📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
ปุคฺคลปฺตฺติปาฬิ
มาติกา
๑. เอกกอุทฺเทโส
๑. ฉ ¶ ¶ ¶ ¶ ปฺตฺติโย – ขนฺธปฺตฺติ, อายตนปฺตฺติ, ธาตุปฺตฺติ, สจฺจปฺตฺติ, อินฺทฺริยปฺตฺติ, ปุคฺคลปฺตฺตีติ.
๒. กิตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ? ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ, เวทนากฺขนฺโธ, สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารกฺขนฺโธ, วิฺาณกฺขนฺโธ; เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ.
๓. กิตฺตาวตา ¶ อายตนานํ อายตนปฺตฺติ? ยาวตา ทฺวาทสายตนานิ – จกฺขายตนํ, รูปายตนํ, โสตายตนํ, สทฺทายตนํ, ฆานายตนํ, คนฺธายตนํ, ชิวฺหายตนํ, รสายตนํ, กายายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ, มนายตนํ, ธมฺมายตนํ; เอตฺตาวตา อายตนานํ อายตนปฺตฺติ.
๔. กิตฺตาวตา ¶ ธาตูนํ ธาตุปฺตฺติ? ยาวตา อฏฺารส ธาตุโย – จกฺขุธาตุ, รูปธาตุ, จกฺขุวิฺาณธาตุ, โสตธาตุ, สทฺทธาตุ, โสตวิฺาณธาตุ, ฆานธาตุ, คนฺธธาตุ, ฆานวิฺาณธาตุ, ชิวฺหาธาตุ, รสธาตุ, ชิวฺหาวิฺาณธาตุ, กายธาตุ, โผฏฺพฺพธาตุ, กายวิฺาณธาตุ, มโนธาตุ, ธมฺมธาตุ, มโนวิฺาณธาตุ; เอตฺตาวตา ธาตูนํ ธาตุปฺตฺติ.
๕. กิตฺตาวตา ¶ ¶ สจฺจานํ สจฺจปฺตฺติ? ยาวตา จตฺตาริ สจฺจานิ – ทุกฺขสจฺจํ, สมุทยสจฺจํ, นิโรธสจฺจํ, มคฺคสจฺจํ; เอตฺตาวตา สจฺจานํ สจฺจปฺตฺติ.
๖. กิตฺตาวตา อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปฺตฺติ? ยาวตา พาวีสตินฺทฺริยานิ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริยํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยํ, ชีวิตินฺทฺริยํ, สุขินฺทฺริยํ, ทุกฺขินฺทฺริยํ, โสมนสฺสินฺทฺริยํ, โทมนสฺสินฺทฺริยํ, อุเปกฺขินฺทฺริยํ, สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, อฺินฺทฺริยํ, อฺาตาวินฺทฺริยํ; เอตฺตาวตา อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปฺตฺติ.
๗. กิตฺตาวตา ¶ ปุคฺคลานํ ปุคฺคลปฺตฺติ?
(๑) สมยวิมุตฺโต
(๒) อสมยวิมุตฺโต
(๓) กุปฺปธมฺโม
(๔) อกุปฺปธมฺโม
(๕) ปริหานธมฺโม
(๖) อปริหานธมฺโม
(๗) เจตนาภพฺโพ ¶
(๘) อนุรกฺขณาภพฺโพ
(๙) ปุถุชฺชโน
(๑๐) โคตฺรภู
(๑๑) ภยูปรโต
(๑๒) อภยูปรโต
(๑๓) ภพฺพาคมโน
(๑๔) อภพฺพาคมโน
(๑๕) นิยโต
(๑๖) อนิยโต
(๑๗) ปฏิปนฺนโก ¶
(๑๘) ผเลิโต
(๑๙) สมสีสี
(๒๐) ิตกปฺปี
(๒๑) อริโย
(๒๒) อนริโย
(๒๓) เสกฺโข
(๒๔) อเสกฺโข
(๒๕) เนวเสกฺขนาเสกฺโข
(๒๖) เตวิชฺโช
(๒๗) ฉฬภิฺโ
(๒๙) ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ [ปจฺเจกพุทฺโธ (สี.)]
(๓๐) อุภโตภาควิมุตฺโต
(๓๑) ปฺาวิมุตฺโต
(๓๒) กายสกฺขี
(๓๓) ทิฏฺิปฺปตฺโต
(๓๔) สทฺธาวิมุตฺโต
(๓๕) ธมฺมานุสารี
(๓๖) สทฺธานุสารี
(๓๗) สตฺตกฺขตฺตุปรโม
(๓๘) โกลงฺโกโล
(๓๙) เอกพีชี
(๔๐) สกทาคามี ¶
(๔๑) อนาคามี
(๔๒) อนฺตราปรินิพฺพายี
(๔๓) อุปหจฺจปรินิพฺพายี
(๔๔) อสงฺขารปรินิพฺพายี
(๔๕) สสงฺขารปรินิพฺพายี
(๔๖) อุทฺธํโสโตอกนิฏฺคามี
(๔๗) โสตาปนฺโน
(๔๘) โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน
(๔๙) สกทาคามี ¶
(๕๐) สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน
(๕๑) อนาคามี
(๕๒) อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน
(๕๓) อรหา
(๕๔) อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย [อรหตฺตาย (สี.)] ปฏิปนฺโน
เอกกํ.
๒. ทุกอุทฺเทโส
๘. ทฺเว ¶ ปุคฺคลา –
(๑) โกธโน จ, อุปนาหี จ.
(๒) มกฺขี จ, ปฬาสี [ปลาสี (สฺยา. ก.)] จ.
(๓) อิสฺสุกี จ, มจฺฉรี จ.
(๔) สโ จ, มายาวี จ.
(๕) อหิริโก ¶ จ, อโนตฺตปฺปี จ.
(๖) ทุพฺพโจ จ, ปาปมิตฺโต จ.
(๗) อินฺทฺริเยสุ ¶ อคุตฺตทฺวาโร จ, โภชเน อมตฺตฺู จ.
(๘) มุฏฺสฺสติ จ, อสมฺปชาโน จ.
(๙) สีลวิปนฺโน จ, ทิฏฺิวิปนฺโน จ.
(๑๐) อชฺฌตฺตสํโยชโน ¶ จ, พหิทฺธาสํโยชโน จ.
(๑๑) อกฺโกธโน จ, อนุปนาหี จ.
(๑๒) อมกฺขี จ, อปฬาสี จ.
(๑๓) อนิสฺสุกี จ, อมจฺฉรี จ.
(๑๔) อสโ จ, อมายาวี จ.
(๑๕) หิริมา จ, โอตฺตปฺปี จ.
(๑๖) สุวโจ จ, กลฺยาณมิตฺโต จ.
(๑๗) อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร จ, โภชเน มตฺตฺู จ.
(๑๘) อุปฏฺิตสฺสติ จ, สมฺปชาโน จ.
(๑๙) สีลสมฺปนฺโน จ, ทิฏฺิสมฺปนฺโน จ.
(๒๐) ทฺเว ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.
(๒๑) ทฺเว ปุคฺคลา ทุตฺตปฺปยา.
(๒๒) ทฺเว ปุคฺคลา สุตปฺปยา.
(๒๓) ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา วฑฺฒนฺติ.
(๒๔) ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา น วฑฺฒนฺติ.
(๒๕) หีนาธิมุตฺโต จ, ปณีตาธิมุตฺโต จ.
(๒๖) ติตฺโต จ, ตปฺเปตา จ.
ทุกํ.
๓. ติกอุทฺเทโส
(๑) นิราโส, อาสํโส, วิคตาโส.
(๒) ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา.
(๓) กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต.
(๔) คูถภาณี, ปุปฺผภาณี, มธุภาณี.
(๕) อรุกูปมจิตฺโต ปุคฺคโล, วิชฺชูปมจิตฺโต ปุคฺคโล ¶ , วชิรูปมจิตฺโต ปุคฺคโล.
(๖) อนฺโธ, เอกจกฺขุ, ทฺวิจกฺขุ.
(๗) อวกุชฺชปฺโ ปุคฺคโล, อุจฺฉงฺคปฺโ [อุจฺจงฺคุปฺโ (สฺยา.)] ปุคฺคโล, ปุถุปฺโ ปุคฺคโล.
(๘) อตฺเถกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ อวีตราโค, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล กาเมสุ วีตราโค ภเวสุ อวีตราโค, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ วีตราโค.
(๙) ปาสาณเลขูปโม ปุคฺคโล, ปถวิเลขูปโม ปุคฺคโล, อุทกเลขูปโม ปุคฺคโล.
(๑๐) ตโย โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา.
(๑๑) ตโย กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา.
(๑๒) สุปฺปเมยฺโย, ทุปฺปเมยฺโย, อปฺปเมยฺโย.
(๑๓) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี.)] เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
(๑๔) อตฺเถกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
(๑๕) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี [ปริปูรีการี (สฺยา.)], สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส ¶ การี; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย จ ปริปูรการี.
(๑๖) ตโย สตฺถาโร.
(๑๗) อปเรปิ ตโย สตฺถาโร.
ติกํ.
๔. จตุกฺกอุทฺเทโส
๑๐. จตฺตาโร ¶ ปุคฺคลา –
(๑) อสปฺปุริโส, อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร, สปฺปุริโส, สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโร.
(๒) ปาโป, ปาเปน ปาปตโร, กลฺยาโณ, กลฺยาเณน กลฺยาณตโร.
(๓) ปาปธมฺโม ¶ , ปาปธมฺเมน ปาปธมฺมตโร, กลฺยาณธมฺโม, กลฺยาณธมฺเมน กลฺยาณธมฺมตโร.
(๔) สาวชฺโช, วชฺชพหุโล, อปฺปวชฺโช [อปฺปสาวชฺโช (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๔.๑๓๕], อนวชฺโช.
(๕) อุคฺฆฏิตฺู, วิปฺจิตฺู [วิปจิตฺู (สี.) อ. นิ. ๔.๑๓๓], เนยฺโย, ปทปรโม.
(๖) ยุตฺตปฺปฏิภาโน ¶ , โน มุตฺตปฺปฏิภาโน, มุตฺตปฺปฏิภาโน, โน ยุตฺตปฺปฏิภาโน, ยุตฺตปฺปฏิภาโน จ มุตฺตปฺปฏิภาโน จ, เนว ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโน.
(๗) จตฺตาโร ธมฺมกถิกา ปุคฺคลา.
(๘) จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา.
(๙) จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา.
(๑๐) จตฺตาโร ¶ อมฺพูปมา ปุคฺคลา.
(๑๑) จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา.
(๑๒) จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา.
(๑๓) จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา [พลิพทฺทูปมา (สี.)] ปุคฺคลา.
(๑๔) จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา.
(๑๕) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
(๑๖) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส ¶ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
(๑๗) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา ¶ โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ¶ ตจฺฉํ กาเลน; วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน.
(๑๘) อุฏฺานผลูปชีวี โน ปฺุผลูปชีวี, ปฺุผลูปชีวี โน อุฏฺานผลูปชีวี, อุฏฺานผลูปชีวี จ ปฺุผลูปชีวี จ, เนว อุฏฺานผลูปชีวี โน ปฺุผลูปชีวี.
(๑๙) ตโม ¶ ตมปรายโน, ตโม โชติปรายโน, โชติ ตมปรายโน, โชติ โชติปรายโน.
(๒๐) โอณโตณโต, โอณตุณฺณโต, อุณฺณโตณโต, อุณฺณตุณฺณโต.
(๒๑) จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา.
(๒๒) รูปปฺปมาโณ, รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ, โฆสปฺปสนฺโน.
(๒๓) ลูขปฺปมาโณ, ลูขปฺปสนฺโน ¶ , ธมฺมปฺปมาโณ, ธมฺมปฺปสนฺโน.
(๒๔) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย.
(๒๕) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ¶ , ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต [สีติภูโต (สี. ก.)] สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
(๒๖) สราโค, สโทโส, สโมโห, สมาโน.
(๒๗) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย; อตฺเถกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย; อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
(๒๘) อนุโสตคามี ¶ ปุคฺคโล, ปฏิโสตคามี ปุคฺคโล, ิตตฺโต ปุคฺคโล, ติณฺโณ ปารงฺคโต [ปารคโต (สี. สฺยา.)] ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
(๒๙) อปฺปสฺสุโต ¶ สุเตน อนุปปนฺโน, อปฺปสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อนุปปนฺโน, พหุสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน.
