📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมปิฏเก
ธมฺมสงฺคณี-อนุฏีกา
วีสติคาถาวณฺณนา
๑. อภิธมฺมสํวณฺณนาย ¶ ¶ อตฺถํ สํวณฺเณตุกาโม ตสฺสา อาทิคาถาย ตาว ปโยชนสมฺพนฺธาภิธานปุพฺพงฺคมํ อตฺถํ นิทฺธาเรนฺโต อุฬารชฺฌาสยานํ นิสมฺมการีนํ ปฏิปตฺติ ปเรสํ วิวิธหิตสุขนิปฺผาทนปฺปโยชนาติ อาจริยสฺสาปิ ธมฺมสํวณฺณนาย อาทิมฺหิ สตฺถริ นิปจฺจการสฺส อนฺตรายวิโสสนตฺถตา วิย สตฺถริ ธมฺเม จ ปเรสํ อจฺจนฺตสุขปฺปฏิลาภสํวตฺตนิยสทฺธารตนุปฺปาทนตฺถตาปิ สิยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺมสํวณฺณนาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโมติ สามฺวจโนปิ ธมฺม-สทฺโท สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน ¶ อิธ ปริยตฺติวิเสสวิสโย. สํวณฺณียติ อตฺโถ เอตายาติ สํวณฺณนา, อฏฺกถา.
ติวิธยานมุเขน วิมุตฺติธมฺมํ ยถารหมนุสาสตีติ สตฺถา. ปณมนํ ปณาโม, กายวาจาจิตฺเตหิ สตฺถุ คุณนินฺนตา. กิริยา กรณํ, ปณามสฺส กรณํ ปณามกรณํ, วนฺทนาปโยโค. โส จ กิฺจาปิ ‘‘อิทานิ อธิปฺเปตํ ปณามํ กโรนฺโต’’ติอาทินา ‘‘ตสฺส ปาเท นมสฺสิตฺวา’’ติอาทิกสฺส อธิปฺเปตปณามภาวํ ทสฺเสสฺสติ, ‘‘กรุณา วิยา’’ติอาทิกสฺส ปน สพฺพสฺส โถมนาวเสน วุตฺตสฺสปิ วเสน เวทิตพฺโพ. โส หิ สตฺถุ มหากรุณาทิคุณวิเสสกิตฺตนวเสน ปวตฺโต มหากรุณาทิคุณวิเสสาวินาภาวินา สํวณฺณิยมานสํวณฺณนาธมฺมวิภาวิเตน ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตภาเวน สฺวากฺขาตธมฺเม สตฺถริ ¶ อนุปฺปนฺนสทฺธานํ สทฺธาชนนาย, อุปฺปนฺนสทฺธานฺจ ภิยฺโยภาวาย โหติ. สตฺถุโน จ อวิปรีตธมฺมเทสนภาเวน อวิตถเทสนาภูเต ธมฺเมติ เอเตน สตฺถุโน มหากรุณาทิคุณานํเยว จ ผลวิเสสนิปฺผาทนสมตฺถตาย ปสาทาวหตํ อาห. ธมฺเมน หิ สตฺถุสิทฺธิ, สตฺถารา จ ธมฺมสิทฺธิ, ธมฺมสมฺปตฺติยาปิ สตฺถุคุณตาย สตฺถุคุณวิภาวเนน สมฺปชฺชตีติ.
เอวํ สตฺถริ ปณามกรณสฺส เอกํ ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺพนฺธํ วิภาเวติ ‘‘ตทุภยปฺปสาทา หี’’ติอาทินา. น หิ สตฺถริ ธมฺเม วา อปฺปสนฺโน สํวณฺณิยมาเน ตทธิคนฺตพฺเพ จ ธมฺเม สมฺมา ปฏิปชฺชติ, นาปิ สีลาทิอนุปาทาปรินิพฺพานนฺตํ มหนฺตํ อตฺถํ สาเธติ, ตสฺมา ธมฺมสํวณฺณนาสุ ปเรสํ สมฺมาปฏิปตฺติอากงฺขาย ตถารูปธมฺมปฏิคฺคาหเกหิ จ วินิโยชิเตน สตฺถริ ธมฺเม จ ปสาทุปฺปาทนํ สตฺถริ ปณามกรณํ วิหิตนฺติ อธิปฺปาโย.
ภควโต คุณสํกิตฺตนํ ตสฺส ธมฺมสงฺฆานมฺปิ โถมนา โหติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘รตนตฺตยปณามวจน’’นฺติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ภควโต โถมเนเนวา’’ติอาทิ (ธ. ส. มูลฏี. ๖). วกฺขมานํ วา ‘‘สทฺธมฺมฺจสฺส ปูเชตฺวา’’ติอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. วิฺาปนตฺถํ ปเรสํ วิฺูนนฺติ วา สมฺพนฺธนียํ. อวิฺูนํ อปฺปมาณตาย อภาชนตาย จ วิฺูนํ คหณํ. เต หิ พุทฺธาทีสุ สคารวสฺส ปมาณภูตตํ ชานนฺตา ตสฺส วจนํ โสตพฺพํ สทฺธาตพฺพํ มฺนฺติ, สมฺมเทว จ นํ อนุติฏฺนฺตา ตทธิปฺปายํ ปูเรนฺติ. อิธาปิ ปุริมนเยเนว สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ ปสาทวิฺาปนาทิมุเขนปิ สมฺมาปฏิปตฺติอากงฺขาย ปเวทิตตฺตา.
เอตฺถ ¶ จ ปโม อตฺถวิกปฺโป สทฺธานุสารีนํ ปุคฺคลานํ วเสน วุตฺโต, ทุติโย ธมฺมานุสารีนํ. ปโม วา อสํสิทฺธสตฺถุธมฺมานํ วเสน วุตฺโต, ทุติโย สํสิทฺธสตฺถุธมฺมานํ. ตถา ปโม ปเม รตเน ปณามกิริยาทสฺสนปโร, ทุติโย อิตเรสุปีติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
ปณาโม กรียติ เอตายาติ ปณามกรณํ, ปณามกิริยาภินิปฺผาทิกา เจตนา. สา หิ เขตฺตสมฺปตฺติยา อาจริยสฺส จ อชฺฌาสยสมฺปตฺติยา ทิฏฺธมฺมเวทนียภูตา ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส กมฺมสฺส ¶ พลานุปฺปทานวเสน ปุริมกมฺมนิปฺผนฺนสฺส วิปากสนฺตานสฺส อนฺตรา เวมชฺเฌ อายนฺติ อาปตนฺตีติ อนฺตรายาติ ลทฺธนามานํ โรคาทิอนตฺถานํ วิธายกสฺส อุปปีฬกสฺส อุปจฺเฉทกสฺส วา กมฺมสฺส วิทฺธํสนสมตฺโถ ปฺุาติสโยติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘รตนตฺตยปณาม…เป… วิเสสภาวโต’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ราคาทิปริยุฏฺานาภาววจเนน อนฺตรายสฺส การณภูตาย ปโยควิปตฺติยา อภาวสฺส, อตฺถลาภาทิวจเนน อนนฺตรายตาเหตุภูตาย ปโยคสมฺปตฺติยา สพฺภาวสฺส, ‘‘สพฺยาปชฺฌาย ปชาย อพฺยาปชฺโฌ วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑) วจเนน ทิฏฺเว ธมฺเม สุขวิหาริตาย จ ปกาสนํ มหานามสุตฺตํเยว อุทาหฏํ.
คุณวิเสสทสฺสนตฺถนฺติ เอเตน สติปิ กายมโนปณามานํ อนฺตรายวิโสสนสมตฺถภาเว เตหิ ปณามวิสยสฺส ปณามารหภาววิภาวเนน สาติสโย วจีปณาโม วิหิโตติ ทสฺเสติ. คุณวิเสสวา หีติอาทินา อาจริยสฺส ยุตฺตปตฺตการิตํ ทสฺเสติ. เทสนา วินยปิฏเกติ เอตฺถ นนุ วินยปิฏกสฺสปิ เทสนาภาวโต เทสนาวินยปิฏกานํ เภทวจนํ น ยุตฺตนฺติ? โน น ยุตฺตํ ‘‘ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา) เอตฺถ วิย สมุทายเทสนาย อวยวเทสนานํ อาธารภาวโต. เทสนากาเล วา มนสา ววตฺถาปิตาย วินยตนฺติยา วินยปิฏกภาวโต ตทตฺถปฺาปนสฺส จ เทสนาภาวโต เภทวจนํ. อถ วา เทสียติ เอเตนาติ เทสนา, เทสนาสมุฏฺาปโก จิตฺตุปฺปาโท, ตสฺส จ วินยปิฏกวิสโย กรุณาปุพฺพงฺคโม จ โสติ เอวเมตฺถ เภทวจโนปปตฺติ ทฏฺพฺพา. สุตฺตนฺตปิฏเกติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
กถํ ปน ภควโต เทสนา วินยปิฏเก กรุณาปฺปธานา, สุตฺตาภิธมฺมปิฏเกสุ จ ปฺากรุณาปฺาปฺปธานาติ วิฺายตีติ? ยโต อุกฺกํสปริยนฺตคตหิโรตฺตปฺโปปิ ภควา โลกิยสาธุชเนหิปิ ¶ ปริหริตพฺพานิ ‘‘สิขรณี’’ติอาทีนิ วจนานิ ยถาปราธฺจ ครหวจนานิ วินยปิฏกเทสนายํ มหากรุณาสฺโจทิตมานโส มหาปริสมชฺเฌ อภาสิ, ตํตํสิกฺขาปทปฺตฺติการณาเปกฺขาย เวรฺชาทีสุ สารีริกฺจ ¶ เขทมนุโภสิ, ตสฺมา กิฺจาปิ ภูมนฺตรปจฺจยาการสมยนฺตรกถานํ วิย วินยปฺตฺติยาปิ สมุฏฺาปิกา ปฺา อนฺสาธารณตาย อติสยกิจฺจวตี, ตโตปิ กรุณาย กิจฺจํ อธิกนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘วินยปิฏเก กรุณาปฺปธานา’’ติ. กรุณาพฺยาปาราธิกตาย หิ เทสนาย กรุณาปฺปธานตา, สุตฺตนฺตเทสนาย มหากรุณาสมาปตฺติพหุโล เวเนยฺยสนฺตาเนสุ ตทชฺฌาสยานุโลเมน คมฺภีรมตฺถปทํ ปติฏฺเปสีติ กรุณาปฺาปฺปธานตา, อภิธมฺมเทสนาย ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส วิสยภาวปฺปโหนโก รูปารูปปริจฺเฉโท ธมฺมสภาวานุโรเธน ปวตฺติโตติ ปฺาปฺปธานตา. เตเนว จ การเณนาติอาทินา เทสนานุรูปตํตํสํวณฺณนาย โถมนา อาจริยสฺส ปกตีติ ทสฺเสติ.
กุสลา รูปํ จกฺขุมา ทส ทาฬิมาทิ สมูหวเสน อตฺถานวโพธนตฺโถ วิย อตฺถาวโพธนตฺโถ หิ สทฺทปฺปโยโค อตฺตปราธีโน เกวโล อตฺถปทตฺถโก, โส ปทตฺถวิปริเยสการินา อิติ-สทฺเทน สทฺทปทตฺถโก ชายตีติ อาห ‘‘กรุณา วิยาติ นิทสฺสนวจน’’นฺติ. นิทสฺสนฺหิ นาม นิทสฺสิตพฺพธมฺเม เตน จ สมฺพนฺเธ สติ โหติ, นาฺถาติ ตสฺส นิทสฺสนภาวํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ยสฺส ยถา…เป… ปวตฺติตฺถาติ อตฺโถ’’ติ.
‘‘ตตฺถ กรุณา วิยาติ นิทสฺสนวจน’’นฺติอาทินา นิทสฺสนนิทสฺสิตพฺพธมฺมานํ อาธารวิสยพฺยาปาเรหิ สวิเสสเนหิ สห ปกาสนวเสน คาถาย อตฺถตตฺวํ ทสฺเสตฺวา อวยวเภทวเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กิรตีติ กรุณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิจฺฉนฺทราคานํ ภูตปุพฺพคติยา วา สตฺตตา เวทิตพฺพา. เอกสฺสปิ ธมฺมสฺส อเนกสามฺาการวนฺตตาย ‘‘ยถาสภาวํ ปกาเรหี’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรนา’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕) ธมฺมานํ อฺเยฺยตฺตํ ปฏิกฺขิปติ าตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาภาวโต. เอเตน ตสฺสา ปฺาย อกิจฺฉวุตฺติตํ อาห. ยเถว หิ ‘‘เยฺเยสุ สพฺเพสุ ปวตฺติตฺถา’’ติ เอตฺตาวตา อธิปฺเปตตฺเถ สิทฺเธ เตสํ อตฺตตฺตนิยตาวิรหสํสูจนตฺถํ ปเรสํ สตฺตาทิมิจฺฉาคาหปฏิเสธเนน ธมฺม-สทฺเทน เยฺยา วิเสสิตพฺพา, เอวํ ‘‘ธมฺเมสุ สพฺเพสุ ปวตฺติตฺถา’’ติ เอตฺตาวตา ¶ จ อธิปฺเปตตฺเถ สิทฺเธ ธมฺเมสุ ตสฺสา ปฺาย อากงฺขปฺปฏิพทฺธตาย อกิจฺฉวุตฺติตํ ทสฺเสตุํ อฺเยฺยตฺตปฏิเสธเนน เยฺย-สทฺเทน ธมฺมา ¶ วิเสสิตาติ. เยฺยธมฺม-สทฺทา นีลุปฺปลสทฺทา วิย อฺมฺํ เภทาเภทยุตฺตาติ ‘‘เยฺยา จ เต ธมฺมา จา’’ติ วุตฺตํ. ยา ยาติ ยถา-สทฺทสฺสตฺถํ ทสฺเสติ. พฺยาปนิจฺฉายฺหิ อยํ ยถา-สทฺโท, ตปฺปเภทา ปฺา ปวตฺติตฺถาติ สมฺพนฺโธติ.
ภควติ ปวตฺตาวาติ อิทํ เยภุยฺเยน อุปมาโนปเมยฺยตฺถานํ ภินฺนาธารตาย ภินฺนาธารสฺส จ อุปมานตฺถสฺส อิธ อสมฺภวโต วุตฺตํ. ภควโต กรุณาย อฺเหิ อสาธารณภาโว สตฺเต สํสารทุกฺขโต อุทฺธริตฺวา อจฺจนฺตสุเข นิพฺพาเน ปติฏฺเปตุํ อตฺตโน สรีรชีวิตปริจฺจาเคนปิ เอกนฺตหิตชฺฌาสยตาวเสน เวทิตพฺโพ, ยโต วิเนยฺยานํ โกโสหิตวตฺถคุยฺหปหูตชิวฺหาวิทํสนมฺปิ กตํ, ยฺจ ยทิเม สตฺตา ชาเนยฺยุํ, ภควโต สาสเนน รหทมิว สีตลํ สมฺปชฺชลิตํ อคฺคิกฺขนฺธมฺปิ สโมคาเหยฺย. อฺเสํ ปสฺสนฺตานนฺติ สมฺพนฺโธ. อุทฺธฏาติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา มโหฆปกฺขนฺทานํ สตฺตานนฺติ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – กามาทิมโหฆปกฺขนฺเท สตฺเต ตโต อุทฺธฏา นตฺถฺโ โกจิ มํ เปตฺวาติ ปสฺสโต ยถา ภควโต กรุณาย อาวิสนํ โหติ, น เอวํ อฺเสํ ตถาทสฺสนสฺเสว อภาวโต. อถ วา อฺเสํ ปสฺสนฺตานนฺติ ยทิปิ ปเร ปสฺเสยฺยุํ, ตถาปิ น เตสํ ภควโต วิย กรุโณกฺกมนํ อตฺถิ อปฺปฏิปตฺติโต อตฺตหิตมตฺตปฏิปตฺติโต จาติ อตฺโถ.
อนาวรณา ตีสุ กาเลสุ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตวุตฺติตาย, อสาธารณา สพฺพธมฺมานํ นิรวเสสเหตุปจฺจยปริคฺคหวเสน เตสฺจ สภาวกิจฺจาทิอวตฺถาวิเสสาทิปริชานเนน อายูหนเวลายเมว ตํตํกมฺมานํ ตํตํผลวิเสสหีนมชฺฌิมปณีตาทิวิภาคสฺส อินฺทฺริยพทฺเธสุ อนินฺทฺริยพทฺเธสุ จ อติสุขุมติโรหิตวิทูรวุตฺติอตีตานาคตาทิเภทภินฺนานํ รูปธมฺมานํ ตํตํการณสมวายวิภาวเนเนว ตํตํผเลสุ วณฺณสณฺานคนฺธรสผสฺสาทิวิเสสสฺส นิรวเสสโต ปฏิวิชฺฌเนน เวทิตพฺพา. อยฺจ อตฺโถ ภควโต อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ ยถาภูตํ าณาทิวเสน เวทิตพฺโพ. ยถา จ ปสฺสนฺตสฺสาติ อิทํ ราคคฺคิอาทีหิ ¶ โลกสนฺนิวาสสฺส อาทิตฺตตาทิอาการทสฺสนํ ภควโต มหากรุโณกฺกมนุปายํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํ ปน พหุเกหิ อากาเรหิ ปสฺสนฺตานํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ ¶ สตฺเตสุ มหากรุณา โอกฺกมติ. ‘‘อาทิตฺโต โลกสนฺนิวาโส…เป… อุยฺยุตฺโต…เป… ปยาโต…เป… กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโน…เป… อุปนียติ โลโก อธุโว…เป… อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร…เป… อสฺสโก โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ…เป… อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโสติ ปสฺสนฺตานํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สตฺเตสุ มหากรุณา โอกฺกมตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๗) ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปโรสตํ อากาเรหิ ทสฺสิตนฺติ คนฺถวิตฺถารํ ปริหริตุํ สํวณฺณยิตฺุจ อุปายํ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘ตํ สพฺพํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค มหากรุณาาณวิภงฺควเสน ชานิตพฺพ’’นฺติ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสย ยมกปาฏิหาริย สพฺพฺุตานาวรณาณานิ เสสาสาธารณาณานิ. เตสมฺปิ หิ วิภงฺโค ‘‘อิธ ตถาคโต สตฺเต ปสฺสติ อปฺปรชกฺเข’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๑) ปฏิสมฺภิทามคฺเค นานปฺปกาเรน ทสฺสิโตติ ปุริมนเยเนว อติทิสติ. อาทิ-สทฺเทน ตตฺถ วิภตฺตานํ ปฏิสมฺภิทาสจฺจาณาทีนํ สงฺคโห กโตติ เวทิตพฺโพ.
นิปฺปเทสสปฺปเทสวิสยา กรุณา วิย ภควโต ปฺาปิ อิธ นิปฺปเทสสปฺปเทสวิสยา นิรวเสสา อธิปฺเปตาติ ตสฺสา กติปยเภททสฺสเนน นยโต ตทวสิฏฺเภทา คเหตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺาคฺคหเณน จา’’ติอาทิมาห. เต ปน สีลสมาธิ ปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสน, ทฺวาจตฺตาลีสสตทุกธมฺม, พาวีสติติกธมฺม, จตุสติปฏฺาน สมฺมปฺปธาน อิทฺธิปาท สามฺผล อริยวํสาทิ, ปฺจคติ ปฺจปธานิยงฺคปฺจงฺคิกสมาธิ อินฺทฺริย พล นิสฺสารณียธาตุ วิมุตฺตายตน วิมุตฺติปริปาจนียธมฺมสฺาทิ, ฉสารณียธมฺม อนุสฺสติฏฺาน อคารวคารว นิสฺสารณิยธาตุ สตตวิหาร อนุตฺตริย นิพฺเพธภาคิยปฺาทิ, สตฺตอปริหานิยธมฺม อริยธน โพชฺฌงฺค สปฺปุริสธมฺมนิชฺชรวตฺถุ สฺา ทกฺขิเณยฺยปุคฺคลขีณาสวพลาทิ, อฏฺปฺาปฏิลาภเหตุ มิจฺฉตฺต สมฺมตฺต โลกธมฺม อริยานริยโวหาร อารมฺภวตฺถุ กุสีตวตฺถุ อกฺขณ มหาปุริสวิตกฺก อภิภายตน วิโมกฺขาทิ, นวโยนิโสมนสิการมูลธมฺมปาริสุทฺธิปธานิยงฺค ¶ สตฺตาวาส อาฆาตวตฺถุ อาฆาตปฏิวินย สฺานานตฺต อนุปุพฺพวิหาราทิ, ทสนาถกรธมฺม กสิณายตน อกุสลกมฺมปถ กุสลกมฺมปถ มิจฺฉตฺต สมฺมตฺต อริยวาส ทสพลาณ อเสกฺขธมฺมาทิ, เอกาทสเมตฺตานิสํส สีลานิสํส ธมฺมตา พุทฺธิเหตุ, ทฺวาทสายตนปฏิจฺจสมุปฺปาท ธมฺมจกฺกาการ, เตรสธุตคุณ, จุทฺทสพุทฺธาณ, ปฺจทสจรณวิมุตฺติปริปาจนียธมฺม, โสฬสอานาปานสฺสติ สจฺจาการ สุตฺตนฺตปฏฺาน, อฏฺารส พุทฺธธมฺมธาตุ เภทกรวตฺถุ, เอกูนวีสติปจฺจเวกฺขณ, จตุวีสติปจฺจย, อฏฺวีสติสุตฺตนฺตปฏฺาน, ปณฺณาสอุทยพฺพยทสฺสน, ปโรปณฺณาสกุสลธมฺม, ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคต, อฏฺสตตณฺหาวิจริตาทิเภทานํ ธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌนเทสนาการปฺปวตฺตา, เย จ จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณปฺปเภทา, เย จ อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานปวิจยเทสนาการปฺปวตฺตา, เย จ อนนฺตาสุ ¶ โลกธาตูสุ อนนฺตานํ สตฺตานํ อาสยานุสยจริตาทิวิภาวนาการปฺปวตฺตาติ เอวํปการา ภควโต ปฺาปเภทา, สพฺเพปิ อิธ อาทิ-สทฺเทน นยโต สงฺคยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. โก หิ สมตฺโถ ภควโต ปฺาย ปเภเท อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนว ภควนฺตํ เปตฺวา ปฺวนฺตานํ อคฺคภูโต ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ พุทฺธคุณปริจฺเฉทนํ ปติอนุยุตฺโต ‘‘อปิจ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) อาหาติ.
สํสารมโหฆปกฺขนฺทานํ สตฺตานํ ตโต สนฺตารณตฺถํ ปฏิปนฺโน เตหิ ปโยชิโต นาม โหติ อสติปิ เตสํ ตถาวิเธ อภิสนฺธิยนฺติ วุตฺตํ ‘‘สตฺตา หิ มหาโพธึ ปโยเชนฺตี’’ติ. เอเตน สพฺเพนาติ มหาโพธิมูลาทิทสฺสเนน. อปคมนํ นิรุปกฺกิเลสนฺติ โยเชตพฺพํ. ชาตสํวทฺธภาวทสฺสเนน ‘‘อนาทิ อนิธโน จ สตฺโต’’ติ เอวํปการา มิจฺฉาวาทา ปฏิเสธิตา โหนฺติ. สมฺา…เป… ทสฺเสติ สตฺเต ปรมตฺถโต อสติปิ สตฺตปฺตฺติโวหารสูจนโต. กรุณา อาทิปฺา ปริโยสานนฺติ อิทํ สมฺภรณนิปฺผตฺติกาลาเปกฺขาย วุตฺตํ, น ปริจฺเฉทวนฺตตาย. เตเนวาห ‘‘ตนฺนิทานภาวโต ตโต อุตฺตริกรณียาภาวโต’’ติ. สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ นยโต ทสฺสิตตฺตา. เอโส เอว หิ อนวเสสโต พุทฺธคุณทสฺสนุปาโย ยทิทํ นยคฺคาหณํ. ปรธนหรณาทิโตปิ วิรติ ปเรสํ อนตฺถปริหรณวสปฺปวตฺติยา ¶ สิยา กรุณูปนิสฺสยาติ กรุณานิทานํ สีลํ. ตโต เอว ‘‘ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต’’ติ วุตฺตํ.
๒. ยสฺสา สํวณฺณนนฺติอาทินา ‘‘ทยายา’’ติอาทิโถมนาย สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ. ปโยชนํ ปน วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อพฺภนฺตรํ นิยกชฺฌตฺตํ, ตโต พหิภูตํ พาหิรํ. ทยาติ กรุณา อธิปฺเปตาติ ทยา-สทฺทสฺส เมตฺตากรุณานํ วาจกตฺตา วกฺขมานฺจ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา วุตฺตํ. ตาย หิ สมุสฺสาหิโต, น เมตฺตายาติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพ วุตฺตสฺส ปฏินิทฺเทโส โหตีติ ต-สทฺทสฺส อตฺถํ อาห. ตนฺติ ปฺํ วิเสเสตฺวา อุปมาภาเวน วินิวตฺตา จริตตฺถตาย. ปฏินิทฺเทสํ นารหติ ปธานาปธาเนสุ ปธาเน กิจฺจทสฺสนโต. ทฺวินฺนํ ปทานํ…เป… วโตติ กรุณาวาจินา ทยา-สทฺเทน เอกาธิกรณภาเวน วุจฺจมาโน ต-สทฺโท ตโต อฺธมฺมวิสโย ภวิตุํ น ยุตฺโตติ อธิปฺปาโย. อปริยายสทฺทานํ สมานาธิกรณภาโว วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเว สติ โหติ, นาฺถาติ อาห ‘‘สมานา…เป… โหตี’’ติ. สมานาธิกรณภาเวน เหตฺถ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว สาธียติ, สา จ สมานาธิกรณตา วิสิฏฺวิภตฺติกานํ น โหตีติ สมานวิภตฺติตายปิ ตเมว สาธียตีติ ‘‘ทยา…เป… จิท’’นฺติ อิทํ ทยาย วิเสสิตพฺพภาเว การณวจนํ. ปธานตาย หิ ¶ สามฺตาย จ สา วิเสสิตพฺพา ชาตา. ตตฺถ ภควโต ตทฺเสฺจ กรุณานํ วาจกตฺตา สามฺตา เวทิตพฺพา. ตสฺส จาติ ทยา-สทฺทสฺส. ‘‘ปธานฺจ ปฺ’’นฺติอาทินา กิฺจาปิ ปุริมคาถาย ปฺาปฺปธานา, ‘‘ตายา’’ติ ปน เกวลํ อวตฺวา ทยาวิเสสนภาเวน วุตฺตตฺตา อปฺปธานายปิ กรุณาย ปฏินิทฺเทโส ยุตฺโตติ ทสฺเสติ. อปฺปธานตา จ กรุณาย ปุริมคาถาย วเสน วุตฺตา, อิธ ปน ปธานา เอว. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘ทยาสมุสฺสาหินีติ ปธานา’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๒).
กถํ ปน…เป… าตพฺพาติ วกฺขมานฺเว อตฺถํ หทเย เปตฺวา โจเทติ. ยทิ เอวนฺติ ยทิ อฏฺกถาย อธิปฺปายํ อคฺคเหตฺวา วจนมตฺตเมว คณฺหสิ. เมตฺตาติ จ น ยุชฺเชยฺยาติ ยถา ‘‘เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน’’ติ เอติสฺสา อฏฺกถาย วเสน น ทยา กรุณา ¶ , เอวํ ‘‘นิกฺกรุณตํ อาปนฺโน’’ติ เอติสฺสา อฏฺกถาย วเสน น ทยา เมตฺตาติ วจนมตฺตคฺคหเณ อฏฺกถานมฺปิ วิโรธํ ทสฺเสติ. ‘‘อธิปฺปายวเสน โยเชตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตเมว อธิปฺปายํ ทยา-สทฺโท หีติอาทินา วิวรติ. อกฺขรจินฺตกา หิ ทยา-สทฺทํ ทานคติรกฺขเณสุ ปนฺติ. อนุรกฺขณฺจ เมตฺตากรุณานํ หิตูปสํหารทุกฺขาปนยนาการวุตฺตีนํ สมานกิจฺจํ, ตสฺมา อุภยตฺถ ทยา-สทฺโท ปวตฺตตีติ วุตฺตํ. อนฺโตนีตนฺติ อนฺโตคธํ, รุกฺขตฺโถ วิย ธวขทิราทีนํ อนุรกฺขณตฺโถ เมตฺตากรุณานํ สามฺนฺติ อตฺโถ, อธิปฺปาโย ปน ‘‘ทยาปนฺโน’’ติ เอตฺถ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ อนนฺตรํ กรุณาย วุตฺตตฺตา ทยา-สทฺโท เมตฺตาปริยาโยติ วิฺายติ. เมตฺตาปิ หิ กรุณา วิย ปาณาติปาตวิรติยา การณนฺติ. ‘‘อทยาปนฺโน’’ติ เอตฺถ ปน การุณิโก อวิหึ สชฺฌาสยตฺตา ปเรสํ วิเหสามตฺตมฺปิ น กโรติ, โก ปน วาโท ปาณาติปาตเนติ นิกฺกรุณตาย ปาณาติปาติตา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอตเมวตฺถํ สนฺธาย ‘‘เอวฺหิ อฏฺกถานํ อวิโรโธ โหตี’’ติ อาห. ยทิ ทยา-สทฺโท เมตฺตากรุณานํ วาจโก, เอวมฺปิกถํ ปน กรุณา ‘‘ทยา’’ติ ชานิตพฺพาติ อนุโยโค ตทวตฺโถ เอวาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา กรุณา จ เทสนายาติอาทินา กรุณาย เอว คหเณ การณมาห.
นนุ ตายาติอาทินา สามตฺถิยโตปิ ปกรณํ พลวนฺติ ปกรณวเสเนว กรุณาวิสยสฺส าตตํ ทสฺเสติ. ยถารุจิ ปวตฺติตฺถาติ เอตํ ปุริมคาถาย สปฺปเทสนิปฺปเทสสตฺตวิสยาย กรุณาย คหิตภาวสฺส การณวจนํ. ยถารุจิปวตฺติ หิ เอกสฺมึ อเนเกสุ จ อิจฺฉานุรูปปฺปวตฺตีติ. ‘‘อิธ ปน นิปฺปเทสสตฺตวิสยตํ คเหตุ’’นฺติ เอเตน สิทฺเธ สติ อารมฺโภ าปกตฺโถ โหตีติ ปุน ‘‘สตฺเตสู’’ติ ¶ วจนํ อิมมตฺถวิเสสํ โพเธตีติ ทสฺเสติ. น เทเวสุเยวาติอาทินาปิ ทยาสาธนสฺส สมุสฺสาหนสฺส สตฺตวิสยภาเว สามตฺถิยลทฺเธปิ ‘‘สตฺเตสู’’ติ วจนํ ตสฺส นิปฺปเทสสตฺตวิสยภาโว อธิปฺเปโตติ อิมํ วิเสสํ าเปตีติ ทสฺเสติ.
กาลเทสเทสกปริสาทิปริทีปนํ พาหิรนิทานนฺติ กาลาทีนิ นิทฺธาเรนฺโต ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติอาทิมาห. อวสานมฺหิ วสนฺโต ติทสาลเยติ วจนโตติ เอเตน ตสฺส ปาฏิหาริยสฺส สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน ¶ อวจฺฉินฺนตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปวตฺตโวหาเรน จ น สกฺกาติ ปุถุชฺชนสนฺตาเนปิ ราคาทิปฏิปกฺขหรณสฺส อภาวโต นิจฺฉนฺทราเคสุ สตฺตโวหาโร วิย ปุถุชฺชนสนฺตาเน ราคาทิปฏิปกฺขหรณวเสน ปวตฺตํ ตทภาเวปิ ภควโต สนฺตาเน รุฬฺหีวเสน ปาฏิหาริยนฺตฺเวว วุจฺจตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺิหรณวเสน เย สมฺมาทิฏฺิกา ชาตา อเจลกกสฺสปาทโย วิย, ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน อปฺปฏิภานภาวาทิปฺปตฺติยา สจฺจกาทโย วิย.
๓. สีตปพฺพตา นาม ‘‘สิเนรุํ ปริวาเรตฺวา ิตา ยุคนฺธโร…เป… คิริ พฺรหา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗; ปารา. อฏฺ. ๑.๑ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา) เอวํ วุตฺตปพฺพตา.
๔-๕. สพฺพโส จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สพฺพโส อาคมฺม สพฺพโส สนฺนิสินฺเนนาติ สมฺพนฺธวเสน ตโย วิกปฺปา ยุตฺตา, สพฺพโส จกฺกวาฬสหสฺเสหิ ทสหิ ทสหีติ ปน อนิฏฺสาธนโต ปฏิเสธิโต. วชฺชิตพฺเพติ เย วชฺเชตุํ สกฺกา ‘‘อติสมฺมุขา อติสมีปํ อุนฺนตปฺปเทโส’’ติ, เอเต. อิตเร ปน ตสฺสา ปริสาย มหนฺตภาเวน น สกฺกา ปริหริตุํ.
‘‘สพฺพเยฺย…เป… สมตฺถา’’ติ วตฺวา เตสํ เทเสตพฺพปฺปการชานนสมตฺถาติ วจนํ อตฺตนา ปฏิวิทฺธาการสฺส ธมฺมสามินาปิ ปเรสํ เทเสตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ. อฺถา สพฺเพปิ สตฺตา ทิฏฺสจฺจา เอว ภเวยฺยุํ. สพฺพเยฺยธมฺมานํ ยถาสภาวชานนสมตฺถตาทิเยว ยถาวุตฺตพลํ. เตสํ คหณสมตฺถตํ ทีเปติ, อธิกวจนมฺมตฺถํ โพเธตีติ อธิปฺปาโย.
๖. ตถาคโต วนฺทนีโยติอาทินา ‘‘นมสฺสิตฺวา’’ติอาทิกิริยาวิเสสานํ ตํตํสุตฺตานุโรเธน ¶ ปวตฺติตมาห. สรีรโสภคฺคาทีติ อาทิ-สทฺเทน กลฺยาณวากฺกรณตาอาธิปจฺจปริวารสมฺปตฺติอาทิ สงฺคยฺหติ.
๗. อนฺตรธาเปตฺวาติ นิโรเธตฺวา. นิโรธนฺเจตฺถ อุปฺปาทกเหตุปริหรณวเสน เตสํ อนุปฺปตฺติกรณนฺติ เวทิตพฺพํ. อตฺถํ ปกาสยิสฺสามีติ สมฺพนฺโธติ ‘‘โสเสตฺวา’’ติ ปุพฺพกาลกิริยาย อปรกาลกิริยาเปกฺขตาย วุตฺตํ.
๘. ทุกฺกรภาวํ ¶ ทีเปตุนฺติ อทุกฺกรสฺส ตถาอภิยาเจตพฺพตาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ สีลวิปตฺติภาวโต ถุลฺลจฺจยาทีนฺจ เยภุยฺเยน อาจารวิปตฺติภาวโต อาจารสีลานํ ตถา โยชนา กตา, ตถา จาริตฺตสีลสฺส อาจารสภาวตฺตา อิตรํ สภาเวเนว คเหตฺวา ทุติยา. อสกฺกุเณยฺยนฺติ วิสุทฺธาจาราทิคุณสมนฺนาคเตน สพฺรหฺมจารินา สทฺธมฺมจิรฏฺิตตฺถํ สาทรํ อภิยาจิเตน เตน จ อภิธมฺมตฺถปฺปกาสเน สมตฺโถติ ยาถาวโต ปมาณิเตน ตพฺพิมุขภาโว น สุกโรติ อธิปฺปาโย.
๙. เทวเทว-สทฺทสฺส อตฺโถ ปฏฺานสํวณฺณนาฏีกายํ วิปฺจิโตติ น วิตฺถารยิมฺห.
๑๓. ปมสงฺคีติยํ ยา อฏฺกถา สงฺคีตาติ วจเนน สา ภควโต ธรมานกาเลปิ อฏฺกถา สํวิชฺชติ, เตน ปาโ วิย ภควํมูลิกาวาติ วิฺายติ. ‘‘อภิธมฺมสฺสา’’ติ ปทํ ‘‘อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอตทเปกฺขนฺติ ‘‘กสฺส ปน สา อฏฺกถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อธิการวเสน ตเมว อภิธมฺมปทํ อากฑฺฒติ. อาวุตฺติอาทิวเสน วา อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ.
๑๖. อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺควิเสสํ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมตีติอาทินยปฺปวตฺโต ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรวาโท อาทิ-สทฺเทน วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺติ, ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตีติ เอวมาทโย โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถรติปิฏกจูฬาภยตฺเถรวาทาทโย สงฺคยฺหนฺติ. ตปฺปกาสเนเนวาติ อภิธมฺมสฺส อตฺถปฺปกาสเนเนว. โสติ มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉโย. ตถาติ อสมฺมิสฺสานากุลภาเวน. อสมฺมิสฺสานากุลภูโต วา วินิจฺฉโย มหาวิหารวาสีนํ สนฺตกภาเวน, เอเตน อภิธมฺมสฺส อตฺถปฺปกาสเนเนว มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉโย อิธ อภินิปฺผาทียตีติ ทสฺเสติ. อถ วา ตปฺปกาสเนเนวาติ อสมฺมิสฺสานากุลภาวปฺปกาสเนเนว ¶ . โสติ ปกาสิยมาโน อภิธมฺมตฺโถ. ตถาติ มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉยภาเวน. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ‘‘อสมฺมิสฺสํ อนากุลํ อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ สมฺพนฺธนียํ.
๑๗. อฺฺจ ¶ สพฺพํ อตฺถปฺปกาสนํ โหตีติ โตสนํ โหตีติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สพฺเพน เตน โตสนํ กตํ โหตี’’ติ. ยุตฺตรูปา โยชนา.
วีสติคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิทานกถาวณฺณนา
ปริจฺเฉโท สตฺตปฺปกรณภาโว. สนฺนิเวโส สตฺตนฺนํ ปกรณานํ ตทวยวานฺจ ววตฺถานํ. สาคเรหิ ตถา จินฺตาติ ‘‘อิมสฺส อภิธมฺมสฺส คมฺภีรภาววิชานนตฺถํ จตฺตาโร สาครา เวทิตพฺพา’’ติอาทินา นเยน ชลสาคราทีหิ สห นยสาครวิจาโร. ‘‘สตภาเคน สหสฺสภาเคน ธมฺมนฺตรา ธมฺมนฺตรํ สงฺกมิตฺวา สงฺกมิตฺวา เทเสสี’’ติอาทินา เทสนาเภเทหิ อภิธมฺมสฺส คมฺภีรภาวกถา เทสนาหิ คมฺภีรตา.
‘‘เอวํ เตมาสํ นิรนฺตรํ เทเสนฺตสฺสา’’ติอาทินา เทสนากาเล ภควโต สรีรสฺส ยาปิตาการวิจาโร เทสนา…เป… คหณํ. ตถา เถรสฺส…เป…ปิ จาติ ‘‘อภิธมฺเม วาจนามคฺโค นามา’’ติอาทินา อภิธมฺเม วาจนามคฺคสฺส สาริปุตฺตตฺเถรสมฺพนฺธิตตา ตสฺส จ เตเนว อุปฺปาทิตตา. โย หิ ภควตา เทวตานํ เทสิตากาโร, โส อปริจฺฉินฺนวารนยตนฺติตาย อนนฺโต อปริมาโณ น ภิกฺขูนํ วาจนาโยคฺโค, โย จ เถรสฺส เทสิตากาโร, โส อติสํขิตฺตตาย. นาติสงฺเขปนาติวิตฺถารภูโต ปน ปานโย เถรปฺปภาวิโต วาจนามคฺโคติ.
วจนตฺถวิชานเนนาติอาทินา กุสลา ธมฺมาติอาทิปทานฺเว อตฺถวณฺณนํ อกตฺวา อภิธมฺม-สทฺทวิจารสฺส สมฺพนฺธมาห. ‘‘เย เต มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา. เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร ¶ สติปฏฺานา…เป… สิกฺขิตํ สิกฺขึสุ ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺเม นานาวาทา’’ติอาทิสุตฺตวเสน กิฺจาปิ โพธิปกฺขิยธมฺมา ‘‘อภิธมฺโม’’ติ วุจฺจนฺติ, ธมฺม-สทฺโท จ สมาธิอาทีสุ ทิฏฺปฺปโยโค, ปริยตฺติธมฺโม เอว ปน อิธ อธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุตฺตนฺตาธิกา ปาฬีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ตตฺถ ธมฺมพฺยภิจารภาเวน วิเสสโต อภิธมฺโม วิย สุตฺตนฺโตปิ ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โย ¶ โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๑๖) อฺตฺถ จ สมฺภวโต อภิ-สทฺเทน นิวตฺเตตพฺพตฺถํ ทีเปตุํ ‘‘สุตฺตนฺตา’’ติ วุตฺตํ. นนุ จ อติเรกวิเสสฏฺา ภินฺนสภาวา ยโต เต ยถากฺกมํ อธิกวิจิตฺตปริยาเยหิ โพธิตา, ตสฺมา ‘‘ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสฏฺเหี’’ติ พหุวจเนน ภวิตพฺพํ, น เอกวจเนนาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ…เป… เอกวจนนิทฺเทโส กโต’’ติ.
ปโยคเมว นารหติ อุปสคฺค-สทฺทานํ ธาตุ-สทฺทสฺเสว ปุรโต ปโยชนียตฺตา. อถาปิ ปยุชฺเชยฺย อติมาลาทีสุ อติ-สทฺทาทโย วิย. เอวมฺปิ ยถา ‘‘อติมาลา’’ติ เอตฺถ สมาสวเสน อนาวิภูตาย กมนกิริยาย วิเสสโก อติ-สทฺโท, น มาลาย, เอวมิธาปิ อภิ-สทฺโท น ธมฺมวิเสสโก ยุตฺโตติ อธิปฺปาโย. อฺสฺสปิ หิ อุปสคฺคสฺสาติ อิทํ รุฬฺหีวเสน, อตฺเถ อุปสชฺชตีติ วา อุปสคฺคสฺส อนฺวตฺถสฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. อติฉตฺตาทีสุ หิ อติ-สทฺโท อิธ อุปสคฺโคติ อธิปฺเปโต. ตตฺถ ยถา กลฺยาโณ ปูชิโต วา ปุริโส อติปุริโสติ ภวติ, เอวํ อติเรกวิเสสฏฺานมฺปิ กลฺยาณปูชิตตฺถภาวสมฺภวโต กลฺยาณํ วา ปูชิตํ วา ฉตฺตํ อติฉตฺตนฺติ สทฺทนโย เวทิตพฺโพ. กลฺยาณปูชิตภาวา หิ คุณวิเสสโยเคน อิจฺฉิตพฺพา. คุณวิเสโส เจส ยทิทํ ปมาณาติเรโก จ วิจิตฺตรูปตา จ. เอวฺจ ปน กตฺวา ‘‘อกิริยายปี’’ติ วจนํ สมตฺถิตํ ภวติ. ยถา จ อติฉตฺตาทีสุ, เอวํ อภิธมฺม-สทฺเทปิ ทฏฺพฺพํ. อเนกตฺถา หิ นิปาตาติ. ตพฺภาวทีปกตฺตาติ อติเรกวิเสสภาวทีปกตฺตา.
เอกโต อนาคตตฺตาติ อิทํ สุตฺตนฺเต เอกโต อาคตานํ ขนฺธายตนาทีนํ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส ทิฏฺตฺตา ‘‘ฉ อิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๔๙๕-๔๙๖) จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อิตฺถินฺทฺริยาทีนํ ติณฺณํ สุขินฺทฺริยาทีนํ ปฺจนฺนํ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ ปฺจนฺนํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนฺจ ติณฺณํ วเสน วิสุํ วิสุํ สุตฺตนฺตภาเวน อาคตตฺตา เอกสุตฺตภาเวน อนาคตานํ พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ สุตฺตนฺตภาชนียสฺส อทิฏฺตฺตา ¶ จ วุตฺตํ, น สุตฺตนฺเต เอกโต อาคมนสฺส สุตฺตนฺตภาชนียสฺส การณตฺตา. สุตฺตนฺเต เอกโต สพฺเพน สพฺพฺจ อนาคตา หิ ภูมนฺตรปริจฺเฉทปฏิสมฺภิทา สุตฺตนฺตภาชนียวเสน วิภตฺตา ทิสฺสนฺติ, เอกโต อาคตานิ จ ¶ สิกฺขาปทานิ ตถา น วิภตฺตานิ. เวรมณีนํ วิย ปน สภาวกิจฺจาทิวิภาควินิมุตฺโต พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ สมาโน วิภชนปฺปกาโร นตฺถิ, โย สุตฺตนฺตภาชนียํ สิยาติ อินฺทฺริยวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถีติ ยุตฺตํ สิยา.
ยทิปิ ปจฺจยธมฺมวินิมุตฺโต ปจฺจยภาโว นาม นตฺถิ, ยถา ปน ปวตฺโต ปจฺจยธมฺโม ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ปจฺจโย โหติ, โส ตสฺส ปวตฺติอาการวิเสโส เหตุอาทิภาโว ตโต อฺโ วิย ปจฺจยธมฺมสฺส ปจฺจยภาโวติ วุตฺโต, โส จ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตี’’ติอาทีสุ ปธานภาเวน วุตฺโต. ตตฺถ จ คุณีภูตา เหตุเหตุผลภูตา อวิชฺชาสงฺขาราทโยติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจยภาโว อุทฺทิฏฺโ’’ติ. อุทฺทิฏฺธมฺมานนฺติอาทิ อุทฺเทเสน ปริจฺฉินฺนานํเยว ขนฺธาทีนํ ขนฺธวิภงฺคาทีสุ ปฺหปุจฺฉกนโย ทสฺสิโต, น อิโต อฺถาติ กตฺวา วุตฺตํ.
สุตฺตนฺเต สงฺคีติสุตฺตนฺตาทิเก. ปฺจ สิกฺขาปทานิ ปาณาติปาตา…เป… ปมาทฏฺานา เวรมณีติ เอวํ อุทฺทิฏฺานิ. อฺโ ปน เวรมณีนํ วิภชิตพฺพปฺปกาโร นตฺถีติ อิทํ อตีตานิจฺจาทิวิภาโค เวรมณีนํ ขนฺธายตนาทีสุ อนฺโตคธตฺตา ตพฺพเสเนว วิชานิตพฺโพ, ตโต ปน อฺโ อภิธมฺมนยวิธุโร เวรมณีนํ วิภชิตพฺพปฺปกาโร นตฺถีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ตถา จ ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจํ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจ’’นฺติ อนุปทธมฺมสมฺมสนกถายํ น เวรมณิโย อุทฺธฏา.
นนุ ธมฺมสงฺคณีธาตุกถาทีนมฺปิ วเสน อภิธมฺมปาฬิยา อติเรกวิเสสภาโว ทสฺเสตพฺโพติ? สจฺจเมตํ, โส ปน เอกนฺตอภิธมฺมนยนิสฺสิโต อวุตฺโตปิ สิทฺโธติ กตฺวา น ทสฺสิโต. เอเตน วา นิทสฺสเนน โสปิ สพฺโพ เนตพฺโพ. อภิธมฺมนยสามฺเน วา อภิธมฺมภาชนียปฺหปุจฺฉเกหิ โส วุตฺโต เอวาติ น วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
ปฺหวาราติ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตา ปาฬินยา. เอตฺเถวาติ ธมฺมหทยวิภงฺเค เอว. อเปกฺขาวสิกตฺตา อปฺปมหนฺตภาวสฺส ยโต อปฺปมตฺติกา มหาธาตุกถาตนฺติ ธมฺมหทยวิภงฺควจนวเสน อวเสสา, ตํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ธมฺมหทยวิภงฺเค อนาคนฺตฺวา มหาธมฺมหทเย อาคตตนฺติโต’’ติ ¶ วุตฺตํ. ธมฺมหทย…เป… อาคตตนฺติโต รูปกณฺฑธาตุวิภงฺคาทีสุ อนาคนฺตฺวา มหาธาตุกถายํ อาคตตนฺติ อปฺปมตฺติกาวาติ สมฺพนฺโธ ¶ . อถ ธาตุกถาย วิตฺถารกถา มหาธาตุกถา ธมฺมหทยวิภงฺเค อนาคนฺตฺวา มหาธมฺมหทเย อาคตตนฺติโต ธาตุกถายํ อนาคนฺตฺวา มหาธาตุกถาย อาคตตนฺติ อปฺปมตฺติกาวาติ โยเชตพฺพํ.
อุปลพฺภตีติ อนุโลมปจฺจนียปฺจกสฺส, นุปลพฺภตีติ ปจฺจนียานุโลมปฺจกสฺส อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ. สจฺจิกฏฺํ นิสฺสยนฺติ ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินา เทสาทิอนามสเนน รูปาทิสตฺตปฺาสธมฺมปฺปเภทํ สจฺจิกฏฺเมว นิสฺสยภูตํ. สพฺพตฺถาติ เอตฺถาปิ ‘‘อุปลพฺภติ นุปลพฺภตีติ ปฏิฺาย คหิตาย ปฏิกฺเขปคฺคหณตฺถ’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนียํ, ตถา สพฺพทา สพฺเพสูติ เอตฺถาปิ. ยทิ ขนฺธายตนาทโย คหิตา อฏฺกถายํ อาคตนเยน, อถ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โย สจฺจิกฏฺโติ สจฺจิกฏฺนิสฺสยํ อุปลกฺเขติ. เอเตหีติ เอเตหิ วจเนหิ. สจฺจิกฏฺเทสกาลปฺปเทเสหิ กถํ สจฺจิกฏฺาทีนํ ปเทโส เอกเทสภูโต สพฺโพติ วุจฺจติ? ปเทสานํ ปุถุตฺตา. ‘‘สพฺเพสุ ปเทเสสู’’ติ ปจฺเจกํ เภทามสนวเสน จายํ ปฺโห ปวตฺโตติ น ปุริเมหิ อวเสโส.
อุปลพฺภติ…เป… มิจฺฉาติ เอกนฺติ อุปลพฺภตีติ ปฏิฺาคฺคหณปฏิกฺเขปคฺคหณนิคฺคณฺหนานํ อนุโลมปฏิโลมโต ปฏิฺาปนนิคฺคหปาปนาโรปนานฺจ วเสน ปวตฺตา ตนฺติ ปมปฺจกสฺส เอกํ องฺคํ เอโก อวยโวติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ เนตพฺพํ. นิคฺคหสฺส สุนิคฺคหภาวํ อิจฺฉโต สกวาทิโน ‘‘ตฺวํ เจ ปน มฺสิ วตฺตพฺเพ โข ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติอาทินา (กถา. ๓) ปฏิฺาปเนน, เตน ‘‘ตว ตตฺถ เหตาย ปฏิฺาย เหวํ ปฏิชานนฺโต เหวํ นิคฺคเหตพฺเพ อถ ตํ นิคฺคณฺหาม สุนิคฺคหิโต จ โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘หฺจิ ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติอาทินา (กถา. ๒) ปรวาทิโน อตฺตโน ปฏิกมฺมํ ยถา สกวาที น นิพฺเพเติ, เอวํ กรณํ ปฏิกมฺมเวนํ. ปรวาทิโน ปฏิกมฺมสฺส ทุปฺปฏิกมฺมภาวํ อิจฺฉโต สกวาทิโน ตํนิทสฺสเนน ‘‘เอโส เจ ทุนฺนิคฺคหิโต เหว’’นฺติ ปฏิกมฺมนิทสฺสเนน, ‘‘วตฺตพฺเพ โข ปุคฺคโล อุปลพฺภติ…เป… ปรมตฺเถนาติ (กถา. ๑). โน จ มยํ ตยา ตตฺถ เหตาย ปฏิฺาย เหวํ ปฏิชานนฺโต เหวํ นิคฺคเหตพฺพา. อถ อมฺเห นิคฺคณฺหาสิ ทุนฺนิคฺคหิตา จ โหมา’’ติ วตฺวา ‘‘หฺจิ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติอาทินา (กถา. ๕) นิคฺคหสฺส ทุนฺนิคฺคหิตภาวทสฺสเนน ¶ อนิคฺคหิตภาวกรณํ นิคฺคหนิพฺเพนํ. ‘‘เตน หิ ยํ นิคฺคณฺหาสิ หฺจิ ¶ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘เตน หิ เย กเต นิคฺคเห เส นิคฺคเห ทุกฺกเฏ สุกเต ปฏิกมฺเม สุกตา ปฏิปาทนา’’ติ สกวาทิโน นิคฺคหสฺส, อนิคฺคหภาวาโรปเนน อตฺตโน ปฏิกมฺมสฺส สุปฏิกมฺมภาวกรเณน จ สกวาทิโน นิคฺคหสฺส เฉโท วินาสนํ ปุคฺคลวาทนิเสธนวเสน สมุฏฺิตตฺตา. ธมฺมตาย อนุโลมนวเสน อุฏฺหิตฺวา ตพฺพิโลมนวเสน ปวตฺโต อนุโลมปจฺจนีกปฺจโก วุตฺตวิปริยาเยน ทุติยปฺจโก เวทิตพฺโพ.
ตทาธาโรติ เต สจฺจิกฏฺปรมตฺถา รูปาทโย อาธารา เอตสฺสาติ ตทาธาโร. เอเตน ‘‘รูปสฺมึ อตฺตา’’ติ เอวํปกาโร ปุคฺคลวาโท ทสฺสิโต โหติ. เตสํ วา อาธารภูโตติ เอเตน ‘‘อตฺตนิ รูป’’นฺติ เอวํปกาโร. อฺตฺร วา เตหีติ เตหิ รูปาทีหิ วินา. อาธาราเธยฺยาทิภาเวน อสํสฏฺโ วิสุํเยว วินา. เตน สตฺตาทิคุเณหิ อโวกิณฺโณ ปุริโสติ เอวมาทิโก. ตํสามิภูตตาย วา ตทธีนภาเวน ‘‘อฺตฺร วา เตหี’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘รูปวา อตฺตา’’ติ เอวํปกาโร ปุคฺคลวาโท ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ. อนฺโติ เอเตน ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติ เอวํปกาโร. รุปฺปนาทิสภาโว รูปกฺขนฺธาทีนํ วิเสสลกฺขณํ, สปฺปจฺจยาทิสภาโว สามฺลกฺขณํ. รูปาทิโต อฺโ อนฺโ วา อฺตฺเต จ ตทาธาราทิภูโต อุปลพฺภมาโน อาปชฺชตีติ อนุยฺุชติ สกวาที ปการนฺตรสฺส อสมฺภวโต. ปุคฺคลวาที ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ น อฺตฺตํ อิจฺฉติ รูปาทิ วิย ปจฺจกฺขโต อนุมานโต วา คาหยิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตสฺส จ การกเวทกภาวสฺส อยุชฺชมานกตฺตา. นาปิ อนฺตฺตํ รุปฺปนสปฺปจฺจยาทิสภาวปฺปสงฺคโต ปุคฺคลสฺเสว อภาวปฺปสงฺคโต จ. ยเถว หิ น วินา อินฺธเนน อคฺคิ ปฺาปิยติ, น จ อฺํ อินฺธนโต อคฺคึ สกฺกา ปฏิชานิตุํ, นาปิ อนฺํ. ยทิ หิ อฺโ สิยา, น อุณฺหํ อินฺธนํ สิยา. อถ อนฺโ, นิทฺทหิตพฺพํเยว ทาหกํ สิยา. เอวเมว น วินา รูปาทีหิ ปุคฺคโล ปฺาปิยติ, น จ เตหิ อฺโ, นาปิ อนฺโ สสฺสตุจฺเฉทภาวปฺปสงฺคโตติ ลทฺธิยํ ตฺวา ปุคฺคลวาที ‘‘น เหวา’’ติ ปฏิกฺขิปติ. ตตฺถ อคฺคินฺธโนปมา ตาว ยทิ โลกโวหาเรน วุตฺตา, อปฬิตฺตํ กฏฺาทิอินฺธนํ นิทฺทหิตพฺพฺจ, ปฬิตฺตํ ภาสุรุณฺหํ อคฺคิ ทาหกฺจ, ตฺจ โอชฏฺมกรูปํ ปุริมปจฺฉิมกาลิกํ ¶ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ, ยทิ เอวํ ปุคฺคโล รูปาทีหิ อฺโ อนิจฺโจ จ อาปนฺโน. อถ ปรมตฺถโต, ตสฺมึเยว กฏฺาทิเก ปฬิตฺเต ยํ อุสุมํ โส อคฺคิ, ตํสหชาตานิ ตีณิ ภูตานิ อินฺธนํ, เอวมฺปิ สิทฺธํ ลกฺขณเภทโต อคฺคินฺธนานํ อฺตฺตนฺติ อคฺคิ วิย อินฺธนโต รูปาทีหิ อฺโ ปุคฺคโล อนิจฺโจ จ อาปนฺโนติ พฺยาหตาติ เวทิตพฺพํ.
ปุคฺคโล ¶ อุปลพฺภตีติ ปฏิชานนฺตสฺส ปการนฺตรสฺส อสมฺภวโต วุตฺเตสุ ปกาเรสุ เอเกน ปกาเรน อุปลพฺภมาโน อุปลพฺภตีติ ‘‘อาปนฺน’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิฺาย เอกตฺตาปนฺน’’นฺติ. เอกตฺตาปนฺนตฺตา เอว อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพํ, ปุคฺคเล ปฏิสิทฺเธ ตทภินิเวโสปิ อยาถาวโต ปุคฺคลวาทิโน คหิตาการสฺุตาวิภาวเนน สกฏฺานโต จาวิโต ปฏิเสธิโต เอว นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปุคฺคลทิฏฺึ ปฏิเสเธนฺโต’’ติ. ปุคฺคโลเยว วา ตถา ปสฺสิตพฺพตฺตา ทิฏฺิ. ‘‘สามี นิวาสี การโก เวทโก นิจฺโจ ธุโว’’ติ อภินิเวสวิสยภูโต หิ ปริกปฺปมตฺตสิทฺโธ ปุคฺคโล อิธ ปฏิกฺขิปียติ, ‘‘น จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา’’ติอาทินา วุตฺตโวหารปุคฺคโลติ อนนุโยโค อากาสกุสุมสฺส รตฺตนีลาทิภาววิจารณา วิยาติ อตฺโถ. ปุพฺเพ ‘‘นุปลพฺภตี’’ติ ปฏิชานิตฺวา วิเสสโจทนาย อนาปชฺชนโต ปุน ‘‘น เหวา’’ติ ปฏิกฺเขโป ปฏิฺาย อาปชฺชนเลโส. วฺฌาปุตฺตกสฺส ทีฆรสฺสตานุโยคสฺส วิย สพฺเพน สพฺพํ ปรมตฺถโต อนุปลพฺภมานสฺส ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ อฺานฺตานุโยคสฺส อนนุโยคภาโว เอว อิธ อวิปรีตตฺโถ.
ยํการณาติ เอเตน ‘‘ยโตนิทาน’’นฺติ เอตฺถ วิภตฺติอโลโป ทฏฺพฺโพติ ทสฺเสติ. อชฺฌาจรนฺตีติ อภิภวนฺติ. อภินนฺทนาทโย ตณฺหาทีหิ ยถาสงฺขฺยํ โยเชตพฺพา, ตณฺหาทิฏฺีหิ วา อภินนฺทนชฺโฌสานานิ, ตีหิปิ อภิวทนํ อวิเสเสน วา ตีหิปิ ตโย โยเชตพฺพา. เอตฺถ เจ นตฺถิ อภินนฺทิตพฺพนฺติอาทินา อภินนฺทนาทีนํ อภาวสูจเนน ผลูปจารโต อภินนฺทนาทีนํ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิภูตํ มคฺคผลํ วุจฺจติ, ตํ ปจฺจามสนฺจ เอเสวาติ อิทนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อภิ…เป… ผลํ วา’’ติ.
‘‘ายตีติ ชาน’’นฺติ อุกฺกํสคติวิชานเนน นิรวเสสํ เยฺยชาตํ ปริคฺคยฺหตีติ ตพฺพิสยาย ชานาติกิริยาย สพฺพฺุตฺาณเมว กรณํ ภวิตุมรหตีติ ¶ ‘‘สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตพฺพํ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปกรณวเสน, ‘‘ภควา’’ติ สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน วา อยํ อตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ ติตฺถิยา ปมชฺฌานอรูปชฺฌาเนหิ กามรูปปริฺาวาทิโน. ชานนฺโต ชานาติเยว ภควา อนาคามิอรหตฺตมคฺเคหิ ตํปริฺาวาทิตาย. อยฺจ อตฺโถ ทุกฺขกฺขนฺธสุตฺตวเสน (ม. นิ. ๑.๑๖๓, ๑๗๕ อาทโย) วิภาเวตพฺโพ. ปฺาจกฺขุนา อุปฺปนฺนตฺตา วา จกฺขุภูโต. าณภูโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อถ วา ทิพฺพจกฺขุอาทิกํ ¶ ปฺจวิธมฺปิ จกฺขุํ ภูโต ปตฺโตติ จกฺขุภูโต. เอวํ าณภูโตติอาทีสุปิ ทฏฺพฺพํ. สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย สาติสโย ภควโต วตฺตุอาทิภาโวติ วุตฺตํ ‘‘จตุสจฺจธมฺเม วทตีติ วตฺตา’’ติอาทิ. ‘‘ปวตฺตา’’ติ เอตฺถ ป-การสฺส ปกฏฺตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จิรํ…เป… ปวตฺตา’’ติ อาห. นิทฺธาเรตฺวา เนตา นินฺเนตา.
‘‘เอกูนนวุติ จิตฺตานี’’ติ วุตฺตา จิตฺตสหจริยาย ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ. เตสฺจ ปาฬิปเทสานํ เอเกกํ ปทํ อุทฺธริตฺวาปิ กิฺจาปิ กุสลตฺติกปทานิเยว อุทฺธริตฺวา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ จิตฺตานิ วิภตฺตานิ, กุสลตฺติเกน ปน สภาวธมฺมสงฺคหิตานํ เสสตฺติกทุกปทานํ อสงฺคหิตานํ อภาวโต กุสลตฺติกปทุทฺธาเรน นยทสฺสนภูเตน อิตรตฺติกทุกปทานิปิ อุทฺธฏาเนวาติ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา มาติกาคฺคหณํ สมตฺถิตํ ภวติ.
โส จ ธมฺโมติ ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๖๐) ปุริมาย ปุริมาย ปาฬิยา ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อตฺถนิทฺเทโสติ วุตฺตํ. ‘‘สมาเนนฺตี’’ติสทฺทสฺส ปฏปฏายติ-สทฺทสฺส วิย สทฺทนโย ทฏฺพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมานํ กโรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สมานกรณฺจ อูนปกฺขิปเนน อธิกาปนยเนน วา โหติ, อิธ อูนปกฺขิปเนนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปูเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สมาเนตพฺพนฺติ เอตฺถาปีติ ‘‘ปฏฺานํ สมาเนตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ.
พลวตา าณเวเคน อภิธมฺมปจฺจเวกฺขณวสปฺปวตฺเตน. พลวโต าณเวคสฺส สพฺพกิเลสกฺเขปนวสปฺปวตฺตสฺส. คมฺภีรเมว คมฺภีรคตํ ทิฏฺิคตนฺติอาทีสุ วิย. นิรวเสเสนาติ น กฺจิ อวเสเสตฺวา. ปฺจขีลรหิเตนาติ ปฺจเจโตขีลรหิเตน.
เอกาธิเกสุ ¶ อฏฺสุ กิเลสสเตสูติ ‘‘ชาติมโท’’ติอาทินา เอกกวเสน อาคตา เตสตฺตติ, ‘‘โกโธ จ อุปนาโห จา’’ติอาทินา ทุกวเสน ฉตฺตึส, ‘‘ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติอาทินา ติกวเสน ปฺจาธิกํ สตํ, ‘‘จตฺตาโร อาสวา’’ติอาทินา จตุกฺกวเสน ฉปฺปฺาส, ‘‘ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานี’’ติอาทินา ปฺจกวเสน ปฺจสตฺตติ, ‘‘ฉ วิวาทมูลานี’’ติอาทินา ฉกฺกวเสน จตุราสีติ, ‘‘สตฺต อนุสยา’’ติอาทินา สตฺตกวเสน เอกูนปฺาส, ‘‘อฏฺ กิเลสวตฺถูนี’’ติอาทินา ¶ อฏฺกวเสน จตุสฏฺิ, ‘‘นว อาฆาตวตฺถูนี’’ติอาทินา นวกวเสน เอกาสีติ, ‘‘ทส กิเลสวตฺถูนี’’ติอาทินา ทสกวเสน สตฺตติ, ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสุปฺปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา อฏฺารสกวเสน อฏฺสตนฺติ เอวํ เอกาธิเกสุ อฏฺสุ กิเลสสเตสุ. เสสา เตนวุตาธิกํ ฉสตํ กิเลสา. เต พฺรหฺมชาลสุตฺตาคตาหิ ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีหิ สห ปฺจปฺาสาธิกํ สตฺตสตํ โหนฺติ.
อถ วา จุทฺทเสกนฺตากุสลา, ปฺจวีสติ กุสลาพฺยากตสาธารณา, จุทฺทส กุสลตฺติกสาธารณา, อุปจยาทิทฺวยํ เอกํ กตฺวา สตฺตวีสติ รูปานิ จาติ อิเม อสีติ ธมฺมา, อิเมสุ ภาวทฺวเย เอกํ เปตฺวา อชฺฌตฺติกา เอกูนาสีติ, พาหิรา เอกูนาสีตีติ สพฺเพปิ อฏฺปฺาสาธิกํ สตํ โหนฺติ. อิเมสุ เอเกกสฺมึ ทสนฺนํ ทสนฺนํ กิเลสานํ อุปฺปชฺชนโต อสีติอธิกํ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ โหนฺติ.
อถ วา เตปฺาส อรูปธมฺมา, อฏฺารส รูปรูปานิ, อากาสธาตุ, ลกฺขณรูปานิ จาติ ปฺจสตฺตติ ธมฺมา อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต ปฺาสสตํ โหนฺติ. ตตฺถ เอเกกสฺมึ ทส ทส กิเลสาติปิ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ. ตถา เอตฺถ เวทนํ สุขินฺทฺริยาทิวเสน ปฺจวิธํ กตฺวา สตฺตปฺาส อรูปธมฺมา, อฏฺารส รูปรูปานิ จาติ ปฺจสตฺตติ วิปสฺสนูปคธมฺมา อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต ปฺาสสตํ โหนฺติ. เอเตสุ เอเกกสฺมึ ทส ทส กิเลสาติปิ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ.
อปโร นโย – ทฺวาทสอกุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ ปเม ฉ กิเลสา, ทุติเย สตฺต, ตติเย ฉ, จตุตฺเถ สตฺต, ปฺจเม ฉ, ฉฏฺเ สตฺต, สตฺตเม ฉ, อฏฺเม สตฺต, นวเม ปฺจ, ทสเม ฉ, เอกาทสเม ปฺจ, ทฺวาทสเม จตฺตาโรติ สพฺเพ ทฺวาสตฺตติ, อิเม ปฺจทฺวาริกา ปฺจสุ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ¶ เอเกกสฺมึ ทฺวาสตฺตตีติ สฏฺิอธิกานิ ตีณิ สตานิ, มโนทฺวาริกา ปน ฉสุ อารมฺมเณสุ เอเกกสฺมึ ทฺวาสตฺตติ ทฺวาสตฺตตีติ กตฺวา ทฺวตฺตึสาธิกานิ จตฺตาริ สตานิ, สพฺพานิปิ ทฺวานวุติอธิกานิ สตฺตสตานิ, ตานิ อชฺฌตฺตพหิทฺธาวิสยตาย จตุราสีติอธิกํ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
อถ วา รูปารมฺมณาทีนิ ปฺจ, อวเสสรูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณวเสน ปฺจ ธมฺมารมฺมณกา เสสา จาติ ทส, เต อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต วีสติ, ปฺตฺติ จาติ เอกวีสติยา ¶ อารมฺมเณสุ ทฺวาสตฺตติ ทฺวาสตฺตติ กิเลสาติ ทฺวาทสาธิกํ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ โหนฺติ.
อถ วา ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ ปเม วีสติ ธมฺมา, ทุติเย ทฺวาวีสติ, ตติเย วีสติ, จตุตฺเถ ทฺวาวีสติ, ปฺจเม เอกูนวีสติ, ฉฏฺเ เอกูนวีสติ, สตฺตเม เอกูนวีสติ, อฏฺเม เอกวีสติ, นวเม เอกูนวีสติ, ทสเม เอกวีสติ, เอกาทสเม โสฬส, ทฺวาทสเม โสฬสาติ สพฺเพ อกุสลธมฺมา ฉตฺตึสาธิกานิ ทฺเว สตานิ, อิเม ฉสุ อารมฺมเณสุ ปจฺเจกํ ฉตฺตึ สาธิกานิ ทฺเว สตานิ, สพฺเพ โสฬสาธิกานิ จตฺตาริ สตานิ จ สหสฺสํ โหนฺตีติ เอวมฺปิ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ เวทิตพฺพํ.
อิตเรสนฺติ ตณฺหาวิจริตานํ ‘‘อตีตานิ ฉตฺตึสา’’ติอาทินา อตีตาทิภาวามสนโต. เขปเนติ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺทเน. ‘‘ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ เขเปตฺวา’’ติ หิ วุตฺตํ. ปรมตฺถโต อตีตาทีนํ มคฺเคน อปฺปหาตพฺพตฺตา ‘‘อตีตาทิภาวามสนา อคฺคหณํ เขปเน’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน ปฏฺาเน ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม ทสฺสเนน ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา ติเก, ตถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาตีตติกติเก ‘‘อตีตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา’’ติอาทินา จ ตีสุ ¶ กาเลสุ ทสฺสนาทิปหาตพฺพวจนํ กตํ, ตํ อตีตาทีนํ สํกิลิฏฺตาย อปายคมนียตาย จ ทสฺสนปหาตพฺเพหิ นิรติสยตฺตา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
น ภาสิตตฺถวจนนฺติ อิทํ ‘‘หิตปริยายวจน’’นฺติ เอเตน นิวตฺติตสฺส เอกเทสกถนํ. ยถา หิ อยํ อตฺถ-สทฺโท น ภาสิตตฺถวจนํ, เอวํ วิสยปฺปโยชนาทิวจนมฺปิ น โหตีติ. ยถาวุตฺตสฺสาติ หิตปริยายสฺส. ‘‘น หฺทตฺถตฺถิปสํสลาภา’’ติ ปทสฺส นิทฺเทเส ‘‘อตฺตตฺโถ วา ปรตฺโถ วา’’ติอาทินา (มหานิ. ๖๙) กิฺจาปิ สุตฺตนิรเปกฺขํ อตฺตตฺถาทโย วุตฺตา สุตฺตตฺถภาเวน อนิทฺทิฏฺตฺตา, เตสุ ปน เอโกปิ อตฺถปฺปเภโท สุตฺเตน ทีเปตพฺพตํ นาติกฺกมตีติ อาห ‘‘เต สุตฺตํ สูเจตี’’ติ. อิมสฺมึ วิกปฺเป อตฺถ-สทฺโท ภาสิตตฺถวจนมฺปิ โหติ. ปุริมกา หิ ปฺจ อตฺถปฺปเภทา หิตปริยายา, ตโต ปเร ฉ ภาสิตตฺถปฺปเภทา, ปจฺฉิมกา ปน อุภยสภาวา. ตตฺถ ทุรธิคมตาย วิภาวเน อลทฺธคาโธ คมฺภีโร, น วิวโฏ คุฬฺโห, มูลุทกาทโย วิย ปํสุนา อกฺขรสนฺนิเวสาทินา ติโรหิโต ปฏิจฺฉนฺโน, นิทฺธาเรตฺวา าเปตพฺโพ เนยฺโย, ยถารุตวเสเนว เวทิตพฺโพ นีโต. อนวชฺชนิกฺกิเลสโวทานา ปริยายวเสน วุตฺตา, กุสลวิปากกิริยธมฺมวเสน วา ¶ . ปรมตฺโถ นิพฺพานํ, อวิปรีตสภาโว เอว วา. สาติสยํ ปกาสิตานิ ตปฺปรภาเวน ปกาสิตตฺตา. ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺน’’นฺติ (ปาจิ. ๑๒๔๒), ‘‘สกวาเท ปฺจสุตฺตสตานี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) จ เอวมาทีสุ สุตฺต-สทฺโท อุปจริโตติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิทเมว อตฺถานํ สูจนโต สุตฺตนฺติ วุตฺต’’นฺติ. เอกนฺตหิตปฏิลาภสํวตฺตนิกา สุตฺตนฺตเทสนาติ อิทมฺปิ วิเนยฺยานํ หิตสมฺปาปเน สุตฺตนฺตเทสนาย ตปฺปรภาวํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ตปฺปรภาโว จ วิเนยฺยชฺฌาสยานุโลมโต ทฏฺพฺโพ, ตถา อตฺตตฺถาทิปฺปกาสนปธานตาปิ. อิตเรหีติ วินยาภิธมฺเมหิ.
รตฺติอาทีสูติ รตฺติราชวินเยสุ วิสยภูเตสุ. นนุ จ ‘‘อภิรตฺตี’’ติ อวุตฺตตฺตา รตฺติคฺคหณํ น กตฺตพฺพํ, ‘‘อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติ จ าณลกฺขณกิริยาวิเสสโก อภิ-สทฺโทติ? น, ‘‘อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติ อภิ-สทฺทวิสิฏฺานํ าตลกฺขิตสทฺทานํ รตฺติสทฺเทน ¶ สมานาธิกรณตาย รตฺติวิสยตฺตา. เอตฺถ จ วาจกสทฺทสนฺนิธาเน นิปาตานํ ตทตฺถโชตกมตฺตตฺตา ลกฺขิตสทฺทตฺถโชตโก อภิ-สทฺโท ลกฺขเณ วตฺตตีติ วุตฺโต. อภิลกฺขิตสทฺทปริยาโย จ อภิฺาตสทฺโทติ ทฏฺพฺโพ, อภิวินยสทฺทสฺส ปน อภิปุริสสฺส วิย สมาสสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. อเนกตฺถา หิ นิปาตา, อเนกตฺถเภโท จ สทฺทานํ ปโยควิสโยติ.
กิฺจาปิ เทสนาทโย เทเสตพฺพาทินิรเปกฺขา น สนฺติ, อาณาทโย ปน วิเสสโต เทสกาทิอธีนาติ ตํตํวิเสสโยควเสน เตสํ เภโท วุตฺโต. ยถา หิ อาณาวิธานํ วิเสสโต อาณารหาธีนํ ตตฺถ โกสลฺลโยคโต, เอวํ โวหารปรมตฺถวิธานานิ จ วิธายกาธีนานีติ อาณาทิวิธิโน เทสกายตฺตตา วุตฺตา. อปราธชฺฌาสยานุรูปํ วิย ธมฺมานุรูปมฺปิ สาสนํ วิเสสโต ตถาวิเนตพฺพปุคฺคลาเปกฺขนฺติ วุตฺตํ ‘‘สาสิตพฺพ…เป… ตพฺพภาเวนา’’ติ. สํวราสํวรนามรูปานํ วิย วินิเวเตพฺพาย ทิฏฺิยาปิ กถนํ สติ วาจาวตฺถุสฺมึ, นาสตีติ วิเสสโต ตทธีนนฺติ อาห ‘‘กเถตพฺพสฺส…เป… กถา’’ติ. อุปารมฺภาทีติ อุปารมฺภนิสฺสรณธมฺมโกสรกฺขณานิ. ปริยาปุณนาทีติ ปริยาปุณนสุปฺปฏิปตฺติทุปฺปฏิปตฺติโย.
ตนฺติสมุทาโย อวยวตนฺติยา อาธาโร ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ. น โจเทตพฺพเมตํ สมุเขน, วิสยวิสยิมุเขน วา วินยาทีนํเยว คมฺภีรภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ธมฺโม หิ วินยาทโย, เตสฺจ วิสโย อตฺโถ, ธมฺมตฺถวิสยา จ เทสนาปฏิเวธาติ. ‘‘ปฏิเวธสฺสา’’ติอาทินา ¶ ธมฺมตฺถานํ ทุปฺปฏิวิทฺธตฺตา เทสนาย อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ปฏิเวธสฺส อุปฺปาเทตฺุจ ปฏิวิชฺฌิตฺุจ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุกฺโขคาหตํ ทสฺเสติ.
ธมฺมานุรูปํ ยถาธมฺมนฺติ จ อตฺโถ ยุชฺชติ. เทสนาปิ หิ ปฏิเวโธ วิย อวิปรีตํ สวิสยวิภาวนโต ธมฺมานุรูปํ ปวตฺตติ ยโต ‘‘อวิปรีตาภิลาโป’’ติ วุจฺจติ. ธมฺมนิรุตฺตึ ทสฺเสตีติ เอเตน เทสนาสทฺทสภาวาติ ทีเปติ. ตถา หิ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาย ปริตฺตารมฺมณาทิภาโว ปาฬิยํ วุตฺโต, อฏฺกถายฺจ ‘‘ตํตํสภาวนิรุตฺติสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทินา สทฺทารมฺมณตา. อิมสฺส อตฺถสฺส อยํ สทฺโท วาจโกติ วจนวจนียํ ¶ ววตฺถเปตฺวา ตํตํวจนียวิภาวนวเสน ปวตฺติโต หิ สทฺโท เทสนาติ. นนุ จ ‘‘ธมฺโม ตนฺตี’’ติ อิมสฺมึ ปกฺเข ธมฺมสฺสปิ สทฺทสภาวตฺตา ธมฺมเทสนานํ วิเสโส น สิยาติ? น, เตสํ เตสํ อตฺถานํ โพธกภาเวน าโต อุคฺคหิตาทิวเสน จ ปุพฺเพ ปวตฺติโต สทฺทปฺปพนฺโธ ธมฺโม, ปจฺฉา ปเรสํ อวโพธนตฺถํ ปวตฺติโต ตทตฺถปฺปกาสนโก สทฺโท เทสนาติ. อถ วา ยถาวุตฺตสทฺทสมุฏฺาปโก จิตฺตุปฺปาโท เทสนา มุสาวาทาทโย วิย. วจนสฺส ปวตฺตนนฺติ จ ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาทมาห. โส หิ วจนํ ปวตฺเตติ, ตํ วา เอเตน ปวตฺตียตีติ ปวตฺตนํ. เทสียติ อตฺโถ เอเตนาติ เทสนา. ปกาเรหิ าปียติ เอเตน, ปการโต าเปตีติ วา ปฺตฺตีติ วุจฺจตีติ. เตเนวาห ‘‘อธิปฺปาโย’’ติอาทิ. อภิสเมติ, อภิสมียติ วา เอเตนาติ อภิสมโยติ เอวมฺปิ อภิสมยตฺโถ สมฺภวติ. อภิสเมตพฺพโต ปน อภิสมโยติ ทุติยวิกปฺเป ปฏิเวโธเยวาติ.
วุตฺตนเยน เวทิตพฺพาติ อวิชฺชาสงฺขาราทีนํ ธมฺมตฺถานํ ทุปฺปฏิวิชฺฌตาย ทุกฺโขคาหตา, เตสํ ปฺาปนสฺส ทุกฺกรภาวโต ตํเทสนาย ปฏิเวธนสงฺขาตสฺส ปฏิเวธสฺส อุปฺปาทนวิสยิกรณานํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา.
การเณ ผลโวหาเรน เต ธมฺมา ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุปารมฺภ…เป… เหตุภาเวนา’’ติ. อฺํ อตฺถนฺติ อุปารมฺภํ นิสฺสรณฺจ. นิฏฺาเปตฺวาติ กถนวเสน ปริโยสาเปตฺวา. ตสฺส ‘‘อารทฺธ’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. อุทฺทานสงฺคหาทิเภโท สงฺคีโตติ ปาโ ยุตฺโต, ‘‘สงฺคีติยา’’ติ ปน ลิขนฺติ. ปุริมํ วา สงฺคีติยาติ ภาเวน ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ปจฺฉิมํ อธิกรเณ. ปิฏกาทีติ ปิฏกนิกายงฺคธมฺมกฺขนฺธานิ.
ตตฺถ ¶ องฺเคสุ สุตฺตงฺคเมว น สมฺภวติ ‘‘สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) วุตฺตตฺตา, มงฺคลสุตฺตาทีนฺจ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย, เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิย, ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปเทสานนฺติ? วุจฺจเต –
สุตฺตนฺติ ¶ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;
สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นาฺโต. (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา);
สพฺพสฺสปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. เตเนวาห อายสฺมา มหากจฺจายโน เนตฺติยํ ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ (เนตฺติ. สงฺคหวาร). ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. ๑๒๔๒) สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) เอวมาทิ จ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ, ตเทกเทเสสุ ปน เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตตฺตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ วา จุณฺณิยคนฺถํ ‘‘เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนฺหิ พฺยากรณนฺติ วุจฺจติ. พฺยากรณเมว เวยฺยากรณนฺติ.
เอวํ สนฺเต สคาถกานมฺปิ ปฺหวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ เวยฺยากรณาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต ‘‘คาถาวิรเห ปน สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา. สติปิ ปฺหวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ ¶ เคยฺยาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยงฺคาทโย. ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโตติ.
นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถาติ? น, โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณภาวสฺส นิมิตฺตนฺติ. ยฺจ วุตฺตํ ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตํ ¶ น, นิรุฬฺหตฺตา. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีสุ สุตฺตภาโว. น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, กินฺตุ สุตฺตภาเวเนว. เตเนว หิ อฏฺกถายํ สุตฺตนามกนฺติ นามคฺคหณํ กตํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ. ยสฺมา สหตาฺเน. สห คาถาหีติ สคาถกํ, สหภาโว จ นาม อตฺตโต อฺเน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ, โย ‘‘สห คาถาหี’’ติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยทปิ วุตฺตํ ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น, อฺโต. อฺา เอว หิ ตา คาถา ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา. อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺสงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ.
ชินสาสนํ อภิธมฺโม. ปฏิวิทฺธฏฺานํ ปฏิเวธภูมิ ปฏิเวธาวตฺถา, ปฏิเวธเหตุ วา. ‘‘โส เอวํ ปชานามิ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๑-๑๒) วุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘โส เอวํ ปชานามิ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิตํ. สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติ อาคตํ (สํ. นิ. ๕.๑๑-๑๒). ปจฺจยาทีหีติ ปจฺจยสภาววูปสมตทุปายาทีหิ. ปรวาทิโจทนํ ปตฺวาติ อฏฺกถายํ อาคตํ ปรวาทิโจทนํ ปตฺวา. อธิค…เป… รูเปนาติ อธิคนฺตพฺโพ จ โส เทเสตพฺโพ จาติ อธิคนฺตพฺพเทเสตพฺโพ, โส เอว ธมฺโม, ตทนุรูเปน. เอตฺถ จ ยถาธมฺมสาสนตฺตา ยถาธิคตธมฺมเทสนาภาวโต อภิธมฺมสฺส อภิสมฺโพธิ อธิคมนิทานํ. เทสกาลาทิเยว เทสนานิทานํ. ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘เทสนานิทานํ ยาว ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อภิธมฺมเทสนาวิเสเสน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺเต วา เทสิเตหิ อริยสจฺเจหิ สกลาภิธมฺมปทตฺถสงฺคหโต, ปรมตฺถโต อภิธมฺมภูตานํ วา สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ตตฺถ เทสิตตฺตา วุตฺตํ. ตตฺตกานํเยว เทสนารุฬฺหตาย อฑฺฒฉกฺเกสุ ชาตกสเตสุ ปริปาจนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เอตฺตกาสุ เอว ชาตีสุ ปฺุาทิสมฺภารสมฺภรณํ ¶ , กึ ปน การณํ เอตฺตกา เอว ชาติโย เทสิตาติ? ตทฺเสํ อฏฺุปฺปตฺติยา อภาวโต.
สุเมธกถาวณฺณนา
อุปฺปนฺเน ¶ พุทฺเธ ตโต อตฺตานํ เสยฺยโต วา สทิสโต วา ทหนฺโต ฌานาภิฺาหิ ปริหายติ, น ตถา สุเมธปณฺฑิโต อฏฺาสีติ ตสฺส ฌานาภิฺาหิ อปริหานิ ทฏฺพฺพา. เตเนวาห ‘‘ตาปเสหิ อสโม’’ติ. ยถา นิพฺพานํ, อฺํ วา นิจฺจาภิมตํ อวิปรีตวุตฺติตาย สพฺพกาลํ ตถาภาเวน ‘‘สสฺสต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ พุทฺธานํ วจนนฺติ ตสฺส สสฺสตตา วุตฺตา. เตเนวาห ‘‘อวิปรีตเมวา’’ติ. อุปปารมีอาทิวิภาเคน อเนกปฺปการตา. สมาทานาธิฏฺานนฺติ สมาทานสฺส อธิฏฺานํ ปวตฺตนํ กรณนฺติ อตฺโถ. าณเตเชนาติ ปารมีปวิจยาณปฺปภาเวน. มหานุภาวฺหิ ตํ าณํ โพธิสมฺภาเรสุ อนาวรณํ อนาจริยกํ มหาโพธิสมุปฺปตฺติยา อนุรูปปุพฺพนิมิตฺตภูตํ. ตถา หิ ตํ มนุสฺสปุริสภาวาทิอาธารเมว ชาตํ. กายาทีสุ อสุภสฺาทิภาเวน สุทฺธโคจรา. ‘‘อฺถา’’ติ ปทสฺส ปกรณปริจฺฉินฺนํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลีนตา’’ติ อาห. ลีนตาติ จ สงฺโกโจ วีริยหานิ วีริยารมฺภสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘เอสา เม วีริยปารมี’’ติ.
นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑํ
ติกมาติกาปทวณฺณนา
๑. เตนาติ ¶ ¶ เวทนาสทฺเทน. สพฺพปเทหีติ ตีหิ ปเทหิ ลทฺธนาโม โหติ อวยวธมฺเมนาปิ สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพโต ยถา ‘‘สมํ จุณฺณ’’นฺติ. โจทโก ยถาธิปฺเปตมตฺถํ อปฺปฏิปชฺชมาโน วิภตฺติอนฺตสฺเสว ปทภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘นนุ สุขายา’’ติอาทินา โจเทติ. อิตโร ‘‘อธิปฺเปตปฺปการตฺถคมกสฺสา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. เตน ‘‘วากฺยํ อิธ ปทนฺติ วุตฺต’’นฺติ ทสฺเสติ. เหตุปทสเหตุกปทาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน นเหตุปทอเหตุกปทเหตุสมฺปยุตฺตปทานิ เหตุวิปฺปยุตฺตปทมฺปิ วา สงฺคณฺหาติ.
อุภเยกปทวเสนาติ อุภยปทวเสน เหตุทุกสมฺพนฺโธ, เอกปทวเสน สเหตุกทุกสมฺพนฺโธ. ตถาติ อุภเยกปทวเสน. เอตฺถ จ สเหตุกเหตุสมฺปยุตฺตทุกาติอาทินา ยถา เหตุโคจฺฉเก ปมทุกสมฺพนฺธา ทุติยตติยทุกา, ปมทุกทุติยทุกสมฺพนฺธา จตุตฺถฉฏฺทุกา, ปมทุกตติยทุกสมฺพนฺโธ ปฺจโม ทุโก, เอวํ อาสวโคจฺฉกาทีสุปีติ นยํ ทสฺเสติ. สกฺกา หิ อิมินาว นเยน เตสุปิ ทุกนฺตรสมฺพนฺโธ วิฺาตุํ, เกวลํ ปน อาสวโคจฺฉกาทีสุ ทุติยทุกตติยทุกสมฺพนฺโธ โอสานทุโก, กิเลสโคจฺฉเก จ ทุติยจตุตฺถทุกสมฺพนฺโธติ. ธมฺมานํ สาวเสสนิรวเสสภาเวน ติกทุกานํ สปฺปเทสนิปฺปเทสตา วุตฺตาติ เยหิ ติกทุกา สาวเสสาติ ปทิสฺสนฺติ อปทิสฺสนฺติ, เต อสงฺคหิตธมฺมาปเทโส. เอวํ สติ ‘‘อสงฺคหิโต’’ติ วิเสสนํ กิมตฺถิยนฺติ? เอตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณตฺถํ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ปทิสฺสติ เอเตน สมุทาโยติ ปเทโส, อวยโว. ‘‘สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตี’’ติ ยถาธิปฺเปตํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสงฺคหิโต’’ติ อาห.
อนวชฺชตฺโถ ¶ อวชฺชวิรหตฺโถ. นามํ สฺา, กิริยา กรณํ, ปโยชนํ รถรถงฺควิภาวเนน เตสํ ปการโต โยชนํ. กุเสน าเณน ลาตพฺพาติ กุสลาติ อยมตฺโถ าณสมฺปยุตฺตานํ ตาว โหตุ, าณวิปฺปยุตฺตานํ กถนฺติ อาห ‘‘าณวิปฺปยุตฺตานมฺปี’’ติอาทิ. าณวิปฺปยุตฺตาปิ ¶ หิ าเณเนว ปวตฺติยนฺติ หิตสุขเหตุภูตาย ปวตฺติยา ปฺวนฺตานํ ปฏิปตฺติภาวโต. น หิ อนฺตเรน โยนิโสมนสิการํ กุสลุปฺปตฺติ อตฺถีติ. ‘‘ยทิ กุสลสฺส อุภยภาคคตํ สํกิเลสลวนํ ปากฏํ สิยา, กุสา วิย ลุนนฺตีติ กุสลาติ อยมตฺโถ ยุตฺโต สิยา’’ติ โกจิ วเทยฺยาติ อาสงฺกาย อาห ‘‘สมฺมปฺปธานทฺวยํ วิยา’’ติ.
น จาติอาทินา ‘‘สภาวํ ธาเรนฺตี’’ติ เอตฺถ ปรมตฺถโต กตฺตุกมฺมสฺส จ เภโท นตฺถิ, กปฺปนาสิทฺโธ เอว ปน เภโทติ ทสฺเสติ. ตตฺถ นามวเสน วิฺาตาวิฺาเตติ เยสํ ‘‘ธมฺมา’’ติ อิมินา ปริยาเยน อวิฺาตา สภาวา, ‘‘สภาวํ ธาเรนฺตี’’ติ อิมินา จ ปริยาเยน วิฺาตา, เตสํ วเสน เอวํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปโม อตฺโถ สงฺขตาสงฺขตธมฺมวเสน วุตฺโต, ทุติโย สงฺขตวเสน, ตติโย สงฺขตาสงฺขตปฺตฺติธมฺมวเสนาติ ทฏฺพฺพํ.
