจฺฉา คหิตตฺตา อนาหฏสทิสเมวาติ.

สจฺจกถาวณฺณนา.

๔. อารุปฺปกถาวณฺณนา

๔๕๕-๔๕๖. อิทานิ อารุปฺปกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จตฺตาโร อารุปฺปา อาเนฺชา’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘สพฺเพปิ เต ธมฺมา อสงฺขตา’’ติ ลทฺธิ, เต สนฺธาย อากาสานฺจายตนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ. สาธกสุตฺตมฺปิ อตฺถํ อชานิตฺวา อาหฏตฺตา อนาหฏสทิสเมวาติ.

อารุปฺปกถาวณฺณนา.

๕. นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา

๔๕๗-๔๕๙. อิทานิ นิโรธสมาปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ นิโรธสมาปตฺตีติ จตุนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติ. ยสฺมา ปน สา กริยมานา กริยติ, สมาปชฺชิยมานา สมาปชฺชิยติ, ตสฺมา นิปฺผนฺนาติ วุจฺจติ. สงฺขตาสงฺขตลกฺขณานํ ปน อภาเวน น วตฺตพฺพา ‘‘สงฺขตาติ วา อสงฺขตา’’ติ วา. ตตฺถ เยสํ ‘‘ยสฺมา สงฺขตา น โหติ, ตสฺมา อสงฺขตา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย นิโรธสมาปตฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อุปฺปาเทนฺตีติอาทิ สมาปชฺชนปฏิลาภวเสเนว วุตฺตํ. ยถา ปน รูปาทโย อสงฺขตธมฺเม อุปฺปาเทนฺติ; น ตถา ตํ เกจิ อุปฺปาเทนฺติ นาม. นิโรธา โวทานํ วุฏฺานนฺติ ผลสมาปตฺติ เวทิตพฺพา. อสงฺขตา ปน ตํ นตฺถิเยว, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. เตน หีติ ยสฺมา สงฺขตา น โหติ, ตสฺมา อสงฺขตาติ ลทฺธิ. อิทํ ปน อสงฺขตภาเว การณํ น โหตีติ วุตฺตมฺปิ อวุตฺตสทิสเมวาติ.

นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา.

๖. อากาสกถาวณฺณนา

๔๖๐-๔๖๒. อิทานิ อากาสกถา นาม โหติ. ตตฺถ ติวิโธ อากาโส – ปริจฺเฉทากาโส, กสิณุคฺฆาฏิมากาโส, อชฏากาโส. ‘‘ตุจฺฉากาโส’’ติปิ ตสฺเสว นามํ. เตสุ ปริจฺเฉทากาโส สงฺขโต, อิตเร ทฺเว ปฺตฺติมตฺตา. เยสํ ปน ‘‘ทุวิโธปิ ยสฺมา สงฺขโต น โหติ, ตสฺมา อสงฺขโต’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ มหิสาสกานฺจ; เต สนฺธาย อากาโสติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อากาสกถาวณฺณนา.

๗. อากาโส สนิทสฺสโนติกถาวณฺณนา

๔๖๓-๔๖๔. อิทานิ อากาโส สนิทสฺสโนติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ตาฬจฺฉิทฺทาทีสุ าณปฺปวตฺตึ นิสฺสาย ‘‘สพฺโพปิ อชฏากาโส สนิทสฺสโน’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อากาโส สนิทสฺสโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สนิทสฺสโน, เอวํวิโธ ภเวยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ รูปนฺติอาทิ วุตฺตํ. จกฺขุฺจ ปฏิจฺจาติปฺเหสุ เอวรูปสฺส สุตฺตสฺส อภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา ตุลนฺตริกาทีนํ อุปลทฺธึ นิสฺสาย ปฏิชานาติ. ทฺวินฺนํ รุกฺขานํ อนฺตรนฺติ เอตฺถ รุกฺขรูปํ จกฺขุนา ทิสฺวา อนฺตเร รูปาภาวโต อากาสนฺติ มโนทฺวารวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

อากาโส สนิทสฺสโนติกถาวณฺณนา.

๑๐. ปถวีธาตุสนิทสฺสนาติอาทิกถาวณฺณนา

๔๖๕-๔๗๐. อิทานิ ปถวีธาตุ สนิทสฺสนาติอาทิกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ปาสาณอุทกชาลรุกฺขจลนานฺเจว ปฺจินฺทฺริยปติฏฺโกาสานฺจ วณฺณายตนํ กายวิฺตฺติกาเล หตฺถปาทาทิรูปฺจ ทิสฺวา ‘‘ปถวีธาตุอาทโย สนิทสฺสนา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สพฺพกถาสุ อาทิปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ ปาฬิอนุสาเรน เจว เหฏฺา วุตฺตนเยน จ เวทิตพฺพนฺติ. ปถวีธาตุ สนิทสฺสนาติ อาทึ กตฺวา กายกมฺมํ สนิทสฺสนนฺติ ปริโยสานกถา นิฏฺิตา.

ฉฏฺโ วคฺโค.

๗. สตฺตมวคฺโค

๑. สงฺคหิตกถาวณฺณนา

๔๗๑-๔๗๒. อิทานิ สงฺคหิตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ทามาทีหิ พลิพทฺทาทโย วิย เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา, เอวํ สนฺเต เอกวิเธน รูปสงฺคโหติอาทิ นิรตฺถก’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย อฺเนตฺเถน สงฺคหภาวํ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อิทานิ เยนตฺเถน สงฺคโห ลพฺภติ, ตํ ทสฺเสตุํ นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมาติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. ยา ปเนสา ปรวาทินา ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ ยถา ทาเมน วาติอาทิกา อุปมา อาหฏา, สกวาทินา ตํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ‘‘หฺจิ ทาเมน วา’’ติ ตสฺส ลทฺธิ ภินฺนาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยทิ เต ทามาทีหิ พลิพทฺทาทโย สงฺคหิตา นาม, อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตาติ.

สงฺคหิตกถาวณฺณนา.

๒. สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา

๔๗๓-๔๗๔. อิทานิ สมฺปยุตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ติลมฺหิ เตลํ วิย น เวทนาทโย สฺาทีสุ อนุปวิฏฺา, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตา, เอวํ สนฺเต าณสมฺปยุตฺตนฺติอาทิ นิรตฺถกํ โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานฺเว; เต สนฺธาย อฺเเนวตฺเถน สมฺปยุตฺตตํ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. โย ปเนส ปรวาทินา ‘‘ยถา ติลมฺหิ เตล’’นฺติอาทิโก อุปมาปฺโห อาหโฏ, โส ยสฺมา เวทนาสฺานํ วิย ติลเตลานํ ลกฺขณโต นานตฺตววตฺถานํ นตฺถิ. สพฺเพสุปิ หิ ติลอฏฺิตเจสุ ติโลติ โวหารมตฺตํ, เตเนว ติลํ นิพฺพตฺเตตฺวา คหิเต ปุริมสณฺาเนน ติโล นาม น ปฺายติ, ตสฺมา อนาหฏสทิโสว โหตีติ.

สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา.

๓. เจตสิกกถาวณฺณนา

๔๗๕-๔๗๗. อิทานิ เจตสิกกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ผสฺสิกาทโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เจตสิเกนาปิ น ภวิตพฺพํ, อิติ นตฺถิ เจตสิโก ธมฺโม’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สหชาโตติ สมฺปยุตฺตสหชาตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ผสฺสิกาติ ตาทิสํ โวหารํ อปสฺสนฺตสฺส ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. กึ โวหาเรน, ยถา จิตฺตนิสฺสิตโกติ เจตสิโก, เอวํ โสปิ ผสฺสนิสฺสิตตฺตา ผสฺสิโกติ วุตฺเต โทโส นตฺถีติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

เจตสิกกถาวณฺณนา.

๔. ทานกถาวณฺณนา

๔๗๘. อิทานิ ทานกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทานํ นาม ติวิธํ – จาคเจตนาปิ, วิรติปิ, เทยฺยธมฺโมปิ. ‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทาน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๓๐) อาคตฏฺาเน จาคเจตนา ทานํ. ‘‘อภยํ เทตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๙) อาคตฏฺาเน วิรติ. ‘‘ทานํ เทติ อนฺนํ ปาน’’นฺติ อาคตฏฺาเน เทยฺยธมฺโม. ตตฺถ จาคเจตนา ‘‘เทติ วา เทยฺยธมฺมํ, เทนฺติ วา เอตาย เทยฺยธมฺม’’นฺติ ทานํ. วิรติ อวขณฺฑนฏฺเน ลวนฏฺเน วา ทานํ. สา หิ อุปฺปชฺชมานา ภยเภรวาทิสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยเจตนํ ทาติ ขณฺเฑติ ลุนาติ วาติ ทานํ. เทยฺยธมฺโม ทิยฺยตีติ ทานํ. เอวเมตํ ติวิธมฺปิ อตฺถโต เจตสิโก เจว ธมฺโม เทยฺยธมฺโม จาติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘เจตสิโกว ธมฺโม ทานํ, น เทยฺยธมฺโม’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย เจตสิโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ เทยฺยธมฺมวเสน โจเทตุํ ลพฺภาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อนฺนาทีนิ วิย โส น สกฺกา ทาตุนฺติ ปฏิกฺเขโป อิตรสฺส. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ปุฏฺเ ‘‘อภยํ เทตี’’ติ สุตฺตวเสน ปฏิฺา ตสฺเสว. ผสฺสปฺหาทีสุ ปน ผสฺสํ เทตีติอาทิโวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปเตว.

๔๗๙. อนิฏฺผลนฺติอาทิ อเจตสิกสฺส ธมฺมสฺส ทานภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. น หิ อเจตสิโก อนฺนาทิธมฺโม อายตึ วิปากํ เทติ, อิฏฺผลภาวนิยมนตฺถํ ปเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ เหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ อเจตสิโก อนฺนาทิธมฺโม ทานํ ภเวยฺย, หิตจิตฺเตน อนิฏฺํ อกนฺตํ เภสชฺชํ เทนฺตสฺส นิมฺพพีชาทีหิ วิย นิมฺพาทโย อนิฏฺเมว ผลํ นิพฺพตฺเตยฺย. ยสฺมา ปเนตฺถ หิตผรณจาคเจตนา ทานํ, ตสฺมา อนิฏฺเปิ เทยฺยธมฺเม ทานํ อิฏฺผลเมว โหตีติ.

เอวํ ปรวาทินา เจตสิกธมฺมสฺส ทานภาเว ปติฏฺาปิเต สกวาที อิตเรน ปริยาเยน เทยฺยธมฺมสฺส ทานภาวํ สาเธตุํ ทานํ อิฏฺผลํ วุตฺตํ ภควตาติอาทิมาห. ปรวาที ปน จีวราทีนํ อิฏฺวิปากตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. สุตฺตสาธนํ ปรวาทีวาเทปิ ยุชฺชติ สกวาทีวาเทปิ, น ปน เอเกนตฺเถน. เทยฺยธมฺโม อิฏฺผโลติ อิฏฺผลภาวมตฺตเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. ตสฺมา เตน หิ น วตฺตพฺพนฺติ อิฏฺผลภาเวเนว น วตฺตพฺพตา ยุชฺชติ. ทาตพฺพฏฺเน ปน เทยฺยธมฺโม ทานเมว. ทินฺนฺหิ ทานานํ สงฺกรภาวโมจนตฺถเมว อยํ กถาติ.

ทานกถาวณฺณนา.

๕. ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา

๔๘๓. อิทานิ ปริโภคมยปุฺกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘เตสํ ทิวา จ รตฺโต จ, สทา ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔๗) จ ‘‘ยสฺส ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จีวรํ ปริภุฺชมาโน’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) จ เอวมาทีนิ สุตฺตานิ อโยนิโส คเหตฺวา เยสํ ปริโภคมยํ นาม ปุฺํ อตฺถี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกสมฺมิติยานํ; เต สนฺธาย ปริโภคมยนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ปุฺํ นาม ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมา, น ตโต ปรํ, ตสฺมา ผสฺสาทีหิ เต วฑฺฒิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปริโภคมโย ผสฺโสติอาทิ อารทฺธํ. ตํ สพฺพํ อิตเรน เตสํ อวฑฺฒนโต ปฏิกฺขิตฺตํ. ลตาวิยาติอาทีนิ ‘‘กิริยาย วา ภาวนาย วา วินาปิ ยถา ลตาทีนิ สยเมว วฑฺฒนฺติ, กึ เต เอวํ วฑฺฒนฺตี’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตานิ. ตถา ปนสฺส อวฑฺฒนโต น เหวาติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

๔๘๔. น สมนฺนาหรตีติ ปฺเห ปฏิคฺคาหกานํ ปริโภเคน ปุริมเจตนา วฑฺฒติ, เอวํ ตํ โหติ ปุฺนฺติ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. ตโต อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติอาทีหิ ปุฏฺโ ทายกสฺส จาคเจตนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ตตฺถ อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ ทานเจตนาย ปุเรจาริเกน อาวชฺชเนน ภวงฺคํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺส อปริวฏฺเฏนฺตสฺส. อนาโภคสฺสาติ นิราโภคสฺส. อสมนฺนาหรนฺตสฺสาติ น สมนฺนาหรนฺตสฺส. อาวชฺชนฺหิ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน คตมคฺเค อุปฺปชฺชมานํ ทานเจตนํ สมนฺนาหรติ นาม. เอวํกิจฺเจน อิมินา จิตฺเตน อสมนฺนาหรนฺตสฺส ปุฺํ โหตีติ ปุจฺฉติ. อมนสิกโรนฺตสฺสาติ มนํ อกโรนฺตสฺส. อาวชฺชเนน หิ ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานํ มนํ กโรติ นาม. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อุปโยควจนสฺมิฺหิ เอตํ ภุมฺมํ. อเจตยนฺตสฺสาติ เจตนํ อนุปฺปาเทนฺตสฺส. อปตฺเถนฺตสฺสาติ ปตฺถนาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ อกโรนฺตสฺส. อปฺปณิทหนฺตสฺสาติ ทานเจตนาวเสน จิตฺตํ อฏฺเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. นนุ อาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ วาเร อาโภคสฺสาติ อาโภควโต. อถ วา อาโภคา อสฺส, อาโภคสฺส วา อนนฺตรํ ตํ ปุฺํ โหตีติ อตฺโถ.

๔๘๕. ทฺวินฺนํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ เอกกฺขเณ ทายกสฺส ทฺวินฺนํ ผสฺสาทีนํ อภาวา ปฏิกฺขิปติ, ทายกสฺส จ ปริภุฺชนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ ผสฺสาทโย สนฺธาย ปฏิชานาติ. อปิจสฺส ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สโมธานํ โหตีติ ลทฺธิ, ตสฺสาปิ วเสน ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ปริยายสฺส ทฺวารํปิทหิตฺวา อุชุวิปจฺจนีกวเสน โจเทตุํ กุสลาทิปฺหํ ปุจฺฉติ. ตตฺราปิ กุสลากุสลานํ เอกสฺเสกกฺขเณ สมฺปโยคาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปริโภคมยํ ปน จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที สุตฺเตน นิคฺคณฺหาติ.

๔๘๖. สุตฺตสาธเน อารามโรปกาทีนํ อนุสฺสรณปฏิสงฺขรณาทิวเสน อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมานํ ปุฺํ สนฺธาย สทา ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ วุตฺตํ. อปฺปมาโณ ตสฺส ปุฺาภิสนฺโทติ อิทํ อปฺปมาณวิหาริโน ทินฺนปจฺจยตฺตา จ ‘‘เอวรูโป เม จีวรํ ปริภุฺชตี’’ติ อนุโมทนวเสน จ วุตฺตํ. ตํ โส ปริโภคมยนฺติ สลฺลกฺเขติ. ยสฺมา ปน ปฏิคฺคาหเกน ปฏิคฺคเหตฺวา อปริภุตฺเตปิ เทยฺยธมฺเม ปุฺํ โหติเยว, ตสฺมา สกวาทีวาโทว พลวา, ตตฺถ ปฏิคฺคาหเกน ปฏิคฺคหิเตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา.

๖. อิโตทินฺนกถาวณฺณนา

๔๘๘-๔๙๑. อิทานิ อิโต ทินฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลงฺกตา ตหิ’’นฺติ (เป. ว. ๑๙) วจนํ นิสฺสาย ‘‘ยํ อิโต จีวราทิ ทินฺนํ เตเนว ยาเปนฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกสิทฺธตฺถิกานํ; เต สนฺธาย อิโต ทินฺเนนาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน จีวราทิวเสน อนุยุตฺโต ปฏิกฺขิปติ. อฺโ อฺสฺส การโกติ อฺสฺส วิปากทายกานํ กมฺมานํ อฺโ การโก, น อตฺตนาว อตฺตโน กมฺมํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปุฏฺโ ปน อิตโร สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ. ทานํ เทนฺตนฺติ ทานํ ททมานํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถ ยสฺมา อตฺตโน อนุโมทิตตฺตา จ เตสํ ตตฺถ โภคา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมาสฺส อิมินา การเณน ลทฺธึ ปติฏฺเปนฺตสฺสาปิ อปฺปติฏฺิตาว โหติ. น หิ เต อิโต ทินฺเนเนว วตฺถุนา ยาเปนฺติ. เสเสสุปิ สุตฺตสาธเนสุ เอเสว นโยติ.

อิโต ทินฺนกถาวณฺณนา.

๗. ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๒. อิทานิ ปถวี กมฺมวิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อตฺถิ อิสฺสริยสํวตฺตนิยํ กมฺมํ, อาธิปจฺจสํวตฺตนิยํ กมฺม’’นฺติ เอตฺถ อิสฺสรานํ ภาโว อิสฺสริยํ นาม, อธิปตีนฺจ ภาโว อาธิปจฺจํ นาม, ปถวิสฺสริยอาธิปจฺจสํวตฺตนิกฺจ กมฺมํ อตฺถีติ วุตฺตํ. ตสฺมา เยสํ ‘‘ปถวี กมฺมวิปาโก’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปถวีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สุขเวทนียาติอาทิ กมฺมวิปากสภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทินา นเยน นิทฺทิฏฺเสุ วิปาเกสุ ผสฺโส สุขเวทนียาทิเภโท โหติ. โส จ สฺาทโย จ สุขเวทนาทีหิ สมฺปยุตฺตา, เวทนาทโย สฺาทีหิ, สพฺเพปิ สารมฺมณา, อตฺถิ จ เนสํ ปุเรจาริกอาวฏฺฏนาทิสงฺขาตํ อาวชฺชนํ, กมฺมปจฺจยภูตา เจตนา, โย ตตฺถ อิฏฺวิปาโก, ตสฺส ปตฺถนา, ปณิธานวเสน ปวตฺตา มูลตณฺหา, กึ เต เอวรูปา ปถวีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. ปฏิโลมปุจฺฉาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๔๙๓. กมฺมวิปาโก ปเรสํ สาธารโณติ ปฺเห ผสฺสาทโย สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, กมฺมสมุฏฺานํ รูปฺจ ปถวีอาทีนํเยว จ สาธารณภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อสาธารณมฺเสนฺติ สุตฺตํ ปรสมยโต อาหริตฺวา ทสฺสิตํ. สพฺเพ สตฺตา ปถวึ ปริภุฺชนฺตีติ ปฺเห ปถวึ อนิสฺสิเต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, นิสฺสิเต สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปถวึ อปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพายนฺตีติ ปฺเห อารุปฺเป ปรินิพฺพายนฺตานํ วเสน ปฏิชานาติ. กมฺมวิปากํ อเขเปตฺวาติ อิทํ ปรสมยวเสน วุตฺตํ. กมฺมวิปากฺหิ เขเปตฺวาว ปรินิพฺพายนฺตีติ เตสํ ลทฺธิ. สกสมเย ปน กโตกาสสฺส กมฺมสฺส อุปฺปนฺนํ วิปากํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานํ นตฺถิ. เตสฺจ ลทฺธิยา ปถวี สาธารณวิปากตฺตา อุปฺปนฺนวิปาโกเยว โหติ. ตํ วิปากภาเวน ิตํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานํ น ยุชฺชตีติ โจเทตุํ วฏฺฏติ. อิตโร ลทฺธิวเสน ปฏิกฺขิปติ. จกฺกวตฺติสตฺตสฺส กมฺมวิปากนฺติ ปฺเห อสาธารณํ ผสฺสาทึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สาธารณํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปถวีสมุทฺทสูริยจนฺทิมาทโย หิ สพฺเพสํ สาธารณกมฺมวิปาโกติ เตสํ ลทฺธิ.

๔๙๔. อิสฺสริยสํวตฺตนิยนฺติ เอตฺถ อิสฺสริยํ นาม พหุธนตา. อาธิปจฺจํ นาม เสสชเน อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา เตหิ ครุกาตพฺพฏฺเน อธิปติภาโว. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิลาภวเสน ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหติ, น ชนกวเสน. ตสฺมา วิปากภาเว อสาธกเมตนฺติ.

ปถวี กมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา.

๘. ชรามรณํ วิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๕. อิทานิ ชรามรณํ วิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อตฺถิ ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิยํ กมฺมํ อปฺปายุกสํวตฺตนิยํ กมฺม’’นฺติ เอตฺถ ทุพฺพณฺณตา นาม ชรา. อปฺปายุกตา นาม มรณํ. ตํสํวตฺตนิยฺจ กมฺมํ อตฺถิ. ตสฺมา ชรามรณํ วิปาโกติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปฏิโลมปฺเห อนารมฺมณนฺติ รูปธมฺมานํ ตาว อนารมฺมณเมว, อรูปานํ ปน ชรามรณํ สมฺปโยคลกฺขณาภาวา อนารมฺมณเมว.

๔๙๖. อกุสลานํ ธมฺมานํ ชรามรณํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วิปาโกติ ปฺเห ชรามรเณน นาม อนิฏฺวิปาเกน ภวิตพฺพนฺติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. เตเนว การเณน กุสลานํ ธมฺมานํ ชรามรณสฺส กุสลวิปากตํ ปฏิกฺขิปติ. ปรโต จสฺส อกุสลวิปากตฺเว ปฏิชานาติ.

กุสลานฺจ อกุสลานฺจาติ ปุจฺฉาวเสน เอกโต กตํ, เอกกฺขเณ ปน ตํ นตฺถิ. อพฺยากตานํ อวิปากานํ ชรามรณํ วิปาโกติ วตฺตพฺพตาย ปริยาโย นตฺถิ, ตสฺมา อพฺยากตวเสน ปุจฺฉา น กตา.

๔๙๗. ทุพฺพณฺณสํวตฺตนิยนฺติ เอตฺถ ทุพฺพณฺณิยํ นาม อปริสุทฺธวณฺณตา. อปฺปายุกตา นาม อายุโน จิรํ ปวตฺติตุํ อสมตฺถตา. ตตฺถ อกุสลกมฺมํ กมฺมสมุฏฺานสฺส ทุพฺพณฺณรูปสฺส กมฺมปจฺจโย โหติ, อสทิสตฺตา ปนสฺส ตํวิปาโก น โหติ. อุตุสมุฏฺานาทิโน ปน ตํปฏิลาภวเสน อายุโน จ อุปจฺเฉทกวเสน ปจฺจโย โหติ. เอวเมตํ ปริยาเยน ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหติ, น วิปากผสฺสาทีนํ วิย ชนกวเสน, ตสฺมา วิปากภาเว อสาธกํ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมวาติ.

ชรามรณํ วิปาโกติกถาวณฺณนา.

๙. อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา

๔๙๘. อิทานิ อริยธมฺมวิปากกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ กิเลสปฺปหานมตฺตเมว สามฺผลํ, น จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย นตฺถิ อริยธมฺมวิปาโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อริยธมฺมวิปาโกติ มคฺคสงฺขาตสฺส อริยธมฺมสฺส วิปาโก. กิเลสกฺขยมตฺตํ อริยผลนฺติ ลทฺธิยา ปฏิฺา อิตรสฺส. สามฺนฺติ สมณภาโว, มคฺคสฺเสตํ นามํ. ‘‘สามฺฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ สามฺผลฺจา’’ติ หิ วุตฺตํ. พฺรหฺมฺเปิ เอเสว นโย.

โสตาปตฺติผลํ น วิปาโกติอาทีสุ โสตาปตฺติมคฺคาทีนํ อปจยคามิตํ สนฺธาย อริยผลานํ นวิปากภาวํ ปฏิชานาติ, ทานผลาทีนํ ปฏิกฺขิปติ. โส หิ อาจยคามิตฺติกสฺส เอวํ อตฺถํ ธาเรติ – วิปากสงฺขาตํ อาจยํ คจฺฉนฺติ, ตํ วา อาจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อาจยคามิโน, วิปากํ อปจินนฺตา คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโนติ. ตสฺมา เอวํ ปฏิชานาติ จ ปฏิกฺขิปติ จ.

๕๐๐. กามาวจรํ กุสลํ สวิปากํ อาจยคามีติอาทิกา ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ สกวาทิสฺส. โลกิยฺหิ กุสลํ วิปากจุติปฏิสนฺธิโย เจว วฏฺฏฺจ อาจินนฺตํ คจฺฉตีติ อาจยคามิ. โลกุตฺตรกุสลํ จุติปฏิสนฺธิโย เจว วฏฺฏฺจ อปจินนฺตํ คจฺฉตีติ อปจยคามิ. เอวเมตํ สวิปากเมว โหติ, น อปจยคามิวจนมตฺเตน อวิปากํ. อิมมตฺถํ สนฺธาเยตฺถ สกวาทิโน ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺพาติ.

อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา.

๑๐. วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา

๕๐๑. อิทานิ วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา วิปาโก วิปากสฺส อฺมฺาทิปจฺจยวเสน ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วิปาโกปิ วิปากธมฺมธมฺโมติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตสฺส วิปาโกติ ตสฺส วิปากธมฺมธมฺมสฺส วิปากสฺส โย วิปาโก, โสปิ เต วิปากธมฺมธมฺโม โหตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร อายตึ วิปากทานาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ตปฺปจฺจยาปิ อฺสฺส วิปากสฺส อุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอวํ สนฺเต ปนสฺส กุสลากุสลสฺส วิย ตสฺสาปิ วิปากสฺส วิปาโก, ตสฺสาปิ วิปาโกติ วฏฺฏานุปจฺเฉโท อาปชฺชตีติ ปุฏฺโ สมยวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ.

วิปาโกติ วาติอาทิมฺหิ วจนสาธเน ปน ยทิ วิปากสฺส วิปากธมฺมธมฺเมน เอกตฺถตา ภเวยฺย, กุสลากุสลพฺยากตานํ เอกตฺถตํ อาปชฺเชยฺยาติ ปฏิกฺขิปติ. วิปาโก จ วิปากธมฺมธมฺโม จาติ เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – โส หิ จตูสุ วิปากกฺขนฺเธสุ เอเกกํ อฺมฺปจฺจยาทีสุ ปจฺจยฏฺเน วิปากธมฺมธมฺมตํ ปจฺจยุปฺปนฺนฏฺเน จ วิปากํ มฺมาโน ‘‘วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม’’ติ ปุฏฺโ อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ‘‘ยสฺมา ตยา เอกกฺขเณ จตูสุ ขนฺเธสุ วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมปิ อนุฺาโต, ตสฺมา เตสํ สหคตาทิภาโว อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ เอวมาห. อิตโร กุสลากุสลสงฺขาตํ วิปากธมฺมธมฺมํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ตฺเว อกุสลนฺติ ยทิ เต วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม, โย อกุสลวิปาโก, โส อกุสลํ อาปชฺชติ. กสฺมา? วิปากธมฺมธมฺเมน เอกตฺตา. ตฺเว กุสลนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๕๐๒. อฺมฺปจฺจยาติ อิทํ สหชาตานํ ปจฺจยมตฺตวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกํ. มหาภูตานมฺปิ จ อฺมฺปจฺจยตา วุตฺตา, น จ ตานิ วิปากานิ, น จ วิปากธมฺมธมฺมานีติ.

วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา.

สตฺตโม วคฺโค.

๘. อฏฺมวคฺโค

๑. ฉคติกถาวณฺณนา

๕๐๓-๕๐๔. อิทานิ ฉคติกถา นาม โหติ. ตตฺถ อสุรกาเยน สทฺธึ ฉคติโยติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สกวาที ‘‘ปฺจ โข ปนิมา, สาริปุตฺต, คติโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) โลมหํสนปริยาเย ปริจฺฉินฺนานํ คตีนํ วเสน โจเทตุํ นนุ ปฺจ คติโยติอาทิมาห. อิตโร สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิชานาติ. กสฺมา ปน สกวาที ฉ คติโย น สมฺปฏิจฺฉติ, นนุ ‘‘จตูหาปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต’’ติ เอตฺถ อสุรกาโยปิ คหิโตติ. สจฺจํ คหิโต, น ปเนสา คติ. กสฺมา? วิสุํ อภาวโต. อสุรกายสฺมิฺหิ กาลกฺจิกา อสุรา เปตคติยา สงฺคหิตา, เวปจิตฺติปริสา เทวคติยา, อสุรกาโยติ วิสุํ เอกา คติ นาม นตฺถิ.

อิทานิ เอตเมว อตฺถํ ทสฺเสตุํ นนุ กาลกฺจิกาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สมานวณฺณาติ สทิสรูปสณฺานา พีภจฺฉา วิรูปา ทุทฺทสฺสิกา. สมานโภคาติ สทิสเมถุนสมาจารา. สมานาหาราติ สทิสเขฬสิงฺฆาณิกปุพฺพโลหิตาทิอาหารา. สมานายุกาติ สทิสอายุปริจฺเฉทา. อาวาหวิวาหนฺติ กฺาคหณฺเจว กฺาทานฺจ. สุกฺกปกฺเข สมานวณฺณาติ สทิสรูปสณฺานา อภิรูปา ปาสาทิกา ทสฺสนียา ปภาสมฺปนฺนา. สมานโภคาติ สทิสปฺจกอามคุณโภคา. สมานาหาราติ สทิสสุธาโภชนาทิอาหารา. เสสํ วุตฺตนยเมว. นนุ อตฺถิ อสุรกาโยติ อิทํ อสุรกายสฺเสว สาธกํ. ตสฺส ปน วิสุํ คติปริจฺเฉทาภาเวน น คติสาธกนฺติ.

ฉคติกถาวณฺณนา.

๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา

๕๐๕. อิทานิ อนฺตราภวกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อนฺตรา ปรินิพฺพายี’’ติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อนฺตราภโว นาม อตฺถิ, ยตฺถ สตฺโต ทิพฺพจกฺขุโก วิย อทิพฺพจกฺขุโก, อิทฺธิมา วิย อนิทฺธิมา มาตาปิติสมาคมฺเจว อุตุสมยฺจ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วา อติเรกสตฺตาหํ วา ติฏฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย อตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ เย จ ภควตา ตโย ภวา วุตฺตา, เตสํ วเสน โจเทตุํ กามภโวติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ เต อนฺตราภโว นาม โกจิ ภโว อตฺถิ, เตน กามภวาทีนํเยว อฺตเรน ภวิตพฺพํ ปฺจโวการภวาทินา วิย, เตน ตํ ปุจฺฉามิ – ‘‘กึ เต อยํ อนฺตราภโว นาม กามภโว, อุทาหุ รูปภโว อรูปภโว วา’’ติ? อิตโร ตถา อนิจฺฉนฺโต สพฺพํ ปฏิกฺขิปติ. กามภวสฺส จาติอาทิ ยทิ อนฺตราภโว นาม อตฺถิ, อิเมสํ ภวานํ อนฺตรา ทฺวินฺนํ สีมานํ สีมนฺตริกา วิย ภเวยฺยาติ โจเทตุํ อารทฺธํ. ปรวาที ปน ตถา อนิจฺฉนฺโต สพฺพปฺเห ปฏิกฺขิปติ เกวลํ ลทฺธิยา, น สหธมฺเมน. เตเนว นํ สกวาที ‘โน วต เร’ติ ปฏิเสเธติ.

๕๐๖. ปฺจมี สา โยนีติอาทีนิปิ ยถาปริจฺฉินฺนโยนิอาทีสุ โส สโมธานํ น คจฺฉติ, อถ เตน ตโต ตโต อติเรเกน ภวิตพฺพนฺติ โจเทตุํ วุตฺตานิ. อนฺตราภวูปคํ กมฺมนฺติ ยทิ โสปิ เอโก ภโว, ยถา กามภวูปคาทีนิ กมฺมานิ อตฺถีติ สตฺถารา วิภชิตฺวา ทสฺสิตานิ, เอวํ ตทุปเคนาปิ กมฺเมน ภวิตพฺพนฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ปรสมเย อนฺตราภวูปคํ นาม ปาฏิเยกฺกํ กมฺมํ นตฺถิ, ยํ ยํ ภวํ อุปปชฺชิสฺสติ, ตทุปเคเนว กมฺเมน อนฺตราภเว นิพฺพตฺตตีติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘นเหว’นฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อตฺถิ อนฺตราภวูปคา สตฺตาติ ปุฏฺโปิ กามภวูปคาเยว นาม เตติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปติ. ชายนฺตีติอาทีนิ ปุฏฺโปิ ตตฺถ ชาติชรามรณานิ เจว จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรฺจ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. รูปาทิวเสน ปุฏฺโปิ ยสฺมา อนฺตราภวสตฺตสฺส อนิทสฺสนํ รูปํ, เวทนาทโยปิ อฺเสํ วิย น โอฬาริกาติ ตสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. อิมินาว การเณน ปฺจโวการภวภาเวปิ ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ.

๕๐๗. อิทานิ กามภโว ภโว คตีติอาทิ ภวสํสนฺทนํ นาม โหติ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ เต อนฺตราภโว นาม โกจิ ภโว ภเวยฺย, ยถา กามภวาทีสุ ภวคติอาทิเภโท ลพฺภติ, ตถา ตตฺราปิ ลพฺเภถ. ยถา วา ตตฺถ น ลพฺภติ, ตถา อิเมสุปิ น ลพฺเภถ. สมานสฺมิฺหิ ภวภาเว เอเตสฺเวเวส วิภาโค อตฺถิ, น อิตรสฺมินฺติ โก เอตฺถ วิเสสเหตูติ. อิตโร ปุน ลทฺธิมตฺตวเสน ตํ ตํ ปฏิชานาติ เจว ปฏิกฺขิปติ จ.

๕๐๘. สพฺเพสฺเว สตฺตานํ อตฺถิ อนฺตราภโวติ ปุฏฺโ ยสฺมา นิรยูปคอสฺสตฺตูปคอรูปูปคานํ อนฺตราภวํ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. เตเนว การเณน ปฏิโลเม ปฏิชานาติ. อานนฺตริยสฺสาติอาทิ เยสํ โส อนฺตราภวํ น อิจฺฉติ, เต ตาว วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สุตฺตสาธเนนาติ.

อนฺตราภวกถาวณฺณนา.

๓. กามคุณกถาวณฺณนา

๕๑๐. อิทานิ กามคุณกถา นาม โหติ. ตตฺถ สกสมเย ตาว กามธาตูติ วตฺถุกามาปิ วุจฺจนฺติ – กิเลสกามาปิ กามภโวปิ. เอเตสุ หิ วตฺถุกามา กมนียฏฺเน กามา, สภาวนิสฺสตฺตสุฺตฏฺเน ธาตูติ กามธาตุ. กิเลสกามา กมนียฏฺเน เจว กมนฏฺเน จ กามา, ยถาวุตฺเตเนวตฺเถน ธาตูติ กามธาตุ. กามภโว กมนียฏฺเน กมนฏฺเน วตฺถุกามปวตฺติเทสฏฺเนาติ ตีหิ การเณหิ กาโม, ยถาวุตฺเตเนวตฺเถน ธาตูติ กามธาตุ. ปรสมเย ปน – ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย ปฺเจว กามคุณา กามธาตูติ คหิตํ. ตสฺมา เยสํ อยํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย กามธาตุนานตฺตํ โพเธตุํ ปฺเจวาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. นนุ อตฺถีติอาทิ กิเลสกามทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ตปฺปฏิสํยุตฺโตติ กามคุณปฏิสํยุตฺโต, กามคุณารมฺมโณติ อตฺโถ. โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺเจวาติ อิเมสุ ตปฺปฏิสํยุตฺตฉนฺทาทีสุ สติ ปฺเจว กามคุณา กามธาตูติ น วตฺตพฺพํ. เอเตปิ หิ ฉนฺทาทโย กมนียฏฺเน กามา จ ธาตุ จาติปิ กามธาตุ. กมนฏฺเน กามสงฺขาตา ธาตูติปิ กามธาตูติ อตฺโถ.

มนุสฺสานํ จกฺขุนฺติอาทิ วตฺถุกามทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ปรวาที ฉนฺนมฺปิ อายตนานํ วตฺถุกามภาเวน นกามธาตุภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน มโนติ ปุฏฺโ มหคฺคตโลกุตฺตรํ สนฺธาย นกามธาตุภาวํ ปฏิชานาติ. ยสฺมา ปน สพฺโพปิ เตภูมกมโน กามธาตุเยว, ตสฺมา นํ สกวาที สุตฺเตน นิคฺคณฺหาติ.

๕๑๑. กามคุณา ภโวติอาทิ ภวสฺส กามธาตุภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน กามคุณมตฺเต ภโวติ โวหาโร นตฺถิ, ตสฺมา ปรวาที นเหวาติ ปฏิกฺขิปติ. กามคุณูปคํ กมฺมนฺติอาทิ สพฺพํ กามคุณมตฺตสฺส นกามธาตุภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กามธาตุสงฺขาตกามภวูปคเมว หิ กมฺมํ อตฺถิ, กามภวูปคา เอว จ สตฺตา โหนฺติ. ตตฺถ ชายนฺติ ชิยนฺติ มิยนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, น กามคุเณสูติ อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

กามคุณกถาวณฺณนา.

๔. กามกถาวณฺณนา

๕๑๓-๕๑๔. อิทานิ กามกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย รูปายตนาทีนิ ปฺเจวายตนานิ กามาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เตสํ กิเลสกามสฺเสว นิปฺปริยาเยน กามภาวํ ทสฺเสตุํ ปฺเจวาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

กามกถาวณฺณนา.

๕. รูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๕-๕๑๖. อิทานิ รูปธาตุกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘รูปิโน ธมฺมา รูปธาตุ นามา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย รูปิโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สกวาที ยสฺมา รูปธาตุ นาม รูปภโว, น รูปมตฺตเมว, ตสฺมา เตนตฺเถน โจเทตุํ รูปธาตูติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ กามคุณกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สาว กามธาตูติ ปุฏฺโ ภูมิปริจฺเฉเทน วิโรธํ ปสฺสมาโน ปฏิกฺขิปติ. ปุน ทฬฺหํ กตฺวา ปุฏฺโ อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เอวํ สนฺเต ปน ทฺวีหิ ภเวหิ สมนฺนาคตตา อาปชฺชติ, เตน ตํ สกวาที กามภเวน จาติ อาทิมาห. อิตโร เอกสฺส ทฺวีหิ สมนฺนาคตาภาวโต ปฏิกฺขิปตีติ.

รูปธาตุกถาวณฺณนา.

๖. อรูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๗-๕๑๘. อรูปธาตุกถายปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อรูปธมฺเมสุ ปน เวทนากฺขนฺธเมว คเหตฺวา เวทนา ภโวติอาทินา นเยเนตฺถ เทสนา กตา. ตตฺถ กึ เต อรูปิโน ธมฺมาติ สงฺขํ คตา เวทนาทีสุ อฺตรา โหตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อรูปธาตุกถาวณฺณนา.

๗. รูปธาตุยา อายตนกถาวณฺณนา

๕๑๙. อิทานิ รูปธาตุยา อายตนกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘รูปี มโนมโย สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๗) สุตฺตํ นิสฺสาย พฺรหฺมกายิกานํ ฆานาทินิมิตฺตานิปิ อายตนาเนวาติ กปฺเปตฺวา สฬายตนิโก เตสํ อตฺตภาโวติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย สฬายตนิโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยํ ตตฺถ อายตนํ นตฺถิ, ตสฺส วเสน โจเทตุํ อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตโต ปรวาที ยํ ตตฺถ อชฺฌตฺติกานํ ติณฺณํ อายตนานํ ฆานาทิกํ สณฺานนิมิตฺตํ ตเทว อายตนนฺติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. พาหิรานํ คนฺธายตนาทีนํ วเสน ปุฏฺโ ฆานปฺปสาทาทโย ตตฺถ น อิจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ โคจรํ ปฏิเสเธนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปฏิโลมปฺหสํสนฺทนปฺเหสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๕๒๑. อตฺถิ ตตฺถ ฆานายตนํ อตฺถิ คนฺธายตนํ เตน ฆาเนน ตํ คนฺธํ ฆายตีติ ตสฺมึเยว ปรสมเย เอกจฺเจ อาจริเย สนฺธาย วุตฺตํ. เต กิร ตตฺถ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ ปริปุณฺณานิ อิจฺฉนฺติ, อายตเนน จ นาม สกิจฺจเกน ภวิตพฺพนฺติ เตหิ ฆานาทีหิ เต คนฺธาทโย ฆายนฺติ สายนฺติ ผุสนฺตีติปิ อิจฺฉนฺติ. ตํ ลทฺธึ สนฺธาย ปรวาที อามนฺตาติ ปฏิชานาติ.

๕๒๒. อตฺถิ ตตฺถ มูลคนฺโธติอาทีนิ ปน ปุฏฺโ อตฺถิภาวํ สาเธตุํ อสกฺโกนฺโต ปฏิกฺขิปติ. นนุ อตฺถิ ตตฺถ ฆานนิมิตฺตนฺติอาทิ สณฺานมตฺตสฺเสว สาธกํ, น อายตนสฺส, ตสฺมา อุทาหฏมฺปิ อนุทาหฏสทิสเมวาติ.

รูปธาตุยา อายตนกถาวณฺณนา.

๘. อรูเป รูปกถาวณฺณนา

๕๒๔-๕๒๖. อิทานิ อรูเป รูปกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วจนโต อารุปฺปภเวปิ โอฬาริกรูปา นิสฺสฏํ สุขุมรูปํ อตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ รูปนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อรูเป รูปกถาวณฺณนา.

๙. รูปํ กมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๕๒๗-๕๓๗. อิทานิ รูปํ กมฺมนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ กายวจีวิฺตฺติสงฺขาตํ รูปเมว กายกมฺมํ วจีกมฺมํ นาม, ตฺจ กุสลสมุฏฺานํ กุสลํ, อกุสลสมุฏฺานํ อกุสลนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย กุสเลน จิตฺเตน สมุฏฺิตนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สเจ ตํ กุสลํ, ยฺวายํ สารมฺมณาทิเภโท กุสลสฺส ลพฺภติ, อตฺถิ เต โส ตสฺสาติ โจเทตุํ สารมฺมณนฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปตฺถนา ปณิธีติ เจตนาเยเวตํ เววจนํ. กุสลเจตนาเยว หิ ปกปฺปยมานา ปตฺถนาติ. ปกปฺปนวเสน ิตตฺตา ปณิธีติ จ วุจฺจติ. ปรโต ปน กุสเลน จิตฺเตน สมุฏฺิตา เวทนา สฺา เจตนา สทฺธาติอาทีสุ เวทนาทีนฺเว เจตฺถ ปตฺถนา ปณิธีติ ลพฺภติ, น เจตนาย. กสฺมา? ทฺวินฺนํ เจตนานํ เอกโต อภาวา, โสตปติตตฺตา ปน เอวํ ตนฺติ คตาติ เวทิตพฺพา. รูปายตนนฺติอาทิ ปุริมวาเร ‘‘สพฺพนฺตํ กุสล’’นฺติ สํขิตฺตสฺส ปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสา สํสนฺทนนยา, วจีกมฺมกถา ‘‘อกุสเลน จิตฺเตน สมุฏฺิต’’นฺติอาทิวิธานฺจ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. อสุจีติ ปเนตฺถ สุกฺกํ อธิปฺเปตํ. สุตฺตสาธนํ อุตฺตานตฺถเมว.

รูปํ กมฺมนฺติกถาวณฺณนา.

๑๐. ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๕๔๐. อิทานิ ชีวิตินฺทฺริยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ชีวิตินฺทฺริยํ นาม จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อรูปธมฺโม, ตสฺมา รูปชีวิตินฺทฺริยํ นตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. นตฺถิ รูปีนํ ธมฺมานํ อายูติ ปฺเห อุปาทินฺนรูปานมฺปิ ติณกฏฺาทีนมฺปิ สนฺตานวเสน ปวตฺติเมว อายุ ิติ ยปนา ยาปนา อิริยนา วตฺตนา ปาลนาติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. อตฺถีติ ปฺเหปิ อิมินา การเณน ปฏิชานาติ. อตฺถิ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ปฺเห อรูปธมฺมานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยสนฺตานํ นาม อตฺถีติ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ.

๕๔๑. รูปีนํ ธมฺมานํ อายุ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ปฺเห สตฺตสนฺตาเน รูปิโน วา โหนฺตุ อรูปิโน วา, สพฺเพสํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อรูปชีวิตินฺทฺริยเมว อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ.

๕๔๒. นิโรธสมาปนฺนปฺเหสุปิ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อรูปชีวิตเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ จ ปฏิชานาติ จ. สกวาที ปน ตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ยํ อรูปปวตฺเต อสติ อตฺถิ, รูเปน เตน ภวิตพฺพนฺติ โจเทตุํ หฺจีติอาทิมาห. สงฺขารกฺขนฺธปฺเห ผสฺสาทิสงฺขารกฺขนฺธํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, กายกมฺมาทิสงฺขารกฺขนฺธํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอวมาทโยปิ ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนาติสฺส ลทฺธิ. สกวาที ปน ตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ยทิ นิรุทฺเธปิ อรูปปวตฺเต สงฺขารกฺขนฺโธ อตฺถิ, จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ อตฺถิตา โหตูติ โจเทตุํ อตฺถิ เวทนากฺขนฺโธติ อาทิมาห. อิตโร อนฺโตสมาปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สมาปชฺชนฺตสฺส จ วุฏฺหนฺตสฺส จ ปุพฺพาปรภาคํ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

๕๔๓. อสฺสตฺตวาเรปิ เอเสว นโย. ตสฺส หิ ลทฺธิยา อสฺสตฺตานํ ปฏิสนฺธิกาเล จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, เตน สห จิตฺตวิปฺปยุตฺตอรูปชีวิตินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาวตายุกํ ปวตฺตติ. ตสฺมา เตสํ ชีวิตินฺทฺริยํ นตฺถีติ ปุฏฺโ ปฏิกฺขิปติ, อตฺถีติ ปุฏฺโ ปฏิชานาติ. เวทนากฺขนฺธาทโยปิ เตสํ ปวตฺติวเสน ปฏิกฺขิปติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน ปฏิชานาติ. สกวาที ปน ตํ อนิจฺฉนฺโต ‘‘สเจ ตตฺถ เอกกฺขเณปิ เวทนาทโย อตฺถิ, ปฺจโวการภวตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ โจเทตุํ ปฺจโวการภโวติ อาห. อิตโร สุตฺตวิโรธภยา ปฏิกฺขิปติ.

๕๔๔-๕๔๕. เอกเทสํ ภิชฺชตีติ ปฺเห สมฺปยุตฺตํ ภิชฺชติ, วิปฺปยุตฺตํ ติฏฺตีติ ตสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. ทฺเว ชีวิตินฺทฺริยานีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺส. รูปารูปวเสน หิ ทฺเว ชีวิตินฺทฺริยานิ, เตหิเยว สตฺโต ชีวติ, เตสํ ภงฺเคน มรตีติ วุจฺจติ. จุติกฺขณสฺมิฺหิ ทฺเวปิ ชีวิตานิ สเหว ภิชฺชนฺติ.

ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา.

๑๑. กมฺมเหตุกถาวณฺณนา

๕๔๖. อิทานิ กมฺมเหตุกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยน อรหตา ปุริมภเว อรหา อพฺภาจิกฺขิตปุพฺโพ, โส ตสฺส กมฺมสฺส เหตุ อรหตฺตา ปริหายตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย กมฺมเหตูติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปริหานิกถายํ วุตฺตนยเมว.

หนฺท หิ อรหนฺตานํ อพฺภาจิกฺขตีติ อิทํ ยสฺส กมฺมสฺส เหตุ ปริหายติ, ตํ สมฺปฏิจฺฉาเปตุํ วทติ. อถ นํ สกวาที ตํ ปกฺขํ ปฏิชานาเปตฺวา ‘‘ยทิ เอวํ เยหิ อรหนฺโต น อพฺภาจิกฺขิตปุพฺพา, เต สพฺเพ อรหตฺตํ ปาปุเณยฺยุ’’นฺติ โจเทตุํ เย เกจีติอาทิมาห. อิตโร ตสฺส กมฺมสฺส อรหตฺตํ สมฺปาปุณเน นิยามํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

กมฺมเหตุกถาวณฺณนา.

อฏฺโม วคฺโค.

๙. นวมวคฺโค

๑. อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา

๕๔๗. อิทานิ อานิสํสทสฺสาวีกถา นาม โหติ. ตตฺถ สกสมเย สงฺขาเร อาทีนวโต นิพฺพานฺจ อานิสํสโต ปสฺสนฺตสฺส สํโยชนปฺปหานํ โหตีติ นิจฺฉโย. เยสํ ปน เตสุ ทฺวีสุปิ เอกํสิกวาทํ คเหตฺวา ‘‘อานิสํสทสฺสาวิโนว สํโยชนปฺปหานํ โหตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถสฺส ‘‘เอกํสิกวาโท ตยา คหิโต, อาทีนโวปิ ทฏฺพฺโพเยวา’’ติ วิภาคทสฺสนตฺถํ สกวาที สงฺขาเรติอาทิมาห.

สงฺขาเร จ อนิจฺจโต มนสิกโรติ, นิพฺพาเน จ อานิสํสทสฺสาวี โหตีติ ปฺหสฺมึ อยมธิปฺปาโย – อานิสํสทสฺสาวิสฺส สํโยชนานํ ปหานํ โหตีติ เตสํ ลทฺธิ. นนุ สงฺขาเร อนิจฺจโต มนสิกโรโต สํโยชนา ปหียนฺตีติ จ ปุฏฺโ อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. เตน เต สงฺขาเร จ อนิจฺจโต มนสิกโรติ, นิพฺพาเน จ อานิสํสทสฺสาวี โหตีติ อิทํ อาปชฺชติ, กึ สมฺปฏิจฺฉสิ เอตนฺติ. ตโต ปรวาที เอกจิตฺตกฺขณํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ทุติยํ ปุฏฺโ นานาจิตฺตวเสน ปฏิชานาติ. สกวาที ปนสฺส อธิปฺปายํ มทฺทิตฺวา อนิจฺจมนสิการสฺส อานิสํสทสฺสาวิตาย จ เอกโต ปฏิฺาตตฺตา ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ สโมธานํ โหตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ทฺวินฺนํ สโมธานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ทุกฺขโตติอาทิปฺเหสุปิ เอเสว นโย. กึ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ, กึ อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโต สํโยชนา ปหียนฺติ, อุทาหุ นิพฺพาเน อานิสํสทสฺสาวิสฺส, อุทาหุ ทฺเวปิ เอกโต กโรนฺตสฺสาติ. ยทิ ตาว อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโต ปหานํ ภเวยฺย, วิปสฺสนาจิตฺเตเนว ภเวยฺย. อถ อานิสํสทสฺสาวิโน, อนุสฺสววเสน นิพฺพาเน อานิสํสํ ปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาจิตฺเตเนว ภเวยฺย, อถ ทฺเวปิ เอกโต กโรนฺตสฺส ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ผสฺสาทีนํ สโมธานํ ภเวยฺย. ยสฺมา ปน อริยมคฺคกฺขเณ อนิจฺจาทิมนสิการสฺส กิจฺจํ นิปฺผตฺตึ คจฺฉติ ปุน นิจฺจโตติอาทิคหณสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมภาวโต, นิพฺพาเน จ ปจฺจกฺขโตว อานิสํสทสฺสนํ อิชฺฌติ, ตสฺมา กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโต อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺติวเสน จ นิพฺพาเน อานิสํสทสฺสาวิสฺส สํโยชนานํ ปหานํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

๕๔๘. นิพฺพาเน สุขานุปสฺสีติ สุตฺตํ นิพฺพาเน สุขานุปสฺสนาทิภาวเมว สาเธติ, น อานิสํสทสฺสาวิตามตฺเตน สํโยชนานํ ปหานํ. ตสฺมา อาภตมฺปิ อนาภตสทิสเมวาติ.

อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา.

๒. อมตารมฺมณกถาวณฺณนา

๕๔๙. อิทานิ อมตารมฺมณกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘นิพฺพานํ มฺตี’’ติอาทีนํ อโยนิโส อตฺถํ คเหตฺวา อมตารมฺมณํ สํโยชนํ โหตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สเจ อมตารมฺมณํ สํโยชนํ, อมตสฺส สํโยชนิยาทิภาโว อาปชฺชตีติ โจเทตุํ อมตํ สํโยชนิยนฺติอาทิมาห. อิตโร สุตฺตวิโรธภเยน สพฺพํ ปฏิกฺขิปติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิพฺพานํ นิพฺพานโตติ อาหฏสุตฺตํ ปน ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ สนฺธาย ภาสิตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อมตารมฺมณกถาวณฺณนา.

๓. รูปํ สารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๒-๕๕๓. อิทานิ รูปํ สารมฺมณนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ รูปํ สปฺปจฺจยฏฺเน สารมฺมณํ นาม โหติ, น อฺํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณปจฺจยวเสน. เยสํ ปน อวิเสเสน รูปํ สารมฺมณนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อารมฺมณตฺถสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. น วตฺตพฺพนฺติ ปฺเห โอลุพฺภารมฺมณํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ทุติยปฺเหปิ ปจฺจยารมฺมณํ สนฺธาย ปฏิฺา ตสฺเสว. อิติ สปฺปจฺจยฏฺเเนเวตฺถ สารมฺมณตา สิทฺธาติ.

รูปํ สารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา.

๔. อนุสยา อนารมฺมณกถาวณฺณนา

๕๕๔-๕๕๖. อิทานิ อนุสยา อนารมฺมณาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อนุสยา นาม จิตฺตวิปฺปยุตฺตา อเหตุกา อพฺยากตา, เตเนว จ อนารมฺมณาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว เอกจฺจานฺจ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อนุสยาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ อนารมฺมเณน นาม เอวํวิเธน ภวิตพฺพนฺติ โจเทตุํ รูปนฺติอาทิมาห. กามราโคติอาทิ กามราคานุสยโต อนฺตฺตา ทสฺสิตํ. สงฺขารกฺขนฺโธ อนารมฺมโณติ ปฺเห จิตฺตสมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. อนุสยํ ชีวิตินฺทฺริยํ กายกมฺมาทิรูปฺจ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนํ, ตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อิมินาวุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สานุสโยติ ปฺเห ปน อปฺปหีนานุสยตฺตา สานุสยตา อนุฺาตา. น อนุสยานํ ปวตฺติสพฺภาวา. โย หิ อปฺปหีโน, น โส อตีโต, นานาคโต, น ปจฺจุปฺปนฺโน จ. มคฺควชฺฌกิเลโส ปเนส อปฺปหีนตฺตาว อตฺถีติ วุจฺจติ. เอวรูปสฺส จ อิทํ นาม อารมฺมณนฺติ น วตฺตพฺพํ. ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตํ ปเนตํ น เกวลํ อนุสยสฺส, ราคาทีนมฺปิ ตาทิสเมว, ตสฺมา อนุสยานํ อนารมฺมณตาสาธกํ น โหตีติ.

อนุสยา อนารมฺมณาติกถาวณฺณนา.

๕. าณํ อนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๗-๕๕๘. อิทานิ าณํ อนารมฺมณนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา จกฺขุวิฺาณสมงฺคี าณีติ วุจฺจติ, ตสฺส าณสฺส ตสฺมึ ขเณ อารมฺมณํ นตฺถิ, ตสฺมา าณํ อนารมฺมณนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อนุสยกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

าณํ อนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา.

๖. อตีตานาคตารมฺมณกถาวณฺณนา

๕๕๙-๕๖๑. อิทานิ อตีตานาคตารมฺมณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อตีตานาคตารมฺมณํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตทารมฺมเณน จิตฺเตน อารมฺมณสฺส นตฺถิตาย อนารมฺมเณน ภวิตพฺพนฺติ อตีตํ อนารมฺมณนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย อตีตารมฺมณนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อตีตานาคตารมฺมณกถาวณฺณนา.

๗. วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา

๕๖๒. อิทานิ วิตกฺกานุปติตกถา นาม โหติ. ตตฺถ วิตกฺกานุปติตา นาม ทุวิธา – อารมฺมณโต จ สมฺปโยคโต จ. ตตฺถ อสุกจิตฺตํ นาม วิตกฺกสฺสารมฺมณํ น โหตีติ นิยมาภาวโต สิยา สพฺพํ จิตฺตํ วิตกฺกานุปติตํ, วิตกฺกวิปฺปยุตฺตจิตฺตสพฺภาวโต ปน น สพฺพํ จิตฺตํ วิตกฺกานุปติตํ. อิติ อิมํ วิภาคํ อกตฺวา อวิเสเสเนว สพฺพํ จิตฺตํ วิตกฺกานุปติตนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ปาฬิวเสเนว นิยฺยาตีติ.

วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา.

๘. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา

๕๖๓. อิทานิ วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขารา’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา สพฺพโส วิตกฺกยโต วิจารยโต อนฺตมโส มโนธาตุปวตฺติกาเลปิ วิตกฺกวิปฺผาโร สทฺโทเยวาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย สพฺพโสติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยทิ วิตกฺกวิปฺผารมตฺตํ สทฺโท, ผสฺสาทิวิปฺผาโรปิ สทฺโท ภเวยฺยาติ โจเทตุํ สพฺพโส ผุสยโตติอาทิมาห. อิตโร ตาทิสํ สุตฺตเลสํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. วิตกฺกวิปฺผาโร สทฺโท โสตวิฺเยฺโยติ วิตกฺกสฺส วิปฺผารมตฺตเมว สทฺโทติ กตฺวา ปุจฺฉติ, น วิตกฺกวิปฺผารสมุฏฺิตํ สุตฺตปมตฺตานํ สทฺทํ, อิตโร ปฏิกฺขิปติ. นนุ วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท น โสตวิฺเยฺโยติ อิทํ ตสฺเสว ลทฺธิยา ทสฺเสติ. โส หิ วิตกฺกวิปฺผารมตฺตเมว สทฺทํ วทติ, โส น โสตวิฺเยฺโยติ. อิตโร ปน ‘‘วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสตี’’ ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๘) วจนโต โสตวิฺเยฺโยวาติ วทติ.

วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา.

๙. นยถาจิตฺตสฺส วาจาติกถาวณฺณนา

๕๖๔. อิทานิ นยถาจิตฺตสฺส วาจาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา โกจิ อฺํ ภณิสฺสามีติ อฺํ ภณติ, ตสฺมา นยถาจิตฺตสฺส วาจา จิตฺตานุรูปา จิตฺตานุคติกา น โหติ, วินาปิ จิตฺเตน ปวตฺตตีติ เยสํ ลทฺธิ; เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ ตํสมุฏฺาปกํ จิตฺตํ น สิยา, ผสฺสาทโยปิ ตสฺมึ ขเณ น สิยุ’’นฺติ โจเทตุํ อผสฺสกสฺสาติอาทิมาห. น ภณิตุกาโมติอาทีสุ ยสฺมา อฺํ ภณิสฺสามีติ อฺํ ภณนฺโตปิ ภณิตุกาโมเยว นาม โหติ, ตสฺมา น เหวาติ ปฏิกฺขิปติ.

๕๖๕. นนุ อตฺถิ โกจิ อฺํ ภณิสฺสามีติอาทีสุ จีวรนฺติ ภณิตุกาโม จีรนฺติ ภเณยฺย. ตตฺถ อฺํ ภณิตุกามตาจิตฺตํ, อฺํ ภณนจิตฺตํ, อิติ ปุพฺพภาเคน จิตฺเตน อสทิสตฺตา อยถาจิตฺโต นาม โหติ, เตนสฺส เกวลํ อนาปตฺติ นาม โหติ, น ปน จีรนฺติ วจนสมุฏฺาปกจิตฺตํ นตฺถิ, อิติ อจิตฺตกา สา วาจาติ อตฺถํ สนฺธาย อิมินา อุทาหรเณน ‘‘นยถาจิตฺตสฺส วาจา’’ติ ปติฏฺาปิตาปิ อปฺปติฏฺาปิตาว โหตีติ.

นยถาจิตฺตสฺส วาจาติกถาวณฺณนา.

๑๐. นยถาจิตฺตสฺส กายกมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๕๖๖-๕๖๗. อิทานิ นยถาจิตฺตสฺส กายกมฺมนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา โกจิ อฺตฺร คจฺฉิสฺสามีติ อฺตฺร คจฺฉติ, ตสฺมา นยถาจิตฺตสฺส กายกมฺมํ จิตฺตานุรูปํ จิตฺตานุคติกํ น โหติ, วินาปิ จิตฺเตน ปวตฺตตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํเยว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

นยถาจิตฺตสฺส กายกมฺมนฺติกถาวณฺณนา.

๑๑. อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๕๖๘-๕๗๐. อิทานิ อตีตานาคเตหิ สมนฺนาคตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมนฺนาคตปฺตฺติ ปฏิลาภปฺตฺตีติ ทฺเว ปฺตฺติโย เวทิตพฺพา. ตาสุ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมสมงฺคี สมนฺนาคโตติ วุจฺจติ. อฏฺ สมาปตฺติลาภิโน ปน สมาปตฺติโย กิฺจาปิ น เอกกฺขเณ ปวตฺตนฺติ, อฺา อตีตา โหนฺติ, อฺา อนาคตา, อฺา ปจฺจุปฺปนฺนา, ปฏิวิชฺฌิตฺวา อปริหีนตาย ปน ลาภีติ วุจฺจติ. ตตฺถ เยสํ อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ยสฺมา ฌานลาภีนํ อตีตานาคตานิ ฌานานิปิ อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เต อตีเตนปิ อนาคเตนปิ สมนฺนาคตา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ. เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ. ‘‘อฏฺวิโมกฺขฌายี’’ติอาทิ ปน ลาภีภาวสฺส สาธกํ, น สมนฺนาคตภาวสฺสาติ.

อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา.

นวโม วคฺโค.

๑๐. ทสมวคฺโค

๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๕๗๑-๕๗๒. อิทานิ นิโรธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อุปปตฺเตสิยนฺติ สงฺขํ คตสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณน สเหว กิริยาติ สงฺขํ คตา กุสลา วา อกุสลา วา จตฺตาโร ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจาติ ปฺจกฺขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ หิ อนุปฺปนฺเนสุ ภวงฺเค นิรุทฺเธ สนฺตติวิจฺเฉโท ภเวยฺยา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อุปปตฺเตสิเยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ อุปปตฺเตสิเยติ จตูสุปิ ปเทสุ พหุวจนภุมฺมตฺเถ เอกวจนภุมฺมํ. อุปปตฺเตสิเยสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อนิรุทฺเธสูติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ทสนฺนนฺติ อุปปตฺเตสิยขนฺธานฺจ กิริยขนฺธานฺจ วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห ขนฺธลกฺขณวเสน กิริยวเสน จ ปฺเจว นาม เต ขนฺธาติ ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห ปุริมปจฺฉิมวเสน อุปปตฺเตสิยกิริยวเสน จ นานตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ทฺวินฺนํ ปน ผสฺสานํ จิตฺตานฺจ สโมธานํ ปุฏฺโ สุตฺตเลสาภาเวน ปฏิกฺขิปติ.

กิริยา จตฺตาโรติ รูเปน วินา กุสลา อกุสลา วา จตฺตาโร คหิตา. กิริยาาณนฺติ ปรวาทินา จกฺขุวิฺาณสมงฺคิกฺขเณ อรหโต อนุฺาตํ อนารมฺมณาณํ. นิรุทฺเธ มคฺโค อุปฺปชฺชตีติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อนิรุทฺเธ อนุปฺปชฺชนโต ปฏิฺา สกวาทิสฺส. มโต มคฺคํ ภาเวตีติ ฉเลน ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ยสฺมา ปน ปฏิสนฺธิโต ยาว จุติจิตฺตา สตฺโต ชีวติเยว นาม, ตสฺมา สกวาที น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

นิโรธกถาวณฺณนา.

๒. รูปํมคฺโคติกถาวณฺณนา

๕๗๓-๕๗๕. อิทานิ รูปํ มคฺโคติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา รูป’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกสมฺมิติยมหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย มคฺคสมงฺคิสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต สมฺมาวาจาทโย รูปํ, น วิรติโย, ยถา สมฺมาทิฏฺาทิมคฺโค สารมฺมณาทิสภาโว, เอวํ ตมฺปิ รูปํ สิยา’’ติ โจเทตุํ สารมฺมโณติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปรวาทิโน ลทฺธิอนุรูเปน เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

รูปํ มคฺโคติกถาวณฺณนา.

๓. ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนา

๕๗๖. อิทานิ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ ตสฺส มคฺคภาวนา อตฺถิ, ปฺจวิฺาณคติเกน วา มคฺเคน, มคฺคคติเกหิ วา ปฺจวิฺาเณหิ ภวิตพฺพํ, น จ ตานิ มคฺคคติกานิ อนิพฺพานารมฺมณตฺตา อโลกุตฺตรตฺตา จ, น มคฺโค ปฺจวิฺาณคติโก เตสํ ลกฺขเณน อสงฺคหิตตฺตา’’ติ โจเทตุํ นนุ ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคภาวนา สิยา, เยน มโนวิฺาเณน มคฺโค สมฺปยุตฺโต, ตมฺปิ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส สิยา. เอวํ สนฺเต ยทิทํ ‘‘ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติอาทิ ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ เอวํ อวตฺวา ‘‘ฉ วิฺาณา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ตถา ปน อวตฺวา ‘‘ปฺจวิฺาณา’’ตฺเวว วุตฺตํ, ตสฺมา น วตพฺพํ ‘‘ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ. ยสฺมา เจตฺถ อยเมว อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที ตํ ลกฺขณํ ปรวาทึ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาห.

อปโร นโย – ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโกปิ โหติ. เต จ อุปฺปนฺนารมฺมณา, มคฺโค นวตฺตพฺพารมฺมโณ. เต ปุเรชาตวตฺถุกาว มคฺโค อวตฺถุโกปิ. เต ปุเรชาตารมฺมณา, มคฺโค อปุเรชาตารมฺมโณ. เต อชฺฌตฺติกวตฺถุกาว มคฺโค อวตฺถุโกปิ โหติ. เต จ รูปาทิวเสน พาหิรารมฺมณา, มคฺโค นิพฺพานารมฺมโณ. เต อนิรุทฺธํ วตฺถุํ นิสฺสยํ กตฺวา ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโกปิ. เต อนิรุทฺธาเนว รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนารมฺมณา, มคฺโค นิพฺพานารมฺมโณ. เต นานาวตฺถุกา, มคฺโค อวตฺถุโก วา เอกวตฺถุโก วา. เต นานารมฺมณา มคฺโค เอการมฺมโณ. เต อตฺตโน อตฺตโนว รูปาทิโคจเร ปวตฺตนโต น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, มคฺโค รูปาทีสุ เอกมฺปิ โคจรํ น กโรติ. เต กิริยมโนธาตุํ ปุเรจาริกํ กตฺวา อุปฺปชฺชนโต น อสมนฺนาหารา น อมนสิการา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺโค นิราวชฺชโนว. เต สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ โวกิณฺณา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส โวกาโรเยว นตฺถิ. เต อฺมฺํ ปุพฺพจริมภาเวน อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส เตหิ สทฺธึ ปุริมปจฺฉิมตาว นตฺถิ, เตสํ อนุปฺปตฺติกาเล ติกฺขวิปสฺสนาสมเย, เตสํ อนุปฺปตฺติเทเส อารุปฺเปปิ จ อุปฺปชฺชนโต. เต สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตตฺตา น อฺมฺสฺส สมนนฺตรา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส สมฺปฏิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตภาโวว นตฺถิ. เตสํ อฺตฺร อภินิปาตา อาโภคมตฺตมฺปิ กิจฺจํ นตฺถิ, มคฺคสฺส กิเลสสมุคฺฆาตนํ กิจฺจนฺติ. ยสฺมา เจตฺถ อยมฺปิ อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที อิเมหากาเรหิ ปรวาทึ มคฺคสฺส อปฺจวิฺาณคติกภาวํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาห.

๕๗๗. สุฺตํ อารพฺภาติ ‘‘ยถา โลกุตฺตรมคฺโค สุฺตํ นิพฺพานํ อารพฺภ, โลกิโย สุทฺธสงฺขารปุฺชํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กึ เต เอวํ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติ วจนโต ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี’’ติ วจนโต ยํ ตตฺถ อนิมิตฺตํ, ตเทว สุฺตนฺติ สนฺธาย ปฏิชานาติ. จกฺขุฺจ ปฏิจฺจาติ ปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย.

๕๗๘-๕๗๙. จกฺขุวิฺาณํ อตีตานาคตํ อารพฺภาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – มโนวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา, มโนวิฺาณฺจ อตีตานาคตมฺปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กึ เต เอวํ จกฺขุวิฺาณมฺปีติ. ผสฺสํ อารพฺภาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหีติ เอตฺถ ชวนกฺขเณ น นิมิตฺตคฺคาหิตา วุตฺตา, น จกฺขุวิฺาณกฺขเณ. ตสฺมา โลกิยมคฺคมฺปิ สนฺธาเยตํ อสาธกนฺติ.

ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนา.

๔. ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถาวณฺณนา

๕๘๐-๕๘๓. อิทานิ ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถา นาม โหติ. สา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพาติ.

ปฺจวิฺาณา กุสลาปีติกถาวณฺณนา.

๕. ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถาวณฺณนา

๕๘๔-๕๘๖. อิทานิ ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ อาโภโค นาม กุสลากุสลวเสน โหติ สตฺถารา จ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ, น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ปฺจวิฺาณา สาโภคา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.

ปฺจวิฺาณา สาโภคาติกถาวณฺณนา.

๖. ทฺวีหิ สีเลหีติกถาวณฺณนา

๕๘๗-๕๘๙. อิทานิ ทฺวีหิ สีเลหีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๑.๒๓) ยสฺมา โลกิเยน สีเลน สีลวา โลกุตฺตรํ มคฺคํ ภาเวติ, ตสฺมา ‘‘ปุริเมน จ โลกิเยน มคฺคกฺขเณ โลกุตฺตเรน จาติ ทฺวีหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต นาม โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํเยว, เต สนฺธาย มคฺคสมงฺคีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ โส เอกกฺขเณ โลกิยโลกุตฺตเรหิ ทฺวีหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต, ทฺวีหิ ผสฺสาทีหิปิ เตน สมนฺนาคเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ทฺวีหิ ผสฺเสหีติอาทิมาห. อิตโร ตถารูปํ นยํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. โลกิเยน จ โลกุตฺตเรน จาติ ปฺเห ปุพฺเพ สมาทินฺนฺจ มคฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนสมฺมาวาจาทีนิ จ สนฺธาย ปฏิชานาติ.

โลกิเย สีเล นิรุทฺเธติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ขณภงฺคนิโรธํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อิตโร ปน ตํ วีติกฺกมํ วิย สลฺลกฺเขนฺโต ทุสฺสีโลติอาทิมาห. ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปนสฺส ปุพฺเพ อภินฺนสีลตํเยว ทีเปติ, น ทฺวีหิ สมนฺนาคตตํ. ตสฺมา อปฺปติฏฺิตาว ลทฺธีติ.

ทฺวีหิ สีเลหีติกถาวณฺณนา.

๗. สีลํ อเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา

๕๙๐-๕๙๔. อิทานิ สีลํ อเจตสิกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา สีเล อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธปิ สมาทานเหตุโก สีโลปจโย นาม อตฺถิ, เยน โส สีลวาเยว นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘สีลํ อเจตสิก’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ลทฺธิปติฏฺาปนมฺปิ อโยนิโส คหิตตฺตา อปฺปติฏฺาปนเมวาติ.

สีลํ อเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา.

๘. สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถาวณฺณนา

๕๙๕-๕๙๗. อิทานิ สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ น จิตฺตานุปริวตฺตีติ ภาสนฺตรเมว นานํ, เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.

สีลํ น จิตฺตานุปริวตฺตีติกถาวณฺณนา.

๙. สมาทานเหตุกถาวณฺณนา

๕๙๘-๖๐๐. อิทานิ สมาทานเหตุกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อารามโรปา’’ติ คาถาย อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘สทา ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ วจนโต ‘‘สมาทานเหตุกํ สีลํ วฑฺฒตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สีโลปจยํ สนฺธาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.

สมาทานเหตุกถาวณฺณนา.

๑๐. วิฺตฺติ สีลนฺติกถาวณฺณนา

๖๐๑-๖๐๒. อิทานิ วิฺตฺติ สีลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ กายวิฺตฺติ กายกมฺมํ, วจีวิฺตฺติ วจีกมฺมนฺติ คหิตตฺตา ‘‘วิฺตฺติ สีล’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย วิฺตฺตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา สีลํ นาม วิรติ, น รูปธมฺโม, ตสฺมา เตนตฺเถน โจเทตุํ ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทิมาห. อภิวาทนํ สีลนฺติอาทิ ยถารูปํ วิฺตฺตึ โส ‘‘สีล’’นฺติ มฺติ ตํ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน สา วิรติ น โหติ, ตสฺมา ปุน ปาณาติปาตาติอาทิมาห. ลทฺธิ ปนสฺส ฉเลน ปติฏฺิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.

วิฺตฺติ สีลนฺติกถาวณฺณนา.

๑๑. อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา

๖๐๓-๖๐๔. อิทานิ อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อปุฺูปจยฺเจว อาณตฺติยา จ ปาณาติปาตาทีสุ องฺคปาริปูรึ สนฺธาย ‘‘อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺย’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ สา ทุสฺสีลฺยํ, ปาณาติปาตาทีสุ อฺตรา สิยา’’ติ โจเทตุํ ปาณาติปาโตติอาทิมาห. ปาปกมฺมํ สมาทิยิตฺวาติ ‘‘อสุกํ นาม ฆาเตสฺสามิ, อสุกํ ภณฺฑํ อวหริสฺสามี’’ติ เอวํ ปาปสมาทานํ กตฺวา. อุโภ วฑฺฒนฺตีติ ปุฏฺโ ทานกฺขเณ ปาปสฺส อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ ปาปูปจยํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ ปริโภคมยกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ลทฺธิปติฏฺาปนมฺปิสฺส ปาปสมาทินฺนปุพฺพภาคเมว สาเธติ; น อวิฺตฺติยา ทุสฺสีลภาวนฺติ.

อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา.

ทสโม วคฺโค.

ทุติยปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๑. เอกาทสมวคฺโค

๑-๓. ติสฺโสปิ อนุสยกถาวณฺณนา

๖๐๕-๖๑๓. อิทานิ อนุสยา อพฺยากตา, อเหตุกา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตาติ ติสฺโสปิ อนุสยกถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน กุสลาพฺยากเต จิตฺเต วตฺตมาเน ‘‘สานุสโย’’ติ วตฺตพฺโพ, โย จสฺส ตสฺมึ ขเณ เหตุ, น เตน เหตุนา อนุสยา สเหตุกา, น เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา ‘‘เต อพฺยากตา, อเหตุกา, จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สกฺกา ปาฬิมคฺเคเนว ชานิตุนฺติ, ตสฺมา น วิตฺถาริตนฺติ.

ติสฺโสปิ อนุสยกถาวณฺณนา.

๔. าณกถาวณฺณนา

๖๑๔-๖๑๕. อิทานิ าณกถา นาม โหติ. ตตฺถ มคฺคาเณน อฺาเณ วิคเตปิ ปุน จกฺขุวิฺาณาทิวเสน าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเต วตฺตมาเน ยสฺมา ตํ มคฺคจิตฺตํ น ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘น วตฺตพฺพํ าณี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ อฺาเณ วิคเต ‘าณี’ติ ปฺตฺติ น สิยา, ราคาทีสุ วิคเตสุ วีตราคาทิปฺตฺติปิ น สิยาติ ปุคฺคลปฺตฺติยํ อโกวิโทสี’’ติ โจเทตุํ ราเค วิคเตติอาทิมาห. อิตโร เตสุ วิคเตสุ สราคาทิภาเว ยุตฺตึ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปริโยสาเน ยสฺมา าณปฏิลาเภน โส าณีติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺสาติ.

าณกถาวณฺณนา.

๕. าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๖๑๖-๖๑๗. อิทานิ าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา จกฺขุวิฺาณาทิสมงฺคี ปฏิลทฺธํ มคฺคาณํ สนฺธาย ‘‘าณี’’ติ วุจฺจติ, น จสฺส ตํ เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺต’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ จิตฺตวิปฺปยุตฺเตสุ รูปาทีสุ อฺตรํ สิยา’’ติ โจเทตุํ รูปนฺติอาทิมาห. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ปริโยสาเน ปน ปฺวาติ ปุฏฺโ ปฏิลาภวเสน ตํ ปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิชานาตีติ.

าณํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา.

๖. อิทํ ทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา

๖๑๘-๘๒๐. อิทานิ อิทํ ทุกฺขนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ โยคาวจโร อิทํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสติ, เอวมสฺส อิทํ ทุกฺขนฺติ วาจํ ภาสโต จ อิทํ ทุกฺขนฺติ าณํ ปวตฺตตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, มคฺคกฺขเณ ตถา วาจาภาสนํ าณปฺปวตฺติฺจ สนฺธาย ปฏิฺา อิตรสฺส. ยสฺมา ปน โส เสสสจฺจปฏิสํยุตฺตํ วาจํ ปุถุชฺชโนว ภาสติ, น จ ตสฺส ตถา าณปฺปวตฺตีติ อิจฺฉติ, ตสฺมา สมุทยาทิปฺเหสุ ปฏิกฺขิปติ. รูปํ อนิจฺจนฺติอาทิ ทุกฺขปริยายทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อิตโร ปน สกสมเย ตาทิสํ โวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อิติ จ ทนฺติ จาติอาทิ ยทิ ตสฺส ทุกฺเข าณํ ปวตฺตติ, อิ-การ ทํ-การ ทุ-การ ข-กาเรสุ ปฏิปาฏิยา จตูหิ าเณหิ ปวตฺติตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อิตโร ปน ตถา น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ.

อิทํ ทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา.

๗. อิทฺธิพลกถาวณฺณนา

๖๒๑-๖๒๔. อิทานิ อิทฺธิพลกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิทฺธิปาทภาวนานิสํสสฺส อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต กปฺปํ ติฏฺเยฺยา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ กปฺโป นาม มหากปฺโป, กปฺเปกเทโส, อายุกปฺโปติ ติวิโธ. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖) เอตฺถ หิ มหากปฺโปว กปฺโปติ วุตฺโต. ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ กปฺโป อายุปฺปมาณ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๒๓) เอตฺถ กปฺเปกเทสา. ‘‘กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๔) เอตฺถ อายุกปฺโป. อายุกปฺปนํ อายุวิธานํ กมฺมสฺส วิปากวเสน วา วสฺสคณนาย วา อายุปริจฺเฉโทติ อตฺโถ. เตสุ มหากปฺปํ สนฺธาย ปุจฺฉติ, อิตโร ปฏิชานาติ.

อถ นํ สกวาที ‘‘สเจ เต อิทฺธิพเลน สมนฺนาคโต, ‘โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๓) เอวํ ปริจฺฉินฺนา อายุกปฺปา อุทฺธํ มหากปฺปํ วา มหากปฺเปกเทสํ วา ชีเวยฺย อิทฺธิมยิเกนสฺส อายุนา ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อิทฺธิมยิโก โส อายูติอาทิมาห. อิตโร ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ นาม อิทฺธิมยิกํ นตฺถิ, กมฺมสมุฏฺานเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปติ. โก ปเนตฺถ อิทฺธิมโต วิเสโส, นนุ อนิทฺธิมาปิ อายุกปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ? อยํ วิเสโส – อิทฺธิมา หิ ยาวตายุกํ ชีวิตปฺปวตฺติยา อนฺตรายกเร ธมฺเม อิทฺธิพเลน ปฏิพาหิตฺวา อนฺตรา อกาลมรณํ นิวาเรตุํ สกฺโกติ, อนิทฺธิมโต เอตํ พลํ นตฺถิ. อยเมเตสํ วิเสโส.

อตีตํ อนาคตนฺติ อิทํ อวิเสเสน กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปฏิฺาตตฺตา โจเทติ. ทฺเว กปฺเปติอาทิ ‘‘ยทิ อิทฺธิมา ชีวิตปริจฺเฉทํ อติกฺกมิตุํ สกฺโกติ, น เกวลํ เอกํ อเนเกปิ กปฺเป ติฏฺเยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อุปฺปนฺโน ผสฺโสติอาทิ น สพฺพํ อิทฺธิยา ลพฺภติ, อิทฺธิยา อวิสโยปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อิทฺธิพลกถาวณฺณนา.

๘. สมาธิกถาวณฺณนา

๖๒๕-๖๒๖. อิทานิ สมาธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ เอกจิตฺตกฺขเณ อุปฺปนฺนาปิ เอกคฺคตา สมาธานฏฺเน สมาธีติ อคฺคเหตฺวา ‘‘สตฺต รตฺตินฺทิวานิ เอกนฺตสุขปฏิสํเวที วิหริตุ’’นฺติอาทิวจนํ (ม. นิ. ๑.๑๘๐) นิสฺสาย ‘‘จิตฺตสนฺตติ สมาธี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ สพฺพตฺถิวาทานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย จิตฺตสนฺตตีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ จิตฺตสนฺตติ สมาธิ, จิตฺตสนฺตติ นาม อตีตาปิ อตฺถิ, อนาคตาปิ อตฺถิ. น หิ เอกํ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตเมว จิตฺตสนฺตติ นาม โหติ, กึ เต สพฺพาปิ สา สมาธี’’ติ โจเทตุํ อตีตาติอาทิมาห, อิตโร ตถา อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ.

นนุ อตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทิ ‘‘จิตฺตสนฺตติยํ ปจฺจุปฺปนฺนเมว จิตฺตํ กิจฺจกรํ, อตีตานาคตํ นิรุทฺธตฺตา อนุปฺปนฺนตฺตา จ นตฺถิ, กถํ ตํ สมาธิ นาม โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอกจิตฺตกฺขณิโกติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ตโต ยา สกสมเย ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’’ติอาทีสุ ปจฺจุปฺปนฺนกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เอกคฺคตา สมาธีติ วุตฺตา, ตํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. จกฺขุวิฺาณสมงฺคีติอาทิ ‘‘เอกจิตฺตกฺขณิโก’’ติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา ฉเลน วุตฺตํ, เตเนว สกวาทินา ปฏิกฺขิตฺตํ. นนุ วุตฺตํ ภควตาติ สุตฺตํ ปุริมปจฺฉิมวเสน ปวตฺตมานสฺส สมาธิสฺส อพฺโพกิณฺณตํ สาเธติ, น สนฺตติยา สมาธิภาวํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สมาธิกถาวณฺณนา.

๙. ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา

๖๒๗. อิทานิ ธมฺมฏฺิตตากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ิตาว สา ธาตู’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทสงฺขาตา ธมฺมฏฺิตตา นาม เอกา อตฺถิ, สา จ ปรินิปฺผนฺนา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ ปรินิปฺผนฺนานํ อวิชฺชาทีนํ อฺา ธมฺมฏฺิตตา นาม ปรินิปฺผนฺนา อตฺถิ, ตายปิ จ เต ธมฺมฏฺิตตาย อฺา ิตตา ปรินิปฺผนฺนา อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ตาย ิตตาติอาทิมาห. ปรวาที เอวรูปาย ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ อนนฺตรปจฺจยตฺเจว อฺมฺปจฺจยตฺจ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา.

๑๐. อนิจฺจตากถาวณฺณนา

๖๒๘. อิทานิ อนิจฺจตากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจานํ รูปาทีนํ อนิจฺจตาปิ รูปาทโย วิย ปรินิปฺผนฺนา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปาทโย วิย อนิจฺจตา ปรินิปฺผนฺนา, ตสฺสาปิ อฺาย ปรินิปฺผนฺนาย อนิจฺจตาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ตาย อนิจฺจตายาติอาทิมาห. อิตโร ทฺวินฺนํ อนิจฺจตาย เอกโต อภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ยสฺมา สา อนิจฺจตา นิจฺจา น โหติ, เตเนว อนิจฺเจน สทฺธึ อนฺตรธายติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. อถสฺส สกวาที เลโสกาสํ อทตฺวา ยา เตน ทุติยา อนิจฺจตา ปฏิฺาตา, ตายปิ ตโต ปรายปีติ ปรมฺปรวเสน อนุปจฺเฉทโทสํ อาโรเปนฺโต ตาย ตาเยวาติอาทิมาห. ชรา ปรินิปฺผนฺนาติอาทิ ยสฺมา อุปฺปนฺนสฺส ชรามรณโต อฺา อนิจฺจตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา อนิจฺจตาวิภาคานุยุฺชนวเสน วุตฺตํ. ตตฺราปิ ปรวาทิโน ปุริมนเยเนว ปฏิฺา จ ปฏิกฺเขโป จ เวทิตพฺโพ.

๖๒๙. รูปํ ปรินิปฺผนฺนนฺติอาทิ เยสํ สา อนิจฺจตา, เตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ยถา ปรินิปฺผนฺนานํ รูปาทีนํ อนิจฺจตาชรามรณานิ อตฺถิ, เอวํ ปรินิปฺผนฺนานํ อนิจฺจตาทีนํ ตานิ นตฺถี’’ติ มฺมาโน เอกนฺเตน ปฏิกฺขิปติเยวาติ.

อนิจฺจตากถาวณฺณนา.

เอกาทสโม วคฺโค.

๑๒. ทฺวาทสมวคฺโค

๑. สํวโร กมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๖๓๐-๖๓๒. อิทานิ สํวโร กมฺมนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ, น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘สํวโรปิ อสํวโรปิ กมฺม’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

อถ นํ ยา สกสมเย เจตนา ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตา ยถา สา กายวจีมโนทฺวาเรสุ ปวตฺตมานา กายกมฺมาทินามํ ลภติ, ตถา ‘‘ยทิ เต สํวโร กมฺมํ, โสปิ จกฺขุนฺทฺริยาทีสุ ปวตฺตมาโน จกฺขุกมฺมาทินามํ ลเภยฺยา’’ติ โจเทตุํ จกฺขุนฺทฺริยสํวโร จกฺขุกมฺมนฺติอาทิมาห. อิตโร ตาทิสํ สุตฺตปทํ อปสฺสนฺโต จตูสุ ทฺวาเรสุ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปฺจเม กายทฺวาเร ปสาทกายํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, วิฺตฺติกายํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. โส หิ ปสาทกายมฺปิ วิฺตฺติกายมฺปิ กายินฺทฺริยนฺตฺเวว อิจฺฉติ. มโนทฺวาเรปิ วิปากทฺวารํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, กมฺมทฺวารํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อสํวเรปิ เอเสว นโย. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ สุตฺตํ เตสุ ทฺวาเรสุ สํวราสํวรเมว ทีเปติ, น ตสฺส กมฺมภาวํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สํวโร กมฺมนฺติกถาวณฺณนา.

๒. กมฺมกถาวณฺณนา

๖๓๓-๖๓๕. อิทานิ กมฺมกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมาน’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗) สุตฺตปทํ นิสฺสาย ‘‘สพฺพํ กมฺมํ สวิปาก’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เตสํ ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓) สตฺถารา อวิเสเสน เจตนา ‘‘กมฺม’’นฺติ วุตฺตา; สา จ กุสลากุสลาว สวิปากา, อพฺยากตา อวิปากาติ อิมํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ สพฺพํ กมฺมนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุน สพฺพา เจตนาติ ปฺเหสุ อพฺยากตํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป, กุสลากุสเล สนฺธาย ปฏิฺา เวทิตพฺพา. วิปากาพฺยากตาติอาทิ สวิปากาวิปากเจตนํ สรูเปน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว’’ติ สุตฺตํ สติ ปจฺจเย ทิฏฺธมฺมาทีสุ วิปากปฏิสํเวทนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

กมฺมกถาวณฺณนา.

๓. สทฺโท วิปาโกติกถาวณฺณนา

๖๓๖-๖๓๗. อิทานิ สทฺโท วิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘โส ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา พฺรหฺมสฺสโร โหตี’’ติอาทีนิ (ที. นิ. ๓.๒๓๖) อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘สทฺโท วิปาโก’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เตสํ ‘‘กมฺมสมุฏฺานา อรูปธมฺมาว วิปากาติ นามํ ลภนฺติ. รูปธมฺเมสุ ปนายํ โวหาโร นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สุขเวทนีโยติอาทิ ‘‘วิปาโก นาม เอวรูโป โหตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘โส ตสฺส กมฺมสฺสา’’ติ สุตฺตํ ลกฺขณปฏิลาภทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. มหาปุริโส หิ กมฺมสฺส กตตฺตา สุจิปริวาโรปิ โหติ, น จ ปริวาโร วิปาโก, ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

สทฺโท วิปาโกติกถาวณฺณนา.

๔. สฬายตนกถาวณฺณนา

๖๓๘-๖๔๐. อิทานิ สฬายตนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา สฬายตนํ กมฺมสฺส กตตฺตา อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา ‘‘วิปาโก’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ; เต สนฺธาย จกฺขายตนํ วิปาโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. สฬายตนํ วิปาโกติ เอตฺถ มนายตนํ สิยา วิปาโก. เสสานิ เกวลํ กมฺมสมุฏฺานานิ, น วิปาโก. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

สฬายตนกถาวณฺณนา.

๕. สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา

๕๔๑-๕๔๕. อิทานิ สตฺตกฺขตฺตุปรมกถา นาม โหติ, ตตฺถ ยสฺมา ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรมตาย นิยโต’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ เปตฺวา ‘‘อริยมคฺคํ อฺโ ตสฺส นิยโม นตฺถิ, เยน โส สตฺตกฺขตฺตุปรมตาย นิยโต ภเวยฺยา’’ติ อิมํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

มาตา ชีวิตาติอาทีสุ อยมธิปฺปาโย – ทฺเว นิยามา สมฺมตฺตนิยาโม จ มิจฺฉตฺตนิยาโม จ. สมฺมตฺตนิยาโม อริยมคฺโค. โส อวินิปาตธมฺมตฺเจว ผลุปฺปตฺติฺจ นิยเมติ. มิจฺฉตฺตนิยาโม อานนฺตริยกมฺมํ. ตํ อนนฺตรา นิรยูปปตฺตึ นิยเมติ. ตตฺถ สตฺตกฺขตฺตุปรโม โสตาปตฺติมคฺเคน อวินิปาตธมฺมตาย จ ผลุปฺปตฺติยา จ นิยมิโต. เสสมคฺคนิยาโม ปนสฺส นตฺถิ อนธิคตตฺตา, อานนฺตริยมฺปิ กาตุํ โส อภพฺโพ. ตฺวํ ปนสฺส นิยามํ อิจฺฉสิ, เตน ตํ วทาม – ‘‘กึ เต โส อิมินา มิจฺฉตฺตนิยาเมน นิยมิโต’’ติ.

อภพฺโพ อนฺตราติ ปฺเหสุ อานนฺตริยาภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อตฺถิ โส นิยาโมติ ปฺเห สตฺตกฺขตฺตุปรมตาย นิยามํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อตฺถิ เต สติปฏฺานาติอาทิ นิยามสงฺขาเต มคฺคธมฺเม ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตสฺส ปน ปุน ปมมคฺคานุปฺปตฺติโต เตปิ นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. นนุ โส สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ เอตฺถ ภควา ‘‘อยํ ปุคฺคโล เอตฺตเก ภเว สนฺธาวิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อยํ เอตฺตเก’’ติ อตฺตโน าณพเลน พฺยากโรติ, น ภวนิยามํ นาม กิฺจิ เตน สตฺตกฺขตฺตุปรโม, โกลํโกโล, เอกพีชี วาติ วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา.

๖๔๖-๖๔๗. โกลํโกลเอกพีชิกถาโยปิ อิมินาวุปาเยน เวทิตพฺพา.

โกลํโกลเอกพีชิกถาวณฺณนา.

๘. ชีวิตาโวโรปนกถาวณฺณนา

๖๔๘-๖๔๙. อิทานิ ชีวิตาโวโรปนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา โทสสมฺปยุตฺเตน จิตฺเตน ปาณาติปาโต โหติ, โทโส จ ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส อปฺปหีโน, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺโน สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สฺจิจฺจ มาตรนฺติอาทิปฺเหสุ ปน ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติ สุตฺตภเยน ปฏิกฺขิปติ. สตฺถริ อคารโวติอาทิ สตฺถาราทีสุ สคารวสฺส สิกฺขาปทสฺส วีติกฺกมาภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตโร ปน อกุสลวเสน ตสฺส อคารโว นาม นตฺถีติ ปฏิกฺขิปิตฺวา สคารวภาวฺจ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุน อคารโวติ ปุฏฺโ เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ ปสุตตาย วิกฺขิตฺตานํ อสติยา อมนสิกาเรน เจติเย อภิวาทนปทกฺขิณกรณาภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปุน โอหเทยฺยาติอาทินา นเยน ปุฏฺโ ตาทิสาย กิริยาย สฺจิจฺจ อกรณโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ชีวิตาโวโรปนกถาวณฺณนา.

๙. ทุคฺคติกถาวณฺณนา

๖๕๐-๖๕๒. อิทานิ ทุคฺคติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย ทุคฺคติฺจ ทุคฺคติสตฺตานํ รูปาทิอารมฺมณํ ตณฺหฺจาติ อุภยมฺปิ ทุคฺคตีติ คเหตฺวา ปุน ตถา อวิภชิตฺวา อวิเสเสเนว ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปหีนา ทุคฺคตี’’ติ วทนฺติ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกา; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาปายิเก รูเป รชฺเชยฺยาติอาทิ ปรวาทิโน ลทฺธิยา ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ทุคฺคติ อปฺปหีนา, ตสฺส วเสน โจเทตุํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. นิรยํ อุปปชฺเชยฺยาติอาทิ ทุคฺคติปหานเมว ทุคฺคติคามินิตณฺหาปหานํ วา ทีเปติ, น ทุคฺคติสตฺตานํ รูปาทิอารมฺมณาย ตณฺหาย ปหานํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

ทุคฺคติกถาวณฺณนา.

๖๕๓. สตฺตมภวิกกถายปิ เอเสว นโยติ.

ทฺวาทสโม วคฺโค.

๑๓. เตรสมวคฺโค

๑. กปฺปฏฺกถาวณฺณนา

๖๕๔-๖๕๗. อิทานิ กปฺปฏฺกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สงฺฆํ สมคฺคํ เภตฺวาน, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ ‘‘สกลมฺปิ กปฺปํ สงฺฆเภทโก นิรเย ติฏฺตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานํ; เต สนฺธาย กปฺปฏฺโติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. พุทฺโธ จ โลเกติ อิทํ วินา พุทฺธุปฺปาเทน สงฺฆเภทสฺส อภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กปฺโป จ สณฺาติ สงฺโฆ จ ภิชฺชตีติอาทิ ‘‘ยทิ โส สกลํ กปฺปํ ติฏฺติ, สณฺหนโต ปฏฺาย ตํ กมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปชฺชิตฺวา ติฏฺเยฺยา’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อตีตนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมว. กปฺปฏฺโ อิทฺธิมาติ ปฺเห ภาวนามยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ปรสมเย ปนสฺส ชาติมยํ อิทฺธึ อิจฺฉนฺติ, ตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ฉนฺทิทฺธิปาโทติอาทิ ‘‘ชาติมยาย อิทฺธิยา อิทฺธิมาติ ลทฺธิมตฺตเมตํ, กึ เตน, ยทิ ปนสฺส อิทฺธิ อตฺถิ, อิมินา นเยน อิทฺธิปาทา ภาวิตา ภเวยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อาปายิโก เนรยิโกติ สุตฺตํ ยํ โส เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ ติฏฺเยฺย, ตํ อายุกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

กปฺปฏฺกถาวณฺณนา.

๒. กุสลปฏิลาภกถาวณฺณนา

๖๕๘-๖๕๙. อิทานิ กุสลปฏิลาภกถา นาม โหติ. ตตฺถ กปฺปฏฺโ สกสมเย กามาวจรกุสลเมว ปฏิลภติ. เยน ปน ตํ อุปปตฺตึ ปฏิพาเหยฺย, ตํ มหคฺคตํ โลกุตฺตรํ วา น ปฏิลภติ. เยสํ ปน อิมํ วิภาคํ อกตฺวา อวิเสเสเนว ‘‘โส กุสลจิตฺตํ น ปฏิลภตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ วิภาคทสฺสเนน ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

กุสลปฏิลาภกถาวณฺณนา.

๓. อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา

๖๖๐-๖๖๒. อิทานิ อนนฺตราปยุตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ อนนฺตราปยุตฺโต นาม เยน ขนฺธเภทโต อนนฺตรา วิปากทายกํ มาตุฆาตาทิ อานนฺตริยกมฺมํ อาณตฺตํ. ตตฺถ ยสฺส นิยตาย อาณตฺติยา อาณตฺโต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อุปฺปาทิตตฺตา มิจฺฉตฺตนิยโต โหติ, อภพฺโพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุํ. ยสฺส อนิยตาย อาณตฺติยา อาณตฺโต ตํ กมฺมํ กริสฺสติ, โส อตฺถสาธิกาย เจตนาย อนุปฺปาทิตตฺตา น มิจฺฉตฺตนิยโต, ภพฺโพ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุนฺติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. เยสํ ปน ‘‘อนิยตายปิ อาณตฺติยา อภพฺโพเยว สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิตุ’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เตสํ ตํ ลทฺธึ ภินฺทิตุํ สกวาที ปุพฺพปกฺขํ ทตฺวา อนนฺตราปยุตฺโตติ ปรวาทินา อตฺตานํ ปุจฺฉาเปติ. เตเนตฺถ ปมปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, อตฺถสาธิกเจตนาย อภาวํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ตโต ปรวาที มาตุฆาตาทิกมฺมสฺส อาณตฺตตฺตาว ‘‘โส มิจฺฉตฺตนิยโต’’ติ มฺติ. ตสฺมา มิจฺฉตฺตนิยามฺจาติ ปฺหํ ปุจฺฉติ. สกวาที ปน เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ทฺวินฺนํ นิยามานํ อโนกฺกนฺติมตฺตเมว สนฺธาย น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

นนุ ตํ กมฺมนฺติ มาตุฆาตาทิกมฺมํ. ตตฺถ อนิยตาณตฺตึ สนฺธาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อนิยตมฺปิ หิ อาณตฺตึ ปโยเชตฺวา ิตสฺส ‘‘อนนุจฺฉวิกํ มยา กต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชเตว, วิปฺปฏิสาโร ชายเตว. หฺจีติอาทิ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติมตฺตํ คเหตฺวา ปรวาทินา ลทฺธิปติฏฺาปนตฺถํ วุตฺตํ.

๖๖๑. อิทานิ ยสฺส อนิยตาณตฺติกสฺสาปิ อนนฺตราปยุตฺตสฺส ปรวาทินา สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ ปฏิสิทฺธํ, ตเมว ปุคฺคลํ คเหตฺวา อนนฺตราปยุตฺโต ปุคฺคโล อภพฺโพติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สกวาที ‘‘อภพฺโพ นาม มาตุฆาตาทิกมฺมานํ การโก, กึ เต เตน ตานิ กมฺมานิ กตานี’’ติ โจเทตุํ มาตา ชีวิตา โวโรปิตาติอาทิมาห. อิตโร เตสํ วตฺถูนํ อโรคตาย ตถารูปํ กิริยํ อปสฺสนฺโต ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ.

ตํ กมฺมํ ปฏิสํหริตฺวาติ อนิยตาณตฺติกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ‘‘มา โข มยา อาณตฺตํ อากาสี’’ติ อาณตฺตํ นิวาเรนฺเตน ปฏิสํหฏํ นาม โหติ. ปฏิสํหฏตฺตาเยว เจตฺถ กุกฺกุจฺจํ ปฏิวิโนทิตํ, วิปฺปฏิสาโร ปฏิวินีโต นาม โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ปเนตฺถ ปุริมาณตฺติยาเยว นิยตภาวํ มฺมาโน ปรวาที ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาติ. อถ นํ สกวาที ตสฺส กมฺมสฺส ปฏิสํหฏภาวํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปติฏฺาเปตฺวา หฺจีติอาทิมาห.

๖๖๒. ปุน อนนฺตราปยุตฺโตติ ปริโยสานปฺเห ปมปฺเห วิย ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺส. นนุ ตํ กมฺมนฺติ อนุโยโค ปรวาทิสฺส, ปฏิสํหฏกาลโต ปุพฺเพ ปยุตฺตกาลํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. ปยุตฺตปุพฺพตามตฺตํ คเหตฺวา อนิยตาณตฺติวเสน หฺจีติ ลทฺธิปติฏฺาปนํ ปรวาทิสฺส. อยํ ปน ลทฺธิ อโยนิโส ปติฏฺิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.

อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา.

