📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมาวตาร-ปุราณฏีกา

๑. ปโม ปริจฺเฉโท

จิตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

. ตตฺถ เตสุ จตุพฺพิเธสุ ปรมตฺเถสุ, ชาตินิทฺธารณํ. จิตฺตนฺติ จิตฺตํ นาม. วิชานาตีติ วิชานนํ, วิสยานํ วิชานนํ วิสยวิชานนํ. จิตฺตสรูปปริทีปนมิทํ วจนํ. ตสฺส ปน จิตฺตสฺส โก วจนตฺโถ โก สทฺทตฺโถ. วุจฺจเต อาจริเยน. สพฺพสงฺคาหกวเสน สพฺเพสํ จิตฺตานํ สงฺคาหกนยวเสน. อารมฺมณํ จินฺเตติ ชานาตีติ จิตฺตํ, ตทา สพฺพํ จิตฺตํ อธิปฺเปตํ. ชวนวีถิวเสน อตฺตสนฺตานํ จิโนตีติ จิตฺตํ, ตทา กุสลากุสลมหากิริยาจิตฺตํ อธิปฺเปตํ. อฺเสํ ชวนานํ อคฺคหณํ กามาวจรชวนานิ เอว เยภุยฺยวเสน สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนฺตีติ าปนตฺถํ.

. วิจิตฺตํ กรณํ ยสฺส ตํ วิจิตฺตกรณํ, ตสฺส ภาโว วิจิตฺตกรณา. ‘‘อิมสฺส รูปสฺส อุทฺธํ อิทํ โหตุ, เหฏฺา อิทํ โหตุ, อุภยปสฺเส อิท’’นฺติ จินฺเตตฺวา ยถาจินฺติเตน กเมน เสสจิตฺตรูปนิปฺผาทนํ โหติ, เอวํ ยํ กิฺจิ โลเก วิจิตฺตํ สิปฺปชาตํ, สพฺพํ ตํ จิตฺเตเนว กรียติ. เอวํ วิจิตฺตกรณตาย จิตฺตํ. ตทา กรณตาย จิตฺตํ กโรตีติ จิตฺตํ. อิทํ ตทฺธิตปทํ. วา อยํ อฺโ นโย. ตํ อตฺตโน จิตฺตตาย อฺเทว สราคํ จิตฺตํ, อฺํ สโทสํ, อฺํ สโมหํ. อฺํ กามาวจรํ, อฺํ รูปาวจราทิเภทํ. อฺํ รูปารมฺมณํ, อฺํ สทฺทาทิอารมฺมณํ. รูปารมฺมเณสุปิ อฺํ นีลารมฺมณํ, อฺํ ปีตาทิอารมฺมณํ. สทฺทาทิอารมฺมเณสุปิ เอเสว นโย. สพฺเพสุปิ เตสุ อฺํ หีนํ, อฺํ มชฺฌิมํ, อฺํ ปณีตํ. หีนาทีสุปิ อฺํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ, อฺํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีริยาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีมํสาธิปเตยฺยํ, ตสฺมา ยสฺส อิเมสํ สมฺปยุตฺตภูมิอารมฺมณหีนมชฺฌิมปณีตาธิปตีนํ วเสน อตฺตโน จิตฺตตาย จิตฺตํ. จิตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จิตฺตํ. ตทา สพฺพํ จิตฺตํ. ปฺตฺติยมฺปิ วิฺาเณ วิจิตฺเต จิตฺตสฺส กมฺมํ จิตฺตกมฺมํ, จิตฺตกมฺมเมว จิตฺตกมฺมกํ, จิตฺตกมฺมเก วิจิตฺเต อิธ อิมสฺมึ อธิกาเร จิตฺตสมฺมุติ จิตฺตสทฺโท วิฺาเณ จิตฺเต วิฺุนา ทฏฺพฺโพ.

