📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อภิธมฺมตฺถสงฺคโห
คนฺถารมฺภกถา
๑. สมฺมาสมฺพุทฺธมตุลํ ¶ ¶ , สสทฺธมฺมคณุตฺตมํ.
อภิวาทิย ภาสิสฺสํ, อภิธมฺมตฺถสงฺคหํ.
จตุปรมตฺถธมฺโม
๒. ตตฺถ วุตฺตาภิธมฺมตฺถา, จตุธา ปรมตฺถโต.
จิตฺตํ เจตสิกํ รูปํ, นิพฺพานมิติ สพฺพถา.
๑. จิตฺตปริจฺเฉโท
ภูมิเภทจิตฺตํ
๓. ตตฺถ ¶ จิตฺตํ ตาว จตุพฺพิธํ โหติ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกุตฺตรฺเจติ.
อกุสลจิตฺตํ
๔. ตตฺถ กตมํ กามาวจรํ? โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, โสมนสฺสสหคตํ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ ¶ , อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติ อิมานิ อฏฺปิ โลภสหคตจิตฺตานิ นาม.
๕. โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติ อิมานิ ทฺเวปิ ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ นาม.
๖. อุเปกฺขาสหคตํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตเมกนฺติ อิมานิ ทฺเวปิ โมมูหจิตฺตานิ นาม.
๗. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ ทฺวาทสากุสลจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๘. อฏฺธา โลภมูลานิ, โทสมูลานิ จ ทฺวิธา.
โมหมูลานิ จ ทฺเวติ, ทฺวาทสากุสลา สิยุํ.
อเหตุกจิตฺตํ
๙. อุเปกฺขาสหคตํ จกฺขุวิฺาณํ, ตถา โสตวิฺาณํ, ฆานวิฺาณํ, ชิวฺหาวิฺาณํ ¶ , ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ, อุเปกฺขาสหคตํ สมฺปฏิจฺฉนจิตฺตํ, อุเปกฺขาสหคตํ สนฺตีรณจิตฺตฺเจติ อิมานิ สตฺตปิ อกุสลวิปากจิตฺตานิ นาม.
๑๐. อุเปกฺขาสหคตํ กุสลวิปากํ จกฺขุวิฺาณํ, ตถา โสตวิฺาณํ, ฆานวิฺาณํ, ชิวฺหาวิฺาณํ, สุขสหคตํ กายวิฺาณํ, อุเปกฺขาสหคตํ สมฺปฏิจฺฉนจิตฺตํ, โสมนสฺสสหคตํ สนฺตีรณจิตฺตํ, อุเปกฺขาสหคตํ สนฺตีรณจิตฺตฺเจติ อิมานิ อฏฺปิ กุสลวิปากาเหตุกจิตฺตานิ นาม.
๑๑. อุเปกฺขาสหคตํ ¶ ปฺจทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ, ตถา มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ, โสมนสฺสสหคตํ หสิตุปฺปาทจิตฺตฺเจติ อิมานิ ตีณิปิ อเหตุกกิริยจิตฺตานิ นาม.
๑๒. อิจฺเจว สพฺพถาปิ อฏฺารสาเหตุกจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๑๓. สตฺตากุสลปากานิ, ปฺุปากานิ อฏฺธา.
กฺริยจิตฺตานิ ตีณีติ, อฏฺารส อเหตุกา.
โสภนจิตฺตํ
๑๔. ปาปาเหตุกมุตฺตานิ, โสภนานีติ วุจฺจเร.
เอกูนสฏฺิ จิตฺตานิ, อเถกนวุตีปิ วา.
กามาวจรโสภนจิตฺตํ
๑๕. โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, โสมนสฺสสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ. อุเปกฺขาสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติ อิมานิ อฏฺปิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ นาม.
๑๖. โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, โสมนสฺสสหคตํ ¶ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติ อิมานิ อฏฺปิ สเหตุกกามาวจรวิปากจิตฺตานิ นาม.
๑๗. โสมสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, โสมนสฺสสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ ¶ , สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกํ, อุเปกฺขาสหคตํ าณวิปฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติ อิมานิ อฏฺปิ สเหตุกกามาวจรกิริยจิตฺตานิ นาม.
๑๘. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ จตุวีสติ สเหตุกกามาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๑๙. เวทนาาณสงฺขารเภเทน จตุวีสติ.
สเหตุกามาวจรปฺุปากกฺริยา มตา.
๒๐. กาเม เตวีส ปากานิ, ปฺุาปฺุานิ วีสติ.
เอกาทส กฺริยา เจติ, จตุปฺาส สพฺพถา.
รูปาวจรจิตฺตํ
๒๑. วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ปมชฺฌานกุสลจิตฺตํ, วิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ทุติยชฺฌานกุสลจิตฺตํ, ปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ตติยชฺฌานกุสลจิตฺตํ, สุเขกคฺคตาสหิตํ จตุตฺถชฺฌานกุสลจิตฺตํ, อุเปกฺเขกคฺคตาสหิตํ ปฺจมชฺฌานกุสลจิตฺตฺเจติ อิมานิ ปฺจปิ รูปาวจรกุสลจิตฺตานิ นาม.
๒๒. วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ปมชฺฌานวิปากจิตฺตํ, วิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ทุติยชฺฌานวิปากจิตฺตํ, ปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ตติยชฺฌานวิปากจิตฺตํ, สุเขกคฺคตาสหิตํ ¶ จตุตฺถชฺฌานวิปากจิตฺตํ, อุเปกฺเขกคฺคตาสหิตํ ปฺจมชฺฌานวิปากจิตฺตฺเจติ อิมานิ ปฺจปิ รูปาวจรวิปากจิตฺตานิ นาม.
๒๓. วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ปมชฺฌานกิริยจิตฺตํ, วิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ทุติยชฺฌานกิริยจิตฺตํ, ปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ตติยชฺฌานกิริยจิตฺตํ ¶ , สุเขกคฺคตาสหิตํ จตุตฺถชฺฌานกิริยจิตฺตํ, อุเปกฺเขกคฺคตาสหิตํ ปฺจมชฺฌานกิริยจิตฺตฺเจติ อิมานิ ปฺจปิ รูปาวจรกิริยจิตฺตานิ นาม.
๒๔. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ ปนฺนรส รูปาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๒๕. ปฺจธา ฌานเภเทน, รูปาวจรมานสํ.
ปฺุปากกฺริยาเภทา, ตํ ปฺจทสธา ภเว.
อรูปาวจรจิตฺตํ
๒๖. อากาสานฺจายตนกุสลจิตฺตํ, วิฺาณฺจายตนกุสลจิตฺตํ, อากิฺจฺายตนกุสลจิตฺตํ, เนวสฺานาสฺายตนกุสลจิตฺตฺเจติ อิมานิ จตฺตาริปิ อรูปาวจรกุสลจิตฺตานิ นาม.
๒๗. อากาสานฺจายตนวิปากจิตฺตํ, วิฺาณฺจายตนวิปากจิตฺตํ, อากิฺจฺายตนวิปากจิตฺตํ, เนวสฺานาสฺายตนวิปากจิตฺตฺเจติ อิมานิ จตฺตาริปิ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานิ นาม.
๒๘. อากาสานฺจายตนกิริยจิตฺตํ, วิฺาณฺจายตนกิริยจิตฺตํ, อากิฺจฺายตนกิริยจิตฺตํ, เนวสฺานาสฺายตนกิริยจิตฺตฺเจติ อิมานิ จตฺตาริปิ อรูปาวจรกิริยจิตฺตานิ นาม.
๒๙. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ ทฺวาทส อรูปาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๓๐. อาลมฺพณปฺปเภเทน ¶ , จตุธารุปฺปมานสํ.
ปฺุปากกฺริยาเภทา, ปุน ทฺวาทสธา ิตํ.
โลกุตฺตรจิตฺตํ
๓๑. โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ ¶ , สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ, อนาคามิมคฺคจิตฺตํ, อรหตฺตมคฺคจิตฺตฺเจติ อิมานิ จตฺตาริปิ โลกุตฺตรกุสลจิตฺตานิ นาม.
๓๒. โสตาปตฺติผลจิตฺตํ, สกทาคามิผลจิตฺตํ, อนาคามิผลจิตฺตํ, อรหตฺตผลจิตฺตฺเจติ อิมานิ จตฺตาริปิ โลกุตฺตรวิปากจิตฺตานิ นาม.
๓๓. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ อฏฺ โลกุตฺตรกุสลวิปากจิตฺตานิ สมตฺตานิ.
๓๔. จตุมคฺคปฺปเภเทน, จตุธา กุสลํ ตถา.
ปากํ ตสฺส ผลตฺตาติ, อฏฺธานุตฺตรํ มตํ.
จิตฺตคณนสงฺคโห
๓๕. ทฺวาทสากุสลาเนวํ, กุสลาเนกวีสติ.
ฉตฺตึเสว วิปากานิ, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ.
๓๖. จตุปฺาสธา กาเม, รูเป ปนฺนรสีรเย.
จิตฺตานิ ทฺวาทสารุปฺเป, อฏฺธานุตฺตเร ตถา.
๓๗. อิตฺถเมกูนนวุติปเภทํ ปน มานสํ.
เอกวีสสตํ วาถ, วิภชนฺติ วิจกฺขณา.
วิตฺถารคณนา
๓๘. กถเมกูนนวุติวิธํ ¶ จิตฺตํ เอกวีสสตํ โหติ? วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ, วิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ทุติยชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ, ปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ ตติยชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ, สุเขกคฺคตาสหิตํ จตุตฺถชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ, อุเปกฺเขกคฺคตาสหิตํ ปฺจมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตฺเจติ อิมานิ ปฺจปิ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตานิ นาม.
๓๙. ตถา ¶ สกทาคามิมคฺคอนาคามิมคฺคอรหตฺตมคฺคจิตฺตฺเจติ สมวีสติ มคฺคจิตฺตานิ.
๔๐. ตถา ผลจิตฺตานิ เจติ สมจตฺตาลีส โลกุตฺตรจิตฺตานิ ภวนฺตีติ.
๔๑. ฌานงฺคโยคเภเทน, กตฺเวเกกนฺตุ ปฺจธา.
วุจฺจตานุตฺตรํ จิตฺตํ, จตฺตาลีสวิธนฺติ จ.
๔๒. ยถา จ รูปาวจรํ, คยฺหตานุตฺตรํ ตถา.
ปมาทิฌานเภเท, อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม.
เอกาทสวิธํ ตสฺมา, ปมาทิกมีริตํ;
ฌานเมเกกมนฺเต ตุ, เตวีสติวิธํ ภเว.
๔๓. สตฺตตึสวิธํ ปฺุํ, ทฺวิปฺาสวิธํ ตถา.
ปากมิจฺจาหุ จิตฺตานิ, เอกวีสสตํ พุธา.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห จิตฺตสงฺคหวิภาโค นาม
ปโม ปริจฺเฉโท.
๒. เจตสิกปริจฺเฉโท
สมฺปโยคลกฺขณํ
๑. เอกุปฺปาทนิโรธา ¶ จ, เอกาลมฺพณวตฺถุกา.
เจโตยุตฺตา ทฺวิปฺาส, ธมฺมา เจตสิกา มตา.
อฺสมานเจตสิกํ
๒. กถํ? ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา เอกคฺคตา ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโร เจติ สตฺติเม เจตสิกา สพฺพจิตฺตสาธารณา นาม.
๓. วิตกฺโก ¶ วิจาโร อธิโมกฺโข วีริยํ ปีติ ฉนฺโท จาติ ฉ อิเม เจตสิกา ปกิณฺณกา นาม.
๔. เอวเมเต เตรส เจตสิกา อฺสมานาติ เวทิตพฺพา.
อกุสลเจตสิกํ
๕. โมโห อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ อุทฺธจฺจํ โลโภ ทิฏฺิ มาโน โทโส อิสฺสา มจฺฉริยํ กุกฺกุจฺจํ ถินํ มิทฺธํ วิจิกิจฺฉา เจติ จุทฺทสิเม เจตสิกา อกุสลา นาม.
โสภนเจตสิกํ
๖. สทฺธา สติ หิรี โอตฺตปฺปํ อโลโภ อโทโส ตตฺรมชฺฌตฺตตา กายปสฺสทฺธิ จิตฺตปสฺสทฺธิ กายลหุตา จิตฺตลหุตา กายมุทุตา จิตฺตมุทุตา กายกมฺมฺตา จิตฺตกมฺมฺตา กายปาคฺุตา ¶ จิตฺตปาคฺุตา กายุชุกตา จิตฺตุชุกตา เจติ เอกูนวีสติเม เจตสิกา โสภนสาธารณา นาม.
๗. สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว เจติ ติสฺโส วิรติโย นาม.
๘. กรุณา มุทิตา อปฺปมฺาโย นามาติ สพฺพถาปิ ปฺินฺทฺริเยน สทฺธึ ปฺจวีสติเม เจตสิกา โสภนาติ เวทิตพฺพา.
เตรสฺสมานา จ, จุทฺทสากุสลา ตถา;
โสภนา ปฺจวีสาติ, ทฺวิปฺาส ปวุจฺจเร.
สมฺปโยคนโย
๑๐. เตสํ ¶ จิตฺตาวิยุตฺตานํ, ยถาโยคมิโต ปรํ.
จิตฺตุปฺปาเทสุ ปจฺเจกํ, สมฺปโยโค ปวุจฺจติ.
๑๑. สตฺต สพฺพตฺถ ยุชฺชนฺติ, ยถาโยคํ ปกิณฺณกา.
จุทฺทสากุสเลสฺเวว, โสภเนสฺเวว โสภนา.
อฺสมานเจตสิกสมฺปโยคนโย
๑๒. กถํ? สพฺพจิตฺตสาธารณา ตาว สตฺติเม เจตสิกา สพฺเพสุปิ เอกูนนวุติจิตฺตุปฺปาเทสุ ลพฺภนฺติ.
๑๓. ปกิณฺณเกสุ ปน วิตกฺโก ตาว ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิตกามาวจรจิตฺเตสุ เจว เอกาทสสุ ปมชฺฌานจิตฺเตสุ เจติ ปฺจปฺาสจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ.
๑๔. วิจาโร ¶ ปน เตสุ เจว เอกาทสสุ ทุติยชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ ฉสฏฺิจิตฺเตสุ.
๑๕. อธิโมกฺโข ทฺวิปฺจวิฺาณวิจิกิจฺฉาสหคตวชฺชิตจิตฺเตสุ.
๑๖. วีริยํ ปฺจทฺวาราวชฺชนทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณวชฺชิตจิตฺเตสุ.
๑๗. ปีติ โทมนสฺสุเปกฺขาสหคตกายวิฺาณจตุตฺถชฺฌานวชฺชิตจิตฺเตสุ.
๑๘. ฉนฺโท อเหตุกโมมูหวชฺชิตจิตฺเตสูติ.
๑๙. เต ปน จิตฺตุปฺปาทา ยถากฺกมํ –
ฉสฏฺิ ปฺจปฺาส, เอกาทส จ โสฬส;
สตฺตติ วีสติ เจว, ปกิณฺณกวิวชฺชิตา.
ปฺจปฺาส ¶ ฉสฏฺิฏฺสตฺตติ ติสตฺตติ;
เอกปฺาส เจกูนสตฺตติ สปกิณฺณกา.
อกุสลเจตสิกสมฺปโยคนโย
๒๐. อกุสเลสุ ปน โมโห อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ อุทฺธจฺจฺจาติ จตฺตาโรเม เจตสิกา สพฺพากุสลสาธารณา นาม, สพฺเพสุปิ ทฺวาทสา กุสเลสุ ลพฺภนฺติ.
๒๑. โลโภ อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺเตสฺเวว ลพฺภติ.
๒๒. ทิฏฺิ จตูสุ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺเตสุ.
๒๓. มาโน จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ.
๒๔. โทโส ¶ อิสฺสา มจฺฉริยํ กุกฺกุจฺจฺจาติ ทฺวีสุ ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺเตสุ.
๒๕. ถินมิทฺธํ ปฺจสุ สสงฺขาริกจิตฺเตสุ.
๒๖. วิจิกิจฺฉา วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเตเยวาติ.
โลภมูเล ตโย คตา;
โทสมูเลสุ จตฺตาโร,
สสงฺขาเร ทฺวยํ ตถา.
วิจิกิจฺฉา วิจิกิจฺฉา-จิตฺเต จาติ จตุทฺทส;
ทฺวาทสากุเลสฺเวว, สมฺปยุชฺชนฺติ ปฺจธา.
โสภนเจตสิกสมฺปโยคนโย
๒๘. โสภเนสุ ปน โสภนสาธารณา ตาว เอกูนวีสติเม เจตสิกา สพฺเพสุปิ เอกูนสฏฺิโสภนจิตฺเตสุ สํวิชฺชนฺติ.
๒๙. วิรติโย ¶ ปน ติสฺโสปิ โลกุตฺตรจิตฺเตสุ สพฺพถาปิ นิยตา เอกโตว ลพฺภนฺติ, โลกิเยสุ ปน กามาวจรกุสเลสฺเวว กทาจิ สนฺทิสฺสนฺติ วิสุํ วิสุํ.
๓๐. อปฺปมฺาโย ปน ทฺวาทสสุ ปฺจมชฺฌานวชฺชิตมหคฺคตจิตฺเตสุ เจว กามาวจรกุสเลสุ จ สเหตุกกามาวจรกิริยจิตฺเตสุ จาติ อฏฺวีสติจิตฺเตสฺเวว กทาจิ นานา หุตฺวา ชายนฺติ, อุเปกฺขาสหคเตสุ ปเนตฺถ กรุณามุทิตา น สนฺตีติ เกจิ วทนฺติ.
๓๑. ปฺา ปน ทฺวาทสสุ าณสมฺปยุตฺตกามาวจรจิตฺเตสุ เจว สพฺเพสุปิ ปฺจตึสมหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺเตสุ จาติ สตฺตจตฺตาลีสจิตฺเตสุ สมฺปโยคํ คจฺฉตีติ.
๓๒. เอกูนวีสติ ¶ ธมฺมา, ชายนฺเตกูนสฏฺิสุ.
ตโย โสฬสจิตฺเตสุ, อฏฺวีสติยํ ทฺวยํ.
ปฺา ปกาสิตา, สตฺตจตฺตาลีสวิเธสุปิ;
สมฺปยุตฺตา จตุเธวํ, โสภเนสฺเวว โสภนา.
๓๓. อิสฺสามจฺเฉรกุกฺกุจฺจ-วิรติกรุณาทโย.
นานา กทาจิ มาโน จ, ถิน มิทฺธํ ตถา สห.
๓๔. ยถาวุตฺตานุสาเรน, เสสา นิยตโยคิโน.
สงฺคหฺจ ปวกฺขามิ, เตสํ ทานิ ยถารหํ.
สงฺคหนโย
๓๕. ฉตฺตึสานุตฺตเร ธมฺมา, ปฺจตึส มหคฺคเต.
อฏฺตึสาปิ ลพฺภนฺติ, กามาวจรโสภเน.
สตฺตวีสติปฺุมฺหิ, ทฺวาทสาเหตุเกติ จ;
ยถาสมฺภวโยเคน, ปฺจธา ตตฺถ สงฺคโห.
โลกุตฺตรจิตฺตสงฺคหนโย
๓๖. กถํ ¶ ? โลกุตฺตเรสุ ตาว อฏฺสุ ปมชฺฌานิกจิตฺเตสุ อฺสมานา เตรส เจตสิกา, อปฺปมฺาวชฺชิตา เตวีสติ โสภนเจตสิกา เจติ ฉตฺตึส ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถา ทุติยชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวชฺชา, ตติยชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวิจารวชฺชา, จตุตฺถชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวิจารปีติวชฺชา, ปฺจมชฺฌานิกจิตฺเตสุปิ อุเปกฺขาสหคตา เต เอว สงฺคยฺหนฺตีติ สพฺพถาปิ อฏฺสุ โลกุตฺตรจิตฺเตสุ ปฺจกชฺฌานวเสน ปฺจธาว สงฺคโห โหตีติ.
๓๗. ฉตฺตึส ¶ ปฺจตึส จ, จตุตฺตึส ยถากฺกมํ.
เตตฺตึสทฺวยมิจฺเจวํ, ปฺจธานุตฺตเร ิตา.
มหคฺคตจิตฺตสงฺคหนโย
๓๘. มหคฺคเตสุ ปน ตีสุ ปมชฺฌานิกจิตฺเตสุ ตาว อฺสมานา เตรส เจตสิกา, วิรติตฺตยวชฺชิตา ทฺวาวีสติ โสภนเจตสิกา เจติ ปฺจตึส ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, กรุณามุทิตา ปเนตฺถ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพา, ตถา ทุติยชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวชฺชา, ตติยชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวิจารวชฺชา, จตุตฺถชฺฌานิกจิตฺเตสุ วิตกฺกวิจารปีติวชฺชา, ปฺจมชฺฌานิกจิตฺเตสุ ปน ปนฺนรสสุ อปฺปมฺาโย น ลพฺภนฺตีติ สพฺพถาปิ สตฺตวีสติมหคฺคตจิตฺเตสุ ปฺจกชฺฌานวเสน ปฺจธาว สงฺคโห โหตีติ.
๓๙. ปฺจตึส จตุตฺตึส, เตตฺตึส จ ยถากฺกมํ.
พาตฺตึส เจว ตึเสติ, ปฺจธาว มหคฺคเต.
กามาวจรโสภนจิตฺตสงฺคหนโย
๔๐. กามาวจรโสภเนสุ ปน กุสเลสุ ตาว ปมทฺวเย อฺสมานา เตรส เจตสิกา, ปฺจวีสติ โสภนเจตสิกา ¶ เจติ อฏฺตึส ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, อปฺปมฺาวิรติโย ปเนตฺถ ปฺจปิ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพา, ตถา ทุติยทฺวเย าณวชฺชิตา, ตติยทฺวเย าณสมฺปยุตฺตา ปีติวชฺชิตา, จตุตฺถทฺวเย าณปีติวชฺชิตา เต เอว สงฺคยฺหนฺติ. กิริยจิตฺเตสุปิ วิรติวชฺชิตา ตเถว จตูสุปิ ทุเกสุ จตุธาว สงฺคยฺหนฺติ. ตถา วิปาเกสุ จ อปฺปมฺาวิรติวชฺชิตา เต เอว สงฺคยฺหนฺตีติ สพฺพถาปิ จตุวีสติกามาวจรโสภนจิตฺเตสุ ทุกวเสน ทฺวาทสธาว สงฺคโห โหตีติ.
๔๑. อฏฺตึส สตฺตตึส, ทฺวยํ ฉตฺตึสกํ สุเภ.
ปฺจตึส จตุตฺตึส, ทฺวยํ เตตฺตึสกํ กฺริเย;
เตตฺตึส ปาเก พาตฺตึส, ทฺวเยกตึสกํ ภเว;
สเหตุกามาวจรปฺุ-ปากกฺริยามเน.
๔๒. นวิชฺชนฺเตตฺถ ¶ วิรตี, กฺริเยสุ จ มหคฺคเต.
อนุตฺตเร อปฺปมฺา, กามปาเก ทฺวยํ ตถา;
อนุตฺตเร ฌานธมฺมา, อปฺปมฺา จ มชฺฌิเม;
วิรตี าณปีตี จ, ปริตฺเตสุ วิเสสกา.
อกุสลจิตฺตสงฺคหนโย
๔๓. อกุสเลสุ ปน โลภมูเลสุ ตาว ปเม อสงฺขาริเก อฺสมานา เตรส เจตสิกา, อกุสลสาธารณา จตฺตาโร จาติ สตฺตรส โลภทิฏฺีหิ สทฺธึ เอกูนวีสติ ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ.
๔๔. ตเถว ทุติเย อสงฺขาริเก โลภมาเนน.
๔๕. ตติเย ตเถว ปีติวชฺชิตา โลภทิฏฺีหิ สห อฏฺารส.
๔๖. จตุตฺเถ ¶ ตเถว โลภมาเนน.
๔๗. ปฺจเม ปน ปฏิฆสมฺปยุตฺเต อสงฺขาริเก โทโส อิสฺสา มจฺฉริยํ กุกฺกุจฺจฺจาติ จตูหิ สทฺธึ ปีติวชฺชิตา เต เอว วีสติ ธมฺมา สงฺคยฺหนฺติ, อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ ปเนตฺถ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพานิ.
๔๘. สสงฺขาริกปฺจเกปิ ตเถว ถินมิทฺเธน วิเสเสตฺวา โยเชตพฺพา.
๔๙. ฉนฺทปีติวชฺชิตา ปน อฺสมานา เอกาทส, อกุสลสาธารณา จตฺตาโร จาติ ปนฺนรส ธมฺมา อุทฺธจฺจสหคเต สมฺปยุชฺชนฺติ.
๕๐. วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต จ อธิโมกฺขวิรหิตา วิจิกิจฺฉาสหคตา ตเถว ปนฺนรส ¶ ธมฺมา สมุปลพฺภนฺตีติ สพฺพถาปิ ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ ปจฺเจกํ โยชิยมานาปิ คณนวเสน สตฺตธาว สงฺคหิตา ภวนฺตีติ.
๕๑. เอกูนวีสาฏฺารส, วีเสกวีส วีสติ.
ทฺวาวีส ปนฺนรเสติ, สตฺตธา กุสเลิตา.
๕๒. สาธารณา จ จตฺตาโร, สมานา จ ทสาปเร.
จุทฺทเสเต ปวุจฺจนฺติ, สพฺพากุสลโยคิโน.
อเหตุกจิตฺตสงฺคหนโย
๕๓. อเหตุเกสุ ปน หสนจิตฺเต ตาว ฉนฺทวชฺชิตา อฺสมานา ทฺวาทส ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ.
๕๔. ตถา โวฏฺพฺพเน ฉนฺทปีติวชฺชิตา.
๕๕. สุขสนฺตีรเณ ฉนฺทวีริยวชฺชิตา.
๕๖. มโนธาตุตฺติกาเหตุกปฏิสนฺธิยุคเฬ ฉนฺทปีติวีริยวชฺชิตา.
๕๗. ทฺวิปฺจวิฺาเณ ¶ ปกิณฺณกวชฺชิตา เตเยว สงฺคยฺหนฺตีติ สพฺพถาปิ อฏฺารสสุ อเหตุเกสุ คณนวเสน จตุธาว สงฺคโห โหตีติ.
๕๘. ทฺวาทเสกาทส ทส, สตฺต จาติ จตุพฺพิโธ.
อฏฺารสาเหตุเกสุ, จิตฺตุปฺปาเทสุ สงฺคโห.
๕๙. อเหตุเกสุ สพฺพตฺถ, สตฺต เสสา ยถารหํ.
อิติ วิตฺถารโต วุตฺโต, เตตฺตึสวิธสงฺคโห.
๖๐. อิตฺถํ ¶ จิตฺตาวิยุตฺตานํ, สมฺปโยคฺจ สงฺคหํ.
ตฺวา เภทํ ยถาโยคํ, จิตฺเตน สมมุทฺทิเส.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห เจตสิกสงฺคหวิภาโค นาม
ทุติโย ปริจฺเฉโท.
๓. ปกิณฺณกปริจฺเฉโท
๑. สมฺปยุตฺตา ยถาโยคํ, เตปฺาส สภาวโต.
จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เตสํ ทานิ ยถารหํ.
๒. เวทนาเหตุโต กิจฺจทฺวาราลมฺพณวตฺถุโต.
จิตฺตุปฺปาทวเสเนว, สงฺคโห นาม นียเต.
เวทนาสงฺคโห
๓. ตตฺถ เวทนาสงฺคเห ตาว ติวิธา เวทนา สุขํ ทุกฺขํ อทุกฺขมสุขา เจติ, สุขํ ทุกฺขํ โสมนสฺสํ โทมนสฺสํ อุเปกฺขาติ จ เภเทน ปน ปฺจธา โหติ.
๔. ตตฺถ สุขสหคตํ กุสลวิปากํ กายวิฺาณเมกเมว, ตถา ทุกฺขสหคตํ อกุสลวิปากํ.
๕. โสมนสฺสสหคตจิตฺตานิ ¶ ปน โลภมูลานิ จตฺตาริ, ทฺวาทส กามาวจรโสภนานิ, สุขสนฺตีรณหสนานิ จ ทฺเวติ อฏฺารส กามาวจรโสมนสฺสสหคตจิตฺตานิ เจว ปมทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานสงฺขาตานิ ¶ จตุจตฺตาลีส มหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺตานิ เจติ ทฺวาสฏฺิวิธานิ ภวนฺติ.
๖. โทมนสฺสสหคตจิตฺตานิ ปน ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตาเนว.
๗. เสสานิ สพฺพานิปิ ปฺจปฺาส อุเปกฺขาสหคตจิตฺตาเนวาติ.
๘. สุขํ ทุกฺขมุเปกฺขาติ, ติวิธา ตตฺถ เวทนา.
โสมนสฺสํ โทมนสฺสมิติเภเทน ปฺจธา.
๙. สุขเมกตฺถ ทุกฺขฺจ, โทมนสฺสํ ทฺวเย ิตํ.
ทฺวาสฏฺีสุ โสมนสฺสํ, ปฺจปฺาสเกตรา.
เหตุสงฺคโห
๑๐. เหตุสงฺคเห เหตู นาม โลโภ โทโส โมโห อโลโภ อโทโส อโมโห จาติ ฉพฺพิธา ภวนฺติ.
๑๑. ตตฺถ ปฺจทฺวาราวชฺชนทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนหสนวเสน อเหตุกจิตฺตานิ นาม.
๑๒. เสสานิ สพฺพานิปิ เอกสตฺตติ จิตฺตานิ สเหตุกาเนว.
๑๓. ตตฺถาปิ ทฺเว โมมูหจิตฺตานิ เอกเหตุกานิ.
๑๔. เสสานิ ทส อกุสลจิตฺตานิ เจว าณวิปฺปยุตฺตานิ ทฺวาทส กามาวจรโสภนานิ เจติ ทฺวาวีสติ ทฺวิเหตุกจิตฺตานิ.
๑๕. ทฺวาทส ¶ ¶ าณสมฺปยุตฺตกามาวจรโสภนานิ เจว ปฺจตึส มหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺตานิ เจติ สตฺตจตฺตาลีส ติเหตุกจิตฺตานีติ.
เหตู อกุสลา ตโย;
อโลภาโทสาโมโห จ,
กุสลาพฺยากตา ตถา.
๑๗. อเหตุกาฏฺารเสกเหตุกา ทฺเว ทฺวาวีสติ.
ทฺวิเหตุกา มตา สตฺตจตฺตาลีสติเหตุกา.
กิจฺจสงฺคโห
๑๘. กิจฺจสงฺคเห กิจฺจานิ นาม ปฏิสนฺธิภวงฺคาวชฺชนทสฺสนสวนฆายนสายนผุสนสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนชวนตทารมฺมณจุติวเสน จุทฺทสวิธานิ ภวนฺติ.
๑๙. ปฏิสนฺธิภวงฺคาวชฺชนปฺจวิฺาณานาทิวเสน ปน เตสํ ทสธา านเภโท เวทิตพฺโพ.
๒๐. ตตฺถ ทฺเว อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณานิ เจว อฏฺ มหาวิปากานิ จ นว รูปารูปวิปากานิ เจติ เอกูนวีสติ จิตฺตานิ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติกิจฺจานิ นาม.
๒๒. ตถา ทสฺสนสวนฆายนสายนผุสนสมฺปฏิจฺฉนกิจฺจานิ จ.
๒๔. มโนทฺวาราวชฺชนเมว ¶ ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาเธติ.
๒๕. อาวชฺชนทฺวยวชฺชิตานิ กุสลากุสลผลกิริยจิตฺตานิ ปฺจปฺาส ชวนกิจฺจานิ.
๒๖. อฏฺ ¶ มหาวิปากานิ เจว สนฺตีรณตฺตยฺเจติ เอกาทส ตทารมฺมณกิจฺจานิ.
๒๗. เตสุ ปน ทฺเว อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณจิตฺตานิ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติตทารมฺมณสนฺตีรณวเสน ปฺจกิจฺจานิ นาม.
๒๘. มหาวิปากานิ อฏฺ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติตทารมฺมณวเสน จตุกิจฺจานิ นาม.
๒๙. มหคฺคตวิปากานิ นว ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ติกิจฺจานิ นาม.
๓๐. โสมนสฺสสนฺตีรณํ สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน ทุกิจฺจํ.
๓๑. ตถา โวฏฺพฺพนํ โวฏฺพฺพนาวชฺชนวเสน.
๓๒. เสสานิ ปน สพฺพานิปิ ชวนมโนธาตุตฺติกทฺวิปฺจวิฺาณานิ ยถาสมฺภวเมกกิจฺจานีติ.
๓๓. ปฏิสนฺธาทโย นาม, กิจฺจเภเทน จุทฺทส.
ทสธา านเภเทน, จิตฺตุปฺปาทา ปกาสิตา.
๓๔. อฏฺสฏฺิ ตถา ทฺเว จ, นวาฏฺ ทฺเว ยถากฺกมํ.
เอกทฺวิติจตุปฺจกิจฺจานานิ นิทฺทิเส.
ทฺวารสงฺคโห
๓๕. ทฺวารสงฺคเห ¶ ทฺวารานิ นาม จกฺขุทฺวารํ โสตทฺวารํ ฆานทฺวารํ ชิวฺหาทฺวารํ กายทฺวารํ มโนทฺวารฺเจติ ฉพฺพิธานิ ภวนฺติ.
๓๖. ตตฺถ จกฺขุเมว จกฺขุทฺวารํ.
๓๗. ตถา โสตาทโย โสตทฺวาราทีนิ.
๓๘. มโนทฺวารํ ¶ ปน ภวงฺคนฺติ ปวุจฺจติ.
๓๙. ตตฺถ ปฺจทฺวาราวชฺชนจกฺขุวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนกามาวจรชวนตทารมฺมณวเสน ฉจตฺตาลีส จิตฺตานิ จกฺขุทฺวาเร ยถารหํ อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา ปฺจทฺวาราวชฺชนโสตวิฺาณาทิวเสน โสตทฺวาราทีสุปิ ฉจตฺตาลีเสว ภวนฺตีติ สพฺพถาปิ ปฺจทฺวาเร จตุปฺาส จิตฺตานิ กามาวจราเนว.
๔๐. มโนทฺวาเร ปน มโนทฺวาราวชฺชนปฺจปฺาสชวนตทารมฺมณวเสน สตฺตสฏฺิ จิตฺตานิ ภวนฺติ.
๔๑. เอกูนวีสติ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ทฺวารวิมุตฺตานิ.
๔๒. เตสุ ปน ปฺจวิฺาณานิ เจว มหคฺคตโลกุตฺตรชวนานิ เจติ ฉตฺตึส ยถารหเมกทฺวาริกจิตฺตานิ นาม.
๔๓. มโนธาตุตฺติกํ ปน ปฺจทฺวาริกํ.
๔๔. สุขสนฺตีรณโวฏฺพฺพนกามาวจรชวนานิ ฉทฺวาริกจิตฺตานิ.
๔๕. อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณมหาวิปากานิ ¶ ฉทฺวาริกานิ เจว ทฺวารวิมุตฺตานิ จ.
๔๖. มหคฺคตวิปากานิ ทฺวารวิมุตฺตาเนวาติ.
๔๗. เอกทฺวาริกจิตฺตานิ, ปฺจฉทฺวาริกานิ จ.
ฉทฺวาริกวิมุตฺตานิ, วิมุตฺตานิ จ สพฺพถา.
ฉตฺตึสติ ตถา ตีณิ, เอกตึส ยถากฺกมํ;
ทสธา นวธา เจติ, ปฺจธา ปริทีปเย.
อาลมฺพณสงฺคโห
๔๘. อาลมฺพณสงฺคเห ¶ อารมฺมณานิ นาม รูปารมฺมณํ สทฺทารมฺมณํ คนฺธารมฺมณํ รสารมฺมณํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ ธมฺมารมฺมณฺเจติ ฉพฺพิธานิ ภวนฺติ.
๔๙. ตตฺถ รูปเมว รูปารมฺมณํ, ตถา สทฺทาทโย สทฺทารมฺมณาทีนิ.
๕๐. ธมฺมารมฺมณํ ปน ปสาทสุขุมรูปจิตฺตเจตสิกนิพฺพานปฺตฺติวเสน ฉธา สงฺคยฺหติ.
๕๑. ตตฺถ จกฺขุทฺวาริกจิตฺตานํ สพฺเพสมฺปิ รูปเมว อารมฺมณํ, ตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนํ. ตถา โสตทฺวาริกจิตฺตาทีนมฺปิ สทฺทาทีนิ, ตานิ จ ปจฺจุปฺปนฺนานิเยว.
๕๒. มโนทฺวาริกจิตฺตานํ ปน ฉพฺพิธมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตํ อนาคตํ กาลวิมุตฺตฺจ ยถารหมารมฺมณํ โหติ.
๕๓. ทฺวารวิมุตฺตานฺจ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติสงฺขาตานํ ฉพฺพิธมฺปิ ยถาสมฺภวํ เยภุยฺเยน ภวนฺตเร ¶ ฉทฺวารคฺคหิตํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตํ ปฺตฺติภูตํ วา กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสมฺมตํ อารมฺมณํ โหติ.
๕๔. เตสุ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ยถากฺกมํ รูปาทิเอเกการมฺมณาเนว.
๕๕. มโนธาตุตฺติกํ ปน รูปาทิปฺจารมฺมณํ.
๕๖. เสสานิ กามาวจรวิปากานิ หสนจิตฺตฺเจติ สพฺพถาปิ กามาวจรารมฺมณาเนว.
๕๗. อกุสลานิ เจว าณวิปฺปยุตฺตกามาวจรชวนานิ เจติ โลกุตฺตรวชฺชิตสพฺพารมฺมณานิ.
๕๘. าณสมฺปยุตฺตกามาวจรกุสลานิ ¶ เจว ปฺจมชฺฌานสงฺขาตํ อภิฺากุสลฺเจติ อรหตฺตมคฺคผลวชฺชิตสพฺพารมฺมณานิ.
๕๙. าณสมฺปยุตฺตกามาวจรกิริยานิ เจว กิริยาภิฺาโวฏฺพฺพนฺเจติ สพฺพถาปิ สพฺพารมฺมณานิ.
๖๐. อารุปฺเปสุ ทุติยจตุตฺถานิ มหคฺคตารมฺมณานิ.
๖๑. เสสานิ มหคฺคตจิตฺตานิ สพฺพานิปิ ปฺตฺตารมฺมณานิ.
๖๒. โลกุตฺตรจิตฺตานิ นิพฺพานารมฺมณานีติ.
๖๓. ปฺจวีส ปริตฺตมฺหิ, ฉ จิตฺตานิ มหคฺคเต.
เอกวีสติ โวหาเร, อฏฺ นิพฺพานโคจเร.
วีสานุตฺตรมุตฺตมฺหิ ¶ , อคฺคมคฺคผลุชฺฌิเต;
ปฺจ สพฺพตฺถ ฉจฺเจติ, สตฺตธา ตตฺถ สงฺคโห.
วตฺถุสงฺคโห
๖๔. วตฺถุสงฺคเห วตฺถูนิ นาม จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายหทยวตฺถุ เจติ ฉพฺพิธานิ ภวนฺติ.
๖๕. ตานิ กามโลเก สพฺพานิปิ ลพฺภนฺติ.
๖๖. รูปโลเก ปน ฆานาทิตฺตยํ นตฺถิ.
๖๗. อรูปโลเก ปน สพฺพานิปิ น สํวิชฺชนฺติ.
๖๘. ตตฺถ ปฺจวิฺาณธาตุโย ยถากฺกมํ เอกนฺเตน ปฺจ ปสาทวตฺถูนิ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ.
๖๙. ปฺจทฺวาราวชฺชนสมฺปฏิจฺฉนสงฺขาตา ปน มโนธาตุ จ หทยํ นิสฺสิตาเยว ปวตฺตนฺติ.
๗๐. อวเสสา ¶ ปน มโนวิฺาณธาตุสงฺขาตา จ สนฺตีรณมหาวิปากปฏิฆทฺวยปมมคฺคหสนรูปาวจรวเสน หทยํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ.
๗๑. อวเสสา กุสลากุสลกิริยานุตฺตรวเสน ปน นิสฺสาย วา อนิสฺสาย วา.
๗๒. อารุปฺปวิปากวเสน หทยํ อนิสฺสาเยวาติ.
๗๓. ฉวตฺถุํ ¶ นิสฺสิตา กาเม, สตฺต รูเป จตุพฺพิธา.
ติวตฺถุํ นิสฺสิตารุปฺเป, ธาตฺเวกา นิสฺสิตา มตา.
๗๔. เตจตฺตาลีส นิสฺสาย, ทฺเวจตฺตาลีส ชายเร.
นิสฺสาย จ อนิสฺสาย, ปาการุปฺปา อนิสฺสิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห ปกิณฺณกสงฺคหวิภาโค นาม
ตติโย ปริจฺเฉโท.
๔. วีถิปริจฺเฉโท
๑. จิตฺตุปฺปาทานมิจฺเจวํ, กตฺวาสงฺคหมุตฺตรํ.
ภูมิปุคฺคลเภเทน, ปุพฺพาปรนิยามิตํ.
ปวตฺติสงฺคหํ นาม, ปฏิสนฺธิปวตฺติยํ;
ปวกฺขามิ สมาเสน, ยถาสมฺภวโต กถํ.
๒.. วีถิมุตฺตานํ ปน กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตวเสน ติวิธา โหติ วิสยปฺปวตฺติ.
๔. ตตฺถ วตฺถุทฺวารารมฺมณานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยาเนว.
วิฺาณฉกฺกํ
๕. จกฺขุวิฺาณํ ¶ ¶ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณฺเจติ ฉ วิฺาณานิ.
วีถิฉกฺกํ
๖. ฉ วีถิโย ปน จกฺขุทฺวารวีถิ โสตทฺวารวีถิ ฆานทฺวารวีถิ ชิวฺหาทฺวารวีถิ กายทฺวารวีถิ มโนทฺวารวีถิ เจติ ทฺวารวเสน วา, จกฺขุวิฺาณวีถิ โสตวิฺาณวีถิ ฆานวิฺาณวีถิ ชิวฺหาวิฺาณวีถิ กายวิฺาณวีถิ มโนวิฺาณวีถิ เจติ วิฺาณวเสน วา ทฺวารปฺปวตฺตา จิตฺตปฺปวตฺติโย โยเชตพฺพา.
วีถิเภโท
๗. อติมหนฺตํ มหนฺตํ ปริตฺตํ อติปริตฺตฺเจติ ปฺจทฺวาเร มโนทฺวาเร ปน วิภูตมวิภูตฺเจติ ฉธา วิสยปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา.
ปฺจทฺวารวีถิ
๘. กถํ? อุปฺปาทิติภงฺควเสน ขณตฺตยํ เอกจิตฺตกฺขณํ นาม.
๙. ตานิ ปน สตฺตรส จิตฺตกฺขณานิ รูปธมฺมานมายู.
๑๐. เอกจิตฺตกฺขณาตีตานิ วา พหุจิตฺตกฺขณาตีตานิ วา ิติปฺปตฺตาเนว ปฺจารมฺมณานิ ปฺจทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺติ. ตสฺมา ยทิ เอกจิตฺตกฺขณาตีตกํ รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถมาคจฺฉติ, ตโต ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค จลิเต ภวงฺคโสตํ โวจฺฉินฺทิตฺวา ตเมว รูปารมฺมณํ อาวชฺชนฺตํ ปฺจทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตโต ตสฺสานนฺตรํ ตเมว ¶ รูปํ ปสฺสนฺตํ จกฺขุวิฺาณํ, สมฺปฏิจฺฉนฺตํ สมฺปฏิจฺฉนจิตฺตํ, สนฺตีรยมานํ สนฺตีรณจิตฺตํ, ววตฺถเปนฺตํ โวฏฺพฺพนจิตฺตฺเจติ ยถากฺกมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, ตโต ปรํ เอกูนตึส ¶ กามาวจรชวเนสุ ยํกิฺจิ ลทฺธปจฺจยํ เยภุยฺเยน สตฺตกฺขตฺตุํ ชวติ, ชวนานุพนฺธานิ จ ทฺเว ตทารมฺมณปากานิ ยถารหํ ปวตฺตนฺติ, ตโต ปรํ ภวงฺคปาโต.
๑๑. เอตฺตาวตา จุทฺทส วีถิจิตฺตุปฺปาทา, ทฺเว ภวงฺคจลนานิ, ปุพฺเพวาตีตกเมกจิตฺตกฺขณนฺติ กตฺวา สตฺตรส จิตฺตกฺขณานิ ปริปูเรนฺติ, ตโต ปรํ นิรุชฺฌติ, อารมฺมณเมตํ อติมหนฺตํ นาม โคจรํ.
๑๒. ยาว ตทารมฺมณุปฺปาทา ปน อปฺปโหนฺตาตีตกมาปาถมาคตํ อารมฺมณํ มหนฺตํ นาม, ตตฺถ ชวนาวสาเน ภวงฺคปาโตว โหติ, นตฺถิ ตทารมฺมณุปฺปาโท.
๑๓. ยาว ชวนุปฺปาทาปิ อปฺปโหนฺตาตีตกมาปาถมาคตํ อารมฺมณํ ปริตฺตํ นาม, ตตฺถ ชวนมฺปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โวฏฺพฺพนเมว ปวตฺตติ, ตโต ปรํ ภวงฺคปาโตว โหติ.
๑๔. ยาว โวฏฺพฺพนุปฺปาทา จ ปน อปฺปโหนฺตาตีตกมาปาถมาคตํ นิโรธาสนฺนมารมฺมณํ อติปริตฺตํ นาม, ตตฺถ ภวงฺคจลนเมว โหติ, นตฺถิ วีถิจิตฺตุปฺปาโท.
๑๕. อิจฺเจวํ จกฺขุทฺวาเร, ตถา โสตทฺวาราทีสุ เจติ สพฺพถาปิ ปฺจทฺวาเร ตทารมฺมณชวนโวฏฺพฺพนโมฆวารสงฺขาตานํ จตุนฺนํ วารานํ ยถากฺกมํ อารมฺมณภูตา วิสยปฺปวตฺติ จตุธา เวทิตพฺพา.
๑๖. วีถิจิตฺตานิ สตฺเตว, จิตฺตุปฺปาทา จตุทฺทส.
จตุปฺาส วิตฺถารา, ปฺจทฺวาเร ยถารหํ.
อยเมตฺถ ปฺจทฺวาเร วีถิจิตฺตปฺปวตฺตินโย.
มโนทฺวารวีถิ ปริตฺตชวนวาโร
๑๗. มโนทฺวาเร ¶ ¶ ปน ยทิ วิภูตมารมฺมณํ อาปาถมาคจฺฉติ, ตโต ปรํ ภวงฺคจลนมโนทฺวาราวชฺชนชวนาวสาเน ตทารมฺมณปากานิ ปวตฺตนฺติ, ตโต ปรํ ภวงฺคปาโต.
๑๘. อวิภูเต ปนารมฺมเณ ชวนาวสาเน ภวงฺคปาโตว โหติ, นตฺถิ ตทารมฺมณุปฺปาโทติ.
๑๙. วีถิจิตฺตานิ ตีเณว, จิตฺตุปฺปาทา ทเสริตา.
วิตฺถาเรน ปเนตฺเถก-จตฺตาลีส วิภาวเย;
อยเมตฺถ ปริตฺตชวนวาโร.
อปฺปนาชวนวาโร
๒๐. อปฺปนาชวนวาเร ปน วิภูตาวิภูตเภโท นตฺถิ, ตถา ตทารมฺมณุปฺปาโท จ.
๒๑. ตตฺถ หิ าณสมฺปยุตฺตกามาวจรชวนานมฏฺนฺนํ อฺตรสฺมึ ปริกมฺโมปจารานุโลมโคตฺรภุนาเมน จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุเมว วา ยถากฺกมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธานนฺตรเมว ยถารหํ จตุตฺถํ, ปฺจมํ วา ฉพฺพีสติมหคฺคตโลกุตฺตรชวเนสุ ยถาภินีหารวเสน ยํ กิฺจิ ชวนํ อปฺปนาวีถิโมตรติ, ตโต ปรํ อปฺปนาวสาเน ภวงฺคปาโตว โหติ.
๒๒. ตตฺถ โสมนสฺสสหคตชวนานนฺตรํ อปฺปนาปิ โสมนสฺสสหคตาว ปาฏิกงฺขิตพฺพา, อุเปกฺขาสหคตชวนานนฺตรํ อุเปกฺขาสหคตาว, ตตฺถาปิ กุสลชวนานนฺตรํ กุสลชวนฺเจว เหฏฺิมฺจ ผลตฺตยมปฺเปติ, กิริยชวนานนฺตรํ กิริยชวนํ อรหตฺตผลฺจาติ.
๒๓. ทฺวตฺตึส ¶ สุขปฺุมฺหา, ทฺวาทโสเปกฺขกา ปรํ,
สุขิตกฺริยโต อฏฺ, ฉ สมฺโภนฺติ อุเปกฺขกา.
๒๔. ปุถุชฺชนาน ¶ เสกฺขานํ, กามปฺุติเหตุโต.
ติเหตุกามกฺริยโต, วีตราคานมปฺปนา.
อยเมตฺถ มโนทฺวาเร วีถิจิตฺตปฺปวตฺตินโย.
ตทารมฺมณนิยโม
๒๕. สพฺพตฺถาปิ ปเนตฺถ อนิฏฺเ อารมฺมเณ อกุสลวิปากาเนว ปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณานิ.
๒๗. อติอิฏฺเ ปน โสมนสฺสสหคตาเนว สนฺตีรณตทารมฺมณานิ, ตตฺถาปิ โสมนสฺสสหคตกิริยชวนาวสาเน โสมนสฺสสหคตาเนว ตทารมฺมณานิ ภวนฺติ, อุเปกฺขาสหคตกิริยชวนาวสาเน จ อุเปกฺขาสหคตาเนว โหนฺติ.
๒๘. โทมนสฺสสหคตชวนาวสาเน จ ปน ตทารมฺมณานิเจว ภวงฺคานิ จ อุเปกฺขาสหคตาเนว ภวนฺติ, ตสฺมา ยทิ โสมนสฺสปฏิสนฺธิกสฺส โทมนสฺสสหคตชวนาวสาเน ตทารมฺมณสมฺภโว นตฺถิ, ตทา ยํ กิฺจิ ปริจิตปุพฺพํ ปริตฺตารมฺมณมารพฺภ อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ อุปฺปชฺชติ, ตมนนฺตริตฺวา ภวงฺคปาโตว โหตีติ วทนฺติ อาจริยา.
๒๙. ตถา กามาวจรชวนาวสาเน กามาวจรสตฺตานํ กามาวจรธมฺเมสฺเวว อารมฺมณภูเตสุ ตทารมฺมณํ อิจฺฉนฺตีติ.
๓๐. กาเม ชวนสตฺตาลมฺพณานํ นิยเม สติ.
วิภูเตติมหนฺเต จ, ตทารมฺมณมีริตํ.
อยเมตฺถ ตทารมฺมณนิยโม.
ชวนนิยโม
๓๑. ชวเนสุ ¶ ¶ จ ปริตฺตชวนวีถิยํ กามาวจรชวนานิ สตฺตกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุเมว วา ชวนฺติ.
๓๒. มนฺทปฺปวตฺติยํ ปน มรณกาลาทีสุ ปฺจวารเมว.
๓๓. ภควโต ปน ยมกปาฏิหาริยกาลาทีสุ ลหุกปฺปวตฺติยํ จตฺตาริปฺจ วา ปจฺจเวกฺขณจิตฺตานิ ภวนฺตีติปิ วทนฺติ.
๓๔. อาทิกมฺมิกสฺส ปน ปมกปฺปนายํ มหคฺคตชวนานิอภิฺาชวนานิ จ สพฺพทาปิ เอกวารเมว ชวนฺติ, ตโต ปรํ ภวงฺคปาโต.
๓๕. จตฺตาโร ปน มคฺคุปฺปาทา เอกจิตฺตกฺขณิกา, ตโต ปรํ ทฺเว ตีณิ ผลจิตฺตานิ ยถารหํ อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต ปรํ ภวงฺคปาโต.
๓๖. นิโรธสมาปตฺติกาเล ทฺวิกฺขตฺตุํ จตุตฺถารุปฺปชวนํ ชวติ, ตโต ปรํ นิโรธํ ผุสติ.
๓๗. วุฏฺานกาเล จ อนาคามิผลํ วา อรหตฺตผลํ วา ยถารหเมกวารํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ภวงฺคปาโตว โหติ.
๓๘. สพฺพตฺถาปิ สมาปตฺติวีถิยํ ภวงฺคโสโต วิย วีถินิยโม นตฺถีติ กตฺวา พหูนิปิ ลพฺภนฺตีติ.
๓๙. สตฺตกฺขตฺตุํ ปริตฺตานิ, มคฺคาภิฺา สกึ มตา.
อวเสสานิ ลพฺภนฺติ, ชวนานิ พหูนิปิ.
อยเมตฺถ ชวนนิยโม.
ปุคฺคลเภโท
๔๐. ทุเหตุกานมเหตุกานฺจ ¶ ¶ ปเนตฺถ กิริยชวนานิ เจว อปฺปนาชวนานิ จ ลพฺภนฺติ.
๔๑. ตถา าณสมฺปยุตฺตวิปากานิ จ สุคติยํ.
๔๒. ทุคฺคติยํ ปน าณวิปฺปยุตฺตานิ จ มหาวิปากานิ น ลพฺภนฺติ.
๔๓. ติเหตุเกสุ จ ขีณาสวานํ กุสลากุสลชวนานิ น ลพฺภนฺติ.
๔๔. ตถา เสกฺขปุถุชฺชนานํ กิริยชวนานิ.
๔๕. ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตวิจิกิจฺฉาชวนานิ จ เสกฺขานํ.
๔๖. อนาคามิปุคฺคลานํ ปน ปฏิฆชวนานิ จ น ลพฺภนฺติ.
๔๗. โลกุตฺตรชวนานิ จ ยถารหํ อริยานเมว สมุปฺปชฺชนฺตีติ.
๔๘. อเสกฺขานํ จตุจตฺตาลีส เสกฺขานมุทฺทิเส.
ฉปฺปฺาสาวเสสานํ, จตุปฺาส สมฺภวา.
อยเมตฺถ ปุคฺคลเภโท.
ภูมิวิภาโค
๔๙. กามาวจรภูมิยํ ปเนตานิ สพฺพานิปิ วีถิจิตฺตานิ ยถารหมุปลพฺภนฺติ.
๕๐. รูปาวจรภูมิยํ ¶ ปฏิฆชวนตทารมฺมณวชฺชิตานิ.
๕๑. อรูปาวจรภูมิยํ ปมมคฺครูปาวจรหสนเหฏฺิมารุปฺปวชฺชิตานิ จ ลพฺภนฺติ.
๕๒. สพฺพตฺถาปิ ¶ จ ตํตํปสาทรหิตานํ ตํตํทฺวาริกวีถิจิตฺตานิ น ลพฺภนฺเตว.
๕๓. อสฺสตฺตานํ ปน สพฺพถาปิ จิตฺตปฺปวตฺติ นตฺเถวาติ.
๕๔. อสีติ วีถิจิตฺตานิ, กาเม รูเป ยถารหํ.
จตุสฏฺิ ตถารูเป, ทฺเวจตฺตาลีส ลพฺภเร.
อยเมตฺถ ภูมิวิภาโค.
๕๕. อิจฺเจวํ ฉทฺวาริกจิตฺตปฺปวตฺติ ยถาสมฺภวํ ภวงฺคนฺตริตา ยาวตายุกมพฺโพจฺฉินฺนา ปวตฺตติ.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห วีถิสงฺคหวิภาโค นาม
จตุตฺโถ ปริจฺเฉโท.
๕. วีถิมุตฺตปริจฺเฉโท
๑. วีถิจิตฺตวเสเนวํ, ปวตฺติยมุทีริโต.
ปวตฺติสงฺคโห นาม, สนฺธิยํ ทานิ วุจฺจติ.
๒. จตสฺโส ภูมิโย, จตุพฺพิธา ปฏิสนฺธิ, จตฺตาริ กมฺมานิ, จตุธา มรณุปฺปตฺติ เจติ วีถิมุตฺตสงฺคเห จตฺตาริ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ.
ภูมิจตุกฺกํ
๓. ตตฺถ ¶ อปายภูมิ กามสุคติภูมิ รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ เจติ จตสฺโส ภูมิโย นาม.
๔. ตาสุ นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย อสุรกาโย เจติ อปายภูมิ จตุพฺพิธา โหติ.
๕. มนุสฺสา ¶ จาตุมหาราชิกา ตาวตึสา ยามา ตุสิตา นิมฺมานรติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เจติ กามสุคติภูมิ สตฺตวิธา โหติ.
๖. สา ปนายเมกาทสวิธาปิ กามาวจรภูมิจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
๗. พฺรหฺมปาริสชฺชา พฺรหฺมปุโรหิตา มหาพฺรหฺมา เจติ ปมชฺฌานภูมิ.
๘. ปริตฺตาภา อปฺปมาณาภา อาภสฺสรา เจติ ทุติยชฺฌานภูมิ.
๙. ปริตฺตสุภา อปฺปมาณสุภา สุภกิณฺหา เจติ ตติยชฺฌานภูมิ.
๑๐. เวหปฺผลา อสฺสตฺตา สุทฺธาวาสา เจติ จตุตฺถชฺฌานภูมีติ รูปาวจรภูมิ โสฬสวิธา โหติ.
๑๑. อวิหา อตปฺปา สุทสฺสา สุทสฺสี อกนิฏฺา เจติ สุทฺธาวาสภูมิ ปฺจวิธา โหติ.
๑๒. อากาสานฺจายตนภูมิ วิฺาณฺจายตนภูมิ อากิฺจฺายตนภูมิ เนวสฺานาสฺายตนภูมิ เจติ อรูปภูมิ จตุพฺพิธา โหติ.
๑๓. ปุถุชฺชนา ¶ น ลพฺภนฺติ, สุทฺธาวาเสสุ สพฺพถา.
โสตาปนฺนา จ สกทาคามิโน จาปิ ปุคฺคลา.
๑๔. อริยา โนปลพฺภนฺติ, อสฺาปายภูมิสุ.
เสสฏฺาเนสุ ลพฺภนฺติ, อริยานริยาปิ จ.
อิทเมตฺถ ภูมิจตุกฺกํ.
ปฏิสนฺธิจตุกฺกํ
๑๕. อปายปฏิสนฺธิ ¶ กามสุคติปฏิสนฺธิ รูปาวจรปฏิสนฺธิ อรูปาวจรปฏิสนฺธิ เจติ จตุพฺพิธา ปฏิสนฺธิ นาม.
๑๖. ตตฺถ อกุสลวิปาโกเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ อปายภูมิยํ โอกฺกนฺติกฺขเณ ปฏิสนฺธิ หุตฺวา ตโต ปรํ ภวงฺคํ ปริโยสาเน จวนํ หุตฺวา โวจฺฉิชฺชติ, อยเมกาปายปฏิสนฺธิ นาม.
๑๗. กุสลวิปาโกเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ ปน กามสุคติยํ มนุสฺสานฺเจว ชจฺจนฺธาทีนํ ภุมฺมสฺสิตานฺจ วินิปาติกาสุรานํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ปวตฺตติ.
๑๘. มหาวิปากานิ ปน อฏฺ สพฺพตฺถาปิ กามสุคติยํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ปวตฺตนฺติ.
๑๙. อิมา นว กามสุคติปฏิสนฺธิโย นาม.
๒๐. สา ปนายํ ทสวิธาปิ กามาวจรปฏิสนฺธิจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
๒๑. เตสุ ¶ จตุนฺนํ อปายานํ มนุสฺสานํ วินิปาติกาสุรานฺจ อายุปฺปมาณคณนาย นิยโม นตฺถิ.
๒๒. จาตุมหาราชิกานํ ปน เทวานํ ทิพฺพานิ ปฺจวสฺสสตานิ อายุปฺปมาณํ, มนุสฺสคณนาย นวุติวสฺสสตสหสฺสปฺปมาณํ โหติ, ตโต จตุคฺคุณํ ตาวตึสานํ, ตโต จตุคฺคุณํ ยามานํ, ตโต จตุคฺคุณํ ตุสิตานํ, ตโต จตุคฺคุณํ นิมฺมานรตีนํ, ตโต จตุคฺคุณํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ.
๒๓. นวสตฺเจกวีส-วสฺสานํ โกฏิโย ตถา.
วสฺสสตสหสฺสานิ, สฏฺิ จ วสวตฺติสุ.
๒๔. ปมชฺฌานวิปากํ ¶ ปมชฺฌานภูมิยํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ปวตฺตติ.
๒๕. ตถา ทุติยชฺฌานวิปากํ ตติยชฺฌานวิปากฺจ ทุติยชฺฌานภูมิยํ.
๒๖. จตุตฺถชฺฌานวิปากํ ตติยชฺฌานภูมิยํ.
๒๗. ปฺจมชฺฌานวิปากํ จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ.
๒๘. อสฺสตฺตานํ ปน รูปเมว ปฏิสนฺธิ โหติ. ตถา ตโต ปรํ ปวตฺติยํ จวนกาเล จ รูปเมว ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌติ, อิมา ฉ รูปาวจรปฏิสนฺธิโย นาม.
๒๙. เตสุ พฺรหฺมปาริสชฺชานํ เทวานํ กปฺปสฺส ตติโย ภาโค อายุปฺปมาณํ.
๓๐. พฺรหฺมปุโรหิตานํ อุปฑฺฒกปฺโป.
๓๓. อปฺปมาณาภานํ จตฺตาริกปฺปานิ.
๓๔. อาภสฺสรานํ ¶ อฏฺ กปฺปานิ.
๓๕. ปริตฺตสุภานํ โสฬส กปฺปานิ.
๓๖. อปฺปมาณสุภานํ ทฺวตฺตึส กปฺปานิ.
๓๗. สุภกิณฺหานํ จตุสฏฺิ กปฺปานิ.
๓๘. เวหปฺผลานํ อสฺสตฺตานฺจ ปฺจกปฺปสตานิ.
๔๐. อตปฺปานํ ทฺเว กปฺปสหสฺสานิ.
๔๑. สุทสฺสานํ จตฺตาริ กปฺปสหสฺสานิ.
๔๒. สุทสฺสีนํ อฏฺ กปฺปสหสฺสานิ.
๔๓. อกนิฏฺานํ ¶ โสฬส กปฺปสหสฺสานิ.
๔๔. ปมารุปฺปาทิวิปากานิ ปมารุปฺปาทิภูมีสุ ยถากฺกมํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน ปวตฺตนฺติ. อิมา จตสฺโส อรูปปฏิสนฺธิโย นาม.
๔๕. เตสุ ปน อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ วีสติกปฺปสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ.
๔๖. วิฺาณฺจายตนูปคานํ เทวานํ จตฺตาลีสกปฺปสหสฺสานิ.
๔๗. อากิฺจฺายตนูปคานํ เทวานํ สฏฺิกปฺปสหสฺสานิ.
๔๘. เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ จตุราสีติกปฺปสหสฺสานิ.
๔๙. ปฏิสนฺธิ ภวงฺคฺจ, ตถา จวนมานสํ.
เอกเมว ตเถเวกวิสยฺเจกชาติยํ.
อิทเมตฺถ ปฏิสนฺธิจตุกฺกํ.
กมฺมจตุกฺกํ
๕๐. ชนกํ ¶ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกฺเจติ กิจฺจวเสน.
๕๑. ครุกํ อาสนฺนํ อาจิณฺณํ กฏตฺตากมฺมฺเจติ ปากทานปริยาเยน.
๕๒. ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปราปริยเวทนียํ อโหสิกมฺมฺเจติ ปากกาลวเสน จตฺตาริ กมฺมานิ นาม.
๕๓. ตถา อกุสลํ กามาวจรกุสลํ รูปาวจรกุสลํ อรูปาวจรกุสลฺเจติ ปากานวเสน.
๕๔. ตตฺถ ¶ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมฺเจติ กมฺมทฺวารวเสน ติวิธํ โหติ.
๕๕. กถํ? ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโร เจติ กายวิฺตฺติสงฺขาเต กายทฺวาเร พาหุลฺลวุตฺติโต กายกมฺมํ นาม.
๕๖. มุสาวาโท ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาโป เจติ วจีวิฺตฺติสงฺขาเต วจีทฺวาเร พาหุลฺลวุตฺติโต วจีกมฺมํ นาม.
๕๗. อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺิ เจติ อฺตฺราปิ วิฺตฺติยา มนสฺมึเยว พาหุลฺลวุตฺติโต มโนกมฺมํ นาม.
๕๘. เตสุ ปาณาติปาโต ผรุสวาจา พฺยาปาโท จ โทสมูเลน ชายนฺติ.
๕๙. กาเมสุมิจฺฉาจาโร อภิชฺฌา มิจฺฉาทิฏฺิ จ โลภมูเลน.
๖๐. เสสานิ ¶ จตฺตาริปิ ทฺวีหิ มูเลหิ สมฺภวนฺติ.
๖๑. จิตฺตุปฺปาทวเสน ปเนตํ อกุสลํ สพฺพถาปิ ทฺวาทสวิธํ โหติ.
๖๒. กามาวจรกุสลมฺปิ กายทฺวาเร ปวตฺตํ กายกมฺมํ, วจีทฺวาเร ปวตฺตํ วจีกมฺมํ, มโนทฺวาเร ปวตฺตํ มโนกมฺมฺเจติ กมฺมทฺวารวเสน ติวิธํ โหติ.
๖๔. จิตฺตุปฺปาทวเสน ปเนตํ อฏฺวิธํ โหติ.
๖๕. ทานสีลภาวนาปจายนเวยฺยาวจฺจปตฺติทานปตฺตานุโมทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนา ทิฏฺิชุกมฺมวเสน ทสวิธํ โหติ.
๖๖. ตํ ¶ ปเนตํ วีสติวิธมฺปิ กามาวจรกมฺมมิจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
๖๗. รูปาวจรกุสลํ ปน มโนกมฺมเมว, ตฺจ ภาวนามยํ อปฺปนาปฺปตฺตํ, ฌานงฺคเภเทน ปฺจวิธํ โหติ.
๖๘. ตถา อรูปาวจรกุสลฺจ มโนกมฺมํ, ตมฺปิ ภาวนามยํ อปฺปนาปฺปตฺตํ. อารมฺมณเภเทน จตุพฺพิธํ โหติ.
๖๙. เอตฺถากุสลกมฺมมุทฺธจฺจรหิตํ อปายภูมิยํ ปฏิสนฺธึ ชเนติ, ปวตฺติยํ ปน สพฺพมฺปิ ทฺวาทสวิธํ สตฺตากุสลปากานิ สพฺพตฺถาปิ กามโลเก รูปโลเก จ ยถารหํ วิปจฺจติ.
๗๐. กามาวจรกุสลมฺปิ กามสุคติยเมว ปฏิสนฺธึ ชเนติ, ตถา ปวตฺติยฺจ มหาวิปากานิ ¶ , อเหตุกวิปากานิ ปน อฏฺปิ สพฺพตฺถาปิ กามโลเก รูปโลเก จ ยถารหํ วิปจฺจติ.
๗๑. ตตฺถาปิ ติเหตุกมุกฺกฏฺํ กุสลํ ติเหตุกํ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต โสฬส วิปากานิ วิปจฺจติ.
๗๒. ติเหตุกโมมกํ ทฺวิเหตุกมุกฺกฏฺฺจ กุสลํ ทฺวิเหตุกํ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต ติเหตุกรหิตานิ ทฺวาทส วิปากานิ วิปจฺจติ.
๗๓. ทฺวิเหตุกโมมกํ ปน กุสลํ อเหตุกเมว ปฏิสนฺธึ เทติ, ปวตฺเต จ อเหตุกวิปากาเนว วิปจฺจติ.
๗๔. อสงฺขารํ สสงฺขาร-วิปากานิ น ปจฺจติ.
สสงฺขารมสงฺขาร-วิปากานีติ เกจน.
เตสํ ทฺวาทส ปากานิ, ทสาฏฺ จ ยถากฺกมํ;
ยถาวุตฺตานุสาเรน ยถาสมฺภวมุทฺทิเส.
๗๕. รูปาวจรกุสลํ ¶ ปน ปมชฺฌานํ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺเชสุ อุปฺปชฺชติ.
๗๖. ตเทว มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมปุโรหิเตสุ.
๗๗. ปณีตํ ภาเวตฺวา มหาพฺรหฺเมสุ.
๗๘. ตถา ทุติยชฺฌานํ ตติยชฺฌานฺจ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา ปริตฺตาเภสุ.
๗๙. มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา อปฺปมาณาเภสุ.
๘๐. ปณีตํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเรสุ.
๘๑. จตุตฺถชฺฌานํ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา ปริตฺตสุเภสุ.
๘๒. มชฺฌิมํ ¶ ภาเวตฺวา อปฺปมาณสุเภสุ.
๘๓. ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺเหสุ.
๘๔. ปฺจมชฺฌานํ ภาเวตฺวา เวหปฺผเลสุ.
๘๕. ตเทว สฺาวิราคํ ภาเวตฺวา อสฺสตฺเตสุ.
๘๖. อนาคามิโน ปน สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชนฺติ.
๘๗. อรูปาวจรกุสลฺจ ยถากฺกมํ ภาเวตฺวา อารุปฺเปสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ.
๘๘. อิตฺถํ มหคฺคตํ ปฺุํ, ยถาภูมิววตฺถิตํ.
ชเนติ สทิสํ ปากํ, ปฏิสนฺธิปวตฺติยํ.
อิทเมตฺถ กมฺมจตุกฺกํ.
จุติปฏิสนฺธิกฺกโม
๘๙. อายุกฺขเยน กมฺมกฺขเยน อุภยกฺขเยน อุปจฺเฉทกกมฺมุนา เจติ จตุธา มรณุปฺปตฺติ นาม.
๙๐. ตถา ¶ จ มรนฺตานํ ปน มรณกาเล ยถารหํ อภิมุขีภูตํ ภวนฺตเร ปฏิสนฺธิชนกํ กมฺมํ วา, ตํกมฺมกรณกาเล รูปาทิกมุปลทฺธปุพฺพมุปกรณภูตฺจ กมฺมนิมิตฺตํ วา, อนนฺตรมุปฺปชฺชมานภเว อุปลภิตพฺพมุปโภคภูตฺจ คตินิมิตฺตํ วา กมฺมพเลน ฉนฺนํ ทฺวารานํ อฺตรสฺมึ ปจฺจุปฏฺาติ, ตโต ปรํ ตเมว ตโถปฏฺิตํ อารมฺมณํ อารพฺภ วิปจฺจมานกกมฺมานุรูปํ ปริสุทฺธํ อุปกฺกิลิฏฺํ วา อุปลภิตพฺพภวานุรูปํ ตตฺโถณตํว จิตฺตสนฺตานํ อภิณฺหํ ปวตฺตติ พาหุลฺเลน, ตเมว วา ปน ชนกภูตํ กมฺมํ อภินวกรณวเสน ทฺวารปฺปตฺตํ โหติ.
๙๑. ปจฺจาสนฺนมรณสฺส ¶ ตสฺส วีถิจิตฺตาวสาเน ภวงฺคกฺขเย วา จวนวเสน ปจฺจุปฺปนฺนภวปริโยสานภูตํ จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตสฺมึ นิรุทฺธาวสาเน ตสฺสานนฺตรเมว ตถาคหิตํ อารมฺมณํ อารพฺภ สวตฺถุกํ อวตฺถุกเมว วา ยถารหํ อวิชฺชานุสยปริกฺขิตฺเตน ตณฺหานุสยมูลเกน สงฺขาเรน ชนิยมานํ สมฺปยุตฺเตหิ ปริคฺคยฺหมานํ สหชาตานมธิฏฺานภาเวน ปุพฺพงฺคมภูตํ ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน ปฏิสนฺธิสงฺขาตํ มานสํ อุปฺปชฺชมานเมว ปติฏฺาติ ภวนฺตเร.
๙๒. มรณาสนฺนวีถิยํ ปเนตฺถ มนฺทปฺปวตฺตานิ ปฺเจว ชวนานิ ปาฏิกงฺขิตพฺพานิ, ตสฺมา ยทิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณสุ อาปาถคเตสุ ธรนฺเตสฺเวว มรณํ โหติ, ตทา ปฏิสนฺธิภวงฺคานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา ลพฺภตีติ กตฺวา กามาวจรปฏิสนฺธิยา ฉทฺวารคฺคหิตํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตารมฺมณํ อุปลพฺภติ, กมฺมํ ปน อตีตเมว, ตฺจ มโนทฺวารคฺคหิตํ, ตานิ ปน สพฺพานิปิ ปริตฺตธมฺมภูตาเนวารมฺมณานิ.
๙๓. รูปาวจรปฏิสนฺธิยา ปน ปฺตฺติภูตํ กมฺมนิมิตฺตเมวารมฺมณํ โหติ.
๙๔. ตถา ¶ อรูปปฏิสนฺธิยา จ มหคฺคตภูตํ ปฺตฺติภูตฺจ กมฺมนิมิตฺตเมว ยถารหมารมฺมณํ โหติ.
๙๕. อสฺสตฺตานํ ปน ชีวิตนวกเมว ปฏิสนฺธิภาเวน ปติฏฺาติ, ตสฺมา เต รูปปฏิสนฺธิกา นาม.
๙๘. อารุปฺปจุติยา โหนฺติ, เหฏฺิมารุปฺปวชฺชิตา.
ปรมารุปฺปสนฺธี จ, ตถา กามติเหตุกา.
รูปาวจรจุติยา ¶ , อเหตุรหิตา สิยุํ;
สพฺพา กามติเหตุมฺหา, กาเมสฺเวว ปเนตรา.
อยเมตฺถ จุติปฏิสนฺธิกฺกโม.
๙๙. อิจฺเจวํ คหิตปฏิสนฺธิกานํ ปน ปฏิสนฺธินิโรธานนฺตรโต ปภุติ ตเมวารมฺมณมารพฺภ ตเทว จิตฺตํ ยาว จุติจิตฺตุปฺปาทา อสติ วีถิจิตฺตุปฺปาเท ภวสฺส องฺคภาเวน ภวงฺคสนฺตติสงฺขาตํ มานสํ อพฺโพจฺฉินฺนํ นทีโสโต วิย ปวตฺตติ.
๑๐๐. ปริโยสาเน จ จวนวเสน จุติจิตฺตํ หุตฺวา นิรุชฺฌติ.
๑๐๑. ตโต ปรฺจ ปฏิสนฺธาทโย รถจกฺกมิว ยถากฺกมํ เอว ปริวตฺตนฺตา ปวตฺตนฺติ.
๑๐๒. ปฏิสนฺธิภวงฺควีถิโย, จุติเจห ตถา ภวนฺตเร.
ปุน สนฺธิ ภวงฺคมิจฺจยํ, ปริวตฺตติ จิตฺตสนฺตติ.
ปฏิสงฺขายปเนตมทฺธุวํ ¶ , อธิคนฺตฺวา ปทมจฺจุตํ พุธา;
สุสมุจฺฉินฺนสิเนหพนฺธนา, สมเมสฺสนฺติ จิราย สุพฺพตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห วีถิมุตฺตสงฺคหวิภาโค นาม
ปฺจโม ปริจฺเฉโท.
๖. รูปปริจฺเฉโท
๑. เอตฺตาวตา วิภตฺตา หิ, สปฺปเภทปฺปวตฺติกา.
จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, รูปํ ทานิ ปวุจฺจติ.
๒. สมุทฺเทสา ¶ วิภาคา จ, สมุฏฺานา กลาปโต.
ปวตฺติกฺกมโต เจติ, ปฺจธา ตตฺถ สงฺคโห.
รูปสมุทฺเทโส
๓. จตฺตาริ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺติ ทุวิธมฺเปตํ รูปํ เอกาทสวิเธน สงฺคหํ คจฺฉติ.
๔. กถํ? ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ภูตรูปํ นาม.
๕. จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย ปสาทรูปํ นาม.
๖. รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโส อาโปธาตุวิวชฺชิตํ ภูตตฺตยสงฺขาตํ โผฏฺพฺพํ โคจรรูปํ นาม.
๗. อิตฺถตฺตํ ปุริสตฺตํ ภาวรูปํ นาม.
๙. ชีวิตินฺทฺริยํ ชีวิตรูปํ นาม.
๑๐. กพฬีกาโร อาหาโร อาหารรูปํ นาม.
๑๑. อิติ ¶ จ อฏฺารสวิธมฺเปตํ รูปํ สภาวรูปํ สลกฺขณรูปํ นิปฺผนฺนรูปํ รูปรูปํ สมฺมสนรูปนฺติ จ สงฺคหํ คจฺฉติ.
๑๒. อากาสธาตุ ปริจฺเฉทรูปํ นาม.
๑๓. กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ วิฺตฺติรูปํ นาม.
๑๔. รูปสฺส ลหุตา มุทุตา กมฺมฺตา วิฺตฺติทฺวยํ วิการรูปํ นาม.
๑๕. รูปสฺส อุปจโย สนฺตติ ชรตา อนิจฺจตา ลกฺขณรูปํ นาม.
๑๖. ชาติรูปเมว ¶ ปเนตฺถ อุปจยสนฺตตินาเมน ปวุจฺจตีติ เอกาทสวิธมฺเปตํ รูปํ อฏฺวีสติวิธํ โหติ สรูปวเสน.
ภูตปฺปสาทวิสยา, ภาโว หทยมิจฺจปิ;
ชีวิตาหารรูเปหิ, อฏฺารสวิธํ ตถา.
ปริจฺเฉโท จ วิฺตฺติ, วิกาโร ลกฺขณนฺติ จ;
อนิปฺผนฺนา ทส เจติ, อฏฺวีสวิธํ ภเว.
อยเมตฺถ รูปสมุทฺเทโส.
รูปวิภาโค
๑๘. สพฺพฺจ ปเนตํ รูปํ อเหตุกํ สปฺปจฺจยํ สาสวํ สงฺขตํ โลกิยํ กามาวจรํ อนารมฺมณํ อปฺปหาตพฺพเมวาติ เอกวิธมฺปิ อชฺฌตฺติกพาหิราทิวเสน พหุธา เภทํ คจฺฉติ.
๑๙. กถํ? ปสาทสงฺขาตํ ปฺจวิธมฺปิ อชฺฌตฺติกรูปํ นาม, อิตรํ พาหิรรูปํ.
๒๐. ปสาทหทยสงฺขาตํ ¶ ฉพฺพิธมฺปิ วตฺถุรูปํ นาม, อิตรํ อวตฺถุรูปํ.
๒๑. ปสาทวิฺตฺติสงฺขาตํ สตฺตวิธมฺปิ ทฺวารรูปํ นาม, อิตรํ อทฺวารรูปํ.
๒๒. ปสาทภาวชีวิตสงฺขาตํ อฏฺวิธมฺปิ อินฺทฺริยรูปํ นาม, อิตรํ อนินฺทฺริยรูปํ.
๒๓. ปสาทวิสยสงฺขาตํ ทฺวาทสวิธมฺปิ โอฬาริกรูปํ สนฺติเกรูปํ, สปฺปฏิฆรูปฺจ, อิตรํ สุขุมรูปํ ทูเรรูปํ อปฺปฏิฆรูปฺจ.
๒๔. กมฺมชํ ¶ อุปาทินฺนรูปํ, อิตรํ อนุปาทินฺนรูปํ.
๒๕. รูปายตนํ สนิทสฺสนรูปํ, อิตรํ อนิทสฺสนรูปํ.
๒๖. จกฺขาทิทฺวยํ อสมฺปตฺตวเสน, ฆานาทิตฺตยํ สมฺปตฺตวเสนาติ ปฺจวิธมฺปิ โคจรคฺคาหิกรูปํ, อิตรํ อโคจรคฺคาหิกรูปํ.
๒๗. วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา ภูตจตุกฺกฺเจติ อฏฺวิธมฺปิ อวินิพฺโภครูปํ, อิตรํ วินิพฺโภครูปํ.
๒๘. อิจฺเจวมฏฺวีสติ-วิธมฺปิ จ วิจกฺขณา.
อชฺฌตฺติกาทิเภเทน, วิภชนฺติ ยถารหํ.
อยเมตฺถ รูปวิภาโค.
รูปสมุฏฺานนโย
๒๙. กมฺมํ จิตฺตํ อุตุ อาหาโร เจติ จตฺตาริ รูปสมุฏฺานานิ นาม.
๓๐. ตตฺถ กามาวจรํ รูปาวจรฺเจติ ปฺจวีสติวิธมฺปิ กุสลากุสลกมฺมมภิสงฺขตํ อชฺฌตฺติกสนฺตาเน กมฺมสมุฏฺานรูปํ ปฏิสนฺธิมุปาทาย ขเณ ขเณ สมุฏฺาเปติ.
๓๑. อรูปวิปากทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิตํ ¶ ปฺจสตฺตติวิธมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตสมุฏฺานรูปํ ปมภวงฺคมุปาทาย ชายนฺตเมว สมุฏฺาเปติ.
๓๒. ตตฺถ อปฺปนาชวนํ อิริยาปถมฺปิ สนฺนาเมติ.
๓๓. โวฏฺพฺพนกามาวจรชวนาภิฺา ปน วิฺตฺติมฺปิ สมุฏฺาเปนฺติ.
๓๔. โสมนสฺสชวนานิ ปเนตฺถ เตรส หสนมฺปิ ชเนนฺติ.
