📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ปฺจปกรณ-อนุฏีกา

ธาตุกถาปกรณ-อนุฏีกา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

ธาตุกถาปกรณเทสนาย เทสเทสกปริสาปเทสา วุตฺตปฺปการา เอวาติ กาลาปเทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธาตุกถาปกรณํ เทเสนฺโต’’ติอาทิมาห. ‘‘ตสฺเสว อนนฺตรํ อเทสยี’’ติ หิ อิมินา วิภงฺคานนฺตรํ ธาตุกถา เทสิตาติ ตสฺสา เทสนากาโล อปทิฏฺโ โหติ. เย ปน ‘‘วิภงฺคานนฺตรํ กถาวตฺถุปกรณํ เทสิต’’นฺติ วทนฺติ, เตสํ วาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘วิภงฺคานนฺตรํ…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห.

‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทิวจนโต (สุ. นิ. ๔๓๘; มหานิ. ๒๘; จูฬนิ. นนฺทมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔๗) กิเลสวิทฺธํสนมฺปิ เทวปุตฺตมารสฺส พลวิธมนนฺติ สกฺกา วตฺตุํ, ‘‘อปฺปวตฺติกรณวเสน กิเลสาภิสงฺขารมาราน’’นฺติ ปน วุจฺจมานตฺตา ขนฺติพลสทฺธาพลาทิอานุภาเวน อุสฺสาหปริสาพลภฺชนเมว เทวปุตฺตมารสฺส พลวิทฺธํสนํ ทฏฺพฺพํ. วิสยาติกฺกมนํ กามธาตุสมติกฺกโม. สมุทยปฺปหานปริฺาวเสนาติ ปหานาภิสมยปริฺาภิสมยานํ วเสน. นนุ เจตํ ปฺจนฺนํ มารานํ ภฺชนํ สาวเกสุปิ ลพฺภเตวาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปรูปนิสฺสยรหิต’’นฺติอาทิ. วีรสฺส ภาโว วีริยนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘มหาวีริโยติ มหาวีโร’’ติ. มหาวีริยตา จ ปริปุณฺณวีริยปารมิตาย จตุรงฺคสมนฺนาคตวีริยาธิฏฺาเนน อนฺสาธารณจตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสมฺปตฺติยา จ เวทิตพฺพา. ตโต เอว หิสฺส วีริยาหานิสิทฺธิปีติ.

ขนฺธาทิเก ธมฺเม อธิฏฺาย นิสฺสาย วิสยํ กตฺวา อภิธมฺมกถา ปวตฺตาติ อาห ‘‘อภิธมฺมกถาธิฏฺานฏฺเน วา’’ติ. เตสํ กถนโตติ เตสํ ขนฺธาทีนํ กถาภาวโต. เอเตน อตฺถวิเสสสนฺนิสฺสโย พฺยฺชนสมุทาโย ปกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ธาตุโย กถียนฺติ เอตฺถ, เอเตน วาติ ธาตุกถา, ตถาปวตฺโต พฺยฺชนตฺถสมุทาโย. ยทิ เอวํ สตฺตนฺนมฺปิ ปกรณานํ ธาตุกถาภาโว อาปชฺชตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยทิปี’’ติอาทิ. ตตฺถ สาติสยนฺติ สวิเสสํ วิจิตฺตาติเรกวเสน อนวเสสโต จ เทสนาย ปวตฺตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกา’’ติ (ธาตุ. ๕). เตเนวาห ‘‘เอกเทสกถนเมว หิ อฺตฺถ กต’’นฺติ.

อิทานิ สาสเน เยสุ ธาตุ-สทฺโท นิรุฬฺโห, เตสํ วเสน อฺเหิปิ อสาธารณํ อิมสฺส ปกรณสฺส ธาตุกถาภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ขนฺธายตนธาตูหิ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ขนฺธายตนธาตูสุ. มหนฺโต ปเภทานุคโต วิสโย เอตาสนฺติ มหาวิสยา, ธาตุโย, น ขนฺธายตนานิ อปฺปตรปทตฺตา. เยน วา สภาเวน ธมฺมา สงฺคหาสงฺคหสมฺปโยควิปฺปโยเคหิ อุทฺเทสนิทฺเทเส ลภนฺติ, โส สภาโว ธาตุ. สา ธาตุ อิธ สาติสยํ เทสิตาติ สวิเสสํ ธาตุยา กถนโต อิทํ ปกรณํ ‘‘ธาตุกถา’’ติ วุตฺตํ. สภาวตฺโถ หิ อยํ ธาตุ-สทฺโท ‘‘ธาตุโส, ภิกฺขเว, สตฺตา สํสนฺทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๙๘) วิย. ธาตุเภทนฺติ ธาตุวิภาคํ. ปกรณนฺติ วจนเสโส. กุโต ปกรณ-สทฺโท ลพฺภตีติ อาห ‘‘สตฺตนฺนํ ปกรณานํ กเมน วณฺณนาย ปวตฺตตฺตา’’ติ. เตน โยชนํ กตฺวาติ เตน ปกรณ-สทฺเทน ‘‘ธาตุกถาว ปกรณํ ธาตุกถาปกรณ’’นฺติ โยชนํ กตฺวา. ตํ ทีปนนฺติ ตํ ธาตุกถาปกรณสฺส อตฺถทีปนํ, อตฺถทีปนากาเรน ปวตฺตํ วณฺณนํ. ‘‘อตฺถํ ทีปยิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตํ สุณาถา’’ติ วทนฺโต โสตทฺวารานุสาเรน ตตฺถ อุปธารเณ นิโยเชตีติ อาห ‘‘ตํทีปนวจนสวเนน อุปธาเรถาติ อตฺโถ’’ติ.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. มาติกาวณฺณนา

๑. นยมาติกาวณฺณนา

. จุทฺทสวิเธนาติ จุทฺทสปฺปกาเรน, จุทฺทสหิ ปเทหีติ อตฺโถ. ตตฺถ ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติ อิทเมกํ ปทํ, ตถา ‘‘สมฺปโยโค วิปฺปโยโค’’ติ. ‘‘สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺต’’นฺติอาทีนิ ปน ตีณิ ตีณิ ปทานิ เอเกกํ ปทํ. อิตเรสุ ปทวิภาโค สุวิฺเยฺโยว. เอเตหีติ สงฺคหาทิปฺปกาเรหิ. นยนํ ปาปนํ, ตํ ปน ปวตฺตนํ าปนฺจ โหตีติ ‘‘ปวตฺตียติ ายนฺตี’’ติ จ ทฺวิธาปิ อตฺโถ วุตฺโต. นยา เอว อุทฺทิสิยมานา มาติกา. อตฺถทฺวเยปิ ปวตฺตนาณกิริยานํ กรณภาเวน สงฺคหาทิปฺปการา นยาติ วุตฺตา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อิมินา สงฺคหาทิเกน นเยนา’’ติ (ธาตุ. อฏฺ. ๑). ปทานนฺติ อตฺถทีปกานํ วจนานํ. ปชฺชติ เอเตน อตฺโถติ หิ ปทํ. ปทานนฺติ จ สํสามิสมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ปกรณสฺสาติ ปน อวยวาวยวีสมฺพนฺเธ.

๒. อพฺภนฺตรมาติกาวณฺณนา

. ตทตฺถานีติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทตฺถานิ. ปฏิจฺจ สมุปฺปชฺชติ สงฺขาราทิกํ เอตสฺมาติ หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ปจฺเจกํ อวิชฺชาทิโก ปจฺจยธมฺโม. ตถา หิ วุตฺตํ สงฺขารปิฏเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา, ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ. เตสนฺติ ขนฺธาทีนํ. ตถาทสฺสิตานนฺติ คณนุทฺเทสวิภาคมตฺเตน ทสฺสิตานํ. กสฺมา ปเนตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ทฺวาทสภาเวเนว คหิโต, นนุ ตตฺถ ภโว กมฺมภวาทิเภเทน, โสกาทโย จ สรูปโตเยว อิธ ปาฬิยํ คหิตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ‘‘ปฺจวีสาธิเกน ปทสเตนา’’ติ เอวํ วุตฺเต อฏฺกถาวจเน. กมฺมภวสฺส ภาวนภาเวน, อุปปตฺติภวสฺส ภวนภาเวน. ปทตฺถโต ปน กมฺมภโว ภวติ เอตสฺมาติ ภโว, อิตโร ภวติ, ภวนํ วาติ. ตนฺนิทานทุกฺขภาเวนาติ ชรามรณนิทานทุกฺขภาเวน.

‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกา’’ติ อิทมฺปิ ธาตุกถาย มาติกากิตฺตนเมวาติ ‘‘สพฺพาปิ…เป… มาติกาติ อยํ ธาตุกถามาติกาโต พหิทฺธา วุตฺตา’’ติ วจนํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ปกรณนฺตรคตา วุตฺตา ธาตุกถาย มาติกาภาเวนาติ อตฺโถ. กามฺเจตฺถ มาติกาภาเวน วุตฺตา, ปกรณนฺตรคตตฺตา ปน อฺโต คเหตพฺพรูปา อิโต พหิภูตา นาม โหนฺติ, สรูปโต คหิตาว ปฺจกฺขนฺธาติอาทิกา อพฺภนฺตรา. เตนาห ‘‘สรูปโต ทสฺเสตฺวา ปิตตฺตา’’ติ. มาติกาย อสงฺคหิตตฺตาติ มาติกาย สรูเปน อสงฺคหิตตฺตา, น อฺถา. น หิ มาติกาย อสงฺคหิโต โกจิ ปทตฺโถ อตฺถิ. วิกิณฺณภาเวนาติ ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วิสุํ วิสุํ กิณฺณภาเวน วิสฏภาเวน.

๓. นยมุขมาติกาวณฺณนา

. นยานํ สงฺคหาทิปฺปการวิเสสานํ ปวตฺติ เทสนา, ตสฺสา วินิคฺคมฏฺานตาย ทฺวารํ. ยถาวุตฺตธมฺมา ยถารหํ ขนฺธายตนธาตุโย อรูปิโน จ ขนฺธาติ เตสํ อุทฺเทโส นยมุขมาติกา. เตนาห ‘‘นยาน’’นฺติอาทิ. วิยุชฺชนสีลา, วิโยโค วา เอเตสํ อตฺถีติ วิโยคิโน, ตถา สหโยคิโน, สงฺคหาสงฺคหธมฺมา จ วิโยคีสหโยคีธมฺมา จ สงฺคหา…เป… ธมฺมา, สงฺคณฺหนาสงฺคณฺหนวเสน วิยุชฺชนสํยุชฺชนวเสน จ ปวตฺตนกสภาวาติ อตฺโถ. จุทฺทสปีติอาทินา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. เยหีติ เยหิ ขนฺธาทีหิ อรูปกฺขนฺเธหิ จ. เต จตฺตาโรติ เต สงฺคหาทโย จตฺตาโร. สจฺจาทีหิปีติ สจฺจอินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหิปิ สห. ยถาสมฺภวนฺติ สมฺภวานุรูปํ, ยํ ยํ ปทํ สงฺคหิโต อสงฺคหิโตติ จ วตฺตุํ ยุตฺตํ, ตํ ตนฺติ อตฺโถ.

โส ปนาติ สงฺคหาสงฺคโห. สงฺคาหกภูเตหีติ สงฺคหณกิริยาย กตฺตุภูเตหิ. เตหีติ สจฺจาทีหิ. น สงฺคหภูเตหีติ สงฺคหณกิริยาย กรณภูเตหิ สจฺจาทีหิ สงฺคหาสงฺคโห น วุตฺโต. ตตฺถาปิ หิ ขนฺธายตนธาตุโย เอว กรณภูตาติ ทสฺเสติ. ขนฺธาทีเหว สงฺคเหหีติ ขนฺธาทีหิเยว สงฺคณฺหนกิริยาย กรณภูเตหิ, ‘‘ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนสงฺคเหน อสงฺคหิตา, ธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ, ทฺวีหายตเนหิ, อฏฺหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ สงฺคหาสงฺคโห นิยเมตฺวา วุตฺโต. ตสฺมาติ ยสฺมา สจฺจาทีนิ สงฺคาหกภาเวน วุตฺตานิ, น สงฺคหภาเวน, ขนฺธาทีนิเยว จ สงฺคหภาเวน วุตฺตานิ, ตสฺมา.

กสฺมา ปเนตฺถ สจฺจาทโย สงฺคหวเสน น วุตฺตาติ? ตถาเทสนาย อสมฺภวโต. น หิ สกฺกา รูปกฺขนฺธาทีนํ สมุทยสจฺจาทีหิ, สฺาทีนํ วา อินฺทฺริยาทีหิ สงฺคหนเยน ปุจฺฉิตุํ วิสฺสชฺชิตุํ วาติ. ตถา อริยผลาทีสุ อุปฺปนฺนเวทนาทีนํ สจฺจวินิมุตฺตตาย ‘‘เวทนากฺขนฺโธ กติหิ สจฺเจหิ สงฺคหิโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวาปิ ‘‘เอเกน สจฺเจน สงฺคหิโต’’ติอาทินา นิยเมตฺวา สงฺคหํ ทสฺเสตุํ น สกฺกาติ. ยถาสมฺภวนฺติ เยหิ สมฺปโยโค, เยหิ จ วิปฺปโยโค, ตทนุรูปํ.

รูปํ รูเปน นิพฺพาเนน วา วิปฺปยุตฺตํ น โหติ, นิพฺพานํ วา รูเปน. กสฺมา? สมฺปยุตฺตนฺติ อนาสงฺกนียสภาวตฺตา. จตุนฺนฺหิ ขนฺธานํ อฺมฺํ สมฺปโยคีภาวโต ‘‘รูปนิพฺพาเนหิปิ โส อตฺถิ นตฺถี’’ติ สิยา อาสงฺกา, ตสฺมา เตสํ อิตเรหิ, อิตเรสฺจ เตหิ วิปฺปโยโค วุจฺจติ, น ปน รูปสฺส รูเปน, นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส วา รูเปน กตฺถจิ สมฺปโยโค อตฺถีติ ตทาสงฺกาภาวโต วิปฺปโยโคปิ รูปสฺส รูปนิพฺพาเนหิ, นิพฺพานสฺส วา เตน น วุจฺจติ, อรูปกฺขนฺเธหิเยว ปน วุจฺจตีติ อาห ‘‘จตูเหวา’’ติอาทิ. อนารมฺมณสฺส จกฺขายตนาทิกสฺส. อนารมฺมณอนารมฺมณมิสฺสเกหีติ อนารมฺมเณน โสตายตนาทินา อนารมฺมณมิสฺสเกน จ ธมฺมายตนาทินา. มิสฺสกสฺส ธมฺมายตนาทิกสฺส. อนารมฺมณอนารมฺมณมิสฺสเกหิ น โหตีติ โยเชตพฺพํ. เยสํ ปน เยหิ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนารมฺมณสฺส ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา หิ สารมฺมณสฺส อนารมฺมเณน อนารมฺมณมิสฺสเกน จ วิปฺปโยโค โหติ, เอวํ สารมฺมเณนปิ โส โหติเยว. เตน วิย อนารมฺมณสฺส อนารมฺมณมิสฺสกสฺส จาติ ทฏฺพฺพํ.

๔. ลกฺขณมาติกาวณฺณนา

. วิสุํ โยชนา กาตพฺพาติ โย ตีหิ สงฺคโห จตูหิ จ สมฺปโยโค วุตฺโต, ตํ สภาโค ภาโว ปโยเชติ, โย จ ตีหิ อสงฺคโห จตูหิ จ วิปฺปโยโค วุตฺโต, ตํ วิสภาโค ภาโวติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺคโห…เป… วิฺายตี’’ติ อาห. ยสฺส สงฺคโห, โส ธมฺโม ขนฺธาทิโก สภาโค. ยสฺส อสงฺคโห, โส วิสภาโค. ตถา สมฺปโยเคสุปิ เวทิตพฺพํ. อิทานิ ยถาวุตฺตํ สภาคตํ สรูปโต นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมานภาโว สงฺคเห สภาคตา, เอกุปฺปาทาทิโก สมฺปโยเคติ อิมินา รุปฺปนาทิวิธุโร อสมานสภาโว อสงฺคเห วิสภาคตา, นานุปฺปาทาทิโก วิปฺปโยเคติ อยมตฺโถ อตฺถสิทฺโธติ น วุตฺโตติ.

๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา

. เอเตน ปนากาเรนาติ สรูเปน อคฺคเหตฺวา ยถาวุตฺเตน ปกรณนฺตรมาติกาย อิธ มาติกาภาวกิตฺตนสงฺขาเตน ปนากาเรน. ปกรณนฺตรปิตาย มาติกาย อวิภาเคน ปจฺฉโต คหณํ พหิ ปนนฺติ อาห ‘‘พหิ ปิฏฺิโต ปิตตฺตา’’ติ. อิธ อฏฺเปตฺวาติ อิมิสฺสา ธาตุกถาย สรูเปน อวตฺวา. ตถา ปกาสิตตฺตาติ มาติกาภาเวน โชติตตฺตา. ธมฺมสงฺคณีสีเสน หิ ธมฺมสงฺคณิยํ อาคตมาติกาว คหิตาติ. เยหิ นเยหิ ธาตุกถาย นิทฺเทโส, เตสุ นเยสุ, เตหิ วิภชิตพฺเพสุ ขนฺธาทีสุ, เตสํ นยานํ ปวตฺติทฺวารลกฺขเณสุ จ อุทฺทิฏฺเสุ ธาตุกถาย อุทฺเทสวเสน วตฺตพฺพํ วุตฺตเมว โหตีติ ยํ อุทฺเทสวเสน วตฺตพฺพํ, ตํ วตฺวา ปุน ยถาวุตฺตานํ ขนฺธาทีนํ กุสลาทิวิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกา’’ติ วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ มาติกาย นิกฺเขปวิธิ เวทิตพฺโพ.

‘‘คาวีติ อยมาหา’’ติ เอตฺถ คาวี-สทฺโท วิย ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติ เอตฺถ ปทตฺถวิปลฺลาสการินา อิติ-สทฺเทน อตฺถปทตฺถโก สงฺคหาสงฺคห-สทฺโท สทฺทปทตฺถโก ชายตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อนิทฺธาริตตฺถสฺส สทฺทสฺเสว วุตฺตตฺตา’’ติ. เตน อตฺถุทฺธารโต สงฺคหสทฺทํ สํวณฺเณตีติ ทสฺเสติ. อนิทฺธาริตวิเสโสติ อสงฺคหิตชาติสฺชาติอาทิวิเสโส. สามฺเน คเหตพฺพตนฺติ สงฺคหสทฺทาภิเธยฺยตาสามฺเน วิฺายมาโน วุจฺจมาโน วา. น เจตฺถ สามฺฺจ เอกรูปเมวาติ โจทนา กาตพฺพา เภทาเปกฺขตฺตา ตสฺส. ยตฺตกา หิ ตสฺส วิเสสา, ตทเปกฺขเมว ตนฺติ. ‘‘อตฺตโน ชาติยา’’ติ วิฺายติ ยถา ‘‘มตฺเตยฺยา’’ติ วุตฺเต อตฺตโน มาตุ หิตาติ.

ธมฺมวิเสสํ อนิทฺธาเรตฺวาติ สงฺคหิตตาทินา ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺเชตพฺพธมฺมานํ วิเสสนํ อกตฺวา. สามฺเนาติ อวิเสเสน. ธมฺมานนฺติ ขนฺธาทิธมฺมานํ. อวเสสา นิทฺธาเรตฺวาติ ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติอาทิกา อวเสสา ทฺวาทสปิ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺเชตพฺพธมฺมวิเสสํ นิทฺธาเรตฺวา ธมฺมานํ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยอุทฺเทสาติ โยชนา. นนุ จ ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติอาทโยปิ ยถาวุตฺตวิเสสํ อนิทฺธาเรตฺวา สามฺเน ธมฺมานํ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยุทฺเทสาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติอาทิ. ยสฺส อตฺโถ ายติ, สทฺโท จ น ปยุชฺชติ, โส โลโปติ เวทิตพฺโพ, อาวุตฺติอาทิวเสน วา อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพ. เตนาติ ลุตฺตนิทฺทิฏฺเน อสงฺคหิต-สทฺเทน. สงฺคหิตวิเสสวิสิฏฺโติ จกฺขายตเนน ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตตาวิเสสวิสิฏฺโ, เตน โสตายตนาทิภาเวน อสงฺคหิโต โสตปสาทาทิโก โย รุปฺปนสภาโว ธมฺมวิเสโส. ตนฺนิสฺสิโต ตํ ธมฺมวิเสสํ นิสฺสาย ลพฺภมาโน. ‘‘เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ…เป… จตูหิ ขนฺเธหิ อสงฺคหิตา’’ติอาทินา อสงฺคหิตตาสงฺขาโต ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนนโย ปรโต ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชิยมาโน อิธ อุทฺทิฏฺโ โหติ. วิเสสเน กรณวจนนฺติ อิมินา ตสฺส ธมฺมสฺส ยถาวุตฺตสงฺคหิตตาวิเสสวิสิฏฺตํเยว วิภาเวติ. เอวเมเต ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺเชตพฺพธมฺมวิเสสํ นิทฺธาเรตฺวา ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยุทฺเทสา ปวตฺตาติ เวทิตพฺพา.

นนุ จ ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติ เอตฺตาวตาปิ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ? น ลพฺภติ ตสฺส ธมฺมมตฺตทีปนโต. นยุทฺเทโส เหโส, น ธมฺมุทฺเทโส. ตถา หิ ปาฬิยํ สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิทฺเทเส ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตน…เป… ธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติ วตฺวา ‘‘เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ…เป… อสงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๑๗๑) ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ ทุติยํ อสงฺคหิตปทํ คหิตํ. อฺถา ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, เต ธมฺมา อายตนสงฺคเหน อสงฺคหิตา, ธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา. เต กตเม’’อิจฺเจว นิทฺทิสิตพฺพํ สิยา.

เอส นโยติ อติเทเสน ทสฺสิตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘เตสุปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตติยปเทนาติ ลุตฺตนิทฺเทเสน คเหตพฺพนฺติ วุตฺตปทํ สนฺธายาห. กตฺตุอตฺเถ กรณนิทฺเทโส สงฺคหิตาสงฺคหิเตหิ เตหิ ธมฺเมหิ ธมฺมานํ สงฺคหิตตาสงฺคหิตตาย วุตฺตตฺตา. ตถา หิ ตตฺถ ปาฬิยํ ‘‘เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา’’ติ ธมฺมมุเขเนว สงฺคหิตตาสงฺคหิตตา วุตฺตา. ทุติยตติเยสุ ปน สงฺคหิตตาสงฺคหิตตาสงฺขาตวิเสสนทฺวาเรน ธมฺมานํ อสงฺคหิตตาสงฺคหิตตา วุตฺตาติ ตตฺถ ‘‘วิเสสเน กรณวจน’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตตฺถ หิ…เป… ธมฺมนฺตรสฺสา’’ติ. ตตฺถ สภาวนฺตเรนาติ สงฺคหิตตาสงฺคหิตตาสงฺขาเตน สภาวนฺตเรน ปการนฺตเรน. สภาวนฺตรสฺสาติ อสงฺคหิตตาสงฺคหิตตาสงฺขาตสฺส สภาวนฺตรสฺส. เอเตสูติ จตุตฺถปฺจเมสุ. ธมฺมนฺตเรนาติ อฺธมฺเมน. ธมฺมนฺตรสฺสาติ ตโต อฺสฺส ธมฺมสฺส วิเสสนํ กตํ. ตตฺถ หิ อนฺตเรน ปการวิเสสามสนํ ธมฺเมเนว ธมฺโม วิเสสิโตติ. อาทิปเทเนวาติ ‘‘สงฺคหิเตนา’’ติอาทินา วุตฺเตน ปมปเทเนว. อิตเรหีติ ‘‘สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺต’’นฺติอาทินา วุตฺเตหิ ทุติยตติยปเทหิ. เอตฺถาติ เอกาทสมาทีสุ จตูสุ. ทุติยตติเยสุ วิย วิเสสเน เอว กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ, น จตุตฺถปฺจเมสุ วิย กตฺตุอตฺเถติ อธิปฺปาโย. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานนฺติอาทินา ตเมวตฺถํ วิภาเวติ.

วิวิธกปฺปนโตติ วิวิธํ พหุธา กปฺปนโต, สงฺคหาสงฺคหานํ วิสุํ สห จ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาวกปฺปนโตติ อตฺโถ. ตํ ปน วิกปฺปนํ วุตฺตากาเรน วิภชนํ โหตีติ อาห ‘‘วิภาคโตติ อตฺโถ’’ติ. สนฺนิฏฺานลกฺขเณน อธิโมกฺเขน สมฺปยุตฺตธมฺมา อารมฺมเณ นิจฺฉยนากาเรน ปวตฺติยา สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตธมฺมา. เต จ เตหิ สทฺธึ ตทวสิฏฺเ ทฺวิปฺจวิฺาณวิจิกิจฺฉาสหคตธมฺเม จ สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตา จ สพฺเพ จ จิตฺตุปฺปาทา สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทา’’ติ. อิตเรติ ผสฺสาทโย. สพฺเพสนฺติ เอกูนนวุติยา จิตฺตุปฺปาทานํ. ปริคฺคเหตพฺพาติ สงฺคหาทิวเสน ปริคฺคณฺหิตพฺพา. มหาวิสเยน อธิโมกฺเขน. อฺเสนฺติ วิตกฺกาทีนํ. วจนํ สนฺธายาติ ‘‘อธิมุจฺจนํ อธิโมกฺโข, โส สนฺนิฏฺานลกฺขโณ’’ติ ธมฺมสงฺคหวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. เยวาปนกวณฺณนา) ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อธิโมกฺโข, อธิโมกฺขปจฺจยา ภโว’’ติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค จ อาคตํ วจนํ สนฺธาย. อตฺเถ สตีติ ‘‘สนฺนิฏฺาน…เป… สาธารณโต’’ติ เอวมตฺเถ วุจฺจมาเน. วตฺตพฺเพสูติ สงฺคหาทิปริคฺคหตฺถํ วตฺตพฺเพสุ. วุตฺตา ผสฺสาทโย มนสิการปริโยสานา. ตาทิสสฺสาติ ผสฺสาทิสทิสสฺส สาธารณสฺส อธิโมกฺขสทิสสฺส อสาธารณสฺส อฺสฺส ธมฺมสฺส อภาวา.

นนุ ชีวิตินฺทฺริยจิตฺตฏฺิติโยปิ สาธารณาติ? สจฺจํ สาธารณา, อตฺถิ ปน วิเสโสติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ ปนา’’ติอาทิ. อสมาธิสภาวา พลภาวํ อปฺปตฺตา สามฺสทฺเทเนว วตฺตพฺพาติ โยชนา. สามฺวิเสสสทฺเทหิ จาติ สามฺวิเสสสทฺเทหิ วตฺตพฺพา จ สมาธิสภาวา จิตฺเตกคฺคตา. วิเสสสทฺทวจนียํ อฺนฺติ พลปฺปตฺตสมาธิโต อฺํ สามฺสทฺเทน พฺยาเปตพฺพํ, วิเสสสทฺเทน จ นิวตฺเตตพฺพํ นตฺถิ สมาธิสภาวาย เอว จิตฺเตกคฺคตาย คหิตตฺตา. น อฺพฺยาปกนิวตฺตโก สามฺวิเสโส อนฺ…เป… วิเสโส, ตสฺส ทีปนโต. ตสฺเสว ธมฺมสฺสาติ ตสฺเสว พลปฺปตฺตสมาธิธมฺมสฺส. เภททีปเกหีติ วิเสสทีปเกหิ สมาธิพลาทิวจเนหิ วตฺตพฺพา. วุตฺตลกฺขณา อนฺพฺยาปกนิวตฺตกสามฺวิเสสทีปนา สทฺทา. ตโต วิปรีเตหิ อฺํ พฺยาเปตพฺพํ นิวตฺเตตพฺพฺจ คเหตฺวา ปวตฺเตหิ สามฺวิเสสสทฺเทเหว น สุขาทิสภาวา เวทนา วิย วตฺตพฺพา. ตสฺมาติ ยสฺมา อสมาธิสภาวา สมาธิสภาวาติ ทฺเวธา ภินฺทิตฺวา คหิตา จิตฺเตกคฺคตา, ตสฺมา. อสมาธิสภาวเมว ปกาเสยฺย วิเสสสทฺทนิรเปกฺขํ ปวตฺตมานตฺตา. อิตโรติ สมาธิพลาทิโก วิเสสสทฺโท. อิธาติ อิมสฺมึ อพฺภนฺตรมาติกุทฺเทเส, สาธารเณ ผสฺสาทิเก, มหาวิสเย วา อธิโมกฺเข อุทฺทิสิยมาเน. นนุ จ อภินฺทิตฺวา คยฺหมานา จิตฺเตกคฺคตา เวทนา วิย สาธารณา โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อภินฺนาปิ วา’’ติอาทิ. ‘‘จิตฺตสฺส ิติ จิตฺเตกคฺคตา อวิสาหฏมานสตา (ธ. ส. ๑๑, ๑๕). อรูปีนํ ธมฺมานํ อายุ ิตี’’ติ (ธ. ส. ๑๙) วจนโต สมาธิชีวิตินฺทฺริยานํ อฺธมฺมนิสฺสเยน วตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา. น อรหตีติ อิธ อุทฺเทสํ น อรหติ สมุเขเนว วตฺตพฺเพสุ ผสฺสาทีสุ อุทฺทิสิยมาเนสูติ อตฺโถ.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. ปมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา

๑. ขนฺธปทวณฺณนา

. ‘‘อภิฺเยฺยธมฺมภาเวน วุตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา, ‘‘รูปกฺขนฺโธ อภิฺเยฺโย’’ติอาทินา จ อภิฺาตลกฺขณวิสยาติ อาห ‘‘สภาวโต อภิฺาตาน’’นฺติ. ปริฺเยฺยตาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพตา สงฺคยฺหติ. อธิปติยาทีติ อธิปติปจฺจยภาวอุปฏฺานปทหนาทีนิ. สจฺจาทิวิเสโส วิยาติ ทุกฺขสจฺจาทิปริยาโย อภิฺเยฺยปีฬนฏฺาทิวิเสโส วิย. เอวฺจ กตฺวาติ นยมุขมาติกาย อภิฺเยฺยนิสฺสเยน วุจฺจมานตฺตา เอว. เตสํ รูปธมฺมานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ขนฺธภาเวน วิย รูปกฺขนฺธภาเวน สภาคตา โหติ, น เวทนากฺขนฺธาทิภาเวนาติ สงฺคหลกฺขณมาห. อิตีติ ตสฺมา, ยสฺมา รูปธมฺมา อฺมฺํ รูปกฺขนฺธภาเวน สภาคา, ตสฺมาติ อตฺโถ. รูปกฺขนฺธภาวสงฺขาเตน รูปกฺขนฺธภาเวน อตฺถมุเขเนว คหเณ. สทฺททฺวาเรน ปน คหเณ รูปกฺขนฺธวจนสงฺขาเตน วา รูปกฺขนฺธวจนวจนียตาสงฺขาเตน. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘รูปกฺขนฺโธติ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปุริเมนาติ รูปกฺขนฺเธน. สฺากฺขนฺธมูลกาติอาทีสุ ‘‘ปุริเมน โยชิยมาเน’’ติอาทึ อาเนตฺวา ยถารหํ โยเชตพฺพํ. อเภทโต ปฺจกปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ ขนฺธปทนิทฺเทเส สพฺพปจฺฉิมเมวาติ อาห ‘‘เภทโต ปฺจกปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานนฺตร’’นฺติ.

อายตนปทาทิวณฺณนา

๔๐. ยทิปิ เอกเกปิ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ วิสฺสชฺชนํ สมุทยมคฺคสจฺจานํ ‘‘สมุทยสจฺจํ เอเกน ขนฺเธน…เป… มคฺคสจฺจํ เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตํ, จตูหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๔๑) นิทฺทิฏฺตฺตา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ อินฺทฺริยปทนิทฺเทเส. จกฺขุโสตจกฺขุสุขินฺทฺริยทุกานนฺติ จกฺขุโสตทุกํ จกฺขุสุขินฺทฺริยทุกนฺติ เอเตสํ ทุกานํ. จกฺขุโสตสุขินฺทฺริยานฺหิ ‘‘เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตํ, จตูหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิต’’นฺติ เอกเก สทิสํ วิสฺสชฺชนํ. จกฺขุโสตินฺทฺริยทุกสฺส ปน ‘‘จกฺขุนฺทฺริยฺจ โสตินฺทฺริยฺจ เอเกน ขนฺเธน ทฺวีหายตเนหิ ทฺวีหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, จตูหิ ขนฺเธหิ ทสหายตเนหิ โสฬสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ, ‘‘จกฺขุนฺทฺริยฺจ สุขินฺทฺริยฺจ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหายตเนหิ ทฺวีหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสหายตเนหิ โสฬสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ จกฺขุสุขินฺทฺริยทุกสฺส จ อสทิสํ วิสฺสชฺชนํ. นาปิ ทุเกหิ ติกสฺสาติ จกฺขุโสตจกฺขุสุขินฺทฺริยาทิทุเกหิ จกฺขุโสตสุขินฺทฺริยาทิติกสฺส นาปิ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ. อิธาติ สจฺจปทนิทฺเทเส. ติเกน จาติ ทุกฺขสมุทยมคฺคาทิติเกน จ. ‘‘ปฺจหิ ขนฺเธหิ ทฺวาทสหายตเนหิ อฏฺารสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, น เกหิจิ ขนฺเธหิ น เกหิจิ อายตเนหิ น กาหิจิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา’’ติ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ.

๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนา

๖๑. อวิชฺชาวจเนนาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตฺถ อวิชฺชาคฺคหเณน. วิเสสนํ น กตฺตพฺพํ, ‘‘สพฺพมฺปิ วิฺาณ’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณมาห ‘‘กุสลาทีนมฺปี’’ติอาทินา. วิสฺสชฺชนาสทิเสน สพฺพวิฺาณาทิสงฺคหณโต. เตสนฺติ วิฺาณาทิปทานํ. อิธาติ อิมสฺมึ ปมนเย. อกมฺมชานมฺปิ สงฺคหิตตา วิฺายติ สทฺทายตนสฺสปิ คหิตตฺตา.

๗๑. ชายมาน…เป… มานานนฺติ ชายมานาทิอวตฺถานํ ธมฺมานํ. ชายมานาทิภาวมตฺตตฺตาติ นิพฺพตฺตนาทิอวตฺถามตฺตภาวโต. วินิพฺภุชฺชิตฺวาติ อวตฺถาภาวโต วินิพฺโภคํ กตฺวา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมานานิ, สภาวมตฺตภูตานีติ ปรมตฺถธมฺมานํ อวตฺถาภาวมตฺตภูตานิ. อปรมตฺถสภาวานิปิ รูปธมฺมสฺส นิพฺพตฺติอาทิภาวโต รุปฺปนภาเวน คยฺหนฺติ. ตโต ‘‘รูปกฺขนฺธสฺส สภาคานิ, อรูปานํ ปน ชาติชรามรณานี’’ติ อาเนตฺวา โยชนา. เอเกกภูตานีติ ยถา เอกสฺมึ รูปกลาเป ชาติอาทีนิ เอเกกานิเยว โหนฺติ, เอวํ เอกสฺมึ อรูปกลาเปปีติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘รูปกลาปชาติอาทีนิ วิยา’’ติอาทิ. อนุภวนสฺชานนวิชานนกิจฺจานํ เวทนาทีนํ นิพฺพตฺติอาทิภูตานิปิ ชาติอาทีนิ ตถา น คยฺหนฺตีติ อาห ‘‘เวทิยน…เป… อคยฺหมานานี’’ติ. เตน เวทนากฺขนฺธาทีหิ ชาติอาทีนํ สงฺคหาภาวมาห. ‘‘ชาติ, ภิกฺขเว, อนิจฺจา สงฺขตา’’ติอาทิวจนโต ชาติอาทีนมฺปิ สงฺขตปริยาโย อตฺถีติ สงฺขตาภิสงฺขรณกิจฺเจน สงฺขารกฺขนฺเธน เตสํ สงฺคโหติ วุตฺตํ ‘‘สงฺขตา…เป… สภาคานี’’ติ. เตเนว จ สงฺขารกฺขนฺธสฺส อเนกนฺตปรมตฺถกิจฺจตา เวทิตพฺพา. ตถา ทุวิธานีติ วุตฺตปฺปกาเรน รูปารูปธมฺมานํ นิพฺพตฺติอาทิภาเวน ทฺวิปฺปการานิ. เตนาติ ยถาวุตฺตสภาคตฺเถน. เตหิ ขนฺธาทีหีติ รูปกฺขนฺธสงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ.

ปมนยสงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยนโย สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๑. ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติ เอตฺถ สงฺคหิตาสงฺคหิตสทฺทา ภินฺนาธิกรณา น คเหตพฺพา วิเสสนวิเสสิตพฺพตาย อิจฺฉิตตฺตา. โย หิ ธมฺโม สงฺคหิตตาวิเสสวิสิฏฺโ อสงฺคหิโต เหฏฺา อุทฺทิฏฺโ, สฺเวว อิธ อสงฺคหิตภาเวน ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชียตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ตํ…เป… ตเทว ทสฺเสนฺโต’’ติ อาห. เย หิ ธมฺมา จกฺขายตเนน ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน จ อสงฺคหิตา, เตสํเยว ปุน ขนฺธาทีหิ อสงฺคโห ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘จกฺขายตเนน…เป… อาหา’’ติ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ นเยสุ วาเรสุ จ. ขนฺธาทิสงฺคหสามฺานนฺติ ‘‘ขนฺธสงฺคเหนา’’ติอาทินา อวิเสเสน วุตฺตานํ ขนฺธาทิสงฺคหานํ. ‘‘สามฺโชตนา วิเสเส อวติฏฺตี’’ติ อาห ‘‘นิจฺจํ วิเสสาเปกฺขตฺตา’’ติ. วิเสสาวโพธนตฺถานิ ปฺหพฺยากรณานีติ วุตฺตํ ‘‘เภทนิสฺสิตตฺตา จ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาน’’นฺติ. สวิเสสาว ขนฺธาทิคณนาติ ‘‘ขนฺธสงฺคเหนา’’ติอาทินา อวิเสเสน วุตฺตาปิ รูปกฺขนฺธาทินา สวิเสสาว ขนฺธาทิคณนา, ขนฺธาทินา สงฺคโหติ อตฺโถ. สุทฺธาติ เกวลา อนวเสสา, สามฺภูตาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถาติ ยถาธิกเต ทุติยนเย. สามฺโชตนาย วิเสสนิทฺทิฏฺตฺตา อาห ‘‘สงฺคหิ…เป… นิทฺธาริตตฺตา’’ติ. ตีสุ สงฺคเหสูติ ขนฺธาทิสงฺคเหสุ ตีสุ. อฺเหีติ วุตฺตาวเสเสหิ ทฺวีหิ เอเกน วา. เอตฺตเกเนว ทสฺเสตพฺพา สิยุํ ตาวตาปิ สงฺคหิเตน อสงฺคหิตภาวสฺส ปกาสิตตฺตา. เตสนฺติ สงฺคหิเตนอสงฺคหิตภาเวน วุตฺตธมฺมานํ. เอวํวิธานนฺติ ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตน’’นฺติอาทินา อนิทฺธาริตวิเสสานํ. อสมฺภวาติ วุตฺตปฺปกาเรน นิทฺทิสิตุํ อสมฺภวา. สงฺคหาทินยทสฺสนมตฺตํ นยมาติกาย พฺยาปาโร, ยตฺถ ปน สงฺคหาทโย, เต ขนฺธาทโย กุสลาทโย จ เตสํ วิสยภูตาติ เตหิ วินา สงฺคหาทีนํ ปวตฺติ นตฺถิ. เตนาห ‘‘นยมาติกาย อพฺภนฺตรพาหิรมาติกาเปกฺขตฺตา’’ติ. สงฺคาหกํ อสงฺคาหกฺจาติ วตฺตพฺพํ. โย หิ อิธ สงฺคาหกภาเวน วุตฺโต ธมฺโม อสงฺคาหกภาเวนปิ วุตฺโตเยวาติ.

‘‘เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติ, ‘‘เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติ จ ยตฺถ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมวิเสสนิทฺธารณํ นตฺถิ, ตตฺถ ปมนเย ฉฏฺนเย จ ‘‘รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต? เอเกน ขนฺเธนา’’ติ (ธาตุ. ๖), ‘‘รูปกฺขนฺโธ กติหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺโตติ? นตฺถิ. จตูหิ ขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๒๘) จ เอวํ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพภาเวน. อิตเรสูติ ทุติยาทินเยสุ. ตสฺส ตสฺสาติ ยํ ปุจฺฉิตพฺพํ วิสฺสชฺชิตพฺพฺจ ‘‘เย ธมฺมา’’ติ อนิยมิตรูเปน นิทฺธาริตํ, ตสฺส ตสฺส ‘‘เต ธมฺมา’’ติ นิยามกภาเวน.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปกรเณ. เยน เยน จกฺขายตนาทินา สงฺคาหเกน. ขนฺธาทิสงฺคเหสูติ ขนฺธายตนธาตุสงฺคเหสุ. เตน เตนาติ ขนฺธาทิสงฺคเหน. อฺนฺติ ตโต ตโต สงฺคาหกโต อฺํ. ตพฺพินิมุตฺตํ สงฺคเหตพฺพาสงฺคเหตพฺพํ ยํ ธมฺมชาตํ อตฺถิ, ตํ ตเทว ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติ สงฺคาหกาสงฺคาหกภาเวน อุทฺธฏํ. อฺโ ธมฺโม นตฺถิ ตสฺส สภาคภาเวน สงฺคาหกสฺเสว อภาวโต. สิยา ปเนตํ สภาเคน เอกเทเสน สงฺคโหติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘น จ โส…เป… โหตี’’ติ. ยฺจาติอาทินา วจนนฺตรํ ปริหรติ.

ยทิ จาติอาทินาปิ ตสฺเสว เตน สงฺคหาภาวํ ปาาภาวทสฺสเนน วิภาเวติ. ตตฺถ โส เอวาติ โย รูปาทิกฺขนฺโธ สงฺคาหกภาเวน วุตฺโต, โส เอว เตน รูปาทิกฺขนฺเธน สงฺคยฺเหยฺย สงฺคเหตพฺโพ ภเวยฺย, เตเนว ตสฺส สงฺคหาภาเว ลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น หิ โส เอว ตสฺส สภาโค วิสภาโค จา’’ติ. เอกเทสา วิย จกฺขายตนาทโย สมุทายสฺส รูปกฺขนฺธาทิกสฺส. รูปกฺขนฺโธ จกฺขายตนาทีนํ น สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ สภาควิสภาคภาวาภาวโต. เอส นโย เสเสสุปิ. สมุทายนฺโตคธานนฺติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. ตตฺถ เยนาติ วิภาเคน. เตติ เอกเทสา. เตสนฺติ เอกเทสานํ. เอตฺถ ตทนฺโตคธตาย วิภาคาภาโว, วิภาคาภาเวน สภาควิสภาคตาภาโว, เตน สงฺคาหกาสงฺคาหกตาภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ.

ยถา สพฺเพน สพฺพํ สภาควิสภาคาภาเวน เอกเทสานํ สมุทาโย สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ น โหติ, เอวํ เอกเทสสภาควิสภาคานนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาติอาทิ อุทาหรณทสฺสเนน ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณํ. ขนฺธสงฺคเหน สงฺคาหกํ อสงฺคาหกฺจาติ โยชนา. ตถา เสเสสุปิ. น หิ เอกเทส…เป… วิสภาคํ เยน สมุทาโย สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ สิยาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ สงฺคาหกตฺตํ ตาว มา โหตุ, อสงฺคาหกตฺตํ ปน กสฺมา ปฏิกฺขิปียตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปรามสติ. อตฺตโต อฺสฺส, อตฺตนิ อนฺโตคธโต อฺสฺส, อตฺเตกเทสสภาคโต อฺสฺส สติปิ อสงฺคาหกตฺเตติ โยชนา. ตํ ปเนตํ ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิโต อสงฺคหิโต จ น โหตี’’ติอาทินา วุตฺเต ตโย ปกาเร สนฺธาย วุตฺตํ. สงฺคาหกตฺตเมว เอเตสํ นตฺถีติ เอเตสํ อตฺตา, อตฺตนิ อนฺโตคโธ, อตฺเตกเทสสภาโค จาติ วุตฺตานํ สงฺคาหกภาโว เอว นตฺถิ สภาคาภาวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘น หิ โส เอว ตสฺส สภาโค’’ติอาทิ. เยนาติ สงฺคาหกตฺเตน. เอวรูปานนฺติ ยถาวุตฺตานํ ติปฺปการานํ อคฺคหณํ เวทิตพฺพํ สติปิ วิสภาคภาเวติ อธิปฺปาโย.

เตนาติ ‘‘ธมฺมายตน’’นฺติอาทินา วจเนน. เอกเทสสฺส เวทนากฺขนฺธาทิกสฺส สมุทายสฺส ธมฺมายตนสฺส สงฺคาหกตฺตํ เอกเทเสน สมุทายสฺส สงฺคหิตภาวนฺติ อตฺโถ, สมุทายสฺส รูปกฺขนฺธสฺส เอกเทสสฺส จกฺขายตนสฺส โสตายตนสฺส จ สงฺคาหกตฺตํ สมุทาเยน เอกเทสสฺส สงฺคหิตภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ น ทสฺเสติ, อถ กึ ทสฺเสตีติ อาห ‘‘จตุกฺขนฺธคณนเภเทหี’’ติอาทิ. ตตฺถ จตุกฺขนฺธคณนเภเทหีติ รูปาทิจตุกฺขนฺธคณนวิภาเคหิ. ปฺจธาติ รูปาทิจตุกฺขนฺธสงฺคโห วิฺาณกฺขนฺธสงฺคโหติ เอวํ ปฺจปฺปกาเรน ภินฺนตํ. เตนาห ‘‘คเณตพฺพาคเณตพฺพภาเวนา’’ติ. ‘‘เอเกน ขนฺเธนา’’ติอาทีสุ กรณตฺเถ กรณวจนํ, น กตฺตุอตฺเถติ กตฺวา อาห ‘‘สงฺคาหกาสงฺคาหกนิรเปกฺขาน’’นฺติ. เตเนวาห ‘‘กมฺมกรณมตฺตสพฺภาวา’’ติ. ทุติยาทโย ปน นยา. อคณนาทิทสฺสนานีติ อคณนคณนทสฺสนานิ. นนุ จ ทุติยาทีสุ คณนาทีนิปิ วิชฺชนฺตีติ? สจฺจํ วิชฺชนฺติ, ตานิ ปน วิเสสนภูตานิ อปฺปธานานีติ วิเสสิตพฺพภูตานํ ปธานานํ วเสเนวํ วุตฺตํ. ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติอาทินา กตฺตุอาทโย นิทฺทิฏฺาติ อาห ‘‘กตฺตุกรณกมฺมตฺตยสพฺภาวา’’ติ.

ตถา ตถาติ เตน เตน รูปกฺขนฺธาทิปฺปกาเรน. ตํตํขนฺธาทิภาวาภาโว สภาควิสภาคตาติ รูปธมฺมาทีนํ รูปกฺขนฺธาทิภาโว สภาคตา, เวทนากฺขนฺธาทิอภาโว วิสภาคตาติ อตฺโถ. ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสเนติ ‘‘เย ธมฺมา, เต ธมฺมา’’ติ นิทฺธาริตปฺปการธมฺมนิรูปเน. สงฺคาหกสงฺคเหตพฺพานนฺติ จกฺขายตนาทิกสฺส สงฺคาหกสฺส โสตายตนาทิกสฺส จ สงฺคเหตพฺพสฺส. สมานกฺขนฺธาทิภาโวติ เอกกฺขนฺธาทิภาโว, รูปกฺขนฺธาทิภาโวติ อตฺโถ. ตทภาโวติ ตสฺส สมานกฺขนฺธาทิภาวสฺส อภาโว อฺกฺขนฺธาทิภาโว. อยนฺติ ยฺวายํ ปมนเย ตถา ตถา คเณตพฺพาคเณตพฺพตาสงฺขาโต ทุติยาทินเยสุ ยถาวุตฺตานํ สมานกฺขนฺธาทิภาวาภาวสงฺขาโต ตํตํขนฺธาทิภาวาภาโว วุตฺโต, อยเมเตสํ ทฺวิปฺปการานํ นยานํ สภาควิสภาคตาสุ วิเสโส.

สมุทยสจฺจสุขินฺทฺริยาทีติ อาทิ-สทฺเทน มคฺคสจฺจทุกฺขินฺทฺริยาทิ สงฺคยฺหติ. อสงฺคาหกตฺตาภาวโตติ สงฺคหิตตาวิสิฏฺสฺส อสงฺคาหกตฺตสฺส อภาวโต. น หิ สกฺกา ‘‘สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติอาทิ วตฺตุํ. ทุกฺขสจฺจสทิสานิ อพฺยากตปทาทีนิ. อิตเรหีติ อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคาหกตฺตาสงฺคาหกตฺตาภาวโต น อุทฺธฏานีติ โยชนา. เอวนฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺตํ. น รูปกฺขนฺโธติ น สพฺโพ รูปกฺขนฺธธมฺโมติ อตฺโถ.

‘‘ขนฺธปเทนา’’ติ อิทํ กรณตฺเถ กรณวจนํ, น กตฺตุอตฺเถติ อาห ‘‘ขนฺธปทสงฺคเหนาติ อตฺโถ’’ติ. เตเนวสฺส กตฺตุอตฺถตํ ปฏิเสเธตุํ ‘‘น สงฺคาหเกนา’’ติ วุตฺตํ. กรณํ ปน กตฺตุรหิตํ นตฺถีติ อาห ‘‘เกนจิ สงฺคาหเกนาติ อิทํ ปน อาเนตฺวา วตฺตพฺพ’’นฺติ. สงฺคาหเกสุ น ยุชฺชติ น สงฺคเหตพฺเพสูติ อธิปฺปาโย. รูปกฺขนฺธธมฺมา หิ ‘‘เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติ วุตฺตาติ. สมุทาเย วุตฺตวิธิ ตทวยเวปิ สมฺภวตีติ โจทนํ สมุฏฺาเปนฺโต ‘‘เอเตน นเยนา’’ติอาทิมาห. ปฏิโยคีนิวตฺตนํ เอว-สทฺเทน กรียตีติ อาห ‘‘น หิ อฺมตฺตนิวารณํ เอว-สทฺทสฺส อตฺโถ’’ติ. เตนาห ‘‘สงฺคาหกโต อฺนิวารณํ เอว-สทฺทสฺส อตฺโถ’’ติ. โส จ…เป… เปกฺขนฺติ อิมินา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. สงฺคาหกาเปกฺขตฺเต หิ ‘‘โส จา’’ติอาทิวจนสฺส ‘‘จกฺขายตเนน รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต’’ติ เอตฺถ จกฺขายตนํ สงฺคาหกนฺติ ยถาธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส อสมฺภโว เอวาติ อิทานิ ตํ อสมฺภวํ วิภาเวนฺโต ‘‘กถ’’นฺติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอตฺถาติ ‘‘อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตูหี’’ติ เอตฺถ. ‘‘รูปกฺขนฺเธนา’’ติ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ อายตนธาตุวิเสสนตฺถํ. น โส เอว ตสฺส, สมุทาโย วา ตเทกเทสานํ สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ โหตีติ วุตฺโตวายมตฺโถติ อาห ‘‘รูปกฺขนฺโธ…เป… น โหตี’’ติ. อิมินา ปริยาเยนาติ ยสฺมา วุตฺตปฺปการํ สงฺคาหกตฺตํ นตฺถิ ‘‘เยน สงฺคหิตสฺส อสงฺคาหกํ สิยา’’ติ อิมินา ปริยาเยน. อสงฺคหิตตาย อภาโว วุตฺโต อฏฺกถายํ (ธาตุ. อฏฺ. ๑๗๑) ‘‘โส จ…เป… นตฺถี’’ติ. สงฺคหิตตายาติ นิปฺปริยาเยน สงฺคหิตภาเวน อสงฺคหิตตาย อภาโว วุตฺโตติ น ยุชฺชตีติ โยชนา. สา สงฺคหิตตาติ อตฺตนา อตฺตโน, อตฺเตกเทสานํ วา สงฺคหิตตา. เตนาติ รูปกฺขนฺเธน. เตสนฺติ รูปกฺขนฺธตเทกเทสานํ. อตฺถิ จ วิปฺปยุตฺตตา เวทนากฺขนฺธาทีหิ. จกฺขายตนาทีหิ วิยาติ วิสทิสุทาหรณํ. เอเตหิ รูปเวทนากฺขนฺธาทีหิ อฺเหิ จ เอวรูเปหิ. เอตานิ อฺานิ จาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

เตเนว ตสฺส สงฺคหิตตฺตาภาวทสฺสเนน เหฏฺา ทสฺสิเตน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วาเร. อคฺคหเณติ อกถเน, อเทสนายนฺติ อตฺโถ. สมุทยสจฺจาทีสูติ สมุทยสจฺจสุขินฺทฺริยาทีสุ ยุชฺเชยฺย ตํ การณํ. กสฺมา? เตหิ สมุทยสจฺจาทีหิ ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิเต ธมฺมชาเต สติ ตสฺส อายตนสงฺคหาทีหิ อสงฺคหิตตฺตสฺส อภาวโต. รูปกฺขนฺธาทีหีติ รูปกฺขนฺธเวทนากฺขนฺธาทีหิ. สงฺคหิตเมว นตฺถิ, กสฺมา? ‘‘โส เอว ตสฺส สงฺคาหโก น โหตี’’ติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ยทิปิ รูปกฺขนฺธาทินา รูปกฺขนฺธาทิกสฺส อตฺตโน…เป… นตฺถีติ สมฺพนฺโธ. อฺสฺส ปน เวทนากฺขนฺธาทิกสฺส รูปกฺขนฺธาทินา สงฺคหิตตฺตาภาเวน อสงฺคหิตตฺตํ อตฺถีติ โยชนา. อุภยาภาโวติ สงฺคหิตตฺตาสงฺคหิตตฺตาภาโว. เอตฺถ เอตสฺมึ วาเร. ธมฺมายตนชีวิตินฺทฺริยาทีนนฺติ ธมฺมายตนาทีนํ ขนฺธจตุกฺกสงฺคาหกตฺเต, ชีวิตินฺทฺริยาทีนํ ขนฺธทุกสงฺคาหกตฺเตติ โยชนา. ปาฬิยํ อนาคตตฺตา ‘‘สตี’’ติ สาสงฺกํ วทติ. อาทิ-สทฺเทน ปเมน ธมฺมธาตุสฬายตนาทีนํ สุขินฺทฺริยาทีนฺจ, ทุติเยน เอกกฺขนฺธสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สุขินฺทฺริยฺหิ เวทนากฺขนฺธสฺเสว สงฺคาหกํ. เตสนฺติ ขนฺธจตุกฺกขนฺธทุกาทีนํ อสงฺคหิตตา น นตฺถิ อตฺเถวาติ ตสฺสา อภาโว อเนกนฺติโก. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ‘‘รูปกฺขนฺธาทีหิ ปนา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.

ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว ปุพฺเพ วุตฺเต สนิทสฺสนสปฺปฏิฆปเท. นิวตฺเตตฺวา คณฺหนฺโตติ ปุพฺเพ วุตฺตํ ปฏินิวตฺเตตฺวา คณฺหนฺโต ปจฺจามสนฺโต. ตทวตฺตพฺพตาติ เตสํ สงฺคาหกาสงฺคาหกสงฺคหิตตฺตาสงฺคหิตตฺตานํ อวตฺตพฺพตา. อสงฺคาหกตฺตาภาวโต เอว…เป… น สงฺคาหกตฺตาภาวโตติ ยสฺมา เนสํ อสงฺคาหกตฺตํ วิย สงฺคาหกตฺตมฺปิ นตฺถิ, ตโต เอว สงฺคหิตตฺตาสงฺคหิตตฺตมฺปีติ ทสฺเสติ.

ทุติยนยสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยนโย อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๙. รูปกฺขนฺเธน ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิเตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกเทสสภาคตา สมุทายสภาคตา น โหติ, ตสฺมา. เตนาติ รูปกฺขนฺเธน. ตานีติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยนิพฺพานานิ. ยถา จ เอกเทสวิสภาคตาย น สงฺคหิตตา, เอวํ เอกเทสสภาคตาย อสงฺคหิตตาปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิมาห. สงฺคหิตาเนว น น โหนฺตีติ โยชนา. เตติ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยนิพฺพานสุขุมรูปธมฺมา. เตหีติ วิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีหิ. น กถฺจิ สมฺมิสฺสาติ เกนจิปิ ปกาเรน น สมฺมิสฺสาติ อสมฺมิสฺสตาย สงฺคหิตตฺตาภาวํ สาเธติ. รูปกฺขนฺเธน วิย…เป… น โหตีติ ยถา รูปกฺขนฺเธน สภาคตาภาวโต นิพฺพานํ น เกนจิปิ สงฺคหเณน สงฺคหิตํ, เอวํ วิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีหิ ตํ อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตํ น โหตีติ ขนฺธสงฺคหาภาโว ปากโฏ วุตฺโตวาติ เอวํ วุตฺตํ.

เอวรูปานนฺติ รูปกฺขนฺธวิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีนํ. น หิ นิพฺพานํ สนฺธาย ‘‘รูปกฺขนฺเธน วิฺาณกฺขนฺเธน จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สงฺคาหกตฺตาภาวโต เอวา’’ติ. ตถา ‘‘อพฺยากเตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติอาทิ น สกฺกา วตฺตุํ ตาทิสสฺส ธมฺมสฺส อภาวโตติ อาห ‘‘สนิพฺพาน…เป… ภาวโตวา’’ติ. อคฺคหณํ เวทิตพฺพนฺติ โยชนา. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. กฺจีติ กฺจิ ธมฺมชาตํ. เตติ อพฺยากตธมฺมาทโย. อตฺตโนติ อพฺยากตธมฺมาทึ สนฺธายาห. เอกเทโสติ รูปกฺขนฺธาทิ. อตฺเตกเทสสภาโคติ นิพฺพานํ. ตฺหิ ธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปนฺนตาย ตเทกเทสสภาโค. อสงฺคหิตสงฺคาหกตฺตาติ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตานํ สฺากฺขนฺธาทีนํ อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคาหกตฺตาติ อตฺโถ.

วิสภาคกฺขนฺธนิพฺพานสมุทายตฺตา ขนฺธสงฺคเหน ธมฺมายตเนน น โกจิ ธมฺโม สงฺคหิโต อตฺถีติ โยชนา. เอตสฺสาติ ‘‘ธมฺมายตเนน สงฺคหิตา’’ติ เอตสฺส ปทสฺส ธมฺมายตนคณเนน สงฺคหิตาติ อตฺโถ. โอฬาริกรูปสมฺมิสฺสํ ธมฺมายตเนกเทสํ.

ตติยนยอสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถนโย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๑. ติณฺณํ สงฺคหานนฺติ ขนฺธายตนธาตุสงฺคหานํ. สงฺคหณปุพฺพํ อสงฺคหณํ, อสงฺคหณปุพฺพํ สงฺคหณฺจ วุจฺจมานํ สงฺคหณาสงฺคหณานํ ปวตฺติวิเสเสน วุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘สงฺคหณา…เป… อุทฺทิฏฺา’’ติ. สงฺคหาภาวกโต อสงฺคโห สงฺคหเหตุโก สงฺคหสฺส ปวตฺติวิเสโสเยว นาม โหตีติ อาห ‘‘สงฺคหณปฺปวตฺติวิเสสวิรเห’’ติ. เกนจิ สมุทยสจฺจาทินา ตีหิปิ สงฺคเหหิ สงฺคหิเตน สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺเนน ธมฺมวิเสเสน ปุน ตเถว สงฺคหิโต โส เอว สมุทยสจฺจาทิโก ธมฺมวิเสโส สงฺคหิเตน สงฺคหิโต. สงฺคาหกตฺตาภาวสพฺภาวา สงฺคาหกภาเวน น อุทฺธฏา, น อสงฺคาหกตฺตา เอว. ยถา หิ ตีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคาหกา, เอวํ ทฺวีหิ, เอเกนปิ สงฺคเหน น สงฺคาหกา อิธ น อุทฺธฏา. เตหิ สงฺคหิตาติ เตหิ ตีหิ สงฺคเหหิ สงฺคหิตา ธมฺมา. ยสฺสาติ ยสฺส อตฺตโน สงฺคาหกสฺส.

สกลวาจเกนาติ อนวเสสํ ขนฺธาทิอตฺถํ วทนฺเตน. เตน ขนฺธาทิปเทนาติ ‘‘เตเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺยา’’ติ เอตฺถ เตน ขนฺธาทิปเทนาติ เอวํ โยเชตพฺพํ. เอวํ ปน อโยเชตฺวา ‘‘ยํ อตฺตโน สงฺคาหกํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน เตเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺย, ตํ อฺํ สงฺคหิตํ นาม นตฺถี’’ติ เอวํ น สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมาติ เจ? น หิ เยน สมุทยสจฺจาทินา ยํ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนํ ธมฺมชาตํ ขนฺธาทิสงฺคเหหิ สงฺคหิตํ, เตเนว สมุทยสจฺจาทินา ตสฺส ตทวสิฏฺสฺส สงฺขารกฺขนฺธธมฺมสฺส, น จ ตสฺเสว เกวลสฺส สมุทยสจฺจาทิกสฺส สงฺคโห ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺชิโตติ โยชนา, อถ โข เตน สงฺขารกฺขนฺธธมฺเมน ผสฺสาทินา. สงฺคหิตสฺสาติ สงฺคหิตตาวิสิฏฺสฺสาติ อตฺโถ. ตสฺมา อตฺตโน สงฺคาหกํ สกลกฺขณาทึ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน เตน ขนฺธาทิปเทน ยํ สงฺคหํ คจฺเฉยฺย, ตํ ตาทิสํ นตฺถีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนา สทฺโท จ ขนฺโธ อายตนฺจาติ เวทนา วิสุํ ขนฺโธ, สทฺโท จ วิสุํ อายตนนฺติ อตฺโถ. อฺเน ขนฺธนฺตราทินา. อสมฺมิสฺสนฺติ อพฺยากตทุกฺขสจฺจาทิ วิย อมิสฺสิตํ. น หิ…เป… เอตฺถาติ สงฺคหิตตาวิสิฏฺเน ธมฺเมน โย ธมฺโม สงฺคหิโต, ตสฺส สงฺคหิตตาวิสิฏฺโเยว โย สงฺคโห, โส น เอตฺถ วาเร ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺชิโต จ. สงฺคโหวาติ เกวโล สงฺคโห, น กตฺตาเปกฺโขติ อตฺโถ. น สงฺคาหเกนาติ อิทํ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นิวตฺติตสฺส ทสฺสนํ. น หีติอาทิ ตํสมตฺถนํ.

จตุตฺถนยสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๓. วุตฺตนเยนาติ ยสฺมา สงฺคหปฺปวตฺติวิเสสวิรหิโต อสงฺคหิตธมฺมวิเสสนิสฺสิโต ปฺจมนโย, ตสฺมา โย เอตฺถ เกนจิ อสงฺคหิเตน ธมฺมวิเสเสน ปุน อสงฺคหิโต ธมฺมวิเสโส อสงฺคหิเตน อสงฺคหิโต อสงฺคหิตตาย ปุจฺฉิตพฺโพ วิสฺสชฺชิตพฺโพ จ. ตเมว ตาว ยถานิทฺธาริตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา ขนฺธ…เป… อสงฺคหิตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา ขนฺธ…เป… อสงฺคหิตาติ อาหา’’ติ จตุตฺถนเย วุตฺตนยานุสาเรน. ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสนนฺติ ปาฬิยํ นิทฺธาริตปฺปการธมฺมทสฺสนํ. สห สุขุมรูเปนาติ สสุขุมรูปํ, เตน สุขุมรูเปน สทฺธึ คหิตํ วิฺาณํ, เตน สหิตธมฺมสมุทายา สสุขุม…เป… ทายา. เก ปน เตติ อาห ‘‘ทุกฺขสจฺจา’’ติอาทิ. เกสฺจีติ นิพฺพานจกฺขายตนาทีนํ. ตีหิปิ สงฺคเหหิ. ปริปุณฺณสงฺคเหหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคาหกา ปริปุณฺณสงฺคหาสงฺคาหกา. อพฺยากตธมฺมสทิสา เนวทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพเนวเสกฺขานาเสกฺขาทโย. อิตเรติ รูปกฺขนฺธาทโย. ตพฺพิปริยาเยนาติ วุตฺตวิปริยาเยน, ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคเหตพฺพสฺส อตฺถิตาย ปริปุณฺณสงฺคหาสงฺคาหกตฺตาติ อตฺโถ.

อสงฺคาหเกสุ นิพฺพานํ อนฺโตคธํ, ตสฺมา ตํ อนิทสฺสนอปฺปฏิเฆหิ อสงฺคเหตพฺพํ น โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘น จ ตเทว ตสฺส อสงฺคาหก’’นฺติ. ‘‘เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา’’ติอาทโย นว ปฺหา ทุติยปฺหาทโย, เต ปมปฺเหน สทฺธึ ทส, นามรูปปฺหาทโย ปน จตุวีสตีติ อาห ‘‘สพฺเพปิ จตุตฺตึส โหนฺตี’’ติ. รูปกฺขนฺธาทิวิเสสกปทนฺติ ‘‘รูปกฺขนฺเธนา’’ติอาทินา อสงฺคาหกตฺเตน วิเสสกํ รูปกฺขนฺธาทิปทํ. ปุจฺฉายาติ จ ปุจฺฉนตฺถนฺติ อตฺโถ. ‘‘รูปกฺขนฺเธนา’’ติอาทิ สพฺพมฺปิ วา วิฺาเปตุํ อิจฺฉิตภาเวน วจนํ ปฺหภาวโต ปุจฺฉา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปฺหา ปเนตฺถ…เป… จตุตฺตึส โหนฺตี’’ติ. เต หิ ลกฺขณโต ทสฺสิตาติ เต นิทฺธาริตธมฺมา เตเนว อสงฺคหิตาสงฺคหิตตาย นิทฺธารณสงฺขาเตน ลกฺขเณน ทสฺสิตา.

ตเทวาติ เอว-สทฺเทนาติ ‘‘ตเทวา’’ติ เอตฺถ เอว-สทฺเทน. ‘‘ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตํ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิต’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ขนฺธาทีเหวา’’ติ อวธารณํ นิปฺปโยชนํ ปการนฺตรสฺส อภาวโต. ‘‘ตีหิ อสงฺคโห’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา ‘‘อสงฺคหิตเมวา’’ติ สงฺคหิตตานิวตฺตนสฺส อนธิปฺเปตตฺตา. ตเทวาติ ปน อิจฺฉิตํ อุทฺธฏสฺเสว อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตภาวสฺส อวธาเรตพฺพตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น กทาจี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อฺสฺสาติ อนุทฺธฏสฺส. อนิยตตํ ทสฺเสตีติ อิทํ อวธารณผลทสฺสนํ. นิยมโตติ สกฺกา วจนเสโส โยเชตุนฺติ อิทมฺปิ เอว-กาเรน สิทฺธเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ วุตฺตํ. ยโต หิ เอว-กาโร, ตโต อฺตฺถ นิยโมติ. เอวํปการเมวาติ ปุจฺฉาย อุทฺธฏปฺปการเมว, ยํ ปการํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ, ตํปการเมวาติ อตฺโถ. ตสฺสาติ อสงฺคหิตสฺส. อฺสฺสาติ ปุจฺฉาย อนุทฺธฏปฺปการสฺส. เอเตน โย ปุจฺฉาย อุทฺธโฏ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิโต, ตสฺเสว อิธ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพภาโว, น อฺสฺสาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ปุจฺฉาย อุทฺธฏฺหี’’ติอาทิ. อายตนธาตุสงฺคหวเสน เจตฺถ รูปกฺขนฺธาทีนํ อฺสหิตตา, วิฺาณกฺขนฺธาทีนํ อสหิตตา จ เวทิตพฺพา.

อวเสสา เวทนาทโย ตโย ขนฺธา นิพฺพานฺจ สกเลน รูปกฺขนฺเธน เตสํ สงฺคโห นตฺถีติ ‘‘สงฺคหิตา’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, เอกเทเสน ปน สงฺคโห อตฺถีติ ‘‘อสงฺคหิตา น โหนฺตีติ เอวํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ‘‘รูปธมฺมาวา’’ติ นิยมนํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏภาวาเปกฺขนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุจฺฉาย…เป… อธิปฺปาโย’’ติ อาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุทฺธฏา เวทนาทโยปิ หิ อสงฺคหิตา เอวา’’ติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปฺจมนยนิทฺเทเส. ปเม นเยติ ปเม อตฺถวิกปฺเป. ตถา ทุติเยติ เอตฺถาปิ. รูปวิฺาเณหีติ อสุขุมรูปธมฺเมหิ วิฺาเณน จาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอฬาริก…เป… อตฺโถ’’ติ อาห. กถํ ปน รูปธมฺมาติ วุตฺเต โอฬาริกรูปสฺเสว คหณนฺติ อาห ‘‘รูเปกเทโส หิ เอตฺถ รูปคฺคหเณน คหิโต’’ติ.

๑๙๖. อสงฺคาหกนฺติ ‘‘จกฺขายตเนน…เป… อสงฺคหิตา’’ติ เอวํ อสงฺคาหกภาเวน วุตฺตํ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺเชตพฺพภาเวน วุตฺตมฺปิ กามํ เวทนาทีเหว จตูหิ อสงฺคหิตํ, ตํ ปน น จกฺขายตนเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขายตเนน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เยหิ ธมฺเมหีติ ขนฺธาทีสุ เยหิ. สพฺพํ ธมฺมชาตํ เตว รูปาทิเก ธมฺเม อุทาเนติ ปาฬิยํ. กสฺมา ปเนตํ อุทาเนตีติ อาห ‘‘สทิสวิสฺสชฺชนา’’ติอาทิ. ปเมน อุทาเนน. ทฺเวติ ‘‘พาหิรา อุปาทา ทฺเว’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ ทฺเว-สทฺทํ สนฺธายาห. ตสฺส อสงฺคหิตสฺส. ยถาทสฺสิตสฺสาติ ‘‘รูป’’นฺติอาทินา ทสฺสิตปฺปการสฺส. ธมฺมนฺวยาณุปฺปาทนํ นยทานํ. ‘‘รูปํ ธมฺมายตน’’นฺติอาทีนํ ปทานํ วเสน ทฺเววีสปทิโก เอส นโย.

ปฺจมนยอสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉฏฺนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา

๒๒๘. ‘‘ตตฺถา’’ติ อิมินา ‘‘สมฺปโยควิปฺปโยคปทํ ภาเชตฺวา’’ติ เอตฺถ สมฺปโยควิปฺปโยคปทํ ภาชิตํ, สํวณฺเณตพฺพตาย จ ปธานภูตํ ปจฺจามฏฺํ, น รูปกฺขนฺธาทิปทนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ลพฺภติ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘รูปกฺขนฺธาทีสุ หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิวรติ. ตตฺถ น ลพฺภตีติ ‘‘สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺต’’นฺติ วา คเหตุํ น ลพฺภติ, อลพฺภมานมฺปิ ปุจฺฉาย คหิตํ ปฏิกฺเขเปน วิสฺสชฺเชตุํ. ปฏิกฺเขโปปิ หิ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนเมว. ตถา หิ ยมเก (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๕๙-๖๑) ‘‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถา’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘นตฺถี’’ติ วิสฺสชฺชิตํ. เตน ปเนตฺถ รูปธมฺเมสุ สมฺปโยคฏฺโ น ลพฺภตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. อลพฺภมานมฺปิ สมฺปโยคปทํ คหิตนฺติ สมฺพนฺโธ. สพฺพตฺถาติ รูปกฺขนฺธเวทนากฺขนฺธาทีสุ. เอเตสนฺติ รูปนิพฺพานานํ. วิสภาคตาติ อตํสภาคตา. เอกุปฺปาทาทิภาโว หิ สมฺปโยเค สภาคตา, น สงฺคเห วิย สมานสภาคตา, ตสฺมา เอกุปฺปาทาทิภาวรหิตานํ รูปนิพฺพานานํ สา เอกุปฺปาทาทิตา วิสภาคตา วุตฺตา. ตทภาวโตติ ตสฺสา วิสภาคตาย เอกุปฺปาทาทิตาย อภาวโต. วิปฺปโยโคปิ นิวาริโต เอว โหติ, วิสภาโค ภาโว วิปฺปโยโคติ วุตฺโตวายมตฺโถติ. ‘‘จตูสุ หี’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. ตตฺถ เตสํ เตหีติ จ อรูปกฺขนฺเธ เอว ปรามสติ. วิสภาคตา จ โหติ รูปนิพฺพาเนสุ อวิชฺชมานตฺตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘น จ รูเปกเทสสฺสา’’ติอาทิ. เตเนวาติ จตุกฺขนฺธสภาคตฺตา เอว.

ตีหิ วิฺาณธาตูหีติ ฆานชิวฺหากายวิฺาณธาตูหิ วิปฺปยุตฺเต อนารมฺมณมิสฺสเก รูปธมฺมมิสฺสเก ธมฺเม ทีเปติ รูปภโวติ โยชนา. ปฺจหีติ จกฺขุวิฺาณาทีหิ ปฺจหิ วิฺาณธาตูหิ. เอกาย มโนธาตุยา. น สมฺปยุตฺเตติ น สมฺปยุตฺเต เอว. ตถา หิ ‘‘วิปฺปยุตฺเต อโหนฺเต สตฺตหิปิ สมฺปยุตฺเต สตฺตปิ วา ตา’’ติ วุตฺตํ. เตนาติ วิปฺปยุตฺตตาปฏิกฺเขเปน. ตาหีติ สตฺตวิฺาณธาตูหิ. สมฺปยุตฺเต ทีเปนฺตีติ สมฺปยุตฺเต ทีเปนฺติเยว, น สมฺปยุตฺเต เอวาติ เอวมวธารณํ คเหตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สมฺปยุตฺเต เวทนาทิเก. สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตภาเวหิ นวตฺตพฺพํ, ตํเยว วิฺาณธาตุสตฺตกํ. สมฺปยุตฺตภาเวน นวตฺตพฺพานิ สมฺปยุตฺตนวตฺตพฺพานิ, ภินฺนสนฺตานิกานิ, นานากฺขณิกานิ จ อรูปานิปิ ธมฺมชาตานิ. อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพวิฺาณธาตุตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมายตนาทิปเทหิ ทีเปตพฺพา, อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพวิฺาณธาตุโย อเจตสิกาทิปเทหิ ทีเปตพฺพา, ตทุภยสมุทายา ทุกฺขสจฺจาทิปเทหิ ทีเปตพฺพาติ เวทิตพฺพา.

ยทิ เอวนฺติ ยทิ อนารมฺมณมิสฺสานํ ธมฺมานํ วิปฺปโยโค นตฺถิ. อนารมฺมณมิสฺโสภยธมฺมาติ รูปนิพฺพานสหิตสพฺพวิฺาณธาตุตํสมฺปยุตฺตธมฺมา. ขนฺธาทีเหวาติ ขนฺธายตนธาตูหิ เอว, น อรูปกฺขนฺธมตฺเตน. อรูปกฺขนฺเธเยว ปน สนฺธาย ‘‘เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ นายํ โทโสติ ทสฺเสติ. ตเทกเทสาติ ‘‘อนารมฺมณมิสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตธมฺมสมุทายสฺส เอกเทสา. ตเทกเทสฺสมุทายาติ ตสฺเสว ยถาวุตฺตสฺส สมุทายสฺส เอกเทสา หุตฺวา อฺเสํ อวยวานํ รูปกฺขนฺธาทีนํ สมุทายภูตา. วิภาคาภาวโตติ เภทาภาวโต. เภโทติ เจตฺถ อจฺจนฺตเภโท อธิปฺเปโต. น หิ สมุทายาวยวานํ สามฺวิเสสานํ วิย อจฺจนฺตเภโท อตฺถิ เภทาเภทยุตฺตตฺตา. เตสํ อจฺจนฺตเภทเมว หิ สนฺธาย ‘‘สมุทายนฺโตคธานํ เอกเทสานํ น วิภาโค อตฺถี’’ติ สงฺคเหปิ วุตฺตํ. เตนาติ อวิภาคสพฺภาวโต สภาควิสภาคตฺตาภาเวน. เตสนฺติ อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพวิฺาณธาตุอาทีนํ. เต จ อกุสลาพฺยากตา. เตสนฺติ กุสลากุสลาพฺยากตธมฺมานํ. ตสฺมาติ ยสฺมา วิภตฺตสภาวานํ น เตสํ สมุทาเยกเทสาทิภาโว, ตสฺมา. ยสฺมา ปน กุสลาทโย เอว ขนฺธาทโยติ ขนฺธาทิอามสเนน สมุทาเยกเทสาทิภาโว อาปนฺโน เอวาติ วุตฺตนเยน วิปฺปโยคาภาโว โหติ, ตสฺมา ตํ ปริหรนฺโต ‘‘ขนฺธาทีนิ อนามสิตฺวา’’ติอาทิมาห. เตสนฺติ กุสลาทีนํ. อฺมฺวิปฺปยุตฺตตา วุตฺตา ‘‘กุสเลหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา’’ติอาทินา. สพฺเพสูติ ทุติยาทิสพฺพปฺเหสุ.