กุสลปฏิเสธนํ กุสลาภาโว เอว. อภาโว หิ สตฺตาปฏิเสโธติ. ธมฺโมติ สภาวธมฺโม. อกุสลวจเนน น โกจิ อตฺโถ สภาวธมฺมสฺส อโพธกตฺตาติ อธิปฺปาโย. อถ สิยา อกุสลวจเนน โกจิ อตฺโถ อสภาวธมฺมโพธกตฺเตปิ ‘‘ปฺตฺติธมฺมา’’ติอาทีสุ วิย, เอวํ สติ ‘‘อนพฺยากตา’’ติ จ วตฺตพฺพํ สิยา, ตโต จายํ จตุกฺโก อาปชฺชติ, น ติโก. ตสฺมาติ ยสฺมา ทุกจตุกฺกภาโว อนพฺยากตโวหาโร จ นตฺถิ, โส จ วุตฺตนเยน อภาวมตฺตวจเน อาปชฺชติ, ตสฺมา. สภาวธารณาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ธารียนฺติ ปจฺจเยหี’’ติ อยมตฺโถ สงฺคหิโต. เยฺยปริยาเยน ปน ธมฺม-สทฺเทนายํ โทโสติ นนุ อเยฺยปริยาเยปิ ธมฺม-สทฺเท น โกจิ โทโสติ? น, วุตฺตโทสานติวตฺตนโต.
ปาริเสเสนาติ เอตฺถ นนุ อยมกาโร น-อตฺถตฺตยสฺเสว โชตโก, อถ โข ‘‘อเหตุกา ธมฺมา, อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติ ตํโยคนิวตฺติยา, ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติ ตํสมฺพนฺธิภาวนิวตฺติยา. ปจฺจยุปฺปนฺนฺหิ ปจฺจยสมฺพนฺธีติ อปฺปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา อสมฺพนฺธิตา เอตฺถ โชตียติ. ‘‘อนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ ตํสภาวนิวตฺติยา. นิทสฺสนฺหิ ทฏฺพฺพตา. อถ จกฺขุวิฺาณํ นิทสฺสนํ, ตคฺคยฺหภาวนิวตฺติยา, ตถา ‘‘อนาสวา ธมฺมา’’ติ. ‘‘อปฺปฏิฆา ธมฺมา ¶ อนารมฺมณา ธมฺมา’’ติ ตํกิจฺจนิวตฺติยา. ‘‘อรูปิโน ธมฺมา อเจตสิกา ¶ ธมฺมา’’ติ ตพฺภาวนิวตฺติยา. ตทฺตา หิ เอตฺถ ปกาสียติ. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ ตพฺภาวมตฺตนิวตฺติยา. มนุสฺสตฺตมตฺตํ นตฺถิ อฺํ สมานนฺติ สทิสตา เหตฺถ สูจิยติ. ‘‘อสมโณ สมณปฏิฺโ อปุตฺโต’’ติ ตํสมฺภาวนคุณนิวตฺติยา. ครหา หิ เอตฺถ ายติ. ‘‘กจฺจิ นุ โภโต อนามยา, อนุทรา กฺา’’ติ ตทปฺปภาวนิวตฺติยา. ‘‘อนุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ ตํสทิสภาวนิวตฺติยา. อตีตานฺหิ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อุปาทิธมฺมานฺจ ปจฺจเยกเทสนิปฺผตฺติยา อารทฺธุปฺปาทภาวโต กาลวินิมุตฺตสฺส จ วิชฺชมานตฺตา อุปฺปนฺนานุกูลตา, ปเคว ปจฺจุปฺปนฺนานนฺติ ตพฺพิธุรภาโว เอตฺถ วิฺายติ. ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ ตทปริโยสานนิวตฺติยา. ตํนิฏฺานฺเหตฺถ ปกาสียตีติ เอวมเนเกสํ อตฺถานํ โชตโก, ตตฺถ กึ วุจฺจเต อตฺถทฺวยเมว วตฺวา ปาริเสเสนาติ? อิตเรสํ เอตฺถ สุวิทูรภาวโต. น หิ กุสลวิปฺปยุตฺตาทีนํ ธมฺมานํ อกุสลภาโว ยุชฺชติ.
อกุสลสทฺทสฺส อุจฺจารณานนฺตรํ วิเนยฺยานํ กุสลปฏิปกฺขภูเต อตฺเถ ปฏิปตฺติภาวโต ตตฺถ นิรุฬฺหตา ทฏฺพฺพา. ‘‘วิรุทฺธสภาวตฺตา’’ติ วุตฺตํ กิจฺจวิโรธาทีนมฺปิ ตทนฺโตคธตฺตา, วิรุทฺธสภาวตฺเตปิ วินาสกวินาสิตพฺพภาโว กุสลากุสเลสุ นิยโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตปฺปเหยฺยภาวโต’’ติ อาห. อิตรถา กุสลานมฺปิ อกุสเลหิ ปหาตพฺพภาเว อจฺจนฺตํ สมุจฺฉินฺนกุสลมูลตฺตา อปายปูรกา เอว สตฺตา สิยุํ. ยํ ปน ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๐) วุตฺตํ, ตํ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, น ตุมฺหากํ, ตํ ปชหถา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๓๓) วิย ตทารมฺมณสํกิเลสปฺปหานวเสน ปริยาเยน วุตฺตํ. ยถาห ‘‘น หิ กุสลา อกุสเลหิ ปหาตพฺพา’’ติ (ธ. ส. มูลฏี ๑).
ผสฺสาทิวจเนหิ ตํนิทฺเทสภูเตหิ. ตพฺพจนียภาเวนาติ เตหิ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติอาทิวจเนหิ อภิเธยฺยภาเวน. ยถา อนวชฺชสุขวิปากาทิอตฺถา กุสลาทิวจเนหิ, เอวํ อวิปากตฺถา อพฺยากตวจเนน โพธิตา เอวาติ อาห ‘‘อพฺยากตวจเนเนว จา’’ติ. การณํ อวตฺวาติ อิธ วุตฺตภาเวน อนุวตฺตมานตฺตาติ การณํ อวตฺวา. อฺา…เป… นิวาเรตพฺโพติ เอเตน กุสลากุสลสทฺทา วิย กุสลากุสลสภาวานํ ¶ ตทุภยวิปรีตสภาวานํ ธมฺมานํ อพฺยากตสทฺโท โพธโกติ ทสฺเสติ. น หิ อวิปากวจนํ วุตฺตํ, อกุสลวจนฺจ อวุตฺตํ. ยโต อวิปากวจนสฺส อธิกตภาโว อกุสลสฺส จ ตพฺพจนียภาเวน อกถิตภาโว ¶ สิยา, ตสฺมา น อกุสลานํ อพฺยากตตาติ อยํ อกุสลานํ อนพฺยากตภาเว โยชนา.
ตํ ปริหริตุนฺติ อพฺยากตนิวตฺตนมาห. ยทิ เอวํ ‘‘สุขวิปากานวชฺชา’’ติ วตฺตพฺพํ. อนวชฺชา หิ พฺยภิจาริตาย วิเสสิตพฺพาติ? น, สุขวิปากวจนสฺส วิเสสนภาเวน อคฺคหิตตฺตา. สุขวิปากวจเนน หิ กุสลภาเว สมตฺโต วิฺายติ, อนวชฺชวจนํ ปเนตฺถ กุสลานํ อครหิตพฺพตาสงฺขาตํ กฺจิ วิเสสมาห. เตเนว จ ตสฺส วิเสสนภาเวน วุตฺตสฺส ปวตฺติสุขตาทิทสฺสนภาวํ สยเมว วกฺขตีติ. มโนสมาจารวิเสสภูตา ผลธมฺมา วิเสเสน ปฏิปฺปสฺสทฺธาวชฺชา นาม โหนฺตีติ สมาจารตฺตยวเสน ตสฺมึ สุตฺเต อนวชฺชธมฺมานํ วุตฺตตฺตา จ เต อนวเสสโต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘วิรหิตาวชฺชมตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อวชฺชวินาสนภาโว ทสฺสิโต กณฺหสุกฺกธมฺมานํ วชฺฌฆาตกภาวสฺส นิยตตฺตา. สวิปากตา วิปากธมฺมตา. สุโข วิปาโก เอเตสนฺติ สุขวิปากาติ อิมินา สมาเสน กุสลานํ สุขวิปากวนฺตตา วุตฺตา. สา จ เนสํ น ตํสมงฺคิตาย อสหวตฺตนโตติ ตทุปฺปาทนสมตฺถตาติ วิฺายตีติ วุตฺตํ ‘‘สุขวิปากวิปจฺจนสภาวํ ทสฺเสตี’’ติ. ยุตฺตเมตนฺติ ปรมตฺถโต เภทาภาเวปิ ยถาวุตฺตวจนวจนียภาวสงฺขาโต เภโท ตสฺมึ อภิเธยฺยตฺถภูเต วตฺถุสฺมึ อุปจาเรน โหตีติ ยุตฺตเมตฺถ ลกฺขณลกฺขิตพฺพภาเวน เภทวจนํ. ภวติ หิ สทฺทตฺถวิเสสมตฺเตนปิ อภินฺเน วตฺถุสฺมึ เภทวจนํ ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ.
วินาปิ ภาวาภิธายินา สทฺเทน ภาวปฺปธาโน นิทฺเทโส โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อนวชฺชวจเนน อนวชฺชตฺตํ อาหา’’ติ. เอวฺเจตฺถ ปทวิคฺคโห คเหตพฺโพ – น อวชฺชํ อนวชฺชํ, อวชฺชปฏิปกฺขตาย อครหิตพฺพสภาโว. สุโข วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากํ, สุขวิปากวิปจฺจนสมตฺถตา. อนวชฺชฺจ ตํ สุขวิปากฺจาติ อนวชฺชสุขวิปากํ, ตํ ลกฺขณํ เอเตสนฺติ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา. อถ วา ปุพฺเพ วิย อนวชฺชํ, วิปจฺจนํ วิปาโก, สุขสฺส วิปาโก สุขวิปาโก, อนวชฺชฺจ สุขวิปาโก ¶ จ อนวชฺชสุขวิปากํ เอกตฺตวเสน. ตํ ลกฺขณํ เอเตสนฺติ อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา. กึ ปเนตฺถ การณํ ปททฺวยปริคฺคเห, นนุ เอเกเนว ปเทน อิฏฺปฺปสิทฺธิ. ยทิปิ ‘‘อวชฺชรหิตํ อนวชฺช’’นฺติ อิมสฺมึ ปน ปกฺเข อพฺยากตนิวตฺตนตฺถํ สุขวิปากคฺคหณํ กตฺตพฺพํ สิยา, สุขวิปากคฺคหเณ ปน กเต อนวชฺชคฺคหณํ น กตฺตพฺพเมว. ‘‘อวชฺชปฏิปกฺขา อนวชฺชา’’ติ ¶ เอตสฺมึ ปน ปกฺเข สุขวิปากคฺคหณฺจาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ตตฺถ อนวชฺชวจเนนา’’ติอาทิ. เตน ปวตฺติสุขสุขวิปากตาอตฺตสุทฺธิวิสุทฺธวิปากตาอกุสลอพฺยากตสภาวนิวตฺติรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวิเสสทีปนโต เอวํ วิปุลปฺปโยชนตฺโถ ปททฺวยปริคฺคโหติ ทสฺเสติ. สุข-สทฺทสฺส อิฏฺปริยายตา วิย ‘‘นิพฺพานปรมํ สุขํ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔), สุขา วิราคตา โลเก (อุทา. ๑๑), เตสํ วูปสโม สุโข’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒) สงฺขารทุกฺขูปสมปริยายตาปิ วิชฺชติ, ตํอวิปากตาย ปน อิธ สุขวิปากภาโว น สกฺกา วตฺตุนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สงฺขา…เป… นตฺถี’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตภูมกกุสลานมฺปิ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสยภาเวน ปวตฺติสภาวตฺตา กิฺจาปิ สพฺเพ กุสลา สงฺขารทุกฺขูปสมสุขนิปฺผาทกา สมฺภวนฺติ, ยถาวุตฺตสุขสฺส ปน อวิปากภาวโต น เอเตน ปเทน กุสลานํ สุขวิปากตา สมฺภวตีติ. วิปกฺกภาวมาปนฺเนสุ อรูปธมฺเมสุ นิรุฬฺหตฺตา วิปาก-สทฺทสฺส ‘‘ยทิ ปนา’’ติ สาสงฺกํ วทติ.
ยถาสมฺภวนฺติ สห อวชฺเชนาติ สาวชฺชา, ครหิตพฺพภาวยุตฺตา. เตน เนสํ ครหิตพฺพสภาวํ ทสฺเสติ. อฺเปิ อตฺถิ ทุกฺขภาเวน ครหิตพฺพสภาวา อกุสลวิปากาติ สาวชฺชวจนมตฺเตน เตสมฺปิ อกุสลตาปตฺติโทสํ ทิสฺวา ตํ ปริหริตุํ ทุกฺขวิปากวจนมาห. อวชฺช-สทฺโท วา ราคาทีสุ เอกนฺตากุสเลสุ นิรุฬฺโหติ ตํสหวตฺติธมฺมานํ เอว สาวชฺชภาเว กุสลาพฺยากเตหิ อกุสลานํ วิเสโส สาวชฺชวจเนเนว ทสฺสิโต. อพฺยากเตหิ ปน วิสิฏฺํ กุสลากุสลานํ สาธารณํ สวิปากตาลกฺขณนฺติ ตสฺมึ ลกฺขเณ วิเสสทสฺสนตฺถํ ทุกฺขวิปากลกฺขณํ วุตฺตํ. อิโต ปรํ ‘‘ทุกฺโข วิปาโก เอเตสนฺติ ทุกฺขวิปากา’’ติอาทินา สุขวิปากอนวชฺชกุสลปทานํ าเน ทุกฺขวิปากสาวชฺชอกุสลปทานิ เปตฺวา ยถาวุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ . โยชนา จ สาวชฺชวจเนน อกุสลานํ ปวตฺติทุกฺขตํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปากวจเนน วิปากทุกฺขตํ. ปุริมฺหิ อตฺตโน ปวตฺติสภาววเสน ลกฺขณวจนํ, ปจฺฉิมํ กาลนฺตเร วิปากุปฺปาทนสมตฺถตายาติ. ตถา ปุริเมน อกุสลานํ อวิสุทฺธสภาวตํ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน อวิสุทฺธวิปากตํ. ปุริเมน จ อกุสเล กุสลสภาวโต นิวตฺเตติ, ปจฺฉิเมน อพฺยากตสภาวโต สวิปากตฺตทีปกตฺตา ปจฺฉิมสฺส. ปุริเมน วา อวชฺชวนฺตตาทสฺสนโต กิจฺจฏฺเน รเสน อนตฺถชนนรสตํ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน สมฺปตฺติอตฺเถน อนิฏฺวิปากรสตํ. ปุริเมน จ อุปฏฺานาการฏฺเน ปจฺจุปฏฺาเนน สํกิเลสปจฺจุปฏฺานตํ, ปจฺฉิเมน ผลฏฺเน ทุกฺขวิปากปจฺจุปฏฺานตํ. ปุริเมน จ อโยนิโสมนสิการํ ¶ อกุสลานํ ปทฏฺานํ ปกาเสติ. ตโต หิ เต สาวชฺชา ชาตาติ. ปจฺฉิเมน อกุสลานํ อฺเสํ ปทฏฺานภาวํ วิภาเวติ. เต หิ ทุกฺขวิปากสฺส การณํ โหตีติ. เอตฺถ จ ทุกฺข-สทฺโท อนิฏฺปริยายวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. อนิฏฺจตุกฺขนฺธวิปากา หิ อกุสลา, น ทุกฺขเวทนาวิปากาว. วิปาก-สทฺทสฺส ผลปริยายภาเว ปน นิสฺสนฺทวิปาเกน อนิฏฺรูเปนปิ ทุกฺขวิปากตา โยเชตพฺพา. วิปากธมฺมตาปฏิเสธวเสน อพฺยากตานํ อวิปากลกฺขณาติ ลกฺขณํ วุตฺตนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิปาการหสภาวา’’ติ อาห. เอวํปการานนฺติ อภิฺาทิเก สงฺคณฺหาติ.
ฉหิ ปเทหิ ติเกสุ, จตูหิ ทุเกสุ ยถากฺกมํ ฉ จตฺตาโร อตฺถา วุตฺตา. ฉกฺกภาโว น ภวิสฺสตีติ เอเตน จตุกฺกภาวาภาโว ทสฺสิตนยตฺตา โจทิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อตฺถเภโท อุปปชฺชตีติ กสฺมา เอวํ วุตฺตํ, นนุ ตีหิ ธมฺมสทฺเทหิ วุจฺจมาโน สภาวธารณาทิอตฺเถน อภินฺโน เอว โส อตฺโถติ? น, ชาติอาทิเภเทน เภทสพฺภาวโต. เภทกา หิ ชาติอาทโย. มาสปทตฺถตายาติ มาส-สทฺทาภิเธยฺยภาเวน. ตพฺพจนียภินฺนตฺถานนฺติ เตหิ กาลสทฺทาทีหิ วตฺตพฺพานํ วิสิฏฺตฺถานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยถา กาลสทฺทาทิอภิเธยฺยานํ กาลาทิอตฺถานํ ภินฺนสภาวานมฺปิ มาส-สทฺทาภิเธยฺยภาเวน อเภโท, เอวํ ชาติอาทิเภเทน ภินฺนานมฺปิ เตสํ ติณฺณํ ทฺวินฺนฺจ อตฺถานํ ธมฺม-สทฺทาภิเธยฺยภาเวน นตฺถิ เภโท’’ติ. วินิ…เป… มานาติ ธมฺม-สทฺทสฺส รูปาเภเทปิ เภทการณมาห. ภินฺนชาติยตฺถวจนียตาย หิ ตสฺเสวตฺถเภโทติ.
สาเธตุนฺติ ¶ โพเธตุํ. โหตุ อสมฺพนฺโธ, กา โน หานีติ กทาจิ วเทยฺยาติ อาสงฺกาย อาห ‘‘ปุพฺพา…เป… นาม โหนฺตี’’ติ. โส จาติ สภาวธารณปจฺจยธริยมานตาสงฺขาโต อตฺโถ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ยถาวุตฺตสฺส อภาวสฺส อเปกฺขาวุตฺติตาย วุตฺตํ. น หิ อเปกฺขาวุตฺติโน อนฺตเรน อเปกฺขิตพฺพํ ลภนฺติ. สติปิ สภาวธารณาทิอตฺถสามฺเ กุสลชาติอาทิวิสิฏฺสฺเสว ตสฺส อิธ อธิปฺเปตตฺตา เอกตฺถตา น อนฺุาตาติ วุตฺตํ, วจนสิเลสวเสน วา. อถ วาติอาทินา ติณฺณํ ธมฺมสทฺทานํ อภาวตฺตํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต นานตฺถตาภาวโทสํ ปริหรติ.
าปกเหตุภาวโต อุปปตฺติ อิธ การณนฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘การณํ นาม ยุตฺตี’’ติ. ปุนรุตฺตีติอาทินา นนุ ‘‘กุสลาทีนมฺปิ เอกตฺตํ อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตตฺตา เอกตฺตาปตฺติปิ วตฺตพฺพาติ ¶ ? สจฺจํ วตฺตพฺพา, สา ปน อภาวาปตฺติยํ เอว อนฺโตคธา นานตฺตาภาวโจทนาสามฺเน. เภทาเภทนิพนฺธนตฺตา วิเสสนวิเสสิตพฺพภาวสฺส โส อจฺจนฺตมภินฺเนสุ นิยเมน นตฺถีติ วิเสสนวิเสสิตพฺพาภาเวน อจฺจนฺตาเภทํ ทสฺเสติ, น ปน อจฺจนฺตํ อภินฺเนสุเยว วิเสสนวิเสสิตพฺพาภาวํ. อถ วา อจฺจนฺตํ อภินฺเนสุ อวิวฏสทฺทตฺถวิวรณตฺถํ ปวตฺตา. กสฺมา? วิเสสนวิเสสิตพฺพาภาวโตติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. อมิตฺตํ อภิภวิตุํ สกฺกุณาตีติ สกฺโก, อินฺทตีติ อินฺโท, ปุริเม ททาตีติ ปุรินฺทโทติ เอวํ กิริยาคุณาทิปริคฺคหวิเสเสน.
เภทาเภทวนฺเตสูติ วิเสสสามฺวนฺเตสุ. นีล-สทฺโท หิ อุปฺปลสทฺทสมาโยโค รตฺตุปฺปลเสตุปฺปลาทิอุปฺปลชาติสามฺโต วินิวตฺเตตฺวา นีลคุณยุตฺตเมว อุปฺปลชาติวิเสสํ โชเตติ. อุปฺปล-สทฺโทปิ นีล-สทฺทสมายุตฺโต ภมรงฺคารโกกิลาทิคตนีลคุณสามฺโต อวจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปลวตฺถุคตเมว นีลคุณํ ปกาเสตีติ วิเสสตฺถสามฺตฺถยุตฺตตา ปททฺวยสฺส ทฏฺพฺพา. อิมินา นเยน อิตรตฺราปิ เภทาเภทวนฺตตา โยเชตพฺพา. ตาย ตาย อนุมติยาติ เตน เตน สงฺเกเตน. เต เต โวหาราติ อจฺจนฺตํ อภินฺเน อตฺเถ ปริยายภาเวน อจฺจนฺตํ ภินฺเน ยถาสกํ อตฺถวิวรณภาเวน เภทาเภทวนฺเต วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน ตา ตา สมฺา ปฺตฺติโย สิทฺธาติ อตฺโถ ¶ . สมาเนติ เอกสฺมึ. กุสลาทิภาวนฺติ กุจฺฉิตสลนาทิภาวํ. อภิธานตฺโถปิ หิ อนวชฺชสุขวิปากาทิอภิเธยฺยตฺโถ วิย สภาวธารณาทิสามฺตฺถํ วิเสเสตีติ.
เอตฺถาห ‘‘กึ ปน การณํ ติกา เอว ปมํ วุตฺตา, น ทุกา, ติเกสุปิ กุสลตฺติโกว, น อฺโ’’ติ? วุจฺจเต – สุขคฺคหณโต อปฺปเภทโต จ ติกา เอว ปมํ วุตฺตา. ยสฺมา ติเกหิ โพธิเต กุสลาทิเภเท ตพฺพิภาคภินฺนา เหตุอาทโย วุจฺจมานา สุวิฺเยฺยา โหนฺติ. ตถา หิ ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทินา กุสลาทิมุเขน เหตุอาทโย วิภตฺตา, กติปยเภทา จ ติกา ทฺวาวีสติปริมาณตฺตา.
เตสุ ปน สพฺพสงฺคหอสงฺกรอาทิกลฺยาณภาเวน ปมํ กุสลตฺติกํ วุตฺตํ. นิรวเสสา หิ รูปารูปธมฺมา กุสลตฺติเกน สงฺคหิตา, น ตถา เวทนาตฺติกาทีหิ. นนุ วิปากตฺติกาทีหิปิ นิรวเสสา ธมฺมา สงฺคหิตาติ? สจฺจเมตํ, เตสุ ปน อนวชฺชสาวชฺชธมฺมา น อสงฺกรโต วุตฺตา ยถา กุสลตฺติเก. นนุ จ สํกิลิฏฺสํกิเลสิกตฺติกาทีสุปิ ¶ เต อสงฺกรโต วุตฺตาติ? เอวเมตํ, เต ปน อกลฺยาณภูเต ปาปธมฺเม อาทึ กตฺวา วุตฺตา, น เอวมยํ. อยํ ปน กลฺยาณภูเต ปุชฺชภวปรินิพฺพุตินิปฺผาทเก ปฺุธมฺเม อาทึ กตฺวา วุตฺโต. อิติ ภควา สณฺหสุขุมํ รูปารูปเทสนํ อารภนฺโต สพฺพสงฺคหอสงฺกรอาทิกลฺยาณคุณโยคโต ปมํ กุสลตฺติกํ เทเสติ, กิฺจ ตทฺตฺติกานํ สุขคฺคหณโต. ตถา หิ กุสลตฺติกมุเขน ‘‘กามาวจรกุสลโต จตฺตาโร โสมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา เวทนาตฺติกาทโย วิภตฺตาติ.
กุสลตฺติเกปิ จ ปธานปาสํสอุภยหิตภาวโต กุสลา ธมฺมา ปมํ วุตฺตา. กุสลา หิ ธมฺมา สุขวิปากตฺตา สพฺพสงฺขตธมฺมานํ อุตฺตมา อวชฺชวิธมนโต วิฺุปฺปสตฺถา อิธโลกปรโลเกสุ อตฺถาวหา นิสฺสรณาวหา จ, ตสฺมา ปธานาทิภาเวน ปมํ วุตฺตา, ตปฺปฏิปกฺขตฺตา ตทนนฺตรํ อกุสลา, ตทุภยวิปรีตสภาวา ตทนนฺตรํ อพฺยากตา วุตฺตา. กุสลวเสน วา อสฺสาโท, อกุสลวเสน อาทีนโว, อพฺยากตธมฺเมสุ นิพฺพานวเสน นิสฺสรณนฺติ อิมินา อสฺสาทาทิกฺกเมน, กุสเลสุ ปติฏฺาย ปณฺฑิตา อกุสเล ปชหนฺตา อพฺยากตธมฺมภูตมคฺคผลํ นิพฺพานฺจ สจฺฉิกโรนฺตีติ อิมินา วา ปฏิปตฺติกฺกเมน อยมนุปุพฺพี ปิตาติ เวทิตพฺพา.
กสฺมา ¶ ปเนตฺถ เสกฺขตฺติกาทีสุ วิย สรูปโต ปุริมปททฺวยปฏิกฺเขปวเสน ตติยปทํ น วุตฺตํ ‘‘เนวกุสลา นากุสลา’’ติ? วิเสสทีปนตฺถํ. ยถา หิ เสกฺขาเสกฺขสภาเวสุ ธมฺเมสุ โกจิปิ ธมฺโม ตทุภยสภาเวน เกนจิปิ ปริยาเยน กทาจิ อพฺยากรณีโย นาม นตฺถีติ เสกฺขตฺติเก ปททฺวยปฏิกฺเขปวเสน ‘‘เนวเสกฺขา นาเสกฺขา’’ตฺเวว วุตฺตํ, น เอวํ อิธ. อิธ ปน กุสลสภาวา เอว ธมฺมา อคฺคผลุปฺปตฺติยา ตถา น พฺยากรณียา โหนฺตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทีปนตฺถํ ‘‘อพฺยากตา’’ติ วุตฺตํ. วจนมตฺเต เอว วา อิทํ นานากรณํ ‘‘อพฺยากตา เนวกุสลา นากุสลา’’ติ พฺยากต-สทฺเทน กุสลากุสลานํ โพธิตตฺตาติ.
เอตฺถ จ อกุสเลสุ ตณฺหาย สพฺพากุสเลหิ, เตภูมกกุสลากุสเลหิ วา สมุทยสจฺจํ, ตํตํอวสิฏฺเตภูมกธมฺเมหิ ทุกฺขสจฺจํ, โลกุตฺตรกุสเลน มคฺคสจฺจํ, อวสิฏฺอพฺยากตวิเสเสน นิโรธสจฺจํ ทสฺสิตํ โหติ. ตตฺถ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ. กิฺจาปิ นามรูปปริจฺเฉทภาวโต สภาวธมฺมนิทฺธารณปธานา อภิธมฺมกถา, เตสํ ปน ¶ กุสลาทิวิเสเส นิทฺธาริเต ตสฺส อุปสมฺปาเทตพฺพตาทิปิ อตฺถโต วุตฺตเมว โหติ. อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๒.๙๐) เอวมาทิวจนโต หิ กุสลาทีนํ อุปสมฺปาทนาทิทสฺสนปรํ ภควโต สาสนํ, ตสฺมา กุสลานํ อุปสมฺปาทนํ อกุสลานํ ปหานฺจ อุปาโย, อพฺยากตวิเสสสฺส สจฺฉิกิริยา ผลํ, กุสลาทีนํ อุปสมฺปาทนาทิอตฺถา เทสนา อาณตฺตีติ อยํ เทสนาหาโร.
อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺยสมฺภูตฏฺเน จ กุสลา, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลา, ตทุภยวิปรีตโต อพฺยากตา, สภาวธารณาทิอตฺเถน ธมฺมาติ อนุปทวิจินนํ วิจโย หาโร.
ปุชฺชภวผลปรินิพฺพุตินิปฺผตฺติ กุสเลหีติ ยุชฺชติ สุขวิปากตฺตา, อปายทุกฺขสํสารทุกฺขุปฺปตฺติ อกุสเลหีติ ยุชฺชติ อนิฏฺผลตฺตา, ตทุภยผลานํ อนุปฺปตฺติ อพฺยากเตหีติ ยุชฺชติ อวิปากธมฺมตฺตาติ อยํ ยุตฺติ หาโร.
กุสลา ¶ ธมฺมา สุขวิปากสฺส ปทฏฺานํ, อกุสลา ทุกฺขวิปากสฺส, อพฺยากตา กุสลากุสลาพฺยากตธมฺมานนฺติ อยํ ปทฏฺาโน หาโร.
กุสลคฺคหเณน เย อนวชฺชสุขวิปากา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา วิปากธมฺมธมฺมา อนุปาทินฺนุปาทานิยา อนุปาทินฺนอนุปาทานิยา…เป… อรณา ธมฺมา, เต โพธิตา ภวนฺติ กุสลลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ตถา อกุสลคฺคหเณน เย สาวชฺชทุกฺขวิปากา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา วิปากธมฺมธมฺมา อนุปาทินฺนุปาทานิยา สํกิลิฏฺสํกิเลสิกา…เป… สรณา ธมฺมา, เต โพธิตา ภวนฺติ อกุสลลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ตถา อพฺยากตคฺคหเณน เย อวิปาการหา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา วิปากา ธมฺมา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา อุปาทินฺนุปาทานิยา อนุปาทินฺนุปาทานิยา อนุปาทินฺนอนุปาทานิยา…เป… อรณา ธมฺมา, เต โพธิตา ภวนฺติ อพฺยากตลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตาติ อยํ ลกฺขโณ หาโร.
‘‘กุจฺฉิเต ¶ ปาปธมฺเม สลยนฺตี’’ติอาทินา นิรุตฺติ เวทิตพฺพา, กุสลาทิมุเขน รูปารูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา วิสุทฺธิปรมฺปราย ‘‘กถํ นุ โข สตฺตา อนุปาทิเสสนิพฺพานภาคิโน ภเวยฺยุ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย, นิทานํ อสาธารณโต กุสลาทิเภเทน พุชฺฌนกสตฺตา. สาธารณโต ปน ปากฏเมว. ปมํ กุสลตฺติกสฺส เทสนา วิจาริตาเยวาติ อยํ จตุพฺยูโห หาโร.
กุสลคฺคหเณน กลฺยาณมิตฺตปริคฺคโห โยนิโสมนสิการปริคฺคโห จ. ตตฺถ ปเมน สกลํ พฺรหฺมจริยมาวตฺตติ, ทุติเยน จ โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา. อกุสลคฺคหเณน วุตฺตวิปริยาเยน โยเชตพฺพํ. อพฺยากตคฺคหเณน ปน สกลสํกิเลสโวทานปกฺโข ยถารหมาวตฺตตีติ อยํ อาวตฺโต หาโร.
ตตฺถ กุสลา ภูมิโต จตุธา วิภตฺตา, สมฺปยุตฺตปวตฺติอาการาทิโต ปน อเนกธา. อกุสลา ภูมิโต เอกธา วิภตฺตา, สมฺปยุตฺตาทิโต อเนกธา. อพฺยากตา ปน วิปากกิริยรูปนิพฺพานวเสน จตุธา ภูมิสมฺปยุตฺตาทิโต อเนกธา จ วิภตฺตาติ อยํ วิภตฺติ หาโร.
กุสลา ¶ ธมฺมา อกุสลานํ ตทงฺคาทิปฺปหานาย วีติกฺกมาทิปฺปหานาย จ สํวตฺตนฺติ, อกุสลา ธมฺมา กุสลานํ อนุปสมฺปชฺชนาย, อพฺยากเตสุ อสงฺขตธาตุ สพฺพสงฺขตนิสฺสรณายาติ อยํ ปริวตฺโต หาโร.
กุสลา อนวชฺชา ปฺุานีติ ปริยายวจนํ, อกุสลา สาวชฺชา อปฺุานีติ ปริยาย วจนํ, อพฺยากตา อวิปาการหา เนวอาจยคามี นอปจยคามีโนติ ปริยายวจนนฺติ อยํ เววจโน หาโร.
กุสลาทโย ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติอาทินา ปภวภูมิเววจนปฺตฺติวเสน ยถาสมฺภวํ ปริฺาทิปฺตฺติวเสน จ ปฺตฺตาติ อยํ ปฺตฺติ หาโร.
อกุสลานํ กุจฺฉิตานํ ปาปธมฺมานํ สลนํ กุสานํ วิย กุสานํ วา ราคาทีนํ ลวนํ เอวํธมฺมตาติ อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน อวตรณํ, ตถา กุเสน ลาตพฺพา โกสลฺลสมฺภูตา จาติ ¶ ปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติตาย ปฏิจฺจสมุปฺปาท…เป… อวตรณํ, ปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติตาย วา อาทิอนฺตวนฺตา อนิจฺจนฺติกา จาติ อนิจฺจตามุเขน อวตรณํ, อนิจฺจตา เอว อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตาย ทุกฺขาติ ทุกฺขตามุเขน อวตรณํ, นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธมฺมาติ อพฺยาปารโต สฺุตามุเขน อวตรณํ, เอวํ กุสลาติ จตฺตาโร ขนฺธา ทฺวายตนานิ ทฺเว ธาตุโยติอาทินา ขนฺธายตนธาตาทิมุเขนปิ อวตรณํ เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อกุสลาพฺยากเตสุปิ อวตรณํ ทสฺเสตพฺพนฺติ อยํ อวตรโณ หาโร.
กุสลาติ อารมฺโภ, ธมฺมาติ ปทสุทฺธิ, โน อารมฺภสุทฺธิ. ตถา อกุสลา ธมฺมา อพฺยากตาติ, ธมฺมาติ ปน ปทสุทฺธิ อารมฺภสุทฺธิ จาติ อยํ โสธโน หาโร.
ธมฺมาติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ กุสลากุสลาพฺยากตาติ. ตถา กุสลา ธมฺมาติ สามฺโต อธิฏฺานํ, ตํ อวิกปฺเปตฺวา กามาวจรํ โสมนสฺสสหคตนฺติอาทิ วิเสสวจนํ. อกุสลา ธมฺมาติอาทีสุปิ เอเสว นโยติ อยํ อธิฏฺาโน หาโร.
กุสลานํ ธมฺมานํ นวโม ขโณ จตฺตาริ จ สมฺปตฺติจกฺกานิ โยนิโสมนสิกาโร เอว วา เหตุ, วุตฺตวิปริยาเยน อกุสลานํ ธมฺมานํ เหตุ, กุสลากุสลา ธมฺมา ยถาสมฺภวํ อพฺยากตานํ ธมฺมานํ เหตูติ อยํ ปริกฺขาโร หาโร.
กุสลาติ ¶ ปริฺเยฺยคฺคหณฺเจว ภาเวตพฺพคฺคหณฺจ. อกุสลาติ ปริฺเยฺยคฺคหณฺเจว ปหาตพฺพคฺคหณฺจ. อพฺยากตาติ ปริฺเยฺยคฺคหณฺเจว สจฺฉิกาตพฺพคฺคหณฺจ. ธมฺมาติ ปริฺาทีนํ ปวตฺตนาการคฺคหณํ. เตน ปริฺเยฺยปฺปหานภาวนาสจฺฉิกรณานิ ทีปิตานีติ ตทงฺคาทิวีติกฺกมาทิปฺปหานานิ โลกิยโลกุตฺตรา จ ภาวนา ทสฺสิตาติ อยํ สมาโรปโน หาโร.
กามฺเจตํ อวิเสสโต สภาวธมฺมกถนํ, วิเสสวนฺโต ปน ธมฺมา วิเสสโต นิทฺธาริตา. ตถา หิ จิตฺเตเนว สมโย นิยมิโต, ตสฺมา กุสลคฺคหเณน วิเสสโต สาธิฏฺาโน สมโถ วิปสฺสนา จ ทสฺสิตาติ. ตถา ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลคฺคหเณน สาธิฏฺานา ตณฺหา อวิชฺชา จ ¶ , อพฺยากตคฺคหเณน สปริวารา เจโตวิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺติ จาติ อยํ นนฺทิยาวตฺตสฺส นยสฺส ภูมิ.
ตถา กุสลคฺคหเณน มูลภาววิเสสโต ตีณิ กุสลมูลานิ, เตสุ จ อโทเสน สีลกฺขนฺโธ, อโลเภน สมาธิกฺขนฺโธ, อโมเหน ปฺากฺขนฺโธ นียติ. ตถา อกุสลคฺคหเณน ตีณิ อกุสลมูลานิ, เตสุ จ โลเภน ตเทกฏฺา อกุสลา ธมฺมา. ตถา โทสโมเหหิ ตํตเทกฏฺา. อพฺยากตคฺคหเณน อปฺปณิหิตานิมิตฺตสฺุตา นียนฺตีติ อยํ ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ภูมิ.
ตถา กุสลคฺคหเณน ยโต โกสลฺลโต สมฺภูตา กุสลา, ตํ ปฺินฺทฺริยํ. ตํสหชาตา ตทุปนิสฺสยา จ สทฺทหนุสฺสหนาปิลาปาวิกฺเขปา สทฺธินฺทฺริยาทีนิ. เตหิ จ สพฺเพ สทฺธมฺมา โพธิตา ภวนฺติ. อกุสลคฺคหเณน อโกสลฺลปฏิจฺฉาทิตาทีนเวสุ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตาภินิเวสภูตา จตฺตาโร วิปลฺลาสา. อพฺยากตคฺคหเณน ยถาวุตฺตอินฺทฺริยปจฺจยานิ ยถาวุตฺตวิปลฺลาสปฺปหานภูตานิ จ จตฺตาริ สามฺผลานิ โพธิตานีติ อยํ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมีติ อิเม ตโย อตฺถนยา.
เตหิ จ สิทฺเธหิ ทฺเว กมฺมนยาปิ สิทฺธา โหนฺตีติ. อยํ ติโก สพฺพธมฺมสงฺคหิตสพฺพภาคิโย เวทิตพฺโพติ อิทํ สาสนปฏฺานํ.
อยํ ตาว เนตฺตินเยน กุสลตฺติกวณฺณนา.
เอวํ ¶ เวทนาตฺติกาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ จตุสจฺจนิทฺธารณาทิวิธินา โสฬส หารา ปฺจ นยา นิทฺทิสิตพฺพา, อติวิตฺถารภเยน ปน น วิตฺถารยาม. สกฺกา หิ อิมินา นเยน เตสุ เตสุ ติกทุเกสุ ตํตํหารนยโยชนานุรูปธมฺมนิทฺธารณวเสน เต เต หารนยา วิฺุนา นิทฺทิสิตุนฺติ.
๒. ตฺจ สุขินฺทฺริยํ สุขเวทนา เอว โหติ สามฺสฺส เภทปริยาทานโต, เภทสฺส จ สามฺปริจฺจาคโตติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา ปน วิเสสสามฺานิ อวยวสมุทายา วิย อฺมฺโต ภินฺนานิ, ตสฺมา ‘‘น ปน…เป… สมานตฺถตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตเมว เนสํ ภินฺนตตฺวํ ¶ ‘‘อยฺหี’’ติอาทินา วิวรติ. ตนฺติ สุขเหตูนํ การณํ. เตน สุขสฺส การณํ สุขเหตุ, สุขสฺส การณการณํ สุขมูลนฺติ ทสฺเสติ. สุขเหตูนนฺติ เอตฺถ เหตุ-สทฺเทน การณภาวสามฺโต เหตุปจฺจยา สงฺคหิตาติ อาห ‘‘ปฺุปสฺสทฺธิอาทีน’’นฺติ. เอตฺถ จ สุขมูลสุขเหตูสุ ผลูปจาเรน, สุขารมฺมณสุขปจฺจยฏฺาเนสุ สุขสหจริยาย, อพฺยาปชฺชนิพฺพาเนสุ ทุกฺขาปคมภาเวน สุขปริยาโย วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อิฏฺาสูติ สุขุเปกฺขานํ วิปริณามาฺาณสงฺขารทุกฺขตาย อนิฏฺภาโวปิ อตฺถีติ วิเสเสติ. อุเปกฺขเมว วา อเปกฺขิตฺวา วิเสสนํ กตํ. สา หิ อกุสลวิปากภูตา อนิฏฺาปิ อตฺถีติ. เอวมาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘โสวคฺคิกํ สุขวิปาก’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๖๓) เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. อิฏฺปริยาโย หิ เอตฺถ สุข-สทฺโทติ.
สงฺขารทุกฺขาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ิติสุขํ วิปริณามทุกฺขํ, อกุสลํ กายกมฺมํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปาก’’นฺติอาทิเก สงฺคณฺหาติ. ยถากฺกมํ สุขเวทนา ทุกฺขอนิฏฺปริยาโย หิ เอตฺถ ทุกฺข-สทฺโทติ. ทุกฺขเวทนาทุกฺขวตฺถุอาทีสุ ทุกฺขสทฺทปฺปวตฺติ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพา. วิปากาวิปากเภทาย สพฺพายปิ สุขเวทนาย วเสน ลกฺขณสฺส วุตฺตตฺตา ตทุภยานุกูลมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สภาวโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิปากา สภาวโต อิฏฺสฺส อนุภวนลกฺขณา. อิตรา สภาวโต สงฺกปฺปโต จ อิฏฺสฺส อิฏฺาการสฺส วา อนุภวนลกฺขณาติ ทฏฺพฺพํ.
อสมานปจฺจเยหิ ¶ เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติโต สมานปจฺจเยหิ เอกชฺฌํ อุปฺปตฺติ สาติสยาติ อุกฺกํสคติวิชานนวเสน ‘‘สมานปจฺจเยหิ สหุปฺปตฺติกาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา อุปฺปชฺชนํ อุปฺปาโท, อุปฺปชฺชติ เอตสฺมาติ อุปฺปาโทติ ทุวิโธปิ อุปฺปาโท เอกุปฺปาทาติ เอตฺถ เอกเสสนเยน สงฺคหิโตติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘สมา…เป… อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ สิยา. เตน ตานิ เอกวตฺถุกานีติ เอตสฺส จ ‘‘กปฺเปนฺตสฺสา’’ติอาทินา สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปุริมวิกปฺเป เอกํ วตฺถุ นิสฺสโย เอเตสนฺติ โยชนา, น เอกํเยว วตฺถูติ. เอเกกภูตสฺส ภูตตฺตยนิสฺสิตตฺตา จตุภูตนิสฺสิตตฺตา จ อุปาทารูปานํ. ทุติยวิกปฺเป ปน เอกํเยว วตฺถุ เอเตสุ นิสฺสิตนฺติ โยชนา. นิสฺสยนิสฺสิตตาสงฺขาตอุปกาโรปกตฺตพฺพภาวทีปนํ เอกวตฺถุกวจนนฺติ ทุติยวิกปฺเป มหาภูตวเสน โยชนา กตา. อิตรถา เอกํ วตฺถุ เอเตสูติ สมาสตฺถภาเวน อุปาทารูปานมฺปิ ปริคฺคโห วตฺตพฺโพ สิยา. ปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนานนฺติ อิทํ นิทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. กิริยมโนธาตุจกฺขุวิฺาณาทโยปิ หิ เอการมฺมณาภินฺนวตฺถุกา จาติ ปากโฏยมตฺโถติ. สนฺตีรณาทีนนฺติ ¶ อาทิ-สทฺเทน โวฏฺพฺพนชวนตทารมฺมณานิ สงฺคยฺหนฺติ, เอตานิ จ สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ จุติอาสนฺนานิ อิธาธิปฺเปตานีติ ทฏฺพฺพํ. ตานิ หิ ตทุทฺธํ กมฺมชรูปสฺส อนุปฺปตฺติโต เอกสฺมึเยว หทยวตฺถุสฺมึ วตฺตนฺติ, อิตรานิ ปน ปุริมปุริมจิตฺตกฺขณุปฺปนฺเน หทยวตฺถุสฺมึ อุตฺตรุตฺตรานิ ปวตฺตนฺตีติ. ฉสุ วา วตฺถูสุ เอกํ หทยวตฺถุเยว วตฺถุ เอเตสนฺติ เอวํ ปน อตฺเถ สติ จุติอาสนฺนโต อิตเรสํ สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ คหณํ สิยาติ าตพฺพํ.
เอตฺถาห – ‘‘กสฺมา ปเนตฺถ กุสลตฺติกานนฺตรํ เวทนาตฺติโกว วุตฺโต’’ติ? กิสฺมึ ปน วุจฺจมาเน อยมนุโยโค น สิยา, อปิจ อวยวานํ อเนกเภทตาทสฺสนตฺถา ติกนฺตรเทสนา. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ กุสลตฺติเกน สพฺพธมฺมานํ ติธา วิภาคํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตทวยวานํ กุสลาทีนมฺปิ อเนกเภทภินฺนตํ ทสฺเสนฺเตน เตสํ เวทนาสมฺปโยควิภาควิภาวนตฺถํ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. กุสลา หิ ธมฺมา สิยา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา. อกุสลา ธมฺมา สิยา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, ตถา อพฺยากตา สมฺปโยคารหาติ. เอวํ กุสลาทิธมฺมานํ ¶ ปจฺเจกํ เวทนาเภเทน วิภาคทสฺสนตฺถํ กุสลตฺติกานนฺตรํ เวทนาตฺติกํ วตฺวา อิทานิ สุขสมฺปยุตฺตาทีนํ ปจฺเจกํ วิปากาทิเภทภินฺนตํ ทสฺเสตุํ เวทนาตฺติกานนฺตรํ วิปากตฺติโก วุตฺโต. สุขสมฺปยุตฺตา หิ ธมฺมา สิยา วิปากา, สิยา วิปากธมฺมธมฺมา, สิยา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา. ตถา อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา, ทุกฺขสมฺปยุตฺตา ปน สิยา วิปากา, สิยา วิปากธมฺมธมฺมาติ อิมินา นเยน อวเสสตฺติกานํ ทุกานฺจ ตสฺส ตสฺส อนนฺตรวจเน ปโยชนํ วิภาเวตพฺพํ.
๓. วิปากนิรุตฺติฺจ ลภนฺตีติ เตสุ วิปากสทฺทสฺส นิรุฬฺหตํ ทสฺเสติ. สุกฺกกณฺหาทีติ อาทิ-สทฺเทน อกณฺหอสุกฺกผสฺสาทิภาโว ปริคฺคหิโต. สติ ปน ปาก-สทฺทสฺส ผลปริยายภาเว รูปํ วิย น นิหีโน ปกฺกํ วิย วิสิฏฺโ ปาโกติ วิปาโกติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สพฺยาปารตาติ สอุสฺสาหตา. สนฺตาเน สพฺยาปารตาติ เอเตน จิตฺตปฺปโยคสงฺขาเตน กิริยาภาเวน วิปากธมฺมานํ สนฺตานวิเสสมาห ‘‘ยโต ยสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท กุสลากุสลา เจตนา, ตํสนฺตาเน เอว ตสฺสา วิปากุปฺปตฺตี’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘สพฺยาปารตา’’ติ เอเตน อาวชฺชนทฺวยํ วิปากฺจ นิวตฺเตติ, ‘‘อนุปจฺฉินฺนาวิชฺชาตณฺหามาเน’’ติ อิมินา อวสิฏฺํ กิริยํ นิวตฺเตติ. อุภเยนปิ อนุสยสหายสอุสฺสาหตาลกฺขณา ¶ วิปากธมฺมธมฺมาติ ทสฺเสติ. โลกุตฺตรกุสลานมฺปิ หิ อนุสยา อุปนิสฺสยา โหนฺติ, ยโต ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ…เป… ตสฺมึ สมเย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา (วิภ. ๓๔๒) อริยมคฺคเจตนาย อวิชฺชาอุปนิสฺสยตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค ปกาสิตา. นิรุสฺสาหสนฺตภาวลกฺขณา วิปากา, อุภยวิปรีตลกฺขณา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมาติ.
อภิฺาทิกุสลานนฺติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔) อิมินา ติเกน สงฺคหิตํ คติอุปธิกาลปโยคาภาเวน อวิปากํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียฺจ สงฺคณฺหาติ. อปราปริยเวทนียํ ปน สํสารปฺปวตฺติยํ อโหสิกมฺมาทิภาวํ น ภชติ. ภาวนาย ปหาตพฺพาทีติ อาทิ-สทฺเทน ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สงฺคณฺหาติ. อุภยมฺปิ ‘‘วิปากานุปฺปาทเน’’ติ วจนโต คติอุปธิกาลปโยคาภาเวน อนุปฺปนฺนวิปากเมว อธิปฺเปตํ ภาวนาย ปหาตพฺพสฺสปิ ปวตฺติวิปากสฺส ¶ อนุชานนโต. เยสํ ปน ภาวนาย ปหาตพฺพา อวิปากา, เตสํ มเตน อาทิ-สทฺเทน ทสฺสเนน ปหาตพฺพสฺส อโหสิกมฺมนฺติ เอวํปการสฺเสว ปริคฺคโหติ เวทิตพฺพํ.
๔. ‘‘กถมาทินฺนา’’ติ อยมฺปิ ปฺโห ลพฺภติ. ‘‘ผลภาเวนา’’ติ หิ อาทานปฺปการวจนํ. เกสฺจิ โคตฺรภุปจฺจเวกฺขณาทีนํ อุเปตกิริยภูตานํ ตํกตฺตุภูตานฺจ อตฺถานํ อุเปตพฺพสมฺพนฺธภาวโต ตทภิธายิโนปิ สทฺทา สมฺพนฺธา เอวาติ ‘‘อุเปตสทฺทสมฺพนฺธินา’’ติ วุตฺตํ. อุเปตนฺติ หิ อุเปตพฺพตฺเถ วุจฺจมาเน อวสฺสํ อุเปตกิริยา อุเปตา จ ายตีติ. ‘‘รูปธาตุยา โข ปน, คหปติ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา เย อุปยุปาทานา, เจตโส อธิฏฺานา อภินิเวสา อนุสยา’’ติอาทีสุ ‘‘อุปโย’’ติ ตณฺหาทิฏฺิโย อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อุปย…เป… ทิฏฺีหี’’ติ. ยถาสมฺภวนฺติ ‘‘อารมฺมณกรณวเสนา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตอตฺเถสุ โย โย สมฺภวติ โยเชตุํ, โส โสติ อตฺโถ. น วจนานุปุพฺเพนาติ ‘‘กึ ปน ตํ อุเปต’’นฺติอาทินา วุตฺตวจนานุปุพฺเพน น โยเชตพฺโพ. สพฺพปจฺจยุปฺปนฺนานนฺติ สพฺพเตภูมกปจฺจยุปฺปนฺนานํ. นาปชฺชติ สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต วิเสสตฺถินา จ วิเสโส อนุปยุชฺชตีติ ตํ ปน วิเสสํ วุตฺตปฺปการํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โพธเนยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อุเปตํ ทีเปตีติ ยถา ‘‘ปาจริโย’’ติ เอตฺถ ปคโต อาจริโย ปาจริโยติ ป-สทฺโท ปคตํ ¶ ทีเปติ, เอวํ อุป-สทฺโท อุเปตํ ทีเปติ เอว, น เจตฺถ คตาทิอตฺถานํ เอกนฺเตน ปจฺจตฺตวจนโยโค อิจฺฉิโตติ. อติสทฺโท วิยาติ จ อิทํ สสาธนกิริยาทีปนสามฺเน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยภาเวนาติ เอเตน ปุริมนิพฺพตฺตึ วิเสเสติ. เตน สหชาตสฺสปิ อุปาทานสฺส สงฺคโห กโต โหติ. สหชาโตปิ หิ ธมฺโม ปจฺจยภูโต ปุริมนิปฺผนฺโน วิย โวหรียติ ยถา ‘‘เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา’’ติ, ‘‘เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) จ. ธาตุกถายํ ปกาสิตนฺติ ‘‘อุปปตฺติภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. กติหิ อสงฺคหิโต. น เกหิจิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา อสงฺคหิโต’’ติ (ธาตุ. ๖๗) เอวมาทึ ¶ สนฺธายาห. ตสฺมา เอวาติ อุปาทินฺนสทฺทานเปกฺขตฺตา เอว. อวิเสเสตฺวาติ อุปาทินฺนานุปาทินฺนวิเสสํ อกตฺวา. อุปาทานานํ อารมฺมณภาวานติวตฺตนโต อุปาทาเนหิ อุปาทาตพฺพาติ วา อุปาทานิยา, อุปาทาตุํ วา อรหนฺตีติ อุปาทานิยา, อุปาทาเน นิยุตฺตาติ วา อุปาทานิยา ก-การสฺส ย-การํ กตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ.
๕. วิพาธนํ ปีฬนํ กิลมนํ อุปตาโป ปริฬาโห อปฺปสฺสทฺธิภาโว. วิทูสิตา มลีนา จ ยโต เกจิ อกิเลสสภาวาปิ อนิฏฺผลา คารยฺหา จ ชาตา.
๖. ‘‘สีลมตฺตกํ, ปรํ วิย มตฺตายา’’ติอาทีสุ มตฺตา-สทฺทสฺส ปมาณวาจกตา ทฏฺพฺพา. มริยาทวาจโก วา มตฺตา-สทฺโท. วิจาโร เหตฺถ ฌานงฺเคสุ เหฏฺิมมริยาโท, น ปมชฺฌานอุปจารชฺฌาเนสุ วิย วิตกฺโก. สา ปน วิจารมริยาทตา วิตกฺกาภาเวน เอเตสํ ชาตาติ อวิตกฺกคฺคหณํ กตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อวิตกฺกา หุตฺวา วิจารมริยาทฌานงฺเคสุ วิจารเหฏฺิมโกฏิกาติ. อถ วา อีสทตฺโถ มตฺตา-สทฺโท ‘‘มตฺตาสุขปริจฺจาคา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๐) วิย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – วิตกฺกรหิตา ภาวนาย อติสุขุมภูตวิจารตฺตา อีสํ วิจารา จ อวิตกฺกวิจารมตฺตาติ. น หิ อิโต ปรํ วิจาโร อตฺถีติ. ยทิ วิตกฺกวิเสสรหิตา วิจารมตฺตา, เอวํ สนฺเต อวิตกฺกวจนํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘วิจารมตฺตวจเนนา’’ติอาทิ. ยทิ วิจารมตฺตโต อฺเสมฺปิ อวิตกฺกานํ อตฺถิภาวโชตนตฺถํ อวิตกฺกวจนํ, อวิตกฺกา จ วิจารมตฺตา อวิจาราติ นิวตฺเตตพฺพา คเหตพฺพา จ, เอวํ สติ วิจารมตฺตา วิเสสนํ, อวิตกฺกา วิเสสิตพฺพาติ วิจารมตฺตาวิตกฺกาติ วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว’’ติอาทิ. ยถากามนฺติ วตฺตุอิจฺฉานุรูปํ ¶ . เยน เยน หิ ปกาเรน ธมฺเมสุ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพภาวา ลพฺภนฺติ, เตน เตน ปกาเรน วิเสสนวิเสสิตพฺพภาโว สมฺภวตีติ. ปทานํ อนุกฺกโม ปทานุกฺกโม.
อวิตกฺกา สวิตกฺกา จ สวิจารา อวิจารา จาติ อวิตกฺกาสวิจารา สวิตกฺกา อวิจาราติ โยเชตพฺพํ. อุภเยกเทสทสฺสนมฺปิ อุภยทสฺสนนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยทิ สวิตกฺกสวิจารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิตรมฺปิ ปกาเสตุนฺติ ¶ อิทํ ยถา สวิตกฺกสวิจาเรสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ วิตกฺโก อวิตกฺกสวิจารตาย ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺโต’’ติ วุตฺโต, เอวํ ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาเทสุ วิจาโร ‘‘สวิตกฺกอวิจาโร’’ติ สกฺกา วิฺาตุนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิตกฺกาภาเวน เอเต วิจารมตฺตาติ อยมฺปิ อตฺโถ วิเสสนิวตฺติอตฺถํเยว มตฺตา-สทฺทํ คเหตฺวา วุตฺโต. วิจารมตฺตาติ หิ วิจารมตฺตวนฺโตติ วิฺายมานตฺตา ตทฺวิเสสวิรหสามฺโต นิวตฺเตตฺวา วิตกฺกวิเสสวิรหสงฺขาเต อวิตกฺก-สทฺโท สนฺนิธาปิโต วิเสเสติ ทุติยชฺฌานธมฺเมติ. ยถาห ‘‘น วิจารโต’’ติอาทิ.
๗. เวทยมานาติ อนุภวมานา. สุขากาเรติ อิฏฺากาเร, อิฏฺานุภวนากาเร วา. อุทาสินาติ นติอปนติรหิตา. สุขทุกฺขานํ อวิรุทฺธา เตสํ พฺยวธายิกาภาวโต. สุขทุกฺขานิ วิย หิ สุขทุกฺขานํ อนนฺตรํ ปวตฺตนโต พฺยวธายิกาภูตา น เตหิ วิรุชฺฌติ, น ปน สุขทุกฺขานิ อนนฺตราปวตฺติโต. ‘‘อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา’’ติ อยํ ปนตฺโถ อิธ อุเปกฺขา-สทฺทสฺส สพฺพุเปกฺขาปริยาทานโต น วุตฺโต. น หิ โลภสมฺปยุตฺตาทิอุเปกฺขา อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปีติสหคตาเยว น สุขสหคตา, สุขสหคตาปิ น ปีติสหคตา เอวาติ ปีติสหคตา สุขสหคตา จ อฺมฺํ ภินฺนา, ตสฺมา. สติปิ สุขสหคตานํ เยภุยฺเยน ปีติสหคตภาเว เยน สุเขน สมนฺนาคตา สุขสหคตา เอว โหนฺติ, น ปีติสหคตา, ตํ สุขํ นิปฺปีติกสุขนฺติ อยํ วิเสโส อิมินา ติเกน ทสฺสิโตติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘ปีติสหคตาติ วตฺวา’’ติอาทิมาห.
สิทฺโธติ สาวเสสํ นิรวเสสฺจ สุขปีติโย สงฺคเหตฺวา ปวตฺเตหิ ปมทุติยปเทหิ โย ปีติสหคโต ธมฺมวิเสโส, ตํ สุขํ, โย จ สุขสหคโต ธมฺมวิเสโส, สา ปีตีติ สติปิ อฺมฺํ สํสฏฺภาเว ปทนฺตรสงฺคหิตภาวทีปนโตสิทฺโธ าโต วิทิโตติ อตฺโถ. ‘‘จตุตฺถชฺฌานสุขํ อติปณีตสุขนฺติ โอฬาริกงฺคโต นีหริตฺวา ตสฺส ปณีตภาวํ ทสฺเสตุํ อยํ ¶ ติโก วุตฺโต’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตเทตํ สพฺเพสํ สุขเวทนาสมฺปยุตฺตธมฺมานํ อิธ ‘‘สุขสหคตา’’ติ วุตฺตตฺตา วิจาเรตพฺพํ. ตถา หิ ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๓) ‘‘กามาวจรกุสลโต ¶ จตฺตาโร โสมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๕๙๘) จ นิทฺเทโส ปวตฺโตติ.
๘. นิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธายาห, น นิพฺพานปฏิวิชฺฌนํ, อิตรถา โคตฺรภุสฺส ทสฺสนภาวาปตฺติ อโจทนียา สิยาติ อธิปฺปาโย. นนุ จ ทิสฺวา กตฺตพฺพกิจฺจกรเณน โสตาปตฺติมคฺโคว ทสฺสนนฺติ อุกฺกํสคติวิชานเนน นิพฺพานสฺส ปฏิวิชฺฌนเมว ทสฺสนนฺติ โคตฺรภุสฺส ทสฺสนภาวาปตฺติ น โจเทตพฺพาวาติ? น, ทสฺสนสามฺสฺเสว สุยฺยมานตฺตา ทสฺสนกตฺตพฺพกิจฺจกรณานฺจ เภเทน วุตฺตตฺตา. ตตฺถ ยทิปิ ‘‘ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๘๒) วิย อภินฺนกาลสฺสปิ ภินฺนกาลสฺส วิย เภโทปจารทสฺสนโต เภทวจนํ ยุตฺตํ, ทสฺสนวิเสเส ปน อธิปฺเปเต ทสฺสนสามฺวจนํ น กตฺตพฺพนฺติ ทสฺสนสามฺมตฺตํ คเหตฺวา โจทนา กตาติ ‘‘นิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธายาหา’’ติ วุตฺตํ. ทุติยตติยมคฺคานมฺปิ ธมฺมจกฺขุปริยายสพฺภาวโต ‘‘ภาวนาภาวํ อปฺปตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ภาวนา วฑฺฒนา. สา จ พหุลํ อุปฺปตฺติยา โหตีติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตเนนา’’ติ. ตถา หิ สตีติ ‘‘อุภยปฏิกฺเขปวเสนา’’ติ ปทสฺส ทสฺสนภาวนาปฏิกฺเขปวเสนาติ อตฺเถ สติ. นนุ โลกิยสมถวิปสฺสนาปิ ยถาพลํ กามจฺฉนฺทาทีนํ ปหายกา, ตตฺร กถมิทํ วุตฺตํ, น จ อฺโ ปหายโก อตฺถีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อฺเหี’’ติอาทิ.
๙. อปฺปหาตพฺพเหตุมตฺเตสูติ อปฺปหาตพฺพเหตุกมตฺเตสุ. สพฺโพ กุสลาพฺยากตธมฺโม ยถาธิปฺเปตตฺโถ. สมาโส น อุปปชฺชติ อสมตฺถภาวโต. เยสนฺติ เย ตติยราสิภาเวน วุตฺตา ธมฺมา, อตฺโถ เตสํ. อุภินฺนนฺติ วิสุํ วิสุํ โยเชตพฺพตาย ทฺเว ปหาตพฺพเหตุสทฺทาติ กตฺวา วุตฺตํ. เอตนฺติ ‘‘เนวทสฺสเนน นภาวนาย ปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสํ อตฺถี’’ติ เอตํ วจนํ. เตหิ ทสฺสนภาวนาปเทหิ ยุตฺเตน ปหาตพฺพเหตุกปเทน. เอวฺจ กตฺวาติ เอวํ ทสฺสนภาวนาปเทหิ ปหาตพฺพเหตุกปทสฺส วิสุํ วิสุํ โยชนโต. เอวฺหิ ปุริมปททฺวย…เป… ทสฺสนเมตํ โหตีติ. เอวนฺติ ทสฺสนภาวนาหิ นปหาตพฺโพ เหตุ เอเตสนฺติ เอวํ อตฺเถ สติ. ‘‘เหตุ…เป… สิยา’’ติ ¶ เอตสฺส ‘‘ปุริมสฺมิฺหิ อตฺเถ’’ติอาทินา อเหตุกานํ อคฺคหิตภาวทสฺสนวเสน อตฺถํ วตฺวา อิทานิ ‘‘อถ วา’’ติอาทินา ทุติยสฺเสว อตฺถสฺส ยุตฺตภาวํ ¶ วิภาเวนฺโต ‘‘คเหตพฺพตฺถสฺเสวา’’ติอาทิมาห. โส หิ ‘‘เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา คเหตพฺพตฺโถ.
๑๐. อฺถาติ อารมฺมณกรณมตฺเต อธิปฺเปเต. กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อารมฺมณํ กตฺวาติ เอเตน จตุกิจฺจสาธกํ อารมฺมณกรณํ วุจฺจตี’’ติ? สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต อริยมคฺคธมฺมานํเยว จ อปจยคามิภาวโต. ‘‘จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา อปจยคามิโน’’ติ (ธ. ส. ๑๐๒๑) หิ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อริยมคฺคานํ เอตํ อธิวจน’’นฺติ. เอเตเนว วา วิเสสุปลกฺขณเหตุภูเตน วจเนน ยถาวุตฺโต อารมฺมณกรณวิเสโส วิฺายติ. อุกฺกํสคติวิชานเนน วา อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺจเวกฺขณาทีนนฺติ โวทานาทโย สงฺคณฺหาติ. เหตุภาเวนาติ สมฺปาปกเหตุภาเวน. าปโก การโก สมฺปาปโกติ ติวิโธ หิ เหตุ, ตถา าเปตพฺพาทิภาเวน ผลํ. ยถา นิรยาทิมนุสฺสภาวาทิคามิปฏิปทาภาวโต อกุสลโลกิยกุสลจิตฺตุปฺปาทา ‘‘อาจยคามิโน ธมฺมา’’ติ วุตฺตา, น มิจฺฉาทิฏฺิอาทิโลกิยสมฺมาทิฏฺิอาทิธมฺมา เอว, เอวํ นิพฺพานคามิปฏิปทาภาวโต โลกุตฺตรกุสลจิตฺตุปฺปาทา ‘‘อปจยคามิโน’’ติ ทฏฺพฺพา, น อริยมคฺคธมฺมา เอวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปุริมปจฺฉิมาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อริยมคฺคสฺเสว นิพฺพานคามิปฏิปทาภาโว ปริพฺยตฺโตติ ตสฺเสว อปจยคามิภาโว ยุตฺโต, ตทนุวตฺตกตฺตา ปน เสสธมฺเม สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ. อปจเย ทุกฺขปริชานนาทินา สาติสยํ คมนํ เยสนฺเต อปจยคามิโนติ ‘‘มคฺคา เอว อปจยคามิโน’’ติ วุตฺตํ. ปุริมปจฺฉิมานนฺติ จ อิมสฺมึ ติเก ปมปททุติยปทสงฺคหิตานํ อตฺถานนฺติ อตฺโถ. ‘‘ชยํ เวรํ ปสวติ (ธ. ป. ๒๐๑), จรํ วา ยทิ วา ติฏฺ’’นฺติอาทีสุ (อิติวุ. ๘๖, ๑๑๐; สุ. นิ. ๑๙๕) วิย สานุนาสิโก อาจย-สทฺโทติ ‘‘อนุนาสิกโลโป กโต’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อาจิน’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘อาจย’’นฺติ พฺยตฺตยวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาจยา หุตฺวา คจฺฉนฺตีติ เอเตน อปจินนฺตีติ อปจยา, อปจยา หุตฺวา คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อยมตฺโถ นยโต ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.
๑๑. โลกิเยสุ ¶ อเสกฺขภาวานาปตฺติ ทฏฺพฺพาติ กสฺมา เอวํ วุตฺตํ, นนุ –
‘‘สิกฺขตีติ โข ภิกฺขุ ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติ. กิฺจ สิกฺขติ, อธิสีลมฺปิ ¶ สิกฺขติ อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ. สิกฺขตีติ โข ภิกฺขุ ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติ (อ. นิ. ๓.๘๖). โยปิ กลฺยาณปุถุชฺชโน อนุโลมปฏิปทาย ปริปูรการี สีลสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ ‘อชฺช วา สฺเว วา อฺตรํ สามฺผลํ อธิคมิสฺสามี’ติ, โสปิ สิกฺขตีติ เสกฺโข’’ติ –
วจนโต ยถาวุตฺตกลฺยาณปุถุชฺชนสฺสปิ สีลาทิธมฺมา เสกฺขาติ วุจฺจนฺตีติ? น, ปริยายภาวโต. นิปฺปริยาเยน หิ เสกฺขาเสกฺขภาโว ยถาสมฺภวํ มคฺคผลธมฺเมสุ เอวาติ โลกิเยสุ เสกฺขภาวาสงฺกาภาวโต อเสกฺขภาวานาปตฺติ วุตฺตา. เตเนวาห ‘‘สีลสมาธี’’ติอาทิ. อรหตฺตผลธมฺมาปิ สิกฺขาผลภาเวน ปวตฺตนโต เหฏฺิมผลธมฺมา วิย สิกฺขาสุ ชาตาติอาทิอตฺเถหิ เสกฺขา สิยุํ, เหฏฺิมผลธมฺมาปิ วา สิกฺขาผลภาเวน ปวตฺตนโต อรหตฺตผลธมฺมา วิย อเสกฺขาติ โจทนํ มนสิกตฺวา ‘‘ปรินิฏฺิตสิกฺขากิจฺจตฺตา’’ติ วุตฺตํ, ตถา ‘‘เหฏฺิมผเลสุ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘ตํ เอว สาลึ ภฺุชามิ, สา เอว ติตฺติรี, ตานิ เอว โอสธานี’’ติอาทีสุ ตํสทิเสสุ ตพฺโพหาโร ทฏฺพฺโพ. เอเตน จ เสกฺขสทิสา อเสกฺขา ยถา ‘‘อมนุสฺโส’’ติ วุตฺตํ โหตีติ อฺเ. อฺตฺถ ‘‘อริฏฺ’’นฺติอาทีสุ วุทฺธิอตฺเถปิ อ-กาโร ทิสฺสตีติ วุทฺธิปฺปตฺตา เสกฺขา อเสกฺขาติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต.
๑๒. กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตายาติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. วิตกฺกาทิวิกฺขมฺภนสมตฺถตาปิ เหตฺถ ลพฺภตีติ. อกุสลวิทฺธํสนรสตฺตา วา กุสลานํ ตตฺถ สาติสยกิจฺจยุตฺตตํ ปริตฺตธมฺเมหิ มหคฺคตานํ ปกาเสตุํ ‘‘กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตายา’’ติ วุตฺตํ. วิปากกิริเยสุ ทีฆสนฺตานตาว, น กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตา วิปุลผลตา จาติ ¶ อตฺโถ. ‘‘วิปุลํ ผลํ วิปุลผล’’นฺติ เอวํ ปน อตฺเถ คยฺหมาเน วิปาเกสุปิ วิปุลผลตา ลพฺภเตว. โสปิ เอกเสสนเยน อฏฺกถายํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. มหนฺเตหิ คตา ปฏิปนฺนาติ อยํ ปนตฺโถ ติณฺณมฺปิ สาธารโณติ. คุณโต อยํ เอตฺตโกติ สตฺตานํ ปมาณํ กโรนฺตา วิย ปวตฺตนฺตีติ โอฬาริกา กิเลสา ‘‘ปมาณกรา’’ติ วุตฺตา. เตหิ ปริโต ขณฺฑิตา ปริจฺฉินฺนาติ ปริตฺตา. สติปิ เกหิจิ ปริจฺฉินฺนตฺเต มหาปมาณภาเวน คตา ปวตฺตาติ มหคฺคตา ¶ . ปริจฺเฉทกรานํ กิเลสานํ สุขุมานมฺปิ อโคจรภาวโต เตหิ น กถฺจิปิ ปริจฺฉินฺนา วีติกฺกนฺตาติ อปริจฺฉินฺนา อปฺปมาณา, ยโต เต ‘‘อปริยาปนฺนา’’ติปิ วุจฺจนฺติ.
๑๔. ติตฺตึ น ชเนนฺติ สนฺตตรตาย อเสจนกภาวโต. เอตฺถ จ ‘‘ปมาณกเรหี’’ติอาทิโก อตฺถวิกปฺโป ‘‘อตปฺปกตฺเถนา’’ติอาทิกาย หีนตฺติกปทวณฺณนาย ปรโต พหูสุ โปตฺถเกสุ ลิขียติ, ยถาาเน เอว ปน อาเนตฺวา วตฺตพฺโพ.
๑๕. โลกิยสาธุชเนหิปิ อติชิคุจฺฉนีเยสุ อานนฺตริยกมฺมนตฺถิกวาทาทีสุ ปวตฺติ วินา วิปลฺลาสพลวภาเวน น โหตีติ ‘‘วิปริยาสทฬฺหตายา’’ติ วุตฺตํ. เอเตนาติ ‘‘วิปากทาเน สตี’’ติอาทินา สติปิ กาลนิยเม วิปากุปฺปาทเน สาสงฺกวจเนน. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺตนเยน นิยตตาย อติปฺปสงฺโค ทุนฺนิวาโร, ตสฺมา. พลวตา…เป… ปวตฺตีติ เอเตน อสมานชาติเกน อนิวตฺตนียวิปากตํ, สมานชาติเกน จ วิปากานุปฺปาทเนปิ อนนฺตรํ วิปากุปฺปาทนสมตฺถตาย อวิหนฺตพฺพตํ อนนฺตริกานํ ทสฺเสติ. ยโต เตสํ วิปากธมฺมตา วิย สภาวสิทฺธา นิยตานนฺตริยตา. อฺสฺส…เป… ทานโตติ อิมินาปิ อสมานชาติกาทีหิ อนิวตฺตนียผลตํ เอว วิภาเวติ.
โจทโก อธิปฺปายํ อชานนฺโต ‘‘นนู’’ติอาทินา อติปฺปสงฺคเมว โจเทติ. อิตโร ‘‘นาปชฺชตี’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. เอกนฺเตติ อวสฺสมฺภาวินิ. สนฺนิยตตฺตาติ สมฺปาทเน ชนเน นิยตภาวโต. อุปรตา อวิปจฺจนสภาวาสงฺกา เยสุ ตานิ อุปรตาวิปจฺจ…เป… สงฺกานิ, ตพฺภาโว อุป…เป… สงฺกตฺตํ, ตสฺมา. ‘‘น สมตฺถตาวิฆาตตฺตาติ ¶ พลวตาปิ อานนฺตริเยน อนุปหนฺตพฺพตํ อาห. อุปตฺถมฺภกานิ อนุพลปฺปทายกานิ โหนฺติ อุปฺปตฺติยา สนฺตานสฺส วิเสสิตตฺตา. เตน เนสํ วิปากานุปฺปาทเนปิ อโมฆวุตฺติตํ อาห.
๑๖. มคฺคกิจฺจํ ปริฺาทิ. อฏฺงฺคิกมคฺคสมฺมาทิฏฺิมคฺคสมฺปยุตฺตาโลภาโทสสงฺขาเตหิ มคฺคเหตูหิ มคฺคสมฺปยุตฺตขนฺธเสสมคฺคงฺคสมฺมาทิฏฺีนํ สเหตุกภาวทสฺสนโต ติณฺณํ นยานํ อสงฺคหิตสงฺคณฺหนวเสนาติ วุตฺตํ. เหตุพหุตาวเสนาติ พหุเหตุกสฺส ปมนยสฺส อนนฺตรํ พหุเหตุกตาสามฺเน นิกฺเขปกณฺฑปาฬิยํ ตติยํ วุตฺตนโย อิธ อฏฺกถายํ ทุติยํ วุตฺโต. ยถาสกํ ¶ ปจฺจเยหิ ปวตฺตมาเนสุ นิรีหเกสุ ธมฺเมสุ เกสฺจิ อนุวตฺตนียภาโว น เกวลํ ธมฺมสภาวโตเยว, อถ โข ปุริมธมฺมานํ ปวตฺติวิเสเสนปิ โหตีติ อาห ‘‘ปุพฺพาภิสงฺขารวเสนา’’ติ. ปวตฺติวิเสโส หิ ปุริมปุริมานํ จิตฺตเจตสิกานํ อุตฺตรุตฺตเรสุ วิเสสาธานํ ภาวนาปุพฺพาภิสงฺขาโรติ. อนุวตฺตยมาโนติ ครุการยมาโน. อุทาหรณวเสนาติ นิทสฺสนวเสน, น นิรวเสสทสฺสนวเสน. ยสฺมา ปนาติอาทินา ยถาวุตฺตํ อตฺถํ ปานฺตเรน สาเธติ. ตตฺถ หิ อธิปติปจฺจยสฺส ปจฺจนีเย ิตตฺตา มคฺโค อธิปติ มคฺคาธิปตีติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ. สมานสทฺทตฺถวเสนาติ สติปิ อฺปทตฺถสมานาธิกรณสมาสตฺถเภเท มคฺคาธิปติสทฺทตฺถเภทาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๑๗. อุปฺปนฺน-สทฺโท อุปฺปาทาทึ ปฏิปชฺชมาโน, ปตฺวา วิคโต จาติ ทุวิเธสุ อตฺเถสุ อุภเยสมฺปิ วาจโก, น ปุริมานํเยวาติ ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปฺปนฺนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปนฺนภาโว อุปฺปาทาทิปฺปตฺตตา. เตน อตีตาปิ สงฺคหิตา โหนฺติ. เตเนวาห ‘‘สพฺโพ อุปฺปนฺนภาโว’’ติ. อุปฺปนฺนธมฺมภาโว ‘‘อุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ ปเทน คหิตธมฺมภาโว, วตฺตมานธมฺมภาโวติ อตฺโถ. โย วา อุปฺปาทาทิปฺปตฺโต อตฺตโน จ สภาวํ ธาเรติ ปจฺจเยหิ จ ธารียติ, โส อุปฺปนฺนธมฺโมติ ปจฺจุปฺปนฺนภาโว อุปฺปนฺนธมฺมภาโวติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปฺปนฺนธมฺเม วตฺวา ‘‘อนุปฺปนฺนา’’ติ วจนํ น ยถาธิคตปฏิเสธนนฺติ กถมิทํ ปจฺเจตพฺพนฺติ อาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อุปฺปนฺนาติ ปเทน อตีตาปิ สงฺคหิตา. ยทิ น สงฺคหิตา, นิพฺพานํ วิย เตปิ นวตฺตพฺพาติ วตฺตพฺพํ สิยา ¶ , น จ ตถา วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปน เตสํ มติมตฺตเมว. อยํ ปน ติโก ทฺวินฺนํ อทฺธานํ วเสน ปูเรตฺวา ทสฺสิโตติ อฏฺกถายํ วกฺขตีติ. เอวํ สนฺเต กสฺมา อตีตา นวตฺตพฺพาติ น วุตฺตาติ? ธมฺมวเสน อสงฺคหิตตฺตาภาวโต. ธมฺมวเสน หิ อสงฺคหิตํ นิพฺพานํ ตตฺถ นวตฺตพฺพํ ชาตํ, น จ นิโยคโต อตีตา นาม ธมฺมา เกจิ อตฺถิ, เย อิธ อสงฺคหิตตฺตา นวตฺตพฺพา สิยุนฺติ. ผลนิพฺพตฺติโต การณสฺส ปุเรตรํ นิพฺพตฺติ อิธ ปรินิฏฺิตสทฺเทน วุจฺจติ, น ตสฺส หุตฺวา วิคตภาโวติ อาห ‘‘อนาคเต วา’’ติ. ยโต เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต อุปฺปชฺชนกผลมฺปิ ‘‘อุปฺปาที’’ติ วุจฺจติ.
๒๐. ยสฺส ฌานา วุฏฺหิตฺวาติอาทินา ‘‘เตนานนฺทา’’ติอาทิปาฬิยา เหฏฺาปาฬึ อตฺถวเสน ทสฺเสติ. อยฺหิ ตตฺถ ปาฬิ –
‘‘กถฺจานนฺท ¶ , ภิกฺขุ อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปติ สนฺนิสาเทติ เอโกทึ กโรติ สมาทหติ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข…เป… สมาทหติ. โส อชฺฌตฺตํ สฺุตํ มนสิ กโรติ, ตสฺส อชฺฌตฺตํ สฺุตํ มนสิกโรโต สฺุตาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ…เป… มุจฺจติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ สมฺปชานาติ อชฺฌตฺตํ โข เม สฺุตํ มนสิกโรโต อชฺฌตฺตํ สฺุตาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ…เป… มุจฺจตีติ, อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. โส พหิทฺธา สฺุตํ…เป… อชฺฌตฺตพหิทฺธา สฺุตํ…เป… โส อาเนฺชํ มนสิ กโรติ, ตสฺส อาเนฺชํ มนสิกโรโต อาเนฺชาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ…เป… มุจฺจตีติ, อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. เตนานนฺท, ภิกฺขุนา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๘๘).
ตตฺถ อชฺฌตฺตสฺุตาทีสูติ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา อชฺฌตฺตพหิทฺธา จ สฺุตาย อาเนฺเช จ. ปมชฺฌานาทิสมาธินิมิตฺเตติ ปาทกภูตปมชฺฌานาทิสมาธินิมิตฺเต. อปคุณปาทกชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส หิ อชฺฌตฺตํ สฺุตํ มนสิกโรโต ตตฺถ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ. ตโต ‘‘ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ พหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต ‘‘กาเลน อตฺตโน สนฺตาเน, กาเลน ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ ¶ อชฺฌตฺตพหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหตุกาโม ‘‘อรูปสมาปตฺติยํ นุ โข กถ’’นฺติ อาเนฺชํ มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ‘‘อิทานิ เม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตี’’ติ วิสฺสฏฺวีริเยน น ภวิตพฺพํ, ปาทกชฺฌานเมว ปน สาธุกํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กาตพฺพํ, เอวมสฺส รุกฺขํ ฉินฺทโต ผรสุมฺหิ อวหนฺเต ปุนปฺปุนํ นิสิตนิสิตํ กาเรตฺวา ฉินฺทนฺตสฺส ฉิชฺเช ผรสุ วิย กมฺมฏฺาเน มนสิกาโร วหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมึเยวา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ.
อตฺถโต จ อสมานตฺตาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ เยสุ อตฺเถสุ อชฺฌตฺต-สทฺโท วตฺตติ, เต สพฺเพ ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตตฺถนิทฺธารณตฺถํ อตฺถุทฺธารวเสเนตํ วุตฺตํ. จกฺขาทีสุ จ อชฺฌตฺติก-สทฺโท อชฺฌตฺตานํ อพฺภนฺตรตาวิเสสมุปาทาย ปวตฺตติ, ยโต เต อชฺฌตฺตอชฺฌตฺตาติ วุจฺจนฺติ. อปิจ ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานี’’ติ อิทํ อชฺฌตฺติก-สทฺทสฺส จกฺขาทีนํ อชฺฌตฺตภาววิภาวนสพฺภาวโต อิธ อุทาหรณวเสน วุตฺตํ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ อชฺฌตฺติกทุเก ‘‘อชฺฌตฺตาว อชฺฌตฺติกา’’ติ วุตฺตํ. เอวฺจ สติ น เอตฺถ สทฺทโต อสมานตาปิ สิยา, ตสฺมาเยว ¶ ยถาวุตฺตโจทนํ วิโสเธนฺโต ‘‘อยํ ปเนตฺถา’’ติอาทิมาห. เตนาติ ตสฺมา. ตํวาจกสฺสาติ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตวาจกสฺส สกฺกา วตฺตุํ ตทตฺถสฺส อชฺฌตฺตภาวสพฺภาวโต.
‘‘น โข, อานนฺท, ภิกฺขุ โสภติ สงฺคณิการาโม สงฺคณิการโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๑๘๖) ปพฺพชิตาสารุปฺปสฺส เนกฺขมฺมสุขาทินิกามลาภิตาย อภาวสฺส จ ทสฺสเนน สงฺคณิการามตาย, ‘‘นาหํ, อานนฺท, เอกํ รูปมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยตฺถ รตฺตสฺส ยถาภิรตสฺส รูปสฺส วิปริณามฺถาภาวา น อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริ…เป… อุปายาสา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๘๖) เอวํ รูปาทิรติยา จ อาทีนวํ วตฺวา สเจ โกจิ ทุปฺปฺชาติโก ปพฺพชิโต วเทยฺย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เขตฺเต ปวิฏฺา คาวิโย วิย อมฺเหเยว คณโต นีหรติ, เอกีภาเว นิโยเชติ, สยํ ปน ราชราชมหามตฺตาทีหิ ปริวุโต วิหรตี’’ติ, ตสฺส วจโนกาสุปจฺเฉทนตฺถํ จกฺกวาฬปริยนฺตาย ปริสาย มชฺเฌ นิสินฺโนปิ ตถาคโต เอกโกวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อยํ โข ปนา’’ติ เทสนา อารทฺธาติ อาห ‘‘ตปฺปฏิปกฺขวิหารทสฺสนตฺถ’’นฺติ. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สงฺขตนิมิตฺตานํ ¶ . อชฺฌตฺตนฺติ วิสยชฺฌตฺตํ. สฺุตนฺติ อนตฺตานุปสฺสนานุภาวนิพฺพตฺตผลสมาปตฺตึ. เตเนวาห ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ทุติเย วิกปฺเป าน-สทฺโท การณปริยาโย ทฏฺพฺโพ. สจฺจกสุตฺเตนาติ มหาสจฺจกสุตฺเตน. ตตฺถ หิ –
‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, อคฺคิเวสฺสน, อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสตา, อปิสฺสุ มํ เอกเมโก เอวํ มฺติ ‘มเมวารพฺภ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’ติ. น โข ปเนตํ, อคฺคิเวสฺสน, เอวํ ทฏฺพฺพํ. ยาวเทว วิฺาปนตฺถาย ตถาคโต ปเรสํ ธมฺมํ เทเสตีติ. โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสาเยว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ, เอโกทึ กโรมิ, สมาทหามิ ‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) –
อาคตนฺติ.
๒๒. อฺเหิ อนิทสฺสเนหิ อฺํ วิย กตฺวา ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ. ธมฺมสภาวสามฺเนาติอาทินา กิฺจาปิ รูปายตนโต อฺโ นิทสฺสนภาโว นาม นตฺถิ, ธมฺมสภาโว ¶ ปน อตฺถิ. ตโต จ รูปายตนสฺส วิเสโส นิทสฺสนภาเวน กโตติ ตทฺธมฺมวิเสสกโร นิทสฺสนภาโว รูปายตนโต อนฺโปิ อฺโ วิย กตฺวา อุปจริโตติ ทสฺเสติ. อตฺถวิเสโส สามฺวิเสสตฺถเภโท. สยํ สมฺปตฺตานํ โผฏฺพฺพธมฺมานํ, นิสฺสยวเสน สมฺปตฺตานํ ฆานชิวฺหากายานํ คนฺธรสานฺจ, อิตเรสํ อสมฺปตฺตานํ. อฺมฺปตนํ อฺมฺสฺส โยคฺยเทเส อวฏฺานํ, เยน ปฏิหนนภาเวน. พฺยาปาราทีติ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผารวเสน อกฺขิปฏลาทีนํ เหฏฺา อุปริ จ สํสีทนลงฺฆนาทิปฺปวตฺติมาห. วิการุปฺปตฺติ วิสทิสุปฺปตฺติ, วิสยสฺส อิฏฺานิฏฺภาเวน อนุคฺคโห อุปฆาโต จาติ อตฺโถ.
ติกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกมาติกาปทวณฺณนา
๑-๖. สมานเทสคฺคหณานํ ¶ เอกสฺมึเยว วตฺถุสฺมึ คเหตพฺพานํ, เอกวตฺถุวิสยานํ วา. อถ วา สมานเทสานํ เอกวตฺถุกตฺตา สมานคเหตพฺพภาวานํ เอกุปฺปาทิโตติ อตฺโถ. เย ธมฺมา เหตุสหคตา, เต เหตูหิ สห สงฺคยฺหนฺติ. โย จ เตสํ สเหตุกภาโว, โส สหชาตาทีหิ เหตูหิ กโตติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สมา…เป… สพฺภาว’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน เจตฺถ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนาทิเหตุพฺยาปาเร ปริคฺคณฺหาติ. เอกีภาวูปคมนนฺติ เอกกลาปภาเวน ปวตฺตมานานํ จิตฺตเจตสิกานํ สํสฏฺตาย สมูหฆนภาเวน ทุวิฺเยฺยนานากรณตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ธมฺมนานตฺตาภาเวปีติ สภาวตฺถเภทาภาเวปิ. ปทตฺถนานตฺเตนาติ นานาปทาภิเธยฺยตาเภเทน. เอเตน ปการนฺตราเปกฺขํ ทุกนฺตรวจนนฺติ ทสฺเสติ. อเนกปฺปการา หิ ธมฺมา. เตเนว ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) วุตฺตํ. อยฺจ อตฺโถ ติเกสุปิ ทฏฺพฺโพ. เยสํ วิเนยฺยานํ เยหิ ปการวิเสเสหิ ธมฺมานํ วิภาวเน กเต ปฏิเวโธ โหติ, เตสํ ตปฺปการเภเทหิ ธมฺมานํ วิภาวนํ. เยสํ ปน เยน เอเกเนว ปกาเรน วิภาวเน ปฏิเวโธ โหติ, เตสมฺปิ ตํ วตฺวา ธมฺมิสฺสรตฺตา ตทฺนิรวเสสปฺปการวิภาวนฺจ เทสนาวิลาโสติ อาห ‘‘เทเสตพฺพปฺปการชานน’’นฺติอาทิ. นนุ เอเกน ปกาเรน ชานนฺตสฺส ตทฺปฺปการวิภาวนํ อผลํ ¶ โหตีติ? น โหติ ปฏิสมฺภิทาปฺปเภทสฺส อุปนิสฺสยตฺตา. เต ปการา เอเตสนฺติ ตปฺปการา, ตพฺภาโว ตปฺปการตา. อิมินา ธมฺมานํ วิชฺชมานสฺเสว ปการวิเสสสฺส วิภาวนํ เทสนาวิลาโสติ ทสฺเสติ.
อฺตฺถาปีติ ‘‘อเหตุกา เจว ธมฺมา น จ เหตู’’ติอาทีสุ. ยถา ปมทุเกกเทเส คเหตฺวา ทุติยตติยทุเกหิ สทฺธึ ฉฏฺทุกนเย โยชนา ‘‘เหตู ธมฺมา สเหตุกาปิ อเหตุกาปี’’ติอาทโย ตโย ทุกา ลพฺภนฺติ, เอวํ ทุติยตติยทุเกกเทเส คเหตฺวา ปมทุเกน สทฺธึ โยชนาย ‘‘สเหตุกา ธมฺมา เหตูปิ น เหตูปิ, อเหตุกา ธมฺมา เหตูปิ น เหตูปิ, เหตุสมฺปยุตฺตา ธมฺมา เหตูปิ น เหตูปิ, เหตุวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา เหตูปิ น เหตูปี’’ติ จตฺตาโร ทุกา ¶ ลพฺภนฺติ, เต ปน วุตฺตนเยเนว สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ น ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา. อถ วา ปาฬิยํ วุตฺเตหิ จตุตฺถปฺจเมหิ อฏฺกถายํ ทสฺสิเตหิ ปุริเมหิ ทฺวีหิ นินฺนานากรณโต เอเต น วุตฺตา. สนฺนิเวสวิเสสมตฺตเมว เหตฺถ วิเสโสติ. เตเนว หิ นินฺนานตฺถตฺตา ปาฬิยํ อาคตทุเกสุ ยถานิทฺธาริตทุกานํ ยถาสมฺภวํ อวโรธเนน อวุตฺตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเตสุ ปนา’’ติอาทิมาห.