๓๕. สีตุณฺโหตุสมฺาตา ¶ เตโชธาตุ ิติปฺปตฺตาว อุตุสมุฏฺานรูปํ อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ ยถารหํ สมุฏฺาเปติ.
๓๖. โอชาสงฺขาโต อาหาโร อาหารสมุฏฺานรูปํ อชฺโฌหรณกาเล านปฺปตฺโตว สมุฏฺาเปติ.
๓๗. ตตฺถ หทยอินฺทฺริยรูปานิ กมฺมชาเนว.
๔๐. ลหุตาทิตฺตยํ อุตุจิตฺตาหาเรหิ สมฺโภติ.
๔๑. อวินิพฺโภครูปานิ เจว อากาสธาตุ จ. จตูหิ สมฺภูตานิ.
๔๒. ลกฺขณรูปานิ น กุโตจิ ชายนฺติ.
๔๓. อฏฺารส ปนฺนรส, เตรส ทฺวาทสาติ จ.
กมฺมจิตฺโตตุกาหาร-ชานิ โหนฺติ ยถากฺกมํ.
๔๔. ชายมานาทิรูปานํ, สภาวตฺตา หิ เกวลํ.
ลกฺขณานิ น ชายนฺติ, เกหิจีติ ปกาสิตํ.
อยเมตฺถ รูปสมุฏฺานนโย.
กลาปโยชนา
๔๕. เอกุปฺปาทา ¶ เอกนิโรธา เอกนิสฺสยา สหวุตฺติโน เอกวีสติ รูปกลาปา นาม.
๔๖. ตตฺถ ชีวิตํ อวินิพฺโภครูปฺจ จกฺขุนา สห จกฺขุทสกนฺติ ปวุจฺจติ. ตถา ¶ โสตาทีหิ สทฺธึ โสตทสกํ ฆานทสกํ ชิวฺหาทสกํ กายทสกํ อิตฺถิภาวทสกํ ปุมฺภาวทสกํ วตฺถุทสกฺเจติ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. อวินิพฺโภครูปเมว ชีวิเตน สห ชีวิตนวกนฺติ ปวุจฺจติ. อิเม นว กมฺมสมุฏฺานกลาปา.
๔๗. อวินิพฺโภครูปํ ปน สุทฺธฏฺกํ, ตเทว กายวิฺตฺติยา สห กายวิฺตฺตินวกํ, วจีวิฺตฺติสทฺเทหิ สห วจีวิฺตฺติทสกํ, ลหุตาทีหิ สทฺธึ ลหุตาเทกาทสกํ, กายวิฺตฺติลหุตาทิทฺวาทสกํ, วจีวิฺตฺติสทฺทลหุตาทิเตรสกฺเจติ ฉ จิตฺตสมุฏฺานกลาปา.
๔๘. สุทฺธฏฺกํ สทฺทนวกํ ลหุตาเทกาทสกํ สทฺทลหุตาทิทฺวาทสกฺเจติ จตฺตาโร อุตุสมุฏฺานกลาปา.
๔๙. สุทฺธฏฺกํ ลหุตาเทกาทสกฺเจติ ทฺเวอาหารสมุฏฺานกลาปา.
๕๐. ตตฺถ สุทฺธฏฺกํ สทฺทนวกฺเจติ ทฺเว อุตุสมุฏฺานกลาปา พหิทฺธาปิ ลพฺภนฺติ, อวเสสา ปน สพฺเพปิ อชฺฌตฺติกเมวาติ.
๕๑. กมฺมจิตฺโตตุกาหาร-สมุฏฺานา ยถากฺกมํ.
นว ฉ จตุโร ทฺเวติ, กลาปา เอกวีสติ.
กลาปานํ ปริจฺเฉท-ลกฺขณตฺตา วิจกฺขณา;
น กลาปงฺคมิจฺจาหุ, อากาสํ ลกฺขณานิ จ.
อยเมตฺถ กลาปโยชนา.
รูปปวตฺติกฺกโม
๕๒. สพฺพานิปิ ¶ ปเนตานิ รูปานิ กามโลเก ยถารหํ อนูนานิ ปวตฺติยํ อุปลพฺภนฺติ.
๕๓. ปฏิสนฺธิยํ ¶ ปน สํเสทชานฺเจว โอปปาติกานฺจ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกสงฺขาตานิ สตฺต ทสกานิ ปาตุภวนฺติ อุกฺกฏฺวเสน, โอมกวเสน ปน จกฺขุโสตฆานภาวทสกานิ กทาจิปิ น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา เตสํ วเสน กลาปหานิ เวทิตพฺพา.
๕๔. คพฺภเสยฺยกสตฺตานํ ปน กายภาววตฺถุทสกสงฺขาตานิ ตีณิ ทสกานิ ปาตุภวนฺติ, ตตฺถาปิ ภาวทสกํ กทาจิ น ลพฺภติ, ตโต ปรํ ปวตฺติกาเล กเมน จกฺขุทสกาทีนิ จ ปาตุภวนฺติ.
๕๕. อิจฺเจวํ ปฏิสนฺธิมุปาทาย กมฺมสมุฏฺานา, ทุติยจิตฺตมุปาทาย จิตฺตสมุฏฺานา, ิติกาลมุปาทาย อุตุสมุฏฺานา, โอชาผรณมุปาทาย อาหารสมุฏฺานา เจติ จตุสมุฏฺานรูปกลาปสนฺตติ กามโลเก ทีปชาลา วิย, นทีโสโต วิย จ ยาวตายุกมพฺโพจฺฉินฺนา ปวตฺตติ.
๕๖. มรณกาเล ปน จุติจิตฺโตปริสตฺตรสมจิตฺตสฺส ิติกาลมุปาทาย กมฺมชรูปานิ น อุปฺปชฺชนฺติ, ปุเรตรมุปฺปนฺนานิ จ กมฺมชรูปานิ จุติจิตฺตสมกาลเมว ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, ตโต ปรํ จิตฺตชาหารชรูปฺจ โวจฺฉิชฺชติ, ตโต ปรํ อุตุสมุฏฺานรูปปรมฺปรา ยาว มตกเฬวรสงฺขาตา ปวตฺตนฺติ.
๕๗. อิจฺเจวํ มตสตฺตานํ, ปุนเทว ภวนฺตเร.
ปฏิสนฺธิมุปาทาย, ตถา รูปํ ปวตฺตติ.
๕๘. รูปโลเก ¶ ปน ฆานชิวฺหากายภาวทสกานิ จ อาหารชกลาปานิ จ น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา เตสํ ปฏิสนฺธิกาเล จกฺขุโสตวตฺถุวเสน ตีณิ ทสกานิ ชีวิตนวกฺเจติ จตฺตาโร กมฺมสมุฏฺานกลาปา, ปวตฺติยํ จิตฺโตตุสมุฏฺานา จ ลพฺภนฺติ.
๕๙. อสฺสตฺตานํ ปน จกฺขุโสตวตฺถุสทฺทาปิ น ลพฺภนฺติ, ตถา สพฺพานิปิ จิตฺตชรูปานิ, ตสฺมา เตสํ ปฏิสนฺธิกาเล ชีวิตนวกเมว, ปวตฺติยฺจ สทฺทวชฺชิตํ อุตุสมุฏฺานรูปํ อติริจฺฉติ.
๖๐. อิจฺเจวํ ¶ กามรูปาสฺีสงฺขาเตสุ ตีสุ าเนสุ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ทุวิธา รูปปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๖๑. อฏฺวีสติ กาเมสุ, โหนฺติ เตวีส รูปิสุ.
สตฺตรเสว สฺีนํ, อรูเป นตฺถิ กิฺจิปิ.
สทฺโท วิกาโร ชรตา, มรณฺโจปปตฺติยํ;
น ลพฺภนฺติ ปวตฺเต ตุ, น กิฺจิปิ น ลพฺภติ.
อยเมตฺถ รูปปวตฺติกฺกโม.
นิพฺพานเภโท
๖๒. นิพฺพานํ ปน โลกุตฺตรสงฺขาตํ จตุมคฺคาเณน สจฺฉิกาตพฺพํ มคฺคผลานมารมฺมณภูตํ วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานนฺติ ปวุจฺจติ.
๖๓. ตเทตํ สภาวโต เอกวิธมฺปิ สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ เจติ ทุวิธํ โหติ การณปริยาเยน.
๖๔. ตถา ¶ สฺุตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺเจติ ติวิธํ โหติ อาการเภเทน.
๖๕. ปทมจฺจุตมจฺจนฺตํ, อสงฺขตมนุตฺตรํ.
นิพฺพานมิติ ภาสนฺติ, วานมุตฺตา มเหสโย.
อิติ จิตฺตํ เจตสิกํ, รูปํ นิพฺพานมิจฺจปิ;
ปรมตฺถํ ปกาเสนฺติ, จตุธาว ตถาคตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห รูปสงฺคหวิภาโค นาม
ฉฏฺโ ปริจฺเฉโท.
๗. สมุจฺจยปริจฺเฉโท
๑. ทฺวาสตฺตติวิธา ¶ วุตฺตา, วตฺถุธมฺมา สลกฺขณา.
เตสํ ทานิ ยถาโยคํ, ปวกฺขามิ สมุจฺจยํ.
๒. อกุสลสงฺคโห มิสฺสกสงฺคโห โพธิปกฺขิยสงฺคโห สพฺพสงฺคโห เจติ สมุจฺจยสงฺคโห จตุพฺพิโธ เวทิตพฺโพ.
อกุสลสงฺคโห
๓. กถํ? อกุสลสงฺคเห ตาว จตฺตาโร อาสวา – กามาสโว ภวาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว.
๔. จตฺตาโร โอฆา – กาโมโฆ ภโวโฆ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆ.
๕. จตฺตาโร โยคา – กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค อวิชฺชาโยโค.
๖. จตฺตาโร คนฺถา – อภิชฺฌากายคนฺโถ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ.
๗. จตฺตาโร ¶ อุปาทานา – กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ.
๘. ฉ นีวรณานิ – กามจฺฉนฺทนีวรณํ พฺยาปาทนีวรณํ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ วิจิกิจฺฉานีวรณํ อวิชฺชานีวรณํ.
๙. สตฺต ¶ อนุสยา – กามราคานุสโย ภวราคานุสโย ปฏิฆานุสโย มานานุสโย ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโย อวิชฺชานุสโย.
๑๐. ทส สํโยชนานิ – กามราคสํโยชนํ รูปราคสํโยชนํ อรูปราคสํโยชนํ ปฏิฆสํโยชนํ มานสํโยชนํ ทิฏฺิสํโยชนํ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ อุทฺธจฺจสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชนํ สุตฺตนฺเต.
๑๑. อปรานิปิ ทส สํโยชนานิ – กามราคสํโยชนํ ภวราคสํโยชนํ ปฏิฆสํโยชนํ มานสํโยชนํ ทิฏฺิสํโยชนํ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ อิสฺสาสํโยชนํ มจฺฉริยสํโยชนํ อวิชฺชาสํโยชนํ อภิธมฺเม (วิภ. ๙๖๙).
๑๒. ทส กิเลสา – โลโภ โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ.
๑๓. อาสวาทีสุ ปเนตฺถ กามภวนาเมน ตพฺพตฺถุกา ตณฺหา อธิปฺเปตา, สีลพฺพตปรามาโส อิทํสจฺจาภินิเวโส อตฺตวาทุปาโท จ ตถาปวตฺตํ ทิฏฺิคตเมว ปวุจฺจติ.
ตโย คนฺถา จ วตฺถุโต;
อุปาทานา ทุเว วุตฺตา,
อฏฺ นีวรณา สิยุํ.
ฉเฬวานุสยา ¶ โหนฺติ, นว สํโยชนา มตา;
กิเลสา ทส วุตฺโตยํ, นวธา ปาปสงฺคโห.
มิสฺสกสงฺคโห
๑๕. มิสฺสกสงฺคเห ฉ เหตู – โลโภ โทโส โมโห อโลโภ อโทโส อโมโห.
๑๖. สตฺต ¶ ฌานงฺคานิ – วิตกฺโก วิจาโร ปีติ เอกคฺคตา โสมนสฺสํ โทมนสฺสํ อุเปกฺขา.
๑๗. ทฺวาทส มคฺคงฺคานิ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสมาธิ.
๑๘. พาวีสตินฺทฺริยานิ – จกฺขุนฺทฺริยํ โสตินฺทฺริยํ ฆานินฺทฺริยํ ชิวฺหินฺทฺริยํ กายินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุเปกฺขินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
๑๙. นว พลานิ – สทฺธาพลํ วีริยพลํ สติพลํ สมาธิพลํ ปฺาพลํ หิริพลํ โอตฺตปฺปพลํ อหิริกพลํ อโนตฺตปฺปพลํ.
๒๐. จตฺตาโร อธิปตี – ฉนฺทาธิปติ วีริยาธิปติ จิตฺตาธิปติ วีมํสาธิปติ.
๒๑. จตฺตาโร อาหารา – กพฬีกาโร อาหาโร, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถํ.
๒๒. อินฺทฺริเยสุ ¶ ปเนตฺถ โสตาปตฺติมคฺคาณํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ.
๒๓. อรหตฺตผลาณํ อฺาตาวินฺทฺริยํ.
๒๔. มชฺเฌ ฉ าณานิ อฺินฺทฺริยานีติ ปวุจฺจนฺติ.
๒๕. ชีวิตินฺทฺริยฺจ รูปารูปวเสน ทุวิธํ โหติ.
๒๖. ปฺจวิฺาเณสุ ฌานงฺคานิ, อวีริเยสุ พลานิ, อเหตุเกสุ มคฺคงฺคานิ น ลพฺภนฺติ.
๒๗. ตถา ¶ วิจิกิจฺฉาจิตฺเต เอกคฺคตา มคฺคินฺทฺริยพลภาวํ น คจฺฉติ.
๒๘. ทฺวิเหตุกติเหตุกชวเนสฺเวว ยถาสมฺภวํ อธิปติ เอโกว ลพฺภตีติ.
๒๙. ฉ เหตู ปฺจ ฌานงฺคา, มคฺคงฺคา นว วตฺถุโต.
โสฬสินฺทฺริยธมฺมา จ, พลธมฺมา นเวริตา.
จตฺตาโรธิปติ วุตฺตา, ตถาหาราติ สตฺตธา;
กุสลาทิสมากิณฺโณ, วุตฺโตมิสฺสกสงฺคโห.
โพธิปกฺขิยสงฺคโห
๓๐. โพธิปกฺขิยสงฺคเห จตฺตาโร สติปฏฺานา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ.
๓๑. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ปหานาย วายาโม, อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อนุปฺปาทาย วายาโม, อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ อุปฺปาทาย วายาโม, อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ภิยฺโยภาวาย วายาโม.
๓๒. จตฺตาโร ¶ อิทฺธิปาทา – ฉนฺทิทฺธิปาโท วีริยิทฺธิปาโท จิตฺติทฺธิปาโท วีมํสิทฺธิปาโท.
๓๓. ปฺจินฺทฺริยานิ – สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ.
๓๔. ปฺจ พลานิ – สทฺธาพลํ วีริยพลํ สติพลํ สมาธิพลํ ปฺาพลํ.
๓๕. สตฺต โพชฺฌงฺคา – สติสมฺโพชฺฌงฺโค ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค.
๓๖. อฏฺ ¶ มคฺคงฺคานิ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ.
๓๗. เอตฺถ ปน จตฺตาโร สติปฏฺานาติ สมฺมาสติ เอกาว ปวุจฺจติ.
๓๘. ตถา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ จ สมฺมาวายาโม.
๓๙. ฉนฺโท จิตฺตมุเปกฺขา จ, สทฺธาปสฺสทฺธิปีติโย.
สมฺมาทิฏฺิ จ สงฺกปฺโป, วายาโม วิรติตฺตยํ.
สมฺมาสติ สมาธีติ, จุทฺทเสเต สภาวโต;
สตฺตตึสปฺปเภเทน, สตฺตธา ตตฺถ สงฺคโห.
๔๐. สงฺกปฺปปสฺสทฺธิ จ ปีตุเปกฺขา,
ฉนฺโท จ จิตฺตํ วิรติตฺตยฺจ;
นเวกานา วิริยํ นวฏฺ,
สตี สมาธี จตุ ปฺจ ปฺา;
สทฺธา ทุานุตฺตมสตฺตตึส-
ธมฺมานเมโส ปวโร วิภาโค.
๔๑. สพฺเพ ¶ โลกุตฺตเร โหนฺติ, น วา สงฺกปฺปปีติโย.
โลกิเยปิ ยถาโยคํ, ฉพฺพิสุทฺธิปวตฺติยํ.
สพฺพสงฺคโห
๔๒. สพฺพสงฺคเห ปฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ.
๔๓. ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ¶ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ เวทนุปาทานกฺขนฺโธ สฺุปาทานกฺขนฺโธ สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ.
๔๔. ทฺวาทสายตนานิ – จกฺขายตนํ โสตายตนํ ฆานายตนํ ชิวฺหายตนํ กายายตนํ มนายตนํ รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ ธมฺมายตนํ.
๔๕. อฏฺารส ธาตุโย – จกฺขุธาตุ โสตธาตุ ฆานธาตุ ชิวฺหาธาตุ กายธาตุ รูปธาตุ สทฺทธาตุ คนฺธธาตุ รสธาตุ โผฏฺพฺพธาตุ จกฺขุวิฺาณธาตุ โสตวิฺาณธาตุ ฆานวิฺาณธาตุ ชิวฺหาวิฺาณธาตุ กายวิฺาณธาตุ มโนธาตุ ธมฺมธาตุ มโนวิฺาณธาตุ.
๔๖. จตฺตาริ อริยสจฺจานิ – ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรโธ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ.
๔๗. เอตฺถ ปน เจตสิกสุขุมรูปนิพฺพานวเสน เอกูนสตฺตติ ธมฺมา ธมฺมายตนธมฺมธาตูติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
๔๘. มนายตนเมว สตฺตวิฺาณธาตุวเสน ภิชฺชติ.
๔๙. รูปฺจ เวทนา สฺา, เสสเจตสิกา ตถา.
วิฺาณมิติ ปฺเจเต, ปฺจกฺขนฺธาติ ภาสิตา.
๕๐. ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ ¶ , ตถา เตภูมกา มตา.
เภทาภาเวน นิพฺพานํ, ขนฺธสงฺคหนิสฺสฏํ.
๕๑. ทฺวารารมฺมณเภเทน, ภวนฺตายตนานิ จ.
ทฺวาราลมฺพตทุปฺปนฺน-ปริยาเยน ธาตุโย.
๕๒. ทุกฺขํ ¶ เตภูมกํ วฏฺฏํ, ตณฺหา สมุทโย ภเว.
นิโรโธ นาม นิพฺพานํ, มคฺโค โลกุตฺตโร มโต.
๕๓. มคฺคยุตฺตา ผลา เจว, จตุสจฺจวินิสฺสฏา.
อิติ ปฺจปฺปเภเทน, ปวุตฺโต สพฺพสงฺคโห.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห สมุจฺจยสงฺคหวิภาโค นาม
สตฺตโม ปริจฺเฉโท.
๘. ปจฺจยปริจฺเฉโท
๑. เยสํ สงฺขตธมฺมานํ, เย ธมฺมา ปจฺจยา ยถา.
ตํ วิภาคมิเหทานิ, ปวกฺขามิ ยถารหํ.
๒. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย ปฏฺานนโย เจติ ปจฺจยสงฺคโห ทุวิโธ เวทิตพฺโพ.
๓. ตตฺถ ตพฺภาวภาวีภาวาการมตฺโตปลกฺขิโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย, ปฏฺานนโย ปน อาหจฺจปจฺจยฏฺิติมารพฺภ ปวุจฺจติ, อุภยํ ปน โวมิสฺเสตฺวา ปปฺเจนฺติ อาจริยา.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย
๔. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว ¶ , ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ¶ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ อยเมตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย.
๕. ตตฺถ ตโย อทฺธา ทฺวาทสงฺคานิ วีสตาการา ติสนฺธิ จตุสงฺเขปา ตีณิ วฏฺฏานิ ทฺเว มูลานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๖. กถํ? อวิชฺชาสงฺขารา อตีโต อทฺธา, ชาติชรามรณํ อนาคโต อทฺธา, มชฺเฌ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธาติ ตโย อทฺธา.
๗. อวิชฺชา สงฺขารา วิฺาณํ นามรูปํ สฬายตนํ ผสฺโส เวทนา ตณฺหา อุปาทานํ ภโว ชาติ ชรามรณนฺติ ทฺวาทสงฺคานิ.
๘. โสกาทิวจนํ ปเนตฺถ นิสฺสนฺทผลนิทสฺสนํ.
๙. อวิชฺชาสงฺขารคฺคหเณน ปเนตฺถ ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตา ภวนฺติ, ตถา ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาสงฺขารา, ชาติชรามรณคฺคหเณน จ วิฺาณาทิผลปฺจกเมว คหิตนฺติ กตฺวา –
๑๐. อตีเต เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ.
อิทานิ เหตโว ปฺจ, อายตึ ผลปฺจกนฺติ;
วีสตาการา ติสนฺธิ, จตุสงฺเขปา จ ภวนฺติ.
๑๑. อวิชฺชาตณฺหุปาทานา จ กิเลสวฏฺฏํ, กมฺมภวสงฺขาโต ภเวกเทโส สงฺขารา จ กมฺมวฏฺฏํ, อุปปตฺติภวสงฺขาโต ภเวกเทโส อวเสสา จ วิปากวฏฺฏนฺติ ตีณิ วฏฺฏานิ.
๑๒. อวิชฺชาตณฺหาวเสน ทฺเว มูลานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๑๓. เตสเมว ¶ ¶ จ มูลานํ, นิโรเธน นิรุชฺฌติ.
ชรามรณมุจฺฉาย, ปีฬิตานมภิณฺหโส;
อาสวานํ สมุปฺปาทา, อวิชฺชา จ ปวตฺตติ.
วฏฺฏมาพนฺธมิจฺเจวํ, เตภูมกมนาทิกํ;
ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ, ปฏฺเปสิ มหามุนิ.
ปฏฺานนโย
๑๔. เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย อธิปติปจฺจโย อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรปจฺจโย สหชาตปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตปจฺจโย อาเสวนปจฺจโย กมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย อาหารปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย ฌานปจฺจโย มคฺคปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจโย วิปฺปยุตฺตปจฺจโย อตฺถิปจฺจโย นตฺถิปจฺจโย วิคตปจฺจโย อวิคตปจฺจโยติ อยเมตฺถ ปฏฺานนโย.
๑๕. ฉธา นามํ ตุ นามสฺส, ปฺจธา นามรูปินํ.
เอกธา ปุน รูปสฺส, รูปํ นามสฺส เจกธา.
ปฺตฺตินามรูปานิ, นามสฺส ทุวิธา ทฺวยํ;
ทฺวยสฺส นวธา เจติ, ฉพฺพิธา ปจฺจยา กถํ.
๑๖. อนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อนนฺตรสมนนฺตรนตฺถิวิคตวเสน, ปุริมานิ ชวนานิ ปจฺฉิมานํ ชวนานํ อาเสวนวเสน, สหชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺํ สมฺปยุตฺตวเสเนติ จ ฉธา นามํ นามสฺส ปจฺจโย โหติ.
๑๗. เหตุฌานงฺคมคฺคงฺคานิ สหชาตานํ นามรูปานํ เหตาทิวเสน, สหชาตา เจตนา สหชาตานํ นามรูปานํ, นานากฺขณิกา เจตนา กมฺมาภินิพฺพตฺตานํ นามรูปานํ กมฺมวเสน, วิปากกฺขนฺธา ¶ อฺมฺํ สหชาตานํ รูปานํ วิปากวเสเนติ ¶ จ ปฺจธา นามํ นามรูปานํ ปจฺจโย โหติ.
๑๘. ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตวเสเนติ เอกธาว นามํ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ.
๑๙. ฉ วตฺถูนิ ปวตฺติยํ สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ ปฺจารมฺมณานิ จ ปฺจวิฺาณวีถิยา ปุเรชาตวเสเนติ เอกธาว รูปํ นามสฺส ปจฺจโย โหติ.
๒๐. อารมฺมณวเสน อุปนิสฺสยวเสเนติ จ ทุวิธา ปฺตฺตินามรูปานิ นามสฺเสว ปจฺจยา โหนฺติ.
๒๑. ตตฺถ รูปาทิวเสน ฉพฺพิธํ โหติ อารมฺมณํ.
๒๒. อุปนิสฺสโย ปน ติวิโธ โหติ – อารมฺมณูปนิสฺสโย อนนฺตรูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย เจติ.
๒๓. ตตฺถ อารมฺมณเมว ครุกตํ อารมฺมณูปนิสฺสโย.
๒๔. อนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อนนฺตรูปนิสฺสโย.
๒๕. ราคาทโย ปน ธมฺมา สทฺธาทโย จ สุขํ ทุกฺขํ ปุคฺคโล โภชนํ อุตุเสนาสนฺจ ยถารหํ อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ กุสลาทิธมฺมานํ, กมฺมํ วิปากานนฺติ จ พหุธา โหติ ปกตูปนิสฺสโย.
๒๖. อธิปติสหชาตอฺมฺนิสฺสยอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสเนติ ยถารหํ นวธา นามรูปานิ นามรูปานํ ปจฺจยา ภวนฺติ.
๒๗. ตตฺถ ¶ ครุกตมารมฺมณํ อารมฺมณาธิปติวเสน นามานํ, สหชาตาธิปติ จตุพฺพิโธปิ สหชาตวเสน สหชาตานํ นามรูปานนฺติ จ ทุวิโธ โหติ อธิปติปจฺจโย.
๒๘. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ¶ อฺมฺํ สหชาตรูปานฺจ, มหาภูตา อฺมฺํ อุปาทารูปานฺจ, ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุวิปากา อฺมฺนฺติ จ ติวิโธ โหติ สหชาตปจฺจโย.
๒๙. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺํ, มหาภูตา อฺมฺํ, ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุวิปากา อฺมฺนฺติ จ ติวิโธ โหติ อฺมฺปจฺจโย.
๓๐. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺํ สหชาตรูปานฺจ, มหาภูตา อฺมฺํ อุปาทารูปานฺจ, ฉ วตฺถูนิ สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนนฺติ จ ติวิโธ โหติ นิสฺสยปจฺจโย.
๓๑. กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส, อรูปิโน อาหารา สหชาตานํ นามรูปานนฺติ จ ทุวิโธ โหติ อาหารปจฺจโย.
๓๒. ปฺจ ปสาทา ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ, รูปชีวิตินฺทฺริยํ อุปาทินฺนรูปานํ, อรูปิโน อินฺทฺริยา สหชาตานํ นามรูปานนฺติ จ ติวิโธ โหติ อินฺทฺริยปจฺจโย.
๓๓. โอกฺกนฺติกฺขเณ วตฺถุ วิปากานํ, จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สหชาตรูปานํ สหชาตวเสน, ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตวเสน ฉ วตฺถูนิ ปวตฺติยํ สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ ปุเรชาตวเสเนติ จ ติวิโธ โหติ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย.
๓๔. สหชาตํ ปุเรชาตํ, ปจฺฉาชาตฺจ สพฺพถา.
กพฬีกาโร อาหาโร, รูปชีวิตมิจฺจยนฺติ. –
ปฺจวิโธ โหติ อตฺถิปจฺจโย อวิคตปจฺจโย จ.
๓๕. อารมฺมณูปนิสฺสยกมฺมตฺถิปจฺจเยสุ ¶ จ สพฺเพปิ ปจฺจยา สโมธานํ คจฺฉนฺติ.
๓๖. สหชาตรูปนฺติ ¶ ปเนตฺถ สพฺพตฺถาปิ ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานฺจ วเสน ทุวิธํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๓๗. อิติ เตกาลิกา ธมฺมา, กาลมุตฺตา จ สมฺภวา.
อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, สงฺขตาสงฺขตา ตถา;
ปฺตฺตินามรูปานํ, วเสน ติวิธา ิตา;
ปจฺจยา นาม ปฏฺาเน, จตุวีสติ สพฺพถา.
๓๘. ตตฺถ รูปธมฺมา รูปกฺขนฺโธว, จิตฺตเจตสิกสงฺขาตา จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, นิพฺพานฺเจติ ปฺจวิธมฺปิ อรูปนฺติ จ นามนฺติ จ ปวุจฺจติ.
ปฺตฺติเภโท
๓๙. ตโต อวเสสา ปฺตฺติ ปน ปฺาปิยตฺตา ปฺตฺติ, ปฺาปนโต ปฺตฺตีติ จ ทุวิธา โหติ.
๔๐. กถํ? ตํตํภูตวิปริณามาการมุปาทาย ตถา ตถา ปฺตฺตา ภูมิปพฺพตาทิกา, สมฺภารสนฺนิเวสาการมุปาทาย เคหรถสกฏาทิกา, ขนฺธปฺจกมุปาทาย ปุริสปุคฺคลาทิกา, จนฺทาวฏฺฏนาทิกมุปาทาย ทิสากาลาทิกา, อสมฺผุฏฺาการมุปาทาย กูปคุหาทิกา, ตํตํภูตนิมิตฺตํ ภาวนาวิเสสฺจ อุปาทาย กสิณนิมิตฺตาทิกา เจติ เอวมาทิปฺปเภทา ปน ปรมตฺถโต อวิชฺชมานาปิ อตฺถจฺฉายากาเรน จิตฺตุปฺปาทานมารมฺมณภูตา ตํ ตํ อุปาทาย อุปนิธาย การณํ กตฺวา ตถา ตถา ปริกปฺปิยมานา สงฺขายติ สมฺายติ โวหรียติ ปฺาปียตีติ ปฺตฺตีติ ปวุจฺจติ. อยํ ปฺตฺติ ปฺาปิยตฺตา ปฺตฺติ นาม.
๔๑. ปฺาปนโต ปฺตฺติ ปน นามนามกมฺมาทินาเมน ปริทีปิตา, สา วิชฺชมานปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน ¶ อวิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ ¶ , วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ เจติ ฉพฺพิธา โหติ.
๔๒. ตตฺถ ยทา ปน ปรมตฺถโต วิชฺชมานํ รูปเวทนาทึ เอตาย ปฺาเปนฺติ, ตทายํ วิชฺชมานปฺตฺติ. ยทา ปน ปรมตฺถโต อวิชฺชมานํ ภูมิปพฺพตาทึ เอตาย ปฺาเปนฺติ, ตทายํ อวิชฺชมานปฺตฺตีติ ปวุจฺจติ. อุภินฺนํ ปน โวมิสฺสกวเสน เสสา ยถากฺกมํ ฉฬภิฺโ, อิตฺถิสทฺโท, จกฺขุวิฺาณํ, ราชปุตฺโตติ จ เวทิตพฺพา.
๔๓. วจีโฆสานุสาเรน, โสตวิฺาณวีถิยา.
ปวตฺถานนฺตรุปฺปนฺน-มโนทฺวารสฺส โคจรา.
อตฺถา ยสฺสานุสาเรน, วิฺายนฺติ ตโต ปรํ;
สายํ ปฺตฺติ วิฺเยฺยา, โลกสงฺเกตนิมฺมิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห ปจฺจยสงฺคหวิภาโค นาม
อฏฺโม ปริจฺเฉโท.
๙. กมฺมฏฺานปริจฺเฉโท
๑. สมถวิปสฺสนานํ, ภาวนานมิโต ปรํ.
กมฺมฏฺานํ ปวกฺขามิ, ทุวิธมฺปิ ยถากฺกมํ.
สมถกมฺมฏฺานํ
๒. ตตฺถ สมถสงฺคเห ตาว ทส กสิณานิ, ทส อสุภา, ทส อนุสฺสติโย, จตสฺโส อปฺปมฺาโย, เอกา สฺา, เอกํ ววตฺถานํ, จตฺตาโร อารุปฺปา เจติ สตฺตวิเธน สมถกมฺมฏฺานสงฺคโห.
จริตเภโท
๓. ราคจริตา ¶ ¶ โทสจริตา โมหจริตา สทฺธาจริตา พุทฺธิจริตา วิตกฺกจริตา เจติ ฉพฺพิเธน จริตสงฺคโห.
ภาวนาเภโท
๔. ปริกมฺมภาวนา อุปจารภาวนา อปฺปนาภาวนา เจติ ติสฺโส ภาวนา.
นิมิตฺตเภโท
๕. ปริกมฺมนิมิตฺตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฏิภาคนิมิตฺตฺเจติ ตีณิ นิมิตฺตานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๖. กถํ? ปถวีกสิณํ อาโปกสิณํ เตโชกสิณํ วาโยกสิณํ นีลกสิณํ ปีตกสิณํ โลหิตกสิณํ โอทาตกสิณํ อากาสกสิณํ อาโลกกสิณฺเจติ อิมานิ ทส กสิณานิ นาม.
๗. อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกํ วิจฺฉิทฺทกํ วิกฺขายิตกํ วิกฺขิตฺตกํ หตวิกฺขิตฺตกํ โลหิตกํ ปุฬวกํ อฏฺิกฺเจติ อิเม ทส อสุภา นาม.
๘. พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สํฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ มรณานุสฺสติ กายคตาสติ อานาปานสฺสติ เจติ อิมา ทส อนุสฺสติโย นาม.
๙. เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขา เจติ อิมา จตสฺโส อปฺปมฺาโย นาม, พฺรหฺมวิหาโรติ จ ปวุจฺจติ.
๑๐. อาหาเรปฏิกูลสฺา เอกา สฺา นาม.
๑๑. จตุธาตุววตฺถานํ ¶ เอกํ ววตฺถานํ นาม.
๑๒. อากาสานฺจายตนาทโย ¶ จตฺตาโร อารุปฺปา นามาติ สพฺพถาปิ สมถนิทฺเทเส จตฺตาลีส กมฺมฏฺานานิ ภวนฺติ.
สปฺปายเภโท
๑๓. จริตาสุ ปน ทส อสุภา กายคตาสติสงฺขาตา โกฏฺาสภาวนา จ ราคจริตสฺส สปฺปายา.
๑๔. จตสฺโส อปฺปมฺาโย นีลาทีนิ จ จตฺตาริ กสิณานิ โทสจริตสฺส.
๑๕. อานาปานํ โมหจริตสฺส วิตกฺกจริตสฺส จ,
๑๖. พุทฺธานุสฺสติอาทโย ฉ สทฺธาจริตสฺส.
๑๗. มรณอุปสมสฺาววตฺถานานิ พุทฺธิจริตสฺส.
๑๘. เสสานิ ปน สพฺพานิปิ กมฺมฏฺานานิ สพฺเพสมฺปิ สปฺปายานิ, ตตฺถาปิ กสิเณสุ ปุถุลํ โมหจริตสฺส, ขุทฺทกํ วิตกฺกจริตสฺเสวาติ.
อยเมตฺถ สปฺปายเภโท.
ภาวนาเภโท
๑๙. ภาวนาสุ สพฺพตฺถาปิ ปริกมฺมภาวนา ลพฺภเตว, พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ อฏฺสุ สฺาววตฺถาเนสุ จาติ ทสสุกมฺมฏฺาเนสุ อุปจารภาวนาว สมฺปชฺชติ, นตฺถิ อปฺปนา.
๒๐. เสเสสุ ปน สมตึสกมฺมฏฺาเนสุ อปฺปนาภาวนาปิ สมฺปชฺชติ.
๒๑. ตตฺถาปิ ¶ ทส กสิณานิ อานาปานฺจ ปฺจกชฺฌานิกานิ.
๒๒. ทส ¶ อสุภา กายคตาสติ จ ปมชฺฌานิกา.
๒๓. เมตฺตาทโย ตโย จตุกฺกชฺฌานิกา.
๒๔. อุเปกฺขา ปฺจมชฺฌานิกาติ ฉพฺพีสติ รูปาวจรชฺฌานิกานิ กมฺมฏฺานานิ.
๒๕. จตฺตาโร ปน อารุปฺปา อารุปฺปชฺฌานิกาติ.
อยเมตฺถ ภาวนาเภโท.
โคจรเภโท
๒๖. นิมิตฺเตสุ ปน ปริกมฺมนิมิตฺตํ อุคฺคหนิมิตฺตฺจ สพฺพตฺถาปิ ยถารหํ ปริยาเยน ลพฺภนฺเตว.
๒๗. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน กสิณาสุภโกฏฺาสอานาปาเนสฺเวว ลพฺภติ, ตตฺถ หิ ปฏิภาคนิมิตฺตมารพฺภ อุปจารสมาธิ อปฺปนาสมาธิ จ ปวตฺตนฺติ.
๒๘. กถํ? อาทิกมฺมิกสฺส หิ ปถวีมณฺฑลาทีสุ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺส ตมารมฺมณํ ปริกมฺมนิมิตฺตนฺติ ปวุจฺจติ, สา จ ภาวนา ปริกมฺมภาวนา นาม.
๒๙. ยทา ปน ตํ นิมิตฺตํ จิตฺเตน สมุคฺคหิตํ โหติ, จกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺเสว มโนทฺวารสฺส อาปาถมาคตํ, ตทา ตเมวารมฺมณํ อุคฺคหนิมิตฺตํ นาม, สา จ ภาวนา สมาธิยติ.
๓๐. ตถา สมาหิตสฺส ปเนตสฺส ตโต ปรํ ตสฺมึ อุคฺคหนิมิตฺเต ปริกมฺมสมาธินา ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส ยทา ตปฺปฏิภาคํ วตฺถุธมฺมวิมุจฺจิตํ ปฺตฺติสงฺขาตํ ภาวนามยมารมฺมณํ จิตฺเต สนฺนิสนฺนํ สมปฺปิตํ โหติ, ตทา ตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ สมุปฺปนฺนนฺติ ปวุจฺจติ.
๓๑. ตโต ¶ ปฏฺาย ปริปนฺถวิปฺปหีนา กามาวจรสมาธิสงฺขาตา อุปจารภาวนา นิปฺผนฺนา นาม โหติ.
๓๒. ตโต ¶ ปรํ ตเมว ปริภาคนิมิตฺตํ อุปจารสมาธินา สมาเสวนฺตสฺส รูปาวจรปมชฺฌานมปฺเปติ.
๓๓. ตโต ปรํ ตเมว ปมชฺฌานํ อาวชฺชนํ สมาปชฺชนํ อธิฏฺานํ วุฏฺานํ ปจฺจเวกฺขณา เจติ อิมาหิ ปฺจหิ วสิตาหิ วสีภูตํ กตฺวา วิตกฺกาทิกโมฬาริกงฺคํ ปหานาย วิจาราทิสุขุมงฺคุปตฺติยา ปทหโต ยถากฺกมํ ทุติยชฺฌานาทโย ยถารหมปฺเปนฺติ.
๓๔. อิจฺเจวํ ปถวีกสิณาทีสุ ทฺวาวีสติกมฺมฏฺาเนสุ ปฏิภาคนิมิตฺตมุปลพฺภติ.
๓๕. อวเสเสสุ ปน อปฺปมฺา สตฺตปฺตฺติยํ ปวตฺตนฺติ.
๓๖. อากาสวชฺชิตกสิเณสุ ปน ยํ กิฺจิ กสิณํ อุคฺฆาเฏตฺวา ลทฺธมากาสํ อนนฺตวเสน ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ปมารุปฺปมปฺเปติ.
๓๗. ตเมว ปมารุปฺปวิฺาณํ อนนฺตวเสน ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุติยารุปฺปมปฺเปติ.
๓๘. ตเมว ปมารุปฺปวิฺาณาภาวํ ปน ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส ตติยารุปฺปมปฺเปติ.
๓๙. ตติยารุปฺปํ ‘‘สนฺตเมตํ, ปณีตเมต’’นฺติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส จตุตฺถารุปฺปมปฺเปติ.
๔๐. อวเสเสสุ จ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ พุทฺธคุณาทิกมารมฺมณมารพฺภ ปริกมฺมํ กตฺวา ตสฺมึ นิมิตฺเต สาธุกมุคฺคหิเต ตตฺเถว ปริกมฺมฺจ สมาธิยติ, อุปจาโร จ สมฺปชฺชติ.
๔๑. อภิฺาวเสน ¶ ปวตฺตมานํ ปน รูปาวจรปฺจมชฺฌานํ อภิฺาปาทกปฺจมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา อธิฏฺเยฺยาทิกมาวชฺเชตฺวา ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ ยถารหมปฺเปติ.
๔๒. อภิฺา ¶ จ นาม –
อิทฺธิวิธํ ทิพฺพโสตํ, ปรจิตฺตวิชานนา;
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, ทิพฺพจกฺขูติ ปฺจธา.
อยเมตฺถ โคจรเภโท.
นิฏฺิโต จ สมถกมฺมฏฺานนโย.
วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ
วิสุทฺธิเภโท
๔๓. วิปสฺสนากมฺมฏฺาเน ปน สีลวิสุทฺธิ จิตฺตวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ าณทสฺสนวิสุทฺธิ เจติ สตฺตวิเธน วิสุทฺธิสงฺคโห.
๔๔. อนิจฺจลกฺขณํ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตลกฺขณฺเจติ ตีณิ ลกฺขณานิ.
๔๕. อนิจฺจานุปสฺสนา ทุกฺขานุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนา เจติ ติสฺโส อนุปสฺสนา.
๔๖. สมฺมสนาณํ อุทยพฺพยาณํ ภงฺคาณํ ภยาณํ อาทีนวาณํ นิพฺพิทาาณํ มุจฺจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อนุโลมาณฺเจติ ทส วิปสฺสนาาณานิ.
๔๗. สฺุโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข เจติ ตโย วิโมกฺขา.
๔๘. สฺุตานุปสฺสนา ¶ อนิมิตฺตานุปสฺสนา อปฺปณิหิตานุปสฺสานา เจติ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ จ เวทิตพฺพานิ.
๔๙. กถํ ¶ ? ปาติโมกฺขสํวรสีลํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลฺเจติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ สีลวิสุทฺธิ นาม.
๕๐. อุปจารสมาธิ อปฺปนาสมาธิ เจติ ทุวิโธปิ สมาธิ จิตฺตวิสุทฺธิ นาม.
๕๑. ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน นามรูป ปริคฺคโห ทิฏฺิวิสุทฺธิ นาม.
๕๒. เตสเมว จ นามรูปานํ ปจฺจยปริคฺคโห กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ นาม.
๕๓. ตโต ปรํ ปน ตถาปริคฺคหิเตสุ สปฺปจฺจเยสุ เตภูมกสงฺขาเรสุ อตีตาทิเภทภินฺเนสุ ขนฺธาทินยมารพฺภ กลาปวเสน สงฺขิปิตฺวา ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนา’’ติ อทฺธานวเสน สนฺตติวเสน ขณวเสน วา สมฺมสนาเณน ลกฺขณตฺตยํ สมฺมสนฺตสฺส เตสฺเวว ปจฺจยวเสน ขณวเสน จ อุทยพฺพยาเณน อุทยพฺพยํ สมนุปสฺสนฺตสฺส จ –
‘‘โอภาโส ปีติ ปสฺสทฺธิ, อธิโมกฺโข จ ปคฺคโห;
สุขํ าณมุปฏฺานมุเปกฺขา จ นิกนฺติ เจ’’ติ. –
โอภาสาทิวิปสฺสนุปกฺกิเลสปริปนฺถปริคฺคหวเสน มคฺคามคฺคลกฺขณววตฺถานํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
๕๔. ตถา ปริปนฺถวิมุตฺตสฺส ปน ตสฺส อุทยพฺพยาณโต ปฏฺาย ยา วานุโลมา ติลกฺขณํ วิปสฺสนาปรมฺปราย ปฏิปชฺชนฺตสฺส นว วิปสฺสนาาณานิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
๕๕. ตสฺเสวํ ปฏิปชฺชนฺตสฺส ¶ ปน วิปสฺสนาปริปากมาคมฺม ‘‘อิทานิ อปฺปนา อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ภวงฺคํ โวจฺฉิชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนมโนทฺวาราวชฺชนานนฺตรํ ทฺเว ตีณิ วิปสฺสนาจิตฺตานิ ยํ กิฺจิ อนิจฺจาทิลกฺขณมารพฺภ ปริกมฺโมปจารานุโลมนาเมน ปวตฺตนฺติ.
๕๖. ยา ¶ สิขาปฺปตฺตา, สา สานุโลมา สงฺขารุเปกฺขา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาติ จ ปวุจฺจติ.
๕๗. ตโต ปรํ โคตฺรภุจิตฺตํ นิพฺพานมาลมฺพิตฺวา ปุถุชฺชนโคตฺตมภิภวนฺตํ, อริยโคตฺตมภิสมฺโภนฺตฺจ ปวตฺตติ.
๕๘. ตสฺสานนฺตรเมว มคฺโค ทุกฺขสจฺจํ ปริชานนฺโต สมุทยสจฺจํ ปชหนฺโต, นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกโรนฺโต, มคฺคสจฺจํ ภาวนาวเสน อปฺปนาวีถิโมตรติ.
๕๙. ตโต ปรํ ทฺเว ตีณิ ผลจิตฺตานิ ปวตฺติตฺวา ภวงฺคปาโตว โหติ, ปุน ภวงฺคํ โวจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาณานิ ปวตฺตนฺติ.
๖๐. มคฺคํ ผลฺจ นิพฺพานํ, ปจฺจเวกฺขติ ปณฺฑิโต.
หีเน กิเลเส เสเส จ, ปจฺจเวกฺขติ วาน วา.
ฉพฺพิสุทฺธิกเมเนวํ, ภาเวตพฺโพ จตุพฺพิโธ;
าณทสฺสนวิสุทฺธิ, นาม มคฺโค ปวุจฺจติ.
อยเมตฺถ วิสุทฺธิเภโท.
วิโมกฺขเภโท
๖๑. ตตฺถ อนตฺตานุปสฺสนา อตฺตาภินิเวสํ มฺุจนฺตี สฺุตานุปสฺสนา นาม วิโมกฺขมุขํ โหติ.
๖๒. อนิจฺจานุปสฺสนา ¶ วิปลฺลาสนิมิตฺตํ มฺุจนฺตี อนิมิตฺตานุปสฺสนา นาม.
๖๓. ทุกฺขานุปสฺสนา ¶ ตณฺหาปณิธึ มฺุจนฺตี อปฺปณิหิตานุปสฺสนา นาม.
๖๔. ตสฺมา ยทิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อนตฺตโต วิปสฺสติ, สฺุโต วิโมกฺโข นาม โหติ มคฺโค.
๖๕. ยทิ อนิจฺจโต วิปสฺสติ, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข นาม.
๖๖. ยทิ ทุกฺขโต วิปสฺสติ, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข นามาติ จ มคฺโค วิปสฺสนาคมนวเสน ตีณิ นามานิ ลภติ, ตถา ผลฺจ มคฺคาคมนวเสน มคฺควีถิยํ.
๖๗. ผลสมาปตฺติวีถิยํ ปน ยถาวุตฺตนเยน วิปสฺสนฺตานํ ยถาสกผลมุปฺปชฺชมานมฺปิ วิปสฺสนาคมนวเสเนว สฺุตาทิวิโมกฺโขติ จ ปวุจฺจติ, อารมฺมณวเสน ปน สรสวเสน จ นามตฺตยํ สพฺพตฺถ สพฺเพสมฺปิ สมเมว จ.
อยเมตฺถ วิโมกฺขเภโท.
ปุคฺคลเภโท
๖๘. เอตฺถ ปน โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวตฺวา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาปหาเนน ปหีนาปายคมโน สตฺตกฺขตฺตุปรโม โสตาปนฺโน นาม โหติ.
๖๙. สกทาคามิมคฺคํ ภาเวตฺวา ราคโทสโมหานํ ตนุกรตฺตา สกทาคามี นาม โหติ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา.
๗๐. อนาคามิมคฺคํ ¶ ภาเวตฺวา กามราคพฺยาปาทานมนวเสสปฺปหาเนน อนาคามี นาม โหติ อนาคนฺตฺวา อิตฺถตฺตํ.
๗๑. อรหตฺตมคฺคํ ภาเวตฺวา อนวเสสกิเลสปฺปหาเนน อรหา นาม โหติ ขีณาสโว โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโยติ.
อยเมตฺถ ปุคฺคลเภโท.
สมาปตฺติเภโท
๗๒. ผลสมาปตฺติวีถิยํ ¶ ปเนตฺถ สพฺเพสมฺปิ ยถาสกผลวเสน สาธารณาว.
๗๓. นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนํ ปน อนาคามีนฺเจว อรหนฺตานฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ยถากฺกมํ ปมชฺฌานาทิมหคฺคตสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ คเต สงฺขารธมฺเม ตตฺถ ตตฺเถว วิปสฺสนฺโต ยาว อากิฺจฺายตนํ คนฺตฺวา ตโต ปรํ อธิฏฺเยฺยาทิกํ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ, ตสฺส ทฺวินฺนํ อปฺปนาชวนานํ ปรโต โวจฺฉิชฺชติ จิตฺตสนฺตติ, ตโต นิโรธสมาปนฺโน นาม โหติ.
๗๔. วุฏฺานกาเล ปน อนาคามิโน อนาคามิผลจิตฺตํ, อรหโต อรหตฺตผลจิตฺตํ เอกวารเมว ปวตฺติตฺวา ภวงฺคปาโต โหติ, ตโต ปรํ ปจฺจเวกฺขณาณํ ปวตฺตติ.
อยเมตฺถ สมาปตฺติเภโท.
นิฏฺิโต จ วิปสฺสนากมฺมฏฺานนโย.
อุยฺโยชนํ
๗๕. ภาเวตพฺพํ ¶ ปนิจฺเจวํ, ภาวนาทฺวยมุตฺตมํ.
ปฏิปตฺติรสสฺสาทํ, ปตฺถยนฺเตน สาสเนติ.
อิติ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห กมฺมฏฺานสงฺคหวิภาโค นาม
นวโม ปริจฺเฉโท.
นิคมนํ
(ก) จาริตฺตโสภิตวิสาลกุโลทเยน ¶ ,
สทฺธาภิวุฑฺฒปริสุทฺธคุโณทเยน;
นมฺปวฺหเยน ปณิธาย ปรานุกมฺปํ,
ยํ ปตฺถิตํ ปกรณํ ปรินิฏฺิตํ ตํ.
(ข) ปฺุเน เตน วิปุเลน ตุ มูลโสมํ;
ธฺาธิวาสมุทิโตทิตมายุกนฺตํ;
ปฺาวทาตคุณโสภิตลชฺชิภิกฺขู,
มฺนฺตุ ปฺุวิภโวทยมงฺคลาย.
อิติ อนุรุทฺธาจริเยน รจิตํ
อภิธมฺมตฺถสงฺคหํ นาม ปกรณํ.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
อภิธมฺมตฺถวิภาวินีฏีกา
คนฺถารมฺภกถา
(ก) วิสุทฺธกรุณาาณํ ¶ ¶ , พุทฺธํ สมฺพุทฺธปูชิตํ;
ธมฺมํ สทฺธมฺมสมฺภูตํ, นตฺวา สํฆํ นิรงฺคณํ.
(ข) สาริปุตฺตํ มหาเถรํ, ปริยตฺติวิสารทํ;
วนฺทิตฺวา สิรสา ธีรํ, ครุํ คารวภาชนํ.
(ค) วณฺณยิสฺสํ สมาเสน, อภิธมฺมตฺถสงฺคหํ;
อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ, ปรํ ปีติวิวฑฺฒนํ.
(ฆ) โปราเณหิ ¶ อเนกาปิ, กตา ยา ปน วณฺณนา;
น ตาหิ สกฺกา สพฺพตฺถ, อตฺโถ วิฺาตเว อิธ.
(ง) ตสฺมา ลีนปทาเนตฺถ, สาธิปฺปายมหาปยํ;
วิภาเวนฺโต สมาเสน, รจยิสฺสามิ วณฺณนนฺติ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
๑. ปรมวิจิตฺตนยสมนฺนาคตํ สกสมยสมยนฺตรคหนวิคฺคาหณสมตฺถํ สุวิมลวิปุลปฺาเวยฺยตฺติยชนนํ ปกรณมิทมารภนฺโตยมาจริโย ปมํ ตาว รตนตฺตยปณามาภิเธยฺย กรณปฺปการปกรณาภิธานปโยชนานิ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺตฺยาทิมาห.
เอตฺถ ¶ หิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธ…เป… อภิวาทิยา’’ติ อิมินา รตนตฺตยปณาโม วุตฺโต, อภิธมฺมตฺถสงฺคห’’นฺติ เอเตน อภิเธยฺยกรณปฺปการปกรณาภิธานานิ อภิธมฺมตฺถานํ อิธ สงฺคเหตพฺพภาวทสฺสเนน เตสํ อิมินา สมุทิเตน ปฏิปาเทตพฺพภาวทีปนโต, เอกตฺถ สงฺคยฺห กถนาการทีปนโต, อตฺถานุคตสมฺาปริทีปนโต จ. ปโยชนํ ปน สงฺคหปเทน สามตฺถิยโต ทสฺสิตเมว อภิธมฺมตฺถานํ เอกตฺถ สงฺคเห สติ ตทุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน เตสํ สรูปาวโพธสฺส, ตมฺมูลิกาย จ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสิทฺธิยา อนายาเสน สํสิชฺฌนโต.
ตตฺถ รตนตฺตยปณามปฺปโยชนํ ตาว พหุธา ปปฺเจนฺติ อาจริยา, วิเสสโต ปน อนฺตรายนิวารณํ ปจฺจาสีสนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ สงฺคหกาเรหิ ‘‘ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา). รตนตฺตยปณาโม หิ อตฺถโต ปณามกิริยาภินิปฺผาทิกา กุสลเจตนา, สา จ วนฺทเนยฺยวนฺทกานํ เขตฺตชฺฌาสยสมฺปทาหิ ทิฏฺธมฺมเวทนียภูตา ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส กมฺมสฺส อนุพลปฺปทานวเสน ตนฺนิพฺพตฺติตวิปากสนฺตติยา อนฺตรายกรานิ อุปปีฬกอุปจฺเฉทกกมฺมานิ ปฏิพาหิตฺวา ตนฺนิทานานํ ยถาธิปฺเปตสิทฺธิวิพนฺธกานํ โรคาทิอนฺตรายานมปฺปวตฺตึ สาเธติ. ตสฺมา ปกรณารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถารทฺธปกรณสฺส อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถฺเจว โสตูนฺจ วนฺทนาปุพฺพงฺคมาย ปฏิปตฺติยา อนนฺตราเยน อุคฺคหณธารณาทิสํสิชฺฌนตฺถฺจ. อภิเธยฺยกถนํ ปน วิทิตาภิเธยฺยสฺเสว คนฺถสฺส วิฺูหิ อุคฺคหณาทิวเสน ¶ ปฏิปชฺชิตพฺพภาวโต. กรณปฺปการปฺปโยชนสนฺทสฺสนานิ จ โสตุชนสมุสฺสาหชนนตฺถํ. อภิธานกถนํ ปน โวหารสุขตฺถนฺติ อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ. อยํ ปน อวยวตฺโถ ¶ – สสทฺธมฺมคณุตฺตมํ อตุลํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาทิย อภิธมฺมตฺถสงฺคหํ ภาสิสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ.
ตตฺถ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺเม อภิสมฺพุทฺโธติ สมฺมา สมฺพุทฺโธ, ภควา. โส หิ สงฺขตาสงฺขตเภทํ สกลมฺปิ ธมฺมชาตํ ยาถาวสรสลกฺขณปฏิเวธวเสน สมฺมา สยํ วิจิโตปจิตปารมิตาสมฺภูเตน สยมฺภูาเณน สามํ พุชฺฌิ อฺาสิ. ยถาห ‘‘สยํ อภิฺาย กมุทฺทิเสยฺย’’นฺติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; ธ. ป. ๓๕๓), อถ วา พุธธาตุสฺส ชาครณวิกสนตฺเถสุปิ ปวตฺตนโต สมฺมา สามฺจ ปฏิพุทฺโธ อนฺปฏิโพธิโต หุตฺวา สยเมว สวาสนสมฺโมหนิทฺทาย อจฺจนฺตํ วิคโต, ทินกรกิรณสมาคเมน ปรมรุจิรสิริโสภคฺคปฺปตฺติยา วิกสิตมิว ปทุมํ อคฺคมคฺคาณสมาคเมน อปริมิตคุณคณาลงฺกตสพฺพฺุตฺาณปฺปตฺติยา สมฺมา สยเมว วิกสิโต วิกาสมนุปฺปตฺโตตฺยตฺโถ. ยถาวุตฺตวจนตฺถโยเคปิ สมฺมาสมฺพุทฺธสทฺทสฺส ภควติ สมฺาวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อตุล’’นฺติ อิมินา วิเสเสติ. ตุลาย สมฺมิโต ตุลฺโย, โสเยว ตุโล ยการโลปวเสน. อถ วา สมฺมิตตฺเถ อการปจฺจยวเสน ตุลาย สมฺมิโต ตุโล, น ตุโล อตุโล, สีลาทีหิ คุเณหิ เกนจิ อสทิโส, นตฺถิ เอตสฺส วา ตุโล สทิโสติ อตุโล สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลภาวโต. ยถาห ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๔.๓๔; ๕.๓๒; อิติวุ. ๙๐).
เอตฺตาวตา จ เหตุผลสตฺตูปการสมฺปทาวเสน ตีหากาเรหิ ภควโต โถมนา กตา โหติ. ตตฺถ เหตุสมฺปทา นาม มหากรุณาสมาโยโค โพธิสมฺภารสมฺภรณฺจ ¶ . ผลสมฺปทา ปน าณปหานอานุภาวรูปกายสมฺปทาวเสน จตุพฺพิธา. ตตฺถ สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ, ตมฺมูลกานิ จ ทสพลาทิาณานิ าณสมฺปทา. สวาสนสกลสํกิเลสานมจฺจนฺตมนุปฺปาทธมฺมตาปาทนํ ปหานสมฺปทา. ยถิจฺฉิตนิปฺผาทเน อาธิปจฺจํ อานุภาวสมฺปทา. สกลโลกนยนาภิเสกภูตา ปน ลกฺขณานุพฺยฺชนปฺปฏิมณฺฑิตา อตฺตภาวสมฺปตฺติ รูปกายสมฺปทา นาม. สตฺตูปกาโร ปน อาสยปโยควเสน ทุวิโธ. ตตฺถ เทวทตฺตาทีสุ วิโรธิสตฺเตสุปิ ¶ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยตา, อปริปากคตินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปริปากกาลาคมนฺจ อาสโย นาม. ตทฺสตฺตานํ ปน ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส ยานตฺตยมุเขน สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนา ปโยโค นาม.
ตตฺถ ปุริมา ทฺเว ผลสมฺปทา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ อิมินา ทสฺสิตา, อิตรา ปน ทฺเว, ตถา สตฺตูปการสมฺปทา จ ‘‘อตุล’’นฺติ เอเตน, ตทุปายภูตา ปน เหตุสมฺปทา ทฺวีหิปิ สามตฺถิยโต ทสฺสิตา ตถาวิธเหตุพฺยติเรเกน ตทุภยสมฺปตฺตีนมสมฺภวโต, อเหตุกตฺเต จ สพฺพตฺถ ตาสํ สมฺภวปฺปสงฺคโต.
ตเทวํ ติวิธาวตฺถาสงฺคหิตโถมนาปุพฺพงฺคมํ พุทฺธรตนํ วนฺทิตฺวา อิทานิ เสสรตนานมฺปิ ปณามมารภนฺโต อาห ‘‘สสทฺธมฺมคณุตฺตม’’นฺติ. คุณีภูตานมฺปิ หิ ธมฺมสํฆานํ อภิวาเทตพฺพภาโว สหโยเคน วิฺายติ ยถา ‘‘สปุตฺตทาโร อาคโตติ ปุตฺตทารสฺสาปิ อาคมน’’นฺติ.
ตตฺถ อตฺตานํ ธาเรนฺเต จตูสุ อปาเยสุ, วฏฺฏทุกฺเขสุ จ อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม, จตุมคฺคผลนิพฺพานวเสน นววิโธ, ปริยตฺติยา สห ทสวิโธ วา ธมฺโม. ธารณฺจ ปเนตสฺส อปายาทินิพฺพตฺตกกิเลสวิทฺธํสนํ, ตํ อริยมคฺคสฺส กิเลสสมุจฺเฉทกภาวโต, นิพฺพานสฺส จ ¶ อารมฺมณภาเวน ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตาย นิปฺปริยายโต ลพฺภติ, ผลสฺส ปน กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน มคฺคานุกูลปฺปวตฺติโต, ปริยตฺติยา จ ตทธิคมเหตุตายาติ อุภินฺนมฺปิ ปริยายโตติ ทฏฺพฺพํ. สตํ สปฺปุริสานํ อริยปุคฺคลานํ, สนฺโต วา สํวิชฺชมาโน น ติตฺถิยปริกปฺปิโต อตฺตา วิย ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโน สนฺโต วา ปสตฺโถ สฺวากฺขาตตาทิคุณโยคโต น พาหิรกธมฺโม วิย เอกนฺตนินฺทิโต ธมฺโมติ สทฺธมฺโม, คโณ จ โส อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สมูหภาวโต อุตฺตโม จ สุปฺปฏิปนฺนตาทิคุณวิเสสโยคโต, คณานํ, คเณสุ วา เทวมนุสฺสาทิ สมูเหสุ อุตฺตโม ยถาวุตฺตคุณวเสนาติ คณุตฺตโม, สห สทฺธมฺเมน, คณุตฺตเมน จาติ สสทฺธมฺมคณุตฺตโม, ตํ สสทฺธมฺมคณุตฺตมํ.
อภิวาทิยาติ วิเสสโต วนฺทิตฺวา, ภยลาภกุลาจาราทิวิรเหน สกฺกจฺจํ อาทเรน กายวจีมโนทฺวาเรหิ วนฺทิตฺวาตฺยตฺโถ. ภาสิสฺสนฺติ กเถสฺสามิ. นิพฺพตฺติตปรมตฺถภาเวน อภิ วิสิฏฺา ¶ ธมฺมา เอตฺถาติอาทินา อภิธมฺโม, ธมฺมสงฺคณีอาทิสตฺตปกรณํ อภิธมฺมปิฏกํ, ตตฺถ วุตฺตา อตฺถา อภิธมฺมตฺถา, เต สงฺคยฺหนฺติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา อภิธมฺมตฺถสงฺคหํ.
ปรมตฺถธมฺมวณฺณนา
๒. เอวํ ตาว ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนนิมิตฺตํ รตนตฺตยปณามาทิกํ วิธาย อิทานิ เยสํ อภิธมฺมตฺถานํ สงฺคหณวเสน อิทํ ปกรณํ ปฏฺปียติ, เต ตาว สงฺเขปโต อุทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ วุตฺตา’’ตฺยาทิ. ตตฺถ ตสฺมึ อภิธมฺเม สพฺพถา กุสลาทิวเสน, ขนฺธาทิวเสน จ วุตฺตา อภิธมฺมตฺถา ปรมตฺถโต สมฺมุตึ เปตฺวา นิพฺพตฺติตปรมตฺถวเสน จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ, เจตสิกํ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ¶ ภูตุปาทายเภทภินฺโน รูปกฺขนฺโธ, นิพฺพานํ มคฺคผลานมารมฺมณภูโต อสงฺขตธมฺโมติ เอวํ จตุธา จตูหากาเรหิ ิตาติ โยชนา. ตตฺถ ปรโม อุตฺตโม อวิปรีโต อตฺโถ, ปรมสฺส วา อุตฺตมสฺส าณสฺส อตฺโถ โคจโรติ ปรมตฺโถ.
จินฺเตตีติ จิตฺตํ, อารมฺมณํ วิชานาตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘วิสยวิชานนลกฺขณํ จิตฺต’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ ธมฺมุเทสวารผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา). สติปิ หิ นิสฺสยสมนนฺตราทิปจฺจเยน วินา อารมฺมเณน จิตฺตมุปฺปชฺชตีติ ตสฺส ตํลกฺขณตา วุตฺตา, เอเตน นิรารมฺมณวาทิมตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. จินฺเตนฺติ วา เอเตน กรณภูเตน สมฺปยุตฺตธมฺมาติ จิตฺตํ. อถ วา จินฺตนมตฺตํ จิตฺตํ. ยถาปจฺจยํ หิ ปวตฺติมตฺตเมว ยทิทํ สภาวธมฺโม นาม. เอวฺจ กตฺวา สพฺเพสมฺปิ ปรมตฺถธมฺมานํ ภาวสาธนเมว นิปฺปริยายโต ลพฺภติ, กตฺตุกรณวเสน ปน นิพฺพจนํ ปริยายกถาติ ทฏฺพฺพํ. สกสกกิจฺเจสุ หิ ธมฺมานํ อตฺตปฺปธานตาสมาโรปเนน กตฺตุภาโว จ, ตทนุกูลภาเวน สหชาตธมฺมสมูเห กตฺตุภาวสมาโรปเนน ปฏิปาเทตพฺพธมฺมสฺส กรณตฺตฺจ ปริยายโตว ลพฺภติ, ตถานิทสฺสนํ ปน ธมฺมสภาววินิมุตฺตสฺส กตฺตาทิโน อภาวปริทีปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. วิจิตฺตกรณาทิโตปิ จิตฺตสทฺทตฺถํ ปปฺเจนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺคโห –
‘‘วิจิตฺตกรณา จิตฺตํ, อตฺตโน จิตฺตตาย วา;
จิตํ กมฺมกิเลเสหิ, จิตํ ตายติ วา ตถา;
จิโนติ อตฺตสนฺตานํ, วิจิตฺตารมฺมณนฺติ จา’’ติ.
เจตสิ ¶ ภวํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ เจตสิกํ. น หิ ตํ จิตฺเตน วินา อารมฺมณคฺคหณสมตฺถํ อสติ จิตฺเต สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปชฺชนโต, จิตฺตํ ปน เกนจิ เจตสิเกน วินาปิ ¶ อารมฺมเณ ปวตฺตตีติ ตํ เจตสิกเมว จิตฺตายตฺตวุตฺติกํ นาม. เตนาห ภควา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒), เอเตน สุขาทีนํ อเจตนตฺตนิจฺจตฺตาทโย วิปฺปฏิปตฺติโยปิ ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติ. เจตสิ นิยุตฺตํ วา เจตสิกํ.
รุปฺปตีติ รูปํ, สีตุณฺหาทิวิโรธิปจฺจเยหิ วิการมาปชฺชติ, อาปาทียตีติ วา อตฺโถ. เตนาห ภควา ‘‘สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปตี’’ตฺยาทิ (สํ. นิ. ๓.๗๙), รุปฺปนฺเจตฺถ สีตาทิวิโรธิปจฺจยสมวาเย วิสทิสุปฺปตฺติเยว. ยทิ เอวํ อรูปธมฺมานมฺปิ รูปโวหาโร อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ สีตาทิคฺคหณสามตฺถิยโต วิภูตตรสฺเสว รุปฺปนสฺสาธิปฺเปตตฺตา. อิตรถา หิ ‘‘รุปฺปตี’’ติ อวิเสสวจเนเนว ปริยตฺตนฺติ กึ สีตาทิคฺคหเณน, ตํ ปน สีตาทินา ผุฏฺสฺส รุปฺปนํ วิภูตตรํ, ตสฺมา ตเทเวตฺถาธิปฺเปตนฺติ าปนตฺถํ สีตาทิคฺคหณํ กตํ. ยทิ เอวํ กถํ พฺรหฺมโลเก รูปโวหาโร, น หิ ตตฺถ อุปฆาตกา สีตาทโย อตฺถีติ? กิฺจาปิ อุปฆาตกา นตฺถิ, อนุคฺคาหกา ปน อตฺถิ, ตสฺมา ตํวเสเนตฺถ รุปฺปนํ สมฺภวตีติ, อถ วา ตํสภาวานติวตฺตนโต ตตฺถ รูปโวหาโรติ อลมติปฺปปฺเจน.
ภวาภวํ วินนโต สํสิพฺพนโต วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตํ, นิพฺพาติ วา เอเตน ราคคฺคิอาทิโกติ นิพฺพานํ.
๑. จิตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา
ภูมิเภทจิตฺตวณฺณนา
๓. อิทานิ ยสฺมา วิภาควนฺตานํ ธมฺมานํ สภาววิภาวนํ วิภาเคน วินา น โหติ, ตสฺมา ยถาอุทฺทิฏฺานํ อภิธมฺมตฺถานํ อุทฺเทสกฺกเมน วิภาคํ ทสฺเสตุํ จิตฺตํ ตาว ภูมิชาติสมฺปโยคาทิวเสน ¶ วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตุมารภนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ตาวา’’ตฺยาทิ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ เอตสฺสตฺเถ. ยถาอุทฺทิฏฺเสุ จตูสุ อภิธมฺมตฺเถสุ ปมํ จิตฺตํ นิทฺทิสียตีติ ¶ อยฺเหตฺถตฺโถ. จตฺตาโร วิธา ปการา อสฺสาติ จตุพฺพิธํ. ยสฺมา ปเนเต จตุภุมฺมกา ธมฺมา อนุปุพฺพปณีตา, ตสฺมา หีนุกฺกฏฺุกฺกฏฺตรตมานุกฺกเมน เตสํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ กาเมตีติ กาโม, กามตณฺหา, สา เอตฺถ อวจรติ อารมฺมณกรณวเสนาติ กามาวจรํ. กามียตีติ วา กาโม, เอกาทสวิโธ กามภโว, ตสฺมึ เยภุยฺเยน อวจรตีติ กามาวจรํ. เยภุยฺเยน จรณสฺส หิ อธิปฺเปตตฺตา รูปารูปภเวสุ ปวตฺตสฺสาปิ อิมสฺส กามาวจรภาโว อุปปนฺโน โหติ. กามภโวเยว วา กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร, ตตฺถ ปวตฺตมฺปิ จิตฺตํ นิสฺสิเต นิสฺสยโวหาเรน กามาวจรํ ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ตฺยาทีสุ วิยาติ อลมติวิสารณิยา กถาย. โหติ เจตฺถ –
‘‘กาโมวจรตีตฺเยตฺถ, กาเมวจรตีติ วา;
านูปจารโต วาปิ, ตํ กามาวจรํ ภเว’’ติ.
รูปารูปาวจเรสุปิ เอเสว นโย ยถารหํ ทฏฺพฺโพ. อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตโลกโต อุตฺตรติ อนาสวภาเวนาติ โลกุตฺตรํ, มคฺคจิตฺตํ. ผลจิตฺตํ ปน ตโต อุตฺติณฺณนฺติ โลกุตฺตรํ. อุภยมฺปิ วา สห นิพฺพาเนน โลกโต อุตฺตรํ อธิกํ ยถาวุตฺตคุณวเสเนวาติ โลกุตฺตรํ.
ภูมิเภทจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลจิตฺตวณฺณนา
๔. อิเมสุ ปน จตูสุ จิตฺเตสุ กามาวจรจิตฺตสฺส กุสลากุสลวิปากกิริยเภเทน จตุพฺพิธภาเวปิ ปาปาเหตุกวชฺชานํ เอกูนสฏฺิยา, เอกนวุติยา วา จิตฺตานํ โสภนนาเมน โวหารกรณตฺถํ ‘‘ปาปาเหตุกมุตฺตานิ ¶ ‘โสภนานี’ติ วุจฺจเร’’ติ เอวํ วกฺขมานนยสฺส อนุรูปโต ปาปาเหตุเกเยว ปมํ ทสฺเสนฺโต, เตสุ จ ภเวสุ คหิตปฏิสนฺธิกสฺส สตฺตสฺส อาทิโต วีถิจิตฺตวเสน โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทานเมว สมฺภวโต เตเยว ปมํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ ทฺวิเหตุกภาวสามฺเน โทมนสฺสสหคเต, ตทนนฺตรํ เอกเหตุเก จ ทสฺเสตุํ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺตฺยาทินา ¶ โลภมูลํ ตาว เวทนาทิฏฺิสงฺขารเภเทน อฏฺธา วิภชิตฺวา ทสฺเสติ.
ตตฺถ สุนฺทรํ มโน, ตํ วา เอตสฺส อตฺถีติ สุมโน, จิตฺตํ, ตํสมงฺคิปุคฺคโล วา, ตสฺส ภาโว ตสฺมึ อภิธานพุทฺธีนํ ปวตฺติเหตุตายาติ โสมนสฺสํ, มานสิกสุขเวทนาเยตํ อธิวจนํ, เตน สหคตํ เอกุปฺปาทาทิวเสน สํสฏฺํ, เตน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตนฺติ วา โสมนสฺสสหคตํ. มิจฺฉา ปสฺสตีติ ทิฏฺิ. สามฺวจนสฺสปิ หิ อตฺถปฺปกรณาทินา วิเสสวิสยตา โหตีติ อิธ มิจฺฉาทสฺสนเมว ‘‘ทิฏฺี’’ติ วุจฺจติ. ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘สงฺขารคตํ ถามคต’’นฺตฺยาทีสุ วิย คต-สทฺทสฺส ตพฺภาววุตฺติตฺตา. ทฺวาสฏฺิยา วา ทิฏฺีสุ คตํ อนฺโตคตํ, ทิฏฺิยา วา คมนมตฺตํ น เอตฺถ คนฺตพฺโพ อตฺตาทิโก โกจิ อตฺถีติ ทิฏฺิคตํ, ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ ปวตฺโต อตฺตตฺตนิยาทิอภินิเวโส, เตน สมํ เอกุปฺปาทาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ. สงฺขโรติ จิตฺตํ ติกฺขภาวสงฺขาตมณฺฑนวิเสเสน สชฺเชติ, สงฺขรียติ วา ตํ เอเตน ยถาวุตฺตนเยน สชฺชียตีติ สงฺขาโร, ตตฺถ ตตฺถ กิจฺเจ สํสีทมานสฺส จิตฺตสฺส อนุพลปฺปทานวเสน อตฺตโน วา ปเรสํ วา ปวตฺตปุพฺพปฺปโยโค, โส ปน อตฺตโน ปุพฺพภาคปฺปวตฺเต จิตฺตสนฺตาเน เจว ปรสนฺตาเน จ ปวตฺตตีติ ตนฺนิพฺพตฺติโต จิตฺตสฺส ติกฺขภาวสงฺขาโต วิเสโสวิธ สงฺขาโร, โส ยสฺส นตฺถิ ตํ อสงฺขารํ ¶ , ตเทว อสงฺขาริกํ. สงฺขาเรน สหิตํ สสงฺขาริกํ. ตถา จ วทนฺติ –
‘‘ปุพฺพปฺปโยคสมฺภูโต, วิเสโส จิตฺตสมฺภวี;
สงฺขาโร ตํวเสเนตฺถ, โหตฺยาสงฺขาริกาทิตา’’ติ.
อถ วา ‘‘สสงฺขาริกํ อสงฺขาริก’’นฺติ เจตํ เกวลํ สงฺขารสฺส ภาวาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตสฺส สหปฺปวตฺติสพฺภาวาภาวโตติ ภินฺนสนฺตานปฺปวตฺติโนปิ สงฺขารสฺส อิทมตฺถิตาย ตํวเสน นิพฺพตฺตํ จิตฺตํ สงฺขาโร อสฺส อตฺถีติ สสงฺขาริกํ ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ตฺยาทีสุ วิย สห-สทฺทสฺส วิชฺชมานตฺถปริทีปนโต. ตพฺพิปรีตํ ปน ตทภาวโต วุตฺตนเยน อสงฺขาริกํ. ทิฏฺิคเตน วิปฺปยุตฺตํ วิสํสฏฺนฺติ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตํ. อุปปตฺติโต ยุตฺติโต อิกฺขติ อนุภวติ เวทยมานาปิ มชฺฌตฺตาการสณฺิติยาติ อุเปกฺขา. สุขทุกฺขานํ วา อุเปตา ยุตฺตา อวิรุทฺธา อิกฺขา ¶ อนุภวนนฺติ อุเปกฺขา. สุขทุกฺขาวิโรธิตาย เหสา เตสํ อนนฺตรมฺปิ ปวตฺตติ. อุเปกฺขาสหคตนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.
กสฺมา ปเนตฺถ อฺเสุปิ ผสฺสาทีสุ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ โสมนสฺสสหคตาทิภาโวว วุตฺโตติ? โสมนสฺสาทีนเมว อสาธารณภาวโต. ผสฺสาทโย หิ เกจิ สพฺพจิตฺตสาธารณา, เกจิ กุสลาทิสาธารณา, โมหาทโย จ สพฺพากุสลสาธารณาติ น เตหิ สกฺกา จิตฺตํ วิเสเสตุํ, โสมนสฺสาทโย ปน กตฺถจิ จิตฺเต โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ ปากโฏว ตํวเสน จิตฺตสฺส วิเสโส. กสฺมา ปเนเต กตฺถจิ โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ? การณสฺส สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวโต. กึ ปน เนสํ การณนฺติ? วุจฺจเตสภาวโต, ปริกปฺปโต วา หิ อิฏฺารมฺมณํ, โสมนสฺสปฏิสนฺธิกตา, อคมฺภีรสภาวตา จ อิธ โสมนสฺสสฺส ¶ การณํ, อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ, อุเปกฺขาปฏิสนฺธิกตา, คมฺภีรสภาวตา จ อุเปกฺขาย, ทิฏฺิวิปนฺนปุคฺคลเสวนา, สสฺสตุจฺเฉทาสยตา จ ทิฏฺิยา, พลวอุตุโภชนาทโย ปน ปจฺจยา อสงฺขาริกภาวสฺสาติ. ตสฺมา อตฺตโน อนุรูปการณวเสน เนสํ อุปฺปชฺชนโต กตฺถจิ จิตฺเตเยว สมฺภโวติ สกฺกา เอเตหิ จิตฺตสฺส วิเสโส ปฺาเปตุนฺติ. เอวฺจ กตฺวา เนสํ สติปิ โมหเหตุกภาเว โลภสหคตภาโวว นิคมเน วุตฺโต.
อิเมสํ ปน อฏฺนฺนมฺปิ อยมุปฺปตฺติกฺกโม เวทิตพฺโพ. ยทา หิ ‘‘นตฺถิ กาเมสุ อาทีนโว’’ตฺยาทินา นเยน มิจฺฉาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา หฏฺตุฏฺโ กาเม วา ปริภฺุชติ, ทิฏฺมงฺคลาทีนิ วา สารโต ปจฺเจติ สภาวติกฺเขเนว อนุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ปมํ อกุสลจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ยทา ปน มนฺเทน สมุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ทุติยํ. ยทา ปน มิจฺฉาทิฏฺึ อปุรกฺขตฺวา เกวลํ หฏฺตุฏฺโ เมถุนํ วา เสวติ, ปรสมฺปตฺตึ วา อภิชฺฌายติ, ปรภณฺฑํ วา หรติ สภาวติกฺเขเนว อนุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ตติยํ. ยทา ปน มนฺเทน สมุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา จตุตฺถํ. ยทา ปน กามานํ วา อสมฺปตฺตึ อาคมฺม, อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาเวน จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ, ตทา เสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ. อฏฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน วกฺขมานนเยน อกุสลกมฺมปเถสุ เนสํ ลพฺภมานกมฺมปถานุรูปโต ปวตฺติเภทํ กาลเทสสนฺตานารมฺมณาทิเภเทน อเนกวิธตมฺปิ สงฺคณฺหาติ.
๕. ทุฏฺุ ¶ มโน, ตํ วา เอตสฺสาติ ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ, มานสิกทุกฺขเวทนาเยตํ อธิวจนํ, เตน ¶ สหคตนฺติ โทมนสฺสสหคตํ. อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ปฏิโฆ, โทโส. จณฺฑิกฺกสภาวตาย เหส อารมฺมณํ ปฏิหนนฺโต วิย ปวตฺตติ. โทมนสฺสสหคตสฺส เวทนาวเสน อเภเทปิ อสาธารณธมฺมวเสน จิตฺตสฺส อุปลกฺขณตฺถํ โทมนสฺสคฺคหณํ, ปฏิฆสมฺปยุตฺตภาโว ปน อุภินฺนํ เอกนฺตสหจาริตา ทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. โทมนสฺสฺเจตฺถ อนิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขโณ เวทนากฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโม, ปฏิโฆ จณฺฑิกฺกสภาโว สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโมติ อยเมเตสํ วิเสโส. เอตฺถ จ ยํ กิฺจิ อนิฏฺารมฺมณํ, นววิธอาฆาตวตฺถูนิ จ โทมนสฺสสฺส การณํ, ปฏิฆสฺส การณฺจาติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวินฺนํ ปน เนสํ จิตฺตานํ ปาณาติปาตาทีสุ ติกฺขมนฺทปฺปวตฺติกาเล อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เอตฺถาปิ นิคมเน ปิ-สทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺตนยานุสาเรน ทฏฺพฺโพ.
๖. สภาวํ วิจินนฺโต ตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. อถ วา จิกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วิคตา จิกิจฺฉา าณปฺปฏิกาโร อิมิสฺสาติ วิจิกิจฺฉา, ตาย สมฺปยุตฺตํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ. อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. อุทฺธจฺจสฺส สพฺพากุสลสาธารณภาเวปิ อิธ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมว เตน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา ธมฺมุทฺเทสปาฬิยํ เสสากุสเลสุ อุทฺธจฺจํ เยวาปนกวเสน วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ สรูเปเนว เทสิตํ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘สพฺพากุสลยุตฺตมฺปิ, อุทฺธจฺจํ อนฺตมานเส;
พลวํ อิติ ตํเยว, วุตฺตมุทฺธจฺจโยคโต.
‘‘เตเนว หิ มุนินฺเทน, เยวาปนกนามโต;
วตฺวา เสเสสุ เอตฺเถว, ตํ สรูเปน เทสิต’’นฺติ.