(๓๐) สมณมจโล, สมณปทุโม, สมณปุณฺฑรีโก, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
จตุกฺกํ.
๕. ปฺจกอุทฺเทโส
(๑) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อารภติ [อารมฺภติ (สี. สฺยา.)] จ วิปฺปฏิสารี จ โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อารภติ น วิปฺปฏิสารี จ โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล นารภติ วิปฺปฏิสารี จ โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล นารภติ น วิปฺปฏิสารี โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล นารภติ น วิปฺปฏิสารี โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา ¶ นิรุชฺฌนฺติ.
(๒) ทตฺวา ¶ ¶ อวชานาติ, สํวาเสน อวชานาติ, อาเธยฺยมุโข โหติ, โลโล โหติ, มนฺโท โมมูโห โหติ.
(๓) ปฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา.
(๔) ปฺจ ปิณฺฑปาติกา.
(๕) ปฺจ ขลุปจฺฉาภตฺติกา.
(๖) ปฺจ เอกาสนิกา.
(๗) ปฺจ ปํสุกูลิกา.
(๘) ปฺจ เตจีวริกา.
(๙) ปฺจ อารฺิกา.
(๑๐) ปฺจ รุกฺขมูลิกา.
(๑๑) ปฺจ อพฺโภกาสิกา.
(๑๒) ปฺจ เนสชฺชิกา.
(๑๓) ปฺจ ยถาสนฺถติกา.
(๑๔) ปฺจ โสสานิกา.
ปฺจกํ.
๖. ฉกฺกอุทฺเทโส
๑๒. ฉ ¶ ปุคฺคลา –
(๑) อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ พเลสุ [ผเลสุ (ปี.)] จ วสีภาวํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ ¶ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ตตฺถ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ น จ พเลสุ วสีภาวํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ สาวกปารมิฺจ ปาปุณาติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ ¶ , ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, น จ สาวกปารมึ ปาปุณาติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อนาคามี โหติ อนาคนฺตา [อนาคนฺตฺวา (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๔.๑๗๑] อิตฺถตฺตํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อาคามี [โสตาปนฺนสกทาคามี (สฺยา. ก.)] โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ.
ฉกฺกํ.
๗. สตฺตกอุทฺเทโส
(๑) สตฺต ¶ อุทกูปมา ปุคฺคลา. สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ปฏิคาธปฺปตฺโต โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
(๒) อุภโตภาควิมุตฺโต ¶ , ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารี.
สตฺตกํ.
๘. อฏฺกอุทฺเทโส
๑๔. อฏฺ ¶ ปุคฺคลา –
(๑) จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน, จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา.
อฏฺกํ.
๙. นวกอุทฺเทโส
๑๕. นว ¶ ปุคฺคลา –
(๑) สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ, อุภโตภาควิมุตฺโต, ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารี.
นวกํ.
๑๐. ทสกอุทฺเทโส
(๑) ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา.
ทสกํ.
ปุคฺคลปฺตฺติมาติกา นิฏฺิตา.
นิทฺเทโส
๑. เอกกปุคฺคลปฺตฺติ
๑. กตโม ¶ ¶ ¶ จ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา [ผสฺสิตฺวา (สี. ปี.)] วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมยวิมุตฺโต’’.
๒. กตโม จ ปุคฺคโล อสมยวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล น ¶ เหว โข กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสมยวิมุตฺโต’’. สพฺเพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมกฺเข อสมยวิมุตฺตา.
๓. กตโม จ ปุคฺคโล กุปฺปธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปมาทมาคมฺม ตา สมาปตฺติโย กุปฺเปยฺยุํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กุปฺปธมฺโม’’.
๔. กตโม จ ปุคฺคโล อกุปฺปธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. อฏฺานเมตํ อนวกาโส ¶ ยํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปมาทมาคมฺม ตา สมาปตฺติโย กุปฺเปยฺยุํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อกุปฺปธมฺโม’’. สพฺเพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมกฺเข อกุปฺปธมฺมา.
๕. กตโม จ ปุคฺคโล ปริหานธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ ¶ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ¶ ยตฺถิจฺฉกํ ¶ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส ปุคฺคโล ปมาทมาคมฺม ตาหิ สมาปตฺตีหิ ปริหาเยยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปริหานธมฺโม’’.
๖. กตโม จ ปุคฺคโล อปริหานธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ปุคฺคโล ปมาทมาคมฺม ตาหิ สมาปตฺตีหิ ปริหาเยยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปริหานธมฺโม’’. สพฺเพปิ อริยปุคฺคลา อริเย วิโมกฺเข อปริหานธมฺมา.
๗. กตโม จ ปุคฺคโล เจตนาภพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. สเจ อนุสฺเจเตติ, น ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ. สเจ น อนุสฺเจเตติ, ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เจตนาภพฺโพ’’.
๘. กตโม จ ปุคฺคโล อนุรกฺขณาภพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. โส จ โข น นิกามลาภี โหติ น อกิจฺฉลาภี น อกสิรลาภี; น ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. สเจ อนุรกฺขติ, น ¶ ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ. สเจ น อนุรกฺขติ, ปริหายติ ตาหิ สมาปตฺตีหิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนุรกฺขณาภพฺโพ’’.
๙. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ปุถุชฺชโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตีณิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ; น จ เตสํ ธมฺมานํ ปหานาย ปฏิปนฺโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุถุชฺชโน’’.
๑๐. กตโม จ ปุคฺคโล โคตฺรภู? เยสํ ¶ ธมฺมานํ สมนนฺตรา อริยธมฺมสฺส อวกฺกนฺติ โหติ เตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โคตฺรภู’’.
๑๑. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ภยูปรโต? สตฺต เสกฺขา ภยูปรตา, เย จ ปุถุชฺชนา สีลวนฺโต. อรหา อภยูปรโต.
๑๒. กตโม จ ปุคฺคโล อภพฺพาคมโน? เย เต ปุคฺคลา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปฺา เอฬา, อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘อภพฺพาคมนา’’.
๑๓. กตโม จ ปุคฺคโล ภพฺพาคมโน? เย เต ปุคฺคลา น กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, น กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, น วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, สทฺธา ฉนฺทิกา ปฺวนฺโต [ปฺวนฺตา (สี.)] อเนฬา, ภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘ภพฺพาคมนา’’.
๑๔. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล นิยโต? ปฺจ ปุคฺคลา อานนฺตริกา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺิกา นิยตา, อฏฺ จ อริยปุคฺคลา นิยตา. อวเสสา ปุคฺคลา อนิยตา.
๑๕. กตโม จ ปุคฺคโล ปฏิปนฺนโก? จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ปฏิปนฺนกา, จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา ผเล ิตา.
๑๖. กตโม จ ปุคฺคโล สมสีสี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมสีสี’’.
๑๗. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ิตกปฺปี? อยฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กปฺโป อุฑฺฑยฺเหยฺย ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกโรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ิตกปฺปี’’. สพฺเพปิ ¶ มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ิตกปฺปิโน.
๑๘. กตโม จ ปุคฺคโล อริโย? อฏฺ อริยปุคฺคลา อริยา. อวเสสา ปุคฺคลา อนริยา.
๑๙. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล เสกฺโข? จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน ตโย ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา ‘‘เสกฺขา’’. อรหา อเสกฺโข. อวเสสา ปุคฺคลา เนวเสกฺขนาเสกฺขา.
๒๐. กตโม จ ปุคฺคโล เตวิชฺโช? ตีหิ วิชฺชาหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ¶ ‘‘เตวิชฺโช’’.
๒๑. กตโม จ ปุคฺคโล ฉฬภิฺโ? ฉหิ อภิฺาหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ฉฬภิฺโ’’.
๒๒. กตโม จ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ; ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ, พเลสุ จ วสีภาวํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’.
๒๓. กตโม จ ปุคฺคโล ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ; น จ ตตฺถ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ, น จ พเลสุ วสีภาวํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ’’.
๒๔. กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ; ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุภโตภาควิมุตฺโต’’.
๒๕. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ; ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปฺาวิมุตฺโต’’.
๒๖. กตโม จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ¶ ; ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ ¶ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กายสกฺขี’’.
๒๗. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ¶ ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทิฏฺิปฺปตฺโต’’.
๒๘. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธาวิมุตฺโต’’.
๒๙. กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ธมฺมานุสารี’’. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี ผเล ิโต ทิฏฺิปฺปตฺโต.
๓๐. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ – อยํ วุจฺจติ ¶ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธานุสารี’’. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี ผเล ิโต สทฺธาวิมุตฺโต.
๓๑. กตโม จ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน ¶ โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโน [สมฺโพธิปรายโณ (สี. ก.)]. โส สตฺตกฺขตฺตุํ เทเว จ มานุเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’.
๓๒. กตโม จ ปุคฺคโล โกลงฺโกโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต ¶ สมฺโพธิปรายโน. โส ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานิ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โกลงฺโกโล’’.
๓๓. กตโม จ ปุคฺคโล เอกพีชี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโน. โส เอกํเยว มานุสกํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เอกพีชี’’.
๓๔. กตโม จ ปุคฺคโล สกทาคามี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ ¶ , สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สกทาคามี’’.
๓๕. กตโม จ ปุคฺคโล อนาคามี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนาคามี’’.
๓๖. กตโม จ ปุคฺคโล อนฺตราปรินิพฺพายี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. โส อุปปนฺนํ วา สมนนฺตรา อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณํ อริยมคฺคํ สฺชเนติ อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายี’’.
๓๗. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อุปหจฺจปรินิพฺพายี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. โส อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณํ อุปหจฺจ วา กาลกิริยํ [กาลํ กิริยํ (ก.)] อริยมคฺคํ สฺชเนติ อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุปหจฺจปรินิพฺพายี’’.
๓๘. กตโม จ ปุคฺคโล อสงฺขารปรินิพฺพายี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ¶ ปรินิพฺพายี ¶ อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. โส อสงฺขาเรน อริยมคฺคํ สฺชเนติ อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสงฺขารปรินิพฺพายี’’.
๓๙. กตโม จ ปุคฺคโล สสงฺขารปรินิพฺพายี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. โส สสงฺขาเรน อริยมคฺคํ สฺชเนติ อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สสงฺขารปรินิพฺพายี’’.
๔๐. กตโม จ ปุคฺคโล อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. โส อวิหา จุโต อตปฺปํ คจฺฉติ, อตปฺปา จุโต สุทสฺสํ คจฺฉติ, สุทสฺสา จุโต สุทสฺสึ คจฺฉติ, สุทสฺสิยา จุโต อกนิฏฺํ คจฺฉติ; อกนิฏฺเ อริยมคฺคํ สฺชเนติ อุปริฏฺิมานํ สํโยชนานํ ปหานาย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี’’.
๔๑. กตโม จ ปุคฺคโล โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน? ติณฺณํ สํโยชนานํ ปหานาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน. ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตีณิ สํโยชนานิ ปหีนานิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โสตาปนฺโน’’.
๔๒. กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ¶ . ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส กามราคพฺยาปาทา ตนุภูตา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สกทาคามี’’.
๔๓. กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล ¶ อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน. ยสฺส ปุคฺคลสฺส กามราคพฺยาปาทา อนวเสสา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนาคามี’’.
๔๔. รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชาย อนวเสสปฺปหานาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน. ยสฺส ปุคฺคลสฺส รูปราโค ¶ อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชา อนวเสสา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อรหา’’.
เอกกนิทฺเทโส.
๒. ทุกปุคฺคลปฺตฺติ
๔๕. กตโม จ ปุคฺคโล โกธโน? ตตฺถ กตโม โกโธ? โย โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตํ [ทูสนา ทูสิตตฺตํ (สฺยา.)] พฺยาปตฺติ พฺยาปชฺชนา พฺยาปชฺชิตตฺตํ วิโรโธ ปฏิวิโรโธ จณฺฑิกฺกํ อสุโรโป อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ โกโธ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ โกโธ อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘โกธโน’’.
๔๖. กตโม จ ปุคฺคโล อุปนาหี? ตตฺถ กตโม อุปนาโห? ปุพฺพกาลํ โกโธ อปรกาลํ อุปนาโห. โย เอวรูโป อุปนาโห อุปนยฺหนา อุปนยฺหิตตฺตํ อฏฺปนา [อาปนา (ก.) วิภ. ๘๙๑] ปนา สณฺปนา อนุสํสนฺทนา อนุปฺปพนฺธนา ทฬฺหีกมฺมํ โกธสฺส – อยํ วุจฺจติ อุปนาโห ¶ . ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อุปนาโห อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุปนาหี’’.