อถ วา ‘‘เอเตน วา คติทสฺสเนนา’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จา’’ติอาทีนํ สมฺภวนฺตานํ ทุกานํ สงฺคเห สติ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิยา. ยโต วา ทุกโต ปทํ นิทฺธาเรตฺวา ทุกนฺตรํ วุจฺจติ, เตน สติ จ นานตฺเต ทุกนฺตรํ ลพฺภติ, น เจตฺถ โกจิ วิเสโส ยถาวุตฺตทุเกหีติ สํวณฺณนาสุ น ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ยถา สเหตุกทุกโต เหตุสมฺปยุตฺตทุกสฺส, เหตุสเหตุกทุกโต จ เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุกสฺส ปทตฺถมตฺตโต นานตฺตํ, น สภาวตฺถโต. เอวํ สนฺเตปิ สเหตุกเหตุสเหตุกทุเก วตฺวา อิตเรปิ วุตฺตา, เอวํ เหตุสมฺปยุตฺตเหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุกาทีหิ สภาวตฺถนานตฺตาภาเวปิ ปทตฺถนานตฺตสมฺภวโต ธมฺมนานตฺตาภาเวปิ ปทตฺถนานตฺเตน ทุกนฺตรํ วุจฺจตีติ วุตฺตตฺตา ‘‘เหตุสหคตา ธมฺมา, น เหตุสหคตา ธมฺมา, เหตุสหชาตา ธมฺมา, น เหตุสหชาตา ธมฺมา. เหตุสํสฏฺา ธมฺมา, เหตุวิสํสฏฺา ธมฺมา. เหตุสมุฏฺานา ธมฺมา, น เหตุสมุฏฺานา ธมฺมา. เหตุสหภุโน ธมฺมา, น เหตุสหภุโน ธมฺมา’’ติอาทีนํ, ตถา ‘‘เหตู เจว ธมฺมา เหตุสหคตา จา’’ติอาทีนํ, ‘‘น เหตู โข ปน ธมฺมา เหตุสหคตาปิ, น เหตุสหคตาปี’’ติอาทีนฺจ สมฺภวนฺตานํ อเนเกสํ ทุกานํ สงฺคโห อนฺุาโต วิย ทิสฺสติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอเตน วา คติทสฺสเนนา’’ติอาทิ. เอวํ อาสวโคจฺฉกาทีสุปิ อยมตฺโถ ยถาสมฺภวํ วตฺตพฺโพ. ธมฺมานํ วา สภาวกิจฺจาทึ โพเธตพฺพาการฺจ ¶ ยาถาวโต ชานนฺเตน ธมฺมสามินา ยตฺตกา ทุกา วุตฺตา, ตตฺตเกสุ าตพฺพํ. อทฺธา หิ เต ทุกา น วตฺตพฺพา, เย ภควตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. น เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุโก ฉฏฺทุเกน นินฺนานตฺโถติ อธิปฺปาโย. เตสูติ ปมทุกตติยทุเกสุ. ยทิ ทุกนฺตเรหิ ทุกนฺตรปเทหิ จ สมานตฺถตฺตา เอเตสํ ทุกานํ ทุกนฺตรปทานฺจ อวจนํ ¶ , เอวํ สติ ฉฏฺทุเก ปมปทมฺปิ น วตฺตพฺพํ จตุตฺถทุเก ทุติยปเทน สมานตฺถตฺตา. ตถา จ ฉฏฺทุโกเยว น โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘จตุตฺถทุเก’’ติอาทิ. ทุกปูรณตฺถนฺติ อิทํ สมานตฺถตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ, เทสนาวิเสโส ปน วิชฺชติเยว. อตฺถนฺตรตาภาเวปิ ปการเภทเหตุกํ ทุกนฺตรวจนนฺติ ทสฺสิโต หิ อยมตฺโถติ. เอเตน คติทสฺสเนนาติ อตฺถวิเสสาภาเวปิ ฉฏฺทุกปูรณสงฺขาเตน นยทสฺสเนน. ปมทุเก…เป… ทสฺสิโต ปาฬิยํ วุตฺเตหิ จตุตฺถปฺจเมหิ, อฏฺกถายํ ทสฺสิเตหิ ปุริเมหิ ทฺวีหิ, อิธ ทสฺสิเตหิ จตูหิ. เตสูติ ทุติยตติยทุเกสุ. ปมทุกปกฺเขเปน ทสฺสิโต ปาฬิยํ ฉฏฺทุเกน อิตรตฺร จ อิตรทุเกหีติ เวทิตพฺพํ.
๗-๑๓. ปจฺจยภาวมตฺเตน…เป… อตฺถิตนฺติ เอเตน น ปฏิลทฺธตฺตตาสงฺขาตา สสภาวตาว อตฺถิตา, อถ โข ปฏิปกฺเขน อนิโรโธ อปฺปหีนตา อนิปฺผาทิตผลตา การณาสมุคฺฆาเตน ผลนิพฺพตฺตนารหตา จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตี’’ติ เอตฺถ ‘‘สตี’’ติ อิมินา วจเนน เยน วินา ยํ น โหติ, ตํ อตีตาทิปิ การณํ สงฺคหิตเมวาติ. เตเนวาห ‘‘น สเหตุ…เป… กาลานเมวา’’ติ. สเม…เป… ทีเปติ สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตนฺติ สงฺขตนฺติ. อยเมเตสํ วิเสโสติ อยํ ปจฺจยนิพฺพตฺตานํ ปจฺจยวนฺตตา อเนกปจฺจยนิปฺผาทิตตา จ ทุกทฺวเย ปุริมปทตฺถานํ เภโท, อิตเรสํ ปน ปุริมปทสงฺคหิตธมฺมวิธุรสภาวตายาติ. อวินิ…เป… ปนโตติ ‘‘เอตฺตกา’’ติ ปเภทปริจฺเฉทนิทฺธารณวเสน อภิธมฺมมาติกายํ ธมฺมานํ อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ. สุตฺตนฺตมาติกายํ ปน นิทฺธาริตสรูปสงฺขาวิเสสตฺตา วินิจฺฉิตตฺถปริจฺเฉทาเยว อวิชฺชาทโย วุตฺตาติ. ‘‘ปถวีอาทิ รูป’’นฺติ เอตสฺมึ อตฺถวิกปฺเป อเนกเหตุเกสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ เหตูนํ สเหตุกภาโว วิย สพฺเพสํ ปถวีอาทีนํ รูปิภาโว สิทฺโธติ อาห ‘‘ปุริม…เป… ปชฺชตี’’ติ. น หิ เตสุ นิยโต กตฺถจิ สํสามิภาโวติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย วา ลุชฺชติ ฉิชฺชติ วินสฺสตีติ คเหตพฺโพ โลโกติ ตํคหณรหิตานํ โลกุตฺตรานํ นตฺถิ โลกตา. เตเนวาติ ทุกฺขสจฺจภาเวน ปริฺเยฺยภาเวนาติ อตฺโถ.
ทุกพหุตา ¶ อาปชฺชตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ วีสติ ทุกา วิภตฺตา, ‘‘อวุตฺโตปิ ยถาลาภวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ จ วกฺขตีติ ทุกพหุตา ¶ อิจฺฉิตา เอวาติ? สจฺจเมตํ, ตํเยว ปน ทุกพหุตํ อนิจฺฉนฺโต เอวมาห. อปิจ ทุกพหุตา อาปชฺชติ, สา จ โข วิฺาณเภทานุสารินี, ตตฺราปิ กามาวจรกุสลโต าณสมฺปยุตฺตานิ, ตถา มหากิริยโต มโนทฺวาราวชฺชนนฺติ เอวํปการานํ สพฺพธมฺมารมฺมณวิฺาณานํ อนามสนโต น พฺยาปินีติ ทสฺเสติ ‘‘ทุกพหุตา’’ติอาทินา. อพฺยาปิภาเว ปน โทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา จ…เป… สิยา’’ติ อาห. นิทฺเทเสน จ วิรุทฺธนฺติ ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา’’ติอาทินา รูปายตนาทีนํ ปจฺเจกจกฺขุวิฺาณาทินา เกนจิ วิฺเยฺยตํ, โสตวิฺาณาทินา เกนจิ นวิฺเยฺยตฺจ ทสฺเสนฺเตน นิกฺเขปราสินิทฺเทเสน ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺตโต ทุโก โหตี’’ติ อิทํ วจนํ วิรุทฺธํ, ตถา อตฺถุทฺธารนิทฺเทเสนปิ อตฺถโต น สเมตีติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตสฺสํ นิกฺเขปราสิสํวณฺณนายํ. โย จ ปฏิเสโธ กโต อตฺถนานตฺตโต ทุกํ ทสฺเสตุนฺติ อธิปฺปาโย. น หิ สม…เป… เสเธตุนฺติ เอเตน ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา’’ติ เอตฺตเกสุ นิทฺเทสปเทสุ ทุกปททฺวยปฺปวตฺติ ปาฬิโต เอว วิฺายตีติ ทสฺเสติ.
ตเถวาติ อุภินฺนํ เกจิน-สทฺทานํ อนิยมโต จกฺขุโสตาทินิสฺสยโวหาเรน จกฺขุโสตวิฺาณาทิโก ภินฺนสภาโวเยว ธมฺโม อตฺโถติ ทสฺสนวเสน. รูปายตนเมว หิ จกฺขุโสตวิฺาเณหิ วิฺเยฺยาวิฺเยฺยภาวโต ‘‘เกนจิ วิฺเยฺยํ เกนจิ นวิฺเยฺย’’นฺติ จ วุจฺจตีติ. ยทิ เอวํ อิมสฺมิมฺปิ ปกฺเข ทุกพหุตา อาปชฺชตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘น เจตฺถา’’ติอาทิ. วิฺาตพฺพเภเทนาติ วิฺาตพฺพวิเสเสน, วิฺเยฺเยกเทเสนาติ อตฺโถ. ทุกเภโทติ ทุกวิเสโส, เกนจิ วิฺเยฺยทุโก, ตปฺปเภโทเยว วา. สมตฺโต ปริยตฺโต ปริปุณฺโณติ อตฺโถ. ยตฺตกา วิฺาตพฺพา ตตฺตกา ทุกาติ ทุกเภทาปชฺชนปฺปการทสฺสนํ. เอวฺจ สตีติอาทินา อิมิสฺสา สํวณฺณนาย ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ. ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา’’ติ รูปายตนสฺเสว วุตฺตตฺตา อตฺถเภทาภาวโต กถมยํ ทุโก โหตีติ อาห ‘‘วิฺาณนานตฺเตนา’’ติอาทิ. ยทิ ปน สพฺพวิฺาตพฺพสงฺคเห ทุโกสมตฺโต โหติ, นิกฺเขปราสินิทฺเทโส กถํ นียตีติ อาห ‘‘เอตสฺส ปนา’’ติอาทิ.
เอตฺถ ¶ ปน ยถา วิฺาณนานตฺเตน วิฺาตพฺพํ ภินฺทิตฺวา ทุเก วุจฺจมาเน สติปิ วิฺาตพฺพานํ ¶ พหุภาเว ยตฺตกา วิฺาตพฺพา, ตตฺตกา ทุกาติ นตฺถิ ทุกพหุตา ทุกสงฺคหิตธมฺเมกเทเสสุ ทุกปททฺวยปฺปวตฺติทสฺสนภาวโต. เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ ปทานํ อตฺถนานตฺเตน ทุเก วุจฺจมาเนปิ ยตฺตกานิ วิฺาณานิ, ตตฺตกา ทุกาติ นตฺถิ ทุกพหุตา ทุกสงฺค…เป… ภาวโต เอว. น หิ เอกํเยว วิฺาณํ ‘‘เกนจิ เกนจี’’ติ วุตฺตํ, กินฺตุ อปรมฺปีติ สพฺพวิฺาณสงฺคเห ทุโก สมตฺโต โหติ, น จ กตฺถจิ ทุกสฺส ปจฺเฉโท อตฺถิ อินฺทฺริยวิฺาณานํ วิย มโนวิฺาณสฺสปิ วิสยสฺส ภินฺนตฺตา. น หิ อตีตารมฺมณํ วิฺาณํ อนาคตาทิอารมฺมณํ โหติ, อนาคตารมฺมณํ วา อตีตาทิอารมฺมณํ, ตสฺมา ยถาลทฺธวิเสเสน วิสิฏฺเสุ มโนวิฺาณเภเทสุ ตสฺส ตสฺส วิสยสฺส อาลมฺพนานาลมฺพนวเสน ทุกปททฺวยปฺปวตฺติ น สกฺกา นิวาเรตุํ. เตเนว จ อฏฺกถายํ ‘‘มโนวิฺาเณน ปน เกนจิ วิฺเยฺยฺเจว อวิฺเยฺยฺจาติ อยมตฺโถ อตฺถิ, ตสฺมา โส อวุตฺโตปิ ยถาลาภวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ ภูมิเภทวเสน ยถาลาภํ ทสฺเสสฺสติ. ‘‘ววตฺถานาภาวโต’’ติ อิทมฺปิ อนามฏฺวิเสสํ มโนวิฺาณสามฺเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. ปาฬิ ปน อินฺทฺริยวิฺาเณหิ นยทสฺสนวเสน อาคตาติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อิมิสฺสาปิ อตฺถวณฺณนาย ‘‘เกนจี’’ติ ปทํ อนิยเมน สพฺพวิฺาณสงฺคาหกนฺติ สิทฺธํ โหติ, นิทฺเทเสน จ น โกจิ วิโรโธ. จกฺขุวิฺเยฺยนโสตวิฺเยฺยภาเวหิ ทุกปททฺวยปฺปวตฺติ ทสฺสิตา, น ปน จกฺขุวิฺเยฺยาจกฺขุวิฺเยฺยภาเวหิ วิเสสการณาภาวโต. กิฺจ ‘‘เย วา ปนา’’ติ ปทนฺตรสมฺปิณฺฑนโตปิ ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา…เป… น เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๐๑) เอตฺตาวตา ทุกปททฺวยปฺปวตฺติ ทสฺสิตาติ วิฺายติ. ปทนฺตรภาวทสฺสนตฺโถ หิ เยวาปน-สทฺโท ยถา ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต กุสลมูลา. เย วา ปน กุสลมูลา, สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลา’’ติอาทีสุ (ยม. ๑.มูลยมก.๑). อฺถา ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา. เย เต ธมฺมา โสตวิฺเยฺยา, น เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา’’ติ ปาฬิ อภวิสฺส. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘เย เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยา…เป… น เต ธมฺมา จกฺขุวิฺเยฺยาติ อิมินา อตฺถโต ทฺเว ¶ ทุกา วุตฺตา โหนฺตี’’ติ, ตทปิ จกฺขุวิฺเยฺยาจกฺขุวิฺเยฺยตํ โสตวิฺเยฺยาโสตวิฺเยฺยตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยนโสตวิฺเยฺยตํ โสตวิฺเยฺยนจกฺขุวิฺเยฺยตฺจา’’ติ ทฏฺพฺพํ. เอเตน ปาฬิปฏิเสธนฺจ นิวาริตํ ทฏฺพฺพํ ปฏิเสธนสฺเสว อภาวโต. ตถา ยสฺส อารมฺมณสฺส วิชานนภาเวน โย อตฺโถ วุจฺจมาโน อนิยมทสฺสนตฺถํ ‘‘เกนจี’’ติ วุตฺโต, โสเยว ตโต อฺสฺส อวิชานนภาเวน วุจฺจมาโน อนิยมทสฺสนตฺถํ ปุน ‘‘เกนจี’’ติ วุตฺโตติ ¶ ตทตฺถทสฺสเน เตเนวาติ อยํ ปทตฺโถ น สมฺภวตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. เอวเมตฺถ ยถา อฏฺกถา อวฏฺิตา, ตถา อตฺโถ ยุชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
๑๔-๑๙. สนฺตานสฺส อชฺมลีนภาวกรณโต กณฺหกมฺมวิปากเหตุโต จ อปริสุทฺธตฺตา ‘‘อสุจิภาเวน สนฺทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ วเณ. ปคฺฆรณก…เป… สทฺโทติ เอเตน อาสโว วิย อาสโวติ อยมฺปิ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ. โคตฺรภุ…เป… วุตฺตานีติ เอเตน โคตฺรภุคฺคหณํ อุปลกฺขณํ ยถา ‘‘กาเกหิ สปฺปิ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ ทสฺเสติ. โคตฺรภุสทิสา โคตฺรภูติ ปน อตฺเถ สติ คุณปฺปธานตฺถานํ เอเกน สทฺเทน อวจนียตฺตา โวทานาทโยว วุตฺตา ภเวยฺยุํ. อถ วา โคตฺรภูติ เอกเสเสน สามฺเน วา อยํ นิทฺเทโสติ เวทิตพฺพํ. อภิวิธิวิสยํ อวธินฺติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา วตฺตพฺพํ.
สมฺปยุตฺเตหิ อาสเวหิ ตํสหิตตา อาสวสหิตตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา สเหตุกานํ สมฺปยุตฺเตหิ เหตูหิ สเหตุกตา, น เอวํ สาสวาติ วุตฺตธมฺมานํ สมฺปยุตฺเตหิ อาสเวหิ สาสวตา, อถ โข วิปฺปยุตฺเตหีติ. ทุกนฺตเร อวุตฺตปทภาโวเยเวตฺถ ทุกโยชนาย ายาคตตา. ยทิ เอวํ เหตุโคจฺฉเก กถนฺติ อาห ‘‘เหตุโคจฺฉเก ปนา’’ติอาทิ. ปเม ทุเก ทุติยสฺส ปกฺเขเป เอโกติ จตุตฺถทุกมาห. ปเม ทุเก ตติยสฺส ปกฺเขเป ทฺเวติ ‘‘อาสวา เจว ธมฺมา อาสววิปฺปยุตฺตา จ, อาสววิปฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ อาสวา’’ติ อิมินา สทฺธึ ปฺจมทุกมาห. ปมสฺส ทุติเย ทุเก ปกฺเขเป เอโกติ ‘‘โน อาสวา ธมฺมา สาสวาปิ อนาสวาปี’’ติ อยเมโก. ตติเย ปมสฺส ปกฺเขเป ทฺเวติ ‘‘อาสวา ธมฺมา อาสวสมฺปยุตฺตาปิ ¶ อาสววิปฺปยุตฺตาปิ, โน อาสวาธมฺมา อาสวสมฺปยุตฺตาปิ อาสววิปฺปยุตฺตาปี’’ติ อิเม ทฺเว. ตติเย ทุติยสฺส ปกฺเขเป เอโกติ ‘‘สาสวา ธมฺมา อาสวสมฺปยุตฺตาปิ อาสววิปฺปยุตฺตาปี’’ติ เอโก. ทุติเย ตติยสฺส ปกฺเขเป เอโกติ ฉฏฺทุกมาห. ตีหีติ จตุตฺถปฺจมฉฏฺเหิ. อิตเรติ ตทวสิฏฺา ปฺจ. เต ปน ปเม ตติยทุกทุติยปทปกฺเขเป เอโก, ทุติเย ปมทุกทุติยปทปกฺเขเป เอโก, ตติเย ปมสฺส เอเกกปทปกฺเขเป ทฺเว, ตติเย ทุติยทุกปมปทปกฺเขเป เอโกติ เอวํ เวทิตพฺพา. ‘‘สาสวา ธมฺมา อาสวาปิ โน อาสวาปิ. อาสวสมฺปยุตฺตา ธมฺมา อาสวาปิ โน อาสวาปิ. อาสววิปฺปยุตฺตา ธมฺมา อาสวาปิ โน อาสวาปี’’ติ เอเตสมฺปิ, ‘‘อาสวสหคตา ธมฺมา โน อาสวสหคตา ธมฺมา’’ติ เอวมาทีนฺจ อคฺคหเณ การณํ คหณนโย จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
เอส ¶ นโยติ โย เอส ปมทุเก ทุติยทุกปกฺเขปาทิโก อุปาโย อิธ อาสวโคจฺฉเก วุตฺโต, เอส นโย สํโยชนโคจฺฉกาทีสุ ทุกนฺตรนิทฺธารเณติ อตฺโถ. ตตฺถ ปาฬิยํ อนาคตทุกา สํโยชนโคจฺฉเก ตาว ‘‘สํโยชนา เจว ธมฺมา สํโยชนวิปฺปยุตฺตา จ, สํโยชนวิปฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ สํโยชนา, สํโยชนา ธมฺมา สํโยชนสมฺปยุตฺตาปิ สํโยชนวิปฺปยุตฺตาปิ, โน สํโยชนา ธมฺมา สํโยชนสมฺปยุตฺตาปิ สํโยชนวิปฺปยุตฺตาปิ, โน สํโยชนา ธมฺมา สํโยชนิยาปิ อสํโยชนิยาปิ, สํโยชนิยา ธมฺมา สํโยชนสมฺปยุตฺตาปิ สํโยชนวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ ปฺจ. เอวํ คนฺถโอฆโยคอุปาทานโคจฺฉเกสุ ปจฺเจกํ ปฺจ. นีวรณโคจฺฉเก ปน นีวรณานํ นีวรณวิปฺปยุตฺตภาวาภาวโต ‘‘โน นีวรณา ธมฺมา นีวรณิยาปิ อนีวรณิยาปิ, โน นีวรณา ธมฺมา นีวรณสมฺปยุตฺตาปิ นีวรณวิปฺปยุตฺตาปิ, นีวรณิยา ธมฺมา นีวรณสมฺปยุตฺตาปิ นีวรณวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ ตโย. ตถา ปรามาสโคจฺฉเก ‘‘โน ปรามาสา ธมฺมา ปรามฏฺาปิ อปรามฏฺาปิ, โน ปรามาสา ธมฺมา ปรามาสสมฺปยุตฺตาปิ ปรามาสวิปฺปยุตฺตาปิ, ปรามฏฺา ธมฺมา ปรามาสสมฺปยุตฺตาปิ ปรามาสวิปฺปยุตฺตาปี’’ติ. กิเลสโคจฺฉเก ‘‘โน กิเลสา ธมฺมา สํกิเลสิกาปิ อสํกิเลสิกาปิ, โน กิเลสา ธมฺมา สํกิลิฏฺาปิ อสํกิลิฏฺาปิ, โน กิเลสา ธมฺมา กิเลสสมฺปยุตฺตาปิ กิเลสวิปฺปยุตฺตาปิ, สํกิเลสิกา ธมฺมา ¶ สํกิลิฏฺาปิ อสํกิลิฏฺาปิ, สํกิเลสิกา ธมฺมา กิเลสสมฺปยุตฺตาปิ กิเลสวิปฺปยุตฺตาปิ, อสํกิลิฏฺา ธมฺมา สํกิเลสิกาปิ อสํกิเลสิกาปี’’ติ ฉ ทุกาติ เอวํ เวทิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๒๐-๒๕. ปจฺจยภาเวนาติ สํโยชนตฺถํ ทสฺเสติ. ยถาสกํ ปจฺจยภาโว เอว หิ กามราคาทีนํ วฏฺฏสํโยชนนฺติ. ยทิ เอวํ กถํ กามราคาทีนํเยว สํโยชนภาโวติ อาห ‘‘สติปี’’ติอาทิ. อฺเสนฺติ สํโยชเนหิ อฺเสํ กิเลสาภิสงฺขาราทีนํ. ตปฺปจฺจยภาเวติ เตสํ กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏานํ ปจฺจยภาเว. โอรมฺภาคิยุทฺธํภาคิยภาเวน สงฺคหิตา ปริจฺฉินฺนา โอร…เป… สงฺคหิตา, เตหิ กามราคาทีหิ วิเสสปจฺจยภูเตหิ. กามกมฺมภวาทีนํ กามูปปตฺติภวาทินิปฺผาทเนปิ นิยโมติ กตฺวา อาห ‘‘ตํตํ…เป… โหตี’’ติ. เตน สํโยชนานํ ภาเว ยถาวุตฺตนิยมานํ กมฺมูปปตฺติภวานํ ภาวํ ทสฺเสตฺวา ตทภาเว อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จา’’ติอาทิมาห. พนฺธนํ อเสริภาวกรณํ อนฺทุพนฺธนาทโย วิย. คนฺถกรณํ อวจฺฉินฺนตากรณํ. จกฺกลกํ ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลํ. น โจเทตพฺพนฺติ ปฺาจกฺขุนา ปจุรชนสฺส ปสฺสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ยถาวุตฺตวิเสสสฺส สทฺเธยฺยตํ อาห. ติวิโธ หิ อตฺโถ โกจิ ¶ ปจฺจกฺขสิทฺโธ โย รูปาทิธมฺมานํ ปจฺจตฺตเวทนีโย อนิทฺทิสิตพฺพากาโร, สพฺพธมฺมานํ สภาวลกฺขณนฺติ วุตฺตํ โหติ. โกจิ อนุมานสิทฺโธ โย ฆฏาทีสุ ปฏาทีสุ จ ปสิทฺเธน ปจฺจยายตฺตภาเวน ฆฏปฏ-สทฺทาทีนํ อนิจฺจตาทิอากาโร, โกจิ โอกปฺปนสิทฺโธ โย ปจุรชนสฺส อจฺจนฺตมทิฏฺโ สทฺธาวิสโย สคฺคนิพฺพานาทิ. ตตฺถ ยสฺส สตฺถุโน วจนํ ปจฺจกฺขสิทฺเธ อนุมานสิทฺเธ จ อตฺเถ น วิสํวาเทติ อวิปรีตปฺปวตฺติยา, ตสฺส วจเนน สทฺเธยฺยตฺถสิทฺธีติ ตถารูโป จ ภควาติ ‘‘ธมฺมานํ สภาว…เป… น โจเทตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ.
๒๖-๓๗. ยถา สรเภหิ อติกฺกมิตพฺพา ปพฺพตราชิ สรภนิยา, เอวํ โอฆนิยาติ สทฺทสิทฺธีติ อาห ‘‘เตนา’’ติอาทิ.
๕๐-๕๔. วิปริเยสคฺคาโห ปรามสนนฺติ ‘‘ปรโต’’ติ เอตฺถ น ธมฺมสภาวโต อฺถามตฺตํ ปรนฺติ อธิปฺเปตํ, อถ โข ตพฺพิปริยาโยติ อาห ‘‘ปรโตติ นิจฺจาทิโต’’ติ.
๕๕-๖๘. ยทิ ¶ สภาวโต อวิชฺชมานํ, กถมารมฺมณภาโวติ อาห ‘‘วิจิตฺตสฺาย สฺิต’’นฺติ, ปริกปฺปนามตฺตสิทฺธนฺติ อตฺโถ. ทุวิฺเยฺยนานตฺตตาย นิรนฺตรภาวูปคมนํ สํสฏฺภาโวติ ‘‘สุวิฺเยฺยนานตฺตตฺตา น สํสฏฺตา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ อรูปกฺขนฺธานํ. อิตเรหิ รูปนิพฺพาเนหิ. กึ ปน การณํ สมานุปฺปาทนิโรธานํ เอกกลาปภูตานํ อรูปธมฺมานเมว อฺมฺํ สํสฏฺตา วุจฺจติ, น ปน ตถาภูตานมฺปิ รูปธมฺมานนฺติ อาห ‘‘เอส หิ เตสํ สภาโว’’ติ. เตน ยทิปิ เกจิ อรูปธมฺมา วิสุํ อารมฺมณํ โหนฺติ, ทนฺธปฺปวตฺติกตฺตา ปน รูปธมฺมานํเยว สุวิฺเยฺยนานตฺตํ, น อรูปธมฺมานนฺติ เตสํ สํสฏฺภาโว ตทภาโว จ อิตเรสํ สภาวสิทฺโธติ ทสฺเสติ. สมูหฆนตาย วา ทุพฺพิภาคตรตฺตา นตฺถิ อรูปธมฺมานํ วิสุํ อารมฺมณภาโวติ ทุวิฺเยฺยนานตฺตตฺตา เตสํเยว สํสฏฺตา. อมฺุจิตฺวา ตทธีนวุตฺติตาย คเหตพฺพโต พุทฺธิยา.
๘๓-๑๐๐. กามตณฺหา กาโม อุตฺตรปทโลเปน ยถา รูปภโว รูปํ. เอวํ เสเสสุปิ. อารมฺมณกรณวเสนาติ เอเตน กามรูปารูปตณฺหานํ วิสยภาโว ยถากฺกมํ กามรูปารูปาวจรตาย การณนฺติ ทสฺเสติ. อวสฺสฺเจตเมวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา กามาวจราทิภาโว ¶ อปริปุณฺณวิสโย สิยา. ยทิ หิ อาลมฺพิตพฺพธมฺมวเสน ภูมิปริจฺเฉโท, เอวํ สติ อนารมฺมณานํ สงฺคโห น สิยา. อถ วิปากทานวเสน, เอวมฺปิ อวิปากานํ สงฺคโห น สิยา, ตสฺมา อารมฺมณกรณวเสน ปริยาปนฺนานํ ภูมิปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. เอวฺหิ สติ กามาวจราทิภาโว ปริปุณฺณวิสโย สิยา. เตเนวาห ‘‘เอวฺหิ สตี’’ติอาทิ. อปริยาปนฺนานํ ปน โลกโต อุตฺติณฺณภาเวน อนุตฺตรภูมิตา. อกามาวจราทิตา นาปชฺชตีติ อพฺยาปิตโทสํ ปริหรติ, กามาวจราทิตา นาปชฺชตีติ อติพฺยาปิตโทสํ. นนุ จ อิมสฺมึ ปกฺเข กามตณฺหา กตมา, กามาวจรธมฺมารมฺมณา ตณฺหา, กามาวจรธมฺมา กตเม, กามตณฺหาวิสยาติ อิตรีตรนิสฺสยตา โทโสติ? น, อวีจิอาทิเอกาทโสกาสนินฺนตาย กิฺจิ ตณฺหํ กามตณฺหาภาเวน คเหตฺวา ตํสภาวาย วิสยภาเวน กามาวจรธมฺมานํ อุปลกฺเขตพฺพตฺตา.
อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาเน สมตฺเถนฺโต ‘‘นิกฺเขปกณฺเฑปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ หิ กามตณฺหาย อาลมฺพิตพฺพตฺตา กามธาตุปริยาปนฺนธมฺมา จ กามภวสงฺขาเต ¶ กาเม โอคาฬฺหา หุตฺวา จรนฺติ, นาฺตฺถาติ เอตฺถาวจราติ วุตฺตนฺติ. วิเสสตฺถินา วิเสโส อนุปยุชฺชตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โลกสฺส วเสน ปริยาปนฺนนิจฺฉยโต’’ติ. เตน โลกิยธมฺเมสุ ปริยาปนฺน-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตํ ทสฺเสติ ภควโต ตทุจฺจารณานนฺตรํ วิเนยฺยานํ ตทตฺถปฏิปตฺติโต. ปริจฺเฉทกาเปกฺขา ปริจฺฉินฺนตาติ ‘‘ปริจฺเฉทการิกาย ตณฺหายา’’ติ วุตฺตํ. สา หิ ธมฺมานํ กามาวจราทิภาวํ ปริจฺฉินฺทติ. ปริ-สทฺโท เจตฺถ ‘‘อุปาทินฺนา’’ติอาทีสุ อุป-สทฺโท วิย สสาธนํ กิริยํ ทีเปตีติ อยมตฺโถ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.
นิยฺยานกรณสีลา นิยฺยานิกา ยถา ‘‘อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโก’’ติ, นิยฺยานสีลา เอว วา. ราคโทสโมหาว คหิตาติ ายติ, อิตรถา ปหาเนกฏฺตาวจนํ นิปฺปโยชนํ สิยา. ‘‘รโณหตา น โชตนฺติ, จนฺทสูริยา สตารกา’’ติอาทีสุ รณ-สทฺทสฺส เรณุปริยายตา ทฏฺพฺพา. สมฺปหารปริยายตฺตา ยุทฺธ-สทฺทสฺส สมฺปหาโร จ ปหริตพฺพาธาโรติ อกุสลเสนาว ‘‘สรณา’’ติ วุตฺตา. ทุกฺขาทีนนฺติ ผลภูตานํ ทุกฺขวิฆาตอุปายาสปริฬาหานํ สภาคภูตาย จ มิจฺฉาปฏิปทาย. ตนฺนิพฺพตฺตกสภาวานํ อกุสลานนฺติ เอเตน สพฺเพสมฺปิ อกุสลานํ สรณตํ ทสฺเสติ.
อภิธมฺมทุกมาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุตฺตนฺติกทุกมาติกาปทวณฺณนา
๑๐๑-๑๐๘. วิชฺชาสภาคตาย ¶ , น สงฺกปฺปาทโย วิย วิชฺชาย อุปการกภาวโต. ‘‘อเภชฺชํ…เป… รุหตี’’ติ อุภยมฺปิ อนวเสสปฺปหานเมว สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจาปิ หิ เหฏฺิมมคฺเคหิปิ ปหียมานา กิเลสา เตน เตน โอธินา อนวเสสเมว ปหียนฺติ, เย ปน อวสิฏฺา ภินฺทิตพฺพา, เต โลภาทิกิเลสภาวสามฺโต ปุน วิรุฬฺหา วิย โหนฺติ. อรหตฺตมคฺเค ปน อุปฺปนฺเน น เอวํ อวสิฏฺาภาวโต. ตทุปจาเรน นิสฺสยโวหาเรน. กุสเลหิ ตาเปตพฺพาติ วา ตปนิยา, ตทงฺคาทิวเสน พาธิตพฺพา ปหาตพฺพาติ อตฺโถ. สมานตฺถานิ อธิวจนาทีนํ สงฺขาทิภาวโต. ‘‘สพฺเพว ธมฺมา อธิวจนปถา’’ติอาทินา อธิวจนาทีนํ วิสยภาเว น โกจิ ธมฺโม วชฺชิโต, วจนภาโว เอว จ ¶ อธิวจนาทีนํ วกฺขมาเนน นเยน ยุชฺชตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘สพฺพฺจ วจนํ อธิวจนาทิภาวํ ภชตี’’ติ.
๑๐๙-๑๑๘. อฺํ อนเปกฺขิตฺวา สยเมว อตฺตโน นามกรณสภาโว นามกรณฏฺโติ, เตน อรูปธมฺมานํ วิย โอปปาติกนามตาย ปถวีอาทีนมฺปิ นามภาโว สิยาติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ ‘‘นามนฺตรานาปชฺชนโต’’ติ อาห. น หิ วินา ปถวีอาทินาเมนปิ รูปธมฺมา วิย เกสาทินาเมหิ วินา เวทนาทินาเมหิ อฺเน นาเมน อรูปธมฺมา ปิณฺฑาการโต โวหรียนฺตีติ. ยํ ปน ปรสฺส นามํ กโรติ, ตสฺส อฺาเปกฺขํ นามกรณนฺติ นามกรณสภาวตา นตฺถีติ สามฺนามาทิกรณานํ นามภาโว นาปชฺชติ. ยสฺส จฺเหิ นามํ กรียติ, ตสฺส นามกรณสภาวตาย อภาโวเยวาติ นตฺถิ นามภาโว. เย ปน อนาปนฺนนามนฺตรา สภาวสิทฺธนามา จ, เต เวทนาทโยว นามํ นามาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺตนาวา’’ติอาทิมาห. ผสฺสาทีนํ อารมฺมณาภิมุขตา ตํ อคฺคเหตฺวา อปฺปวตฺติเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวินาภาวโต’’ติ วุตฺตํ. อธิวจนสมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส, โส นามมนฺตเรน คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ปากโฏติ นิทสฺสนภาเวน วุตฺโต. รุปฺปนสภาเวนาติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ปกาสกปกาสิตพฺพภาเวนปิ หิ วินาปิ นาเมน รูปธมฺมา ปากฏา โหนฺตีติ. อถ วา ปกาสกปกาสิตพฺพภาโว วิสยิวิสยภาโว จกฺขุรูปาทีนํ สภาโว, โส รุปฺปนสภาเว สามฺเ อนฺโตคโธติ ทฏฺพฺพํ.
๑๑๙-๑๒๓. อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมนฺติอาทินา สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา วิย สมาปตฺติกุสลตาปิ ¶ ฌานลาภีนํเยว โหตีติ วุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. ‘‘อิตเรสมฺปิ อนุสฺสววเสน สมาปตฺตีนํ อปฺปนาปริจฺเฉทปฺา ลพฺภตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘เอวํ สีลวิโสธนาทินา สมาปตฺตึ อปฺเปตีติ ชานนกปฺา สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทชานนกปฺา’’ติ เกจิ. วุฏฺาเน กุสลภาโว วุฏฺานวสิตา. ปุพฺเพติ สมาปชฺชนโต ปุพฺเพ.
๑๒๔-๑๓๔. โสภเน รโต สุรโต, ตสฺส ภาโว โสรจฺจนฺติ อาห ‘‘โสภนกมฺมรตตา’’ติ. สุฏฺุ วา โอรโต วิรโต โสรโต ¶ , ตสฺส ภาโว โสรจฺจนฺติ. อยํ ปนตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺโต เอว. อปฺปฏิสงฺขานํ โมโห. กุสลภาวนา โพธิปกฺขิยธมฺมานํ วฑฺฒนา. สฺาณํ อุปลกฺขณํ. สวิคฺคหํ สพิมฺพกํ. อุปลกฺเขตพฺพาการํ ธมฺมชาตํ, อารมฺมณํ วา. อวิกฺเขโปติ จิตฺตวิกฺเขปปฏิปกฺโข. อุชุวิปจฺจนีกตาย หิ ปหานวุฏฺาเนน จ อวิกฺเขโป วิกฺเขปํ ปฏิกฺขิปติ, ปวตฺติตุํ น เทตีติ.
๑๓๕-๑๔๒. การณสีลํ โลกิยํ. ผลสีลํ โลกุตฺตรํ เตน สิชฺฌตีติ กตฺวา, โลกิยสฺสปิ วา สีลสฺส การณผลภาโว ปุพฺพาปรภาเวน ทฏฺพฺโพ. สมฺปนฺนสมุทายสฺส ปริปุณฺณสมูหสฺส. อกุสลา สีลา อกุสลา สมาจารา. สีลสมฺปทา สีลสมฺปตฺติ สีลคุณาติ อตฺโถ. สโหตฺตปฺปํ าณนฺติ โอตฺตปฺปสฺส าณปฺปธานตํ อาห, น ปน าณสฺส โอตฺตปฺปสหิตตามตฺตํ. น หิ โอตฺตปฺปรหิตํ าณํ อตฺถีติ. อธิมุตฺตตา อภิรติวเสน นิราสงฺกาปวตฺติ. นิสฺสฏตา วิสํยุตฺตตา. เอตฺถ จ อธิมุตฺตตานิสฺสฏตาวจเนหิ ตทุภยปริยายา ทฺเว วิมุตฺติโย เอกเสสนเยน อิธ ‘‘วิมุตฺตี’’ติ วุตฺตาติ ทสฺเสติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ นิพฺพานฺจา’’ติ. อุปฺปชฺชติ เอเตนาติ อุปฺปาโท, น อุปฺปาโทติ อนุปฺปาโท, ตพฺภูเต อนุปฺปาทปริโยสาเน วิโมกฺขนฺเต อนุปฺปาทสฺส อริยมคฺคสฺส กิเลสานํ วา อนุปฺปชฺชนสฺส ปริโยสาเนติ านผเลหิ อริยผลเมว อุปลกฺขียตีติ ทฏฺพฺพํ.
มาติกาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
กามาวจรกุสลปทภาชนียวณฺณนา
๑. อปฺเปตุนฺติ ¶ นิคเมตุํ. ‘‘ปทภาชนียํ น วุตฺต’’นฺติ ปทภาชนียาวจเนน อปฺปนาวโรธํ สาเธตฺวา ปทภาชนียาวจนสฺส การณํ วทนฺโต ‘‘สรูเปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทีสุ โหติ-สทฺโท อตฺถิ-สทฺเทน อนานตฺโถติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘ทุติเยน โหติ-สทฺเทนา’’ติ. ปุพฺเพ อฏฺกถาธิปฺปาเยน วตฺวา ยถาวุตฺตสฺส ปาฬิปฺปเทสสฺส อปฺปนาวโรโธ สมตฺถิโตติ อตฺตโน อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺเขเปนา’’ติอาทิมาห.
าตุํ ¶ อิจฺฉิโตติ ลกฺขณสฺส ปุจฺฉาวิสยตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เยน เกนจีติ ทสฺสนาทิวิเสสยุตฺเตน, อิตเรน วา. อวตฺถาวิเสโส หิ าณสฺส ทสฺสนตุลนตีรณานิ. ‘‘อทิฏฺต’’นฺติอาทีสุ อาหาติ โยเชตพฺพํ, สพฺพตฺถ จ ลกฺขณสฺสาติ. ตฺเหตฺถ อธิกตนฺติ. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ เอเตน ทิฏฺํ สํสนฺทติ เอตายาติ ทิฏฺสํสนฺทนา. วิมตึ ฉินฺทติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนาติ เอตาสมฺปิ สทฺทตฺโถ นยโต ทสฺสิโต, อตฺถโต ปน สพฺพาปิ ตถาปวตฺตํ วจนํ, ตทุปฺปาทโก วา จิตฺตุปฺปาโทติ เวทิตพฺพํ.
อฺมฺโต ปภิชฺชตีติ ปเภโท, วิเสโส, เตน ปเภเทน. ธมฺมานํ เทสนนฺติ กิฺจาปิ สมยภูมิชาติอารมฺมณสภาวาทิวเสน อนวเสสปฺปเภทปริคฺคหโต นิทฺเทสเทสนาว วตฺตุํ ยุตฺตา, ตถาปิ กุสลาทิมาติกาปทสงฺคหิตวิเสโสเยว อิธ ปเภโทติ อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ปเภท…เป… เทสนํ อาหา’’ติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘กุสล…เป… ทีเปตฺวาติ ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ธมฺมุทฺเทสวาร ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา). ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทินา จ ปเภทวนฺโตว สาติสยํ นิทฺทิฏฺา, น ปน มาติกายํ วุตฺตปฺปเภโทติ ปเภทวนฺตทสฺสนํ นิทฺเทโส. อิทํ วุตฺตํ โหตีติอาทินา ‘‘ปเภเท…เป… ทสฺสนตฺถ’’นฺติ อิมสฺส วากฺยสฺส ปิณฺฑตฺถมาห. ยทิ ธมฺมา เอว ปุจฺฉิตพฺพา วิสฺสชฺเชตพฺพา จ, กสฺมา กุสลาติ ปเภทวจนนฺติ อาห ‘‘เต ปนา’’ติอาทิ. น หิ ปเภเทหิ วินา ปเภทวนฺโต อตฺถีติ. ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ เอเตน ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติ, ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติ จ อาทินา อุทฺทิฏฺนิทฺทิฏฺานํ ธมฺมานํ กุสลภาโว วิสฺสชฺชิโต โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลาติ วิสฺสชฺชเนปี’’ติ อาห. อิมสฺมิฺหีติ หิ-สทฺโท การณตฺโถ. เตน ยสฺมา ธมฺมาว เทเสตพฺพา, เต จ กุสลา…เป… เภทา เทเสตพฺพา ¶ , ตสฺมาติ เอวํ วา โยชนา. ธมฺมานเมวาติ อวธารณผลํ ทสฺเสติ ‘‘อโวหารเทสนาโต’’ติ. อตฺถานฺจาติ จ-สทฺเทน ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติ เอวมาทิสภาวนิรุตฺตึ ยถาวุตฺตธมฺมาทิาณฺจ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อิติ เอวํ อยํ ปวตฺเตตพฺโพ นิวตฺเตตพฺโพ จา’’ติ ตถา ตถา วิเธตพฺพภาโว อิติกตฺตพฺพตา, ตาย ยุตฺโต อิติ…เป… ยุตฺโต ¶ , ตสฺส วิเธตพฺพสฺสาติ อตฺโถ, วิเสสนตฺตา ปเภทสฺสาติ อธิปฺปาโย.
อิติกตฺตพฺพตายุตฺตสฺส วิเสสิตพฺพตฺตา อุทฺเทโส ธมฺมปฺปธาโน, ตสฺมา ตตฺถ ธมฺมสฺส วิเสสิตพฺพตฺตา ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ อยํ ปทานุกฺกโม กโต. ปุจฺฉา สํสยิตปฺปธานา อนิจฺฉิตนิจฺฉยนาย ปวตฺเตตพฺพตฺตา. เตน สพฺพธมฺเมสุ สมุคฺฆาฏิตวิจิกิจฺฉานุสยานมฺปิ ปุจฺฉา เทเสตพฺพปุคฺคลคตสํสยาปตฺตึ อตฺตนิ อาโรเปตฺวา สํสยาปนฺเนหิ วิย ปวตฺตียตีติ ทสฺเสติ. กามาวจราทิเภโท วิย กุสลาทิภาเวน กุสลาทิเภโท ธมฺมภาเวน นิยโตติ ธมฺมาติ วุตฺเต นิจฺฉยาภาวโต ‘‘กุสลา นุ โข อกุสลา นุ โข’’ติอาทินา สํสโย โหตีติ อาห ‘‘กุสลาทิเภโท ปน สํสยิโต’’ติ. ธมฺมภาโว ปน กุสลาทีสุ เอกนฺติกตฺตา นิจฺฉิโตเยวาติ วุตฺตํ ‘‘น จ ธมฺมภาโว สํสยิโต’’ติ. เตน สํสยิโต นิจฺเฉตพฺพภาเวน ปธาโน เอตฺถ กุสลภาโว, น ตถา ธมฺมภาโวติ ธมฺมา กุสลาติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
จิตฺตุปฺปาทสมเยติ จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนสมเย. ‘‘อถ วิชฺชมาเน’’ติ เอตฺถ อถ-สทฺทสฺส อตฺถมาห ‘‘ปจฺฉา’’ติ. โภชนคมนาทีหิ สมเยกเทสนานตฺตํ ทสฺเสตฺวา อวเสสนานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมวายาที’’ติ วุตฺตํ. วิเสสิตาติ เอเตน ‘‘นิยมิตา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตจิตฺตวิเสสิตพฺพโต สมยโตติ อตฺโถ. ยถาธิปฺเปตานนฺติ กามาวจราทิวิเสสยุตฺตานํ. ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ จิตฺตุปฺปตฺติยา วิเสสิตพฺโพปิ สมโย เยน จิตฺเตน อุปฺปชฺชมาเนน วิเสสียติ, ตสฺเสว จิตฺตสฺส ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ เอตฺถ สยํ วิเสสนภาวํ อาปชฺชติ. ตถา ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ เอตฺถ วิเสสนภูตํ จิตฺตํ อตฺตนา วิเสสิตพฺพสมยสฺส อุปการตฺถํ ‘‘ยสฺมึ สมเย…เป… จิตฺต’’นฺติ วิเสสิตพฺพภาวํ อาปชฺชติ. อุปกาโรติ จ อฺมฺํ อวจฺเฉทกาวจฺฉินฺทิตพฺพภาโวติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมธมฺมานํ ภงฺคสมกาลํ, ภงฺคานนฺตรเมว วา ปจฺฉิมธมฺมานํ อุปฺปตฺติ ปุริมปจฺฉิมานํ นิรนฺตรตา เกนจิ อนนฺตริตตา. ยาย ภาวปกฺขสฺส พลวภาเวน ปฏิจฺฉาทิโต วิย หุตฺวา อภาวปกฺโข น ปฺายตีติ ตเทเวตนฺติ คหณวเสน ปจุรชโน วิปริเยสิโต, โสยมตฺโถ ¶ อลาตจกฺเกน สุปากโฏ โหติ. เตเนวาห ‘‘เอกีภูตานมิวา’’ติ ¶ . เอกสมูหวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สมูหฆนตา, ทุพฺพิฺเยฺยกิจฺจเภทวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ กิจฺจฆนตาติ โยชนา. เอตฺถ จ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน ปวตฺตมานานํ อเนเกสํ ธมฺมานํ กาลสภาวพฺยาปารารมฺมเณหิ ทุพฺพิฺเยฺยเภทตาย เอกีภูตานมิว คเหตพฺพตา ยถากฺกมํ สนฺตติฆนตาทโยติ ทฏฺพฺพํ.
สหการีการณสนฺนิชฺฌํ สเมตีติ สมโย, สมเวตีติ อตฺโถติ สมย-สทฺทสฺส สมวายตฺถตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจยสามคฺคิ’’นฺติ อาห. สเมติ สมาคจฺฉติ เอตฺถ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตทาธารปุคฺคเลหีติ สมโย, ขโณ. สเมนฺติ เอตฺถ, เอเตน วา, สมาคจฺฉนฺติ ธมฺมา สหชาตธมฺเมหิ อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ กรณํ วิย จ ปริกปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียตีติ. สมํ, สห วา อวยวานํ อยนํ ปวตฺติ อวฏฺานนฺติ สมโย, สมูโห ยถา ‘‘สมุทาโย’’ติ. อวยวสหาวฏฺานเมว หิ สมูโห. ปจฺจยนฺตรสมาคเม เอติ ผลํ เอตสฺมา อุปฺปชฺชติ ปวตฺตติ จาติ สมโย, เหตุ ยถา ‘‘สมุทโย’’ติ. สเมติ สมฺพนฺโธ เอติ สวิสเย ปวตฺตติ, สมฺพนฺธา วา อยนฺติ เอเตนาติ สมโย, ทิฏฺิ. ทิฏฺิสํโยชเนน หิ สตฺตา อติวิย พชฺฌนฺตีติ. สมยนํ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมสฺส นิโรธสฺส ยานํ, สมฺมา วา ยานํ อปคโม อปฺปวตฺตีติ สมโย, ปหานํ. อภิมุขภาเวน สมฺมา เอตพฺโพ อภิสเมตพฺโพ อธิคนฺตพฺโพติ อวิปรีโต สภาโว อภิสมโย. อภิมุขภาเวน สมฺมา วา เอติ คจฺฉติ พุชฺฌตีติ อภิสมโย, อวิราเธตฺวา ธมฺมานํ อวิปรีตสภาวาวโพโธ. เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจโก สมย-สทฺโท เอวาติ สอุปสคฺโคปิ วุตฺโต. ตาเนวาติ ปีฬนาทีเนว. วิปฺผาริกตา เสริภาเวน กิริยาสุ อุสฺสาหนปรินิปฺผนฺโน.
เกสุจีติ อกุสลวิปากาทีสุ. ขณสฺส อสมฺภโว เตน วินาภาโวติ อาห ‘‘นนู’’ติอาทิ. ธมฺเมเนวาติ วิเสสนฺตรรหิเตน. ตํเยว หิ อวธารเณน นิวตฺติตํ วิเสสํ ทสฺเสติ ‘‘น ตสฺส ปวตฺติตฺถา’’ติอาทินา. ยถา วา ตถา วาติ กาเลน โลโก ปวตฺตติ นิวตฺตตีติ วา กาโล นาม ภาโว วตฺตนลกฺขโณ ภาวานํ ปวตฺติโอกาสทายโกติ ¶ วา เยน เตน ปกาเรน. อิธ อุตฺตมเหตุโน สมฺภโว เอว นตฺถีติ เหตุเหตุสาธารณเหตูเยว ปฏิเสเธติ. ตปฺปจฺจยตํ อเนกปจฺจยตํ.
ปกติสฺสรวาทคฺคหณํ ¶ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ปชาปติปุริสกาลวาทาทโยปิ ‘‘เอกการณวาโท’’ติ. วา-สทฺเทน วา เตสมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวยว…เป… ทาโย วุตฺโต อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพตฺตา, ยถา ‘‘สมํ จุณฺณํ, อลงฺกโต เทวทตฺโต’’ติ จ. อนิปฺผาทนํ นิปฺผาทนาภาโว อเหตุภาโว. นิปฺผาเทตุํ อสมตฺถสฺส ปน ปจฺจยนฺตรานํ สหสฺเสปิ สมาคเต นตฺเถว สมตฺถตาติ อาห ‘‘นิปฺผาทนสมตฺถสฺสา’’ติ. เอตฺถ จ สหการีการณายตฺตา ผลุปฺปาทนา ปจฺจยธมฺมานํ อฺมฺาเปกฺขาติ วุตฺตาติ อเปกฺขา วิยาติ อเปกฺขา ทฏฺพฺพา.
นิพฺยาปาเรสุ อพฺยาวเฏสุ. เอเกกสฺมินฺติ อฏฺกถายํ อาเมฑิตวจนสฺส ลุตฺตนิทฺทิฏฺตํ ทสฺเสติ. สติ จ อาเมฑิเต สิทฺโธ พหุภาโวติ. อนฺธสตํ ปสฺสตีติ จ ปจฺจตฺตวจนํ นิทฺธารเณ ภุมฺมวเสน ปริณาเมตฺวา ‘‘อนฺธสเต’’ติ อาห. ตถา เอเกกสฺมินฺติ อิมินา วิสุํ อสมตฺถตา โชติตาติ อนฺธสตํ ปสฺสตีติ สมุทิตํ ปสฺสตีติ อตฺถโต อยมตฺโถ อาปนฺโนติ อาห ‘‘อนฺธสตํ สหิตํ ปสฺสตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. อฺถาติ ยถารุตวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน. ยสฺมา อสา…เป… สิทฺโธ สิวิกุพฺพหนาทีสุ, ตสฺมา นายมตฺโถ สาเธตพฺโพ. อิทานิ ตสฺสตฺถสฺส สุปากฏภาเวน อสาเธตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิสุ’’นฺติอาทิมาห.
เอเตนุปาเยนาติ โยยํ ขณสงฺขาโต สมโย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. อตฺตโน ทุลฺลภตายาติ เอตฺถ ขณตฺโถ วา สมย-สทฺโท ขณสงฺขาโต สมโยติ อตฺโถ วุตฺโต. เอเตน อุปายภูเตน นยภูเตน. โยชนา กาตพฺพาติ เอตฺถายํ โยชนา – สมวาย…เป… วุตฺตึ ทีเปติ สยํ ปจฺจยสามคฺคิภาวโต, สมวายตฺโถ วา สมย-สทฺโท สมวายสงฺขาโต สมโย. โส ยาย ปจฺจยสามคฺคิยา สตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ปกาสนวเสน ธมฺมานํ อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปติ. กาล…เป… ปริตฺตตํ ทีเปติ อตฺตโน อติปริตฺตตาย. สมูห…เป… สหุปฺปตฺตึ ทีเปติ สยํ ธมฺมานํ สมุทายภาวโต. เหตุ…เป… วุตฺติตํ ทีเปติ สติ เอว อตฺตนิ อตฺตโน ผลานํ ¶ สมฺภวโตติ. อตฺถปกฺเข จ สทฺทปกฺเข จ ยสฺมึ อติปริตฺเต กาเล ยสฺมึ ธมฺมสมุทาเย ยมฺหิ เหตุมฺหิ สตีติ เอตสฺส อตฺถสฺส าปนวเสน ตทาธาราย ตทธีนาย จ กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา ทุปฺปฏิวิชฺฌตํ อเนเกสํ สหุปฺปตฺตึ ปราธีนปฺปตฺติฺจ ทีเปตีติ.
ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหาติ ทฬฺหธนุโน อิสฺสาสา. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามนฺติ จ ยสฺส อาโรปิตสฺส ชิยาพทฺโธ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา ¶ อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สิกฺขิตาติ ทสทฺวาทสวสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺปา. กตหตฺถาติ ธนุสฺมึ จิณฺณวสีภาวา. โกจิ สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ, กตหตฺโถ น โหติ, อิเม ปน น ตถาติ ทสฺเสติ. กตุปาสนาติ ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺปา. จตุทฺทิสา ิตา อสฺสูติ เอกสฺมึเยว ปเทเส ถมฺภํ วา รุกฺขํ วา ยํ กิฺจิ เอกํเยว นิสฺสาย จตุทฺทิสาภิมุขา ิตา สิยุนฺติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺตชวนปุริสสฺสาติ น เอวรูโป ปุริโส โกจิ ภูตปุพฺโพ อฺตฺร โพธิสตฺเตน. โส หิ ชวนหํสกาเล เอวรูปมกาสิ. สุตฺเต ปน อภูตปริกปฺปนวเสน อุปมามตฺตํ อาหฏํ. ตปฺปรภาวาติ ตปฺปรภาวโต เหตุสงฺขาตสฺส สมยสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปเน เอกนฺตพฺยาวฏสภาวโตติ อตฺโถ. เย ปน ‘‘ตปฺปรภาโว’’ติ ปนฺติ, เตสํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติทีปนโต ตปฺปรภาโว เหตุสงฺขาตสฺส สมยสฺส, ตสฺมา ตสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปนตา วุตฺตาติ โยชนา. สมุทายายตฺตตาทีปเน ตปฺปโร, ตเทกเทสายตฺตตาทีปเน ตปฺปโร น โหตีติ อาห ‘‘อตปฺปรภาวโต’’ติ.
นนุ จ ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต กาโล โวหารมตฺตโก, โส กถํ อาธาโร ตตฺถ วุตฺตธมฺมานนฺติ อาห ‘‘กาโลปิ หี’’ติอาทิ. ยทิ กิริยาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, กา ปเนตฺถ ลกฺขณกิริยาติ อาห ‘‘อิหาปี’’ติอาทิ. ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา สตฺตาสงฺขาตาย ลกฺขณกิริยาย ยุตฺโต สมโย, ตสฺมา ตตฺถ ภูมินิทฺเทโสติ.
อุทฺทานโตติ ยทิ สงฺเขปโตติ อตฺโถ. นนุ จ อวสิฏฺกิเลสาทโย วิย กิเลสกาโมปิ อสฺสาเทตพฺพตาย วตฺถุกาเม สมวรุทฺโธ าณํ วิย เยฺเยติ สงฺเขปโต เอโกเยว กาโม ¶ สิยาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘กิเลสกาโม’’ติอาทิ. สหิตสฺสาติ วิสยวิสยิภาเวน อวฏฺิตสฺส. ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา’’ติ กิฺจาปิ สพฺเพ กามา อุทฺทิฏฺา, ‘‘จตุนฺนํ อปายาน’’นฺติอาทินา ปน วิสยสฺส วิเสสิตตฺตา โอรมฺภาคิยกิเลสภูโต กามราโค อิธ กิเลสกาโมติ คหิโตติ ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห. โจทโก ตสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทินา อนุยฺุชติ. อิตโร ปน ‘‘พหลกิเลสสฺสา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ.
กามาวจรธมฺเมสุ วิมานกปฺปรุกฺขาทิปฺปกาเรสุ ปริตฺตกุสลาทีสุ วา. นนุ จ ‘‘จตุนฺนํ อปายาน’’นฺติ วิสยสฺส วิเสสิตตฺตา รูปารูปธาตุคฺคหณสฺส อสมฺภโวเยวาติ? น, ‘‘อุทฺทานโต ¶ ทฺเว กามา’’ติ นิรวเสสโต กามานํ อุทฺทิฏฺตฺตา. อุทฺทิฏฺเปิ หิ กามสมุทาเย ยถา ตเทกเทโสว คยฺหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ’’ติอาทิมาห. กามราโค ปฺจกามคุณิโก ราโค. กามตณฺหา กามาวจรธมฺมวิสยา ตณฺหา. นิโรธตณฺหา อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค. อิธาติ เอกาทสวิเธ ปเทเส. ยทิ อนวเสสปฺปวตฺติ อธิปฺเปตา, ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ น วตฺตพฺพํ วตฺถุกาเมกเทสสฺส อิธ อปฺปวตฺตนโตติ อนุโยเคน เยภุยฺยภาวโต อนวเสโส วิย อนวเสโสติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺถุกาโมปี’’ติอาทิมาห. อนวเสสสทิสตา เจตฺถ สภาวภินฺนสฺส กสฺสจิ อนวเสสโต. เอวฺจ กตฺวาติ กิเลสกามวตฺถุกามานํ อนวเสสปริปุณฺณภาเวน อภิลกฺขิตตฺตาติ อตฺโถ. จาสทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตนฺติ กามาวจรสทฺเท เหตุกตฺตุอตฺโถ อนฺโตนีโตติ ทสฺเสติ.
วิสเยติ วตฺถุสฺมึ อภิเธยฺยตฺเถติ อตฺโถ. นิมิตฺตวิรเหติ เอเตน รุฬฺหีสุ กิริยา วิภาคกรณาย, น อตฺตกิริยายาติ ทสฺเสติ. กุสลภาวนฺติ ชาตกพาหิติกสุตฺตอภิธมฺมปริยาเยน กถิตํ กุสลตฺตํ. ตสฺสาติ สุขวิปากภาวสฺส. ตสฺส ปจฺจุปฏฺานตํ วตฺตุกามตายาติ เอเตน ‘‘อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณ’’นฺติ เอตฺถ สุขสทฺโท อิฏฺปริยาโย วุตฺโตติ ทสฺเสติ. สฺาปฺากิจฺจํ สฺาณกรณปฏิวิชฺฌนานิ, ตทุภยวิธุรา อารมฺมณูปลทฺธิ ‘‘วิชานาตี’’ติ อิมินา วุจฺจตีติ อาห ‘‘สฺา…เป… คหณ’’นฺติ. นนุ จ ผสฺสาทิกิจฺจโตปิ วิสิฏฺกิจฺจํ จิตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, โส ปน วิเสโส น ตถา ทุรวโพโธ, ยถา ¶ สฺาปฺาวิฺาณานนฺติ สฺาปฺากิจฺจวิสิฏฺลกฺขณตาย วิฺาณลกฺขณมาห. อนนฺตรธมฺมานํ ปคุณพลวภาวสฺส การณภาเวน ปวตฺตมาโน สนฺตานํ จิโนติ นาม. ตถาปวตฺติ จ อาเสวนปจฺจยภาโวติ อาห ‘‘อาเสวนปจฺจยภาเวน จิโนตี’’ติ.
จิตฺตกตเมวาติ อภิสงฺขารวิฺาณกตเมว. นานตฺตาทีนํ ววตฺถานนฺติ เอตฺถ ววตฺถานํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ววตฺถานํ ปริจฺเฉโท อสงฺกรภาโว. เตน จ ธมฺโม นิจฺฉิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘นิจฺฉิตตา’’ติ. ลิงฺคนานตฺตาทีนีติ เอตฺถ อิตฺถิปุริสสณฺานวเสน ลิงฺคนานตฺตํ. เทวมนุสฺสติรจฺฉานาทิวเสน อิตฺถิลิงฺคสฺส ปุถุตฺตํ, ตถา ปุริสลิงฺคสฺส. เทวาทิเภเท อิตฺถิลิงฺเค ปจฺเจกํ นานตฺตกายตาสงฺขาตสฺส อฺมฺวิสทิสสภาวสฺส เทสาทิเภทภินฺนสฺส จ วิเสสสฺส วเสน ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตถา ปุริสลิงฺเค. ลิงฺคนิพฺพตฺตกสฺส วา กมฺมสฺส ยถาวุตฺตนานตฺตาทิวเสน ลิงฺคสฺส นานตฺตาทีนิ โยเชตพฺพานิ. ลิงฺคนานตฺตาทีสุ ปวตฺตตฺตา สฺาทีนํ ¶ นานตฺตาทีนิ. เตเนวาห ‘‘กมฺมนานตฺตาทีหิ นิพฺพตฺตานิ หิ ตานี’’ติ. อปทาทินานากรณทสฺสเนน ลิงฺคนานตฺตํ ทสฺสิตํ. ตสฺมิฺจ ทสฺสิเต สฺานานตฺตาทโย ทสฺสิตา เอวาติ อาวตฺตติ ภวจกฺกนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนาค…เป… ฆเฏนฺโต’’ติ. อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทิ วิฺาณาธิฏฺิตสฺส รูปกฺขนฺธสฺส สนฺนิเวสวิเสโส. สฺาสีเสน จตฺตาโร ขนฺธา วุตฺตา. โวหารวจเนน จ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ โวหริตพฺพภาเวน ปวตฺติ ทีปิตา, ยา สา ตณฺหาทิฏฺิอภินิเวสเหตูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลิงฺคาทิ…เป… โยสานานี’’ติ อาห.
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา, สพฺเพเต มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ (อ. นิ. ๑.๕๖-๕๗), ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) จ เอวมาทิวจนโต จิตฺตเหตุกํ กมฺมนฺติ อาห ‘‘กมฺมฺหิ จิตฺตโต นิพฺพตฺต’’นฺติ. ยถาสงฺขฺยนฺติ กมฺมโต ลิงฺคํ ลิงฺคโต สฺาติ อตฺโถ. น ปุริมวิกปฺเป วิย กมฺมโต ลิงฺคสฺา ลิงฺคโต ลิงฺคสฺาติ อุภยโต อุภยปฺปวตฺติทสฺสนวเสน. ‘‘เภทํ คจฺฉนฺติ อิตฺถายํ ปุริโสติ วา’’ติ เภทสฺส วิเสสิตตฺตา อิตฺถาทิภาเวน โวหริตพฺพภาโว อิธ เภโทติ ‘‘อิตฺถิปุริสาทิโวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อทฺธทฺวยวเสนาติ อตีตปจฺจุปฺปนฺนทฺธทฺวยวเสน. คุณาภิพฺยาปนํ ¶ กิตฺตีติ อาห ‘‘ปตฺถฏยสต’’นฺติ. กมฺมนานากรเณน วินา กมฺมนิพฺพตฺตนานาการณาภาวโต ‘‘กมฺมเชหิ…เป… นานากรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อวิปจฺจโนกาโส อฏฺานภูตา, คติกาโลปิ วา. กามาวจรํ อภิสงฺขารวิฺาณํ รูปธาตุยา จกฺขุวิฺาณาทึ ชเนตฺวา อโนกาสตาย ตทารมฺมณํ อชเนนฺตํ เอตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. เอกจฺจจิตฺตกรณสฺส อธิปฺเปตตฺตา จกฺขาทิเวกลฺเลน จกฺขุวิฺาณาทีนํ อชนกํ กมฺมวิฺาณํ อวเสสปจฺจยวิกเล อโนคธํ ทฏฺพฺพํ. ตทปิ กาลคติปโยคาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘สหการีการณวิกลํ วิปากสฺส อจฺจนฺตํ โอกาสเมว น ลภติ, อิตรํ วิปาเกกเทสสฺส ลทฺโธกาสนฺติ, อิทเมเตสํ นานตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ วิปากสฺส โอกาสลาเภ สติ สหายการณวิกลตาว นตฺถีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
ภวตุ ตาว ภวิตฺวา อปคตํ ภูตาปคตํ, อนุภวิตฺวา อปคตํ ปน กถนฺติ อาห ‘‘อนุภูตภูตา’’ติอาทิ. เตน อนุภูต-สทฺเทน โย อตฺโถ วุจฺจติ, ตสฺส ภูต-สทฺโทเยว วาจโก, น อนุ-สทฺโท, อนุ-สทฺโท ปน โชตโกติ ทสฺเสติ. สาขาภงฺคสทิสา หิ นิปาโตปสคฺคาติ. กิริยาวิเสสกตฺตฺจ อุปสคฺคานํ อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ เตหิ วตฺตพฺพวิเสสสฺส โชตนภาเวเนว อวจฺฉินฺทนนฺติ ยตฺตกา ธาตุสทฺเทน อภิธาตพฺพา อตฺถวิเสสา, เตสํ ¶ ยํ สามฺํ อวิเสโส, ตสฺส วิเสเส อวฏฺาปนํ ตสฺส ตสฺส วิเสสสฺส โชตนเมวาติ อาห ‘‘สามฺ…เป… วิเสสียตี’’ติ. อนุภูต-สทฺโท พหุลํ กมฺมตฺเถ เอว ทิสฺสตีติ ตสฺส อิธ กตฺตุอตฺถวาจิตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุภูตสทฺโท จา’’ติอาทิมาห. สติปิ สพฺเพสํ จิตฺตุปฺปาทานํ สเวทยิตภาวโต อารมฺมณานุภวเน, สวิปลฺลาเส ปน สนฺตาเน จิตฺตาภิสงฺขารวเสน ปวตฺติโต อพฺยากเตหิ วิสิฏฺโ กุสลากุสลานํ สาติสโย วิสยานุภวนากาโรติ อยมตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตุํ อธิปฺปายวเสนา’’ติ อาห. ภูตาปคตภาวาภิธานาธิปฺปาเยนาติ กุสลากุสลสฺส อากฑฺฒนุปายมาห.
อุปฺปติตกิจฺจนิปฺผาทนโต อุปฺปติตสทิสตฺตา ‘‘อุปฺปติต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปฺปชฺชิตุํ อารทฺโธติ อนาคตสฺสปิ ตสฺเสว อุปฺปนฺน-สทฺเทน วุตฺตตาย การณมาห. เอตฺถ จ รชฺชนาทิวเสน อารมฺมณรสานุภวนํ สาติสยนฺติ อกุสลฺจ กุสลฺจ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธตาสามฺเน ‘‘สพฺพสงฺขตํ ภูตาปคต’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘วิปากานุภวนวเสน ตทารมฺมณํ. อวิปกฺกวิปากสฺส สพฺพถา อวิคตตฺตา ภวิตฺวา วิคตตามตฺตวเสนกมฺมฺจ ภูตาปคต’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนว ตตฺถ โอกาสกตุปฺปนฺนนฺติ วิปากเมวาห. อิธ ปน กมฺมมฺปีติ. อารมฺมณกรณวเสน ภวติ เอตฺถ กิเลสชาตนฺติ ภูมีติ วุตฺตา อุปาทานกฺขนฺธา. อคฺคิอาหิโต วิยาติ ภูมิลทฺธนฺติ วตฺตพฺพตาย อุปายํ ทสฺเสติ. เอเตนาติ กมฺมํ. เอตสฺสาติ วิปาโก วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขมฺภิตตฺตาติ อวิโนทิตตฺตา. สภูมิยนฺติ สกภูมิยํ. วิจฺฉินฺทิตฺวาติ ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อทตฺวา. ขณตฺตเยกเทสคตํ ขณตฺตยคตนฺติ วุตฺตนฺติ ยถาวุตฺตสฺส อุทาหรณสฺส อุปจารภาวมาห. เตน อุปฺปนฺนา ธมฺมา ปจฺจุปฺปนฺนา ธมฺมาติ อิทเมตฺถ อุทาหรณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปธาเนนาติ ปธานภาเวน. เทสนาย จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมนฺติ โลกิยธมฺเม เทเสตพฺเพ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา เทสนา ภควตา อุจิตาติ ทสฺเสติ. ธมฺมสภาวํ วา สนฺธายาติ โลกิยธมฺมานํ อยํ สภาโว ยทิทํ เต จิตฺตเชฏฺกา จิตฺตปุพฺพงฺคมา ปวตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ. เตน เตสํ ตถาเทสนาย การณมาห, สพฺเพ อกุสลา ธมฺมา จิตฺตวชฺชาติ อตฺโถ. เกจีติ ปทการา. ผสฺสาทโยปีติ ปิ-สทฺเทน ราคาทโย สมฺปิณฺเฑติ. กาลเภทาภาเวปิ ปจฺจยภาเวน อเปกฺขิโต ธมฺโม ปุริมนิปฺผนฺโน วิย โวหรียตีติ อาห ‘‘ปมํ อุปฺปนฺโน วิยา’’ติ. อนุปจริตเมวสฺส ปุพฺพงฺคมภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนนฺตรปจฺจยมน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ขีณา ภวเนตฺตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๒.๑๕๕; เนตฺติ. ๑๑๔) เนตฺติภูตาย ¶ ตณฺหาย ยุตฺตํ จิตฺตํ นายกนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺตํ วา’’ติ.
‘‘ยํ ตสฺมึ สมเย เจตสิกํ สาต’’นฺติ นิทฺทิฏฺตฺตา โสมนสฺสเวทนา สาตสภาวาติ อาห ‘‘สภาววเสน วุตฺต’’นฺติ. นิปฺปริยาเยน มธุร-สทฺโท รสวิเสสปริยาโย, อิฏฺภาวสามฺเน อิธ อุปจาเรน วุตฺโตติอาห ‘‘มธุรํ วิยา’’ติ. ปรมตฺถโต ตณฺหาวินิมุตฺโต นนฺทิราโค นนฺทิราคภาโว วา นตฺถีติ ‘‘น เอตฺถ สมฺปโยควเสน สหคตภาโว อตฺถี’’ติ, ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ จ วุจฺจติ. เตน วิฺายติ ‘‘สหคตสทฺโท ตณฺหาย นนฺทิราคภาวํ โชเตตี’’ติ. อวตฺถาวิเสสวาจโก วา ¶ สห-สทฺโท ‘‘สนิทสฺสนา’’ติอาทีสุ วิย, สพฺพาสุปิ อวตฺถาสุ นนฺทิราคสภาวาวิชหนทีปนวเสน นนฺทิราคภาวํ คตา นนฺทิราคสหคตาติ ตณฺหา วุตฺตา. คต-สทฺทสฺส วา ‘‘ทิฏฺิคต’’นฺติอาทีสุ วิย อตฺถนฺตราภาวโต นนฺทิราคสภาวา ตณฺหา ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ วุตฺตา, นนฺทิราคสภาวาติ อตฺโถ. อิธาปีติ อิมิสฺสํ อฏฺกถายํ. อิมสฺมิมฺปิ ปเทติ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺติ เอตสฺมิมฺปิ ปเท. อยเมวตฺโถติ สํสฏฺโ เอว. ยถาทสฺสิตสํสฏฺสทฺโทติ อตฺถุทฺธารปฺปสงฺเคน ปาฬิโต อฏฺกถาย อาคตสํสฏฺสทฺโท. สหชาเตติ สหชาตตฺเถ.
กาลวิเสสานเปกฺโข กมฺมสาธโน อาภฏฺ-สทฺโท ภาสิตปริยาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อภาสิตพฺพตา อนาภฏฺตา’’ติ. ปาฬิยนฺติ อิมิสฺสา ปมจิตฺตุปฺปาทปาฬิยํ. อภาสิตตฺตา เอวาติ อสงฺขาริกภาวสฺส อวุตฺตตฺตา เอว. การณปริยายตฺตา วตฺถุสทฺทสฺส ปจฺจยภาวสามฺโต ทฺวารภูตธมฺมานมฺปิ สิยา วตฺถุปริยาโยติ อาห ‘‘ทฺวารํ วตฺถูติ วุตฺต’’นฺติ. เตน วตฺถุ วิย วตฺถูติ ทสฺเสติ. มโนทฺวารภูตา ธมฺมา เยภุยฺเยน หทยวตฺถุนา สห จรนฺตีติ ทฺวาเรน…เป… หทยวตฺถุ วุตฺตนฺติ อาห ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ. สกิจฺจภาเวนาติ อตฺตโน กิจฺจภาเวน, กิจฺจสหิตตาย วา. อฺาสาธารโณติ ส-สทฺทสฺส อตฺถมาห. สโก หิ รโส สรโสติ.
อนนฺตรจิตฺตเหตุกตฺตา จิตฺตสฺส เอกสมุฏฺานตา วุตฺตา, สหชาตจิตฺตผสฺสเหตุกตฺตา เจตสิกานํ ทฺวิสมุฏฺานตา. ‘‘จิตฺตสมุฏฺานา ธมฺมา, ผุฏฺโ ภิกฺขเว เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ.
สุขุมรชาทิรูปนฺติ ¶ อณุตชฺชาริรูปมาห. ปรมาณุรูเป ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. วตฺถุปริตฺตตายาติ เอเตน อเนกกลาปคตานิ พหูนิเยว รูปายตนานิ สมุทิตานิ สํหจฺจการิตาย สิวิกุพฺพหนาเยน จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย, น เอกํ กติปยานิ วาติ ทสฺเสติ. นนุ จ เอวํ สนฺเต จกฺขุวิฺาณํ สมุทายารมฺมณํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ สมุทายสฺเสว อภาวโต. น หิ ปรมตฺถโต สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. วณฺณายตนเมว หิ ยตฺตกํ โยคฺยเทเส อวฏฺิตํ, สติ ¶ ปจฺจยนฺตรสมาโยเค ตตฺตกํ ยถาวุตฺเตน าเยน จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย โหติ อวิกปฺปกตฺตา ตสฺส. ตทภินิหฏํ ปน มโนวิฺาณํ อเนกกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ ปุริมสิทฺธกปฺปนาวเสน สมูหากาเรน สณฺานาทิอากาเรน จ ปวตฺตตีติ กึ จกฺขุวิฺาณสฺส เอกํ วณฺณายตนํ อารมฺมณํ, อุทาหุ อเนกานีติ น โจเทตพฺพเมตํ. น หิ ปจฺจกฺขวิสเย ยุตฺติมคฺคนา ยุตฺตา. กิฺจ ภิยฺโย อจฺฉราสงฺฆาตกฺขเณน อเนกโกฏิสงฺขาย จิตฺตุปฺปตฺติยา ปวตฺตนโต จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย สมาเนปิ ฆฏสราวาทิวณฺณานํ โยคฺยเทสาวฏฺาเน ปุริมมนสิการานุรูปํ ‘‘ฆโฏ’’ติ วา ‘‘สราโว’’ติ วา ปมํ ตาว เอโก มโนวิฺาณสนฺตาเนน ปริจฺฉิชฺชติ, ปจฺฉา อิตโร จกฺขุวิฺาณวีถิยา พฺยวหิเตนาติ อวิเสสวิทุตาย ปน ฆฏสราวาทิพุทฺธิยา อเภทาปตฺติปริกปฺปนาติ. อีทิสีเปตฺถ โจทนา อโจทนาติ ทฏฺพฺพา. ขณปริตฺตตายาติ ปพนฺธกฺขณสฺส อิตฺตรตาย. ปพนฺธวเสน หิ ปจฺเจกํ รูปารูปธมฺมา วิโรธิอวิโรธิปจฺจยสมาโยเค ลหุํ ทนฺธฺจ นิรุชฺฌนโต ปริตฺตกาลา ทีฆกาลา จ โหนฺติ, สภาวลกฺขณวเสน ปน เอกปริจฺเฉทา เอวาติ. ยถา จ รูปายตนํ, เอวํ อิตรานิปิ. สทฺทาทโยปิ หิ วตฺถุปริตฺตตาทิภาเวน ลพฺภนฺตีติ. อจฺจาสนฺนาทิตายาติ อาทิ-สทฺเทน อนาวชฺชนํ เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนตาติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. วิสยิธมฺมํ วิเสสโต สิโนติ พนฺธตีติ วิสโยติ อนฺตฺถภาวาเปกฺโข วิสโยติ อาห ‘‘วิสโย อนฺตฺถภาเวนา’’ติ. น หิ จกฺขุวิฺาณาทโย รูปายตนาทิโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺตนฺตีติ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโรติ สมฺพหุลจาริตาเปกฺโข โคจโรติ อาห ‘‘โคจโร ตตฺถ จรเณนา’’ติ. พหุลฺหิ จกฺขุวิฺาณาทีหิ รูปาทโย คยฺหนฺติ, น ตถา มโนวิฺาเณนาติ. เตสนฺติ มโนวิฺาเณน คยฺหมานานํ รูปายตนาทีนํ. ‘‘วจนสฺส อนุปปตฺติโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปฺจทฺวาเร ปวตฺตมโนวิฺาณธาตุํ สนฺธาย เตสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตีติ วจนํ อุปปชฺชติเยวาติ? น, นิยมาภาวโต. น หิ ปฺจทฺวาราภินิหฏํเยว มโน อิธ ‘‘มโน’’ติ วุตฺตนฺติ นิยมเหตุ อตฺถีติ, เอตํเยว วา โจทนํ มนสิ ¶ กตฺวา ทิพฺพจกฺขุาณาทิคฺคหณํ กตํ. เอวํวณฺโณติอาทิวจนโต ปุพฺเพนิวาสอตีตานาคตํสาณาทโยปิ อิธ สมฺภวนฺติ. อิตรถาติ รูปํ สทฺทนฺติอาทินา.
โภชน ¶ …เป… อุสฺสาหาทีหีติ อิทํ ยาย กมฺมฺตาย รูปกายสฺส กลฺลตา โหติ, ตสฺสา ปจฺจยนิทสฺสนํ. โภชเน หิ สมฺมาปริณเต สปฺปาเย จ อุตุโภชเน สมฺมุปยุตฺเต สมฺมาปโยคสงฺขาเต กายิกเจตสิกวีริเย จ สมารทฺเธ ลหุตาทิสพฺภาเวน กาโย กมฺมกฺขโม โหติ สพฺพกิริยานุกูโลติ. อถ วา โภชน…เป… อุสฺสาหาทีหีติ อิทํ กายสฺส กลฺยตาย วิย อุปทฺทุตตายปิ การณวจนํ. วิสมโภชนาปริณามาทิโต หิ กายสฺส อุปทฺทวกรา วาตาทโย อุปฺปชฺชนฺตีติ. อนุวตฺตนฺตสฺสาติ ปทํ ‘‘ชยํ เวรํ ปสวตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๐๑) วิย เหตุอตฺถวเสน เวทิตพฺพํ. ชาครณนิมิตฺตฺหิ อิธ อนุวตฺตนํ อธิปฺเปตนฺติ. อถ วา อนุวตฺตนฺตสฺสาติ อิทํ ปกติยา ทิฏฺาทิวเสน อาปาถคมนุปนิสฺสยานํ กลฺยตาทินิพฺพตฺตานํ กายิกสุขาทีนํ สมฺภวทสฺสนํ. กายกลฺยตาทึ อนนุวตฺตนฺตสฺส หิ ยถาวุตฺตอุปนิสฺสยาโภคาภาเวน วุตฺตปฺปการํ อาปาถคมนํ น สิยาติ. ยถานุภูเต รูปาทิวิสเย จิตฺตสฺส ปนํ อาวชฺชนํ จิตฺตปณิทหนํ. ยถานุภูเตน รูปาทินา สทิสํ อสทิสํ สมฺพนฺธฺจ สทิสาสทิสสมฺพนฺธํ, ตสฺส ทสฺสนาทิ สทิสาสทิสสมฺพนฺธทสฺสนาทิ, จิตฺตปณิทหนฺจ สทิสาสทิส…เป… ทสฺสนาทิ จ จิตฺต…เป… ทสฺสนาทโย เต ปจฺจยาติ โยเชตพฺพํ. ธาตุกฺโขภาทีติ อาทิ-สทฺเทน เทวตูปสํหาราทึ สงฺคณฺหาติ. ตํสทิสตา ทิฏฺสุตสทิสตา. ตํสมฺปยุตฺตตา ทิฏฺสุตปฏิพทฺธตา. เกนจิ วุตฺเตติ อิมินา สทฺธาย อนุสฺสวนิพฺพตฺตตํ อาห. อาการวิจารณนฺติ เตสํ เตสํ อตฺถานํ อุปฏฺานาการวิจารณํ. กตฺถจิ อตฺเถ.
นิยมิตสฺสาติ กุสลเมว มยา อุปฺปาเทตพฺพนฺติ เอวํ นิยมิตสฺส. ปสาทสิเนหาภาโว โทสพหุลตาย โหตีติ ลูขปุคฺคลา โทสพหุลาติ อาห.
อายตนภาวโตติ การณภาวโต.
วิชฺชมานวตฺถุสฺมินฺติ เอเตน ‘‘วินาปิ เทยฺยธมฺมปริจฺจาเคน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว ทานมยํ กุสลํ อุปจิตํ โหตี’’ติ เกสฺจิ อติธาวนํ นิวตฺติตํ โหตีติ.
ธมฺมสวนสฺส ¶ ¶ โฆสนํ ธมฺมสวนโฆสนํ. ตสฺสาติ ‘‘สทฺททานํ ทสฺสามี’’ติ สทฺทวตฺถูนํ านกรณเภริอาทีนํ สสทฺทปฺปวตฺติกรณสฺส. จินฺตนํ ตถา ตถา จิตฺตุปฺปาทนํ. อฺตฺถาติ สุตฺเตสุ. อปรตฺถาติ อภิธมฺมปเทสุ. อปริยาปนฺนาติ ปทสฺส อตฺถวณฺณนา ‘‘ปริโภครโส’’ติอาทิกาย อตฺถวณฺณนาย ปรโต พหูสุ โปตฺถเกสุ ลิขียติ, ยถาาเนเยว ปน อาเนตฺวา วตฺตพฺพา. ตตฺถ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา ลกฺขณปฺตฺติโย อฺายตนตฺตา ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ อสงฺคหิตา ธมฺมายตเนนาติ โยเชตพฺพํ.
‘‘เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ ยถา น อฺารมฺมณํ โหติ จิตฺตวิเสสสฺส อธิปฺเปตตฺตา, เอวํ กมฺมวิเสเส อธิปฺเปเต กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร น อุปฺปชฺชติ ตตฺเถว ปริโยสิตตฺตา, อถ กมฺมสามฺํ อธิปฺเปตํ, รูปาทีสุ เอการมฺมณนฺติ อิทํ อุทาหรณํ น สิยาติ? น, อสทิสภาววิภาวนวเสน อุทาหฏตฺตา, อิตรถา มโนวิฺาณภูตํ อิทํ จิตฺตํ ฉสุปิ วิสเยสุ ปวตฺตนโต อนิพทฺธารมฺมณนฺติ อารมฺมณํ สทิสูทาหรณภาเวน วุจฺเจยฺย อารมฺมณํ วิย ทฺวารมฺปิ อนิพทฺธนฺติ. ยสฺมา ปน สติปิ กมฺมานํ ทฺวารนฺตรจรเณ เยภุยฺเยน วุตฺติยา ตพฺพหุลวุตฺติยา จ ทฺวารกมฺมานํ อฺมฺํ ววตฺถานํ วกฺขติ, ตสฺมา ปาณาติปาตาทิภาวสามฺเน กมฺมํ เอกตฺตนยวเสน คเหตฺวา ตสฺส วจีทฺวาราทีสุ ปวตฺติสพฺภาวโต กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร น นุปฺปชฺชตี’’ติ. รูปาทีสุ ปน เอการมฺมณํ จิตฺตํ เตเนวารมฺมเณน ปริจฺฉินฺนนฺติ วิสิฏฺเมว คหิตนฺติ อารมฺมณเมว นิพทฺธนฺติ วุตฺตนฺติ จิตฺตวิเสโส เอว คหิโต, น จิตฺตสามฺํ. ‘‘นนุ จ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา ยํ ยํ วา ปนา’’ติ อารมฺมณมฺปิ อนิยเมเนว วุตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, ตตฺถ ปน ยํ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ, ตํ เตน วินา นปฺปวตฺตติ, กมฺมํ ปน กายทฺวาริกาทิเภทํ วจีทฺวาราทีสุ น นปฺปวตฺตตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส โชตนตฺถํ ปาฬิยํ อารมฺมณเมว คหิตํ, ทฺวารํ น คหิตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อารมฺมณเมว นิพทฺธ’’นฺติอาทินา. วจีทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ปาณาติปาตาทีติ อตฺโถ.
กามาวจรกุสลํ
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
กมฺมทฺวารานนฺติอาทินา ¶ ¶ ปกาเสตพฺพสฺส สรูปํ ปกาสนุปายฺจ ทสฺเสติ. นิยตรูปรูปวเสนาติ ธมฺมสงฺคเห นิทฺทิฏฺนิยตรูปรูปวเสน. อฺถา กมฺมสมุฏฺานิกกาเย หทยวตฺถุปิ คเหตพฺพํ สิยา. เอกสนฺตติปริยาปนฺโน อุปาทินฺนกกาโย อิธ คหิโตติ จกฺขายตนาทีติ วุตฺเตสุ เอโก ภาโว หทยวตฺถุ จ คหิตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘จกฺขายตนาทีนิ ชีวิตปริยนฺตานี’’ติ สนฺนิเวสสฺส วิภาวิตตฺตา.
วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิฺตฺติคฺคหณสฺส อิจฺฉิตตฺตา จลนาการาว วาโยธาตุ วิฺตฺติวิการสหิตาติ กทาจิ อาสงฺเกยฺยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปมชวนสมุฏฺิตา’’ติ อาห. เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จาเลตุนฺติ เอเตน เทสนฺตรุปฺปตฺติ จลนํ, ตํนิมิตฺเต จ กตฺตุภาโว อุปจริโตติ ทสฺเสติ, อฺถา ขณิกตา อพฺยาปารตา จ ธมฺมานํ น สมฺภเวยฺยาติ. ตทภิมุขภาววิการวตีติ ตํทิสมภิมุโข ตทภิมุโข, ตสฺส ภาโว ตทภิมุขภาโว, โส เอว วิกาโร, ตํสมงฺคินี วาโยธาตุ ตทภิมุขภาววิการวตี. อิทานิ ตทภิมุขภาววิกา รสฺส วิฺตฺติภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อธิปฺปายสหภาวี’’ติอาทิ. เอวฺจ กตฺวาติอาทินา อิมิสฺสา อตฺถวณฺณนาย ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อาวชฺชนสฺสาติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส. ยโต พาตฺตึสาติอาทินา ตสฺส วิฺตฺติสมุฏฺาปกตา น สกฺกา ปฏิเสเธตุนฺติ ทสฺเสติ.
ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถติ เอเตน ยถาวุตฺตวาโยธาตุยา ถมฺภนจลนสงฺขาตกิจฺจนิปฺผาทเน ตสฺส อาการวิเสสสฺส สหการีการณภาวมาห. อนิทสฺสนสปฺปฏิฆตาทโย วิย มหาภูตานํ อวตฺถาวิเสสมตฺตํ โส อาการวิเสโสติ ปรมตฺถโต น กิฺจิ โหตีติ ‘‘ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสตี’’ติ อาห. ปรมตฺถโต จิตฺตสมุฏฺานภาโว ปฏิเสธิโต. กมฺมสมุฏฺานาทิภาวสฺส ปน สมฺภโวเยว นตฺถีติ ยถาวุตฺตวิการสฺส ปรมตฺถโต สพฺภาเว นกุโตจิสมุฏฺิตตฺตา อปฺปจฺจยตฺตํ อาปนฺนํ. น หิ รูปํ อปฺปจฺจยํ อตฺถิ, อปฺปจฺจยตฺเต จ สติ นิจฺจภาโว อาปชฺชติ, น จ นิพฺพานวชฺโช อตฺโถ สภาวธมฺโม ¶ นิจฺโจ อตฺถิ. จิตฺตสมุฏฺานภาโว วิยาติ วิฺตฺติยา จิตฺตสมุฏฺานอุปาทารูปภาโว อุปจารสิทฺโธติ ทสฺเสติ.
วิฺตฺติยา ¶ กรณภูตาย. ยํ กรณนฺติ ยํ จิตฺตกิริยํ จิตฺตพฺยาปารํ. วิฺตฺติยา วิฺาตตฺตนฺติ อิทเมส กาเรตีติ ยเทตํ อธิปฺปายวิภาวนํ, เอตํ วิฺตฺติวิการรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ น ทิฏฺํ, หตฺถจลนาทีสุ ปน ทิฏฺํ, ตสฺมา วิปฺผนฺทมานวณฺณวินิมุตฺโต โกจิ วิกาโร อตฺถิ กายิกกรณสงฺขาตสฺส อธิปฺปายสฺส าปโกติ วิฺายติ. าปโก จ เหตุ าเปตพฺพมตฺถํ สยํ าโตเยว าเปติ, น สพฺภาวมตฺเตนาติ วณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิการคฺคหณมฺปิ วิฺายติ. ตถา หิ วิสยภาวมาปนฺโน เอว สทฺโท อตฺถํ ปกาเสติ, เนตโร. เตเนวาห ‘‘น หิ วิฺตฺตี’’ติอาทิ. ยทิ ปน จิตฺตชรูปานํ จลนากาโร วิฺตฺติ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิปฺผนฺทมานวณฺณารมฺมณตฺตา เตนปิ สา คหิตา สิยาติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘จกฺขุวิฺาณสฺสา’’ติอาทิ.