ฉตฺตึสาย ปิฏฺิทุกปเทสุ วีสติ ทุกปทานิ อิมสฺมึ นเย ลพฺภนฺติ, อวสิฏฺานิ โสฬเสวาติ อาห ‘‘โสฬสาติ วตฺตพฺพ’’นฺติ. ตโต เอว ‘‘เตวีสปทสต’’นฺติ เอตฺถ ‘‘เตวีส’’นฺติ อิทฺจ ‘‘เอกวีส’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สพฺพตฺถาติ สพฺพปฺเหสุ. เอกกาเลกสนฺตานานํ ภินฺนกาลภินฺนสนฺตานานฺจ อเนเกสํ ธมฺมานํ สมุทายภูตา สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตุโยติ อาห ‘‘กาลสนฺตาน…เป… ธาตูน’’นฺติ. เอกเทสสมฺมิสฺสาติ จิตฺติทฺธิปาทาทินา อตฺตโน เอกเทเสเนว ขนฺธนฺตราทีหิ สมฺมิสฺสา อิทฺธิปาทาทโย, อนารมฺมเณหิ รูปนิพฺพาเนหิ จ อสมฺมิสฺสา. สมานกาลสนฺตาเนหีติ เอกกาลสนฺตาเนหิ กาลสนฺตานเภทรหิเตหิ เอกเทสนฺตเรหิ, สงฺขารกฺขนฺธาทีนํ เอกเทสนฺตเรหิ, สงฺขารกฺขนฺธาทีนํ เอกเทสวิเสสภูเตหิ สติปฏฺานสมฺมปฺปธานสฺากฺขนฺธาทีหิ วิภตฺตา เอว สมุทยสจฺจาทโย สมฺปโยคีวิปฺปโยคีภาเวน, รูปกฺขนฺธาทโย วิปฺปโยคีภาเวน คหิตาติ โยชนา. เตหิ สมุทยสจฺจาทีหิ. เต สฺากฺขนฺธาทโย. เกหิจิ สหุปฺปชฺชนารเหหิ เอกเทสนฺตเรหิ วิภตฺเตหิ. น หิ สงฺขารกฺขนฺธาทิปริยาปนฺนตฺเตปิ สมุทยสจฺจาทโย มคฺคสจฺจาทีหิ สมฺปโยคํ ลภนฺติ. เตสนฺติ เวทนากฺขนฺธสฺากฺขนฺธาทีนํ. เอกุปฺปาทา…เป… วิสภาคตา จาติ เอกุปฺปาทาทิตาสงฺขาตา ยถารหํ สภาคตา วิสภาคตา จ. เตน ยถาวุตฺตการเณน สมฺปโยคสฺส วิปฺปโยคสฺส จ ลภนโต.

ภินฺนกาลานํ สมุทายีนํ สมุทายา ภินฺนกาลสมุทายา. วตฺตมานา จ เอกสฺมึ สนฺตาเน เอเกกธมฺมา วตฺตนฺติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอตเทว, ตสฺมา. เตสํ เวทนากฺขนฺธาทีนํ วิภชิตพฺพสฺส เอกเทสภูตสฺส อภาวโต. สุขินฺทฺริยาทีนิ เวทนากฺขนฺเธกเทสภูตานิปิ. เตน วิภาคากรเณน. ยทิ สมานกาลสฺส วิภชิตพฺพสฺส อภาวโต จกฺขุวิฺาณธาตาทโย วิฺาณกฺขนฺธสฺส วิภาคํ น กโรนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตุ โสฬสหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ขนฺธายตน…เป… วิปฺปยุตฺตาติ วุตฺต’’นฺติ. เอวเมวนฺติ ยถา ธาตุวิภาเคน วิภตฺตสฺส วิฺาณสฺส, เอวเมวํ.

๒๓๕. ตํสมฺปโยคีภาวนฺติ เตหิ ขนฺเธหิ สมฺปโยคีภาวํ. ยถา หิ สมานกาลสนฺตาเนหิ เอกจิตฺตุปฺปาทคเตหิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺเธหิ สมุทยสจฺจสฺส สมฺปยุตฺตตา, เอวํ ภินฺนสนฺตาเนหิ ภินฺนกาเลหิ จ เตหิ ตสฺส วิปฺปยุตฺตตาติ อาห ‘‘เอวํ ตํวิปฺปโยคีภาวํ…เป… น วุตฺต’’นฺติ. วิสภาคตานิพนฺธสฺส วิภาคสฺส อภาเวน อวิภาเคหิ เตหิ ตีหิ ขนฺเธหิ. วิภาเค หีติอาทินา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. วิภาครหิเตหีติ สมานกาลสนฺตาเนหิ เอกจิตฺตุปฺปาทคตตฺตา อวิภตฺเตหิ เวทนากฺขนฺธาทีหิ น ยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตนฺติ วตฺตุํ. เตนาห ‘‘วิชฺชมาเนหิ…เป… ภาวโต’’ติ. ตตฺถ วิชฺชมานสฺส สมานสฺส สมานชาติกสฺสาติ อธิปฺปาโย. น หิ วิชฺชมานํ รูปารูปํ อฺมฺสฺส วิสภาคํ น โหติ. อนุปฺปนฺนา ธมฺมา วิยาติ อิทํ วิสทิสุทาหรณทสฺสนํ. ยถา ‘‘อนุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ อนาคตกาลํ วุจฺจตีติ อามฏฺกาลเภทํ, เอวํ ยํ อามฏฺกาลเภทํ น โหตีติ อตฺโถ. อุทฺธริตพฺพํ เทสนาย เทเสตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. วิชฺชมานสฺเสว วิชฺชมาเนน สมฺปโยโค, สมฺปโยคารหสฺเสว จ วิปฺปโยโคติ อตฺถิภาวสนฺนิสฺสยา สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตตาติ อาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนภาวํ นิสฺสายา’’ติ. เตเนวาห ‘‘อวิชฺชมานสฺสา’’ติอาทิ. ตฺจาติ อุทฺธรณํ.

วิภาครหิเตหีติ วิสภาคตาภาวโต อวิภาเคหิ. อนามฏฺกาลเภเทติ อนามฏฺกาลวิเสเส. อวิชฺชมานสฺส…เป… สมฺปโยโค นตฺถีติ เอเตน ปาริเสสโต วิชฺชมานสฺส จ วิชฺชมาเนน สมฺปโยโค ทสฺสิโต. อวิชฺชมานตาทีปเก เภเท คหิเตติ ยถาคหิเตสุ ธมฺเมสุ เตหิ วิปฺปโยคีนํ อวิชฺชมานภาวทีปเก เตสํเยว วิเสเส ‘‘อรูปภโว เอเกน ขนฺเธน ทสหายตเนหิ โสฬสหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺโต’’ติอาทินา (ธาตุ. ๒๔๖) คหิเต เตเนว รุปฺปนาทินา เภเทน เตสํ อฺมฺํ วิสภาคตาปิ คหิตา เอวาติ วิปฺปโยโค โหตีติ โยชนา. เภเท ปน อคฺคหิเต เตน เตน คหเณนาติ ยถาวุตฺเต อวิชฺชมานตาทีปเก วิเสเส, วิสภาเค วา อคฺคหิเต ‘‘เวทนา, สฺา, สงฺขารกฺขนฺโธ ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ สมฺปยุตฺโต’’ติอาทินา เตน เตน คหเณน สภาคตาทีปเนน วิสภาคตาย อคฺคหิตตฺตา สภาคตาว โหติ. ตถา จ สติ สภาคตฺเต กา ปเนตฺถ สภาคตาติ อาห ‘‘วิชฺชมานตาย…เป… โหตี’’ติ. ตสฺสาติ สภาคตาย. ตสฺมาติ วิสภาคตาย อลพฺภมานตฺตา, สภาคตาย จ ลพฺภมานตฺตา.

๒๖๒. วิตกฺโก วิยาติ สวิตกฺกสวิจาเรสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ วิตกฺโก วิย. โส หิ วิตกฺกรหิตตฺตา อวิตกฺโก วิจารมตฺโต จ. เตนาห ‘‘โกฏฺาสนฺตรจิตฺตุปฺปาเทสุ อลีนา’’ติ. ตโต เอว โส อปฺปธาโน, ทุติยฌานธมฺมา เอเวตฺถ ปธานาติ อาห ‘‘เย ปธานา’’ติ. เตเนวาติ สวิตกฺกสวิจาเรสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ วิตกฺกสฺส อวิตกฺกวิจารมตฺตคฺคหเณน อิธ อคฺคหิตตฺตา, วิตกฺกตฺติเก ทุติยราสิเยว จ อธิปฺเปตตฺตา. อนนฺตรนเยติ สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส. สมุทยสจฺเจน สมานคติกา สทิสปฺปวตฺติกา. อิตีติ อิมินา การเณน. เต อวิตกฺกวิจารมตฺตา ธมฺมา น คหิตา, สมุทยสจฺจํ วิย น เทสนารุฬฺหา. น สวิตกฺกสวิจาเรหิ สมานคติกาติ โยชนา. ยทิ หิ เต สวิตกฺกสวิจาเรหิ สมานคติกา สิยุํ, ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺเตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา น เกหิจิ ขนฺเธหิ, น เกหิจิ อายตเนหิ, เอกาย ธาตุยา วิปฺปยุตฺตา’’ติ วตฺตพฺพา สิยุํ. ยสฺมา ปน เต สมุทยสจฺเจน สมานคติกา. ยถา หิ เย สมุทยสจฺเจน สมฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตา, เตสํ เกหิจิ วิปฺปโยคํ วตฺตุํ น สกฺกา, เอวํ เตหิปิ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สมุทยสจฺจาทีนี’’ติอาทิ. ทสโม…เป… วุตฺโตติ เอตฺถ ทสมนเย เตหิ อวิตกฺกวิจารมตฺเตหิ วิปฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตานํ โสฬสหิ ธาตูหิ วิปฺปโยโค วุตฺโต, โอสานนเย เตหิ วิปฺปยุตฺตานํ อฏฺารสหิ ธาตูหิ สงฺคโห จ วุตฺโตติ ตสฺมา น เต สวิตกฺกสวิจาเรหิ สมานคติกาติ ทสฺเสติ.

วิตกฺกสหิเตสูติ สหวิตกฺเกสุ. เตสูติ อวิตกฺกวิจารมตฺเตสุ สห วิตกฺเกน ทุติยชฺฌานธมฺเมสุ, ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติ คหิเตสุ วุตฺเตสูติ อตฺโถ. สพฺเพปิ เตติ ทุติยชฺฌานธมฺมา วิตกฺโก จาติ สพฺเพปิ เต ธมฺมา สกฺกา วตฺตุํ. ตถา หิ สมฺปโยควิปฺปโยคปทนิทฺเทเส ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา ธมฺมา เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เอเกน ขนฺเธนาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. โส หิ สมุทาโยติ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺตา ธมฺมา’’ติ วุตฺตธมฺมสมุทาโย. นนุ วิตกฺโกเปตฺถ ธมฺมสงฺคหํ คโต, โส จ วิจารโต อฺเนปิ สมฺปยุตฺโตติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น หิ ตเทกเทสสฺส…เป… โหตี’’ติ. ยถาติอาทินา ตเมวตฺถํ อิทฺธิปาทนิทสฺสเนน วิภาเวติ. ตสฺสตฺโถ – ยถา อิทฺธิปาทสมุทายสฺส เอกเทสภูตานํ ฉนฺทิทฺธิปาทาทีนํ ตีหิ ขนฺเธหิ สมฺปโยโค วุตฺโต, ตํสมุทายสฺส น โหติ, เอวํ อิธาปิ วิตกฺกสฺส อฺเหิ สมฺปโยโค อวิตกฺกวิจารมตฺตสฺส สมุทายสฺส น โหตีติ.

ยทิ เอวํ ‘‘อิทฺธิปาโท ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺโต’’ติอาทิ น วตฺตพฺพนฺติ เจ? โน น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตสูติ อิทฺธิปาเทสุ. สมุทายสฺสาติ อิทฺธิปาทสมุทายสฺส. เตหิ เวทนากฺขนฺธาทีหิ สมฺปยุตฺตตา วุตฺตา ‘‘อิทฺธิปาโท ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺโต’’ติอาทินา. เตนาติ วิจาเรน. น หีติอาทินา ยถาธิคตธมฺมานํ สมฺปยุตฺตตาย นวตฺตพฺพาภาวํ อุทาหรณทสฺสนวเสน วิภาเวติ. เกจิ วิจิกิจฺฉา ตํสหคตา จ โมหวชฺชา โมเหน สมฺปยุตฺตา, เกจิ อสมฺปยุตฺตา. โมเหนาติ วิจิกิจฺฉาสหคตโมหเมว สนฺธาย วทติ. อิติ อิมินา การเณน น สมุทาโย เตน โมเหน สมฺปยุตฺโต. อฺโ โกจิ ธมฺโม เหตุภาโว นาปิ อตฺถิ, เยน เหตุนา โส ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุโกติ วุตฺโต สมุทาโย. เอวนฺติ อิมินา นเยน ‘‘ภาวนา…เป… โยปิ สมฺปยุตฺตา’’ติ นวตฺตพฺพตาย นิทสฺเสตพฺพาติ อตฺโถ. เอวนฺติ ยถา ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกสมุทายสฺส สมฺปยุตฺตตา น วตฺตพฺพา, เอวํ เยน ธมฺเมน อวิตกฺก…เป… สิยา, ตํ น นตฺถิ. ตสฺมาติ ยสฺมา อวิตกฺกวิจารมตฺเตสุ โกจิปิ วิจาเรน อสมฺปยุตฺโต นตฺถิ, ตสฺมา. เตติ อวิตกฺกวิจารมตฺตา ธมฺมา. เอกธมฺเมปิ…เป… กโต ยถา ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา อสงฺขตา ธมฺมา’’ติ.

ฉฏฺนยสมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมนโย สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๐๖. เตหิ สมุทยสจฺจาทีหิ ขนฺธตฺตยขนฺเธกเทสาทิเก สมฺปยุตฺเต สติปิ, สมฺปยุตฺเตหิ จ วิปฺปยุตฺเต รูปนิพฺพานาทิเก ตทฺธมฺเม สติปิ วิปฺปโยคาภาวโต. สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทโต อฺธมฺมานํ อวสิฏฺานํ กุสลากุสลาพฺยากตธมฺมานํ ขนฺธาทีสุ เกนจิ วิปฺปโยโค น หิ อตฺถิ ขนฺธปฺจกาทีนํ สงฺคณฺหนโต เตสํ. เต เอว จิตฺตุปฺปาทาติ เต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทา เอว. ตทฺธมฺมานนฺติ ตทฺธมฺมานมฺปีติ ปิ-สทฺทโลโป ทฏฺพฺโพ. ตถาติ อิมินา น จ เต เอว ธมฺมา อฑฺฒทุติยายตนธาตุโย, อถ โข เต จ ตโต อฺเ จาติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติ.

นนุ ตทฺภาวโต เอว เตหิ อิตเรสํ วิปฺปโยโค สิทฺโธติ อาห ‘‘น จา’’ติอาทิ. ตทฺสมุทาเยหีติ ตโต โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทโต อฺสมุทาเยหิ อฺเ โลภสหคตา ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา น โหนฺติ. กสฺมา? สมุทาเย…เป… วิปฺปโยคาภาวโต. ตสฺสตฺโถ – สมุทาเยน โลภสหคตตทฺธมฺมราสินา เอกเทสานํ โลภสหคตธมฺมานํ วิปฺปโยคาภาวโต, ตถา เย เอกเทสา หุตฺวา อฺเสํ อวยวานํ สมุทายภูตา, เตสฺจ สมุทาเยน วิปฺปโยคาภาวโตติ. อเนน สมุทาเยน อวยวสฺส สมุทายสฺส อวยเวน จ ตสฺส น วิปฺปโยโค, อวยวสฺเสว ปน อวยเวนาติ ทสฺเสติ. เอส นโยติ ยฺวายํ สมุทยสจฺเจ วุตฺโต วิธิ, เอเสว มคฺคสจฺจสุขินฺทฺริยาทีสุ อรูปกฺขนฺเธกเทสตฺตา เตสนฺติ ทสฺเสติ. นิรวเสเสสูติ อพหิกตวิตกฺเกสุ. วิตกฺโก หิ สมุทายโต อพหิกโต. ‘‘โส หิ สมุทาโย’’ติอาทิโก วุตฺตนโย ลพฺภตีติ อาห ‘‘อคฺคหเณ การณํ น ทิสฺสตี’’ติ.

อฺเสุปิ สมุทยสจฺจาทีสุ วิสฺสชฺชนสฺส…เป… ทฏฺพฺพํ, ยโต สมุทยสจฺจาทิ อิธ น คหิตนฺติ อธิปฺปาโย. สมฺปยุตฺตาธิการโต ‘‘อฺเนา’’ติ ปทํ สมฺปยุตฺตโต อฺํ วทตีติ อาห ‘‘อสมฺปยุตฺเตน อสมฺมิสฺสนฺติ อตฺโถ’’ติ. อิทานิ พฺยติเรเกนปิ ตมตฺถํ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘อทุกฺขมสุขา…เป… คหิตานี’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ลกฺขเณนาติ ‘‘อสมฺปยุตฺเตน อสมฺมิสฺส’’นฺติ วุตฺตลกฺขเณน. จิตฺตนฺติ ‘‘จิตฺเตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา’’ติ ปฺหํ อุปลกฺเขติ. สหยุตฺตปเทหิ สตฺตาติ ‘‘เจตสิเกหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา’’ติอาทินา จิตฺเตน สหยุตฺเต ธมฺเม ทีเปนฺเตหิ ปเทหิ อาคตา สตฺต ปฺหา. ติณฺณํ ติกปทานมคฺคหเณน อูโนติ กตฺวา. เย สนฺธาย ‘‘ติเก ตโย’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปน เวทนาปีติตฺติเกสุ ปจฺฉิมํ, วิตกฺกตฺติเก ปมนฺติ ปทตฺตยํ เวทิตพฺพํ.

๓๐๙. อุทฺธฏปเทน ปกาสิยมานา อตฺถา อเภโทปจาเรน ‘‘อุทฺธฏปท’’นฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺเตหี’’ติ. เตน จ ยถาวุตฺเตน อุทฺธฏปเทน. มเนน ยุตฺตาติ เอตฺถ มนนมตฺตตฺตา มโนธาตุ ‘‘มโน’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘มโนธาตุยา เอกนฺตสมฺปยุตฺตา’’ติ.

สตฺตมนยสมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมนโย วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๗. รูปกฺขนฺเธน วิปฺปยุตฺตา นาม จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, เตสํ อฺเหิ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ ตาทิสสฺส อฺสฺส สมฺปโยคิโน อภาวโต. สมุทายสฺส จ เอกเทเสน สมฺปโยโค นตฺถีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เวทนากฺขนฺธาทีหิ วิปฺปยุตฺตํ รูปํ นิพฺพานฺจ, ตสฺส เกนจิ สมฺปโยโค นตฺเถวาติ อาห ‘‘รูปกฺขนฺธาทีหิ…เป… นตฺถี’’ติ. เตนาติ ‘‘รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา’’ติอาทิวจเนน.

อฏฺมนยวิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมนโย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๙. ‘‘สมาสปทํ อิท’’นฺติ วตฺวา อยํ นาม สมาโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺส ขนฺธาทิโน’’ติอาทิมาห, ยสฺส เวทนากฺขนฺธาทิโนติ อตฺโถ. ยํ อิธ สมฺปยุตฺตํ วุตฺตนฺติ อิมสฺมึ นวมนเย ยํ ธมฺมชาตํ สมฺปยุตฺตนฺติ วุตฺตํ. รูปกฺขนฺธาทีสุ อรณนฺเตสุ อพฺภนฺตรพาหิรมาติกาธมฺเมสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ตฺหิ ธมฺมชาตํ อตฺตนา สมฺปยุตฺเตน เวทนากฺขนฺธาทินา สยํ สมฺปยุตฺตนฺติ นิทฺธาริตํ. อโยโคติ อสมฺปโยโค. วกฺขติ ทสมนเย. ตตฺถ หิ ‘‘รูปกฺขนฺเธน เวทนาทโย วิปฺปยุตฺตา, เตหิ รูปกฺขนฺโธ วิปฺปยุตฺโต’’ติ วตฺวา นิพฺพานํ กถนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘นิพฺพานํ ปน สุขุมรูปคติกเมวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘มนายตนํ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺต’’นฺติ เอตฺถ หิ ยถา สุขุมรูปํ วิย สรูปโต อนุทฺธฏมฺปิ นิพฺพานํ เกหิจีติปเทน คหิตเมว โหตีติ เอทิเสสุ าเนสุ นิพฺพานํ สุขุมรูปคติกนฺติ วิฺายติ, เอวมิธาปิ ‘‘รูปมิสฺสเกหิ วา’’ติ เอเตน อนุปาทินฺนอนุปาทานิยาทีหิ นิพฺพานมิสฺสเกหิปิ อสมฺปโยโค วุตฺโต โหตีติ ทฏฺพฺโพ. อวิกลจตุกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ ปเทหิ สหวตฺติโน อฺสฺส สมฺปโยคิโน อภาวโต อตีตานาคเตหิ จ สมฺปโยโค นตฺเถวาติ ตสฺส อยุชฺชมานตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตมานานเมว…เป… อรูปภวาทีหีติ อตฺโถ’’ติ อาห. อิตเรติ เย สมฺปโยคํ ลภนฺติ, เก ปน เต รูเปน อสมฺมิสฺสา อรูเปกเทสภูตา. เตนาห ‘‘เวทนากฺขนฺธาทโย’’ติ.

นวมนยสมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๕๓. เย วิปฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตภาเวน ปาฬิยํ อคฺคหิตา, เตสุ เกจิ วิปฺปยุตฺตสฺส ธมฺมนฺตรสฺส อภาวโต เกจิ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยคสฺเสว อสมฺภวโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมายตนาทิธมฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพจิตฺตุปฺปาทคตธมฺมภาวโตติ อิมินา ภินฺนกาลตาทิวิเสสวโต อรูปกฺขนฺธสฺส วิปฺปยุตฺตสฺส ธมฺมนฺตรสฺส อภาวมาห, อนารมฺมณมิสฺสกภาวโตติ อิมินา ปน สพฺพสฺสปิ. กามภโว อุปปตฺติภโว สฺีภโว ปฺจโวการภโวติ อิเม จตฺตาโร มหาภวา. วิปฺปโยคาภาวโตติ วิปฺปโยคาสมฺภวโต. น หิ เย ทุกฺขสจฺจาทีหิ วิปฺปยุตฺตา, เตหิ วิปฺปยุตฺตานํ เตสํเยว ทุกฺขสจฺจาทีนํ ขนฺธาทีสุ เกนจิ วิปฺปโยโค สมฺภวติ.

ทสมนยวิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. เอกาทสมนโย สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๐๙. เตติ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมา. เสเสหีติ อวสิฏฺเหิ เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺเธหิ. ‘‘เอเตน สห สมฺพนฺโธ’’ติ อิมินา ปทานํ สมฺพนฺธทสฺสนมุเขน ‘‘สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา’’ติ ปาฬิยา อตฺถวิวรณํ ปากฏตรํ กตฺวา เกหิจีติปทสฺสตฺถํ กาตุํ ‘‘เกหิจีติ เอตสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. อตฺถํ ทสฺเสตุํ อาหาติ สมฺพนฺโธ. วิเสเสตฺวาติ เอตฺถ เตสํ ธมฺมานํ ตณฺหาวชฺชานํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปนฺนตากิตฺตนํ วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ, ยโต เต สมุทยสจฺเจน ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตาติ วุตฺตา. สยํ อตฺตนา สมฺปยุตฺโต น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตวชฺเชหี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตํ น วตฺตพฺพํ จิตฺเตน สมฺปยุตฺตนฺติปิ, จิตฺเตน วิปฺปยุตฺตนฺติปี’’ติ. สมฺปโยคารเหหีติ วิเสสนํ สุขุมรูปํ นิพฺพานนฺติ ทฺเว สนฺธาย กตํ, น ตณฺหาทิเก.

เอกาทสมนยสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสมนโย สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๑๗. นวมนเย สมฺปโยควิสิฏฺา สมฺปยุตฺตา อุทฺธฏา, ทฺวาทสมนเย จ สมฺปโยควิสิฏฺา สงฺคหิตาสงฺคหิตาติ อุภยตฺถาปิ สมฺปโยควิสิฏฺาว คหิตาติ อาห ‘‘ทฺวาทสม…เป… ลพฺภนฺตี’’ติ.

ทฺวาทสมนยสมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสมนโย อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๔๘. เยหีติ รูปกฺขนฺธธมฺมายตนาทีหิ. ตีหิปิ ขนฺธายตนาทิสงฺคเหหิ. ปุน เยหีติ อรูปภวาทีหิ. โอฬาริกายตนาเนว โหนฺติ อายตนธาตุสงฺคเหหิปิ อสงฺคหิตตฺตา. เตติ จตุโวการภวาทโย. วุตฺตาวเสสาติ รูปกฺขนฺธธมฺมายตนาทีหิ อวสิฏฺา. สติปิ อสงฺคาหกตฺเต เตหิ อสงฺคหิตานํ สมฺปโยโค น สมฺภวตีติ เวทนากฺขนฺธาทโย อิธ เตรสมนเย วิสฺสชฺชนํ น รุหนฺติ นาโรหนฺติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘เวทนากฺขนฺเธน หิ ขนฺธาทิวเสน รูปารูปธมฺมา อสงฺคหิตา โหนฺติ, เตสฺจ สมฺปโยโค นาม นตฺถี’’ติ (ธาตุ. ๔๔๘) อสงฺคาหกา เอว น โหนฺติ อวิกลปฺจกฺขนฺธาทิสมุทายภาวโต.

เตติ ‘‘ทุกฺขสจฺจาที’’ติ อาทิ-สทฺเทน วุตฺตธมฺมา. อสพฺพ…เป… สิยุํ อวิตกฺกาวิจาราทิธมฺมา วิย. น เตสํ วิปฺปโยโค นตฺถิ ตพฺพินิมุตฺตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส สมฺภวโต. เวทนากฺขนฺเธน อสงฺคหิตานํ อนารมฺมณมิสฺสกตฺตา น ‘‘วิปฺปโยคสฺส อตฺถิตายา’’ติ วุตฺตํ. ตถา จาห ‘‘รูปารูปธมฺมา อสงฺคหิตา’’ติ. อุภยาภาวโตติ สมฺปโยควิปฺปโยคาภาวโต. อนารมฺมณสหิตสพฺพวิฺาณตํธาตุสมฺปยุตฺตตทุภยธมฺมา อเจตสิกเจตสิกโลกิยปทาทีนํ วเสน เวทิตพฺพา.

เตรสมนยอสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. จุทฺทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๕๖. ธมฺมสภาวมตฺตตฺตาติ สภาวธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตฺตา อวตฺถาวิเสสมตฺตตฺตา.

สมุจฺฉิชฺชติ เอเตนาติ สมุจฺเฉโท. สงฺคหาทิวิจารปรินิฏฺานภูโต จุทฺทสมนโย. เตนาห ‘‘ปริโยสาเน นเย’’ติ. วิสฺสชฺเชตพฺพธมฺมวิวิตฺตา ปุจฺฉา โมฆปุจฺฉา, สา ตถาภูตาปิ วิสฺสชฺเชตพฺพธมฺมาภาวสฺส าปิกา โหตีติ อาห ‘‘เตสํ ปุจฺฉาย โมฆตฺตา เต น ลพฺภนฺตี’’ติ. โมฆา ปุจฺฉา เอตสฺสาติ โมฆปุจฺฉโก. อฏฺโม นโย ตตฺถ สพฺพปุจฺฉานํ โมฆตฺตา. เตน จ สหาติ เตน อฏฺมนเยน สทฺธึ อิมสฺมึ โอสานนเย อฏฺมนเย จ โอสานนเย จ เอเต ธมฺมายตนาทโย สพฺพปฺปกาเรน น ลพฺภนฺติ. วิปฺปโยคสฺสปิ อภาวาติ ตตฺถ การณมาห.

จุทฺทสมนยวิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุกถาปกรณ-อนุฏีกา สมตฺตา.

ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-อนุฏีกา

๑. มาติกาวณฺณนา

. ‘‘ธาตุกถํ เทสยิตฺวา อนนฺตรํ ตสฺส อาห ปุคฺคลปฺตฺติ’’นฺติ วุตฺเต ตตฺถ การณํ สมุทาคมโต ปฏฺาย วิภาเวนฺโต ‘‘ธมฺมสงฺคเห’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยทิปิ ธมฺมสงฺคเห ผสฺสาทีนํ ปถวีอาทีนฺจ ธมฺมานํ นานานยวิจิตฺโต อนุปทวิภาโคปิ กโต, น สงฺคโห เอว, โส ปน เตสํ กุสลตฺติกาทิเหตุทุกาทิติกทุเกหิ สงฺคหสนฺทสฺสนตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘ธมฺมสงฺคเห ติกทุกาทิวเสน สงฺคหิตานํ ธมฺมาน’’นฺติ. เตเนว หิ ตํ ปกรณํ ‘‘ธมฺมสงฺคโห’’ติ สมฺํ ลภิ. กามฺจ ธมฺมสงฺคเหปิ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๘) ขนฺธาทิวิภาโค ทสฺสิโต, โส ปน น ตถา สาติสโย, ยถา วิภงฺคปกรเณติ สาติสยํ ตํ คเหตฺวา อาห ‘‘วิภงฺเค ขนฺธาทิวิภาคํ ทสฺเสตฺวา’’ติ, ยโต ตํ ‘‘วิภงฺโค’’ตฺเวว ปฺายิตฺถ. ธาตุกถายาติ อาธาเร ภุมฺมํ, ตถา ‘‘ธมฺมสงฺคเห วิภงฺเค’’ติ เอตฺถาปิ. อาธาโร หิ สงฺคหณวิภชนปฺปเภทวจนสงฺขาตานํ อวยวกิริยานํ ตํสมุทายภูตานิ ปกรณานิ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ. กรณวจนํ วา เอตํ, ธาตุกถาย กรณภูตายาติ อตฺโถ.

เอตฺถ จ อภิฺเยฺยธมฺเม เทเสนฺโต เทสนากุสโล ภควา ติกทุกวเสน ตาว เนสํ สงฺคหํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมสงฺคณึ เทเสตฺวา สงฺคหปุพฺพกตฺตา วิภาคสฺส ตทนนฺตรํ ขนฺธาทิวเสน วิภาคํ ทสฺเสนฺโต วิภงฺคํ เทเสสิ. ปุน ยถาวุตฺตวิภาคสงฺคหยุตฺเต ธมฺเม สงฺคหาสงฺคหาทินยปฺปเภทโต ทสฺเสนฺโต ธาตุกถํ เทเสสิ ตสฺสา อพฺภนฺตรพาหิรมาติกาสรีรกตฺตา. น หิ สกฺกา ขนฺธาทิเก กุสลาทิเก จ วินา สงฺคหาสงฺคหาทินยํ เนตุนฺติ. เตนาห ‘‘ตถาสงฺคหิตวิภตฺตาน’’นฺติ. เอวํ สงฺคหโต วิภาคโต ปเภทโต จ ธมฺมานํ เทสนา ยสฺสา ปฺตฺติยา วเสน โหติ, โย จายํ ยถาวุตฺตธมฺมุปาทาโน ปุคฺคลโวหาโร, ตสฺส จ สมยวิมุตฺตาทิวเสน วิภาโค, ตํ สพฺพํ วิภาเวตุํ ปุคฺคลปฺตฺติ เทสิตาติ อิทเมเตสํ จตุนฺนํ ปกรณานํ เทสนานุกฺกมการณํ ทฏฺพฺพํ.

เตสนฺติ ธมฺมานํ. สภาวโตติ ‘‘ผสฺโส เวทนา’’ติอาทิสภาวโต. อุปาทายาติ ‘‘ปุคฺคโล สตฺโต โปโส’’ติอาทินา ขนฺเธ อุปาทาย. ปฺาปนํ ยาย ตชฺชาอุปาทาทิเภทาย ปฺตฺติยา โหติ, ตํ ปฺตฺตึ. ปเภทโตติ ขนฺธาทิสมยวิมุตฺตาทิวิภาคโต. ยาย ปฺตฺติยา สภาวโต อุปาทาย จ ปฺาปนนฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ตตฺถ เย ธมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสภาวปฺตฺติยาปิ มูลภูตํ อุปาทานํ สภาวธมฺโม เอว, เกวลํ ปน เตสํ ปวตฺติอาการเภทสนฺนิสฺสยโต วิเสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย ธมฺเม…เป… โหตี’’ติ อาห. ตตฺถ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมาเนติ อิมินา ปพนฺธสนฺนิสฺสยตํ ทสฺเสนฺโต สนฺตานปฺตฺตึ วทติ, อสภาวสมูหวเสนาติ อิมินา เสสปฺตฺตึ. ติสฺโส หิ ปฺตฺติโย สนฺตานปฺตฺติ สมูหปฺตฺติ อวตฺถาวิเสสปฺตฺตีติ. ตตฺถ ปพนฺโธ สนฺตาโน. สมุทาโย สมูโห. อุปฺปาทาทิโก ทหรภาวาทิโก จ อวตฺถาวิเสโส. เตสุ อสภาวคฺคหเณน วินา ปพนฺธสมูหานํ อสภาวตฺเต สิทฺเธ อสภาวสมูหวเสนาติ อสภาวคฺคหณํ ปพนฺธสมูหวินิมุตฺตปฺตฺติสนฺทสฺสนตฺถนฺติ เตน อวตฺถาวิเสสปฺตฺติยา ปริคฺคโห วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

เตสนฺติ ปุพฺเพ ยํ-สทฺเทน ปรามฏฺานํ อินฺทฺริยพทฺธธมฺมานํ. เตเนวาห ‘‘อฺเสฺจ พาหิรรูปนิพฺพานาน’’นฺติ. สสภาวสมูหสสภาวปฺปเภทวเสนาติ รูปกฺขนฺธาทิสสภาวสมูหวเสน จกฺขายตนาทิสสภาววิเสสวเสน จ. ‘‘สสภาวสมูหสภาวเภทวเสนา’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ สมูหสภาโวติ สภาวสนฺตานํ อวตฺถาวิเสสวิธุรํ สมูหวเสน ลกฺขณเมวาห. ตถา หิ ขนฺธปฺตฺติยาปิ สภาวปฺตฺติตา วุตฺตา. ตายาติ อายตนปฺตฺติอาทิปฺปเภทาย สภาวปฺตฺติยา. วิภตฺตา สภาวปฺตฺตีติ ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒) วิภตฺตา ผสฺสาทิสภาวปฺตฺติ. สพฺพาปีติ ปิ-สทฺเทน สภาวธมฺเมสุ สามฺวเสน ปวตฺตํ กุสลาทิปฺตฺตึ สงฺคณฺหาติ. รูปาทิธมฺมานํ สมูโห สนฺตาเนน ปวตฺตมาโน อวตฺถาวิเสสสหิโต เอกตฺตคฺคหณนิพนฺธโน สตฺโตติ โวหรียตีติ โส สภาวธมฺโม นาม ปน น โหตีติ อาห ‘‘ปุคฺคลปฺตฺติ ปน อสภาวปฺตฺตี’’ติ. ตายาติ ปุคฺคลปฺตฺติยา. ยสฺมา ปน ธมฺมานํ ปพนฺโธ สมูโห จ ธมฺมสนฺนิสฺสิโตติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา ‘‘ปริฺเยฺยาทิสภาวธมฺเม อุปาทาย ปวตฺติโต’’ติ วุตฺตํ.

วิชฺชมานปฺตฺติ ปน ‘‘สภาวปฺตฺตี’’ติ วุตฺตา, อวิชฺชมานปฺตฺติ ‘‘อสภาวปฺตฺตี’’ติ วุตฺตา. สพฺพา ปฺตฺติโยติ อุปาทายปฺตฺติกิจฺจปฺตฺติอาทโย สพฺพา ปฺตฺติโย. ยทิ สพฺพา ปฺตฺติโย อิธ ทสฺสิตา โหนฺติ, กถํ ‘‘ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ นามํ ชาตนฺติ อาห ‘‘ขนฺธาทิปฺตฺตีสู’’ติอาทิ. อฺตฺถาติ ธมฺมสงฺคหาทีสุ. เย ธมฺเมติ เย ขนฺธาทิธมฺเม. ปฺตฺติยา วตฺถุภาเวนาติ ปฺาปนสฺส อธิฏฺานภาเวน. อธิฏฺานฺหิ ปฺาเปตพฺพธมฺมา ปฺาปนสฺส. เอวฺจ กตฺวา ขนฺธาทีหิ สทฺธึ ปุคฺคโล คหิโต. เย ธมฺเมติ วา เย ปฺตฺติธมฺเม. ปฺาเปตุกาโมติ นิกฺขิปิตุกาโม วตฺถุเภทโต อสงฺกรโต เปตุกาโม. ปฺตฺติปริจฺเฉทนฺติ จ วตฺถุเภทภินฺนํ ปฺตฺติภูตํ ปริจฺเฉทํ. เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สามฺปฺปเภทปฺาปนาติ สามฺภูตานํ วิเสสภูตานฺจ อตฺถานํ ปฺาปนา. เตสนฺติ อตฺถ-สทฺทาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. ตตฺถาติ ปฺาปนาย อตฺถทสฺสนภูเตสุ ทสฺสนาทีสุ. อิทเมวํนามกนฺติ อิทํ รุปฺปนาทิอตฺถชาตํ อิตฺถนฺนามกํ รูปกฺขนฺธเวทนากฺขนฺธาทิสมฺํ. ตํตํโกฏฺาสิกกรณนฺติ รูปเวทนาทิตํตํอตฺถวิภาคปริยาปนฺนตาปาทนํ. ตถา สฺุปฺปาทานเมวาติ อาห ‘‘โพธนเมว นิกฺขิปนา’’ติ. โพธนฺหิ โพธเนยฺยสนฺตาเน โพเธตพฺพสฺส อตฺถสฺส ปนนฺติ กตฺวา ‘‘นิกฺขิปนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปฺาปนา’’ติอาทินา ภาวสาธเนน วตฺวา สาธนนฺตรามสเนน อตฺถนฺตรปริกปฺปาสงฺกา สิยาติ ตํ นิวาเรตุํ ‘‘โย ปนายํ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ ตํตํปฺาเปตพฺพธมฺมานํ. ทสฺสนภูตาย นามปฺตฺติยา ทิฏฺตาย, ปนภูตาย ปิตตาย. ตํนิมิตฺตตนฺติ ตสฺส ทสฺสนสฺส ปนสฺส จ นิมิตฺตการณตํ. นิมิตฺตฺหิ กตฺตุภาเวน โวหรียติ ยถา ‘‘ภิกฺขา วาเสตี’’ติ, ‘‘อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานี’’ติ จ.

ปาฬิยํ อนาคตตนฺติ วิชฺชมานตาทิวิเสสวจเนน สห ปาานารุฬฺหตํ. วิชฺชมานสฺส สโตติ วิชฺชมานสฺส สมานสฺสาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิชฺชมานภูตสฺสาติ อตฺโถ’’ติ อาห. ตถาติ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานสฺส อนุปลพฺภมานสฺส. ตํ ปน อนุปลพฺภมานตํ ตถา-สทฺเทน พฺยติเรกวเสน ทีปิตํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยถา กุสลาทีนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วินิวตฺตสภาวานีติ วิภตฺตสภาวานิ. อุปลทฺธีติ คหณํ. เตนากาเรนาติ เตน รูปเวทนาทิอากาเรน อวิชฺชมานสฺส. อฺเนากาเรนาติ ตโต รูปเวทนาทิโต อฺเน ตพฺพินิมุตฺเตน ปฺาเปตพฺพปฺาปนากาเรน วิชฺชมานสฺส. ปฺตฺติทุเก วุตฺตเมว ‘‘อยฺจ วาโท เสวตฺถิกถาย ปฏิสิทฺโธ’’ติอาทินา. โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺสาติ เอตฺถ มตฺตคฺคหณํ ตสฺส ปฺตฺติวตฺถุสฺส น เกวลํ วิชฺชมานสภาวตานิวตฺตนตฺถเมว, อถ โข วิปรีตคฺคาหนิวตฺตนตฺถมฺปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนภินิเวเสน จิตฺเตนา’’ติ อาห. จตุสจฺจปฺจกฺขนฺธาทิวินิมุตฺตํ สจฺจนฺตรขนฺธนฺตราทิกํ ปฺจมสจฺจาทิกํ. สเจ ตํ โกจิ อตฺถีติ ปฏิชาเนยฺย, อยาถาวคหิตสฺส ตํ วาจาวตฺถุมตฺตเมวสฺสาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สาภินิเวเสน…เป… วุตฺต’’นฺติ. อุทฺเทเส นิทฺเทเส จ สตฺตวนฺตํ ปธานภาเวน อาคมนํ สนฺธายาห ‘‘สรูปโต ติสฺสนฺนํ อาคตต’’นฺติ. คุณภาเวน ปน อุทฺธํโสตปฺาวิมุตฺตปาสาณเลขาทิคฺคหเณสุ อิตราปิ ติสฺโส ปฺตฺติโย อิมสฺมึ ปกรเณ อาคตา เอว.

ยถาวุตฺตสฺส…เป… อวิโรเธนาติ ‘‘วิชฺชมานปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตปฺปการสฺส อวิโลมเนน. อาจริยวาทาติ เจตฺถ อตฺตโนมติโย เวทิตพฺพา, อฺตฺถ ปน อฏฺกถา จ. ยถา จ อวิโรโธ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชมานตฺตา ปฺาเปตพฺพมตฺตตฺเถน ปฺตฺตีติ เอเตน ‘‘อวิชฺชมานา ปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ อิมํ สมาสวิกปฺปมาห. อวิชฺชมานปฺตฺตีติ เอตฺถ หิ ทฺเว สมาสา อวิชฺชมานสฺส, อวิชฺชมานา วา ปฺตฺตีติ อวิชฺชมานปฺตฺติ. เตสุ ปุริเมน นามปฺตฺติ วุตฺตา, ทุติเยน อุปาทาปฺตฺติอาทิเภทา อิตราปิ. สสภาวํ เวทนาทิกํ. ตชฺชปรมตฺถนามลาภโตติ ตชฺชสฺส ตทนุรูปสฺส ปรมตฺถสฺส อนฺวตฺถสฺส นามสฺส ลภนโต, อนุภวนาทิสภาวานํ ธมฺมานํ ปรมตฺถิกสฺส เวทนาทินามสฺส ลภนตฺตาติ อตฺโถ. เอเตน วิเสสนิวตฺติอตฺโถ มตฺต-สทฺโท, เตน จายํ วิเสโส นิวตฺติโตติ ทสฺเสติ. ปรโต ลภิตพฺพนฺติ ปรํ อุปาทาย ลทฺธพฺพํ ยถา รูปาทิเก อุปาทาย สตฺโตติ นิสฺสภาวสมูหสนฺตานาทิ ปฺตฺติวตฺถุ. เอกตฺเตนาติ อนฺตฺเตน. อนุปลพฺภสภาวตา าเณน อคฺคเหตพฺพสภาวตา, ยโต เต นวตฺตพฺพาติ วุจฺจนฺติ.

สสูกสาลิราสิอาทิอากาเรน สํกุจิตคฺโค วาสววาสุเทวาทีนํ วิย โมลิวิเสโส กิรีฏํ, โส ปน มกุฏวิเสโสปิ โหติเยวาติ อาห ‘‘กิรีฏํ มกุฏ’’นฺติ. สพฺพสโมโรโธติ สพฺพาสํ วิชฺชมานปฺตฺติอาทีนํ ฉนฺนํ ปฺตฺตีนํ อนฺโตกรณํ. สงฺขาตพฺพปฺปธานตฺตาติ อิทํ ลกฺขณวจนํ. น หิ สพฺพาปิ อุปนิธาปฺตฺติสงฺขาวเสน ปวตฺตา, นาปิ สพฺพา สงฺขาตพฺพปฺปธานา. ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกํ ปน อุปนิธาปฺตฺติยา, ทฺเว ตีณีติอาทิกํ อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติยา เอกเทสํ อุปลกฺขณวเสน ทสฺเสนฺโต ตสฺส จ สงฺขฺเยยฺยปฺปธานตายาห ‘‘สงฺขาตพฺพปฺปธานตฺตา’’ติ. ปูรณตฺโถ หิ สทฺโท ตทตฺถทีปนมุเขน ปูเรตพฺพมตฺถํ ทีเปติ. โส จ สงฺขาวิสโย ปธาโนวาติ ทุติยาทีนํ ปฺตฺตีนํ สงฺขาตพฺพปฺปธานตา วุตฺตา. ยาว หิ ทสสงฺขา สงฺขฺเยยฺยปฺปธานาติ. ตถา ทฺเว ตีณีติอาทีนมฺปิ ปฺตฺตีนํ. สงฺขาตพฺโพ ปน อตฺโถ โกจิ วิชฺชมาโน, โกจิ อวิชฺชมาโน, โกจิ สห วิสุฺจ ตทุภยํ มิสฺโสติ ฉปิ ปฺตฺติโย ภชตีติ.

อิตราติ อุปาทาสโมธานตชฺชาสนฺตติปฺตฺติโย วุตฺตาวเสสา อุปนิธาปฺตฺติอุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติโย จ. สตฺตรถาทิเภทา อุปาทาปฺตฺติ, ทีฆรสฺสาทิเภทา อุปนิธาปฺตฺติ จ อวิชฺชมานปฺตฺติ. หตฺถคตาทิวิสิฏฺา อุปนิธาปฺตฺติ, สโมธานปฺตฺติ จ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ. ตเถว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ พฺรหฺมสฺสโร’’ติอาทิกา วิชฺชมานคพฺภา วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺตึ ภชนฺตีติ อาห ‘‘ยถาโยคํ ตํ ตํ ปฺตฺติ’’นฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุติยํ ตติยํ…เป… ภชนฺตี’’ติ. ยฺหีติอาทิ ยถาวุตฺตอุปนิธาอุปนิกฺขิตฺตปฺตฺตีนํ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาวสมตฺถนํ. ตตฺถ ตฺจ สงฺขานนฺติ ยํ ‘‘ปมํ เอก’’นฺติอาทิกํ สงฺขานํ, ตฺจ สงฺขามุเขน คเหตพฺพรูปํ. -สทฺเทน สงฺขฺเยยฺยํ สงฺคณฺหาติ. ตมฺปิ หิ ปฺาเปตพฺพํ ปฺตฺตีติ. ตสฺสา ปน ปรมตฺถโต อภาโว วุตฺโตเยว. กิฺจิ นตฺถีติ ปรมตฺถโต กิฺจิ นตฺถิ. ตถาติ อิมินา อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานภาวนฺติ เอตํ อากฑฺฒติ. เตนาห ‘‘น หิ…เป… วิชฺชมาโน’’ติ.

โอกาเสติ อวีจิปรนิมฺมิตวสวตฺตีปริจฺฉินฺเน ปเทเส. โส หิ กามาธิฏฺานโต ‘‘กาโม’’ติ วุจฺจติ. กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺเธสูติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน กามภวํ ‘‘กาโม’’ติ วทติ. ภณนํ สทฺโท เจตนา วา, ตํสมงฺคิตาย ตพฺพิสิฏฺเ ปุคฺคเล ภาณโกติ ปฺตฺตีติ อาห ‘‘วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติปกฺขํ ภชตี’’ติ. เยภุยฺเยน รูปายตนคฺคหณมุเขน รูปสงฺขาเตน สณฺานํ คยฺหตีติ ตสฺส เตน อเภโทปจารํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘รูปายตนสงฺขาเตน สณฺาเนนา’’ติ. ยํ อเภโทปจารํ ภินฺทิตุํ อชานนฺตา นิกายนฺตริยา รูปายตนํ สณฺานสภาวํ ปฏิชานนฺติ. ‘‘กิโส ปุคฺคโล, ถูโล ปุคฺคโล, กิโส ทณฺโฑ, ถูโล ทณฺโฑ’’ติอาทินา ปุคฺคลาทีนํ ปฺาปนา ตถาตถาสนฺนิวิฏฺเ รูปสงฺขาเต กิสาทิสณฺานปฺตฺติ, น รูปายตนมตฺเตติ อาห ‘‘สณฺานนฺติ วา รูปายตเน อคฺคหิเต’’ติ. ปจฺจตฺตธมฺมนามวเสนาติ ‘‘ปถวี ผสฺโส’’ติอาทินา ธมฺมานํ ตํตํนามวเสน. กิจฺจปฺตฺติอาทิวิภาเคน ปวตฺโต อยมฺปิ อาจริยวาโท ‘‘กิจฺจปฺตฺติ เอกจฺจา ภูมิปฺตฺติ ปจฺจตฺตปฺตฺติ อสงฺขตปฺตฺติ จ วิชฺชมานปฺตฺติ, ลิงฺคปฺตฺติ เอกจฺจา ปจฺจตฺตปฺตฺติ จ อวิชฺชมานปฺตฺติ, เอกจฺจา กิจฺจปฺตฺติ วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ, เอกจฺจา ภูมิสณฺานปฺตฺติ วิชฺชมาเนน วา อวิชฺชมาเนน วา อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ ทสฺสิตตฺตา ‘‘ธมฺมกถา อิตฺถิลิงฺค’’นฺติอาทีนํ วิชฺชมาเนนวิชฺชมานปฺตฺติภาโว, อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาโว จ ทสฺสิตนโยติ อาห ‘‘สพฺพสงฺคาหโกติ ทฏฺพฺโพ’’ติ. อุปาทาปฺตฺติอาทิภาโว เจตฺถ กิจฺจปฺตฺติอาทีนํ กิจฺจปฺตฺติอาทิภาโว จ ตาสํ ยถารหํ วิภาเวตพฺโพ.

. สงฺเขปปฺปเภทวเสนาติ ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ สพฺเพปิ ขนฺเธ ขนฺธภาวสามฺเน สํขิปนวเสน, ‘‘ยาวตา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา ขนฺธานํ ตโต สามฺโต ปกาเรหิ ภินฺทนวเสน จ. อยํ อตฺโถติ อยํ ปฺตฺติสงฺขาโต อตฺโถ. สามฺโต วา หิ ธมฺมานํ ปฺาปนํ โหติ วิเสสโต วา. วิเสโส เจตฺถ อตฺตโน สามฺาเปกฺขาย เวทิตพฺโพ, วิเสสาเปกฺขาย ปน โสปิ สามฺํ สมฺปชฺชตีติ ‘‘กิตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ ปุจฺฉาย สงฺเขปโต วิสฺสชฺชนวเสน ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ วุตฺตนฺติ ตตฺถาปิ ‘‘ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพนฺติ อาห ‘‘ยาวตา…เป… ปฺตฺตี’’ติ. ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา, เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ. ยาวตา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ, เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ เอวเมตฺถ ปาฬิโยชนา กาตพฺพา. เอวฺหิ สงฺเขปโต ปเภทโต จ ขนฺธปฺตฺติ วิสฺสชฺชิตา โหติ. ตถา หิ อิมสฺเสว อตฺถสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺตเกน…เป… อาทิเกนา’’ติ อาห. ตตฺถาติ ตสฺมึ วิสฺสชฺชนสฺส อตฺถวจเน, ตสฺมึ วา วิสฺสชฺชนปาเ ตทตฺถวจเน จ. ปเภทนิทสฺสนมตฺตนฺติ ปเภทสฺส อุทาหรณมตฺตํ. อวุตฺโตปิ สพฺโพ ภูตุปาทิโก, สุขาทิโก จ ปเภโท. ตํ ปน ภูมิมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ อฏฺกถายํ อาคตนเยน ปาฬิยา อตฺถโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ วาติ วุจฺจมานํ สนฺธายาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ขนฺธปฺตฺติวิสฺสชฺชเน. อิทนฺติ อิทํ ปทํ. ยตฺตโก…เป… ขนฺธปฺตฺติยา ปเภโทติ อิมินา สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ ขนฺธานํ ปเภทํ ปติ ปฺตฺติวิภาโคติ ทสฺสิตํ โหติ. เตนาห ‘‘วตฺถุเภเทน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ปกรณนฺตเรติ วิภงฺคปกรเณ. ตตฺถ หิ สาติสยํ ขนฺธานํ วิภาคปฺตฺติ วุตฺตา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ…เป… กถิตา’’ติ. เอตฺถ จ ปมนเย สมุเขน, ทุติเย วตฺถุมุเขน ปฺตฺติยา วิภาคา ทสฺสิตาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

เอส นโยติ อิมินา ขนฺธปฺตฺติยา วุตฺตมตฺถํ อายตนปฺตฺติยาทีสุ อติทิสติ. ตตฺถ ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ, ‘‘ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ อิทํ ปฺตฺตินิทฺเทสปาฬิยา อาทิปริโยสานคฺคหณมุเขน ทสฺสนํ. ‘‘ยาวตา ทฺวาทสายตนานี’’ติ, ‘‘อายตนานํ อายตนปฺตฺตี’’ติ อิมสฺส อตฺโถ ‘‘ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ทฺวาทสายตนานี’’ติ เอเตน ทสฺสิโต, ‘‘ยาวตา จกฺขายตน’’นฺติอาทิกสฺส ปน ‘‘ปเภทโต จกฺขายตน’’นฺติอาทิเกนาติ. ตตฺถ ‘‘จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตน’’นฺติ ปเภทนิทสฺสนมตฺตเมตํ. เอเตน อวุตฺโตปิ สพฺโพ สงฺคหิโต โหตีติ ‘‘ตตฺราปิ ทสายตนา กามาวจรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ วา เอตฺถ ปาฬิยา อตฺถโยชนา – ‘‘ยาวตา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ‘‘ยตฺตกานิ ทฺวาทสายตนานิ…เป… ยตฺตโก ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ, ตปฺปเภทานฺจ จกฺขายตนาทีนํ ปเภโท, ตตฺตโก อายตนานํ อายตนปฺตฺติยา ปเภโท’’ติ ปกรณนฺตเร วุตฺเตน วตฺถุปเภเทน อายตนปฺตฺติยา ปเภทํ ทสฺเสตีติอาทินา อิตรปฺตฺตีสุปิ นโย โยเชตพฺโพ.

. ‘‘ฉ ปฺตฺติโย…เป… ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ อิมํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘กิตฺตาวตา…เป… เอตฺตาวตา อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปฺตฺตี’’ติ อยํ ปาฬิปเทโส นิทฺเทโสปิ สมาโน ปกรณนฺตเร วตฺถุเภเทน วุตฺตํ ขนฺธาทิปฺตฺติปฺปเภทํ อุปาทาย อุทฺเทโสเยว โหตีติ อาห ‘‘อุทฺเทสมตฺเตเนวาติ อตฺโถ’’ติ.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

. ปจฺจนีกธมฺมานํ ฌาปนฏฺเน ฌานํ, ตโต สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺเน วิโมกฺโขติ นิปฺปริยาเยน ฌานงฺคาเนว วิโมกฺโขติ อฏฺกถาอธิปฺปาโย. ฏีกากาเรน ปน ‘‘อภิภายตนํ วิย สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ วิโมกฺโข’’ติ มฺมาเนน ‘‘อธิปฺปาเยนาหา’’ติ วุตฺตํ. ฌานธมฺมา หิ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึเยว ปฏิปกฺขโต วิมุจฺจนฺติ, น วินา, ตถา อภิรติวเสน อารมฺมเณ นิราสงฺกปฺปวตฺติปีติ อธิปฺปาโย. ยถา วา ฌานงฺคานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจยภาวโต สวิเสโส ฌานปริยาโย, เอวํ วิโมกฺขกิจฺจโยคโต เตสํ สวิเสโส วิโมกฺขปริยาโย, ตทุปจาเรน สมฺปยุตฺตานํ เวทิตพฺโพ. ปมํ สมงฺคิภาวตฺถนฺติ ปฏิลาภํ สนฺธายาห. ‘‘ผุสิตฺวา วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา อิริยตี’’ติ หิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ‘‘เยน หิ สทฺธึ…เป… ปฏิลทฺธา นาม โหนฺตี’’ติ เตหิ สาเธตพฺพสหชาตาทิปจฺจยลาโภเยเวตฺถ ปฏิลาโภ ทฏฺพฺโพ. ยถา ผสฺโส ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตํ อารมฺมณํ ผุสตีติ วุจฺจติ, เอวํ สมฺปยุตฺตธมฺเมปิ ตํสภาวตฺตาติ อาห ‘‘สมฺผสฺเสน ผุสนตฺถ’’นฺติ. ตสฺส ‘‘วิวรตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อิตเรหีติ อุปจารมฺปีติอาทินา อุปจารปุริมปฺปนาปรปฺปนานํ ปฏิลาภการณนฺติ วจเนหิ. อิตเร การณตฺเถติ ‘‘อุปจาเรน…เป… ผุสติเยวา’’ติ วุตฺเต การณตฺถทีปเก อตฺเถ. ผุสติ ผลํ อธิคจฺฉติ เอตายาติ การณภาวสฺส ผุสนาปริยาโย เวทิตพฺโพ.

ปมตฺถเมวาติ สมงฺคิภาวตฺถเมว. ตานิ องฺคานีติ อิมินา ฌานโกฏฺาสภาเวน วุตฺตธมฺมาเยว คหิตา, น ผสฺสปฺจมกอินฺทฺริยฏฺกาทิภาเวนาติ วุตฺตํ ‘‘เสสา…เป… สงฺคหิตานี’’ติ. เอวํ สตีติ สุขสงฺขาตฌานงฺคโต เวทนาโสมนสฺสินฺทฺริยานํ เสสิตพฺพภาเว สติ. เอวฺหิ เนสํ ผสฺสกตา อิตรสฺส ผสฺสิตพฺพตาว สิยา. เตนาห ‘‘สุขสฺส ผุสิตพฺพตฺตา’’ติ. เวทยิตาธิปเตยฺยฏฺเหีติ อารมฺมณานุภวนสงฺขาเตน เวทยิตสภาเวน, ตสฺเสว สาตวิเสสสงฺขาเตน สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตนียภาเวน จ. อุปนิชฺฌายนภาโวปิ ยถาวุตฺตเวทยิตาธิปเตยฺยฏฺวิสิฏฺโ โอฬาริกสฺส อารมฺมณสฺส นิชฺฌายนภาโว. อภินฺนสภาโวปิ หิ ธมฺโม ปุริมวิสิฏฺปจฺจยวิเสสสมฺภเวน วิเสเสน ภินฺนากาโร หุตฺวา วิสิฏฺผลภาวํ อาปชฺชติ. ยเถกํเยว กมฺมํ จกฺขาทินิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เวทยิตา…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. องฺคานีติ นายํ ตปฺปรภาเวน พหุวจนนิทฺเทโส อนนฺตภาวโต, เกวลฺจ องฺคานํ พหุตฺตา พหุวจนํ, เตน กึ สิทฺธํ? ปจฺเจกมฺปิ โยชนา สิทฺธา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺเจกมฺปิ โยชนา กาตพฺพา’’ติ. ยทิ ‘‘สุขํ เปตฺวา’’ติ โยชนายํ เสสา ตโย ขนฺธา โหนฺติ, เสสา ตโย, จตฺตาโร จ ขนฺธา โหนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ? น, จตูสุ ติณฺณํ อนฺโตคธตฺตา. เตนาห ‘‘สพฺพโยชนา…เป… วุตฺต’’นฺติ.

. อสมยวิโมกฺเขนาติ เหฏฺามคฺควิโมกฺเขน. โส หิ โลกิยวิโมกฺโข วิย อธิคมวฬฺชนตฺถํ ปกปฺเปตพฺพสมยวิเสสาภาวโต เอวํ วุตฺโต. อคฺคมคฺควิโมกฺโข ปน เอกจฺจาสววิมุตฺติวจนโต อิธ นาธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ. เอกจฺเจหิ อาสเวหิ วิมุตฺโตติ ทิฏฺาสวาทีหิ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺโต. อสมย…เป… ลาเภนาติ ยถาวุตฺตอสมยวิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสยภูตสฺส อธิคเมน. ตโต เอว สาติสเยน, เอกจฺเจหิ กามาสเวหิ วิมุตฺโต วิกฺขมฺภนวเสนาติ อตฺโถ. โส เอว เอกจฺจสมยวิโมกฺขลาภี ยถาวุตฺโต สมยวิมุตฺโต อสมยวิโมกฺขวิเสสสฺส วเสน สมยวิโมกฺขปฺตฺติยา อธิปฺเปตตฺตา. โสติ อสมยวิโมกฺขูปนิสฺสยสมยวิโมกฺขลาภี. เตน สาติสเยน สมยวิโมกฺเขน. ตถาวิมุตฺโตว โหตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ตถาวิมุตฺโต โหติ, ตสฺมา สมยวิมุตฺตปฺตฺตึ ลทฺธุํ อรหตีติ ปริฺาตตฺถํ เหตุนา ปติฏฺาเปติ. พฺยติเรกมุเขนปิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ปุถุชฺชโน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมุทาจารภาวโตติ สมุทาจารสฺส สมฺภวโต. โสติ ฌานลาภี ปุถุชฺชโน.

ยทิ ปุนราวตฺตกธมฺมตาย ปุถุชฺชโน สมยวิมุตฺโตติ น วุตฺโต, ตทภาวโต กสฺมา อรหา ตถา น วุตฺโตติ อาห ‘‘อรหโต ปนา’’ติอาทิ. ตทการณภาวนฺติ เตสํ วิโมกฺขานํ, ตสฺส วา สมยวิมุตฺติภาวสฺส อการณภาวํ. สพฺโพติ สุกฺขวิปสฺสโกปิ สมถยานิโกปิ อฏฺวิโมกฺขลาภีปิ. พหิอพฺภนฺตรภาวา อเปกฺขาสิทฺธา, วตฺตุ อธิปฺปายวเสน คเหตพฺพรูปา จาติ อาห ‘‘พาหิรานนฺติ โลกุตฺตรโต พหิภูตาน’’นฺติ.

. รูปโต อฺํ น รูปนฺติ ตตฺถ รูปปฏิภาคํ กสิณรูปาทิ รูป-สทฺเทน คหิตนฺติ ตทฺํ ปมตติยารุปฺปวิสยมตฺตํ อรูปกฺขนฺธนิพฺพานวินิมุตฺตํ อรูป-สทฺเทน คหิตํ ทฏฺพฺพํ. ปฏิปกฺขภูเตหิ กิเลสโจเรหิ อมูสิตพฺพํ ฌานเมว จิตฺตมฺชูสํ. สมาธินฺติ วา สมาธิสีเสน ฌานเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

. อตฺตโน อนุรูเปน ปมาเทนาติ เอตฺถ อนาคามิโน อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อสกฺกจฺจอสาตจฺจกิริยาทินา. ขีณาสวสฺส ปน ตาทิเสน ปมาทปติรูปเกน, ตาทิสาย วา อสกฺกจฺจกิริยาย. สา จสฺส อุสฺสุกฺกาภาวโต เวทิตพฺพา. ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพุสฺสุกฺกา หิ เต อุตฺตมปุริสา. สมเยน สมยนฺติ สมเย สมเย. ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ กรณวจนํ อุปโยควจนฺจ. อนิปฺผตฺติโตติ สมาปชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยโต. อสฺสาติ ‘‘เตสฺหี’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อิมสฺส อฏฺกถาวจนสฺส. เตนาติ ยถาภเตน สุตฺเตน.

. เยนาธิปฺปาเยน ‘‘ธมฺเมหี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตํ วิวรนฺโต ‘‘อิธา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ ‘‘ปริหานธมฺโม อปริหานธมฺโม’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย. ตตฺถาติ ‘‘กุปฺปธมฺโม อกุปฺปธมฺโม’’ติ ปททฺวเย. สติ วจนนานตฺเต อตฺเถว วจนตฺถนานตฺตนฺติ อาห ‘‘วจนตฺถนานตฺตมตฺเตน วา’’ติ. วจนตฺถคฺคหณมุเขน คเหตพฺพสฺส ปน วิภาวนตฺถสฺส นตฺเถตฺถ นานตฺตํ, ยโต เตสํ ปริยายนฺตรตาสิทฺธิ.

๗-๘. สมาปตฺติเจตนาติ ยาย เจตนาย สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตติ สมาปชฺชติ จ. เตนาห ‘‘ตทายูหนา’’ติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานา สตีติ กตฺวา อาห ‘‘อนุรกฺขณา…เป… สตี’’ติ. เตนาห ‘‘เอการกฺโข สตารกฺเขน เจตสา วิหรตี’’ติ. ตถา หิ สา ‘‘กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสตี’’ติ วุตฺตา.

๑๑. อคฺคมคฺคฏฺโปิ อิตรมคฺคฏฺา วิย อนุปจฺฉินฺนภยตฺตา ภยูปรตโวหารํ ลภตีติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคฏฺโ จ…เป… ภยูปรโต’’ติ.

๑๒. เกจีติ ติเหตุกปฏิสนฺธิเก มนฺทพุทฺธิเก สนฺธายาห. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุปฺปฺาติ อิมินา คยฺหนฺตี’’ติ. ทุพฺพลา ปฺา เยสํ เต ทุปฺปฺาติ.

๑๔. อนิยตธมฺมสมนฺนาคตสฺเสว ปจฺจยวิเสเสน นิยตธมฺมปฏิลาโภติ อาห ‘‘ยตฺถ…เป… โหนฺตี’’ติ. ตทภาวาติ นิยตานิยตโวมิสฺสาย ปวตฺติยา อภาวา.

๑๖. ปริยาทิยิตพฺพานีติ ปริยาทเกน มคฺเคน เขเปตพฺพานิ. ตณฺหาทีนํ ปลิพุธนาทิกิริยาย มตฺถกปฺปตฺติยา สีสภาโว เวทิตพฺโพ, นิพฺพานสฺส ปน วิสงฺขารภาวโต สงฺขารสีสตา. เตนาห ‘‘สงฺขารวิเวกภูโต นิโรโธ’’ติ. เกจิ ปน ‘‘สงฺขารสีสํ นิโรธสมาปตฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ปฺตฺติมตฺตสฺส สีสภาวานุปปตฺติโต ตทุทฺธฺจ สงฺขารปฺปวตฺติสพฺภาวโต. สห วิยาติ เอกชฺฌํ วิย. เอเตน สม-สทฺทสฺส อตฺถมาห. สหตฺโถ เหส สม-สทฺโท. สํสิทฺธิทสฺสเนนาติ สํสิทฺธิยา นิฏฺานสฺส อุปรมสฺส ทสฺสเนน.

อิธาติ อิมิสฺสา ปุคฺคลปฺตฺติปาฬิยา, อิมิสฺสา วา ตทฏฺกถาย. กิเลสปวตฺตสีสานนฺติ กิเลสสีสปวตฺตสีสานํ. เตสุ หิ คหิเตสุ อิตรมฺปิ ปริยาทิยิตพฺพํ กิเลสภาเวน ปริยาทิยิตพฺพตาสามฺเน จ คหิตเมว โหตีติ กิเลสวฏฺฏปริยาทาเนน มคฺคสฺส อิตรวฏฺฏานมฺปิ ปริยาทิยนํ. วฏฺฏุปจฺเฉทเกน มคฺเคเนว หิ ชีวิตินฺทฺริยมฺปิ อนวเสสโต นิรุชฺฌตีติ. กสฺมา ปเนตฺถ ปวตฺตสีสํ วิสุํ คหิตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปวตฺตสีสมฺปี’’ติอาทิ. โอธิโส จ อโนธิโส จ กิเลสปริยาทาเน สติ สิชฺฌมานา ปจฺจเวกฺขณวารา เตน นิปฺผาเทตพฺพาติ วุตฺตา. เตเนวาห ‘‘กิเลสปริยาทานสฺเสว วารา’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ อาคเมน สาเธนฺโต ‘‘วิมุตฺตสฺมิ’’นฺติอาทิมาห. จุติจิตฺเตน โหตีติ อิทํ ยถาวุตฺตสฺส กิเลสปริยาทานสมาปนภูตสฺส ปจฺจเวกฺขณวารสฺส จุติจิตฺเตน ปริจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ, ตสฺมา จุติจิตฺเตน ปริจฺเฉทเกน ปริจฺฉินฺนํ โหตีติ อตฺโถ.

๑๗. ติฏฺเยฺยาติ น อุปคจฺเฉยฺย. านฺหิ คตินิวตฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นปฺปวตฺเตยฺยา’’ติ.

๑๘. ปยิรุปาสนาย พหูปการตฺตา ปยิรุปาสิตพฺพตฺตา.

๒๐. อคฺควิชฺชา ยสฺส อนธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส โหติ, โส เจ ปจฺฉา วิชฺชาทฺวยํ อธิคจฺฉติ, ตสฺส ปมํ อธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส วิย อเตวิชฺชตาภาวา ยทิปิ นิปฺปริยายตา เตวิชฺชตา, ปมํ อธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส ปน สา สวิเสสาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาย กตกิจฺจตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺควิชฺชาติ อาสวกฺขยาณํ, อคฺคมคฺคาณเมว วา เวทิตพฺพํ. สา จ เตวิชฺชตาติ โยชนา.

๒๒. ตตฺเถวาติ สจฺจาภิสมฺโพเธ เอว.

๒๔. นฺติ นิโรธสมาปตฺติลาภิโน อุภโตภาควิมุตฺตตาวจนํ. วุตฺตลกฺขณูปปตฺติโกติ ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ เอวํ วุตฺตลกฺขเณน อุปปตฺติโต ยุตฺติโต สมนฺนาคโต. เอเสว นโยติ ยถา จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต นิโรธโต จ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตานํ วเสน ปฺจ อุภโตภาควิมุตฺตา วุตฺตา, ตถา เสกฺขภาวํ ปตฺตานํ วเสน ปฺจ กายสกฺขิโน โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

ทสฺสนการณาติ อิมินา ‘‘ทิสฺวา’’ติ เอตฺถ ตฺวา-สทฺโท เหตุอตฺโถติ ทสฺเสติ ยถา ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ. ทสฺสเน สติ ปริกฺขโย, นาสตีติ อาห ‘‘ทสฺสนายตฺตปริกฺขยตฺตา’’ติ. ปุริมกิริยาติ อาสวานํ ขยกิริยาย ปุริมกิริยา. สมานกาลตฺเตปิ หิ การณกิริยา ผลกิริยาย ปุริมสิทฺธา วิย โวหรียติ. ตโต นามกายโต มุจฺจนโต. ยโต หิ เยน มุจฺจิตพฺพํ, ตํ นิสฺสิโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นามนิสฺสิตโก’’ติ. ตสฺสาติ กายทฺวยวิมุตฺติยา อุภโตภาควิมุตฺตภาวสฺส. อรูปโลเก หิ ิตารหนฺตวเสนายมตฺโถ วุตฺโต. เตนาห ‘‘สุตฺเต หี’’ติอาทิ.

ทฺวีหิ ภาเคหีติ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทภาเคหิ. ทฺเว วาเรติ กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมุจฺฉินฺทนวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ. กิเลเสหิ วิมุตฺโตติ อิทํ ปมตติยวาทานํ วเสน วุตฺตํ, อิตรํ ทุติยวาทสฺส. อรูปชฺฌานํ ยทิปิ รูปสฺาทีหิ วิมุตฺตํ ตํสมติกฺกมาทินา ปตฺตพฺพตฺตา, ปวตฺตินิวารเกหิ ปน กามจฺฉนฺทาทีหิเยวสฺส วิมุตฺติ สาติสยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นีวรณสงฺขาตนามกายโต วิมุตฺต’’นฺติ อาห. ยฺจาปิ อรูปชฺฌานํ รูปโลเก วิเวกฏฺตาวเสนปิ รูปกายโต วิมุตฺตํ, ตํ ปน รูปปฏิพนฺธฉนฺทราควิกฺขมฺภเนเนว โหตีติ วิกฺขมฺภนเมว ปธานนฺติ วุตฺตํ ‘‘รูปตณฺหาวิกฺขมฺภเนน รูปกายโต จ วิมุตฺตตฺตา’’ติ. เอกเทเสน อุภโตภาควิมุตฺตํ นาม โหติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา อภาวา.

๒๕. ‘‘สตฺติสโย’’ติ วิย สมุทาเย ปวตฺโต โวหาโร อวยเวปิ ทิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฏฺวิโมกฺเขกเทเสน…เป… วุจฺจตี’’ติ.

๒๖. ผุฏฺานนฺติ ผสฺสิตานํ, อธิคตานนฺติ อตฺโถ. อนฺโตติ อนฺตสทิโส ผสฺสนาย ปรกาโล. ตทนนฺตโร หิ ตปฺปริโยสาโน วิย โหตีติ. กาลวิสโย จายํ อนฺต-สทฺโท, น ปน กาลตฺโถ. เตนาห ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ. นามกาเยกเทสโตติ นีวรณสงฺขาตนามกาเยกเทสโต. อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ วิพนฺธวิกฺขมฺภเนน อาโลจเน ปกาสเน สมตฺถสฺส าณจกฺขุโน อธิฏฺานสมุปฺปาทนโต. น ตุ วิมุตฺโตติ วิมุตฺโตติ น วุจฺจเตว.

๒๘. อิมํ ปน นยนฺติ ‘‘อปิจ เตส’’นฺติอาทินา อาคตวิธึ. เยน วิเสเสนาติ เยน การณวิเสเสน. โสติ ทิฏฺิปฺปตฺตสทฺธาวิมุตฺตานํ ยถาวุตฺโต ปฺาย วิเสโส. ปฏิกฺเขโป กโต การณสฺส อวิภาวิตตฺตา. อุภโตภาควิมุตฺโต วิย, ปฺาวิมุตฺโต วิย วา สพฺพถา อวิมุตฺตสฺส สาวเสสวิมุตฺติยมฺปิ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส วิย ปฺาย สาติสยาย อภาวโต สทฺธามตฺเตน วิมุตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ. สทฺธาย อธิมุตฺโตติ อิทํ อาคมนวเสน สทฺธาย อธิกภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, มคฺคาธิคมโต ปนสฺส ปจฺจกฺขเมว าณทสฺสนํ.

๓๑. ‘‘โสโตติ อริยมคฺคสฺส นาม’’นฺติ นิปฺปริยาเยน ตํสมงฺคี โสตาปนฺโนติ อธิปฺปาเยน โจทโก ‘‘อปิ-สทฺโท กสฺมา วุตฺโต’’ติ โจทนํ อุฏฺาเปตฺวา ‘‘นนู’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. อิตโร ‘‘นาปนฺน’’นฺติอาทินา ปริหรติ. สมนฺนาคโต เอว นาม โลกุตฺตรธมฺมานํ อกุปฺปสภาวตฺตา. อิตเรหีติ ทุติยมคฺคฏฺาทีหิ. โส เอวาติ ปมผลฏฺโ เอว. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตกฺขตฺตุปรมนิทฺเทเส. โสตํ วา อริยมคฺคํ อาทิโต ปนฺโน อธิคโตติ โสตาปนฺโนติ วุจฺจมาเน ทุติยมคฺคฏฺาทีนํ นตฺเถว โสตาปนฺนภาวาปตฺติ. สุตฺเต ปน โสตํ อริยมคฺคํ อาทิโต มริยาทํ อมุฺจิตฺวาว ปนฺโน ปฏิปชฺชตีติ กตฺวา มคฺคสมงฺคี ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ วุตฺโต. ปริยาเยน อิตโรปิ ตสฺส อปริหานธมฺมตฺตา โสตาปนฺโนติ เวทิตพฺพํ. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณาย สมุทยสจฺจํ วิย ทุกฺขสจฺจมฺปิ ปจฺจเวกฺขิตํ โหติ สจฺจทฺวยปริยาปนฺนตฺตา กิเลสานนฺติ อาห ‘‘จตุสจฺจปจฺจเวกฺขณาทีน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน ผลปจฺจเวกฺขณอุปริมคฺคผลธมฺเม จ สงฺคณฺหาติ.