๔๗. กตโม จ ปุคฺคโล มกฺขี? ตตฺถ กตโม มกฺโข? โย มกฺโข มกฺขายนา มกฺขายิตตฺตํ [มกฺขียนา มกฺขียิตตฺตํ (สี.), มกฺขิยนา มกฺขิยิตตฺตํ (ก.)] ¶ นิฏฺุริยํ นิฏฺุริยกมฺมํ – อยํ วุจฺจติ มกฺโข. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ มกฺโข อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มกฺขี’’.
๔๘. กตโม จ ปุคฺคโล ปฬาสี? ตตฺถ กตโม ปฬาโส? โย ปฬาโส ปฬาสายนา ปฬาสายิตตฺตํ ¶ ปฬาสาหาโร วิวาทฏฺานํ ยุคคฺคาโห อปฺปฏินิสฺสคฺโค – อยํ วุจฺจติ ปฬาโส. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ ปฬาโส อปฺปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปฬาสี’’.
๔๙. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อิสฺสุกี? ตตฺถ กตมา อิสฺสา? ยา ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสา อิสฺสายนา อิสฺสายิตตฺตํ อุสูยา อุสูยนา [อุสฺสุยา อุสฺสุยนา (ก.) วิภ. ๘๙๓] อุสูยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ อิสฺสา. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อิสฺสา อปฺปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อิสฺสุกี’’.
๕๐. กตโม จ ปุคฺคโล มจฺฉรี? ตตฺถ กตมํ มจฺฉริยํ? ปฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํ. ยํ เอวรูปํ มจฺเฉรํ มจฺฉรายนา มจฺฉรายิตตฺตํ เววิจฺฉํ กทริยํ กฏุกฺจุกตา อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺส – อิทํ วุจฺจติ มจฺฉริยํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อิทํ มจฺฉริยํ อปฺปหีนํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มจฺฉรี’’.
๕๑. กตโม จ ปุคฺคโล สโ? ตตฺถ กตมํ สาเยฺยํ? อิเธกจฺโจ สโ โหติ ปริสโ. ยํ ตตฺถ สํ สตา สาเยฺยํ ¶ กกฺกรตา กกฺกริยํ [กกฺขฬตา กกฺขฬิยํ (สฺยา.) เอวํ ขุทฺทกวิภงฺคทุกนิทฺเทเสปิ] ปริกฺขตฺตตฺตา ปาริกฺขตฺติยํ – อิทํ วุจฺจติ สาเยฺยํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อิทํ สาเยฺยํ อปฺปหีนํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สโ’’.
๕๒. กตโม จ ปุคฺคโล มายาวี? ตตฺถ กตมา มายา? อิเธกจฺโจ กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา ตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ – ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ อิจฺฉติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ สงฺกปฺปติ ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ วาจํ ภาสติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. ยา เอวรูปา มายา มายาวิตา อจฺจาสรา วฺจนา นิกติ วิกิรณา ปริหรณา คูหนา ปริคูหนา ฉาทนา ปฏิจฺฉาทนา ¶ อนุตฺตานีกมฺมํ อนาวิกมฺมํ โวจฺฉาทนา ปาปกิริยา – อยํ วุจฺจติ มายา. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ มายา อปฺปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มายาวี’’.
๕๓. กตโม จ ปุคฺคโล อหิริโก? ตตฺถ กตมํ อหิริกํ? ยํ ¶ น หิรียติ หิริยิตพฺเพน น หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา – อิทํ วุจฺจติ อหิริกํ. อิมินา อหิริเกน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อหิริโก’’.
๕๔. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อโนตฺตปฺปี? ตตฺถ กตมํ อโนตฺตปฺปํ? ยํ น โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพน น โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา – อิทํ วุจฺจติ อโนตฺตปฺปํ. อิมินา อโนตฺตปฺเปน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อโนตฺตปฺปี’’.
๕๕. กตโม จ ปุคฺคโล ทุพฺพโจ? ตตฺถ กตโม โทวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โทวจสฺสายํ โทวจสฺสิยํ โทวจสฺสตา วิปฺปฏิกุลคฺคาหิตา ¶ วิปจฺจนีกสาตตา อนาทริยํ อนาทริยตา อคารวตา อปฺปติสฺสวตา – อยํ วุจฺจติ โทวจสฺสตา. อิมาย โทวจสฺสตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ทุพฺพโจ’’.
๕๖. กตโม จ ปุคฺคโล ปาปมิตฺโต? ตตฺถ กตมา ปาปมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ทุสฺสีลา อปฺปสฺสุตา มจฺฉริโน ทุปฺปฺา, ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สมฺภชนา ภตฺติ สมฺภตฺติ สมฺปวงฺกตา – อยํ วุจฺจติ ปาปมิตฺตตา. อิมาย ปาปมิตฺตตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ปาปมิตฺโต’’.
๕๗. กตโม จ ปุคฺคโล อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร? ตตฺถ กตมา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ, น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ ¶ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ, น รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย ¶ น สํวรํ อาปชฺชติ. ยา อิเมสํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ อคุตฺติ อโคปนา อนารกฺโข อสํวโร – อยํ วุจฺจติ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา. อิมาย อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาย ¶ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร’’.
๕๘. กตโม จ ปุคฺคโล โภชเน อมตฺตฺู? ตตฺถ กตมา โภชเน อมตฺตฺุตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อปฺปฏิสงฺขา อโยนิโส อาหารํ ¶ อาหาเรติ ทวาย มทาย มณฺฑนาย วิภูสนาย, ยา ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา อมตฺตฺุตา อปฺปฏิสงฺขา โภชเน – อยํ วุจฺจติ โภชเน อมตฺตฺุตา. อิมาย โภชเน อมตฺตฺุตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘โภชเน อมตฺตฺู’’.
๕๙. กตโม จ ปุคฺคโล มุฏฺสฺสติ? ตตฺถ กตมํ มุฏฺสฺสจฺจํ? ยา อสฺสติ อนนุสฺสติ อปฺปฏิสฺสติ อสฺสติ อสฺสรณตา อธารณตา ปิลาปนตา สมฺมุสนตา – อิทํ วุจฺจติ มุฏฺสฺสจฺจํ. อิมินา มุฏฺสฺสจฺเจน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘มุฏฺสฺสติ’’.
๖๐. กตโม จ ปุคฺคโล อสมฺปชาโน? ตตฺถ กตมํ อสมฺปชฺํ? ยํ อฺาณํ อทสฺสนํ อนภิสมโย อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ อสงฺคาหณา อปริโยคาหณา [อสํคาหนา อปริโยคาหนา (สี. สฺยา. ก.)] อสมเปกฺขณา อปจฺจเวกฺขณา อปจฺจกฺขกมฺมํ ทุมฺเมชฺฌํ พาลฺยํ อสมฺปชฺํ โมโห ปโมโห สมฺโมโห อวิชฺชา อวิชฺโชโฆ อวิชฺชาโยโค อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ – อิทํ วุจฺจติ อสมฺปชฺํ. อิมินา อสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อสมฺปชาโน’’.
๖๑. กตโม จ ปุคฺคโล สีลวิปนฺโน? ตตฺถ กตมา สีลวิปตฺติ? กายิโก วีติกฺกโม วาจสิโก วีติกฺกโม กายิกวาจสิโก วีติกฺกโม – อยํ วุจฺจติ สีลวิปตฺติ. สพฺพมฺปิ ทุสฺสิลฺยํ สีลวิปตฺติ. อิมาย สีลวิปตฺติยา ¶ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘สีลวิปนฺโน’’.
๖๒. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฏฺิวิปนฺโน? ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิปตฺติ? ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏทุกฺกฏานํ (สี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก ¶ , นตฺถิ ปโร โลโก ¶ , นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา [สมคฺคตา (ก.)] สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’’ติ. ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคตํ ทิฏฺิคหนํ ทิฏฺิกนฺตาโร ทิฏฺิวิสูกายิกํ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺิสํโยชนํ คาโห ปฏิคฺคาโห อภินิเวโส ปรามาโส กุมฺมคฺโค มิจฺฉาปโถ มิจฺฉตฺตํ ติตฺถายตนํ วิปริยาสคฺคาโห [วิปริเยสคฺคาโห (สพฺพตฺถ) ปทสิทฺธิ จินฺเตตพฺพา], อยํ ¶ วุจฺจติ ทิฏฺิวิปตฺติ. สพฺพาปิ มิจฺฉาทิฏฺิ ทิฏฺิวิปตฺติ. อิมาย ทิฏฺิวิปตฺติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ทิฏฺิวิปนฺโน’’.
๖๓. กตโม จ ปุคฺคโล อชฺฌตฺตสํโยชโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชโน’’.
๖๔. กตโม จ ปุคฺคโล พหิทฺธาสํโยชโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานิ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘พหิทฺธาสํโยชโน’’.
๖๕. กตโม จ ปุคฺคโล อกฺโกธโน? ตตฺถ กตโม โกโธ? โย โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตํ พฺยาปตฺติ พฺยาปชฺชนา พฺยาปชฺชิตตฺตํ วิโรโธ ปฏิวิโรโธ จณฺฑิกฺกํ อสุโรโป อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ โกโธ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ โกโธ ปหีโน ¶ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อกฺโกธโน’’.
๖๖. กตโม จ ปุคฺคโล อนุปนาหี? ตตฺถ กตโม อุปนาโห? ปุพฺพกาลํ โกโธ อปรกาลํ อุปนาโห โย เอวรูโป อุปนาโห อุปนยฺหนา อุปนยฺหิตตฺตํ อฏฺปนา ปนา สณฺปนา อนุสํสนฺทนา อนุปฺปพนฺธนา ทฬฺหีกมฺมํ โกธสฺส – อยํ วุจฺจติ อุปนาโห. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อุปนาโห ปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนุปนาหี’’.
๖๗. กตโม จ ปุคฺคโล อมกฺขี? ตตฺถ กตโม มกฺโข? โย มกฺโข มกฺขายนา มกฺขายิตตฺตํ นิฏฺุริยํ นิฏฺุริยกมฺมํ – อยํ วุจฺจติ มกฺโข. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ มกฺโข ปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อมกฺขี’’.
๖๘. กตโม จ ปุคฺคโล อปฬาสี? ตตฺถ กตโม ปฬาโส? โย ปฬาโส ปฬาสายนา ปฬาสายิตตฺตํ ¶ ปฬาสาหาโร วิวาทฏฺานํ ยุคคฺคาโห อปฺปฏินิสฺสคฺโค – อยํ วุจฺจติ ปฬาโส. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ ปฬาโส ปหีโน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปฬาสี’’.
๖๙. กตโม ¶ ¶ จ ปุคฺคโล อนิสฺสุกี? ตตฺถ กตมา อิสฺสา? ยา ปรลาภสกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนาสุ อิสฺสา อิสฺสายนา อิสฺสายิตตฺตํ อุสูยา อุสูยนา อุสูยิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ อิสฺสา. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ อิสฺสา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนิสฺสุกี’’.
๗๐. กตโม จ ปุคโล อมจฺฉรี? ตตฺถ กตมํ มจฺฉริยํ? ปฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํ. ยํ เอวรูปํ มจฺเฉรํ มจฺฉรายนา มจฺฉรายิตตฺตํ เววิจฺฉํ กทริยํ กฏุกฺจุกตา ¶ อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺส – อิทํ วุจฺจติ มจฺฉริยํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อิทํ มจฺฉริยํ ปหีนํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อมจฺฉรี’’.
๗๑. กตโม จ ปุคฺคโล อสโ? ตตฺถ กตมํ สาเยฺยํ? อิเธกจฺโจ สโ โหติ ปริสโ. ยํ ตตฺถ สํ สตา สาเยฺยํ กกฺกรตา กกฺกริยํ ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติยํ – อิทํ วุจฺจติ สาเยฺยํ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อิทํ สาเยฺยํ ปหีนํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสโ’’.
๗๒. กตโม จ ปุคฺคโล อมายาวี? ตตฺถ กตมา มายา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา ตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ – ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ อิจฺฉติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ สงฺกปฺปติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ วาจํ ภาสติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. ยา เอวรูปา มายา มายาวิตา อจฺจาสรา วฺจนา นิกติ วิกิรณา ปริหรณา คูหนา ปริคูหนา ฉาทนา ปฏิจฺฉาทนา อนุตฺตานีกมฺมํ อนาวิกมฺมํ โวจฺฉาทนา ปาปกิริยา – อยํ วุจฺจติ มายา. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ มายา ปหีนา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อมายาวี’’.