ตาลปณฺณาทิรูปานีติอาทินาปิ วิฺตฺติยา วิฺาตพฺพตํ มโนวิฺาเณเนว จ วิฺาตพฺพตํ ทสฺเสติ. สฺชานาติ เอเตนาติ สฺาณํ, ตสฺส อุทกาทิโน สฺาณํ ตํสฺาณํ, ตสฺส อากาโร ตํสฺาณากาโร, อุทกาทิสหจาริปฺปกาโร จ โส ตํสฺาณากาโร จาติ อุทกา…เป… กาโร, ตํ คเหตฺวา ชานิตฺวา. ตทาการสฺสาติ อุทกาทิาปนาการสฺส. ยทิ ยถาวุตฺตวิการคฺคหณํเยว การณํ อธิปฺปายคฺคหณสฺส, อถ กสฺมา อคฺคหิตสงฺเกตสฺส อธิปฺปายคฺคหณํ น โหตีติ? น เกวลํ วิการคฺคหณเมว อธิปฺปายคฺคหณสฺส การณํ, กิฺจรหีติ อาห ‘‘เอตสฺส ปนา’’ติอาทิ.
อถ ปนาติอาทินา วิฺตฺติยา อนุมาเนน คเหตพฺพตํ ทสฺเสติ. สาธิปฺปาย…เป… นนฺตรนฺติ อธิปฺปายสหิตวิกาเรน สหชาตวณฺณายตนคฺคหณสงฺขาตสฺส จกฺขุทฺวาริกวิฺาณสนฺตานสฺส อนนฺตรํ. อธิปฺปายคฺคหณสฺสาติ อธิปฺปายววตฺถาปกสฺส ตติยวาเร ชวนสฺส. อธิปฺปายสหภู วิการาภาเว อภาวโตติ เอเตน ยถาวุตฺตวิการํ อธิปฺปายคฺคหเณน อนุมิโนติ. เอวํ สตีติอาทินา ยถานุมิตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ. ตตฺถ อุทกาทิคฺคหเณเนวาติ ตาลปณฺณาทีนํ วณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน อุทกาทีนํ ตตฺถ อตฺถิภาววิชานเนเนว. ยถา ตาลปณฺณาทีนํ อุทกาทิสหจาริปฺปการตํ ¶ สฺาณากาโร วิฺาโตเยว โหติ นานนฺตริยกตฺตา, เอวํ วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน คนฺตุกามตาทิอธิปฺปายวิชานเนเนว วิฺตฺติ วิฺาตา โหติ ตทภาเว อภาวโตติ อุปมาโยชนา.
สภาวภูตนฺติ ¶ อนฺวตฺถภูตํ. ทฺวิธาติ วิฺาปนโต วิฺเยฺยโต จ. กายวิฺตฺติยา ตถาปวตฺตมานาย เจตนาสงฺขาตสฺส กมฺมสฺส กายกมฺมภาโว นิปฺผชฺชติ ตาย อุปลกฺขิตพฺพตฺตา, น ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เกนจิ ปจฺจยภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา’’ติอาทิมาห. เตน วจีทฺวารุปฺปนฺนาปิ ปาณาติปาตาทโย สงฺคหิตาติ เตสํ สงฺคหิตภาวํ ทสฺเสติ. อถ วา กายทฺวารุปฺปนฺนาย กายกมฺมภูตาย เจตนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน วิฺาตพฺพภาวโต’’ติ วุตฺตํ, ตสฺสาเยว ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน นามลาภโต’’ติ. มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาโว นิจฺฉิโตติ ‘‘เอกาทสนฺนํ กิริยจิตฺตาน’’นฺติ อาห.
ทฺวารนฺตรจาริโนติ ทฺวารนฺตรภาเวน ปวตฺตนกา. ทฺวารสมฺเภทาติ ทฺวารานํ สงฺกรณโต. ทฺวารานฺหิ ทฺวารนฺตรภาวปฺปตฺติยา สติ กายทฺวารสฺส วจีทฺวาราทิภาโว, วจีทฺวารสฺส จ กายทฺวาราทิภาโว อาปชฺชตีติ ตํตํทฺวารุปฺปนฺนกมฺมานมฺปิ สงฺกโร สิยา. เตนาห ‘‘กมฺมสมฺเภโทปี’’ติ. เอวํ สติ กายกมฺมํ…เป… ววตฺถานํ น สิยา. ยทิ กมฺมานิ กมฺมนฺตรจารีนิ โหนฺติ, กายกมฺมาทิกสฺส วจีกมฺมาทิกภาวาปตฺติโต ‘‘กมฺมสมฺเภทา ทฺวารสมฺเภโทปี’’ติ กายกมฺมํ กายกมฺมทฺวารนฺติ อฺมฺววตฺถานํ น สิยาติ อิมมตฺถมาห ‘‘กมฺมานมฺปิ กมฺมนฺตรจรเณ เอเสว นโย’’ติ. กมฺมนฺตรจรณํ กมฺมนฺตรูปลกฺขณตา. เตเนวาห ‘‘ทฺวารภาเวนา’’ติ. ทฺวารนฺตรจรณํ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติ. ทฺวาเรติ อตฺตโน ทฺวาเร. อฺสฺมินฺติ ทฺวารนฺตเร. กมฺมานีติ ตํตํทฺวาริกกมฺมานิ. อฺานีติ อฺทฺวาริกกมฺมานิ. ทฺวาเร ทฺวารานิ น จรนฺตีติ ทฺวารนฺตรภาเวน นปฺปวตฺตนฺติ, ทฺวารนฺตรํ วา น สงฺกมนฺติ. กิฺจาปิ วิฺตฺติยา จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เยน เกนจิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจยภาโว นตฺถิ, ตถา ปน วิฺตฺติยา ปวตฺตมานาย เอว ปาณาติปาตาทิ โหติ, นาฺถาติ สิยา วิฺตฺติยา เหตุภาโว เจตนายาติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติ. กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ กมฺมววตฺถานสฺเสว วา ¶ การณภาวํ สนฺธาย ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติ วุตฺตํ. ยทิปิ ‘‘ทฺวาเรหิ กมฺมานี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อฺมฺํ ววตฺถิตา’’ติ ปน วุตฺตตฺตา กมฺเมหิปิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานีติ อยมตฺโถปิ สิทฺโธเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อทฺวารจารีหีติ ทฺวารานํ สยํ ววตฺถิตภาวมาห, น ปน อววตฺถานํ, ววตฺถานเมวาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตํ ววตฺถานํ วิภาเวติ กมฺมานเปกฺขาติอาทินา. ตตฺถ สมยนิยมิเตน จิตฺเตน สมโย วิย ทฺวารนิยมิเตหิ กมฺเมหิ ทฺวารานิ นิยมิตานีติ อยํ สงฺเขปตฺโถ.
เอวํสภาวตฺตาติ ¶ ทฺวารภูเตหิ กายาทีหิ อุปลกฺขณียสภาวตฺตา. อาณตฺติ…เป… มานสฺสาติ กายวจีกมฺมานํ วจีกายวิฺตฺตีหิ ปกาเสตพฺพตํ อาห. กายาทีหีติ กายวจีวิฺตฺตีหิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ กมฺมานิ สเกน ทฺวาเรน อุปลกฺขิตาเนว จรนฺติ, ตสฺมา. นาปิ กมฺมํ ทฺวารสฺสาติ ยสฺมึ ทฺวารนฺตเร กมฺมํ จรติ, ตสฺส ทฺวารสฺส อนตฺตนิยสฺส. ตํตํทฺวารเมวาติ สกทฺวารเมว. กมฺมสฺสาติ สกสกกมฺมสฺส. ยทิ กมฺเมหิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานิ, ‘‘กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตา’’ติ อิทํ กถํ นียตีติ อาห ‘‘ปุพฺเพ ปนา’’ติอาทิ.
สาติ วิฺตฺติ. ตสฺสาติ กมฺมสฺส. เกนจิ ปกาเรนาติ จตุวีสติยา ปจฺจยปฺปกาเรสุ เกนจิ ปกาเรน. ตํสหชาตาติ เอเตน กายวิฺตฺติยา สพฺภาเวเยว กายกมฺมสฺส สพฺภาโว, นาฺถาติ ปริยาเยน วิฺตฺติยา กมฺมสฺส การณภาวํ วิภาเวติ. เตเนวาห ‘‘อุปฺปตฺติฏฺานภาเวน วุตฺตา’’ติ. ยถาวุตฺตนิยเมนาติอาทินา กมฺมสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภาเว พฺยภิจาราภาวมาห. ตตฺถ ยถาวุตฺตนิยเมนาติ อฏฺกถายํ วุตฺตปฺปกาเรน ววตฺถานยุตฺติสงฺขาเตน นิยเมน. ทฺวารจรเณติ อฺทฺวารจรเณ.
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
จตูหิ องฺเคหีติ เอตฺถ ‘‘สุภาสิตํเยว ภาสติ, โน ทุพฺภาสิตํ. ธมฺมํเยว, ปิยํเยว, สจฺจํเยว ภาสติ, โน อลิก’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓; สุ. นิ. สุภาสิตสุตฺต) ยานิ องฺคานิ สุตฺเต ¶ วุตฺตานิ, เตสํ เจตนาสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุภาสิตภาสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถาปวตฺตาติ สุภาสิตภาสนาทิภาเวน ปวตฺตา. สห สมฺภูตตฺตาติ สเหว อุปฺปนฺนตฺตา. น หิ วจีวิฺตฺติ สทฺทรหิตา อตฺถิ. ตถา หิ ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘วาจาคิรา พฺยปโถ’’ติอาทินา (ธ. ส. ๖๓๖) นาติสุขุมํเยว สทฺทวาจํ วตฺวา ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ, ตาย สทฺธึ โยเชตฺวา วจีวิฺตฺติยา วุตฺตตฺตา รูปายตนํ วิย วตฺถุปริตฺตตาทินา ¶ สทฺทายตนมฺปิ อนินฺทฺริยโคจโร อตฺถีติ จ อธิปฺปาเยน ‘‘ยา ตาย…เป… วิฺายตี’’ติ อาห.
อิทานิ อวิเสเสน จิตฺตสมุฏฺานสทฺทสฺส โสตวิฺาณารมฺมณตา ปาฬิยํ วุตฺตาติ วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท น โสตวิฺเยฺโยติ มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปาฬิยา วิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ สงฺคหการสฺส อธิปฺปาเย ตฺวา มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปฏิเสเธตพฺพตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน อธิปฺปาเย ตฺวา ตํ ปริหริตุํ ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. สงฺฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺตานํ ภูตานํ สทฺทสฺส นิสฺสยภาวโต สงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชติ. ตปฺปจฺจยภาโวติ อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภาโว. จิตฺตชปถวีธาตุยา อุปาทินฺนกฆฏฺฏเน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ จิตฺตสมุฏฺานมหาภูตานํ เอโก อาการวิเสโส อตฺถิ. ตทาการตฺตา หิ เตสํ ปถวีธาตุ อุปาทินฺนกํ ฆฏฺเฏตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพตฺตา ‘‘วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตเมว วุตฺตนยํ ‘‘ตพฺพิการาน’’นฺติอาทินา วิภาเวติ. ตตฺถ อฺมฺสฺส ปจฺจยภาโว ตปฺปจฺจยภาโว วุตฺโตติ อตฺโถ. อฺมฺปิ สพฺพํ วิธานนฺติ ‘‘น จิตฺตสมุฏฺานาติ เอเตน ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสตี’’ติอาทินา อตฺตนา วุตฺตวิธานํ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตวิธานํ ‘‘เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตเมวาติ.
อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส เทสนฺตเร ปารมฺปริเยน อุปฺปาทนํ เทสนฺตรุปฺปาทนปรมฺปรตา. ลทฺธาเสวเนนาติ ลทฺธปุพฺพาภิสงฺขาเรน. จิตฺเตเนวาติ ปมจิตฺเตเนว. ‘‘สตฺต ชวนานิ สตฺต อกฺขรานิ นิพฺพตฺเตนฺตีติ วาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกชวนวารปริยาปนฺนานิ จิตฺตานิ เอกมกฺขรํ นิพฺพตฺเตนฺตี’’ติ วทนฺติ. กิฺจาปิ ปมจิตฺเตนปิ ฆฏฺฏนา นิปฺผชฺชติ, เอกสฺเสว ปน พหุโส ปวตฺตเนน ¶ อตฺถิ โกจิ วิเสโสติ ปุริมชวนสมุฏฺิตาหิ ฆฏฺฏนาหิ ปฏิลทฺธาเสวเนน สตฺตมชวเนน สมุฏฺิตา ฆฏฺฏนา ปริพฺยตฺตมกฺขรํ นิพฺพตฺเตตีติ อุปตฺถมฺภนํ นตฺถีติ น สกฺกา วตฺตุํ. ลทฺธาภิสงฺขาเรน ปน ปมจิตฺเตนปิ ฆฏฺฏนา พลวตี โหตีติ อฏฺกถายํ ‘‘อุปตฺถมฺภนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ สิยา, สพฺพเมตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
‘‘สพฺพายปิ ¶ กายวจีวิฺตฺติยา กายวจีทฺวารภาโว วิย สพฺพสฺสปิ จิตฺตสฺส มโนทฺวารภาโว สมฺภวตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺกถายํ ‘‘อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตํทฺวารวนฺตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘อยํ นาม เจตนา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยสฺส ทฺวารํ มโน, ตํ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ. ยถา ปน ติวิธจตุพฺพิธกายวจีกมฺมานํ ทฺวารภาวโต กายกมฺมทฺวารวจีกมฺมทฺวารานิ วุตฺตานิ, เอวํ มโนกมฺมนฺติ วุตฺตอภิชฺฌาทีนํ ทฺวารภาวโต วฏฺฏเหตุภูตโลกิยกุสลากุสลสมฺปยุตฺตมโน เอว มโนกมฺมทฺวารนฺติ สนฺนิฏฺานํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เจตนาย อตฺตโน กิจฺจํ อารทฺธาย สมฺปยุตฺตาปิ ตํ ตํ สกิจฺจํ อารภนฺตีติ สา เน สกิจฺเจ ปวตฺเตติ นาม, ตถา ปวตฺเตนฺตี จ สมฺปยุตฺเต เอกสฺมึ อารมฺมเณ อวิปฺปกิณฺเณ กโรติ พฺยาปาเรติ จาติ วุจฺจติ, ตถา สมฺปยุตฺตานํ ยถาวุตฺตํ อวิปฺปกิณฺณกรณํ สมฺปิณฺฑนํ อายูหนํ พฺยาปาราปาทนํ พฺยาปารณํ เจตยนนฺติ อายูหนเจตยนานํ นานตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ผสฺสาทิธมฺเมหี’’ติอาทิมาห. ตถากรณนฺติ ยถา ผสฺสาทโย สกสกกิจฺเจ ปสุตา ภวนฺติ, ตถา กรณํ. เตเนว ยถาวุตฺเตน อวิปฺปกิณฺณพฺยาปารณากาเรน สมฺปยุตฺตานํ กรณํ ปวตฺตนนฺติ ทฏฺพฺพํ. กมฺมกฺขยกรตฺตาติ กมฺมกฺขยกรมนสฺส กมฺมทฺวารภาโว น ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ยโต ‘‘กมฺมปถกถา โลกิยา เอวา’’ติ วทนฺติ.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมกถาวณฺณนา
สมานกาลาปิ ¶ การณผลกิริยา ปุพฺพาปรกาลา วิย วตฺตุํ ยุตฺตาเยว. เสยฺยถาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. โจปนกิริยนฺติ วิฺตฺติทฺวยํ อาห. ตสฺสา หิ จิตฺตสมุฏฺานกายสทฺทวาจาหิ กายวจีวิฺตฺตีหิ เอว วา ปุริมปุริมาหิ ปวตฺเตตพฺพตฺตา ‘‘กายวาจาหิ โจปนกิริยํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ ตพฺพิการานํ ภูตานํ ตถาปวตฺตนโต. อถ วา กายวาจาหีติ กายวจีวิฺตฺตีหิ ¶ . โจปนกิริยนฺติ รูปกายสฺส ถมฺภนจลนกิริยํ อุปาทินฺนกฆฏฺฏนกิริยฺจ. เอสา หิ กิริยา ‘‘รูปกายํ ถมฺเภตุํ จาเลตุํ ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ’’ติ, ‘‘อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภูโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา กายวจีวิฺตฺตีหิ นิปฺผชฺชตีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘โจปนกิริยานิสฺสยภูตา กายวาจา’’ติ, ‘‘กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺติ วาสิอาทีหิ วิย เฉทนาทิ’’นฺติ จ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ ภวติ. น เกวลํ ธรมานตาว สพฺภาโว, อถ โข มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนตาปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิโรธิเตวา’’ติ อาห. อสมุจฺฉินฺนตา จ กายาทีนํ ตทุปนิสฺสยกิเลสาสมุจฺเฉเทเนวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺตี’’ติ เอเตน โจปนาภิชฺฌาทิกิริยานิพฺพตฺติทฺวาเรน เจตนานิพฺพตฺติเยว วุตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘เอวฺจ…เป… ยุชฺชนฺตี’’ติ อาห. เอวฺจ กตฺวา กาเย สติ วาจาย สตีติอาทิวจนํ อนุโลมิตํ โหติ. ยาย เจตนายาติ กรณนิทฺเทโส ปน กายาทีนํ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยาย จ เจตนาเหตุกตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ.
สภาวโต อุปการกโต มคฺเค สติ สพฺภาวโต จ โพชฺฌงฺคา มคฺเค อนฺโตคธาติ อาห ‘‘น จ น สกฺกา’’ติอาทิ.
กมฺมปถํ อปฺปตฺตานมฺปิ ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนนฺติ ยถา กมฺมปถํ ปตฺตานํ, เอวํ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานมฺปิ สติปิ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติยํ ยถาสกํ ทฺวาเรเหว นามคฺคหณนฺติ วทนฺติ, เอวํ สติ อฏฺกถาย วิโรโธ. ทุติยตฺถสฺส จ อภาโว สิยา, ตสฺมา ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนนฺติ ยสฺมึ ยสฺมึ ทฺวาเร กมฺมปถํ อปฺปตฺตา อกุสลเจตนาทโย ปวตฺตา, ตาสํ เตน เตเนว ทฺวาเรน นามคฺคหณํ. ตํ ปน ตํตํทฺวารปกฺขิกภาวกรณโต ตตฺถ อวโรธนนฺติ ¶ วุตฺตํ. ยถา หิ กมฺมปถํ ปตฺตา กายกมฺมาทิสงฺขาตา เจตนา ทฺวารนฺตเร อุปฺปนฺนาปิ กายกมฺมาทินามเมว ลภนฺติ, น เอวํ กมฺมปถํ อปฺปตฺตา. ตา ปน ยตฺถ ยตฺถ ทฺวาเร อุปฺปชฺชนฺติ, เตน เตเนว ทฺวาเรน กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตนฺติอาทินามํ ลภนฺติ. เอวํ นามคฺคหณเมว หิ เตสํ ตํตํทฺวารปกฺขิกกรณํ วุตฺตํ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ วจีทฺวาเร โจปนปฺปตฺตํ กมฺมปถํ, อปฺปตฺตตาย ปน กายกมฺมํ น โหติ, เกวลํ วจีทุจฺจริตํ นาม โหตี’’ติ วุตฺตํ.
สติปิ ปาณาติปาตาทิเจตนาย วจีทฺวาราทีสุ ปวตฺติยํ ยถาวุตฺตเยภุยฺยตพฺพหุลวุตฺติยา กายกมฺมาทิภาวววตฺถาปนํ ¶ กายาทิกสฺส ตํตํทฺวารภาวววตฺถาปนฺจ กมฺมทฺวาราเภทนํ. ตฺหิ กมฺมทฺวารานํ อสํกิณฺณภาเวน ปติฏฺาปนํ. ยํ สนฺธาย ‘‘อาณตฺติสมุฏฺิเตสู’’ติ อฏฺกถายํ วกฺขติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกกสฺมึ ทฺวาเร อเนเกสํ กมฺมานํ ปวตฺติทสฺสนมฺปิ ทฺวารสํสนฺทน’’นฺติ วทนฺติ. ยถา ปวตฺโต พฺยาปาโท กมฺมปโถ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติ ปวตฺติ พฺยาปาทสฺส ทสฺสิตา. กายทฺวาริกเจตนาย สหการีการณภาวโต กายกมฺมโวหารลาภา, อภิชฺฌาทีนํ ปรสนฺตกสฺส อตฺตโน ปริณามนวเสน ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติอาทินา จ อปฺปวตฺตตฺตา มโนกมฺมโวหารวิรหา, อเจตนาสภาวโต วา ปาณาติปาตาทิวเสน อพฺโพหาริกา, ปาณาติปาตาทิภาเวน น วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อพฺโพหาริกภาเว.
ทสวิธา อิทฺธิ…เป… ตพฺพา วิตฺถาเรนาติ อธิปฺปาโย.
เตนาธิปฺเปตนฺติ ‘‘อกุสลํ วจีกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาตี’’ติ วทนฺเตน อธิปฺเปตํ. ‘‘น อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เตน อุโปสถกฺขนฺธกโต สุตฺตํ อาหฏนฺติ? กิฺจาปิ อาหฏํ, ตตฺถ อวุตฺโตเยว ปน โส เตน วุตฺโตติ คหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ อวุตฺตเมวา’’ติอาทิมาห.
‘‘สุคติทุคฺคตีสุ อุปปชฺชนํ สุกตทุกฺกฏกมฺมโต น โหติ, ขนฺธสิวาทีหิ ปน โหตีติ คเหตฺวา ‘นตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทินา ปรามสนฺตสฺส วเสน ‘มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… ปริภณฺฑาทีนิ กโรตี’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อภิชฺฌาทิปธานตฺตาติ เอเตน วิชฺชมาเนสุปิ พฺยาปาทาทีสุ ยทา กายวจีทฺวาเรสุ เจตนา ¶ พลวตี โหติ, น ตถา อิตเร, ตทา ปธานภาวโต เจตนา กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ ลภติ. โส โข ปนสฺสา ปธานภาโว ปาณาติปาตาทิสิทฺธิยา วิฺายติ. ยทา ปน เตสุเยว ทฺวาเรสุ อภิชฺฌาทโย พลวนฺโต โหนฺติ, น ตถา เจตนา, ตทา ตตฺถ วิชฺชมานาปิ เจตนา อปธานภาวโต กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ น ลภติ. อภิชฺฌาทโย ปน ปธานภาวโต สติปิ กายงฺควาจงฺคโจปเน สเกน ววตฺถาเนน มโนกมฺมนฺตฺเวว วุจฺจนฺตีติ ทสฺเสติ. เย ปน ‘‘ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กมฺมปถภาเวน อปฺปตฺติยา ทฺวารตฺตเยปิ กมฺมปถปฺปตฺตมโนกมฺเมน สห ปวตฺติยา จ เจตนา เอตฺถ กมฺมนฺติ น วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ, เตหิ อภิชฺฌาทีนํ ปธานสภาวํเยว สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. อถ วา เจตนาย นิปฺปริยายกมฺมภาวโต ปริยายกมฺเม อนวโรเธตพฺพตฺตา ‘‘อพฺโพหาริกา’’ติ ¶ วุตฺตํ. อตฺตโน สภาเวเนว ปน สา เอตฺถาปิ กมฺมนฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทิ (กถา. ๕๓๙). อฏฺกถายฺจ ‘‘ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา’’ติอาทินา เจตนาเยว ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สภาเวเนว สา มโนกมฺม’’นฺติอาทิ. อถ วา กมฺมปถปฺปตฺตอภิชฺฌาทีหิ กายวจีทฺวาเร สหชาตา เจตนา กายวจีกมฺมวเสน อพฺโพหาริกา เจตนาสงฺขาตมโนกมฺมตฺตาติ. ยทิ อภิชฺฌาทโย ปธานา, น เจตนา, เอวํ สติ อภิชฺฌาทโย เจตฺถ กมฺมํ, น เจตนา, อภิชฺฌาทิปกฺขิกา วา สา สิยาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว’’ติอาทิ. ‘‘เจตนาปิ…เป… มโนทฺวาเร เอว สมุฏฺหนฺตี’’ติ อิทํ มโนทฺวาเร เจตนาย อภิชฺฌาทีหิ มโนกมฺมภาเว นิพฺพิเสสภาวทสฺสนนฺติ กตฺวา ‘‘เจตนา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ อาห. เจตนา เจตนากมฺมํ, อภิชฺฌาทโย เจตนาสมฺปยุตฺตกมฺมนฺติ เอตฺตกเมว หิ เอตฺถ วิเสโสติ. เอตฺถ จ เจตนาย กายวจีกมฺมภาโว สิยาติ อาสงฺกาย อภาวโต มโนทฺวาเร อกุสลกายวจีกมฺมานํ อนุปฺปตฺติโต จ อพฺโพหาริกาติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
วิรติวิสิฏฺาติ วิรติโต เจตนาย ปธานภาวมาห. ตตฺถ ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา’’ติอาทินา (กถา. ๕๓๙) อาคมมฺหิ ‘‘ปาณาติปาตาทิปฏิปกฺขภูตา’’ติ ยุตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺมา จ ปฏฺาเน เจตนาว ‘‘กมฺมปจฺจโย’’ติ ¶ วุตฺตา, น วิรติ, อภิชฺฌาทโย วา, ตสฺมา นิปฺปริยาเยน กมฺมํ ‘‘เจตนา’’ติ อนภิชฺฌาทโย ‘‘เจตนาปกฺขิกา วา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. อสงฺกรโต กมฺมทฺวารานิ ววตฺถเปนฺโต ‘‘รกฺขตี’’ติ, วิปริยาเยน ‘‘ภินฺทตี’’ติ วุตฺโตติ รกฺขณภินฺทนานิ อนาเสตฺวา นาเสตฺวา จ กถนนฺติ วุตฺตานีติ.
กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติโย วิกปฺโป ปมจตุตฺถวิฺาณทฺวาเรสุเยว ลพฺภติ, น อิตรตฺถ ‘‘โสตํ ฆาน’’นฺติอาทินา อวุตฺตตฺตา, อิตรถาปิ วา อวิภตฺติเก นิทฺเทเส ลพฺภติ. ยโต สํวรวเสน ปาติโมกฺขสีลํ ปวตฺตติ, ตํ ทุสฺสีลฺยนฺติ อาห ‘‘ทุสฺสีลฺยํ ปาณาติปาตาทิเจตนา’’ติ. อิตรา สํวรวินิมุตฺตา อภิชฺฌาโทมนสฺสยุตฺตา ตปฺปธานา วา อกุสลธมฺมา สติปฏิปกฺขา อกุสลา ธมฺมา ¶ . อารมฺมเณ จิตฺตโวสฺสคฺควเสน ปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ปมาโท. วีริยปโนทนภาวโต ถินมิทฺธํ ‘‘โกสชฺช’’นฺติ วุตฺตํ, ถินมิทฺธปฺปธาโน วา จิตฺตุปฺปาโท.
อสุทฺธตาติ อเกวลตา อฺเน สมฺมิสฺสตา. ทฺวารฺหิ ทฺวารนฺตริกกมฺมสฺส ทฺวารํ โหนฺตํ เตน มิสฺสิตํ วิย โหติ. เตเนวาห ‘‘มุสาวาทาทิโนปิ กายทฺวาเร ปวตฺติสพฺภาวา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อวิฺเยฺยมานนฺตรานํ ทฺวารนฺตรจิตฺตานํ อนฺตรนฺตรา อปฺปวตฺติโต สุทฺธนฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ อเนกสฺสปิ ชวนวารสฺส กายกมฺมาทิภาเวน ปพนฺธนวเสน ปวตฺติ อตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. อวิรุทฺธํ โหตีติ อกุสลกายกมฺมาทิภาเวน อวธาเรตฺวา อสํวรํ วตฺวา ปุน ตสฺเสว วาจาอสํวรทฺวาราทีสุ อุปฺปตฺติวจนํ กายทฺวารูปลกฺขิโต อสํวโร ทฺวารนฺตเร ปวตฺโตปิ กายทฺวาริโก เอวาติ เอวํ สํวณฺณนาย สติ น วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ อวิรุชฺฌนาการํ ‘‘อสํวโร หี’’ติอาทินา วิภาเวติ. สทฺวาเรติ อตฺตโน ทฺวาเร. อสํวโร ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมาโนปิ สทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนติ วุจฺจตีติ เอเตน วาจาอสํวรทฺวาเร อุปฺปนฺโนปิ กายิโก อสํวโร โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนตฺเวว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิตรตฺถาปิ. กมฺมํ อฺทฺวาเรติ กมฺมสฺส ทฺวารนฺตรจรณํ ปากฏนฺติ กตฺวา วุตฺตํ.
เอวํ ¶ สตีติ โจปนสงฺขาเต กายอสํวรทฺวาเร อสํวโรติ เอตฺตเก เอว คหิเต. กมฺมปถภาวปฺปตฺตสฺเสว กมฺมภาโว อฏฺกถายํ วุตฺโตติ อาห ‘‘กมฺมปถภาวปฺปตฺตตาย วจีมโนกมฺม’’นฺติ. เสสนฺติ ทฺวารนฺตรานุปลกฺขิตํ. ตถา น วุจฺจตีติ กายกมฺมนฺติ น วุจฺจตีติ อตฺโถ. ตตฺเถว วกฺขามาติ กมฺมปถสํสนฺทเน วกฺขาม. ‘‘โส หิ กายทฺวาเร โจปนปฺปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. กมฺมปถสํสนฺทนกถา) ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา จ วจีกมฺมาทีนฺจ กมฺมปถปฺปตฺตานํ อสํวรภูตานํ กายกมฺมาทิภาเว อาปนฺเน ‘‘จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา อปวาเทน นิวตฺติ ทฏฺพฺพาติ เอวํ วกฺขมานตํ สนฺธายาห. อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตอาชีวปาริสุทฺธิสีลานํ าณวีริเยหิ สาเธตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
สรเสน ¶ อตฺตโน สภาเวน. ยาย เจตนาย ปวตฺตมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปจฺจยภูเตสุ มหาภูเตสุ อุปกฺกมกรณเหตุ ตํมหาภูตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกมหาภูตา นุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สา ตาทิสปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปาณาติปาโต นาม. ลทฺธุปกฺกมานิ หิ ภูตานิ น ปุริมภูตานิ วิย วิสทานีติ สมานชาติยานํ ภูตานํ การณํ น โหนฺตีติ. เอกสฺสปิ ปโยคสฺส สหสา นิปฺผาทนวเสน กิจฺจสาธิกาย พหุกฺขตฺตุํ ปวตฺตชวเนหิ ลทฺธาเสวนาย จ สนฺนิฏฺาปกเจตนาย วเสน ปโยคสฺส มหนฺตภาโว. สติปิ กทาจิ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ ปาเณ ปโยคสฺส สมภาเว มหนฺตํ หนนฺตสฺส เจตนา ติพฺพตรา อุปฺปชฺชตีติ วตฺถุสฺส มหนฺตภาโวติ ตทุภยํ เจตนาย พลวภาเวเนว โหตีติ อาห ‘‘ปโยค…เป… ภาวโต’’ติ. ยถาวุตฺตปจฺจยวิปริยาเยปีติ ปโยควตฺถุอาทิปจฺจยานํ อมหตฺเตปิ. ตํตํปจฺจเยหีติ คุณวนฺตตาทิปจฺจเยหิ. เอตฺถ จ หนฺตพฺพสฺส คุณวนฺตตาย มหาสาวชฺชตา วตฺถุมหนฺตตาย วิย ทฏฺพฺพา. กิเลสานํ อุปกฺกมานํ ทฺวินฺนฺจ มุทุตาย ติพฺพตาย จ อปฺปสาวชฺชตา มหาสาวชฺชตา จ โยเชตพฺพา. ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตฺจ ปุพฺพภาคสมฺภารา, อุปกฺกโม ¶ วธกเจตนาสมุฏฺาปิโต, ปฺจสมฺภารวตี ปาณาติปาตเจตนาติ สา ปฺจสมฺภารวินิมุตฺตา ทฏฺพฺพา. เอส นโย อทินฺนาทานาทีสุปิ.
มนฺตปริชปฺปเนน ปรสฺส สนฺตกหรณํ วิชฺชามโย, วินา มนฺเตน ปรสนฺตกสฺส กายวจีปโยเคหิ อากฑฺฒนํ ตาทิสอิทฺธิโยเคน อิทฺธิมโย ปโยโคติ อทินฺนาทานสฺสปิ ฉ ปโยคา สาหตฺถิกาทโย เวทิตพฺพา.
อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน มิจฺฉาจาโร มหาสาวชฺโช, น ตถา อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทภาเว. ‘‘จตฺตาโร สมฺภาราติ วุตฺตตฺตา อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน สติปิ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสเน ปุริมุปฺปนฺนเสวนาภิสนฺธิปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น โหติ อภิภุยฺยมานสฺสา’’ติ วทนฺติ. เสวนจิตฺเต สติ ปโยคาภาโว น ปมาณํ อิตฺถิยา เสวนปฺปโยคสฺส เยภุยฺเยน อภาวโต. ปุริสสฺเสว หิ เยภุยฺเยน เสวนปฺปโยโค โหตีติ อิตฺถิยา ปุเรตรํ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา นิปนฺนายปิ มิจฺฉาจาโร น สิยาติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปุริสสฺส วเสน อุกฺกํสโต จตฺตาโร สมฺภารา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา อิตฺถิยา ปุริสกิจฺจกรณกาเล ¶ ปุริสสฺสปิ เสวนปฺปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น สิยาติ. เกจิ ปน ‘‘อตฺตโน รุจิยา ปวตฺติตสฺส ตีณิ องฺคานิ, พลกฺกาเรน ปวตฺติตสฺส ตีณีติ สพฺพานิ อคฺคหิตคฺคหเณน จตฺตารี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
ทุฏฺจิตฺตสฺส อมรณาธิปฺปายสฺส ผรุสกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา ผรุสเจตนา ผรุสวาจา. มรณาธิปฺปาเย ปน สติ อตฺถสิทฺธิตทภาเวสุ ปาณาติปาตา พฺยาปาทา จ โหนฺตีติ. ยํ ปติ ผรุสวาจา ปยุชฺชติ, ตสฺส สมฺมุขาว สีสํ เอติ. ‘‘ปรมฺมุเขปิ ผรุสวาจา โหตี’’ติ วทนฺติ.
ยทิ เจตนาย สพฺพทา กมฺมปถภาวาภาวโต อนิยโต กมฺมปถภาโวติ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, นนุ อภิชฺฌาทีนมฺปิ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานํ อตฺถิตาย อนิยโต กมฺมปถภาโวติ เตสมฺปิ กมฺมปถราสิยํ อวจนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ เตสํ ตตฺถ วุตฺตตฺตา. ยทิ เอวํ เจตนาปิ ตตฺถ วตฺตพฺพา สิยาติ? สจฺจเมตํ, สา ปน ปาณาติปาตาทิกาติ ปากโฏ ตสฺสา ¶ กมฺมปถภาโวติ น วุตฺตํ สิยา. เจตนาย หิ ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ,’’‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจเนหิ กมฺมภาโว ทีปิโต. กมฺมํเยว จ สุคติทุคฺคตีนํ ตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานฺจ ปถภาเวน ปวตฺตํ กมฺมปโถติ วุจฺจตีติ ปากโฏ ตสฺสา กมฺมปถภาโว. อภิชฺฌาทีนํ ปน เจตนาสมีหนภาเวน สุจริตทุจฺจริตภาโว, เจตนาชนิตตํพนฺธติภาเวน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานํ ปถภาโว จาติ น ตถา ปากโฏ กมฺมปถภาโวติ เต เอว กมฺมปถราสิภาเวน วุตฺตา. อตถาชาติยตฺตา วา เจตนา เตหิ สทฺธึ น วุตฺตา สิยา. วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว ตพฺพิรติอารมฺมณานีติ ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอวาติ วจเนน อทินฺนาทานาทีนํ สตฺตารมฺมณตาวจนสฺส วิโรธํ โจเทติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหตี’’ติ. สยเมว ปริหริสฺสตีติ สิกฺขาปทวิภงฺเค ปฺหปุจฺฉกวณฺณนํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ หิ ‘‘ยสฺมา สตฺโตติ สงฺขฺยํ คเต สงฺขาเรเยว อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺมา ปริตฺตารมฺมณาติ วุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
ทุคฺคตตาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อลทฺธาลาโภ ลทฺธวินาโส อิจฺฉิตานํ โภคานํ กิจฺฉปฏิลาโภ ราชาทีหิ สาธารณโภคตา ทุกฺขวิหาโร สาสงฺกวิหาโร’’ติ เอวมาทโย สงฺคหิตา. เกจิ ปน ‘‘ทิฏฺเว ธมฺเม โภคชานิอาทโย นิสฺสนฺทผล’’นฺติ วทนฺติ.
กุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
ตาสฺจ วิรตีนํ เจตนาสมฺปยุตฺตตฺตา เจตนาทฺวาเรน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานํ ปถภาโว ยุตฺโตติ อธิปฺปาโย.
กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา
ตถาติ กมฺมปถปฺปตฺตานํ. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธายาห. โส หิ กมฺมปถปฺปตฺตานเมว ทุสฺสีลฺยาทีนํ สุสีลฺยาทีนฺจ กมฺมปเถหิ อตฺถโต นานตฺตาภาวทสฺสนํ, เตสํ วา ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนํ กมฺมปถสํสนฺทนนฺติ วทติ. กมฺมปถตา นตฺถีติ เอเตน ยถาวุตฺตานํ อสํวรสํวรานํ ¶ เตสํ วาเท กมฺมปถสํสนฺทเน อสงฺคหิตตํ ทสฺเสติ. เย ปน สงฺคหํ ลภนฺติ, เตสํ คหเณ ปโยชนาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิธ…เป… ทสฺสเนนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปุริมปกฺเข สงฺเขปโต โทสํ วตฺวา ทุติยปกฺเขปิ วตฺตุํ ‘‘น จ ทุจฺจริตาน’’นฺติอาทิมาห. เตน เย ทุจฺจริตสุจริตอสํวรสํวรา อนุจรียนฺติ, เตสํ กายกมฺมาทิตา วิธียตีติ ทสฺเสติ. ‘‘ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา หิ วุตฺตนฺติ. ยทิ จาติอาทินา อนวเสสปริยาทานาภาวมาห. อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพาติ กมฺมปถ…เป… วทนฺเตหิ ‘‘มโนกมฺมํ ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชตี’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ยทิ กมฺมปถปฺปตฺตาเนว ทุสฺสีลฺยาทีนิ กายกมฺมาทินาเมหิ อฏฺกถายํ วุตฺตานีติ เอวํ วทนฺเตหิ อฏฺกถาจริเยหิ มโนกมฺมสฺส ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. ตํตํกมฺมภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทึ (วิภ. ๙๑๓) สนฺธายาห.
กมฺมนฺตรมฺปิ ตํทฺวาริกกมฺมเมว สิยาติ ปาณาติปาตาทิกสฺส วจีกมฺมาทิภาวมาสงฺกติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เกสฺจิ อสํวรานํ สํวรานฺจ กมฺมปถตา นตฺถิ, กายทุจฺจริตาทีนฺจ กมฺมปเถหิ นานตฺตาภาวทสฺสเนน ปโยชนํ นตฺถิ, น จ ทุจฺจริตาทีนํ ผสฺสทฺวารานํ วเสน อุปฺปตฺติ ¶ ทีปิตา, น จายํ วิธิ นิรวเสสสงฺคาหิกา, กมฺมานฺจ สงฺกโร อาปชฺชติ, อฏฺกถายฺจ ปุพฺพาปรวิโรโธ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สมานนามตา กายกมฺมาทิตา. สามฺนามาวิชหนํ กายกมฺมาทิภาวาวิชหนํ. อุภเยสนฺติ กมฺมปถากมฺมปถานํ. อุปฺปตฺติปริยายวจนาภาวโตติ เอเตน ผสฺสทฺวารอสํวรทฺวาราทีนํ ตํทฺวาริกกมฺมานฺจ อตฺถโต นานตฺตาภาเวปิ ตถา ตถา ปวตฺตเทสนาวเสน เต วิจาริตาติ ทสฺเสติ. ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน น อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิโก ทุติยวินิจฺฉโย.
กาเย วาจาย จ…เป… สิทฺธิโตติ เอเตน โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ มโนกมฺมํ โจปนํ อปฺปตฺตโต วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กายวจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน กายวจีกมฺมภาวโตติ ทสฺเสติ. เตน กายวจีคหณํ ยถาวุตฺตโจปนปฺปตฺตํ เอว วิภาเวตีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห – ‘‘โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ มโนกมฺมํ โหตี’’ติ. ตํ-สทฺเท ¶ วุตฺเต ยํ-สทฺโท อพฺยภิจาริตสมฺพนฺธตาย วุตฺโตเยว โหตีติ กตฺวา ‘‘ยํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปาทมตฺตปริจฺฉินฺเนนาติ ฉผสฺสทฺวาริกกมฺเมนาติ อตฺโถ. มตฺต-สทฺเทน วิเสสนิวตฺติอตฺเถน มโนกมฺมตาวิเสสํ นิวตฺเตติ. นิยมสฺส เอว-สทฺทสฺส อกตตฺตา ‘‘กายวจีกมฺมเมว โหตี’’ติ อวุตฺตตฺตา. อิทานิ นิยมากรเณน ลทฺธคุณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ปน สพฺพมฺปี’’ติอาทิมาห.
‘‘นิยมสฺส อกตตฺตา’’ติอาทิ ปุริมนโยติ อธิปฺเปโต. วตฺตุอธิปฺปายานุโรธินี สทฺทปฺปวตฺตีติ สมาสปเท เอกเทโสปิ อากฑฺฒียติ อธิการวเสนาติ อธิปฺปาเยน ‘‘กมฺม-สทฺทมตฺเตน สมฺพนฺธํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน วทนฺตีติอาทินา เอตฺถ ปทการมตสฺส อยุตฺตตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ เจตนาปกฺขิกานนฺติ กายวจีกมฺมภูตเจตนาปกฺขิกานํ. สตนฺติ สมานานํ. ตํตํทฺวารกมฺมปถานฺจาติ อิทํ อิมสฺส จิตฺตสฺส กมฺมปถภาเวน ปวตฺตํ กาลํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺพทา, กมฺมปถภาเวเนว ปวตฺตนโต. จ-สทฺเทน วา อกมฺมปถสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อถ วา ตํตํทฺวารา จ ตํตํทฺวารกมฺมปถา จ ตํตํทฺวารกมฺมปถาติ ‘‘ตํตํทฺวารา’’ติ ปเทน อกมฺมปถานํ สํวรานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตน สภาเวนาติ มโนกมฺมสฺส ทฺวารภาเวน, น อตฺตโนติ อธิปฺปาโย. เอวมิธาปีติ จิตฺตชนิโต จิตฺตสมฺปยุตฺตสฺส กมฺมสฺส ทฺวารภาโว จิตฺเตปิ อุปจริโตติ อตฺโถ. วตฺตพฺพเมว นตฺถิ อนนฺตรปจฺจยภูตมโนรหิตสฺส จิตฺตสฺส อภาวโตติ.
ทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมาภาวนิยมาภาเว ¶ สพฺพารมฺมณตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคณฺหาติ. น หิ…เป… อตฺถีติ ปธาเน อสมฺภวโต อปฺปธานํ อธิกรียตีติ ทสฺเสติ.
ธมฺมุทฺเทสวารกถา
ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา
‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา ผสฺสาทีนํ กามาวจรตาทิทสฺสเน น ตปฺปรภาโว, สภาวทสฺสเน เอว ปน ตปฺปรภาโวติ ทสฺเสติ ‘‘น หิ ผสฺสาทีน’’นฺติอาทินา.
จิตฺตกิริยาภาเวนาติ ¶ จิตฺตพฺยาปารภาเวน. ผสฺสสฺส สมฺปชฺชนมุปฺปชฺชนเมว. สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ เอเตน จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาตการณํ ผสฺโส จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาโตติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ผสฺโส หิ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺติโต ตสฺส อารมฺมเณ สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโยติ จ วุจฺจติ. สา จสฺส ผุสนาการปฺปวตฺติ สาขคฺเค ิตํ ทิสฺวา ภูมิสณฺิตสฺส อวีรกปุริสสฺส ชงฺฆจลนํ, อมฺพิลอมฺพปกฺกาทึ ขาทนฺตํ ทิสฺวา มุเข เขฬุปฺปตฺติ, ทยาลุกสฺส ปรํ หฺมานํ ทิสฺวา สรีรกมฺปนนฺติ เอวมาทีสุ ปริพฺยตฺตา โหติ. ตพฺพิเสสภูตา รูปธมฺมาติ ยถา ปฏิหนนวเสน อฺมฺํ อาสนฺนตรํ อุปฺปชฺชมาเนสุ รูปธมฺมวิเสเสสุ สงฺฆฏฺฏนปริยาโย, เอวํ จิตฺตารมฺมณานํ วิสยกรณวิสยภาวปฺปตฺติ ปฏิหนนากาเรน โหติ. โส จ จิตฺตนิสฺสิโต ธมฺมวิเสโส สงฺฆฏฺฏนปริยาเยน วุตฺโต, ยทาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส ผสฺโส ปฺจทฺวาริโกว, น อิตโร วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนาภาวโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อุปจารสิทฺธตฺตา สงฺฆฏฺฏนสฺส. อิตรถา ปฺจทฺวาริกสฺสปิ ตํ น สมฺภเวยฺยาติ. อินฺทฺริยมนสิกาเรสุ ยถาปวตฺตมาเนสุ ตํตํอารมฺมเณ วิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, เตสํ ตถาปวตฺติเยว วิฺาณสฺส วิสยภาวกรณํ.
‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ วุจฺจติ กามานํ อสฺสาโท’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๙.๓๔) สุขเวทนาว อสฺสาโทติ อาห ¶ ‘‘อสฺสาทภาวโต’’ติ. ผุสนาทิภาเวน อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนนฺติ อนุปจริตเมว ผสฺสาทีนํ อนุภวนกิจฺจมาห.
นิมิตฺเตนาติ นีลาทินา ทีฆาทินา จ นิมิตฺเตน. เอเตนุปาเยนาติ ยถา าณปฺปธาเน จิตฺตุปฺปาเท สฺา าณมนุวตฺตติ, เอวํ สมาธิปฺปธาเน สมาธินฺติ ทสฺเสติ.
ปพนฺธตีติ ปฏฺเปติ สมฺปยุตฺตธมฺเม สกสกกิจฺเจ ปฏฺเปติ. เตเนว หิ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ อาห.
วิชฺชมานตาวาจี โหติ-สทฺโท, วิชฺชมานตา จ สงฺขตธมฺมานํ อุปฺปชฺชเนน วินา นตฺถีติ ‘‘จิตฺตํ น ตถา อตฺถโต นุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. เตน ยสฺมา จิตฺตํ ¶ น นุปฺปชฺชติ อุปฺปชฺชติ เอว, ตสฺมา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตนฺติ อยเมตฺถ อฏฺกถาย อตฺโถ. เอวมวฏฺิเต โหติ-อุปฺปชฺชติ-สทฺทานํ สมานตฺถตฺเตน น กิฺจิ ปโยชนํ ทิสฺสติ. อถ วา ภวนํ นาม สตฺตา, สตฺตา จ อุปฺปาทาทินา สมงฺคิตาติ ผสฺสาทีนํ ขณตฺตยปริยาปนฺนตา ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทีสุ โหติ-สทฺเทน วุตฺตา. ตตฺถ โย ภาโว อุปฺปาทสมงฺคี, น โส น โหติ นาม, ตสฺมา อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส โหติ-สทฺทวจนียตา น น สมฺภวติ. อุปฺปนฺนํ โหตีติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อุปฺปนฺน-สทฺเทเนว อุปฺปาทาทิสมงฺคิตา วุจฺจติ, ตพฺภาวานติวตฺติ ปน โหติ-สทฺเทน วุตฺตา ขณตฺตยวีติวตฺเตปิ อุปฺปนฺน-สทฺทสฺส วตฺตนโต, ตสฺมา น เอตฺถ อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน สมานตฺถตาสพฺภาวทสฺสนํ วิย อุปฺปชฺชติทสฺสนมฺปิ วิรุชฺฌติ ปากฏกรณภาวโต. อิตรถา ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ อิมินาว จิตฺตสฺส วิชฺชมานภาโว ทสฺสิโตติ กึ ปุน วิชฺชมานภาวทสฺสเนนาติ น น สกฺกา วตฺตุํ, สมยววตฺถานวเสน สวิเสสํ วุตฺตมฺปิ จิตฺตํ ผสฺสาทีหิ สหุปฺปตฺติยา สุฏฺุตรํ นิพฺพิเสสนฺติ ทสฺเสตุํ จิตฺตสฺส ปุน วจนํ. อุทฺทิฏฺธมฺมานํเยว เจตฺถ นิทฺเทสวาเร วิภชนํ, น วิภงฺเค วิย ปาฬิยา อารุฬฺหสพฺพปทานนฺติ ‘‘อุทฺเทสวาเร สงฺคณฺหนตฺถํ นิทฺเทสวาเร วิภชนตฺถ’’นฺติ อยมฺปิ อตฺโถ นิจฺจโล. ตถา หิ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ มคฺคาทโย น วิภตฺตา. อปิจ อธิปติภาเวน อินฺทฺริเยสุ วิย ผสฺสเวทนาสฺาเจตนาหิ สห สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณราสิยํ คเหตพฺพตฺตา สมยววตฺถาเน วุตฺตมฺปิ จิตฺตํ ผสฺสปฺจมเก วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ฌานงฺคราสิวณฺณนา
วิตกฺกนนฺติ ¶ วิตกฺกนกิริยา, สา จ วิตกฺกสฺส อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺติมตฺตเมวาติ ภาวนิทฺเทโส วสวตฺติภาวนิวารณาย โหติ. ยสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, ตํ ตสฺส คหณโยคฺยํ กโรนฺโต วิตกฺโก อาโกเฏนฺโต วิย ปริวตฺเตนฺโต วิย จ โหตีติ ตสฺส อาโกฏนลกฺขณตา ปริยาหนนรสตา จ วุตฺตา. อิทฺจ ลกฺขณํ กิจฺจสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมานฺหิ สภาววินิมุตฺตา กาจิ กิริยา นาม นตฺถิ, ตถา คเหตพฺพากาโร. โพธเนยฺยชนานุโรเธน ปน ปรมตฺถโต เอกสภาโวปิ สภาวธมฺโม ปริยายวจเนหิ วิย สมาโรปิตรูเปหิ พหูหิ ปกาเรหิ ปกาสียติ. เอวฺหิ โส สุฏฺุ ปกาสิโต โหตีติ.
วิปฺผาโร ¶ นาม วิตกฺกสฺส ถินมิทฺธปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อโนลีนตา อสงฺโกโจ, โส ปน อภินิโรปนภาวโต จลนํ วิย โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อุปจารปฺปนาสุ สนฺตาเนน ปวตฺติยนฺติ เอเตน ยถา อปุพฺพารมฺมเณ ปมาภินิปาตภูโต วิตกฺโก วิปฺผารวา โหติ, น ตถา เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ นิรนฺตรํ อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺติยํ, นาติวิปฺผารวา ปน ตตฺถ โหติ สนฺนิสินฺนภาวโตติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘นิจฺจโล หุตฺวา’’ติอาทิ.
‘‘ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) ปีติยา ผรณํ กายวิสยนฺติ ยถา ตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปณีตรูเปหี’’ติ วุตฺตํ.
วิสารสฺส พฺยคฺคภาวสฺส ปฏิปกฺโข สภาโว อวิสาโร, น วิสาราภาวมตฺตํ. อวิสาราวิกฺเขปานํ สมาธานภาวโต อตฺถโต วิเสสาภาเวปิ สมุเขน สมฺปยุตฺตมุเขน จ อุภยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิสา…เป… วิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ. วิเสสโตติ อติสเยนาติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. สุขฺหิ สมาธิสฺส วิเสสการณํ ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต.
อินฺทฺริยราสิวณฺณนา
ตตฺถาติ ¶ สทฺทหนสงฺขาเต อธิโมกฺขลกฺขเณ. ปุคฺคโล สทฺทหตีติ อิมินาปิ สทฺธาย อาหิตวิเสสานํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานํ สทฺทหนกิริยาย กตฺตุภาวเมว วิภาเวติ. อวยวพฺยาปาโร หิ สมุทาเย โวหรียตีติ. น เกวลํ ปสาทนียวตฺถุสฺมึ อปฺปสาทนาการปฺปวตฺตเมว อกุสลํ อสฺสทฺธิยํ, อถ โข อปฺปสาทนียวตฺถุสฺมึ ปสาทนาการปฺปวตฺตมฺปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิจฺฉาธิโมกฺโข’’ติ วุตฺตํ. เตน ปูรณาทีสุ ปสาทสฺส อสฺสทฺธิยตมาห. ปสาทภูโตติ เอเตน อปฺปสาทภูตํ อสฺสทฺธิยํ นิวตฺเตติ. วตฺถุคโตติ อิมินา มิจฺฉาธิโมกฺขํ. ‘‘ปสาทภูโต นิจฺฉโย’’ติ อิมินา ปน วิภาวิตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘น เยวาปนกาธิโมกฺโข’’ติ อาห. อกาลุสฺสิยํ ปสาโท, ตํ ปน อสงฺโขภภาวโต ‘‘อนาวิลภาโว’’ติ วุตฺตํ. ตฺหิ สมฺปยุตฺเตสุ วิทหนฺตี สทฺธา อกาลุสฺสิยปจฺจุปฏฺานา. เอวเมตนฺติ อธิมุจฺจนากาเรน ปน คเหตพฺพตฺตา ¶ อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา. พุทฺธาทิวตฺถูนีติ เอตฺถ อิธโลกปรโลกกมฺมผลสมฺพนฺธาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สทฺธาหตฺโถ, มหานาม, อริยสาวโก’’ติ, ‘‘สทฺธีธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔), ‘‘สทฺธา พีชํ ตโป วุฏฺี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๗; สุ. นิ. ๗๗) เอวมาทิวจนโต กุสลธมฺมานํ อาทานาทีสุ หตฺถาทโย วิย สทฺธา ทฏฺพฺพา.
‘‘อิธ ภิกฺขุนา กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๕) –
อาทิกา อนุรูปปจฺจเวกฺขณา.
ตํมูลกานีติ คนฺตพฺพมคฺคาทิมูลกานิ. เอตฺถ จ มคฺโค คนฺตพฺโพ โหตีติอาทโย อฏฺกถายํ ทสฺสนวเสเนว วุตฺตา, น ปาฬิยํ อาคตานุกฺกเมนาติ ทฏฺพฺพํ.
กรณาทิกาเล วิย จิรกตาทิอารมฺมณํ วิภูตํ กตฺวา ปวตฺตนฺตี สติ ตํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺนฺตี ¶ อนิสฺสชฺชนฺตี จ โหติ. ยํ อารมฺมณํ สมฺมุฏฺํ, ตํ ปิลวิตฺวา คตํ วิย จลิตํ วิย จ โหติ, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน ปน อสมฺมุฏฺนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุทเก อลาพุ วิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สารณนฺติ เอเตน ‘‘สรนฺติ ตายา’’ติ อิมเมวตฺถํ วิภาเวติ. สรณกิริยาย หิ ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ ตตฺถ อาธิปจฺจภาเวน สติ ปจฺจโย. ตสฺสา หิ ตถา ปจฺจยภาเว สติ เต ธมฺมา สาริตา อสมฺมุฏฺกตา อปิลาวิตาโหนฺตีติ. ‘‘อิเมหิ นาม เหตูหิ ปจฺจเยหิ จ เอเต ธมฺมา สมฺภวนฺตี’’ติ สมฺภวโต. ‘‘อิมํ นาม ผลํ นิพฺพตฺเตนฺตี’’ติ ผลโต ธมฺมา อุปฺปชฺชเนน วิปจฺจเนน จ นิปฺผนฺนา นาม โหนฺตีติ. วตฺถุภูตาติ อารมฺมณภูตา.
สติปิ สพฺเพสํ สารมฺมณธมฺมานํ อารมฺมณคฺคหเณ น จิตฺตํ วิย ปเร ปริจฺฉิชฺชคาหิโนติ ‘‘ปริจฺฉินฺโนปลทฺธิวเสน ชานาตี’’ติ จิตฺตํ วุตฺตํ. เจตสิเกสุ หิ เกจิ วิสยํ ปริจฺฉิชฺช คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, เกจิ ปน ปริจฺเฉทมตฺเตเยว ¶ ติฏฺนฺติ, น วิฺาณํ วิย วิสยํ คณฺหนฺตีติ เย อาสงฺกิตพฺพา, เตสุ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น สฺา…เป… วิชฺฌนวเสนา’’ติ อาห.
ปีติยา จ โสมนสฺสภาโว อาปชฺชตีติ อิทํ ปีติ จ โสมนสฺสฺจ ปีติโสมนสฺสนฺติ ปีติโสมนสฺสานํ ตุลฺยโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ. โสมนสฺสสฺเสว ปน ‘‘อาชฺรโถ’’ติ วิย ปีติยุตฺตํ โสมนสฺสํ ปีติโสมนสฺสนฺติ ปธานภาโว อิจฺฉิโตติ น ปีติยา โสมนสฺสภาวปฺปตฺติ. น หิ ปธาเน วิชฺชมาเน อปฺปธานํ อุปยุชฺชติ, ปีติคฺคหณฺเจตฺถ ปีติยุตฺตสฺส โสมนสฺสสฺส เยภุยฺเยน ภาวโต ปริพฺยตฺตกิจฺจโต จ กตํ, น จ นิปฺปีติกโสมนสฺสสฺส อสงฺคโห. รุฬฺหีสทฺเทสุ กิริยาย อนจฺจนฺติกภาวโต. ปีติยา ปน อุปลกฺขณภาเวน อยมตฺโถ สุฏฺุ ยุชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปีติอุปลกฺขิตํ วา’’ติอาทิ.
ปวตฺตํ อุปาทินฺนกฺขนฺธํ. จิรฏฺิติกํ โหตีติ เอเตน น เกวลํ อนุปาเลตพฺพธมฺมานํ ขณฏฺิติยาเยว, อถ โข ปพนฺธานุปจฺเฉทสฺสปิ ชีวิตํ การณนฺติ ทสฺเสติ. อฺถา หิ อายุกฺขยมรณํ น ยุชฺเชยฺยาติ. อวิเสเสนาติ การณวิเสสานเปกฺเขน ชีวิตินฺทฺริยตาสามฺเน. ยทิปิ อรูปาสฺภเวสุ รูปารูปธมฺมา นปฺปวตฺตนฺติ, เตหิ ปน ปุริมปจฺฉิมภเวสุ จริมปมธมฺมา สมานชาติเยน อพฺยวหิตตาย นิรนฺตราเยว นาม โหนฺตีติ ‘‘ยาว ปรินิพฺพานํ อวิจฺฉินฺนํ ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตํ. อนุปาลนาทิกสฺสาติ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานิเยว ¶ วทติ. ชีวมานวิเสสปฺปจฺจยภาวโตติ สหชาตานํ ชีวมานตาวิเสสสฺส ปจฺจยภาวโต. อินฺทฺริยพทฺธสฺส หิ มตรูปโต กมฺมชสฺส จ อุตุชาทิโต วิเสโส ชีวิตินฺทฺริยกโตติ.
มคฺคงฺคราสิวณฺณนา
อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวนาติ อิทํ สมฺมา-สทฺทสฺส ทิฏฺิ-อาทิสทฺทานฺจ สมานาธิกรณตาวเสน ทิฏฺิอาทีนํ อวิเสสภูตสฺส นิยฺยานิกภาวสฺส สมฺมา-สทฺเทน วิเสสิตพฺพตฺตา วุตฺตํ. อวิปรีตตฺโถ หิ สมฺมา-สทฺโท, น นิยฺยานิกตฺโถติ. อวิปรีตนิยฺยานิกตฺโถ เอว วา สมฺมา-สทฺโท. อเนกตฺถา หิ นิปาตาติ. เอวเมวาติ อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวน.
พลราสิวณฺณนา
ปติสฺสโว ¶ วจนสมฺปฏิคฺคโหติ อธิปฺปาเยน ‘‘สปฺปติสฺสวํ ปติสฺสวภูตํ ตํสภาคฺจ ยํ กิฺจิ คารว’’นฺติ อาห. ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวนาติ อชฺฌตฺตภูเตสุ ชาติยาทีสุ พหิทฺธาภูเตสุ ภิกฺขุอาทีสุ หิโรตฺตปฺปานํ อนุรูปปจฺจเวกฺขณวเสน สสมฺภารปถวีอาทีสุ ปถวีธาตุอาทีนํ วิย วิภูตกิจฺจภาเวนาติ อตฺโถ.
มูลราสิวณฺณนา
เอวฺหิ อุปมาย สเมตีติ ยถา อสุจิมฺหิ ปติตปุริสสฺส สติปิ กาเยน อลฺลียเน ภาโว อนลฺลีโน, เอวํ อโลโภปิ อารมฺมณกรณวเสน คหิเตปิ อารมฺมเณ อลคฺคภาเวน อนลฺลีนภาโว อนลฺลีนากาโร เอว ปวตฺตติ. เอวํสภาโว หิ โส ธมฺโมติ. กิฺจิ ทุสฺสีลฺยํ โทสสมุฏฺานํ สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ โทสูปนิสฺสยนฺติ ‘‘โทสสมุฏฺานตํ โทสูปนิสฺสยตฺจา’’ติ วุตฺตํ. เตน อโทโส โทสสฺเสว อุชุวิปจฺจนีโก, ตํมุเขน ทุสฺสีลฺยสฺสาติ ทสฺเสติ.
ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน…เป… อาเสวนฏฺเน ภาวนาติ โย โส เอกตฺตุปคโต ¶ ปมชฺฌานาทิอปฺปนาจิตฺตุปฺปาโท อาสนฺนูปจาราหิตวิเสโส นีวรณาทิปริปนฺถวิสุทฺธิยา วิสุทฺโธ, ตทาวรณวิสยวิรเหน จ สมปฺปวตฺตอปฺปนาสมาธิสงฺขาตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปนฺโน, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา เอว ตตฺถุปคมเนน ตตฺถ จ ปกฺขนฺโท, วิโสเธตพฺพสฺส วิกฺเขปสฺส กิเลสสํสคฺคสฺส จ อภาวโต วิโสธนสมาธานเอกตฺตุปฏฺานพฺยาปารวิรเหน วิสุทฺธิสมถปฏิปตฺติเอกตฺตุปฏฺานากาเร อชฺฌุเปกฺขนฺโต อภิพฺยตฺตรูปาย สหชาตตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหิโต, ตสฺมึเยว ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา. เต ยถา อฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เอวํ ภาวนา พฺรูหนา. ตถา ยานิ ตตฺถ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ. ยฺจ ตตฺถ ตทุปคํ, เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหียติ ปวตฺตียติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา ปคุณพลวภาวาปตฺติสงฺขาตา อาเสวนา. สพฺเพสํ เอเตสํ อาการานํ ภาวนา อุปฺปาทนา วฑฺฒนา, อยํ ตตฺถ ชาตานํ…เป… อาเสวนฏฺเน ภาวนา นาม.
ยสฺมา ¶ ปนายํ ภาวนากาโร ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติอาทินาปิ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) ปาฬิยํ อาคโต เอว, าเณน จ สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวํ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา นิปฺผาเทตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘เอวํ วุตฺตาย ปฺาสาธนาย ภาวนายา’’ติ วุตฺตํ. อปฺปวตฺตีติ ยสฺมึ ธมฺเม สติ ยถาวุตฺตา ภาวนา นปฺปวตฺตติ, โส ธมฺโม ปฏิปกฺขภาวนาปรามสเนน อภาวนาติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. น หิ อภาวมตฺตสฺส อโมโห ปฏิปกฺโขติ ยุชฺชตีติ. ตปฺปฏิปกฺขภูตา อกุสลา กามจฺฉนฺทาทโย ทฏฺพฺพา. ปมาทวิเสโส วา อภาวนา. โส หิ ‘‘กุสลานํ วา ธมฺมานํ อนาเสวนา อภาวนา อพหุลีกมฺม’’นฺติอาทินา นิทฺทิฏฺโติ.
เอกนฺเตน อลพฺภเนยฺยทสฺสนตฺถํ ‘‘ชราธมฺโม’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘ชาติธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๗๓) อิจฺฉิตาลาโภ วิภตฺโต. อโลภานุภาเวน กายานุปสฺสนาย, อโมหานุภาเวน จิตฺตธมฺมานุปสฺสนาย สิทฺธิ ปากฏาเยวาติ อปากฏํ อโทสานุภาเวน เวทนานุปสฺสนาสิทฺธึ วิภาเวนฺโต ‘‘สุขวิปริณาเม’’ติอาทิมาห. อยฺจ โยชนา อโลภาทีนํ วิเสสปจฺจยตํ สนฺธาย กตา, อวิเสเสน ¶ ปน สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยา. สภาวโต สงฺกปฺปโต จ อุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส อสหนวเสเนว อุปฺปชฺชตีติ โทโส ตํทสฺสนสฺส อาสนฺนปฏิปกฺโข, น ราโค วิย ทูรปฏิปกฺโข.
กมฺมปถราสิวณฺณนา
อภิชฺฌาทโย วิย อนภิชฺฌาทโยปิ น เอกนฺตํ กมฺมปถภูตาเยวาติ อาห ‘‘กมฺมปถตาตํสภาคตาหี’’ติ. มโนกมฺมปถภาเวน ปวตฺตนกมฺมภาวโต หิ เอเตสํ กมฺมปถราสิภาเวน สงฺคโห, น สพฺพทา กมฺมปถาเยวาติ. เตน โย อฺโปิ ธมฺโม อนิยโต กมฺมปถภาเวน ปากโฏ จ, ตสฺสปิ กมฺมปถตาวจนํ น วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสติ.
ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา
สมนฺติ ¶ สมฺมา. เจติยวนฺทนาทิอตฺถนฺติ เจติยวนฺทนาทิเหตุ. สมถจตุสจฺจกมฺมฏฺานวเสน ตพฺเภทวเสน จ สพฺพกมฺมฏฺานภาวนาภิยุตฺตานํ มุทุมชฺฌิมติกฺขินฺทฺริยตาทิเภทวเสน สพฺพโยคีนํ จิตฺตสฺส ลีนุทฺธจฺจาทิกาลวเสน สพฺพทา หิตาหิตธมฺมูปลกฺขณภาวโต ยถาสภาวํ ปฏิเวธภาวโต จ สติสมฺปชฺานํ ปาริพนฺธกหรณภาวนาวฑฺฒนานิ อวิเสสโต ทฏฺพฺพานิ. ยถา อปฺปนาโกสลฺเลน วินา สมโถ สมถมนฺตเรน ยถาภูตาวโพโธ จ นตฺถีติ นานากฺขณิกา สมาธิปฺา อฺมฺสฺส วิเสสการณํ, เอวํ ปฏิเวเธ เอกกฺขณิกาปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฺมฺํ นิมิตฺตภาเวนา’’ติ. ปฺาย หิ สาติสยํ อวภาสิยมาเน วิสเย สมาธิ เอกตฺตวเสน อปฺเปตุํ สกฺโกติ, สมาธิมฺหิ จ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปนฺเน ปฺา อารมฺมเณสุ วิสทา วหตีติ. สมํ ปวตฺตาติ อฺมฺานติวตฺตเนน สมํ อวิสมํ เอกรสภาเวน ปวตฺตา. อฺมฺสหายภาวูปคมเนน โยคิโน มโนรถธุรากฑฺฒเน รถธุรากฑฺฒเน วิย อาชาเนยฺยยุโค ยุคลโก หุตฺวา อฺมฺานติวตฺตมาเนน นทฺธา พทฺธา วิยาติ วา ยุคนทฺธา. อธิจิตฺตมนุยุตฺเตหิ วีริยสมาธโย สมํ โยเชตพฺพาติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ปุพฺเพ คหิตาปิ เต ปุน คหิตาติ ทสฺเสตุํ วีริยสมาธิโยชนตฺถายาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตํ ปน สมาธิวีริยโยคสฺส วิภาวนํ โหตีติ ‘‘โยควจนตฺถายาติ อตฺโถ’’ติ อาห.
เยวาปนกวณฺณนา
ยถา ¶ ตถา วาติ สมฺมา มิจฺฉา วา. อนธิมุจฺจนฺโตติ ‘‘อิทํ กริสฺสามิ, เอตํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺตปุพฺพภาคสนฺนิฏฺานเหตุเกน ปโยคกาลสนฺนิฏฺาเนน อนิจฺฉินนฺโต. ยตฺถ หิ อนิจฺฉโย, ตตฺถ อปฺปฏิปตฺติ เอวาติ. สํสปฺปนํ สํสโย. โส หิ ‘‘อาสปฺปนา ปริสปฺปนา’’ติ วุตฺโต. อสติปิ พฺยาปาเร ตตฺรมชฺฌตฺตตาย สติ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา สกสกกิจฺจวเสน อนูนานธิกตาย อลีนอนุทฺธตตาย จ สํวตฺตนฺตีติ สา เตสํ ตถาปวตฺติยา ปจฺจยภูตา อูนาธิกภาวํ นิวาเรติ วิยาติ อูนาธิกนิวารณรสา วุตฺตา. ตถา ปวตฺติปจฺจยตฺตาเยว เตสุ ธมฺเมสุ มชฺฌตฺตตาติ จ วุตฺตา.
ฌานปทสฺสาติ ¶ ฌานสทฺทสฺส. เตสูติ ปฺจสุ. ปฺจ หิ องฺคานิ ฌานปทสฺส อตฺโถติ อิทํ สํวณฺณิยมานตฺตาเยว อิมํ จิตฺตุปฺปาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ สพฺพสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ปฺเจว ฌานงฺคานิ. ปทสมูโห วากฺยํ, ปทโกฏฺาโส วา ผสฺสปฺจมกาทิ ธมฺมราสิ. วุตฺตํ ปูริตนฺติ ฉปณฺณาสาทิตาย ปูรณวเสน. ผสฺสปจฺจยา เวทนา ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาตี’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๔.๙๓) ผสฺโส เวทนาทีนํ ปจฺจโย. ยทิปิ ฉนฺทาทโย ยถาวุตฺตราสิกิจฺจาภาวโต เตสุ น วตฺตพฺพา, วิสุํ ราสิอนฺตรภาเวน ปน สรูปโต วตฺตพฺพาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘วุตฺตานมฺปี’’ติอาทิมาห.
ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กามาวจรกุสลํ
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา
๒. สนฺเตติ สภาวโต วิชฺชมาเน. ผสฺสสฺส วิสยวิสยีนํ สนฺนิปตนากาเรน คเหตพฺพตฺตา ผุสนํ วิสเย จิตฺตสฺส สนฺนิปตนํ วุตฺตํ. ‘‘จินฺตนฏฺเน จิตฺตํ, มนนฏฺเน มโน’’ติอาทินา ¶ จิตฺตาทิสทฺทา จินฺตนาทิพฺยาปารมุเขน อตฺตโน อตฺถํ วิภาเวนฺตีติ อาห ‘‘จิตฺตํ มโนติอาทีสุ วิย กิจฺจวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา’’ติ. ยถา โลเก วิกตเมว เวกตํ, วิสโย เอว เวสยนฺติ วุจฺจติ, เอวํ มโน เอว มานสนฺติ สทฺทมตฺตวิเสโส. นีลาทิ-สทฺทา วิย วตฺถาทีสุ จิตฺเตสุ ปริสุทฺธภาวนิพนฺธนา ปณฺฑรสทฺทสฺส ปวตฺตีติ ตสฺส คุณวิเสสาเปกฺขตา วุตฺตา. ยถา กายิกํ สาตนฺติ เอตฺถ กายปฺปสาทนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ, เอวํ เจตสิกํ สาตนฺติ เอตฺถ เจโตนิสฺสิตํ สาตนฺติ นิสฺสยวิเสสาเปกฺขตา วุตฺตา. เอกกฺขณิกา นานากฺขณิกา จ จิตฺตสฺส ิติ นาม, ตสฺส อวตฺถาวิเสโสติ อวตฺถาวิเสสาเปกฺโข จิตฺตสฺส ิตีติ เอวํปกาโร นิทฺเทโส. ‘‘น ลุพฺภตี’’ติ วุตฺตสฺส จิตฺตสฺส, ปุคฺคลสฺส วา ปวตฺติอาการภาเวน อลุพฺภนาติ อโลโภ วุตฺโตติ อฺสฺส กิริยาภาววิเสสาเปกฺโข อลุพฺภนาติ นิทฺเทโส. วุตฺตนเยเนว อลุพฺภิตสฺส ภาโว อลุพฺภิตตฺตนฺติ อยํ นิทฺเทโส อฺสฺส ภาวภูตตาวิเสสาเปกฺโข วุตฺโต. กตฺตุกรณภาวาทโย สภาวธมฺมานํ อชฺฌาโรปนวเสเนว สิชฺฌนฺติ ¶ , ภาวนิทฺเทโส ปน อชฺฌาโรปนานเปกฺโข, ตโตเยว จ วิเสสนฺตรวินิมุตฺโต วินิวตฺโต วิเสสโต นิชฺชีวภาวคิภาวโต สภาวนิทฺเทโส นาม โหตีติ ผสฺโสติ อิทํ ผุสนฏฺเน ‘‘ธมฺมมตฺตทีปนํ สภาวปท’’นฺติ วุตฺตํ. อารมฺมณํ ผุสนฺตสฺส จิตฺตสฺส ปวตฺติอากาโร ผุสนพฺยาปาโร โหตีติ ‘‘ผุสนกิริยา ผุสนากาโร’’ติ วุตฺตํ. สมฺผุสนาติ สํ-สทฺโท ‘‘สมุทโย’’ติอาทีสุ วิย สมาคมตฺถทีปโกติ อาห ‘‘สมาคมผุสนา’’ติ. ‘‘ผุสามิ เนกฺขมฺมสุข’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๗๒) ปฏิลาโภปิ ผุสนา สมฺผุสนาติ จ วุจฺจตีติ อาห ‘‘น ปฏิลาภสมฺผุสนา’’ติ.
อปเรน เววจเนน. พหุสฺสุตภาวสมฺปาทิกาย ปฺาย ปณฺฑิจฺจปริยาโย. สิปฺปายตนาทีสุ ทกฺขตาภูตาย โกสลฺลปริยาโย, ยตฺถ กตฺถจิ ติกฺขสุขุมาย เนปฺุปริยาโย, สมฺมา ธมฺเม ปฺเปนฺติยา เวภพฺยาปริยาโยติ เอวมาทินา เตสุ เตสุ ปฺาวิเสเสสุ เต เต ปริยายวิเสสา วิเสเสน ปวตฺตาติ เตสํ ปฺาวิเสสานํ นานากาเล ลพฺภมานตา วุตฺตา, อิตเรปิ อนุคตา โหนฺติ เยภุยฺเยนาติ อธิปฺปาโย. อตฺถนานตฺเตน ปฺาทิอตฺถวิเสเสน. โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตนฺติ เอวํปการา นิทฺเทสา สภาวาการภาวทีปนวเสน พฺยฺชนวเสเนว วิภาควจนํ. ปณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ปฺาวิเสสนิพนฺธนตฺตา อตฺถวเสน วิภาควจนนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘อถ วา’’ติอาทินา. เอวมากาโร ปนาติ ปุริมาการโต วิเสโส อตฺถโต วิภตฺติคมนสฺส การณํ วุตฺตํ.
ปฏิกฺขิปนํ ¶ ปฏิเสธนํ ปฏิกฺเขโป, ตสฺส นานตฺตํ วิเสโส ปฏิกฺเขปนานตฺตํ, สทฺธมฺมครุตาย ปฏิกฺเขโป สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขโป, เตน สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขเปน นานตฺตํ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺตํ. ตํ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺตํ ปน โกธครุตาทิเภทภินฺนนฺติ ‘‘โกธครุตาทิวิสิฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. โกธาทีหิ วิสิฏฺโ ภินฺโน สทฺธมฺมครุตาย ปฏิกฺเขโป ปฏิเสธนํ โกธาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขโป. โกธครุตาทิเยว, ตสฺส นานตฺเตน สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตนาติ โกธครุตา สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโข. มกฺขลาภสกฺการครุตา สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺขภาววิเสเสน อสทฺธมฺมครุตา ตพฺภาเวน ¶ เอกีภูตาปิ นานตฺตํ คตา. ยสฺมา ปน โกโธ อตฺถโต โทโสเยว. มกฺโข โทสปฺปธานา ปรคุณวิทฺธํสนาการปฺปวตฺตา อกุสลา ขนฺธา. ตคฺครุตา จ เตสํ สาทรอภิสงฺขรณวเสน ปวตฺตนเมว. ลาภครุตา จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺการครุตา, เตสํเยว สุสงฺขตานํ ลทฺธกามตา. ตทุภเยสุ จ อาทรกิริยา ตถาปวตฺตา อิจฺฉาเยว, ตสฺมา ‘‘สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตน อสทฺธมฺมา นานตฺตํ คตา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ จตฺตาโร อสทฺธมฺมา อิจฺเจว อุทฺทิฏฺา. อสทฺธมฺมครุตาติ เอตฺถ จ ปุริมสฺมึ วิกปฺเป ‘‘น สทฺธมฺมครุตา’’ติ สทฺธมฺมครุตา น โหตีติ อตฺโถ. ทุติยสฺมึ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ สทฺธมฺมครุตา เอว วา ปฏิปกฺโข, ตสฺส นานตฺเตน สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โกธมกฺขครุตานฺหิ สทฺธมฺมวิเสสา ปวตฺติเภทภินฺนา เมตฺตา ปฏิปกฺโข. ลาภสกฺการครุตานํ อปฺปิจฺฉตา สนฺโตสา. เตน โกธครุตา น สทฺธมฺมครุตาติ โกธครุตา กายจิ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. ตถา มกฺขครุตาทีสุปิ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘จตฺตาโร สทฺธมฺมา สทฺธมฺมครุตา น โกธครุตา…เป… สทฺธมฺมครุตา น สกฺการครุตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๔๔) อาคตตนฺติปิ สมตฺถิตา ภวติ. โลโภ น โหตีติ อโลโภ ลุพฺภนา น โหตีติ อลุพฺภนาติ เอวมาทิโก อโลโภติอาทีนํ โลภาทิวิสิฏฺโ ปฏิกฺเขโป ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทิเกหิ วิสทิสภาวโต ‘‘ผสฺสาทีหิ นานตฺต’’นฺติ วุตฺโต. ผสฺสาทีหีติ เจตฺถ อลุพฺภนาทโยปิ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. โลภาทิปฏิปกฺเขนาติ ‘‘โลภปฏิปกฺโข อโลโภ’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อโลภาโทสาโมหานํ วิธุรตาย ปฏิปกฺขภาเวน จ ลพฺภมาโน อฺมฺวิสทิโส โลภาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขปภาเวน โลภาทิปฏิปกฺขภาเวน จ วิฺายตีติ อาห ‘‘อโลภา…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ. พหูหิ ปกาเรหิ ทีเปตพฺพตฺถตา มหตฺถตา. อาทรวเสน โสตูนํ.
๓. ยทิปิ ¶ เอกสฺมึ ขเณ เอกํเยว อารมฺมณํ โหติ, ฉสุปิ ปน อารมฺมเณสุ อุปฺปตฺติรหตฺตา ‘‘เตหิ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ สาตสฺส สุขสฺส. ชาตาติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘การณภาเวน ผสฺสตฺถํ ปวตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เจตสิกสาตสงฺขาตา โสมนสฺสเวทนา ¶ สเหว อุปฺปชฺชติ, เอวํ ตทนุรูปผสฺสสหิตา หุตฺวา ปวตฺตา ตชฺชาติ วุตฺตา. สาทยตีติ อธิคมาสีสาย อนฺนินฺนํ กโรติ.
๕. น ตสฺสา ตชฺชตาติ ตสฺสา มโนวิฺาณธาตุยา ตสฺสารุปฺปา ‘‘ตสฺส ชาตา’’ติ วา อุภยถาปิ ตชฺชตา น ยุชฺชติ. ยทิปิ ผสฺโส วิฺาณสฺส วิเสสปจฺจโย น โหติ, ตถาปิ โส ตสฺส ปจฺจโย โหติเยวาติ ตสฺส ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชตา วตฺตพฺพาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น จ ตเทวา’’ติอาทิ. เตหิ อารมฺมเณหิ ชาตา ตชฺชาติ อิมินาปิ อตฺเถน ตชฺชา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ วตฺตุํ น สกฺกา. วิฺาณสฺส ปน ตชฺชตาปฺตฺติ ลพฺภเตว. ตถา หิ ‘‘กึ วา เอเตนา’’ติอาทินา ผสฺสาทีนํ ตถา เทเสตพฺพตํ อาห.
๗. จิตฺตสฺส อารมฺมเณ อานยนาการปฺปวตฺโต วิตกฺโก อตฺถโต อารมฺมณํ ตตฺถ อากฑฺฒนฺโต วิย โหตีติ ‘‘อารมฺมณสฺส อากฑฺฒนํ วิตกฺกน’’นฺติ วุตฺตํ.
๘. อารมฺมณสฺส อนุมชฺชนาการปฺปวตฺโต วิจาโร ตตฺถ ปริพฺภมนฺโต วิย สมนฺตโต จรนฺโต วิย จ โหตีติ ‘‘สมนฺตโต จรณํ วิจรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๑. ตถา อวฏฺานมตฺตภาวโตติ ปาณวธาทิสาธนอวฏฺานมตฺตภาวโต, น พลวภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑๔. เยน ธมฺเมน จิตฺเต อารมฺมณํ อุปติฏฺติ โชตติ จ, โส ธมฺโม อุปฏฺานํ โชตนนฺติ จ วุตฺโตติ อาห ‘‘อุปฏฺานํ โชตนฺจ สติเยวา’’ติ.
๓๓. น ¶ พฺยาปาเทตพฺโพติ อพฺยาปชฺช-สทฺทสฺส กมฺมตฺถตํ อาห.
๔๒-๔๓. ยทิ อนวชฺชธมฺมานํ สีฆสีฆปริวตฺตนสมตฺถตา ลหุตา, สาวชฺชธมฺมานํ กถนฺติ อาห ‘‘อวิชฺชานีวรณาน’’นฺติอาทิ. เตสํ ภาโว ¶ ครุตาติ เอเตน สติปิ สพฺเพสํ อรูปธมฺมานํ สมานขณตฺเต โมหสมฺปยุตฺตานํ สาติสโย ทนฺโธ ปวตฺติอากาโรติ ทสฺเสติ. โส ปน เตสํ ทนฺธากาโร สนฺตาเน ปากโฏ โหติ.
๕๐-๕๑. ปจฺโจสกฺกนํ มายา ยา อจฺจสราติปิ วุจฺจติ. อรุมกฺขนํ วณาเลปนํ. เวฬุ เอว ทาตพฺพภาเวน ปริคฺคหิโต เวฬุทานํ นาม.
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โกฏฺาสวารกถาวณฺณนา
๕๘-๑๒๐. เตติ ผสฺสปฺจมกาทโย. สงฺคหคมเนเนวาติ สาธารณตาทินา เกนจิ สทิสตาเลเสน, น ผสฺสาทโย วิย วิสุํ ธมฺมภาเวเนวาติ อตฺโถ. ตถา อวิปฺปกิณฺณตฺตาติ ผสฺสาทโย วิย สรูเปน วิสุํ วิสุํ อวุตฺตตฺตา. ยทิปิ ฉนฺทาทโย สงฺคหสฺุตวาเรสุปิ สรูเปน น วุตฺตา, ขนฺธายตนธาตุราสีสุ ปน สงฺคหิตาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํนิทฺเทเสติ สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส. ขนฺธานํ ธาตายตนภาเว พฺยภิจาราภาวโต อขนฺธภาวนิวารเณน อนายตนาธาตุภาวนิวารณมฺปิ ทฏฺพฺพํ. น เยวาปนกา เปตพฺพาติ ขนฺธาทิราสิอนฺโตคธตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุทฺเทสาทีสุ ปน ‘‘เยวาปนาตฺเวว วุตฺตานํ เตสํ ตถาเยว สงฺคโห ยุตฺโต’’ติ อฏฺกถายํ ‘‘เปตฺวา เยวาปนเก’’ติ วุตฺตํ. สรูเปน อวุตฺตานมฺปิ จิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนานํ ¶ ขนฺธาทิภาโว น วาเรตพฺโพติ น เยวาปนกา เปตพฺพาติ วุตฺตนฺติ อุภเยสมฺปิ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
อาหารปจฺจยสงฺขาเตนาติ อุปตฺถมฺภกปจฺจยสงฺขาเตน. โส จ อาหารานํ อุปตฺถมฺภกภาโว ปากโฏติ กตฺวา วุตฺโต, น ชนกตฺตาภาวโต. โอชฏฺมกรูปสฺส หิ เวทนาทีนฺจ อาหารณโต เตสํ ชนกตฺตํ ลพฺภตีติ. ยทิ อุปตฺถมฺภโก อิธ ปจฺจโยติ อธิปฺเปโต, กพฬีการาหารสฺส ตาว โหตุ, อิตเรสํ กถนฺติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ ¶ . สหชาตาทิปจฺจเยติ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเย วทติ, มหาจตุกฺกํ วา, เอเกนากาเรนาติ รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกภาวมาห. โส เอว จ เนสํ อาหรณกิจฺจํ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วจนโต เจตนาย วิฺาณสฺส ปจฺจยภาโว สาติสโยติ อาห ‘‘วิฺาณํ วิเสเสนา’’ติ.
ยถาคตมคฺโคติ วุตฺโต การณผลานํ อเภทูปจาเรนาติ ทฏฺพฺพํ, นานากฺขณิโก อฏฺงฺคิกมคฺโค อุปนิสฺสโย เอตสฺสาติ อฏฺงฺคิกมคฺคูปนิสฺสโย. อริยมคฺคสฺส ยถาคตมคฺคปริยาโย วุจฺจมาโน ตสฺส ยา ปุริมกาลภูตา อเภโทปจารสิทฺธา อาคมนาวตฺถา ตโต นาติวิลกฺขณาติ อิมมตฺถํ วิภาเวตีติ อาห ‘‘ปุพฺพภาค…เป… ทีปิตา’’ติ. วิฺาณสฺส จิตฺตวิจิตฺตตา วิชานนภาววิเสสา เอวาติ อาห ‘‘วิชานนเมว จิตฺตวิจิตฺตตา’’ติ. เวทนากฺขนฺธาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ทฺวายตนานิ โหนฺตี’’ติอาทีสุ วุตฺตมนายตนาทโยปิ สงฺคณฺหาติ. ตปฺปฏิกฺเขโปติ ตสฺส ชาตินิทฺเทสภาวสฺส ปฏิกฺเขโป. กโต โหตีติ เอเตน อาหารินฺทฺริยฌานมคฺคผลเหตุโย ยตฺตกา อิมสฺมึ จิตฺเต ลพฺภนฺติ, เต สพฺเพปิ ‘‘เอโก วิฺาณาหาโร โหตี’’ติอาทินา อวุตฺตาปิ อตฺถโต วุตฺตาเยวาติ ทสฺเสติ. เอส นโย อฺตฺถาปิ.
โกฏฺาสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฺุตวาราทิวณฺณนา
๑๒๑-๑๔๕. ยถาวุตฺเต ¶ สมเยติ วุตฺตปฺปการสมูเห.
๑๕๖-๑๕๙. นาติสมาหิตายาติ นานาวชฺชนูปจารํ สนฺธาย วทติ. เยวาปนเกหิปิ นิพฺพิเสสตํ ทสฺเสติ กรุณามุทิตานมฺปิ อุปฺปชฺชนโต.
กายวจีกิริยา กายวจีปวตฺติ, วิฺตฺติ เอว วา. อสมตฺตภาวนนฺติ ปุพฺพภาคภาวนมาห.
กามาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรกุสลํ
จตุกฺกนโย
ปมชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๐. อุตฺตรปทโลปํ ¶ กตฺวา ‘‘รูปภโว รูป’’นฺติ วุตฺโต, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสติ (ม. นิ. ๒.๒๔๘; ๓.๓๑๒; ธ. ส. ๒๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), รูปราโค’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๖๓) วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ปโยคสมฺปาทิตสฺส รูปชฺฌานสฺส รูปภวาติกฺกมสฺสปิ อุปายภาวโต ยถา รูปูปปตฺติยา เอว มคฺโคติ อยํ นิยโม น ยุชฺชติ, เอวํ ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ รูปูปปตฺติยา อนภินิปฺผาทกสฺสปิ อตฺถิภาวโต รูปูปปตฺติยา มคฺโค เอวาติ อยมฺปิ นิยโม น ยุชฺชติ. เอวฺจ สติ ยเทว รูปูปปตฺติยา นิปฺผาทกํ, ตสฺเสว สมฺปยุตฺตสฺส รูปาวจรกุสลภาโว, น อนภินิปฺผาทกสฺสาติ อยมตฺโถ อาปนฺโนติ โจทนํ สมุฏฺาเปติ ¶ น สพฺพสฺส กุสลชฺฌานสฺสาติอาทินา. ตตฺถ สามฺสทฺโทปิ อธิการวเสน วิเสสนิทฺทิฏฺโ โหตีติ ‘‘กุสลชฺฌานสฺส มคฺคภาโว’’ติ วุตฺตํ.
รูปูปปตฺติชนกสภาโว รูปภววิปจฺจนสภาโวติ ตสฺสปิ วิปากธมฺมภาเว สติปิ สพฺพกุสลากุสลสาธารณํ วิปากธมฺมภาวสามฺํ ‘‘วิปากธมฺมภาโว วิยา’’ติ อุทาหรณภาเวน วุตฺตํ. สามฺมฺปิ หิ วิเสสโต ภินฺนํ กตฺวา โวหรียตีติ. สพฺพสมาโนติ รูปูปปตฺติยา นิปฺผาทกสฺส ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ อนิปฺผาทกสฺส จ สพฺพสฺส ยถาธิคตสฺส ฌานสฺส สาธารโณ. เอเตน อุตฺตรปทาวธารณสฺส ปริคฺคหิตตํ ทสฺเสติ. ‘‘อิโต อฺโ มคฺโค นาม นตฺถี’’ติ อิมินาปิ สชาติยา สาธารโณ อฺชาติวินิวตฺติยา อนฺสาธารโณ อิมสฺส ฌานสฺส รูปูปปตฺติยา อุปายภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อิตเร ทฺเว สทฺธา หิรี จ. ยทิ ปฏิปทาย สาเธตพฺพโต ปุคฺคลปุพฺพงฺคมาย เทสนาย ภาเวนฺเตน สมยววตฺถานํ กตํ. ปฏิปทารหิเตสุ กถนฺติ อาห ‘‘เกสฺจี’’ติอาทิ. ตตฺถ เกสฺจีติ สมถภาวนาย กตาธิการานํ. เตสฺหิ มคฺคาธิคมนโต ปุพฺเพ อนธิคตชฺฌานานํ ปฏิสมฺภิทาทโย วิย มคฺคาธิคเมเนว ตานิ สมิชฺฌนฺติ.