๓๒. มหากุลเมวาติ อุฬารกุลเมว วุจฺจติ ‘‘กุลีโน กุลปุตฺโต’’ติอาทีสุ วิย.

๓๓. สชฺฌานโก อปริหีนชฺฌาโน กาลกโต พฺรหฺมโลกูปโค หุตฺวา วฏฺฏชฺฌาสโย เจ, อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพายตีติ อาห ‘‘อนาคามิสภาโค’’ติ. ยโต โส ฌานานาคามีติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘อนาวตฺติธมฺโม’’ติ.

๓๖. ปรโยเค ตฺวา-สทฺโท ตทนฺโต หุตฺวา ‘‘ปรสทฺทโยเค’’ติ วุตฺโต, อปฺปตฺวาติ วุตฺตํ โหตีติ ‘‘อปฺปตฺตํ หุตฺวา’’ติ อิมินา วุจฺจติ.

๓๗. เตนาติ ‘‘อุปหจฺจา’’ติ ปเทน. นนุ จ เวมชฺฌาติกฺกโม ‘‘อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌ’’นฺติ อิมินา ปกาสิโต โหตีติ อธิปฺปาโย.

๔๐. ตณฺหาวฏฺฏโสตา ตณฺหาวฏฺฏพนฺธา. ตสฺสาติ โสตสฺส. สมฺพนฺเธ เจตํ สามิวจนํ. อุทฺธํโสตสฺส อุปริภวูปคตา เอกํสิกาติ อาห ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา คนฺตฺวา’’ติ. ตสฺสาติ อุทฺธํโสตสฺส. ตตฺถาติ อวิเหสุ. ลหุสาลหุสคติกาติ ลหุกาลหุกายุคติกา, ลหุกาลหุกาณคติกา วา. อุปฺปชฺชิตฺวาว นิพฺพายนกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อากาสํ ลงฺฆิตฺวา นิพฺพายตี’’ติอาทินา วุตฺตา ติสฺโส อุปมา สงฺคณฺหาติ. อนฺตราอุปหจฺจปรินิพฺพายีหิ อธิมตฺตตา, อุทฺธํโสตโต อนธิมตฺตตา จ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีนํ น เวทิตพฺพาติ โยชนา. เต เอวาติ อนฺตราอุปหจฺจปรินิพฺพายิอุทฺธํโสตา เอว. ยทิ เอวํ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีนํ อุปมาวจเนน ตโต มหนฺตตเรหิ กสฺมา วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตโต มหนฺต…เป… ทสฺสนตฺถ’’นฺติ.

เตนาติ ‘‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา’’ติ วจเนน. เตนาติ วา ยถาวุตฺเตน ตสฺส อตฺถวจเนน. อิมสฺส ทุกฺขสฺสาติ อิมสฺส สมฺปติ วตฺตมานสฺส วิฺาณาทิทุกฺขสฺส. อุทยทสฺสนํ าณํ. จตูหิปีติ ‘‘โน จสฺสา’’ติ จตูหิ ปเทหิ. ยํ อตฺถีติ ยํ ปรมตฺถโต วิชฺชติ. เตนาห ‘‘ภูตนฺติ สสภาว’’นฺติ, ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ภูตมิทนฺติ, ภิกฺขเว, สมนุปสฺสถา’’ติ. วิวฏฺฏมานโส วิวิจฺจมานหทโย ตณฺหาทิโสตโต นิวตฺตชฺฌาสโย. อุเปกฺขโก โหตีติ จตฺตภริโย วิย ปุริโส ภยํ นนฺทิฺจ ปหาย อุทาสิโน โหติ.

อวิสิฏฺเติ หีเน. วิสิฏฺเติ อุตฺตเม. ‘‘ภเว’’ติ วตฺวา ‘‘สมฺภเว’’ติ วุจฺจมานํ อวุตฺตวาจกํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน’’ติอาทิมาห. ภูตเมว วุจฺจตีติ ยํ ภูตนฺติ วุจฺจติ, ตเทว ภโวติ จ วุจฺจติ, ภวติ อโหสีติ วา. สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว. ตทาหาโร ตสฺส ภวสฺส ปจฺจโย. อนุกฺกเมน มคฺคปฺายาติ วิปสฺสนานุกฺกเมน ลทฺธาย อริยมคฺคปฺาย. เตนาติ เสกฺเขน.

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

๖๓. กสฺสจีติ กสฺสจิปิ. กถฺจีติ เกนจิ ปกาเรน, วิกฺขมฺภนมตฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ. อชฺฌตฺตคฺคหณสฺสาติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตคฺคาหสฺส.

๘๓. ปุริมคฺคหิตนฺติ ‘‘กริสฺสติ เม’’ติอาทินา จิตฺเตน ปมํ คหิตํ. ตํ กตนฺติ ตํ ตาทิสํ อุปการํ. ปุฺผลํ อุปชีวนฺโต กตฺุปกฺเข ติฏฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปุฺผลํ อนุปชีวนฺโต’’ติ.

๙๐. คุณปาริปูริยา ปริปุณฺโณ ยาวทตฺโถ อิธ ติตฺโตติ อาห ‘‘นิฏฺิตกิจฺจตาย นิรุสฺสุกฺโก’’ติ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๑. เสสสํวรเภเทนาติ กายิกวาจสิกวีติกฺกมโต เสเสน สํวรวินาเสน. โส ปน ทฺวารวเสน วุจฺจมาโน มโนทฺวาริโก โหตีติ อาห ‘‘มโนสํวรเภเทนา’’ติ. อิทานิ ตํ ปการเภเทน ทสฺเสนฺโต ‘‘สติสํวราทิเภเทน วา’’ติ อาห, มุฏฺสจฺจาทิปฺปวตฺติยาติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ สภาวภูตํ จริตมฺปิ ‘‘สีล’’นฺติ วุจฺจตีติ อกุสลสฺสปิ สีลปริยาโย วุตฺโต.

๙๔. สมานวิสยานนฺติ ปมผลาทิโก สมาโน เอวรูโป วิสโย เอเตสนฺติ สมานวิสยา, เตสํ.

๑๐๗. ตทตฺโถ ตปฺปโยชโน โลกุตฺตรสาธโกติ อตฺโถ. ตสฺส ปรมตฺถสาสนสฺส. มูเลกเทสตฺตาติ มูลภาเวน เอกเทสตฺตา.

๑๑๘. อุนฺนโฬ อุคฺคตตุจฺฉมาโน.

๑๒๓. สีลสฺส อนุคฺคณฺหนํ อปริสุทฺธิยํ โสธนํ อปาริปูริยํ ปูรณฺจาติ อาห ‘‘โสเธตพฺเพ จ วฑฺเฒตพฺเพ จา’’ติ. อธิสีลํ นิสฺสายาติ อธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนปฺาย.

๑๒๔. คูถสทิสตฺตเมว ทสฺเสติ, น คูถกูปสทิสตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. คูถวเสเนว หิ กูปสฺสปิ ชิคุจฺฉนียตาติ. อยฺจ อตฺโถ คูถราสิเยว คูถกูโปติ อิมสฺมึ ปกฺเข นวตฺตพฺโพ สิยา.

๑๓๐. สรภงฺคสตฺถาราทโย รูปภวาทิกามาทิปริฺํ กตฺวา ปฺเปนฺโต โลกิยํ ปริฺํ สมฺมเทว ปฺเปนฺตีติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน น สกฺโกนฺตี’’ติ. อสมตฺถภาวํ วา สนฺธาย โน จ ปฺาเปตุํ สกฺโกนฺตีติ วุตฺตนฺติ โยชนา.

ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๓. ปเรนาติ อฺเน, อาณตฺเตนาติ อตฺโถ. อาณตฺติยา อตฺตนา จาติ อาณาปกสฺส อาณตฺติยา, อตฺตนา จ อาณตฺเตน กตํ ตฺจ ตสฺส อาณาปกสฺส ยํ วจีปโยเคน กตนฺติ โยชนา. อาณตฺติยา ปาปสฺสาติ อาณาปนวเสน ปสุตปาปสฺส.

๑๔๘. เทสนาย กรณภูตาย. ธมฺมานนฺติ เทสนาย ยถาโพเธตพฺพานํ สีลาทิธมฺมานํ.

๑๕๒. อนนฺตรนฺติ าณสฺส อุปฏฺิตนฺติ อนนฺตรํ วุตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘วจน’’นฺติ. ลุชฺชตีติ อิทํ เยน การเณน โลก-สทฺโท ตทตฺเถ ปวตฺโต, ตํ ทสฺเสตีติ อาห ‘‘การณยุตฺต’’นฺติ.

๑๕๖. สหิตาสหิตสฺสาติ กุสลสทฺทโยเคน สามิวจนํ ภุมฺมตฺเถติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สหิตาสหิเตติ อตฺโถ’’ติ. สหิตภาสเนน เทสกสมฺปตฺติ, สหิตาสหิตโกสลฺเลน สาวกสมฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ปริสสมฺปตฺติปิ าณสมฺปนฺนสฺส ธมฺมกถิกสฺส ปฏิภานสมฺปทาย การณํ โหตีติ อาห ‘‘สาวกสมฺปตฺติยา โพเธตุํ สมตฺถตายา’’ติ.

๑๕๗. กุสลธมฺเมหีติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ. จตุตฺโถ วุตฺโต, โย เนว สงฺฆํ นิมนฺเตติ, น ทานํ เทติ.

๑๖๖. ยมิทํ ‘‘กาเลนา’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘โย ตตฺถ อวณฺโณ, ตมฺปิ ภณติ กาเลน. โยปิ ตตฺถ วณฺโณ, ตมฺปิ ภณติ กาเลนา’’ติ ยํ อิทํ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตตฺร ตสฺมึ วจเน วากฺเย โย ปุคฺคโล ‘‘กาเลน ภณตี’’ติ วุตฺโต, โส กีทิโสติ วิจารณาย ตสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘กาลฺู โหตี’’ติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต สงฺคเห อาหาติ โยชนา.

๑๖๘. ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺตีติ ตสฺมึ อตฺตภาเว ปมุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ. เตสํ วิปตฺติ ปวตฺตปฺปจฺจยวิปตฺตีติ โยชนา.

๑๗๓. เตสนฺติ ปหีนาวสิฏฺกิเลสานํ. วิมุตฺติทสฺสนเมว โหติ วิมุตฺติอตฺถตฺตา ตํทสฺสนสฺส.

๑๗๔. ตนฺตาวุตานํ วตฺถานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ.

๑๗๘. นามกาโยติ นามสมูโห. อิทเมว จ ทฺวยนฺติ สีลสํวรปูรณํ, สาชีวาวีติกฺกมนฺจาติ อิทเมว ทฺวยํ. ตโตติ สาชีวาวีติกฺกมนโต. กถาย หลิทฺทราคาทิสทิสตาติ โยชนา. เตนาห ‘‘น ปุคฺคลสฺสา’’ติ.

๑๗๙. อิติ-สทฺเทนาติ ‘‘ทารุมาสโก’’ติ เอตฺถ วุตฺตอิติ-สทฺเทน. เอวํปกาเรติ อิมินาปิ สลากาทิเก สงฺคณฺหาติ.

๑๘๑. อวิสฏสุขนฺติ อวิกฺเขปสุขํ.

๑๘๗. ขนฺธธมฺเมสูติ สงฺขตธมฺเมสุ. ตทลาเภนาติ มคฺคผลาลาเภน. อตฺเถนาติ สีลาทิอตฺเถน.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๑. ยถา เตสุ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ เตสุ ปฺจสุ ปุคฺคเลสุ ยถารหํ อุปเมยฺโยปมาทสฺสนมุเขน หิตูปเทสปฏิปตฺติยา ยถา อฺเหิ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. กิริยาวาจี อารมฺภ-สทฺโท อธิปฺเปโต, น ‘‘อารมฺภกตฺตุสฺส กสาวปุจฺฉา’’ติอาทีสุ วิย ธมฺมวาจีติ อาห ‘‘อารมฺภกิริยาวาจโก สทฺโท’’ติ. ‘‘นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มคฺคกิจฺจวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

๑๙๒. คหณํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉนํ.

๑๙๙. น เอวํ สมฺพนฺโธ อสมานชาติกตฺตา.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒. อิทํ สจฺจาภิสมฺโพธาทิกํ สงฺคหิตํ โหติ ผลสฺส เหตุนา อวินาภาวโต. เตนาห ‘‘สาม’’นฺติอาทิ. อนาจริยเกน อตฺตนา อุปฺปาทิเตนาติ อิทํ สพฺพฺุตฺาเณ วิชฺชมานคุณกถนํ, น ตพฺพิธุรธมฺมนฺตรนิวตฺตนํ ตถารูปสฺส อฺสฺส อภาวโต. เตนสฺส สาจริยกตา, ปรโต จ อุปฺปตฺติ ปฏิกฺขิตฺตาติ อิมมตฺถมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา. ตตฺถ สาจริยกตฺตํ ปรูปเทสเหตุกตา, ปรโต อุปฺปตฺติ อุปเทเสน วินาปิ สนฺนิสฺสาย นิพฺพตฺตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๓. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสุ อนฺโตคธา’’ติ อาห. อิทานิ วิสยลกฺขณํ เอตํ ภุมฺมนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตทุปการตายา’’ติ อิทํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สาเธตพฺเพสูติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุมฺมุชฺชนปฺายาติ อุมฺมุชฺชาปนปฺาย, อุมฺมุชฺชนากาเรน วา ปวตฺตปฺาย. เตเนวาติ อุมฺมุชฺชนมตฺตตฺตา เอว. ยถา หิ าณุปฺปาโท สํกิเลสปกฺขโต อุมฺมุชฺชนํ, เอวํ สทฺธุปฺปาโทปีติ อาห ‘‘สทฺธาสงฺขาตเมว อุมฺมุชฺชน’’นฺติ. จิตฺตวาโรติ จิตฺตปฺปพนฺธวาโร. ปจฺเจกํ านวิปสฺสนาปตรณปติคาธปฺปตฺตินิฏฺตฺตา เตสํ ปุคฺคลานํ ‘‘อเนเก ปุคฺคลา’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา? เตนตฺตภาเวน อรหตฺตสฺส อคฺคหณโต. ตติยปุคฺคลาทิภาวนฺติ อุมฺมุชฺชิตฺวา ิตปุคฺคลาทิภาวํ.

สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๙. โสตาปนฺนาทโยติ วุตฺตวิเสสยุตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิฌานานาคามิโน. อสา…เป… ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถทีปโน. เตน ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา’’ติ อิทํ วิเสสํ ทีเปตีติ เวทิตพฺพํ.

ทสกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-อนุฏีกา สมตฺตา.

กถาวตฺถุปกรณ-อนุฏีกา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

สมุทาเย เอกเทสา อนฺโตคธาติ สมุทาโย เตสํ อธิฏฺานภาเวน วุตฺโต ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ ทสฺเสติ ‘‘กถาสมุทายสฺสา’’ติอาทินา. ตตฺถ กถานนฺติ ติสฺโส กถา วาโท ชปฺโป วิตณฺฑาติ. เตสุ เยน ปมาณตกฺเกหิ ปกฺขปฏิปกฺขานํ ปติฏฺาปนปฏิกฺเขปา โหนฺติ, โส วาโท. เอกาธิกรณา หิ อฺมฺวิรุทฺธา ธมฺมา ปกฺขปฏิปกฺขา ยถา ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๖๕). นานาธิกรณา ปน อฺมฺวิรุทฺธาปิ ปกฺขปฏิปกฺขา นาม น โหนฺติ ยถา ‘‘อนิจฺจํ รูปํ, นิจฺจํ นิพฺพาน’’นฺติ. เยน ฉลชาตินิคฺคหฏฺาเนหิ ปกฺขปฏิปกฺขานํ ปติฏฺาปนํ ปฏิกฺเขปารมฺโภ, โส ชปฺโป. อารมฺภมตฺตเมเวตฺถ, น อตฺถสิทฺธีติ ทสฺสนตฺถํ อารมฺภคฺคหณํ. ยาย ปน ฉลชาตินิคฺคหฏฺาเนหิ ปฏิปกฺขปฏิกฺเขปาย วายมนฺติ, สา วิตณฺฑา. ตตฺถ อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉลํ ยถา ‘‘นวกมฺพโลยํ ปุริโส, ราชา โน สกฺขี’’ติ เอวมาทิ. ทูสนภาสา ชาตโย, อุตฺตรปติรูปกาติ อตฺโถ. นิคฺคหฏฺานานิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. เอวํ วาทชปฺปวิตณฺฑปฺปเภทาสุ ตีสุ กถาสุ อิธ วาทกถา ‘‘กถา’’ติ อธิปฺเปตา. สา จ โข อวิปรีตธมฺมตาย ปติฏฺาปนวเสน, น วิคฺคาหิกกถาภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. มาติกาปเนเนวาติ อุทฺเทสเทสนาย เอว. ปิตสฺสาติ เทสิตสฺส. เทสนา หิ เทเสตพฺพมตฺถํ วิเนยฺยสนฺตาเนสุ ปนโต นิกฺขิปนโต ปนํ, นิกฺเขโปติ จ วุจฺจติ.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานกถาวณฺณนา

ปรินิพฺพานเมว …เป… วุตฺตํ. อภินฺนสภาวมฺปิ หิ อตฺถํ ตทฺธมฺมโต วิเสสาวโพธนตฺถํ อฺํ วิย กตฺวา โวหรนฺติ ยถา ‘‘อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑). สาติ อสงฺขตา ธาตุ. กรณภาเวน วุตฺตา ยถาวุตฺตสฺส อุปสมสฺส สาธกตมภาวํ สนฺธาย. ธมฺมวาที…เป… ทุพฺพลตา วุตฺตา ตถารูปาย ปฺาย ภาเว ตาทิสานํ ปกฺขภาวาภาวโต. ลทฺธิยาติ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, ปริหายติ อรหา อรหตฺตา’’ติอาทิลทฺธิยา. สุตฺตนฺเตหีติ เทวตาสํยุตฺตาทีหิ. ลิงฺคากปฺปเภทํ ปรโต สยเมว วกฺขติ.

ภินฺทิตฺวา มูลสงฺคหนฺติ มูลสงฺคีตึ วินาเสตฺวา, เภทํ วา กตฺวา ยถา สา ิตา, ตโต อฺถา กตฺวา. สงฺคหิตโต วา อฺตฺราติ มูลสงฺคีติยา สงฺคหิตโต อฺตฺร. เตนาห ‘‘อสงฺคหิตํ สุตฺต’’นฺติ. นีตตฺถํ ยถารุตวเสน วิฺเยฺยตฺถตฺตา. เนยฺยตฺถํ วิปริณามทุกฺขตาทิวเสน นิทฺธาเรตพฺพตฺถตฺตา. ตีหิ าเนหีติ ‘‘สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑) เอวํ วุตฺเตหิ ตีหิ การเณหิ. อฺํ สนฺธาย ภณิตนฺติ เอกํ ปพฺพชฺชาสงฺขาตํ พฺรหฺมจริยวาสํ สนฺธาย ภณิตํ. อฺํ อตฺถํ ปยึสูติ สพฺพสฺสปิ พฺรหฺมจริยวาสสฺส วเสน ‘‘นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติอาทิกํ (กถา. ๒๖๙) อฺํ อตฺถํ ปยึสุ. สุตฺตฺจ อฺํ สนฺธาย ภณิตํ ตโต อฺํ สนฺธาย ภณิตํ กตฺวา ปยึสุ, ตสฺส อตฺถฺจ อฺํ ปยึสูติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. สุฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อนิจฺจตาทึ สงฺคณฺหาติ.

คมฺภีรํ เอกเทสํ มหาปเทสปริวาราทึ. เอกจฺเจ สกลํ อภิธมฺมํ วิสฺสชฺชึสุ ฉฑฺฑยึสุ เสยฺยถาปิ สุตฺตนฺติกา. เต หิ ตํ น ชินวจนนฺติ วทนฺติ. กถาวตฺถุสฺส สวิวาทตฺเตติอาทิ เหฏฺา นิทานฏฺกถาย อาคตนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกจิ ปน ปุคฺคลปฺตฺติยาปิ สวิวาทตฺตํ มฺนฺติ. ‘‘ตติยสงฺคีติโต ปุพฺเพ ปวตฺตมานานํ วเสนา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตติยสงฺคีติโต ปุพฺเพปิ ตํ มาติการูเปน ปวตฺตเตว? นิทฺเทสํ วา สนฺธาย ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺานีติ อฺาการานิ อภิธมฺมปกรณาทีนิ อกรึสุ, ปวตฺตนฺตานิปิ ตานิ อฺถา กตฺวา ปึสูติ อตฺโถ. มฺชุสิรีติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ตํ นามํ ปิฏกตฺตยํ อนุวตฺตนฺเตหิ ภิกฺขูหิ คยฺหติ? อิตเรหิ คยฺหมานมฺปิ วา สาสนิกปริฺเหิ น สาสนาวจรํ คยฺหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. นิกายนามนฺติ มหาสงฺฆิกาทินิกายนามํ, ทุตฺตคุตฺตาทิวคฺคนามฺจ.

สงฺกนฺติกานํ เภโท สุตฺตวาทีติ สงฺกนฺติกานํ อนนฺตเร เอโก นิกายเภโท สุตฺตวาที นาม ภิชฺชิตฺถ. สหาติ เอกชฺฌํ กตฺวา, คณิยมานาติ อตฺโถ.

อุปฺปนฺเน วาเท สนฺธายาติ ตติยสงฺคีติกาเล อุปฺปนฺเน วาเท สนฺธาย. อุปฺปชฺชนเกติ ตโต ปฏฺาย ยาว สทฺธมฺมนฺตรธานา เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชนเก. สุตฺตสหสฺสาหรณฺเจตฺถ ปรวาทภฺชนตฺถฺจ สกวาทปติฏฺาปนตฺถฺจ. สุตฺเตกเทโสปิ หิ ‘‘สุตฺต’’นฺติ วุจฺจติ สมุทายโวหารสฺส อวยเวสุปิ ทิสฺสนโต ยถา ‘‘ปโฏ ทฑฺโฒ, สมุทฺโท ทิฏฺโ’’ติ จ. เต ปเนตฺถ สุตฺตปเทสา ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทินา อาคตา เวทิตพฺพา.

นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺโค

๑. ปุคฺคลกถา

๑. สุทฺธสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

. สมฺพราทีหิ ปกปฺปิตวิชฺชา, ตถาภิสงฺขตานิ โอสธานิ จ ‘‘มายา’’ติ วุจฺจนฺติ, อิธ ปน มายาย อาหิตวิเสสา อภูตฺเยฺยาการา อธิปฺเปตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มายาย อมณิอาทโย มณิอาทิอากาเรน ทิสฺสมานา มายาติ วุตฺตา’’ติ อาห. สจฺจฺเว สจฺจิกํ, โส เอว อตฺโถ อวิปรีตสฺส าณสฺส วิสยภาวฏฺเนาติ สจฺจิกฏฺโ. เตนาห ‘‘ภูตฏฺโ’’ติ. อวิปรีตภาวโต เอว ปรโม ปธาโน อตฺโถติ ปรมตฺโถ, าณสฺส ปจฺจกฺขภูโต ธมฺมานํ อนิทฺทิสิตพฺพสภาโว. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตฺตมตฺโถ’’ติ.

อตฺถีติ วจนสามฺเนาติ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๙๖; กถา. ๒๒) ‘‘อตฺถี’’ติ ปวตฺตวจนสามฺเน. อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉลนฺติ วทนฺติ. ปติฏฺํ ปจฺฉินฺทนฺโตติ เหตุํ ทูเสนฺโต, อเหตุํ กโรนฺโตติ อตฺโถ. เหตุ หิ ปฏิฺาย ปติฏฺาปนโต ปติฏฺา, ตํ ปน เหตุํ อตฺถมตฺตโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ สจฺจิกฏฺเนา’’ติอาทิมาห. ปโยคโต ปน ทูสเนน สทฺธึ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. โอกาสํ อททมาโนติ ยถานุรูปํ ยุตฺตึ วตฺตุํ อวสรํ อเทนฺโต. อถ วา ปติฏฺํ ปจฺฉินฺทนฺโต, ปฏิฺํ เอว ปริวตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. อุปลพฺภติ ปุคฺคโลติ หิ สกวาทึ อุทฺทิสฺส ปรวาทิโน ปฏิฺาว น ยุตฺตา อปฺปสิทฺธตฺตา วิเสสิตพฺพสฺส. เตเนวาห ‘‘อนุปลพฺภเนยฺยโต น ตว วาโท ติฏฺตีติ นิวตฺเตนฺโต’’ติ. รูปฺจ อุปลพฺภติ…เป… ทสฺเสตีติ เอเตน ปรวาทินา อธิปฺเปตเหตุโน วิปรีตตฺถสาธกตฺตํ ทสฺเสติ.

อุปลพฺภมานํ นาม โหตีติ อาการโต ตํอาการวนฺตานํ อนฺตฺตาติ อธิปฺปาโย. อฺถาติ อาการ, อาการวนฺตานํ เภเท. เอติสฺสาติ ‘‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมฏฺเนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ทุติยปุจฺฉาย. เอส วิเสโสติ โย ยถาวุตฺโต ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วิสยสฺส สภาวาการเภโท, เอส ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วิเสโส. สภาวธมฺมานํ สามฺลกฺขเณน อภินฺนานมฺปิ สลกฺขณโต เภโทเยวาติ อฺธมฺมสฺส อฺเนากาเรน น กทาจิปิ อุปลพฺโภ ภเวยฺย. ยทิ สิยา, อฺตฺตเมว น สิยาติ รุปฺปนาทิสปจฺจยาทิอากาเรน อนุปลพฺภมาโนปิ ปุคฺคโล อตฺตโน ภูตสภาวฏฺเน อุปลพฺภเตวาติ วทนฺตํ ปรวาทินํ ปติ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติอาทิ โจทนา อโนกาสาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา ปน…เป… นิคฺคโห จ น กาตพฺโพ’’ติ. ตตฺถ นิคฺคโหติ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ เอวํ วุตฺตนิคฺคโห, ปราชยาโรปเนน ปรวาทิโน นิคฺคณฺหนนฺติ อตฺโถ.

สฺวายํ ปน ยสฺมา ตสฺส วาทาปราธเหตุโก, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ โทสาปราธปริยาเยหิ วิภาวิโต. อวชานนฺเหตฺถ นิคฺคหฏฺานํ. ตถา หิ ปฏิฺาหานิ, ปฏิฺานฺตรํ, ปฏิฺาวิโรโธ, ปฏิฺาสฺาโส, เหตฺวนฺตรํ, อตฺถนฺตรํ, นิรตฺถกํ, อวิฺาตตฺถํ, อสมฺพนฺธตฺถํ, อปฺปตฺตกาลํ, อูนํ, อธิกํ, ปุนรุตฺตํ, อนนุภาสนํ, อวิฺาตํ, อปฺปฏิภา, วิกฺเขโป, มตานุฺา, อนุยุฺชิตพฺพสฺส อุเปกฺขนํ, อนนุยุฺชิตพฺพสฺส อนุโยโค, อปสิทฺธนฺตรํ, เหตฺวาภาสา จาติ ทฺวาวีสติ นิคฺคหฏฺานานิ ายวาทิโน วทนฺติ.

ตตฺถ วิสทิสูทาหรณธมฺมานุชานนํ ปมุทาหรเณ ปฏิฺาหานิ. ปฏิฺาตตฺถปฏิเสเธ ตทฺตฺถนิทฺเทโส ปฏิฺานฺตรํ. ปฏิฺาวิรุทฺธเหตุกิตฺตนํ ปฏิฺาวิโรโธ. ปฏิฺาตตฺถาปนยนํ ปฏิฺาสฺาโส. อวิเสสวุตฺเต เหตุมฺหิ ปฏิสิทฺเธ วิเสสเหตุกถนํ เหตฺวนฺตรํ. อธิกตตฺถานุปโยคิอตฺถกถนํ อตฺถนฺตรํ. มาติกาปาโ วิย อตฺถหีนํ นิรตฺถกํ. ติกฺขตฺตุํ วุตฺตมฺปิ สกฺขิปฏิวาทีหิ อวิทิตํ อวิฺาตตฺถํ. ปุพฺพาปรวเสน สมฺพนฺธรหิตํ อสมฺพนฺธตฺถํ. อวยววิปลฺลาสวจนํ อปฺปตฺตกาลํ. อวยววิกลํ อูนํ. อธิกเหตูทาหรณํ อธิกํ. เปตฺวา อนุวาทํ สทฺทตฺถานํ ปุนปฺปุนํ วจนํ อตฺถาปนฺนวจนฺจ ปุนรุตฺตํ. ปริสาย วิทิตสฺส ตีหิ วุตฺตสฺส อปจฺจุทาหาโร อนนุภาสนํ. ยํ วาทินา วุตฺตํ ปริสาย วิฺาตํ ปฏิวาทินา ทุวิฺาตํ, ตํ อวิฺาตํ. ตํวาทินา วตฺตพฺเพ วุตฺเต ปรวาทิโน ปฏิวจนสฺส อนุปฏฺานํ อปฺปฏิภา. กิจฺจนฺตรปฺปสงฺเคน กถาวิจฺฉินฺทนํ วิกฺเขโป. อตฺตโน โทสานุชานเนน ปรปกฺขสฺส โทสปฺปสฺชนํ ปรมตานุชานนํ มตานุฺา. นิคฺคหปฺปตฺตสฺส นิคฺคณฺหนํ อนุยุฺชิตพฺพสฺส อุเปกฺขนํ. สมฺปตฺตนิคฺคหสฺส อนิคฺคหฏฺาเน จ นิคฺคณฺหนํ อนุยุฺชิตพฺพสฺส อนุโยโค. เอกํ สิทฺธนฺตมนุชานิตฺวา อนิยมโต ตทฺสิทฺธนฺตกถาปฺปสฺชนํ อปสิทฺธนฺตรํ. อสิทฺธา อเนกนฺติกา วิรุทฺธา จ เหตฺวาภาสา, เหตุปติรูปกาติ อตฺโถ. เตสฺจ กถนํ นิคฺคหฏฺานนฺติ.

อิเมสุ ทฺวาวีสติยา นิคฺคหฏฺาเนสุ อิทํ ปฏิฺาย อปนยนโต สยเมว ปจฺจกฺขานโต ปฏิฺาสฺาโส นาม นิคฺคหฏฺานํ. เตเนวาห ‘‘อวชานเนเนว นิคฺคหํ ทสฺเสตี’’ติ. อสิทฺธตฺตาติ เอเตน ปจฺจกฺขโต อนุมานโต จ ปุคฺคลสฺส อนุปลพฺภมาห. น หิ โส ปจฺจกฺขโต อุปลพฺภติ. ยทิ อุปลพฺเภยฺย, วิวาโท เอว น สิยา, อนุมานมฺปิ ตาทิสํ นตฺถิ, เยน ปุคฺคลํ อนุมิเนยฺยุํ. ตถา หิ ตํ สาสนิโก ปุคฺคลวาที วเทยฺย ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา รูปเวทนาทิ วิย. ยฺหิ ภควตา ‘‘อตฺถี’’ติ ยทิ วุตฺตํ, ตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ ยถา ตํ รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. ยํ ปน ปรมตฺถโต นตฺถิ, น ตํ ภควตา ‘‘อตฺถี’’ติ วุตฺตํ ยถา ตํ ปกติวาทิอาทีนํ ปกติอาทีติ, ตํ มิจฺฉา. เอตฺถ หิ ยทิ โวหารโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาโว อธิปฺเปโต, สิทฺธํ สาธนํ, อถ ปรมตฺถโต, อสิทฺโธ เหตุ ตถา อวุตฺตตฺตา. วิรุทฺโธ จ ตสฺส อนิจฺจสงฺขตปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาทิภาวาสาธนโต รูปเวทนาทีสุ ตถา ทิฏฺตฺตาติอาทินา ตสฺส อเหตุกภาวสฺเสว ปากฏภาวโต.

ยํ ปน พาหิรกา ปุถุ อฺติตฺถิยา วทนฺติ. อตฺเถว จ ปรมตฺถโต อตฺตา าณาภิธานสฺส ปวตฺติยา นิมิตฺตภาวโต รูปาทิ วิย. อถ วา อตฺตาติริตฺตปทตฺถนฺตโร รูปกฺขนฺโธ ขนฺธสภาวตฺตา ยถา ตํ อิตรกฺขนฺธา. ยฺเหตฺถ ปทตฺถนฺตรํ, โส ปุคฺคโลติ อธิปฺปาโย.

เอตฺถ จ ปุริมสฺส เหตุโน ปฺตฺติยา อเนกนฺติกตา อสิทฺธตา จ. น หิ อสโต สกวาทินํ ปติ ปรมตฺถโต าณาภิธานปฺปวตฺติยา นิมิตฺตภาโว สิชฺฌติ. โวหารโต เจ, ตทสิทฺธสาธนตา รูปาทิสภาววินิมุตฺตรูโปปิ ปุคฺคโล น โหตีติ เอวมาทิวิรุทฺธตฺถตา. ปจฺฉิมสฺส ปน เหตุโน สาเธตพฺพตฺถสามฺปริคฺคเห สิทฺธสาธนตา, รูปกฺขนฺธโต ปทตฺถนฺตรโต ปรมตฺถนฺตรภูตเวทนาทิสมฺภวสฺส อิจฺฉิตตฺตา จ. ตพฺพิเสสปริคฺคเห จ สกวาทินํ ปติ อุทาหรณาภาโว ปรปริกปฺปิตชีวปทตฺถวิรหโต. อิตรกฺขนฺธานํ เวทนาทิวินิมุตฺตอุภยสิทฺธชีวปทตฺถสหิโตปิ รูปกฺขนฺโธ น โหติ อิตรกฺขนฺธา วิยาติ วิรุทฺธตฺถตา จ.

ยํ ปน กาณาทา ‘‘สุขาทีนํ นิสฺสยภาวโต’’ติ อนุมานํ วทนฺติ, เต อิทํ วตฺตพฺพา – กึ สุขาทีนํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธํ ยโต สุขาทินิสฺสยตาย อตฺตา อนุมียติ. ยทิ อุปฺปาโท, เอวํ สนฺเต สพฺเพปิ สุขาทโย เอกโต เอว ภเวยฺยุํ การณสฺส สนฺนิหิตภาวโต อฺนิรเปกฺขโต จ. อถ อฺมฺปิ กิฺจิ อินฺทฺริยาทิการณนฺตรมเปกฺขิตพฺพํ, ตเทว โหตุ การณํ, กิมฺเน อทิฏฺสามตฺถิเยน ปริกปฺปิเตน ปโยชนํ. อถ ปน เตสํ อตฺตาธีนา วุตฺตีติ วเทยฺยุํ, เอวมฺปิ น สิชฺฌติ อุทาหรณาภาวโต. น หิ รูปาทิวินิมุตฺโต ตาทิโส โกจิ สภาวธมฺโม สุขาทิสนฺนิสฺสยภูโต อตฺถิ, ยโต อตฺตโน อตฺตตฺถสิทฺธิยา อุทาหรณํ อปทิเสยฺยุํ. อิมินา นเยน อสมาสปทาภิเธยฺยตฺตาติอาทีนมฺปิ อยุตฺตตฺตา นิวาเรตพฺพา. ตถา ‘‘อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา’’ติ อิมินา จ ปกติอณุอาทีนมฺปิ พาหิรปริกปฺปิตานํ อสิทฺธตา วุตฺตาวาติ เวทิตพฺพา. กถํ ปน เตสํ อสิทฺธีติ? ปมาเณน อนุปลพฺภนโต. น หิ ปจฺจกฺขโต ปกติ สิทฺธา กปิลสฺสปิ อิสิโน ตสฺส อปจฺจกฺขภาวสฺส กาปิเลหิ อนุฺายมานตฺตา.

ยํ ปน ‘‘อตฺถิ ปธานํ เภทานํ อนฺวยทสฺสนโต สกลกลาปมตฺตํ วิยา’’ติ เต อนุมานํ วทนฺติ. อิมินา หิ เภทานํ สตฺวาทีนํ วิชฺชมานปธานตา ปฏิฺาตา. เอตฺถ จ วุจฺจเต – สกลาทีนํ ปธานํ ตพฺพิภาเคหิ กึ อฺตฺตํ, อุทาหุ อนฺนฺติ, กิฺเจตฺถ ยทิ อฺตฺตํ, สพฺโพ โลโก ปธานมโยติ สมยวิโรโธ สิยา, สณฺานเภเทน อฺตฺถ ปฏิชานนโต น โทโสติ เจ? ตํ น, วลยกฏกาทิสณฺานเภเทปิ กนกาเภททสฺสนโต. น หิ สณฺานํ วตฺถุเภทนิมิตฺตํ ตสฺส อนุปาทานตฺตา. ยํ ยสฺส เภทนิมิตฺตํ, น ตํ ตสฺส อนุปาทานํ ยถา สุวณฺณมตฺติกาทิฆฏาทีนํ สุวณฺณฆโฏ มตฺติกาฆโฏ โกเสยฺยปโฏ กปฺปาสปโฏติ จ สาเธตพฺพธมฺมรหิตฺจ อุทาหรณํ. น หิ ปธาเนกการณปุพฺพกตฺตํ สกลาทีนํ ปกติวาทิโน สิทฺธํ, นาปิ กาปิลานํ กถฺจิ อฺตฺตานุชานนโต. อนฺตฺเต ปน อุทาหรณาภาโว. น หิ ตเทว สาเธตพฺพํ ตเทว จ อุทาหรณํ ยุตฺตํ, อนฺวยทสฺสนมฺปิ อสิทฺธํ. น หิ ตเทว เตน อนฺวิตํ ยุชฺชติ. ปธาเนน อนฺวยทสฺสนมฺปิ อสิทฺธํ ปรวาทิโนติ คุณสฺส ปธานสฺส อนนุชานนโต. อถ ยํ กิฺจิ การณํ ปธานํ ‘‘ปธียติ เอตฺถ ผล’’นฺติ, เอวมฺปิ อสิทฺธเมว การเณ ผลสฺส อตฺถิภาวานนุชานนโต, เหตุโน จ อสิทฺธนิสฺสยตาปราภิมตเภทานนุชานนโต. อถ วิเสเสน การณายตฺตวุตฺติตา ผลสฺส สาธียติ, น กิฺจิ วิรุทฺธํ ธมฺมานํ ยถาสกํ ปจฺจเยน ปฏิจฺจสมุปฺปตฺติยา อิจฺฉิตตฺตาติ.

อปิจ ปกติวาทิโน ‘‘สตฺวรชตมสงฺขาตานํ ติณฺณํ คุณานํ สมภาโว ปกติ, สา จ นิจฺจา สตฺวาทิวิสมสภาวโต อนิจฺจโต มหตาทิวิการโต อนฺา’’ติ ปฏิชานนฺติ. สา เตสํ วุตฺตปฺปการา ปกติ น สิชฺฌติ ตโต วิรุทฺธสภาวโต วิการโต อนฺตฺตา. น หิ อสฺสสฺส วิสาณํ ทีฆํ, ตฺจ รสฺสโต โควิสาณโต อนฺนฺติ วุจฺจมานํ สิชฺฌติ. กิฺจ ภิยฺโย? ติณฺณํ เอกภาวาภาวโต. สตฺวาทิคุณตฺตยโต หิ ปกติยา อนฺตฺตํ อิจฺฉนฺตานํ เตสํ สตฺวาทีนมฺปิ ปกติยา อนฺตฺตํ อาปชฺชติ, น จ ยุตฺตํ ติณฺณํ เอกภาโวติ. เอวมฺปิ ปกติ น สิชฺฌติ. กถํ? อเนกโทสาปตฺติโต. ยทิ หิ พฺยตฺตสภาวโต วิการโต อพฺยตฺตสภาวา ปกติ อนฺา, เอวํ สนฺเต เหตุมนฺตตา อนิจฺจตา อพฺยาปิตา สกิริยตา อเนกตา นิสฺสิตตา ลิงฺคตา สาวยวตา ปรตนฺตฺรตาติ เอวมาทโย อเนเก โทสา ปกติยา อาปชฺชนฺติ, น ชาติวิการโต อนฺา ปฏิชานิตพฺพา. ตถา จ สติ สมยวิโรโธติ กปฺปนามตฺตํ ปกตีติ อสิทฺธา สาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

ปกติยา จ อสิทฺธาย ตํนิมิตฺตกภาเวน วุจฺจมานา มหตาทโยปิ อสิทฺธา เอว. ยถา จ ปกติ มหตาทโย จ, เอวํ อิสฺสรปชาปติปุริสกาลสภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ. เอเตสุ หิ อิสฺสโร ตาว น สิชฺฌติ อุปการสฺส อทสฺสนโต. สตฺตานฺหิ ชาติยํ มาตาปิตูนํ พีชเขตฺตภาเวน กมฺมสฺส หีนตาทิวิภาคกรเณน, ตโต ปรฺจ อุตุอาหารานํ พฺรูหนุปตฺถมฺภเนน, อินฺทฺริยานํ ทสฺสนาทิกิจฺจสาธเนน อุปกาโร ทิสฺสติ, น, เอวมิสฺสรสฺส. หีนตาทิวิภาคกรณมิสฺสรสฺสาติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. ยถาวุตฺโต อุปการวิเสโส อิสฺสรนิมฺมิโต, น กมฺมุนาติ สาธนียเมตํ. อิตรตฺราปิ สมานเมตนฺติ เจ? น, กมฺมโต ผลนิยมสิทฺธตฺตา. สติ หิ กตูปจิเต กมฺมสฺมึ ตตฺถ ยํ อกุสลํ, ตโต หีนตา, ยํ กุสลํ, ตโต ปณีตตาติ สิทฺธเมตํ. อิสฺสรวาทินาปิ หิ น สกฺกา กมฺมํ ปฏิกฺขิปิตุํ.

อปิเจตสฺส โลกวิจิตฺตสฺส อิสฺสรนิมฺมานภาเว พหู โทสา สมฺภวนฺติ. กถํ? ยทิ สพฺพมิทํ โลกวิจิตฺตํ อิสฺสรนิมฺมิตํ, สเหว วจเนน ปวตฺติตพฺพํ, น กเมน. น หิ สนฺนิหิตการณานํ ผลานํ กเมน อุปฺปตฺติ ยุตฺตา, การณนฺตราเปกฺขาย อิสฺสรสฺส สามตฺถิยหานิ. จกฺขาทีนํ จกฺขุวิฺาณาทีสุ การณภาโว น ยุตฺโต. กโรตีติ หิ การณนฺติ. อิสฺสโร เอว จ การโกติ สพฺพการณานํ การณภาวหานิ. เยหิ ปุถุวิเสเสหิ อิสฺสโร ปสีเทยฺย, เตสฺจ สยํการตา อาปชฺชติ, ตถา สพฺเพสํ เหตุกานํ การณภาโว. ยฺเชตํ นิมฺมานํ, ตฺจสฺส อตฺตทตฺถํ วา สิยา, ปรตฺถํ วา สิยา. อตฺตทตฺถตายํ อตฺตโน อิสฺสรภาวหานิ อกตกิจฺจตาย อิสิตาวสิตาภาวโต. เตน วา นิมฺมิเตน ยํ อตฺตโน กาตพฺพํ, ตํ กสฺมา สยเมว น กโรติ. ปรตฺถตายํ ปน ปโร นาเมตฺถ โลโก เอวาติ กิมตฺถิยํ ตสฺส นิรยาทิโรคาทิวิสาทินิมฺมานํ. ยา จสฺส อิสฺสรตา, สา สยํกตา วา สิยา ปรํกตา วา อเหตุกา วา. ตตฺถ สยํกตา เจ, ตโต ปุพฺเพ อนิสฺสรภาวาปตฺติ. ปรํกตา เจ, ปจฺฉาปิ อนิสฺสรภาวาปตฺติ สอุตฺตรตา จ สิยา. อเหตุกา เจ, น กสฺสจิ อนิสฺสรตาติ เอวมิสฺสรสฺสปิ อสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ยถา จ อิสฺสโร, เอวํ ปชาปติ ปุริโส จ. นามมตฺตเมว เหตฺถ วิเสโส. เตหิ วาทีหิ ปกปฺปิตํ ยทิทํ ‘‘ปชาปติ ปุริโส’’ติ. ตํนิมิตฺตกํ ปน โลกปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺตานํ ปชาปติวาเท ปุริสวาเท จ อิสฺสรวาเท วิย โทสา อสิทฺธิ จ วิธาตพฺพา. ยถา เจเต อิสฺสราทโย, เอวํ กาโลปิ อสิทฺโธ ลกฺขณาภาวโต. ปรมตฺถโต หิ วิชฺชมานานํ ธมฺมานํ สภาวสงฺขาตํ ลกฺขณํ อุปลพฺภติ. ยถา ปถวิยา กถินตา, น เอวํ กาลสฺส, ตสฺมา นตฺถิ ปรมตฺถโต กาโลติ. กาลวาที ปนาห ‘‘วตฺตนาลกฺขโณ กาโล’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘กา ปนายํ วตฺตนา’’ติ. โส อาห ‘‘สมยมุหุตฺตาทีนํ ปวตฺตี’’ติ. ตมฺปิ น, รูปาทีหิ อตฺถนฺตรภาเวน อนิทฺธาริตตฺตา. ปรมตฺถโต หิ อนิทฺธาริตสภาวสฺส วตฺตนาลกฺขณตายํ สสวิสาณาทีนมฺปิ ตํลกฺขณตา อาปชฺเชยฺย.

ยํ ปน วทนฺติ กาณาทา ‘‘อปรสฺมึ อปรํ ยุคปทิ จิรํ ขิปฺปมิติ กาลลิงฺคานีติ ลิงฺคสพฺภาวโต อตฺถิ กาโล’’ติ, ตํ อยุตฺตํ ลิงฺคิโน อนุปลพฺภมานตฺตา. สิทฺธสมฺพนฺเธสุ หิ ลิงฺเคสุ ลิงฺคมตฺตคฺคหเณน ลิงฺคินิ อวโพโธ ภเวยฺย. น จ เกนจิ อวิปรีตเจตสา เตน ลิงฺเคน สห กทาจิ กาลสงฺขาโต ลิงฺคี คหิตปุพฺโพติ. อโต น ยุตฺตํ ‘‘ลิงฺคสพฺภาวโต อตฺถิ กาโล’’ติ. ‘‘อปรสฺมึ อปร’’นฺติอาทิกสฺส วิเสสสฺส นิมิตฺตภาวโต ยุตฺตนฺติ เจ? น, ปมชาตตาทินิมิตฺตกตฺตา ตสฺส. น จ ปมชาตตาทิ นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ อฺตฺร สมฺามตฺตโตติ นตฺเถว ปรมตฺถโต กาโล. กิฺจ ภิยฺโย, พหูนํ เอกภาวาปตฺติโต. อตีตาทิวิภาเคน หิ โลกสมฺาวเสน พหู กาลเภทา. ตฺวฺเจตํ เอกํ วทสีติ พหูนํ เอกภาวาภาวโต นตฺเถว ปรมตฺถโต กาโล. ตถา เอกสฺส อเนกภาวาปตฺติโต. โย หิ อยํ อชฺช วตฺตมานกาโล, โส หิยฺโย อนาคโต อโหสิ, สฺเว อตีโต ภวิสฺสติ. หิยฺโย จ วตฺตมาโน อชฺช อตีโต อโหสิ, ตถา สฺเว วตฺตมาโนปิ อปรชฺช. น เจกสภาวสฺส อเนกสภาวตา ยุตฺตาติ อสิทฺโธ ปรมตฺถโต กาโล. ธมฺมปฺปวตฺตึ ปน อุปาทาย กปฺปนามตฺตสิทฺธาย โลกสมฺาย อตีตาทิวิภาคโต โวหรียตีติ โวหารมตฺตโกติ ทฏฺพฺโพ.

สภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ อสิทฺธา. กึ การณา? ลกฺขณาภาวา. น หิ สภาวโต นิยติยทิจฺฉา สมฺภวติ. อฺถา เอวํวิโธ โกจิ ภาโว อตฺถิ เจ, เตสํ สภาวสงฺขาเตน ลกฺขเณน ภวิตพฺพํ, ปติฏฺาปกเหตุนา จ น จตฺถิ. เกวลํ ปเนเต วาทา วิมทฺทิยมานา อเหตุวาเท เอว ติฏฺนฺติ, น จาเหตุกํ โลกวิจิตฺตํ วิเสสาภาวปฺปสงฺคโต. อเหตุกภาเว หิ ปวตฺติยา ยฺวายํ นรสุรนิรยติรจฺฉานาทีสุ อินฺทฺริยาทีนํ วิเสโส, ตสฺส อภาโว อาปชฺชติ, น จายํ ปณฺฑิเตหิ อิจฺฉิโต. กิฺจ? ทิฏฺภาวโต. ทิฏฺา หิ จกฺขาทิโต จกฺขุวิฺาณาทีนํ พีชาทิโต องฺกุราทีนํ ปวตฺติ, ตสฺมาปิ เหตุโตวายํ ปวตฺติ. ตถา ปุเร ปจฺฉา จ อภาวโต. ยโต ยโต หิ ปจฺจยสามคฺคิโต ยํ ยํ ผลํ นิพฺพตฺตติ, ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ น ตสฺส นิพฺพตฺติ สมฺภวติ, กิฺจ พหุนา. ยทิ อเหตุโต ปวตฺติ สิยา, อเหตุกา ปวตฺตีติ อิมาปิ วาจา ยถาสกปจฺจยสมวายโต ปุเร ปจฺฉา จ ภเวยฺยุํ, น จ ภวนฺติ อลทฺธปฺปจฺจยตฺตา, มชฺเฌ เอว จ ภวนฺติ ลทฺธปฺปจฺจยตฺตา. เอวํ สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมาติ น สิชฺฌติ อเหตุวาโท. ตสฺมิฺจ อสิทฺเธ ปวตฺติยา อเหตุภาโว วิย อเหตุปริยายวิเสสภูตา สภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ อสิทฺธา เอว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

ยํ ปน กาณาทา ‘‘ปรมาณโว นิจฺจา, เตหิ ทฺวิอณุกาทิผลํ นิพฺพตฺตติ, ตฺจ อนิจฺจํ, ตสฺส วเสเนตํ โลกวิจิตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตมฺปิ มิจฺฉาปริกปฺปมตฺตํ. น หิ ปรมาณโว นาม สนฺติ อฺตฺร ภูตสงฺฆาตา. โส ปน อนิจฺโจว, น จ นิจฺจโต อนิจฺจสฺส นิพฺพตฺติ ยุตฺตา ตสฺส การณภาวานุปปตฺติโต ตถา อทสฺสนโต จ. ยทิ จ โส กสฺสจิ การณภาวํ คจฺเฉยฺย, อนิจฺโจ เอว สิยา วิการาปตฺติโต. น จายํ สมฺภโว อตฺถิ, ยํ วิการํ อนาปชฺชนฺตเมว การณํ ผลํ นิพฺพตฺเตยฺยาติ. วิการฺเจ อาปชฺชติ, กุตสฺส นิจฺจตาวกาโส, ตสฺมา วุตฺตปฺปการา ปรมาณโว สตฺตา อนิจฺจา, อฺเปิ นิจฺจาทิภาเวน พาหิรเกหิ ปริกปฺปิตา อสิทฺธา เอวาติ เวทิตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมปฺปเภทโต ปน อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา’’ติ.

เอตฺถาห ‘‘ยทิ ปรมตฺถโต ปุคฺคโล น อุปลพฺภติ, เอวํ ปน ปุคฺคเล อนุปลพฺภมาเน อถ กสฺมา ภควา ‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’ติ (อ. นิ. ๔.๙๕; กถา. ๒๒), ‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’นฺติ (อ. นิ. ๔.๙๕; กถา. ๒๒) จ ตตฺถ ตตฺถ ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวํ ปเวเทสี’’ติ. วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน. ตถา ตถา วิเนตพฺพานฺหิ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน วิเนยฺยทมนกุสโล สตฺถา ธมฺมํ เทเสนฺโต โลกสมฺานุรูปํ ตตฺถ ตตฺถ ปุคฺคลคฺคหณํ กโรติ, น ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวโต.

อปิจ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ปุคฺคลกถํ กเถติ หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ, กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถํ, ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ, อานนฺตริยทีปนตฺถํ, พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ, ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถํ, ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ, โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถฺจาติ. ‘‘ขนฺธา ธาตู อายตนานิ หิรียนฺติ โอตฺตปฺปนฺตี’’ติ หิ วุตฺเต มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ วา โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตู อายตนานิ หิรียนฺติ โอตฺตปฺปนฺติ นามา’’ติ. ‘‘อิตฺถี หิรียติ โอตฺตปฺปติ, ปุริโส, ขตฺติโย, พฺราหฺมโณ’’ติ ปน วุตฺเต ชานาติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ, ตสฺมา ภควา หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา กมฺมสฺสกา, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถมฺปิ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘เวฬุวนาทโย มหาวิหารา ขนฺเธหิ การาปิตา, ธาตูหิ, อายตเนหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตถา ‘‘ขนฺธา มาตรํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, ปิตรํ, อรหนฺตํ, รุหิรุปฺปาทกมฺมํ, สงฺฆเภทกมฺมํ กโรนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ, ‘‘ขนฺธา เมตฺตายนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ, ‘‘ขนฺธา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ อานนฺตริยทีปนตฺถํ พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถฺจ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา ทานํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ วา โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตู อายตนานิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ นามา’’ติ. ‘‘ปุคฺคโล ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ ปน วุตฺเต ชานาติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ, ตสฺมา ภควา ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. โลกสมฺมุติฺจ พุทฺธา ภควนฺโต นปฺปชหนฺติ โลกสมฺาย โลกาภิลาเป ิตาเยว ธมฺมํ เทเสนฺติ, ตสฺมา ภควา โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถมฺปิ ปุคฺคลกถํ กเถตีติ อิเมหิ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ปุคฺคลกถํ กเถติ, น ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวโตติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมปฺปเภทากาเรเนวาติ ยถาวุตฺตรูปาทิธมฺมปฺปเภทโต อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา รูปาทิธมฺมปฺปเภทากาเรเนว ปุคฺคลสฺส อุปลทฺธิยา ภวิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน ‘‘กึ ตว ปุคฺคโล อุปลพฺภมาโน รุปฺปนากาเรน อุปลพฺภติ, อุทาหุ อนุภวนสฺชานนาภิสงฺขรณวิชานเนสุ อฺตรากาเรนา’’ติ ทสฺเสติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สภาวธมฺมสฺส โลเก อภาวโต. อวิเสสวิเสเสหิ ปุคฺคลูปลพฺภสฺส ปฏิฺาปฏิกฺเขปปกฺขา อนุชานนาวชานนปกฺขา. ยทิปิเม ทฺเวปิ ปกฺขา อนุโลมปฏิโลมนเยสุ ลพฺภนฺติ, อาทิโต ปน ปมํ เปตฺวา ปวตฺโต ปมนโย, อิตโร ทุติยนฺติ อิมํ เนสํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุชานนา…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. ยถาธิกตาย ลทฺธิยา อนุโลมนโต เจตฺถ ปโม นโย อนุโลมปกฺโข, ตพฺพิโลมนโต อิตโร ปฏิโลมปกฺโขติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพนฺติ.

เตน วต เรติ เอตฺถ เตนาติ การณวจนํ. เยน ปุคฺคลูปลพฺโภ ปติฏฺปียติ, เตน เหตุนา. สฺวายํ เหตุ สาสนิกสฺส พาหิรกสฺส จ วเสน เหฏฺา ทสฺสิโต เอว. เหตุปติรูปเก จายํ เหตุสมฺา ปรมตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เหฏฺา ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ นิคฺคหสฺส สฺาปนมตฺตํ กตํ, ตํ อิทานิ ‘‘ยํ ตตฺถ วเทสี’’ติอาทินา นิคมนรูเปน มิจฺฉาภาวทสฺสเนน จ วิภาวิยมานํ ปากฏภาวกรณโต อาโรปิตํ ปติฏฺาปิตํ โหตีติ อฏฺกถายํ ‘‘อาโรปิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติ ปฏิฺาวยโว สรูเปเนว ทสฺสิโต. ‘‘เตนา’’ติ อิมินา สามฺโต เหตาวยโว ทสฺสิโต. ยฺวายํ ยสฺมา ปฏิฺาธมฺโม หุตฺวา สทิสปกฺเข วิชฺชมาโน, วิสทิสปกฺเข อวิชฺชมาโนเยว เหตุ ลกฺขณูปปนฺโน นาม โหติ, น อิตโร, ตสฺมา ยตฺถ โส วิชฺชติ น วิชฺชติ จ, โส สทิสาสทิสภาวภินฺโน ทุวิโธ ทิฏฺนฺตาวยโว. ยถา รูปาทิ อุปลพฺภติ, ตถา ปุคฺคโล. ยถา จ สสวิสาณํ น อุปลพฺภติ, น ตถา ปุคฺคโลติ อุปนโย. สฺวายํ ‘‘วตฺตพฺเพ โข ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ อิมาย ปาฬิยา ทีปิโต, โย อฏฺกถายํ สทฺธึ เหตุทาหรเณหิ ‘‘ปาปนา’’ติ วุตฺโต. นิคมนํ ปาฬิยํ สรูเปเนว อาคตํ, ยา อฏฺกถายํ ‘‘โรปนา’’ติ วุตฺตาติ. เอวํ โปราเณน ายกฺกเมน สาธนาวยวา นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺพา.

อิทานิ วตฺตเนน ปรปกฺขุปลกฺขิเต เหตุทาหรเณ อนฺวยพฺยติเรกทสฺสนวเสน นิทฺธาเรตฺวา สาธนปโยโค โยเชตพฺโพ. การณํ วตฺตพฺพนฺติ กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ. เหตุทาหรเณหิเยว หิ สปรปกฺขานํ สาธนํ ทูสนํ วา, น ปฏิฺาย, ตสฺสา สาเธตพฺพาทิภาวโต. ตํ ปน ทฺวยํ ‘‘เตน วต เร’’ติอาทิปาฬิยา วิภาวิตํ. อฏฺกถายํ ปาปนาโรปนาสีเสน ทสฺสิตํ. ปฏิฺาปนา ปน เตสํ วิสยทสฺสนํ กถายํ ตํมูลตายาติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ยํ ปน วกฺขตี’’ติอาทิ. เตเนว จ อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ อนุโลม…เป… เอกํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. ตถา จาห ‘‘ยถา ปน ตตฺถา’’ติอาทิ. นิคฺคโหว วิสุํ วุตฺโต, น ปฏิกมฺมนฺติ อธิปฺปาโย. วิสุํ วุตฺโตติ จ ปาปนาโรปนาหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา วิสุํ องฺคภาเวน วุตฺโต, น ตทฺตโร วิย ตทนฺโตคธภาเวน วุตฺโต, นาปิ ปนา วิย อคณนุปคภาเวนาติ อตฺโถ. เย ปนาติ ปทกาเร สนฺธายาห. ทุติเย…เป… อาปชฺชติ ตตฺถ นิคฺคหสฺส อยถาภูตตฺตา ปฏิกมฺมสฺส จ ยถาภูตภาวโตติ อธิปฺปาโย.

. ปรมตฺถโต ปุคฺคลํ นานุชานาติ, โวหารโต ปน อนุชานาตีติ สกวาทิมตํ ชานนฺเตนปิ ปรวาทินา ฉลวเสน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ ปุจฺฉาย กตาย สกวาที ตตฺถ อยํ ปุคฺคลวาที, อิมสฺส ลทฺธิ ปฏิกฺขิปิตพฺพาติ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธายาห ‘‘อามนฺตา’’ติ. ‘‘น อุปลพฺภตี’’ติ หิ วุตฺตํ โหติ. ปุน อิตโร สมฺมุติสจฺจํ สนฺธาย ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โย โลกโวหารสิทฺโธ สจฺจิกฏฺโ, ตโต เอว เกนจิ อปฏิกฺขิปิตพฺพโต ปรมตฺถโต ตโต โส ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ. ปุน สกวาที ปุพฺเพ ปรมตฺถสจฺจวเสน ปุคฺคเล ปฏิกฺขิตฺเต อิทานิ สมฺมุติสจฺจวเสนายํ ปุจฺฉาติ มนฺตฺวา ตํ อปฺปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ อาห. เตนาห ‘‘อตฺตนา อธิปฺเปตํ สจฺจิกฏฺเมวาติ สมฺมุติสจฺจํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย’’ติ. เอวมวฏฺิเต ‘‘ยทิ ปรวาทินา…เป… นารภิตพฺพา’’ติ อิทํ น วตฺตพฺพํ ปมปุจฺฉาย ปรมตฺถสจฺจสฺส สจฺจิกฏฺโติ อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘อถ สกวาทินา…เป… อาปชฺชตี’’ติ อิทมฺปิ น วตฺตพฺพํ ทุติยปุจฺฉาย สมฺมุติสจฺจสฺส สจฺจิกฏฺโติ อธิปฺเปตตฺตา.

ยทิ อุภยํ อธิปฺเปตนฺติ อิทํ ยทิ ปมปุจฺฉํ สนฺธาย, ตทยุตฺตํ ตสฺสา ปรมตฺถสจฺจสฺเสว วเสน ปวตฺตตฺตา. อถ ทุติยปุจฺฉํ สนฺธาย, ตสฺสา สมฺมุติสจฺจวเสน ปมตฺถํ วตฺวา ปุน มิสฺสกวเสน วตฺตุํ ‘‘สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานิ วา เอกโต กตฺวาปิ เอวมาหา’’ติ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ น วตฺตพฺพเมว. ทฺเวปิ สจฺจานีติ สมฺมุติปรมตฺถสจฺจานิ. เตสุ ปรมตฺถสจฺจสฺเสว นิปฺปริยาเยน สจฺจิกฏฺปรมตฺถภาโว, อิตรสฺส อุปจาเรน. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘มายา มรีจิ…เป… อุตฺตมฏฺโ’’ติ. ตสฺมา สมฺมุติสจฺจวเสน อุปลทฺธึ อิจฺฉนฺเตนปิ ปรมตฺถสจฺจวเสน อนิจฺฉนโต ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติอาทินา อนุโยโค ยุตฺโต. ‘‘ปธานปฺปธาเนสุ ปธาเน กิจฺจสิทฺธี’’ติ เอเตเนว ‘‘น จ สจฺจิกฏฺเกเทเสน อนุโยโค’’ติอาทิ นิวตฺติตฺจ โหติ สจฺจิกฏฺเกเทสภาวสฺเสว อสิทฺธตฺตา. นาสฺส ปรมตฺถสจฺจตา อนุยุฺชิตพฺพาติ อสฺส สจฺจิกฏฺสฺส ปรมตฺถสจฺจตา ปรวาทินา น อนุยุฺชิตพฺพา ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ สกวาทิโนปิ สจฺจิกฏฺปรมตฺถโต ตสฺส อิจฺฉิตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. โวหริตสจฺจิกฏฺสฺส อตฺตนา อธิปฺเปตสจฺจิกฏฺตาปิ ยุตฺตา ตสฺส เตน อธิปฺเปตตฺตา. สฺวายมตฺโถ เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. วุตฺตนโยว โทโสติ ‘‘ทฺเวปิ สจฺจานี’’ติอาทินา อนนฺตรเมว วุตฺตํ สนฺธายาห. ตสฺส ปน อโทสภาโว ทสฺสิโตเยว. อถ น อิติ อถ น ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺเภยฺยาติ โยชนา. วตฺตพฺโพติ ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘โย โลกโวหารสิทฺโธ’’ติอาทินา วุตฺตเมว, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘ปรมตฺถโต ปุคฺคลํ นานุชานาตี’’ติอาทินา อธิปฺปายมคฺคนํ ทฏฺพฺพํ.

อนุฺเยฺยเมตํ สิยาติ เอตํ อนุปลพฺภนํ ปมปุจฺฉายํ วิย ทุติยปุจฺฉายมฺปิ อนุชานิตพฺพํ สิยา. น วา กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อถ วา กิฺจิ น วตฺตพฺพํ ปนียตฺตา ปฺหสฺส. ตถา หิสฺส ปนียาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ กามํ สจฺจทฺวยากาเรน ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สมฺมุติยากาเรน ปน นุปลพฺภตีติ อุปลพฺภนภาวสฺส วเสน ปฏิกฺเขโป กโตติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. อนุฺาตํ ปฏิกฺขิตฺตฺจาติ ปมปุจฺฉายํ อนุฺาตํ, ทุติยปุจฺฉายํ ปฏิกฺขิตฺตํ. เอตํ ฉลวาทํ นิสฺสายาติ เอตํ เอกํเยว วตฺถุํ อุทฺทิสฺส อนุชานนปฏิกฺขิปนาการํ ฉลวจนํ นิสฺสาย. ตฺวํ นิคฺคเหตพฺโพติ โยชนา. สมฺภวนฺตสฺส สามฺเนาติ นิคฺคหฏฺานภาเวน สมฺภวนฺตสฺส อนุโลมนเยน อนุชานนปฏิกฺเขปสฺส สมานภาเวน. อสมฺภวนฺตสฺส กปฺปนนฺติ ปจฺจนีกนเยน ตสฺส นิคฺคหฏฺานภาเวน อสมฺภวนฺตสฺส ตถา กปฺปนํ สํวิธานํ ฉลวาโท ภวิตุํ อรหติ. ‘‘อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉล’’นฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เตนาติ ยถาวุตฺตกปฺปนํ ฉลวาโทติ วุตฺตตฺตา. วจนสามฺมตฺตํ กปฺปิตํ ฉลํ วทติ เอเตนาติ ฉลวาโท. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉลวาทสฺส การณตฺตา ฉลวาโท’’ติ. วจนสามฺมตฺตํ อตฺถภูตํ ตทตฺถํ ฉลวาทํ นิสฺสาย. ‘‘วิจาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, กิเมตฺถ วิจาเรตพฺพํ. ยทิปิ ปกฺขสฺส ปนามูลกํ อนุชานนาวชานนานํ มิจฺฉาภาวทสฺสนํ ตพฺพิสยตฺตา, ปาปนาโรปนาหิ เอว ปน โส วิภาวียติ, น ปนายาติ ปากโฏยมตฺโถ.

๔-๕. เตนาติ สกวาทินา. เตน นิยาเมนาติ เยน นิยาเมน สกวาทินา จตูหิ ปาปนาโรปนาหิสฺส นิคฺคโห กโต, เตน นิยาเมน นเยน. โส นิคฺคโห ทุกฺกโฏ อนิคฺคโหเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนิคฺคหภาวสฺส วา อุปคมิตตฺตา’’ติ, ปาปิตตฺตาติ อตฺโถ. เอวเมวาติ ยถา ‘‘ตยา มม กโต นิคฺคโห’’ติอาทินา อนิคฺคหภาวูปนโย วุตฺโต, เอวเมว. เอตสฺสาติ ‘‘เตน หี’’ติอาทินา อิมาย ปาฬิยา วุตฺตสฺส.

อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๗-๑๐. อฺเนาติ สมฺมุติสจฺจภูเตน. ปรสฺสาติ สกวาทิโน. โส หิ ปรวาทินา ปโร นาม โหติ. ปฏิฺาปฏิกฺเขปานํ ภินฺนวิสยตฺตา ‘‘อวิโรธิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อภินฺนาธิกรณํ วิย หิ อภินฺนวิสยเมว วิรุทฺธํ นาม สิยา, น อิตรนฺติ อธิปฺปาโย. ตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น หิ…เป… อาปชฺชตี’’ติ อาห. ยทิ เอวํ กถมิทํ นิคฺคหฏฺานํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อตฺตโน ปนา’’ติอาทิ. เตน ปฏิฺานฺตรํ นาม อฺเมเวตํ นิคฺคหฏฺานนฺติ ทสฺเสติ.

ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุทฺธสจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โอกาสสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๑. สามฺเน วุตฺตํ วิเสสนิวิฏฺํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ สรีเรติ อยมตฺโถ’’ติ. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ วิเสสตฺถินา วิเสโส อนุปยุชฺชิตพฺโพติ. เอเตนาติ เทสวเสน สพฺพตฺถ ปฏิกฺเขปวจเนน.

๓. กาลสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๒. มชฺฌิมชาติกาเลติ ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวกาเล. อตฺตภาโว หิ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโต. ตโต อตีโต ปุริมชาติกาโล, อนาคโต ปจฺฉิมชาติกาโล. อิเมสุ ตีสูติ สพฺพตฺถ, สพฺพทา, สพฺเพสูติ อิเมสุ ตีสุ นเยสุ. ปาสฺส สํขิตฺตตา สุวิฺเยฺยาติ ตํ เปตฺวา อตฺถสฺส สทิสตํ วิภาเวนฺโต ‘‘อิธาปิ หิ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห. เอตฺถาปิ ‘‘น เกนจิ สภาเวน ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. น หิ เกนจิ สภาเวน อุปลพฺภมานสฺส สกเลกเทสวินิมุตฺโต ปวตฺติกาโล นาม อตฺถีติ.

๔. อวยวสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๓. ตติยนเย น สพฺเพกธมฺมวินิมุตฺตํ ปวตฺติฏฺานํ นาม อตฺถีติ โยเชตพฺพํ.

โอกาสาทิสจฺจิกฏฺโ

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๑๔. อนุโลมปฺจกสฺสาติอาทิมฺหิ อฏฺกถาวจเน. ปุน ตตฺถาติ ยถาวุตฺเต อฏฺกถาวจเน, เตสุ วา อนุโลมปฺจกปจฺจนีเกสุ. สพฺพตฺถ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิกสฺส ปาปฺปเทสสฺส อตฺโถ ‘‘สรีรํ สนฺธายา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ อตฺโถ. ปฏิกมฺมาทิปาฬินฺติ ปฏิกมฺมนิคฺคหอุปนยนนิคมนปาฬึ. ตีสุ มุเขสูติ ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ตีสุ วาทมุเขสุ. ปจฺจนีกสฺส ปาฬิ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. นฺติ ปาฬึ. สงฺขิปิตฺวา อาคตตฺตา สรูเปน อวุตฺเต. สุทฺธิก…เป… วุตฺตํ โหติ ตตฺถ ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินา สรีราทิโน ปรามสนํ นตฺถิ, อิธ อตฺถีติ อยเมว วิเสโส, อฺํ สมานนฺติ.

สจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา

๑๗-๒๗. สจฺจิกฏฺสฺส, สจฺจิกฏฺเ วา สํสนฺทนํ สจฺจิกฏฺสํสนฺทนนฺติ สมาสทฺวยํ ภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺจิกฏฺสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจิกฏฺสฺส ปุคฺคลสฺสาติ สจฺจิกฏฺสภาวสฺส ปรมตฺถโต วิชฺชมานสภาวสฺส ปุคฺคลสฺส. รูปาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทนนฺติ สจฺจิกฏฺตาสามฺเน รูปาทีหิ สมีกรณํ. สจฺจิกฏฺเติ สจฺจิกฏฺเหตุ, ตตฺถ วา ตํ อธิฏฺานํ กตฺวา. ‘‘ตุลฺยโยเค สมุจฺจโย’’ติ สมุจฺจยตฺถตฺตา เอว จ-การสฺส สจฺจิกฏฺเน อุปลทฺธิสามฺเน อิธ รูปมาหฏนฺติ ตสฺส อุทาหฏภาโว ยุตฺโตติ ‘‘ยถารูป’’นฺติ นิทสฺสนวเสน อตฺโถ วุตฺโต, อฺถา อิธ รูปสฺส อาหรณเมว กิมตฺถิยํ. เอวํ เสสธมฺเมสุปิ. ยา ปเนตฺถ อฺตฺตปุจฺฉา, สาปิ นิทสฺสนตฺถํ อุปพฺรูเหติ อฺตฺตนิพนฺธนตฺตา ตสฺส. โอปมฺมสํสนฺทเน ปน นิทสฺสนตฺโถ คาหียตีติ อิมสฺมึ สุทฺธิกสํสนฺทเน เกวลํ สมุจฺจยวเสเนว อตฺถทสฺสนํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. รูปาทีนิ อุปาทาปฺตฺติมตฺตตฺตา ปุคฺคลสฺส โส เตหิ อฺโ, อนฺโ จาติ น วตฺตพฺโพติ อยํ สาสนกฺกโมติ อาห ‘‘รูปาทีหิ…เป… สมโย’’ติ. อนุฺายมาเนติ ตสฺมึ สมเย สุตฺเต จ อปฺปฏิกฺขิปิยมาเน. อยฺจ อตฺโถ สาสนิกสฺส ปรวาทิโน วเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ ปาโ ทิฏฺโ ภวิสฺสติ, อฺถา ‘‘ปฏิโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ, ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สํขิตฺตานี’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย. โจทนาย วินา ปรวาทิโน ปฏิชานาปนํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิชานาปนตฺถนฺติ…เป… โจทนตฺถ’’นฺติ. โจทนาปุพฺพกฺหิ ตสฺส ปฏิชานาปนํ. เตน ผลโวหาเรน การณํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อพฺยากตตฺตาติ อพฺยากรณียตฺตา, ภควตา วา น พฺยากตตฺตา. ยทิ ปนียตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ อิมสฺมึ ปจฺจนีกนเย ปนียตฺตา ปฺหสฺส สกวาทินา ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. ปเรนปีติ ปรวาทินาปิ ปนียตฺตา ลทฺธิเมว นิสฺสาย อนุโลมนเย ปฏิกฺเขโป กโตติ อยเมตฺถ สุทฺธิกสํสนฺทนาย อธิปฺปาโย ยุตฺโต อนุโลเมปิ รูปาทีหิ อฺตฺตโจทนายเมว ปรวาทินา ปฏิกฺเขปสฺส กตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา

๒๘-๓๖. อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา จาติ อิมินา ทฺวยมฺปิ อุทฺธรติ อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา, อุปลทฺธิสามฺเน ปุจฺฉา จาติ. ตตฺถ ปจฺฉิมํ สนฺธายาห ‘‘ทฺวินฺนํ สมานตา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ทฺวินฺนํ รูปเวทนานํ วิย รูปปุคฺคลานํ สจฺจิกฏฺเน สมานตา เตสํ อฺตฺตสฺส การณํ ยุตฺตํ น โหติ. อถ โข…เป… อุปลพฺภนียตาติ อิทฺจ สํสนฺทนํ วิจาเรตพฺพํ. อยํ เหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ สจฺจิกฏฺสามฺเน รูปปุคฺคลานํ อุปลทฺธิสามฺํ อิจฺฉิตํ, เตเนว เนสํ อฺตฺตมฺปิ อิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปรมตฺถโวหารเภทโต เตสํ อฺตฺตํ น อิจฺฉิตํ, ตโต เอว อุปลทฺธิสามฺมฺปิ น อิจฺฉิตพฺพนฺติ.

๓๗-๔๕. อุปลทฺธีติ ปุคฺคลสฺส อุปลทฺธิ วิชฺชมานตา. ‘‘ปฏิกมฺมปฺจก’’นฺติ วิฺายตีติ โยชนา.

โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา

๔๖-๕๒. เอกธมฺมโตปีติ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺเสุ เอกธมฺมโตปิ. เอเตน ตโต สพฺพโตปิ ปุคฺคลสฺส อฺตฺตานนุชานนํ ทสฺเสติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สกลํ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธายา’’ติ. รูปาทิเอเกกธมฺมวเสน นานุยุฺชิตพฺโพ อวยวพฺยติเรเกน สมุทายสฺส อภาวโต. ยสฺมา ปน สมุทายาวยวา ภินฺนสภาวา, ตสฺมา ‘‘สมุทายโต…เป… นิคฺคหารโห สิยา’’ติ ปรวาทิโน อาสงฺกมาห. เอตํ วจโนกาสนฺติ ยทิปิ สตฺตปฺาสธมฺมสมุทายโต ปุคฺคลสฺส อฺตฺตํ น อิจฺฉติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวโต, ตเทกเทสโต ปนสฺส อนฺตฺตมฺปิ น อิจฺฉเตว. น หิ สมุทาโย อวยโว โหตีติ. ตสฺมา ‘‘ตํ ปฏิกฺขิปโต กึ นิคฺคหฏฺานนฺติ วตฺตุํ มา ลพฺเภถา’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. รูปาทิธมฺมปฺปเภทวิภาคมุเขเนว อนวเสสโต ปุคฺคโลติ คหณาการทสฺสนวเสน ปวตฺโต ปมวิกปฺโป, ทุติโย ปน อวิภาคโต ปรมตฺถสจฺจภาวสามฺเนาติ อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วิกปฺปานํ วิเสโส. อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนนฺติ อาห ‘‘เอว’’นฺติ.