๗๓. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล หิริมา? ตตฺถ กตมา หิรี? ยํ ¶ หิรียติ หิริยิตพฺเพน หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา – อยํ วุจฺจติ หิรี. อิมาย หิริยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘หิริมา’’.
๗๔. กตโม จ ปุคฺคโล โอตฺตปฺปี? ตตฺถ กตมํ โอตฺตปฺปํ? ยํ โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพน โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา – อิทํ ¶ วุจฺจติ โอตฺตปฺปํ. อิมินา โอตฺตปฺเปน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘โอตฺตปฺปี’’.
๗๕. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สุวโจ? ตตฺถ กตมา โสวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โสวจสฺสายํ โสวจสฺสิยํ โสวจสฺสตา อวิปฺปฏิกุลคฺคาหิตา อวิปจฺจนีกสาตตา สาทริยํ สาทริยตา สคารวตา สปฺปติสฺสวตา – อยํ วุจฺจติ โสวจสฺสตา. อิมาย โสวจสฺสตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘สุวโจ’’.
๗๖. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺโต? ตตฺถ กตมา กลฺยาณมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา สทฺธา สีลวนฺโต พหุสฺสุตา จาควนฺโต ปฺวนฺโต, ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สมฺภชนา ภตฺติ สมฺภตฺติ สมฺปวงฺกตา – อยํ วุจฺจติ กลฺยาณมิตฺตตา. อิมาย กลฺยาณมิตฺตตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาณมิตฺโต’’.
๗๗. กตโม จ ปุคฺคโล อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร? ตตฺถ กตมา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ ¶ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. ยา อิเมสํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ คุตฺติ โคปนา อารกฺโข สํวโร ¶ – อยํ ¶ วุจฺจติ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา. อิมาย อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร’’.
๗๘. กตโม จ ปุคฺคโล โภชเน มตฺตฺู? ตตฺถ กตมา โภชเน มตฺตฺุตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘‘เนว ทวาย, น มทาย, น มณฺฑนาย, น วิภูสนาย; ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’ติ. ยา ตตฺถ สนฺตุฏฺิตา มตฺตฺุตา ¶ ปฏิสงฺขา โภชเน – อยํ วุจฺจติ โภชเน มตฺตฺุตา. อิมาย โภชเน มตฺตฺุตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘โภชเน มตฺตฺู’’.
๗๙. กตโม จ ปุคฺคโล อุปฏฺิตสฺสติ? ตตฺถ กตมา สติ? ยา สติ อนุสฺสติ ปฏิสฺสติ สติ สรณตา ธารณตา อปิลาปนตา อสมฺมุสนตา สติ สตินฺทฺริยํ สติพลํ สมฺมาสติ – อยํ วุจฺจติ สติ. อิมาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อุปฏฺิตสฺสติ’’.
๘๐. กตโม จ ปุคฺคโล สมฺปชาโน? ตตฺถ กตมํ สมฺปชฺํ? ยา ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย ธมฺมวิจโย สลฺลกฺขณา อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณา ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปฺุํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา ภูรี เมธา ปริณายิกา วิปสฺสนา สมฺปชฺํ ¶ ปโตโท ปฺา ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ ปฺาสตฺถํ ปฺาปาสาโท ปฺาอาโลโก ปฺาโอภาโส ปฺาปชฺโชโต ปฺารตนํ อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ – อิทํ วุจฺจติ สมฺปชฺํ. อิมินา สมฺปชฺเน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘สมฺปชาโน’’.
๘๑. กตโม จ ปุคฺคโล สีลสมฺปนฺโน? ตตฺถ กตมา สีลสมฺปทา? กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม – อยํ วุจฺจติ สีลสมฺปทา. สพฺโพปิ สีลสํวโร สีลสมฺปทา. อิมาย สีลสมฺปทาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘สีลสมฺปนฺโน’’.
๘๒. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฏฺิสมฺปนฺโน? ตตฺถ ¶ กตมา ทิฏฺิสมฺปทา? ‘‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ¶ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’’ติ. ยา เอวรูปา ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ ทิฏฺิสมฺปทา. สพฺพาปิ สมฺมาทิฏฺิ ทิฏฺิสมฺปทา. อิมาย ทิฏฺิสมฺปทาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺโน’’.
๘๓. กตเม ทฺเว ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ? โย จ ปุพฺพการี, โย จ กตฺู กตเวที – อิเม ทฺเว ปุคฺคลา ทุลฺลภา โลกสฺมึ.
๘๔. กตเม ¶ ทฺเว ปุคฺคลา ทุตฺตปฺปยา? โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ นิกฺขิปติ, โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ วิสฺสชฺเชติ – อิเม ทฺเว ปุคฺคลา ‘‘ทุตฺตปฺปยา’’.
๘๕. กตเม ¶ ทฺเว ปุคฺคลา สุตปฺปยา? โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ น นิกฺขิปติ, โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ น วิสฺสชฺเชติ – อิเม ทฺเว ปุคฺคลา ‘‘สุตปฺปยา’’.
๘๖. กตเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา วฑฺฒนฺติ? โย จ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายติ, โย จ กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ – อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา วฑฺฒนฺติ.
๘๗. กตเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา น วฑฺฒนฺติ? โย จ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายติ, โย จ กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายติ – อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อาสวา น วฑฺฒนฺติ.
๘๘. กตโม จ ปุคฺคโล หีนาธิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, โส อฺํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘หีนาธิมุตฺโต’’.
๘๙. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ปณีตาธิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, โส อฺํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปณีตาธิมุตฺโต’’.
๙๐. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ติตฺโต? ปจฺเจกสมฺพุทฺธา [ปจฺเจกพุทฺโธ (สี.)] เย จ ตถาคตสฺส สาวกา อรหนฺโต ติตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ติตฺโต จ ตปฺเปตา จ [ตปฺเปตา จ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ติตฺโต (สี.)].
ทุกนิทฺเทโส.
๓. ติกปุคฺคลปฺตฺติ
๙๑. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล นิราโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ ¶ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต. โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘นิราโส’’.
๙๒. กตโม จ ปุคฺคโล อาสํโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม. โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อาสํโส’’.
๙๓. กตโม จ ปุคฺคโล วิคตาโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ¶ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ¶ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ. ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส ปุพฺเพ อวิมุตฺตสฺส วิมุตฺตาสา, สา ปฏิปฺปสฺสทฺธา. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิคตาโส’’.
๙๔. ตตฺถ กตเม ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา? ตโย คิลานา – อิเธกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ ¶ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ อลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ, เนว วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา. (๑)
อิธ ปเนกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ ¶ อลภนฺโต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ อลภนฺโต วา ปติรูปํ อุปฏฺากํ, วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา. (๒)
อิธ ปเนกจฺโจ คิลาโน ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโต สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโต ปติรูปํ อุปฏฺากํ โน อลภนฺโต, วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา. (๓)
ตตฺร ยฺวายํ คิลาโน ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโต สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภนฺโต, ลภนฺโต ปติรูปํ อุปฏฺากํ ¶ โน อลภนฺโต, วุฏฺาติ ตมฺหา อาพาธา, อิมํ คิลานํ ปฏิจฺจ ภควตา คิลานภตฺตํ อนฺุาตํ คิลานเภสชฺชํ อนฺุาตํ คิลานุปฏฺาโก อนฺุาโต. อิมฺจ ปน คิลานํ ปฏิจฺจ อฺเปิ คิลานา อุปฏฺาตพฺพา.
เอวเมวํ [เอวเมว (สี.)] ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ตโย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภนฺโต วา ¶ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย อลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย, เนว โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. (๑)
อิธ ปเนกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภนฺโต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย อลภนฺโต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย, โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. (๒)
อิธ ปเนกจฺโจ ปุคฺคโล ลภนฺโต ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภนฺโต, ลภนฺโต ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย โน อลภนฺโต, โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. (๓)
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ลภนฺโต ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภนฺโต, ลภนฺโต ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย โน อลภนฺโต ¶ , โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิมํ ปุคฺคลํ ปฏิจฺจ ภควตา ธมฺมเทสนา อนฺุาตา, อิมฺจ ปุคฺคลํ ปฏิจฺจ อฺเสมฺปิ ¶ ธมฺโม เทเสตพฺโพ. อิเม ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๙๕. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กายสกฺขี’’.
๙๖. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทิฏฺิปฺปตฺโต’’.
๙๗. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ¶ ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถาทิฏฺิปฺปตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธาวิมุตฺโต’’.
๙๘. กตโม จ ปุคฺคโล คูถภาณี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล มุสาวาที โหติ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘‘เอหมฺโภ [เอหิ โภ (สฺยา. ก.) ม. นิ. ๑.๔๔๐; อ. นิ. ๓.๒๘], ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’’ติ, โส อชานํ วา อาห – ‘‘ชานามี’’ติ, ชานํ วา อาห – ‘‘น ชานามี’’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘‘ปสฺสามี’’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘‘น ปสฺสามี’’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา ¶ สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘คูถภาณี’’.
๙๙. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ปุปฺผภาณี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘‘เอหมฺโภ, ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’’ติ, โส อชานํ วา อาห – ‘‘น ชานามี’’ติ, ชานํ วา อาห – ‘‘ชานามี’’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘‘น ปสฺสามี’’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘‘ปสฺสามี’’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุปฺผภาณี’’.
๑๐๐. กตโม จ ปุคฺคโล มธุภาณี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนิยา ¶ หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มธุภาณี’’.
๑๐๑. กตโม จ ปุคฺคโล อรุกูปมจิตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ [ปติฏฺียติ (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๓.๒๕], โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ นาม ทุฏฺารุโก กฏฺเน วา กลาย [กถลาย (ก.), กถเลน (อฏฺกถา) อ. นิ. ๓.๒๕] วา ฆฏฺฏิโต ภิยฺโยโส มตฺตาย อาสวํ เทติ [อสฺสวโนติ (สี.)], เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อรุกูปมจิตฺโต’’.
๑๐๒. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล วิชฺชูปมจิตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ¶ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เสยฺยถาปิ นาม จกฺขุมา ปุริโส รตฺตนฺธการติมิสาย วิชฺชนฺตริกาย รูปานิ ปสฺเสยฺย, เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ ¶ , ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิชฺชูปมจิตฺโต’’.
๑๐๓. กตโม จ ปุคฺคโล วชิรูปมจิตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เสยฺยถาปิ นาม วชิรสฺส นตฺถิ กิฺจิ อเภชฺชํ มณิ วา ปาสาโณ วา, เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วชิรูปมจิตฺโต’’.
๑๐๔. กตโม จ ปุคฺคโล อนฺโธ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคจฺเฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนฺโธ’’.
๑๐๕. กตโม จ ปุคฺคโล เอกจกฺขุ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ¶ , ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคจฺเฉยฺย, อธิคตํ ¶ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เอกจกฺขุ’’.
๑๐๖. กตโม จ ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคจฺเฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส ¶ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธมฺเม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธมฺเม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทฺวิจกฺขุ’’.
๑๐๗. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อวกุชฺชปฺโ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา [คโต (สี.), คนฺตฺวา (สฺยา.)] โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย [ธมฺมสฺสวนาย (สฺยา.)]. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ นาม กุมฺโภ นิกฺกุชฺโช [นิกุชฺโช (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๓๐] ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ วิวฏฺฏติ, โน สณฺาติ; เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย ¶ . ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อวกุชฺชปฺโ’’.
๑๐๘. กตโม จ ปุคฺคโล อุจฺฉงฺคปฺโ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทึ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุริสสฺส อุจฺฉงฺเค นานาขชฺชกานิ อากิณฺณานิ – ติลา ¶ ตณฺฑุลา [ติลตณฺฑุลา (ก.) อ. นิ. ๓.๓๐] โมทกา พทรา. โส ตมฺหา อาสนา วุฏฺหนฺโต สติสมฺโมสา ปกิเรยฺย. เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ ¶ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ¶ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ ¶ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, น มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุจฺฉงฺคปฺโ’’.
๑๐๙. กตโม จ ปุคฺคโล ปุถุปฺโ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. เสยฺยถาปิ นาม กุมฺโภ อุกฺกุชฺโช ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ สณฺาติ, โน วิวฏฺฏติ; เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหนฺติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย. ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติ. โส ตสฺมึ อาสเน นิสินฺโน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ. วุฏฺิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุถุปฺโ’’.