๔. นิยตสฺส นิยามกถาวณฺณนา

๖๖๓-๖๖๔. อิทานิ นิยตสฺส นิยามกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิโธ นิยาโม – มิจฺฉตฺตนิยาโม จ อานนฺตริยกมฺมํ, สมฺมตฺตนิยาโม จ อริยมคฺโค. อิเม ทฺเว นิยาเม เปตฺวา อฺโ นิยาโม นาม นตฺถิ. สพฺเพปิ หิ เสสา เตภูมกธมฺมา อนิยตา นาม. เตหิ สมนฺนาคโตปิ อนิยโตเยว. พุทฺเธหิ ปน อตฺตโน าณพเลน ‘‘อยํ สตฺโต อนาคเต โพธึ ปาปุณิสฺสตี’’ติ พฺยากโต โพธิสตฺโต ปุฺุสฺสทตฺตา นิยโตติ วุจฺจติ. อิติ อิมํ โวหารมตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ปจฺฉิมภวิโก โพธิสตฺโต ตาย ชาติยา ภพฺโพ ธมฺมํ อภิสเมตุ’’นฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘นิยโต นิยามํ โอกฺกมตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. มิจฺฉตฺตนิยโตติอาทิ อฺเน นิยาเมน นิยตสฺส อฺนิยามาภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปุพฺเพ มคฺคํ ภาเวตฺวาติอาทิ นิยามปฺปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สติปฏฺานนฺติอาทิ เอกสฺมิมฺปิ นิยาเม ธมฺมปฺปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภพฺโพ โพธิสตฺโตติ วจนํ เกวลํ โพธิสตฺตสฺส ภพฺพตํ ทีเปติ, น นิยตสฺส นิยาโมกฺกมนํ, ตสฺมา อสาธกํ. โส หิ ปุพฺเพ เอเกนปิ นิยตธมฺเมน อนิยโต โพธิมูเล สจฺจทสฺสเนน นิยามํ โอกฺกนฺโตติ.

นิยตสฺส นิยามกถาวณฺณนา.

๕. นิวุตกถาวณฺณนา

๖๖๕-๖๖๗. อิทานิ นิวุตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สุทฺธสฺส สุทฺธกิจฺจาภาวโต นีวรเณหิ นิวุโต โอผุโฏ ปริโยนทฺโธ จ นีวรณํ ชหตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย นิวุโตติปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. รตฺโต ราคนฺติอาทิ นิวุตสฺส นีวรณชหเน โทสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปริสุทฺเธ ปริโยทาเตติอาทิ วิกฺขมฺภนวิสุทฺธิยา วิสุทฺธสฺส สมุจฺเฉทวิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส เอวํ ชานโตติอาทิ ชานโต ปสฺสโต อาสวกฺขยํ ทีเปติ, น นิวุตสฺส นีวรณชหนํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

นิวุตกถาวณฺณนา.

๖. สมฺมุขีภูตกถาวณฺณนา

๖๖๘-๖๗๐. อิทานิ สมฺมุขีภูตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมุขีภูโตติ สํโยชนานํ สมฺมุขีภาวํ เตหิ สมงฺคีภาวํ อุปคโต. เสสเมตฺถ นิวุตกถาสทิสเมวาติ.

สมฺมุขีภูตกถาวณฺณนา.

๗. สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถาวณฺณนา

๖๗๑-๖๗๓. อิทานิ สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส ตทสฺสาเทตี’’ติอาทิวจนํ (อ. นิ. ๔.๑๒๓) นิสฺสาย ‘‘สมาปนฺโน อสฺสาเทติ, สา จสฺส ฌานนิกนฺติ ฌานารมฺมณา โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย สมาปนฺโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตํ ฌานํ ตสฺส ฌานสฺส อารมฺมณนฺติ ปฺเหสุ ตสฺเสว ตทารมฺมณตํ อปสฺสนฺโต สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ, ‘‘ตทสฺสาเทตี’’ติวจนมตฺเตน ปฏิชานาติ. โส ตทสฺสาเทตีติ สุตฺตํ ฌานลาภิโน ฌานา วุฏฺาย ฌานสฺสาทํ สาเธติ, น อนฺโตสมาปตฺติยํเยว ฌานนิกนฺติยา ฌานารมฺมณตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สมาปนฺโน อสฺสาเทตีติกถาวณฺณนา.

๘. อสาตราคกถาวณฺณนา

๖๗๔. อิทานิ อสาตราคกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยํกิฺจิ เวทนํ เวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, โส ตํ เวทนํ อภินนฺทติ อภิวทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๙) สุตฺเต ทิฏฺาภินนฺทนวเสน วุตฺตํ. ‘‘อภินนฺทตี’’ติวจนํ นิสฺสาย ‘‘ทุกฺขเวทนายปิ ราคสฺสาทวเสน อภินนฺทนา โหติ. ตสฺมา อตฺถิ อสาตราโค’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ อสาตราโคติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อสาตราโคติ อสาเต ทุกฺขเวทยิเต ‘‘อโห วต เม เอตเทว ภเวยฺยา’’ติ รชฺชนา. อามนฺตาติ ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๖๗๕. โส ตํ เวทนํ อภินนฺทตีติ สุตฺเต ปน วินิวฏฺเฏตฺวา ทุกฺขเวทนเมว อารพฺภ ราคุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, สมูหคฺคหเณน ปน เวทยิตลกฺขณํ ธมฺมํ ทุกฺขเวทนเมว วา อตฺตโต สมนุปสฺสนฺโต ทิฏฺิมฺนาสงฺขาตาย ทิฏฺาภินนฺทนาย เวทนํ อภินนฺทติ, ทุกฺขาย เวทนาย วิปริณามํ อภินนฺทติ, ทุกฺขาย เวทนาย อภิภูโต ตสฺสา ปฏิปกฺขํ กามสุขํ ปตฺถยนฺโตปิ ทุกฺขเวทนํ อภินนฺทติ นาม. เอวํ ทุกฺขเวทนาย อภินนฺทนา โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมา อสาธกเมตํ อสาตราคสฺสาติ.

อสาตราคกถาวณฺณนา.

๙. ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา

๖๗๖-๖๘๐. อิทานิ ธมฺมตณฺหา อพฺยากตาติกถา นาม โหติ. ตตฺถ รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ อิมาสุ ฉสุ ตณฺหาสุ ยสฺมา สพฺพปจฺฉิมา ตณฺหา ธมฺมตณฺหาติ วุตฺตา, ตสฺมา สา อพฺยากตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสปฺหานํ ปาฬิยา อตฺโถ นิยฺยาติ. กามตณฺหาติอาทีหิ ตีหิ โกฏฺาเสหิ ฉปิ ตณฺหา สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตา. รูปาทีสุ หิ ฉสุ อารมฺมเณสุ กามสฺสาทวเสน ปวตฺตา ตณฺหา กามตณฺหา. ‘‘ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’’ติ สสฺสตทิฏฺิสหคตา ตณฺหา ภวตณฺหา. ‘‘น ภวิสฺสตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺิสหคตา ตณฺหา วิภวตณฺหาติ. นนุ สา ธมฺมตณฺหาติ ปทํ ตณฺหาย ธมฺมารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺตึ ทีเปติ, น อพฺยากตภาวํ ตสฺมา อสาธกนฺติ.

ธมฺมตณฺหา อพฺยากตาติกถาวณฺณนา.

๑๐. ธมฺมตณฺหานทุกฺขสมุทโยติกถาวณฺณนา

๖๘๑-๖๘๕. อิทานิ ธมฺมตณฺหา นทุกฺขสมุทโยติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ยสฺมา สา ธมฺมตณฺหาติ วุตฺตา, ตสฺมา น ทุกฺขสมุทโยติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.

ธมฺมตณฺหา นทุกฺขสมุทโยติกถาวณฺณนา.

เตรสโม วคฺโค.

๑๔. จุทฺทสมวคฺโค

๑. กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา

๖๘๖-๖๙๐. อิทานิ กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถา นาม โหติ. ตตฺถ กุสลํ วา อกุสลสฺส, อกุสลํ วา กุสลสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺชนกํ นาม นตฺถีติ เตสํ อฺมฺํ ปฏิสนฺธานํ น ยุชฺชติ. เย ปน ยสฺมา เอกวตฺถุสฺมิฺเว รชฺชติ วิรชฺชติ จ, ตสฺมา ตํ อฺมฺํ ปฏิสนฺทหตีติ ลทฺธึ คเหตฺวา ิตา, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกา; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส; ปฏิฺา อิตรสฺส. อาวฏฺฏนา ปณิธีติ อุภยํ อาวชฺชนสฺเสว นามํ. ตฺหิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตีติ อาวฏฺฏนา. ภวงฺคารมฺมณโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ ปณิทหติ เปตีติ ปณิธิ. กุสลํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺสาติ ยํ ตํ อกุสลานนฺตรํ ปฏิสนฺทหนฺตํ กุสลํ อุปฺปชฺชติ, ตํ อนาวฏฺเฏนฺตสฺส อุปฺปชฺชตีติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปน วินา อาวชฺชเนน กุสลสฺส อุปฺปตฺตึ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. กุสลํ อโยนิโส มนสิกโรโตติ อิทํ ยทิ อกุสลานนฺตรํ กุสลํ อุปฺปชฺเชยฺย, อกุสลสฺเสว อาวชฺชเนน อโยนิโส มนสิกโรโต อุปฺปชฺเชยฺยาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. นนุ ยสฺมึเยว วตฺถุสฺมินฺติ วจนํ เอการมฺมเณ สราควิราคุปฺปตฺตึ ทีเปติ, น กุสลากุสลานํ อนนฺตรตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา.

๒. สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา

๖๙๑-๖๙๒. อิทานิ สฬายตนุปฺปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ อุปปตฺเตสิเยน ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สเหว โอปปาติกานํ สฬายตนํ อุปฺปชฺชติ. คพฺภเสยฺยกานํ อชฺฌตฺติกายตเนสุ มนายตนกายายตนาเนว ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ. เสสานิ จตฺตาริ สตฺตสตฺตติรตฺติมฺหิ. ตานิ จ โข เยน กมฺมุนา ปฏิสนฺธิ คหิตา, ตสฺเสว อฺสฺส วา กตตฺตาติ อยํ สกสมเย วาโท. เยสํ ปน เอกกมฺมสมฺภวตฺตา สมฺปนฺนสาขาวิฏปานํ รุกฺขาทีนํ อํกุโร วิย พีชมตฺตํ สฬายตนํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย สฬายตนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติอาทิ สฬายตเน สติ เอวรูโป หุตฺวา โอกฺกเมยฺยาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. มาตุกุจฺฉิคตสฺสาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. ปรโต มาตุกุจฺฉิคตสฺส ปจฺฉา เกสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา.

๓. อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา

๖๙๓-๖๙๗. อิทานิ อนนฺตรปจฺจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ นจฺจคีตาทีสุ รูปทสฺสนสทฺทสวนาทีนํ ลหุปริวตฺติตํ ทิสฺวา ‘‘อิมานิ วิฺาณานิ อฺมฺสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย จกฺขุวิฺาณสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. โสตวิฺาณํ รูปารมฺมณํเยวาติ ยทิ จกฺขุวิฺาณสฺส อนนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺย, วิปากมโนธาตุ วิย รูปารมฺมณํ สิยาติ โจเทตุํ วุตฺตํ. จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณนฺติ ปฺเหสุ สุตฺตาภาเวน ปฏิกฺขิปิตฺวา อนนฺตรุปฺปตฺตึ สลฺลกฺเขนฺโต ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. ตฺเว จกฺขุวิฺาณํ ตํ โสตวิฺาณนฺติ ยถา ปมชวนานนฺตรํ ทุติยชวนํ มโนวิฺาณภาเวน ตฺเว โหติ, กึ เต ตถา เอตมฺปิ ทฺวยํ เอกเมวาติ ปุจฺฉติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นจฺจติ คายตีติอาทิวจนํ อารมฺมณสโมธาเน ลหุปริวตฺติตาย โวกิณฺณภาวํ ทีเปติ, น อนนฺตรปจฺจยตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา.

๔. อริยรูปกถาวณฺณนา

๖๙๘-๖๙๙. อิทานิ อริยรูปกถา นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา รูปํ, ตฺจ โข ‘‘สพฺพํ รูปํ จตฺตาริ จ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๖๗) วจนโต อุปาทายรูปนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อริยรูปํ มหาภูตานํ อุปาทายาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อริยานํ รูปํ, อริยํ วา รูปนฺติ อริยรูปํ. อามนฺตาติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปฏิฺา อิตรสฺส. กุสลนฺติ ปุฏฺโ ลทฺธิวเสเนว ปฏิชานาติ. อนาสวปุจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโย. ยํ กิฺจิ รูปนฺติ สุตฺตํ เปตฺวา ภูตานิ เสสรูปสฺส อุปาทาภาวํ ทีเปติ, น สมฺมาวาจากมฺมนฺตานํ. เตสฺหิ รูปมตฺตฺเว อสิทฺธํ, กุโต อุปาทารูปตา; ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อริยรูปกถาวณฺณนา.

๕. อฺโ อนุสโยติกถาวณฺณนา

๗๐๐-๗๐๑. อิทานิ อฺโ อนุสโยติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน กุสลาพฺยากเต จิตฺเต วตฺตมาเน สานุสโยติ วตฺตพฺโพ, น ปริยุฏฺิโตติ ตสฺมา อฺโ อนุสโย, อฺํ ปริยุฏฺานนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อฺโ กามราคานุสโยติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา อนุสยกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สานุสโยติอาทิ ปน ตสฺมึ สมเย อนุสยสฺส อปฺปหีนตฺตา สานุสโยติ วตฺตพฺพตํ, อนุปฺปนฺนตฺตา จ ปริยุฏฺิโตติ อวตฺตพฺพตํ ทีเปติ, น อนุสยปริยุฏฺานานํ อฺตฺตํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อฺโ อนุสโยติกถาวณฺณนา.

๖. ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๗๐๒. อิทานิ ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโตปิ ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อปฺเปกทา, โภ ภารทฺวาช, อสุภโต มนสิกริสฺสามีติ สุภโตว มนสิกโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๑๒๗). ตสฺมา ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา.

๗. ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๓-๗๐๕. อิทานิ ปริยาปนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา กามราโค กามธาตุํ อนุเสติ, กามธาตุปริยาปนฺโนติ จ วุจฺจติ, ตสฺมา รูปราคารูปราคาปิ รูปธาตุอรูปธาตุโย อนุเสนฺติ. รูปธาตุอรูปธาตุปริยาปนฺนาเยว จ นาม โหนฺตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย รูปราโคติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ อนุเสตีติ ยถา กามราโค กามวิตกฺกสงฺขาตํ กามธาตุํ สหชาตวเสน อนุเสติ, กึ เต เอวํ รูปราโค รูปธาตุนฺติ ปุจฺฉติ. ปริยาปนฺโนติ ยถา จ โส ติวิธาย กามธาตุยา กิเลสกามวเสน ปริยาปนฺนตฺตา กามธาตุปริยาปนฺโน, กึ เต เอวํ รูปราโคปิ รูปธาตุปริยาปนฺโนติ ปุจฺฉติ. อิตโร ปนสฺส อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขนฺโต เกวลํ ลทฺธิวเสน อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. อถ นํ ตมตฺถํ สลฺลกฺขาเปตุํ กุสลวิปากกิริยสงฺขาเตหิ สมาปตฺเตสิยาทีหิ สํสนฺทิตฺวา ปุจฺฉิตุํ สมาปตฺเตสิโยติอาทิมาห. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. นนุ กามราโคติอาทิวจนมฺปิ กามราคสฺเสว กามธาตุยํ อนุสยภาวํ ปริยาปนฺนตฺจ ทีเปติ, น อิตเรสํ อิตรธาตูสูติ.

ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.

๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา

๗๐๖-๗๐๘. อิทานิ อพฺยากตกถา นาม โหติ. ตตฺถ วิปากกิริยรูปนิพฺพานสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ อพฺยากตํ อวิปากตฺตา อพฺยากตนฺติ วุตฺตํ. ทิฏฺิคตํ ‘‘สสฺสโต โลโกติ โข, วจฺฉ, อพฺยากตเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖ โถกํ วิสทิสํ) สสฺสตาทิภาเวน อกถิตตฺตา. เยสํ ปน อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ปุริมาพฺยากตํ วิย ทิฏฺิคตมฺปิ อพฺยากตนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เตสํ ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ทิฏฺิคตํ อพฺยากตนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อพฺยากตกถาวณฺณนา.

๙. อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๙-๗๑๐. อิทานิ อปริยาปนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา ปุถุชฺชโน ฌานลาภี กาเมสุ วีตราโคติ วตฺตพฺโพ โหติ, น ปน วิคตทิฏฺิโกติ, ตสฺมา ทิฏฺิคตํ อปริยาปนฺนนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.

จุทฺทสโม วคฺโค.

๑๕. ปนฺนรสมวคฺโค

๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา

๗๑๑-๗๑๗. อิทานิ ปจฺจยตากถา นาม โหติ. ตตฺถ โย ธมฺโม เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, โส เยสํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, เตสฺเว ยสฺมา อารมฺมณานนฺตรสมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, โย วา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, โส ยสฺมา เตสํเยว อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา ปจฺจยตา ววตฺถิตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

ปจฺจยตากถาวณฺณนา.

๒. อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา

๗๑๘-๗๑๙. อิทานิ อฺมฺปจฺจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมเย ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยเมว ตนฺติ, ‘‘สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติ อยํ นตฺถิ, ตสฺมา อวิชฺชาว สงฺขารานํ ปจฺจโย, น ปน สงฺขารา อวิชฺชายาติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย อวิชฺชาสงฺขาราทีนํ อฺมฺปจฺจยตาปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อวิชฺชา สงฺขาเรนาติ เอตฺถ อปุฺาภิสงฺขาโรว คหิโต. ตสฺมา สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชาติ เอตฺถ สหชาตอฺมฺอตฺถิอวิคตสมฺปยุตฺตวเสน ปจฺจยตา เวทิตพฺพา. อุปาทานปจฺจยาปิ ตณฺหาติ เอตฺถ เปตฺวา กามุปาทานํ เสสานิ ตีณิ อุปาทานานิ อวิชฺชาย สงฺขารา วิย ตณฺหาย ปจฺจยา โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. ชรามรณปจฺจยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, นามรูปํ วิฺาณปจฺจยาติ สกวาทิสฺสาติ.

อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา.

๓. อทฺธากถาวณฺณนา

๗๒๐-๗๒๑. อิทานิ อทฺธากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๓.๖๘) สุตฺตํ นิสฺสาย กาลสงฺขาโต อทฺธา นาม ปรินิปฺผนฺโน อตฺถีติ เยสํ ลทฺธิ; เตสํ ‘‘อทฺธา นาม โกจิ ปรินิปฺผนฺโน นตฺถิ อฺตฺร กาลปฺตฺติมตฺตา. รูปาทโย ปน ขนฺธาว ปรินิปฺผนฺนา’’ติ วิภาคํ ทสฺเสตุํ อทฺธา ปรินิปฺผนฺโนติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ โส ปรินิปฺผนฺโน, รูปาทีสุ อเนน อฺตเรน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ รูปนฺติอาทิมาห. อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อทฺธากถาวณฺณนา.

๔. ขณลยมุหุตฺตกถาวณฺณนา

๗๒๒-๗๒๓. ขณลยมุหุตฺตกถาสุปิ เอเสว นโย. สพฺเพปิ เหเต ขณาทโย อทฺธาปริยายา เอวาติ.

ขณลยมุหุตฺตกถาวณฺณนา.

๕. อาสวกถาวณฺณนา

๗๒๔-๗๒๕. อิทานิ อาสวกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา จตูหิ อาสเวหิ อุตฺตริ อฺโ อาสโว นาม นตฺถิ, เยน จตฺตาโร อาสวา สาสวา สิยุํ, ตสฺมา จตฺตาโร อาสวา อนาสวาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต อาสวา อนาสวา, เอวํ สนฺเต เตหิ มคฺคาทิลกฺขณปฺปตฺเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ มคฺโคติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อาสวกถาวณฺณนา.

๖. ชรามรณกถาวณฺณนา

๗๒๖-๗๒๗. อิทานิ ชรามรณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ชรามรณํ นาม อปรินิปฺผนฺนตฺตา โลกิยนฺติ วา โลกุตฺตรนฺติ วา น วตฺตพฺพํ. ‘‘โลกิยา ธมฺมา โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติ หิ ทุเก ชรามรณํ เนว โลกิยปเท, น โลกุตฺตรปเท นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ เยสํ อิมํ ลกฺขณํ อนาทิยิตฺวา โลกุตฺตรานํ ธมฺมานํ ชรามรณํ โลกุตฺตรนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

ชรามรณกถาวณฺณนา.

๗. สฺาเวทยิตกถาวณฺณนา

๗๒๘-๗๒๙. อิทานิ สฺาเวทยิตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ นาม น โกจิ ธมฺโม, จตุนฺนํ ปน ขนฺธานํ นิโรโธ. อิติ สา เนว โลกิยา น โลกุตฺตรา. ยสฺมา ปน โลกิยา น โหติ, ตสฺมา โลกุตฺตราติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมกถาสทิสเมวาติ.

สฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.

๘. ทุติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา

๗๓๐-๗๓๑. อิทานิ ยสฺมา สา โลกุตฺตรา น โหติ, ตสฺมา โลกิยาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.

ทุติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.

๙. ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา

๗๓๒. อิทานิ ยสฺมา ‘‘อสุโก มรณธมฺโม, อสุโก น มรณธมฺโม’’ติ สตฺตานํ มรณธมฺมตาย นิยาโม นตฺถีติ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโนปิ กาลํ กเรยฺยาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานํ; เตสํ สมาปนฺนายปิ มรณธมฺมตาย มรณสมยฺจ อมรณสมยฺจ ทสฺเสตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา กาลํ กโรนฺตสฺส นาม มรณนฺติเกหิ ผสฺสาทีหิ ภวิตพฺพํ, ตสฺมา เตนากาเรน โจเทตุํ อตฺถีติอาทิมาห.

อผสฺสกสฺส กาลกิริยาติอาทีนิ ปุฏฺโ เสสสตฺเต สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ วิสํ กเมยฺยาติอาทีนิ ปุฏฺโ สมาปตฺติอานุภาวํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยวาเร สรีรปกตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. เอวํ สนฺเต ปน สมาปตฺติอานุภาโว นาม น โหติ, เตเนว น นิโรธสมาปนฺโนติ อนุยุฺชติ.

๗๓๓-๗๓๔. น กาลํ กเรยฺยาติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส. อตฺถิ โส นิยาโมติ ปรวาทิสฺส ปฺเห ปน ยสฺมา เอวรูโป นิยาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. จกฺขุวิฺาณสมงฺคีติอาทิ สกวาทินา ‘‘นิยาเม อสนฺเตปิ มรณสมเยเนว มรติ, นาสมเยนา’’ติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยทิ นิยามาภาเวน กาลกิริยา ภเวยฺย, จกฺขุวิฺาณสมงฺคิโนปิ ภเวยฺย. ตโต ‘‘ปฺจหิ วิฺาเณหิ น จวติ, น อุปปชฺชตี’’ติ สุตฺตวิโรโธ สิยา. ยถา ปน จกฺขุวิฺาณสมงฺคิสฺส กาลกิริยา น โหติ, ตถา นิโรธสมาปนฺนสฺสาปีติ.

ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา.

๑๐. อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา

๗๓๕. อิทานิ อสฺสตฺตุปิกากถา นาม โหติ. ตตฺถ สฺาวิราควเสน ปวตฺตภาวนา อสฺสมาปตฺติปิ นิโรธสมาปตฺติปิ สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ นาม. อิติ ทฺเว สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติโย โลกิยา จ โลกุตฺตรา จ. ตตฺถ โลกิยา ปุถุชฺชนสฺส อสฺสตฺตุปิกา โหติ, โลกุตฺตรา อริยานํ, สา จ นาสฺสตฺตุปิกา. อิมํ ปน วิภาคํ อกตฺวา อวิเสเสน สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ อสฺสตฺตุปิกาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา อสฺสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส อโลภาทโย อตฺถิ, น นิโรธสมาปตฺตึ, ตสฺมา เตสํ วเสน โจเทตุํ อตฺถีติอาทิมาห.

๗๓๖. อิธาปิ อสฺีติ ปฺเห อิธ สฺาวิราควเสน สมาปนฺนตฺตา อสฺิตา อนุฺาตา, ตตฺราปิ อสฺสตฺเตเนว. ตสฺมา อิมํ ปฏิฺํ คเหตฺวา ลทฺธึ ปติฏฺเปนฺเตน ฉเลน ปติฏฺาปิตา โหติ. อิธ วา นิโรธสมาปตฺตึ สนฺธาย อสฺิตา อนุฺาตา. ตตฺราปิ อิโต จุตสฺส อนาคามิโน นิโรธสมาปตฺติเมว ตสฺมาปิ อิมาย ปฏิฺาย ปติฏฺาปิตา ลทฺธิ อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.

อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา.

๑๑. กมฺมูปจยกถาวณฺณนา

๗๓๗. อิทานิ กมฺมูปจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ กมฺมูปจโย นาม กมฺมโต อฺโ จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อพฺยากโต อนารมฺมโณติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย อฺํ กมฺมนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ กมฺมโต อฺโ กมฺมูปจโย, ผสฺสาทิโตปิ อฺเน ผสฺสูปจยาทินา ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อฺโ ผสฺโสติอาทิมาห. อิตโร ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ.

๗๓๘-๗๓๙. กมฺเมน สหชาโตติ ปฺเหสุ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จิตฺตสมฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กุสโลติ ปฺเหสุปิ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปรโต อกุสโลติปฺเหสุปิ เอเสว นโย.

๗๔๐. สารมฺมโณติ ปุฏฺโ ปน เอกนฺตํ อนารมฺมณเมว อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฏิกฺขิปติ. จิตฺตํ ภิชฺชมานนฺติ ยทา จิตฺตํ ภิชฺชมานํ โหติ, ตทา กมฺมํ ภิชฺชตีติ อตฺโถ. ภุมฺมตฺเถ วา ปจฺจตฺตํ, จิตฺเต ภิชฺชมาเนติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. ตตฺถ ยสฺมา สมฺปยุตฺโต ภิชฺชติ, วิปฺปยุตฺโต น ภิชฺชติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ เจว ปฏิกฺขิปติ จ.

๗๔๑. กมฺมมฺหิ กมฺมูปจโยติ กมฺเม สติ กมฺมูปจโย, กมฺเม วา ปติฏฺิเต กมฺมูปจโย, กมฺมูปจยโตว วิปาโก นิพฺพตฺตติ. ตสฺมึ ปน กมฺเม นิรุทฺเธ ยาว อํกุรุปฺปาทา พีชํ วิย ยาว วิปากุปฺปาทา กมฺมูปจโย ติฏฺตีติสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา ปฏิชานาติ. ตฺเว กมฺมํ, โส กมฺมูปจโย, โส กมฺมวิปาโกติ ยสฺมา กมฺมมฺหิ กมฺมูปจโย, โส จ ยาว วิปากุปฺปาทา ติฏฺตีติสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา นํ เตสํ ติณฺณมฺปิ เอกตฺตํ ปุจฺฉติ วิปาโก สารมฺมโณติ อิทํ วิปาโก วิย วิปากธมฺมธมฺโมปิ อารมฺมณปฏิพทฺโธเยวาติ โจทนตฺถํ ปุจฺฉติ. อิตโร ปน ลทฺธิวเสเนกํ ปฏิชานาติ, เอกํ ปฏิกฺขิปติ. ปฏิโลเมปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

กมฺมูปจยกถาวณฺณนา.

ปนฺนรสโม วคฺโค.

ตติยปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๖. โสฬสมวคฺโค

๑. นิคฺคหกถาวณฺณนา

๗๔๓-๗๔๔. อิทานิ นิคฺคหกถา นาม โหติ. ตตฺถ เย โลเก พลปฺปตฺตา วสีภูตา, เต ยทิ ปรสฺส จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํ น สกฺกุเณยฺยุํ, กา เตสํ พลปฺปตฺติ, โก วสีภาโว. พลปฺปตฺติยา ปน วสีภาเวน จ อทฺธา เต ปรสฺส จิตฺตํ นิคฺคณฺหนฺตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปโร ปรสฺสาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ตตฺถ นิคฺคณฺหาตีติ สํกิเลสาปตฺติโต นิวาเรติ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ. ปคฺคหกถายปิ เอเสว นโย.

นิคฺคหกถาวณฺณนา.

๓. สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา

๗๔๗-๗๔๘. อิทานิ สุขานุปฺปทานกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘พหูนํ วต โน ภควา สุขธมฺมานํ อุปหตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๔๘) สุตฺตํ นิสฺสาย ปโร ปรสฺส สุขํ อนุปฺปเทตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทุกฺขํ อนุปฺปเทตีติ ปุฏฺโ ปน ตาทิสํ สุตฺตปทํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อตฺตโน สุขนฺติอาทิปฺเห ยํ อตฺตโน ปรสฺส วา, ตํ อนุปฺปทาตุํ น สกฺกา. ยํ ตสฺเสว, กึ ตตฺถ อนุปฺปทานํ นามาติ ปฏิกฺขิปติ. เนวตฺตโนติอาทิปฺเห ปน ยํ เอวรูปํ, น ตํ อนุปฺปทินฺนํ นาม ภวิตุมรหตีติ ลทฺธิยาปฏิชานาติ. โน จ วต เรติตาทิสสฺส สุขสฺส อภาวา วุตฺตํ. สุขธมฺมานํ อุปหตฺตาติวจนํ ภควโต ปเรสํ สุขุปฺปตฺติยา ปจฺจยภาวํ ทีเปติ, น อนฺนาทีนํ วิย สุขสฺส อนุปฺปทานํ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา.

๔. อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา

๗๔๙-๗๕๓. อิทานิ อธิคยฺห มนสิการกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิโธ มนสิกาโร นยโต จ อารมฺมณโต จ. ตตฺถ เอกสงฺขารสฺสาปิ อนิจฺจตาย ทิฏฺาย สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ อวเสเสสุ นยโต มนสิกาโร โหติ. อตีเต ปน สงฺขาเร มนสิกโรนฺโต น อนาคเต มนสิกาตุํ สกฺโกติ. อตีตาทีสุ อฺตรํ มนสิกโรโต อารมฺมณโต มนสิกาโร โหติ. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺเน มนสิกโรนฺโต เยน จิตฺเตน เต มนสิกโรติ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนกฺขเณ มนสิกาตุํ น สกฺโกติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทิวจนํ นิสฺสาย ‘‘มนสิกโรนฺโต นาม อธิคยฺห อธิคณฺหิตฺวา สงฺคณฺหิตฺวา สพฺเพ สงฺขาเร เอกโต มนสิกโรตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส.

อถ นํ ยสฺมา สพฺเพ เอกโต มนสิกโรนฺเตน เยน จิตฺเตน เต มนสิกโรติ, ตมฺปิ มนสิกาตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ตํจิตฺตตาย โจเทตุํ เตน จิตฺเตนาติ อาห. อิตโร อารมฺมณํ กตฺวา น สกฺกา ชานิตุนฺติ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. เอวํลกฺขณํ จิตฺตนฺติ าตตฺตา ปน ตมฺปิ จิตฺตํ าตเมว โหตีติ สนฺธาย ปฏิชานาติ. อถ วา ตฺเว ตสฺส อารมฺมณํ น โหตีติ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติอาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย. เตน ผสฺเสนาติอาทีสุ ปน ตถารูปํ สุตฺตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปเตว. อตีตาทิปฺเหสุ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปฏิกฺเขปปฏิฺา เวทิตพฺพา. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ. สพฺเพ สงฺขาราติอาทิวจนํ นยโต ทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เอกกฺขเณ อารมฺมณโต, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา.

๕. รูปํ เหตูติกถาวณฺณนา

๗๕๔-๗๕๖. อิทานิ รูปํ เหตูติ กถานาม โหติ. ตตฺถ เหตูติ กุสลมูลาทิโน เหตุเหตุสฺสาปิ นามํ, ยสฺส กสฺสจิ ปจฺจยสฺสาปิ. อิมํ ปน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘จตฺตาโร มหาภูตา เหตู’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย อวิเสเสเนว รูปํ เหตูติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อโลโภ เหตูติ กึ เต รูปํ อโลภสงฺขาโต เหตูติ ปุจฺฉติ, อิตโร ปฏิกฺขิปติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มหาภูตา อุปาทายรูปานํ อุปาทายเหตูติ เอตฺถ ปจฺจยฏฺเน เหตุภาโว วุตฺโต, น มูลฏฺเน, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

รูปํ เหตูติกถาวณฺณนา.

๗๕๗-๗๕๙. สเหตุกกถายมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

รูปํ สเหตุกนฺติกถาวณฺณนา.

๗. รูปํ กุสลากุสลนฺติกถาวณฺณนา

๗๖๐-๗๖๔. อิทานิ รูปํ กุสลากุสลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘กายกมฺมํ วจีกมฺมํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปี’’ติวจนํ นิสฺสาย กายวจีกมฺมสงฺขาตํ กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺติรูปํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย รูปํ กุสลนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปํ กุสลํ, เอวํวิเธน อเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ สารมฺมณนฺติ อาทิมาห. ปรโต อกุสลปฺเหปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

รูปํ กุสลากุสลนฺติกถาวณฺณนา.

๘. รูปํ วิปาโกติกถาวณฺณนา

๗๖๕-๗๖๗. อิทานิ รูปํ วิปาโกติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยํ กมฺมสฺส กตตฺตา อุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา วิย กมฺมสฺส กตตฺตา อุปฺปนฺนํ ตํ รูปมฺปิ วิปาโกติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต รูปํ วิปาโก, เอวํวิเธน อเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ สุขเวทนียนฺติอาทิมาห. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

รูปํ วิปาโกติกถาวณฺณนา.

๙. รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา

๗๖๘-๗๗๐. อิทานิ รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยํ กามาวจรกมฺมสฺส กตตฺตา รูปํ, ตํ ยสฺมา กามาวจรํ, ตสฺมา รูปาวจรารูปาวจรกมฺมานมฺปิ กตตฺตา รูเปน รูปาวจรารูปาวจเรน ภวิตพฺพนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

รูปํ รูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา.

๑๐. รูปารูปธาตุปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๗๑-๗๗๕. อิทานิ รูปราโค รูปธาตุปริยาปนฺโน อรูปราโค อรูปธาตุปริยาปนฺโนติ กถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา กามราโค กามธาตุปริยาปนฺโน, ตสฺมา รูปราคารูปราเคหิปิ รูปธาตุอรูปธาตุปริยาปนฺเนหิ ภวิตพฺพนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘รูปธาตุํ อนุเสติ, อรูปธาตุํ อนุเสตี’’ติ ปทํ วิเสโส. สา จ ลทฺธิ อนฺธกานฺเจว สมฺมิติยานฺจ. อยํ อนฺธกานํเยวาติ.

รูปราโค รูปธาตุปริยาปนฺโน อรูปราโค อรูปธาตุปริยาปนฺโนติกถาวณฺณนา.

รูปารูปธาตุปริยาปนฺนกถาวณฺณนา.

โสฬสโม วคฺโค.

๑๗. สตฺตรสมวคฺโค

๑. อตฺถิ อรหโต ปุฺูปจยกถาวณฺณนา

๗๗๖-๗๗๙. อิทานิ อตฺถิ อรหโต ปุฺูปจโยติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ อรหโต ทานสํวิภาคเจติยวนฺทนาทีนิ กมฺมานิ ทิสฺวา อตฺถิ อรหโต ปุฺูปจโยติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘อรหา นาม ปหีนปุฺปาโป, โส ยทิ ปุฺํ กเรยฺย, ปาปมฺปิ กเรยฺยา’’ติ โจเทตุํ อปุฺูปจโยติ อาห. อิตโร ปาณาติปาตาทิกิริยํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. ปุฺาภิสงฺขารนฺติอาทีสุ ภวคามิกมฺมํ อรหโต นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ทานํ ทเทยฺยาติอาทีสุ กิริยจิตฺเตน ทานาทิปวตฺติสพฺภาวโต สกวาที ปฏิชานาติ. อิตโร จิตฺตํ อนาทิยิตฺวา กิริยาปวตฺติมตฺตทสฺสเนเนว ลทฺธึ ปติฏฺเปติ. สา ปน อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺาปิตา โหตีติ.

อตฺถิ อรหโต ปุฺูปจโยติกถาวณฺณนา.

๒. นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา

๗๘๐. อิทานิ นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗) สุตฺตสฺส อตฺถํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อรหตา นาม สพฺพกมฺมวิปากํ ปฏิสํเวทยิตฺวาว ปรินิพฺพายิตพฺพํ, ตสฺมา นตฺถิ, อรหโต อกาลมจฺจู’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ ตสฺส นตฺถิ อกาลมจฺจุ, อรหนฺตฆาตเกน นาม น ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ นตฺถิ อรหนฺตฆาตโกติ อาห. อิตโร อานนฺตริยกมฺมสฺส เจว ตาทิสานฺจ ปุคฺคลานํ สพฺภาวโต ปฏิกฺขิปติ.

๗๘๑. วิสํ น กเมยฺยาติ ปฺเห ‘‘ยาว ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ตาว น กมตี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.

๗๘๒. นาหํ, ภิกฺขเวติ สุตฺตํ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ วิปากํ อปฏิสํเวทิตฺวา อวินฺทิตฺวา อนนุภวิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ เตสํ กมฺมานํ ปริวฏุมปริจฺฉินฺนภาวํ น วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺธมฺมเวทนียานํ ทิฏฺเว ธมฺเม, น ตโต ปรํ, อุปปชฺชเวทนียานํ อนนฺตรํ อุปปตฺตึ อุปปชฺชิตฺวาว น ตโต ปรํ, อปราปริยเวทนียานํ ยทา วิปาโกกาสํ ลภนฺติ, ตถารูเป อปราปเร วา ปริยาเย. เอวํ สพฺพถาปิ สํสารปวตฺเต สติ ลทฺธวิปากวาเร กมฺเม น วิชฺชเตโส ชคติปฺปเทโส, ยตฺถฏฺิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมาติ. เอวํ สนฺเต ยเทตํ ‘‘อลทฺธวิปากวารมฺปิ กมฺมํ อวสฺสํ อรหโต ปฏิสํเวทิตพฺพ’’นฺติ กปฺปนาวเสน ‘‘นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจู’’ติ ลทฺธิปติฏฺาปนํ กตํ, ตํ ทุกฺกฏเมวาติ.

นตฺถิ อรหโต อกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา.

๓. สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถาวณฺณนา

๗๘๓. อิทานิ สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘กมฺมุนา วตฺตติ โลโก’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘สพฺพมิทํ กมฺมกิเลสวิปากวฏฺฏํ กมฺมโตว โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ราชคิริกานฺเจว สิทฺธตฺถิกานฺจ; เต สนฺธาย สพฺพมิทนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘เอวํ สนฺเต กมฺมมฺปิ กมฺมโต อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ กมฺมมฺปิ กมฺมโตติ อาห. อิตโร ยทิ กมฺมมฺปิ กมฺมโตว นาม ตํ กมฺมํ วิปาโกเยว สิยาติ ปฏิกฺขิปติ. ปุพฺเพกตเหตูติ ‘‘ยทิ สพฺพมิทํ กมฺมโต, ปุพฺเพกตเหตุนา เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ, อิตโร ปุพฺเพกตเหตุวาทภเยน ปฏิกฺขิปติ.

๗๘๔. กมฺมวิปากโตติ ‘‘ยทิ สพฺพมิทํ กมฺมโต, ยํ อตีตภเว ปวตฺตสฺส เหตุภูตํ กมฺมํ, ตมฺปิ ปุริมตเร ภเว กมฺมโตติ กมฺมวิปาโก สมฺปชฺชติ, เตน เต สพฺพมิทํ กมฺมวิปากโต อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิตโร พีชโต อํกุรสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนปวตฺตสฺส กมฺมโต นิพฺพตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ ตสฺสาปิ กมฺมสฺส พีชสฺส ปุริมพีชโต วิย ปุริมกมฺมโต ปวตฺตตฺตา ปฏิชานาติ. ปาณํ หเนยฺยาติอาทิ ‘‘ยทิ สพฺพํ กมฺมวิปากโต, ปาณาติปาตาทีนิ กมฺมวิปาเกเนว กเรยฺยา’’ติ โจเทตุํ วุตฺตํ. อิตโร ทุสฺสีลฺยเจตนาปิ ปุริมกมฺมนิพฺพตฺตา เอเกน ปริยาเยน วิปาโกเยวาติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. อถ นํ ‘‘ยทิ เต ปาณาติปาโต กมฺมวิปากโต นิพฺพตฺตติ, ปาณาติปาโต วิย วิปาโกปิ สผโล อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ สผโลติ อาห. อิตโร ปาณาติปาตสฺส นิรยสํวตฺตนิกาทิภาวโต สผลตํ ปสฺสนฺโต ปฏิชานาติ. กมฺมวิปากสฺส ปน อิทํ นาม ผลนฺติ วุตฺตฏฺานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร สผโลติ เทยฺยธมฺมวเสน ทานผลํ ปุจฺฉติ. กมฺมุนา วตฺตตีติ สุตฺตํ ‘‘นตฺถิ กมฺม’’นฺติ อกมฺมวาทิตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อตฺถิ กมฺม’’นฺติ กมฺมวาทิตํ กมฺมสฺสกตํ ทีเปติ. น สพฺพสฺเสว กมฺมโต นิพฺพตฺตึ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สพฺพมิทํ กมฺมโตติกถาวณฺณนา.

๔. อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา

๗๘๖-๗๘๗. อิทานิ อินฺทฺริยพทฺธกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิธํ ทุกฺขํ – อินฺทฺริยพทฺธํ, อนินฺทฺริยพทฺธฺจ. อินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขวตฺถุตาย ทุกฺขํ, อนินฺทฺริยพทฺธํ อุทยพฺพยปฏิปีฬนฏฺเน ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ สงฺคหิตตฺตา ทุกฺขํ. อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ยสฺส ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ตํ อินฺทฺริยพทฺธเมว ทุกฺขํ, น อิตร’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ, เตสํ อิตรสฺสาปิ ทุกฺขภาวํ ทสฺเสตุํ อินฺทฺริยพทฺธฺเวาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยสฺมา ภควตา ‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา อินฺทฺริยพทฺเธเนว เตน อนิจฺเจน ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อินฺทฺริยพทฺธฺเว อนิจฺจนฺติอาทิมาห. นนุ อนินฺทฺริยพทฺธํ อนิจฺจนฺติ นนุ ปถวีปพฺพตปาสาณาทิ อนินฺทฺริยพทฺธมฺปิ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ.

๗๘๘. น วตฺตพฺพํ อินฺทฺริยพทฺธฺเว ทุกฺขนฺติ ปฺเห อามนฺตาติ ปฏิฺา สกวาทิสฺส. อนินฺทฺริยพทฺธฺหิ ทุกฺขโทมนสฺสานํ อารมฺมณํ โหติ. อุณฺหกาลสฺมิฺหิ อคฺคิ สีตกาเล จ วาโต ทุกฺขสฺส อารมฺมณํ, นิจฺจมฺปิ โภควินาสาทโย โทมนสฺสสฺส. ตสฺมา วินาปิ อนิจฺจฏฺเน อนินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพํ. กมฺมกิเลเสหิ ปน อนิพฺพตฺตตฺตา ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตถา มคฺเคน อปริฺเยฺยตฺตา. ยสฺมา ปน ติณกฏฺาทินิโรโธ วา อุตุพีชาทินิโรโธ วา ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ นาม น โหติ, ตสฺมา อินฺทฺริยพทฺธํ ทุกฺขฺเจว อริยสจฺจฺจ, อิตรํ ปน ทุกฺขเมวาติ อิทํ นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ปฏิชานาติ. ยถา อินฺทฺริยพทฺธสฺสาติอาทิวจนํ อินฺทฺริยพทฺธสฺส ปริฺาย พฺรหฺมจริยวาสํ ปริฺาตสฺส ปุน อนุปฺปตฺตึ ทีเปติ. เตเนเวตฺถ สกวาทินา ปฏิกฺเขโป กโต. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจเนน ปน สงฺคหิตสฺส อนินฺทฺริยพทฺธสฺส ทุกฺขภาวํ ปฏิเสเธตุํ น สกฺกาติ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา.

๕. เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถาวณฺณนา

๗๘๙-๗๙๐. อิทานิ เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา อริยมคฺโค ‘ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทา’ติ วุตฺโต, ตสฺมา เปตฺวา อริยมคฺคํ อวเสสา สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เอวํ สมุทยสฺสาปิ ทุกฺขภาโว อาปชฺชตี’’ติ โจเทตุํ ทุกฺขสมุทโยปีติ อาห. อิตโร เหตุลกฺขณํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ปวตฺตปริยาปนฺนภาวํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตีเณวาติ ปฺเหสุ สุตฺตวิโรธภเยน ปฏิกฺขิปติ, ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

เปตฺวา อริยมคฺคนฺติกถาวณฺณนา.

๖. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถาวณฺณนา

๗๙๑-๗๙๒. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ปรมตฺถโต มคฺคผลาเนว สงฺโฆ, มคฺคผเลหิ อฺโ สงฺโฆ นาม นตฺถิ, มคฺคผลานิ จ น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ มหาปุฺวาทีสงฺขาตานํ เวตุลฺลกานํ; เต สนฺธาย น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ปฏิคฺคณฺเหยฺย, น นํ สตฺถา อาหุเนยฺยาติอาทีหิ โถเมยฺยา’’ติ โจเทตุํ นนุ สงฺโฆ อาหุเนยฺโยติอาทิมาห. สงฺฆสฺส ทานํ เทนฺตีติ ‘‘เย เต สงฺฆสฺส เทนฺติ, เต ปฏิคฺคาหเกสุ อสติ กสฺส ทเทยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อาหุตึ ชาตเวโท วาติ สุตฺตํ ปรสมยโต อาคตํ. ตตฺถ มหาเมฆนฺติ เมฆวุฏฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. วุฏฺิฺหิ เมทนี ปฏิคฺคณฺหาติ, น เมฆเมว. มคฺโค ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘มคฺคผลานิ สงฺโฆ’’ติ ลทฺธิยา วทติ, น จ มคฺคผลาเนว สงฺโฆ. มคฺคผลปาตุภาวปริสุทฺเธ ปน ขนฺเธ อุปาทาย ปฺตฺตา อฏฺ ปุคฺคลา สงฺโฆ, ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหาตีติกถาวณฺณนา.

๗. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถาวณฺณนา

๗๙๓-๗๙๔. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ ตานิ ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺโยติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ น สกฺกุเณยฺย, น นํ สตฺถา เอวํ โถเมยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิโสเธตีติ มหปฺผลํ กโรติ. สงฺฆสฺมิฺหิ อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ, พหุ ทินฺนํ พหุตรํ. ทกฺขิเณยฺยาติ ทกฺขิณารหา ทกฺขิณาย อนุจฺฉวิกา, ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ สมตฺถาติ อตฺโถ. ทกฺขิณํ อาราเธนฺตีติ สมฺปาเทนฺติ, อปฺปมตฺติกายปิ ทกฺขิณาย มหนฺตํ ผลํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ทกฺขิณํ วิโสเธตีติกถาวณฺณนา.

๘. น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภุฺชตีติกถาวณฺณนา

๗๙๕-๗๙๖. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภุฺชตีติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ ตานิ กิฺจิ ภุฺชนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภุฺชติ, ปิวติ, ขาทติ, สายตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ภุฺเชยฺย, สงฺฆภตฺตาทิกรณํ นิรตฺถกํ ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ นนุ อตฺถิ เกจิ สงฺฆภตฺตานิ กโรนฺตีติอาทิมาห. คณโภชนนฺติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ภุฺเชยฺย, กสฺส คณโภชนาทีนิ สิยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อฏฺ ปานานีติ อิทมฺปิ ‘‘ยทิ สงฺโฆ น ปิเวยฺย, กสฺเสตานิ ปานานิ สตฺถา อนุชาเนยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

น วตฺตพฺพํ สงฺโฆ ภุฺชตีติกถาวณฺณนา.

๙. น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา

๗๙๗-๗๙๘. อิทานิ น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺราปิ ‘‘มคฺคผลาเนว สงฺโฆ นาม, น จ สกฺกา เตสํ กิฺจิ ทาตุํ, น จ เตหิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ, นาปิ เตสํ ทาเนน โกจิ อุปกาโร อิชฺฌติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺโยติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ น ภเวยฺย, น นํ สตฺถา เอวํ โถเมยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

น วตฺตพฺพํ สงฺฆสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา.

๑๐. น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา

๗๙๙. อิทานิ น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘พุทฺโธ ภควา น กิฺจิ ปริภุฺชติ, โลกานุวตฺตนตฺถํ ปน ปริภุฺชมานํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสติ, ตสฺมา นิรุปการตฺตา น วตฺตพฺพํ ตสฺมึ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสํเยว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทฺวิปทานํ อคฺโคติอาทิ ‘‘มนุสฺสทุสฺสีเลปิ ทานํ สหสฺสคุณํ โหติ, กิมงฺคํ ปน เอวรูเป อคฺคปุคฺคเล’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

น วตฺตพฺพํ พุทฺธสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติกถาวณฺณนา.

๑๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา

๘๐๐-๘๐๑. อิทานิ ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยทิ ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณา วิสุชฺเฌยฺย, มหปฺผลา ภเวยฺย. ทายเกน ทานํ ทินฺนํ, ปฏิคฺคาหเกน วิปาโก นิพฺพตฺติโตติ อฺโ อฺสฺส การโก ภเวยฺย, ปรํกตํ สุขทุกฺขํ อาปชฺเชยฺย, อฺโ กเรยฺย, อฺโ ปฏิสํเวเทยฺย. ตสฺมา ทายกโตว ทานํ วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโต, ทายกสฺเสว จิตฺตวิสุทฺธิ วิปากทายิกา โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อาหุเนยฺยาติอาทิ ‘‘ยทิ ปฏิคฺคาหกโต ทานํ น วิสุชฺเฌยฺย, กิมสฺส อาหุเนยฺยาทิภาโว กเรยฺยา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺโ อฺสฺส การโกติ ยทิ ทายกสฺส ทานเจตนา ปฏิคฺคาหเกน กตา ภเวยฺย, ยุตฺตรูปํ สิยา. ตสฺส ปน ทานเจตนา ปริสุทฺธา ปฏิคฺคาหกสงฺขาตํ วตฺถุํ ปฏิจฺจ มหาวิปากฏฺเน วิสุชฺฌติ, ตสฺมา อโจทนา เอสา ‘‘ปฏิคฺคาหกโต ทานํ วิสุชฺฌตี’’ติ.

ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา.

สตฺตรสโม วคฺโค.

๑๘. อฏฺารสมวคฺโค

๑. มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา

๘๐๒-๘๐๓. อิทานิ มนุสฺสโลกกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตถาคโต โลเก, ชาโต โลเก สํวฑฺโฒ, โลกํ อภิภุยฺย วิหรติ อนุปลิตฺโต โลเกนา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๙๔) สุตฺตํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘ภควา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺโต ตตฺเถว วสติ, น มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉติ, นิมฺมิตรูปมตฺตกํ ปเนตฺถ ทสฺเสตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอตรหิ เวตุลฺลกานํเยว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ปุฏฺโกาเสน เจว สุตฺตสาธเนน จ สฺาเปตุํ นนุ อตฺถีติอาทิมาห. โลเก ชาโตติ ปรวาที ตุสิตปุรํ สนฺธาย วทติ. สตฺถารา ปเนตํ มนุสฺสโลกฺเว สนฺธาย โลกํ วุตฺตํ. โลกํ อภิภุยฺยาติ ปรวาที มนุสฺสโลกํ อภิภวิตฺวาติ ทิฏฺิยา วทติ, สตฺถา ปน อารมฺมณโลกํ อภิภวิตฺวา วิหาสิ. อนุปลิตฺโต โลเกนาติ ปรวาที มนุสฺสโลเกน อนุปลิตฺตตํว สนฺธาย วทติ, สตฺถา ปน โลกธมฺเมสุ กิเลเสหิ อนุปลิตฺโต วิหาสิ. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา.

๒. ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา

๘๐๔-๘๐๖. อิทานิ ธมฺมเทสนากถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ตุสิตปุเร ิโต ภควา ธมฺมเทสนตฺถาย อภินิมฺมิตํ เปเสสิ, เตน เจว ตสฺส จ เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน ธมฺโม เทสิโต, น พุทฺเธน ภควตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เวตุลฺลกานฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เตน ธมฺโม เทสิโต, สฺเวว สตฺถา ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ อภินิมฺมิโต ชิโนติอาทิมาห. อิตโร ตถา อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา.

๓. กรุณากถาวณฺณนา

๘๐๗-๘๐๘. อิทานิ กรุณากถา นาม โหติ. ตตฺถ ปิยายิตานํ วตฺถูนํ วิปตฺติยา สราคานํ ราควเสน กรุณาปติรูปิกํ ปวตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ราโคว กรุณา นาม, โส จ ภควโต นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถิ พุทฺธสฺส ภควโต กรุณา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘กรุณา นาเมสา นิกฺกิเลสตาย เจว สตฺตารมฺมณตาย จ เจโตวิมุตฺติตาย จ เอกาทสานิสํสตาย จ เมตฺตาทีหิ สมานชาติกา, ตสฺมา ยทิ ภควโต กรุณา นตฺถิ, เมตฺตาทโยปิสฺส น สิยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ นตฺถิ พุทฺธสฺส ภควโต เมตฺตาติอาทิมาห. อาการุณิโกติ ปฺเห ตถารูปํ โวหารํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

กรุณากถาวณฺณนา.

๔. คนฺธชาตกถาวณฺณนา

๘๐๙. อิทานิ คนฺธชาตกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ พุทฺเธ ภควติ อโยนิโส เปมวเสน ‘‘ภควโต อุจฺจารปสฺสาโว อฺเ คนฺธชาเต อติวิย อธิคณฺหาติ, นตฺถิ ตโต จ สุคนฺธตรํ คนฺธชาต’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อนฺธกานฺเจว อุตฺตราปถกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

คนฺธชาตกถาวณฺณนา.

๕. เอกมคฺคกถาวณฺณนา

๘๑๐-๘๑๑. อิทานิ เอกมคฺคกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ พุทฺเธ ภควติ อโยนิโส เปมวเสเนว ‘‘ภควา โสตาปนฺโน หุตฺวา สกทาคามี, สกทาคามี หุตฺวา อนาคามี, อนาคามี หุตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ, เอเกเนว ปน อริยมคฺเคน จตฺตาริ ผลานิ สจฺฉากาสี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ จตูหิ ผเลหิ สทฺธึ อุปฺปนฺนานํ จตุนฺนํ ผสฺสาทีนํ เอกโต สโมธานวเสน โจเทตุํ จตุนฺนํ ผสฺสานนฺติอาทิมาห. โสตาปตฺติมคฺเคนาติอาทิ ‘‘กตรมคฺเคน สจฺฉิกโรตี’’ติ ปุจฺฉนตฺถํ วุตฺตํ. อรหตฺตมคฺเคนาติ จ วุตฺเต เตน สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ ปหานาภาววเสน โจเทติ. ภควา โสตาปนฺโนติ พุทฺธภูตสฺส โสตาปนฺนภาโว นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ปรโต ปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

เอกมคฺคกถาวณฺณนา.

๖. ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา

๘๑๓-๘๑๖. อิทานิ ฌานสงฺกนฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๙๒๓-๙๓๔) อิมํ ปฏิปาฏิเทสนํ นิสฺสาย ‘‘ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารปฺปวตฺตึ วินาว ฌานา ฌานํ สงฺกมตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานฺเจว เอกจฺจานฺจ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เต ทุติยชฺฌานูปจารํ อปฺปตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา ปมชฺฌานา ทุติยชฺฌานเมว สงฺกมติ, ปมโต ตติยํ, ทุติยโต จตุตฺถมฺปิ สงฺกเมยฺยา’’ติ โจเทตุํ ปมา ฌานาติอาทิมาห. ยา ปมสฺสาติอาทิ ‘‘ยทิ ปมโต อนนฺตรํ ทุติยํ, ทุติยาทีหิ วา ตติยาทีนิ สมาปชฺชติ, เอกาวชฺชเนน สมาปชฺเชยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. กาเม อาทีนวโตติ ปมํ กาเม อาทีนวโต มนสิ กโรโต ปจฺฉา อุปฺปชฺชติ. ฌานกฺขเณ ปเนส นิมิตฺตเมว มนสิ กโรติ. ตฺเว ปมนฺติ ‘‘ยทิ ปุริมชวนโต ปจฺฉิมชวนํ วิย อนนฺตรํ อุปฺปชฺเชยฺย, เปตฺวา ปุริมปจฺฉิมภาวํ ลกฺขณโต ตฺเว ตํ ภเวยฺยา’’ติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีหิ ปฏิปาฏิยา ฌานานํ เทสิตภาวํ ทีเปติ, น อนนฺตรุปฺปตฺตึ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา.

๗. ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา

๘๑๗-๘๑๘. อิทานิ ฌานนฺตริกกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ สมเย ‘‘ปฺจกนเย ปฺจ ฌานานิ วิภตฺตานิ, เกวลํ ตโย สมาธี อุทฺทิฏฺา’’ติ อวิตกฺกวิจารมตฺตสฺส สมาธิโน โอกาสํ อชานนฺตานํ ‘‘ปมสฺส จ ทุติยสฺส จ ฌานสฺส อนฺตเร ฌานนฺตริกา นาม เอสา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ สมฺมิติยานฺเจว เอกจฺจานฺจ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ฌานมฺปิ เจตสิกา ธมฺมา, ผสฺสาทโยปิ, ตสฺมา ยทิ ฌานนฺตริกา นาม ภเวยฺย, ผสฺสนฺตริกาทีหิปิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ อตฺถิ ผสฺสนฺตริกาติอาทิมาห.

ทุติยสฺส จ ฌานสฺสาติ ‘‘ยทิ ฌานนฺตริกา นาม ภเวยฺย, ทุติยตติยาทีนิปิ ฌานาเนว, เตสมฺปิ อนฺตริกาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. โส เกวลํ ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. ปมสฺส จาติ ปุฏฺโ ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ.

๘๑๙. สวิตกฺโก สวิจาโรติอาทิ ‘‘ติณฺณมฺปิ สมาธีนํ สมาธิภาเว สมาเน อวิตกฺโก วิจารมตฺโตว สมาธิ ฌานนฺตริโก, น อิตโรติ โก เอตฺถ วิเสสเหตู’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ.

๘๒๐-๘๒๒. ทฺวินฺนํ ฌานานํ ปฏุปฺปนฺนานนฺติ ปมทุติยานิ สนฺธาย ปุจฺฉติ. อิตโร ‘‘เตสํ ปจฺจุปฺปนฺนานํเยว อนฺตเร อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ ฌานนฺตริโก นาม โหตี’’ติ ลทฺธิยา ปฏิชานาติ. ปมํ ฌานํ นิรุทฺธนฺติ ปุฏฺโ ติณฺณํ เอกกฺขเณ ปวตฺติ น ยุตฺตาติ ปฏิชานาติ. อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ ปมํ ฌานนฺติ จตุกฺกนยวเสน ปุจฺฉติ. สกวาที ตสฺมึ นเย ตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปติ. นนุ ตโย สมาธีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา เตสุ ตีสุ สมาธีสุ ทฺเว สมาธี ฌานาเนว, น ฌานนฺตริกา, เอวํ อิตเรนปิ ฌาเนเนว ภวิตพฺพํ, น ฌานนฺตริกายาติ.

ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา.

๘. สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถาวณฺณนา

๘๒๓-๘๒๕. อิทานิ สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา ปมสฺส ฌานสฺส สทฺโท กณฺฑโก วุตฺโต ภควตา, ยทิ จ สมาปนฺโน ตํ น สุเณยฺย, กถํ กณฺฑโก สิยา. ตสฺมา สมาปนฺโน สทฺทํ, สุณาตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติอาทิ ‘‘สมาปนฺนสฺส ตาว ปฺจทฺวารปฺปวตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมึ อสติ ยทิ โส สทฺทํ สุเณยฺย, รูปมฺปิ ปสฺเสยฺยา’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. สทฺโท กณฺฑโกติ วิกฺเขปกรตฺตา วุตฺตํ. โอฬาริเกน หิ สทฺเทน โสเต ฆฏฺฏิเต ปมชฺฌานโต วุฏฺานํ โหติ, เตเนตํ วุตฺตํ, ตสฺมา อสาธกํ. ทุติยสฺส ฌานสฺสาติอาทิ ‘‘ยถา อฺโปิ กณฺฑโก อนฺโตสมาปตฺติยํ นตฺถิ, เอวํ สทฺทสฺสวนมฺปี’’ติ โพธนตฺถํ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตีติกถาวณฺณนา.

๙. จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา

๘๒๖-๘๒๗. อิทานิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ วจนํ นิสฺสาย ‘‘ปสาทจกฺขุเมว รูปํ ปสฺสตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺเสยฺย, รูเปน รูปํ ปสฺเสยฺยาตี’’ติ โจเทตุํ รูเปน รูปํ ปสฺสตีติ อาห. อิตโร รูปายตนํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ปุฏฺโ จกฺขุเมว สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปฏิวิชานาตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ปสฺสตีติ หิ มยํ ปฏิชานนํ สนฺธาย ปุจฺฉาม, น จกฺขูปสํหารมตฺตํ. ตสฺมา วเทหิ ตาว ‘‘กึ เต จกฺขุมา รูเปน รูปํ ปฏิวิชานาตี’’ติ. อิตโร ปุริมนเยเนว ปฏิกฺขิปติ เจว ปฏิชานาติ จ. อถ นํ ‘‘เอวํ สนฺเต รูปํ มโนวิฺาณํ อาปชฺชติ, ตฺหิ ปฏิวิชานาติ นามา’’ติ โจเทตุํ รูปํ มโนวิฺาณนฺติ อาห. อิตโร เลสํ อลภนฺโต ปฏิกฺขิปเตว. อตฺถิ จกฺขุสฺส อาวฏฺฏนาติอาทิ ‘‘ยทิ จกฺขุ ปฏิวิชานนฏฺเน ปสฺสติ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิย ตสฺสาปิ อาวชฺชนาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ปุจฺฉติ. อิตโร ยสฺมา น อาวชฺชนปฏิพทฺธํ จกฺขุ, น ตํ อาวชฺชนานนฺตรํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. โสเตน สทฺทนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติ สสมฺภารกถานเยน วุตฺตํ. ยถา หิ อุสุนา วิชฺฌนฺโตปิ ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสนฺโตปิ ‘‘จกฺขุนา ปสฺสตี’’ติ วุตฺโต, ตสฺมา อสาธกเมตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโยปิ.

จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติกถาวณฺณนา.

อฏฺารสโม วคฺโค.

๑๙. เอกูนวีสติมวคฺโค

๑. กิเลสปชหนกถาวณฺณนา

๘๒๘-๘๓๑. อิทานิ กิเลสปชหนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา กิเลสปหานํ นาม อตฺถิ, ปหีนกิเลสสฺส จ อตีตาปิ กิเลสา ปหีนาว โหนฺติ, อนาคตาปิ, ปจฺจุปฺปนฺนาปิ, ตสฺมา อตีเตปิ กิเลเส ปชหติ, อนาคเตปิ, ปจฺจุปฺปนฺเนปี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อตีเตติอาทิปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. นตฺถิ กิเลเส ชหตีติ อิมสฺมึ ปน ปรวาทิสฺส ปฺเห ยสฺมา กจวรํ ปชหนฺตสฺส กจวเร ฉฑฺฑนวายาโม วิย กิเลเส ปชหนฺตสฺส น อตีตาทิเภเทสุ กิเลเสสุ วายาโม อตฺถิ, นิพฺพานารมฺมเณ ปน อริยมคฺเค ปวตฺติเต กิเลสา อนุปฺปนฺนาเยว นุปฺปชฺชนฺตีติ ปหีนา นาม โหนฺติ, ตสฺมา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ. เตน หิ อตีเต กิเลเส ปชหตีติอาทิ ปน ยสฺมา ‘‘นตฺถิ กิเลสปชหนา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา อตีตาทิเภเท ปชหตีติ ฉเลน วุตฺตํ.

กิเลสปชหนกถาวณฺณนา.

๒. สุฺตกถาวณฺณนา

๘๓๒. อิทานิ สุฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ สุฺตาติ ทฺเว สุฺตา ขนฺธานฺจ อนตฺตลกฺขณํ นิพฺพานฺจ. เตสุ อนตฺตลกฺขณํ ตาว เอกจฺจํ เอเกน ปริยาเยน สิยา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนํ, นิพฺพานํ, อปริยาปนฺนเมว. อิมํ ปน วิภาคํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สุฺตา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อนิมิตฺตนฺติ สพฺพนิมิตฺตรหิตํ นิพฺพานํ. ‘‘อปฺปณิหิโต’’ติปิ ตสฺเสว นามํ. กสฺมา ปเนตํ อาภตนฺติ? อวิภชฺชวาทีวาเท โทสาโรปนตฺถํ. ยสฺส หิ อวิภชิตฺวา ‘‘เอกเทเสเนว สุฺตา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา’’ติ ลทฺธิ, ตสฺส นิพฺพานมฺปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนนฺติ อาปชฺชติ. อิมสฺส โทสสฺสาโรปนตฺถํ ‘‘อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิต’’นฺติ อาภตํ. อิตโร ตสฺส ปริยาปนฺนภาวํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ. สงฺขารกฺขนฺโธ น อนิจฺโจติอาทิ นิพฺพานสงฺขาตาย สุฺตาย อนิจฺจภาวาปตฺติโทสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๘๓๓. สงฺขารกฺขนฺธสฺส สุฺตาติ ‘‘ยทิ อฺสฺส ขนฺธสฺส สุฺตา อฺกฺขนฺธปริยาปนฺนา, สงฺขารกฺขนฺธสุฺตายปิ เสสกฺขนฺธปริยาปนฺนาย ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. สงฺขารกฺขนฺธสฺส สุฺตา น วตฺตพฺพาติอาทิ ‘‘ยทิ สงฺขารกฺขนฺธสุฺตา เสสกฺขนฺธปริยาปนฺนา น โหติ, เสสกฺขนฺธสุฺตาปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา น โหตี’’ติ ปฏิโลมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๘๓๔. สุฺมิทํ, ภิกฺขเว, สงฺขาราติ สุตฺตํ ปรสมยโต อาภตํ. ตตฺถ สงฺขาราติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ อาคตฏฺาเน วิย ปฺจกฺขนฺธา, เต จ อตฺตตฺตนิยสุฺตฺตา สุฺตาติ สาสนาวจรํ โหติ, น วิรุชฺฌติ, ตสฺมา อนุฺาตํ. ยสฺมา ปเนตํ น สุฺตาย สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนภาวํ ทีเปติ, ตสฺมา อสาธกนฺติ.

สุฺตกถาวณฺณนา.

๓. สามฺผลกถาวณฺณนา

๘๓๕-๘๓๖. อิทานิ สามฺผลกถา นาม โหติ. ตตฺถ มคฺควีถิยมฺปิ ผลสมาปตฺติวีถิยมฺปิ อริยมคฺคสฺส วิปากจิตฺตํ สามฺผลํ นามาติ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. เยสํ ปน ตถา อคฺคเหตฺวา ‘‘กิเลสปหานฺเจว ผลุปฺปตฺติ จ สามฺผลํ, ตสฺมา อสงฺขต’’นฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา ยถา ปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

สามฺผลกถาวณฺณนา.

๔. ปตฺติกถาวณฺณนา

๘๓๗-๘๔๐. อิทานิ ปตฺติกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยํ ยํ ปฏิลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิลาโภ ปตฺติ นาม. สา จ อสงฺขตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ. น วตฺตพฺพนฺติอาทิ ยาย ลทฺธิยา ปตฺติ อสงฺขตาติ มฺติ, ตํ ปกาเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ สกวาที ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต เกวลํ ปตฺติยา รูปาทิภาวํ น สมฺปฏิจฺฉติ. น หิ ปตฺติ นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ, น ปน อสงฺขตภาวํ อนุชานาติ. อิตโร ปน ปฏิกฺเขปมตฺเตเนว อสงฺขตาติ ลทฺธึ ปติฏฺเปติ, สา อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.

ปตฺติกถาวณฺณนา.

๕. ตถตากถาวณฺณนา

๘๔๑-๘๔๓. อิทานิ ตถตากถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘รูปาทีนํ สพฺพธมฺมานํ รูปาทิสภาวตาสงฺขาตา ตถตา นาม อตฺถิ, สา จ สงฺขเตสุ รูปาทีสุ อปริยาปนฺนตฺตา อสงฺขตา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมวาติ.

ตถตากถาวณฺณนา.

๖. กุสลกถาวณฺณนา

๘๔๔-๘๔๖. อิทานิ กุสลกถา นาม โหติ. ตตฺถ อนวชฺชมฺปิ กุสลํ อิฏฺปากมฺปิ. อนวชฺชํ นาม กิเลสวิปฺปยุตฺตํ. อยํ นโย เปตฺวา อกุสลํ สพฺพธมฺเม ภชติ. อิฏฺวิปากํ นาม อายตึ อุปปตฺติปวตฺเตสุ อิฏฺผลนิปฺผาทกํ ปุฺํ. อยํ นโย กุสลตฺติเก อาทิปทเมว ภชติ. เยสํ ปน อิมํ วิภาคํ อคฺคเหตฺวา อนวชฺชภาวมตฺเตเนว นิพฺพานํ กุสลนฺติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เตสํ อิฏฺวิปากฏฺเน นิพฺพานสฺส กุสลตาภาวํ ทีเปตุํ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, อตฺตโน ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสมิธาปิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติ.

กุสลกถาวณฺณนา.

๗. อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา

๘๔๗. อิทานิ อจฺจนฺตนิยามกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๑๕) สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘อตฺถิ ปุถุชฺชนสฺส อจฺจนฺตนิยามตา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. มาตุฆาตโกติอาทิ ‘‘นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกสฺส จ มาตุฆาตกาทีนฺจ สมาเน มิจฺฉตฺตนิยาเม มาตุฆาตกาทีหิปิ เต อจฺจนฺตนิยเตหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิตโร ‘‘นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโก สํสารขาณุโก ภวนฺตเรปิ นิยโตว อิเม ปน เอกสฺมิฺเว อตฺตภาเว’’ติ ลทฺธิยา น เหวนฺติ ปฏิกฺขิปติ.

๘๔๘. วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺยาติ ‘‘อยํ นิยโต วา โน วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ ปุจฺฉติ. อิตโร อนุปฺปตฺติการณํ อปสฺสนฺโต ปฏิชานาติ. นุปฺปชฺเชยฺยาติ ปุฏฺโ ปน ยํ ทิฏฺึ อาเสวนฺโต นิยามํ โอกฺกนฺโต, ตตฺถ อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตโต ปหีนาติ ปุฏฺโ มคฺเคน อปฺปหีนตฺตา ปฏิกฺขิปติ, ตํ ทิฏฺึ อารพฺภ อสมุทาจารโต ปฏิชานาติ. อถ นํ ยสฺมา ปหานํ นาม วินา อริยมคฺเคน นตฺถิ, ตสฺมา ตสฺส วเสน โจเทตุํ โสตาปตฺติมคฺเคนาติอาทิมาห. โส เอกมคฺเคนาปิ อปฺปหีนตฺตา ปฏิกฺขิปติ. ปุน กตเมนาติ ปุฏฺโ มิจฺฉามคฺคํ สนฺธาย อกุสเลนาติอาทิมาห.

๘๔๙. อุจฺเฉททิฏฺิ อุปฺปชฺเชยฺยาติ ทุติยนิยามุปฺปตฺตึ ปุจฺฉติ. อิตโร ยสฺมา ‘‘เยปิ เต โอกฺกลา วยภิฺา นตฺถิกวาทา อกิริยวาทา อเหตุกวาทา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๓) วจนโต ติสฺโสปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโย เอกสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ปฏิชานาติ.

๘๕๐. อถ นํ ‘‘น จ นาม โส อจฺจนฺตนิยาโม’’ติ โจเทตุํ หฺจีติอาทิมาห. อจฺจนฺตนิยตสฺส หิ ทุติยนิยาโม นิรตฺถโก. นุปฺปชฺเชยฺยาติ ปฺเห ยํ สสฺสตทิฏฺิยา สสฺสตนฺติ คหิตํ, ตเทว อุจฺฉิชฺชิสฺสตีติ คเหตฺวา อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ปหีนาติ ปุฏฺโ มคฺเคน อปฺปหีนตฺตา ปฏิกฺขิปติ, วุตฺตนเยน อนุปฺปชฺชนโต ปฏิชานาติ. สสฺสตทิฏฺิ อุปฺปชฺเชยฺยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ วิจิกิจฺฉาวาเร วุตฺตนยเมว.

๘๕๑-๘๕๒. น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, สุตฺตสฺส อตฺถิตาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. น ปน โส ภวนฺตเรปิ นิมุคฺโคว. อิมสฺมิฺเว หิ ภเว อภพฺโพ โส ตํ ทิฏฺึ ปชหิตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย, ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ. สพฺพกาลํ อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชตีติอาทิ วจนมตฺเต อภินิเวสํ อกตฺวา อตฺโถ ปริเยสิตพฺโพติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ.

อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา.

๘. อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๘๕๓-๘๕๖. อิทานิ อินฺทฺริยกถา นาม โหติ. ตตฺถ โลกิยา สทฺธา สทฺธา เอว นาม, น สทฺธินฺทฺริยํ. ตถา โลกิยํ วีริยํ…เป… สติ… สมาธิ… ปฺา ปฺาเยว นาม, น ปฺินฺทฺริยนฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานฺเจว มหิสาสกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. นตฺถิ โลกิยา สทฺธาติอาทิ ยสฺมา โลกิยาปิ สทฺธาทโยว ธมฺมา อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, น สทฺธาทีหิ อฺํ สทฺธินฺทฺริยาทิ นาม อตฺถิ, ตสฺมา โลกิยานมฺปิ สทฺธาทีนฺเว สทฺธินฺทฺริยาทิภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อตฺถิ โลกิโย มโนติอาทิ ยถา เต โลกิยาปิ มนาทโย ธมฺมา มนินฺทฺริยาทีนิ, เอวํ โลกิยา สทฺธาทโยปิ สทฺธินฺทฺริยานีติ อุปมาย ตสฺสตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

อินฺทฺริยกถาวณฺณนา.

เอกูนวีสติโม วคฺโค.

๒๐. วีสติมวคฺโค

๑. อสฺจิจฺจกถาวณฺณนา

๘๕๗-๘๖๒. อิทานิ อสฺจิจฺจกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อานนฺตริยวตฺถูนิ นาม ครูนิ ภาริยานิ, ตสฺมา อสฺจิจฺจาปิ เตสุ วตฺถูสุ วิโกปิเตสุ อานนฺตริโก โหตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย อสฺจิจฺจาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิวเสน ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยสฺมา อานนฺตริยกมฺมํ นาม กมฺมปถปฺปตฺตํ. ยทิ จ อสฺจิจฺจ กมฺมปถเภโท สิยา, อวเสสา ปาณาติปาตาทโยปิ อสฺจิจฺจ ภเวยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ อสฺจิจฺจปาณํ หนฺตฺวาติอาทิมาห. อิตโร ตถารูปาย ลทฺธิยา อภาเวน ปฏิกฺขิปติ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. น วตฺตพฺพํ มาตุฆาตโกติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, โรคปฏิการาทิกาเล อสฺจิจฺจ ฆาตํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. นนุ มาตา ชีวิตา โวโรปิตาติ ปฺเหปิ อสฺจิจฺจ โวโรปิตํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺเสว. เอวํ อธิปฺปายํ ปน อคฺคเหตฺวา หฺจีติ ลทฺธิปติฏฺาปนํ อิตรสฺส. ตํ อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตเมว. ปิตุฆาตกาทีสุปิ เอเสว นโย. สงฺฆเภทเก ปน ธมฺมสฺึ สนฺธาย สงฺฆเภโท อานนฺตริโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ‘‘สงฺฆํ สมคฺคํ เภตฺวาน, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ วจนํ อโยนิโส คเหตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. ปุน สพฺเพติ ปุฏฺโ สกปกฺเข ธมฺมสฺึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ปรปกฺเข ธมฺมสฺึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ธมฺมสฺีติ ปฺหทฺวเยปิ เอเสว นโย. นนุ วุตฺตํ ภควตาติ สุตฺตํ เอกนฺเตเนว ธมฺมวาทิสฺส อานนฺตริกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อาปายิโก เนรยิโกติ คาถายปิ อธมฺมวาทีเยว อธิปฺเปโต. อิตโร ปน อธิปฺปายํ อคฺคเหตฺวา ลทฺธึ ปติฏฺเปติ. สา อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาเยวาติ.

อสฺจิจฺจกถาวณฺณนา.

๒. าณกถาวณฺณนา

๘๖๓-๘๖๕. อิทานิ าณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ทุวิธํ าณํ – โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ. โลกิยํ สมาปตฺติาณมฺปิ โหติ ทานาทิวเสน ปวตฺตํ กมฺมสฺสกตาณมฺปิ; โลกุตฺตรํ สจฺจปริจฺเฉทกํ มคฺคาณมฺปิ ผลาณมฺปิ. อิมํ ปน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘สจฺจปริจฺเฉทกเมว าณํ น อิตรํ, ตสฺมา นตฺถิ ปุถุชฺชนสฺส าณ’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เหตุวาทานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปฺาติอาทิ าณเววจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนตํ ทีเปติ – ยทิ ตสฺส าณํ นตฺถิ, ปฺาทโยปิ นตฺถิ. อถ ปฺาทโย อตฺถิ, าณมฺปิ อตฺถิ. กสฺมา? ปฺาทีนํ าณโต อนฺตฺตาติ. ปมํ ฌานนฺติอาทิ สมาปตฺติาณสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ทานํ ทเทยฺยาติอาทิ กมฺมสฺสกตาณสฺส. ทุกฺขํ ปริชานาตีติ โลกุตฺตรมคฺคาณเมว ทีเปติ, น จ โลกุตฺตรเมว าณนฺติ.

าณกถาวณฺณนา.

๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา

๘๖๖. อิทานิ นิรยปาลกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘นิรเย เนรยิกกมฺมาเนว นิรยปาลรูปวเสน วเธนฺติ, นตฺถิ นิรยปาลา นาม สตฺตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ ตตฺถ นิรยปาลา น สิยุํ, กมฺมการณาปิ น ภเวยฺยุํ. การณิเกสุ หิ สติ การณา’’ติ โจเทตุํ นตฺถิ นิรเยสูติอาทิมาห.

๘๖๗-๘๖๘. อตฺถิ มนุสฺเสสูติ ปจฺจกฺเขน าปนตฺถํ. ยถา หิ มนุสฺเสสุ สติ การณิเกสุ การณา, เอวํ ตตฺถาปีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อตฺถิ นิรเยสูติ ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. น เวสฺสภู โนปิ จ เปตฺติราชาติ ปรวาทินา สกสมยโต สุตฺตํ อาภตํ. ตํ ปน สาสนาวจริกนฺติ สกวาทินา อนุฺาตํ. ตตฺถ เวสฺสภูติ เอโก เทโว. เปตฺติราชาติ เปตฺติวิสเย เปตมหิทฺธิโก. โสมาทโย ปากฏา เอว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺตโน กมฺเมหิ อิโต ปณุนฺนํ ปรโลกํ ปตฺตํ ปุริสํ น เอเต เวสฺสภูอาทโย หนนฺติ. เยหิ ปน โส กมฺเมหิ ตตฺถ ปณุนฺโน, ตานิ สกานิ กมฺมานิเยว นํ ตตฺถ หนนฺตีติ กมฺมสฺสกตํ ทีเปติ, น นิรยปาลานํ อภาวํ. สกวาทินา ปน ตเมนํ, ภิกฺขเวติ อาภตานิ สุตฺตปทานิ นีตตฺถาเนวาติ.

นิรยปาลกถาวณฺณนา.

๔. ติรจฺฉานกถาวณฺณนา

๘๖๙-๘๗๑. อิทานิ ติรจฺฉานกถา นาม โหติ. ตตฺถ เทเวสุ เอราวณาทโย เทวปุตฺตา หตฺถิวณฺณํ อสฺสวณฺณํ วิกุพฺพนฺติ, นตฺถิ ตตฺถ ติรจฺฉานคตา. เยสํ ปน ติรจฺฉานวณฺณิโน เทวปุตฺเต ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ เทเวสุ ติรจฺฉานคตา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ เทวโยนิยํ ติรจฺฉานคตา สิยุํ, ติรจฺฉานโยนิยมฺปิ เทวา สิยุ’’นฺติ โจเทตุํ อตฺถิ ติรจฺฉานคเตสูติอาทิมาห. กีฏาติอาทิ เยสํ โส อภาวํ อิจฺฉติ, เต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอราวโณติ ปฺเห ตสฺส อตฺถิตาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส, น ติรจฺฉานคตสฺส. หตฺถิพนฺธาติอาทิ ‘‘ยทิ ตตฺถ หตฺถิอาทโย สิยุํ, หตฺถิพนฺธาทโยปิ สิยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาวสิกาติ ยวสฺส ทายกา. การณิกาติ หตฺถาจริยาทโย, เยหิ เต นานาวิธํ การณํ กเรยฺยุํ. ภตฺตการกาติ หตฺถิอาทีนํ ภตฺตรนฺธกา. น เหวนฺติ ตถา อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปตีติ.

ติรจฺฉานกถาวณฺณนา.

๕. มคฺคกถาวณฺณนา

๘๗๒-๘๗๕. อิทานิ มคฺคกถา นาม โหติ. ตตฺถ เยสํ ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๓๑) อิทฺเจว สุตฺตํ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวานฺจ จิตฺตวิปฺปยุตฺตตํ นิสฺสาย ‘‘นิปฺปริยาเยน ปฺจงฺคิโกว มคฺโค’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหิสาสกานํ, เต สนฺธาย ปฺจงฺคิโกติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สมฺมาวาจา มคฺคงฺคํ, สา จ น มคฺโคติอาทิ ปรสมยวเสน วุตฺตํ. ปรสมยสฺมิฺหิ สมฺมาวาจาทโย มคฺคงฺคนฺติ อาคตา. รูปตฺตา ปน มคฺโค น โหตีติ วณฺณิตา. สมฺมาทิฏฺิ มคฺคงฺคนฺติอาทิ มคฺคงฺคสฺส อมคฺคตา นาม นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปุพฺเพว โข ปนสฺสาติ สุตฺเต ปริสุทฺธสีลสฺส มคฺคภาวนา นาม โหติ, น อิตรสฺสาติ อาคมนิยปฏิปทาย วิสุทฺธิภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ วุตฺตํ, น อิเมหิ วินา ปฺจงฺคิกภาวทสฺสนตฺถํ. เตเนวาห ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ. สกวาทินา อาภตสุตฺตํ นีตตฺถเมวาติ.

มคฺคกถาวณฺณนา.

๖. าณกถาวณฺณนา

๘๗๖-๘๗๗. อิทานิ าณกถา นาม โหติ. ตตฺถ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน ทฺวาทสาการาณํ สนฺธาย ‘‘ทฺวาทสวตฺถุกํ าณํ โลกุตฺตร’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ ตํ ทฺวาทสวตฺถุกํ, ทฺวาทสหิ มคฺคาเณหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ ทฺวาทสาติอาทิมาห. อิตโร มคฺคสฺส เอกตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, เอเกกสฺมึ สจฺเจ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณานํ วเสน าณนานตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ทฺวาทส โสตาปตฺติมคฺคาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. นนุ วุตฺตํ ภควตาติ สุตฺตํ สทฺธึ ปุพฺพภาคปรภาเคหิ าณนานตฺตํ ทีเปติ, น อริยมคฺคสฺส ทฺวาทส าณตํ. ตสฺมา อสาธกนฺติ.

าณกถาวณฺณนา.

วีสติโม วคฺโค.

จตุตฺถปณฺณาสโก สมตฺโต.

๒๑. เอกวีสติมวคฺโค

๑. สาสนกถาวณฺณนา

๘๗๘. อิทานิ สาสนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ติสฺโส สงฺคีติโย สนฺธาย ‘‘สาสนํ นวํ กต’’นฺติ จ ‘‘อตฺถิ โกจิ ตถาคตสฺส สาสนํ นวํ กโรตี’’ติ จ ‘‘ลพฺภา ตถาคตสฺส สาสนํ นวํ กาตุ’’นฺติ จ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ตีสุปิ กถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. สติปฏฺานาติอาทิ สาสนํ นาม สติปฏฺานาทโย เจว อริยธมฺมา, กุสลาทีนฺจ เทสนา. ตตฺถ เยสํ ภควตา เทสิตา สติปฏฺานาทโย, เปตฺวา เต อฺเสํ วา สติปฏฺานาทีนํ กรเณน อกุสลาทีนํ วา กุสลาทิภาวกรเณน สาสนํ นวํกตํ นาม ภเวยฺย, กึ ตํ เอวํ กตํ เกนจิ, อตฺถิ วา โกจิ เอวํ กโรติ, ลพฺภา วา เอวํ กาตุนฺติ ตีสุปิ ปุจฺฉาสุ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

สาสนกถาวณฺณนา.

๒. อวิวิตฺตกถาวณฺณนา

๘๗๙-๘๘๐. อิทานิ อวิวิตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺส ปุคฺคลสฺส โย ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺโน, โส เตน อวิวิตฺโต นามาติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. ยสฺมา ปน ปุถุชฺชเนน เตธาตุกา ธมฺมา อปริฺาตา, ตสฺมา โส เอกกฺขเณเยว สพฺเพหิปิ เตธาตุเกหิ ธมฺเมหิ อวิวิตฺโตติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ผสฺเสหีติอาทิ สพฺเพสํ ผสฺสาทีนํ เอกกฺขเณ ปวตฺติโทสทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อวิวิตฺตกถาวณฺณนา.

๓. สฺโชนกถาวณฺณนา

๘๘๑-๘๘๒. อิทานิ สฺโชนกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา สพฺพํ พุทฺธวิสยํ น ชานาติ, ตสฺมา ตสฺส ตตฺถ อวิชฺชาวิจิกิจฺฉาหิ อปฺปหีนาหิ ภวิตพฺพนฺติ สฺาย ‘‘อตฺถิ กิฺจิ สฺโชนํ อปฺปหาย อรหตฺตปฺปตฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อตฺถิ กิฺจิ สกฺกายทิฏฺีติอาทิ อรหโต สพฺพสํโยชนปฺปหานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สพฺพํ พุทฺธวิสยนฺติ ปฺหทฺวเย อรหโต สพฺพฺุตฺาณาภาเวน ปฏิเสโธ กโต, น อวิชฺชาวิจิกิจฺฉานํ อปฺปหาเนน. อิตโร ปน เตสํ อปฺปหีนตํ สนฺธาย เตน หีติ ลทฺธึ ปติฏฺเปติ. สา อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.

สฺโชนกถาวณฺณนา.

๔. อิทฺธิกถาวณฺณนา

๘๘๓-๘๘๔. อิทานิ อิทฺธิกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิทฺธิ นาเมสา กตฺถจิ อิชฺฌติ, กตฺถจิ น อิชฺฌติ, อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิกรเณ เอกนฺเตเนว น อิชฺฌติ. สภาคสนฺตตึ ปน ปริวตฺเตตฺวา วิสภาคสนฺตติกรเณ วา สภาคสนฺตติวเสเนว จิรตรปฺปวตฺตเน วา เยสํ อตฺถาย กริยติ, เตสํ ปุฺาทีนิ การณานิ นิสฺสาย กตฺถจิ อิชฺฌติ, ภิกฺขูนํ อตฺถาย ปานียสฺส สปฺปิขีราทิกรเณ วิย มหาธาตุนิธาเน ทีปาทีนํ จิรสนฺตานปฺปวตฺตเน วิย จาติ อิทํ สกสมเย สนฺนิฏฺานํ. ยํ ปน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ รฺโ ปาสาทํ สุวณฺณนฺตฺเวว อธิมุจฺจิ, ตํ นิสฺสาย เยสํ ‘‘อตฺถิ อธิปฺปายอิทฺธี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ อธิปฺปายอิทฺธีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ตตฺถ อธิปฺปายอิทฺธีติ อธิปฺปายอิทฺธิ, ยถาธิปฺปายํ อิชฺฌนอิทฺธีติ อตฺโถ. อามนฺตาติ ลทฺธิมตฺเต ตฺวา ปฏิฺา ปรวาทิสฺส. อถ นํ อนิจฺจาทีนํ นิจฺจาทิตาย อนุยุฺชิตุํ นิจฺจปณฺณา รุกฺขา โหนฺตูติอาทิมาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ลทฺธิปติฏฺาปเน สุวณฺโณ จ ปนาสีติ รฺโ ปุฺูปนิสฺสเยน อาสิ, น เกวลํ เถรสฺส อธิปฺปาเยเนว. ตสฺมา อสาธกเมตนฺติ.

อิทฺธิกถาวณฺณนา.

๕. พุทฺธกถาวณฺณนา

๘๘๕. อิทานิ พุทฺธกถา นาม โหติ. ตตฺถ เปตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล สรีรเวมตฺตตํ อายุเวมตฺตตํ ปภาเวมตฺตตฺจ เสเสหิ พุทฺธธมฺเมหิ พุทฺธานํ พุทฺเธหิ หีนาติเรกตา นาม นตฺถิ. เยสํ ปน อวิเสเสเนว อตฺถีติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย อตฺถิ พุทฺธานนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ พุทฺธธมฺเมหิ อนุยุฺชิตุํ สติปฏฺานโตติอาทิมาห. อิตโร เตสํ วเสน หีนาติเรกตํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติเยวาติ.

พุทฺธกถาวณฺณนา.

๖. สพฺพทิสากถาวณฺณนา

๘๘๖. อิทานิ สพฺพทิสากถา นาม โหติ. ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ เหฏฺา อุปรีติ สมนฺตโต โลกธาตุสนฺนิวาสํ, สพฺพโลกธาตูสุ จ พุทฺธา อตฺถีติ อตฺตโน วิกปฺปสิปฺปํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สพฺพทิสาสุ พุทฺธา ติฏฺนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปุรตฺถิมายาติ ปุฏฺโ สกฺยมุนึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ปุน ปุฏฺโ ลทฺธิวเสน อฺโลกธาตุยํ ิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. กินฺนาโม โส ภควาติอาทิ ‘‘สเจ ตฺวํ ชานาสิ, นามาทิวเสน นํ กเถหี’’ติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สพฺพทิสากถาวณฺณนา.

๗. ธมฺมกถาวณฺณนา

๘๘๗-๘๘๘. อิทานิ ธมฺมกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา รูปาทโย รูปาทิสภาเวน นิยตา น ตํ สภาวํ วิชหนฺติ, ตสฺมา สพฺพธมฺมา นิยตาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว เอกจฺจานฺจ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย สพฺเพ ธมฺมาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ เต นิยตา, มิจฺฉตฺตนิยตา วา สิยุํ สมฺมตฺตนิยตา วา, อิโต อฺโ นิยาโม นาม นตฺถี’’ติ โจเทตุํ มิจฺฉตฺตนิยตาติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิกฺเขโป จ ปฏิฺา จ ปรวาทิสฺส. รูปํ รูปฏฺเนาติอาทิ เยนตฺเถน นิยตาติ วทติ, ตสฺส วเสน โจเทตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – รูปฺหิ รูปฏฺเน นิยตนฺติ รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อธิปฺปาเยน วตฺตพฺพํ, อิโต อฺถา น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาวา. รูปสภาโว หิ รูปฏฺโ, รูปสภาโว จ รูปเมว, น รูปโต อฺโ. เวทนาทีหิ ปนสฺส นานตฺตปฺาปนตฺถํ เอส โวหาโร โหตีติ. ตสฺมา ‘‘รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติ วทนฺเตน รูปํ นิยตนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิยตฺจ นาม มิจฺฉตฺตนิยตํ วา สิยา สมฺมตฺตนิยตํ วา, อิโต อฺโ นิยาโม นาม นตฺถีติ. อถ กสฺมา ปฏิชานาตีติ? อตฺถนฺตรวเสน. รูปํ รูปฏฺเน นิยตนฺติ เอตฺถ หิ รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อยมตฺโถ. ตสฺมา ปฏิชานาติ. อิโต อฺถา ปนสฺส นิยตตฺตํ นตฺถีติ ปุน เตเนว นเยน โจเทตุํ มิจฺฉตฺตนิยตนฺติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว. เตน หิ รูปนฺติ ลทฺธิปิ อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา อปฺปติฏฺิตาว โหตีติ.

ธมฺมกถาวณฺณนา.

๘. กมฺมกถาวณฺณนา

๘๘๙-๘๙๑. อิทานิ กมฺมกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนิ ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺาทีหิ นิยตานิ, ตสฺมา สพฺเพ กมฺมา นิยตา’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺเน นิยตนฺติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ทิฏฺธมฺมเวทนียฏฺเมว. สเจ ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ ทาตุํ สกฺโกติ เทติ, โน เจ อโหสิกมฺมํ นาม โหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ปฏิฺา สกวาทิสฺส. มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยามวเสน ปเนตํ อนิยตเมวาติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

กมฺมกถาวณฺณนา.

เอกวีสติโม วคฺโค.

๒๒. พาวีสติมวคฺโค

๑. ปรินิพฺพานกถาวณฺณนา

๘๙๒. อิทานิ ปรินิพฺพานกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘ยสฺมา อรหา สพฺพฺุวิสเย อปฺปหีนสํโยชโนว ปรินิพฺพายติ, ตสฺมา อตฺถิ กิฺจิ สํโยชนํ อปฺปหาย ปรินิพฺพาน’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมวาติ.

ปรินิพฺพานกถาวณฺณนา.

๒. กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา

๘๙๔-๘๙๕. อิทานิ กุสลจิตฺตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา อรหา สติเวปุลฺลปฺปตฺโต ปรินิพฺพายนฺโตปิ สโต สมฺปชาโนว ปรินิพฺพาติ, ตสฺมา กุสลจิตฺโต ปรินิพฺพายตีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา กุสลจิตฺโต นาม ปุฺาภิสงฺขาราภิสงฺขรณาทิวเสน โหติ, ตสฺมา เตนตฺเถน โจเทตุํ อรหา ปุฺาภิสงฺขารนฺติอาทิมาห. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. สโต สมฺปชาโนติ อิทํ ชวนกฺขเณ กิริยสติสมฺปชฺานํ วเสน อสมฺโมหมรณทีปนตฺถํ วุตฺตํ, น กุสลจิตฺตทีปนตฺถํ. ตสฺมา อสาธกนฺติ.

กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา.

๓. อาเนฺชกถาวณฺณนา

๘๙๖. อิทานิ อาเนฺชกถา นาม โหติ. ตตฺถ ภควา จตุตฺถชฺฌาเน ิโต ปรินิพฺพายีติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อรหา อาเนฺเช ิโต ปรินิพฺพายตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. ปกติจิตฺเตติ ภวงฺคจิตฺเต. สพฺเพ หิ สฺิโน สตฺตา ภวงฺคจิตฺเต ตฺวา ภวงฺคปริโยสาเนน จุติจิตฺเตน กาลํ กโรนฺติ. อิติ นํ อิมินา อตฺเถน โจเทตุํ เอวมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ จตุโวการภเว อรหโต ปกติจิตฺตมฺปิ อาเนฺชํ โหติ, อยํ ปน ปฺโห ปฺจโวการภววเสน อุทฺธโฏ. ตสฺมา โน จ วต เร วตฺตพฺเพติ อาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อาเนฺชกถาวณฺณนา.

๔. ธมฺมาภิสมยกถาวณฺณนา

๘๙๗. อิทานิ ธมฺมาภิสมยกถา นาม โหติ. ตตฺถ อตีตภเว โสตาปนฺนํ มาตุกุจฺฉิยํ วสิตฺวา นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ คพฺภเสยฺยาย ธมฺมาภิสมโย’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘ยทิ ตตฺถ ธมฺมาภิสมโย อตฺถิ, ธมฺมาภิสมยสฺส การเณหิ ธมฺมเทสนาทีหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ โจเทตุํ อตฺถิ คพฺภเสยฺยาย ธมฺมเทสนาติอาทิมาห. สุตฺตสฺสาติอาทิ ภวงฺควารํ สนฺธาย วุตฺตํ. คพฺภเสยฺยาย หิ เยภุยฺเยน ภวงฺคเมว ปวตฺตติ. เตเนว สตฺโต กิริยมยปฺปวตฺตาภาวา สุตฺโต, ภาวนานุโยคสฺส อภาวา ปมตฺโต, กมฺมฏฺานปริคฺคาหกานํ สติสมฺปชฺานํ อภาวา มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน นาม โหติ, ตถารูปสฺส กุโต ธมฺมาภิสมโยติ?

ธมฺมาภิสมยกถาวณฺณนา.

๕-๗. ติสฺโสปิกถาวณฺณนา

๘๙๘-๙๐๐. อิทานิ ติสฺโสปิกถา นาม โหนฺติ. ตตฺถ อจิรชาตานํ ปน โสตาปนฺนานํ อรหตฺตปฺปตฺตึ สุปฺปวาสาย จ อุปาสิกาย สตฺตวสฺสิกํ คพฺภํ ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ คพฺภเสยฺยาย อรหตฺตปฺปตฺตี’’ติ จ สุปิเน อากาสคมนาทีนิ ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’’ติ จ ‘‘อตฺถิ ตตฺถ อรหตฺตปฺปตฺตี’’ติ จ อิธาปิ เยสํ ลทฺธิโย, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ปุริมกถา สทิสเมวาติ.

ติสฺโสปิกถาวณฺณนา.

๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา

๙๐๑-๙๐๒. อิทานิ อพฺยากตกถา นาม โหติ. ตตฺถ ‘‘อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา, สา จ โข อพฺโพหาริกา’’ติ (ปารา. ๒๓๕) วจนโต ‘‘สพฺพํ สุปินคตสฺส จิตฺตํ อพฺยากต’’นฺติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานฺเว, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถา ปาฬิเมว นิยฺยาติ. สุปินคตสฺส จิตฺตํ อพฺโพหาริกนฺติ อิทํ อาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. สุปินคตสฺส หิ ปาณาติปาตาทิวเสน กิฺจาปิ อกุสลจิตฺตํ ปวตฺตติ, วตฺถุวิโกปนํ ปน นตฺถีติ น สกฺกา ตตฺถ อาปตฺตึ ปฺเปตุํ. อิมินา การเณน ตํ อพฺโพหาริกํ, น อพฺยากตตฺตาติ.

อพฺยากตกถาวณฺณนา.

๙. อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา

๙๐๓-๙๐๕. อิทานิ อาเสวนปจฺจยกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพ ธมฺมา ขณิกา, น โกจิ มุหุตฺตมฺปิ ตฺวา อาเสวนปจฺจยํ อาเสวติ นาม. ตสฺมา นตฺถิ กิฺจิ อาเสวนปจฺจยตา. อาเสวนปจฺจยตาย อุปฺปนฺนํ ปน น กิฺจิ อตฺถีติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เตสฺเว; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ สุตฺตวเสเนว ปฺาเปตุํ นนุ วุตฺตํ ภควตา ปาณาติปาโตติอาทิ อาภตํ. ตํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา.

๑๐. ขณิกกถาวณฺณนา

๙๐๖-๙๐๗. อิทานิ ขณิกกถา นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา สพฺพสงฺขตธมฺมา อนิจฺจา, ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว. สมานาย หิ อนิจฺจตาย เอโก ลหุํ ภิชฺชติ, เอโก จิเรนาติ โก เอตฺถ นิยาโมติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยาปรเสลิยานํ; เต สนฺธาย เอกจิตฺตกฺขณิกาติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. จิตฺเต มหาปถวีติอาทีสุ เตสํ ตถา สณฺานํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. จกฺขายตนนฺติอาทิ ‘‘ยทิ สพฺเพ เอกจิตฺตกฺขณิกา ภเวยฺยุํ, จกฺขายตนาทีนิ จกฺขุวิฺาณาทีหิ สทฺธึเยว อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺเฌยฺยุ’’นฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิตโร ปน อนฺโตมาตุกุจฺฉิคตสฺส วิฺาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, ปวตฺตํ สนฺธาย ลทฺธิวเสน ปฏิชานาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ. เตน หิ เอกจิตฺตกฺขณิกาติ ยสฺมา นิจฺจา น โหนฺติ, ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิกาติ อตฺตโน รุจิยา การณํ วทติ. ตํ อวุตฺตสทิสเมวาติ.

ขณิกกถาวณฺณนา.

พาวีสติโม วคฺโค.

๒๓. เตวีสติมวคฺโค

๑. เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา

๙๐๘. อิทานิ เอกาธิปฺปายกถา นาม โหติ. ตตฺถ การุฺเน วา เอเกน อธิปฺปาเยน เอกาธิปฺปาโย, สํสาเร วา เอกโต ภวิสฺสามาติ อิตฺถิยา สทฺธึ พุทฺธปูชาทีนิ กตฺวา ปณิธิวเสน เอโก อธิปฺปาโย อสฺสาติ เอกาธิปฺปาโย. เอวรูโป ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ เอกาธิปฺปาโย เมถุโน ธมฺโม ปฏิเสวิตพฺโพติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานฺเจว เวตุลฺลกานฺจ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาตีติ.

เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา.

๒. อรหนฺตวณฺณกถาวณฺณนา

๙๐๙. อิทานิ อรหนฺตวณฺณกถา นาม โหติ. ตตฺถ อิริยาปถสมฺปนฺเน อากปฺปสมฺปนฺเน ปาปภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อรหนฺตานํ วณฺเณน อมนุสฺสา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตราปถกานํ; เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

อรหนฺตวณฺณกถาวณฺณนา.

๓-๗. อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา

๙๑๐-๙๑๔. อิทานิ อิสฺสริยกามการิกากถา นาม โหติ. ฉทฺทนฺตชาตกาทีนิ สนฺธาย ‘‘โพธิสตฺโต อิสฺสริยกามการิกาเหตุ วินิปาตํ คจฺฉติ, คพฺภเสยฺยํ โอกฺกมติ, ทุกฺกรการิกํ อกาสิ, อปรนฺตปํ อกาสิ, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสี’’ติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. เสสํ ปมกถายํ อุตฺตานตฺถเมว. ทุติยกถายํ อิทฺธิมาติ ยทิ อิสฺสริยกามการิกาเหตุ คจฺเฉยฺย, อิทฺธิยา คจฺเฉยฺย, น กมฺมวเสนาติ โจทนตฺถํ วุตฺตํ. อิตโร ปน ปมปฺเห ภาวนามยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปฺเห ปุฺิทฺธึ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตติยกถายํ อิสฺสริยกามการิกาเหตุ นาม ทุกฺกรการิกา มิจฺฉาทิฏฺิยา กริยติ. ยทิ จ โส ตํ กเรยฺย, สสฺสตาทีนิปิ คณฺเหยฺยาติ โจทนตฺถํ สสฺสโต โลโกติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถกถายมฺปิ เอเสว นโยติ.

อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา.

๘. ปติรูปกถาวณฺณนา

๙๑๕-๙๑๖. อิทานิ ราคปติรูปกถา นาม โหติ. ตตฺถ เมตฺตากรุณามุทิตาโย สนฺธาย ‘‘น ราโค ราคปติรูปโก’’ติ จ อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ สนฺธาย ‘‘น โทโส โทสปติรูปโก’’ติ จ หสิตุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘น โมโห โมหปติรูปโก’’ติ จ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ อนุคฺคหํ ปาปครหิตํ กลฺยาณปสํสํ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วสลวาทํ ภควโต เขฬาสกวาทํ โมฆปุริสวาทฺจ สนฺธาย ‘‘น กิเลโส กิเลสปติรูปโก’’ติ จ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ อนฺธกานํ; เต สนฺธาย สพฺพกถาสุ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ยสฺมา ผสฺสาทิปติรูปกา นผสฺสาทโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา ราคาทิปติรูปกา นราคาทโยปิ นตฺถีติ โจเทตุํ อตฺถิ น ผสฺโสติอาทิมาห. อิตโร เตสํ อภาวา ปฏิกฺขิปติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปติรูปกถาวณฺณนา.

๙. อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา

๙๑๗-๙๑๘. อิทานิ อปรินิปฺผนฺนกถา นาม โหติ. ตตฺถ –

‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จ;

นาฺตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ, นาฺํ ทุกฺขา นิรุชฺฌตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑) –

วจนํ นิสฺสาย ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนํ, เสสา ขนฺธายตนธาตุอินฺทฺริยธมฺมา อปรินิปฺผนฺนาติ เยสํ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ เอกจฺจานํ อุตฺตรปถกานฺเจว เหตุวาทานฺจ; เต สนฺธาย รูปํ อปรินิปฺผนฺนนฺติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺส. อถ นํ ‘‘สเจ รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, น อนิจฺจาทิสภาวํ สิยา’’ติ โจเทตุํ รูปํ น อนิจฺจนฺติอาทิมาห. อิตโร ตถารูปํ รูปํ อปสฺสนฺโต ปฏิกฺขิปติ. สกวาที นนุ รูปํ อนิจฺจนฺติอาทิ วจเนน ตสฺส เอกํ ลทฺธึ ปฏิเสเธตฺวา ทุติยํ ปุจฺฉนฺโต ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนนฺติอาทิมาห. อถสฺส ตมฺปิ ลทฺธึ ปฏิเสเธตุํ น ยทนิจฺจนฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – น เกวลฺหิ ปมสจฺจเมว ทุกฺขํ. ยํ ปน กิฺจิ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขเมว. รูปฺจ อนิจฺจํ, ตสฺมา ตมฺปิ ปรินิปฺผนฺนํ. อิติ ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘‘รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ, ตํ โน วต เร วตฺตพฺเพ ‘‘ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ. เวทนาทิมูลิกาทีสุปิ โยชนาสุ เอเสว นโย. ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ ปน เปตฺวา นิพฺพานํ เสสธมฺมานํ วเสน อนิจฺจตา เวทิตพฺพา. อินฺทฺริยานิ อนิจฺจาเนวาติ.

อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา.

เตวีสติโม วคฺโค.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

ปณฺณาสเกหิ จตูหิ, ตีหิ วคฺเคหิ เจว จ;

สงฺคเหตฺวา กถา สพฺพา, อูนติสตเภทนา.

กถาวตฺถุปฺปกรณํ, กถามคฺเคสุ โกวิโท;

ยํ ชิโน เทสยิ ตสฺส, นิฏฺิตา อตฺถวณฺณนา.

อิมํ เตรสมตฺเตหิ, ภาณวาเรหิ ตนฺติยา;

จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, สงฺขโรนฺเตน ยํ มยา.

ยํ ปตฺตํ กุสลํ เตน, โลโกยํ สนรามโร;

ธมฺมราชสฺส สทฺธมฺม-รสเมวาธิคจฺฉตูติ.

กถาวตฺถุ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ยมกปฺปกรณ-อฏฺกถา

สงฺเขเปเนว เทวานํ, เทวเทโว สุราลเย;

กถาวตฺถุปฺปกรณํ, เทสยิตฺวา รณฺชโห.

ยมสฺส วิสยาตีโต, นานายมกมณฺฑิตํ;

อภิธมฺมปฺปกรณํ, ฉฏฺํ ฉฏฺาน เทสโก.

ยมกํ อยมาวตฺต-นีลามลตนูรุโห;

ยํ เทสยิ อนุปฺปตฺโต, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;

อิทานิ ยสฺมา ตสฺมาสฺส, โหติ สํวณฺณนา อยนฺติ.

๑. มูลยมกํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

. มูลยมกํ, ขนฺธยมกํ, อายตนยมกํ, ธาตุยมกํ, สจฺจยมกํ, สงฺขารยมกํ, อนุสยยมกํ, จิตฺตยมกํ, ธมฺมยมกํ, อินฺทฺริยยมกนฺติ อิเมสํ ทสนฺนํ ยมกานํ วเสน อิทํ ปกรณํ ทสวิเธน วิภตฺตนฺติ หิ วุตฺตํ. ตตฺถ เยสํ ทสนฺนํ ยมกานํ วเสน อิทํ ปกรณํ ทสวิเธน วิภตฺตํ, เตสฺเจว อิมสฺส จ ปกรณสฺส นามตฺโถ ตาว เอวํ เวทิตพฺโพ – เกนฏฺเน ยมกนฺติ? ยุคฬฏฺเน. ยุคฬฺหิ ยมกนฺติ วุจฺจติ – ‘ยมกปาฏิหาริยํ, ยมกสาลา’ติอาทีสุ วิย. อิติ ยุคฬสงฺขาตานํ ยมกานํ วเสน เทสิตตฺตา อิเมสุ ทสสุ เอเกกํ ยมกํ นาม. อิเมสํ ปน ยมกานํ สมูหภาวโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ยมกนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ มูลวเสน ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตฺวา เทสิตตฺตา ทสนฺนํ ตาว สพฺพปมํ มูลยมกนฺติ วุตฺตํ. ตสฺส อุทฺเทสวาโร, นิทฺเทสวาโรติ ทฺเว วารา โหนฺติ. เตสุ อุทฺทิฏฺานุกฺกเมน นิทฺทิสิตพฺพตฺตา อุทฺเทสวาโร ปโม. ตสฺส เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต กุสลมูลา; เย วา ปน กุสลมูลา, สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลาติ อิทํ ยมกํ อาทิ. ตสฺส กุสลากุสลมูลสงฺขาตานํ ทฺวินฺนํ อตฺถานํ วเสน อตฺถยมกนฺติ วา, เตสฺเว อตฺถานํ วเสน อนุโลมปฏิโลมโต ปวตฺตปาฬิธมฺมวเสน ธมฺมยมกนฺติ วา, อนุโลมปฏิโลมโต ปวตฺตปุจฺฉาวเสน ปุจฺฉายมกนฺติ วา ติธา ยมกภาโว เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

อิทานิ อิเมสํ ยมกานํ วเสน เทสิเต อิมสฺมึ มูลยมเก อุทฺเทสวารสฺส ตาว นยยมกปุจฺฉาอตฺถวารปฺปเภทวเสน ปาฬิววตฺถานเมว เอวํ เวทิตพฺพํ – กุสลตฺติกมาติกาย หิ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อิทํ อาทิปทํ นิสฺสาย มูลนโย, มูลมูลนโย, มูลกนโย, มูลมูลกนโยติ อิเม จตฺตาโร นยา โหนฺติ. เตสํ เอเกกสฺมึ นเย มูลยมกํ, เอกมูลยมกํ, อฺมฺมูลยมกนฺติ ตีณิ ตีณิ ยมกานิ. เอวํ จตูสุ นเยสุ ทฺวาทส ยมกานิ, เอเกกสฺมึ ยมเก อนุโลมปฏิโลมวเสน ทฺเว ทฺเว ปุจฺฉาติ จตุวีสติ ปุจฺฉา, เอเกกาย ปุจฺฉาย สนฺนิฏฺานสํสยวเสน ทฺเว ทฺเว อตฺถาติ อฏฺจตฺตาลีส อตฺถาติ.

ตตฺถ เย เกจิ กุสลา ธมฺมาติ กุสเลสุ ‘‘กุสลา นุ โข, น กุสลา นุ โข’’ติ สนฺเทหาภาวโต อิมสฺมึ ปเท สนฺนิฏฺานตฺโถ เวทิตพฺโพ. สพฺเพ เต กุสลมูลาติ ‘‘สพฺเพ เต กุสลา ธมฺมา กุสลมูลา นุ โข, นนุ โข’’ติ เอวํ วิมติวเสน ปุจฺฉิตตฺตา อิมสฺมึ ปเท สํสยตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส จ โข เวเนยฺยานํ สํสยฏฺาเน สํสยทีปนตฺถํ วุตฺโต, ตถาคตสฺส ปน สํสโย นาม นตฺถิ. อิโต ปเรสุปิ ปุจฺฉาปเทสุ เอเสว นโย.

ยถา จ กุสลปทํ นิสฺสาย อิเม จตฺตาโร นยา, เอเกกสฺมึ นเย ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ทฺวาทส ยมกานิ, เอเกกสฺมึ ยมเก ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วเสน จตุวีสติ ปุจฺฉา; เอเกกาย ปุจฺฉาย ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อตฺถานํ วเสน อฏฺจตฺตาลีส อตฺถา จ โหนฺติ. อกุสลปทํ นิสฺสายปิ ตเถว. อพฺยากตปทํ นิสฺสายปิ ตเถว. ตีณิปิ ปทานิ เอกโต กตฺวา นิทฺทิฏฺํ นามปทํ นิสฺสายปิ ตเถวาติ กุสลตฺติกมาติกาย จตูสุ ปเทสุ สพฺเพปิ โสฬส นยา, อฏฺจตฺตาลีส ยมกานิ, ฉนฺนวุติ ปุจฺฉา, ทฺเวนวุติสตํ อตฺถา จ อุทฺเทสวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา มูลวาโร นาม ปมํ อุทฺทิฏฺโ โหติ.

ตโต ปรํ เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต กุสลเหตูติอาทโย ตสฺเสว มูลวารสฺส เววจนวเสน นว วารา อุทฺทิฏฺา. อิติ มูลวาโร, เหตุวาโร, นิทานวาโร, สมฺภววาโร, ปภววาโร, สมุฏฺานวาโร, อาหารวาโร, อารมฺมณวาโร, ปจฺจยวาโร, สมุทยวาโรติ สพฺเพปิ ทส วารา โหนฺติ. ตตฺถ มูลวาเร อาคตปริจฺเฉเทเนว เสเสสุปิ นยาทโย เวทิตพฺพาติ สพฺเพสุปิ ทสสุ วาเรสุ สฏฺิสตนยา, อสีติอธิกานิ จตฺตาริ ยมกสตานิ, สฏฺิอธิกานิ นวปุจฺฉาสตานิ, วีสาธิกานิ เอกูนวีสติ อตฺถสตานิ จ อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ. เอวํ ตาว อุทฺเทสวาเร นยยมกปุจฺฉาอตฺถวารปฺปเภทวเสน ปาฬิววตฺถานเมว เวทิตพฺพํ.

มูลํ เหตุ นิทานฺจาติ คาถา ทสนฺนมฺปิ วารานํ อุทฺทานคาถา นาม. ตตฺถ มูลาทีนิ สพฺพานิปิ การณเววจนาเนว. การณฺหิ ปติฏฺานฏฺเน มูลํ. อตฺตโน ผลนิปฺผาทนตฺถํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. ‘หนฺท, นํ คณฺหาถา’ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ. เอตสฺมา ผลํ สมฺโภตีติ สมฺภโว. ปภวตีติ ปภโว. สมุฏฺาติ เอตฺถ ผลํ, เอเตน วา สมุฏฺาตีติ สมุฏฺานํ. อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร. อปฺปฏิกฺขิปิตพฺเพน อตฺตโน ผเลน อาลมฺพิยตีติ อาลมฺพณํ. เอตํ ปฏิจฺจ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโย. เอวเมเตสํ ปทานํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา.

นิทฺเทสวารวณฺณนา

๕๐. อิทานิ เยเกจิ กุสลา ธมฺมาติอาทินา นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ เย เกจีติ อนวเสสวจนํ. กุสลา ธมฺมาติ กุสลตฺติกสฺส ปทภาชเน วุตฺตลกฺขณา อนวชฺชสุขวิปากา กุสลสภาวา. สพฺเพ เต กุสลมูลาติ กึ เต สพฺเพเยว กุสลมูลาติ ปุจฺฉติ. ตีเณว กุสลมูลานีติ น เต สพฺเพ กุสลมูลานิ, อโลภาทีนิ ปน ตีณิ เอว กุสลมูลานีติ อตฺโถ. อวเสสา กุสลา ธมฺมา น กุสลมูลาติ อวเสสา ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมา กุสลมูลานิ นาม น โหนฺติ. อถ วา อวเสสา ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมาเยว นาม, น กุสลมูลานีติปิ อตฺโถ. เย วา ปน กุสลมูลาติ เย วา ปน ปมปุจฺฉาย ทุติยปเทน กุสลมูลาติ ตโย อโลภาทโย คหิตา. สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลาติ กึ เต สพฺเพ ตโยปิ ธมฺมา กุสลาติ ปุจฺฉติ. อามนฺตาติ สพฺเพสมฺปิ กุสลมูลานํ กุสลภาวํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต อาห. อยํ ตาว มูลนเย มูลยมกสฺส อตฺโถ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ วิสฺสชฺชนนโย เวทิตพฺโพ. ยํ ปน ยตฺถ วิเสสมตฺตํ อตฺถิ, ตเทว วณฺณยิสฺสาม.

๕๑. เอกมูลยมเก ตาว สพฺเพ เต กุสลมูเลน เอกมูลาติ คณนฏฺเน เอกมูลกํ อคฺคเหตฺวา สมานฏฺเน คเหตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สพฺเพ เต กุสลมูเลน สมานมูลา. ยํ ผสฺสสฺส มูลํ, ตเทว เวทนาทีนนฺติ. อถ เนสํ ตถาภาวํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต อามนฺตาติ อาห. กุสลสมุฏฺานนฺติ กุสลจิตฺตสมุฏฺานรูปํ ทสฺสิตํ. เอกมูลนฺติ อโลภาทินา กุสลมูเลน สมานมูลํ. ยเถว หิ ผสฺสาทีนํ อโลภาทโย เหตุปจฺจยตฺตา มูลํ, ตถา ตํ สมุฏฺานรูปสฺสาปิ, กุสลลกฺขณาภาเวน ปน ตํ น กุสลํ.

๕๒. อฺมฺยมเก ‘เยเกจิ กุสลา’ติ อปุจฺฉิตฺวา เยเกจิ กุสลมูเลน เอกมูลาติ ปุจฺฉา กตา. กสฺมา? อิมินาปิ พฺยฺชเนน ตสฺเสวตฺถสฺส สมฺภวโต. กุสลมูลานีติ อิทํ ปุริมสฺส วิเสสนํ. ‘มูลานิ ยานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’ติ หิ วุตฺตํ, ตานิ ปน กุสลมูลานิปิ โหนฺติ อกุสลอพฺยากตมูลานิปิ, อิธ กุสลมูลานีติ วิเสสทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตํ. อฺมฺมูลานิ จาติ อฺมฺํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺเสว ปฏิโลมปุจฺฉาย ‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลมูเลน เอกมูลา’ติ อวตฺวา สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลาติ วุตฺตํ. กสฺมา? อตฺถวิเสสาภาวโต. กุสลมูเลน เอกมูลาติ หิ ปุจฺฉาย กตาย ‘มูลานิ ยานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’ติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ ภเวยฺย, เอวฺจ สติ อตฺถวิเสสาภาโว โหติ. ตสฺมา ตถา อกตฺวา เอวํ ปุจฺฉา กตา. อิมินา อุปาเยน มูลมูลนยาทีสุปิ อฺมฺมูลยมเก ปุจฺฉาวิเสโส เวทิตพฺโพ.

๕๓-๕๕. มูลมูลนเย สพฺเพ เต กุสลมูลมูลาติ สพฺเพ เต กุสลมูลสงฺขาตา มูลาติ ปุจฺฉติ. เอกมูลมูลาติ สมานฏฺเน เอกเมว มูลมูลํ เอเตสนฺติ เอกมูลมูลา. อฺมฺมูลมูลาติ อฺมฺสฺส มูลํ อฺมฺมูลํ, อฺมฺมูลํ เหตุปจฺจยฏฺเน มูลํ เอเตสนฺติ อฺมฺมูลมูลา.

๕๖. มูลกนเย กุสลมูลกาติ เหตุปจฺจยฏฺเน กุสลํ มูลํ เอเตสนฺติ กุสลมูลกา.

๕๗-๖๑. มูลมูลกนเย กุสลมูลมูลกาติ กุสลานํ มูลํ กุสลมูลํ. เหตุปจฺจยฏฺเเนว กุสลมูลํ มูลํ เอเตสนฺติ กุสลมูลมูลกาติ. อยํ ตาว กุสลปทํ นิสฺสาย นยยมกปุจฺฉาสุ วิเสสตฺโถ.

๖๒-๗๓. อกุสลปทาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส, อเหตุกํ อกุสลนฺติ วิจิกิจฺฉาย เจว อุทฺธจฺเจน จ สมฺปยุตฺตํ โมหํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๗๔-๘๕. อเหตุกํ อพฺยากตนฺติ อฏฺารส จิตฺตุปฺปาทา รูปํ, นิพฺพานฺจ. อพฺยากตมูเลน น เอกมูลนฺติ อิธ ปน เปตฺวา สเหตุกอพฺยากตสมุฏฺานํ รูปํ, เสสํ ลพฺภติ. สเหตุกอพฺยากตสมุฏฺานํ รูปํ อพฺยากตมูเลน เอกมูลํ โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ กตฺวา เอกโต ลพฺภมานกวเสเนว เจตํ วิสฺสชฺชนํ กตํ.

๘๖-๙๗. นามา ธมฺมาติ นามสงฺขาตา ธมฺมา. เต อตฺถโต จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, นิพฺพานฺจ. นเวว นามมูลานีติ กุสลากุสลอพฺยากตมูลวเสน นว มูลานิ. อเหตุกํ นามํ นามมูเลน น เอกมูลนฺติ อเหตุกํ สพฺพมฺปิ อฏฺารส จิตฺตุปฺปาทวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตโมหนิพฺพานสงฺขาตํ นามํ นามมูเลน น เอกมูลํ. น หิ ตํ เตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ. สเหตุกํ นามํ นามมูเลนาติ ปเทปิ สเหตุกํ นามํ นามมูเลนาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

มูลวารวณฺณนา.

๙๘-๙๙. เหตุวาราทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มูลํ เหตุ นิทานฺจาติคาถา ยถานิทฺทิฏฺานํ ทสนฺนมฺปิ วารานํ ปุน อุทฺทานวเสเนว วุตฺตาติ.

มูลยมกวณฺณนา.

๒. ขนฺธยมกํ

๑. ปณฺณตฺติอุทฺเทสวารวณฺณนา

. อิทานิ มูลยมเก เทสิเตเยว กุสลาทิธมฺเม ขนฺธวเสน สงฺคณฺหิตฺวา มูลยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส ขนฺธยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถ ปาฬิววตฺถานํ ตาว เอวํ เวทิตพฺพํ – อิมสฺมิฺหิ ขนฺธยมเก ตโย มหาวารา โหนฺติ – ปณฺณตฺติวาโร, ปวตฺติวาโร, ปริฺาวาโรติ. เตสุ ปณฺณตฺติวาโร ขนฺธานํ นามาภิธานโสธนวเสเนว คตตฺตา ปณฺณตฺติวาโรติ วุจฺจติ. ปวตฺติวาโร เตน โสธิตนามาภิธานานํ ขนฺธานํ อุปฺปาทนิโรธวเสน ปวตฺตึ โสธยมาโน คโต, ตสฺมา ปวตฺติวาโรติ วุจฺจติ. ปริฺาวาโร อิมินานุกฺกเมน ปวตฺตานํ ขนฺธานํ สงฺเขเปเนว ติสฺโส ปริฺา ทีปยมาโน คโต, ตสฺมา ปริฺาวาโรติ วุจฺจติ. ตตฺถ ปณฺณตฺติวาโร อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวีหากาเรหิ ววตฺถิโต. อิตเรสุ วิสุํ อุทฺเทสวาโร นตฺถิ. อาทิโต ปฏฺาย ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน เอกธา ววตฺถิตา. ตตฺถ ปฺจกฺขนฺธาติปทํ อาทึ กตฺวา ยาว น ขนฺธา, น สงฺขาราติ ปทํ ตาว ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพ. ปุจฺฉาวาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. ตตฺถ ปฺจกฺขนฺธาติ อยํ ยมกวเสน ปุจฺฉิตพฺพานํ ขนฺธานํ อุทฺเทโส. รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ เตสฺเว ปเภทโต นามววตฺถานํ.

๒-๓. อิทานิ อิเมสํ ขนฺธานํ วเสน ปทโสธนวาโร, ปทโสธนมูลจกฺกวาโร, สุทฺธขนฺธวาโร, สุทฺธขนฺธมูลจกฺกวาโรติ จตฺตาโร นยวารา โหนฺติ. ตตฺถ รูปํ รูปกฺขนฺโธ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติอาทินา นเยน ปทเมว โสเธตฺวา คโต ปทโสธนวาโร นาม. โส อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ อนุโลมวาเร ‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, รูปกฺขนฺโธ รูป’นฺติอาทีนิ ปฺจ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ‘น รูปํ, น รูปกฺขนฺโธ; น รูปกฺขนฺโธ น รูป’นฺติอาทีนิ ปฺเจว. ตโต ปรํ เตสฺเว ปทโสธนวาเร โสธิตานํ ขนฺธานํ ‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ’ติอาทินา นเยน เอเกกขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ จตฺตาริ จกฺกานิ พนฺธิตฺวา คโต ปทโสธนมูลกานํ จกฺกานํ อตฺถิตาย ปทโสธนมูลจกฺกวาโร นาม. โสปิ อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ อนุโลมวาเร ‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ’ติอาทีนิ เอเกกขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา วีสติ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ‘น รูปํ, น รูปกฺขนฺโธ; น ขนฺธา น เวทนากฺขนฺโธ’ติอาทีนิ วีสติเมว.

ตโต ปรํ รูปํ ขนฺโธ ขนฺธา รูปนฺติอาทินา นเยน สุทฺธขนฺธวเสเนว คโต สุทฺธขนฺธวาโร นาม. ตตฺถ ขนฺธา รูปนฺติอาทีสุ ขนฺธา รูปกฺขนฺโธ, ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. กสฺมา? นิทฺเทสวาเร เอวํ ภาชิตตฺตา. ตตฺถ หิ ‘รูปํ ขนฺโธติ อามนฺตา. ขนฺธา รูปกฺขนฺโธติ รูปกฺขนฺโธ ขนฺโธ เจว รูปกฺขนฺโธ จ, อวเสสา ขนฺธา น รูปกฺขนฺโธ’ติ เอวํ ‘ขนฺธา รูป’นฺติอาทีนํ ขนฺธา รูปกฺขนฺโธติอาทินา นเยน ปทํ อุทฺธริตฺวา อตฺโถ วิภตฺโต. เตเนว จ การเณเนเส สุทฺธขนฺธวาโรติ วุตฺโต. วจนโสธเน วิย หิ เอตฺถ น วจนํ ปมาณํ. ยถา ยถา ปน สุทฺธขนฺธา ลพฺภนฺติ, ตถา ตถา อตฺโถว ปมาณํ. ปรโต อายตนยมกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอโสปิ จ สุทฺธขนฺธวาโร อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ อนุโลมวาเร ‘รูปํ ขนฺโธ ขนฺธา รูป’นฺติอาทีนิ ปฺจ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ‘น รูปํ น ขนฺโธ, น ขนฺธา น รูป’นฺติอาทีนิ ปฺเจว.

ตโต ปรํ เตสฺเว สุทฺธขนฺธานํ รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา เวทนาติอาทินา นเยน เอเกกขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ จตฺตาริ จกฺกานิ พนฺธิตฺวา คโต สุทฺธขนฺธมูลกานํ จกฺกานํ อตฺถิตาย สุทฺธขนฺธมูลจกฺกวาโร นาม. ตตฺถ ขนฺธา เวทนาติอาทีสุ ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิตรถา นิทฺเทสวาเรน สทฺธึ วิโรโธ โหติ. โสปิ อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ อนุโลมวาเร ‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา เวทนา’ติอาทีนิ เอเกกขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา วีสติ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ‘น รูปํ, น ขนฺโธ, น ขนฺธา น เวทนา’ติอาทีนิ วีสติเมว. เอวํ ตาว เอเกน ยมกสเตน ทฺวีหิ ปุจฺฉาสเตหิ เอเกกปุจฺฉาย สนฺนิฏฺานสํสยวเสน ทฺเว ทฺเว อตฺเถ กตฺวา จตูหิ จ อตฺถสเตหิ ปฏิมณฺฑิโต ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพติ.

ปณฺณตฺติอุทฺเทสวารวณฺณนา.

๑. ปณฺณตฺตินิทฺเทสวารวณฺณนา

๒๖. อิทานิ รูปํ รูปกฺขนฺโธติอาทินา นเยน นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ รูปํ รูปกฺขนฺโธติ ยํกิฺจิ รูปนฺติ วุจฺจติ. สพฺพํ ตํ รูปํ รูปกฺขนฺโธติ วจนโสธนตฺถํ ปุจฺฉติ. ปิยรูปํ สาตรูปํ, รูปํ, น รูปกฺขนฺโธติ ยํ ‘ปิยรูปํ สาตรูป’นฺติ เอตฺถ รูปนฺติ วุตฺตํ, ตํ รูปเมว, น รูปกฺขนฺโธติ อตฺโถ. รูปกฺขนฺโธ รูปฺเจว รูปกฺขนฺโธ จาติ โย ปน รูปกฺขนฺโธ, โส รูปนฺติปิ รูปกฺขนฺโธติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ เอตฺถ ปน ยสฺมา รูปกฺขนฺโธ นิยเมเนว รูปนฺติ วตฺตพฺโพ. ตสฺมา อามนฺตาติ อาห. อิมินา อุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โย ปน ยตฺถ วิเสโส ภวิสฺสติ, ตเถว ตํ วณฺณยิสฺสาม. สฺายมเก ตาว ทิฏฺิสฺาติ ‘ปปฺจสฺา’ติอาทีสุ อาคตา ทิฏฺิสฺา. สงฺขารยมเก อวเสสา สงฺขาราติ ‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’ติอาทีสุ อาคตา สงฺขารกฺขนฺธโต อวเสสา สงฺขตธมฺมา. ปฏิโลมวาเรปิ เอเสว นโยติ.

ปทโสธนวาโร นิฏฺิโต.

๒๘. ปทโสธนมูลจกฺกวาเร ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธติ เยเกจิ ขนฺธา, สพฺเพ เต เวทนากฺขนฺโธติ ปุจฺฉติ. เสสปุจฺฉาสุปิ เอเสว นโย. ปฏิโลเม น ขนฺธา น เวทนากฺขนฺโธติ เอตฺถ เย ปฺตฺตินิพฺพานสงฺขาตา ธมฺมา ขนฺธา น โหนฺติ, เต ยสฺมา เวทนากฺขนฺโธปิ น โหนฺติ, ตสฺมา อามนฺตาติ อาห. เสสวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโยติ.

ปทโสธนมูลจกฺกวาโร นิฏฺิโต.

๓๘. สุทฺธขนฺธวาเร รูปํ ขนฺโธติ ยํกิฺจิ รูปนฺติ วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ ขนฺโธติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ ยสฺมา ปิยรูปสาตรูปสงฺขาตํ วา รูปํ โหตุ, ภูตุปาทารูปํ วา, สพฺพํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ สงฺคหํ คจฺฉเตว. ตสฺมา อามนฺตาติ ปฏิชานาติ. ทุติยปเท ‘ขนฺธา รูป’นฺติ ปุจฺฉิตพฺเพ ยสฺมา รูปนฺติวจเนน รูปกฺขนฺโธว อธิปฺเปโต, ตสฺมา วจนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถวเสน ปุจฺฉนฺโต ขนฺธา รูปกฺขนฺโธติ อาห. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรโต อายตนยมกาทีนํ นิทฺเทสวาเรปิ เอเสว นโย. สฺา ขนฺโธติ เอตฺถาปิ ทิฏฺิสฺา วา โหตุ, สฺา เอว วา, สพฺพายปิ ขนฺธภาวโต อามนฺตาติ วุตฺตํ. สงฺขารา ขนฺโธติ ปเทปิ เอเสว นโย. ขนฺธวินิมุตฺตโก หิ สงฺขาโร นาม นตฺถิ.

๓๙. ปฏิโลเม น รูปํ น ขนฺโธติ ยํ ธมฺมชาตํ รูปํ น โหติ, ตํ ขนฺโธปิ น โหตีติ ปุจฺฉติ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส รูปํ เปตฺวา อวเสสา ขนฺธา น รูปํ, ขนฺธาติ รูปโต อฺเ เวทนาทโย ขนฺธา รูปเมว น โหนฺติ, ขนฺธา ปน โหนฺตีติ อตฺโถ. รูปฺจ ขนฺเธ จ เปตฺวา อวเสสาติ ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ นิพฺพานฺเจว ปฺตฺติ จ. อิโต ปเรสุปิ ‘อวเสสา’ติ ปเทสุ เอเสว นโยติ.

สุทฺธขนฺธวาโร นิฏฺิโต.

๔๐-๔๔. สุทฺธขนฺธมูลจกฺกวาเร รูปํ ขนฺโธติอาทีนํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

สุทฺธขนฺธมูลจกฺกวาโร นิฏฺิโต.

ปณฺณตฺตินิทฺเทสวารวณฺณนา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๕๐-๒๐๕. อิทานิ ยสฺส รูปกฺขนฺโธติอาทินา นเยน ปวตฺติวาโร อารทฺโธ. กสฺมา ปเนตฺถ อุทฺเทสวาโร น วุตฺโตติ? เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา. ปณฺณตฺติวารสฺมิฺหิ อุทฺเทสวาเร นโย ทสฺสิโต. เตน ปน นเยน สกฺกา โส อิธ อวุตฺโตปิ ชานิตุนฺติ ตํ อวตฺวา นิทฺเทสวาโรว อารทฺโธ. อิมสฺมึ ปน ปวตฺติวารสงฺขาเต มหาวาเร อุปฺปาทวาโร, นิโรธวาโร, อุปฺปาทนิโรธวาโรติ ตโย อนฺตรวารา โหนฺติ. เตสุ ปโม ธมฺมานํ อุปฺปาทลกฺขณสฺส ทีปิตตฺตา อุปฺปาทวาโรติ วุจฺจติ. ทุติโย เตสฺเว นิโรธลกฺขณสฺส ทีปิตตฺตา นิโรธวาโรติ วุจฺจติ. ตติโย อุภินฺนมฺปิ ลกฺขณานํ ทีปิตตฺตา อุปฺปาทนิโรธวาโรติ วุจฺจติ. อุปฺปาทวาเรน เจตฺถ ธมฺมานํ อุปฺปชฺชนากาโรว ทีปิโต. นิโรธวาเรน ‘อุปฺปนฺนํ นาม นิจฺจํ นตฺถี’ติ เตสฺเว อนิจฺจตา ทีปิตา. อุปฺปาทนิโรธวาเรน ตทุภยํ.

ตตฺถ อุปฺปาทวาเร ตาว ติณฺณํ อทฺธานํ วเสน ฉ กาลเภทา โหนฺติ – ปจฺจุปฺปนฺโน, อตีโต, อนาคโต, ปจฺจุปฺปนฺเนนาตีโต, ปจฺจุปฺปนฺเนนานาคโต, อตีเตนานาคโตติ. เตสุ ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’ติ ปจฺจุปฺปนฺนาภิธานวเสน ปจฺจุปฺปนฺโน เวทิตพฺโพ. โส ปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ปจฺจกฺขโต คเหตพฺพตฺตา อติวิย สุวิฺเยฺโยติ ปมํ วุตฺโต. ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถาติ อตีตาภิธานวเสน อตีโต เวทิตพฺโพ. โส ปจฺจกฺขโต อนุภูตปุพฺพานํ อตีตธมฺมานํ อนุมาเนน อนาคเตหิ สุวิฺเยฺยตรตฺตา ทุติยํ วุตฺโต. ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อนาคตาภิธานวเสน อนาคโต เวทิตพฺโพ. โส ปจฺจกฺขโต จ อนุภูตปุพฺพวเสน จ คหิตธมฺมานุมาเนน ‘อนาคเตปิ เอวรูปา ธมฺมา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตี’ติ คเหตพฺพโต ตติยํ วุตฺโต.

ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถาติ ปจฺจุปฺปนฺเนน สทฺธึ อตีตาภิธานวเสน ปจฺจุปฺปนฺเนนาตีโต เวทิตพฺโพ. โส มิสฺสเกสุ ตีสุ สุวิฺเยฺยตรตฺตา จตุตฺถํ วุตฺโต. ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปจฺจุปฺปนฺเนน สทฺธึ อนาคตาภิธานวเสน ปจฺจุปฺปนฺเนนานาคโต เวทิตพฺโพ. โส ปจฺจกฺขโต คเหตพฺพานํ ธมฺมานํ อตฺถิตาย อตฺถโต สุวิฺเยฺยตโรติ ปฺจมํ วุตฺโต. ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตีเตน สทฺธึ อนาคตาภิธานวเสน อตีเตนานาคโต เวทิตพฺโพ. โส ปุริเมหิ ทุวิฺเยฺโยติ ฉฏฺํ วุตฺโต.

เอวเมเตสุ ฉสุ กาลเภเทสุ ยฺวายํ ปโม ปจฺจุปฺปนฺโน, ตตฺถ ปุคฺคลโต, โอกาสโต, ปุคฺคโลกาสโตติ ตโย วารา โหนฺติ. เตสุ ยสฺสาติ ปุคฺคลวเสน ขนฺธานํ อุปฺปตฺติทีปโน ปุคฺคลวาโร. ยตฺถาติ โอกาสวเสน ขนฺธานํ อุปฺปตฺติทีปโน โอกาสวาโร. ยสฺส ยตฺถาติ ปุคฺคโลกาสวเสน ขนฺธานํ อุปฺปตฺติทีปโน ปุคฺคโลกาสวาโร. อิเม ปน ตโยปิ วารา ปมํ อนุโลมนเยน นิทฺทิสิตฺวา ปจฺฉา ปฏิโลมนเยน นิทฺทิฏฺา. เตสุ ‘อุปฺปชฺชติ’ ‘อุปฺปชฺชิตฺถ,’ ‘อุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ วจนโต อุปฺปตฺติทีปโน อนุโลมนโย. ‘นุปฺปชฺชติ’, ‘นุปฺปชฺชิตฺถ,’ ‘นุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ วจนโต อนุปฺปตฺติทีปโน ปฏิโลมนโย.

ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ตาว ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ. ยสฺส วา ปน เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ. ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ, วิฺาณกฺขนฺโธ, อุปฺปชฺชติ. ยสฺส วา ปน วิฺาณกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติ เอวํ รูปกฺขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ ยมกานิ; ‘‘ยสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สฺากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา นเยน เวทนากฺขนฺธมูลกานิ ตีณิ; สฺากฺขนฺธมูลกานิ ทฺเว; สงฺขารกฺขนฺธมูลกํ เอกนฺติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทส ยมกานิ โหนฺติ.

ตตฺถ รูปกฺขนฺธมูลเกสุ จตูสุ อาทิโต เอกเมว วิสฺสชฺชิตํ. เสสานิ เตน สทิสวิสฺสชฺชนานีติ ตนฺติยา ลหุภาวตฺถํ สงฺขิตฺตานิ. เวทนากฺขนฺธาทิมูลเกสุปิ ‘อามนฺตา’ติ เอกสทิสเมว วิสฺสชฺชนํ. ตสฺมา ตานิปิ ตนฺติยา ลหุภาวตฺถํ สงฺขิตฺตาเนวาติ เอวเมตานิ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวาเร อนุโลมนเย เอกยมกวิสฺสชฺชเนเนว ทส ยมกานิ วิสฺสชฺชิตานิ นาม โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ยถา จ ปุคฺคลวาเร ทส, เอวํ โอกาสวาเร ทส, ปุคฺคโลกาสวาเร ทสาติ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ตีสุ วาเรสุ อนุโลมนเย ตึส ยมกานิ โหนฺติ. ยถา จ อนุโลมนเย, เอวํ ปฏิโลมนเยปีติ สพฺพานิปิ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล สฏฺิ ยมกานิ โหนฺติ. เตสุ วีสปุจฺฉาสตํ, จตฺตารีสานิ จ ทฺเว อตฺถสตานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เอวํ เสเสสุปิ ปฺจสุ กาลเภเทสุ ปุคฺคลาทิเภทโต อนุโลมปฏิโลมนยวเสน ฉ ฉ วารา. เอเกกสฺมึ วาเร ทส ทส กตฺวา สฏฺิ สฏฺิ ยมกานีติ ตีณิ ยมกสตานิ. ตานิ ปุริเมหิ สทฺธึ สฏฺาธิกานิ ตีณิ ยมกสตานิ, วีสาธิกานิ สตฺตปุจฺฉาสตานิ, จตฺตารีสานิ จ จุทฺทส อตฺถสตานิ โหนฺติ. อิทํ ตาว อุปฺปาทวาเร ปาฬิววตฺถานํ. ยถา จ อุปฺปาทวาเร, ตถา นิโรธวาเรปิ, อุปฺปาทนิโรธวาเรปีติ สพฺพสฺมิมฺปิ ปวตฺติมหาวาเร อสีติ ยมกสหสฺสํ, สฏฺิสตาธิกานิ ทฺเว ปุจฺฉาสหสฺสานิ, วีสํ ติสตาธิกานิ จ จตฺตาริ อตฺถสหสฺสานิ เวทิตพฺพานิ.

ปาฬิ ปน อุปฺปาทวาเร นิโรธวาเร จ ตีสุ อสมฺมิสฺสกกาลเภเทสุ ตสฺมึ ตสฺมึ วาเร เอเกกเมว ยมกํ วิสฺสชฺเชตฺวา สงฺขิตฺตา. ตีสุ มิสฺสกกาลเภเทสุ ‘ยสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สฺากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถา’ติอาทินา นเยน เวทนากฺขนฺธาทิมูลเกสุปิ เอกํ ยมกํ วิสฺสชฺชิตํ. อุปฺปาทนิโรธวาเร ปน ฉสุปิ กาลเภเทสุ ตํ วิสฺสชฺชิตเมว. เสสานิ เตน สมานวิสฺสชฺชนตฺตา สงฺขิตฺตานีติ. อิทํ สกเลปิ ปวตฺติมหาวาเร ปาฬิววตฺถานํ.

อตฺถวินิจฺฉยตฺถํ ปนสฺส อิทํ ลกฺขณํ เวทิตพฺพํ – อิมสฺมิฺหิ ปวตฺติมหาวาเร จตุนฺนํ ปฺหานํ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ สตฺตวีสติยา าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปุเรปฺโห, ปจฺฉาปฺโห, ปริปุณฺณปฺโห, โมฆปฺโหติ อิเม จตฺตาโร ปฺหา นาม. เอเกกสฺมิฺหิ ยมเก ทฺเว ทฺเว ปุจฺฉา. เอเกกปุจฺฉายปิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ. ตตฺถ ยาย ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน เอเกเนว ปเทน คหิตกฺขนฺธสฺส อุปฺปาโท วา นิโรโธ วา ลพฺภติ, อยํ ปุเรปฺโห นาม. ยาย ปน ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน ทฺวีหิปิ ปเทหิ คหิตกฺขนฺธานํ อุปฺปาโท วา นิโรโธ วา ลพฺภติ, อยํ ปจฺฉาปฺโห นาม. ยาย ปน ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน เอเกนปิ ปเทน คหิตกฺขนฺธสฺส ทฺวีหิปิ ปเทหิ คหิตกฺขนฺธานํ อุปฺปาโท วา, นิโรโธ วา ลพฺภติ, อยํ ปริปุณฺณปฺโห นาม. ยาย ปน ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน ปฏิกฺเขโป วา, ปฏิเสโธ วา ลพฺภติ, อยํ โมฆปฺโห นาม. ยสฺมา ปเนส อทสฺสิยมาโน น สกฺกา ชานิตุํ, ตสฺมา นํ ทสฺสยิสฺสาม.

‘ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชติ, ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชตี’ติ ปุจฺฉาย ตาว อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ วิสฺสชฺชเน เอเกเนว ปเทน คหิตสฺส เวทนากฺขนฺธสฺส อุปฺปาโท ลพฺภติ, อิติ อยฺเจว อฺโ จ เอวรูโป ปฺโห ปุเรปฺโหติ เวทิตพฺโพ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถา’ติ ปุจฺฉาย ปน ‘อามนฺตา’ติ อิมสฺมึ วิสฺสชฺชเน ทฺวีหิ ปเทหิ คหิตานํ รูปเวทนากฺขนฺธานํ ยสฺส กสฺสจิ สตฺตสฺส อตีเต อุปฺปาโท ลพฺภติ. อิติ อยฺเจว อฺโ จ เอวรูโป ปฺโห ปจฺฉาปฺโหติ เวทิตพฺโพ.

‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’ติ อิมาย ปน ปมปุจฺฉาย ‘อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตาน’นฺติอาทิเก อิมสฺมึ วิสฺสชฺชเน ‘อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, โน จ เตสํ เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’ติ อิมสฺมึ โกฏฺาเส เอเกเนว ปเทน คหิตสฺส รูปกฺขนฺธสฺสปิ อุปฺปาโท ลพฺภติ. ‘ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ รูปกฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ เวทนากฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชตี’ติ อิมสฺมึ โกฏฺาเส ทฺวีหิปิ ปเทหิ สงฺคหิตานํ รูปเวทนากฺขนฺธานมฺปิ อุปฺปาโท ลพฺภติ. อิติ อยฺเจว อฺโ จ เอวรูโป ปฺโห ปริปุณฺณปฺโหติ เวทิตพฺโพ. ปุเรปจฺฉาปฺโหติปิ เอตสฺเสว นามํ. เอตสฺส หิ วิสฺสชฺชเน ปุริมโกฏฺาเส เอเกน ปเทน สงฺคหิตสฺส รูปกฺขนฺธสฺเสว อุปฺปาโท ทสฺสิโต. ทุติยโกฏฺาเส ทฺวีหิ ปเทหิ สงฺคหิตานํ รูปเวทนากฺขนฺธานํ. อิมินาเยว จ ลกฺขเณน ยตฺถ เอเกน ปเทน สงฺคหิตสฺส ขนฺธสฺส อุปฺปาโท วา นิโรโธ วา ลพฺภติ, โส ปุเรปฺโหติ วุตฺโต. ยตฺถ ทฺวีหิปิ ปเทหิ สงฺคหิตานํ ขนฺธานํ อุปฺปาโท วา นิโรโธ วา ลพฺภติ, โส ปจฺฉาปฺโหติ วุตฺโต.

‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถา’ติ อิมาย ปน ปุจฺฉาย ‘นตฺถี’ติ อิมสฺมึ วิสฺสชฺชเน ปฏิกฺเขโป ลพฺภติ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นิรุชฺฌตี’ติ ปุจฺฉาย ‘โน’ติ อิมสฺมึ วิสฺสชฺชเน ปฏิเสโธ ลพฺภติ. ตสฺมา อยฺเจว ทุวิโธ อฺโ จ เอวรูโป ปฺโห โมฆปฺโหติ เวทิตพฺโพ. ตุจฺฉปฺโหติปิ วุจฺจติ. เอวํ ตาว จตฺตาโร ปฺหา เวทิตพฺพา.

ปาฬิคติยา วิสฺสชฺชนํ, ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ, สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ, ปฏิกฺเขเปน วิสฺสชฺชนํ, ปฏิเสเธน วิสฺสชฺชนนฺติ อิมานิ ปน ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ นาม. ตตฺถ ยํ วิสฺสชฺชนํ ปาฬิปทเมว หุตฺวา อตฺถํ วิสฺสชฺเชติ, อิทํ ปาฬิคติยา วิสฺสชฺชนํ นาม. ตํ ปุเรปฺเห ลพฺภติ. ‘ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชติ ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชตี’ติ หิ ปฺเห ‘อุปฺปชฺชตี’ติ อิทํ วิสฺสชฺชนํ ปาฬิปทเมว หุตฺวา อตฺถํ วิสฺสชฺชยมานํ คตํ, ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ ปาฬิคติยา วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน วิสฺสชฺชนํ ปฏิวจนภาเวน อตฺถํ วิสฺสชฺเชติ, อิทํ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ นาม. ตํ ปจฺฉาปฺเห ลพฺภติ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถา’ติ หิ ปฺเห ‘อามนฺตา’ติ อิทํ วิสฺสชฺชนํ ปฏิวจนวเสเนว อตฺถํ วิสฺสชฺชยมานํ คตํ, ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ยํ วิสฺสชฺชนํ สรูเปน ทสฺเสตฺวา อตฺถํ วิสฺสชฺเชติ; อิทํ สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ นาม. ตํ ปริปุณฺณปฺเห ลพฺภติ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ; ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’ติ หิ ปฺเห ‘อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตาน’นฺติ อิทํ วิสฺสชฺชนํ ‘อิเมสํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, โน จ เวทนากฺขนฺโธ, อิเมสํ รูปกฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ, เวทนากฺขนฺโธ จา’ติ สรูปทสฺสเนเนว อตฺถํ วิสฺสชฺชยมานํ คตํ. ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน วิสฺสชฺชนํ ตถารูปสฺส อตฺถสฺสาภาวโต อตฺถปฏิกฺเขเปน ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, อิทํ ปฏิกฺเขเปน วิสฺสชฺชนํ นาม. ยํ ตถารูปสฺส อตฺถสฺส เอกกฺขเณ อลาภโต อตฺถปฏิเสธเนน ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, อิทํ ปฏิเสเธน วิสฺสชฺชนํ นาม. ตํ โมฆปฺเห ลพฺภติ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถา’ติ หิ ปฺเห ‘นตฺถี’ติ อิทํ วิสฺสชฺชนํ; เอวรูโป นาม สตฺโต นตฺถีติ อตฺถปฏิกฺเขเปน ปฺหํ วิสฺสชฺชยมานํ คตํ; ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ ปฏิกฺเขเปน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นิรุชฺฌตี’ติ ปฺเห ปน ‘โน’ติ อิทํ วิสฺสชฺชนํ เอกสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปาเทน สทฺธึ นิโรโธ นาม น ลพฺภตีติ อตฺถปฏิเสธเนน ปฺหํ วิสฺสชฺชยมานํ คตํ, ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ ปฏิเสเธน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ อิเม จตฺตาโร ปฺหา, อิมานิ จ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ, เยสุ สตฺตวีสติยา าเนสุ ปกฺขิปิตพฺพานิ, ตานิ เอวํ เวทิตพฺพานิ – อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ านํ, อสฺสตฺเต ตตฺถาติ เอกํ, อสฺสตฺตานนฺติ เอกํ; อสฺสตฺตา จวนฺตานนฺติ เอกํ; อรูปํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ, อรูเป ตตฺถาติ เอกํ, อรูปานนฺติ เอกํ, อรูปา จวนฺตานนฺติ เอกํ, อรูเป ปจฺฉิมภวิกานนฺติ เอกํ, อรูเป ปรินิพฺพนฺตานนฺติ เอกํ; เย จ อรูปํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺตีติ เอกํ; ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ, ปฺจโวกาเร ตตฺถาติ เอกํ, ปฺจโวการานนฺติ เอกํ ปฺจโวการา จวนฺตานนฺติ เอกํ, ปฺจโวกาเร ปจฺฉิมภวิกานนฺติ เอกํ, ปฺจโวกาเร ปรินิพฺพนฺตานนฺติ เอกํ; สุทฺธาวาสํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ, สุทฺธาวาเส ตตฺถาติ เอกํ, สุทฺธาวาสานนฺติ เอกํ, สุทฺธาวาเส ปรินิพฺพนฺตานนฺติ เอกํ; สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ, สพฺเพสํ จวนฺตานนฺติ เอกํ; สพฺพสาธารณวเสน ปจฺฉิมภวิกานนฺติ เอกํ, ปรินิพฺพนฺตานนฺติ เอกํ, จตุโวการํ ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ เอกํ, จวนฺตานนฺติ เอกํ. เอวํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปฺหานํ อิมานิ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ อิเมสุ สตฺตวีสติยา าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา อิมสฺมึ ปวตฺติมหาวาเร อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เอวํ วิทิตฺวา หิ ปฺหํ วิสฺสชฺชนฺเตน สุวิสฺสชฺชิโต โหติ, อตฺถฺจ วินิจฺฉยนฺเตน สุวินิจฺฉิโต โหติ.

ตตฺถายํ นโย – ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตีติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตีติ เวทนากฺขนฺโธปิ ตสฺส ตสฺมิฺเว ขเณ อุปฺปชฺชตีติ ปุจฺฉติ. อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ อจิตฺตกปฏิสนฺธิวเสน อสฺสตฺตภวํ อุปปชฺชนฺตานํ. เตสํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตีติ เตสํ เอกนฺเตน รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติเยว. ปวตฺเต อุปฺปนฺนานํ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติปิ นิรุชฺฌติปิ, ตสฺมา ‘อสฺสตฺตาน’นฺติ อวตฺวา’อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตาน’นฺติ วุตฺตํ. โน จ เตสํ เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตีติ อจิตฺตกตฺตา ปน เตสํ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชเตว. อิทํ สตฺตวีสติยา าเนสุ ปเม าเน ปริปุณฺณปฺหสฺส ปุริมโกฏฺาเส สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ. ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ รูปารูปมิสฺสกปฏิสนฺธิวเสน ปฺจโวการภวํ อุปปชฺชนฺตานํ. เตสํ รูปกฺขนฺโธ จ อุปฺปชฺชติ, เวทนากฺขนฺโธ จาติ เตสํ เอกนฺเตน รูปเวทนากฺขนฺธสงฺขาตา ทฺเวปิ ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติเยว. ปวตฺเต ปน ตตฺถ อุปฺปนฺนานํ เต ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติปิ นิรุชฺฌนฺติปิ, ตสฺมา ‘ปฺจโวการาน’นฺติ อวตฺวา ‘ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตาน’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ ปฺจโวการํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ าเน ปริปุณฺณปฺหสฺส ปจฺฉิมโกฏฺาเส สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพานิ วิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิ.

อิทํ ปเนตฺถ อุปฺปาทนิโรเธสุ นิยมลกฺขณํ – สกเลปิ หิ อิมสฺมึ ขนฺธยมเก ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปนฺนานํ ปวตฺเต ยาว มรณา ขนฺธานํ อปริยนฺเตสุ อุปฺปาทนิโรเธสุ วิชฺชมาเนสุปิ ลหุปริวตฺตานํ ธมฺมานํ วินิพฺโภคํ กตฺวา อุปฺปาทนิโรเธ ทสฺเสตุํ น สุกรนฺติ ปวตฺติยํ อุปฺปาทนิโรเธ อนามสิตฺวา อภินวํ วิปากวฏฺฏํ นิปฺผาทยมาเนน นานากมฺเมน นิพฺพตฺตานํ ปฏิสนฺธิขนฺธานํ อุปฺปาทํ ทสฺเสตุํ สุขนฺติ ปฏิสนฺธิกาเล อุปฺปาทวเสเนว อุปฺปาทวาโร กถิโต. อุปฺปนฺนสฺส ปน วิปากวฏฺฏสฺส ปริโยสาเนน นิโรธํ ทสฺเสตุํ สุขนฺติ มรณกาเล นิโรธวเสน นิโรธวาโร กถิโต.

กึ ปเนตฺถ ปวตฺติยํ อุปฺปาทนิโรธานํ อนามฏฺภาเว ปมาณนฺติ? ปาฬิเยว. ปาฬิยฺหิ วิเสเสน อุปฺปาทวารสฺส อนาคตกาลวาเร ‘ปจฺฉิมภวิกานํ เตสํ รูปกฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสติ, เวทนากฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ อยํ ปาฬิ อติปมาณเมว. ปจฺฉิมภวิกานฺหิ ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ อุปฺปชฺชิตุํ ยุตฺตภาเว สติปิ ‘รูปกฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสติ, เวทนากฺขนฺโธ จ นุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วุตฺตภาเวน ปวตฺเต อุปฺปาโท น คหิโตติ เวทิตพฺโพ. ‘สุทฺธาวาเส ปรินิพฺพนฺตานํ เตสํ ตตฺถ สฺากฺขนฺโธ น นิรุชฺฌิตฺถ, โน จ เตสํ ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ น นิรุชฺฌตี’ติ อยํ ปน ปาฬิ ปวตฺเต นิโรธสฺส อนามฏฺภาเว อติวิย ปมาณํ. สุทฺธาวาเส ปรินิพฺพนฺตานฺหิ จุติจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ ิตานํ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปวตฺเต อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสฺากฺขนฺธานํ คณนปโถ นตฺถิ. ‘เอวํ สนฺเตปิ เตสํ ตตฺถ สฺากฺขนฺโธ น นิรุชฺฌิตฺถา’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วุตฺตภาเวน ปวตฺเต นิโรโธ น คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

เอวเมตฺถ อุปฺปาทนิโรเธสุ นิยมลกฺขณํ วิทิตฺวา ปฏิสนฺธิอุปฺปาทเมว จุตินิโรธเมว จ คเหตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ อาคตานํ วิสฺสชฺชนานํ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โส ปน สกฺกา อาทิวิสฺสชฺชเน วุตฺตนเยน สพฺพตฺถ วิทิตุนฺติ วิสฺสชฺชนปฏิปาฏิยา น วิตฺถาริโต. อิมินา ปน เอวํ ทินฺเนนปิ นเยน โย เอเตสํ อตฺถวินิจฺฉยํ ชานิตุํ น สกฺโกติ, เตน อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา สาธุกํ สุตฺวาปิ ชานิตพฺโพ.

อุปฺปาทสฺส นิโรธสฺส, อุปฺปนฺนฺจาปิ เอกโต;

นยสฺส อนุโลมสฺส, ปฏิโลมนยสฺส จ.

วเสน ยานิ ขนฺเธสุ, ยมกานิ จ ปฺจสุ;

ปุคฺคลํ อถ โอกาสํ, ปุคฺคโลกาสเมว จ.

อามสิตฺวา ปวตฺเตสุ, าเนสุ กถยี ชิโน;

เตสํ ปาฬิววตฺถานํ, ทสฺสิตํ อนุปุพฺพโต.

วินิจฺฉยตฺถํ อตฺถสฺส, ปฺหาวิสฺสชฺชนานิ จ;

วิสฺสชฺชนานํ านานิ, ยานิ ตานิ จ สพฺพโส.

ทสฺเสตฺวา เอกปฺหสฺมึ, โยชนาปิ ปกาสิตา;

วิตฺถาเรน คเต เอตฺถ, ปฺหาวิสฺสชฺชนกฺกเม.

อตฺถํ วณฺณยตา กาตุํ, กึ นุ สกฺกา อิโต ปรํ;

นเยน อิมินา ตสฺมา, อตฺถํ ชานนฺตุ ปณฺฑิตาติ.

ปวตฺติมหาวารวณฺณนา.

๓. ปริฺาวารวณฺณนา

๒๐๖-๒๐๘. ตทนนฺตเร ปริฺาวาเรปิ ฉเฬว กาลเภทา. อนุโลมปฏิโลมโต ทฺเวเยว นยา. ปุคฺคลวาโร, โอกาสวาโร, ปุคฺคโลกาสวาโรติ อิเมสุ ปน ตีสุ ปุคฺคลวาโรว ลพฺภติ, น อิตเร ทฺเว. กึ การณา? สทิสวิสฺสชฺชนตาย. โย หิ โกจิ ปุคฺคโล ยตฺถ กตฺถจิ าเน รูปกฺขนฺธํ เจ ปริชานาติ, เวทนากฺขนฺธมฺปิ ปริชานาติเยว. เวทนากฺขนฺธํ เจ ปริชานาติ, รูปกฺขนฺธมฺปิ ปริชานาติเยว. รูปกฺขนฺธํ เจ น ปริชานาติ, เวทนากฺขนฺธมฺปิ น ปริชานาติเยว. เวทนากฺขนฺธํ เจ น ปริชานาติ, รูปกฺขนฺธมฺปิ น ปริชานาติเยว. ตสฺมา เตสุปิ ‘ยตฺถ รูปกฺขนฺธํ ปริชานาติ, ตตฺถ เวทนากฺขนฺธํ ปริชานาตี’ติ อาทิวเสน ปุจฺฉํ กตฺวา ‘อามนฺตา’ตฺเวว วิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ. สิยาติ สทิสวิสฺสชฺชนตาย เต อิธ น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อถ วา ปริฺากิจฺจํ นาม ปุคฺคลสฺเสว โหติ, โน โอกาสสฺส, ปุคฺคโลว ปริชานิตุํ สมตฺโถ, โน โอกาโสติ ปุคฺคลวาโรเวตฺถ คหิโต, น โอกาสวาโร. ตสฺส ปน อคฺคหิตตฺตา ตทนนฺตโร ปุคฺคโลกาสวาโร ลพฺภมาโนปิ น คหิโต. โย ปเนส ปุคฺคลวาโร คหิโต, ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล รูปกฺขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ, เวทนากฺขนฺธมูลกานิ ตีณิ, สฺากฺขนฺธมูลกานิ ทฺเว, สงฺขารกฺขนฺธมูลกํ เอกนฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนุโลมนเย อคฺคหิตคฺคหเณน ทส ยมกานิ. ปฏิโลมนเย ทสาติ วีสติ. ตถา เสเสสุปีติ เอเกกสฺมึ กาเล วีสติ วีสติ กตฺวา ฉสุ กาเลสุ วีสํ ยมกสตํ, จตฺตารีสานิ ทฺเว ปุจฺฉาสตานิ, อสีตฺยาธิกานิ จตฺตาริ อตฺถสตานิ จ โหนฺตีติ อิทเมตฺถ ปาฬิววตฺถานํ.

อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนสงฺขาตา ตโย อทฺธา ปวตฺติวาเร วิย จุติปฏิสนฺธิวเสน น ลพฺภนฺติ. ปวตฺเต จิตฺตกฺขณวเสเนว ลพฺภนฺติ. เตเนเวตฺถ ‘โย รูปกฺขนฺธํ ปริชานาติ, โส เวทนากฺขนฺธํ ปริชานาตี’ติอาทีสุ ปุจฺฉาสุ ‘อามนฺตา’ติ วิสฺสชฺชนํ กตํ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขณสฺมิฺหิ นิพฺพานารมฺมเณน จิตฺเตน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปริฺากิจฺจนิพฺพตฺติยา ยํ กิฺจิ เอกํ ขนฺธํ ปริชานนฺโต อิตรมฺปิ ปริชานาตีติ วุจฺจติ. เอวเมตฺถ ‘ปริชานาตี’ติ ปฺเหสุ อนุโลมนเย ปริฺากิจฺจสฺส มตฺถกปฺปตฺตํ อคฺคมคฺคสมงฺคึ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฏิโลมนเย ปน ‘น ปริชานาตี’ติ ปฺเหสุ ปุถุชฺชนาทโย สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. ‘ปริชานิตฺถา’ติ อิมสฺมึ ปน อตีตกาลวาเร มคฺคานนฺตรอคฺคผเล ิโตปิ ปริฺากิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา ปริชานิตฺถเยว นาม.

๒๐๙. โย รูปกฺขนฺธํ ปริชานาติ, โส เวทนากฺขนฺธํ ปริชานิตฺถาติ ปฺเหน อคฺคมคฺคสมงฺคึ ปุจฺฉติ. ยสฺมา ปเนส ขนฺธปฺจกํ ปริชานาติเยว นาม, น ตาว นิฏฺิตปริฺากิจฺโจ; ตสฺมา ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กโต. ทุติยปฺเห ปน ปริชานิตฺถาติ อรหนฺตํ ปุจฺฉติ. ยสฺมา ปเนโส นิฏฺิตปริฺากิจฺโจ. นตฺถิ ตสฺส ปริฺเยฺยํ นาม; ตสฺมา ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กโต. ปฏิโลมนยวิสฺสชฺชเน ปเนตฺถ อรหา รูปกฺขนฺธํ น ปริชานาตีติ อรหโต ปริฺาย อภาเวน วุตฺตํ. อคฺคมคฺคสมงฺคี เวทนากฺขนฺธํ น ปริชานิตฺถาติ อรหตฺตมคฺคฏฺสฺส อนิฏฺิตปริฺากิจฺจตาย วุตฺตํ. น เกวลฺจ เวทนากฺขนฺธเมว, เอกธมฺมมฺปิ โส น ปริชานิตฺเถว. อิทํ ปน ปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ. โน จ รูปกฺขนฺธนฺติ อิทมฺปิ ปุจฺฉาวเสเนว วุตฺตํ. อฺมฺปิ ปน โส ขนฺธํ ปริชานาติ.

๒๑๐-๒๑๑. โย รูปกฺขนฺธํ ปริชานาติ, โส เวทนากฺขนฺธํ ปริชานิสฺสตีติ เอตฺถ ยสฺมา มคฺคฏฺปุคฺคโล เอกจิตฺตกฺขณิโก, ตสฺมา โส ปริชานิสฺสตีติ สงฺขํ น คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ ‘โน’ติ. เต รูปกฺขนฺธฺจ น ปริชานิตฺถาติ ปุจฺฉาสภาเคน วุตฺตํ, น ปริชานึสูติ ปเนตฺถ อตฺโถ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

ปริฺาวารวณฺณนา.

ขนฺธยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อายตนยมกํ

๑. ปณฺณตฺติอุทฺเทสวารวณฺณนา

๑-๙. อิทานิ มูลยมเก เทสิเตเยว กุสลาทิธมฺเม อายตนวเสนาปิ สงฺคณฺหิตฺวา ขนฺธยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส อายตนยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถ ขนฺธยมเก วุตฺตนเยเนว ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. ยเถว หิ ตตฺถ ปณฺณตฺติวาโร, ปวตฺติวาโร, ปริฺาวาโรติ ตโย มหาวารา โหนฺติ, ตถา อิธาปิ. วจนตฺโถปิ เนสํ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิธาปิ จ ปณฺณตฺติวาโร อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ววตฺถิโต. อิตเร นิทฺเทสวเสเนว. ‘ตตฺถ ทฺวาทสายตนานี’ติ ปทํ อาทึ กตฺวา ยาว นายตนา น มโนติ, ตาว ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ทฺวาทสายตนานีติ อยํ ยมกวเสน ปุจฺฉิตพฺพานํ อายตนานํ อุทฺเทโส. จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตนนฺติ เตสฺเว ปเภทโต นามววตฺถานํ. ยมกวเสน ปุจฺฉาสุขตฺถฺเจตฺถ ปมํ ปฏิปาฏิยา อชฺฌตฺตรูปายตนานิ วุตฺตานิ. ปจฺฉา พาหิรรูปายตนานิ. ปริโยสาเน มนายตนธมฺมายตนานิ.

ยถา ปน เหฏฺา ขนฺธวเสน, เอวมิธ อิเมสํ อายตนานํ วเสน ปทโสธนวาโร, ปทโสธนมูลจกฺกวาโร, สุทฺธายตนวาโร, สุทฺธายตนมูลจกฺกวาโรติ, จตฺตาโรว นยวารา โหนฺติ. เอเกโก เจตฺถ อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธเยว. เตสมตฺโถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา ปน ขนฺธยมเก ปทโสธนวารสฺส อนุโลมวาเร ‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, รูปกฺขนฺโธ รูป’นฺติอาทีนิ ปฺจ ยมกานิ, ตถา อิธ ‘จกฺขุ, จกฺขายตนํ; จกฺขายตนํ; จกฺขู’ติอาทีนิ ทฺวาทส. ปฏิโลมวาเรปิ ‘น จกฺขุ, น จกฺขายตนํ; น จกฺขายตนํ, น จกฺขู’ติอาทีนิ ทฺวาทส, ปทโสธนมูลจกฺกวารสฺส ปเนตฺถ อนุโลมวาเร เอเกกายตนมูลกานิ เอกาทส เอกาทส กตฺวา ทฺวตฺตึสสตํ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ทฺวตฺตึสสตเมว. สุทฺธายตนวารสฺสาปิ อนุโลมวาเร ทฺวาทส, ปฏิโลมวาเร ทฺวาทส, สุทฺธายตนมูลจกฺกวารสฺสาปิ อนุโลมวาเร เอเกกายตนมูลกานิ เอกาทส เอกาทส กตฺวา ทฺวตฺตึสสตํ ยมกานิ. ปฏิโลมวาเรปิ ทฺวตฺตึสสตเมวาติ เอวมิธ ฉสตฺตตาธิเกหิ ปฺจหิ ยมกสเตหิ, ทฺวิปฺาสาธิเกหิ เอกาทสหิ ปุจฺฉาสเตหิ, จตุราธิเกหิ เตวีสาย อตฺถสเตหิ จ ปฏิมณฺฑิโต ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพ.

ปณฺณตฺติอุทฺเทสวารวณฺณนา.

๑. ปณฺณตฺตินิทฺเทสวารวณฺณนา

๑๐-๑๗. นิทฺเทสวาเร ปน เหฏฺา ขนฺธยมกสฺส ปณฺณตฺติวารนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฺตฺร วิเสสา. ตตฺรายํ วิเสโส – ทิพฺพจกฺขูติ ทุติยวิชฺชาาณํ. ปฺาจกฺขูติ ตติยวิชฺชาาณํ. ทิพฺพโสตนฺติ ทุติยอภิฺาาณํ. ตณฺหาโสตนฺติ ตณฺหาว. อวเสโส กาโยติ นามกาโย, รูปกาโย, หตฺถิกาโย, อสฺสกาโยติ เอวมาทิ. อวเสสํ รูปนฺติ รูปายตนโต เสสํ ภูตุปาทายรูปฺเจว ปิยรูปสาตรูปฺจ. สีลคนฺโธติอาทีนิ วายนฏฺเน สีลาทีนํเยว นามานิ. อตฺถรโสติอาทีนิปิ สาธุมธุรฏฺเน อตฺถาทีนฺเว นามานิ. อวเสโส ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺมาทิอเนกปฺปเภโทติ อยเมตฺถ วิเสโส.

ปณฺณตฺตินิทฺเทสวารวณฺณนา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๑๘-๒๑. อิธาปิ จ ปวตฺติวารสฺส อุปฺปาทวาราทีสุ ตีสุ อนฺตรวาเรสุ เอเกกสฺมึ ฉเฬว กาลเภทา. เตสํ เอเกกสฺมึ กาเล ปุคฺคลวาราทโย ตโย วารา. เต สพฺเพปิ อนุโลมปฏิโลมนยวเสน ทุวิธาว โหนฺติ. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ยถา ขนฺธยมเก รูปกฺขนฺธมูลกานิ จตฺตาริ, เวทนากฺขนฺธมูลกานิ ตีณิ, สฺากฺขนฺธมูลกานิ ทฺเว, สงฺขารกฺขนฺธมูลกํ เอกนฺติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทส ยมกานิ โหนฺติ. เอวํ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส โสตายตนํ อุปฺปชฺชติ; ยสฺส วา ปน โสตายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ; ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ฆาณายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, รูปายตนํ, สทฺทายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ, มนายตนํ, ธมฺมายตนํ, อุปฺปชฺชติ; ยสฺส วา ปน ธมฺมายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติ เอวํ จกฺขายตนมูลกานิ เอกาทส. ‘‘ยสฺส โสตายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ฆานายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา นเยน โสตายตนมูลกานิ ทส; ฆานายตนมูลกานิ นว, ชิวฺหายตนมูลกานิ อฏฺ; กายายตนมูลกานิ สตฺต; รูปายตนมูลกานิ ฉ; สทฺทายตนมูลกานิ ปฺจ; คนฺธายตนมูลกานิ จตฺตาริ; รสายตนมูลกานิ ตีณิ; โผฏฺพฺพายตนมูลกานิ ทฺเว; มนายตนมูลกํ เอกนฺติ อคฺคหิตคฺคหเณน ฉสฏฺิ ยมกานิ โหนฺติ.

ตตฺถ จกฺขายตนมูลเกสุ เอกาทสสุ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส โสตายตนํ, ฆานายตนํ, รูปายตนํ, มนายตนํ, ธมฺมายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อิมานิ ปฺเจว วิสฺสชฺชิตานิ. เตสุ ปมํ วิสฺสชฺเชตพฺพํ ตาว วิสฺสชฺชิตํ. ทุติยํ กิฺจาปิ ปเมน สทิสวิสฺสชฺชนํ, จกฺขุโสตายตนานํ ปวตฺติฏฺาเน ปน ฆานายตนสฺส น เอกนฺเตน ปวตฺติโต ‘‘กถํ นุ โข เอตํ วิสฺสชฺเชตพฺพ’’นฺติ วิมตินิวารณตฺถํ วิสฺสชฺชิตํ. รูปายตนมนายตนธมฺมายตเนหิ สทฺธึ ตีณิ ยมกานิ อสทิสวิสฺสชฺชนตฺตา วิสฺสชฺชิตานิ. เสเสสุ ชิวฺหายตนกายายตเนหิ ตาว สทฺธึ ทฺเว ยมกานิ ปุริเมหิ ทฺวีหิ สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนานิ. สทฺทายตนสฺส ปฏิสนฺธิกฺขเณ อนุปฺปตฺติโต เตน สทฺธึ ยมกสฺส วิสฺสชฺชนเมว นตฺถิ. คนฺธรสโผฏฺพฺพายตเนหิปิ สทฺธึ ตีณิ ยมกานิ ปุริเมหิ ทฺวีหิ สทิสวิสฺสชฺชนาเนว โหนฺตีติ ตนฺติยา ลหุภาวตฺถํ สงฺขิตฺตานิ. โสตายตนมูลเกสุ ยํ ลพฺภติ, ตํ ปุริเมหิ สทิสวิสฺสชฺชนเมวาติ เอกมฺปิ ปาฬึ นารุฬฺหํ. ฆานายตนมูลเกสุ รูปายตเนน สทฺธึ เอกํ, มนายตนธมฺมายตเนหิ สทฺธึ ทฺเวติ ตีณิ ยมกานิ ปาฬึ อารุฬฺหานิ. เสสานิ ฆานายตนยมเกน สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา นารุฬฺหานิ. ตถา ชิวฺหายตนกายายตนมูลกานิ. รูปายตนมูลเกสุ มนายตนธมฺมายตเนหิ สทฺธึ ทฺเวเยว วิสฺสชฺชิตานิ. คนฺธรสโผฏฺพฺเพหิ ปน สทฺธึ ตีณิ รูปายตนมนายตเนหิ สทฺธึ สทิสวิสฺสชฺชนานิ. ยเถว เหตฺถ ‘‘สรูปกานํ อจิตฺตกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตถา อิธาปิ ‘‘สรูปกานํ อคนฺธกานํ, อรสกานํ อโผฏฺพฺพกาน’’นฺติ โยชนา เวทิตพฺพา. คนฺธาทีนิ เจตฺถ อายตนภูตาเนว อธิปฺเปตานิ. ตสฺมา ‘‘สรูปกานํ สคนฺธายตนาน’’นฺติ อายตนวเสเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สทฺทายตนมูลกานิ อตฺถาภาวโต ปาฬึ นารุฬฺหาเนว. คนฺธรสโผฏฺพฺพมูลกานิ จตฺตาริ ตีณิ ทฺเว จ เหฏฺิเมหิ สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา ปาฬึ นารุฬฺหานิ. มนายตนมูลกํ วิสฺสชฺชิตเมวาติ เอวเมตานิ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย กติปยยมกวิสฺสชฺชเนเนว ฉสฏฺิยมกานิ วิสฺสชฺชิตานิ นาม โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ยถา จ ปุคฺคลวาเร, เอวํ โอกาสวาเรปิ ปุคฺคโลกาสวาเรปิ ฉสฏฺีติ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ตีสุ วาเรสุ อนุโลมนเย อฏฺนวุติสตํ ยมกานิ โหนฺติ. ยถา จ อนุโลมนเย, เอวํ ปฏิโลมนเยปีติ สพฺพานิปิ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ฉนฺนวุตาธิกานิ ตีณิ ยมกสตานิ โหนฺติ. เตสุ ทฺวานวุตาธิกานิ สตฺต ปุจฺฉาสตานิ, จตุราสีตาธิกานิ จ ปนฺนรส อตฺถสตานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เอวํ เสเสสุปิ ปฺจสุ กาลเภเทสูติ สพฺพานิปิ ฉสตฺตตาธิกานิ เตวีสติ ยมกสตานิ. ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถาติ อิทเมตฺถ อุปฺปาทวาเร ปาฬิววตฺถานํ. นิโรธวารอุปฺปาทนิโรธวาเรสุปิ เอเสว นโยติ. สพฺพสฺมิมฺปิ ปวตฺติวาเร อฏฺวีสานิ เอกสตฺตติ ยมกสตานิ. ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน มนายตนํ ธมฺมายตนฺจ เอกสทิสํ, นานํ นตฺถิ. อุปริ ปน ‘‘วารสงฺเขโป โหตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ตตฺถ ตตฺถ สงฺขิตฺตา. ตสฺมา ยํ ตตฺถ ตตฺถ สงฺขิตฺตํ, ตํ สพฺพํ อสมฺมุยฺหนฺเตหิ สลฺลกฺเขตพฺพํ.

อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ นยมุขํ. สจกฺขุกานํ อโสตกานนฺติ อปาเย ชาติพธิรโอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ สจกฺขุโก อโสตโก หุตฺวา อุปปชฺชติ. ยถาห – ‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ อปรานิ ทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ. โอปปาติกานํ เปตานํ, โอปปาติกานํ อสุรานํ, โอปปาติกานํ ติรจฺฉานคตานํ, โอปปาติกานํ เนรยิกานํ; ชจฺจพธิรานํ อุปปตฺติกฺขเณ ทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, จกฺขายตนํ รูปฆานคนฺธชิวฺหารสกายโผฏฺพฺพายตนํ มนายตนํ ธมฺมายตน’’นฺติ. สจกฺขุกานํ สโสตกานนฺติ สุคติทุคฺคตีสุ ปริปุณฺณายตเน จ โอปปาติเก รูปีพฺรหฺมาโน จ สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ สจกฺขุกา สโสตกา หุตฺวา อุปปชฺชนฺติ. ยถาห – ‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ; กามาวจรานํ เทวานํ, ปมกปฺปิกานํ มนุสฺสานํ, โอปปาติกานํ เปตานํ, โอปปาติกานํ อสุรานํ, โอปปาติกานํ ติรจฺฉานคตานํ, โอปปาติกานํ เนรยิกานํ, ปริปุณฺณายตนานํ. รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ ปฺจายตนานิ ปาตุภวนฺติ, จกฺขายตนํ รูปโสตมนายตนํ ธมฺมายตน’’นฺติ.

อฆานกานนฺติ พฺรหฺมปาริสชฺชาทโย สนฺธาย วุตฺตํ. เต หิ สจกฺขุกา อฆานกา หุตฺวา อุปปชฺชนฺติ. กามธาตุยํ ปน อฆานโก โอปปาติโก นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย ‘‘กสฺสจิ อฏฺายตนานิ ปาตุภวนฺตี’’ติ เวทยฺย. โย คพฺภเสยฺยโก ปน อฆานโก สิยา, โส ‘‘สจกฺขุกาน’’นฺติ วจนโต อิธ อนธิปฺเปโต. สจกฺขุกานํ สฆานกานนฺติ ชจฺจพธิรมฺปิ ปริปุณฺณายตนมฺปิ โอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตํ. สฆานกานํ อจกฺขุกานนฺติ ชจฺจนฺธมฺปิ ชจฺจพธิรมฺปิ โอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตเมว. สฆานกานํ สจกฺขุกานนฺติ ปริปุณฺณายตนเมว โอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตํ.

สรูปกานํ อจกฺขุกานนฺติ เอตฺถ ชจฺจนฺธชจฺจพธิรโอปปาติเกสุ อฺตโรปิ คพฺภเสยฺยโกปิ ลพฺภติเยว. สจิตฺตกานํ อจกฺขุกานนฺติ เอตฺถ เหฏฺา วุตฺเตหิ ชจฺจนฺธาทีหิ ตีหิ สทฺธึ อรูปิโนปิ ลพฺภนฺติ. อจกฺขุกานนฺติ เอตฺถ ปุริมปเท วุตฺเตหิ จตูหิ สทฺธึ อสฺสตฺตาปิ ลพฺภนฺติ. สรูปกานํ อฆานกานนฺติ เอตฺถ คพฺภเสยฺยกา จ อสฺสตฺตา จ เสสรูปีพฺรหฺมาโน จ ลพฺภนฺติ. สจิตฺตกานํ อฆานกานนฺติ เอตฺถ คพฺภเสยฺยกา จ รูปารูปพฺรหฺมาโน จ ลพฺภนฺติ. อจิตฺตกานํ อรูปกานนฺติปเทสุ ปน เอกโวการจตุโวการสตฺตาว ลพฺภนฺตีติ อิมินา นเยน สพฺเพสุ ปุคฺคลวาเรสุ ปุคฺคลวิภาโค เวทิตพฺโพ.

๒๒-๒๕๔. โอกาสวาเร ยตฺถ จกฺขายตนนฺติ รูปีพฺรหฺมโลกํ ปุจฺฉติ. เตเนว อามนฺตาติ วุตฺตํ. ตสฺมิฺหิ ตเล นิยมโต ตานิ อายตนานิ ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปชฺชนฺติ. อิทเมตฺถ นยมุขํ. อิมินา นยมุเขน สกเลปิ ปวตฺติวาเร อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปริฺาวาโร ขนฺธยมเก วุตฺตนโยเยวาติ.

ปวตฺติวารวณฺณนา.

อายตนยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ธาตุยมกํ

๑-๑๙. อิทานิ เตเยว มูลยมเก เทสิเต กุสลาทิธมฺเม ธาตุวเสน สงฺคณฺหิตฺวา อายตนยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส ธาตุยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถ อายตนยมเก วุตฺตนเยเนว ปาฬิววตฺถานํ เวติทพฺพํ. อิธาปิ หิ ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา, อวเสสา อนฺตรวารา จ สทฺธึ กาลปฺปเภทาทีหิ อายตนยมเก อาคตสทิสาเยว. อิธาปิ จ ยมกปุจฺฉาสุขตฺถํ ปฏิปาฏิยา อชฺฌตฺติกพาหิรา รูปธาตุโยว วตฺวา วิฺาณธาตุโย วุตฺตา. ธาตูนํ ปน พหุตฺตา อิธ อายตนยมกโต พหุตรานิ ยมกานิ, ยมกทิคุณา ปุจฺฉา, ปุจฺฉาทิคุณา จ อตฺถา โหนฺติ. ตตฺถ จกฺขุธาตุมูลกาทีสุ ยมเกสุ ลพฺภมานานํ ยมกานํ อตฺถวินิจฺฉโย อายตนยมเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตํสทิสาเยว เหตฺถ อตฺถคติ, เตเนว จ การเณน ปาฬิปิ สงฺขิตฺตา. ปริฺาวาโร ปากติโกเยวาติ.

ธาตุยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สจฺจยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวารวณฺณนา

๑-๙. อิทานิ เตเยว มูลยมเก เทสิเต กุสลาทิธมฺเม สจฺจวเสน สงฺคณฺหิตฺวา ธาตุยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส สจฺจยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา อนฺตรวาราทโย จ อวเสสปฺปเภทา เวทิตพฺพา. ปณฺณตฺติวาเร ปเนตฺถ จตุนฺนํ สจฺจานํ วเสน ปทโสธนวาโร, ปทโสธนมูลจกฺกวาโร, สุทฺธสจฺจวาโร, สุทฺธสจฺจมูลจกฺกวาโรติ อิเมสุ จตูสุ วาเรสุ ยมกคณนา เวทิตพฺพา.

๑๐-๒๖. ปณฺณตฺติวารนิทฺเทเส ปน อวเสสํ ทุกฺขสจฺจนฺติ ทุกฺขเวทนาย เจว ตณฺหาย จ วินิมุตฺตา เตภูมกธมฺมา เวทิตพฺพา. อวเสโส สมุทโยติ สจฺจวิภงฺเค นิทฺทิฏฺกามาวจรกุสลาทิเภโท ทุกฺขสจฺจสฺส ปจฺจโย. อวเสโส นิโรโธติ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิโรโธ เจว ขณภงฺคนิโรโธ จ. อวเสโส มคฺโคติ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ปฺจงฺคิโก มคฺโค โหติ, อฏฺงฺคิโก มคฺโค, มิจฺฉามคฺโค, ชงฺฆมคฺโค, สกฏมคฺโค’’ติ เอวมาทิโก.

ปณฺณตฺติวารวณฺณนา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๒๗-๑๖๔. ปวตฺติวาเร ปเนตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สมุทยสจฺจํ อุปฺปชฺชติ; ยสฺส วา ปน สมุทยสจฺจํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทุกฺขสจฺจมูลเกหิ ตีหิ, สมุทยสจฺจมูลเกหิ ทฺวีหิ, นิโรธสจฺจมูลเกน เอเกนาติ ลพฺภมานฺจ อลพฺภมานฺจ คเหตฺวา ปาฬิวเสน ฉหิ ยมเกหิ ภวิตพฺพํ. เตสุ ยสฺมา นิโรธสฺส เนว อุปฺปาโท, น นิโรโธ ยุชฺชติ, ตสฺมา ทุกฺขสจฺจมูลกานิ สมุทยสจฺจมคฺคสจฺเจหิ สทฺธึ ทฺเว, สมุทยสจฺจมูลกํ มคฺคสจฺเจน สทฺธึ เอกนฺติ ตีณิ ยมกานิ อาคตานิ. ตสฺส ปฏิโลมนเยปิ โอกาสวาราทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ สพฺพวาเรสุ ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ยมกคณนา เวทิตพฺพา. อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ ลกฺขณํ – อิมสฺส หิ สจฺจยมกสฺส ปวตฺติวาเร นิโรธสจฺจํ ตาว น ลพฺภเตว. เสเสสุ ปน ตีสุ สมุทยสจฺจมคฺคสจฺจานิ เอกนฺเตน ปวตฺติยํเยว ลพฺภนฺติ. ทุกฺขสจฺจํ จุติปฏิสนฺธีสุปิ ปวตฺเตปิ ลพฺภติ. ปจฺจุปฺปนฺนาทโย ปน ตโย กาลา จุติปฏิสนฺธีนมฺปิ ปวตฺติยาปิ วเสน ลพฺภนฺติ. เอวเมตฺถ ยํ ยํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตตฺริทํ นยมุขํ – สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ อนฺตมโส สุทฺธาวาสานมฺปิ. เตปิ หิ ทุกฺขสจฺเจเนว อุปปชฺชนฺติ. ตณฺหาวิปฺปยุตฺตจิตฺตสฺสาติ อิทํ ทุกฺขสจฺจสมุทยสจฺเจสุ เอกโกฏฺาสสฺส อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา ปฺจโวการวเสเนว คเหตพฺพํ. จตุโวกาเร ปน ตณฺหาวิปฺปยุตฺตสฺส ผลสมาปตฺติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เอกมฺปิ สจฺจํ นุปฺปชฺชติ. อิทํ อิธ น คเหตพฺพํ. เตสํ ทุกฺขสจฺจฺจาติ ตสฺมิฺหิ ขเณ ตณฺหํ เปตฺวา เสสํ ทุกฺขสจฺจํ นาม โหตีติ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปน รูปเมว ทุกฺขสจฺจํ นาม. เสสา มคฺคสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา สจฺจวินิมุตฺตา. เตเนว การเณน ‘‘อรูเป มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ มคฺคสจฺจํ อุปฺปชฺชติ, โน จ เตสํ ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตานํ ปวตฺเต ตณฺหาวิปฺปยุตฺตจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ ตตฺถาติ เตสํ ตสฺมึ อุปปตฺติกฺขเณ ตณฺหาวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ จาติ เอวเมตฺถ ขณวเสน โอกาโส เวทิตพฺโพ. อฺเสุปิ เอวรูเปสุ เอเสว นโย. อนภิสเมตาวีนนฺติ จตุสจฺจปฏิเวธสงฺขาตํ อภิสมยํ อปฺปตฺตสตฺตานํ. อภิสเมตาวีนนฺติ อภิสมิตสจฺจานนฺติ. อิมินา นยมุเขน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ปวตฺติวารวณฺณนา.

๓. ปริฺาวารวณฺณนา

๑๖๕-๑๗๐. ปริฺาวาเร ปน าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ ติสฺโสเปตฺถ ปริฺาโย ลพฺภนฺติ. ยสฺมา จ โลกุตฺตรธมฺเมสุ ปริฺา นาม นตฺถิ; ตสฺมา อิธ ทฺเว สจฺจานิ คหิตานิ. ตตฺถ ทุกฺขสจฺจํ ปริชานาตีติ าตตีรณปริฺาวเสเนว วุตฺตํ. สมุทยสจฺจํ ปชหตีติ าตปหานปริฺาวเสน. อิติ อิมาสํ ปริฺานํ วเสน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ปริฺาวารวณฺณนา.

สจฺจยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สงฺขารยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวารวณฺณนา

. อิทานิ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสํ สงฺคณฺหิตฺวา สจฺจยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส สงฺขารยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา, อนฺตรวาราทโย จ อวเสสปเภทา เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส – ปณฺณตฺติวาเร ตาว ยถา เหฏฺา ขนฺธาทโย ธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา ‘‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ; จกฺขุ จกฺขายตนํ; จกฺขุ จกฺขุธาตุ; ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ ปทโสธนวาโร อารทฺโธ. ตถา อนารภิตฺวา ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร’’ติ ปมํ ตโยปิ สงฺขารา วิภชิตฺวา ทสฺสิตา.

ตตฺถ กายสฺส สงฺขาโร กายสงฺขาโร. ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายิกา, เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘ อตฺถโต สมานํ) หิ วจนโต การณภูตสฺส กรชกายสฺส ผลภูโต เอว สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. อปโร นโย – สงฺขริยตีติ สงฺขาโร. เกน สงฺขริยตีติ? กาเยน. อยฺหิ วาโต วิย ภสฺตาย กรชกาเยน สงฺขริยตีติ. เอวมฺปิ กายสฺส สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. กาเยน กโต อสฺสาสปสฺสาสวาโตติ อตฺโถ. ‘‘ปุพฺเพว โข, อาวุโส วิสาข, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘) วจนโต ปน สงฺขโรตีติ สงฺขาโร. กึ สงฺขโรติ? วจึ. วจิยา สงฺขาโรติ วจีสงฺขาโร. วจีเภทสมุฏฺาปกสฺส วิตกฺกวิจารทฺวยสฺเสตํ นามํ. ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓; สํ. นิ. ๔.๓๔๘) วจนโตเยว ปน ตติยปเทปิ สงฺขริยตีติ สงฺขาโร. เกน สงฺขริยติ? จิตฺเตน. กรณตฺเถ สามิวจนํ กตฺวา จิตฺตสฺส สงฺขาโรติ จิตฺตสงฺขาโร. สพฺเพสมฺปิ จิตฺตสมุฏฺานานํ เจตสิกธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. วิตกฺกวิจารานํ ปน วจีสงฺขารภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘เปตฺวา วิตกฺกวิจาเร’’ติ วุตฺตํ.

๒-๗. อิทานิ กาโย กายสงฺขาโรติ ปทโสธนวาโร อารทฺโธ. ตสฺส อนุโลมนเย ตีณิ, ปฏิโลมนเย ตีณีติ ฉ ยมกานิ. ปทโสธนมูลจกฺกวาเร เอเกกสงฺขารมูลกานิ ทฺเว ทฺเว กตฺวา อนุโลมนเย ฉ, ปฏิโลมนเย ฉาติ ทฺวาทส ยมกานิ. สุทฺธสงฺขารวาเร ปน ยถา สุทฺธขนฺธวาราทีสุ ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา รูปํ; จกฺขุ อายตนํ, อายตนา จกฺขู’’ติอาทินา นเยน ยมกานิ วุตฺตานิ. เอวํ ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ อวตฺวา ‘‘กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร กายสงฺขาโร’’ติอาทินา นเยน กายสงฺขารมูลกานิ ทฺเว, วจีสงฺขารมูลกํ เอกนฺติ อนุโลเม ตีณิ, ปฏิโลเม ตีณีติ สพฺพานิปิ สุทฺธิกวาเร ฉ ยมกานิ วุตฺตานิ. กึ การณา? สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺถาภาวโต. ยถา หิ ขนฺธยมกาทีสุ รูปาทิวิสิฏฺานํ ขนฺธานํ จกฺขาทิวิสิฏฺานฺจ อายตนาทีนํ อธิปฺเปตตฺตา ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา รูปํ, จกฺขุ อายตนํ, อายตนา จกฺขู’’ติ สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺโถ อตฺถิ. เอวมิธ ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ นตฺถิ. กายสงฺขาโรติ ปน ทฺวีหิปิ ปเทหิ เอโกว อตฺโถ ลพฺภติ. อสฺสาโส วา ปสฺสาโส วาติ สุทฺธิกเอเกกปทวเสน อตฺถาภาวโต ‘‘กาโย สงฺขาโร, สงฺขารา กาโย’’ติ น วุตฺตํ. ‘‘กาโย กายสงฺขาโร’’ติอาทิ ปน วตฺตพฺพํ สิยา. ตมฺปิ กายวจีจิตฺตปเทหิ อิธ อธิปฺเปตานํ สงฺขารานํ อคฺคหิตตฺตา น ยุชฺชติ. สุทฺธสงฺขารวาโร เหส. ปทโสธเน ปน วินาปิ อตฺเถน วจนํ ยุชฺชตีติ ตตฺถ โส นโย คหิโตว. อิธ ปน กายสงฺขารสฺส วจีสงฺขาราทีหิ, วจีสงฺขารสฺส จ จิตฺตสงฺขาราทีหิ, จิตฺตสงฺขารสฺส จ กายสงฺขาราทีหิ, อฺตฺตา ‘‘กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, กายสงฺขาโร’’ติ เอเกกสงฺขารมูลกานิ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ ยมกานิ ยุชฺชนฺติ. เตสุ อคฺคหิตคฺคหเณน ตีเณว ลพฺภนฺติ. ตสฺมา ตาเนว ทสฺเสตุํ อนุโลมนเย ตีณิ, ปฏิโลมนเย ตีณีติ ฉ ยมกานิ วุตฺตานิ. สุทฺธสงฺขารมูลจกฺกวาโร ปเนตฺถ น คหิโตติ. เอวํ ปณฺณตฺติวารสฺส อุทฺเทสวาโร เวทิตพฺโพ.

๘-๑๘. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อนุโลเม ตาว ยสฺมา น กายาทโยว กายสงฺขาราทีนํ นามํ, ตสฺมา โนติ ปฏิเสโธ กโต. ปฏิโลเม น กาโย น กายสงฺขาโรติ โย น กาโย โส กายสงฺขาโรปิ น โหตีติ ปุจฺฉติ. กายสงฺขาโร น กาโย กายสงฺขาโรติ กายสงฺขาโร กาโย น โหติ, กายสงฺขาโรเยว ปเนโสติ อตฺโถ. อวเสสนฺติ น เกวลํ เสสสงฺขารทฺวยเมว. กายสงฺขารวินิมุตฺตํ ปน เสสํ สพฺพมฺปิ สงฺขตาสงฺขตปณฺณตฺติเภทํ ธมฺมชาตํ เนว กาโย, น กายสงฺขาโรติ อิมินา อุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ปณฺณตฺติวารวณฺณนา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๑๙. ปวตฺติวาเร ปเนตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร อุปฺปชฺชตี’’ติ กายสงฺขารมูลกานิ ทฺเว, วจีสงฺขารมูลกํ เอกนฺติ ตีเณว ยมกานิ ลพฺภนฺติ; ตานิ คหิตาเนว. ตสฺส ปฏิโลมนเยปิ โอกาสวาราทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ สพฺพวาเรสุ ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ยมกคณนา เวทิตพฺพา.

อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ ลกฺขณํ – อิมสฺมิฺหิ สงฺขารยมเก ‘‘อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ วิตกฺกวิจารานํ อุปฺปาทกฺขเณ’’ติอาทิวจนโต ปจฺจุปฺปนฺนาทิกาลเภโท ปวตฺติวเสนาปิ คเหตพฺโพ, น จุติปฏิสนฺธิวเสเนว. ‘‘ทุติยชฺฌาเน ตติยชฺฌาเน ตตฺถ กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิวจนโต จ ฌานมฺปิ โอกาสวเสน คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมตฺถ ยํ ยํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตตฺริทํ นยมุขํ – วินา วิตกฺกวิจาเรหีติ ทุติยตติยชฺฌานวเสน วุตฺตํ. เตสนฺติ เตสํ ทุติยตติยชฺฌานสมงฺคีนํ. กามาวจรานนฺติ กามาวจเร อุปฺปนฺนสตฺตานํ. รูปาวจรเทวานํ ปน อสฺสาสปสฺสาสา นตฺถิ. อรูปาวจรานํ รูปเมว นตฺถิ. วินา อสฺสาสปสฺสาเสหีติ รูปารูปภเวสุ นิพฺพตฺตสตฺตานํ วิตกฺกวิจารุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๑. ปมชฺฌาเน กามาวจเรติ กามาวจรภูมิยํ อุปฺปนฺเน ปมชฺฌาเน. องฺคมตฺตวเสน เจตฺถ ปมชฺฌานํ คเหตพฺพํ, น อปฺปนาวเสเนว. อนปฺปนาปตฺเตปิ หิ สวิตกฺกสวิจารจิตฺเต อิทํ สงฺขารทฺวยํ อุปฺปชฺชเตว.

๒๔. จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณติ อิทํ กายสงฺขารสฺส เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺานตฺตา วุตฺตํ. อุปฺปชฺชมานเมว หิ จิตฺตํ รูปํ วา อรูปํ วา สมุฏฺาเปติ, น ภิชฺชมานํ.

๓๗. สุทฺธาวาสานํ ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเนติ ปฏิสนฺธิโต ทุติเย ภวงฺคจิตฺเต. กามฺเจตํ ปฏิสนฺธิจิตฺเตปิ วตฺตมาเน เตสํ ตตฺถ นุปฺปชฺชิตฺเถว. ยาว ปน อพฺโพกิณฺณํ วิปากจิตฺตํ วตฺตติ, ตาว นุปฺปชฺชิตฺเถว นามาติ ทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ. ยสฺส วา ฌานสฺส วิปากจิตฺเตน เต นิพฺพตฺตา, ตํ สตโสปิ สหสฺสโสปิ อุปฺปชฺชมานํ ปมจิตฺตเมว. วิปากจิตฺเตน ปน วิสทิสํ ภวนิกนฺติยา อาวชฺชนจิตฺตํ ทุติยจิตฺตํ นาม. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๔๔. ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคีนนฺติ สพฺพปจฺฉิเมน อปฺปฏิสนฺธิกจิตฺเตน สมงฺคีภูตานํ ขีณาสวานํ. อวิตกฺกอวิจารํ ปจฺฉิมจิตฺตนฺติ รูปาวจรานํ ทุติยชฺฌานิกาทิจุติจิตฺตวเสน, อรูปาวจรานฺจ จตุตฺถชฺฌานิกจุติจิตฺตวเสเนตํ วุตฺตํ. เตสนฺติ เตสํ ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคีอาทีนํ.

๗๙. ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ เอตฺถ นิยมโต กายสงฺขารสฺส จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต อามนฺตาติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ. น จิตฺตสงฺขารสฺส กายสงฺขาเรน สทฺธึ. กึ การณา? จิตฺตสงฺขาโร หิ กายสงฺขาเรน วินาปิ อุปฺปชฺชติ จ นิรุชฺฌติ จ. กายสงฺขาโร ปน จิตฺตสมุฏฺาโน อสฺสาสปสฺสาสวาโต. จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว อฺานิ โสฬสจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ติฏฺติ. เตสํ โสฬสนฺนํ สพฺพปจฺฉิเมน สทฺธึ นิรุชฺฌตีติ เยน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ. น กสฺสจิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา นิรุชฺฌติ, นาปิ ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา อุปฺปชฺชติ. เอสา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ธมฺมตาติ นิยมโต จิตฺตสงฺขาเรน สทฺธึ เอกกฺขเณ นิรุชฺฌนโต อามนฺตาติ วุตฺตํ. ยํ ปน วิภงฺคปฺปกรณสฺส สีหฬฏฺกถายํ ‘‘จิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ สตฺตรสมสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา วิรูชฺฌติ. อฏฺกถาโต จ ปาฬิเยว พลวตราติ ปาฬิยํ วุตฺตเมว ปมาณํ.

๑๒๘. ยสฺส กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌตีติ เอตฺถ ยสฺมา กายสงฺขาโร จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชติ, น จ ตสฺมึ ขเณ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺมา โนติ ปฏิเสโธ กโตติ. อิมินา นยมุเขน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปริฺาวาโร ปากติโกเยวาติ.

ปวตฺติวารวณฺณนา.

สงฺขารยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนุสยยมกํ

ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา

. อิทานิ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสํ สงฺคณฺหิตฺวา สงฺขารยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส อนุสยยมกสฺส อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ ปาฬิววตฺถานํ ตาว เวทิตพฺพํ – อิมสฺมิฺหิ อนุสยยมเก ขนฺธยมกาทีสุ วิย เทสนํ อกตฺวา อฺเน นเยน ปาฬิเทสนา กตา. กถํ? ปมํ ตาว ปริจฺเฉทโต, อุทฺเทสโต, อุปฺปตฺติฏฺานโตติ ตีหากาเรหิ อนุสเย คหาเปตุํ ปริจฺเฉทวาโร, ปริจฺฉินฺนุทฺเทสวาโร, อุปฺปตฺติฏฺานวาโรติ, ตโย วารา เทสิตา. ตโต สตฺตนฺนํ มหาวารานํ วเสน อนุสเย โยเชตฺวา ยมกเทสนา กตา. ตตฺถ สตฺตานุสยาติ อยํ ‘‘สตฺเตว, น ตโต อุทฺธํ, น เหฏฺา’’ติ คณนปริจฺเฉเทน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุสยานํ เทสิตตฺตา ปริจฺเฉทวาโร นาม. กามราคานุสโย…เป… อวิชฺชานุสโยติ อยํ ปริจฺเฉทวาเรน ปริจฺฉินฺนานํ นามมตฺตํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อิเม นาม เต’’ติ เทสิตตฺตา ปริจฺฉินฺนุทฺเทสวาโร นาม. กตฺถ กามราคานุสโย อนุเสติ…เป… เอตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตีติ อยํ ‘‘อิเมสุ นาม าเนสุ อิเม อนุสยา อนุเสนฺติ’’ติ เอวํ เตสํเยว อุปฺปตฺติฏฺานสฺส เทสิตตฺตา อุปฺปตฺติฏฺานวาโร นาม.

เยสํ ปน สตฺตนฺนํ มหาวารานํ วเสน อนุสเย โยเชตฺวา ยมกเทสนา กตา, เตสํ อิมานิ นามานิ – อนุสยวาโร, สานุสยวาโร, ปชหนวาโร, ปริฺาวาโร, ปหีนวาโร, อุปฺปชฺชนวาโร ธาตุวาโรติ. เตสุ ปโม อนุสยวาโร. โส อนุโลมปฏิโลมนยวเสน ทุวิโธ โหติ.

ตตฺถ อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส อนุเสติ, ยตฺถ อนุเสติ, ยสฺส ยตฺถ อนุเสตี’’ติ ปุคฺคโลกาสตทุภยวเสน ตโย อนฺตรวารา โหนฺติ. เตสุ ปเม ปุคฺคลวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสติ; ยสฺส วา ปน ปฏิฆานุสโย อนุเสติ, ตสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ; ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส มานานุสโย, ทิฏฺานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, ภวราคานุสโย, อวิชฺชานุสโย อนุเสติ. ยสฺส วา ปน อวิชฺชานุสโย อนุเสติ, ตสฺส กามราคานุสโย อนุเสตี’’ติ กามราคานุสยมูลกานิ ฉ ยมกานิ. ปุน อคหิตคฺคหณวเสน ปฏิฆานุสยมูลกานิ ปฺจ, มานานุสยมูลกานิ จตฺตาริ, ทิฏฺานุสยมูลกานิ ตีณิ, วิจิกิจฺฉานุสยมูลกานิ ทฺเว, ภวราคานุสยมูลกํ เอกนฺติ เอวํ สพฺพานิปิ เอกมูลกานิ เอกวีสติ. ปุน ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ อนุเสนฺตี’’ติ เอวํ อาคตานิ ทุกมูลกานิ ปฺจ, ติกมูลกานิ จตฺตาริ, จตุกฺกมูลกานิ ตีณิ, ปฺจกมูลกานิ ทฺเว, ฉกฺกมูลกํ เอกนฺติ อปรานิปิ ปนฺนรส โหนฺติ. ตานิ ปุริเมหิ เอกวีสติยา สทฺธึ ฉตฺตึสาติ ปุคฺคลวาเร ฉตฺตึส ยมกานิ. ตถา โอกาสวาเร, ตถา ปุคฺคโลกาสวาเรติ สพฺพานิปิ อนุโลมนเย อฏฺสตํ ยมกานิ. ตถา ปฏิโลมนเยติ อนุสยวาเร โสฬสาธิกานิ ทฺเว ยมกสตานิ, ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ เวทิตพฺพา. ยถา เจตฺถ, เอวํ สานุสยวาโร, ปชหนวาโร, ปริฺาวาโร, ปหีนวาโร, อุปฺปชฺชนวาโรติ อิเมสมฺปิ ปฺจนฺนํ วารานํ, เอเกกสฺมึ ยมกคณนา; ยมกทิคุณา ปุจฺฉา, ปุจฺฉาทิคุณา จ อตฺถา เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ ปุริเมสุ ตีสุ วาเรสุ วิเสโส. โอกาสวาเร ‘‘ยตฺถ ตตฺถา’’ติ อวตฺวา ยโต ตโตติ นิสฺสกฺกวจเนน เทสนา กตา. เสสํ ตาทิสเมว.