อิมานิ ¶ ปน ทฺเว จิตฺตานิ มูลนฺตรวิรหโต อติสมฺมูฬฺหตาย, สํสปฺปนวิกฺขิปนวเสน ปวตฺตวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมาโยเคน จฺจลตาย จ สพฺพตฺถาปิ รชฺชนทุสฺสนรหิตานิ อุเปกฺขาสหคตาเนว ปวตฺตนฺติ, ตโตเยว จ สภาวติกฺขตาย อุสฺสาเหตพฺพตาย อภาวโต สงฺขารเภโทปิ เนสํ นตฺถิ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘มูฬฺหตฺตา ¶ เจว สํสปฺป-วิกฺเขปา เจกเหตุกํ;
โสเปกฺขํ สพฺพทา โน จ, ภินฺนํ สงฺขารเภทโต.
‘‘น หิ ตสฺส สภาเวน, ติกฺขตุสฺสาหนียตา;
อตฺถิ สํสปฺปมานสฺส, วิกฺขิปนฺตสฺส สพฺพทา’’ติ.
โมเหน มุยฺหนฺติ อติสเยน มุยฺหนฺติ มูลนฺตรวิรหโตติ โมมูหานิ.
๗. อิจฺเจวนฺตฺยาทิ ยถาวุตฺตานํ ทฺวาทสากุสลจิตฺตานํ นิคมนํ. ตตฺถ อิติ-สทฺโท วจนวจนียสมุทายนิทสฺสนตฺโถ. เอวํ-สทฺโท วจนวจนียปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺโถ. นิปาตสมุทาโย วา เอส วจนวจนียนิคมนารมฺเภ. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน สพฺพถาปิ โสมนสฺสุเปกฺขาทิฏฺิสมฺปโยคาทินา ปฏิฆสมฺปโยคาทินา วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโยเคนาติ สพฺเพนาปิ สมฺปโยคาทิอากาเรน ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ สมตฺตานิ ปรินิฏฺิตานิ, สงฺคเหตฺวา วา อตฺตานิ คหิตานิ, วุตฺตานีตฺยตฺโถ. ตตฺถ กุสลปฏิปกฺขานิ อกุสลานิ มิตฺตปฺปฏิปกฺโข อมิตฺโต วิย, ปฏิปกฺขภาโว จ กุสลากุสลานํ ยถากฺกมํ ปหายกปหาตพฺพภาเวน เวทิตพฺโพ.
๘. อฏฺธาตฺยาทิ สงฺคหคาถา. โลโภ จ โส สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน มูลสทิสตฺตา มูลฺจ, กํ เอเตสนฺติ โลภมูลานิ จิตฺตานิ เวทนาทิเภทโต อฏฺธา สิยุํ ¶ . ตถา โทสมูลานิ สงฺขารเภทโต ทฺวิธา. โมหมูลานิ สุทฺโธ โมโหเยว มูลเมเตสนฺติ โมหมูลสงฺขาตานิ สมฺปโยคเภทโต ทฺเว จาติ อกุสลา ทฺวาทส สิยุนฺตฺยตฺโถ.
อกุสลจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อเหตุกจิตฺตวณฺณนา
๙. เอวํ มูลเภทโต ติวิธมฺปิ อกุสลํ สมฺปโยคาทิเภทโต ทฺวาทสธา วิภชิตฺวา อิทานิ ¶ อเหตุกจิตฺตานิ นิทฺทิสนฺโต เตสํ อกุสลวิปากาทิวเสน ติวิธภาเวปิ อกุสลานนฺตรํ อกุสลวิปาเกเยว จกฺขาทินิสฺสยสมฺปฏิจฺฉนาทิกิจฺจเภเทน สตฺตธา วิภชิตุํ ‘‘อุเปกฺขาสหคตํ จกฺขุวิฺาณ’’นฺตฺยาทิมาห. ตตฺถ จกฺขติ วิฺาณาธิฏฺิตํ หุตฺวา สมวิสมํ อาจิกฺขนฺตํ วิย โหตีติ จกฺขุ. อถ วา จกฺขติ รูปํ อสฺสาเทนฺตํ วิย โหตีติ จกฺขุ. จกฺขตีติ หิ อยํ สทฺโท ‘‘มธุํ จกฺขติ, พฺยฺชนํ จกฺขตี’’ตฺยาทีสุ วิย อสฺสาทนตฺโถ โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘จกฺขุํ โข ปน, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิต’’นฺตฺยาทิ. ยทิ เอวํ ‘‘โสตํ โข, มาคณฺฑิย, สทฺทารามํ สทฺทรตํ สทฺทสมฺมุทิต’’นฺตฺยาทิวจนโต (ม. นิ. ๒.๒๐๙) โสตาทีนมฺปิ สทฺทาทิอสฺสาทนํ อตฺถีติ เตสมฺปิ จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา อาปชฺเชยฺยาติ? นาปชฺชติ นิรุฬฺหตฺตา, นิรุฬฺโห เหส จกฺขุ-สทฺโท ทฏฺุกามตานิทานกมฺมชภูตปฺปสาทลกฺขเณ จกฺขุปฺปสาเทเยว มยูราทิสทฺทา วิย สกุณวิเสสาทีสุ, จกฺขุนา สหวุตฺติยา ปน ภมุกฏฺิปริจฺฉินฺโน มํสปิณฺโฑปิ ‘‘จกฺขู’’ติ วุจฺจติ. อฏฺกถายํ ปน อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ จกฺขติ-สทฺทสฺส วิภาวนตฺถตาปิ สมฺภวตีติ ‘‘จกฺขติ รูปํ วิภาเวตีติ จกฺขู’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๑๐) วุตฺตํ. จกฺขุสฺมึ ¶ วิฺาณํ ตนฺนิสฺสิตตฺถาติ จกฺขุวิฺาณํ. ตถา เหตํ ‘‘จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนลกฺขณ’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๓๑; วิสุทฺธิ. ๒.๔๕๔) วุตฺตํ.
เอวํ โสตวิฺาณาทีสุปิ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อุเปกฺขาสหคตภาวํ อติทิสติ. วิฺาณาธิฏฺิตํ หุตฺวา สุณาตีติ โสตํ. ฆายติ คนฺโธปาทานํ กโรตีติ ฆานํ. ชีวิตนิมิตฺตํ รโส ชีวิตํ, ตํ อวฺหายติ ตสฺมึ นินฺนตายาติ ชิวฺหา นิรุตฺตินเยน. กุจฺฉิตานํ ปาปธมฺมานํ อาโย ปวตฺติฏฺานนฺติ กาโย. กายินฺทฺริยฺหิ โผฏฺพฺพคฺคหณสภาวตฺตา ตทสฺสาทวสปฺปวตฺตานํ, ตมฺมูลกานฺจ ปาปธมฺมานํ วิเสสการณนฺติ เตสํ ปวตฺติฏฺานํ วิย คยฺหติ. สสมฺภารกาโย วา กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย. ตํสหจริตตฺตา ปน ปสาทกาโยปิ ตถา วุจฺจติ. ทุ กุจฺฉิตํ หุตฺวา ขนติ กายิกสุขํ, ทุกฺขมนฺติ วา ทุกฺขํ. ทุกฺกรโมกาสทานํ เอตสฺสาติ ทุกฺข’’นฺติปิ อปเร. ปฺจวิฺาณคฺคหิตํ รูปาทิอารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉติ ตทาการปฺปวตฺติยาติ สมฺปฏิจฺฉนํ. สมฺมา ตีเรติ ยถาสมฺปฏิจฺฉิตํ รูปาทิอารมฺมณํ วีมํสตีติ สนฺตีรณํ. อฺมฺวิรุทฺธานํ กุสลากุสลานํ ปากาติ วิปากา, วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. เอวฺจ กตฺวา กุสลากุสลกมฺมสมุฏฺานานมฺปิ ¶ กฏตฺตารูปานํ นตฺถิ วิปากโวหาโร. อกุสลสฺส วิปากจิตฺตานิ อกุสลวิปากจิตฺตานิ.
๑๐. สุขยติ กายจิตฺตํ, สุฏฺุ วา ขนติ กายจิตฺตาพาธํ, สุเขน ขมิตพฺพนฺติ วา สุขํ. ‘‘สุกรโมกาสทานํ เอตสฺสาติ สุข’’นฺติ อปเร. กสฺมา ปน ยถา อกุสลวิปากสนฺตีรณํ เอกเมว วุตฺตํ, เอวมวตฺวา กุสลวิปากสนฺตีรณํ ทฺวิธา วุตฺตนฺติ? อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน เวทนาเภทสมฺภวโต. ยทิ เอวํ ตตฺถาปิ อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน เวทนาเภเทน ภวิตพฺพนฺติ? นยิทเมวํ อนิฏฺารมฺมเณ ¶ อุปฺปชฺชิตพฺพสฺสปิ โทมนสฺสสฺส ปฏิเฆน วินา อนุปฺปชฺชนโต, ปฏิฆสฺส จ เอกนฺตากุสลสภาวสฺส อพฺยากเตสุ อสมฺภวโต. น หิ ภินฺนชาติโก ธมฺโม ภินฺนชาติเกสุ อุปลพฺภติ, ตสฺมา อตฺตนา สมานโยคกฺขมสฺส อสมฺภวโต อกุสลวิปาเกสุ โทมนสฺสํ น สมฺภวตีติ ตสฺส ตํสหคตตา น วุตฺตา. อถ วา ยถา โกจิ พลวตา โปถิยมาโน ทุพฺพลปุริโส ตสฺส ปฏิปฺปหริตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ อุเปกฺขโกว โหติ, เอวเมว อกุสลวิปากานํ ปริทุพฺพลภาวโต อนิฏฺารมฺมเณปิ โทมนสฺสุปฺปาโท นตฺถีติ สนฺตีรณํ อุเปกฺขาสหคตเมว.
จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปน จตฺตาริ อุภยวิปากานิปิ วตฺถารมฺมณฆฏฺฏนาย ทุพฺพลภาวโต อนิฏฺเ อิฏฺเปิ จ อารมฺมเณ อุเปกฺขาสหคตาเนว. เตสฺหิ จตุนฺนมฺปิ วตฺถุภูตานิ จกฺขาทีนิ อุปาทารูปาเนว, ตถา อารมฺมณภูตานิปิ รูปาทีนิ, อุปาทารูปเกน จ อุปาทารูปกสฺส สงฺฆฏฺฏนํ อติทุพฺพลํ ปิจุปิณฺฑเกน ปิจุปิณฺฑกสฺส ผุสนํ วิย, ตสฺมา ตานิ สพฺพถาปิ อุเปกฺขาสหคตาเนว. กายวิฺาณสฺส ปน โผฏฺพฺพสงฺขาตภูตตฺตยเมว อารมฺมณนฺติ ตํ กายปฺปสาเท สงฺฆฏฺฏิตมฺปิ ตํ อติกฺกมิตฺวา ตนฺนิสฺสเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ. ภูตรูเปหิ จ ภูตรูปานํ สงฺฆฏฺฏนํ พลวตรํ อธิกรณิมตฺถเก ปิจุปิณฺฑกํ เปตฺวา กูเฏน ปหฏกาเล กูฏสฺส ปิจุปิณฺฑกํ อติกฺกมิตฺวา อธิกรณิคฺคหณํ วิย, ตสฺมา วตฺถารมฺมณฆฏฺฏนาย พลวภาวโต กายวิฺาณํ อนิฏฺเ ทุกฺขสหคตํ, อิฏฺเ สุขสหคตนฺติ. สมฺปฏิจฺฉนยุคฬฺหํ ปน อตฺตนา อสมานนิสฺสยานํ จกฺขุวิฺาณาทีนมนนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ สมานนิสฺสยโต อลทฺธานนฺตรปจฺจยตาย สภาคูปตฺถมฺภรหิโต วิย ปุริโส นาติพลวํ สพฺพถาปิ วิสยรสมนุภวิตุํ น สกฺโกตีติ สพฺพถาปิ อุเปกฺขาสหคตเมว. วุตฺตวิปริยายโต กุสลวิปากสนฺตีรณํ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณสุ ¶ สุโขเปกฺขาสหคตนฺติ. ยทิ เอวํ อาวชฺชนทฺวยสฺส ¶ อุเปกฺขาสมฺปโยคํ กสฺมา วกฺขติ, นนุ ตมฺปิ สมานนิสฺสยานนฺตรํ ปวตฺตตีติ? สจฺจํ, ตตฺถ ปน ปุริมํ ปุพฺเพ เกนจิ อคฺคหิเตเยว อารมฺมเณ เอกวารเมว ปวตฺตติ, ปจฺฉิมมฺปิ วิสทิสจิตฺตสนฺตานปราวตฺตนวเสน พฺยาปารนฺตรสาเปกฺขนฺติ น สพฺพถาปิ วิสยรสมนุภวิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา มชฺฌตฺตเวทนาสมฺปยุตฺตเมวาติ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘วตฺถาลมฺพสภาวานํ, ภูติกานฺหิ ฆฏฺฏนํ;
ทุพฺพลํ อิติ จกฺขาทิ-จตุจิตฺตมุเปกฺขกํ.
‘‘กายนิสฺสยโผฏฺพฺพ-ภูตานํ ฆฏฺฏนาย ตุ;
พลวตฺตา น วิฺาณํ, กายิก มชฺฌเวทนํ.
‘‘สมานนิสฺสโย ยสฺมา, นตฺถานนฺตรปจฺจโย;
ตสฺมา ทุพฺพลมาลมฺเพ, โสเปกฺขํ สมฺปฏิจฺฉน’’นฺติ.
กุสลสฺส วิปากานิ, สมฺปยุตฺตเหตุวิรหโต อเหตุกจิตฺตานิ จาติ กุสลวิปากาเหตุกจิตฺตานิ. นิพฺพตฺตกเหตุวเสน นิปฺผนฺนานิปิ เหตานิ สมฺปยุตฺตเหตุวเสเนว อเหตุกโวหารํ ลภนฺติ, อิตรถา มหาวิปาเกหิ อิเมสํ นานตฺตาสมฺภวโต. กึ ปเนตฺถ การณํ ยถา อิเธวํ อกุสลวิปากนิคมเน อเหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ? พฺยภิจาราภาวโต. สติ หิ สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ สิยา. อกุสลวิปากานํ ปน โลภาทิสาวชฺชธมฺมวิปากภาเวน ตพฺพิธุเรหิ, อโลภาทีหิ สมฺปโยคาโยคโต, สยํ อพฺยากตนิรวชฺชสภาวานํ โลภาทิอกุสลธมฺมสมฺปโยควิโรธโต จ นตฺถิ กทาจิปิ สเหตุกตาย สมฺภโวติ อเหตุกภาวาพฺยภิจารโต ¶ น ตานิ อเหตุกสทฺเทน วิเสสิตพฺพานิ.
๑๑. อิทานิ อเหตุกาธิกาเร อเหตุกกิริยจิตฺตานิปิ กิจฺจเภเทน ติธา ทสฺเสตุํ ‘‘อุเปกฺขาสหคต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. จกฺขาทิปฺจทฺวาเร ฆฏฺฏิตมารมฺมณํ อาวชฺเชติ ตตฺถ อาโภคํ กโรติ, จิตฺตสนฺตานํ วา ภวงฺควเสน ปวตฺติตุํ อทตฺวา วีถิจิตฺตภาวาย ปริณาเมตีติ ปฺจทฺวาราวชฺชนํ, กิริยาเหตุกมโนธาตุจิตฺตํ. อาวชฺชนสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ ภวงฺคจิตฺตํ มโนทฺวารํ วีถิจิตฺตานํ ปวตฺติมุขภาวโต. ตสฺมึ ทิฏฺสุตมุตาทิวเสน อาปาถมาคตมารมฺมณํ อาวชฺเชติ ¶ , วุตฺตนเยน วา จิตฺตสนฺตานํ ปริณาเมตีติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุอุเปกฺขาสหคตจิตฺตํ. อิทเมว จ ปฺจทฺวาเร ยถาสนฺตีริตํ อารมฺมณํ ววตฺถเปตีติ โวฏฺพฺพนนฺติ จ วุจฺจติ. หสิตํ อุปฺปาเทตีติ หสิตุปฺปาทํ, ขีณาสวานํ อโนฬาริการมฺมเณสุ ปหฏฺาการมตฺตเหตุกํ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุโสมนสฺสสหคตจิตฺตํ.
๑๒. สพฺพถาปีติ อกุสลวิปากกุสลวิปากกิริยเภเทน. อฏฺารสาติ คณนปริจฺเฉโท. อเหตุกจิตฺตานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ.
อเหตุกจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสภนจิตฺตวณฺณนา
๑๔. เอวํ ทฺวาทสากุสลอเหตุกาฏฺารสวเสน สมตึส จิตฺตานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตพฺพินิมุตฺตานํ โสภนโวหารํ เปตุํ ‘‘ปาปาเหตุกมุตฺตานี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. อตฺตนา อธิสยิตสฺส อปายาทิทุกฺขสฺส ปาปนโต ปาเปหิ ¶ , เหตุสมฺปโยคาภาวโต อเหตุเกหิ จ มุตฺตานิ จตุวีสติกามาวจรปฺจตึสมหคฺคตโลกุตฺตรวเสน เอกูนสฏฺิปริมาณานิ, อถ วา อฏฺ โลกุตฺตรานิ ฌานงฺคโยคเภเทน ปจฺเจกํ ปฺจธา กตฺวา เอกนวุติปิ จิตฺตานิ โสภนคุณาวหนโต, อโลภาทิอนวชฺชเหตุสมฺปโยคโต จ โสภนานีติ วุจฺจเร กถียนฺติ.
กามาวจรโสภนจิตฺตวณฺณนา
๑๕. อิทานิ โสภเนสุ กามาวจรานเมว ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา เตสุปิ อพฺยากตานํ กุสลปุพฺพกตฺตา ปมํ กามาวจรกุสลํ, ตโต ตพฺพิปากํ, ตทนนฺตรํ ตเทกภูมิปริยาปนฺนํ กิริยจิตฺตฺจ ปจฺเจกํ เวทนาาณสงฺขารเภเทน อฏฺธา ทสฺเสตุํ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานาติ ยถาสภาวํ ปฏิวิชฺฌตีติ าณํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ พลวสทฺธาย ทสฺสนสมฺปตฺติยา ปจฺจยปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺติยาติ เอวมาทีหิ การเณหิ โสมนสฺสสหคตตา, ปฺาสํวตฺตนิกกมฺมโต, อพฺยาปชฺชโลกูปปตฺติโต, อินฺทฺริยปริปากโต, กิเลสทูรีภาวโต ¶ จ าณสมฺปยุตฺตตา, ตพฺพิปริยาเยน อุเปกฺขาสหคตตา เจว าณวิปฺปยุตฺตตา จ, อาวาสสปฺปายาทิวเสน กายจิตฺตานํ กลฺลภาวโต, ปุพฺเพ ทานาทีสุ กตปริจยตาทีหิ จ อสงฺขาริกตา, ตพฺพิปริยาเยน สสงฺขาริกตา จ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ยทา ปน โย เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺตึ, อฺํ วา โสมนสฺสเหตุํ อาคมฺม หฏฺปหฏฺโ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินยปฺปวตฺตํ สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา มุตฺตจาคตาทิวเสน อสํสีทนฺโต อนุสฺสาหิโต ปเรหิ ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรติ, ตทาสฺส จิตฺตํ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ โหติ. ยทา ปน วุตฺตนเยเนว หฏฺตุฏฺโ สมฺมาทิฏฺึ ¶ ปุรกฺขตฺวาปิ อมุตฺตจาคตาทิวเสน สํสีทมาโน ปเรหิ วา อุสฺสาหิโต กโรติ, ตทาสฺส ตเทว จิตฺตํ สสงฺขาริกํ โหติ. ยทา ปน าติชนสฺส ปฏิปตฺติทสฺสเนน ชาตปริจยา พาลทารกา ภิกฺขู ทิสฺวา โสมนสฺสชาตา สหสา กิฺจิเทว หตฺถคตํ ททนฺติ วา วนฺทนฺติ วา, ตทา เตสํ ตติยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน ‘‘เทถ, วนฺทถา’’ติ าตีหิ อุสฺสาหิตา เอวํ ปฏิปชฺชนฺติ, ตทา จตุตฺถํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทีนํ อสมฺปตฺตึ, อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาวํ อาคมฺม จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ, ตทา เสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ. อฏฺปีติ ปิ-สทฺเทน ทสปฺุกิริยาทิวเสน อเนกวิธตํ สมฺปิณฺเฑติ. ตถา หิ วทนฺติ –
‘‘กเมน ปฺุวตฺถูหิ, โคจราธิปตีหิ จ;
กมฺมหีนาทิโต เจว, คเณยฺย นยโกวิโท’’ติ.
อิมานิ หิ อฏฺ จิตฺตานิ ทสปฺุกิริยวตฺถุวเสน ปวตฺตนโต ปจฺเจกํ ทส ทสาติ กตฺวา อสีติ จิตฺตานิ โหนฺติ, ตานิ จ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตนโต ปจฺเจกํ ฉคฺคุณิตานิ สาสีติกานิ จตฺตาริ สตานิ โหนฺติ, อธิปติเภเทน ปน าณวิปฺปยุตฺตานํ จตฺตาลีสาธิกทฺวิสตปริมาณานํ วีมํสาธิปติสมฺปโยคาภาวโต ตานิ ติณฺณํ อธิปตีนํ วเสน ติคุณิตานิ วีสาธิกานิ สตฺตสตานิ, ตถา าณสมฺปยุตฺตานิ จ จตุนฺนํ อธิปตีนํ วเสน จตุคฺคุณิตานิ สสฏฺิกานิ นว สตานีติ เอวํ อธิปติวเสน สหสฺสํ สาสีติกานิ จ ฉ สตานิ โหนฺติ, ตานิ กายวจีมโนกมฺมสงฺขาตกมฺมตฺติกวเสน ติคุณิตานิ จตฺตาลีสาธิกานิ ปฺจ ¶ สหสฺสานิ โหนฺติ, ตานิ จ หีนมชฺฌิมปณีตเภทโต ติคุณิตานิ วีสสตาธิกปนฺนรสสหสฺสานิ โหนฺติ. ยํ ปน วุตฺตํ อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรน –
‘‘สตฺตรส ¶ สหสฺสานิ, ทฺเว สตานิ อสีติ จ;
กามาวจรปฺุานิ, ภวนฺตีติ วินิทฺทิเส’’ติ.
ตํ อธิปติวเสน คณนปริหานึ อนาทิยิตฺวา โสตปติตวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, กาลเทสาทิเภเทน ปน เนสํ เภโท อปฺปเมยฺโยว.
กุจฺฉิเต (ธ. ส. อฏฺ. ๑) ปาปธมฺเม สลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺติ อปคเมนฺตีติ วา กุสลานิ. อถ วา กุจฺฉิตากาเรน สนฺตาเน สยนโต ปวตฺตนโต กุสสงฺขาเต ปาปธมฺเม ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลานิ. อถ วา กุจฺฉิเต ปาปธมฺเม สานโต ตนุกรณโต โอสานกรณโต วา กุสสงฺขาเตน าเณน, สทฺธาทิธมฺมชาเตน วา ลาตพฺพานิ สหชาตอุปนิสฺสยภาเวน ยถารหํ ปวตฺเตตพฺพานีติ กุสลานิ, ตาเนว ยถาวุตฺตตฺเถน กามาวจรานิ กุสลจิตฺตานิ จาติ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ.
๑๖. ยถา ปเนตานิ ปฺุกิริยวเสน, กมฺมทฺวารวเสน, กมฺมวเสน, อธิปติวเสน จ ปวตฺตนฺติ, เนวํ วิปากานิ ทานาทิวเสน อปฺปวตฺตนโต, วิฺตฺติสมุฏฺาปนาภาวโต, อวิปากสภาวโต, ฉนฺทาทีนิ ปุรกฺขตฺวา อปฺปวตฺติโต จ, ตสฺมา ตํวเสน ปริหาเปตฺวา ยถารหํ คณนเภโท โยเชตพฺโพ. อิมานิปิ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน ยถากฺกมํ โสมนสฺสุเปกฺขาสหิตานิ. ปฏิสนฺธาทิวสปฺปวตฺติยํ กมฺมสฺส พลวาพลวภาวโต, ตทารมฺมณปฺปวตฺติยํ เยภุยฺเยน ชวนานุรูปโต, กทาจิ ตตฺถาปิ กมฺมานุรูปโต จ าณสมฺปยุตฺตานิ, าณวิปฺปยุตฺตานิ จ โหนฺติ. ยถาปโยคํ วินา สปฺปโยคฺจ ยถาอุปฏฺิเตหิ กมฺมาทิปจฺจเยหิ อุตุโภชนาทิสปฺปายาสปฺปายวเสน อสงฺขาริกสสงฺขาริกานิ.
๑๗. กิริยจิตฺตานมฺปิ ¶ กุสเล วุตฺตนเยน ยถารหํ โสมนสฺสสหคตาทิตา เวทิตพฺพา.
๑๘. สเหตุกกามาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานีติ เอตฺถ สเหตุกคฺคหณํ วิปากกิริยาเปกฺขํ ¶ วิเสสนํ กุสลสฺส เอกนฺตสเหตุกตฺตา. โหติ หิ ยถาลาภโยชนา, ‘‘สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปี’’ตฺยาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๔๙) วิย สกฺขรกถลสฺส จรณาโยคโต มจฺฉคุมฺพาเปกฺขาย จรณกิริยา โยชียตีติ.
๑๙. สเหตุกามาวจรปฺุปากกิริยา เวทนาาณสงฺขารเภเทน ปจฺเจกํ เวทนาเภทโต ทุวิธตฺตา, าณเภทโต จตุพฺพิธตฺตา, สงฺขารเภทโต อฏฺวิธตฺตา จ สมฺปิณฺเฑตฺวา จตุวีสติ มตาติ โยชนา. นนุ จ เวทนาเภโท ตาว ยุตฺโต ตาสํ ภินฺนสภาวตฺตา. าณสงฺขารเภโท ปน กถนฺติ? าณสงฺขารานํ ภาวาภาวกโตปิ เภโท าณสงฺขารกโตว ยถา วสฺสกโต สุภิกฺโข ทุพฺภิกฺโขติ, ตสฺมา าณสงฺขารกโต เภโท าณสงฺขารเภโทติ น เอตฺถ โกจิ วิโรโธติ.
๒๐. อิทานิ สพฺพานิปิ กามาวจรจิตฺตานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กาเม เตวีสา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. กาเม ภเว สตฺต อกุสลวิปากานิ, สเหตุกาเหตุกานิ โสฬส กุสลวิปากานีติ เอวํ เตวีสติ วิปากานิ ทฺวาทส อกุสลานิ, อฏฺ กุสลานีติ ปฺุาปฺุานิ วีสติ อเหตุกา ติสฺโส สเหตุกา อฏฺาติ เอกาทส กิริยา จาติ สพฺพถาปิ กุสลากุสลวิปากกิริยานํ อนฺโตคธเภเทน จตุปฺาเสว กาลเทสสนฺตานาทิเภเทน อเนกวิธภาเวปีตฺยตฺโถ.
กามาวจรโสภนจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรจิตฺตวณฺณนา
๒๑. อิทานิ ¶ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺสฺส รูปาวจรสฺส นิทฺเทสกฺกโม อนุปฺปตฺโตติ ตสฺส ฌานงฺคโยคเภเทน ปฺจธา วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺก…เป… สหิต’’นฺตฺยาทิมาห. วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ เอกคฺคตา จาติ อิเมหิ สหิตํ วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ. ตตฺถ อารมฺมณํ วิตกฺเกติ สมฺปยุตฺตธมฺเม อภินิโรเปตีติ วิตกฺโก, โส สหชาตานํ อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขโณ, ยถา หิ โกจิ คามวาสี ปุริโส ราชวลฺลภํ สมฺพนฺธินํ มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อนุปวิสติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ยทิ เอวํ กถํ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหตีติ? ตมฺปิ วิตกฺกพเลเนว ¶ อภินิโรหติ. ยถา หิ โส ปุริโส ปริจเยน เตน วินาปิ นิราสงฺโก ราชเคหํ ปวิสติ, เอวํ ปริจเยน วิตกฺเกน วินาปิ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อภินิโรหติ. ปริจโยติ เจตฺถ สวิตกฺกจิตฺตสฺส สนฺตาเน อภิณฺหปฺปวตฺติวเสน นิพฺพตฺตา จิตฺตภาวนา. อปิ เจตฺถ ปฺจวิฺาณํ อวิตกฺกมฺปิ วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนพเลน, ทุติยชฺฌานาทีนิ จ เหฏฺิมภาวนาพเลน อภิโรหนฺติ.
อารมฺมเณ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร. โส อารณนุมชฺชนลกฺขโณ. ตถา เหส ‘‘อนุสนฺธานตา’’ติ (ธ. ส. ๘) นิทฺทิฏฺโ. เอตฺถ จ วิจารโต โอฬาริกฏฺเน, ตสฺเสว ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ปมฆณฺฏาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, อนุรโว วิย อนุสฺจรณํ วิจาโร. วิปฺผารวาเจตฺถ วิตกฺโก จิตฺตสฺส ปริปฺผนฺทนภูโต, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส สกุณสฺส ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตสา ภมรสฺส, สนฺตวุตฺติ วิจาโร จิตฺตสฺส นาติปริปฺผนฺทนภูโต, อากาเส อุปฺปติตสฺส ¶ สกุณสฺส ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปทุมสฺส อุปริภาเค ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส.
ปินยติ กายจิตฺตํ ตปฺเปติ, วฑฺเฒตีติ วา ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา, อารมฺมณํ กลฺลโต คหณลกฺขณาติ วุตฺตํ โหติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม สุขยตีติ สุขํ, ตํ อิฏฺานุภวนลกฺขณํ สุโภชนรสสฺสาทโก ราชา วิย. ตตฺถ อารมฺมณปฺปฏิลาเภ ปีติยา วิเสโส ปากโฏ กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสเน วิย, ยถาลทฺธสฺส อนุภวเน สุขสฺส วิเสโส ปากโฏ ยถาทิฏฺอุทกสฺส ปานาทีสุ วิยาติ. นานารมฺมณวิกฺเขปาภาเวน เอกํ อารมฺมณํ อคฺคํ อิมสฺสาติ เอกคฺคํ, จิตฺตํ, ตสฺส ภาโว เอกคฺคตา, สมาธิ. โส อวิกฺเขปลกฺขโณ. ตสฺส หิ วเสน สสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ โหติ.
ปมฺจ เทสนากฺกมโต เจว อุปฺปตฺติกฺกมโต จ อาทิภูตตฺตา ตํ ฌานฺจ อารมฺมณูปนิชฺฌานโต, ปจฺจนีกฌาปนโต จาติ ปมชฺฌานํ, วิตกฺกาทิปฺจกํ. ฌานงฺคสมุทาเย เยว หิ ฌานโวหาโร เนมิอาทิองฺคสมุทาเย รถโวหาโร วิย, ตถา หิ วุตฺตํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๖๙). ปมชฺฌาเนน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ ปมชฺฌานกุสลจิตฺตํ.
กสฺมา ¶ ปน อฺเสุ ผสฺสาทีสุ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ อิเมเยว ปฺจ ฌานงฺควเสน วุตฺตาติ? วุจฺจเต – อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ. วิตกฺโก หิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ. วิจาโร อนุปฺปพนฺเธติ, ปีติ จสฺส ปีนนํ, สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ, อถ นํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ เอเตหิ อภินิโรปนานุปฺปพนฺธนปีนนอุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา สมาธานกิจฺเจน ¶ อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตี เอกตฺตารมฺมเณ สมํ, สมฺมา จ อาธิยติ. อินฺทฺริยสมตาวเสน สมํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีภาเวน ลีนุทฺธจฺจาภาเวน สมฺมา จ เปตีติ เอวเมเต สเมว อุปนิชฺฌานกิจฺจํ อาเวณิกํ. กามจฺฉนฺทาทิปฏิปกฺขภาเว ปน สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข ราคปฺปณิธิยา อุชุปจฺจนีกภาวโต. กามจฺฉนฺทวเสน หิ นานารมฺมเณหิ ปโลภิตสฺส ปริพฺภมนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาธานํ เอกคฺคตาย โหติ. ปีติ พฺยาปาทสฺส ปาโมชฺชสภาวตฺตา. วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส โยนิโส สงฺกปฺปนวเสน สวิปฺผารปฺปวตฺติโต สุขํ อวูปสมานุตาปสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส วูปสนฺตสีตลสภาวตฺตา. วิจาโร วิจิกิจฺฉาย อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปติรูปสภาวตฺตา. เอวํ อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ อิเมเยว ปฺจ ฌานงฺคภาเวน ววตฺถิตาติ. ยถาหุ –
‘‘อุปนิชฺฌานกิจฺจตฺตา, กามาทิปฏิปกฺขโต;
สนฺเตสุปิ จ อฺเสุ, ปฺเจว ฌานสฺิตา’’ติ.
อุเปกฺขา ปเนตฺต สนฺตวุตฺติสภาวตฺตา สุเขว อนฺโตคธาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาหุ –
‘‘อุเปกฺขา สนฺตวุตฺติตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒; วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔);
ปหานงฺคาทิวเสน ปนสฺส วิเสโส อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ, ตถา อรูปาวจรโลกุตฺตเรสุปิ ลพฺภมานกวิเสโส. อเถตฺถ กามาวจรกุสเลสุ วิย สงฺขารเภโท กสฺมา น คหิโต. อิทมฺปิ หิ เกวลํ สมถานุโยควเสน ปฏิลทฺธํ สสงฺขาริกํ, มคฺคาธิคมวเสน ปฏิลทฺธํ อสงฺขาริกนฺติ สกฺกา วตฺตุนฺติ? นยิทเมวํ มคฺคาธิคมวเสนสตฺติโต ¶ ปฏิลทฺธสฺสาปิ อปรภาเค ปริกมฺมวเสเนว อุปฺปชฺชนโต, ตสฺมา สพฺพสฺสปิ ฌานสฺส ปริกมฺมสงฺขาตปุพฺพาภิสงฺขาเรน ¶ วินา เกวลํ อธิการวเสน อนุปฺปชฺชนโต ‘‘อสงฺขาริก’’นฺติปิ, อธิกาเรน จ วินา เกวลํ ปริกมฺมาภิสงฺขาเรเนว อนุปฺปชฺชนโต ‘‘สสงฺขาริก’’นฺติปิ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. อถ วา ปุพฺพาภิสงฺขารวเสเนว อุปฺปชฺชมานสฺส น กทาจิ อสงฺขาริกภาโว สมฺภวตีติ ‘‘อสงฺขาริก’’นฺติ จ พฺยภิจาราภาวโต ‘‘สสงฺขาริก’’นฺติ จ น วุตฺตนฺติ.
ปิ-สทฺเทน เจตฺถ จตุกฺกปฺจกนยวเสน สุทฺธิกนวโก, ตฺจ ทุกฺขปฺปฏิปทาทนฺธาภิฺาทุกฺขปฺปฏิปทาขิปฺปาภิฺาสุขปฺปฏิปทาทนฺธาภิฺาสุขปฺปฏิปทาขิปฺปาภิฺาวเสน ปฏิปทาจตุกฺเกน โยเชตฺวา เทสิตตฺตา จตฺตาโร นวกา, ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณํ, อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณํ, อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ อารมฺมณจตุกฺเกน โยชิตตฺตา จตฺตาโร นวกา, ‘‘ทุกฺขปฺปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ทุกฺขปฺปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺตฺยาทินา อารมฺมณปฺปฏิปทามิสฺสกนยวเสน โสฬส นวกาติ ปฺจวีสติ นวกาติ เอวมาทิเภทํ สงฺคณฺหาติ.
๒๒. ฌานวิเสเสน นิพฺพตฺติตวิปาโก เอกนฺตโต ตํตํฌานสทิโสวาติ วิปากํ ฌานสทิสเมว วิภตฺตํ. อิมเมว หิ อตฺถํ ทีเปตุํ ภควตา วิปากนิทฺเทเสปิ กุสลํ อุทฺทิสิตฺวาว ตทนนฺตรํ มหคฺคตโลกุตฺตรวิปากา วิภตฺตา.
๒๕. รูปาวจรมานสํ ฌานเภเทน ปฺจหิ จตูหิ ตีหิ ทฺวีหิ ปุน ทฺวีหิ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคเภเทน ปฺจธา ปฺจงฺคิกํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกํ ปุน ทุวงฺคิกนฺติ ปฺจวิธํ โหติ อวิเสเสน, ปุน ตํ ปฺุปากกิริยานํ ปจฺเจกํ ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ เภทา ปฺจทสธา ภเวตฺยตฺโถ.
รูปาวจรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อรูปาวจรจิตฺตวณฺณนา
๒๖. อิทานิ ¶ ¶ อรูปาวจรํ อารมฺมณเภเทน จตุธา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อากาสานฺจายตนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปฺปาทาทิอนฺตรหิตตาย นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสฺจ ตํ อนนฺตฺจาติ อากาสานนฺตํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาโส. ‘‘อนนฺตากาส’’นฺติ จ วตฺตพฺเพ ‘‘อคฺยาหิโต’’ตฺยาทีสุ วิย วิเสสนสฺส ปรนิปาตวเสน ‘‘อากาสานนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ สกตฺเถ ภาวปจฺจยวเสน. อากาสานฺจเมว อายตนํ สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส อธิฏฺานฏฺเน เทวานํ เทวายตนํ วิยาติ อากาสานฺจายตนํ. ตสฺมึ อปฺปนาปฺปตฺตํ ปมารุปฺปชฺฌานมฺปิ อิธ ‘‘อากาสานฺจายตน’’นฺติ วุตฺตํ ยถา ปถวีกสิณารมฺมณํ ฌานํ ‘‘ปถวีกสิณ’’นฺติ. อถ วา อากาสานฺจํ อายตนํ อสฺสาติ อากาสานฺจายตนํ, ฌานํ, เตน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ อากาสานฺจายตนกุสลจิตฺตํ.
วิฺาณเมว อนนฺตํ วิฺาณานนฺตํ, ปมารุปฺปวิฺาณํ. ตฺหิ อุปฺปาทาทิอนฺตวนฺตมฺปิ อนนฺตากาเส ปวตฺตนโต อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตาย ภาวนาย อุปฺปาทาทิอนฺตํ อคฺคเหตฺวา อนนฺตโต ผรณวเสน ปวตฺตนโต จ ‘‘อนนฺต’’นฺติ วุจฺจติ. วิฺาณานนฺตเมว วิฺาณฺจํ อาการสฺส รสฺสตฺตํ, น-การสฺส โลปฺจ กตฺวา. ทุติยารุปฺปวิฺาเณน วา อฺจิตพฺพํ ปาปุณิตพฺพนฺติ วิฺาณฺจํ, ตเทว อายตนํ ทุติยารุปฺปสฺส อธิฏฺานตฺตาติ วิฺาณฺจายตนํ. เสสํ ปุริมสมํ.
นาสฺส ¶ ปมารุปฺปสฺส กิฺจนํ อปฺปมตฺตกํ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ อตฺถีติ อกิฺจนํ, ตสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, ปมารุปฺปวิฺาณาภาโว. ตเทว อายตนนฺตฺยาทิ ปุริมสทิสํ.
โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ สฺาย อตฺถิตาย เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส สฺา อตฺถิ, นาปิ อสฺํ อวิชฺชมานสฺนฺติ เนวสฺานาสฺํ, จตุตฺถารุปฺปชฺฌานํ. ทีฆํ กตฺวา ปน ‘‘เนวสฺานาสฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เนวสฺานาสฺเมว อายตนํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. อถ วา สฺาว วิปสฺสนาย โคจรภาวํ คนฺตฺวา นิพฺเพทชนนสงฺขาตสฺส ปฏุสฺากิจฺจสฺส อภาวโต เนวสฺา จ ¶ อุณฺโหทเก เตโชธาตุ วิย สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา น อสฺาติ เนวสฺานาสฺา, สา เอว อายตนํ อิมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส นิสฺสยาทิภาวโตติ เนวสฺานาสฺายตนํ. สฺาวเสน เจตฺถ ฌานูปลกฺขณํ นิทสฺสนมตฺตํ. เวทนาทโยปิ หิ ตสฺมึ ฌาเน เนวเวทนานาเวทนาทิกาเยวาติ. เนวสฺานาสฺายตเนน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ เนวสฺานาสฺายตนกุสลจิตฺตํ. ปิ-สทฺเทน เจตฺถ อารมฺมณปฺปฏิปทามิสฺสกนยวเสน โสฬสกฺขตฺตุกเทสนํ (ธ. ส. ๒๖๕-๒๖๘), อฺมฺปิ จ ปาฬิยํ อาคตนยเภทํ สงฺคณฺหาติ.
๓๐. อารมฺมณานํ อติกฺกมิตพฺพานํ, กสิณากาสวิฺาณตทภาวสงฺขาตานํ อาลมฺพิตพฺพานฺจ อากาสาทิจตุนฺนํ โคจรานํ ปเภเทน อารุปฺปมานสํ จตุพฺพิธํ โหติ. ตฺหิ ยถากฺกมํ ปฺจมชฺฌานารมฺมณํ กสิณนิมิตฺตํ อติกฺกมฺม ตทุคฺฆาเฏน ลทฺธํ อากาสมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตตฺถ ปวตฺตํ วิฺาณมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตทภาวภูตํ อกิฺจนภาวมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตตฺถ ปวตฺตํ ตติยารุปฺปวิฺาณมาลมฺพิตฺวา ¶ ปวตฺตติ, น ปน รูปาวจรกุสลํ วิย ปุริมปุริมองฺคาติกฺกมวเสน ปุริมปุริมสฺสาปิ อารมฺมณํ คเหตฺวา. เตนาหุ อาจริยา –
‘‘อารมฺมณาติกฺกมโต, จตสฺโสปิ ภวนฺติมา;
องฺคาติกฺกมเมตาสํ, น อิจฺฉนฺติ วิภาวิโน’’ติ; (ธ. ส. อฏฺ. ๒๖๘);
อรูปาวจรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสภนจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรจิตฺตวณฺณนา
๓๑. อิทานิ โลกุตฺตรกุสลํ จตุมคฺคโยคโต, ผลฺจ ตทนุรูปปฺปวตฺติยา จตุธา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคจิตฺต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. นิพฺพานํ ปติสวนโต อุปคมนโต, นิพฺพานมหาสมุทฺทนินฺนตาย ¶ โสตสทิสตฺตา วา ‘‘โสโต’’ติ วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตสฺส อาปตฺติ อาทิโต ปชฺชนํ ปาปุณนํ ปมสมนฺนาคโม โสตาปตฺติ อา-อุปสคฺคสฺส อาทิกมฺมนิ ปวตฺตนโต. นิพฺพานํ มคฺเคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ, กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉตีติ วา มคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ มคฺคจิตฺตํ, โสตาปตฺติยา ลทฺธํ มคฺคจิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ. อถ วา อริยมคฺคโสตสฺส อาทิโต ปชฺชนํ เอตสฺสาติ โสตาปตฺติ, ปุคฺคโล, ตสฺส มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ.
สกึ เอกวารํ ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, อิธ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี, ตตฺถ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อิธ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี, ตตฺถ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี, อิธ ปตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา อิธ ปรินิพฺพายีติ ปฺจสุ สกทาคามีสุ ปฺจมโก อิธาธิปฺเปโต. โส หิ อิโต ¶ คนฺตฺวา ปุน สกึ อิธ อาคจฺฉตีติ. ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. กิฺจาปิ มคฺคสมงฺคิโน ตถาคมนาสมฺภวโต ผลฏฺโเยว สกทาคามี นาม, ตสฺส ปน การณภูโต ปุริมุปฺปนฺโน มคฺโค มคฺคนฺตราวจฺเฉทนตฺถํ ผลฏฺเน วิเสเสตฺวา วุจฺจติ ‘‘สกทาคามิมคฺโค’’ติ. เอวํ อนาคามิมคฺโคติ. สกทาคามิมคฺเคน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ.
ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ กามธาตุํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อนาคามิมคฺคจิตฺตํ. อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวน ปูชาวิเสสํ อรหตีติ อรหา, อถ วา กิเลสสงฺขาตา อรโย, สํสารจกฺกสฺส วา อรา กิเลสา หตา อเนนาติ อรหา, ปาปกรเณ รหาภาวโต วา อรหา, อฏฺมโก อริยปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อรหตฺตํ, จตุตฺถผลสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺส อาคมนภูโต มคฺโค อรหตฺตมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อรหตฺตมคฺคจิตฺตํ.
ปิ-สทฺเทน เอเกกสฺส มคฺคสฺส นยสหสฺสวเสน จตุนฺนํ จตุสหสฺสเภทํ สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๒๐๖; วิภ. อฏฺ. ๒๐๖-๒๑๔) อาคตํ สฏฺิสหสฺสเภทํ นยํ เหฏฺา วุตฺตนเยน อเนกวิธตฺตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถายํ นยสหสฺสมตฺตปริทีปนา, กถํ? โสตาปตฺติมคฺโค ตาว ฌานนาเมน ปฏิปทาเภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ สฺุโต อปฺปณิหิโตติ ทฺวิธา วิภตฺโต, ปุน ปฏิปทาจตุกฺเกน โยเชตฺวา ปจฺเจกํ จตุธา วิภตฺโตติ เอวํ ฌานนาเมน ทสธา วิภตฺโต. ตถา มคฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสจฺจสมถธมฺมขนฺธอายตนธาตุอาหารผสฺสเวทนาสฺาเจตนาจิตฺตนาเมหิปิ ¶ ปจฺเจกํ ทสทสากาเรหิ วิภตฺโต ตถา ตถา พุชฺฌนกานํ ปุคฺคลานํ วเสน. ตสฺมา ¶ ฌานวเสน ทสมคฺคาทีนํ เอกูนวีสติยา วเสน ทส ทสาติ วีสติยา าเนสุ ทฺเว นยสตานิ โหนฺติ. ปุน ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ โยเชตฺวา ปจฺเจกํ จตุธา วิภตฺตานีติ เอวํ อธิปตีหิ อมิสฺเสตฺวา ทฺเว สตานิ, มิสฺเสตฺวา อฏฺ สตานีติ โสตาปตฺติมคฺเค นยสหสฺสํ โหติ, ตถา สกทาคามิมคฺคาทีสุปิ.
๓๒. โสตาปตฺติยา ลทฺธํ, โสตาปตฺติสฺส วา ผลจิตฺตํ วิปากภูตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติผลจิตฺตํ. อรหตฺตฺจ ตํ ผลจิตฺตฺจาติ อรหตฺตผลจิตฺตํ.
๓๔. จตุมคฺคปฺปเภเทนาติ อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวตรตมเภเทน ภินฺนสามตฺถิยตาย สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสานํ นิรวเสสปฺปหานํ กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาปาทนํ เตสเมว นิรวเสสปฺปหานํ รูปารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานนฺติ เอวํ สํโยชนปฺปหานวเสน จตุพฺพิธานํ โสตาปตฺติมคฺคาทีนํ อฏฺงฺคิกมคฺคานํ สมฺปโยคเภเทน จตุมคฺคสงฺขาตํ โลกุตฺตรกุสลํ จตุธา โหติ, วิปากํ ปน ตสฺเสว กุสลสฺส ผลตฺตา ตทนุรูปโต ตถา จตุธาติ เอวํ อนุตฺตรํ อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน อนุตฺตรสงฺขาตํ โลกุตฺตรํ จิตฺตํ อฏฺธา มตนฺติ โยชนา.
กิริยานุตฺตรสฺส ปน อสมฺภวโต ทฺวาทสวิธตา น วุตฺตา. กสฺมา ปน ตสฺส อสมฺภโวติ? มคฺคสฺส เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. ยทิ หิ มคฺคจิตฺตํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตทุปฺปตฺติยา กิริยภาโว สกฺกา วตฺตุํ. ตํ ปน กิเลสสมุจฺเฉทกวเสเนว อุปลภิตพฺพโต เอกวารปฺปวตฺเตเนว จ เตน อสนิสมฺปาเตน วิย ตรุอาทีนํ สมูลวิทฺธํสนสฺส ตํตํกิเลสานํ อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติยา สาธิตตฺตา ปุน อุปฺปชฺชมาเนปิ กาตพฺพาภาวโต ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถฺจ ผลสมาปตฺติยา เอว ¶ นิพฺพานารมฺมณวเสน ปวตฺตนโต น กทาจิ เสกฺขานํ อเสกฺขานํ วา อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา นตฺถิ สพฺพถาปิ โลกุตฺตรกิริยจิตฺตนฺติ.
โลกุตฺตรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตคณนสงฺคหวณฺณนา
๓๕. ‘‘ทฺวาทสากุสลาเนว’’นฺตฺยาทิ ¶ ยถาวุตฺตานํ จตุภูมิกจิตฺตานํ คณนสงฺคโห.
๓๖. เอวํ ชาติวเสน สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา ปุน ภูมิวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘จตุปฺาสธา กาเม’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. กาเม ภเว จิตฺตานิ จตุปฺาสธา อีรเย, รูเป ภเว ปนฺนรส อีรเย, อารุปฺเป ภเว ทฺวาทส อีรเย, อนุตฺตเร ปน นววิเธ ธมฺมสมุทาเย จิตฺตานิ อฏฺธา อีรเย, กเถยฺยาตฺยตฺโถ. เอตฺถ จ กามตณฺหาทิวิสยภาเวน กามภวาทิปริยาปนฺนานิ จิตฺตานิ สกสกภูมิโต อฺตฺถ ปวตฺตมานานิปิ กามภวาทีสุ จิตฺตานีติ วุตฺตานิ, ยถา มนุสฺสิตฺถิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตปิ ติรจฺฉานคโต ติรจฺฉานโยนิปริยาปนฺนตฺตา ติรจฺฉาเนสฺเวว สงฺคยฺหติ. กตฺถจิ อปริยาปนฺนานิ นววิธโลกุตฺตรธมฺมสมูเหกเทสภูตานิ ‘‘รุกฺเข สาขา’’ตฺยาทีสุ วิย อนุตฺตเร จิตฺตานีติ วุตฺตานิ. อถ วา ‘‘กาเม, รูเป’’ติ จ อุตฺตรปทโลปนิทฺเทโส. อรูเป ภวานิ อารุปฺปานิ. นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตรํ จิตฺตนฺติ อนุตฺตรานีติ อุปโยคพหุวจนวเสน กาเม กามาวจรานิ จิตฺตานิ จตุปฺาสธา อีรเย, รูเป รูปาวจรานิ จิตฺตานิ ปนฺนรส อีรเย, อารุปฺเป อารุปฺปานิ จิตฺตานิ ทฺวาทส อีรเย. อนุตฺตเร โลกุตฺตรานิ จิตฺตานิ อฏฺธา อีรเยติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ.
๓๗. อิตฺถํ ¶ ยถาวุตฺเตน ชาติเภทภินฺนจตุภูมิกจิตฺตเภทวเสน เอกูนนวุติปฺปเภทํ กตฺวา มานสํ จิตฺตํ วิจกฺขณา วิเสเสน อตฺถจกฺขณสภาวา ปณฺฑิตา วิภชนฺติ. อถ วา เอกวีสสตํ เอกุตฺตรวีสาธิกํ สตํ วิภชนฺติ.
จิตฺตคณนสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิตฺถารคณนวณฺณนา
๓๘. ฌานงฺควเสน ปมชฺฌานสทิสตฺตา ปมชฺฌานฺจ ตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตฺเจติ ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ. ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสเยสุปิ, หิ อฺตรวเสน ตํตํฌานสทิสตฺตา ¶ วิตกฺกาทิองฺคปาตุภาเวน จตฺตาโรปิ มคฺคา ปมชฺฌานาทิโวหารํ ลภนฺตา ปจฺเจกํ ปฺจธา วิภชนฺติ. เตนาห ‘‘ฌานงฺคโยคเภเทนา’’ตฺยาทิ, ตตฺถ ปมชฺฌานาทีสุ ยํ ยํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปวตฺตา, ตํ ปาทกชฺฌานํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย ปทฏฺานภาวโต. ยํ ยํ ฌานํ สมฺมสนฺตสฺส สา ปวตฺตา, ตํ สมฺมสิตชฺฌานํ. ‘‘อโห วต เม ปมชฺฌานสทิโส มคฺโค ปฺจงฺคิโก, ทุติยชฺฌานาทีสุ วา อฺตรสทิโส จตุรงฺคาทิเภโท มคฺโค ภเวยฺยา’’ติ เอวํ โยคาวจรสฺส อุปฺปนฺนชฺฌาสโย ปุคฺคลชฺฌาสโย นาม.
ตตฺถ เยน ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส โส มคฺโค ปมชฺฌานาทีสุ ตํตํปาทกชฺฌานสทิโส โหติ. สเจ ปน วิปสฺสนาปาทกํ กิฺจิ ฌานํ นตฺถิ, เกวลํ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรํ ฌานํ สมฺมสิตฺวา ¶ มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส โส สมฺมสิตชฺฌานสทิโส โหติ. ยทา ปน ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย อฺตรํ สมฺมสิตฺวา มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตทา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ทฺวีสุ อฺตรสทิโส โหติ. สเจ ปน ปุคฺคลสฺส ตถาวิโธ อชฺฌาสโย นตฺถิ, เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต วุฏฺาย อุปรูปริฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค ปาทกชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา สมฺมสิตชฺฌานสทิโส โหติ. อุปรูปริฌานโต ปน วุฏฺาย เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สมฺมสิตชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานสทิโส โหติ. เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต หิ อุปรูปริฌานํ พลวตรนฺติ. เวทนานิยโม ปน สพฺพตฺถาปิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนานิยเมน โหติ. ตถา สุกฺขวิปสฺสกสฺส สกลชฺฌานงฺคนิยโม. ตสฺส หิ ปาทกชฺฌานาทีนํ อภาเวน เตสํ วเสน นิยมาภาวโต วิปสฺสนานิยเมน ปฺจงฺคิโกว มคฺโค โหตีติ. อปิจ สมาปตฺติลาภิโนปิ ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ วิปสฺสนานิยเมเนว ปฺจงฺคิโกว โหตีติ อยเมตฺถ อฏฺกถาทิโต อุทฺธโฏ วินิจฺฉยสาโร. เถรวาททสฺสนาทิวสปฺปวตฺโต ปน ปปฺโจ อฏฺกถาทีสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถาปิ วิตฺถารนโย ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยน คเหตพฺโพ. คนฺถภีรุกชนานุคฺคหตฺถํ ปเนตฺถ สงฺเขปกถา อธิปฺเปตา.
๔๒. ยถา รูปาวจรํ จิตฺตํ ปมาทิปฺจวิธฌานเภเทน คยฺหติ ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺตฺยาทินา วุจฺจติ ¶ , ตถา อนุตฺตรมฺปิ จิตฺตํ ‘‘ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺต’’นฺตฺยาทินา คยฺหติ. อารุปฺปฺจาปิ อุเปกฺเขกคฺคตาโยเคน องฺคสมตาย ปฺจมชฺฌาเน คยฺหติ, ปฺจมชฺฌานโวหารํ ลภตีตฺยตฺโถ. อถ วา ¶ รูปาวจรํ จิตฺตํ อนุตฺตรฺจ ปมาทิฌานเภเท ‘‘ปมชฺฌานกุสลจิตฺตํ, ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตนฺตฺยาทินา ยถา คยฺหติ, ตถา อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม ฌาเน คยฺหตีติ โยชนา. อาจริยสฺสาปิ หิ อยเมว โยชนา อธิปฺเปตาติ ทิสฺสติ นามรูปปริจฺเฉเท อุชุกเมว ตถา วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘รูปาวจรจิตฺตานิ, คยฺหนฺตานุตฺตรานิ จ;
ปมาทิฌานเภเท, อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม’’ติ. (นาม. ปริ. ๒๔);
ตสฺมาติ ยสฺมา รูปาวจรํ วิย อนุตฺตรมฺปิ ปมาทิฌานเภเท คยฺหติ, อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม คยฺหติ, ยสฺมา วา ฌานงฺคโยคเภเทน เอเกกํ ปฺจธา กตฺวา อนุตฺตรํ จิตฺตํ จตฺตาลีสวิธนฺติ วุจฺจติ, รูปาวจรโลกุตฺตรานิ วิย จ ปมาทิฌานเภเท, ตถา อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม คยฺหติ, ตสฺมา ปมาทิกเมเกกํ ฌานํ โลกิยํ ติวิธํ, โลกุตฺตรํ อฏฺวิธนฺติ เอกาทสวิธํ. อนฺเต ตุ ฌานํ เตวีสติวิธํ ติวิธรูปาวจรทฺวาทสวิธอรูปาวจรอฏฺโลกุตฺตรวเสนาตฺยตฺโถ.
๔๓. ปาทกชฺฌานาทิวเสน คณนวุฑฺฒิ กุสลวิปาเกสฺเวว สมฺภวตีติ เตสเมว คณนํ เอกวีสสตคณนาย องฺคภาเวน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สตฺตตึสา’’ตฺยาทิ.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
จิตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เจตสิกปริจฺเฉทวณฺณนา
สมฺปโยคลกฺขณวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ตาว จิตฺตํ ภูมิชาติสมฺปโยคสงฺขารฌานารมฺมณมคฺคเภเทน ยถารหํ วิภชิตฺวา อิทานิ เจตสิกวิภาคสฺส อนุปฺปตฺตตฺตา ปมํ ตาว จตุพฺพิธสมฺปโยคลกฺขณสนฺทสฺสนวเสน เจตสิกลกฺขณํ เปตฺวา, ตทนนฺตรํ อฺสมานอกุสลโสภนวเสน ตีหิ ราสีหิ เจตสิกธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา, เตสํ โสฬสหากาเรหิ สมฺปโยคํ, เตตฺตึสวิเธน สงฺคหฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกุปฺปาทนิโรธา จา’’ตฺยาทิ อารทฺธํ. จิตฺเตน สห เอกโต อุปฺปาโท จ นิโรโธ จ เยสํ เต เอกุปฺปาทนิโรธา. เอกํ อาลมฺพณฺจ วตฺถุ จ เยสํ เต เอกาลมฺพณวตฺถุกา. เอวํ จตูหิ ลกฺขเณหิ เจโตยุตฺตา จิตฺเตน สมฺปยุตฺตา ทฺวิปฺาส ลกฺขณา ธารณโต ธมฺมา นิยตโยคิโน, อนิยตโยคิโน จ เจตสิกา มตา.
ตตฺถ ยทิ เอกุปฺปาทมตฺเตเนว เจโตยุตฺตาติ อธิปฺเปตา, ตทา จิตฺเตน สห อุปฺปชฺชมานานํ รูปธมฺมานมฺปิ เจโตยุตฺตตา อาปชฺเชยฺยาติ เอกนิโรธคฺคหณํ. เอวมฺปิ จิตฺตานุปริวตฺติโน วิฺตฺติทฺวยสฺส ปสงฺโค นสกฺกา นิวาเรตุํ, ตถา ‘‘เอกโต อุปฺปาโท วา นิโรโธ วา เอเตสนฺติ เอกุปฺปาทนิโรธา’’ติ ปริกปฺเปนฺตสฺส ปุเรตรมุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ นิรุชฺฌมานานมฺปิ รูปธมฺมานนฺติ เอกาลมฺพณคฺคหณํ. เย เอวํ ติวิธลกฺขณา, เต นิยมโต เอกวตฺถุเยวาติทสฺสนตฺถํ เอกวตฺถุกคฺคหณนฺติ อลมติปฺปปฺเจน.
สมฺปโยคลกฺขณวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฺสมานเจตสิกวณฺณนา
๒. กถนฺติ ¶ สรูปสมฺปโยคาการานํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ผุสตีติ ผสฺโส (ธ. ส. อฏฺ. ๑ ธมฺมุเทสวารผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา), สฺวายํ ¶ ผุสนลกฺขโณ. อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตติ, สา จสฺส ผุสนาการปฺปวตฺติ อมฺพิลขาทกาทีนํ ปสฺสนฺตสฺส ปรสฺส เขฬุปฺปาทาทิ วิย ทฏฺพฺพา. เวทยติ อารมฺมณรสํ อนุภวตีติ เวทนา, สา เวทยิตลกฺขณา. อารมฺมณรสานุภวนฺหิ ปตฺวา เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอกเทสมตฺเตเนว รสํ อนุภวนฺติ, เอกํสโต ปน อิสฺสรวตาย เวทนาว อนุภวติ. ตถา เหสา ‘‘สุโภชนรสานุภวนกราชา วิยา’’ติ วุตฺตา. สุขาทิวเสน ปนสฺสา เภทํ สยเมว วกฺขติ. นีลาทิเภทํ อารมฺมณํ สฺชานาติ สฺํ กตฺวา ชานาตีติ สฺา, สา สฺชานนลกฺขณา. สา หิ อุปฺปชฺชมานา ทารุอาทีสุ วฑฺฒกิอาทีนํ สฺาณกรณํ วิย ปจฺฉา สฺชานนสฺส การณภูตํ อาการํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ. นิมิตฺตการิกาย ตาเวตํ ยุชฺชติ, นิมิตฺเตน สฺชานนฺติยา ปน กถนฺติ? สาปิ ปุน อปราย สฺาย สฺชานนสฺส นิมิตฺตํ อาการํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชตีติ น เอตฺถ โกจิ อสมฺภโว.
เจเตติ อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมเณ อภิสนฺทหติ, สงฺขตาภิสงฺขรเณ วา พฺยาปารมาปชฺชตีติ เจตนา. ตถา หิ อยเมว อภิสงฺขรเณ ปธานตฺตา วิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนิเย สงฺขารกฺขนฺธํ วิภชนฺเตน ‘‘สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) วตฺวา ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ตฺยาทินา (วิภ. ๒๑) นิทฺทิฏฺา. สา เจตยิตลกฺขณา, เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกิอาทโย วิย สกิจฺจปรกิจฺจสาธิกาติ ทฏฺพฺพํ. เอกคฺคตาวิตกฺกวิจารปีตีนํ สรูปวิภาวนํ เหฏฺา อาคตเมว.
ชีวนฺติ ¶ เตน สมฺปยุตฺตธมฺมาติ ชีวิตํ, ตเทว สหชาตานุปาลเน อาธิปจฺจโยเคน อินฺทฺริยนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ อนุปาลนลกฺขณํ อุปฺปลาทิอนุปาลกํ อุทกํ วิย. กรณํ กาโร, มนสฺมึ กาโร มนสิกาโร, โส เจตโส อารมฺมเณ สมนฺนาหารลกฺขโณ. วิตกฺโก หิ สหชาตธมฺมานํ อารมฺมเณ อภินิโรปนสภาวตฺตา เต ตตฺถ ปกฺขิปนฺโต วิย โหติ, เจตนา อตฺตนา อารมฺมณคฺคหเณน ยถารุฬฺเห ธมฺเมปิ ตตฺถ ตตฺถ นิโยเชนฺตี พลนายโก วิย โหติ, มนสิกาโร เต อารมฺมณาภิมุขํ ปโยชนโต อาชานียานํ ปโยชนกสารถิ วิยาติ อยเมเตสํ วิเสโส. ธมฺมานฺหิ ตํ ตํ ยาถาวสรสลกฺขณํ สภาวโต ปฏิวิชฺฌิตฺวา ภควตา เต เต ธมฺมา วิภตฺตาติ ภควติ สทฺธาย ‘‘เอวํ วิเสสา อิเม ธมฺมา’’ติ โอกปฺเปตฺวา อุคฺคหณปริปุจฺฉาทิวเสน เตสํ สภาวสมธิคมาย โยโค กรณีโย, น ปน ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปฏิปชฺชนฺเตหิ ¶ สมฺโมโห อาปชฺชิตพฺโพติ อยเมตฺถ อาจริยานํ อนุสาสนี. สพฺเพสมฺปิ เอกูนนวุติจิตฺตานํ สาธารณา นิยมโต เตสุ อุปฺปชฺชนโตติ สพฺพจิตฺตสาธารณา นาม.
๓. อธิมุจฺจนํ อธิโมกฺโข, โส สนฺนิฏฺานลกฺขโณ, อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน อินฺทขีโล วิย ทฏฺพฺโพ. วีรานํ ภาโว, กมฺมํ, วิธินา อีรยิตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วา วีริยํ, อุสฺสาโห, โส สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนลกฺขโณ. วีริยวเสน หิ เตสํ โอลีนวุตฺติตา น โหติ. เอวฺจ กตฺวา อิมสฺส วิตกฺกาทีหิ วิเสโส สุปากโฏ โหติ. ฉนฺทนํ ฉนฺโท, อารมฺมเณน อตฺถิกตา, โส กตฺตุกามตาลกฺขโณ. ตถา เหส ‘‘อารมฺมณคฺคหเณ เจตโส หตฺถปฺปสารณํ วิยา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ เยวาปนกวณฺณนา) วุจฺจติ. ทานวตฺถุวิสฺสชฺชนวเสน ¶ ปวตฺตกาเลปิ เจส วิสฺสชฺชิตพฺเพน เตน อตฺถิโกว ขิปิตพฺพอุสูนํ คหเณ อตฺถิโก อิสฺสาโส วิย. โสภเนสุ ตทิตเรสุ จ ปกาเรน กิณฺณา วิปฺปกิณฺณาติ ปกิณฺณกา.
๔. โสภนาเปกฺขาย อิตเร, อิตราเปกฺขาย โสภนา จ อฺเ นาม, เตสํ สมานา น อุทฺธจฺจสทฺธาทโย วิย อกุสลาทิสภาวาเยวาติ อฺสมานา.
อฺสมานเจตสิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลเจตสิกวณฺณนา
๕. เอวํ ตาว สพฺพจิตฺตสาธารณวเสน, ปกิณฺณกวเสน จ โสภเนตรสภาเว เตรส ธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา อิทานิ เหฏฺา จิตฺตวิภาเค นิทฺทิฏฺานุกฺกเมน อกุสลธมฺมปริยาปนฺเน ปมํ, ตโต โสภนธมฺมปริยาปนฺเน จ ทสฺเสตุํ ‘‘โมโห’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. อเหตุกา ปน อาเวณิกธมฺมา นตฺถีติ น เต วิสุํ วุตฺตา. อารมฺมเณ มุยฺหตีติ โมโห, อฺาณํ, โส อารมฺมณสภาวจฺฉาทนลกฺขโณ. อารมฺมณคฺคหณวสปฺปวตฺโตปิ เหส ตสฺส ยถาสภาวปฺปฏิจฺฉาทนากอาเรเนว ปวตฺตติ. น หิรียติ น ลชฺชตีติ อหิริโก, ปุคฺคโล, ธมฺมสมูโห วา. อหิริกสฺส ภาโว อหิริกฺกํ, ตเทว อหิริกํ. น โอตฺตปฺปตีติ อโนตฺตปฺปํ. ตตฺถ คูถโต คามสูกโร ¶ วิย กายทุจฺจริตาทิโต อชิคุจฺฉนลกฺขณํ อหิริกํ, อคฺคิโต สลโภ วิย ตโต อนุตฺตาสลกฺขณํ อโนตฺตปฺปํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ชิคุจฺฉติ นาหิริโก, ปาปา คูถาว สูกโร;
น ภายติ อโนตฺตปฺปี, สลโภ วิย ปาวกา’’ติ.
อุทฺธตสฺส ¶ ภาโว อุทฺธจฺจํ, ตํ จิตฺตสฺส อวูปสมลกฺขณํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมํ วิย. ลุพฺภตีติ โลโภ, โส อารมฺมเณ อภิสงฺคลกฺขโณ มกฺกฏาเลโป วิย. จิตฺตสฺส อาลมฺพิตุกามตามตฺตํ ฉนฺโท, โลโภ ตตฺถ อภิคิชฺฌนนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ มิจฺฉาภินิเวสลกฺขณา ทิฏฺิ. าณฺหิ อารมฺมณํ ยถาสภาวโต ชานาติ, ทิฏฺิ ยถาสภาวํ วิชหิตฺวา อยาถาวโต คณฺหาตีติ อยเมเตสํ วิเสโส. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ตฺยาทินา มฺตีติ มาโน, โส อุณฺณติลกฺขโณ. ตถา เหส ‘‘เกตุกมฺยตาปจฺจุปฏฺาโน’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๐๐) วุตฺโต. ทุสฺสตีติ โทโส, โส จณฺฑิกฺกลกฺขโณ ปหฏาสีวิโส วิย, อิสฺสตีติ อิสฺสา, สา ปรสมฺปตฺติอุสูยนลกฺขณา. มจฺฉรสฺส ภาโว มจฺฉริยํ, ‘‘มา อิทํ อจฺฉริยํ อฺเสํ โหตุ, มยฺหเมว โหตู’’ติ ปวตฺตํ วา มจฺฉริยํ, ตํ อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ. กุจฺฉิตํ กตนฺติ กุกตํ. กตากตทุจฺจริตสุจริตํ. อกตมฺปิ หิ กุกต’’นฺติ โวหรนฺติ ‘‘ยํ มยา อกตํ. ตํ กุกต’’นฺติ. อิธ ปน กตากตํ อารพฺภ อุปฺปนฺโน วิปฺปฏิสารจิตฺตุปฺปาโท กุกตํ, ตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ, ตํ กตากตทุจฺจริตสุจริตานุโสจนลกฺขณํ. ถินนํ ถินํ, อนุสฺสาหนาวสํสีทนวเสน สํหตภาโว. มิทฺธนํ มิทฺธํ, วิคตสามตฺถิยตา, อสตฺติวิฆาโต วา, ตตฺถ ถินํ จิตฺตสฺส อกมฺมฺตาลกฺขณํ, มิทฺธํ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺสาติ อยเมเตสํ วิเสโส. ตถา หิ ปาฬิยํ (ธ. ส. ๑๑๖๒-๑๑๖๓) ‘‘ตตฺถ กตมํ ถินํ? ยา จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา. ตตฺถ กตมํ มิทฺธํ? ยา กายสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’’ตฺยาทินา อิเมสํ นิทฺเทโส ปวตฺโต. นนุ จ ‘‘กายสฺสา’’ติ วจนโต รูปกายสฺสปิ อกมฺมฺตา มิทฺธนฺติ ตสฺส รูปภาโวปิ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺถ อาจริเยหิ อานีตการณวเสเนวสฺส ¶ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ตถา หิ มิทฺธวาทิมตปฺปฏิกฺเขปนตฺถํ เตสํ วาทนิกฺเขปปุพฺพกํ อฏฺกถาทีสุ พหุธา วิตฺถาเรนฺติ อาจริยา. อยํ ปเนตฺถ สงฺคโห –
‘‘เกจิ ¶ มิทฺธมฺปิ รูปนฺติ, วทนฺเตตํ น ยุชฺชติ;
ปหาตพฺเพสุ วุตฺตตฺตา, กามจฺฉนฺทาทโย วิย.
‘‘ปหาตพฺเพสุ อกฺขาต-เมตํ นีวรเณสุ หิ;
รูปนฺตุ น ปหาตพฺพ-มกฺขาตํ ทสฺสนาทินา.
‘‘‘น ตุมฺหํ ภิกฺขเว รูปํ, ปชเหถา’ติ ปาโต;
ปเหยฺยภาวเลโสปิ, ยตฺถ รูปสฺส ทิสฺสติ.
‘‘ตตฺถ ตพฺพิสยจฺฉนฺท-ราคหานิ ปกาสิตา;
วุตฺตฺหิ ตตฺถ โย ฉนฺท-ราคกฺเขโปติอาทิกํ.
‘‘รูปารูเปสุ มิทฺเธสุ, อรูปํ ตตฺถ เทสิตํ;
อิติ เจ นตฺถิ ตํ ตตฺถ, อวิเสเสน ปาโต.
‘‘สกฺกา หิ อนุมาตุํ ยํ, มิทฺธํ รูปนฺติ จินฺติตํ;
ตมฺปิ นีวรณํ มิทฺธ-ภาวโต อิตรํ วิย.
‘‘สมฺปโยคาภิธานา จ, น ตํ รูปนฺติ นิจฺฉโย;
อรูปีนฺหิ ขนฺธานํ, สมฺปโยโค ปวุจฺจติ.
‘‘ตถารุปฺเป สมุปฺปตฺติ, ปาโต นตฺถิ รูปตา;
นิทฺทา ขีณาสวานนฺตุ, กายเคลฺโต สิยา’’ติ.
อกุสลเจตสิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสภนเจตสิกวณฺณนา
๖. สทฺทหตีติ ¶ สทฺธา, พุทฺธาทีสุ ปสาโท, สา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปสาทนลกฺขณา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย. สรณํ ¶ สติ, อสมฺโมโส, สา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สารณลกฺขณา. หิรียติ กายทุจฺจริตาทีหิ ชิคุจฺฉตีติ หิรี, สา ปาปโต ชิคุจฺฉนลกฺขณา. โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ, ตํ ปาปโต อุตฺตาสลกฺขณํ. อตฺตคารววเสน ปาปโต ชิคุจฺฉนโต กุลวธู วิย หิรี, ปรคารววเสน ปาปโต อุตฺตาสนโต เวสิยา วิย โอตฺตปฺปํ. โลภปฺปฏิปกฺโข อโลโภ, โส อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อลคฺคตาลกฺขโณ มุตฺตภิกฺขุ วิย. โทสปฺปฏิปกฺโข อโทโส, โส อจณฺฑิกฺกลกฺขโณ อนุกูลมิตฺโต วิย. เตสุ ธมฺเมสุ มชฺฌตฺตตา ตตฺรมชฺฌตฺตตา, สา จิตฺตเจตสิกานํ อชฺฌุเปกฺขนลกฺขณา สมปฺปวตฺตานํ อสฺสานํ อชฺฌุเปกฺขโก สารถิ วิย.
กายสฺส ปสฺสมฺภนํ กายปฺปสฺสทฺธิ. จิตฺตสฺส ปสฺสมฺภนํ จิตฺตปฺปสฺสทฺธิ. อุโภปิ เจตา กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา. กายสฺส ลหุภาโว กายลหุตา. ตถา จิตฺตลหุตา. ตา กายจิตฺตครุภาววูปสมลกฺขณา. กายสฺส มุทุภาโว กายมุทุตา. ตถา จิตฺตมุทุตา. ตา กายจิตฺตถทฺธภาววูปสมลกฺขณา. กมฺมนิ สาธุ กมฺมฺํ, ตสฺส ภาโว กมฺมฺตา, กายสฺส กมฺมฺตา กายกมฺมฺตา. ตถา จิตฺตกมฺมฺตา. ตา กายจิตฺตอกมฺมฺภาววูปสมลกฺขณา. ปคุณสฺส ภาโว ปาคฺุํ, ตเทว ปาคฺุตา, กายสฺส ปาคฺุตา กายปาคฺุตา. ตถา จิตฺตปาคฺุตา. ตา กายจิตฺตานํ เคลฺวูปสมลกฺขณา. กายสฺส อุชุกภาโว กายุชุกตา. ตถา จิตฺตุชุกตา. ตา กายจิตฺตานํ อชฺชวลกฺขณา. ยถากฺกมํ ปเนตา กายจิตฺตานํ สารมฺภาทิกรธาตุกฺโขภปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺานา, กาโยติ เจตฺถ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺส คหณํ. ยสฺมา เจเต ทฺเว ทฺเว ธมฺมาว เอกโต หุตฺวา ยถาสกํ ปฏิปกฺขธมฺเม หนนฺติ, ตสฺมา อิเธว ¶ ทุวิธตา วุตฺตา, น สมาธิอาทีสุ. อปิจ จิตฺตปฺปสฺสทฺธิอาทีหิ จิตฺตสฺเสว ปสฺสทฺธาทิภาโว โหติ, กายปฺปสฺสทฺธิอาทีหิ ปน รูปกายสฺสปิ ตํสมุฏฺานปณีตรูปผรณวเสนาติ ตทตฺถสนฺทสฺสนตฺถฺเจตฺถ ทุวิธตา วุตฺตา. โสภนานํ สพฺเพสมฺปิ สาธารณา นิยเมน เตสุ อุปฺปชฺชนโตติ โสภนสาธารณา.
๗. สมฺมา วทนฺติ เอตายาติ สมฺมาวาจา, วจีทุจฺจริตวิรติ. สา จตุพฺพิธา มุสาวาทา ¶ เวรมณิ, ปิสุณวาจา เวรมณิ, ผรุสวาจา เวรมณิ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณีติ. กมฺมเมว กมฺมนฺโต สุตฺตนฺตวนนฺตาทโย วิย. สมฺมา ปวตฺโต กมฺมนฺโต สมฺมากมฺมนฺโต, กายทุจฺจริตวิรติ. สา ติวิธา ปาณาติปาตา เวรมณิ, อทินฺนาทานา เวรมณิ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณีติ. สมฺมา อาชีวนฺติ เอเตนาติ สมฺมาอาชีโว, มิจฺฉาชีววิรติ. โส ปน อาชีวเหตุกกายวจีทุจฺจริตโต วิรมณวเสน สตฺตวิโธ, กุหนลปนาทิมิจฺฉาชีววิรมณวเสน พหุวิโธ วา. ติวิธาปิ ปเนตา ปจฺเจกํ สมฺปตฺตสมาทานสมุจฺเฉทวิรติวเสน ติวิธา วิรติโย นาม ยถาวุตฺตทุจฺจริเตหิ วิรมณโต.
๘. กโรติ ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยเขทํ ชเนติ, กิรติ วา วิกฺขิปติ ปรทุกฺขํ, กิณาติ วา ตํ หึสติ, กิริยติ วา ทุกฺขิเตสุ ปสาริยตีติ กรุณา, สา ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา. ตาย หิ ปรทุกฺขํ อปนียตุ วา, มา วา, ตทากาเรเนว สา ปวตฺตติ. โมทนฺติ เอตายาติ มุทิตา, สา ปรสมฺปตฺติอนุโมทนลกฺขณา, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมาณา, ตา เอว อปฺปมฺา. นนุ จ ‘‘จตสฺโส อปฺปมฺา’’ติ วกฺขติ, กสฺมา ปเนตฺถ ทฺเวเยว วุตฺตาติ? อโทสตตฺรมชฺฌตฺตตาหิ เมตฺตุเปกฺขานํ คหิตตฺตา. อโทโสเยว หิ สตฺเตสุ หิตชฺฌาสยวสปฺปวตฺโต ¶ เมตฺตา นาม. ตตฺรมชฺฌตฺตตาเยว เตสุ ปฏิฆานุนยวูปสมปฺปวตฺตา อุเปกฺขา นาม. เตนาหุ โปราณา –
‘‘อพฺยาปาเทน เมตฺตา หิ, ตตฺรมชฺฌตฺตตาย จ;
อุเปกฺขา คหิตา ยสฺมา, ตสฺมา น คหิตา อุโภ’’ติ. (อภิธ. ๗๐);
ปกาเรน ชานาติ อนิจฺจาทิวเสน อวพุชฺฌตีติ ปฺา, สา เอว ยถาสภาวาวโพธเน อาธิปจฺจโยคโต อินฺทฺริยนฺติ ปฺินฺทฺริยํ. อถ สฺาวิฺาณปฺานํ กึ นานากรณนฺติ? สฺา ตาว นีลาทิวเสน สฺชานนมตฺตํ กโรติ, ลกฺขณปฺปฏิเวธํ กาตุํ น สกฺโกติ. วิฺาณํ ลกฺขณปฺปฏิเวธมฺปิ สาเธติ, อุสฺสกฺกิตฺวา ปน มคฺคํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฺา ปน ติวิธมฺปิ กโรติ, พาลคามิกเหรฺิกานํ กหาปณาวโพธนเมตฺถ นิทสฺสนนฺติ. าณวิปฺปยุตฺตสฺาย เจตฺถ อาการคฺคหณวเสน อุปฺปชฺชนกาเล วิฺาณํ อพฺโพหาริกํ, เสสกาเล พลวํ. าณสมฺปยุตฺตา ปน อุโภปิ ตทนุคติกา โหนฺติ. สพฺพถาปิ ปฺจวีสตีติ สมฺพนฺโธ.
๙. ‘‘เตรสฺสมานา’’ตฺยาทิ ¶ ตีหิ ราสีหิ วุตฺตานํ สงฺคโห.
โสภนเจตสิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมฺปโยคนยวณฺณนา
๑๐. จิตฺเตน สห อวิยุตฺตา จิตฺตาวิยุตฺตา, เจตสิกาติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาโท, จิตฺตเมว อุปฺปาโท จิตฺตุปฺปาโท ¶ . อฺตฺถ ปน สสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ จิตฺตุปฺปาโทติ วุจฺจติ ‘‘อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ เอเตนาติ อุปฺปาโท, ธมฺมสมูโห, จิตฺตฺจ ตํ อุปฺปาโท จาติ จิตฺตุปฺปาโท’’ติ กตฺวา. สมาหารทฺวนฺเทปิ หิ ปุลฺลิงฺคํ กตฺถจิ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ. เตสํ จิตฺตาวิยุตฺตานํ จิตฺตุปฺปาเทสุ ปจฺเจกํ สมฺปโยโค อิโต ปรํ ยถาโยคํ ปวุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ.
อฺสมานเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา
๑๓. สภาเวน อวิตกฺกตฺตา ทฺวิปฺจวิฺาณานิ วชฺชิตานิ เอเตหิ, เตหิ วา เอตานิ วชฺชิตานีติ ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิตานิ, จตุจตฺตาลีส กามาวจรจิตฺตานิ. เตสุ เจว เอกาทสสุ ปมชฺฌานจิตฺเตสุ จ วิตกฺโก ชายติ เสสานํ ภาวนาพเลน อวิตกฺกตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๑๔. เตสุ เจว ปฺจปฺาสสวิตกฺกจิตฺเตสุ, เอกาทสสุ ทุติยชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ ฉสฏฺิจิตฺเตสุ วิจาโร ชายติ.
๑๕. ทฺวิปฺจวิฺาเณหิ, วิจิกิจฺฉาสหคเตน จาติ เอกาทสหิ วชฺชิเตสุ อฏฺสตฺตติจิตฺเตสุ อธิโมกฺโข ชายติ.
๑๖. ปฺจทฺวาราวชฺชเนน, ทฺวิปฺจวิฺาเณหิ, สมฺปฏิจฺฉนทฺวเยน, สนฺตีรณตฺตเยน จาติ โสฬสหิ วชฺชิเตสุ เตสตฺตติยา จิตฺเตสุ วีริยํ ชายติ.
๑๗. โทมนสฺสสหคเตหิทฺวีหิ ¶ , อุเปกฺขาสหคเตหิ ปฺจปฺาสจิตฺเตหิ, กายวิฺาณทฺวเยน, เอกาทสหิ จตุตฺถชฺฌาเนหิ จาติ สตฺตติจิตฺเตหิ วชฺชิเตสุ เอกปฺาสจิตฺเตสุ ปีติ ชายติ.
๑๘. อเหตุเกหิ ¶ อฏฺารสหิ, โมมูเหหิ ทฺวีหิ จาติ วีสติยา จิตฺเตหิ วชฺชิเตสุ เอกูนสตฺตติจิตฺเตสุ ฉนฺโท ชายติ.
๑๙. เต ปนาติ ปกิณฺณกวิวชฺชิตา ตํสหคตา จ. ยถากฺกมนฺติ วิตกฺกาทิฉปกิณฺณกวชฺชิตตํสหิตกมานุรูปโต. ‘‘ฉสฏฺิ ปฺจปฺาสา’’ตฺยาทิ เอกวีสสตคณนวเสน, เอกูนนวุติคณนวเสน จ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.
อฺสมานเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา
๒๐. ‘‘สพฺพากุสลสาธารณา’’ติ วตฺวา ตเทว สมตฺเถตุํ ‘‘สพฺเพสุปี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. โย หิ โกจิ ปาณาติปาตาทีสุ ปฏิปชฺชติ, โส สพฺโพปิ โมเหน ตตฺถ อนาทีนวทสฺสาวี อหิริเกน ตโต อชิคุจฺฉนฺโต, อโนตฺตปฺเปน อโนตฺตปฺปนฺโต, อุทฺธจฺเจน อวูปสนฺโต จ โหติ, ตสฺมา เต สพฺพากุสเลสุ อุปลพฺภนฺติ.
๒๑. โลภสหคตจิตฺเตสฺเววาติ เอว-กาโร อธิการตฺถายปิ โหตีติ ‘‘ทิฏฺิสหคตจิตฺเตสู’’ติอาทีสุปิ อวธารณํ ทฏฺพฺพํ. สกฺกายาทีสุ หิ อภินิวิสนฺตสฺส ตตฺถ มมายนสมฺภวโต ทิฏฺิ โลภสหคตจิตฺเตสฺเวว ลพฺภติ. มาโนปิ อหํมานวเสน ปวตฺตนโต ทิฏฺิสทิโสว ปวตฺตตีติ ทิฏฺิยา สห เอกจิตฺตุปฺปาเทน ปวตฺตติ เกสรสีโห วิย อปเรน ตถาวิเธน สห เอกคุหายํ, น จาปิ โทสมูลาทีสุ อุปฺปชฺชติ อตฺตสิเนหสนฺนิสฺสยภาเวน เอกนฺตโลภปทฏฺานตฺตาติ โส ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสฺเวว ลพฺภติ.
๒๔. ตถา ¶ ¶ ปรสมฺปตฺตึ อุสูยนฺตสฺส, อตฺตสมฺปตฺติยา จ ปเรหิ สาธารณภาวํ อนิจฺฉนฺตสฺส, กตากตทุจฺจริตสุจริเต อนุโสจนฺตสฺส จ ตตฺถ ตตฺถ ปฏิหนนวเสเนว ปวตฺตนโต อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ ปฏิฆจิตฺเตสฺเวว.
๒๕. อกมฺมฺตาปกติกสฺส ตถา สภาวติกฺเขสุ อสงฺขาริเกสุ ปวตฺตนาโยคโต ถินมิทฺธํ สสงฺขาริเกสฺเวว ลพฺภติ.
๒๗. สพฺพาปฺุเสฺเวว จตฺตาโร เจตสิกา คตา, โลภมูเลเยว ยถาสมฺภวํ ตโย คตา, โทสมูเลสฺเวว ทฺวีสุ จตฺตาโร คตา, ตถา สสงฺขาเรเยว ทฺวยนฺติ โยชนา. วิจิกิจฺฉา วิจิกิจฺฉาจิตฺเต จาติ จ-สทฺโท อวธารเณ. วิจิกิจฺฉา วิจิกิจฺฉาจิตฺเตเยวาติ สมฺพนฺโธ.
อกุสลเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสภนเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา
๒๙. โลกุตฺตรจิตฺเตสุ ปาทกชฺฌานาทิวเสน กทาจิ สมฺมาสงฺกปฺปวิรโห สิยา, น ปน วิรตีนํ อภาโว มคฺคสฺส กายทุจฺจริตาทีนํ สมุจฺเฉทวเสน, ผลสฺส จ ตทนุกูลวเสน ปวตฺตนโตติ วุตฺตํ ‘‘วิรติโย ปนา’’ตฺยาทิ. สพฺพถาปีติ สพฺเพหิปิ ตํตํทุจฺจริตทุราชีวานํ วิธมนวสปฺปวตฺเตหิ อากาเรหิ. น หิ เอตาสํ โลกิเยสุ วิย โลกุตฺตเรสุปิ มุสาวาทาทีนํ วิสุํ วิสุํ ปหานวเสน ปวตฺติ โหติ สพฺเพสเมว ทุจฺจริตทุราชีวานํ เตน เตน มคฺเคน เกสฺจิ สพฺพโส, เกสฺจิ อปายคมนียาทิอวตฺถาย ปหานวเสน เอกกฺขเณ สมุจฺฉินฺทนโต. นนุ จายมตฺโถ ‘‘เอกโตวา’’ติ อิมินาว สิทฺโธติ? ตํ น, ติสฺสนฺนํ เอกโตวุตฺติปริทีปนมตฺเตน จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตาทีนํ ปฏิปกฺขาการปฺปวตฺติยา อทีปิตตฺตา. เกจิ ปน อิมมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวาว ¶ ‘‘‘สพฺพถาปี’ติ อิทํ อติริตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตตฺถ เตสํ อฺาณเมว การณํ. ‘‘นิยตา’’ติ อิมินาปิ โลกิเยสุ วิย กทาจิ สมฺภวํ นิวาเรติ. ตถา เหตา โลกิเยสุ เยวาปนกวเสน เทสิตา, อิธ ปน สรูเปเนว. กามาวจรกุสเลสฺเววาติ อวธารเณน ¶ กามาวจรวิปากกิริเยสุ มหคฺคเตสุ จ สมฺภวํ นิวาเรติ. ตถา เจว อุปริ วกฺขติ. กทาจีติ มุสาวาทาทิเอเกกทุจฺจริเตหิ ปฏิวิรมณกาเล. กทาจิ อุปฺปชฺชนฺตาปิ น เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุสงฺขาตานํ อตฺตโน อารมฺมณานํ สมฺภวาเปกฺขตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘วิสุํ วิสุ’’นฺติ.
๓๐. อปฺปนาปฺปตฺตานํ อปฺปมฺานํ น กทาจิ โสมนสฺสรหิตา ปวตฺติ อตฺถีติ ‘‘ปฺจม…เป… จิตฺเตสุ จา’’ติ วุตฺตํ. วินีวรณาทิตาย มหตฺตํ คตานิ, มหนฺเตหิ วา ฌายีหิ คตานิ ปตฺตานีติ มหคฺคตานิ. นานา หุตฺวาติ ภินฺนารมฺมณตฺตา อตฺตโน อารมฺมณภูตานํ ทุกฺขิตสุขิตสตฺตานํ อาปาถคมนาเปกฺขตาย วิสุํ วิสุํ หุตฺวา. เอตฺถาติ อิเมสุ กามาวจรกุสลจิตฺเตสุ, กรุณามุทิตาภาวนากาเล อปฺปนาวีถิโต ปุพฺเพ ปริจยวเสน อุเปกฺขาสหคตจิตฺเตหิปิ ปริกมฺมํ โหติ, ยถา ตํ ปคุณคนฺถํ สชฺฌายนฺตสฺส กทาจิ อฺวิหิตสฺสปิ สชฺฌายนํ, ยถา จ ปคุณวิปสฺสนาย สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส กทาจิ ปริจยพเลน าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตหิปิ สมฺมสนนฺติ อุเปกฺขาสหคตกามาวจเรสุ กรุณามุทิตานํ อสมฺภววาโท เกจิวาโท กโต. อปฺปนาวีถิยํ ปน ตาสํ เอกนฺตโต โสมนสฺสสหคเตสฺเวว สมฺภโว ทฏฺพฺโพ ภินฺนชาติกสฺส วิย ภินฺนเวทนสฺสปิ อาเสวนปจฺจยาภาวโต.
๓๒. ตโย โสฬสจิตฺเตสูติ สมฺมาวาจาทโย ตโย ธมฺมา อฏฺโลกุตฺตรกามาวจรกุสลวเสน โสฬสจิตฺเตสุ ชายนฺติ.
๓๓. เอวํ ¶ นิยตานิยตสมฺปโยควเสน วุตฺเตสุ อนิยตธมฺเม เอกโต ทสฺเสตฺวา เสสานํ นิยตภาวํ ทีเปตุํ ‘‘อิสฺสามจฺเฉรา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. อิสฺสามจฺเฉรกุกฺกุจฺจวิรติกรุณาทโย นานา กทาจิ ชายนฺติ, มาโน จ กทาจิ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ตฺยาทิวสปฺปวตฺติยํ ชายติ. ถินมิทฺธํ ตถา กทาจิ อกมฺมฺตาวสปฺปวตฺติยํ สห อฺมฺํ อวิปฺปโยคิวเสน ชายตีติ โยชนา. อถ วา มาโน จาติ เอตฺถ จ-สทฺทํ ‘‘สหา’’ติ เอตฺถาปิ โยเชตฺวา ถินมิทฺธํ ตถา กทาจิ สห จ สสงฺขาริกปฏิเฆ, ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตสสงฺขาริเกสุ จ อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺเจหิ, มาเนน จ สทฺธึ, กทาจิ ตทิตรสสงฺขาริกจิตฺตสมฺปโยคกาเล, ตํสมฺปโยคกาเลปิ วา นานา จ ชายตีติ โยชนา ทฏฺพฺพา. อปเร ปน อาจริยา ‘‘มาโน จ ถินมิทฺธฺจ ตถา กทาจิ นานา กทาจิ สห จ ชายตี’’ติ เอตฺตกเมว โยเชสุํ.
๓๔. เสสาติ ¶ ยถาวุตฺเตหิ เอกาทสหิ อนิยเตหิ อิตเร เอกจตฺตาลีส. เกจิ ปน ‘‘ยถาวุตฺเตหิ อนิยตเยวาปนเกหิ เสสา นิยตเยวาปนกา’’ติ วณฺเณนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, อิธ เยวาปนกนาเมน เกสฺจิ อนุทฺธฏตฺตา. เกวลฺเหตฺถ นิยตานิยตวเสน จิตฺตุปฺปาเทสุ ยถารหํ ลพฺภมานเจตสิกมตฺตสนฺทสฺสนํ อาจริเยน กตํ, น เยวาปนกนาเมน เกจิ อุทฺธฏาติ.
เอวํ ตาว ‘‘ผสฺสาทีสุ อยํ ธมฺโม เอตฺตเกสุ จิตฺเตสุ อุปลพฺภตี’’ติ จิตฺตปริจฺเฉทวเสน สมฺปโยคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘อิมสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท เอตฺตกา เจตสิกา’’ติ เจตสิกราสิปริจฺเฉทวเสน สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺคหฺจา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.
โสภนเจตสิกสมฺปโยคนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมฺปโยคนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺคหนยวณฺณนา
๓๕. ‘‘ฉตฺตึสา’’ตฺยาทิ ¶ ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ ลพฺภมานกธมฺมวเสน คณนสงฺคโห.
๓๖. ปมชฺฌาเน นิยุตฺตานิ จิตฺตานิ, ตํ วา เอเตสํ อตฺถีติ ปมชฺฌานิกจิตฺตานิ. อปฺปมฺานํ สตฺตารมฺมณตฺตา, โลกุตฺตรานฺจ นิพฺพานารมฺมณตฺตา วุตฺตํ ‘‘อปฺปมฺาวชฺชิตา’’ติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อฺสมานา, อปฺปมฺาวชฺชิตา โสภนเจตสิกา จ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อากฑฺฒติ. อุเปกฺขาสหคตาติ วิตกฺกวิจารปีติสุขวชฺชา สุขฏฺานํ ปวิฏฺอุเปกฺขาย สหคตา. ปฺจกชฺฌานวเสนาติ วิตกฺกวิจาเร วิสุํ วิสุํ อติกฺกมิตฺวา ภาเวนฺตสฺส นาติติกฺขาณสฺส วเสน เทสิตสฺส ฌานปฺจกสฺส วเสน. เต ปน เอกโต อติกฺกมิตฺวา ภาเวนฺตสฺส ติกฺขาณสฺส วเสน เทสิตจตุกฺกชฺฌานวเสน ทุติยชฺฌานิเกสุ วิตกฺกวิจารวชฺชิตานํ สมฺภวโต จตุธา เอว สงฺคโห โหตีติ อธิปฺปาโย.
๓๗. เตตฺตึสทฺวยํ จตุตฺถปฺจมชฺฌานจิตฺเตสุ.
มหคฺคตจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา
๓๘. ตีสูติ ¶ กุสลวิปากกิริยวเสน ติวิเธสุ สีลวิสุทฺธิวเสน สุวิโสธิตกายวจีปโยคสฺส เกวลํ จิตฺตสมาธานมตฺเตน มหคฺคตชฺฌานานิ ปวตฺตนฺติ, น ปน กายวจีกมฺมานํ วิโสธนวเสน, นาปิ ทุจฺจริตทุราชีวานํ สมุจฺฉินฺทนปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสนาติ วุตฺตํ ‘‘วิรติวชฺชิตา’’ติ. ปจฺเจกเมวาติ วิสุํ วิสุํเยว. ปนฺนรสสูติ รูปาวจรวเสน ตีสุ, อารุปฺปวเสน ทฺวาทสสูติ ปนฺนรสสุ. อปฺปมฺาโย น ลพฺภนฺตีติ เอตฺถ การณํ วุตฺตเมว.
มหคฺคตจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
กามาวจรโสภนจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา
๔๐. ปจฺเจกเมวาติ ¶ เอเกกาเยว. อปฺปมฺานํ หิ สตฺตารมฺมณตฺตา, วิรตีนฺจ วีตกฺกมิตพฺพวตฺถุวิสยตฺตา นตฺถิ ตาสํ เอกจิตฺตุปฺปาเท สมฺภโวติ โลกิยวิรตีนํ เอกนฺตกุสลสภาวตฺตา นตฺถิ อพฺยากเตสุ สมฺภโวติ วุตฺตํ ‘‘วิรติวชฺชิตา’’ติ. เตนาห ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทา กุสลาเยวา’’ติ (วิภ. ๗๑๕). อิตรถา สทฺธาสติอาทโย วิย ‘‘สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา’’ติ วเทยฺย. ผลสฺส ปน มคฺคปฏิพิมฺพภูตตฺตา, ทุจฺจริตทุราชีวานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต จ น โลกุตฺตรวิรตีนํ เอกนฺตกุสลตา ยุตฺตาติ ตาสํ ตตฺถ อคฺคหณํ. กามาวจรวิปากานมฺปิ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา, อปฺปมฺานฺจ สตฺตารมฺมณตฺตา, วิรตีนมฺปิ เอกนฺตกุสลตฺตา วุตฺตํ ‘‘อปฺปมฺาวิรติวชฺชิตา’’ติ.
นนุ จ ปฺตฺตาทิอารมฺมณมฺปิ กามาวจรกุสลํ โหตีติ ตสฺส วิปาเกนปิ กุสลสทิสารมฺมเณน ภวิตพฺพํ ยถา ตํ มหคฺคตโลกุตฺตรวิปาเกหีติ? นยิทเมวํ, กามตณฺหาธีนสฺส ผลภูตตฺตา. ยถา หิ ทาสิยา ปุตฺโต มาตรา อิจฺฉิตํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต สามิเกเนว อิจฺฉิติจฺฉิตํ กโรติ, เอวํ กามตณฺหายตฺตตาย ทาสิสทิสสฺส กามาวจรกมฺมสฺส วิปากภูตํ จิตฺตํ เตน คหิตารมฺมณํ อคฺคเหตฺวา กามตณฺหารมฺมณเมว คณฺหาตีติ. ทฺวาทสธาติ กุสลวิปากกิริยเภเทสุ ปจฺเจกํ จตฺตาโร จตฺตาโร ทุกาติ กตฺวา ตีสุ ทฺวาทสธา.
๔๒. อิทานิ ¶ อิเมสุ ปมชฺฌานิกาทีหิ ทุติยชฺฌานิกาทีนํ เภทกรธมฺเม ทสฺเสตุํ ‘‘อนุตฺตเร ฌานธมฺมา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. อนุตฺตเร จิตฺเต วิตกฺกวิจารปีติสุขวเสน ฌานธมฺมา วิเสสกา เภทกา. มชฺฌิเม มหคฺคเต อปฺปมฺา, ฌานธมฺมา ¶ จ. ปริตฺเตสุ กามาวจเรสุ วิรตี, าณปีตี จ อปฺปมฺา จ วิเสสกา, ตตฺถ วิรตี กุสเลหิ วิปากกิริยานํ วิเสสกา, อปฺปมฺา กุสลกิริเยหิ วิปากานํ, าณปีตี ปน ตีสุ ปมยุคฬาทีหิ ทุติยยุคฬาทีนนฺติ ทฏฺพฺพํ.
กามาวจรโสภนจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา
๔๔. ทุติเย อสงฺขาริเกติ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต อสงฺขาริเก โลภมาเนน ตเถว อฺสมานา, อกุสลสาธารณา จ เอกูนวีสติ ธมฺมาติ สมฺพนฺโธ.
๔๕. ตติเยติ อุเปกฺขาสหคตทิฏฺิสมฺปยุตฺเต อสงฺขาริเก.
๔๖. จตุตฺเถติ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเต อสงฺขาริเก.
๔๗. อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิ ปเนตฺถ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพานิ ภินฺนารมฺมณตฺตาเยวาติ อธิปฺปาโย.
๕๐. อธิโมกฺขสฺส นิจฺฉยาการปฺปวตฺติโต ทฺเวฬฺหกสภาเว วิจิกิจฺฉาจิตฺเต สมฺภโว นตฺถีติ ‘‘อธิโมกฺขวิรหิตา’’ติ วุตฺตํ.
๕๑. เอกูนวีสติ ปมทุติยอสงฺขาริเกสุ, อฏฺารส ตติยจตุตฺถอสงฺขาริเกสุ, วีส ปฺจเม ¶ อสงฺขาริเก, เอกวีส ปมทุติยสสงฺขาริเกสุ, วีสติ ตติยจตุตฺถสสงฺขาริเกสุ, ทฺวาวีส ปฺจเม สสงฺขาริเก, ปนฺนรส โมมูหทฺวเยติ เอวํ อกุสเล สตฺตธา ิตาติ โยชนา.
๕๒. สาธารณาติ ¶ อกุสลานํ สพฺเพสเมว สาธารณภูตา จตฺตาโร สมานา จ ฉนฺทปีติอธิโมกฺขวชฺชิตา อฺสมานา อปเร ทสาติ เอเต จุทฺทส ธมฺมา สพฺพากุสลโยคิโนติ ปวุจฺจนฺตีติ โยชนา.
อกุสลจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อเหตุกจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา
๕๔. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อฺสมาเน ปจฺจามสติ.
๕๖. มโนวิฺาณธาตุยา วิย วิสิฏฺมนนกิจฺจาโยคโต มนนมตฺตา ธาตูติ มโนธาตุ. อเหตุกปฏิสนฺธิยุคเฬติ อุเปกฺขาสนฺตีรณทฺวเย.
๕๘. ทฺวาทส หสนจิตฺเต, เอกาทส โวฏฺพฺพนสุขสนฺตีรเณสุ, ทส มโนธาตุตฺติกาเหตุกปฏิสนฺธิยุคฬวเสน ปฺจสุ, สตฺต ทฺวิปฺจวิฺาเณสูติ อฏฺารสาเหตุเกสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สงฺคโห จตุพฺพิโธ โหตีติ โยชนา.
๕๙. เตตฺตึสวิธสงฺคโหติ อนุตฺตเร ปฺจ, ตถา มหคฺคเต, กามาวจรโสภเน ทฺวาทส, อกุสเล สตฺต, อเหตุเก จตฺตาโรติ เตตฺตึสวิธสงฺคโห.
๖๐. อิตฺถํ ยถาวุตฺตนเยน จิตฺตาวิยุตฺตานํ เจตสิกานํ จิตฺตปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ สมฺปโยคฺจ เจตสิกราสิปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ สงฺคหฺจ ตฺวา ยถาโยคํ จิตฺเตน สมํ เภทํ อุทฺทิเส ‘‘สพฺพจิตฺตสาธารณา ตาว สตฺต เอกูนนวุติจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชนโต ปจฺเจกํ เอกูนนวุติวิธา ¶ , ปกิณฺณเกสุ ¶ วิตกฺโก ปฺจปฺาสจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชนโต ปฺจปฺาสวิโธ’’ตฺยาทินา กเถยฺยาติ อตฺโถ.
อเหตุกจิตฺตสงฺคหนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
เจตสิกปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปกิณฺณกปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. อิทานิ ยถาวุตฺตานํ จิตฺตเจตสิกานํ เวทนาทิวิภาคโต, ตํตํเวทนาทิเภทภินฺนจิตฺตุปฺปาทวิภาคโต จ ปกิณฺณกสงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺตา ยถาโยค’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ. ยถาโยคํ สมฺปยุตฺตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สภาวโต อตฺตโน อตฺตโน สภาววเสน เอกูนนวุติวิธมฺปิ จิตฺตํ อารมฺมณวิชานนสภาวสามฺเน เอกวิธํ, สพฺพจิตฺตสาธารโณ ผสฺโส ผุสนสภาเวน เอกวิโธตฺยาทินา เตปฺาส โหนฺติ.
๒. อิทานิ เตสํ ธมฺมานํ ยถารหํ เวทนา…เป… วตฺถุโต สงฺคโห นาม เวทนาสงฺคหาทินามโก ปกิณฺณกสงฺคโห จิตฺตุปฺปาทวเสเนว ตํตํเวทนาทิเภทภินฺนจิตฺตุปฺปาทานํ วเสเนว น กตฺถจิ ตํวิรเหน นียเต อุปนียเต, อาหรียตีตฺยตฺโถ.
เวทนาสงฺคหวณฺณนา
๓. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ สงฺคเหสุ. สุขาทิเวทนานํ, ตํสหคตจิตฺตุปฺปาทานฺจ วิภาควเสน สงฺคโห เวทนาสงฺคโห. ทุกฺขโต, สุขโต จ อฺา อทุกฺขมสุขา ม-การาคมวเสน. นนุ จ ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๖๗) วจนโต ทฺเว เอว เวทนาติ? สจฺจํ, ตํ ปน อนวชฺชปกฺขิกํ ¶ อทุกฺขมสุขํ สุขเวทนายํ ¶ , สาวชฺชปกฺขิกฺจ ทุกฺขเวทนายํ สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ. ยมฺปิ กตฺถจิ สุตฺเต ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตมิทเมตฺถ ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙) วจนํ, ตํ สงฺขารทุกฺขตาย สพฺพเวทนานํ ทุกฺขสภาวตฺตา วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘สงฺขารานิจฺจตํ, อานนฺท, มยา สนฺธาย ภาสิตํ สงฺขารวิปริณามตฺจ ยํ กิฺจิเวทยิตมิทเมตฺถ ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙; อิติวุ. อฏฺ. ๕๒). ตสฺมา ติสฺโสเยว เวทนาติ ทฏฺพฺพา. เตนาห ภควา – ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา จา’’ติ (อิติวุ. ๕๒-๕๓; สํ. นิ. ๔.๒๔๙-๒๕๑). เอวํ ติวิธาปิ ปเนตา อินฺทฺริยเทสนายํ ‘‘สุขินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุเปกฺขินฺทฺริย’’นฺติ (วิภ. ๒๑๙) ปฺจธา เทสิตาติ ตํวเสนเปตฺถ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุขํ ทุกฺข’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. กายิกมานสิกสาตาสาตเภทโต หิ สุขํ ทุกฺขฺจ ปจฺเจกํ ทฺวิธา วิภชิตฺวา ‘‘สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ (วิภ. ๒๑๙) เทสิตา, อุเปกฺขา ปน เภทาภาวโต อุเปกฺขินฺทฺริยนฺติ เอกธาว. ยถา หิ สุขทุกฺขานิ อฺถา กายสฺส อนุคฺคหมุปฆาตฺจ กโรนฺติ, อฺถา มนโส, เนวํ อุเปกฺขา, ตสฺมา สา เอกธาว เทสิตา, เตนาหุ โปราณา –
‘‘กายิกํ มานสํ ทุกฺขํ, สุขฺโจเปกฺขเวทนา;
เอกํ มานสเมเวติ, ปฺจธินฺทฺริยเภทโต’’ติ. (ส. ส. ๗๔);
ตตฺถ อิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ สุขํ. อนิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ ทุกฺขํ. สภาวโต, ปริกปฺปโต วา อิฏฺานุภวนลกฺขณํ โสมนสฺสํ. ตถา อนิฏฺานุภวนลกฺขณํ โทมนสฺสํ. มชฺฌตฺตานุภวนลกฺขณา อุเปกฺขา.
๕. จตุจตฺตาลีส ปจฺเจกํ โลกิยโลกุตฺตรเภเทน เอกาทสวิธตฺตา.
๗. เสสานีติ ¶ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสสหคเตหิ อวเสสานิ อกุสลโต ฉ, อเหตุกโต จุทฺทส, กามาวจรโสภนโต ทฺวาทส, ปฺจมชฺฌานิกานิ เตวีสาติ สพฺพานิปิ ปฺจปฺาส.
เวทนาสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
เหตุสงฺคหวณฺณนา
๑๐. โลภาทิเหตูนํ ¶ วิภาควเสน, ตํสมฺปยุตฺตวเสน จ สงฺคโห เหตุสงฺคโห. เหตโว นาม ฉพฺพิธา ภวนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เหตุภาโว ปน เนสํ สมฺปยุตฺตานํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนสงฺขาโต มูลภาโว. ลทฺธเหตุปจฺจยา หิ ธมฺมา วิรุฬฺหมูลา วิย ปาทปา ถิรา โหนฺติ, น อเหตุกา วิย ชลตเล เสวาลสทิสา. เอวฺจ กตฺวา เอเต มูลสทิสตาย ‘‘มูลานี’’ติ จ วุจฺจนฺติ. อปเร ปน ‘‘กุสลาทีนํ กุสลาทิภาวสาธนํ เหตุภาโว’’ติ วทนฺติ, เอวํ สติ เหตูนํ อตฺตโน กุสลาทิภาวสาธโน อฺโ เหตุ มคฺคิตพฺโพ สิยา. อถ เสสสมฺปยุตฺตเหตุปฏิพทฺโธ เตสํ กุสลาทิภาโว, เอวมฺปิ โมมูหจิตฺตสมฺปยุตฺตสฺส เหตุโน อกุสลภาโว อปฺปฏิพทฺโธ สิยา. อถ ตสฺส สภาวโต อกุสลภาโวปิ สิยา, เอวํ สติ เสสเหตูนมฺปิ สภาวโตว กุสลาทิภาโวติ เตสํ วิย สมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ โส เหตุปฏิพทฺโธ น สิยา. ยทิ จ เหตุปฏิพทฺโธ กุสลาทิภาโว, ตทา อเหตุกานํ อพฺยากตภาโว น สิยาติ อลมตินิปฺปีฬเนน. กุสลาทิภาโว ปน กุสลากุสลานํ โยนิโสอโยนิโสมนสิการปฺปฏิพทฺโธ. ยถาห – ‘‘โยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา ¶ เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ตฺยาทิ (อ. นิ. ๑.๖๗), อพฺยากตานํ ปน อพฺยากตภาโว นิรนุสยสนฺตานปฺปฏิพทฺโธ กมฺมปฺปฏิพทฺโธ อวิปากภาวปฺปฏิพทฺโธ จาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๖. อิทานิ เหตูนํ ชาติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลโภ โทโส จา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.
เหตุสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
กิจฺจสงฺคหวณฺณนา
๑๘. ปฏิสนฺธาทีนํ กิจฺจานํ วิภาควเสน, ตํกิจฺจวนฺตานฺจ ปริจฺเฉทวเสน สงฺคโห กิจฺจสงฺคโห. ภวโต ภวสฺส ปฏิสนฺธานํ ปฏิสนฺธิกิจฺจํ. อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภาเวน ภวสฺส องฺคภาโว ภวงฺคกิจฺจํ. อาวชฺชนกิจฺจาทีนิ เหฏฺา วุตฺตวจนตฺถานุสาเรน ยถารหํ โยเชตพฺพานิ. อารมฺมเณ ¶ ตํตํกิจฺจสาธนวเสน อเนกกฺขตฺตุํ, เอกกฺขตฺตุํ วา ชวมานสฺส วิย ปวตฺติ ชวนกิจฺจํ. ตํตํชวนคฺคหิตารมฺมณสฺส อารมฺมณกรณํ ตทารมฺมณกิจฺจํ. นิพฺพตฺตภวโต ปริคฬฺหนํ จุติกิจฺจํ.
๑๙. อิมานิ ปน กิจฺจานิ านวเสน ปากฏานิ โหนฺตีติ ตํ ทานิ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ ปฏิสนฺธิยา านํ ปฏิสนฺธิานํ. กามํ ปฏิสนฺธิวินิมุตฺตํ านํ นาม นตฺถิ, สุขคฺคหณตฺถํ ปน ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺตฺยาทีสุ วิย อเภเทปิ เภทปริกปฺปนาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ. ทสฺสนาทีนํ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ านํ ปฺจวิฺาณานํ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนานาทีนํ สงฺคโห.
ตตฺถ ¶ จุติภวงฺคานํ อนฺตรา ปฏิสนฺธิานํ. ปฏิสนฺธิอาวชฺชนานํ, ชวนาวชฺชนานํ, ตทารมฺมณาวชฺชนานํ, โวฏฺพฺพนาวชฺชนานํ, กทาจิ ชวนจุตีนํ, ตทารมฺมณจุตีนฺจ อนฺตรา ภวงฺคานํ. ภวงฺคปฺจวิฺาณานํ, ภวงฺคชวนานฺจ อนฺตรา อาวชฺชนานํ. ปฺจทฺวาราวชฺชนสมฺปฏิจฺฉนานมนฺตรา ปฺจวิฺาณานํ. ปฺจวิฺาณสนฺตีรณานมนฺตรา สมฺปฏิจฺฉนานํ. สมฺปฏิจฺฉนโวฏฺพฺพนานมนฺตรา สนฺตีรณานํ. สนฺตีรณชวนานํ, สนฺตีรณภวงฺคานฺจ อนฺตรา โวฏฺพฺพนานํ. โวฏฺพฺพนตทารมฺมณานํ, โวฏฺพฺพนภวงฺคานํ, โวฏฺพฺพนจุตีนํ, มโนทฺวาราวชฺชนตทารมฺมณานํ, มโนทฺวาราวชฺชนภวงฺคานํ, มโนทฺวาราวชฺชนจุตีนฺจ อนฺตรา ชวนานํ. ชวนภวงฺคานํ, ชวนจุตีนฺจ อนฺตรา ตทารมฺมณานํ. ชวนปฏิสนฺธีนํ, ตทารมฺมณปฏิสนฺธีนํ, ภวงฺคปฏิสนฺธีนํ วา อนฺตรา จุติานํ นาม.
๒๐. ทฺเว อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณานิ สุขสนฺตีรณสฺส ปฏิสนฺธิวสปฺปวตฺติภาวาภาวโตติอธิปฺปาโย. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน ‘‘อุเปกฺขาสหคตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อุเปกฺขาสหคโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น เหตุปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๗๙) เอวมาคตสฺส อุเปกฺขาสหคตปทสฺส วิภงฺเค ‘‘อเหตุกํ อุเปกฺขาสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา, ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ, อเหตุกปฏิสนฺธิกฺขเณ อุเปกฺขาสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา, ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๗๙) เอวํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ปฏิจฺจนโย อุทฺธโฏ, ปีติสหคตสุขสหคตปทวิภงฺเค ปน ‘‘อเหตุกํ ปีติสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจตโย ขนฺธา…เป… ทฺเว ขนฺธา. อเหตุกํ สุขสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา ¶ …เป… เอโก ขนฺโธ’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๔๔, ๑๖๗) ปวตฺติวเสเนว อุทฺธโฏ, น ปน ‘‘อเหตุกปฏิสนฺธิกฺขเณ’’ตฺยาทินา ปฏิสนฺธิวเสน, ตสฺมา ยถาธมฺมสาสเน อวจนมฺปิ อภาวเมว ทีเปตีติ น ตสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺติ ¶ อตฺถิ. ยตฺถ ปน ลพฺภมานสฺสปิ กสฺสจิ อวจนํ, ตตฺถ การณํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ.
๒๕. มโนทฺวาราวชฺชนสฺส ปริตฺตารมฺมเณ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานสฺสปิ นตฺถิ ชวนกิจฺจํ ตสฺส อารมฺมณรสานุภวนาภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อาวชฺชนทฺวยวชฺชิตานี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ชวนฏฺาเน ตฺวา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา). อิตรถา ‘‘ชวนํ หุตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. กุสลากุสลผลกิริยจิตฺตานีติ เอกวีสติ โลกิยโลกุตฺตรกุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, จตฺตาริ โลกุตฺตรผลจิตฺตานิ, อฏฺารส เตภูมกกิริยจิตฺตานิ. เอกจิตฺตกฺขณิกมฺปิ หิ โลกุตฺตรมคฺคาทิกํ ตํสภาววนฺตตาย ชวนกิจฺจํ นาม, ยถา เอเกกโคจรวิสยมฺปิ สพฺพฺุตฺาณํ สกลวิสยาวโพธนสามตฺถิยโยคโต น กทาจิ ตํนามํ วิชหตีติ.
๒๗. เอวํ กิจฺจเภเทน วุตฺตาเนว ยถาสกํ ลพฺภมานกิจฺจคณนวเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เตสุ ปนา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.
๓๓. ปฏิสนฺธาทโย จิตฺตุปฺปาทา นามกิจฺจเภเทน ปฏิสนฺธาทีนํ นามานํ, กิจฺจานฺจ เภเทน, อถ วา ปฏิสนฺธาทโย นาม ตนฺนามกา จิตฺตุปฺปาทา ปฏิสนฺธาทีนํ กิจฺจานํ เภเทน จุทฺทส, านเภเทน ปฏิสนฺธาทีนํเยว านานํ เภเทน ทสธา ปกาสิตาติ โยชนา. เอกกิจฺจานทฺวิกิจฺจานติกิจฺจานจตุกิจฺจานปฺจกิจฺจานานิ จิตฺตานิ ยถากฺกมํ อฏฺสฏฺิ, ตถา ทฺเว จ นว จ อฏฺ จ ทฺเว จาติ นิทฺทิเสติ สมฺพนฺโธ.
กิจฺจสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺวารสงฺคหวณฺณนา
๓๕. ทฺวารานํ ¶ ¶ , ทฺวารปฺปวตฺตจิตฺตานฺจ ปริจฺเฉทวเสน สงฺคโห ทฺวารสงฺคโห. อาวชฺชนาทีนํ อรูปธมฺมานํ ปวตฺติมุขภาวโต ทฺวารานิ วิยาติ ทฺวารานิ.
๓๗. อาวชฺชนาทีนํ มนานํ, มโนเยว วา ทฺวารนฺติ มโนทฺวารํ. ภวงฺคนฺติ อาวชฺชนานนฺตรํ ภวงฺคํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สาวชฺชนํ ภวงฺคนฺตุ, มโนทฺวารนฺติ วุจฺจตี’’ติ;
๓๙. ตตฺถาติ เตสุ จกฺขาทิทฺวาเรสุ จกฺขุทฺวาเร ฉจตฺตาลีส จิตฺตานิ ยถารหมุปฺปชฺชนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปฺจทฺวาราวชฺชนเมกํ, จกฺขุวิฺาณาทีนิ อุภยวิปากวเสน สตฺต, โวฏฺพฺพนเมกํ, กามาวจรชวนานิ จ กุสลากุสลนิราวชฺชนกิริยวเสน เอกูนตึส, ตทารมฺมณานิ จ อคฺคหิตคฺคหเณน อฏฺเวาติ ฉจตฺตาลีส. ยถารหนฺติ อิฏฺาทิอารมฺมเณ โยนิโสอโยนิโสมนสิการนิรนุสยสนฺตานาทีนํ อนุรูปวเสน. สพฺพถาปีติ อาวชฺชนาทิตทารมฺมณปริโยสาเนน สพฺเพนปิ ปกาเรน กามาวจราเนวาติ โยชนา. สพฺพถาปิ จตุปฺาส จิตฺตานีติ วา สมฺพนฺโธ. สพฺพถาปิ ตํตํทฺวาริกวเสน ิตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน จกฺขุทฺวาริเกสุ ฉจตฺตาลีสจิตฺเตสุ โสตวิฺาณาทีนํ จตุนฺนํ ยุคฬานํ ปกฺเขเปน จตุปฺาสปีตฺยตฺโถ.
๔๑. จกฺขาทิทฺวาเรสุ อปฺปวตฺตนโต, มโนทฺวารสงฺขาตภวงฺคโต อารมฺมณนฺตรคฺคหณวเสน อปฺปวตฺติโต จ ปฏิสนฺธาทิวเสน ปวตฺตานิ เอกูนวีสติ ทฺวารวิมุตฺตานิ.
๔๒. ทฺวิปฺจวิฺาณานิ ¶ สกสกทฺวาเร, ฉพฺพีสติ มหคฺคตโลกุตฺตรชวนานิ มโนทฺวาเรเยว อุปฺปชฺชนโต ฉตฺตึส จิตฺตานิ ยถารหํ สกสกทฺวารานุรูปํ เอกทฺวาริกจิตฺตานิ.
๔๕. ปฺจทฺวาเรสุ ¶ สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน, มโนทฺวาเร จ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตนโต ฉทฺวาริกานิ เจว ปฏิสนฺธาทิวสปฺปวตฺติยา ทฺวารวิมุตฺตานิ จ.
๔๗. ปฺจทฺวาริกานิ จ ฉทฺวาริกานิ จ ปฺจฉทฺวาริกานิ. ฉทฺวาริกานิ จ ตานิ กทาจิ ทฺวารวิมุตฺตานิ จาติ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานิ. อถ วา ฉทฺวาริกานิ จ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานิ จาติ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานีติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ.
ทฺวารสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาลมฺพณสงฺคหวณฺณนา
๔๘. อารมฺมณานํ สรูปโต, วิภาคโต, ตํวิสยจิตฺตโต จ สงฺคโห อาลมฺพณสงฺคโห. วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ รูปยติ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ รูปํ, ตเทว ทุพฺพลปุริเสน ทณฺฑาทิ วิย จิตฺตเจตสิเกหิ อาลมฺพียติ, ตานิ วา อาคนฺตฺวา เอตฺถ รมนฺตีติ อารมฺมณนฺติ รูปารมฺมณํ. สทฺทียตีติ สทฺโท, โสเยว อารมฺมณนฺติ สทฺทารมฺมณํ. คนฺธยติ อตฺตโน วตฺถุํ สูเจติ ‘‘อิทเมตฺถ อตฺถี’’ติ เปสฺุํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ คนฺโธ, โสเยว อารมฺมณํ คนฺธารมฺมณํ. รสนฺติ ตํ สตฺตา อสฺสาเทนฺตีติ รโส, โสเยว อารมฺมณํ รสารมฺมณํ. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ, ตเทว อารมฺมณํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ. ธมฺโมเยว อารมฺมณํ ธมฺมารมฺมณํ.
๔๙. ตตฺถาติ ¶ เตสุ รูปาทิอารมฺมเณสุ, รูปเมวาติ วณฺณายตนสงฺขาตํ รูปเมว. สทฺทาทโยติ สทฺทายตนาทิสงฺขาตา สทฺทาทโย, อาโปธาตุวชฺชิตภูตตฺตยสงฺขาตํ โผฏฺพฺพายตนฺจ.
๕๐. ปฺจารมฺมณปสาทานิ เปตฺวา เสสานิ โสฬส สุขุมรูปานิ.
๕๒. ฉพฺพิธมฺปีติ ¶ รูปาทิวเสน ฉพฺพิธมฺปิ. วินาสาภาวโต อตีตาทิกาลวเสน นวตฺตพฺพตฺตา นิพฺพานํ, ปฺตฺติ จ กาลวิมุตฺตํ นาม. ยถารหนฺติ กามาวจรชวนอภิฺาเสสมหคฺคตาทิชวนานํ อนุรูปโต. กามาวจรชวนานฺหิ หสิตุปฺปาทวชฺชานํ ฉพฺพิธมฺปิ ติกาลิกํ, กาลวิมุตฺตฺจ อารมฺมณํ โหติ. หสิตุปฺปาทสฺส ติกาลิกเมว. ตถา หิสฺส เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตํ วกฺขติ. ทิพฺพจกฺขาทิวสปฺปวตฺตสฺส ปน อภิฺาชวนสฺส ยถารหํ ฉพฺพิธมฺปิ ติกาลิกํ, กาลวิมุตฺตฺจ อารมฺมณํ โหติ. วิภาโค ปเนตฺถ นวมปริจฺเฉเท อาวิ ภวิสฺสติ. เสสานํ ปน กาลวิมุตฺตํ, อตีตฺจ ยถารหมารมฺมณํ โหติ.
๕๓. ทฺวาร…เป… สงฺขาตานํ ฉพฺพิธมฺปิ อารมฺมณํ โหตีติ สมฺพนฺโธ, ตํ ปน เนสํ อารมฺมณํ น อาวชฺชนสฺส วิย เกนจิ อคฺคหิตเมว โคจรภาวํ คจฺฉติ, น จ ปฺจทฺวาริกชวนานํ วิย เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนํ, นาปิ มโนทฺวาริกชวนานํ วิย ติกาลิกเมว, อวิเสเสน กาลวิมุตฺตํ วา, นาปิ มรณาสนฺนโต ปุริมภาคชวนานํ วิย กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทิวเสน อาคมสิทฺธิโวหารวินิมุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถาสมฺภวํ…เป… สมฺมต’’นฺติ. ตตฺถ ยถาสมฺภวนฺติ ตํตํภูมิกปฏิสนฺธิภวงฺคจุตีนํ ตํตํทฺวารคฺคหิตาทิวเสน สมฺภวานุรูปโต. กามาวจรานฺหิ ¶ ปฏิสนฺธิภวงฺคานํ ตาว รูปาทิปฺจารมฺมณํ ฉทฺวารคฺคหิตํ ยถารหํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตฺจ กมฺมนิมิตฺตสมฺมตมารมฺมณํ โหติ, ตถา จุติจิตฺตสฺส อตีตเมว. ธมฺมารมฺมณํ ปน เตสํ ติณฺณนฺนมฺปิ มโนทฺวารคฺคหิตเมว อตีตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตสมฺมตํ, ตถา รูปารมฺมณํ เอกเมว มโนทฺวารคฺคหิตํ เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนํ คตินิมิตฺตสมฺมตนฺติ เอวํ กามาวจรปฏิสนฺธาทีนํ ยถาสมฺภวํ ฉทฺวารคฺคหิตํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตฺจ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสมฺมตมารมฺมณํ โหติ.
มหคฺคตปฏิสนฺธาทีสุ ปน รูปาวจรานํ, ปมตติยารุปฺปานฺจ ธมฺมารมฺมณเมว มโนทฺวารคฺคหิตํ ปฺตฺติภูตํ กมฺมนิมิตฺตสมฺมตํ, ตถา ทุติยจตุตฺถารุปฺปานํ อตีตเมวาติ เอวํ มหคฺคตปฏิสนฺธิภวงฺคจุตีนํ มโนทฺวารคฺคหิตํ ปฺตฺติภูตํ, อตีตํ วา กมฺมนิมิตฺตสมฺมตเมว อารมฺมณํ โหติ.
เยภุยฺเยน ภวนฺตเร ฉทฺวารคฺคหิตนฺติ พาหุลฺเลน อตีตานนฺตรภเว มรณาสนฺนปฺปวตฺตฉทฺวาริกชวเนหิ คหิตํ. อสฺีภวโต จุตานฺหิ ปฏิสนฺธิวิสยสฺส อนนฺตราตีตภเว ¶ น เกนจิ ทฺวาเรน คหณํ อตฺถีติ ตเทเวตฺถ เยภุยฺยคฺคหเณน พฺยภิจาริตํ. เกวลฺหิ กมฺมพเลเนว เตสํ ปฏิสนฺธิยา กมฺมนิมิตฺตาทิกมารมฺมณํ อุปฏฺาติ. ตถา หิ สจฺจสงฺเขเป อสฺีภวโต จุตสฺส ปฏิสนฺธินิมิตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘ภวนฺตรกตํ กมฺมํ, ยโมกาสํ ลเภ ตโต;
โหติ สา สนฺธิ เตเนว, อุปฏฺาปิตโคจเร’’ติ. (ส. ส. ๑๗๑) –
เกวลํ กมฺมพเลเนว ปฏิสนฺธิโคจรสฺส อุปฏฺานํ วุตฺตํ. อิตรถา หิ ชวนคฺคหิตสฺสปิ อารมฺมณสฺส กมฺมพเลเนว อุปฏฺาปิยมานตฺตา ‘‘เตเนวา’’ติ สาวธารณวจนสฺส อธิปฺปายสฺุตา ¶ อาปชฺเชยฺยาติ. นนุ จ เตสมฺปิ ปฏิสนฺธิโคจโร กมฺมภเว เกนจิ ทฺวาเรน ชวนคฺคหิโต สมฺภวตีติ? สจฺจํ สมฺภวติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตสมฺมโต, คตินิมิตฺตสมฺมโต ปน สพฺเพสมฺปิ มรณกาเลเยว อุปฏฺาตีติ กุโต ตสฺส กมฺมภเว คหณสมฺภโว. อปิเจตฺถ มรณาสนฺนปวตฺตชวเนหิ คหิตเมว สนฺธาย ‘‘ฉทฺวารคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวฺจ กตฺวา อาจริเยน อิมสฺมึเยว อธิกาเร ปรมตฺถวินิจฺฉเย วุตฺตํ –
‘‘มรณาสนฺนสตฺตสฺส, ยโถปฏฺิตโคจรํ;
ฉทฺวาเรสุ ตมารพฺภ, ปฏิสนฺธิ ภวนฺตเร’’ติ. (ปรม. วิ. ๘๙);
‘‘ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺตฺยาทินา อนาคตสฺส ปฏิสนฺธิโคจรภาวํ นิวาเรติ. น หิ ตํ อตีตกมฺมกมฺมนิมิตฺตานิ วิย อนุภูตํ, นาปิ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตานิ วิย อาปาถคตฺจ โหตีติ, กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนฺจ สรูปํ สยเมว วกฺขติ.
๕๔. เตสูติ รูปาทิปจฺจุปฺปนฺนาทิกมฺมาทิอารมฺมเณสุ วิฺาเณสุ. รูปาทีสุ เอเกกํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ รูปาทิเอเกการมฺมณานิ.
๕๕. รูปาทิกํ ปฺจวิธมฺปิ อารมฺมณเมตสฺสาติ รูปาทิปฺจารมฺมณํ.
๕๖. เสสานีติ ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉเนหิ อวเสสานิ เอกาทส กามาวจรวิปากานิ ¶ . สพฺพถาปิ กามาวจรารมฺมณานีติ สพฺเพนปิ ฉทฺวาริกทฺวารวิมุตฺตฉฬารมฺมณวสปฺปวตฺตากาเรน นิพฺพตฺตานิปิ เอกนฺตกามาวจรสภาวฉฬารมฺมณโคจรานิ. เอตฺถ หิ วิปากานิ ตาว สนฺตีรณาทิวเสน รูปาทิปฺจารมฺมเณ, ปฏิสนฺธาทิวเสน ฉฬารมฺมณสงฺขาเต กามาวจรารมฺมเณเยว ปวตฺตนฺติ.
หสนจิตฺตมฺปิ ¶ ปธานสารุปฺปฏฺานํ ทิสฺวา ตุสฺสนฺตสฺส รูปารมฺมเณ, ภณฺฑภาชนฏฺาเน มหาสทฺทํ สุตฺวา ‘‘เอวรูปา โลลุปฺปตณฺหา เม ปหีนา’’ติ ตุสฺสนฺตสฺส สทฺทารมฺมเณ, คนฺธาทีหิ เจติยปูชนกาเล ตุสฺสนฺตสฺส คนฺธารมฺมเณ, รสสมฺปนฺนํ ปิณฺฑปาตํ สพฺรหฺมจารีหิ ภาเชตฺวา ปริภฺุชนกาเล ตุสฺสนฺตสฺส รสารมฺมเณ, อาภิสมาจาริกวตฺตปริปูรณกาเล ตุสฺสนฺตสฺส โผฏฺพฺพารมฺมเณ, ปุพฺเพนิวาสาณาทีหิ คหิตกามาวจรธมฺมํ อารพฺภ ตุสฺสนฺตสฺส ธมฺมารมฺมเณติ เอวํ ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสฺเวว ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ.
๕๗. ทฺวาทสากุสลอฏฺาณวิปฺปยุตฺตชวนวเสน วีสติ จิตฺตานิ อตฺตโน ชฬภาวโต โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺตีติ นววิธโลกุตฺตรธมฺเม วชฺเชตฺวา เตภูมกานิ, ปฺตฺติฺจ อารพฺภ ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘อกุสลานิ เจวา’’ตฺยาทิ. อิเมสุ หิ อกุสลโต จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา ปริตฺตธมฺเม อารพฺภ ปรามสนอสฺสาทนาภินนฺทนกาเล กามาวจรารมฺมณา, เตเนวากาเรน สตฺตวีสติ มหคฺคตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ มหคฺคตารมฺมณา, สมฺมุติธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ ปฺตฺตารมฺมณา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทาปิ เตเยว ธมฺเม อารพฺภ เกวลํ อสฺสาทนาภินนฺทนวเสน ปวตฺติยํ, ปฏิฆสมฺปยุตฺตา จ ทุสฺสนวิปฺปฏิสารวเสน, วิจิกิจฺฉาสหคโต อนิฏฺงฺคมนวเสน, อุทฺธจฺจสหคโต วิกฺขิปนวเสน, อวูปสมวเสน จ ปวตฺติยํ ปริตฺตมหคฺคตปฺตฺตารมฺมโณ, กุสลโต จตฺตาโร, กิริยโต จตฺตาโรติ อฏฺ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสกฺขปุถุชฺชนขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนาทีสุ ปริตฺตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล กามาวจรารมฺมณา, อติปคุณชฺฌานปจฺจเวกฺขณกาเล ¶ มหคฺคตารมฺมณา, กสิณนิมิตฺตาทีสุ ปริกมฺมาทิกาเล ปฺตฺตารมฺมณาติ ทฏฺพฺพํ.
๕๘. อรหตฺตมคฺคผลวชฺชิตสพฺพารมฺมณานิ เสกฺขปุถุชฺชนสนฺตาเนสฺเวว ปวตฺตนโต. เสกฺขาปิ หิ เปตฺวา โลกิยจิตฺตํ อรหโต มคฺคผลสงฺขาตํ ปาฏิปุคฺคลิกจิตฺตํ ชานิตุํ น สกฺโกนฺติ อนธิคตตฺตา, ตถา ปุถุชฺชนาทโยปิ โสตาปนฺนาทีนํ, เสกฺขานํ ปน อตฺตโน อตฺตโน มคฺคผลปจฺจเวกฺขเณสุ ¶ ปรสนฺตานคตมคฺคผลารมฺมณาย อภิฺาย ปริกมฺมกาเล, อภิฺาจิตฺเตเนว มคฺคผลานํ ปริจฺฉินฺทนกาเล จ อตฺตโน อตฺตโน สมานานํ, เหฏฺิมานฺจ มคฺคผลธมฺเม อารพฺภ กุสลชวนานํ ปวตฺติ อตฺถีติ อรหตฺตมคฺคผลสฺเสว ปฏิกฺเขโป กโต. กามาวจรมหคฺคตปฺตฺตินิพฺพานานิ ปน เสกฺขปุถุชฺชนานํ สกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนสงฺขารสมฺมสนกสิณปริกมฺมาทีสุ ตํตทารมฺมณิกาภิฺานํ ปริกมฺมกาเล, โคตฺรภุโวทานกาเล, ทิพฺพจกฺขาทีหิ รูปวิชานนาทิกาเล จ กุสลชวนานํ โคจรภาวํ คจฺฉนฺติ.
๕๙. สพฺพถาปิ สพฺพารมฺมณานีติ กามาวจรมหคฺคตสพฺพโลกุตฺตรปฺตฺติวเสน สพฺพถาปิ สพฺพารมฺมณานิ, น ปน อกุสลาทโย วิย สปฺปเทสสพฺพารมฺมณานีตฺยตฺโถ. กิริยชวนานฺหิ สพฺพฺุตฺาณาทิวสปฺปวตฺติยํ, โวฏฺพฺพนสฺส จ ตํตํปุเรจาริกวสปฺปวตฺติยํ น จ กิฺจิ อโคจรํ นาม อตฺถิ.
๖๐. ปมตติยารุปฺปารมฺมณตฺตา อารุปฺเปสุ ทุติยจตุตฺถานิ มหคฺคตารมฺมณานิ.
๖๑. เสสานิ…เป… ปฺตฺตารมฺมณานีติ ปนฺนรส รูปาวจรานิ, ปมตติยารุปฺปานิ จาติ เอกวีสติ กสิณาทิปฺตฺตีสุ ปวตฺตนโต ปฺตฺตารมฺมณานิ.
๖๓. เตวีสติกามาวจรวิปากปฺจทฺวาราวชฺชนหสนวเสน ¶ ปฺจวีสติ จิตฺตานิ ปริตฺถมฺหิ กามาวจรารมฺมเณ เยว ภวนฺติ. กามาวจรฺหิ มหคฺคตาทโย อุปาทาย มนฺทานุภาวตาย ปริสมนฺตโต อตฺตํ ขณฺฑิตํ วิยาติ ปริตฺตํ. ‘‘ฉ จิตฺตานิ มหคฺคเตเยวา’’ตฺยาทินา สพฺพตฺถ สาวธารณโยชนา ทฏฺพฺพา.
อาลมฺพณสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
วตฺถุสงฺคหวณฺณนา
๖๔. วตฺถุวิภาคโต ¶ , ตพฺพตฺถุกจิตฺตปริจฺเฉทวเสน จ สงฺคโห วตฺถุสงฺคโห. วสนฺติ เอเตสุ จิตฺตเจตสิกา ตนฺนิสฺสยตฺตาติ วตฺถูนิ.
๖๕. ตานิ กามโลเก สพฺพานิปิ ลพฺภนฺติ ปริปุณฺณินฺทฺริยสฺส ตตฺเถว อุปลพฺภนโต. ปิ-สทฺเทน ปน อนฺธพธิราทิวเสน เกสฺจิ อสมฺภวํ ทีเปติ.
๖๖. ฆานาทิตฺตยํ นตฺถิ พฺรหฺมานํ กามวิราคภาวนาวเสน คนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ วิรตฺตตาย ตพฺพิสยปฺปสาเทสุปิ วิราคสภาวโต. พุทฺธทสฺสนธมฺมสฺสวนาทิอตฺถํ ปน จกฺขุโสเตสุ อวิรตฺตภาวโต จกฺขาทิทฺวยํ ตตฺถ อุปลพฺภติ.
๖๗. อรูปโลเก สพฺพานิปิ ฉ วตฺถูนิ น สํวิชฺชนฺติ อรูปีนํ รูปวิราคภาวนาพเลน ตตฺถ สพฺเพน สพฺพํ รูปปฺปวตฺติยา อภาวโต.
๖๘. ปฺจวิฺาณาเนว นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธาตุโยติ ปฺจวิฺาณธาตุโย.
๗๐. มโนเยว ¶ วิสิฏฺวิชานนกิจฺจโยคโต วิฺาณํ นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธาตุ จาติ มโนวิฺาณธาตุ. มนโส วิฺาณธาตูติ วา มโนวิฺาณธาตุ. สา หิ มนโตเยว อนนฺตรปจฺจยโต สมฺภูยมนโสเยว อนนฺตรปจฺจยภูตาติ มนโส สมฺพนฺธินี โหติ. สนฺตีรณตฺตยสฺส, อฏฺมหาวิปากานํ, ปฏิฆทฺวยสฺส, ปมมคฺคสฺส, หสิตุปฺปาทสฺส, ปนฺนรสรูปาวจรานฺจ วเสน ปวตฺตา ยถาวุตฺตมโนธาตุปฺจวิฺาณธาตูหิ อวเสสา มโนวิฺาณธาตุ สงฺขาตา จ ตึส ธมฺมา น เกวลํ มโนธาตุเยว, ตถา หทยํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
สนฺตีรณมหาวิปากานิ หิ เอกาทส ทฺวาราภาวโต, กิจฺจาภาวโต จ อารุปฺเป น อุปฺปชฺชนฺติ ¶ . ปฏิฆสฺส อนีวรณาวตฺถสฺส อภาวโต ตํสหคตํ จิตฺตทฺวยํ รูปโลเกปิ นตฺถิ, ปเคว อารุปฺเป. ปมมคฺโคปิ ปรโตโฆสปจฺจยาภาเว สาวกานํ อนุปฺปชฺชนโต, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานฺจ มนุสฺสโลกโต อฺตฺถ อนิพฺพตฺตนโต, หสนจิตฺตฺจ กายาภาวโต, รูปาวจรานิ อรูปีนํ รูปวิราคภาวนาวเสน ตทารมฺมเณสุ ฌาเนสุปิ วิรตฺตภาวโต อรูปภเว น อุปฺปชฺชนฺตีติ สพฺพานิปิ เอตานิ เตตฺตึส จิตฺตานิ หทยํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ.
๗๑. ปฺจรูปาวจรกุสลโต อวเสสานิ ทฺวาทส โลกิยกุสลานิ, ปฏิฆทฺวยโต อวเสสานิ ทส อกุสลานิ, ปฺจทฺวาราวชฺชนหสนรูปาวจรกิริเยหิ อวเสสานิ เตรส กิริยจิตฺตานิ, ปมมคฺคโต อวเสสานิ สตฺต อนุตฺตรานิ จาติ อิเมสํ วเสน ทฺเวจตฺตาลีสวิธา มโนวิฺาณธาตุสงฺขาตา ธมฺมา ปฺจโวการภววเสน หทยํ นิสฺสาย วา, จตุโวการภววเสน อนิสฺสายวา ปวตฺตนฺติ.
๗๓. กาเม ¶ ภเว ฉวตฺถุํ นิสฺสิตา สตฺต วิฺาณธาตุโย, รูเป ภเว ติวตฺถุํ นิสฺสิตา ฆานวิฺาณาทิตฺตยวชฺชิตา จตุพฺพิธา วิฺาณธาตุโย, อารุปฺเป ภเว อนิสฺสิตา เอกา มโนวิฺาณธาตุ มตาติ โยชนา.
๗๔. กามาวจรวิปากปฺจทฺวาราวชฺชนปฏิฆทฺวยหสนวเสน สตฺตวีสติ กามาวจรานิ, ปนฺนรส รูปาวจรานิ, ปมมคฺโคติ เตจตฺตาลีส นิสฺสาเยว ชายเร, ตโตเยว อวเสสา อารุปฺปวิปากวชฺชิตา ทฺเวจตฺตาลีส นิสฺสาย จ อนิสฺสาย จ ชายเร, ปาการุปฺปา จตฺตาโร อนิสฺสิตาเยวาติ สมฺพนฺโธ.
วตฺถุสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
ปกิณฺณกปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วีถิปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. อิจฺเจวํ ¶ ยถาวุตฺตนเยน จิตฺตุปฺปาทานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ อุตฺตรํ เวทนาสงฺคหาทิวิภาคโต อุตฺตมํ ปเภทสงฺคหํ กตฺวา ปุน กามาวจราทีนํ ติณฺณํ ภูมีนํ, ทฺวิเหตุกาทิปุคฺคลานฺจ เภเทน ลกฺขิตํ ‘‘อิทํ เอตฺตเกหิ ปรํ, อิมสฺส อนนฺตรํ เอตฺตกานิ จิตฺตานี’’ติ เอวํ ปุพฺพาปรจิตฺเตหิ นิยามิตํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ จิตฺตุปฺปาทานํ ปวตฺติสงฺคหํ นาม ตนฺนามกํ สงฺคหํ ยถาสมฺภวโต สมาเสน ปวกฺขามีติ โยชนา.
๒. วตฺถุทฺวารารมฺมณสงฺคหา เหฏฺา กถิตาปิ ปริปุณฺณํ กตฺวา ปวตฺติสงฺคหํ ทสฺเสตุํ ปุน นิกฺขิตฺตา.
๓. วิสยานํ ทฺวาเรสุ, วิสเยสุ จ จิตฺตานํ ปวตฺติ วิสยปฺปวตฺติ.
วีถิฉกฺกวณฺณนา
๖. ‘‘จกฺขุทฺวาเร ¶ ปวตฺตา วีถิ จิตฺตปรมฺปรา จกฺขุทฺวารวีถี’’ตฺยาทินา ทฺวารวเสน, ‘‘จกฺขุวิฺาณสมฺพนฺธินี วีถิ เตน สห เอการมฺมณเอกทฺวาริกตาย สหจรณภาวโต จกฺขุวิฺาณวีถี’’ตฺยาทินา วิฺาณวเสน วา วีถีนํ นาม โยชนา กาตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุทฺวารวีถี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.
วีถิฉกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
วีถิเภทวณฺณนา
๗. ‘‘อติมหนฺต’’นฺตฺยาทีสุ ¶ เอกจิตฺตกฺขณาตีตํ หุตฺวา อาปาถาคตํ โสฬสจิตฺตกฺขณายุกํ อติมหนฺตํ นาม. ทฺวิติจิตฺตกฺขณาตีตํ หุตฺวา ปนฺนรสจุทฺทสจิตฺตกฺขณายุกํ มหนฺตํ นาม. จตุจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ยาว นวจิตฺตกฺขณาตีตํ หุตฺวา เตรสจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ยาว อฏฺจิตฺตกฺขณายุตํ ปริตฺตํ นาม. ทสจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ยาว ปนฺนรสจิตฺตกฺขณาตีตํ หุตฺวา สตฺตจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ยาว ทฺวิจิตฺตกฺขณายุกํ อติปริตฺตํ นาม. เอวฺจ กตฺวา วกฺขติ ‘‘เอกจิตฺตกฺขณาตีตานี’’ตฺยาทิ. วิภูตํ ปากฏํ. อวิภูตํ อปากฏํ.
วีถิเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจทฺวารวีถิวณฺณนา
๘. กถนฺติ เกน ปกาเรน อติมหนฺตาทิวเสน วิสยววตฺถานนฺติ ปุจฺฉิตฺวา จิตฺตกฺขณวเสน ตํ ปกาเสตุํ ‘‘อุปฺปาทิตี’’ตฺยาทิ อารทฺธํ. อุปฺปชฺชนํ อุปฺปาโท, อตฺตปฏิลาโภ. ภฺชนํ ภงฺโค, สรูปวินาโส. อุภินฺนํ เวมชฺเฌ ภงฺคาภิมุขปฺปวตฺติ ิติ นาม. เกจิ ปน จิตฺตสฺส ิติกฺขณํ ปฏิเสเธนฺติ. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – จิตฺตยมเก (วิภ. มูลฏี. ๒๐ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา; ยม. ๒.จิตฺตยมก.๘๑, ๑๐๒) ‘‘อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชมาน’’นฺติ เอวมาทิปทานํ วิภงฺเค ‘‘ภงฺคกฺขเณ อุปฺปนฺนํ ¶ , โน จ อุปฺปชฺชมานํ, อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนฺเจว อุปฺปชฺชมานฺจา’’ตฺยาทินา (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๘๑, ๑๐๒) ภงฺคุปฺปาทาว กถิตา, น ิติกฺขโณ. ยทิ จ จิตฺตสฺส ิติกฺขโณปิ อตฺถิ, ‘‘ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ จา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. อถ มตํ ‘‘อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตีติ (อ. นิ. ๓.๔๗) สุตฺตนฺตปาโต ิติกฺขโณ อตฺถี’’ติ, ตตฺถปิ เอกสฺมึ ธมฺเม อฺถตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนโต, ปฺาณวจนโต จ ปพนฺธิติเยว อธิปฺเปตา, น จ ขณิติ, น จ อภิธมฺเม ลพฺภมานสฺส อวจเน การณํ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาธมฺมสาสเน อวจนมฺปิ อภาวเมว ทีเปตีติ. ตตฺถ วุจฺจเต ยเถว หิ เอกธมฺมาธารภาเวปิ อุปฺปาทภงฺคานํ อฺโ อุปฺปาทกฺขโณ, อฺโ ภงฺคกฺขโณติ อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา. อิตรถา หิ ‘‘อฺโเยว ธมฺโม อุปฺปชฺชติ, อฺโ นิรุชฺฌตี’’ติ อาปชฺเชยฺย, เอวเมว อุปฺปาทภงฺคาวตฺถาหิ ภินฺนา ¶ ภงฺคาภิมุขาวตฺถาปิ อิจฺฉิตพฺพา, สา ิติ นาม. ปาฬิยํ ปน เวเนยฺยชฺฌาสยานุโรธโต นยทสฺสนวเสน สา น วุตฺตา. อภิธมฺมเทสนาปิ หิ กทาจิ เวเนยฺยชฺฌาสยานุโรเธน ปวตฺตติ, ยถา รูปสฺส อุปฺปาโท อุปจโย สนฺตตีติ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา เทสิโต, สุตฺเต จ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ เอวํ สงฺขตธมฺมสฺเสว ลกฺขณทสฺสนตฺถํ อุปฺปาทาทีนํ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปพนฺธสฺส ปฺตฺติสภาวสฺส อสงฺขตสฺส ิติ ตตฺถ วุตฺตาติ วิฺาตุํ. อุปสคฺคสฺส จ ธาตฺวตฺเถเยว ปวตฺตนโต ‘‘ปฺายตี’’ติ เอตสฺส วิฺายตีติ อตฺโถ. ตสฺมา น เอตฺตาวตา จิตฺตสฺส ิติกฺขโณ ปฏิพาหิตุํ ยุตฺโตติ สุวุตฺตเมตํ ‘‘อุปฺปาทิติภงฺควเสนา’’ติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อฏฺกถายมฺปิ ‘‘เอเกกสฺส ¶ อุปฺปาทิติภงฺควเสน ตโย ตโย ขณา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา).
๙. อรูปํ ลหุปริณามํ, รูปํ ครุปริณามํ คาหกคาเหตพฺพภาวสฺส ตํตํขณวเสน อุปฺปชฺชนโตติ อาห ‘‘ตานี’’ตฺยาทิ. ตานีติ ตาทิสานิ. สตฺตรสนฺนํ จิตฺตานํ ขณานิ วิย ขณานิ สตฺตรสจิตฺตกฺขณานิ, ตานิ จิตฺตกฺขณานิ สตฺตรสาติ วา สมฺพนฺโธ. วิสุํ วิสุํ ปน เอกปฺาส จิตฺตกฺขณานิ โหนฺติ. รูปธมฺมานนฺติ วิฺตฺติลกฺขณรูปวชฺชานํ รูปธมฺมานํ. วิฺตฺติทฺวยฺหิ เอกจิตฺตกฺขณายุกํ. ตถา หิ ตํ จิตฺตานุปริวตฺติธมฺเมสุ วุตฺตํ. ลกฺขณรูเปสุ จ ชาติ เจว อนิจฺจตา จ จิตฺตสฺส อุปฺปาทภงฺคกฺขเณหิ สมานายุกา, ชรตา ปน เอกูนปฺาสจิตฺตกฺขณายุกา. เอวฺจ กตฺวา วทนฺติ –
‘‘ตํ สตฺตรสจิตฺตายุ, วินา วิฺตฺติลกฺขณ’’นฺติ (ส. ส. ๖๐);
เกจิ (วิภ. มูลฏี. ๒๐) ปน ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทฏฺกถายํ ‘เอตฺตาวตา เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตา โหนฺติ, อถาวเสสปฺจจิตฺตกฺขณายุเก’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๒๓; วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) วจนโต โสฬสจิตฺตกฺขณานิ รูปธมฺมานมายู. อุปฺปชฺชมานเมว หิ รูปํ ภวงฺคจลนสฺส ปจฺจโย โหตี’’ติ วทนฺติ, ตยิทมสารํ ‘‘ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สหุปฺปนฺนํ กมฺมชรูปํ ตโต ปฏฺาย สตฺตรสเมน สทฺธึ นิรุชฺฌติ, ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ อุปฺปนฺนํ อฏฺารสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิรุชฺฌตี’’ตฺยาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) อฏฺกถายเมว สตฺตรสจิตฺตกฺขณสฺส อาคตตฺตา. ยตฺถ ปน โสฬสจิตฺตกฺขณาเนว ปฺายนฺติ, ตตฺถ จิตฺตปฺปวตฺติยา ¶ ปจฺจยภาวโยคฺยกฺขณวเสน นโย นีโต. เหฏฺิมโกฏิยา หิ เอกจิตฺตกฺขณมฺปิ ¶ อติกฺกนฺตสฺเสว รูปสฺส อาปาถาคมนสามตฺถิยนฺติ อลมติวิตฺถาเรน.
๑๐. เอกจิตฺตสฺส ขณํ วิย ขณํ เอกจิตฺตกฺขณํ, ตํ อตีตํ เอเตสํ, เอตานิ วา ตํ อตีตานีติ เอกจิตฺตกฺขณาตีตานิ. อาปาถมาคจฺฉนฺตีติ รูปสทฺทารมฺมณานิ สกสกฏฺาเน ตฺวาว โคจรภาวํ คจฺฉนฺตีติ อาโภคานุรูปํ อเนกกลาปคตานิ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เสสานิ ปน ฆานาทินิสฺสเยสุ อลฺลีนาเนว วิฺาณุปฺปตฺติการณานีติ เอเกกกลาปคตานิปิ. เอเกกกลาปคตาปิ หิ ปสาทา วิฺาณสฺส อาธารภาวํ คจฺฉนฺติ, เต ปน ภวงฺคจลนสฺส อนนฺตรปจฺจยภูเตน ภวงฺเคน สทฺธึ อุปฺปนฺนา. ‘‘อาวชฺชเนน สทฺธึ อุปฺปนฺนา’’ติ อปเร.
ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค จลิเตติ วิสทิสวิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาวสงฺขาตภวงฺคจลนวเสน ปุริมคฺคหิตารมฺมณสฺมึเยว ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค ปวตฺเต. ปฺจสุ หิ ปสาเทสุ โยคฺยเทสาวตฺถานวเสน อารมฺมเณ ฆฏฺฏิเต ปสาทฆฏฺฏนานุภาเวน ภวงฺคสนฺตติ โวจฺฉิชฺชมานา สหสา อโนจฺฉิชฺชิตฺวา ยถา เวเคน ธาวนฺโต าตุกาโมปิ ปุริโส เอกทฺวิปทวาเร อติกฺกมิตฺวาว ติฏฺติ, เอวํ ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวาว โอจฺฉิชฺชติ. ตตฺถ ปมจิตฺตํ ภวงฺคสนฺตตึ จาเลนฺตํ วิย อุปฺปชฺชตีติ ภวงฺคจลนํ, ทุติยํ ตสฺส โอจฺฉิชฺชนากาเรน อุปฺปชฺชนโต ภวงฺคุปจฺเฉโทติ โวหรนฺติ. อิธ ปน อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺเค จลิเต’’ติ.
นนุ จ รูปาทินา ปสาเท ฆฏฺฏิเต ตนฺนิสฺสิตสฺเสว จลนํ ยุตฺตํ, กถํ ปน หทยวตฺถุนิสฺสิตสฺส ภวงฺคสฺสาติ? สนฺตติวเสน เอกาพทฺธตฺตา. ยถา หิ เภริยา เอกสฺมึ ตเล ิตสกฺขราย มกฺขิกาย นิสินฺนาย อปรสฺมึ ตเล ทณฺฑาทินา ปหเฏ อนุกฺกเมน เภริจมฺมวรตฺตาทีนํ จลเนน สกฺขราย ¶ จลิตาย มกฺขิกาย อุปฺปติตฺวา คมนํ โหติ, เอวเมว รูปาทินา ปสาเท ฆฏฺฏิเต ตนฺนิสฺสเยสุ มหาภูเตสุ จลิเตสุ อนุกฺกเมน ตํสมฺพนฺธานํ เสสรูปานมฺปิ จลเนน หทยวตฺถุมฺหิ จลิเต ตนฺนิสฺสิตสฺส ภวงฺคสฺส จลนากาเรน ปวตฺติ โหติ. วุตฺตฺจ –
‘‘ฆฏฺฏิเต ¶ อฺวตฺถุมฺหิ, อฺนิสฺสิตกมฺปนํ;
เอกาพทฺเธน โหตีติ, สกฺขโรปมยา วเท’’ติ. (ส. ส. ๑๗๖);
ภวงฺคโสตนฺติ ภวงฺคปฺปวาหํ. อาวชฺชนฺตนฺติ ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ วทนฺตํ วิย อาโภคํ กุรุมานํ. ปสฺสนฺตนฺติ ปจฺจกฺขโต เปกฺขนฺตํ. นนุ จ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; อ. นิ. ๓.๖๒; วิภ. ๕๑๗) วจนโต จกฺขุนฺทฺริยเมว ทสฺสนกิจฺจํ สาเทติ, น วิฺาณนฺติ? นยิทเมวํ, รูปสฺส อนฺธภาเวน รูปทสฺสเน อสมตฺถภาวโต. ยทิ จ ตํ รูปํ ปสฺสติ, ตถา สติ อฺวิฺาณสมงฺคิโนปิ รูปทสฺสนปฺปสงฺโค สิยา. ยทิ เอวํ วิฺาณสฺส ตํ กิจฺจํ สาเธติ, วิฺาณสฺส อปฺปฏิพนฺธตฺตา อนฺตริตรูปสฺสปิ ทสฺสนํ สิยา. โหตุ อนฺตริตสฺสปิ ทสฺสนํ, ยสฺส ผลิกาทิติโรหิตสฺส อาโลกปฏิพนฺโธ นตฺถิ, ยสฺส ปน กุฏฺฏาทิอนฺตริตสฺส อโลกปฏิพนฺโธ อตฺถิ. ตตฺถ ปจฺจยาภาวโต วิฺาณํ นุปฺปชฺชตีติ น ตสฺส จกฺขุวิฺาเณน คหณํ โหติ. ‘‘จกฺขุนา’’ติ ปเนตฺถ เตน ทฺวาเรน กรณภูเตนาติ อธิปฺปาโย. อถ วา นิสฺสิตกิริยา นิสฺสยปฺปฏิพทฺธา วุตฺตา ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ.
สมฺปฏิจฺฉนฺตนฺติ ตเมว รูปํ ปฏิคฺคณฺหนฺตํ วิย. สนฺตีรยมานนฺติ ตเมว รูปํ วีมํสนฺตํ วิย. ววตฺถเปนฺตนฺติ ตเมว รูปํ สุฏฺุ สลฺลกฺเขนฺตํ วิย. โยนิโสมนสิการาทิวเสน ลทฺโธ ปจฺจโย เอเตนาติ ลทฺธปจฺจยํ. ยํ กิฺจิ ชวนนฺติ สมฺพนฺโธ. มุจฺฉามรณาสนฺนกาเลสุ จ ฉปฺปฺจปิ ชวนานิ ปวตฺตนฺตีติ อาห ¶ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ. ชวนานุพนฺธานีติ ปฏิโสตคามินาวํ นทีโสโต วิย กิฺจิ กาลํ ชวนํ อนุคตานิ. ตสฺส ชวนสฺส อารมฺมณํ อารมฺมณเมเตสนฺติ ตทารมฺมณานิ ‘‘พฺรหฺมสฺสโร’’ตฺยาทีสุ วิย มชฺเฌปทโลปวเสน, ตทารมฺมณานิ จ ตานิ ปากานิ จาติ ตทารมฺมณปากานิ. ยถารหนฺติ อารมฺมณชวนสตฺตานุรูปํ. ตถา ปวตฺตึ ปน สยเมว ปกาสยิสฺสติ, ภวงฺคปาโตติ วีถิจิตฺตวเสน อปฺปวตฺติตฺวา จิตฺตสฺส ภวงฺคปาโต วิย, ภวงฺควเสน อุปฺปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ วีถิจิตฺตปฺปวตฺติยา สุขคฺคหณตฺถํ อมฺโพปมาทิกํ อาหรนฺติ, ตตฺริทํ อมฺโพปมามตฺตํ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา) – เอโก กิร ปุริโส ผลิตมฺพรุกฺขมูเล สสีสํ ปารุปิตฺวา นิทฺทายนฺโต อาสนฺเน ปติตสฺส เอกสฺส อมฺพผลสฺส สทฺเทน ปพุชฺฌิตฺวา สีสโต วตฺถํ อปเนตฺวา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา ทิสฺวา จ ตํ คเหตฺวา มทฺทิตฺวา อุปสิงฺฆิตฺวา ปกฺกภาวํ ตฺวา ¶ ปริภฺุชิตฺวา มุขคตํ สห เสมฺเหน อชฺโฌหริตฺวา ปุน ตตฺเถว นิทฺทายติ. ตตฺถ ปุริสสฺส นิทฺทายนกาโล วิย ภวงฺคกาโล, ผลสฺส ปติตกาโล วิย อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนกาโล, ตสฺส สทฺเทน ปพุทฺธกาโล วิย อาวชฺชนกาโล, อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตกาโล วิย จกฺขุวิฺาณปฺปวตฺติกาโล, คหิตกาโล วิย สมฺปฏิจฺฉนกาโล, มทฺทนกาโล วิย สนฺตีรณกาโล, อุปสิงฺฆนกาโล วิย โวฏฺพฺพนกาโล, ปริโภคกาโล วิย ชวนกาโล, มุขคตํ สห เสมฺเหน อชฺโฌหรณกาโล วิย ตทารมฺมณกาโล, ปุน นิทฺทายนกาโล วิย ปุน ภวงฺคกาโล.
อิมาย จ อุปมาย กึ ทีปิตํ โหติ? อารมฺมณสฺส ปสาทฆฏฺฏนเมว กิจฺจํ, อาวชฺชนสฺส วิสยาภุชนเมว, จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนมตฺตเมว, สมฺปฏิจฺฉนาทีนฺจ ปฏิคฺคณฺหนาทิมตฺตเมว ¶ , ชวนสฺเสว ปน อารมฺมณรสานุภวนํ, ตทารมฺมณสฺส จ เตน อนุภูตสฺเสว อนุภวนนฺติ เอวํ กิจฺจวเสน ธมฺมานํ อฺมฺํ อสํกิณฺณตา ทีปิตา โหติ. เอวํ ปวตฺตมานํ ปน จิตฺตํ ‘‘อาวชฺชนํ นาม หุตฺวา ภวงฺคานนฺตรํ โหติ, ตฺวํ ทสฺสนาทีสุ อฺตรํ หุตฺวา อาวชฺชนานนฺตร’’นฺตฺยาทินา นิยฺุชเก การเก อสติปิ อุตุพีชนิยามาทิ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา) วิย จิตฺตนิยามวเสเนว ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ.
๑๑. เอตฺตาวตา สตฺตรส จิตฺตกฺขณานิ ปริปูเรนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๑๒. อปฺปโหนฺตาตีตกนฺติ อปฺปโหนฺตํ หุตฺวา อตีตํ. นตฺถิ ตทารมฺมณุปฺปาโทติ จุทฺทสจิตฺตกฺขณายุเก ตาว อารมฺมณสฺส นิรุทฺธตฺตาว ตทารมฺมณํ นุปฺปชฺชติ. น หิ เอกวีถิยํ เกสุจิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณสุ กานิจิ อตีตารมฺมณานิ โหนฺติ. ปนฺนรสจิตฺตกฺขณายุเกสุปิ ชวนุปฺปตฺติโต ปรํ เอกเมว จิตฺตกฺขณํ อวสิฏฺนฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ตทารมฺมณุปฺปตฺติยา อปฺปโหนกภาวโต นตฺถิ ทุติยตทารมฺมณสฺส อุปฺปตฺตีติ ปมมฺปิ นุปฺปชฺชติ. ทฺวิกฺขตฺตุเมว หิ ตทารมฺมณุปฺปตฺติ ปาฬิยํ นิยมิตา จิตฺตปฺปวตฺติคณนายํ สพฺพวาเรสุ ‘‘ตทารมฺมณานิ ทฺเว’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ทฺวินฺนเมว จิตฺตวารานํ อาคตตฺตา. ยํ ปน ปรมตฺถวินิจฺฉเย วุตฺตํ –
‘‘สกึ ¶ ทฺเว วา ตทาลมฺพํ, สกิมาวชฺชนาทโย’’ติ (ปรม. วิ. ๑๑๖), ตํ มชฺฌิมภาณกมตานุสาเรน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา ปน มชฺฌิมภาณกานํ วาโท เหฏฺา วุตฺตปาฬิยา อสํสนฺทนโต สมฺโมหวิโนทนียํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ปฏิกฺขิตฺโตว, ตสฺมา อาจริเยนปิ อตฺตนา อนธิปฺเปตตฺตาเยว อิธ เจว นามรูปปริจฺเฉเท จ สกึ ตทารมฺมณุปฺปตฺติ น วุตฺตา.