ตํ ปน สพฺพสงฺคาหกวเสน จินฺเตตีติอาทินา วุตฺตปฺปการํ จิตฺตํ. สารมฺมณโต สารมฺมณภาเวน เอกวิธํ. สวิปากาวิปากโต สวิปากาวิปากวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ตสฺมึ ทุวิเธ จิตฺเต สวิปากํ นาม จิตฺตํ กุสลากุสลํ, อวิปากํ อพฺยากตํ, กุสลากุสลภาเวน อกถิตนฺติ อตฺโถ. กุสลชาติ อกุสลชาติ อพฺยากตชาตีติ ชาติเภทโต ติวิธํ.

ตตฺถ ตสฺมึ วจเน ‘‘กุสล’’นฺติ เอตสฺส สทฺทสฺส ปน โก วจนตฺโถ.

๑๐. กุจฺฉิตานํ สลนโต ปาปกานํ ธมฺมานํ กมฺปนโต วิทฺธํสนโต. กุจฺฉิเตนากาเรน สยนฺตีติ กุสา, กุสานํ อกุสลสงฺขาตานํ ลวเนน ฉินฺทนโต. กุจฺฉิเต สาติ ตนุํ กโรตีติ กุสํ, กุเสน าเณน ลาตพฺพตฺตา คเหตพฺพตฺตา. วา อยํ อฺโ นโย.

๑๑. กุสลสทฺโทยํ อยํ กุสลสทฺโท เฉเก อตฺเถ อาโรคฺยตฺเถ อนวชฺชตฺเถ อิฏฺวิปาเก อตฺเถปิ ทิฏฺโ อมฺเหหิ. อิธ อิมสฺมึ อธิกาเร อนวชฺชาทิเก อตฺเถ ทิฏฺโ. อาทิ-สทฺเทน อาโรคฺยตฺถอิฏฺวิปากตฺถา คเหตพฺพา. ทิฏฺโ ยสฺมา, ตสฺมา อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณํ กุสลํ. นตฺถิ อวชฺชํ กิเลสาวชฺชํ กิเลสโทโส กิเลสทรโถ เอตสฺสาติ อนวชฺชํ, กมฺเมน วิปจฺจียเตติ วิปาโก, อิฏฺานิฏฺาทิอารมฺมณานุภวนวเสน, อตฺตโน สภาเวน จ อิฏฺโ วิปาโก เอตสฺสาติ อิฏฺวิปากํ, อนวชฺชเมว อิฏฺวิปากํ, ตํ ลกฺขียติ อเนน อวิฺาตํ ลกฺขิตพฺพํ กุสลนฺติ ลกฺขณํ, อนวชฺชอิฏฺวิปากํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณํ. อนวชฺชอิฏฺวิปากเมว กุสลํ. นนุ กถํ สยเมว อตฺตโน ลกฺขณํ ภเวยฺยาติ โจทนา ภเวยฺย วิฺาตาวิฺาตสทฺทตฺถภาเวน ลกฺขณลกฺขิตพฺพภาวยุตฺติโต. กุสลสทฺทตฺถวเสน หิ อวิฺาตํ อปากฏํ กุสลํ ลกฺขิตพฺพํ โหติ. อนวชฺชอิฏฺวิปากสทฺทตฺถวเสน วิฺาตํ ปากฏํ กุสลํ ลกฺขณํ โหติ. อกุสลวิทฺธํสนรสํ อกุสลานํ วิทฺธํสนํ อกุสลวิทฺธํสนํ, ตํ รโส กิจฺจเมตสฺสาติ อกุสลวิทฺธํสนรสํ, อกุสลวิทฺธํสนกิจฺจํ. โวทานภาเวน ปจฺจุปฏฺาตีติ โวทานปจฺจุปฏฺานํ, โวทานอุปฏฺานาการํ โวทานคยฺหาการํ. วา อยํ อฺโ นโย. วชฺชปฏิปกฺขตฺตา อนวชฺชลกฺขณเมว กุสลํ, วชฺชปฏิปกฺขลกฺขณํ กุสลนฺติ อตฺโถ. โวทานภาวรสํ โวทานภาวสมฺปตฺติกํ. อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ อิฏฺวิปากผลํ. โยนิโสมนสิการปทฏฺานํ ปทฺจ ตํ านฺจาติ ปทฏฺานํ, อุโภ การณตฺถาธิวจนํ, ตสฺมา อาสนฺนการณนฺติ อตฺโถ, อิตรถา ปุนรุตฺติโทโส สิยา, โยนิโสมนสิกาโร ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ เอตสฺสาติ โยนิโสมนสิการปทฏฺานํ.