โย ปนายํ สพฺพปจฺฉิโม ธาตุวาโร นาม, โส ปุจฺฉาวาโร, วิสฺสชฺชนาวาโรติ ทฺวิธา ิโต. ตสฺส ปุจฺฉาวาเร กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺสาติ วตฺวา ‘‘กามธาตุํ วา ปน อุปปชฺชนฺตสฺส กามธาตุยา จุตสฺสา’’ติ น วุตฺตํ. กึ การณา? อตฺถวิเสสาภาวโต. ทฺเวปิ หิ เอตา ปุจฺฉา เอกตฺถาเยว, ตสฺมา เอเกกสฺมา ยมกา เอเกกเมว ปุจฺฉํ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพปุจฺฉาวสาเน ปุจฺฉานุกฺกเมเนว ‘‘กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ สตฺต อนุสยา อนุเสนฺตี’’ติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ กตํ.

ตตฺถ ‘‘กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส, รูปธาตุํ, อรูปธาตุํ, นกามธาตุํ, นรูปธาตุํ นอรูปธาตุํ, อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติ ฉ สุทฺธิกปุจฺฉา; ‘‘นกามธาตุํ, นอรูปธาตุํ, นรูปธาตุํ; นอรูปธาตุํ, นกามธาตุํ, นรูปธาตุํ, อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติ ติสฺโส มิสฺสกา ปุจฺฉา จาติ กามธาตุมูลกา นว อนุโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตถา รูปธาตุมูลกา นว, อรูปธาตุมูลกา นวาติ สตฺตวีสติ อนุโลมปุจฺฉา โหนฺติ. ตถา นกามธาตุนรูปธาตุนอรูปธาตุมูลกา สตฺตวีสติ ปฏิโลมปุจฺฉา. ปุน ‘‘นกามธาตุยา, นอรูปธาตุยา, นรูปธาตุยา, นอรูปธาตุยา, นกามธาตุยา, นอรูปธาตุยา’’ติ สตฺตวีสติ ทุกมูลกา ปุจฺฉาติ สพฺพาปิ สมฺปิณฺฑิตา เอกาสีติ ปุจฺฉา โหนฺติ. ตาสํ วเสเนตฺถ วิสฺสชฺชนํ กตนฺติ อิทํ ธาตุวาเร ปาฬิววตฺถานํ. เอวํ ตาว สกเลปิ อนุสยยมเก ปาฬิววตฺถานเมตํ เวทิตพฺพํ.

อาทิโต ปฏฺาย ปเนตฺถ ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตตฺถ ตตฺถ อยํ วินิจฺฉยกถา – อนุสยาติ เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยนฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม, ตสฺมา อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยนฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร. อปฺปหีนากาโร จ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – อปฺปหีนากาโร อนุสโย, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตกิเลโส วุจฺจติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

ตตฺริทํ ปมาณํ – อภิธมฺเม ตาว กถาวตฺถุสฺมึ (กถา. ๕๕๔ อาทโย) ‘‘อนุสยา อพฺยากตา, อนุสยา อเหตุกา, อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคตานุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคเห ปน โมหสฺส ปทภาชเน ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ (ธ. ส. ๓๙๐) อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ อวิชฺชานุสยสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. อิมสฺมึเยว อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. กามราคานุสโยติอาทีสุ กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา.

อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา

. อิทานิ เตสํ อุปฺปตฺติฏฺานํ ปกาเสตุํ กตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตีติอาทิมาห. ตตฺถ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสูติ กามาวจรภูมิยํ สุขาย จ อุเปกฺขาย จาติ ทฺวีสุ เวทนาสุ. เอตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตีติ อิมาสุ ทฺวีสุ เวทนาสุ อุปฺปชฺชติ. โส ปเนส อกุสลเวทนาสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ อนุเสติ. อกุสลาย สุขาย เวทนาย เจว อุเปกฺขาย เวทนาย จ สหชาโตปิ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตา เวทนา อารมฺมณํ กตฺวาปิ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อวเสสา ปน กามาวจรกุสลวิปากกิริยเวทนา อารมฺมณเมว กตฺวา อุปฺปชฺชติ. กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุสยมาโน เจส ตาหิ เวทนาหิ สมฺปยุตฺเตสุ สฺาสงฺขารวิฺาเณสุปิ อนุเสติเยว. น หิ สกฺกา เวทนาสุ อนุสยมาเนน ตํสมฺปยุตฺเตหิ สฺาทีหิ สทฺธึ อสหชาเตน วา ภวิตุํ, ตํสมฺปยุตฺเต วา สฺาทโย อารมฺมณํ อกตฺวา อุปฺปชฺชิตุํ. เอวํ สนฺเตปิ ปน ยสฺมา อิมา ทฺเว เวทนาว สาตสนฺตสุขตฺตา อสฺสาทฏฺเน กามราคานุสยสฺส อุปฺปตฺติยา เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานา, ตสฺมา ‘‘ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ กามราคานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ, โอฬาริกวเสน หิ โพธเนยฺเย สุขํ โพเธตุนฺติ.

นนุ เจส อารมฺมณวเสน อนุสยมาโน น เกวลํ อิมาสุ ทฺวีสุ เวทนาสุ เจว เวทนาสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ จ อนุเสติ, อิฏฺเสุ ปน รูปาทีสุปิ อนุเสติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ วิภงฺคปฺปกรเณ (วิภ. ๘๑๖) ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสตี’’ติ อิมสฺมิมฺปิ ปกรเณ อนุสยวารสฺส ปฏิโลมนเย วุตฺตํ. ‘‘ยตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ ตตฺถ ทิฏฺานุสโย นานุเสตีติ ทุกฺขาย เวทนาย รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ, โน จ ตตฺถ ทิฏฺานุสโย นานุเสติ. อปริยาปนฺเน เอตฺถ กามราคานุสโย จ นานุเสติ, ทิฏฺานุสโย จ นานุเสตี’’ติ. เอตฺถ หิ ทุกฺขเวทนาย เจว รูปธาตุอาทีสุ จ นานุเสตีติ วุตฺตตฺตา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ ทุกฺขเวทนํ สโอกาเส รูปารูปาวจรธมฺเม นว จ, โลกุตฺตรธมฺเม เปตฺวา อวเสเสสุ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ อนุเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ อิธ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อโนฬาริกตฺตา. เหฏฺา วุตฺตนเยน หิ เวทนานฺเว โอฬาริกตฺตา อิเมสํ ปน อโนฬาริกตฺตา เอเตสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ น วุตฺตํ, อตฺถโต ปน ลพฺภติ. ตสฺมา เอเตสุปิ กามราคานุสโย อนุเสติเยวาติ เวทิตพฺโพ. น หิ สตฺถา สพฺพํ สพฺพตฺถ กเถติ. โพธเนยฺยสตฺตานํ ปน วเสน กตฺถจิ ยํ ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ กเถติ, กตฺถจิ น กเถติ. ตถา หิ อเนน กตฺถจิ ทิฏฺานุสโย อนุเสตีติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ ทิฏฺานุสโย อนุเสตี’’ติ ยํ ลพฺภติ ตํ สพฺพํ กถิตํ. อปรสฺมึ าเน วิสฺสชฺชนฺเตน ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อนุเสนฺติ, กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ กามราคานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อนุเสนฺติ, ทุกฺขาย เวทนาย เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ อวิชฺชานุสโย จ อนุเสนฺตี’’ติ ยํ ลพฺภติ ตํ สพฺพํ อกเถตฺวา รูปธาตุอรูปธาตูหิ สทฺธึ ติสฺโส เวทนาว กถิตา. เวทนาสมฺปยุตฺตา ปน อรูปธมฺมา, สพฺพฺจ รูปํ น กถิตํ. กิฺจาปิ น กถิตํ, ทิฏฺานุสโย ปเนตฺถ อนุเสติเยว. เอวเมว กิฺจาปิ อิธ รูปาทิอิฏฺารมฺมณํ น กถิตํ, กามราคานุสโย ปเนตฺถ อนุเสติเยวาติ. เอวํ ตาว กามราคานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

ปฏิฆานุสยสฺส ปน ‘‘ทุกฺขาย เวทนายา’’ติ วจนโต ทฺเว โทมนสฺสเวทนา กายวิฺาณสมฺปยุตฺตา ทุกฺขเวทนาติ ติสฺโส เวทนา อนุสยนฏฺานํ. โส ปเนส โทมนสฺสเวทนาสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จาติ ทฺวีหากาเรหิ อนุเสติ. อวเสสทุกฺขเวทนาย ปน อารมฺมณวเสเนว อนุเสติ. ตาสุ เวทนาสุ อนุสยมาโน เจส ตาหิ สมฺปยุตฺเตสุ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ อนุเสติเยว. ยาย หิ เวทนาย เอส สหชาโต, ตํสมฺปยุตฺเตหิ สฺาทีหิปิ สหชาโตว. ยา จ เวทนา อารมฺมณํ กโรติ, ตาหิ สมฺปยุตฺเต สฺาทโยปิ กโรติเยว. เอวํ สนฺเตปิ ปน ยสฺมา ทุกฺขเวทนาว อสาตทุกฺขเวทยิตตฺตา นิรสฺสาทฏฺเน ปฏิฆานุสยสฺส อุปฺปตฺติยา เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ อธิกา; ตสฺมา ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย เอตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ, โอฬาริกวเสน หิ โพธเนยฺเย สุขํ โพเธตุนฺติ.

นนุ เจส อารมฺมณวเสน อนุสยมาโน น เกวลํ ทุกฺขเวทนาย เจว ตํสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ จ อนุเสติ, อนิฏฺเสุ ปน รูปาทีสุปิ อนุเสติเยว? วุตฺตมฺปิ เจตํ วิภงฺคปฺปกรเณ (วิภ. ๘๑๖) ‘‘ยํ โลเก อปฺปิยรูปํ อสาตรูปํ, เอตฺถ สตฺตานํ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ อิมสฺมิมฺปิ ปกรเณ อนุสยวารสฺส ปฏิโลมนเย วุตฺตํ – ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ เอตฺถ ปฏิฆานุสโย นานุเสติ, โน จ ตตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ. รูปธาตุยา อรูปธาตุยา อปริยาปนฺเน เอตฺถ ปฏิฆานุสโย จ นานุเสติ, กามราคานุสโย จ นานุเสตี’’ติ. เอตฺถ หิ ทฺวีสุ กามาวจรเวทนาสุ เจว รูปธาตุอาทีสุ จ นานุเสตีติ วุตฺตตฺตา สสมฺปยุตฺตธมฺมา ทฺเว เวทนา สโอกาเส รูปารูปาวจรธมฺเม นว จ, โลกุตฺตรธมฺเม เปตฺวา อวเสเสสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ อิธ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อโนฬาริกตฺตา. เหฏฺา วุตฺตนเยน หิ ทุกฺขเวทนาย เอว โอฬาริกตฺตา อิเมสํ ปน อโนฬาริกตฺตา เอเตสุ รูปาทีสุ อนุเสตีติ น วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ลพฺภติ, ตสฺมา เอเตสุปิ ปฏิฆานุสโย อนุเสติเยวาติ เวทิตพฺโพ.

กึ ปน อิตรา ทฺเว เวทนา อิฏฺารมฺมณํ วา ปฏิฆสฺส อารมฺมณํ น โหนฺตีติ? โน น โหนฺติ. ปริหีนชฺฌานสฺส วิปฺปฏิสารวเสน สสมฺปยุตฺตธมฺมา ตา เวทนา อารพฺภ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อิฏฺารมฺมณสฺส จ ปฏิลทฺธสฺส วิปริณามํ วา อปฺปฏิลทฺธสฺส อปฺปฏิลาภํ วา สมนุสฺสรโตปิ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. โทมนสฺสมตฺตเมว ปน ตํ โหติ, น ปฏิฆานุสโย. ปฏิฆานุสโย หิ อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิหฺนวเสน อุปฺปนฺโน ถามคโต กิเลโส, ตสฺมา เอตฺถ โทมนสฺเสน สทฺธึ ปฏิโฆ อุปฺปนฺโนปิ อตฺตโน ปฏิฆกิจฺจํ อกรณภาเวน เอว ปฏิฆานุสโย น โหติ อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ. ยถา หิ ปาณาติปาตเจตนาย สทฺธึ อุปฺปนฺโนปิ พฺยาปาโท มโนกมฺมํ นาม น โหติ อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ, เอวํ ปฏิฆานุสโย น โหติ, อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ เอกจฺจํ อิฏฺารมฺมณํ เนกฺขมฺมสิตมฺปิ วา โทมนสฺสํ สนฺธาย ‘‘ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ ปฏิฆํ เตน ปชหติ น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). เอวํ ปฏิฆานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

มานานุสยสฺส ปน ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสู’’ติอาทิวจนโต ทฺเว กามาวจรเวทนา รูปารูปธาตุโย จาติ อิทํ ติวิธํ อนุสยนฏฺานํ. ตสฺส อกุสลาสุ เวทนาสุ กามราคานุสยสฺส วิย สหชาตานุสยตา เวทิตพฺพา. สสมฺปยุตฺตธมฺมาสุ ปน สพฺพาสุปิ กามาวจราสุ สุขอทุกฺขมสุขเวทนาสุ รูปารูปธาตูสุ จ อารมฺมณวเสเนว อนุเสติ. อนุสยวารสฺส ปน ปฏิโลมนเย ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย อปริยาปนฺเน เอตฺถ กามราคานุสโย จ นานุเสติ, มานานุสโย จ นานุเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา เปตฺวา ทุกฺขเวทนฺเจว นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมฺจ เสสรูปารูปธมฺเมสุปิ อยํ อนุเสติเยวาติ. เอวํ มานานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยา ปน เกวลํ โลกุตฺตรธมฺเมสฺเวว นานุเสนฺติ. เตภูมเกสุ ปน สพฺเพสุปิ อนุเสนฺติเยว. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ ทิฏฺานุสโย อนุเสติ, เอตฺถ วิจิกิจฺฉานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตตฺถ สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสูติ สํสารวฏฺฏนิสฺสิตฏฺเน สกฺกายปริยาปนฺเนสุ สพฺพธมฺเมสูติ อตฺโถ. ตตฺถ ปเนเต ปฺจสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานุสยนวเสน อนุเสนฺติ. เต วา ปน ปฺจ จิตฺตุปฺปาเท อฺเ วา เตภูมกธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล อารมฺมณานุสยนวเสน อนุเสนฺตีติ. เอวํ ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

ภวราคานุสโย ปน กิฺจาปิ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ จตูสุ จิตฺเตสุ อุปฺปชฺชนโต สหชาตานุสยนวเสน ‘‘กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตี’’ติ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. กามธาตุยํ ปเนส ทฺวีหิ เวทนาหิ สทฺธึ อุปฺปชฺชมาโนปิ รูปารูปาวจรธมฺมเมว ปฏิลภติ. กามธาตุยา ปริยาปนฺนํ เอกธมฺมมฺปิ อารมฺมณํ น กโรติ, ตสฺมา อารมฺมณานุสยนวเสน นิยมํ กตฺวา ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ ภวราคานุสโย อนุเสตี’’ติ วุตฺตํ. อปิจ ราโค นาเมส กามราคภวราควเสน ทุวิโธ. ตตฺถ กามราโค กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตีติ วุตฺโต. สเจ ปน ภวราโคปิ กามราโค วิย เอวํ วุจฺเจยฺย, กามราเคน สทฺธึ เทสนา สํกิณฺณา วิย ภเวยฺยาติ ราคกิเลสํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา กามราคโต ภวราคสฺส วิเสสทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ เทสนา กตาติ. เอวํ ภวราคานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

อวิชฺชานุสโย ปน สพฺเพสุปิ เตภูมกธมฺเมสุ อนุเสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เอตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตสฺส ทฺวาทสสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานุสยตา เวทิตพฺพา. อารมฺมณกรณวเสน ปน น กิฺจิ เตภูมกธมฺมํ อารพฺภ น ปวตฺตตีติ. เอวํ อวิชฺชานุสยสฺส อนุสยนฏฺานํ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว ปริจฺเฉทวารปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารอุปฺปตฺติฏฺานวาเรสุ วินิจฺฉยกถา.

อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา.

มหาวาโร

๑. อนุสยวารวณฺณนา

. สตฺตนฺนํ ปน มหาวารานํ ปเม อนุสยวาเร ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ เอตฺถ ยเทตํ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ, ตํ ทุทฺทินฺนํ วิย ขายติ. กสฺมา? กามราคปฏิฆานํ เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติโต. ยถา หิ ‘‘ยสฺส มนายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ธมฺมายตนํ อุปฺปชฺชตีติ ‘อามนฺตา’, อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร จ อุปฺปชฺชติ, วจีสงฺขาโร จ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ มนายตนธมฺมายตนานิ กายสงฺขารวจีสงฺขารา จ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ, น ตถา กามราคปฏิฆา. กามราโค หิ อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชติ. ปฏิโฆ ทฺวีสุ โทมนสฺสสหคเตสูติ, นตฺถิ เนสํ เอกกฺขเณ อุปฺปตฺติ; ตสฺมา เอตฺถ ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กตฺตพฺโพ สิยา. ตํ อกตฺวา ปน ‘อามนฺตา’ติ ปฏิวจนสฺส ทินฺนตฺตา เหฏฺายมเกสุ วิย เอตฺถ ขณปจฺจุปฺปนฺนวเสน วตฺตมานโวหารํ อคฺคเหตฺวา อฺถา คเหตพฺโพ.

กถํ? อปฺปหีนวเสน. อปฺปหีนตฺหิ สนฺธาย อยํ ‘‘อนุเสตี’’ติ วตฺตมานโวหาโร วุตฺโต, น ขณปจฺจุปฺปนฺนตํ. ยสฺมา จ อปฺปหีนตํ สนฺธาย วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ ปุจฺฉาย ยสฺส กามราคานุสโย อปฺปหีโน, น อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิโต, ตสฺส ปฏิฆานุสโยปิ อปฺปหีโนติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา จ เตสุ ยสฺเสโก อปฺปหีโน, ตสฺส อิตโรปิ อปฺปหีโนว โหติ, ตสฺมา ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ, ยํ อุปริ อุปฺปชฺชนวาเร ‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ; ตตฺถ กถํ อตฺโถ คเหตพฺโพติ? ตตฺถาปิ อปฺปหีนวเสเนว อุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุปฺปตฺติยา อนิวาริตวเสน วา. ยถา หิ จิตฺตกมฺมาทีนิ อารภิตฺวา อปรินิฏฺิตกมฺมนฺตา จิตฺตการาทโย เตสํ กมฺมนฺตานํ อกรณกฺขเณปิ มิตฺตสุหชฺชาทีหิ ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน ‘‘อิเมสุ ทิวเสสุ กึ กโรถา’’ติ วุตฺตา, ‘‘จิตฺตกมฺมํ กโรม, กฏฺกมฺมํ กโรมา’’ติ วทนฺติ. เต กิฺจาปิ ตสฺมึ ขเณ น กโรนฺติ อวิจฺฉินฺนกมฺมนฺตตฺตา ปน กตขณฺจ กตฺตพฺพขณฺจ อุปาทาย กโรนฺติเยว นาม โหนฺติ. เอวเมว ยมฺหิ สนฺตาเน อนุสยา อปฺปหีนา, ยมฺหิ วา ปน เนสํ สนฺตาเน อุปฺปตฺติปจฺจเย สติ อุปฺปตฺติ อนิวาริตา, ตตฺถ อนุปฺปชฺชนกฺขเณปิ อุปฺปนฺนปุพฺพฺเจว กาลนฺตเร อุปฺปชฺชนกฺจ อุปาทาย ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชติเยว นามาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ วิสฺสชฺชเนสุ เอเสว นโย. โน จ ตสฺสาติ อิทํ อนาคามิสฺส กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสโต ปหีนตฺตา วุตฺตํ. ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามีนํ. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานนฺติ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ. ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย.

๑๔. โอกาสวารสฺส ปมทุติยปุจฺฉาสุ ยสฺมา กามราคานุสโย กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสติ, ปฏิฆานุสโย ทุกฺขเวทนาย; ตสฺมา ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กโต. ตติยปุจฺฉายํ อุภินฺนมฺปิ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุสยนโต ‘อามนฺตา’ติ ปฏิวจนํ ทินฺนํ. รูปธาตุอรูปธาตุยา ปน มานานุสยสฺส กามราคานุสเยน สทฺธึ อสาธารณํ อุปฺปตฺติฏฺานํ. ตสฺมา โน จ ตตฺถ กามราคานุสโยติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺเพสํ อุปฺปตฺติฏฺานวารํ โอโลเกตฺวา สาธารณาสาธารณํ อุปฺปตฺติฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

๒๐. ทุกมูลกปุจฺฉายํ ยสฺมา กามราคปฏิฆานุสยา นาปิ เอกสฺมึ าเน อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกํ ธมฺมํ อารมฺมณํ กโรนฺติ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฏิกฺเขโป กโต. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. ยสฺมึ อิเม ทฺเว อนุสยา อนุสเยยฺยุํ, ตํ านเมว นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘กตฺถ มานานุสโย อนุเสตี’’ติ อยํ ปุจฺฉา อปุจฺฉาเยวาติ. อฺเสุปิ เอวรูเปสุ เอเสว นโย.

๒๗. ปุคฺคโลกาสวาเร จตุนฺนนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ.

๓๖. ปฏิโลมนเย ยสฺส กามราคานุสโย นานุเสตีติ อยํ ปุจฺฉา อนาคามึ คเหตฺวา ปุจฺฉติ.

๕๖. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สพฺพตฺถ กามราคานุสโย นานุเสตีติ อนาคามิอรหนฺตานํ. กามธาตุยา ตีสุ เวทนาสูติ จ เวทนาคฺคหเณน เวทนาสมฺปยุตฺตกานมฺปิ เตสํ วตฺถารมฺมณานมฺปีติ สพฺเพสมฺปิ กามาวจรธมฺมานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อยํ อนุสยวาเร วินิจฺฉยกถา.

อนุสยวารวณฺณนา.

๒. สานุสยวารวณฺณนา

๖๖-๑๓๑. สานุสยวาเร ปน โย กามราคานุสเยน สานุสโยติ ยถา เอกนฺตริกชราทิโรเคน อาพาธิโก ยาว ตมฺหา โรคา น มุจฺจติ, ตาว ตสฺส โรคสฺส อนุปฺปตฺติกฺขเณปิ สโรโคเยว นาม โหติ. เอวํ สสํกิเลสสฺส วฏฺฏคามิสตฺตสฺส ยาว อริยมคฺเคน อนุสยา สมุคฺฆาตํ น คจฺฉนฺติ, ตาว เตสํ อนุสยานํ อนุปฺปตฺติกฺขเณปิ สานุสโยเยว นาม โหติ. เอวรูปํ สานุสยตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อนุสยวารสทิสเมว.

โอกาสวาเร ปน ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ มานานุสเยน สานุสโย’’ติ วุตฺเต ตาสุ ธาตูสุ ปุคฺคลสฺส สานุสยตา ปฺาเยยฺย, อนุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ น ปฺาเยยฺย. อนุสยสฺส จ อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนตฺถํ อยํ วาโร อารทฺโธ, ตสฺมา ตโต มานานุสเยน สานุสโยติ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ ตโต ธาตุทฺวยโต อุปฺปนฺเนน มานานุสเยน สานุสโยติ อนุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ ทสฺสิตํ โหติ. อิมสฺส ปน ปฺหสฺส อตฺเถ อวุตฺเต อาทิปฺหสฺส อตฺโถ ปากโฏ น โหตีติ ปมํ น วุตฺโต, ตสฺมา โส เอวํ เวทิตพฺโพ. ยโต กามราคานุสเยนาติ ยโต อุปฺปนฺเนน กามราคานุสเยน สานุสโย, กึ โส ตโต อุปฺปนฺเนน ปฏิฆานุสเยนปิ สานุสโยติ? ยสฺมา ปเนเต ทฺเว เอกสฺมา านา นุปฺปชฺชนฺติ; ตสฺมา ‘‘โน’’ติ ปฏิเสโธ กโต. อรหา สพฺพตฺถาติ อรหา สพฺพธมฺเมสุ อุปฺปชฺชนเกน เกนจิ อนุสเยน นิรานุสโยติ. อิมินา อตฺถวเสน นิปฺปเทสฏฺาเนสุ ภุมฺมวจนเมว กตนฺติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

สานุสยวารวณฺณนา.

๓. ปชหนวารวณฺณนา

๑๓๒-๑๙๗. ปชหนวาเร ปชหตีติ เตน เตน มคฺเคน ปหานปริฺาวเสน ปชหติ, อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทติ. อามนฺตาติ อนาคามีมคฺคฏฺํ สนฺธาย ปฏิวจนํ. ตเทกฏฺํ ปชหตีติ ปหาเนกฏฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. โนติ อรหตฺตมคฺคฏฺํ สนฺธาย ปฏิเสโธ.

ยโต กามราคานุสยํ ปชหตีติ ยโต อุปฺปชฺชนกํ กามราคานุสยํ ปชหตีติ อตฺโถ. อฏฺมโกติ อรหตฺตผลฏฺโต ปฏฺาย ปจฺโจโรหนคณนาย คณิยมาโน โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ อฏฺมโก นาม. ทกฺขิเณยฺยคณนาย หิ อรหา อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ปโม, อรหตฺตมคฺคฏฺโ ทุติโย, อนาคามี ตติโย…เป… โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ อฏฺโม. โส อิธ ‘‘อฏฺมโก’’ติ วุตฺโต. นามสฺาเยว วา เอสา ตสฺสาติ. อนาคามิมคฺคสมงฺคิฺจ อฏฺมกฺจ เปตฺวา อวเสสาติ สทฺธึ ปุถุชฺชเนน เสกฺขาเสกฺขา. เตสุ หิ ปุถุชฺชโน ปหานปริฺาย อภาเวน นปฺปชหติ. เสสา เตสํ อนุสยานํ ปหีนตฺตา. ทฺวินฺนํ มคฺคสมงฺคีนนฺติ ทฺเว มคฺคสมงฺคิโน เปตฺวาติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

ปชหนวารวณฺณนา.

๔. ปริฺาวารวณฺณนา

๑๙๘-๒๖๓. ปริฺาวาเร ปริชานาตีติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อยมฺปิ หิ วาโร ปชหนวาโร วิย มคฺคฏฺานฺเว วเสน วิสฺสชฺชิโตติ.

ปริฺาวารวณฺณนา.

๕. ปหีนวารวณฺณนา

๒๖๔-๒๗๔. ปหีนวาเร ผลฏฺวเสเนว เทสนา อารทฺธา. อนาคามิสฺส หิ อุโภเปเต อนุสยา ปหีนา, ตสฺมา ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ.

๒๗๕-๒๙๖. โอกาสวาเร ยตฺถ กามราคานุสโย ปหีโน ตตฺถ ปฏิฆานุสโย ปหีโนติ ปุจฺฉิตฺวา น วตฺตพฺโพ ปหีโนติ วา อปฺปหีโนติ วาติ วุตฺตํ ตํ กสฺมาติ? อุปฺปตฺติฏฺานสฺส อสาธารณตฺตา. อฺํ หิ กามราคานุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ, อฺํ ปฏิฆานุสยสฺส. อภาวิตมคฺคสฺส จ ยตฺถ อนุสโย อุปฺปชฺชติ, มคฺเค ภาวิเต ตตฺเถว โส ปหีโน นาม โหติ. ตตฺถ ยสฺมา เนว กามราคานุสยฏฺาเน ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชติ, น ปฏิฆานุสยฏฺาเน กามราคานุสโย, ตสฺมา ตตฺถ โส ปหีโนติ วา อปฺปหีโนติ วา น วตฺตพฺโพ. โส หิ ยสฺมึ อตฺตโน อุปฺปตฺติฏฺาเน กามราคานุสโย ปหีโน, ตสฺมึ อปฺปหีนตฺตา ตตฺถ ปหีโนติ น วตฺตพฺโพ. ยํ กามราคานุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานํ, ตสฺมึ อฏฺิตตฺตา ตตฺถ อปฺปหีโนติ น วตฺตพฺโพ.

ยตฺถ กามราคานุสโย ปหีโน, ตตฺถ มานานุสโย ปหีโนติ เอตฺถ ปน สาธารณฏฺานํ สนฺธาย อามนฺตาติ วุตฺตํ. กามราคานุสโย หิ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสติ. มานานุสโย ตาสุ เจว รูปารูปธาตูสุ จ. โส เปตฺวา อสาธารณฏฺานํ สาธารณฏฺาเน เตน สทฺธึ ปหีโน นาม โหติ. ตสฺมา ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพสฺมิมฺปิ โอกาสวาเร ปหีนตา จ นวตฺตพฺพตา จ เวทิตพฺพา. ‘นตฺถี’ติ อาคตฏฺาเนสุ ปน เหฏฺา วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. ปุคฺคโลกาสวาโร, โอกาสวารคติโกเยว.

๒๙๗-๓๐๗. ปฏิโลมนเย ยสฺส กามราคานุสโย อปฺปหีโนติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิวเสน ปุจฺฉติ. กิฺจาปิ หิ อิเม ทฺเว อนุสยา ปุถุชฺชนโต ปฏฺาย ยาว อนาคามิมคฺคฏฺา ฉนฺนํ ปุคฺคลานํ อปฺปหีนา. อิธ ปน ปรโต ‘‘ติณฺณํ ปุคฺคลานํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลาน’’นฺติอาทิวจนโต มคฺคฏฺา อนธิปฺเปตา, ตสฺมา ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิโนว สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานนฺติ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ. อิมินา นเยน ปุคฺคลวาเร วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๓๐๘-๓๒๙. โอกาสวารปุคฺคโลกาสวารา ปน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ.

ปหีนวารวณฺณนา.

๖. อุปฺปชฺชนวารวณฺณนา

๓๓๐. อุปฺปชฺชนวาโร อนุสยวารสทิโสเยว.

๗. ธาตุปุจฺฉาวารวณฺณนา

๓๓๒-๓๔๐. ธาตุวารสฺส ปุจฺฉาวาเร ตาว กติ อนุสยา อนุเสนฺตีติ กติ อนุสยา สนฺตานํ อนุคตา หุตฺวา สยนฺติ. กติ อนุสยา นานุเสนฺตีติ กติ อนุสยา สนฺตานํ น อนุคตา หุตฺวา สยนฺติ. กติ อนุสยา ภงฺคาติ กติ อนุสยา อนุเสนฺติ นานุเสนฺตีติ เอวํ วิภชิตพฺพาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา ปาฬิววตฺถาเน วุตฺตเมว.

๗. ธาตุวิสฺสชฺชนาวารวณฺณนา

๓๔๑-๓๔๙. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส กสฺสจิ สตฺต อนุสยา อนุเสนฺตีติ ปุถุชฺชนวเสน วุตฺตํ. กสฺสจิ ปฺจาติ โสตาปนฺนสกทาคามิวเสน วุตฺตํ. เตสฺหิ ทิฏฺานุสโย จ วิจิกิจฺฉานุสโย จ ปหีนาติ ปฺเจว อนุเสนฺติ. ตตฺถ ยถา อนุสยวาเร ‘‘อนุเสนฺตี’’ติ ปทสฺส อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ คหิโต, เอวมิธ น คเหตพฺโพ. กสฺมา? ตสฺมึ ขเณ อนุปฺปชฺชนโต. กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส หิ วิปากจิตฺตฺเจว กมฺมสมุฏฺานรูปฺจ อุปฺปชฺชติ, อกุสลจิตฺตํ นตฺถิ. อนุสยา จ อกุสลจิตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺติ, น วิปากจิตฺตกฺขเณติ ตสฺมึ ขเณ อนุปฺปชฺชนโต ตถา อตฺโถ น คเหตพฺโพ. กถํ ปน คเหตพฺโพติ? ยถา ลพฺภติ ตถา คเหตพฺโพ. กถฺจ ลพฺภติ? อปฺปหีนฏฺเน. ยถา หิ ราคโทสโมหานํ อปฺปหีนตฺตา. กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคี ปุคฺคโล ‘‘สราโค สโทโส สโมโห’’ติ วุจฺจติ, เอวํ มคฺคภาวนาย อปฺปหีนตฺตา ปฏิสนฺธิกฺขเณปิ ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส เต เต อนุสยา อนุเสนฺตีติ วุจฺจนฺติ. น เกวลฺจ วุจฺจนฺติ, อปฺปหีนตฺตา ปน เต อนุเสนฺติเยว นามาติ เวทิตพฺพา.

อนุสยา ภงฺคา นตฺถีติ ยสฺส หิ โย อนุเสติ, โส อนุเสติเยว; โย นานุเสติ, โส นานุเสติเยว. อยํ อนุเสติ จ นานุเสติ จ, อยํ สิยา อนุเสติ สิยา นานุเสตีติ, เอวํ วิภชิตพฺโพ อนุสโย นาม นตฺถิ. รูปธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ ตโยติ อนาคามิวเสน วุตฺตํ. ตสฺส หิ กามราคปฏิฆทิฏฺิวิจิกิจฺฉานุสยา จตฺตาโรปิ อนวเสสโต ปหีนา. อิตเร ตโยว อปฺปหีนา. เตน วุตฺตํ – ‘‘กสฺสจิ ตโย อนุสยา อนุเสนฺตี’’ติ.

กามธาตุนฺติ กามธาตุยา ปฏิสิทฺธตฺตา เสสา ทฺเว ธาตุโย อุปปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. สตฺเต วาติ ยสฺมา อริยสาวกสฺส รูปธาตุยา จุตสฺส กามธาตุยํ อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, ปุถุชฺชนสฺเสว โหติ, ตสฺมา สตฺเตวาติ นิยเมตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อรูปธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส สตฺเตวา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. รูปธาตุยา อุปปตฺติ นตฺถีติ กสฺมา นตฺถิ? อุปปตฺตินิปฺผาทกสฺส รูปาวจรชฺฌานสฺส อภาวา. โส หิ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ตํ ธาตุํ อุปปนฺโนติ นาสฺส ตตฺถ รูปาวจรชฺฌานํ อตฺถิ. ตทภาวา รูปธาตุยํ อุปปตฺติ นตฺถีติ เวทิตพฺพา. อรูปธาตุยา จุตสฺส น กามธาตุนฺติ เอตฺถ อรูปธาตุเยว อธิปฺเปตา. อิมินา นเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ธาตุวารวณฺณนา.

อนุสยยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. จิตฺตยมกํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๑-๖๒. อิทานิ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสเมว สงฺคณฺหิตฺวา อนุสยยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส จิตฺตยมกสฺส อตฺถวณฺณนา โหติ. ตตฺถ ปาฬิววตฺถานํ ตาว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมิฺหิ จิตฺตยมเก มาติกาปนํ, ปิตมาติกาย วิสฺสชฺชนนฺติ ทฺเว วารา โหนฺติ. ตตฺถ มาติกาปเน ปุคฺคลวาโร, ธมฺมวาโร, ปุคฺคลธมฺมวาโรติ อาทิโตว ตโย สุทฺธิกมหาวารา โหนฺติ.

ตตฺถ ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ ปุคฺคลวเสน จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปนฺโต คโต ปุคฺคลวาโร นาม. ‘‘ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ ธมฺมวเสเนว จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปนฺโต คโต ธมฺมวาโร นาม. ‘‘ยสฺส ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ อุภยวเสน จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปนฺโต คโต ปุคฺคลธมฺมวาโร นาม. ตโต ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺต’’นฺติ โสฬสนฺนํ ปทานํ วเสน อปเร สราคาทิปทวิเสสิตา โสฬส ปุคฺคลวารา, โสฬส ธมฺมวารา, โสฬส ปุคฺคลธมฺมวาราติ อฏฺจตฺตาลีสํ มิสฺสกวารา โหนฺติ. เต สราคาทิปทมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตา. ตโต ‘‘ยสฺส กุสลํ จิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน ฉสฏฺิทฺวิสตสงฺขานํ อภิธมฺมมาติกาปทานํ วเสน อปเร กุสลาทิปทวิเสสิตา ฉสฏฺิทฺวิสตปุคฺคลวารา, ฉสฏฺิทฺวิสตธมฺมวารา ฉสฏฺิทฺวิสตปุคฺคลธมฺมวาราติ อฏฺนวุติสตฺตสตา มิสฺสกวารา โหนฺติ. เตปิ กุสลาทิปทมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตาเยว. ยานิเปตฺถ สนิทสฺสนาทีนิ ปทานิ จิตฺเตน สทฺธึ น ยุชฺชนฺติ, ตานิ โมฆปุจฺฉาวเสน ปิตานิ.

เตสุ ปน ตีสุ วาเรสุ สพฺพปเม สุทฺธิกปุคฺคลมหาวาเร อุปฺปาทนิโรธกาลสมฺเภทวาโร, อุปฺปาทุปฺปนฺนวาโร, นิโรธุปฺปนฺนวาโร, อุปฺปาทวาโร, นิโรธวาโร, อุปฺปาทนิโรธวาโร อุปฺปชฺชมานนิโรธวาโร, อุปฺปชฺชมานุปฺปนฺนวาโร, นิรุชฺฌมานุปฺปนฺนวาโร, อุปฺปนฺนุปฺปาทวาโร, อตีตานาคตวาโร, อุปฺปนฺนุปฺปชฺชมานวาโร, นิรุทฺธนิรุชฺฌมานวาโร, อติกฺกนฺตกาลวาโรติ จุทฺทส อนฺตรวารา. เตสุ อุปฺปาทวาโร, นิโรธวาโร, อุปฺปาทนิโรธวาโรติ อิเมสุ ตีสุ วาเรสุ อนุโลมปฏิโลมวเสน ฉ ฉ กตฺวา อฏฺารส ยมกานิ. อุปฺปนฺนุปฺปาทวาเร อตีตานาคตกาลวเสน อนุโลมโต ทฺเว, ปฏิโลมโต ทฺเวติ จตฺตาริ ยมกานิ. เสเสสุ อาทิโต นิทฺทิฏฺเสุ ตีสุ, อนนฺตเร นิทฺทิฏฺเสุ ตีสุ; อวสาเน นิทฺทิฏฺเสุ จตูสูติ ทสสุ วาเรสุ อนุโลมโต เอกํ, ปฏิโลมโต เอกนฺติ ทฺเว ทฺเว กตฺวา วีสติ ยมกานิ. เอวํ สพฺเพสุปิ จุทฺทสสุ อนฺตรวาเรสุ ทฺวาจตฺตาลีส ยมกานิ, จตุราสีติ ปุจฺฉา อฏฺสฏฺิอตฺถสตํ โหติ. ยถา จ เอกสฺมึ สุทฺธิกปุคฺคลมหาวาเร, ตถา สุทฺธิกธมฺมวาเรปิ สุทฺธิกปุคฺคลธมฺมวาเรปีติ ตีสุ มหาวาเรสุ ฉพฺพีสติยมกสตํ, ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ เวทิตพฺพา. อิทํ ปน วารตฺตยํ สราคาทิวเสน โสฬสคุณํ, กุสลาทิวเสน ฉสฏฺิทฺวิสตคุณํ กตฺวา อิมสฺมึ จิตฺตยมเก อเนกานิ ยมกสหสฺสานิ, ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ โหนฺตีติ. ปาโ ปน สํขิตฺโตติ. เอวํ ตาว อิมสฺมึ จิตฺตยมเก ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.

มาติกาปนวณฺณนา.

นิทฺเทโส

๑. ปุคฺคลวารวณฺณนา

๖๓. อิทานิ ปิตานุกฺกเมน มาติกํ วิสฺสชฺเชตุํ ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตโต ปฏฺาย จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉติ. เตสํ จิตฺตนฺติ เยสํ ปริจฺฉินฺนวฏฺฏทุกฺขานํ ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมสฺส จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขโณ วตฺตติ, เอเตสํ ตเทว จุติจิตฺตํ อุปฺปาทปฺปตฺตตาย อุปฺปชฺชติ นาม, ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. อิทานิ ปน ภงฺคํ ปตฺวา ตํ เตสํ จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อฺํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. อิตเรสนฺติ ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคึ ขีณาสวํ เปตฺวา อวเสสานํ เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ นิรุชฺฌิสฺสติ เจว อุปฺปชฺชิสฺสติ จาติ ยํ ตํ อุปฺปาทกฺขณปฺปตฺตํ ตํ นิรุชฺฌิสฺสเตว. อฺํ ปน ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จ. ทุติยปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนปิ ตถารูปสฺเสว ขีณาสวสฺส จิตฺตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํ. นุปฺปชฺชติ นิรุชฺฌตีติ ภงฺคกฺขเณ อรหโต ปจฺฉิมจิตฺตมฺปิ เสสานํ ภิชฺชมานจิตฺตมฺปิ. ตโต ปฏฺาย ปน อรหโต จิตฺตํ น นิรุชฺฌิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปน น สกฺกา. เสสานํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุํ, น นิรุชฺฌิสฺสตีติ น สกฺกา. ตสฺมา ‘โน’ติ ปฏิเสโธ กโต. ทุติยปฺเห ยสฺส จิตฺตํ น นิรุชฺฌิสฺสติ, อุปฺปชฺชิสฺสตีติ โส ปุคฺคโลเยว นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฏิกฺเขโป กโต.

๖๕-๘๒. อุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทสมงฺคิโนเปตํ นามํ. อุปฺปาทํ ปตฺวา อนิรุทฺธสฺสาปิ. ตตฺถ อุปฺปาทสมงฺคิตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ, อุปฺปาทํ ปตฺวา อนิรุทฺธภาวํ สนฺธาย ‘‘เตสํ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. อนุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทํ อปฺปตฺตํ. เตสํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺถาติ เอตฺถาปิ สพฺเพสํ ตาว จิตฺตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนเมว หุตฺวา อุปฺปาทกฺขณํ อตีตตฺตา อุปฺปชฺชิตฺถ นาม, นิโรธสมาปนฺนานํ นิโรธโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา, อสฺสตฺตานํ สฺีภเว อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา. อุปฺปชฺชิตฺถ เจว อุปฺปชฺชติ จาติ อุปฺปาทํ ปตฺตตฺตา อุปฺปชฺชิตฺถ, อนตีตตฺตา อุปฺปชฺชติ นามาติ อตฺโถ.

อุปฺปาทกฺขเณ อนาคตฺจาติ อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺตํ อนาคตฺจ จิตฺตนฺติ อตฺโถ.

๘๓. อติกฺกนฺตกาลวาเร อุปฺปชฺชมานํ ขณนฺติ อุปฺปาทกฺขณํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อุปฺปาทกฺขโณ อุปฺปชฺชมาโน นาม น โหติ, อุปฺปชฺชมานสฺส ปน ขณตฺตา เอวํ วุตฺโต. ขณํ วีติกฺกนฺตํ อติกฺกนฺตกาลนฺติ น จิรํ วีติกฺกนฺตํ ตเมว ปน อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ. นิรุชฺฌมานํ ขณนฺติ นิโรธกฺขณํ. ตตฺถ กิฺจาปิ นิโรธกฺขโณ นิรุชฺฌมาโน นาม น โหติ, นิรุชฺฌมานสฺส ปน ขณตฺตา เอวํ วุตฺโต. ขณํ วีติกฺกนฺตํ อติกฺกนฺตกาลนฺติ กึ ตสฺส จิตฺตํ เอวํ นิโรธกฺขณมฺปิ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม โหตีติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ ยสฺมา ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ โหติ, นิโรธกฺขณํ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม น โหติ. อตีตํ ปน จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม, ตสฺมา ‘‘ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺตํ, ภงฺคกฺขณํ อวีติกฺกนฺตํ, อตีตํ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณฺจ วีติกฺกนฺตํ ภงฺคกฺขณฺจ วีติกฺกนฺตนฺติ วิสฺสชฺชนมาห. ทุติยปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา อตีตํ จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม โหติ, ตสฺมา อตีตํ จิตฺตนฺติ วุตฺตํ. ปฏิโลมปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺตํ อนาคตฺจ จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม น โหติ, เตสํ ขณานํ อวีติกฺกนฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อุปฺปาทกฺขเณ จิตฺตํ อนาคตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ทุติยวิสฺสชฺชนํ ปากฏเมว.

๘๔-๑๑๓. ธมฺมวาเรปิ อิมินาวุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุคฺคลธมฺมวาโร ธมฺมวารคติโกเยว.

๑๑๔-๑๑๖. สพฺเพปิ มิสฺสกวารา ยสฺส สราคํ จิตฺตนฺติอาทินา นเยน มุขมตฺตํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตา. วิตฺถาโร ปน เนสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เตสุ ปน ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ; ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพตาย ปุจฺฉาว สทิสา โหติ. ยสฺมา ปน สราคํ จิตฺตํ ปจฺฉิมจิตฺตํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ; ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตีติ โน’’ติ เอวํ วิสฺสชฺชิตพฺพตฺตา วิสฺสชฺชนํ อสทิสํ โหติ. ตํ ตํ ตสฺสา ตสฺสา ปุจฺฉาย อนุรูปวเสน เวทิตพฺพนฺติ.

จิตฺตยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมยมกํ

๑. ปณฺณตฺติอุทฺเทสวารวณฺณนา

๑-๑๖. อิทานิ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ มาติกํ เปตฺวา จิตฺตยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส ธมฺมยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถ ขนฺธยมเก วุตฺตนเยเนว ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. ยถา หิ ตตฺถ ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา, อวเสสา อนฺตรวารา จ โหนฺติ, ตถา อิธาปิ. ‘‘โย กุสลํ ธมฺมํ ภาเวติ, โส อกุสลํ ธมฺมํ ปชหตี’’ติ อาคตตฺตา ปเนตฺถ ปริฺาวาโร, ภาวนาวาโร นามาติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา อพฺยากโต ธมฺโม เนว ภาเวตพฺโพ, น ปหาตพฺโพ, ตสฺมา ตํ ปทเมว น อุทฺธฏํ. ปณฺณตฺติวาเร ปเนตฺถ ติณฺณํ กุสลาทิธมฺมานํ วเสน ปทโสธนวาโร, ปทโสธนมูลจกฺกวาโร, สุทฺธธมฺมวาโร, สุทฺธธมฺมมูลจกฺกวาโรติ อิเมสุ จตูสุ วาเรสุ ยมกคณนา เวทิตพฺพา.

๑. ปณฺณตฺตินิทฺเทสวารวณฺณนา

๑๗-๓๒. ปณฺณตฺติวารนิทฺเทเส ปน กุสลา กุสลธมฺมาติ กุสลานํ เอกนฺเตน กุสลธมฺมตฺตา ‘‘อามนฺตา’’ติ วุตฺตํ. เสสวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย. อวเสสา ธมฺมา น อกุสลา ธมฺมาติ อวเสสา ธมฺมา อกุสลา น โหนฺติ, ธมฺมา ปน โหนฺตีติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิ.

ปณฺณตฺติวารวณฺณนา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๓๓-๓๔. ปวตฺติวาเร ปเนตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล ปุคฺคลวารสฺส อนุโลมนเย ‘‘ยสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ; ยสฺส วา ปน อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ กุสลธมฺมมูลกานิ ทฺเว ยมกานิ, อกุสลธมฺมมูลกํ เอกนฺติ ตีณิ ยมกานิ โหนฺติ. ตสฺส ปฏิโลมนเยปิ โอกาสวาราทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ สพฺพวาเรสุ ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ยมกคณนา เวทิตพฺพา. อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ ลกฺขณํ – อิมสฺส หิ ธมฺมยมกสฺส ปวตฺติมหาวาเร ‘‘อุปฺปชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ อิเมสุ อุปฺปาทนิโรเธสุ กุสลากุสลธมฺมา ตาว เอกนฺเตน ปวตฺติยํเยว ลพฺภนฺติ, น จุติปฏิสนฺธีสุ. อพฺยากตธมฺมา ปน ปวตฺเต จ จุติปฏิสนฺธีสุ จาติ ตีสุปิ กาเลสุ ลพฺภนฺติ. เอวเมตฺถ ยํ ยตฺถ ยตฺถ ลพฺภติ, ตสฺส วเสน ตตฺถ ตตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตตฺริทํ นยมุขํ – กุสลากุสลานํ ตาว เอกกฺขเณ อนุปฺปชฺชนโต ‘‘โน’’ติ ปฏิเสโธ กโต. อพฺยากตา จาติ จิตฺตสมุฏฺานรูปวเสน วุตฺตํ.

๓๕-๓๖. ยตฺถ กุสลา ธมฺมา นุปฺปชฺชนฺตีติ อสฺภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนเวตฺถ ‘‘อามนฺตา’’ติ วิสฺสชฺชนํ กตํ. อุปฺปชฺชนฺตีติ อิทมฺปิ อสฺภวํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. อพฺยากตานํ ปน อนุปฺปตฺติฏฺานสฺส อภาวา ‘‘นตฺถี’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต.

๔๙. ทุติเย อกุสเลติ ภวํ อสฺสาเทตฺวา อุปฺปนฺเนสุ นิกนฺติชวเนสุ ทุติเย ชวนจิตฺเต. ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเนติ ปฏิสนฺธิโต ทุติเย ภวงฺคจิตฺเต วตฺตมาเน สห วา ปฏิสนฺธิยา ภวงฺคํ วิปากวเสน เอกเมว กตฺวา ภวนิกนฺติยา อาวชฺชนจิตฺเต. ตฺหิ กิริยจิตฺตตฺตา อพฺยากตชาติยํ วิปากโต ทุติยํ นาม โหติ.

๕๗. ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺคนฺติ โคตฺรภุจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ เต อคฺคมคฺคธมฺเมเยว สนฺธาย วุตฺตํ.

๗๙. ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺคํ ปฏิลภิสฺสนฺติ, ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณติ อิทํ จิตฺตชาติวเสน วุตฺตํ. ตชฺชาติกสฺส หิ เอกาวชฺชเนน อุปฺปนฺนสฺส ตโต โอริมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณปิ เอตํ ลกฺขณํ ลพฺภเตว.

๙๙. นิโรธวาเรปิ กุสลากุสลานํ เอกโต อนิรุชฺฌนโต ‘‘โน’’ติ วุตฺตํ. อิมินา นยมุเขน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

ธมฺมยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อินฺทฺริยยมกํ

อิทานิ เตสฺเว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสํ สํคณฺหิตฺวา ธมฺมยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส อินฺทฺริยยมกสฺส วณฺณนา โหติ. ตตฺถ ขนฺธยมกาทีสุ วุตฺตนเยเนว ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. อิธาปิ หิ ปณฺณตฺติวาราทโย ตโย มหาวารา อวเสสา อนฺตรวารา จ สทฺธึ กาลปฺปเภทาทีหิ ขนฺธยมกาทีสุ อาคตสทิสาว. อินฺทฺริยานํ ปน พหุตาย ธาตุยมกโตปิ พหุตรานิ ยมกานิ โหนฺติ. ยถา ปน เหฏฺา ปุคฺคลวาราทีสุ จกฺขายตนจกฺขุธาตุมูลเก นเย จกฺขายตนจกฺขุธาตูหิ สทฺธึ ชิวฺหายตนกายายตนานิ น โยชิตานิ. ชิวฺหายตนกายายตนมูลกานิ จ ยมกาเนว น คหิตานิ, ตถา อิธาปิ จกฺขุนฺทฺริยมูลเก นเย ชิวฺหินฺทฺริยกายินฺทฺริยานิ น โยชิตานิ, ชิวฺหินฺทฺริยกายินฺทฺริยมูลกานิ จ ยมกาเนว น คหิตานิ. เตสํ อคฺคหเณ การณํ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มนินฺทฺริยํ ปน ยถา จกฺขุนฺทฺริยาทิมูลเกหิ ตเถว อิตฺถินฺทฺริยาทิมูลเกหิปิ สทฺธึ ยสฺมา โยชนํ คจฺฉติ, ตสฺมา นิกฺขิตฺตปฏิปาฏิยา อโยเชตฺวา สพฺเพหิปิ จกฺขุนฺทฺริยมูลกาทีหิ สทฺธึ ปริโยสาเน โยชิตนฺติ เวทิตพฺพํ. จกฺขุนฺทฺริเยน สทฺธึ อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยานิ โยชิตานิ สุขินฺทฺริยทุกฺขินฺทฺริยโทมนสฺสินฺทฺริยานิ ปฏิสนฺธิยํ นตฺถีติ น คหิตานิ. โสมนสฺสินฺทฺริยอุเปกฺขินฺทฺริยานิ ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปตฺติสพฺภาวโต คหิตานิ. ตถา สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปฺจ. โลกุตฺตรานิ ตีณิ ปฏิสนฺธิยํ อภาเวเนว น คหิตานิ. อิติ ยานิ คหิตานิ, เตสํ วเสเนตฺถ จกฺขุนฺทฺริยมูลเก นเย ยมกคณนา เวทิตพฺพา. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ. ยานิ ปน น คหิตานิ, เตสํ วเสน ยมกานิ น คเณตพฺพานิ. คเณนฺเตน วา โมฆปุจฺฉาวเสน คเณตพฺพานีติ เอวํ ตาว สพฺพวาเรสุ ปาฬิววตฺถานเมว เวทิตพฺพํ.

ปวตฺติวารวณฺณนา

๑-๘๖. อตฺถวินิจฺฉเย ปเนตฺถ อิทํ นยมุขํ – สจกฺขุกานํ น อิตฺถีนนฺติ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนฺเจว รูปีนํ ปุริสนปุํสกานฺจ วเสน วุตฺตํ. เตสฺหิ อิตฺถินฺทฺริยํ นุปฺปชฺชติ. สจกฺขุกานํ น ปุริสานนฺติ รูปีพฺรหฺมานฺเจว อิตฺถินปุํสกานฺจ วเสน วุตฺตํ. เตสฺหิ ปุริสินฺทฺริยํ นุปฺปชฺชติ. อจกฺขุกานํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ เอกโวการจตุโวการกามธาตุสตฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. สจกฺขุกานํ วินา โสมนสฺเสนาติ อุเปกฺขาสหคตานํ จตุนฺนํ มหาวิปากปฏิสนฺธีนํ วเสน วุตฺตํ. สจกฺขุกานํ วินา อุเปกฺขายาติ โสมนสฺสสหคตปฏิสนฺธิกานํ วเสน วุตฺตํ. อุเปกฺขาย อจกฺขุกานนฺติ อเหตุกปฏิสนฺธิวเสน วุตฺตํ. อเหตุกานนฺติ อเหตุกปฏิสนฺธิจิตฺเตน สทฺธึ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ อภาวโต วุตฺตํ. ตตฺถ หิ เอกนฺเตเนว สทฺธาสติปฺาโย นตฺถิ. สมาธิวีริยานิ ปน อินฺทฺริยปฺปตฺตานิ น โหนฺติ. สเหตุกานํ อจกฺขุกานนฺติ คพฺภเสยฺยกวเสน เจว อรูปีวเสน จ วุตฺตํ. อฺโ หิ สเหตุโก อจกฺขุโก นาม นตฺถิ. สจกฺขุกานํ อเหตุกานนฺติ อปาเย โอปปาติกวเสน วุตฺตํ. สจกฺขุกานํ าณวิปฺปยุตฺตานนฺติ กามธาตุยํ ทุเหตุกปฏิสนฺธิกานํ วเสน วุตฺตํ. สจกฺขุกานํ าณสมฺปยุตฺตานนฺติ รูปีพฺรหฺมาโน เจว กามาวจรเทวมนุสฺเส จ สนฺธาย วุตฺตํ. าณสมฺปยุตฺตานํ อจกฺขุกานนฺติ อรูปิโน จ ติเหตุกคพฺภเสยฺยเก จ สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๙๐. ชีวิตินฺทฺริยมูลเก วินา โสมนสฺเสน อุปปชฺชนฺตานนฺติ ทฺเวปิ ชีวิตินฺทฺริยานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ปวตฺเต โสมนสฺสวิปฺปยุตฺตจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถาปิ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ชีวิตินฺทฺริยโยชนา เวทิตพฺพา. โสมนสฺสินฺทฺริยาทิมูลเกสุปิ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสเนวตฺโถ คเหตพฺโพ. ปฏิโลมนเย ปน นิโรธวาเร จ เอเตสฺเจว อฺเสฺจ ธมฺมานํ ยถาลาภวเสน จุติปฏิสนฺธิปวตฺเตสุ ตีสุปิ อนุปฺปาทนิโรธา เวทิตพฺพา.

๒๘๑. อนาคตวาเร เอเตเนว ภาเวนาติ เอเตน ปุริสภาเวเนว, อนฺตรา อิตฺถิภาวํ อนาปชฺชิตฺวา ปุริสปฏิสนฺธิคฺคหเณเนวาติ อตฺโถ. กติจิ ภเว ทสฺเสตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺตีติ กติจิ ปฏิสนฺธิโย คเหตฺวา อิตฺถิภาวํ อปฺปตฺวาว ปรินิพฺพายิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยปุจฺฉายปิ เอเสว นโย.

๓๖๑. ปจฺจุปฺปนฺเนน อตีตวาเร สุทฺธาวาสานํ อุปปตฺติจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ มนินฺทฺริยฺจ นุปฺปชฺชิตฺถาติ จิตฺตยมเก วิย อุปฺปาทกฺขณาติกฺกมวเสน อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ตสฺมึ ภเว อนุปฺปนฺนปุพฺพวเสน คเหตพฺโพติ. อิมินา นยมุเขน สพฺพสฺมิมฺปิ ปวตฺติวาเร อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ปวตฺติวารวณฺณนา.

ปริฺาวารวณฺณนา

๔๓๕-๔๘๒. ปริฺาวาเร ปน จกฺขุมูลกาทีสุ เอกเมว จกฺขุโสตยมกํ ทสฺสิตํ. ยสฺมา ปน เสสานิปิ โลกิยอพฺยากตานิ เจว โลกิยอพฺยากตมิสฺสกานิ จ ปริฺเยฺยาเนว, ตสฺมา ตานิ อนุปทิฏฺานิปิ อิมินาว ทสฺสิตานิ โหนฺติ. ยสฺมา ปน อกุสลํ เอกนฺตโต ปหาตพฺพเมว, เอกนฺตํ กุสลํ ภาเวตพฺพเมว, โลกุตฺตราพฺยากตํ สจฺฉิกาตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘โทมนสฺสินฺทฺริยํ ปชหตี’’ติ ‘‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ภาเวตี’’ติ ‘‘อฺาตาวินฺทฺริยํ สจฺฉิกโรตี’’ติ วุตฺตํ. อฺินฺทฺริยํ ปน ภาเวตพฺพมฺปิ อตฺถิ สจฺฉิกาตพฺพมฺปิ, ตํ ภาวนาวเสเนว คหิตํ. ตตฺถ ทฺเว ปุคฺคลาติ สกทาคามิมคฺคสมงฺคี จ, อรหตฺตมคฺคสมงฺคี จ. เตสุ เอโก สมุจฺฉินฺทิตุํ อสมตฺถตฺตา โทมนสฺสินฺทฺริยํ น ปชหติ นาม. เอโก ปหีนโทสตฺตา จกฺขุนฺทฺริยํ น ปริชานาตีติ อนุปฺปาทํ อาปาเทตุํ อสมตฺถตาย น ปริชานาติ. อิมินา นเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ปริฺาวารวณฺณนา.

อินฺทฺริยยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

ยสฺโสวาเท ตฺวา, นิฏฺิตกิจฺจสฺส กิจฺจสมฺปนฺโน;

ยุวติชโนปิ อตีโต, สุวิหิตนิยโม ยมสฺสาณํ.

เทวปริสาย มชฺเฌ, เทวปุเร สพฺพเทวเทเวน;

ยมกํ นาม ปกาสิตํ, ยมามลโลเมน ยํ เตน.

ปาฬิววตฺถานวิธึ, ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน จ อตฺถนยํ;

ทสฺเสตุํ อารทฺธา, ยมกอฏฺกถา มยา ตสฺส.

สา สุพหุอนฺตราเย, โลกมฺหิ ยถา อนนฺตราเยน;

อยมชฺช ปฺจมตฺเตหิ, ตนฺติยา ภาณวาเรหิ.

นิฏฺํ ปตฺตา เอวํ, นิฏฺานํ ปาปุณนฺตุ สพฺเพปิ;

หิตสุขนิพฺพตฺติกรา, มโนรถา สพฺพสตฺตานนฺติ.

ยมกปฺปกรณ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ปฏฺานปฺปกรณ-อฏฺกถา

เทวาติเทโว เทวานํ, เทวทานวปูชิโต,

เทสยิตฺวา ปกรณํ, ยมกํ สุทฺธสํยโม.

อตฺถโต ธมฺมโต เจว, คมฺภีรสฺสาถ ตสฺส ยํ,

อนนฺตรํ มหาวีโร, สตฺตมํ อิสิสตฺตโม.

ปฏฺานํ นาม นาเมน, นามรูปนิโรธโน,

เทเสสิ อติคมฺภีร-นยมณฺฑิตเทสนํ.

อิทานิ ตสฺส สมฺปตฺโต, ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม,

ตสฺมา นํ วณฺณยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตาติ.

ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา

สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ อนุโลมปฏฺาเน ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ, สตํ ทุเก นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม นิทฺทิฏฺํ. ตโต ปรํ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ตโต ปรํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ติเก ปน ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. ทุเก จ ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นาม ทสฺสิตํ. เอวํ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ.

ปจฺจนียปฏฺาเนปิ ทฺวาวีสติ ติเก นิสฺสาย ติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ นิสฺสาย ทุกปฏฺานํ นาม. ทฺวาวีสติ ติเก ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม. ทุกสตํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม. ติเก ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม. ทุเก ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นามาติ เอวํ ปจฺจนีเยปิ ฉหิ นเยหิ ปฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.

ตโต ปรํ อนุโลมปจฺจนีเยปิ เอเตเนวุปาเยน ฉ นยา ทสฺสิตา. เตนาห –

‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.

ตทนนฺตรํ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ เอเตเหว ฉหิ นเยหิ นิทฺทิฏฺํ. เตนาห –

‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ.

เอวํ อนุโลเม ฉ ปฏฺานานิ, ปจฺจนีเย ฉ, อนุโลมปจฺจนีเย ฉ, ปจฺจนียานุโลเม ฉ ปฏฺานานีติ อิทํ ‘‘จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานปฏฺานมหาปกรณํ นามา’’ติ หิ วุตฺตํ.

ตตฺถ เยสํ จตุวีสติยา สมนฺตปฏฺานานํ สโมธานวเสเนตํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานมหาปกรณํ นามาติ วุตฺตํ, เตสฺเจว อิมสฺส จ ปกรณสฺส นามตฺโถ ตาว เอวํ เวทิตพฺโพ. เกนฏฺเน ปฏฺานนฺติ? นานปฺปการปจฺจยฏฺเน. ‘ป-กาโร’ หิ นานปฺปการตฺถํ ทีเปติ, านสทฺโท ปจฺจยตฺถํ. านาฏฺานกุสลตาติอาทีสุ หิ ปจฺจโย านนฺติ วุตฺโต. อิติ นานปฺปการานํ ปจฺจยานํ วเสน เทสิตตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.

อปโร นโย – เกนฏฺเน ปฏฺานนฺติ? วิภชนฏฺเน. ‘‘ปฺาปนา ปฏฺปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺม’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๗๑) อาคตฏฺานสฺมิฺหิ วิภชนฏฺเน ปฏฺานํ ปฺายติ. อิติ กุสลาทีนํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจยาทิวเสน วิภตฺตตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

อปโร นโย – เกนฏฺเน ปฏฺานนฺติ? ปฏฺิตตฺเถน. คมนฏฺเนาติ อตฺโถ. ‘‘โคฏฺา ปฏฺิตคาโว’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๖) อาคตฏฺานสฺมิฺหิ เยน ปฏฺาเนน ปฏฺิตคาโวติ วุตฺโต, ตํ อตฺถโต คมนํ โหติ. อิติ นาติวิตฺถาริตนเยสุ ธมฺมสงฺคณีอาทีสุ อนิสฺสงฺคคมนสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส เหตุปจฺจยาทิเภทภินฺเนสุ กุสลาทีสุ วิตฺถาริตนยลาภโต นิสฺสงฺควเสน ปวตฺตคมนตฺตา อิเมสุ จตุวีสติยา ปฏฺาเนสุ เอเกกํ ปฏฺานํ นาม. อิเมสํ ปน ปฏฺานานํ สมูหโต สพฺพมฺเปตํ ปกรณํ ปฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ อนุโลมมฺหิ ตาว ปมํ ติกวเสน เทสิตตฺตา ติกปฏฺานํ นาม. ตสฺส ปทจฺเฉโท – ติกานํ ปฏฺานํ เอตฺถ อตฺถีติ ติกปฏฺานํ. ติกานํ นานปฺปการกา ปจฺจยา เอติสฺสา เทสนาย อตฺถีติ อตฺโถ. ทุติยวิกปฺเปปิ ติกานํ ปฏฺานนฺตฺเวว ติกปฏฺานํ. เหตุปจฺจยาทิวเสน ติกานํ วิภชนาติ อตฺโถ. ตติยวิกปฺเป เหตุปจฺจยาทิเภทภินฺนตาย ลทฺธวิตฺถารา ติกา เอว ปฏฺานํ ติกปฏฺานํ. สพฺพฺุตฺาณสฺส นิสฺสงฺคคมนภูมีติ อตฺโถ. ทุกปฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ อนุโลเม ฉปฏฺานานิ วิทิตฺวา ปจฺจนียาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน เวทิตพฺพานิ.

ยสฺมา ปเนตานิ อนุโลเม, ปจฺจนีเย, อนุโลมปจฺจนีเย, ปจฺจนียานุโลเมติ สมนฺตา ฉ ฉ หุตฺวา จตุวีสติ โหนฺติ; ตสฺมา ‘‘จตุวีสติ สมนฺตปฏฺานานี’’ติ วุจฺจนฺติ. อิติ อิเมสํ จตุวีสติยา ขุทฺทกปฏฺานสงฺขาตานํ สมนฺตปฏฺานานํ สโมธานวเสเนตํ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธานํ ปฏฺานมหาปกรณํ นาม.

ตํ ปเนตํ เย ติกาทโย นิสฺสาย นิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘ติกปฏฺานํ ทุกปฏฺานํ…เป… ทุกทุกปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, เต อนามสิตฺวา เยสํ ปจฺจยานํ วเสน เต ติกาทโย วิภตฺตา เต ปจฺจเย ทสฺเสตุํ อาทิโต ตาวสฺส มาติกานิกฺเขปวาโร นาม วุตฺโต; ปจฺจยวิภงฺควาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. โส อุทฺเทสนิทฺเทสโต ทุวิโธ. ตสฺส เหตุปจฺจโย…เป… อวิคตปจฺจโยติ อยํ อุทฺเทโส.

ตตฺถ เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เหตุปจฺจโย. เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย, เหตุภาเวน ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ เหตูติ วจนาวยวการณมูลานเมตํ อธิวจนํ. ‘‘ปฏิฺา เหตู’’ติอาทีสุ หิ โลเก วจนาวยโว เหตูติ, วุจฺจติ. สาสเน ปน ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๖๐) การณํ. ‘‘ตโย กุสลา เหตู, ตโย อกุสลา เหตู’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๕๙) มูลํ เหตูติ วุจฺจติ. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ปจฺจโยติ เอตฺถ ปน อยํ วจนตฺโถ – ปฏิจฺจ เอตสฺมา เอตีติ ปจฺจโย, อปฺปจฺจกฺขาย นํ วตฺตตีติ อตฺโถ. โย หิ ธมฺโม ยํ ธมฺมํ อปฺปจฺจกฺขาย ติฏฺติ วา อุปฺปชฺชติ วา, โส ตสฺส ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ.

ลกฺขณโต ปน อุปการกลกฺขโณ ปจฺจโย, โย หิ ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส ิติยา วา อุปฺปตฺติยา วา อุปการโก โหติ, โส ตสฺส ปจฺจโยติ วุจฺจติ. ปจฺจโย, เหตุ; การณํ นิทานํ สมฺภโว, ปภโวติ อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนโต นานํ. อิติ มูลฏฺเน เหตุ, อุปการกฏฺเน ปจฺจโยติ สงฺเขปโต มูลฏฺเน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโย. โส หิ สาลิอาทีนํ สาลิพีชาทีนิ วิย, มณิปฺปภาทีนํ วิย จ มณิวณฺณาทโย กุสลาทีนํ กุสลาทิภาวสาธโกติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย. เอวํ สนฺเต ปน ตํสมุฏฺานรูเปสุ เหตุปจฺจยตา น สมฺปชฺชติ. น หิ โส เตสํ กุสลาทิภาวํ สาเธติ, น จ ปจฺจโย น โหตีติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อเหตุกจิตฺตานฺจ วินา เอเตน อพฺยากตภาโว สิทฺโธ.

สเหตุกานมฺปิ จ โยนิโสมนสิการาทิปฏิพทฺโธ กุสลาทิภาโว น สมฺปยุตฺตเหตุปฏิพทฺโธ. ยทิ จ สมฺปยุตฺตเหตูสุ สภาวโตว กุสลาทิภาโว สิยา, ตํสมฺปยุตฺเตสุ เหตุปฏิพทฺโธ อโลโภ กุสโล วา สิยา อพฺยากโต วา. ยสฺมา ปน อุภยถาปิ โหติ, ตสฺมา ยถา สมฺปยุตฺเตสุ, เอวํ เหตูสุปิ กุสลาทิตา ปริเยสิตพฺพา. กุสลาทิภาวสาธนวเสน ปน เหตูนํ มูลฏฺํ อคฺคเหตฺวา สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนวเสน คยฺหมาเน น กิฺจิ วิรุชฺฌติ. ลทฺธเหตุปจฺจยา หิ ธมฺมา วิรุฬฺหมูลา วิย ปาทปา ถิรา โหนฺติ สุปฺปติฏฺิตา, อเหตุกา ปน ติลพีชกาทิเสวาลา วิย น สุปฺปติฏฺิตา. อิติ มูลฏฺเน อุปการโกติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ.

ตโต ปเรสุ อารมฺมณวเสน อุปการโก ธมฺโม อารมฺมณปจฺจโย. โส ‘‘รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา’’ติ อารภิตฺวาปิ ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภ เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ โอสาปิตตฺตา น โกจิ ธมฺโม น โหติ. ยถา หิ ทุพฺพโล ปุริโส ทณฺฑํ วา รชฺชุํ วา อาลมฺพิตฺวาว อุฏฺหติ เจว ติฏฺติ จ, เอวํ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา รูปาทิอารมฺมณํ อารพฺเภว อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ. ตสฺมา สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อารมฺมณภูตา ธมฺมา อารมฺมณปจฺจโยติ เวทิตพฺพา.

เชฏฺกฏฺเน อุปการโก ธมฺโม อธิปติปจฺจโย. โส สหชาตารมฺมณวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิวจนโต ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสสงฺขาตา จตฺตาโร ธมฺมา สหชาตาธิปติปจฺจโยติ เวทิตพฺพา, โน จ โข เอกโต. ยทา หิ ฉนฺทํ ธุรํ เชฏฺกํ กตฺวา จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตทา ฉนฺโทว อธิปติ, น อิตเร. เอส นโย เสเสสุปิ. ยํ ปน ธมฺมํ ครุํ กตฺวา อรูปธมฺมา ปวตฺตนฺติ, โส เนสํ อารมฺมณาธิปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.

อนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโม อนนฺตรปจฺจโย. สมนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโม สมนนฺตรปจฺจโย. อิทฺจ ปจฺจยทฺวยํ พหุธา ปปฺจยนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สาโร – โย หิ เอส จกฺขุวิฺาณานนฺตรา มโนธาตุ, มโนธาตุอนนฺตรา มโนวิฺาณธาตูติอาทิ จิตฺตนิยโม, โส ยสฺมา ปุริมจิตฺตวเสเนว อิชฺฌติ, น อฺถา. ตสฺมา อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อุปฺปาทนสมตฺโถว ธมฺโม อนนฺตรปจฺจโย. เตเนวาห – ‘‘อนนฺตรปจฺจโยติ จกฺขุวิฺาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ.

โย อนนฺตรปจฺจโย, สฺเวว สมนนฺตรปจฺจโย. พฺยฺชนมตฺตเมว เหตฺถ นานํ, อุปจยสนฺตติอาทีสุ วิย, อธิวจนนิรุตฺติทุกาทีสุ วิย จ, อตฺถโต ปน นานํ นตฺถิ. ยมฺปิ ‘‘อทฺธานนฺตรตาย อนนฺตรปจฺจโย, กาลานนฺตรตาย สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ อาจริยานํ มตํ, ตํ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนกุสลํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทีหิ วิรุชฺฌติ. ยมฺปิ ตตฺถ วทนฺติ – ‘‘ธมฺมานํ สมุฏฺาปนสมตฺถตา น ปริหายติ, ภาวนาพเลน ปน วาริตตฺตา ธมฺมา สมนนฺตรํ นุปฺปชฺชนฺตี’’ติ, ตมฺปิ กาลานนฺตรตาย อภาวเมว สาเธติ. ภาวนาพเลน หิ ตตฺถ กาลานนฺตรตา นตฺถีติ, มยมฺปิ เอตเทว วทาม. ยสฺมา จ กาลานนฺตรตา นตฺถิ, ตสฺมา สมนนฺตรปจฺจยตา น ยุชฺชติ. กาลานนฺตรตาย หิ เตสํ สมนนฺตรปจฺจโย โหตีติ ลทฺธิ. ตสฺมา อภินิเวสํ อกตฺวา พฺยฺชนมตฺตโตเวตฺถ นานากรณํ ปจฺเจตพฺพํ, น อตฺถโต. กถํ? นตฺถิ เอเตสํ อนฺตรนฺติ หิ อนนฺตรา. สณฺานาภาวโต สุฏฺุ อนนฺตราติ สมนนฺตรา.

อุปฺปชฺชมาโน สห อุปฺปชฺชมานภาเวน อุปการโก ธมฺโม สหชาตปจฺจโย, ปกาสสฺส ปทีโป วิย. โส อรูปกฺขนฺธาทิวเสน ฉพฺพิโธ โหติ. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ…เป… โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺํ…เป… จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ…เป… มหาภูตา อุปาทารูปานํ…เป… รูปิโน ธมฺมา อรูปีนํ ธมฺมานํ กิฺจิกาเล สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย; กิฺจิ กาเล น สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อิทํ หทยวตฺถุเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการโก ธมฺโม อฺมฺปจฺจโย. อฺมฺุปตฺถมฺภกํ ติทณฺฑํ วิย. โส อรูปกฺขนฺธาทิวเสน ติวิโธ โหติ. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. จตฺตาโร มหาภูตา…เป… โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการโก ธมฺโม นิสฺสยปจฺจโย, ตรุจิตฺตกมฺมาทีนํ ปถวีปฏาทโย วิย. โส ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ สหชาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ฉฏฺโ ปเนตฺถ โกฏฺาโส ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา, โสตฆานชิวฺหากายายตนํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ, ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ วิภตฺโต.

อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิธ ปน อยํ ตาว วจนตฺโถ – ตทธีนวุตฺติตาย อตฺตโน ผเลน นิสฺสิโต, น ปฏิกฺขิตฺโตติ นิสฺสโย. ยถา ปน ภุโส อายาโส อุปายาโส, เอวํ ภุโส นิสฺสโย อุปนิสฺสโย. พลวการณสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมา พลวการณภาเวน อุปการโก ธมฺโม อุปนิสฺสยปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. โส อารมฺมณูปนิสฺสโย, อนนฺตรูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโยติ ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ‘‘ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, เสกฺขา โคตฺรภุํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, โวทานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, เสกฺขา มคฺคา วุฏฺหิตฺวา มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตี’’ติ เอวมาทินา นเยน อารมฺมณูปนิสฺสโย ตาว อารมฺมณาธิปตินา สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวา วิภตฺโต. ตตฺถ ยํ อารมฺมณํ ครุํ กตฺวา จิตฺตเจตสิกา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ นิยมโต เตสํ อารมฺมเณสุ พลวารมฺมณํ โหติ. อิติ ครุกาตพฺพมตฺตฏฺเน อารมฺมณาธิปติ, พลวการณฏฺเน อารมฺมณูปนิสฺสโยติ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อนนฺตรูปนิสฺสโยปิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ขนฺธานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรปจฺจเยน สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวาว วิภตฺโต. มาติกานิกฺเขเป ปน เนสํ ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรสฺส จ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อุปนิสฺสยสฺส จ อาคตตฺตา นิกฺเขปวิเสโส อตฺถิ, โสปิ อตฺถโต เอกีภาวเมว คจฺฉติ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส ปวตฺตนสมตฺถตาย อนนฺตรตา ปุริมจิตฺตสฺส จ ปจฺฉิมจิตฺตุปฺปาทเน พลวตาย อนนฺตรูปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา. ยถา หิ เหตุปจฺจยาทีสุ กฺจิ ธมฺมํ วินาปิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น เอวํ อนนฺตรจิตฺตํ, วินา จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ นาม อตฺถิ, ตสฺมา พลวปจฺจโย โหติ. อิติ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทวเสน อนนฺตรปจฺจโย, พลวการณวเสน อนนฺตรูปนิสฺสโยติ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ปกตูปนิสฺสโย ปน ปกโต อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. ปกโต นาม อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผาทิโต วา สทฺธาสีลาทิ; อุปเสวิโต วา อุตุโภชนาทิ. ปกติยาเยว วา อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย, อารมฺมณานนฺตเรหิ อสมฺมิสฺโสติ อตฺโถ. ตสฺส ‘‘ปกตูปนิสฺสโย – สทฺธํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ฌานํ อุปฺปาเทติ, วิปสฺสนํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทติ, สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ, สีลํ… สุตํ… จาคํ… ปฺํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ…เป… สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ. สทฺธา… สีลํ… สุตํ… จาโค… ปฺา สทฺธาย… สีลสฺส… สุตสฺส… จาคสฺส… ปฺาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อเนกปฺปการโก ปเภโท เวทิตพฺโพ. อิติ อิเม สทฺธาทโย ปกตา เจว พลวการณฏฺเน อุปนิสฺสยา จาติ ปกตูปนิสฺสโยติ.

ปมตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา วตฺตมานภาเวน อุปการโก ธมฺโม ปุเรชาตปจฺจโย. โส ปฺจทฺวาเร วตฺถารมฺมณหทยวตฺถุวเสน เอกาทสวิโธ โหติ. ยถาห – จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายายตนํ, รูปายตนํ, สทฺท… คนฺธ… รส… โผฏฺพฺพายตนํ, กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ, ตํ รูปํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย, มโนวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ กิฺจิ กาเล ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย, กิฺจิ กาเล น ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

ปุเรชาตานํ รูปธมฺมานํ อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการโก อรูปธมฺโม ปจฺฉาชาตปจฺจโย, คิชฺฌโปตกสรีรานํ อาหาราสาเจตนา วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.

อาเสวนฏฺเน อนนฺตรานํ ปคุณพลวภาวาย อุปการโก ธมฺโม อาเสวนปจฺจโย, คนฺถาทีสุ ปุริมาปุริมาภิโยโค วิย. โส กุสลากุสลกิริยชวนวเสน ติวิโธ โหติ. ยถาห – ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย. ปุริมา ปุริมา อกุสลา…เป… กิริยาพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

จิตฺตปโยคสงฺขาเตน กิริยาภาเวน อุปการโก ธมฺโม กมฺมปจฺจโย. โส นานากฺขณิกาย เจว กุสลากุสลเจตนาย สหชาตาย จ สพฺพายปิ เจตนาย วเสน ทุวิโธ โหติ. ยถาห – กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. เจตนา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํ สมุฏฺานานฺจ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน นิรุสฺสาหสนฺตภาวาย อุปการโก วิปากธมฺโม วิปากปจฺจโย. โส ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตา จ รูปานํ, สพฺพตฺถ จ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วิปากปจฺจโย โหติ. ยถาห – วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ, จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ, วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย…เป… ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ…เป… ทฺเว ขนฺธา ทฺวินฺนํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย. ขนฺธา วตฺถุสฺส วิปากปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย. ยถาห – กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.

อธิปติยฏฺเน อุปการกา อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยวชฺชา วีสตินฺทฺริยา อินฺทฺริยปจฺจโย. ตตฺถ จกฺขุนฺทฺริยาทโย ปฺจ อรูปธมฺมานํเยว, เสสา รูปารูปานํ ปจฺจยา โหนฺติ. ยถาห – จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา, โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายินฺทฺริยํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยํ กฏตฺตารูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปิโน อินฺทฺริยา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อินฺทฺริยา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.

อุปนิชฺฌายนฏฺเน อุปการกานิ เปตฺวา ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ กายิกสุขทุกฺขเวทนาทฺวยํ สพฺพานิปิ กุสลาทิเภทานิ สตฺต ฌานงฺคานิ ฌานปจฺจโย. ยถาห – ฌานงฺคานิ ฌานสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ ฌานงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติปิ วุตฺตํ.

ยโต ตโต วา นิยฺยานฏฺเน อุปการกานิ กุสลาทิเภทานิ ทฺวาทส มคฺคงฺคานิ มคฺคปจฺจโย. ยถาห – ‘‘มคฺคงฺคานิ มคฺคสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ มคฺคงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. น เอเต ปน ทฺเวปิ ฌานมคฺคปจฺจยา ยถาสงฺขฺยํ ทฺวิปฺจวิฺาณาเหตุกจิตฺเตสุ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา.

เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาเทกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา อรูปธมฺมา สมฺปยุตฺตปจฺจโย. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ สมฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.

เอกวตฺถุกาทิภาวานุปคเมน อุปการกา รูปิโน ธมฺมา อรูปีนํ, อรูปิโน ธมฺมา รูปีนํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. โส สหชาตปจฺฉาชาตปุเรชาตวเสน ติวิโธ โหติ. วุตฺตฺเหตํ – สหชาตา กุสลา ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ปจฺฉาชาตา กุสลา ขนฺธา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อพฺยากตปทสฺส ปน สหชาตวิภงฺเค ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา ขนฺธา กฏตฺตารูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ขนฺธา วตฺถุสฺส, วตฺถุ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. ปุเรชาตํ ปน จกฺขุนฺทฺริยาทิวตฺถุวเสเนว เวทิตพฺพํ. ยถาห – ปุเรชาตํ จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณสฺส…เป… กายายตนํ กายวิฺาณสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. วตฺถุ วิปากาพฺยากตานํ กิริยาพฺยากตานํ ขนฺธานํ วตฺถุ กุสลานํ ขนฺธานํ, วตฺถุ อกุสลานํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

ปจฺจุปฺปนฺนลกฺขเณน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปการโก ธมฺโม อตฺถิปจฺจโย. ตสฺส อรูปกฺขนฺธมหาภูตนามรูปจิตฺตเจตสิกมหาภูตายตนวตฺถุวเสน สตฺตธา มาติกา นิกฺขิตฺตา. ยถาห – จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย; จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ, โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺํ, จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ มหาภูตา อุปาทารูปานํ, จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา…เป… กายายตนํ…เป… รูปายตนํ…เป… โผฏฺพฺพายตนํ กายวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปายตนํ…เป… โผฏฺพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ, ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ปฺหาวาเร ปน สหชาตํ, ปุเรชาตํ, ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ, อินฺทฺริยนฺติปิ นิกฺขิปิตฺวา สหชาเต ตาว ‘‘เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน นิทฺเทโส กโต. ปุเรชาเต ปุเรชาตานํ จกฺขาทีนํ วเสน นิทฺเทโส กโต. ปจฺฉาชาเต ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ปจฺจยวเสน นิทฺเทโส กโต. อาหารินฺทฺริเยสุ ปน ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยํ กฏตฺตารูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ นิทฺเทโส กโตติ.

อตฺตโน อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานํ อรูปธมฺมานํ ปวตฺติโอกาสสฺส ทาเนน อุปการกา สมนนฺตรนิรุทฺธา อรูปธมฺมา นตฺถิปจฺจโย. ยถาห – สมนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ นตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

เต เอว วิคตภาเวน อุปการกตฺตา วิคตปจฺจโย. ยถาห – สมนนฺตรวิคตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ วิคตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

อตฺถิปจฺจยธมฺมา เอว อวิคตภาเวน อุปการกตฺตา อวิคตปจฺจโยติ เวทิตพฺพา. เทสนาวิลาเสน ปน ตถา วิเนตพฺพเวเนยฺยวเสน วา อยํ ทุโก วุตฺโต; สเหตุกทุกํ วตฺวาปิ เหตุสมฺปยุตฺตทุโก วิยาติ.

อิเมสุ ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อสมฺโมหตฺถํ –

ธมฺมโต กาลโต เจว, นานปฺปการเภทโต;

ปจฺจยุปฺปนฺนโต เจว, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ตตฺถ ธมฺมโตติ – อิเมสุ หิ ปจฺจเยสุ เหตุปจฺจโย ตาว นามรูปธมฺเมสุ นามธมฺเมกเทโส. อารมฺมณปจฺจโย สทฺธึ ปฺตฺติยา จ อภาเวน สพฺเพปิ นามรูปธมฺมา. อธิปติปจฺจเย สหชาตาธิปติ นามธมฺเมกเทโส, ตถา กมฺมฌานมคฺคปจฺจยา. อารมฺมณาธิปติ สพฺเพปิ ครุกาตพฺพา อารมฺมณธมฺมา. อนนฺตรสมนนฺตรปจฺฉาชาตอาเสวนวิปากสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตปจฺจยา นามธมฺมาว. นิพฺพานสฺส อสงฺคหิตตฺตา นามธมฺเมกเทโสติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปุเรชาตปจฺจโย รูเปกเทโส. เสสา ยถาลาภวเสน นามรูปธมฺมาติ เอวํ ตาเวตฺถ ธมฺมโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

กาลโตติ

ปจฺจุปฺปนฺนาว โหนฺเตตฺถ, ปจฺจยา ทส ปฺจ จ;

อตีตา เอว ปฺเจโก, เต กาเล ทฺเวปิ นิสฺสิโต;

ตโย ติกาลิกา เจว, วิมุตฺตา จาปิ กาลโตติ.

เอเตสุ หิ เหตุปจฺจโย สหชาตอฺมฺนิสฺสยปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจโยติ อิเม ปนฺนรส ปจฺจยา ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมาว โหนฺติ. อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจโยติ อิเม ปฺจ อตีตาเยว โหนฺติ. เอโก ปน กมฺมปจฺจโย, โส ปจฺจุปฺปนฺนาตีเต ทฺเวปิ กาเล นิสฺสิโต โหติ. เสสา อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา เตกาลิกาปิ โหนฺติ, ปฺตฺติยา สทฺธึ นิพฺพานสฺส สงฺคหิตตฺตา กาลวิมุตฺตาปีติ. เอวเมตฺถ กาลโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

นานปฺปการเภทโต ปจฺจยุปฺปนฺนโตติ อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิภวิสฺสตีติ.

ปจฺจยุทฺเทสวณฺณนา.

ปจฺจยนิทฺเทโส

๑. เหตุปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อิทานิ สพฺเพปิ เต ปจฺจเย อุทฺทิฏฺปฏิปาฏิยา นิทฺทิสิตฺวา ทสฺเสตุํ เหตุปจฺจโยติ เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติอาทิมาห. ตตฺถ เหตุปจฺจโยติ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ นิกฺขิตฺตปฏิปาฏิยา สพฺพปมํ ภาเชตพฺพสฺส ปทุทฺธาโร. เสสปจฺจเยสุปิ อิมินาว นเยน ปมํ ภาเชตพฺพปทํ อุทฺธริตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ สมฺพนฺโธ – โย ปจฺจยุทฺเทเส เหตุปจฺจโยติ อุทฺทิฏฺโ, โส นิทฺเทสโต ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ เวทิตพฺโพ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปจฺจเยสุ ภาเชตพฺพสฺส ปทสฺส วิสฺสชฺชเนน สทฺธึ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

อิทานิ เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานนฺติ เอตฺถ ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ปจฺจยสฺส เจว ปจฺจยุปฺปนฺนานฺจ ววตฺถาปนโต. เหตุสมฺปยุตฺตกานนฺติ หิ วุตฺเต เหตุนา สมฺปยุตฺตกานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ อตฺโถ ภเวยฺย. เอวํ สนฺเต อสุโก นาม ธมฺโม เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปจฺจยววตฺถานํ น ปฺาเยยฺย. อถาปิ เหตุนา สมฺปยุตฺตกานํ เหตุสมฺปยุตฺตกานนฺติ อตฺถํ อคฺคเหตฺวาว เยสํ เกสฺจิ สมฺปยุตฺตกานํ เหตู เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ อตฺโถ ภเวยฺย, เอวํ สนฺเต เหตุนา วิปฺปยุตฺตา จกฺขุวิฺาณาทโยปิ สมฺปยุตฺตกาเยว, เหตุนา สมฺปยุตฺตา กุสลาทโยปิ. ตตฺถ อยํ เหตุ อสุกสฺส นาม สมฺปยุตฺตกธมฺมสฺส ปจฺจโยติ ปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ น ปฺาเยยฺย. ตสฺมา ปจฺจยฺเจว ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ ววตฺถาเปนฺโต ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ อาห. ตสฺสตฺโถ – เหตุสมฺปยุตฺตกานํ กุสลาทิธมฺมานํ โย เหตุ สมฺปยุตฺตโก, โส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ตตฺราปิ ‘‘ปจฺจโย’’ติ อวตฺวา ‘‘เหตุปจฺจเยนา’’ติ วจนํ เหตุโน อฺถา ปจฺจยภาวปฏิเสธนตฺถํ. อยฺหิ เหตุ เหตุปจฺจเยนาปิ ปจฺจโย โหติ, สหชาตาทิปจฺจเยนาปิ. ตตฺราสฺส ยฺวายํ สหชาตาทิปจฺจยวเสน อฺถาปิ ปจฺจยภาโว, ตสฺส ปฏิเสธนตฺถํ เหตุปจฺจเยนาติ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ตํสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ อวตฺวา กสฺมา ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ? นิทฺทิสิตพฺพสฺส อปากฏตฺตา. ตํสมฺปยุตฺตกานนฺติ หิ วุตฺเต เยน เต ตํสมฺปยุตฺตกา นาม โหนฺติ, อยํ นาม โสติ นิทฺทิสิตพฺโพ อปากโฏ. ตสฺส อปากฏตฺตา เยน สมฺปยุตฺตา เต ตํสมฺปยุตฺตกาติ วุจฺจนฺติ, ตํ สรูปโตว ทสฺเสตุํ ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ วุตฺตํ.

ตํสมุฏฺานานนฺติ เอตฺถ ปน นิทฺทิสิตพฺพสฺส ปากฏตฺตา ตํ-คหณํ กตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เต เหตู เจว เหตุสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา สมุฏฺานํ เอเตสนฺติ ตํสมุฏฺานานิ. เตสํ ตํสมุฏฺานานํ, เหตุโต เจว เหตุสมฺปยุตฺตธมฺเมหิ จ นิพฺพตฺตานนฺติ อตฺโถ. อิมินา จิตฺตสมุฏฺานรูปํ คณฺหาติ. กึ ปน ตํ จิตฺตโต อฺเนปิ สมุฏฺาตีติ? อาม, สมุฏฺาติ. สพฺเพปิ หิ จิตฺตเจตสิกา เอกโต หุตฺวา รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. โลกิยธมฺมเทสนายํ ปน จิตฺตสฺส อธิกภาวโต ตถาวิธํ รูปํ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. เตเนวาห จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

ยทิ เอวํ อิธาปิ ‘‘ตํสมุฏฺานาน’’นฺติ อวตฺวา จิตฺตสมุฏฺานานนฺติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อจิตฺตสมุฏฺานานมฺปิ สงฺคณฺหนโต. ปฺหาวารสฺมิฺหิ ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ อาคตํ’’. ตสฺส สงฺคณฺหนตฺถํ อิธ จิตฺตสมุฏฺานานนฺติ อวตฺวา ตํสมุฏฺานานนฺติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – จิตฺตชรูปํ อชนยมานาปิ เต เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา สหชาตาทิปจฺจยวเสน สมุฏฺานํ เอเตสนฺติ ตํสมุฏฺานานิ. เตสํ ตํสมุฏฺานานํ ปวตฺเต จิตฺตชานํ ปฏิสนฺธิยฺจ กฏตฺตารูปานมฺปิ เหตู เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อิมินา อุปาเยน อฺเสุปิ ตํสมุฏฺานานนฺติ อาคตฏฺาเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กสฺมา ปนายํ เหตุ ปฏิสนฺธิยเมว กฏตฺตารูปานํ เหตุปจฺจโย โหติ, น ปวตฺเตติ? ปฏิสนฺธิยํ กมฺมชรูปานํ จิตฺตปฏิพทฺธวุตฺติตาย. ปฏิสนฺธิยฺหิ กมฺมชรูปานํ จิตฺตปฏิพทฺธา ปวตฺติ, จิตฺตวเสน อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ. ตสฺมิฺหิ ขเณ จิตฺตํ จิตฺตชรูปํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, ตานิปิ วินา จิตฺเตน อุปฺปชฺชิตุํ วา าตุํ วา น สกฺโกนฺติ. เตเนวาห – ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, ตสฺมึ ปติฏฺิเต วิฺาเณ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๙). ปวตฺติยํ ปน เตสํ จิตฺเต วิชฺชมาเนปิ กมฺมปฏิพทฺธาว ปวตฺติ, น จิตฺตปฏิพทฺธา. อวิชฺชมาเน จาปิ จิตฺเต นิโรธสมาปนฺนานํ อุปฺปชฺชนฺติเยว.

กสฺมา ปน ปฏิสนฺธิกฺขเณ จิตฺตํ จิตฺตชรูปํ ชเนตุํ น สกฺโกตีติ? กมฺมเวคกฺขิตฺตตาย เจว อปฺปติฏฺิตวตฺถุตาย จ ทุพฺพลตฺตา. ตฺหิ ตทา กมฺมเวคกฺขิตฺตํ อปุเรชาตวตฺถุกตฺตา จ อปฺปติฏฺิตวตฺถุกนฺติ ทุพฺพลํ โหติ. ตสฺมา ปปาเต ปติตมตฺโต ปุริโส กิฺจิ สิปฺปํ กาตุํ วิย รูปํ ชเนตุํ น สกฺโกติ; กมฺมชรูปเมว ปนสฺส จิตฺตสมุฏฺานรูปฏฺาเน ติฏฺติ. ตฺจ กมฺมชรูปสฺเสว พีชฏฺาเน ติฏฺติ. กมฺมํ ปนสฺส เขตฺตสทิสํ, กิเลสา อาปสทิสา. ตสฺมา สนฺเตปิ เขตฺเต อาเป จ ปมุปฺปตฺติยํ พีชานุภาเวน รุกฺขุปฺปตฺติ วิย ปฏิสนฺธิกฺขเณ จิตฺตานุภาเวน รูปกายสฺส อุปฺปตฺติ. พีเช ปน วิคเตปิ ปถวีอาปานุภาเวน รุกฺขสฺส อุปรูปริ ปวตฺติ วิย; วินา จิตฺเตน กมฺมโตว กฏตฺตารูปานํ ปวตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กมฺมํ เขตฺตํ วิฺาณํ พีชํ ตณฺหา สฺเนโห’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๗).

อยฺจ ปนตฺโถ โอกาสวเสเนว คเหตพฺโพ. ตโย หิ โอกาสา – นาโมกาโส, รูโปกาโส, นามรูโปกาโสติ. ตตฺถ อรูปภโว นาโมกาโส นาม. ตตฺร หิ หทยวตฺถุมตฺตมฺปิ รูปปจฺจยํ วินา อรูปธมฺมาว อุปฺปชฺชนฺติ. อสฺภโว รูโปกาโส นาม. ตตฺร หิ ปฏิสนฺธิจิตฺตมตฺตมฺปิ อรูปปจฺจยํ วินา รูปธมฺมาว อุปฺปชฺชนฺติ. ปฺจโวการภโว นามรูโปกาโส นาม. ตตฺร หิ วตฺถุรูปมตฺตมฺปิ วินา ปฏิสนฺธิยํ อรูปธมฺมา, ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ วินา กมฺมชาปิ รูปธมฺมา นุปฺปชฺชนฺติ. ยุคนทฺธาว รูปารูปานํ อุปฺปตฺติ. ยถา หิ สสฺสามิเก สราชเก เคเห สทฺวารปาลเก ราชาณตฺตึ วินา ปมปฺปเวโส นาม นตฺถิ, อปรภาเค ปน วินาปิ อาณตฺตึ ปุริมาณตฺติอานุภาเวเนว โหติ, เอวเมว ปฺจโวกาเร ปฏิสนฺธิวิฺาณราชสฺส สหชาตาทิปจฺจยตํ วินา รูปสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปมุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ. อปรภาเค ปน วินาปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส สหชาตาทิปจฺจยานุภาวํ ปุริมานุภาววเสน ลทฺธปฺปเวสสฺส กมฺมโต ปวตฺติ โหติ. อสฺภโว ปน ยสฺมา อรูโปกาโส น โหติ, ตสฺมา ตตฺถ วินาว อรูปปจฺจยา อสฺโกาสตฺตา รูปํ ปวตฺตติ, อสฺสามิเก สุฺเคเห อตฺตโน เคเห จ ปุริสสฺส ปเวโส วิย. อรูปภโวปิ ยสฺมา รูโปกาโส น โหติ, ตสฺมา ตตฺถ วินาว รูปปจฺจยา อฺโกาสตฺตา อรูปธมฺมา ปวตฺตนฺติ. ปฺจโวการภโว ปน รูปารูโปกาโสติ นตฺเถตฺถ อรูปปจฺจยํ วินา ปฏิสนฺธิกฺขเณ รูปานํ อุปฺปตฺตีติ. อิติ อยํ เหตุ ปฏิสนฺธิยเมว กฏตฺตารูปานํ ปจฺจโย โหติ, น ปวตฺเตติ.