สภาววินิพฺโภคโตติ สภาเวน วินิพฺภุชฺชิตพฺพโต. สภาวภินฺโน หิ ธมฺโม ตทฺธมฺมโต วินิพฺโภคํ ลภติ. เตนาห ‘‘รูปโต อฺสภาคตฺตา’’ติ. รูปวชฺเชติ รูปธมฺมวชฺเช. ตีสุปีติ ‘‘รูปสฺมึ ปุคฺคโล, อฺตฺร รูปา, ปุคฺคลสฺมึ รูป’’นฺติ อิเมสุ เอวํ ปวตฺเตสุ ตีสุปิ อนุโยเคสุ. สาสนิโก เอวายํ ปุคฺคลวาทีติ กตฺวา อาห ‘‘น หิ โส สกฺกายทิฏฺึ อิจฺฉตี’’ติ. ‘‘รูปวา’’ติ อิมินา รูเปน สกิฺจนตาว าปียติ, น รูปายตฺตวุตฺติตาติ อาห ‘‘อฺตฺร รูปาติ เอตฺถ จ รูปวา ปุคฺคโลติ อยมตฺโถ สงฺคหิโต’’ติ.

จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ สํสนฺทนกถาวณฺณนา.

๘. ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา

๕๔. ลกฺขณยุตฺติกถายํ ‘‘ฉลวเสน ปน วตฺตพฺพํ อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ ปาโ คเหตพฺโพ.

ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วจนโสธนวณฺณนา

๕๕-๕๙. ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเตติ ปททฺวยสฺส เอกตฺตตฺเถ สตีติ อตฺโถ. ปริกปฺปวจนฺเหตํ โทสทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวํ สนฺเต อยํ โทโส’’ติ. ตยิทํ เอกตฺตํ อุปลพฺภติ เอวาติ ปจฺฉิมปทาวธารณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เกหิจิ ปุคฺคโล เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปเรน น สมฺปฏิจฺฉิตนฺติ กตฺวา ตเมว อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตํ วิภาเวนฺโต ‘‘ปุคฺคลสฺส หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิภชิตพฺพตนฺติ ‘‘อุปลพฺภติ จา’’ติ เอวํ อวิภชิตพฺพตํ. วิภชิตพฺพตนฺติ ‘‘ปุคฺคโล จ ตทฺฺจ อุปลพฺภตี’’ติ เอวํ วิภชิตพฺพตํ. เอเตน ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ เอวา’’ติ ปจฺฉิมปทาวธารณํ เวทิตพฺพํ, น ‘‘ปุคฺคโล เอว อุปลพฺภตี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ตํ วิภาคนฺติ ยถาวุตฺตํ วิภชิตพฺพาวิภชิตพฺพํ วิภาคํ วทโต สกวาทิโน, อฺสฺส วา กสฺสจิ. เอตสฺสาติ ปรวาทิโน. ยถาวุตฺตวิภาคนฺติ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ…เป… เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตปฺปการํ วิภาคํ. ยถาอาปาทิเตนาติ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเต’’ติอาทินา อาปาทิตปฺปกาเรน. น ภวิตพฺพนฺติ ยทิปิ เตน ปุคฺคโล อุปลพฺภติ เอว วุจฺจติ, อุปลพฺภตีติ ปน ปุคฺคโล เอว น วุจฺจติ, อถ โข อฺโปิ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตน ปสงฺเคน น ภวิตพฺพํ. เตนาห ‘‘มคฺคิตพฺโพ เอตฺถ อธิปฺปาโย’’ติ.

๖๐. อตฺถโต ปุคฺคโล นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ อตฺตสุฺตาทสฺสเนน อนตฺตลกฺขณสฺส วิหิตตฺตา.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๖๑-๖๖. รูปกายาวิรหํ สนฺธาย อาห, น รูปตณฺหาสพฺภาวํ. ตถา สติ อเนกนฺติกตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว สิยา, น อนุชานิตพฺพนฺติ. ‘‘อตฺถิตายา’’ติ อาหาติ สมฺพนฺโธ. กามีภาวสฺส อเนกนฺติกตฺตา กสฺสจิ กามธาตูปปนฺนสฺส กามธาตุยา อายตฺตตฺตาภาวโต จ กทาจิ ภาวสฺเสวาติ โยชนา.

๖๗. กายานุปสฺสนายาติ กายานุปสฺสนาเทสนาย. สา หิ กายกายานุปสฺสีนํ วิภาคคฺคหณสฺส การณภูตา, กายานุปสฺสนา เอว วา. เอวํลทฺธิกตฺตาติ อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ เอวํลทฺธิกตฺตา. อาหจฺจ ภาสิตนฺติ านกรณานิ อาหนฺตฺวา กถิตํ, ภควตา สามํ เทสิตนฺติ อตฺโถ.

ปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. คติอนุโยควณฺณนา

๖๙-๗๒. ยานิสฺส สุตฺตานิ นิสฺสาย ลทฺธิ อุปฺปนฺนา, เตสํ ทสฺสนโต ปรโต ‘‘เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติอาทินา ปาฬิ อาคตา, ปุรโต ปน ‘‘น วตฺตพฺพํ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติอาทินา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทสฺเสนฺโต…เป… ภวิตพฺพ’’นฺติ. ทสฺเสตฺวาติ วา วตฺตพฺพนฺติ ‘‘ยานิสฺส…เป… ตานิ ทสฺเสตฺวา ‘เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’ติอาทิมาหา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทสฺเสนฺโตติ วา อิทํ ทสฺสนกิริยาย น วตฺตมานตามตฺตวจนํ, อถ โข ตสฺสา ลกฺขณตฺถวจนํ, เหตุภาววจนํ วาติ น โกจิ โทโส.

๙๑. โส วตฺตพฺโพติ โส ชีวสรีรานํ อนฺตาปชฺชนากาโร วตฺตพฺโพ, นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘รูปี อตฺตา’’ติ อิมิสฺสา ลทฺธิยา วเสน ‘‘เยน รูปสงฺขาเตน อตฺตโน สภาวภูเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉตี’’ติ เอวํ ปน อตฺเถ สติ โส อากาโร วุตฺโต เอว โหติ, ตถา จ สติ ‘‘รูปํ ปุคฺคโลติ อนนุฺาตตฺตา’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น สกฺกา. ยสฺมา ปน ‘‘อิธ สรีรนิกฺเขปา’’ติ อนนฺตรํ วกฺขติ, ตสฺมา ‘‘โส วตฺตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. นิรยูปคสฺส ปุคฺคลสฺส อนฺตราภวํ น อิจฺฉตีติ อิทํ ปุราตนานํ อนฺตราภววาทีนํ วเสน วุตฺตํ. อธุนาตนา ปน ‘‘อุทฺธํปาโท ตุ นารโก’’ติ วทนฺตา ตสฺสปิ อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺเตว, เกจิ ปน อสฺูปคานํ. อรูปูปคานํ ปน สพฺเพปิ น อิจฺฉนฺติ. ตตฺถ เย ‘‘สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ สุตฺตสฺส อตฺถํ มิจฺฉา คเหตฺวา จุตูปปาตกาเลสุ อสฺีนํ สฺา อตฺถีติ อนฺตราภวโตว อสฺูปปตฺตึ อิจฺฉนฺติ, ตทฺเสํ วเสน ‘‘สเวทโน…เป… ปฏิกฺขิปตี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย ปนา’’ติอาทิมาห. เก ปเนวํ อิจฺฉนฺติ? สพฺพตฺถิวาทีสุ เอกจฺเจ.

๙๒. เนวสฺานาสฺายตเนติ เนวสฺานาสฺายตเน ภเว, อจิตฺตุปฺปาเท วา สฺา อตฺถีติ อิจฺฉนฺตีติ น วตฺตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ยโต โส สฺาภเวน อสงฺคหิโต, ภวนฺตรภาเวน จ สงฺคหิโต.

๙๓. อินฺธนุปาทาโน อคฺคิ วิย อินฺธเนน รูปาทิอุปาทาโน ปุคฺคโล รูปาทินา วินา นตฺถีติ เอตฺถ อยมธิปฺปายวิภาวนา – ยถา น วินา อินฺธเนน อคฺคิ ปฺาปียติ, น จ ตํ อฺํ อินฺธนโต สกฺกา ปฏิชานิตุํ, นาปิ อนฺํ. ยทิ หิ อฺํ สิยา, น อุณฺหํ อินฺธนํ สิยา, อถ อนฺํ, นิทหิตพฺพํเยว ทาหกํ สิยา, เอวํ น วินา รูปาทีหิ ปุคฺคโล ปฺาปียติ, น จ เตหิ อฺโ, นาปิ อนฺโ สสฺสตุจฺเฉทภาวปฺปสงฺคโตติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย. ตตฺถ ยทิ อคฺคินฺธโนปมา โลกโวหาเรน วุตฺตา, อปฬิตฺตํ กฏฺาทิอินฺธนํ นิทหิตพฺพฺจ, ปฬิตฺตํ ภาสุรุณฺหํ อคฺคิทาหกฺจ, ตฺจ โอชฏฺมกรูปํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. ยทิ เอวํ ปุคฺคโล รูปาทีหิ อฺโ อนิจฺโจ จ อาปนฺโน, อถ ปรมตฺถโต จ, ตสฺมึเยว กฏฺาทิสฺิเต รูปสงฺขาตปฬิตฺเต ยํ อุสุมํ โส อคฺคิ ตํสหชาตานิ ตีณิภูตานิ อินฺธนํ. เอวมฺปิ สิทฺธํ ลกฺขณเภทโต อคฺคินฺธนานํ อฺตฺตนฺติ อคฺคิ วิย อินฺธนโต รูปาทีหิ อฺโ ปุคฺคโล อนิจฺโจ จ อาปชฺชตีติ.

คติอนุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๙๗. นีลคุณโยคโต นีโล, นีโล เอว นีลโก, ตสฺส, อยํ ปนสฺส นีลปฺตฺติ นีลรูปุปาทานาติ อาห ‘‘นีลํ…เป… ปฺตฺตี’’ติ. เอวํ ปน ปาเ ิเต นีลํ อุปาทาย นีโลติ กถมยํ ปทุทฺธาโรติ อาห ‘‘นีลํ รูปํ…เป… เอตฺถ โย ปุฏฺโ นีลํ อุปาทาย นีโล’’ติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วจเน. ตทาทีสูติ ‘‘ปีตํ รูปํ อุปาทายา’’ติอาทิกํ อฏฺกถายํ อาทิ-สทฺเทน คหิตเมว ตทตฺถทสฺสนวเสน คณฺหาติ.

๙๘. วุตฺตนฺติ ‘‘มคฺคกุสโล’’ติอาทีสุ เฉกฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลปฺตฺตึ กุสลโวหารํ.

๑๑๒. ปุพฺพปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อุตฺตรมาหาติ ปรวาที ปุพฺพปกฺขํ ทสฺเสตฺวา สกวาทิสฺส อุตฺตรมาห.

๑๑๕. ‘‘รูปํ รูปวา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ปรวาทิวาทํ ภินฺทิตุํ ‘‘ยถา น นิคโฬ เนคฬิโก’’ติอาทินา สกวาทิวาโท อารทฺโธติ อาห ‘‘ยสฺส รูปํ โส รูปวาติ อุตฺตรปกฺเข วุตฺตํ วจนํ อุทฺธริตฺวา’’ติ.

๑๑๘. วิฺาณนิสฺสยภาวูปคมนนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวูปคมนํ. ตยิทํ วิเสสนํ จกฺขุสฺสาติ อิมินาว สิทฺธนฺติ น กตํ ทฏฺพฺพํ.

อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. ปุริสการานุโยควณฺณนา

๑๒๓. กมฺมานนฺติ กุสลากุสลกมฺมานํ. ตคฺคหเณเนว หิ ตํตํกิจฺจกรณีเย กิริยานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นิปฺผาทกปฺปโยชกภาเวนาติ การกการาปกภาเวน.

๑๒๕. กมฺมการกสฺส ปุคฺคลสฺส โย อฺโ ปุคฺคโล การโก. เตนปีติ การกการเกนปิ. ตสฺสาติ การกการกสฺส. อฺนฺติ อฺํ กมฺมํ. เอวนฺติ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน. เตหิ เตหิ การเกหิ ปุคฺคลา วิย อฺานิ กมฺมานิ กรียนฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘กมฺมวฏฺฏสฺส อนุปจฺเฉทํ วทนฺตี’’ติ. เอวํ สนฺเต ปุคฺคลสฺส การโก, กมฺมสฺส การโกติ อยํ วิภาโค อิธ อนามฏฺโ โหติ, ตถา จ สติ การกปรมฺปราย วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ อาห ‘‘ปุคฺคลสฺส…เป… วิจาเรตพฺพเมต’’นฺติ. ตสฺส การกนฺติ ปุคฺคลสฺส การกํ. อิทฺจาติ น เกวลํ ปุคฺคลการกสฺส กมฺมการกตาปตฺติเยว โทโส, อถ โข อิทํ กมฺมการกตาย การกปรมฺปราปชฺชนมฺปิ วิจาเรตพฺพํ, น ยุชฺชตีติ อตฺโถ. ปุคฺคลานฺหิ ปฏิปาฏิยา การกภาโว การกปรมฺปรา.

๑๗๐. เอโก อนฺโตติ ‘‘คาโห’’ติ สสฺสตคาหสงฺขาโต อนฺโตติ อตฺโถ.

๑๗๖. สิยา อฺโ, สิยา อนฺโ, สิยา น วตฺตพฺโพ ‘‘อฺโติ วา อนฺโติ วา’’ติ, เอวํ ปวตฺตนิคณฺวาทสทิสตฺตา โส เอว เอโก เนว โส โหติ, น อฺโติ ลทฺธิมตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทํ ปน นตฺเถวา’’ติ. ปรสฺส อิจฺฉาวเสเนวาติ ปรวาทิโน ลทฺธิวเสเนว. เอกํ อนิจฺฉนฺตสฺสาติ เอกํ ‘‘โส กโรติ, โส ปฏิสํเวเทตี’’ติ คหณํ สสฺสตทิฏฺิภเยน ปฏิกฺขิปนฺตสฺส อิตรํ อุจฺเฉทคฺคหณํ อาปนฺนํ. ตฺจ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส อฺํ มิสฺสกํ นิจฺจานิจฺจคฺคหณํ, วิกฺเขปคฺคหณฺจ อาปนฺนํ. การกเวทกิจฺฉาย ตฺวาติ สฺเวว การโก เวทโก จาติ อิมสฺมึ อาทาเย ตฺวา. ตํตํอนิจฺฉายาติ ตสฺส ตสฺส วาทสฺส อสมฺปฏิจฺฉเนน. อาปนฺนวเสนปีติ อาปนฺนคาหวเสนปิ อยํ อนุโยโค วุตฺโตติ โยชนา. สพฺเพสํ อาปนฺนตฺตาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ วิกปฺปานํ อนุกฺกเมน อาปนฺนตฺตา นายมนุโยโค กโตติ โยชนา. เอเกกสฺเสวาติ เตสุ วิสุํ วิสุํ เอเกกสฺเสว อาปนฺนตฺตา. ตนฺติวเสน ปน เต วิกปฺปา เอกชฺฌํ ทสฺเสตฺวาติ อธิปฺปาโย. เอกโต โยเชตพฺพํ จตุนฺนมฺปิ ปฺหานํ เอกโต ปุฏฺตฺตา.

ปุริสการานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

กลฺยาณวคฺโค นิฏฺิโต.

๑๔. อภิฺานุโยควณฺณนา

๑๙๓. วิกุพฺพตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สุณาตี’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อภิฺานุโยโค ทฏฺพฺโพติ โยชนา. ตทภิฺาวโตติ อาสวกฺขยาภิฺาวโต. อรหโต สาธนนฺติ อรหโต สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน ปุคฺคลตฺตาภาวสาธนํ. ตพฺภาวสฺสาติ อรหตฺตสฺส. อรหตฺตธารานฺหิ ขนฺธา นาม ปุคฺคลตฺตํ ตสฺสปิ โหตีติ.

อภิฺานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕-๑๘. าตกานุโยคาทิวณฺณนา

๒๐๙. ตติยโกฏิภูตสฺสาติ ตติยโกฏิสภาวสฺส สงฺขตาสงฺขตวินิมุตฺตสภาวสฺส. สภาวสฺสาติ จ สภาวธมฺมสฺส. ลทฺธึ นิคูหิตฺวาติ ปุคฺคโล เนว สงฺขโต, นาสงฺขโตติ ลทฺธึ อวิภาเวตฺวา.

าตกานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา

๒๑๘. ปชานนํ นาม น โหติ นิพฺพิทาทีนํ อปฺปจฺจยตฺตา. ปริจฺเฉทนสมตฺถตฺจ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ.

๒๒๘. สหรูปภาโว รูเปน สมงฺคิตา, วินารูปภาโว ตโต วินิสฺสฏตาติ ตทุภยํ รูปสฺส อพฺภนฺตรคมนํ พหินิกฺขมนฺจ โหติ. ตสฺมา ตํ ทฺวยํ สหรูปภาววินารูปภาวานํ ลกฺขณวจนนฺติ วุตฺตํ.

๒๓๗. โอฬาริโกติ ถูโล. อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. โส เอว ยถาสกํ กมฺมุนา ปฏิลภิตพฺพโต ปฏิลาโภ. ปททฺวเยนปิ กามาวจรตฺตภาโว กถิโต. มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ รูปาวจรตฺตภาโว. โส หิ ฌานมเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมโย. อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ อรูปาวจรตฺตภาโว. โส หิ รูเปน อมิสฺสิตตฺตา อรูโปติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘อตฺตา’’ติ ปน ชีเว โลกโวหาโร นิรุฬฺโห, อสติปิ ชีเว ตถานิรุฬฺหํ โลกโวหารํ คเหตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธาปิ โวหรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมา โลกสฺส สมฺา, ยาหิ ตถาคโต โวหรตี’’ติ วตฺวา อิทานิ ยถา โวหรนฺติ, ตํ ปการํ วิภาเวนฺโต ‘‘อปรามส’’นฺติอาทิมาห.

ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสนาติ กกฺขฬผุสนาทิสลกฺขณวเสน อนิจฺจตาทิสามฺลกฺขณวเสน จ. อิมินาติ ‘‘ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสนา’’ติอาทินา วุตฺเตน ปรมตฺถโต ปุคฺคลาภาววจเนน. อิโต ปุริมาติ ตตฺถ ตตฺถ สกวาทิปฏิกฺเขปาทิวิภาวนวเสน ปวตฺตา อิโต อตฺถสํวณฺณนโต ปุริมา. อิมินาติ วา ‘‘ยถา รูปาทโย ธมฺมา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตวจเนน. ยถา จาติ เอตฺถ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เตน สมฺานติธาวนํ สมฺปิณฺเฑติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปรามาโส จ น โหติ ชนปทนิรุตฺติยา อภินิวิสิตพฺพโต, ยถา จ สมฺาติธาวนํ น โหติ, เอวํ อิโต ปุริมา จ อตฺถวณฺณนา โยเชตพฺพา. สมฺาติธาวเน หิ สติ สพฺพโลกโวหารูปจฺเฉโท สิยาติ.

ตสฺมา สจฺจนฺติ ยสฺมา ตตฺถ ปรมตฺถาการํ อนาโรเปตฺวา สมฺํ นาติธาวนฺโต เกวลํ โลกสมฺมุติยาว โวหรติ, ตสฺมา สจฺจํ ปเรสํ อวิสํวาทนโต. ตถการณนฺติ ตโถ อวิตโถ ธมฺมสภาโว การณํ ปวตฺติเหตุ เอตสฺสาติ ตถการณํ, ปรมตฺถวจนํ, อวิปรีตธมฺมสภาววิสยนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ ตถตาย ปวตฺต’’นฺติ.

ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปริหานิกถา

๑. วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา

๒๓๙. อิทํ สุตฺตนฺติ อิทํ ลกฺขณมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สมยวิมุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๙-๑๕๐) อิทมฺปิ หิ สุตฺตํ อนาคามิอาทีนํเยว ปริหานินิสฺสโย, น อรหโต. สมยวิมุตฺโตติ อฏฺสมาปตฺติลาภิโน เสกฺขสฺเสตํ นามํ. ยถาห –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๑).

‘‘ปริหานิธมฺโม’’ติ จ ปุถุชฺชโน จ เอกจฺโจ จ เสกฺโข อธิปฺเปโต, น อรหาติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาทสฺสิตานิ สุตฺตานิ อนาคามิอาทีนํ ปริหานิลทฺธิยา นิสฺสโย, น อรหโต, ตสฺมา. ตํ นิสฺสาย ตํ อเปกฺขิตฺวา ยสฺมา ‘‘อรหโตปี’’ติ เอตฺถ อรหโตปิ ปริหานิ, โก ปน วาโท อนาคามิอาทีนนฺติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, ตสฺมา ปิ-สทฺทสมฺปิณฺฑิตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรหโตปิ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห. ยสฺมา วา กามฺเจตฺถ ทุติยสุตฺตํ เสกฺขวเสน อาคตํ, ปมตติยสุตฺตานิ ปน อเสกฺขวเสนปิ อาคตานีติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘‘อรหโตปี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทํ สุตฺตํ อรหโต’’ติอาทิ.

ตติยสฺมินฺติ ‘‘สพฺเพสฺเว อรหนฺตานํ ปริหานี’’ติ เอตสฺมึ ปฺเห. โส หิ ‘‘สพฺเพว อรหนฺโต’’ติอาทินา อาคเตสุ ตติโย ปฺโห. เตสนฺติ มุทินฺทฺริยานํ. ตติยสฺมิมฺปีติ ปิ-สทฺโท วุตฺตตฺถสมุจฺจโย. เตน ปมปฺหํ สมุจฺจิโนติ ‘‘ตตฺถปิ ติกฺขินฺทฺริยา อธิปฺเปตา’’ติ.

โสเยว น ปริหายตีติ โสตาปนฺโนเยว โสตาปนฺนภาวโต น ปริหายตีติ อตฺโถ. น เจตฺถ สกทาคามิภาวาปตฺติยา โสตาปนฺนภาวาปคโม ปริหานิ โหติ วิเสสาธิคมภาวโต. ปตฺตวิเสสโต หิ ปริหานีติ. อิตเรติ สกทาคามิอาทิกา. อุปริมคฺคตฺถายาติ อุปริมคฺคตฺตยปฏิลาภตฺถาย ‘‘นิยโต’’ติ วุตฺตมตฺถํ อคฺคเหตฺวา.

วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิกถาวณฺณนา

๒๔๑. ตโตติ อรหตฺตโต. ตตฺถาติ ทสฺสนมคฺคผเล. วายาเมนาติ วิปสฺสนุสฺสาหเนน. ตทนนฺตรนฺติ โสตาปตฺติผลานนฺตรํ. ปมํ ทสฺสนมคฺคผลานนฺตรํ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตโต ปริหีโน ปุน วายมนฺโต ตทนนฺตรํ น อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ กา เอตฺถ ยุตฺตีติ อธิปฺปาโย. ปรวาที นาม ยุตฺตมฺปิ วทติ อยุตฺตมฺปีติ กึ ตสฺส วาเท ยุตฺติคเวสนายาติ ปน ทฏฺพฺพํ. อปริหานสภาโว ภาวนามคฺโค อริยมคฺคตฺตา ทสฺสนาทสฺสนมคฺโค วิย. น เจตฺถ อสิทฺธตาสงฺกา โลกุตฺตรมคฺคสฺส ปรสฺสปิ อริยมคฺคภาวสฺส สิทฺธตฺตา, นาปิ โลกิยมคฺเคน อเนกนฺติกตา อริยสทฺเทน วิเสสิตตฺตา. ตถา น วิรุทฺธตา ทุติยมคฺคาทีนํ ภาวนามคฺคภาวสฺส โอฬาริกกิเลสปฺปหานาทีนฺจ ปรสฺสปิ อาคมโต สิทฺธตฺตา.

อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สุตฺตสาธนปริหานิกถาวณฺณนา

๒๖๕. ปุคฺคลปฺตฺติอฏฺกถายํ ‘‘ปตฺติ, ผุสนา’’ติ จ ปจฺจกฺขโต อธิคโม อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ปตฺตพฺพํ วทตีติ อาห ผุสนารห’’นฺติ.

๒๖๗. กตสนฺนิฏฺานสฺสาติ อิมสฺมึ สตฺตาเห มาเส อุตุมฺหิ อนฺโตวสฺเส วา อฺํ อาราเธสฺสามีติ กตนิจฺฉยสฺส.

สุตฺตสาธนปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. พฺรหฺมจริยกถา

๑. สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๖๙. เหฏฺาปีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเวหิ เหฏฺาปิ. มคฺคภาวนมฺปิ น อิจฺฉนฺตีติ วิฺายติ ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ อิมินา ‘‘ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสา นตฺถิ เทเวสูติ อุปลทฺธิวเสนา’’ติ วุตฺตตฺตา.

๒๗๐. ตสฺเสวาติ ปรวาทิโน เอว. ปุคฺคลวเสนาติ ‘‘คิหีนฺเจว เอกจฺจานฺจ เทวาน’’นฺติ เอวํ ปุคฺคลวเสน. ตสฺสาติ ปรวาทิโน. ปฏิกฺเขโป น ยุตฺโตติ เอวํ ปุคฺคลวเสน อตฺถโยชนา น ยุตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ปน กตาปิ อตฺถวณฺณนา โอกาสวเสน ปริจฺฉิชฺชตีติ นายํ โทโส. ตสฺสายํ อธิปฺปาโยติ อยํ ‘‘คิหีนฺเจวา’’ติอาทินา วุตฺโต ตสฺส ปรวาทิโน ยทิ อธิปฺปาโย, เอวํ สฺาย ปรวาทิโน สกวาทินา สมานาทาโยติ น นิคฺคหารโห สิยา. เตนาห ‘‘สก…เป… ตพฺโพ’’ติ. ปมํ ปน อนุชานิตฺวา ปจฺฉา ปฏิกฺเขเปเนว นิคฺคเหตพฺพตา เวทิตพฺพา. เกจิ ‘‘ยตฺถ นตฺถิ ปพฺพชฺชา, นตฺถิ ตตฺถ พฺรหฺมจริยวาโสติ ปุจฺฉาย เอกจฺจานํ มนุสฺสานํ มคฺคปฺปฏิเวธํ สนฺธาย ปรวาทิโน ปฏิกฺเขโป. ยทิปิ โส เทวานํ มคฺคปฺปฏิลาภํ น อิจฺฉติ, สมฺภวนฺตํ ปน สพฺพํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘คิหีน’มิจฺเจว อวตฺวา ‘เอกจฺจานฺจ เทวาน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ‘‘สนฺธายา’’ติ วุตฺตตฺตา, ปุริโมเยวตฺโถ ยุตฺโต.

สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๗๓. รูปาวจรมคฺเคนาติ รูปาวจรชฺฌาเนน. ตฺหิ รูปภวูปปตฺติยา อุปายภาวโต มคฺโคติ วุตฺโต. ยถาห ‘‘รูปุปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๐). อิทนฺติ อิทํ รูปาวจรชฺฌานํ. ‘‘อิธวิหายนิฏฺเหตุภูโต รูปาวจรมคฺโค’’ติอาทิกํ ทีเปนฺตํ วจนํ อนาคามิมคฺคสฺส ตพฺภาวทีปเกน ‘‘อิธ ภาวิตมคฺโค’’ติอาทิเกน กถํ สเมตีติ โจเทตฺวา ยถา สเมติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ปุพฺเพ’’ติ อิมินา ‘‘อิธ ภาวิตมคฺโค’’ติอาทิกํ วทนฺติ, อิธาปิ ปน ‘‘รูปาวจรมคฺเคนา’’ติอาทิกํ. ตตฺถ อนาคามี เอวาติ อนาคามิผลฏฺโ เอว. ฌานานาคามีติ อสมุจฺฉินฺนชฺฌตฺตสํโยชโนปิ รูปภเว อุปฺปชฺชิตฺวา อนาวตฺติธมฺมมคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายนโต. อธิปฺปาโยติ ยถาวุตฺโต ทฺวินฺนํ อฏฺกถาวจนานํ อวิโรธทีปโก อธิปฺปาโย.

อิธาติ กามโลเก. ตตฺถาติ พฺรหฺมโลเก. เอตฺถ จ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหี’’ติ สุตฺตํ กึ ยถารุตวเสน คเหตพฺพตฺถํ, อุทาหุ สนฺธายภาสิตนฺติ? ตตฺถ ชานมาโน สนฺธายภาสิตนฺติ วเทยฺย. อฺถา ‘‘ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อุปาทายา’’ติอาทิ วตฺตุํ น สกฺกา ‘‘เทเว จ ตาวตึเส’’ติ วุตฺตตฺตา. ยถา หิ ตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา’’ติอาทีสุ วิย สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย กามาวจรเทเวสุ ตาวตึสเทวา ปากฏา ปฺาตาติ เตสํ คหณํ, น เตเยว อธิปฺเปตาติ สุตฺตปทสฺส สนฺธายภาสิตตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, เอวํ ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ เอตฺถาปิ อนวชฺชสุขอพฺยาเสกสุขเนกฺขมฺมสุขาทิสนฺนิสฺสยภาเวน มหานิสํสตาย สาสเน ปพฺพชฺชา ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ อิมสฺมึ สุตฺเต อธิปฺเปตา. สา หิ อุตฺตรกุรุกานํ เทวานฺจ อโนกาสภาวโต ทุกฺกรา ทุลฺลภา จ. ตตฺถ สูริยปริวตฺตาทีหิปิ เทเวสุ มคฺคปฏิลาภาย อตฺถิตา วิภาเวตพฺพา, อุตฺตรกุรุกานํ ปน วิเสสานธิคมภาโว อุภินฺนมฺปิ อิจฺฉิโต เอวาติ.

สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โอธิโสกถาวณฺณนา

๒๗๔. โอธิโสติ ภาคโส, ภาเคนาติ อตฺโถ. ภาโค นาม ยสฺมา เอกเทโส โหติ, ตสฺมา ‘‘เอกเทเสน เอกเทเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิ จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส จตุภาเคหิ ปหานํ ‘‘โอธิโส ปหาน’’นฺติ อธิปฺเปตํ, อิจฺฉิตเมเวตํ สกวาทิสฺส ‘‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติ จ อาทิวจนโต. ยสฺมา ปน มคฺโค จตูสุ สจฺเจสุ นานาภิสมยวเสน กิจฺจกโร, น เอกาภิสมยวเสนาติ ปรวาทิโน ลทฺธิ, ตสฺมา ยถา ‘‘มคฺโค กาเลน ทุกฺขํ ปริชานาติ, กาเลน สมุทยํ ปชหตี’’ติอาทินา นานกฺขณวเสน สจฺเจสุ ปวตฺตตีติ อิจฺฉิโต, เอวํ ปจฺเจกมฺปิ นานกฺขณวเสน ปวตฺเตยฺย. ตถา สติ ทุกฺขาทีนํ เอกเทสเอกเทสเมว ปริชานาติ ปชหตีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘โสตาปตฺติ…เป… เอกเทเส ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติ หิ นานาภิสมเย ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพานํ สํโยชนตฺตยาทีนํ ทุกฺขทสฺสนาทีหิ เอกเทสเอกเทสปฺปหานํ สิยาติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺาทิตา, ตโต เอว เอกเทสโสตาปนฺนาทิตา จ อาปชฺชติ อนนฺตรผลตฺตา โลกุตฺตรกุสลานํ, น จ ตํ ยุตฺตํ. น หิ กาลเภเทน วินา โส เอว โสตาปนฺโน, อโสตาปนฺโน จาติ สกฺกา วิฺาตุํ. เตนาห ‘‘เอกเทสํ โสตาปนฺโน, เอกเทสํ น โสตาปนฺโน’’ติอาทิ.

อปิจายํ นานาภิสมยวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘มคฺคาณํ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตํ กึ อารมฺมณโต ปฏิวิชฺฌติ, อุทาหุ กิจฺจโต’’ติ. ยทิ อารมฺมณโตติ วเทยฺย, ตสฺส วิปสฺสนาาณสฺส วิย ทุกฺขสมุทยานํ อจฺจนฺตปริจฺเฉทสมุจฺเฉทา น ยุตฺตา ตโต อนิสฺสฏตฺตา, ตถา มคฺคทสฺสนํ. น หิ สยเมว อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ, มคฺคนฺตรปริกปฺปนายํ อนวฏฺานํ อาปชฺชตีติ, ตสฺมา ตีณิ สจฺจานิ กิจฺจโต, นิโรธํ กิจฺจโต อารมฺมณโต จ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส มคฺคาณสฺส นตฺเถว นานาภิสมโย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทิ. น เจตํ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกสจฺจทสฺสนสมงฺคิโน อฺสจฺจทสฺสนสมงฺคิภาววิจารณายํ ตทตฺถสาธนตฺถํ อายสฺมตา ควํปติตฺเถเรน อาภตตฺตา ปจฺเจกฺจ สจฺจตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา. อฺถา ปุริมทิฏฺสฺส ปุน อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสเน ทุกฺขาทิทสฺสนมโยชนียํ สิยา. น หิ โลกุตฺตรมคฺโค โลกิยมคฺโค วิย กตการิภาเวน ปวตฺตติ สมุจฺเฉทกตฺตา. ตถา โยชเน จ สพฺพํ ทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรนฺติ ทสฺสนานุปรโม สิยา. เอวํ อาคมโต ยุตฺติโต จ นานาภิสมยสฺส อสมฺภวโต ปจฺเจกํ มคฺคานํ โอธิโส ปหานํ นตฺถีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

โอธิโสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ชหติกถาวณฺณนา

๑. นสุตฺตาหรณกถาวณฺณนา

๒๘๐. ยทิปิ ปาฬิยํ ‘‘ตโย มคฺเค ภาเวตี’’ติ วุตฺตํ, มคฺคภาวนา ปน ยาวเทว กิเลสสมุจฺฉินฺทนตฺถาติ ตฺวา ‘‘กิจฺจสพฺภาวนฺติ ตีหิ ปหาตพฺพสฺส ปหีนต’’นฺติ อาห. ตตฺถ ตีหีติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ อริยมคฺเคหิ ปหาตพฺพสฺส อชฺฌตฺตสํโยชนสฺส ปหีนตํ สมุจฺฉินฺทนนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน กิจฺจนฺติ อโธภาคิยสํโยชเนสุ มคฺคสฺส ปหานาภิสมยกิจฺจํ. เตเนว มคฺเคนาติ อนาคามิมคฺเคเนว. เอตํ น สเมตีติ เอวํ มคฺคุปฺปาทโต ปเคว กามราคพฺยาปาทา ปหียนฺตีติ ลทฺธิกิตฺตนํ อิมินา มคฺคสฺส กิจฺจสพฺภาวกถเนน น สเมติ น ยุชฺชติ. ตสฺมาติ อิมินา ยถาวุตฺตเมว วิโรธํ ปจฺจามสติ. ปหีนานนฺติ วิกฺขมฺภิตานํ. โย หิ ฌานลาภี ฌาเนน ยถาวิกฺขมฺภิเต กิเลเส มคฺเคน สมุจฺฉินฺทติ, โส อิธาธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘ทสฺสนมคฺเค…เป… อธิปฺปาโย’’ติ.

ชหติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา

๑. วาทยุตฺติวณฺณนา

๒๘๒. สพฺพํ อตฺถีติ เอตฺถ ยสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนํ วิย อตีตานาคตมฺปิ ธรมานสภาวนฺติ ปรวาทิโน ลทฺธิ, ตสฺมา สพฺพนฺติ กาลวิภาคโต อตีตาทิเภทํ สพฺพํ. โส ปน ‘‘ยมฺปิ นตฺถิ, ตมฺปิ อตฺถี’’ติ กาลวิมุตฺตสฺส วเสน อนุโยโค, ตํ อติปฺปสงฺคทสฺสนวเสน ปรวาทิปฏิฺาย โทสาโรปนํ. นยทสฺสนํ วา อตีตานาคตานํ นตฺถิภาวสฺส. อตฺถีติ ปน อยํ อตฺถิภาโว ยสฺมา เทสกาลาการธมฺเมหิ วินา น โหติ, ตสฺมา ตํ ตาว เตหิ สทฺธึ โยเชตฺวา อนุโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพตฺถ สพฺพมตฺถี’’ติอาทินา ปาฬิ ปวตฺตา. ตตฺถ ยทิปิ สพฺพตฺถาติ อิทํ สามฺวจนํ, ตํ ปน ยสฺมา วิเสสนิวิฏฺํ โหติ, ปรโต จ สพฺเพสูติ ธมฺมา วิภาคโต วุจฺจนฺติ, ตสฺมา โอฬาริกสฺส ปากฏสฺส รูปธมฺมสมุทายสฺส วเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ สรีเร’’ติ วุตฺตํ, นิทสฺสนมตฺตํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. ตถา จ กาณาทกาปิเลหิ ปฏิฺายมานา อากาสกาลาทิสตฺตปกติปุริสา วิย ปรวาทินา ปฏิฺายมานํ สพฺพํ สพฺพพฺยาปีติ อาปนฺนเมว โหตีติ. ‘‘สพฺพตฺถ สรีเร’’ติ จ ‘‘ติเล เตล’’นฺติ วิย พฺยาปเน ภุมฺมนฺติ สรีรปริยาปนฺเนน สพฺเพน ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘สิรสิ ปาทา…เป… อตฺโถ’’ติ.

สพฺพสฺมึ กาเล สพฺพมตฺถีติ โยชนา. เอตสฺมึ ปกฺเขเยวสฺส อฺวาโท ปริทีปิโต สิยา ‘‘ยํ อตฺถิ, อตฺเถว ตํ, ยํ นตฺถิ, นตฺเถว ตํ, อสโต นตฺถิ สมฺภโว, สโต นตฺถิ วินาโส’’ติ. เอวํ สพฺเพนากาเรน สพฺพํ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. อิเมหิ ปน ปกฺเขหิ ‘‘สพฺพํ สพฺพสภาวํ, อเนกสตฺตินิจิตาภาวา อสโต นตฺถิ สมฺภโว’’ติ วาโท ปริทีปิโต สิยา. โยครหิตนฺติ เกนจิ ยุตฺตายุตฺตลกฺขณสํโยครหิตํ. ตํ ปน เอกสภาวนฺติ สํโยครหิตํ นาม อตฺถโต เอกสภาวํ, เอกธมฺโมติ อตฺโถ. เอเตน เทววาทีนํ พฺรหฺมทสฺสนํ อตฺเถวาติวาโท ปริทีปิโต สิยา. อตฺถีติ ปุจฺฉตีติ ยทิ สพฺพมตฺถีติ ตว วาโท, ยถาวุตฺตาย มม ทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิภาโว อตฺถีติ เอกนฺเตน ตยา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘กึ โส อตฺถี’’ติ ปุจฺฉตีติ อตฺโถ.

วาทยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กาลสํสนฺทนกถาวณฺณนา

๒๘๕. อตีตา …เป… กริตฺวาติ เอตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – อตีตํ อนาคตนฺติ รูปสฺส อิมํ วิเสสํ, เอวํ วิเสสํ วา รูปํ อคฺคเหตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนตาวิเสสวิสิฏฺรูปเมว อปฺปิยํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปภาวานํ สมานาธิกรณตฺตา เอตสฺมึเยว วิสเย อปฺเปตพฺพํ, วจีโคจรํ ปาเปตพฺพํ สติปิ เนสํ วิเสสนวิเสสิตพฺพตาสงฺขาเต วิภาเค ตถาปิ อวิภชิตพฺพํ กตฺวาติ. ยสฺมา ปน ปาฬิยํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา รูปนฺติ วา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปสทฺเทหิ ตทตฺถสฺส วตฺตพฺพากาโร อิติสทฺเทหิ ทสฺสิโต, ตสฺมา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนสทฺเทน…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. รูปปฺตฺตีติ รูปายตนปฺตฺติ. สา หิ สภาวธมฺมุปาทานา ตชฺชาปฺตฺติ. เตเนวาห ‘‘สภาวปริจฺฉินฺเน ปวตฺตา วิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. รูปสมูหํ อุปาทายาติ ตํตํอตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตานํ อภาววิภาวนากาเรน ปวตฺตมานานํ รูปธมฺมานํ สมูหํ อุปาทาย. อุปาทานุปาทานมฺปิ หิ อุปาทานเมวาติ. ตสฺมาติ สมูหุปาทายาธีนตาย อวิชฺชมานปฺตฺติภาวโต. วิคมาวตฺตพฺพตาติ วิคมสฺส วตฺถภาวาปคมสฺส อวตฺตพฺพตา. น หิ โอทาตตาวิคเมน อวตฺถํ โหติ. น ปน ยุตฺตา รูปภาวสฺส วิคมาวตฺตพฺพตาติ โยชนา. รูปภาโวติ จ รูปายตนสภาโว จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาโว. น หิ ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภาววิคเม วิคมาวตฺตพฺพตา ยุตฺตา.

กาลสํสนฺทนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วจนโสธนวณฺณนา

๒๘๘. อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ ยถา ‘‘ขทิเร วา พนฺธิตพฺพํ ปลาเส วา’’ติ. ตสฺมา ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ เอตฺถ โหติ-สทฺโท อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ยํ กิฺจิ ปธานํ กตฺวา สมฺพนฺธํ ลภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาคตํ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ ชายมานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวํ ลภนฺตํ. เตนาห ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ลทฺธิวเสนา’’ติ. ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ ยํ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺติยา ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ, กึ ตทปิ ปุน หุตฺวา โหตีติ ปุจฺฉติ. ตพฺภาวาวิคมโตติ ปจฺจุปฺปนฺนภาวโต หุตฺวาโหติภาวานุปคมโต. ปจฺจุปฺปนฺนาภาวโตติ ปจฺจุปฺปนฺนตาย อภาวโต.

วจนํ อรหตีติ อิมินา วจนมตฺเต น โกจิ โทโสติ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิปิ ตสฺส ปุน หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาโหติภาโว นตฺถิ, ปุนปฺปุนํ าเปตพฺพตาย ปน ทุติยํ ตโต ปรมฺปิ ตถา วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาตีติ. ธมฺเมติ สภาวธมฺเม. ตปฺปฏิกฺเขปโต อธมฺเม อภาวธมฺเม. เตนาห ‘‘สสวิสาเณ’’ติ.

ปฏิกฺขิตฺตนเยนาติ ‘‘หุตฺวา โหติ, หุตฺวา โหตี’’ติ เอตฺถ ปุพฺเพ ยเทตํ ตยา ‘‘อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ วทตา ‘‘ตํเยว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ ลทฺธิวเสน ‘‘อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘กึ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตี’’ติ ปุจฺฉิเต โย ปรวาทินา หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาอภาวโต ‘‘น เหวา’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, เตน ปฏิกฺขิตฺตนเยน. สฺวายํ ยเทว รูปาทิ อนาคตํ, ตเทว ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สติปิ อตฺถาเภเท อนาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปน อตฺเถว กาลเภโทติ ตํกาลเภทวิโรธาย ปฏิกฺเขโป ปวตฺโตติ อาห ‘‘ปฏิกฺขิตฺตนเยนาติ กาลนานตฺเตนา’’ติ. เตน หิ โส อยฺจ ปฏิกฺเขโป นีโต ปวตฺติโตติ. ปฏิฺาตนเยนาติ อิทมฺปิ ยถาวุตฺตปฏิกฺเขปานนฺตรํ ยํ ปฏิฺาตํ, ตํ สนฺธายาห. ยถา หิ สา ปฏิฺา อตฺถาเภเทน นีตา ปวตฺติตา, ตถายมฺปิ. เตเนวาห ‘‘อตฺถานานตฺเตนา’’ติ, อนาคตาทิปฺปเภทาย กาลปฺตฺติยา อุปาทานภูตสฺส อตฺถสฺส อเภเทนาติ อตฺโถ. ยถา อุปาทานภูตรูปาทิอตฺถาเภเทปิ เตสํ ขณตฺตยานาวตฺติ ตํสมงฺคิตา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนภาวาวตฺติตา, ตถา ตตฺถ วุจฺจมานา หุตฺวาโหติภาวา ยถากฺกมํ ปุริมปจฺฉิเมสุ ปวตฺติตา ปุริมปจฺฉิมกิริยาติ กตฺวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถานานตฺตํ…เป… ปฏิชานาตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อตฺถานานตฺตเมว หี’’ติอาทินา ตเมว อตฺถํ สมตฺเถติ. ยถา ปน ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ ปฏิชานนฺตสฺส ชีโวว สรีรํ, สรีรเมว ชีโวติ ชีวสรีรานํ อนฺตฺตํ อาปชฺชติ, เอวํ ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ จ ปฏิชานนฺตสฺส อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ อนฺตฺตํ อาปนฺนนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตสุ วุตฺตา โหติภาวหุตฺวาภาวา อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ อาปชฺเชยฺยุนฺติ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ หุตฺวาโหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ หุตฺวาโหติเยว นามา’’ติ.

อนุฺาตปฺหสฺสาติ ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? อามนฺตา’’ติ เอวํ อตฺถานานตฺตํ สนฺธาย อนุฺาตสฺส อตฺถสฺส. าตุํ อิจฺฉิโต หิ อตฺโถ ปฺโห. โทโส วุตฺโตติ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภูตสฺส ปุน อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภาวาปตฺติสงฺขาโต โทโส วุตฺโต ปุริมนเย. ปจฺฉิมนเย ปน อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหติภาวาปตฺติสงฺขาโต โทโส วุตฺโตติ อตฺโถ. ปฏิกฺขิตฺตปฺหนฺติ ‘‘ตํเยว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ เอวํ กาลนานตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ. เตนาติ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ โหติหุตฺวาภาวปฏิกฺเขเปน. โจเทตีติ อนาคตํ เตน โหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนํ เตน หุตฺวา นาม, อุภยมฺปิ อนฺตฺตา อุภยสภาวนฺติ โจเทติ. เอตฺถาติ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ เอตสฺมึ ปฺเห กถํ โหติ โทโสติ โจเทตีติ. ‘‘ตสฺเสวา’’ติ ปริหรติ. กถํ กตฺวา โจทนา, กถฺจ กตฺวา ปริหาโร? อนุชานนปฏิกฺเขปานํ ภินฺนวิสยตาย โจทนา, อตฺถาเภทกาลเภทวิสยตฺตา อภินฺนาธารตาย เตสํ ปริหาโร. ตสฺเสวาติ หิ ปรวาทิโน เอวาติ อตฺโถ.

ตทุภยํ คเหตฺวาติ ‘‘ตํ อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ อุภยํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา. เอเกกนฺติ เตสุ เอเกกํ. เอเกกเมวาติ อุภยํ เอกชฺฌํ อคฺคเหตฺวา เอเกกเมว วิสุํ วิสุํ อิมสฺมึ ปกฺเข ตถา น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. เอส นโยติ อติเทสํ กตฺวา สํขิตฺตตฺตา ตํ ทุพฺพิฺเยฺยนฺติ ‘‘อนาคตสฺส หี’’ติอาทินา วิวรติ. ปฏิชานิตพฺพํ สิยา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ยถากฺกมํ โหติหุตฺวาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยเทตํ ตยา’’ติอาทินา ปวตฺโต สํวณฺณนานโย ปุริมนโย, ตตฺถ หิ ‘‘ยทิ เต อนาคตํ หุตฺวา’’ติอาทินา หุตฺวาโหติภาโว โจทิโต. ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิโก ทุติยนโย. ตตฺถ หิ ‘‘อนาคตสฺส…เป… หุตฺวาโหติเยว นามา’’ติ อนาคตาทีสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหตินามตา โจทิตา.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตีตาณาทิกถาวณฺณนา

๒๙๐. กถํ วุจฺจตีติ กสฺมา วุตฺตํ. เตนาติ หิ อิมินา ทุติยปุจฺฉาย ‘‘อตีตํ าณ’’นฺติ อิทํ ปจฺจามฏฺํ, ตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณํ, อตีตธมฺมารมฺมณตาย อตีตนฺติ วุตฺตํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุน ปุฏฺโ อตีตารมฺมณํ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณ’’นฺติอาทิ.

อตีตาณาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา

๒๙๑. ‘‘อรหํ ขีณาสโว’’ติอาทินา สุตฺตวิโรโธ ปากโฏติ อิทเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘ยุตฺติวิโรโธ…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห. ตตฺถ อนานตฺตนฺติ อวิเสโส. เอวมาทิโกติ อาทิ-สทฺเทน กตกิจฺจตาภาโว อโนหิตภารตาติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปทโสธนกถาวณฺณนา

๒๙๕. โย อตีตสทฺทาภิเธยฺโย อตฺโถ, โส อตฺถิสทฺทาภิเธยฺโยติ ทฺเวปิ สมานาธิกรณตฺถาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อตีตอตฺถิสทฺทานํ เอกตฺถตฺตา’’ติ, น, อตีตสทฺทาภิเธยฺยสฺเสว อตฺถิสทฺทาภิเธยฺยตฺตา. เตนาห ‘‘อตฺถิสทฺทตฺถสฺส จ นฺวาตีตภาวโต’’ติ. เตน กึ สิทฺธนฺติ อาห ‘‘อตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตฺจ อตีตํ โหตี’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ ตว มเตน อตีตํ อตฺถิ, อตฺถิ จ นฺวาตีตนฺติ อตีตฺจ โน อตีตํ สิยา, ตถา อตฺถิ โน อตีตํ อตีตฺจ โน อตีตํ อตีตํ สิยาติ, ยถา ‘‘อตีตํ อตฺถี’’ติ เอตฺถ อตีตเมว อตฺถีติ นายํ นิยโม คเหตพฺโพ อนตีตสฺสปิ อตฺถิภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ สิยา อตีตํ, สิยา นฺวาตีต’’นฺติ. เยน หิ อากาเรน อตีตสฺส อตฺถิภาโว ปรวาทินา อิจฺฉิโต, เตนากาเรน อนตีตสฺส อนาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ โส อิจฺฉิโต. เกน ปน อากาเรน อิจฺฉิโตติ? สงฺขตากาเรน. เตน วุตฺตํ ‘‘เตนาตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตํ อตีต’’นฺติ. ตสฺมา อตีตํ อตฺถิเยวาติ เอวเมตฺถ นิยโม คเหตพฺโพ. อตฺถิภาเว หิ อตีตํ นิยมิตํ, น อตีเต อตฺถิภาโว นิยมิโต, ‘‘น ปน นิพฺพานํ อตฺถี’’ติ เอตฺถ ปน นิพฺพานเมว อตฺถีติ อยมฺปิ นิยโม สมฺภวตีติ โส เอว คเหตพฺโพ. ยทิปิ หิ นิพฺพานํ ปรมตฺถโต อตฺถิภาวํ อุปาทาย อุตฺตรปทาวธารณํ ลพฺภติ ตทฺสฺสปิ อภาวโต, ตถาปิ อสงฺขตากาเรน อฺสฺส อนุปลพฺภนโต ตถา นิพฺพานเมว อตฺถีติ ปุริมปทาวธารเณ อตฺเถ คยฺหมาเน ‘‘อตฺถิ สิยา นิพฺพานํ, สิยา โน นิพฺพาน’’นฺติ โจทนา อโนกาสา. อตีตาทีสุ ปน ปุริมปทาวธารณํ ปรวาทินา น คหิตนฺติ นตฺเถตฺถ อติปฺปสงฺโค. อคฺคหณฺจสฺส ปาฬิโต เอว วิฺายติ. เอวเมตฺถ อตีตาทีนํ อตฺถิตํ วทนฺตสฺส ปรวาทิสฺเสวายํ อิฏฺวิฆาตโทสาปตฺติ, น ปน นิพฺพานสฺส อตฺถิตํ วทนฺตสฺส สกวาทิสฺสาติ. ปฏิปาทนา ปติฏฺาปนา เวทิตพฺพา.

เอตฺถาห ‘‘อตีตํ อตฺถี’’ติอาทินา กึ ปนายํ อตีตานาคตานํ ปรมตฺถโต อตฺถิภาโว อธิปฺเปโต, อุทาหุ น ปรมตฺถโต. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว ปรมตฺถโต, สพฺพกาลํ อตฺถิภาวโต สงฺขารานํ สสฺสตภาโว อาปชฺชติ, น จ ตํ ยุตฺตํ อาคมวิโรธโต ยุตฺติวิโรธโต จ. อถ น ปรมตฺถโต, ‘‘สพฺพมตฺถี’’ติอาทิกา โจทนา นิรตฺถิกา สิยา, น นิรตฺถิกา. โส หิ ปรวาที ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคต’’นฺติอาทินา อตีตานาคตานมฺปิ ขนฺธภาวสฺส วุตฺตตฺตา อสติ จ อตีเต กุสลากุสลสฺส กมฺมสฺส อายตึ ผลํ กถํ ภเวยฺย, ตตฺถ จ ปุพฺเพนิวาสาณาทิ อนาคเต จ อนาคตํสาณาทิ กถํ ปวตฺเตยฺย, ตสฺมา อตฺเถว ปรมตฺถโต อตีตานาคตนฺติ ยํ ปฏิชานาติ, ตํ สนฺธาย อยํ กตาติ. เอกนฺเตน เจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เยปิ ‘‘สพฺพํ อตฺถี’’ติ วทนฺติ อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ, เต สพฺพตฺถิวาทาติ.

จตุพฺพิธา เจเต เต สพฺพตฺถิวาทา. ตตฺถ เกจิ ภาวฺตฺติกา. เต หิ ‘‘ยถา สุวณฺณภาชนสฺส ภินฺทิตฺวา อฺถา กริยมานสฺส สณฺานสฺเสว อฺถตฺตํ, น วณฺณาทีนํ, ยถา จ ขีรํ ทธิภาเวน ปริณมนฺตํ รสวีริยวิปาเก ปริจฺจชติ, น วณฺณํ, เอวํ ธมฺมาปิ อนาคตทฺธุโน ปจฺจุปฺปนฺนทฺธํ สงฺกมนฺตา อนาคตภาวเมว ชหนฺติ, น อตฺตโน สภาวํ. ตถา ปจฺจุปฺปนฺนทฺธุโน อตีตทฺธํ สงฺกเม’’ติ วทนฺติ. เกจิ ลกฺขณฺตฺติกา, เต ปน ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม อตีโต อตีตลกฺขณยุตฺโต, อิตรลกฺขเณหิ อยุตฺโต. ตถา อนาคโต ปจฺจุปฺปนฺโน จ. ยถา ปุริโส เอกิสฺสา อิตฺถิยา รตฺโต อฺาสุ อรตฺโต’’ติ วทนฺติ. อฺเ อวตฺถฺตฺติกา, เต ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม ตํ ตํ อวตฺถํ ปตฺวา อฺโ อฺํ นิทฺทิสียติ อวตฺถนฺตรโต, น สภาวโต. ยถา เอกํ อกฺขํ เอกงฺเค นิกฺขิตฺตํ เอกนฺติ วุจฺจติ, สตงฺเค สตนฺติ, สหสฺสงฺเค สหสฺสนฺติ, เอวํสมฺปทมิท’’นฺติ. อปเร อฺถฺตฺติกา, เต ปน ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม ตํ ตํ อเปกฺขิตฺวา ตทฺสภาเวน วุจฺจติ. ยถา ตํ เอกา อิตฺถี มาตาติ จ วุจฺจติ ธีตา’’ติ จ. เอวเมเต จตฺตาโร สพฺพตฺถิวาทา.

เตสุ ปโม ปริณามวาทิตาย กาปิลปกฺขิเกสุ ปกฺขิปิตพฺโพติ. ทุติยสฺสปิ กาลสงฺกโร อาปชฺชติ สพฺพสฺส สพฺพลกฺขณโยคโต. จตุตฺถสฺสปิ สงฺกโรว. เอกสฺเสว ธมฺมสฺส ปวตฺติกฺขเณ ตโยปิ กาลา สโมธานํ คจฺฉนฺติ. ปุริมปจฺฉิมกฺขณา หิ อตีตานาคตา, มชฺฌิโม ปจฺจุปฺปนฺโนติ. ตติยสฺส ปน อวตฺถฺตฺติกสฺส นตฺถิ สงฺกโร ธมฺมกิจฺเจน กาลววตฺถานโต. ธมฺโม หิ สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺโน, ตโต ปุพฺเพ อนาคโต, ปจฺฉา อตีโตติ.

ตตฺถ ยทิ อตีตมฺปิ ธรมานสภาวตาย อตฺถิ อนาคตมฺปิ, กสฺมา ตํ อตีตนฺติ วุจฺจติ อนาคตนฺติ วา, นนุ วุตฺตํ ‘‘ธมฺมกิจฺเจน กาลววตฺถานโต’’ติ. ยทิ เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จกฺขุสฺส กึ กิจฺจํ, อนวเสสปจฺจยสมวาเย ผลุปฺปาทนํ. เอวํ สติ อนาคตสฺสปิ จสฺส เตน ภวิตพฺพํ อตฺถิภาวโตติ ลกฺขณสงฺกโร สิยา. อิทฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, เตเนว สภาเวน สโต ธมฺมสฺส กิจฺจํ, กิจฺจกรเณ โก วิพนฺโธ, เยน กทาจิ กโรติ กทาจิ น กโรติ ปจฺจยสมวายภาวโต, กิจฺจสฺส สมวายาภาวโตติ เจ? ตํ น, นิจฺจํ อตฺถิภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ตโต เอว จ อทฺธุนํ อววตฺถานํ. ธมฺโม หิ เตเนว สภาเวน วิชฺชมาโน กสฺมา กทาจิ อตีโตติ วุจฺจติ กทาจิ อนาคโตติ กาลสฺส ววตฺถานํ น สิยา. โย หิ ธมฺโม อชาโต, โส อนาคโต. โย ชาโต น จ นิรุทฺโธ, โส ปจฺจุปฺปนฺโน. โย นิรุทฺโธ, โส อตีโต. อิทเมเวตฺถ วตฺตพฺพํ. ยทิ ยถา วตฺตมานํ อตฺถิ, ตถา อตีตํ อนาคตฺจ อตฺถิ, ตสฺส ตถา สโต อชาตตา นิรุทฺธตา จ เกน โหตีติ. เตเนว หิ สภาเวน สโต ธมฺมสฺส กถมิทํ สิชฺฌติ อชาโตติ วา นิรุทฺโธติ วา. กึ ตสฺส ปุพฺเพ นาโหสิ, ยสฺส อภาวโต อชาโตติ วุจฺจติ, กิฺจ ปจฺฉา นตฺถิ, ยสฺส อภาวโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ. ตสฺมา สพฺพถาปิ อทฺธตฺตยํ น สิชฺฌติ, ยทิ อหุตฺวา สงฺคติ หุตฺวา จ วินสฺสตีติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺขตลกฺขณโยคโต น สสฺสตภาวปฺปสงฺโค’’ติ, ตยิทํ เกวลํ วาจาวตฺถุมตฺตํ อุทยวยาสมฺภวโต, อตฺถิ จ นาม สพฺพทา โส ธมฺโม, น จ นิจฺโจติ กุโตยํ วาจายุตฺติ.

สภาโว สพฺพทา อตฺถิ, นิจฺโจ ธมฺโม น วุจฺจติ;

ธมฺโม สภาวโต นาฺโ, อโห ธมฺเมสุ โกสลํ.

ยฺจ วุตฺตํ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคต’’นฺติอาทินา อตีตานาคตานํ ขนฺธภาวสฺส วุตฺตตฺตา อตฺเถวาติ, วทาม. อตีตํ ภูตปุพฺพํ, อนาคตํ ยํ สติ ปจฺจเย ภวิสฺสติ, ตทุภยสฺสปิ รุปฺปนาทิสภาวานาติวตฺตนโต รูปกฺขนฺธาทิภาโว วุตฺโต. ยถาธมฺมสภาวานาติวตฺตนโต อตีตา ธมฺมา อนาคตา ธมฺมาติ, น ธรมานสภาวตาย. โก จ เอวมาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วิย ตํ อตฺถี’’ติ. กถํ ปเนตํ อตฺถีติ? อตีตานาคตสภาเวน. อิทํ ปน ตเวว อุปฏฺิตํ, กถํ ตํ อตีตํ อนาคตฺจ วุจฺจติ, ยทิ นิจฺจกาลํ อตฺถีติ.

ยํ ปน ‘‘น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) สุตฺเต วุตฺตํ, ตํ ยสฺมิฺจ สนฺตาเน กมฺมํ กตูปจิตํ, ตตฺถ เตนาหิตํ ตํผลุปฺปาทนสมตฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อตีตสฺส กมฺมสฺส ธรมานสภาวตฺตา. ตถา สติ สเกน ภาเวน วิชฺชมานํ กถํ ตํ อตีตํ นาม สิยา. อิตฺถฺเจตํ เอวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ยํ สงฺขารา อหุตฺวา สมฺภวนฺติ, หุตฺวา ปติเวนฺติ เตสํ อุทยโต ปุพฺเพ วยโต จ ปจฺฉา น กาจิ ิติ นาม อตฺถิ, ยโต อตีตานาคตํ อตฺถีติ วุจฺเจยฺย. เตน วุตฺตํ –

‘‘อนิธานคตา ภคฺคา, ปุฺโช นตฺถิ อนาคเต;

อุปฺปนฺนา เยปิ ติฏฺนฺติ, อารคฺเค สาสปูปมา’’ติ. (มหานิ. ๑๐, ๓๙);

ยทิ จานาคตํ ปรมตฺถโต สิยา, อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ วตฺตุํ น สกฺกา. ปจฺจุปฺปนฺนกาเล อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ เจ? น, ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตฺตา กาลสฺส. อถ อตฺตโน สภาเวน อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ, สิทฺธเมตํ อนาคตํ ปรมตฺถโต นตฺถีติ. ยฺจ วุตฺตํ ‘‘อสติ อตีเต กุสลากุสลสฺส กมฺมสฺส อายตึ ผลํ กถํ ภเวยฺยา’’ติ, น โข ปเนตฺถ อตีตกมฺมโต ผลุปฺปตฺติ อิจฺฉิตา, อถ โข ตสฺส กตตฺตา ตทาหิตวิเสสโต สนฺตานโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑). ยสฺส ปน อตีตานาคตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ, ตสฺส ผลํ นิจฺจเมว อตฺถีติ กึ ตตฺถ กมฺมสฺส สามตฺถิยํ. อุปฺปาทเน เจ, สิทฺธมิทํ อหุตฺวา ภวตีติ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อสติ อตีตานาคเต กถํ ตตฺถ าณํ ปวตฺเตยฺยา’’ติ, ยถา ตํ อาลมฺพณํ, ตํ ตถา อตฺถิ, กถฺจ ตํ อาลมฺพณํ, อโหสิ ภวิสฺสติ จาติ. น หิ โกจิ อตีตํ อนุสฺสรนฺโต อตฺถีติ อนุสฺสรติ, อถ โข อโหสีติ. ยถา ปน วตฺตมานํ อารมฺมณํ อนุภูตํ, ตถา ตํ อตีตํ อนุสฺสรติ. ยถา จ วตฺตมานํ ภวิสฺสติ, ตถา พุทฺธาทีหิ คยฺหติ. ยทิ จ ตํ ตเถว อตฺถิ, วตฺตมานเมว ตํ สิยา. อถ นตฺถิ, สิทฺธํ ‘‘อสนฺตํ าณสฺส อารมฺมณํ โหตี’’ติ. วิชฺชมานํ วา หิ จิตฺตสฺาตํ อวิชฺชมานํ วา อารมฺมณํ เอเตสํ อตฺถีติ อารมฺมณา, จิตฺตเจตสิกา, น วิชฺชมานํเยว อารพฺภ ปวตฺตนโต, ตสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนเมว ธรมานสภาวํ น อตีตานาคตนฺติ น ติฏฺติ สพฺพตฺถิวาโท. เกจิ ปน ‘‘น อตีตาทีนํ อตฺถิตาปฏิฺาย สพฺพตฺถิวาทา, อถ โข อายตนสพฺพสฺส อตฺถิตาปฏิฺายา’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน สพฺเพว สาสนิกา สพฺพตฺถิวาทา สิยุนฺติ.

ปทโสธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อตีตกฺขนฺธาทิกถา

๑. นสุตฺตสาธนกถาวณฺณนา

๒๙๗. ‘‘อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ อยํ กาลวิภาคปริจฺฉินฺโน โวหาโร ธมฺมานํ ตํ ตํ อวตฺถาวิเสสํ อุปาทาย ปฺตฺโต. ธมฺโม หิ สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺโน, ตโต ปุพฺเพ อนาคโต, ปจฺฉา อตีโตติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตตฺถ ยทิปิ ธมฺมา อนิจฺจตาย อนวฏฺิตา, อวตฺถา ปน เตสํ ยถาวุตฺตา ววตฺถิตาติ ตทุปาทานา กาลปฺตฺติปิ ววตฺถิตา เอว. น หิ อตีตาทิ อนาคตาทิภาเวน โวหรียติ, ขนฺธาทิปฺตฺติ ปน อนเปกฺขิตกาลวิเสสา. ตีสุปิ หิ กาเลสุ รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺโธว, ตถา เสสา ขนฺธา อายตนธาตุโย จ. เอวมวฏฺิเต ยสฺมา ปรวาที ‘‘อตฺถี’’ติ อิมํ ปจฺจุปฺปนฺนนิยตํ โวหารํ อตีตานาคเตสุปิ อาโรเปติ, ตสฺมา โส อทฺธสงฺกรํ กโรติ. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเน วิชฺชมาเน กตฺวา โวหรตีติ ตโต วิเวเจตุํ ‘‘อตีตํ ขนฺธา’’ติอาทิกา อยํ กถา อารทฺธา.

ยสฺมา ปน รุปฺปนาทิสภาเว อตีตาทิเภทภินฺเน ธมฺเม เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตตฺถ ราสฏฺํ อุปาทาย ขนฺธปฺตฺติ, จกฺขุรูปาทีสุ การณาทิอตฺถํ สุฺตฏฺฺจ อุปาทาย อายตนปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ จ, ตสฺมา สา อทฺธตฺตยสาธารณา, น อตีตาทิปฺตฺติ วิย อทฺธวิเสสาธิฏฺานาติ อาห ‘‘ขนฺธาทิภาวาวิชหนโต อตีตานาคตาน’’นฺติ. เต ปเนเต อตีตาทิเก ขนฺธาทิเก วิย สภาวธมฺมโต สฺชานนฺโต ปรวาที ‘‘อตฺถี’’ติ ปฏิชานาตีติ อาห ‘‘อตีตานาคตานํ อตฺถิตํ อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, นิรุตฺติปถา’’ติ สุตฺตํ นิรุตฺติปถสุตฺตํ. ตตฺถ หิ ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว อตฺถิภาโว วุตฺโต, น อตีตานาคตานํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺถิตาย วาริตตฺตา’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, นิพฺพาน’’นฺติ อิทํ กถนฺติ? ตํ สพฺพทา อุปลทฺธิโต วุตฺตํ นิจฺจสภาวาปนตฺถํ อสงฺขตธมฺมสฺส, อิธ ปน สงฺขตธมฺมานํ ขณตฺตยสมงฺคิตาย อตฺถิภาโว น ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จาติ ปฺาปนตฺถํ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ…เป… น ตสฺส สงฺขา ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ‘‘อตฺถี’’ติ สมฺาย อนุปาทานโต อตีตํ อนาคตํ ปรมตฺถโต นตฺถีติ ทสฺสิตํ โหติ. อิมินาวูปาเยนาติ ‘‘ขนฺธาทิภาวาวิชหนโต’’ติ เอวํ วุตฺเตน เหตุนา. อุปปตฺติสาธนยุตฺติ หิ อิธ ‘‘อุปาโย’’ติ วุตฺตา.

นสุตฺตสาธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุตฺตสาธนกถาวณฺณนา

๒๙๘. เอเต ธมฺมาติ เอเต ขนฺธอายตนธาตุธมฺมา. สุตฺตาหรณนฺติ นิรุตฺติปถสุตฺตาหรณํ. เนสนฺติ อตีตานาคตานํ.

สุตฺตสาธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตีตกฺขนฺธาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอกจฺจํอตฺถีติกถา

๑. อตีตาทิเอกจฺจกถาวณฺณนา

๒๙๙. เย กตูปจิตา กุสลากุสลา ธมฺมา วิปากทานาย อกโตกาสา, กโตกาสา จ เย ‘‘โอกาสกตุปฺปนฺนา’’ติ วุจฺจนฺติ. เย จ วิปฺปกตวิปากา, เต สพฺเพปิ ‘‘อวิปกฺกวิปากา’’ติ เวทิตพฺพา. เตสํ วิปากทานสามตฺถิยํ อนปคตนฺติ อธิปฺปาเยน ปรวาที อตฺถิตํ อิจฺฉติ. เย ปน ปรวาที สพฺเพน สพฺพํ วิปกฺกวิปากา กุสลากุสลา ธมฺมา, เตสํ อปคตนฺติ นตฺถิตํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘อตฺถีติ เอกจฺจํ อตฺถิ เอกจฺจํ นตฺถี’’ติอาทิ. เอวํ อิจฺฉนฺตสฺส ปน ปรวาทิโน ยถา อวิปาเกสุปิ เอกจฺจํ นตฺถีติ อาปชฺชติ, เอวํ วิปกฺกวิปาเกสุ อวิปกฺกวิปาเกสุ จ อาปชฺชเตวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิปกฺกวิปากา ธมฺมา เอกจฺเจ’’ติอาทินา ปาฬิ ปวตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ติณฺณํ ราสีนํ วเสนา’’ติอาทิ. โวหารวเสนาติ ผลสฺส อนุปรมโวหารวเสน, เหตุกิจฺจํ ปน อนุปรตํ อนุปจฺฉินฺนํ อตฺถีติ ลทฺธิยํ ิตตฺตา โจเทตพฺโพว. อวิจฺเฉทวเสน ปวตฺตมานฺหิ ผลสฺส ปพนฺธโวหารํ ปรวาที โวหารโต อตฺถีติ อิจฺฉติ, เหตุ ปนสฺส กมฺมํ ปรมตฺถโต จ กมฺมูปจยวาทิภาวโต ปตฺติอปฺปตฺติสภาวตาทโย วิย จิตฺตวิปฺปยุตฺโต กมฺมูปจโย นาม เอโก สงฺขารธมฺโม อวิปนฺโน, โสปิ ตสฺเสว เววจนนฺติ ปรวาที. ยํ สนฺธายาห –

‘‘นปฺปจยนฺติ กมฺมานิ, อปิ กปฺปสหสฺสโต;

ปตฺวา ปจฺจยสามคฺคึ, กาเล ปจฺจนฺติ ปาณิน’’นฺติ.

ยฺจ สนฺธาย ปรโต ปริโภคมยปุฺกถาย ‘‘ปริโภคมยํ ปน จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาตี’’ติ วกฺขติ.

เอกจฺจํอตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สติปฏฺานกถาวณฺณนา

๓๐๑. ปรมตฺถสติปฏฺานตฺตาติ เอเตน โลกุตฺตราย เอว สมฺมาสติยา ตตฺถาปิ มคฺคภูตาย นิปฺปริยาเยน สติปฏฺานภาโว นิยฺยานิกตฺตา อิตราย ปริยาเยนาติ ทสฺเสติ. มคฺคผลสมฺมาสติยา ธมฺมานุสฺสติภาวปริยาโย อตฺถีติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรสติปฏฺานสมุทายภูตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สติสมุทายภูตสฺส น สติโคจรภูตสฺสาติ อธิปฺปาโย. สติโคจรสฺส หิ สติปฏฺานตํ โจเทตุํ ปาฬิยํ ‘‘จกฺขายตนํ สติปฏฺาน’’นฺติ อารทฺธํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพธมฺมานํ ปเภทปุจฺฉาวเสน วุตฺต’’นฺติ. สุตฺตสาธนายํ ปน ปมํ โลกิยสติปฏฺานวเสน, ทุติยํ มิสฺสกวเสน, ตติยํ โลกุตฺตรวเสน ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เหวตฺถิกถาวณฺณนา

๓๐๔. เหวตฺถิกถายํ ‘‘สพฺโพ ธมฺโม สกภาเวน อตฺถิ ปรภาเวน นตฺถี’’ติ ปวตฺโต ปรวาทีวาโท ยถา วิภชฺช ปฏิปุจฺฉา วา น พฺยากาตพฺโพ, เอวํ เอกํสโต น พฺยากาตพฺโพ วิเสสาภาวโต, เกวลํ ปนียปกฺเข ติฏฺตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อวตฺตพฺพุตฺตเรนา’’ติ. ยถา หิ สพฺเพ วาทา สปฺปฏิวาทาวาติ ปฏิฺา ภูตกถนตฺตา อวตฺตพฺพุตฺตรา อุเปกฺขิตพฺพา, เอวมยมฺปีติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘อุเปกฺขิตพฺเพนา’’ติ. อถ วา อวตฺตพฺพํ อุตฺตรํ อวตฺตพฺพุตฺตรํ. ยถา อนิจฺจวาทินํ ปติ อนิจฺโจ สทฺโท ปจฺจยาธีนวุตฺติโตติ, อุตฺตรํ น วตฺตพฺพํ สิทฺธสาธนภาวโต, เอวํ อิธาปิ ทฏฺพฺพํ. สิทฺธสาธนฺหิ ทฑฺฒสฺส ฑหนสทิสตฺตา นิรตฺถกเมว สิยา, อฏฺกถายํ ปน ยสฺมา ปรวาทินา เยน สภาเวน โย ธมฺโม อตฺถิ, เตเนว สภาเวน โส วินา กาลเภทาทิปรามสเนน นตฺถีติ ปติฏฺาปียติ, ตสฺมา ‘‘อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ ‘‘เหวตฺถิ, เหวํ นตฺถี’’ติ ปฏิชานนฺเตน ปรวาทินา ยถา สปรภาเวหิ รูปาทีนํ อตฺถิตา ปฏิฺาตา, เอวํ กาลเทสาทิเภเทหิปิ สา ปฏิฺาตา เอว. เตเนวาห ‘‘อตีตํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน, อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ วา อตีตาทิวเสน นตฺถี’’ติ. เอวํ สติ นิคณฺาเจลกวาโท ปริทีปิโต สิยา. เต หิ ‘‘สิยา อตฺถิ, สิยา นตฺถิ, สิยา อตฺถิ จ นตฺถิ จา’’ติอาทินา สพฺพปทตฺเถสุ ปตฺตภาเค ปฏิชานนฺติ. ตตฺถ ยทิ วตฺถุโน สภาเวเนว, เทสกาลสนฺตานวเสน วา นตฺถิตา อธิปฺเปตา, ตํ สิทฺธสาธนํ สกวาทิโนปิ อิจฺฉิตตฺตา. ยสฺส หิ ธมฺมสฺส โย สภาโว, น โส ตโต อฺถา อุปลพฺภติ. ยทิ อุปลพฺเภยฺย, อฺโ เอว โส สิยา. น เจตฺถ สามฺลกฺขณํ นิทสฺเสตพฺพํ สลกฺขณสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตสฺส นตฺถิภาวสฺส อภาวโต. ยถา จ ปรภาเวน นตฺถิตาย น วิวาโท, เอวํ เทสกาลนฺตเรสุปิ อิตฺตรกาลตฺตา สงฺขารานํ. น หิ สงฺขารา เทสนฺตรํ, กาลนฺตรํ วา สงฺกมนฺติ ขณิกภาวโต. เอเตเนว ปริยายนฺตเรน นตฺถิตาปิ ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา. ยถา จ อตฺถิตา, นตฺถิตา วินา กาลเภเทน เอกสฺมึ ธมฺเม ปติฏฺํ น ลภนฺติ อฺมฺวิรุทฺธตฺตา, เอวํ สพฺพทาปิ นิจฺจตฺตา.