๑๓. โวฏฺพฺพนุปฺปาทโต ¶ ปรํ ฉจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุกมฺปิ อารมฺมณํ อปฺปายุกภาเวน ปริทุพฺพลตฺตา ชวนุปฺปตฺติยา ปจฺจโย น โหติ. ชวนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ นิยเมน สตฺตจิตฺตกฺขณายุเกเยว อุปฺปชฺชตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ชวนมฺปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา’’ติ. เหตุมฺหิ จายํ ตฺวาปจฺจโย, ชวนสฺสปิ อนุปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. อิตรถา หิ อปรกาลกิริยาย สมานกตฺตุกตา น ลพฺภตีติ. ทฺวตฺติกฺขตฺตุนฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา. เกจิ ปน ‘‘ติกฺขตฺตุ’นฺติ อิทํ วจนสิลิฏฺตามตฺตปฺปโยชน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปน เตสํ อภินิเวสมตฺตํ. น หิ ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ โวฏฺพฺพนเมว ปริวตฺตตี’’ติ วุตฺเตปิ วจนสฺส อสิลิฏฺภาโว อตฺถิ, น จ ติกฺขตฺตุํ ปวตฺติยา พาธกํ กิฺจิ วจนํ อฏฺกถาทีสุ อตฺถิ. เอวฺจ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ สีหฬสํวณฺณนาการาปิ ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา’’อิจฺเจว วณฺเณนฺติ. โวฏฺพฺพนเมว ปริวตฺตตีติ โวฏฺพฺพนเมว ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชติ. ตํ ปน อปฺปตฺวา อนฺตรา จกฺขุวิฺาณาทีสุ ตฺวา จิตฺตปฺปวตฺติยา นิวตฺตนํ นตฺถิ.
อานนฺทาจริโย ปเนตฺถ (ธ. ส. มูลฏี. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา) ‘‘อาวชฺชนา กุสลากุสลานํ ขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) อาวชฺชนาย กุสลากุสลานํ อนนฺตรปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา โวฏฺพฺพนาวชฺชนานฺจ อตฺถนฺตราภาวโต สติ อุปฺปตฺติยํ โวฏฺพฺพนํ กามาวจรกุสลากุสลกิริยชวนานํ เอกนฺตโต อนนฺตรปจฺจยภาเวเนว ปวตฺเตยฺย, โน อฺถาติ มุจฺฉากาลาทีสุ มนฺทีภูตเวคตาย ชวนปาริปูริยา ปริตฺตารมฺมณํ นิยมิตพฺพํ, น โวฏฺพฺพนสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ปวตฺติยาติ ทีเปติ. กิฺจาปิ เอวํ ทีเปติ, ติเหตุกวิปากานิ ปน อนนฺตรปจฺจยภาเวน วุตฺตาเนว. ขีณาสวานํ จุติวเสน ปวตฺตานิ น กสฺสจิ อนนฺตรปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺตีติ ตานิ วิย โวฏฺพฺพนมฺปิ ปจฺจยเวกลฺลโต กุสลากุสลาทีนํ อนนฺตรปจฺจโย ¶ น โหตีติ น น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา อฏฺกถาสุ อาคตนเยเนเวตฺถ ปริตฺตารมฺมณํ นิยมิตนฺติ.
๑๔. นตฺถิ ¶ วีถิจิตฺตุปฺปาโท อุปริมโกฏิยา สตฺตจิตฺตกฺขณายุกสฺสปิ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โวฏฺพฺพนุปฺปตฺติยา อปฺปโหนกภาวโต วีถิจิตฺตานํ อุปฺปาโท นตฺถิ, ภวงฺคปาโตว โหตีติ อธิปฺปาโย. ภวงฺคจลนเมวาติ อวธารณผลํ ทสฺเสตุํ ‘‘นตฺถิ วีถิจิตฺตุปฺปาโท’’ติ วุตฺตํ. อปเร ปน ‘‘นตฺถิ ภวงฺคุปจฺเฉโท’’ติ อวธารณผลํ ทสฺเสนฺติ, ตํ ปน วีถิจิตฺตุปฺปาทาภาววจเนเนว สิทฺธํ. สติ หิ วีถิจิตฺตุปฺปาเท ภวงฺคํ อุปจฺฉิชฺชติ. ภวงฺคุปจฺเฉทนาเมน ปน เหฏฺาปิ วิสุํ อวุตฺตตฺตา อิธ อวิเสเสน วุตฺตํ.
๑๕. สพฺพโส วีถิจิตฺตุปฺปตฺติยา อภาวโต ปจฺฉิมวาโรวิธโมฆวารวเสน วุตฺโต, อฺตฺถ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา) ปน ทุติยตติยวาราปิ ตทารมฺมณชวเนหิ สฺุตฺตา ‘‘โมฆวารา’’ติ วุตฺตา. อารมฺมณภูตาติ วิสยภูตา, ปจฺจยภูตา จ. ปจฺจโยปิ หิ ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘น ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, น ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณ’’นฺตฺยาทีสุ (ที. นิ. ๓.๘๐) วิย. เตเนเวตฺถ โมฆวารสฺสปิ อารมฺมณภูตา วิสยปฺปวตฺตีติ สิทฺธํ. อติปริตฺตารมฺมณฺหิ โมฆวารปฺาปนสฺส ปจฺจโย โหติ. อิตรถา หิ ภวงฺคจลนสฺส สกสกโคจเรเยว ปวตฺตนโต ปจฺฉิมวารสฺส อติปริตฺตารมฺมเณ ปวตฺติ นตฺถีติ ‘‘จตุนฺนํ วารานํ อารมฺมณภูตา’’ติ วจนํ ทุรุปปาทนํ สิยาติ.
๑๖. ปฺจทฺวาเร ยถารหํ ตํตํทฺวารานุรูปํ, ตํตํปจฺจยานุรูปํ, ตํตํอารมฺมณาทิอนุรูปฺจ อุปฺปชฺชมานานิ วีถิจิตฺตานิ อาวชฺชนทสฺสนาทิสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณโวฏฺพฺพนชวนตทารมฺมณวเสน อวิเสสโต สตฺเตว โหนฺติ. จิตฺตุปฺปาทา จิตฺตานํ ¶ วิสุํ วิสุํ อุปฺปตฺติวเสน อุปฺปชฺชมานจิตฺตานิเยว วา จตุทฺทส อาวชฺชนาทิปฺจกสตฺตชวนตทารมฺมณทฺวยวเสน. วิตฺถารา ปน จตุปฺาส สพฺเพสเมว กามาวจรานํ ยถาสมฺภวํ ตตฺถ อุปฺปชฺชนโต,
เอตฺถาติ วิสยปฺปวตฺติสงฺคเห.
ปฺจทฺวารวีถิวณฺณนา นิฏฺิตา.
มโนทฺวารวีถิ
ปริตฺตชวนวารวณฺณนา
๑๗. มโนทฺวาริกจิตฺตานํ ¶ อตีตานาคตมฺปิ อารมฺมณํ โหตีติ เตสํ อติมหนฺตาทิวเสน วิสยววตฺถานํ กาตุํ น สกฺกาติ วิภูตาวิภูตวเสเนเวตํ นิยเมตุํ ‘‘ยทิ วิภูตมารมฺมณ’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ.
๑๙. เอตฺถาติ มโนทฺวาเร. เอกจตฺตาลีส ปฺจทฺวาราเวณิกานํ ทฺวิปฺจวิฺาณมโนธาตุตฺตยวเสน เตรสจิตฺตานํ ตตฺถ อปฺปวตฺตนโต.
ปริตฺตชวนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปฺปนาชวนวารวณฺณนา
๒๐. วิภูตาวิภูตเภโท นตฺถิ อารมฺมณสฺส วิภูตกาเลเยว อปฺปนาสมฺภวโต.
๒๑. ตตฺถ หิ ฉพฺพีสติมหคฺคตโลกุตฺตรชวเนสุ ยํ กิฺจิ ชวนํ อปฺปนาวีถิโมตรตีติ สมฺพนฺโธ. ปริกมฺโมปจารานุโลมโคตฺรภุนาเมน ยถากฺกมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเทติ ¶ โยชนา. ปมจิตฺตฺหิ อปฺปนาย ปริกมฺมตฺตา ปฏิสงฺขารกภูตตฺตา ปริกมฺมํ. ทุติยํ สมีปจาริตฺตา อุปจารํ. นาจฺจาสนฺโนปิ หิ นาติทูรปฺปวตฺติ สมีปจารี นาม โหติ, อปฺปนํ อุเปจฺจ จรตีติ วา อุปจารํ. ตติยํ ปุพฺพภาเค ปริกมฺมานํ, อุปริอปฺปนาย จ อนุกูลตฺตา อนุโลมํ. จตุตฺถํ ปริตฺตโคตฺตสฺส, ปุถุชฺชนโคตฺตสฺส จ อภิภวนโต, มหคฺคตโคตฺตสฺส, โลกุตฺตรโคตฺตสฺส จ ภาวนโต วฑฺฒนโต โคตฺรภุ, อิมานิ จตฺตาริ นามานิ จตุกฺขตฺตุํ ปวตฺติยํ อนวเสสโต ลพฺภนฺติ, ติกฺขตฺตุํ ปวตฺติยํ ปน อุปจารานุโลมโคตฺรภุนาเมเนว ลพฺภนฺติ. อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๐๔) ปน ปุริมานํ ติณฺณํ ¶ , ทฺวินฺนํ วา อวิเสเสนปิ ปริกมฺมาทินามํ วุตฺตํ, จตุกฺขตฺตุํ, ติกฺขตฺตุเมว วา ปฺจมํ, จตุตฺถํ วา อุปฺปชฺชิตพฺพอปฺปนานุรูปโตติ อธิปฺปาโย. ปริกมฺมาทินามานํ อนวเสสโต ลพฺภมานวารทสฺสนตฺถํ ‘‘จตุกฺขตฺตุ’’นฺติ อาทิโต วุตฺตํ, คณนปฏิปาฏิวเสน ปน ‘‘ปฺจมํ วา’’ติ โอสาเน วุตฺตํ.
ยถารหนฺติ ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺานุรูปํ. ขิปฺปาภิฺสฺส หิ ติกฺขตฺตุํ ปวตฺตกามาวจรชวนานนฺตรํ จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ทนฺธาภิฺสฺส จตุกฺขตฺตุํ ปวตฺตชวนานนฺตรํ ปฺจมํ อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ยสฺมา ปน อลทฺธาเสวนํ อนุโลมํ โคตฺรภุํ อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, ลทฺธาเสวนมฺปิ จ ฉฏฺํ สตฺตมํ ภวงฺคสฺส อาสนฺนภาเวน ปปาตาสนฺนปุริโส วิย อปฺปนาวเสน ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา จตุตฺถโต โอรํ, ปฺจมโต ปรํ วา อปฺปนา น โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ยถาภินีหารวเสนาติ รูปารูปโลกุตฺตรมคฺคผลานุรูปสมถวิปสฺสนาภาวนาจิตฺตาภินีหรณานุรูปโต, อปฺปนาย วีถิ อปฺปนาวีถิ. ‘‘ตโต ปรํ ภวงฺคปาโตว โหตี’’ติ เอตฺตเกเยว วุตฺเต จตุตฺถํ, ปฺจมํ วา โอติณฺณอปฺปนาโต ¶ ปรํ ภวงฺคปาโตว โหติ, น มคฺคานนฺตรํ ผลจิตฺตํ, สมาปตฺติวีถิยฺจ ฌานผลจิตฺตานิ ปุนปฺปุนนฺติ คณฺเหยฺยุนฺติ ปุน ‘‘อปฺปนาวสาเน’’ติ วุตฺตํ. นิกายนฺตริยา กิร โลกิยปฺปนาสุ ปมกปฺปนาโต ปรํ สตฺตมชวนปูรณตฺถํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ กามาวจรชวนานมฺปิ ปวตฺตึ วณฺเณนฺตีติ เตสํ มตินิเสธนตฺถํ ‘‘ภวงฺคปาโตวา’’ติ สาวธารณํ วุตฺตํ.
๒๒. ตตฺถาติ เตสุ อฏฺาณสมฺปยุตฺตกามาวจรชวเนสุ, เตสุ จ ฉพฺพีสติมหคฺคตโลกุตฺตรชวเนสุ. ตตฺถาติ วา ตสฺมึ อปฺปนาวาเร. โสมนสฺสสหคตชวนานนฺตรนฺติ โสมนสฺสสหคตานํ จตุนฺนํ กุสลกิริยชวนานํ อนนฺตรํ. โสมนสฺสสหคตาวาติ จตุกฺกชฺฌานสฺส, สุกฺขวิปสฺสกาทีนํ มคฺคผลสฺส จ วเสน โสมนสฺสสหคตาว, น ปน อุเปกฺขาสหคตา ภินฺนเวทนานํ อฺมฺํ อาเสวนปจฺจยภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา. ปาฏิกงฺขิตพฺพาติ ปสํสิตพฺพา, อิจฺฉิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถาปีติ ตสฺมึ เอกเวทนชวนวาเรปิ. กุสลชวนานนฺตรนฺติ จตุพฺพิธาณสมฺปยุตฺตกุสลชวนานนฺตรํ กุสลชวนมปฺเปติ, น กิริยชวนํ ภินฺนสนฺตาเน นิพฺพตฺตนโต. เหฏฺิมฺจ ผลตฺตยมปฺเปติ สมาปตฺติวีถิยนฺตฺยธิปฺปาโย.
๒๓. สุขปฺุมฺหา ¶ โสมนสฺสสหคตติเหตุกกุสลทฺวยโต ปรํ อคฺคผลวิปากกิริยวชฺชิตโลกิยโลกุตฺตรจตุกฺกชฺฌานชวนวเสน ทฺวตฺตึส, อุเปกฺขกา ติเหตุกกุสลทฺวยโต ปรํ ตเถว ปฺจมชฺฌานานิ ทฺวาทส, สุขิตกฺริยโต ติเหตุกทฺวยโต ปรํ กิริยชฺฌานจตุกฺกสฺส, อคฺคผลจตุกฺกสฺส จ วเสน อฏฺ, อุเปกฺขกา ติเหตุกทฺวยโต ปรํ อุเปกฺขาสหคตรูปารูปกิริยปฺจกสฺส, อคฺคผลสฺส จ วเสน ฉ อปฺปนา สมฺโภนฺติ.
๒๔. เอตฺถาติ วีถิสงฺคหาธิกาเร.
อปฺปนาชวนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
มโนทฺวารวีถิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปฺปนาชวนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตทารมฺมณนิยมวณฺณนา
๒๕. สพฺพตฺถาปีติ ¶ ปฺจทฺวารมโนทฺวาเรปิ.
๒๖. อิฏฺเติ อิฏฺมชฺฌตฺเต. อติอิฏฺารมฺมณฺหิ วิสุํ วกฺขติ. กุสลวิปากานิ ปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณตทารมฺมณานีติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺมชฺฌตฺเต สนฺตีรณตทารมฺมณานิ อุเปกฺขาสหคตาเนวาติ อาห ‘‘อติอิฏฺเ ปน โสมนสฺสสหคตาเนวา’’ติ. วิปากสฺส หิ กมฺมานุภาวโต ปวตฺตมานสฺส อาทาเส มุขนิมิตฺตํ วิย นิพฺพิกปฺปตาย ปกปฺเปตฺวา คหณาภาวโต ยถารมฺมณเมว เวทนาโยโค โหติ, กุสลากุสลานํ ปน อปฺปหีนวิปลฺลาเสสุ สนฺตาเนสุ ปวตฺติยา อติอิฏฺเปิ อิฏฺมชฺฌตฺตอนิฏฺาการโต, อนิฏฺเปิ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตาการโต คหณํ โหติ. ตถา หิ อสฺสทฺธาทีนํ พุทฺธาทีสุ อติอิฏฺารมฺมเณสุปิ อุเปกฺขาชวนํ โหติ, ติตฺถิยาทีนฺจ โทมนสฺสชวนํ, คมฺภีรปกติกาทีนฺจ ปฏิกฺกูลารมฺมเณ อุเปกฺขาชวนํ, สุนขาทีนฺจ ตตฺถ โสมนสฺสชวนํ, ปุริมปจฺฉาภาคปฺปวตฺตานิ ปน วิปากานิ ยถาวตฺถุกาเนว ¶ . อปิจ อสุจิทสฺสเน สุมนายมานานํ สุนขาทีนนฺติ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปน อติอิฏฺานิฏฺเสุ ปวตฺตมานานมฺปิ อุเปกฺขาสหคตภาเว การณํ เหฏฺา กถิตเมว.
๒๗. ตตฺถาปีติ ตทารมฺมเณสุปิ. โสมนสฺสสหคตกิริยชวนาวสาเนติ สเหตุกาเหตุกสุขสหคตกิริยปฺจกาวสาเน. ขีณาสวานํ จิตฺตวิปลฺลาสาภาเวน กิริยชวนานิปิ ยถารมฺมณเมว ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘โสมนสฺสสหคตกิริยชวนาวสาเน’’ตฺยาทิ. เกจิ ปน อาจริยา ‘‘ปฏฺาเน (ธ. ส. มูลฏี. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา) ‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ¶ ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘) กุสลากุสลานเมวานนฺตรํ ตทารมฺมณํ วุตฺตนฺติ นตฺถิ กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณุปฺปาโท’’ติ วทนฺติ. ตตฺถ วุจฺจเต – ยทิ อพฺยากตานนฺตรมฺปิ ตทารมฺมณํ วุจฺเจยฺย. ปริตฺตารมฺมเณ โวฏฺพฺพนานนฺตรมฺปิ ตสฺส ปวตฺตึ มฺเยฺยุนฺติ กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณํ น วุตฺตํ, น ปน อลพฺภนโต. ลพฺภมานสฺสปิ หิ เกนจิ อธิปฺปาเยน กตฺถจิ อวจนํ ทิสฺสติ, ยถา ตํ ธมฺมสงฺคเห ลพฺภมานมฺปิ หทยวตฺถุ เทสนาเภทปริหารตฺถํ น วุตฺตนฺติ.
๒๘. โทมนสฺส…เป… อุเปกฺขาสหคตาเนว ภวนฺติ, น โสมนสฺสสหคตานิ อฺมฺํ วิรุทฺธสภาวตฺตา. เตเนว หิ ปฏฺาเน โทมนสฺสานนฺตรํ โสมนสฺสํ, ตทนนฺตรฺจ โทมนสฺสํ อนุทฺธฏํ. ตถา หิ ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๒.๔๕) สุขทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา อตฺตโน อตฺตโน สมานเวทนาสมฺปยุตฺตานํ อทุกฺขมสุขเวทนาย สมฺปยุตฺตกานฺจ อนนฺตรปจฺจยภาเวน ทฺวีสุ ทฺวีสุ วาเรสุ วุตฺตา, อทุกฺขมสุขเวทนาย สมฺปยุตฺตกา ปน สมานเวทนาสมฺปยุตฺตานํ, อิตรเวทนาทฺวยสมฺปยุตฺตานฺจ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจยภาเวน ตีสุ วาเรสูติ เอวํ เวทนาตฺติเก สตฺเตว อนนฺตรปจฺจยวารา วุตฺตา. ยทิ จ โทมนสฺสานนฺตรํ โสมนสฺสํ, โสมนสฺสานนฺตรํ วา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺเชยฺย, สุขทุกฺขเวทนาสมฺปยุตฺตานมฺปิ อฺมฺํ อนนฺตรปจฺจยวเสน ทฺเว วาเร วฑฺเฒตฺวา นว วารา วตฺตพฺพา สิยุํ, น ปเนวํ วุตฺตา. ตสฺมา น เตสํ ตทนนฺตรํ อุปฺปตฺติ อตฺถิ. เอตฺถ จ ‘‘โสมนสฺสสหคตกิริยชวนาวสาเน’’ตฺยาทินา อยมฺปิ นิยโม อนฺุาโต –
‘‘ปริตฺตกุสลาโทส-ปาปสาตกฺริยาชวา ¶ ;
ปฺจสฺเวกํ ตทาลมฺพํ, สุขิเตสุ ยถารหํ.
‘‘ปาปากามสุภา ¶ เจว, โสเปกฺขา จ กฺริยาชวา;
โสเปกฺเขสุ ตทาลมฺพํ, ฉสฺเวกมนุรูปโต’’ติ.
อยฺหิ ชวเนน ตทารมฺมณนิยโม อพฺยภิจารี. ‘‘าณสมฺปยุตฺตชวนโต าณสมฺปยุตฺตตทารมฺมณ’’นฺตฺยาทินยปฺปวตฺโต ปน อเนกนฺติโก. เยภุยฺเยน หิ อกุสลชวเนสุ ปริจิตสฺส กทาจิ กุสลชวเนสุ ชวิเตสุ, กุสลชวเนสุ วา ปริจิตสฺส กทาจิ อกุสลชวเนสุ ชวิเตสุ อกุสลานนฺตรํ ปวตฺตปริจเยน ติเหตุกชวนโตปิ ปรํ อเหตุกตทารมฺมณํ โหติ, ตถา กุสลานนฺตรํ ปวตฺตปริจเยน อกุสลชวนโต ปรํ ติเหตุกตทารมฺมณมฺปิ, ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกกมฺมโต ปน อฺกมฺเมน ตทารมฺมณปฺปวตฺติยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตถา จ วุตฺตํ ปฏฺาเน ‘‘อเหตุเก ขนฺเธ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺติ, กุสลากุสเล นิรุทฺเธ อเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชติ, กุสลากุสเล นิรุทฺเธ สเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘).
ตสฺมาติ ยสฺมา โทมนสฺสชวนาวสาเน อุเปกฺขาสหคตาเนว โหนฺติ. ตสฺมา โทมนสฺสสหคตชวนาวสาเน อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘โสมนสฺสปฏิสนฺธิกสฺสา’ติ อิมินาว ภวงฺคปาตาภาโว ทีปิโตว โหติ โทมนสฺสานนฺตรํ โสมนสฺสาภาวโตติ ตํ อวตฺวา ตทารมฺมณาภาวเมว ปริกปฺเปนฺโต อาห ‘‘ยทิ ตทารมฺมณสมฺภโว นตฺถี’’ติ. โสมนสฺสปฏิสนฺธิกสฺส ติตฺถิยาทิโน พุทฺธาทิอติอิฏฺารมฺมเณ ปิ ปฏิหตจิตฺตสฺส โทมนสฺสชวเน ชวิเต วุตฺตนเยน โสมนสฺสตทารมฺมณสฺส อติอิฏฺารมฺมเณ จ อุเปกฺขาสหคตตทารมฺมณสฺส อนุปฺปชฺชนโต, เกนจิ วา อสปฺปาเยน ปริหีนโลกิยชฺฌานํ อารพฺภ ‘‘ปณีตธมฺโม เม นฏฺโ’’ติ วิปฺปฏิสารํ ¶ ชเนนฺตสฺส โทมนสฺสชวเน สติ อกามาวจรารมฺมเณ ตทารมฺมณาภาวโต ยทิ ตทารมฺมณสฺส อุปฺปตฺติสมฺภโว นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
ปริจิตปุพฺพนฺติ ปุพฺเพ ปริจิตํ, ตสฺมึ ภเว เยภุยฺเยน คหิตปุพฺพํ. อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณํ ¶ อุปฺปชฺชติ นิราวชฺชนมฺปิ. ยถา ตํ นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลจิตฺตนฺตฺยธิปฺปาโย. ยถาหุ –
‘‘นิราวชฺชํ กถํ จิตฺตํ, โหติ เนตฺหิ สมฺมตํ;
นิยโม น วินาวชฺชํ, นิโรธา ผลทสฺสนา’’ติ.
เกน ปน กิจฺเจน อิทํ จิตฺตํ ปวตฺตตีติ? ตทารมฺมณกิจฺเจน ตาว น ปวตฺตติ ชวนารมฺมณสฺส อคฺคหณโต, นาปิ สนฺตีรณกิจฺเจน ยถาสมฺปฏิจฺฉิตสฺส สนฺตีรณวเสน อปฺปวตฺตนโต, ปฏิสนฺธิจุตีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ปาริเสสโต ปน ภวสฺส องฺคภาวโต ภวงฺคกิจฺเจนาติ ยุตฺตํ สิยา. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรนปิ (ธ. ส. อนุฏี. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา) หิ อยมตฺโถ ทสฺสิโตว. ยํ ปน ปฏิสนฺธิภวงฺคานํ ธมฺมโต, อารมฺมณโต จ สมานตํ วกฺขติ, ตํ เยภุยฺยโตติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อิทเมกํ านํ วชฺเชตฺวา ปฏิสนฺธิภวงฺคานํ วิสทิสตา อตฺถิ. ตมนนฺตริตฺวาติ ตํ อตฺตโน อนนฺตรํ อพฺยวหิตํ กตฺวา, ตทนนฺตรนฺตฺยตฺโถ.
๒๙. กามาวจร…เป… อิจฺฉนฺตีติ เอตฺถ กามาวจรชวนาวสาเนเยว ตทารมฺมณํ อิจฺฉนฺติ กามตณฺหานิทานกมฺมนิพฺพตฺตตฺตา. น หิ ตํ กามตณฺหาเหตุเกน กมฺมุนา ชนิตํ อตํสภาวสฺส รูปารูปาวจรโลกุตฺตรชวนสฺส อนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ. กึการณา? อชนกตฺตา, ชนกสมานตฺตาภาวโต จ. ยถา หิ เคหโต พหิ นิกฺขมิตุกาโม พาลโก ชนกํ, ตํสทิสํ วา องฺคุลิยํ คเหตฺวา นิกฺขมติ, นาฺํ ราชปุริสาทึ, เอวํ ภวงฺควิสยโต ¶ อฺตฺถ ปวตฺตมานํ ตทารมฺมณํ ชนกํ กามาวจรกุสลากุสลํ, ตํสทิสํ วา กามาวจรกิริยชวนํ อนุพนฺธติ, น ปน ตสฺส วิสทิสานิ มหคฺคตโลกุตฺตรชวนานิ. ตถา กามาวจรสตฺตานเมว ตทารมฺมณํ อิจฺฉนฺติ, น พฺรหฺมานํ ตทารมฺมณูปนิสฺสยสฺส กามาวจรปฏิสนฺธิพีชสฺสาภาวโต. ตถา กามาวจรธมฺเมสฺเวว อารมฺมณภูเตสุ อิจฺฉนฺติ. น อิตเรสุ อปริจิตตฺตา. ยถา หิ โส พาลโก ชนกํ, ตํสทิสํ วา อนุคจฺฉนฺโตปิ อรฺาทิอปริจิตฏฺานํ คจฺฉนฺตํ อนนุพนฺธิตฺวา ปมุขงฺคณาทิมฺหิ ปริจิตฏฺาเนเยว อนุพนฺธติ, เอวมิทมฺปิ รูปาวจราทิอปริจิตารมฺมณํ อารพฺภ ปวตฺตนฺตํ นานุพนฺธติ. อปิจ กามตณฺหายตฺตกมฺมชนิตตฺตาปิ เอตํ กามตณฺหารมฺมเณสุ ปริตฺตธมฺเมสฺเวว ปวตฺตตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘ชนกํ ¶ ตํสมานํ วา, ชวนํ อนุพนฺธติ;
น ตุ อฺํ ตทาลมฺพํ, พาลทารกลีลยา.
‘‘พีชสฺสาภาวโต นตฺถิ, พฺรหฺมานมฺปิ อิมสฺส หิ;
ปฏิสนฺธิมโน พีชํ, กามาวจรสฺิตํ.
‘‘าเน ปริจิเตเยว, ตํ อิทํ พาลโก วิย;
อนุยาตีติ นาฺตฺถ, โหติ ตณฺหาวเสน วา’’ติ.
นนุ จ ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิพีชาภาวโต’’ติ วุตฺตํ, ตถา จ จกฺขุวิฺาณาทีนมฺปิ อภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ อินฺทฺริยปฺปวตฺติอานุภาวโต, ทฺวารวีถิเภเท จิตฺตนิยมโต จ.
ตทารมฺมณนิยมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชวนนิยมวณฺณนา
๓๒. มนฺทปฺปวตฺติยนฺติ ¶ มรณาสนฺนกาเล วตฺถุทุพฺพลตาย มนฺทีภูตเวคตฺตา มนฺทํ หุตฺวา ปวตฺติยํ. มรณกาลาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มุจฺฉากาลํ สงฺคณฺหาติ.
๓๓. ภควโต…เป… วทนฺตีติ ภควโต ยมกปาฏิหาริยกาลาทีสุ อุทกกฺขนฺธอคฺคิกฺขนฺธปฺปวตฺตนาทิอตฺถํ วิสุํ วิสุํ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ฌานธมฺเม วิสุํ วิสุํ อาวชฺเชนฺตสฺส อาวชฺชนวสิตาย มตฺถกปฺปตฺติยา อาวชฺชนตปฺปโรว จิตฺตาภินีหาโร โหตีติ ยถาวชฺชิตฌานงฺคารมฺมณานิ จตฺตาริ, ปฺจวา ปจฺจเวกฺขณชวนจิตฺตานิ ปวตฺตนฺตีติ วทนฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๗๘) อฏฺกถาจริยา. ‘‘ภควโต’’ติ จ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ อฺเสมฺปิ ธมฺมเสนาปติอาทีนํ เอวรูเป อจฺจายิกกาเล อปริปุณฺณชวนานํ ปวตฺตนโต. ตถา จ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘อยฺจ มตฺถกปฺปตฺตา วสิตา ภควโต ยมกปาฏิหาริยกาเล ¶ อฺเสํ วา เอวรูเป กาเล’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๗๘). ‘‘จตฺตาริ ปฺจ วา’’ติ จ ปเนตํ ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยวเสน คเหตพฺพนฺติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน (วิสุทฺธิ. มหา. ๑.๗๘) วุตฺตํ, ตสฺมา ภควโต จตฺตาริ, อฺเสํ ปฺจปีติ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ.
๓๔. อาทิกมฺมิกสฺสาติ อาทิโต กตโยคกมฺมสฺส. ปมํ นิพฺพตฺตา อปฺปนา ปมกปฺปนา. อภิฺาชวนานมฺปิ ‘‘ปมกปฺปนายา’’ติ อธิกาโร สิยาติ อาห ‘‘สพฺพทาปี’’ติ, ปมุปฺปตฺติกาเล, จิณฺณวสีกาเล จ ปฺจาภิฺาชวนานิ เอกวารเมว ชวนฺตีตฺยตฺโถ.
๓๕. มคฺคาเยว อุปฺปชฺชนโต มคฺคุปฺปาทา. ยถารหนฺติ ปฺจมํ วา จตุตฺถํ วา อุปฺปนฺนมคฺคานุรูปํ. สตฺตชวนปรมตฺตา หิ เอกาวชฺชนวีถิยา ¶ จตุตฺถํ อุปฺปนฺนมคฺคโต ปรํ ตีติ ผลจิตฺตานิ, ปฺจมํ อุปฺปนฺนมคฺคโต ปรํ ทฺเว วา โหนฺติ.
๓๖. นิโรธสมาปตฺติกาเลติ นิโรธสฺส ปุพฺพภาเค. จตุตฺถารุปฺปชวนนฺติ กุสลกิริยานํ อฺตรํ เนวสฺานาสฺายตนชวนํ. อนาคามิขีณาสวาเยว นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ, น โสตาปนฺนสกทามิโนติ วุตฺตํ ‘‘อนาคามิผลํ วา อรหตฺตผลํ วา’’ติ. วิภตฺติวิปลฺลาโส เจตฺถ ทฏฺพฺโพ ‘‘อนาคามิผเล วา อรหตฺตผเล วา’’ติ. เตนาห ‘‘นิรุทฺเธ’’ติ. ยถารหนฺติ ตํตํปุคฺคลานุรูปํ.
๓๘. สพฺพตฺถาปิ สมาปตฺติวีถิยนฺติ สกลายปิ ฌานสมาปตฺติวีถิยํ, ผลสมาปตฺติวีถิยฺจ.
๓๙. ปริตฺตานิ ชวนานิ สตฺตกฺขตฺตุํ มตานิ อุกฺกํสโกฏิยา. มคฺคาภิฺา ปน สกึ เอกวารเมว มตา. อวเสสานิ อภิฺามคฺควชฺชิตานิ มหคฺคตโลกุตฺตรชวนานิ พหูนิปิ ลพฺภนฺติ สมาปตฺติวีถิยํ อโหรตฺตมฺปิ ปวตฺตนโต. อปิ-สทฺเทน โลกิยชฺฌานานิ ปมกปฺปนายํ, อนฺติมผลทฺวยฺจ นิโรธานนฺตรํ เอกวารํ, ผลจิตฺตานิ มคฺคานนฺตรํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุมฺปีติ สมฺปิณฺเฑติ.
ชวนนิยมวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปุคฺคลเภทวณฺณนา
๔๐. อิทานิ ¶ ทุเหตุกาเหตุกาปายิกาเหตุกติเหตุกวเสน จตุพฺพิธานํ ปุถุชฺชนานํ, มคฺคฏฺผลฏฺวเสน อฏฺวิธานํ อริยานนฺติ ทฺวาทสนฺนํ ปุคฺคลานํ อุปฺปชฺชนกวีถิจิตฺตปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ ปมํ ตาว เตสํ วชฺชิตพฺพจิตฺตานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุเหตุกานมเหตุกานฺจา’’ตฺยาทิ. ปฏิสนฺธิวิฺาณสหคตาโลภาโทสวเสน ทฺเว เหตู ¶ อิเมสนฺติ ทฺวิเหตุกา. ตาทิสานํ เหตูนํ อภาวโต อเหตุกา. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. อปฺปนาชวนานิ น ลพฺภนฺติ วิปากาวรณสพฺภาวโต. ทฺวิเหตุกาเหตุกปฏิสนฺธิ หิ ‘‘วิปากาวรณ’’นฺติ วุจฺจติ. อปฺปนาชวนาภาวโตเยว อรหตฺตํ นตฺถีติ กิริยชวนานิ น ลพฺภนฺติ.
๔๑. ‘‘สเหตุกํ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ ปาโต อเหตุกานมฺปิ นานากมฺเมน ทฺวิเหตุกตทารมฺมณํ สมฺภวติ, ทฺวิเหตุกานํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. มูลสนฺธิยา ปน ชฬภาวโต อุภินฺนมฺปิ นตฺถิ ติเหตุกตทารมฺมณนฺติ อาห ‘‘ตถา าณสมฺปยุตฺตวิปากานิ จา’’ติ. อาจริยโชติปาลตฺเถเรน ปน ‘‘สเหตุกํ ภวงฺค’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อเหตุกานมฺปิ ติเหตุกตทารมฺมณํ วตฺวา อิธ าณสมฺปยุตฺตวิปากาภาววจนสฺส ปริหาสวเสน ‘‘โส เอว ปุจฺฉิตพฺโพ, โย ตสฺส กตฺตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปน ปริหาสวเสน วุตฺตมฺปิ อาจริยํ ปุจฺฉิตฺวาว วิชานนตฺถํ วุตฺตวจนํ วิย ิตํ. ตถา หิ อาจริเยเนเวตฺถ การณํ ปรมตฺถวินิจฺฉเย วุตฺตํ –
‘‘าณปากา น วตฺตนฺติ, ชฬตฺตา มูลสนฺธิยา’’ติ; (ปรม. วิ. ๒๗๑);
อปเร ปน ‘‘ยถา อเหตุกานํ สเหตุกตทารมฺมณํ โหติ, เอวํ ทฺวิเหตุกานํ ติเหตุกตทารมฺมณมฺปี’’ติ วณฺเณนฺติ, เตสํ มตานุโรเธน จ อิธาปิ าณสมฺปยุตฺตวิปากปฏิกฺเขโป อเหตุเกเยว สนฺธายาติ วทนฺติ. ตตฺถ ปน ปมาณปาาภาวโต อาจริเยน อุภินฺนมฺปิ สาธารณวเสน าณสมฺปยุตฺตวิปากาภาเว การณํ วตฺวา สมกเมว จิตฺตปริจฺเฉทสฺส ทสฺสิตตฺตา เตสํ วจนํ วีมํสิตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อเหตุกาเปกฺขาย เจตฺถ ¶ ‘‘สุคติย’’นฺติ วจนํ, ตํ ปน อตฺถโต อนฺุาตทฺวิเหตุกวิปากานํ ตตฺเถว สมฺภวทสฺสนปรํ. เตนาห ‘‘ทุคฺคติยํ ปนา’’ตฺยาทิ.
๔๓. ติเหตุเกสูติ ¶ ปฏิสนฺธิวิฺาณสหคตาโลภาโทสาโมหวเสน ติเหตุเกสุ ปุถุชฺชาทีสู นววิธปุคฺคเลสุ.
๔๕. ทิฏฺี…เป… เสกฺขานนฺติ สิกฺขาย อปริปูรการิตาย สิกฺขนสีลตาย ‘‘เสกฺขา’’ติ ลทฺธนามานํ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ ปุคฺคลานํ ปมมคฺเคเนว สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปหีนตฺตา ตํสหคตชวนานิ เจว จ-สทฺเทน อากฑฺฒิตานิ ขีณาสวาเวณิกานิ กิริยชวนานิ จ น ลพฺภนฺติ.
๔๖. ปฏิฆชวนานิ จาติ โทมนสฺสชวนานิ เจว ทิฏฺิสมฺปยุตฺตวิจิกิจฺฉาสหคตกิริยชวนานิ จ.
๔๗. โลกุตฺตร…เป… สมุปฺปชฺชนฺตีติ จตุนฺนํ มคฺคานํ เอกจิตฺตกฺขณิกภาเวน ปุคฺคลนฺตเรสุ อสมฺภวโต, เหฏฺิมเหฏฺิมานฺจ อุปรูปริสมาปตฺติยา อนธิคตตฺตา, อุปรูปริปุคฺคลานฺจ อสมุคฺฆาฏิตกมฺมกิเลสนิโรเธน ปุถุชฺชเนหิ วิย โสตาปนฺนานํ โสตาปนฺนาทีหิ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา จ อฏฺปิ โลกุตฺตรชวนานิ ยถาสกํ มคฺคผลฏฺานํ อริยานเมว สมุปฺปชฺชนฺติ.
๔๘. อิทานิ เตสํ เตสํ ปุคฺคลานํ ยถาปฏิกฺขิตฺตชวนานิ วชฺเชตฺวา ปาริเสสโต ลพฺภมานชวนานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อเสกฺขาน’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ติวิธสิกฺขาย ปริปูรการิภาวโต อเสกฺขานํ ขีณาสวานํ เตตฺตึสวิธกุสลากุสลสฺส, เหฏฺิมผลตฺตยสฺส, วีถิมุตฺตานฺจ นวมหคฺคตวิปากานํ วเสน ปฺจจตฺตาลีสวชฺชิตานิ เสสานิ ¶ เตวีสติกอามาวจรวิปากวีสติกิริยอรหตฺตผลวเสน จตุจตฺตาลีส วีถิจิตฺตานิ สมฺภวา ยถาลาภํ กามภเว ิตานํ วเสน อุทฺทิเส.
เสกฺขานํ อฏฺารสกิริยชวนทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสหคตปฺจกอคฺคผลมหคฺคตวิปากวเสน เตตฺตึส วชฺเชตฺวา เตวีสติกามาวจรวิปากอาวชฺชนทฺวยเอกวีสติกุสลสตฺตากุสลเหฏฺิมผลตฺตยวเสน ฉปฺปฺาส วีถิจิตฺตานิ ยถาสมฺภวํ อุทฺทิเส อวิเสสโต. วิเสสโต ปน โสตาปนฺนสกทาคามีนํ เอกปฺาส, อนาคามีนํ เอกูนปฺาส, อวเสสานํ จตุนฺนํ ปุถุชฺชนานํ ¶ อฏฺารสกิริยชวนสพฺพโลกุตฺตรมหคฺคตวิปากวเสน ปฺจตึส วชฺเชตฺวา อวเสสานิ กามาวจรวิปากอาวชฺชนทฺวยโลกิยกุสลากุสลวเสน จตุปฺาส วีถิจิตฺตานิ ยถาสมฺภวโต อุทฺทิเส อวิเสสโต. วิเสสโต ปน ติเหตุกานํ จตุปฺาเสว ลพฺภนฺติ, ทฺวิเหตุกาเหตุกานํ าณสมฺปยุตฺตวิปากอปฺปนาชวนวชฺชิตานิ เอกจตฺตาลีส, อาปายิกานํ ตาเนว ทฺวิเหตุกวิปากวชฺชิตานิ สตฺตตึส วีถิจิตฺตานีติ ทฏฺพฺพํ.
ปุคฺคลานํ วเสน จิตฺตปฺปวตฺติเภโท ปุคฺคลเภโท.
ปุคฺคลเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภูมิวิภาควณฺณนา
๔๙. สพฺพานิปิ วีถิจิตฺตานิ อุปลพฺภนฺติ ฉนฺนํ ทฺวารานํ, สพฺเพสฺจ ปุคฺคลานํ ตตฺถ สมฺภวโต. ยถารหนฺติ ตํตํภวานุรูปํ, ตํตํปุคฺคลานุรูปฺจ.
๕๒. ตฺยาทินา ¶ ฆานวิฺาณาทีนมฺปิ ปฏิกฺเขโป เหสฺสตีติ รูปาวจรภูมิยํ ปฏิฆชวนตทารมฺมณาเนว ปฏิกฺขิตฺตานิ. สพฺพตฺถาปีติ กามภเว, รูปภเว, อรูปภเว จ.
๕๔. กามภเว ยถารหํ วีถิมุตฺตวชฺชานิ อสีติ วีถิจิตฺตานิ, รูปภเว ปฏิฆทฺวยอฏฺตทารมฺมณฆานาทิวิฺาณฉกฺกวีถิมุตฺตกวเสน ปฺจวีสติ วชฺเชตฺวา เสสานิ อาวชฺชนทฺวยนวอเหตุกวิปากเตปฺาสชวนวเสน จตุสฏฺิ, อรูเป ภเว เตวีสติกามาวจรวิปากปมมคฺคปฺจทสรูปาวจรปฏิฆทฺวยอารุปฺปวิปากกิริยมโนธาตุหสนวเสน สตฺตจตฺตาลีส วชฺเชตฺวา เสสานิ ฉพฺพีสติ ปริตฺตชวนอฏฺอารุปฺปชวนสตฺตโลกุตฺตรชวนมโนทฺวาราวชฺชนวเสน ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ ลพฺภเร อุปลพฺภนฺติ.
เกจิ ¶ ปน ‘‘รูปภเว อนิฏฺารมฺมณาภาวโต อิธาคตานํเยว พฺรหฺมานํ อกุสลวิปากสมฺภโวติ ตานิ ปริหาเปตฺวา ปฺจปริตฺตวิปาเกหิ สทฺธึ รูปภเว สฏฺิเยว วีถิจิตฺตานี’’ติ วทนฺติ. อิธ ปน ตตฺถ ตฺวาปิ อิมํ โลกํ ปสฺสนฺตานํ อนิฏฺารมฺมณสฺส อสมฺภโว น สกฺกา วตฺตุนฺติ เตหิ สทฺธึเยว ตตฺถ จตุสฏฺิ วุตฺตานิ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ ธมฺมานุสารณิยํ ‘‘ยทา พฺรหฺมาโน กามาวจรํ อนิฏฺารมฺมณํ อาลมฺพนฺติ, ตทา ตํ สุคติยมฺปิ อกุสลวิปากจกฺขุโสตวิฺาณมโนธาตุสนฺตีรณานํ อุปฺปตฺติ สมฺภวตี’’ติ.
ภูมิวเสน วิภาโค ภูมิวิภาโค.
ภูมิวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๕. ยถาสมฺภวนฺติ ตํตํทฺวาเรสุ, ตํตํภเวสุ วา สมฺภวานุรูปโต. ยาวตายุกนฺติ ปฏิสนฺธิโต ปรํ ภวนิกนฺติวเสน ปวตฺตมโนทฺวาริกจิตฺตวีถิโต ปฏฺาย จุติจิตฺตาวสานํ ¶ , ตโต ปุพฺเพ ปวตฺตภวงฺคาวสานํ วา อพฺโพจฺฉินฺนา อสติ นิโรธสมาปตฺติยนฺติ อธิปฺปาโย.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
วีถิปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วีถิมุตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. เอตฺตาวตา วีถิสงฺคหํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วีถิมุตฺตสงฺคหํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘วีถิจิตฺตวเสเนว’’นฺตฺยาทิ. เอวํ ยถาวุตฺตนเยน วีถิจิตฺตวเสน ปวตฺติยํ ปฏิสนฺธิโต อปรภาเค จุติปริโยสานํ ปวตฺติสงฺคโห นาม สงฺคโห อุทีริโต, อิทานิ ตทนนฺตรํ สนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกาเล, ตทาสนฺนตาย ตํคหเณเนว คหิตจุติกาเล จ ปวตฺติสงฺคโห วุจฺจตีติ โยชนา.
ภูมิจตุกฺกวณฺณนา
๓. ปฺุสมฺมตา ¶ อยา เยภุยฺเยน อปคโตติ อปาโย, โสเยว ภูมิ ภวนฺติ เอตฺถ สตฺตาติ อปายภูมิ. อเนกวิธสมฺปตฺติอธิฏฺานตาย โสภนา คนฺตพฺพโต อุปปชฺชิตพฺพโต คตีติ สุคติ, กามตณฺหาสหจริตา สุคติ กามสุคติ, สาเยว ภูมีติ กามสุคติภูมิ. เอวํ เสเสสุปิ.
๔. อยโต สุขโต นิคฺคโตติ นิรโย. ติโร อฺจิตาติ ติรจฺฉานา, เตสํ โยนิ ติรจฺฉานโยนิ. ยวนฺติ ตาย สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา วิย โหนฺตีติ โยนิ. สา ปน อตฺถโต ขนฺธานํ ปวตฺติวิเสโส. ปกฏฺเน สุขโต อิตา คตาติ เปตา, นิชฺฌามตณฺหิกาทิเภทานํ เปตานํ วิสโย เปตฺติวิสโย ¶ . เอตฺถ ปน ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยคฺคหเณน ขนฺธานํเยว คหณํ เตสํ ตาทิสสฺส ปริจฺฉินฺโนกาสสฺส อภาวโต. ยตฺถ วา เต อรฺปพฺพตปาทาทิเก นิพทฺธวาสํ วสนฺติ, ตาทิสสฺส านสฺส วเสน โอกาโสปิ คเหตพฺโพ. น สุรนฺติ อิสฺสริยกีฬาทีหิ น ทิพฺพนฺตีติ อสุรา, เปตาสุรา. อิตเร ปน น สุรา สุรปฺปฏิปกฺขาติ อสุรา, อิธ จ เปตาสุรานเมว คหณํ อิตเรสํ ตาวตึเสสุ คหณสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ อาจริเยน –
‘‘ตาวตึเสสุ เทเวสุ, เวปจิตฺตาสุรา คตา’’ติ; (นาม. ปริ. ๔๓๘);
๕. สติสูรภาวพฺรหฺมจริยโยคฺยตาทิคุเณหิ อุกฺกฏฺมนตาย มโน อุสฺสนฺนํ เอเตสนฺติ มนุสฺสา. ตถา หิ ปรมสติเนปกฺกาทิปฺปตฺตา พุทฺธาทโยปิ มนุสฺสภูตาเยว. ชมฺพุทีปวาสิโน เจตฺถ นิปฺปริยายโต มนุสฺสา. เตหิ ปน สมานรูปาทิตาย สทฺธึ ปริตฺตทีปวาสีหิ อิตรมหาทีปวาสิโนปิ ‘‘มนุสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. โลกิยา ปน ‘‘มนุโน อาทิขตฺติยสฺส อปจฺจํ ปุตฺตาติ มนุสฺสา’’ติ วทนฺติ. มนุสฺสานํ นิวาสภูตา ภูมิ อิธ มนุสฺสา. เอวํ เสเสสุปิ.
จตูสุ มหาราเชสุ ภตฺติ เอเตสํ, จตุนฺนํ วา มหาราชานํ นิวาสฏฺานภูเต จาตุมหาราเช ภวาติ จาตุมหาราชิกา. มาเฆน มาณเวน สทฺธึ เตตฺตึส สหปฺุการิโน เอตฺถ นิพฺพตฺตาติ ตํสหจริตฏฺานํ เตตฺตึสํ, ตเทว ตาวตึสํ, ตํนิวาโส เอเตสนฺติ ตาวตึสาติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ¶ ‘‘สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวตึสาน’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วจนโต เสสจกฺกวาเฬสุปิ ฉกามาวจรเทวโลกา อตฺถิ, ตสฺมา นามมตฺตเมว เอตํ ตสฺส เทวโลกสฺสาติ คเหตพฺพํ. ทุกฺขโต ยาตา อปยาตาติ ¶ ยามา. อตฺตโน สิริสมฺปตฺติยา ตุสํ ปีตึ อิตา คตาติ ตุสิตา. นิมฺมาเน รติ เอเตสนฺติ นิมฺมานรติโน. ปรนิมฺมิเตสุ โภเคสุ อตฺตโน วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน.
๗. มหาพฺรหฺมานํ ปริจาริกตฺตา เตสํ ปริสติ ภวาติ พฺรหฺมปาริสชฺชา. เตสํ ปุโรหิตฏฺาเน ิตตฺตา พฺรหฺมปุโรหิตา. เตหิ เตหิ ฌานาทีหิ คุณวิเสเสหิ พฺรูหิตา ปริวุทฺธาติ พฺรหฺมาโน, วณฺณวนฺตตาย เจว ทีฆายุกตาทีหิ จ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีหิ มหนฺตา พฺรหฺมาโนติ มหาพฺรหฺมาโน. ตโยเปเต ปณีตรตนปภาวภาสิตสมานตลวาสิโน.
๘. อุปริเมหิ ปริตฺตา อาภา เอเตสนฺติ ปริตฺตาภา. อปฺปมาณา อาภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณาภา. วลาหกโต วิชฺชุ วิย อิโต จิโต จ อาภา สรติ นิสฺสรติ เอเตสํ สปฺปีติกชฺฌานนิพฺพตฺตกฺขนฺธสนฺตานตฺตาติ อาภสฺสรา. ทณฺฑทีปิกาย วา อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ นิสฺสรตีติ อาภสฺสรา. ยถาวุตฺตาย วา ปภาย อาภาสนสีลาติ อาภสฺสรา. เอเตปิ ตโย ปณีตรตนปภาวภาสิเตกตลวาสิโน.
๙. สุภาติ เอกคฺฆนา อจลา สรีราภา วุจฺจติ, สา อุปริพฺรหฺเมหิ ปริตฺตา เอเตสนฺติ ปริตฺตสุภา. อปฺปมาณา สุภา เอเตสนฺติ อปฺปมาณสุภา. ปภาสมุทยสงฺขาเตหิ สุเภหิ กิณฺณา อากิณฺณาติ สุภกิณฺหา. ‘‘สุภากิณฺณา’’ติ จ วตฺตพฺเพ อา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ, อนฺติมณ-การสฺส จ ห-การํ กตฺวา ‘‘สุภกิณฺหา’’ติ วุตฺตํ. เอเตปิ ปณีตรตนปภาวภาสิเตกตลวาสิโน.
๑๐. ฌานปฺปภาวนิพฺพตฺตํ ¶ วิปุลํ ผลเมเตสนฺติ เวหปฺผลา. สฺาวิราคภาวนานิพฺพตฺตรูปสนฺตติมตฺตตฺตา นตฺถิ สฺา, ตํมุเขน วุตฺตาวเสสา อรูปกฺขนฺธา จ เอเตสนฺติ อสฺา. เตเยว สตฺตาติ อสฺสตฺตา. เอเตปิ ปณีตรตนปภาวภาสิเตกตลวาสิโน. สุทฺธานํ ¶ อนาคามิอรหนฺตานเมว อาวาสาติ สุทฺธาวาสา. อนุนยปฏิฆาภาวโต วา สุทฺโธ อาวาโส เอเตสนฺติ สุทฺธาวาสา, เตสํ นิวาสภูมิปิ สุทฺธาวาสา.
๑๑. อิเมสุ ปน ปมตลวาสิโน อปฺปเกน กาเลน อตฺตโน านํ น วิชหนฺตีติ อวิหา. ทุติยตลวาสิโน น เกนจิ ตปฺปนฺตีติ อตปฺปา. ตติยตลวาสิโน ปรมสุนฺทรรูปตฺตา สุเขน ทิสฺสนฺตีติ สุทสฺสา. จตุตฺถตลวาสิโน สุปริสุทฺธทสฺสนตฺตา สุเขน ปสฺสนฺตีติ สุทสฺสิโน. ปฺจมตลวาสิโน ปน อุกฺกฏฺสมฺปตฺติกตฺตา นตฺถิ เอเตสํ กนิฏฺภาโวติ อกนิฏฺา.
๑๒. อากาสานฺจายตเน ปวตฺตา ปมารุปฺปวิปากภูตจตุกฺขนฺธา เอว, เตหิ ปริจฺฉินฺนโอกาโส วา อากาสานฺจายตนภูมิ. เอวํ เสเสสุปิ.
๑๓. ปุถุชฺชนา, โสตาปนฺนา จ สกทาคามิโน จาปิ ปุคฺคลา สุทฺธาวาเสสุ สพฺพถา น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปุถุชฺชนาทีนฺจ ปฏิกฺเขเปน อนาคามิอรหนฺตานเมว ตตฺถ ลาโภ วุตฺโต โหติ.
๑๔. เสสฏฺาเนสูติ สุทฺธาวาสอปายอสฺิวชฺชิเตสุ เสสฏฺาเนสุ อริยา, อนริยาปิ จ ลพฺภนฺติ.
ภูมิจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิสนฺธิจตุกฺกวณฺณนา
๑๖. โอกฺกนฺติกฺขเณติ ¶ ปฏิสนฺธิกฺขเณ.
๑๗. ชาติยา อนฺโธ ชจฺจนฺโธ. กิฺจาปิ ชาติกฺขเณ อณฺฑชชลาพุชา สพฺเพปิ อจกฺขุกาว ¶ . ตถาปิ จกฺขาทิอุปฺปชฺชนารหกาเลปิ จกฺขุปฺปตฺติวิพนฺธกกมฺมปฺปฏิพาหิตสามตฺถิเยน ทินฺนปฏิสนฺธินา, อิตเรนปิ วา กมฺเมน อนุปฺปาเทตพฺพจกฺขุโก สตฺโต ชจฺจนฺโธ นาม. อปเร ปน ‘‘ชจฺจนฺโธติ ปสูติยํเยว อนฺโธ, มาตุกุจฺฉิยํ อนฺโธ หุตฺวา นิกฺขนฺโตติ อตฺโถ, เตน ทุเหตุกติเหตุกานํ มาตุกุจฺฉิยํ จกฺขุสฺส อวิปชฺชนํ สิทฺธ’’นฺติ วทนฺติ. ชจฺจนฺธาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิคฺคหเณน ชจฺจพธิรชจฺจมูคชจฺจชฬชจฺจุมฺมตฺตกปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกนปุํสกมมฺมาทีนํ สงฺคโห. อปเร ปน ‘‘เอกจฺเจ อเหตุกปฏิสนฺธิกา อวิกลินฺทฺริยา หุตฺวา โถกํ วิจารณปกติกา โหนฺติ, ตาทิสานมฺปิ อาทิสทฺเทน สงฺคโห’’ติ วทนฺติ. ภุมฺมเทเว สิตา นิสฺสิตา ตคฺคติกตฺตาติ ภุมฺมสฺสิตา. สุขสมุสฺสยโต วินิปาตาติ วินิปาติกา.
๑๘. สพฺพตฺถาปิ กามสุคติยนฺติ เทวมนุสฺสวเสน สตฺตวิธายปิ กามสุคติยํ.
๒๑. เตสูติ ยถาวุตฺตปฏิสนฺธิยุตฺเตสุ ปุคฺคเลสุ, อปายาทีสุ วา. อายุปฺปมาณคณนาย นิยโม นตฺถิ เกสฺจิ จิรายุกตฺตา, เกสฺจิ จิรตรายุกตฺตา จ. ตถาจาหุ –
‘‘อาปายิกมนุสฺสายุ-
ปริจฺเฉโท น วิชฺชติ;
ตถา หิ กาโล มนฺธาตา,
ยกฺขา เกจิ จิรายุโน’’ติ. –
อปาเยสุ ¶ หิ กมฺมเมว ปมาณํ, ตตฺถ นิพฺพตฺตานํ ยาว กมฺมํ นขียติ. ตาว จวนาภาวโต, ตถา ภุมฺมเทวานํ. เตสุปิ หิ นิพฺพตฺตา เกจิ สตฺตาหาทิกาลํ ติฏฺนฺติ, เกจิ กปฺปมตฺตมฺปิ, ตถา มนุสฺสานมฺปิ กทาจิ เตสมฺปิ อสงฺขฺเยยฺยายุกตฺตา กทาจิ ทสวสฺสายุกตฺตา. ‘‘โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ ชีวติ, อปฺปํ วา ภิยฺโย (ที. นิ. ๒.๗; สํ. นิ. ๑.๑๔๕; อ. นิ. ๗.๗๔), ทุติยํ วสฺสสตํ น ปาปุณาตี’’ติ อิทํ ปน อชฺชตนกาลิเก สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๒. ทิพฺพานิ ปฺจวสฺสสตานีติ มนุสฺสานํ ปฺาส วสฺสานิ เอกทินํ, ตทนุรูปโต มาสสํวจฺฉเร ¶ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทิพฺพปฺปมาณานิ ปฺจวสฺสสตานิ อายุปฺปมาณํ โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยานิ ปฺาส วสฺสานิ, มนุสฺสานํ ทิโน ตหึ;
ตึสรตฺติทิโว มาโส, มาสา ทฺวาทส สํวจฺฉรํ;
เตน สํวจฺฉเรนายุ, ทิพฺพํ ปฺจสตํ มต’’นฺติ.
มนุสฺสคณนายาติ มนุสฺสานํ สํวจฺฉรคณนาย. ตโต จตุคฺคุณนฺติ จาตุมหาราชิกานํ ปฺาสมานุสฺสกวสฺสปริมิตํ ทิวสํ, ทิพฺพานิ จ ปฺจวสฺสสตานิ ทิคุณํ กตฺวา ทิพฺพวสฺสสหสฺสานิ ตาวตึสานํ สมฺภวตีติ เอวํ ทิวสสํวจฺฉรทิคุณวเสน จตุคฺคุณํ, ตํ ปน ทิพฺพคณนาย วสฺสสหสฺสํ, มนุสฺสคณนาย สฏฺิวสฺสสตสหสฺสาธิกติโกฏิปฺปมาณํ โหติ. ตโต จตุคฺคุณํ ยามานนฺติ ตาวตึสานมายุปฺปมาณโต วุตฺตนเยน จตุคฺคุณํ, ทิพฺพคณนาย ทฺวิสหสฺสํ, มนุสฺสคณนาย จตฺตาลีสวสฺสสตสหสฺสาธิกา จุทฺทส วสฺสโกฏิโย โหนฺติ. ตโต จตุคฺคุณํ ตุสิตานนฺติ ทิพฺพานิ จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ, มนุสฺสคณนาย สฏฺิวสฺสสตสหสฺสาธิกา สตฺตปฺาส ¶ วสฺสโกฏิโย. ตโต จตุคฺคุณํ นิมฺมานรตีนนฺติ ทิพฺพานิ อฏฺวสฺสสหสฺสานิ, มนุสฺสคณนาย ทฺเว วสฺสโกฏิสตานิ จตฺตาลีสวสฺสสตสหสฺสาธิกา ตึส วสฺสโกฏิโย จ. ตโต จตุคฺคุณํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนนฺติ ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ.
๒๓. มนุสฺสคณนํ ปน สยเมว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นวสตฺจา’’ตฺยาทิ. วสฺสานํ สมฺพนฺธิ นวสตํ เอกวีส โกฏิโย, ตถา สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ วสวตฺตีสุ อายุปฺปมาณนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๕. ทุติยชฺฌานภูมิยนฺติ จตุกฺกนยวเสน วุตฺตํ. ตโต ปรํ ปวตฺติยํ, จวนกาเล จ ตถารูปเมว ภวงฺคจุติวเสน ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌตีติ โยชนา.
๒๙. เตสูติ ตาหิ คหิตปฏิสนฺธิเกสุ พฺรหฺเมสุ. กปฺปสฺสาติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺปสฺส. น หิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ ติณฺณํ มหากปฺปวเสน อายุปริจฺเฉโท สมฺภวติ เอกกปฺเปปิ เตสํ อวินาสาภาเวน ¶ ปริปุณฺณกปฺเป อสมฺภวโต. ตถา เหส (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๙) โลโก สตฺตวาเรสุ อคฺคินา วินสฺสติ, อฏฺเม วาเร อุทเกน, ปุน สตฺตวาเรสุ อคฺคินา, อฏฺเม วาเร อุทเกนาติ เอวํ อฏฺสุ อฏฺเกสุ ปริปุณฺเณสุ ปจฺฉิเม วาเร วาเตน วินสฺสติ. ตตฺถ ปมชฺฌานตลํ อุปาทาย อคฺคินา, ทุติยตติยชฺฌานตลํ อุปาทาย อุทเกน, จตุตฺถชฺฌานตลํ อุปาทาย วาเตน วินสฺสติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สตฺต สตฺตคฺคินา วารา, อฏฺเม อฏฺเม ทกา;
จตุสฏฺิ ยทา ปุณฺณา, เอโก วายุวโร สิยา.
‘‘อคฺคินาภสฺสรา ¶ เหฏฺา, อาเปน สุภกิณฺหโต;
เวหปฺผลโต วาเตน, เอวํ โลโก วินสฺสตี’’ติ. –
ตสฺมา ติณฺณมฺปิ ปมชฺฌานตลานํ เอกกปฺเปปิ อวินาสาภาวโต สกลกปฺเป เตสํ สมฺภโว นตฺถีติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺปวเสน เตสํ อายุปริจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ. ทุติยชฺฌานาทิตลโต ปฏฺาย ปน ปริปุณฺณสฺส มหากปฺปสฺส วเสน, น อสงฺขฺเยยฺยกปฺปวเสน. อสงฺขฺเยยฺยกปฺโปติ จ โยชนายามวิตฺถารโต เสตสาสปราสิโต วสฺสสตวสฺสสตจฺจเยน เอเกกพีชสฺส หรเณน สาสปราสิโน ปริกฺขเยปิ อกฺขยสภาวสฺส มหากปฺปสฺส จตุตฺถภาโค. โส ปน สตฺถโรคทุพฺภิกฺขานํ อฺตรสํวฏฺเฏน พหูสุ วินาสมุปคเตสุ อวสิฏฺสตฺตสนฺตานปฺปวตฺตกุสลกมฺมานุภาเวน ทสวสฺสโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน อสงฺขฺเยยฺยายุกปฺปมาเณสุ สตฺเตสุ ปุน อสทฺธมฺมสมาทานวเสน กเมน ปริหายิตฺวา ทสวสฺสายุเกสุ ชาเตสุ โรคาทีนํ อฺตรสํวฏฺเฏน สตฺตานํ วินาสปฺปตฺติยาว ‘‘อยเมโก อนฺตรกปฺโป’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺนสฺส อนฺตรกปฺปสฺส วเสน จตุสฏฺิอนฺตรกปฺปปฺปมาโณ โหติ, ‘‘วีสติอนฺตรกปฺปปฺปมาโณ’’ติ จ วทนฺติ.
๔๕. อากาสานฺจายตนํ อุปคจฺฉนฺตีติ อากาสานฺจายตนูปคา.
๔๙. เอกเมวาติ ภูมิโต, ชาติโต, สมฺปยุตฺตธมฺมโต, สงฺขารโต จ สมานเมว. เอกชาติยนฺติ เอกสฺมึ ภเว.
ปฏิสนฺธิจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมจตุกฺกวณฺณนา
๕๐. อิทานิ ¶ ¶ กมฺมจตุกฺกํ จตูหากาเรหิ ทสฺเสตุํ ‘‘ชนก’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ, ชนยตีติ ชนกํ. อุปตฺถมฺเภตีติ อุปตฺถมฺภกํ. อุปคนฺตฺวา ปีเฬตีติ อุปปีฬกํ. อุปคนฺตฺวา ฆาเตตีติ อุปฆาตกํ.
ตตฺถ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ วิปากกฏตฺตารูปานํ นิพฺพตฺตกา กุสลากุสลเจตนา ชนกํ นาม. สยํ วิปากํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตมฺปิ กมฺมนฺตรสฺส จิรตรวิปากนิพฺพตฺตเน ปจฺจยภูตํ, วิปากสฺเสว วา สุขทุกฺขภูตสฺส วิจฺเฉทปจฺจยานุปฺปตฺติยา, อุปพฺรูหนปจฺจยุปฺปตฺติยา จ ชนกสามตฺถิยานุรูปํ จิรตรปฺปวตฺติปจฺจยภูตํ กุสลากุสลกมฺมํ อุปตฺถมฺภกํ นาม. กมฺมนฺตรชนิตวิปากสฺส พฺยาธิธาตุสมตาทินิมิตฺตวิพาธเนน จิรตรปฺปวตฺติวินิพนฺธกํ ยํ กิฺจิ กมฺมํ อุปปีฬกํ นาม. ทุพฺพลสฺส ปน กมฺมสฺส ชนกสามตฺถิยํ อุปหจฺจ วิจฺเฉทกปจฺจยุปฺปาทเนน ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา สยํ วิปากนิพฺพตฺตกกมฺมํ อุปฆาตกํ นาม.
ชนโกปฆาตกานฺหิ อยํ วิเสโส – ชนกํ กมฺมนฺตรสฺส วิปากํ อนุปจฺฉินฺทิตฺวาว วิปากํ ชเนติ, อุปฆาตกํ อุปจฺเฉทนปุพฺพกนฺติ อิทํ ตาว อฏฺกถาสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๘๗; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๔) สนฺนิฏฺานํ. อปเร ปน อาจริยา ‘‘อุปปีฬกกมฺมํ พหฺวาพาธตาทิปจฺจโยปสํหาเรน กมฺมนฺตรสฺส วิปากํ อนฺตรนฺตรา วิพาธติ. อุปฆาตกํ ปน ตํ สพฺพโส อุปจฺฉินฺทิตฺวา อฺสฺส โอกาสํ เทติ, น ปน สยํ วิปากนิพฺพตฺตกํ. เอวฺหิ ชนกโต อิมสฺส วิเสโส สุปากโฏ’’ติ วทนฺติ. กิจฺจวเสนาติ ชนนอุปตฺถมฺภนอุปปีฬนอุปจฺเฉทนกิจฺจวเสน.
๕๑. ครุกนฺติ มหาสาวชฺชํ, มหานุภาวฺจ อฺเน กมฺเมน ปฏิพาหิตุํ อสกฺกุเณยฺยกมฺมํ. อาสนฺนนฺติ มรณกาเล อนุสฺสริตํ, ตทา กตฺจ. อาจิณฺณนฺติ อภิณฺหโส กตํ ¶ , เอกวารํ กตฺวาปิ วา อภิณฺหโส สมาเสวิตํ. กฏตฺตากมฺมนฺติ ครุกาทิภาวํ อสมฺปตฺตํ กตมตฺตโตเยว กมฺมนฺติ วตฺตพฺพกมฺมํ.
ตตฺถ กุสลํ วา โหตุ อกุสลํ วา, ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ อกุสลปกฺเข มาตุฆาตกาทิกมฺมํ ¶ , กุสลปกฺเข มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ สติปิ อาสนฺนาทิกมฺเม ปริตฺตํ อุทกํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉนฺโต มโหโฆ วิย. ตถา หิ ตํ ‘‘ครุก’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ อสติ ทูราสนฺเนสุ ยํ อาสนฺนํ มรณกาเล อนุสฺสริตํ, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ, อาสนฺนกาเล กเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมิมฺปิ อสติ อาจิณฺณานาจิณฺเณสุ จ ยํ อาจิณฺณํ สุสีลฺยํ วา, ทุสฺสีลฺยํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. กฏตฺตากมฺมํ ปน ลทฺธาเสวนํ ปุริมานํ อภาเวน ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒตีติ ครุกํ สพฺพปมํ วิปจฺจติ. ครุเก อสติ อาสนฺนํ, ตสฺมิมฺปิ อสติ อาจิณฺณํ, ตสฺมิมฺปิ อสติ กฏตฺตากมฺมํ. เตนาห ‘‘ปากทานปริยาเยนา’’ติ, วิปากทานานุกฺกเมนาตฺยตฺโถ. อภิธมฺมาวตาราทีสุ ปน อาสนฺนโต อาจิณฺณํ ปมํ วิปจฺจนฺตํ กตฺวา วุตฺตํ. ยถา ปน โคคณปริปุณฺณสฺส วชสฺส ทฺวาเร วิวเฏ อปรภาเค ทมฺมควพลวคเวสุ สนฺเตสุปิ โย วชทฺวารสฺส อาสนฺโน โหติ, อนฺตมโส ทุพฺพลชรคฺคโวปิ, โสเยว ปมตรํ นิกฺขมติ, เอวํ ครุกโต อฺเสุ กุสลากุสเลสุ สนฺเตสุปิ มรณกาลสฺส อาสนฺนตฺตา อาสนฺนเมว ปมํ วิปากํ เทตีติ อิธ ตํ ปมํ วุตฺตํ.
๕๒. ทิฏฺธมฺโม ปจฺจกฺขภูโต ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, ตตฺถ เวทิตพฺพํ วิปากานุภวนวเสนาติ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. ทิฏฺธมฺมโต อนนฺตรํ อุปปชฺชิตฺวา เวทิตพฺพํ อุปปชฺชเวทนียํ. อปเร อปเร ทิฏฺธมฺมโต อฺสฺมึ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตภาเว เวทิตพฺพํ กมฺมํ อปราปริยเวทนียํ. อโหสิ เอว กมฺมํ ¶ , น ตสฺส วิปาโก อโหสิ, อตฺถิ, ภวิสฺสติ จาติ เอวํ วตฺตพฺพกมฺมํ อโหสิกมฺมํ.
ตตฺถ ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย, ปจฺจยวิเสเสน ปฏิลทฺธวิเสสตาย จ พลวภาวปฺปตฺตา ตาทิสสฺส ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส วเสน สาติสยา หุตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ผลทายินี ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ นาม. สา หิ วุตฺตปฺปกาเรน พลวชนสนฺตาเน คุณวิเสสยุตฺเตสุ อุปการานุปการวสปฺปวตฺติยา, อาเสวนาลาเภน อปฺปวิปากตาย จ อิตรทฺวยํ วิย ปวตฺตสนฺตานุปรมาเปกฺขํ, โอกาสลาภาเปกฺขฺจ กมฺมํ น โหตีติ อิเธว ปุปฺผมตฺตํ วิย ปวตฺติวิปากมตฺตํ อเหตุกผลํ เทติ. อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนาภูตา วุตฺตนเยน ปฏิลทฺธวิเสสา อนนฺตรตฺตภาเว วิปากทายินี อุปปชฺชเวทนียํ นาม. สา จ ปฏิสนฺธึ ทตฺวาว ปวตฺติวิปากํ เทติ. ปฏิสนฺธิยา ¶ ปน อทินฺนาย ปวตฺติวิปากํ เทตีติ นตฺถิ. จุติ อนนฺตรฺหิ อุปปชฺชเวทนียสฺส โอกาโส. ปฏิสนฺธิยา ปน ทินฺนาย ชาติสเตปิ ปวตฺติวิปากํ เทตีติ อาจริยา. ยถาวุตฺตกอารณวิรหโต ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิภาวํ อสมฺปตฺตา อาทิปริโยสานเจตนานํ มชฺเฌ ปวตฺตา ปฺจ เจตนา วิปากทานสภาวสฺส อนุปจฺฉินฺนตฺตา ยทา กทาจิ โอกาสลาเภ สติ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ วิปากํ อภินิปฺผาเทนฺตี อปราปริยเวทนิยํ นาม. สกสกกาลาตีตํ ปน ปุริมกมฺมทฺวยํ, ตติยมฺปิ จ สํสารปฺปวตฺติยา โวจฺฉินฺนาย อโหสิกมฺมํ นาม.
ปากกาลวเสนาติ ปจฺจุปฺปนฺเน, ตทนนฺตเร, ยทา กทาจีติ เอวํ ปุริมานํ ติณฺณํ ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน, อิตรสฺส ตํกาลาภาววเสน จ. อโหสิกมฺมสฺส หิ กาลาติกฺกมโตว ตํ โวหาโร.
๕๓. ปากานวเสนาติ ¶ ปฏิสนฺธิยา วิปจฺจนภูมิวเสน.
๕๔. อิทานิ อกุสลาทิกมฺมานํ กายกมฺมทฺวาราทิวเสน ปวตฺตึ, ตํนิทฺเทสมุเขน จ เตสํ ปาณาติปาตาทิวเสน ทสวิธาทิเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ อกุสล’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ. กายทฺวาเร ปวตฺตํ กมฺมํ กายกมฺมํ. เอวํ วจีกมฺมาทีนิ.
๕๕. ปาณสฺส สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา อตีว ปาตนํ ปาณาติปาโต. กายวาจาหิ อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ. เมถุนวีติกฺกมสงฺขาเตสุ กาเมสุ มิจฺฉา จรณํ กาเมสุ มิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปฺปโยคสมุฏฺาปิกา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. ปรภณฺเฑ ตถาสฺิโน ตทาทายกปฺปโยคสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. อสทฺธมฺมเสวนวเสน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคนฺตพฺพฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร นาม. สุราปานมฺปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหตีติ วทนฺติ รสสงฺขาเตสุ กาเมสุ มิจฺฉาจารภาวโต. กายวิฺตฺติสงฺขาเต กายทฺวาเรติ กาเยน อธิปฺปายวิฺาปนโต, สยฺจ กาเยน วิฺเยฺยตฺตา กายวิฺตฺติสงฺขาเต อภิกฺกมาทิชนกจิตฺตชวาโยธาตฺวาธิกกลาปสฺส วิการภูเต สนฺถมฺภนาทีนํ สหการีการณภูเต โจปนกายภาวโต, กมฺมานํ ปวตฺติมุขภาวโต จ กายทฺวารสงฺขาเต กมฺมทฺวาเร.
กิฺจาปิ ¶ หิ ตํตํกมฺมสหคตจิตฺตุปฺปาเทเนว สา วิฺตฺติ ชนียติ. ตถาปิ ตสฺสา ตถา ปวตฺตมานาย ตํสมุฏฺาปกกมฺมสฺส กายกมฺมาทิโวหาโร โหตีติ สา ตสฺเสว ปวตฺติมุขภาเวน วตฺตุํ ลพฺภติ. ‘‘กายทฺวาเร วุตฺติโต’’ติ ¶ เอตฺตเกเยว วุตฺเต ‘‘ยทิ เอวํ กมฺมทฺวารววตฺถานํ น สิยา. กายทฺวาเร หิ ปวตฺตํ ‘กายกมฺม’นฺติ วุจฺจติ, กายกมฺมสฺส จ ปวตฺติมุขภูตํ ‘กายทฺวาร’นฺติ. ปาณาติปาตาทิกํ ปน วาจาย อาณาเปนฺตสฺส กายกมฺมํ วจีทฺวาเรปิ ปวตฺตตีติ ทฺวาเรน กมฺมววตฺถานํ น สิยา, ตถา มุสาวาทาทึ กายวิกาเรน กโรนฺตสฺส วจีกมฺมํ กายทฺวาเรปิ ปวตฺตตีติ กมฺเมน ทฺวารววตฺถานมฺปิ น สิยา’’ติ อยํ โจทนา ปจฺจุปฏฺเยฺยาติ พาหุลฺลวุตฺติยา ววตฺถานํ ทสฺเสตุํ ‘‘พาหุลฺลวุตฺติโต’’ติ วุตฺตํ. กายกมฺมฺหิ กายทฺวาเรเยว พหุลํ ปวตฺตติ, อปฺปํ วจีทฺวาเร, ตสฺมา กายทฺวาเรเยว พหุลํ ปวตฺตนโต กายกมฺมภาโว สิทฺโธ วนจรกาทีนํ วนจรกาทิภาโว วิย. ตถา กายกมฺมเมว เยภุยฺเยน กายทฺวาเร ปวตฺตติ, น อิตรานิ, ตสฺมา กายกมฺมสฺส เยภุยฺเยน เอตฺเถว ปวตฺตนโต กายกมฺมทฺวารภาโว สิทฺโธ พฺราหฺมณคามาทีนํ พฺราหฺมณคามาทิภาโว วิยาติ นตฺถิ กมฺมทฺวารววตฺถาเน โกจิ วิพนฺโธติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย.
๕๖. มุสาติ อภูตํ วตฺถุ, ตํ ตจฺฉโต วทนฺติ เอเตนาติ มุสาวาโท. ปิสติ สามคฺคึ สฺจุณฺเณติ วิกฺขิปติ, ปิยภาวํ สฺุํ กโรตีติ วา ปิสุณา. อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, กกโจ วิย ขรสมฺผสฺสาติ วา ผรุสา. สํ สุขํ, หิตฺจ ผลติ วิสรติ วินาเสตีติ สมฺผํ, อตฺตโน, ปเรสฺจ อนุปการํ ยํ กิฺจิ, ตํ ปลปติ เอเตนาติ สมฺผปฺปลาโป.
ตตฺถ อภูตํ วตฺถุํ ภูตโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถา วิฺาปนปฺปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ปรสฺส อตฺถเภทกโรว กมฺมปโถ โหติ, อิตโร ¶ กมฺมเมว. ปเรสํ เภทกามตาย, อตฺตปฺปิยกามตาย วา ปรเภทกรวจีปโยคสมุฏฺาปิกา สํกิลิฏฺเจตนา ปิสุณวาจา, สาปิ ทฺวีสุ ภินฺเนสุเยว กมฺมปโถ. ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกรวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสวาจา. น หิ จิตฺตสณฺหตาย สติ ผรุสวาจา นาม โหติ. สีตาหรณาทิอนตฺถวิฺาปนปฺปโยคสมุฏฺาปิกา สํกิลิฏฺเจตนา สมฺผปฺปลาโป, โส ปน ปเรหิ ตสฺมึ อนตฺเถ คหิเตเยว กมฺมปโถ. วจีวิฺตฺติสงฺขาเต วจีทฺวาเรติ วาจาย อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจ วาจาย วิฺายตีติ วจีวิฺตฺติสงฺขาเต วจีเภทกรปฺปโยคสมุฏฺาปกจิตฺตสมุฏฺานปถวีธาตฺวาธิกกลาปสฺส ¶ วิการภูเต โจปนวาจาภาวโต, กมฺมานํ ปวตฺติมุขภาวโต จ วจีทฺวารสงฺขาเต กมฺมทฺวาเร. พาหุลฺลวุตฺติโตติ อิทํ วุตฺตนยเมว.
๕๗. ปรสมฺปตฺตึ อภิมุขํ ฌายติ โลภวเสน จินฺเตตีติ อภิชฺฌา. พฺยาปชฺชติ หิตสุขํ เอเตนาติ พฺยาปาโท. มิจฺฉา วิปรีตโต ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ.
ตตฺถ ‘‘อโห วต อิทํ มม สิยา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนํ อภิชฺฌา, สา ปรภณฺฑสฺส อตฺตโน นามเนเนว กมฺมปโถ โหติ. ‘‘อโห วตายํ สตฺโต วินสฺเสยฺยา’’ติ เอวํ มโนปโทโส พฺยาปาโท. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนํ มิจฺฉาทิฏฺิ. เอตฺถ ปน นตฺถิกอเหตุกอกิริยทิฏฺีหิเยว กมฺมปถเภโท. อิเมสํ ปน องฺคาทิววตฺถานวเสน ปปฺโจ ตตฺถ ตตฺถ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๘; ธ. ส. อฏฺ. ๑ อกุสลกมฺมปถกถา; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) อาคตนเยน ทฏฺพฺโพ. อฺตฺราปิ วิฺตฺติยาติ กายวจีวิฺตฺตึ วินาปิ, ตํ อสมุฏฺาเปตฺวาปีตฺยตฺโถ. วิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตฺถ อภิชฺฌาทโย เจตนาปกฺขิกาว โหนฺติ.