สาวชฺชานิฏฺวิปากลกฺขณํ อกุสลํ. ตทุภยวิปรีตํ เตหิ อุภเยหิ กุสลากุสเลหิ วิปรีตํ อวิปากลกฺขณํ เอตสฺสาติ ตทุภยวิปรีตลกฺขณํ อพฺยากตํ. วา อยํ อฺโ นโย. อวิปาการหํ วิปากสฺส อนนุจฺฉวิกํ.

สวตฺถุกาวตฺถุกเภทโตติ สวตฺถุกํ หทยวตฺถุกํ, อวตฺถุกํ หทยวตฺถุวิรหิตํ.

๑๒. อุทฺทานโต สงฺเขปวเสน กิเลสวตฺถุวเสน ทุเว กามา โหนฺติ. ฉนฺทราโคว กิเลโส, เตภูมเก ปวตฺตํ วฏฺฏสหิตํ วตฺถุ, วสติ กิเลโส เอตฺถาติ วตฺถุ.

๑๓. กิเลสกาโม วตฺถุํ กาเมติ อิจฺฉติ, วตฺถุ กิเลสกาเมน กามียติ อิจฺฉียตีติ กตฺตุการกกมฺมการกทฺวเย สาธนทฺวเย เอส เอโส ทุวิโธปิ กาโม สิชฺฌติ.

๑๔-๕. โส อยํ ทุวิโธปิ กาโม ยสฺมึ ปเทเส สมฺปตฺตีนํ วเสน อวจรติ, อิติ ตสฺมา การณา โส ปน ปเทโส จตุปายานํ ฉนฺนํ เทวานํ มนุสฺสานํ วเสน เอว เอกาทสวิโธ โหติ.

๑๖. กาโมวจรตีติ เอตฺถ เอตสฺมึ เอกาทสวิเธ ปเทเส กาโม อวจรติ, อิติ ตสฺมา การณา โส ปเทโส อสฺส กามสฺส อเนน กาเมน อภิลกฺขิตตฺตา กามาวจรสฺิโต. อภิลกฺขิตสทฺทปฺปโยเค ตติยตฺเถ ‘‘อสฺสา’’ติ ฉฏฺี โหตีติ สทฺทสตฺถวิทู ปนฺติ. สสตฺถาวจโร ปเทโส วิย สตฺเต สสนฺติ หึสนฺติ เตหีติ สตฺถา, สห สตฺเถหีติ สสตฺถา, สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ เอตฺถาติ สสตฺถาวจโร. ยถา หิ ยสฺมึ ปเทเส สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ, โส ปเทโส วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ทฺวิปทจตุปฺปเทสุ อวจรนฺเตสุ เตสํ อุปลกฺขิตตฺตา ‘‘สสตฺถาวจโร’’ตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ รูปาวจราทีสุ ตตฺถ อวจรนฺเตสุ เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา อยํ ปเทโส ‘‘กามาวจโร’’ตฺเวว วุจฺจติ.

๑๗. ยถา รูปภโว อุตฺตรปทสฺส โลปํ กตฺวา รูปนฺติ วุตฺโต, เอวํ ตถา สฺวายํ โส อยํ เอโส กามาวจโร อุตฺตรปทสฺส โลปํ กตฺวา กาโม อิติ สฺิโต กาโม นาม อุทีริโต ปณฺฑิเตน กถิโต.