อฺานีติ อริยมคฺคสิทฺธิโต อฺานิ. เตสุปีติ อริยมคฺเคน สิทฺธตฺตา ปฏิปทารหิเตสุปิ. นนุ จ อริยมคฺคสิทฺธสฺสปิ อาคมนวเสน ปฏิปทา อุปลพฺภติเยว. อิตรถา ‘‘น กามาวจรํ วิย วินา ปฏิปทาย อุปฺปชฺชตี’’ติ ¶ , ‘‘พหุตรํ โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตี’’ติ จ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ? น, เยภุยฺเยน คหณโต ปุคฺคลวิเสสาเปกฺขตฺตา จ. อริยมคฺคสมิชฺฌนกฺหิ ฌานํ กสฺสจิเทว โหติ, ตสฺมา อิตรํ พหุตรํ โลกิยชฺฌานํ ปุถุชฺชนสฺส อริยสฺส จ อกตาธิการสฺส น วินา ปฏิปทาย สิชฺฌตีติ เตสํ วเสน วุตฺตํ. อริยมคฺคสิทฺธสฺสปิ ฌานสฺส วิปากานํ วิย กุสเลน อริยมคฺเคน สทิสตฺตาภาวโต อตพฺพิปากตฺตา จ น มคฺคาคมนวเสน ปฏิปทา ยุชฺชติ, เอวมสฺส ปฏิปทาวิรโห สิทฺโธ. เอวฺจ กตฺวา สุทฺธิกนวกเทสนาปิ สุฏฺุ นีตา โหติ. ตถา จ วกฺขติ โลกุตฺตรกถายํ ‘‘โลกิยชฺฌานมฺปี’’ติอาทิ (ธ. ส. มูลฏี. ๒๗๗).
วฏฺฏาสยสฺส วิเสสปจฺจยภูตาย ตณฺหาย ตนุกรณวเสน วิวฏฺฏาสยสฺส วฑฺฒนนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน อาสยโปสน’’นฺติ. อาสยโปสนนฺติ จ ฌานภาวนาย ปจฺจยภูตา ปุพฺพโยคาทิวเสน ¶ สิทฺธา อชฺฌาสยสมฺปทา. สา ปน ตณฺหุปตาปวิคเมน โหตีติ อาห ‘‘ตณฺหาสํกิเลสโสธเนนา’’ติ.
ถินมิทฺธาทีนนฺติ ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉานํ. ปหานนฺติ ปหายกํ.
ตํสทิเสสูติ มหคฺคตภาวาทินา ปมชฺฌานสมาธิสทิเสสุ.
ปีติสุขวนฺตํ ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุตฺตํ ยถา อริสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปีติสุข…เป… อกาโร วุตฺโต’’ติ อาห. มคฺคสฺสปิ วา นิพฺพานารมฺมณโต ตถลกฺขณูปนิชฺฌานตา โยเชตพฺพา. อสมฺโมสธมฺมนฺติ อวินาสภาวํ.
ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๑-๑๖๒. ทิฏฺาทีนวสฺส ตํตํฌานกฺขเณ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาปาทนํ วูปสมนํ วิรชฺชนํ ปหานฺจาติ อิธาธิปฺเปตวิตกฺกาทโยเยว ฌานงฺคภูตา ตถา กรียนฺติ, น ตํสมฺปยุตฺตผสฺสาทโยติ วิตกฺกาทีนํเยว วูปสมาทิวจนํ ายาคตํ. ยสฺมา ปน วิตกฺกาทโย วิย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ เอเตน เอตํ โอฬาริกนฺติ ทิฏฺาทีนวา เอว, ตสฺมา อวิเสเสน วิตกฺกาทีนํ ตํสหชาตานฺจ วูปสมาทิเก วตฺตพฺเพ วิตกฺกวิจาราทีนํเยว วูปสมาทิกํ วุจฺจมานํ ‘‘อธิกวจนมฺมตฺถํ โพเธตี’’ติ กิฺจิ วิเสสํ ทีเปตีติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยหิ วิตกฺกวิจาเรหี’’ติอาทิมาห. วิสุํ ¶ วิสุํ ิตานิปิ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนาทีนิ ปเหยฺยงฺคนิทฺเทสตาสามฺเน จิตฺเตน สมูหโต คเหตฺวา อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณํ กตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสํ…เป… ตํ ทีปกนฺติ วุตฺต’’นฺติ อาห. อิทานิ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณํ วินา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน ปีติวิราคาทิวจนานํ สวิสเย สมานพฺยาปารตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห.
ตสฺมึ ทสฺสิเตติ ‘‘ยา สทฺธา สทฺทหนา’’ติอาทินา ฌานวิภงฺเค สมฺปสาทเน ทสฺสิเต. สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนวาติ ตตฺเถว วิภงฺเค อุทฺเทสปทุทฺธาราทีสุ สทฺธาฌานานํ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ เอกาธิกรณตาวจเนเนว.
โอฬาริกงฺคมุเขน ¶ ‘‘ตทนุธมฺมตา สตี’’ติ วุตฺตาย ตํตํฌานนิกนฺติยา วิกฺขมฺภนํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนาทีหิ ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาปฺปหานํ เอเตสํ วูปสมน’’นฺติ (วิภ. ๗๙๙). ยโต วิตกฺกวิจาเรสุ วิรตฺตภาวทีปกํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนนฺติ ตทุภยาภาวทีปนํ ปุน กตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๓. วีริยํ อุเปกฺขาติ วุตฺตํ ‘‘ปคฺคหนิคฺคเหสุ พฺยาปารากรเณน อุเปกฺขิยตี’’ติ. คหเณ มชฺฌตฺตภาเวน สงฺขาเร อุเปกฺขตีติ สงฺขารุเปกฺขา, ตถาปวตฺตา วิปสฺสนา ปฺา. ตสฺสา ปน วิสยโต ปเภโท ‘‘อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) ยสฺสํ ปาฬิยํ วุตฺโต, ตํ ปาฬิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปาทนฺติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺตึ. ปวตฺตนฺติ ตถา อุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตึ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารคตํ นิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. อายูหนนฺติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธินฺติ อายตึ อุปปตฺตึ. คตินฺติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตินฺติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตินฺติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ เอวํ วุตฺตํ วิปากปฺปวตฺตึ. ชาตินฺติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตํ ภวปจฺจยา ชาตึ. ชรามรณาทโย ปากฏา เอว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส วิสยวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺติ ¶ ชาตี’’ติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ. ‘‘คติ อุปปตฺติ จา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส. ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ.
ภูตสฺสาติ ขนฺธปฺจกสฺส. เอเตหีติ ฌานจิตฺตสมุฏฺิตรูเปหิ.
จตุกฺกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกนยวณฺณนา
๑๖๗. อาการเภทนฺติ อาการวิเสสํ. อเนกาการา หิ ธมฺมา, เต จ นิรวเสสํ ¶ ยาถาวโต ภควตา อภิสมฺพุทฺธา. ยถาห – ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ๓.๕). ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ น ปมชฺฌานปกฺขิกนฺติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘ปมชฺฌานเมว หี’’ติอาทิ. อตฺถโต หิ จตุกฺกปฺจกนยา อฺมฺานุปฺปเวสิโน. ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ กึ สวิจารตาย ปมชฺฌานปกฺขิกํ อุทาหุ อวิตกฺกตาย ทุติยชฺฌานปกฺขิกนฺติ สิยา อาสงฺกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถมิทํ วุตฺตํ. กสฺมาติอาทินา ตตฺถ การณมาห. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺตีติ สมฺพนฺโธ. จ-สทฺเทน น เกวลํ อิเธว, อถ โข สุตฺตนฺตเทสนาสุปีติ เทสนนฺตเรปิ ยถาวุตฺตชฺฌานสฺส ปมชฺฌานปกฺขิกตฺตาภาวํ ทสฺเสติ. อิทานิ ภชนมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺกวูปสมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน สุตฺตนฺเตปิ ปฺจกนยสฺส ลพฺภมานตํ ทสฺเสติ.
นนุ จ สุตฺตนฺเต จตฺตาริเยว ฌานานิ วิภตฺตานีติ ปฺจกนโย นตฺถิเยวาติ? น, ‘‘สวิตกฺกสวิจาโร สมาธี’’ติอาทินา สมาธิตฺตยาปเทเสน ปฺจกนยสฺส ลพฺภมานตฺตา. จตุกฺกนยนิสฺสิโต ปน กตฺวา ปฺจกนโย วิภตฺโตติ ตตฺถาปิ ปฺจกนโย นิทฺธาเรตพฺโพ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ หิ วิตกฺกสฺส วิจารสฺส วิตกฺกวิจารานฺจ วิตกฺกวิจารานนฺติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา อวิตกฺกอวิจารานนฺติ จ วินา สห จ วิจาเรน วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกํ สห วินา จ วิตกฺเกน วิจารปฺปหาเนน อวิจารนฺติ อวิตกฺกํ อวิจารํ อวิตกฺกอวิจารฺจาติ วา ติวิธมฺปิ สกฺกา สงฺคณฺหิตุํ.
ทุติยนฺติ ¶ จ วิตกฺกรหิเต วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต จ ายาคตา เทสนา. ทุติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา วิจารมตฺตรหิเตปิ ทฺวยปฺปหานาธิคตสมานธมฺมตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ปฺจกนยนิทฺเทเส ทุติเย วูปสนฺโตปิ วิตกฺโก ตํสหายวิจาราวูปสเมน น สมฺมาวูปสนฺโตติ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต วิย วิจารวูปสเมเนว ตทุปสมํ เสสธมฺมสมานตฺจ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ ตติยํ จตุกฺกนเย ทุติเยน นิพฺพิเสสํ วิภตฺตํ. ทุวิธสฺสปิ สหายวิรเหน อฺถา จ วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขตฺตฺจ สมานนฺติ สมานธมฺมตฺตาปิ ทุติยนฺติ นิทฺเทโส. วิจารมตฺตมฺปิ หิ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิตํ วิย ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ ¶ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ อวิตกฺกํ สมาธิชํ ปีติสุขนฺติ วิภตฺตํ. ปมชฺฌาเน วา สหจารีสุ วิตกฺกวิจาเรสุ เอกํ อติกฺกมิตฺวา ทุติยมฺปิ ตตฺรฏฺเมว โทสโต ทิสฺวา อุภยมฺปิ สหาติกฺกมนฺตสฺส ปฺจกนเย ตติยํ วุตฺตํ ตติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา. ปมโต อนนฺตรภาเวน ปนสฺส ทุติยภาโว จ อุปฺปชฺชติ. กสฺมา ปเนตฺถ สรูปโต ปฺจกนโย น วิภตฺโตติ? วิเนยฺยชฺฌาสยโต. ยถานุโลมเทสนา หิ สุตฺตนฺตเทสนาติ.
ปฏิปทาจตุกฺกาทิวณฺณนา
๑๗๖-๑๘๐. ตทนุรูปตาติ ตสฺส ปมาทิชฺฌานสฺส อนุรูปสภาวา. ยถาลทฺธชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา นิกนฺติ ตํสมฺปยุตฺตา ขนฺธา วา ตทารกฺขภูตา สติเยว วา ตสฺส ฌานสฺส อนุจฺฉวิกตาย ‘‘ตทนุธมฺมตา สตี’’ติ วุตฺตาติ. กทาจีติ ยทา ปมํ อธิคนฺตฺวา ยถานิสินฺโนเยว วินา ปโยคนฺตรํ ทุติยาทีนิ อธิคจฺฉติ, อีทิเส กาเลติ อตฺโถ.
๑๘๖. กุสลชฺฌานสฺส อธิคตตฺตา ‘‘เสกฺขา’’ติ วุตฺตํ. น หิ เต อุปฺปาเทนฺติ นามาติ อริยมคฺคกฺขเณ รูปาวจรชฺฌานานํ อนุปฺปชฺชมานตํ สนฺธายาห.
กสิณกถาวณฺณนา
๒๐๓. อารุปฺปปาทกตา ¶ จ ทสฺสิตา วินา อภาวโต. น หิ เตสํ อารุปฺปปาทกตาย วินา นิโรธปาทกตา อตฺถีติ. นิมฺมินิตุํ อิจฺฉิตสฺส วตฺถุโน นิมฺมานวเสน ขิปฺปํ นิสนฺติ นิสามนํ อาโลจนํ อธิคโม เอตสฺสาติ ขิปฺปนิสนฺติ. ตพฺภาโว ‘‘ขิปฺปนิสนฺติภาโว’’ติ อาห ‘‘ขิปฺปทสฺสนํ ขิปฺปาภิฺตา’’ติ.
กสิณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อภิภายตนกถาวณฺณนา
๒๐๔. ปฏิภาคนิมิตฺตภูตํ ¶ กสิณารมฺมณสงฺขาตํ อายตนํ การณํ เอตสฺสาติ กสิณายตนํ, ฌานํ. อถ วา อารมฺมณสฺส อนวเสสผรณฏฺเน กสิณฺจ ตํ อายตนฺจ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต มนายตนธมฺมายตนภาวโต จาติ สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ กสิณายตนํ. เตเนวาห ‘‘สติปิ อภิภายตนานํ กสิณายตนตฺเต’’ติ. ภาวนาย นิมิตฺตํ ภาวนานิมิตฺตํ, อารมฺมณสฺส ปริตฺตปฺปมาณตา สุวิสุทฺธนีลาทิตา จ, ตเทว นานตฺตํ. ภาวนา เอว วา ปุพฺพภาคภูตา ภาวนานิมิตฺตํ, ตสฺส นานตฺตํ ภาวนานิมิตฺตนานตฺตํ. ปุพฺพภาคภาวนา หิ ยถาวุตฺตวิเสเส อารมฺมเณ ปวตฺติอาการวิเสสโต นานาสภาวาติ. กสิณนิมิตฺตสฺส อภิภวนกภาวนานิมิตฺตนานตฺตํ กสิณ…เป… นานตฺตํ, ตโตติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺถ จ ปุริมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ ภูตกสิณารมฺมณานิ, ภูตกสิเณสุ จ ยํ สุวณฺณํ ทุพฺพณฺณนฺติ จ น สกฺกา วตฺตุํ. ตตฺถ ปวตฺติตานิ สพฺพตฺถ วา วณฺณาโภครหิเตน ปวตฺติตานิ ปมตติยาภิภายตนานีติ ทุติยจตุตฺถานิ วณฺณกสิณารมฺมณานิ. ยทิ เอวํ ทุติยจตุตฺเถหิ ปฺจมาทีนํ โก วิเสโสติ ‘‘ปฺจมาทีนิ วณฺณโต รมณียตรานิ, น ตถา อิตรานี’’ติ วทนฺติ. ปุริมานิปิ จตฺตาริ อฏฺ กสิณารมฺมณาเนว, ตสฺมา ตํ เนสํ มติมตฺตํ ‘‘อฏฺสุ กสิเณสู’’ติ วุตฺตตฺตา. วิโมกฺเขสุ จ ปมทุติยวิโมกฺขา อฏฺ กสิณารมฺมณา. ตติโย วณฺณกสิณารมฺมโณ. ปมทุติยาปิ วา วณฺณกสิณารมฺมณา เอว ‘‘พหิทฺธา นีลกสิณาทิรูปานิ ¶ ฌานจกฺขุนา ปสฺสตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อารมฺมณมนฺุตาย หิ ตตฺถ อนิคฺคติตภาเวน เตสํ ปวตฺตีติ. เอวํ สนฺเต ตติยสฺส อิตเรหิ โก วิเสโสติ? สุภาการาโภโค. ตติโย เอว หิ สุภนฺติ อาภุชนวเสน ปวตฺตติ, น อิตเรติ.
าณํ อปฺปนาปฺา. วิชฺชมาเนปีติ อปิ-สทฺเทน อวิชฺชมาเนปีติ ทสฺเสติ. ปริตฺตปฺปมาณตา อภิภวนสฺส การณํ อิเมสุ จตูสุ อภิภายตเนสูติ อธิปฺปาโย. นนุ จ สพฺพตฺถ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วจนโต วณฺณาโภคสหิตานิเยว คหิตานีติ? น คหิตานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถาติ อาคเมสุ. ตถา อปฺปมาณานีติ วณฺณาโภครหิตานิ จ สพฺพานิ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ กถํ วิสิฏฺานํ วณฺณาโภเคน รหิตานํ สหิตานฺจ เอกชฺฌํ มนสิ กโรติ? น เอกชฺฌํ, วิสุํเยว ¶ ปน เตสุ มนสิกาโร. ยทิ วิสุํ กถเมกนฺติ? ปริตฺตภาวสามฺโต. ยทิ เอวํ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณคฺคหณํ อติริจฺฉตี’’ติ, นาติริจฺฉตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ หิ เอโส ปริยาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยทิทํ วณฺณาโภคชนิตํ วิเสสํ อคฺคเหตฺวา ปริตฺตสามฺเน เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘ปริตฺตานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺวา ปุน ตทนฺโตคธธมฺมปฺปเภทํ วิเนยฺยวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตานิ เจ กทาจิ วณฺณวเสน อาภุชิตานิ โหนฺติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตาย วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ วิสุํ มนสิ กตฺวา อุภยตฺถาปิ วณฺณาโภครหิตปริตฺตาภิภวเน ตํ สหิตปริตฺตาภิภวเน จ ปริตฺตาภิภวนสฺส สามฺํ คเหตฺวา เอกนฺติ วจนํ, เอโส ปริยาโย วิชฺชตีติ อยมธิปฺปาโย.
เอวํ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาวิเสสโต อฏฺกถาย วิโรธาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาานํ อวิโรธํ อธิปฺปายวิภาวเนน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถจา’’ติอาทิมาห. เอวํ อภิธมฺเม วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ วิสุํ วุตฺตานิ. สุตฺตนฺเต ปน ‘‘อุภยานิ เอกชฺฌ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ กถํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ตเทต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาคตสฺสาติ สุตฺตนฺเต อาคตสฺส. ตตฺถ หิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อาคตํ. อวจนโตติ อภิธมฺเม อวจนโต. ยทิปิ วิโมกฺขา วิสุํ เทสิตา, กสิณายตนภาโว วิย ปน อภิภายตนานํ วิโมกฺขกิจฺจตาปิ อตฺถีติ อภิภายตนวิโมกฺขานํ อิธาปิ สงฺกโร ทุนฺนิวาโรติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ¶ ‘‘สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต’’ติ. เตน ยถา อภิภายตนเทสนายํ อภิภายตนกิจฺจานิ นิรวเสสโต วุตฺตานิ, เอวํ วิโมกฺขเทสนายํ วิโมกฺขกิจฺจานีติ อิธ เตสํ อสงฺกโรเยวาติ ทสฺเสติ.
เย จ ยถาวุตฺตํ ววตฺถานํ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เตหิ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาเภเท อฺํ การณํ วตฺตพฺพํ สิยา. กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ, นนุ อฏฺกถายํ ‘‘กสฺมา ปน ยถา สุตฺตนฺเต’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต’’ติ การณํ วุตฺตนฺติ. น ตํ ตสฺส การณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌตฺตรูปาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยนฺติ อิธ สุตฺตนฺเต จ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๕) วุตฺตวจนํ สนฺธายาห. พหิทฺธา รูปานิเยว หิ อภิภวนียานีติ. อฺเหตุกนฺติ เทสนาวิลาสโต อฺํ อภิภวนียเหตุ เอตสฺสาติ อฺเหตุกํ. อชฺฌตฺตอรูปสฺิตาย เอว, น สุตฺตนฺเต วิย อชฺฌตฺตรูปสฺิตาย จาติ อตฺโถ. อวิภูตตฺตาติ อิทํ าณุตฺตรานํ สห นิมิตฺตุปฺปาทเนน อปฺปนานิพฺพตฺตนํ อารมฺมณสฺส อภิภโว น ¶ สุฏฺุ วิภูตภาวมนฺตเรน สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. นนุ จ อฏฺกถายํ ปาทฺวยวิเสสสฺส เทสนาวิลาโส การณภาเวน วุตฺโตติ อาห ‘‘เทสนาวิลาโส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ. เทสนาวิลาโส หิ นาม วิเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิชฺชมานสฺเสว ปริยายสฺส วิภาวนํ น ยสฺส กสฺสจีติ. ตตฺถ จ ‘‘ปริยายเทสนตฺตา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการววตฺถานํ เทสนาวิลาสนิพนฺธนมาห. ตถา เจว หิ ปุรโต เทสนาวิลาโส วิภาวิโต.
อภิภายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิโมกฺขกถาวณฺณนา
๒๔๘. ตนฺติ ‘‘สสนฺตติปริยาปนฺนรูป’’นฺติ วุตฺตเกสาทิวณฺณมาห. ตํ ปน ยสฺมา ขลมณฺฑลาทิ วิย ปรมฺปราย ฌานสฺส การณํ, ตสฺมา ‘‘ฌานสฺส เหตุภาเวนา’’ติ อาห. เยนาติ ยถาวุตฺตรูปวิเสเสน. วิสิฏฺเนาติ อติสยปฺปตฺเตน ‘‘รูปูปปตฺติยา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖๐ อาทโย; วิภ. ๖๒๕) วิย อุตฺตรปทโลเปน ¶ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺเตน รูปฌาเนน. ‘‘วิสิฏฺเนา’’ติ อิมินา หิ อติสยรูปยุตฺโต รูปีติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ปถวีกสิณ’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๔๙๙) ฌานานเมว กสิณภาเวน ปวตฺตา. สุตฺเต อารมฺมณานํ กสิณภาเวน ปวตฺตา ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๒๕).
วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา
๒๕๑. อฺาณสมฺปยุตฺตาปิ วา อุเปกฺขาเวทนา อฺาณุเปกฺขา, อุเปกฺขาติ อฺาณสมฺปยุตฺตา อุเปกฺขาเวทนา, อฺาณุเปกฺขาติปิ เอตาสํเยว นามนฺติ (วิภ. อฏฺ. ๙๔๗) หิ ¶ สมฺโมหวิโนทนิยํ วกฺขตีติ. อปฺปฏิภาคนิมิตฺตตฺเตปิ เอกํ กติปเย วา สตฺเต โอทิสฺส ปวตฺตา ปริจฺฉินฺนรูปาทิอุปาทานวิสเย ปวตฺตตฺตา กถมปฺปมาณโคจราติ อาห ‘‘น จ สมฺมุติสจฺจวเสนา’’ติอาทิ. เอวมฺปิ ยถา นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ สตฺตวเสน ปวตฺตายปิ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺขารารมฺมณตา วุจฺจติ อุปาทานวเสน, เอวํ สตฺตวเสน ปวตฺตานมฺปิ เมตฺตาทีนํ สงฺขารารมฺมณตาปิ สิยาติ เจ? น, อปรามสนวเสน ปวตฺตานํ เมตฺตาทีนํ สอุปาทานคฺคหณาสมฺภวโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปรามาสา’’ติอาทิ.
พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อสุภกถาวณฺณนา
๒๖๓. ‘‘เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๙; ม. นิ. ๑.๑๑๒) วุตฺตาสุ นวสุ สิวถิกาสุ วณฺณวเสน ปวตฺตชฺฌานํ สิวถิกาวณฺณชฺฌานํ. นนุ เจตสฺส วณฺณกสิเณหิ คหณํ ยุตฺตํ, น อสุเภหีติ? น, สิวถิกาวณฺณํ อุปมํ กตฺวา อตฺตโน กาเย ปฏิกูลตฺตํ อมฺุจิตฺวาว วณฺณวเสน ปวตฺตนโต ¶ . เตเนวาห ‘‘ปฏิกูลมนสิการสามฺเนา’’ติ. อยมตฺโถ สิวถิกาวณฺณชฺฌานสฺสาติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพติ วิภาเวนฺโต ‘‘ตมฺปี’’ติอาทิมาห.
อสุภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา
๒๖๕. รูปนิมิตฺตนฺติ รูปเหตุ รูปาธิกรณํ. รูปารูปนิมิตฺเตสูติ รูปธมฺเมสุ จ ปถวีกสิณาทินิมิตฺเตสุ จ. ตทารมฺมณชฺฌาเนสูติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน รูปนิมิตฺตํ ปจฺจามสติ รูปมฺปิ ¶ วา รูปธมฺมารมฺมณานมฺปิ รูปาวจรชฺฌานานํ สมฺภวโต. รูปาทีสูติ รูปารูปนิมิตฺตตทารมฺมณชฺฌาเนสุ รูปปฏิพทฺธธมฺเมสุ จ. อนาวชฺชิตุกามตาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อสมาปชฺชิตุกามตาทึ สงฺคณฺหาติ.
จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ…เป… อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน สมติกฺกโมติ เอเตน สมติกฺกมิตพฺพตฺเตน รูปาวจรกุสลานํ รูปาวจรวิปากกิริเยหิ วิเสสาภาวํ ทสฺเสติ อนธิคตภาวโต. เยสฺหิ รูปสฺาทีนํ อรูปภาวนาย สมติกฺกมาทิโก ลพฺภติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อรูปภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ยาติ เอกนฺตรูปนิสฺสิตา อวสิฏฺปริตฺตวิปากสฺาทโย.
อาเนฺชสนฺตสมาปตฺติสุขานุภวนภววิเสสูปปชฺชนาทโย อารุปฺปสมาปตฺตีนํ อตฺถาติ อาห ‘‘รูปสฺา…เป… น อตฺโถ’’ติ.
อิธ อุคฺฆาฏิตกสิณวเสน ปริตฺตานนฺตตา โหติ นิปฺปริยายเทสนตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิเต กถมากาสานฺจายตนวจนนฺติ? ตตฺถาปิ อนนฺตผรณสพฺภาวโต. เตเนวาห ‘‘อนนฺตผรณตาสพฺภาเว’’ติ. ยทิ สพฺพตฺถ อนนฺตผรณตา อตฺถิ, อถ กสฺมา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สมยววตฺถาปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปฏิปตฺตีติ ฌานภาวนาการมาห.
๒๖๖. อุคฺฆาฏภาโว อุคฺฆาฏิมํ. ยถา ปากิมํ.
๒๖๘. อากาเส ¶ ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยาติ ปทุทฺธารํ กตฺวา ยุตฺติโต อาคมโต จ ตทตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ตทติกฺกมโต หี’’ติอาทิมาห. อารุปฺปสมาปตฺตีนํ อารมฺมณาติกฺกเมน ปตฺตพฺพตฺตา วิเสสโต อารมฺมเณ โทสทสฺสนํ ตเทว อติกฺกมิตพฺพนฺติ อยํ ยุตฺติ, อารมฺมเณ ปน อติกฺกนฺเต ตทารมฺมณํ ฌานมฺปิ อติกฺกนฺตเมว โหติ. ภาวนาย อารมฺมณสฺส วิคมนํ อปนยนํ วิภาวนา. ปาฬิยนฺติ วิภงฺเค. นนุ จ ปาฬิยํ ‘‘ตฺเว วิฺาณ’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘น อากาสานฺจายตนวิฺาณ’’นฺติ. ‘‘น ตฺเววิฺาณนฺติ วิเสสวจเนน อยมตฺโถ สิทฺโธ’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณฺจายตน’’นฺติอาทิมาห.
อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เตภูมกกุสลวณฺณนา
๒๖๙. สตฺตหิ ¶ มหาวาเรหีติ ปฏิจฺจสหชาตปจฺจยนิสฺสยสํสฏฺสมฺปยุตฺตปฺหาวาเรหิ อนุโลมปจฺจนียอนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลมาทินยา อนุโลมาทินยา. ภารทฺวาชโคตมาทโย อฏฺจตฺตาลีส โลเก โคตฺตานิ มูลภูตานิ, ตถา กฏฺกลาปาทโย อฏฺจตฺตาลีเสว จรณานีติ อาห ‘‘อฏฺจตฺตาลีส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ เตสนฺติ ภพฺพาภพฺพานํ. ทฺวารสีเสน ทฺวารวนฺตานิ คยฺหนฺตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตํตํทฺวารานิ วา กายาทีนี’’ติ. อจิตฺตีกาเรน วา กตํ หีนํ, อชฺฌุเปกฺขเนน กตํ มชฺฌิมํ, สกฺกจฺจกตํ ปณีตํ. อามิสกิฺชกฺขาทิเหตุ วา กตํ หีนํ, ปฺุผลกามตาย กตํ มชฺฌิมํ, กตฺตพฺพมิจฺเจว อริยภาเว ิเตน กตํ ปณีตํ. ภวสมฺปตฺติโลเภน วา ปวตฺติตํ หีนํ, อโลภชฺฌาสเยน ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, ปรหิตาย ปวตฺติตํ ปณีตํ. ปริตฺตกตํ วา หีนํ, มตฺตโส กตํ มชฺฌิมํ, อธิมตฺตโส กตํ ปณีตํ. มหคฺคเตสุ ปน ปฏิลทฺธมตฺตํ หีนํ, นาติสุภาวิตํ มชฺฌิมํ, สุภาวิตํ วสิปฺปตฺตํ ปณีตํ. อิเมสุปิ เอเกกสฺส หีนาทิกสฺส อายูหนนานตฺตาทิวเสน หีนาทิเภโท ลพฺภติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสนาติ โย จิตฺตปฺปภาวิโต จิตฺตสมฺปยุตฺตานํ จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว, โส ตํนิมิตฺเต จิตฺเต อุปจริโตติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ.
เตภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา
๒๗๗. ‘‘เกนฏฺเน ¶ โลกุตฺตร’’นฺติอาทิ ปฏิสมฺภิทาวจนํ (ปฏิ. ม. ๒.๔๓) อฏฺกถาย อาภตํ, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘ติวิโธปิ อนุตฺตรธมฺโม โลกํ ตรตี’’ติอาทินา สงฺคหิโตติ ตํ ตีหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โลกํ ตรตีติ เอเตนา’’ติอาทิมาห. เอเกกสฺมึ โยเชตพฺโพ โลกสฺส อนฺตคมนาทิตาย มคฺคาทีสุปิ ลพฺภมานตฺตา. มคฺเคเยว วา ติวิโธปิ อตฺโถ โยเชตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อนติวตฺตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริยานํ เอกรสตา ตทุปควีริยวาหนํ อาเสวนาติ อิเม ตโย ภาวนาวิเสเส สงฺคณฺหาติ. ยสฺมา เจเต ภาวนาวิเสสา สํกิเลสโวทาเนสุ วฏฺฏวิวฏฺเฏสุ จ ตํตํอาทีนวานิสํสทสฺสนภูตาย ปุพฺพภาคปฺาย ¶ สมฺปาทิเตน าณวิเสเสน นิปฺผชฺชนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อฺมฺํ…เป… วฑฺเฒตี’’ติ.
นิสฺสโย โหตีติ รุกฺโข วิย สาขาย อาธารภาเวน โวหรียตีติ อตฺโถ. ผลาณผลงฺคานํ นิสฺสยวจนํ นิสฺสยปจฺจยตฺตา. ตโตเยว นิสฺสยภาวโต ปติฏฺาภาวโต. อริยผลสนฺนิสฺสเยน หิ อริยา กตกิจฺจา สุฏฺุ นิพฺพินฺนสพฺพภวาปิ จิรตรํ โลเก ปรหิตาย ติฏฺนฺติ. กิเลสานํ โอธิโส ปชหนกาปิ อริยมคฺคา อวิเสเสน สพฺพากุสลานํ สพฺพกุสลปฏิปกฺขตาย อฺมคฺคปฺปหาตพฺเพสุปิ เกนจิ ปหานากาเรน ปวตฺตนฺตีติ ตํ ปหานาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตเรสํ วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺสา’’ติ อาห. เยน ปาฬิยํ เหฏฺิมมคฺคาณานํ วิชฺชูปมตา ทสฺสิตา. ยทิ เอวํ อุปริมคฺควชฺฌา กิเลสา อิตเรติ อิธาธิปฺเปตา. น เตสํ สมุจฺเฉทวจนํ ยุตฺตํ. น หิ ภาวนาย ปหาตพฺเพ ทสฺสนมคฺโค สมุจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกติ. ตถา จ สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เอว เต สิยุํ. อถ ตทงฺคปฺปหานํ อธิปฺเปตํ, เยน ‘‘วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปุพฺพภาควิปสฺสนาย เอว สิทฺธํ น จ ยุตฺตํ โลกุตฺตรมคฺโค ตทงฺควเสน กิเลเส ปชหตีติ. วิกฺขมฺภเนปิ เอเสว นโย, อนุโลมาเณเนว ตสฺส สาติสยํ สาธิตตฺตา. อถ ปน ปมมคฺควชฺฌา เอว กิเลสา อิตเรติ อธิปฺเปตา, เอวํ สนฺเต เตสํ อิตรภาโวว น สิยา, น จ อนปายคมนียา ¶ นาม กิเลสา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา อตฺถิ, นาปิ ปมมคฺควชฺฌา กิเลสา เตน วิชฺชุโตภาเสน วิย ตโม สมุจฺฉินฺทิตพฺพาติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ อุปปริกฺขิตพฺโพยํ ‘‘อิตเรสํ…เป… สมุจฺเฉโท’’ติ. โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตีติ อิทํ อธิปฺปายวเสน เนตพฺพํ เนยฺยตฺถตฺตาติ ตํ อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘อกตาธิการสฺสา’’ติ อาห. เตน ยถาวุตฺตวจนสฺส จ สปฺปเทสตํ ทสฺเสติ. นนุ จ กตาธิการสฺส อริยสฺส มคฺเคน สมิชฺฌมานมฺปิ ฌานํ มคฺคปฏิปทาวเสน ปฏิปทาสหิตเมวาติ. น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตีติ สกฺกา วตฺตุํ, เตเนตํ วจนํ นิปฺปเทสเมวาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘กตาธิการสฺส ปนา’’ติอาทิ. อิทานิ ตสฺส วจนสฺส อธิปฺปายวเสน คเหตพฺพตฺถตา ปาฬิโตปิ วิฺายตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถาวุตฺต…เป… กตา’’ติ.
‘‘โย โกจีติ อวิเสสวจน’’นฺติ ตสฺส อปวาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกึ ทฺวิกฺขตฺตุ’’นฺติ อาทิมาห. ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ ปริชานนํ. นามรูปววตฺถาปนาทีนนฺติ นามรูปววตฺถาปนปจฺจยปริคฺคหลกฺขณปฏิเวธนิกนฺติปริยาทานานํ ¶ . กิจฺฉสิทฺธิโตติ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ เกสฺจิ สพฺเพสมฺปิ วา กิจฺฉสิทฺธิโต. เอส นโย ทุติยวาราทีสุปิ ยถาสมฺภวํ. สุขสิทฺธิยมฺปีติ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิ มคฺคปาตุภาวทนฺธภาวสฺส การณภาเว อเนกนฺติกา. วิปสฺสนาสหคตินฺทฺริยานํ ปน มนฺทตา ตสฺส เอกนฺตการณนฺติ ทสฺเสติ.
เอตทนฺตตฺตา ปฏิปทายาติ เอเตน นิปฺปริยายโต ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตาย วิปสฺสนาปฺาย จิราจิรปฺปวตฺติวเสน มคฺคสฺส ขิปฺปทนฺธาภิฺตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ. ปุริมานนฺติ ปุริมวารานํ, ลกฺขณปฏิเวธาทีนํเยว วา. เหฏฺิมโกฏิยา ติกฺขตฺตุํ กิเลสวิกฺขมฺภเน สติ ทุกฺขาปฏิปทาภาโว, น ตโต เหฏฺาติ นิจฺฉิตตฺตา อาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารตาวเสนา’’ติ. ตสฺส สุขาปฏิปทา เวทิตพฺพา อุกฺกํสวเสนาติ อธิปฺปาโย.
ยสฺมึ ปุคฺคเล วิสํวาทนเภทนานิฏฺานตฺถนิโยชนานํ ปวตฺติ, ตตฺถ สิเนหวิรเหเนว เตสํ ปวตฺติ, โส จ ปุคฺคโล อสงฺคหิโต โหตีติ มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขตา จ อปริคฺคหตา จ วุตฺตา. ตปฺปฏิปกฺขวิรุทฺธสภาวตฺตา สมฺมาวาจาย สินิทฺธภาวตา ปริคฺคาหกสภาวตา ¶ . สทฺธาวิเสสโยคโต วา ตสฺสา สินิทฺธภาโว ทฏฺพฺโพ. สมุฏฺาเปตีติ ปวตฺเตติ. ชีวมาโน วา สตฺโต, สมฺปยุตฺตธมฺมา วา โวทายนฺติ เอเตน สยํ วา โวทายตีติ โวทานํ.
๒๘๕. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ. อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ. อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ. อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ. อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ. สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนาติ โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺเตสุ ปการนฺตเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสนปิ ปติฏฺานายูหนา เวทิตพฺพา.
อถ วา กิเลสคฺคหเณน ตณฺหาสสฺสตทิฏฺิสพฺพากุสลาภิสงฺขารา คหิตา ตํสภาคตาย ตเทกฏฺตาย จ. ตถา อภิสงฺขารคฺคหเณน อวเสสกิเลสอุจฺเฉททิฏฺิสพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารา. ลีนุทฺธจฺจกามสุขตฺตกิลมถานุโยคานํ วิสุํ วุตฺตตฺตา เตหิ น โยเชตพฺพนฺติ กิเลสาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานายูหเน วตฺวา ตณฺหาทิฏฺีนํ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตํ ทีเปตุํ ตทุภยวเสนปิ โยชนา กตา. นยทสฺสนํ วา เอตํ ตตฺถ ทฏฺพฺพํ. เอวมิตเรปิ ปการา โยเชตพฺพาติ ¶ . ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๔.๑๑๒, ๑๑๔) องฺค-สทฺทสฺส การณตฺถตา ทฏฺพฺพา.
๒๙๙. มุสาวาทาทีนิ ภาสมาโน กโรติ นาม กึ วกฺขมานํ กิริยํ, กา ปน สาติ? มุสาวาทาทิกิริยาติ วิทิโตวายมตฺโถ. เอวํ วา เอตฺถ โยชนา ทฏฺพฺพา.
๓๐๑. นิปฺผาทิตปจฺจยานนฺติ จีวราทิปจฺจยานํ. กุหนวตฺถูนีติ ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ลูขจีวราทิเสวนวเสน ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส อรหา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๔) อตฺตานํ อริยคุณสามนฺตํ กตฺวา ภณนวเสน วิเสสลาภิโน วิย อตฺตโน ปริหรณวเสน จ ปวตฺตา อกุสลจิตฺตุปฺปาทา ปเรสํ วิมฺหาปนการณานิ กุหนวตฺถูนิ.
๓๔๓. สติปิ ¶ สคุณารมฺมเณหิ มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามลาเภ น นิปฺปริยาเยน วิปสฺสนา อนิมิตฺตนามิกาติ อาคมนโต มคฺโค อนิมิตฺตนามํ น ลภตีติ อาห ‘‘น ปน สคุณารมฺมเณหิ…เป… สิทฺธํ โหตี’’ติ. ยสฺมา ปน อาคมนโต สฺุตํ อปฺปณิหิตนฺติ ลทฺธนามสฺส มคฺคสฺส สคุณโต อารมฺมณโต จ ตํนามาภาโว น กทาจิปิ อตฺถิ, ตสฺมา นามตฺตยปาริปูริเหตุอาคมนโต นามลาโภติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปริปุณฺณนามสิทฺธิเหตุตฺตา’’ติ. สพฺเพสนฺติ สพฺพวิโมกฺขมุขาคตานมฺปิ มคฺคานํ. นามตฺตยโยโคติ สฺุตาปณิหิตานิมิตฺตนามโยโค. ววตฺถานํ อสงฺกโร.
๓๕๐. นิมิตฺตธมฺมา สงฺขารา เตหิ สนิมิตฺตา สวิคฺคหา วิย อุปฏฺหนฺตีติ เตสํ อภาวิตภาวนสฺส ภาวิตภาวนสฺส จ อุปฏฺหนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมูหาที’’ติอาทิมาห. เตน จ ‘‘วิโมกฺเขน สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตํ, น ‘‘ตสฺมึ วิโมกฺเข’’ติ, ตสฺมา ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ อนิจฺจานุปสฺสนํ อาหา’’ติ วุตฺตํ. อิตรตฺถาปิ เอเสว นโย. อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว นตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ จ อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตวิโมกฺขภาโว ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเทสนาย ตสฺสา อนิมิตฺตภาวาภาโว อตฺถิ เอว, เอวฺจ สติ ‘‘อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตนามทานาภาโว’’ติ จ น น สกฺกา วตฺตุนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ สุฏฺุตรํ ยุชฺชติ, ตถา อนิมิตฺเตน มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาโว น ยุชฺชติเยว. เตนาห ‘‘ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ น สกฺโกตี’’ติ? สจฺจเมตํ ¶ , ปริยายสิทฺธํเยว ปน อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตภาวํ คเหตฺวา มคฺคโสธนวเสนายมนุโยโค กโต ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว นตฺถีติวิรุทฺธํ วิย โหตี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อนิมิตฺตํ…เป… ทีปิโต โหตี’’ติ สยเมว วกฺขตีติ. สามฺนฺติ อุปโมปมิตพฺพานํ สมฺพนฺธมาห. น มคฺคาธิปตีติ มคฺโค อธิปติ มคฺคาธิปตีติ ฉนฺทจิตฺตานํ อยํ สมฺา นตฺถีติ อตฺโถ. น จ เตหิ มคฺคสฺสาติ ฉนฺทจิตฺเตหิ มคฺโค อธิปติ เอตสฺสาติ มคฺคาธิปตีติ อยํ สมฺา มคฺคสฺส นตฺถิ. กสฺมา? เตสํ ฉนฺทจิตฺตานํ อมคฺคงฺคตฺตา.
ฌานสฺส สฺุตาทินามกตฺตาติ เอเตน อินฺทฺริยพลาทีนมฺปิ มคฺคสมฺปโยคโต สฺุตาทินามกตา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. สติปิ ปจฺจนีกามสเน ¶ น ตสฺส มคฺคสฺส ตํ ปริพฺยตฺตํ ยถา สรสตาติ อาห ‘‘สรสปฺปธาโน’’ติ. ทฺวีหีติ สรสปจฺจนีเกหิ. อฺนิรเปกฺเขหีติ อาคมนนิรเปกฺเขหิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สรสโตว นามลาเภ อววตฺถานาปตฺติ สพฺพสฺส มคฺคสฺส สพฺพนามภาวาปตฺติ โหติ, ตสฺมา. อตฺตาภิ…เป… มคฺคาติ เตน อาคมนโต นามลาภสฺส ปจฺจนีกโต นามลาภภาวํ ทสฺเสติ. สรสนฺตเรติ อนิมิตฺตภาวาทิเก. ปจฺจนีกสหิเตน สรเสนาติ สฺุตาปฺปณิหิตภาเวหิ ตทาคมเนหิ. นิมิตฺตคฺคหณานิวารณาติ สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส อนิเสธนโต. สฺุตาปฺปณิหิตสฺเสว มคฺคสฺส วุตฺตตฺตา อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อิธ อสงฺคหิโต สิยาติ อาสงฺกิตฺวา อาห ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา’’ติอาทิ. สงฺขาเรหิ วุฏฺานํ น สิยา, ลกฺขเณหิ เอว วุฏฺานํ สิยาติ อธิปฺปาโย, ลกฺขณปฏิเวโธ น สิยา อตทารมฺมณตฺตาติ อตฺโถ. สงฺขารานฺหิ หุตฺวา อภาวอุทยพฺพยปฏิปีฬนาวสวตฺตนากาเรสุ อนิจฺจตาทิลกฺขณโวหาโร.
อาการวนฺเตสุ คหิเตสุ ตทากาโรปิ คหิโตเยว โหตีติ อาห ‘‘ลกฺขณานิปิ ปฏิวิทฺธานิ โหนฺติ ตทาการสงฺขารคฺคหณโต’’ติ. ยถาวุตฺตาธิปฺปาเยนาติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ‘‘สงฺขาเรสู’’ติอาทินาว วุตฺตปฺปการาธิปฺปาเยน. วิสุนฺติ สงฺขาเรหิ วินิวตฺเตตฺวา.
โลกุตฺตรกุสลํ
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
ปฺจธา ¶ อุทฺทิสติ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อชฺฌตฺตทุกวเสน รูปทุกวเสน จ ภินฺทิตฺวา อภินฺทิตฺวา จ นิมิตฺตวจเนเนว อุทฺทิสติ ปวตฺตสฺสปิ สงฺขารนิมิตฺตภาวานติวตฺตนโต วุฏฺาตพฺพตาสามฺโต จ. เตเนว อุปาทินฺนานุปาทินฺนวเสน ปวตฺตํ ทฺวิธา กตฺวา นิทฺทิสิตฺวาปิ ‘‘อยํ ตาว นิมิตฺเต วินิจฺฉโย’’ติ นิมิตฺตวเสเนว นิคเมติ. เอตฺถ จ นิมิตฺตํ อชฺฌตฺตพหิทฺธา, ปวตฺตํ ปน อชฺฌตฺตเมวาติ อยเมเตสํ วิเสโส. โพชฺฌงฺคาทิวิเสสนฺติ โพชฺฌงฺคฌานงฺคมคฺคงฺคานํ อสทิสตํ. อสมาปชฺชิตุกามตาสงฺขาตา วิตกฺกาทิวิราคภาวนา อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนา. อิตรสฺสาติ ปาทกชฺฌานาทิกสฺส. อตพฺภาวโตติ ยถาวุตฺตวิราคภาวนาภาวสฺส อภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา มคฺคาสนฺนาย วิปสฺสนาย โสมนสฺสสหคตตฺเต มคฺคสฺส ปมาทิชฺฌานิกตา จ อุเปกฺขาสหคตตฺเต ¶ ปฺจมชฺฌานิกตา เอว จ ตพฺพเสน จ โพชฺฌงฺคาทีนํ วิเสโสติ เตสํ นิยเม อาสนฺนการณํ ปธานการณฺจ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา, น เอวํ ปาทกชฺฌานาทโยติ.
อิทานิ อปาทกปมชฺฌานปาทกานํ ปกิณฺณกสงฺขารปมชฺฌานานิ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตานฺจ มคฺคานํ เอกนฺเตน ปมชฺฌานิกภาวโต วิปสฺสนานิยโมเยเวตฺถ เอกนฺติโก ปธานฺจาติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘วิปสฺสนานิยเมเนวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิตเรติ ทุติยชฺฌานิกาทิมคฺคา. ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภูตา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อธิฏฺานภูเตน ปาทกชฺฌาเนน อาหิตวิเสสา มคฺคสฺส ฌานงฺคาทิวิเสสนิยามิกา โหตีติ ‘‘ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหี’’ติ วุตฺตํ. ยถา จ อธิฏฺานภูเตน ปาทกชฺฌาเนน, เอวํ อารมฺมณภูเตน สมฺมสิตชฺฌาเนน อุภยสพฺภาเว อชฺฌาสยวเสน อาหิตวิเสสา วิปสฺสนา นิยเมตีติ อาห ‘‘เอวํ เสสวาเทสุปิ…เป… โยเชตพฺโพ’’ติ.
ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสูติ ปมชฺฌานสงฺขาเรสุ. ‘‘ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) หิ วุตฺตํ. ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวนาติ วิตกฺกาทีนํ วิรชฺชนาวิรชฺชนภาวนาภาเวน. เตน อารมฺมณชฺฌานสฺสปิ วิปสฺสนาย วิเสสาธานํ อุปนิสฺสยตมาห.
ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานานิเยว โพชฺฌงฺคาทิวิเสสานํ อุปนิสฺสโย การณนฺติ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสโย ¶ , ตสฺส สพฺภาเว. ตทภาวาภาวโตติ ตสฺส อชฺฌาสยสฺส อภาวาภาวโต.
จตุตฺถชฺฌานิกสฺส มคฺคสฺส อารุปฺเป อรูปชฺฌานเมว ปาทกํ สิยาติ อาห ‘‘จตุตฺถชฺฌานิกวชฺชาน’’นฺติ. อริยมคฺคสฺส โอฬาริกงฺคาติกฺกมนูปนิสฺสยา วิปสฺสนาย อธิฏฺานารมฺมณภูตา ทุติยชฺฌานาทโย. ปฺจหิ องฺเคหีติ ปฺจหิ ฌานงฺเคหิ. ‘‘ตํตํวาเทหิ ปฺาปิยมานานิ ปาทกชฺฌานาทีนิ วาทสหจาริตาย ‘วาทา’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตโยเปเต วาเท’’ติ อาห. วทนฺติ เอเตหีติ วา วาทกรณภูตานิ ปาทกชฺฌานาทีนิ วาทา.
วิปากสนฺตานสฺส…เป… ¶ สุสงฺขตตฺตาติ เอเตน ยสฺมึ สนฺตาเน กมฺมํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ อุปฺปชฺชมานเมว กิฺจิ วิเสสาธานํ กโรตีติ ทีเปติ. ยโต ตสฺมึเยว สนฺตาเน ตสฺส วิปาโก, นาฺตฺถ.
ปุริมานุโลมํ วิย ตนฺติ ยถา โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมโต ปุริมอนุโลมาณํ ตํ โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมํ อนุพนฺธติ, เอวํ. ตทปีติ โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมาณมฺปิ อฺํ อนุโลมาณเมว อนุพนฺเธยฺย, ตสฺส อนนฺตรํ อุปฺปชฺเชยฺย. สา ภูมีติ สา ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตา กิเลสานํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย ภูมิ. เอโก ภโวติ คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เอเตน สตฺต ภเว ทฺเว ภเวติ อิทมฺปิ อธิปฺปายวเสน เนตพฺพตฺถํ, น ยถารุตวเสนาติ ทสฺเสติ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย – เอกวารํ กามาวจรเทเวสุ เอกวารํ มนุสฺเสสูติ เอวมฺปิ มิสฺสิตูปปตฺติวเสน เตสุ เอกิสฺสา เอว อุปปตฺติยา อยํ ปริจฺเฉโท. ยํ ปน ‘‘น เต ภวํ อฏฺมมาทิยนฺตี’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๙; สุ. นิ. ๒๓๒) วุตฺตํ, ตมฺปิ กามาวจรภวํเยว สนฺธายาห. มหคฺคตภวานํ ปริจฺเฉโท นตฺถีติ วทนฺติ. ตถา ‘‘เปตฺวา ทฺเว ภเว’’ติ เอตฺถาปิ กามาวจรเทวมนุสฺสภวานํ มิสฺสกวเสเนว, ตสฺมา กามธาตุยํ เย ทฺเว ภวาติ กามาวจรเทวมนุสฺสวเสน เย ทฺเว ภวาติ อตฺโถ. ปุริมวิกปฺเปสุ ปุคฺคลเภเทน ปฏิปทา ภินฺทิตฺวา กสฺสจิ จลตีติ, กสฺสจิ น จลตีติ กตฺวา ‘‘จลติ เอวา’’ติ อวธารณมนฺตเรน อตฺโถ วุตฺโต. ยสฺมา ปน อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐ โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถา) ‘‘ยถา จ ปฏิปทา, เอวํ อธิปติปิ จลติ เอวา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ ปฏิปทาสุ อเภเทน คหิตาสุ เอกนฺเตน จลนํ สมฺภวตีติ ‘‘จลติจฺเจว วุตฺตํ, น น จลตี’’ติ ตติยวิกปฺโป จลนาวธารโณ วุตฺโต.
โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมมคฺควีสติมหานยวณฺณนา
๓๕๗. ฌานมคฺคาทิปริยาเยหิ ¶ กถิเต โพชฺฌนกาติ อธิปฺเปตา, วิเสสโต ปุพฺพภาเค ‘‘ฌานํ ภาเวมิ มคฺคํ ภาเวมี’’ติ ปวตฺตชฺฌาสยา โหนฺตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยสฺส ปุพฺพภาเค’’ติอาทิมาห.
๓๕๘. อุปนิสฺสยวเสนาติ ¶ ตถา จิตฺตปฺปวตฺติสงฺขาเตน ปุพฺพภาคาภิสงฺขาเรน. เตเนวาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. ตทนุรูปพลาติ อธิปติปจฺจยลาเภน สตฺติวิเสสโยคมาห. ยทิ ปุพฺพภาคาภิสงฺขารวเสน ฉนฺทาทีนํ อธิปติภาโว, กิมตฺถเมเตเยว เอวํ วุตฺตา, นนุ สทฺธาทีนมฺปิ ปุพฺพภาคาภิสงฺขาโร ลพฺภตีติ อาห ‘‘เสสธมฺมาน’’นฺติอาทิ. อตํสภาวตฺตาติ สมฺปยุตฺเตหิ สาติสยมนุวตฺติตพฺพภาวรหิตตฺตา. กิฺจาปิ หิ สทฺธาทโยปิ อินฺทฺริยปจฺจยตาย สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตยนฺติ, เอกสฺมึ ปน จิตฺตุปฺปาเท สมธุเรน อฺเน วินา สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตนียภาโว น เตสํ ยถา ฉนฺทาทีนนฺติ เตเยว อธิปติภาเวน วุตฺตา. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยสหชาตาธิปติปจฺจยานํ วิเสโส ปริพฺยตฺโต โหติ.
จตุมคฺคนยสหสฺสวณฺณนา
๓๖๒. มานสฺส ทิฏฺิสทิสา ปวตฺติ. ตถา หิ โส อธิปติ วิย อฺาธิปตินา ทิฏฺิยา สห นปฺปวตฺตตีติ. เอกเทส…เป… อุปมา โหติ, น สพฺพสามฺเน, อิตรถา สูริยตฺถงฺคมเน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อคฺคมคฺคติโรธาเน สจฺจปฏิจฺฉาทกตมปฺปวตฺติ อาปชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. อฺมฺนฺติ อฺเ อฺเ. ‘‘อานีตํ อิทํ สุตฺต’’นฺติ วิภตฺติ ปริณาเมตพฺพา. ยถาวุตฺตนเยนาติ อิมิสฺสา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน. น อุปมาย วุตฺตตฺตาติ อิมสฺมึ สุตฺเต น อุปมาย วุตฺตภาวโต. ยถาวุตฺตนเยนาติ วา เอตสฺมึ สุตฺเต วุตฺตปฺปกาเรน นเยน อิมิสฺสา อฏฺกถายํ อุปมาย น วุตฺตตฺตา. อวยวา วิย โหนฺติ, เยน เต เจตสิ นิยุตฺตา, จิตฺตสฺส เอเตติ จ เจตสิกาติอาทินา วุจฺจนฺติ, น ปน ‘‘ผสฺสิกา’’ติอาทินาติ ทฏฺพฺพํ.
กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลปทํ
ธมฺมุทฺเทสวาโร
ปมจิตฺตวณฺณนา
๓๖๕. ขณตฺตยสฺส ¶ อกุสเลสุ อสมฺภวโต สมวายกาลเหตุสมูหตฺโถ สมย-สทฺโท. โลภาภิภูตาย เอว อิฏฺารมฺมณสฺมึ อิตรตฺร ¶ จ อิฏฺาการคฺคหณวเสน โสมนสฺสสหคตภาโวติ เอวมาทึ สนฺธาย ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘กิเลสาตุรตาย อนาโรคฺยฏฺเน กิเลสวชฺชสพฺภาวโต สาวชฺชฏฺเน อวิชฺชาสมฺภูตตาย อโกสลฺยสมฺภูตฏฺเน อกุสล’’นฺติ จ ‘‘สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณํ, อนตฺถชนนรสํ, สํกิเลสปจฺจุปฏฺานํ, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ, คารยฺหภาวโต วา สาวชฺชลกฺขณํ, สํกิเลสภาวรสํ, อนิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ, ยถาวุตฺตปทฏฺานเมวา’’ติ จ เอวมาทินา วุตฺตนเยน อนุคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ ‘‘วุตฺตนยํ อนุคนฺตฺวา’’ติ.
คตํ คมนํ ปวตฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘คตมตฺตํ คติมตฺตํ คหณมตฺต’’นฺติ. ทิฏฺิยา หิ คติ ปวตฺติ เอวาติ. อาสนฺนการณตฺตาติ ปทฏฺานตาย, โยนิโสมนสิกาโร วิย หิ กุสลสฺส อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลสฺส อจฺจาสนฺนเหตุ. ตถา หิ สติปิ อสทฺธมฺมสวนาทิการเณ อโยนิโส อนาวชฺชิเต อววตฺถาปิเต จ นตฺถิ อกุสลปฺปวตฺติ. ตถา จ วกฺขติ อฏฺกถายํ ‘‘อโยนิโส อกุสล’’นฺติ. เอเตน เอกนฺตการณตา จ วุตฺตตฺถา โหติ. ปฏิสงฺขา สีตาทิขมนํ อปฺปมาทวิหาโรติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปมชฺชนํ ขมน’’นฺติ. เตน สติสํวโรติ อิธ ขนฺติสํวโร วุตฺโตติ อธิปฺปาโย อินฺทฺริยสํวรสฺส วุตฺตตฺตา. ปหานสํวโรติ วีริยสํวโร. โส หิ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) วุตฺโตติ.
สมฺมาปฏิปตฺติยา ปฏิปกฺขภาเวน คเหตพฺพตากาโร โมโห สมฺมาปฏิปตฺติปฏิปกฺขภาวคฺคหณากาโร. เตน หิ นิวุตา น สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ. อภิชฺฌาย วิเสสโยโค กมฺมปถปฺปตฺติ.
อนุปปริกฺขา โมโห. โส เจตฺถ ทิฏฺิรหิโต เวทิตพฺโพ. ทิฏฺิสหิตสฺส ปน ทิฏฺิยา อนุวิธายกตฺตา ตคฺคหเณเนว คหณนฺติ. อวตฺถุสฺมินฺติ อสทฺทหนีเย วตฺถุสฺมึ. สานุนโย อธิโมกฺโขติ ¶ โมหทิฏฺีนํ สทฺธาปติรูปตมาห. อหิริกาโนตฺตปฺปโมหาทีหิ ปมชฺชนโต อหิริกาทีหิ การเณหิ. อารกฺขรหิตจิตฺเตติ จิตฺตสฺส สติวิรหตํเยว ทสฺเสติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานา หิ สตีติ. เอเตน ‘‘อสฺสทฺธิยจิตฺเต อนฺธพาลจิตฺเต’’ติ ปททฺวยํ วุตฺตตฺถํ โหติ. อุปนาหาทีติ อาทิ-สทฺเทน ¶ ราคาทโย สงฺคยฺหนฺติ. ราคาทีนํ ปริยุฏฺานาทิสภาวตาย ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ วิเสสสฺส เอกจฺจสฺส อสมฺภวโต. อิธาติ, อิมสฺมึ จิตฺเต. นิปฺผาเทตพฺเพ ปโยชเน ภุมฺมํ ‘‘จมฺมสฺมึ ทีปินํ หนฺตี’’ติ (วชิร. ฏี. ๑๗-๑๘ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา) วิย อารมฺมณํ วา อวูปสโม ผลูปจาเรน ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติ วิย.
ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา
๓๙๐. สภาวปฏิจฺฉาทวเสน ปกติอตฺตาทิอสนฺตคฺคหณสฺส นิสฺสยตฺตา นิมิตฺตตฺตา อสนฺตํ พุชฺฌติ, นิจฺจาทิวิสมคฺคหณสฺส สฺาทิวิปริเยสสฺส นิสฺสยตฺตา อสมํ พุชฺฌตีติ โมโห วุตฺโต นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาเวน อุปจาริตตฺตา, อยฺจ อตฺโถ ทิฏฺิสหิตโมหวเสน ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ปกตีติ กาปิลานํ ปธานํ.
ตติยจิตฺตวณฺณนา
๔๐๐. อปณฺณกปทํ วิย อวิรชฺฌนกปทมฺปิ กทาจิ นิยตภาวํ ทีเปยฺยาติ อนิยตตํ ทีเปตุํ ‘‘อุปฺปตฺติอรหงฺคานี’’ติ วุตฺตํ มานสฺส อนิยตตฺตา. ยทิ หิ มาโน นิยโต สิยา, กามราคสฺส มานรหิตา ปวตฺติ น สิยา, ตถา ภวราคสฺส. เอวํ สติ ปฏฺาเน จตุกฺขตฺตุํ กามราเคน โยชนา น สิยา, ติกฺขตฺตุํเยว สิยา, ภวราคมูลิกา จ น สิยา, เอวฺจ สํโยชนานํ สํโยชเนหิ อฏฺวิเธน โยชนา สิยา, น ทสวิธา ทสฺสิตาติ ยถาวุตฺตาหิ โยชนาหิ มานสฺส อนิยตภาโว ปกาสิโต. อถ วา มาเนน สทฺธึ ปฺจ โหนฺติ ยถาวุตฺตานิ อปณฺณกงฺคานิ, กึ ปน โหนฺตีติ อเปกฺขายํ เยวาปนกาติ วิทิโตวายมตฺโถ. เยวาปนกานฺหิ ปฺจภาโว อิธ วิธียติ, น อปณฺณกงฺคานนฺติ โส ยถา โหติ ¶ , ตถา โยเชตพฺพํ. กิเลสทุเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘กิเลสํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กิเลโส ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติอาทีสุ ‘‘โลภํ ปฏิจฺจ โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห มาโน อุทฺธจฺจํ ¶ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺป’’นฺติ วิภตฺตตฺตา ‘‘ตถา กิเลสทุเกปี’’ติ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตสสงฺขาริกาสงฺขาริกจิตฺตวเสน หิ อยํ ปาเภโทติ.
‘‘กามราโค จตุธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, ปฏิโฆ ติธา, มาโน เอกธา, ตถา วิจิกิจฺฉา ภวราโคติ อุทฺทิสิตฺวา กามราโค มานสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ เจว อวิชฺชาสํโยชนมตฺเตเนว จ สทฺธึ มาโน ภวราคาวิชฺชาสํโยชเนหิ สทฺธึ ภวราโค อวิชฺชาสํโยชเนน สทฺธิ’’นฺติ อฏฺกถากณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๘๕) วกฺขมานตฺตา ‘‘อิธ จ วกฺขตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺเถว ‘‘โลโภ ฉธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, ปฏิโฆ ทฺเวธา, ตถา โมโห’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘โลโภ อสงฺขาริโก ทิฏฺิวิปฺปยุตฺโต โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริโก โมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อสงฺขาริโก เอว โมหมานอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริโก เอว จ โมหมานถินอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺเปหี’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ตถาทสวิธา กิเลสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อห’’นฺติ คหณตาย อวํกตฺวา คหณมฺปิ ‘‘สมฺปคฺคโห’’ติ วุตฺตํ.
จตุตฺถจิตฺตวณฺณนา
๔๐๒. อุสฺสาหํ ชเนนฺตาติ เอตฺถ จิตฺตปโยคสงฺขาโต สงฺขาโร เอว อุสฺสาโห, น วีริยุสฺสาโหติ.
นวมจิตฺตวณฺณนา
๔๑๓. วิสปฺปนานิฏฺรูปสมุฏฺานํ เยน กุปิตสฺส สกลสรีรํ กมฺปติ, กุปิตากาโร ปฺายติ. เอเตน สมฺปตฺติอตฺโถ รโส ทสฺสิโต โหติ, ปวตฺติอาการวเสน วา วิสปฺปนรโส. ตถา หิ ยสฺส กุปฺปติ, ตสฺส อมิตฺตสฺส สมฺปตฺติ เยภุยฺเยน ปฏิฆุปฺปตฺติเหตุ โหตีติ. เอเตน กิจฺจตฺโถ รโส วุตฺโต โหตีติ.
๔๑๘. วจนตฺถเมว ¶ วจนปริยายเมว.
เอกาทสมจิตฺตวณฺณนา
๔๒๔. นิจฺฉยาภาวาติ ¶ อธิโมกฺขาภาวา. อสณฺหนโตติ สนฺตานวเสน เอกสฺมึ อารมฺมเณ อนวฏฺานโต.
ทฺวาทสมจิตฺตวณฺณนา
๔๒๙. สหชาตาธิปติ นตฺถิ ‘‘ฉนฺทวโต เจ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, สา มยฺหํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติอาทิปฺปวตฺติยา อภาวา. อนุทฺธฏตฺตา ปฏิสิทฺธตา, ยถาธมฺมสาสเน อวจนมฺปิ อภาวํ ทีเปติ.
อวจนโตติ อ-การสฺส ตทฺวจนตํ ทสฺเสติ. เอเตน จ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อภาววจเนน การณสิทฺธิยา ผลสิทฺธีติ ตตฺถ อภาวสฺส การณเมว ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต’’ติ วุตฺตํ. เตน ตํสภาวตา ตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส วุตฺตา โหติ. ตโต จ ‘‘พลวํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, ทุพฺพลํ นากฑฺฒตี’’ติ อิทํ ปฏิสนฺธิทานสภาเวสุ. ยสฺส ปน ปฏิสนฺธิทานสภาโว เอว นตฺถิ, น ตสฺส พลวภาโว ปฏิสนฺธิอากฑฺฒเน การณนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. อนากฑฺฒนํ สาเธติ ‘‘ยทิ หิ อากฑฺเฒยฺยา’’ติอาทินา. ยสฺมา จ นาคตํ, ตสฺมา นากฑฺฒตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยสฺมา ปน ตํ ปฏิสนฺธิทานํ นตฺถิ, ตสฺมา นาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘อนากฑฺฒนโต อนาคมนํ สาเธตุ’’นฺติ วุตฺตํ.
อปายคมนียสฺสาติ อปายํ คเมตีติ อปายคมนียํ, ตํสภาวนฺติ อตฺโถ. ปฏิสนฺธิอากฑฺฒเน สติ อุทฺธจฺจสหคตํ เอกนฺเตน อปายคมนียํ สิยา. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๒๙) ‘‘อิตรสฺสาปิ เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺยา’’ติ. น หิ อกุสลปฏิสนฺธิ สุคติยํ สมฺภวตีติ. ‘‘จตูหิ อปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต (ขุ. ปา. ๖.๑๑; สุ. นิ. ๒๓๔) อวินิปาตธมฺโม’’ติ (ส. นิ. ๒.๔๑; ๕.๙๙๘, ๑๐๐๔) วจนโต อปายคมนียฺจ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ. เตนาห ‘‘อปายคมนียสฺส ทสฺสเนน ปหาตพฺพตฺตา’’ติ. น เจตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ, น โส ตสฺส อปายคมนีโย ราโค โทโส ¶ โมโห ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ เอเตน สงฺคโหติ สกฺกา วตฺตุํ นิโยคโต ภาวนาย ปหาตพฺพภาเวน วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา, อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ (ธ. ส. ๑๔๐๖).
‘‘กุสลากุสลํ ¶ กมฺมํ วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๗) วุตฺตกมฺมปจฺจยภาโว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว. โส จ ยทิ อุทฺธจฺจสหคตํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺเฒยฺย, ตสฺสาปิ สิยา. ตถา จ สติ อุทฺธจฺจสหคตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํเยว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. น เจตํ ทสฺเสเนน ปหาตพฺพนฺติ สพฺพํ ปุพฺเพ วิย อาวตฺตติ.
สหชาตเมว วิภตฺตนฺติ ยถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพวิภงฺเค ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๖) สหชาตํ นานากฺขณิกนฺติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สหชาตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, นานากฺขณิกา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วิภตฺตํ, เอวํ อวิภชิตฺวา ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘นานากฺขณิกา เจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. เตน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโวติ วิฺายติ. ปจฺจนีเยปิ ยถาสมฺภวํ สงฺคาหกปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยุทฺธาเร กริยมาเน. อิตรตฺถ จาติ ทสฺสเนนปหาตพฺพปเท. ตตฺถ หิ ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตอุปนิสฺสยปจฺฉาชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๗๑) กมฺมปจฺจโยปิ วุตฺโตติ.
ตทภาวาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตฺตาภาวา. น จ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ วินา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนํ อตฺถีติ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ตตฺถ อนาคตา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถาติ ‘‘เปตฺวา อุทฺธจฺจสหคตํ เสสานิ เอกาทเสว ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺตี’’ติ เอตฺถ. ปวตฺติวิปากสฺสาติ ปวตฺติยํ วิปาโก ปวตฺติเอกเทสตาย ปวตฺติภูโต วา วิปาโก เอตสฺสาติ ปวตฺติวิปากํ, กมฺมํ, ตสฺส. อถ วา ปวตฺติยํ วิปาโก ปวตฺติวิปาโก. อิมสฺมึ ปน อตฺเถ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย เอตสฺสาติ ¶ นานา…เป… โย, ตพฺภาโว…เป… ตาติ เอวํ ปทจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ. น สกฺกา นิวาเรตุํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ วินา วิปากสฺส อนุปฺปชฺชนโต.
อิทานิ ¶ ปวตฺติวิปากานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยลาภิตาย อาหจฺจภาสิตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺจา’’ติอาทิมาห. วิปากทานํ ปฏิสนฺธิวิปากธมฺมตาติ มฺมาโน ‘‘ยทิ ภาวนา’’ติอาทิมาห. อิตโร วิปากทานาภาเวปิ สิทฺโธ วิปากธมฺมภาโว ตาทิสานํ อฺเสมฺปิ ลพฺภมานตฺตาติ อาห ‘‘อภิฺาจิตฺตาทีน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน อตฺตโน กาลมติกฺกนฺตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียฺจ สงฺคณฺหาติ. วุตฺตํ สิยาติ อิทํ สหายปจฺจยลาภโต ปุถุชฺชนสนฺตานวุตฺติโน อุทฺธจฺจสหคตสฺส วิปากุปฺปาทนํ, ตทภาวา เสกฺขสนฺตติยํ ตสฺส วิปากานุปฺปาทนฺจ ยุตฺตํ สิยาติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อิทํ ปน านํ สุฏฺุ วิจาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ปุถุชฺชเนสุ อุปฺปชฺชมานานํ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทสฺส จ สํโยชนตฺตยตเทกฏฺกิเลสานํ อนุปจฺฉินฺนตาย อปริกฺขีณสหายานํ วิปากุปฺปาทนํ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุนฺติ อุทฺธจฺจสหคตธมฺมานํ วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโต’’ติ. ตสฺส ตาทิสสฺเสว สติ สหาเย วิปากุปฺปาทนวจนํ, อสติ วิปากานุปฺปาทนวจนํ วิรุชฺฌตีติ จ ปวตฺติวิปากทายิกํ วา อุทฺธจฺจสหคตสฺส มนสิ กตฺวา ‘‘วุตฺตํ สิยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปวตฺติวิปากฺหิ สนฺธาย ‘เตสํ วิปาเก าณ’นฺติ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค (วิภ. ๗๒๕-๗๒๖) วุตฺต’’นฺติ เอเก วณฺณยนฺติ. เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหติ, สาปิ วิฺาณปจฺจยภาเว อปเนตพฺพาติ อิทมฺปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ.
อกุสลปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อพฺยากตปทํ
อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา
๔๓๑. กามาวจร…เป… อาทิ วุตฺตนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปจิตตฺตา’’ติ ปทํ สงฺคยฺหติ ‘‘อสาธารณกมฺมปจฺจยวเสนา’’ติ วุตฺตตฺตา. ‘‘อุปจิตตฺตาติ ลทฺธาเสวนตฺตา’’ติ เกจิ วทนฺติ ¶ , ตํ ปมชวนสฺส น ยุชฺชติ อนาเสวนตฺตา. ตถา จ สติ ตสฺส วิปากทานเมว น สิยาติ ตโต อฺถา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิปากาภิมุขนฺติ วิปากทานาภิมุขํ กโตกาสํ. กโตกาสตา จ อนาทิมฺหิ สํสาเร อเนเกสํ กมฺมานํ กตานํ อตฺถิตาย ปรสฺส ปฏิพาหเนน โหตีติ ‘‘อฺสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วฑฺฒิตตา ¶ จ สกมฺมสฺส พลทานสมตฺถตาวเสน อตฺตโน การเณหิ อภิสงฺขตตา. อสาธารเณน นามํ อุทฺธฏํ ‘‘เภรีสทฺโท ยวงฺกุโร’’ติ ยถา. วิฺาณานนฺติ จกฺขุวิฺาณาทีนํ. วิเสสปจฺจยตฺตาติ อธิกปจฺจยตฺตา.
จกฺขุสนฺนิสฺสิตฺจ ตํ รูปวิชานนฺจาติ เอเตน สมานาธิกรณตํ สมาสสฺส ทสฺเสนฺโต ตตฺถ จ ‘‘จกฺขุสนฺนิสฺสิต’’นฺติอาทิปททฺวยสฺส นีลุปฺปลสทฺทาทีนํ วิย อฺมฺวิเสสนวิเสสิตพฺพภาวมาห. อฺวิฺาณนฺติ รูปารมฺมณํ มโนวิฺาณํ. รูปํเยวารมฺมณนฺติ ปน อตฺเถ ทิพฺพจกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพํ ตํสทิสานํ ตทุปจารํ กตฺวา ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติรี ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. ฌานปจฺจยตฺตาภาเว น ฌานงฺคตา นตฺถีติ ปฺจวิฺาเณสุ อุเปกฺขาทีนํ อุปจริตฌานงฺคตํ สาเธติ. น หิ ฌานงฺคานํ ฌานปจฺจยตํ วตฺวา เตสํ ฌานปจฺจยภาโว ปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ปฺจวิฺาเณสุ อุเปกฺขาทโย ฌานราสิฏฺาเน น วตฺตพฺพา สิยุนฺติ อาห ‘‘ฌานปจฺจยตฺตาภาเว’’ติอาทิ. อุเปกฺขาทิภาวโตติ อุเปกฺขาสุขทุกฺเขกคฺคตาภาวโต. อฺฏฺานาภาวโตติ จิตฺตฏฺิตึ เอว สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๓๖. อกุสลํ ภวงฺคนิสฺสนฺเทน ‘‘ปณฺฑร’’นฺติ วุจฺจติ, ภวงฺเค อปณฺฑเร ตํมูลิกา กุโต อกุสลสฺส ปณฺฑรตาติ ‘‘อกุสลสฺส จา’’ติ วุตฺตํ. ปณฺฑรตาย การณํ วตฺตพฺพํ, ยทิ อฺการณา ปณฺฑรตา, สภาโววายนฺติ จิตฺตสฺส อกิเลสสภาวตาย วุตฺตํ, น เจตฺถ ผสฺสาทีนมฺปิ ปณฺฑรตาปตฺติ. ยโต ธมฺมานํ สภาวกิจฺจวิเสสฺุนา ภควตา วิฺาณํเยว ตถา นิทฺทิฏฺนฺติ.
๔๓๙. อนติกฺกมเนน ภาวนาย. ปสาทฆฏฺฏนํ วิสยสฺส โยคฺยเทเส อวฏฺานนฺติ ‘‘ปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา อาปาถํ คนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. มหาภูเตสุ ปฏิหฺตีติ เอตฺถ น สยํ กิฺจิ ปฏิหฺติ, นาปิ เกนจิ ปฏิหฺียติ อโผฏฺพฺพสภาวตฺตา. วิสยวิสยีภูตํ ปน อภิมุขภาวปฺปตฺติยา วิฺาณุปฺปตฺติยา เหตุตาย วิสิฏฺภาวปฺปตฺตํ ปฏิหตปฏิฆาตกภาเวน โวหรียติ ¶ , ตสฺมา เตสุ สปฺปฏิฆโวหาโร. ‘‘อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏตีติ เอวมาทิ จ อุปจารวเสเนว เวทิตพฺพํ. มหาภูตารมฺมเณน ปน ¶ กายปฺปสาทนิสฺสยภูเตสุ มหาภูเตสุ ฆฏฺฏิยมาเนสุ ปสาโทปิ ฆฏฺฏิโต เอว นาม โหตีติ วตฺวา วีมํสิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ยถาธิปฺเปเตน เอกเทสสามฺเน อุปมาวจนโต นิสฺสิตนิสฺสยฆฏฺฏนานํ สติปิ ปุพฺพาปรภาเว อุปมตฺเต อุปมาภาเวน คเหตพฺพภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภยฆฏฺฏนทสฺสนตฺถ’’นฺติ อาห.
๔๕๕. ทสฺสนาทิปฺปวตฺติภาวโตติ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ อทสฺสนาทิตาย สา เอเตสํ เอว วิเสโส. อนฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตายาติ อฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตฺตาภาวโต. อฺนิสฺสยวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจยตฺตาภาเวนาติ อิมินา กิริยามโนธาตุโตปิ วิเสสสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘มโนทฺวารนิคฺคมนมุขภาวาภาวโต’’ติ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘นิคฺคมนปเวสมุขภาวาภาวโต’’ติ. ติวิเธนปิ หิ มโนธาตุวิฺาณธาตูหิ มโนวิฺาณธาตุยา วิเสโส ทสฺสิโตติ. ตโต เอว วิชานนวิเสสวิรหโตเยว. ยทิ มโนธาตุ ‘‘มโนวิฺาณ’’นฺติ น วุจฺจติ, ฉวิฺาณกายาติ กถํ มโนธาตุยา ตตฺถ สงฺคโห โหตีติ? สงฺคโห เอว ปริยายเทสนตฺตา. อตฺถิ หิ เอส ปริยาโย ‘‘มนนมตฺตํ วิฺาณํ มโนวิฺาณ’’นฺติ ยถา ‘‘มนนมตฺตา ธาตุ มโนธาตู’’ติ. อปิจ วตฺถุกิจฺเจหิ มโนวิฺาณสภาคตฺตา ตสฺส อุปรมุปฺปาทภาวโต อนฺตาทิภาวโต จ มโนวิฺาณกายสงฺคหิตา มโนธาตุ, น เสสวิฺาณกายสงฺคหิตา อตํสภาคตฺตา, อิธ ปน นิปฺปริยายกตตฺตา มนโส สมฺภูย วิสิฏฺมโนกิจฺจยุตฺตํ มโนวิฺาณนฺติ ตทภาวโต ‘‘มโนวิฺาณนฺติปิ น วุจฺจตี’’ติ อิมเมวตฺถํ สาเธตุํ ‘‘น หิ ตํ วิฺาณํ มนโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน มโนธาตุยา นิปฺปริยายโต มโนวิฺาณกิจฺจวิรหํเยว ทสฺเสติ. ทสฺสนาทีนํ ปนาติอาทินา อฺวิฺาณวิธุรํ มโนธาตุยา จ สภาวํ ทสฺเสติ.
ยทิ ชนกสทิสตา นาม มหาวิปาเกสุ วิตกฺกาทีนํ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา, ติเหตุกโต นิพฺพตฺตานํ ติเหตุกานํ, ทุเหตุกโต นิพฺพตฺตานํ ทุเหตุกานฺจ ภวตุ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา, ติเหตุกโต ปน นิพฺพตฺตทุเหตุกานํ กถนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิ. ตํโสตปติตตา น สิยา ตสฺสา อนานนฺตรตฺตา. ตโต เอว หีติอาทินา วุตฺตโสตปติตํ เอวานนฺตเรน วจเนน สมตฺถยติ. ยทิ วิชฺชมานานมฺปิ ¶ มโนธาตุอาทีสุ วิตกฺกาทีนํ ปฺจวิฺาเณสุ วิย อคณนูปคภาโว, เอวํ สนฺเต ปฏฺาเน กถํ เตสํ ฌานปจฺจยตาวจนํ. ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ¶ ธมฺมสฺส ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๓๑), ‘‘วิปากาพฺยากตานิ กิริยาพฺยากตานิ ฌานงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๓๑) หิ วุตฺตํ. ปจฺจนีเยปิ ‘‘อพฺยากตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ฌานปจฺจยา, ปฺจวิฺาณสหิตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๙๘) ปฺจวิฺาณานิ เอว อุทฺธฏานิ, น มโนธาตุอาทีนีติ อาห ‘‘ฌานปจฺจยกิจฺจมตฺตโต’’ติอาทิ. น เหตฺถ ฌานงฺคานํ พลวทุพฺพลภาโว อธิกโต, อถ โข ฌานปจฺจยภาวมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๖๙. สมานวตฺถุกํ อนนฺตรปจฺจยํ ลภิตฺวาติ ทสฺสนาทิโต มโนธาตุยา จ พลวภาเว การณวจนํ. ยถารมฺมณนฺติ อารมฺมณานุรูปํ. ยทิ สมานนิสฺสยตาย มโนธาตุโต พลวตรตฺตํ วิปากมโนวิฺาณธาตุยา โสมนสฺสสหคตาย, โวฏฺพฺพนํ กถํ มชฺฌตฺตเวทนนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา ตสฺส พลวภาวํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สนฺตติปริณามนพฺยาปารวิเสสา น โสมนสฺสเวทนนฺติ ปริหารํ วทนฺโต ‘‘โวฏฺพฺพน’’นฺติอาทิมาห. วิปาโก วิย อนุภวนเมว น โหตีติ สติ สมตฺถตาย วิปากานํ เอกนฺเตน อารมฺมณรสานุภวนตาย วุตฺตํ.
อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา
๔๙๘. วิปากธมฺมานํ กมฺมทฺวารํ วุตฺตํ ทฺวารกถายํ ‘‘เตภูมกกุสลากุสโล เอกูนตึสวิโธ มโน’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. มโนกมฺมทฺวารกถา). ปโยเคนาติ อตฺตนา ปเรหิ วา กเตน อุสฺสาหนปโยเคน. กุสลากุสลานิ วิย เยสํ ตํ ตทารมฺมณํ อนุพนฺธภูตํ. ปมปฺจมจิตฺตานํ อฺมฺพลวทุพฺพลภาววิจาเรน ทุติยฉฏฺาทีนมฺปิ โส วิจาริโต โหตีติ ‘‘เอเตสุ พลวํ ทุพฺพลฺจ วิจาเรตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ยถา สาลิอาทีนํ ถทฺธมุทุภูมิวเสน ติณาทีนํ ¶ อนีหรณนีหรณวเสน อุตุอาทิอวเสสปจฺจยานํ วิปตฺติสมฺปตฺติวเสน จ ผลวิเสสโยโค, เอวํ กมฺมสฺส สุคติทุคฺคติวเสน อวิสุทฺธวิสุทฺธปโยควเสน อุปปตฺติยา วิปตฺติสมฺปตฺติวเสน ¶ จ วิสิฏฺผลตาย ปริณมนํ, เอวเมว คิมฺหวสฺสกาลาทีสุ พีชานํ ผลวิเสสโยโค วิย ตํตํกาลวิเสเสน กมฺมสฺส ผลวิเสสโยโค โหตีติ อาห ‘‘กาลวเสน ปริณมตี’’ติ. สุกฺกโสณิตปจฺจยานนฺติ กมฺมวิเสสปริภาวิตสนฺตานุปฺปนฺนตาย สุกฺกโสณิตานํ อายุวิเสสเหตุภาวมาห สุกฺกโสณิตวเสนปิ วณฺณาทิวิเสสทสฺสนโต, เยน ‘‘ปิตูนํ อาการํ ปุตฺโต อนุวิทหตี’’ติ วุจฺจติ. ตํมูลกานนฺติ อปฺปายุกสํวตฺตนิยกมฺมมูลกานํ. อาหาราทีติ อาทิ-สทฺเทน วิสมูปกฺกมาทโย ปริคฺคณฺหาติ.
วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา
ยโต ติเหตุกาทิกมฺมโต. ยสฺมิฺจ าเนติ ปฏิสนฺธิอาทิฏฺาเน, สุคติทุคฺคติยํ วา. ติเหตุกโต ทุเหตุกํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิสนฺธินฺติ อธิปฺปาโย. ปวตฺติวิปากํ ปน ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อิจฺฉติ เอว. ตถา หิ วกฺขติ อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปุริมาย เหตุกิตฺตนลทฺธิยา น ยุชฺชตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘).
เย ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ, ‘‘เอกปุปฺผํ ยชิตฺวาน, อสีติ กปฺปโกฏิโย (เถรคา. ๙๖). ทุคฺคตึ นาภิชานามี’’ติ (อป. เถร ๒.๔๖.๖๔) จ เอวมาทิวจนสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺตา ‘‘กึ นุ โข เอเกนปิ กมฺเมน อเนกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ, ‘‘ทิสฺวา กุมารํ สตปฺุลกฺขณ’’นฺติอาทิวจนสฺส (ที. นิ. ๓.๒๐๕) อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กินฺนุ โข นานากมฺเมหิ เอกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ สํสยปกฺขนฺทา, เตสํ พีชงฺกุโรปมาย ‘‘เอกสฺมา เอกา, อเนกสฺมา จ อเนกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ วินิจฺฉิตตฺตา กมฺมปฏิสนฺธิววตฺถานโต สาเกตปฺเห วิปากุทฺธารกถาย อุสฺสทกิตฺตนคหณสฺส สมฺพนฺธํ อาห ‘‘กมฺมวเสน…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ. ปฏิสนฺธิชนกกมฺมวเสน ปฏิสนฺธิวิปาโก เอว อโลภโลภาทิคุณโทสาติเรกภาวเหตูติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ โลภวเสน, โทส, โมห ¶ , โลภโทส, โลภโมห, โทสโมห, โลภโทสโมหวเสนาติ ตโย เอกกา, ตโย ทฺวิกา, เอโก ติโกติ โลภาทิทสฺสนวเสน อกุสลปกฺเขเยว สตฺต วารา. ตถา กุสลปกฺเข อโลภาทิทสฺสนวเสนาติ จุทฺทส วารา ลพฺภนฺติ.
ตตฺถ ¶ ‘‘อโลภโทสาโมหา, อโลภาโทสโมหา, อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต’’ติ อาคเตหิ กุสลปกฺเข ตติยทุติยปมวาเรหิ โทสุสฺสทโมหุสฺสทโทสโมหุสฺสทวารา คหิตา. ตถา อกุสลปกฺเข ‘‘โลภาโทสโมหา, โลภโทสาโมหา, โลภาโทสาโมหา พลวนฺโต’’ติ อาคเตหิ ตติยทุติยปมวาเรหิ อโทสุสฺสทอโมหุสฺสทอโทสาโมหุสฺสทวารา คหิตาเยวาติ อกุสลกุสลปกฺเข ตโย ตโย วาเร อนฺโตคเธ กตฺวา อฏฺเว วารา ทสฺสิตา. เย ปน อุภเยสํ โวมิสฺสตาวเสเนว โลภาโลภุสฺสทวาราทโย อปเร เอกูนปฺาส วารา ทสฺเสตพฺพา, เต อสมฺภวโต เอว น ทสฺสิตา. น หิ เอกสฺมึ สนฺตาเน อนฺตเรน อวตฺถนฺตรํ โลโภ พลวา อโลโภ จาติ ยุชฺชติ. ปฏิปกฺขโตเยว หิ เอเตสํ พลวทุพฺพลภาโว, สหชาตธมฺมโต วา. เตสุ โลภสฺส ตาว ปฏิปกฺขโต อโลเภน อนภิภูตตาย พลวภาโว, ตถา โทสโมหานํ อโทสาโมเหหิ. อโลภาทีนํ ปน โลภาทิอภิภวนโต สพฺเพสฺจ สมานชาติยํ สมภิภูย ปวตฺติวเสเนว สหชาตธมฺมโต พลวภาโว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘โลโภ พลวา, อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต, โทสโมหา มนฺทา’’ติ. โส จ เตสํ มนฺทพลวภาโว ปุริมูปนิสฺสยโต อาสยสฺส ปริภาวิตตาย เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปมทุติเยหิ, สตฺตมปเมหิ วา วาเรหิ ติเหตุกกมฺมโต ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ติเหตุกวิปาโก, อิตเรหิ ติเหตุกทุเหตุกกมฺมโต ยถาสมฺภวํ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ทุเหตุกาเหตุกวิปากา ทสฺสิตาติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
อิธาติ วิปากุทฺธารมาติกายํ. เตน เหตุกิตฺตนํ วิเสเสติ. ชจฺจนฺธาทิวิปตฺตินิมิตฺตํ โมโห, สพฺพากุสลํ วา. ยํ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เตน ปฏิสมฺภิทามคฺควจเนน. คติสมฺปตฺติยา สติ าณสมฺปยุตฺเต ปฏิสนฺธิมฺหิ ¶ นิปฺผาเทตพฺเพ. อฺตฺถาติ นิกนฺติปฏิสนฺธิกฺขเณสุ. กมฺมสริกฺขโกติ อิธ สาติสโย สริกฺขภาโว อธิปฺเปโตติ ทฏฺพฺโพ. อิตรถา ติเหตุกทุเหตุกาปิ อฺมฺํ สริกฺขาเยวาติ ทสฺสิตเมตนฺติ. จกฺขุวิฺาณาทีนีติ เอตฺถ ปฺจวิฺาณานิ วิย อปุพฺพนิสฺสยปวตฺตินี วิชานนวิเสสรหิตา จ มโนธาตุ อิฏฺาทิภาคคฺคหเณ น สมตฺถาติ ‘‘ปากฏาเยวา’’ติ น วุตฺตา, อาทิ-สทฺเทน วา สงฺคหิตา. ตทารมฺมณปจฺจยสพฺพชวนวตาติ ตทารมฺมณสฺส ปจฺจยภูตสกลชวนปฺปวตฺติสหิเตน. ยํ สนฺธาย ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อฺกาเลติ อพุทฺธิปวตฺติกาเล.
อนุโลเมติ ธมฺมานุโลเม. อาเสวนปจฺจยาติ อาเสวนภูตา ปจฺจยา. น มคฺเค อมคฺคปจฺจเย ¶ . โสปิ โมฆวาโร ลพฺเภยฺยาติ ยทิ โวฏฺพฺพนมฺปิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, ยถา ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ อาเสวนปจฺจยา น (ปฏฺา. ๑.๒.๓) มคฺคปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๒.๑๔) อนุโลมปจฺจนีเย, ปจฺจนียานุโลเม จ ‘‘สุขา…เป… น มคฺคปจฺจยา อาเสวนปจฺจยา’’ติ จ วุตฺตํ หสิตุปฺปาทจิตฺตวเสน, เอวํ โวฏฺพฺพนวเสน ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ปาโ สิยา, ตถา จ สติ วารทฺวยวเสน คณนายํ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว. น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว’’ติ จ วตฺตพฺพํ สิยา, น ปน วุตฺตํ, ตสฺมา น ลพฺเภยฺยายํ โมฆวาโรติ อธิปฺปาโย.