นนุ ‘‘เหตู สหชาตานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺเต สพฺโพปิ อยมตฺโถ คหิโต โหติ, อถ กสฺมา ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปาน’’นฺติ อิทํ คหิตนฺติ? ปวตฺติยํ กฏตฺตารูปาทีนํ ปจฺจยภาวปฏิพาหนโต. เอวฺหิ สติ ยานิ ปวตฺติยํ เหตุนา สห เอกกฺขเณ กฏตฺตารูปานิ เจว อุตุอาหารสมุฏฺานานิ จ ชายนฺติ, เตสมฺปิ เหตู เหตุปจฺจโยติ อาปชฺเชยฺย, น จ โส เตสํ ปจฺจโย. ตสฺมา เตสํ ปจฺจยภาวสฺส ปฏิพาหนตฺถเมตํ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ‘‘นานปฺปการเภทโต ปจฺจยุปฺปนฺนโต’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสเนตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. เตสุ นานปฺปการเภทโตติ อยฺหิ เหตุ นาม ชาติโต กุสลากุสลวิปากกิริยเภทโต จตุพฺพิโธ. ตตฺถ กุสลเหตุ ภูมนฺตรโต กามาวจราทิเภเทน จตุพฺพิโธ, อกุสลเหตุ กามาวจโรว วิปากเหตุ กามาวจราทิเภเทน จตุพฺพิโธ, กิริยเหตุ กามาวจโร รูปาวจโร อรูปาวจโรติ ติวิโธ. ตตฺถ กามาวจรกุสลเหตุ นามโต อโลภาทิวเสน ติวิโธ. รูปาวจราทิกุสลเหตูสุปิ เอเสว นโย. อกุสลเหตุ โลภาทิวเสน ติวิโธ. วิปากกิริยเหตู ปน อโลภาทิวเสน ตโย ตโย โหนฺติ. ตํตํจิตฺตสมฺปโยควเสน ปน เตสํ เตสํ เหตูนํ นานปฺปการเภโทเยวาติ เอวํ ตาเวตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ปจฺจยุปฺปนฺนโตติ อิมินา ปจฺจเยน อิเม ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อิเมสํ นาม ธมฺมานํ อยํ ปจฺจโยติ เอวมฺปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ อตฺโถ. ตตฺถ อิมสฺมึ ตาว เหตุปจฺจเย กามาวจรกุสลเหตุ กามภวรูปภเวสุ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ เหตุปจฺจโย โหติ, อรูปภเว สมฺปยุตฺตธมฺมานํเยว. รูปาวจรกุสลเหตุ กามภวรูปภเวสุเยว สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ เหตุปจฺจโย. อรูปาวจรกุสลเหตุ กามาวจรกุสลเหตุสทิโสว. ตถา อปริยาปนฺนกุสลเหตุ, ตถา อกุสลเหตุ. กามาวจรวิปากเหตุ ปน กามภวสฺมึเยว อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานํ, ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ เหตุปจฺจโย. รูปาวจรวิปากเหตุ รูปภเว วุตฺตปฺปการานฺเว เหตุปจฺจโย. อรูปาวจรวิปากเหตุ อรูปภเว สมฺปยุตฺตกานฺเว เหตุปจฺจโย. อปริยาปนฺนวิปากเหตุ กามภวรูปภเวสุ สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ อรูปภเว อรูปธมฺมานฺเว เหตุปจฺจโย. กิริยเหตูสุ ปน เตภูมเกสุปิ กุสลเหตุสทิโสว ปจฺจโยติ. เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

เหตุปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒. อารมฺมณปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อารมฺมณปจฺจยนิทฺเทเส รูปายตนนฺติ รูปสงฺขาตํ อายตนํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. จกฺขุวิฺาณธาตุยาติ จกฺขุวิฺาณสงฺขาตาย ธาตุยา. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตํสมฺปยุตฺตกานนฺติ ตาย จกฺขุวิฺาณธาตุยา สมฺปยุตฺตกานํ ติณฺณํ ขนฺธานํ, สพฺเพสมฺปิ จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ รูปายตนํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อตฺโถ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. มโนธาตุยาติ สสมฺปยุตฺตธมฺมาย ติวิธายปิ มโนธาตุยา รูปายตนาทีนิ ปฺจ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, โน จ โข เอกกฺขเณ. สพฺเพ ธมฺมาติ เอตานิ จ รูปายตนาทีนิ ปฺจ อวเสสา จ สพฺเพปิ เยฺยธมฺมา อิมา ฉ ธาตุโย เปตฺวา เสสาย สสมฺปยุตฺตธมฺมาย มโนวิฺาณธาตุยา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อตฺโถ. ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภาติ อิมินา เย เอเต เอตาสํ สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ อารมฺมณธมฺมา วุตฺตา, เต ตาสํ ธาตูนํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกฺขเณเยว อารมฺมณปจฺจโย โหนฺตีติ ทีเปติ. เอวํ โหนฺตาปิ จ น เอกโต โหนฺติ, ยํ ยํ อารพฺภ เย เย อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ เตสํ เต เต วิสุํ วิสุํ อารมฺมณปจฺจโย โหนฺตีติปิ ทีเปติ. อุปฺปชฺชนฺตีติ อิทํ ยถา นชฺโช สนฺทนฺติ, ปพฺพตา ติฏฺนฺตีติ สพฺพกาลสงฺคหวเสน, เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน เยปิ อารพฺภ เย อุปฺปชฺชึสุ, เยปิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, เต สพฺเพ อารมฺมณปจฺจเยเนว อุปฺปชฺชึสุ จ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ จาติ สิทฺธํ โหติ. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาติ อิทํ ‘‘เย เย ธมฺมา’’ติ วุตฺตานํ สรูปโต นิทสฺสนํ. เต เต ธมฺมาติ เต เต อารมฺมณธมฺมา. เตสํ เตสนฺติ เตสํ เตสํ จิตฺตเจตสิกธมฺมานํ. อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อิทํ ปน อารมฺมณํ นาม รูปารมฺมณํ สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมารมฺมณนฺติ โกฏฺาสโต ฉพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ เปตฺวา ปฺตฺตึ อวเสสํ ภูมิโต กามาวจรํ…เป… อปริยาปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ กามาวจรํ กุสลากุสลวิปากกิริยรูปเภทโต ปฺจวิธํ; รูปาวจรํ กุสลวิปากกิริยโต ติวิธํ, ตถา อรูปาวจรํ, อปริยาปนฺนํ กุสลวิปากนิพฺพานวเสน ติวิธํ โหติ. สพฺพเมว วา เอตํ กุสลากุสลวิปากกิริยรูปนิพฺพานปฺตฺติเภทโต สตฺตวิธํ โหติ. ตตฺถ กุสลํ ภูมิเภทโต จตุพฺพิธํ โหติ, อกุสลํ กามาวจรเมว, วิปากํ จตุภูมกํ, กิริยํ ติภูมกํ, รูปํ เอกภูมกํ กามาวจรเมว, นิพฺพานมฺปิ เอกภูมกํ อปริยาปนฺนเมว, ปฺตฺติ ภูมิวินิมุตฺตาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตสฺมึ อารมฺมเณ กามาวจรกุสลารมฺมณํ กามาวจรกุสลสฺส, รูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรกิริยสฺส, รูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกุสลารมฺมณํ เตสุ ฉสุ ราสีสุ กามาวจรวิปากวชฺชานํ ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรกุสลารมฺมณํ กามาวจรกุสลสฺส, รูปาวจรกุสลสฺส, อรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, อรูปาวรจรวิปากสฺส, กามาวจรกิริยสฺส, รูปาวจรกิริยสฺส, อรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อปริยาปนฺนกุสลารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรโต กุสลกิริยานเมว อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อกุสลารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

กามาวจรวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. รูปาวจรวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรวิปาการมฺมณมฺปิ อิเมสํเยว ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อปริยาปนฺนวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลกิริยานฺเว อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

กามาวจรกิริยารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกิริยารมฺมณํ อิเมสุ ฉสุ ราสีสุ กามาวจรวิปากวชฺชานํ ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรกิริยารมฺมณํ เตสํ ปฺจนฺนํ อรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. จตุสมุฏฺานํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ รูปารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส อกุสลสฺส กามาวจรวิปากสฺส กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. นิพฺพานารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อปริยาปนฺนโต กุสลวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกุสลกิริยานํ เกจิ นิจฺฉนฺติ, ตํ ยุตฺติโต อุปธาเรตพฺพํ. นานปฺปการกํ ปน ปฺตฺติอารมฺมณํ เตภูมกกุสลสฺส, อกุสลสฺส, รูปาวจรวิปากสฺส, อรูปาวจรวิปากสฺส, เตภูมกกิริยสฺส จาติ อิเมสํ นวนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. ตตฺถ ยํ ยํ อารมฺมณํ เยสํ เยสํ ปจฺจโย, เต เต ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนา นาม โหนฺตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อารมฺมณปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๓. อธิปติปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อธิปติปจฺจยนิทฺเทเส ฉนฺทาธิปตีติ ฉนฺทสงฺขาโต อธิปติ. ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา ฉนฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา จิตฺตุปฺปตฺติกาเล อุปฺปนฺนสฺส กตฺตุกมฺยตาฉนฺทสฺเสตํ นามํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. กสฺมา ปน ยถา เหตุปจฺจยนิทฺเทเส เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกานนฺติ อวตฺวา ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติอาทินา นเยน เทสนา กตาติ? เอกกฺขเณ อภาวโต. ปุริมนยสฺมิฺหิ ทฺเว ตโย เหตู เอกกฺขเณปิ เหตุปจฺจโย โหนฺติ มูลฏฺเน. อุปการกภาวสฺส อวิชหนโต. อธิปติ ปน เชฏฺกฏฺเน อุปการโก, น จ เอกกฺขเณ พหู เชฏฺกา นาม โหนฺติ. ตสฺมา เอกโต อุปฺปนฺนานมฺปิ เนสํ เอกกฺขเณ อธิปติปจฺจยภาโว นตฺถิ. ตสฺส อธิปติปจฺจยภาวสฺส เอกกฺขเณ อภาวโต อิธ เอวํ เทสนา กตาติ.

เอวํ สหชาตาธิปตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อารมฺมณาธิปตึ ทสฺเสตุํ ยํ ยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ ยํ ธมฺมนฺติ ยํ ยํ อารมฺมณธมฺมํ. ครุํ กตฺวาติ ครุการจิตฺตีการวเสน วา อสฺสาทวเสน วา ครุํ ภาริยํ ลทฺธพฺพํ อวิชหิตพฺพํ อนวฺาตํ กตฺวา. เต เต ธมฺมาติ เต เต ครุกาตพฺพธมฺมา. เตสํ เตสนฺติ เตสํ เตสํ ครุการกธมฺมานํ. อธิปติปจฺจเยนาติ อารมฺมณาธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน อธิปติ นาม สหชาตารมฺมณวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ สหชาโต ฉนฺทาทิวเสน จตุพฺพิโธ. เตสุ เอเกโก กามาวจราทิวเสน ภูมิโต จตุพฺพิโธ. ตตฺถ กามาวจโร กุสลากุสลกิริยวเสน ติวิโธ. อกุสลํ ปตฺวา ปเนตฺถ วีมํสาธิปติ น ลพฺภติ. รูปารูปาวจโร กุสลกิริยวเสน ทุวิโธ, อปริยาปนฺโน กุสลวิปากวเสน ทุวิโธ. อารมฺมณาธิปติ ปน ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปนิพฺพานานํ วเสน ฉพฺพิโธติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ สหชาตาธิปติมฺหิ ตาว กามาวจรกุสลกิริยสงฺขาโต อธิปติ ทุเหตุกติเหตุเกสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ ฉนฺทาทีนํ อฺตรํ เชฏฺกํ กตฺวา อุปฺปตฺติกาเล อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อธิปติปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกุสลกิริยสงฺขาเตปิ เอเสว นโย. อยํ ปน เอกนฺเตเนว ลพฺภติ. น หิ เต ธมฺมา สหชาตาธิปตึ วินา อุปฺปชฺชนฺติ. อรูปาวจรกุสลกิริยสงฺขาโต ปน ปฺจโวกาเร รูปาวจรอธิปติสทิโสว จตุโวกาเร ปน สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อธิปติปจฺจโย โหติ. ตถา ตตฺถุปฺปนฺโน สพฺโพปิ กามาวจราธิปติ. อปริยาปนฺโน กุสลโตปิ วิปากโตปิ ปฺจโวกาเร เอกนฺเตเนว สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ อธิปติปจฺจโย โหติ, จตุโวกาเร อรูปธมฺมานฺเว. อกุสโล กามภเว มิจฺฉตฺตนิยตจิตฺเตสุ เอกนฺเตเนว สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ อธิปติปจฺจโย โหติ. อนิยโต กามภวรูปภเวสุ อตฺตโน อธิปติกาเล เตสฺเว. อรูปภเว อรูปธมฺมานฺเว อธิปติปจฺจโย โหติ. อยํ ตาว สหชาตาธิปติมฺหิ นโย.

อารมฺมณาธิปติมฺหิ ปน กามาวจรกุสโล อารมฺมณาธิปติ กามาวจรกุสลสฺส โลภสหคตากุสลสฺสาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ราสีนํ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. รูปาวจรารูปาวจเรปิ กุสลารมฺมณาธิปติมฺหิ เอเสว นโย. อปริยาปนฺนกุสโล ปน อารมฺมณาธิปติ กามาวจรโต าณสมฺปยุตฺตกุสลสฺส เจว าณสมฺปยุตฺตกิริยสฺส จ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. อกุสโล ปน อารมฺมณาธิปติ นาม โลภสหคตจิตฺตุปฺปาโท วุจฺจติ. โส โลภสหคตากุสลสฺเสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. กามาวจโร ปน วิปาการมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลสฺเสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. ตถา รูปาวจรารูปาวจรวิปาการมฺมณาธิปติ. โลกุตฺตโร ปน วิปาการมฺมณาธิปติ กามาวจรโต าณสมฺปยุตฺตกุสลกิริยานฺเว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. กามาวจราทิเภทโต ปน ติวิโธปิ กิริยารมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลสฺเสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. จตุสมุฏฺานิกรูปสงฺขาโต รูปกฺขนฺโธ อารมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลสฺเสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหติ. นิพฺพานํ กามาวจรโต าณสมฺปยุตฺตกุสลสฺส าณสมฺปยุตฺตกิริยสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺส โลกุตฺตรวิปากสฺส จาติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อธิปติปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๔. อนนฺตรปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อนนฺตรปจฺจยนิทฺเทเส มโนธาตุยาติ วิปากมโนธาตุยา. มโนวิฺาณธาตุยาติ สนฺตีรณกิจฺจาย อเหตุกวิปากมโนวิฺาณธาตุยา. ตโต ปรํ ปน โวฏฺพฺพนชวนตทารมฺมณภวงฺคกิจฺจา มโนวิฺาณธาตุโย วตฺตพฺพา สิยุํ, ตา อวุตฺตาปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพาติ นยํ ทสฺเสตฺวา เทสนา สงฺขิตฺตา. ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติอาทิเก จ ฉฏฺนเย ตา สงฺคหิตาติปิ อิธ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปุริมา ปุริมาติ ฉสุ ทฺวาเรสุปิ อนนฺตราตีตา กุสลชวนธมฺมา ทฏฺพฺพา. ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานนฺติ อนนฺตรอุปฺปชฺชมานานฺเว. กุสลานนฺติ สทิสกุสลานํ. อพฺยากตานนฺติ อิทํ ปน กุสลานนฺตรํ ตทารมฺมณภวงฺคผลสมาปตฺติวเสน วุตฺตํ. อกุสลมูลเก อพฺยากตานนฺติ ตทารมฺมณภวงฺคสงฺขาตานฺเว. อพฺยากตมูลเก อพฺยากตานนฺติ อาวชฺชนชวนวเสน วา ภวงฺควเสน วา ปวตฺตานํ กิริยวิปากาพฺยากตานํ กิริยมโนธาตุโต ปฏฺาย ปน ยาว โวฏฺพฺพนกิจฺจา มโนวิฺาณธาตุ, ตาว ปวตฺเตสุ วีถิจิตฺเตสุปิ อยํ นโย ลพฺภเตว. กุสลานนฺติ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนานนฺตรานํ มโนทฺวาเร อาวชฺชนานฺตรานํ ปมชวนกุสลานํ. อกุสลานนฺติ ปเทปิ เอเสว นโย. เยสํ เยสนฺติ อิทํ สพฺเพสมฺปิ อนนฺตรปจฺจยธมฺมานํ. สงฺเขปลกฺขณนฺติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน อนนฺตรปจฺจโย นาม เปตฺวา นิพฺพานํ จตุภูมโก อรูปธมฺมราสิเยวาติ เวทิตพฺโพ. โส ชาติวเสน กุสลากุสลวิปากกิริยโต จตุธา ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล กามาวจราทิเภทโต จตุพฺพิโธ โหติ, อกุสโล กามาวจโรว วิปาโก จตุภูมโก, กิริยานนฺตรปจฺจโย ปน เต ภูมโกติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ กามาวจรกุสโล อตฺตนา สทิสสฺเสว กามาวจรกุสลสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ. าณสมฺปยุตฺตกามาวจรกุสโล ปน รูปาวจรกุสลสฺส อรูปาวจรกุสลสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺสาติ อิเมสํ ติณฺณํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. กามาวจรกุสโล จ กามาวจรวิปากสฺส, รูปาวจรารูปาวจรวิปากสฺส, าณสมฺปยุตฺโต โลกุตฺตรวิปากสฺสาปีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกุสโล รูปาวจรกุสลสฺส, าณสมฺปยุตฺตกามาวจรวิปากสฺส, รูปาวจรวิปากสฺสาติ อิเมสํ ติณฺณํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรกุสโล เตสํ ทฺวินฺนํ วิปากานํ อตฺตโน กุสลสฺส วิปากสฺส จาติ อวิเสเสน จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. วิเสเสน ปเนตฺถ เนวสฺานาสฺายตนกุสโล อนาคามิผลสงฺขาตสฺส โลกุตฺตรวิปากสฺสปิ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. โลกุตฺตรกุสโล โลกุตฺตรวิปากสฺเสว อนนฺตรปจฺจโย โหติ. อกุสโล อวิเสเสน อกุสลสฺส เจว กุสลากุสลวิปากสฺส จ. วิเสเสน ปเนตฺถ สุขมชฺฌตฺตเวทนาสมฺปยุตฺโต อกุสโล รูปาวจรารูปาวจรวิปากสฺสาปีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ.

กามาวจรวิปากสฺส าณสมฺปยุตฺโต วา าณวิปฺปยุตฺโต วา วิปาโก กามาวจรกิริยาวชฺชนสฺส, าณสมฺปยุตฺตวิปาโก ปเนตฺถ ปฏิสนฺธิวเสน อุปฺปชฺชมานสฺส รูปาวจรารูปาวจรวิปากสฺสาปีติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. รูปาวจรวิปาโก สเหตุกกามาวจรวิปากสฺส รูปาวจรารูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกิริยาวชฺชนสฺสาติ อิเมสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรวิปาโก ติเหตุกกามาวจรวิปากสฺส อรูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกิริยาวชฺชนสฺสาติ ติณฺณํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. โลกุตฺตรวิปาโก ติเหตุกกามาวจรวิปากสฺส รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรวิปากสฺสาติ จตุนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ.

กามาวจรกิริยํ กามาวจรกุสลากุสลสฺส จตุภูมกวิปากสฺส เตภูมกกิริยสฺสาติ นวนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกิริยํ ติเหตุกกามาวจรวิปากสฺส รูปาวจรวิปากสฺส รูปาวจรกิริยสฺสาติ ติณฺณํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรกิริยํ ติเหตุกกามาวจรวิปากสฺส รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรวิปากสฺส อรูปาวจรกิริยสฺสาติ ปฺจนฺนํ ราสีนํ อนนฺตรปจฺจโย โหตีติ. เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อนนฺตรปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๕. สมนนฺตรปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. สมนนฺตรปจฺจยนิทฺเทโสปิ อิมินา สมานคติโกว. อิเม ปน ทฺเว ปจฺจยา มหาวิตฺถารา, ตสฺมา สพฺพจิตฺตุปฺปตฺติวเสน เตสํ อุปปริกฺขิตฺวา วิตฺถาโร คเหตพฺโพติ.

สมนนฺตรปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๖. สหชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. สหชาตปจฺจยนิทฺเทเส อฺมฺนฺติ อฺโ อฺสฺส. อิมินา เอเตสํ ธมฺมานํ เอกกฺขเณ ปจฺจยภาวฺเจว ปจฺจยุปฺปนฺนภาวฺจ ทีเปติ. โอกฺกนฺติกฺขเณติ ปฺจโวการภเว ปฏิสนฺธิกฺขเณ. ตสฺมิฺหิ ขเณ นามรูปํ โอกฺกนฺตํ วิย ปกฺขนฺทนฺตํ วิย ปรโลกโต อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ปวิสนฺตํ วิย อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา โส ขโณ ‘‘โอกฺกนฺติกฺขโณ’’ติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ รูปนฺติ หทยวตฺถุมตฺตเมว อธิปฺเปตํ. ตฺหิ นามสฺส, นามฺจ ตสฺส อฺมฺํ สหชาตปจฺจยฏฺํ ผรติ. จิตฺตเจตสิกาติ ปวตฺติยํ จตฺตาโร ขนฺธา. สหชาตปจฺจเยนาติ เอตฺถ จิตฺตสมุฏฺานรูปา จิตฺตเจตสิกานํ ปจฺจยฏฺํ น ผรนฺติ, ตสฺมา ‘‘อฺมฺ’’นฺติ น วุตฺตํ. ตถา อุปาทารูปา ภูตานํ. รูปิโน ธมฺมา อรูปีนํ ธมฺมานนฺติ หทยวตฺถุ จตุนฺนํ ขนฺธานํ. กิฺจิ กาเลติ กิสฺมิฺจิ กาเล. สหชาตปจฺจเยนาติ ปฏิสนฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ. น สหชาตปจฺจเยนาติ ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ.

อยํ ปน ‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’ติ เอวํ ฉหิ โกฏฺาเสหิ ิโต. ตตฺถ ตโย โกฏฺาสา อฺมฺวเสน วุตฺตา, ตโย น อฺมฺวเสน. ตตฺถ ปมโกฏฺาเส อรูปเมว ปจฺจโย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ, ทุติเย รูปเมว, ตติเย นามรูปํ, จตุตฺเถ ปจฺจโย อรูปํ, ปจฺจยุปฺปนฺนํ รูปํ; ปฺจเม ปจฺจโยปิ ปจฺจยุปฺปนฺนมฺปิ รูปเมว; ฉฏฺเ ปจฺจโย รูปํ, ปจฺจยุปฺปนฺนํ อรูปนฺติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน สหชาตปจฺจโย ชาติวเสน กุสโล อกุสโล วิปาโก กิริยํ รูปนฺติ ปฺจธา ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล ภูมิโต จตุพฺพิโธ โหติ, อกุสโล เอกวิโธว วิปาโก จตุพฺพิโธ, กิริยสงฺขาโต ติวิโธ, รูปํ เอกวิธํ กามาวจรเมวาติ เอวํ ตาเวตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกมฺปิ กุสลํ ปฺจโวการภเว อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สหชาตปจฺจโย โหติ, ตถา อกุสลํ. ยํ ปเนตฺถ อรูเป อุปฺปชฺชติ, ตํ อรูปธมฺมานํเยว สหชาตปจฺจโย โหติ.

กามาวจรรูปาวจรวิปากํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส เจว สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ สหชาตปจฺจโย โหติ. ยํ ปเนตฺถ รูปํ น สมุฏฺาเปติ, ตํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว. ยํ ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปชฺชติ, ตํ กฏตฺตารูปานฺจาปิ สหชาตปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรวิปากํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว. โลกุตฺตรวิปากํ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ, จตุโวกาเร อรูปานฺเว. กามาวจรอรูปาวจรกิริยา ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ สหชาตปจฺจโย โหติ, จตุโวกาเร อรูปานฺเว. รูปาวจรกิริยา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ เอกนฺเตน สหชาตปจฺจโย โหติ.

จตุสมุฏฺานิกสฺส รูปสฺส กมฺมสมุฏฺานรูเป เอกํ มหาภูตํ ติณฺณํ, ตีณิ เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนํ มหาภูตานํ, มหาภูตา อุปาทารูปสฺส สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. กามาวจรรูปาวจรปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปํ วิปากกฺขนฺธานํ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย. อุตุจิตฺตาหารสมุฏฺาเนสุ ปน มหาภูตานิ อฺมฺฺเจว อุปาทารูปสฺส จ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

สหชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๗. อฺมฺปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อฺมฺปจฺจยนิทฺเทเส สหชาตปจฺจยนิทฺเทสสฺส ปุริมานํ ติณฺณํ โกฏฺาสานํ วเสน ปาฬิ อาคตา. ตสฺสา ตตฺถ วุตฺตสทิสาว วณฺณนาติ ปุน น คหิตา. อยมฺปิ จ อฺมฺปจฺจโย ชาติวเสน กุสโล อกุสโล วิปาโก กิริยํ รูปนฺติ ปฺจธา ภินฺโน. ตตฺถ กุสโล ภูมิโต จตุพฺพิโธ. สพฺพํ ปุริมสทิสเมวาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ สพฺพมฺปิ จตุภูมกํ กุสลํ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. ตถา อกุสลํ. วิปาเก ปน กามาวจรรูปาวจรวิปากํ ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุรูปสฺส, ปวตฺเต สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว. อรูปาวจรโลกุตฺตรวิปากํ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. สพฺพมฺปิ กิริยํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. จตุสมุฏฺานิกรูปสฺส กมฺมสมุฏฺาเน เอกํ มหาภูตํ ติณฺณํ, ตีณิ เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนํ มหาภูตานํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. กามาวจรรูปาวจรปฏิสนฺธิยํ วตฺถุรูปํ วิปากกฺขนฺธานํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย. อุตุจิตฺตาหารสมุฏฺาเนสุ มหาภูตาเนว มหาภูตานํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อฺมฺปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๘. นิสฺสยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. นิสฺสยปจฺจยนิทฺเทเส สหชาตปจฺจยนิทฺเทสสฺส ปุริมานํ ปฺจนฺนํ โกฏฺาสานํ วเสน สหชาตนิสฺสยนยํ ทสฺเสตฺวา ปุน ฉฏฺเน โกฏฺาเสน ปุเรชาตนิสฺสยนยํ ทสฺเสตุํ จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยํ รูปํ นิสฺสายาติ วตฺถุรูปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ นิสฺสาย ติวิธา มโนธาตุ, เปตฺวา อรูปวิปากํ ทฺวาสตฺตติวิธา มโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ ปฺจสตฺตติ จิตฺตานิ วตฺตนฺตีติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา. อยมฺปิ นิสฺสยปจฺจโย ชาติวเสน กุสลาทิเภทโต ปฺจธาว ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล ภูมิโต จตุพฺพิโธว อกุสโล เอกวิโธ วิปาโก จตุพฺพิโธ, กิริยสงฺขาโต ติวิโธ, รูปํ เอกวิธเมวาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกมฺปิ กุสลํ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ตถา อกุสลํ. ยํ ปเนตฺถ อารุปฺเป อุปฺปชฺชติ, ตํ อรูปธมฺมานฺเว นิสฺสยปจฺจโย โหติ. กามาวจรรูปาวจรวิปากํ ปวตฺเต สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสฺสาปิ นิสฺสยปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรวิปากํ สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานํเยว โหติ. โลกุตฺตรวิปากํ ปฺจโวกาเร; สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร อรูปสฺเสว นิสฺสยปจฺจโย โหติ. กามาวจรอรูปาวจรกิริยา ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ นิสฺสยปจฺจโย โหติ, จตุโวกาเร อรูปานฺเว. รูปาวจรกิริยา สมฺปยุตฺตกานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ เอกนฺเตน นิสฺสยปจฺจโย โหติ.

จตุสมุฏฺานิกรูปสฺส จ กมฺมสมุฏฺานรูเป เอกํ มหาภูตํ ติณฺณํ, ตีณิ เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนํ มหาภูตานํ, มหาภูตา อุปาทารูปานํ, วตฺถุรูปํ ปฺจโวการภเว จตุภูมกกุสลสฺส, อกุสลสฺส, เปตฺวา อารุปฺปวิปากฺเจว ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ จ เสสเตภูมกวิปากสฺส, เตภูมกกิริยสฺสาติ อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมราสีนํ นิสฺสยปจฺจโย โหติ. จกฺขายตนาทีนิ ปฺจ สสมฺปยุตฺตานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ นิสฺสยปจฺจโย โหติ. อุตุจิตฺตาหารสมุฏฺาเนสุ ปน มหาภูตา มหาภูตานฺเจว อุปาทารูปสฺส จ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

นิสฺสยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๙. อุปนิสฺสยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

. อุปนิสฺสยปจฺจยนิทฺเทเส ปุริมา ปุริมาติ อนนฺตรูปนิสฺสเย สมนนฺตราตีตา ลพฺภนฺติ, อารมฺมณูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสเยสุ นานาวีถิวเสน ปุริมตรา. เต ตโยปิ ราสโย กุสลวเสน กุสลปเท ลพฺภนฺติ, กุสเลน ปน อกุสเล สมนนฺตราตีตา น ลพฺภนฺติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘อกุสลานํ ธมฺมานํ เกสฺจิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อิทฺหิ – ‘‘กุสโล ธมฺโม อกุสลสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย; อารมฺมณูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. อารมฺมณูปนิสฺสโย – ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ ครุํ กตฺวา ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ ครุํ กตฺวา ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ ครุํ กตฺวา ราโค อุปฺปชฺชติ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ปกตูปนิสฺสโย – สทฺธํ อุปนิสฺสาย มานํ ชปฺเปติ, ทิฏฺึ คณฺหาติ. สีลํ สุตํ จาคํ ปฺํ อุปนิสฺสาย มานํ ชปฺเปติ, ทิฏฺึ คณฺหาติ. สทฺธา สีลํ สุตํ จาโค ปฺา ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส มานสฺส ทิฏฺิยา ปตฺถนาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อิมํ นยํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสเลน อพฺยากเต ตโยปิ ลพฺภนฺติ, ตถา อกุสเลน อกุสเล.

อกุสเลน ปน กุสเล สมนนฺตราตีตา น ลพฺภนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘กุสลานํ ธมฺมานํ เกสฺจิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อิทมฺปิ หิ – ‘‘อกุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ปกตูปนิสฺสโย – ราคํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ฌานํ อุปฺปาเทติ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทติ, สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ; โทสํ โมหํ มานํ ทิฏฺึ ปตฺถนํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ…เป… สมาปตฺตึ อุปฺปาเทติ. ราโค โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ ปตฺถนา สทฺธาย สีลสฺส สุตสฺส จาคสฺส ปฺาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ปาณํ หนฺตฺวา ตสฺส ปฏิฆาตตฺถาย ทานํ เทตี’’ติอาทินา นเยน ปฺหาวาเร อาคตํ ปกตูปนิสฺสยเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อกุสลํ ปน กุสลสฺส อารมฺมณูปนิสฺสโย น โหติ. กสฺมา? ตํ ครุํ กตฺวา ตสฺส อปฺปวตฺตนโตติ ยถา อนนฺตรูปนิสฺสโย, เอวํ อารมฺมณูปนิสฺสโยเปตฺถ น ลพฺภตีติ เวทิตพฺโพ. อกุสเลน อพฺยากตปเท อารมฺมณูปนิสฺสโยว น ลพฺภติ. น หิ อพฺยากตา ธมฺมา อกุสลํ ครุํ กโรนฺติ. ยสฺมา ปน อนนฺตรตา ลพฺภติ, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘เกสฺจี’’ติ น วุตฺตํ. อพฺยากเตน ปน อพฺยากเต กุสเล อกุสเลติ ตีสุ นเยสุ ตโยปิ อุปนิสฺสยา ลพฺภนฺเตว. ปุคฺคโลปิ เสนาสนมฺปีติ อิทํ ทฺวยํ ปกตูปนิสฺสยวเสน วุตฺตํ. อิทฺหิ ทฺวยํ กุสลากุสลปวตฺติยา พลวปจฺจโย โหติ. ปจฺจยภาโว จสฺส ปเนตฺถ ปริยายวเสน เวทิตพฺโพติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน อุปนิสฺสยปจฺจโย นาม สทฺธึ เอกจฺจาย ปฺตฺติยา สพฺเพปิ จตุภูมกธมฺมา. วิภาคโต ปน อารมฺมณูปนิสฺสยาทิวเสน ติวิโธ โหติ. ตตฺถ อารมฺมณูปนิสฺสโย อารมฺมณาธิปตินา นินฺนานากรโณติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว นานปฺปการเภทโต คเหตพฺโพ. อนนฺตรูปนิสฺสโย อนนฺตรปจฺจเยน นินฺนานากรโณ, โสปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว นานปฺปการเภทโต เวทิตพฺโพ. ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ เนสํ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปกตูปนิสฺสโย ปน ชาติวเสน กุสลากุสลวิปากกิริยรูปเภทโต ปฺจวิโธ โหติ, กุสลาทีนํ ปน ภูมิเภทโต อเนกวิโธติ เอวํ ตาเวตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ เตภูมกกุสโล จตุภูมกสฺสาปิ กุสลสฺส อกุสลสฺส วิปากกิริยสฺสาติ จตุนฺนํ ราสีนํ ปกตูปนิสฺสโย โหติ. โลกุตฺตโร อกุสลสฺเสว น โหติ. อมฺหากํ อาจริเยน ‘‘โลกุตฺตรธมฺโม นิพฺพตฺติโต’’ติ อิมินา ปน นเยน อฺเสํ อกุสลสฺสาปิ โหติ. ยสฺส วา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺสาปิ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อิมินา นเยน โหติเยว. อกุสโล สพฺเพสมฺปิ จตุภูมกานํ ขนฺธานํ ปกตูปนิสฺสโย โหติ, ตถา เตภูมกวิปาโก. โลกุตฺตรวิปาเก เหฏฺิมานิ ตีณิ ผลานิ อกุสลสฺเสว น โหนฺติ, อุปริฏฺิมํ กุสลสฺสาปิ. ปุริมนเยน ปน อฺเสํ วา ยสฺส วา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส สนฺตาเน สพฺโพปิ โลกุตฺตรวิปาโก สพฺเพสํ กุสลาทีนํ อรูปกฺขนฺธานํ ปกตูปนิสฺสโย โหติ. กิริยสงฺขาโตปิ ปกตูปนิสฺสโย จตุภูมกานํ อกุสลาทิขนฺธานํ โหติเยว, ตถา รูปสงฺขาโต. สยํ ปน รูปํ อิมสฺมึ ปฏฺานมหาปกรเณ อาคตนเยน อุปนิสฺสยปจฺจยํ น ลภติ, สุตฺตนฺติกปริยาเยน ปน ลภตีติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อุปนิสฺสยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๐. ปุเรชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๐. ปุเรชาตปจฺจยนิทฺเทเส ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอตฺถ ปุเรชาตํ นาม ยสฺส ปจฺจโย โหติ, ตโต ปุริมตรํ ชาตํ ชาติกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ิติกฺขณปฺปตฺตํ. จกฺขายตนนฺติอาทิ วตฺถุปุเรชาตวเสน วุตฺตํ. รูปายตนนฺติอาทิ อารมฺมณปุเรชาตวเสน. กิฺจิกาเล ปุเรชาตปจฺจเยนาติ ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจิกาเล น ปุเรชาตปจฺจเยนาติ ปฏิสนฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ สพฺพถาปิ ปฺจทฺวาเร วตฺถารมฺมณวเสน, มโนทฺวาเร วตฺถุวเสเนวายํ ปาฬิ อาคตา, ปฺหาวาเร ปน ‘‘อารมฺมณปุเรชาตํ – เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตี’’ติ อาคตตฺตา มโนทฺวาเรปิ อารมฺมณปุเรชาตํ ลพฺภเตว. อิธ ปน สาวเสสวเสน เทสนา กตาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน ปุเรชาตปจฺจโย สุทฺธรูปเมว โหติ. ตฺจ โข อุปฺปาทกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ิติปฺปตฺตํ อฏฺารสวิธํ รูปรูปเมว. ตํ สพฺพมฺปิ วตฺถุปุเรชาตํ อารมฺมณปุเรชาตนฺติ ทฺวิธา ิตํ. ตตฺถ จกฺขายตนํ…เป… กายายตนํ วตฺถุรูปนฺติ อิทํ วตฺถุปุเรชาตํ นาม. เสสํ อิมาย ปาฬิยา อาคตฺจ อนาคตฺจ วณฺโณ สทฺโท คนฺโธ รโส จตสฺโส ธาตุโย ตีณิ อินฺทฺริยานิ กพฬีกาโร อาหาโรติ ทฺวาทสวิธํ รูปํ อารมฺมณปุเรชาตปจฺจโย นามาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จกฺขายตนํ ทฺวินฺนํ จกฺขุวิฺาณานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย, ตถา อิตรานิ จตฺตาริ โสตวิฺาณาทีนํ. วตฺถุรูปํ ปน เปตฺวา ทฺวิปฺจวิฺาณานิ จตฺตาโร จ อารุปฺปวิปาเก เสสานํ สพฺเพสมฺปิ จตุภูมกานํ กุสลากุสลาพฺยากตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ปุเรชาตปจฺจโย โหติ. รูปาทีนิ ปน ปฺจารมฺมณานิ ทฺวิปฺจวิฺาณานฺเจว มโนธาตูนฺจ เอกนฺเตเนว ปุเรชาตปจฺจยา โหนฺติ. อฏฺารสวิธมฺปิ ปเนตํ รูปรูปํ กามาวจรกุสลสฺส รูปาวจรโต อภิฺากุสลสฺส อกุสลสฺส ตทารมฺมณภาวิโน กามาวจรวิปากสฺส กามาวจรกิริยสฺส รูปาวจรโต อภิฺากิริยสฺสาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ ปุเรชาตปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

ปุเรชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๑. ปจฺฉาชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑. ปจฺฉาชาตปจฺจยนิทฺเทเส ปจฺฉาชาตาติ ยสฺส กายสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมึ อุปฺปชฺชิตฺวา ิเต ชาตา. ปุเรชาตสฺสาติ เตสํ อุปฺปาทโต ปมตรํ ชาตสฺส ชาติกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ิติปฺปตฺตสฺส. อิมสฺส กายสฺสาติ อิมสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกภูตอุปาทารูปสงฺขาตสฺส กายสฺส. เอตฺถ จ ติสมุฏฺานิกกาโยติ อาหารสมุฏฺานสฺส อภาวโต พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ กาโย เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ ปาฬิวณฺณนา. อยํ ปน ปจฺฉาชาตปจฺจโย นาม สงฺเขปโต เปตฺวา อารุปฺปวิปาเก อวเสสา จตุภูมกา อรูปกฺขนฺธา. โส ชาติวเสน กุสลากุสลวิปากกิริยเภเทน จตุธา ภิชฺชตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ ปฺจโวการภเว อุปฺปนฺนํ จตุภูมกกุสลฺจ อกุสลฺจ อุปฺปาทกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ิติปฺปตฺตสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกรูปกายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหติ. วิปาเกปิ เปตฺวา ปฏิสนฺธิวิปากํ อวเสโส กามาวจรรูปาวจรวิปาโก ตสฺเสว เอกนฺเตน ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหติ. โลกุตฺตโรปิ ปฺจโวกาเร อุปฺปนฺนวิปาโก ตสฺเสว ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหติ. เตภูมกกิริยาปิ ปฺจโวกาเร อุปฺปนฺนาว วุตฺตปฺปการสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

ปจฺฉาชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒. อาเสวนปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๒. อาเสวนปจฺจยนิทฺเทเส ปุริมา ปุริมาติ สพฺพนเยสุ สมนนฺตราตีตาว ทฏฺพฺพา. กสฺมา ปเนตฺถ อนนฺตรปจฺจเย วิย ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อพฺยากตานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทินา นเยน ภินฺนชาติเกหิ สทฺธึ นิทฺเทโส น กโตติ? อตฺตโน คตึ คาหาเปตุํ อสมตฺถตาย. ภินฺนชาติกา หิ ภินฺนชาติกานํ อรูปธมฺมานํ อาเสวนคุเณน ปคุณพลวภาวํ สาธยมานา อตฺตโน กุสลาทิภาวสงฺขาตํ คตึ คาหาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา เตหิ สทฺธึ นิทฺเทสํ อกตฺวา เย เยสํ วาสนาสงฺขาเตน อาเสวเนน ปคุณตรพลวตรภาววิสิฏฺํ อตฺตโน กุสลาทิภาวสงฺขาตํ คตึ คาหาเปตุํ สกฺโกนฺติ, เตสํ เตหิ สมานชาติเกเหว สทฺธึ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ. อถ วิปากาพฺยากตํ กสฺมา น คหิตนฺติ? อาเสวนาภาเวน. วิปากฺหิ กมฺมวเสน วิปากภาวปฺปตฺตํ กมฺมปริณามิตํ หุตฺวา วตฺตติ นิรุสฺสาหํ ทุพฺพลนฺติ ตํ อาเสวนคุเณน อตฺตโน สภาวํ คาหาเปตฺวา ปริภาเวตฺวา เนว อฺํ วิปากํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ, น ปุริมวิปากานุภาวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชิตุนฺติ. กมฺมเวคกฺขิตฺตํ ปน ปติตํ วิย หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ สพฺพถาปิ วิปาเก อาเสวนํ นตฺถีติ อาเสวนาภาเวน วิปากํ น คหิตํ. กุสลากุสลกิริยานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานมฺปิ เจตํ กมฺมปฏิพทฺธวุตฺติตาย อาเสวนคุณํ น คณฺหาตีติ กุสลาทโยปิสฺส อาเสวนปจฺจยา น โหนฺติ. อปิจ นานาชาติกตฺตาเปเต น โหนฺติเยว. ภูมิโต ปน อารมฺมณโต วา นานาชาติกตฺตํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา กามาวจรกุสลกิริยามหคฺคตกุสลกิริยานมฺปิ, สงฺขารารมฺมณฺจ อนุโลมกุสลํ นิพฺพานารมฺมณสฺส โคตฺรภุกุสลสฺส อาเสวนปจฺจโย โหติเยวาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา. อยํ ปน อาเสวนปจฺจโย ชาติโต ตาว กุสโล อกุสโล กิริยาพฺยากโตติ ติธา ิโต. ตตฺถ กุสโล ภูมิโต กามาวจโร รูปาวจโร อรูปาวจโรติ ติวิโธ โหติ, อกุสโล กามาวจโรว กิริยาพฺยากโต กามาวจโร รูปาวจโร อรูปาวจโรติ ติวิโธว, โลกุตฺตโร อาเสวนปจฺจโย นาม นตฺถีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ กามาวจรกุสลํ อตฺตโน อนนฺตรสฺส กามาวจรกุสลสฺเสว. ยํ ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตํ, ตํ อตฺตนา สทิสเวทนสฺส รูปาวจรกุสลสฺส อรูปาวจรกุสลสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺสาติ อิเมสํ ราสีนํ อาเสวนปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกุสลํ ปน รูปาวจรกุสลสฺเสว. อรูปาวจรกุสลํ อรูปาวจรกุสลสฺเสว. อกุสลํ ปน อกุสลสฺเสว อาเสวนปจฺจโย โหติ. กิริยโต ปน กามาวจรกิริยสงฺขาโต ตาว กามาวจรกิริยสฺเสว. โย ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺโต, โส อตฺตนา สทิสเวทนสฺส รูปาวจรกิริยสฺส อรูปาวจรกิริยสฺสาติ อิเมสํ ราสีนํ อาเสวนปจฺจโย โหติ. รูปาวจรกิริยสงฺขาโต ปน รูปาวจรกิริยสฺเสว, อรูปาวจรกิริยสงฺขาโต อรูปาวจรกิริยสฺเสว อาเสวนปจฺจโย โหติ. วิปาโก ปน เอกธมฺมสฺสาปิ เอกธมฺโมปิ วา โกจิ วิปากสฺส อาเสวนปจฺจโย นตฺถีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อาเสวนปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๓. กมฺมปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓. กมฺมปจฺจยนิทฺเทเส กมฺมนฺติ เจตนากมฺมเมว. กฏตฺตา จ รูปานนฺติ กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปฺปนฺนรูปานํ. กมฺมปจฺจเยนาติ อเนกานมฺปิ กปฺปโกฏีนํ มตฺถเก อตฺตโน ผลํ อุปฺปาเทตุํ สมตฺเถน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยนาติ อตฺโถ. กุสลากุสลฺหิ กมฺมํ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ ผลํ น เทติ. ยทิ ทเทยฺย, ยํ มนุสฺโส เทวโลกูปคํ กุสลกมฺมํ กโรติ, ตสฺสานุภาเวน ตสฺมึเยว ขเณ เทโว ภเวยฺย. ยสฺมึ ปน ขเณ ตํ กตํ, ตโต อฺสฺมึ ขเณ อวิชฺชมานมฺปิ เกวลํ กฏตฺตาเยว ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ผลํ อุปฺปาเทติ นิรุทฺธาปิ ปุริมสิปฺปาทิกิริยา วิย กาลนฺตเร ปจฺฉิมสิปฺปาทิกิริยาย. ตสฺมา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโยติ วุจฺจติ. เจตนา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานนฺติ ยา กาจิ เจตนา อตฺตนา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ. ตํสมุฏฺานานนฺติ อิมินา ปฏิสนฺธิกฺขเณ กฏตฺตารูปมฺปิ คณฺหาติ. กมฺมปจฺจเยนาติ อิทํ สหชาตเจตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลาทีสุ หิ ยา กาจิ สหชาตเจตนา เสสธมฺมานํ จิตฺตปโยคสงฺขาเตน กิริยาภาเวน อุปการิกา โหติ. ตสฺมา สหชาตกมฺมปจฺจโยติ วุจฺจติ. อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน กมฺมปจฺจโย อตฺถโต จตุภูมิกเจตนามตฺตเมว. โส หิ ชาติเภทโต กุสโล อกุสโล วิปาโก กิริยาติ จตุธา ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล ภูมิโต กามาวจราทิวเสน จตุธา ภิชฺชติ. อกุสโล เอกธาว วิปาโก จตุธา, กิริยา ติธาวาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ สหชาตา กามาวจรกุสลเจตนา ปฺจโวกาเร อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว สหชาตกมฺมปจฺจโย โหติ. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา ปน อตฺตโน วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. สา จ โข ปฺจโวกาเรเยว, น อฺตฺถ. สหชาตา รูปาวจรกุสลเจตนา อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ เอกนฺเตเนว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา ปน อตฺตโน วิปากานฺเจว กฏตฺตารูปานฺจ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปาวจรา ปน โลกุตฺตรา จ สหชาตา กุสลเจตนา ปฺจโวกาเร อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ, จตุโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา ปเนสา ทุวิธาปิ อตฺตโน อตฺตโน วิปากกฺขนฺธานฺเว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. สหชาตา อกุสลเจตนา ปฺจโวกาเร อตฺตนา สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ จตุโวกาเร อรูปกฺขนฺธานฺเว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา ปน วิปากกฺขนฺธานฺเจว กฏตฺตารูปานฺจ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย.

กามาวจรรูปาวจรโต วิปากเจตนา อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานฺจ สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปาวจรวิปากเจตนา อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. โลกุตฺตรวิปากเจตนา ปฺจโวกาเร อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร อรูปสฺเสว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. เตภูมิกา กิริยเจตนา ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย. ยา ปเนตฺถ อารุปฺเป อุปฺปชฺชติ, สา อรูปธมฺมานฺเว สหชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

กมฺมปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๔. วิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๔. วิปากปจฺจยนิทฺเทเส วิปากา จตฺตาโร ขนฺธาติ ยสฺมา กมฺมสมุฏฺานาปิ รูปา วิปากา น โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘วิปากา’’ติ วตฺวา ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ อยํ ปาฬิ อรูปธมฺมานฺเว วิปากปจฺจยวเสน อาคตา. ปฺหาวาเร ปน ‘‘วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย. ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากโต เอโก ขนฺโธ ติณฺณนฺนํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ วิปากปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อาคตตฺตา จิตฺตสมุฏฺานกมฺมสมุฏฺานรูปานมฺปิ วิปากปจฺจโย ลพฺภติ. อิธ ปน สาวเสสวเสน เทสนา กตาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา. อยํ ปน วิปากปจฺจโย วิปากภาเวน ชาติโต เอกวิโธ, ภูมิเภทโต กามาวจราทิวเสน จตุธา ภิชฺชตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ กามาวจรรูปาวจรวิปาโก อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานฺจ วิปากปจฺจโย โหติ. อรูปาวจรวิปาโก สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว. โลกุตฺตรวิปาโก ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว วิปากปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

วิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๕. อาหารปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๕. อาหารปจฺจยนิทฺเทเส กพฬีกาโร อาหาโรติ จตุสนฺตติสมุฏฺาเน รูเป โอชา อาหาโร นาม. โส ปน ยสฺมา กพฬํ กริตฺวา อชฺโฌหริโตว อาหารกิจฺจํ กโรติ, น พหิ ิโต, ตสฺมา อาหาโรติ อวตฺวา ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ วุตฺตํ. กพฬํ กริตฺวา อชฺโฌหริตพฺพวตฺถุกตฺตา วา กพฬีกาโรติ นามเมตํ ตสฺส. อรูปิโน อาหาราติ ผสฺสเจตนาวิฺาณาหารา. ตํสมุฏฺานานนฺติ อิธาปิ กมฺมสมุฏฺานานิ คหิตาเนว. วุตฺตฺเหตํ ปฺหาวาเร – ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยติ. อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน อาหารปจฺจโย สงฺเขปโต กพฬีกาโร อาหาโร, ผสฺโส, เจตนา, วิฺาณนฺติ จตฺตาโรว ธมฺมา โหนฺติ. ตตฺถ เปตฺวา กพฬีการาหารํ เสสา ตโย อรูปาหารา ชาติวเสน กุสลากุสลวิปากกิริยเภทโต จตุธา ภิชฺชนฺติ. ปุน ภูมิเภเทน กุสโล จตุธา, อกุสโล เอกธา, วิปาโก จตุธา, กิริยา ติธาติ เอวํ อเนกธา ภิชฺชนฺติ. กพฬีการาหาโร ปน ชาติโต อพฺยากโต, ภูมิโต กามาวจโรวาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกาปิ ตโย กุสลาหารา ปฺจโวกาเร อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย, เปตฺวา ปน รูปาวจรํ อวเสสา อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. อกุสลาหาเรสุปิ เอเสว นโย. จตุภูมกวิปากาหารา ปน สพฺพตฺถ สมฺปยุตฺตกานํ อาหารปจฺจยา โหนฺติ. กามาวจรรูปาวจรวิปากา ปเนตฺถ ปฺจโวกาเร อุปฺปชฺชมานา ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสฺสาปิ อาหารปจฺจยา โหนฺติ. โลกุตฺตรา ปน จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺเสว, อารุปฺเป อุปฺปนฺนา รูปสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ. เตภูมกาปิ ตโย กิริยาหารา ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, กามาวจรารูปาวจรา ปน อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. จตุสนฺตติสมุฏฺาโน กพฬีการาหาโร กิฺจาปิ ‘‘อิมสฺส กายสฺสา’’ติ อวิเสสโต วุตฺโต, วิเสสโต ปนายเมตฺถ อาหารสมุฏฺานรูปสฺส ชนโก เจว อนุปาลโก จ หุตฺวา อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, เสสติสนฺตติสมุฏฺานสฺส อนุปาลโกว หุตฺวา อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อาหารปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๖. อินฺทฺริยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๖. อินฺทฺริยปจฺจยนิทฺเทเส จกฺขุนฺทฺริยนฺติ จกฺขุสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ. อินฺทฺริยปจฺจเยนาติ สยํ ปุเรชาโต หุตฺวา อรูปธมฺมานํ อุปฺปาทโต ปฏฺาย ยาว ภงฺคา อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. โสตินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. อรูปิโน อินฺทฺริยาติ เอตฺถ อรูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ สงฺคหิตํ. ตํสมุฏฺานานนฺติ เอตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กฏตฺตารูปมฺปิ สงฺคหิตํ. วุตฺตฺเหตํ ปฺหาวาเร – ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา อินฺทฺริยา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโยติ. เอวํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา.

อยํ ปน อินฺทฺริยปจฺจโย อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยวชฺชานํ สมวีสติยา อินฺทฺริยานํ วเสน ิโต. อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยานิ หิ กิฺจาปิ อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทีนํ พีชภูตานิ, กลลาทิกาเล ปน วิชฺชมาเนสุปิ เตสุ อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทีนํ อภาวา ตานิ เนว เตสํ, น อฺเสํ อินฺทฺริยปจฺจยตํ ผรนฺติ. อินฺทฺริยปจฺจโย หิ อตฺตโน วิชฺชมานกฺขเณ อวินิพฺภุตฺตธมฺมานํ อินฺทฺริยปจฺจยตํ อผรนฺโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตานิ อินฺทฺริยปจฺจยา น โหนฺติ. เยสํ ปเนตานิ พีชภูตานิ, เตสํ ตานิ สุตฺตนฺติกปริยาเยน ปกตูปนิสฺสยภาวํ ภชนฺติ. อิติ อินฺทฺริยปจฺจโย สมวีสติยา อินฺทฺริยานํ วเสน ิโตติ เวทิตพฺโพ. โส ชาติโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปวเสน ปฺจธา ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล ภูมิวเสน จตุธา, อกุสโล กามาวจโรว วิปาโก จตุธาว กิริยาสงฺขาโต ติธา, รูปํ กามาวจรเมวาติ เอวํ อเนกธา ภิชฺชตีติ เอวํ ตาเวตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมโกปิ กุสลินฺทฺริยปจฺจโย ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย, ตถา อกุสโล. เปตฺวา ปน รูปาวจรกุสลํ อวเสสา กุสลากุสลา อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. จตุภูมโก วิปากินฺทฺริยปจฺจโย เอกนฺเตเนว สมฺปยุตฺตกานํ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. กามาวจรรูปาวจรา ปเนตฺถ ปฺจโวกาเร อุปฺปชฺชนโต ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสฺสาปิ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. โลกุตฺตรา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺเสว. อารุปฺเป อุปฺปนฺนา โลกุตฺตรวิปากา อินฺทฺริยา รูปสฺส ปจฺจยา น โหนฺติ. เตภูมกา กิริยินฺทฺริยา ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, กามาวจรารูปาวจรา ปน อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว อินฺทฺริยปจฺจยตํ ผรนฺติ. จกฺขุนฺทฺริยาทิวเสน ฉพฺพิเธ รูปินฺทฺริเย จกฺขุนฺทฺริยํ กุสลากุสลวิปากโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ทฺวินฺนํ จกฺขุวิฺาณานํ, โสตินฺทฺริยาทีนิ ตถาวิธานฺเว โสตวิฺาณาทีนํ, รูปชีวิตินฺทฺริยํ อตฺตนา สหชาตรูปานํ ิติกฺขเณ อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย. สหชาตปจฺจยตา ปน ตสฺส นตฺถีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อินฺทฺริยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๗. ฌานปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๗. ฌานปจฺจยนิทฺเทเส ฌานงฺคานีติ ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺเชสุ เสสจิตฺเตสุ อุปฺปนฺนานิ วิตกฺกวิจารปีติโสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสงฺขาตานิ สตฺต องฺคานิ. ปฺจนฺนํ ปน วิฺาณกายานํ อภินิปาตมตฺตตฺตา เตสุ วิชฺชมานานิปิ อุเปกฺขาสุขทุกฺขานิ อุปนิชฺฌานาการสฺส อภาวโต ฌานงฺคานีติ น อุทฺธฏานิ. ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตา ปน เสสาเหตุเกสุปิ ฌานงฺคํ น อุทฺธฏเมว. ตํสมุฏฺานานนฺติ อิธาปิ กฏตฺตารูปํ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ปฺหาวาเร – ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ ฌานงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา. อยํ ปน ฌานปจฺจโย สตฺตนฺนํ ฌานงฺคานํ วเสน ิโตปิ ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยวเสน จตุธา ภิชฺชติ, ปุน ภูมิวเสน จตุธา; เอกธา, จตุธา, ติธาติ ทฺวาทสธา ภิชฺชตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกมฺปิ กุสลฌานงฺคํ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, เปตฺวา รูปาวจรํ อวเสสํ อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย. อกุสเลปิ เอเสว นโย. กามาวจรรูปาวจรวิปากํ ปวตฺเต สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, ปฏิสนฺธิยํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว กฏตฺตารูปสฺส จ, อารุปฺปวิปากํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว, ยฺจ อารุปฺเป โลกุตฺตรวิปากํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ. ปฺจโวกาเร ปน ตํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺสปิ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. เตภูมกมฺปิ กิริยฌานงฺคํ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ. ยํ ปเนตฺถ อารุปฺเป อุปฺปชฺชติ, ตํ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว ฌานปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

ฌานปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๘. มคฺคปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๘. มคฺคปจฺจยนิทฺเทเส มคฺคงฺคานีติ อเหตุกจิตฺตุปฺปาทวชฺเชสุ เสสจิตฺเตสุ อุปฺปนฺนานิ ปฺา, วิตกฺโก, สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา, วีริยํ, สติ, สมาธิ, มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาวาจากมฺมนฺตาชีวาติ อิมานิ ทฺวาทสงฺคานิ. มคฺคสฺส ปน เหตุปจฺฉิมกตฺตา อเหตุกจิตฺเตสุ มคฺคงฺคานิ น อุทฺธฏานิ. ตํสมุฏฺานานนฺติ อิธาปิ กฏตฺตารูปํ สงฺคหิตเมว. วุตฺตฺเหตํ ปฺหาวาเร – ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตานิ มคฺคงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน มคฺคปจฺจโย ทฺวาทสนฺนํ มคฺคงฺคานํ วเสน ิโตปิ ชาติเภทโต กุสลาทิวเสน จตุธา, กุสลาทีนฺจ กามาวจราทิภูมิเภทโต ทฺวาทสธา ภิชฺชตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกมฺปิ กุสลมคฺคงฺคํ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, เปตฺวา รูปาวจรํ อวเสสํ อารุปฺเป สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเว มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโยติ สพฺพํ ฌานปจฺจเย วิย วิตฺถาเรตพฺพนฺติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

มคฺคปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๑๙. สมฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙. สมฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทเส ปาฬิ อุตฺตานตฺถา เอว. อยํ ปน สมฺปยุตฺตปจฺจโย นาม สงฺเขปโต สพฺเพปิ อรูปิโน ขนฺธา. ปเภทโต ปเนส ชาติโต กุสลาทีนํ, ภูมิโต จ กามาวจราทีนํ วเสน อเนกธา ภิชฺชตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมเกสุปิ กุสลกฺขนฺเธสุ เอโก ขนฺโธ ติณฺณํ ขนฺธานํ, ตโย เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนนฺติ เอวํ สพฺเพปิ อฺมฺํ สมฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. อกุสลวิปากกิริยกฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

สมฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๐. วิปฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐. วิปฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทเส รูปิโน ธมฺมา อรูปีนนฺติ อิทํ ตาว หทยวตฺถุโน เจว จกฺขุนฺทฺริยาทีนฺจ วเสน เวทิตพฺพํ. รูปธมฺเมสุ หิ เอเตเยว ฉ โกฏฺาสา อรูปกฺขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. รูปายตนาทโย ปน อารมฺมณธมฺมา กิฺจาปิ วิปฺปยุตฺตธมฺมา, วิปฺปยุตฺตปจฺจยา ปน น โหนฺติ. กึ การณา? สมฺปโยคาสงฺกาย อภาวโต. อรูปิโน หิ ขนฺธา จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ อพฺภนฺตรโต นิกฺขมนฺตา วิย อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ อาสงฺกา โหติ – ‘‘กึ นุ โข เอเต เอเตหิ สมฺปยุตฺตา, อุทาหุ วิปฺปยุตฺตา’’ติ. อารมฺมณธมฺมา ปน วตฺถุนิสฺสเยน อุปฺปชฺชมานานํ อารมฺมณมตฺตา โหนฺตีติ นตฺถิ เตสุ สมฺปโยคาสงฺกา. อิติ สมฺปโยคาสงฺกาย อภาวโต น เต วิปฺปยุตฺตปจฺจยา. หทยวตฺถุอาทีสุ เอว ปนายํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปฺหาวาเร – วตฺถุ กุสลานํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. วตฺถุ อกุสลานํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. โสต… ฆาน… ชิวฺหา… กายายตนํ กายวิฺาณสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. วตฺถุ วิปากาพฺยากตานํ กิริยาพฺยากตานํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ.

อรูปิโน ธมฺมา รูปีนนฺติ อิทํ ปน จตุนฺนํ ขนฺธานํ วเสน เวทิตพฺพํ. อรูปธมฺเมสุ หิ จตฺตาโร ขนฺธาว สหชาตปุเรชาตานํ รูปธมฺมานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺติ, นิพฺพานํ ปน อรูปมฺปิ สมานํ รูปสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจโย น โหติ. ‘‘จตูหิ สมฺปโยโค จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ หิ วุตฺตํ. อิติ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํเยว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปฺหาวาเร – สหชาตา กุสลา ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ปจฺฉาชาตา กุสลา ขนฺธา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา ขนฺธา กฏตฺตารูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย, ขนฺธา วตฺถุสฺสาติ. เอวํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา.

อยํ ปน วิปฺปยุตฺตปจฺจโย นาม สงฺเขปโต ปฺจโวการภเว วตฺตมานา รูปารูปธมฺมา. เตสุ รูปํ วตฺถุโน จกฺขาทีนฺจ วเสน ฉธา ภินฺนํ, อรูปํ ปฺจโวการภเว อุปฺปนฺนกุสลากุสลวิปากกิริยวเสน จตุธา ภินฺนํ. ตสฺส ภูมิโต กามาวจราทิวเสน จตุธา, เอกธา, ติธา, ติธาติ เอกทสธา เภโท โหติ. อารุปฺปวิปากฺหิ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย น โหตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ ปฺจโวการภเว อุปฺปนฺนํ จตุภูมกมฺปิ กุสลํ อกุสลฺจ อตฺตนา สมุฏฺาปิตจิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. อุปฺปาทกฺขณํ ปน อติกฺกมิตฺวา ิติกฺขณํ ปตฺตสฺส ปุเรชาตสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกรูปกายสฺส ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. เอตฺถ จ ติสมุฏฺานิกกาโยติ อาหารสมุฏฺานสฺส อภาวโต พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ กาโย เวทิตพฺโพ. กามาวจรรูปาวจรวิปากํ ปน ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสฺส จ สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. โลกุตฺตรวิปากํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺเสว. ติวิธมฺปิ ปเนตํ ปุเรชาตสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. เตภูมกมฺปิ กิริยํ จิตฺตสมุฏฺานสฺส สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย, ปุเรชาตสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. ฉธา ิเตสุ ปน รูเปสุ วตฺถุรูปํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ กามาวจรรูปาวจรวิปากานํ สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย, ปวตฺเต อุปฺปชฺชมานานํ จตุภูมกกุสลานํ อกุสลานํ ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชานํ เตภูมกวิปากานํ เตภูมกกิริยานฺจ ปุเรชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย. จกฺขายตนาทีนิ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปุเรชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

วิปฺปยุตฺตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๑. อตฺถิปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๒๑. อตฺถิปจฺจยนิทฺเทเส จตฺตาโร ขนฺธาติอาทีหิ สหชาตวเสน อตฺถิปจฺจโย นิทฺทิฏฺโ. จกฺขายตนนฺติอาทีหิ ปุเรชาตวเสน. ยํ รูปํ นิสฺสายาติ เอตฺถ สหชาตปุเรชาตวเสน อตฺถิปจฺจโย นิทฺทิฏฺโ. เอวมยํ ปาฬิ สหชาตปุเรชาตานฺเว อตฺถิปจฺจยานํ วเสน อาคตา. ปฺหาวาเร ปน สหชาตํ, ปุเรชาตํ, ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ, อินฺทฺริยนฺติ อิเมสํ วเสน อาคตตฺตา ปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยวเสนาปิ อตฺถิปจฺจโย ลพฺภติ. อิธ ปน สาวเสสวเสน เทสนา กตาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปน อตฺถิปจฺจโย นาม ทุวิโธ – อฺมฺโต, น อฺมฺโต. ตตฺถ อฺมฺํ ติวิธํ – อรูปํ อรูเปน, รูปํ รูเปน, รูปารูปํ รูปารูเปน. ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน’’ติ เอตฺถ หิ สพฺพจิตฺตุปฺปตฺติวเสน อรูปํ อรูเปน วุตฺตํ. ‘‘จตฺตาโร มหาภูตา’’ติ เอตฺถ สพฺพสนฺตติวเสน รูปํ รูเปน. ‘‘โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูป’’นฺติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิขนฺธานฺเจว วตฺถุโน จ วเสน รูปารูปํ รูปารูเปน วุตฺตํ. น อฺมฺมฺปิ ติวิธํ – ‘‘อรูปํ รูปสฺส, รูปํ รูปสฺส, รูปํ อรูปสฺส จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา’’ติ เอตฺถ หิ ปฺจโวการวเสน อรูปํ รูปสฺส วุตฺตํ. ‘‘มหาภูตา อุปาทารูปาน’’นฺติ เอตฺถ สพฺพสนฺตติวเสน รูปํ รูปสฺส. ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา’’ติอาทีสุ วตฺถารมฺมณวเสน รูปํ อรูปสฺส อตฺถิปจฺจโยติ วุตฺตํ.

อปิเจส อตฺถิปจฺจโย นาม สงฺเขปโต ขณตฺตยปฺปตฺตํ นามฺเจว รูปฺจ, วตฺตมานา ปฺจกฺขนฺธาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โส ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปวเสน ปฺจธา ภิชฺชติ. ตตฺถ กุสโล สหชาตปจฺฉาชาตวเสน ทุวิโธ โหติ, ตถา อกุสโล วิปากกิริยสงฺขาโต จ. เตสุ กุสโล กามาวจราทิเภเทน จตุธา ภิชฺชติ, อกุสโล กามาวจโรว วิปาโก จตุภูมโก, กิริยาสงฺขาโต ติภูมโก. รูปสงฺขาโต อตฺถิปจฺจโย กามาวจโรว. โส ปน สหชาตปุเรชาตวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ปฺจ วตฺถูนิ อารมฺมณานิ จ ปุเรชาตาเนว, หทยวตฺถุ สหชาตํ วา โหติ ปุเรชาตํ วา. ปฺหาวาเร ปน อาคโต อาหาโร อินฺทฺริยฺจ สหชาตาทิเภทํ น ลภตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอวํ ภินฺเน ปเนตฺถ จตุภูมกกุสโลปิ สหชาโต อตฺถิปจฺจโย ปฺจโวกาเร ‘‘เอโก ขนฺโธ ติณฺณนฺนํ ขนฺธาน’’นฺติอาทินา นเยน อฺมฺํ ขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ เปตฺวา ปน รูปาวจรกุสลํ อวเสโส อารุปฺเป สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว สหชาตกุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. จตุภูมโก ปเนส ปฺจโวกาเร จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาโต กุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. อกุสเลปิ เอเสว นโย. โสปิ หิ ปฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว สหชาตากุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. ปฺจโวกาเร จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตากุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย.

วิปากโต ปน กามาวจรรูปาวจโร อตฺถิปจฺจโย นิยเมเนว ปฏิสนฺธิกฺขเณ ขนฺธานฺเจว กฏตฺตารูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. ปวตฺเต ปน สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, ิติปฺปตฺตสฺส จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. อรูปาวจรวิปาโก ปน อารุปฺเป อุปฺปนฺนโลกุตฺตรวิปาโก จ อตฺตนา สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. ปฺจโวกาเร โลกุตฺตรวิปาโก สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. กิริยโต รูปาวจโร อตฺถิปจฺจโย สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย. กามาวจรารูปาวจโร ปน อารุปฺเป สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานฺเว, ปฺจโวกาเร จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺสาปิ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฏฺานิกติสมุฏฺานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิ ปจฺจเยน ปจฺจโย.

รูปสงฺขาโต ปน อตฺถิปจฺจโย สหชาโต, ปุเรชาโต, อาหาโร, อินฺทฺริยนฺติ จตุพฺพิโธ. ตตฺถ สหชาตรูปตฺถิปจฺจโย จตุสมุฏฺานวเสน จตุธา ิโต. ตตฺถ กมฺมสมุฏฺาโน เอกํ มหาภูตํ ติณฺณนฺนํ มหาภูตานํ, ตีณิ เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนํ, มหาภูตา อุปาทารูปานนฺติ เอวํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปํ กามาวจรรูปาวจรวิปากกฺขนฺธานํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. เตสมฺปิ ติสมุฏฺานิกรูปํ เอกํ มหาภูตํ ติณฺณนฺนํ มหาภูตานํ, ตีณิ เอกสฺส, ทฺเว ทฺวินฺนํ, มหาภูตา อุปาทารูปานนฺติ เอวํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. ปุเรชาตตฺถิปจฺจโย ปน วตฺถุปุเรชาตอารมฺมณปุเรชาตวเสน ทุวิโธ โหติ. โส ทุวิโธปิ เหฏฺา ปุเรชาตปจฺจเย วุตฺตนเยเนว โยเชตฺวา คเหตพฺโพ. อาหารตฺถิปจฺจโยปิ เหฏฺา กพฬีการาหารปจฺจเย โยชิตนเยเนว โยเชตพฺโพ. อิธ ปเนส อตฺตโน อนิรุทฺธกฺขเณ ปจฺจยภาเวน อตฺถิปจฺจโยติ วุตฺโต. รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ เหฏฺา อินฺทฺริยปจฺจเย รูปชีวิตินฺทฺริยโยชนายํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิธ ปเนตมฺปิ อตฺตโน อนิรุทฺธกฺขเณเยว ปจฺจยภาเวน อตฺถิปจฺจโยติ วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

อตฺถิปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๒. นตฺถิปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๒๒. นตฺถิปจฺจยนิทฺเทเส สมนนฺตรนิรุทฺธาติ อฺเน จิตฺตุปฺปาเทน อนนฺตริกา หุตฺวา สมนนฺตรนิรุทฺธา. ปฏุปฺปนฺนานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ. อิมินา นตฺถิปจฺจยสฺส โอกาสทานฏฺเน นตฺถิปจฺจยภาวํ สาเธติ. ปุริเมสุ หิ นิโรธวเสน ปจฺฉิมานํ ปวตฺตโนกาสํ อเทนฺเตสุ เตสํ ปฏุปฺปนฺนภาโว น สิยาติ อยเมตฺถ ปาฬิวณฺณนา. เสสํ สพฺพํ อนนฺตรปจฺจเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปจฺจยลกฺขณเมว เหตฺถ นานํ, ปจฺจยานํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนานฺจ นานากรณํ นตฺถิ. เกวลํ ปน ตตฺถ ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ ตํสมฺปยุตฺตกา จ ธมฺมา มโนธาตุยา’’ติอาทินา นเยน ปจฺจยา จ ปจฺจยุปฺปนฺนา จ สรูปโต ทสฺสิตา. อิธ ปน ‘‘สมนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมาน’’นฺติ สพฺเพปิ เต นิโรธุปฺปาทวเสน สามฺโต ทสฺสิตาติ.

นตฺถิปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๓. วิคตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓. วิคตปจฺจยนิทฺเทเส สมนนฺตรวิคตาติ สมนนฺตรเมว วิคตา. อิมินา วิคตปจฺจยสฺส วิคจฺฉมานภาเวเนว ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. อิติ นตฺถิปจฺจยสฺส จ อิมสฺส จ พฺยฺชนมตฺเตเยว นานตฺตํ, น อตฺเถติ.

วิคตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

๒๔. อวิคตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๒๔. อวิคตปจฺจยนิทฺเทเส จตฺตาโร ขนฺธาติอาทีนํ สพฺพากาเรน อตฺถิปจฺจยนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺสปิ หิ ปจฺจยสฺส อตฺถิปจฺจเยน สทฺธึ พฺยฺชนมตฺเตเยว นานตฺตํ, น อตฺเถติ.

อวิคตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา.

ปจฺจยนิทฺเทสปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา

อิทานิ เอวํ อุทฺเทสนิทฺเทสโต ทสฺสิเตสุ อิเมสุ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ าณจารสฺส วิสทภาวตฺถํ อเนกธมฺมานํ เอกปจฺจยภาวโต, เอกธมฺมสฺส อเนกปจฺจยภาวโต, เอกปจฺจยสฺส อเนกปจฺจยภาวโต, ปจฺจยสภาคโต, ปจฺจยวิสภาคโต, ยุคฬกโต, ชนกาชนกโต, สพฺพฏฺานิกาสพฺพฏฺานิกโต, รูปํ รูปสฺสาติอาทิวิกปฺปโต, ภวเภทโตติ อิเมสํ ทสนฺนํ ปทานํ วเสน ปกิณฺณกวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อเนกธมฺมานํ เอกปจฺจยภาวโตติ เอเตสุ หิ เปตฺวา กมฺมปจฺจยํ อวเสเสสุ เตวีสติยา ปจฺจเยสุ อเนกธมฺมา เอกโต ปจฺจยา โหนฺติ. กมฺมปจฺจโย ปน เอโก เจตนาธมฺโมเยวาติ เอวํ ตาเวตฺถ อเนกธมฺมานํ เอกปจฺจยภาวโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

เอกธมฺมสฺส อเนกปจฺจยภาวโตติ เหตุปจฺจเย ตาว อโมโห เอโก ธมฺโม. โส ปุเรชาตกมฺมาหารฌานปจฺจโยว น โหติ, เสสานํ วีสติยา ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจโย โหติ. อโลภาโทสา อินฺทฺริยมคฺคปจฺจยาปิ น โหนฺติ, เสสานํ อฏฺารสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยา โหนฺติ. โลภโมหา วิปากปจฺจยาปิ น โหนฺติ, เสสานํ สตฺตรสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยา โหนฺติ. โทโส อธิปติปจฺจโยปิ น โหติ, เสสานํ โสฬสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจโย โหติ. อารมฺมณปจฺจเย รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน จตุธา ปจฺจโย; ตถา มโนธาตุยา อเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา จ. สเหตุกาย ปน อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยวเสนาปิ ปจฺจโย โหติ. อิมินา นเยน สพฺเพสํ อารมฺมณปจฺจยธมฺมานํ อเนกปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ.

อธิปติปจฺจเย อารมฺมณาธิปติโน อารมฺมณปจฺจเย วุตฺตนเยเนว อเนกปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ. สหชาตาธิปตีสุ วีมํสา อโมหเหตุ วิย วีสติธา ปจฺจโย โหติ. ฉนฺโท เหตุปุเรชาตกมฺมอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจโย น โหติ, เสสานํ สตฺตรสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจโย โหติ. จิตฺตํ เหตุปุเรชาตกมฺมฌานมคฺคปจฺจโย น โหติ, เสสานํ เอกูนวีสติยา ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจโย โหติ. วีริยํ เหตุปุเรชาตกมฺมาหารฌานปจฺจโย น โหติ, เสสานํ เอกูนวีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ.

อนนฺตรปจฺจเย ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตู’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตสุ จตูสุ ขนฺเธสุ เวทนากฺขนฺโธ เหตุปุเรชาตกมฺมาหารมคฺคปจฺจโย น โหติ, เสสานํ เอกูนวีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ. สฺากฺขนฺโธ อินฺทฺริยฌานปจฺจโยปิ น โหติ, เสสานํ สตฺตรสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. สงฺขารกฺขนฺเธ เหตู เหตุปจฺจเย วุตฺตนเยน, ฉนฺทวีริยานิ อธิปติปจฺจเย วุตฺตนเยเนว ปจฺจยา โหนฺติ. ผสฺโส เหตุปุเรชาตกมฺมอินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจโย น โหติ, เสสานํ อฏฺารสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. เจตนา เหตุปุเรชาตอินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจโย น โหติ. เสสานํ เอกูนวีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ. วิตกฺโก เหตุปุเรชาตกมฺมาหารินฺทฺริยปจฺจโย น โหติ, เสสานํ เอกูนวีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ. วิจาโร มคฺคปจฺจโยปิ น โหติ, เสสานํ อฏฺารสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. ปีติ เตสฺเว วเสน ปจฺจโย โหติ. จิตฺเตกคฺคตา เหตุปุเรชาตกมฺมาหารปจฺจโย น โหติ, เสสานํ วีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ. สทฺธา เหตุปุเรชาตกมฺมาหารฌานมคฺคปจฺจโย น โหติ, เสสานํ อฏฺารสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. สติ เตหิ เจว มคฺคปจฺจเยน จาติ เอกูนวีสติยา วเสน ปจฺจโย โหติ. ชีวิตินฺทฺริยํ สทฺธาย วุตฺตานํ อฏฺารสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. หิโรตฺตปฺปํ ตโต อินฺทฺริยปจฺจยํ อปเนตฺวา เสสานํ สตฺตรสนฺนํ วเสน ปจฺจโย โหติ. ตถา กายปสฺสทฺธาทีนิ ยุคฬกานิ, เยวาปนเกสุ อธิโมกฺขมนสิการตตฺรมชฺฌตฺตตา กรุณามุทิตา จ. วิรติโย ปน เตหิ เจว มคฺคปจฺจเยน จาติ อฏฺารสธา ปจฺจยา โหนฺติ. มิจฺฉาทิฏฺิ ตโต วิปากปจฺจยํ อปเนตฺวา สตฺตรสธา, มิจฺฉาวาจากมฺมนฺตาชีวา เตหิ เจว กมฺมาหารปจฺจเยหิ จาติ เอกูนวีสติธา. อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ มาโน ถินํ มิทฺธํ อุทฺธจฺจนฺติ อิเม เหตุปุเรชาตกมฺมวิปากาหารินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจยา น โหนฺติ, เสสานํ ปน โสฬสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยา โหนฺติ. วิจิกิจฺฉาอิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ ตโต อธิปติปจฺจยํ อปเนตฺวา ปนฺนรสธา วิฺาณกฺขนฺธสฺส. อธิปติปจฺจเย วุตฺตนเยเนว อเนกปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ. สมนนฺตรปจฺจเยปิ เอเสว นโย.

สหชาตปจฺจเย จตูสุ ตาว ขนฺเธสุ เอเกกสฺส ธมฺมสฺส อเนกปจฺจยภาโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. จตฺตาริ มหาภูตานิ อารมฺมณอารมฺมณาธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยอุปนิสฺสยปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน นวธา ปจฺจยา โหนฺติ. หทยวตฺถุ เตสฺเจว วิปฺปยุตฺตสฺส จ วเสน ทสธา ปจฺจโย โหติ. อฺมฺปจฺจเย อปุพฺพํ นตฺถิ. นิสฺสยปจฺจเย จกฺขายตนาทีนิ อารมฺมณอารมฺมณาธิปตินิสฺสยอุปนิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน นวธา ปจฺจยา โหนฺติ. อุปนิสฺสเย อปุพฺพํ นตฺถิ. ปุเรชาตปจฺจเย รูปสทฺทคนฺธรสายตนานิ อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจยา โหนฺติ. เอตฺตกเมเวตฺถ อปุพฺพํ. ปจฺฉาชาตาทีสุ อปุพฺพํ นตฺถิ. อาหารปจฺจเย กพฬีการาหาโร อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยอาหารอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจโย โหติ. อินฺทฺริยาทีสุ อปุพฺพํ นตฺถิ. เอวเมตฺถ เอกธมฺมสฺส อเนกปจฺจยภาวโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

เอกปจฺจยสฺส อเนกปจฺจยภาวโตติ เหตุปจฺจยาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ เอกสฺส ปจฺจยสฺส เยนากาเรน เยนตฺเถน โย ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปจฺจโย โหติ, ตํ อาการํ ตํ อตฺถํ อวิชหิตฺวาว อฺเหิปิ เยหากาเรหิ เยหิ อตฺเถหิ โส ตสฺมิฺเว ขเณ เตสํ ธมฺมานํ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ, ตโต อเนกปจฺจยภาวโต ตสฺส วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. เสยฺยถิทํ – อโมโห เหตุปจฺจโย, โส เหตุปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอินฺทฺริยมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ เอกาทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อโลภาโทสา ตโต อธิปติอินฺทฺริยมคฺคปจฺจเย ตโย อปเนตฺวา เสสานํ วเสน อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ. อิทํ วิปากเหตูสุเยว ลพฺภติ, กุสลกิริเยสุ ปน วิปากปจฺจยตา ปริหายติ. โลภโทสโมหา เต ตโย วิปากฺจาติ จตฺตาโร อปเนตฺวา เสสานํ วเสน อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ.

อารมฺมณปจฺจโย ตํ อารมฺมณปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตํเยว อารมฺมณาธิปตินิสฺสยอุปนิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ สตฺตหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อยเมตฺถ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อรูปธมฺมานํ ปน อตีตานาคตานํ วา รูปธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจยภาเว สติ อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยมตฺตฺเว อุตฺตริ ลพฺภติ. อธิปติปจฺจเย วีมํสา อโมหสทิสา. ฉนฺโท อธิปติปจฺจโย อธิปติปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ อฏฺหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. วีริยํ เตสฺเจว อินฺทฺริยมคฺคปจฺจยานฺจาติ อิเมสํ วเสน อปเรหิปิ ทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. จิตฺตํ ตโต มคฺคปจฺจยํ อปเนตฺวา อาหารปจฺจยํ ปกฺขิปิตฺวา อิเมสํ วเสน อธิปติปจฺจยโต อุตฺตริ ทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อารมฺมณาธิปติโน ปน เหฏฺา อารมฺมณปจฺจเย วุตฺตนเยเนว อเนกปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ.

อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยา อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตาว อุปนิสฺสยกมฺมอาเสวนนตฺถิวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ปฺจหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ. อริยมคฺคเจตนาเยว เจตฺถ กมฺมปจฺจยตํ ลภติ, น เสสธมฺมา. สหชาตปจฺจโย สหชาตปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว เหตุอธิปติอฺมฺนิสฺสยกมฺมวิปากอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิ จุทฺทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อยมฺปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท วตฺถุสหชาตาทีนํ ปน วเสเนตฺถ เหตุปจฺจยาทีนํ อภาโวปิ เวทิตพฺโพ. อฺมฺปจฺจเยปิ เอเสว นโย.

นิสฺสยปจฺจโย นิสฺสยปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อตฺตโน นิสฺสยปจฺจยตฺตฺเจว อนนฺตรสมนนฺตรปจฺฉาชาตอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเย จ ฉ อปเนตฺวา เสสานํ วเสน อปเรหิปิ สตฺตรสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อยมฺปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทว วตฺถุนิสฺสยาทีนํ ปน วเสเนตฺถ เหตุปจฺจยาทีนํ อาภาโวปิ เวทิตพฺโพ.

อุปนิสฺสยปจฺจเย อารมฺมณูปนิสฺสโย อารมฺมณาธิปติสทิโส. อนนฺตรูปนิสฺสโย อนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อนนฺตรสมนนฺตรกมฺมอาเสวนนตฺถิวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ฉหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อริยมคฺคเจตนาเยว เจตฺถ กมฺมปจฺจยตํ ลภติ, น เสสธมฺมา. ปกตูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโยว. ปุเรชาตปจฺจโย อตฺตโน ปุเรชาตปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อารมฺมณอารมฺมณาธิปตินิสฺสยอุปนิสฺสยอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ อฏฺหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อยมฺปิ อุกฺกฏฺนิทฺเทโสว อารมฺมณปุเรชาเต ปเนตฺถ นิสฺสยอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตปจฺจยตา น ลพฺภติ. อิโต อุตฺตริปิ ลพฺภมานาลพฺภมานํ เวทิตพฺพํ. ปจฺฉาชาตปจฺจโย อตฺตโน ปจฺฉาชาตปจฺจยภาวํ อวิชหนฺโตว วิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ตีหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อาเสวนปจฺจโย อาเสวนปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อนนฺตรสมนนฺตรอุปนิสฺสยนตฺถิวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ปฺจหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ.

กมฺมปจฺจโย กมฺมปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว เอกกฺขณิโก ตาว สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ นวหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. นานากฺขณิโก อุปนิสฺสยอนนฺตรสมนนฺตรนตฺถิวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ปฺจหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. วิปากปจฺจโย วิปากปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว เหตุอธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยกมฺมอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ จุทฺทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อาหารปจฺจเย กพฬีกาโร อาหาโร อาหารปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ทฺวีหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. เสสา ตโย อาหารปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตาว ยถานุรูปํ อธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยกมฺมวิปากอินฺทฺริยสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ เอกาทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ.

อินฺทฺริยปจฺจเย รูปิโน ปฺจินฺทฺริยา อินฺทฺริยปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตาว นิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ปฺจหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ. รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ อินฺทฺริยปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตฺเว อตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ทฺวีหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. อรูปิโน อินฺทฺริยานิปิ ยถานุรูปํ อินฺทฺริยปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺตาเนว เหตุอธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารฌานมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ เตรสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺติ. ฌานปจฺจโย ฌานปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว ยถานุรูปํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอินฺทฺริยมคฺคสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ ทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. มคฺคปจฺจโย มคฺคปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว ยถานุรูปํ ฌานปจฺจเย วุตฺตานํ ทสนฺนํ เหตุอธิปตีนฺจาติ อิเมสํ วเสน อปเรหิปิ ทฺวาทสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ.

สมฺปยุตฺตปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว ยถานุรูปํ เหตุอธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยกมฺมวิปากอาหารอินฺทฺริยฌานมคฺคอตฺถิอวิคตานํ วเสน อปเรหิปิ เตรสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. วิปฺปยุตฺตปจฺจโย วิปฺปยุตฺตปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อนนฺตรสมนนฺตรอาเสวนสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตสงฺขาเต ฉ ปจฺจเย อปเนตฺวา เสสานํ วเสน ยถานุรูปํ อปเรหิปิ สตฺตรสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. ตตฺถ รูปสฺส จ อรูปสฺส จ ปจฺจยวิภาโค เวทิตพฺโพ. อตฺถิปจฺจโย อตฺถิปจฺจยตฺตํ อวิชหนฺโตว อนนฺตรสมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตสงฺขาเต ปฺจ ปจฺจเย อปเนตฺวา เสสานํ วเสน ยถานุรูปํ อปเรหิ อฏฺารสหากาเรหิ อเนกปจฺจยภาวํ คจฺฉติ. นตฺถิปจฺจยวิคตปจฺจยา อนนฺตรปจฺจยสทิสา. อวิคตปจฺจโย อตฺถิปจฺจยสทิโสเยวาติ เอวเมตฺถ เอกปจฺจยสฺส อเนกปจฺจยภาวโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ปจฺจยสภาคโตติ เอเตสุ หิ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยอาเสวนนตฺถิวิคตา สภาคา, ตถา อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยาติ อิมินา อุปาเยเนตฺถ ปจฺจยสภาคโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ปจฺจยวิสภาคโตติ ปุเรชาตปจฺจโย ปเนตฺถ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน วิสภาโค, ตถา สมฺปยุตฺตปจฺจโย วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน, อตฺถิปจฺจโย นตฺถิปจฺจเยน, วิคตปจฺจโย อวิคตปจฺจเยนาติ อิมินา อุปาเยเนตฺถ ปจฺจยวิสภาคโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ยุคฬกโตติ เอเตสุ จ อตฺถสริกฺขตาย, สทฺทสริกฺขตาย, กาลปฏิปกฺขตาย, เหตุผลตาย, อฺมฺปฏิปกฺขตายาติ อิเมหิ การเณหิ ยุคฬกโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. อนนฺตรสมนนฺตรา หิ อตฺถสริกฺขตาย เอกํ ยุคฬกํ นาม; นิสฺสยูปนิสฺสยา สทฺทสริกฺขตาย, ปุเรชาตปจฺฉาชาตา กาลปฏิปกฺขตาย, กมฺมปจฺจยวิปากปจฺจยา เหตุผลตาย, สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปจฺจยา อฺมฺปฏิปกฺขตาย เอกํ ยุคฬกํ นาม, ตถา อตฺถินตฺถิปจฺจยา, วิคตาวิคตปจฺจยา จาติ เอวเมตฺถ ยุคฬกโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. ชนกาชนกโตติ เอเตสุ จ อนนฺตรสมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยาเสวนปจฺจยา นานากฺขณิโก, กมฺมปจฺจโย, นตฺถิวิคตปจฺจยาติ อิเม ปจฺจยา ชนกาเยว, น อชนกา. ปจฺฉาชาตปจฺจโย เกวลํ อุปตฺถมฺภโกเยว, น ชนโก. เสสา ชนกา จ อชนกา จ อุปตฺถมฺภกา จาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ ชนกาชนกโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

สพฺพฏฺานิกาสพฺพฏฺานิกโตติ เอเตสุ จ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจยา สพฺพฏฺานิกา นาม, สพฺเพสํ สงฺขตานํ รูปารูปธมฺมานํ านภูตา การณภูตาติ อตฺโถ. เอเตหิ วินา อุปฺปชฺชมาโน เอกธมฺโมปิ นตฺถีติ. อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอนนฺตรสมนนฺตรานนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยาเสวนสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตปจฺจยา อสพฺพฏฺานิกา นาม. น สพฺเพสํ รูปารูปธมฺมานํ านภูตา, อรูปกฺขนฺธานฺเว ปน านภูตา การณภูตาติ อตฺโถ. อรูปธมฺมาเยว หิ เอเตหิ อุปฺปชฺชนฺติ, น รูปธมฺมา. ปุเรชาตปจฺฉาชาตาปิ อสพฺพฏฺานิกา อรูปรูปานฺเว ยถากฺกเมน ปจฺจยภาวโต. วุตฺตาวเสสาปิ เอกจฺจานํ รูปารูปธมฺมานํ อุปฺปตฺติเหตุโต น สพฺพฏฺานิกาติ เอวเมตฺถ สพฺพฏฺานิกา สพฺพฏฺานิกโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

รูปํ รูปสฺสาติอาทิวิกปฺปโตติ เอเตสุ จ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกปจฺจโยปิ เอกนฺเตน รูปเมว หุตฺวา รูปสฺเสว ปจฺจโย นาม นตฺถิ, เอกนฺเตน ปน รูปํ หุตฺวา อรูปสฺเสว ปจฺจโย นาม อตฺถิ. กตโร ปเนโสติ? ปุเรชาตปจฺจโย. ปุเรชาตปจฺจโย หิ เอกนฺเตน รูปเมว หุตฺวา อรูปสฺเสว ปจฺจโย โหติ. เอกนฺเตน รูปเมว หุตฺวา รูปารูปสฺเสว ปจฺจโย นามาติปิ นตฺถิ, เอกนฺเตน ปน อรูปํ หุตฺวา อรูปสฺเสว ปจฺจโย นาม อตฺถิ. กตโร ปเนโสติ? อนนฺตรสมนนฺตรอาเสวนสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตวเสน ฉพฺพิโธ. โส หิ สพฺโพปิ เอกนฺเตน อรูปเมว หุตฺวา อรูปสฺเสว ปจฺจโย โหติ. เอกนฺเตน อรูปเมว หุตฺวาปิ เอกนฺเตน รูปสฺเสว ปจฺจโย นามาติปิ อตฺถิ. กตโร ปเนโสติ? ปจฺฉาชาตปจฺจโย. โส หิ เอกนฺเตน อรูปํ หุตฺวา รูปสฺเสว ปจฺจโย โหติ; เอกนฺเตน ปน อรูปธมฺโมว หุตฺวา รูปารูปานํ ปจฺจโยปิ อตฺถิ. กตโร ปเนโสติ? เหตุกมฺมวิปากฌานมคฺควเสน ปฺจวิโธ. โส หิ สพฺโพปิ เอกนฺเตน อรูปเมว หุตฺวา รูปธมฺมานํ อรูปธมฺมานมฺปิ ปจฺจโย โหติ. เอกนฺเตน ปน รูปารูปเมว หุตฺวา รูปสฺเสว ปจฺจโย นามาติปิ นตฺถิ, อรูปสฺเสว ปน โหติ. กตโร ปเนโสติ? อารมฺมณปจฺจโย เจว อุปนิสฺสยปจฺจโย จ. อิทฺหิ ทฺวยํ เอกนฺเตน รูปารูปเมว หุตฺวา อรูปสฺเสว ปจฺจโย โหติ. เอกนฺเตน รูปารูปเมว หุตฺวา ปน รูปารูปสฺเสว ปจฺจโย นามาติปิ อตฺถิ. กตโร ปเนโสติ? อธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน นววิโธ. โส หิ สพฺโพปิ เอกนฺเตน รูปารูปเมว หุตฺวา รูปารูปสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ เอวเมตฺถ รูปํ รูปสฺสาติอาทิวิกปฺปโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ภวเภทโตติ อิเมสุ ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ ปฺจโวการภเว ตาว น โกจิ ปจฺจโย น ลพฺภติ นาม. จตุโวการภเว ปน ตโย ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจเย อปเนตฺวา เสสา เอกวีสติเมว ลพฺภนฺติ. เอกโวการภเว สหชาตอฺมฺนิสฺสยกมฺมอินฺทฺริยอตฺถิอวิคตวเสน สตฺเตว ลพฺภนฺติ. พาหิเร ปน อนินฺทฺริยพทฺธรูเป สหชาตอฺมฺนิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ปฺเจว ลพฺภนฺตีติ เอวเมตฺถ ภวเภทโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ.

ปจฺจยนิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุจฺฉาวาโร

๑. ปจฺจยานุโลมวณฺณนา

เอวํ อนุโลมปฏฺานาทีสุ ติกปฏฺานาทิวเสน จตุวีสติสมนฺตปฏฺานสโมธาเน ปฏฺานมหาปกรเณ เย ติกาทโย นิสฺสาย นิทฺทิฏฺตฺตา เอตํ ติกปฏฺานํ, ทุกปฏฺานํ…เป… ทุกทุกปฏฺานนฺติ วุตฺตํ. เต อนามสิตฺวา เยสํ ปจฺจยานํ วเสน เต ติกาทโย วิภตฺตา, เต ปจฺจเย เอว ตาว อิมินา มาติกานิกฺเขปปจฺจยวิภงฺคสงฺขาเตน วาเรน อุทฺเทสโต จ นิทฺเทสโต จ ทสฺเสตฺวา, อิทานิ เย ติกาทโย นิสฺสาย นิทฺทิฏฺตฺตา เอตํ ติกปฏฺานํ, ทุกปฏฺานํ…เป… ทุกทุกปฏฺานนฺติ วุตฺตํ. เต ติกาทโย อิเมสํ ปจฺจยานํ วเสน วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ เอเกกํ ติกทุกํ นิสฺสาย สตฺตหิ มหาวาเรหิ เทสนา กตา. เตสํ อิมานิ นามานิ – ปฏิจฺจวาโร, สหชาตวาโร, ปจฺจยวาโร, นิสฺสยวาโร, สํสฏฺวาโร, สมฺปยุตฺตวาโร, ปฺหาวาโรติ.

ตตฺถ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ ปฏิจฺจาภิธานวเสน วุตฺโต ปฏิจฺจวาโร นาม. กุสลํ ธมฺมํ สหชาโต กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ สหชาตาภิธานวเสน วุตฺโต สหชาตวาโร นาม. โส ปุริเมน ปฏิจฺจวาเรน อตฺถโต นินฺนานากรโณ. ปฏิจฺจาภิธานวเสน พุชฺฌนกานํ วเสน ปน ปโม วุตฺโต, สหชาตาภิธานวเสน พุชฺฌนกานํ วเสน ทุติโย. ทฺวีสุปิ เจเตสุ รูปารูปธมฺมวเสน ปจฺจยา เจว ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมา จ เวทิตพฺพา. เต จ โข สหชาตาว, น ปุเรชาตปจฺฉาชาตา ลพฺภนฺติ. ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยา กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ ปจฺจยาภิธานวเสน วุตฺโต ปน ปจฺจยวาโร นาม. โสปิ ปุริมวารทฺวยํ วิย รูปารูปธมฺมวเสเนว เวทิตพฺโพ. ปจฺจโย ปเนตฺถ ปุเรชาโตปิ ลพฺภติ. อยมสฺส ปุริมวารทฺวยโต วิเสโส. ตทนนฺตโร ‘‘กุสลํ ธมฺมํ นิสฺสาย กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ นิสฺสยาภิธานวเสน วุตฺโต นิสฺสยวาโร นาม. โส ปุริเมน ปจฺจยวาเรน อตฺถโต นินฺนานากรโณ. ปจฺจยาภิธานวเสน พุชฺฌนกานํ วเสน ปน ปโม วุตฺโต, นิสฺสยาภิธานวเสน พุชฺฌนกานํ วเสน ทุติโย. ตโต ปรํ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ สํสฏฺโ กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ สํสฏฺาภิธานวเสน วุตฺโต สํสฏฺวาโร นาม. ‘‘กุสลํ ธมฺมํ สมฺปยุตฺโต กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ สมฺปยุตฺตาภิธานวเสน วุตฺโต สมฺปยุตฺตวาโร นาม. โส ปุริเมน สํสฏฺวาเรน อตฺถโต นินฺนานากรโณ. สํสฏฺาภิธานวเสน พุชฺฌนกานํ วเสน ปน ปโม วุตฺโต, สมฺปยุตฺตาภิธานวเสน ทุติโย. ทฺวีสุปิ เจเตสุ อรูปธมฺมวเสเนว ปจฺจยา ปจฺจยุปฺปนฺนา จ เวทิตพฺพา. สตฺตมวาเร ปน ยสฺมา ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน เต เต ปฺเห อุทฺธริตฺวา ปุน ‘‘กุสลา เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธาน’’นฺติอาทินา นเยน สพฺเพปิ เต ปฺหา นิชฺชฏา นิคฺคุมฺพา จ กตฺวา วิภตฺตา, ตสฺมา โส วาโร ปฺหานํ สาธุกํ วิภตฺตตฺตา ปฺหาวาโรตฺเวว สงฺขฺยํ คโต. รูปารูปธมฺมวเสเนว ปเนตฺถ ปจฺจยาปิ ปจฺจยุปฺปนฺนาปิ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ โย ตาว เอส สพฺพปโม ปฏิจฺจวาโร นาม, โส อุทฺเทสโต นิทฺเทสโต จ ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ อุทฺเทสวาโร ปโม, ปุจฺฉาวาโรติปิ วุจฺจติ. ปณฺณตฺติวาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. โส หิ กุสลาทโย ปฏิจฺจ กุสลาทีนํ เหตุปจฺจยาทีนํ วเสน อุทฺทิฏฺตฺตา อุทฺเทสวาโร, กุสลาทโย ปฏิจฺจ เหตุปจฺจยาทิวเสน กุสลาทีนํ อุปฺปตฺติยา ปุจฺฉิตตฺตา ปุจฺฉาวาโร, กุสลาทโย ปฏิจฺจ เหตุปจฺจยาทิวเสน กุสลาทีนํ อุปฺปตฺติยา ปฺาปิตตฺตา ปณฺณตฺติวาโรติปิ วุตฺโต.

๒๕-๓๔. ตตฺถ สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยาติ ปริกปฺปปุจฺฉา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – โย กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา, กึ โส กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สิยาติ อถ วา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ โย กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย, โส เหตุปจฺจยา สิยาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตตฺถ ปฏีติ สทิสตฺเถ วตฺตติ. สทิสปุคฺคโล หิ ปฏิปุคฺคโล, สทิสภาโค จ ปฏิภาโคติ วุจฺจติ. อิจฺจาติ คมนุสฺสุกฺกวจนเมตํ. อุภยํ เอกโต กตฺวา ปฏิจฺจาติ ปฏิคนฺตฺวา สหุปฺปตฺติสงฺขาเตน สทิสภาเวน ปตฺวา, เตน สทฺธึ เอกโต อุปฺปตฺติภาวํ อุปคนฺตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. กุสโล ธมฺโมติ เอวํ สหุปฺปตฺติภาเวน กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยาติ ปุจฺฉติ. อถ วา ปฏิจฺจาติ ปจฺจยํ กตฺวา. ตํ ปน ปจฺจยกรณํ ปุเรชาเตปิ ปจฺจเย ลพฺภติ สหชาเตปิ. อิธ สหชาตํ อธิปฺเปตํ. สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโลติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ กิฺจาปิ สหชาตวเสน กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน ปุจฺฉาวาเร ยมฺปิ วิสฺสชฺชิยมานํ อตฺถโต ลพฺภติ, ยมฺปิ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉาวเสน อุทฺธฏํ. ปรโต ปน วิสฺสชฺชเน ยํ น ลพฺภติ, ตํ ปหาย ยํ ลพฺภติ, ตเทว วิสฺสชฺชิตํ.

เอวเมตฺถ ปุจฺฉานํ อตฺถฺเจว ปุจฺฉาคติฺจ ตฺวา อิทานิ คณนวเสน ปุจฺฉาปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจา’’ติ กุสลปทํ อาทึ กตฺวา กุสลากุสลาพฺยากตนฺตา ติสฺโส ปุจฺฉา, ปุน ตเทวาทึ กตฺวา กุสลาพฺยากตาทิวเสน ทุกปฺปเภทนฺตา ติสฺโส, ปุน ตเทวาทึ กตฺวา ติกนฺตา จ เอกา, เอวํ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติ กุสลาทิกา สตฺต ปุจฺฉา, ตถา อกุสลาทิกา, ตถา อพฺยากตาทิกา, ตถา กุสลาพฺยากตาทิกา, อกุสลาพฺยากตาทิกา, กุสลากุสลาทิกา, กุสลากุสลาพฺยากตาทิกาติ สพฺพาปิ สตฺตนฺนํ สตฺตกานํ วเสน กุสลตฺติกํ นิสฺสาย เหตุปจฺจเย เอกูนปฺาสํ ปุจฺฉา.

ตตฺถ เอกมูลกาวสานา นว, เอกมูลทุกาวสานา นว, เอกมูลติกาวสานา ติสฺโส, ทุกมูลเอกาวสานา นว, ทุกมูลทุกาวสานา นว, ทุกมูลติกาวสานา ติสฺโส, ติกมูลเอกาวสานา ติสฺโส, ติกมูลทุกาวสานา ติสฺโส, ติกมูลติกาวสานา เอกาติ เอวเมตา มูลวเสนาปิ เวทิตพฺพา. ยถา จ เหตุปจฺจเย เอกูนปฺาสํ, อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ ตเถวาติ สพฺเพสุปิ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ –

สหสฺสเมกฺจ สตํ, ฉสตฺตติ ปุนาปรา;

ปุจฺฉา สมฺปิณฺฑิตา โหนฺติ, นยมฺหิ เอกมูลเก.

๓๕-๓๖. ตโต ปรํ เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยาติ ทุมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถ เหตารมฺมณทุโก…เป… เหตุอวิคตทุโกติ เหตุปจฺจเยน สทฺธึ เตวีสติ ทุกา โหนฺติ. เตสุ เหตุปจฺจเย วิย เหตารมฺมณทุเกปิ เอกูนปฺาสํ ปุจฺฉา, ตาสุ ปาฬิยํ ทฺเวเยว ทสฺสิตา. ยถา จ เหตารมฺมณทุเก เอกูนปฺาสํ ตถา เหตาธิปติทุกาทีสุปิ. ตตฺถ ปมปุจฺฉาวเสน เหตาธิปติทุโก, เหตานนฺตรทุโก, เหตุสมนนฺตรทุโกติ ปฏิปาฏิยา ตโย ทุเก ทสฺเสตฺวา ปริโยสาเน เหตุอวิคตทุโก ทสฺสิโต, เสสํ สงฺขิตฺตํ. ปุจฺฉาปริจฺเฉโท ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺโพ.

สหสฺสเมกฺจ สตํ, สตฺตวีสติเมว จ;

ทุเกสุ เตวีสติยา, ปุจฺฉา โหนฺติ ทุมูลเก.

๓๗. ตโต ปรํ เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา อธิปติปจฺจยาติ ติมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถ เหตารมฺมณทุเกน สทฺธึ อธิปติปจฺจยาทีสุ พาวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน พาวีสติ ติกา โหนฺติ. เตสุ ปมปุจฺฉาวเสน ปมตฺติกฺจ ทุติยตฺติกฺจ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานติโก ทสฺสิโต, เสสํ สงฺขิตฺตํ. ยถา ปน ทุเกสุ, เอวํ ติเกสุปิ เอกเมกสฺมึ ติเก เอกูนปฺาสํ กตฺวา สพฺเพสุปิ พาวีสติยา ติเกสุ –

สหสฺสเมกํ ปุจฺฉานํ, อฏฺสตฺตติเมว จ;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ ติกมูลเก.

๓๘. ตโต ปรํ เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา อธิปติปจฺจยา อนนฺตรปจฺจยาติ จตุมูลกนโย อารทฺโธ. ตตฺถ ปมตฺติเกน สทฺธึ อนนฺตรปจฺจยาทีสุ เอกวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน เอกวีสติ จตุกฺกา โหนฺติ. เตสุ ทฺเว จตุกฺเก ทสฺเสตฺวา เสสํ สงฺขิตฺตํ. อิธาปิ เอกเมกสฺมึ จตุกฺเก เอกูนปฺาสํ กตฺวา สพฺเพสุปิ เอกวีสติยา จตุกฺเกสุ –

สหสฺสเมกํ ปุจฺฉานํ, เอกูนตึส ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ จตุมูลเก.