ยํ ปน เต วทนฺติ ‘‘ยถา สุวณฺณํ กฏกาทิรูเปน ิตํ รุจกาทิภาวํ อาปชฺชตีติ นิจฺจานิจฺจํ. ตฺหิ สุวณฺณภาวาวิชหนโต นิจฺจํ กฏกาทิภาวหานิโต อนิจฺจํ, เอวํ สพฺพธมฺมา’’ติ. เต อิทํ วตฺตพฺพา ‘‘กึ กฏกภาโว กฏกสฺส, อุทาหุ สุวณฺณสฺสา’’ติ. ยทิ กฏกสฺส, สุวณฺณนิรเปกฺโข สิยา ตทฺภาโว วิย. อถ สุวณฺณสฺส, นิจฺจกาลํ ตตฺถ อุปลพฺเภยฺย สุวณฺณภาโว วิย. น จ สกฺกา อุภินฺนํ เอกภาโวติ วตฺตุํ กฏกวินาเสปิ สุวณฺณาวินาสโต. อถ มตํ, สุวณฺณกฏกาทีนํ ปริยายีปริยายภาวโต นายํ โทโสติ. ยถา หิ กฏกปริยายนิโรเธน รุจกปริยายุปฺปาเทปิ ปริยายี ตเถว ติฏฺติ, เอวํ มนุสฺสปริยายนิโรเธ เทวปริยายุปฺปาเทปิ ปริยายี ชีวทฺรพฺยํ ติฏฺตีติ นิจฺจานิจฺจํ, ตถา สพฺพทฺรพฺยานีติ. ตยิทํ อมฺพํ ปุฏฺสฺส ลพุชพฺยากรณํ. ยํ สฺเวว นิจฺโจ อนิจฺโจติ วา วทนฺโต อฺตฺถ นิจฺจตํ อฺตฺถ อนิจฺจตํ ปฏิชานาติ, อถ ปริยายปริยายีนํ อนฺตา อิจฺฉิตา, เอวํ สติ ปริยาโยปิ นิจฺโจ สิยา ปริยายิโน อนฺตฺตา ปริยายสรูปํ วิย, ปริยายี วา อนิจฺโจ ปริยายโต อนฺตฺตา ปริยายสรูปํ วิยาติ. อถ เนสํ อฺา อนฺตา, เอวฺจ สติ วุตฺตโทสทฺวยานติวตฺติ. อปิจ โกยํ ปริยาโย นาม, ยทิ สณฺานํ, สุวณฺโณ ตาว โหตุ, กถํ ชีวทฺรพฺเย อรูปิภาวโต. ยทิ ตสฺสปิ สณฺานวนฺตํ อิจฺฉิตํ, ตถา สติสฺส เอกสฺมิมฺปิ สตฺตสนฺตาเน พหุตา อาปชฺชติ สรูปตา จ สณฺานวนฺเตสุปิ ปีฬกาทีสุ ตถาทสฺสนโต. อถ ปวตฺติวิเสโส, เอวมฺปิ พหุตา ขณิกตา จ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปริยายสรูปเมว ตาว ปติฏฺเปตพฺพํ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สุวณฺณํ กฏกาทิรูเปน ิต’’นฺติ, ตตฺถ สมฺปตฺติโยคโต วิฺายมาเนสุ วิสิฏฺเสุ รูปคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ กึ เอกํ, อุทาหุ เตสํ สมุทาโย, ตพฺพินิมุตฺตํ วา ธมฺมนฺตรํ สุวณฺณนฺติ? ตตฺถ น ตาว รูปาทีสุ เอเกกํ สุวณฺณํ เตน สุวณฺณกิจฺจาสิทฺธิโต, นาปิ ตพฺพินิมุตฺตํ ธมฺมนฺตรํ ตาทิสสฺส อภาวโต. อถ สมุทาโย, ตํ ปน ปฺตฺติมตฺตนฺติ น ตสฺส นิจฺจตา, นาปิ อนิจฺจตา สมฺภวติ. ยถา จ สุวณฺณสฺส, เอวํ กฏกสฺสปิ ปฺตฺติมตฺตตฺตาติ. ตยิทํ นิทสฺสนํ ปรวาทิโน ชีวทฺรพฺยสฺสปิ ปฺตฺติมตฺตํ ตสฺเสว สาเธตีติ กุโต ตสฺส นิจฺจานิจฺจตาติ อลมติปฺปปฺเจน.

เหวตฺถิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. ปรูปหารวณฺณนา

๓๐๗. วิกฺขมฺภิตราคาว อวิกฺขมฺภิตราคานํ อธิมานิกตาย อสมฺภวโตติ ยาว อธิมานิกํ, ตาว สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อธิมานิกาน’’นฺติ อิทํ ภูตปุพฺพคติยา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อธิมานิกปุพฺพา อธิปฺเปตา สิยุ’’นฺติ.

๓๐๘. ยํ วิมติคาหการณํ วุจฺจมานํ, ตํ ‘‘หนฺท หี’’ติ ปรํ โชเตตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘การณตฺเถติ ยุตฺต’’นฺติ. วิมติคาหสฺส ปน นิจฺฉิตตํ ‘‘หนฺท หี’’ติ ปรํ โชเตตีติ วุตฺตํ ‘‘วจสายตฺเถ’’ติ.

ปรูปหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วจีเภทกถาวณฺณนา

๓๒๖. โสติ ปมมคฺคฏฺโ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’’นฺติ สุตฺตสฺส อตฺถํ อฺถา คเหตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนานิสฺสนฺเทน มคฺคกฺขเณปิ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนา อุปฏฺาติ, ตสฺมา ‘‘โส ทุกฺขมิจฺเจว วาจํ ภาสตี’’ติ วทนฺติ.

๓๒๘. อิจฺฉิเตติ ปรวาทินา สมฺปฏิจฺฉิเต. อาโรปิเตติ ยุตฺตินิทฺธารเณน ตสฺมึ อตฺเถ ปติฏฺาปิเต ยุชฺชติ, วจีสมุฏฺาปนกฺขณโต ปน ปจฺฉา ตํ สทฺทํ สุณาตีติ อิจฺฉิเต น ยุชฺชติ โสตวิฺาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา ปน อตฺตนา นิจฺฉาริตํ สทฺทํ อตฺตนาปิ สุณาติ, ตสฺมา โสตวิฺาณํ ‘‘เยน ตํ สทฺทํ สุณาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๓๓๒. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณติ ปมชฺฌานิกสฺส ปมมคฺคสฺส ขเณ. อภิภูสุตฺตาหรเณ อธิปฺปาโย วตฺตพฺโพติ เอเตน ตทาหรณสฺส อสมฺพนฺธตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา อสาธก’’นฺติ.

วจีเภทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา

๓๓๕. เอวนฺติ ‘‘เอกจิตฺตํ ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ วุตฺตากาเรน. อฺตฺถาติ อรูปภวโต อฺสฺมึ. เอเตนาติ ‘‘เอกเมว จิตฺตํ อารุปฺเป ติฏฺติ, ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ เอวํวาทินา ทุติยาปิ อฑฺฒกถา ปสฺสิตพฺพา ปมกถาย จิรกาลาวฏฺานวจนสฺส อฺทตฺถุ ภาววิภาวนโตติ อธิปฺปาโย. ปุริมายาติ ‘‘ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ ปฺหโต ปุริมาย. ตตฺถ หิ ‘‘วสฺสสตํ ติฏฺตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ อนุฺา กตา, ปจฺฉิมายํ ปน ‘‘มนุสฺสานํ เอกํ จิตฺตํ ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต. อวิโรโธ วิภาเวตพฺโพ, ยโต ตตฺเถว อนุฺา กตา, น ปจฺฉาติ อธิปฺปาโย. วสฺสสตาทีติ จ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ‘‘ทฺเว วสฺสสตานี’’ติ เอวมาทิเยว สงฺคหิตํ, อถ โข ‘‘เอกํ จิตฺตํ ทิวสํ ติฏฺตี’’ติ เอวมาทิปีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปฺโห สกวาทินา ปุจฺฉิโต วิย วุตฺโต’’ติ อิทํ วิจาเรตพฺพํ. ‘‘มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ปฺโห ปรวาทิสฺส. ‘‘อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตตฺถวเสน ปฏิฺา สกวาทิสฺสาติ หิ วุตฺตํ.

จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา

๓๓๙. ‘‘ตานิ วา จตฺตาริปิ าณานิ เอโก โสตาปตฺติมคฺโคเยวาติ ปฏิชานาตี’’ติ อิมํ สนฺธายาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. จตุนฺนํ าณานนฺติ ทุกฺเขาณาทีนํ จตุนฺนํ าณานํ. เอกมคฺคภาวโตติ โสตาปตฺติอาทิเอกมคฺคภาวโต. กเมน ปวตฺตมานานิปิ หิ ตานิ าณานิ ตํตํมคฺคกิจฺจสฺส สาธนโต เอโกเยว มคฺโค โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘เอกมคฺคสฺส…เป… ปฏิชานาตี’’ติ.

๓๔๔. ทสฺสเนติ มคฺคทสฺสเน.

๓๔๕. ธมฺมตฺถานํ เหตุผลภาวโต ธมฺมตฺถปฏิสมฺภิทานํ สิยา โสตาปตฺติผลเหตุตา, ตทภาวโต น อิตรปฏิสมฺภิทานนฺติ อาห ‘‘นิรุตฺติ…เป… วิจาเรตพฺพ’’นฺติ. สพฺพาสมฺปิ ปน ปฏิสมฺภิทานํ ปมผลสจฺฉิกิริยาเหตุตา วิจาเรตพฺพา มคฺคาธิคเมเนว ลทฺธพฺพตฺตา ผลานํ วิย, ตสฺมา ‘‘อฏฺหิ าเณหี’’ติ เอตฺถ นิกฺเขปกณฺเฑ อาคตนเยน ทุกฺขาทิาณานํ ปุพฺพนฺตาทิาณานฺจ วเสน ‘‘อฏฺหิ าเณหี’’ติ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ.

อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โวหารกถาวณฺณนา

๓๔๗. วิสยวิสยีสูติ รูปจกฺขาทิเก สนฺธายาห. เต หิ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอกนฺเตน โลกิยา. วิสยสฺเสวาติ สทฺทสฺเสว. โส หิ โวหริตพฺพโต โวหารกรณตาย จ ‘‘โวหาโร’’ติ ปาฬิยํ วุตฺโต. นตฺเถตฺถ การณํ วิสยีนํ วิสยสฺสปิ อาสวาทิอนารมฺมณตาภาวโต. อสิทฺธโลกุตฺตรภาวสฺส เอกนฺตสาสวตฺตา ตสฺส สทฺทายตนสฺส ยถา โลกุตฺตรตา ตว มเตนาติ อธิปฺปาโย.

ปฏิหฺเยฺยาติ อิทํ ปริกปฺปวจนํ. ปริกปฺปวจนฺจ อยาถาวนฺติ อาห ‘‘น หิ…เป… อตฺถี’’ติ. น หิ ชลํ อนลนฺติ ปริกปฺปิตํ ทหติ ปจติ วา. กึ โลกิเยน าเณน ชานิตพฺพโต โลกิโย รูปายตนาทิ วิย, อุทาหุ โลกุตฺตโร ปจฺจเวกฺขิยมานมคฺคาทิ วิยาติ เอวเมตฺถ เหตุสฺส อเนกนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘โลกิเย โลกุตฺตเร จ สมฺภวโต’’ติ.

โวหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๓๕๓. เยสํ ทฺวินฺนนฺติ เยสํ ทฺวินฺนํ ทุกฺขสจฺจานํ. ทฺวีหิ นิโรเธหีติ อปฺปฏิสงฺขาปฏิสงฺขาสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ นิโรเธหิ. ตตฺถ ทุกฺขาทีนํ ปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขา, ปฺาวิเสโส. เตน วตฺตพฺโพ นิโรโธ ปฏิสงฺขานิโรโธ. โย สาสเวหิ ธมฺเมหิ วิสํโยโคติ วุจฺจติ, โย ปจฺจยเวกลฺเลน ธมฺมานํ อุปฺปาทสฺส อจฺจนฺตวิพนฺธภูโต นิโรโธ, โส ปฏิสงฺขาย นวตฺตพฺพโต อปฺปฏิสงฺขานิโรโธ นามาติ ปรวาทิโน ลทฺธิ. ปฏิสงฺขาย วินา นิรุทฺธาติ ปจฺจยเวกลฺเลน อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘น อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคา’’ติ. อนุปฺปาโทปิ หิ นิโรโธติ วุจฺจติ ยโต ‘‘อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ลกฺขณุทฺเทสสฺส ปฏิโลเม ‘‘อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ ทสฺสิโต. เตนาติ ปฏิสงฺขาย นิโรธสฺส ขณิกนิโรธสฺส จ อิธ นาธิปฺเปตตฺตา.

นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยวคฺโค

๑. พลกถาวณฺณนา

๓๕๔. นิทฺเทสโตติ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺปฺปการโต. โส ปน ยสฺมา วิตฺถาโร โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วิตฺถารโต’’ติ. สพฺพํ กิเลสาวรณาทึ, ตเมว ปจฺเจกํ ปวตฺติอาการเภทโต สพฺพาการํ. ‘‘สพฺพ’’นฺติ หิ อิทํ สรูปโต คหณํ, ‘‘สพฺพาการโต’’ติ ปวตฺติอาการเภทโต. ภควา หิ ธมฺเม ชานนฺโต เตสํ อาการเภเท อนวเสเสตฺวาว ชานาติ. ยถาห ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพาการโต พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). อุทฺเทสโตติ เอกเทสโต. เอกเทโส จ วิตฺถาโร น โหตีติ อาห ‘‘สงฺเขปโต’’ติ. ยถา ชานนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุทฺเทสมตฺเตนปีติ ทิฏฺิคตยถาภูตาณาทิปฺปเภทานํ อาสยาทีนํ อุทฺเทสมตฺเตนปิ. เตนาห ‘‘อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวชานนมตฺตํ สนฺธายา’’ติ. เถเรนาติ อนุรุทฺธตฺเถเรน. เอวเมวาติ อุทฺเทสโต านาทิมตฺตชานนากาเรเนว. สฺวายมตฺโถ สกวาทินาปิ อิจฺฉิโตเยวาติ อาห ‘‘กถมยํ โจเทตพฺโพ สิยา’’ติ.

๓๕๖. เสเสสูติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณโต เสเสสุ. ปฏิกฺเขโปติ อสาธารณตาปฏิกฺเขโป. นนุ จ เสสานํ อสาธารณตาปิ อตฺถีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘านา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ.

พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อริยนฺติกถาวณฺณนา

๓๕๗. สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺสาติ ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺเ สงฺขาเร สนฺธาย ‘‘สุฺตฺจ มนสิ กโรตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานนฺตสฺส. ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานํ กถํ อาปชฺชติ านาานภูเต สงฺขาเร วุตฺตนเยน สุฺตํ มนสิ กโรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺตนเยนาติ ‘‘ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ ปกาเรน นเยน. อถ วา ยถาวุตฺตนเยนาติ ‘‘านาานมนสิกาโร สงฺขารารมฺมโณ, สุฺตามนสิกาโร นิพฺพานารมฺมโณ’’ติ เอวํ วุตฺตนเยน. ‘‘สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานํ กถํ อาปชฺชตี’’ติ อาห. สตฺตสุฺตาย สุฺตฺเตปิ สงฺขารานํ อฺโว านาานมนสิกาโร, อฺโ สุฺตามนสิกาโรติ ยุชฺชเตว ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานาปตฺติโจทนา, สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺส ปน กถํ อริยภาวสิทฺธิ านาานาณาทีนนฺติ วิจาเรตพฺพํ. กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตาย. อุมฺมตฺตกปจฺฉิสทิโส หิ ปรวาทิวาโท. อฺเสุปิ าเนสุ อีทิเสสุ เอเสว นโย. อาโรเปตฺวาติ อิตฺถิปุริสาทิอาการํ, สตฺตาการเมว วา อสนฺตํ รูปาทิอุปาทาเน อาโรเปตฺวา. อภูตาโรปนฺเหตฺถ ปณิทหนนฺติ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘ปริกปฺปนวเสนา’’ติ. โสติ ยถาวุตฺโต ปณิธิ. เอกสฺมิมฺปิ ขนฺเธ.

อริยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา

๓๖๖. มคฺคกฺขเณ จิตฺตํ เอกเทเสน วิมุตฺตํ เอกเทเสน อวิมุตฺตนฺติ อยํ ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมาน’’นฺติ ลทฺธิยา โทโส. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เอกเทสํ วิมุตฺตํ, เอกเทสํ อวิมุตฺต’’นฺติ. อฏฺกถายฺจ ‘‘ตฺหิ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺเตกเทเสน วิมุจฺจมานนฺติสฺส ลทฺธี’’ติ ทสฺสิโตวายมตฺโถ. วิปฺปกตนิทฺเทเสติ วิมุจฺจนกิริยาย อปริโยสิตตานิทฺเทเส. ยํ สนฺธายาห ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานนฺติ วิปฺปกตภาเวน วุตฺตตฺตา’’ติ. เตนาติ ปรวาทินา. วิมุจฺจ…เป… วุตฺตํ วิมุจฺจมานสฺส วิมุตฺตภาวาภาวโต, วิมุตฺตเภเทน ปน ตถา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สติ จ โทเส วิปฺปกตนิทฺเทเสติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เอกเทโส วิเสสนํ โหติ นิปฺปเทสวิมุตฺติยา อวิจฺฉินฺนโต. ผลจิตฺเตนาติ ปมผลจิตฺเตน อุปฺปนฺเนน.

วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อฏฺมกกถาวณฺณนา

๓๖๘. ปหีนา นาม ภเวยฺยุํ, น ปหิยฺยมานาติ อธิปฺปาโย.

อฏฺมกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๓๗๑. โลกุตฺตรานํเยว สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยภาโว, น โลกิยานนฺติ ปรวาทิโน อธิปฺปายวเสนาห ‘‘อปฺปฏิลทฺธินฺทฺริยตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิยฺยานิกานิ ภาเวนฺโตติ ยถา นิยฺยานิกา โหนฺติ, เอวํ อุปฺปาเทนฺโต พฺรูเหนฺโต วา. อินฺทฺริยภาวํ ปน ปตฺเตสุ เตสุ ปุน ภาวนากิจฺจํ นตฺถีติ ตสฺส อธิปฺปาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น ปน อินฺทฺริยานิ ภาเวนฺโต’’ติ.

อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา

๓๗๓. วิสิโนติ วิเสเสน พนฺธติ วิสยีนํ อตฺตปฏิพนฺธํ กโรตีติ วิสโย, อารมฺมณํ, อนุภวติ เอเตนาติ อานุภาโว, สามตฺถิยํ, พลนฺติ อตฺโถ, โคจรกรณํ โคจโร, วิสเย อานุภาวโคจรา วิสย…เป… จราติ. เตหิ ยถา วิสิฏฺํ วิเสสํ โหติ, ตถา ปจฺจยภูเตน ฌานธมฺเมน อาหิตพลํ กตพลาธานํ. วิสยคฺคหณฺเจตฺถ อานุภาวโคจรกรณานํ ปวตฺติฏฺานทสฺสนํ ยตฺถสฺส เตหิ อุปตฺถทฺธตฺตา พลาธานํ ปากฏํ โหติ. เตนาห ‘‘ยาทิเส วิสเย’’ติอาทิ. พลาธานฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมโต มหคฺคตธมฺมวิเสสโต อุปฺปนฺเนหิ ปณีเตหิ จิตฺตชรูเปหิ วิเสสาปตฺติ. ยํ นิสฺสาย ปราวุตฺตีติ เอเก วทนฺติ. ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมวาติ ยถาวุตฺตพลาธานโต ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมว. วทนฺโต สงฺคหกาโร. วิสยคฺคหณํ ปาฬิยํ กตํ. น วิสยวิเสสทสฺสนตฺถนฺติ น วิสยสฺส วิเสสทสฺสนตฺถํ. ยโต อุภินฺนมฺปิ รูปายตนเมว วิสโยติ วิสยสฺส สทิสตํ อวิเสสํ อาห, สทิสสฺส วา วิเสสํ ทีเปตีติ โยชนา.

ธมฺมุปตฺถทฺธ …เป… อธิปฺปาโย, อฺถา ลทฺธิเยว น สิยาติ ภาโว. มคฺโคติ อุปาโย, การณนฺติ อตฺโถ. ปกติจกฺขุมโต เอว หิ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ. กสฺมา? กสิณาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อุปฺปาทนํ, โส จ กสิณมณฺฑเล อุคฺคหนิมิตฺเตน วินา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มํสจกฺขุปจฺจยตาทสฺสนตฺถเมว วุตฺต’’นฺติ. เตนาติ ‘‘มคฺโค’’ติ วจเนน. รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยนาติ รูปาวจรชฺฌาเนน ปจฺจยภูเตน อุปฺปนฺนานิ รูปาวจรชฺฌานจิตฺตสมุฏฺิตานิ. ฌานกมฺมสมุฏฺิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺส เหสา ลทฺธิ.

๓๗๔. เยน ทิพฺพจกฺขุโน ปฺาจกฺขุภาวสฺส อิจฺฉเนน ปฏิชานเนน. ตีณิ จกฺขูนิ มํสทิพฺพปฺาจกฺขูนิ จกฺขุนฺตรภาวํ วทโต ภเวยฺยุํ, ตสฺมา ตํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ.

ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา

๓๗๗. ทิพฺพจกฺขุปาทกตฺตา ‘‘ยถากมฺมูปคตาณสฺส อุปนิสฺสเย ทิพฺพจกฺขุมฺหี’’ติ วุตฺตํ, น ยถากมฺมูปคตชานนกิจฺจเก ทิพฺพจกฺขุมฺหิ ตสฺส ตํกิจฺจกตาภาวโต. ยโต ยํ อนฺํ, ตมฺปิ ตโต อนฺเมวาติ อาห ‘‘อิมินา…เป… ภวิตพฺพ’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรตีติ ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปกฺขิกตฺตา ยถากมฺมูปคตาณสฺส ตโต อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรติ. ตสฺส หิ ตํ ปริภณฺฑาณํ. ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตาณโต อตฺถนฺตรภาวํ น นิวาเรติ อตปฺปกฺขิกตฺตาติ อธิปฺปาโย. ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตาณกิจฺจตา ปรวาทินา อิจฺฉิตา, น ยถากมฺมูปคตาณสฺส ทิพฺพจกฺขุกิจฺจตาติ ตมตฺถํ ‘‘ยถากมฺมูปคตาณเมว ทิพฺพจกฺขุ’’นฺติ เอตฺถ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว-สทฺโท จา’’ติอาทิมาห.

ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สํวรกถาวณฺณนา

๓๗๙. อาฏานาฏิยสุตฺเต ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ยกฺขา เยภุยฺเยน ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรตา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๗๖, ๒๘๖) อาคตตฺตา จาตุมหาราชิกานํ สํวราสํวรสพฺภาโว อวิวาทสิทฺโธ. ยตฺถ ปน วิวาโท, ตเมว ทสฺเสนฺเตน ตาวตึสาทโย คหิตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘จาตุมหาราชิกาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ สตีติ ยทิ ตาวตึเสสุ สํวราสํวโร นตฺถิ, เอวํ สนฺเต. สุราปานนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สุยฺยตี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. กถํ สุยฺยตีติ? วุตฺตฺเหตํ กุมฺภชาตเก

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา ปุพฺพเทวา ปมตฺตา,

ติทิวา จุตา สสฺสติยา สมายา;

ตํ ตาทิสํ มชฺชมิมํ นิรตฺถํ,

ชานํ มหาราช กถํ ปิเวยฺยา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๕๘);

ตตฺถ ปุพฺพเทวา นาม อสุรา. เต หิ ตาวตึสานํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺพเทวาติ ปฺายึสุ. ปมตฺตาติ สุราปาเนน ปมาทํ อาปนฺนา. ติทิวาติ มนุสฺสจาตุมหาราชิกโลเก อุปาทาย ตติยโลกภูตา เทวฏฺานา, นามเมว วา เอตํ ตสฺส เทวฏฺานสฺส. สสฺสติยาติ เกวลํ ทีฆายุกตํ สนฺธาย วทติ. สมายา สห อตฺตโน อสุรมายาย, อสุรมนฺเตหิ สทฺธึ จุตาติ อตฺโถ. อฏฺกถายฺจ วุตฺตํ ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตาติ เนวาสิกา คนฺธปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก สกปริสาย สฺมทาสี’’ติ. เตนาห ‘‘เตสํ สุราปานํ อสํวโร น โหตีติ วตฺตพฺพํ โหตี’’ติ. เอตฺถ จ ตาวตึสานํ ปาตุภาวโต ปฏฺาย สุราปานมฺปิ ตตฺถ นาโหสิ, ปเคว ปาณาติปาตาทโยติ วิรมิตพฺพาภาวโต เอว ตาวตึสโต ปฏฺาย อุปริ เทวโลเกสุ สมาทานสมฺปตฺตวิรติวเสน ปุเรตพฺพา สํวรา น สนฺติ, โลกุตฺตรา ปน สนฺติเยว. ตถา เตหิ ปหาตพฺพา อสํวรา. น หิ อปฺปหีนานุสยานํ มคฺควชฺฌา กิเลสา น สนฺตีติ.

สํวรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา

๓๘๗. คิหิฉนฺทราคสมฺปยุตฺตตายาติ คิหิภาเว กามโภคิภาเว ฉนฺทราคสหิตตาย.

คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๓. ปตฺตินฺติ อธิคโม. อธิคโม นาม สมนฺนาคโม โหตีติ ปาฬิยํ จตูหิ ผสฺสาทีหิ สมนฺนาคโม โจทิโตติ ทฏฺพฺพํ.

สมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๗. สพฺพํ โยเชตพฺพนฺติ เอตฺถ ยทิ เต อรหา จตูหิ ขนฺเธหิ วิย ฉหิ อุเปกฺขาหิ สมนฺนาคโต, เอวํ สนฺเต ฉ อุเปกฺขา ปจฺเจกํ ผสฺสาทิสหิตาติ ‘‘ฉหิ ผสฺสาทีหิ สมนฺนาคโต’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ.

อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา

๓๙๘. ปตฺติธมฺมวเสนาติ ‘‘ปตฺติธมฺโม นามา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส จิตฺตวิปฺปยุตฺตสฺส สงฺขารสฺส วเสน. ‘‘โพธิยา พุทฺโธ’’ติ ปุจฺฉา. ‘‘โพธิยา นิรุทฺธาย วิคตาย ปฏิปฺปสฺสทฺธาย อพุทฺโธ โหตี’’ติ อนุโยโค. เอวมฺตฺถาปิ ปุจฺฉานุโยคา เวทิตพฺพา.

โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ลกฺขณกถาวณฺณนา

๔๐๒. ตสฺมาติ ยสฺมา อโพธิสตฺตสฺสปิ จกฺกวตฺติโน ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโม โพธิสตฺตสฺสปิ จริมภวโต อฺตฺถ อสมนฺนาคโม โหติ, ตสฺมา ลกฺขณสมนฺนาคโต โพธิสตฺโตวาติ อิมสฺสตฺถสฺส อสาธกํ. เตนาห ‘‘อาภตมฺปิ อนาภตสทิสเมวา’’ติ.

ลกฺขณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา

๔๐๓. ปารมีปูรณนฺติ อิทํ โพธิจริยาย อุปลกฺขณํ, น ปารมีนํ ปุณฺณภาวทสฺสนํ. เตน เตสํ อารมฺภสมาทานาทีนมฺปิ สงฺคโห กโตติ ทฏฺพฺพํ. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ มหาสตฺตา นิยตาติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา’’ติ, ‘‘ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จ, น นิยามสฺส นาม กสฺสจิ ธมฺมสฺส อุปฺปนฺนตฺตา พฺยากโรนฺติ, อถ โข เอกํเสนายํ ปารมิโย ปูเรตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสตีติ กตฺวา พฺยากโรนฺตีติ ปรวาทีปริกปฺปิตํ ธมฺมนฺตรํ ปฏิเสเธติ, น โพธิยา นิยตตฺตํ. เตนาห ‘‘เกวลฺหิ น’’นฺติอาทิ.

นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา

๔๑๓. สติปิ เกสฺจิ สํโยชนานํ เหฏฺิมมคฺเคหิ ปหีนตฺเต ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติอาทีสุ วิย วณฺณภณนมุเขน อนวเสสตฺจ สนฺธาย สพฺพสํโยชนปฺปหานกิตฺตนํ ปริยายวจนนฺติ อาห ‘‘อิมํ ปริยายํ อคฺคเหตฺวา’’ติ. อรหตฺตมคฺเคน ปชหนโต เอวาติ คณฺหาตีติ อคฺคมคฺโค เอว สพฺพสํโยชนานิ ปชหตีติ ลทฺธึ คณฺหาตีติ วทนฺติ ปทการา. เอวํ สตีติ ยทิ อนวเสสตามตฺเตน ตถา ปฏิชานาติ.

สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมวคฺโค

๑. วิมุตฺติกถาวณฺณนา

๔๑๘. ผลาณํ น โหติ, เสสานิ วิปสฺสนามคฺคปจฺจเวกฺขณาณานิ วิมุตฺตานีติ น วตฺตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ าเณสุ. วิปสฺสนาคฺคหเณน คหิตํ มคฺคาทิกิจฺจวิทูรกิจฺจตฺตา วิปสฺสนาปริโยสานตฺตา จ.

วิมุตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อเสขาณกถาวณฺณนา

๔๒๑. อเสเข อารพฺภ ปวตฺตตฺตา อเสขาณนฺติ ปรสฺส ลทฺธิ, น อเสเข อเสขธมฺเม ปริยาปนฺนนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘เอเตน…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

อเสขาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. วิปรีตกถาวณฺณนา

๔๒๔. อสิเว สิวาติ โวหารํ วิย อฺาเณ…เป… วทติ.

วิปรีตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิยามกถาวณฺณนา

๔๒๘-๔๓๑. นฺติ ยํ าณํ. สจฺจานุโลมนฺติ สจฺจปฺปฏิเวธานุกูลํ. วิปรีตานุโยคโต ปภุติ คเณตฺวา ‘‘จตุตฺถ’’นฺติ อาห น อนิยตสฺส นิยามคมนายาติ อวิปรีตานุโยคโต ปภุติ คเณตฺวา, ตถา สติ ปฺจมภาวโต วิเสสภาวโต จ.

นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา

๔๓๒-๔๓๓. สพฺพํ าณนฺติ อิทํ ‘‘อริยาน’’นฺติ อิมินา น วิเสสิตนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อนริยานมฺปิ หิ าณํ าณเมวา’’ติ. อถ วา ปาฬิยํ อวิเสเสน สพฺพํ าณนฺติ วุตฺตํ คเหตฺวา เอวมาห. อริยสฺส เจ าณนฺติ, โส ปน ปฏิกฺเขเปยฺยาติ อาห ‘‘อนริยสฺส เอตํ าณํ สนฺธายา’’ติ.

ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา

๔๓๖-๔๓๘. วตฺตพฺพปฏิฺาติ ผสฺสารมฺมเณ าณํ วตฺตพฺพํ เจโตปริยาณนฺติ เอวํ ปวตฺตา ปฏิฺา.

จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อนาคตาณกถาวณฺณนา

๔๓๙-๔๔๐. อนนฺตรานาคเตปิ จิตฺเต าณํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปน ขณปจฺจุปฺปนฺเน วิย ตาทิเสน ปริกมฺเมน กทาจิ าณํ อุปฺปชฺเชยฺย. เตนาห ‘‘อนนฺตเร เอกนฺเตเนว าณํ นตฺถี’’ติ.

อนาคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา

๔๔๑-๔๔๒. ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจโต ทิฏฺเสู’’ติ วุตฺเต ยํ ทสฺสนภูตํ าณํ, ตมฺปิ สงฺขารสภาวตฺตา ตถาทิฏฺํ สิยาติ อตฺถโต อาปชฺชติ, เอวํภูตํ วจนํ สนฺธายาห ‘‘อตฺถโต อาปนฺนํ วจน’’นฺติ. ตํ ปน ยสฺมา ‘‘ตมฺปิ าณํ อนิจฺจโต ทิฏฺํ โหตี’’ติ ปฏิชานนวเสน ปวตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อนุชานนวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ภงฺคานุปสฺสนานํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตมานานํ.

ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ผลาณกถาวณฺณนา

๔๔๓-๔๔๔. ผลปโรปริยตฺตํ ผลสฺส อุจฺจาวจตา. พเลนาติ าณพเลน.

ผลาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาปณฺณาสโก สมตฺโต.

๖. ฉฏฺวคฺโค

๑. นิยามกถาวณฺณนา

๔๔๕-๔๔๗. เอตสฺส อริยสฺส ปุคฺคลสฺส.

นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา

๔๕๑. การณฏฺเน ิตตาติ การณภาเวน พฺยภิจรณาภาวมาห. โย หิ ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส ยทา การณํ โหติ, น ตสฺส ตทา อฺถาภาโว อตฺถิ, สา จ อตฺถโต การณภาโวเยวาติ ‘‘การณภาโวเยวา’’ติ อาห.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา

๔๕๗-๔๕๙. สภาวธมฺมตํ ปฏิเสเธติ ตทุภยลกฺขณรหิตสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวา. ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วจนโต ‘‘โวทานฺจ วุฏฺานปริยาโยวา’’ติ อาห. สภาวธมฺมตฺเต สิทฺเธ สงฺขตวิทูรตาย อสงฺขตํ สิยาติ อาห ‘‘สภาวธมฺมตฺตาสาธกตฺตา’’ติ.

นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉฏฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมวคฺโค

๑. สงฺคหิตกถาวณฺณนา

๔๗๑-๔๗๒. สงฺคหิตาติ สงฺคหณาทิวเสน สทฺธึ คหิตา. เต ปน ยสฺมา เอกวิธตาทิสามฺเน พนฺธา วิย โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘สมฺพนฺธา’’ติ.

สงฺคหิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา

๔๗๓-๔๗๔. อนุปฺปวิสิตพฺพานุปฺปวิสนภาโว เตสํ เภเท สติ ยุชฺเชยฺย, นาฺถาติ อุปมาภินฺทเนน อุปเมยฺยสฺส ภินฺนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นานตฺตววตฺถา…เป… ทสฺเสตี’’ติ อาห.

สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เจตสิกกถาวณฺณนา

๔๗๕-๔๗๗. ผสฺสิกาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ววตฺถาวาจี. เตน จิตฺตุปฺปาทเทสนายํ ทสฺสิตปฺปเภทา เวทนาทโย คยฺหนฺติ, น ตํสมุฏฺานา รูปธมฺมาติ อาห ‘‘เอกุปฺปาทตาทิวิรหิตา สหชาตตา นตฺถี’’ติ.

เจตสิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทานกถาวณฺณนา

๔๗๙. ผลทานภาวทีปนตฺถนฺติ ผลทานสพฺภาวทีปนตฺถํ. ผลทานํ วุตฺตํ วิย โหตีติ จิตฺเตน ผลทานํ ปธานภาเว วุตฺตํ วิย โหตีติ อตฺโถ. อฺถา ทานภาโวติ น สกฺกา วตฺตุํ. ทานภาโวปิ หิ ‘‘ทานํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทินา วุตฺโตเยวาติ. ตนฺนิวารณตฺถนฺติ ผลทานนิวารณตฺถํ. เอตนฺติ ‘‘ทานํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทิวจนํ. เภสชฺชาทิวเสน อาพาธานิฏฺตา เทยฺยธมฺมสฺส อนิฏฺผลตาปริยาโย ทฏฺพฺโพ.

กถํ ตเถว สุตฺตํ สกวาทิปรวาทิวาเทสุ ยุชฺชตีติ โจทนาย ‘‘น ปน เอเกนตฺเถนา’’ติ วุตฺตํ วิภาเวตุํ ‘‘เทยฺยธมฺโมว ทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิวตฺตนปกฺเขเยว เอว-กาโร ยุตฺโต, น สาธนปกฺเข ทฺวินฺนมฺปิ ทานภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตนาห ‘‘เจตสิโกวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เทยฺยธมฺโมวา’’ติ จ. เตเนวาห ‘‘ทฺวินฺนฺหิ ทานานนฺติอาทิ. สงฺกรภาวโมจนตฺถนฺติ สติปิ ทานภาเว สภาวสงฺกรโมจนตฺถํ. เตนาห ‘‘เจตสิกสฺสา’’ติอาทิ.

ทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา

๔๘๕. ตสฺสา ลทฺธิยาติ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สโมธานํ โหตีติ ลทฺธิยา. เอเตสนฺติ วตฺตมานจิตฺตปริโภคมยปุฺานํ.

๔๘๖. อยํ วาโท หียติ ปริโภคสฺเสว อภาวโต. จาคเจตนาย เอว ปุฺภาโว, น จิตฺตวิปฺปยุตฺตสฺส. เอวนฺติ อิมินา ปกาเรน, อปริภุตฺเต เทยฺยธมฺเม ปุฺภาเวนาติ อตฺโถ. อปริภุตฺเต เทยฺยธมฺเม ปุฺภาวโต เอว หิ ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ อรหา หุตฺวา ปริภุฺชนฺเต ตมฺปิ ปุถุชฺชเน ทานเมวาติ นิจฺฉิตํ. ปรวาทีปฏิกฺเขปมุเขน สกวาทํ ปติฏฺาเปติ ปโม อตฺถวิกปฺโป, ทุติโย ปน อุชุกเมว สกวาทํ ปติฏฺาเปตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อิโตทินฺนกถาวณฺณนา

๔๘๘-๔๙๑. เตเนว จีวราทิทาเนนาติ อนุโมทนํ วินา ทายเกน ปวตฺติตจีวราทิทาเนน. เตนาห ‘‘สยํกเตน กมฺมุนา วินาปี’’ติ. อิมินา การเณนาติ อนุโมทิตตฺตาว เตสํ ตตฺถ โภคา อุปฺปชฺชนฺตีติ เอเตน การเณน. ยทิ ยนฺติอาทิ ปรวาทิโน ลทฺธิปติฏฺาปนาการทสฺสนํ. ตตฺถ ยทิ น ยาเปยฺยุํ, กถํ อนุโมเทยฺยุํ, จิตฺตํ ปสาเทยฺยุํ , ปีตึ อุปฺปาเทยฺยุํ, โสมนสฺสํ ปฏิลเภยฺยุนฺติ เอกจฺเจ อฺเ เปเต อนุโมทนาทีนิ กตฺวา ยาเปนฺเต ทิสฺวา อนุโมทนาทีนิ กโรนฺติ, ตสฺมา เต อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺตีติ อธิปฺปาโย.

อิโตทินฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๒. อตฺตวชฺเชหีติ ผสฺสวชฺเชหิ. น หิ โส เอว เตน สมฺปยุตฺโต โหติ. โสติ ผสฺสเมว ปจฺจามสติ. สาวชฺชเนติ อาวชฺชนสหิเต, อาวชฺชนํ ปุเรจาริกํ กตฺวา เอว ปวตฺตนเกติ อตฺโถ. กมฺมูปนิสฺสยภูตเมวาติ เยน กมฺมุนา ยถาวุตฺตา ผสฺสาทโย นิพฺพตฺติตา, ตสฺส กมฺมสฺส อุปนิสฺสยภูตเมว. ทุกฺขสฺสาติ อายตึ อุปฺปชฺชนกทุกฺขสฺส. ‘‘มูลตณฺหา’’ติ ทสฺเสตีติ โยชนา, ตถา ‘‘อุปนิสฺสยภูต’’นฺติ เอตฺถาปิ. กมฺมายูหนสฺส การณภูตา ปุริมสิทฺธา ตณฺหา กมฺมสฺส อุปนิสฺสโย, กตูปจิเต กมฺเม ภวาทีสุ นมนวเสน ปวตฺตา หิ วิปากสฺส อุปนิสฺสโย.

๔๙๓. โอกาสกตุปฺปนฺนํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานภาโว สกสมยวเสน โจทนาย ยุชฺชมานตา.

๔๙๔. กมฺเม สตีติ อิมินา กมฺมสฺส ปถวีอาทีนํ ปจฺจยตามตฺตมาห, น ชนกตฺตํ. เตนาห ‘‘ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหตี’’ติ.

ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๕. เอการมฺมณาติ อิทํ อนารมฺมณตาสาธนวเสน สมฺปโยคลกฺขณาภาวสฺส อุทฺธฏตฺตา วุตฺตํ, น ตสฺเสว สมฺปโยคลกฺขณตฺตา.

๔๙๖. อพฺยากตานนฺติ วิปากาพฺยากตานํ. อิตรตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

๔๙๗. นฺติ ‘‘อปริสุทฺธวณฺณตา ชราเยวา’’ติ วจนํ.

ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา

๕๐๑. วิปาโก วิปากสฺส ปจฺจโย โหนฺโต อฺมฺปจฺจโย โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ยสฺส วิปากสฺส วิปาโก อฺมฺปจฺจโย โหตี’’ติ. ‘‘ตปฺปจฺจยาปิ อฺสฺส วิปากสฺส อุปฺปตฺตึ สนฺธายา’’ติอาทิวจนโต ปน ชาติชรามรณาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโยติ สกฺกา วิฺาตุํ. ปุริมปฏิฺายาติ ‘‘วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม’’ติ ปฏิฺาย. อิมสฺส โจทนสฺสาติ ‘‘วิปาโก จ วิปากธมฺมธมฺโม จา’’ติอาทินา ปวตฺตสฺส โจทนสฺส.

วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมวคฺโค

๑. ฉคติกถาวณฺณนา

๕๐๓-๕๐๔. วณฺณา เอว นีลาทิวเสน นิภาตีติ วณฺณนิภา, วณฺณายตนนฺติ อตฺโถ. สณฺานํ ทีฆาทิ.

ฉคติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา

๕๐๕. อนฺตรฏฺานานีติ อนฺตริกฏฺานานิ. นิวารกฏฺานานิ ภินฺทิตฺวา จ อากาเสน จ คมนโต. ยทิ โส ภวานํ อนฺตรา น สิยาติ โส อนฺตราภโว กามภวาทีนํ ภวานํ อนฺตเร ยทิ น ภเวยฺย. น นาม อนฺตราภโวติ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ นาม อนฺตราภโว’’ติ เอวํ ปวตฺตสฺส สกวาทิวจนสฺส ปฏิกฺเขเป การณํ นตฺถิ, ตสฺส ปฏิกฺเขเป การณํ หทเย เปตฺวา น ปฏิกฺขิปติ, อถ โข ตถา อนิจฺฉนฺโต เกวลํ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตีติ อตฺโถ.

๕๐๖. ชาตีติ น อิจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ.

๕๐๗. เอวํ ตํ ตตฺถ น อิจฺฉตีติ กามภวาทีสุ วิย ตํ จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรํ ตตฺถ อนฺตราภวาวตฺถาย น อิจฺฉติ. โส หิ ตสฺส ภาวิภวนิพฺพตฺตกกมฺมโต เอว ปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ชาติชรามรณานิ อนิจฺจโต กุโต จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรา. อยฺจ วาโท อนฺตราภววาทีนํ เอกจฺจานํ วุตฺโต. เย ‘‘อปฺปเกน กาเลน สตฺตาเหเนว วา ปฏิสนฺธึ ปาปุณาตี’’ติ วทนฺติ, เย ปน ‘‘ตตฺเถว จวิตฺวา อายาตีติ สตฺตสตฺตาหานี’’ติ วทนฺติ, เตหิ อนุฺาตาว จุติปฏิสนฺธิปรมฺปราติ เต อธุนาตนา ทฏฺพฺพา ปาฬิยํ ‘‘อนฺตราภเว สตฺตา ชายนฺติ ชียนฺติ มียนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺตีติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ อาคตตฺตา. ยถา เจตํ, เอวํ นิรยูปคาทิภาวมฺปิสฺส อธุนาตนา ปฏิชานนฺติ. ตถา หิ เต วทนฺติ ‘‘อุทฺธํปาโท ตุ นารโก’’ติอาทิ. ตตฺถ ยํ นิสฺสาย ปรวาที อนฺตราภวํ นาม ปริกปฺเปติ, ตํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายีติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺส หิ ‘‘อวิหาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนวเสสกิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ, อนฺตราปรินิพฺพายี’’ติ สุตฺตปทสฺส อยมตฺโถ, น อนฺตราภวภูโตติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายีติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา’’ติ.

เย ปน ‘‘สมฺภเวสีติ วจนโต อตฺเถว อนฺตราภโว. โส หิ สมฺภวํ อุปปตฺตึ เอสตีติ สมฺภเวสี’’ติ วทนฺติ, เตปิ เย ภูตาว น ปุน ภวิสฺสนฺติ, เต ขีณาสวา ‘‘ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา’’ติ เอตฺถ ‘‘ภูตา’’ติ วุตฺตา. ตพฺพิธุรตาย สมฺภวเมสนฺตีติ สมฺภเวสิโน, อปฺปหีนภวสํโยชนตฺตา เสกฺขา ปุถุชฺชนา. จตูสุ วา โยนีสุ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา ยาว อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสฺจ น ภินฺทนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, อณฺฑโกสโต วตฺถิโกสโต จ นิกฺขนฺตา ภูตา นาม. สํเสทชโอปปาติกา จ ปมจิตฺตกฺขเณ สมฺภเวสี นาม, ทุติยจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ภูตา นาม. เยน วา อิริยาปเถน ชายนฺติ, ยาว ตโต อฺํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, ตโต ปรํ ภูตา นามาติ เอวํ อุชุเก ปาฬิอนุคเต อตฺเถ สติ กึ อนิทฺธาริตสฺส ปตฺถิเยน อนฺตราภเวน อตฺตภาเวน ปริกปฺปิเตน ปโยชนนฺติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา.

ยํ ปเนเก ‘‘สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาโว ทิฏฺโ. ยถา ตํ วีหิอาทิอวิฺาณกสนฺตาเน, เอวํ สวิฺาณกสนฺตาเนปิ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเร ปาตุภาเวน ภวิตพฺพํ. อยฺจ นโย สติ อนฺตราภเว ยุชฺชติ, นาฺถา’’ติ ยุตฺตึ วทนฺติ, เตหิ อิทฺธิมโต เจโตวสิปฺปตฺตสฺส จิตฺตานุคติกํ กายํ อธิฏฺหนฺตสฺส ขเณน พฺรหฺมโลกโต อิธูปสงฺกมเน อิโต วา พฺรหฺมโลกูปคมเน ยุตฺติ วตฺตพฺพา. ยทิ สพฺพตฺเถว วิจฺฉินฺนเทเส ธมฺมานํ ปวตฺติ น อิจฺฉิตา, ยทิปิ สิยา ‘‘อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสโย อจินฺเตยฺโย’’ติ, ตํ อิธาปิ สมานํ ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย’’ติ วจนโต, ตสฺมา ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. อจินฺเตยฺยสภาวา หิ สภาวธมฺมา, เต กตฺถจิ ปจฺจยวเสน วิจฺฉินฺนเทเส ปาตุภวนฺติ, กตฺถจิ อวิจฺฉินฺนเทเส จ. ตถา หิ มุขโฆสาทีหิ ปจฺจเยหิ อฺสฺมึ เทเส อาทาสปพฺพตปเทสาทิเก ปฏิพิมฺพปฏิโฆสาทิกํ นิพฺพตฺตมานํ ทิฏฺนฺติ.

เอตฺถาห – ปฏิพิมฺพํ ตาว อสิทฺธตฺตา อสทิสตฺตา จ น นิทสฺสนํ. ปฏิพิมฺพฺหิ นาม อฺเทว รูปนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ อสิทฺธเมตํ. สิทฺธิยมฺปิ อสทิสตฺตา น นิทสฺสนํ สิยา เอกสฺมึ าเน ทฺวินฺนํ สหานาภาวโต. ยตฺเถว หิ อาทาสรูปํ ปฏิพิมฺพรูปฺจ ทิสฺสติ, น จ เอกสฺมึ เทเส รูปทฺวยสฺส สหภาโว ยุตฺโต นิสฺสยภูตเทสโต, อสทิสฺเจตํ สนฺธานโต. น หิ มุขสฺส ปฏิพิมฺพสนฺธานภูตํ อาทาสสนฺธานสมฺพนฺธตฺตา สนฺธานํ อุทฺทิสฺส อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเร ปาตุภาโว วุจฺจติ, น อสนฺตานนฺติ อสมานเมว ตนฺติ.

ตตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘ปฏิพิมฺพํ นาม อฺเทว รูปนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ อสิทฺธํ เอกสฺมึ าเน ทฺวินฺนํ สหานภาวโต’’ติ, ตยิทํ อสนฺตานเมว สหานํ โจทิตํ ภินฺนนิสฺสยตฺตา. น หิ ภินฺนนิสฺสยานํ สหานํ อตฺถิ. ยถา อเนเกสํ มณิทีปาทีนํ ปภารูปํ เอกสฺมึ ปเทเส ปวตฺตมานํ อจฺฉิตมานตาย นิรนฺตรตาย จ อภินฺนฏฺานํ วิย ปฺายติ, ภินฺนนิสฺสยตฺตา ปน ภินฺนฏฺานเมว ตํ, คหณวิเสเสน ตถาอภินฺนฏฺานมตฺตํ, เอวํ อาทาสรูปปฏิพิมฺพรูเปสุปิ ทฏฺพฺพํ. ตาทิสปจฺจยสมวาเยน หิ ตตฺถ ตํ อุปฺปชฺชติ เจว วิคจฺฉติ จ, เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาวูปคมนโต. อฺถา อาโลเกน วินาปิ ปฺาเยยฺย, จกฺขุวิฺาณสฺส วา น โคจโร วิย สิยา. ตสฺส ปน สามคฺคิยา โส อานุภาโว, ยํ ตถา ทสฺสนํ โหตีติ. อจินฺเตยฺโย หิ ธมฺมานํ สามตฺถิยเภโทติ วทนฺเตนปิ อยเมวตฺโถ สาธิโต ภินฺนนิสฺสยสฺสปิ อภินฺนฏฺานสฺส วิย อุปฏฺานโต. เอเตเนว อุทกาทีสุ ปฏิพิมฺพรูปาภาวโจทนา ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา.

สิทฺเธ จ ปฏิพิมฺพรูเป ตสฺส นิทสฺสนภาโว สิทฺโธเยว โหติ เหตุผลานํ วิจฺฉินฺนเทสตาวิภาวนโต. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อสทิสตฺตา น นิทสฺสน’’นฺติ, ตทยุตฺตํ. กสฺมา? น หิ นิทสฺสนํ นาม นิทสฺสิตพฺเพน สพฺพทา สทิสเมว โหติ. จุติกฺขนฺธาธานโต วิจฺฉินฺนเทเส อุปปตฺติกฺขนฺธา ปาตุภวนฺตีติ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธนตฺถํ มุขรูปโต วิจฺฉินฺเน าเน ตสฺส ผลภูตํ ปฏิพิมฺพรูปํ นิพฺพตฺตตีติ เอตฺถ ตสฺส นิทสฺสนตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอเตน อสนฺตานโจทนา ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา.

ยสฺมา วา มุขปฏิพิมฺพรูปานํ เหตุผลภาโว สิทฺโธ, ตสฺมาปิ สา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ. เหตุผลภาวสมฺพนฺเธสุ หิ สนฺตานโวหาโร. ยถาวุตฺตทฺวีหิการเณหิ ปฏิพิมฺพํ อุปฺปชฺชติ พิมฺพโต อาทาสโต จ, น เจวํ อุปปตฺติกฺขนฺธานํ วิจฺฉินฺนเทสุปฺปตฺติ. ยถา เจตฺถ ปฏิพิมฺพรูปํ นิทสฺสิตํ, เอวํ ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทโยปิ นิทสฺสิตพฺพา. ยถา หิ ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทโย สทฺทาทิเหตุกา โหนฺติ, อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺติ, เอวเมว อิทํ จิตฺตนฺติ.

อปิจายํ อนฺตราภววาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ยทิ ‘‘ธมฺมานํ วิจฺฉินฺนเทสุปฺปตฺติ น ยุตฺตา’’ติ อนฺตราภโว ปริกปฺปิโต, ราหุอาทีนํ สรีเร กถมเนกโยชนสหสฺสนฺตริเกสุ ปาทฏฺานหทยฏฺาเนสุ กายวิฺาณมโนวิฺาณุปฺปตฺติ วิจฺฉินฺนเทเส ยุตฺตา. ยทิ เอกสนฺตานภาวโต, อิธาปิ ตํสมานํ. น เจตฺถ อรูปธมฺมภาวโต อลํ ปริหาราย ปฺจโวกาเร รูปารูปธมฺมานํ อฺมฺํ สมฺพนฺธตฺตา. วตฺตมาเนหิ ตาว ปจฺจเยหิ วิจฺฉินฺนเทเส ผลสฺส อุปฺปตฺติ สิทฺธา, กิมงฺคํ ปน อตีเตหิ ปฺจโวการภเวหิ. ยตฺถ วิปากวิฺาณสฺส ปจฺจโย, ตตฺถสฺส นิสฺสยภูตสฺส วตฺถุสฺส สหภาวีนฺจ ขนฺธานํ สมฺภโวติ ลทฺโธกาเสน กมฺมุนา นิพฺพตฺติยมานสฺส อวเสสปจฺจยนฺตรสหิตสฺส วิปากวิฺาณสฺส อุปฺปตฺติยํ นาลํ วิจฺฉินฺนเทสตา วิพนฺธาย. ยถา จ อเนกกปฺปสหสฺสนฺตริกาปิ จุติกฺขนฺธา อุปปตฺติกฺขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจโยติ น กาลทูรตา, เอวํ อเนกโยชนสหสฺสนฺตริกาปิ เต เตสํ อนนฺตรปจฺจโย โหนฺตีติ น เทสทูรตา. เอวํ จุติกฺขนฺธนิโรธานนฺตรํ อุปปตฺติฏฺาเน ปจฺจยนฺตรสมวาเยน ปฏิสนฺธิกฺขนฺธา ปาตุภวนฺตีติ นตฺเถว อนฺตราภโว. อสติ จ ตสฺมึ ยํ ตสฺส เกจิ ‘‘ภาวิภวนิพฺพตฺตกกมฺมุโน ตโต เอว ภาวิปุริมกาลภวากาโร สชาติสุทฺธทิพฺพจกฺขุโคจโร อหีนินฺทฺริโย เกนจิ อปฺปฏิหตคมโน คนฺธาหาโร’’ติ เอวมาทิการณาการาทึ วณฺเณนฺติ, ตํ วฺฌาตนยสฺส รสฺสทีฆสามตาทิวิวาทสทิสนฺติ เวทิตพฺพํ.

อนฺตราภวกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. กามคุณกถาวณฺณนา

๕๑๐. สพฺเพปีติ กุสลากุสลกฺขนฺธาทโยปิ. เตสมฺปิ หิ อาลมฺพนตฺถิกตาลกฺขณสฺส กตฺตุกมฺยตาฉนฺทสฺส วเสน สิยา กมนฏฺตาติ อธิปฺปาโย. ธาตุกถายํ ‘‘กามภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. กติหิ อสงฺคหิโต? น เกหิจิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา อสงฺคหิโต’’ติ อาคตตฺตา อาห ‘‘อุปาทินฺนกฺขนฺธานเมว กามภวภาโว ธาตุกถายํ ทสฺสิโต’’ติ. ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท, ตทฺคณนนิวตฺตนตฺโถติ ‘‘ปฺจ กามคุณา’’ติ วจนํ ตโต อฺเสํ ตพฺภาวํ นิวตฺเตตีติ อาห ‘‘ปฺเจว กามโกฏฺาสา กาโมติ วุตฺตา’’ติ. ตโต เอว กามธาตูติ วจนํ น อฺสฺส นามํ, เตสํเยว นามนฺติ อตฺโถ. ตยิทํ ปรวาทิโน มติมตฺตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติ. เอวํ วจนมตฺตนฺติ เอวํ ‘‘ปฺจิเม กามคุณา’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย, น ปนตฺถสฺส อวิปรีตํ อตฺถนฺติ อตฺโถ.

กามคุณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. รูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๕-๕๑๖. รูปธาตูติ วจนโตติ ‘‘กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตู’’ติ เอตฺถ รูปธาตูติ วุตฺตตฺตา. รูปีธมฺเมเหวาติ รุปฺปนสภาเวหิเยว ธมฺเมหิ. ‘‘ตโยเม ภวา’’ติอาทินา ปริจฺฉินฺนาติ ตโยเม ภวา, ติสฺโส ธาตุโยติ จ เอวํ ปริจฺฉินฺนา. ‘‘ธาตุยา อาคตฏฺาเน ภเวน ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ, ภวสฺส อาคตฏฺาเน ธาตุยา ปริจฺฉินฺทิตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, ตสฺมา กามรูปารูปาวจรธมฺมาว ตํตํภุมฺมภาเวน ปริจฺฉินฺนา เอวํ วุตฺตา.

รูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อรูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๗-๕๑๘. ปุริมกถายนฺติ รูปธาตุกถายํ. อวิเสเสนาติ ปวตฺติฏฺานวเสน วิเสสํ อกตฺวา.

อรูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา

๕๑๙. โอกาสภาเวนาติ วตฺถุภาเวน. ตถาวิธนฺติ ฆานาทิอาการํ.

รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อรูเปรูปกถาวณฺณนา

๕๒๔-๕๒๖. นิสฺสรณํ นาม นิสฺสริตพฺเพ สติ โหติ, น อสติ, ตสฺมา ‘‘อรูปภเว สุขุมรูปํ อตฺถิ, ยโต นิสฺสรณํ ตํ อารุปฺป’’นฺติ อาห.

อรูเปรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๕๒๗-๕๓๗. ปกปฺปยมานาติ ปกาเรหิ กปฺปยมานา อตฺตโน สมฺปยุตฺตานฺจ กิจฺจํ สมตฺถยมานา. เตนาห ‘‘สมฺปยุตฺเตสุ อธิกํ พฺยาปารํ กุรุมานา’’ติ.

รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๕๔๐. อนฺตํ คเหตฺวา วทตีติ ‘‘อตฺถิ อรูปธมฺมานํ อายุ ิติ ยปนา ยาปนา อิริยนา วตฺตนา ปาลนา, อตฺถิ อรูปชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ ตสฺมึ ปฺเห ‘‘อตฺถิ อรูปชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ อิมํ อนฺตํ ปริโยสานํ คเหตฺวา วทติ. วตฺตุํ ยุตฺโต สมุทายสฺส อิจฺฉนฺโต ตทวยวสฺส อิจฺฉตีติ. น หิ อวยเวหิ วินา สมุทาโย นาม อตฺถิ.

๕๔๑. ตเมวาติ อรูปํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตเมว.

๕๔๒. ตทาปีติ สมาปชฺชนวุฏฺานกาเลปิ.

๕๔๔-๕๔๕. โส ยุตฺโต ทฺวินฺนํ รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานํ สกสมเย อิจฺฉิตตฺตา.

ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. กมฺมเหตุกถาวณฺณนา

๕๔๖. ‘‘ปาณาติปาตกมฺมสฺส เหตู’’ติอาทิกสฺส ปริหานิกถายํ อนาคตตฺตา โย ตตฺถ อาคตนโย, ตเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘เสสนฺติ…เป… วทตี’’ติ อาห. สมฺปฏิจฺฉนวจนนฺติ สมฺปฏิจฺฉาปนวจนํ. ตํ ปรวาทึ. ตํตํลทฺธิสมฺปฏิจฺฉาปนํ วา คาหาปนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกฺข’’นฺติอาทิมาห.

กมฺมเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมวคฺโค

๑. อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา

๕๔๗. ทฏฺพฺพสฺส อาทีนวโต อานิสํสโต จ ยทิปิ ปรวาทินา ปจฺฉา นานาจิตฺตวเสน ปฏิฺาตํ, ปุพฺเพ ปน เอกโต กตฺวา ปฏิชานิ, น จ ตํ ลทฺธึ ปริจฺจชิ. เตนสฺส อธิปฺปายมทฺทนํ ยุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อนิจฺจ…เป… ปฏิฺาตตฺตา’’ติ. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณกรณวเสน, น กิจฺจนิปฺผตฺติวเสนาติ อธิปฺปาโย. อิทํ อานิสํสกถานุยุฺชนํ อานิสํสทสฺสนฺจ. าณํ วิปสฺสนา ปฏิเวธาณสฺส วิย อนุโพธาณสฺสปิ ยถารหํ ปวตฺตินิวตฺตีสุ กิจฺจกรณํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อมตารมฺมณกถาวณฺณนา

๕๔๙. เอวมาทินา สุตฺตภเยนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาสวฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนาสวคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทีนิ สุตฺตปทานิ สงฺคณฺหาติ.

อมตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๒-๕๕๓. ‘‘ตทปฺปติฏฺํ อนารมฺมณ’’นฺติอาทีสุ ปจฺจยตฺโถ อารมฺมณ-สทฺโท. ‘‘รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทีสุ โอลุพฺภฏฺโติ อาห ‘‘ปจฺจยฏฺโ โอลุพฺภฏฺโ’’ติ. เอวํ วิภาเค วิชฺชมาเนติ ตตฺถ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตา ปจฺจยฏฺโ, ทณฺฑรชฺชุอาทิ วิย ทุพฺพลสฺส จิตฺตเจตสิกานํ อาลมฺพิตพฺพตาย อุปตฺถมฺภนฏฺโ โอลุพฺภฏฺโ. วิเสสาภาวํ ปจฺจยภาวสามฺเน กปฺเปตฺวา วา.

รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา

๕๕๔-๕๕๖. ‘‘อิมสฺมึ สตี’’ติ อิมินา มคฺเคน อนิรุทฺธตาปิ สงฺคหิตาติ อาห ‘‘อปฺปหีนตฺตาว อตฺถีติ วุจฺจตี’’ติ. น ปน วิชฺชมานตฺตาติ อวธารเณน นิวตฺติตํ ทสฺเสติ, วิชฺชมานตฺตา ธรมานตฺตา ขณตฺตยสมงฺคิภาวโตติ อตฺโถ.

อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๗-๕๕๘. ยสฺส อธิคตตฺตา อรหโต ปริฺเยฺยาทีสุ อนวเสสโต สมฺโมโห วิคโต, ตํ อคฺคมคฺคาณํ สนฺธาย ‘‘มคฺคาณสฺสา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา ตสฺส สพฺพสฺส สโตการิตา วิย สมฺปชานการิตา, ตสฺมา เตน าเณน โส าณี. สติปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโต หิ โส อุตฺตมปุริโส.

าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา

๕๖๒. ทฺวีหิปีติ ทฺวีหิ วิเสเสหิ, วิเสเสน วิเสสํ อกตฺวาติ อตฺโถ.

วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา

๕๖๓. สพฺพโสติ สพฺพปฺปการโต, โส ปน ปกาโร ปวตฺติฏฺานกาลวเสน คเหตพฺโพติ อาห ‘‘สพฺพตฺถ สพฺพทา วา’’ติ. เต จ านกาลา ‘‘วิตกฺกยโต’’ติอาทิวจนโต จิตฺตวิเสสวเสน คเหตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘สวิตกฺกจิตฺเตสู’’ติ. ‘‘วิตกฺเกตฺวา วาจํ ภินฺทตี’’ติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘วิตกฺกวิปฺผารมตฺตํ สทฺโท’’ติ อาห.

วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา

๕๖๕. มุสาวาโท น โหตีติ วุตฺตํ อนาปตฺตีติ สมฺพนฺโธ.

นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๕๖๘-๕๗๐. สมนฺนาคตปฺตฺติยาติ สมงฺคิภาวปฺตฺติยา. เตเนวาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมสมงฺคี สมนฺนาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ปฏิลาภปฺตฺติยาติ อธิคมนปฺตฺติยา. อยนฺติ ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ วุจฺจมานปุคฺคลสฺส โย ตถา วตฺตพฺพากาโร, อยํ สมนฺนาคตปฺตฺติ นาม. เอส นโย เสเสสุปิ.

อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมวคฺโค

๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๕๗๑-๕๗๒. สกสมเย ‘‘ปุริมจิตฺตสฺส นิโรธานนฺตรํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อิจฺฉิตํ, ปรวาที ปน ‘‘ยสฺมึ ขเณ ภวงฺคจิตฺตํ, ตสฺมึเยว ขเณ กิริยมยจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วทติ. เอวํ สติ ปุริมปจฺฉิมจิตฺตานํ สหภาโวปิ อนุฺาโต โหติ. เตนาห ‘‘ภงฺคกฺขเณน สเหวา’’ติ. ตถา จ สติ วิปากกิริยกฺขนฺธานํ วิย กิริยวิปากกฺขนฺธานํ วิปากวิปากกฺขนฺธานํ กิริยกิริยกฺขนฺธานฺจ วุตฺตนเยน สหภาโว วตฺตพฺโพติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภวงฺคจิตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปปตฺติภวภาเวน เอสิยา อิจฺฉิตพฺพาติ อุปปตฺเตสิยา วิปากกฺขนฺธา, เต จ เยภุยฺเยน ภวงฺคปริยายกาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘อุปปตฺเตสิยนฺติ สงฺขํ คตสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺสา’’ติ. อาทิปริโยสานมตฺตฺหิ ตสฺส ปฏิสนฺธิจุติจิตฺตํ, ตทารมฺมณํ ภวงฺคนฺตฺเวว วุจฺจตีติ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ กิริยาเวมชฺเฌ ปติตตฺตา กิริยาจตุกฺขนฺธคฺคหเณน คหณํ ยุตฺตนฺติ วุตฺตํ. จกฺขุวิฺาณาทีนนฺติ หิ อาทิ-สทฺเทน น โสตวิฺาณาทีนํเยว คหณํ, อถ โข สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณานมฺปีติ ทฏฺพฺพํ.

นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา

๕๗๖. ลกฺขณนฺติ ปฺจวิฺาณานํ อุปฺปนฺนารมฺมณตาทิอวิตเถกปฺปการตาลกฺขณํ. กามํ มโนวิฺาณํ อวตฺถุกมฺปิ โหติ, สวตฺถุกตฺเต ปน ตมฺปิ อุปฺปนฺนวตฺถุกเมว. ตถา หิ ปาฬิยํ ปนายํ ‘‘หฺจิ ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนารมฺมณา’’ตฺเวว วุตฺตํ. มโนวิฺาณสฺสปิ อุปฺปนฺนวตฺถุกตาปริยาโย อตฺถีติ ‘‘ปฺจ วิฺาณา’’ติ อวตฺวา ‘‘ฉ วิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติ วุตฺเต ‘‘โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ วตฺตุํ น สกฺกาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉ วิฺาณา…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ.

๕๗๗. ‘‘อนิมิตฺตํ สุฺตํ อปฺปณิหิต’’นฺติ นิพฺพานสฺส เต ปริยายา. จกฺขุวิฺาณสฺส อนิมิตฺตคาหิภาเว สุฺตารมฺมณตาปิ สิยาติ วุตฺตํ ‘‘ตเทว สุฺตนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ.

ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา

๕๘๔-๕๘๖. สา ปน นมิตฺวา ปวตฺติ. อารมฺมณปฺปการคฺคหณนฺติ อารมฺมณสฺส อิฏฺานิฏฺปฺปการสฺส คหณํ. เยน อารมฺมณปฺปการคฺคหเณน กุสลจิตฺตสฺส อโลภาทีหิ สมฺปโยโค อกุสลจิตฺตสฺส โลภาทีหิ สมฺปโยโค โหติ, โส อาโภโคติ ทสฺเสติ.

ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา

๕๘๗-๕๘๙. อปฺปวตฺตินิโรธนฺติ อนุปฺปาทนิโรธํ. สีลสฺส วีติกฺกโมเยว นิโรโธ สีลวีติกฺกมนิโรโธ. นินฺนานํ ขณิกนิโรธํ สลฺลกฺเขนฺโต.

ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา

๕๙๐-๕๙๔. ิเตน อวินฏฺเน. อุปจเยนาติ สีลภูเตน กมฺมูปจเยน. ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติ กถายํ วุตฺตนเยนาติ ยถา ‘‘น วตฺตพฺพํ เจตสิโก ธมฺโม ทานนฺติ? อามนฺตา. ทานํ อนิฏฺผลนฺติ…เป… เตน หิ เจตสิโก ธมฺโม ทาน’’นฺติ ปาฬิ ปวตฺตา, เอวํ ตทนุสาเรน ‘‘น วตฺตพฺพํ เจตสิกํ สีลนฺติ? อามนฺตา. สีลํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทินา สีลสฺส เจตสิกภาวสาธกานิ สุตฺตปทานิ จ อาเนตฺวา ตทตฺถทสฺสนวเสน อเจตสิโก รูปาทิธมฺโม อายตึ วิปากํ เทติ. ยทิ โส สีลํ ภเวยฺย, วินา สํวรสมาทาเนน วินา วิรติยา สีลวา นาม สิยา. ยสฺมา ปน สมาทานเจตนา วิรติ สํวโร สีลํ, ตสฺมา ‘‘สีลํ อิฏฺผลํ กนฺตผล’’นฺติอาทินา โยชนา กาตพฺพาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ, วุตฺตนยานุสาเรนาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ปาฬิยํ ยถา ‘‘สีลํ อเจตสิก’’นฺติ กถา อาคตา, ตถา ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติ วิสุํ อาคตา กถา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘สา ปน กถา มคฺคิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.

สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สมาทานเหตุกถาวณฺณนา

๕๙๘-๖๐๐. สมาทานเหตุกถายํ ‘‘ผสฺโส เทตี’’ติ อารภิตฺวา ยาว กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา สมฺมุขีภาวํ อาคจฺฉนฺตีติ อารามโรปาทิสุตฺตาหรณฺจาติ เอตฺตกเมว ปริโภคกถาย สทิสนฺติ อาห ‘‘สมาทาน…เป… ทฏฺพฺพา’’ติ.

สมาทานเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา

๖๐๓-๖๐๔. มหาภูตานิ อุปาทาย ปวตฺโต อฺจิตฺตกฺขเณปิ ลพฺภมาโน กุสลากุสลานุพนฺโธ อวิฺตฺตีติ อยํ วาโท ‘‘จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อปุฺูปจโย’’ติ อิมินา สงฺคหิโตติ ตโต อฺานุพนฺธายํ ‘‘อาณตฺติยา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาณตฺติยา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อาณตฺโต ยทา อาณตฺตภาเวน วิหึสาทิกิริยํ สาเธติ, ตทา อาณตฺติยา ปาณาติปาตาทีสุ องฺคภาโว เวทิตพฺโพ. สา ปนาณตฺติ ปาริวาสิกภาเวน วิฺตฺติรหิตา นาม โหตีติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกสฺมึ ทิวเส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๑. เอกาทสมวคฺโค

๔. าณกถาวณฺณนา

๖๑๔-๖๑๕. ‘‘อนฺธกา’’ติ วุตฺตา ปุพฺพเสลิยอปรเสลิยราชคิริกสิทฺธตฺถิกาปิ เยภุยฺเยน มหาสงฺฆิกา เอวาติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ…เป… ภเวยฺยุ’’นฺติ. ตตฺถ อฺเติ วจนํ ทฺวินฺนํ กถานํ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต. ปุริมกานฺหิ จกฺขุวิฺาณาทิสมงฺคี ‘‘าณี’’ติ วุจฺจติ, อิเมสํ โส เอว ‘‘าณี’’ติ น วตฺตพฺโพติ วุตฺโต. ราควิคโม ราคสฺส สมุจฺฉินฺทนํ, ตถา อฺาณวิคโม. ยถา สมุจฺฉินฺนาวิชฺโช ‘‘าณี’’ติ, ปฏิปกฺขโต ‘‘อฺาณี’’ติ, เอวํ อสมุจฺฉินฺนาวิชฺโช ‘‘อฺาณี’’ติ, ปฏิปกฺขโต ‘‘าณี’’ติ วุตฺโต. อฺาณสฺส วิคตตฺตา โส ‘‘าณี’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, น ปน สตตํ สมิตํ าณสฺส ปวตฺตนโตติ อธิปฺปาโย.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อิทฺธิพลกถาวณฺณนา

๖๒๑-๖๒๔. ยสฺมึ อายุกปฺเป กมฺมกฺขเยน มรณํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กมฺมสฺส วิปากวเสนา’’ติ, ยสฺมึ ปน อายุกฺขเยน มรณํ โหติ, ตํ สนฺธาย ‘‘วสฺสคณนายา’’ติ. ตตฺถ ‘‘น จ ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐; อ. นิ. ๓.๓๖) วจนโต เยภุยฺเยน นิรเย กมฺมกฺขเยน มรณํ โหตีติ อาห ‘‘กมฺมสฺส วิปากวเสน วาติ นิรยํว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ‘‘วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ วสฺสสตสหสฺสานี’’ติอาทินา มนุสฺสานํ เทวานฺจ อายุปริจฺเฉทวจนโต เยภุยฺเยน เตสํ อายุกฺขเยน มรณํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘วสฺสคณนาย วาติ มนุสฺเส จาตุมหาราชิกาทิเทเว จ สนฺธายา’’ติ. ‘‘วุตฺต’’นฺติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

อิทฺธิพลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมาธิกถาวณฺณนา

๖๒๕-๖๒๖. สมํ ปนฏฺเนาติ สมํ วิสมํ ลีนุทฺธจฺจาทึ ปฏิพาหิตฺวา, วิกฺเขปเมว วา วิทฺธํเสตฺวา ปนฏฺเน. ‘‘จิตฺตสนฺตติ สมาธี’’ติ วทนฺเตน ตสฺส เจตสิกภาโว ปฏิกฺขิตฺโต โหตีติ อาห ‘‘เจตสิกนฺตรํ อตฺถีติ อคฺคเหตฺวา’’ติ. ภาวนาย อาหิตวิเสสาย เอกคฺคตาย วิชฺชมานวิเสสปฏิกฺเขโป ฉลํ, โส ปนสฺส อนาหิตวิเสสาย เอกคฺคตาย สามฺเนาติ อาห ‘‘สามฺมตฺเตนา’’ติ.

สมาธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา

๖๒๗. อวิชฺชาย ยา ิตตาติ อวิชฺชาย สงฺขารานํ อนนฺตรปจฺจยภาเว ยา นิยตตา ธมฺมนิยามตาสงฺขาตา, ยา ิตสภาวตา นิปฺผนฺนา, น ธมฺมมตฺตตาฏฺิตตาย นิปฺผนฺนาย วเสน, อนนฺตรปจฺจยภาวสงฺขาตา ิตตา ปจฺจยตา โหตีติ อตฺโถ. อฺมฺปจฺจยภาวรหิตสฺสาติ อิทํ สหชาตนิสฺสยาทิปจฺจยานํ ปฏิกฺเขปปทํ ทฏฺพฺพํ, น อฺมฺปจฺจยตามตฺตสฺส. สพฺโพ ตาทิโสติ อิมินา สมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อฺมฺปจฺจยตฺจาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺสปิ ปจฺจยภาวโต สงฺขารานมฺปิ วเสน โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘ตสฺสา จ อิตรา’’ติ.

ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อนิจฺจตากถาวณฺณนา

๖๒๘. รูปาทีนํ อนิจฺจตา รูปาทิเก สติ โหติ, อสติ น โหตีติ อิมินา ปริยาเยน ตสฺสา เตหิ สห อุปฺปาทนิโรโธ วุตฺโต, อุปฺปาทาทีสุ ตีสุ ลกฺขเณสุ อนิจฺจตาโวหาโร โหตีติ ยถา ตโย ทณฺเฑ อุปาทาย ปวตฺโต ติทณฺฑโวหาโร เตสุ สพฺเพสุ โหติ, เอวํ ชาติชรามรณธมฺโม น นิจฺโจ อนิจฺโจ, ตสฺส ชาติอาทิปกติตา อนิจฺจตาสทฺเทน วุจฺจตีติ อุปฺปาทาทีสุ ลกฺขเณสุ อนิจฺจตาโวหาโร สมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘ตีสุ…เป… โหตี’’ติ. วิภาคานุยุฺชนวเสนาติ ปเภทานุยุฺชนวเสน. ตตฺถ ยถา ชราภงฺควเสน อนิจฺจตา ปากฏา โหติ, น ตถา ชาติวเสนาติ ปาฬิยํ ชรามรณวเสเนว อนิจฺจตาวิภาโค ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.

อนิจฺจตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสมวคฺโค

๑. สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๖๓๐-๖๓๒. สพฺพสฺสปิ มนโส มโนทฺวารภาวโต ‘‘วิปากทฺวารนฺติ ภวงฺคมนํ วทตี’’ติ อาห.

สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กมฺมกถาวณฺณนา

๖๓๓-๖๓๕. สวิปากาปิ ทสฺสิตาเยว นาม โหติ วุตฺตาวสิฏฺา สวิปากาติ อตฺถสิทฺธตฺตา.

กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สฬายตนกถาวณฺณนา

๖๓๘-๖๔๐. มนายตเนกเทสสฺส วิปากสฺส อตฺถิตาย ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ.

สฬายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา

๖๔๑-๖๔๕. อสฺสาติ อิมสฺส สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส. เตนาห ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมภาเว จ นิยามํ อิจฺฉสี’’ติ. เยน อานนฺตริยกมฺเมน. อนฺตราติ สตฺต ภเว อนิพฺพตฺเตตฺวา เตสํ อนฺตเรเยว. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. อปเรติ ปทการา. ตสฺสาติ โย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ วา, โกลํโกโลติ วา, เอกพีชีติ วา ภควตา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา พฺยากโต, ตสฺส ยถาวุตฺตปริจฺเฉทา อนฺตรา อุปริมคฺคาธิคโม นตฺถิ อวิตถเทสนตฺตา. ยถาปริจฺเฉทเมว ตสฺส อภิสมโย, สฺวายํ วิภาโค เตสํเยว ปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเตน เวทิตพฺโพ ภวนิยาเมน ตาทิสสฺส กสฺสจิ อภาวโต. ยสฺมา กสฺสจิ มุทุกานิปิ อินฺทฺริยานิ ปจฺจยวิเสเสน ติกฺขภาวํ อาปชฺเชยฺยุํ, ตสฺมา ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘ภพฺโพติ วุจฺจติ, น โส อภพฺโพ นามา’’ติ จ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ภควา น ตาทิสํ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติอาทินา นิยเมตฺวา พฺยากโรติ, ตสฺมา อาห ‘‘น ปน อนฺตรา อภิสเมตุํ ภพฺพตา วุตฺตา’’ติ. อยฺจ นโย เอกนฺเตน อิจฺฉิตพฺโพ. อฺถา ปุคฺคลสฺส สงฺกโร สิยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห.

สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสมวคฺโค

๑. กปฺปฏฺกถาวณฺณนา

๖๕๔-๖๕๗. ‘‘เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมวา’’ติ อิทํ อิทฺธิพลกถายํ ยํ วุตฺตํ ‘‘อตีตํ อนาคตนฺติ อิทํ อวิเสเสน กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปฏิฺาตตฺตา โจเทตี’’ติอาทิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เหฏฺาติ อิทฺธิพลกถาย’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘ทฺเว กปฺเป’’ติอาทิอายุปริจฺเฉทาติกฺกมสมตฺถตาโจทนาวเสน อาคตา, อิธ ปน สงฺฆเภทโก อายุกปฺปเมว อฏฺตฺวา ยทิ เอกํ มหากปฺปํ ติฏฺเยฺย, ยถา เอกํ, เอวํ อเนเกปิ กปฺเป ติฏฺเยฺยาติ โจทนา กาตพฺพา.

กปฺปฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา

๖๖๓-๖๖๔. อปฺปตฺตนิยามานนฺติ เย อนุปฺปนฺนมิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมา ปุคฺคลา, เตสํ ธมฺเม. เก ปน เต? ยถาวุตฺตปุคฺคลสนฺตานปริยาปนฺนา ธมฺมา. เต หิ ภูมิตฺตยปริยาปนฺนตาย ‘‘เตภูมกา’’ติ วุตฺตา. เย ปน ปตฺตนิยามานํ สนฺตาเน ปวตฺตา อนิยตธมฺมา, น เตสเมตฺถ สงฺคโห กโต. น หิ เตหิ สมนฺนาคเมน อนิยตตา อตฺถิ. เตเนวาห ‘‘เตหิ สมนฺนาคโตปิ อนิยโตเยวา’’ติ. อิมํ โวหารมตฺตนฺติ อิมินา นิยาโม นาม โกจิ ธมฺโม นตฺถิ, อุปจิตสมฺภารตาย อภิสมฺพุชฺฌิตุํ ภพฺพตาว ตถา วุจฺจตีติ ทสฺเสติ. นิยโตติ วจนสฺส การณภาเวน วุตฺโตติ โยชนา. อุภยสฺสปีติ นิยโต นิยามํ โอกฺกมตีติ วจนทฺวยสฺส.

นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อสาตราคกถาวณฺณนา

๖๗๔. เอวํ ปวตฺตมาโนติ ‘‘อโห วต เม ภเวยฺยา’’ติ เอวํ ปตฺถนากาเรน ปวตฺตมาโน. อฺถาติ นนฺทนาทิอากาเรน.

อสาตราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา

๖๗๖-๖๘๐. คเหตฺวาติ เอเตน คหณมตฺตเมว ตํ, น ปน สา ตาทิสี อตฺถีติ ทสฺเสติ. น หิ โลกุตฺตรารมฺมณา อพฺยากตา วา ตณฺหา อตฺถีติ. ตีหิ โกฏฺาเสหีติ กามภววิภวตณฺหาโกฏฺาเสหิ. รูปตณฺหาทิเภทา ฉปิ ตณฺหา.

ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. จุทฺทสมวคฺโค

๑. กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา

๖๘๖-๖๙๐. อนนฺตรปจฺจยภาโวเยเวตฺถ ปฏิสนฺธานํ ฆฏนฺจาติ อาห ‘‘อนนฺตรํ อุปฺปาเทตี’’ติ.

กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา

๖๙๑-๖๙๒. เกจิ วาทิโนติ กาปิเล สนฺธายาห. เต หิ อภิพฺยตฺตวาทิโน วิชฺชมานเมว การเณ ผลํ อนภิพฺยตฺตํ หุตฺวา ิตํ ปจฺฉา อภิพฺยตฺตึ คจฺฉตีติ วทนฺตา พีชาวตฺถาย วิชฺชมานาปิ รุกฺขาทีนํ น องฺกุราทโย อาวิภวนฺติ, พีชมตฺตํ อาวิภาวํ คจฺฉตีติ กเถนฺติ.

สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา

๖๙๓-๖๙๗. อนนฺตรุปฺปตฺตึ สลฺลกฺเขนฺโตติ จกฺขุวิฺาณานนฺตรํ โสตวิฺาณุปฺปตฺตึ มฺมาโน. โสตวิฺาณนฺติ วจเนเนว ตสฺส จกฺขุสนฺนิสฺสยตา รูปารมฺมณตา จ ปฏิกฺขิตฺตา, ปฏิฺาตา จ โสตสนฺนิสฺสยตา สทฺทารมฺมณตา จาติ อาห ‘‘น โส จกฺขุมฺหิ สทฺทารมฺมณ’’นฺติ. ตตฺถ สทฺทารมฺมณนฺติ ‘‘โสตวิฺาณํ อิจฺฉตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตยิทํ จกฺขุวิฺาณสฺส อนนฺตรํ โสตวิฺาณํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา เอวํ ายตีติ อาห ‘‘อนนฺตรูปลทฺธิวเสน อาปนฺนตฺตา’’ติ.

อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อริยรูปกถาวณฺณนา

๖๙๘-๖๙๙. สมฺมาวาจาทีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ตตฺถ สมฺมาวาจา สทฺทสภาวา, อิตโร จ กายวิฺตฺติสภาโว, อุภยมฺปิ วา วิฺตฺตีติ อธิปฺปาเยน รูปนฺติสฺส ลทฺธิ.

อริยรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา

๗๐๐-๗๐๑. ตสฺมึ สมเยติ กุสลาพฺยากตจิตฺตกฺขเณ. โส หีติ ปจฺฉิมปาโ.

อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๗๐๒. เตติ ราคาทโย. ตสฺมาติ ยสฺมา วิปสฺสนฺตสฺสปิ ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา.

ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๓-๗๐๕. กิเลสวตฺถุโอกาสวเสนาติ กิเลสกามวตฺถุกามภูมิวเสน. รูปธาตุสหคตวเสน อนุเสตีติ กามราโค ยถา กามวิตกฺกสงฺขาตาย กามธาตุยา สห ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารโห, ตเมว รูปธาตุยาปีติ อตฺโถ. ราคาทิการณลาเภ อุปฺปตฺติอรหตา หิ อนุสยนํ.

ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา

๗๐๖-๖๐๘. สพฺพถาปีติ อวิปากภาเวนปิ สสฺสตาทิภาเวนปิ.

อพฺยากตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๙-๗๑๐. ตสฺมา ทิฏฺิ โลกิยปริยาปนฺนา น โหตีติ อตฺถํ วทนฺติ, เอวํ สติ อติปฺปสงฺโค โหติ วีตโทสาทิโวหารภาวโตติ. ตโต อฺถา อตฺถํ วทนฺโต ‘‘รูปทิฏฺิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน อรูปทิฏฺิอาทึ สงฺคณฺหาติ. ปรวาทิอธิปฺปายวเสน อยมตฺถวิภาวนาติ อาห ‘‘ยทิ จ ปริยาปนฺนา สิยา’’ติ. ตถา จ สตีติ ทิฏฺิยา กามธาตุปริยาปนฺนตฺเต สตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘วีตทิฏฺิโก’’ติ เอวํ โวหาราภาวโต. น หิ สา ตสฺส อวิคตา ทิฏฺิ, ยโต โส วีตทิฏฺิโกติ น วุจฺจติ. เยนาติ กามทิฏฺิภาเวน.

อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จุทฺทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปนฺนรสมวคฺโค

๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา

๗๑๑-๗๑๗. ววตฺถิโตติ อสํกิณฺโณ. โย หิ ธมฺโม เยน ปจฺจยภาเวน ปจฺจโย โหติ, ตสฺส ตโต อฺเนปิ ปจฺจยภาเว สติ ปจฺจยตา สํกิณฺณา นาม ภเวยฺย. วิรุทฺธาสมฺภวีนํ วิย ตพฺพิธุรานํ ปจฺจยภาวานํ สหภาวํ ปฏิกฺขิปติ.

ปจฺจยตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา

๗๑๘-๗๑๙. สหชาตาติ วุตฺตตฺตา น สงฺขารปจฺจยา จ อวิชฺชาติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. อนนฺตราทินาปิ หิ สงฺขารา อวิชฺชาย ปจฺจยา โหนฺติเยว. อฺมฺานนฺตรํ อวตฺวา อวิคตานนฺตรํ สมฺปยุตฺตสฺส วจนํ กมเภโท, อตฺถิคฺคหเณเนว คหิโต อตฺถิปจฺจยภูโตเยว ธมฺโม นิสฺสยปจฺจโย โหตีติ. อสาธารณตายาติ ปทนฺตราสาธารณตาย. เตนาห ‘‘วกฺขติ หี’’ติอาทิ.

อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา

๗๓๒. ยทิปิ เสสํ นาม คหิตโต อฺํ, ตถาปิ ปกรณปริจฺฉินฺนเมเวตฺถ ตํ คยฺหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยสํ…เป… อธิปฺปาโย’’ติ วตฺวา ปุน อนวเสสเมว สงฺคณฺหนฺโต ‘‘อสฺสตฺตานมฺปิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพสตฺเต สนฺธายาติ อธิปฺปาโยติ โยชนา. ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺตีติอาทิกํ สรีรปกตีติ สมฺพนฺโธ.

๗๓๓-๗๓๔. ปฺจหิ วิฺาเณหิ น จวติ, น อุปปชฺชตีติ วาทํ ปรวาที นานุชานาตีติ อาห ‘‘สุตฺต…เป… วตฺตพฺพ’’นฺติ.

ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา

๗๓๕. ยถา วิตกฺกวิจารปีติสุขวิราควเสน ปวตฺตา สมาปตฺติ วิตกฺกาทิรหิตา โหติ, เอวํ สฺาวิราควเสน ปวตฺตาปิ สฺารหิตาว สิยาติ ตสฺส ลทฺธีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สาปิ อสฺิตา…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

๗๓๖. ยทิ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ กถํ อสฺสมาปตฺตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สฺาวิราควเสน สมาปนฺนตฺตา อสฺิตา, น สฺาย อภาวโต’’ติ.

อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. กมฺมูปจยกถาวณฺณนา

๗๓๘-๗๓๙. ‘‘กมฺมูปจโย กมฺเมน สหชาโต’’ติ ปุฏฺโ สมฺปยุตฺตสหชาตตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, วิปฺปยุตฺตสหชาตตํ สนฺธาย ปฏิชานาตีติ. วิปฺปยุตฺตสฺสปิ หิ อตฺถิ สหชาตตา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส วิยาติ อธิปฺปาโย.

๗๔๑. ติณฺณนฺติ กมฺมกมฺมูปจยกมฺมวิปากานํ.

กมฺมูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปนฺนรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๖. โสฬสมวคฺโค

๓. สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา

๗๔๗-๗๔๘. น ตสฺสาติ ยสฺส ตํ อนุปฺปทิสฺสติ, น ตสฺส. โย หิ อนุปฺปเทติ, ยสฺส จ อนุปฺปเทติ, ตทุภยวินิมุตฺตา อิธ ปเรติ อธิปฺเปตา.

สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา

๗๔๙-๗๕๓. ตํจิตฺตตายาติ เอตฺถ มนสิกโรนฺโต ยทิ สพฺพสงฺขาเร เอกโต มนสิ กโรติ, เยน จิตฺเตน มนสิ กโรติ, สพฺพสงฺขารนฺโตคธตฺตา ตสฺมึเยว ขเณ ตํ จิตฺตํ มนสิ กาตพฺพํ เอตสฺสาติ ตํจิตฺตตา นาม โทโส อาปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตเทว อารมฺมณภูต’’นฺติอาทิ. เอเตน ตสฺเสว เตน มนสิกรณาสมฺภวมาห, ตํ วาติอาทินา ปน สสํเวทนาวาทาปตฺตินฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.

อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสฬสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗. สตฺตรสมวคฺโค

๑. อตฺถิอรหโตปุฺูปจยกถาวณฺณนา

๗๗๖-๗๗๙. กิริยจิตฺตํ อพฺยากตํ อนาทิยิตฺวาติ ‘‘กิริยจิตฺตํ อพฺยากต’’นฺติ อคฺคเหตฺวา, ทานาทิปวตฺตเนน ทานมยาทิปุฺตฺเตน จ คเหตฺวาติ อตฺโถ.

อตฺถิอรหโตปุฺูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา

๗๘๐. อลทฺธวิปากวารานนฺติ วิปากทานํ ปติ อลทฺโธกาสานํ. พฺยนฺตีภาวนฺติ วิคตนฺตตํ, วิคมํ อวิปากนฺติ อตฺโถ.

๗๘๑. ตโต ปรนฺติ พฺยติเรเกน อตฺถสิทฺธิ, น เกวเลน อนฺวเยนาติ อาห ‘‘ตาว น กมติ, ตโต ปรํ กมตีติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตี’’ติ. ตตฺถ ตโต ปรนฺติ ปุพฺเพ กตสฺส กมฺมสฺส ปริกฺขยคมนโต ปรํ. นตฺถิ ปาณาติปาโต ปาณาติปาตลกฺขณาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ตเมว ลกฺขณาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาโณปาณสฺิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น เตนาติ โย ปเรน อุปกฺกโม กโต, เตน อุปกฺกเมน น มโต, ธมฺมตามรเณเนว มโตติ ทุพฺพิฺเยฺยํ อวิเสสวิทูหิ, ทุพฺพิฺเยฺยํ วา โหตุ สุวิฺเยฺยํ วา, องฺคปาริปูริยาว ปาณาติปาโต.

นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา

๗๘๔. อพีชโตติ สพฺเพน สพฺพํ อพีชโต อฺพีชโต จ. นฺติ เทยฺยธมฺมํ, คิลานปจฺจยนฺติ อตฺโถ.

สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา

๗๘๘. วินาปิ อนิจฺจฏฺเนาติ อนิจฺจฏฺํ เปตฺวาปิ อฏฺเปตฺวาปีติ อตฺโถ, น อนิจฺจฏฺวิรเหนาติ. น หิ อนิจฺจฏฺวิรหิตํ อนินฺทฺริยพทฺธํ อตฺถิ.

อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา

๗๙๓-๗๙๔. อปฺปฏิคฺคหณโตติ ปฏิคฺคาหกตฺตาภาวโต.

นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา

๘๐๐-๘๐๑. ปฏิคฺคาหกนิรเปกฺขาติ ปฏิคฺคาหกสฺส คุณวิเสสนิรเปกฺขา, ตสฺส ทกฺขิเณยฺยภาเวน วินาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคาหเกน ปจฺจยภูเตน วินา’’ติ. สจฺจเมตนฺติ ลทฺธิกิตฺตเนน วุตฺตภาวเมว ปฏิชานาติ. ปฏิคฺคาหกสฺส วิปากนิพฺพตฺตนํ ทานเจตนาย มหาผลตา. ปจฺจยภาโวเยว หิ ตสฺส, น ตสฺสา การณตฺตํ. เตนาห ‘‘ทานเจตนานิพฺพตฺตเนน ยทิ ภเวยฺยา’’ติอาทิ.

ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘. อฏฺารสมวคฺโค

๑. มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา

๘๐๒-๘๐๓. คหณนฺติ มิจฺฉาคหณํ.

มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา

๘๐๔-๘๐๖. ตสฺส จ นิมฺมิตพุทฺธสฺส เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สยเมว จ เทสิโต.

ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา

๘๑๓-๘๑๖. วิตกฺกวิจาเรสุ วิรตฺตจิตฺตตา ตตฺถ อาทีนวมนสิกาโร, ตทากาโร จ ทุติยชฺฌานูปจาโรติ อาห ‘‘วิตกฺกวิจารา อาทีนวโต มนสิ กาตพฺพา, ตโต ทุติยชฺฌาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ.

ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา

๘๑๗-๘๑๙. น ปมชฺฌานํ วิตกฺกาภาวโต, นาปิ ทุติยชฺฌานํ วิจารสพฺภาวโตติ ฌานเมตํ น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรภาวาภาวโต น ฌาน’’นฺติ.

ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา

๘๒๖-๘๒๗. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ อิมินา จกฺขุวิฺาเณน ปฏิชานนสฺส อคฺคหเณ อรุจึ สูเจนฺโต อาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ กิร สนฺธายา’’ติ. เตเนวาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ ปนา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ มโนวิฺาณปฏิชานนสฺเสว อธิปฺเปตตฺตาติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตติ ยทิ รูเปน รูปํ ปฏิวิชานาติ, รูปํ ปฏิวิชานนฺตมฺปิ มโนวิฺาณํ รูปวิชานนํ โหติ, น รูปทสฺสนนฺติ อาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ ปน รูปทสฺสนํ กถํ โหตี’’ติ.

จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺารสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. เอกูนวีสติมวคฺโค

๑. กิเลสปชหนกถาวณฺณนา

๘๒๘-๘๓๑. เต ปนาติ เย อริยมคฺเคน ปหีนา กิเลสา, เต ปน. กามฺเจตฺถ มคฺเคน ปหาตพฺพกิเลสา มคฺคภาวนาย อสติ อุปฺปชฺชนารหา ขณตฺตยํ น อาคตาติ จ อนาคตา นาม สิยุํ, ยสฺมา ปน เต น อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ตสฺมา ตถา น วุจฺจนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘นาปิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

กิเลสปชหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุฺตกถาวณฺณนา

๘๓๒. เยน อวสวตฺตนฏฺเน ปรปริกปฺปิโต นตฺถิ เอเตสํ อตฺตโน วิสยนฺติ อนตฺตาติ วุจฺจนฺติ สภาวธมฺมา, สฺวายํ อนตฺตตาติ อาห ‘‘อวสวตฺตนากาโร อนตฺตตา’’ติ. สา ปนายํ ยสฺมา อตฺถโต อสารกตาว โหติ, ตสฺมา ตเทกเทเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถโต ชรามรณเมวา’’ติ อาห. เอวํ สติ ลกฺขณสงฺกโร สิยา, เตสํ ปนิทํ อธิปฺปายกิตฺตนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อรูปธมฺมานํ อวสวตฺตนาการตาย เอว หิ อนตฺตลกฺขณสฺส สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตา.

สุฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สามฺผลกถาวณฺณนา

๘๓๕-๘๓๖. ปตฺติธมฺมนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ สมนฺนาคมมาห.

สามฺผลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ตถตากถาวณฺณนา

๘๔๑-๘๔๓. รูปาทีนํ สภาวตาติ เอเตน รูปาทโย เอว สภาวตาติ อิมมตฺถํ ปฏิกฺขิปติ. ยโต ตํ ปรวาที รูปาทีสุ อปริยาปนฺนํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘ภาวํ เหส ตถตาติ วทติ, น ภาวโยค’’นฺติ. ตตฺถ ภาวนฺติ ธมฺมมตฺตํ, ปกตีติ อตฺโถ ‘‘ชาติธมฺม’’นฺติอาทีสุ วิย. รูปาทีนฺหิ รุปฺปนาทิปกติ ตถา อสงฺขตาติ จ ปรวาทิโน ลทฺธิ. เตน วุตฺตํ ‘‘น ภาวโยค’’นฺติ. เยน หิ ภาโว สภาวธมฺโม ยุชฺชติ, เอกีภาวเมว คจฺฉติ, ตํ รุปฺปนาทิลกฺขณํ ภาวโยโค. ตํ ปน รูปาทิโต อนฺํ, ตโต เอว สงฺขตํ, อวิปรีตฏฺเน ปน ‘‘ตถ’’นฺติ วุจฺจติ.

ตถตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุสลกถาวณฺณนา

๘๔๔-๘๔๖. อนวชฺชภาวมตฺเตเนว กุสลนฺติ โยชนา. ตสฺมาติ ยสฺมา อวชฺชรหิตํ อนวชฺชํ, อนวชฺชภาวมตฺเตเนว จ กุสลํ, ตสฺมา นิพฺพานํ กุสลนฺติ.

กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา

๘๔๗. ยํ ‘‘เอกวารํ นิมุคฺโค ตถา นิมุคฺโคว โหติ, เอตสฺส ปุน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ อฏฺกถายํ อาคตํ, โส ปน อาจริยวาโท, น อฏฺกถานโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาย ชาติยา…เป… มฺมาโน’’ติ อาห. ตตฺถ ตาย ชาติยาติ ยสฺสํ ชาติยํ ปุคฺคโล กมฺมาวรณาทิอาวรเณหิ สมนฺนาคโต โหติ, ตาย ชาติยา. สํสารขาณุกภาโว วสฺสภฺาทีนํ วิย มกฺขลิอาทีนํ วิย จ ทฏฺพฺโพ. โส จ อเหตุกาทิมิจฺฉาทสฺสนสฺส ผลภาเวเนว เวทิตพฺโพ, น อจฺจนฺตนิยามสฺส นาม กสฺสจิ อตฺถิภาวโต. ยถา หิ วิมุจฺจนฺตสฺส โกจิ นิยาโม นาม นตฺถิ เปตฺวา มคฺเคน ภวปริจฺเฉทํ, เอวํ อวิมุจฺจนฺตสฺสปิ โกจิ สํสารนิยาโม นาม นตฺถิ. ตาทิสสฺส ปน มิจฺฉาทสฺสนสฺส พลวภาเว อปริมิตกปฺปปริจฺเฉเท จิรตรํ สํสารปฺปพนฺโธ โหติ, อปายูปปตฺติ จ ยตฺถ สํสารขาณุสมฺา.

ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อตฺเถว อจฺจนฺตํ สํสริตา อนนฺตตฺตา สตฺตนิกายสฺสา’’ติ, ตมฺปิ อปุฺพหุลํ สตฺตสนฺตานํ สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. น หิ มาตุฆาตกาทีนํ เตนตฺตภาเวน สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนนฺตรายภูโต มิจฺฉตฺตนิยาโม วิย สตฺตานํ วิมุตฺตนฺตรายกโร สํสารนิยาโม นาม นตฺถิ. ยาว ปน น มคฺคผลสฺส อุปนิสฺสโย อุปลพฺภติ, ตาว สํสาโร อปริจฺฉินฺโน. ยทา จ โส อุปลทฺโธ, ตทา โส ปริจฺฉินฺโน เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

ยถา นิยตสมฺมาทสฺสนํ, เอวํ นิยตมิจฺฉาทสฺสเนนปิ สวิสเย เอกํสคาหวเสน อุกฺกํสคเตน ภวิตพฺพนฺติ เตน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส สติ อจฺจนฺตนิยาเม กถํ ตสฺมึ อภินิเวสวิสเย อเนกํสคาโห อุปฺปชฺเชยฺย, อภินิเวสนฺตรํ วา วิรุทฺธํ ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, อจฺจนฺตนิยาโม เอว น สิยาติ ปาฬิยํ วิจิกิจฺฉุปฺปตฺตินิยามนฺตรุปฺปตฺติโจทนา กตา. น หิ วิจิกิจฺฉา วิย สมฺมตฺตนิยตปุคฺคลานํ ยถากฺกมํ มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตปุคฺคลานํ สมฺมตฺตมิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา กทาจิปิ อุปฺปชฺชนฺติ, อวิรุทฺธํ ปน นิยามนฺตรเมว โหตีติ อานนฺตริกนฺตรํ วิย มิจฺฉาทสฺสนนฺตรํ สมานชาติกํ น นิวตฺเตตีติ วิรุทฺธํเยว ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ วิจิกิจฺฉา วิย สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโย เอว อุทฺธฏา. เอวเมตฺถ วิจิกิจฺฉุปฺปตฺตินิยามนฺตรุปฺปตฺตีนํ นิยามนฺตรุปฺปตฺตินิวตฺตกภาโว เวทิตพฺโพ, อจฺจนฺตนิยาโม จ นิวตฺติสฺสตีติ จ วิรุทฺธเมตนฺติ ปน ‘‘วิจาเรตฺวาว คเหตพฺพา’’ติ วุตฺตํ สิยา.

อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๘๕๓-๘๕๖. ยถา โลกุตฺตรา สทฺธาทโย เอว สทฺธินฺทฺริยาทีนิ, เอวํ โลกิยาปิ. กสฺมา? ตตฺถาปิ อธิโมกฺขลกฺขณาทินา อินฺทฏฺสพฺภาวโต. สทฺเธยฺยาทิวตฺถูสุ สทฺทหนาทิมตฺตเมว หิ ตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โลกุตฺตรานํ…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ.

อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกูนวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๐. วีสติมวคฺโค

๒. าณกถาวณฺณนา

๘๖๓-๘๖๕. กามํ ปุพฺพภาเคปิ อตฺเถว ทุกฺขปริฺา, อตฺถสาธิกา ปน สา มคฺคกฺขณิกา เอวาติ อุกฺกํสคตํ ทุกฺขปริฺํ สนฺธาย อวธาเรนฺโต อาห ‘‘ทุกฺขํ…เป… มคฺคาณเมว ทีเปตี’’ติ. ตํ ปน อวธารณํ น าณนฺตรนิวตฺตนํ, อถ โข าณนฺตรสฺส ยถาธิคตกิจฺจนิวตฺตนํ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘น ตสฺเสว าณภาว’’นฺติอาทิ.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา

๘๖๖-๘๖๘. เนรยิเก นิรเย ปาเลนฺติ, ตโต นิคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน รกฺขนฺตีติ นิรยปาลา. นิรยปาลตาย วา เนรยิกานํ นรกทุกฺเขน ปริโยนทฺธาย อลํ สมตฺถาติ นิรยปาลา. กึ ปเนเต นิรยปาลา เนรยิกา, อุทาหุ อเนรยิกาติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว เนรยิกา, นิรยสํวตฺตนิเยน กมฺเมน นิพฺพตฺตาติ สยมฺปิ นิรยทุกฺขํ ปจฺจนุภเวยฺยุํ, ตถา สติ อฺเสํ เนรยิกานํ ยาตนาย อสมตฺถา สิยุํ, ‘‘อิเม เนรยิกา, อิเม นิรยปาลา’’ติ ววตฺถานฺจ น สิยา. เย จ เย ยาเตนฺติ, เตหิ สมานรูปพลปฺปมาเณหิ อิตเรสํ ภยสนฺตาสา น สิยุํ. อถ อเนรยิกา, เตสํ ตตฺถ กถํ สมฺภโวติ? วุจฺจเต – อเนรยิกา นิรยปาลา อนิรยคติสํวตฺตนิยกมฺมนิพฺพตฺตา. นิรยูปปตฺติสํวตฺตนิยกมฺมโต หิ อฺเเนว กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตนฺติ รกฺขสชาติกตฺตา. ตถา หิ วทนฺติ –

‘‘โกธนา กุรูรกมฺมนฺตา, ปาปาภิรุจิโน ตถา;

ทุกฺขิเตสุ จ นนฺทนฺติ, ชายนฺติ ยมรกฺขสา’’ติ.

ตตฺถ ยเทเก วทนฺติ ‘‘ยาตนาทุกฺขสฺส อปฺปฏิสํเวทนโต, อฺถา ปุน อฺมฺํ ยาเตยฺยุ’’นฺติ จ เอวมาทิ, ตยิทํ อากาสโรมฏฺนํ นิรยปาลานํ เนรยิกภาวสฺเสว อภาวโต. เย ปน วเทยฺยุํ – ยทิปิ อเนรยิกา นิรยปาลา, อโยมยาย ปน อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย นิรยภูมิยา ปริวตฺตมานา กถํ นาม ทุกฺขํ นานุภวนฺตีติ? กมฺมานุภาวโต. ยถา หิ อิทฺธิมนฺโต เจโตวสิปฺปตฺตา มหาโมคฺคลฺลานาทโย เนรยิเก อนุกมฺปนฺตา อิทฺธิพเลน นิรยภูมึ อุปคตา ตตฺถ ทาหทุกฺเขน น พาธียนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

ตํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? อิทมฺปิ ตํสมานํ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. ตถารูเปน หิ กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตา ยถา นิรยทุกฺเขน อพาธิตา เอว หุตฺวา เนรยิเก ยาเตนฺติ, น เจตฺตเกน พาหิรวิสยาภาโว วิชฺชติ อิฏฺานิฏฺตาย ปจฺเจกํ ทฺวารปุริเสสุ วิภตฺตสภาวตฺตา. ตถา หิ เอกจฺจสฺส ทฺวารสฺส ปุริสสฺส อิฏฺํ เอกจฺจสฺส อนิฏฺํ, เอกจฺจสฺส จ อนิฏฺํ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ. เอวฺจ กตฺวา ยเทเก วทนฺติ ‘‘นตฺถิ กมฺมวเสน เตชสา ปรูปตาปน’’นฺติอาทิ, ตทปาหตํ โหติ. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘อเนรยิกานํ เตสํ กถํ ตตฺถ สมฺภโว’’ติ เนรยิกานํ ยาตกภาวโต. เนรยิกสตฺตยาตนาโยคฺคฺหิ อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ กมฺมํ ตาทิสนิกนฺติวินามิตํ นิรยฏฺาเนเยว นิพฺพตฺเตติ. เต จ เนรยิเกหิ อธิกตรพลาโรหปริณาหา อติวิย ภยานกสนฺตาสกุรูรตรปโยคา จ โหนฺติ. เอเตเนว ตตฺถ กากสุนขาทีนมฺปิ นิพฺพตฺติ สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.

กถมฺคติเกหิ อฺคติกพาธนนฺติ จ น วตฺตพฺพํ อฺตฺถาปิ ตถา ทสฺสนโต. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อสตฺตสภาวา นิรยปาลา นิรยสุนขาทโย จา’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ อฺตฺถ ตถา อทสฺสนโต. น หิ กาจิ อตฺถิ ตาทิสี ธมฺมปฺปวตฺติ, ยา อสตฺตสภาวา, สมฺปติสตฺเตหิ อปฺปโยชิตา จ อตฺถกิจฺจํ สาเธนฺตี ทิฏฺปุพฺพา. เปตานํ ปานียนิวารกานํ ทณฺฑาทิหตฺถปุริสานมฺปิ อสตฺตภาเว วิเสสการณํ นตฺถิ. สุปินูปฆาโตปิ อตฺถกิจฺจสมตฺถตาย อปฺปมาณํ ทสฺสนาทิมตฺเตนปิ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตถา หิ สุปิเน อาหารูปโภคาทินา น อตฺถสิทฺธิ อตฺถิ, นิมฺมานรูปํ ปเนตฺถ ลทฺธปริหารํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. อิธาปิ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. เนรยิกานํ กมฺมวิปาโก นิรยปาลาติ อสิทฺธเมตํ, วุตฺตนเยน ปน เนสํ สตฺตภาโว เอว สิทฺโธ. สกฺกา หิ วตฺตุํ สตฺตสงฺขาตา นิรยปาลสฺิตา ธมฺมปฺปวตฺติ สาภิสนฺธิกา ปรูปฆาติ อตฺถกิจฺจสพฺภาวโต โอชาหาราทิรกฺขสสนฺตติ วิยาติ. อภิสนฺธิปุพฺพกตา เจตฺถ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ ตถา ตถา อภิสนฺธิยา ยาตนโต, ตโต เอว น สงฺฆาฏปพฺพตาทีหิ อเนกนฺติกตา. เย ปน วทนฺติ ‘‘ภูตวิเสสา เอว เต วณฺณสณฺานาทิวิเสสวนฺโต เภรวาการา นรกปาลาติ สมฺํ ลภนฺตี’’ติ, ตทสิทฺธํ. อุชุกเมว ปาฬิยํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลา’’ติ วาทสฺส ปติฏฺาปิตตฺตา.

อปิจ ยถา อริยวินเย นรกปาลานํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา, ตถา ปฺตฺติมตฺตวาทิโนปิ เตสํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธาว. น หิ ตสฺส ภูตานิ นาม สนฺติ. ยทิ ปรมตฺถํ คเหตฺวา โวหรติ, อถ กสฺมา เวทนาทิเก เอว ปฏิกฺขิปตีติ? ติฏฺเตสา อนวฏฺิตตกฺกานํ อปฺปหีนสมฺโมหวิปลฺลาสานํ วาทวีมํสา, เอวํ อตฺเถว นิรยปาลาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. สติ จ เนสํ สพฺภาเว, อสติปิ พาหิเร วิสเย นรเก วิย เทสาทินิยโม โหตีติ วาโท น สิชฺฌติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

นิรยปาลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ติรจฺฉานกถาวณฺณนา

๘๖๙-๘๗๑. ตสฺสาติ เอราวณนามกสฺส เทวปุตฺตสฺส. ตหึ กีฬนกาเล หตฺถิวณฺเณน วิกุพฺพนํ สนฺธาย ‘‘หตฺถินาคสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทิพฺพยานสฺสาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. น หิ เอกนฺตสุขปฺปจฺจยฏฺาเน สคฺเค ทุกฺขาธิฏฺานสฺส อกุสลกมฺมสมุฏฺานสฺส อตฺตภาวสฺส สมฺภโว ยุตฺโต. เตนาห ‘‘น ติรจฺฉานคตสฺสา’’ติ.

ติรจฺฉานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. าณกถาวณฺณนา

๘๗๖-๘๗๗. ‘‘ทฺวาทสวตฺถุกํ าณํ โลกุตฺตร’’นฺติ เอตฺถ ทฺวาทสวตฺถุกสฺส าณสฺส โลกุตฺตรตา ปติฏฺาปียตีติ ทสฺเสนฺโต ปมวิกปฺปํ วตฺวา ปุน โลกุตฺตราณสฺส ทฺวาทสวตฺถุกตา ปติฏฺาปียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ วา…เป… อตฺโถ’’ติ อาห. ปริฺเยฺยนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ปหาตพฺพ’’นฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. ปริฺาตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติอาทินา ปริชานนาทิกิริยาย นิพฺพตฺเตตพฺพตา นิพฺพตฺติตตา จ ทสฺสิตา, น นิพฺพตฺติยมานตาติ. เยน ปน สา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจาณํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สจฺจาณนฺติ ทุกฺขาทิสจฺจสภาวาวโพธกํ าณํ, ยํ สนฺธาย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. มคฺคกฺขเณปีติ อปิ-สทฺเทน ตโต ปุพฺพาปรภาเคปีติ ทฏฺพฺพํ. ปริชานนาทิกิจฺจสาธนวเสน โหติ อสมฺโมหโต วิสยโต จาติ อธิปฺปาโย.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺโถ ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๒๑. เอกวีสติมวคฺโค

๑. สาสนกถาวณฺณนา

๘๗๘. สมุทายาติ ‘‘สาสนํ นวํ กต’’นฺติอาทินา ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตา วจนสมุทายา. เอกเทสานนฺติ ตทวยวานํ. ‘‘ตีสุปิ ปุจฺฉาสู’’ติ เอวํ อธิกรณภาเวน วุตฺตา.

สาสนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อิทฺธิกถาวณฺณนา

๘๘๓-๘๘๔. อธิปฺปายวเสนาติ ตถา ตถา อธิมุจฺจนาธิปฺปายวเสน.

อิทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมกถาวณฺณนา

๘๘๗-๘๘๘. รูปสภาโว รูปฏฺโติ อาห ‘‘รูปฏฺโ นาม โกจิ รูปโต อฺโ นตฺถี’’ติ. ยํ ปน ยโต อฺํ, น ตํ ตํสภาวนฺติ อาห ‘‘รูปฏฺโต อฺํ รูปฺจ น โหตี’’ติ, รูปเมว น โหตีติ อตฺโถ. เอเตน พฺยติเรกโต ตมตฺถํ สาเธติ. ตสฺมาติ ยสฺมา รูปโต อฺโ รูปฏฺโ นตฺถิ, รูปฏฺโต จ อฺํ รูปํ, ตสฺมา รูปํ รูปเมว รูปสภาวเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตํ ทสฺเสติ ‘‘น เวทนาทิสภาว’’นฺติ. อธิปฺปาเยนาติ รูปรูปฏฺานํ อนฺตฺตาธิปฺปาเยน. อฺถาติ เตสํ อฺตฺเต รูปฏฺเน นิยเมน รูปํ นิยตนฺติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ทสฺสิโตเยว โหติ อตฺถโต อาปนฺนตฺตา. น หิ อภินฺเน วตฺถุสฺมึ ปริยายนฺตรเภทํ กโรติ. อฺตฺตนฺติ รูปสภาวานํ รูปรูปฏฺานฺจ. สสามินิทฺเทสสิทฺธาเภทา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ วิย, กปฺปนามตฺตโต จายํ เภโท, น ปรมตฺถโตติ อาห ‘‘คเหตฺวา วิย ปวตฺโต’’ติ. เวทนาทีหิ นานตฺตเมวาติ เวทนาทีหิ อฺตฺตเมว. โส สภาโวติ โส รูปสภาโว. นานตฺตสฺาปนตฺถนฺติ รูปสฺส สภาโว, น เวทนาทีนนฺติ เอวํ เภทสฺส าปนตฺถํ. ตฺจ วจนนฺติ ‘‘รูปํ รูปฏฺเน น นิยต’’นฺติ วจนํ. วุตฺตปฺปกาเรนาติ ‘‘รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาวา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน. ยทิ สโทสํ, อถ กสฺมา ปฏิชานาตีติ โยชนา.

วุตฺตเมว การณนฺติ ‘‘รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาว’’นฺติ เอวํ วุตฺตเมว ยุตฺตึ. ปเรน โจทิตนฺติ ‘‘น วตฺตพฺพํ รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติอาทินา ปรวาทิโน โจทนํ สนฺธายาห. ตเมว การณํ ทสฺเสตฺวาติ ตเมว ยถาวุตฺตํ ยุตฺตึ ‘‘เอตฺถ หี’’ติอาทินา ทสฺเสตฺวา. โจทนํ นิวตฺเตตีติ ‘‘อถ กสฺมา ปฏิชานาตี’’ติ วุตฺตํ โจทนํ นิวตฺเตติ. ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘อิโต อฺถา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาที’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ธมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๒. พาวีสติมวคฺโค

๒. กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา

๘๙๔-๘๙๕. ปุริมชวนกฺขเณติ ปรินิพฺพานจิตฺตโต อนนฺตราตีตปุริมชวนวารกฺขเณ.

กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อาเนฺชกถาวณฺณนา

๘๙๖. เหตุสรูปารมฺมณสมฺปยุตฺตธมฺมารมฺมณาทิโต ภวงฺคสทิสตฺตา จุติจิตฺตํ ‘‘ภวงฺคจิตฺต’’นฺติ อาห.

อาเนฺชกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๗. ติสฺโสปิกถาวณฺณนา

๘๙๘-๙๐๐. อรหตฺตปฺปตฺติปิ คพฺเภเยว อตฺถีติ มฺติ. สตฺตวสฺสิกา หิ โสปากสามเณราทโย อรหตฺตํ ปตฺตา. สตฺตวสฺสิโกปิ คพฺโภ อตฺถีติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย. อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย สุปินํ อากาสสุปินํ. ตํ อภิฺานิพฺพตฺตํ มฺตีติ นิทสฺสนํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อากาสคมนาทิอภิฺา วิยา’’ติ. เหฏฺิมานํ จตุนฺนํ วา มคฺคานํ อธิคเมน ธมฺมาภิสมโย อคฺคผลาธิคเมน อรหตฺตปฺปตฺติ จ สุปิเน อตฺถีติ มฺตีติ โยชนา.

ติสฺโสปิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา

๙๐๓-๙๐๕. พีชํ จตุมธุรภาวํ น คณฺหาตีติ อิทํ สกสมยวเสน วุตฺตํ, ปรสมเย ปน รูปธมฺมาปิ อรูปธมฺเมหิ สมานกฺขณา เอว อิจฺฉิตา. เตเนวาห ‘‘สพฺเพ ธมฺมา ขณิกา’’ติ. ขณิกตฺเตปิ วา อเจตเนสุปิ อนินฺทฺริยพทฺธรูเปสุ ภาวนาวิเสโส ลพฺภติ, กิมงฺคํ ปน สเจตเนสูติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา พีชํ จตุมธุรภาวํ น คณฺหาตี’’ติ นิทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาเสเวนฺโต นาม โกจิ ธมฺโม นตฺถิ อิตฺตรตาย อนวฏฺานโตติ อธิปฺปาโย. อิตฺตรขณตาย เอว ปน อาเสวนํ ลพฺภติ. กุสลาทิภาเวน หิ อตฺตสทิสสฺส ปโยเคน กรณียสฺส ปุนปฺปุนํ กรณปฺปวตฺตนํ อตฺตสทิสตาปาทนํ วาสนํ วา อาเสวนํ ปุเร ปริจิตคนฺโถ วิย ปจฺฉิมสฺสาติ.

อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ขณิกกถาวณฺณนา

๙๐๖-๙๐๗. ปถวิยาทิรูเปสูติ อเนกกลาปสมุทายภูเตสุ สสมฺภารปถวีอาทิรูเปสุ. ตตฺถ หิ เกสุจิ ปุริมุปฺปนฺเนสุ ิเตสุ เกสฺจิ ตทฺเสํ อุปฺปาโท, ตโต ปุริมนฺตรุปฺปนฺนานํ เกสฺจิ นิโรโธ โหติ เอเกกกลาปรูเปสุ สมานุปฺปาทนิโรธตฺตา เตสํ. เอวํ ปติฏฺานนฺติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน อสมานุปฺปาทนิโรเธน ปพนฺเธน ปติฏฺานปวตฺตีติ อตฺโถ. สา ปนายํ ยถาวุตฺตา ปวตฺติ กสฺมา รูปสนฺตติยา เอวาติ อาห ‘‘น หิ รูปาน’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยทิ สพฺเพ สงฺขตธมฺมา สมานกฺขณา, ตถา สติ อรูปสนฺตติยา วิย รูปสนฺตติยาปิ อนนฺตราทิปจฺจเยน วิธินา ปวตฺติ สิยา, น เจตํ อตฺถิ. ยทิ สิยา, จิตฺตกฺขเณ จิตฺตกฺขเณ ปถวีอาทีนํ อุปฺปาทนิโรเธหิ ภวิตพฺพนฺติ.

ขณิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พาวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๓. เตวีสติมวคฺโค

๑. เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา

๙๐๘. เอก-สทฺโท อฺตฺโถปิ โหติ ‘‘อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ วิย, อฺตฺตฺเจตฺถ ราคาธิปฺปายโต เวทิตพฺพํ, ปุถุชฺชนสฺส ปน สฉนฺทราคปริโภคภาวโต อาห ‘‘ราคาธิปฺปายโต อฺาธิปฺปาโยวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. โก ปน โส อฺาธิปฺปาโยติ? กรุณาธิปฺปาโย. เตน วุตฺตํ ‘‘กรุณาธิปฺปาเยน เอกาธิปฺปาโย’’ติ. อยฺจ นโย อิตฺถิยา ชีวิตรกฺขณตฺถํ การุฺเน มโนรถํ ปูเรนฺตสฺส โพธิสตฺตสฺส สํวรวินาโส น โหตีติ เอวํวาทินํ ปรวาทึ สนฺธาย วุตฺโต, ปณิธานาธิปฺปายวาทินํ ปน สนฺธาย ‘‘เอโก อธิปฺปาโยติ เอตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุตฺตมุขทสฺสนาธิปฺปาโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คโตติ ทฏฺพฺพํ. เอกโตภาเวติ สหภาเว.

เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๗. อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา

๙๑๐-๙๑๔. อิสฺสริเยนาติ จิตฺติสฺสริเยน, น เจโตวสิภาเวนาติ อตฺโถ. กามการิกํ ยถิจฺฉิตนิปฺผาทนํ. อิสฺสริยกามการิกาเหตูติ อิสฺสริยกามการิภาวนิมิตฺตํ, ตสฺส นิพฺพตฺตนตฺถนฺติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิยา กรียตีติ มิจฺฉาภินิเวเสเนว ยา กาจิ ทุกฺกรการิกา กรียตีติ อตฺโถ.

อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปติรูปกถาวณฺณนา

๙๑๕-๙๑๖. เมตฺตาทโย วิยาติ ยถา เมตฺตา กรุณา มุทิตา จ สิเนหสภาวาปิ อรฺชนสภาวตฺตา อสํกิลิฏฺตฺตา จ น ราโค, เอวํ ราคปติรูปโก โกจิ ธมฺโม นตฺถิ เปตฺวา เมตฺตาทโย, อฺจิตฺตสฺส สินิยฺหนากาโร ราคสฺเสว ปวตฺติอากาโรติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ราคเมว คณฺหาตี’’ติ. เอวํ โทเสปีติ เอตฺถ อิสฺสาทโย วิย น โทโส โทสปติรูปโก โกจิ อตฺถีติ โทสเมว คณฺหาตีติ โยเชตพฺพํ. เปตฺวา หิ อิสฺสาทโย อฺจิตฺตสฺส ทุสฺสนากาโร โทสสฺเสว ปวตฺติอากาโรติ.

ปติรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา

๙๑๗-๙๑๘. อนิจฺจาทิโก ภาโวติ อนิจฺจสงฺขารปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาทิโก ภาโว ธมฺโม ปกติ เอตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนนฺติ ‘‘ทุกฺขสจฺจํ สนฺธาย ปุจฺฉา กตา, น ทุกฺขตามตฺต’’นฺติ อยมตฺโถ วิฺายติ ‘‘น เกวลฺหิ ปมสจฺจเมว ทุกฺข’’นฺติ วจเนน. ตถา สติ ปรวาทินา จกฺขายตนาทีนํ อฺเสฺจ ตํสริกฺขกานํ ธมฺมานํ ปรินิปฺผนฺนตา นานุชานิตพฺพา สิยา. กสฺมา? เตสมฺปิ หิ ทุกฺขสจฺเจน สงฺคโห, น อิตรสจฺเจหิ. ยฺหิ สมุทยสจฺจโต นิพฺพตฺตํ, ตํ นิปฺปริยายโต ทุกฺขสจฺจํ, อิตรํ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวลฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น หิ อนุปาทินฺนานีติ อิมินา จกฺขายตนาทีนํ สมุทยสจฺเจน สงฺคหาภาวมาห. โลกุตฺตรานีติ อิมินา นิโรธมคฺคสจฺเจหิ. ยทิ เอวเมตฺถ ยุตฺติ วตฺตพฺพา, กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ? สภาโว เหส ปรวาทิวาทสฺส, ยทิทํ ปุพฺเพนาปรมสํสนฺทนํ. ตถา หิ โส วิฺูหิ ปฏิกฺขิตฺโต. ตถา เจว ตํ อมฺเหหิ ตตฺถ ตตฺถ วิภาวิตํ. เอตนฺติ ‘‘รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ ยเทตํ ตยา วุตฺตํ, เอตํ โน วต เร วตฺตพฺเพ. กสฺมา? รูปสฺส จ ทุกฺขตฺตา. รูปฺหิ อนิจฺจํ ทุกฺขาธิฏฺานฺจ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ จ.

อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

กถาวตฺถุปกรณ-อนุฏีกา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ยมกปกรณ-อนุฏีกา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

สงฺเขเปเนวาติ อุทฺเทเสเนว. ยํ ‘‘มาติกาปน’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺเมสูติ ขนฺธาทิธมฺเมสุ กุสลาทิธมฺเมสุ จ. อวิปรีตโต คหิเตสุ ธมฺเมสุ มูลยมกาทิวเสน ปวตฺติยมานา เทสนา เวเนยฺยานํ นานปฺปการโกสลฺลาวหา ปริฺากิจฺจสาธนี จ โหติ, น วิปรีตโตติ อาห ‘‘วิปรีตคฺคหณํ…เป… อารทฺธ’’นฺติ. เอเตน กถาวตฺถุปกรณเทสนานนฺตรํ ยมกปกรณเทสนาย การณมาห. ตตฺถ วิปรีตคฺคหณนฺติ ปุคฺคลปริคฺคหณาทิมิจฺฉาคาหํ. ธมฺมปุคฺคโลกาสาทินิสฺสยานนฺติ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต กุสลมูลา’’ติอาทินา (ยม. ๑.มูลยมก.๑) ธมฺเม, ‘‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๕๐) ปุคฺคลํ ‘‘ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๕๑) โอกาสํ นิสฺสาย อารพฺภ ปวตฺตานํ. อาทิ-สทฺเทน ปุคฺคโลกาสอุปฺปาทนิโรธตทุภยปริฺาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สนฺนิฏฺานสํสยานนฺติ ปาฬิคติปฏิวจนสรูปทสฺสนปฏิกฺขิปนปฏิเสธนนเยหิ ยถาปุจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส นิจฺฉยกรณํ สนฺนิฏฺานํ, ตทภาวโต สํสยนํ สํสโย. เตสํ สนฺนิฏฺานสํสยานํ.

กามฺเจตฺถ ธมฺมปฏิคฺคาหกานํ สํสยปุพฺพกํ สนฺนิฏฺานนฺติ ปมํ สํสโย วตฺตพฺโพ, เทเสนฺตสฺส ปน ภควโต สนฺนิฏฺานปุพฺพโก สํสโยติ ทสฺสนตฺถํ อยํ ปทานุกฺกโม กโต. สพฺพฺหิ ปริฺเยฺยํ หตฺถามลกํ วิย ปจฺจกฺขํ กตฺวา ิตสฺส ธมฺมสามิโน น กตฺถจิ สํสโย, วิสฺสชฺเชตุกามตาย ปน วิเนยฺยชฺฌาสยคตํ สํสยํ ทสฺเสนฺโต สํสยิตวเสน ปุจฺฉํ กโรตีติ เอวํ วิสฺสชฺชนปุจฺฉนวเสน น สนฺนิฏฺานสํสยา ลพฺภนฺตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต, นิจฺฉิตสํสยธมฺมวเสเนว ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานสํสยา เวทิตพฺพา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘กุสเลสุ กุสลา นุ โข, น นุ โข กุสลาติ สนฺเทหาภาวโต’’ติอาทิ. เตเนว จ ‘‘สนฺนิฏฺานสํสยาน’’นฺติ, ‘‘สนฺนิฏฺานสํสยวเสนา’’ติ จ ปมํ สนฺนิฏฺานคฺคหณํ กตํ.

นฺติ ยมกปกรณํ. ตสฺส เย สมยาทโย วตฺตพฺพา, เต กถาวตฺถุปกรณเทสนานนฺตโร เทสนาสมโย, ตาวตึสภวนเมว เทสนาเทโส, กุสลากุสลมูลาทิยมกากาเรน เทสนาติ วิภาคโต ‘‘สงฺเขเปเนวา’’ติอาทิคาถาหิ วิภาวิตา นิมิตฺเตน สทฺธึ สํวณฺณนปฏิฺา จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมยเทสเทสนาวเสนา’’ติอาทิมาห. นิมิตฺตฺเหตํ อิธ สํวณฺณนาย, ยทิทํ กมานุปฺปตฺติ อาคตภารวาหิตา จ ปณฺฑิตานํ ปณฺฑิตกิจฺจภาวโต. ตตฺถ อนุปฺปตฺตํ ทสฺเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ สมยาทิทสฺสเน. ยมนํ อุปรมนนฺติ ยโม มรณนฺติ อาห ‘‘ชาติยา สติ มรณํ โหตีติ…เป… วิสโย’’ติ. ตตฺถ ยถา ‘‘ชาติยา สติ มรณํ โหตี’’ติ ชาติ ยมสฺส วิสโย, เอวํ ‘‘อุปาทานกฺขนฺเธสุ สนฺเตสุ มรณํ โหตี’’ติ อุปาทานกฺขนฺธา ยมสฺส วิสโยติ โยเชตพฺพํ. เต หิ มรณธมฺมิโนติ. อนุปฺปตฺตมรณํเยว กิพฺพิสการินํ ปุคฺคลํ ยมปุริสา วิวิธา กมฺมการณา กโรนฺติ, น อปฺปตฺตมรณนฺติ มรณํ ยมสฺส วิสโย วุตฺโต. อาณาปวตฺติฏฺานนฺติ อิทํ วิสย-สทฺทสฺส อตฺถวจนํ. เทสํ วาติ กามาทิธาตุตฺตยเทสํ สนฺธายาห. ธาตุตฺตยิสฺสโร หิ มจฺจุราชา. ปฺจานนฺตริยานิ อฺสตฺถารุทฺเทโส จ, เตน วา สทฺธึ ปฺจ เวรานิ ฉ อภพฺพฏฺานานิ. อาวตฺตาติ ปทกฺขิณาวตฺตา. ตนุรุหาติ โลมา.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. มูลยมกํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

. ยมกสมูหสฺสาติ มูลยมกาทิกสฺส ยมกสมูหสฺส. มูลยมกาทโย หิ ปกรณาเปกฺขาย อวยวภูตาปิ นิจฺจาวยวาเปกฺขาย ยมกสมูโหติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ตํสมูหสฺส จ สกลสฺส ปกรณสฺสา’’ติ.

กุสลากุสลมูลวิเสสานนฺติ ทุติยปุจฺฉาย วุตฺตานํ สํสยปทสงฺคหิตานํ กุสลสงฺขาตานํ, ตถา ปมปุจฺฉาย วุตฺตานํ กุสลมูลสงฺขาตานํ วิเสสานํ อตฺถยมกภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ โยชนา. ยถา หิ ปมปุจฺฉาย วิเสสวนฺตภาเวน วุตฺตาเยว กุสลธมฺมา ทุติยปุจฺฉายํ วิเสสภาเวน วุตฺตา, เอวํ ปมปุจฺฉายํ วิเสสภาเวน วุตฺตาเยว กุสลมูลธมฺมา ทุติยปุจฺฉายํ วิเสสวนฺตภาเวน วุตฺตา. วตฺตุวจนิจฺฉาวเสน หิ ธมฺมานํ วิเสสวิเสสวนฺตตาวิภาคา โหนฺตีติ. กุสลมูลกุสลวิเสเสหิ สํสยิตปทสงฺคหิเตหิ กุสลกุสลมูลานํ วิเสสวนฺตานนฺติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ วิเสสวนฺตาเปกฺขวิเสสวเสน ปโม อตฺถวิกปฺโป วุตฺโต, ทุติโย ปน วิเสสาเปกฺขวิเสสวนฺตวเสนาติ อยเมเตสํ วิเสโส. เตนาห ‘‘าตุํ อิจฺฉิตานํ หี’’ติอาทิ.

ตตฺถ าตุํ อิจฺฉิตานนฺติ ปุจฺฉาย วิสยภูตานนฺติ อตฺโถ. วิเสสานนฺติ กุสลกุสลมูลวิเสสานํ. วิเสสวนฺตาเปกฺขานนฺติ กุสลมูลกุสลสงฺขาเตหิ วิเสสวนฺเตหิ สาเปกฺขานํ. วิเสสวตนฺติ กุสลมูลกุสลานํ. วิเสสาเปกฺขานนฺติ กุสลกุสลมูลวิเสเสหิ สาเปกฺขานํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ มูลยมเก. ปธานภาโวติ ปมวิกปฺเป ตาว สํสยิตปฺปธานตฺตา ปุจฺฉาย วิเสสานํ ปธานภาโว เวทิตพฺโพ. เต หิ สํสยิตานํ วิเสสวนฺโตติ. ทุติยวิกปฺเป ปน วิเสสา นาม วิเสสวนฺตาธีนาติ วิเสสวนฺตานํ ตตฺถ ปธานภาโว ทฏฺพฺโพ. ทฺวินฺนํ ปน เอกชฺฌํ ปธานภาโว น ยุชฺชติ. สติ หิ อปฺปธาเน ปธานํ นาม สิยา. เตนาห ‘‘เอเกกาย ปุจฺฉาย เอเกโก เอว อตฺโถ สงฺคหิโต โหตี’’ติ. เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา วินิจฺฉิตวิเสสิตพฺพภาเวหิ อิธ ปธานภาโว น ยุชฺชเตวาติ. น ธมฺมวาจโกติ น สภาวธมฺมวาจโก. สภาวธมฺโมปิ หิ อตฺโถติ วุจฺจติ ‘‘คมฺภีรปฺํ นิปุณตฺถทสฺสิ’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๑๗๘). ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) อตฺถ-สทฺทสฺส เหตุผลวาจกตา ทฏฺพฺพา. อาทิ-สทฺเทนสฺส ‘‘อตฺถาภิสมยา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙) อาคตา หิตาทิวาจกตา สงฺคยฺหติ. เตเนวาติ ปาฬิอตฺถวาจกตฺตา เอว.

ตีณิปิ ปทานีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, สมุจฺจโย จ ตุลฺยโยเค สิยา. กึ นาม-ปเทน อนวเสสโต กุสลาทีนํ สงฺคโหติ อาสงฺกาย ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ตีณิปิ…เป… สงฺคาหกตฺต’’นฺติ. ตตฺถ สงฺคาหกตฺตมตฺตนฺติ มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถติ. เตน นิวตฺติตํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘น นิรวเสสสงฺคาหกตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. น หิ รูปํ นาม-ปเทน สงฺคยฺหติ. กุสลาทิเยว นามนฺติ นิยโม ทฏฺพฺโพ, น นามํเยว กุสลาทีติ อิมเมว จ นิยมํ สนฺธายาห ‘‘กุสลาทีนํ สงฺคาหกตฺตมตฺตเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ยทิปิ นาม-ปทํ น นิรวเสสกุสลาทิสงฺคาหกํ, กุสลาทิสงฺคาหกํ ปน โหติ, ตทตฺถเมว จ ตํ คหิตนฺติ นามสฺส กุสลตฺติกปริยาปนฺนตา วุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กุสลาทิ…เป… วุตฺต’’นฺติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารวณฺณนา

๕๒. ทุติยยมเกติ เอกมูลยมเก. เอวมิธาปีติ ยถา เอกมูลยมเก ‘‘เย เกจิ กุสลา’’อิจฺเจว ปุจฺฉา อารทฺธา, เอวํ อิธาปิ อฺมฺมูลยมเกปิ ‘‘เย เกจิ กุสลา’’อิจฺเจว ปุจฺฉา อารภิตพฺพา สิยา. กสฺมา? ปุริมยมก…เป… อปฺปวตฺตตฺตาติ. อิทฺจ ทุติยยมกสฺส ตถา อปฺปวตฺตตฺตา วุตฺตํ, ตติยยมกํ ปน ตเถว ปวตฺตํ. เกจีติ ปทการา. เต หิ ยถา ปมทุติยยมเกสุ ปุริมปุจฺฉา เอว ปริวตฺตนวเสน ปจฺฉิมปุจฺฉา กตาติ ปจฺฉิมปุจฺฉาย ปุริมปุจฺฉา สมานา เปตฺวา ปฏิโลมภาวํ, น ตถา อฺมฺยมเก. ตตฺถ หิ ทฺเวปิ ปุจฺฉา อฺมฺวิสทิสา. ยทิ ตตฺถาปิ ทฺวีหิปิ ปุจฺฉาหิ สทิสาหิ ภวิตพฺพํ, ‘‘เย เกจิ กุสลา’’ติ ปมปุจฺฉา อารภิตพฺพา, ปจฺฉิมปุจฺฉา วา ‘‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลมูเลน เอกมูลา’’ติ วตฺตพฺพา สิยา. เอวํ ปน อวตฺวา ปมทุติยยมเกสุ วิย ปุริมปจฺฉิมปุจฺฉา สทิสา อกตฺวา ตติยยมเก ตาสํ วิสทิสตา ‘‘เย เกจิ กุสลา’’ติ อนารทฺธตฺตา, ตสฺมา ปฏิโลมปุจฺฉานุรูปาย อนุโลมปุจฺฉาย ภวิตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘เย เกจิ กุสลาติ อปุจฺฉิตฺวา’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ.

อตฺถวเสนาติ สมฺภวนฺตานํ นิจฺฉิตสํสยิตานํ อตฺถานํ วเสน. ตทนุรูปายาติ ตสฺสา ปุริมปุจฺฉาย อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนุจฺฉวิกาย. ปุริมฺหิ อเปกฺขิตฺวา ปจฺฉิมาย ภวิตพฺพํ. เตนาติ ตสฺมา. ยสฺมา อนุโลเม สํสยจฺเฉเท ชาเตปิ ปฏิโลเม สํสโย อุปฺปชฺชติ, ยทิ น อุปฺปชฺเชยฺย, ปฏิโลมปุจฺฉาย ปโยชนเมว น สิยา, ตสฺมา น ปจฺฉิมปุจฺฉานุรูปา ปุริมปุจฺฉา, อถ โข วุตฺตนเยน ปุริมปุจฺฉานุรูปา ปจฺฉิมปุจฺฉา, ตาย จ อนุรูปตาย อตฺถาทิวเสน ทฺวินฺนํ ปทานํ สมฺพนฺธตฺตา อตฺถาทิยมกตา วุตฺตา. เทสนากฺกมโต เจตฺถ อนุโลมปฏิโลมตา เวทิตพฺพา ‘‘กุสลา กุสลมูลา’’ติ วตฺวา ‘‘กุสลมูลา กุสลา’’ติ จ วุตฺตตฺตา. เสสยมเกสุปิ เอเสว นโย. วิเสสวนฺตวิเสส, วิเสสวิเสสวนฺตคฺคหณโต วา อิธ อนุโลมปฏิโลมตา เวทิตพฺพา. ปมปุจฺฉายฺหิ เย ธมฺมา วิเสสวนฺโต, เต นิจฺฉยาธิฏฺาเน กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา’’ติ วตฺวา เตสุ ยสฺมึ วิเสโส สํสยาธิฏฺาโน, ตํทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺเพ เต กุสลมูลา’’ติ ปุจฺฉา กตา. ทุติยปุจฺฉายํ ปน ตปฺปฏิโลมโต เยน วิเสเสน เต วิเสสวนฺโต, ตํ วิเสสํ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เย วา ปน กุสลมูลา’’ติ วตฺวา เต วิเสสวนฺเต สํสยาธิฏฺานภูเต ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลา’’ติ ปุจฺฉา กตา. อนิยตวตฺถุกา หิ สนฺนิฏฺานสํสยา อเนกชฺฌาสยตฺตา สตฺตานํ.

อิมินาปิ พฺยฺชเนนาติ ‘‘เย เกจิ กุสลมูเลน เอกมูลา’’ติ อิมินาปิ วากฺเยน. เอวํ น สกฺกา วตฺตุนฺติ เยนาธิปฺปาเยน วุตฺตํ, ตเมวาธิปฺปายํ วิวรติ ‘‘น หี’’ติอาทินา. ตตฺถ เตเนวาติ กุสลพฺยฺชนตฺถสฺส กุสลมูเลน เอกมูลพฺยฺชนตฺถสฺส ภินฺนตฺตา เอว. วิสฺสชฺชนนฺติ วิภชนํ. อิตรถาติ กุสลมูเลน เอกมูลพฺยฺชเนน ปุจฺฉาย กตาย. ตานิ วจนานีติ กุสลวจนํ กุสลมูเลน เอกมูลวจนฺจ. กุสลจิตฺตสมุฏฺานรูปวเสน จสฺส อพฺยากตทีปนตา ทฏฺพฺพา. เอตฺถาติ ‘‘อิมินาปิ พฺยฺชเนน ตสฺเสวตฺถสฺส สมฺภวโต’’ติ เอตสฺมึ วจเน. เย เกจิ กุสลา…เป… สมฺภวโตติ เอเตน กุสลานํ กุสลมูเลน เอกมูลตาย พฺยภิจาราภาวํ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘น หิ…เป… สนฺตี’’ติ. วุตฺตพฺยฺชนตฺถสฺเสว สมฺภวโตติ หิ อิมินา อวุตฺตพฺยฺชนตฺถสฺส สมฺภวาภาววจเนน สฺวายมธิปฺปายมตฺโถ วิภาวิโต. ยถา หิ กุสลมูเลน เอกมูลพฺยฺชนตฺโถ กุสลพฺยฺชนตฺถํ พฺยภิจรติ, น เอวํ ตํ กุสลพฺยฺชนตฺโถ. กถํ กตฺวา โจทนา, กถฺจ กตฺวา ปริหาโร? กุสลมูเลน เอกมูลา กุสลา เอวาติ โจทนา กตา, กุสลมูเลน เอกมูลา เอว กุสลาติ ปน ปริหาโร ปวตฺโตติ เวทิตพฺพํ. ทุติยยมเก วิย อปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘เย เกจิ กุสลา’’ติ อปุจฺฉิตฺวา. กุสลมูเลหีติ กุสเลหิ มูเลหิ. เตติ กุสลมูเลน เอกมูลา.

เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘กุสลมูลานิ เอกมูลานิ เจว อฺมฺมูลานิ จา’’ติอาทิปาฬิเสสํ ทสฺเสติ. ยํ สนฺธาย ‘‘เหฏฺา วุตฺตนเยเนว วิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺาติ อนุโลมปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน. วุตฺตนเยนาติ ‘‘มูลานิ ยานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ตมฺปีติ ‘‘กุสลมูเลนา’’ติอาทิ อฏฺกถาวจนมฺปิ. ตถาติ เตน ปกาเรน, อนุโลมปุจฺฉายํ วิย วิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ ภเวยฺยาติ อิมินา ปกาเรนาติ อตฺโถ. เยน การเณน ‘‘น สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย วา ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อามนฺตา’’อิจฺเจว วิสฺสชฺชเนน ภวิตพฺพนฺติ ‘‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลา’’ติ ปุจฺฉายํ วิย ‘‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลมูเลน เอกมูลา’’ติ ปุจฺฉิเตปิ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนเมว ลพฺภติ, น อนุโลมปุจฺฉายํ วิย สรูปทสฺสนวิสฺสชฺชนํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตพฺพสฺส อภาวโต. เย หิ ธมฺมา กุสลมูเลน เอกมูลา, น เต ธมฺมา กุสลมูเลน อฺมฺมูลาว. เย ปน กุสลมูเลน อฺมฺมูลา, เต กุสลมูเลน เอกมูลาว. เตนาห ‘‘น หิ…เป… วิภาโค กาตพฺโพ ภเวยฺยา’’ติ.

ตตฺถ เยนาติ เยน อฺมฺมูเลสุ เอกมูลสฺส อภาเวน. ยตฺถาติ ยสฺมึ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาเท. อฺมฺมูลกตฺตา เอกมูลกตฺตา จาติ อธิปฺปาโย. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนฺหิ เอเกเกน อฺมฺมูลกตฺเต วุตฺเต เตสํ เอเกเกน เอกมูลกตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหติ สมานตฺโถ เอกสทฺโทติ กตฺวา. เตเนวาห ‘‘ยตฺถ ปน…เป… น เอกมูลานี’’ติ. ตยิทํ มิจฺฉา, ทฺวีสุปิ เอเกเกน อิตรสฺส เอกมูลกตฺตํ สมฺภวติ เอวาติ. เตนาห ‘‘เอตสฺส คหณสฺส นิวารณตฺถ’’นฺติอาทิ. ‘‘เย ธมฺมา กุสลมูเลน อฺมฺมูลา, เต กุสลมูเลน เอกมูลา’’ติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺเตน อิธ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปเทน ยตฺถ ทฺเว มูลานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ เอเกเกน อิตรสฺส เอกมูลกตฺตํ ปกาสิตเมวาติ อาห ‘‘อามนฺตาติ อิมินาว วิสฺสชฺชเนน ตํคหณนิวารณโต’’ติ. นิจฺฉิตตฺตาติ เอตฺถ เอกโต อุปฺปชฺชมานานํ ติณฺณนฺนํ ตาว มูลานํ นิจฺฉิตํ โหตุ อฺมฺเกมูลกตฺตํ, ทฺวินฺนํ ปน กถนฺติ อาห ‘‘อฺมฺมูลานํ หี’’ติอาทิ. สมานมูลตา เอวาติ อวธารเณน นิวตฺติตตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น อฺมฺสมานมูลตา’’ติ วุตฺตํ. เตน อฺมฺมูลานํ สมานมูลตามตฺตวจนิจฺฉาย เอกมูลคฺคหณํ, น เตสํ อฺมฺปจฺจยตาวิสิฏฺสมานมูลตาทสฺสนตฺถนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ทฺวินฺนํ มูลานนฺติ ทฺวินฺนํ เอกมูลานํ เอกโต อุปฺปชฺชมานานํ. ยถา เตสํ สมานมูลตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํมูเลหิ อฺเหีติ อิตรมูเลหิ มูลทฺวยโต อฺเหิ สหชาตธมฺเมหิ.

อิทานิ เยน อธิปฺปาเยน ปฏิโลเม ‘‘กุสลา’’อิจฺเจว ปุจฺฉา กตา, น ‘‘กุสลมูเลน เอกมูลา’’ติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฺมฺมูลตฺเต ปน…เป… กตาติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. น หิ กุสลมูเลน อฺมฺมูเลสุ กิฺจิ เอกมูลํ น โหตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. มูลยุตฺตตเมว วทติ, น มูเลหิ อยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อฺถา ปุพฺเพนาปรํ วิรุชฺเฌยฺย. เตเนวาติ มูลยุตฺตตาย เอว วุจฺจมานตฺตา. อุภยตฺถาปีติ อฺมฺมูลา เอกมูลาติ ทฺวีสุปิ ปเทสุ. ‘‘กุสลมูเลนา’’ติ วุตฺตํ, กุสลมูเลน สมฺปยุตฺเตนาติ หิ อตฺโถ. ยทิ อุภยมฺปิ วจนํ มูลยุตฺตตเมว วทติ, อถ กสฺมา อนุโลมปุจฺฉายเมว เอกมูลคฺคหณํ กตํ, น ปฏิโลมปุจฺฉายนฺติ อุภยตฺถาปิ ตํ คเหตพฺพํ น วา คเหตพฺพํ. เอวฺหิ มูเลกมูลยมกเทสนาหิ อยํ อฺมฺยมกเทสนา สมานรสา สิยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ อฺมฺยมเก. ยทิปิ เอกมูลา อฺมฺมูลาติ อิทํ ปททฺวยํ วุตฺตนเยน มูลยุตฺตตเมว วทติ, ตถาปิ สามฺวิเสสลกฺขเณ อตฺเถว เภโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘มูลโยคสามฺเ’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมูลกานํ สมานมูลตา เอกมูลตฺตนฺติ เอกมูลวจนํ เตสุ อวิเสสโต มูลสพฺภาวมตฺตํ วทติ, น อฺมฺมูลสทฺโท วิย มูเลสุ ลพฺภมานํ วิเสสํ, น จ สามฺเ นิจฺฉโย วิเสเส สํสยํ วิธมตีติ อิมมตฺถมาห ‘‘มูลโยคสามฺเ…เป… ปวตฺตา’’ติ อิมินา. วิเสเส ปน นิจฺฉโย สามฺเ สํสยํ วิธมนฺโต เอว ปวตฺตตีติ อาห ‘‘มูลโยควิเสเส ปน…เป… นิจฺฉิตเมว โหตี’’ติ. ตสฺมาติ วุตฺตสฺเสว ตสฺส เหตุภาเวน ปรามสนํ, วิเสสนิจฺฉเยเนว อวินาภาวโต, สามฺสฺส นิจฺฉิตตฺตา ตตฺถ วา สํสยาภาวโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอกมูลาติ ปุจฺฉํ อกตฺวา’’ติ. กุสลภาวทีปกํ น โหตีติ กุสลภาวสฺเสว ทีปกํ น โหติ ตทฺชาติกสฺสปิ ทีปนโต. เตนาห ‘‘กุสลภาเว สํสยสพฺภาวา’’ติ. อฺมฺมูลวจนนฺติ เกวลํ อฺมฺมูลวจนนฺติ อธิปฺปาโย. กุสลาธิการสฺส อนุวตฺตมานตฺตาติ อิมินา ‘‘สพฺเพ เต ธมฺมา กุสลา’’ติ กุสลคฺคหเณ การณมาห. เอกมูลคฺคหเณ หิ ปโยชนาภาโว ทสฺสิโต, กุสลสฺส วเสน จายํ เทสนาติ.

๕๓-๖๑. มูลนเย วุตฺเต เอว อตฺเถติ มูลนเย วุตฺเต เอว กุสลาทิธมฺเม. กุสลาทโย หิ สภาวธมฺมา อิธ ปาฬิอตฺถตาย อตฺโถติ วุตฺโต. กุสลมูลภาเวน, มูลสฺส วิเสสเนน, มูลโยคทีปเนน จ ปกาเสตุํ. กุสลมูลภูตา มูลา กุสลมูลมูลาติ สมาสโยชนา. มูลวจนฺหิ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณํ. อกุสลาพฺยากตาปิ มูลธมฺมา อตฺถีติ กุสลมูลภาเวน มูลธมฺมา วิเสสิตา. มูลคฺคหเณน จ มูลวนฺตานํ มูลโยโค ทีปิโต โหติ. สมาเนน มูเลน, มูลสฺส วิเสสเนน, มูลโยคทีปเนน จ ปกาเสตุํ ‘‘เอกมูลมูลา’’ติ, อฺมฺสฺส มูเลน มูลภาเวน, มูลสฺส วิเสสเนน, มูลโยคทีปเนน จ ปกาเสตุํ ‘‘อฺมฺมูลมูลา’’ติ มูลมูลนโย วุตฺโตติ โยชนา. ตีสุปิ ยมเกสุ ยถาวุตฺตวิเสสนเมเวตฺถ ปริยายนฺตรํ ทฏฺพฺพํ.

มูลโยคํ ทีเปตุนฺติ มูลโยคเมว ปธานํ สาติสยฺจ กตฺวา ทีเปตุนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา หิ กุสลานิ มูลานิ เอเตสนฺติ กุสลมูลกานีติ พาหิรตฺถสมาเส มูลโยโค ปธานภาเวน วุตฺโต โหติ, น เอวํ ‘‘กุสลสงฺขาตา มูลา กุสลมูลา’’ติ เกวลํ, ‘‘กุสลมูลมูลา’’ติ สวิเสสนํ วา วุตฺเต อุตฺตรปทตฺถปฺปธานสมาเส. เตนาห ‘‘อฺปทตฺถ…เป… ทีเปตุ’’นฺติ. วุตฺตปฺปกาโรวาติ ‘‘กุสลมูลภาเวน มูลสฺส วิเสสเนนา’’ติอาทินา มูลมูลนเย จ, ‘‘อฺปทตฺถสมาสนฺเตน ก-กาเรนา’’ติอาทินา มูลกนเย จ วุตฺตปฺปกาโร เอว. วจนปริยาโย มูลมูลกนเย เอกชฺฌํ กตฺวา โยเชตพฺโพ.