โวฏฺพฺพนมฺปิ ยทิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, ทุติยโมฆวาเร อตฺตโน วิย ตติยจตุตฺถวาเรสุปิ สิยา, ตถา สติ อตฺตนาปิ กุสลากุสลานํ สิยา. น หิ…เป… อวุตฺโต อตฺถิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติอาทินา อนวเสสโต วุตฺตตฺตา. โวฏฺพฺพนสฺส…เป… อวุตฺโต ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย. อกุสลสฺส…เป… ปจฺจโย’’ติ วจนาภาวโต. น เกวลํ อวุตฺโต, อถ โข กุสลํ…เป… ปฏิกฺขิตฺโตว. อถาปิ สิยาติอาทิ มคฺคโสธนตฺถเมว วุจฺจติ. สมานเวทนานํ เอว อาเสวนปจฺจยภาวสฺส ทสฺสนโต ‘‘อสมานเวทนานํ วเสนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ‘‘อาเสวน ปจฺจเยน ¶ ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา, สมานเวทนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. อภินฺนชาติกสฺส จาติ จ-สทฺโท อภินฺนเวทนสฺส จาติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เวทนาตฺติเกปิ โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตสฺส อภาวาติ โยชนา. กุสลตฺติกาทีสุ ยถาทสฺสิตปาฬิปฺปเทเสสุปีติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท. คณนาย การณภูตาย คณนาย นิทฺธาริยมานาย สติ คณนาย วา อพฺภนฺตเร. ทุติโย โมฆวาโร วีมํสิตพฺโพติ อาเสวนปจฺจยตฺตาภาวา ชวนฏฺาเน าตุํ น ยุชฺชติ. น หิ วินา อาเสวนํ ชวนปฺปวตฺติ อตฺถีติ อธิปฺปาโย.
อปิเจตฺถ ‘‘ยํ ชวนภาวปฺปตฺตํ, ตํ ฉินฺนมูลกรุกฺขปุปฺผํ วิยา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๖๖) วกฺขมานตฺตา อนุปจฺฉินฺนภวมูลานํ ปวตฺตมานสฺส โวฏฺพฺพนสฺส กิริยภาโว น สิยา, วุตฺโต จ ‘‘ยสฺมึ สมเย มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ กิริยา เนว กุสลา นากุสลา น จ กมฺมวิปากา อุเปกฺขาสหคตา’’ติ, ตสฺมา ‘‘ชวนฏฺาเน ตฺวาติ ชวนสฺส อุปฺปชฺชนฏฺาเน ¶ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปวตฺติตฺวา, น ชวนภาเวนา’’ติ, ‘‘อาเสวนํ ลภิตฺวาติ จ อาเสวนํ วิย อาเสวน’’นฺติ วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธ, วิปฺผาริกสฺส ปน สโต ทฺวิกฺขตฺตุํ ปวตฺติเยเวตฺถ อาเสวนสทิสตา. วิปฺผาริกตาย หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตฺจสฺส วุจฺจติ. วิปฺผาริกมฺปิ ชวนํ วิย อเนกกฺขตฺตุํ อปฺปวตฺติยา ทุพฺพลตฺตา น นิปฺปริยายโต อาเสวนปจฺจยภาเวน ปวตฺเตยฺยาติ น อิมสฺส ปาเ อาเสวนตฺถํ วุตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน ปริยายโต วุตฺตํ ยถา ‘‘ผลจิตฺเตสุ มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ. อยเมตฺถ อตฺตโนมติ. อยมฺปิ โปราณเกหิ อสํวณฺณิตตฺตา สาธุกํ อุปปริกฺขิตพฺโพ.
เอวฺจ กตฺวาติ โวฏฺพฺพนาวชฺชนานํ อนตฺถนฺตรภาวโต ‘‘อาวชฺชนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, โวฏฺพฺพนฏฺาเนปีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา โวฏฺพฺพนํ อาวชฺชนาเยว อตฺถโต อุเปกฺขาสหคตาเหตุกกิริยมโนวิฺาณธาตุภาวโต, ตสฺมา. ตํ อาวชฺชนา วิย สติ อุปฺปตฺติยํ กามาวจรกุสลากุสลกิริยชวนานํ เอกนฺตโต อนนฺตรปจฺจยภาเวเนว วตฺเตยฺย, โน อฺถาติ อธิปฺปาเยน ‘‘โวฏฺพฺพนโต’’ติอาทิมาห. จตุนฺนนฺติ มฺุฉามรณาสนฺนเวลาทีสุ มนฺทีภูตเวคตาย จตฺตาริปิ ชวนานิ อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. อยเมตสฺส สภาโวติ ¶ อารมฺมณมุเขนปิ จิตฺตนิยามํเยว ทสฺเสติ. ยทิปิ ‘‘ชวนาปาริปูริยา…เป… ยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อาวชฺชนาทีนํ ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตี’’ติ ปน วุตฺตตฺตา จิตฺตปฺปวตฺติวเสน ปมโมฆวารโต เอตสฺส น โกจิ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อยมฺปิ…เป… เรตพฺโพ’’ติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตเยว ปวตฺติยํ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุจฺจมาเน น ตสฺส เหตุวเสน เภโทติ ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) น สกฺกา วตฺตุํ, วุตฺตฺจ, ตสฺมา สเหตุกํ ภวงฺคนฺติ ตทารมฺมณํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ.
สภาวกิจฺเจหิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยภาโว, สภาวกิจฺจานํ วา ผลภูตานํ ปจฺจยภาโว สภาวกิจฺจปจฺจยภาโว. อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพนฺติ ‘‘ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกชวนาวสาเน เอวา’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส อนธิปฺเปตตฺตา. ยถา จ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิกานํ ติเหตุกชวนาวสาเน อเหตุกทุเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ, เอวํ ติเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส ติเหตุกชวนานนฺตรํ ทุเหตุกตทารมฺมณํ, ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส จ ทุเหตุกานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ อเหตุกมฺปิ วิปากํ เทตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) หิ วุตฺตํ. ปริปุณฺณวิปากสฺสาติ ¶ อิมินาปิ ติเหตุกชวนโต ยถาวุตฺตตทารมฺมณสฺส อปฺปฏิสิทฺธํเยว สาเธติ. น หิ ปจฺจยนฺตรสามคฺคิยา อสติ ตทารมฺมณํ สพฺพํ อวิปจฺจนฺตํ กมฺมํ ปริปุณฺณวิปากํ โหตีติ. มุขนิทสฺสนมตฺตเมว ยถาวุตฺตตทารมฺมณปฺปวตฺติยา อวิภาวิตตฺตา. ติเหตุกาทิกมฺมสฺส หิ อุกฺกฏฺสฺส ติเหตุกกมฺมสฺส โสฬส, อิตรสฺส ทฺวาทส, อุกฺกฏฺสฺเสว ทุเหตุกกมฺมสฺส ทฺวาทส, อิตรสฺส อฏฺาติ เอวํ โสฬสวิปากจิตฺตาทีนิ โยเชตพฺพานิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปริปุณฺณวิปากสฺส ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสฺส วเสน วิปากวิภาวนาย มุขนิทสฺสนมตฺตเมเวตํ, ตสฺมา.
เอวฺจ กตฺวาติ นานากมฺมโต ตทารมฺมณุปฺปตฺติยํ อิโต อฺถาปิ สมฺภวโตติ อตฺโถ. ‘‘อุเปกฺขา…เป… อุปฺปชฺชตี’’ติ เอตฺถ เกน กิจฺเจน อุปฺปชฺชตีติ? ตทารมฺมณกิจฺจํ ตาว น โหติ ชวนารมฺมณสฺส อนาลมฺพณโต, นาปิ สนฺตีรณกิจฺจํ ตถา อปฺปวตฺตนโต, ปฏิสนฺธิจุตีสุ วตฺตพฺพเมว ¶ นตฺถิ, ปาริเสสโต ภวงฺคกิจฺจนฺติ ยุตฺตํ สิยา. น หิ ปฏิสนฺธิภูตํเยว จิตฺตํ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุจฺจตีติ.
ตนฺนินฺนนฺติ อาปาถคตวิสยนินฺนํ อาวชฺชนนฺติ สมฺพนฺโธ. อฺสฺส วิย ปมชฺฌานาทิกสฺส วิย. เอตสฺสปิ สาวชฺชนตาย ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อตทตฺถาติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน นิโรธํ ปจฺจามสติ. อุปฺปตฺติยาติ อุปฺปตฺติโต. ตนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ. ตสฺส นิโรธสฺส. ตถา จ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนนฺตรปจฺจโย โหตี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. ยถาวุตฺตา วุตฺตปฺปการา. โวทานํ ทุติยมคฺคาทีนํ ปุเรจาริกาณํ. เอเตสนฺติ อริยมคฺคจิตฺตมคฺคานนฺตรผลจิตฺตานํ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตวิปากจิตฺตสฺส.
อุปนิสฺสยโต ตสฺเสว จกฺขุวิฺาณาทิวิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ จกฺขาทีนํ ทสฺสนาทิอตฺถโต ทสฺสนาทิผลโต, ทสฺสนาทิปฺปโยชนโต วา. ปุริมจิตฺตานิ อาวชฺชนาทีนิ. วตฺถนฺตรรหิตตฺเต ทสฺเสตพฺเพ วตฺถนฺตเร วิย อารมฺมณนฺตเรปิ น วตฺตตีติ ‘‘วตฺถารมฺมณนฺตรรหิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ยทิ วิปาเกน กมฺมสริกฺเขเนว ภวิตพฺพํ, เอวํ สติ อิมสฺมึ วาเร อเหตุกวิปากานํ อสมฺภโว เอว สิยา เตสํ อกมฺมสริกฺขกตฺตาติ อิมมตฺถํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อเหตุกานํ ปนา’’ติ. อภินิปาตมตฺตนฺติ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ กิจฺจมาห. เต หิ อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ อภินิปาตนมตฺเตเนว ¶ วตฺตนฺติ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. กุสเลสุ กุสลากุสลกิริเยสุปิ วา วิชฺชมานา สสงฺขาริกาสงฺขาริกตา อฺมฺํ อสริกฺขตฺตา ปหานาวฏฺานโต จ วิรุทฺธา วิยาติ วิปาเกสุ สา ตทนุกูลา สิยา, สา ปน มูลาภาเวน น สุปฺปติฏฺิตานํ สวิสยาภินิปตนมตฺตาทิวุตฺตีนํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘น สสงฺขาริกวิรุทฺโธ’’ติอาทิ. อุภเยนปิ เตสํ นิพฺพตฺตึ อนุชานาติ ยถา ‘‘กฏตฺตารูปาน’’นฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิปากธมฺมธมฺโม วิปากสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย. วิปากธมฺมธมฺเม ขนฺเธ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ, อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, กุสลากุสเล นิรุทฺเธ’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๓.๙๓) วิปากตฺติเก วิย สิยา กุสลตฺติเกปิ ปาฬีติ กตฺวา ‘‘กุสลตฺติเก จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา กุสลํ อนิจฺจโต ¶ ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺติ, กุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชติ, กุสลํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, อุทฺธจฺจํ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อกุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชมานตฺตา เอว อวจนนฺติ อธิปฺปาเยน ตตฺถ ยุตฺตึ ทสฺเสติ ‘‘วิปฺผาริกฺหี’’ติอาทินา.
เอตฺถ เกจิ ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขาวโตปิ กิริยมยจิตฺตตาย กิริยชวนสฺส วิปฺผาริกกิริยภาโว น สกฺกา นิเสเธตุนฺติ นิทสฺสนภาเวน ปณฺณปุฏมุปนีตํ อสมานํ. กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณาภาวสฺส ปาฬิยํ อวจนมฺปิ อการณํ ลพฺภมานสฺสปิ กตฺถจิ เกนจิ อธิปฺปาเยน อวจนโต. ตถา หิ ธมฺมสงฺคเห อกุสลนิทฺเทเส ลพฺภมาโนปิ อธิปติ น วุตฺโต, ตสฺมา กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณาภาโว วีมํสิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. สติปิ กิริยมยตฺเต สพฺพตฺถ ตาทิภาวปฺปตฺตานํ ขีณาสวานํ ชวนจิตฺตํ น อิตเรสํ วิย วิปฺผาริกํ, สนฺตสภาวตาย ปน สนฺนิสินฺนรสํ สิยาติ ตสฺส ปณฺณปุฏํ ทสฺสิตํ. ธมฺมสงฺคเห อกุสลนิทฺเทเส อธิปติโน วิย ปฏฺาเน กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณสฺส ลพฺภมานสฺส อวจเน น กิฺจิ การณํ ทิสฺสติ. ตถา หิ วุตฺตํ ตตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๒๙). น เจตฺถ ทสฺสิตนยตฺตาติ สกฺกา วตฺตุํ วิปากธมฺมธมฺเมหิ กุสลากุสเลหิ อตํสภาวานํ นยทสฺสนสฺส อยุชฺชมานกตฺตา. อปิจ ตตฺถ วีมํสาย เกสุจิ สพฺเพสฺจ อธิปตีนํ อภาวโต เอกรสํ เทสนํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺธโฏ’’ติ จ สกฺกา วตฺตุํ, อิธ ปน น ตาทิสํ อวจเน การณํ ลพฺภตีติ ‘‘อวจเน การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ.
อธิปฺปาเยนาติ อกุสลานนฺตรํ สเหตุกตทารมฺมณํ นตฺถีติ ตสฺส เถรสฺส มติมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ สเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘) วจนโต ปน อกุสลานนฺตรํ สเหตุกตทารมฺมณมฺปิ วิชฺชติเยวาติ อุปฺปตฺตึ วทนฺตสฺส ยุตฺตคฺคหณวเสนาติ อธิปฺปาโย.
น เอตฺถ การณํ ทิสฺสตีติ เอเตน ติเหตุกชวนานนฺตรํ ติวิธมฺปิ ตทารมฺมณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เยน อธิปฺปาเยนาติ ปมเถเรน ตาว เอเกน ¶ กมฺมุนา อเนกตทารมฺมณํ นิพฺพตฺตมานํ กมฺมวิเสสาภาวา ตํตํชวนสงฺขาตปจฺจยวิเสเสน วิสิฏฺํ โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ชวนวเสน ตทารมฺมณสฺส สสงฺขาราทิวิธานํ วุตฺตํ, วิปาเกน นาม กมฺมสริกฺเขน ภวิตพฺพํ, น กมฺมวิรุทฺธสภาเวน. อฺถา อนิฏฺปฺปสงฺโค สิยาติ เอวมธิปฺปาเยน ทุติยตฺเถโร กมฺมวเสเนว ตทารมฺมณวิเสสํ อาห. าณสฺส ชจฺจนฺธาทิทุคฺคติวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขตา วิย สุคติวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขตาปิ สิยาติ มฺมาโน ตติยตฺเถโร ‘‘ติเหตุกกมฺมโต ทุเหตุกปฏิสนฺธิมฺปิ นานุชานาตี’’ติ อิมินา นเยน เตสุ วาเทสุ อธิปฺปายาวิโรธวเสน ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. มหาปกรเณ อาคตปาฬิยาติ ‘‘สเหตุโก ธมฺโม อเหตุกสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สเหตุกา ขนฺธา วุฏฺานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวมาทินา ปฏฺาเน สเหตุกทุกาทีสุ อาคตปาฬิยาติ อตฺโถ.
กามาวจรกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา
๔๙๙. ตสฺมึ ขเณ วิชฺชมานานํ ฉนฺทาทีนนฺติ เอเตน วิปากชฺฌาเน ทุกฺขาปฏิปทาทิภาวสฺส ¶ อวิชฺชมานตํ ทสฺเสติ. น หิ กุสลชฺฌานํ วิย วิปากชฺฌานํ ปริกมฺมวเสน นิพฺพตฺตตีติ. น เจตฺถ ปฏิปทาเภโท วิย กุสลานุรูโป วิปากสฺส อารมฺมณเภโทปิ น ปรมตฺถิโก สิยาติ สกฺกา วตฺตุํ เอกนฺเตน สารมฺมณตฺตา อรูปธมฺมานํ วิปากสฺส จ กมฺมนิมิตฺตารมฺมณตาย อฺตฺราปิ วิชฺชมานตฺตา. นานากฺขเณสุ นานาธิปเตยฺยนฺติ ‘‘ยสฺมึ ขเณ ยํ ฌานํ ยทธิปติกํ, ตโต อฺสฺมึ ขเณ ตํ ฌานํ เอกนฺเตน ตทธิปติกํ น โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ. จตุตฺถชฺฌานสฺเสวาติ จ ปฏิปทา วิย อธิปตโย น เอกนฺติกาติ อิมเมวตฺถํ ทสฺเสติ.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา
๕๐๕. ตณฺหาวิชฺชาทีหิ ¶ อาหิตวิเสสํ โลกิยกมฺมํ วิปากุปฺปาทนสมตฺถํ โหติ, น อฺถาติ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทีหิ อภิสงฺขต’’นฺติ. อิตรสฺสาติ สฺุตาปฺปณิหิตนามรหิตสฺส. โย สุทฺธิกปฏิปทาย วิภาวิโต, โย จ สุตฺตนฺตปริยาเยน อนิมิตฺโตติ วุจฺจติ. เตเนวาห ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรสฺสปิ มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. วฬฺชน…เป… เภโท โหติ มคฺคาคมนวเสนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘มคฺคานนฺตรผลจิตฺตสฺมึ เยวา’’ติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สฺุตาทินามลาเภ สตี’’ติ สาสงฺกํ อาห. อนิมิตฺตนามฺจ ลภติ มคฺคาคมนโต ผลสฺส นามลาเภ วิเสสาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ตาทิสาย เอวาติ ยาทิสา มคฺเค สทฺธา, ตาทิสาย เอว ผเล สทฺธาย.
๕๕๕. ‘‘กตเม ธมฺมา นิยฺยานิกา? จตฺตาโร มคฺคา’’ติ วจนโต (ธ. ส. ๑๒๙๕, ๑๖๐๙) อนิยฺยานิกปทนิทฺเทเส จ ‘‘จตูสุ ภูมีสุ วิปาโก’’ติ (ธ. ส. ๑๖๑๐) วุตฺตตฺตา น นิปฺปริยาเยน ผลํ นิยฺยานสภาวํ, นิยฺยานสภาวสฺส ปน วิปาโก กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานวเสน ปวตฺตมาโน ปริยายโต ตถา วุจฺจตีติ อาห ‘‘นิยฺยานิกสภาวสฺสา’’ติอาทิ. ปฺจงฺคิโก จาติ เอเตน มคฺควิภงฺเค สพฺพวาเรสุปิ ผลสฺส มคฺคปริยาโย ¶ อาคโตติ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ อริยมคฺคกฺขเณ วิชฺชมานาสุปิ วิรตีสุ ตทวสิฏฺานํ ปฺจนฺนํ การาปกงฺคานํ อติเรกกิจฺจตาทสฺสนตฺถํ ปาฬิยํ ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค อุทฺธโฏติ. เอวํ โพชฺฌงฺคาปีติ ยถา มคฺโค, เอวํ มคฺคโพชฺฌงฺควิภงฺเคสุ ผเลสุ จ โพชฺฌงฺคา อุทฺธฏาติ อตฺโถ.
โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กิริยาพฺยากตกถาวณฺณนา
๕๖๘. ปุริมา ปวตฺตีติ มหากิริยจิตฺตปฺปวตฺตึ อาห. ตาย หิ ขีณาสโว เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. เตเนวาห ‘‘อิทํ ปน จิตฺตํ วิจารณปฺารหิต’’นฺติ. เอวนฺติ ยถา โสตทฺวาเร, เอวํ ฆานทฺวาราทีสุปิ มหากิริยจิตฺเตหิ ตสฺมึ ตสฺมึ วิสเย อิทมตฺถิกตาย ปริจฺฉินฺนาย อิทํ จิตฺตํ วตฺตตีติ ¶ ทสฺเสติ. ปฺจทฺวารานุคตํ หุตฺวา ลพฺภมานนฺติ ปฺจทฺวาเร ปวตฺตมหากิริยจิตฺตานํ ปิฏฺิวฏฺฏกภาเวน อิมสฺส จิตฺตสฺส ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจทฺวาเร เอว วา อิทเมว ปวตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โลลุปฺป…เป… ภูต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปฺจทฺวาเร ปมํ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต หุตฺวา ปจฺฉา มหากิริยจิตฺเตหิ ตํ ตํ อตฺถํ วิจิโนตีติ อยมตฺโถ วุตฺโต วิย ทิสฺสติ. ปุพฺเพเยว ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน ปธานสารุปฺปฏฺานาทึ ปริจฺฉินฺทนฺตสฺส ปฺจทฺวาเร ตาทิสสฺเสว ตาทิเสสุ รูปาทีสุ อิทํ จิตฺตํ ปวตฺตตีติ วทนฺติ. อยมฺปิ อตฺโถ ปฺจทฺวาเร เอว ปวตฺตํ โลลุปฺปตณฺหาปหานาทิปจฺจเวกฺขณาเหตุ ยถาวุตฺตการณภูตํ ชาตนฺติ เอวํ โยเชตฺวา สกฺกา วตฺตุํ. เอวฺจ สติ อิมสฺส จิตฺตสฺส ปจฺจยภูตา ปุริมา ปวตฺตีติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ.
เอตฺถ จ ปฺจทฺวาเร อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสุปฺปาทนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, น หาสุปฺปาทนํ ปฺจทฺวาริกจิตฺตานํ อวิฺตฺติชนกตฺตา, มโนทฺวาเร ปน หาสุปฺปาทนํ โหติ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ปฺจทฺวาเร ‘‘โสมนสฺสิโต โหตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, มโนทฺวาเร จ ‘‘หาสยมาน’’นฺติ. อิมินา หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปวตฺติยมานมฺปิ ภควโต สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสสพฺพฺุตฺาณานํ ¶ อนุวตฺตกตฺตา าณานุปริวตฺติเยวาติ. เอวํ ปน าณานุปริวตฺติภาเว สติ น โกจิ ปาฬิอฏฺกถานํ วิโรโธ, เอวฺจ กตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘เตสํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวสฺสฺจ เอตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา อาวชฺชนจิตฺตสฺสปิ ภควโต ปวตฺติ น ยุชฺเชยฺย. ตสฺสปิ หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาวสฺส นิจฺฉิตตฺตา, น จ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺเต ตํสมุฏฺิตาย วิฺตฺติยา กายกมฺมาทิภาวํ อาวชฺชนภาโว วิพนฺธตีติ.
ตโต เอวาติ มูลาภาเวน น สุปฺปติฏฺิตตฺตา เอว. ‘‘อเหตุกานํ ฌานงฺคานิ พลานิ จา’’ติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ฌานงฺคานิ จาติ จ-สทฺโท. ยทิ อปริปุณฺณตฺตา พลภาวสฺส อิมสฺมึ อเหตุกทฺวเย พลานิ อนุทฺทิฏฺานิ อสงฺคหิตานิ จ, อถ กสฺมา นิทฺทิฏฺานีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. สมฺมา นิยฺยานิกสภาวานํ กุสลานํ ปฏิภาคภูโต วิปาโกปิ ผลํ วิย ตํสภาโว สิยาติ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ อคฺคเหตฺวา กิริยจิตฺตกตตฺตา วา ‘‘มหากิริยจิตฺเตสู’’ติ วุตฺตํ. อถ วา มหากิริยจิตฺเตสุจาติ จ-สทฺเทน สเหตุกวิปากจิตฺตานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๕๗๔. ‘‘อินฺทฺริย ¶ …เป… อิมสฺสานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานี’’ติ วุตฺตํ เตสํ าณานํ กามาวจรตฺตา. อิตเรสํ มหคฺคตตฺตา ‘‘ปริกมฺมานนฺตรานี’’ติ วุตฺตํ.
๕๗๗. อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ อตฺตา, โส เอว ภวติ อุปฺปชฺชติ, น ปรปริกปฺปิโต วิย นิจฺโจติ อตฺตภาโว. อตฺตาติ วา ทิฏฺิคติเกหิ คเหตพฺพากาเรน ภวติ ปวตฺตตีติ อตฺตภาโว.
กิริยาพฺยากตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รูปกณฺฑํ
อุทฺเทสวณฺณนา
เกนจีติ ¶ ¶ รูเปน วา อรูเปน วา. จิตฺตุปฺปาเทน ตาว รูปสฺส สมยววตฺถานํ น สกฺกา กาตุํ อพฺยาปิตาย อเนกนฺติกตาย จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ จิตฺตสฺส ตีสุ ขเณสุ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ ตาว วาเท จิตฺตุปฺปตฺติสมเยน รูปูปปตฺติสมยสฺส ววตฺถานํ มา โหตุ, จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว สพฺพมฺปิ รูปํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ ปน วาเท กถนฺติ? เอตฺถาปิ อจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ จิตฺเตน สหุปฺปาเทปิ อนินฺทฺริยพทฺธรูปํ วิย อจิตฺตปฏิ พนฺธุปฺปาทตาย น จิตฺเตน ววตฺถาเปตพฺพสมยนฺติ วุตฺตํ ‘‘อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต’’ติ. เตน จิตฺตุปฺปาเทน รูปสฺส สมยววตฺถานํ น พฺยาปีติ ทสฺเสติ. อเนกจิตฺตสมุฏฺานตาย ววตฺถานาภาวโตติ สมฺพนฺโธ. นิยเต หิ สมุฏฺาปกจิตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส สิยา ววตฺถานนฺติ.
เกสฺจีติ กามาวจรกุสลาทีนํ. กตฺถจีติ อารุปฺเป. เกสฺจีติ วา เกสฺจิ ปฺจโวการวิปากานํ. กตฺถจีติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จริมกฺขเณ จ. ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) จิตฺตสหภาวินํ เอว จิตฺเตน สมยววตฺถานํ กตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อจิตฺตสหภุภาวโต’’ติ. เตสนฺติ อุปาทารูปานํ. โย ยสฺส สหภาเวน อุปการโก, โส เอว ตสฺส สมยววตฺถาปกภาเวน วุตฺโตติ อาห ‘‘สหชาต…เป… ตฺตนโต’’ติ. นาปิ มหาภูเตหีติอาทินา ววตฺถานาภาวเมว ทสฺเสติ. เกสฺจีติ อกมฺมชาทีนํ. เกหิจีติ กมฺมชาทีหิ. ปวตฺติโตติ ปวตฺตนโต. สหาติ เอกสฺมึ กาเล. อภาวาติ นิโยคโต อภาวา.
วิฺตฺติ ¶ …เป… น สกฺกา วตฺตุํ มหาภูเตหิ สมยววตฺถาเน กริยมาเน เตหิ อยาวภาวิตตายาติ อธิปฺปาโย. เอกสฺมึ กาเลติอาทินาปิ มหาภูเตหิ สมยนิยมเน ววตฺถานาภาวเมว วิภาเวติ. ‘‘ตถา วิภชนตฺถ’’นฺติ, ‘‘อวิภตฺตํ อพฺยากตํ อตฺถีติ ทสฺเสตุ’’นฺติ จ อิเมสํ ปทานํ ‘‘วิภตฺตํ อวิภตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหนฺโต อาหา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สมยววตฺถานํ กตฺวา นิทฺทิสิยมานสฺส นิปฺปเทสตาย อสมฺภวโต ¶ เอกเทสํ นิทฺทิสิตฺวา สามฺเน นิคมนํ ยุตฺตํ, อกตฺวา ปน สมยววตฺถานํ สรูปโต นิทฺทิสเนน ตถาติ อิมมตฺถํ อาห ‘‘สมยววตฺถาเนนา’’ติอาทินา. อวิภตฺเตติ วิปากกิริยาพฺยากตํ วิย น ปุพฺเพ วิภตฺเต. วิภชิตพฺเพติ เภทวนฺตตาย วิภชนารเห. ทสฺสิเตติ อุทฺทิสนวเสน ทสฺสิเต. วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถารตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ ปนา’’ติอาทิมาห.
วิปากาทิธมฺมานํ นยนํ นโย, โสว ทสฺสนนฺติ นยทสฺสนํ. ‘‘เทสนา’’ติ วุตฺตํ เหฏฺา คหณเมว นยทสฺสนนฺติ. ทุติยวิกปฺเป ปน กามาวจราทิภาเวน นียตีติ นโย, กิริยาพฺยากตํ. ตสฺส ทสฺสนํ นยทสฺสนนฺติ โยเชตพฺพํ. ทุกาทีสุ นิทฺเทสวาเร จ หทยวตฺถุโน อนาคตตฺตา ตํ อคฺคเหตฺวา ปมวิกปฺโป วุตฺโต, เอกเก ปน วตฺถุปิ คหิตนฺติ ‘‘หทยวตฺถฺุจา’’ติ ทุติยวิกปฺเป วุตฺตํ. กึ ปน การณํ ทุกาทีสุ นิทฺเทสวาเร จ หทยวตฺถุ น คหิตนฺติ? อิตรวตฺถูหิ อสมานคติกตฺตา เทสนาเภทโต จ. ยถา หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ เอกนฺตโต จกฺขาทินิสฺสยานิ, น เอวํ มโนวิฺาณํ เอกนฺตโต หทยวตฺถุนิสฺสยํ, นิสฺสิตมุเขน จ วตฺถุทุกาทิเทสนา ปวตฺตา. ยมฺปิ เอกนฺตโต หทยวตฺถุนิสฺสยํ, ตสฺส วเสน ‘‘อตฺถิ รูปํ มโนวิฺาณสฺส วตฺถู’’ติอาทินา ทุกาทีสุ วุจฺจมาเนสุปิ ตทนุกูลอารมฺมณทุกาทโย น สมฺภวนฺติ. น หิ ‘‘อตฺถิ รูปํ มโนวิฺาณสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ รูปํ น มโนวิฺาณสฺส อารมฺมณ’’นฺติอาทินา สกฺกา วตฺตุนฺติ วตฺถารมฺมณทุกเทสนา ภินฺนคติกา สิยุํ, สมานคติกา จ ตา เทเสตุํ ภควโต อชฺฌาสโย. เอสา หิ ภควโต เทสนา ปกติ. เตเนว หิ นิกฺเขปกณฺเฑ จิตฺตุปฺปาทวิภาเคน อวุจฺจมานตฺตา อวิตกฺกาวิจารปทวิสฺสชฺชเน วิจาโรติ วตฺตุํ น สกฺกาติ อวิตกฺกวิจารมตฺตปทวิสฺสชฺชเน ลพฺภมาโนปิ วิตกฺโก น อุทฺธโฏ, อฺถา วิตกฺโก จาติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. เอวํ อิตรวตฺถูหิ อสมานคติกตฺตา เทสนาเภทโต จ ทุกาทีสุ อุทฺเทเส น คหิตํ. อุทฺทิฏฺสฺเสว หิ นิทฺทิสนโต นิทฺเทเสปิ น คหิตํ หทยวตฺถูติ วทนฺติ.
จกฺขาทิทสกา ¶ สตฺตาติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิภาวปุริสภาวทสกา สตฺต, เอกสนฺตานวเสน วา จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกา สตฺต. นิพฺพานสฺส อสติปิ ปรมตฺถโต เภเท ปริกปฺปิตเภโทปิ ¶ เภโทเยว โวหารวิสเยติ กตฺวา โสปาทิเสสาทิเภโท วุตฺโต.
๕๘๔. กิฺจาปิ อฺตฺถ กุกฺกุฏณฺฑสณฺาเน ปริมณฺฑล-สทฺโท ทิสฺสติ, จกฺกสณฺานตา ปน วฏฺฏสณฺาเน จกฺกวาเฬ วุจฺจมาโน ปริมณฺฑล-สทฺโท วฏฺฏปริยาโย สิยา. อเนกตฺถา หิ สทฺทาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วฏฺฏํ ปริมณฺฑล’’นฺติ. เอตฺถ จ สิเนรุยุคนฺธราทีนํ สมุทฺทโต อุปริอโธภาคานํ วเสน อุพฺเพโธ วุตฺโต, อายามวิตฺถาเรหิปิ สิเนรุ จตุราสีติโยชนสหสฺสปริมาโณว. ยถาห ‘‘สิเนรุ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชา จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ อายาเมน, จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ วิตฺถาเรนา’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๖). สิเนรุํ ปาการปริกฺเขปวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตา ยุคนฺธราทโย, สิเนรุยุคนฺธราทีนํ อนฺตเรปิ สีตสมุทฺทา นาม. ‘‘เต วิสาลโต ยถากฺกมํ สิเนรุอาทีนํ อจฺจุคฺคมนสมานปริมาณา’’ติ วทนฺติ.
โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬสฺเสว อาณาเขตฺตภาโว ทสสหสฺสจกฺกวาฬสฺส ชาติเขตฺตภาโว วิย ธมฺมตาวเสเนว เวทิตพฺโพ. วิกปฺปสมานสมุจฺจยวิภาวเนสุ วิย อวธารเณ อนิยเม จ วา-สทฺโท วตฺตตีติ ตถา โยชนา กตา. อเนกตฺถา หิ นิปาตาติ. ตตฺถ อเนกนฺติกตฺโถ อนิยมตฺโถ.
สีลาทิวิสุทฺธิสมฺปาทเนน, จตุธาตุววตฺถานวเสเนว วา มหากิจฺจตาย มหนฺเตน วายาเมน. สติปิ ลกฺขณาทิเภเท เอกสฺมึ เอว กาเล เอกสฺมึ สนฺตาเน อเนกสตสหสฺสกลาปวุตฺติโต มหนฺตานิ พหูนิ ภูตานิ ปรมตฺถโต วิชฺชมานานีติ วา มหาภูตานิ ยถา ‘‘มหาชโน’’ติ. เอวนฺติ ‘‘อุปาทาย ปวตฺต’’นฺติ อตฺเถ สติ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตา วุตฺตา โหติ ปจฺจยสมฺภูตตาทีปนโต. อุปาทายตีติ อุปาทายติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘เอกนฺตนิสฺสิตสฺสา’’ติ. ‘‘ภวติ หิ นิสฺสยรูปานํ สามิภาโว’’ติ อาธาราเธยฺยสมฺพนฺธวจนิจฺฉาย อภาเว อาธารภูโตปิ อตฺโถ สํสามิสมฺพนฺธวจนิจฺฉาย สามิภาเวน วุจฺจติ ยถา ‘‘รุกฺขสฺส สาขา’’ติ อธิปฺปาโย.
ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา
๕๘๕. วิฺตฺติทุโก ¶ ¶ จาติ จ-สทฺเทน จิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุกาปิ สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. สกฺกา หิ เอเตน นเยน…เป… วิฺาตุนฺติ เอตฺถ ปฺจวีสาย ตาว วตฺถุทุเกสุ ปมทุกปฺจกาทโย จุทฺทสหิปิ ปกิณฺณกทุเกหิ อวสิฏฺเหิ วตฺถุทุเกหิ ปฺจวีสาย อารมฺมณทุเกหิ ปฺจหิ พาหิรายตนทุเกหิ รูปธาตุทุกาทีหิ ปฺจหิ ธาตุทุเกหิ ปจฺฉิมเกหิ ตีหิ อินฺทฺริยทุเกหิ ทฺวาทสหิปิ สุขุมรูปทุเกหิ ปมาทิวชฺเชหิ อวสิฏฺเหิ อายตนธาตุอินฺทฺริยทุเกหิ จ โยชนํ คจฺฉนฺติ. ปฺจวีสาย ปน อารมฺมณทุเกสุ ปุริมโก ทุกปฺจโก อุปาทินฺนอุปาทินฺนุปาทานิยสนิทสฺสนจิตฺตสมุฏฺานจิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุกวชฺเชหิ ปกิณฺณกทุเกหิ สพฺเพหิปิ วตฺถุทุเกหิ รูปายตนรูปธาตุทุกวชฺเชหิ อายตนธาตุทุเกหิ สพฺเพหิปิ อินฺทฺริยทุกสุขุมรูปทุเกหิ โยชนํ คจฺฉติ. ทุติยทุกปฺจกาทีสุ ยถากฺกมํ สทฺทายตนสทฺทธาตุทุกาทโย โยชนํ น คจฺฉนฺติ, รูปายตนรูปธาตุทุกาทโย คจฺฉนฺติ. ปกิณฺณกทุเกสุ สนิทสฺสนทุกฺจาติ อยเมว วิเสโส. ยถา จ วตฺถุทุเกสุ, เอวํ จกฺขายตนจกฺขุธาตุจกฺขุนฺทฺริยาทิทุกปฺจเกสุ. ยถา จ อารมฺมณทุเกสุ, เอวํ รูปายตนรูปธาตุอาทิทุกปฺจเกสุ ติกโยชนา. อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยทุกา สุขุมรูปทุกา จ สพฺเพหิปิ ทุเกหิ โยชนํ คจฺฉนฺตีติ เอวํ ตาว ติกโยชนา เวทิตพฺพา. นนุ จายมฺปิ โยชนา ภควตา น เทสิตาติ น กาตพฺพาติ? นยิทํ เอกนฺติกํ. กสฺมา? ภควตา ทินฺนนเยน โยชนาปิ ภควโตเยว เทสนา. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑-๖) ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จาติ อิทมฺปิ สมฺภวตี’’ติอาทิ. สมฺภโว หิ คหณสฺส การณนฺติ จ.
ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา
๕๘๖. จิตฺตโต เอว สมุฏฺาตีติ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อิมเมว อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘วิฺตฺติทุกาทีหิ สมานคติโก จิตฺตสมุฏฺานทุโก’’ติ วุตฺตํ ¶ . วินิวตฺติเต หิ สามฺเ ยํ รูปํ ¶ ชนกปจฺจเยสุ จิตฺตโต สมุฏฺาติ, ตํ จิตฺตโต เอว สมุฏฺาตีติ. วิฺตฺติทุกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุเก สงฺคณฺหาติ. ลพฺภมาโนติ ยํ ตํ รูปํ อุปาทา, ตํ อตฺถิ จิตฺตสมุฏฺานํ, อตฺถิ น จิตฺตสมุฏฺานํ. ยํ ตํ รูปํ นุปาทา, ตํ อตฺถิ จิตฺตสมุฏฺานํ, อตฺถิ น จิตฺตสมุฏฺานนฺติ เอวํ ลพฺภมาโน. สนิทสฺสนทุกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สปฺปฏิฆมหาภูตทุกาทโย สงฺคณฺหาติ. เตนาติ จิตฺตสมุฏฺานทุเกน. ตสฺสาติ จิตฺตสมุฏฺานทุกสฺเสว. อฺเ ปนาติ วิฺตฺติจิตฺตสมุฏฺานจิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุเกหิ อฺเปิ ปกิณฺณกทุกา.
สทฺทายตนสฺส เอกนฺตโต อนุปาทินฺนตฺตา ‘‘โสตสมฺผสฺสารมฺมณทุกาทโย วชฺเชตฺวา’’ติ วุตฺตํ. จตุกฺกา ลพฺภนฺตีติ ยํ ตํ รูปํ อุปาทินฺนํ, ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส นารมฺมณํ. ยํ ตํ รูปํ อนุปาทินฺนํ, ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส นารมฺมณนฺติ เอวมาทโย สพฺพารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ โยชนายํ จตุกฺกา ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อวเสเสหีติ อารมฺมณพาหิรายตนรูปธาตุทุกาทิโต ลพฺภมานทุเกหีติ วุตฺตทุกราสิโต อวเสเสหิ. เตสนฺติ อุปาทินฺนอุปาทินฺนุปาทานิยจิตฺตสมุฏฺานทุกานํ. อฺเสนฺติ อุปาทินฺนทุกาทิโต อฺเสํ อุปาทาทุกาทีนํ. วตฺถุทุกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน จกฺขายตนทุกาทโย สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาปิ อวเสเสหิ เตสํ อฺเสฺจ โยชนาย จตุกฺกา น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปวิภตฺติ
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๕๙๔. ปถวีอาทีนํ ธมฺมานํ รุปฺปนสภาโว วิย น เหตุอาทิภาโวปิ สาธารโณติ น เหตูสุ วิภชิตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชมานวิภาคสฺสา’’ติ. ตสฺส ปน วิภาคาภาวทสฺสนสรูปทสฺสนเมว นิทฺเทโส. เอวฺจ กตฺวา นิพฺพานสฺสปิ วิภาครหิตตฺตา ‘‘อสงฺขตา ธาตู’’ติ เอตฺตกเมว นิทฺเทสวเสน วุตฺตํ.
ยทิปิ ¶ ¶ หิโนติ เอเตน ปติฏฺาติ กุสลาทิโก ธมฺโมติ อโลภาทโย เกวลํ เหตุปทวจนียา, การณภาวสามฺโต ปน มหาภูตาทโยปิ เหตุ-สทฺทาภิเธยฺยาติ มูลฏฺวาจินา ทุติเยน เหตุ-สทฺเทน วิเสเสตฺวา อาห ‘‘เหตุเหตู’’ติ. สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนโต กุสลาทิธมฺมานํ มูลตฺเถน อุปการกธมฺมา ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๐๕๙-๑๐๖๐) ปฏฺาเน จ เตเยว ‘‘เหตุปจฺจโย’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘มูลเหตุ ปจฺจยเหตูติ วา อยมตฺโถ’’ติ. หิโนติ เอเตน, เอตสฺมา วา ผลํ ปวตฺตตีติ เหตุ, ปฏิจฺจ เอตสฺมา เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโยติ เอวํ เหตุปจฺจย-สทฺทานํ อนานตฺถตํ สนฺธาย เหตุสทฺทปริยายภาเวน ปจฺจย-สทฺโท วุตฺโตติ อาห ‘‘เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา’’ติ. ภูตตฺตยนิสฺสิตานิ จ มหาภูตานิ จตุมหาภูตนิสฺสิตํ อุปาทารูปนฺติ สพฺพมฺปิ รูปํ สพฺพทา สพฺพตฺถ สพฺพาการํ จตุมหาภูตเหตุกํ มหาภูตานิ จ อนามฏฺเภทานิ สามฺโต คหิตานีติ วุตฺตํ ‘‘รูปกฺขนฺธสฺส เหตู’’ติ.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทานานํ กมฺมานํ, สมาทิยิตฺวา กตกมฺมานํ วา. อฺเสุ ปจฺจเยสุ วิปากสฺส ตณฺหาวิชฺชาทีสุ.
‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ กายทุจฺจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชติ. านฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ กายทุจฺจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย. านเมตํ วิชฺชติ. วจี…เป… มโน…เป… วิชฺชติ…เป… อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ กายสุจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๑; วิภ. ๘๐๙),
‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ, ยทิทํ หีนปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙) – เอวมาทิวจนโต กมฺมํ วิปากสฺส อิฏฺานิฏฺตํ นิยเมตีติ อาห ‘‘อิฏฺานิฏฺวิปากนิยามกตฺตา’’ติ. คติอุปธิกาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติโยเยว านํ วิปากสฺส โอกาสภาวโต. น หิ เตหิ วินา โกจิ วิปาโก นิพฺพตฺตตีติ. ยถาวุตฺตฏฺาเน สติ อธิคนฺตพฺพํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ‘‘คติ…เป… นิปฺผาทิต’’นฺติ วุตฺตํ. วิปากสฺส อารมฺมเณน วินา อภาวโต อารมฺมณมฺปิ ¶ ตสฺส ปธานํ การณํ. อนฺสภาวโตติ เหตุอาทิสภาวาภาวโต.
รุปฺปนํ ¶ รูปํ. ตํ อสฺส อตฺถีติ เอตฺถ ‘‘อสฺสา’’ติ วุจฺจมาโน ปถวีอาทิอตฺโถเยว รุปฺปตีติปิ วุจฺจตีติ อาห ‘‘รุปฺปนลกฺขณยุตฺตสฺเสว รูปีรูปภาวโต’’ติ. เอตํ สภาวนฺติ เอตํ อุปฺปนฺนภาเว สติ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ รูเป นิยเมติ รูปสฺเสว ตํสภาวตฺตา. น รูปํ เอตสฺมินฺติ กาลเภทวเสน อตํสภาวสฺสปิ รูปสฺส อตฺถิตาย น รูปํ ตตฺถ นิยนฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อตฺถิ หีติอาทินา ตตฺถ รูปสฺเสว นิยนฺตพฺพตาภาวํเยว วิวรติ. เอตเมวาติอาทินา อุทฺเทเสน นิทฺเทสํ สํสนฺเทติ. เอตฺถ เอตเมว รูเป ยถาวุตฺตสภาวํ นิยเมตพฺพํ นิทฺเทเส เอว-สทฺเทน นิยเมติ อวธาเรตีติ อตฺโถ. ยถาวุตฺโต นิยโมติ อุปฺปนฺนภาเว สติ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยภาโว นิยนฺตพฺพตาย ‘‘นิยโม’’ติ วุตฺโต, โส รูเป อตฺถิ เอว รูปสฺเสว ตํสภาวตฺตา. วิสิฏฺกาลสฺส วุตฺตปฺปการํ อวธารณํเยว วา ยถาวุตฺโต นิยโม, โส รูเป อตฺถิเยว สมฺภวติเยว, น อรูเป วิย น สมฺภวตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กาลเภทนฺติ กาลวิเสสํ. อนามสิตฺวาติ อคฺคเหตฺวา. ตํ สพฺพนฺติ อนามฏฺกาลเภทํ ตโตเยว อรูเปหิ สมานวิฺเยฺยสภาวํ สพฺพํ รูปํ. อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน กาลเภทามสเนน วิเสเสติ ‘‘อุปฺปนฺนํ…เป… เมวา’’ติ.
วตฺตมานกาลิกํ สพฺพํ รูปํ ทิฏฺสุตมุตวิฺาตสภาวํ, ตํ ยถาสกํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวเมว, น เตหิ อวิฺเยฺยํ. นาปิ อุปฺปนฺนเมว ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ เอกนฺตลกฺขณนิยมาภาวาปตฺติโตติ เอวํ อวิปรีเต อตฺเถ วิภาวิเตปิ โจทโก อธิปฺปายํ อชานนฺโต ‘‘นนุ เอว’’นฺติอาทินา สพฺพสฺส สพฺพารมฺมณตาปตฺตึ โจเทติ. อิตโร ‘‘รูปํ สพฺพํ สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิภาเวติ. เอตฺถ เอกีภาเวน คเหตฺวาติ อิทํ ‘‘สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติ เอตสฺส อตฺถวจนํ. เอกนฺตลกฺขณํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาโวเยว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กิฺจาปิ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ วิสยนฺตเร อปฺปวตฺตนโต น สพฺพสฺส สพฺพารมฺมณตา, สพฺพสฺสปิ ปน รูปสฺส ฉวิฺาณารมฺมณภาวโต ยถาสกํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยตาย ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยตาว อตฺถิ, ตํ เอกโต สงฺคหณวเสน คเหตฺวา ‘‘อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺย’’นฺติ ¶ วุตฺตํ ยถา ‘‘อภิฺาปฺปตฺตํ ปฺจมชฺฌานํ ฉฬารมฺมณํ โหตี’’ติ. ยถา หิ ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตาทิอภิฺาปฺปตฺตสฺส ปฺจมชฺฌานสฺส วิสุํ อสพฺพารมฺมณตฺเตปิ เอกนฺตลกฺขณวเสน เอกีภาเวน คเหตฺวา อารมฺมณวเสน ปมชฺฌานาทิโต วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิฺาปฺปตฺตํ ปฺจมชฺฌานํ ฉฬารมฺมณํ โหตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อรูปโต รูปสฺส วิสยวเสน วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปฺป ¶ …เป… วิฺเยฺย’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยภาโว รูเป นิยเมตพฺโพ, น ปน รูปํ ตสฺมึ นิยเมตพฺพํ, อนิยตเทโส จ เอว-สทฺโทติ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺฏ. ๕๙๔) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว จกฺขุวิฺาณาทีหิ ฉหิ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมวา’’ติอาทินา ตตฺถ โทสมาห. ตสฺมาติ ยสฺมา ปาฬิยํ วิฺเยฺยเมวาติ เอว-สทฺโท วุตฺโต, น จ ตสฺส อฏฺานโยชเนน กาจิ อิฏฺสิทฺธิ, อถ โข อนิฏฺสิทฺธิเยว สพฺพรูปสฺส เอกนฺตลกฺขณนิยมาทสฺสนโต, ตสฺมา. ยถารุตวเสเนว นิยเม คยฺหมาเน อุปฺป…เป… ปตฺติ นตฺถิ, ตโต จ โสตปติตตายปิ ปโยชนํ นตฺถีติ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อรูปโต วิธุร’’นฺติอาทินา วุตฺตนเยน.
าณสฺส วา อุตฺตรสฺส ปุริมาณํ วตฺถุการณนฺติ าณวตฺถุ. ‘‘สชาตี’’ติ เอตฺถ ส-กาโร สมานสทฺทตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมานชาติกาน’’นฺติ วุตฺตํ. สมานชาติตา จ สมฺมาวาจาทีนํ สีลนตฺโถ เอว. เอเตน สมานสภาวตา สชาติสงฺคโหติ เวทิตพฺโพ. อารมฺมเณ เจตโส อวิกฺเขปปฺปวตฺติยา อุปฏฺานุสฺสาหนานิ วิย เตสํ อวิกฺเขโปปิ อติสเยน อุปการโกติ ‘‘อฺมฺโปการวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เตเนว วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ สหชาตธมฺเมสุ เอเตสํเยว สมาธิกฺขนฺธสงฺคโห ทสฺสิโต. ยํ ปน สจฺจวิภงฺควณฺณนายํ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙) วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘) จ ‘‘วายามสติโย กิริยโต สงฺคหิตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อสมาธิสภาวตํ เตสํ สมาธิสฺส อุปการกตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว จ ตตฺถ ‘‘สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘; วิภ. อฏฺ. ๑๘๙) วุตฺตํ. อิธ ปน สชาติสงฺคโหติ สมาธิตทุปการกธมฺมานํ อุปฺปตฺติเทสวเสน สงฺคโห วุตฺโตติ. อวิราเธตฺวา วิสยสภาวาวคฺคหณํ ปฏิเวโธ, อปฺปนา จ อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาโต ตทวคาโหเยวาติ ‘‘ปฏิเวธสทิสํ กิจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. อถ วา อารมฺมณปฏิเวธสฺส ตทาหนนปริยาหนนมนุคุณตาย ¶ สมานนฺติ ปฺาวิตกฺกานํ กิจฺจสริกฺขตา วุตฺตา.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิทฺเทโส
อุปาทาภาชนียวณฺณนา
๕๙๖. สมนฺตโต ¶ สพฺพโส ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ สมนฺตจกฺขูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขตาสงฺขตทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ ตีสุปิ ปเทสุ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาที’’ติอาทินา (มหาว. ๑๕; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) หิ ปาฬิ ปวตฺตาติ. อากาเรนาติ ทฺวาทสวิเธน อากาเรน. ตมฺปิ กามาวจรํ วิปสฺสนาปจฺจเวกฺขณาณภาวโต. ‘‘าณจกฺขุ สหอริยมคฺคํ วิปสฺสนาาณนฺติปิ ยุชฺชตี’’ติ วทนฺติ. อคฺคมคฺเคน ปน สห วิปสฺสนา ปจฺจเวกฺขณาณนฺติ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ.
ยถาวุตฺเต มํสปิณฺเฑ สสมฺภาเร จกฺขุโวหาโร สนฺตานวเสน ปวตฺตมาเน จตุสมุฏฺานิกรูปธมฺเม อุปาทาย ปวตฺโตติ ‘‘จตุ…เป… สมฺภารา’’ติ วุตฺตํ. สณฺานนฺติ วณฺณายตนเมวาติ เตน เตน อากาเรน สนฺนิวิฏฺเสุ มหาภูเตสุ ตํตํสณฺานวเสน วณฺณายตนสฺส วิฺายมานตฺตา วุตฺตํ, น วณฺณายตนสฺเสว สณฺานปฺตฺติยา อุปาทานตฺตา. ตถา หิ อนฺธกาเร ผุสิตฺวาปิ สณฺานํ วิฺายตีติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ทีฆาทีนิ ผุสิตฺวาปิ สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ, (ธ. ส. อฏฺฏ. ๖๑๖) ‘‘ทีฆาทิสนฺนิเวสํ ภูตสมุทายํ นิสฺสายา’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๖๑๖) จ. เตสํ สมฺภวสณฺานานํ อาโปธาตุวณฺณายตเนหิ อนตฺถนฺตรภาเวปิ เตหิ วิสุํ วจนํ ตถาภูตานํ สมฺภวภูตานํ สณฺานภูตานฺจ. เอเตน อาโปธาตุวณฺณายตนานํ วเสน วตฺตมานอวตฺถาวิเสโส สมฺภโว สณฺานฺจาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ตตฺถ สมฺภโว จตุสมุฏฺานิโก โสฬสวสฺสกาเล อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ราควเสน านา วจนํ โหตีติ วทนฺติ. อตถาภูตานํ ¶ ตโต อฺถาภูตานํ. ยถาวุตฺเต สมฺภารวตฺถุสงฺขาเต. วิชฺชมานตฺตาติ ภิยฺโยวุตฺติวเสน วุตฺตํ. ตถา หิ ขีณาสวานํ พฺรหฺมานฺจ สมฺภโว นตฺถีติ. อาโปธาตุวิเสสตฺตา สมฺภโว อาโปธาตุสมฺพนฺธี อาโปธาตุตนฺนิสฺสยนิสฺสิโตปิ โหตีติ ตสฺส จตุธาตุนิสฺสิตตาย อวิโรโธ วุตฺโต.
อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานนฺติ เอตฺถ ‘‘กลาปนฺตรคตา อุตุอาหารา อธิปฺเปตา’’ติ วทนฺติ. อเนกกลาปคตภาวํ จกฺขุสฺส ทสฺเสติ ยโต อุปทฺทุตปฏเล นิรากรเณปิ จกฺขุ วิชฺชตีติ ¶ . ปฏิฆฏฺฏนํ วิสยาภิมุขภาโว นิฆํสปจฺจยตฺตา. นิฆํโส นิสฺสยภาวาปตฺติ. ยโต จกฺขาทินิสฺสิตา สฺา ‘‘ปฏิฆสฺา’’ติ วุจฺจติ.
อเนกตฺตาติ อิทํ อวจนสฺส การณํ, น เหตุกิริยาย วิฺายมานภาวสฺส. โส ปน อเปกฺขาสิทฺธิโต เอว เวทิตพฺโพ. เหตุกิริยาเปกฺขา หิ ผลกิริยาติ. จกฺขุํ สงฺคณฺหาตีติ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวานุปคมเนปิ ตํสภาวานติวตฺตนโต ตสฺสา สมฺาย ตตฺถ นิรุฬฺหภาวํ ทสฺเสติ. ทสฺสนปริณายกฏฺโ จกฺขุสฺส อินฺทฏฺโเยวาติ ‘‘ยถา หิ อิสฺสโร’’ติอาทินา อิสฺสโรปมา วุตฺตา. จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺเจ ปริณายนฺตํ จกฺขุ ตํสหชาเต จกฺขุสมฺผสฺสาทโยปิ ตตฺถ ปริณายตีติ วุจฺจตีติ ‘‘เต ธมฺเม…เป… ปริณายตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ ทสฺสนกิจฺจตฺตา. อถ วา จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน อุปการกํ จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺเจ ปริณายนฺตํ จกฺขุ ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสาทโยปิ ตทนุวตฺตเก ปริณายตีติ อตฺถายํ ปริยาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เต ธมฺเม…เป… ณายตี’’ติ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ จกฺขตีติ อิมสฺส ‘‘ปริณายติ ปกาเสตี’’ติ จ อตฺถา วุตฺตา. สณฺานมฺปิ รูปายตนเมวาติ ‘‘สมวิสมานิ รูปานิ จกฺขตีติ จกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตํทฺวาริกานํ ผสฺสาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว เอว วฬฺชนตฺโถ.
๕๙๙. ตํทฺวาริกา…เป… อุปฺปตฺติ วุตฺตาติ จกฺขุวิฺาเณ อุปฺปนฺเน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ พลวารมฺมเณ ชวนํ เอกนฺเตน อุปฺปชฺชตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา เจว หิ อนฺตรา จกฺขุวิฺาเณ วา สมฺปฏิจฺฉเน วา สนฺตีรเณ วา ตฺวา นิวตฺติสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ นิจฺฉิตํ. เตน ปจฺจเยนาติ ตํปกาเรน ปจฺจเยน. ตํสทิสานนฺติ ครุํ กตฺวา อสฺสาทนาทิปฺปวตฺติวิเสสรหิตตาย ทสฺสนสทิสานํ มโนธาตุสนฺตีรณโวฏฺพฺพนานํ. ปฺจทฺวาริกชวนานํ ¶ อสฺสาทนาทิโต อฺถา ครุํ กตฺวา ปวตฺติ นตฺถิ รูปธมฺมวิสยตฺตาติ ‘‘อสฺสาทนาภินนฺทนภูตานี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. มโนทฺวาริกชวนปิฏฺิวฏฺฏกานมฺปิ หิ ปฺจทฺวาริกชวนานํ อสฺสาทนาภินนฺทนภาเวน รูปํ ครุํ กตฺวา ปวตฺติ นตฺถีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. รูปํ อารมฺมณาธิปติ อกุสลสฺเสว โหติ. ตถา หิ ปฏฺาเน ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อกุสลสฺส ธมฺมสฺส อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย. อารมฺมณาธิปติ จกฺขุํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๖) รูปธมฺโมปิ อารมฺมณาธิปติ วิภตฺโต. ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อพฺยากโต ธมฺโม กุสลสฺสา’’ติ เอตฺถ ปน ¶ ผลนิพฺพานาเนว อารมฺมณาธิปติภาเวน วิภตฺตานีติ. คณนาย จ ‘‘อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยปุเรชาตอตฺถิอวิคตนฺติ เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๔๕) วุตฺตํ. ยทิ กุสลสฺสปิ สิยา, ทฺเวติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. ตานีติ ยถาวุตฺตชวนานิ ปฏินิทฺทิฏฺานิ. ตํสมฺปยุตฺตานิ จาติ ชวนสมฺปยุตฺตานิ. อฺานิ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนิ. ยทิ รูปสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวมตฺตํ อธิปฺเปตํ, ‘‘ตํ รูปารมฺมเณติ เอเตเนว สิชฺเฌยฺยา’’ติ เอตฺตกเมว วเทยฺย. ยสฺมา ปน รูปํ ตํทฺวาริกชวนานํ ปจฺจยวิเสโสปิ โหติ, ตสฺมา ตสฺส วิเสสสฺส ทีปนตฺถํ ‘‘อารพฺภา’’ติ วจนํ วุตฺตํ สิยาติ อาห ‘‘อารมฺมณปจฺจยโต อฺปจฺจยภาวสฺสปิ ทีปก’’นฺติ.
๖๐๐. โสตวิฺาณปฺปวตฺติยํ สวนกิริยาโวหาโรติ โสตสฺส สวนกิริยาย กตฺตุภาโว โสตวิฺาณสฺส ปจฺจยภาเวนาติ วุตฺตํ ‘‘โสตวิฺาณสฺส นิสฺสยภาเวน สุณาตี’’ติ. ชีวิตนิมิตฺตมาหารรโส ชีวิตํ, ตสฺมึ นินฺนตาย ตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหาติ เอวํ สิทฺเธน ชิวฺหา-สทฺเทน ปกาสิยมานา รสาวฺหายนสงฺขาตา สายนกิริยา ลพฺภตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ชิวฺหาสทฺเทน วิฺายมานา กิริยาสายน’’นฺติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๕๔). อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ปสาทกายสฺส กายิกานํ ทุกฺขสุขานํ นิสฺสยภาวโต อิตเรสํ อุปนิสฺสยภาวโต ‘‘ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขานํ อาโย’’ติ วุตฺตํ. พฺยาปิตายาติ พฺยาปิภาเว, พฺยาปิภาเวน วา. กายปฺปสาทภาโวติ กายปฺปสาทสพฺภาโว. อนุวิทฺธตฺตาติ อนุยุตฺตภาวโต, สํสฏฺภาวโตติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยาวตา อิมสฺมึ ¶ กาเย อุปาทินฺนกปวตฺตํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิยาติ วุตฺตํ, ตสฺมา. ปณฺฑรสภาวา ปสาทา อาปาถคตํ วิสยํ วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาเวน ปกาเสนฺตา วิย โหนฺตีติ เตสํ วิสยาวภาสนกิจฺจตา วุตฺตา. สมานนิสฺสยานนฺติ เอกนิสฺสยานํ. อวินิพฺภุตฺเตสุ หิ รูปรสาทีสุ ยํนิสฺสยํ รูปํ, ตํนิสฺสโย เอว รสาทีติ. อฺมฺสภาวานุปคเมนาติ ลกฺขณสงฺกราภาวมาห.
ยสฺมา ปจฺจยนฺตรสหิโตเยว จกฺขุปฺปสาโท รูปาภิหนนวเสน ปวตฺตติ, น ปจฺจยนฺตรรหิโต, ตสฺมา รูปาภิฆาโต โหตุ วา มา วา โหตุ, เอวํสภาโว โส รูปธมฺโมติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาภิฆาตารโห’’ติ วุตฺตํ ยถา ‘‘วิปาการหสภาวา กุสลากุสลา’’ติ. วิสยวิสยีนํ อฺมฺํ อภิมุขภาโว อภิฆาโต วิยาติ อภิฆาโต, โส รูเป จกฺขุสฺส ¶ , จกฺขุมฺหิ วา รูปสฺส โหตีติ วุตฺตํ ‘‘รูเป, รูปสฺส วา อภิฆาโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘ยมฺหิ จกฺขุมฺหิ อนิทสฺสนมฺหิ สปฺปฏิฆมฺหิ รูปํ สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ ปฏิหฺิ วา’’ติ (ธ. ส. ๕๙๗), ‘‘จกฺขุ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ รูปมฺหิ สนิทสฺสนมฺหิ สปฺปฏิฆมฺหิ ปฏิหฺิ วา’’ติ (ธ. ส. ๕๙๘) จ อาทิ. เอตฺถ จ ตํตํภวปตฺถนาวเสน จกฺขาทีสุ อวิคตราคสฺส อตฺตภาวนิปฺผาทกสาธารณกมฺมวเสน ปุริมํ จกฺขุลกฺขณํ วุตฺตํ, สุทูรสุขุมาทิเภทสฺสปิ รูปสฺส คหณสมตฺถเมว จกฺขุ โหตูติ เอวํ นิพฺพตฺติตอาเวณิกกมฺมวเสน ทุติยํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อถ วา สติปิ ปฺจนฺนํ ปสาทภาวสามฺเ สวิสยาวภาสนสงฺขาตสฺส ปสาทพฺยาปารสฺส ทสฺสนวเสน ปุริมํ วุตฺตํ, ปสาทการณสฺส สติปิ กมฺมภาวสามฺเ อตฺตโน การณเภเทน เภททสฺสนวเสน ทุติยํ.
กามตณฺหาติ กามภเว ตณฺหา. ตถา รูปตณฺหา ทฏฺพฺพา. ตสฺส ตสฺส ภวสฺส มูลการณภูตา ตณฺหา ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว อุปฺปชฺชนารหายตนวิสยาปิ นาม โหตีติ กามตณฺหาทีนํ ทฏฺุกามตาทิโวหารารหตา วุตฺตา. ทฏฺุกามตาติ หิ ทฏฺุมิจฺฉา รูปตณฺหาติ อตฺโถ. ตถา เสสาสุปีติ. เอตฺถ จ ทฏฺุกามตาทีนํ ตํตํอตฺตภาวนิพฺพตฺตกกมฺมายูหนกฺขณโต สติ ปุริมนิพฺพตฺติยํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อสติปิ ตสฺส มคฺเคน อสมุคฺฆาติตภาเวเนว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยโต ¶ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนํ การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชิตฺวา อตฺตโน ผลสฺส การณภาวูปคมนโต วิชฺชมานเมวาติ อุปฺปนฺนอตฺถิตาปริยาเยหิ วุจฺจติ ‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรนฺโต อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อนฺตราเยว อนฺตรธาเปติ’’ (สํ. นิ. ๕.๑๕๗), ‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโทติ ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๘๒; ม. นิ. ๑.๑๑๕) จ เอวมาทีสุ.
เอตฺถาห – จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ กึ เอกกมฺมุนา อุปฺปตฺติ, อุทาหุ นานากมฺมุนาติ? อุภยถาปีติ โปราณา. ตตฺถ นานากมฺมุนา ตาว อุปฺปตฺติยํ จกฺขาทีนํ วิเสเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ การณสฺส ภินฺนตฺตา. เอกกมฺมุนา ปน อุปฺปตฺติยํ เตสํ กถํ วิเสโสติ? การณสฺส ภินฺนตฺตาเยว. ตํตํภวปตฺถนาภูตา หิ ตณฺหา ตํตํภวปริยาปนฺนายตนาภิลาสตาย สยํ วิจิตฺตรูปา อุปนิสฺสยภาเวน ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมสฺส วิจิตฺตเภทตํ วิทหติ. ยโต ตทาหิตวิเสสํ ตํ ตถารูปสมตฺถตาโยเคน อเนกรูปาปนฺนํ วิย อเนกํ วิสิฏฺสภาวํ ผลํ นิพฺพตฺเตติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘กมฺมเมว เนสํ วิเสสการณ’’นฺติ. น เจตฺถ สมตฺถตาภาวโต อฺํ ¶ เวทิตพฺพํ การณวิเสเสนาหิตวิเสสสฺส วิสิฏฺผลนิปฺผาทนโยคฺยตาภาวโต. ตถา หิ สติ เอกสฺสปิ กมฺมสฺส อเนกินฺทฺริยเหตุตาวิเสสโยคํ เอกมฺปิ กมฺมนฺติอาทินา ยุตฺติโต อาคมโตปิ ปรโต สยเมว วกฺขติ. ตถา จ เอกสฺเสว กุสลจิตฺตสฺส โสฬสาทิวิปากจิตฺตนิพฺพตฺติเหตุภาโว วุจฺจติ. โลเกปิ เอกสฺเสว สาลิพีชสฺส ปริปุณฺณาปริปุณฺณตณฺฑุลผลนิพฺพตฺติเหตุตา ทิสฺสติ. กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตาย, น จินฺติตพฺพเมเวตํ. ยโต กมฺมวิปาโก จกฺขาทีนิ กมฺมวิปาโก จ สพฺพาการโต พุทฺธานํเยว กมฺมวิปากาณผลยุตฺตานํ วิสโย, น อฺเสํ อตกฺกาวจรตาย. เตเนว จ ภควตา ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ, โย จินฺเตยฺย อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗) อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิตฺตํ. อาวิฺฉนํ ปุคฺคลสฺส วิฺาณสฺส วา ตํนินฺนภาวปฺปตฺติยา เหตุภาโว.
สพฺเพสนฺติ ปทสฺส ปกรณโต ปาริเสสโต วา ลพฺภมานํ อตฺถวิเสสํ อชานนฺโต ยถารุตวเสเนว อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘โก เอตฺถ วิเสโส’’ติอาทินา ¶ โจเทติ. อิตโร เตชาทีนํ ปจฺเจกํ อธิกภาเว วิย ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา อธิกภาเวปิ ยถาวุตฺตาธิกภาเวเนว เอกกาทิวเสน ลพฺภมานาย โอมตฺตตายปิ กายปฺปสาโท น โหตีติ วิฺายมานตฺตา ปกรณโต ปาริเสสโต วา จตุนฺนมฺปิ ภูตานํ สมภาเวน กาโย โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธติ สพฺพ-สทฺโท อิธ สมภาวทีปโกติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทิมาห. อิมมตฺถํ ทีเปตีติ จ ยถาวุตฺเตน าเยน ‘‘สพฺเพส’’นฺติ วจนโต อยมตฺโถ ลพฺภติ, น ตสฺส วาจกตฺตาติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘อนุวตฺต…เป… วเสน วุตฺตตฺตา’’ติ. เอกเทสาธิกภาวนิวารเณเนว หิ เอกเทโสมตฺตตานิวารณมฺปิ วิฺายตีติ. เอกเทโส อวยโว. จตุธาตุสมุทายนิสฺสยสฺส หิ ปสาทสฺส ตเทกธาตุอธิกตา อวยวาธิกตา โหตีติ.
‘‘ปุริมา เจตฺถ ทฺเวปิ วาทิโน นิกายนฺตริยา’’ติ วทนฺติ. อาโลกาทิสหการีการณสหิตานํเยว จกฺขาทีนํ รูปาทิอวภาสนสมตฺถตา วิวรสฺส จ โสตวิฺาณุปนิสฺสยภาโว คุโณติ เตสํ ลทฺธีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตํตํภูตคุเณหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตชาทีนํ วิย วิวรสฺส ภูตภาวาภาวโต ‘‘ยถาโยค’’นฺติ วุตฺตํ. อถ วา รูปาทโย วิย วิวรมฺปิ ภูตคุโณติ ปราธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํตํภูตคุเณหี’’ติ อาห. เตชสฺส ปน อาโลกรูเปน, อากาสสงฺขาตสฺส วิวรสฺส สทฺเทน, วายุสฺส คนฺเธน, อุทกสฺส รเสน, ปถวิยา โผฏฺพฺเพนาติ อิมมตฺถํ ¶ สนฺธาย ‘‘ยถาโยคํ ตํตํภูตคุเณหี’’ติ วุตฺตํ สิยา. รูปาทิคฺคหเณติ รูปาทิวิสเย จกฺขุวิฺาณาทิเก นิปฺผาเทตพฺเพติ อตฺโถ. อุปกริตพฺพโตติ สหการีการณภูเตหิ ยถาวุตฺตภูตคุเณหิ จกฺขาทีนํ สกิจฺจกรเณ อุปกริตพฺพโต. สภาเวน สุยฺยมานสฺสาติ เกนจิ อนุจฺจาริยมานสฺเสว ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. ฆฏฺฏนํ ปน วินา วายุสทฺโทปิ นตฺถีติ. อถ วา วายุมฺหิ สทฺโท สภาเวน สุยฺยตีติ อาเป รโส มธุโรติ จ ตสฺส ลทฺธิเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ทุติยวาทิสฺสปิ นิคฺคโห โหติ ตสฺสปิ เตชาทิคุณา รูปาทโยติ เอวํลทฺธิกตฺตา.
รูปาทิวิเสสคุเณหีติ รูปาทิวิเสสคุณยุตฺเตหิ. เตช…เป… วายูหีติ สหากาเสหิ เตชาทิปรมาณูหิ. กปฺปาสโต วิสทิสายาติ ¶ กปฺปาสปถวิโต วิเสสยุตฺตาย ตโต อธิกสามตฺถิยยุตฺตายาติ อธิปฺปาโย. ตสฺสาเยวาติ กปฺปาสปถวิยาเยว. ยสฺมา สา วิชฺชมานานิปิ อวิเสสภูตานิ อตฺถีติ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อภิภวิตฺวา ิตา, ตสฺมา ตสฺสาเยว คนฺโธ อธิกตโร ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อยฺจ สพฺโพ อุตฺตโร ‘‘ตสฺส ตสฺส ภูตสฺส อธิกตายา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๐๐) วุตฺตตฺตา ตถาคตานํ วาทํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วทนฺตสฺส กณาทสฺส วเสน วุตฺโต. ‘‘อตฺตโน ปน มเตน กณาทกปิลาทโย เกวลํ ปถวาทิทฺรพฺยเมวาติอาทิ ลทฺธิ. กณาทสาสนาย อธิมุตฺตานํ สาสเน อนวคาฬฺหานํ เกสฺจิ อยํ วาโท’’ติ จ วทนฺติ. เอตสฺสุภยสฺสาติ อาสวคนฺธโต กปฺปาสคนฺโธ อธิโก สีตุทกวณฺณโต อุณฺโหทกวณฺโณ จ อธิโกติ เอตสฺส อุภยสฺส. เตชาทิอธิเกสุ จ สมฺภาเรสุ รูปาทีนํ วิเสสสฺส อทสฺสนโต น รูปาทโย เตชาทีนํ วิเสสคุโณติ สิทฺธนฺติ อาห ‘‘ตทภา…เป… ตฺติตา’’ติ. เตน น รูปํ เตชสฺส วิเสสคุโณ เอกนฺตโต เตชาทิเก สมฺภาเร วิเสเสน อทสฺสนโต, โย ยสฺส วิเสสคุโณ, น โส ตทธิเก สมฺภาเร เอกนฺตโต วิเสเสน ทิสฺสติ ยถา ปถวีอธิเก สมฺภาเร อาโปธาตูติ ทสฺเสติ. เอวํ เสเสสุปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. โก ปน วาโท นานากลาเปติ สภาวโต นานตฺตาภาเวปิ มูลการณนานตฺตวเสน อตฺถิ โกจิ วิเสโส อสงฺฆาเตติ ทสฺเสติ, ยโต ปรมรณาทิกิริยาสมตฺถตา เนสํ เกสฺจิเยว ทิสฺสตีติ.
เอกมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อเนกสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ปฺจายตนิกตฺตภาเว ปตฺถนา ยา ทฏฺุกามตาทิภาเวน วุตฺตา, ตาย นิปฺผนฺนํ. เอเตน การณวิเสเสน ผลวิเสสมาห. น หีติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺถยติ. ตนฺติ กมฺมํ. วิเสเสนาติ อตฺตโน การเณน อาหิตาติสเยน ¶ . เตเนว โสตสฺส น โหติ ปจฺจโย, ตโต อฺเเนว ปน โหตีติ อธิปฺปาโย. เตน อเนกสภาเวน การเณน อาหิตวิเสสํ เอกมฺปิ กมฺมํ อเนกสภาวํ ผลํ นิปฺผาเทตุํ สมตฺถํ โหตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ กมฺมสฺส วุตฺตปฺปการวิเสสาภาเว ¶ โทสมาห ‘‘อินฺทฺริยนฺตราภาวปฺปตฺติโต’’ติ. ตสฺสตฺโถ – การณวิเสสาภาเว ผลวิเสสสฺส อสมฺภวโต ยํ วิเสสยุตฺตํ กมฺมํ จกฺขุสฺส การณํ, ตสฺส ตโต อฺวิเสสาภาเว ตทฺินฺทฺริยุปฺปาทกตาปิ น สิยาติ โสตินฺทฺริยาทีนํ ตโต อนุปฺปตฺติ เอว สิยา. เอวมิตรตฺถาปิ. วิเสโสติ เจตฺถ กมฺมสฺส ตํตํอินฺทฺริยุปฺปาทนสมตฺถตา อธิปฺเปตา, สา จ ปุพฺเพ ทสฺสิตสภาโวว.
อเนกาหิ มหคฺคตเจตนาหิ เอกาย วา ปริตฺตเจตนาสหิตาย ปฏิสนฺธิกฺขเณ กฏตฺตารูปานํ นิพฺพตฺตีติ น สกฺกา วิฺาตุนฺติ ‘‘สพฺเพสํ…เป… วิฺายตี’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตเมว อสกฺกุเณยฺยตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘นานาเจตนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘ปฏิส…เป… ปจฺจโย’’ติ เอตฺถ ยทิ นานากมฺมวเสน อินฺทฺริยานํ อุปฺปตฺติ อธิปฺเปตา, เอวํ สติ มหคฺคตกมฺเมน จ กามาวจรกมฺเมน จ ตํตํปฏิสนฺธิกฺขเณ กฏตฺตารูปํ อุปฺปนฺนํ สิยา, น เจตํ ยุตฺตํ ‘‘มหคฺคตเจตนา กมฺมปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๗๘) วุตฺตตฺตา. นาปิ ตํตํภวนิยตรูปินฺทฺริเยหิ วิกลินฺทฺริยตา คติสมฺปตฺติยา โอปปาติกโยนิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ยุตฺตา. อถ มหคฺคตาหิ เอว นานาเจตนาหิ นิพฺพตฺตํ, น เจกา ปฏิสนฺธิ อเนกกมฺมนิพฺพตฺตา โหติ. นิจฺฉิตฺเหตํ สาเกตปฺเหนาติ. เอวํ เอเกน มหคฺคตกมฺมุนา จกฺขุนฺทฺริยโสตินฺทฺริยหทยวตฺถูนํ อุปฺปตฺติาปเกน อิมินา วจเนน ปริตฺตกมฺมุนาปิ เอเกน ยถารหํ อเนเกสํ อินฺทฺริยานํ อุปฺปตฺติ สิทฺธาวาติ วุตฺตํ ‘‘สิทฺธเมเกน กมฺเมน อเนกินฺทฺริยุปฺปตฺติ โหตี’’ติ.
สมฺปตฺโตเยว นาม สมฺปตฺติกิจฺจกรณโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิ…เป… นกโต’’ติ วุตฺตํ. อติสุขุมภาวโต มํสจกฺขุอโคจเรน รูปายตเนน สมนฺนาคตสงฺฆาตวุตฺติตาย จ ‘‘วายุ วิยา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส กทาจิปิ อารมฺมณปจฺจโย น สิยา ธาตุปรมฺปราย ฆฏฺเฏนฺตสฺส อุตุสมุฏฺานตฺตา. เตนาห ‘‘น หิ…เป… ปชฺชตี’’ติ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๑.๒) จ ‘‘สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.
นนุ จิเรน สุยฺยนฺตีติ ทูเร ิตานํ ลหุกํ สวนํ นตฺถิ, เตสมฺปิ วา ลหุกํ สวเนน ทูราสนฺนภาวานํ ¶ วิเสโส น สิยาติ อธิปฺปาโย. น ¶ , ทู…เป… โตติ น ทูเร ิเตหิ รชกาทิสทฺทา จิเรน โสตวิฺาเณน สุยฺยนฺติ, สเจ สวนูปจาเร โส สทฺโท ทูเร อาสนฺเน จ ิตานํ ยถาภูเต อาปาถคเต สทฺเท มโนวิฺาณสงฺขาตโต คหณวิเสสโต จิเรน สุโต สีฆํ สุโตติ อภิมาโนติ อตฺโถ. เอตเมวตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. นิจฺฉย…เป… อภิมาโน โหติ, โสตวิฺาณปฺปวตฺติ ปน อุภยตฺถาปิ สมานา, ยสฺมา โส ปน สทฺโท…เป… อาคจฺฉตีติ. ยทิ ธาตุปรมฺปราย สทฺโท นปฺปวตฺตติ, กถํ ปฏิโฆสาทีนํ อุปฺปตฺตีติ อาห ‘‘ทูเร…เป… ปจฺจโย โหตี’’ติ. อุปฺปตฺติวเสน อาคตานีติ เอเตน รูปธมฺมาปิ ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, น เทสนฺตรํ สงฺกมนฺตีติ ทสฺเสติ. ฆฏฺฏนสภาวาเนวาติ เตสํ ภูตานํ สทฺทสมุปฺปตฺติเหตุภาวมาห. โสตปเทสสฺสาติ โสตเทสสฺส, โสตเทเส ิตสฺสาติ อตฺโถ.
จกฺขุมโต ปุคฺคลสฺส อชฺฌาสยวเสนาติ จิตฺรวิจิตฺรรูปายตเน เยภุยฺเยน สตฺตานํ จกฺขุทฺวาริกชวนสฺส อนุกฑฺฒนวเสน ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. กณฺณกูปจฺฉิทฺเทเยว ปวตฺตนโตติ เอเตน อธิฏฺานโต พหิทฺธา อินฺทฺริยํ ปวตฺตีติ วาทํ ปฏิเสเธติ. อธิฏฺานเทเส เอว หิ อินฺทฺริยํ วตฺตติ ตตฺถ กิจฺจาทิปฺปโยคทสฺสนโต. สติปิ ปนสฺส พหิทฺธา วุตฺติยํ น วิสยคฺคหเณ สมตฺถตา, อฺถา อธิฏฺานปิทหเนปิ วิสยคฺคหณํ ภเวยฺยาติ. อารมฺมณคฺคหณเหตุโต จาติ กณฺณกูปจฺฉิทฺเทเยว ตฺวา อารมฺมณกรณสฺส วิฺาณสฺส วา เหตุภาวโต.
ตพฺโพหาเรนาติ คนฺธคนฺธคฺคหณสฺส สหจริตาย คนฺโธปิ ตถา วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. คนฺโธ ปจฺจโยติ คนฺโธ สหการีปจฺจโยติ อตฺโถ. เขฬาทิโก ปจฺจโยติ โยเชตพฺพํ. ตถา ปถวีติ สหการีปจฺจยนฺตรภูตา อชฺฌตฺติกพาหิรา ปถวี อารมฺมณคฺคหเณ ปจฺจโยติ อตฺโถ. อาธารภูตาติ เตโชวาโยธาตูนํ อาธารภูตา. นิสฺสยภูตานนฺติ นิสฺสยมหาภูตานํ อาโปเตโชวาโยธาตูนํ. สพฺพทาติ อุปฺปีฬนกาเล จ อนุปฺปีฬนกาเล จ. ตตฺถาติ จตุราสีติปเภเท อุปริมกายสงฺขาเต รูปสมูเห. วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานนฺติ อิทํ จกฺขุทสกํ อิทํ กายทสกํ อิทํ ภาวทสกนฺติ เอวํ กลาปโตปิ วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานํ.
๖๑๖. ทีฆาทีนํ ¶ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพโตติ อิทํ ทีฆาทีนํ น กายวิฺาณโคจรตฺตา วุตฺตํ, ทีฆาทิโวหารรูปาทีนํ ปน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา กายวิฺาณวีถิยา ปรโต ปวตฺเตน มโนวิฺาเณนปิ ¶ ชานิตพฺพตฺตา วุตฺตํ. ทีฆาทิสนฺนิเวสนฺติ ทีฆาทิสนฺนิเวสวนฺตํ. เอกสฺมึ อิตรสฺส อภาวาติ ฉายาตปานํ อาโลกนฺธการานฺจ อสหฏฺายิตํ อาห. กถํ ปน อาโลโก อนฺธการํ วิธมตีติ? ‘‘อาโลกปฺปวตฺติสมานกาลํ อนฺธการสภาเวน ปวตฺตมานํ วณฺณายตนํ ภิชฺชติ. อนฺธการสฺส นิสฺสโย หุตฺวา ปวตฺตมานานิ ภูตานิ กเมน ตถารูปสฺส วณฺณายตนสฺส นิสฺสยภาวํ คจฺฉนฺตี’’ติ เกจิ. สห อนฺธกาเรน ตนฺนิสฺสยภูตานํ นิโรธสมนนฺตรํ ตํสนฺตติยํ ตาทิเส ปจฺจยสนฺนิปาเต อาโลกนิสฺสยภูตานํ อุปฺปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. น หิ นิสฺสยมหาภูเตหิ วินา อาโลกปฺปวตฺติ อตฺถิ, นาปิ อนฺธการสงฺขาตํ วณฺณายตนเมว นิรุชฺฌติ ตํนิสฺสเยหิ ปยุชฺชมานกเอกกลาปภูโตปาทารูปานํ สเหว นิรุชฺฌนโต. ปทีปสิขามณิรํสิโย วิย ปถวีปาการรุกฺขาทีนิ มฺุจิตฺวาปิ อนฺธกาโร ปวตฺตตีติ วทนฺติ. มนฺทํ ปน ปาการาทิอาธารรหิตํ น สุฏฺุ ปฺายติ, พหลํ อาธารํ นิสฺสาย ปวตฺตตีติ ยุตฺตนฺติ จ วทนฺติ.
๖๒๐. ‘‘อมนุสฺสสทฺโท’’ติ เอตฺถ อ-กาโร น มนุสฺสตามตฺตนิวตฺติอตฺโถ สทิสภาวทีปนตาย อนธิปฺเปตตฺตา, มนุสฺสโต ปน อนฺตานิวตฺติอตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘อมนุสฺส…เป… ฏฺาทโยปี’’ติ อาห. ตถา กิตฺเตตพฺโพติ ‘‘วํสผาลนสทฺโท’’ติอาทินา วตฺถุวเสน กิตฺเตตพฺโพ.
๖๓๒. กมฺมจิตฺตาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อุตุอาหาเร สงฺคณฺหาติ. ตํตทาการานีติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการานิ. อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ สมุฏฺหนฺตีติ อฺมฺปจฺจยานิปิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ เยภุยฺเยน อิตฺถินฺทฺริยสหิเต เอว สนฺตาเน สพฺภาวา อิตรตฺถ จ อภาวา อินฺทฺริยเหตุกานิ วุตฺตานิ. อฺถาติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการโต อฺถา, อิตฺถินฺทฺริยาภาเว วา. อิตฺถิคฺคหณสฺส จาติ อิตฺถีติ จิตฺตปฺปวตฺติยา. เตสํ รูปานนฺติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปานํ. ยทิ อิตฺถินฺทฺริยํ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปานํ สหการีการณํ, อถ กสฺมา ตสฺส อินฺทฺริยาทิปจฺจยภาโว เตสํ น วุตฺโตติ? เนว ตํ สหการีการณํ, อถ โข เตสํ ตพฺภาวภาวิตามตฺเตน ตํ การณนฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ.
๖๓๓. ลิงฺคํ ¶ ปริวตฺตมานํ ปุริมลิงฺคาธารชาติอนุรูปเมว หุตฺวา ปริวตฺตตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปฏิสนฺธิยํ วิย ปวตฺเตปี’’ติ. ยสฺส…เป… โนติ อาทิวจนโตติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยสฺส ¶ วา ปน ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ โน’’ติ (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘) สงฺคณฺหาติ.
๖๓๕. ทฺวารภาเวน กุจฺฉิตานํ อาสวธมฺมานํ ปวตฺติฏฺานตาย ปสาทวิเสเส วิย วิฺตฺติวิเสเสปิ กายโวหารปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา. วิตฺถมฺภนสภาวตาย วาโยธาตุยา ถมฺภนํ ‘‘วาโยธาตุกิจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. กิจฺจมฺปิ หิ ธมฺมานํ สภาโวเยวาติ. ปถวีธาตุยา อากาโร วจีวิฺตฺตีติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๖๓๖. วิตกฺก…เป… คหิตาติ ยถาธิปฺเปตตฺถาภิพฺยฺชิกาย วาจาย สมุฏฺาปนาธิปฺปายปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ สา เตหิ ปริคฺคหิตา นาม โหตีติ. เอกสฺสปิ อกฺขรสฺส อเนเกหิ ชวเนหิ นิพฺพตฺเตตพฺพตฺตา ตถา นิพฺพตฺติยมานตาย อสมตฺถสภาวตฺตา น วิฺาตวิเสสา น ภินฺนา เอวาติ อาห ‘‘สว…เป… ภินฺนา’’ติ. อพฺโพกิณฺเณติ อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนหิ อสํสฏฺเ. ‘‘ปจฺฉิมจิตฺต’’นฺติ อวิเสเสน จุติจิตฺตํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อฺเสมฺปิ จุติจิตฺตํ…เป… ายตี’’ติ วุตฺตํ.
อถ วา ‘‘เย จ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสติ, โน จ เตสํ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) รูปารูปภวูปปชฺชนกานํ กามาวจรจุติจิตฺตสฺสปิ กายสงฺขาราสมุฏฺาปนวจเนน ขีณาสเวหิ อฺเสมฺปิ…เป… ายตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ –
‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตีติ อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๐๘),
‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตีติ อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๐๘) จ,
‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร จ น นิรุชฺฌติ จิตฺตสงฺขาโร จ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๑๓) –
อาทิวจนโต ¶ ¶ จ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสเมน จิตฺเตน ตโต โอริเมน วา สทฺธึ อสฺสาสปสฺสาสา น อุปฺปชฺชนฺตีติ สิทฺธํ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร น นิรุชฺฌตี’’ติ น วเทยฺย, วุตฺตฺเจตํ, ตสฺมา เหฏฺิมโกฏิยา จุติโต ปุริเมน สตฺตรสเมน อุปฺปนฺนา อสฺสาสปสฺสาสา จุติยา เหฏฺา ทุติเยน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌนฺติ. เตน ‘‘ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จุติจิตฺตสฺสานนฺตรปจฺจยภูตสฺสปิ จิตฺตสฺส กายสงฺขาราสมุฏฺาปนตา วุตฺตา.
อถ วา ยสฺส จิตฺตสฺสาติ เยน จิตฺเตน สพฺพปจฺฉิโม กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. ตํ จิตฺตํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ. อนนฺตราติ หิ กายสงฺขารุปฺปาทนํ อนฺตรํ วินา, ยโต ปจฺฉา กายสงฺขารุปฺปาทเนน อนนฺตริตํ หุตฺวา ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ. กสฺมา? ‘‘อิตเรสํ วจีสงฺขาโร จ นิรุชฺฌิสฺสติ กายสงฺขาโร จ นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) วุตฺตตฺตา. อฺถาปจฺฉิมจิตฺตโต ปุริมตติยจิตฺตสมงฺคีนํ กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชตีติ อาปชฺชตีติ. เอวํ สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตสฺส รูปชนกตาภาเว อาคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยุตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คพฺภคมนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อุทกนิมุคฺคอสฺีภูตกาลกตจตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนรูปารูปภวสมงฺคีนิโรธสมาปนฺนภาเว สงฺคณฺหาติ.
๖๓๗. อเนเกสํ กลาปานํ เอกโต หุตฺวา เอกฆนปิณฺฑภาเวน ปวตฺตนโต กลาปนฺตรภูตานํ กลาปนฺตรภูเตหิ สมฺผุฏฺภาโว วุตฺโต. ยโต เตสํ ทุวิฺเยฺยนานตฺตํ, น ปน อวินิพฺภุตฺตภาวโต. ตํตํภูตวิวิตฺตตาติ เตสํ เตสํ ภูตานํ วิภตฺตภาโว กลาปนฺตรภูเตหิ วิภตฺตสภาวตา อสํกิณฺณตาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ยถาวุตฺตา วิวิตฺตตา รูปานํ โอสานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘รูปปริยนฺโต’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ตํตํภูตสฺุตา. เยสฺหิ ปริจฺเฉโท อากาโส, เตสํ ปริยนฺตตาย เตหิ สฺุภาโวติ ลกฺขิตพฺโพ. ตโตเยว จ โส ภูตนฺตเรหิ วิย เตหิ อสมฺผุฏฺโติ วุจฺจตีติ. อฺถาติ ปริจฺฉินฺทิตพฺเพหิ อสมฺผุฏฺภาวาภาเว.
๖๓๘. ตํตํวิการาธิกรูเปหีติ ¶ เอตฺถ กถํ จมฺมสุวณฺเณสุ มุทุตากมฺมฺตา ลพฺภนฺติ, นนุ ลหุตาทิวิการา เอกนฺตโต อินฺทฺริยพทฺธรูเป เอว ปวตฺตนโต อนินฺทฺริยพทฺเธ น ลพฺภนฺตีติ? สจฺจเมตํ, อิธ ปน ตํสทิเสสุ ตพฺโพหารวเสน วุตฺตํ. ตถา หิ ตูลปิจุอาทีสุ ครุภาวาทิเหตูนํ ¶ ภูตานํ อธิกภาวาภาวโต ลหุอาทิโวหาโร. นิทฺทิสิตพฺพธมฺมนิสฺสยรูเป เอว วา สนฺธาย ‘‘ตํตํวิการาธิกรูเปหี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยา ลหุตาทีนํ อฺมฺาวิชหนโตติ อธิปฺปาโย.