ตโต ปรํ ปฺจมูลกํ อาทึ กตฺวา ยาว สพฺพมูลกา เทสนา กตา, ตํ สพฺพํ สงฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตฺจ อุปริ วตฺตพฺพฺจ เอกโต กตฺวา ปาฬิยํ ‘‘เอกมูลกํ, ทุมูลกํ, ติมูลกํ, จตุมูลกํ, ปฺจมูลกํ, สพฺพมูลกํ อสมฺมุยฺหนฺเตน วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ นโย ทสฺสิโต. ตตฺถ เอกมูลกาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตเมว. ปฺจมูลเก ปน ปมจตุกฺเกน สทฺธึ สมนนฺตรปจฺจยาทีสุ สมวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน สมวีสติ ปฺจกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ นว ปุจฺฉานํ, อสีติ จ ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ ปฺจมูลเก.

ฉมูลเก ปมปฺจเกน สทฺธึ สหชาตปจฺจยาทีสุ เอกูนวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน เอกูนวีสติ ฉกฺกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ นว ปุจฺฉานํ, เอกตึส ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ ฉกฺกมูลเก.

สตฺตมูลเก ปมฉกฺเกน สทฺธึ อฺมฺปจฺจยาทีสุ อฏฺารสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน อฏฺารส สตฺตกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ อฏฺ ปุจฺฉานํ, ทฺวาสีติ จ ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ สตฺตมูลเก.

อฏฺมูลเก ปมสตฺตเกน สทฺธึ นิสฺสยปจฺจยาทีสุ สตฺตรสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน สตฺตรส อฏฺกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ อฏฺ ปุจฺฉานํ, เตตฺตึสา จ ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ อฏฺมูลเก.

นวมูลเก ปมอฏฺเกน สทฺธึ อุปนิสฺสยปจฺจยาทีสุ โสฬสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน โสฬส นวกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ สตฺต ปุจฺฉานํ, จตุราสีติ ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ นวมูลเก.

ทสมูลเก ปมนวเกน สทฺธึ ปุเรชาตปจฺจยาทีสุ ปนฺนรสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ปนฺนรส ทสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ สตฺต ปุจฺฉานํ, ปฺจตึส ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นยมฺหิ ทสมูลเก.

เอกาทสมูลเก ปมทสเกน สทฺธึ ปจฺฉาชาตปจฺจยาทีสุ จุทฺทสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน จุทฺทส เอกาทสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

ฉ สตานิ จ ปุจฺฉานํ, ฉฬาสีติ ตโตปรา;

นยมฺหิ ปุจฺฉา คณิตา, เอกาทสกมูลเก.

ทฺวาทสมูลเก ปมเอกาทสเกน สทฺธึ อาเสวนปจฺจยาทีสุ เตรสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน เตรส ทฺวาทสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ จ ปุจฺฉานํ, สตฺตตึส ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย ทฺวาทสมูลเก.

เตรสมูลเก ปมทฺวาทสเกน สทฺธึ กมฺมปจฺจยาทีสุ ทฺวาทสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ทฺวาทส เตรสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ ปฺจ ปุจฺฉานํ, อฏฺาสีติ ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย เตรสมูลเก.

จุทฺทสมูลเก ปมเตรสเกน สทฺธึ วิปากปจฺจยาทีสุ เอกาทสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน เอกาทส จุทฺทสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ ปฺจ ปุจฺฉานํ, ตึส จาถ นวาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย จุทฺทสมูลเก.

ปนฺนรสมูลเก ปมจุทฺทสเกน สทฺธึ อาหารปจฺจยาทีสุ ทสสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ทส ปนฺนรสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ จตฺตาริ ปุจฺฉานํ, นวุติ จ ตโตปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย ปนฺนรสมูลเก.

โสฬสมูลเก ปมปนฺนรสเกน สทฺธึ อินฺทฺริยปจฺจยาทีสุ นวสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน นว โสฬสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ จตฺตาริ จตฺตา-ลีเสกา เจว ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย โสฬสมูลเก.

สตฺตรสมูลเก ปมโสฬสเกน สทฺธึ ฌานปจฺจยาทีสุ อฏฺสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน อฏฺ สตฺตรสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ ตีณิ ปุจฺฉานํ, นวุติ ทฺเว ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย สตฺตรสมูลเก.

อฏฺารสมูลเก ปมสตฺตรสเกน สทฺธึ มคฺคปจฺจยาทีสุ สตฺตสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน สตฺต อฏฺารสกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตานิ ตีณิ ปุจฺฉานํ, เตจตฺตารีสเมว จ;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย อฏฺารสมูลเก.

เอกูนวีสติมูลเก ปมอฏฺารสเกน สทฺธึ สมฺปยุตฺตปจฺจยาทีสุ ฉสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ฉ เอกูนวีสติกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

ทฺเว สตา นวุติ เจว, จตสฺโส จ ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย เอกูนวีสติเก.

วีสติมูลเก ปมเอกูนวีสติเกน สทฺธึ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาทีสุ ปฺจสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ปฺจวีสติกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

ทฺเว สตา โหนฺติ ปุจฺฉานํ, จตฺตาลีสา จ ปฺจ จ;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย วีสติมูลเก.

เอกวีสติมูลเก ปมวีสติเกน สทฺธึ อตฺถิปจฺจยาทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน จตฺตาโร เอกวีสติกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

สตํ ฉนวุติ เจว, ปุจฺฉา โหนฺติ สมฺปิณฺฑิตา;

คณิตา ลกฺขณฺูหิ, เอกวีสติเก นเย.

ทฺวาวีสติมูลเก ปมเอกวีสติเกน สทฺธึ นตฺถิปจฺจยาทีสุ ตีสุ ปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ตโย ทฺวาวีสติกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

จตฺตาลีสาธิกํ สตํ, สตฺต เจว ปุนาปรา;

ปุจฺฉา คณนโต โหนฺติ, นเย ทฺวาวีสติมูลเก.

เตวีสติมูลเก ปมทฺวาวีสติเกน สทฺธึ ทฺวีสุ วิคตาวิคตปจฺจเยสุ เอกเมกสฺส โยชนาวเสน ทฺเว เตวีสติกา โหนฺติ. เตสุ เอกเมกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา –

อฏฺนวุติเมวิธ, ปุจฺฉา คณนโต มตา;

นยมฺหิ เตวีสติเม, เตวีสติกมูลเก.

จตุวีสติมูลโก ปน สพฺพปจฺจยานํ สโมธานวเสน เวทิตพฺโพ, เตเนว สพฺพมูลโกติ วุตฺโต. ตตฺถ เอกูนปฺาสเมว ปุจฺฉา โหนฺตีติ สพฺพาเปตา เหตุปจฺจยปทเมว คเหตฺวา เอกมูลกาทีนํ สพฺพมูลกปริโยสานานํ วเสน สตฺถารา เทวปริสติ วิตฺถารโต วิภตฺตา ปุจฺฉา อิธ สงฺเขเปน ทสฺสิตา.

ตาสํ ปน สพฺพาสมฺปิ อยํ คณนปิณฺโฑ – เอกมูลกนยสฺมิฺหิ เอกาทส สตานิ ฉสตฺตติ จ ปุจฺฉา อาคตา. เหตุปจฺจยนเย เตเนว มูลเกน เอกูนปฺาสํ กตฺวา อิมสฺมึ เหตุปจฺจยมูลเก คเหตพฺพา, เสสา เสสปจฺจยมูลเกสุ ปกฺขิปิตพฺพา. ทุมูลเก สตฺตวีสานิ เอกาทส สตานิ, ติมูลเก สหสฺสํ อฏฺสตฺตติ จ, จตุมูลเก สหสฺสํ เอกูนตึสฺจ, ปฺจมูลเก อสีตาธิกานิ นว สตานิ, ฉมูลเก เอกตึสานิ นว สตานิ, สตฺตมูลเก ทฺวาสีตานิ อฏฺ สตานิ, อฏฺมูลเก เตตฺตึสานิ อฏฺ สตานิ, นวมูลเก จตุราสีตานิ สตฺต สตานิ, ทสมูลเก ปฺจตึสานิ สตฺต สตานิ, เอกาทสมูลเก ฉาสีตานิ ฉ สตานิ, ทฺวาทสมูลเก สตฺตตึสานิ ฉ สตานิ, เตรสมูลเก อฏฺาสีตานิ ปฺจ สตานิ, จุทฺทสมูลเก เอกูนจตฺตาลีสานิ ปฺจ สตานิ, ปนฺนรสมูลเก นวุตานิ จตฺตาริ สตานิ, โสฬสมูลเก เอกจตฺตาลีสานิ จตฺตาริ สตฺตานิ, สตฺตรสมูลเก ทฺวานวุตานิ ตีณิ สตานิ, อฏฺารสมูลเก เตจตฺตาลีสานิ ตีณิ สตานิ, เอกูนวีสติมูลเก จตุนวุตานิ ทฺเว สตานิ, วีสติมูลเก ปฺจจตฺตาลีสานิ ทฺเว สตานิ, เอกวีสติมูลเก ฉนวุติสตํ, ทฺวาวีสติมูลเก สตฺตจตฺตาลีสสตํ, เตวีสติมูลเก อฏฺนวุติ, สพฺพมูลเก เอกูนปฺาสาติ เอวํ เหตุปทํ อาทึ กตฺวา วิภตฺเตสุ เอกมูลกาทีสุ –

จุทฺทเสว สหสฺสานิ, ปุน สตฺต สตานิ จ;

ปุจฺฉา เหตุปทสฺเสว, เอกมูลาทิเภทโตติ.

๓๙-๔๐. เอวํ เหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลกโต ปฏฺาย ยาว สพฺพมูลกนยา ปุจฺฉาเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อารมฺมณปจฺจยํ อาทึ กตฺวา ทสฺเสตุํ สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย อารมฺมณปจฺจยา เหตุปจฺจยาติอาทิมาห. ตตฺถ อารมฺมณปจฺจยา เหตุปจฺจยาติ เอตฺตาวตา อารมฺมณปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เหตุปจฺจยปริโยสาโน เอกมูลกนโย ทสฺสิโต. ตโต ปรํ อารมฺมณปจฺจยา อธิปติปจฺจยาติ ทุกมูลกํ อารทฺธํ. ตตฺถ อิมํ ปมทุกฺเจว อารมฺมณาวิคตทุกฺจ ทสฺเสตฺวา เสสํ สงฺขิตฺตํ. อารมฺมณปจฺจยา เหตุปจฺจยาติ อยํ โอสานทุโกปิ น ทสฺสิโต. สเจ ปน กตฺถจิ วาจนามคฺเค สนฺทิสฺสติ, สฺเวว วาจนามคฺโค คเหตพฺโพ. ตโต ปรํ อารมฺมณปจฺจยวเสน ติกมูลกาทโย อทสฺเสตฺวาว อธิปติปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกกาทโย ทสฺเสตุํ อธิปติปจฺจยา, อนนฺตรปจฺจยา, สมนนฺตรปจฺจยา, สหชาตปจฺจยา, อฺมฺปจฺจยาติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตํ เอกมูลกวเสน วา สพฺพมูลกวเสน วา เวทิตพฺพํ.

๔๑. ตโต ปรํ อวิคตปจฺจยํ อาทึ กตฺวา ทุมูลกเมว ทสฺเสตุํ – อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อวิคตเหตุทุโก, อวิคตารมฺมณทุโก, อวิคตาธิปติทุโกติ ปฏิปาฏิยา ตโย ทุเก วตฺวา ปริโยสาเน จ อวิคตวิคตทุโก เอโก ทุโก ทสฺสิโต. ตโต อวิคตปจฺจยวเสเนว ติมูลกํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา, อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา อธิปติปจฺจยา, อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา อนนฺตรปจฺจยา’’ติ เอวํ ปฏิปาฏิยา ตโย ติเก วตฺวา ‘‘อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา วิคตปจฺจยา’’ติ ปริโยสานตฺติโก วุตฺโต. ตโต อวิคตปจฺจยวเสเนว จตุมูลกํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา อธิปติปจฺจยา, อวิคตปจฺจยา เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา อนนฺตรปจฺจยา’’ติ ทฺเว จตุกฺเก วตฺวา ‘‘วิคตปจฺจยา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ปิตํ, เสสํ สพฺพํ สงฺขิตฺตํ. ตสฺส สงฺขิตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเกกสฺส ปทสฺส เอกมูลกํ, ทุมูลกํ, ติมูลกํ, สพฺพมูลกํ อสมฺมุยฺหนฺเตน วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถา เหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เหตุอาทิปทวเสน เอกมูลเก เอกาทส ปุจฺฉาสตานิ ฉสตฺตติ จ ปุจฺฉา…เป… สพฺพมูลเก เอกูนปฺาสํ, เอวํ อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ เอกเมกํ อาทึ กตฺวา อารมฺมณาทิปทวเสน เอกเมกสฺส ปทสฺส เอกมูลเก เอกาทส ปุจฺฉาสตานิ ฉสตฺตติ จ ปุจฺฉา…เป… สพฺพมูลเก เอกูนปฺาสาติ เอเกกสฺส ปทสฺส เอกมูลกาทิเภเท สตฺตสตาธิกานิ จุทฺทส ปุจฺฉา สหสฺสานิ โหนฺติ. ตาสํ สพฺเพสุปิ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อยํ คณนปริจฺเฉโท –

ทฺวาปฺาสสหสฺสาน-ฏฺสตานิ ตีณิ สตสหสฺสานิ;

กุสลตฺติกสฺส ปุจฺฉา, อนุโลมนยมฺหิ สุวิภตฺตา.

ยถา จ กุสลตฺติกสฺส, เอวํ เวทนาตฺติกาทีนมฺปีติ สพฺเพสุปิ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ –

เอกสฏฺิสหสฺสานิ, ฉ สตานิ สตฺตสตฺตติ;

สตสหสฺสานิ ปุจฺฉานํ, ติกเภเท ปเภทโต.

สงฺขิตฺตา วาจนามคฺเค.

ทุเกสุ ปน ‘‘สิยา เหตุํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ, นเหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ, เหตุฺจ นเหตุฺจ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตุฺจ นเหตุฺจ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตุฺจ นเหตุฺจ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จาติ เอกเมกสฺมึ ทุเก เหตุปจฺจยาทีสุ เอกเมกสฺมึ ปจฺจเย นว ปุจฺฉา โหนฺติ. ตาสุ เหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลเก ทฺเวสตานิ โสฬส จ ปุจฺฉา โหนฺติ. ตาสุ เหตุปจฺจยสฺเสว อฺเน อสมฺมิสฺสา นว ปุจฺฉา คเหตพฺพา, เสสา อฏฺ วาเรน คหิตา.

ตาสํ ทุกมูลกาทีสุ เตวีสติยา วาเรสุ เอเกกํ นวกํ อปเนตฺวา ยาว สพฺพมูลกา อยํ คณนปริจฺเฉโท – ทุกมูลเก ตาว เอกมูลเก ทสฺสิเตสุ ทฺวีสุ โสฬสาธิเกสุ ปุจฺฉาสเตสุ นว อปเนตฺวา ทฺเวสตานิ สตฺต จ ปุจฺฉา โหนฺติ, ตโต นว อปเนตฺวา ติมูลเก อฏฺนวุติสตํ. เอวํ ปุริมปุริมโต นว นว อปเนตฺวา จตุมูลเก เอกูนนวุติสตํ, ปฺจมูลเก อสีติสตํ, ฉมูลเก เอกสตฺตติสตํ, สตฺตมูลเก ทฺวาสฏฺิสตํ, อฏฺมูลเก เตปณฺณาสสตํ, นวมูลเก จตุจตฺตาลีสสตํ, ทสมูลเก ปฺจตึสสตํ, เอกาทสมูลเก ฉพฺพีสสตํ, ทฺวาทสมูลเก สตฺตรสาธิกสตํ, เตรสมูลเก อฏฺาธิกสตํ, จุทฺทสมูลเก นวนวุติ, ปนฺนรสมูลเก นวุติ, โสฬสมูลเก เอกาสีติ, สตฺตรสมูลเก ทฺวาสตฺตติ, อฏฺารสมูลเก เตสฏฺิ, เอกูนวีสติมูลเก จตุปฺาสํ, วีสติมูลเก ปฺจจตฺตาลีสํ, เอกวีสติมูลเก ฉตฺตึสํ, ทฺวาวีสติมูลเก สตฺตวีส, เตวีสติมูลเก อฏฺารส, สพฺพมูลเก นวาติ. ยถา ปเนตานิ เหตุปจฺจยวเสน เอกมูลเก โสฬสาธิกานิ ทฺเว ปุจฺฉาสตานิ…เป… สพฺพมูลเก นว, เอวํ อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ เอกเมกํ อาทึ กตฺวา อารมฺมณาทิปทวเสน เอเกกสฺส ปทสฺส เอกมูลเก โสฬสาธิกานิ ทฺเว ปุจฺฉาสตานิ…เป… สพฺพมูลเก นวาติ เอเกกสฺส ปทสฺส เอกมูลกาทิเภเท ทฺเว ปุจฺฉา สหสฺสานิ สตฺตสตานิ จ ปุจฺฉา โหนฺติ. ตาสํ สพฺเพสุปิ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อยํ คณนปริจฺเฉโท –

จตุสฏฺิสหสฺสานิ, ปุน อฏฺสตานิ จ;

ปุจฺฉา เหตุทุกสฺเสว, อนุโลมนเย มตา.

ยถา จ เหตุทุกสฺส, เอวํ สเหตุกทุกาทีนมฺปีติ สพฺพสฺมิมฺปิ ทุกสเต –

สฏฺิ สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ จ ตโตปรํ;

อสีติ จ สหสฺสานิ, ปุจฺฉา ทุกสเต วิทู.

อยํ ตาว สุทฺธิเก ติกปฏฺาเน เจว ทุกปฏฺาเน จ ปุจฺฉานํ คณนปริจฺเฉโท.

ยํ ปน ตโต ปรํ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม เทสิตํ, ตตฺถ ‘‘สิยา เหตุํ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ เอเกกํ ติกํ ทุกานํ สเตน สเตน สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพานํ ปุจฺฉานํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ เอกมูลกาทีนํ วเสน คเหตฺวา ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

ยมฺปิ ตโต ปรํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม เทสิตํ, ตตฺถาปิ ‘‘สิยา กุสลํ เหตุํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล เหตุธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ ทุกสเต เอเกกํ ทุกํ ทฺวาวีสติยา ติเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพานํ ปุจฺฉานํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ เอกมูลกาทีนํ วเสน คเหตฺวา ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

ยมฺปิ ตโต ปรํ ติเก ติเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ติกติกปฏฺานํ นาม เทสิตํ, ตตฺถาปิ ‘‘สิยา กุสลํ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ เอเกกํ ติกํ เสเสหิ เอกวีสติยา ติเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพานํ ปุจฺฉานํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ เอกมูลกาทีนํ วเสน คเหตฺวา ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

ยมฺปิ ตโต ปรํ ทุเก ทุเกสุเยว ปกฺขิปิตฺวา ทุกทุกปฏฺานํ นาม เทสิตํ, ตตฺถาปิ ‘‘สิยา เหตุํ สเหตุกํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุ สเหตุโก ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ ทุกสเต เอเกกํ ทุกํ เสเสหิ นวนวุติยา ทุเกหิ สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพานํ ปุจฺฉานํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ เอกมูลกาทีนํ วเสน คเหตฺวา ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตถาคเตน หิ สพฺพมฺเปตํ ปเภทํ ทสฺเสตฺวาว เทวปริสาย ธมฺโม เทสิโต, ธมฺมเสนาปติสฺส ปน เตน ‘‘อชฺช อิทฺจิทฺจ เทสิต’’นฺติ สงฺขิปิตฺวา นยทสฺสนมตฺเตเนว เทสนา อกฺขาตา. เถเรนาปิ สงฺขิปิตฺวาว วาจนามคฺโค ปวตฺติโต, โส เถเรน ปวตฺติตนเยเนว สงฺคีติกาเล สงฺคหํ อาโรปิโต.

ตํ ปนสฺส สงฺเขปนยํ ทสฺเสตุํ ติกฺจ ปฏฺานวรนฺติ อยํ คาถา ปิตา. ตสฺสตฺโถ – ติกฺจ ปฏฺานวรนฺติ ปวรํ ติกปฏฺานฺจ. ทุกุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ เสฏฺํ ทุกปฏฺานฺจ. ทุกติกฺเจวาติ ทุกติกปฏฺานฺจ. ติกทุกฺจาติ ติกทุกปฏฺานฺจ. ติกติกฺเจวาติ ติกติกปฏฺานฺจ. ทุกทุกฺจาติ ทุกทุกปฏฺานฺจ. ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ เอเต ติกปฏฺานาทโย สุฏฺุ คมฺภีรา ฉ นยา อนุโลมมฺหิ เวทิตพฺพาติ. ตตฺถ ทฺเว อนุโลมานิ – ธมฺมานุโลมฺจ ปจฺจยานุโลมฺจ. ตตฺถ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม’’ติ เอวํ อภิธมฺมมาติกาปเทหิ สงฺคหิตานํ ธมฺมานํ อนุโลมเทสนาวเสน ปวตฺตํ ธมฺมานุโลมํ นาม. ‘‘เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จตุวีสติยา ปจฺจยานํ อนุโลมเทสนาวเสน ปวตฺตํ ปจฺจยานุโลมํ นาม.

ตตฺถ เหฏฺา อฏฺกถายํ ‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อยํ คาถา ธมฺมานุโลมํ สนฺธาย วุตฺตา. อิธ ปน อยํ คาถา ตสฺมึ ธมฺมานุโลเม ปจฺจยานุโลมํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อฏฺกถาคาถาย ธมฺมานุโลเม ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปโนกาเส ‘‘เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ ปวตฺเต ปจฺจยานุโลเม เอเต ธมฺมานุโลเม ติกปฏฺานาทโย ‘‘ฉ นยา สุคมฺภีรา’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตสุ อนุโลเม ติกปฏฺาเน กุสลตฺติกมตฺตสฺเสว วเสน อยํ อิมสฺมึ ปฏิจฺจวารสฺส ปณฺณตฺติวาเร สงฺขิปิตฺวา ปุจฺฉาปเภโท ทสฺสิโต. เสเสสุ ปน ติเกสุ เสสปฏฺาเนสุ จ เอกาปิ ปุจฺฉา น ทสฺสิตา. ตโต ปเรสุ ปน สหชาตวาราทีสุ กุสลตฺติกสฺสาปิ วเสน ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวา ลพฺภมานกวเสน วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ‘‘ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ วจนโต ปน อิมสฺมึ ปจฺจยานุโลเม ฉปิ เอเต ปฏฺานนยา ปุจฺฉาวเสน อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ปฏฺานํ วณฺณยนฺตานฺหิ อาจริยานํ ภาโร เอโสติ.

๒. ปจฺจยปจฺจนียวณฺณนา

๔๒-๔๔. อิทานิ ปจฺจนียํ โหติ. ตํ ทสฺเสตุํ สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย น เหตุปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนุโลมปุจฺฉาหิ สมปฺปมาโณว ปุจฺฉาปริจฺเฉโท. เตเนเวตฺถ ‘‘ยถา อนุโลเม เหตุปจฺจโย วิตฺถาริโต, เอวํ ปจฺจนีเยปิ นเหตุปจฺจโย วิตฺถาเรตพฺโพ’’ติ วตฺวา ปุน ปริโยสาเน ‘‘ยถา อนุโลเม เอเกกสฺส ปทสฺส เอกมูลกํ, ทุมูลกํ, ติมูลกํ, จตุมูลกํ ยาว เตวีสติมูลกํ, เอวํ ปจฺจนีเยปิ วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตวีสติมูลกนฺติ อิทฺเจตฺถ ทุมูลกํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ปริโยสาเน ปน สพฺพมูลกํ จตุวีสติมูลกมฺปิ โหติเยว. ตํ สพฺพํ สงฺขิตฺตเมวาติ.

ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปจฺจนียานิ – ธมฺมปจฺจนียฺจ ปจฺจยปจฺจนียฺจ. ตตฺถ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ เอวํ อภิธมฺมมาติกาปเทหิ สงฺคหิตานํ ธมฺมานํ ‘‘น กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ น กุสโล ธมฺโม’’ติ ปจฺจนียเทสนาวเสน ปวตฺตํ ธมฺมปจฺจนียํ นาม. ‘‘นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จตุวีสติยา ปจฺจยานํ ปจฺจนียเทสนาวเสน ปวตฺตํ ปจฺจยปจฺจนียํ นาม. ตตฺถ เหฏฺา อฏฺกถายํ ‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อยํ คาถา ธมฺมปจฺจนียํ สนฺธาย วุตฺตา. อิธ ปน อยํ คาถา ธมฺมานุโลเมเยว ปจฺจยปจฺจนียํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อฏฺกถาคาถาย ธมฺมปจฺจนีเย ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปโนกาเส น เหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยาติ เอวํ ปวตฺเต ปจฺจยปจฺจนีเย เอเต ธมฺมานุโลเมเยว ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เตสุ อนุโลมติกปฏฺาเนเยว กุสลตฺติกมตฺตสฺส วเสน อยํ อิมสฺมึ ปฏิจฺจวารสฺส ปณฺณตฺติวาเร สงฺขิปิตฺวา ปุจฺฉาปเภโท ทสฺสิโต. เสเสสุ ปน ติเกสุ เสสปฏฺาเนสุ จ เอกาปิ ปุจฺฉา น ทสฺสิตา. ตโต ปเรสุ ปน สหชาตวาราทีสุ กุสลตฺติกสฺสาปิ วเสน ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวา ลพฺภมานกวเสน วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ‘‘ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ วจนโต ปน อิมสฺมึ ปจฺจยปจฺจนีเย ฉปิ เอเต ปฏฺานนยา ปุจฺฉาวเสน อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ปฏฺานํ วณฺณยนฺตานฺหิ อาจริยานํ ภาโร เอโสติ.

๓. อนุโลมปจฺจนียวณฺณนา

๔๕-๔๘. อิทานิ อนุโลมปจฺจนียํ โหติ. ตํ ทสฺเสตุํ สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา นอารมฺมณปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘เหตุปจฺจยา นอารมฺมณปจฺจยา…เป… เหตุปจฺจยา นอวิคตปจฺจยา’’ติ เหตุปทสฺส เสเสสุ เตวีสติยา ปจฺจเยสุ เอเกเกน สทฺธึ โยชนาวเสน เหตุปทาทิเก เอกมูลเก เตวีสติ อนุโลมปจฺจนียานิ. เตสุ เอเกกสฺมึ เอกูนปฺาสํ กตฺวา สตฺตวีสาธิกานิ เอกาทส ปุจฺฉาสตานิ โหนฺติ. ทุมูลเก ปน เหตารมฺมณปทานํ เสเสสุ ทฺวาวีสติยา ปจฺจเยสุ เอเกเกน สทฺธึ โยชนาวเสน ทฺวาวีสติ อนุโลมปจฺจนียานีติ เอวํ อนุโลเม วุตฺเตสุ สพฺเพสุ เอกมูลกาทีสุ เอเกกํ ปทํ ปริหาเปตฺวา อวเสสานํ วเสน ปุจฺฉาคณนา เวทิตพฺพา. เอกมูลกาทีสุ เจตฺถ ยา ปุจฺฉา ปาฬิยํ อาคตา, ยา จ น อาคตา, ตา สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพา.

ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ เอตฺถ ปน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ทฺเว อนุโลมปจฺจนียานิ – ธมฺมานุโลมปจฺจนียํ ปจฺจยานุโลมปจฺจนียฺจ. ตตฺถ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ เอวํ อภิธมฺมมาติกาปเทหิ สงฺคหิตานํ ธมฺมานํ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ น กุสโล ธมฺโม’’ติ อนุโลมปจฺจนียเทสนาวเสน ปวตฺตํ ธมฺมานุโลมปจฺจนียํ นาม. ‘‘เหตุปจฺจยา นอารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ ลพฺภมานปทานํ อนุโลมปจฺจนียเทสนาวเสน ปวตฺตํ ปจฺจยานุโลมปจฺจนียํ นาม. ตตฺถ เหฏฺา อฏฺกถายํ ‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อยํ คาถา ธมฺมานุโลมปจฺจนียํ สนฺธาย วุตฺตา. อิธ ปน อยํ คาถา ธมฺมานุโลเมเยว ปจฺจยานุโลมปจฺจนียํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อฏฺกถาคาถาย ธมฺมานุโลมปจฺจนีเย ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปโนกาเส เหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยาติ เอวํ ปวตฺเต ปจฺจยานุโลมปจฺจนีเย เอเต ธมฺมานุโลเมเยว ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เตสุ อนุโลเม ติกปฏฺาเนเยว กุสลตฺติกมตฺตสฺส วเสน อยํ อิมสฺมึ ปฏิจฺจวารสฺส ปณฺณตฺติวาเร สงฺขิปิตฺวา ปุจฺฉาปเภโท ทสฺสิโต. เสเสสุ ปน ติเกสุ เสสปฏฺาเนสุ จ เอกาปิ ปุจฺฉา น ทสฺสิตา. ตโต ปเรสุ ปน สหชาตวาราทีสุ กุสลตฺติกสฺสาปิ วเสน ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวา ลพฺภมานกวเสน วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ‘‘ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ วจนโต ปน อิมสฺมึ ปจฺจยานุโลมปจฺจนีเย ฉปิ เอเต ปฏฺานนยา ปุจฺฉาวเสน อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ปฏฺานํ วณฺณยนฺตานฺหิ อาจริยานํ ภาโร เอโสติ.

๔. ปจฺจนียานุโลมวณฺณนา

๔๙-๕๒. อิทานิ ปจฺจนียานุโลมํ โหติ. ตํ ทสฺเสตุํ สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย นเหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนุโลมปจฺจนียปุจฺฉาหิ สมปฺปมาโณ เอว ปุจฺฉาปริจฺเฉโท. เอกมูลกาทีสุ เจตฺถ ยา ปุจฺฉา ปาฬิยํ อาคตา, ยา จ น อาคตา, ตา สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพา.

ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ เอตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ทฺเว ปจฺจยานุโลมานิ – ธมฺมปจฺจนียานุโลมํ ปจฺจยปจฺจนียานุโลมฺจ. ตตฺถ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ เอวํ อภิธมฺมมาติกาปเทหิ สงฺคหิตานํ ธมฺมานํ ‘‘นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม’’ติ ปจฺจนียานุโลมเทสนาวเสน ปวตฺตํ ธมฺมปจฺจนียานุโลมํ นาม. ‘‘นเหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ ลพฺภมานปทานํ ปจฺจยปจฺจนียานุโลมเทสนาวเสน ปวตฺตํ ปจฺจยปจฺจนียานุโลมํ นาม. ตตฺถ เหฏฺา อฏฺกถายํ ‘‘ติกฺจ ปฏฺานวรํ…เป… ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อยํ คาถา ธมฺมปจฺจนียานุโลมํ สนฺธาย วุตฺตา. อิธ ปน อยํ คาถา ธมฺมานุโลเมเยว ปจฺจยปจฺจนียานุโลมํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา ‘‘ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ อฏฺกถาย ธมฺมปจฺจนียานุโลเม ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปโนกาเส นเหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยาติ เอวํ ปวตฺเต ปจฺจยปจฺจนียานุโลเม เอเต ธมฺมานุโลเมเยว ติกปฏฺานาทโย ฉ นยา สุคมฺภีราติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เตสุ อนุโลมติกปฏฺาเนเยว กุสลตฺติกมตฺตสฺสปิ วเสน อยํ อิมสฺมึ ปฏิจฺจวารสฺส ปณฺณตฺติวาเร สงฺขิปิตฺวา ปุจฺฉาปเภโท ทสฺสิโต. เสเสสุ ปน ติเกสุ เสสปฏฺาเนสุ จ เอกาปิ ปุจฺฉา น ทสฺสิตา. ตโต ปเรสุ ปน สหชาตวาราทีสุ กุสลตฺติกสฺสปิ วเสน ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวา ลพฺภมานกวเสน วิสฺสชฺชนเมว ทสฺสิตํ. ‘‘ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีรา’’ติ วจนโต ปน อิมสฺมึ ปจฺจยปจฺจนียานุโลเม ฉปิ เอเต ปฏฺานนยา ปุจฺฉาวเสน อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ปฏฺานํ วณฺณยนฺตานฺหิ อาจริยานํ ภาโร เอโสติ.

ปุจฺฉาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. กุสลตฺติกวณฺณนา

๑. ปฏิจฺจวารวณฺณนา

๑. ปจฺจยานุโลมํ

(๑.) วิภงฺควาโร

๕๓. อิทานิ ยา เอตา ปณฺณตฺติวาเร กุสลตฺติกํ นิสฺสาย เหตุปจฺจยาทิวเสน เอกูนปฺาสํ อาทึ กตฺวา นยมตฺตํ ทสฺเสนฺเตน อปริมาณา ปุจฺฉา ทสฺสิตา. ตตฺถ กุสลากุสลาทีนํ สหุปฺปตฺติยา อภาวโต ยา ปุจฺฉา ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติ เอวํ วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ. ตา ปหาย ยา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติ, ตาเยว วิสฺสชฺเชตุํ อยํ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติอาทินา นเยน ปฏิจฺจวารสฺส นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ.

ตตฺถ สิยา – สเจ อิมา เหตุปจฺจยาทิวเสน เอกูนปฺาสํ ปุจฺฉา สพฺพโส วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, อถ กสฺมา ทสฺสิตา? นนุ ยา ลภนฺติ, ตาเยว ทสฺเสตพฺพาติ? อาม, ทสฺเสตพฺพา สิยุํ. ตถา ทสฺสิยมานา ปน สพฺเพสุ ติกทุกปฏฺานาทีสุ เอเกกสฺมึ ติเก, ทุเก, ทุกติเก, ติกทุเก, ติกติเก, ทุกทุเก จ สงฺเขปํ อกตฺวา ทสฺเสตพฺพาเยว ภเวยฺยุํ. กสฺมา? ยสฺมา ยา กุสลตฺติเก ลภนฺติ, น ตาเยว เวทนาตฺติกาทีสุ. ธมฺมานุโลมปจฺจนีเย จ ติกปฏฺาเน วิตกฺกตฺติกปีติตฺติกานํ วิสฺสชฺชเน สพฺพาเปตา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติ, ตสฺมา อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน เอเกกสฺมึ ติเก ยตฺตกาหิ ปุจฺฉาหิ ภวิตพฺพํ สพฺพา กุสลตฺติเก ทสฺสิตา. เอวํ ทสฺสิตาสุ หิ ยา ตตฺถ วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตา ปหาย ยา ลภนฺติ, ตา วุจฺจมานา สกฺกา สุเขน วิชานิตุนฺติ สุเขน วิชานนตฺถํ สพฺพาปิ กุสลตฺติเก ทสฺสิตา. ยา ปเนตฺถ วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตา ปหาย ยา ลภนฺติ, ตาเยว วิสฺสชฺชิตาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติ จตุภูมกกุสลธมฺเมสุ เวทนากฺขนฺธาทิเภทํ เอกํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ ปฏิคนฺตฺวา สหุปฺปตฺติสงฺขาเตน สทิสภาเวน ปตฺวา, เตน สทฺธึ เอกโต อุปฺปตฺติภาวํ อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. กุสโล ธมฺโมติ จตุภูมกกุสลธมฺเมสุเยว สฺากฺขนฺธาทิเภโท เอโก ธมฺโม. อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทโต ยาว นิโรธคมนา อุทฺธํ ปชฺชติ, นิพฺพตฺตตีติปิ อตฺโถ. อตฺตานํ ลภติ, อุปฺปาทาทโย ตโยปิ ขเณ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. เหตุปจฺจยาติ กุสลเหตุนา เหตุปจฺจยภาวํ สาเธนฺเตน.

เอวํ ‘‘อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วิสฺสชฺชนํ วตฺวา อิทานิ ยํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ โย ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, ตํ ธมฺมํ ขนฺธวเสน ทสฺเสตุํ กุสลํ เอกํ ขนฺธนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอกนฺติ เวทนาทีสุ จตูสุ ยํกิฺจิ เอกํ. ตโย ขนฺธาติ โย โย ปจฺจยภาเวน คหิโต, ตํ ตํ เปตฺวา อวเสสา ตโย ขนฺธา. ตโย ขนฺเธติ เวทนาทีสุ โย เอโก ขนฺโธ อุปฺปชฺชตีติ คหิโต, ตํ เปตฺวา เสเส ตโย. ทฺเว ขนฺเธติ เวทนาสฺาทุกาทีสุ ฉสุ ทุเกสุ เยเกจิ ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ. ทฺเว ขนฺธาติ เย เย ปจฺจยภาเวน คหิตา, เต เต เปตฺวา อวเสสา ทฺเว ขนฺธา กุสลเหตุนา เหตุปจฺจยภาวํ สาเธนฺเตน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

ยสฺมา ปน เอโก ขนฺโธ เอกสฺเสว ทฺวินฺนํเยว วา, ทฺเว วา ปน เอกสฺเสว ปจฺจโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ, เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา, ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ’’ติ น วุตฺตํ. กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชตีติอาทีสุปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จิตฺตสมุฏฺานํ รูปนฺติ อิทํ ปฏิจฺจตฺถสฺส สหชาตตฺถตฺตา ยํ กุสเลน สหชาตฺเจว เหตุปจฺจยฺจ ลภติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว นโย.

วิปากาพฺยากตํ กิริยาพฺยากตนฺติ เอตฺถ เหตุปจฺจยาภาวโต อเหตุกํ, รูเปน สทฺธึ อนุปฺปตฺติโต อารุปฺปวิปากฺจ น คเหตพฺพํ. ปฏิสนฺธิกฺขเณติ กฏตฺตารูปสงฺขาตสฺส อพฺยากตสฺส อพฺยากตํ ปฏิจฺจ อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิปากาพฺยากตนฺติ ตสฺมึ ขเณ วิชฺชมานาพฺยากตวเสน วุตฺตํ. ขนฺเธ ปฏิจฺจ วตฺถุ, วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธาติ อิทํ กฏตฺตารูปคฺคหเณน วตฺถุมฺหิ คหิเตปิ วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธานํ อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

เอกํ มหาภูตนฺติอาทิ รูปาพฺยากตํ ปฏิจฺจ รูปาพฺยากตสฺส อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอกํ ขนฺธนฺติอาทีสุ วุตฺตนเยเนว ปเนตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. เอวํ รูปาพฺยากตมฺหิ ภูเต ปฏิจฺจ ภูตานํ อุปฺปตฺตึ วตฺวา อิทานิ ภูเต ปฏิจฺจ อุปาทารูปานํ อุปฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ มหาภูเต ปฏิจฺจ จิตฺตสมุฏฺานนฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเต อุปาทารูปนฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, อิตรทฺวยํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? มหาภูเตปิ ปฏิจฺจ อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. ยฺหิ เหฏฺา ‘‘จิตฺตสมุฏฺานฺจ รูปํ กฏตฺตา จ รูป’’นฺติ ทสฺสิตํ, ตํ น เกวลํ ขนฺเธเยว จ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, มหาภูเตปิ ปน ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชตีติ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ จิตฺตสมุฏฺานํ ปวตฺเตเยว, กฏตฺตารูปํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ. อุปาทารูปนฺติ ตสฺเสว อุภยสฺส วิเสสนํ.

กุสเล ขนฺเธ จ มหาภูเต จ ปฏิจฺจาติ เอตฺถ จิตฺตสมุฏฺานาว มหาภูตา คหิตา. จิตฺตสมุฏฺานํ รูปนฺติ เอตฺถ ปน ภูตรูปมฺปิ อุปาทารูปมฺปิ คหิตํ. ‘‘เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา’’ติอาทินา นเยน หิ ภูตรูปมฺปิ ขนฺเธ จ มหาภูเต จ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. มหาภูเต ปฏิจฺจ อุปาทารูปนฺติ วุตฺตนเยน อุปาทารูปมฺปิ. อกุสลฺจ อพฺยากตฺจาติ ปฺหาวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย. เอวํ เหตุปจฺจเย นว ปุจฺฉา วิสฺสชฺชิตา. เอตาเยว หิ เอตฺถ ลพฺภนฺติ, เสสา จตฺตาลีส โมฆปุจฺฉาติ น วิสฺสชฺชิตา. อิมินา อุปาเยน อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ตตฺถ ปน วิจาเรตพฺพยุตฺตกเมว วิจารยิสฺสาม.

๕๔. อารมฺมณปจฺจเย ตาว รูปสฺส อารมฺมณปจฺจยวเสน อนุปฺปตฺติโต ตาสุ นวสุ รูปมิสฺสกา ปหาย ติสฺโสว ปุจฺฉา วิสฺสชฺชิตา. เตเนว จ การเณน ‘‘วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธา’’ติ วตฺวา ‘‘ขนฺเธ ปฏิจฺจ วตฺถู’’ติ น วุตฺตํ. น หิ ตํ อารมฺมณปจฺจเยน อุปฺปชฺชติ.

๕๕. อธิปติปจฺจเย วิปากาพฺยากตนฺติ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนเวตฺถ ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ’’ติ น คหิตํ. เสสํ เหตุปจฺจยสทิสเมว.

๕๖. อนนฺตรสมนฺตเรสุปิ รูปํ น ลพฺภตีติ อารมฺมณปจฺจเย วิย ติสฺโสว ปุจฺฉา.

๕๗. สหชาตปจฺจเย ปฏิสนฺธิกฺขเณติ ปฺจโวกาเร ปฏิสนฺธิวเสน วุตฺตํ. เหฏฺา ปน ปจฺจยวิภงฺเค ‘‘โอกฺกนฺติกฺขเณ’’ติ อาคตํ ตมฺปิ อิมินา สทฺธึ อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนมตฺตเมว เหตฺถ นานนฺติ. อปิจ ‘‘ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘) วจนโต โอกฺกนฺตีติ ปฺจโวการปฏิสนฺธิยาเวตํ นามํ. ปฏิสนฺธีติ สพฺพภวสาธารณํ. อิธ ปน ‘‘กฏตฺตา จ รูป’’นฺติอาทิวจนโต ปฺจโวการปฏิสนฺธิเยว อธิปฺเปตา. สา หิ รูปสฺสปิ อรูปสฺสปิ ปจฺจยภาวฺเจว ปจฺจยุปฺปนฺนภาวฺจ สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา ปริปุณฺณวิสฺสชฺชนา โหตีติ คหิตา. พาหิรํ เอกํ มหาภูตนฺติ อนินฺทฺริยพทฺเธสุ ปถวีปาสาณาทีสุ มหาภูตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปจฺจยวิภงฺควารสฺมิฺหิ จตฺตาโร มหาภูตาติ อชฺฌตฺติกฺจ พาหิรฺจ เอกโต กตฺวา คหิตํ. สงฺเขปเทสนา หิ สา. อยํ ปน วิตฺถารเทสนา, ตสฺมา สพฺพํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘พาหิรํ เอกํ มหาภูต’’นฺติอาทิมาห. อสฺสตฺตานํ เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจาติ ทฺวิสนฺตติสมุฏฺานภูตวเสน วุตฺตํ. มหาภูเต ปฏิจฺจ กฏตฺตารูปนฺติ อิทํ ปน กมฺมสมุฏฺานวเสเนว วุตฺตํ. อุปาทารูปนฺติ อุตุสมุฏฺานวเสเนว.

๕๘. อฺมฺปจฺจเย ขนฺเธ ปฏิจฺจ วตฺถุ, วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธาติ จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ เอกโต วตฺถุนา อฺมฺปจฺจยตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๕๙. นิสฺสยปจฺจเย ยสฺมา ปฏิจฺจตฺโถ นาม สหชาตตฺโถ, ตสฺมา ยา เหฏฺา ปจฺจยวิภงฺควาเร จกฺขายตนาทีนํ นิสฺสยปจฺจยตา ทสฺสิตา, น สา คหิตา. จกฺขายตนาทีนิ หิ ปุเรชาตานิ หุตฺวา ปจฺจยา โหนฺติ, อิธ สหชาตเมว ลพฺภติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘นิสฺสยปจฺจโย สหชาตปจฺจยสทิโส’’ติ.

๖๐. อุปนิสฺสยปจฺจเย รูปสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยาภาวา ตีเณว วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อารมฺมณปจฺจยสทิส’’นฺติ. ตตฺถ กิฺจาปิ น สพฺเพ กุสลากุสลาพฺยากตา อารมฺมณูปนิสฺสยํ ลภนฺติ, เย ปน ลภนฺติ, เตสํ วเสเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๖๑. ปุเรชาตปจฺจเย วตฺถุํ ปุเรชาตปจฺจยาติ วตฺถุํ ปฏิจฺจ วตฺถุนา ปุเรชาตปจฺจยตํ สาเธนฺเตน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. วิปากาพฺยากตํ เอกํ ขนฺธนฺติ เอตฺถ ยํ วิปากาพฺยากตสฺส วตฺถุ โอกฺกนฺติกฺขเณ สหชาตปจฺจโย โหติ, ตํ ปุเรชาตปจฺจยภาชนิยตฺตา อิธ น คเหตพฺพํ. เยปิ กุสลาทโย อารุปฺเป ปุเรชาตปจฺจยํ น ลภนฺติ, เตปิ ปุเรชาตปจฺจยภาชนิยโตเยว อิธ น คเหตพฺพา. อารมฺมณํ ปน นิยมโต ปุเรชาตปจฺจยภาวํ น ลภติ. รูปายตนาทีนิ หิ จกฺขุวิฺาณาทีนํเยว ปุเรชาตปจฺจยตํ สาเธนฺติ, มโนวิฺาณธาตุยา อตีตานาคตานิปิ อารมฺมณํ โหนฺติเยว. ตสฺมา อิธ น คหิตํ. ขนฺธวเสน หิ อยํ เทสนา, น วิฺาณธาตุวเสน. ‘‘วิปากาพฺยากตํ เอกํ ขนฺธ’’นฺติ เทสนาย จ สพฺพาปิ วิฺาณธาตุโย คหิตา, น จกฺขุวิฺาณธาตุอาทโย เอวาติ.

ปจฺฉาชาโต กุสลากุสลานํ ปจฺจโย น โหติ, อพฺยากตสฺสปิ อุปตฺถมฺภโกว น ชนโก, ตสฺมา ‘‘อุปฺปชฺชติ ปจฺฉาชาตปจฺจยา’’ติ เอวํ วตฺตพฺโพ เอกธมฺโมปิ นตฺถีติ ปจฺฉาชาตปจฺจยวเสน วิสฺสชฺชนํ น กตํ.

๖๒. อาเสวนปจฺจเย กามํ สพฺพา กิริยา อาเสวนปจฺจยํ น ลภนฺติ, ลพฺภมานวเสน ปน ‘‘กิริยาพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา ชวนกิริยาเวตฺถ คหิตาติ เวทิตพฺพา.

๖๓. กมฺมปจฺจเย กุสลากุสเลสุ เอกกฺขณิโก กมฺมปจฺจโย เวทิตพฺโพ, ตถา กิริยาพฺยากเต. วิปากาพฺยากเต ปน นานากฺขณิโกปิ, ตถา ปฏิสนฺธิกฺขเณ มหาภูตานํ. จิตฺตสมุฏฺานานํ ปน เอกกฺขณิโก. กฏตฺตารูปานํ นานากฺขณิโกว ตถา อสฺสตฺตรูปานํ. กฏตฺตารูปํ ปเนตฺถ ชีวิตินฺทฺริยํ. เสสํ น เอกนฺตโต กมฺมสมุฏฺานตฺตา อุปาทารูปนฺติ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ อิธ กมฺมสมุฏฺานเมว อธิปฺเปตํ.

๖๔. วิปากปจฺจเย กุสลากุสลํ กิริยฺจ น ลพฺภตีติ อพฺยากตวเสเนว วิสฺสชฺชนํ กตํ. จิตฺตสมุฏฺานนฺติ วิปากจิตฺตสมุฏฺานเมว. กฏตฺตารูปนฺติ ยถาลาภวเสน อินฺทฺริยรูปฺจ วตฺถุรูปฺจ. อุปาทารูปนฺติ ตทวเสสํ ตสฺมึ สมเย วิชฺชมานกํ อุปาทารูปํ.

๖๕. อาหารปจฺจเย สพฺเพสมฺปิ กุสลาทีนํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ อรูปาหารวเสน อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, ตถา ปฏิสนฺธิกฺขเณ มหาภูตานํ. จิตฺตสมุฏฺานนฺติ ภวงฺคาทิจิตฺตสมุฏฺานํ. อาหารสมุฏฺานนฺติ กพฬีการาหารสมุฏฺานํ. จิตฺตสมุฏฺานนฺติ กุสลากุสลจิตฺตสมุฏฺานเมว. ปจฺจยวิภงฺควาเร อาหารปฏิปาฏิยา ปมํ กพฬีกาโร อาหาโร ทสฺสิโต, อิธ ปน กุสลํ ธมฺมนฺติ ปุจฺฉาวเสน ปมํ อรูปาหารา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๖๖. อินฺทฺริยปจฺจเย ปจฺจยวิภงฺเค อินฺทฺริยปฏิปาฏิยา ปมํ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ทสฺสิตานิ, อิธ ปน กุสลาทิปุจฺฉาวเสน ปมํ อรูปินฺทฺริยานํ ปจฺจยตา ทสฺสิตา. ตตฺถ กุสลาทีสุ ยถาลาภวเสน อรูปินฺทฺริยา คเหตพฺพา. อสฺสตฺตานํ ภูตรูเปสุปิ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ.

๖๗. ฌานมคฺคปจฺจเยสุ เหตุปจฺจยสทิสเมว วิสฺสชฺชนํ, เตเนเวตฺถ ‘‘เหตุปจฺจยสทิส’’นฺติ วุตฺตํ.

๖๘. สมฺปยุตฺตปจฺจเย วิสฺสชฺชนํ อารมฺมณปจฺจยคติกํ, เตเนเวตฺถ ‘‘อารมฺมณปจฺจยสทิส’’นฺติ วุตฺตํ.

๖๙. วิปฺปยุตฺตปจฺจเย วตฺถุํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ วตฺถุํ ปฏิจฺจ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา, วตฺถุนา วิปฺปยุตฺตปจฺจยตํ สาเธนฺเตน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ขนฺเธ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ ขนฺเธ ปฏิจฺจ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา, ขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺตปจฺจยตํ สาเธนฺเตหิ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ขนฺธา วตฺถุํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธา วิปฺปยุตฺตปจฺจยา. วตฺถุนา วิปฺปยุตฺตปจฺจยตํ สาเธนฺเตน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. จิตฺตสมุฏฺานรูปํ ขนฺเธ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ ขนฺเธ ปฏิจฺจ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา จิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ ขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺตปจฺจยตํ สาเธนฺเตหิ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เสสวิสฺสชฺชเนสุปิ วตฺถุํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติอาทีสุปิ วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิปากาพฺยากเต เจตฺถ วตฺถุคฺคหเณน จกฺขาทีนิ สงฺคหิตพฺพานิ. เอกํ มหาภูตนฺติอาทิ รูปาพฺยากตสฺส ปจฺจยภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อพฺยากตจิตฺตสมุฏฺานมฺปิ กุสลากุสลจิตฺตสมุฏฺานมฺปิ.

๗๐. อตฺถิปจฺจเย สพฺพํ สหชาตปจฺจยคติกํ. เตเนเวตฺถ ‘‘สหชาตปจฺจยสทิส’’นฺติ วุตฺตํ.

๗๑-๗๒. นตฺถิวิคตา อารมฺมณปจฺจยคติกา, อวิคตํ สหชาตคติกํ. เตเนเวตฺถ ‘‘อารมฺมณปจฺจยสทิสํ, สหชาตปจฺจยสทิส’’นฺติ วุตฺตํ. อิเม เตวีสติ ปจฺจยาติ สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. วิตฺถาเรตพฺพาติ ยา ปุจฺฉา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติ, ตาสํ วเสน วิตฺถาเรตพฺพา. อยํ เหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลเก ปจฺจยานุโลเม ปฏิจฺจวารสฺส กุสลตฺติกวิสฺสชฺชเน อตฺถวณฺณนา.

(๒.) สงฺขฺยาวาโร

๗๓. อิทานิ เย เอตฺถ เหตุปจฺจยาทีสุ เอเกกสฺมึ ปจฺจเย วิสฺสชฺชนวารา ลทฺธา, เต คณนวเสน ทสฺเสตุํ เหตุยา นวาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เหตุยา นวาติ เหตุปจฺจเย นว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวารา โหนฺติ. เสยฺยถิทํ – กุสเลน กุสลํ, กุสเลน อพฺยากตํ, กุสเลน กุสลาพฺยากตํ; อกุสเลน อกุสลํ, อกุสเลน อพฺยากตํ, อกุสเลน อกุสลาพฺยากตํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากเตน อพฺยากตํ, อกุสลาพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ.

อารมฺมเณ ตีณีติ กุสเลน กุสลํ, อกุสเลน อกุสลํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ. อธิปติยา นวาติ เหตุยา วุตฺตสทิสาว. ทฺวาทสสุ หิ ปจฺจเยสุ นว นวาติ วุตฺตํ. สพฺเพสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ เหตุปจฺจยสทิสาเนว. วิภงฺเค ปน อตฺถิ วิเสโส. ทสสุ ปจฺจเยสุ ตีณิ ตีณีติ วุตฺตํ. สพฺเพสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ อารมฺมณสทิสาเนว. วิภงฺเค ปน อตฺถิ วิเสโส. อฺมฺปจฺจยสฺมิฺหิ อพฺยากตปทสฺส วิสฺสชฺชเน รูปมฺปิ ลพฺภติ, ตถา ปุเรชาตปจฺจเย. อาเสวนปจฺจเย วิปากานิ เจว วีถิจิตฺตานิ จ น ลพฺภนฺติ. วิปาเก เอกนฺติ อพฺยากตเมว. เอวเมตฺถ สงฺเขปโต นว ตีณิ เอกนฺติ, ติวิโธว วารปริจฺเฉโท. วิตฺถารโต ทฺวาทส นวกา, ทส ติกา, เอกํ เอกกนฺติ สพฺเพสุปิ เตวีสติยา ปจฺจเยสุ เอกูนจตฺตาลีสาธิกํ วารสตํ โหติ, เอกูนจตฺตาลีสาธิกฺจ ปุจฺฉาสตํ. เอกูนจตฺตาลีสาธิกํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนสตนฺติปิ ตสฺเสว นามํ.

๗๔. เอวํ เหตุปจฺจยาทิเก เอกมูลเก คณนํ ทสฺเสตฺวา อิโต ปเรสุ ทุมูลกาทีสุ วิตฺถารเทสนํ สงฺขิปิตฺวา เอกมูลเก ทสฺสิตาย เทสนาย ลพฺภมานคณนฺเว อาทาย วารปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุํ ทุมูลเก ตาว เหตุปจฺจยา อารมฺมเณ ตีณีติอาทิมาห. ตตฺริทํ ลกฺขณํ – พหุคณโนปิ ปจฺจโย อพหุคณเนน สทฺธึ ยุตฺโต เตน สมานคณโนว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เหตุปจฺจยา อารมฺมเณ ตีณี’’ติ. เหตุอารมฺมณทุเก อารมฺมเณ วุตฺตานิ ตีเณว วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ. สมานคณโน ปน สมานคณเนน สทฺธึ ยุตฺโต อปริหีนคณโนว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เหตุปจฺจยา อธิปติยา นวา’’ติ. เหตาธิปติทุเก นเวว วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ. วิปาเก เอกนฺติ เหตุวิปากทุเก วิปาเก วุตฺตํ เอกเมว วิสฺสชฺชนํ ลพฺภตีติ เอวํ ตาว ทุมูลเก วารปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

๗๕. ติมูลกาทีสุปิ อิทเมว ลกฺขณํ. เตเนวาห – เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา อธิปติยา ตีณีติ. เหตารมฺมณาธิปติ ติเก อารมฺมเณ วุตฺตานิ ตีเณว วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ นโย เนตพฺโพ.

๗๖-๗๙. ทฺวาทสมูลเก ปน วิปากปจฺจโย น ลพฺภติ, ตสฺมา อาเสวนปจฺจยา กมฺเม ตีณีติ วตฺวา วิปากํ อปรามสิตฺวา อาหาเร ตีณีติ วุตฺตํ. เตรสมูลกาทีสุปิ เอเสว นโย. เต ปน สงฺขิปิตฺวา เตวีสติมูลโกเวตฺถ ทสฺสิโต. โส ทุวิโธ โหติ – สาเสวโน วา สวิปาโก วา. ตตฺถ ปมํ สาเสวโน ทสฺสิโต, โส ตีเณว วิสฺสชฺชนานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาเสวนปจฺจยา อวิคเต ตีณี’’ติ. สวิปาโก ปน อาเสวนํ น ลภติ, ตสฺมา ตํ ปหาย วิปากวเสน คณนาย ทสฺสนตฺถํ อนนฺตราเยว ‘‘เหตุปจฺจยา…เป… วิปากปจฺจยา อาหาเร เอก’’นฺติ เอกํ นยํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา เตวีสติมูลโกว ทสฺสิโต. เอเตสุ ปน ทฺวีสุ เตวีสติมูลเกสุ กิฺจาปิ เอกสฺมึ วิปากปจฺจโย นตฺถิ, เอกสฺมึ อาเสวนปจฺจโย, ปจฺฉาชาตปจฺจโย ปน อุภยตฺถาปิ. รุฬฺหีสทฺเทน ปเนเต เตวีสติมูลกาตฺเวว เวทิตพฺพา. เตสุ สาเสวเน อาเสวนสฺส วเสน สพฺพตฺถ ตีเณว วิสฺสชฺชนานิ, สวิปาเก วิปากปจฺจยสฺส วเสน เอกเมวาติ อยํ เหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลกาทีสุ คณนา.

ยํ ปเนตํ เหตุมูลกานนฺตรํ ‘‘อารมฺมเณ ิเตน สพฺพตฺถ ตีเณว ปฺหา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อารมฺมณปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลเกปิ ทุมูลกาทีสุปิ สพฺพตฺถ อารมฺมณปเท เจว อารมฺมเณน สทฺธึ เสสปจฺจยโยชนาสุ จ ยตฺถ นวหิ ภวิตพฺพํ, ตตฺถ ตโยว ปฺหา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิปากปเท ปน วิปากปเทน สทฺธึ เสสปจฺจยโยชนาสุ จ เอโกว ปฺโห โหตีติ. อิติ ยํ เหฏฺา อโวจุมฺห ‘‘พหุคณโนปิ ปจฺจโย อพหุคณเนน สทฺธึ ยุตฺโต เตน สมานคณโน โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตเมว.

๘๐-๘๕. อิทานิ เย อารมฺมณาทีนํ ปจฺจยานํ วเสน เอกมูลกาทโย ทสฺเสตพฺพา, เตสุ เอกมูลโก ตาว เหตุเอกมูลเกเนว สทิโสติ เอกสฺมิมฺปิ ปจฺจเย น ทสฺสิโต. อารมฺมณปจฺจยวเสน ปน ทุมูลเก คณนํ ทสฺเสตุํ อารมฺมณปจฺจยา เหตุยา ตีณิ, อธิปติยา ตีณิ…เป… อวิคเต ตีณีติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อารมฺมณปจฺจยา อธิปติยา ตีณิ…เป… อวิคเต ตีณี’’ติ วตฺตพฺเพ เย เหตุปจฺจยาทโย ปจฺจยา พหุคณนา, เตสํ อูนตรคณเนหิ จ สมานคณเนหิ จ สทฺธึ สํสนฺทเน ยา คณนา ลพฺภติ, ตํ ทสฺเสตุํ อารมฺมณปจฺจยสฺส ปุริมภาเค ิตมฺปิ เหตุปจฺจยํ ปจฺฉิมภาเคว เปตฺวา ‘‘อารมฺมณปจฺจยา เหตุยา ตีณี’’ติ วุตฺตํ. เตเนตํ อาวิ กโรติ – อารมฺมณปจฺจโย เยน เยน พหุตรคณเนน วา สมานคณเนน วา ปจฺจเยน สทฺธึ ทุกติกาทิเภทํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ตีเณว ปฺหาวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิ. วิปากปจฺจเยน ปน สทฺธึ สํสนฺทเน เอกเมว ลพฺภติ, ตํ วิปากปจฺจยาทิกาย คณนาย อาวิ ภวิสฺสตีติ อิธ น ทสฺสิตํ. ยา เจสา ทุมูลเก คณนา ทสฺสิตา, ติมูลกาทีสุปิ เอสาว คณนาติ อารมฺมณปจฺจยวเสน ติมูลกาทโย น วิตฺถาริตา.

อิทานิ อธิปติปจฺจยาทิวเสน ทุมูลกาทีสุ คณนํ ทสฺเสตุํ อธิปติปจฺจยา เหตุยา นวาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว ปจฺจยสนฺนิเวโส เวทิตพฺโพ. ยถา จ อธิปติปจฺจยา เหตุยา นว, เอวํ เสเสสุปิ เหตุนา สมานคณนาสุ นเวว. อิติ โย โย ปจฺจโย อาทิมฺหิ ติฏฺติ, เตน เตน สทฺธึ สมานคณนานํ สํสนฺทเน อาทิมฺหิ ิตสฺส วเสน คณนา โหติ. เตน ปน สทฺธึ อูนตรคณนานํ สํสนฺทเน อูนตรคณนานํเยว วเสน คณนา โหตีติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ อารมฺมณปจฺจยวเสน เอวํ อธิปติปจฺจยวเสนาปิ ตโต ปเรสํ อนนฺตราทีนํ วเสนาปิ ติมูลกาทโย น วิตฺถาริตา. ตสฺมา ทุมูลเก ทสฺสิตคณนาวเสเนว สพฺพตฺถ สาเธตพฺพา. เตเนว วุตฺตํ ‘‘เอเกกํ ปจฺจยํ มูลกํ กาตุน สชฺฌายมคฺเคน คเณตพฺพา’’ติ.

ปจฺจยานุโลมวณฺณนา.

ปฏิจฺจวาโร

ปจฺจยปจฺจนียวณฺณนา

๘๖-๘๗. ปจฺจยปจฺจนียํ ปน ยสฺมา กุสลปเท น ลพฺภติ กุสลธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน วินา อนุปฺปตฺติโต, ตสฺมา อกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นเหตุปจฺจยาติ เหตุปจฺจยปฏิกฺเขโป เหตุปจฺจยํ วินา อฺเน ปจฺจเยน อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉาสหคโต อุทฺธจฺจสหคโต โมโหติ อยฺหิ สมฺปยุตฺตธมฺมานฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส จ สยํ เหตุปจฺจโย โหติ, อฺสฺส ปน สมฺปยุตฺตเหตุโน อภาวา น เหตุปจฺจยา อุปฺปชฺชตีติ เปตฺวา เหตุปจฺจยํ เสเสหิ อตฺตโน อนุรูปปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ. อิมินา นเยน สพฺพปจฺจยปฏิกฺเขเปสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อเหตุกํ วิปากาพฺยากตนฺติ อิทํ รูปสมุฏฺาปกวเสเนว เวทิตพฺพํ. อฺเสุปิ เอวรูเปสุ เอเสว นโย.

๘๘. นอธิปติปจฺจเย กามํ อธิปติปิ อตฺตนา สทฺธึ ทุติยสฺส อธิปติโน อภาวา นอธิปติปจฺจยํ ลภติ, ยถา ปน วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคโต โมโห อเหตุโก, น ตถา อธิปตโย เอว นิราธิปติ. ฉนฺทาทีสุ ปน อฺตรํ อธิปตึ อกตฺวา กุสลาทีนํ อุปฺปตฺติกาเล สพฺเพปิ กุสลาทโย นิราธิปติโน. ตสฺมา โมหํ วิย วิสุํ อธิปติมตฺตเมว อนุทฺธริตฺวา สพฺพสงฺคาหิกวเสน เอสา ‘‘เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทิกา เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา.

๘๙. นานนฺตรนสมนนฺตเรสุ นารมฺมเณ วิย รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ. เตน วุตฺตํ ‘‘นารมฺมณปจฺจยสทิส’’นฺติ. สหชาตปจฺจโย ปริหีโน. ยถา เจส, ตถา นิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจยาปิ. กึ การณา? เอเตหิ วินา กสฺสจิ อนุปฺปตฺติโต. สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยปิ หิ ปจฺจกฺขาย เอโกปิ รูปารูปธมฺโม นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา เต ปริหีนา.

๙๐. นอฺมฺปจฺจยวิภงฺเค ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากเต ขนฺเธ ปฏิจฺจ กฏตฺตารูปนฺติ หทยวตฺถุวชฺชํ เวทิตพฺพํ.

๙๑. นอุปนิสฺสยปจฺจยวิภงฺเค รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ, ตฺหิ อุปนิสฺสยํ น ลภติ. อรูปํ ปน กิฺจาปิ อารมฺมณูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสเย น ลเภยฺย, อนนฺตรูปนิสฺสยมุตฺตกํ ปน นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘นารมฺมณปจฺจยสทิส’’นฺติ.

๙๒. นปุเรชาเต จิตฺตสมุฏฺานรูปนฺติ ปฺจโวการวเสน วุตฺตํ.

๙๓. นปจฺฉาชาตปจฺจยาติ เอตฺถ สหชาตปุเรชาตปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา สหชาตปจฺจยสทิสา เอตฺถ ปาฬิ, สา นอธิปติปจฺจเย วิตฺถาริตาติ อิธ สงฺขิตฺตา. นาเสวนปจฺจเย กุสลากุสลา ปมชวนวเสน เวทิตพฺพา, ตถา กิริยาพฺยากตํ. ปาฬิ ปน อิธาปิ นอธิปติปจฺจเย วิตฺถาริตวเสน เวทิตพฺพา. เตเนวาห – ‘‘นปจฺฉาชาตปจฺจยมฺปิ นาเสวนปจฺจยมฺปิ นาธิปติปจฺจยสทิส’’นฺติ.

๙๔-๙๗. นกมฺมปจฺจเย วิปากเจตนา นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ ลภตีติ น คหิตา. นาหารปจฺจเย เอกจฺจํ รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ, ตถา นอินฺทฺริยปจฺจเย.

๙๘. นฌานปจฺจเย ปฺจวิฺาณธมฺมา เจว เอกจฺจฺจ รูปํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ. ปฺจวิฺาณสฺมิฺหิ เวทนา จ จิตฺเตกคฺคตา จ ทุพฺพลตฺตา อุปนิชฺฌานลกฺขณํ น ปาปุณนฺตีติ ฌานปจฺจเย น คหิตา.

๙๙-๑๐๒. นมคฺคปจฺจเย อเหตุกวิปากกิริยฺเจว เอกจฺจฺจ รูปํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ. นสมฺปยุตฺตโนนตฺถิโนวิคเตสุ รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ. เตน วุตฺตํ ‘‘นารมฺมณปจฺจยสทิส’’นฺติ.

๑๐๓. นเหตุยา ทฺเวติ เอกมูลกคณนาย ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.

๑๐๔. ทุมูลเก นเหตุปจฺจยา นารมฺมเณ เอกนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ พหุคณเนน สทฺธึ อูนตรคณนสฺส สํสนฺทเน อูนตรคณนวเสน นเหตุยา วิย ทฺวีหิ ภวิตพฺพํ. นารมฺมณวเสน ปน อรูปธมฺมานํ ปริหีนตฺตา อพฺยากตํ ปฏิจฺจ รูปาพฺยากตสฺส อุปฺปตฺตึ สนฺธาย ‘‘เอก’’นฺติ วุตฺตํ. สพฺเพสุ เอกเกสุปิ เอเสว นโย. ทฺเวติ วุตฺตฏฺาเน ปน นเหตุยา ลทฺธวเสน วารทฺวยํ เวทิตพฺพํ.

๑๐๕-๑๐๖. ติมูลกาทีสุ ปน สพฺเพสุ นารมฺมณปจฺจยสฺส อปริหีนตฺตา เอกเมว วิสฺสชฺชนนฺติ อยํ ปจฺจนีเย นเหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เอกมูลกาทีสุ คณนา.

๑๐๗-๑๓๐. นารมฺมณปจฺจยาทโย ปน เอกมูลเก ตาว ปุริเมน สทิสตฺตา อิธาปิ น ทสฺสิตาเยว. นารมฺมณปจฺจยวเสน ทุมูลเก นารมฺมณปจฺจยา, นเหตุยา เอกนฺติ นเหตุทุมูลเก วุตฺตเมว. นาธิปติยา ปฺจาติ นารมฺมณปจฺจเย ลทฺธวเสน เวทิตพฺพาติ เอวํ สพฺพสํสนฺทเนสุ อูนตรคณนสฺเสว ปจฺจยสฺส วเสน คณนา เวทิตพฺพา. ยตฺถ ยตฺถ จ นารมฺมณปจฺจโย ปวิสติ, ตตฺถ ตตฺถ รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ. นานนฺตรนสมนนฺตรนอฺมฺนอุปนิสฺสยนาหารนอินฺทฺริยนสมฺปยุตฺตโนนตฺถิโนวิคตปจฺจยานํ ปวิฏฺฏฺาเนปิ เอเสว นโย. นาหารนอินฺทฺริยนฌานนมคฺคปจฺจยา สพฺพตฺถ สทิสวิสฺสชฺชนา. นสหชาตาทิจตุกฺกํ อิธาปิ ปริหีนเมวาติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ. อิมินา ปน ลกฺขเณน สพฺเพสุ ทุมูลกาทีสุ ‘‘อยํ ปจฺจโย มูลํ, อยเมตฺถ ทุมูลโก, อยํ ติมูลโก, อยํ สพฺพมูลโก’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อูนตรคณนสฺส ปจฺจยสฺส วเสน คณนา เวทิตพฺพาติ.

ปจฺจยปจฺจนียวณฺณนา.

ปจฺจยานุโลมปจฺจนียวณฺณนา

๑๓๑-๑๘๙. อิทานิ อนุโลมปจฺจนีเย คณนํ ทสฺเสตุํ เหตุปจฺจยา นารมฺมเณ ปฺจาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เหตาธิปติมคฺคปจฺจเยสุ อนุโลมโต ิเตสุ สหชาตาทโย จตฺตาโร สพฺพฏฺานิกปจฺจยา, อาหารินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจยา จตฺตาโรติ อิเม อฏฺ ปจฺจนียโต น ลพฺภนฺติ. เหตุปจฺจยาทิวเสน หิ อุปฺปชฺชมาโน ธมฺโม อิเม อฏฺ ปจฺจเย อลภนฺโต นาม นตฺถิ. อารมฺมณอนนฺตรสมนนฺตรอุปนิสฺสยสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตปจฺจเยสุ ปน อนุโลมโต ิเตสุ อรูปฏฺานิกา ปจฺจนีกโต น ลพฺภนฺติ. น หิ อารมฺมณปจฺจยาทีหิ อุปฺปชฺชมานา อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยาทโย น ลภนฺติ. สหชาตอฺมฺนิสฺสยกมฺมาหารินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจเยสุ ปน อนุโลมโต ิเตสุ จตฺตาโร สพฺพฏฺานิกาเยว, ปจฺจนีกโต น ลพฺภนฺติ. เอเตสฺหิ ปจฺจยานํ วเสน อุปฺปชฺชมาโน สพฺพฏฺานิเก อลภนฺโต นาม นตฺถิ. ปจฺฉาชาตปจฺจยสฺส อนุโลมโต านํ นาม นตฺถิ. เอวํ เสเสสุ อนุโลมโต ิเตสุ เย จ ลพฺภนฺติ, เย จ น ลพฺภนฺติ, เต สลฺลกฺเขตฺวา สพฺเพสุปิ ทุมูลกาทีสุ นเยสุ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สํสนฺทเน อูนตรคณนานํเยว วเสน คณนา เวทิตพฺพาติ.

ปจฺจยานุโลมปจฺจนียวณฺณนา.

ปจฺจยปจฺจนียานุโลมวณฺณนา

๑๙๐. อิทานิ ปจฺจนียานุโลเม คณนํ ทสฺเสตุํ นเหตุปจฺจยา อารมฺมเณ ทฺเวติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เหตุมฺหิ ปจฺจนีกโต ิเต เปตฺวา อธิปตึ อวเสสา อนุโลมโต ลพฺภนฺติ. ปจฺฉาชาโต ปน อนุโลมโต สพฺพตฺเถว น ลพฺภติ, เย นว ปจฺจยา ‘‘อรูปานฺเวา’’ติ วุตฺตา, เตสุ ปุเรชาตฺจ อาเสวนฺจ เปตฺวา อวเสเสสุ สตฺตสุ ปจฺจนีกโต ิเตสุ เสสา อรูปฏฺานิกา อนุโลมโต น ลพฺภนฺติ. โย หิ อารมฺมณาทีหิ นุปฺปชฺชติ, น โส อนนฺตราทโย ลภติ. ปฏิสนฺธิวิปาโก ปน ปุเรชาตโต, สพฺพวิปาโก จ สทฺธึ กิริยมโนธาตุยา อาเสวนโต อนุปฺปชฺชมาโนปิ อนนฺตราทโย ลภติ, ตสฺมา ‘‘ปุเรชาตฺจ อาเสวนฺจ เปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

ปุเรชาตปจฺฉาชาตอาเสวนวิปากวิปฺปยุตฺเตสุ ปจฺจนีกโต ิเตสุ เอกํ เปตฺวา อวเสสา อนุโลมโต ลพฺภนฺติ. กมฺมปจฺจเย ปจฺจนีกโต ิเต เปตฺวา วิปากปจฺจยํ อวเสสา อนุโลมโต ลพฺภนฺติ. อาหารินฺทฺริเยสุ ปจฺจนีกโต ิเตสุ เปตฺวา สพฺพฏฺานิเก เจว อฺมฺกมฺมาหารินฺทฺริยปจฺจเย จ อวเสสา อนุโลมโต น ลพฺภนฺติ, อิตเร ยุชฺชมานกวเสน ลพฺภนฺติ. ฌานปจฺจเย ปจฺจนีกโต ิเต. เหตาธิปติอาเสวนมคฺคปจฺจยา อนุโลมโต น ลพฺภนฺติ. มคฺคปจฺจเย ปจฺจนีกโต ิเต เหตาธิปติปจฺจยา อนุโลมโต น ลพฺภนฺติ. วิปฺปยุตฺตปจฺจเย ปจฺจนีกโต ิเต ปุเรชาตปจฺจยํ เปตฺวา อวเสสา อนุโลมโต ลพฺภนฺติ. เอวํ เตสุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปจฺจนีกโต ิเตสุ เย เย อนุโลมโต น ลพฺภนฺติ, เต เต ตฺวา เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สํสนฺทเน อูนตรคณนานํ วเสน คณนา เวทิตพฺพา.

๑๙๑-๑๙๕. ทุมูลกาทีสุ จ นเยสุ ยํ ยํ ปจฺจยํ อาทึ กตฺวา เย เย ทุกาทโย ทสฺสิตา, เต เต ลพฺภมานาลพฺภมานปจฺจยวเสน ยถา ยถา ทสฺสิตา, ตถา ตถา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา. ตตฺถ ยํ นเหตุวเสน ทุมูลกาทโย นเย ทสฺเสนฺเตน นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา…เป… นาเสวนปจฺจยาติ วตฺวา ‘‘ยาว อาเสวนา สพฺพํ สทิส’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺส, ‘‘นอฺมฺปจฺจยา สหชาเต เอก’’นฺติอาทีหิ สทิสตา เวทิตพฺพา. ยํ ปน ‘‘นกมฺเม คณิเต ปฺจ คณฺหาตี’’ติ สีหฬภาสาย ลิขิตํ, ตสฺสตฺโถ – นเหตุปจฺจยํ อาทึ กตฺวา นกมฺมปจฺจยาติ เอวํ นกมฺมปจฺจเยน ฆฏิเต สหชาเต เอกนฺติ เอวํ ทสฺสิตา ปฺเจว ปจฺจยา อนุโลมโต ลพฺภนฺติ, น อฺเติ. เอวํ อฺเสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อธิปฺเปตตฺโถเยว คเหตพฺโพ. เอวรูปฺหิ พฺยฺชนํ อตฺตโน สฺานิพนฺธนตฺถํ โปราเณหิ สกสกภาสาย ลิขิตํ.

อปิจ อิมสฺมึ ปจฺจนียานุโลเม ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุปิ อตฺถิ ธมฺโม กมฺมปจฺจยํ ลภติ, น อินฺทฺริยปจฺจยํ. โส อสฺเสุ เจว ปฺจโวกาเร ปวตฺเต จ รูปชีวิตินฺทฺริยวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ ธมฺโม มคฺคปจฺจยํ ลภติ, นเหตุปจฺจยํ. โส วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหชาตโมหวเสน เวทิตพฺโพ. อตฺถิ ธมฺโม ฌานปจฺจยํ ลภติ, นมคฺคปจฺจยํ. โส มโนธาตุอเหตุกมโนวิฺาณธาตุวเสน เวทิตพฺโพ. ยตฺถ กฏตฺตารูปานิ นานากฺขณิกกมฺมวเสเนว กมฺมปจฺจยํ ลภนฺติ, ตตฺถ รูปธมฺมา เหตาธิปติวิปากินฺทฺริยฌานมคฺคปจฺจเย น ลภนฺติ, สพฺพฏฺานิกา ปจฺจนียา น โหนฺติ. อเหตุเก อธิปติปจฺจโย นตฺถีติ อิเมสมฺปิ ปกิณฺณกานํ วเสเนตฺถ คณนวาโร อสมฺโมหโต เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ นโย – นเหตุปจฺจยา อารมฺมเณ ทฺเวติ เอตฺถ ตาว อเหตุกโมโห เจว อเหตุกวิปากกิริยา จ ปจฺจยุปฺปนฺนํ, ตสฺมา อกุสเลนากุสลํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ สนฺธาเยตฺถ ทฺเวติ วุตฺตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อาเสวเน ปน วิปากํ น ลพฺภติ, ตถา กิริยมโนธาตุ. ตสฺมา กิริยาเหตุมโนวิฺาณธาตุวเสเนตฺถ อพฺยากเตน อพฺยากตํ เวทิตพฺพํ. วิปาเก เอกนฺติ อพฺยากเตน อพฺยากตเมว. มคฺเค เอกนฺติ อกุสเลน อกุสลเมว.

๑๙๖-๑๙๗. นารมฺมณมูลเก เหตุยา ปฺจาติ รูปเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ กุสลํ อกุสลํ อพฺยากตํ กุสลาพฺยากตํ อกุสลาพฺยากตฺจาติ ปฺจ โกฏฺาเส ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. สพฺพปฺจเกสุ เอเสว นโย. อฺมฺเ เอกนฺติ ภูตรูปานิ เจว วตฺถุฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ตานิ หิ นารมฺมณปจฺจยา อฺมฺปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ. ติมูลเกปิ เอเสว นโย.

๑๙๘-๒๐๒. นาธิปติมูลเก เหตุยา นวาติ อนุโลเม เหตุมฺหิ วุตฺตาเนว. ตีณีติอาทีนิปิ เหฏฺา อนุโลเม วุตฺตสทิสาเนว. ติมูลเก ทฺเวติ เหฏฺา นเหตุปจฺจยา อารมฺมเณ วุตฺตสทิสาเนว.

๒๐๓-๒๓๓. นปุเรชาตมูลเก เหตุยา สตฺตาติ เหฏฺา ‘‘อารุปฺเป กุสลํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจา’’ติอาทินา นเยน ปุเรชาเต ทสฺสิตาเนว. สพฺพสตฺตเกสุ เอเสว นโย. นกมฺมมูลเก เหตุยา ตีณีติอาทีสุ เจตนาว ปจฺจยุปฺปนฺนา. ตสฺมา กุสลํ อกุสลํ อพฺยากตฺจ ปฏิจฺจ อุปฺปตฺตึ สนฺธาย ตีณีติ วุตฺตํ. อิมินา นเยน ‘‘เอกํ ทฺเว ตีณิ ปฺจ สตฺต นวา’’ติ อาคตฏฺาเนสุ คณนา เวทิตพฺพา. ‘‘จตฺตาริ ฉ อฏฺา’’ติ อิมา ปน ติสฺโส คณนา นตฺเถวาติ.

ปจฺจยปจฺจนียานุโลมวณฺณนา.

นิฏฺิตา จ ปฏิจฺจวารสฺส อตฺถวณฺณนา.

๒. สหชาตวารวณฺณนา

๒๓๔-๒๔๒. สหชาตวาเร กุสลํ ธมฺมํ สหชาโตติ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เตน สหชาโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ปฏิจฺจวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อวสาเน ปนสฺส ‘‘ปฏิจฺจตฺตํ นาม สหชาตตฺตํ, สหชาตตฺตํ นาม ปฏิจฺจตฺต’’นฺติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ เอเตสํ วารานํ อตฺถโต นินฺนานากรณภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อตฺถโต หิ เอเต ทฺเวปิ นินฺนานากรณา. เอวํ สนฺเตปิ อฺมฺสฺส อตฺถนิยมนตฺถํ วุตฺตา. ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติอาทีสุ หิ อสหชาตมฺปิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจติ. สหชาตมฺปิ จ อุปาทารูปํ ภูตรูปสฺส ปจฺจโย น โหติ. อิติ ปฏิจฺจวาเรน สหชาตปจฺจยภาวํ, สหชาตวาเรน จ ปฏิจฺจาติ วุตฺตสฺส สหชาตภาวํ นิยเมตุํ อุโภเปเต วุตฺตา. อปิจ ตถา พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน เทสนาวิลาเสน นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปฺปเภทชานนวเสน จาปิ เอเต อุโภปิ วุตฺตาติ.

สหชาตวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปจฺจยวารวณฺณนา

๒๔๓. ปจฺจยวาเร กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยาติ กุสลธมฺเม ปติฏฺิโต หุตฺวา กุสลํ ธมฺมํ นิสฺสยฏฺเน ปจฺจยํ กตฺวาติ อตฺโถ. กุสลํ เอกํ ขนฺธํ ปจฺจยาติ กุสลํ เอกํ ขนฺธํ นิสฺสยปจฺจยํ กตฺวา ตโย ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ เหตุปจฺจยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินาวุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วตฺถุํ ปจฺจยา วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตา ขนฺธาติ อิทํ ปฺจโวกาเร ปวตฺติวเสน วุตฺตํ. ปฺจโวกาเร ปวตฺติยฺหิ ขนฺธานํ ปุเรชาตํ วตฺถุ นิสฺสยปจฺจโย โหติ. ปฏิจฺจฏฺสฺส ปน สหชาตฏฺตฺตา ปฏิจฺจวาเร เอส นโย น ลพฺภตีติ ปฏิสนฺธิยํ สหชาตเมว วตฺถุํ สนฺธาย ‘‘วตฺถุํ ปฏิจฺจ ขนฺธา’’ติ วุตฺตํ. กุสลํ เอกํ ขนฺธฺจ วตฺถุฺจ ปจฺจยา ตโย ขนฺธาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อพฺยากตํ ธมฺมํ ปจฺจยา กุสโล จ อพฺยากโต จาติ กุสลาพฺยากตานํ เหตุปจฺจยวเสน เอกโต อุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลุปฺปตฺติกฺขณสฺมิฺหิ วตฺถุํ นิสฺสาย กุสลา ขนฺธา, จิตฺตสมุฏฺาเน จ มหาภูเต นิสฺสาย จิตฺตสมุฏฺานํ อุปาทารูปํ เหตุปจฺจยวเสน เอกโต อุปฺปชฺชติ. อิติ ปจฺจยภูตสฺส อพฺยากตสฺส นานตฺเตปิ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ เหตุปจฺจยวเสน เอกโต อุปฺปตฺตึ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺเสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย. เอวํ อิมสฺมึ เหตุปจฺจเย สหชาตฺจ ปุเรชาตฺจ นิสฺสยฏฺเน ปจฺจยํ กตฺวา สตฺตรส ปฺหา วิสฺสชฺชิตา. ตตฺถ ขนฺธา เจว ภูตา จ สหชาตวเสน, วตฺถุ สหชาตปุเรชาตวเสน คหิตํ. ปฏิจฺจวาเร ปน สหชาตวเสน ปจฺจโย ลพฺภติ, ตสฺมา ตตฺถ นเวว ปฺหา วิสฺสชฺชิตา. เย ปเนเต เอตฺถ สตฺตรส ปฺหา วิสฺสชฺชิตา, เตสุ เอกาทิเก เอกาวสาเน วิสฺสชฺชเน กุสลาทีสุ เอกปจฺจยโต เอโก ปจฺจยุปฺปนฺโน. เอกาทิเก ทุกาวสาเน เอกปจฺจยโต นานาปจฺจยุปฺปนฺโน. ทุกาทิเก เอกาวสาเน นานาปจฺจยโต เอโก ปจฺจยุปฺปนฺโน. ทุกาทิเก ทุกาวสาเน นานาปจฺจยโต นานาปจฺจยุปฺปนฺโน.

๒๔๘-๒๕๒. อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ อิมินาวุปาเยน ปฺหาวิสฺสชฺชนปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตํ อารมฺมณปจฺจเย วตฺถุํ ปจฺจยา ขนฺธาติ วุตฺตํ, ตํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากกฺขนฺเธเยว สนฺธาย วุตฺตํ. จกฺขุวิฺาณาทีนิ อพฺยากตํ นิสฺสาย อารมฺมณปจฺจเยน อุปฺปชฺชนฺตานํ ปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. ปุน วตฺถุํ ปจฺจยาติ ปวตฺเต วิปากกิริยาพฺยากตานํ อุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวํ อิมสฺมึ อารมฺมณปจฺจเย สหชาตฺจ ปุเรชาตฺจ ปจฺจยํ กตฺวา สตฺต ปฺหา วิสฺสชฺชิตา. ตตฺถ ขนฺธา สหชาตวเสน, วตฺถุ สหชาตปุเรชาตวเสน, จกฺขายตนาทีนิ ปุเรชาตวเสเนว คหิตานิ. ปฏิจฺจวาเร ปน สหชาตวเสเนว ปจฺจโย ลพฺภติ. ตสฺมา ตตฺถ ตโยว ปฺหา วิสฺสชฺชิตา.

๒๕๓-๒๕๔. อธิปติปจฺจเย วิปากาพฺยากตํ โลกุตฺตรเมว เวทิตพฺพํ. อนนฺตรสมนนฺตรา รูปาภาเวน อารมฺมณสทิสา. ปรโต อาเสวนนตฺถิวิคเตสุปิ เอเสว นโย.

๒๕๕. สหชาตปจฺจเย กฏตฺตารูปํ อุปาทารูปนฺติ อุปาทารูปสงฺขาตํ กฏตฺตารูปํ. อิทํ อสฺสตฺตานฺเว รูปํ สนฺธาย วุตฺตํ. จกฺขายตนาทีนิ ปฺจโวการวเสน วุตฺตานิ.

๒๕๖-๒๕๗. อฺมฺปจฺจเย จ ยถา อารมฺมณปจฺจยา เอวนฺติ วิสฺสชฺชนสมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปจฺจยุปฺปนฺเนสุ ปน นานตฺตํ อตฺถิ.

๒๕๘. อุปนิสฺสยปจฺจเย อารมฺมณปจฺจยสทิสนฺติ รูปาภาวโตปิ วิสฺสชฺชนสมตายปิ วุตฺตํ.

๒๕๙-๒๖๐. วตฺถุํ ปุเรชาตปจฺจยาติอาทีนํ ปฏิจฺจวาเร วุตฺตนเยเนวตฺโถ คเหตพฺโพ.

๒๖๑-๒๖๖. กมฺมปจฺจเย ตีณีติ กุสลํ ปจฺจยา กุสโล อพฺยากโต กุสลาพฺยากโต จาติ เอวํ ตีณิ เวทิตพฺพานิ. อกุสเลปิ เอเสว นโย.

๒๖๗-๒๖๘. วิปฺปยุตฺตปจฺจเย ขนฺเธ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ ขนฺเธ นิสฺสาย วิปฺปยุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ขนฺธา วตฺถุํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยาติ ขนฺธา วตฺถุํ นิสฺสาย วิปฺปยุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒๖๙-๒๗๖. อิทานิ ยถาลทฺธานิ วิสฺสชฺชนานิ คณนวเสน ทสฺเสตุํ เหตุยา สตฺตรสาติอาทิมาห. ตตฺถ เหตุยา สตฺตรสาติ กุสเลน กุสลํ, กุสเลน อพฺยากตํ, กุสเลน กุสลาพฺยากตนฺติ เอวํ กุสลวเสน เอกาทิกานิ เอกาวสานานิ ทฺเว, ทุกาวสานํ เอกนฺติ ตีณิ วุตฺตานิ โหนฺติ, ตถา อกุสลวเสน. อพฺยากเตน อพฺยากตํ, เตเนว กุสลํ, อกุสลํ, กุสลาพฺยากตํ อกุสลาพฺยากตฺจ; กุสลาพฺยากเตหิ กุสลํ, อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากตํ; อกุสลาพฺยากเตหิ อกุสลํ, อพฺยากตํ, อกุสลาพฺยากตนฺติ เอวํ สตฺตรส เวทิตพฺพานิ.

อารมฺมเณ สตฺตาติ กุสเลน กุสลํ; อกุสเลน อกุสลํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ, กุสลํ, อกุสลํ; กุสลาพฺยากเตน กุสลํ; อกุสลาพฺยากเตน อกุสลนฺติ เอวํ สตฺต.

วิปาเก เอกนฺติ อพฺยากเตน อพฺยากตเมว. เอวเมตฺถ สตฺตรส, สตฺต, เอกนฺติ ตโย วารปริจฺเฉทา โหนฺติ. เตสุ ทฺวาทส สตฺตรสกา, ทส สตฺตกา, เอกํ เอกกนฺติ เต สพฺเพ สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา ปรโต ทุกติกาทิวเสน ปจฺจยสํสนฺทเน อูนตรคณนสฺส วเสน คณนา เวทิตพฺพา. สกฺกา หิ อิมาย คณนาย ทุกมูลาทีสุ วารปริจฺเฉเท ชานิตุนฺติ ปุน ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยา กุสโล ธมฺโม’’ติ อนามสิตฺวา คณนวเสเนว วารปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุํ เหตุปจฺจยา อารมฺมเณ สตฺตาติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ กุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยา กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา อารมฺมณปจฺจยา. กุสลํ เอกํ ขนฺธํ ปจฺจยา ตโย ขนฺธาติ อิมินา นเยน อารมฺมเณ ลทฺธวิสฺสชฺชนานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ. อยํ ตาว อนุโลเม นโย.

๒๗๗-๒๘๕. ปจฺจนีเย ปน กุสลํ น ลพฺภตีติ อกุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยาติ อกุสลเมว อาทึ กตฺวา วิสฺสชฺชนํ อารทฺธํ. ตํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ ปฏิจฺจวารสฺส ปจฺจนีเย วุตฺตเมว.

๒๘๖-๒๘๗. ยํ ปเนตํ ปจฺจนีเย ลทฺธวิสฺสชฺชนปริจฺเฉทํ คณนโต ทสฺเสตุํ นเหตุยา จตฺตารีติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ จตฺตาริ, สตฺตรส, สตฺต, ปฺจ, ตีณิ, เอกนฺติ ฉ ปริจฺเฉทา. เตสํ วเสน ทุกติกาทีสุ ปจฺจยสํสนฺทเน คณนา เวทิตพฺพา. โย หิ ปจฺจโย สตฺตรส วิสฺสชฺชนานิ ลภติ, เตน สทฺธึ สทิสสํสนฺทเน สตฺตรส, อูนตรสํสนฺทเน เสสา ฉปิ ปริจฺเฉทา ลพฺภนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ อธิกปริจฺเฉทํ เปตฺวา สมสมา อูนตรา จ ลพฺภนฺตีติ.

เอตฺถ จ อธิกตรา น ลพฺภนฺตีติ อยเมตฺถ นิยโม. สมสมา ปน อูนตรา จ อตฺถา วิโรเธ สติ ลพฺภนฺติ. เตเนตฺถ ‘‘นเหตุปจฺจยา นารมฺมเณ เอก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ นเหตุยา จตุนฺนํ, นารมฺมเณ ปฺจนฺนํ อาคตตฺตา นเหตุวเสน จตฺตารีติ วตฺตพฺพํ สิยา, นารมฺมเณน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา ปน อารมฺมณธมฺโม วิรุชฺฌตีติ อกุสลํ ธมฺมํ ปจฺจยา อกุสโล ธมฺโม, อพฺยากตํ ธมฺมํ ปจฺจยา อกุสโล, อกุสลฺจ อพฺยากตฺจ ธมฺมํ ปจฺจยา อกุสโลติ ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ ปริหีนานิ. อพฺยากตํ ธมฺมํ ปจฺจยา อพฺยากโตติ รูปวเสน เอกเมว วุตฺตํ. เอวํ สพฺพตฺถ วิรุทฺธาวิรุทฺธํ ตฺวา ลพฺภมานปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ อิทํ นยมตฺตทสฺสนํ. นาธิปติยา จตฺตารีติ นเหตุยา ลทฺธาเนว. เสสจตุกฺเกสุปิ เอเสว นโย.

นานนฺตเร เอกนฺติ อเหตุกจิตฺตสมุฏฺานสฺส เจว เสสรูปสฺส จ วเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํ. เอวํ สพฺเพสุ เอกเกสุ ยุชฺชมานกรูปํ ชานิตพฺพํ. นปุเรชาเต ทฺเวติ อิธาปิ นเหตุวเสน จตฺตารีติ วตฺตพฺพํ สิยา, นปุเรชาเตน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา ปน อพฺยากตํ ธมฺมํ ปจฺจยา อกุสโล, อกุสลฺจ อพฺยากตฺจ ธมฺมํ ปจฺจยา อกุสโลติ วตฺถุปุเรชาตวเสน ทฺเว วิสฺสชฺชนานิ ปริหีนานิ. อารุปฺเป ปน อเหตุกโมหสฺส อเหตุกกิริยสฺส จ วเสน ทฺเว วุตฺตานิ. นวิปฺปยุตฺเต ทฺเวติ อารุปฺเป อเหตุกากุสลกิริยวเสน ทฺเว. โนนตฺถิ โนวิคเตสุ เอกนฺติ สพฺพสฺส รูปสฺส วเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํ ทฏฺพฺพํ. ติกาทีสุ อปุพฺพํ นตฺถิ.

๒๘๘. นารมฺมณมูลเก ปน นอธิปติยา ปฺจาติ นารมฺมเณ ลทฺธาเนว. นกมฺเม เอกนฺติ เอตฺถ จิตฺตสมุฏฺานฺจ กฏตฺตารูปฺจ อคฺคเหตฺวา เสสรูปวเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํ เวทิตพฺพํ.

๒๘๙-๒๙๖. นาธิปติมูลเก นปุเรชาเต สตฺตาติ นปุเรชาเต ลทฺธาเนว. นปจฺฉาชาเต สตฺตรสาติ อิมานิปิ ตตฺถ ลทฺธานิ สตฺตรเสว. นานนฺตรนสมนนฺตรนอฺมฺนอุปนิสฺสยนสมฺปยุตฺตโนนตฺถิโนวิคตมูลกานิ นารมฺมณมูลกสทิสาเนว. อิมินาว นยมตฺตทสฺสเนน สพฺพตฺถ อาคตานาคตํ ลพฺภมานาลพฺภมานฺจ เวทิตพฺพนฺติ.

ปจฺจนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๙๗-๓๒๘. อิมินาเยว ปน ลกฺขเณน อนุโลมํ ปุรโต กตฺวา อนุโลมปจฺจนีเย ปจฺจนียํ ปุรโต กตฺวา ปจฺจนียานุโลเม จ คณนปริจฺเฉโท อาคตานาคตํ ลพฺภมานาลพฺภมานฺจ เวทิตพฺพนฺติ.

ปจฺจยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิสฺสยวารวณฺณนา

๓๒๙-๓๓๗. นิสฺสยวาเร กุสลํ ธมฺมํ นิสฺสายาติ กุสลํ ธมฺมํ ปติฏฺฏฺเน นิสฺสยํ กตฺวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ปจฺจยวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อวสาเน ปนสฺส ‘‘ปจฺจยตฺตํ นาม นิสฺสยตฺตํ, นิสฺสยตฺตํ นาม ปจฺจยตฺต’’นฺติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ เอเตสํ วารานํ อตฺถโต นินฺนานากรณภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อตฺถโต หิ เอเตปิ ปฏิจฺจสหชาตา วิย นินฺนานากรณา. เอวํ สนฺเตปิ อฺมฺสฺส อตฺถนิยมนตฺถํ วุตฺตา. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติอาทีสุ หิ อนิสฺสาย วตฺตมานํ นานากฺขณิกมฺปิ ‘‘ปจฺจยา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อฺมฺํ อลฺลียิตฺวา ิตกฏฺาทีสุ จ เอกํ เอกสฺส นิสฺสยปจฺจโย น โหติ, ตถา อุปาทารูปํ มหาภูตสฺส นิสฺสยปจฺจโย น โหติเยว. อิติ ปจฺจยวาเรน นิสฺสยปจฺจยภาวํ นิสฺสยวาเรน จ ปจฺจยาติ วุตฺตสฺส สหชาตปุเรชาตภาวํ นิยเมตุํ อุโภเปเต วุตฺตา. อปิจ ตถา พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน เทสนาวิลาเสน นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปเภทชานนวเสน จาปิ เอเต อุโภปิ วุตฺตาติ.

นิสฺสยวารวณฺณนา.

๕. สํสฏฺวารวณฺณนา

๓๓๘-๓๔๖. สํสฏฺวาเร กุสลํ ธมฺมํ สํสฏฺโติ กุสลํ ธมฺมํ เอกุปฺปาทาทิลกฺขเณน สมฺปโยคฏฺเน ปจฺจยํ กตฺวาติ อตฺโถ. กุสลํ เอกํ ขนฺธํ สํสฏฺโติ กุสลํ เอกํ ขนฺธํ สมฺปยุตฺตปจฺจยํ กตฺวา ตโย ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ เหตุปจฺจยาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปน เหตุปจฺจเย อรูปธมฺมสฺเสว สมฺปโยคฏฺเน ปจฺจยํ กตฺวา ตโย ปฺหา วิสฺสชฺชิตา. ยถา จ เหตุปจฺจเย, ตถา อารมฺมณปจฺจยาทีสุปิ, เกวลํ วิปากปจฺจเย เอกเมว วิสฺสชฺชนํ.

๓๔๗-๓๕๐. อิทานิ ยถาลทฺธานิ วิสฺสชฺชนานิ คณนวเสน ทสฺเสตุํ เหตุยา ตีณีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพติเกสุ กุสเลน กุสลํ, อกุสเลน อกุสลํ, อพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ อยเมว นิยโม. เอกเก ปน อพฺยากเตน อพฺยากตเมว ลพฺภตีติ เอวเมตฺถ พาวีสติยา ปจฺจเยสุ ตีณิ, วิปาเก เอกนฺติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ปจฺฉาชาเต อนุโลมํ นตฺถิ. ตสฺมา ตีณิ เอกนฺติ อิเมสฺเว วเสน ทุกติกาทีสุ ปจฺจยสํสนฺทเน ยตฺถ วิปากปจฺจโย ปวิสติ; ตตฺถ เอกํ, เสเสสุ ตีณีติ เอวํ คณนา เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อนุโลเม อุตฺตานตฺถเมว.

๓๕๑-๓๕๔. ปจฺจนีเย ปน กุสลํ น ลพฺภตีติ อกุสลเมว อาทึ กตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

๓๕๙. ยํ ปเนตฺถ ปจฺจนีเย วิสฺสชฺชนปริจฺเฉทํ คณนโต ทสฺเสตุํ นเหตุยา ทฺเวติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ ทฺเว ตีณิ เอกนฺติ ตโย ปริจฺเฉทา. เตสํ วเสน ทุกติกาทีสุ ปจฺจยสํสนฺทเน คณนา เวทิตพฺพา. อิธาปิ อธิกตรคณนานํ อูนตรคณเนน สทฺธึ สํสนฺทเน อูนตรคณนเมว ลพฺภติ, สมคณเนน สทฺธึ สมคณนํ. ยสฺมา เจตฺถ อรูปธมฺมาเยว ปจฺจยุปฺปนฺนา, ตสฺมา นเหตุนาธิปตินปุเรชาตนปจฺฉาชาตนาเสวนนกมฺมนวิปากนฌานนมคฺคนวิปฺปยุตฺตวเสน ทเสว ปจฺจยา ปจฺจนีกโต ทสฺสิตา, เสสา จุทฺทส น ลพฺภนฺติ. เยปิ ลพฺภนฺติ, เตสุปิ วิปาเก ปจฺจยุปฺปนฺเน นกมฺมนวิปากา น ลพฺภนฺติ.

๓๖๐-๓๖๘. นเหตุปจฺจยา นาธิปติยา ทฺเวติ นเหตุยา ลทฺธํ ทฺวยเมว. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. นกมฺเม เอกนฺติ อเหตุกกิริยเจตนํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ กตฺวา อพฺยากเตน อพฺยากตํ. นวิปาเก ทฺเวติ อเหตุกโมหกิริยวเสน ทฺเว. นฌาเน เอกนฺติ อเหตุกปฺจวิฺาณวเสน อพฺยากตวิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. นมคฺเค เอกนฺติ อเหตุกวิปากกิริยวเสน อพฺยากตวิสฺสชฺชนํ. อิมินาวุปาเยน สพฺพสํสนฺทเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

๓๖๙-๓๘๓. อนุโลมปจฺจนีเย เหฏฺา วุตฺตา นเหตุอาทโย ทเสว ปจฺจนียโต ลพฺภนฺติ, น เสสา. เยปิ ลพฺภนฺติ, เตสุ เหตุมฺหิ อนุโลมโต ิเต ฌานมคฺคา ปจฺจนียโต น ลพฺภนฺตีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

๓๘๔-๓๙๑. ปจฺจนียานุโลเม นเหตุปจฺจยุปฺปนฺเนสุ อเหตุกโมโหว ฌานมคฺคปจฺจยํ ลภติ, เสสา น ลภนฺติ. นฌานปจฺจเย อฏฺาเหตุกจิตฺตานิปิ. นกมฺมปจฺจยา นเหตุปจฺจยา นาธิปติปจฺจยา นปุเรชาตปจฺจยา อารมฺมเณ เอกนฺติ อารุปฺเป อเหตุกกิริยเจตนาวเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํ. อิมินา อุปาเยน ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตสฺส วเสน สพฺพตฺถ คณนา เวทิตพฺพาติ.

สํสฏฺวารวณฺณนา.