๑๑๐. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ อวีตราโค? โสตาปนฺนสกทาคามิโน ¶ – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘กาเมสุ จ ภเวสุ จ อวีตราคา’’.
๑๑๑. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ วีตราโค, ภเวสุ อวีตราโค? อนาคามี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กาเมสุ วีตราโค, ภเวสุ อวีตราโค’’.
๑๑๒. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ วีตราโค? อรหา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กาเมสุ จ ภเวสุ จ วีตราโค’’.
๑๑๓. กตโม ¶ ¶ จ ปุคฺคโล ปาสาณเลขูปโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปาสาเณ เลขา น ขิปฺปํ ลุชฺชติ วาเตน วา อุทเกน วา, จิรฏฺิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาสาณเลขูปโม’’.
๑๑๔. กตโม จ ปุคฺคโล ปถวิเลขูปโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปถวิยา [ปวิยา (สี. สฺยา.)] เลขา ขิปฺปํ ลุชฺชติ วาเตน วา อุทเกน วา, น จิรฏฺิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปถวิเลขูปโม’’.
๑๑๕. กตโม จ ปุคฺคโล อุทกเลขูปโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาคาฬฺเหนปิ วุจฺจมาโน ผรุเสนปิ วุจฺจมาโน อมนาเปนปิ วุจฺจมาโน สํสนฺทติเมว [… เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓] สนฺธิยติเมว [… เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓] สมฺโมทติเมว [… เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓]. เสยฺยถาปิ นาม อุทเก ¶ เลขา ขิปฺปํ ลุชฺชติ, น จิรฏฺิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาคาฬฺเหนปิ วุจฺจมาโน ¶ ผรุเสนปิ วุจฺจมาโน อมนาเปนปิ วุจฺจมาโน สํสนฺทติเมว สนฺธิยติเมว สมฺโมทติเมว – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุทกเลขูปโม’’.
๑๑๖. ตตฺถ กตเม ตโย โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา? ตโย โปตฺถกา – นโวปิ โปตฺถโก ทุพฺพณฺโณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆ จ, มชฺฌิโมปิ โปตฺถโก ทุพฺพณฺโณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆ จ, ชิณฺโณปิ โปตฺถโก ทุพฺพณฺโณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผสฺโส จ อปฺปคฺโฆ จ. ชิณฺณมฺปิ โปตฺถกํ อุกฺขลิปริมชฺชนํ วา กโรนฺติ สงฺการกูเฏ วา นํ ฉฑฺเฑนฺติ. เอวเมวํ ตโยเม โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ. กตเม ตโย? นโว เจปิ ภิกฺขุ โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม, อิทมสฺส ทุพฺพณฺณตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุพฺพณฺโณ, ตถูปโม ¶ อยํ ปุคฺคโล. เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. อิทมสฺส ทุกฺขสมฺผสฺสตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุกฺขสมฺผสฺโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เยสํ โข ปน โส ปฏิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ¶ , เตสํ ตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. อิทมสฺส อปฺปคฺฆตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก อปฺปคฺโฆ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
มชฺฌิโม เจปิ ภิกฺขุ โหติ…เป… เถโร เจปิ ภิกฺขุ โหติ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม, อิทมสฺส ทุพฺพณฺณตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุพฺพณฺโณ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เย ¶ โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. อิทมสฺส ทุกฺขสมฺผสฺสตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุกฺขสมฺผสฺโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เยสํ โข ปน โส ปฏิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ. อิทมสฺส อปฺปคฺฆตาย. เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก อปฺปคฺโฆ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
เอวรูโป เจ เถโร ภิกฺขุ สงฺฆมชฺเฌ ภณติ. ตเมนํ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺสี’’ติ! โส กุปิโต อนตฺตมโน ตถารูปึ วาจํ นิจฺฉาเรติ ยถารูปาย วาจาย สงฺโฆ ตํ อุกฺขิปติ, สงฺการกูเฏว นํ โปตฺถกํ. อิเม ¶ ตโย โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ.
๑๑๗. ตตฺถ กตเม ตโย กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา? ตีณิ กาสิกวตฺถานิ – นวมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตฺเจว โหติ สุขสมฺผสฺสฺจ มหคฺฆฺจ, มชฺฌิมมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตฺเจว โหติ สุขสมฺผสฺสฺจ มหคฺฆฺจ, ชิณฺณมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตฺเจว โหติ สุขสมฺผสฺสฺจ มหคฺฆฺจ. ชิณฺณมฺปิ กาสิกวตฺถํ รตนปลิเวนํ วา กโรนฺติ คนฺธกรณฺฑเก วา นํ นิกฺขิปนฺติ.
เอวเมวํ ¶ ตโยเม กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ. กตเม ตโย? นโว เจปิ ภิกฺขุ โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม ¶ , อิทมสฺส สุวณฺณตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิทมสฺส สุขสมฺผสฺสตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ สุขสมฺผสฺสํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เยสํ โข ปน โส [เยสํ โข ปน (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๓.๑๐๐] ปฏิคฺคณฺหาติ [ปติคณฺหาติ (สี.) รูปสิทฺธิฏีกาย ปน สเมติ] จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ มหปฺผลํ ¶ โหติ มหานิสํสํ. อิทมสฺส มหคฺฆตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ มหคฺฆํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
มชฺฌิโม เจปิ ภิกฺขุ…เป… เถโร เจปิ ภิกฺขุ โหติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม, อิทมสฺส สุวณฺณตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิทมสฺส สุขสมฺผสฺสตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ สุขสมฺผสฺสํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เยสํ โข ปน โส ปฏิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ. อิทมสฺส มหคฺฆตาย. เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ มหคฺฆํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
เอวรูโป เจ เถโร ภิกฺขุ สงฺฆมชฺเฌ ภณติ, ตเมนํ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘อปฺปสทฺทา อายสฺมนฺโต โหถ, เถโร ภิกฺขุ ธมฺมฺจ วินยฺจ ภณตี’’ติ. ตสฺส ตํ วจนํ อาเธยฺยํ คจฺฉติ, คนฺธกรณฺฑเกว ¶ นํ กาสิกวตฺถํ. อิเม ตโย กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ.
๑๑๘. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สุปฺปเมยฺโย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุทฺธโต โหติ อุนฺนโฬ จปโล มุขโร วิกิณฺณวาโจ มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากฏินฺทฺริโย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สุปฺปเมยฺโย’’.
๑๑๙. กตโม จ ปุคฺคโล ทุปฺปเมยฺโย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อนุทฺธโต โหติ อนุนฺนโฬ อจปโล อมุขโร อวิกิณฺณวาโจ อุปฏฺิตสฺสติ ¶ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทุปฺปเมยฺโย’’.
๑๒๐. กตโม จ ปุคฺคโล อปฺปเมยฺโย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปฺปเมยฺโย’’.
๑๒๑. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล หีโน โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ, อฺตฺร อนุทฺทยา อฺตฺร อนุกมฺปา.
๑๒๒. กตโม จ ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สทิโส โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘สีลสามฺคตานํ สตํ สีลกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสติ; สมาธิสามฺคตานํ สตํ สมาธิกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี [ปวตฺตนี (สี.) อ. นิ. ๓.๒๖] ภวิสฺสติ; ปฺาสามฺคตานํ ¶ สตํ ปฺากถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๓. กตโม จ ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อธิโก โหติ สีเลน สมาธินา ปฺาย. เอวรูโป ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘อปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ตตฺถ ¶ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา ปฺากฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา ปฺากฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺาย อนุคฺคเหสฺสามี’’ติ. ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๔. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต. เอวรูโป ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? กิฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ ¶ – ‘‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก’’ติ. เสยฺยถาปิ นาม อหิ คูถคโต กิฺจาปิ น ฑํสติ, อถ โข ¶ นํ มกฺเขติ; เอวเมวํ กิฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวงฺโก’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๕. กตโม จ ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ นาม ทุฏฺารุโก กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏิโต ภิยฺโยโส มตฺตาย อาสวํ เทติ, เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ นาม ตินฺทุกาลาตํ กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏิตํ ภิยฺโยโส มตฺตาย จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ, เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ นาม คูถกูโป กฏฺเน วา กลาย วา ฆฏฺฏิโต ภิยฺโยโส มตฺตาย ทุคฺคนฺโธ โหติ, เอวเมวํ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ ¶ วุตฺโต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ¶ ปาตุกโรติ; เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘อกฺโกเสยฺยปิ มํ ปริภาเสยฺยปิ มํ อนตฺถมฺปิ ¶ เม กเรยฺยา’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๖. กตโม จ ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม – เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? กิฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ, อถ โข นํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘‘กลฺยาณมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ ภชิตพฺโพ ปยิรุปาสิตพฺโพ.
๑๒๗. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี, สมาธิสฺมึ มตฺตโส ¶ การี, ปฺาย มตฺตโส การี? โสตาปนฺนสกทาคามิโน – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา สีเลสุ ปริปูรการิโน, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การิโน, ปฺาย มตฺตโส การิโน.
๑๒๘. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี? อนาคามี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี.
๑๒๙. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย จ ปริปูรการี? อรหา – อยํ วุจฺจติ ¶ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิฺจ ปริปูรการี, ปฺาย จ ปริปูรการี.
๑๓๐. ตตฺถ กตเม ตโย สตฺถาโร? อิเธกจฺโจ สตฺถา กามานํ ปริฺํ ปฺเปติ [ปฺาเปติ (สี. สฺยา.)], น รูปานํ ปริฺํ ปฺเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปติ. อิธ ปเนกจฺโจ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปติ. อิธ ปเนกจฺโจ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, เวทนานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ.
ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา กามานํ ปริฺํ ปฺเปติ, น รูปานํ ปริฺํ ปฺเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปติ, รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ตตฺร ¶ ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, รูปานฺจ ¶ ปริฺํ ปฺเปติ, น เวทนานํ ปริฺํ ปฺเปติ, อรูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา กามานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, รูปานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, เวทนานฺจ ปริฺํ ปฺเปติ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. อิเม ตโย สตฺถาโร.
๑๓๑. ตตฺถ กตเม อปเรปิ ตโย สตฺถาโร? อิเธกจฺโจ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, อภิสมฺปรายฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ. อิธ ปเนกจฺโจ ¶ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, โน จ โข อภิสมฺปรายํ อตฺตานํ สจฺจโต ¶ เถตโต ปฺเปติ. อิธ ปเนกจฺโจ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปฺเปติ, อภิสมฺปรายฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปฺเปติ.
ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, อภิสมฺปรายฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, สสฺสตวาโท สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, โน จ โข อภิสมฺปรายํ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปฺเปติ, อุจฺเฉทวาโท สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปฺเปติ, อภิสมฺปรายฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปฺเปติ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ สตฺถา เตน ทฏฺพฺโพ. อิเม อปเรปิ ตโย สตฺถาโร.
ติกนิทฺเทโส.
๔. จตุกฺกปุคฺคลปฺตฺติ
๑๓๒. กตโม จ ปุคฺคโล อสปฺปุริโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที ¶ โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสปฺปุริโส’’.
๑๓๓. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ ¶ , อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ ปรฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี โหติ ปรฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺาเน สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร’’.
๑๓๔. กตโม จ ปุคฺคโล สปฺปุริโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ¶ , อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สปฺปุริโส’’.
๑๓๕. กตโม จ ปุคฺคโล สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิยา สมาทเปติ ¶ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโร’’.
๑๓๖. กตโม จ ปุคฺคโล ปาโป? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ [ปิสุณาวาโจ] โหติ, ผรุสวาโจ [ผรุสาวาโจ (สี.) ที. นิ. ๓.๑๑๕] โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิ [มิจฺฉาทิฏฺี (ก.)] โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาโป’’.
๑๓๗. กตโม จ ปุคฺคโล ปาเปน ปาปตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, อตฺตนา ¶ จ อทินฺนาทายี โหติ ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ ปรฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ ปิสุณวาโจ โหติ ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ ผรุสวาโจ ¶ โหติ ปรฺจ ผรุสาย วาจาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปี โหติ ปรฺจ สมฺผปฺปลาเป สมาทเปติ, อตฺตนา จ อภิชฺฌาลุ โหติ ปรฺจ อภิชฺฌาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปรฺจ พฺยาปาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ปรฺจ มิจฺฉาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาเปน ปาปตโร’’.