๗๔-๘๕. น เอกมูลภาวํ ลภมาเนหีติ อพฺยากตมูเลน น เอกมูลกํ ตถาวตฺตพฺพตํ ลภมาเนหิ อฏฺารสอเหตุกจิตฺตุปฺปาทาเหตุกสมุฏฺานรูปนิพฺพาเนหิ เอกโต อลพฺภมานตฺตา. ยถา หิ ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาทาทโย เหตุปจฺจยวิรหิตา อเหตุกโวหารํ ลภนฺติ, น เอวํ สเหตุกสมุฏฺานํ รูปํ. เตนาห ‘‘อเหตุกโวหารรหิตํ กตฺวา’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุกเมว, อเหตุกเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา กิฺจาปิ สเหตุกสมุฏฺานมฺปิ รูปํ อเหตุกํ, ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตา เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๓) ปน วจนโต เหตุปจฺจยโยเคน สเหตุกสมุฏฺานสฺส รูปสฺส อเหตุกโวหาราภาโว วุตฺโต. เกจิ ปน ‘‘อพฺโพหาริกํ กตฺวาติ สเหตุกโวหาเรน อพฺโพหาริกํ กตฺวาติ อตฺถํ วตฺวา อฺถา ‘อเหตุกํ อพฺยากตํ อพฺยากตมูเลน เอกมูล’นฺติ น สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตเมว อเหตุกโวหาราภาเวน สเหตุกตาปริยายสฺส อตฺถสิทฺธตฺตา. อปิจ เหตุปจฺจยสพฺภาวโต ตสฺส สเหตุกตาปริยาโย ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘น วา สเหตุกทุเก วิย…เป… อพฺโพหาริกํ กต’’นฺติ. เอตฺถ เอตฺถาติ เอตสฺมึ เอกมูลกทุเก. เหตุปจฺจยโยคาโยควเสนาติ เหตุปจฺจเยน โยคาโยควเสน, เหตุปจฺจยสฺส สพฺภาวาสพฺภาววเสนาติ อตฺโถ. สเหตุกโวหารเมว ลภติ ปจฺจยภูตเหตุสพฺภาวโต.

อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘สเหตุกจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ อเหตุกํ อพฺยากตนฺติ อิมินา วจเนน สงฺคหํ คจฺฉนฺตมฺปิ สมูลกตฺตา ‘อพฺยากตมูเลน น เอกมูล’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, สติปิ สมูลกตฺเต นิปฺปริยาเยน สเหตุกํ น โหตีติ ‘อพฺยากตมูเลน เอกมูล’นฺติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘อเหตุกํ อพฺยากตํ อพฺยากตมูเลน น เอกมูลํ, สเหตุกํ อพฺยากตํ อพฺยากตมูเลน เอกมูล’นฺติ ทฺวีสุปิ ปเทสุ อนวโรธโต อพฺโพหาริกํ กตฺวาติ วุตฺต’’นฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ‘‘สเหตุกอพฺยากตสมุฏฺานํ รูปํ อพฺยากตมูเลน เอกมูลํ โหตี’’ติ อฏฺกถายํ ตสฺส เอกมูลภาวสฺส นิจฺฉิตตฺตา, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว เจตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๘๖-๙๗. กุสลากุสลาพฺยากตราสิโต นมนนามนสงฺขาเตน วิเสเสน อรูปธมฺมานํ คหณํ นิทฺธารณํ นาม โหตีติ อาห ‘‘นามานํ นิทฺธาริตตฺตา’’ติ. เตน เตสํ อธิกภาวมาห วิฺายมานเมว ปกรเณน อปริจฺฉินฺนตฺตา. ยทิ เอวํ ‘‘อเหตุกํ นามํ สเหตุกํ นาม’’นฺติ ปานฺตเร กสฺมา นามคฺคหณํ กตนฺติ อาห ‘‘สุปากฏภาวตฺถ’’นฺติ, ปริพฺยตฺตํ กตฺวา วุตฺเต กึ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

มูลยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ขนฺธยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวาโร

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๒-๓. ขนฺธยมเก …เป… ปริฺา จ วตฺตพฺพาติ อิทํ ปธานภาเวน วตฺตพฺพทสฺสนํ. อภิฺเยฺยกถา หิ อภิธมฺโม, สา จ ยาวเทว ปริฺตฺตาติ ปริฺาสุ จ น วินา ตีรณปริฺาย ปหานปริฺา, ตีรณฺจ สมฺปุณฺณปรานุคฺคหสฺส อธิปฺเปตตฺตา กาลปุคฺคโลกาสวิภาคมุเขน ขนฺธานํ วิสุํ สห จ อุปฺปาทนิโรธลกฺขณปริคฺคหวเสน สาติสยํ สมฺภวติ, นาฺถาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉสุ กาลเภเทสุ…เป… ปริฺา จ วตฺตพฺพา’’ติ ปธานํ วตฺตพฺพํ อุทฺธรติ. ตตฺถ ปน ยถา น ตีรณปริฺาย วินา ปหานปริฺา, เอวํ ตีรณปริฺา วินา าตปริฺาย. สา จ สุตมยาณมูลิกาติ เทสนากุสโล สตฺถา อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ สมุทายาวยวปทตฺถาทิวิภาคทสฺสนมุเขน ขนฺเธสุ ปริฺาปฺปเภทํ ปกาเสตุกาโม ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทินา เทสนํ อารภีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต ปน ขนฺธา’’ติอาทิมาห. ปฺจหิ ปเทหีติ ปฺจหิ สมุทายปเทหิ.

ตตฺถาติ เตสุ สมุทายาวยวปเทสุ. ธมฺโมติ รุปฺปนาทิโก เยฺยธมฺโม. สมุทายปทสฺสาติ รูปกฺขนฺธาทิสมุทายปทสฺส. ยทิปิ อวยววินิมุตฺโต ปรมตฺถโต สมุทาโย นาม นตฺถิ, ยถา ปน อวยโว สมุทาโย น โหติ, เอวํ น สมุทาโยปิ อวยโวติ สติปิ สมุทายาวยวานํ เภเท ทฺวินฺนํ ปทานํ สมานาธิกรณภาวโต อตฺเถวาเภโทติ ปททฺวยสฺส สมานตฺถตาย สิยา อาสงฺกาติ อาห ‘‘เอตสฺมึ สํสยฏฺาเน’’ติ. ‘‘จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, วิฺาณกฺขนฺโธ ตชฺชา มโนวิฺาณธาตู’’ติอาทีสุ เอกเทโส สมุทายปทตฺโถ วุตฺโต, ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ…เป… อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒) ปน สกโลติ อาห ‘‘รูปาทิ…เป… อตฺโถ’’ติ. อวยวปทานฺเจตฺถ วิเสสนวิเสสิตพฺพวิสยานํ สมานาธิกรณตาย สมุทายปทตฺถตา วุตฺตา, ตโต เอว สมุทายปทานมฺปิ อวยวปทตฺถตา. น หิ วิเสสนวิเสสิตพฺพานํ อตฺถานํ อจฺจนฺตํ เภโท อเภโท วา อิจฺฉิโต, อถ โข เภทาเภโท, ตสฺมา อเภททสฺสนวเสน ปมนโย วุตฺโต, เภททสฺสนวเสน ทุติยนโย. โย หิ รุปฺปนาทิสงฺขาโต ราสฏฺโ อวยวปเทหิ รูปาทิสทฺเทหิ จ ขนฺธสทฺเทน จ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน ภินฺทิตฺวา วุตฺโต, สฺวายํ อตฺถโต ราสิภาเวน อเปกฺขิโต รุปฺปนาทิอตฺโถ เอวาติ.

ยถา อวยวปเทหิ วุจฺจมาโนปิ สมุทายปทสฺส อตฺโถ โหติ, เอวํ สมุทายปเทหิ วุจฺจมาโนปิ อวยวปทสฺส อตฺโถติ ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูปฺเจว รูปกฺขนฺโธ จ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ? อามนฺตา’’ติอาทินา ปทโสธนา กตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘รูปาทิอวยวปเทหิ…เป… ปทโสธนวาโร วุตฺโต’’ติ. ตตฺถ เอกจฺจสฺส อวยวปทสฺส อฺตฺถ วุตฺติยา อวยวปทตฺถสฺส สมุทายปทตฺถตาย สิยา อเนกนฺติกตา, สมุทายปทสฺส ปน ตํ นตฺถีติ สมุทายปทตฺถสฺส อวยวปทตฺถตาย พฺยภิจาราภาโว ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ? อามนฺตา’’ติ ปาฬิยา ปกาสิโตติ วุตฺตํ ‘‘รูปาทิ…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ.

‘‘รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ ขนฺธตฺถสฺส วิเสสิตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปธานภูตสฺส ขนฺธปทสฺสา’’ติ. เวทนาทิอุปปทตฺถสฺส จ สมฺภวโต ‘‘เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ. รูปาวยวปเทน วุตฺตสฺสาติ รูปสงฺขาเตน อวยวปเทน วิเสสนภาเวน วุตฺตสฺส ขนฺธตฺถสฺส รูปกฺขนฺธภาโว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ? อามนฺตา’’ติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ รูปกฺขนฺธปเท. ปธานภูเตน วิเสสิตพฺพตฺตา ขนฺธาวยวปเทน วุตฺตสฺส รุปฺปนฏฺสฺส กึ เวทนากฺขนฺธาทิภาโว โหตีติ โยชนา. สมาเน อวยวปทาภิเธยฺยภาเว อปฺปธาเนน ปเทน โย อตฺโถ วิฺายติ, โส กสฺมา ปธาเนน น วิฺายตีติ อธิปฺปาโย. ขนฺธาวยวปเทน วุตฺโต ธมฺโมติ ราสฏฺมาห. ตตฺถ โกจีติ รุปฺปนฏฺโ. เกนจิ สมุทายปเทนาติ รูปกฺขนฺธปเทน, น เวทนากฺขนฺธาทิปเทน. เตนาห ‘‘น สพฺโพ สพฺเพนา’’ติ. เอส นโย เวทนากฺขนฺธาทีสุ. รูปรูปกฺขนฺธาทิอวยวสมุทายปทโสธนมุเขน ตตฺถ จ จตุกฺขนฺธวเสน ปวตฺตา ปาฬิคติ ปทโสธนมูลจกฺกวาโร. เอวฺจ ทสฺเสนฺเตนาติ อิมินา ยฺวายํ รูปาทิอวยวปเทหิ รูปกฺขนฺธาทิสมุทายปเทหิ จ ทสฺสิตากาโร อตฺถวิเสโส, ตํ ปจฺจามสติ. วิเสสนภาโว เภทกตาย สามฺโต อวจฺเฉทกตฺตา, วิเสสิตพฺพภาโว อเภทโยเคน เภทนฺตรโต อวิจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา, สมานาธิกรณภาโว เตสํ เภทาเภทานํ เอกวตฺถุสนฺนิสฺสยตฺตา.

เตนาติ ยถาวุตฺเตน วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สมานาธิกรเณ. เตนาติ วา สมานาธิกรณภาเวน. เอตฺถาติ รูปกฺขนฺธปเท. ยถา นีลุปฺปลปเท อุปฺปลวิเสสนภูตํ นีลํ วิสิฏฺเมว โหติ, น ยํ กิฺจิ, เอวมิธาปิ ขนฺธวิเสสนภูตํ รูปมฺปิ วิสิฏฺเมว สิยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ ขนฺธโต…เป… โหตี’’ติ อาห. ตถา ‘‘รูปฺจ ตํ ขนฺโธ จา’’ติ สมานาธิกรณภาเวเนว ยํ รูปํ, โส ขนฺโธ. โย ขนฺโธ, ตํ รูปนฺติ อยมฺปิ อาปนฺโน เอวาติ อาห ‘‘สพฺเพว…เป… วิเสสิตพฺพา’’ติ. วิเสสเนน จ นาม นิทฺธาริตรูเปน ภวิตพฺพํ อวจฺเฉทกตฺตา, น อนิทฺธาริตรูเปนาติ อาห ‘‘กึ ปน ต’’นฺติอาทิ, ตสฺเสว คหิตตฺตา น ปิยรูปสาตรูปสฺสาติ อธิปฺปาโย. น หิ ตํ ขนฺธวิเสสนภาเวน คหิตํ, วิสฺสชฺชนํ กตํ ตสฺเสวาติ โยชนา. น ขนฺธโต อฺํ รูปํ อตฺถีติ อิทํ รุปฺปนฏฺโ รูปนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, น หิ โส ขนฺธวินิมุตฺโต อตฺถิ. เตเนวาติ ยถาวุตฺตรูปสฺส ขนฺธวินิมุตฺตสฺส อภาเวเนว. ‘‘ปิยรูปํ สาตรูปํ, ทสฺเสนฺเตนปฺปก’’นฺติ จ อาทีสุ อตทตฺถสฺส รูปสทฺทสฺส ลพฺภมานตฺตา ‘‘เตน รูปสทฺเทนา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. วุจฺจมานํ ภูตุปาทายมฺปิ เภทํ ธมฺมชาตํ. สุทฺเธนาติ เกวเลน, รูปสทฺเทน วินาปีติ อตฺโถ. ตยิทํ ปกรณาทิอวจฺฉินฺนตํ สนฺธาย วุตฺตํ, สมานาธิกรณตํ วา. โย หิ รูปสทฺเทน สมานาธิกรโณ ขนฺธสทฺโท, เตน ยถาวุตฺตรูปสทฺเทน วิย ตทตฺโถ วุจฺจเตว. เตนาห ‘‘ขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติ. ยทิปิ ยถาวุตฺตํ รูปํ ขนฺโธ เอว จ, ขนฺโธ ปน น รูปเมวาติ อาห ‘‘น จ สพฺเพ…เป… วิเสสิตพฺพา’’ติ. เตเนวาติ อรูปสภาวสฺส ขนฺธสฺส อตฺถิภาเวเนว. เตติ ขนฺธา. วิภชิตพฺพาติ ‘‘ขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘รูปกฺขนฺโธ ขนฺโธ เจว รูปกฺขนฺโธ จ, อวเสสา ขนฺธา น รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา วิภาเคน ทสฺเสตพฺพา.

ขนฺธานํ รูปวิเสสน…เป… สํสโย โหตีติ เอตฺถ กึ ขนฺธโต อฺาปิ เวทนา อตฺถิ, ยโต วินิวตฺตา เวทนา ขนฺธวิเสสนํ โหติ, สพฺเพ จ ขนฺธา กึ ขนฺธวิเสสนภูตาย เวทนาย วิเสสิตพฺพาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. เกจีติ อนุภวนาทิปฺปการา. เกนจิ วิเสสเนนาติ เวทนาทินา วิเสสเนน.

เอตฺถ จ รูปาทิปณฺณตฺติ ขนฺธปณฺณตฺติ จ ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา วิสุํ สห จ รุปฺปนาทิเก อตฺเถ ปวตฺตมานา กทาจิ อวยวภูเต ปวตฺตติ, กทาจิ สมุทายภูเต, ตสฺสา ปน ตถา ปวตฺตนากาเร นิทฺธาริเต ยสฺมา รูปาทิกฺขนฺธา ปทโต อตฺถโต จ วิโสธิตา นาม โหนฺติ ตพฺพิสยกงฺขาปโนทนโต, ตสฺมา ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูปฺเจว รูปกฺขนฺโธ จ, รูปกฺขนฺโธ รูปนฺติ? อามนฺตา’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปมวาเรน รูปาทิอวยวปเทหิ อวยวตฺโถ วิย สมุทายตฺโถปิ วุจฺจติ, ตถา สมุทายปเทหิปีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ‘‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปน ทุติยวาเรน วิเสสวาจี วิย รูปาทิอวยวปเทหิ สามฺภูเตนปิ ตํตํวิสิฏฺเน ขนฺธาวยวปเทน โส โส เอว สมุทายตฺโถ วุจฺจติ, น สพฺโพติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ขนฺธวินิมุตฺตสฺส ยถาธิปฺเปตสฺส อภาวา ยทิปิ ขนฺโธเยว รูปํ, โส ปน น สพฺโพ รูปํ, อถ โข ตเทกเทโส, ตถา เวทนาทโยปีติ อยมตฺโถ ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา รูป’’นฺติอาทินยปฺปวตฺเตน ตติยวาเรน ทสฺสิโต. ‘‘รูปํ ขนฺโธ, ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปน จตุตฺถวาเรน ‘‘รูปํ ขนฺโธ’’ติ รูปสฺส ขนฺธภาเว นิจฺฉิเต ขนฺโธ นามายํ น เกวลํ รูปเมว, อถ โข เวทนาทิ จาติ เวทนาทีนมฺปิ ขนฺธภาวปฺปกาสเน น สพฺเพ ขนฺธา เวทนาทิวิเสสวนฺโต, เกจิเทว ปน เตน เตน วิเสเสน ตถา วุจฺจนฺตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. เอวํ ทสฺเสนฺตี เจสา ปาฬิ ขนฺธานํ ยถาวุตฺตปณฺณตฺติโสธนมุเขน สรูปาวธารณาย สํวตฺตติ, ตฺจ เตสํ ยาวเทว อุปฺปาทาทินิจฺฉยตฺถนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ เยสํ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห.

เอกเทเสปิ สมุทายโวหาโร ทิสฺสติ ยถา ปโฏ ทฑฺโฒ, สมุทฺโท ทิฏฺโติ อาห ‘‘จกฺกาวยวภาวโต จกฺกานีติ ยมกานิ วุตฺตานี’’ติ. พนฺธิตฺวาติ ยมกภาเวน พนฺธิตฺวา, ยมกมูลภาเวเนว วา. มูลภาเวน คหณํ สมฺพนฺธภาโว, ตํสมฺพนฺธตา จ มูลปทาทีนํ นาภิอาทิสทิสตา ทฏฺพฺพา. อปุพฺพสฺส วตฺตพฺพสฺส อภาวโต นยิธ เทสนา มณฺฑลภาเวเนว สมฺพชฺฌตีติ อาห ‘‘น มณฺฑลภาเวน สมฺพชฺฌนโต’’ติ. ยทิปิ รูปกฺขนฺธมูลเก อปุพฺพํ นตฺถิ, เวทนากฺขนฺธาทิมูลเกสุ ปน สฺาทิมุเขน เทสนปฺปวตฺติยํ อปุพฺพวเสเนว คโต สิยา มณฺฑลภาเวน สมฺพนฺโธ, น ตถา ปาโ ปวตฺโตติ อาห ‘‘เวทนากฺขนฺธ…เป… สมฺพนฺเธนา’’ติ. ปจฺฉิมสฺส ปุริเมน อสมฺพชฺฌนเมว หิ เหฏฺิมโสธนํ. สุทฺธกฺขนฺธลาภมตฺตเมว คเหตฺวาติ ‘‘ขนฺธา รูป’’นฺติ เอตฺถ ขนฺธาติ ขนฺธสทฺเทน ลพฺภมานํ รูปาทีหิ อสมฺมิสฺสํ ขนฺธฏฺมตฺตเมว อุทฺเทสวเสน คเหตฺวา. ยทิปิ อุทฺเทเส ขนฺธวิเสสนํ รูปาทิ ‘‘ขนฺธา รูป’’นฺติ สุทฺธรูปาทิมตฺตเมว คหิตํ, ตถาปิ วิเสสรหิตสฺส สามฺสฺส อภาวโต ตตฺถ สุทฺธรูปาทิมตฺตตาย อฏฺตฺวา. ขนฺธวิเสสนภาวสงฺขาตนฺติ ยถาธิคตํ ขนฺธานํ วิเสสนภาเวน กถิตํ รุปฺปนาทิกํ วิเสสนตฺถํ ทสฺเสตุํ. เกวลเมว ตํ อคฺคณฺหนฺโต ขนฺธสทฺเทน สห โยเชตฺวา…เป… วิภตฺตตฺตา สุทฺธกฺขนฺธวาโรติ วุตฺโตติ โยชนา.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ปณฺณตฺติวาโร

นิทฺเทสวารวณฺณนา

๒๖. เอวํ วุตฺตนฺติ เอวํ ทฺวาราลมฺพเนหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมวิภาควเสน วุตฺตํ. ปิยสภาวํ ปิยชาติกํ ‘‘กถํ รูเปน โข, อาวุโส’’ติอาทีสุ วิย ปิยสภาวฏฺเน รูปํ, น รุปฺปนฏฺเนาติ วุตฺตํ ‘‘ปิยรูปํ…เป… รูปํ น รูปกฺขนฺโธ’’ติ. รุปฺปนฏฺเน รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนมฺปิ จกฺขาทิ ปิยสภาวมตฺตวจนิจฺฉาวเสน ปิยรูปเมว อนุปฺปวิสติ, น รูปกฺขนฺธนฺติ อาห ‘‘ปิยสภาว…เป… น รูปกฺขนฺโธติ วุตฺต’’นฺติ. ‘‘โย ปน ยตฺถ วิเสโส’’ติ วุตฺโต วิเสสสทฺโท นานุวตฺตตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วจนเสโส’’ติ. น หิ อธิการโต ลพฺภมานสฺส อชฺฌาหรณกิจฺจํ อตฺถิ. ทิฏฺิสฺาติ วา ปทุทฺธาโรยํ เวทิตพฺโพ. วิเสสตา ปนสฺสา ‘‘วิเสสํ วณฺณยิสฺสามา’’ติ ปฏิฺาย เอว ปากฏา. ‘‘อวเสสา สงฺขารา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สํโยชนวเสน ชานาติ อภินิวิสตีติ สฺา ทิฏฺีติ อาห ‘‘ทิฏฺิ เอว สฺา’’ติ. ทิฏฺิ จาติ -สทฺเทน อวสิฏฺํ ปปฺจํ สงฺคณฺหาติ. ตถา หิ ‘‘ปปฺจสฺาสงฺขา’’ติ เอตฺถ ปปฺจสูทนิยํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๐๑) วุตฺตํ ‘‘สฺานาเมน วา ปปฺจา เอว วุตฺตา’’ติ.

๒๘. ‘‘ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ’’ติ เอตสฺมึ อนุโลเม ยถา สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ ลพฺภติ, น เอวํ ‘‘น ขนฺธา น เวทนากฺขนฺโธ’’ติ ปฏิโลเม, อิธ ปน ปฏิวจเนน วิสฺสชฺชนนฺติ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ขนฺธสทฺทปฺปวตฺติยา จ อภาเว เวทนากฺขนฺธสทฺทปฺปวตฺติยา จ อภาโว’’ติ อาห. เตน สตฺตาปฏิเสเธ อยํ น-กาโรติ ทสฺเสติ. สทฺทคฺคหณฺเจตฺถ สทฺทนิพนฺธนตฺตา ปฺตฺติยา สทฺทสภาคตํ วา สนฺธาย กตํ. ปณฺณตฺติโสธนฺเหตํ. เตนาห ‘‘ปณฺณตฺติโสธนมตฺตเมว กโรตี’’ติ. เตน นิทฺธาเรตพฺพสฺส ธมฺมนฺตรสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ยโต วุตฺตํ ‘‘น อฺธมฺมสพฺภาโว เอเวตฺถ ปมาณ’’นฺติ. เอวฺจ กตฺวาติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ ปานฺตเรน สมตฺเถติ. กามํ กตฺถจิ สติปิ ขนฺเธ นตฺถิ เวทนากฺขนฺโธ, อขนฺธตฺตสภาวา ปน นตฺถิ เวทนาติ ‘‘น ขนฺธา น เวทนากฺขนฺโธติ? อามนฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปฺตฺตินิพฺพานสงฺขาตา’’ติอาทิ.

๓๙. ‘‘รูปโต อฺเ’’ติ เอตฺถ ภูตุปาทาย ธมฺโม วิย ปิยสภาโวปิ รูปสทฺทาภิเธยฺยตาสามฺเน คหิโตติ อาห ‘‘โลกุตฺตรา เวทนาทโย ทฏฺพฺพา’’ติ. อปฺปวตฺติมตฺตเมวาติ ขนฺธสทฺทปฺปวตฺติยา อภาเว รูปสทฺทปฺปวตฺติยา จ อภาโวติ ปณฺณตฺติโสธนมตฺตตํเยว สนฺธาย วทติ, ตถา จาห ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติอาทิ. เตเนตํ ทสฺเสติ – ยถา จกฺขุโต อฺสฺส สพฺพสฺสปิ สภาวธมฺมสฺส อายตนคฺคหเณน คหิตตฺตา ตทุภยวินิมุตฺตํ กิฺจิ นตฺถีติ เกวลํ ปฺตฺติโสธนตฺถํ ตเมว อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุฺจ อายตเน จ เปตฺวา อวเสสา น เจว จกฺขุ น จ อายตน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ตทตฺถเมว อุภยวินิมุตฺตสฺส อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปฺจ ขนฺเธ จ เปตฺวา อวเสสา น เจว รูปํ น จ ขนฺธา’’ติ วุตฺตนฺติ. วิสโมปฺาโส. ‘‘จกฺขุฺจ อายตเน จ เปตฺวา’’ติ เอตฺถ หิ อวเสสคฺคหเณน คยฺหมานํ กิฺจิ นตฺถีติ สกฺกา วตฺตุํ อายตนวินิมุตฺตสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวา. เตนาห ‘‘ยทิ สิยา’’ติ. ‘‘รูปฺจ ขนฺเธ จ เปตฺวา’’ติ เอตฺถ ปน น ตถา สกฺกา วตฺตุํ ขนฺธวินิมุตฺตสฺส สภาวธมฺมสฺส อตฺถิภาวโต. ยทิ ปน ตาทิสํ ขนฺธคตํ ธมฺมชาตํ นตฺถีติ เอวมิทํ วุตฺตํ สิยา, เอวํ สติ ยุตฺตเมตํ สิยา. ตถา หิ ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทินา ปฺตฺติคฺคหณเมว อุทฺธรียติ. ตณฺหาวตฺถุ จ น สิยา อวเสสคฺคหเณน คยฺหมานนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ขนฺโธ จ สิยาติ โยชนา.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๕๐-๒๐๕. มิสฺสกกาลเภเทสุ ยมเกสุ ปทานํ ภินฺนกาลตฺตา สิยา อตฺถวิเสโสติ อาห ‘‘อมิสฺสกกาลเภเทสุ วาเรสุ อตฺถวิเสสาภาวโต’’ติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ‘‘ปุริมสฺส หี’’ติอาทินา วิวรติ. เตนาติ อตฺถวิเสสาภาเวน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปวตฺติวารปาเ, เอติสฺสํ วา ปวตฺติวารวณฺณนายํ. ฉ เอว วุตฺตา, น นวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อตีเตนา’’ติอาทิ. เอเต ปน ตโยติ อตฺตนา วิสุํ อนนฺตรํ ทสฺสิเต สนฺธายาห. ยถาทสฺสิตาติ อฏฺกถายํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺสิตพฺพาการา ปจฺจุปฺปนฺเนนาตีตาทโย เย ปาฬิยํ อุชุกเมว อาคตา. ‘‘น วิสุํ วิชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ หี’’ติอาทินา ปากฏตรํ กโรติ. ตตฺถ ปฏิโลมปุจฺฉาหีติ ‘‘ยสฺส วา ปน เวทนากฺขนฺโธ อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชตี’’ติ เอวมาทิกาหิ ปมปเท วุตฺตสฺส ปฏิโลมวเสน ปวตฺตาหิ. เตเนวาติ นยโต โยเชตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา เอว. มิสฺสกกาลเภเทสุ จาติ น เกวลํ อมิสฺสกกาลเภเทสุเยว, อถ โข มิสฺสกกาลเภเทสุ จาติ อตฺโถ. น โยชนาสุกรตาย เอว ปุริเม อโยชนา, อถ โข สุขคฺคหณตฺถมฺปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อมิสฺสก…เป… วุตฺตานี’’ติ.

เยน การเณนาติ เยน เอกปททฺวยสงฺคหิตานํ ขนฺธานํ อุปฺปาทสฺส นิโรธสฺส ลาภสงฺขาเตน การเณน. ยถากฺกมํ ปุเรปฺโห ปจฺฉาปฺโหติ จ นามํ วุตฺตํ. จ-สทฺเทน ปุเรปจฺฉาปฺโหติ จ นามํ วุตฺตนฺติ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปน ‘‘เอกปททฺวยสงฺคหิตาน’’นฺติ อิทํ เอกชฺฌํ กตฺวา คเหตพฺพํ. ตเมวตฺถมฺปิ วิวรติ ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทินา. ตตฺถ ยสฺสาติ ยสฺส ปฺหสฺส. ‘‘ปฺโห’’ติ เจตฺถ ปุจฺฉนวเสน ปวตฺตํ วจนํ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘ปริปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพตฺถสงฺคณฺหนโต’’ติ. ตํ สรูปทสฺสเนน วิสฺสชฺชนํ ตํวิสฺสชฺชนํ, ตํ วา ยถาวุตฺตํ วิสฺสชฺชนํ เอตสฺสาติ ตํวิสฺสชฺชโน, ตสฺส ตํวิสฺสชฺชนสฺส. ปุริมโกฏฺาเสนาติ ปุริเมน อุทฺเทสปเทน. เตน หิ วิสฺสชฺชนปทสฺส สมานตฺถตา อิธ สทิสตฺถตา. เอเกน ปเทนาติ เอเกน ปธานาปฺปธาเนน ยมกปเทน, น ปมปเทเนวาติ อตฺโถ. อุปฺปาทนิโรธลาภสามฺมตฺเตนาติ อุปฺปาทสฺส วา นิโรธสฺส วา ลพฺภมานตาย สมานตามตฺเตน. สนฺนิฏฺานปท…เป… ยุตฺตนฺติ อิทํ อฏฺกถายํ ‘‘ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา ปุเรปฺหสฺส ทสฺสิตตฺตา วุตฺตํ. ยทิปิ ตตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วิสฺสชฺชิตตฺตา เวทนากฺขนฺธสฺส อุปฺปาโท ลพฺภตีติ วุตฺตํ, โย ปน สนฺนิฏฺานปทสงฺคหิโต รูปกฺขนฺธสฺส อนุปฺปาโท ปาฬิยํ อนุฺาตรูเปน ิโต, ตสฺส วเสน ปุเรปฺโห ยุตฺโตติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ ปุริมโกฏฺาเสน สทิสตฺถตา โหติ.

‘‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถา’’ติ เอตฺถ รูปกฺขนฺธสฺส อนุปฺปนฺนปุพฺพตาปฏิกฺเขปมุเขน อิตรสฺส ปฏิกฺขิปียตีติ รูปกฺขนฺธสฺเสว ยถาวุตฺตปฏิกฺเขโป ปธานภาเวน วุตฺโต. เอเสว นโย อฺเสุปิ เอทิเสสุ าเนสูติ อาห ‘‘สนฺนิฏฺานตฺถสฺเสว ปฏิกฺขิปนํ ปฏิกฺเขโป’’ติ. ‘‘ยสฺส รูปกฺขนฺโธ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เวทนากฺขนฺโธ นิรุชฺฌตี’’ติ เอตฺถ ปน รูปกฺขนฺธสฺส อุปฺปาทลกฺขณํ กตฺวา เวทนากฺขนฺธสฺส นิโรโธ ปุจฺฉียตีติ โส เอว ‘‘โน’’ติ ปฏิเสธียติ. เอส นโย อฺเสุปิ เอทิเสสุ าเนสูติ วุตฺตํ ‘‘สํสยตฺถนิวารณํ ปฏิเสโธ’’ติ. ‘‘น-การวิรหิต’’นฺติ เอเตน ปฏิเสธสฺส ปฏิเสธิตมาห. ยทิ เอวํ ปาฬิคติปฏิเสธวิสฺสชฺชนานํ โก วิเสโสติ อาห ‘‘ตตฺถ อุปฺปตฺตี’’ติอาทิ.

ตเทกเทสปกฺเขปวเสนาติ เตสํ จตุนฺนํ ปฺหานํ ปฺจนฺนฺจ วิสฺสชฺชนานํ เอกเทสสฺส ปกฺขิปนวเสน. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปเม าเน ปริปุณฺณปฺหสฺส ปุริมโกฏฺาเส สรูปทสฺสเนนา’’ติอาทิ. โย ปเนตฺถ ปฺเหสุ วิสฺสชฺชเนสุ จ สตฺตวีสติยา าเนสุ ปกฺเขปํ ลภติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริปุณฺณปฺโห เอวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาฬิววตฺถานทสฺสนาทิโตติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปุจฺฉาวิภงฺโค วิสฺสชฺชนาานานิ เอกสฺมึ ปฺเห โยชนานโยติ อิเมสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

สุทฺธาวาสานนฺติอาทิ ปาฬิยา ปทํ อุทฺธริตฺวา อตฺถทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. ‘‘ยสฺส ยตฺถ รูปกฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส ตตฺถ เวทนากฺขนฺโธ นุปฺปชฺชิตฺถา’’ติ อิมสฺส วิสฺสชฺชนํ โหติ ‘‘สุทฺธาวาสานํ เตสํ ตตฺถา’’ติ. ตตฺถ เอกภูมิยํ ทุติยา อุปปตฺติ นตฺถีติ เอกิสฺสา ภูมิยา เอกสฺส อริยปุคฺคลสฺส ทุติยวารํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตติยวาราทีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สฺวายมตฺโถ ยถา าปิโต โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิโต ปภุติ หิ…เป… ปวตฺตา’’ติ วุตฺตํ. เตน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสนายํ เทสนา ปวตฺตาติ ทสฺเสติ. อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺนํ กมฺมชสนฺตานํ เอกตฺเตน คเหตฺวา ตสฺส วเสน อุปฺปาทนิโรเธสุ วุจฺจมาเนสุ อกมฺมเชสุ กุสลาทีสุ กถนฺติ โจทนายํ เตปิ อิธ ตํนิสฺสิตา เอว กตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตสฺมิฺหิ…เป… ทสฺสิตา’’ติ. เตเนวาติ กมฺมชสนฺตาเนเนว. ตสฺมาติ เอกกมฺมนิพฺพตฺตสฺส วิปากสนฺตานสฺส เอกตฺเตน คหิตตฺตา. ตสฺสาติ กมฺมชสนฺตานสฺส. ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ ยถา ปจฺเจกํ ‘‘เอกิสฺสา ภูมิยา ทุติยา อุปปตฺติ นตฺถี’’ติ ยถาวุตฺตปาฬิยา วิฺายติ, เอวํ ‘‘สุทฺธาวาสาน’’นฺติ อวิเสสวจนโต สกเลปิ สุทฺธาวาเส สา นตฺถีติ ตาย กสฺมา น วิฺายตีติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา สยเมว ปริหริตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธาวาเสสุ เหฏฺาภูมิกสฺส อสติ อินฺทฺริยปริปาเก อุปริภูมิสมุปฺปตฺติ น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ อุทฺธํโสตวจนโต. อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตฺจาติ หิ อุทฺธํโสโต. เตนาห ‘‘อุทฺธํโสตปาฬิสพฺภาวา’’ติ. สํสนฺเทตพฺพาติ ยถา น วิรุชฺฌนฺติ, เอวํ เนตพฺพา. ตถา เจว สํวณฺณิตํ.

เอเตน สนฺนิฏฺาเนนาติ องฺกิโตกาสภาวิรูปุปฺปาทสนฺนิสฺสเยน นิจฺฉเยน. วิเสสิตา ตถาภาวิรูปภาวิโน. อสฺสตฺตาปีติ น เกวลํ ปฺจโวการา เอว, อถ โข อสฺสตฺตาปิ. เต เอว อสฺสตฺเต เอว คเหตฺวา ปุริมโกฏฺาเสติ อธิปฺปาโย. เตน เย สนฺนิฏฺาเนน วชฺชิตาติ เตน ยถาวุตฺตสนฺนิฏฺาเนน เย วิรหิตา, เต ตถา น วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. อิทานิ ‘‘เต ตโต’’ติอาทินา ทสฺเสติ. ตโตติ อสฺาภวโต. ปจฺฉิมภวิกานนฺติ เอตฺถ ปจฺฉิมภวํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘กึ ปฺจโวการาที’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปจฺฉิมภวิกานมฺปิ อรูปานํ อรูปภเว ยถา รูปกฺขนฺโธ นุปฺปาทิ, เอวํ ตตฺถ ปจฺฉิมภวิกานํ เวทนากฺขนฺโธปีติ อาห ‘‘เอเตน สนฺนิฏฺาเนน สงฺคหิตตฺตา’’ติ. เตนาห ‘‘เตสํ…เป… อาหา’’ติ. ตตฺถ เตสนฺติ ปจฺฉิมภวิกานํ. ตตฺถาติ อรูปภเว. อิตรานุปฺปตฺติภาวฺจาติ อิตรสฺส เวทนากฺขนฺธสฺส อนุปฺปชฺชนสพฺภาวมฺปิ. สปฺปฏิสนฺธิกานมฺปิ สุทฺธาวาสานํ ขนฺธเภทสฺส ปรินิพฺพานปริยาโย โอฬาริกโทสปฺปหานโต กิเลสูปสมสามฺเน วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

สพฺเพสฺหิ เตสนฺติ ตํตํภูมิยํ ิตานํ สพฺเพสํ สุทฺธาวาสานํ. ยถา ปนาติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. อนนฺตา โลกธาตุโยติ อิทํ โอกาสสฺส ปริจฺเฉทาภาวํเยว ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุคฺคลวเสน สมานาธารตาย สมานกาลตฺเตน อสมฺภวนฺโต โอกาสวเสน ปน สมฺภวนฺโต สํกิณฺณา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘สํกิณฺณตา โหตี’’ติ.

ปวตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปริฺาวารวณฺณนา

๒๐๖-๒๐๘. ตสฺสาปีติ ปุคฺคโลกาสวารสฺสปิ. โอกาเส ปุคฺคลสฺเสวาติ ยถาคหิเต โอกาเส โย ปุคฺคโล, ตสฺเสว โอกาสวิสิฏฺปุคฺคลสฺเสวาติ อตฺโถ. ยถา ปน ปุคฺคลวาเร ลพฺภมาเน ปุคฺคโลกาสวาโรปิ ลพฺภติ, เอวํ โอกาสวาโรปิ ลพฺเภยฺยาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘โอกาสวาโรปิ จา’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา วุจฺจมาโนปิ โอกาโส ปุคฺคลสฺส วิเสสภาเวเนว วุจฺเจยฺย, น วิสุํ, ตสฺมา.

อฺถาติ ปวตฺติวาเร วิย อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺนํ กมฺมชสนฺตานํ เอกตฺเตน คเหตฺวา ตสฺส อุปฺปาทนิโรธวเสน ปริฺาวจเน. ‘‘โย รูปกฺขนฺธํ ปริชานาตี’’ติ สนฺนิฏฺานปทสงฺคหิตตฺถาภาวทสฺสนมุเขน อิตรสฺสปิ อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘รุปกฺขนฺธปริชานนสฺส อภาวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อามนฺตา’’ติ จ กตํ, ตสฺมา ปวตฺเต จิตฺตกฺขณวเสเนเวตฺถ ตโย อทฺโธ ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อคฺคมคฺคสมงฺคิฺจ อรหนฺตฺจา’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ ‘‘รูปกฺขนฺธฺจ น ปริชานนฺติ เวทนากฺขนฺธฺจ น ปริชานิตฺถา’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ ยถากฺกมํ สมฺพนฺโธ. ‘‘เปตฺวา อวเสสา ปุคฺคลา’’ติ ปน ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อคฺคมคฺค…เป… นตฺถีติ อิมินา อรหตฺตมคฺคาณสฺเสว ปริฺามตฺถกปฺปตฺติยา ปริฺากิจฺจํ สาติสยํ, ตทภาวา น อิตเรสนฺติ ทสฺเสติ. ยโต ตสฺเสว วชิรูปมตา วุตฺตา, เสสานฺจ วิชฺชูปมตา. เตนาติ เตน ยถาวุตฺเตน วจเนน. ตทวเสสสพฺพปุคฺคเลติ ตโต อคฺคมคฺคสมงฺคิโต อวเสสสพฺพปุคฺคเล. อิมํ ปน ยถาวุตฺตโทสํ ปริหรนฺตา ‘‘ปุถุชฺชนาทโย สนฺธายา’’ติ วทนฺติ.

ปริฺาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อายตนยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวาโร

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๑-๙. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อวยวปเทหิ วุตฺโต เอกเทโส สกโล วา สมุทายปทานํ อตฺโถ, สมุทายปเทหิ ปน วุตฺโต เอกนฺเตน อวยวปทานํ อตฺโถ’’ติอาทินา วุตฺเตน นเยน. เอเตน ยถาวุตฺตอตฺถวณฺณนานยทสฺสนตาย สพฺพปณฺณตฺติวาราทีสุ ยถารหํ อตฺโถ เนตพฺโพติ ทสฺเสติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารวณฺณนา

๑๐-๑๗. วายนํ สวิสยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตนํ, ตยิทํ ยถา คนฺธายตเน ลพฺภติ, เอวํ สีลาทีสุปีติ ปาฬิยํ ‘‘สีลคนฺโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ ‘‘สีลาทิเยว คนฺโธ’’ติ กตฺวา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สีลคนฺโธ…เป… นามานี’’ติ. ยสฺมา ปน สวิสยพฺยาปนํ ตตฺถ ปสฏภาโว ปากฏภาโว วา โหติ, ตสฺมา ‘‘ปสารณฏฺเน ปากฏภาวฏฺเน วา’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโน วตฺถุสฺส สูจนํ วา วายนํ. ‘‘เทวกายา สมาคตา (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗), ปณฺณตฺติธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๘) สมูหปฺตฺตีสุปิ กายธมฺมสทฺทา อาคตาติ ‘‘สสภาว’’นฺติ วิเสเสติ. กายวจเนน…เป… นตฺถีติ อิทํ ‘‘น ธมฺโม นายตน’’นฺติ เอตฺถ ธมฺมสทฺทสฺส วินิวตฺตวิเสสสพฺพสภาวธมฺมวาจกตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ธมฺมายตนสงฺขาตธมฺมวิเสสวาจกตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๑๘-๒๑. เอตสฺมินฺติ ปวตฺติวาเร. ปุจฺฉามตฺตลาเภนาติ โมฆปุจฺฉาภาวมาห. เอเกกนฺติ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สทฺทายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิกํ เอเกกํ. ปฺจาติ ‘‘ยสฺส สทฺทายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คนฺธายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีนิ ปฺจ. ปุจฺฉามตฺตลาเภน สงฺคหํ อนุชานนฺโต ‘‘วิสฺสชฺชนวเสน หาเปตพฺพานี’’ติ อาห. ‘‘วกฺขติ หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ อฏฺกถาย สมตฺเถติ.

สทิสวิสฺสชฺชนนฺติ สามฺวจนํ วิเสสนิวิฏฺเมว โหตีติ ตํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุคฺคลวารเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตสฺสา ปน สทิสวิสฺสชฺชนตาย อพฺยาปิตตฺตา ยตฺถ สทิสํ, ตตฺถาปิ วิสฺสชฺชิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอกาสวาเร ปน…เป… วิสฺสชฺชิต’’นฺติ อาห. ตตฺถ นฺติ ทุติยํ. ปุคฺคลวาเรปีติ ยตฺถ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ, ตตฺถ ปุคฺคลวาเรปิ วิสฺสชฺชิตํ, ปเคว โอกาสวาเรติ อธิปฺปาโย. วิรตฺตกามกมฺมนิพฺพตฺตสฺสาติ ภาวนาพเลน วิรตฺโต กาโม เอเตนาติ วิรตฺตกามํ, รูปาวจรกมฺมํ, ตโต นิพฺพตฺตสฺส. ปฏิสนฺธิ เอว พีชํ ปฏิสนฺธิพีชํ, ตสฺส. ‘‘เอวํสภาวตฺตา’’ติ เอเตน เอกนฺตโต กามตณฺหานิทานกมฺมเหตุกานิ ฆานาทีนีติ ทสฺเสติ. คนฺธาทโย จ น สนฺตีติ สพฺเพน สพฺพํ เตสมฺปิ อภาวํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

‘‘สจฺจ’’นฺติ ยถาวุตฺตวเสน คเหตพฺพํ โจทเกน วุตฺตมตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุน เยนาธิปฺปาเยน ตานิ ยมกานิ สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ตตฺถ จกฺขายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกน ‘‘สจกฺขุกานํ อฆานกานํ อุปปชฺชนฺตาน’’นฺติอาทินา นเยน ชิวฺหากายายตนยมกานิ ยถา สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตถา อิธ ฆานายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกน ตานิ ชิวฺหากายายตนยมกานิ ‘‘ยสฺส ฆานายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ชิวฺหายตนํ อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติอาทินา นเยน สทิสวิสฺสชฺชนานีติ. เอวเมตฺถ อุภเยสํ วิสุํ อฺมฺํ สทิสวิสฺสชฺชนตาย อิทํ วุตฺตํ, น เอกชฺฌํ อฺมฺํ สทิสวิสฺสชฺชนตาย. เตนาห ‘‘ตสฺมา ตตฺถ ตตฺเถว สทิสวิสฺสชฺชนตา ปาฬิอนารุฬฺหตาย การณ’’นฺติ. เอวฺจ สติ จกฺขายตนมูลคฺคหณํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘นิทสฺสนภาเวนา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทสฺสนภาเวนาติ นิทสฺสนภูตานํ อฺมฺสทิสวิสฺสชฺชนตาสงฺขาเตน นิทสฺสนภาเวเนว, น ปน เตสํ นิทสฺสิตพฺเพหิ สพฺพถา สทิสวิสฺสชฺชนตายาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เยภุยฺยตายา’’ติ วุตฺตํ เยภุยฺยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอวนฺติ อิมินา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิวจนวิสฺสชฺชเนน ยถาวุตฺตวจนสฺเสว วิสฺสชฺชนภาวานุชานนํ กตฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ อากฑฺฒติ. สาติ ทุติยปุจฺฉา. ฆานายตนยมเกนาติ จกฺขายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกเนว. ตํเสสานีติ เตน ฆานายตนมูลกกายายตนยมเกน สทฺธึ เสสานิ. สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา อนารุฬฺหานีติ เอตฺถ ‘‘อนารุฬฺหานี’’ติ เอตฺตกเมว ตถา-สทฺเทน อนุกฑฺฒียติ, น ‘‘สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาติ…เป… สมฺเนา’’ติ วตฺวา อิทานิ ‘‘การณสามฺเนา’’ติ วุตฺตสฺส สทิสวิสฺสชฺชนตฺตสฺส ตตฺถ อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฆานชิวฺหากายายตนานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อคพฺภเสยฺยเกสุ ปวตฺตมานานนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สหจาริตายา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ตถา ‘‘คพฺภเสยฺยเกสุ จ ปวตฺตมานาน’’นฺติ. อิตรานิ ฆานายตนมูลกานิ ชิวฺหากายายตนยมกานิ ทฺเว น วิสฺสชฺชียนฺติ, ฆานายตนมูลเกสุ จ ยมเกสุ วิสฺสชฺชิเตสุ อิตรทฺวยมูลกานิ ชิวฺหากายายตนมูลกานิ น วิสฺสชฺชียนฺติ อวิเสสตฺตา อปฺปวิเสสตฺตา จาติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ กายายตนยมเก ทุติยปุจฺฉาวเสน อปฺปวิเสโส, อิตรวเสน อวิเสโส เวทิตพฺโพ. รูปายตนมนายตเนหิ สทฺธินฺติ อิทํ รูปายตนมูลกมนายตนวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘รูปายตน…เป… อธิปฺปาโย’’ติ. เตเนวาห ‘‘รูปายตนมูลเกสุ หี’’ติอาทิ. ยมกานนฺติ รูปายตนมูลกคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนยมกานํ. ทุติยปุจฺฉานนฺติ ยถาวุตฺตยมกานํเยว ทุติยปุจฺฉานํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สรูปกานํ อจิตฺตกาน’’นฺติอาทินา วุตฺเตน นเยน. อาทิปุจฺฉานนฺติ เตสํเยว ยมกานํ ปมปุจฺฉานํ.

เหฏฺิเมหีติ อิทํ อวิเสสวจนมฺปิ เยสุ สทิสวิสฺสชฺชนตา สมฺภวติ, ตทเปกฺขนฺติ อาห ‘‘คนฺธรส…เป… อตฺโถ’’ติ. อุทฺทิฏฺธมฺเมสุ อุทฺเทสานุรูปํ ลพฺภมานวิเสสกถนํ วิสฺสชฺชนํ, โย ตตฺถ น สพฺเพน สพฺพํ อุทฺเทสานุรูปคุเณน อุปลพฺภติ, ตสฺส อกถนมฺปิ อตฺถโต วิสฺสชฺชนเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘อวิสฺสชฺชเนเนว อลพฺภมานตาทสฺสเนน วิสฺสชฺชิตานิ นาม โหนฺตี’’ติ.

จกฺขุวิกลโสตวิกลา วิย จกฺขุโสตวิกโลปิ ลพฺภตีติ โส ปน อฏฺกถายํ ปิ-สทฺเทน สงฺคหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชจฺจนฺธมฺปิ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. ปริปุณฺณายตนเมว โอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโทติ ตสฺส านํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตเมวาติ อตฺโถ’’ติ วตฺวา เตน ปริปุณฺณายตนสฺส ตตฺถ อนิยตตฺตา อปริปุณฺณายตนสฺสปิ สงฺคโห สิทฺโธติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตน ชจฺจนฺธพธิรมฺปิ สนฺธาย วุตฺตตา น นิวาริตา โหตี’’ติ อาห.

๒๒-๒๕๔. ตสฺมึ ปุคฺคลสฺส อนามฏฺตฺตาติ กสฺมา วุตฺตํ, ยาวตา ‘‘รูปีพฺรหฺมโลกํ ปุจฺฉตี’’ติ อิมินาปิ โอกาโสเยว อามฏฺโติ. ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิฺาย การณวิภาวนาธิปฺปาเยเนว ‘‘กสฺมา ปฏิฺาต’’นฺติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา ตํ การณํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘นนู’’ติอาทิมาห. คพฺภเสยฺยกภาวํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสตีติ ปจฺฉิมภวิกํ สนฺธายาห. ตทวตฺถสฺสาติ ปจฺฉิมภวาวตฺถสฺส. ภวิสฺสนฺตสฺสาติ ภาวิโน. ปฏิฺาตพฺพตฺตาติ ‘‘อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปฏิฺาตพฺพตฺตา.

อถ กสฺมาติ เอตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – ยทิ ‘‘ยสฺส รูปายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉายํ วุตฺเตน วิธินา ปฏิฺาตพฺพํ, อถ กสฺมา อถ เกน การเณน ปฏิโลเม ‘‘ยสฺส วา ปน รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิฺาตํ, นนุ อิทํ อฺมฺํ วิรุทฺธนฺติ? นนูติอาทินาปิ โจทโก ตเมว วิโรธํ วิภาเวติ. โน จ นุปฺปชฺชิสฺสติ อุปฺปชฺชิสฺสติ เอวาติ อตฺโถ. ‘‘ตสฺมึ ภเว’’ติอาทิ ตสฺส ปริหาโร. ตตฺถ ตสฺมึ ภเวติ ยสฺมึ ภเว ‘‘รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ ปวตฺตมานตฺตา, ตสฺมึ ภเว. อนาคตภาเวน อวจนโตติ ภาวีภาเวน อวตฺตพฺพโต อารทฺธุปฺปาทภาเวน ปวตฺตมานตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘ภวนฺตเร หี’’ติอาทิ. น ปน วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. เอวฺจ กตฺวาติอาทินา ปานฺตเรน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถติ.

ยสฺมึ อตฺตภาเว เยหิ อายตเนหิ ภวิตพฺพํ, ตํตํอายตนนิพฺพตฺตกกมฺเมน อวสฺสํภาวีอายตนสฺส สตฺตสฺส, สนฺตานสฺส วา, ‘‘ยสฺส วา ปน รูปายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา, ยสฺส วา ปน รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา’’ติ จ เอวํ ปวตฺตํ ปุจฺฉาทฺวยวิสฺสชฺชนํ อายตนปฏิลาภสฺส ชาติภาวโต สุฏฺุ อุปปนฺนํ ภวติ. ปจฺฉิมภวิกาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อรูเป อุปฺปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายนกา สงฺคยฺหนฺติ. อิทมฺปิ วิสฺสชฺชนํ. อภินนฺทิตพฺพตฺตาติ ‘‘อามนฺตา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพตฺตา.

ยํ ปน อฆานกานํ กามาวจรํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยสฺส วิปาโก ฆานายตนุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ, ตํ ฆานายตนานิพฺพตฺตกกมฺมนฺติ วุตฺตํ. กถํ ปนีทิสํ กมฺมํ อตฺถีติ วิฺายตีติ อาห ‘‘ยสฺส ยตฺถา’’ติอาทิ. เอวมฺปิ คพฺภเสยฺยโก เอว อิธ อฆานโกติ อธิปฺเปโตติ กถมิทํ วิฺายตีติ โจทนาย ‘‘น หี’’ติอาทึ วตฺวา ตมตฺถํ สาเธตุํ ‘‘ธมฺมหทยวิภงฺเค’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวจนตฺตมฺปิ หิ ยถาธมฺมสาสเน อภิธมฺเม ปฏิกฺเขโปเยวาติ. อิธาติ อิมสฺมึ อายตนยมเก. ยถาทสฺสิตาสูติ ‘‘ยสฺส วา ปน โสตายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชติ, ยสฺส ยตฺถ ฆานายตนํ น นิรุชฺฌติ, ตสฺส ตตฺถ รูปายตนํ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ ทสฺสิตปฺปการาสุ ปุจฺฉาสุ. อามนฺตาติ วุตฺตนฺติ อถ กสฺมา น วิฺายตีติ โยชนา. เอตาสุ ปุจฺฉาสุ กสฺมา ปฏิวจเนน วิสฺสชฺชนํ น กตนฺติ อธิปฺปาโย. สนฺนิฏฺาเนน คหิตตฺถสฺสาติ ‘‘ยสฺส วา ปน โสตายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ยสฺส ยตฺถ ฆานายตนํ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ เอวมาทิเกน สนฺนิฏฺานปเทน คหิตสฺส อตฺถสฺส. เอกเทเส สํสยตฺถสฺส สมฺภเวนาติ เอกเทเส สํสยิตพฺพสฺส อตฺถสฺส สมฺภเวน สนฺนิฏฺานตฺถปฏิโยคภูตสํสยตฺถสฺส ปฏิวจนสฺส อกรณโต ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนสฺส อกตฺตพฺพโต อตฺถสฺส อภินฺทิตฺวา เอกชฺฌํ กตฺวา อวตฺตพฺพโต. เตนาห ‘‘ภินฺทิตพฺเพหิ น ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ โหตี’’ติ.

ยทิ สิยาติ ภินฺทิตฺวา วตฺตพฺเพปิ อตฺเถ ยทิ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ สิยา, ปริปุณฺณวิสฺสชฺชนเมว น สิยา อโนกาสภาวโต ภินฺทิตพฺพโต จาติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘ปฺจโวกาเร ปรินิพฺพนฺตานํ, อรูเป ปจฺฉิมภวิกานํ, เย จ อรูปํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ โสตายตนฺจ นุปฺปชฺชิสฺสติ, จกฺขายตนฺจ นุปฺปชฺชตี’’ติ จ, ตถา ‘‘รูปาวจเร ปรินิพฺพนฺตานํ, อรูปานํ เตสํ ตตฺถ ฆานายตนฺจ น นิรุชฺฌติ, รูปายตนฺจ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ ตตฺถ วิภาควเสน ปวตฺโต ปาเสโส. อถ กสฺมาติ ยทิ อภินฺทิตพฺเพ ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ, น ภินฺทิตพฺเพ, เอวํ สนฺเต ‘‘ยสฺส วา ปน โสมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติ อิมินา ปฏิวจนวิสฺสชฺชเนน คพฺภเสยฺยกานํ โสมนสฺสปฏิสนฺธิ นตฺถีติ กสฺมา น วิฺายติ, ภินฺทิตพฺเพ น ปฏิวจนวิสฺสชฺชนํ โหตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ? ตํ น, อฺาย ปาฬิยา ตทตฺถสฺส วิฺายมานตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามธาตุยา’’ติอาทิมาห.

‘‘ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ, ตํ จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา’’ติ ตสฺเสว จิตฺตสฺส นิโรโธ อนาคตภาเวน ตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ยถา วุตฺโต, เอวํ ตสฺเสว กมฺมชสนฺตานสฺส นิโรโธ ตสฺส อุปฺปาเท อนาคตภาเวน วตฺตพฺโพ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘เอกจิตฺตสฺส นาม อุปฺปาทกฺขเณ นิโรโธ อนาคตภาเวน วุจฺจติ, กิมงฺคํ ปน เอกสนฺตานสฺสา’’ติ. สพฺพตฺถ สพฺพสฺมึ อนาคตวาเร. อุปปชฺชนฺตานํ เอว วเสน โส นิโรโธ ตถา อนาคตภาเวน วุตฺโต, กสฺมา ปเนตฺถ นิโรโธ อุปปนฺนานํ วเสน น วุตฺโตติ อาห ‘‘อุปฺปนฺนานํ ปนา’’ติอาทิ. ตสฺเสว ยถาปวตฺตสฺส กมฺมชสนฺตานสฺส เอว. ตสฺมาติ ยสฺมา อุปฺปาทกฺขณโต อุทฺธํ นิโรโธ อารทฺโธ นาม โหติ, ตสฺมา. เภเท สติปิ กาลเภทามสนสฺส การเณ สติปิ. อนาคตกาลามสนวเสเนว นิโรธสฺเสว วเสน วิสฺสชฺชนทฺวยํ อุปปนฺนเมว ยุตฺตเมว โหตีติ. อฺเสํ วเสน นิโรธสฺเสว วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘อรหต’’นฺติ วุตฺตํ.

ยทิ อุปปตฺติอนนฺตรํ นิโรโธ อารทฺโธ นาม โหติ, อถ กสฺมา จุติยา นิโรธวจนนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตนฺนิฏฺานภาวโต ปน จุติยา นิโรธวจน’’นฺติ. ตนฺนิฏฺานภาวโตติ ตสฺส สนฺตานสฺส นิฏฺานภาวโต. ปวตฺเตติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. ตตฺถ ตสฺสาติ สนฺตานสฺส. วกฺขตีติอาทิปิ ปวตฺเต นิโรธํ อนาทิยิตฺวา จุตินิโรธสฺเสว คหิตตาย การณวจนํ. เตนาติ เตน ยถาวุตฺเตน ปานฺตรวจเนน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติอาทิเก อายตนยมเก. ยทิ ปวตฺเต นิรุทฺธสฺสปิ จุติยา เอว นิโรโธ อิจฺฉิโต, ‘‘สจกฺขุกาน’’นฺติอาทิ กถนฺติ อาห ‘‘สจกฺขุกานนฺติอาทีสุ จ ปฏิลทฺธจกฺขุกานนฺติอาทินา อตฺโถ วิฺายตี’’ติ. เตติ อรูเป ปจฺฉิมภวิกา. อจกฺขุกวจนฺจ สาวเสสนฺติ โยชนา.

ปวตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ธาตุยมกํ

๑-๑๙. สทฺทธาตุสมฺพนฺธานนฺติ อิทํ ยานิ จกฺขุธาตาทิมูลเกสุ สทฺทยมกานิ, สพฺพานิ จ สทฺทธาตุมูลกานิ, ตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ ตานิ จกฺขุวิฺาณธาตาทิสมฺพนฺธานิ วิย จุติปฏิสนฺธิวเสน ลพฺภนฺติ, เอเตเนว อายตนยมเกปิ ปวตฺติวาเร สทฺทธาตุสมฺพนฺธานํ ยมกานํ อลพฺภมานตา จ เวทิตพฺพา.

ธาตุยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สจฺจยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวารวณฺณนา

๑๐-๒๖. โสติ ทุกฺขสทฺโท. อฺตฺถาติ สงฺขารทุกฺขวิปริณามทุกฺขทุกฺขาธิฏฺาเนสุ. อฺนิรเปกฺโขติ สงฺขาราทิปทนฺตรานเปกฺโข. เตนาติ อฺนิรเปกฺขทุกฺขปทคฺคหณโต. ตสฺมึ ทุกฺขทุกฺเข วิสยภูเต. เอส ทุกฺขสทฺโท ‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ เอตฺถ ปโม ทุกฺขสทฺโท. ตฺจ ทุกฺขทุกฺขํ. ‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ เอตฺถ ทุกฺขเมว ทุกฺขสจฺจนฺติ นยิทํ อวธารณํ อิจฺฉิตพฺพํ, ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจเมวาติ ปน อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอกนฺเตน ทุกฺขสจฺจเมวา’’ติ. สจฺจวิภงฺเค วุตฺเตสุ สมุทเยสุ โกจิ ผลธมฺเมสุ นตฺถีติ สจฺจวิภงฺเค ปฺจธา วุตฺเตสุ สมุทเยสุ เอโกปิ ผลสภาเวสุ นตฺถิ, ผลสภาโว นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ผลธมฺโม นตฺถี’’ติ จ ปาโ. มคฺคสทฺโท จ ผลงฺเคสูติ สามฺผลงฺเคสุ สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ‘‘มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติอาทินา (วิภ. ๔๙๒, ๔๙๕) อาคโต มคฺคสทฺโท มคฺคผลตฺตา ปวตฺตติ การณูปจาเรนาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘น มคฺคกิจฺจสพฺภาวา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สจฺจเทสนาย ปภวาทิสภาวา เอว ธมฺมา สมุทยาทิปริยาเยน วุตฺตา, น อปฺปภวาทิสภาวา, ตสฺมา. เอตฺถ จ เตภูมกธมฺมานํ ยถารหํ ทุกฺขสมุทยสจฺจนฺโตคธตฺตา อสจฺจสภาเว สภาวธมฺเม จ อุทฺธรนฺโต ผลธมฺเม เอว อุทฺธริ. นนุ จ มคฺคสมฺปยุตฺตาปิ ธมฺมา อสจฺจสภาวาติ เตปิ อุทฺธริตพฺพาติ? น, เตสํ มคฺคคติกตฺตา. ‘‘ผลธมฺเมสู’’ติ เอตฺถ ธมฺมคฺคหเณน วา ผลสมฺปยุตฺตธมฺมานํ วิย เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ.

ปทโสธเนน…เป… อิธ คหิตาติ เอเตน อสจฺจสภาวานํ ธมฺมานํ ปกรเณน นิวตฺติตตํ อาห. เตสนฺติ ทุกฺขาทีนํ. ตพฺพิเสสนโยควิเสสนฺติ เตน ทุกฺขาทิวิเสสนโยเคน วิสิฏฺตํ. สจฺจวิเสสนภาเวเนว ทุกฺขาทีนํ ปริฺเยฺยตาทิภาโว สิทฺโธติ อาห ‘‘เอกนฺตสจฺจตฺตา’’ติ. ยถา เจตฺถาติ ยถา เอตสฺมึ สจฺจยมเก สุทฺธสจฺจวาเร สจฺจวิเสสนภูตา เอว ทุกฺขาทโย คหิตา. เอวํ ขนฺธยมกาทีสุปีติ น สุทฺธสจฺจวาเร เอว อยํ นโย ทสฺสิโตติ อตฺโถ. ปทโสธนวาเร ตํมูลจกฺกวาเร จ ‘‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา สมุทายปทานํเยว วุตฺตตฺตา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ‘‘สุทฺธกฺขนฺธาทิวาเรสู’’ติ วุตฺตํ. ตถา เจตฺถาปิ สุทฺธวาเร เอว อยํ นโย ทสฺสิโต. ยทิ สุทฺธกฺขนฺธาทิวาเรสุ ขนฺธาทิวิเสสนภูตานเมว รูปาทีนํ คหเณน ภวิตพฺพํ, อถ กสฺมา ขนฺธาทิวิเสสนโต อฺเสมฺปิ รูปาทีนํ วเสน อตฺโถ ทสฺสิโตติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิ. ปุริโม เอว อตฺโถ ยุตฺโต, ยุตฺติโต ปาโว พลวาติ.

ปณฺณตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๒๗-๑๖๔. ทุกฺขปริฺา ยาว ทุกฺขสมติกฺกมนตฺถาติ สปฺปเทสํ ปวตฺตาปิ สา ตทตฺถาวหา ภเวยฺยาติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อริยตฺตา…เป… กตฺวา วุตฺต’’นฺติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อนฺติมภเว ิตตฺตา’’ติ การณํ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อุปปตฺติยา ทุกฺขวิจารตฺตา, น จ สพฺเพ สุทฺธาวาสา อนฺติมภวิกา อุทฺธํโสตวจนโต. ‘‘ยสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อุปฺปาทาวตฺถา. อวิเสเสน ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนา ธมฺมา สมฺพนฺธีภาเวเนว ตํสมงฺคี จ ปุคฺคโล วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺเพ อุปปชฺชนฺตา’’ติอาทึ วตฺวา สฺวายมตฺโถ ยสฺมา นิจฺฉยรูเปน คหิโต, นิจฺฉิตสฺเสว จ อตฺถสฺส วิภาคทสฺสเนน ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘เตสฺเวว…เป… อุปปนฺนเมวา’’ติ อาห. ตตฺถ เตสฺเวว เกจิ ทสฺสียนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอกโกฏฺาสุปฺปตฺติสมงฺคิโนติ ทุกฺขโกฏฺาสุปฺปตฺติสมงฺคิโน. เตสูติ สนฺนิฏฺาเนน คหิเตสุ. มคฺคผลุปฺปาทสมงฺคีสูติ มคฺคผลุปฺปาทสมงฺคีนํ, อยเมว วา ปาโ.

เอตฺถ จาติอาทินา ‘‘สพฺเพส’’นฺติอาทิปาฬิยา ปิณฺฑตฺถํ ทสฺเสติ. ตตฺถ สมุทยสจฺจุปฺปาทโวมิสฺสสฺส ทุกฺขสจฺจุปฺปาทสฺสาติ อิทํ อนาทเร สามิวจนํ. กตฺถจิ สมุทยสจฺจุปฺปาทโวมิสฺเสปิ ทุกฺขสจฺเจ ตํรหิตสฺส สมุทยสจฺจุปฺปาทรหิตสฺส ทุกฺขสจฺจุปฺปาทสฺส ทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ โยชนา. เกจิ ปน ‘‘สมุทยสจฺจาโวมิสฺสสฺสา’’ติ ปนฺติ, เตสํ ‘‘ตํรหิตสฺสา’’ติ อิทํ ปุริมปทสฺส อตฺถวิวรณํ เวทิตพฺพํ. ตํสหิตสฺสาติ สมุทยสจฺจุปฺปาทสหิตสฺส ทุกฺขสจฺจุปฺปาทสฺส ทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ โยชนา. เตสนฺติ อสฺสตฺตานํ, ปวตฺติยํ ทุกฺขสจฺจสฺส อุปฺปาโท ‘‘ปวตฺเต’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ทฺวีสุปิ โกฏฺาเสสุ น คหิโตติ อตฺโถ. ปฏิสนฺธิยํ ปน เตสํ อุปฺปาทสฺส ปมโกฏฺาเสน คหิตตา ทสฺสิตา เอว. ตถา นิโรโธ จาติ ยถา อสฺสตฺตานํ ปฏิสนฺธิยํ ทุกฺขสจฺจสฺส อุปฺปาโท ปมโกฏฺาเสน คหิโต, ปวตฺติยํ ปน โส ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ น คหิโต, ตถา เตสํ ทุกฺขสจฺจสฺส นิโรโธปีติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘สพฺเพสํ จวนฺตานํ ปวตฺเต ตณฺหาวิปฺปยุตฺตจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ’’ติอาทินา (ยม. ๑.สจฺจยมก.๘๘) นิโรธวาเร ปาฬิ ปวตฺตา. เอเสว นโยติ ยฺวายํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา สมุทยสจฺจยมเก ปาฬิยา อตฺถนโย วุตฺโต, มคฺคสจฺจยมเกปิ เอเสว นโย, เอวเมว ตตฺถาปิ อตฺโถ เนตพฺโพติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตาน’’นฺติอาทินา ตตฺถ ปาฬิ ปวตฺตา.

เอวฺจ สตีติ เอวํ ขณวเสน โอกาสคฺคหเณ สตีติ ยถาวุตฺตมตฺถํ อนนุชานนวเสน ปจฺจามสติ. เอตสฺส วิสฺสชฺชเนติ เอตสฺส ยมกปทสฺส วิสฺสชฺชเน. ‘‘อคฺคมคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณ, อรหนฺตานํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ, ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺคํ ปฏิลภิสฺสนฺติ, ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ, อสฺสตฺตํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ ตตฺถ ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชติ, โน จ เตสํ ตตฺถ สมุทยสจฺจํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ (ยม. ๑.สจฺจยมก.๗๑) ปุริมโกฏฺาสสฺส อาคตตฺตา วิโรโธ นตฺถีติ ‘‘ปจฺฉิมโกฏฺาเส’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา น อุปปตฺติจิตฺตุปฺปาทกฺขโณ ภาวิโน สมุทยปจฺจุปฺปาทสฺส อาธาโร, อถ โข กามาวจราทิโอกาโส, ตสฺมา. ปุคฺคโลกาสวาโร เหสาติ ยสฺมา ปุคฺคโลกาสวาโร เอส, ตสฺมา ‘‘เตสํ ตตฺถา’’ติ เอตฺถ โอกาสวเสน ตตฺถ-สทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยทิ ปุคฺคโลกาสวาเร กามาวจราทิโอกาสวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ, น ขณวเสน, อถ กสฺมา ‘‘สพฺเพสํ อุปปชฺชนฺตาน’’นฺติอาทินา โอกาสํ อนามสิตฺวา ตตฺถ วิสฺสชฺชนํ ปวตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ…เป… โส เอวา’’ติ. ตตฺถ ตตฺถาติ โอกาสวาเร. ปุคฺคลวิเสสทสฺสนตฺถนฺติ ปุคฺคลสงฺขาตวิเสสทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ เตติ ยสฺมึ กามาวจราทิโอกาเส เต ปุคฺคลา.

เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธายาห. โส หิ ‘‘ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ ทุกฺขสจฺจํ นุปฺปชฺชตี’’ติ เอตฺถ จิตฺตชรูปเมว อธิปฺเปตํ จิตฺตปฏิพทฺธวุตฺติตฺตาติ การณํ วทติ. อปเร ‘‘อรูเปติ อิมํ ปุริมาเปกฺขมฺปิ โหตีติ เตน ปวตฺตํ วิเสเสตฺวา อรูปภววเสน อยมตฺโถ วุตฺโต, ตสฺมา ‘ยสฺส วา ปน สมุทยสจฺจํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชตีติ? โน’ติอาทีสุปิ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. ปุคฺคโล น จิตฺตํ อเปกฺขิตฺวาว คหิโตติ อิทํ จิตฺตสฺส อนธิกตตฺตา วุตฺตํ. ยตฺถ ปน สมุทยสจฺจสฺส อุปฺปาทนิจฺฉโย, ตตฺเถว ตสฺส อนุปฺปาทนิจฺฉเยนปิ ภวิตพฺพํ จิตฺเตน จ วินา ปุคฺคลสฺเสว อนุปลพฺภนโตติ ‘‘ยสฺส สมุทยสจฺจํ นุปฺปชฺชตี’’ติ เอตฺถ สมุทยสจฺจาธารํ จิตฺตํ อตฺถโต คหิตเมวาติ สกฺกา วิฺาตุํ. อปิจ อินฺทฺริยพทฺเธปิ น สพฺโพ รูปุปฺปาโท เอกนฺเตน จิตฺตุปฺปาทาธีโนติ สกฺกา วตฺตุํ จิตฺตุปฺปตฺติยา วินาปิ ตตฺถ รูปุปฺปตฺติทสฺสนโต, ตสฺมา จิตฺตชรูปเมว จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปชฺชติ, น อิตรํ, อิตรํ ปน ตสฺส ตีสุปิ ขเณสุ อุปฺปชฺชตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. วิภชิตพฺพา อวิภตฺตา นาม นตฺถีติ สิยายํ ปสงฺโค ปมวาเร, ทุติยวาเร ปน วิภชนา เอว สาติ นายํ ปสงฺโค ลพฺภติ, ปมวาเรปิ วา นายํ ปสงฺโค. กสฺมา? เอสา หิ ยมกสฺส ปกติ, ยทิทํ ยถาลาภวเสน โยชนา.

ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเนติ เอตฺถ ‘‘ปมํ ภวงฺคํ, ทุติยํ จิตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ภวนิกนฺติยา อาวชฺชนมฺปิ วิปากปฺปวตฺติโต วิสทิสตฺตา ‘‘ทุติย’’นฺติ วตฺตุํ สกฺกา, ตโต ปฏฺาย ปุพฺเพ ตสฺส ตตฺถ สมุทยสจฺจํ นุปฺปชฺชิตฺถาติ วตฺตพฺพาติ อปเร. ภวนิกนฺติยา ปน สหชาตํ ปมํ จิตฺตํ อิธ ทุติยํ จิตฺตนฺติ อธิปฺเปตํ. ตโต ปุพฺเพ ปวตฺตํ สพฺพํ อพฺยากตภาเวน สมานชาติกตฺตา เอกนฺติ กตฺวา ตโต ปฏฺาย เหฏฺา ตสฺส ตตฺถ สมุทยสจฺจํ นุปฺปชฺชิตฺเถวาติ. เตนาห ‘‘สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทนา’’ติอาทิ. ตสฺมินฺติ ทุติเย จิตฺเต. เตน สมานคติกตฺตาติ เตน ยถาวุตฺตทุติยจิตฺเตน จ ตํสมงฺคิโน วา ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชิตฺถ, โน จ สมุทยสจฺจนฺติ วตฺตพฺพภาเวน สมานคติกตฺตา. เอวฺจ กตฺวาติ เตน สมานคติกตาย ทสฺสิตตฺตา เอว. ยถาวุตฺตาติ ทุติยากุสลจิตฺตโต ปุริมสพฺพจิตฺตสมงฺคิโน อคฺคหิตา โหนฺติ อิตรภาวาภาวโต. วุตฺตเมวตฺถํ ปานฺตเรน สมตฺเถตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตติ จตุโวการา. วชฺเชตพฺพาติ ‘‘อิตเรส’’นฺติ วิเสสเนน นิวตฺเตตพฺพา. ปฺจโวการา วิย ยถาวุตฺตา สุทฺธาวาสาติ ทุติยจิตฺตกฺขณสมงฺคิภาเวน วุตฺตปฺปการา ยถา สุทฺธาวาสสงฺขาตา ปฺจโวการา ปุพฺเพ วุตฺตา สนฺติ, เอวํ จตุโวการา ปุพฺเพ วุตฺตา น หิ สนฺตีติ โยชนา.

‘‘ยสฺส ยตฺถา’’ติ ปุคฺคโลกาสา อาเธยฺยาธารภาเวน อเปกฺขิตาติ อาห ‘‘ปุคฺคโลกาสา อฺมฺปริจฺฉินฺนา คหิตา’’ติ. กามาวจเร…เป… อุปปนฺนาติ เอตฺถ กามาวจเร อภิสเมตาวิโน รูปาวจรํ อุปปนฺนา, รูปาวจเร อภิสเมตาวิโน อรูปาวจรํ อุปปนฺนา, วา-สทฺเทน กามาวจเร อภิสเมตาวิโน อรูปาวจรํ อุปปนฺนาติ จ โยเชตพฺพํ. ตตฺถาติ อุปปนฺโนกาเส. อภิสมโยติ อุปริมคฺคาภิสมโย ยาว อุปปนฺโน น ภวิสฺสติ, ตาว เต ตตฺถ อุปปนฺนปุคฺคลา เอตฺถ เอตสฺมึ ‘‘อภิสเมตาวีน’’นฺติอาทินา วุตฺเต ทุติยโกฏฺาเส น คยฺหนฺติ ปุคฺคโลกาสานํ อฺมฺํ ปริจฺฉินฺนตฺตา. ยทิ เอวํ กึ เต อิมสฺมึ ยมเก อสงฺคหิตาติ อาห ‘‘เต ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘สมานคติกาติ วิสุํ น ทสฺสิตา’’ติ, ตํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘อนภิสเมตาวีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘อนภิสเมตาวีน’’นฺติ อิมินา ปมปเทน คหิตา สพฺพตฺถ มคฺคุปฺปตฺติรเห สมฺปตฺติภเว ตตฺถ สุทฺธาวาเส เย อนภิสเมตาวิโน, เตสุ ทฺวิปฺปกาเรสุ สุทฺธาวาสา ยสฺมึ กาเล ตตฺถ อนภิสเมตาวิโนติ คเหตพฺพา, ตตฺถ เนสํ ตถา คเหตพฺพกาลสฺส วิเสสนตฺถํ ‘‘สุทฺธาวาสานํ ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเน’’ติ วุตฺตนฺติ.