๖๔๑. อาจยสทฺเทเนวาติ นิทฺเทเส วุตฺตอาจยสทฺเทเนว. โย อายตนานํ อาทิจยตฺตา อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปริจยตฺตา อุปจโยติ อธิปฺเปตํ อตฺถํ ปาฬิยํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปาฬิยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุป-สทฺโท ปมตฺโถ ‘‘ทานํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตุปฺตฺต’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๔๕) วิย. อุปริอตฺโถจ ‘‘สมฺมฏฺเ อุปสิตฺเต จ, เต นิสีทึสุ มณฺฑเป’’ติอาทีสุ วิย. อฺถาติ อุป-สทฺทสฺส อุปริอตฺถสฺเสว คหเณ.
๖๔๓. ผลวิปจฺจนปกติยาติ ผลวิปจฺจนสภาเวน. ผลเมว วา ปกตีติ อายุสํหานาทินา ผลสภาเวน ชรานิทฺเทโสติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘ผลูปจาเรน วุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. สุปริณตรูปปริปากกาเล หานิทสกาทีสุ.
๖๔๕. กตฺตพฺพสภาวโตติ มูลผลาทีนํ อิธาธิปฺเปตอาหารวตฺถูนํ มุเขน อสนาทิกตฺตพฺพสภาวโต. วิสภูเต สงฺฆาเต โอชา มนฺทา โหตีติ สวิสตฺตาภาวโต สุขุมตา วุตฺตา. องฺคมงฺคานุสาริโน รสสฺส สาโรติ รสหรณีธมนิชาลานุสาเรน สรีราวยเว อนุปฺปวิฏฺสฺส อาหารรสสฺส อพฺภนฺตราหารปจฺจโย สฺเนโห, โย โลเก รสธาตูติ วุจฺจติ.
อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา
๖๔๖. ‘‘เอกํ ¶ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา ตโย มหาภูเต ปฏิจฺจ เอกํ มหาภูต’’นฺติอาทิวจนโต (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) เอกํ มหาภูตํ อวเสสมหาภูเต นิสฺสยติ, เตหิ อุปาทารูเปน จ นิสฺสียตีติ อาห ‘‘นิสฺสยติ จ นิสฺสียติ จา’’ติ.
๖๔๗. มหาภูตานํ ¶ อฺมฺาวิชหนโต เอกสฺมิมฺปิ กลาเป อเนกํ โผฏฺพฺพํ อตฺถีติ โผฏฺพฺพสภาเวสุเยว อเนเกสุปิ อารมฺมเณสุ อาปาถคเตสุ อาโภคาทิวเสน เอกํเยว วิฺาณุปฺปตฺติเหตุ โหตีติ อยํ วิจาโร ทสฺสิโต. อิตเรสุปิ ปน ยถาโยคํ ทสฺเสตพฺโพ. ตตฺถ รสารมฺมณํ ตาว อินฺทฺริยนิสฺสยํ อลฺลียิตฺวา วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาวโต สติปิ อเนเกสํ รสานํ อาปาถคมเน เอกสฺมึ ขเณ เอกปฺปการํเยว ยถาวุตฺตนเยน ชิวฺหาวิฺาณุปฺปตฺติเหตุ โหติ, ตถา คนฺธารมฺมณํ. รูปสทฺทารมฺมณานิ ปน อินฺทฺริยนิสฺสยํ อสมฺปตฺวาว วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาวโต โยคฺยเทเส อวฏฺิตานิ ยตฺตกานิ สหการีปจฺจยนฺตรคตํ อุปการํ ลภนฺติ, ตตฺตกานิ เอกสฺมึ ขเณ เอกชฺฌํ อารมฺมณํ น โหนฺตีติ น วตฺตพฺพานิ. ตถา หิ สทฺโท นิคฺโฆสาทิโก อเนกกลาปคโต ตถา วณฺโณปิ สิวิกุพฺพหนนิยาเมน เอกชฺฌํ อารมฺมณํ โหตีติ. เอตฺถาปิ จ อาภุชิตวเสน อารมฺมณาธิมตฺตตาวเสน อเนกกลาปสนฺนิปาเตปิ กตฺถจิ วิฺาณุปฺปตฺติ โหติเยว. ปสาทาธิมตฺตตา ปิตฺตาทิวิพนฺธาภาเวน ปสาทสฺส ติกฺขตา. กถํ ปน จิตฺตสฺสาติ จิตฺตสามฺโต เอกตฺตนยวเสน ปุจฺฉติ.
๖๕๑. ตาทิสายาติ ยา ปจุรชนสฺส อตฺถีติปิ น คหิตา. สนฺตี สมานา. เอวนฺติ ยถาสสมฺภารุทกํ สสมฺภารปถวิยา อาพนฺธกํ, เอวํ ปรมตฺถุทกํ ปรมตฺถปถวิยาติ ทสฺเสติ. ตทนุรูปปจฺจเยหีติ อตฺตโน อาพนฺธนานุคุเณหิ อาพนฺธิยมาเนหิ สนฺธารณาทิกิจฺเจหิ ปุริเมหิ จ ปถวีอาทีหิ. อผุสิตฺวา ปติฏฺา โหติ, อผุสิตฺวา อาพนฺธตีติ อิมินา ผุสิตพฺพผุสนกภาโว อาโปธาตุยํ นตฺถีติ โผฏฺพฺพวเสน อุภยธมฺมตํ อาห. อฺมฺํ นิสฺสยตา อฺมฺนิสฺสยตา. อถ วา ¶ อฺมฺตา จ นิสฺสยตา จ อฺมฺนิสฺสยตา. ยทิ โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ โผฏฺพฺพภาเวน วินา อฺมฺนิสฺสยตา, ปถวีอาทีนํ กกฺขฬาทิสภาโว เอว โผฏฺพฺพภาโวติ ตพฺพิรเหน กถํ เตสํ อาโปธาตุยา นิสฺสยาทิภาโวติ อาห ‘‘อวินิพฺโภควุตฺตีสู’’ติอาทิ. อฺมฺปจฺจยภูเตสูติ เอเตน อุปาทารูปํ นิวตฺเตติ. อถ วา ปุพฺเพ อฏฺกถาธิปฺปาเย ตฺวา โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ วิสิฏฺํ อฺมฺนิสฺสยตํ วตฺวา อิทานิ อตฺตโน อธิปฺปาเย ตฺวา อวิเสเสน ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวินิพฺโภควุตฺตีสู’’ติอาทิ. ตํเยว อวิสิฏฺํ อฺมฺนิสฺสยตํ ทฬฺหํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘นาปิ สหชาเตสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อผุสนํ ตาว เอกกลาปคตตฺตา น วิจาเรตพฺพํ, ผุสนํ ปน กถนฺติ? เอกกลาปคตตฺตา เอว. วิสุํ สิทฺธานํเยว หิ วิสยมหาภูตานํ กายปฺปสาทนิสฺสยภูเตสุ ผุสนํ ทิสฺสติ.
ฌายตีติ ¶ ปริปจฺจติ. น อุณฺหา หุตฺวาติ เอตสฺส อุณฺหสภาวา หุตฺวาติ อยมตฺโถติ กตฺวา ‘‘เตโชสภาวตํเยว ปฏิกฺขิปตี’’ติ วุตฺตํ. อุณฺหปฏิปกฺขตฺตา สีตสฺส อุณฺหตาย ปฏิกฺเขเป สีตตาสงฺกา สิยาติ อาห ‘‘น สีตตฺตํ อนุชานาตี’’ติ. เตโชสภาคตํเยว วา สีตตายปิ ทสฺเสตุํ ‘‘น สีตตฺตํ อนุชานาตี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘เตโช เอว หิ สีต’’นฺติ. มนฺเท หิ อุณฺหภาเว สีตพุทฺธีติ เตโช เอว หิ สีตํ. กถํ ปเนตํ วิฺายตีติ? สีตพุทฺธิยา อววตฺถิตภาวโต ปาราปารํ วิย. ตถา หิ อาตเป ตฺวา ฉายํ ปวิฏฺานํ สีตพุทฺธิ โหติ, ตตฺเถว ปถวีคพฺภโต นิคฺคตานํ อุณฺหพุทฺธีติ. ยทิ เตโชเยว สีตํ, อุณฺหภาเวน สทฺธึ สีตภาโวปิ เอกสฺมึ กลาเป อุปลพฺเภยฺยาติ อาห ‘‘สีตุณฺหานฺจา’’ติอาทิ. อุณฺหสีตกลาเปสุ สีตุณฺหานํ อปฺปวตฺติ. ทฺวินฺนํ…เป… ยุชฺชติ, น อาโปธาตุวาโยธาตูนํ สีตภาเวติ อธิปฺปาโย. อาโปธาตุยา หิ วาโยธาตุยา สีตภาเว อุณฺหภาเวน สทฺธึ เอกสฺมึ กลาเป สีตภาโว ลพฺเภยฺย, น ปน ลพฺภติ. น เจตฺถ อาโปธาตุอธิเก วาโยธาตุอธิเก วา กลาเป สีตภาโวติ สกฺกา วิฺาตุํ ตาทิเสปิ กตฺถจิ กลาเป อลพฺภมานตฺตา สีตภาวสฺสาติ. ขรตาทิสภาวาธิกสฺส ภูตสงฺฆาตสฺส ทวตาทิสภาวาธิกตาปตฺติ ภาวฺถตฺตํ. ตํ ปน ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจ…เป… ปฺปตฺตี’’ติ อาห.
๖๕๒. เอกนฺตนจิตฺตสมุฏฺานาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน เอกนฺตอนุปาทินฺนุปาทานิยาทึ สงฺคณฺหาติ. ปุริมานมฺปีติ ‘‘ยํ วา ปนฺมฺปี’’ติ เอตสฺมา วจนโต ปุริมานํ อนุปาทินฺนานํ สทฺทายตนกายวิฺตฺติอาทีนํ นจิตฺตสมุฏฺานานฺจ จกฺขายตนโสตายตนาทีนํ. นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวาทิกนฺติ นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวํ นจิตฺตสมุฏฺานภาวนฺติ เอวมาทิกํ. เอกนฺตากมฺมชาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เอกนฺตาจิตฺตชํ คยฺหติ. ตา ชรตาอนิจฺจตา. อเนกนฺเตสุ น คหิตาติ เอกนฺตโต อกมฺมเชสุ สทฺทายตนาทีสุ อจิตฺตเชสุ จ จกฺขายตนาทีสุ คเหตฺวา จตุสมุฏฺานิกตฺตา อเนกนฺเตสุ รูปายตนาทีสุ น คหิตาติ อตฺโถ.
๖๖๖. อนิปฺผนฺนตฺตาติ อฺํ อนเปกฺขิตฺวา สภาวโต อสิทฺธตฺตํ. ตสฺสาติ วิฺตฺติทฺวยสฺส.
โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๖. ‘‘สพฺพํ ¶ รูปํ มนสา วิฺาต’’นฺติ วจนโต ยทิ วิฺาตโต อฺํ ทิฏฺาทิ น โหตีติ ‘‘กตมํ ตํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติอาทินา ปุจฺฉา น กตา, เอวํ สนฺเต จตุกฺกภาโว กถนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต’’ติ. ทสฺสนํ สวนํ มินิตฺวา ชานนํ วิชานนฺจาติ เอตสฺมา ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต. เอเตน คาหกเภเทน คเหตพฺพเภโทติ ทสฺเสติ. อิทานิ สมุเขนปิ คเหตพฺพเภโท ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺา…เป… ภาวโต’’ติ วุตฺตํ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๙. ตทิทํ นยกรณํ ฉพฺพิธาทีสุ ตีสุ สงฺคเหสุ โยชิตํ.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
๙๗๕. เอกนฺตโต นีวรณตฺตา มิทฺธสฺส ‘‘นตฺถิ นีวรณา’’ติ วจเนน คหณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิทฺธสฺสปิ นีวรณสฺสา’’ติ วุตฺตํ. น จ รูปํ ปหาตพฺพํ นิปฺปริยายปฺปหานสฺส อิธ ¶ อธิปฺเปตตฺตา. เอตฺถ เกจิ ‘‘นามกายรูปกายเคลฺสภาวโต ทุวิธํ มิทฺธํ. ตตฺถ ปุริมํ ‘นีวรณา’ติ วจเนน วุตฺตํ, อิตรํ รูปสภาว’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ยํ ตํ อรูปโต อฺํ มิทฺธํ ปริกปฺปิตํ, ตมฺปิ นีวรณํ มิทฺธสภาวโต อิตรํ มิทฺธํ วิยาติ ปริกปฺปิตมิทฺธสฺสปิ น สกฺกา นีวรณภาวํ นิวตฺเตตุนฺติ เตสํ วจนสฺส นีวรณปฺปหานวจเนน วิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ รูปกาย’’นฺติอาทิมาห. อถ วา ขีณาสวานํ โสปฺปนสภาวโต โสปฺปสฺส จ มิทฺธเหตุกตฺตา อตฺถิ มิทฺธรูปนฺติ วาทํ สนฺธาย อุตฺตรมาห ‘‘น จ รูปกายเคลฺ’’นฺติอาทินา. ตตฺถ มิทฺธเมว โสปฺปเหตูติ นายํ อวธารณา อิจฺฉิตา, โสปฺปเหตุ เอว มิทฺธนฺติ ปน อิจฺฉิตาติ มิทฺธโต อฺโปิ โสปฺปเหตุ อตฺถิ, โก ปน โส? รูปกายเคลฺํ. น จ รูป…เป… วจนโตติ โยชนา ทฏฺพฺพา.
วจีโฆสาทีติ อาทิ-สทฺเทน หุํการาทิสทฺโท สงฺคยฺหติ. องฺคุลิโผฏาทิสทฺโท อุตุสมุฏฺาโนเยว, จิตฺตปจฺจโย ปน โหติ. รูปภาวมตฺตานีติ ชรามรณสภาวานํ รูปานํ ตํธมฺมมตฺตานิ, ตโต เอว น ชาติอาทิธมฺมวนฺตานีติ อาห ‘‘น สยํ สภาววนฺตานี’’ติ. ยถา ¶ ชรา อนิจฺจตา จ รูปภาวมตฺตํ, เอวํ ชาติปีติ ชาติยา รูปภาวมตฺตตาย อุปสํหรณตฺโถ ตถา-สทฺโท.
เตสํ รูปธมฺมานํ. สงฺขาตาทิ-สทฺโท วิย อภินิพฺพตฺติต-สทฺโทปิ วตฺตมานกาลิโกปิ โหตีติ ‘‘อภินิพฺพตฺติยมานธมฺมกฺขณสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมปีติ ยทิปิ ชิรณภิชฺชนภาวา ชิรณาทิสภาวานํ ธมฺมานํ ชนกปจฺจยกิจฺจานุภาวกฺขเณ อภาวโต ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ น ลภนฺติ, เอวมปิ เตสํ อุปาทินฺนตา วตฺตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ชรามรณํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วจนโต ตสฺส ปริยายตํ วิวรติ ‘‘เตสํ อุปฺปาเท สตี’’ติอาทินา.
ยทิ เอวนฺติ ยทิ นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติกา ชาติอาทโย, เอวํ สติ. ‘‘มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ วจนโต ภูตนิสฺสิเตสุ เกวโล อุปาทายโวหาโรติ อุปาทาเย นิสฺสิตาปิ อปเรน อุปาทาย-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วตฺตพฺพาติ อธิปฺปาเยน ‘‘อุปาทายุปาทายภาโว อาปชฺชตี’’ติ อาห. การณการเณปิ การเณ วิย โวหาโร โหติ ¶ ‘‘โจเรหิ คาโม ทฑฺโฒ’’ติ ยถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภูต…เป… ตฺตนโต’’ติ อาห. อิทานิ ปรมฺปรา วินา นิปฺปริยายโต อุปฺปาทาทีนํ ภูตปฏิพทฺธภาวํ สห นิทสฺสเนน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิมโวจ. วิการปริจฺเฉทาปิ อุปาทายรูปวิการาทิภาเว ภูตปฏิพทฺธภาวาวินิวตฺติโต เอกสฺมึ กลาเป เอเกกาว วิการาทโยติ ชีวิตินฺทฺริยํ วิย กลาปานุปาลกํ กลาปวิการาทิภาวโต จ ‘‘อุปาทายรูปานิ’’อิจฺเจว วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ วิกา…เป… โยเชตพฺพานี’’ติ.
อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ อิทํ อปรินิปฺผนฺนสภาววโต อนุปลพฺภมานตาย สสวิสาณํ วิย เกนจิ น สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ นาม สิยาติ อิมิสฺสา อาสงฺกาย นิวตฺตนวเสน วุตฺตํ. อถ วา รูปวิการาทิภาวโต รูปภาโว วิย รูเป สติ สนฺติ, อสติ น สนฺตีติ สิทฺธาย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาย สาธิตา ปรินิปฺผนฺนตา เตสํ สงฺขตภาวํ สาเธนฺตี อสงฺขตภาวํ นิวารณตฺถํ ชายตีติ วุตฺตํ ‘‘อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตา’’ติ.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิกฺเขปกณฺฑํ
ติกนิกฺเขปกถาวณฺณนา
๙๘๕. ยถาวุตฺตผสฺสปฺจมกาทิราสิกิจฺจรหิตตฺตา ¶ ¶ เกจิ ธมฺเม วิสุํ เปตฺวา โสวจสฺสตาทิอวุตฺตวิเสสสงฺคณฺหนตฺถฺจ, เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา ฉนฺทาทโย ‘‘เยวาปนา’’ติ วุตฺตาติ เยวาปนกานํ ปทุทฺธาเรน นิทฺเทสานรหตาย การณํ วุตฺตนฺติ หทยวตฺถุสฺส ตถา นิทฺเทสานรหตาย การณํ วทนฺโต ‘‘สุขุมุปา…เป… หิตสฺสา’’ติ อาห. สุขุมภาเวปิ อินฺทฺริยาทิสภาวานิ อุปาทายรูปานิ อาธิปจฺจาทิวเสน ปากฏานิ โหนฺติ, น อตํสภาวํ สุขุมุปาทายรูปนฺติ หทยวตฺถุสฺส ปทุทฺธาเรน กุสลตฺติกปทภาชเน นิทฺเทสานรหตา วุตฺตา. สุขุมภาวโตเยว หิ ตํ มหาปกรเณปิ ‘‘ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘) นิสฺสิตธมฺมมุเขน ทสฺสิตนฺติ. เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วา หทยวตฺถุ ปทุทฺธาเรน น ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เยน ปน อธิปฺปาเยน รูปกณฺเฑ หทยวตฺถุ ทุวิเธน รูปสงฺคหาทีสุ น วุตฺตํ, โส รูปกณฺฑวณฺณนาย วิภาวิโต เอวาติ. นิกฺขิปิตฺวาติ ปทสฺส ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถติ อธิปฺปาเยน ‘‘วิตฺถารเทสนํ อนฺโตคธํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. มูลาทิวเสน หิ เทสิตา กุสลาทิธมฺมา ตํตํจิตฺตุปฺปาทาทิวเสนปิ เทสิตา เอว นาม โหนฺติ ตํสภาวานติวตฺตนโตติ.
มูลวเสนาติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนวเสน. เอตานิ เหตุปทาทีนิ หิโนติ ผลํ เอตสฺมา ปวตฺตตีติ เหตุ, ปฏิจฺจ เอตสฺมา เอตีติ ปจฺจโย, ชเนตีติ ชนโก, นิพฺพตฺเตตีติ นิพฺพตฺตโกติ เสสานํ วจนตฺโถ. ‘‘มูลฏฺสฺส…เป… วุตฺต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ‘‘ปีฬนฏฺโ’’ติอาทีสุ วิย มูลภาโว มูลฏฺโ, ตีณิ กุสลมูลานีติ อยฺจ มูลโต นิกฺเขโปติ? น, มูลสฺส อตฺโถ มูลฏฺโ ¶ , โส เอว มูลฏฺโติ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนฏฺเน มูลสภาวานํ อโลภาทิธมฺมานํ กุสลธมฺเมสุ กิจฺจวิเสสสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตเนวาห ‘‘อตฺโถติ ธมฺมกิจฺจ’’นฺติ. อถ วา อตฺถวเสนาติ ‘‘ตีณิ กุสลมูลานี’’ติ วุตฺตานํ เตสํ มูลานํ สภาวสงฺขาตอตฺถวเสน, น คาถาย วุตฺตอตฺถวเสน. ยสฺมา ¶ ปน โส มูลฏฺโเยว จ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อโลภาทีน’’นฺติอาทิ. อโลภาทโย วิย เวทนากฺขนฺธาทโยปิ อธิกตตฺตา ตํ-สทฺเทน ปฏินิทฺทิสิตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘เต กุสลมูลา ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ. เตหิ อโลภาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วา เวทนากฺขนฺธาทโยปิ สงฺคหิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เต กุสลมูลา ตํสมฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ผสฺสาทิเภทโต จตฺตาโร ขนฺเธ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ (ธ. ส. ๑) วุตฺตตา ขนฺธา จ กุสลนฺติ วุตฺตํ ‘‘ขนฺเธหิ สภาวโต กุสเล ปริยาทิยตี’’ติ. เวทนากฺขนฺโธ วาติ กุสลํ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ วาติ. อฺสฺส อตฺตโน ผลสฺส. มูเลหิ กุสลานํ อนวชฺชตาย เหตุํ ทสฺเสตีติ อิทํ น มูลานํ กุสลสฺส อนวชฺชภาวสาธกตฺตา วุตฺตํ, อถ โข ตสฺส อนวชฺชตาย สุปฺปติฏฺิตภาวสาธกตฺตา. ยทิ หิ มูเลหิ กโต กุสลานํ อนวชฺชภาโว ภเวยฺย, ตํสมุฏฺานรูปสฺสปิ โส ภเวยฺย, มูลานํ วา เตสํ ปจฺจยภาโว น สิยา, โหติ จ โส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เหตู เหตุ…เป… ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑.). กิฺจ ภิยฺโย กุสลานํ วิย อกุสลาพฺยากตานมฺปิ ตพฺภาโว มูลปฏิพทฺโธ ภเวยฺย, ตถา สติ อเหตุกานํ อกุสลาพฺยากตานํ ตพฺภาโว น สิยา, ตสฺมา กุสลาทีนํ โยนิโสมนสิการาทิปฏิพทฺโธ กุสลาทิภาโว, น มูลปฏิพทฺโธ, มูลานิ ปน กุสลาทีนํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนานีติ เวทิตพฺพํ. สเหตุกา หิ ธมฺมา วิรุฬฺหมูลา วิย ปาทปา สุปฺปติฏฺิตา ถิรา โหนฺติ, น ตถา อเหตุกาติ. ตํสมฺปโยคกตํ อนวชฺชสภาวนฺติ อิทมฺปิ น อนวชฺชสภาวสฺส ตํสมฺปโยเคน นิปฺผาทิตตฺตา วุตฺตํ, อนวชฺชสภาวํ ปน วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อโลภาทิสมฺปโยคโต หิ กุสลาทีนํ ขนฺธานํ อนวชฺชภาโว สุปฺปติฏฺิโต ชายติ, น อเหตุกาพฺยากตานํ วิย น สุปฺปติฏฺิโตติ. ยทิ เอวํ น เตสํ ขนฺธานํ กุสลาทิภาโว ทสฺสิโต สิยา? น, อธิการโต กุสลภาวสฺส วิฺายมานตฺตา. กมฺม-สทฺโท วิย วิปากธมฺมตาวาจิโน น มูลกฺขนฺธสทฺทา, โส จ อิธ อวิเสสโต วุตฺโตติ อาห ‘‘กมฺเมหิ สุขวิปากตํ ทสฺเสตี’’ติ. อาทิกลฺยาณตํ กุสลานํ ¶ ทสฺเสตีติ โยชนา. อนวชฺชเหตุสภาวสุขวิปากภาวนิทานาทิสมฺปตฺติโย ทฏฺพฺพา, โยนิโสมนสิการอวชฺชปฏิปกฺขตาอิฏฺวิปากตาวเสนปิ นิทานาทิสมฺปตฺติโย ¶ โยเชตพฺพา. โยนิโสมนสิการโต หิ กุสลา อโลภาทิมูลกา, อโลภาทิสมฺปโยคโต จ โลภาทิปฏิปกฺขสุขวิปากาว ชาตาติ.
๙๘๖. ‘‘กสฺมา วุตฺต’’นฺติ อนุยฺุชิตฺวา โจทโก ‘‘นนู’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. อิตโร ยถาวุตฺตโมหสฺส อิธ สมฺปยุตฺต-สทฺเทน อวุจฺจมานตํ ‘‘สจฺจเมต’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เตนา’’ติอาทินา ปริหารมาห. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา’’ติปเทน กิฺจาปิ ยถาวุตฺตโมโห ปธานภาเวน น คหิโต, นานนฺตริยกตาย ปน คุณภาเวน คหิโตติ. อฺตฺถ อภาวาติ ยถาวุตฺตสมฺปยุตฺตโต อฺตฺถ อภาวา. น หิ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคโต โมโห วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจาทิธมฺเมหิ วินา โหตีติ.
๙๘๗. อุปฺปาทาทิสงฺขตลกฺขณวินิวตฺตนตฺถํ ‘‘อนิจฺจทุกฺขอนตฺตตา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปาทาทโย ปน ตทวตฺถธมฺมวิการภาวโต ตํตํธมฺมคฺคหเณน คหิตาเยว. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑), ‘‘รูปสฺส อุปจโย’’ติ จ อาทิ. เกสกุมฺภาทิ สพฺพํ นามํ นามปฺตฺติ, รูปเวทนาทิอุปาทานา พฺรหฺมวิหาราทิโคจรา อุปาทาปฺตฺติ สตฺตปฺตฺติ, ตํตํภูตนิมิตฺตํ ภาวนาวิเสสฺจ อุปาทาย คเหตพฺโพ ฌานโคจรวิเสโส กสิณปฺตฺติ. ปรมตฺเถ อมฺุจิตฺวา โวหริยมานาติ อิมินา วิหารมฺจาทิปฺตฺตีนํ สตฺตปฺตฺติสทิสตํ ทสฺเสติ, ยโต ตา สตฺตปฺตฺติคฺคหเณน คยฺหนฺติ. หุตฺวา อภาวปฏิปีฬนอวสวตฺตนาการภาวโต สงฺขตธมฺมานํ อาการภาวโต สงฺขตธมฺมานํ อาการวิเสสภูตานิ ลกฺขณานิ วิฺตฺติอาทโย วิย วตฺตพฺพานิ สิยุํ, ตานิ ปน นิสฺสยานเปกฺขํ น ลพฺภนฺตีติ ปฺตฺติสภาวาเนว ตชฺชาปฺตฺติภาวโตติ น วุตฺตานิ, สตฺตฆฏาทิโต วิเสสทสฺสนตฺถํ ปน อฏฺกถายํ วิสุํ วุตฺตานีติ. น หิ โก…เป… วตฺตุํ ยุตฺตํ กุสลตฺติกสฺส นิปฺปเทสตฺตา.
๙๘๘. ภวติ เอตฺถาติ ภูมิ, นิสฺสยปจฺจยภาวโต สุขสฺส ภูมิ สุขภูมิ. สุขเวทนาสหิตํ จิตฺตํ. ตสฺส ภูมิเภเทน นิทฺธารณตฺถํ ตํนิสฺสยภูตา ¶ สมฺปยุตฺตธมฺมา ‘‘กามาวจเร’’ติ วุตฺตา. ตสฺส วา เอกเทสภูตสฺส สมุทายภาวโต อาธารณภาเวน อเปกฺขิตฺวา ตํสมานภูมิ ‘‘กามาวจเร’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติ ทฺเวปิ ภุมฺมวจนานิ ภินฺนาธิกรณภาเวน อฏฺกถายํ วุตฺตานีติ อุภเยสมฺปิ สมานาธิกรณภาเวน อตฺถโยคํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘สุขภูมีติ กามาวจราทโยปิ ยุชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยเถว หิ จิตฺตํ, เอวํ สพฺเพปิ ปริตฺตสุเขน สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ตสฺส นิสฺสยภาวโต ภูมิ กามาวจราติ. อฏฺกถายมฺปิ วา อยมตฺโถ วุตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘จิตฺต’’นฺติ หิ จิตฺตุปฺปาโทปิ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ เอตฺถ จิตฺตเมว อคฺคเหตฺวา ปโรปณฺณาสกุสลธมฺเมหิ สทฺธึเยว จิตฺตํ คหิต’’นฺติ. เอวฺจ กตฺวาติ สุขภูมิยนฺติ จิตฺตุปฺปาทสฺส วิฺายมานตฺตา. วิภาคทสฺสนํ วิเสสทสฺสนํ. ภาสิตพฺพํ ภาสิตํ, ตเทว อตฺโถติ ภาสิตตฺโถ. อภิเธยฺยตฺโถ. ตทตฺถวิฺาปเนนาติ ติกทุกานํ กุจฺฉิตานํ สลนาทิอตฺถทีปเกน.
๙๙๔. โก ปน วาโท ขนฺธารมฺมณสฺสาติ ปุพฺพาปรภาเวน วตฺตมาเน อรหโต ขนฺเธ เอกตฺตนยวเสน สนฺตานโต ‘‘อมฺหากํ มาตุลตฺเถโร’’ติอาทินา อาลมฺพิตฺวา ปวตฺตมานํ อุปาทานํ ตสฺส อุปาทานกฺขนฺเธเยว คณฺหาติ. สติปิ ตํสนฺตติปริยาปนฺเน โลกุตฺตรกฺขนฺเธ ตตฺถ ปวตฺติตุํ อสมตฺถภาวโต กา ปน กถา ขนฺเธ อารพฺภ ปวตฺตมาเน. เอเตน นตฺถิ มคฺโค วิสุทฺธิยา, นตฺถิ นิพฺพานนฺติ เอวมาทิวเสน ปวตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย น มคฺคาทิวิสยา ตํตํปฺตฺติวิสยาติ ทีปิตํ โหติ.
๙๙๘. เอวํ สํ…เป… เลสิกาติ อนุปาทานิเยหิ อสํกิเลสิกานํ เภทาภาวมาห.
๑๐๐๖. อวิชฺชมาโน จ โส นิจฺจาทิวิปริยาสากาโร จาติ อวิ…เป… สากาโรติ ปทจฺเฉโท. ทิฏฺิยา นิจฺจาทิอวิชฺชมานากาเรน คยฺหมานตฺเตปิ น ตทากาโร วิย ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโน, อถ โข วิชฺชมาโน ¶ กาโย สกฺกาโยติ อวิชฺชมานนิจฺจาทิวิปริยาสาการโต วิเสสนนฺติ โลกุตฺตรา น อิทํ วิเสสนํ อรหนฺติ ‘‘สนฺโต วิชฺชมาโน กาโย สกฺกาโย’’ติ. วตฺถุ อวิเสสิตํ โหตีติ อิทํ ‘‘สตี กาเย’’ติ เอตฺถ กาย-สทฺโท สมูหตฺถตาย อนามสิตวิเสสํ ขนฺธปฺจกํ วทตีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ปสาทกาโย วิย กุจฺฉิตานํ ราคาทีนํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย กาโยติ วุจฺจตีติ เอวํ ปน อตฺเถ สติ ทิฏฺิยา วตฺถุ วิเสสิตเมว โหตีติ โลกุตฺตราปิ อปนีตา. น หิ โลกุตฺตรา ขนฺธา อุปฺปตฺติฏฺานตาย ‘‘กาโย’’ติ วุจฺจนฺตีติ. สุทฺธิยา อเหตุภูเตนาติ โคสีลาทินา, โลกิยสีเลน วา โลกุตฺตรสีลสฺส อปทฏฺาเนน. ‘‘อวีติกฺกมนียตาสตตํจริตพฺพตาหิ วา สีลํ, ตโปจรณภาเวน สมาทินฺนตาย วตํ. อตฺตโน ควาทิภาวาธิฏฺานํ สีลํ, คจฺฉนฺโตเยว ภกฺขนาทิควาทิกิริยากรณํ ¶ วตํ. อกตฺตพฺพาภิมตโต นิวตฺตนํ วา สีลํ, ตํสมาทานวโต เวสโภชนกิจฺจจรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วต’’นฺติ จ สีลพฺพตานํ วิเสสํ วทนฺติ.
๑๐๐๗. อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาโทติ น ชนนมตฺตํ อธิปฺเปตํ, อถ โข อนิโรโธปีติ ‘‘อวิฆาตํ ชนสทฺโท วทตี’’ติ อาห. ตตฺถายํ ชน-สทฺเท นโย, ชนิตาติ ชนา, อวิหตาติ อตฺโถ. ปุถู ชนา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนาติ ปุถุสตฺถุมานิโน สตฺตา. อภิสงฺขรณาทิอตฺโถ วา ชน-สทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ. ขนฺธายตนาทีนํ สวนาธีนตฺตา ปฺาจกฺขุปฏิลาภสฺส เตสํ สวนาภาวทีปกํ ‘‘อสฺสุตวา’’ติ อิทํ ปทํ อนฺธตํ วทติ.
กตํ ชานนฺตีติ อตฺตนา ปเรหิ จ กตํ กุสลากุสลํ เตหิ นิปฺผาทิตํ สุขทุกฺขํ ยาถาวโต ชานนฺติ. ปเรสํ อตฺตนา, อตฺตโน จ ปเรหิ กตํ อุปการํ ยถาวุตฺตากาเรน ปากฏํ กโรนฺติ. พฺยาธิอาทีหิ ทุกฺขิตสฺส อุปฏฺานาทิกาตพฺพํ, สํสารทุกฺขทุกฺขิตสฺเสว วา ยถาวุตฺตากาเรน กาตพฺพํ กโรนฺติ. อริยกรธมฺมา อริยสจฺจานีติ ปุริมสจฺจทฺวยวเสน วุตฺตํ ‘‘วิปสฺสิยมานา อนิจฺจาทโย’’ติ. ปริฺาทิวิเสเสน วา ปสฺสิยมานาติ อตฺเถ สติ อนิจฺจาทโยติ อาทิ-สทฺเทน นิจฺจมฺปิ นิพฺพานํ คหิตนฺติ จตุสจฺจวเสนปิ โยเชตพฺพํ, อนิจฺจตฺตาทโย วา ‘‘อนิจฺจาทโย’’ติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
อวเสสกิเลสา กิเลสโสตํ. าณนฺติ ยาถาวโต ชานนํ. ยถาภูตาวโพเธน หิ ตสฺส ตานิ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตตาย สนฺตาเน ¶ อปฺปเวสารหานิ ‘‘สํวุตานิ ปิหิตานี’’ติ จ วุจฺจนฺติ. ตถาติ สพฺพสงฺขารานํ วิปฺปการสฺส ขมนากาเรน. อวิปรีตธมฺมา เอตาย นิชฺฌายํ ขมนฺตีติ ปฺา ขนฺตีติ. อทุฏฺสฺเสว ติติกฺขาภาวโต ตถาปวตฺตา ขนฺธาติ อโทสปฺปธานา ขนฺธา วุตฺตาติ ‘‘อโทโส เอว วา’’ติ ตติโย วิกปฺโป วุตฺโต. สติปฏิปกฺขตฺตา อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ‘‘มุฏฺสฺสจฺจ’’นฺติ วุตฺตา. อกฺขนฺติ โทโส. สสฺสตาทิอนฺตวินิมุตฺตา ธมฺมฏฺิตีติ สสฺสตุจฺเฉทาทิคาโห ตปฺปฏิโลมภาโว วุตฺโต. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาโท นิพฺพาเน ปฏิโลมภาโว. จริมานุโลมาณวชฺฌตณฺหาทิโก กิเลโสติ วุตฺโต, ปฏิปทาาณทสฺสนาณทสฺสนานิ วิย โคตฺรภุาณํ กิเลสานํ อปฺปวตฺติกรณภาเวน วตฺตติ, กิเลสวิสยาติลงฺฆนภาเวน ปน ปวตฺตตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สงฺขาร…เป… ปหาน’’นฺติ.
ทิฏฺิยาทีนํ ¶ สมุทยสภาคตา กมฺมสฺส วิกุปฺปาทเน สหการีการณภาโว, ทสฺสนาทิพฺยาปารํ วา อตฺตานฺจ ทสฺสนาทิกิจฺจํ จกฺขาทีนนฺติ เอวฺหิ ยถาตกฺกิตํ อตฺตานํ รูปนฺติ คณฺหาติ. ยถาทิฏฺนฺติ ตกฺกทสฺสเนน ยโถปลทฺธนฺติ อธิปฺปาโย. น หิ ทิฏฺิคติโก รูปายตนเมว อตฺตาติ คณฺหาตีติ. อิมิสฺสาปวตฺติยาติ สามฺเน รูปํ อตฺตาติ สพฺพสงฺคาหกภูตาย ปวตฺติยา. รูเป…เป… มานนฺติ จกฺขาทีสุ ตํสภาโว อตฺตาติ ปวตฺตมานํ อตฺตคฺคหณํ. อนฺตฺตาทิคฺคหณนฺติ อนฺตฺตํ อตฺตนิยอตฺตนิสฺสิตอตฺตาธารตาคหณํ. วณฺณาทีนนฺติ วณฺณรุกฺขปุปฺผมณีนํ. นนุ จ รุกฺขปุปฺผมณิโย ปรมตฺถโต น วิชฺชนฺติ? สจฺจํ น วิชฺชนฺติ, ตทุปาทานํ ปน วิชฺชตีติ ตํ สมุทิตาทิปฺปการํ อิธ รุกฺขาทิปริยาเยน วุตฺตนฺติ รุกฺขาทินิทสฺสเนปิ น โทโส ฉายารุกฺขาทีนํ วิย รูปสฺส อตฺตโน จ สํสามิภาวาทิมตฺตสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
๑๐๐๘. ชาติอาทิสภาวนฺติ ชาติภวาทีนํ นิพฺพตฺตินิพฺพตฺตนาทิสภาวํ, อุปฺปาทนสมตฺถตา ปจฺจยภาโว.
๑๐๐๙. สามฺเน ‘‘ตเทกฏฺา กิเลสา’’ติ (ธ. ส. ๑๐๑๐), ปรโต ‘‘อวเสโส โลโภ’’ติอาทิวจนโต (ธ. ส. ๑๐๑๑) ปาริเสสโต สามตฺถิยโต วา ลพฺภมานตาย สติปิ อาคตตฺเต สรูเปน ปเภเทน วา ทิฏฺิอาทโย วิย อนาคตตฺตา โลภาทโย ‘‘อนาคตา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อิธ ¶ …เป… สฺเสตุ’’นฺติ. อตฺถโต วิฺายติ โลภาทีหิ สหชาตา หุตฺวา ทิฏฺิยา เอว ปาฬิยํ วุตฺตกิเลสภาวโต. อิติปิ อตฺโถ ยุชฺชติ สํโยชนกิเลสานมฺปิ ปฏินิทฺเทสารหตฺตา สมฺปยุตฺตสมุฏฺานภาวโต จ. สํโยชนรหิเตหีติ สํโยชนภาวรหิเตหิ ถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ วา.
๑๐๑๓. เอกเท…เป… วทติ อวยเวนปิ สมุทาโย วุจฺจตีติ. เหตุ เอเตสํ อตฺถีติ วา เหตุกา. อนิยโตติ น อวธาริโต. ปุริมปทาวธารณวเสน คเหตพฺพตฺถตฺตา วิวรณียตฺถวา. อตฺถโต นิกฺขิปิตุนฺติ ‘‘ตโย กุสลเหตู อโลโภ อโทโส อโมโห’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๖๐) วิย ปุริมนเยน ทสฺสิตธมฺเมเยว เหตุปหาตพฺพเหตุกเภทโต อตฺถทสฺสนวเสน นิทฺทิสิตุนฺติ อตฺโถ.
๑๐๒๙. อภิฺายุตฺตวชฺชานํ ¶ มหคฺคตานํ ปริตฺตารมฺมณตฺตาภาวา ‘‘มหคฺคตา วา อิทฺธิวิธาทโย’’ติ วุตฺตํ. อตีตํสาณสฺส กามาวจรตฺตา ‘‘เจโต…เป… าณสมฺปยุตฺตา’’ติ อาห.
๑๐๓๕. อนนฺตเร นิยุตฺตานีติ จุติอนนฺตรํ ผลํ อนนฺตรํ, ตสฺมึ นิยุตฺตานิ ตํ เอกนฺเตน นิปฺผาทนโต อนติกฺกมนกานีติ อตฺโถ. วุตฺตปฺปการสฺส อนนฺตรสฺส กรณํ อนนฺตรํ, ตํ สีลานีติ โยเชตพฺพํ. อเนเกสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ กิฺจาปิ พลวโตเยว ปฏิสนฺธิทานํ, น อิตเรสํ, อตฺตนา ปน กาตพฺพกิจฺจสฺส เตเนว กตตฺตา ตสฺส วิปากสฺส อุปตฺถมฺภนวเสน ปวตฺตนโต น อิตรานิ เตน นิวาริตผลานิ นาม โหนฺติ, โก ปน วาโท ปฏิปกฺเขสุ กุสเลสูติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิปกฺเขน อนิวารณียผลตฺตา’’ติ. ‘‘อเนกสฺมิมฺปิ…เป… นตฺถี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อเนเกสุ อานนฺตริเยสุ กเตสุ พลวํเยว ปฏิสนฺธิทายกนฺติ เตน อิตเรสํ วิปาโก ปฏิพาหิโต โหตีติ อาห ‘‘น จ เตส’’นฺติอาทิ. ตฺจ เตสํ อฺมฺํ อปฺปฏิพาหกตฺตํ มาติกาวณฺณนายํ วิตฺถาเรน วิจาริตเมว.
อตฺถโต อาปนฺนํ อคฺคเหตฺวา ยถารุตวเสเนว ปาฬิยา อตฺถํ คเหตฺวา เตสํ วาทานํ ตปฺปรภาเวน ปวตฺตึ สนฺธาย อเหตุกวาทาทีนํ วิเสสํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุริมวาโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนิยฺยานิกนิยฺยานิกเภทํ ปน สมฺภารกมฺมํ พนฺธโมกฺขเหตูติ พนฺธโมกฺขเหตุํ ปฏิเสเธนฺโตปิ กมฺมํ ปฏิเสเธติ. สุมงฺคลวิลาสินิยํ ปน วิปากสฺส กมฺมกิเลสสมาธิปฺานํ เหตุภาวโต วิปาโกปิ พนฺธโมกฺขเหตูติ ‘‘นตฺถิ เหตูติ วทนฺโต อุภยํ ปฏิพาหตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๗๐-๑๗๒) วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิเสเธนฺเตนปิ วิปาโก ปฏิเสธิโต โหติ, วิปากํ ปฏิเสเธนฺเตนปิ กมฺมนฺติ ตโยปิ เอเต วาทา อตฺถโต อุภยปฏิเสธกาติ เวทิตพฺพา. นิยตมิจฺฉาทิฏฺินฺติ อเหตุกวาทาทิปฏิสํยุตฺเต อสทฺธมฺเม อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยปสุตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติอาทินา รโห นิสีทิตฺวา จินฺเตนฺตสฺส ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม อเตกิจฺฉภาวํ ปตฺโต นาม โหติ. ยา เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิยตมิจฺฉาทิฏฺิ’’นฺติ. ตโต ปุริมภาวา อนิยตา.
๑๐๓๙. สหชาต อฺมฺ นิสฺสย อตฺถิ อวิคตาทิวิสิฏฺภาเวปิ มคฺคปจฺจยสฺส สมฺปโยควิสิฏฺตาทีปเนเนว สหชาตาทิวิสิฏฺตาปิ วิฺายตีติ ปาฬิยํ ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุตฺตนฺติ ¶ ‘‘สมฺปโยควิสิฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. มคฺค…เป… ทสฺเสตุํ, น ปน มคฺคงฺคานํ อฺมฺํ มคฺคปจฺจยภาวาภาวโตติ อธิปฺปาโย. เอวํ สตีติ ยทิ มคฺคงฺคานํ มคฺคปจฺจยลาภิตาย ปกาสโน ปมนโย, เอวํ สนฺเต. มคฺคงฺคานิปิ เวทนาทโย วิย มคฺคเหตุกภาเวน วตฺตพฺพตฺตา อมคฺคสภาวานํ อโลภาทีนํ ตทฺเสํ ตทุภยสภาวานํ ธมฺมานํ ปจฺจยภาวทีปเน ตติยนเย วิย น เปตพฺพานีติ อาห ‘‘เปตฺวาติ น วตฺตพฺพํ สิยา’’ติ. ปุพฺเพติ ปุริมนเย.
ทุติยนเยปีติ ปิ-สทฺเทน ปมนยํ สมฺปิณฺเฑติ. เตน สมฺมาทิฏฺิยา ปุริมสฺมึ นยทฺวเย ปิตตฺตา ตสฺส สเหตุกภาวทสฺสโน ตติยนโย อารทฺโธติ ทสฺเสติ. ตติยนเย สมฺมาทิฏฺิยา สเหตุกภาวทสฺสนํ อนิจฺฉนฺโต โจทโก ‘‘กถํ ทสฺสิโต’’ติ โจเทตฺวา ‘‘นนู’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. อิตโร ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุภาเวน วุตฺตานมฺปิ โลภาทีนํ อฺมฺํ สหเชกฏฺสมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนโต ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกสงฺคโห ¶ วิย มคฺคเหตุภาเวน วุตฺตายปิ สมฺมาทิฏฺิยา มคฺคเหตุกภาโวปิ ยุชฺชติ มคฺคเหตุสมฺปยุตฺตสงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนภาวโตติ ทสฺเสติ.
ตโต อฺสฺเสวาติ ตโต สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตเหตุโต อฺสฺส อโลภาโทสสฺเสว. อฺเนาติ ‘‘มคฺโค เหตู’’ติ อิโต อฺเน. อโลภาโทสานํเยว อธิปฺเปตตฺตา เตสํเยว อาเวณิเกน มคฺคเหตูติ อิมินา ปริยาเยน. สาธารเณน ปริยาเยนาติ ติณฺณมฺปิ เหตูนํ อธิปฺเปตตฺตา มคฺคามคฺคสภาวานํ สาธารเณน มคฺคเหตุมคฺคเหตูติ อิมินา ปริยาเยน. เตสนฺติ เหตูนํ. อฺเสนฺติ เหตุสมฺปยุตฺตานํ. อตฺถวิเสสวเสนาติ ‘‘มคฺคเหตุกา’’ติ ปาฬิยา อตฺถวิเสสวเสน. อโมเหน อโลภาโทสาโมเหหิ จ เสสธมฺมานํ สเหตุกภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตา ทุติยตติยนยา ‘‘สรูปโต เหตุเหตุมนฺตทสฺสน’’นฺติ วุตฺตา. ตถาอทสฺสนโตติ สรูเปน อทสฺสนโต. อตฺเถน…เป… คมนโตติ ‘‘มคฺคงฺคานิ เปตฺวา ตํสมฺปยุตฺโต’’ติ (ธ. ส. ๑๐๓๙) วจนโต มคฺคสภาวานํ ธมฺมานํ มคฺคปจฺจยตาสงฺขาโต สมฺปยุตฺตานํ เหตุภาโว สรูปโต ทสฺสิโต. มคฺคเหตุภูตาย ปน สมฺมาทิฏฺิยา สมฺปยุตฺตานํ เหตุเหตุภาโว อตฺถโต าปิโต โหตีติ อตฺโถ.
๑๐๔๐. อสภาวธมฺโม ครุกาตพฺโพ น โหตีติ ‘‘สภาวธมฺโม’’ติ วุตฺตํ. เตเนว ปฏฺานวณฺณนายํ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๓) ‘‘อารมฺมณาธิปติ ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปนิพฺพานวเสน ฉพฺพิโธ’’ติ วกฺขติ. มคฺคาทีนิ เปตฺวาติ มคฺคาทีนิ ¶ ปหาย. อฺเสนฺติ มคฺคาทิโต อฺเสํ. อธิ…เป… วสฺสาติ อารมฺมณาธิปติปจฺจยภาวสฺส. ปฺุตฺตรตฺตา กุสลานํ โลกุตฺตรกถาย จ ปฺาธุรตฺตา วีมํสาธิปติสฺส เสสาธิปตีนํ ปธานตา เวทิตพฺพา.
๑๐๔๑. ปเทสสตฺตวิสยตฺตา ปมวิกปฺปสฺส สกลสตฺตวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘กปฺปสหสฺสาติกฺกเมปิ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ลทฺโธกาสํ ยํ ภวิสฺสตีติ ลทฺโธกาสํ ยํ กมฺมํ ปาปุณิสฺสติ. กปฺปสหสฺสาติกฺกเม อวสฺสํ อุปฺปชฺชนวิปากตฺตา ตทปิ…เป… วุจฺจตีติ. อลทฺธตฺตลาภตาย อุปฺปาทาทิกฺขณํ ¶ อปฺปตฺตสฺส วิปากสฺส อนุปฺปนฺนภาโว นตฺถิภาโว ปากฏภาวาภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ นาม น โหตีติ อนุปฺปนฺโน นาม น โหตี’’ติ. ตตฺถาติ อรูปภวงฺเค.
อวิปกฺกวิปากํ กมฺมํ สหการีการณสมวายาลาเภน อกโตกาสํ วิปากาภิมุขภาวาภาวโต วิปกฺกวิปากกมฺมสริกฺขกนฺติ วุตฺตํ ‘‘อลทฺโธ…เป… เทยฺยา’’ติ. กิจฺจนิปฺผตฺติยา อสติ อุปฺปนฺนมฺปิ กมฺมํ อนุปฺปนฺนสมานนฺติ ‘‘โอกาโส น ภเวยฺยา’’ติ เอตสฺส สมตฺถตา น สิยาติ อตฺถมาห. เตน อปจยคามิกมฺมกิจฺจสฺส โอกาสาภาโว ทสฺสิโต. ปุพฺเพ นิรตฺถกตฺตา อุปฺปตฺติยา โอกาโส น ภเวยฺยาติ ปโยชนาภาวโต กมฺมุปฺปตฺติยา โอกาสาภาโว วุตฺโต. ‘‘วิปากโต อฺสฺส ปวตฺติโอกาโส น ภเวยฺยา’’ติ อิมินา อสมฺภวโตติ อยเมเตสํ วิเสโส. ธุววิปากสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน นิทสฺสนมตฺตภูเตนาติ อธิปฺปาโย. อริยมคฺคอานนฺตริยกมฺมานํ วิย มหคฺคตกมฺมานํ นิยตสภาวตาภาวา อฏฺสมาปตฺตีนํ ‘‘พลววิรเห’’ติอาทินา สวิเสสนธุววิปากตา วุตฺตา. เอตฺถ จ ‘‘ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานี’’ติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยาปิ ธุววิปากตฺตา. ยสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา โย วิปาโก นิโยคโต อุปฺปชฺชิสฺสติ, โส ตสฺส อนาคตกาเลปิ อุปฺปาทิโวหารํ ลภติ. โส จ อุปฺปาทิโวหาโร อายูหิตกมฺมวเสน วุจฺจมาโน ภาวินา อายูหิตภาเวน มคฺโค อนุปฺปนฺโนติ เอตฺถ วุตฺโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ อายูหิตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๐๕๐. อุปาทาเนหิ อาทินฺนาติ สมฺพนฺโธ. อฺเติ อุปาทานารมฺมเณหิ อฺเ อนุปาทานิยาติ อตฺโถ. อาทิเกน คหเณนาติ ‘‘อหํ ผลํ สจฺฉากาสิ’’นฺติ เอวํ ปจฺจเวกฺขณาณสงฺขาเตน คหเณน. อิทานิ อุเปตตฺถทีปกสฺส อุป-สทฺทสฺส วเสน อุปาทินฺน-สทฺทสฺส ¶ อตฺถํ วตฺตุํ ‘‘อุปาทินฺนสทฺเทน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิพฺพานสฺส อนชฺฌตฺตภาวโต ‘‘อมคฺคผลธมฺมาเยว วุตฺตา’’ติ อาห. อิตเรหีติ อชฺฌตฺตปทาทีหิ.
ติกนิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา
๑๐๖๒. เมตฺตาย ¶ อยนํ อุปคมนํ เมตฺตายนํ, ตฺจ อตฺตโน สนฺตาเน เมตฺตาย ลาโภ อุปฺปาทนํ สตฺตานํ อนุปคโม อตฺถโต มชฺชนเมวาติ ‘‘เมตฺตา, เมทน’’นฺติ วตฺวา ‘‘สิเนหน’’นฺติ อาห.
๑๐๖๕. ตสฺมึ ตสฺมึ วิสเย จิตฺตํ สํรฺชตีติ จิตฺตสฺส สํรฺชนํ. ตณฺหาวิจริตาทีติ อาทิ-สทฺเทน เอสนาทโย สงฺคหิตา. ตณฺหาย วิปุลตา วิสยวเสน ปวตฺติวเสน วา เวทิตพฺพา. อนิจฺจาทิสภาวสฺส รูปาทิกสฺส นิจฺจาทิโต คหณํ อภินิเวโส วิเสสโต ตณฺหาวเสน โหติ ตณฺหารหิตาย ทิฏฺิยา อภาวาติ อุปจารวเสน นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาวมาห ‘‘นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหตี’’ติ. ปากเฏน สทฺเทน ลพฺภมานตฺตา ยถารุตวิฺายมานตฺตา จ วิสตฺติกาสทฺทสฺส วิสตสภาโว ‘‘ปธาโน อตฺโถ’’ติ วุตฺโต. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส. เตน ตํ พาธยิสฺสามี’’ติอาทิวเสน (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓) มาเรน คหิตตาย.
๑๐๖๖. อนตฺถจรณาทิอนภิสนฺธานกตาย อฏฺานภูเตสุ จ วสฺสวาตาทิสงฺขาเรสุ อุปฺปนฺนโกโป วิย สตฺเตสุ อตฺถาจรณาทินา อาโรปนาธิปฺปาเยสุเยว ตทชฺฌาโรปนวเสน ปวตฺโต ยทิปิ อนายตนุปฺปตฺติยา อฏฺานาฆาโตเยว โหติ, สตฺตวิสยตฺตา ปน สติ จิตฺตสฺส เอกนฺตพฺยาปตฺติยํ กมฺมปถเภโท โหติเยวาติ สกฺกา วิฺาตุํ, อฏฺานุปฺปตฺติยํ ปนสฺส น สิยา กมฺมปถเภโทติ อาห ‘‘สตฺเตสุ อุปฺปนฺโน อฏฺานโกโป กโรตี’’ติ. ปฏิฆาทิปทานํ ฆฏฺฏนาปุริมยามวิการุปฺปตฺติสมฺาทีสุปิ ¶ ทสฺสนโต ‘‘ปฏิวิโรธาทิปทานิ เตสํ วิเสสนตฺถานี’’ติ วุตฺตํ.
๑๐๙๑. ทฺเว ธมฺมา ตโย ธมฺมาติ สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน ปริจฺเฉทวโต พหุวจนสฺส ทสฺสนโต ‘‘อปริจฺเฉเทน พหุวจเนนา’’ติ วุตฺตํ. อุทฺเทโส กโตติ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. เตน พหุวจเนน อุทฺเทสกรณํ พหุวจเนน ปุจฺฉาย การณนฺติ ทีเปติ. อุทฺเทสานุวิธายินี หิ ปุจฺฉาติ. ตถา หิ สงฺขาปริจฺฉินฺเน อุทฺเทเส ‘‘กตเม วา ตโย’’ติ สงฺขาปริจฺฉินฺนาว ปุจฺฉา ¶ กรียตีติ. อุทฺเทเสน ธมฺมานํ อตฺถิตามตฺตวจนิจฺฉายํ สภาวภูมิการณผลาทิปริจฺเฉโท วิย สงฺขาปริจฺเฉโทปิ น กาตพฺโพติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนิทฺธาริตปริจฺเฉเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อปจฺจยา ธมฺมา’’ติ ปทโต ปน เหฏฺา อเนกเภทภินฺนา ธมฺมา อปริจฺเฉเทน พหุวจเนเนว อุทฺทิฏฺา, อุทฺธฺจ ตถา อุทฺทิสียนฺตีติ ตํ โสตปติตตาย เภทาภาเวปิ ปรมตฺถโต อปฺปจฺจยธมฺมสฺส อสงฺขตธมฺมสฺส จ โสปาทิเสสนิรุปาทิเสสราคกฺขยาทิอสงฺขตาทิวจนวจนียภาเวน อุปจริตเภเทคหิเต ปททฺวเยน อตฺถิ กาจิ เภทมตฺตาติ อปริจฺเฉเทน พหุวจเนน อุทฺเทโส กโตติ ยุตฺตํ สิยา. อุทฺเทสานุสารีนิ ปุจฺฉานิคมนานีติ ตานิปิ ตถา ปวตฺตานิ. นิทฺเทโส ปน ยถาธิปฺเปตสภาวาทิปริจฺเฉทวิภาวนวเสเนว กาตพฺโพติ อสงฺขตา ธาตุ อิจฺเจว กโต ปรมตฺถโต เภทาภาวทีปนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. กเถตุกามตาวเสน ปุจฺฉนฺโต ยสฺส กเถติ, เตน กาตพฺพปุจฺฉาย กรณโต ตคฺคตํ อชานนํ สํสยํ วา อนุวิธายเยว ปุจฺฉตีติ ‘‘สภาว…เป… อชานนฺตสฺส วเสน ปุจฺฉา กรียตี’’ติ วุตฺตํ. นิทฺเทสโต ปุพฺเพติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตํ ปุจฺฉานุสนฺธึเยว วิภาเวติ.
๑๑๐๑. ภินฺทิตฺวาติ วิภชิตฺวา. รูปาว…เป… วิฺเยฺยาติ กามาวจรกุสลมหากิริยวิฺาเณน มหคฺคตธมฺมานํ สมฺมสนวเสน ยถาโยคํ มหคฺคตปฺปมาณธมฺมานํ ปจฺจเวกฺขณาทิวเสน รูปราคารูปราคสมฺปยุตฺเตน อกุสลมโนวิฺาเณน มหคฺคตธมฺมานํ อภินิเวสนอสฺสาทนวเสน ตํตํปฺตฺติยฺจ ตํตํโวหารวเสน ปวตฺเตน อาวชฺชเนน จ ยถาวุตฺตวิฺาณานํ ปุเรจาริเกน กามาวจรธมฺมา น วิฺเยฺยา. อิตเรนาติ ปริตฺตารมฺมเณน. กามาวจรานเมว อารมฺมณานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. รูปารมฺมณาทีหิ วิฺาเณหิ ตตฺถ รูปารมฺมเณน วิฺาเณนปิ สทฺทาทีนํ อวิฺเยฺยตา รูปสฺส จ วิฺเยฺยตา. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา ทฏฺพฺพา. จกฺขุทฺวาริเกน สทฺทาทีนํ อวิฺเยฺยตา รูปสฺส วิฺเยฺยตาติอาทินา ทฺวารเภทวเสน ¶ โยเชตพฺพํ. อิตรนฺติ อิฏฺมชฺฌตฺตํ อนิฏฺมนิฏฺมชฺฌตฺตฺจ. รูปาวจราทโย กามาวจรวิปากาทีหีติ รูปาวจรารูปาวจรโลกุตฺตรปฺตฺติโย กามาวจรวิปาเกหิ โลกุตฺตรา กามาวจรโต าณวิปฺปยุตฺตกุสลกิริเยหิ อกุสเลหิ จ อวิฺเยฺยาติ โยเชตพฺพํ. นิพฺพานสฺส อวิชานนสภาโว เอว อตฺตสมฺภโว.
๑๑๐๒. รูปารูปาวจรกมฺมูปปตฺติภเว ¶ ทิฏฺิรหิโต โลโภ ภวาสโวติ ยถาวุตฺตวิสโย ทิฏฺิสหิโต สพฺพกามาวจรธมฺมวิสโย จ โลโภ กามาสโว ภวิตุํ ยุตฺโตติ วุตฺตํ ‘‘ภวาสวํ…เป… สิยา’’ติ. กามาสวภวาสววินิมุตฺตสฺส หิ โลภสฺส อภาวํ สยเมว วกฺขตีติ. ปาฬิยนฺติ อฏฺกถากณฺฑปาฬิยํ. ตตฺถ ยถา ‘‘กามาสโว อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ภวาสโว อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ อวตฺวา ‘‘จตูสุทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ธ. ส. ๑๔๖๕) วุตฺตตฺตา ‘‘ภวาสโว…เป… ยุตฺเตสุ เอว อุปฺปชฺชตี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺโตติ สาวธารณํ วุตฺตํ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ภวาสโว จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อวิชฺชาสเวน สทฺธึ เอกธาว เอกโต อุปฺปชฺชตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๗๓). โสปิ ราโคติ สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค. กามภวปตฺถนา วิย กามาสโวติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. สสฺสตทิฏฺิสหคตราคกามภวปตฺถนานมฺปิ หิ ภวาสโวติ วตฺตพฺพปริยาโย อตฺถีติ ‘‘สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภวราควเสน ปตฺถนา ภวาสโว นามา’’ติ วุตฺตํ, น เตสํ อิธ อธิปฺเปตภวาสวภาวทสฺสนตฺถนฺติ อฏฺกถายํ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ‘‘รูปารูปสงฺขาเต กมฺมโต จ อุปปตฺติโต จ ทุวิเธปิ ภเว อาสโว ภวาสโว’’ติ วุตฺตนฺติ. ตตฺถ กามภวปตฺถนาย ตาว กามาสวภาโว โหตุ, รูปารูปภเวสุ สสฺสตาภินิเวสสหคตราคสฺส กถนฺติ? โสปิ ยถาวุตฺตวิสเย กามนวเสน ปวตฺติโต กามาสโวเยว นาม. สพฺเพปิ หิ เตภูมกา ธมฺมา กมนียฏฺเน กามาติ. น เจตฺถ อนิฏฺปฺปสงฺโค ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภสฺส ภวาสวภาเวน วิสุํ อุทฺธฏตฺตา. อวสฺสฺเจตเมวํ วิฺาตพฺพํ, อิตรถา รูปารูปภเวสุ อุจฺเฉททิฏฺิสหคตสฺสปิ โลภสฺส ภวาสวภาโว อาปชฺเชยฺยาติ. กามาสวาทโย เอว ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาสวภาเวน ทฺวิธา วุตฺตา.
๑๑๐๓. อิธ ปาฬิยาปิ ภวาสววินิมุตฺตโลภสฺส กามาสวภาโว น น สกฺกา โยเชตุนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กามาสวนิทฺเทเส จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ธมฺมจฺฉนฺโท สทฺธา’’ติ เกจิ.
๑๑๐๕. อุปาทานกฺขนฺเธสฺเวว ¶ ¶ ปวตฺตติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส ธมฺมสฺส ชีวคฺคหณวิสยสฺส ปรมตฺถโต อภาวา. รูเป…เป… วิฺาเณ วา ปน น ปติฏฺาติ รูปาทีนํ อวิปรีตสภาวมตฺเต อฏฺตฺวา สยํ สมาโรปิตสฺส เตสุ ปริกปฺปนามตฺตสิทฺธสฺส กสฺสจิ อาการสฺส อภินิเวสนโต. เตเนวาห ‘‘ตโต อฺํ กตฺวา’’ติ. ตโต อุปาทานกฺขนฺธโต. เวทนาทโยปิ หิ เกจิ ทิฏฺิคติกา อนิจฺจาติ ปสฺสนฺตีติ. ตโตติ วา สรีรสงฺขาตรูปกฺขนฺธโต. ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ หิ วุตฺตํ. โหตีติ ภวติ สสฺสตํ อตฺตาติ อตฺโถ. อฺนฺติ พฺรหฺมอิสฺสราทิโต อฺํ.
อรูปภโว วิย รูปราคปฺปหาเนน รูปภโว กามราคปฺปหาเนน ปตฺตพฺโพ. รูปีพฺรหฺมานฺจ ปฺจกามคุณิโก ราโค ปหียติ, น วิมานาทีสุ ราโคติ โส อกามราโคติ กตฺวา กามาสโว น โหตีติ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ฏีกากาเรหิ ปน กามาสวภวาสววินิมุตฺตโลภาภาวทสฺสเนน รูปีพฺรหฺมานํ วิมานาทิราคสฺสปิ กามจฺฉนฺทาทิภาวโต ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตรูปารูปภวราควินิมุตฺโต สพฺโพ โลโภ กามาสโวติ ทสฺสิโต. ตตฺถ ยุตฺตํ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. สิยา อาสวสมฺปยุตฺโต กามราเคน ภวราเคน วา สหุปฺปตฺติยํ, สิยา อาสววิปฺปยุตฺโต ตทฺราเคน สหุปฺปตฺติยํ, ‘‘จตูสุ ทิฏฺิคตา’’ติอาทิปาฬิยา อภาวทสฺสเนน กามาสวภวาสววินิมุตฺตโลภาภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กามาสโว’’ติอาทิปาฬิทสฺสเนน ทิฏฺิราคสฺส กามาสวภาวํ สาเธติ. ปหาตพฺพทสฺสนตฺถนฺติ ปหาตพฺพตาทสฺสนตฺถํ. ปหาเนติ ปหานนิมิตฺตํ.
๑๑๒๑. ชาติยาติ ขตฺติยสภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา. โคตฺเตนาติ โคตมโคตฺตาทิอุกฺกฏฺโคตฺเตน. โกลปุตฺติเยนาติ มหากุลภาเวน. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย. ‘‘โปกฺขร’’นฺติ หิ สรีรํ วุจฺจตีติ. มานํ ชปฺเปตีติ มานํ ปวตฺเตติ กโรติ. ปวตฺโต มาโน ปวตฺตมาโน. ปุคฺคลวิเสสนฺติ เสยฺยสฺส เสยฺโยติอาทิเภทํ ปุคฺคลวิเสสํ. เสยฺยํ ภินฺทิตฺวา ปวตฺตมาโน เสยฺยมาโน. ติณฺณนฺติ เสยฺยสฺส เสยฺยาทีนํ ติณฺณํ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา อฺํ ปุคฺคลํ อนิสฺสาย วุตฺตานํ. เสยฺยาทิวเสน อตฺตโน มนนํ ปคฺคโห มาโน, ตสฺส กรณํ เสยฺโยหมสฺมีติอาทิปวตฺติเยวาติ วุตฺตํ ‘‘เสยฺโยติ อาทิกิจฺจกรณ’’นฺติ.
๑๑๔๐. สพฺโพปิ ¶ โลโภ อภิชฺฌาสภาโวติ อภิชฺฌา อาสวทฺวยสภาวา, กามราโค กามาสวสภาโว เอวาติ อาสวทฺวยเอกาสวภาโว อภิชฺฌากามราคานํ วิเสโส วุตฺโต. น อภิชฺฌา ¶ จ ธมฺมา เปตฺวา ทิฏฺึ อวิชฺชฺจ โนอาสวสภาวา. อภิชฺฌา จ อาสวทฺวยสภาวา เอว, นอภิชฺฌาสภาโว จ โลโภ นตฺถีติ อธิปฺปาเยน ‘‘โนอาสวโลภสฺส สพฺภาโว วิจาเรตพฺโพ’’ติ อาห. คณนาย เหตุยา สตฺตาติ วุตฺตนฺติ ปฺหาวารปาํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘อาสโว ธมฺโม อาสวสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย. อาสโว ธมฺโม โนอาสวสฺส ธมฺมสฺส. อาสโว ธมฺโม อาสวสฺส จ โนอาสวสฺส จ. โนอาสโว ธมฺโม โนอาสวสฺส. โนอาสโว ธมฺโม อาสวสฺส. โนอาสโว ธมฺโม อาสวสฺส จ โนอาสวสฺส จ. อาสโว จ โนอาสโว จ ธมฺมา โนอาสวสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๓.๑๖) อิเมสํ วารานํ วเสน ‘‘คณนาย สตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิ โนอาสวสภาโวปิ โลโภ สิยา, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส วเสน ‘‘อาสโว จ โนอาสโว จ ธมฺมา โมหยถาวุตฺตโลภา อาสวสฺส ธมฺมสฺส ทิฏฺิยา เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ สตฺตโม, ปาฬิยํ อาคตํ สตฺตมํ อฏฺมํ กตฺวา ‘‘อาสโว จ โนอาสโว จ ธมฺมา อาสวสฺส จ โนอาสวสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ นวโม ปฺโห วุจฺเจยฺย, น ปน วุตฺโตติ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตโลภสฺส โนอาสวภาวาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิตรสฺสปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๑๖๒. ยถารูเป รูปปฺปพนฺเธ วตฺตมาเน ปุคฺคโล คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทตีติ วุจฺจติ, ตถา วิสทรูปสฺส อุปฺปาทกํ จิตฺตํ อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ. ตํ ปน กุสลโต กิริยโต จ ปฺจมชฺฌานจิตฺตํ อภิฺาปฺปตฺตํ อปฺปตฺตฺจ ภินฺทิตฺวา สตฺตปฺาส ชวนานิ โวฏฺพฺพนฺจาติ อฏฺปฺาสวิธํ. สหชาตธมฺมานํ อกมฺมฺภาวกรตฺตา ถินมิทฺธสหคตจิตฺตํ วิสทานิ รูปานิ น สมุฏฺเปติ น อุปตฺถมฺเภติ จาติ วุตฺตํ ‘‘อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺต’’นฺติ.
๑๑๖๓. วิปกฺเขปิ ภาวโต อเนกนฺติกตฺตา รูปตฺตาสาธกตฺตํ. ครุภาวปฺปตฺติ ลหุตาวิรโห ทฏฺพฺโพ. สติปิ อฺเสมฺปิ อกุสลาทีนํ ลหุตาวิรเห ¶ ถินมิทฺธานํ เอกนฺตโต ลหุตาปฏิปกฺขตฺตา การณานุรูปตฺตา จ ผลสฺส ‘‘ถินมิทฺธสมุฏฺิตรูเปหี’’ติ วุตฺตํ. น ชาคร…เป… สนฺตตินฺติ เอเตน นามกาเย สุปนสฺส อสิทฺธตํ ทสฺเสติ. มิทฺธสฺส ผลตฺตาติ เอตฺถ มิทฺธํเยว นิทฺทาการณนฺติ นายํ นิยโม อิจฺฉิโต, นิทฺทาการณเมว ปน มิทฺธนฺติ นิยโม อิจฺฉิโตติ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ขีณาสวานํ นิทฺทาย มิทฺธโต อฺํ การณํ กรชกายสฺส ทุพฺพลภาโว อฏฺกถายํ ทสฺสิโตติ.
ฉาทนํ ¶ , อวตฺถรณํ วา โอนาโห, โส รูปสฺเสว สภาโวติ ปรสฺส อาสงฺกํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘เตน สห วุตฺตา โอนาหปริโยนาหา จา’’ติ. อสงฺโกจวเสน วิสทา ปวตฺติ วิปฺผาริกภาโว. อาวรณภาโว วิยาติ เอเตน อาวรณสภาวตฺเตปิ มิทฺธสฺส ตพฺพิธุโร อนฺสาธารณตฺตา โอนหนาทิภาโวติ ทสฺเสติ. สามฺฺหิ ปฺจนฺนมฺปิ กามจฺฉนฺทาทีนํ อาวรณสภาโวติ อาวรณภาวสทิสสฺส โอนหนาทิภาวสฺส นามกาเย ลพฺภมานสฺส คหิตตาติ เอตฺถาธิปฺปาโย.
ปานนฺติ อนุโยโคติ จ ตํกิริยาสาธิกา เจตนา อธิปฺเปตาติ สุราปานสฺส สุรา…เป… โยคสฺส จ อกุสลภาเวน อุปกฺกิเลสทุพฺพลีกรณภาโว ยุตฺโตติ วุตฺโต. ‘‘สุราเมรยสฺส อชฺโฌหรณํ ปานํ ปมาทฏฺานานุโยโค จา’’ติ ปรสฺส อธิปฺปาโย. นีวรณํ หุตฺวา วาติอาทินา อิทํ ทสฺเสติ ‘‘นีวรณสภาวานํ นีวรณสมฺปยุตฺตภาวทสฺสนปราย โจทนาย นีวรณนฺติ กตฺถจิ อทิฏฺปโยคสฺส อสมฺปยุตฺตสฺส รูปสฺส ยถาลาภโต คหณํ าโยเยว น โหติ, สิทฺธนีวรณภาวสมฺปยุตฺตสภาวานํเยว ปน คหณนฺติ ตํสภาวา อรูปธมฺมาเยว ทสฺสิตา, น รูปนฺติ ถินํ วิย มิทฺธมฺปิ อรูปเมวาติ วิฺายตี’’ติ. ยนฺติ เยน วจเนน. อสมฺภววจนโตติ อสมฺภววจนภาวโต.
เตนาติ เตน รูปารมฺมณสฺส ฉนฺทราคสฺส ปหานวจเนน. รูปปฺปหานโต อฺโติ กตฺวา รูเป ฉนฺทราคปฺปหานํ ‘‘อฺโ กาโร’’ติ วุตฺตํ. ยํ อฏฺกถายํ ‘‘อฺถา’’ติ วุตฺตํ. อิทนฺติอาทินา ‘‘ตํ ปชหถา’’ติ ปาฬิยา น นิปฺปริยายปฺปหานํ อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสติ. อรูปสฺเสว ยุชฺชตีติ ¶ สุทุทฺทสํ ทูรงฺคมาทิปฺปวตฺตกํ จิตฺตํ ตํสมฺปยุตฺโต อรูปธมฺโมเยว วิพนฺธิตุํ สมตฺโถติ ทสฺเสติ. เจตโส ปริยุฏฺานนฺติ กุสลจิตฺตสฺส คหณํ. นีวรณานิ หิ อุปฺปชฺชมานานิ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน กุสลวารํ คณฺหนฺตีติ วุจฺจนฺติ. คหณฺเจตฺถ ปริยุฏฺานํ ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ วิย.
๑๑๗๖. อุทฺธจฺจํ กุกฺกุจฺจฺจ สห วุตฺตนฺติ อุทฺเทสปุจฺฉานิคมเน สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน อฏฺกถายํ อุทฺธจฺจสฺส กุกฺกุจฺเจน วินาภาวการณํ วตฺวา ‘‘ภินฺทิตฺวา วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘นีวรณา เจว นีวรณสมฺปยุตฺตา จา’’ติ ปทสฺส นิทฺเทเส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานํ วิสุํ นิทฺทิฏฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กามจฺฉนฺทสฺส อุกฺกฏฺนีวรณตา โอรมฺภาคิยภาโว. โส หิ รูปราคารูปราคปฺปการกามจฺฉนฺทํ ¶ อุปาทาย ตโต ติพฺพกิจฺจตาย ‘‘อุกฺกฏฺนีวรณ’’นฺติ วุจฺจติ. กามจฺฉนฺทนีวรณนฺตฺเวว โลโภ วุตฺโต, น ภินฺทิตฺวา. กามจฺฉนฺทนีวรณสฺส จ อนวเสสโต อนาคามิมคฺเคน ปหาเน วุจฺจมาเน จตุตฺถมคฺควชฺโฌ โลโภ อนีวรณสภาโว อาปชฺชตีติ อาห ‘‘ยทิ…เป… สิยา’’ติ. โนนีวรโณ รูปราคารูปราคปฺปกาโร โลภธมฺโม นีวรณสฺส อวิชฺชาทิกสฺส. อาทิ-สทฺเทน ‘‘โนนีวรโณ ธมฺโม นีวรณสฺส จ โนนีวรณสฺส จ ธมฺมสฺส. นีวรโณ จ โนนีวรโณ จ ธมฺมา นีวรณสฺส ธมฺมสฺส. นีวรโณ จ โนนีวรโณ จ ธมฺมา โนนีวรณสฺส ธมฺมสฺส. นีวรโณ จ โนนีวรโณ จ ธมฺมา นีวรณสฺส จ โนนีวรณสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๘.๒๕) อิเม ปฺเห สงฺคณฺหาติ. จตฺตารีติ วุตฺตํ นีวรณปทมูลกานํ ติณฺณํ โนนีวรณมูลกสฺส เอกสฺส วเสน. นีวรณโนนีวรณตทุภยมูลกานํ ปน ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน นวาติ วุตฺตํ. ตสฺมาติ ยถาทสฺสิตนยาย ปาฬิยา อภาวา โนนีวรณโลภาภาวา.
๑๒๑๙. เตเนวาติ ปุริมทิฏฺิอากาเรเนว อุปฺปชฺชมาเนน. ทิฏฺิคติเกหิ วุจฺจมานานํ ‘‘นิจฺจํ สุภ’’นฺติ เอวมาทิวจนานํ, ทิฏฺิรหิเตหิ วุจฺจมานานํ คคนกุสุมาทิโลกโวหารวจนานฺจ วตฺถูนิ วาจาวตฺถุมตฺตานีติ อาห ‘‘วาจา…เป… วา’’ติ.
๑๒๒๑. จิตฺเตน ¶ ปรโลเก ิโตติ ยสฺมึ โลเก นิพฺพตฺติวเสน สยํ ิโต, ตโต อฺํ โลกํ ปรโลโกติ จิตฺเตน คเหตฺวา ิโต.
๑๒๓๖. น หิ ปุริเมหีติอาทินา ปมมคฺคาทีหิ สมุคฺฆาฏิตอปายคมนียภาวาทิกา เอว ราคาทโย ทุติยมคฺคาทีหิ ปหียนฺตีติ ทสฺเสติ.
๑๒๘๗. อุปฏฺิเตปิ ทุคฺคตินิมิตฺตาทิเก น ตถา ติพฺโพ โลโภ อุปฺปชฺชติ, ยถา สุคตินิมิตฺตาทิเกติ อาห ‘‘พลวนิกนฺติวิรเหนา’’ติ.
๑๓๐๑. เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปนฺนานํ วิย เอกสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปนฺนานมฺปิ สหปวตฺติปริยาโย อตฺถีติ ปหาเนกฏฺเน ราครเณน วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตโมหสฺส สรณตา วุตฺตา. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาหิ โย โมโห สหชาโต ภเว, โสปิ ราเคน สรโณ ปหาเนกฏฺภาวโตติ ¶ . โลภโทสโมหตเทกฏฺกิเลสตํสมฺปยุตฺตกฺขนฺธตํสมุฏฺานกมฺมเภทโต สพฺพสฺสปิ อกุสลสฺส สงฺคหณวเสน ปวตฺโต สรณปทนิทฺเทโส อรณวิภงฺคสุตฺเตนปิ อฺทตฺถุ สํสนฺทตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อรณวิภงฺคสุตฺเต’’ติอาทิมาห. ยํ ปน อฏฺกถายํ สมฺปโยคปฺปหาเนกฏฺภาวทีปเนน ราคาทีนํ สพฺเพสํ วา อกุสลธมฺมานํ สรณภาวทสฺสนํ, ตํ ปาฬิยา ยถาทสฺสิตธมฺมานํ อฺมฺสรณภาวทสฺสนปรํ, ตทฺธมฺมานํ สรณภาวปฏิเสธนปรนฺติ อรณวิภงฺคสุตฺตวิโรโธติ ทฏฺพฺพํ. สุตฺตนฺตเทสนาย วา ปริยายกถาภาวโต นิปฺปริยายโต สรณภาโว วิย อรณภาโวปิ อกุสลธมฺมานํเยวาติ ตถาปวตฺตาย อฏฺกถาย น โกจิ สุตฺตวิโรโธติ ทฏฺพฺพํ.
สุตฺตนฺติกทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา
๑๓๑๓. อหํ-สทฺเทน เหตุภูเตน โย อตฺโถติ เอตฺถ อหํ-สทฺโท อตฺโถติ อธิปฺเปโต. อตฺถาวโพธนตฺโถ หิ สทฺทปฺปโยโค. อตฺถปราธีโน เกวโล อตฺถปทตฺถโก, โส ปทตฺถวิปริเยสการินา ปน อิติ-สทฺเทน ปรโต ปยุตฺเตน สทฺทปทตฺถโก ชายติ ยถา คาวีติ อยมาหาติ โค-สทฺทํ อาหาติ วิฺายติ. เตน วิฺตฺติวิการสหิโต สทฺโท ปฺตฺตีติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต ¶ โวหาโร โลกิยโสเต ปฏิหฺตี’’ติอาทินา (กถา. ๓๔๗) ปฺตฺติยา วจนภาวํ สาธยติ. อฺถาติอาทินา ปฺตฺติยา อสทฺทสภาวตฺเต โทสมาห. อธิวจนาทิตา สิยา, ตถา จ อธิวจนาทีนํ อธิวจนปถาทิโต วิเสโส น สิยาติ ทุโกเยว น สมฺภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. อฏฺกถายํ ปน สกสนฺตติปริยาปนฺเน รูปาทโย ธมฺเม สมูหโต สนฺตานโต จ เอกตฺตวเสน คเหตฺวา อหนฺติ โวหริยมานา อุปาทาปฺตฺติ สงฺขายติ โวหรียตีติ สงฺขาติ อธิปฺเปตา. ตถา เสเสสุ ยถาสมฺภวํ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘ทตฺโตติ เอตฺตาวตา สตฺตปฺตฺตึ ทสฺเสตฺวา อฺมฺปิ อุปาทาปฺตฺตึ ทสฺเสตุ’’นฺติอาทิ. ปทตฺถสฺสาติ อหํ-สทฺทาทิปทาภิเธยฺยสฺส, ปรมตฺถสฺส วา. อธิวจนํ สทฺโทติ อธิปฺปาเยน ‘‘วทนฺเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส หิ อตฺตนา าเปตพฺพมตฺถํ สยํ าโต เอว าเปตีติ อคฺคหิตสมฺพนฺธสฺส น สทฺโท อตฺถปฺปกาสนสมตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ คหิตสฺเนา’’ติ. วิเสเสน ายตีติ สมฺาติ สํ-สทฺทสฺส วิเสสตฺถตํ อาห.
กรียตีติ อิทํ อิมสฺสตฺถสฺส อธิวจนนฺติ เอวํ นิกฺขิปียติ. นามภูตํ วจนเมว ตํ ตํ ¶ อตฺถํ นิทฺธาเรตฺวา สเหตุกํ กตฺวา วทติ พฺยฺชยติ จาติ อาห ‘‘นามมิจฺเจว วุตฺตํ โหตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘น หิ ปถวี’’ติอาทิ. ปถวีสงฺขาตนฺติ ปถวี-สทฺทาภิเธยฺยํ.
อาจริยาติ อฏฺกถาย สํวณฺณนกา อาจริยา, น อฏฺกถาจริยาติ อธิปฺปาเยน วทติ. มาติกายนฺติ มาติกาวณฺณนายํ. เตนาติ มาติกาวณฺณนาวจเนน. อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อตฺถทสฺสนสฺส เอตสฺส ยถาวุตฺตสฺส อาจริยวาทสฺส วิโรโธ สิยา, ตเมว วิโรธํ ‘‘น หี’’ติอาทินา วิวรติ. ตตฺถ อธิวจนปถาทิภาเวน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ปกาสกสฺส สภาวสฺส วิฺตฺติวิการสหิตสทฺทสฺเสว วจนมตฺตํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺติอาทิ ยุชฺชติ, น อสภาวสฺสาติ อธิปฺปาเยน ‘‘อุปฺปาทวยกิจฺจรหิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนิทฺธาริตสภาวสฺสาติ ปรมตฺถโต อนุปลทฺธสภาวสฺส.
ทุวิธาติ ปฺาปนปฺาปิตพฺพเภทโต ทุวิธา. ยถาวุตฺตปฺปการาติ อุปฺปาทวยกิจฺจรหิตาติอาทิปฺปการา. อฏฺกถายํ ปุคฺคลปฺตฺติวณฺณนายํ. นนุ ¶ จ ตตฺถ อุปนิธาปฺตฺติอาทโย อปราปิ ปฺตฺติโย วุตฺตา, อถ กสฺมา ‘‘ฉ ปฺตฺติโยว วุตฺตา’’ติ วุตฺตํ? สจฺจํ วุตฺตา, ตา ปน วิชฺชมานปฺตฺติอาทีสุ ฉสุ เอว อนฺโตคธาติ ‘‘อฏฺกถายํ วิชฺชมานปฺตฺติอาทโย ฉ ปฺตฺติโยว วุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ รูปาทิ วิย อวิชฺชมานตฺตา ปฺาปิตพฺพตฺตา จ อวิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมานสฺส จ สตฺตรถาทิอตฺถสฺส ปฺาปนโต อวิชฺชมานปฺตฺตีติ เอวํ อวิชฺชมานปฺตฺติวจเนน ยถาวุตฺตา ทุวิธาปิ ปฺตฺติ สงฺคหิตาติ อาห ‘‘อวิชฺชมาน…เป… วุตฺตา’’ติ. อิตเรหีติ วิชฺชมานปฺตฺติอาทีหิ อวเสเสหิ ปฺจหิ, รูปเวทนาทีนํ สตฺตรถาทีนฺจ อตฺถานํ ปกาเรหิ าปนโต ตํตํวาจโก สทฺโทเยว วิสยเภทโต วิชฺชมานปฺตฺติอาทิเภทา ปฺตฺติ สงฺขาทีหิ ทสหิ ปเทหิ วุตฺตาติ อยํ ปุริโม อตฺโถ, โส จ ยถารุตวเสเนว ปาฬิยา วิฺายมานตฺตา ‘‘ปาฬิอนุคโต อุชุโก’’ติ จ วุตฺโต. ยทิ จาติอาทีสุ สตฺตาทิกา ยถาวุตฺตปฺปการา อุปาทาปฺตฺติ ยทิ อวิชฺชมานปฺตฺติ, สา อตฺถีติ น วตฺตพฺพา. อวิชฺชมานา จ สา ปฺาปิตพฺพโต ปฺตฺติ จาติ เตสํ อาจริยานํ ลทฺธีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตสฺสา ลทฺธิยา วเสน ปฺตฺติปถาติ วุตฺตธมฺมานมฺปิ วิชฺชมานปฺตฺติภาวาปตฺติโจทเนน ตตฺถ โทสํ ทสฺเสติ ‘‘ยถา จา’’ติอาทินา. ตโตติ ยสฺมา ¶ อวิชฺชมานตฺตา ปฺาปิตพฺพตฺตา จ สตฺตรถาทีนํ อวิชฺชมานปฺตฺติภาโว วิย วิชฺชมานตฺตา ปฺาปิตพฺพตฺตา จ สพฺเพสํ สภาวธมฺมานํ วิชฺชมานปฺตฺติภาโว อาปชฺชติ, ตสฺมาติ อตฺโถ.
‘‘อถา’’ติอาทินา ปฺตฺติปถนิทฺเทสโต วิสิฏฺสฺส ปฺตฺติธมฺมนิทฺเทสสฺส สยเมว การณมาสงฺกติ. ‘‘นาปี’’ติอาทินา ตสฺส การณสฺส อสิทฺธตํ ทสฺเสติ. ‘‘ปุริโสติ สงฺขา’’ติอาทีสุ สงฺขาทโยปิ นามาทีหิ อตฺถโต อวิสิฏฺา วุตฺตาติ อาห ‘‘สงฺขาทิสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา’’ติ. วจนคฺคหณํ วจนุจฺจารณํ. อฺสฺสาติ นามปฺตฺตึ สนฺธายาห. เตสนฺติ สงฺเกตคฺคหณวจนคฺคหณานํ. อสมตฺถตา น สมฺภวตีติ โยชนา. ตเมว อสมฺภวํ ‘‘ยทิ หี’’ติอาทินา วิวรติ. ปฺตฺติยาติ นามปฺตฺติยา. ปฺตฺติปฺาปเนติ ยาย นามปฺตฺติยา อุปาทายปฺตฺติ รูปาทโย จ ปฺาปียนฺติ, ยา จ โสตทฺวารวิฺาณสนฺตานานนฺตรมุปฺปนฺเนน คหิตปุพฺพสงฺเกเตน มโนทฺวารวิฺาณสนฺตาเนน คยฺหติ, สา อยํ นามาติ ตสฺสา ¶ ปฺาปเน อสงฺกรโต ปเน. อถ วา โสตทฺวารวิฺาณสนฺตานานนฺตรมุปฺปนฺเนน มโนทฺวารวิฺาณสนฺตาเนน ปฺตฺติยา คาหาปเน ปริจฺฉินฺทเน. ตสฺสา อฺา ปฺตฺติ วตฺตพฺพา สิยาติ ตสฺสา นามปฺตฺติยา าปเน สงฺเกตคฺคหณวจนคฺคหณานํ สหการีการณภูตา อฺา นามปฺตฺติ อตฺถีติ วตฺตพฺพา อนฺุาตพฺพา สิยา. ตโต อตฺถวิชานนเมว น สิยาติ เกวลานิ สงฺเกตคฺคหณวจนคฺคหณานิ อตฺถปฺาปเน วิย ปฺตฺติาปเนปิ อสมตฺถานิ, ปฺตฺติ จ าตาเยว เตสํ สหการีการณํ ตํชานนตฺถํ ปฺตฺติอนนฺตรปริกปฺปเน จ อนวตฺถานาปตฺตีติ อตฺถาธิคมสฺส สมฺภโว เอว น ภเวยฺย.
สงฺเกโต รูปาทีสุ น กิฺจิ โหติ, ภูตาทินิมิตฺตํ ภาวนาวิเสสฺจ อุปาทาย โวหริยมานา กสิณาทิปฺตฺติ วิย ตํ ตํ สงฺเกติตพฺพํ สงฺเกตกรณฺจ อุปาทาย โวหารมตฺโต, ตสฺส จ ปฺาปิกา นามปฺตฺตีติ ยถาวุตฺตโทสาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาปิ สงฺเกตคฺคหณ’’นฺติ อโวจ. นนุ จ อตฺถวิชานนาสมฺภวโจทเนเนว สงฺเกตคฺคหณาภโวปิ ทสฺสิโตติ? สจฺจเมตํ, สงฺเกเต ปน อาจริยานํ มติเภโท วิชฺชติ. ตตฺถ เอกปกฺขิโก อยํ โทโสติ ทสฺสนตฺถํ ตสฺส วิสุํ วจนํ วุจฺจมานา รูปาทโย ธมฺมาวจนตฺถา ปฺาปิตพฺพา จ, ตทภิธายโก สทฺโท ปฺตฺตีติ. เอตฺตาวตา สพฺพโวหาโร สิชฺฌตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘วจน…เป… ชนํ นตฺถี’’ติ อาห. ปฺตฺติยา วจนภาโว สิทฺโธ ปฏิหนนโสตพฺพตาทีปกตฺตา ¶ เตสํ ปาานนฺติ อธิปฺปาโย. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อตฺถิ เกจิ พุทฺธสฺส ภควโต โวหารํ สุณนฺติ, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา’’ติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ปฺตฺติธมฺมา’’ติ ปทสฺส ยถาวุตฺตปฺตฺติโย อตฺโถติ เอตสฺมึ ปกฺเข มาติกาวณฺณนาย วิโรโธ, อฏฺกถายํ อวุตฺตตา, อิมิสฺสา ปาฬิยา อนนุคโม, สพฺเพ ธมฺมา ปฺตฺตีติ นิทฺทิสิตพฺพตา, ปฺตฺติปถปทสฺส นวตฺตพฺพตา, อนวตฺถานาปตฺติโต อตฺถวิชานนาสมฺภโวติ อเนเก โทสา, วิฺตฺติวิการสหิตสฺส ปน สทฺทสฺส ปฺตฺติภาเว ยถาวุตฺตโทสาภาโว อเนเกสํ ปาปฺปเทสานฺจ อนุโลมนํ, ตสฺมา. ตตฺถ ยุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปาฬิ…เป… ตพฺโพ’’ติ.