๕๘. โทสมูเลน ¶ ชายนฺตีติ สหชาตาทิปจฺจเยน โทสสงฺขาตมูเลน, โทสมูลกจิตฺเตน วา ชายนฺติ, น โลภมูลาทีหิ. หสมานาปิ หิ ราชาโน โทสจิตฺเตเนว ปาณวธํ อาณาเปนฺติ, ตถา ผรุสวาจาพฺยาปาเทสุปิ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. มิจฺฉาทสฺสนสฺส อภินิวิสิตพฺพวตฺถูสุ โลภปุพฺพงฺคมเมว อภินิวิสนโต อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ จ โลภมูเลนา’’ติ. เสสานิ จตฺตาริปิ ทฺวีหิ มูเลหิ สมฺภวนฺตีติ โย ตาว อภิมตํ วตฺถุํ, อนภิมตํ วา อตฺตพนฺธุปริตฺตาณาทิปฺปโยชนํ สนฺธาย หรติ, ตสฺส อทินฺนาทานํ โลภมูเลน โหติ. เวรนิยฺยาตนตฺถํ หรนฺตสฺส โทสมูเลน. นีติปากปฺปมาณโต ทุฏฺนิคฺคหณตฺถํ ปรสนฺตกํ หรนฺตานํ ราชูนํ, พฺราหฺมณานฺจ ‘‘สพฺพมิทํ พฺราหฺมณานํ ราชูหิ ทินฺนํ, เตสํ ปน สพฺพทุพฺพลภาเวน อฺเ ปริภฺุชนฺติ, อตฺตสนฺตกเมว พฺราหฺมณา ปริภฺุชนฺตี’’ตฺยาทีนิ วตฺวา สกสฺาย เอวํ ยํ กิฺจิ หรนฺตานํ, กมฺมผลสมฺพนฺธาปวาทีนฺจ โมหมูเลน. เอวํ มุสาวาทาทีสุปิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.
๖๓. ฉสุ อารมฺมเณสุ ติวิธกมฺมวเสน อุปฺปชฺชมานมฺเปตํ ติวิธนิยเมน อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ตถา ทานสีลภาวนาวเสนา’’ติ. ทสธา นิทฺทิสิยมานานํ หิ ทฺวินฺนํ, ปุน ทฺวินฺนํ, ติณฺณฺจ ¶ ยถากฺกมํ ทานาทีสุ ตีสฺเวว สงฺคโห. การณํ ปเนตฺถ ปรโต วกฺขาม. ฉฬารมฺมเณสุ ปน ติวิธกมฺมทฺวาเรสุ จ เนสํ ปวตฺติโยชนา อฏฺกถาทีสุ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๕๖-๑๕๙) อาคตนเยน คเหตพฺพา.
๖๕. ทียติ เอเตนาติ ทานํ, ปริจฺจาคเจตนา. เอวํ เสเสสุปิ. สีลตีติ สีลํ, กายวจีกมฺมานิ สมาทหติ, สมฺมา เปตีตฺยตฺโถ, สีลยติ วา อุปธาเรตีติ สีลํ ¶ , อุปธารณํ ปเนตฺถ กุสลานํ อธิฏฺานภาโว. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ตฺยาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒). ภาเวติ กุสเล ธมฺเม อาเสวติ วฑฺเฒติ เอตายาติ ภาวนา. อปจายติ ปูชาวเสน สามีจึ กโรติ เอเตนาติ อปจายนํ. ตํตํกิจฺจกรเณ พฺยาวฏสฺส ภาโว เวยฺยาวจฺจํ. อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตา ปตฺติ ทียติ เอเตนาติ ปตฺติทานํ. ปตฺตึ อนุโมทติ เอตายาติ ปตฺตานุโมทนา. ธมฺมํ สุณนฺติ เอเตนาติ ธมฺมสฺสวนํ. ธมฺมํ เทเสนฺติ เอตายาติ ธมฺมเทสนา. ทิฏฺิยา อุชุกรณํ ทิฏฺิชุกมฺมํ.
ตตฺถ สานุสยสนฺตานวโต ปเรสํ ปูชานุคฺคหกามตาย อตฺตโน วิชฺชมานวตฺถุปริจฺจชนวสปฺปวตฺตเจตนา ทานํ นาม, ทานวตฺถุปริเยสนวเสน, ทินฺนสฺส โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรณวเสน จ ปวตฺตา ปุพฺพปจฺฉาภาคเจตนา เอตฺเถว สโมธานํ คจฺฉนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. นิจฺจสีลาทิวเสน ปฺจ, อฏฺ, ทส วา สีลานิ สมาทิยนฺตสฺส, ปริปูเรนฺตสฺส, อสมาทิยิตฺวาปิ สมฺปตฺตกายวจีทุจฺจริตโต วิรมนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส, อุปสมฺปทมาฬเก สํวรํ สมาทิยนฺตสฺส, จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปริปูเรนฺตสฺส จ ปวตฺตเจตนา สีลํ นาม. จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ, ขนฺธาทีสุ จ ภูมีสุ ปริกมฺมสมฺมสนวสปฺปวตฺตา อปฺปนํ อปฺปตฺตา โคตฺรภุปริโยสานเจตนา ภาวนา นาม, นิรวชฺชวิชฺชาทิปริยาปุณนเจตนาปิ เอตฺเถว สโมธานํ คจฺฉติ.
วยสา, คุเณหิ จ เชฏฺานํ จีวราทีสุ ปจฺจาสารหิเตน อสํกิลิฏฺชฺฌาสเยน ปจฺจุฏฺานอาสนาภินีหาราทิวิธินา พหุมานกรณเจตนา อปจายนํ นาม. เตสเมว, คิลานานฺจ ยถาวุตฺตชฺฌาสเยน ตํตํกิจฺจกรณเจตนา เวยฺยาวจฺจํ นาม. อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตสฺส ปฺุสฺส ปเรหิ ¶ สาธารณภาวํ ปจฺจาสีสนเจตนา ปตฺติทานํ นาม. ปเรหิ ทินฺนสฺส, อทินฺนสฺสปิ วา ปฺุสฺส มจฺเฉรมลวินิสฺสเฏน จิตฺเตน อพฺภานุโมทนเจตนา ปตฺตานุโมทนา นาม ¶ . เอวมิมํ ธมฺมํ สุตฺวา ตตฺถ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺโต ‘‘โลกิยโลกุตฺตรคุณวิเสสสฺส ภาคี ภวิสฺสามิ, พหุสฺสุโต วา หุตฺวา ปเรสํ ธมฺมเทสนาทีหิ อนุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ อตฺตโน, ปเรสํ วา หิตผรณวสปฺปวตฺเตน อสํกิลิฏฺชฺฌาสเยน หิตูปเทสสวนเจตนา ธมฺมสฺสวนํ นาม, นิรวชฺชวิชฺชาทิสวนเจตนาปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขตาย โยนิโส มนสิ กโรโต หิตูปเทสเจตนา ธมฺมเทสนา นาม, นิรวชฺชวิชฺชาทิอุปทิสนเจตนาปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินยปฺปวตฺตสมฺมาทสฺสนวเสน ทิฏฺิยา อุชุกรณํ ทิฏฺิชุกมฺมํ นาม.
ยทิ เอวํ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทสฺส ทิฏฺิชุกมฺมปฺุกิริยภาโว น ลพฺภตีติ? โน น ลพฺภติ ปุริมปจฺฉิมเจตนานมฺปิ ตํตํปฺุกิริยาสฺเวว สงฺคณฺหนโต. กิฺจาปิ หิ อุชุกรณเวลายํ าณสมฺปยุตฺตเมว จิตฺตํ โหติ, ปุริมปจฺฉาภาเค ปน าณวิปฺปยุตฺตมฺปิ สมฺภวตีติ ตสฺสปิ ทิฏฺิชุกมฺมภาโว อุปปชฺชตีติ อลมติปฺปปฺเจน.
อิเมสุ ปน ทสสุ ปตฺติทานานุโมทนา ทาเน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ ตํสภาวตฺตา. ทานมฺปิ หิ อิสฺสามจฺเฉรานํ ปฏิปกฺขํ, เอเตปิ. ตสฺมา สมานปฺปฏิปกฺขตาย เอกลกฺขณตฺตา เต ทานมยปฺุกิริยวตฺถุมฺหิ สงฺคยฺหนฺติ. อปจายนเวยฺยาวจฺจาสีลมยปฺุเว สงฺคยฺหนฺติ จาริตฺตสีลภาวโต. เทสนาสวนทิฏฺิชุกา ปน กุสลธมฺมาเสวนภาวโต ภาวนามเย สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ (ที. นิ. ฏี. ๓.๓๐๕) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ. อปเร ปน ‘‘เทเสนฺโต, สุณนฺโต จ เทสนานุสาเรน าณํ ¶ เปเสตฺวา ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌ ปฏิวิชฺฌ เทเสติ, สุณาติ จ, ตานิ จ เทสนาสวนานิ ปฏิเวธเมวาหรนฺตีติ เทสนาสวนาภาวนามเย สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติ วทนฺติ. ธมฺมทานสภาวโต เทสนา ทานมเย สงฺคหํ คจฺฉตีติปิ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาตี’’ติ (ธ. ป. ๓๕๔). ตถา ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺพตฺถาปิ สพฺเพสํ นิยมนลกฺขณตฺตา. ทานาทีสุ หิ ยํ กิฺจิ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินยปฺปวตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา วิโสธิตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ, เอวฺจ กตฺวา ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕; ธ. ส. อฏฺ. ๑๕๖-๑๕๙ ปฺุากิริยวตฺถาทิกถา) ‘‘ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺเพสํ นิยมลกฺขณ’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ ทานสีลภาวนาวเสน ตีสุ อิตเรสํ สงฺคณฺหนโต สงฺเขปโต ติวิธเมว ปฺุกิริยวตฺถุ โหตีติ ทฏฺพฺพํ, ตถา เจว อาจริเยน เหฏฺา ทสฺสิตํ.
๖๗. มโนกมฺมเมว ¶ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตาภาเวน กายทฺวาราทีสุ อปฺปวตฺตนโต. ตฺจ รูปาวจรกุสลํ ภาวนามยํ ทานาทิวเสน อปฺปวตฺตนโต. อปฺปนาปฺปตฺตํ ปุพฺพภาคปฺปวตฺตานํ กามาวจรภาวโต. ฌานงฺคเภเทนาติ ปฏิปทาทิเภทโต อเนกวิธตฺเตปิ องฺคาติกฺกมวเสน นิพฺพตฺตชฺฌานงฺคเภทโต ปฺจวิธํ โหติ.
๖๘. อารมฺมณเภเทนาติ กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ, อากาสวิสยํ มโน, ตทภาโว, ตทาลมฺพํ วิฺาณนฺติ จตุพฺพิธนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ อารมฺมณานํ เภเทน.
๖๙. เอตฺถาติ อิเมสุ ปากฏฺานวเสน จตุพฺพิเธสุ กมฺเมสุ. อุทฺธจฺจรหิตนฺติ อุทฺธจฺจสหคตเจตนารหิตํ เอกาทสวิธํ อกุสลกมฺมํ. กึ ปเนตฺถ การณํ อธิโมกฺขวิรเหน สพฺพทุพฺพลมฺปิ วิจิกิจฺฉาสหคตํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, อธิโมกฺขสมฺปโยเคน ตโต พลวนฺตมฺปิ อุทฺธจฺจสหคตํ นากฑฺฒตีติ ¶ ? ปฏิสนฺธิทานสภาวาภาวโต. พลวํ อากฑฺฒติ, ทุพฺพลํ นากฑฺฒตีติ หิ อยํ วิจารณา ปฏิสนฺธิทานสภาเวสุเยว. ยสฺส ปน ปฏิสนฺธิทานสภาโวเยว นตฺถิ, น ตสฺส พลวภาโว ปฏิสนฺธิอากฑฺฒเน การณํ.
กถํ ปเนตํ วิฺาตพฺพํ อุทฺธจฺจสหคตสฺส ปฏิสนฺธิทานสภาโว นตฺถีติ? ทสฺสเนนปหาตพฺเพสุ อนาคตตฺตา. ติวิธา หิ อกุสลา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, ภาวนาย ปหาตพฺพา, สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, สิยา ภาวนาย ปหาตพฺพาติ. ตตฺถ ทิฏฺิสหคตวิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺตุปฺปาทา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา นาม ปมํ นิพฺพานทสฺสนวเสน ‘‘ทสฺสน’’นฺติ ลทฺธนาเมน โสตาปตฺติมคฺเคน ปหาตพฺพตฺตา. อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาโท ภาวนาย ปหาตพฺโพ นาม อคฺคมคฺเคน ปหาตพฺพตฺตา. อุปริมคฺคตฺตยฺหิ ปมมคฺเคน ทิฏฺนิพฺพาเน ภาวนาวเสน ปวตฺตนโต ‘‘ภาวนา’’ติ วุจฺจติ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโทมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทา ปน สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, สิยา ภาวนาย ปหาตพฺพา เตสํ อปายนิพฺพตฺตกาวตฺถาย ปมมคฺเคน, เสสพหลาพหลาวตฺถาย อุปริมคฺเคหิ ปหียมานตฺตา. ตตฺถ สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพมฺปิ ทสฺสเนน ปหาตพฺพสามฺเน อิธ ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพ’’นฺติ โวหรนฺติ.
ยทิ จ อุทฺธจฺจสหคตํ ปฏิสนฺธึ ทเทยฺย, ตทา อกุสลปฏิสนฺธิยา สุคติยํ อสมฺภวโต อปาเยสฺเวว ทเทยฺย. อปายคมนียฺจ อวสฺสํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา. อิตรถา ¶ อปายคมนียสฺส อปฺปหีนตฺตา เสกฺขานํ อปายุปฺปตฺติ อาปชฺชติ, น จ ปเนตํ ยุตฺตํ ‘‘จตูหปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต (ขุ. ปา. ๖.๑๑; สุ. นิ. ๒๓๔), อวินิปาตธมฺโม’’ติ (ปารา. ๒๑; สํ. นิ. ๕.๙๙๘) อาทิวจเนหิ สห วิรุชฺฌนโต. สติ จ ปเนตสฺส ทสฺสเนน ปหาตพฺพภาเว ‘‘สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา’’ติ อิมสฺส วิภงฺเค วตฺตพฺพํ สิยา, น จ ปเนตํ วุตฺตนฺติ ¶ . อถ สิยา ‘‘อปายคามินิโย ราโค โทโส โมโห ตเทกฏฺา จ กิเลสา’’ติ เอวํ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ วุตฺตตฺตา อุทฺธจฺจสหคตเจตนาย ตตฺถ สงฺคโห สกฺกา วตฺตุนฺติ. ตํ น, ตสฺส เอกนฺตโต ภาวนาย ปหาตพฺพภาเวน วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา? อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ (ธ. ส. ๑๔๐๖), ตสฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อวจนํ อิมสฺส ปฏิสนฺธิทานาภาวํ สาเธติ. นนุ จ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค –
‘‘ยสฺมึ สมเย อกุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตํ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา, ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหติ, อิเม ธมฺมา อกุสลา. อิเมสุ ธมฺเมสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๓๐-๗๓๑) –
เอวํ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วิปาโกปิ อุทฺธโฏติ กถมสฺส ปฏิสนฺธิทานาภาโว สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพติ? นายํ ปฏิสนฺธิทานํ สนฺธาย อุทฺธโฏ. อถ โข ปวตฺติวิปากํ สนฺธาย. ปฏฺาเน ปน –
‘‘สหชาตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, นานากฺขณิกา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ, กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๙) –
ทสฺสเนน ปหาตพฺพเจตนาย เอว สหชาตนานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวํ อุทฺธริตฺวา ‘‘สหชาตา ภาวนาย ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ ¶ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๙) ภาวนาย ปหาตพฺพเจตนาย สหชาตกมฺมปจฺจยภาโวว อุทฺธโฏ, น ปน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว, น จ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ วินา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนํ อตฺถิ ¶ , ตสฺมา นตฺถิ ตสฺส สพฺพถาปิ ปฏิสนฺธิทานนฺติ. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อุทฺธจฺจเจตนา อุภยวิปากมฺปิ น เทติ ปฏฺาเน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค อุทฺธจฺจสหคตานมฺปิ ปวตฺติวิปากสฺส อุทฺธฏตฺตา, ปฏฺาเน จ ปฏิสนฺธิวิปากภาวเมว สนฺธาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา. ยทิ หิ ปวตฺติวิปากํ สนฺธาย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว วุจฺเจยฺย, ตทา ปฏิสนฺธิวิปากมฺปิสฺส มฺเยฺยุนฺติ ลพฺภมานสฺสปิ ปวตฺติวิปากสฺส วเสน นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว น วุตฺโต, ตสฺมา น สกฺกา ตสฺส ปวตฺติวิปากํ นิวาเรตุํ. เตนาห ‘‘ปวตฺติยํ ปนา’’ตฺยาทิ. อาจริยพุทฺธมิตฺตาทโย ปน อตฺถิ อุทฺธจฺจสหคตํ ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ. อตฺถิ น ภาวนาย ปหาตพฺพมฺปิ, เตสุ ภาวนาย ปหาตพฺพํ เสกฺขสนฺตานปฺปวตฺตํ, อิตรํ ปุถุชฺชนสนฺตานปฺปวตฺตํ, ผลทานฺจ ปุถุชฺชนสนฺตานปฺปวตฺตสฺเสว น อิตรสฺสาติ เอวํ อุทฺธจฺจสหคตํ ทฺวิธา วิภชิตฺวา เอกสฺส อุภยวิปากทานํ, เอกสฺส สพฺพถาปิ วิปากาภาวํ วณฺเณนฺติ. โย ปเนตฺถ เตสํ วินิจฺฉโย, ยฺจ ตสฺส นิรากรณํ, ยฺจ สพฺพถาปิ วิปากาภาววาทีนํ มตปฏิกฺเขปนํ อิธ อวุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปรมตฺถมฺชูสาทีสุ, วิเสสโต จ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
สพฺพตฺถาปิ กามโลเกติ สุคติทุคฺคติวเสน สพฺพสฺมิมฺปิ กามโลเก. ยถารหนฺติ ทฺวารารมฺมณานุรูปํ. อปาเยสุปิ ยํ นาคสุปณฺณาทีนํ มหาสมฺปตฺติวิสยํ วิปากวิฺาณํ, ยฺจ นิรยวาสีนํ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรทสฺสนาทีสุ อุปฺปชฺชติ วิปากวิฺาณํ ¶ , ตํ กุสลกมฺมสฺเสว ผลํ. น หิ อกุสลสฺส อิฏฺวิปาโก สมฺภวติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ อกุสลสฺส กมฺมสฺส อิฏฺโ กนฺโต วิปาโก สํวิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๑; อ. นิ. ๑.๒๘๔-๒๘๖; วิภ. ๘๐๙), ตสฺมา กุสลกมฺมํ อปาเยสุปิ อเหตุกวิปากานิ ชเนติ. อฺภูมิกสฺส จ กมฺมสฺส อฺภูมิกวิปากาภาวโต กามวิราคภาวนาย กามตณฺหาวิสยวิฺาณุปฺปาทนาโยคโต เอกนฺตสทิสวิปากตฺตา จ มหคฺคตานุตฺตรกุสลานํ รูปาวจรกมฺเมน อเหตุกวิปากุปฺปตฺติยา อภาวโต รูปโลเกปิ ยถารหํ รูปาทิวิสยานิ ตานิ อภินิปฺผาเทตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพตฺถาปิ กามโลเก’’ตฺยาทิ.
๗๑. เอวํ ปน วิปจฺจนฺตํ กมฺมํ โสฬสกทฺวาทสกอฏฺกวเสน ติธา วิปจฺจตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถาปิ’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาปีติ เอวํ วิปจฺจมาเนปิ กุสลกมฺเม. อุกฺกฏฺนฺติ กุสลปริวารลาภโต ¶ , ปจฺฉา อาเสวนปฺปวตฺติยา วา วิสิฏฺํ. ยฺหิ กมฺมํ อตฺตโน ปวตฺติกาเล ปุริมปจฺฉาภาคปฺปวตฺเตหิ กุสลกมฺเมหิ ปริวาริตํ, ปจฺฉา วา อาเสวนลาเภน สมุทาจิณฺณํ. ตํ อุกฺกฏฺํ. ยํ ปน กรณกาเล อกุสลกมฺเมหิ ปริวาริตํ, ปจฺฉา วา ‘‘ทุกฺกฏเมตํ มยา’’ติ วิปฺปฏิสารุปฺปาทเนน ปริภาวิตํ, ตํ โอมกนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปฏิสนฺธินฺติ เอกเมว ปฏิสนฺธึ. น หิ เอเกน กมฺเมน อเนกาสุ ชาตีสุ ปฏิสนฺธิ โหติ, ปวตฺติวิปาโก ปน ชาติสเตปิ ชาติสหสฺเสปิ โหติ. ยถาห ‘‘ติรจฺฉานคเต ทานํ ทตฺวา สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙). ยสฺมา ปเนตฺถ าณํ ชจฺจนฺธาทิวิปตฺตินิมิตฺตสฺส โมหสฺส, สพฺพากุสลสฺเสว วา ปฏิปกฺขํ, ตสฺมา ตํสมฺปยุตฺตํ กมฺมํ ชจฺจนฺธาทิวิปตฺติปจฺจยํ น โหตีติ ติเหตุกํ อติทุพฺพลมฺปิ สมานํ ¶ ทุเหตุกปฏิสนฺธิเมว อากฑฺฒติ, นาเหตุกํ. ทุเหตุกฺจ กมฺมํ าณสมฺปโยคาภาวโต าณผลุปฺปาทเน อสมตฺถํ, ยถา ตํ อโลภสมฺปโยคาภาวโต อโลภผลุปฺปาทเน อสมตฺถํ อกุสลกมฺมนฺติ ตํ อติอุกฺกฏฺมฺปิ สมานํ ทุเหตุกเมว ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, น ติเหตุกนฺติ วุตฺตํ ‘‘ติเหตุกโมมกํ ทุเหตุกมุกฺกฏฺฺจา’’ตฺยาทิ.
เอตฺถ สิยา – ยถา ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๑) กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ติณฺณํ, นิกนฺติกฺขเณ ทฺวินฺนํ, ปฏิสนฺธิกฺขเณ ติณฺณฺจ เหตูนํ วเสน อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา าณสมฺปยุตฺตูปปตฺติ, ตถา ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเต ฉนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๓) ชวนกฺขเณ ทฺวินฺนํ, นิกนฺติกฺขเณ ทฺวินฺนํ, ปฏิสนฺธิกฺขเณ ทฺวินฺนฺจ เหตูนํ วเสน ฉนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา าณวิปฺปยุตฺตูปปตฺติ วุตฺตา, เอวํ ‘‘คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเต สตฺตนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตี’’ติ ติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิยา อวุตฺตตฺตา นตฺถิ ติเหตุกสฺส ทุเหตุกปฏิสนฺธิอากฑฺฒนนฺติ? นยิทเมวํ ทุเหตุโกมกกมฺเมน อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิย ติเหตุโกมกกมฺเมน สามตฺถิยานุรูปโต ทุเหตุกปฏิสนฺธิยาว ทาตพฺพตฺตา, กมฺมสริกฺขกวิปากทสฺสตฺถํ ปน มหาเถเรน สาวเสโส ปาโ กโต. อิตรถา ‘‘จตุนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา’’ติ วจนาภาวโต ทุเหตุกกมฺเมน อเหตุกูปปตฺติยาปิอภาโว อาปชฺชติ, ตสฺมา ยถา สุคติยํ ชจฺจนฺธพธิราทิวิปตฺติยา อเหตุกูปปตฺตึ วชฺเชตฺวา คติสมฺปตฺติยา สเหตุกูปปตฺติทสฺสนตฺถํ ทุเหตุกูปปตฺติ เอว อุทฺธฏา, น อเหตุกูปปตฺติ, เอวํ กมฺมสริกฺขกวิปากทสฺสนตฺถํ ¶ ติเหตุกกมฺเมน ¶ ติเหตุกูปปตฺติ เอว อุทฺธฏา, น ทุเหตุกูปปตฺติ, น ปน อลพฺภนโตติ ทฏฺพฺพํ.
๗๔. เอวํ เอกาย เจตนาย โสฬส วิปากานิ เอตฺเถว ทฺวาทสกมคฺโค อเหตุกฏฺกมฺปีติ ปวตฺตสฺส ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรวาทสฺส วเสน วิปากปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอกาย เจตนาย ทฺวาทส วิปากานิ เอตฺเถว ทสกมคฺโค อเหตุกฏฺกมฺปีติ อาคตสฺส โมรวาปีวาสีมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาทสฺสปิ วเสน ทสฺเสตุํ อสงฺขารํ สสงฺขารวิปากานี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ยถา มุเข จลิเต อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ จลติ, เอวํ อสงฺขารกุสลสฺส อสงฺขารวิปาโกว โหติ, น สสงฺขาโรติ เอวํ อาคมนโตว สงฺขารเภโทติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. ยสฺมา ปน วิปากสฺส สงฺขารเภโท ปจฺจยวเสน อิจฺฉิโต, น กมฺมวเสน, ตสฺมา เอส เกจิวาโท กโต.
เตสนฺติ เตสํ เอวํวาทีนํ. ยถากฺกมนฺติ ติเหตุกุกฺกฏฺาทีนํ อนุกฺกเมน. ทฺวาทส วิปากานีติ ติเหตุกุกฺกฏฺอสงฺขาริกสสงฺขาริกกมฺมสฺส วเสน ยถากฺกมํ สสงฺขาริกจตุกฺกวชฺชิตานิ, อสงฺขาริกจตุกฺกวชฺชิตานิ จ ทฺวาทส วิปากานิ, ตถา ติเหตุโกมกสฺส, ทุเหตุกุกฺกฏฺสฺส จ กมฺมสฺส วเสน ทุเหตุกสสงฺขารทฺวยวชฺชิตานิ, ทุเหตุกาสงฺขารทฺวยวชฺชิตานิ จ ทส วิปากานิ, ทุเหตุโกมกสฺส วเสน ทุเหตุกทฺวยวชฺชิตานิ จ อฏฺ วิปากานิ ยถาวุตฺตสฺส ‘‘ติเหตุกมุกฺกฏฺ’’นฺตฺยาทินา วุตฺตนยสฺส อนุสาเรน อนุสฺสรเณน ยถาสมฺภวํ ตสฺส ตสฺส สมฺภวานุรูปโต อุทฺทิเส.
๗๕. ปริโต อตฺตํ ขณฺฑิตํ วิย อปฺปานุภาวนฺติ ปริตฺตํ. ปกฏฺภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ, อุภินฺนํ มชฺเฌ ภวํ มชฺฌิมํ. ตตฺถ ‘‘ปฏิลทฺธมตฺตํ ¶ อนาเสวิตํ ปริตฺต’’นฺติ อวิเสสโตว อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตถา ‘‘นาติสุภาวิตํ อปริปุณฺณวสีภาวํ มชฺฌิมํ. อติวิย สุภาวิตํ ปน สพฺพโส ปริปุณฺณวสีภาวํ ปณีต’’นฺติ. อาจริเยน ปเนตฺถ ปริตฺตมฺปิ อีสกํ ลทฺธาเสวนเมวาธิปฺเปตนฺติ ทิสฺสติ. ตถา หาเนน นามรูปปริจฺเฉเท –
‘‘สมานาเสวเน ¶ ลทฺเธ, วิชฺชมาเน มหพฺพเล;
อลทฺธา ตาทิสํ เหตุํ, อภิฺา น วิปจฺจตี’’ติ. (นาม. ปริ. ๔๗๔);
สมานภูมิกโตว อาเสวนลาเภน พลวภาวโต มหคฺคตธมฺมานํ วิปากทานํ วตฺวา ตทภาวโต อภิฺาย อวิปจฺจนํ วุตฺตํ. หีเนหิ ฉนฺทจิตฺตวีริยวีมํสาหิ นิพฺพตฺติตํ วา ปริตฺตํ. มชฺฌิเมหิ ฉนฺทาทีหิ มชฺฌิมํ. ปณีเตหิ ปณีตนฺติ อลมติปฺปปฺเจน.
๘๔. ปฺจมชฺฌานํ ภาเวตฺวาติ อภิฺาภาวํ อสมฺปตฺตํ ปฺจมชฺฌานํ ติวิธมฺปิ ภาเวตฺวา. อภิฺาภาวปฺปตฺตสฺส ปน อวิปากภาโว ‘‘อลทฺธา ตาทิส’’นฺตฺยาทินา (นาม. ปริ. ๔๗๔) อาจริเยน สาธิโต. มูลฏีกาการาทโย ปน อฺถาปิ ตํ สาเธนฺติ. ตํ ปน สงฺเขปโต, ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถารโต จ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺพํ. สฺาวิราคํ ภาเวตฺวาติ ‘‘สฺา โรโค, สฺา คณฺโฑ’’ตฺยาทินา, ‘‘ธี จิตฺตํ ธิพฺพตํ จิตฺต’’นฺตฺยาทินา วา นเยน อรูปปฺปวตฺติยา อาทีนวทสฺสเนน ตทภาเว จ ปณีตภาวสนฺนิฏฺาเนน วาโยกสิเณ เกสฺจิ มเตน ปริจฺฉินฺนากาสกสิเณ วา ภาวนาพเลน เตน ปฏิลภิตพฺพภาเว อรูปสฺส อนิพฺพตฺติสภาวาปาทนวเสน อรูปวิราคภาวนํ ภาเวตฺวา อฺสตฺเตสุ อุปฺปชฺชนฺติ กมฺมกิริยวาทิโน ติตฺถิยา เอวาตฺยธิปฺปาโย ¶ . เต ปน เยน อิริยาปเถน อิธ มรนฺติ. เตเนว ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.
๘๖. อนาคามิโน ปน สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ อนาคามิโนเยว อริยา ปุถุชฺชนาทิกาเล, ปจฺฉาปิ วา ปฺจมชฺฌานํ ติวิธมฺปิ ภาเวตฺวา สทฺธาทิอินฺทฺริยเวมตฺตตานุกฺกเมน ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปชฺชนฺติ.
๘๗. ยถากฺกมํ ภาเวตฺวา ยถากฺกมํ อารุปฺเปสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ โยชนา ยถากฺกมนฺติ จ ปมารุปฺปาทิอนุกฺกเมน. สพฺพมฺปิ เจตํ ตสฺส ตสฺเสว ฌานสฺส อาเวณิกภูมิวเสน วุตฺตํ. นิกนฺติยา ปน สติ ปุถุชฺชนาทโย ยถาลทฺธชฺฌานสฺส ภูมิภูเตสุ สุทฺธาวาสวชฺชิเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตนฺติ, ตถา กามภเวปิ กามาวจรกมฺมพเลน. ‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’ติ (อ. นิ. ๘.๓๕) หิ วุตฺตํ. อนาคามิโน ปน กามราคสฺส สพฺพโส ¶ ปหีนตฺตา กามภเวสุ นิกนฺตึ น อุปฺปาเทนฺตีติ กามโลกวชฺชิเต ยถาลทฺธชฺฌานภูมิภูเต ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตนฺติ. สุทฺธาวาเสสุ หิ อนาคามิโนเยว นิพฺพตฺตนฺตีติ นิยโม อตฺถิ. เต ปน อฺตฺถ น นิพฺพตฺตนฺตีติ นิยโม นตฺถิ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อาจริเยน –
‘‘สุทฺธาวาเสสฺวนาคามิ-ปุคฺคลาโวปปชฺชเร;
กามธาตุมฺหิ ชายนฺติ, อนาคามิวิวชฺชิตา’’ติ. (ปรม. วิ. ๒๐๕);
สุกฺขวิปสฺสกาปิ ปเนเต มรณกาเล เอกนฺเตเนว สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตนฺติ สมาธิมฺหิ ปริปูรการีภาวโตติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อิตฺถิโยปิ ปน อริยา วา อนริยา วา อฏฺสมาปตฺติลาภินิโย พฺรหฺมปาริสชฺเชสุเยว นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๗๙ อาทโย; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๑๓๐) วุตฺตํ. อปิเจตฺถ เวหปฺผลอกนิฏฺจตุตฺถารุปฺปภวานํ เสฏฺภวภาวโต ¶ ตตฺถ นิพฺพตฺตา อริยา อฺตฺถ นุปฺปชฺชนฺติ, ตถา อวเสเสสุ อุปรูปริ พฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตา เหฏฺิมเหฏฺิเมสุ. วุตฺตฺเหตํ อาจริเยน –
‘‘เวหปฺผเล อกนิฏฺเ, ภวคฺเค จ ปติฏฺิตา;
น ปุนาฺตฺถ ชายนฺติ, สพฺเพ อริยปุคฺคลา;
พฺรหฺมโลกคตา เหฏฺา, อริยา โนปปชฺชเร’’ติ. (นาม. ปริ. ๔๕๒-๔๕๓);
กมฺมจตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
จุติปฏิสนฺธิกฺกมวณฺณนา
๘๙. ‘‘อายุกฺขเยนา’’ตฺยาทีสุ สติปิ กมฺมานุภาเว ตํตํคตีสุ ยถาปริจฺฉินฺนสฺส อายุโน ปริกฺขเยน มรณํ อายุกฺขยมรณํ. สติปิ ตตฺถ ตตฺถ ปริจฺฉินฺนายุเสเส คติกาลาทิปจฺจยสามคฺคิยฺจ ¶ ตํตํภวสาธกสฺส กมฺมุโน ปรินิฏฺิตวิปากตฺตา มรณํ กมฺมกฺขยมรณํ. อายุกมฺมานํ สมกเมว ปริกฺขีณตฺตา มรณํ อุภยกฺขยมรณํ. สติปิ ตสฺมึ ทุวิเม ปุริมภวสิทฺธสฺส กสฺสจิ อุปจฺเฉทกกมฺมุโน พเลน สตฺถหรณาทีหิ อุปกฺกเมหิ อุปจฺฉิชฺชมานสนฺตานานํ, คุณมหนฺเตสุ วา กเตน เกนจิ อุปกฺกเมน อายูหิตอุปจฺเฉทกกมฺมุนา ปฏิพาหิตสามตฺถิยสฺส กมฺมสฺส ตํตํอตฺตภาวปฺปวตฺตเน อสมตฺถภาวโต ทุสิมารกลาพุราชาทีนํ วิย ตงฺขเณเยว านาจาวนวเสน ปวตฺตมรณํ อุปจฺเฉทกมรณํ นาม. อิทํ ปน เนรยิกานํ อุตฺตรกุรุวาสีนํ เกสฺจิ เทวานฺจ น โหติ. เตนาหุ –
‘‘อุปกฺกเมน วา เกสฺจุปจฺเฉทกกมฺมุนา’’ติ. (ส. ส. ๖๒);
มรณสฺส อุปฺปตฺติ ปวตฺติ มรณุปฺปตฺติ.
๙๐. มรณกาเลติ ¶ มรณาสนฺนกาเล. ยถารหนฺติ ตํตํคตีสุ อุปฺปชฺชนกสตฺตานุรูปํ, กตฺถจิ ปน อนุปฺปชฺชมานสฺส ขีณาสวสฺส ยโถปฏฺิตํ นามรูปธมฺมาทิกเมว จุติปริโยสานานํ โคจรภาวํ คจฺฉติ, น กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทโย. อุปลทฺธปุพฺพนฺติ เจติยทสฺสนาทิวเสน ปุพฺเพ อุปลทฺธํ. อุปกรณภูตนฺติ ปุปฺผาทิวเสน อุปกรณภูตํ. อุปลภิตพฺพนฺติ อนุภวิตพฺพํ. อุปโภคภูตนฺติ อจฺฉราวิมานกปฺปรุกฺขนิรยคฺคิอาทิกํ อุปภฺุชิตพฺพํ. อจฺฉราวิมานกปฺปรุกฺขมาตุกุจฺฉิอาทิคตํ หิ รูปายตนํ สุคตินิมิตฺตํ. นิรยคฺคินิรยปาลาทิคตํ ทุคฺคตินิมิตฺตํ. คติยา นิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ.
กมฺมพเลนาติ ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกสฺส กุสลากุสลกมฺมสฺส อานุภาเวน. ฉนฺนํ ทฺวารานนฺติ วกฺขมานนเยน ยถาสมฺภวํ ฉนฺนํ อุปปตฺติทฺวารานํ, ยทิ กุสลกมฺมํ วิปจฺจติ, ตทา ปริสุทฺธํ กุสลจิตฺตํ ปวตฺตติ, อถ อกุสลกมฺมํ, ตทา อุปกฺกิลิฏฺํ อกุสลจิตฺตนฺติ อาห ‘‘วิปจฺจมานก…เป… กิลิฏฺํ วา’’ติ. เตนาห ภควา ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ, อนุพฺยฺชนสฺสาทคธิตํ วา, ตสฺมึ เจ สมเย กาลํ กโรติ, านเมตํ วิชฺชติ, ยํ ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ อุปปชฺเชยฺย นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕). ตตฺโถณตํ วาติ ตสฺมึ อุปปชฺชิตพฺพภเว โอณตํ วิย, ตตฺโถณตํ เอวาติ วา ปทจฺเฉโท. ‘‘พาหุลฺเลนา’’ติ เอตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘เยภุยฺเยน ภวนฺตเร’’ติ เอตฺถ ¶ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ. อถ วา ‘‘ยถารห’’นฺติ อิมินาว โส สกฺกา สงฺคเหตุนฺติ ‘‘พาหุลฺเลนา’’ติ อิมินา สหสา โอจฺฉิชฺชมานชีวิตานํ สณิกํ มรนฺตานํ วิย น อภิกฺขณเมวาติ ทีปิตนฺติ วิฺายติ. อภินวกรณวเสนาติ ตงฺขเณ กริยมานํ วิย อตฺตานํ อภินวกรณวเสน.
๙๑. ปจฺจาสนฺนมรณสฺสาติ ¶ เอกวีถิปฺปมาณายุกวเสน, ตโต วา กิฺจิ อธิกายุกวเสน สมาสนฺนมรณสฺส. วีถิจิตฺตาวสาเนติ ตทารมฺมณปริโยสานานํ, ชวนปริโยสานานํ วา วีถิจิตฺตานํ อวสาเน. ตตฺถ ‘‘กามภวโต จวิตฺวา ตตฺเถว อุปฺปชฺชมานานํ ตทารมฺมณปริโยสานานิ, เสสานํ ชวนปริโยสานานี’’ติ ธมฺมานุสารณิยํ วุตฺตํ. ภวงฺคกฺขเยวาติ ยทิ เอกชวนวีถิโต อธิกตรายุเสโส สิยา, ตทา ภวงฺคาวสาเน วา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. อถ เอกจิตฺตกฺขณายุเสโส สิยา, ตทา วีถิจิตฺตาวสาเน, ตฺจ อตีตกมฺมาทิวิสยเมว. ‘‘ตสฺสานนฺตรเมวา’’ติ อิมินา อนฺตราภววาทิมตํ ปฏิกฺขิปติ.
ยถารหนฺติ กมฺมกรณกาลสฺส, วิปากทานกาลสฺส จ อนุรูปวเสน. อถ วา วิปจฺจมานกกมฺมานุรูปํ อนุสยวเสน, ชวนสหชาตวเสน วา ปวตฺติอนุรูปโตตฺยตฺโถ. นนุ จ ‘‘อวิชฺชานุสยปริกฺขิตฺเตนา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ชวนสหชาตานฺจ กถํ อนุสยภาโวติ? นายํ โทโส อนุสยสทิสตาย ตาสมฺปิ อนุสยโวหารภาวโต. อิตรถา อกุสลกมฺมสหชาตานํ ภวตณฺหาสหชาตานํ วา จุติอาสนฺนชวนสหชาตานฺจ สงฺคโห น สิยา. อวิชฺชาว อปฺปหีนฏฺเน อนุสยนโต ปวตฺตนโต อนุสโย, เตน ปริกฺขิตฺเตน ปริวาริเตน. ตณฺหานุสโยว มูลํ ปธานํ สหการีการณภูตํ อิมสฺสาติ ตณฺหานุสยมูลโก. สงฺขาเรนาติ กุสลากุสลกมฺเมน กมฺมสหชาตผสฺสาทิธมฺมสมุทาเยน จุติอาสนฺนชวนสหชาเตน วา, เตน ชนิยมานํ. อวิชฺชาย หิ ปฏิจฺฉนฺนาทีนววิสเย ตณฺหา นาเมติ, ขิปนกสงฺขารสมฺมตา ยถาวุตฺตสงฺขารา ขิปนฺติ, ยถาหุ –
‘‘อวิชฺชาตณฺหาสงฺขาร-สหเชหิ อปายินํ;
วิสยาทีนวจฺฉาทินมนกฺขิปเกหิ ตุ.
‘‘อปฺปหีเนหิ ¶ ¶ เสสานํ, ฉาทนํ นมนมฺปิ จ;
ขิปกา ปน สงฺขารา, กุสลาว ภวนฺติหา’’ติ. (ส. ส. ๑๖๔-๑๖๕);
สมฺปยุตฺเตหิ ปริคฺคยฺหมานนฺติ อตฺตนา สมฺปยุตฺเตหิ ผสฺสาทีหิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตปจฺจยาทินา ปริวาเรตฺวา คยฺหมานํ, สหชาตานมธิฏฺานภาเวน ปุพฺพงฺคมภูตนฺติ อตฺตนา สหชาตานํ ปติฏฺานภาเวน ปธานภูตํ. ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) หิ วุตฺตํ. ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสนาติ ปุริมภวนฺตรสฺส, ปจฺฉิมภวนฺตรสฺส จ อฺมฺํ เอกาพทฺธํ วิย ปฏิสนฺทหนวเสน อุปฺปชฺชมานเมว ปติฏฺาติ, น อิโต คนฺตฺวาตฺยธิปฺปาโย. น หิ ปุริมภวปริยาปนฺโน โกจิ ธมฺโม ภวนฺตรํ สงฺกมติ, นาปิ ปุริมภวปริยาปนฺนเหตูหิ วินา อุปฺปชฺชติ ปฏิโฆสปทีปมุทฺทา วิยาติ อลมติปฺปปฺเจน.
๙๒. มนฺทํ หุตฺวา ปวตฺตานิ มนฺทปฺปวตฺตานิ. ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณสุ อาปาถคเตสุ มโนทฺวาเร คตินิมิตฺตวเสน, ปฺจทฺวาเร กมฺมนิมิตฺตวเสนาตฺยธิปฺปาโย. ปฏิสนฺธิภวงฺคานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา ลพฺภตีติ มโนทฺวาเร ตาว ปฏิสนฺธิยา จตุนฺนํ ภวงฺคานฺจ, ปฺจทฺวาเร ปน ปฏิสนฺธิยาว ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณภาโว ลพฺภติ. ตถา หิ กสฺสจิ มโนทฺวาเร อาปาถมาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ คตินิมิตฺตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนาย ตทารมฺมณปริโยสานาย จิตฺตวีถิยา อนนฺตรํ จุติจิตฺเต อุปฺปนฺเน ตทนนฺตรํ ปฺจจิตฺตกฺขณายุเก อารมฺมเณ ปวตฺตาย ปฏิสนฺธิยา จตุนฺนํ ภวงฺคานํ, ปฺจทฺวาเร จ าตกาทีหิ อุปฏฺาปิเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ วณฺณาทิเก อารพฺภ ยถารหํ ปวตฺตาย จิตฺตวีถิยา จุติจิตฺตสฺส จ อนนฺตรํ เอกจิตฺตกฺขณายุเก อารมฺมเณ ปวตฺตาย ปฏิสนฺธิยา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมเณ ปวตฺติ อุปลพฺภตีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ¶ ปน วิสุทฺธิมคฺเค(วิสุทฺธิ. ๒.๖๒๐ อาทโย) วิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) วา สงฺขารปจฺจยาวิฺาณปทวณฺณนายํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ. ฉทฺวารคฺคหิตนฺติ กมฺมนิมิตฺตํ ฉทฺวารคฺคหิตํ, คตินิมิตฺตํ ฉฏฺทฺวารคฺคหิตนฺติ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. อปเร ปน อวิเสสโต วณฺเณนฺติ. สจฺจสงฺเขเปปิ เตเนวาธิปฺปาเยน อิทํ วุตฺตํ –
‘‘ปฺจทฺวาเร สิยา สนฺธิ, วินา กมฺมํ ทฺวิโคจเร’’ติ; (ส. ส. ๑๗๓);
อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๒๔-๖๒๕; วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) ¶ ปน ‘‘คตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตทารมฺมณาย จ ปฺจทฺวาริกปฏิสนฺธิยา อทสฺสิตตฺตา, มูลฏีกาทีสุ จ ‘‘กมฺมพเลน อุปฏฺาปิตํ วณฺณายตนํ สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส วิย ทิพฺพจกฺขุสฺส วิย จ มโนทฺวาเรเยว โคจรภาวํ คจฺฉตี’’ติ (วิสุทฺธิ. มหา. ๒.๖๒๓) นิยเมตฺวา วุตฺตตฺตา เตสํ วจนํ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ อาจริยา. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจา’’ติ เอตฺถ คตินิมิตฺตํ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ ยุชฺชติ, กมฺมนิมิตฺตํ ปน ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสฺเสว นิมิตฺตภูตํ อธิปฺเปตนฺติ กถํ ตสฺส จุติอาสนฺนชวเนหิ คหิตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภาโว สมฺภวติ. น หิ ตเทว อารมฺมณุปฏฺาปกํ, ตเทว ปฏิสนฺธิชนกํ ภเวยฺย อุปจิตภาวาภาวโต อนสฺสาทิตตฺตา จ. ‘‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑) หิ วจนโต ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนเมว กมฺมํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ. ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๒) จ นิกนฺติกฺขเณ ทฺวินฺนํ เหตูนํ ปจฺจยาปิ สเหตุกปฏิสนฺธิยา วุตฺตตฺตากตูปจิตมฺปิ กมฺมํ ตณฺหาย อสฺสาทิตเมว วิปากํ อภินิปฺผาเทติ, ตทา จ ปฏิสนฺธิยา สมานวีถิยํ วิย ปวตฺตมานานิ จุติอาสนฺนชวนานิ กถํ ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนานิ สิยุํ, กถฺจ ตานิ ตทา กณฺหาย ปรามฏฺานิ. อปิจ ปจฺจุปฺปนฺนํ กมฺมนิมิตฺตํ จุติอาสนฺนปฺปวตฺตานํ ปฺจทฺวาริกชวนานํ อารมฺมณํ โหติ. ‘‘ปฺจทฺวาริกกมฺมฺจ ปฏิสนฺธินิมิตฺตกํ น ¶ โหติ ปริทุพฺพลภาวโต’’ติ อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๒๐; วิภ. อฏฺ. ๒๒๗) วุตฺตนฺติ สจฺจเมตํ. าตกาทีหิ อุปฏฺาปิเตสุ ปน ปุปฺผาทีสุ สนฺนิหิเตสฺเวว มรณสมฺภวโต ตตฺถ วณฺณาทิกํ อารพฺภ จุติอาสนฺนวีถิโต ปุริมภาคปฺปวตฺตานํ ปฏิสนฺธิชนนสมตฺถานํ มโนทฺวาริกชวนานํ อารมฺมณภูเตน สห สมานตฺตา ตเทกสนฺตติปติตํ จุติอาสนฺนชวนคฺคหิตมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ วณฺณาทิกํ กมฺมนิมิตฺตภาเวน วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อานนฺทาจริเยน ‘‘ปฺจทฺวาเร จ อาปาถมาคจฺฉนฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ กมฺมนิมิตฺตํ อาสนฺนกตกมฺมารมฺมณสนฺตติยํ อุปฺปนฺนํ, ตํสทิสฺจ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (วิภ. มูลฏี. ๒๒๗; วิสุทฺธิ. มหา. ๒.๖๒๓).
๙๔. ยถารหนฺติ ทุติยจตุตฺถปมตติยานํ ปฏิสนฺธีนํ อนุรูปโต.
๙๘. อารุปฺปจุติยา ปรํ เหฏฺิมารุปฺปวชฺชิตา อารุปฺปปฏิสนฺธิโย โหนฺติ อุปรูปริอรูปีนํ เหฏฺิมเหฏฺิมกมฺมสฺส อนายูหนโต, อุปจารชฺฌานสฺส ปน พลวภาวโต ตสฺส วิปากภูตา กามติเหตุกา ปฏิสนฺธิโย โหนฺติ. รูปาวจรจุติยา ปรํ อเหตุกรหิตา อุปจารชฺฌานานุภาเวเนว ¶ ทุเหตุกติเหตุกปฏิสนฺธิโย สิยุํ, กามติเหตุมฺหา จุติโต ปรํ สพฺพา เอว กามรูปารูปภวปริยาปนฺนา ยถารหํ อเหตุกาทิปฏิสนฺธิโย สิยุํ. อิตโร ทุเหตุกาเหตุกจุติโต ปรํ กาเมสฺเวว ภเวสุ ติเหตุกาทิปฏิสนฺธิโย สิยุํ.
จุติปฏิสนฺธิกฺกมวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙๙. ปฏิสนฺธิยา ¶ นิโรธสฺส อนนฺตรโต ปฏิสนฺธินิโรธานนฺตรโต. ตเทว จิตฺตนฺติ ตํสทิสตาย ตพฺโพหารปฺปวตฺตตฺตา ตเทว จิตฺตํ ยถา ‘‘ตานิเยว โอสธานี’’ติ. อสติ วีถิจิตฺตุปฺปาเทติ อนฺตรนฺตรา วีถิจิตฺตานํ อุปฺปาเท อสติ, จุติจิตฺตํ หุตฺวา นิรุชฺฌติ ตเทว จิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๑๐๑. ปริวตฺตนฺตา ปวตฺตนฺติ ยาว วฏฺฏมูลสมุจฺเฉทาตฺยธิปฺปาโย.
๑๐๒. ยถา อิห ภเวปฏิสนฺธิ เจว ภวงฺคฺจ วีถิโย จ จุติ จ, ตถา ปุน ภวนฺตเร ปฏิสนฺธิภวงฺคนฺติ เอวมาทิกา อยํ จิตฺตสนฺตติ ปริวตฺตตีติ โยชนา. เกจิ ปน อิมสฺมึ ปริจฺเฉเท วีถิมุตฺตสงฺคหสฺเสว ทสฺสิตตฺตา ปฏิสนฺธิภวงฺคจุตีนเมว อิธ คหณํ ยุตฺตนฺตฺยาธิปฺปาเยน ‘‘ปฏิสนฺธิภวงฺควีถิโย’’ติ อิมสฺส ปฏิสนฺธิภวงฺคปฺปวาหาติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ปวตฺติสงฺคหทสฺสนาวสาเน ตตฺถ สงฺคหิตานํ สพฺเพสเมว นิคมนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอวฺหิ สติ ‘‘ปฏิสงฺขาย ปเนตมทฺธุว’’นฺติ เอตฺถ สพฺเพสเมว เอต-สทฺเทน ปรามสนํ สุฏฺุ อุปปนฺนํ โหติ. เอตํ ยถาวุตฺตํ วฏฺฏปวตฺตํ อทฺธุวํ อนิจฺจํ ปโลกธมฺมํ ปฏิสงฺขาย ปจฺจเวกฺขิตฺวา พุธา ปณฺฑิตา จิราย จิรกาลํ สุพฺพตา หุตฺวา อจฺจุตํ ธุวํ อจวนธมฺมํ ปทํ นิพฺพานํ อธิคนฺตฺวา มคฺคผลาเณน สจฺฉิกตฺวา ตโตเยว สุฏฺุ สมุจฺฉินฺนสิเนหพนฺธนา สมํ นิรุปธิเสสนิพฺพานธาตุํ เอสฺสนฺติ ปาปุณิสฺสนฺติ.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
วีถิมุตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. รูปปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ตาว จิตฺตเจตสิกวเสน ทุวิธํ อภิธมฺมตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ รูปํ, ตทนนฺตรฺจ นิพฺพานํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ตฺยาทิ. สปฺปเภทปฺปวตฺติกา อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสวเสน ตีหิ ปริจฺเฉเทหิ วุตฺตปฺปเภทวนฺโต, ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺวีหิ ปริจฺเฉเทหิ วุตฺตปฺปวตฺติวนฺโต จ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เอตฺตาวตา ปฺจหิ ปริจฺเฉเทหิ วิภตฺตา หิ ยสฺมา, อิทานิ ยถานุปฺปตฺตํ รูปํ ปวุจฺจตีติ โยชนา.
๒. อิทานิ ยถาปฏิฺาตรูปวิภาคตฺถํ มาติกํ เปตุํ ‘‘สมุทฺเทสา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. สงฺเขปโต อุทฺทิสนํ สมุทฺเทโส. เอกวิธาทิวเสน วิภชนํ วิภาโค, สมุฏฺาติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมุฏฺานํ, กมฺมาทโย รูปชนกปจฺจยา. จกฺขุทสกาทโย กลาปา. ปวตฺติกฺกมโต เจติ ภวกาลสตฺตเภเทน รูปานํ อุปฺปตฺติกฺกมโต.
รูปสมุทฺเทสวณฺณนา
๓. อุปาทินฺนานุปาทินฺนสนฺตาเนสุ สสมฺภารธาตุวเสน มหนฺตา หุตฺวา ภูตา ปาตุภูตาติ มหาภูตา (ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔). อถวา อเนกวิธอพฺภุตวิเสสทสฺสเนน, อเนกาภูตทสฺสเนน วา มหนฺตานิ อพฺภุตานิ, อภูตานิ วา เอเตสูติ มหาภูตา, มายาการาทโย. เตหิ สมานา สยํ อนีลาทิสภาวาเนว นีลาทิอุปาทายรูปทสฺสนาทิโตติ มหาภูตา. มนาปวณฺณสณฺานาทีหิ วา สตฺตานํ วฺจิกา ยกฺขินิอาทโย วิย มนาปอิตฺถิปุริสรูปทสฺสนาทินา สตฺตานํ วฺจกตฺตา มหนฺตานิ อภูตานิ เอเตสูติ มหาภูตา. วุตฺตมฺปิ เหตํ –
‘‘มหนฺตา ¶ ปาตุภูตาติ, มหาภูตสมาติ วา;
วฺจกตฺตา อภูเตน, ‘มหาภูตา’ติ สมฺมตา’’ติ. (อภิธ. ๖๒๖);
อถ วา มหนฺตปาตุภาวโต มหนฺตานิ ภวนฺติ เอเตสุ อุปาทารูปานิ, ภูตานิ จาติ มหาภูตานิ. มหาภูเต อุปาทาย ปวตฺตํ รูปํ อุปาทายรูปํ. ยทิ เอวํ ‘‘เอกํ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโต ¶ มหาภูตา’’ตฺยาทิวจนโต (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) เอเกกมหาภูตา เสสมหาภูตานํ นิสฺสยา โหนฺตีติ เตสมฺปิ อุปาทายรูปตาปสงฺโคติ? นยิทเมวํ อุปาทาเยว ปวตฺตรูปานํ ตํสมฺาสิทฺธิโต. ยฺหิ มหาภูเต อุปาทิยติ, สยฺจ อฺเหิ อุปาทียติ. น ตํ อุปาทายรูปํ. ยํ ปน อุปาทียเตว, น เกนจิ อุปาทียติ, ตเทว อุปาทายรูปนฺติ นตฺถิ ภูตานํ ตพฺโพหารปฺปสงฺโค. อปิจ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺติ อุปาทายรูปลกฺขณนฺติ นตฺถิ ตโย อุปาทาย ปวตฺตานํ อุปาทายรูปตาติ.
๔. ปถนฏฺเน ปถวี, ตรุปพฺพตาทีนํ ปกติปถวี วิย สหชาตรูปานํ ปติฏฺานภาเวน ปกฺขายติ, อุปฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ, ปถวี เอว ธาตุ สลกฺขณธารณาทิโต นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน สรีรเสลาวยวธาตุสทิสตฺตา จาติ ปถวีธาตุ. อาเปติ สหชาตรูปานิ ปตฺถรติ, อาปายติ วา พฺรูเหติ วฑฺเฒตีติ อาโป. เตเชติ ปริปาเจติ, นิเสติ วา ติกฺขภาเวน เสสภูตตฺตยํ อุสฺมาเปตีติ เตโช. วายติ เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน ภูตสงฺฆาตํ ปาเปตีติ วาโย. จตสฺโสปิ ปเนตา ยถากฺกมํ กถินตฺตทวตฺตอุณฺหตฺตวิตฺถมฺภนตฺตลกฺขณาติ ทฏฺพฺพํ.
๕. จกฺขาทีนํ วจนตฺโถ เหฏฺา กถิโตว. ปสาทรูปํ นาม จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสนฺนภาวเหตุกตฺตา. ตํ ¶ ปน ยถากฺกมํ ทฏฺุกามตาโสตุกามตาฆายิตุกามตาสายิตุกามตาผุสิตุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปฺปสาทลกฺขณํ. ตตฺถ จกฺขุ ตาว มชฺเฌ กณฺหมณฺฑลสฺส อูกาสิรปฺปมาเณ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติปเทเส เตลมิว ปิจุปฏลานิ สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ธารณนหาปนมณฺฑนพีชนกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตีหิ วิย ขตฺติยกุมาโร สนฺธารณพนฺธนปริปาจนสมุทีรณกิจฺจาหิ จตูหิ ธาตูหิ กตูปการํ อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานํ อายุนา ปริปาลิยมานํ วณฺณาทีหิ ปริวาริตํ ยถาโยคํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถุทฺวารภาวํ สเธนฺตํ ปวตฺตติ, อิตรํ ‘‘สสมฺภารจกฺขู’’ติ วุจฺจติ. เอวํ โสตาทโยปิ ยถากฺกมํ โสตพิลพฺภนฺตเร องฺคุลิเวธนาการํ อุปจิตตนุตมฺพโลมํ, นาสิกพฺภนฺตเร อชปทสณฺานํ, ชิวฺหามชฺเฌ อุปฺปลทลคฺคสณฺานํ ปเทสํ อภิพฺยาเปตฺวา ปวตฺตนฺติ, อิตรํ ปน เปตฺวา กมฺมชเตชสฺส ปติฏฺานฏฺานํ เกสคฺคโลมคฺคนขคฺคสุกฺขจมฺมานิ จ อวเสสํ สกลสรีรํ ผริตฺวา ปวตฺตติ. เอวํ สนฺเตปิ อิตเรหิ ตสฺส สงฺกโร น โหติ ภินฺนนิสฺสยลกฺขณตฺตา. เอกนิสฺสยานิปิ หิ รูปรสาทีนิ ลกฺขณเภทโต อสํกิณฺณาติ กึ ปน ภินฺนนิสฺสยา ปสาทา.
๖. อาโปธาตุยา ¶ สุขุมภาเวน ผุสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ ‘‘อาโปธาตุ วิวชฺชิตํ ภูตตฺตยสงฺขาต’’นฺติ. กิฺจาปิ หิ สีตตา ผุสิตฺวา คยฺหติ, สา ปน เตโชเยว. มนฺเท หิ อุณฺหตฺเต สีตพุทฺธิ สีตตาสงฺขาตสฺส กสฺสจิ คุณสฺส อภาวโต. ตยิทํ สีตพุทฺธิยา อนวฏฺิตภาวโต วิฺายติ ปาราปาเร วิย. ตถา หิ ฆมฺมกาเล อาตเป ตฺวา ฉายํ ปวิฏฺานํ สีตพุทฺธิ โหติ, ตตฺเถว จิรกาลํ ิตานํ อุณฺหพุทฺธิ. ยทิ จ อาโปธาตุ สีตตา สิยา, อุณฺหภาเวน สห เอกสฺมึ กลาเป ¶ อุปลพฺเภยฺย, น เจวํ อุปลพฺภติ, ตสฺมา วิฺายติ ‘‘น อาโปธาตุ สีตตา’’ติ. เย ปน ‘‘ทวตา อาโปธาตุ, สา จ ผุสิตฺวา คยฺหตี’’ติ วทนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘ทวตา นาม ผุสิตฺวา คยฺหตีติ อิทํ อายสฺมนฺตานํ อภิมานมตฺตํ สณฺาเน วิยา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘ทวตาสหวุตฺตีนิ, ตีณิ ภูตานิ สมฺผุสํ;
ทวตํ สมฺผุสามีติ, โลโกยมภิมฺติ.
‘‘ภูเต ผุสิตฺวา สณฺานํ, มนสา คณฺหโต ยถา;
ปจฺจกฺขโต ผุสามีติ, วิฺเยฺยา ทวตา ตถา’’ติ.
โคจรรูปํ นาม ปฺจวิฺาณวิสยภาวโต. คาโว อินฺทฺริยานิ จรนฺติ เอตฺถาติ โคจรนฺติ หิ อารมฺมณสฺเสตํ นามํ. ตํ ปเนตํ ปฺจวิธมฺปิ ยถากฺกมํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ โคจรภาวลกฺขณํ, จกฺขาทิปฏิหนนลกฺขณํ วา.
๗. อิตฺถิยา ภาโว อิตฺถตฺตํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๒). ปุริสสฺส ภาโว ปุริสตฺตํ. ตตฺถ อิตฺถิลิงฺคนิมิตฺตกุตฺตากปฺปเหตุภาวลกฺขณํ อิตฺถตฺตํ, ปุริสลิงฺคาทิเหตุภาวลกฺขณํ ปุริสตฺตํ. ตตฺถ อิตฺถีนํ องฺคชาตํ อิตฺถิลิงฺคํ. สราธิปฺปายา อิตฺถินิมิตฺตํ ‘‘อิตฺถี’’ติ สฺชานนสฺส ปจฺจยภาวโต. อวิสทานคมนนิสชฺชาทิ อิตฺถิกุตฺตํ. อิตฺถิสณฺานํ อิตฺถากปฺโป. ปุริสลิงฺคาทีนิปิ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺพานิ. อฏฺกถายํ ปน อฺถา อิตฺถิลิงฺคาทีนิ วณฺณิตานิ. ตํ ปน เอวํ สงฺคเหตฺวา วทนฺติ –
‘‘ลิงฺคํ ¶ หตฺถาทิสณฺานํ, นิมิตฺตํ มิหิตาทิกํ;
กุตฺตํ สุปฺปาทินา กีฬา, อากปฺโป คมนาทิก’’นฺติ.
ภาวรูปํ นาม ภวติ เอเตน อิตฺถาทิอภิธานํ, พุทฺธิ จาติ กตฺวา. ตํ ปเนตํ กายินฺทฺริยํ วิย สกลสรีรํ ผริตฺวา ติฏฺติ.
๘. หทยเมว ¶ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ นิสฺสยตฺตา วตฺถุ จาติ หทยวตฺถุ. ตถา หิ ตํ ธาตุทฺวยนิสฺสยภาวลกฺขณํ, ตฺจ หทยโกสพฺภนฺตเร อฑฺฒปสตมตฺตํ โลหิตํ นิสฺสาย ปวตฺตติ. รูปกณฺเฑ อวุตฺตสฺสปิ ปเนตสฺส อาคมโต, ยุตฺติโต จ อตฺถิภาโว ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ, ตํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ‘‘ยํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๘) เอวมาคตํ ปฏฺานวจนํ อาคโม. ยุตฺติ ปเนวํ ทฏฺพฺพา –
‘‘นิปฺผนฺนภูติกาธารา, ทฺเว ธาตู กามรูปินํ;
รูปานุพนฺธวุตฺติตฺตา, จกฺขุวิฺาณาทโย วิย.
‘‘จกฺขาทินิสฺสิตาเนตา, ตสฺสฺาธารภาวโต;
นาปิ รูปาทิเก เตสํ, พหิทฺธาปิ ปวตฺติโต.
‘‘น จาปิ ชีวิตํ ตสฺส, กิจฺจนฺตรนิยุตฺติโต;
น จ ภาวทฺวยํ ตสฺมึ, อสนฺเตปิ ปวตฺติโต.
‘‘ตสฺมา ตทฺํ วตฺถุ ตํ, ภูติกนฺติ วิชานิยํ;
วตฺถาลมฺพทุกานนฺตุ, เทสนาเภทโต อิทํ;
ธมฺมสงฺคณิปาสฺมึ, น อกฺขาตํ มเหสินา’’ติ.
๙. ชีวนฺติ เตนาติ ชีวิตํ, ตเทว กมฺมชรูปปริปาลเน อาธิปจฺจโยคโต อินฺทฺริยนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตถา เหตํ กมฺมชรูปปริปาลนลกฺขณํ. ยถาสกํ ขณมตฺตฏฺายีนมฺปิ หิ สหชาตานํ ¶ ปวตฺติเหตุภาเวเนว อนุปาลกํ. น หิ เตสํ กมฺมํเยว ิติการณํ โหติ อาหารชาทีนํ อาหาราทิ วิย กมฺมสฺส ตงฺขณาภาวโต. อิทํ ปน สห ปาจนคฺคินา อนวเสสอุปาทินฺนกายํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ.
๑๐. กพฬํ ¶ กตฺวา อชฺโฌหรียตีติ กพฬีกาโร อาหาโร, อิทฺจ สวตฺถุกํ กตฺวา อาหารํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เสนฺทฺริยกาโยปตฺถมฺภนเหตุภูตา ปน องฺคมงฺคานุสารี รสหรสงฺขาตา อชฺโฌหริตพฺพาหารสิเนหภูตา โอชา อิธ อาหารรูปํ นาม. ตถา เหตํ เสนฺทฺริยกาโยปตฺถมฺภนเหตุภาวลกฺขณํ, โอชฏฺมกรูปาหรณลกฺขณํ วา.
๑๑. กกฺขฬตฺตาทินา อตฺตโน อตฺตโน สภาเวน อุปลพฺภนโต สภาวรูปํ นาม. อุปฺปาทาทีหิ, อนิจฺจตาทีหิ วา ลกฺขเณหิ สหิตนฺติ สลกฺขณํ. ปริจฺเฉทาทิภาวํ วินา อตฺตโน สภาเวเนว กมฺมาทีหิ ปจฺจเยหิ นิปฺผนฺนตฺตา นิปฺผรูปํ นาม. รุปฺปนสภาโว รูปํ, เตน ยุตฺตมฺปิ รูปํ, ยถา ‘‘อริสโส, นีลุปฺปล’’นฺติ, สฺวายํ รูป-สทฺโท รุฬฺหิยา อตํสภาเวปิ ปวตฺตตีติ อปเรน รูป-สทฺเทน วิเสเสตฺวา ‘‘รูปรูป’’นฺติ วุตฺตํ ยถา ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ. ปริจฺเฉทาทิภาวํ อติกฺกมิตฺวา สภาเวเนว อุปลพฺภนโต ลกฺขณตฺตยาโรปเนน สมฺมสิตุํ อรหตฺตา สมฺมสนรูปํ.
๑๒. น กสฺสตีติ อกาโส. อกาโสเยว อากาโส, นิชฺชีวฏฺเน ธาตุ จาติ อากาสธาตุ. จกฺขุทสกาทิเอเกกกลาปคตรูปานํ กลาปนฺตเรหิ อสํกิณฺณภาวาปาทนวเสน ปริจฺเฉทกํ, เตหิ วา ปริจฺฉิชฺชมานํ, เตสํ ปริจฺเฉทมตฺตํ วา รูปํ ปริจฺเฉทรูปํ. ตฺหิ ตํ ตํ รูปกลาปํ ปริจฺฉินฺทนฺตํ วิย โหติ. วิชฺชมาเนปิ จ กลาปนฺตรภูเตหิ กลาปนฺตรภูตานํ สมฺผุฏฺภาเว ตํตํรูปวิวิตฺตตา รูปปริยนฺโต อากาโส. เยสฺจ โส ปริจฺเฉโท, เตหิ สยํ อสมฺผุฏฺโเยว. อฺถา ปริจฺฉินฺนตา น สิยา เตสํ รูปานํ พฺยาปีภาวาปตฺติโต. อพฺยาปิตา ¶ หิ อสมฺผุฏฺตา. เตนาห ภควา ‘‘อสมฺผุฏฺํ จตูหิ มหาภูเตหี’’ติ (ธ. ส. ๖๓๗).
๑๓. จลมานกาเยน อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจ เตน วิฺายตีติ กายวิฺตฺติ. สวิฺาณกสทฺทสงฺขาตวาจาย อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจ ตาย วิฺายตีติ วจีวิฺตฺติ. ตตฺถ อภิกฺกมาทิชนกจิตฺตสมุฏฺานวาโยธาตุยา สหชาตรูปสนฺถมฺภนสนฺธารณจลิเตสุ ¶ สหการีการณภูโต ผนฺทมานกายผนฺทนตํเหตุกวาโยธาตุวินิมุตฺโต มหนฺตํ ปาสาณํ อุกฺขิปนฺตสฺส สพฺพถาเมน คหณกาเล อุสฺสาหนวิกาโร วิย รูปกายสฺส ปริผนฺทนปจฺจยภาเวน อุปลพฺภมาโน วิกาโร กายวิฺตฺติ. สา หิ ผนฺทมานกาเยน อธิปฺปายํ วิฺาเปติ. น หิ วิฺตฺติวิการรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ ‘‘อิทเมส กาเรตี’’ติ อธิปฺปายคฺคหณํ ทิฏฺนฺติ. หตฺถจลนาทีสุ จ ผนฺทมานกายคฺคหณานนฺตรํ อวิฺายมานนฺตเรหิ มโนทฺวารชวเนหิ คยฺหมานตฺตา สยฺจ กาเยน วิฺายติ.
กถํ ปน วิฺตฺติวเสน หตฺถจลนาทโย โหนฺตีติ? วุจฺจเต – เอกาวชฺชนวีถิยํ สตฺตสุ ชวเนสุ สตฺตมชวนสมุฏฺานวาโยธาตุ วิฺตฺติวิการสหิตาว ปมชวนาทิสมุฏฺานาหิ วาโยธาตูหิ ลทฺโธปตฺถมฺภา เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จลยติ จิตฺตชํ, ปุริมชวนาทิสมฺภูตา ปน สนฺถมฺภนสนฺธารณมตฺตกรา ตสฺส อุปการาย โหนฺตีติ. ยถา หิ สตฺตหิ ยุเคหิ อากฑฺฒิตพฺพสกเฏ สตฺตมยุคยุตฺตาเยว โคณา เหฏฺา ฉสุ ยุเคสุ ยุตฺตโคเณหิ ลทฺธูปตฺถมฺภา สกฏํ จาเลนฺติ, ปมยุคาทิยุตฺตา ปน อุปตฺถมฺภนสนฺธารณมตฺตเมว สาเธนฺตา เตสํ อุปการาย โหนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
เทสนฺตรุปฺปตฺติเยว ¶ เจตฺถ จลนํ อุปฺปนฺนเทสโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ ธมฺมานํ สงฺกมนาภาวโต. อิตรถา เนสํ อพฺยาปารกตา, ขณิกตา จ น สิยา. เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาโวติ จ ยถา อตฺตนา สหชรูปานิ เหฏฺิมชวนสมุฏฺิตรูเปหิ ปติฏฺิตฏฺานโต อฺตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ เตหิ สห ตตฺถ อุปฺปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ, เอตฺถ ปน จิตฺตเช จลิเต ตํสมฺพนฺเธน อิตรมฺปิ จลติ นทีโสเต ปกฺขิตฺตสุกฺขโคมยปิณฺฑํ วิย. ตถา จลยิตุํ อสกฺโกนฺติ โยปิ ปมชวนาทิสมุฏฺานวาโยธาตุโย วิฺตฺติวิการสหิตาเยว เยน ทิสาภาเคน อยํ อภิกฺกมาทีนิ ปวตฺเตตุกาโม, ตทภิมุขภาววิการสมฺภวโต. เอวฺจ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ วกฺขติ. วจีเภทกรจิตฺตสมุฏฺานปถวีธาตุยา อกฺขรุปฺปตฺติฏฺานคตอุปาทินฺนรูเปหิ สห ฆฏฺฏนปจฺจยภูโต เอโก วิกาโร วจีวิฺตฺติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ กายวิฺตฺติยํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ‘‘ผนฺทมานกายคฺคหณานนฺตร’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘สุยฺยมานสทฺทสวนานนฺตร’’นฺติ โยเชตพฺพํ. อิธ จ สนฺถมฺภนาทีนํ อภาวโต สตฺตมชวนสมุฏฺิตาตฺยาทินโย ¶ น ลพฺภติ. ฆฏฺฏเนน หิ สทฺธึเยว สทฺโท อุปฺปชฺชติ. ฆฏฺฏนฺจ ปมชวนาทีสุปิ ลพฺภเตว. เอตฺถ จ ยถา อุสฺสาเปตฺวา พทฺธโคสีสตาลปณฺณาทิรูปานิ ทิสฺวา ตทนนฺตรปฺปวตฺตาย อวิฺายมานนฺตราย มโนทฺวารวีถิยา โคสีสาทีนํ อุทกสหจาริตปฺปการํ สฺาณํ คเหตฺวา อุทกคฺคหณํ โหติ, เอวํ วิปฺผนฺทมานสมุจฺจาริยมานกายสทฺเท คเหตฺวา ตทนนฺตรปฺปวตฺตาย อวิฺายมานนฺตราย มโนทฺวารวีถิยา ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธูปนิสฺสยาย สาธิปฺปายวิการคฺคหณํ โหตีติ อยํ ทฺวินฺนํ สาธารณา อุปมา.
๑๔. ลหุภาโว ¶ ลหุตา. มุทุภาโว มุทุตา. กมฺมฺภาโว กมฺมฺตา. ยถากฺกมฺเจตา อโรคิโน วิย รูปานํ อครุตา สุปริมทฺทิตจมฺมสฺส วิย อกถินตา สุธนฺตสุวณฺณสฺส วิย สรีรกิริยานํ อนุกูลภาโวติ ทฏฺพฺพํ. อฺมฺํ อวิชหนฺตสฺสปิ หิ ลหุตาทิตฺตยสฺส ตํตํวิการาธิกรูเปหิ นานตฺตํ วุจฺจติ, ทนฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฺปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน หิ รูปวิกาโร ลหุตา. ถทฺธตฺตกรธาตุกฺโขภปฺปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน มุทุตา. สรีรกิริยานํ อนนุกูลภาวกรธาตุกฺโขภปฺปฏิปกฺขปจฺจยสมุฏฺาโน กมฺมฺตาติ.
๑๕. อุปจยนํ อุปจโย, ปมจโยตฺยตฺโถ ‘‘อุปฺตฺต’’นฺตฺยาทีสุ วิย อุป-สทฺทสฺส ปมตฺถโชตนโต. สนฺตาโน สนฺตติ, ปพนฺโธตฺยตฺโถ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ยาว จกฺขาทิทสกานํ อุปฺปตฺติ, เอตฺถนฺตเร รูปุปฺปาโท อุปจโย นาม. ตโต ปรํ สนฺตติ นาม. ยถาสกํ ขณมตฺตฏฺายีนํ รูปานํ นิโรธาภิมุขภาววเสน ชีรณํ ชรา, สาเยว ชรตา, นิจฺจธุวภาเวน น อิจฺจํ อนุปคนฺตพฺพนฺติ อนิจฺจํ, ตสฺส ภาโว อนิจฺจตา, รูปปริเภโท. ลกฺขณรูปํ นาม ธมฺมานํ ตํตํอวตฺถาวเสน ลกฺขณเหตุตฺตา.
๑๖. ชาติรูปเมวาติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย รูปานํ ขเณ ขเณ อุปฺปตฺติภาวโต ชาติสงฺขาตํ รูปุปฺปตฺติภาเวน จตุสนฺตติรูปปฺปฏิพทฺธวุตฺติตฺตา รูปสมฺมตฺจ ชาติรูปเมว อุปจยสนฺตติภาเวน ปวุจฺจติ ปมุปรินิจฺจตฺตสงฺขาตปฺปวตฺติอาการเภทโต เวเนยฺยวเสน ‘‘อุปจโย สนฺตตี’’ติ (ธ. ส. ๖๔๒) วิภชิตฺวา วุตฺตตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ตาสํ นิทฺเทเส อตฺถโต อเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย อายตนานํ อาจโย, โส รูปสฺส อุปจโย. โย รูปสฺส อุปจโย, สา ¶ รูปสฺส สนฺตตี’’ติ (ธ. ส. ๖๔๑-๖๔๒) วุตฺตํ. เอกาทสวิธมฺปีติ สภาคสงฺคหวเสน เอกาทสปฺปการมฺปิ.
๑๗. จตฺตาโร ¶ ภูตา, ปฺจ ปสาทา, จตฺตาโร วิสยา, ทุวิโธ ภาโว, หทยรูปมิจฺจปิ อิทํ ชีวิตาหารรูเปหิ ทฺวีหิ สห อฏฺารสวิธํ, ตถา ปริจฺเฉโท จ ทุวิธา วิฺตฺติ, ติวิโธ วิกาโร, จตุพฺพิธํ ลกฺขณนฺติ รูปานํ ปริจฺเฉทวิการาทิภาวํ วินา วิสุํ ปจฺจเยหิ อนิพฺพตฺตตฺตา อิเม อนิปฺผนฺนา ทส เจติ อฏฺวีสติวิธํ ภเว.
รูปสมุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปวิภาควณฺณนา
๑๘. อิทานิ ยถาอุทฺทิฏฺรูปานํ เอกวิธาทินยทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพฺจ ปเนต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. สมฺปยุตฺตสฺส อโลภาทิเหตุโน อภาวา อเหตุกํ. ยถาสกํ ปจฺจยวนฺตตาย สปฺปจฺจยํ. อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺเตหิ กามาสวาทีหิ สหิตตฺตา สาสวํ. ปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตฺตา สงฺขตํ. อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาเต โลเก นิยุตฺตตาย โลกิยํ. กามตณฺหาย อวจริตตฺตา กามาวจรํ. อรูปธมฺมานํ วิย กสฺสจิ อารมฺมณสฺส อคฺคหณโต นาสฺส อารมฺมณนฺติ อนารมฺมณํ. ตทงฺคาทิวเสน ปหาตพฺพตาภาวโต อปฺปหาตพฺพํ. อิติ-สทฺโท ปการตฺโถ, เตน ‘‘อพฺยากต’’นฺตฺยาทิกํ สพฺพํ เอกวิธนยํ สงฺคณฺหาติ.
๑๙. อชฺฌตฺติกรูปํ อตฺตภาวสงฺขาตํ อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตตฺตา. กามํ อฺเปิ หิ อชฺฌตฺตสมฺภูตา อตฺถิ, รุฬฺหีวเสน ปน จกฺขาทิกํเยว อชฺฌตฺติกํ. อถ วา ‘‘ยทิ มยํ น โหม, ตฺวํ กฏฺกลิงฺครูปโม ภวิสฺสสี’’ติ วทนฺตา วิย อตฺตภาวสฺส ¶ สาติสยํ อุปการตฺตา จกฺขาทีเนว วิเสสโต อชฺฌตฺติกานิ นาม. อตฺตสงฺขาตํ วา จิตฺตํ อธิกิจฺจ ตสฺส ทฺวารภาเวน ปวตฺตตีติ อชฺฌตฺตํ, ตเทว อชฺฌตฺติกํ. ตโต พหิภูตตฺตา อิตรํ เตวีสติวิธํ พาหิรรูปํ.
๒๐. อิตรํ พาวีสติวิธํ อวตฺถุรูปํ.
๒๒. อฏฺวิธมฺปิ ¶ อินฺทฺริยรูปํ ปฺจวิฺาเณสุ ลิงฺคาทีสุ สหชรูปปริปาลเน จ อาธิปจฺจโยคโต. ปสาทรูปสฺส หิ ปฺจวิธสฺส จกฺขุวิฺาณาทีสุ อาธิปจฺจํ อตฺตโน ปฏุมนฺทาทิภาเวน เตสมฺปิ ปฏุมนฺทาทิภาวาปาทนโต. ภาวทฺวยสฺสาปิ อิตฺถิลิงฺคาทีสุ อาธิปจฺจํ ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชมานานมฺปิ เตสํ เยภุยฺเยน สภาวกสนฺตาเนเยว ตํตทากาเรน อุปฺปชฺชนโต, น ปน อินฺทฺริยปจฺจยภาวโต. ชีวิตสฺส จ กมฺมชปริปาลเน อาธิปจฺจํ เตสํ ยถาสกํ ขณฏฺานสฺส ชีวิตินฺทฺริยปฺปฏิพทฺธตฺตา. สยฺจ อตฺตนา ปิตธมฺมสมฺพนฺเธเนว ปวตฺตติ นาวิโก วิย.
๒๓. วิสยวิสยิภาวปฺปตฺติวเสน ถูลตฺตา โอฬาริกรูปํ. ตโตเยว คหณสฺส สุกรตฺตา สนฺติเกรูปํ อาสนฺนรูปํ นาม. โย สยํ, นิสฺสยวเสน จ สมฺปตฺตานํ, อสมฺปตฺตานฺจ ปฏิมุขภาโว อฺมฺปตนํ, โส ปฏิโฆ วิยาติ ปฏิโฆ. ยถา หิ ปฏิฆาเต สติ ทุพฺพลสฺส จลนํ โหติ, เอวํ อฺมฺํ ปฏิมุขภาเว สติ อรูปสภาวตฺตา ทุพฺพลสฺส ภวงฺคสฺส จลนํ โหติ. ปฏิโฆ ยสฺส อตฺถิ ตํ สปฺปฏิฆํ. ตตฺถ สยํ สมฺปตฺติ โผฏฺพฺพสฺส, นิสฺสยวเสน สมฺปตฺติ ฆานชิวฺหากายคนฺธรสานํ, อุภยถาปิ อสมฺปตฺติ จกฺขุโสตรูปสทฺทานนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิตรํ โสฬสวิธํ โอฬาริกตาทิสภาวาภาวโต สุขุมรูปาทิกํ.
๒๔. กมฺมโต ¶ ชาตํ อฏฺารสวิธํ อุปาทินฺนรูปํ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุเปเตน กมฺมุนา อตฺตโน ผลภาเวน อาทินฺนตฺตา คหิตตฺตา. อิตรํ อคฺคหิตคฺคหเณนทสวิธํ อนุปาทินฺนรูปํ.