๖. สมฺปยุตฺตวารวณฺณนา

๓๙๒-๔๐๐. สมฺปยุตฺตวาเร กุสลํ ธมฺมํ สมฺปยุตฺโตติ กุสลํ ธมฺมํ สมฺปยุตฺตปจฺจยํ กตฺวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ สํสฏฺวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อวสาเน ปนสฺส ‘‘สํสฏฺตฺตํ นาม สมฺปยุตฺตตฺตํ, สมฺปยุตฺตตฺตํ นาม สํสฏฺตฺต’’นฺติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ เอเตสํ วารานํ อตฺถโต นินฺนานากรณภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อตฺถโต หิ เอเตปิ ปฏิจฺจสหชาตา วิย ปจฺจยนิสฺสยา วิย จ นินฺนานากรณา. เอวํ สนฺเตปิ อฺมฺสฺส อตฺถนิยมนตฺถํ วุตฺตา. ‘‘สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) หิ อสมฺปยุตฺตมฺปิ สํสฏฺนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ยา สา วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) อสํสฏฺํ โวกิณฺณมฺปิ สมฺปยุตฺตนฺติ. อิติ สํสฏฺวาเรน เอกุปฺปาทลกฺขณสฺส สมฺปยุตฺตสฺส สํสฏฺภาวํ สมฺปยุตฺตวาเรน จ สํสฏฺสฺส เอกุปฺปาทาทิลกฺขณสฺส สมฺปยุตฺตภาวํ นิยเมตุํ อุโภเปเต วุตฺตา. อปิจ ตถา พุชฺฌนกานํ อชฺฌาสยวเสน เทสนาวิลาเสน นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปเภทชานนวเสน จาปิ เอเต อุโภปิ วุตฺตาติ.

สมฺปยุตฺตวารวณฺณนา.

เอเตสุ ปน ฉสุ วาเรสุ อตฺถิ โกจิ ปจฺจโย เอกนฺตํ อนุโลมโต น ติฏฺติ, ปจฺจนีกโตว ติฏฺติ; อตฺถิ เอกนฺตํ ปจฺจนีกโต น ติฏฺติ, อนุโลมโตว ติฏฺติ; อตฺถิ อเนกนฺตํ อนุโลมโต เจว ติฏฺติ, ปจฺจนีกโต จาติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปโม ปฺโห ปจฺฉาชาตสฺส, ทุติโย มหาจตุกฺกสฺส, ตติโย ยุชฺชมานกานํ เสสานํ วเสน เวทิตพฺโพติ.

๗. ปฺหาวารวิภงฺควณฺณนา

๔๐๑-๔๐๓. ปฺหาวาเร ‘‘สิยา กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา กุสลตฺติเก อุทฺธริตพฺพปุจฺฉานํ ลพฺภมานวเสน วิสฺสชฺชนํ ทสฺเสตุํ กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติอาทิ วุตฺตํ. กุสโล จ นาเมส สยํ อุปฺปชฺชนฺโต เปตฺวา ปจฺฉาชาตฺจ วิปากฺจ เสเสหิ ทฺวาวีสติยา ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติ. กุสลสฺส ปจฺจโย โหนฺโต เปตฺวา ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากวิปฺปยุตฺเต เสเสหิ วีสติยา ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. ตสฺมา เยหิ ปจฺจเยหิ กุสโล กุสลสฺส ปจฺจโย โหติ, เต ปจฺจเย ปฏิปาฏิยา ทสฺเสตุํ เหตุปจฺจเยนาติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ ยา เอสา ปจฺจยวิภงฺควาเร วิย ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมาน’’นฺติ อกตฺวา ‘‘เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธาน’’นฺติ เทสนา กตา, ตสฺสา เอว กรเณ อิทํ ปโยชนํ – ตตฺถ หิ สุฺฏฺํ ทีเปตุํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปจฺจยโต อุปฺปชฺชมานา ธมฺมา ราสิโต อุปฺปชฺชนฺติ, น เอเกกโตติ ราสฏฺํ ทีเปตุํ ขนฺธานนฺติ วุตฺตํ. ปฏิจฺจวาราทีสุ วา ขนฺธวเสน ปจฺจยุปฺปนฺนเทสนา อารุฬฺหาติ เตเนวานุกฺกเมน อิธาปิ อารุฬฺหาติ. กสฺมา ปเนเตสุ เอวํ อารุฬฺหาติ? อสงฺกรโต วิภาคทสฺสนตฺถํ. ‘‘เอกํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เสสา ธมฺมา’’ติ หิ อาทินา นเยน วุจฺจมาเน อสุกธมฺมํ นาม นิสฺสาย อสุกธมฺมาติ น สกฺกา อสงฺกรโต ปจฺจเย ปจฺจยุปฺปนฺเน จ ชานิตุํ, เอวํ สนฺเต อุทฺเทสนิทฺเทสา นิพฺพิเสสา สิยุํ. ตสฺมา อสงฺกรโต วิภาคทสฺสนตฺถํ เอวํ อารุฬฺหาติ เวทิตพฺพา. จิตฺตสมุฏฺานานนฺติ อิทํ ยสฺส อพฺยากตสฺส กุสโล เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตเมว ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปจฺจยวิภงฺเค ปน กุสลาทิวเสน วิภาคํ อกตฺวา สามฺโต สพฺเพสํ เหตูนํ วเสน อุปฺปนฺนรูปทสฺสนตฺถํ จิตฺตสมุฏฺานานนฺติ อวตฺวา ตํสมุฏฺานานนฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา ตตฺถ อพฺยากตเหตุสมุฏฺานรูปํ, โอกฺกนฺติกฺขเณ กฏตฺตารูปมฺปิ สงฺคหํ คตํ. อิมินา อุปาเยน เสเสสุปิ เอวรูเปสุ วิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔๐๔. ทานํ ทตฺวาติ เทยฺยธมฺมํ จชิตฺวา. ยาย วา เจตนาย โส ทิยฺยติ, สา เจตนา ทานํ. ทตฺวาติ ตํ เจตนํ ปริโยทาเปตฺวา วิสุทฺธํ กตฺวา. สีลํ สมาทิยิตฺวาติ ปฺจงฺคาทิวเสน นิจฺจสีลํ คณฺหิตฺวา. อิมินา สมาทานวิรติเยว ทสฺสิตา. สมฺปตฺตวิรติสมุจฺเฉทวิรติโย ปน โลเก สีลนฺติ อปากฏตฺตา น วุตฺตา. กิฺจาปิ น วุตฺตา, อารมฺมณปจฺจยา ปน โหนฺติเยว. ตตฺถ สมุจฺเฉทวิรติ เสกฺขานํเยว กุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, น อิตเรสํ. อุโปสถกมฺมํ กตฺวาติ ‘‘ปาณํ น หเน, น จาทินฺนมาทิเย’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอวํ วุตฺตํ อุโปสถทิวเสสุ อฏฺงฺคอุโปสถกิริยํ กตฺวา. ตํ ปจฺจเวกฺขตีติ ตํ กุสลํ เสกฺโขปิ ปุถุชฺชโนปิ ปจฺจเวกฺขติ, อรหาปิ ปจฺจเวกฺขเตว. อรหโตปิ หิ ปุพฺเพ กตํ กุสลํ กุสลเมว, เยน ปน จิตฺเตน ปจฺจเวกฺขติ, ตํ กิริยจิตฺตํ นาม โหติ. ตสฺมา ‘‘เอตํ กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ อิมสฺมึ อธิกาเร น ลพฺภติ. ปุพฺเพ สุจิณฺณานีติ ‘‘ทตฺวา สมาทิยิตฺวา กตฺวา’’ติ หิ อาสนฺเน กตานิ วุตฺตานิ, อิมานิ น อาสนฺเน กตานีติ เวทิตพฺพานิ. ทานาทีหิ วา เสสานิ กามาวจรกุสลานิ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ. ฌานา วุฏฺหิตฺวาติ ฌานา วุฏฺหิตฺวา. อยเมว วา ปาฬิ. เสกฺขา โคตฺรภุนฺติ โสตาปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ โคตฺรภุํ ปจฺจเวกฺขติ. โวทานนฺติ อิทํ ปน สกทาคามิอนาคามิโน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ ตํ จิตฺตํ โวทานํ นาม โหติ. เสกฺขาติ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน. มคฺคา วุฏฺหิตฺวาติ มคฺคผลภวงฺคาติกฺกมวเสน อตฺตนา ปฏิลทฺธา มคฺคา วุฏฺหิตฺวา, สุทฺธมคฺคโตเยว ปน วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิ.

กุสลํ อนิจฺจโตติ เอตฺถ วิปสฺสนูปคํ เตภูมกกุสลเมว เวทิตพฺพํ, วิปสฺสนากุสลํ ปน กามาวจรเมว. เจโตปริยาเณนาติ รูปาวจรกุสลํ ทสฺเสติ. อากาสานฺจายตนนฺติอาทีหิ อรูปาวจรกุสลารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมานํ อรูปาวจรกุสลเมว. กุสลา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺสาติอาทีหิ ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ธมฺมวเสน ทสฺเสติ. เตเนเวตฺถ เหฏฺา คหิตมฺปิ เจโตปริยาณํ ปุน วุตฺตํ.

๔๐๕. อสฺสาเทตีติ โสมนสฺสสหคตโลภสมฺปยุตฺตจิตฺเตหิ อนุภวติ เจว รชฺชติ จ. อภินนฺทตีติ สปฺปีติกตณฺหาวเสน นนฺทติ หฏฺปหฏฺโ โหติ, ทิฏฺาภินนฺทนาย วา อภินนฺทติ. ราโค อุปฺปชฺชตีติ อสฺสาเทนฺตสฺส ราโค อุปฺปชฺชติ นาม. อิทํ อฏฺปิ โลภสหคตานิ คเหตฺวา วุตฺตํ. ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตีติ อภินนฺทนฺตสฺส อตฺตา อตฺตนิยนฺติอาทิวเสน จตูหิปิ จิตฺเตหิ สมฺปยุตฺตา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. อสนฺนิฏฺานคตสฺส ปเนตฺถ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. วิกฺเขปคตสฺส อุทฺธจฺจํ, อกตํ วต เม กลฺยาณนฺติ วิปฺปฏิสาริโน โทมนสฺสํ. ตํ อารพฺภาติ ตานิ สุจิณฺณานิ อารมฺมณํ กตฺวาติ อตฺโถ. พหุวจนสฺส เหส เอกวจนาเทโส, ชาติวเสน วา เอกวจนเมเวตํ.

๔๐๖. อรหา มคฺคา วุฏฺหิตฺวาติ มคฺควีถิยํ ผลานนฺตรสฺส ภวงฺคสฺส อติกฺกมวเสน วุฏฺหิตฺวา. ปจฺจเวกฺขณจิตฺตานิ ปนสฺส กิริยาพฺยากตานิ. เอวํ กิริยาพฺยากตสฺส อารมฺมณปจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ปุน วิปากาพฺยากตสฺส ทสฺเสตุํ เสกฺขา วาติอาทิมาห. กุสเล นิรุทฺเธติ วิปสฺสนาชวนวีถิยา ปจฺฉินฺนาย. วิปาโกติ กามาวจรวิปาโก. ตทารมฺมณตาติ ตทารมฺมณตาย, ตํ กุสลสฺส ชวนสฺส อารมฺมณภูตํ วิปสฺสิตกุสลํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. น เกวลฺจ ตทารมฺมณวเสเนว, ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสนาปิ. วิปาโก หิ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา คหิตปฏิสนฺธิกสฺส กุสลารมฺมโณ โหติเยว, โส ปน ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา อิธ น ทสฺสิโต.

กุสลํ อสฺสาเทตีติอาทิ อกุสลชวนาวสาเน กุสลารมฺมณวิปากํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. วิฺาณฺจายตนวิปากสฺสาติ อิทํ ทุพฺพิฺเยฺยมฺปิ สมานํ มหคฺคตวิปากสฺส ตทารมฺมณภาเวน อนุปฺปตฺติโต ลพฺภมานกวเสน วุตฺตํ. กิริยสฺสาติ อรหตฺตํ ปตฺวา อสมาปนฺนปุพฺเพ อากาสานฺจายตเน ปฏิโลมโต วา เอกนฺตริกวเสน วา สมาปนฺนกิริยาย. เจโตปริยาณสฺสาติอาทีนิ ปรโต อาวชฺชนาย โยเชตพฺพานิ. ยา เอเตสํ อาวชฺชนา, ตสฺสา กุสลา ขนฺธา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ.

๔๐๗-๔๐๙. ราคนฺติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา ราคํ. อตฺตโน ราควเสน ปเนตฺถ วณฺณนา ปากฏา โหติ. อสฺสาเทตีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. วิจิกิจฺฉาทีสุ ปน ตีสุ อสฺสาเทตพฺพตาย อภาเวน ‘‘อสฺสาเทตี’’ติ น วุตฺตํ. ทิฏฺิ ปเนตฺถ อุปฺปชฺชติ, สา อสฺสาเทตีติ ปทสฺส ปริหีนตฺตา อาคตปฏิปาฏิยา ปมํ น วุตฺตา. วิจิกิจฺฉาทีสุเยว ตํ ตํ สภาคํ ปมํ วตฺวา ตสฺส ตสฺส อนนฺตรา วุตฺตา. อิเมสุ จ ปน ราคาทีสุ ‘‘กึ เม ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อกฺขนฺติวเสน วา, ‘‘กตํ ปาปํ กตํ ลุทฺธ’’นฺติ วิปฺปฏิสาราทิวเสน วา โทมนสฺสุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

๔๑๐. จกฺขุํ อนิจฺจโตติ วิปสฺสนานุกฺกเมน โอฬาริกายตนานิ วตฺถุรูปฺจาติ เอกาทส รูปานิ ปากฏตฺตา คหิตานิ. ปุน รูปายตนาทีนิ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อารมฺมณตฺตา คหิตานิ. ยสฺมา ปเนสา วิฺาณกายวเสน เทสนา, น ธาตุวเสน, ตสฺมา มโนธาตุ น คหิตา. เอวํ สพฺพตฺถ คหิตาคหิตํ เวทิตพฺพํ.

๔๑๑. ผลํ ปจฺจเวกฺขนฺติ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขนฺตีติ ปจฺจเวกฺขณกุสลสฺส อารมฺมณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๔๑๓-๔๑๖. อารมฺมณาธิปตินิทฺเทเส เสกฺขปุถุชฺชนานํ วเสน จตุภูมกกุสลํ ทสฺสิตํ, ตถา สหชาตาธิปตินิทฺเทเส. อรหโต อุตฺตมธมฺมํ อธิคตตฺตา โลกิยกุสเลสุ ครุกาโร นตฺถีติ อคฺคมคฺโคว ทสฺสิโต.

๔๑๗. อนนฺตรปจฺจเย ปุริมา ปุริมาติ เอกภูมกาปิ นานาภูมกาปิ กุสลา เอกโต กตฺวา วุตฺตา. อนุโลมํ โคตฺรภุสฺส, อนุโลมํ โวทานสฺสาติ นานารมฺมณวเสน. โคตฺรภุ มคฺคสฺส, โวทานํ มคฺคสฺสาติ นานาภูมิวเสน. กุสลํ วุฏฺานสฺสาติ เอตฺถ ปน กุสลนฺติ เตภูมกกุสลํ. วุฏฺานนฺติ เตภูมกวิปากํ. เตหิ กุสลชวนวีถิโต วุฏฺหนฺติ, ตสฺมา วุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตํ ทุวิธํ โหติ – ตทารมฺมณํ ภวงฺคฺจ. ตตฺถ กามาวจรกุสลสฺส อุภยมฺปิ วุฏฺานํ โหติ, มหคฺคตสฺส ภวงฺคเมว. มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ ยสฺมา โลกุตฺตรวิปากํ ชวนวีถิปริยาปนฺนตฺตา วุฏฺานํ นาม น โหติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตํ. อนุโลมํ เสกฺขายาติ อเสกฺขาย กุสลํ อนนฺตรํ น โหติ, ตสฺมา วิภาคํ กโรติ. ผลสมาปตฺติยาติ โสตาปตฺติผลสกทาคามิผลอนาคามิผลสมาปตฺติยาปิ. ผลสมาปตฺติยาติ อนาคามิผลสมาปตฺติยา. อกุสเล ทุวิธมฺปิ วุฏฺานํ ลพฺภติ. วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตาติ เอตฺถ วิปากาพฺยากตา วิปากาพฺยากตานํเยว, กิริยาพฺยากตา กิริยาพฺยากตานํเยว เวทิตพฺพา. ภวงฺคํ อาวชฺชนายาติอาทิ โวมิสฺสกวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ กิริยาติ กามาวจรกิริยา. สา ทุวิธสฺสาปิ วุฏฺานสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, มหคฺคตา ภวงฺคสฺเสว. อิติ เย เหฏฺา ปจฺจยวิภงฺคนิทฺเทเส ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อารภิตฺวา กุสลํ กุสลสฺส, กุสลํ อพฺยากตสฺส, อกุสลํ อกุสลสฺส, อกุสลํ อพฺยากตสฺส, อพฺยากตํ อพฺยากตสฺส, อพฺยากตํ กุสลสฺส, อพฺยากตํ อกุสลสฺสาติ สตฺต วารา ทสฺสิตา; เตสํ วเสน อิธ สงฺเขปโต อนนฺตรปจฺจโย วิภตฺโต.

วิตฺถารโต ปเนตฺถ –

ทสธา สตฺตรสธา, สมสฏฺิวิเธน จ;

พหุธาปิ จ นิทฺเทสํ, สาธุกํ อุปลกฺขเย.

อยฺหิ อนนฺตรปจฺจโย น เกวลํ สตฺตธาว นิทฺเทสํ ลภติ, กุสลํ ปน กุสลสฺส วิปากสฺส; อกุสลํ อกุสลสฺส วิปากสฺส; วิปากํ วิปากสฺส กิริยสฺส; กิริยํ กุสลสฺส อกุสลสฺส วิปากสฺส กิริยสฺสาติ เอวํ ทสธาปิ นิทฺเทสํ ลภติ. น เกวลํ ทสธาเยว, กุสลํ ปน กุสลสฺส กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส; อกุสลํ อกุสลสฺส อกุสลวิปากสฺส กุสลวิปากสฺส; กุสลวิปากํ กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส กิริยสฺส; อกุสลวิปากํ อกุสลวิปากสฺส กุสลวิปากสฺส กิริยสฺส; กิริยํ กิริยสฺส กุสลสฺส อกุสลสฺส กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺสาติ เอวํ สตฺตรสธา นิทฺเทสํ ลภติ.

น เกวลฺจ สตฺตรสธาว สมสฏฺิวิเธนาปิ นิทฺเทสํ ลภเตว. กถํ? กามาวจรกุสลฺหิ ภูมิเภเทน จตุพฺพิธสฺส กุสลสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, รูปาวจรารูปาวจรํ สกสกภูมิกสฺเสวาติ กุสลํ กุสลสฺส ฉพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโย. กามาวจรกุสลํ ปน กามาวจรกุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส รูปาวจรวิปากสฺส อรูปาวจรวิปากสฺส โลกุตฺตรวิปากสฺส; รูปาวจรกุสลํ รูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺส; อรูปาวจรกุสลํ กามาวจรกุสลวิปากสฺส รูปาวจรอรูปาวจรโลกุตฺตรวิปากสฺส; โลกุตฺตรกุสลํ โลกุตฺตรวิปากสฺสาติ กุสลํ วิปากสฺส ทฺวาทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. อกุสลํ อกุสลสฺส อกุสลวิปากสฺส เตภูมกกุสลวิปากสฺสาติ ปฺจวิเธน อนนฺตรปจฺจโย.

กามาวจรกุสลวิปากํ กามาวจรกุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส รูปาวจรวิปากสฺส อรูปาวจรวิปากสฺสาติ กามาวจรกุสลวิปากํ วิปากสฺส จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโย. รูปาวจรวิปากํ เตภูมกกุสลวิปากสฺสาติ ติวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. อรูปาวจรวิปากํ อรูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺสาติ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. โลกุตฺตรวิปากํ จตุภูมกกุสลวิปากสฺสาติ จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโย. เอวํ กุสลวิปากํ วิปากสฺส เตรสธาปิ อนนฺตรปจฺจโย. อกุสลวิปากํ อกุสลวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺสาติ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. เอวํ สพฺพถาปิ วิปากํ วิปากสฺส ปฺจทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. กามาวจรกุสลวิปากํ ปน กามาวจรกิริยสฺส, ตถา อกุสลวิปากํ, ตถา รูปาวจรวิปากํ, ตถา อรูปาวจรวิปากฺจาติ วิปากํ กิริยสฺส จ จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโย.

กามาวจรกิริยํ เตภูมกกิริยสฺส, รูปาวจรารูปาวจรกิริยํ รูปาวจรารูปาวจรานฺเวาติ กิริยํ กิริยสฺส ปฺจวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. กามาวจรกิริยํ อกุสลวิปากสฺส เจว จตุภูมกกุสลวิปากสฺส จ, รูปาวจรกิริยํ กามาวจรกุสลวิปากรูปาวจรวิปากานํ อรูปาวจรกิริยํ จตุภูมกกุสลวิปากสฺสาปีติ กิริยํ วิปากสฺส เอกาทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโย. กามาวจรกิริยํ ปน กามาวจรกุสลสฺส อกุสลสฺสาติ กุสลากุสลานํ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโย โหติ. เอวํ สมสฏฺิวิเธนาปิ นิทฺเทสํ ลภติ.

น เกวลฺจ สมสฏฺิวิเธเนว, พหุวิเธนาปิ ลภเตว. กถํ? กามาวจรปมมหากุสลจิตฺตํ ตาว อตฺตโน, จตุนฺนฺจ รูปาวจรกุสลานํ ปาทกโยเคน โสฬสนฺนํ โสมนสฺสโลกุตฺตรานนฺติ เอกวีสติยา จ กุสลานํ, ชวนปริโยสาเน ตทารมฺมณภวงฺควเสน อุปฺปชฺชมานานํ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากานํ, ภวงฺควเสเนว ปวตฺตานํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ, ผลสมาปตฺติวเสน ปวตฺตานํ ทฺวาทสนฺนํ โลกุตฺตรวิปากานนฺติ เอวํ เอกวีสติยา กุสลานํ; ทฺวตฺตึสาย วิปากานนฺติ เตปฺาสาย จิตฺตานํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. ตถา ทุติยกุสลจิตฺตํ. ตติยจตุตฺถานิ ปน เปตฺวา อุปริภูมกกุสลานิ จ โลกุตฺตรวิปากานิ จ เสสเอกวีสติจิตฺตานํ. ปฺจมฉฏฺานิ อตฺตโน จ, นวนฺนฺจ อุปริภูมกอุเปกฺขากุสลานํ, เตวีสติยา จ วิปากานนฺติ เตตฺตึสาย. สตฺตมอฏฺมานิ เอกวีสติยาว.

ปฺจ รูปาวจรกุสลานิ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมานํ รูปาวจรกุสลานํ, จตุนฺนมฺปิ าณสมฺปยุตฺตมหาวิปากานํ, ปฺจนฺนํ รูปาวจรวิปากานฺจาติ ทสนฺนํ. เอเตเนว จ นเยน อรูปาวจรกุสเลสุ ปมํ อตฺตโน วิปาเกน สทฺธึ เอกาทสนฺนํ, ทุติยํ ทฺวาทสนฺนํ, ตติยํ เตรสนฺนํ, จตุตฺถํ จุทฺทสนฺนํ ผลสมาปตฺติยา จาติ ปนฺนรสนฺนํ โลกุตฺตรกุสลํ อตฺตโน อตฺตโน วิปากสฺเสว. อฏฺสุ โลภสหคเตสุ เอเกกํ อกุสลํ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิฺาณธาตูนํ นวนฺนํ, มหคฺคตวิปากานํ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกวีสติยา. ทฺเว โทมนสฺสสหคตานิ อุเปกฺขาสหคตานํ ฉนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิฺาณธาตูนํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ สตฺตนฺนํ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตทฺวยํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกวิปาเกน สทฺธึ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิฺาณธาตูนํ นวนฺนํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกวีสติยา.

กุสลวิปากปฺจวิฺาณา กุสลวิปากมโนธาตุยา, มโนธาตุ ทฺวินฺนํ วิปากมโนวิฺาณธาตูนํ. ตาสุ ทฺวีสุ โสมนสฺสสหคตา ทสนฺนํ วิปากมโนวิฺาณธาตูนํ ภวงฺคภูตานํ ตทารมฺมณกาเล อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส โวฏฺพฺพนกิริยสฺส จาติ ทฺวาทสนฺนํ. อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ ปน อาวชฺชนมโนธาตุยา ทฺวิฏฺานิกาย อาวชฺชนมโนวิฺาณธาตุยา ทสนฺนฺจ วิปากมโนวิฺาณธาตูนนฺติ ทฺวาทสนฺนเมว. ติเหตุกมหาวิปากา โสมนสฺสสหคตาเหตุกวชฺชานํ ทสนฺนมฺปิ กามาวจรวิปากมโนวิฺาณธาตูนํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ อาวชฺชนทฺวยสฺส จาติ เอกวีสติยา, ทุเหตุกวิปากา เปตฺวา มหคฺคตวิปาเก เสสานํ ทฺวาทสนฺนํ. ปฺจ รูปาวจรวิปากา เตภูมกกุสลวิปากสเหตุกปฏิสนฺธิจิตฺตานํ สตฺตรสนฺนํ อาวชฺชนทฺวยสฺส จาติ เอกูนวีสติยา. อรูปาวจรวิปาเกสุ ปมํ กามาวจรกุสลวิปากติเหตุกปฏิสนฺธิจิตฺตานํ, จตุนฺนํ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานํ จตุนฺนํ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส จาติ นวนฺนํ. ทุติยํ เหฏฺิมวิปากํ วชฺเชตฺวา อฏฺนฺนํ, ตติยํ ทฺเว เหฏฺิมานิ วชฺเชตฺวา สตฺตนฺนํ, จตุตฺถํ ตีณิ เหฏฺิมานิ วชฺเชตฺวา ฉนฺนํ จตฺตาริ โลกุตฺตรวิปากานิ ติเหตุกวิปากานํ เตรสนฺนํ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ จุทฺทสนฺนํ.

อกุสลวิปากปฺจวิฺาณา อกุสลวิปากมโนธาตุยา, มโนธาตุ อกุสลวิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุยา. สา ตทารมฺมณกาเล อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จุติกาเล ปฏิสนฺธิวเสน ภวงฺควเสน จ ปวตฺตานํ อิตเรสมฺปิ นวนฺนํ กามาวจรวิปากานํ อุเปกฺขาสหคตานํ ทฺวินฺนํ ปริตฺตกิริยานฺจาติ ทฺวาทสนฺนํ. กิริยมโนธาตุ ทสนฺนํ วิฺาณานํ หสิตุปฺปาทกิริยา ปฺจโวกาเร ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ นวนฺนํ ติเหตุกวิปากานํ, ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ ปฺจนฺนํ โสมนสฺสสหคตวิปากานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน เตรสนฺนํ. โวฏฺพฺพนกิริยา เปตฺวา กิริยมโนธาตุํ ทสนฺนํ กามาวจรกิริยานํ, กามาวจรกุสลากุสลานํ ปฺจโวกาเร ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ ปนฺนรสนฺนํ วิปากจิตฺตานฺจาติ ปฺจจตฺตาลีสาย.

กามาวจรติเหตุกโสมนสฺสสหคตกิริยทฺวยํ ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ เตรสนฺนํ ติเหตุกวิปากานํ ตทารมฺมณวเสน ปฺจนฺนํ โสมนสฺสสหคตวิปากานํ ปริกมฺมวเสน ปวตฺตมานานํ จตุนฺนํ รูปาวจรกิริยานํ อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาวีสติยา ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตกิริยทฺวยํ ยถาวุตฺตานํ เตรสนฺนํ ภวงฺคจิตฺตานํ ปฺจนฺนํ ตทารมฺมณานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน สตฺตรสนฺนํ. กามาวจรติเหตุกอุเปกฺขาสหคตกิริยทฺวยํ เตสํเยว เตรสนฺนํ ภวงฺคานํ, ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ ฉนฺนํ อุเปกฺขาสหคตวิปากานํ, ปริกมฺมวเสน ปวตฺตานํ เอกิสฺสา รูปาวจรกิริยาย จตุนฺนํ อรูปาวจรกิริยานํ อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน จตุวีสติยา. ทุเหตุกอุเปกฺขาสหคตกิริยทฺวยํ เตสํเยว เตรสนฺนํ ภวงฺคานํ ฉนฺนํ ตทารมฺมณานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน อฏฺารสนฺนํ. รูปาวจรกิริเยสุ เอเกกํ นวนฺนํ ปฺจโวกาเร ติเหตุกภวงฺคานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ ทสนฺนํ. อรูปาวจรกิริเยสุ ปมํ ปฺจโวกาเร นวนฺนํ ภวงฺคานํ, จตุโวกาเร เอกสฺส อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกาทสนฺนํ. ทุติยํ จตุโวกาเร ทฺเว ภวงฺคานิ ลภติ. ตติยํ ตีณิ, จตุตฺถํ จตฺตาริ ผลสมาปตฺติฺจาติ เตสุ เอเกกํ ยถาปฏิปาฏิยา เอกาทสนฺนํ ทฺวาทสนฺนํ เตรสนฺนํ ปฺจทสนฺนฺจ อนนฺตรปจฺจโย โหติ. เอวํ พหุวิเธนาปิ นิทฺเทสํ ลภติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ทสธา สตฺตรสธา, สมสฏฺิวิเธน จ;

พหุธาปิ จ นิทฺเทสํ, สาธุกํ อุปลกฺขเย’’ติ.

สมนนฺตรปจฺจยาทโย อุตฺตานตฺถาเยว.

๔๒๓. อุปนิสฺสเย สทฺธํ อุปนิสฺสายาติ กมฺมกมฺมผลอิธโลกปรโลกาทีสุ สทฺธํ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. ยถา หิ ปุริโส เหฏฺาปถวิยํ อุทกํ อตฺถีติ สทฺทหิตฺวา ปถวึ ขนติ, เอวํ สทฺโธ กุลปุตฺโต ทานาทีนํ ผลฺจ อานิสํสฺจ สทฺทหิตฺวา ทานาทีนิ ปวตฺเตติ. ตสฺมา ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสายา’’ติ วุตฺตํ.

สีลํ อุปนิสฺสายาติอาทีสุปิ อิเม สีลาทโย ธมฺเม อุปนิสฺสยํ กตฺวาติ อตฺโถ. สีลวา หิ สีลานุภาเวสุ สีลานิสํเสสุ จ กุสโล สีลํ อุปนิสฺสาย สีลวนฺตานํ ทานํ เทติ, อุปรูปริ สีลํ สมาทิยติ สุปริสุทฺธํ อขณฺฑํ, จาตุทฺทสีอาทีสุ ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถกมฺมํ กโรติ, สีลสมฺปทํ นิสฺสาย ฌานาทีนิ อุปฺปาเทติ. พหุสฺสุโตปิ ทานาทิปุฺกิริยายตฺตา สพฺพสมฺปตฺติโย ทานาทีนฺจ สงฺกิเลสโวทานาทิเภทํ สุตมยาย ปฺาย ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต สุตํ อุปนิสฺสาย ทานาทีนิ ปวตฺเตติ. จาควาปิ จาคาธิมุตฺโต อตฺตโน จาคสมฺปทํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ, สีลวนฺโต หุตฺวา ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ตาย ปฏิปตฺติยา ปริสุทฺธจิตฺโต ฌานาทีนิ อุปฺปาเทติ. ปฺวาปิ อิธโลกปรโลกหิตฺเจว โลกสมติกฺกมนุปายฺจ อุปปริกฺขนฺโต ‘‘สกฺกา อิมาย ปฏิปตฺติยา อิธโลกหิตมฺปิ ปรโลกหิตมฺปิ โลกสมติกฺกมนูปายฺจ สมฺปาเทตุ’’นฺติ ปฺํ อุปนิสฺสาย ทานาทีนิ ปวตฺเตติ. ยสฺมา ปน น เกวลํ สทฺธาทโย ทานาทีนํเยว อุปนิสฺสยา, อตฺตโน อปรภาเค อุปฺปชฺชมานานํ สทฺธาทีนมฺปิ อุปนิสฺสยา เอว, ตสฺมา สทฺธา สีลํ สุตํ จาโค ปฺา สทฺธาย สีลสฺส สุตสฺส จาคสฺส ปฺายาติ วุตฺตํ.

ปริกมฺมนฺติ อนนฺตรํ อคฺคเหตฺวา ปุพฺพภาเค ปริกมฺมํ คเหตพฺพํ. ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺสาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมเมว, ปริกมฺมํ วิสุํ นตฺถิ. ทิพฺพจกฺขุสฺเสว ปริภณฺฑาณานิ เอตานิ, ตสฺมึ อิชฺฌมาเน อิชฺฌนฺติ เอวํ สนฺเตปิ ตทธิมุตฺตตาย สหิตํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ เตสํ ปริกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ เอตานิ สพฺเพสํ ทิพฺพจกฺขุกานํ สมคติกานิ โหนฺติ. ตสฺมา ภวิตพฺพเมตฺถ ปริกมฺมวิเสเสนาติ. ทิพฺพจกฺขุ ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ ทูเร รูปานิ ทิสฺวา เตสํ สทฺทํ โสตุกามสฺส ทิพฺพจกฺขุ โสตธาตุวิสุทฺธิยา อุปนิสฺสโย โหติ. เตสํ ปน สทฺทํ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตุกามตาทิวเสน ทิพฺพโสตธาตุ อิทฺธิวิธาณสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. เอวํ สพฺพตฺถ ตสฺส ตสฺส อุปการกภาววเสน อุปนิสฺสยปจฺจยตา เวทิตพฺพา.

มคฺคํ อุปนิสฺสาย อนุปฺปนฺนํ สมาปตฺตินฺติ เตน เตน มคฺเคน สิถิลีกตปาริปนฺถกตฺตา ปหีนปาริปนฺถกตฺตา จ ตํ ตํ สมาปตฺตึ อุปฺปาเทนฺตีติ เตสํ มคฺโค สมาปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติ. วิปสฺสนฺตีติ อุปรูปริมคฺคตฺถาย วิปสฺสนฺติ. อตฺถปฏิสมฺภิทายาติอาทิ ปฏิสมฺภิทานํ มคฺคปฏิลาเภเนว อิชฺฌนโต วุตฺตํ. เอวํอิทฺธานฺจ ปเนตาสํ ปจฺฉา เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติยา มคฺโคว อุปนิสฺสโย นาม โหติ.

สทฺธํ อุปนิสฺสาย มานํ ชปฺเปตีติ อหมสฺมิ สทฺโธ ปสนฺโนติ มานํ ปวตฺเตติ. ทิฏฺึ คณฺหาตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ วจเน สทฺธาวเสเนว คนฺตฺวา ปฺาย อตฺถํ อนุปปริกฺขนฺโต ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติอาทิวเสน ทิฏฺึ คณฺหาติ. สีลํ สุตํ จาคํ ปฺนฺติ อหมสฺมิ สีลวา สุตวา จาคี ปฺาสมฺปนฺโนติ มานํ ชปฺเปติ. สีลสุตจาคปฺาสุ ปน มานมฺนํ วิย ทิฏฺิมฺนํ อุปฺปาเทนฺโต ทิฏฺึ คณฺหาติ. ราคสฺสาติอาทีสุ สทฺธาทิสมฺปทํ อุปนิสฺสาย อตฺตุกฺกํสนกาเล เตสุ เอเกโก ธมฺโม ราคสฺส, ปรวมฺภนกาเล โทสสฺส, อุภเยน สมฺปยุตฺตสฺส โมหสฺส, วุตฺตปฺปการานํ มานทิฏฺีนํ, สทฺธาทิสมฺปทํ อุปนิสฺสาย ภวโภคสมฺปตฺติปตฺถนาย อุปนิสฺสโย โหติ. เอวเมตฺถ โลกิยกุสลฺเว ทสฺสิตํ. โลกุตฺตรํ ปน สนฺตํ ปณีตํ อุตฺตมํ อกุสลวิทฺธํสนํ. ตสฺมา จนฺโท วิย อนฺธการตมานํ น อกุสลสฺส อุปนิสฺสโย โหตีติ น คหิตํ.

อาตาเปตีติอาทิ กายิกทุกฺขวเสน อพฺยากตธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สทฺโธ หิ สทฺธํ นิสฺสาย อติสีตํ อติอุณฺหนฺติ อโนสกฺกิตฺวา นานปฺปการานิ นวกมฺมเวยฺยาวจฺจาทีนิ กโรนฺโต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, โภคํ อุปฺปาเทตฺวา ปุฺานิ กริสฺสามีติ ปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ. สีลวาปิ สีลานุรกฺขณตฺถํ อพฺโภกาสิกตฺตาทิวเสน อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปิณฺฑจาริกตฺตาทิวเสน ปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ. สุตวาปิ พาหุสฺสจฺจานุรูปํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชิสฺสามีติ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชนฺโต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ. จาควาปิ จาคาธิมุตฺตตาย อตฺตโน ยาปนมตฺเตปิ ปจฺจเย อนวเสเสตฺวา ปริจฺจชนฺโต, องฺคาทิปริจฺจาคํ วา ปน กโรนฺโต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปริจฺจชิตพฺพสฺส วตฺถุโน อุปฺปาทนตฺถํ ปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ. ปฺวาปิ อุปรูปริ ปฺํ วฑฺเฒสฺสามีติ สปฺปฺตํ นิสฺสาย สีตุณฺหาทีนิ อคเณตฺวา สชฺฌายมนสิกาเรสุ โยคํ กโรนฺโต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, มิจฺฉาชีเว อาทีนวํ สมฺมาชีเว จ อานิสํสํ ทิสฺวา มิจฺฉาชีวํ ปหาย ปริสุทฺเธน อาชีเวน ชีวิตวุตฺตึ ปริเยสนฺโต ปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติ.

กายิกสฺส สุขสฺสาติ สทฺธาทิสมฺปตฺตึ อุปนิสฺสาย อุปฺปนฺนานิ สุโขปกรณานิ ปริภุฺชนกาเล สทฺธาทิสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส จ เตสํ วเสน อวิปฺปฏิสารมูลกปาโมชฺชปีติสมุฏฺานรูปผุฏกายสฺส จ สุขุปฺปตฺติกาเล เตสํ กฏตฺตา อุปฺปนฺนวิปากสุขกาเล จ กายิกสฺส สุขสฺส, วุตฺตนเยเนว ทุกฺขุปฺปตฺติกาเล สทฺธาทิคุณสมฺปตฺตึ อสหมาเนหิ ปยุตฺตวธพนฺธนาทิกาเล จ กายิกสฺส ทุกฺขสฺส, สทฺธาทโย อุปนิสฺสาย ปวตฺติตผลสมาปตฺติกาเล ปน ผลสมาปตฺติยา เอเตสุ เอเกโก อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺโพ. กุสลํ กมฺมนฺติ กุสลเจตนา อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย, สา ปน พลวเจตนาว ลพฺภติ, น ทุพฺพลา. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอกา กิร อิตฺถี อุพฺพนฺธิตุกามา รุกฺเข รชฺชุํ ลคฺเคตฺวา สํวิธาตพฺพํ สํวิทหติ. อเถโก โจโร รตฺติภาเค ตํ เคหํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิมาย รชฺชุยา กิฺจิเทว พนฺธิตฺวา หริสฺสามี’’ติ สตฺเถน ฉินฺทิตุํ อุปคโต. อถ สา รชฺชุ อาสีวิโส หุตฺวา สุสูติ อกาสิ. โจโร ภีโต อปสกฺกิ. อิตฺถี อตฺตโน นิเวสนา นิกฺขมิตฺวา รชฺชุปาเส คีวํ ปฏิมุฺจิตฺวา อุพฺพนฺธา กาลมกาสิ. เอวํ พลวเจตนา อนฺตราเย นิวาเรตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. น ปเนตํ เอกนฺตโต คเหตพฺพํ. กโตกาสฺหิ กมฺมํ เอว วิปากสฺส อนฺตรายํ ปฏิพาหิตฺวา วิปจฺจติ, วิปากชนกํ ปน กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย น โหตีติ น วตฺตพฺพํ. กมฺมนฺติ เอตฺถ จตุภูมกมฺปิ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ปรโต ‘‘มคฺโค ผลสมาปตฺติยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อเจตนาวเสน. เตเนตํ ทีเปติ – โย โกจิ วิปากชนโก ธมฺโม, โส อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติ.

ราคํ อุปนิสฺสาย ปาณํ หนตีติ ยสฺมึ วตฺถุสฺมึ สารตฺโต โหติ, ตสฺมึ วา วิรุทฺธํ, ตสฺส วา อตฺถาย ปาณํ หนติ. อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเตเนวุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สนฺธึ ฉินฺทตีติ อทินฺนาทานวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺธินฺติ เคหสนฺธึ. นิลฺโลปํ หรตีติ นิลียิตฺวา หรติ. เอกาคาริกํ กโรตีติ พหูหิ สทฺธึ เอกเมว เคหํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปติ. ปริปนฺเถ ติฏฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติ. โทสํ อุปนิสฺสายาติอาทีสุ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิวเสน อุปฺปนฺนํ โทสํ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. โมหํ อุปนิสฺสายาติ ปาณาติปาตาทีสุ อาทีนวปฏิจฺฉาทกํ โมหํ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. มานํ อุปนิสฺสายาติ อหํ กึ หนิตุํ น สกฺโกมิ, อาทาตุํ น สกฺโกมีติ มานํ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. เกนจิ วา ปน อวฺาโต โหติ ปริภูโต หีฬิโต, ตํ โอมานํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาติปิ อตฺโถ. ทิฏฺึ อุปนิสฺสายาติ ยฺาทีสุ พฺราหฺมณาทโย วิย ปาทสิกมิลกฺขุอาทโย วิย จ ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. ปตฺถนํ อุปนิสฺสายาติ ‘‘สเจ เม อิทํ นาม อิชฺฌิสฺสติ, เอวรูปํ เต พลิกมฺมํ กริสฺสามีติ เอวํ เทวตายาจนสงฺขตํ วา, อสุกํ นาม เม ฆาเตตฺวา เทหิ, อสุกสฺส สนฺตกํ อาหร, เอหิ วา เม เอตานิ กมฺมานิ กโรนฺตสฺส สหาโย โหหี’’ติ เอวมาทึ วา ปตฺถนํ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. ราโค โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ ปตฺถนา ราคสฺสาติ. เอตฺถ ราโค ราคสฺสาปิ อุปนิสฺสโย โหติ โทสาทีนมฺปิ. โทสาทีสุปิ เอเสว นโย.

ปาณาติปาโต ปาณาติปาตสฺสาติ ปาณาติปาตี อสํวเร ิตตฺตา อฺมฺปิ ปาณํ หนติ. โย วา เอเตน หโต, ตสฺส าติมิตฺเตหิ อุปทฺทุโต เตสุ อฺมฺปิ หนติ. เอวํ ปาณาติปาโต ปาณาติปาตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ภณฺฑสามิกํ ปน โคปกํ วา ฆาเตตฺวา ปรภณฺฑหรเณ, สามิกํ ฆาเตตฺวา ตสฺส ทาราติกฺกเม, นาหํ หนามีติ มุสาภณเน, กตสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถาย อกตสฺส วา กรณตฺถาย เปสุฺํ อุปสํหาเร, เตเนว นเยน ผรุสวาจานิจฺฉารเณ, สมฺผปฺปลาปภณเน, ปรํ หนิตฺวา อภิชฺฌายิตพฺพปรวิตฺตูปกรณาภิชฺฌายเน, โย เตน ฆาติโต โหติ; ตสฺส มิตฺตามจฺจา อุจฺฉิชฺชนฺตูติอาทิจินฺตเน ‘‘เอวํ เม ปาณาติปาโต นิชฺชิณฺโณ ภวิสฺสตี’’ติ ทุกฺกรการิกาทิวเสน ทิฏฺิคฺคหณกาเล ปาณาติปาโต อทินฺนาทานาทีนมฺปิ อุปนิสฺสโย โหติ. อิมินา อุปาเยน อทินฺนาทานาทิมูลเกสุปิ จกฺเกสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

มาตุฆาติกมฺมํ มาตุฆาติกมฺมสฺสาติ อฺํ มาตรํ หนนฺตํ ทิสฺวา ‘‘วฏฺฏติ เอวํ กาตุ’’นฺติ อตฺตโน มาตรํ หนนฺตสฺส วา, เอกสฺมึ ภเว หนฺตฺวา อปรสฺมิมฺปิ หนนวเสน วา, เอกสฺมึเยว ภเว ‘‘คจฺฉ, เม มาตรํ หนาหี’’ติ ปุนปฺปุนํ อาณาปนวเสน วา, ทฺวีหิ ปหาเรหิ นิยตมรณาย ทุติยปหารทานวเสน วา มาตุฆาติกมฺมํ มาตุฆาติกมฺมสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. เสสานิปิ ยถาโยคํ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพานิ. ยสฺมา ปน พลวากุสลํ ทุพฺพลากุสลสฺส อุปนิสฺสโย น โหติ, ตสฺมา กมฺมปถานนฺตริยกมฺมวเสเนว เทสนา กตาติ วทนฺติ. ตํ น เอกนฺตโต คเหตพฺพํ. ปาณาติปาตาทีนิ หิ กตฺวา ‘‘กสฺมา เอวมกาสี’’ติ โจทิยมาโน โกปมตฺตกมฺปิ กโรติ. วิปฺปฏิสารีปิ โหติ. อปฺปมตฺตเกปิ จ กิเลเส อุปฺปนฺเน ตํ วฑฺเฒตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ. ตสฺมา พลวํ ทุพฺพลสฺส ทุพฺพลฺจ พลวสฺสาปิ อุปนิสฺสโย โหติเยว. ยํ ปน ปจฺจยวิภงฺคสฺส อุทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตํ ‘‘พลวการณฏฺเน อุปนิสฺสโย โหตี’’ติ, ตํ การณภาวสฺเสว พลวตาย วุตฺตํ, น อุปนิสฺสยปจฺจยธมฺมานํ. กมฺมกิเลสา หิ พลวนฺโตปิ ทุพฺพลาปิ พลวการณํ โหนฺติเยว.

ราคํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทตีติอาทีสุ อโห วตาหํ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺยนฺติ อุปปตฺติภเว วา โภเคสุ วา ราคํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ. สีลสมาทานอุโปสถกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. ฌานํ ปน ราควิกฺขมฺภนตฺถาย, วิปสฺสนํ ราคสฺส ปหานตฺถาย, มคฺคํ สมุจฺเฉทนตฺถาย อุปฺปาเทนฺโต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นาม. วีตราคภาวตฺถาย ปน อภิฺํ สมาปตฺติฺจ อุปฺปาเทนฺโต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นาม. เอตฺตาวตา หิ วีตราโค นาม โหติ.

สทฺธายาติ ทานาทิวเสน ปวตฺตสทฺธาย สีลาทีสุปิ เอเสว นโย. ยเถว หิ ทานาทิวเสน สทฺธาทโย อุปฺปาเทนฺโต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นาม, เอวํ ราคาทโยปิ สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจยา นาม โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตสฺส ปฏิฆาตตฺถายาติ ตสฺส ปฏิพาหนตฺถาย, วิปาโกกาสสฺส อนุปฺปทานตฺถายาติ อตฺโถ. สปฺปฏิฆาเตสุ ตาว เอวํ โหตุ, ยานิ ปน อปฺปฏิฆาตานิ อานนฺตริยกมฺมานิ, เตสุ ‘‘ตสฺส ปฏิฆาตตฺถายา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตสฺส อชฺฌาสยวเสน. ตปฺปฏิฆาตตฺถาย ปวตฺเตมีติ หิสฺส อชฺฌาสโย, ตํ คเหตฺวา เอวํ วุตฺตํ.

ราคํ อุปนิสฺสาย อตฺตานํ อาตาเปตีติ ยตฺถ รตฺโต, ตสฺส ทุกฺกเรน ปตฺตึ สมฺปสฺสนฺโต เอวํ กโรตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. กายิกสฺส สุขสฺสาติ ราคาทิสมติกฺกมวเสน กุสลํ กตฺวา ปฏิลทฺธสุขสฺส วา ราคาทิวเสน อนาทีนวทสฺสาวิโน กาเม ปริภุฺชนวเสน อุปฺปนฺนสุขสฺส วา. ทุกฺขสฺสาติ อาตาปนาทิวเสน อุปฺปนฺนสุขสฺส วา ราคาทิเหตุ ปวตฺตวธพนฺธนาทิวเสน อุปฺปนฺนทุกฺขสฺส วา. ผลสมาปตฺติยาติ ราคาทโย สมุจฺฉินฺทิตฺวา วา อุปฺปาทิตาย เตหิ วา อฏฺฏียมาเนน สมาปนฺนาย.

กายิกํ สุขนฺติอาทีสุ สุเข อุปฺปนฺเน ตํ อสฺสาเทตฺวา ปุนปฺปุนํ ตถารูเปเหว ปจฺจเยหิ ตํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส อุปนิสฺสโย โหติ. สีตาทีสุ ปน อคฺคิสนฺตาปนาทีนิ อติเสวนฺตสฺส ปุพฺพภาเค สุขํ อปรภาเค ทุกฺขสฺส, ‘‘สุโข วติ มิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’’ติ กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตสฺส อิธ กายิกํ สุขํ เนรยิกสฺส กายิกทุกฺขสฺส, อโรคภาเวน ปน สุขิโน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส กายิกํ สุขํ ผลสมาปตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. ทุกฺขปฏิฆาตาย ปน สุขํ เสวนฺตสฺส ทุกฺขปฏิฆาตาย จ ภควโต วิย อาพาธํ วิกฺขมฺเภตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส กายิกทุกฺขํ กายิกสุขสฺส เจว ผลสมาปตฺติยา จ, อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. อุตุสปฺปาโย สุขสฺส เจว ผลสมาปตฺติยา จ, อสปฺปาโย ทุกฺขสฺส. อุตุอสปฺปายํ วา อภิภวิตฺวา สมาปตฺติสมุฏฺิตรูปวเสน อุปฺปนฺนํ สุขํ อนุภวิตุกามสฺส อสปฺปาโยปิ อุตุ ผลสมาปตฺติยา ปจฺจโยว. โภชนเสนาสเนสุปิ เอเสว นโย. ปุน กายิกํ สุขนฺติอาทีนิ เกวลํ เอกโต ทสฺสิตานิ. เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ปเนสํ ปจฺจยภาโว เวทิตพฺโพ. ผลสมาปตฺติ กายิกสฺส สุขสฺสาติ สมาปตฺติสมุฏฺานรูปวเสน อุปฺปนฺนสฺส สุขสฺส. ตํ เหส สมาปตฺติโต วุฏฺาย อนุภวติ.

กายิกํ สุขํ อุปนิสฺสาย ทานนฺติอาทีสุ ‘‘อโห วต เม อิทํ สุขํ น ปริหาเยยฺยา’’ติ ปตฺตสฺส วา อปริหายนวเสน; ‘‘อโห วตาหํ อายตึ เอวรูปํ สุขํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ อปฺปตฺตสฺส วา ปตฺติวเสน; ทุกฺเขปิ ‘‘อโห วต เม ทุกฺขํ ปริหาเยยฺยา’’ติ ปตฺตสฺส ปริหายนวเสน วา; ‘‘อายตึ เอวรูปํ นุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ อนุปฺปาทปตฺถนาวเสน วา สุขทุกฺขานํ อุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา. อุตุโภชนเสนาสนานิ วุตฺตนยาเนว. ปุน กายิกํ สุขนฺติอาทีสุ ยสฺมา ‘‘สาธุ โข, มาริส, โมคฺคลฺลาน, พุทฺธสรณคมนํ โหตี’’ติ สุขปฺปตฺตานมฺปิ, ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต, โส ภควา, โย เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปริฺาย ธมฺมํ เทเสตี’’ติ (อุทา. ๑๘) ทุกฺขปฺปตฺตานมฺปิ สทฺธา อุปฺปชฺชติ. สุขทุกฺเขหิ จ สํโยควิโยคตฺถาย สีลาทิปริปูรณํ กเรยฺย, ตสฺมา สุขทุกฺขานิ สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยภาเวน ทสฺสิตานิ. อุตุอาทีนิปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพานิ. กายิกํ สุขํ อุปนิสฺสาย ปาณํ หนตีติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรเนว สุขาทีนํ อุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา.

อิมสฺมึ ปน อุปนิสฺสยภาชนีเย กุสโล กุสลสฺส ติวิเธนาปิ อุปนิสฺสโย, อกุสลสฺส ทุวิเธน, อพฺยากตสฺส ติวิเธน. อกุสโล อกุสลสฺส ติวิเธน, กุสลสฺส เอกวิเธน, อพฺยากตสฺส ทุวิเธน. อพฺยากโตปิ อพฺยากตสฺส ติวิเธน, ตถา กุสลสฺส, ตถา อกุสลสฺสาติ. เอวํ กุสโล อฏฺวิเธน, อกุสโล ฉพฺพิเธน, อพฺยากโต นววิเธนาติ เตวีสติวิเธน อุปนิสฺสโย ภาชิโตติ เวทิตพฺโพ.

๔๒๔. ปุเรชาเต จกฺขาทีนิ โอฬาริกวเสน วุตฺตานิ. อาโปธาตุอาทีนิปิ ปน ปุเรชาตารมฺมณานิ โหนฺติเยว. วตฺถุ ปุเรชาตํ จกฺขายตนนฺติอาทิ ยํ วตฺถุ หุตฺวา ปุเรชาตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. วตฺถุ วิปากาพฺยากตานนฺติ ปวตฺติยํ ปุเรชาตปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๔๒๕. ปจฺฉาชาเต อิมสฺส กายสฺสาติ จาตุมหาภูติกกายสฺส. ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺฉาชาโต หุตฺวา ปจฺจโย. อุปตฺถมฺภกฏฺเน ปจฺจยตฺตาเยว เหส ปจฺฉาชาตปจฺจโยติ อิมสฺมึ ปฺหาวาเร อนุโลมโต อาคโต.

๔๒๖. อาเสวนปจฺจเย อนุโลมํ โคตฺรภุสฺสาติอาทีนํ วิสุํ คหเณ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํ.

๔๒๗. กมฺมปจฺจเย กุสลา เจตนา สมฺปยุตฺตกานนฺติ เอตฺถ สหชาตนานากฺขณิกวิภาคสฺส อภาวโต สหชาตาติ น วุตฺตา. อพฺยากตวิสฺสชฺชเน ปน โส วิภาโค อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตา. ปฏิสนฺธิคฺคหณํ กฏตฺตารูปานํ วเสน กตํ. เจตนา วตฺถุสฺสาติ กิฺจาปิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุปติฏฺิตา อรูปธมฺมา วตฺถุปจฺจยา วตฺตนฺติ, เจตนา ปน วตฺถุสฺสาปิ ปจฺจโยติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.

๔๒๘. วิปากปจฺจเย ปฏิสนฺธิวาเร อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔๒๙-๔๓๘. อาหารปจฺจเย อิมสฺส กายสฺสาติ อิมสฺมึ จตุสนฺตติวเสน ปวตฺเต จาตุมหาภูติกกาเย อาหารสมุฏฺานสฺส ชนกวเสน, เสสสฺส อุปตฺถมฺภกวเสน อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. อินฺทฺริยปจฺจยาทีสุปิ ปฏิสนฺธิวาโร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ปฺหาวารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺหาวารสฺส ฆฏเน อนุโลมคณนา

๔๓๙. อิทาเนตฺถ ยถาลทฺธานิ วิสฺสชฺชนานิ คณนาวเสน ทสฺเสตุํ เหตุยา สตฺตาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺตาติ กุสเลน กุสลํ, อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากตนฺติ ตีณิ. ตถา อกุสเลน; อพฺยากเตน อพฺยากตเมวาติ เอวํ สตฺต. อารมฺมเณ นวาติ เอกมูลกเอกาวสานานิ นว. อธิปติยา ทสาติ กุสลํ กุสลสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; อกุสลสฺส อารมฺมณโตว อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; กุสลาพฺยากตสฺส สหชาตโตวาติ กุสลมูลกานิ จตฺตาริ. อกุสลํ อกุสลสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; อพฺยากตสฺส สหชาตโตว ตถา อกุสลาพฺยากตสฺสาติ อกุสลมูลกานิ ตีณิ. อพฺยากโต อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; กุสลสฺส อารมฺมณโตว ตถา อกุสลสฺสาติ อพฺยากตมูลกานิ ตีณีติ เอวํ ทส. เอตฺถ ปน อารมฺมณาธิปติปิ สตฺตธา, สหชาตาธิปติปิ สตฺตธาว ลพฺภติ.

อนนฺตเร สตฺตาติ กุสลมูลกานิ ทฺเว, ตถา อกุสลมูลกานิ, อพฺยากตมูลกานิ ตีณีติ เอวํ สตฺต. สมนนฺตเรปิ เอตาเนว. สหชาเต นวาติ กุสลมูลกานิ ตีณิ, อกุสลมูลกานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลกํ เอกํ, ตถา กุสลาพฺยากตมูลกํ, อกุสลาพฺยากตมูลกฺจาติ เอวํ นว. อฺมฺเ ตีณีติ กุสเลน กุสลํ, อกุสเลน อกุสลํ, อพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ เอวํ ตีณิ. นิสฺสเย เตรสาติ สหชาตโตว กุสลมูลกานิ ตีณิ, ตถา อกุสลมูลกานิ, ตถา อพฺยากตมูลกานิ. เอตฺถ ปน ปุเรชาตมฺปิ ลพฺภติ. อพฺยากตฺหิ อพฺยากตสฺส สหชาตมฺปิ โหติ ปุเรชาตมฺปิ; กุสลสฺส ปุเรชาตเมว ตถา อกุสลสฺส. ปุน กุสลาพฺยากโต สหชาตปุเรชาตโต กุสลสฺส, สหชาตโตว อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสลาพฺยากโตติ เอวํ เตรส. อุปนิสฺสเย นวาติ เอกมูลเกกาวสานา นว. เตสํ วิภงฺเค เตวีสติ เภทา ทสฺสิตา. เตสุ อารมฺมณูปนิสฺสเย สตฺต, อนนฺตรูปนิสฺสเย สตฺต, ปกตูปนิสฺสเย นว โหนฺติ. ปุเรชาเต ตีณีติ อพฺยากโต อพฺยากตสฺส, กุสลสฺส, อกุสลสฺสาติ เอวํ ตีณิ.

ปจฺฉาชาเต ตีณีติ กุสโล อพฺยากตสฺส, อกุสโล อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ เอวํ ตีณิ. อาเสวเน ตีณิ อฺมฺสทิสานิ. กมฺเม สตฺต เหตุสทิสานิ. ตตฺถ ทฺวีสุ วิสฺสชฺชเนสุ นานากฺขณิกกมฺมมฺปิ อาคตํ, ปฺจสุ สหชาตเมว. วิปาเก เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํ. อาหารอินฺทฺริยฌานมคฺเคสุ สตฺต เหตุสทิสาเนว. อินฺทฺริยํ ปเนตฺถ สหชาตปุเรชาตวเสน อาคตํ. สมฺปยุตฺเต ตีณิ อฺมฺสทิสานิ. วิปฺปยุตฺเต ปฺจาติ สหชาตปจฺฉาชาตโต กุสเลน อพฺยากตํ, อกุสเลน อพฺยากตํ, สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตโต อพฺยากเตน อพฺยากตํ, วตฺถุปุเรชาตโต อพฺยากเตน กุสลํ, ตถา อกุสลนฺติ เอกํ กุสลมูลํ, เอกํ อกุสลมูลํ, ตีณิ อพฺยากตมูลานีติ เอวํ ปฺจ.

อตฺถิยา เตรสาติ สหชาตโต กุสเลน กุสลํ, สหชาตปจฺฉาชาตโต กุสเลน อพฺยากตํ, สหชาตโตว กุสเลน กุสลาพฺยากตนฺติ กุสลมูลานิ ตีณิ, ตถา อกุสลมูลานิ, สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยโต ปน อพฺยากเตน อพฺยากตํ, วตฺถารมฺมณปุเรชาตโต อพฺยากเตน กุสลํ, ตถา อกุสลํ, สหชาตปุเรชาตโต กุสโล จ อพฺยากโต จ อกุสลสฺส; สฺเวว อพฺยากตสฺส สหชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยโต สหชาตปุเรชาตโต จ กุสโล จ อพฺยากโต จ กุสลสฺส; สฺเวว อพฺยากตสฺส สหชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยโตติ เอวํ เตรส. นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสทิสานิ. อวิคเต เตรส อตฺถิสทิสานีติ. เอวเมตฺถ สตฺต คณนปริจฺเฉทา เอกํ ตีณิ ปฺจ สตฺต นว ทส เตรสาติ. เตสุ วิปากวเสน เอกเมว เอกกํ, อฺมฺปุเรชาตปจฺฉาชาตาเสวนสมฺปยุตฺตวเสน ปฺจ ติกา, วิปฺปยุตฺตวเสน เอกเมว ปฺจกํ, เหตุอนนฺตรสมนนฺตรกมฺมอาหารินฺทฺริยฌานมคฺคนตฺถิวิคตวเสน ทส สตฺตกา, อารมฺมณสหชาตอุปนิสฺสยวเสน ตโย นวกา, อธิปติวเสน เอกํ ทสกํ, นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ตโย เตรสกาติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ ปจฺจเย นิทฺทิฏฺวาเร คณนวเสน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา เตสํ วเสน ทุกติกาทีสุ ปจฺจยสํสนฺทเน คณนา เวทิตพฺพา.

๔๔๐. เย ปน ปจฺจยา เยสํ ปจฺจยานํ วิสภาคา วา วิรุทฺธา วา โหนฺติ, เต เตหิ สทฺธึ น โยเชตพฺพา. เสยฺยถิทํ – เหตุปจฺจยสฺส ตาว อารมฺมณานนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยปุเรชาตปจฺฉาชาตกมฺมาเสวนาหารฌานนตฺถิวิคตา อธิปติปจฺจเย จ เปตฺวา วีมํสํ เสสาธิปติโน วิสภาคา, สหชาตาทโย สภาคา. กสฺมา? ตถา ภาวาภาวโต. เหตุปจฺจโย หิ เยสํ เหตุปจฺจโย โหติ, เตสํ สหชาตาทิปจฺจโยปิ โหติ, อารมฺมณาทิปจฺจโย ปน น โหตีติ อารมฺมณาทโย ตสฺส วิสภาคา นาม. ตสฺมา โส เตหิ, เต วา เตน สทฺธึ, น โยเชตพฺพา. ปุเรชาตปจฺฉาชาตสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถินตฺถิวิคตาวิคตา จ อฺมฺวิรุทฺธา, เตปิ อฺมฺํ น โยเชตพฺพา. ตตฺถ อโยชนีเย วชฺเชตฺวา โยชนีเยหิ โยเค เย วารา ลพฺภนฺติ, เต สงฺเขปโต ทสฺเสตุํ เหตุปจฺจยา อธิปติยา จตฺตารีติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ เหตุปจฺจยสฺส อธิปตินา สํสนฺทเน อูนตรคณนวเสน สตฺตหิ วาเรหิ ภวิตพฺพํ, ยสฺมา ปน อธิปตีสุ วีมํสาว เหตุปจฺจโย, น อิตเร, ตสฺมา วิสภาเค วชฺเชตฺวา สภาควเสน ‘‘จตฺตารี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ เอวํ เวทิตพฺพานิ – กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ, กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ, กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ, อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานนฺติ. เอตฺถ จ วิปากาพฺยากตา โลกุตฺตรโตว คเหตพฺพา. อารมฺมณปจฺจยอนนฺตรปจฺจยาทโย ปน วิสภาคตฺตา น โยชิตา. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ลพฺภมานฺจ อลพฺภมานฺจ ตฺวา ลพฺภมานวเสน วารา อุทฺธริตพฺพา.

สหชาเต สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนว. อฺมฺเ ตีณีติ สุทฺธิกอฺมฺเ ลทฺธาเนว. นิสฺสเย สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนว. วิปาเก เอกนฺติ สุทฺธิกวิปาเก ลทฺธเมว. อินฺทฺริยมคฺเคสุ จตฺตารีติ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. สมฺปยุตฺเต ตีณีติ สุทฺธิกสมฺปยุตฺเต ลทฺธาเนว. วิปฺปยุตฺเต ตีณีติ กุสลาทิจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ กตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺถิอวิคเตสุ สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนว.

๔๔๑-๔๔๓. เอวํ เยหิ อธิปติปจฺจยาทีหิ เอกาทสหิ ปจฺจเยหิ สทฺธึ เหตุปจฺจโย โยชนํ ลภติ, เตสํ วเสน ทุมูลกนเย คณนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติมูลกาทีสุ ตสฺส ทสฺสนตฺถํ ลกฺขณํ เปนฺโต เหตุสหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตนฺติ สตฺตาติอาทิมาห. โปตฺถเกสุ ปน นิสฺสอุปนิสฺสอธิปาติ เอวํ ปริหีนกฺขรานิ ปจฺจยนามานิ ลิขนฺติ, ตํ สฺากรณมตฺตวเสน ลิขิตํ. ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ ปริปุณฺณา ปาฬิ กาตพฺพา. ยํ ปนิทํ ลกฺขณํ ปิตํ, เตน อิทํ ทีเปติ – อยํ เหตุปจฺจโย สหชาตาทีหิ จตูหิ สทฺธึ สํสนฺทเน อตฺตโน วิภงฺเค ลทฺธานิ สตฺเตว วิสฺสชฺชนานิ ลภติ. สเจ ปเนตฺถ อฺมฺปจฺจโย ปวิสติ, อฺมฺเ ลทฺธานิ ตีณิ ลภติ. สเจ สมฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, ตาเนว ตีณิ ลภติ. สเจ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, เหตุวิปฺปยุตฺตทุเก ลทฺธานิ ตีณิ ลภติ. สเจ วิปากปจฺจโย ปวิสติ, สพฺเพหิ วิปากสภาเคหิ สทฺธึ สํสนฺทเน เอวเมว วิสฺสชฺชนํ ลภติ. สเจ ปเนตฺถ อินฺทฺริยมคฺคปจฺจยา ปวิสนฺติ, เตหิ สทฺธึ ทุมูลเก ลทฺธานิ จตฺตาริเยว ลภติ. สเจ เตหิ สทฺธึ อฺมฺปจฺจโย ปวิสติ, เหตาธิปติทุเก ทสฺสิเตสุ จตูสุ วิสฺสชฺชเนสุ ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส, กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จา’’ติ ทฺเว อปเนตฺวา เสสานิ ทฺเว ลภติ. สเจปิ ตตฺถ สมฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, ตาเนว ทฺเว ลภติ. สเจ ปน วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, อิตรานิ ทฺเว ลภติ. สเจ ปน เตสุ วิปากปจฺจโย ปวิสติ, สพฺพตฺถ เอกเมว ลภติ. อธิปตินา ปน สทฺธึ เหตาธิปติทุกโต อูนตรคณเนสุ อปฺปวิสนฺเตสุ จตฺตาริเยว ลภติ. อูนตรคณเนสุ ปวิสนฺเตสุ เตสํ วเสน ทฺเว เอกนฺติ ลภติ. เอวํ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ลพฺภมานํ คณนํ วิทิตฺวา ติมูลกาทีสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติ.

เอเตสุ ปน ฆฏเนสุ สพฺพปมานิ จตฺตาริ ฆฏนานิ สามฺโต นวนฺนมฺปิ เหตูนํ วเสน วุตฺตานิ อวิปากานิ. อพฺยากเตน อพฺยากตวิสฺสชฺชเน ปเนตฺถ วิปากเหตุปิ ลพฺภติ.

ตโต ปรานิ ปฺจ ฆฏนานิ วิปากเหตุวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ สพฺเพปิ สหชาตวิปากา เจว วิปากสหชาตรูปา จ. เตสุ ปเม ฆฏเน วิปากา เจว ตํสมุฏฺานรูปา จ ลพฺภนฺติ, ทุติเย วิปากา เจว ปฏิสนฺธิยฺจ วตฺถุรูปํ. ตติเย อรูปธมฺมาว. จตุตฺเถ วิปากจิตฺตสมุฏฺานรูปเมว ลพฺภติ. ปฺจเม วตฺถุรูปเมว.

ตโต ปรานิ ปฺจทส ฆฏนานิ อินฺทฺริยมคฺคยุตฺตานิ อโมหเหตุวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปมานิ นว นิราธิปตีนิ, ปจฺฉิมานิ ฉ สาธิปตีนิ. นิราธิปติเกสุปิ ปมานิ จตฺตาริ สามฺโต สพฺพตฺถ อโมหวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ปฺจ วิปากาโมหวเสน. ตตฺถ นิราธิปติเกสุ ปเม จตฺตารีติ เหฏฺา เหตาธิปติทุเก ทสฺสิตาเนว. ทุติเย จิตฺตสมุฏฺานรูปํ ปริหายติ. ตติเย วตฺถุรูปํ ปริหายติ. จตุตฺเถ กุสโล ธมฺโม จิตฺตสมุฏฺานานํ, อพฺยากโต ตํสมุฏฺานานนฺติ รูปเมว ลพฺภติ. ตโต ปรานิ วิปากยุตฺตานิ ปฺจ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. สาธิปติเกสุ ปมานิ ตีณิ ฆฏนานิ สามฺโต วิปากาวิปากเหตุวเสน วุตฺตานิ. เตสุ ปเม จตฺตาริ วุตฺตนยาเนว. ทุติเย รูปํ ปริหายติ, ตติเย อรูปํ ปริหายติ. ตโต ปรานิ ตีณิ วิปากเหตุวเสน วุตฺตานิ. เตสุ ปเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปเมว, ตติเย รูปเมว. เอวมฺปิ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ลพฺภมานํ คณนํ วิทิตฺวา ติมูลกาทีสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติ.

เหตุมูลกํ นิฏฺิตํ.

๔๔๔. อารมฺมณมูลเกปิ อธิปติปจฺจยาทโย สตฺต อารมฺมเณน สภาคา, เสสา โสฬส วิสภาคาติ เต อโยเชตฺวา สตฺเตว โยชิตา. เตสุ อธิปติยา สตฺตาติ กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส, อกุสลสฺส ธมฺมสฺส, อพฺยากตสฺสาติ เอวํ กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลํ เอกํ, อพฺยากตมูลานิ ตีณีติ สตฺต. นิสฺสเย ตีณีติ วตฺถุวเสน อพฺยากตมูลาเนว. อุปนิสฺสเย สตฺต เหฏฺิมานิ เอว. ปุเรชาเต ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสน อพฺยากตมูลานิ. วิปฺปยุตฺเต ตีณีติ วตฺถุวเสเนว. อตฺถิอวิคเตสุ ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสน. ยถา ปน เหตุมูลเก ลกฺขณทสฺสนตฺถํ ฆฏนานิ ปิตานิ, ตถา อารมฺมณมูลกาทีสุปิ.

๔๔๕. ตตฺถ ยานิ ตาว อิมสฺมึ อารมฺมณมูลเก ปฺจ ฆฏนานิ ปิตานิ. ตตฺถ ปมํ อารมฺมณาธิปติวเสน สาธิปติกํ. ตตฺถ สตฺตาติ อารมฺมณาธิปติทุเก ลทฺธวิสฺสชฺชนาเนว. ทุติยํ นิราธิปติกํ. ตตฺถ ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสน อารมฺมณวเสเนว วา อพฺยากตมูลานิ. ตติยํ นิสฺสเยน วุตฺตํ. ตตฺถ ตีณีติ วตฺถุวเสน อพฺยากตมูลานิ. จตุตฺถปฺจมานิ สาธิปติกานิ. เตสุ จตุตฺเถ เอกนฺติ วตฺถารมฺมณวเสน อารมฺมณวเสเนว วา อพฺยากตมูลํ อกุสลํ. ปฺจเม เอกนฺติ นิสฺสยโต อพฺยากตมูลกํ อกุสลํ. เอวมิธาปิ ลพฺภมานวเสน ติกาทีสุ คณนา เวทิตพฺพา. ตถา อธิปติมูลกาทีสุ. อารมฺมณอินฺทฺริยวิปากวเสน วิตฺถารโยชนํ ปน อวตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วตฺตพฺพยุตฺตกเมว วทามาติ.

๔๔๖. อธิปติมูลเก สหชาเต สตฺตาติ สหชาตาธิปติวเสน กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลํ เอกํ. สหชาเตน ปน สทฺธึ อารมฺมณาธิปติ, อารมฺมณาธิปตินา จ สทฺธึ สหชาตํ น ลพฺภติ. อฺมฺเ ตีณีติ สหชาตาธิปติวเสเนว. นิสฺสเย อฏฺาติ กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลานิ ทฺเว. อพฺยากโต หิ อธิปติ อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ นิสฺสโย โหติ, อกุสลสฺส อารมฺมณโตว. กุสลสฺส ปน อุภยถาปิ น โหตีติ อพฺยากตมูลานิ ทฺเวเยวาติ เอวํ อฏฺ. อุปนิสฺสเย สตฺต อารมฺมณสทิสาเนว. ปุเรชาเต เอกนฺติ อพฺยากตาธิปติ อารมฺมณวเสน อกุสลสฺส. วิปาเก เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํ โลกุตฺตรํ. อาหาราทีสุ สตฺต เหฏฺา เอกมูลเก ลทฺธาเนว. วิปฺปยุตฺเต จตฺตารีติ กุสเลน อพฺยากตํ, ตถา อกุสเลน, อพฺยากเตน อพฺยากตฺจ กุสลฺจ. อตฺถิอวิคเตสุ อฏฺ นิสฺสยสทิสาเนว.

๔๔๗-๔๕๒. ฆฏนานิ ปเนตฺถ ปฏิปาฏิยา อารมฺมณาทีหิ อโยเชตฺวา ปมํ อตฺถิอวิคเตหิ โยชิตานิ. กึ การณาติ? อุภยาธิปติมิสฺสกตฺตา. ตตฺถ ปเม ฆฏเน อารมฺมณาธิปติวเสน วตฺถารมฺมณํ ลพฺภติ, ทุติเย นิสฺสยวเสน ครุํ กตฺวา อสฺสาเทนฺตสฺส วตฺถุเมว, ตติเย สหชาตาธิปติวเสน กุสลาทโย รูปานํ, อารมฺมณาธิปติวเสน วตฺถุ อกุสลสฺส. ตโต ปรานิ ตีณิ ฆฏนานิ อารมฺมณาธิปติวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม สตฺตาติ เหฏฺา วุตฺตาเนว. ทุติเย เอกนฺติ ปุเรชาตานิ วตฺถารมฺมณานิ อกุสลสฺส. ตติเย วตฺถุเมว อกุสลสฺส. ตโต ปรานิ ตีณิ ฆฏนานิ วิปากาวิปากสาธารณานิ สหชาตาธิปติวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปเมว, ตติเย รูปเมว. ตโต ปรานิ ตีณิ วิปากาธิปติวเสน วุตฺตานิ. เตสุปิ ปเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปํ, ตติเย รูปเมว. ตโต ปรานิ ฉ ฆฏนานิ อาหารินฺทฺริยยุตฺตานิ จิตฺตาธิปติวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ตีณิ อวิปากานิ, ตีณิ สวิปากานิ. เตสุ คณนา ปากฏาเยว. ตโต ปรานิ ฉ ฆฏนานิ ตเถว วิริยาธิปติวเสน วุตฺตานิ. นนุ จ อธิปติปฏิปาฏิยา ปมํ วิริยาธิปติวเสน วตฺตพฺพานิ สิยุํ, กสฺมา ตถา น วุตฺตานีติ? ปรโต เหตุวเสน วุตฺตฆฏเนหิ สทิสตฺตา. ปรโต หิ เหตุวเสน ฆฏนานิ อโมหสฺส วีมํสาธิปติตฺตา วีมํสาย จ สมฺมาทิฏฺิภาวโต มคฺคสมฺปยุตฺตานิ. วิริยมฺปิ จ สมฺมาวายามมิจฺฉาวายามภาเวน มคฺโคติ เตน สทฺธึ ฆฏนานิ ปรโต เหตุวเสน วุตฺตฆฏเนหิ สทิสานีติ ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตานิ. เตสุปิ คณนา ปากฏาเยว.

๔๕๓-๔๕๖. อนนฺตรสมนนฺตรมูลเกสุ สตฺตาติ กุสโล กุสลสฺส อพฺยากตสฺส จ, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ติณฺณนฺนมฺปีติ เอวํ สตฺต. กมฺเม เอกนฺติ กุสลา มคฺคเจตนา อตฺตโน วิปากาพฺยากตสฺส. ฆฏนานิ ปเนเตสุ ตีณิ ตีณิเยว. ตานิ พหุตรปฏิปาฏิยา วุตฺตานิ.

๔๕๗-๔๖๐. สหชาตอฺมฺนิสฺสยมูลเกสุ เย เย ทุกมูลเก ปจฺจยา วุตฺตา เต เตเยว อาทิโต ิเตน สภาคา. ตสฺมา ทุกมูลเก คณนํ ตฺวา เย อุปริ ปจฺจยา ฆฏิตา, เตสุ อูนตรคณนสฺส วเสน สพฺพฆฏเนสุ คณนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ สหชาตมูลเก ทส ฆฏนานิ. เตสุ ปฺจ อวิปากานิ, ปฺจ สวิปากานิ. ตตฺถ อวิปาเกสุ ตาว ปเม กุสโล กุสลสฺส อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ จตฺตาริ, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต อพฺยากตสฺเสวาติ เอวํ นว. ตตฺถ กุสลากุสลาทิเกสุ อฏฺสุ วิสฺสชฺชเนสุ อรูปฺเจว จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ ลพฺภติ. อพฺยากเต วตฺถุรูปมฺปิ. ทุติเย ฆฏเน อพฺยากตวิสฺสชฺชเน รูเปสุ วตฺถุเมว ลพฺภติ, ตติเย ตีสุปิ อรูปเมว, จตุตฺเถ จิตฺตสมุฏฺานรูปเมว, ปฺจเม ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุนา สทฺธึ อรูปธมฺมา. สวิปาเกสุ ปเม วิปากา เจว วิปากจิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ, ทุติเย วิปากา เจว วตฺถุรูปฺจ, ตติเย วิปากเมว, จตุตฺเถ วิปากจิตฺตสมุฏฺานเมว, ปฺจเม วตฺถุรูปเมว ลพฺภติ.

อฺมฺมูลเก ฉ ฆฏนานิ. เตสุ ปมานิ ตีณิ อวิปากานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ สวิปากานิ. เตสุ คณนา ปากฏาเยว.

๔๖๑. นิสฺสยมูลเก นิสฺสยปจฺจยา อารมฺมเณ ตีณีติ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตกุสลาทิวเสน เวทิตพฺพานิ. อุปนิสฺสเย เอกนฺติ วตฺถุํ อารมฺมณูปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนากุสลํ. เสสํ ทุมูลเก เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๔๖๒-๔๖๔. อิมสฺมึ ปน นิสฺสยปจฺจเย วีสติ ฆฏนานิ. เตสุ ปุริมานิ ฉ ฆฏนานิ ปุเรชาตสหชาตวเสน วุตฺตานิ, ตโต จตฺตาริ ปุเรชาตวเสเนว, ตโต ทส สหชาตวเสเนว. ตตฺถ ปเม ฆฏเน เตรสาติ นิสฺสยปจฺจยวิภงฺเค วุตฺตาเนว. ทุติเย อฏฺาติ สหชาตาธิปติวเสน สตฺต, วตฺถุํ ครุํ กตฺวา อกุสลฺจาติ อฏฺ. ตติเย สตฺต อินฺทฺริยปจฺจเย ลทฺธาเนว. จตุตฺเถ ปฺจ วิปฺปยุตฺเต ลทฺธานิ. ปฺจเม จตฺตารีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฏฺานานํ, วตฺถุ จ อกุสลสฺส. ฉฏฺเ ตีณีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฏฺานสฺส. ปุเรชาตวเสน จตูสุ ปเม ตีณีติ วตฺถุ กุสลาทีนํ, จกฺขาทีนิ จ อพฺยากตสฺส. ทุติเย วตฺถุเมว กุสลาทีนํ. ตติเย เอกนฺติ วตฺถุ อกุสลสฺส. จตุตฺเถ จกฺขาทีนิ วิฺาณปฺจกสฺส. สหชาตวเสน ทส สวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา สหชาตมูลเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

๔๖๕. อุปนิสฺสยมูลเก อารมฺมเณ สตฺตาติ อารมฺมณูปนิสฺสเย ลทฺธาเนว. อธิปติยา สตฺตาติ ตาเนว. อนนฺตรสมนนฺตเรสุ อนนฺตรูปนิสฺสเย ลทฺธาเนว. นิสฺสเย เอกนฺติ วตฺถุ อกุสลสฺส. ปุเรชาเต เอกนฺติ ตสฺเสว วตฺถุํ วา อารมฺมณํ วา. อาเสวเน ตีณิ อนนฺตรูปนิสฺสยวเสน. กมฺเม ทฺเว ปกตูปนิสฺสยวเสน. โลกุตฺตรกุสลเจตนา ปน อนนฺตรูปนิสฺสโยปิ โหติ. วิปฺปยุตฺเต เอกํ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน, ตถา อตฺถิอวิคเตสุ. นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสมาเนว.

๔๖๖. อุปนิสฺสยมูลกานิ ปน สตฺต ฆฏนานิ โหนฺติ. ตตฺถ ปุริมานิ ตีณิ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม สตฺตาติ กุสโล กุสลาทีนํ, ตถา อพฺยากโต, อกุสโล อกุสลสฺเสวาติ เอวํ สตฺต. ทุติเย เอกนฺติ จกฺขาทิอพฺยากตํ อกุสลสฺส. ตติเย วตฺถุ อกุสลสฺส. ตโต ปรานิ ทฺเว อนนฺตรูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิ. เตสุ คณนา ปากฏาเยว. ตโต ทฺเว อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม โลกิยกุสลากุสลเจตนาปจฺจยภาวโต คเหตพฺพา, ทุติเย โลกุตฺตรกุสลาว.

๔๖๗-๔๖๘. ปุเรชาตมูลเก อารมฺมเณ ตีณีติ อพฺยากโต กุสลาทีนํ. อธิปติยา เอกนฺติ อพฺยากโต อกุสลสฺส. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน สตฺต ฆฏนานิ. เตสุ ปมํ วตฺถารมฺมณวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ วตฺถุวเสเนว, ตติยํ อารมฺมณวเสน, จตุตฺถํ วตฺถุสฺส อารมฺมณกาลวเสน, ปฺจมํ อารมฺมณาธิปติวเสน, ฉฏฺํ วตฺถุโน อารมฺมณาธิปติกาลวเสน, สตฺตมํ จกฺขาทิวเสน.

๔๖๙-๔๗๒. ปจฺฉาชาตมูลเก วีสติ ปจฺจยา น ยุชฺชนฺติ, ตโยว โยชนํ ลภนฺติ. เอกเมเวตฺถ ฆฏนํ, ตํ กายสฺส กุสลาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ. อาเสวนมูลเกปิ เอกเมว ฆฏนํ.

๔๗๓-๔๗๗. กมฺมมูลเก อนนฺตเร เอกนฺติ มคฺคเจตนาวเสน วุตฺตํ. อฺมฺเ ตีณีติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุปิ คเหตพฺพํ. อุปนิสฺสเย ทฺเวติ อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน เหฏฺา วุตฺตาเนว. เอวํ เสสานิปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ ปน เอกาทส ฆฏนานิ. ตตฺถ ปมานิ ทฺเว ปกตูปนิสฺสยานนฺตรูปนิสฺสยวิภาคโต นานากฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตานิ. ตโต ปรานิ จตฺตาริ วิปากาวิปากโต เอกกฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม อรูเปน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานรูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูเปน สทฺธึ วตฺถุ, ตติเย อรูปเมว, จตุตฺเถ จิตฺตสมุฏฺานรูปเมว. ปฏิสนฺธิยํ ปน กฏตฺตารูปมฺปิ ลพฺภติ. ตโต ปรานิ ปฺจ สวิปากานิ, ตานิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. วิปากมูลเก ปฺจ ฆฏานานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๔๗๘-๔๘๓. อาหารมูลเก สตฺตาติอาทีนิ วุตฺตนยาเนว. ฆฏนานิ ปเนตฺถ จตุตฺตึส. เตสุ ปมานิ ปฺจ วิปากาวิปากสามฺโต วุตฺตานิ. ตตฺถ ปเม จตฺตาโรปิ อาหารา ลพฺภนฺติ; ทุติเย ตโย อรูปาหาราว. ตติเย วตฺถุปิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ โหติ, จตุตฺเถ ตํ ปริหายติ. ปฺจเม รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํ. ตโต ปรานิ ปฺจ สวิปากฆฏนานิ, ตานิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว. ตโต ปรานิ นว ฆฏนานิ เจตนาหารวเสน วุตฺตานิ. ตโต ปรานิ นว นิราธิปติวิฺาณาหารวเสน. ตโต ปรานิ สาธิปติวิฺาณาหารวเสน ฉ ฆฏนานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ ตีณิ วิปากาวิปากสามฺวเสน วุตฺตานิ. ตีณิ วิปากวเสเนว. ตตฺถ โลกิยานํ วิปากานํ อภาวโต วตฺถุ ปริหายติ.

๔๘๔-๔๙๕. อินฺทฺริยมูลเก ปุเรชาเต เอกนฺติ จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ วเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํ. เสสํ ทุมูลกํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ฆฏนานิ ปเนตฺถ ฉ สตฺตติ. ตตฺถ ปเม สพฺพานิปิ อินฺทฺริยานิ ปจฺจยฏฺเน ลพฺภนฺติ. ทุติเย รูปชีวิตินฺทฺริยํ หายติ. น หิ ตํ นิสฺสโย โหติ. ตติเย อรูปินฺทฺริยานิ รูปานํ. จตุตฺเถ จกฺขาทีนิ จกฺขุวิฺาณาทีนํ. ตโต ปรานิ นว ฆฏนานิ สหชาตอรูปินฺทฺริยวเสน วุตฺตานิ, ตโต นว มคฺคภูตานํ อินฺทฺริยานํ วเสน, ตโต นว ฌานงฺคภูตานํ, ตโต นว ฌานมคฺคภูตานํ, ตโต นว มนินฺทฺริยวเสเนว, ตโต สาธิปตีนิ ฉ, ตโต วีริยวเสน มคฺคสมฺปยุตฺตานิ ฉ, ตโต อโมหเหตุวเสน นิราธิปตีนิ นว, สาธิปตีนิ ฉ. เตสุ สพฺเพสุ วิปากปจฺจเยน อยุตฺตานิ จ ยุตฺตานิ จ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

๔๙๖-๕๐๐. ฌานมูลเกปิ ทุมูลกํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ฆฏนานิ ปเนตฺถ ฉตฺตึส. เตสุ ปมานิ นว อินฺทฺริยมคฺคภาวํ อนามสิตฺวา สาธารณฌานงฺควเสเนว วุตฺตานิ. ตโต ปรานิ นว อินฺทฺริยภูตฌานงฺควเสน, ตโต นว มคฺคภูตฌานงฺควเสน, ตโต นว อินฺทฺริยมคฺคภูตฌานงฺควเสน. จตูสุปิ เจเตสุ นวเกสุ อาทิโต จตฺตาริ จตฺตาริ วิปากาวิปากสาธารณานิ. อวสาเน ปฺจ ปฺจ วิปากาเนว, ตานิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.

๕๐๑-๕๐๘. มคฺคมูลเกปิ ทุมูลกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ฆฏนานิ ปเนตฺถ สตฺตปฺาส. เตสุ ปมานิ นว อินฺทฺริยฌานภาวํ อนามสิตฺวา สุทฺธิกมคฺควเสเนว วุตฺตานิ. ตโต นว อินฺทฺริยภูตมคฺควเสน, ตโต นว ฌานภูตมคฺควเสน, ตโต นว อินฺทฺริยฌานภูตมคฺควเสน, ตโต ฉ อธิปติภูตมคฺควเสน, ตโต นว นิราธิปติมคฺคเหตุวเสน, ตโต ฉ สาธิปติมคฺคเหตุวเสน, ตตฺถ นวเกสุ ปฺจ ปฺจ ฉกฺเกสุ ตีณิ ตีณิ วิปากานิ. เสสานิ สาธารณานิ, ตานิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.

๕๐๙-๕๑๐. สมฺปยุตฺตมูลเก ทุมูลกํ อุตฺตานตฺถเมว. เอตฺถ ปน ทฺเวเยว ฆฏนานิ. ตตฺถ เอกํ สาธารณวเสน, เอกํ วิปากวเสน วุตฺตํ.

๕๑๑-๕๑๔. วิปฺปยุตฺตมูลเกปิ ทุมูลกํ อุตฺตานตฺถเมว. ฆฏนานิ ปเนตฺถ เตรส. ตตฺถ ปเม ปฺจาติ กุสโล อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ติณฺณนฺนมฺปิ. เอตฺถ จ อิเม วิปฺปยุตฺตาทโย สหชาตาปิ โหนฺติ, ปจฺฉาชาตปุเรชาตาปิ. ทุติเย ปุเรชาตสหชาตาว ตติเย เตเยว อธิปติวเสน. ตตฺถ กุสโล อพฺยากตสฺส ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ปน อพฺยากตสฺส จ อารมฺมณาธิปติวเสน อกุสลสฺส จาติ เอวํ จตฺตาริ. จตุตฺเถ ตีณีติ กุสลาทีนิ อพฺยากตสฺส. อินฺทฺริยานิ ปเนตฺถ รูปานิปิ อรูปานิปิ. ปฺจเม ปจฺจยา อรูปาว ฉฏฺเ วตฺถุวเสน รูปาว สตฺตเม กุสลาพฺยากตานํ วิปสฺสนาวเสน, อกุสลสฺส อสฺสาทนวเสน วตฺถุเมว. อฏฺเม ตเทวากุสลสฺส, นวเม จกฺขาทีนิ อพฺยากตสฺส, ทสเม กุสลาทโย จิตฺตสมุฏฺานานํ, เอกาทสเม ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุ ขนฺธานํ, ทฺวาทสเม ปฏิสนฺธิยํ ขนฺธา กฏตฺตารูปานํ, เตรสเม ปฏิสนฺธิยํ ขนฺธา วตฺถุสฺส.

๕๑๕-๕๑๘. อตฺถิปจฺจยมูลเก อุปนิสฺสเย เอกนฺติ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อพฺยากตํ อกุสลสฺส. เสสํ ทุมูลเก อุตฺตานเมว. ฆฏนานิ ปเนตฺถ เอกูนตึส. เตสุ ปเม อรูปวตฺถารมฺมณมหาภูตอินฺทฺริยาหารานํ วเสน สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตปจฺจยา ลพฺภนฺติ. ทุติเย ปจฺฉาชาตกพฬีการาหารา น ลพฺภนฺติ. ปมทุติยฆฏนาเนว อธิปตินา สทฺธึ อุปริ ตติยจตุตฺถานิ กตานิ. ปุน ปมเมว จตูหิ อาหาเรหิ สทฺธึ ปฺจมํ, รูปินฺทฺริเยหิ สทฺธึ ฉฏฺํ, รูปารูปินฺทฺริเยหิ สทฺธึ สตฺตมํ กตํ. ทุติยเมว วา ปน อินฺทฺริเยหิ สทฺธึ สตฺตมํ กตํ. ปมทุติยาเนว วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน สทฺธึ อฏฺมนวมานิ. เตสุ นวมํ อธิปตินา สทฺธึ ทสมํ กตํ. ตโต เอกาทสเม ปจฺจยวเสน วตฺถุ หายติ. ทฺวาทสเม อรูปธมฺมาเยว ปจฺจยา, เตรสเม วตฺถารมฺมณา, จุทฺทสเม วตฺถุเมว, ปนฺนรสเม อารมฺมณเมว, โสฬสเม วตฺถุเมว อารมฺมณํ, สตฺตรสเม ปน ตเทว อารมฺมณาธิปติภาเวน, อฏฺารสเมปิ ตเทว อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน, เอกูนวีสติเม จกฺขาทโยว ปจฺจยา. อิมานิ เอกูนวีสติ ปกิณฺณกฆฏนานิ นาม สหชาตํ อคฺคเหตฺวา วุตฺตานิ. ตโต ปรานิ ทส สหชาตวเสน วุตฺตานิ.

๕๑๙. นตฺถิวิคตมูลเกสุ อนนฺตรสมนนฺตรมูลเกสุ วิย อุปนิสฺสยาเสวนกมฺมวเสน ตีณิเยว ฆฏนานิ, อวิคตมูลกํ อตฺถิมูลกสทิสเมวาติ.

ยานิ ปเนตานิ อิมสฺมึ ปฺหาวาเร ฆฏนานิ วุตฺตานิ, ตานิ สพฺพานิปิ ทุวิธานิเยว – ปกิณฺณกโต สหชาตโต จ. ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ อารมฺมณมูลกาทีนํ อาทิโต สหชาตํ อคฺคเหตฺวา วุตฺตานิ ปกิณฺณกานิ นาม. ตานิ อารมฺมณมูลเก ปฺจปิ, อธิปติมูลเก ฉ, อนนฺตรมูลเก ตีณิปิ, ตถา สมนนฺตรมูลเก, นิสฺสยมูลเก ทส, อุปนิสฺสยมูลเก สตฺต, ปุเรชาตมูลเก สตฺต, ปจฺฉาชาตมูลเก เอกเมว, ตถา อาเสวนมูลเก, กมฺมมูลเก ทฺเว, อาหารมูลเก เอกํ, อินฺทฺริยมูลเก จตฺตาริ, วิปฺปยุตฺตมูลเก นว, อตฺถิมูลเก เอกูนวีสติ, นตฺถิมูลเก ตีณิปิ, ตถาวิคตมูลเก. อวิคตมูลเก เอกูนวีสตีติ สพฺพานิปิ สตฺเจว ตีณิ จ โหนฺติ. สหชาตนิสฺสยภาเวน ปเนตานิ ปกิณฺณกานีติ วุตฺตานิ.

ยานิ ปน สหชาตํ ลพฺภนฺติ, ตานิ สหชาตฆฏนานิ นามาติ วุจฺจนฺติ. ตานิ อารมฺมณมูลเก อนนฺตรสมนนฺตรปุเรชาตปจฺฉาชาตอาเสวนนตฺถิวิคตมูลเกสุ น ลพฺภนฺติ. น หิ เต ปจฺจยา สหชาตานํ ปจฺจยา โหนฺติ. ยถา จ สหชาตานํ น โหนฺติ, ตถา เหตุสหชาตอฺมฺวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตปจฺจยา. อสหชาตานนฺติ เหตุมูลเก สพฺพานิ จตุวีสติปิ ฆฏนานิ สหชาตฆฏนาเนว. ตถา อธิปติมูลเก จตุวีสติ, สหชาตมูลเก ทสปิ, อฺมฺมูลเก ฉปิ, นิสฺสยมูลเก ทส, กมฺมมูลเก นว, วิปากมูลเก ปฺจปิ, อาหารมูลเก เตตฺตึส, อินฺทฺริยมูลเก ทฺวาสตฺตติ ฌานมูลเก ฉตฺตึสาปิ, มคฺคมูลเก สตฺตปฺาสมฺปิ, สมฺปยุตฺตมูลเก ทฺเวปิ, วิปฺปยุตฺตมูลเก จตฺตาริ, อตฺถิมูลเก ทส, อวิคตมูลเก ทสาติ สพฺพานิปิ ตีณิ สตานิ ทฺวาทส จ โหนฺติ. อิติ ปุริมานิ สตํ ตีณิ จ อิมานิ จ ทฺวาทสุตฺตรานิ ตีณิ สตานีติ สพฺพานิปิ ปฺจทสาธิกานิ จตฺตาริ ฆฏนสตานิ ปฺหาวาเร อาคตานิ. เตสุ เย เย ปจฺจยธมฺมา นามวเสน น ปากฏา หุตฺวา ปฺายนฺติ, เตปิ เหตุมูลกาทีนํ นยานํ อาทิโต วิปากาวิปากสามฺโต วุตฺเตสุ ฆฏเนสุ ทสฺเสตพฺพา. ทฺวาทเสว หิ เหตู ฉ อารมฺมณา จตฺตาโร อธิปตโย จตฺตาโร อาหารา วีสติ อินฺทฺริยานิ สตฺต ฌานงฺคานิ ทฺวาทส มคฺคงฺคานีติ เอเต ปจฺจยธมฺมา นาม. เตสุ เย เย ธมฺมา เอกนฺเตน กุสลา, เอกนฺเตเนว อกุสลา, เอกนฺเตน กุสลวิปากา, เอกนฺเตเนวากุสลวิปากา, เอกนฺเตเนว วิปากา, เอกนฺเตเนว อวิปากา เต เต สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา เย ตตฺถ วิปากา, เต วิปากฆฏเนสุ, เย อวิปากา, เต อวิปากฆฏเนสุ ยถาโยคํ โยเชตพฺพาติ.

ปฺหาวารสฺส ฆฏเน อนุโลมคณนา.

ปจฺจนียุทฺธารวณฺณนา

๕๒๗. อิทานิ ปจฺจนียํ โหติ. ตตฺถ ยถา ปฏิจฺจ วาราทีสุ ‘‘อกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นเหตุปจฺจยา’’ติอาทินา นเยน ลพฺภมานา ปฺหา ลพฺภมานานํ ปจฺจยานํ วเสน สรูปโตว วิตฺถาริตา. เอวํ อวิตฺถาเรตฺวา เอเกน ลกฺขเณน สงฺเขปโต ปจฺจนียํ ทสฺเสตุํ ธมฺมสงฺคาหเกหิ กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติอาทินา นเยน อนุโลมโต กุสลาทีนํ ปจฺจยา อุทฺธฏา. เต จ โข ปจฺจยา สมูหวเสน, โน เอเกกปจฺจยวเสเนว; ตสฺมา เย ยตฺถ สมูหโต ทสฺสิตา, เต วิภชิตฺวา เวทิตพฺพา. สพฺเพปิ หิ อิเม จตุวีสติ ปจฺจยา อฏฺสุ ปจฺจเยสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. กตเรสุ อฏฺสุ? อารมฺมเณ, สหชาเต, อุปนิสฺสเย, ปุเรชาเต, ปจฺฉาชาเต, กมฺเม, อาหาเร, อินฺทฺริเยติ. กถํ? เปตฺวา หิ อิเม อฏฺ ปจฺจเย เสเสสุ โสฬสสุ เหตุปจฺจโย อฺมฺวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตปจฺจโยติ อิเม ฉ ปจฺจยา เอกนฺเตน สหชาตา หุตฺวา สหชาตานฺเว ปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจโยติ อิเม ปน ปฺจ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา อตฺตโน อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานฺเว ปจฺจยภาวโต อนนฺตรูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. นิสฺสยปจฺจโย สหชาตปุเรชาตเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ สหชาตนิสฺสโย สหชาตานฺเว นิสฺสยปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ, ปุเรชาตนิสฺสโย ปุเรชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ.

อธิปติปจฺจโยปิ สหชาตาธิปติอารมฺมณาธิปติวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ สหชาตาธิปติ สหชาตานํเยว อธิปติปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ. อารมฺมณาธิปติ อารมฺมณูปนิสฺสโย โหติเยวาติ อารมฺมณูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสยปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ. วิปฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตเภทโต ติวิโธ. ตตฺถ สหชาตวิปฺปยุตฺโต สหชาตานฺเว วิปฺปยุตฺตปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ. ปุเรชาตวิปฺปยุตฺโต ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ ปจฺจยภาวโต ปุเรชาเต สงฺคหิโต. ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺโต ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุเร อุปฺปนฺนานํ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺจยภาวโต ปจฺฉาชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ. อตฺถิปจฺจยอวิคตปจฺจยา สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยานฺเจว อตฺถิอวิคเตสุ จ เอเกกสฺส วเสน ฉหิ เภเทหิ ิตา. ตตฺถ สหชาตอตฺถิอวิคตา สหชาตานฺเว อตฺถิอวิคตปจฺจยภาวโต. สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปุเรชาตา ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ ปจฺจยภาวโต ปุเรชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปจฺฉาชาตา ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุเร อุปฺปนฺนานํ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺจยภาวโต ปจฺฉาชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อาหารภูตา กพฬีการาหารปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อินฺทฺริยภูตา รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เอวํ อิเม โสฬส ปจฺจยา อิเมสุ อฏฺสุ ปจฺจเยสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อิเมสมฺปิ ปน อฏฺนฺนํ ปจฺจยานํ อฺมฺํ สงฺคโห อตฺถิเยว. อาทิโต นิทฺทิฏฺโ หิ อารมฺมณปจฺจโย อธิปติอนธิปติเภเทน ทุวิโธ. ตตฺถ อธิปติภูโต อารมฺมณูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉติ. อนธิปติภูโต สุทฺโธ อารมฺมณปจฺจโยว. กมฺมปจฺจโยปิ สหชาตนานากฺขณิกวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ สหชาตกมฺมํ อตฺตนา สหชาตานฺเว กมฺมปจฺจยภาวโต สหชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติ. นานากฺขณิกกมฺมํ พลวทุพฺพลวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ พลวกมฺมํ วิปากธมฺมานํ อุปนิสฺสโยว หุตฺวา ปจฺจโย โหตีติ อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉติ. พลวมฺปิ ปน รูปานํ ทุพฺพลฺจ อรูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยเนว ปจฺจโย. อาหารปจฺจโยปิ รูปารูปโต ทุวิโธ. ตตฺถ อรูปาหาโร อตฺตนา สหชาตานฺเว ปจฺจโย โหตีติ สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ. รูปาหาโร สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตานํ ปจฺจโย น โหติ. อตฺตโน ปน อุปฺปาทกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ิติปฺปตฺโต อาหารปจฺจยตํ สาเธตีติ อาหารปจฺจโยว โหติ. อินฺทฺริยปจฺจโยปิ รูปารูปโต ทุวิโธ. ตตฺถ อรูปินฺทฺริยปจฺจโย อตฺตนา สหชาตานฺเว อินฺทฺริยปจฺจยตํ สาเธตีติ สหชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติ. รูปินฺทฺริยปจฺจโย ปน อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อินฺทฺริยปจฺจโย ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ สสมฺปยุตฺตธมฺมานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อินฺทฺริยปจฺจโย โหตีติ ปุเรชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติ. พาหิโร อินฺทฺริยปจฺจโย นาม รูปชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ สหชาตานํ ปจฺจโย โหนฺตมฺปิ อนุปาลนมตฺตวเสเนว โหติ, น ชนกวเสนาติ อินฺทฺริยปจฺจโยว โหติ. เอวํ อิเม อฏฺ ปจฺจยา อฺมฺมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาว อฏฺสุ ปจฺจเยสุ อวเสสานํ โสฬสนฺนฺเจว เตสํเยว จ อฏฺนฺนํ อฺมฺวเสน สงฺคหนโย.