๑๓๘. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาโณ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ¶ , กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ¶ ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิ [สมฺมาทิฏฺี (ก.)] โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาโณ’’.
๑๓๙. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาเณน กลฺยาณตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อนภิชฺฌาลุ โหติ ปรฺจ อนภิชฺฌาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปรฺจ อพฺยาปาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺมาทิฏฺิ โหติ ปรฺจ ¶ สมฺมาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาเณน กลฺยาณตโร’’.
๑๔๐. กตโม จ ปุคฺคโล ปาปธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาปธมฺโม’’.
๑๔๑. กตโม จ ปุคฺคโล ปาปธมฺเมน ปาปธมฺมตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรฺจ ¶ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ ปรฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ…เป… อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ปรฺจ มิจฺฉาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาปธมฺเมน ปาปธมฺมตโร’’.
๑๔๒. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาณธมฺโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมาทิฏฺิ โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาณธมฺโม’’.
๑๔๓. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล กลฺยาณธมฺเมน กลฺยาณธมฺมตโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ปรฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป… อตฺตนา จ สมฺมาทิฏฺิ โหติ ปรฺจ สมฺมาทิฏฺิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาณธมฺเมน กลฺยาณธมฺมตโร’’.
๑๔๔. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สาวชฺโช? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สาวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สาวชฺโช’’.
๑๔๕. กตโม จ ปุคฺคโล วชฺชพหุโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สาวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวชฺเชน, สาวชฺเชน พหุลํ วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวชฺเชน, สาวชฺเชน พหุลํ มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวชฺเชน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วชฺชพหุโล’’.
๑๔๖. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อปฺปวชฺโช? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อนวชฺเชน พหุลํ กายกมฺเมน สมนฺนาคโต ¶ โหติ อปฺปํ สาวชฺเชน, อนวชฺเชน พหุลํ วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ สาวชฺเชน, อนวชฺเชน พหุลํ มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ สาวชฺเชน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปฺปวชฺโช’’.
๑๔๗. กตโม จ ปุคฺคโล อนวชฺโช? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อนวชฺเชน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวชฺเชน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนวชฺโช’’.
๑๔๘. กตโม จ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุคฺฆฏิตฺู’’.
๑๔๙. กตโม จ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิปฺจิตฺู’’.
๑๕๐. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล เนยฺโย? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต เอวํ อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เนยฺโย’’.
๑๕๑. กตโม จ ปุคฺคโล ปทปรโม? ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปทปรโม’’.
๑๕๒. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ยุตฺตปฺปฏิภาโน [ยุตฺตปฏิภาโณ (สฺยา.) อ. นิ. ๔.๑๓๒] โน มุตฺตปฺปฏิภาโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน ยุตฺตํ วทติ โน สีฆํ – อยํ ¶ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโน’’.
๑๕๓. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล มุตฺตปฺปฏิภาโน โน ยุตฺตปฺปฏิภาโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน สีฆํ วทติ โน ยุตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มุตฺตปฺปฏิภาโน โน ยุตฺตปฺปฏิภาโน’’.
๑๕๔. กตโม จ ปุคฺคโล ยุตฺตปฺปฏิภาโน จ มุตฺตปฺปฏิภาโน จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน ยุตฺตฺจ วทติ สีฆฺจ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ยุตฺตปฺปฏิภาโน จ มุตฺตปฺปฏิภาโน จ’’.
๑๕๕. กตโม จ ปุคฺคโล เนว ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน เนว ยุตฺตํ วทติ โน สีฆํ – อยํ วุจฺจติ, ปุคฺคโล ‘‘เนว ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโน’’.
๑๕๖. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร ธมฺมกถิกา ปุคฺคลา? อิเธกจฺโจ ธมฺมกถิโก อปฺปฺจ ภาสติ อสหิตฺจ, ปริสา จสฺส น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิธ ¶ ปเนกจฺโจ ธมฺมกถิโก อปฺปฺจ ภาสติ สหิตฺจ, ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิธ ปเนกจฺโจ ธมฺมกถิโก พหฺุจ ภาสติ อสหิตฺจ, ปริสา จสฺส น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิธ ปเนกจฺโจ ธมฺมกถิโก พหฺุจ ภาสติ สหิตฺจ, ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺส. เอวรูโป ¶ ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. อิเม จตฺตาโร ‘‘ธมฺมกถิกา ปุคฺคลา’’.
๑๕๗. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร วลาหกา – คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา. เอวเมวํ จตฺตาโรเม ¶ วลาหกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร ¶ ? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา.
กถฺจ ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ภาสิตา โหติ, โน กตฺตา. เอวํ ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ โส วลาหโก คชฺชิตา โน วสฺสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ โน คชฺชิตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กตฺตา โหติ, โน ภาสิตา. เอวํ ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ โน คชฺชิตา. เสยฺยถาปิ โส วลาหโก วสฺสิตา โน คชฺชิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ภาสิตา จ โหติ, กตฺตา จ. เอวํ ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ. เสยฺยถาปิ โส วลาหโก คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล เนว ภาสิตา โหติ โน กตฺตา. เอวํ ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา. เสยฺยถาปิ โส วลาหโก เนว ¶ คชฺชิตา โน วสฺสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
อิเม จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๕๘. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา? จตสฺโส มูสิกา – คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา. เอวเมวํ จตฺตาโรเม มูสิกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา.
กถฺจ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ¶ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา. เสยฺยถาปิ สา มูสิกา คาธํ กตฺตา โน วสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล วสิตา โหติ โน คาธํ กตฺตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ¶ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล วสิตา โหติ โน คาธํ กตฺตา. เสยฺยถาปิ สา มูสิกา วสิตา โน คาธํ กตฺตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ. เสยฺยถาปิ สา มูสิกา คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ¶ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา. เสยฺยถาปิ สา มูสิกา เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
อิเม จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๕๙. ตตฺถ ¶ ¶ กตเม จตฺตาโร อมฺพูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาริ อมฺพานิ – อามํ ปกฺกวณฺณิ [ปกฺกวณฺณี], ปกฺกํ อามวณฺณิ [อามวณฺณี (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๔.๑๐๕], อามํ อามวณฺณิ, ปกฺกํ ปกฺกวณฺณิ. เอวเมวํ จตฺตาโรเม อมฺพูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อาโม ปกฺกวณฺณี, ปกฺโก อามวณฺณี, อาโม อามวณฺณี, ปกฺโก ปกฺกวณฺณี.
กถฺจ ปุคฺคโล อาโม โหติ ปกฺกวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ [สมฺมิฺชิตํ (สี. สฺยา.)] ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล อาโม โหติ ปกฺกวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ อามํ ปกฺกวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ อามวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ อามวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ ปกฺกํ อามวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ¶ น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ อามํ อามวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ ปกฺกวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ ¶ . โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ ¶ …เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ปกฺโก โหติ ปกฺกวณฺณี. เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ ปกฺกํ ปกฺกวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
อิเม จตฺตาโร อมฺพูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๖๐. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร กุมฺภา – ตุจฺโฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฏ, ตุจฺโฉ วิวโฏ, ปูโร ปิหิโต. เอวเมวํ จตฺตาโรเม กุมฺภูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตุจฺโฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฏ, ตุจฺโฉ วิวโฏ, ปูโร ปิหิโต.
กถฺจ ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ ปิหิโต? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ¶ ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ ปิหิโต. เสยฺยถาปิ โส กุมฺโภ ตุจฺโฉ ปิหิโต, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฏ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฏ. เสยฺยถาปิ โส กุมฺโภ ปูโร วิวโฏ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ วิวโฏ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ¶ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ตุจฺโฉ โหติ วิวโฏ. เสยฺยถาปิ โส กุมฺโภ ตุจฺโฉ วิวโฏ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโต? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ¶ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโต. เสยฺยถาปิ โส กุมฺโภ ปูโร ปิหิโต, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. อิเม จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๖๑. ตตฺถ ¶ กตเม จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร อุทกรหทา – อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส. เอวเมวํ จตฺตาโรเม อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส.
กถฺจ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ¶ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโส. เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโส. เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิเธกจฺจสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ ¶ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ¶ นปฺปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโส. เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฏิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณํ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโส. เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. อิเม จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๖๒. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร พลีพทฺทา [พลิพทฺธา (สฺยา.)] – สกควจณฺโฑ [สควจณฺโฑ (ก. สี.) อ. นิ. ๔.๑๐๘] โน ปรควจณฺโฑ, ปรควจณฺโฑ โน สกควจณฺโฑ, สกควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ, เนว สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ. เอวเมวํ จตฺตาโรเม พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ, ปรควจณฺโฑ โน สกควจณฺโฑ, สกควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ, เนว สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สกปริสํ อุพฺเพชิตา ¶ โหติ, โน ปรปริสํ. เอวํ ปุคฺคโล สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส พลีพทฺโท สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล ปรควจณฺโฑ โหติ โน สกควจณฺโฑ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรปริสํ อุพฺเพชิตา โหติ, โน สกปริสํ. เอวํ ปุคฺคโล ปรควจณฺโฑ โหติ โน สกควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส พลีพทฺโท ปรควจณฺโฑ โน สกควจณฺโฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล สกควจณฺโฑ จ โหติ ปรควจณฺโฑ จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สกปริสฺจ อุพฺเพชิตา โหติ, ปรปริสฺจ. เอวํ ปุคฺคโล ¶ สกควจณฺโฑ จ โหติ ปรควจณฺโฑ จ. เสยฺยถาปิ โส พลีพทฺโท สกควจณฺโฑ จ ปรควจณฺโฑ จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล เนว สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล เนว สกปริสํ อุพฺเพชิตา โหติ โน ปรปริสํ. เอวํ ปุคฺคโล เนว สกควจณฺโฑ โหติ โน ปรควจณฺโฑ. เสยฺยถาปิ โส พลีพทฺโท เนว สกควจณฺโฑ โน ปรควจณฺโฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. อิเม จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๖๓. ตตฺถ ¶ กตเม จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร อาสีวิสา [อาสิวิสา (สฺยา.)] – อาคตวิโส โน โฆรวิโส, โฆรวิโส โน อาคตวิโส, อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโส. เอวเมวํ ¶ จตฺตาโรเม อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? อาคตวิโส โน โฆรวิโส, โฆรวิโส โน อาคตวิโส, อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโส.
กถฺจ ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ, โน โฆรวิโส. เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส อาคตวิโส โน โฆรวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ โน อาคตวิโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นเหว โข [เนว โข (สี.) อ. นิ. ๔.๑๑๐] อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ, โน อาคตวิโส. เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส โฆรวิโส โน อาคตวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส จ. เสยฺยถาปิ ¶ โส อาสีวิโส อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล เนว อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นเหว โข อภิณฺหํ กุชฺฌติ. โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ. เอวํ ปุคฺคโล เนว อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโส. เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. อิเม จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สนฺโต ¶ สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๖๔. กถฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ วณฺณํ ภาสติ – ‘‘สุปฺปฏิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฏิปนฺนา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล สุปฺปฏิปนฺนานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ อวณฺณํ ภาสติ – ‘‘ทุปฺปฏิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฏิปนฺนา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปทาย มิจฺฉาปฏิปทาย ปสาทํ ชเนติ – ‘‘สุปฺปฏิปทา’’ อิติปิ ¶ , ‘‘สมฺมาปฏิปทา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สุปฺปฏิปทาย สมฺมาปฏิปทาย อปฺปสาทํ ชเนติ – ‘‘ทุปฺปฏิปทา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฏิปทา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
๑๖๕. กถฺจ ¶ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ¶ ภาสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ อวณฺณํ ภาสติ – ‘‘ทุปฺปฏิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฏิปนฺนา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สุปฺปฏิปนฺนานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ วณฺณํ ภาสติ – ‘‘สุปฺปฏิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฏิปนฺนา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุปฺปฏิปทาย มิจฺฉาปฏิปทาย อปฺปสาทํ ชเนติ – ‘‘ทุปฺปฏิปทา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฏิปทา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย าเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล สุปฺปฏิปทาย สมฺมาปฏิปทาย ปสาทํ ชเนติ – ‘‘สุปฺปฏิปทา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฏิปทา’’ อิติปีติ. เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย าเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ.
๑๖๖. กถฺจ ¶ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺโณปิ สํวิชฺชติ อวณฺโณปิ สํวิชฺชติ ¶ . โย ตตฺถ อวณฺโณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โย ตตฺถ วณฺโณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. เอวํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน.
กถฺจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺโณปิ สํวิชฺชติ อวณฺโณปิ สํวิชฺชติ ¶ . โย ตตฺถ วณฺโณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โย ตตฺถ อวณฺโณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. เอวํ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน.
กถฺจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺโณปิ สํวิชฺชติ อวณฺโณปิ สํวิชฺชติ. โย ตตฺถ อวณฺโณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โยปิ ตตฺถ วณฺโณ ตมฺปิ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน. ตตฺร กาลฺู โหติ ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณาย. เอวํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน.
กถฺจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โนปิ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ¶ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล วณฺโณปิ สํวิชฺชติ อวณฺโณปิ สํวิชฺชติ. โย ตตฺถ อวณฺโณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โยปิ ตตฺถ วณฺโณ ตมฺปิ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ ¶ กาเลน. อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โนปิ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน.
๑๖๗. กตโม จ ปุคฺคโล อุฏฺานผลูปชีวี โน ปฺุผลูปชีวี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฏฺหโต ¶ ฆฏโต วายมโต อาชีโว อภินิพฺพตฺตติ, โน ปฺุโต – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุฏฺานผลูปชีวี, โน ปฺุผลูปชีวี’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ปฺุผลูปชีวี โน อุฏฺานผลูปชีวี? ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว [ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว (สี. สฺยา.)] อุปาทาย ตตูปริ เทวา ปฺุผลูปชีวิโน น อุฏฺานผลูปชีวิโน.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล อุฏฺานผลูปชีวี จ ปฺุผลูปชีวี จ? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฏฺหโต ฆฏโต วายมโต อาชีโว อภินิพฺพตฺตติ ปฺุโต จ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุฏฺานผลูปชีวี จ ปฺุผลูปชีวี จ’’.
กตโม จ ปุคฺคโล เนว อุฏฺานผลูปชีวี โน ปฺุผลูปชีวี? เนรยิกา เนว อุฏฺานผลูปชีวิโน โน ปฺุผลูปชีวิโน.
๑๖๘. กถฺจ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เนสาทกุเล วา เวนกุเล [เวณกุเล (สี. สฺยา.)] วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท [ทฬิทฺเท (สี.) ปสฺส องฺคุตฺตรนิกาเย] อปฺปนฺนปานโภชเน ¶ กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พหฺวาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโน.
กถฺจ ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เนสาทกุเล วา เวนกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติ. โส จ โหติ ทุพฺพณฺโณ ทุทฺทสิโก โอโกฏิมโก พหฺวาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขฺโช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ¶ สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ ¶ , มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโน.
กถฺจ ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล ¶ วา ¶ คหปติมหาสาลกุเล วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ. โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. เอวํ ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโน.
กถฺจ ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา อฑฺเฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธฺเ. โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺส. โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เอวํ ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโน.
๑๖๙. กถฺจ ปุคฺคโล โอณโตณโต โหติ…เป… เอวํ ปุคฺคโล โอณโตณโต ¶ โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล โอณตุณฺณโต โหติ…เป… เอวํ ปุคฺคโล โอณตุณฺณโต โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุณฺณโตณโต โหติ…เป… เอวํ ปุคฺคโล อุณฺณโตณโต โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุณฺณตุณฺณโต โหติ…เป… เอวํ ปุคฺคโล อุณฺณตุณฺณโต โหติ.
๑๗๐. ตตฺถ ¶ ¶ กตเม จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร รุกฺขา – เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโร. เอวเมวํ จตฺตาโรเม รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโร.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส รุกฺโข เผคฺคุ สารปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส รุกฺโข สาโร เผคฺคุปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เอวํ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส รุกฺโข เผคฺคุ ¶ เผคฺคุปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล.
กถฺจ ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโร? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, ปริสาปิสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. เอวํ ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโร. เสยฺยถาปิ โส รุกฺโข สาโร สารปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. อิเม จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๗๑. กตโม จ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาโรหํ วา ปสฺสิตฺวา ปริณาหํ วา ปสฺสิตฺวา สณฺานํ วา ปสฺสิตฺวา ปาริปูรึ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรวณฺณนาย ปรโถมนาย ¶ ปรปสํสนาย ปรวณฺณหาริกาย [ปรวณฺณหาริยา (สี.)] ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน.
๑๗๒. กตโม จ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล จีวรลูขํ วา ปสฺสิตฺวา ปตฺตลูขํ วา ปสฺสิตฺวา เสนาสนลูขํ วา ปสฺสิตฺวา วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกํ ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน.
กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สีลํ วา ปสฺสิตฺวา สมาธึ วา ปสฺสิตฺวา ปฺํ ¶ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ¶ ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน.
๑๗๓. กถฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. เอวํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย.
กถฺจ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน อตฺตหิตาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. เอวํ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน อตฺตหิตาย.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ ปฺาสมฺปทาย ¶ ¶ สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. เอวํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ.
กถฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนา น สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ ปฺาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ¶ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติ. เอวํ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย.
๑๗๔. กถฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน [หตฺถาวเลขโน (สฺยา.)], นเอหิภทฺทนฺติโก นติฏฺภทฺทนฺติโก นาภิหฏํ น อุทฺทิสฺสกตํ น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ น กโฬปิมุขา [กโลปิมุขา (สี. สฺยา.) ม. นิ. ๒.๗] ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ น ทณฺฑมนฺตรํ น มุสลมนฺตรํ น ทฺวินฺนํ ภฺุชมานานํ น คพฺภินิยา น ปายมานาย น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต โหติ น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ น ¶ มํสํ น สุรํ น เมรยํ น ถุโสทกํ ปิวติ. โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ…เป… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ [ทฺวาหิกมฺปิ (สี.)] อาหารํ อาหาเรติ…เป… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ. อิติ เอวรูปํ ¶ อฑฺฒมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. โส สากภกฺโข วา โหติ สามากภกฺโข วา โหติ นีวารภกฺโข วา โหติ ททฺทุลภกฺโข วา โหติ หฏภกฺโข วา โหติ กณภกฺโข วา โหติ อาจามภกฺโข วา โหติ ปิฺากภกฺโข วา โหติ ติณภกฺโข วา โหติ โคมยภกฺโข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. โส สาณานิปิ ธาเรติ มสาณานิปิ ธาเรติ ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ ติรีฏานิปิ ธาเรติ อชินมฺปิ ธาเรติ อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ กุสจีรมฺปิ ธาเรติ วากจีรมฺปิ ธาเรติ ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ อุลูกปกฺขมฺปิ ¶ [อุลุกปกฺขมฺปิ (สี. สฺยา.)] ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต, อุพฺภฏฺโกปิ โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, สายตติยกมฺปิ [สายํตติยกมฺปิ (สฺยา. ก.) ม. นิ. ๒.๗] อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ ¶ . เอวํ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
๑๗๕. กถฺจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โอรพฺภิโก โหติ สูกริโก สากุณิโก มาควิโก ลุทฺโท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก โคฆาตโก พนฺธนาคาริโก, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา. เอวํ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
๑๗๖. กถฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ราชา วา โหติ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต [มุทฺธาภิสิตฺโต (สฺยา. ก.)] พฺราหฺมโณ วา มหาสาโล. โส ปุรตฺถิเมน นรสฺส นวํ สนฺธาคารํ [สนฺตาคารํ (สฺยา.), ยฺาคารํ (สี.)] การาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ขราชินํ [ขุราชินํ (สฺยา. ก.)] นิวาเสตฺวา สปฺปิเตเลน กายํ อพฺภฺชิตฺวา ¶ มิควิสาเณน ปิฏฺึ กณฺฑุวมาโน [กณฺฑูยมาโน (สี.)] สนฺธาคารํ ปวิสติ สทฺธึ มเหสิยา พฺราหฺมเณน จ ปุโรหิเตน. โส ตตฺถ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา หริตุปลิตฺตาย เสยฺยํ กปฺเปติ. เอกิสฺสา คาวิยา สรูปวจฺฉาย ยํ เอกสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน ราชา ยาเปติ, ยํ ทุติยสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน มเหสี ยาเปติ, ยํ ตติยสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต ยาเปติ, ยํ จตุตฺถสฺมึ ถเน ขีรํ โหติ เตน อคฺคึ ชุหติ, อวเสเสน วจฺฉโก ยาเปติ. โส เอวมาห – ‘‘เอตฺตกา อุสภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา ¶ อชา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย, (เอตฺตกา อสฺสา หฺนฺตุ ยฺตฺถาย) [( ) นตฺถิ สีหฬโปตฺถเก. มชฺฌิมนิกาเย กนฺทรกสุตฺเตปิ เอวเมว] เอตฺตกา รุกฺขา ฉิชฺชนฺตุ ยูปตฺถาย, เอตฺตกา ทพฺภา ลูยนฺตุ พริหิสตฺถายา’’ติ [ปริหึสตฺถายาติ (สี. สฺยา. ก.) ม. นิ. ๒.๙]. เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติ. เอวํ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
๑๗๗. กถฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป จ โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป ¶ น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ¶ สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต ¶ . โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน ¶ สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ! โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.
๑๗๘. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี [อนาจารี (ก.)] ปฏิวิรโต เมถุนา คามธมฺมา.
มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส.
ปิสุณํ ¶ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที ¶ สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
สมฺผปฺปลาปํ ¶ ¶ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.
๑๗๙. โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ, เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ.
อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อิตฺถิกุมาริกาปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, หตฺถิควาสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ, กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ, ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ, อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา [… สาวิโยคา (สฺยา. ก.)] ปฏิวิรโต โหติ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
๑๘๐. โส สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ¶ ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ, เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ¶ ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
๑๘๑. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ; โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน ¶ คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย ¶ สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
๑๘๒. โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ¶ ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.
โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต [ปสฺส ม. นิ. ๒ กนฺทรกสุตฺเต; อ. นิ. ๑ อตฺตนฺตปสุตฺเต จ] วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา.)] ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา ¶ จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
๑๘๓. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ ¶ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปีติยา จ ¶ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
โส ¶ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
๑๘๔. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน ¶ จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา ¶ กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อุปวาทกา, มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน ¶ สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’’ติ. โส อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.
๑๘๕. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อิเม ¶ อาสวา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ¶ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป จ โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
๑๘๖. กตโม จ ปุคฺคโล สราโค? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ราโค อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สราโค’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สโทโส? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โทโส อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สโทโส’’.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สโมโห? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โมโห อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สโมโห’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมาโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส มาโน อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมาโน’’.
๑๘๗. กถฺจ ¶ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, น ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วา. เอวํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
กถฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ¶ ลาภี โหติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วา, น ลาภี รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ. เอวํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส.
กถฺจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วา. เอวํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, น ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วา. เอวํ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย.
๑๘๘. กตโม จ ปุคฺคโล อนุโสตคามี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ ปฏิเสวติ ปาปฺจ กมฺมํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนุโสตคามี’’.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ปฏิโสตคามี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเม จ น ปฏิเสวติ ปาปฺจ กมฺมํ น กโรติ. โส สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสน อสฺสุมุเขนปิ รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปฏิโสตคามี’’.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ิตตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ิตตฺโต’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
๑๘๙. กถฺจ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน [น ธมฺมมฺาย น ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน (สฺยา.), น ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน (ก.)] ¶ โหติ. เอวํ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
กถฺจ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน.
กถฺจ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปนฺโน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส น อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต ¶ โหติ สุเตน อนุปปนฺโน.
กถฺจ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ ¶ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปนฺโน.
๑๙๐. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สมณมจโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโน. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณมจโล’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมณปทุโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณปทุโม’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณปุณฺฑรีโก’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’’ติ.
จตุกฺกนิทฺเทโส.