๒๕. ทฏฺพฺพภาวสงฺขาเตน นิทสฺสเนน สห วตฺตตีติ สนิทสฺสนํ. จกฺขุวิฺาณโคจรภาโว หิ นิทสฺสนนฺติ วุจฺจติ ตสฺส จ รูปายตนโต อนฺตฺเตปิ อฺเหิ ธมฺเมหิ ตํ วิเสเสตุํ อฺํ วิย กตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏตีติ สห นิทสฺสเนน สนิทสฺสนนฺติ. ธมฺมภาวสามฺเน หิ เอกีภูเตสุ ธมฺเมสุ โย นานตฺตกโร วิเสโส, โส อฺโ วิย กตฺวา อุปจริตุํ ยุตฺโต. เอวฺหิ อตฺถวิเสสาวโพโธ โหติ.
๒๖. อสมฺปตฺตวเสนาติ อตฺตานํ อสมฺปตฺตสฺส โคจรสฺส วเสน, อตฺตนา วิสยปฺปเทสํ วา อสมฺปตฺตวเสน. จกฺขุโสตานิ หิ รูปสทฺเทหิ อสมฺปตฺตานิ, สยํ วา ตานิ อสมฺปตฺตาเนว อารมฺมณํ คณฺหนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘จกฺขุโสตํ ¶ ปเนเตสุ, โหตาสมฺปตฺตคาหกํ;
วิฺาณุปฺปตฺติเหตุตฺตา, สนฺตราธิกโคจเร.
‘‘ตถา หิ ทูรเทสฏฺํ, ผลิกาทิติโรหิตํ;
มหนฺตฺจ นคาทีนํ, วณฺณํ จกฺขุ อุทิกฺขติ.
‘‘อากาสาทิคโต กุจฺฉิ-จมฺมานนฺตริโกปิ จ;
มหนฺโต จ ฆณฺฏาทีนํ, สทฺโท โสตสฺส โคจโร.
‘‘คนฺตฺวา วิสยเทสํ ตํ, ผริตฺวา คณฺหตีติ เจ;
อธิฏฺานวิธาเนปิ, ตสฺส โส โคจโร สิยา.
‘‘ภูตปฺปพนฺธโต โส เจ, ยาติ อินฺทฺริยสนฺนิธึ;
กมฺมจิตฺโตชสมฺภูโต, วณฺโณ สทฺโท จ จิตฺตโช.
‘‘น เตสํ โคจรา โหนฺติ, น หิ สมฺโภนฺติ เต พหิ;
วุตฺตา จ อวิเสเสน, ปาเ ตํวิสยาว เต.
‘‘ยทิ ¶ เจตํ ทฺวยํ อตฺตสมีปํเยว คณฺหติ;
อกฺขิวณฺณํ ตถา มูลํ, ปสฺเสยฺย ภมุกสฺส จ.
‘‘ทิสาเทสววตฺถานํ, สทฺทสฺส น ภเวยฺย จ;
สิยา จ สรเวธิสฺส, สกณฺเณ สรปาตน’’นฺติ.
โคจรคฺคาหิกรูปํ วิฺาณาธิฏฺิตํ หุตฺวา ตํตํโคจรคฺคหณสภาวตฺตา. อิตรํ เตวีสติวิธํ อโคจรคฺคาหิกรูปํ โคจรคฺคหณาภาวโต.
๒๗. วณฺณิตพฺโพ ทฏฺพฺโพติ วณฺโณ. อตฺตโน อุทยานนฺตรํ รูปํ ชเนตีติ โอชา. อวินิพฺโภครูปํ ¶ กตฺถจิปิ อฺมฺํ วินิภฺุชนสฺส วิสุํ วิสุํ ปวตฺติยา อภาวโต. รูปโลเก คนฺธาทีนํ อภาววาทิมตมฺปิ หิ ตตฺถ ตตฺถ (วิภ. มูลฏี. ๒๒๗; วิภ. อนุฏี. ๒๒๗) อาจริเยหิ ปฏิกฺขิตฺตเมว.
๒๘. อิจฺเจวนฺติ เอตฺถปิ อิติ-สทฺโท ปการตฺโถ, เตน อิธ อนาคตมฺปิ สพฺพํ ทุกติกาทิเภทํ สงฺคณฺหาติ.
รูปวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปสมุฏฺานนยวณฺณนา
๒๙. กานิ ปน ตานิ กมฺมาทีนิ, กถํ, กตฺถ, กทา จ รูปสมุฏฺานานีติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ตฺยาทิ. ปฏิสนฺธิมุปาทายาติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขณํ อุปาทาย. ขเณ ขเณติ เอเกกสฺส จิตฺตสฺส ตีสุ ตีสุ ขเณสุ, นิรนฺตรเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อปเร ปน จิตฺตสฺส ิติกฺขณํ (วิภ. มูลฏี. ๒๐ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา), ภงฺคกฺขเณ จ รูปุปฺปาทํ (วิภ. มูลฏี. ๒๐ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) ปฏิเสเธนฺติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ิติกฺขณาภาเว เตสํ อุปปตฺติ เจว ตตฺถ วตฺตพฺพฺจ เหฏฺา กถิตเมว, อิธาปิ ¶ ปน ภงฺคกฺขเณ รูปุปฺปาทาภาเว อุปปตฺติยา ตตฺถ วตฺตพฺเพน จ สห สุขคฺคหณตฺถํ สงฺคเหตฺวา วุจฺจติ –
‘‘อุปฺปนฺนุปฺปชฺชมานนฺติ, วิภงฺเค เอวมาทินํ;
ภงฺคกฺขณสฺมึ อุปฺปนฺนํ, โน จ อุปฺปชฺชมานกํ.
‘‘อุปฺปชฺชมานมุปฺปาเท, อุปฺปนฺนฺจาติอาทินา;
ภงฺคุปฺปาทาว อกฺขาตา, น จิตฺตสฺส ิติกฺขโณ.
‘‘‘อุปฺปาโท ¶ จ วโย เจว, อฺถตฺตํ ิตสฺส จ;
ปฺายตี’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗) วุตฺตตฺตา, ิติ อตฺถีติ เจ มตํ.
‘‘อฺถตฺตสฺส เอกสฺมึ, ธมฺเม อนุปลทฺธิโต;
ปฺาณวจนา เจว, ปพนฺธฏฺิติ ตตฺถปิ.
‘‘วุตฺตา ตสฺมา น จิตฺตสฺส, ิติ ทิสฺสติ ปาฬิยํ;
อภิธมฺเม อภาโวปิ, นิเสโธเยว สพฺพถา.
‘‘ยทา สมุทโย ยสฺส, นิรุชฺฌติ ตทาสฺส กึ;
ทุกฺขมุปฺปชฺชตีตฺเยตฺถ, ปฺเห โนติ นิเสธโต.
‘‘รูปุปฺปาโท น ภงฺคสฺมึ, ตสฺมา สพฺเพปิ ปจฺจยา;
อุปฺปาเทเยว จิตฺตสฺส, รูปเหตูติ เกจน.
‘‘วุจฺจเต ตตฺถ เอกสฺมึ, ธมฺเมเยว ยถา มตา;
อุปฺปาทาวตฺถโต ภินฺนา, ภงฺคาวตฺถา ตเถว ตุ.
‘‘ภงฺคสฺสาภิมุขาวตฺถา, อิจฺฉิตพฺพา อยํ ิติ;
นยทสฺสนโต เอสา, วิภงฺเค น ตุ เทสิตา.
‘‘ลกฺขณํ สงฺขตสฺเสว, วตฺตุมุปฺปาทอาทินํ;
เทสิตตฺตา น ตตฺถาปิ, ปพนฺธสฺส ิตีริตา.
‘‘อุปสคฺคสฺส ธาตูนมตฺเถเยว ปวตฺติโต;
ปฺายตีติ เจตสฺส, อตฺโถ วิฺายเต อิติ.
‘‘ภงฺเค ¶ ¶ รูปสฺส นุปฺปาโท, จิตฺตชานํ วเสน วา;
อารุปฺปํวาภิสนฺธาย, ภาสิโต ยมกสฺส หิ.
‘‘สภาโวยํ ยถาลาภ-โยชนาติ ตโต นหิ;
น จิตฺตฏฺิติ ภงฺเค จ, น รูปสฺส อสมฺภโว’’ติ.
๓๑. รูปวิราคภาวนานิพฺพตฺตตฺตา เหตุโน ตพฺพิธุรตาย, อโนกาสตาย จ อรูปวิปากา, รูปชนเน วิเสสปจฺจเยหิ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคาภาวโต ทฺวิปฺจวิฺาณานิ จาติ จุทฺทส จิตฺตานิ รูปํ น สมุฏฺาเปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อารุปฺปวิปากทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิต’’นฺติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ, ปน จุติจิตฺตฺจ เอกูนวีสติ ภวงฺคสฺเสว อนฺโตคธตฺตา จิตฺตนฺตรํ น โหตีติ น ตสฺส วชฺชนํ กตํ. กิฺจาปิ น กตํ, ปจฺฉาชาตปจฺจยรหิตํ, ปน อาหาราทีหิ จ อนุปตฺถทฺธํ ทุพฺพลวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตตฺตา, อตฺตโน จ อาคนฺตุกตาย กมฺมชรูเปหิ จิตฺตสมุฏฺานรูปานํ านํ คเหตฺวา ิตตฺตา จ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ รูปสมุฏฺาปกํ น โหติ. จุติจิตฺเต ปน อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๖; วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา) ตาว ‘‘วูปสนฺตวฏฺฏมูลสฺมึ สนฺตาเน สาติสยํ สนฺตวุตฺติตาย ขีณาสวสฺเสว จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตี’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๖๓๖) วุตฺตํ. อานนฺทาจริยาทโย ปน ‘‘สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตี’’ติ วทนฺติ. วินิจฺฉโย ปน เนสํ สงฺเขปโต มูลฏีกาทีสุ, วิตฺถารโต จ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ. ปมภวงฺคมุปาทายาติ ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรนิพฺพตฺตปมภวงฺคโต ปฏฺาย. ชายนฺตเมว สมุฏฺาเปติ, น ปน ิตํ, ภิชฺชมานํ วา อนนฺตราทิปจฺจยลาเภน อุปฺปาทกฺขเณเยว ชนกสามตฺถิยโยคโต.
๓๒. อิริยาย กายิกกิริยาย ปวตฺติปถภาวโต อิริยาปโถ, คมนาทิ, อตฺถโต ตทวตฺถา รูปปฺปวตฺติ. ตมฺปิ ¶ สนฺธาเรติ ยถาปวตฺตํ อุปตฺถมฺเภติ. ยถา หิ วีถิจิตฺเตหิ อพฺโพกิณฺเณ ภวงฺเค ปวตฺตมาเน องฺคานิ โอสีทนฺติ, น เอวเมเตสุ ทฺวตฺตึสวิเธสุ, วกฺขมาเนสุ จ ฉพฺพีสติยา ชาครณจิตฺเตสุ ปวตฺตมาเนสุ. ตทา ปน องฺคานิ อุปตฺถทฺธานิ ยถาปวตฺตอิริยาปถภาเวเนว ปวตฺตนฺติ.
๓๓. วิฺตฺติมฺปิ สมุฏฺาเปนฺติ, น เกวลํ รูปิริยาปถาเนว. อวิเสสวจเนปิ ปเนตฺถ มโนทฺวารปฺปวตฺตาเนว ¶ โวฏฺพฺพนชวนานิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกานิ, ตถา หาสชนกานิ จ ปฺจทฺวารปฺปวตฺตานํ ปริทุพฺพลภาวโตติ ทฏฺพฺพํ. กามฺเจตฺถ รูปวินิมุตฺโต อิริยาปโถ, วิฺตฺติ วา นตฺถิ, ตถาปิ น สพฺพํ รูปสมุฏฺาปกํ จิตฺตํ อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ, วิฺตฺติวิการชนกฺจ โหติ. ยํ ปน จิตฺตํ วิฺตฺติชนกํ, ตํ เอกํสโต อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ อิริยาปถสฺส วิฺตฺติยา สห อวินาภาวโต. อิริยาปถูปตฺถมฺภกฺจ รูปชนกนฺติ อิมสฺส วิเสสทสฺสนตฺถํ รูปโต อิริยาปถวิฺตฺตีนํ วิสุํ คหณํ.
๓๔. เตรสาติ กุสลโต จตฺตาริ, อกุสลโต จตฺตาริ, กิริยโต ปฺจาติ เตรส. เตสุ หิ ปุถุชฺชนา อฏฺหิ กุสลากุสเลหิ หสนฺติ, เสกฺขา ทิฏฺิสหคตวชฺชิเตหิ, อเสกฺขา ปน ปฺจหิ กิริยจิตฺเตหิ, ตตฺถาปิ พุทฺธา จตูหิ สเหตุกกิริยจิตฺเตเหว หสนฺติ, น อเหตุเกน ‘‘อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตาณํ ปตฺวา อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺตี’’ติ วจนโต (มหานิ. ๖๙; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). น หิ วิจารณปฺารหิตสฺส หสิตุปฺปาทสฺส พุทฺธานํ ปวตฺติ ยุตฺตาติ วทนฺติ. หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปน ปวตฺติยมานมฺปิ เตสํ สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสสพฺพฺุตฺาณานํ อนุวตฺตกตฺตา าณานุปริวตฺติเยวาติ. เอวฺจ กตฺวา อฏฺกถายํ ¶ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๖๘) ‘‘เตสํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ หาสยมานํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา น ตสฺส พุทฺธานํ ปวตฺติ สกฺกา นิวาเรตุํ.
๓๕. ปจฺฉาชาตาทิปจฺจยูปตฺถมฺภลาเภน ิติกฺขเณเยว อุตุโอชานํ พลวภาโวติ วุตฺตํ ‘‘เตโชธาตุ ิติปฺปตฺตา’’ตฺยาทิ.
๓๗. ตตฺถ หทยอินฺทฺริยรูปานิ นว กมฺมโตเยว ชาตตฺตา กมฺมชาเนว. ยฺหิ ชาตํ, ชายติ, ชายิสฺสติ จ, ตํ ‘‘กมฺมช’’นฺติ วุจฺจติ ยถา ทุทฺธนฺติ.
๔๐. ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจยาเปกฺขตฺตา ลหุตาทิตฺตยํ กมฺมชํ น โหติ, อิตรถา สพฺพทาภาวีหิ ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘ลหุตาทิตฺตยํ อุตุจิตฺตาหาเรหิ สมฺโภตี’’ติ.
๔๓. เอกนฺตกมฺมชานิ ¶ นว, จตุเชสุ กมฺมชานิ นวาติ อฏฺารส กมฺมชานิ, ปฺจวิการรูปสทฺทอวินิพฺโภครูปอากาสวเสน ปนฺนรส จิตฺตชานิ, สทฺโท, ลหุตาทิตฺตยํ, อวินิพฺโภคากาสรูปานิ นวาติ เตรส อุตุชานิ, ลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคากาสวเสน ทฺวาทส อาหารชานิ.
๔๔. เกวลํ ชายมานาทิรูปานํ ชายมานปริปจฺจมานภิชฺชมานรูปานํ สภาวตฺตา สภาวมตฺตํ วินา อตฺตโน ชาติอาทิลกฺขณาภาวโต ลกฺขณานิ เกหิจิ ปจฺจเยหิ น ชายนฺตีติ ปกาสิตํ. อุปฺปาทาทิยุตฺตานฺหิ จกฺขาทีนํ ชาติอาทีนิ ลกฺขณานิ วิชฺชนฺติ, น เอวํ ชาติอาทีนํ. ยทิ เตสมฺปิ ชาติอาทีนิ สิยุํ, เอวํ อนวตฺถานเมว อาปชฺเชยฺย. ยํ ปน ‘‘รูปายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโร. อิเม ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานา’’ตฺยาทีสุ (ธ. ส. ๑๒๐๑) ชาติยา กุโตจิชาตตฺตํ อนฺุาตํ ¶ , ตมฺปิ รูปชนกปจฺจยานํ รูปุปฺปาทนํ ปติ อนุปรตพฺยาปารานํ ปจฺจยภาวูปคมนกฺขเณ ชายมานธมฺมวิการภาเวน อุปลพฺภมานตํ สนฺธายาติ ทฏฺพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘ชาติ, ภิกฺขเว, อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วจนํ (สํ. นิ. ๒.๒๐), ตตฺถาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ลกฺขณภาวโตติ อยเมตฺถาภิสนฺธิ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ปาเ กุโตจิ ชาตตฺตํ, ชาติยา ปริยายโต;
สงฺขตานํ สภาวตฺตา, ตีสุ สงฺขตโตทิตา’’ติ.
รูปสมุฏฺานนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
กลาปโยชนาวณฺณนา
๔๕. ยสฺมา ปเนตานิ รูปานิ กมฺมาทิโต อุปฺปชฺชมานานิปิ น เอเกกํ สมุฏฺหนฺติ, อถ โข ปิณฺฑโตว. ตสฺมา ปิณฺฑานํ คณนปริจฺเฉทํ, สรูปฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกุปฺปาทา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ ¶ . สหวุตฺติโนติ วิสุํ วิสุํ กลาปคตรูปวเสน สหวุตฺติโน, น สพฺพกลาปานํ อฺมฺํ สหุปฺปตฺติวเสน.
๔๖. ทส ปริมาณา อสฺสาติ ทสกํ, สมุทายสฺเสตํ นามํ, จกฺขุนา อุปลกฺขิตํ, ตปฺปธานํ วา ทสกํ จกฺขุทสกํ. เอวํ เสเสสุปิ.
๔๗. วจีวิฺตฺติคฺคหเณน สทฺโทปิ สงฺคหิโต โหติ ตสฺสา ตทวินาภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘วจีวิฺตฺติทสก’’นฺติ.
๕๐. กึ ¶ ปเนเต เอกวีสติ กลาปา สพฺเพปิ สพฺพตฺถ โหนฺติ, อุทาหุ เกจิ กตฺถจีติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ตฺยาทิ.
กลาปโยชนาวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปปวตฺติกฺกมวณฺณนา
๕๒. อิทานิ เนสํ สมฺภววเสน, ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน, โยนิวเสน จ ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพานิปิ ปเนตานี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ยถารหนฺติ สภาวกปริปุณฺณายตนานํ อนุรูปโต.
๕๓. กมลกุหรคพฺภมลาทิสํเสทฏฺาเนสุ ชาตา สํเสทชา. อุปปาโต เนสํ อตฺถีติ โอปปาติกา, อุกฺกํสคติปริจฺเฉทวเสน เจตฺถ วิสิฏฺอุปปาโต คหิโต ยถา ‘‘อภิรูปสฺส กฺา ทาตพฺพา’’ติ. สตฺต ทสกานิ ปาตุภวนฺติ ปริปุณฺณายตนภาเวน อุปลพฺภนโต. กทาจิ น ลพฺภนฺติ ชจฺจนฺธชจฺจพธิรชจฺจาฆานนปุํสกอาทิกปฺปิกานํ วเสน. ตตฺถ สุคติยํ มหานุภาเวน กมฺมุนา นิพฺพตฺตมานานํ โอปปาติกานํ อินฺทฺริยเวกลฺลาโยคโต จกฺขุโสตฆานาลาโภ สํเสทชานํ, ภาวาลาโภ ปมกปฺปิกโอปปาติกานํ วเสนปิ. ทุคฺคติยํ ปน จกฺขุโสตภาวาลาโภ ทฺวินฺนมฺปิ วเสน, ฆานาลาโภ สํเสทชานเมว วเสน, น โอปปาติกานํ ¶ วเสนาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ ธมฺมหทยวิภงฺเค ‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทส, กสฺสจิ อปรานิปิ ทส, กสฺสจิ นว, กสฺสจิ สตฺตา’’ติ (วิภ. ๑๐๐๗) วจนโต ปริปุณฺณินฺทฺริยสฺส โอปปาติกสฺส สทฺทายตนวชฺชิตานิ เอกาทสายตนานิ วุตฺตานิ. อนฺธสฺส จกฺขายตนวชฺชิตานิ ¶ ทส, ตถา พธิรสฺส โสตายตนวชฺชิตานิ, อนฺธพธิรสฺส ตทุภยวชฺชิตานิ นว, คพฺภเสยฺยกสฺส จกฺขุโสตฆานชิวฺหาสทฺทายตนวชฺชิตานิสตฺตายตนานิ วุตฺตานิ. ยทิ ปน อฆานโกปิ โอปปาติโก สิยา, อนฺธพธิราฆานกานํ วเสน ติกฺขตฺตุํ ทส, อนฺธพธิรอนฺธาฆานกพธิราฆานกานํ วเสน ติกฺขตฺตุํ นว, อนฺธพธิราฆานกสฺส วเสน จ อฏฺ อายตนานิ วตฺตพฺพานิ สิยุํ, น ปเนวํ วุตฺตานิ. ตสฺมา นตฺถิ โอปปาติกสฺส ฆานเวกลฺลนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ ยมกฏฺกถายํ ‘‘อฆานโก โอปปาติโก นตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, กสฺสจิ อฏฺายตนานีติ วเทยฺยา’’ติ (ยม. อฏฺ. อายตนยมก. ๑๘-๒๑).
สํเสทชานํ ปน ฆานาภาโว น สกฺกา นิวาเรตุํ ‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ’’ตฺยาทิปาฬิยา (วิภ. ๑๐๐๗) โอปปาติกโยนิเมว สนฺธาย, สตฺตายตนคฺคหณสฺส จ อฺเสํ อสมฺภวโต คพฺภเสยฺยกเมว สนฺธาย วุตฺตตฺตา. ยํ ปน ‘‘สํเสทชโยนิกา ปริปุณฺณายตนภาเวน โอปปาติกสงฺคหํ กตฺวา วุตฺตา’’ติ อฏฺกถาวจนํ, ตมฺปิ ปริปุณฺณายตนํเยว สํเสทชานํ โอปปาติเกสุ สงฺคหวเสน วุตฺตํ. อปเร ปน ยมเก ฆานชิวฺหานํ สหจาริตา วุตฺตาติ อชิวฺหสฺส อสมฺภวโต อฆานกสฺสปิ อภาวเมว วณฺเณนฺติ, ตตฺถาปิ ยถา จกฺขุโสตานิ รูปภเว ฆานชิวฺหาหิ วินา ปวตฺตนฺติ, น เอวํ ฆานชิวฺหา อฺมฺํ วินา ปวตฺตนฺติ ทฺวินฺนมฺปิ รูปภเว อนุปฺปชฺชนโตติ เอวํ วิสุํ วิสุํ กามภเว อปฺปวตฺติวเสน เตสํ สหจาริตา วุตฺตาติ น น สกฺกา วตฺตุนฺติ.
๕๔. คพฺเภ มาตุกุจฺฉิยํ เสนฺตีติ คพฺภเสยฺยกา, เตเยว รูปาทีสุ สตฺตตาย สตฺตาติ คพฺภเสยฺยกสตฺตา. เอเต ¶ อณฺฑชชลาพุชา. ตีณิ ทสกานิ ปาตุภวนฺติ, ยานิ ‘‘กลลรูป’’นฺติ วุจฺจนฺติ, ปริปิณฺฑิตานิ จ ตานิ ชาติอุณฺณาย เอกสฺส อํสุโน ปสนฺนติลเตเล ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺตานิ อจฺฉานิ วิปฺปสนฺนานิ. กทาจิ น ลพฺภติ อภาวกสตฺตานํ วเสน. ตโต ปรนฺติ ปฏิสนฺธิโต ปรํ. ปวตฺติกาเลติ สตฺตเม สตฺตาเห, ฏีกาการมเตน เอกาทสเม สตฺตาเห วา. กเมนาติ จกฺขุทสกปาตุภาวโต สตฺตาหาติกฺกเมน โสตทสกํ ¶ , ตโต สตฺตาหาติกฺกเมน ฆานทสกํ, ตโต สตฺตาหาติกฺกเมน ชิวฺหาทสกนฺติ เอวํ อนุกฺกเมน. อฏฺกถายมฺปิ หิ อยมตฺโถ ทสฺสิโตว.
๕๕. ิติกาลนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกาลํ. ปฏิสนฺธิจิตฺตสหชาตา หิ อุตุ านปฺปตฺตา ตสฺส ิติกฺขเณ สุทฺธฏฺกํ สมุฏฺาเปติ, ตทา อุปฺปนฺนา ภงฺคกฺขเณตฺยาทินา อนุกฺกเมน อุตุ รูปํ ชเนติ. โอชาผรณมุปาทายาติ คพฺภเสยฺยกสฺส มาตุ อชฺโฌหฏาหารโต สํเสทโชปปาติกานฺจ มุขคตเสมฺหาทิโต โอชาย รสหรณีอนุสาเรน สรีเร ผรณกาลโต ปฏฺาย.
๕๖. จุติจิตฺตํ อุปริมํ เอตสฺสาติ จุติจิตฺโตปริ. กมฺมชรูปานิ น อุปฺปชฺชนฺติ ตทุปฺปตฺติยํ มรณาภาวโต. กมฺมชรูปวิจฺเฉเท หิ ‘‘มโต’’ติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติมํ;
อปวิทฺโธ ตทา เสติ, นิรตฺถํว กลิงฺคร’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕ โถกํ วิสทิสํ);
ปุเรตรนฺติ สตฺตรสมสฺส อุปฺปาทกฺขเณ. ตโตปรํ จิตฺตชาหารชรูปฺจ โวจฺฉิชฺชตีติ อชีวกสนฺตาเน เตสํ อุปฺปตฺติยา ¶ อภาวโต ยถานิพฺพตฺตํ จิตฺตชํ, อาหารชฺจ ตโต ปรํ กิฺจิ กาลํ ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌติ. อปเร ปน อาจริยา ‘‘จิตฺตชรูปํ จุติจิตฺตโต ปุเรตรเมว โวจฺฉิชฺชตี’’ติ วณฺเณนฺติ.
๕๘. รูปโลเก ฆานชิวฺหากายานํ อภาเว การณํ วุตฺตเมว. ภาวทฺวยํ ปน พหลกามราคูปนิสฺสยตฺตา พฺรหฺมานฺจ ตทภาวโต ตตฺถ น ปวตฺตติ. อาหารชกลาปานิ จ น ลพฺภนฺติ อชฺโฌหฏาหาราภาเวน สรีรคตสฺสปิ อาหารสฺส รูปสมุฏฺาปนาภาวโต. พาหิรฺหิ อุตุํ, อาหารฺจ อุปนิสฺสยํ ลภิตฺวา อุตุอาหารา รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ. ชีวิตนวกนฺติ กายาภาวโต กายทสกฏฺานิยํ ชีวิตนวกํ.
๕๙. อติริจฺฉติ เสสพฺรหฺมานํ ปฏิสนฺธิยํ, ปวตฺเต จ อุปลภิตพฺพรูปโต อวสิฏฺํ โหติ ¶ , มรณกาเล ปน พฺรหฺมานํ สรีรนิกฺเขปาภาวโต สพฺเพสมฺปิ ติสมุฏฺานานิ, ทฺวิสมุฏฺานานิ จ สเหว นิรุชฺฌนฺติ.
๖๑. รูเปสุ เตวีสติ ฆานชิวฺหากายภาวทฺวยวเสน ปฺจนฺนํ อภาวโต. เกจิ ปน ‘‘ลหุตาทิตฺตยมฺปิ เตสุ นตฺถิ ทนฺธตฺตกราทิธาตุกฺโขภาภาวโต’’ติ วทนฺติ, ตํ อการณํ. น หิ วูปสเมตพฺพาเปกฺขา ตพฺพิโรธิธมฺมปฺปวตฺติ ตถา สติ สเหตุกกิริยจิตฺเตสุ ลหุตาทีนํ อภาวปฺปสงฺคโต. ‘‘สทฺโท วิกาโร’’ตฺยาทิ สพฺเพสมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํ.
รูปปวตฺติกฺกมวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิพฺพานเภทวณฺณนา
๖๒. เอตฺตาวตา ¶ จิตฺตเจตสิกรูปานิ วิภาคโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ นิพฺพานํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘นิพฺพานํ ปนา’’ตฺยาทิ. ‘‘จตุมคฺคาเณน สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติ อิมินา นิพฺพานสฺส ตํตํอริยปุคฺคลานํ ปจฺจกฺขสิทฺธตํ ทสฺเสติ. ‘‘มคฺคผลานมารมฺมณภูต’’นฺติ อิมินา กลฺยาณปุถุชฺชนานํ อนุมานสิทฺธตํ. สงฺขตธมฺมารมฺมณฺหิ, ปฺตฺตารมฺมณํ วา าณํ กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสมฺภเน อสมตฺถํ, อตฺถิ จ โลเก กิเลสสมุจฺเฉทาทิ. ตสฺมา อตฺถิ สงฺขตสมฺมุติธมฺมวิปรีโต กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิกรานํ มคฺคผลานํ อารมฺมณภูโต นิพฺพานํ นาม เอโก ธมฺโมติ สิทฺธํ. ปจฺจกฺขานุมานสิทฺธตาสนฺทสฺสเนน จ อภาวมตฺตํ นิพฺพานนฺติ วิปฺปฏิปนฺนานํ วาทํ นิเสเธตีติ อลมติปฺปปฺเจน. ขนฺธาทิเภเท เตภูมกธมฺเม เหฏฺุปริยวเสน วินนโต สํสิพฺพนโต วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตตฺตา วิสยาติกฺกมวเสน อตีตตฺตา.
๖๓. สภาวโตติ อตฺตโน สนฺติลกฺขเณน. อุปาทียติ กามุปาทาทีหีติ อุปาทิ, ปฺจกฺขนฺธสฺเสตํ อธิวจนํ, อุปาทิเยว เสโส กิเลเสหีติ อุปาทิเสโส, เตน สห วตฺตตีติ สอุปาทิเสสา ¶ , สา เอว นิพฺพานธาตูติ สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ. การณปริยาเยนาติ สอุปาทิเสสาทิวเสน ปฺาปเน การณภูตสฺส อุปาทิเสส ภาวาภาวสฺส เลเสน.
๖๔. อารมฺมณโต, สมฺปโยคโต จ ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สฺุํ, สฺุเมว สฺุตํ, ตถา ราคาทินิมิตฺตรหิตตฺตา อนิมิตฺตํ. ราคาทิปณิธิรหิตตฺตา อปฺปณิหิตํ. สพฺพสงฺขาเรหิ วา สฺุตฺตา สฺุตํ. สพฺพสงฺขารนิมิตฺตาภาวโต ¶ อนิมิตฺตํ. ตณฺหาปณิธิยา อภาวโต อปฺปณิหิตํ.
๖๕. จวนาภาวโต อจฺจุตํ. อนฺตสฺส ปริโยสานสฺส อติกฺกนฺตตฺตา อจฺจนฺตํ. ปจฺจเยหิ อสงฺขตตฺตา อสงฺขตํ. อตฺตโน อุตฺตริตรสฺส อภาวโต, สหธมฺเมน วตฺตพฺพสฺส อุตฺตรสฺส วา อภาวโต อนุตฺตรํ. วานโต ตณฺหาโต มุตฺตตฺตา สพฺพโส อปคตตฺตา วานมุตฺตา. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิเก เอสนฺติ คเวสนฺตีติ มเหสโย. ‘‘อิติ จิตฺต’’นฺตฺยาทิ ฉหิ ปริจฺเฉเทหิ วิภตฺตานํ จิตฺตาทีนํ นิคมนํ.
นิพฺพานเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
รูปปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สมุจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. สลกฺขณา จินฺตนาทิสลกฺขณา จิตฺตเจตสิกนิปฺผนฺนรูปนิพฺพานวเสน ทฺวาสตฺตติปเภทา วตฺถุธมฺมา สภาวธมฺมา วุตฺตา, อิทานิ เตสํ ยถาโยคํ สภาวธมฺมานํ เอเกกสมุจฺจยวเสน โยคานุรูปโต อกุสลสงฺคหาทิเภทํ สมุจฺจยํ ราสึ ปวกฺขามีติ โยชนา.
๒. อกุสลานเมว ¶ สภาคธมฺมวเสน สงฺคโห อกุสลสงฺคโห. กุสลาทิวเสน มิสฺสกานํ สงฺคโห มิสฺสกสงฺคโห, สจฺจาภิสมฺโพธิสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส ปกฺเข ภวานํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ สติปฏฺานาทิเภทานํ สภาควตฺถุวเสน สงฺคโห โพธิปกฺขิยสงฺคโห. ขนฺธาทิวเสน สพฺเพสํ สงฺคโห สพฺพสงฺคโห.
อกุสลสงฺคหวณฺณนา
๓. ปุพฺพโกฏิยา ¶ อปฺายนโต จิรปาริวาสิยฏฺเน, วณโต วา วิสฺสนฺทมานยูสา วิย จกฺขาทิโต วิสเยสุ วิสฺสนฺทนโต อาสวา. อถ วา ภวโต อาภวคฺคํ ธมฺมโต อาโคตฺรภุํ สวนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อาสวา. อวธิอตฺโถ เจตฺถ อา-กาโร, อวธิ จ มริยาทาภิวิธิวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ‘‘อาปาฏลิปุตฺตํ วุฏฺโ เทโว’’ตฺยาทีสุ วิย กิริยํ พหิ กตฺวา ปวตฺโต มริยาโท. ‘‘อาภวคฺคํ สทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ตฺยาทีสุ วิย กิริยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺโต อภิวิธิ. อิธ ปน อภิวิธิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตถา เหเต นิพฺพตฺติฏฺานภูเต จ ภวคฺเค, โคตฺรภุมฺหิ จ อารมฺมณภูเต ปวตฺตนฺติ. วิชฺชมาเนสุ จ อฺเสุ อาภวคฺคํ, อาโคตฺรภฺุจ สวนฺเตสุ มานาทีสุ อตฺตตฺตนิยคฺคหณวเสน อภิพฺยาปนโต มทกรณฏฺเน อาสวสทิสตาย จ เอเตเยว อาสวภาเวน นิรุฬฺหาติ ทฏฺพฺพํ. กาโมเยว อาสโว กามาสโว, กามราโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภวาสโว. ฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. ตตฺถ ปโม อุปปตฺติภเวสุ ราโค, ทุติโย กมฺมภเว, ตติโย ภวทิฏฺิสหคโต. ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ ทิฏฺาสโว. ทุกฺขาทีสุ จตูสุ สจฺเจสุ, ปุพฺพนฺเต, อปรนฺเต, ปุพฺพาปรนฺเต, ปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ จาติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาสโว.
๔. โอตฺถริตฺวา หรณโต, โอหนนโต วา เหฏฺา กตฺวา หนนโต โอสีทาปนโต ‘‘โอโฆ’’ติ วุจฺจติ ชลปฺปวาโห, เอเต จ สตฺเต โอตฺถริตฺวา หนนฺตา วฏฺฏสฺมึ สตฺเต โอสีทาเปนฺตา วิย โหนฺตีติ โอฆสทิสตาย โอฆา ¶ , อาสวาเยว ปเนตฺถ ยถาวุตฺตฏฺเน ‘‘โอฆา’’ติ จ วุจฺจนฺติ.
๕. วฏฺฏสฺมึ, ภวยนฺตเก วา สตฺเต กมฺมวิปาเกน ภวนฺตราทีหิ, ทุกฺเขน วา สตฺเต โยเชนฺตีติ โยคา, เหฏฺา วุตฺตธมฺมาว.
๖. นามกาเยน ¶ รูปกายํ, ปจฺจุปฺปนฺนกาเยน วา อนาคตกายํ คนฺเถนฺติ ทุปฺปมฺุจํ เวเนฺตีติ กายคนฺถา. โคสีลาทินา สีเลน, วเตน, ตทุภเยน จ สุทฺธีติ เอวํ ปรโต อสภาวโต อามสนํ ปรามาโส. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ อภินิวิสนํ ทฬฺหคฺคาโห อิทํ สจฺจาภินิเวโส.
๗. มณฺฑูกํ ปนฺนโค วิย ภุสํ ทฬฺหํ อารมฺมณํ อาทิยนฺตีติ อุปาทานานิ. กาโมเยว อุปาทานํ, กาเม อุปาทิยตีติ วา กามุปาทานํ. ‘‘อิมินา เม สีลวตาทินา สํสารสุทฺธี’’ติ เอวํ สีลวตาทีนํ คหณํ สีลพฺพตุปาทานํ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ขนฺเธหิ พฺยติริตฺตาพฺยติริตฺตวเสน วีสติ ปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน วาโท อตฺตวาโท. โสเยว อุปาทานนฺติ อตฺตวาทุปาทานํ.
๘. ฌานาทิวเสน อุปฺปชฺชนกกุสลจิตฺตํ นิเสเธนฺติ ตถา ตสฺส อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺตีติ นีวรณานิ, ปฺาจกฺขุโน วา อาวรณฏฺเน นีวรณา. ปฺจสุ กามคุเณสุ อธิมตฺตราคสงฺขาโต กาโมเยว ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท จาติ กามจฺฉนฺโท. โสเยว นีวรณนฺติ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. พฺยาปชฺชติ วินสฺสติ เอเตน จิตฺตนฺติ พฺยาปาโท, ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ตฺยาทินยปฺปวตฺตนววิธอาฆาตวตฺถุปทฏฺานตาย นววิโธ, อฏฺานโกเปน สห ทสวิโธ วา โทโส, โสเยว ¶ นีวรณนฺติ พฺยาปาทนีวรณํ. ถินมิทฺธเมว นีวรณํ ถินมิทฺธนีวรณํ. ตถา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ. กสฺมา ปเนเต ภินฺนธมฺมา ทฺเว ทฺเว เอกนีวรณภาเวน วุตฺตาติ? กิจฺจาหารปฏิปกฺขานํ สมานภาวโต. ถินมิทฺธานฺหิ จิตฺตุปฺปาทสฺส ลยาปาทนกิจฺจํ สมานํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานํ อวูปสนฺตภาวการณํ. ตถา ปุริมานํ ทฺวินฺนํ ตนฺทีวิชมฺภิตา อาหาโร, เหตูตฺยตฺโถ, ปจฺฉิมานํ าติพฺยสนาทิวิตกฺกนํ. ปุริมานฺจ ทฺวินฺนํ วีริยํ ปฏิปกฺขภูตํ, ปจฺฉิมานํ สมโถติ, เตนาหุ โปราณา –
‘‘กิจฺจาหารวิปกฺขานํ, เอกตฺตา เอกเมตฺถ หิ;
กตมุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, ถินมิทฺธฺจ ตาทินา.
‘‘ลีนตาสนฺตตา กิจฺจํ, ตนฺที าติวิตกฺกนํ;
เหตุ วีริยสมถา, อิเม เตสํ วิโรธิโน’’ติ.
๙. อปฺปหีนฏฺเน ¶ อนุ อนุ สนฺตาเน เสนฺตีติ อนุสยา, อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีตฺยตฺโถ. อปฺปหีนา หิ กิเลสา การณลาเภ สติ อุปชฺชนารหา สนฺตาเน อนุ อนุ สยิตา วิย โหนฺตีติ ตทวตฺถา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต ปน นิปฺปริยายโต อนาคตา กิเลสา, อตีตปจฺจุปฺปนฺนาปิ ตํสภาวตฺตา ตถา วุจฺจนฺติ. น หิ กาลเภเทน ธมฺมานํ สภาวเภโท อตฺถิ, ยทิ อปฺปหีนฏฺเน อนุสยา, นนุ สพฺเพปิ กิเลสา อปฺปหีนา อนุสยา ภเวยฺยุนฺติ? น มยํ อปฺปหีนตามตฺเตน ‘‘อนุสยา’’ติ วทาม, อถ โข อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา อนุสยาติ. ถามคมนฺจ อนฺสาธารโณ กามราคาทีนเมว อาเวณิโก สภาโวติ อลํ วิวาเทน. กามราโคเยว อนุสโย กามราคานุสโย.
๑๐. สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ.
๑๒. จิตฺตํ ¶ กิลิสฺสติ อุปตปฺปติ, พาธียติ วา เอเตหีติ กิเลสา.
๑๓. กามภวนาเมนาติ กามภวสงฺขาตานํ อารมฺมณานํ นาเมน. ตถาปวตฺตนฺติ สีลพฺพตาทีนํ ปรโต อามสนาทิวเสน ปวตฺตํ.
๑๔. อาสวา จ โอฆา จ โยคา จ คนฺถา จ วตฺถุโต ธมฺมโต วุตฺตนเยน ตโย. ตถา อุปาทานา ทุเว วุตฺตา ตณฺหาทิฏฺิวเสน. นีวรณา อฏฺ สิยุํ ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานํ วิสุํ คหณโต. อนุสยา ฉเฬว โหนฺติ กามราคภวราคานุสยานํ ตณฺหาสภาเวน เอกโต คหิตตฺตา. นว สํโยชนา มตา อุภยตฺถ วุตฺตานํ ตณฺหาสภาวานํ, ทิฏฺิสภาวานฺจ เอเกกํ สงฺคหิตตฺตา. กิเลสา ปน สุตฺตนฺตวเสน, อภิธมฺมวเสนปิ ทส. อิติ เอวํ ปาปานํ อกุสลานํ สงฺคโห นวธา วุตฺโต. เอตฺถ จ –
นวาฏฺสงฺคหา โลภ-ทิฏฺิโย สตฺตสงฺคหา;
อวิชฺชา ปฏิโฆ ปฺจ-สงฺคโห จตุสงฺคหา;
กงฺขา ติสงฺคหา มานุทฺธจฺจา ถินํ ทฺวิสงฺคหํ.
กุกฺกุจฺจมิทฺธาหิริกา-โนตฺตปฺปิสฺสา ¶ นิคูหนา;
เอกสงฺคหิตา ปาปา, อิจฺเจวํ นวสงฺคหา.
อกุสลสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
มิสฺสกสงฺคหวณฺณนา
๑๕. เหตูสุ วตฺตพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๑๖. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา จินฺตนสงฺขาเตน อุปนิชฺฌายนฏฺเน ยถารหํ ปจฺจนีกธมฺมฌาปนฏฺเน จ ฌานานิ จ ตานิ องฺคานิ จ สมุทิตานํ ¶ อวยวภาเวน องฺคียนฺติ ายนฺตีติ ฌานงฺคานิ. อวยววินิมุตฺตสฺส จ สมุทายสฺส อภาเวปิ เสนงฺครถงฺคาทโย วิย วิสุํ วิสุํ องฺคภาเวน วุจฺจนฺติ เอกโต หุตฺวา ฌานภาเวน. โทมนสฺสฺเจตฺถ อกุสลฌานงฺคํ, เสสานิ กุสลากุสลาพฺยากตฌานงฺคานิ.
๑๗. สุคติทุคฺคตีนํ, นิพฺพานสฺส จ อภิมุขํ ปาปนโต มคฺคา, เตสํ ปถภูตานิ องฺคานิ, มคฺคสฺส วา อฏฺงฺคิกสฺส องฺคานิ มคฺคงฺคานิ. สมฺมา อวิปรีตโต ปสฺสตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สา ปน ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทิวเสน ทสวิธา, ปริฺาทิกิจฺจวเสน จตุพฺพิธา วา. สมฺมา สงฺกปฺเปนฺติ เอเตนาติ สมฺมาสงฺกปฺโป. โส เนกฺขมฺมสงฺกปฺปอพฺยาปาทสงฺกปฺปอวิหึสาสงฺกปฺปวเสน ติวิโธ. สมฺมาวาจาทโย เหฏฺา วิภาวิตาว. สมฺมา วายมนฺติ เอเตนาติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรนฺติ เอตายาติ สมฺมาสติ. อิเมสํ ปน เภทํ อุปริ วกฺขติ. สมฺมา สามฺจ อาธียติ เอเตน จิตฺตนฺติ สมฺมาสมาธิ, ปมชฺฌานาทิวเสน ปฺจวิธา เอกคฺคตา. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย ทุคฺคติมคฺคตฺตา มคฺคงฺคานิ.
๑๘. ทสฺสนาทีสุ จกฺขุวิฺาณาทีหิ, เยภุยฺเยน ตํสหิตสนฺตานปฺปวตฺติยํ ลิงฺคาทีหิ, ชีวเน ชีวนฺเตหิ กมฺมชรูปสมฺปยุตฺตธมฺเมหิ, มนเน ชานเน สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ, สุขิตาทิภาเว สุขิตาทีหิ ¶ สหชาเตหิ, สทฺทหนาทีสุ สทฺทหนาทิวสปฺปวตฺเตหิ เตเหว, ‘‘อนฺาตํ สฺสามี’’ติ ปวตฺติยํ ตถาปวตฺเตหิ สหชาเตหิ, อาชานเน อฺภาวิภาเว จ อาชานนาทิวสปฺปวตฺเตหิ สหชาเตหิ อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตา ธมฺมา อิสฺสรฏฺเน อินฺทฺริยานิ นามาติ อาห ‘‘จกฺขุนฺทฺริย’’นฺตฺยาทิ. อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๑๙; วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๕) ปน อปเรปิ อินฺทลิงฺคฏฺาทโย อินฺทฺริยฏฺา วุตฺตา. ชีวิตินฺทฺริยนฺติ รูปารูปวเสน ทุวิธํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ‘‘อนมตคฺเค สํสาเร อนฺาตํ ¶ อมตํ ปทํ, จตุสจฺจธมฺมเมว วา สฺสามี’’ติ เอวมชฺฌาสเยน ปฏิปนฺนสฺส อินฺทฺริยํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. อาชานาติ ปมมคฺเคน ทิฏฺมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานาติ อินฺทฺริยฺจาติ อฺินฺทฺริยํ. อฺาตาวิโน จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตสฺส อรหโต อินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ. ธมฺมสรูปวิภาวนตฺถฺเจตฺถ ปฺินฺทฺริยคฺคหณํ, ปุคฺคลชฺฌาสยกิจฺจวิเสสวิภาวนตฺถํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ คหณํ.
เอตฺถ จ สตฺตปฺตฺติยา วิเสสนิสฺสยตฺตา อชฺฌตฺติกายตนานิ อาทิโต วุตฺตานิ, มนินฺทฺริยํ ปน อชฺฌตฺติกายตนภาวสามฺเน เอตฺเถว วตฺตพฺพมฺปิ อรูปินฺทฺริเยหิ สห เอกโต ทสฺสนตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยานนฺตรํ วุตฺตํ, สายํ ปฺตฺติ อิเมสํ วเสน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ วิภาคํ คจฺฉตีติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ ภาวทฺวยํ, ตยิเม อุปาทินฺนธมฺมา อิมสฺส วเสน ติฏฺนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ตโต ปรํ ชีวิตินฺทฺริยํ, สตฺตสฺิโต ธมฺมปฺุโช ปพนฺธวเสน ปวตฺตมาโน อิมาหิ เวทนาหิ สํกิลิสฺสตีติ ทสฺสนตฺถํ ตโต เวทนาปฺจกํ, ตาหิ ปน วิสุทฺธิกามานํ โวทานสมฺภารทสฺสนตฺถํ ตโต สทฺธาทิปฺจกํ, สมฺภูตโวทานสมฺภารา จ อิเมหิ วิสุชฺฌนฺตีติ วิสุทฺธิปฺปตฺตา, นิฏฺิตกิจฺจา จ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อนฺเต ตีณิ วุตฺตานิ. เอตฺตาวตา อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ อฺเสํ อคฺคหณนฺติ อิทเมเตสํ อนุกฺกเมน เทสนาย การณนฺติ อลมติปฺปปฺเจน.
๑๙. อสทฺธิยโกสชฺชปมาทอุทฺธจฺจอวิชฺชาอหิริกอโนตฺตปฺปสงฺขาเตหิ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อกมฺปิยฏฺเน, สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวน จ สทฺธาทีนิ สตฺต พลานิ, อหิริกาโนตฺตปฺปทฺวยํ ปน สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวเนว.
๒๐. อตฺตาธีนปฺปวตฺตีนํ ปติภูตา ธมฺมา อธิปตี. ‘‘ฉนฺทวโต กึนาม น สิชฺฌตี’’ตฺยาทิกํ หิ ปุพฺพาภิสงฺขารูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ¶ อุปฺปชฺชมาเน จิตฺเต ฉนฺทาทโย ธุรภูตา ¶ สยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม สาธยมานา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เต จ เตสํ วเสน ปวตฺตนฺติ, เตน เต อตฺตาธีนานํ ปติภาเวน ปวตฺตนฺติ. อฺเสํ อธิปติธมฺมานํ อธิปติภาวนิวารณวเสน อิสฺสริยํ อธิปติตา. สนฺเตสุปิ อินฺทฺริยนฺตเรสุ เกวลํ ทสฺสนาทีสุ จกฺขุวิฺาณาทีหิ อนุวตฺตาปนมตฺตํ อินฺทฺริยตาติ อยํ อธิปติอินฺทฺริยานํ วิเสโส.
๒๑. โอชฏฺมกรูปาทโย อาหรนฺตีติ อาหารา. กพฬีการาหาโร หิ โอชฏฺมกรูปํ อาหรติ, ผสฺสาหาโร ติสฺโส เวทนา, มโนสฺเจตนาหารสงฺขาตํ กุสลากุสลกมฺมํ ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ. วิฺาณาหารสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ สหชาตนามรูเปอาหรติ, กิฺจาปิ สกสกปจฺจยุปฺปนฺเน อาหรนฺตา อฺเปิ อตฺถิ. อชฺฌตฺติกสนฺตติยา ปน วิเสสปจฺจยตฺตา อิเมเยว จตฺตาโร ‘‘อาหารา’’ติ วุตฺตา.
กพฬีการาหารภกฺขานฺหิ สตฺตานํ รูปกายสฺส กพฬีการาหาโร วิเสสปจฺจโย กมฺมาทิชนิตสฺสปิ ตสฺส กพฬีการาหารูปตฺถมฺภพเลเนว ทสวสฺสาทิปฺปวตฺติสมฺภวโต. ตถา เหส ‘‘ธาติ วิย กุมารสฺส, อุปตฺถมฺภนกยนฺตํ วิย เคหสฺสา’’ติ วุตฺโต. ผสฺโสปิ สุขาทิวตฺถุภูตํ อารมฺมณํ ผุสนฺโตเยว สุขาทิเวทนาปวตฺตเนน สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหติ. มโนสฺเจตนา กุสลากุสลกมฺมวเสน อายูหมานาเยว ภวมูลนิปฺผาทนโต สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหติ. วิฺาณํ วิชานนฺตเมว นามรูปปฺปวตฺตเนน สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหตีติ เอวเมเตเยว อชฺฌตฺตสนฺตานสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา ‘‘อาหารา’’ติ วุตฺตา, ผสฺสาทีนํ ทุติยาทิภาโว เทสนากฺกมโต, น อุปฺปตฺติกฺกมโต.
๒๖. ปฺจวิฺาณานํ ¶ วิตกฺกวิรเหน อารมฺมเณสุ อภินิปาตมตฺตตฺตา เตสุ วิชฺชมานานิปิ อุเปกฺขาสุขทุกฺขานิ อุปนิชฺฌานาการสฺส อภาวโต ฌานงฺคภาเวน น อุทฺธฏานิ. ‘‘วิตกฺกปจฺฉิมกํ หิ ฌานงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ทฺวิปฺจวิฺาณมโนธาตุตฺติกสนฺตีรณตฺติกวเสน โสฬสจิตฺเตสุ วีริยาภาวโต ตตฺถ วิชฺชมาโนปิ สมาธิ พลภาวํ น คจฺฉติ. ‘‘วีริยปจฺฉิมกํ พล’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ตถา อฏฺารสาเหตุเกสุ เหตุวิรหโต มคฺคงฺคานิ น ลพฺภนฺติ. ‘‘เหตุปจฺฉิมกํ มคฺคงฺค’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๓๘) หิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ มนสิ นิธายาห ‘‘ทฺวิปฺจวิฺาเณสู’’ตฺยาทิ. ฌานงฺคานิ น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๒๗. อธิโมกฺขวิรหโต ¶ วิจิกิจฺฉาจิตฺเต เอกคฺคตา จิตฺตฏฺิติมตฺตํ, น ปน มิจฺฉาสมาธิสมาธินฺทฺริยสมาธิพลโวหารํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘ตถา วิจิกิจฺฉาจิตฺเต’’ตฺยาทิ.
๒๘. ทฺวิเหตุกติเหตุกคฺคหเณน เอกเหตุเกสุ อธิปตีนํ อภาวํ ทสฺเสติ. ชวเนสฺเววาติ อวธารณํ โลกิยวิปาเกสุ อธิปตีนํ อสมฺภวทสฺสนตฺถํ. น หิ เต ฉนฺทาทีนิ ปุรกฺขตฺวา ปวตฺตนฺติ. วีมํสาธิปติโน ทฺวิเหตุกชวเนสุ อสมฺภวโต จิตฺตาภิสงฺขารูปนิสฺสยสฺส จ สมฺภวานุรูปโต ลพฺภมานตํ สนฺธายาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ. เอโกว ลพฺภติ, อิตรถา อธิปติภาวาโยคโต, เตเนว หิ ภควตา ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๑) เหตุปจฺจยนิทฺเทเส วิย ‘‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกาน’’นฺตฺยาทินา อวตฺวา ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๓) เอเกกาธิปติวเสเนว อธิปติปจฺจโย อุทฺธโฏ.
๒๙. วตฺถุโต ¶ ธมฺมวเสน เหตุธมฺมา ฉ, ฌานงฺคานิ ปฺจ โสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขานํ เวทนาวเสน เอกโต คหิตตฺตา, มคฺคงฺคา นว มิจฺฉาสงฺกปฺปวายามสมาธีนํ วิตกฺกวีริยจิตฺเตกคฺคตาสภาเวน สมฺมาสงฺกปฺปาทีหิ เอกโต คหิตตฺตา. อินฺทฺริยธมฺมา โสฬส ปฺจนฺนํ เวทนินฺทฺริยานํ เวทนาสามฺเน, ติณฺณํ โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ ปฺินฺทฺริยสฺส จ าณสามฺเน เอกโต คหิตตฺตา, รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานฺจ วิสุํ คหิตตฺตา, พลธมฺมา ปน ยถาวุตฺตนเยเนว นว อีริตา, อธิปติธมฺมา จตฺตาโร วุตฺตา, อาหารา ตถา จตฺตาโร วุตฺตาติ กุสลาทีหิ ตีหิ สมากิณฺโณ ตโตเยว มิสฺสกสงฺคโห เอวํนามโก สงฺคโห สตฺตธา วุตฺโต. เอตฺถ จ –
ปฺจสงฺคหิตา ปฺา, วายาเมกคฺคตา ปน;
จตุสงฺคหิตา จิตฺตํ, สติ เจว ติสงฺคหา.
สงฺกปฺโป เวทนา สทฺธา, ทุกสงฺคหิตา มตา;
เอเกกสงฺคหา เสสา, อฏฺวีสติ ภาสิตา.
มิสฺสกสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
โพธิปกฺขิยสงฺคหวณฺณนา
๓๐. ปฏฺาตีติ ¶ ปฏฺานํ, อสุภคฺคหณาทิวเสน อนุปวิสิตฺวา กายาทิอารมฺมเณ ปวตฺตตีตฺยตฺโถ, สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ตํ ปน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคฺคหณวเสน, สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาวิปลฺลาสปฺปหานวเสน จ จตุพฺพิธนฺติ วุตฺตํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ. กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย, สรีรํ, อสฺสาสปสฺสาสานํ วา สมูโห กาโย ¶ , ตสฺส อนุปสฺสนา ปริกมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน จ สรณํ กายานุปสฺสนา. ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตานํ เวทนานํ วเสน อนุปสฺสนา เวทนานุปสฺสนา. ตถา สราคมหคฺคตาทิวเสน สมฺปโยคภูมิเภเทน ภินฺนสฺเสว จิตฺตสฺส อนุปสฺสนา จิตฺตานุปสฺสนา. สฺาสงฺขารานํ ธมฺมานํ ภินฺนลกฺขณานเมว อนุปสฺสนา ธมฺมานุปสฺสนา.
๓๑. สมฺมา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, วายาโม. โส จ กิจฺจเภเทน จตุพฺพิโธติ อาห ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ตฺยาทิ. อสุภมนสิการกมฺมฏฺานานุยฺุชนาทิวเสน วายมนํ วายาโม. ภิยฺโยภาวายาติ อภิวุทฺธิยา.
๓๒. อิชฺฌติ อธิฏฺานาทิกํ เอตายาหิ อิทฺธิ, อิทฺธิวิธาณํ อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท, ฉนฺโทเยว อิทฺธิปาโท ฉนฺทิทฺธิปาโท.
๓๕. พุชฺฌตีติ โพธิ, อารทฺธวิปสฺสกโต ปฏฺาย โยคาวจโร. ยาย วา โส สติอาทิกาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌติ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, กิเลสนิทฺทาโต วา วุฏฺาติ, กิเลสสงฺโกจาภาวโต วา มคฺคผลปฺปตฺติยา วิกสติ, สา ธมฺมสามคฺคี โพธิ, ตสฺส โพธิสฺส, ตสฺสา วา โพธิยา องฺคภูตา การณภูตาติ โพชฺฌงฺคา, เต ปน ธมฺมวเสน สตฺตวิธาติ อาห ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ตฺยาทิ. สติเยว สุนฺทโร โพชฺฌงฺโค, สุนฺทรสฺส วา โพธิสฺส, สุนฺทราย วา โพธิยา องฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค. ธมฺเม วิจินาติ อุปปริกฺขตีติ ธมฺมวิจโย, วิปสฺสนาปฺา. อุเปกฺขาติ อิธ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา.
๔๐. ‘‘สตฺตธา ¶ ตตฺถ สงฺคโห’’ติ วตฺวาน ปุน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺกปฺปปสฺสทฺธิ จา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ วีริยํ นวฏฺานํ สมฺมปฺปธานจตุกฺกวีริยิทฺธิปาทวีริยินฺทฺริยวีริยพลสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาวายามวเสน นวกิจฺจตฺตา, สติ อฏฺฏฺานา สติปฏฺานจตุกฺกสตินฺทฺริยสติพลสติสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาสติวเสน อฏฺกิจฺจตฺตา. สมาธิ จตุฏฺาโน สมาธินฺทฺริยสมาธิพลสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาสมาธิวเสน จตุกิจฺจตฺตา, ปฺา ปฺจฏฺานา วีมํสิทฺธิปาทปฺินฺทฺริยปฺาพลธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาทิฏฺิวเสน ปฺจกิจฺจตฺตา, สทฺธา ทฺวิฏฺานา สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลวเสน ทฺวิกิจฺจตฺตา. เอโส อุตฺตมานํ โพธิปกฺขิยภาเวน วิสิฏฺานํ สตฺตตึส ธมฺมานํ ปวโร อุตฺตโม วิภาโค.
๔๑. โลกุตฺตเร อฏฺวิเธปิ สพฺเพ สตฺตตึส ธมฺมา โหนฺติ, สงฺกปฺปปีติโย น วา โหนฺติ, ทุติยชฺฌานิเก สงฺกปฺปสฺส, จตุตฺถปฺจมชฺฌานิเก ปีติยา จ อสมฺภวโต น โหนฺติ วา, โลกิเยปิ จิตฺเต สีลวิสุทฺธาทิ ฉพฺพิสุทฺธิปวตฺติยํ ยถาโยคํ ตํตํกิจฺจสฺส อนุรูปวเสน เกจิ กตฺถจิ วิสุํ วิสุํ โหนฺติ, กตฺถจิ น วา โหนฺติ.
โพธิปกฺขิยสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
สพฺพสงฺคหวณฺณนา
๔๒. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทิเภทภินฺนา เต เต สภาคธมฺมา เอกชฺฌํ ราสฏฺเน ขนฺธา. เตนาห ภควา – ‘‘ตเทกชฺฌํ อภิสํยูหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ (วิภ. ๒), เต ปเนเต ขนฺธา ภาชนโภชนพฺยฺชนภตฺตการกภฺุชกวิกปฺปวเสน ปฺเจว วุตฺตาติ อาห ‘‘รูปกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ ¶ . รูปฺหิ เวทนานิสฺสยตฺตา ภาชนฏฺานิยํ, เวทนา ภฺุชิตพฺพตฺตา โภชนฏฺานิยา, สฺา เวทนาสฺสาทลาภเหตุตฺตา พฺยฺชนฏฺานิยา, สงฺขารา อภิสงฺขรณโต ภตฺตการกฏฺานิยา, วิฺาณํ อุปภฺุชกตฺตา ภฺุชกฏฺานิยํ. เอตฺตาวตา จ อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ ปฺเจว วุตฺตา. เทสนากฺกเมปิ อิทเมว การณํ ยตฺถ ภฺุชติ, ยฺจ ภฺุชติ, เยน จ ภฺุชติ, โย จ โภชโก, โย จ ภฺุชิตา, เตสํ อนุกฺกเมน ทสฺเสตุกามตฺตา.
๔๓. อุปาทานานํ ¶ โคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา, เต ปน อุปาทานวิสยภาเวน คหิตา รูปาทโย ปฺเจวาติ วุตฺตํ ‘‘รูปุปาทานกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ. สพฺพสภาคธมฺมสงฺคหตฺถํ หิ สาสวา, อนาสวาปิ ธมฺมา อวิเสสโต ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เทสิตา. วิปสฺสนาภูมิสนฺทสฺสนตฺถํ ปน สาสวาว ‘‘อุปาทานกฺขนฺธา’’ติ. ยถา ปเนตฺถ เวทนาทโย สาสวา, อนาสวา จ, น เอวํ รูปํ, เอกนฺตกามาวจรตฺตา. สภาคราสิวเสน ปน ตํ ขนฺเธสุ เทสิตํ, อุปาทานิยภาเวน, ปน ราสิวเสน จ อุปาทานกฺขนฺเธสูติ ทฏฺพฺพํ.
๔๔. อายตนฺติ เอตฺถ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา เตน เตน กิจฺเจน ฆฏฺเฏนฺติ วายมนฺติ, อายภูเต วา เต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, อายตํ วา สํสารทุกฺขํ นยนฺติ ปวตฺเตนฺติ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ การณภูตานีติ วา อายตนานิ. อปิจ โลเก นิวาสอากรสโมสรณสฺชาติฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเตปิ ตํตํทฺวาริกานํ, ตํตทารมฺมณานฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ นิวาสฏฺานตาย, เตสเมว อากิณฺณภาเวน ปวตฺตานํ อากรฏฺานตาย, ทฺวารารมฺมณโต สโมสรนฺตานํ สโมสรณฏฺานตาย, ตตฺเถว อุปฺปชฺชนฺตานํ สฺชาติฏฺานตาย จ อายตนานิ. ตานิ ปน ทฺวารภูตานิ อชฺฌตฺติกายตนานิ ¶ ฉ, อารมฺมณภูตานิ จ พาหิรายตนานิ ฉาติ ทฺวาทสวิธานีติ อาห ‘‘จกฺขายตน’’นฺตฺยาทิ. จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. เอวํ เสเสสุปิ.
เอตฺถ อชฺฌตฺติกายตเนสุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆารมฺมณตฺตา จกฺขายตนํ วิภูตนฺติ ตํ ปมํ วุตฺตํ, ตทนนฺตรํ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆารมฺมณานิ อิตรานิ, ตตฺถาปิ อสมฺปตฺตคฺคาหกสามฺเน จกฺขายตนานนฺตรํ โสตายตนํ วุตฺตํ, อิตเรสุ สีฆตรํ อารมฺมณคฺคหณสมตฺถตฺตา ฆานายตนํ ปมํ วุตฺตํ. ปุรโต ปิตมตฺตสฺส หิ โภชนาทิกสฺส คนฺโธ วาตานุสาเรน ฆาเน ปฏิหฺติ, ตทนนฺตรํ ปน ปเทสวุตฺติสามฺเน ชิวฺหายตนํ วุตฺตํ, ตโต สพฺพฏฺานิกํ กายายตนํ, ตโต ปฺจนฺนมฺปิ โคจรคฺคหณสมตฺถํ มนายตนํ, ยถาวุตฺตานํ ปน อนุกฺกเมน เตสํ เตสํ อารมฺมณานิ รูปายตนาทีนิ วุตฺตานิ.
๔๕. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. อถ วา ยถาสมฺภวํ อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ, ภารหาเรหิ วิย จ ภาโร สตฺเตหิ ธียนฺติ ธาริยนฺติ, อวสวตฺตนโต ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา, สตฺเตหิ จ สํสารทุกฺขํ อนุวิธียติ เอตาหิ, ตถาวิหิตฺจ เอตาสฺเวว ¶ มียติ ปิยติ, รสโสณิตาทิสรีราวยวธาตุโย วิย, หริตาลมโนสิลาทิเสลาวยวธาตุโย วิย จ เยฺยาวยวภูตา จาติ ธาตุโย. ยถาหุ –
‘‘วิทหติ วิธานฺจ, ธียเต จ วิธียเต;
เอตาย ธียเต เอตฺถ, อิติ วา ธาตุสมฺมตา;
สรีรเสลาวยว-ธาตุโย วิย ธาตุโย’’ติ.
ตา ปน มนายตนํ สตฺตวิฺาณธาตุวเสน สตฺตธา ภินฺทิตฺวา อวเสเสหิ เอกาทสายตเนหิ สห อฏฺารสธาตู ¶ วุตฺตาติ อาห ‘‘จกฺขุธาตู’’ตฺยาทิ. กมการณํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺพํ.
๔๖. อริยกรตฺตา อริยานิ, ตจฺฉภาวโต สจฺจานีติ อริยสจฺจานิ. อิมานิ หิ จตฺตาโร ปฏิปนฺนเก, จตฺตาโร ผลฏฺเติ อฏฺอริยปุคฺคเล สาเธนฺติ อสติ สจฺจปฺปฏิเวเธ เตสํ อริยภาวานุปคมนโต, สติ จ ตสฺมึ เอกนฺเตน ตพฺภาวูปคมนโต จ. ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคานเมว ปน ยถากฺกมํ พาธกตฺตํ ปภวตฺตํ นิสฺสรณตฺตํ นิยฺยานิกตฺตํ, นาฺเสํ, พาธกาทิภาโวเยว จ ทุกฺขาทีนํ, น อพาธกาทิภาโว, ตสฺมา อฺตฺถาภาวตตฺถพฺยาปิตาสงฺขาเตน ลกฺขเณน เอตานิ ตจฺฉานิ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘โพธานุรูปํ จตฺตาโร, ฉินฺทนฺเต จตุโร มเล;
ขีณโทเส จ จตฺตาโร, สาเธนฺตาริยปุคฺคเล.
‘‘อฺตฺถ พาธกตฺตาทิ, น หิ เอเตหิ ลพฺภติ;
นาพาธกตฺตเมเตสํ, ตจฺฉาเนตานิเวตโต’’ติ.
อริยานํ วา สจฺจานิ เตหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา, อริยสฺส วา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สจฺจานิ เตน เทสิตตฺตาติ อริยสจฺจานิ. ตานิ ปน สํกิลิฏฺาสํกิลิฏฺผลเหตุวเสน จตุพฺพิธานีติ อาห ‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ตฺยาทิ. ตตฺถ กุจฺฉิตตฺตา, ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขํ. กมฺมาทิปจฺจยสนฺนิฏฺาเน ทุกฺขุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย สมุทโย สมุเทติ เอตสฺมา ทุกฺขนฺติ กตฺวา, ทุกฺขสฺส ¶ สมุทโย ทุกฺขสมุทโย. ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ เอตฺถ, เอเตนาติ วา ทุกฺขนิโรโธ. ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ, ปฏิปชฺชนฺติ จ ตํ เอตายาติ ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทา.
๔๗. เจตสิกานํ, โสฬสสุขุมรูปานํ, นิพฺพานสฺส จ วเสน เอกูนสตฺตติ ธมฺมา อายตเนสุ ธมฺมายตนํ, ธาตูสุ ธมฺมธาตูติ จ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
๔๙. เสสา ¶ เจตสิกาติ เวทนาสฺาหิ เสสา ปฺาส เจตสิกา. กสฺมา ปน เวทนาสฺา วิสุํ กตาติ? วฏฺฏธมฺเมสุ อสฺสาทตทุปกรณภาวโต. เตภูมกธมฺเมสุ หิ อสฺสาทวสปฺปวตฺตา เวทนา, อสุเภ สุภาทิสฺาวิปลฺลาสวเสน จ ตสฺสา ตทาการปฺปวตฺตีติ ตทุปกรณภูตา สฺา, ตสฺมา สํสารสฺส ปธานเหตุตาย เอตา วินิภุชฺชิตฺวา เทสิตาติ. วุตฺตฺเหตํ อาจริเยน –
‘‘วฏฺฏธมฺเมสุ อสฺสาทํ, ตทสฺสาทุปเสวนํ;
วินิภุชฺช นิทสฺเสตุํ, ขนฺธทฺวยมุทาหฏ’’นฺติ. (นาม. ปริ. ๖๔๙);
๕๐. นนุ จ อายตนธาตูสุ นิพฺพานํ สงฺคหิตํ, ขนฺเธสุ กสฺมา น สงฺคหิตนฺติ อาห ‘‘เภทาภาเวนา’’ตฺยาทิ. อตีตาทิเภทภินฺนานฺหิ ราสฏฺเน ขนฺธโวหาโรติ นิพฺพานํ เภทาภาวโต ขนฺธสงฺคหโต นิสฺสฏํ, วินิมุตฺตนฺตฺยตฺโถ.
๕๑. ฉนฺนํ ทฺวารานํ, ฉนฺนํ อารมฺมณานฺจ เภเทน อายตนานิ ทฺวาทส ภวนฺติ, ฉนฺนํ ทฺวารานํ ฉนฺนํ อารมฺมณานํ ตทุภยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนานํ ตตฺตกานเมว วิฺาณานํ ปริยาเยน กเมน ธาตุโย อฏฺารส ภวนฺติ.
๕๒. ติสฺโส ภูมิโย อิมสฺสาติ ติภูมํ, ติภูมํเยว เตภูมกํ. วตฺตติ เอตฺถ กมฺมํ, ตพฺพิปาโก จาติ วฏฺฏํ. ตณฺหาติ กามตณฺหาทิวเสน ติวิธา, ปุน ฉฬารมฺมณวเสน อฏฺารสวิธา, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตุปฺาสวิธา, อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อฏฺสตปฺปเภทา ตณฺหา. กสฺมา ปน อฺเสุปิ ทุกฺขเหตูสุ สนฺเตสุ ตณฺหาเยว สมุทโยติ วุตฺตาติ? ปธานการณตฺตา. กมฺมวิจิตฺตตาเหตุภาเวน, หิ กมฺมสหายภาวูปคมเนน จ ทุกฺขวิจิตฺตตาการณตฺตา ¶ ตณฺหา ทุกฺขสฺส วิเสสการณนฺติ ¶ . มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทานาเมน วุตฺโต มคฺโค โลกุตฺตโร มโตติ มคฺโคติ ปุน มคฺคคฺคหณํ โยเชตพฺพํ.
๕๓. มคฺคยุตฺตา อฏฺงฺคิกวินิมุตฺตา เสสา มคฺคสมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย ผลฺเจว สสมฺปยุตฺตนฺติ เอเต จตูหิ สจฺเจหิ วินิสฺสฏา วินิคฺคตา นิปฺปริยายโต, ปริยายโต ปน อฺาตาวินฺทฺริยนิทฺเทเสปิ ‘‘มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ (ธ. ส. ๕๕๕) วุตฺตตฺตา ผลธมฺเมสุ สมฺมาทิฏฺาทีนํ มคฺคสจฺเจ, อิตเรสฺจ มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ สงฺขารทุกฺขสามฺเน ทุกฺขสจฺเจ สงฺคโห สกฺกา กาตุํ. เอวฺหิ สติ สจฺจเทสนายปิ สพฺพสงฺคาหิกตา อุปปนฺนา โหติ. กสฺมา ปเนเต ขนฺธาทโย พหู ธมฺมา วุตฺตาติ? ภควตาปิ ตเถว เทสิตตฺตา. ภควตาปิ กสฺมา ตถา เทสิตาติ? ติวิธสตฺตานุคฺคหสฺส อธิปฺเปตตฺตา. นามรูปตทุภยสมฺมุฬฺหวเสน หิ ติกฺขนาภิติกฺขมุทินฺทฺริยวเสน, สงฺขิตฺตมชฺฌิมวิตฺถารรุจิวเสน จ ติวิธา สตฺตา. เตสุ นามสมฺมุฬฺหานํ ขนฺธคฺคหณํ นามสฺส ตตฺถ จตุธา วิภตฺตตฺตา, รูปสมฺมุฬฺหานํ อายตนคฺคหณํ รูปสฺส ตตฺถ อฑฺเฒกาทสธา วิภตฺตตฺตา, อุภยมุฬฺหานํ ธาตุคฺคหณํ อุภเยสมฺปิ ตตฺถ วิตฺถารโต วิภตฺตตฺตา, ตถา ติกฺขินฺทฺริยานํ, สงฺขิตฺตรุจิกานฺจ ขนฺธาคฺคหณนฺตฺยาทิ โยเชตพฺพํ. ตํ ปเนตํ ติวิธมฺปิ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุวเสน ทิฏฺเมว อุปการาวหํ. โน อฺถาติ สจฺจคฺคหณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
สมุจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ยถาวุตฺตนามรูปธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏฺานนยวเสน ปจฺจเย ทสฺเสตุํ ‘‘เยส’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ. เยสํ ปจฺจเยหิ สงฺขตตฺตา สงฺขตานํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ เย ปจฺจยธมฺมา ยถา เยนากาเรน ปจฺจยา ิติยา, อุปฺปตฺติยา จ อุปการกา, ตํ วิภาคํ เตสํ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ, เตสํ ¶ ปจฺจยานํ, ตสฺส จ ปจฺจยาการสฺส ปเภทํ อิห อิมสฺมึ สมุจฺจยสงฺคหานนฺตเร าเน ยถารหํ ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม สติ ตํตํปจฺจยานํ ตํตํปจฺจยภาวาการานุรูปํ อิทานิ ปวกฺขามีติ โยชนา.
๒. ตตฺถ ปจฺจยสามคฺคึ ปฏิจฺจ สมํ คนฺตฺวา ผลานํ อุปฺปาโท เอตสฺมาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ปจฺจยากาโร. นานปฺปการานิ านานิ ปจฺจยา เอตฺถาตฺยาทินา ปฏฺานํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานมหาปกรณํ, ตตฺถ เทสิตนโย ปฏฺานนโย.
๓. ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ นเยสุ. ตสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส ภาเวน ภวนสีลสฺส ภาโว ตพฺภาวภาวีภาโว, โสเยว อาการมตฺตํ, เตน อุปลกฺขิโต ตพฺภาวภาวีภาวาการมตฺโตปลกฺขิโต. เอเตเนว ตทภาวาภาวาการมตฺโตปลกฺขิตตาปิ อตฺถโต ทสฺสิตา โหติ. อนฺวยพฺยติเรกวเสน หิ ปจฺจยลกฺขณํ ทสฺเสตพฺพํ. เตนาห ภควา – ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทมุปฺปชฺชติ. อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๔, ๔๐๖; สํ. นิ. ๒.๒๑; อุทา. ๑, ๒). ปฏิจฺจ ผลํ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโย. ติฏฺติ ผลํ เอตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ิติ, อาหจฺจ วิเสเสตฺวา ปวตฺตา ปจฺจยสงฺขาตา ิติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิติ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย หิ ตพฺภาวภาวีภาวาการมตฺตํ อุปาทาย ปวตฺตตฺตา เหตาทิปจฺจยนิยมวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา ¶ อวิเสสโตว ปวตฺตติ, อยํ ปน เหตาทิตํตํปจฺจยานํ ตสฺส ตสฺส ธมฺมนฺตรสฺส ตํตํปจฺจยภาวสามตฺถิยาการวิเสสํ อุปาทาย วิเสเสตฺวา ปวตฺโตติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิติมารพฺภ ปวุจฺจตีติ. เกจิ ปน ‘‘อาหจฺจ กณฺตาลุอาทีสุ ปหริตฺวา วุตฺตา ิติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิตี’’ติ วณฺเณนฺติ. ตํ ปน สวนมตฺเตเนว เตสํ อวหสิตพฺพวจนตํ ปกาเสติ. น หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย, อฺโ วา โกจิ นโย กณฺตาลุอาทีสุ อนาหจฺจ เทเสตุํ สกฺกาติ. โวมิสฺเสตฺวาติ ปฏฺานนยมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทเยว ปกฺขิปิตฺวา ตพฺภาวภาวีภาเวน เหตาทิปจฺจยวเสน จ มิสฺเสตฺวา อาจริยา สงฺคหการาทโย ปปฺเจนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, มยํ ปน วิสุํ วิสุํเยว ทสฺสยิสฺสามาตฺยธิปฺปาโย.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยวณฺณนา
๔. น ¶ วิชานาตีติ อวิชฺชา, อวินฺทิยํ วา กายทุจฺจริตาทึ วินฺทติ ปฏิลภติ, วินฺทิยํ วา กายสุจริตาทึ น วินฺทติ, เวทิตพฺพํ วา จตุสจฺจาทิกํ น วิทิตํ กโรติ, อวิชฺชมาเน วา ชวาเปติ, วิชฺชมาเน วา น ชวาเปตีติ อวิชฺชา, จตูสุ อริยสจฺเจสุ ปุพฺพนฺตาทีสุ จตูสุ อฺาณสฺเสตํ นามํ. อวิชฺชา เอว ปจฺจโย อวิชฺชาปจฺจโย. ตโต อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา, กุสลากุสลกมฺมานิ. เต ติวิธา ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ. ตตฺถกามรูปาวจรา เตรส กุสลเจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อารุปฺปเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ เอวเมตา เอกูนตึส เจตนา สงฺขารา นาม. ปฏิสนฺธิวเสน เอกูนวีสติวิธํ, ปวตฺติวเสน ทฺวตฺตึสวิธํ วิปากจิตฺตํ วิฺาณํ นาม. นามฺจ รูปฺจ นามรูปํ. ตตฺถ นามํ อิธ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ปน ภูตุปาทายเภทโต ทุวิธํ ¶ กมฺมสมุฏฺานรูปํ, ตทุภยมฺปิ อิธ ปฏิสนฺธิวิฺาณสหคตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นามรูปปจฺจยาติ เอตฺถ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ สรูเปกเสโส เวทิตพฺโพ. จกฺขาทีนิ ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ, เกสฺจิ มเตน รูปาทีนิ ฉ พาหิรายตนานิปิ วา อายตนํ นาม. ฉ อายตนานิ จ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนํ. จกฺขุสมฺผสฺสาทิวเสน ฉทฺวาริโก ผสฺโส ผสฺโส นาม. สุขทุกฺขุเปกฺขาวเสน ติวิธา เวทนา.
กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหาติ ติวิธา ตณฺหา. ฉฬารมฺมณาทิวเสน ปน อฏฺสตปฺปเภทา โหนฺติ กามุปาทานาทิวเสน จตฺตาริ อุปาทานานิ. เอตฺถ จ ทุพฺพลา ตณฺหา ตณฺหา นาม, พลวตี อุปาทานํ. อสมฺปตฺตวิสยปตฺถนา วา ตณฺหา ตมสิ โจรานํ หตฺถปฺปสารณํ วิย, สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ โจรานํ หตฺถปฺปตฺตสฺส คหณํ วิย. อปฺปิจฺฉตาปฏิปกฺขา ตณฺหา, สนฺโตสปฺปฏิปกฺขํ อุปาทานํ. ปริเยสนทุกฺขมูลํ ตณฺหา, อารกฺขทุกฺขมูลํ อุปาทานนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. กมฺมภโว อุปปตฺติภโวติ ทุวิโธ ภโว. ตตฺถ ปโม ภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ ภโว, โส กามาวจรกุสลากุสลาทิวเสน เอกูนตึสวิโธ. ทุติโย ปน ภวตีติ ภโว, โส กามภวาทิวเสน นววิโธ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ เจตฺถ อุปปตฺติภโวปิ อธิปฺเปโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภโวว. โส หิ ชาติยา ปจฺจโย โหติ, น อิตโร. โส หิ ปมาภินิพฺพตฺตกฺขนฺธสภาโว ชาติเยว, น จ ¶ ตเทว ตสฺส การณํ ยุตฺตํ. เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตํตํคติอาทีสุ อตฺตภาวปฏิลาโภ ชาติ. ตถานิพฺพตฺตสฺส จ อตฺตภาวสฺส ปุราณภาโว ชรา. เอตสฺเสว เอกภวปริจฺฉินฺนสฺส ปริโยสานํ มรณํ. าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส จิตฺตสนฺตาโป โสโก. ตสฺเสว วจีปลาโป ปริเทโว. กายิกทุกฺขเวทนา ¶ ทุกฺขํ. มานสิกทุกฺขเวทนา โทมนสฺสํ. าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต ภุโส อายาโส อุปายาโส.