ยทิ ¶ สตฺตาติอาทินา สทฺทสฺส ปฺตฺติภาเว อฏฺกถาย วิโรธมาห. เอวํ ปฺตฺติภาเว ยทิ สทฺทสฺส ปฺตฺติภาโว, ตสฺส ปรมตฺถโต วิชฺชมานตฺตา รูปาทิอตฺถสฺส จ ปฺาปนโต วิชฺชมานปฺตฺติภาโว เอว สิยา, น อวิชฺชมานปฺตฺติภาโว. น หิ เต สตฺตาทโย ปฺตฺตีติ. เอวฺจ อวิชฺชมานปฺตฺติยา อภาโว เอว สิยา. วุตฺตา จ อฏฺกถายํ (ป. ป. อฏฺ. ๑ มาติกาวณฺณนา) ‘‘อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. อิตโร วิสยสฺส อวิชฺชมานตฺตา ตสฺส อวิชฺชมานปฺตฺติภาโวติ ยถาวุตฺตวิโรธาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวิชฺชมานาน’’นฺติอาทิมาห. อิทานิ สตฺตาทิวิสยสฺส เกนจิปิ ปริยาเยน อตฺถิตาย อภาวทสฺสเนน ตพฺพิสยาย ปฺตฺติยา อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํเยว ววตฺถเปติ ‘‘อยฺจ วาโท’’ติ. วิชฺชมานา เอว สตฺตาทโย รูปาทิสภาวาภาววเสน ‘‘อวิชฺชมานา’’ติ วุจฺจนฺติ, น สพฺพถา อภาวโต. ตถา หิ ตถา ตถา ปฺาปิยมานภาเวน วิฺายนฺตีติ ยถาวุตฺตรูโป วาโท ‘‘รูปํ อตฺถีติ? เหวตฺถิ เหว นตฺถีติ. เสวตฺถิ เสว นตฺถีติ. น เหวํ วตฺตพฺเพ. เสวตฺถิ เสว นตฺถีติ. อามนฺตา. อตฺถฏฺโ นตฺถฏฺโ’’ติ (กถา. ๓๐๖) เอวํ ปวตฺตาย เหวตฺถิกถาย. ตตฺถ หิ รูปาทโย ธมฺมา รูปาทิสภาเวน อตฺถิ, เวทนาทิสภาเวน นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพเมวิทํ เอวํ อตฺถิ เอวํ นตฺถีติ เอวํลทฺธิเก สนฺธาย ‘‘รูปํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส. ‘‘เหวตฺถิ เหว นตฺถี’’ติ วิสฺสชฺชนํ ปรวาทิสฺส. อถ นํ สกวาที ยทิ รูปเมว เอวํ อตฺถิ เอวํ นตฺถีติ ลทฺธิ, เอวํ สนฺเต โส เอว อตฺถิ โส เอว นตฺถิ นามาติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เสวตฺถี’’ติ อาห. อิตโร เตเนว สภาเวน อตฺถิตํ, เตเนว นตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. ทุติยํ ปุฏฺโ สกภาเวน อตฺถิตํ, ปรภาเวน นตฺถิตํ สนฺธาย ปฏิชานาติ. ตโต สกวาที ‘‘อตฺถฏฺโ นตฺถฏฺโ’’ติอาทินา อตฺถิตา วา นตฺถิตา วา อฺมฺวิรุทฺธา เอกสฺมึ ธมฺเม วินา กาลเภเทน อสมฺภวตฺตาติ กึ เอกตฺตํ อาปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ¶ ปรวาทึ นิคฺคณฺหาตีติ. ปฏิสิทฺโธติ จ ‘‘รูปํ ‘รูป’นฺติ เหวตฺถิ, รูปํ ‘เวทนา’ติ เหว นตฺถี’’ติอาทินา (กถา. ๓๐๖) วุตฺตาย รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณานํ สกภาเวน อตฺถิตาย ปรภาเวน นตฺถิตาย จ ปฏิเสธเนน สตฺตาทีนมฺปิ ตถาภาโว ปฏิเสธิโต โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
รูปาทโย ¶ น โหนฺตีติ รูปาทิสภาวา น โหนฺติ. ตถา ตถาติ สมูหสนฺตานาทิวเสน. วิจิตฺตสฺา ปริกปฺปวเสน อุปฺปชฺชติ. ยทิ สตฺตรถาทิสฺาวลมฺพิโต วจนตฺโถ วิชฺชมาโน น โหติ, นนุ สตฺตรถาทิอภิลาปา อนริยโวหารา ชายนฺตีติ อาห ‘‘น จ เต อภิลาปา’’ติอาทิ. อตฺตโน วเสน กิฺจิ อโหนฺตํ ปฺาปกสฺส วจนสฺเสว วเสน ปฺาปิตพฺพตฺตา ปฺตฺติโวหารํ ลภติ. อิมินาว อธิปฺปาเยนาติอาทิ ‘‘สยํ อวิชฺชมาโน’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สนฺธายาห. ตนฺติ สตฺตาทิคฺคหณํ. ‘‘พฺรหฺมวิหารจตุกฺกํ สตฺตปฺตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา นวตฺตพฺพารมฺมณํ นาม โหตี’’ติอาทินา อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๒๑) ตตฺถ ตตฺถ น วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ยทิ ปริตฺตาทิภาเวน น วตฺตพฺพํ, กถํ อวิชฺชมานสฺส สตฺตาทิกสฺส ปจฺจยภาโวติ อาห ‘‘ขนฺธสมูหสนฺตาน’’นฺติอาทิ. ตนฺติ ขนฺธสมูหสนฺตานํ. ตทุปาทานภูตนฺติ ปุคฺคโลติ คหณปฺตฺตีนํ การณภูตํ. ยทิ ปุคฺคลสฺาย เสวมานสฺส กุสลาทิอุปฺปตฺติ โหติ, กถํ ปุคฺคลทสฺสนํ มิจฺฉาทสฺสนนฺติ ปฏิสิทฺธนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ปถวีธาตุ อุปลพฺภตีติ ปุคฺคลาภาเว วิปกฺขวเสน นิทสฺสนมาห. อิทฺเหตฺถ อนุมานํ. น รูปาทโย วิเวเจตฺวา ปุคฺคโล อุปลพฺภติ เตสํ อคฺคหเณ ตถารูปาย พุทฺธิยา อภาวโต เสวนาทโย วิยาติ. ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺฉิกฏฺปรมตฺเถน โย ฉวิฺาณวิฺเยฺโยติ สํสรติ มุจฺจติ จาติ เอวํ ทิฏฺิยา ปริกปฺปิตปุคฺคโลว ปฏิเสธิโต, น โวหารปุคฺคโลติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิเส…เป… ทิฏฺี’’ติ อาห.
คาถาย ปฺจสุ ขนฺเธสุ รูปํ เวทนา สฺา เจตนา วิฺาณนฺติ เอเตสุ กํ นาม ธมฺมํ สตฺโตติ ชานาสิ นุ, เอเตสุ เอกมฺปิ สตฺโตติ คณฺหิตุํ นารหตีติ ทสฺเสติ. อถ เอเตหิ อฺโ เอโก สตฺโต อตฺถีติ ปจฺเจสิ. เอวมฺปิ มาร ทิฏฺิคตํ นุ เต. นุ-สทฺโท ทิฏฺิคตเมเวติ อวธารณตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา สุทฺธสงฺขารปฺุโชยํ. ตเมวตฺถํ วิวรติ ‘‘นยิธ สตฺตูปลพฺภตี’’ติ. ยสฺมา ปจฺจกฺขโต วา อนุมานโต วา อนุปลทฺธิโต นตฺถิ เอตฺถ โกจิ สตฺโต นามาติ อธิปฺปาโย. ยทิ สตฺโต นตฺถิ, กถํ สตฺโต สํสารมาปาทีติอาทิ นียตีติ. กิเมตฺถ ¶ เนตพฺพํ, สตฺโตติ โวหารสตฺโต อธิปฺเปโต, ยสฺมา สตฺต-สทฺโท โวหาเร ¶ ปวตฺตตีติ. ทุติยคาถาย สมฺพนฺธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺโต ปนา’’ติอาทิมาห. องฺคสมฺภาราติ องฺคสมฺภารโต อกฺขจกฺกอีสาทิองฺคสมฺภารมุปาทายาติ อตฺโถ. สตฺโตติ โวหาโร.
อวิชฺชมานสฺสาติ อจฺจนฺตํ อวิชฺชมานสฺส สสวิสาณาทิกสฺส. ยทิ อจฺจนฺตํ อวิชฺชมานํ, กถํ ตํ คยฺหตีติ อาห ‘‘ปริกปฺปิต’’นฺติ. โลกสฺาตํ ฆฏาทิ. เอตฺถ ปน ยถา อตฺตานํ อารพฺภ อุปฺปชฺชมานกธมฺมานํ ตํสนฺตติปติตานฺจ กิเลสุปตาปาภาเวน อสฺสตฺถภาวปจฺจยตาย อุปฺปาทาทิรหิตมฺปิ นิพฺพานํ ‘‘อสฺสาสนกรส’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตนกธมฺมวเสน อุปฺปาทาทิรหิตาปิ ปฺตฺติ ปวตฺตาติ วุตฺตา. เหตุอตฺโถ วา อนฺโตนีโตติ ปวตฺติตา โวหาริตาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา นามปฺตฺติ ปฺเปตพฺพมตฺถํ คหิตาเยว ปฺาเปติ, วิฺตฺติ วิย อธิปฺปายํ วิฺาเปตีติ สา คเหตพฺพาภาวโต วุจฺจมานตฺถทฺวาเรน วุจฺจมานาติ วุตฺตา. ปฺาปิตพฺพปฺตฺติยา ปน วุจฺจมานภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตถา ปการโต าปนภาเวน าเปตพฺพาปนนฺติ กตฺวา คเหตพฺพตฺตาเยว จ ตสฺสา อนิทฺธาริตสภาวตา ปฏิกฺขิตฺตา ทฏฺพฺพา. น หิ สภาวธมฺมานํ กกฺขฬผุสนาทิ สรูปโต สทฺเทน วจนียภาวํ ภชติ, อปิจ โข เนสํ กาลเทสาทิเภทภินฺนานํ วินิวตฺตอฺชาติยโก สชาติยสาธารโณ ปุพฺพสงฺเกตานุรูปํ อชฺฌาโรปสิทฺโธ สามฺากาโร วจนีโย. ตตฺถาปิ น วินา เกนจิ ปวตฺตินิมิตฺเตน สทฺโท ปวตฺตตีติ ตสฺส ปวตฺตินิมิตฺตภูโต โลกสงฺเกตสิทฺโธ ตํตํวจนตฺถนิยโต สามฺาการวิเสโส นาม ปฺตฺตีติ ปุพฺพาจริยา. โส หิ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สทฺทํ นาเมติ, ตสฺส ตสฺส วา อตฺถสฺส นามสฺํ กโรตีติ นามํ, ปกาเรหิ าปนโต ปฺตฺติ จาติ.
กสฺส ปน โส อาการวิเสโสติ? ปฺาเปตพฺพตฺถสฺสาติ เวทิตพฺพํ. อเนกาการา หิ อตฺถาติ. เอวฺจ กตฺวา ตสฺสา ปฺตฺติยา คเหตพฺพตาวจนฺจ สมตฺถิตํ ภวติ, อวสฺสฺจ เอตเมวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา วจนวจนียเภทานํ สงฺกโร สิยา, สพฺโพปิ อตฺโถ สพฺพสฺส สทฺทสฺส วจนีโย, สพฺโพ จ สทฺโท สพฺพสฺส อตฺถสฺส วาจโกติ น เจตฺถ สงฺเกตคฺคหเณเนว เตสํ ปวตฺตาติ สกฺกา วตฺตุํ ววตฺถิเตสุ เอว เตสุ สงฺเกตคฺคหณสฺส ปวตฺติโต.
อปเร ¶ ปน ‘‘ยถา ธูมโต อคฺคิอนุมาเน น เกวเลน ธูเมเนว อคฺคิ วิฺายติ, ธูมสฺส ปน ¶ อคฺคินา อวินาภาวสงฺขาโต สมฺพนฺโธ วิฺายมาโน ธูเมน อคฺคิ วิฺายติ, เอวํ สทฺเทน อตฺถวิชานเน น เกวเลน สทฺเทน ตทตฺโถ วิฺายติ. ตํตํสทฺทสฺส ปน เตน เตน อตฺเถน อวินาภาวสงฺขาโต สมฺพนฺโธ วิฺายมาโน เตน เตน สทฺเทน อตฺถํ าเปตีติ เวทิตพฺพํ. อฺถา อคฺคหิตสมฺพนฺเธนปิ สทฺทสวนมตฺเตน ตทตฺโถ วิฺาเยยฺยาติ. โย ยเมตฺถ ยถาวุตฺตรูโป สมฺพนฺโธ, โส ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส สฺาปนภาเวน นามนฺติ ปรมตฺถโต อภาวา โลกสงฺเกตวเสน โลกสงฺเกโตติ วา สิทฺโธ าโตติ โลกสงฺเกตสิทฺโธติ, สทฺเทน ปกาสิยมานานํ อตฺถปฺปการานํ อธิคมเหตุตาย ปการโต าปนโต ปฺตฺตีติ จ วุตฺโต’’ติ วณฺณยนฺติ.
สงฺขตาสงฺขตวินิมุตฺตสฺสปิ เยฺยวิเสสสฺส อภาเว ฆฏาทิสทฺทาภิเธยฺยา วิย ปถวีผสฺสาทิสทฺทวจนีโยปิ น ลพฺภติเยวาติ สพฺพโวหารโลโป สิยา. ยสฺมา จ รูปารูปธมฺมา ปพนฺธสงฺขาตตํตํวิเสสาการวเสเนว ปวตฺตนฺติ, น เกวลา, ตสฺมา เตสํ เต สณฺานสมูหอวตฺถาวิเสสาการา ยทิปิ ปรมตฺถโต กิฺจิ น โหนฺติ, ปรมตฺถโต ปน วิชฺชมานานํ รูปาทีนํ อุปาทานานํ วเสน วิชฺชมานภาวํ ลภิตฺวา ตํตํคหณานุรูปํ ตํตํอภิลาปาธิกรณํ ภวติ. อุปาทายปฺตฺติ หิ อุปาทานโต ยถา อฺา อนฺาติ จ น วตฺตพฺพา, เอวํ สพฺพถา อตฺถิ นตฺถีติ จ น วตฺตพฺพา. ตโยปิ หิ เอเต สนฺตาเยวาติ เอวํ ตาว มาติกาวณฺณนาย น โกจิ วิโรโธ. สงฺขายติ สํกถียตีติ สงฺขาติ อยมตฺโถ กเถตพฺพภาเวน วจนตฺเถเยว นิรุฬฺโห, น วจนสฺมินฺติ วจนปกฺขสฺส อุชุกตา สมฺภวติ. วจนปกฺโขเยว ปาฬิอนุคโต, น ปรมฺปราคโต ยถาวุตฺโต อตฺโถติ กุโต ปเนตํ ลพฺภา. น หิ อนีโต อตฺโถ ปาฬิอนนุคโต, นาปิ สพฺพา ปาฬินีตตฺถา เอวาติ ยถาวุตฺตา ทุวิธา ปฺตฺติโย อฏฺกถายํ ฉหิ ปฺตฺตีหิ ยถาสมฺภวํ วุตฺตาเยวาติ สิทฺธเมตํ อตฺถีติ น วตฺตพฺพาติ.
ยทิ ปรมตฺถโต อตฺถิตาปฏิเสโธ, อิฏฺเมตํ. อถ โวหารโต, สตฺตรถฆฏาทีหิ สตฺตรถาทิวจนปฺปโยโคเยว น สมฺภเวยฺยาติ. น ¶ หิ วจนียรหิโต วจนปฺปโยโค อตฺถีติ. ปรมตฺถธมฺมานํ อสภาวธมฺมภูตาย ปฺตฺติยา วิภาคทสฺสนตฺถา อธิวจนาทิทุกตฺตยเทสนาติ น ปรมตฺถธมฺมานํ รูปาทีนํ ปฺตฺติภาวาปตฺตีติ. น จ ปฺตฺติปถปฺตฺติธมฺมนิทฺเทสานํ อวิเสสวจนํ ยุตฺตํ, สทฺทสฺเสว ปน ปฺตฺติภาเว สิยา กาจิ เตสํ วิเสสมตฺตา. ปฺาปิตพฺพสฺส อปรมตฺถสภาวสฺเสว ปฺตฺติภาโว อธิปฺเปโตติ น สพฺโพ ปฺตฺติปโถ ปฺตฺติสทฺเทน วุตฺโต, ปฺตฺติ จ ปฺาเปตพฺพภาเวน วุตฺตาติ ปฺตฺติปถปทํ วตฺตพฺพเมว. เอวฺเจตํ ¶ อิจฺฉิตพฺพํ. อิตรถา สทฺทสฺส จ ปฺาปิตพฺพตาย ปฺตฺติปถภาโวติ ปฺตฺติปทํ น วตฺตพฺพํ สิยาติ จ สกฺกา วตฺตุํ, นิกฺเขปกณฺเฑ วิภตฺตาเยว ปฺตฺติ ‘‘ปุริโส มาคณฺฑิโย’’ติ เอตฺถาปิ ทสฺสิตาติ น น สกฺกา วตฺตุํ. ตถาปิ หิ ยถาวุตฺตอุปาทายปฺตฺตินามปฺตฺตีนํ สภาวสมฺภวโตติ สงฺขาทิสทฺทานํ สมานตฺถตาปิ เตสํ มติมตฺตเมว, วิฺตฺติ วิย อธิปฺปายํ วิฺาเปนฺตา สยํ าตาเยว นามปฺตฺติ ปฺาเปตพฺพมตฺถํ ปฺาเปติ คหิตสรูปตาย ปทีโป วิย รูปคตวิธํสเนติ น ปฺตฺติอนฺตรปริกปฺปเนน ปโยชนํ อตฺถิ ปฺาเปตพฺพตฺถปฺาปเน, นามปฺตฺติปฺาปเน ปน อุปาทานเภทภินฺนา อุปาทายปฺตฺติ วิย ตํตํวจนวจนตฺถเภทภินฺนา นามปฺตฺตีติ อฺา ปฺตฺติ อิจฺฉิตา เอว. น จ อนวตฺถานโทโส ตํตํวจนสฺส ตทตฺถวิภาวเน สหการีการณภาเวน ปฏินิยตสรูปตฺตา. เอเตน สงฺเกตคฺคหณาภาโวปิ ปฏิสิทฺโธ ทฏฺพฺโพ, ตถา นามปฺตฺติยา ปโยชนาภาโว. ทสฺสิตปฺปโยชนา หิ สา ปุพฺเพติ.
‘‘โวหาโร โลกิยโสเต ปฏิหฺตี’’ติอาทีสุ โสตพฺพสฺส สทฺทสฺส วเสน ตพฺพิสยภูตา โวหาราทโย ปฏิหนนโสตพฺพตาปริยาเยน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. สทฺโทเยว วา ตตฺถ โวหาราทิสหจาริตาย ตถา วุตฺโต. น หิ สกฺกา สพฺพตฺถ เอกรสา เทสนา ปวตฺตีติ วตฺตุํ. ตถา หิ กตฺถจิ สุขา ทุกฺขา, สุขาปิ เวทนา ทุกฺขาติ วุจฺจนฺติ, ทุกฺขา สุขา, ทุกฺขาปิ สุขาติ, เอวํ ยถาวุตฺตา ทุวิธาปิ ปฺตฺติ อธิวจนาทิปาสฺส อตฺถภาเวน อฏฺกถายํ วุตฺตาเยวาติ. อยํ สงฺขตาสงฺขตวินิมุตฺตํ เยฺยวิเสสํ อิจฺฉนฺตานํ วเสน วินิจฺฉโย.
๑๓๑๖. สติปิ ปเรสํ สามฺาทินามการกานํ นามกรณภาเว ปรานเปกฺขตาย ตโต อติวิย ยุตฺโต อิธ นามกรณสภาโว อุกฺกํสปริจฺเฉเทน ¶ นามกรณตฺโถติ อธิปฺเปโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อฺํ อนเปกฺขิตฺวา’’ติอาทิมาห. นามกรณสภาวตา น โหติ อสภาวิกตาย กทาจิเทว ปวตฺติโต จาติ อธิปฺปาโย. สภาวสิทฺธตฺตาติ เวทนาทีนํ เวทนาทินามกรณธมฺมตํ อาห. ยทิ เวทนาทีนํ เกนจิ อกตํ สกนามํ อาทายเยว ปวตฺตนโต โอปปาติกนามานํ นามกรณฏฺเน นามภาโว, เอวํ สติ ปถวีอาทีนมฺปิ นามภาโว อาปชฺชติ, อฺถา ปถวีอาทินิทสฺสนเมว น สิยาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปถวีอาทินิทสฺสเนนา’’ติอาทิ. เอกเทสสามฺเน หิ ยถาธิปฺเปเตน อุปมา โหติ, น สพฺพสามฺเนาติ. เอวมฺปิ ยทิ สภาวสิทฺธนามตฺตา เวทนาทโย นามํ, ปถวีอาทีนมฺปิ อนิวตฺตนีโย ¶ นามภาโวติ อาห ‘‘นิรุฬฺหตฺตา’’ติอาทิ. เตน ยํนิมิตฺตํ เวทนาทีสุ นามสทฺทปฺปวตฺติ, สติปิ ตทฺเสํ ตํนิมิตฺตโยเค โค-สทฺโท วิย กุกฺกุฏาทิสตฺตปิณฺเฑ นิรุฬฺหโต เวทนาทีสุ นาม-สทฺโท ปวตฺโตติ ทสฺเสติ. ตถา หิ อเนเกสุ สุตฺตปเทเสสุ เตสํเยว นามโวหาโร ทิสฺสติ. นามตานาปตฺติ วุตฺตา เกสกุมฺภาทินามนฺตราปชฺชนโต. เอตเมวตฺถํ นิทสฺสนภาเวน ‘‘น หี’’ติอาทินา วิวรติ. ยทิปิ สมูหาทิฆนวินิพฺโภคาภาวโต เวทนาทิอรูปธมฺเมสุปิ ปิณฺฑากาเรน คหณํ ปวตฺตติ, ตํ ปน เยภุยฺเยน อตฺถาติปริกปฺปมุเขน เอกธมฺมวเสเนว, น สมูหวเสนาติ วุตฺตํ ‘‘อฺเน…เป… นตฺถี’’ติ.
ปกาสกปกาสิตพฺพภาโว วิสยิวิสยภาโว เอว. อธิวจนสมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส. โส นามมนฺตเรน คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ปากโฏติ นิทสฺสนภาเวน วุตฺโต. ‘‘อธิวจนสมฺผสฺโส วิยา’’ติ วจเนน มโนสมฺผสฺสตปฺปการานเมว นามภาโว สิยา, น ปฏิฆสมฺผสฺสตปฺปการานนฺติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปฏิฆสมฺผสฺโสปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจวิฺาณสหคโต ผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – วิสยีวิสยสงฺฆฏฺฏนสมุปฺปตฺติยา อฺผสฺสโต โอฬาริโกปิ ปฏิฆสมฺผสฺโส น รูปธมฺมา วิย วิภูตากาโร, ตโต นามายตฺตคหณิยภาโว นามสฺเสวาติ. อรูปตาย วาติอาทินา สามฺโต วิเสสโต จ ปฏิฆสมฺผสฺสสฺส อุปจารวเสน นามภาวมาห. ปจฺฉิมปุริมานนฺติ ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ อิมํ อนุปุพฺพึ สนฺธาย วุตฺตํ. สติปิ รูปสฺสาติอาทินา นามโวหารเหตุํ ¶ อนฺสาธารณํ นิพฺพานสฺส อธิปติปจฺจยภาวํ เอว วิภาเวติ, ยโต อริยานํ อฺวิสยวินิสฺสฏํ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน อสงฺขตธาตุยํ เอว จิตฺตํ ปวตฺตตีติ.
๑๓๑๘. วฏฺฏสฺมึ อาทีนวปฏิจฺฉาทนโต ตทสฺสาทนาภินนฺทนโต จ วฏฺฏสฺส มูลํ ปธานการณนฺติ วฏฺฏมูลํ.
๑๓๒๐. เอเกกสฺมึ รูปาทิเก ยถาภินิวิฏฺเ วตฺถุสฺมึ อหํมานาธารนิมิตฺตตํ กุสลากุสลตพฺพิปากโลกาธารตฺจ สมาโรเปตฺวา ปวตฺตคฺคหณวิเสโส. ยา กาจิ ทิฏฺิ นิวิสมานา ธมฺมสภาวํ อติจฺจปรามสนากาเรเนว นิวิสตีติ วุตฺตํ ‘‘ปรามสนฺตีติ อตฺโถ’’ติ.
๑๓๓๒. เจตนาปฺปธาโน สงฺขารกฺขนฺโธติ กตฺวา ‘‘ยาย เจตนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๓๓๓. ทุนฺนามํ ¶ คารยฺหนามํ. อนุปสงฺกมนฺตสฺสาติอาทินา เสวนภชนานํ วิเสสมาห.
๑๓๓๖. อาปตฺติอาปตฺติวุฏฺานปริจฺเฉทชานนูปายทสฺสนํ สห วตฺถุนา สห กมฺมวาจายาทิวจนนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺถุวีติกฺกมโต’’ติอาทิมาห. ‘‘อาปตฺติกุสลตา อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๑๙) หิ วุตฺตนฺติ. การณชานเนน ผลํ สุฏฺุ าตํ โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาปตฺติยา วา’’ติอาทิมาห.
๑๓๔๔. อนุปฺปชฺชมานาเนว อนุปฺปชฺชนฺตาเนว.
๑๓๔๘. อกรเณน อนาทรวเสนาติ อธิปฺปาโย.
๑๓๕๐. เผคฺคุรุกฺขสฺส สิคฺคุอาทิกสฺส.
๑๓๕๒. จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺสาติ จกฺขุนฺทฺริยาสํวรณสฺส. อสํวุตจกฺขุนฺทฺริยสฺเสว เหตูติ จกฺขุทฺวาริกสฺส อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนสฺส ตํทฺวาริกวิฺาณสฺส ¶ วิย จกฺขุนฺทฺริยํ ปธานการณํ. สติ หิ อสํวุตตฺเต จกฺขุนฺทฺริยสฺส เต เต อนฺวาสฺสวนฺตีติ อสํวริยมานจกฺขุนฺทฺริยเหตุโก โส อสํวโร ตถาวุตฺโตติ อฏฺกถาย อธิปฺปายํ ทสฺเสติ. อิทานิ ยถาวุตฺเต อธิปฺปาเย ตฺวา ‘‘ยตฺวาธิกรณนฺติ หี’’ติอาทินา ปาฬิยา โยชนํ ทสฺเสติ. กสฺส จาติ ปการํ ปุจฺฉติ, กถํวิธสฺส กถํสณฺิตสฺสาติ อตฺโถ. น หิ สรูเป วุตฺเต ปุน สรูปปุจฺฉาย ปโยชนํ อตฺถิ. อนฺวาสฺสวนฺติ อภิชฺฌาทโย. ตทุปลกฺขิตนฺติ อนฺวาสฺสวูปลกฺขิตํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตนฺติ โยชนา.
ยถาสมฺภวนฺติ ทุสฺสีลฺยาสํวโร มโนทฺวารวเสน, เสสาสํวโร ฉทฺวารวเสน โยเชตพฺโพ. มุฏฺสฺสจฺจาทีนํ สติปฏิปกฺขากุสลธมฺมาทิภาวโต สิยา ปฺจทฺวาเร อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว กายิกวาจสิกวีติกฺกมภูตสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส ตตฺถ อุปฺปตฺติ ปฺจทฺวาริกชวนานํ อวิฺตฺติชนกตฺตาติ ตเมว ยถาสมฺภวํ ‘‘น หิ ปฺจทฺวาเร’’ติอาทินา วิวรติ.
ยถา กินฺติ เยน ปกาเรน ชวเน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’’ติ วุจฺจติ ¶ , ตํ นิทสฺสนํ กินฺติ อตฺโถ. ตตฺถายํ ปวตฺติกฺกโม – ปฺจทฺวาเร รูปาทิอารมฺมเณ อาปาถคเต นิยมิตาทิวเสน กุสลากุสลชวเน อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ มโนทฺวาริกชวนํ ตํเยวารมฺมณํ กตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, ปุน ตสฺมึเยว ทฺวาเร ‘‘อิตฺถิปุริโส’’ติอาทินา ววตฺถเปตฺวา ชวนํ ภวงฺคํ โอตรติ. ปุน วาเร ปสาทรชฺชนาทิวเสน ชวนํ ชวติ. ปุน ยทิ ตํ อารมฺมณํ อาปาถํ อาคจฺฉติ, ตํสทิสเมว ปฺจทฺวาราทีสุ ชวนํ ตทา อุปฺปชฺชมานกํ สนฺธาย ‘‘เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อยํ ปน อุกฺกฏฺนโย ปริจิตารมฺมณํ สนฺธาย วุตฺโต, อปริจิเต อนฺตรนฺตรา ปฺจทฺวาเร อุปฺปชฺชิตฺวา ตทนุรูปํ มโนทฺวาเรปิ อุปฺปชฺชตีติ. ทฺวารภวงฺคาทีนํ ชวเนน สมฺพนฺโธ เอกสนฺตติปริยาปนฺนโต ทฏฺพฺโพ.
สติ ทฺวารภวงฺคาทิเกติ ปจฺจยภาเวน ปุริมนิปฺผนฺนํ ชวนกาเล อสนฺตมฺปิ ภวงฺคาทิ จกฺขาทิ วิย ผลนิปฺผตฺติยา สนฺตฺเว นามาติ วุตฺตํ. น หิ ธรมานํเยว สนฺตนฺติ วุจฺจตีติ. พาหิรํ วิย กตฺวาติ ปรมตฺถโต ชวนสฺส พาหิรภาเว อิตรสฺส จ อพฺภนฺตรภาเว อสติปิ ‘‘ปภสฺสรมิทํ ¶ , ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๑.๔๙) อาคนฺตุกภูตสฺส กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชมานสฺส ชวนสฺส พาหิรภาโว ตพฺพิธุรสภาวสฺส อิตรสฺส อพฺภนฺตรภาโว ปริยายโต วุตฺโตติ ทสฺเสติ. อสํวรเหตุภาวาปตฺติโตติ ทฺวาราทีนํ อสํวรเหตุภาวาปชฺชนสฺส ปากฏภาวํ สนฺธายาห. อุปฺปนฺเน หิ อสํวเร ทฺวาราทีนํ ตสฺส เหตุภาโว ปฺายตีติ. ทฺวารภวงฺคาทิมูสนนฺติ ทฺวารภวงฺคาทีสุ มูสนํ. ยสฺมิฺหิ ทฺวาเร อสํวโร อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ ทฺวาราทีนํ สํวรูปนิสฺสยภาวํ อุปจฺฉินฺทนฺโตเยว ปวตฺตตีติ. เตเนวาห ‘‘กุสลภณฺฑวินาสน’’นฺติ.
เอตฺถ จ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทิปาฬิยํ สํวโร, สํวริตพฺพํ, สํวรณุปาโย, ยโต จ โส สํวโร, ยตฺถ จ โส สํวโรติ อิมํ ปเภทํ ทสฺเสตฺวา โยเชตพฺพา. กถํ? ‘‘รกฺขติ…เป… สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ เอเตน สํวโร วุตฺโต. สตึ ปจฺจุฏฺเปตีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถติ. จกฺขาทิ สํวริตพฺพํ. น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหีติ สํวรณุปาโย. ‘‘ยตฺวาธิกรณ’’นฺติอาทินา สํวรณาวธิ. รูปาทโย สํวรวิสโยติ. กิฺจ ปฏิสงฺขาภาวนาพลสงฺคหิตภาเวน ทุวิโธปิ อินฺทฺริยสํวโร? ตตฺถ ปุริเมน วิสเยสุ อาทีนวทสฺสนํ, อิตเรน อาทีนวปฺปหานํ. ตถา ปุริเมน ปริยุฏฺานปฺปหานํ, อิตเรน อนุสยปฺปหานํ ¶ . ตถา ปุริโม โลกิยมคฺคสงฺคหิโต, ทุติโย โลกุตฺตรมคฺคสงฺคหิโตติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
๑๓๕๓. ทวตฺถาทิอภิลาโสติ ทโว เอว อตฺโถ ปโยชนนฺติ ทวตฺโถ, โส อาทิ เยสํ เต ทวตฺถาทโย. เตสุ, เตสํ วา อภิลาโส, ทโว วา อตฺโถ เอตสฺสาติ ทวตฺโถ, ตทาทิโก ทวตฺถาทิ, โก ปน โสติ อาห ‘‘อภิลาโส’’ติ. อาหารปริโภเค อสนฺตุสฺสนาติ อาหารปริโภเค อติตฺติ. พหุโน อุฬารสฺส จ ปตฺถนาวเสน ปวตฺตา ภิยฺโยกมฺยตา อสนฺตุสฺสนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ยุชฺชติ.
๑๓๕๕. มชฺชนากาเรน ปวตฺติ มานสฺเสวาติ กตฺวา ‘‘มาโนว มานมโท’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ชาติมทาทโย ‘‘มาโน มฺนา’’ติอาทินา มานภาเวเนว ¶ วิภตฺตาติ. ขุทา นาม กมฺมชเตโช. ตํ ปน อภุตฺเต ภุตฺเต จ อุปฺปชฺชตีติ ยํ ตตฺถ อามาสยสงฺขาตสฺส สรีรเทสสฺส ปีฬนโต วิหึสาสทฺทวจนียํ, ตเทว ทสฺเสตพฺพํ, อิตรฺจ นิวตฺเตตพฺพนฺติ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกตฺเตน ขุทา วิเสสิตาติ อาห ‘‘ขุทาย วิเสสน’’นฺติ. เย ปน ‘‘กมฺมชเตชปจฺจยา ทุกฺขา เวทนา ขุทา’’ติ วทนฺติ, เตสํ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกาติ วิเสสนเมว น ยุชฺชติ. สติปิ ตสฺมึ ภูตตฺถกถเน วิหึสูปรติปุราณเวทนาปฏิหนนานํ วิเสสาภาโว อาปชฺชตีติ ปุริโมเยเวตฺถ อตฺโถ. เอตาสํ โก วิเสโสติ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา, ภุตฺตปจฺจยา น อุปฺปชฺชนกเวทนาติ ทฺเวปิ เจตา เวทนา ยาวตา อนาคตาเยวาติ อธิปฺปาโย. สติปิ อนาคตตฺเต ปุริมา อุปฺปนฺนสทิสี, อิตรา ปน อตํสทิสี อจฺจนฺตํ อนุปฺปนฺนาวาติ อยเมตฺถ วิเสโส. เตเนว ‘‘ยถาปวตฺตา’’ติ ปุริมายํ วุตฺตํ, อิตรตฺถ จ ‘‘อปฺปวตฺตา’’ติ. อถ วา อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา ปุพฺเพ กตกมฺมสฺส วิปากตฺตา ปุราณเวทนา นาม. อปฺปจฺจเวกฺขณาทิอยุตฺตปริโภคปจฺจยา ปจฺจเวกฺขณาทิยุตฺตปริโภคโต อายตึ น อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ภุตฺตปจฺจยา น อุปฺปชฺชนกเวทนา นวเวทนา นาม. วิหึสานิมิตฺตตา วิหึสานิพฺพตฺตตา.
ยาเปนฺติ เอเตนาติ ยาปนาติ วุตฺตสฺส สรีรยาปนการณสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺสปิยาปนการณนฺติ อิมสฺส วิเสสสฺสทสฺสนตฺถํ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยยาปนตฺถายา’’ติ วตฺวา น เกวลํ ชีวิตินฺทฺริยสฺเสว ยาปนการณมาหาโร, อถ โข านาทิปวตฺติอาการวิเสสยุตฺตสฺส สกลสรีรสฺสปิ ¶ ยาปนการณนฺติ ตํทีปนตฺถํ ยาตฺราติ วจนนฺติ ยาปนา เม ภวิสฺสตีติ อวิเสเสน วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนา ยาตฺรา’’ติ อาห. อฏฺานโยชนอปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน สทฺธาเทยฺยสฺส วินาสนํ สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ. เยนาติ คณโภชนลกฺขณปฺปตฺตสฺส ถูปีกตาทิกสฺส วา ปฏิคฺคหเณน. สาวชฺชํ สนินฺทํ ปริโภคํ กโรตีติ วา อตฺโถ.
อิริยา…เป… วุตฺตนฺติ สุขํ ปวตฺตมาเนหิ อิริยาปเถหิ เตสํ ตถาปวตฺติยา การณนฺติ คหิตตฺตา วิทิตตฺตา ยถาวุตฺตภฺุชนปิวนานิ ปุพฺพกาลกิริยาภาเวน วุจฺจมานานิ อิริยาปถกตฺตุกานิ วิย วุตฺตานีติ อตฺโถ. ยถา หิ ‘‘ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ ¶ (ม. นิ. ๑.๒๗๑; ๒.๑๘๒) ทสฺสนสฺส ขยเหตุตา, ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ ภวติ, สีหํ ทิสฺวา ภยํ ภวตี’’ติ จ ปานทสฺสนานํ พลภยเหตุตา วุจฺจติ, เอวํ ภฺุชนปิวนานํ อิริยาปถสุขปฺปวตฺติเหตุภาโว วุตฺโตติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สุลภานวชฺชภาโว วิย อปฺปภาโวปิ ปจฺจยานํ ปรมสลฺเลขวุตฺตีนํ สุขวิหาราย ปริยตฺโตติ จีวรเสนาสนานํ อปฺปภาวุกฺกํสานุชานนวเสน ปวตฺตาหิ อนนฺตรคาถาหิ อิธาปิ ธมฺมเสนาปตินา สุขวิหาราย ปริยตฺโต อปฺปภาวุกฺกํโส อนฺุาโตติ วิฺายตีติ ‘‘ปุนปี’’ติอาทินา ‘‘ภุตฺวานา’’ติ ปาํ สมตฺถยติ.
๑๓๖๘. สติอาทิธมฺมาติ สติปฺาสมาธิวีริยสมฺมาวาจาทิธมฺมา, เย ฉหิ ทุเกหิ ปริคฺคหิตา.
๑๓๗๓. ปฏิวิชฺฌิตพฺเพหิ ปฏิเวโธ วุตฺโต. วิสเยนปิ หิ วิสยี วุจฺจติ สหจรภาวโต. ยถา –
‘‘อุปฺปาเทตฺวาน สํเวคํ, ทุกฺเขนสฺส จ เหตุนา;
วฑฺฒยิตฺวา สมฺมสิตฺวา, มุตฺติยา มคฺคมพฺรวี’’ติ
‘‘สจฺจปริโยสาเน’’ติ จ.
ยถา ¶ ทุกฺขาทีนํ ปริฺาทิวเสน ปวตฺตมานํ ปฏิเวธาณํ อสมฺโมหโต เต อวิโลเมตฺวา อวิโรเธตฺวา ปวตฺตติ นาม, เอวํ ตทุปนิสฺสยภาวํ วิปสฺสนาาณมฺปิ ยถาพลํ เต อวิโลเมตฺวา ปวตฺตตีติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมนฺติ วุตฺตนฺติ ทุติโย อตฺถวิกปฺโป วุตฺโต. เอตฺถ จ ‘‘จตุนฺนํ สจฺจาน’’นฺติ ปทํ วินา อุปจาเรน วุตฺตํ, ปุริมสฺมึ อุปจาเรนาติ ทฏฺพฺพํ. สมฺมาทิฏฺิปฺปธานตฺตา วา เสสมคฺคงฺคานํ มคฺคสจฺเจกเทสสฺส ปฏิเวธสฺส อนุโลมํ สมุทายานุโลมํ วุตฺตํ, จตุสจฺเจกเทสสฺส มคฺคสฺส วา.
๑๓๘๐. ขยสมเยติ ขยสมูเห. ‘‘กิเลสานํ ขยวเสน ปวตฺตธมฺมปฺุเช’’ติ จ วทนฺติ.
๑๓๘๑. อปริพนฺธภาเวน นิราสงฺกา, อารมฺมเณ อภิรติภาเวน จ ปวตฺติ อธิมุจฺจนฏฺโติ อาห ‘‘อนิ…เป… ตฺตนฏฺเนา’’ติ.
๑๓๘๒. อริยมคฺคปฺปวตฺติยา ¶ อุตฺตรกาลํ ปวตฺตมานํ ผลาณํ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ ขยปริโยสาเน ปวตฺตตฺตา ‘‘ขีณนฺเต าณ’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ มคฺคานนฺตรํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา มคฺเคน านโส ขีเณสุ กิเลเสสุ เตสํ ขีณภาวานนฺตรํ ปวตฺตมานํ ขีณภาวานํ ปมกาเล ปวตฺตนฺติปิ วุจฺจตีติ ทุติโย วิกปฺโป วุตฺโต.
ทุกนิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิกฺเขปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อฏฺกถากณฺฑํ
ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา
๑๓๘๔. นยคมนนฺติ ¶ ¶ นียติ, เนติ, นียนฺติ วา เอเตนาติ นโย, คมฺมติ เอเตนาติ คมนํ, นโยว, นยสฺส วา คมนํ นยคมนํ. คติ เอว วา คมนํ. ปเมน อาทิ-สทฺเทน อภิธมฺมภาชนียาทิสงฺคหาสงฺคหาทิเอกกาทิสุทฺธิกสจฺฉิ กฏฺาทิมูลมูลาทิกา ปฺจปกรณิกา นยคติ สงฺคยฺหติ. อนุโลมาทีติ ปน ปจฺจนียอนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลมปการา เอกมูลาทิปฺปการา จ. เอตฺถ อตฺเถสุ นิจฺฉิเตสูติ เอตสฺมึ อฏฺกถากณฺเฑ จิตฺตุปฺปาทวเสน ภูมนฺตรวิเสสโยคโต สพฺเพสํ มาติกาปทานํ อตฺเถสุ สงฺเขปโต ววตฺถาปิเตสุ.
ปฺหุทฺธารนฺติอาทีสุ ‘‘สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๒๕) กุสลปทํ อาทึ กตฺวา กุสลากุสลาพฺยากตนฺตา ติสฺโส กุสลาทิกา, กุสลาพฺยากตอกุสลาพฺยากตกุสลากุสลนฺตา ติสฺโส, กุสลากุสลาพฺยากตนฺตา เอกาติ กุสลาทิกา สตฺต ปุจฺฉา, ตถา อกุสลาทิกา, อพฺยากตาทิกา, กุสลาพฺยากตาทิกา, อกุสลาพฺยากตาทิกา, กุสลากุสลาทิกา, กุสลากุสลาพฺยากตาทิกาติ สตฺตนฺนํ สตฺตกานํ วเสน ธมฺมานุโลเม กุสลตฺติกํ นิสฺสาย เหตุปจฺจเย เอกูนปฺาส ปุจฺฉา, ตถา เสสปจฺจเยสุ เสสติเกสุ ธมฺมปจฺจนียาทีสุ จ. ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนปฺาสาย เอกูนปฺาสายา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สิยา เหตุํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๓.๑.๑) ‘‘เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ. นเหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ. เหตฺุจ นเหตฺุจ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตฺุจ นเหตฺุจ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตฺุจ นเหตฺุจ ¶ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จา’’ติ เอเกกสฺมึ ทุเก เหตุปจฺจยาทีสุ เอกเมกสฺมึ ปจฺจเย นว นว ปุจฺฉา โหนฺติ. ตา สนฺธาย ‘‘นวสุ นวสุ ปฺเหสู’’ติ วุตฺตํ.
ลพฺภมานสฺสาติ กุสลตฺติเก ตาว ปฏิจฺจวาเร เหตุปจฺจเย ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา, กุสลํ เอกํ ¶ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) กุสเลน กุสลํ, กุสเลน อพฺยากตํ, กุสเลน กุสลาพฺยากตํ, อกุสเลน อกุสลํ, อกุสเลน อพฺยากตํ, อกุสเลน อกุสลาพฺยากตํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากเตน อพฺยากตํ, อกุสลาพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ นวนฺนํ นวนฺนํ ปฺหานํ อตฺถโต สมฺภวนฺตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชนวเสน อุทฺธรณํ, ตถา เสสปจฺจยวารตฺติกาทีสุ. เตสุเยวาติ ยถาวุตฺเตสุ เอว ปฺเหสุ อตฺถสมฺภวโต ยถาวิภตฺตานํ ปฺหวิสฺสชฺชนานํ ‘‘เหตุยา นวา’’ติอาทินา คณนาปนํ. ปสเฏ ธมฺเมติ ยถา เหฏฺา กณฺฑทฺวเย ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑) วิปฺปกิณฺเณ มุตฺตปุปฺเผ วิย ผสฺสาทโย ธมฺเม. อวิสิฏฺนิทฺเทโส สามฺนิทฺเทโส. วิฺาตธมฺมสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อธิปฺปาโย.
ยทิ จิตฺตุปฺปาทรูปกณฺเฑสุ จตุภูมิจิตฺตุปฺปาทาทิวเสน วิฺาตธมฺมสฺส อตฺถุทฺธารเทสนา อารทฺธา, เอวํ สนฺเต อิธ กสฺมา กุสลตฺติกนิทฺเทโส วุตฺโตติ อาห ‘‘ยทิปิ กุสลตฺติกวิตฺถาโร’’ติอาทิ. ธมฺมวิเสสนภาวโตติ ‘‘ธมฺมา’’ติ ปทสฺส ปธานภาวํ ทสฺเสติ. อโต หิ ตทภิเธยฺยา ปุจฺฉิตพฺพา ชาตา. วิฺาตาหีติ ภูมีนํ วิเสสนลกฺขณโยคมาห. เอตฺถ ปธานนฺติ กิฺจาปิ อุทฺเทเส กุสลปเทน ธมฺมา วิเสสิตพฺพา, ‘‘จตูสุ ภูมีสุ กุสล’’นฺติ อิมสฺมึ ปน นิทฺเทเส ภูมีหิ วิเสสิตพฺพตฺตา กุสลปทํ ปธานนฺติ วิเสสนภาเวน วจนิจฺฉาย อภาวโต สติปิ วิเสสิตพฺพธมฺมานํ กามาวจราทิผสฺสาทิเภเท ตทนเปกฺขํ อนวชฺชสุขวิปากตาสงฺขาตํ อตฺตโน กุสลาการเมว คเหตฺวา ปวตฺตมานตฺตา ‘‘เอกตฺตเมว อุปาทาย ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตํ. สพฺเพปิ หิ กุสลา ธมฺมา อนวชฺชสุขวิปากตาย เอกสภาวาเยวาติ.
๑๓๘๕. ยถาโยคํ โยเชตพฺพนฺติ จตูหิ ภูมีหิ อาธารภูตาหิ วิเสเสตฺวา สมยผสฺสาทิเภทํ อนามสิตฺวา วิปากภาเวน เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘จตูสุ ภูมีสุ วิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. เอส นโย ‘‘ตีสุ ภูมีสุ กิริยาพฺยากต’’นฺติอาทีสุปิ.
อุปฺปชฺชติ ¶ เอตฺถาติ อุปฺปาโท, เจตสิกา. เต หิ จิตฺตสฺส สพฺพถาปิ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต เอตฺถ จ อุปฺปตฺติยา อาธารภาเวน อเปกฺขิตา. ยถา ¶ จ เจตสิกา จิตฺตสฺส, เอวํ จิตฺตมฺปิ เจตสิกานํ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต อาธารภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ยถาวุตฺตํ อุปฺปาทสทฺทาภิเธยฺยตํ น วินิวตฺตติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘จิตฺตุปฺปาโท’’ติ เอตฺถ อุปฺปาทสฺส วิเสสนภาเวน ปวตฺตมานมฺปิ จิตฺตํ อตฺตนิ ยถาวุตฺตอุปฺปาทอตฺถสมฺภวโต อปริจฺจตฺตวิเสสิตพฺพภาวเมว หุตฺวา ตสฺส วิเสสนภาวํ ปฏิปชฺชตีติ. ยทาห ‘‘อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณวเสน อตฺโถ สมฺภวตี’’ติ. จิตฺตสมานคติกสฺส อิธ จิตฺตคฺคหเณน คเหตพฺพตาย ‘‘ทฺเวปฺจวิฺาณานี’’ติ นิทสฺสเนน วกฺขมานตฺตา ‘‘จิตฺต…เป… คหณํ กต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺสฺสาติ รูปสฺส.
๑๔๒๐. ปฺจทฺวาเร วตฺตพฺพเมว นตฺถิ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา ปฺจทฺวาริกจิตฺตานํ. อิฏฺานิฏฺารมฺมณานุภวนนฺติ วิปากสฺส ปกปฺเปตฺวา อารมฺมณคฺคหณาภาวมาห. ตโต กมฺมานุรูปํ ปวตฺตมาโน วิปาโก ปริตฺตกมฺมวิปากตาย ปริตฺตารมฺมเณเยว ปวตฺติตุมรหติ, น มหคฺคตปฺปมาณารมฺมเณติ อธิปฺปาโย. สมาธิปฺปธานสฺสปิ กสฺสจิ กมฺมสฺส อปฺปนาอปฺปตฺตสฺส เอกนฺเตน สทิสวิปากตาอภาวโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตสฺสา’’ติ กมฺมํ วิเสสิตํ. วณฺณลกฺขณาทึ อคฺคเหตฺวา โลกสฺานุโรเธเนว คหิเต ปถวาทิเก ปริกมฺมสฺาย สมุปฺปาทิตตฺตา ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตํ สฺาวสํ อารมฺมณํ อสฺสาติ สฺาวสารมฺมณํ. ตาทิเสเนวาติ สมาธิปฺปธานตาย อปฺปนาปฺปตฺตีหิ วิย สฺาวสารมฺมณตาย จ นิพฺพิเสเสเนว. โสปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘อตฺตโน กมฺมสฺส สมานภูมิกธมฺมารมฺมณตาย วิย ตสฺส อารมฺมณารมฺมณตายปิ วิปาโก กมฺมานุรูโปเยว นาม โหตี’’ติ.
ยทิ เอวํ กสฺมา มหคฺคตปฺปมาณารมฺมณสฺส ปริตฺตกมฺมสฺส วิปาโก ตทารมฺมณารมฺมโณ น โหตีติ? อปฺปนาปฺปตฺตกมฺมวิปากสฺส วิย ตสฺส กมฺมารมฺมณารมฺมณตาย นิยมาภาวโต กมฺมานุรูปตาย จ อเนกรูปตฺตา. ยถา อตฺตโน กมฺมสทิสสฺส มหคฺคตชวนสฺส ปริตฺตารมฺมณสฺสปิ ตทารมฺมณํ นานุพนฺธกํ ปริจยาภาวโต, เอวํ อตฺตโน กมฺมสฺส นิมิตฺตภูเตปิ ตสฺส สหการีการณาหิ อปริยาทินฺเน มหคฺคตปฺปมาเณ อารมฺมเณ ปริจยาภาวโต ปริตฺตวิปาโก น ปวตฺตติ, กมฺมนิมิตฺตารมฺมโณ ปน ชายมาโน ปริตฺเตเนว เตน โหตีติ อาห ¶ ‘‘ปฏิสนฺธิอาทิภูโต’’ติอาทิ. ยสฺมา ปนาติอาทินา ปาฬิยาว ยถาวุตฺตมตฺถํ ¶ นิจฺฉิโนติ. นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย หิ เอตฺถ อธิปฺเปโต ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ ภินฺนารมฺมณตาย วุตฺตตฺตา. น จาติอาทินา ปริตฺตวิปากา เอว อิธ ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน วุตฺตาติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ อตฺถุทฺธารกณฺเฑ.
สติเวปุลฺลปฺปตฺตานํ สติวิรหิตสฺส กายกมฺมสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘วาสนาวเสนา’’ติ วุตฺตํ. อวีตราคานํ อปริตฺเตปิ กตฺถจิ อารมฺมเณ สิยา เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตนฺติ ‘‘กิเลสวิรเห’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อาทรากรณวเสเนวาติ อาทรากรณมตฺตวเสเนวาติ วิเสสนิวตฺติอตฺโถ เอว-สทฺโท ตเมว นิวตฺเตตพฺพํ วิเสสํ ทสฺเสติ, นาฺถา. โกสชฺชาทีติ อาทิ-สทฺเทน โทสาทโย สงฺคณฺหาติ. อาทรากรณํ นิรุสฺสุกฺกตา เอวาติ อาทรํ กโรนฺตา นิรุสฺสุกฺกภาเวเนว น โหนฺติ, น ปน อาทรํ น กโรนฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เอกจฺเจ ปน ‘‘อกมฺมฺสรีรตาย อฺวิหิตตาย จ ขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานาทิปวตฺติ น อนาทรวเสนา’’ติ วทนฺติ.
๑๔๒๑. อติปคุณานนฺติ สุภาวิตานํ สุฏฺุตรํ วสิปฺปตฺตานํ. เอวํ ปคุณชฺฌาเนสุปิ ปวตฺติ โหติ ตตฺถ วิจารณุสฺสาหสฺส มนฺทภาวโตติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ตีณิ ลกฺขณานีติ อหนฺติ วา’’ติอาทินา ปุพฺเพ ทสฺสิตํ. ‘‘อวิชฺชมาโน อปรมตฺถภาวโต, วิชฺชมาโน จ โลกสงฺเกตสิทฺธิยา สมฺมุติสจฺจภาวโต อตฺโถ อรียติ จิตฺเตน คมฺมติ ายตี’’ติ อาจริยา วทนฺติ. ยโต ตพฺพิสยา จิตฺตุปฺปาทา นวตฺตพฺพํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ นวตฺตพฺพารมฺมณาติ อฺปทตฺถสมาสวเสน วุจฺจนฺติ. อยํ ปน วาโท เหวตฺถิกวาโท วิย โหตีติ ตสฺส อจฺจนฺตํ อวิชฺชมานตํ มฺนฺโต อิโต จ อฺถา อวิชฺชมานปฺตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมุติสจฺเจ ปนา’’ติอาทิมาห. กถํ ปน ตสฺส อจฺจนฺตมวิชฺชมานตฺเต ตพฺพิสยานํ ธมฺมานํ ปวตฺติ นวตฺตพฺพารมฺมณภาโว จาติ อาห ‘‘อวิชฺชมานมฺปี’’ติอาทิ. ปริตฺตาทิอารมฺมณาติ น วตฺตพฺพาติ วุตฺตาติ ปริตฺตาทโย วิย ตสฺส วิสุํ ววตฺถิตภาวํ นิเสเธติ.
วิกฺขิปนํ นานารมฺมเณสุ จิตฺตสฺส ปวตฺตนํ. อนวฏฺานํ เอกสฺมึเยว ปวตฺติตุํ อปฺปทานํ. ทุติยาทิมคฺคปุเรจาริกํ ผลสมาปตฺติปุเรจาริกฺจ กามาวจราณํ ¶ นิพฺพานารมฺมณตาย โลกุตฺตรจิตฺตสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตาย จ ปมมคฺคปุเรจาริกาเณน สมานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘โคตฺรภุโวทาเน โคตฺรภูติ คเหตฺวา’’ติ.
สพฺพตฺถปาทกนฺติ ¶ นิปฺผาเทตพฺเพ, ปโยชเน วา ภุมฺมํ ‘‘เจตโส อวูปสเม’’ติอาทีสุ วิย. เตน สพฺเพสุ วิปสฺสนาทีสุ นิปฺผาเทตพฺเพสูติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สพฺเพสู’’ติอาทิ. อตีตํสาณสฺส กามาวจรตฺตา อิทฺธิวิธาทีสุ ตสฺส อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส ปน อตีตสตฺตทิวสโต เหฏฺา ยาว ปจฺจุปฺปนฺนปฏิสนฺธิ, ตาว วิสโยติ วทนฺติ. อตีตสตฺตทิวเสสุปิ ขนฺธปฏิพทฺธานํ ตสฺส วิสยภาโว ยุตฺโต วิย ทิสฺสติ.
ปาทกชฺฌานจิตฺตํ ปริกมฺเมหิ คเหตฺวาติ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อิทํ จิตฺตํ วิย อยํ กาโย สีฆคมโน โหตู’’ติ ปุพฺพภาคปริกมฺเมหิ รูปกายสฺส วิย ปาทกชฺฌานจิตฺตสฺสปิ คเหตพฺพตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทํ ปน อธิฏฺานํ เอวํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. อธิปฺเปตฏฺานปาปุณนตฺถํ คนฺตุกามตํ ปุรกฺขตฺวา ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อิทํ จิตฺตํ วิย อยํ กาโย สีฆคมโน โหตู’’ติ กรชกายารมฺมณํ ปริกมฺมํ กตฺวา ภวงฺคํ โอตริตฺวา วุฏฺาย ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ปุน ภวงฺเค โอติณฺเณ มโนทฺวาราวชฺชนํ รูปกายํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ อนุโลมานิ จ. ตโต อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเมวารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตสฺสานุภาเวน ยถาธิปฺเปตฏฺานํ คโตเยว โหติ. เอวํ อทิสฺสมาเนน กาเยน คจฺฉนฺโต ปนายํ กึ ตสฺส อธิฏฺานจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ คจฺฉติ, อุทาหุ ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ วาติ? ตีสุ ขเณสุ คจฺฉตีติ อิจฺฉนฺติ. จิตฺเตติ ปาทกชฺฌานจิตฺเต. สโมทหตีติ จิตฺตานุคติกํ จิตฺตํ วิย สีฆคมนํ กโรตีติ อตฺโถ. ยถา หิ จิตฺตํ อิจฺฉิตกฺขเณ อติทูเรปิ วิสยํ อารพฺภ ปวตฺตติ, เอวํ รูปกายสฺสปิ ลหุปริวตฺติภาวาปาทนํ จิตฺตวเสน กายปริณามนํ. น เจตฺถ รูปธมฺมานํ ทนฺธปริวตฺติภาวโต เอกจิตฺตกฺขเณน เทสนฺตรุปฺปตฺติ น ยุชฺชตีติ วตฺตพฺพา อธิฏฺานจิตฺเตน รูปกายสฺส ลหุปริวตฺติภาวสฺส อาปาทิตตฺตา. เตเนวาห ‘‘จิตฺตวเสน กายํ อธิฏฺหิตฺวา สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๙๗). อจินฺเตยฺโย หิ อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสโยติ.
จิตฺตสนฺตานํ ¶ รูปกาเย สโมทหิตนฺติ ยตฺตเกหิ จิตฺเตหิ ทิสฺสมาเนน กาเยน ยถาธิปฺเปตฏฺานปฺปตฺติ, ตตฺตกานํ จิตฺตานํ ปพนฺธสฺส ทนฺธคมนกรณโต อิมสฺส อธิฏฺานสฺส กรชกาเย อาโรปิตํ ตทนุคุณนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ อธิฏฺานปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อยํ กาโย วิย อิทํ จิตฺตํ ทนฺธคมนํ โหตู’’ติ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตชฺฌานจิตฺตารมฺมณํ ปริกมฺมํ ¶ กตฺวา ภวงฺคํ โอตริตฺวา ภวงฺคโต วุฏฺาย ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ปุน ภวงฺเค โอติณฺเณ มโนทฺวาราวชฺชนํ ปาทกชฺฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ อนุโลมานิ จ. ตโต อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเมวารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตสฺสานุภาเวน อนฺตรา ปฺจวิฺาณาทีสุ อุปฺปนฺเนสุปิ อปตนฺโต อิจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉติ. เอวํ คจฺฉนฺโต จ สเจ อิจฺฉติ, ปถวีกสิณวเสน อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, วาโยกสิณวเสน วายุํ อธิฏฺหิตฺวา ตูลปิจุ วิย วายุนา คจฺฉติ. อปิจ คนฺตุกามตาว เอตฺถ ปมาณํ. สติ หิ คนฺตุกามตาย เอวํ กตาธิฏฺาโน อธิฏฺานเวคกฺขิตฺโตเวโส อิสฺสาสปกฺขิตฺโต สโร วิย ทิสฺสมาโน คจฺฉตีติ. ตตฺถ อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา คจฺฉนฺโต วินาปิ อภิฺาาเณน ปกติปถวิยํ วิย คจฺฉติ. เตเนว ‘‘ปทสา คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. วายุํ อธิฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺโต อภิฺาาณสมุฏฺิตวาโยธาตุปรมฺปราย คจฺฉติ. อุภยตฺถาปิ อนฺตรา วนรามณียกาทีนิ เปกฺขมาโน อาปาถคเต สทฺเท จ สุณมาโน คจฺฉตีติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อทิสฺสมาเนน กาเยน เอกจิตฺตกฺขเณเนว อิจฺฉิตฏฺานคมเน ทิสฺสมาเนน กาเยน ปทสา วายุนา จ คมเน อภิฺาจิตฺตสมุฏฺิตกายวิฺตฺติวิปฺผาเรน คมน’’นฺติ วทนฺติ. อปเร ‘‘อภิฺาจิตฺตสฺส วิฺตฺตินิพฺพตฺตนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทนฺติ.
อธิฏฺานทฺวยนฺติ จิตฺตกายวเสน กายจิตฺตปริณามนภูตํ รูปกายปาทกชฺฌานจิตฺตารมฺมณํ อุภยํ อธิฏฺานํ. ตํสมฺปยุตฺตายาติ ยถาวุตฺตอธิฏฺานทฺวยสมฺปยุตฺตาย. สุขสฺาลหุสฺาภาวโตติ สุขสฺาลหุสฺาสพฺภาวโต, ตพฺภาวํ อาปชฺชนโตติ อตฺโถ. สุขสฺาติ เจตฺถ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา สฺา. อุเปกฺขา หิ ‘‘สนฺตํ สุข’’นฺติ วุตฺตา. สาเยว จ สฺา นีวรเณหิ เจว วิตกฺกาทีหิ ปจฺจนีเกหิ จ วิมุตฺตตฺตา ‘‘ลหุสฺา’’ติปิ เวทิตพฺพา. ตาหิ สโมกฺกนฺตาหิ รูปกาโยปิ ตูลปิจุ วิย สลฺลหุโก โหติ. โส เอวํ วาตกฺขิตฺตตูลปิจุนา ¶ วิย สลฺลหุเกน เอกจิตฺตกฺขเณน อทิสฺสมาเนน จ กาเยน ยถารุจิ คจฺฉตีติ.
‘‘มุตฺโต วตมฺหิ ตาย อนตฺถสํหิตาย ทุกฺกรการิกาย, สาธุ วตมฺหิ สมฺมาสมฺโพธึ สมฺพุชฺฌ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๓๗) ปวตฺตํ ภควโต เจโตปริวิตกฺกมฺาย มาโร ‘‘อมุตฺตภาวมสฺส กริสฺสามี’’ติ,
‘‘ตโปกมฺมา ¶ อปกฺกมฺม, ยํ น สุชฺฌนฺติ มาณวา;
อสุทฺโธ มฺสิ สุทฺโธ, สุทฺธิมคฺคา อปรทฺโธ’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๗) –
อาหาติ เอวมาทึ สนฺธาย ‘‘มาราทีนมฺปิ ภควโต จิตฺตชานนํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. นิพฺพานปจฺจเวกฺขณฺจ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน นิพฺพานา…เป… าเตสุ ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. นิพฺพานา…เป… าเตสูติ อิทํ อภิฺาาณสฺส ปรโต ปวตฺตมานํ ปจฺจเวกฺขณํ อภิฺาาณสฺส วิสเย วิย อภิฺาาณวิสยวิสเยปิ กทาจิ ปวตฺติตุํ อรหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อปฺปมาณารมฺมณตนฺติ อปฺปมาณขนฺธารมฺมณตนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส นิพฺพานารมฺมณภาวทีปโก โกจิ ปาโ นตฺถิ, ตสฺมา. ปจฺจเวกฺขณกิจฺเจ วุจฺจมาเนติ รุฬฺหึ อคฺคเหตฺวา มคฺคาทีนํ อตีตานํ ปติ ปติ อเวกฺขนํ อนุสฺสรณํ ปจฺจเวกฺขณนฺติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส กิจฺจํเยว ปจฺจเวกฺขณนฺติ วุจฺจมาเนติ อตฺโถ. อนฺุาตาติ ทิสฺสตีติ ‘‘มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณโต’’ติ อิทเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน นิพฺพานารมฺมเณ ขนฺเธ ทิสฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา กึ นุ โข อารพฺภ ปวตฺตา’’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺตตีติ. อนาคตํสาเณปิ เอเสว นโย.
ยทิ เอวํ กสฺมา ปริตฺตตฺติเก ‘‘อปฺปมาโณ ธมฺโม มหคฺคตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๕๘) เอตฺถ ‘‘อปฺปมาณา ขนฺธา เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อชฺฌตฺตตฺติเก จ ‘‘พหิทฺธาธมฺโม พหิทฺธาธมฺมสฺส, พหิทฺธาธมฺโม อชฺฌตฺตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอเตสํ วิภงฺเคสุ ‘‘พหิทฺธา ขนฺธา ¶ อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยปุพฺเพนิวาสยถากมฺมูปคอนาคตํสอาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๒๐.๒๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ นิพฺพานนฺติ. เจโตปริยอิทฺธิวิธาทิาเณหิ สห วุตฺตตฺตาติ เจ, เอวมฺปิ วิสุํ วิภชิตพฺพํ สิยา. น หิ วิสุํ วิภชนารหํ สห วิภชตีติ? น, อวจนสฺส อฺการณตฺตา. ยานิ หิ ปุถุชฺชนานํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณานิ, เตสํ อวิสโย เอว นิพฺพานํ. อริยานํ ปน มคฺคผลปจฺจเวกฺขเณหิ สจฺฉิกตนิพฺพานานํ อิเมหิ าเณหิ ปจฺจกฺขกรเณ ปโยชนํ นตฺถีติ สาธารเณน อิทฺธิวิธาณาทีนํ คหิตตฺตา นิพฺพานํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ ¶ . นิพฺพตฺตกฺขนฺธชานนมาห, น นิพฺพตฺตกกฺขนฺธชานนํ. ยถากมฺมูปคาณกิจฺจฺหิ ตนฺติ. อตฺโถ สมฺภวตีติ อิทํ อนาคตํสาณสฺสปิ อนิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๑๔๒๙. มคฺคารมฺมณตฺติเก ยสฺมา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ โพธิเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ เอกนฺตโต มคฺคารมฺมณาเยว เกจิ นตฺถิ, มคฺคารมฺมณาเยว ปน กทาจิ มคฺคาธิปติโน โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘กตเม ธมฺมา มคฺคารมฺมณา’’ติ เอกเมว ปุจฺฉํ กตฺวา ตโยปิ โกฏฺาสา ลพฺภมานวเสน วิภตฺตา. อิมินา นเยน ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทา’’ติ, ‘‘มคฺคารมฺมณา’’ติ จ วุตฺตธมฺมานํเยว มคฺคเหตุกตฺตาภาวํ สาเธตุํ ‘‘อสหชาตตฺตา’’ติ อิทํ เหตุวจนนฺติ ‘‘อสมฺปยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘น หิ อรูปธมฺมาน’’นฺติอาทิ. ‘‘อฺธมฺมารมฺมณกาเล เอวา’’ติ อวธารณสฺส อคฺคหิตตฺตา ครุํ อกตฺวา มคฺคารมฺมณกาเลปิ มคฺคาธิปติภาเวน น วตฺตพฺพาติ อยมฺปิ อตฺโถ อฏฺกถายํ ปริคฺคหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ครุํ อกตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเลปิ อตฺถิ เอว. ตทา จ มคฺคาธิปติภาเวน น วตฺตพฺพา เต ธมฺมาติ ภิยฺโยปิ สิทฺโธวายมตฺโถ.
๑๔๓๔. อตีตารมฺมณาวาติ อุทฺธฏํ, ‘‘อตีตารมฺมณา’’ติ ปน อฏฺกถาปาโ พหูสุ โปตฺถเกสุ ทิสฺสติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนายํ (วิภ. อ. ๒๒๗) ‘‘มรณสมเย าตกา ‘อยํ, ตาต, ตวตฺถาย พุทฺธปูชา กรียติ, จิตฺตํ ปสาเทหี’ติ วตฺวา’’ติอาทินา ปฺจทฺวาเร รูปาทิอารมฺมณูปสํหรณํ ตตฺถ ตทารมฺมณปริโยสานานํ จุทฺทสนฺนํ ¶ จิตฺตานํ ปวตฺติฺจ วตฺวา ตสฺมึเยว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณภาวํ ปฏิสนฺธิยา วกฺขติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ทฺเว ภวงฺคานิ อาวชฺชนํ มรณสฺสาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จุติจิตฺตนฺติ เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตาติ อาห ‘‘ปฺจจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก’’ติ. อิตรตฺถาติ อฺตทารมฺมณาย จุติยา. อิทานิ ตเมว ‘‘อิตรตฺถา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยทา หี’’ติอาทิมาห. จุติยา ตทารมฺมณรหิตตฺตา ปฏิสนฺธิยา จ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา ‘‘รูปา…เป… ชฺชนฺตสฺสา’’ติ อุทาหฏํ. ฉ ภวงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานิ โหนฺติ, นว จิตฺตกฺขณา อตีตาติ สตฺตจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก คตินิมิตฺเต ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
วิชฺชมานเมว ¶ กายํ อารมฺมณํ กโรตีติ เอเตน สุขลหุสฺโกฺกมเนน ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว ภูตุปาทายรูปสงฺฆาตสฺส ลหุปริวตฺติภาวาปาทนํ, น ภาวิโนติ ทสฺเสติ.
เอตฺถนฺตเรติ อปากฏกาลโต ปฏฺาย ยาว ปากฏกาโล, เอตสฺมึ อนฺตเร. ยสฺมา ปน กสฺสจิ กิฺจิ สีฆํ ปากฏํ โหติ, กสฺสจิ ทนฺธํ, ตสฺมา ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารา’’ติ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วจนสิลิฏฺตาวเสน วุตฺต’’นฺติ เอเก, เกจิ ปน ‘‘เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปธมฺมา อรูปธมฺมา จ ปจฺจุปฺปนฺนาติ คหิเต เอโก สนฺตติวาโร โหติ, ตํ ปน ทฺวิธา วิภชิตฺวา อปากฏกาลํ อาทึ กตฺวา เยภุยฺเยน ปากฏกาลโต โอรภาโว เอโก โกฏฺาโส เยภุยฺเยน ปากฏกาลํ อาทึ กตฺวา ยาว สุปากฏกาโล เอโกติ เอเต ทฺเว สนฺตติวารา. อิมินา นเยน เสสสนฺตติวารเภทาปิ เวทิตพฺพา. ตตฺถ กาลวเสน สพฺเพสํ สมานภาวํ อคฺคเหตฺวา ธมฺมานํ สทิสปฺปวตฺติวเสน สนฺตติปริจฺเฉโท ทีปิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. กิฺจิ กิฺจิ กาลํ สทิสํ ปวตฺตมานาปิ หิ อุตุจิตฺตาทิสมุฏฺานา รูปธมฺมา สนฺตติวาราติ วุจฺจนฺติ. ยทาห ‘‘อติปริตฺตา’’ติอาทินา, อรูปสนฺตติปิ เจตฺถ ยถาวุตฺตรูปสนฺตติปริจฺฉินฺนา สงฺคหิตาเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตีติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อากฑฺฒนียฏฺานภาเวน วุตฺตํ. ‘‘โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา’’ติ วิสยิวิสยภูตา เอกภวภูตา จ เอกสนฺตติปริยาปนฺนา ธมฺมา วิภาคํ อกตฺวา คยฺหมานา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ โหติ, สติ ปน วิภาคกรเณ ¶ ขณสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนตา ลพฺภตีติ อาห ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ เอตํ อุภยํ โหตี’’ติ.
ตสฺสาติ มหาชนสฺส. อตีตาทิวิภาคํ อกตฺวาติ อาวชฺชนาทีนํ สมานาการปฺปวตฺติยา อุปายํ ทสฺเสติ. สิทฺธํ โหตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺเตปิ ปริกมฺมเจโตปริยาณานํ อยํ ปาฬิ สุฏฺุ นีตา โหตีติ อตฺโถ. อตีตตฺติโก จ เอวํ อภินฺโน โหตีติ เอวํ ขณปจฺจุปฺปนฺเนเยว ธมฺเม อิธ ปจฺจุปฺปนฺโนติ คยฺหมาเน อฺปทสงฺคหิตสฺเสว อนนฺตรปจฺจยภาวํ ปกาเสนฺโต อตีตตฺติโก จ ปฏฺาเน อเภทโต สมฺมา อตฺถสฺส อุทฺธฏตฺตา อวินาสิโต โหติ. อถ วา อตีตตฺติโกติ ปฏฺาเน อตีตตฺติกปาฬิ, อิมาย อตีตตฺติกปาฬิยา ยถาวุตฺตการณโตเยว อภินฺโน อวิสิฏฺโ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมตีติ อตฺโถ.
ยถาสมฺภวนฺติ อาวชฺชนาย อนาคตารมฺมณตา, ชวนานํ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณตา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณตาติ ¶ โยเชตพฺพํ. นานารมฺมณตา น สิยา อทฺธาวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตาติ อธิปฺปาโย. อยฺจ อตฺโถ เอกิสฺสา ชวนวีถิยา เอกสฺมึเยว จิตฺเต ปวตฺติยํ อาวชฺชนาทีนํ อนาคตาทิอารมฺมณตา สมฺภวตีติ สมฺภวทสฺสนวเสน วุตฺโตติ ยถาธิปฺเปตสฺส อภิฺาจิตฺตสฺส ขณปจฺจุปฺปนฺเน ปวตฺตึ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห. ตีณีติ ‘‘อตีตารมฺมโณ ธมฺโม อตีตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, อนาคตารมฺมโณ ธมฺโม อนาคตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๓๔) ปทนฺตรสงฺคหิตธมฺมานเปกฺขา ธมฺมา ตีณิ ปฺหวิสฺสชฺชนานีติ อตฺโถ. อนาเสวนํ นตฺถีติ อาเสวนลาเภ สติ ยถาธมฺมสาสเน อวจนสฺส การณํ นตฺถีติ อวจเนน ตตฺถ อิตเรสํ ปฺหานํ ปฏิเสโธ วิฺายตีติ อธิปฺปาโย.
เอตสฺส วาทสฺสาติ ‘‘อาวชฺชนชวนานํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺเตปิ เจโตปริยาณํ สิทฺธ’’นฺติ วาทสฺส. นิสฺสยภาโวติ อตฺถสมฺภวโต ยถาวุตฺตนยสฺส โชตกภาโว. ยนฺติ จิตฺตํ. ตสฺสาติ อาวชฺชนชวนานํ ¶ ขณปจฺจุปฺปนฺนนิรุทฺธารมฺมณตาวจนสฺส. เอตฺถ จ กาลวิเสสํ อามสติ, อนาคตาเยว จ อาวชฺชนา ปวตฺตตีติ นยิทํ ยุชฺชมานกํ. อถ ‘‘ยํ อิมสฺส จิตฺตํ ภวิสฺสติ, ตํ ชานามี’’ติ อาโภคํ กโรติ, เอวํ สติ ปริกมฺมาภิฺาจิตฺตานมฺปิ อนาคตารมฺมณตฺตเมวาติ สพฺพตฺถ อาวชฺชนชวนานํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา น สิชฺฌตีติ อาห ‘‘ปวตฺติ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. โทสาปตฺติยาติ โทสาปชฺชเนน, โทสาปตฺติโต วา. ราสิเอกเทสาวชฺชนปฏิเวเธติ ยถารุตวเสเนว ปุริมวาทิปกฺขมาห, สมฺปตฺตสมฺปตฺตาวชฺชนชานเนติ อตฺตนา นิทฺธาริตปกฺขํ. ปุริมวาทิโน นานุชาเนยฺยุนฺติ อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนปทตฺถตา อภิธมฺมมาติกายํ อาคตปจฺจุปฺปนฺนปทสฺส นตฺถีติ อธิปฺปาเย ตฺวา นานุชาเนยฺยุํ. เอตฺถ จ สติปิ สภาวเภเท อาการเภทาภาวโต เอกตฺตนยวเสน อาวชฺชนปริกมฺมาภิฺาจิตฺตานํ นานารมฺมณตาโทโส นตฺถีติ ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา เจโตปริยาณสฺส ปุริมวาทีนํ อธิปฺปายวิภาวนมุเขน ทสฺสิตา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สภาวเภเท สติ นานารมฺมณตาโทสาภาโว นตฺถิ เอวาติ เอกสฺมึ เอว จิตฺเต อทฺธาสนฺตติวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วิภาวิตา’’ติ ทฺวีสุปิ วาเทสุ ยํ ยุตฺตํ, ตํ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
เตเนวาติ ยสฺมา อตีตตฺติเก อุปฺปนฺนตฺติเก จ เจโตปริยาณสฺส วตฺตมานธมฺมารมฺมณภาวโชตโน ปาโ น ทิสฺสติ, เตเนว การเณน. ทฺวีสุ าเณสูติ ปุพฺเพนิวาสเจโตปริยาเณสุ ¶ . กมฺมมุเขน คยฺหนฺตีติ สติปิ อารมฺมณภาเว จตฺตาโร ขนฺธา ยถากมฺมูปคาเณน กมฺมทฺวาเรน กุสลากุสลา อิจฺเจว คยฺหนฺติ, น ปน วิภาคโสติ ทสฺเสติ. โลภาทิสมฺปโยควิเสเสน ทุจฺจริตภาโว, อโลภาทิสมฺปโยควิเสเสน จ สุจริตภาโว ลกฺขียตีติ ทุจฺจริตสุจริตานิ วิภาเวนฺตํ โลภาทโยปิ วิภาเวติเยว นาม โหตีติ อาห ‘‘ทุจฺจริต…เป… ภาวนํ โหตี’’ติ.
๑๔๓๕. อสภาวธมฺมสฺส ‘‘อห’’นฺติอาทิปฺตฺติยา อชฺฌตฺตธมฺมุปาทานตาย สิยา โกจิ อชฺฌตฺตปริยาโย, น ปน สภาวธมฺมสฺส อสตฺตสนฺตาเนว ตสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘สภาว…เป… อโหนฺต’’นฺติ. ตถา หิ ‘‘อตฺตโน ขนฺธาทีนิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ ปทสฺส อตฺถวิวรณวเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ คยฺหมานํ อหนฺติ ปฺตฺตึ อาทิ-สทฺเทน คณฺหาตี’’ติ ¶ วกฺขติ. ยทิ เอวํ ตสฺส อชฺฌตฺตตฺติเกปิ อชฺฌตฺตภาโว วตฺตพฺโพ สิยา? น, พหิทฺธาภาวสฺส วิย อชฺฌตฺตภาวสฺสปิ อชฺฌตฺตตฺติเก นิปฺปริยายวเสน อธิปฺเปตตฺตาติ. ยทาห ‘‘อสภา…เป… น วุตฺต’’นฺติ. อากิฺจฺายตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน สาวชฺชนานิ ตสฺส ปุเรจาริกอุปจารจิตฺตานิ ตสฺส อารมฺมเณน ปวตฺตนกปจฺจเวกฺขณอสฺสาทนาทิจิตฺตานิ จ สงฺคณฺหาติ.
อากิฺจฺายตนํ ตํ-สทฺเทน อากฑฺฒิตฺวา วทติ, น ปน ตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ, ยฺจ ตสฺส ปุเรจาริกนฺติ อตฺโถ. เลสวจนนฺติ เอกเทสสารุปฺเปน สมานารมฺมณภาเวน เอกเทสสฺเสว วจนํ. ลิสฺสติ สิลิสฺสติ เอกเทเสน อลฺลียตีติ หิ เลโส. เยสนฺติ กามาวจรกุสลากุสลมหากิริยาวชฺชนจิตฺตานํ กุสลกิริยาเภทสฺส รูปาวจรจตุตฺถสฺส จ. เอวํ อุเปกฺขาสหคตนิทฺเทสาทีสูติ เยสํ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตตา วุตฺตา, เตสุ เอกเมว อุเปกฺขาสหคตนิทฺเทสํ วตฺวา อิตรํ น วตฺตพฺพํ สิยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน เหตุสมฺปยุตฺตกามาวจราทินิทฺเทเส สงฺคณฺหาติ. ตตฺถาปิ หิ ปริตฺตสเหตุกาทิภาเวน วุตฺเตสุ ธมฺเมสุ เอกเมว วตฺวา อิตรํ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. อภาวนานิฏฺปฺปวตฺติยาติ อภาวนานิฏฺปฺปวตฺติยา อภาวนาการสฺส อุกฺกํสปฺปวตฺติยาติ อตฺโถ, อภาวสฺส วา อุกฺกํสปฺปวตฺติยา. นวตฺตพฺพํ ชาตํ อชฺฌตฺตารมฺมณาทิภาเวนาติ อธิปฺปาโย. ตานีติ อากิฺจฺายตเนน สมานารมฺมณานิ อาวชฺชนาทีนิ. ยทิ เอวํ ‘‘อภาวนาสามฺเ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ อากิฺจฺายตนารมฺมณสฺส ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทนาทิวเสน ปวตฺตจิตฺตานํ อภาวนากาเรน ปวตฺติ ¶ อตฺถีติ? น, อภาเวตพฺพตาย อธิปฺเปตตฺตา. น ภาวียตีติ หิ อภาวนํ, น น ภาเวตีติ.
คหณวิเสสนิมฺมิตานีติอาทีสุ อยมธิปฺปาโย – ยทิปิ ภาวนาาณนิมฺมิตาการมตฺเตสุ สภาวโต อวิชฺชมาเนสุ วิสเยสุ เยภุยฺเยน มหคฺคตา ธมฺมา ปวตฺตนฺติ, พหิทฺธาการคฺคหณวเสน ปน กสิณาทีนํ พหิทฺธาภาโวติ ตทารมฺมณธมฺมา พหิทฺธารมฺมณาติ วุตฺตํ. กสิณานฺหิ สนฺตานํ มฺุจิตฺวา อุปฏฺานํ วิเสสโต วฑฺฒิตกสิณวเสน วิฺายติ, ปมารุปฺปวิฺาณาภาวสฺส ปน น พหิทฺธากาโร, นาปิ อชฺฌตฺตากาโรติ ¶ อุภยาการวิธุเร ตสฺมึ อนฺสาธารเณน ปวตฺติยากาเรน ปวตฺตมานํ อากิฺจฺายตนเมว นวตฺตพฺพารมฺมณํ วุตฺตํ, น อิตเร อิตราการปฺปวตฺติโตติ. กามาวจรกุสลานนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
อากิฺจฺายตนวิปากํ เนวสฺานาสฺายตนสฺส วิปากาทิกสฺสาติ อตฺถวเสน วิภตฺติ ปริณาเมตพฺพา. อภินีหาราสมฺภวโตติ สมาปตฺติจิตฺตสฺส อภินีหรณาสมฺภวโต. กุสลเมว วิปากสฺส อารมฺมณนฺติ กตฺวา ‘‘วิปากสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อสภาวธมฺมตฺเตปิ พหิทฺธากาเรน คหณียภาวโต กสิณานํ พหิทฺธาภาโว วิย เอกนฺตโต อิธ อชฺฌตฺตธมฺมุปาทานตาย อหนฺติ ปฺตฺติยา สิยา อชฺฌตฺตภาโวติ วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘ขนฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน ธาตุอายตนาทิ สงฺคยฺหตี’’ติ จ วทนฺติ. เอส นโยติ ‘‘อรูปกฺขนฺเธ ขนฺธาติ คเหตฺวา’’ติอาทิกํ วณฺณนานีตึ อาห. ปเรสํ ขนฺธาทิคฺคหเณติ ปเรสํ ขนฺธาทีติ อิมสฺส ปทสฺส กถเน อุจฺจารเณ. สพฺพํ อุปาทาปฺตฺตึ อาห อาทิสทฺเทนาติ สมฺพนฺโธ.
ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกอตฺถุทฺธารวณฺณนา
๑๔๗๓. อฺถาติ ¶ วุตฺตปฺปการสฺส ทสฺสเน. วุตฺตปฺปการสฺส ทสฺสนโต เอว หิ อฏฺกถายํ สสงฺขาริกานํ ถินมิทฺธวิรเห อสงฺขาริกสทิสี โยชนา น ทสฺสิตา. ภวราคาทีสูติ ภวราคมูลิกาทีสุ โยชนาสุ.
๑๕๑๑. ทฺเวติ อุทฺธจฺจาวิชฺชานีวรณานิ. ตีณีติ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทวิจิกิจฺฉาสุ เอเกเกน อุทฺธจฺจาวิชฺชานีวรณานิ. ทฺเว วา ตีณิ วาติ ปาฬิยํ วา-สทฺทสฺส ลุตฺตนิทฺทิฏฺตํ อาห. อถ วา นิปาตสทฺทสนฺนิธาเนปิ นามปทาทีหิ เอว สมุจฺจยาทิอตฺโถ วุจฺจติ, น นิปาตปเทหิ เตสํ อวาจกตฺตาติ อนฺตเรนปิ นิปาตปทํ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ตถา วจนิจฺฉาย สมฺภโว เอว เหตฺถ ปมาณนฺติ ปาฬิยํ ‘‘ทฺเว ตีณี’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ¶ สหุปฺปตฺตีติอาทินา ‘‘ทฺเว ตีณี’’ติ ลกฺขณวจนนฺติ สพฺพสาธารณมตฺถมาห. ตถา หิ ‘‘เอวฺจ กตฺวา กิเลสโคจฺฉเก จา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสายมธิปฺปาโย – กิเลสทฺวยสหิตสฺเสว จิตฺตุปฺปาทสฺส อภาเวปิ ปาฬิยํ ทฺวิคฺคหณํ กตํ, กิเลสานฺจ สมฺภวนฺตานํ สพฺเพสํ สรูเปน คหณํ น กตนฺติ ทฺเว ตโยติ ลกฺขณกรณนฺติ วิฺายตีติ.
ยทิ สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชนกสฺสปิ อุทฺธจฺจสฺส เอโก เอว จิตฺตุปฺปาโท วิสยภาเวน วุจฺจติ, อวิชฺชานีวรณสฺสปิ ตถา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘กสฺมา วุตฺต’’นฺติอาทินา โจเทติ. อิตโร อุทฺธจฺจนีวรณสฺเสว ตถา วตฺตพฺพตํ อวิชฺชานีวรณสฺส ตถา วตฺตพฺพตาภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตนฺเต วุตฺเตสุ ปฺจสุ นีวรเณสูติ อุทฺธจฺจสหคเต อุทฺธจฺจสฺส อวิชฺชานีวรเณน นีวรณสหิตตํ อาสงฺกิตฺวา วุตฺตํ. นนุ จ สุตฺตนฺเตปิ ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) อวิชฺชา ‘‘นีวรณ’’นฺติ วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ฌานงฺคานํ ปฏิปกฺขภาเวน ปน สุตฺตนฺเต พหุลํ กามจฺฉนฺทาทโย ปฺเจว นีวรณานิ วุตฺตานีติ เยภุยฺยวุตฺติวเสน เอตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เกจิ ปน ‘‘ยถา นิกฺเขปกณฺเฑ กุสลปฏิปกฺขภูตานิ ทุพฺพลานิปิ นีวรณานิ ปฏฺาเน วิย ทสฺสิตานิ. ตถา หิ ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๘.๑) ‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ปุเรชาตปจฺจยา. อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณ’นฺติอาทิ ¶ วุตฺตํ, น เอวํ อฏฺกถากณฺเฑ. อฏฺกถากณฺเฑ ปน ฌานปฏิปกฺขภูตานิเยว นีวรณานิ นิทฺทิฏฺานีติ ‘อุทฺธจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน อุทฺธจฺจนีวรณสฺส กามจฺฉนฺทาทีหิ เอกโต อุปฺปตฺติทสฺสนํ นิกฺเขปกณฺฑานุสาเรน กตํ เอกโต อุปฺปตฺติยา ปเภททสฺสนตฺถํ. ตตฺถ หิ ปาฬิยํเยว ตานิ วิตฺถารโต วุตฺตานี’’ติ วทนฺติ. อยฺจ วาโท ‘‘อุทฺธจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทเมว วจนํ าปกนฺติ กตฺวา วุตฺโต. อฺถา อวิชฺชานีวรณํ วิย วตฺตพฺพํ สิยา. น ติ อิโต อฺํ ปริยุฏฺานปฏฺายีนิเยว นีวรณานิ อตฺถุทฺธารกณฺเฑ อธิปฺเปตานีติ อิมสฺส อตฺถสฺส สาธกํ วจนํ อตฺถิ, อิทํ วจนํ ทฺเวตีณิวจนสฺส สามฺเน สพฺพนีวรณสงฺคาหกตฺตา ยถาวุตฺตวจนสฺส วิสยวิเสสปฺปกาสนสงฺขาเตน ¶ ปโยชนนฺตเรน วุตฺตภาวสฺส ทสฺสิตตฺตา จ าปกํ น ภวตีติ ทิสฺสติ, ตสฺมา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
อคฺคเหตฺวาติ ยถารุตวเสเนว อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ยถา นิกฺเขปกณฺฑปฏฺานาทีหิ น อิมิสฺสา ปาฬิยา วิโรโธ โหติ, เอวํ อธิปฺปาโย คเวสิตพฺโพติ ยถาวุตฺตเมวตฺถํ นิคเมติ.
๑๕๗๗. เตสนฺติ โลภาทิโต อฺเสํ. ทสฺสิตาติ กถํ ทสฺสิตา? มาโน ตาว โลภโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ตถา ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ถินํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อุทฺธจฺจํ โลภโมหทิฏฺิอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ เอกโต อุปฺปชฺชติ.
ยถา จ อุทฺธจฺจํ, เอวํ อหิริกาโนตฺตปฺปานิ จ โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิ. กถํ? อหิริกํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ ¶ , โมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ จ เอกโต อุปฺปชฺชติ. อโนตฺตปฺปํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหมานถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โทสโมหถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจาหิริเกหิ ¶ , โมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ จ เอกโต อุปฺปชฺชตีติ เอวเมตฺถ มานาทีนมฺปิ เอกโต อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
อฏฺกถากณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ธมฺมสงฺคณีมูลฏีกาย ลีนตฺถปทวณฺณนา
ธมฺมสงฺคณี-อนุฏีกา สมตฺตา.