เอเตนาติ เอเตน วจเนน. โวทานจิตฺตํ นาม มคฺคจิตฺตานํ อนนฺตรปจฺจยภูตํ จิตฺตํ, อิธ ปน อคฺคมคฺคจิตฺตสฺส. ตโตติ ยถาวุตฺตโวทานจิตฺตโต ปุริมตรจิตฺตสมงฺคิโน, อนุโลมาณสมฺปยุตฺตจิตฺตสมงฺคิโน, อวสิฏฺวุฏฺานคามินิวิปสฺสนาจิตฺตาทิสมงฺคิโนปิ. เตนาห ‘‘ยาว สพฺพนฺติมตณฺหาสมฺปยุตฺตจิตฺตสมงฺคี, ตาว ทสฺสิตา’’ติ.

ปฏิสนฺธิจุติจิตฺตานํ ภงฺคุปฺปาทกฺขณา ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคุปฺปาทกฺขเณหิ ทุกฺขสจฺจาทีนํ นุปฺปาทาทีสุ สมานคติกาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปวตฺเต จิตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถ จุติจิตฺตสฺสปิ อุปฺปาทกฺขณสฺส คหณํ ทฏฺพฺพนฺติ โยชนา. ทฺวีสุปิ โกฏฺาเสสูติ สมุทยสจฺจสฺส ภาวิโน นิโรธสฺส อปฺปฏิกฺเขปปฏิกฺเขปวเสน ปวตฺเตสุ ปุริมปจฺฉิมโกฏฺาเสสุ. น วิเสสิตนฺติ ยถาวุตฺเต อปฺปฏิกฺเขเป จ สติปิ วิเสเสตฺวา น วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เอกสฺสปิ ปุคฺคลสฺส ตาทิสสฺส มคฺคสฺส จ ผลสฺส จ ภงฺคกฺขณสมงฺคิโน ปุริมโกฏฺาสสฺเสว อภชนโต โกฏฺาสทฺวยสมฺภวาภาวโตติ อตฺโถ. อิทานิ ตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยสฺส ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เกสฺจิ ปุคฺคลานํ. นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. ‘‘มคฺคสฺส จ ผลสฺส จา’’ติ วุตฺตมคฺคผลานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติณฺณํ ผลานํ ทฺวินฺนฺจ มคฺคาน’’นฺติ อาห. ตานิ ปน เหฏฺิมานิ ตีณิ ผลานิ มชฺเฌ จ ทฺเว มคฺคา เวทิตพฺพา. นิรนฺตรํ อนุปฺปาเทตฺวาติ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อโวกิณฺณํ กตฺวา สห วิปสฺสนาย มคฺคํ อุปฺปาเทนฺเตน ยา สาตจฺจกิริยา กาตพฺพา, ตํ อกตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนฺตรนฺตรา…เป… อุปฺปาเทตฺวา’’ติ. ‘‘อรูเป มคฺคสฺส จ ผลสฺส จ ภงฺคกฺขเณ’’ติ อวิเสสโต วุตฺเต กถมยํ วิเสโส ลพฺภตีติ อาห ‘‘สามฺวจเนนปี’’ติอาทิ. เตน อปวาทวิสยปริยาเยน อุปสคฺคา อภินิวิสนฺตีติ โลกสิทฺโธยํ าโยติ ทสฺเสติ.

ปวตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปริฺาวารวณฺณนา

๑๖๕-๑๗๐. เอตฺเถวาติ อิมสฺมึ สจฺจยมเก เอว. อปริฺเยฺยตาทสฺสนตฺถนฺติ เอตฺถ -กาโร น ปริฺเยฺยาภาววจโน, นาปิ ปริฺเยฺยปฏิปกฺขวจโน, อถ โข ตทฺวจโนติ ยถารหํ สจฺเจสุ ลพฺภมานานํ ปหาตพฺพตาทีนมฺปิ ทสฺสเน อาปนฺเนเยว สมยวาโร ทสฺสนปโร, เยสฺจ น ทสฺสนปโร, เตสุ เกสุจิ สจฺเจสุ ลพฺภมานานมฺปิ เกสฺจิ วิเสสานํ อยํ วาโร น ทสฺสนปโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺฉิกรณ…เป… ทสฺสนตฺถฺจา’’ติ อาห. สมุทเย ปหานปริฺาว วุตฺตา, น ตีรณปริฺาติ ยุตฺตํ ตาเวตํ สมุทยสฺสปิ ตีเรตพฺพสภาวตฺตา, ‘‘ทุกฺเข ตีรณปริฺาว วุตฺตา, น ปหานปริฺา’’ติ อิทํ ปน กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ทุกฺขํ อปฺปหาตพฺพเมวาติ? สมุทยสจฺจวิภงฺเค วุตฺตานํ เกสฺจิ สมุทยโกฏฺาสานํ ทุกฺขสจฺเจ สงฺคหณโต ทุกฺขสมุทเย วา อสงฺกรโตว คเหตฺวา ภูตกถนเมตํ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถาติ ทุกฺเข สมุทเย จ วุตฺตา. กสฺมา? เตสํ สาธารณาติ. เอวํ สาธารณาสาธารณเภทภินฺนํ ยถาวุตฺตํ ปริฺากิจฺจํ ปุพฺพภาเค นานกฺขเณ ลพฺภมานมฺปิ มคฺคกาเล เอกกฺขเณ เอว ลพฺภติ เอกาณกิจฺจตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคาณฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปริฺาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สงฺขารยมกํ

๑. ปณฺณตฺติวารวณฺณนา

. สติปิ กุสลมูลาทีนมฺปิ วิภตฺตภาเว ขนฺธาทิวิภาโค ตโต สาติสโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ขนฺธาทโย วิย ปุพฺเพ อวิภตฺตา’’ติ อาห. ปการตฺโถ วา เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ‘‘ภูวาทโย’’ติอาทีสุ วิยาติ กุสลมูลาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวิฺาตตฺตา นิสาเมนฺเตหิ. เหตุอตฺโถ วา เอตฺถ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ อวิฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ. ยทิปิ กายสงฺขารานํ วิกปฺปทฺวเยปิ เหตุผลภาโวเยว อิจฺฉิโต, สามิวจนรูปาวิภูโต ปน อตฺเถว อตฺถเภโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายสฺส…เป… กตฺตุอตฺเถ’’ติ อาห. โส ปนาติ กตฺตุอตฺโถ.

๒-๗. สุทฺธิกเอเกกปทวเสนาติ ‘‘กาโย สงฺขาโร’’ติอาทีสุ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ปเทสุ อฺมฺํ อสมฺมิสฺสเอเกกปทวเสน. อตฺถาภาวโตติ ยถาธิปฺเปตตฺถาภาวโต. อฺถา กรชกายาทิโก อตฺโถ อตฺเถว. เตเนวาห ‘‘ปทโสธน…เป… อวจนียตฺตา’’ติ. อิทานิ ตเมว อตฺถาภาวํ พฺยติเรกวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. กสฺมา ปน อุภยตฺถ สมาเน สมาสปทภาเว ตตฺถ อตฺโถ ลพฺภติ, อิธ น ลพฺภตีติ? ภินฺนลกฺขณตฺตา. ตตฺถ หิ รูปกฺขนฺธาทิปทานิ สมานาธิกรณานีติ ปททฺวยาธิฏฺาโน เอโก อตฺโถ ลพฺภติ, อิธ ปน กายสงฺขาราทิปทานิ ภินฺนาธิกรณานีติ ตถารูโป อตฺโถ น ลพฺภตีติ. เตนาห ‘‘ยถาธิปฺเปตตฺถาภาวโต’’ติ.

วิสุํ อทีเปตฺวาติ ‘‘กายสงฺขาโร’’ติอาทินา สห วุจฺจมาโนปิ กายสงฺขารสทฺโท วิสุํ วิสุํ อตฺตโน อตฺถํ อโชเตตฺวา เอกํ อตฺถํ ยทิ ทีเปตีติ ปริกปฺปวเสน วทติ. เตน กายสงฺขารสทฺทานํ สมานาธิกรณตํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘กายสงฺขารสทฺโท กายสงฺขารตฺเถ วตฺตมาโน’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, ‘‘สงฺขารสทฺโท สงฺขารตฺเถว วตฺตมาโน’’ติ ปน วตฺตพฺพํ สิยา. เอวฺหิ สติ ขนฺธตฺเถ วตฺตมาโน ขนฺธสทฺโท วิย รูปสทฺเทน กายสทฺเทน วิเสสิตพฺโพติ อิทํ วจนํ ยุชฺเชยฺย, กายสงฺขารสทฺทานํ ปน สมานาธิกรณตฺเต น เกวลํ สงฺขารสทฺโทเยว สงฺขารตฺเถ วตฺตติ, อถ โข กายสทฺโทปีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กายสงฺขารสทฺโท กายสงฺขารตฺเถ วตฺตมาโน’’ติ วุตฺตํ สิยา, กายสทฺเทน สมานาธิกรเณนาติ อธิปฺปาโย. พฺยธิกรเณน ปน สงฺขารสฺส วิเสสิตพฺพตา อตฺเถวาติ.

อิมสฺส วารสฺสาติ สุทฺธสงฺขารวารสฺส. ปทโสธเนน ทสฺสิตานนฺติ เอตฺตเกว วุจฺจมาเน ตตฺถ ทสฺสิตภาวสามฺเน สุทฺธกายาทีนมฺปิ คหณํ อาปชฺเชยฺยาติ ตํนิวารณตฺถํ ‘‘ยถาธิปฺเปตานเมวา’’ติ อาห. กายาทิปเทหิ อคฺคหิตตฺตาติ สุทฺธกายาทิปเทหิ อคฺคหิตตฺตา. อิธ ปนาติ อฏฺกถายํ. สุทฺธสงฺขารวารํ สนฺธาย วุตฺตมฺปิ สุทฺธสงฺขารวารเมเวตฺถ อนนุชานนฺโต สกลสงฺขารยมกวิสยนฺติ อาห ‘‘อิธ ปน สงฺขารยมเก’’ติ. อธิปฺเปตตฺถปริจฺจาโคติ อสฺสาสปสฺสาสาทิกสฺส อธิปฺเปตตฺถสฺส อคฺคหณํ เจตนากายอภิสงฺขรณสงฺขาราทิ อนธิปฺเปตตฺถปริคฺคโห. ยทิ ‘‘กาโย สงฺขาโร’’ติอาทินา สุทฺธสงฺขารตํมูลจกฺกวารา อตฺถาภาวโต อิธ น คเหตพฺพา, อถ กสฺมา ปวตฺติวารเมว อนารภิตฺวา อฺถา เทสนา อารทฺธาติ อาห ‘‘ปทโสธนวารตํมูลจกฺกวาเรหี’’ติอาทิ. สํสโย โหติ สงฺขารสทฺทวจนียตาสามฺโต กายสงฺขาราทิปทานํ พฺยธิกรณภาวโต จ. เตเนวาห ‘‘อสมานาธิกรเณหิ…เป… ทสฺสิตายา’’ติ.

ปณฺณตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปวตฺติวารวณฺณนา

๑๙. สงฺขารานํ ปุคฺคลานฺจ โอกาสตฺตาติ สมฺปยุตฺตานํ นิสฺสยปจฺจยตาย, สงฺขารานํ สมาปชฺชิตพฺพตาย ปุคฺคลานํ ฌานสฺส โอกาสตา เวทิตพฺพา, ภูมิ ปน ยทคฺเคน ปุคฺคลานํ โอกาโส, ตทคฺเคน สงฺขารานมฺปิ โอกาโส. ‘‘ทุติเย ฌาเน ตติเย ฌาเน’’ติอาทินา ฌานํ, ‘‘กามาวจเร รูปาวจเร’’ติอาทินา ภูมิ จ วิสุํ โอกาสภาเวน คหิตา. อิตีติ เหตุอตฺโถ, ยสฺมา ฌานมฺปิ โอกาสภาเวน คหิตํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ปุคฺคลวาเร จ โอกาสวเสน ปุคฺคลคฺคหเณติ ปุคฺคลวาเร จ ยทา ปุคฺคโลกาสสงฺขาราทีนํ โอกาสภาเวน คยฺหติ, ตทา เตสํ ทฺวินฺนํ โอกาสานํ วเสน คยฺหนํ โหตีติ ยตฺถ โส ปุคฺคโล, ยฺจ ตสฺมึ ปุคฺคเล ฌานํ อุปลพฺภติ, เตสํ ทฺวินฺนํ ภูมิฌานสงฺขาตานํ โอกาสานํ วเสน ยถารหํ กายสงฺขาราทีนํ คหณํ กถนํ โหตีติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอตเทว, ตสฺมา. ทุติยตติยชฺฌาโนกาสวเสนาติ ทุติยตติยชฺฌานสงฺขาตโอกาสวเสน คหิตา. กถํ? ‘‘วินา วิตกฺกวิจาเรหิ อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ’’ติ เอวํ คหิตา ปุคฺคลา วิเสเสตฺวา ทสฺสิตา. เกน? เตเนว วิตกฺกวิจารรหิตอสฺสาสปสฺสาสุปฺปาทกฺขเณนาติ โยเชตพฺพํ.

ปมโกฏฺาเส ฌาโนกาสวเสน ปุคฺคลทสฺสนํ กตนฺติ วุตฺตํ ‘‘ปุน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ภูมิโอกาสวเสน ปุคฺคลํ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ทฺวิปฺปการานนฺติ ฌานภูมิโอกาสเภเทน ทุวิธานํ. เตสนฺติ ปุคฺคลานํ. ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปนฺนานํ กามาวจราน’’นฺติ จ อิทํ นิวตฺเตตพฺพคเหตพฺพสาธารณวจนํ, ตสฺส จ อวจฺเฉทกํ ‘‘อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปาทกฺขเณ’’ติ อิทนฺติ วุตฺตํ ‘‘วิเสส…เป… ขเณ’’ติ. เตน วิเสสเนน. กามาวจรานมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน น เกวลํ รูปารูปาวจเรสุ ปมชฺฌานํ สมาปนฺนานํ, อถ โข กามาวจรานมฺปีติ วุตฺตเมวตฺถํ สมฺปิณฺเฑติ. กีทิสานํ กามาวจรานนฺติ อาห ‘‘คพฺภคตาทีน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน อุทกนิมุคฺควิสฺิภูตา สงฺคหิตา, น มตจตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนนิโรธสมาปนฺนา. เต หิ อกามาวจรตาย วิย รูปารูปภวสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารุปฺปตฺติยาว นิวตฺติตา. เอกนฺติกตฺตาติ อสฺสาสปสฺสาสาภาวสฺส เอกนฺติกตฺตา. นิทสฺสิตาติ รูปารูปาวจรา นิทสฺสนภาเวน วุตฺตา, น ตพฺพิรหิตานํ อฺเสํ อภาวโตติ อธิปฺปาโย. ปมชฺฌาโนกาสา อสฺสาสปสฺสาสวิรหวิสิฏฺาติ โยชนา. ปมฺเจตฺถ ปมชฺฌานสมงฺคีนํ รูปารูปาวจรานํ คหณํ, ทุติยํ ยถาวุตฺตคพฺภคตาทีนํ. อิมินา นเยนาติ ยฺวายํ ‘‘สงฺขารานํ ปุคฺคลานฺจา’’ติอาทินา ฌาโนกาสภูมิโอกาสวเสน ปุคฺคลวิภาคนโย วุตฺโต, อิมินา นเยน อุปาเยน. สพฺพตฺถ สพฺพปุจฺฉาสุ.

๒๑. เอตสฺมึ ปน อตฺเถ สตีติ ยฺวายํ อุปฺปตฺติภูมิยา ฌานํ วิเสเสตฺวา อตฺโถ วุตฺโต, เอตสฺมึ อตฺเถ คยฺหมาเน อฺตฺถปิ อุปฺปตฺติภูมิยา ฌานํ วิเสสิตพฺพํ ภเวยฺย, ตถา จ อนิฏฺํ อาปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุตฺถชฺฌาเน’’ติอาทิมาห. กึ ปน ตํ อนิฏฺนฺติ อาห ‘‘ภูมีนํ โอกาสภาวสฺเสว อคฺคหิตตาปตฺติโต’’ติ. ยตฺถ ยตฺถ หิ ฌานํ คยฺหติ, ตตฺถ ตตฺถ ตํ อุปฺปตฺติภูมิยา วิเสสิตพฺพํ โหติ. ตถา สติ ฌาโนกาโสว คหิโต สิยา, น ภูมิโอกาโส คุณภูตตฺตา. กิฺจ ‘‘จตุตฺถชฺฌาเน รูปาวจเร อรูปาวจเร’’ติ เอตฺถ รูปารูปภูมิยา จตุตฺถชฺฌาเน วิเสสิยมาเน ตเทกเทโสว โอกาสวเสน คหิโต สิยา, น สพฺพํ จตุตฺถชฺฌานํ. เตนาห ‘‘สพฺพจตุตฺถชฺฌานสฺส โอกาสวเสน อคฺคหิตตาปตฺติโต จา’’ติ. ฌานภูโมกาสานนฺติ ฌาโนกาสภูมิโอกาสานํ.

นนุ จ ฌานภูมิโอกาเส อสงฺกรโต โยชิยมาเน น สพฺพสฺมึ ปมชฺฌาโนกาเส กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร จ อตฺถิ, ตถา สพฺพสฺมึ กามาวจโรกาเสติ โจทนุปฺปตฺตึ สนฺธาย ตสฺส ปริหารํ วตฺตุํ ‘‘ยทิปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถาติ ปมชฺฌาโนกาเส กามาวจโรกาเส จ. ตํทฺวยุปฺปตฺตีติ ตสฺส กายวจีสงฺขารทฺวยสฺส อุปฺปตฺติ. โอกาสทฺวยสฺส อสงฺกรโต คหเณ อยฺจ คุโณ ลทฺโธ โหตีติ อาห ‘‘วิสุํ…เป… น วตฺตพฺพํ โหตี’’ติ. ตตฺถ องฺคมตฺตวเสนาติ วิตกฺกาทิฌานงฺคมตฺตวเสน. ตตฺถ วตฺตพฺพํ อฏฺกถายํ วุตฺตเมว. วิตกฺกรหิโตปิ วิจาโร วจีสงฺขาโรเยวาติ อาห ‘‘อวิตกฺก…เป… คจฺฉตี’’ติ. มุทฺธภูตํ ทุติยชฺฌานนฺติ จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานมาห. ตฺหิ สกลกฺโขภกรธมฺมวิคเมน วิตกฺเกกงฺคปฺปหายิกโต สาติสยตฺตา ‘‘มุทฺธภูต’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. อสฺสตฺตา วิยาติ อิทํ วิสทิสุทาหรณํ ทฏฺพฺพํ.

๓๗. อาวชฺชนโต ปุพฺเพ ปวตฺตํ สพฺพํ จิตฺตํ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สมานคติกตฺตา เอกํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปมโต’’ติ. เตนาห ‘‘อวิตกฺกอวิจารโต’’ติอาทิ. จิตฺตสงฺขารสฺส อาทิทสฺสนตฺถนฺติ สุทฺธาวาเส จิตฺตสงฺขารสฺส อาทิทสฺสนตฺถํ. ตถา ‘‘วจีสงฺขารสฺส อาทิทสฺสนตฺถ’’นฺติ เอตฺถาปิ.

ปวตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺขารยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนุสยยมกํ

ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา

. ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา รูปสมุทโย, กมฺมสมุทยา รูปสมุทโย. โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติ จ เอวมาทินา กุสลมูลกุสลาทีนํ ปจฺจยภาโว วุตฺโตติ อาห ‘‘ปจฺจยทีปเกน มูลยมเกนา’’ติ. ‘‘โส ‘อนิจฺจํ รูปํ, อนิจฺจํ รูป’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. จกฺขุ อนิจฺจํ, รูปา อนิจฺจา’’ติ จ อาทินา พหุลขนฺธาทิมุเขน อนิจฺจานุปสฺสนาทโย วิหิตาติ วุตฺตํ ‘‘ขนฺธาทีสุ ตีรณพาหุลฺลโต’’ติ. กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนโต ปรํ ปหานกิจฺจํ นตฺถีติ อาห ‘‘อนุสยปหานนฺตา ปหานปริฺา’’ติ. ยทิปิ อนุสเยหิ สมฺปโยคโต อารมฺมณโต วา ปหานปริฺา นปฺปวตฺตติ, อนุสยาภาเว ปน ตทารมฺโภ เอว นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อนุสเยหิ ปหานปริฺํ วิภาเวตุ’’นฺติ. อนุสยภาเวน ลพฺภมานานนฺติ อนุสยภาเวน วิชฺชมานานํ, อนุสยสภาวานนฺติ อตฺโถ. ตีหากาเรหีติ ปริจฺเฉทาทีหิ ตีหิ ปกาเรหิ. อนุสเยสุ คณนสรูปปฺปวตฺติฏฺานโต อโพธิเตสุ ปุคฺคโลกาสาทิวเสน ปวตฺติยมานา ตพฺพิสยา เทสนา น สุวิฺเยฺยา โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เตสุ ตถา…เป… ทุรวโพธตฺตา’’ติ.

เอตฺถ ปุริเมสูติ ปทุทฺธาโร อนนฺตรสฺส วิธิ ปฏิเสโธ วาติ กตฺวา สานุสยวาราทิอเปกฺโข, น อนุสยวาราทิอเปกฺโข อนุสยวาเร ปาฬิววตฺถานสฺส ปเคว กตตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตสุ สานุสยวาราทีสุ ปุริเมสูติ อตฺโถ’’ติ อาห. สานุสยวาราทีสุ หิ ตีสุ ปุริเมสุ โอกาสวาเร ยโต ตโตติ เทสนา ปวตฺตา, น อนุสยวาราทีสุ. อตฺถวิเสสาภาวโตติ ‘‘กามธาตุยา จุตสฺสา’’ติอาทินา (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๐๒) ปาฬิอาคตปทสฺส, ‘‘กามธาตุํ วา ปน อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติอาทินา ยมกภาเวน อฏฺกถาอาทิคตปทสฺส จ อตฺถวิเสสาภาวโต. กถมยํ ยมกเทสนา สิยา ทุติยสฺส ปทสฺส อภาวโตติ อตฺโถ. ยทิ นายํ ยมกเทสนา, อถ กสฺมา อิธาคตาติ อาห ‘‘ปุริมวาเร หี’’ติอาทิ. ตตฺถ อนุสยฏฺานปริจฺเฉททสฺสนนฺติ อนุสยฏฺานตาย ปริจฺเฉททสฺสนํ. เอวมฺปิ กถมิทํ อนุสยยมกํ ยมกเทสนาสพฺภาวโตติ อาห ‘‘ยมกเทสนา…เป… นามํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อตฺถวเสนาติ ปฏิโลมตฺถวเสน. ปมปเทน หิ วุตฺตสฺส วิปริวตฺตนวเสนปิ ยมกเทสนา โหติ ‘‘รูปํ รูปกฺขนฺโธ, รูปกฺขนฺโธ รูป’’นฺติอาทีสุ (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๒), ตตฺถ ปน อตฺถวิเสโส อตฺถิ, อิธ นตฺถิ, ตสฺมา น ตถา เทสนา กตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺถวิเสสาภาวโต ปน น วุตฺตา’’ติ. ลพฺภมานตาวเสนาติ ปุจฺฉาย ลพฺภมานตาวเสน.

อุปฺปตฺติอรหตํ ทสฺเสตีติ อิมินา นิปฺปริยาเยน อนุสยา อนาคตาติ ทสฺสิตํ โหติ ยโต เต มคฺควชฺฌา, น จ อตีตปจฺจุปฺปนฺนา อุปฺปตฺติรหาติ วุจฺจนฺติ อุปฺปนฺนตฺตา. ยํสภาวา ปน ธมฺมา อนาคตา อนุสยาติ วุจฺจนฺติ, ตํสภาวา เอว เต อตีตปจฺจุปฺปนฺนา วุตฺตา. น หิ ธมฺมานํ อทฺธาเภเทน สภาวเภโท อตฺถิ, ตสฺมา อนุสยานํ อตีตปจฺจุปฺปนฺนภาวา ปริยายโต ลพฺภนฺตีติ อฏฺกถายํ (ยม. อฏฺ. อนุสยยมก ๑) ‘‘อตีโตปิ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํปการาติ อนุสยปฺปการา, การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนารหาอิจฺเจว อตฺโถ. โส เอวํปกาโร อุปฺปชฺชนวาเร อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน คหิโต อุปฺปชฺชนารหตาย อวิจฺฉินฺนภาวทีปนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘น ขนฺธยมกาทีสุ วิย อุปฺปชฺชมานตา’’ติ, ปจฺจุปฺปนฺนตาติ อตฺโถ. เตเนวาติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. ตตฺถ นินฺนานากรโณติ นิพฺพิเสโส. อุปฺปชฺชนานุสยานํ นินฺนานากรณตฺตา เอว หิ ‘‘เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติ วิภงฺเค (วิภ. ๒๐๓) อาคตํ. อนุสยนฺหิ เอตฺถ นิวิสนนฺติ อธิปฺเปตํ.

อิทานิ เยน ปริยาเยน อตีตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อนุสยโวหาโร, ตํ ทสฺเสตุกาโม อนาคตมฺปิ เตหิ สทฺธึ เอกชฺฌํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุรูปํ การณํ ปน…เป… วุจฺจนฺตี’’ติ อาห. เอเตน ภูตปุพฺพคติยา อตีตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อุปฺปตฺติรหตา เวทิตพฺพาติ ทสฺเสติ. อุปฺปตฺติอรหตา นาม กิเลสานํ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนตาย เวทิตพฺพา. สา จ อตีตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ อตฺเถวาติ ปการนฺตเรนปิ เตสํ ปริยายโตว อนุสยภาวํ ปกาเสติ. เตเนวาห ‘‘มคฺคสฺส ปนา’’ติอาทิ. ตาทิสานนฺติ เย มคฺคภาวนาย อสติ อุปฺปตฺติรหา, ตาทิสานํ. ธมฺโม เอว จ อุปฺปชฺชติ, น ธมฺมากาโรติ อธิปฺปาโย. น หิ ธมฺมาการา อนิจฺจตาทโย อุปฺปชฺชนฺตีติ วุจฺจนฺติ. ยทิ ปน เต อุปฺปาทาทิสมงฺคิโน สิยุํ, ธมฺมา เอว สิยุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปหีนากาโร จ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ น ยุชฺชตี’’ติ.

วุตฺตมฺปิ ถามคมนํ อคฺคเหตฺวา อปฺปหีนฏฺมตฺตเมว คเหตฺวา โจทโก โจเทตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สตฺตานุสย…เป… อาปชฺชตีติ เจ’’ติ. น หิ ถามคมเน คหิเต โจทนาย โอกาโส อตฺถิ. เตนาห ‘‘นาปชฺชตี’’ติอาทิ. วุตฺตํ อฏฺกถายํ, น เกวลมฏฺกถายเมว ปาคโตวายมตฺโถ, ตสฺมา เอวเมว คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ถามคโต…เป… ยุตฺต’’นฺติ วตฺวา กึ ปน ตํ ถามคมนนฺติ ปราสงฺกํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ถามคตนฺติ จ…เป… วุตฺตา’’ติ อาห. ตตฺถ อฺเหิ อสาธารโณติ กิเลสวตฺถุอาทีนํ กิเลสตาทิสภาโว วิย กามราคาทิโต อฺตฺถ อลพฺภมาโน เตสํเยว อาเวณิโก สภาโว, ยโต เต ภวพีชํ ภวมูลนฺติ จ วุจฺจนฺติ. ยสฺมา จ ถามคมนํ เตสํ อนฺสาธารโณ สภาโว, ตสฺมา อนุสยนนฺติ วุตฺตํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ถามคโตติ อนุสยสมงฺคีติ อตฺโถ’’ติ อาห.

‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ? อามนฺตา’’ติอาทินา (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓) อนุสยวาเร วุตฺโต เอว อตฺโถ ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติอาทินา (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๐๐) วุตฺโตติ อนุสยนากาโร เอว อุปฺปชฺชนวาเร อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน คหิโตติ ‘‘อุปฺปชฺชนวาโร อนุสยวาเรน นินฺนานากรโณ วิภตฺโต’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ วิจารํ อารภติ ‘‘อนุสยอุปฺปชฺชนวารานํ สมานคติกตฺตา’’ติอาทินา. ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วจนํ สิยาติ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วจนํ อปฺปหีนาการทีปกํ สิยา. ตถา จ สติ ยถา ‘‘อิมสฺส อุปฺปาทา’’ติ เอตฺถ อิมสฺส อนิโรธาติ อยมตฺโถปิ ายติ, เอวํ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺเต อตฺถโต ‘‘น อุปฺปชฺชตี’’ติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ อปฺปหีนาการสฺส อุปฺปตฺติรหภาวสฺส อนุปฺปชฺชมานสภาวตฺตาติ โจทนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปชฺชตีติ วจนสฺส อวุตฺตตา น สกฺกา วตฺตุนฺติ เจ’’ติ อาห. วจนตฺถวิเสเสน ตํทฺวยสฺส วุตฺตตฺตาติ เอเตน ธมฺมนานตฺตาภาเวปิ ปทตฺถนานตฺเถน วารนฺตรเทสนา โหติ ยถา สหชาตสํสฏฺวาเรสูติ ทสฺเสติ. อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวาติอาทิ ตเมว วจนตฺถวิเสสํ วิภาเวตุํ อารทฺธํ. อุปฺปตฺติโยคฺคนฺติ อุปฺปตฺติยา โยคฺคํ, อุปฺปชฺชนสภาคตนฺติ อตฺโถ. ยโต อนุสยา อุปฺปตฺติรหาติ วุจฺจนฺติ, เอกนฺเตน เจตเทว สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติอาทิวจนโต (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๐๐). ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุสยา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต สทา วิชฺชมานา นุ โข เต อปรินิปฺผนฺนานุสยนฏฺเน ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อยมตฺโถ อาปชฺชตีติ ตํนิเสธนตฺถํ ‘‘อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปตฺติอรหภาเวน ถามคตตา อนุสยฏฺโติ ยํ เตสํ อุปฺปตฺติโยควจนํ วุตฺตํ, ตํ สมฺมเทว วุตฺตนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘อนุสยสทฺทสฺสา’’ติอาทินา. เตน วารทฺวยเทสนุปฺปาทิกา อนุสยสทฺทตฺถนิทฺธารณาติ ทสฺเสติ. ตมฺปิ สุวุตฺตเมว อิมินา ตนฺติปฺปมาเณนาติ อิทมฺปิ ‘‘อภิธมฺเม ตาวา’’ติอาทินา อาคตํ ติวิธเมว ตนฺตึ สนฺธายาหาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตนฺติตฺตเยนปิ หิ จิตฺตสมฺปยุตฺตตา ทีปิตา โหตี’’ติ.

ปริจฺเฉทปริจฺฉินฺนุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา

. เอวํ สตีติ เวทนานํ วิเสสิตพฺพภาเว กามธาตุยา จ วิเสสนภาเว สติ. กามาธาตุยา อนุสยนฏฺานตา น วุตฺตา โหติ อปฺปธานภาวโต, ปธานาปฺปธาเนสุ ปธาเน กิจฺจทสฺสนโต, วิเสสนภาเวน จริตพฺพตาย จาติ อธิปฺปาโย. โหตุ โก โทโสติ กทาจิ วเทยฺยาติ อาสงฺกมาโน อาห ‘‘ทฺวีสุ ปนา’’ติอาทิ. ทฺวีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, ตถา ‘‘ตีสุ ธาตูสู’’ติ เอตฺถาปิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ธาตุอาทิเภเทน ติวิธํ อนุสยฏฺานํ, ตตฺถ จ รูปารูปธาตูนํ ภวราคสฺส อนุสยฏฺานตา วุตฺตาติ กามธาตุยา กามราคสฺส อนุสยฏฺานตา เอกนฺเตน วตฺตพฺพา, ตสฺมา. ตีสุ ธาตูสุ ตีสุ เวทนาสูติ จ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสูติ จ อาธาเร.

ทฺวีสฺเววาติ ทฺวีสุ สุโขเปกฺขาสุ เอว. สพฺพาสุ ทฺวีสูติ ยาสุ กาสุจิ ทฺวีสุ. เตนาติ ‘‘กามราโค ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตี’’ติ วจนสามตฺถิยลทฺเธน วิเสสนิจฺฉเยเนว. ภวราคานุสยฏฺานํ รูปารูปธาตุโย ตทนุรูปา จ เวทนา. น หิ ทฺวีสุ เวทนาสุ กามราคานุสโยว อนุเสตีติ อวธารณํ อิจฺฉิตํ, ทฺวีสุ เอว ปน เวทนาสูติ อิจฺฉิตํ. เตเนวาห ‘‘ทฺวีสฺเวว อนุเสติ, น ตีสู’’ติ. อฏฺานฺจ อนุสยานํ, กึ ตํ อปริยาปนฺนํ สกฺกาเย? สพฺโพ โลกุตฺตโร ธมฺโม. -สทฺเทน ปฏิฆานุสยฏฺานํ สงฺคณฺหาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ. อฺาติ กามราคานุสยฏฺานภูตา ทฺเว เวทนา.

อฺเสุ ทฺวีหิ เวทนาหิ วิปฺปยุตฺเตสุ. ปิยรูปสาตรูเปสูติ ปิยายิตพฺพมธุรสภาเวสุ. วิเสสนฺเจตํ รูปาทีนํ สพฺพทฺวารสพฺพปุริเสสุ อิฏฺภาวสฺส อนิยตตาย กตํ. สาตสนฺตสุขคิทฺธิยาติ สาตสุเข สนฺตสุเข จ คิชฺฌนากาเรน อภิกงฺขนากาเรน. ตตฺถ สาตสุขํ กายิกํ, สนฺตสุขํ เจตสิกํ. สาตสุขํ วา กายิกสุขํ, สนฺตสุขํ อุเปกฺขาสุขํ. ตถา จาหุ ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔; มหานิ. อฏฺ. ๒๗). ปริตฺตํ วา โอฬาริกํ สุขํ สาตสุขํ, อโนฬาริกํ สนฺตสุขํ. ปริตฺตคฺคหณฺเจตฺถ กามราคานุสยสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อฺตฺถาติ เวทนาหิ อฺตฺถ. โสติ กามราคานุสโย. เวทนาสุ อนุคโต หุตฺวา เสตีติ เวทนาเปกฺโข เอว หุตฺวา ปวตฺตติ ยถา ปุตฺตาเปกฺขาย ธาติยา อนุคฺคณฺหนปฺปวตฺติ, สยนสงฺขาตา ปวตฺติ จ กามราคสฺส นิกามนเมว. เตนาห ‘‘สุขมิจฺเจว อภิลปตี’’ติ. ยถา ตสฺส, เอวํ ปฏิฆานุสยาทีนมฺปิ วุตฺตนิยาเมน ยถาสกํ กิจฺจกรณเมว ทุกฺขเวทนาทีสุ อนุสยนํ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ ปฏิฆานุสโย จา’’ติอาทิ. ตีสุ เวทนาสุ อนุสยนวจเนนาติ ตีสุ เวทนาสุ ยถารหํ อนุสยนวจเนน. อิฏฺาทิภาเวน คหิเตสูติ อิฏฺาทีสุ อารมฺมณปกติยา วเสน อิฏฺาทิภาเวน คหิเตสุ วิปรีตสฺาย วเสน อนิฏฺาทีสุ อิฏฺาทิภาเวน คหิเตสูติ โยชนา. น หิ อิฏฺาทิภาเวน คหณํ วิปรีตสฺา.

ตตฺถาติ อิฏฺารมฺมณาทีสุ. เอตฺถาติ อนุสยเน. กามสฺสาทาทิวตฺถุภูตานํ กามภวาทีนนฺติ กามสฺสาทภวสฺสาทวตฺถุภูตานํ กามรูปารูปภวานํ คหณํ เวทิตพฺพนฺติ โยชนา. ตตฺถาติ เวทนาตฺตยธาตุตฺตเยสุ. นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมํ. ทุกฺขปฏิฆาโต ทุกฺเข อนภิรติ. ยตฺถ ตตฺถาติ ทุกฺขเวทนาย ตํสมฺปยุตฺเตสุ อนิฏฺรูปาทีสุ วาติ ยตฺถ ตตฺถ. มหคฺคตา อุปาทินฺนกฺขนฺธา รูปารูปภวา, อนุปาทินฺนกฺขนฺธา รูปารูปาวจรธมฺมา. ตตฺถาติ ยถาวุตฺเตสุ มหคฺคตธมฺเมสุ ภวราโคอิจฺเจว เวทิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ กามราคานุสโย นานุเสตี’’ติ. ทิฏฺานุสยาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน วิจิกิจฺฉานุสยอวิชฺชานุสยาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ธาตุตฺตยเวทนาตฺตยวินิมุตฺตํ ทิฏฺานุสยาทีนํ อนุสยนฏฺานํ น วุตฺตนฺติ สุวุตฺตเมตํ ทิฏฺานุสยาทีนํ อุปฺปตฺติฏฺานปุจฺฉายํ ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ’’อิจฺเจว วิสฺสชฺชิตตฺตา. กามราโค ปน ยตฺถ นานุเสติ, ตํ ทุกฺขเวทนารูปารูปธาตุวินิมุตฺตํ ทิฏฺานุสยาทีนํ อนุสยนฏฺานํ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตทนุสยนฏฺานโตติ ตสฺส กามราคานุสยสฺส อนุสยนฏฺานโต. อฺา เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสุเปกฺขาสงฺขาตา. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เนกฺขมฺมสฺสิตโทมนสฺเส วิย ปฏิฆานุสโย เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสุเปกฺขาสุ กามราคานุสโย นานุเสตีติ ‘‘ยตฺถ กามราคานุสโย นานุเสติ, ตตฺถ ทิฏฺานุสโย นานุเสตี’’ติ สกฺกา วตฺตุนฺติ ตสฺมา ตํ อุทฺธริตฺวา น วุตฺตนฺติ. โหนฺตูติ ตาสํ เวทนานํ อตฺถิตํ ปฏิชานิตฺวา อุทฺธริตฺวา อวจนสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น ปน…เป… ตํ น วุตฺต’’นฺติ. ตทนุสยนฏฺานนฺติ เตสํ ทิฏฺานุสยาทีนํ อนุสยนฏฺานํ. ตสฺมาติ ยสฺมา สติปิ กามราคานุสยนฏฺานโต อฺสฺมึ ทิฏฺานุสยาทีนํ อนุสยนฏฺาเน ตํ ปน ธาตุตฺตยเวทนาตฺตยวินิมุตฺตํ นตฺถิ เวทนาทฺวยภาวโต, ตสฺมา. ตํ เวทนาทฺวยํ น วุตฺตํ วิสุํ น อุทฺธฏนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ยตฺถ กามราคาทโย นานุเสนฺติ, ตตฺถ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา นานุเสนฺตี’’ติ อยมตฺโถ ‘‘อามนฺตา’’ติ อิมินา ปฏิวจนวิสฺสชฺชเนน อวิภาคโต วุตฺโตติ ‘‘ยตฺถ กามราคาทโย อนุเสนฺติ, ตตฺถ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา อนุเสนฺตี’’ติ อยมฺปิ อตฺโถ อวิภาคโตว ลพฺภติ, ตสฺมา. อวิภาคโต จ ทุกฺขํ ปฏิฆสฺส อนุสยนฏฺานนฺติ ทีปิตํ โหติ. เตนาห ‘‘อวิเสเสน…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. ตตฺถ อวิเสเสนาติ เคหสฺสิตํ เนกฺขมฺมสฺสิตนฺติ วิเสสํ อกตฺวา. สมุทายวเสน คเหตฺวาติ ยถาวุตฺตอวยวานํ สมูหวเสน ทุกฺขนฺตฺเวว คเหตฺวา. ‘‘อวิเสเสน สมุทายวเสน คเหตฺวา’’ติ อิมมตฺถํ ตถา-สทฺเทน อนุกฑฺฒติ ‘‘ทฺวีสุ เวทนาสู’’ติ เอตฺถาปิ เคหสฺสิตาทิวิภาคสฺส อนิจฺฉิตตฺตา.

ยทิ เอวํ ‘‘ปฏิฆํ เตน ปชหติ, น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ อิทํ สุตฺตปทํ กถนฺติ โจทนํ สนฺธาย ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ โทมนสฺเส, ตํสมฺปยุตฺเต วา ปฏิเฆ. เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสนฺติอาทินา เนยฺยตฺถมิทํ สุตฺตํ, น นีตตฺถนฺติ ทสฺเสติ. ยถา ปน สุตฺตํ อุทาหฏํ, ตถา อิธ กสฺมา น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปฏิฆุปฺปตฺติรหฏฺานตายา’’ติอาทิ. เอวมฺปิ สุตฺตาภิธมฺมปาานํ กถมวิโรโธติ อาห นิปฺปริยายเทสนา เหสา, สา ปน ปริยายเทสนาติ. เอวฺจ กตฺวาติ ปริยายเทสนตฺตา เอว. ราคานุสโยติ กามราคานุสโย อธิปฺเปโต. ยโต ‘‘อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาตนํ สนฺธายา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตสฺส น มหคฺคตธมฺมา อนุสยนฏฺานนฺติ ตํ ปมชฺฌานฺจ อนามสิตฺวา ‘‘น หิ โลกิยา…เป… นานุเสตีติ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ วุตฺตํ. อวตฺถุภาวโตติ สภาเวเนว อนุปฺปตฺติฏฺานตฺตา. อิธาติ อิมสฺมึ อนุสยยมเก. วุตฺตนเยนาติ ‘‘เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติอาทินา วุตฺเตน นเยน. ตํปฏิปกฺขภาวโตติ เตสํ ปฏิฆาทีนํ ปฏิปกฺขสฺส มคฺคสฺส สพฺภาวโต. น เกวลํ มคฺคสพฺภาวโต, อถ โข พลววิปสฺสนาสพฺภาวโตปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตํสมุคฺฆา…เป… ภาวโต จา’’ติ.

อิทานิ ยเทตํ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อนุสยนฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ คเหตพฺพธมฺมวเสน วา สิยา คหณวิเสเสน วาติ ทฺเว วิกปฺปา, เตสุ ปมํ สนฺธายาห ‘‘อารมฺมเณ อนุสยนฏฺาเน สตี’’ติ. รูปาทิอารมฺมเณ อนุสยานํ อนุสยนฏฺานนฺติ คยฺหมาเน ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘น สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขาย หี’’ติอาทิมาห. ยทิ สิยาติ ยทิ กามราคานุสโย สิยา. เอตสฺสปีติ ทิฏฺานุสยสมฺปยุตฺตโลภสฺสปิ ‘‘สพฺพสกฺกายปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสู’’ติ กามราคสฺส านํ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. อถ ปนาติอาทิ ทุติยวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. อชฺฌาสยวเสน ตํนินฺนตายาติ อสติปิ อารมฺมณกรเณ ยตฺถ กามราคาทโย อชฺฌาสยโต นินฺนา, ตํ เตสํ อนุสยนฏฺานํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุคโต หุตฺวา เสตี’’ติ. อถ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุทาหรณวเสน นิรูปนํ. ทุกฺเข ปฏิหฺนวเสเนว ปวตฺตติ, นารมฺมณกรณวเสนาติ อธิปฺปาโย. ทุกฺขเมว ตสฺส อนุสยนฏฺานํ วุตฺตนฺติ อชฺฌาสยสฺส ตตฺถ นินฺนตฺตา ทุกฺขเมว ตสฺส ปฏิฆสฺส อนุสยนฏฺานํ วุตฺตํ, นาลมฺพิตํ รูปาทิ สุขเวทนา จาติ อธิปฺปาโย. เอวนฺติ ยถา อฺารมฺมณสฺสปิ ปฏิฆสฺส อชฺฌาสยโต ทุกฺขนินฺนตาย ทุกฺขเมว อนุสยนฏฺานํ วุตฺตํ, เอวํ. ทุกฺขาทีสุ…เป… วุตฺตนฺติ ‘‘ทุกฺเขน สุขํ อธิคนฺตพฺพํ. นตฺถิ ทินฺน’’นฺติ จ อาทินา กายกิลมนทุกฺเข ทานานุภาวาทิเก จ มิจฺฉาภินิเวสนวเสน อุปฺปชฺชมาเนน ทิฏฺานุสเยน สมฺปยุตฺโต อฺารมฺมโณปิ โลโภ ‘‘เอวํ สุขํ ภวิสฺสตี’’ติ อชฺฌาสยโต สุขาภิสงฺควเสเนว ปวตฺตตีติ สุขุเปกฺขาเภทํ สาตสนฺตสุขทฺวยเมว อสฺส โลภสฺส อนุสยนฏฺานํ วุตฺตํ ปาฬิยํ, น ยถาวุตฺตํ ทุกฺขาทิ, ตสฺมา ภวราค…เป… น วิรุชฺฌติ. เอกสฺมึเยว จาติอาทิ ทุติยวิกปฺปํเยว อุปพฺรูหนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ราคสฺส สุขชฺฌาสยตา ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส วเสน เวทิตพฺพา, ตนฺนินฺนภาเวน วา จกฺขุสฺส วิสมชฺฌาสยตา วิย. เอส นโย เสเสสุปิ. เตสํ ราคปฏิฆานํ นานานุสยฏฺานตา โหติ เอกสฺมิมฺปิ อารมฺมเณติ อตฺโถ.

เอวฺจ กตฺวาติ อสติปิ คเหตพฺพเภเท คหณวิเสเสน อนุสยนฏฺานสฺส ภินฺนตฺตา เอว. ‘‘ยตฺถ…เป… โน’’ติ วุตฺตํ, อฺถา วิรุชฺเฌยฺย. คเหตพฺพเภเทน หิ ราคปฏิฆานํ อนุสยนฏฺานเภเท คยฺหมาเน วิปากมตฺเต าตพฺพํ สิยา, น จ ตํ ยุตฺตํ, นปิ สพฺเพสํ ปุริสทฺวารานํ อิฏฺานิฏฺํ นิยตนฺติ. ยทิปิ ยถาวุตฺตโลภสฺส วุตฺตนเยน กามราคานุสยตา สมฺภวติ, ยถา ปน สุขุเปกฺขาสุ อิฏฺารมฺมเณ จ อุปฺปชฺชนฺเตน โทมนสฺเสน สห ปวตฺโต โทโส ทุพฺพลภาเวน ปฏิฆานุสโย น โหติ, เอวํ ยถาวุตฺตโลโภปิ กามราคานุสโย น โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ปฏิฆานุสโยติ เอตฺถ -กาโร ปฏิเสธนตฺโถ, น อฺตฺโถ, อิตรตฺถ ปน สมฺภโว เอว นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘น หิ โทมนสฺสสฺส ปฏิฆานุสยภาวาสงฺกา อตฺถี’’ติ อิมินา -การสฺส อฺตฺถตาภาวทสฺสนมุเขน อภาวตฺถตํ สมตฺเถติ.

เทสนา สํกิณฺณา วิย ภเวยฺยาติ เอตฺถ เทสนาสงฺกรํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภวราคสฺสปิ…เป… ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ยถา กามราคสฺส กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อารมฺมณกรณวเสน อุปฺปตฺติ วุตฺตา ‘‘กามราโค กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตี’’ติ, เอวํ ยทิ ‘‘ภวราโค กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ อนุเสตี’’ติ วุจฺเจยฺย, ภวราคสฺสปิ…เป… ภเวยฺย. ตโต จ กามราเคน สทฺธึ ภวราคสฺส เทสนา สํกิณฺณา ภเวยฺย, กามราคโต จ ภวราคสฺส วิเสโส ทสฺเสตพฺโพ. โส จ สหชาตานุสยวเสน น สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ อารมฺมณกรณวเสน ทสฺเสตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺมา อารมฺมณ…เป… อธิปฺปาโย’’ติ. ตตฺถ อารมฺมณวิเสเสนาติ รูปารูปธาตุสงฺขาตอารมฺมณวิเสเสน. วิเสสทสฺสนตฺถนฺติ กามราคโต ภวราคสฺส วิเสสทสฺสนตฺถํ. เอวํ เทสนา กตาติ ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา เอตฺถ ภวราคานุสโย อนุเสตี’’ติ เอวํ วิสเย ภุมฺมํ กตฺวา เทสนา กตา. เตนาห ‘‘สหชาตเวทนาวิเสสาภาวโต’’ติ.

อุปฺปตฺติฏฺานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวาโร

๑. อนุสยวารวณฺณนา

. ปวตฺตาวิรามวเสนาติ อนุสยปฺปวตฺติยา อวิรามวเสน, อวิจฺเฉทวเสนาติ อตฺโถ. กถํ ปน กุสลาพฺยากตจิตฺตกฺขเณ อนุสยานํ ปวตฺตีติ อาห ‘‘มคฺเคเนว…เป… ปุพฺเพ’’ติ.

๒๐. จิตฺตเจตสิกานฺจ านํ นาม จิตฺตุปฺปาโทติ อาห ‘‘เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท’’ติ. เตสํ เตสํ ปุคฺคลานนฺติ ปุถุชฺชนาทีนํ ปุคฺคลานํ. ปกติยา สภาเวน. สภาวสิทฺธา หิ ทุกฺขาย เวทนาย กามราคสฺส อนนุสยนฏฺานตา. เอวํ เสเสสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. วกฺขติ หิ ‘‘ปกติยา ทุกฺขาทีนํ กามราคาทีนํ อนนุสยนฏฺานตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ปหาเนนาติ ตสฺส ตสฺส อนุสยสฺส สมุจฺฉินฺทเนน. ติณฺณํ ปุคฺคลานนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามีนํ. ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานนฺติ อนาคามิอรหนฺตานํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปุคฺคโลกาสวาเร. ปุริมนเยติ ‘‘ติณฺณํ ปุคฺคลาน’’นฺติอาทิเก ปุริมสฺมึ วิสฺสชฺชนนเย. โอกาสนฺติ อุปฺปตฺติฏฺานํ, อิธ ปน ทุกฺขเวทนา เวทิตพฺพา. ปจฺฉิมนเยติ ‘‘ทฺวินฺนํ ปุคฺคลาน’’นฺติอาทิเก วิสฺสชฺชนนเย. อโนกาสตา อนนุสยนฏฺานตา.

อนุสยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สานุสยวารวณฺณนา

๖๖-๑๓๑. ‘‘สานุสโย, ปชหติ, ปริชานาตี’’ติ ปุคฺคโล วุตฺโตติ ‘‘กามราเคน สานุสโย, กามราคํ ปชหติ, กามราคํ ปริชานาตี’’ติอาทีสุ อนุสยสมงฺคิภาเวน ปหานปริฺากิริยาย กตฺตุภาเวน จ ปุคฺคโล วุตฺโต, น ธมฺโม. ภววิเสเสน วาติ เกวเลน ภววิเสเสน วา. อิตเรสูติ ปฏิฆานุสยาทีสุ. ภวานุสยวิเสเสน วาติ กามภวาทิภววิสิฏฺานุสยวิเสเสน วา. สานุสยตานิรนุสยตาทิกาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปหานาปหานปริฺาปริฺา สงฺคยฺหนฺติ. นนุ จ ภววิเสเส เกสฺจิ อนุสยานํ อปฺปหานนฺติ? น ตํ อนุสยกตํ, อถ โข ปจฺจยเวกลฺลโต อโนกาสตาย จาติ นายํ วิโรโธ. ทฺวีสุ เวทนาสูติ สุขอุเปกฺขาสุ เวทนาสุ ทุกฺขาย เวทนาย กามราคานุสเยน นิรนุสโยติ โยเชตพฺพํ. อิทมฺปิ นตฺถิ ปุคฺคลวเสน วุจฺจมานตฺตา. เตนาห ‘‘น หิ ปุคฺคลสฺส…เป… อนุสยาน’’นฺติ. ยทิปิ ปุคฺคลสฺส อนุสยโนกาโส อโนกาโส, ตสฺส ปน สานุสยตาทิเหตุ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุสยสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. นิรนุสยตาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อปฺปหานาปริฺา สงฺคณฺหาติ. ปริชานนํ สมติกฺกมนนฺติ ปริฺาวาเรปิ ‘‘อปาทาเน นิสฺสกฺกวจน’’นฺติ วุตฺตํ.

อนุสยนฏฺานโตติ อนุสยนฏฺานเหตุ. ‘‘อนนุสยนฏฺานโต’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นิมิตฺตาปาทานภาวทสฺสนตฺถนฺติ สานุสยวาเร นิมิตฺตภาวทสฺสนตฺถํ, ปชหนปริฺาวาเรสุ อปาทานภาวทสฺสนตฺถฺจาติ โยเชตพฺพํ. ปชหตีติ เอตฺถ ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา ตโต มานานุสยํ ปชหตี’’ติ ปาฬิปทํ อาหริตฺวา โยเชตพฺพํ, น ปชหตีติ เอตฺถ ปน ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย ตโต กามราคานุสยํ นปฺปชหตี’’ติ. เอวมาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ปริฺาวารมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ภุมฺมนิทฺเทเสเนว เหตุอตฺเถเนว นิทฺทิฏฺาติ อตฺโถ.

จตุตฺถปฺหวิสฺสชฺชเนนาติ ‘‘ยโต วา ปน มานานุสเยน สานุสโย, ตโต กามราคานุสเยน สานุสโย’’ติ เอตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเนน. ตตฺถ หิ ‘‘รูปธาตุยา อรูปธาตุยา’’ติอาทินา สรูปโต อนุสยนฏฺานานิ ทสฺสิตานิ. ตทตฺเถติ ตํ อนุสยนฏฺานทสฺสนํ อตฺโถ เอตสฺสาติ ตทตฺโถ, ตสฺมึ ตทตฺเถ. ‘‘อนุสยสฺส อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนตฺถํ อยํ วาโร อารทฺโธ’’ติอาทินา ‘‘ยโต’’ติ เอเตน อนุสยนฏฺานํ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ วิภาเวตฺวา. ปมาทลิขิตํ วิย ทิสฺสติ อุปฺปนฺน-สทฺเทน วตฺตมานุปฺปนฺเน วุจฺจมาเน. ยถา ปน อุปฺปชฺชนวาเร อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน อุปฺปตฺติโยคทีปกตฺตา อุปฺปตฺติรหา วุจฺจนฺติ, เอวมิธาปิ อุปฺปตฺติอรเห วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘น หิ อปริยาปนฺนานํ อนุสยุปฺปตฺติรหฏฺานตา’’ติ, โสปิ น โทโส. ยตฺถ ยตฺถ หิ อนุสยา อุปฺปตฺติรหา, ตเทว เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ วุตฺตนฺติ. ตเถว ทิสฺสตีติ ตํ ปมาทลิขิตํ วิย ทิสฺสตีติ อตฺโถ.

ยโต อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพนฺติ ยโต อนุสยนฏฺานโต กามคารานุสเยน อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ, เตน กามราคานุสเยน อุปฺปตฺติรหฏฺาเน นิสฺสกฺกวจนํ กตํ ‘‘ยโต’’ติ. ตถาติ เอตฺถ ตถา-สทฺโท ยถา ‘‘ยโต อุปฺปนฺเนนา’’ติ เอตฺถ อุปฺปตฺติรหฏฺานโต อนุสยสฺส อุปฺปตฺติรหตา วุตฺตา, ตถา ‘‘อุปฺปชฺชนเกนา’’ติ เอตฺถาปิ สา เอว วุจฺจตีติ ทีเปตีติ อาห ‘‘สพฺพธมฺเมสุ…เป… อาปนฺเนนา’’ติ. ตตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชนโก’’ติ วุตฺเต อนุปฺปชฺชนโก น โหตีติ อยมตฺโถ วิฺายติ, ตถา จ สติ เตน อนุปฺปตฺติ นิจฺฉิตาติ อุปฺปนฺนสภาวตา จ ปกาสิตา โหตีติ. เตนาห ‘‘สพฺพธมฺเมสุ…เป… อปเนตี’’ติ. ‘‘โย ยโต กามราคานุสเยน นิรนุสโย, โส ตโต มานานุสเยน นิรนุสโย’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘ยโต ตโต’’ติ อาคตตฺตา วิสฺสชฺชเน ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ ปทสฺส นิสฺสกฺกวเสเนว สกฺกา โยเชตุนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพตฺถาติ…เป… น น สมฺภวตี’’ติ อาห. ภุมฺมโต อฺตฺถาปิ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ, ยโต สพฺเพสํ ปาทกํ ‘‘สพฺพตฺถปาทก’’นฺติ วุจฺจติ, อิธ ปน นิสฺสกฺกวเสน เวทิตพฺพํ.

สานุสยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปชหนวารวณฺณนา

๑๓๒-๑๙๗. อปฺปชหนสพฺภาวาติ อปฺปหานสฺส, อปฺปหียมานสฺส วา สพฺภาวา. ตสฺมาติ ยสฺมา โย กามราคานุสยํ ปชหติ, น โส มานานุสยํ นิรวเสสโต ปชหติ, โย จ มานานุสยํ นิรวเสสโต ปชหติ, น โส กามราคานุสยํ ปชหติ ปเคว ปหีนตฺตา, ตสฺมา ‘‘โย วา ปน มานานุสยํ ปชหติ, โส กามราคานุสยํ ปชหตีติ? โน’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยทิ เอวํ ปมปุจฺฉายํ กถนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา ปน…เป… วุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ ปหานกรณมตฺตเมวาติ ปหานกิริยาสมฺภวมตฺตเมว, น นิรวเสสปฺปหานนฺติ อธิปฺปาโย. เต เปตฺวาติ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานุสยาทีนํ นิรวเสสปชหนเก อฏฺมกาทิเก เปตฺวา. อวเสสาติ ตสฺส ตสฺส อนุสยสฺส นิรวเสสปฺปชหนเกหิ อวสิฏฺา. เตสุ เยสํ เอกจฺเจ อนุสยา ปหีนา, เตปิ อปฺปชหนสพฺภาเวเนว นปฺปชหนฺตีติ วุตฺตา. น จ ยถาวิชฺชมาเนนาติ มคฺคกิจฺจภาเวน วิชฺชมานปฺปกาเรน ปหาเนน วชฺชิตา รหิตา เอว วุตฺตาติ โยชนา.

เกสฺจีติ โสตาปนฺนสกทาคามิมคฺคสมงฺคิสกทาคามีนํ. ปุน เกสฺจีติ อนาคามิอคฺคมคฺคสมงฺคิอรหนฺตานํ. อุภยนฺติ กามราควิจิกิจฺฉานุสยทฺวยํ. เสสานนฺติ ‘‘เสสา’’ติ วุตฺตานํ ยถาวุตฺตปุคฺคลานํ. เตสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ ทฺวินฺนํ อนุสยานํ. อุภยาปฺปชหนสฺสาติ กามราควิจิกิจฺฉานุสยาปฺปชหนสฺส. การณํ น โหตีติ เยสํ วิจิกิจฺฉานุสโย ปหีโน, เตสํ ตสฺส ปหีนตา, เยสํ ยถาวุตฺตํ อุภยปฺปหีนํ, เตสํ ตทปฺปชหนสฺส การณํ น โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เตสํ ปหีนตฺตา ‘นปฺปชหนฺตี’ติ น สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ. อถ ปน น ตตฺถ การณํ วุตฺตํ, เยน การณวจเนน ยถาวุตฺตโทสาปตฺติ สิยา, เกวลํ ปน สนฺนิฏฺาเนน เตสํ ปุคฺคลานํ คหิตตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ ‘‘กามราคานุสยฺจ นปฺปชหนฺตี’’ติ, เอวมฺปิ ปุจฺฉิตสฺส สํสยตฺถสฺส การณํ วตฺตพฺพํ. ตถา จ สติ ‘‘เสสปุคฺคลา ตสฺส อนุสยสฺส ปหีนตฺตา นปฺปชหนฺตี’’ติ การณํ วตฺตพฺพเมวาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น วตฺตพฺพ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ น วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตนเยน การณํ น วตฺตพฺพํ การณภาวสฺเสว อภาวโต. ‘‘อุภยาปฺปชหนสฺส การณํ น โหตี’’ติ วุตฺตํ, ยถา ปน วตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย กามราคานุสยํ…เป… วตฺตพฺพตฺตา’’ติ อาห. เตน ปหีนาปฺปหีนวเสน การณํ น วตฺตพฺพํ, ปหีนานํเยว ปน วเสน วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. สํสยตฺถสงฺคหิเตติ สํสยตฺเถน ปเทน สงฺคหิเต. สนฺนิฏฺานปทสงฺคหิตํ ปน ปหียมานตฺตา ‘‘นปฺปชหตี’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ.

ปชหนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปหีนวารวณฺณนา

๒๖๔-๒๗๔. ผลฏฺวเสเนว เทสนา อารทฺธา, น มคฺคฏฺวเสน, กุโต ปุถุชฺชนวเสน. กสฺมา? ผลกฺขเณ หิ อนุสยา ปหีนาติ วุจฺจนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน ปหียนฺตีติ. เตเนวาห ‘‘มคฺคสมงฺคีนํ อคฺคหิตตํ ทีเปตี’’ติ. ปฏิโลเม หิ ปุถุชฺชนวเสนปิ เทสนา คหิตา ‘‘ยสฺส ทิฏฺานุสโย อปฺปหีโน, ตสฺส วิจิกิจฺฉานุสโย อปฺปหีโนติ? อามนฺตา’’ติอาทินา. อนุสยจฺจนฺตปฏิปกฺเขกจิตฺตกฺขณิกานนฺติ อนุสยานํ อจฺจนฺตํ ปฏิปกฺขภูตเอกจิตฺตกฺขณิกานํ. มคฺคสมงฺคีนนฺติ มคฺคฏฺานํ. เอตฺถ จ อนุสยานํ อจฺจนฺตปฏิปกฺขตาคฺคหเณน อุปฺปตฺติรหตํ ปฏิกฺขิปติ. น หิ เต อจฺจนฺตปฏิปกฺขสมุปฺปตฺติโต ปรโต อุปฺปตฺติรหา โหนฺติ. มคฺคสมงฺคิตาคฺคหเณน อนุปฺปตฺติรหตาปาทิตตํ ปฏิกฺขิปติ. น หิ มคฺคกฺขเณ เต อนุปฺปตฺติรหตํ อาปาทิตา นาม โหนฺติ, อถ โข อาปาทียนฺตีติ. เอกจิตฺตกฺขณิกตาคฺคหเณน สนฺตานพฺยาปารํ. เตนาห ‘‘น โกจี’’ติอาทิ. ตตฺถ เตติ มคฺคสมงฺคิโน. น เกวลํ ปหีนวาเรเยว, อถ โข อฺเสุปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุสย…เป… คหิตา’’ติ อาห.

๒๗๕-๒๙๖. ยตฺถ อนุสโย อุปฺปตฺติรโห, ตตฺเถวสฺส อนุปฺปตฺติรหตาปาทนนฺติ ‘‘อตฺตโน อตฺตโน โอกาเส เอว อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิโต’’ติ อาห. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติ (วิภ. ๒๐๓) วตฺวา ปุน วุตฺตํ ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติ (วิภ. ๒๐๔). ตสฺมาติ ยสฺมา ตโทกาสตฺตเมว กามธาตุอาทิโอกาสตฺตเมว อนุสยานํ ทีเปนฺติ ปหีนาปฺปหีนวจนานิ, ตสฺมา. อโนกาเส ตทุภยาวตฺตพฺพตา วุตฺตาติ ยสฺมา กามราคปฏิฆานุสยานํ ทฺวินฺนํ อุปฺปตฺติฏฺานํ, โส เอว ปหาโนกาโสติ สฺวายํ เตสํ อฺมฺํ อโนกาโส, ตสฺมึ อโนกาเส ตทุภยสฺส ปหานาปฺปหานสฺส นวตฺตพฺพตา วุตฺตา. กามราคานุสโยกาเส หิ ปฏิฆานุสยสฺส อปฺปหีนตฺตา โส ‘‘ตตฺถ ปหีโน’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฏฺิตตฺตา ปน ‘‘ตตฺถ อปฺปหีโน’’ติ จ, ตสฺมา อโนกาเส ตทุภยาวตฺตพฺพตา วุตฺตาติ. เตน สทฺธึ สมาโนกาเสติ เตน กามราเคน สทฺธึ สมาโนกาเส. ‘‘สาธารณฏฺาเน’’ติ วุตฺเต กามธาตุยํ สุขุเปกฺขาสุ ปหีโน นาม โหติ, น สมานกาเล ปหีโน ตติยจตุตฺถมคฺควชฺฌตฺตา กามราคมานานุสยานํ.

ปหีนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธาตุวารวณฺณนา

๓๓๒-๓๔๐. อปฺปหีนุปฺปตฺติรหภาวา อิธ อนุคมนสยนานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมึ …เป… อตฺโถ’’ติ อาห. อิธาปิ ยุตฺตาติ ปุพฺเพ วุตฺตเมวตฺถํ ปรามสติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘การณลาเภ อุปฺปตฺติอรหตํ ทสฺเสตี’’ติ (ยม. มูลฏี. อนุสยยมก ๑). ฉ ปฏิเสธวจนานีติ ติสฺสนฺนํ ธาตูนํ จุตูปปาตวิสิฏฺานํ ปฏิเสธนวเสน วุตฺตวจนานิ, ตโต เอว ธาตุวิเสสนิทฺธารณานิ น โหนฺติ. ปฏิเสโธติ หิ อิธ สตฺตาปฏิเสโธ วุตฺโตติ อธิปฺปาเยน วทติ. อฺตฺเถ ปน น-กาเร นายํ โทโส. อิมํ นาม ธาตุํ. ตํมูลิกาสูติ ปฏิเสธมูลิกาสุ. เอวฺหีติ ‘‘น กามธาตุยา จุตสฺส กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺสา’’ติอาทินา ปมโยชนาย สติ. นกามธาตุอาทีสุ อุปปตฺติกิตฺตเนเนว นกามธาตุอาทิคฺคหเณนปิ ธาตุวิเสสสฺเสว คหิตตาย อตฺถโต วิฺายมานตฺตา. เตนาห ‘‘น กามธาตุ…เป… วิฺายตี’’ติ. ภฺชิตพฺพาติ วิภชิตพฺพา. วิภาโค ปเนตฺถ ทุวิโธ อิจฺฉิโตติ อาห ‘‘ทฺวิธา กาตพฺพาติ อตฺโถ’’ติ. ปุจฺฉา จ วิสฺสชฺชนานิ จ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ. ยถา อวุตฺเต ภงฺคาภาวสฺส อวิฺาตตฺตา ‘‘อนุสยา ภงฺคา นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ, ตถา ตยิทํ ‘‘กติ อนุสยา ภงฺคา’’ติ เอตทเปกฺขนฺติ ตทปิ วตฺตพฺพํ. ปุจฺฉาเปกฺขฺหิ วิสฺสชฺชนนฺติ.

ธาตุวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนุสยยมกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. จิตฺตยมกํ

อุทฺเทสวารวณฺณนา

๑-๖๒. สราคาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘ยสฺส อวิมุตฺตํ จิตฺต’’นฺติ วาโร, ตาว สงฺคณฺหาติ. กุสลาทีติ ปน อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยสฺส กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘ยสฺส สรณํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ วาโร, ตาว สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา สราคาทิกุสลาทีหีติ สราคาทีหิ อวิมุตฺตนฺเตหิ, กุสลาทีหิ อรณนฺเตหิ ปเทหิ มิสฺสกา วารา. สุทฺธิกาติ เกวลา ยถาวุตฺตสราคาทีหิ กุสลาทีหิ จ อมิสฺสกา. ตโย ตโยติ ปุคฺคลธมฺมวเสน ตโย ตโย มหาวารา. ยทิ เอวํ กถํ โสฬส ปุคฺคลวาราติ อาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปน วุตฺเต สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ โสฬสวิเธ สราคาทิมิสฺสกจิตฺเต วุตฺเต ปุคฺคเล เอว เอกชฺฌํ สมฺปิณฺเฑตฺวา สงฺคเหตฺวา ‘‘โสฬส ปุคฺคลวารา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ธมฺมปุคฺคลธมฺมวารา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. น นิรนฺตรํ วุตฺเตติ ธมฺเม ปุคฺคลธมฺเม จ อนามสิตฺวา โสฬสสุปิ าเนสุ นิรนฺตรํ ปุคฺคเล เอว วุตฺเต สมฺปิณฺเฑตฺวา โสฬส ปุคฺคลวารา น วุตฺตาติ อตฺโถ.

สํสคฺควเสนาติ สํสชฺชนวเสน เทสนาย วิมิสฺสนวเสน. อฺถา หิ อุปฺปาทนิโรธา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตกาลา จ กถํ สํสชฺชียนฺติ. เสสานมฺปิ วารานนฺติ อุปฺปาทุปฺปนฺนวาราทีนํ. ตํตํนามตาติ ยถา ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา อุปฺปาทอุปฺปนฺนภาวามสนโต อุปฺปาทอุปฺปนฺนวาโรติ นามํ ปาฬิโต เอว วิฺายติ, เอวํ เสสวารานมฺปีติ อาห ‘‘ตํตํนามตา ปาฬิอนุสาเรน เวทิตพฺพา’’ติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทฺเทสวารวณฺณนา

๖๓. ตถารูปสฺเสวาติ ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคิโน เอว. ตฺจ จิตฺตนฺติ ตฺจ ยถาวุตฺตกฺขณํ ปจฺฉิมจิตฺตํ. ‘‘เอวํปการ’’นฺติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภงฺคกฺขณสมงฺคิเมวา’’ติ วุตฺตํ นิรุชฺฌมานาการสฺส ‘‘เอวํปการ’’นฺติ วุตฺตตฺตา.

๖๕-๘๒. ทฺวยเมตนฺติ ยํ ‘‘ขณปจฺจุปฺปนฺนเมว จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณาปคเมน อุปฺปชฺชิตฺถ นาม, ตเทว อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาทํ ปตฺตตฺตา อุปฺปชฺชิตฺถ, อนตีตตฺตา อุปฺปชฺชติ นามา’’ติ วุตฺตํ, เอตํ อุภยมฺปิ. เอวํ น สกฺกา วตฺตุนฺติ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน น สกฺกา วตฺตุํ, ปการนฺตเรน ปน สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ‘‘น หี’’ติอาทินา ปมปกฺขํ วิภาเวติ. วิภชิตพฺพํ สิยาติ ‘‘ภงฺคกฺขเณ ตํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺถ, โน จ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปาทกฺขเณ ตํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺถ เจว อุปฺปชฺชติ จา’’ติ วิภชิตพฺพํ สิยา, น จ วิภตฺตํ. ‘‘อามนฺตา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา ขณปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺเต วุตฺตนเยน อุภยสฺสปิ ลพฺภมานตฺตา, น จ วุตฺตํ. อิทานิ เยน ปกาเรน สกฺกา วตฺตุํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ’’ติอาทิมาห. ปุคฺคโล วุตฺโต, ปุคฺคลวาโร เหโสติ อธิปฺปาโย. ตสฺสาติ ปุคฺคลสฺส. น จ กิฺจิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขณสมงฺคิภาวโต. ตํ ปน จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ยํ จิตฺตสมงฺคี โส ปุคฺคโลติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทิ อเนกจิตฺตวเสนายํ ยมกเทสนา ปวตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘จิตฺตนฺติ หิ…เป… ติฏฺตี’’ติ. สนฺนิฏฺานวเสน นิยโม เวทิตพฺโพ, อฺถา ‘‘โน จ เตสํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา ปฏิเสโธ น ยุชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. ตาทิสนฺติ ตถารูปํ, ยทวตฺโถ อุปฺปนฺนอุปฺปชฺชมานตาทิปริยาเยหิ วตฺตพฺโพ โหติ, ตทวตฺถนฺติ อตฺโถ.

๘๓-๑๑๓. อิมสฺส ปุคฺคลวารตฺตาติ ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตสฺส อิมสฺส อติกฺกนฺตกาลวารสฺส ปุคฺคลวารตฺตา. ปุคฺคโล ปุจฺฉิโตติ ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ…เป… ตสฺส จิตฺต’’นฺติ จิตฺตสมงฺคิปุคฺคโล ปุจฺฉิโตติ ปุคฺคลสฺเสว วิสฺสชฺชเนน ภวิตพฺพํ, อิตรถา อฺํ ปุจฺฉิตํ อฺํ วิสฺสชฺชิตํ สิยา. น โกจิ ปุคฺคโล น คหิโต สพฺพสตฺตานํ อนิพฺพตฺตจิตฺตตาภาวโต. เต จ ปน สพฺเพ ปุคฺคลา. นิรุชฺฌมานกฺขณาตีตจิตฺตาติ นิรุชฺฌมานกฺขณา หุตฺวา อตีตจิตฺตา. ตถา ทุติยตติยาติ ยถา ปมปฺโห อนวเสสปุคฺคลวิสยตฺตา ปฏิวจเนน วิสฺสชฺเชตพฺโพ สิยา, ตถา ตโต เอว ทุติยตติยปฺหา ‘‘อามนฺตา’’อิจฺเจว วิสฺสชฺเชตพฺพา สิยุนฺติ อตฺโถ. จตุตฺโถ ปน ปฺโห เอวํ วิภชิตฺวา ปุคฺคลวเสเนว วิสฺสชฺเชตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา ตถา อวจเน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตวเสน ปุคฺคลววตฺถานโต’’ติอาทิมาห. ‘‘ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ อิมินา วตฺตมานสฺส จิตฺตสฺส วเสน ปุคฺคโล อุปฺปาทกฺขณาตีตจิตฺโต, ‘‘อตีตํ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณฺจ วีติกฺกนฺตนฺติ ภงฺคกฺขณฺจ วีติกฺกนฺต’’นฺติ อิมินา ปน อตีตสฺส จิตฺตสฺส วเสน ปุคฺคโล อุปฺปาทกฺขณาตีตจิตฺโต วุตฺโต.

ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ ปุคฺคเลสุ. ปุริมสฺสาติ ปมํ วุตฺตสฺส สนฺนิฏฺานปทสงฺคหิตสฺส จิตฺตํ น ภงฺคกฺขณํ วีติกฺกนฺตํ. ‘‘โน จ ภงฺคกฺขณํ วีติกฺกนฺต’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ปจฺฉิมสฺส วีติกฺกนฺตํ จิตฺตํ ภงฺคกฺขณนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภงฺคกฺขณฺจ วีติกฺกนฺต’’นฺติ หิ วุตฺตํ. เอวมาทิโก ปุคฺคลวิภาโคติ ทุติยปฺหาทีสุ วุตฺตํ สนฺธายาห. ตสฺส จิตฺตสฺส ตํตํขณวีติกฺกมาวีติกฺกมทสฺสนวเสนาติ ตสฺส ตสฺส อุปฺปาทกฺขณสฺส ภงฺคกฺขณสฺส จ ยถารหํ วีติกฺกมสฺส อวีติกฺกมสฺส จ ทสฺสนวเสน ทสฺสิโต โหติ ปุคฺคลวิภาโคติ โยชนา. อิธาติ อิมสฺมึ อติกฺกนฺตกาลวาเร. ปุคฺคลวิสิฏฺํ จิตฺตํ ปุจฺฉิตํ ‘‘ยสฺส จิตฺตํ ตสฺส จิตฺต’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ยทิปิ ปุคฺคลปฺปธานา ปุจฺฉา ปุคฺคลวารตฺตา. อถาปิ จิตฺตปฺปธานา ปุคฺคลํ วิเสสนภาเวน คเหตฺวา จิตฺตสฺส วิเสสิตตฺตา. อุภยถาปิ ทุติยปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา อนวเสสปุคฺคลวิสยตฺตา. ตถา ปน อวตฺวา ‘‘อตีตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, กสฺมา นิโรธกฺขณ…เป… ทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพนฺติ โยชนา. เอส นโย ‘‘น นิรุชฺฌมาน’’นฺติ เอตฺถาปีติ นิรุชฺฌมานํ ขณํ นิโรธกฺขณํ ขณํ วีติกฺกนฺตกาลํ กึ ตสฺส จิตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ.

๑๑๔-๑๑๖. สราคปจฺฉิมจิตฺตสฺสาติ สราคจิตฺเตสุ ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส, เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ราค