เอตฺถ จ สติปิ วตฺถารมฺมณาทิเก ปจฺจยนฺตเร อวิชฺชาทิเอเกกปจฺจยคฺคหณํ ปธานภาวโต, ปากฏภาวโต จาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อวิชฺชานุสยิเตเยว สนฺตาเน สงฺขารานํ วิปากธมฺมภาเวน ปวตฺตนโต อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขาราสมฺภวนฺติ, วิฺาณฺจ สงฺขารชนิตํ หุตฺวา ภวนฺตเร ปติฏฺาติ. น หิ ชนกาภาเว ตสฺสุปฺปตฺติ สิยา, ตสฺมา สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ. นามรูปฺจ ปุพฺพงฺคมาธิฏฺานภูตวิฺาณุปตฺถทฺธํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ ปติฏฺหตีติ วิฺาณปจฺจยานามรูปํ, สฬายตนฺจ นามรูปนิสฺสยเมว ฉพฺพิธผสฺสสฺส ทฺวารภาเวน ยถารหํ ปวตฺตติ, โน อฺถาติ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ. ผสฺโส จ สฬายตนสมฺภเวเยว อารมฺมณํ ผุสติ. น หิ ทฺวาราภาเว ตสฺสุปฺปตฺติ สิยาติ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส. อิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตฺจ อารมฺมณํ ผุสนฺโตเยว เวทนํ เวทยติ, โน อฺถาติ ผสฺสปจฺจยา เวทนา. เวทนีเยสุ จ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน เวทนาเหตุกา ตณฺหา สมุฏฺาตีติ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา. ตณฺหาสิเนหปิปาสิตาเยว จ อุปาทานิเยสุ ธมฺเมสุ อุปาทาย ทฬฺหภาวาย สํวตฺตนฺติ. ตณฺหาย หิ รูปาทีนิ อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ ตณฺหา กามุปาทานสฺส ปจฺจโย. ตถา รูปาทิเภเทคธิโต ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินา มิจฺฉาทสฺสนํ สํสารโต มุจฺจิตุกาโม อสุทฺธิมคฺเค สุทฺธิมคฺคปรามาสํ ขนฺเธสุ อตฺตตฺตนิยคาหภูตํ อตฺตวาททสฺสนทฺวยฺจ คณฺหาติ, ตสฺมา ทิฏฺุปาทาทีนมฺปิ ปจฺจโยติ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ. ยถารหํ สมฺปโยคานุสยวเสน อุปาทานปติฏฺิตาเยว สตฺตา กมฺมายูหนาย สํวตฺตนฺตีติ อุปาทานํ ภวสฺส ปจฺจโย. อุปปตฺติภวสงฺขาตา จ ชาติ กมฺมภวเหตุกาเยว ¶ . พีชโต องฺกุโร วิย ตตฺถ ตตฺถ สมุปลพฺภตีติ ภโว ชาติยา ปจฺจโย นาม. สติ จ ชาติยา เอว ชรามรณสมฺภโว. น หิ อชาตานํ ชรามรณสมฺภโว โหตีติ ชาติ ชรามรณานํ ปจฺจโยติ เอวเมเตสํ ตพฺภาวภาวีภาโว ทฏฺพฺโพ.
เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ ยถาวุตฺเตน ปจฺจยปรมฺปรวิธินา, น ¶ ปน อิสฺสรนิมฺมานาทีหิ เอตสฺส วฏฺฏสงฺขาตสฺส เกวลสฺส สุขาทีหิ อสมฺมิสฺสสฺส, สกลสฺส วา ทุกฺขกฺขนฺธสฺส ทุกฺขราสิสฺส น สุขสุภาทีนํ สมุทโย นิพฺพตฺติ โหติ. เอตฺถ อิมสฺมึ ปจฺจยสงฺคหาธิกาเร.
๕. อตติ สตตํ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อทฺธา, กาโล.
๖. อวิชฺชาสงฺขารา อตีโต อทฺธา อตีตภวปริยาปนฺนเหตูนเมเวตฺถ อธิปฺเปตตฺตา, อทฺธาคฺคหเณน จ อวิชฺชาทีนํ ธมฺมานเมว คหณํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ กาลสฺส อนุปลพฺภนโต. นิรุทฺธานุปฺปาทา เอว หิ ธมฺมา อตีตานาคตกาลวเสน อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตยปริยาปนฺนา จ ปจฺจุปฺปนฺนกาลวเสน โวหรียนฺติ. ชาติชรามรณํ อนาคโต อทฺธา ปจฺจุปฺปนฺนเหตุโต อนาคเต นิพฺพตฺตนโต. มชฺเฌ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา อตีตเหตุโต อิธ นิพฺพตฺตนกผลสภาวตฺตา, อนาคตผลสฺส อิธ เหตุสภาวตฺตา จ มชฺเฌ วิฺาณาทีนิ อฏฺงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา.
๘. นนุ โสกปริเทวาทโยปิ องฺคภาเวน วตฺตพฺพาติ อาห ‘‘โสกาทิวจน’’นฺตฺยาทิ. โสกาทิวจนํ ชาติยา นิสฺสนฺทสฺส อมุขฺยผลมตฺตสฺส นิทสฺสนํ, น ปน วิสุํ องฺคทสฺสนนฺตฺยตฺโถ.
๙. ตณฺหุปาทานภวาปิ ¶ คหิตา โหนฺตีติ กิเลสภาวสามฺโต อวิชฺชาคฺคหเณน ตณฺหุปาทานานิ, กมฺมภวสามฺโต สงฺขารคฺคหเณน กมฺมภโว คหิโต. ตถา ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน เตสํ คหเณน เตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนานํ ชาติชราภงฺคาว ชาติชรามรณนฺติ จ วุตฺตาติ อาห ‘‘ชาติชรามรณคฺคหเณนา’’ตฺยาทิ.
๑๐. อตีเต เหตโว ปฺจาติ สรูปโต วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ อวิชฺชาสงฺขารานํ, สงฺคหวเสน คหิตานํ ติณฺณํ ตณฺหุปาทานภวานฺจ วเสน ปจฺจุปฺปนฺนผลสฺส ปจฺจยา อตีตภเว นิพฺพตฺตา เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกนฺติ อตีตเหตุปจฺจยา อิธ ปจฺจุปฺปนฺเน นิพฺพตฺตํ วิฺาณาทิผลปฺจกํ. อิทานิ เหตโว ปฺจาติ สรูปโต วุตฺตานํ ตณฺหาทีนํ ติณฺณํ, สงฺคหโต ลทฺธานํ ¶ อวิชฺชาสงฺขารานํ ทฺวินฺนฺจ วเสน อายตึ ผลสฺส ปจฺจยา อิทานิ เหตโว ปฺจ. อายตึ ผลปฺจกนฺติ ชาติชรามรณคฺคหเณน วุตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนเหตุปจฺจยา อนาคเต นิพฺพตฺตนกวิฺาณาทิผลปฺจกนฺติ เอวํ วีสติ อตีตาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อากิริยนฺตีติ อาการา.
อตีตเหตูนํ, อิทานิ ผลปฺจกสฺส จ อนฺตรา เอโก สนฺธิ, อิทานิ ผลปฺจกสฺส, อิทานิ เหตูนฺจ อนฺตรา เอโก, อิทานิ เหตูนํ, อายตึ ผลสฺส จ อนฺตรา เอโกติ เอวํ ติสนฺธิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สงฺขารวิฺาณานมนฺตรา เอโก, เวทนาตณฺหานมนฺตรา เอโก, ภวชาตีนมนฺตรา เอโก สนฺธี’’ติ. เอตฺถ หิ เหตุโตผลสฺส อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต เหตุผลสมฺพนฺธภูโต ปโม สนฺธิ, ตถา ตติโย, ทุติโย ปน ผลโต เหตุโน อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต ผลเหตุสมฺพนฺธภูโต. ผลภูโตปิ หิ ¶ ธมฺโม อฺสฺส เหตุสภาวสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโยติ. สงฺขิปียนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย, วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขโป, อตีตเหตุ, เอตรหิ วิปาโก, เอตรหิ เหตุ อายตึ วิปาโกติ จตฺตาโร สงฺเขปาติ จตุสงฺเขปา.
๑๑. กมฺมภวสงฺขาโต ภเวกเทโสติ เอตฺถ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา ภโว นาม, ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา สงฺขาราติ เวทิตพฺพา. อวเสสา จาติ วิฺาณาทิปฺจกชาติชรามรณวเสน สตฺตวิธา ปจฺจุปฺปนฺนผลวเสน วุตฺตธมฺมา. อุปปตฺติภวสงฺขาโต ภเวกเทโสติ ปน อนาคตปริยาปนฺนา เวทิตพฺพา. ภว-สทฺเทน กมฺมภวสฺสปิ วุจฺจมานตฺตา ภเวกเทส-สทฺโท วุตฺโต.
๑๒. ปุพฺพนฺตสฺส อวิชฺชา มูลํ. อปรนฺตสฺส ตณฺหา มูลนฺติ อาห อวิชฺชาตณฺหาวเสน ทฺเว มูลานี’’ติ.
๑๓. เตสเมว อวิชฺชาตณฺหาสงฺขาตานํ วฏฺฏมูลานํ นิโรเธน อนุปฺปาทธมฺมตาปตฺติยา สจฺจปฺปฏิเวธโต สิทฺธาย อปฺปวตฺติยา วฏฺฏํ นิรุชฺฌติ. อภิณฺหโส อภิกฺขณํ ชรามรณสงฺขาตาย มุจฺฉาย ปีฬิตานํ สตฺตานํ โสกาทิสมปฺปิตานํ กามาสวาทิอาสวานํ สมุปฺปาทโต ปุน อวิชฺชา จ ปวตฺตติ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ. เอเตน อวิชฺชายปิ ปจฺจโย ทสฺสิโต โหติ, อิตรถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทจกฺกํ ¶ อพทฺธํ สิยาติ. อิจฺเจวํ วุตฺตนเยน อาพทฺธํ อวิจฺฉินฺนํ อนาทิกํ อาทิรหิตํ ติภูมกปริยาปนฺนตฺตา เตภูมกํ กิเลสกมฺมวิปากวเสน ติวฏฺฏภูตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ ปฏฺเปสิ ปฺเปสิ มหามุนิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏฺานนยวณฺณนา
๑๔. เอวํ ¶ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยํ วิภาคโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฏฺานนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เหตุปจฺจโย’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิโนติ ปติฏฺาติ เอเตนาติ เหตุ. อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ หิ-สทฺโท อิธ ปติฏฺตฺโถติ ทฏฺพฺโพ. หิโนติ วา เอเตน กมฺมนิทานภูเตน อุทฺธํ โอชํ อภิหรนฺเตน มูเลน วิย ปาทโป ตปฺปจฺจยํ ผลํ คจฺฉติ ปวตฺตติ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ อาปชฺชตีติ เหตุ. เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เหตุปจฺจโย. เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย, เหตุภาเวน ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ. มูลฏฺเน เหตุ, อุปการฏฺเน ปจฺจโยติ สงฺเขปโต มูลฏฺเน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโย. โส ปน ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ, ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อุภยตฺถ สมฺปยุตฺตานํ นามธมฺมานฺจ รุกฺขสฺส มูลานิ วิย สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนสงฺขาตมูลฏฺเน อุปการกา ฉ ธมฺมาติ ทฏฺพฺพํ.
อาลมฺพียติ ทุพฺพเลน วิย ทณฺฑาทิกํ จิตฺตเจตสิเกหิ คยฺหตีติ อารมฺมณํ. จิตฺตเจตสิกา หิ ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภ ปวตฺตนฺติ, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจโย นาม. น หิ โส ธมฺโม อตฺถิ, โย จิตฺตเจตสิกานํ อารมฺมณปจฺจยภาวํ น คจฺเฉยฺย. อตฺตาธีนปฺปวตฺตีนํ ปติภูโต ปจฺจโย อธิปติปจฺจโย.
น วิชฺชติ ปจฺจยุปฺปนฺเนน สห อนฺตรํ เอตสฺส ปจฺจยสฺสาติ อนนฺตรปจฺจโย. สณฺานาภาเวน สุฏฺุ อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรปจฺจโย. อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทชนนสมตฺโถ ปุริมปุริมนิรุทฺโธ ธมฺโม ‘‘อนนฺตรปจฺจโย’’, ‘‘สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ จ ¶ วุจฺจติ. พฺยฺชนมตฺเตเนว หิ เนสํ วิเสโส. อตฺถโต ปน อุภยมฺปิ สมนนฺตรนิรุทฺธสฺเสวาธิวจนํ. น หิ เตสํ อตฺถโต เภโท อุปลพฺภติ ¶ . ยํ ปน เกจิ วทนฺติ ‘‘อตฺถานนฺตรตาย อนนฺตรปจฺจโย, กาลานนฺตรตาย สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ, ตํ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทีหิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วิรุชฺฌติ. เนวสฺานาสฺายตนํ หิ สตฺตาหาทิกาลํ นิรุทฺธํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจโย, ตสฺมา อภินิเวสํ อกตฺวา พฺยฺชนมตฺตโตเวตฺถ นานากรณํ ปจฺเจตพฺพํ, น อตฺถโต. ปุพฺพธมฺมนิโรธสฺส หิ ปจฺฉาชาตธมฺมุปฺปาทนสฺส จ อนฺตราภาเวน อุปฺปาทนสมตฺถตาย นิโรโธ อนนฺตรปจฺจยตา, ‘‘อิทมิโต อุทฺธํ, อิทํ เหฏฺา, อิทํ สมนฺตโต’’ติ อตฺตนา เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วิย สุฏฺุ อนนฺตรภาเวน อุปฺปาเทตุํ สมตฺถํ หุตฺวา นิโรโธ สมนนฺตรปจฺจยตาติ เอวํ พฺยฺชนมตฺตโตว เภโท. นิโรธปจฺจยสฺสปิ หิ เนวสฺานาสฺายตนสฺส อสฺุปฺปตฺติยา ปุริมสฺส จ จุติจิตฺตสฺส กาลนฺตเรปิ อุปฺปชฺชนฺตานํ ผลปฏิสนฺธีนํ อนฺตรา สมานชาติเยน อรูปธมฺเมน พฺยวธานาภาวโต ภินฺนชาติกานฺจ รูปธมฺมานํ พฺยวธานกรเณ อสมตฺถตาย นิรนฺตรุปฺปาทเน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วิย อุปฺปาทเน จ สมตฺถตา อตฺถีติ เตสมฺปิ อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยตา ลพฺภติ, ตสฺมา ธมฺมโต อวิเสเสปิ ตถา ตถา พุชฺฌนกานํ เวเนยฺยานํ วเสน อุปสคฺคตฺถวิเสสมตฺตโตว เภโท ปจฺเจตพฺโพติ.
อตฺตโน อนุปฺปตฺติยา สหุปฺปนฺนานมฺปิ อนุปฺปตฺติโต ปกาสสฺส ปทีโป วิย สหุปฺปนฺนานํ สหุปฺปาทภาเวน ปจฺจโย สหชาตปจฺจโย, อรูปิโน จตุกฺขนฺธา, จตฺตาโร มหาภูตา, ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุวิปากา จ ธมฺมา.
อฺมฺํ อุปตฺถมฺภยมานํ ติทณฺฑํ วิย อตฺตโน อุปการกธมฺมานํ อุปตฺถมฺภกภาเวน ปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย. อฺมฺตาวเสเนว ¶ จ อุปการกตา อฺมฺปจฺจยตา, น สหชาตมตฺเตนาติ อยเมเตสํ ทฺวินฺนํ วิเสโส. ตถา หิ สหชาตปจฺจยภาวีเยว โกจิ อฺมฺปจฺจโย น โหติ จิตฺตชรูปานํ สหชาตปจฺจยภาวิโน นามสฺส อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจยภาวีนํ มหาภูตานฺจ อฺมฺปจฺจยภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา. ยทิ หิ สหชาตภาเวเนว อตฺตโน อุปการกานํ อุปการกตา อฺมฺปจฺจยตา สิยา, ตทา สหชาตอฺมฺปจฺจเยหิ สมาเนหิ ภวิตพฺพนฺติ.
จิตฺตกมฺมสฺส ¶ ปโฏ วิย สหชาตนามรูปานํ นิสฺสยภูตา จตุกฺขนฺธา, ตรุปพฺพตาทีนํ ปถวี วิย อาธารณโตเยว สหชาตรูปสตฺตวิฺาณธาตูนํ ยถากฺกมํ นิสฺสยา ภูตรูปํ, วตฺถุ จาติ อิเม นิสฺสยปจฺจโย นาม นิสฺสียติ นิสฺสิตเกหีติ กตฺวา, พลวภาเวน นิสฺสโย ปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย อุป-สทฺทสฺส อติสยโชตกตฺตา, ตสฺส ปน เภทํ วกฺขติ.
ฉ วตฺถูนิ, ฉ อารมฺมณานิ จาติ อิเม ปจฺจยุปฺปนฺนโต ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺตมานภาเวน อุปการโก ปุเรชาตปจฺจโย. ปจฺฉาชาตปจฺจเย อสติ สนฺตานฏฺิติเหตุภาวํ อาคจฺฉนฺตสฺส กายสฺส อุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปจฺฉาชาตปจฺจโย. โส คิชฺฌโปตกสรีรานํ อาหาราสา เจตนา วิย ทฏฺพฺโพ.
ปุริมปุริมปริจิตคนฺโถ วิย อุตฺตรอุตฺตรคนฺถสฺส กุสลาทิภาเวน อตฺตสทิสสฺส ปคุณพลวภาววิสิฏฺอตฺตสมานชาติยตาคาหณํ อาเสวนํ, เตน ปจฺจยา สชาติยธมฺมานํ สชาติยธมฺมาว อาเสวนปจฺจโย. ภินฺนชาติกา หิ ภินฺนชาติเกหิ อาเสวนปคุเณน ปคุณพลวภาววิสิฏฺํ กุสลาทิภาวสงฺขาตํ อตฺตโน คตึ ¶ คาหาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น จ สยํ ตโต คณฺหนฺติ, เต ปน อนนฺตราตีตานิ โลกิยกุสลากุสลานิ เจว อนาวชฺชนกิริยชวนานิ จาติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺตปฺปโยคสงฺขาตกิริยาภาเวน สหชาตานํ นานากฺขณิกานํ วิปากานํ, กฏตฺตารูปานฺจ อุปการิกา เจตนา กมฺมปจฺจโย.
อตฺตโน นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน สหชาตนามรูปานํ นิรุสฺสาหสนฺตภาวาย อุปการกา วิปากจิตฺตเจตสิกา วิปากปจฺจโย. เต หิ ปโยเคน อสาเธตพฺพตาย กมฺมสฺส กฏตฺตา นิปฺผชฺชมานมตฺตโต นิรุสฺสาหสนฺตภาวา โหนฺติ, น กิเลสวูปสมสนฺตภาวา. ตถา สนฺตภาวโตเยว หิ ภวงฺคาทโย ทุพฺพิฺเยฺยา. อภินิปาตสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณมตฺตา ปน วิปากา ทุพฺพิฺเยฺยาว. ชวนปฺปวตฺติยาว เนสํ รูปาทิคฺคหิตตา วิฺายติ.
รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย. สติปิ หิ ชนกภาเว อุปตฺถมฺภกตฺตเมว อาหารสฺส ปธานกิจฺจํ. ชนยนฺโตปิ อาหาโร อวิจฺเฉทวเสน อุปตฺถมฺเภนฺโต ว ชเนตีติ อุปตฺถมฺภกภาโว ว อาหารภาโว. เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมหิ อตฺตานํ อนุวตฺตาปนสงฺขาตาธิปติยฏฺเน ปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย.
อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ¶ อุปคนฺตฺวา อารมฺมณนิชฺฌานกา วิตกฺกาทโย ฌานปจฺจโย. สุคติโต ปฺุโต, ทุคฺคหิโต ปาปโต วา นิยฺยานฏฺเน อุปการกา สมฺมาทิฏฺาทโย มคฺคปจฺจโย.
ปรมตฺถโต ภินฺนาปิ เอกีภาวคตา วิย เอกุปฺปาทาทิภาวสงฺขาตสมฺปโยคลกฺขเณน อุปการกา นามธมฺมา ว สมฺปยุตฺตปจฺจโย. อฺมฺสมฺพนฺธตาย ยุตฺตาปิ สมานา วิปฺปยุตฺตภาเวน ¶ วิสํสฏฺตาย นานตฺตุปคมเนน อุปการกา วตฺถุจิตฺตเจตสิกา วิปฺปยุตฺตปจฺจโย.
ปจฺจุปฺปนฺนสภาวสงฺขาเตน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกา ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺตฺยาทินา วกฺขมานธมฺมา อตฺถิปจฺจโย. สติปิ หิ ชนกตฺเต ิติยํเยว สาติสโย อตฺถิปจฺจยานํ พฺยาปาโรติ อุปตฺถมฺภกตาว เตสํ คหิตา. เอกสฺมึ ผสฺสาทิสมุทาเย ปวตฺตมาเน ทุติยสฺส อภาวโต อตฺตโน ิติยา โอกาสํ อลภนฺตานํ อนนฺตรมุปฺปชฺชมานกจิตฺตเจตสิกานํ โอกาสทานวเสน อุปการกา อนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา นตฺถิปจฺจโย.
อตฺตโน สภาวาวิคมเนน อปฺปวตฺตมานานํ วิคตภาเวน อุปการกาเยว ธมฺมา วิคตปจฺจโย. นิโรธานุปคมนวเสน อุปการกา อตฺถิปจฺจยา ว อวิคตปจฺจโย. สสภาวตามตฺเตน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยตา, นิโรธานุปคมนวเสน อุปการกตา อวิคตปจฺจยตาติ ปจฺจยตาวิเสโส เนสํ ธมฺมาวิเสเสปิ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานฺหิ สมตฺถตาวิเสสํ สพฺพากาเรน ตฺวา ภควตา จตุวีสติปจฺจยา เทสิตาติ ภควติ สทฺธาย ‘‘เอวํ วิเสสา เอเต ธมฺมา’’ติ สุตมยาณํ อุปฺปาเทตฺวา จินฺตาภาวนามยาเณหิ ตทภิสมยาย โยโค กรณีโย. อวิเสเสปิ หิ ธมฺมสามคฺคิยสฺส ตถา ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลานํ วเสน เหฏฺา วุตฺโตปิ ปจฺจโย ปุน ปการนฺเตน วุจฺจติ อเหตุกทุกํ วตฺวาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตทุกํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๕. นามํ จตุกฺขนฺธสงฺขาตํ นามํ ตาทิสสฺเสว นามสฺส ฉธา ฉหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ, ตเทว นามรูปีนํ สมุทิตานํ ¶ ปฺจธา ปจฺจโย โหติ, รูปสฺส ปุน ภูตุปาทายเภทสฺส เอกธา ปจฺจโย โหติ, รูปฺจ นามสฺส เอกธา ปจฺจโย, ปฺตฺตินามรูปานิ นามสฺส ทฺวิธา ทฺวิปฺปการา ¶ ปจฺจยา โหนฺติ, ทฺวยํ ปน นามรูปทฺวยํ สมุทิตํ ทฺวยสฺส ตาทิสสฺเสว นามรูปทฺวยสฺส นวธา ปจฺจโย เจติ เอวํ ปจฺจยา ฉพฺพิธา ิตา.
๑๖. วิปากพฺยากตํ กมฺมวเสน วิปากภาวปฺปตฺตํ กมฺมเวคกฺขิตฺตปติตํ วิย หุตฺวา ปวตฺตมานํ อตฺตโน สภาวํ คาเหตฺวา ปริภาเวตฺวา เนว อฺํ ปวตฺเตติ, น จ ปุริมวิปากานุภาวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ. ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๒๒๑) วจนโต จ อเหตุกกิริเยสุ หสิตุปฺปาทสฺเสว อาเสวนตาอุทฺธรเณน อาวชฺชนทฺวยํ อาเสวนปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา ชวนาเนว อาเสวนปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘ปุริมานิ ชวนานี’’ตฺยาทิ. อวิเสสวจเนเปตฺถ โลกิยกุสลากุสลาพฺยากตชวนาเนว ทฏฺพฺพานิ โลกุตฺตรชวนานํ อาเสวนภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา.
เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ ปฏฺานฏฺกถายํ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๑๒) ‘‘โลกุตฺตโร ปน อาเสวนปจฺจโย นาม นตฺถี’’ติ. ตตฺถ หิ กุสลํ ภินฺนชาติกสฺส ปุเรจรตฺตา น เตน อาเสวนคุณํ คณฺหาเปติ, ผลจิตฺตานิ จ ชวนวเสน อุปฺปชฺชมานานิปิ วิปากาพฺยากเต วุตฺตนเยน อาเสวนํ น คณฺหนฺติ, น จ อฺํ คาหาเปนฺติ. ยมฺปิ ‘‘อาเสวนวินิมุตฺตํ ชวนํ นตฺถี’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, ตมฺปิ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ วิฺายติ. อิตรถา อาจริยสฺส อสมเปกฺขิตาภิธายกตฺตปฺปสงฺโค สิยา. มคฺโค ปน โคตฺรภุโต อาเสวนํ น คณฺหาตีติ นตฺถิ ภูมิอาทิวเสน นานาชาติตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ปฏฺาเน ‘‘โคตฺรภุ ¶ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, โวทานํ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๖). เอกุปฺปาทาทิจตุพฺพิธสมฺปโยคลกฺขณาภาวโต สหุปฺปนฺนานมฺปิ รูปธมฺมานํ สมฺปยุตฺตปจฺจยตา นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺ’’นฺติ.
๑๗. เหตุฌานงฺคมคฺคงฺคานิ สหชาตานํ นาม รูปานนฺติ ตโยเปเต ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ, อุภยตฺถ สหชาตานํ นามานฺจ เหตาทิปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘สหชาตรูปนฺติ หิ สพฺพตฺถ ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานาน’’นฺติ วกฺขติ. สหชาตา เจตนาติ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาณาทีหิปิ สหชาตเจตนา. สหชาตานํ นาม รูปานนฺติ สพฺพาปิ เจตนา นามานํ, ปฏิสนฺธิสหคตา เจตนา กมฺมสมุฏฺานรูปานํ, ปวตฺติยํ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสหคตา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ. นานากฺขณิกา ¶ เจตนาติ วิปากกฺขณโต นานากฺขเณ อตีตภวาทีสุ นิพฺพตฺตา กุสลากุสลเจตนา. นามรูปานนฺติ อุภยตฺถาปิ นามรูปานํ. วิปากกฺขนฺธาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณาทิกา วิปากา อรูปกฺขนฺธา. กมฺมสมุฏฺานมฺปิ หิ รูปํ วิปากโวหารํ น ลภติ อรูปธมฺมภาเวน, สารมฺมณภาเวน จ กมฺมสทิเสสุ อรูปธมฺเมสฺเวว วิปาก-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา.
๑๘. ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺสาติ ปจฺจยธมฺมโต ปุเร อุปฺปนฺนสฺส อิมสฺส รูปกายสฺส. กถํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปุเร นิพฺพตฺติยํ ปจฺฉาชาตสฺส ปจฺจยตาติ? นนุ วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉาชาตปจฺจเย อสติ สนฺตานฏฺิติเหตุกภาวํ อาคจฺฉนฺตสฺสา’’ติ, ตสฺมา สนฺตานปฺปวตฺตสฺส เหตุภาวุปตฺถมฺภเน อิมสฺส พฺยาปาโรติ น โกจิ วิโรโธ.
๑๙. ปฏิสนฺธิยํ ¶ จกฺขาทิวตฺถูนํ อสมฺภวโต, สติ จ สมฺภเว ตํตํวิฺาณานํ ปจฺจยภาวานุปคมนโต, หทยวตฺถุโน จ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สหุปฺปนฺนสฺส ปุเรชาตกตาภาวโต วุตฺตํ ‘‘ฉวตฺถูนิ ปวตฺติย’’นฺติ. ‘‘ปฺจารมฺมณานิ ปฺจวิฺาณวีถิยา’’ติ จ อิทํ อารมฺมณปุเรชาตนิทฺเทเส อาคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตี’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) อวิเสเสน ปจฺจุปฺปนฺนจกฺขาทีนมฺปิ คหิตตฺตา ธมฺมารมฺมณมฺปิ อารมฺมณปุเรชาตํ มโนวิฺาณวีถิยา ลพฺภติ. อตฺถโต เหตํ สิทฺธํ, ยํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมารมฺมณํ คเหตฺวา มโนทฺวาริกวีถิ ปวตฺตติ, ตํ ตสฺส อารมฺมณปุเรชาตํ โหตีติ.
๒๒. ปกติยา เอว ปจฺจยนฺตรรหิเตน อตฺตโน สภาเวเนว อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. อารมฺมณานนฺตเรหิ อสํมิสฺโส ปุถเคว โกจิ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปกโต อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. ปกโตติ เจตฺถ ป-กาโร อุปสคฺโค, โส อตฺตโน ผลสฺส อุปฺปาทนสมตฺถภาเวน สนฺตาเน นิปฺผาทิตภาวํ, อาเสวิตภาวฺจ ทีเปติ, ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผนฺโน ราคาทิ, สทฺธาทิ, อุปเสวิโต วา อุตุโภชนาทิ ปกตูปนิสฺสโย. ตถา เจว นิทฺทิสติ.
๒๓. ครุกตนฺติ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขิตํ. ตถา หิ ‘‘ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา ¶ อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขตี’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๓) ทานสีลอุโปสถกมฺมปุพฺเพกตสุจิณฺณฌานโคตฺรภุโวทานมคฺคาทีนิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณวเสน อสฺส นิทฺเทโส ปวตฺโต.
๒๔. ‘‘ปุริมา ¶ ปุริมา กุสลา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ขนฺธานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) นเยน อนนฺตรปจฺจเยน สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวา อนนฺตรูปนิสฺสยสฺส อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนนฺตรนิรุทฺธา’’ตฺยาทิ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทวเสน อนนฺตรปจฺจโย, พลวการณวเสน อนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจโยติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๒๕. ยถารหํ อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ ราคาทโย…เป… เสนาสนฺจาติ โยชนา. ราคาทโย หิ อชฺฌตฺตํ นิปฺผาทิตา, ปุคฺคลาทโย พหิทฺธา เสวิตา. ตถา หิ วุตฺตํ อาจริเยน –
‘‘ราคสทฺธาทโย ธมฺมา, อชฺฌตฺตมนุวาสิตา;
สตฺตสงฺขารธมฺมา จ, พหิทฺโธปนิเสวิตา’’ติ. (นาม. ปริ. ๘๒๗);
อถ วา อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ กุสลาทิธมฺมานนฺติ ยถาิตวเสเนว โยชนา อตฺตโน หิ ราคาทโย จ อตฺตโน กุสลาทิธมฺมานํ กลฺยาณมิตฺตสฺส สทฺธาทิเก นิสฺสาย กุสลํ กโรนฺตานํ ปเรสฺจ นิสฺสยา โหนฺติ.
ตตฺถ กามราคาทโย นิสฺสาย กามภวาทีสุ นิพฺพตฺตนตฺถํ, ราคาทิวูปสมตฺถฺจ ทานสีลอุโปสถชฺฌานาภิฺาวิปสฺสนามคฺคภาวนา, ราคาทิเหตุกา จ อุปรูปริราคาทโย โหนฺตีติ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ยฺหิ นิสฺสาย ยสฺส ยสฺส สมฺภโว, ตํ ตํ ตสฺส ตสฺส ปกตูปนิสฺสโย โหติ. ปจฺจยมหาปเทโส เหส, ยทิทํ ‘‘อุปนิสฺสยปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. ตถา จาห ‘‘พหุธา โหติ ปกตูปนิสฺสโย’’ติ. สทฺธาทโยติ สีลสุตจาคปฺา. อตฺตโน สทฺธาทิกฺหิ อุปนิสฺสาย อตฺตโน ทานสีลาทโย, ตถา กลฺยาณมิตฺตานํ สทฺธาทโย อุปนิสฺสาย ¶ ปเรสฺจ ทานสีลาทโย ¶ โหนฺตีติ ปากฏเมตํ. สุขํ ทุกฺขนฺติ กายิกํ สุขํ ทุกฺขํ. ปุคฺคโลติ กลฺยาณมิตฺตาทิปุคฺคโล. โภชนนฺติ สปฺปายาทิโภชนํ, อุตุปิ ตาทิโสว.
๒๗. ‘‘อธิปติ…เป… ปจฺจยา โหนฺตี’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตุํ ‘‘ตตฺถ ครุกตมารมฺมณ’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ครุกตมารมฺมณนฺติ ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทาทินา ครุกตํ อารมฺมณํ. ตฺหิ ฌานมคฺคผลวิปสฺสนานิพฺพานาทิเภทํ ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทาทิมคฺคผลาทิธมฺเม อตฺตาธีเน กโรตีติ อารมฺมณาธิปติ นาม. ครุกาตพฺพตามตฺเตน อารมฺมณาธิปติ. ครุกโตปิ พลวการณฏฺเน อารมฺมณูปนิสฺสโยติ อยเมเตสํ วิเสโส. สหชาตา…เป… นามรูปานนฺติ ฉนฺทจิตฺตวีริยวีมํสานํ, วเสน จตุพฺพิโธปิ สหชาตาธิปติ ยถารหํ สหชาตนามรูปานํ ปวตฺติยํเยว สหชาตาธิปติวเสน ปจฺจโย.
๒๘. รูปธมฺมสฺส อรูปธมฺมํ ปติ สหชาตปจฺจยตา ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘วตฺถุวิปากา อฺมฺ’’นฺติ –
๓๐. ยสฺมา ปน อฺมฺุปตฺถมฺภนวเสเนว อฺมฺปจฺจยตา, น สหชาตมตฺตโตติ ปวตฺติยํ รูปํ นามานํ อฺมฺปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺ’’นฺติ. ตถา อุปาทารูปานิ จ ภูตรูปานํ อฺมฺปจฺจยา น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘มหาภูตา อฺมฺ’’นฺติ.
๓๑. นนุ จ ‘‘อรูปิโน อาหารา สหชาตานํ นามรูปาน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวฺจ สติ อสฺีนํ สหชาตาหารสฺส อสมฺภวโต ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ กถมิทํ นียตีติ? วุจฺจเต – มโนสฺเจตนาหารวสปฺปวตฺตสฺส กมฺมสฺส ¶ , ตํสหคตานมฺปิ วา เสสาหารานํ กมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจยตฺตปริยายํ คเหตฺวา สพฺพสตฺตานํ อาหารฏฺิติกตา วุตฺตา, น อาหารปจฺจยภาวโตติ.
๓๒. ‘‘ปฺจ ปสาทา’’ตฺยาทีสุ นนุ อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยา น คหิตาติ? สจฺจํ น คหิตา. ยทิปิ เตสํ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียตา อตฺถิ, สา ปน น ปจฺจยภาวโต. ยถา หิ ชีวิตาหารา เยสํ ปจฺจยา โหนฺติ, เตสํ อนุปาลกา อุปตฺถมฺภกา อตฺถิ, อวิคตปจฺจยภูตา จ ¶ โหนฺติ, น เอวํ อิตฺถิปุริสภาวา ลิงฺคาทีนํ เกนจิ อุปกาเรน อุปการา โหนฺติ. เกวลํ ปน ยถาสเกเหว กมฺมาทิปจฺจเยหิ ปวตฺตมานํ ลิงฺคาทีนํ ยถา อิตฺถาทิคฺคหณสฺส ปจฺจยภาโว โหติ, ตโต อฺเนากาเรน ตํ-สหิตสนฺตาเน อปฺปวตฺติโต ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียตา, อินฺทฺริยตา จ เนสํ วุจฺจติ, ตสฺมา น เตสํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว วุตฺโต.
๓๓. เยสํ นามานํ จกฺขาทีนํ อพฺภนฺตรโต นิกฺขมนฺตานํ วิย ปวตฺตานํ, เยสฺจ รูปานํ นามสนฺนิสฺสเยเนว อุปฺปชฺชมานานํ สมฺปโยคาสงฺกา โหติ, เตสเมว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา. รูปานํ ปน รูเปหิ สาสงฺกา นตฺถิ. วตฺถุสนฺนิสฺสเยเนว ชายนฺตานํ วิสยภาวมตฺตํ อารมฺมณนฺติ เตนาปิ เตสํ สมฺปโยคาสงฺกา นตฺถีติ เยสํ สมฺปโยคาสงฺกา อตฺถิ, เตสเมว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตาปิ วุตฺตาติ อาห ‘‘โอกฺกนฺติกฺขเณ วตฺถู’’ตฺยาทิ.
๓๔. สพฺพถา สพฺพากาเรน ยถารหํ นามวเสน วุตฺตํ ติวิธํ สหชาตํ, ทุวิธํ ปุเรชาตํ, เอกวิธํ ปจฺฉาชาตฺจ ปจฺจยชาตํ, อาหาเรสุ กพฬีกาโร อาหาโร, รูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ อยํ ปฺจวิโธปิ อตฺถิปจฺจโย, อวิคตปจฺจโย จ โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนสภาเวน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส ¶ อุปตฺถมฺภกตฺตา อตฺถิภาวาภาเวน อนุปการกานเมว อตฺถิภาเวน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยภาโวติ นตฺถิ นิพฺพานสฺส สพฺพทา ภาวิโน อตฺถิปจฺจยตา, อวิคตปจฺจยตา จ. อุปฺปาทาทิยุตฺตานํ วา นตฺถิภาโวปการกตาวิรุทฺโธ, วิคตภาโวปการกตาวิรุทฺโธ จ อุปการกภาโว อตฺถิปจฺจยตาทิกาติ น ตสฺส ตปฺปจฺจยตฺตปฺปสงฺโค. รูปชีวิตินฺทฺริยฺเจตฺถ โอชา วิย ิติกฺขเณว อุปการกตฺตา สหชาตปจฺจเยสุ น คยฺหตีติ วิสุํ วุตฺตํ.
๓๕. อิทานิ สพฺเพปิ ปจฺจยา สงฺเขปโตปิ จตุธาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณู…เป… คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. น หิ โส โกจิ ปจฺจโย อตฺถิ, โย จิตฺตเจตสิกานํ อารมฺมณภาวํ น คจฺเฉยฺย, สกสกปจฺจยุปฺปนฺนสฺส จ อุปนิสฺสยภาวํ น คจฺฉติ, กมฺมเหตุกตฺตา จ โลกปฺปวตฺติยา ผลเหตูปจารวเสน สพฺเพปิ กมฺมสภาวํ นาติวตฺตนฺติ, เต จ ปรมตฺถโต โลกสมฺมุติวเสน จ วิชฺชมานาเยวาติ สพฺเพปิ จตูสุ สโมธานํ คจฺฉนฺติ.
๓๖. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘สหชาตรูป’’นฺติ, ตํ สพฺพํ น อวิเสสโต ทฏฺพฺพนฺติ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘สหชาตรูป’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิยฺหิ จิตฺตสมุฏฺานรูปาภาวโต ปวตฺติยํ กมฺมสมุฏฺานานฺจ จิตฺตเจตสิเกหิ สหุปฺปตฺตินิยมาภาวโต สหชาตรูปนฺติ สพฺพตฺถาปิ ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสงฺขาตกมฺมชรูปานฺจ วเสน ทุวิธํ โหติ. กมฺมสฺส กตตฺตา นิพฺพตฺตมานานิ รูปานิ กฏตฺตารูปานิ.
๓๗. อิติ เอวํ วุตฺตนเยน สมฺภวา ยถาสมฺภวํ เตกาลิกา อนนฺตรสมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตวเสน ปฺจนฺนํ อตีตกาลิกานํ, กมฺมปจฺจยสฺส อตีตวตฺตมานวเสน ทฺวิกาลิกสฺส, อารมฺมณอธิปติอุปนิสฺสยปจฺจยานํ ติกาลิกานํ ¶ , อิตเรสํ ปนฺนรสนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนกาลิกานฺจ วเสน กาลตฺตยวนฺโต, นิพฺพานปฺตฺติวเสน กาลวิมุตฺตา จ, จกฺขาทิราคาทิสทฺธาทิวเสน อชฺฌตฺติกา จ, ปุคฺคลอุตุโภชนาทิวเสน ตโต พหิทฺธา จ, ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน สงฺขตา จ, กถา ตปฺปฏิปกฺขภาเวน อสงฺขตา จ ธมฺมา ปฺตฺตินามรูปานํ วเสน สงฺเขปโต ติวิธา ิตา สพฺพถา ปฏฺาเน อนนฺตนยสมนฺตปฏฺาเน ปกรเณ จตุวีสติสงฺขาตา ปจฺจยา นามาติ โยชนา.
๓๘. ตตฺถาติ เตสุ ปฺตฺตินามรูเปสุ.
ปฏฺานนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺตฺติเภทวณฺณนา
๓๙. วจนียวาจกเภทา ทุวิธา ปฺตฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปิยตฺตา’’ตฺยาทิ. ปฺาปิยตฺตาติ เตน เตน ปกาเรน าเปตพฺพตฺตา, อิมินา รูปาทิธมฺมานํ สมูหสนฺตานาทิอวตฺถาวิเสสาทิเภทา สมฺมุติสจฺจภูตา อุปาทาปฺตฺติสงฺขาตา อตฺถปฺตฺติ วุตฺตา. สา หิ นามปฺตฺติยา ปฺาปียติ. ปฺาปนโตติ ปกาเรหิ อตฺถปฺตฺติยา าปนโต. อิมินา หิ ปฺาเปตีติ ‘‘ปฺตฺตี’’ติ ลทฺธนามานํ อตฺถานํ อภิธานสงฺขาตา นามปฺตฺติ วุตฺตา.
๔๐. ภูตปริณามาการมุปาทายาติ ¶ ปถวาทิกานํ มหาภูตานํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตมานานํ ปตฺถฏสงฺคหตาทิอากาเรน ปริณามาการํ ปริณตภาวสงฺขาตํ อาการํ อุปาทาย นิสฺสยํ กตฺวา. ตถา ตถาติ ภูมาทิวเสน. ภูมิปพฺพตาทิกาติ ภูมิปพฺพตรุกฺขาทิกา สนฺตานปฺตฺติ. สมฺภารสนฺนิเวสาการนฺติ ทารุมตฺติกาตนฺตาทีนํ สมฺภารานํ อุปกรณานํ ¶ สนฺนิเวสาการํ รจนาทิวิสิฏฺตํตํสณฺานาทิอาการํ. รถสกฏาทิกาติ รถสกฏคามฆฏปฏาทิกา สมูหปฺตฺติ. จนฺทาวฏฺฏนาทิกนฺติ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ สิเนรุํ ปทกฺขิณวเสน อุทยาทิอาวฏฺฏนาการํ. ทิสากาลาทิกาติ ปุรตฺถิมทิสาทิกา ทิสาปฺตฺติ, ปุพฺพณฺหาทิกา กาลปฺตฺติ, มาโสตุเวสาขมาสาทิกา ตํตํนามวิสิฏฺา มาสาทิปฺตฺติ จ. อสมฺผุฏฺาการนฺติ ตํตํรูปกลาเปหิ อสมฺผุฏฺํ สุสิราทิอาการํ. กูปคุหาทิกา ติ กูปคุหฉิทฺทาทิกา อากาสปฺตฺติ. ตํตํภูตนิมิตฺตนฺติ ปถวีกสิณาทิตํตํภูตนิมิตฺตํ. ภาวนาวิเสสนฺติ ปริกมฺมาทิเภทํ ภาวนาย ปพนฺธวิเสสํ. กสิณนิมิตฺตาทิกาติ กสิณาสุภนิมิตฺตาทิเภทา โยคีนํ อุปฏฺิตา อุคฺคหปฏิภาคาทิเภทา นิมิตฺตปฺตฺติ. เอวมาทิปฺปเภทาติ กสิณุคฺฆาฏิมากาสนิโรธกสิณาทิเภทา จ. อตฺถจฺฉายากาเรนาติ ปรมตฺถธมฺมสฺส ฉายากาเรน ปฏิภาคากาเรน.
๔๑. นามนามกมฺมาทินาเมนาติ นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโปติ อิเมหิ ฉหิ นาเมหิ. ตตฺถ อตฺเถสุ นมตีติ นามํ. ตํ อนฺวตฺถรุฬฺหีวเสน ทุวิธํ, สามฺคุณกิริยายทิจฺฉาวเสน จตุพฺพิธํ. นามเมว นามกมฺมํ. ตถา นามเธยฺยํ. อกฺขรทฺวาเรน อตฺถํ นีหริตฺวา อุตฺติ กถนํ นิรุตฺติ, อตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ. อภิลปตีติ อภิลาโป, สทฺทคตอกฺขรสนฺนิเวสกฺกโม. สา ปนายํ นามปฺตฺติ วิชฺชมานอวิชฺชมานตทุภยสํโยควเสน ฉพฺพิธา โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิชฺชมานปฺตฺตี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ, เอตาย ปฺาเปนฺตีติ ‘‘รูปเวทนา’’ตฺยาทินา ปกาเสนฺติ.
๔๒. อุภินฺนนฺติ วิชฺชมานาวิชฺชมานานํ ทฺวินฺนํ. ปฺจาภิฺา, อาสวกฺขยาณนฺติ ฉ อภิฺา อสฺสาติ ฉฬภิฺโ. เอตฺถ ¶ จ อภิฺานํ วิชฺชมานตฺตา, ตปฺปฏิลาภิโน ปุคฺคลสฺส อวิชฺชมานตฺตา จ อยํ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตถา อิตฺถิยา อวิชฺชมานตฺตา, สทฺทสฺส จ วิชฺชมานตฺตา อิตฺถิสทฺโทติ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ปสาทจกฺขุโน, ตนฺนิสฺสิตวิฺาณสฺส จ วิชฺชมานตฺตา จกฺขุวิฺาณนฺติ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ ¶ . รฺโ จ ปุตฺตสฺส จ สมฺมุติสจฺจภูตตฺตา ราชปุตฺโตติ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ.
๔๓. วจีโฆสานุสาเรนาติ ภูมิปพฺพตรูปเวทนาทิวจีมยสทฺทสฺส อนุสาเรน อนุคมเนน อนุสฺสรเณน อารมฺมณกรเณน ปวตฺตาย โสตวิฺาณวีถิยา ปวตฺติโต อนนฺตรํ อุปฺปนฺนสฺส มโนทฺวารสฺส นามจินฺตนาการปฺปวตฺตสฺส มโนทฺวาริกวิฺาณสนฺตานสฺส ‘‘อิทมีทิสสฺส อตฺถสฺส นาม’’นฺติ ปุพฺเพเยว คหิตสงฺเกโตปนิสฺสยสฺส โคจรา อารมฺมณภูตา ตโต นามคฺคหณโต ปรํ ยสฺสา สมฺมุติปรมตฺถวิสยาย นามปฺตฺติยา อนุสาเรน อนุคมเนน อตฺถา สมฺมุติปรมตฺถเภทา วิฺายนฺติ, สายํ ภูมิปพฺพตรูปเวทนาทิกา ปฺาเปตพฺพตฺถปฺาปิกา โลกสงฺเกเตน นิมฺมิตา โลกโวหาเรน สิทฺธา, มโนทฺวารคฺคหิตา อกฺขราวลิภูตา ปฺตฺติ วิฺเยฺยา ปฺาปนโต ปฺตฺติสงฺขาตา นามปฺตฺตีติ วิฺเยฺยา.
เอตฺถ จ โสตวิฺาณวีถิยา อนนฺตรภาวินึ มโนทฺวาริกวีถิมฺปิ โสตวิฺาณวีถิคฺคหเณเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘โสตวิฺาณวีถิยา’’ติ วุตฺตํ. ฆฏาทิสทฺทฺหิ สุณนฺตสฺส เอกเมกํ สทฺทํ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณวเสน ทฺเว ทฺเว ชวนวารา, พุทฺธิยา คหิตนามปณฺณตฺติภูตํ อกฺขราวลิมารพฺภ เอโกติ เอวํ โสตวิฺาณวีถิยา อนนฺตราย อตีตสทฺทารมฺมณาย ¶ ชวนวีถิยา อนนฺตรํ นามปฺตฺติยา คหณํ, ตโต ปรํ อตฺถาวโพโธติ อาจริยา.
ปฺตฺติเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
ปจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กมฺมฏฺานปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. อิโต ¶ ปจฺจยนิทฺเทสโต ปรํ นีวรณานํ สมนฏฺเน สมถสงฺขาตานํ, อนิจฺจาทิวิวิธาการโต ทสฺสนฏฺเน วิปสฺสนาสงฺขาตานฺจ ทฺวินฺนํ ภาวนานํ ทุวิธมฺปิ กมฺมฏฺานํ ทุวิธภาวนากมฺมสฺส ปวตฺติฏฺานตาย กมฺมฏฺานภูตมารมฺมณํ อุตฺตรุตฺตรโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตาย กมฺมฏฺานภูตํ ภาวนาวีถิฺจ ยถากฺกมํ สมถวิปสฺสนานุกฺกเมน ปวกฺขามีติ โยชนา.
สมถกมฺมฏฺานํ
จริตเภทวณฺณนา
๓. ราโค ว จริตา ปกตีติ ราคจริตา. เอวํ โทสจริตาทโยปิ. จริตสงฺคโหติ มูลจริตวเสน ปุคฺคลสงฺคโห, สํสคฺควเสน ปน เตสฏฺิ จริตา โหนฺติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘ราคาทิเก ติเก สตฺต, สตฺต สทฺธาทิเก ติเก;
เอกทฺวิติกมูลมฺหิ, มิสฺสโต สตฺตสตฺตก’’นฺติ.
เอตฺถ หิ ราคจริตา โทสจริตา โมหจริตา ราคโทสจริตา ราคโมหจริตา โทสโมหจริตา ราคโทสโมหจริตาติ ¶ เอวํ ราคาทิเก ติเก สตฺตกเมกํ. ตถา สทฺธาจริตา พุทฺธิจริตา วิตกฺกจริตา สทฺธาพุทฺธิจริตา สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกจริตา พุทฺธิวิตกฺกจริตา สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกจริตาติ สทฺธาทิเกปิ ติเก เอกนฺติ เอวํ ทฺเว ติเก อมิสฺเสตฺวา จุทฺทส จริตา โหนฺติ. ราคาทิติเก ปน เอกทฺวิติกมูลวเสน สทฺธาทิติเกน สห โยชิเต ราคสทฺธาจริตา ราคพุทฺธิจริตา ราควิตกฺกจริตา ราคสทฺธาพุทฺธิจริตา ราคสทฺธาวิตกฺกจริตา ราคพุทฺธิวิตกฺกจริตา ราคสทฺธาพุทฺธิวิตกฺกจริตาติ ราคมูลนเย เอกํ สตฺตกํ, ตถา ‘‘โทสสทฺธาจริตา โทสพุทฺธิจริตา โทสวิตกฺกจริตา’’ตฺยาทินา โทสมูลนเยปิ เอกํ, ‘‘โมหสทฺธาจริตา’’ตฺยาทินา โมหมูลนเยปิ เอกนฺติ เอวํ เอกมูลนเย สตฺตกตฺตยํ โหติ. ยถา ¶ เจตฺถ, เอวํ ทฺวิมูลกนเยปิ ‘‘ราคโทสสทฺธาจริตา ราคโทสพุทฺธิจริตา ราคโทสวิตกฺกจริตา’’ตฺยาทินา สตฺตกตฺตยํ. ติมูลกนเย ปน ‘‘ราคโทสโมหสทฺธาจริตา’’ตฺยาทินา เอกํ สตฺตกนฺติ เอวํ มิสฺสโต สตฺตสตฺตกวเสน เอกูนปฺาส จริตา โหนฺติ. อิติ อิมา เอกูนปฺาส, ปุริมา จ จุทฺทสาติ เตสฏฺิ จริตา ทฏฺพฺพา. เกจิ ปน ทิฏฺิยา สทฺธึ ‘‘จตุสฏฺี’’ติ วณฺเณนฺติ.
จริตเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภาวนาเภทวณฺณนา
๔. ภาวนาย ปฏิสงฺขารกมฺมภูตา, อาทิกมฺมภูตา วา ปุพฺพภาคภาวนา ปริกมฺมภาวนา นาม. นีวรณวิกฺขมฺภนโต ปฏฺาย โคตฺรภูปริโยสานา กามาวจรภาวนา อุปจารภาวนา นาม. อปฺปนาย สมีปจาริตฺตา คามูปจาราทโย วิย. มหคฺคตภาวปฺปตฺตา อปฺปนาภาวนา นาม อปฺปนาสงฺขาตวิตกฺกปมุขตฺตา ¶ . สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ อารมฺมเณ อปฺเปนฺโต วิย ปวตฺตตีติ วิตกฺโก อปฺปนา. ตถา หิ โส ‘‘อปฺปนา พฺยปฺปนา’’ติ (ธ. ส. ๗) นิทฺทิฏฺโ. ตปฺปมุขตาวเสน ปน สพฺเพปิ มหคฺคตานุตฺตรฌานธมฺมา ‘‘อปฺปนา’’ติ วุจฺจนฺติ.
ภาวนาเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิมิตฺตเภทวณฺณนา
๕. ปริกมฺมสฺส นิมิตฺตํ อารมฺมณตฺตาติ ปริกมฺมนิมิตฺตํ, กสิณมณฺฑลาทิ. ตเทว จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย มนสา อุคฺคเหตพฺพํ นิมิตฺตํ, อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา นิมิตฺตนฺติ อุคฺคหนิมิตฺตํ. ตปฺปฏิภาคํ วณฺณาทิกสิณโทสรหิตํ นิมิตฺตํ อุปจารปฺปนานํ อารมฺมณตฺตาติ ปฏิภาคนิมิตฺตํ.
๖. ปถวีเยว ¶ กสิณํ เอกเทเส อฏฺตฺวา อนนฺตสฺส ผริตพฺพตาย สกลฏฺเนาติ ปถวีกสิณํ, กสิณมณฺฑลํ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ, ตทารมฺมณฺจ ฌานํ ‘ปถวีกสิณ’นฺติ วุจฺจติ. ตถา อาโปกสิณาทีสุปิ. ตตฺถ ปถวาทีนิ จตฺตาริ ภูตกสิณานิ. นีลาทีนิ จตฺตาริ วณฺณกสิณานิ, ปริจฺฉินฺนากาโส อากาสกสิณํ, จนฺทาทิอาโลโก อาโลกกสิณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๗. อุทฺธํ ธุมาตํ สูนํ ฉวสรีรํ อุทฺธุมาตํ, ตเทว กุจฺฉิตฏฺเนอุทฺธุมาตกํ. เอวํ เสเสสุปิ. เสตรตฺตาทินา วิมิสฺสิตํ เยภุยฺเยน นีลวณฺณํ ฉวสรีรํ วินีลกํ วิเสสโต นีลกนฺติ กตฺวา. วิสฺสวนฺตปุพฺพกํ วิปุพฺพกํ. มชฺเฌ ทฺวิธา ฉินฺนํ วิจฺฉิทฺทกํ. โสณสิงฺคาลาทีหิ วิวิธากาเรน ขายิตํ ¶ วิกฺขายิตกํ. โสณสิงฺคาลาทีหิ วิวิเธนากาเรน ขณฺฑิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตกํ. กากปทาทิอากาเรน สตฺเถน หนิตฺวา วิวิธํ ขิตฺตํ หตวิกฺขิตฺตกํ. โลหิตปคฺฆรณกํ โลหิตกํ. กิมิกุลปคฺฆรณกํ ปุฬวกํ. อนฺตมโส เอกมฺปิ อฏฺิ อฏฺิกํ.
๘. อนุ อนุ สรณํ อนุสฺสติ, อรหตาทิพุทฺธคุณารมฺมณา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ. สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ. สุปฺปฏิปนฺนตาทิสํฆคุณารมฺมณา อนุสฺสติ สํฆานุสฺสติ. อขณฺฑตาทินา สุปริสุทฺธสฺส อตฺตโน สีลคุณสฺส อนุสฺสรณํ สีลานุสฺสติ. วิคตมลมจฺเฉรตาทิวเสน อตฺตโน จาคานุสฺสรณํ จาคานุสฺสติ. ‘‘เยหิ สทฺธาทีหิ สมนฺนาคตา เทวา เทวตฺตํ คตา, ตาทิสา คุณา มยิ สนฺตี’’ติ เอวํ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณานุสฺสรณํ เทวตานุสฺสติ. สพฺพทุกฺขูปสมภูตสฺส นิพฺพานสฺส คุณานุสฺสรณํ อุปสมานุสฺสติ. ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทภูตสฺส มรณสฺส อนุสฺสรณํ มรณานุสฺสติ. เกสาทิกายโกฏฺาเส คตา ปวตฺตา สติ กายคตาสติ. อานฺจ อปานฺจ อานาปานํ, อสฺสาสปสฺสาสา, ตทารมฺมณา สติ อานาปานสฺสติ.
๙. มิชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺตา, มิตฺเตสุ ภวาติ วา เมตฺตา, สา สตฺตานํ หิตสุขูปสํหรณลกฺขณา. ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา กรุณา. ปรสมฺปตฺติปโมทลกฺขณา มุทิตา. อิฏฺานิฏฺเสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา อุเปกฺขา. อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมฺา. อุตฺตมวิหารภาวโต, อุตฺตมานํ วา วิหารภาวโต พฺรหฺมวิหาโร.
๑๐. คมนปริเยสนปริโภคาทิปจฺจเวกฺขณวเสน ¶ ¶ กพฬีการาหาเร ปฏิกูลนฺติ ปวตฺตา สฺา อาหาเร ปฏิกูลสฺา.
๑๑. ปถวีธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ ธาตูนํ สลกฺขณโต เกสาทิสสมฺภาราทิโต จ ววตฺถานํ จตุธาตุววตฺถานํ.
๑๒. อรูเป อารมฺมเณ ปวตฺตา อารุปฺปา.
นิมิตฺตเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สปฺปายเภทวณฺณนา
๑๓. อิทานิ ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส จริตานุกูลกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘จริตาสุ ปนา’’ตฺยาทิมาห. ราโค ว จริตํ ปกติ เอตสฺสาติ ราคจริโต, ราคพหุโล ปุคฺคโล, ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต อสุภกมฺมฏฺานํ ตสฺส สปฺปายํ. อานาปานํ โมหจริตสฺส, วิตกฺกจริตสฺส จ สปฺปายํ พุทฺธิวิสยภาเวน โมหปฺปฏิปกฺขตฺตา, วิตกฺกสนฺธาวนสฺส นิวารกตฺตา จ. ฉ พุทฺธานุสฺสติอาทโย สทฺธาจริตสฺส สปฺปายา สทฺธาวุทฺธิเหตุภาวโต.
๑๗. มรณอุปสมสฺาววตฺถานานิ พุทฺธิจริตสฺส สปฺปายานิ คมฺภีรภาวโต พุทฺธิยา เอว วิสยตฺตา.
๑๘. เสสานีติ จตุพฺพิธภูตกสิณอากาสอาโลกกสิณอารุปฺปจตุกฺกวเสน ทสวิธานิ. ตตฺถาปีติ เตสุ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ. ปุถุลํ โมหจริตสฺส สปฺปายํ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย สมฺมุยฺหนโต. ขุทฺทกํ วิตกฺกจริตสฺส สปฺปายํ มหนฺตารมฺมณสฺส วิตกฺกสนฺธาวนปจฺจยตฺตา. อุชุวิปจฺจนีกโต เจว อติสปฺปายตาย ¶ เจตํ วุตฺตํ. ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา, สทฺธาทีนํ วา อนุปการิกา กสิณาทิภาวนา นาม นตฺถิ.
สปฺปายเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภาวนาเภทวณฺณนา
๑๙. สพฺพตฺถาปีติ ¶ จตฺตาลีสกมฺมฏฺาเนสุปิ นตฺถิ อปฺปนา, พุทฺธคุณาทีนํ ปรมตฺถภาวโต, อเนกวิธตฺตา, เอกสฺสปิ คมฺภีรภาวโต จ. พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ อปฺปนาวเสน สมาธิสฺส ปติฏฺาตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อปฺปนาภาวํ อปฺปตฺวา สมาธิ อุปจารภาเวน ปติฏฺาติ. โลกุตฺตรสมาธิ, ปน ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ จ สภาวธมฺเมปิ ภาวนาวิเสสวเสน อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิสุทฺธิภาวนานุกฺกมวเสน หิ โลกุตฺตโร อปฺปนํ ปาปุณาติ. อารมฺมณสมติกฺกมภาวนาวเสน อารุปฺปสมาธิ. อปฺปนาปฺปตฺตสฺเสว หิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิโน อารมฺมณสมติกฺกมนมตฺตํ โหติ.
๒๑. ปฺจปิ ฌานานิ เอเตสมตฺถิ, ตตฺถ นิยุตฺตานีติ วา ปฺจกชฺฌานิกานิ.
๒๒. อสุภภาวนาย ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จณฺฑโสตาย นทิยา อริตฺตพเลน นาวา วิย วิตกฺกพเลเนว ตตฺถ จิตฺตํ ปวตฺตตีติ อสุภกมฺมฏฺาเน อวิตกฺกชฺฌานาสมฺภวโต ‘‘ปมชฺฌานิกา’’ติ วุตฺตํ.
๒๓. เมตฺตากรุณามุทิตานํ โทมนสฺสสหคตพฺยาปาทวิหึสานภิรตีนํ ปหายกตฺตา โทมนสฺสปฺปฏิปกฺเขน โสมนสฺเสเนว สหคตตา ยุตฺตาติ ‘‘เมตฺตาทโย ตโย จตุกฺกชฺฌานิกา’’ติ วุตฺตา.
๒๔. ‘‘สพฺเพ ¶ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ, ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ, ลทฺธสุขสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ เมตฺตาทิวสปฺปวตฺตพฺยาปารตฺตยํ ปหาย กมฺมสฺสกตาทสฺสเนน สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตภาวนานิพฺพตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย พลวตรตฺตา อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส สุขสหคตาสมฺภวโต ‘‘อุเปกฺขา ปฺจมชฺฌานิกา’’ติ วุตฺตา.
ภาวนาเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
โคจรเภทวณฺณนา
๒๖. ยถารหนฺติ ¶ ตํตํอารมฺมณานุรูปโต. กสฺสจิ อารมฺมณสฺส อปริพฺยตฺตตาย ‘‘ปริยาเยนา’’ติ วุตฺตํ.
๒๗. กสิณาสุภโกฏฺาสานาปานสฺสตีสฺเวว หิ ปริพฺยตฺตนิมิตฺตสมฺภโวติ.
๒๘. ปถวีมณฺฑลาทีสุ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺสาติ อาทิมฺหิ ตาว จตุปาริสุทฺธิสีลํ วิโสเธตฺวา ทสวิธํ ปลิโพธํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปิยครุภาวนียาทิคุณสมนฺนาคตํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อฏฺารสวิธํ อนนุรูปวิหารํ ปหาย ปฺจงฺคสมนฺนาคเต อนุรูปวิหาเร วิหรนฺตสฺส เกสนขหรณาทิขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา กสิณมณฺฑลาทีนิ ปุรโต กตฺวา อานาปานโกฏฺาสาทีสุ จิตฺตํ เปตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปถวี ปถวี’’ตฺยาทินา ตํตํภาวนานุกฺกเมน ปถวีกสิณาทีสุ ตํตทารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺตสฺส. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ภาวนา วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๕๔ อาทโย) คเหตพฺพา. ทุวิธมฺปิ หิ ภาวนาวิธานํ อิธ อาจริเยน ¶ อติสงฺเขปโต วุตฺตํ, ตทตฺถทสฺสนตฺถฺจ วิตฺถารนเย อาหริยมาเน อติปฺปปฺโจ สิยาติ มยมฺปิ ตํ น วิตฺถาเรสฺสาม. ยทา ปน ตํ นิมิตฺตํ จิตฺเตน สมุคฺคหิตนฺติ เอวํ ปวตฺตานุปุพฺพภาวนาวเสน ยทา ตํ ปริกมฺมนิมิตฺตํ จิตฺเตน สมฺมา อุคฺคหิตํ โหติ. มโนทฺวารสฺส อาปาถมาคตนฺติ จกฺขุํ นิมฺมีเลตฺวา, อฺตฺถ คนฺตฺวา วา มนสิ กโรนฺตสฺส กสิณมณฺฑลสทิสเมว หุตฺวา มโนทฺวาริกชวนานํ อาปาถํ อาคตํ โหติ.
๒๙. สมาธิยตีติ วิเสสโต จิตฺเตกคฺคตาปตฺติยา สมาหิตา โหติ.
๓๐. จิตฺตสมาธานวเสน ปุคฺคโลปิ สมาหิโตเยวาติ วุตฺตํ ‘‘ตถา สมาหิตสฺสา’’ติ. ตปฺปฏิภาคนฺติ อุคฺคหนิมิตฺตสทิสํ, ตโตเยว หิ ตํ ‘‘ปฏิภาคนิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตํ ปน อุคฺคหนิมิตฺตโต อติปริสุทฺธํ โหติ. วตฺถุธมฺมวิมุจฺจิตนฺติ ปรมตฺถธมฺมโต วิมุตฺตํ, วตฺถุธมฺมโต วา กสิณมณฺฑลคตกสิณโทสโต วินิมุตฺตํ. ภาวนาย นิพฺพตฺตตฺตา ภาวนามยํ. สมปฺปิตนฺติ สุฏฺุ อปฺปิตํ.
๓๑. ตโต ปฏฺายาติ ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย.
๓๓. ปฺจสุ ฌานงฺเคสุ เอเกการมฺมเณ อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ จตุปฺจชวนกติปยภวงฺคโต ¶ ปรํ อคนฺตฺวา อปราปรํ ฌานงฺคาวชฺชนสมตฺถตา อาวชฺชนวสิตา นาม. สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ กติปยภวงฺคโต ปรํ อคนฺตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ สมาปชฺชิตุํ สมตฺถตา สมาปชฺชนวสิตา นาม. เสตุ วิย สีฆโสตาย นทิยา โอฆํ ภวงฺคเวคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา ภวงฺคปาตโต รกฺขณโยคฺยตา อธิฏฺานวสิตา นาม. ยถา ปริจฺฉินฺนกาลํ อนติกฺกมิตฺวา ฌานโต วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสิตา นาม. อถ วา ยถาปริจฺฉินฺนกาลโต อุทฺธํ คนฺตุํ อทตฺวา ปนสมตฺถตา อธิฏฺานวสิตา ¶ นาม. ยถาปริจฺฉินฺนกาลโต อนฺโต อวุฏฺหิตฺวา ยถากาลวเสเนว วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสิตา นามาติ อลมติปฺปปฺเจน. ปจฺจเวกฺขณวสิตา ปน อาวชฺชนวสิตาย เอว สิทฺธา. อาวชฺชนานนฺตรชวนาเนว หิ ปจฺจเวกฺขณชวนานิ นาม. วิตกฺกาทิโอฬาริกงฺคํ ปหานายาติ ทุติยชฺฌานาทีหิ วิตกฺกาทิโอฬาริกงฺคานํ ฌานกฺขเณ อนุปฺปาทาย. ปทหโตติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส. ตสฺส ปน อุปจารภาวนา นิปฺผนฺนา นาม โหติ วิตกฺกาทีสุ นิกนฺติวิกฺขมฺภนโต ปฏฺายาติ ทฏฺพฺพํ. ยถารหนฺติ ตํตํฌานิกกสิณาทิอารมฺมณานุรูปํ.
๓๖. อากาสกสิณสฺส อุคฺฆาเฏตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ ‘‘อากาสวชฺชิเตสู’’ติ. กสิณนฺติ กสิณปฏิภาคนิมิตฺตํ. อุคฺฆาเฏตฺวาติ อมนสิการวเสน อุทฺธริตฺวา. อนนฺตวเสน ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ ‘‘อนนฺตํ อากาสํ, อนนฺตํ อากาส’’นฺติ อากาสํ อารพฺภ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส, น ปน เกวลํ ‘‘อนนฺตํ อนนฺต’’นฺติ. เอวํ วิฺาณฺจายตเนปิ. ‘‘อนนฺต’’นฺติ อวตฺวาปิ ‘‘อากาโส อากาโส (วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๖), วิฺาณํ วิฺาณ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๘๑) มนสิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อาจริยา.
๓๙. ‘‘สนฺตเมตํ, ปณีตเมต’’นฺติ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ อภาวมตฺตารมฺมณตาย ‘‘เอตํ สนฺตํ, เอตํ ปณีต’’นฺติ ภาเวนฺตสฺส.
๔๐. อวเสเสสุ จาติ กสิณาทีหิ สห อปฺปนาวหกมฺมฏฺานโต อวเสเสสุ พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ อฏฺสุ ¶ , สฺาววตฺถาเนสุ จาติ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ. ปริกมฺมํ กตฺวาติ ‘‘โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ตฺยาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๔) วุตฺตวิธาเนน ปริกมฺมํ กตฺวา. สาธุกมุคฺคหิเตติ พุทฺธาทิคุณนินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาวเสน สุฏฺุ อุคฺคหิเต. ปริกมฺมฺจ สมาธิยตีติ ปริกมฺมภาวนา สมาหิตา นิปฺผชฺชติ. อุปจาโร จ สมฺปชฺชตีติ นีวรณานิ วิกฺขมฺเภนฺโต อุปจารสมาธิ จ อุปฺปชฺชติ.
๔๑. อภิฺาวเสน ¶ ปวตฺตมานนฺติ อภิวิเสสโต ชานนฏฺเน อภิฺาสงฺขาตํ อิทฺธิวิธาทิปฺจโลกิยาภิฺาวเสน ปวตฺตมานํ, อภิฺาปาทกปฺจมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวาติ กสิณานุโลมาทีหิ จุทฺทสหากาเรหิ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕) จิตฺตํ ปริทเมตฺวา อภินีหารกฺขมํ กตฺวา อุเปกฺเขกคฺคตาโยคโต อนุรูปตฺตา จ รูปาวจรปฺจมชฺฌานเมว อภิฺานํ ปาทกํ ปติฏฺาภูตํ ปถวาทิกสิณารมฺมณํ ปฺจมชฺฌานํ, ตํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย. อธิฏฺเยฺยาทิกมาวชฺเชตฺวาติ อิทฺธิวิธาณสฺส ปริกมฺมกาเล อธิฏฺาตพฺพํ วิกุพฺพนียํ สตาทิกํ โกมารรูปาทิกํ, ทิพฺพโสตสฺส ปริกมฺมกาเล ถูลสุขุมเภทํ สทฺทํ, เจโตปริยาณสฺส ปริกมฺมกาเล ปรสฺส หทยงฺคตวณฺณทสฺสเนน สราคาทิเภทํ จิตฺตํ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ปริกมฺมสมเย ปุริมภเวสุ จุติจิตฺตาทิเภทํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธํ, ทิพฺพจกฺขุสฺส ปริกมฺมสมเย โอภาสผริตฏฺานคตํ รูปํ วา อาวชฺเชตฺวา.
ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ ‘‘สตํ โหมิ, สหสฺสํ โหมี’’ตฺยาทินา ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส. รูปาทีสูติ ปริกมฺมวิสยภูเตสุ รูปปาทกชฺฌานสทฺทปรจิตฺตปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธาทิเภเทสุ อารมฺมเณสุ. เอตฺถ หิ อิทฺธิวิธาณสฺส ตาว ปาทกชฺฌานํ, กาโย, รูปาทิอธิฏฺาเน รูปาทีนิ จาติ ฉ อารมฺมณานิ ¶ . ตตฺถ ปาทกชฺฌานํ อตีตเมว, กาโย ปจฺจุปฺปนฺโน, อิตรํ ปจฺจุปฺปนฺนมนาคตํ วา. ทิพฺพโสตสฺส ปน สทฺโทเยว, โส จ โข ปจฺจุปฺปนฺโน. ปรจิตฺตวิชานนาย ปน อตีเต สตฺตทิวเสสุ, อนาคเต สตฺตทิวเสสุ จ ปวตฺตํ ปริตฺตาทีสุ ยํ กิฺจิ ติกาลิกํ จิตฺตเมว อารมฺมณํ โหตีติ มหาอฏฺกถาจริยา (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๖; ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๓๔).
สงฺคหการา ปน ‘‘จตฺตาโรปิ ขนฺธา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๓๔) วทนฺติ, กถํ ปนสฺสา ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตารมฺมณตา, นนุ จ อาวชฺชนาย คหิตเมว อิทฺธิจิตฺตสฺส อารมฺมณํ โหติ, อาวชฺชนาย จ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตมารมฺมณํ กตฺวา นิรุชฺฌมานาย ตํสมกาลเมว ปรสฺส จิตฺตมฺปิ นิรุชฺฌตีติ อาวชฺชนชวนานํ กาลวเสน เอการมฺมณตา น สิยา, มคฺคผลวีถิโต อฺตฺถ อาวชฺชนชวนานํ กถฺจ นานารมฺมณตา น อธิปฺเปตาติ? อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๖; ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๓๔) ตาว สนฺตติอทฺธาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา โยชิตา. อานนฺทาจริโย (ธ. ส. มูลฏี. ๑๔๓๔ โถก วิสทิสํ) ปน ภณติ ‘‘ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ปจฺจุปฺปนฺนาทิวิภาคํ อกตฺวา เกวลํ ‘อิมสฺส จิตฺตํ ¶ ชานามิ’จฺเจว ปริกมฺมํ กตฺวา ปุนปิ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อวิเสเสเนว จิตฺตํ อาวชฺเชตฺวา ติณฺณํ, จตุนฺนํ วา ปริกมฺมานํ อนนฺตรํ เจโตปริยาเณน ปรสฺส จิตฺตํ ปฏิวิชฺฌติ รูปํ วิย ทิพฺพจกฺขุนา. ปจฺฉา กามาวจรจิตฺเตน สราคาทิววตฺถานมฺปิ กโรติ นีลาทิววตฺถานํ วิย. ตานิ จ สพฺพานิ อภิมุขีภูตจิตฺตารมฺมณาเนว, อนิฏฺเ จ าเน นานารมฺมณตาโทโส นตฺถิ อภินฺนาการปฺปวตฺติโต’’ติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธา, ขนฺธปฺปฏิพทฺธานิ จ นามโคตฺตานิ, นิพฺพานฺจ อารมฺมณํ โหติ, ทิพฺพจกฺขุสฺส ปน รูปเมว ¶ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อยเมเตสํ อารมฺมณวิภาโค. ยถารหมปฺเปตีติ ตํตํปริกมฺมานุรูปโต อปฺเปติ.
๔๒. อิทานิ อารมฺมณานํ เภเทน อภิฺาเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทฺธิวิธา’’ตฺยาทิมาห. อธิฏฺานาทิ อิทฺธิปฺปเภโท เอติสฺสาติ อิทฺธิวิธา. ทิพฺพานํ โสตสทิสตาย, ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตาย จ ทิพฺพฺจ ตํ โสตฺจาติ ทิพฺพโสตํ. ปเรสํ จิตฺตํ วิฺายติ เอตายาติ ปรจิตฺตวิชานนา. อตฺตโน สนฺตาเน นิวุตฺถวเสน เจว โคจรนิวาสวเสน จ ปุพฺเพ อตีตภเวสุ ขนฺธาทีนํ อนุสฺสรณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ. วุตฺตนเยน ทิพฺพฺจ ตํ จกฺขุ จาติ ทิพฺพจกฺขุ. ‘จุตูปปาตาณ’นฺติ ปน ทิพฺพจกฺขุเมว วุจฺจติ. ยถากมฺมูปคาณอนาคตํสาณานิปิ ทิพฺพจกฺขุวเสเนว อิชฺฌนฺติ. น หิ เตสํ วิสุํ ปริกมฺมํ อตฺถิ. ตตฺถ อนาคตํสาณสฺส ตาว อนาคเต สตฺตทิวสโต ปรํ ปวตฺตนกํ จิตฺตเจตสิกํ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย ปวตฺตนกฺจ ยํ กิฺจิ อารมฺมณํ โหติ. ตฺหิ สวิสเย สพฺพฺุตฺาณคติกนฺติ. ยถา กมฺมูปคาณสฺส ปน กุสลากุสลสงฺขาตา เจตนา, จตฺตาโรปิ วา ขนฺธา อารมฺมณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
โคจรวเสน เภโท โคจรเภโท.
โคจรเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถกมฺมฏฺานวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ
วิสุทฺธิเภทวณฺณนา
๔๓. อนิจฺจาทิวเสน ¶ วิวิธากาเรน ปสฺสตีติ วิปสฺสนา, อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา ภาวนาปฺา. ตสฺสา กมฺมฏฺานํ, สาเยว วา กมฺมฏฺานนฺติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ. ตสฺมึ วิปสฺสนากมฺมฏฺาเน สตฺตวิเธน วิสุทฺธิสงฺคโหติ สมฺพนฺโธ.
๔๔. อนิจฺจตาเยว ¶ ลกฺขณํ ลกฺขิตพฺพํ, ลกฺขียติ อเนนาติ วา อนิจฺจลกฺขณํ. อุทยวยปฏิปีฬนสงฺขาตทุกฺขภาโว ว ลกฺขณนฺติ ทุกฺขลกฺขณํ. ปรปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาโว อนตฺตตา, ตเทว ลกฺขณนฺติ อนตฺตลกฺขณํ.
๔๕. ติณฺณํ ลกฺขณานํ อนุ อนุ ปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา.
๔๖. ขนฺธาทีนํ กลาปโต สมฺมสนวสปฺปวตฺตํ าณํ สมฺมสนาณํ. อุปฺปาทภงฺคานุปสฺสนาวสปฺปวตฺตาณํ อุทยพฺพยาณํ. อุทยํ มุจฺจิตฺวา วเย ปวตฺตํ าณํ ภงฺคาณํ. สงฺขารานํ ภยโต อนุปสฺสนาวเสน ปวตฺตํ าณํ ภยาณํ, ทิฏฺภยานํ อาทีนวโต เปกฺขณวเสน ปวตฺตํ าณํ อาทีนวาณํ, ทิฏฺาทีนเวสุ นิพฺพินฺทนวสปฺปวตฺตํ าณํ นิพฺพิทาาณํ. นิพฺพินฺทิตฺวา สงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกมฺยตาวเสน ปวตฺตํ าณํ มุจฺจิตุกมฺยตาาณํ. มุจฺจนสฺส อุปายสมฺปฏิปาทนตฺถํ ปุน สงฺขารานํ ปริคฺคหวสปฺปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขาาณํ. ปฏิสงฺขาตธมฺเมสุ ภยนนฺทีวิวชฺชนวเสน อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ าณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ. ปุริมานํ นวนฺนํ กิจฺจนิปฺผตฺติยา, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อนุกูลํ าณํ อนุโลมาณํ.
๔๗. อตฺตสฺุตาย สฺุโต. สํโยชนาทีหิ วิมุจฺจนฏฺเน วิโมกฺโข. นิจฺจนิมิตฺตาทิโน อภาวโต อนิมิตฺโต. ปณิหิตสฺส ตณฺหาปณิธิสฺส อภาวโต อปฺปณิหิโต.
๔๙. โย ¶ นํ ปาติ, ตํ โมกฺเขติ อปายาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขํ, ตเทว กายทุจฺจริตาทีหิ สํวรณโต สํวโร, สมาธาโนปธารณฏฺเน สีลฺจาติ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ รูปาทีสุ สํวรณวเสน ¶ ปวตฺตํ สีลํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ. มิจฺฉาชีว วิวชฺชเนน อาชีวสฺส ปริสุทฺธิวสปฺปวตฺตํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ. ปจฺจเย สนฺนิสฺสิตํ เตสํ อิทมตฺถิกตาย ปจฺจเวกฺขณสีลํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ. จตุพฺพิธตฺตา เทสนาสํวรปริเยฏฺิปจฺจเวกฺขณวเสน, ปริสุทฺธตฺตา จ จตุปาริสุทฺธิสีลํ นาม.
๕๐. จิตฺตวิสุทฺธิ นาม จิตฺตสฺส วินีวรณภาวาปาทนวเสน วิโสธนโต, จิตฺตสีเสน นิทฺทิฏฺตฺตา, วิสุทฺธตฺตา จาติ วา กตฺวา.
๕๑. ‘‘ธมฺมานํ สามฺสภาโว ลกฺขณํ, กิจฺจสมฺปตฺติโย รโส, อุปฏฺานากาโร, ผลฺจ ปจฺจุปฏฺาน’’นฺติ เอวํ วุตฺตานํ ลกฺขณาทีนํ ‘‘ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, กกฺขฬลกฺขณา ปถวี’’ตฺยาทินา วิตฺถารโต, ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺตฺยาทินา สงฺเขปโต จ ปริคฺคโห ปจฺจตฺตลกฺขณาทิวเสน ปริจฺฉิชฺช คหณํ ทุกฺขสจฺจววตฺถานํ ทิฏฺิวิสุทฺธิ นาม ‘‘นามรูปโต อตฺตา นตฺถี’’ติ ทสฺสนโต ทิฏฺิ จ อตฺตทิฏฺิมลวิโสธนโต วิสุทฺธิ จาติ กตฺวา.
๕๒. ปจฺจยปริคฺคโหติ นามฺจ รูปฺจ ปฏิสนฺธิยํ ตาว อวิชฺชาตณฺหาอุปาทานกมฺมเหตุวเสน นิพฺพตฺตติ. ปวตฺติยฺจ รูปํ กมฺมจิตฺตอุตุอาหารปจฺจยวเสน, นามฺจ จกฺขุรูปาทินิสฺสยารมฺมณาทิปจฺจยวเสน, วิเสสโต จ โยนิโสมนสิการาทิจตุจกฺกสมฺปตฺติยา กุสลํ, ตพฺพิปริยาเยน อกุสลํ, กุสลากุสลวเสน วิปาโก ภวงฺคาทิวเสน อาวชฺชนํ, ขีณาสวสนฺตานวเสน กิริยชวนํ, อาวชฺชนฺจ อุปฺปชฺชตีติ เอวํ สาธารณาสาธารณวเสน ตีสุ อทฺธาสุ นามรูปปฺปวตฺติยา ปจฺจกฺขาทิสิทฺธสฺส กมฺมาทิปจฺจยสฺส ปริคฺคณฺหนํ สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ นาม ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺตฺยาทิกาย ¶ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) โสฬสวิธาย, ‘‘สตฺถริกงฺขตี’’ตฺยาทิกาย (ธ. ส. ๑๑๒๓;