อิทานิ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ปจฺจยานํ เอเกกสฺมึ จตุวีสติยาปิ ปจฺจเยสุ เย เย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, เต เต เวทิตพฺพา. ตตฺถ อฏฺนฺนํ ตาว สพฺพปเม อารมฺมณปจฺจเย อารมฺมณปจฺจโยว สงฺคหํ คจฺฉติ, น เสสา เตวีสติ. ทุติเย สหชาตปจฺจเย เหตุปจฺจโย สหชาตาธิปติปจฺจโย สหชาตปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย สหชาตนิสฺสยปจฺจโย สหชาตกมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย สหชาตอาหารปจฺจโย สหชาตอินฺทฺริยปจฺจโย ฌานปจฺจโย มคฺคปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตตฺถิปจฺจโย สหชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม ปนฺนรส ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตติเย อุปนิสฺสยปจฺจเย อธิปติภูโต อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณภูโต อธิปติปจฺจโย อนนฺตรสมนนฺตรอุปนิสฺสยอาเสวนปจฺจยา นานากฺขณิโก พลวกมฺมปจฺจโย นตฺถิปจฺจโย วิคตปจฺจโยติ อิเม นว ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. จตุตฺเถ ปุเรชาตปจฺจเย ปุเรชาตนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย ปุเรชาตินฺทฺริยปจฺจโย ปุเรชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปุเรชาตตฺถิปจฺจโย ปุเรชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม ฉ ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปฺจเม ปจฺฉาชาตปจฺจเย ปจฺฉาชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจโย ปจฺฉาชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ฉฏฺเ กมฺมปจฺจเย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโยว สงฺคหิโต. สตฺตเม อาหารปจฺจเย กพฬีการาหารวเสเนว อาหารปจฺจโย อาหารตฺถิปจฺจโย อาหาราวิคตปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา สงฺคหิตา. อฏฺเม อินฺทฺริยปจฺจเย รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจโย อินฺทฺริยตฺถิปจฺจโย อินฺทฺริยาวิคตปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เอวํ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ปจฺจยานํ เอเกกสฺมึ อิเม จิเม จ ปจฺจยา สงฺคหํ คตาติ ตฺวา เย ยตฺถ สงฺคหํ คตา, เต ตสฺส คณเนน คหิตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

เอวํ สพฺพปจฺจยสงฺคาหกานํ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน เอกูนปฺาสาย ปฺเหสุ อิมสฺมึ ปจฺจนีเย ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทโย อิเม ปนฺนรส ปฺหา อุทฺธริตฺวา วิสฺสชฺชิตา. ตตฺถ กุสโล กุสลสฺส, กุสโล อกุสลสฺส, กุสโล อพฺยากตสฺส, กุสโล กุสลาพฺยากตสฺสาติ กุสลาทิกา จตฺตาโร ปฺหา; ตถา อกุสลาทิกา; อพฺยากโต ปน อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต กุสลสฺส, อพฺยากโต อกุสลสฺสาติ อพฺยากตาทิกา ตโย; กุสโล จ อพฺยากโต จ กุสลสฺส; ตถา อพฺยากตสฺส; อกุสโล จ อพฺยากโต จ อกุสลสฺส; ตถา อพฺยากตสฺสาติ ทุมูลเกกาวสานา จตฺตาโร โหนฺติ. เตสุ ปเม ปฺเห เยหิ ภวิตพฺพํ, เต สพฺเพ สงฺคเหตฺวา ตโย ปจฺจยา วุตฺตา. ทุติเย ทฺเว, ตติเย ปฺจ, จตุตฺเถ เอโกว ปฺจเม ตโย, ฉฏฺเ ทฺเว, สตฺตเม ปฺจ, อฏฺเม เอโกว นวเม สตฺต, ทสเม ตโย, เอกาทสเม ตโย, ทฺวาทสเม ทฺเว, เตรสเม จตฺตาโร, จุทฺทสเม ทฺเว, ปนฺนรสเมปิ จตฺตาโรว. เต ‘‘สหชาตปจฺจเยนา’’ติ อวตฺวา ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาต’’นฺติ วุตฺตา. ตตฺถ การณํ ปรโต วกฺขาม.

สมาสโต ปเนตฺถ เอโก ทฺเว ตโย จตฺตาโร ปฺจ สตฺตาติ ฉเฬว ปจฺจยปริจฺเฉทา โหนฺติ. อยํ ปฺหาวารสฺส ปจฺจนีเย อุกฺกฏฺวเสน ปฺหาปริจฺเฉโท เจว เต เต ปจฺจเย สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตปจฺจยปริจฺเฉโท จ. ‘‘น เหตุปจฺจโย’’ติอาทีสุ หิ จตุวีสติยาปิ ปจฺจยปจฺจนีเยสุ เอกปจฺจนีเยปิ อิโต อุทฺธํ ปฺหา วา ปจฺจยา วา น ลพฺภนฺติ, เหฏฺา ลพฺภนฺติ. ตสฺมา เยสุ ปฺเหสุ ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ ธมฺมสฺส สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ เอโกว ปจฺจโย อาคโต, ตสฺมึ ปจฺจเย ปฏิกฺขิตฺเต เต ปฺหา ปริหายนฺติ. ยสฺมึ ปน ปฺเห ‘‘กุสโล ธมฺโม อกุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ ทฺเว ปจฺจยา อาคตา. ตตฺถ นารมฺมณปจฺจยาติ เอวํ เอกสฺมึ ปจฺจเย ปฏิกฺขิตฺเตปิ อิตรสฺส ปจฺจยสฺส วเสน โส ปฺโห ลพฺภเตว. เตสุ ปน ทฺวีสุปิ ปจฺจเยสุ ปฏิกฺขิตฺเตสุ โส วาโร ปจฺฉิชฺชติ. เอวเมว เยสุ ปฺเหสุ ตโย จตฺตาโร ปฺจ สตฺต วา ลพฺภนฺติ, เตสุ เปตฺวา ปฏิกฺขิตฺเต ปจฺจเย อวเสสานํ วเสน เต ปฺหา ลพฺภนฺติเยว. สพฺเพสุ ปน ปจฺจเยสุ ปฏิกฺขิตฺเตสุ สพฺเพปิ เต วารา ปจฺฉิชฺชนฺตีติ อิทเมว เจตฺถ ลกฺขณํ. อิมินา ลกฺขเณน อาทิโต ปฏฺาย เตสุ เตสุ ปฺเหสุ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตปจฺจยานํ ปเภโท จ ตสฺมึ ตสฺมึ ปจฺจนีเย เตสํ เตสํ ปฺหานํ ปริหานิ จ เวทิตพฺพา.

ตตฺรายํ วิตฺถารกถา – ปมปฺเห ตาว ตีหิ ปจฺจเยหิ เอกูนวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตา. กถํ? กุสโล หิ กุสลสฺส ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากวิปฺปยุตฺเตเหว ปจฺจโย น โหติ, เสเสหิ วีสติยา โหติ, เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโกว สหชาเต ปน สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปนฺนรส ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตา. เตสุ เหตุปจฺจเย ปฏิกฺขิตฺเต จุทฺทส โหนฺติ. กุสโล ปน กุสลสฺส เนว วิปากปจฺจโย น, วิปฺปยุตฺตปจฺจโยติ เต ทฺเว อปเนตฺวา เสเส ทฺวาทส สนฺธาย สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํ. อุปนิสฺสยปจฺจเยปิ สพฺพสงฺคาหิกวเสน นว ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตา. เตสุ อธิปติภูโต อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณภูโต จ อธิปติปจฺจโย อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อุปนิสฺสยเมว อนุปวิฏฺโ. กุสโล ปน กุสลสฺส นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย น โหตีติ ตํ อปเนตฺวา เสเส ฉ สนฺธาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํ. เอวํ ปมปฺเห ตีหิ ปจฺจเยหิ เอกูนวีสติปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เตสุ อิมสฺมึ เหตุปจฺจนีเย ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ เอวมาทินา อารมฺมณปจฺจยาทีสุ วุตฺตนเยเนว อุทฺธริตฺวา ปาฬิ ทสฺเสตพฺพา.

อารมฺมณปจฺจเย ปน ปฏิกฺขิตฺเต ตสฺส วิตฺถารํ อปเนตฺวา เหตุปจฺจยวิตฺถารํ ปกฺขิปิตฺวา สาเยว ปาฬิ ทสฺเสตพฺพา, เสสปจฺจยปฏิกฺเขเปสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมึ ปน ปจฺจเย ปฏิกฺขิตฺเต เย วารา ปริหายนฺติ, เต ปรโต วกฺขาม.

ทุติยปฺเห ปน ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตา. กถํ? กุสโล หิ อกุสลสฺส อนนฺตราทิวเสน ปจฺจโย น โหติ. ตสฺมา เต อปเนตฺวา อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน สงฺคหิตํ อารมฺมณาธิปติฺเจว ปกตูปนิสฺสยฺจ สนฺธาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํ. ตสฺมา สุทฺโธ อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณาธิปติวเสน อธิปติปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโยติ ทุติยปฺเห ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ อิเม ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

ตติยปฺเห ปน ปฺจหิ ปจฺจเยหิ อฏฺารส ปจฺจยา ทสฺสิตา. กถํ? กุสโล หิ อพฺยากตสฺส อฺมฺปุเรชาตาเสวนวิปากสมฺปยุตฺเตหิเยว ปจฺจโย น โหติ, เสเสหิ เอกูนวีสติยา โหติ. เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโก. ยสฺมา ปน กุสโล อพฺยากตสฺส อฺมฺวิปากสมฺปยุตฺตวเสน ปจฺจโย น โหติ, เหตุปจฺจโย ปฏิกฺขิตฺโต, กมฺมปจฺจโย วิสุํ คหิโต, ตสฺมา อิเม ปฺจ อปเนตฺวา สหชาเตน ทส ปจฺจยา ทสฺสิตา. อุปนิสฺสเยน เหฏฺา วุตฺเตสุ ฉสุ เปตฺวา อาเสวนํ เสสา ปฺจ. ปจฺฉาชาโต เอโกว ตถา สหชาตนานากฺขณิกวเสน ทุวิโธปิ กมฺมปจฺจโยติ เอวํ ตติยปฺเห ปฺจหิ ปจฺจเยหิ อิเม อฏฺารส ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

จตุตฺถปฺเห ปน เอเกน ปจฺจเยน ทส. กถํ? กุสโล หิ กุสลาพฺยากตสฺส สหชาเต วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ อฺมฺวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺเตหิ ปจฺจโย น โหติ, เหตุปจฺจโย ปฏิกฺขิตฺโต. อิติ อิเม ปฺจ อปเนตฺวา เสสา ทส ปจฺจยา เอตฺถ เอเกน ปจฺจเยน ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๕๒๘. ยถา จ อิเมสุ กุสลาทิเกสุ จตูสุ, ตถา อกุสลาทิเกสุปิ จตูสุ ปฺเหสุ เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ เต เตเยว ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.

๕๒๙. ตโต ปรานํ อพฺยากตาทีนํ ติณฺณํ ปฺหานํ ปมปฺเห สตฺตหิ ปจฺจเยหิ เตวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตา. กถํ? อพฺยากโต หิ อพฺยากตสฺส จตุวีสติยาปิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. เหตุปจฺจเย ปน ปฏิกฺขิตฺเต เตวีสติ โหนฺติ. เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโกว. ยสฺมา ปเนตฺถ อสหชาตานมฺปิ สงฺคหณตฺถํ อาหารินฺทฺริยปจฺจยา วิสุํ คหิตา. ตสฺมา อิเม ตโย อปเนตฺวา สหชาเตน ทฺวาทส ปจฺจยา ทสฺสิตา. อุปนิสฺสเยน เหฏฺา วุตฺตา ฉ, ปุเรชาโต เอโกว ตถา ปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยปจฺจยาติ เอวเมตฺถ สตฺตหิ ปจฺจเยหิ อิเม เตวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. ทุติเย ตีหิ ปจฺจเยหิ ทฺวาทส ทสฺสิตา. กถํ? อารมฺมณปจฺจโย เอโก, อุปนิสฺสเยน ปน อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อารมฺมณาธิปติอนนฺตรสมนนฺตรนตฺถิวิคตอุปนิสฺสยปจฺจโยติ ฉ ทสฺสิตา. ปุเรชาเตน ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตา ปฺจาติ เอวเมตฺถ ตีหิ ปจฺจเยหิ อิเม ทฺวาทส ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. ตติเยปิ เอเสว นโย.

๕๓๐. ตโต ปรานํ ทุกมูลกานํ จตุนฺนํ ปฺหานํ ปมปฺเห ‘‘สหชาตปจฺจเยน ปุเรชาตปจฺจเยนา’’ติ อวตฺวา ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วุตฺเตหิ ทฺวีหิ นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตา. กุสลา หิ ขนฺธา วตฺถุนา สทฺธึ เอกโต กุสลสฺส ปจฺจยภาวํ สาธยมานา กิฺจาปิ สหชาตา, สหชาตปจฺจยา ปน น โหนฺติ วตฺถุมิสฺสกตฺตา. ตสฺมา เตสํ สหชาตานํ นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน สหชาตนฺติ วุตฺตํ. วตฺถุมฺหิปิ เอเสว นโย. ตมฺปิ หิ กิฺจาปิ ปุเรชาตํ, ขนฺธมิสฺสกตฺตา ปน ปุเรชาตปจฺจโย น โหติ. เกวลํ ปุเรชาตานํ นิสฺสยาทีนํ วเสน ปุเรชาตนฺติ วุตฺตํ.

ทุติยปฺเห ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ วุตฺเตหิ จตูหิปิ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน จตฺตาโร ปจฺจยา ทสฺสิตา. อิมสฺมิฺหิ วาเร สหชาตปจฺจโย ลพฺภติ, ปจฺฉาชาตปจฺจยาทโย น ลพฺภนฺติ. ปจฺฉาชาตานํ ปน อาหารินฺทฺริยสงฺขาตานฺจ อตฺถิอวิคตานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. กุสลา หิ ขนฺธา อพฺยากตา จ มหาภูตา อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจเยน นิสฺสยปจฺจเยน อตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ จตุธา ปจฺจยา โหนฺติ. ปจฺฉาชาตา ปน กุสลา เตหิเยว ภูเตหิ สทฺธึ เตสฺเว อุปาทารูปานํ อตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจโย. กพฬีการาหาโรปิ ปจฺฉาชาเตหิ กุสเลหิ สทฺธึ ปุเรชาตสฺส กายสฺส อตฺถิอวิคตวเสเนว ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ ปจฺฉาชาเตหิ กุสเลหิ สทฺธึ กฏตฺตารูปานํ อตฺถิอวิคตปจฺจเยเนว ปจฺจโย. อิติ อิมํ จตุธา ปจฺจยภาวํ สนฺธาย ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. ปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยปจฺจยา ปเนตฺถ น ลพฺภนฺติเยว. ปรโต อกุสลมิสฺสกปฺหาทฺวเยปิ เอเสว นโยติ. เอวเมตฺถ เตสุ เตสุ ปฺเหสุ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตปจฺจยานํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตสฺมึ ปน ปจฺจเย เตสํ เตสํ ปฺหานํ ปริหานาปริหานึ ปรโต อาวิกริสฺสามาติ.

ปจฺจนียุทฺธารสฺส อตฺถวณฺณนา.

ปจฺจนียคณนวณฺณนา

๕๓๒. อิทานิ เอเต ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺสา’’ติอาทโย อนุโลมวเสน ปนฺนรส วารา ทสฺสิตา. ยสฺมา ปจฺจนีเยปิ เอเตเยว, น อิโต อุทฺธํ; เหฏฺา ปน โหนฺติ, ตสฺมา ยสฺส ยสฺส ปจฺจยสฺส ปจฺจนีเย เย เย วารา ลพฺภนฺติ, เต เต อาทิโต ปฏฺาย คณนวเสน ทสฺเสตุํ นเหตุยา ปนฺนรสาติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ นเหตุยา สพฺเพสมฺปิ ยถาทสฺสิตานํ ปจฺจยานํ วเสน ปนฺนรส ลพฺภนฺติ. นารมฺมเณ สหชาเต เหตุปจฺจโย ปวิสติ. ตสฺมึ ตสฺมึ วาเร สุทฺโธ อารมฺมณปจฺจโย ปริหายติ, เสสปจฺจยวเสน เต วารา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติ. ยถา จ นารมฺมเณ, เอวํ เสเสสุปิ. สหชาเต เหตุปจฺจโย ปวิสติ. ตสฺมึ ตสฺมิฺจ วาเร นอุปนิสฺสเย นอนนฺตเรติ เอวํ ปจฺจนียโต ิตา ปจฺจยา ปริหายนฺติ, อวเสสปจฺจยวเสน เต เต วารา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติ. นสหชาเต ปน ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ, อกุสโล ธมฺโม อกุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ, กุสโล จ อพฺยากโต จ ธมฺมา กุสลสฺส, อกุสโล จ อพฺยากโต จ ธมฺมา อกุสลสฺสาติ อิเม จตฺตาโร วารา ปริหายนฺติ. เอเตสฺหิ จตุนฺนํ ปุริเมสุ ทฺวีสุ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอกาทสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน เอโกว ปจฺจยสงฺคโห วุตฺโต. เต ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต อฺเนากาเรน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ. ปจฺฉิเมสุ ทฺวีสุ นิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเย สนฺธาย ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วุตฺตํ. เต สหชาเต ปฏิกฺขิตฺเต อวเสสานํ เหตุอาทีนฺจ ปุเรชาตานฺเจว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตสฺมา อิเม จตฺตาโรปิ วารา ปริหายนฺติ. อวเสสานํ วเสน ‘‘เอกาทสา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ สิยา – ยถา เหตุมฺหิ ปฏิกฺขิตฺเต เสสานํ อธิปติอาทีนํ วเสน เต วารา ลทฺธา, เอวํ สหชาเต ปฏิกฺขิตฺเต อวเสสานํ เหตุอาทีนํ วเสน กสฺมา น ลพฺภนฺตีติ? นิปฺปเทสตฺตา. เหตุอาทโย หิ สหชาตานํ เอกเทสมตฺตโต สปฺปเทสา, ตสฺมา เตสุ ปฏิกฺขิตฺเตสุ อฺเสํ วเสน เต วารา ลพฺภนฺติ. สหชาโต ปน นิปฺปเทโส สพฺเพปิ เหตุอาทโย คณฺหาติ, ตสฺมา ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต สพฺเพปิ เต ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติ. น หิ อสหชาตา เหตุปจฺจยาทโย นาม อตฺถิ. อิติ สหชาตสฺส นิปฺปเทสตฺตา ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต สพฺเพปิ เต อุโภปิ วารา น ลพฺภนฺติ. ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วิสฺสชฺชิตวาเรสุ ปน กิฺจาปิ สหชาตปจฺจโยเยว นตฺถิ, ยสฺมา ปเนตฺถ สหชาตาว อรูปกฺขนฺธา นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจยา, สหชาเต จ ปฏิกฺขิตฺเต เอกนฺเตน สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตา ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เตปิ วารา น ลพฺภนฺตีติ เอวํ สพฺพถาเปตฺถ อิเม จตฺตาโร วารา ปริหายนฺติ. อวเสสานฺเว วเสน เอกาทสาติ วุตฺตํ.

นอฺมฺนนิสฺสยนสมฺปยุตฺเตปิ เตเยว วารา ปริหายนฺติ. กสฺมา? สหชาตคติกตฺตา. ยเถว หิ อรูปธมฺมภูโต สหชาตปจฺจโย นิปฺปเทเสน จตฺตาโร อรูปกฺขนฺเธ คณฺหาติ, ตถา อฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตาปีติ สหชาตคติกตฺตา เอเตสุปิ ปฏิกฺขิตฺเตสุ เต วารา น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา. เตน วุตฺตํ นอฺมฺเ เอกาทส, นนิสฺสเย เอกาทส, นสมฺปยุตฺเต เอกาทสาติ.

ตตฺถ สิยา – กิฺจาปิ อิเม อวิเสเสน กุสลาทิเภทานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สงฺคาหกตฺตา สหชาตคติกา, กุสโล ปน กุสลาพฺยากตสฺส เปตฺวา สหชาตปจฺจยํ อฺถา ปจฺจโยว น โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต โส วาโร ปริหายตุ. กุสโล ปน กุสลาพฺยากตานํ เนว อฺมฺปจฺจโย โหติ, ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต โส วาโร กสฺมา ปริหายตีติ? อฺมฺปจฺจยธมฺมวเสน ปวตฺติสพฺภาวโต. ยเถว หิ กุสลาพฺยากตา กุสลสฺส สหชาตปจฺจโยว น โหนฺติ. สหชาตธมฺมวเสน ปน นิสฺสยปจฺจยาทีหิ ปวตฺติสพฺภาวโต ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต โส วาโร ปริหายติ, เอวมิธาปิ อฺมฺปจฺจยธมฺมวเสน สหชาตาทีหิ ปวตฺติสพฺภาวโต ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต โส วาโร ปริหายติ. นอฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปทสฺส หิ อยมตฺโถ – เย ธมฺมา อฺมฺปจฺจยสงฺคหํ คตา, น เตหิ ปจฺจโย. กุสโล จ กุสลาพฺยากตานํ สหชาตาทิวเสน ปจฺจโย โหนฺโต อฺมฺปจฺจยธมฺเมเหว ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ปฏิกฺขิตฺเต โส วาโร ปริหายติ. ยถา จ โส วาโร, ตถา เสสาปิ ตโยติ จตฺตาโรปิ เต วารา ปริหายนฺติ.

นนิสฺสเย เอกาทสาติ เอตฺถาปิ ยสฺมา เตสํ วารานํ เอเกนฺเตน สหชาตปจฺจยธมฺมาว นิสฺสยภูตา, ตสฺมา นิสฺสเย ปฏิกฺขิตฺเต ปริหายนฺติ. นปุเรชาเต เตรสาติ สหชาตํ ปุเรชาตนฺติ วุตฺตวิสฺสชฺชเน ทฺวิมูลเก ทฺเว อปเนตฺวา เตรส. ยถา หิ เต สหชาเต ปฏิกฺขิตฺเต ปุเรชาตานฺเว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตถา ปุเรชาเตปิ ปฏิกฺขิตฺเต สหชาตานฺเว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตสฺมา เต อปเนตฺวา เตรสาติ เวทิตพฺพา.

นปจฺฉาชาเต ปนฺนรสาติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วา ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ วา อาคตฏฺาเนสุ เปตฺวา ปจฺฉาชาตํ อวเสสวเสนปิ เต ปฺหา ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ปนฺนรเสว วุตฺตา. นกมฺเมติอาทีสุ ยสฺมา กมฺมวิปากาหารินฺทฺริยฌานมคฺคาปิ กุสลาทิเภทานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ เอกเทโสว ตสฺมา เปตฺวา เต ธมฺเม อวเสสธมฺมวเสน สหชาตธมฺมา ปจฺจยา โหนฺตีติ เอกมฺปิ ปฺหาวิสฺสชฺชนํ น ปริหีนํ. นสมฺปยุตฺเต เอกาทสาติ ยสฺมา เตสุ จตูสุ วาเรสุ สมฺปยุตฺตธมฺมา สหชาตาทิปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา สมฺปยุตฺตปจฺจยปฏิกฺเขเปน เตเยว วารา ปริหายนฺตีติ เวทิตพฺพา. นวิปฺปยุตฺเต นวาติ ทุมูลกเอกาวสานา จตฺตาโร เอกมูลกทุกาวสานา ทฺเว จาติ อิเม ฉ วารา เอกนฺเตน วิปฺปยุตฺตปจฺจยธมฺเมหิ ยุตฺตา. เตหิ สหชาตาทิวเสน ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา วิปฺปยุตฺเต ปฏิกฺขิตฺเต สพฺเพปิ เต ปริหายนฺตีติ นเวว ลพฺภนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นวิปฺปยุตฺเต นวา’’ติ. โนอตฺถิโนอวิคเตสุปิ เตเยว เวทิตพฺพา. เอกนฺเตน หิ เต วารา อตฺถิอวิคตปจฺจยธมฺมยุตฺตา, ตสฺมา เต เตสํ ปฏิกฺเขเป ปริหายนฺติ. เยปิ ลพฺภนฺติ, เตสุ อารมฺมณวเสน อนนฺตราทิวเสน วา วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานิ. สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยเภทโต ปฺจนฺนํ อตฺถิอวิคตานํ วิปฺปยุตฺตธมฺมานํ วา วเสน น กาตพฺพานีติ.

๕๓๓. เอวํ ปจฺจนีเย ลทฺธวาเร คณนโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทุมูลกาทิวเสน ปจฺจยคณนํ ทสฺเสตุํ นเหตุปจฺจยา นารมฺมเณ ปนฺนรสาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นเหตุมูลกทุเกสุ อติเรกคณโน อูนตรคณเนน สทฺธึ โยชิโต อูนตรคณโนว โหติ.

ติมูลเก นอุปนิสฺสเย เตรสาติ กุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล กุสลสฺสาติ ทฺเว วารา ปริหายนฺติ. กสฺมา? นารมฺมเณน สทฺธึ นอุปนิสฺสยสฺส ฆฏิตตฺตา. อารมฺมณวเสน หิ อุปนิสฺสยวเสน จ อิเมสํ ปวตฺติ. ตฺจ อุภยํ ปฏิกฺขิตฺตํ. อารมฺมณาธิปติ จ อารมฺมณูปนิสฺสยคฺคหเณน คหิโต โหติเยว.

ฉมูลเกปิ นอุปนิสฺสเย เตรสาติ เตเยว เตรส. สตฺตมูลเก ปน นอุปนิสฺสเย สตฺตาติ นสหชาเตน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา ตตฺถ ปริหีเนหิ จตูหิ สทฺธึ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, กุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล กุสลสฺสา’’ติ อิเม อนนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยวเสน ปวตฺตมานา จตฺตาโรติ อฏฺ ปริหายนฺติ, ตสฺมา อวเสสานํ วเสน สตฺตาติ วุตฺตํ. นปุเรชาเต เอกาทสาติ นสหชาเตน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา เอกาทส. นปจฺฉาชาเต นวาติ เตสุ เอกาทสสุ สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริยนฺติ ลทฺธวิสฺสชฺชเนสุ ทุมูลเก อพฺยากตนฺเต ทฺเว วาเร อปเนตฺวา. เต หิ สหชาเต ปฏิกฺขิตฺเตปิ ปจฺฉาชาตวเสน อปริหีนา. สหชาเตน ปน สทฺธึ ปจฺฉาชาเต ปฏิกฺขิตฺเต ปริหายนฺตีติ เสสานํ วเสน นวาติ วุตฺตํ. อฏฺมูลเก นนิสฺสเย เอกาทสาติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว. นวมูลเก นอุปนิสฺสเย ปฺจาติ กุสลาทโย อพฺยากตนฺตา ตโย ทุมูลกา อพฺยากตนฺตา ทฺเว จาติ ปฺจ. เตสุ นานากฺขณิกกมฺมกพฬีการาหารรูปชีวิตินฺทฺริยปจฺฉาชาตธมฺมวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ.

ทสมูลเก นปุเรชาเต ปฺจาติอาทีสุปิ เตเยว. นปจฺฉาชาเต ตีณีติ ปจฺฉาชาตวเสน ลพฺภมาเน ทุมูลเก อพฺยากตนฺเต ทฺเว อปเนตฺวา อวเสสา. นวิปฺปยุตฺเตปิ เตเยว ตโย. โนอตฺถิยา ทฺเวติ นานากฺขณิกกมฺมวเสน กุสลฺจ อกุสลฺจ กฏตฺตารูปสฺส. วิปากํ ปเนตฺถ นอุปนิสฺสเยน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา น ลพฺภติ. เอกาทสมูลเก เหฏฺา วุตฺตสทิสาว คณนา. ทฺวาทสมูลเก นกมฺเม เอกนฺติ อพฺยากเตน อพฺยากตํ. ตตฺถ จ อาหารินฺทฺริยวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. เตรสมูลกาทีสุปิ สพฺพตฺถ เอกนฺติ อาคตฏฺาเน อิทเมว คเหตพฺพํ. นาหาเร ปน อินฺทฺริยวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. นอินฺทฺริเย อาหารวเสน. จุทฺทสมูลกาทีสุ นกมฺเมน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา โนอตฺถิโนอวิคตา น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตา. นาหารปจฺจยา นฌานปจฺจยาติ นอินฺทฺริยํ อปเนตฺวา วุตฺตํ. ตสฺมา ตตฺถ อินฺทฺริยวเสน เอกํ เวทิตพฺพํ. นวิปากปจฺจยา นอินฺทฺริยปจฺจยาติ นาหารํ อปเนตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ อาหารวเสน เอกํ เวทิตพฺพํ. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปจฺจนียโต ิเตสุ คณนา นาม นตฺถิ, ตสฺมา เอกโต น ทสฺสิตาติ.

นเหตุมูลกํ.

๕๓๔. นารมฺมณมูลกาทีสุปิ ปนฺนรสเตรสเอกาทสนวาติ สพฺพทุเกสุ จตฺตาโรว มูลคณนปริจฺเฉทา. ติกาทีสุ ปน พหุปจฺจยสมาโยเค อิตรานิปิ สตฺต ปฺจ ตีณิ ทฺเว เอกนฺติ ปริจฺฉินฺนคณนานิ วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺติเยว. เตสุ เยสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ยํ ยํ ลพฺภติ, ตํ ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา อุทฺธริตพฺพํ. สพฺเพสุ เจเตสุ นารมฺมณมูลกาทีสุ นารมฺมณาทีนิ ปทานิ อติกฺกนฺเตน เหตุปเทน สทฺธึ ปมํ พนฺธิตฺวาว จกฺกานิ กตานิ. ยสฺมา ปน ตานิ นเหตุมูลเก วุตฺตสทิสาเนว โหนฺติ, ตสฺมา วิตฺถาเรน อทสฺเสตฺวา สงฺเขปํ กตฺวา ทสฺสิตานิ. ตตฺถ ยถา นเหตุมูลเก นารมฺมณนอุปนิสฺสยา วิสุํ วิสุํ ปนฺนรส วาเร ลภนฺตาปิ สมาโยเค เตรส ลภึสุ, เอวํ สพฺพตฺถ เตรเสว ลภนฺติ. ยถา จ นารมฺมณนสหชาเตหิ สทฺธึ นอุปนิสฺสเย สตฺต วารา โหนฺติ, เอวํ นอุปนิสฺสยนารมฺมเณหิ สทฺธึ นสหชาเตปิ สตฺต.

๕๓๘. นนิสฺสยปจฺจยา นอุปนิสฺสยปจฺจยา นปจฺฉาชาเต ตีณีติ กุสลาทีนิ อพฺยากตนฺตานิ. เตสุ กฏตฺตารูปฺจ อาหารสมุฏฺานฺจ ปจฺจยุปฺปนฺนํ.

๕๔๓-๕๔๔. นาหารนอินฺทฺริยมูลเกสุ จตุกฺเกสุ นกมฺเมน สทฺธึ อฆฏิตตฺตา นเหตุมูลเก วิย เอเกนฺเตน ลพฺภนฺติ. นอินฺทฺริยมูลเก นอุปนิสฺสเย จ นปุเรชาเต จ เปตฺวา นาหาเร ตีณีติ กาตพฺพนฺติ นอินฺทฺริยปจฺจยโต ปฏฺาย อิเม ทฺเว ปจฺจเย ฆเฏตฺวา นอินฺทฺริยปจฺจยา…เป… นอุปนิสฺสยปจฺจยา นาหาเร ตีณี. นอินฺทฺริยปจฺจยา…เป… นปุเรชาตปจฺจยา นาหาเร ตีณีติ เอวํ อิเมหิ ปจฺจเยหิ สทฺธึ นาหารปจฺจเย จ คณนา กาตพฺพาติ อตฺโถ. ตตฺถ ตีณีติ กุสลาทีเนว อพฺยากตสฺส. ตตฺถ กุสลากุสลา กฏตฺตารูปานํ ปุเรชาตสฺส จ กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน, อพฺยากตา ปน จิตฺตเจตสิกา ปจฺฉาชาตปจฺจเยเนวาติ อิเมสํ วเสน ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานิ. ปรโต ปน นปจฺฉาชาเตน สทฺธึ ฆฏิตตฺตา นาหาเร ทฺเวติ วุตฺตํ. ตตฺถ กฏตฺตารูปวเสน กุสลํ อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสลนฺติ เอตฺตกเมว ลพฺภติ. อาหารสฺส ปน ปฏิกฺขิตฺตตฺตา กพฬีการาหาโร อตฺถิอวิคตวเสนาปิ ปจฺจยภาวํ น ลภติ.

๕๔๕. นวิปฺปยุตฺตมูลกสฺส จตุมูลเก นอุปนิสฺสเย ปฺจาติ กุสโล สหชาตกุสลสฺส, กุสโล กฏตฺตารูปสงฺขาตสฺส อพฺยากตสฺส, อกุสโล สหชาตอกุสลสฺส, ตถา กฏตฺตารูปสงฺขาตสฺส อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต สหชาตอพฺยากตสฺสาติ เอวํ ปฺจ. นวิปฺปยุตฺตปจฺจยา…เป… นอุปนิสฺสเย ตีณีติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กุสลาทโย ตโย อพฺยากตสฺส.

๕๔๖. โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุยา นวาติ นเหตุปจฺจยา โนอตฺถิยา วุตฺตา นเวว. สพฺเพปิ หิ เต เอกมูลเกกาวสานา อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน ลพฺภนฺติ. นารมฺมเณ นวาติปิ เตเยว นารมฺมเณ ตฺวา นอุปนิสฺสเย ทฺเว กาตพฺพา. ยาว นิสฺสยมฺปีติ โนอตฺถิมูลเก นเย ‘‘โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จกฺกพนฺธคมเนน นารมฺมณปจฺจเย ตฺวา อิเมหิ วา ตีหิ, อิโต ปเรสุ นาธิปติอาทีสุ อฺตรฺตเรน วา สทฺธึ ยาว นิสฺสยปจฺจยํ ปาปุณาติ, ตาว คนฺตฺวา นอุปนิสฺสเย ทฺเว วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานีติ อตฺโถ.

เอวํ ลกฺขณํ เปตฺวา ปุน นารมฺมณโต ปฏฺาย ยาว นิสฺสยา สตฺต ปจฺจเย คเหตฺวา นอุปนิสฺสเย ทฺเวติ อาห. ตตฺถ โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา นอุปนิสฺสเย ทฺเว, โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุนารมฺมณนาธิปติปจฺจยา นอุปนิสฺสเย ทฺเวติ เอวํ นารมฺมณโต ปุริมปจฺฉิเมหิ นิสฺสยปริโยสาเนหิ สพฺพปเทหิ สทฺธึ โยชนา กาตพฺพา. ทฺเวติ ปเนตฺถ กุสโล อพฺยากตสฺส, อกุสโล อพฺยากตสฺสาติ นานากฺขณิกกมฺมวเสน กฏตฺตารูปสฺส ปจฺจยวเสน เวทิตพฺพานิ. นอุปนิสฺสยปเทน สทฺธึ นปุเรชาตาทีสุ สพฺพตฺถ ทฺเว. กมฺมปจฺจโย ปเนตฺถ น คหิโต. ตสฺมิฺหิ คหิเต เตปิ ทฺเว วารา ฉิชฺชนฺติ, วิสฺสชฺชนเมว น ลพฺภติ. เอวํ เยน เยน สทฺธึ ยสฺส ยสฺส สํสนฺทเน. ยํ ลพฺภติ, ยฺจ ปริหายติ, ตํ สพฺพํ สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สพฺพปจฺจนีเยสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติ.

ปจฺจนียคณนวณฺณนา.

อนุโลมปจฺจนียวณฺณนา

๕๕๐. อนุโลมปจฺจนีเย ‘‘เหตุยา สตฺต, อารมฺมเณ นวา’’ติ เอวํ อนุโลเม ‘‘นเหตุยา ปนฺนรส, นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ เอวํ ปจฺจนีเย จ ลทฺธคณเนสุ ปจฺจเยสุ โย ปจฺจโย อนุโลมโต ิโต, ตสฺส อนุโลเม ลทฺธวาเรหิ สทฺธึ เย ปจฺจนียโต ิตสฺส ปจฺจนีเย ลทฺธวาเรสุ สทิสวารา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพา. อนุโลมสฺมิฺหิ เหตุปจฺจเย ‘‘เหตุยา สตฺตา’’ติ สตฺต วารา ลทฺธา, ปจฺจนีเย นารมฺมณปจฺจเย ‘‘นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ ปนฺนรส ลทฺธา. เตสุ เย เหตุยา สตฺต วุตฺตา, เตหิ สทฺธึ นารมฺมเณ วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส, อกุสโล อกุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตสฺส, อพฺยากโต อพฺยากตสฺสา’’ติ อิเม สตฺต สทิสา. เต สนฺธาย เหตุปจฺจยา นอารมฺมเณ สตฺตาติ วุตฺตํ. นอธิปติยา สตฺตาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

นสหชาตสฺส ปน เหตุปจฺจยสฺส อภาวา นสหชาเต เอโกปิ น ลพฺภติ, ตสฺมา เตน สทฺธึ โยชนา น กตา. นอฺมฺเ กุสลาทโย ตโย รูปาพฺยากตสฺส ลพฺภนฺติ, เต สนฺธาย ตีณีติ วุตฺตํ. ตถา นสมฺปยุตฺเต. นวิปฺปยุตฺเต ปน กุสลํ กุสลสฺส, อกุสลํ อกุสลสฺส, อพฺยากตํ อพฺยากตสฺสาติ อรูปธมฺมวเสน ตีณิ เวทิตพฺพานิ. นนิสฺสยโนอตฺถิโนอวิคตา นสหชาโต วิย น ลพฺภนฺติเยวาติ เตหิปิ สทฺธึ โยชนา น กตา. เอวเมตฺถ สตฺต ตีณีติ ทฺเวเยว คณนปริจฺเฉทา, เตสํ วเสน อูนตรคณเนน สทฺธึ อติเรกคณนสฺสปิ คณนํ ปริหาเปตฺวา ปจฺจยฆฏเนสุ คณนา เวทิตพฺพา.

๕๕๑. ตตฺถ เหตุสหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตนฺติ นารมฺมเณ สตฺตาติ กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย, นารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย. กุสลา เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย, นารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อิมินา นเยน สตฺต วารา อุทฺธริตพฺพา. นาธิปติยา สตฺตาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ทุติเย ฆฏเน อฺมฺสฺส ปวิฏฺตฺตา เปตฺวา นสมฺปยุตฺตํ เสเสสุ ตีณีติ วุตฺตํ. นสมฺปยุตฺเต ปน อฺมฺวิปฺปยุตฺตํ ปฏิสนฺธินามรูปํ สนฺธาย เอกนฺติ วุตฺตํ. อฺมฺปจฺจโย เจตฺถ อนุโลมฆฏเน ปวิฏฺตฺตา ปจฺจนียโต น ลพฺภติ, ตสฺมา ‘‘นอฺมฺเ’’ติ น วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ เสสฆฏเนสุปิ ปวิฏฺปจฺจยา ปจฺจนียโต น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตา. ตติยฆฏเน สมฺปยุตฺตสฺส ปวิฏฺตฺตา สพฺพตฺถ ตีณิเยว. จตุตฺถฆฏเน วิปฺปยุตฺตสฺส ปวิฏฺตฺตา ตีณิ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส. ปฺจเม วิปากสฺส ปวิฏฺตฺตา สพฺพตฺถ เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํ. อิโต ปเรสุปิ วิปากสมฺปยุตฺเตสุ เอเสว นโย.

๕๕๒. เหตุสหชาตนิสฺสยอินฺทฺริยมคฺคอตฺถิอวิคตนฺติ นารมฺมเณ จตฺตารีติ กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส; อพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺพานิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. นอฺมฺเ ทฺเวติ กุสโล อพฺยากตสฺส, ตถา อพฺยากโต. ปรโตปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. อิมินา อุปาเยน สพฺพฆฏเนสุ ลพฺภมานวเสน คณนา เวทิตพฺพา. สพฺพานิปิ เจตานิ อิมสฺมึ อนุโลมปจฺจนีเย สหชาตวเสน เจว ปกิณฺณกวเสน จ ปนฺนรสาธิกานิ จตฺตาริ ฆฏนสตานิ วุตฺตานิ. เตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ฆฏเน เย อนุโลมโต ิตา ปจฺจยา, เตสํ เอโกปิ ปจฺจนียโต น ลพฺภติ. เหตุมูลเก เจตฺถ ปเม ฆฏเน อนุโลมโต ปฺจนฺนํ ปจฺจยานํ ิตตฺตา ปจฺจนียโต เอกูนวีสติ ปจฺจยา อาคตา. เอวํ เสเสสุปิ อนุโลมโต ิตาวเสสา ปจฺจนียโต อาคตา. อนุโลมโต เจตฺถ พหูสุปิ ิเตสุ ปจฺจนียโต เอเกโกว อาคโตติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ เหตุมูลเก, เอวํ อารมฺมณาทิมูลเกสุปิ สพฺพเมตํ วิธานํ ยถานุรูปโต เวทิตพฺพนฺติ.

อนุโลมปจฺจนียวณฺณนา.

ปจฺจนียานุโลมวณฺณนา

๖๓๑. ปจฺจนียานุโลเมปิ ‘‘เหตุยา สตฺต, อารมฺมเณ นวา’’ติ เอวํ อนุโลเม ‘‘นเหตุยา ปนฺนรส, นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ เอวํ ปจฺจนีเย จ ลทฺธคณเนสุ ปจฺจเยสุ โย ปจฺจนียโต ิโต, ตสฺส ปจฺจนียโต ลทฺธวาเรสุ เย อนุโลมโต ิตสฺส อนุโลมโต ลทฺธวาเรหิ สทิสา วารา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพา. ปจฺจนียสฺมิฺหิ นเหตุปจฺจเย ‘‘นเหตุยา ปนฺนรสา’’ติ ปนฺนรส วารา ลทฺธา, อนุโลเม อารมฺมณปจฺจเย ‘‘อารมฺมเณ นวา’’ติ นว วารา ลทฺธา. ตตฺถ เย นเหตุยา ปนฺนรส วุตฺตา, เตสุ เย วารา อารมฺมเณ วุตฺเตหิ นวหิ สทิสา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ เย อารมฺมเณ นว วุตฺตา, เต นเหตุยา วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ กุสโล ‘‘กุสลากุสลาพฺยากตานํ, อกุสโล อกุสลกุสลาพฺยากตานํ, อพฺยากโต อพฺยากตกุสลากุสลาน’’นฺติ อิเมหิ นวหิ สทิสา, เต สนฺธาย นเหตุยา อารมฺมเณ นวาติ วุตฺตํ. อธิปติยา ทสาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อารมฺมณาทีนฺหิ อนุโลมคณนาย เย วารา วุตฺตา นเหตุปจฺจเยน สทฺธึ สํสนฺทเนปิ เต สพฺเพ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘กุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ อิมินา อุปาเยน เตสํ ปาฬิ อุทฺธริตพฺพา.

นเหตุปจฺจยา อธิปติยา ทสาติ เอตฺถ เปตฺวา วีมํสาธิปตึ เสสาธิปติวเสน อนุโลมวิภงฺเค อาคตวารา อุทฺธริตพฺพา. เอวเมตฺถ นว ทสสตฺตตีณิเตรสเอกนฺติ ฉ คณนปริจฺเฉทา, เตสํ วเสน อูนตรคณเนน สทฺธึ อติเรกคณนสฺสาปิ คณนํ ปริหาเปตฺวา นเหตุมูลกาทีนํ นยานํ ติมูลกาทีสุ สพฺพสํสนฺทเนสุ คณนา เวทิตพฺพา. อิทํ ตาว สาธารณลกฺขณํ. น ปเนตํ สพฺพสํสนฺทเนสุ คจฺฉติ, เยหิ ปน ปจฺจเยหิ สทฺธึ เยสํ ปจฺจยานํ สํสนฺทเน เย วารา วิรุชฺฌนฺติ, เต อปเนตฺวา อวเสสานํ วเสนเปตฺถ คณนา เวทิตพฺพา.

นเหตุปจฺจยา นอารมฺมณปจฺจยา อธิปติยา สตฺตาติ เอตฺถ หิ กุสโล อกุสลสฺส; อพฺยากโต กุสลสฺส, อกุสลสฺสาติ อิเม อารมฺมณาธิปติวเสน ลพฺภมานา ตโย วารา วิรุชฺฌนฺติ. กสฺมา? นอารมฺมณปจฺจยาติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา เต อปเนตฺวา สหชาตาธิปตินเยเนเวตฺถ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส; อกุสโล อกุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตสฺส; อพฺยากโต อพฺยากตสฺสา’’ติ สตฺต วารา เวทิตพฺพา. เตปิ นเหตุปจฺจยาติ วจนโต เปตฺวา วีมํสาธิปตึ เสสาธิปตีนํ วเสน. เอวํ สพฺพตฺถ อูนตรคณนปจฺจยวเสน อวิรุชฺฌมานคณนวเสน จ คณนา เวทิตพฺพา.

เยสุ จ ปจฺจเยสุ ปจฺจนียโต ิเตสุ เย อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ, เตปิ เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ – อนนฺตเร ปจฺจนียโต ิเต สมนนฺตราเสวนนตฺถิวิคตา อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ, สหชาเต ปจฺจนียโต ิเต เหตุอฺมฺวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตา อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ, นิสฺสเย ปจฺจนียโต ิเต วตฺถุปุเรชาโต อนุโลมโต น ติฏฺติ. อาหาเร วา อินฺทฺริเย วา ปจฺจนียโต ิเต เหตุอฺมฺวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตา อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ. อารมฺมเณ ปน ปจฺจนียโต ิเต อธิปติอุปนิสฺสยา อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ, อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยา ปน น ลพฺภนฺติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ ชานิตฺวา ลพฺภมานวเสน วารา อุทฺธริตพฺพา.

ตตฺถ สพฺเพสุปิ ติมูลกาทีสุ อนนฺตเร สตฺตาติอาทโย ทุมูลเก ลทฺธวาราเยว สตฺตมูลกาทีสุ ปน นสหชาตปจฺจยา นิสฺสเย ตีณีติ ปุเรชาตวเสน วตฺถุนิสฺสเย ตีณิ. กมฺเม ทฺเว นานากฺขณิกวเสเนว. อาหาเร เอกํ กพฬีการาหารวเสน. อินฺทฺริเย เอกํ รูปินฺทฺริยวเสน. กเมน คนฺตฺวา วิปฺปยุตฺเต ตีณีติ กุสลาทีนํ อพฺยากตนฺตานิ ปจฺฉาชาตวเสน. อตฺถิอวิคเตสุ ปฺจาติ ตานิ เจว ตีณิ, กุสลาพฺยากตา อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตา อพฺยากตสฺสาติ อิมานิ จ ทฺเว ปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยวเสนาติ. ปจฺฉาชาตปจฺจยสฺส ปจฺจนีกภาวโต ปฏฺาย ปน อตฺถิอวิคเตสุ เอกนฺติ อพฺยากโต อพฺยากตสฺส อาหารินฺทฺริยวเสน. นาหาเร คหิเต นอินฺทฺริยปจฺจยาติ น คเหตพฺพํ. ตถา นอินฺทฺริเย คหิเต นาหารปจฺจยาติ. กสฺมา? ทฺวีสุ เอกโต คหิเตสุ คเณตพฺพวารสฺส อภาวโต. ฌานมคฺคาทีสุปิ ปจฺจนีกโต ิเตสุ อาหารโต วา อินฺทฺริยโต วา เอกํ อนุโลมํ อกตฺวาว อวสาเน อินฺทฺริเย เอกํ, อตฺถิยา เอกํ, อวิคเต เอกํ, อาหาเร เอกํ, อตฺถิยา เอกํ, อวิคเต เอกนฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

นเหตุมูลกํ.

๖๓๖. นารมฺมณมูลกาทีสุ นอฺมฺมูลเก นอฺมฺปจฺจยา เหตุยา ตีณีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฏฺานานํ. อธิปติยา อฏฺาติ อธิปติยา วุตฺเตสุ ทสสุ ‘‘กุสโล กุสลาพฺยากตสฺส, อกุสโล อกุสลาพฺยากตสฺสา’’ติ ทฺเว อปเนตฺวา เสสานิ อฏฺ. สหชาเต ปฺจาติ เหตุยา วุตฺเตหิ ตีหิ สทฺธึ ‘‘กุสโล จ อพฺยากโต จ อพฺยากตสฺส, อกุสโล จ อพฺยากโต จ อพฺยากตสฺสา’’ติ อิเม ทฺเว. นิสฺสเย สตฺตาติ เตหิ ปฺจหิ สทฺธึ ‘‘อพฺยากโต กุสลสฺส, อพฺยากโต อกุสลสฺสา’’ติ อิเม ทฺเว วตฺถุวเสน. กมฺเม ตีณีติ เหตุยา วุตฺตาเนว. เสสติเกสุปิ เอเสว นโย. อธิปติยา ตีณีติ เหฏฺา วุตฺตาเนว.

๖๔๔. นาหารมูลเก อฺมฺเ ตีณีติ เปตฺวา อาหาเร เสสเจตสิกวเสน เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา, ตถา อิธาปิ นาหารนอินฺทฺริเยสุ เอเกกเมว คหิตํ, น ทฺเว เอกโต.

๖๔๘. นสมฺปยุตฺตปจฺจยา เหตุยา ตีณีติ เหฏฺา นอฺมฺเ วุตฺตาเนว. อธิปติยา อฏฺาติ วุตฺตาเนว. นวิปฺปยุตฺตมูลเก กมฺเม ปฺจาติ กุสลาทิเจตนา สหชาตกุสลาทีนํ, นานากฺขณิกา กุสลากุสลเจตนา กมฺมสมุฏฺานรูปสฺสาติ เอวํ ปฺจ. อาหารินฺทฺริเยสุ ตีณิ สหชาตสทิสานิ. ฌานมคฺคาทีสุ ตีณิ เหตุสทิสานิ.

๖๕๐. โนอตฺถิมูลเก ยสฺมา เหตุ โนอตฺถิ นาม น โหติ, นิยมโต อตฺถิเยว, ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา นารมฺมเณ นวาติ วุตฺตํ. ยถา จ เหตุ, ตถา อฺเปิ อตฺถิปจฺจยลกฺขณยุตฺตา เอตฺถ อนุโลมโต น ติฏฺนฺติ. กมฺเม ทฺเวติ อิทํ ปน นานากฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตํ. ปจฺจนียโต สพฺเพ ลพฺภนฺติ. ยํ ปน อนุโลมโต ลพฺภมานมฺปิ อคฺคเหตฺวา ตโต ปุเรตรา ปจฺจยา ปจฺจนียโต คยฺหนฺติ, โส ปจฺฉา โยชนํ ลภติ. เตเนเวตฺถ ‘‘โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา…เป… โนอวิคตปจฺจยา กมฺเม ทฺเว’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา ปเนส สกฏฺาเนเยว น คหิโตติ? ยสฺมา อวเสเสสุปิ ปจฺจนียโต ิเตสุ เอโกว อนุโลมโต ลพฺภติ. อิทฺหิ อิมสฺมึ ปจฺจยานุโลเม ลกฺขณํ – โย สพฺเพสุ ปจฺจนียโต ิเตสุ เอโกว อนุโลมโต ลพฺภติ, โส ปจฺฉา วุจฺจตีติ. โนอตฺถิปจฺจยา โนเหตุปจฺจยา…เป… โนอวิคตปจฺจยา อุปนิสฺสเย นวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทํ ปน ปกตูปนิสฺสยวเสน วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ลพฺภมานํ อลพฺภมานํ ปุเรวุตฺตํ ปจฺฉาวุตฺตฺจ เวทิตพฺพนฺติ.

ปฺหาวารสฺส ปจฺจนียานุโลมวณฺณนา.

นิฏฺิตา จ กุสลตฺติกปฏฺานสฺส วณฺณนาติ.

๒. เวทนาตฺติกวณฺณนา

. เวทนาตฺติเก ติสฺโส เวทนา รูปํ นิพฺพานนฺติ อิเม ธมฺมา น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธาติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ สุขาย เวทนายาติ สเหตุกปฏิสนฺธิวเสน วุตฺตํ. ทุกฺขเวทนา ปฏิสนฺธิยํ น ลพฺภตีติ ทุติยวาเร ปฏิสนฺธิคฺคหณํ น กตํ. ตติยวาเร ปฏิสนฺธิกฺขเณติ สเหตุกปฏิสนฺธิวเสน วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อิโต ปเรสุ จ ปจฺจเยสุ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ. สพฺพตฺถ ตโย ตโย วารา วุตฺตา. เตน วุตฺตํ เหตุยา ตีณิ…เป… อวิคเต ตีณีติ.

. ปจฺจยสํสนฺทเน ปน สเหตุกาย วิปากทุกฺขเวทนาย อภาวโต เหตุมูลกนเย วิปาเก ทฺเวติ วุตฺตํ. อธิปติอาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทเนสุปิ วิปาเก ทฺเวเยว. กสฺมา? วิปาเก ทุกฺขเวทนาย อธิปติฌานมคฺคานํ อภาวโต. เยหิ จ สทฺธึ สํสนฺทเน วิปาเก ทฺเว วารา ลพฺภนฺติ, วิปาเกน สทฺธึ สํสนฺทเน เตสุปิ ทฺเวเยว.

๑๐. ปจฺจนีเย นปุเรชาเต อารุปฺเป จ ปฏิสนฺธิยฺจ ทุกฺขเวทนาย อภาวโต ทฺเว วารา อาคตา. นวิปฺปยุตฺเตปิ อารุปฺเป ทุกฺขาภาวโต ทฺเวเยว. สพฺพอรูปธมฺมปริคฺคาหกา ปน สหชาตาทโย ปจฺจยา อิมสฺมึ ปจฺจนียวาเร ปริหายนฺติ. กสฺมา? เวทนาสมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส เวทนาสมฺปยุตฺตํ ปฏิจฺจ สหชาตาทีหิ วินา อนุปฺปตฺติโต ปจฺฉาชาตปจฺจยฺจ วินาว อุปฺปตฺติโต.

๑๗. ปจฺจยสํสนฺทเน ปน นปุเรชาเต เอกนฺติ อารุปฺเป ปฏิสนฺธิยฺจ อเหตุกาทุกฺขมสุขเวทนาสมฺปยุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นกมฺเม ทฺเวติ อเหตุกกิริยสมฺปยุตฺตเจตนาวเสน วุตฺตํ. สุขาย หิ อทุกฺขมสุขาย จ เวทนาย สมฺปยุตฺเต ธมฺเม ปฏิจฺจ ตาหิ เวทนาหิ สมฺปยุตฺตา อเหตุกกิริยเจตนา อุปฺปชฺชนฺติ. นเหตุปจฺจยา นวิปาเกปิ เอเสว นโย. นวิปฺปยุตฺเต เอกนฺติ อารุปฺเป อาวชฺชนวเสน วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพสํสนฺทเนสุ คณนา เวทิตพฺพา.

๒๕-๓๗. อนุโลมปจฺจนีเย ปจฺจนีเย ลทฺธปจฺจยา เอว ปจฺจนียโต ติฏฺนฺติ. ปจฺจนียานุโลเม สพฺพา รูปธมฺมปริคฺคาหกา สหชาตาทโย อนุโลมโตว ติฏฺนฺติ, น ปจฺจนียโต. อเหตุกสฺส ปน จิตฺตุปฺปาทสฺส อธิปติ นตฺถีติ อธิปติปจฺจโย อนุโลมโต น ติฏฺติ. ปฏิจฺจวาราทีสุ ปน ปจฺฉาชาโต อนุโลมโต น ลพฺภติเยวาติ ปริหีโน. เย เจตฺถ อนุโลมโต ลพฺภนฺติ, เต ปจฺจนียโต ลพฺภมาเนหิ สทฺธึ ปริวตฺเตตฺวาปิ โยชิตาเยว. เตสุ ตีณิ ทฺเว เอกนฺติ ตโยว วารปริจฺเฉทา, เต สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ สลฺลกฺเขตพฺพา. โย จายํ ปฏิจฺจวาเร วุตฺโต, สหชาตวาราทีสุปิ อยเมว วณฺณนานโย.

๓๘. ปฺหาวาเร ปน สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานนฺติ เตน สทฺธึ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ เตหิเยว วา เหตูหิ สุขเวทนาทีหิ วา.

๓๙. วิปฺปฏิสาริสฺสาติ ทานาทีสุ ตาว ‘‘กสฺมา มยา อิทํ กตํ, ทุฏฺุ เม กตํ, อกตํ เสยฺโย สิยา’’ติ เอวํ วิปฺปฏิสาริสฺส. ฌานปริหานิยํ ปน ‘‘ปริหีนํ เม ฌานํ, มหาชานิโย วตมฺหี’’ติ เอวํ วิปฺปฏิสาริสฺส. โมโห อุปฺปชฺชตีติ โทสสมฺปยุตฺตโมโห. ตถา โมหํ อรพฺภาติ โทสสมฺปยุตฺตโมหเมว.

๔๕. สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ภวงฺคํ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ภวงฺคสฺสาติ ตทารมฺมณสงฺขาตํ ปิฏฺิภวงฺคํ มูลภวงฺคสฺส. วุฏฺานสฺสาติ ตทารมฺมณสฺส ภวงฺคสฺส วา. อุภยมฺปิ เหตํ กุสลากุสลชวนโต วุฏฺิตตฺตา วุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. กิริยํ วุฏฺานสฺสาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ผลํ วุฏฺานสฺสาติ ผลจิตฺตํ ภวงฺคสฺส. ภวงฺเคน หิ ผลโต วุฏฺิโต นาม โหติ. ปรโต ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ อาคตฏฺาเนสุปิ เอเสว นโย.

๔๖. ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ขนฺธาติ โทมนสฺสสมฺปยุตฺตา อกุสลา ขนฺธา. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส วุฏฺานสฺสาติ ตทารมฺมณสงฺขาตสฺส อาคนฺตุกภวงฺคสฺส วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตมูลภวงฺคสฺส วา. สเจ ปน โสมนสฺสสหคตํ มูลภวงฺคํ โหติ, ตทารมฺมณสฺส จ อุปฺปตฺติการณํ น โหติ, ชวนสฺส อารมฺมณโต อฺสฺมิมฺปิ อารมฺมเณ อทุกฺขมสุขเวทนํ อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชเตว. ตมฺปิ หิ ชวนโต วุฏฺิตตฺตา วุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. สหชาตปจฺจยาทินิทฺเทสา อุตฺตานตฺถาเยว. นเหตฺถ กิฺจิ อตฺถิ, ยํ น สกฺกา สิยา เหฏฺา วุตฺตนเยน เวเทตุํ, ตสฺมา สาธุกํ อุปลกฺเขตพฺพํ.

๖๒. อิทานิ ยสฺมึ ยสฺมึ ปจฺจเย เย เย วารา ลทฺธา, สพฺเพ เต สงฺขิปิตฺวา คณนาย ทสฺเสตุํ เหตุยา ตีณีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพานิ ตีณิ สุทฺธานํ ติณฺณํ ปทานํ วเสน เวทิตพฺพานิ. อารมฺมเณ นว เอกมูลเกกาวสานานิ. อธิปติยา ปฺจ สหชาตาธิปติวเสน อมิสฺสานิ ตีณิ, อารมฺมณาธิปติวเสน จ ‘‘สุขาย สมฺปยุตฺโต สุขาย สมฺปยุตฺตสฺส, อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุตฺโต อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุตฺตสฺสา’’ติ ทฺเว, ตานิ น คเณตพฺพานิ. สุขาย ปน สมฺปยุตฺโต อทุกฺขมสุขาย, อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุตฺโต สุขายาติ อิมานิ ทฺเว คเณตพฺพานีติ เอวํ ปฺจ. อนนฺตรสมนนฺตเรสุ สตฺตาติ สุขา ทฺวินฺนํ, ตถา ทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา ติณฺณมฺปีติ เอวํ สตฺต. อุปนิสฺสเย นวาติ สุขสมฺปยุตฺโต สุขสมฺปยุตฺตสฺส ตีหิปิ อุปนิสฺสเยหิ, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส ปกตูปนิสฺสเยเนว, อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตสฺส ตีหิปิ, ทุกฺขสมฺปยุตฺโต ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส อนนฺตรปกตูปนิสฺสเยหิ, สุขสมฺปยุตฺตสฺส ปกตูปนิสฺสเยน, อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธา, อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺโต อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ติธาปิ, ตถา สุขสมฺปยุตฺตสฺส, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส อนนฺตรปกตูปนิสฺสเยหีติ เอวํ นว. ปจฺจยเภทโต ปเนตฺถ ปกตูปนิสฺสยา นว, อนนฺตรูปนิสฺสยา สตฺต, อารมฺมณูปนิสฺสยา จตฺตาโรติ วีสติ อุปนิสฺสยา. ปุเรชาตปจฺฉาชาตา ปเนตฺถ ฉิชฺชนฺติ. น หิ ปุเรชาตา ปจฺฉาชาตา วา อรูปธมฺมา อรูปธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺติ.

กมฺเม อฏฺาติ สุขสมฺปยุตฺโต สุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส นานากฺขณิกโตว ตถา อิตรสฺส. ทุกฺขสมฺปยุตฺโต ทุกฺขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, สุขสมฺปยุตฺตสฺส นตฺถิ, อิตรสฺส นานากฺขณิกโตว อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺโต อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตสฺส ทฺวิธาปิ, อิตเรสํ นานากฺขณิกโตติ เอวํ อฏฺ. ปจฺจยเภทโต ปเนตฺถ นานากฺขณิกา อฏฺ, สหชาตา ตีณีติ เอกาทส กมฺมปจฺจยา. ยถา จ ปุเรชาตปจฺฉาชาตา, เอวํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโยเปตฺถ ฉิชฺชติ. อรูปธมฺมา หิ อรูปธมฺมานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย น โหนฺติ. นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสทิสาว. เอวเมตฺถ ตีณิ ปฺจ สตฺต อฏฺ นวาติ ปฺจ คณนปริจฺเฉทา. เตสํ วเสน ปจฺจยสํสนฺทเน อูนตรคณเนน สทฺธึ สํสนฺทเนสุ อติเรกฺจ อลพฺภมานฺจ อปเนตฺวา คณนา เวทิตพฺพา.

๖๓-๖๔. เหตุยา สทฺธึ อารมฺมณํ น ลพฺภติ, ตถา อนนฺตราทโย. อธิปติยา ทฺเวติ ทุกฺขปทํ เปตฺวา เสสานิ ทฺเว. ทุกฺขสมฺปยุตฺโต หิ เหตุ อธิปติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา โส น ลพฺภตีติ อปนีโต. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. อิติ เหตุมูลเก ทฺเวเยว คณนปริจฺเฉทา, เตสํ วเสน ฉ ฆฏนานิ วุตฺตานิ. เตสุ ปมํ อวิปากภูตานํ าณวิปฺปยุตฺตนิราธิปติธมฺมานํ วเสน วุตฺตํ, ทุติยํ เตสฺเว วิปากภูตานํ, ตติยจตุตฺถานิ เตสฺเว าณสมฺปยุตฺตานํ, ปฺจมํ อวิปากภูตสาธิปติอโมหวเสน, ฉฏฺํ วิปากภูตสาธิปติอโมหวเสน. ปมํ วา สพฺพเหตุวเสน, ทุติยํ สพฺพวิปากเหตุวเสน, ตติยํ สพฺพาโมหเหตุวเสน, จตุตฺถํ สพฺพวิปากาโมหเหตุวเสน. ปฺจมํ สพฺพสาธิปติอโมหวเสน, ฉฏฺํ สพฺพสาธิปติวิปากาโมหวเสน.

๖๖. อารมฺมณมูลเก อธิปติยา จตฺตารีติ อารมฺมณาธิปติวเสน สุขํ สุขสฺส, อทุกฺขมสุขสฺส, อทุกฺขมสุขํ อทุกฺขมสุขสฺส, สุขสฺสาติ เอวํ จตฺตาริ. อุปนิสฺสเยปิ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน จตฺตาโร วุตฺตา. ฆฏนานิ ปเนตฺถ เอกเมว. อธิปติมูลกาทีสุปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว ยํ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สํสนฺทนฆฏนคณนา เวทิตพฺพา.

๘๓-๘๗. ปจฺจนียมฺหิ กุสลตฺติเก วุตฺตนเยเนว อนุโลมโต ปจฺจเย อุทฺธริตฺวา ตตฺถ ลทฺธานํ วารานํ วเสน ปจฺจนียโต คณนวเสน นเหตุยา นวาติ สพฺพปจฺจเยสุ นว วารา ทสฺสิตา. เต เอกมูลเกกาวสานานํ นวนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ วเสน ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺเตน จิตฺเตน ทานํ ทตฺวา’’ติอาทินา นเยน ปาฬึ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ปจฺจยสํสนฺทเน ปเนตฺถ นเหตุปจฺจยา…เป… นอุปนิสฺสเย อฏฺาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยวเสน เวทิตพฺพา. ทุพฺพลกมฺมฺหิ วิปากสฺส น อุปนิสฺสโย โหติ. เกวลํ ปน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยเนว ปจฺจโย โหติ. เสสเมตฺถ อนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลเมสุ จ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ โยเค ลทฺธวารวเสน สกฺกา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว คเณตุํ, ตสฺมา น วิตฺถาริตนฺติ.

เวทนาตฺติกวณฺณนา.

๓. วิปากตฺติกวณฺณนา

๑-๒๓. วิปากตฺติเก วิปากํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ วิปาโก ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ เย เหตุปจฺจเย เตรส วารา วุตฺตา, เต สงฺขิปิตฺวา คณนาย ทสฺเสตุํ เหตุยา เตรสาติ วุตฺตํ. อารมฺมเณ ปฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ เตรส ปฺจ นว สตฺต ตีณิ ทฺเวติ ฉ คณนปริจฺเฉทา, เตสํ วเสน ปจฺจยสํสนฺทเน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว คณนา เวทิตพฺพา.

๒๔-๕๒. ปจฺจนีเยปิ วิปากํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ วิปาโก ธมฺโม อุปฺปชฺชติ นเหตุปจฺจยาติ เย นเหตุปจฺจเย ทส วารา วุตฺตา, เต สงฺขิปิตฺวา คณนาย ทสฺเสตุํ นเหตุยา ทสาติ วุตฺตํ. น อารมฺมเณ ปฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตฺถ ทส ปฺจ เตรส ทฺวาทส ทฺเว เอกํ นว ตีณีติ อฏฺ คณนปริจฺเฉทา, เตสํ วเสน ปจฺจยสํสนฺทเน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต คณนา เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน สงฺขิตฺตา, เอเตสฺเว ปน ลทฺธคณนรปริจฺเฉทานํ วารานํ วเสน สํสนฺทิตฺวา อนุโลมปจฺจนียํ ปจฺจนียานุโลมฺจ เวทิตพฺพํ.

สหชาตวาโร อิมินาว เอกคติโก. ปจฺจยนิสฺสยสํสฏฺสมฺปยุตฺตวารา ยถาปาฬิเมว นิยฺยนฺติ.

๙๒. ปฺหาวาเร กุสลากุสเล นิรุทฺเธติ เอตสฺมึ วิปสฺสนาวเสน ปวตฺเต กุสเล สารชฺชนาทิวเสน ปวตฺเต อกุสเล จ นิรุทฺเธ. วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตีติ กามาวจรวิปาโก ตทารมฺมณตาย อุปฺปชฺชติ. เย ปน ‘‘วิปสฺสนาชวนานํ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจานฺจ ปริโยสาเน ตทารมฺมณํ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, เต อิมาย ตนฺติยา ปฏิเสเธตพฺพา. อากาสานฺจายตนกุสลํ วิฺาณฺจายตนสฺส กิริยสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อรหตฺตํ ปตฺวา อสมาปนฺนปุพฺพา สมาปตฺติโย ปฏิโลมโต สมาปชฺชนฺตสฺส วเสเนตํ วุตฺตํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ สาธุกํ ปาฬึ อุปปริกฺขิตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๒๐. เหตุยา สตฺต, อารมฺมเณ นว, อธิปติยา ทสาติอาทีสุปิ สหชาตาธิปติวเสน อารมฺมณาธิปติวเสน สหชาตนิสฺสยวเสน ปุเรชาตนิสฺสยวเสน อนนฺตรูปนิสฺสยวเสน อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน ปกตูปนิสฺสยวเสน สหชาตวิปฺปยุตฺตวเสน ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตวเสนาติ ยตฺถ ยตฺถ ยถา ยถา ยตฺตกานิ วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา ตานิ สพฺพานิ สลฺลกฺเขตพฺพานิ. ตถา ปจฺจนียาทีสุ อนุโลมวเสน วารุทฺธรณํ, อนุโลมโต ลทฺธวารานํ ปจฺจนียโต คณนา, ปจฺจยสํสนฺทนํ, อนุโลมปจฺจนีเย ปจฺจนียานุโลเม จ สุทฺธิเกสุ เจว สํสนฺทนวเสน จ ปวตฺเตสุ เหตุมูลกาทีสุ ลพฺภมานวารคณนา, อลพฺภมานานํ อลพฺภมานตาติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ยถา เจตฺถ, เอวํ อิโต ปเรสุปิ ติกทุเกสุ. ปฏฺานปกรณฺหิ ปาฬิโตว อนนฺตํ อปริมาณํ. ตสฺส ปทปฏิปาฏิยา อตฺถํ วณฺณยิสฺสามีติ ปฏิปนฺนสฺส อติทีฆายุกสฺสาปิ อายุ นปฺปโหติ. น จสฺส เอกเทสํ วณฺเณตฺวา เสสมฺหิ นยโต ทสฺสิยมาเน น สกฺกา อตฺโถ ชานิตุํ, ตสฺมา อิโต ปรํ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา เสเสสุ ติกทุเกสุ เหฏฺา อวุตฺตปฺปการตฺตา ยํ ยํ อวสฺสํ วตฺตพฺพํ, ตํ ตเทว วกฺขาม. ยํ ปน อวตฺวา คมิสฺสาม, ตํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วิปากตฺติกวณฺณนา.

๔. อุปาทินฺนตฺติกวณฺณนา

๕๑. อุปาทินฺนุปาทานิยตฺติกสฺส ปฺหาวาเร วตฺถุ อุปาทานิยานํ ขนฺธานํ ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิยํ ปน ตํ ปุเรชาตํ น โหติ.

๗๒. อุปาทินฺนุปาทานิโย กพฬีกาโร อาหาโร อุปาทินฺนุปาทานิยสฺส กายสฺส อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอตฺถ อุปาทินฺนุปาทานิโย กพฬีการาหาโร นาม กมฺมสมุฏฺานานํ รูปานํ อพฺภนฺตรคตา โอชา. อุปาทินฺนุปาทานิยสฺส กายสฺสาติ ตสฺเสว กมฺมสมุฏฺานรูปกายสฺส อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย. รูปชีวิตินฺทฺริยํ วิย กฏตฺตารูปานํ อนุปาลนอุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺจโย, น ชนกวเสน. ยํ ปน มณฺฑูกาทโย คิลิตฺวา ิตานํ อหิอาทีนํ กายสฺส ชีวมานกมณฺฑูกาทิสรีเร โอชา อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ ชีวมานกสรีเร โอชา อฺสฺส สรีรสฺส อาหารปจฺจยตํ สาเธติ. อนุปาทินฺนุปาทานิยสฺส กายสฺสาติ เอตฺถ ปน ชนกวเสนาปิ ลพฺภติ. อุปาทินฺนุปาทานิยสฺส จ อนุปาทินฺนุปาทานิยสฺส จาติ เอตฺถ เอกสฺส อุปตฺถมฺภกวเสน, เอกสฺส ชนกวเสน, อุภินฺนมฺปิ วา อุปตฺถมฺภกวเสเนว วุตฺโต. ทฺเว ปน อาหารา เอกโต ปจฺจยา โหนฺตา อุปตฺถมฺภกาว โหนฺติ, น ชนกา. เสสเมตฺถ ปาฬิเมว สาธุกํ โอโลเกตฺวา เวทิตพฺพํ.

อุปาทินฺนตฺติกวณฺณนา.

๕-๒๒. สงฺกิลิฏฺตฺติกาทิวณฺณนา

สงฺกิลิฏฺสงฺกิเลสิกตฺติเก สพฺพํ กุสลตฺติเก วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

๗๙. วิตกฺกตฺติเก ยถากมฺมูปคาณสฺส ปริกมฺมนฺติ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมเมว ตสฺส อุปฺปาทนตฺถาย ปริกมฺมํ. อุปฺปนฺนสฺส ปน วฬฺชนกาเล ปริกมฺมํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.

๘๒. ติ ตทารมฺมณภวงฺคมูลภวงฺคานํ วเสน วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สพฺพํ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพํ.

ทสฺสนตฺติเก ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ราโค อุปฺปชฺชตีติอาทีสุ ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ปุถุชฺชนสฺส อุปฺปชฺชติ. ภาวนาย ปหาตพฺโพ โสตาปนฺนสฺสาปีติ เอวํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส เหฏฺิมา เหฏฺิมา นุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพา. ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส เอเกนปิ ปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ. เสสเมตฺถ ปาฬึ อนุคนฺตฺวา กุสลตฺติเก วุตฺตลกฺขณวเสเนว เวทิตพฺพํ.

ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกตฺติเก ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาทีนํ วิภาโค อฏฺกถากณฺเฑ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคโต โมโห อเหตุกตฺตา ตติยปเท ปวิฏฺโ. เอวเมตฺถ เยสํ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺโพ เหตุ อตฺถิ, เต ปหาตพฺพเหตุกา. เยสํ โส นตฺถิ เต เนวทสฺสเนน นภาวนายปหาตพฺพเหตุกาติ อิมํ ปหาตพฺพเหตุกวิภาคํ ตฺวา เสสํ ทสฺสเนนปหาตพฺพตฺติเก เจว กุสลตฺติเก จ ทสฺสิตลกฺขณานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

อาจยคามิตฺติเก จ ปฏิจฺจวารสํสฏฺวาเรสุ อนุโลมํ กุสลตฺติกสทิสเมว. เสสํ วิสฺสชฺชนโต คณนโต จ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.

เสกฺขตฺติเก อเสกฺโข ธมฺโม เสกฺขสฺส ธมฺมสฺส น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย. เสกฺโข อเสกฺขสฺส อนนฺตรปกตูปนิสฺสโย ปน โหติ. เสสเมตฺถ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ, ตถา ปริตฺตตฺติเก.

ปริตฺตารมฺมณตฺติเก อปฺปมาณารมฺมณาเจตนาติ เสกฺขานํ โคตฺรภุเจตนา, ปจฺจเวกฺขณเจตนาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. วิปากานํ ปริตฺตารมฺมณานนฺติ ปฏิสนฺธิยํ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา, ปวตฺเต จกฺขุวิฺาณาทิวเสนรูปาทิอารมฺมณํ, ตทารมฺมณวเสน ชวเนน คหิตปริตฺตารมฺมณฺจ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนานํ. เย ปน ‘‘โคตฺรภุจิตฺเตน นตฺถิ ปฏิสนฺธี’’ติ วทนฺติ, เต อิมินา สุตฺเตน ปฏิเสเธตพฺพา. เสสเมตฺถ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ. หีนตฺติโก สงฺกิลิฏฺตฺติกสทิโส.

มิจฺฉตฺตตฺติเก มิจฺฉตฺตนิยโต สมฺมตฺตนิยตสฺส, สมฺมตฺตนิยโต วา มิจฺฉตฺตนิยตสฺส เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ. มิจฺฉตฺตนิยโต วา สมฺมตฺตนิยโต วา สหชาตาธิปติรหิโต นาม นตฺถิ. สมฺมตฺตนิยเต เอกนฺตโต อารมฺมณปุเรชาตํ นตฺถิ, มิจฺฉตฺตนิยเต สิยา อารมฺมณปุเรชาตํ. อนิยตํ จิตฺตํ อารพฺภ นิยตา มิจฺฉาทิฏฺิ อุปฺปชฺเชยฺย. เสสา นิยตํ อารพฺภ นิยตํ นุปฺปชฺชติ, มิจฺฉตฺตนิยตํ ครุํ กตฺวา น โกจิ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ. กุสโล มิจฺฉตฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย น โหติ. เสสเมตฺถ ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

มคฺคารมฺมณตฺติเก ปฏิจฺจวารสฺส อนุโลเม วิปากปจฺจโย นตฺถิ. กมฺมปจฺจเยปิ อิมสฺมึ ติเก นานากฺขณิกํ น ลพฺภติ, ตถา อุปฺปนฺนตฺติกอตีตตฺติเกสุ. ปจฺจนีเย อเหตุกํ มคฺคารมฺมณนฺติ อเหตุกํ มคฺคารมฺมณํ, อาวชฺชนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

อุปฺปนฺนตฺติเก จ อตีตตฺติเก จ ปฏิจฺจวาราทโย นตฺถิ, ปฺหาวารมตฺตเมว ลพฺภติ. กสฺมา? ปฏิจฺจวาราทโย หิ สหชาตปุเรชาตานฺเว โหนฺติ. อิเม จ ติกา อตีตานาคตมิสฺสกา. อุปฺปนฺนตฺติเก เจตฺถ อนนฺตรภาคิยาปิ ปจฺจยา น ลพฺภนฺติ. กสฺมา? อุปฺปนฺนตฺติเก อตีตสฺส อภาวโต. อุปฺปนฺโน จ อนุปฺปนฺโน จาติ อิเม เจตฺถ ทฺเว ธมฺมา อุปฺปนฺนสฺส จ อนุปฺปนฺนสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย. อนุปฺปนฺโน จ อุปฺปาที จาติ อิเม ปน ทฺเว อุปฺปนฺนสฺส อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย. เสสเมตฺถ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อตีตตฺติเก ปจฺจุปฺปนฺนํ อตีตานาคตสฺส, อตีตานาคตฺจ อตีตานาคตสฺส น เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจโย. นิพฺพานํ ปน ทฺวีสุปิ อิเมสุ ติเกสุ เนว ปจฺจยโต น ปจฺจยุปฺปนฺนโต ลพฺภติ. เสสมิธาปิ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อชฺฌตฺตตฺติเก อชฺฌตฺตพหิทฺธาปทํ น คหิตํ. อชฺฌตฺตพหิทฺธาสงฺขาตา หิ อุโภ ราสโย เนว เอกโต ปจฺจยา โหนฺติ, น ปจฺจยุปฺปนฺนา; ตสฺมา หตฺถตเล ปิตสฺส สาสปสฺส วณฺโณปิ หตฺถตลวณฺเณน สทฺธึ เอกโต อารมฺมณํ น โหตีติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ อชฺฌตฺตพหิทฺธาปทํ, เอวเมตฺถ อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเกปิ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณปทํ น ลพฺภติ. เสสํ ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.

สนิทสฺสนตฺติเกปิ ปาฬิวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. คณนาเปตฺถ ปาฬิยํ อาคตวาเร สงฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สํสนฺทเนสุ สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺพาติ.

ธมฺมานุโลเม ติกปฏฺานวณฺณนา.

๒. ทุกปฏฺานวณฺณนา

ทุกปฏฺาเนปิ สพฺพทุเกสุ ปฺหาวิสฺสชฺชนานิ เจว คณนา จ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพา. อปิเจตฺถ สเหตุกเหตุสมฺปยุตฺตทุกานํ วิสฺสชฺชนํ เหตุทุกวิสฺสชฺชนสทิสํ; ตถา เหตูเจวสเหตุกเหตูเจวเหตุสมฺปยุตฺตทุกานํ, ตถา สปฺปจฺจยสงฺขตทุกานํ. อิทํ ทุกํ ยถา สปฺปจฺจยทุกํ, เอวํ กาตพฺพนฺติ อิทํ ยสฺมา สปฺปจฺจโย วิย อปฺปจฺจเยน สงฺขโตปิ, อสงฺขเตน สทฺธึ โยชนํ น ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ. สารมฺมณจิตฺตสมฺปยุตฺตสํสฏฺทุกาปิ สทิสวิสฺสชฺชนาเยว; ตถา อาสวโอฆโยคโคจฺฉกา. เอเต หิ ตโย อฺมฺํ สทิสวิสฺสชฺชนาเยว. อปิจ โลกิยสาสวสํโยชนิยคนฺถนิยนีวรณิยปรามฏฺสงฺกิเลสิกทุกา อาสววิปฺปยุตฺตสาสวสํโยชนวิปฺปยุตฺตสํโยชนิยคนฺถวิปฺปยุตฺตคนฺถนิยนีวรณวิปฺปยุตฺตนีวรณิยปรามาสวิปฺปยุตฺตปรามฏฺกิเลสวิปฺปยุตฺตสงฺกิเลสิกปริยาปนฺนสอุตฺตรทุกาต อิเมปิ ทุกา สมานา.

กิเลสทุกํ สํโยชนทุกสทิสํ. สงฺกิลิฏฺกิเลสสมฺปยุตฺตนีวรณสมฺปยุตฺตทสฺสเนนปหาตพฺพสรณทุกาปิ สมานา. ตถากิเลสา เจว สงฺกิลิฏฺนีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตกิเลสา เจว กิเลสสมฺปยุตฺตทุกา. อิมินา นเยน สพฺเพสํ อตฺถโต สทิสานํ ทุกานํ วิสฺสชฺชนานิ สทิสาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. สพฺพสฺมิมฺปิ ปน ปฏฺาเน เกนจิวิฺเยฺยทุกํ น ลพฺภติ. อาสวา เจว อาสวสมฺปยุตฺตา จ, สํโยชนา เจว สํโยชนสมฺปยุตฺตา จ, คนฺถา เจว คนฺถสมฺปยุตฺตา จ, นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จ, กิเลสา เจว สงฺกิลิฏฺา จาติ เอวรูเปสุ ทุเกสุ วิปากปจฺจโย เจว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย จ น ลพฺภติ. นเหตุสเหตุกนเหตุอเหตุเกสุ เหตุปจฺจโย นตฺถิ. เหตู เจว เหตุสมฺปยุตฺตา จ, อาสวา เจว อาสวสมฺปยุตฺตา จ, คนฺถา เจว คนฺถสมฺปยุตฺตา จาติ อิเมสุ ทุเกสุ นเหตุนฌานนมคฺคา น ลพฺภนฺติ. สํโยชนา เจว สํโยชนสมฺปยุตฺตา จ, นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จ, กิเลสา เจว กิเลสสมฺปยุตฺตา จ, กิเลสา เจว สงฺกิลิฏฺา จาติ อิเมสุ ปน วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตสฺส โมหสฺส วเสน นเหตุปจฺจโย ลพฺภติ; นฌานนมคฺคปจฺจยา น ลพฺภนฺตีติ เอวํ สพฺพทุเกสุ ลพฺภมานาลพฺภมานํ อุปปริกฺขิตฺวา ปาฬิวเสเนว วารคณนา เวทิตพฺพาติ.

ทุกปฏฺานวณฺณนา.

๓. ทุกติกปฏฺานวณฺณนา

ทุกติกปฏฺาเน เหตุํ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ เอวํ ปฺหามตฺตุทฺธารวเสเนว สงฺเขปโต เทสนา กตา. ‘‘กุสลํ อโลภํ ปฏิจฺจ อโทโส อโมโห’’ติอาทินา ปน นเยน วิตฺถาโร วตฺตพฺโพ สิยา, โส เหฏฺา ทสฺสิตนเยน สกฺกา อวุตฺโตปิ ชานิตุนฺติ เอกปเทปิ เอกปจฺจโย วา น วุตฺโต. ยา ปเนสา สงฺเขปโต เทสนา กตา, สา เอวํ กตาติ เวทิตพฺพา. เหตุทุเกน หิ สทฺธึ กุสลปทํ โยเชตฺวา ปฏิจฺจวาเร อนุโลมสฺส เจว ปจฺจนียสฺส จ วเสน สพฺเพ ลพฺภมานกปจฺจยา ทสฺสิตา, อนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลมนยา เจว สหชาตวาราทโย จ น ทสฺสิตา, เกวลํ ‘‘ปฏิจฺจวารสทิสํเยว วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปฺหาวาเร ปฺหมฺปิ อวิสฺสชฺเชตฺวา เกวลํ ปฺหุทฺธารมตฺตํ กตฺวา อนุโลมปจฺจนียวเสเนว ลพฺภมานปจฺจยา ทสฺสิตา. ยถา จ กุสลปทํ, เอวํ อกุสลอพฺยากตปทานิปิ เหตุทุเกน สทฺธึ โยเชตฺวา เหตุกุสลทุกติกํ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.

ตโต ปรํ เหตุํ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมนฺติอาทินา นเยน เหตุเวทนาทุกติกาทีนิ เอกวีสติ ทุกติกานิ ทสฺสิตานิ. ยสฺมา ปน เหตุ นาม สนิทสฺสนสปฺปฏิโฆ อนิทสฺสนสปฺปฏิโฆ วา นตฺถิ, ตสฺมา เหตุปเทน สทฺธึ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆอนิทสฺสนสปฺปฏิฆปทานิ น โยชิตานิ. เอวํ เหตุทุเกน สทฺธึ ลพฺภมานกวเสน ทฺวาวีสติ ติเก โยเชตฺวา ปุน เต สเหตุกทุกาทีหิ สรณทุกปริโยสาเนหิ สพฺพทุเกหิ สทฺธึ โยชิตา. ตตฺถ ยํ ยํ ปทํ เยน เยน ปเทน สทฺธึ โยชนํ น คจฺฉติ, ตํ ตํ ปาฬิยํเยว น ลพฺภตีติ วุตฺตํ. เอวเมตฺถ เอเกน ทุเกน สทฺธึ พาวีสติ ติเก โยเชตฺวา ปุน อปเรน พาวีสติ, อปเรน พาวีสตีติ ปฏิปาฏิยา ทุกสเต ลพฺภมานทุกปเทหิ สทฺธึ ทฺวาวีสติ ติกา โยชิตาติ ทฺวาวีสติ ติเก คเหตฺวา ทุกสเต ปกฺขิปิตฺวา ทุกติกปฏฺานํ นาม เทสิตํ. ตตฺถ เยสุ เยสุ าเนสุ นยํ ทสฺเสตฺวา ปาฬิยา สงฺเขโป กโต, เตสุ เตสุ าเนสุ ทสฺสิตนยานุรูเปน ตสฺสา วิตฺถาโร เวทิตพฺโพติ.

ทุกติกปฏฺานวณฺณนา.

๔. ติกทุกปฏฺานวณฺณนา

ติกทุกปฏฺาเนปิ กุสลํ เหตุํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล เหตุ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ ปฺหามตฺตุทฺธารวเสเนว เทสนา กตา. ตตฺถ ยถา เหฏฺา เหตุทุเกน สทฺธึ กุสลปทํ โยเชตฺวา สพฺพปจฺจยวเสน สพฺพวาเรสุ สงฺเขปโต เทสนา กตา, เอวมิธ กุสลตฺติเกน สทฺธึ เหตุปทํ โยเชตฺวา สพฺพปจฺจยวเสน สพฺพวาเรสุ สงฺเขปโต เทสนา กตา. ยถา จ เหตุปทํ, เอวํ นเหตุปทมฺปิ กุสลตฺติเกน สทฺธึ โยเชตฺวา กุสลตฺติกเหตุทุกํ นิฏฺาปิตํ. ตโต ปรํ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ เหตุํ ธมฺมนฺติอาทินา นเยน เวทนาตฺติกเหตุทุกาทีนิ เอกวีสติ ติกทุกานิ ทสฺสิตานิ.

เอวํ พาวีสติยา ติเกหิ สทฺธึ เหตุทุกํ โยเชตฺวา ปุน เตหิเยว สทฺธึ สเหตุกทุกาทโย สรณทุกปริโยสานา ลพฺภมานวเสน สพฺพทุกา โยชิตา. อิธาปิ ยํ ยํ ปทํ โยชนํ น คจฺฉติ, ตํ ตํ ปาฬิยํเยว ปฏิกฺขิตฺตํ. เอวํ ทุกสตํ คเหตฺวา ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ติกทุกปฏฺานํ นาม เทสิตํ. ตตฺราปิ เยน เยน นเยน ปาฬิ สงฺขิตฺตา, โส โส นโย วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.

ติกทุกปฏฺานวณฺณนา.

๕. ติกติกปฏฺานวณฺณนา

ติกติกปฏฺาเนปิ กุสลํ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ ปฺหุทฺธารวเสเนว สงฺเขปโต เทสนา กตา. เอตฺถ จ กุสลตฺติกํ เวทนาตฺติกาทีหิ, เวทนาตฺติกาทโย จ กุสลตฺติเกนาติ เอวํ ติเกสุเยว ติกา ปกฺขิตฺตา. เยน เยน จ ปเทน สทฺธึ ยํ ยํ ปทํ โยชนํ น คจฺฉติ, ตํ ตํ หาเปตฺวา ลพฺภมานวเสเนว สพฺพปจฺจเยสุ วารา จ คณนนยา จ ทสฺสิตา, ตสฺมา เต สาธุกํ ปาฬึ อุปปริกฺขิตฺวา เวทิตพฺพา. ยถา จ กุสลตฺติกํ เวทนาตฺติกาทีหิ, เวทนาตฺติกาทโย จ เตน สทฺธึ โยเชตฺวา เวทิตพฺพา; ตถา เอเกกํ ติกํ เสเสหิ. เสสา จ เตหิ สทฺธึ โยเชตฺวา เวทิตพฺพาติ.

ติกติกปฏฺานวณฺณนา.

๖. ทุกทุกปฏฺานวณฺณนา

ทุกทุกปฏฺาเนปิ เหตุสเหตุกํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุสเหตุโก ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ ปฺหุทฺธารวเสเนว สงฺเขปโต เทสนา กตา. ตตฺถ เหตุทุกํ สเหตุกทุกาทีหิ, สเหตุกทุกาทีนิ จ เตน สทฺธึ โยชิตานิ. เอเกกํ ปน ทุกํ เสเสหิ, เสสา จ เตหิ สทฺธึ ปฏิปาฏิยา โยเชตพฺพา. อิทฺหิ ทุกทุกปฏฺานํ นาม ‘ทุเกสุเยว ทุเก ปกฺขิปิตฺวา’ เทสิตํ. เตเนตฺถ สพฺพทุเกหิ สทฺธึ สพฺพทุกานํ โยชนา เวทิตพฺพา. ปาฬิ ปน สงฺขิตฺตา. เยน เยน จ ปเทน สทฺธึ ยํ ยํ ปทํ โยชนํ น คจฺฉติ, ตํ ตํ หาเปตฺวาว เทสนา กตาติ.

ทุกทุกปฏฺานวณฺณนา.

เอตฺตาวตา –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

ฉ อนุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. –

อฏฺกถายํ วุตฺตคาถาย ทีปิตา. ธมฺมานุโลมปฏฺาเน ฉ นยา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. ปจฺจยวเสน ปเนตฺถ เอเกกสฺมึ ปฏฺาเน อนุโลมาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร นยาติ เอเกน ปริยาเยน จตุวีสตินยปฏิมณฺฑิตํ อนุโลมปฏฺานํเยว เวทิตพฺพํ.

๗-๑๒. ปจฺจนียปฏฺานวณฺณนา

. อิทานิ กุสลาทีนํ ปทานํ ปฏิกฺเขปวเสน ธมฺมานํ ปจฺจนียตาย ลทฺธนามํ ปจฺจนียปฏฺานํ ทสฺเสตุํ นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติ กุสลสฺส ปจฺจยภาวํ วาเรติ. นกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชตีติ กุสลสฺส อุปฺปตฺตึ วาเรติ, ตสฺมา ‘‘อกุสลาพฺยากตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ อกุสลาพฺยากตา ตโย ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานฺจ รูป’’นฺติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ ปฺหํ วิสฺสชฺชิตพฺพํ. ตสฺมึ ตสฺมึ ปจฺจเย ลทฺธคณนา ปน ปาฬิยํ วุตฺตาเยว. เยปิ วารา สทิสวิสฺสชฺชนา, เตปิ ตตฺเถว ทสฺสิตา. ตสฺมา สพฺพเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน ปาฬึ อุปปริกฺขิตฺวา เวทิตพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ทุกปฏฺาเน, ทุกติกปฏฺาเน, ติกทุกปฏฺาเน ติกติกปฏฺาเน, ทุกทุกปฏฺาเน จ.

เอตฺตาวตา

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว, ทุกํ ทุกฺจ,

ฉ ปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. –

อฏฺกถายํ วุตฺตคาถาย ทีปิตา. ธมฺมปจฺจนียปฏฺาเน ฉ นยา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. ปจฺจยวเสน ปเนตฺถ เอเกกสฺมึ ปฏฺาเน อนุโลมาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร นยาติ เอเกน ปริยาเยน จตุวีสตินยปฏิมณฺฑิตํ ปจฺจนียปฏฺานฺเว เวทิตพฺพํ.

ปจฺจนียปฏฺานวณฺณนา.

๑๓-๑๘. อนุโลมปจฺจนียปฏฺานวณฺณนา

. อิทานิ กุสลาทีสุ ธมฺเมสุ ปจฺจยธมฺมํ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส กุสลาทิภาวปฏิกฺเขปวเสน ธมฺมานํ อนุโลมปจฺจนียตาย ลทฺธนามํ อนุโลมปจฺจนียปฏฺานํ ทสฺเสตุํ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ น กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติ กุสลสฺส ปจฺจยภาวํ อนุชานาติ. น กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชตีติ กุสลสฺเสว อุปฺปตฺตึ วาเรติ. ตสฺมา ‘‘กุสเล ขนฺเธ ปฏิจฺจ จิตฺตสมุฏฺานํ รูป’’นฺติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ ทสฺสิตํ, ตํ สพฺพํ ปาฬึ โอโลเกตฺวา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพํ. ยมฺปิ เยน สทิสํ, ยฺจ ยตฺถ ลพฺภติ, โย จ เยสํ วิสฺสชฺชนานํ เยสุ ปจฺจเยสุ คณนปริจฺเฉโท, โส สพฺโพ ปาฬิยํ ทสฺสิโต, ตสฺมา ปาฬิเยว เอตฺถ อตฺโถ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ทุกปฏฺานาทีสุปีติ.

เอตฺตาวตา –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

ฉ อนุโลมปจฺจนียมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. –

อฏฺกถายํ วุตฺตคาถาย ทีปิตา ธมฺมานุโลมปจฺจนียปฏฺาเน ฉ นยา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. ปจฺจยวเสน ปเนตฺถ เอเกกสฺมึ ปฏฺาเน อนุโลมาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร นยาติ เอเกน ปริยาเยน จตุวีสตินยปฏิมณฺฑิตํ อนุโลมปจฺจนียปฏฺานฺเว เวทิตพฺพํ.

อนุโลมปจฺจนียปฏฺานวณฺณนา.

๑๙-๒๔. ปจฺจนียานุโลมปฏฺานวณฺณนา

. อิทานิ กุสลาทีสุ ธมฺเมสุ ปจฺจยธมฺมํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส กุสลาทิภาวํ อปฺปฏิกฺเขปวเสน ธมฺมานํ ปจฺจนียานุโลมตาย ลทฺธนามํ ปจฺจนียานุโลมปฏฺานํ ทสฺเสตุํ นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจาติ กุสลสฺส ปจฺจยภาวํ วาเรติ. อกุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชตีติ อกุสลสฺส อุปฺปตฺตึ อนุชานาติ. นกุสลฺหิ อกุสลํ อพฺยากตํ วา, ตฺจ สหชาตปจฺจยํ กตฺวา อุปฺปชฺชมาโน กุสโล นาม นตฺถิ, ตสฺมา อกุสลาพฺยากตวเสน เทสนา กตา. ตตฺถ ‘‘อกุสลํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติ เอวํ นกุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยาติ อยํ ปน ปฺโห ‘‘วิปากาพฺยากตํ กิริยาพฺยากตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานฺจ รูป’’นฺติ วิสฺสชฺชิโตว. อิติ สพฺพปฺเหสุ อวิสฺสชฺชิตสฺส อตฺถานุรูปํ วิสฺสชฺชิตสฺส จ ปาฬิอาคตเมว วิสฺสชฺชนํ. เอเกกสฺมิฺจ ติกทุเก วารปฺปเภทปจฺจยคณนวิธานํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.

เอตฺตาวตา จ –

ติกฺจ ปฏฺานวรํ ทุกุตฺตมํ,

ทุกํ ติกฺเจว ติกํ ทุกฺจ;

ติกํ ติกฺเจว ทุกํ ทุกฺจ,

ฉ ปจฺจนียานุโลมมฺหิ นยา สุคมฺภีราติ. –

อฏฺกถายํ วุตฺตคาถาย ทีปิตา. ธมฺมปจฺจนียานุโลมปฏฺาเน ฉ นยา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. ปจฺจยวเสน ปเนตฺถ เอเกกสฺมึ ปฏฺาเน อนุโลมาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร นยาติ เอเกน ปริยาเยน จตุวีสตินยปฏิมณฺฑิตํ ปจฺจนียานุโลมปฏฺานฺเว เวทิตพฺพํ.

ปจฺจนียานุโลมปฏฺานวณฺณนา.

เอวํ ธมฺมานุโลมาทิวเสน จตูสุ วาเรสุ เอเกกสฺมึ จตุวีสติยา จตุวีสติยา นยานํ วเสน ฉนฺนวุติ นยา โหนฺติ. ตตฺถ ปจฺจยนเย อคฺคเหตฺวา เอเกกสฺมึ ปฏฺาเน ติกทุกาทีนฺเว ฉนฺนํ ฉนฺนํ นยานํ วเสเนตํ จตุวีสตินยปฏิมณฺฑิตํ สมนฺตปฏฺานมหาปกรณํ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘กุสลารมฺมโณ ธมฺโม อกุสลารมฺมโณ ธมฺโม’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณมาติกํ นาม เปตฺวา ‘‘กุสลารมฺมโณ ธมฺโม กุสลารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณปฏฺานํ นาม ทสฺเสตฺวา อปรมฺปิ ผสฺสาทีนํ วเสนปิ ผสฺสปฏฺานํ นาม อุทฺธริตฺวา ทสฺเสนฺติ. ตํ เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถาสุ สนฺทิสฺสตีติ อิธ น วิจาริตํ. สงฺคีติอารุฬฺหปาฬิวเสเนว ปเนตฺถ วณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.

เอตฺตาวตา จ –

สมฺมูฬฺหา ยตฺถ ปชา, ตนฺตากุลาทิภาวมาปนฺนา;

เนกวิธทุกฺขคหนํ, สํสารํ นาติวตฺตนฺติ.

ปจฺจยเภเท กุสโล, โลเก ครุตมฺปิ ปจฺจยาการํ;

อตินิปฺปุณคมฺภีรํ, ชวนพฺภูมึ พุทฺธาณสฺส.

กุสลาทิธมฺมเภทํ, นิสฺสาย นเยหิ วิวิธคณเนหิ;

วิตฺถาเรนฺโต สตฺตม-มภิธมฺมปฺปกรณํ สตฺถา.

สุวิหิตสนฺนิฏฺาโน, ปฏฺานํ นาม ยํ ปกาเสสิ;

สทฺธาย สมารทฺธา, ยา อฏฺกถา มยา ตสฺส.

อาจริยานํ วาทํ, อวิหาย วิภชฺชวาทิสิสฺสานํ;

อติพหุวิธนฺตราเย, โลกมฺหิ อนนฺตราเยน.

สา เอวํ อชฺช กตา, จุทฺทสมตฺเตหิ ภาณวาเรหิ;

อตฺถํ ปกาสยนฺตี, ปฏฺานวรสฺส สกลสฺส.

สนฺนิฏฺานํ ปตฺตา ยเถว นิฏฺํ ตถา พหุชนสฺส;

สมฺปาปุณนฺตุ สีฆํ, กลฺยาณา สพฺพสงฺกปฺปา.

เอตฺตาวตา

สตฺตปฺปกรณํ นาโถ, อภิธมฺมมเทสยิ;

เทวาติเทโว เทวานํ, เทวโลกมฺหิ ยํ ปุเร.

ตสฺส อฏฺกถา เอสา, สกลสฺสาปิ นิฏฺิตา;

จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, นิฏฺเปนฺเตน ตํ มยา.

ยํ ปตฺตํ กุสลํ ตสฺส, อานุภาเวน ปาณิโน;

สพฺเพ สทฺธมฺมราชสฺส, ตฺวา ธมฺมํ สุขาวหํ.

ปาปุณนฺตุ วิสุทฺธาย, สุขาย ปฏิปตฺติยา;

อโสกมนุปายาสํ, นิพฺพานสุขมุตฺตมํ.

จิรํ ติฏฺตุ สทฺธมฺโม, ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา;

สพฺเพปิ สตฺตา กาเลน, สมฺมา เทโว ปวสฺสตุ.

ยถา รกฺขึสุ โปราณา, สุราชาโน ตเถวิมํ;

ราชา รกฺขตุ ธมฺเมน, อตฺตโนว ปชํ ปชนฺติ.

ปฏฺานปฺปกรณ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ ปฺจปกรณฏฺกถาติ.

นิคมนกถา

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สกลสฺสปิ อภิธมฺมปิฏกสฺส อฏฺกถา –

ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ปฺาวิสุทฺธิยา.

ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.

อภิธมฺมปิฏก-อฏฺกถา นิฏฺิตา.