๕. ปฺจกปุคฺคลปฺตฺติ
๑๙๑. ตตฺร ¶ ¶ ยฺวายํ ปุคฺคโล อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ ¶ , โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา [อารพฺภชา (ก.) อ. นิ. ๕.๑๔๒] อาสวา สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฏิสารชา อาสวา ปวฑฺฒนฺติ. สาธุ วตายสฺมา อารมฺภเช อาสเว ปหาย วิปฺปฏิสารเช อาสเว ปฏิวิโนเทตฺวา จิตฺตํ ปฺฺจ ภาเวตุ. เอวมายสฺมา อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฏิสารชา อาสวา นปฺปวฑฺฒนฺติ. สาธุ วตายสฺมา อารมฺภเช อาสเว ปหาย จิตฺตํ ปฺฺจ ภาเวตุ. เอวมายสฺมา อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล น อารภติ วิปฺปฏิสารี โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา น สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฏิสารชา ¶ อาสวา ปวฑฺฒนฺติ. สาธุ วตายสฺมา วิปฺปฏิสารเช อาสเว ปฏิวิโนเทตฺวา จิตฺตํ ปฺฺจ ภาเวตุ. เอวมายสฺมา อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล น อารภติ น วิปฺปฏิสารี โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา น สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฏิสารชา อาสวา นปฺปวฑฺฒนฺติ. สาธุ วตายสฺมา จิตฺตํ ปฺฺจ ภาเวตุ. เอวมายสฺมา อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติ. อิเม จตฺตาโร ปุคฺคลา อมุนา ปฺจเมน ปุคฺคเลน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อนุปุพฺเพน อาสวานํ ขยํ ปาปุณนฺติ.
๑๙๒. กถฺจ ¶ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ยสฺส ปุคฺคลสฺส เทติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อหํ ทมฺมิ, อยํ [อยํ ปน (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๕.๑๔๑] ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ, ตเมนํ ทตฺวา อวชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติ.
กถฺจ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล เยน ปุคฺคเลน สทฺธึ สํวสติ ทฺเว วา ตีณิ วา วสฺสานิ, ตเมนํ สํวาเสน อวชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติ.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล อาเธยฺยมุโข โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปรสฺส วณฺเณ วา อวณฺเณ วา ภาสิยมาเน ขิปฺปฺเว อธิมุจฺจิตา โหติ. เอวํ ปุคฺคโล อาเธยฺยมุโข โหติ ¶ .
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล โลโล โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิตฺตรสทฺโธ โหติ อิตฺตรภตฺตี อิตฺตรเปโม อิตฺตรปฺปสาโท. เอวํ ปุคฺคโล โลโล โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล มนฺโท โมมูโห โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กุสลากุสเล ธมฺเม น ชานาติ, สาวชฺชานวชฺเช ธมฺเม น ชานาติ, หีนปฺปณีเต ธมฺเม น ชานาติ, กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม น ชานาติ. เอวํ ปุคฺคโล มนฺโท โมมูโห โหติ.
๑๙๓. ตตฺถ กตเม ปฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา? ปฺจ โยธาชีวา – อิเธกจฺโจ โยธาชีโว รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ [สตฺถมฺภติ (สี.) อ. นิ. ๕.๑๔๑] น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ ปโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ ทุติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว [อุสฺสาทนํเยว (สี.), อุสฺสาทนฺเว (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๕.๑๔๑] สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ ตติโย โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ¶ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ ¶ จ โข สมฺปหาเร หฺติ พฺยาปชฺชติ. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ จตุตฺโถ โยธาชีโว ¶ สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ.
ปุน ¶ จปรํ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํ. โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ โยธาชีโว โหติ. อยํ ปฺจโม โยธาชีโว สนฺโต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมึ. อิเม ปฺจ โยธาชีวา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ.
๑๙๔. เอวเมวํ ปฺจิเม โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ. กตเม ปฺจ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ [สนฺตาเนตุํ (สี. สฺยา.) อ. นิ. ๕.๗๕], สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา [อาวีกตฺวา (สี.)] สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส รชคฺคสฺมึ? อิธ ภิกฺขุ สุณาติ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติ. โส ตํ สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส รชคฺคสฺมึ.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว รชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ ปโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.
๑๙๕. ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ ¶ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส ธชคฺคสฺมึ? อิธ ภิกฺขุ น เหว โข สุณาติ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติ, อปิ จ โข สามํ [สามํเยว (สี.)] ปสฺสติ อิตฺถึ วา กุมารึ วา อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ. โส ตํ ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส ธชคฺคสฺมึ.
เสยฺยถาปิ ¶ ¶ ¶ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคฺเว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ ทุติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.
๑๙๖. ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. กิมสฺส อุสฺสารณาย? อิธ ภิกฺขุํ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สฺุาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อูหสติ [อุหสติ (อฏฺกถา) อ. นิ. ๕.๗๕] อุลฺลปติ อุชฺชคฺฆติ อุปฺปณฺเฑติ. โส มาตุคาเมน อูหสิยมาโน อุลฺลปิยมาโน อุชฺชคฺฆิยมาโน อุปฺปณฺฑิยมาโน สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ ¶ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ. อิทมสฺส อุสฺสารณาย.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณฺเว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สกฺโกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ ตติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.
๑๙๗. ปุน จปรํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หฺติ พฺยาปชฺชติ. กิมสฺส สมฺปหารสฺมึ? อิธ ภิกฺขุํ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สฺุาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ อภินิปชฺชติ อชฺโฌตฺถรติ. โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อชฺโฌตฺถริยมาโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ. อิทมสฺส สมฺปหารสฺมึ.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หฺติ พฺยาปชฺชติ, ตถูปโม ¶ อยํ ปุคฺคโล. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ จตุตฺโถ โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ.
๑๙๘. ปุน ¶ จปรํ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํ. โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ. กิมสฺส สงฺคามวิชยสฺมึ? อิธ ภิกฺขุํ ¶ อรฺคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สฺุาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ ¶ อภินิปชฺชติ อชฺโฌตฺถรติ. โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อชฺโฌตฺถริยมาโน วินิเวเตฺวา วินิโมเจตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ.
โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ¶ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อิเม อาสวา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวสมุทโย’’ติ ¶ ยถาภูตํ ปชานาติ ¶ , ‘‘อยํ อาสวนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.
ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติ. อิทมสฺส สงฺคามวิชยสฺมึ. เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํ, โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ¶ ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโล. เอวรูโปปิ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล โหติ. อยํ ปฺจโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สนฺโต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุ. อิเม ปฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุ.
๑๙๙. ตตฺถ กตเม ปฺจ ปิณฺฑปาติกา? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ปิณฺฑปาติโก โหติ, ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต ปิณฺฑปาติโก โหติ, อุมฺมาทา จิตฺตวิกฺเขปา ปิณฺฑปาติโก โหติ, ‘‘วณฺณิตํ พุทฺเธหิ พุทฺธสาวเกหี’’ติ ปิณฺฑปาติโก โหติ, อปิ จ อปฺปิจฺฉตํเยว [อปฺปิจฺฉํเยว (สฺยา.) อ. นิ. ๕.๑๘๑] นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว [อิทมฏฺิตํเยว (สี.)] นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติ. ตตฺร ยฺวายํ ปิณฺฑปาติโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว ¶ นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก, อยํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (สี.)] จ อุตฺตโม จ ปวโร จ.
เสยฺยถาปิ นาม ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ [โนนีตํ (สี.)], นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ, สปฺปิมณฺฑํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ ยฺวายํ ปิณฺฑปาติโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติ, อยํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเม ปฺจ ปิณฺฑปาติกา.
๒๐๐. ตตฺถ ¶ กตเม ปฺจ ขลุปจฺฉาภตฺติกา…เป… ปฺจ เอกาสนิกา…เป… ปฺจ ปํสุกูลิกา…เป… ปฺจ เตจีวริกา…เป… ปฺจ อารฺิกา…เป… ปฺจ รุกฺขมูลิกา ¶ …เป… ปฺจ อพฺโภกาสิกา…เป… ปฺจ เนสชฺชิกา…เป… ปฺจ ยถาสนฺถติกา…เป….
๒๐๑. ตตฺถ กตเม ปฺจ โสสานิกา? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา โสสานิโก โหติ, ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต โสสานิโก โหติ, อุมฺมาทา จิตฺตวิกฺเขปา โสสานิโก โหติ, ‘‘วณฺณิตํ พุทฺเธหิ พุทฺธสาวเกหี’’ติ โสสานิโก โหติ, อปิ จ อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก โหติ. ตตฺร ยฺวายํ โสสานิโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว ¶ นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก, อยํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ โสสานิกานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ¶ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ.
เสยฺยถาปิ นาม ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ, สปฺปิมณฺฑํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ ยฺวายํ โสสานิโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฏฺึเยว นิสฺสาย สลฺเลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก โหติ, อยํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ โสสานิกานํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. อิเม ปฺจ โสสานิกา.
ปฺจกนิทฺเทโส.
๖. ฉกฺกปุคฺคลปฺตฺติ
๒๐๒. ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ พเลสุ จ วสีภาวํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตน ทฏฺพฺโพ.
ตตฺร ¶ ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ตตฺถ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ น จ พเลสุ วสีภาวํ, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ เตน ทฏฺพฺโพ.
ตตฺร ¶ ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ [ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ (สี.) เอวมุปริปิ], สาวกปารมิฺจ ปาปุณาติ, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เตน ทฏฺพฺพา.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ ¶ , ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, น จ สาวกปารมึ ปาปุณาติ, อวเสสา อรหนฺตา เตน ทฏฺพฺพา.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ, อนาคามี ¶ เตน ทฏฺพฺโพ.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อาคนฺตา อิตฺถตฺตํ, โสตาปนฺนสกทาคามิโน เตน ทฏฺพฺพา.
ฉกฺกนิทฺเทโส.
๗. สตฺตกปุคฺคลปฺตฺติ
๒๐๓. กถฺจ ปุคฺคโล สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สมนฺนาคโต โหติ เอกนฺตกาฬเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. เอวํ ปุคฺคโล สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ [สาหุ (สี. สฺยา.) เอวํ ตีสุ าเนสุปิ] หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ [วิริยํ (สี. สฺยา.)] กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. ตสฺส สา สทฺธา เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว ¶ , ตสฺส สา หิรี เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว, ตสฺส ¶ ตํ โอตฺตปฺปํ เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว, ตสฺส ตํ วีริยํ เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว, ตสฺส สา ปฺา เนว ติฏฺติ โน วฑฺฒติ หายติเยว. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ.
กถฺจ ¶ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. ตสฺส สา สทฺธา เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตา โหติ, ตสฺส สา หิรี เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตา โหติ, ตสฺส ตํ โอตฺตปฺปํ เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตํ โหติ, ตสฺส ตํ วีริยํ เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตํ โหติ, ตสฺส สา ปฺา เนว หายติ โน วฑฺฒติ ิตา โหติ. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา ¶ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโน. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปติคาธปฺปตฺโต โหติ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ¶ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ปติคาธปฺปตฺโต โหติ.
กถฺจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชติ ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสุ ¶ , สาธุ หิรี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ โอตฺตปฺปํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ วีริยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สาธุ ปฺา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ. โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ ปุคฺคโล อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ.
๒๐๔. กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต.
๒๐๕. กตโม จ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต…เป… กายสกฺขี… ทิฏฺิปฺปตฺโต… สทฺธาวิมุตฺโต… ธมฺมานุสารี ¶ ….
๒๐๖. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี, ผเล ิโต สทฺธาวิมุตฺโตติ.
สตฺตกนิทฺเทโส.
๘. อฏฺกปุคฺคลปฺตฺติ
๒๐๗. ตตฺถ ¶ ¶ กตเม จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน, จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา? โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; อรหา, อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย [อรหตฺตาย (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๘.๕๙] ปฏิปนฺโน; อิเม จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน, อิเม จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา.
อฏฺกนิทฺเทโส.
๙. นวกปุคฺคลปฺตฺติ
๒๐๘. กตโม ¶ จ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ¶ ปาปุณาติ พเลสุ จ วสีภาวํ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
กตโม จ ปุคฺคโล ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ตตฺถ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ น จ พเลสุ วสีภาวํ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ.
กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต.
กตโม จ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี.
กตโม ¶ จ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต.
กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ¶ ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา ¶ โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต.
กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี, ผเล ิโต ทิฏฺิปฺปตฺโต.
กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี, ผเล ิโต สทฺธาวิมุตฺโตติ.
นวกนิทฺเทโส.
๑๐. ทสกปุคฺคลปฺตฺติ
๒๐๙. กตเมสํ ¶ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส โกลงฺโกลสฺส เอกพีชิสฺส สกทาคามิสฺส โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา.
กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส ¶ อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺาติ.
เอตฺตาวตา ปุคฺคลานํ ปุคฺคลปฺตฺตีติ.
ทสกนิทฺเทโส.
ปุคฺคลปฺตฺติปกรณํ นิฏฺิตํ.