๑๘. ตสฺมึ กาเม อิทํ จิตฺตํ ตสฺมึ กามาวจเร สทา อวจรติ, อิติ ตสฺมา การณา กามาวจรํ อิติ เอวํ กามฆาตินา กามานํ วินาสเกน พุทฺเธน กถิตํ. กิฺจาปิ เอตํ รูปารูปภเวสุปิ อวจรติ, ยถา ปน สงฺคาเม เยภุยฺเยน อวจรณโต ‘‘สงฺคามาวจโร’’ติ ลทฺธนาโม นาโค นคเร จรนฺโตปิ ‘‘สงฺคามาวจโร’’ตฺเวว วุจฺจติ, ถลจรชลจรา ปาณิโน อถเล อชเล ิตาปิ ‘‘ถลจรชลจรา’’ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เอวํ อิทํ อฺตฺถ อวจรนฺตมฺปิ กามาวจรเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อารมฺมณกรณวเสน วา เอตฺถ กาโม อวจรตีติปิ กามาวจรํ. กามฺเจส รูปารูปาวจเรสุปิ อวจรติ, ยถา ปน วทตีติ วจฺโฉ, มหิยํ เสตีติ มหึโสติ วุตฺเต น ยตฺตกา วทนฺติ, มหิยํ วา เสนฺติ, สพฺเพสํ ตํ นามํ โหติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

๑๙. ปฏิสนฺธึ ภเว กาเม กามภวสงฺขาเต กาเม ปฏิสนฺธึ อวจารยติ, อิติ ตสฺมา กามาวจรํ. อิติ เอวํ วา อยํ อฺโ นโย. ตตฺร ตสฺมึ กามาวจเร ปริยาปนฺนํ อนฺโตคธํ, อิติ ตสฺมา กามาวจรํ.

๒๐. อฏฺวิธํ จิตฺตํ กามาวจรสฺิตํ อิทํ อฏฺวิธํ จิตฺตํ. ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสเนว ปุฺกิริยา เอว เตสํ เตสํ ผลานิสํสานํ วตฺถูนิ การณานีติ ปุฺกิริยวตฺถูนิ, เตสํ วโส, เตน ปวตฺตติ.

๒๑. ทานํ สีลํ ภาวนา ปตฺติทานํ เวยฺยาวจฺจํ ธมฺมเทสนา อนุโมทนา ทิฏฺิชุภาโว สํสุติ ธมฺมสฺสวนฺจ อปจาโย อปจายนํ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปุฺานิ เอว วตฺถูนิ ปุฺวตฺถูนิ, เตสํ ปเภโท ปุฺวตฺถุปฺปเภโท เยฺโย ปณฺฑิเตน ชานิตพฺโพ.

๒๒-๓. คจฺฉนฺติ สงฺคหํ ทาเน ปตฺติทานานุโมทนา ทาเน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, เวยฺยาวจฺจาปจายนา สีลมเย ปุฺเ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ธมฺมเทสนา ธมฺมสฺสวนํ ทิฏฺิอุชุกา ภาวนามเย ปุฺเ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ทส ปุฺกิริยาปิ จ ตีณิ เอว สมฺโภนฺติ.

๒๔. สพฺพานุสฺสติปุฺฺจ ปสํสา สรณตฺตยํ รตนตฺตยคุณปสํสา จ เอเต ทิฏฺิชุกมฺมมฺหิ สงฺคยฺหนฺติ, ตสฺมึ สงฺคหปาปุเณ สํสโย สนฺเทโห นตฺถิ.

๒๕. ปุริมา เจตนา ตโต ปุพฺพภาเค ปวตฺตา เจตนา, มุฺจเจตนา ปจฺจุปฺปนฺนา เจตนา, ปรเจตนา ปจฺฉากาเล ปวตฺตา เจตนา, ติสฺโสปิ เจตนา ทานมเย ปุฺเ โหนฺติ. เอวนฺติ ยถา ติสฺโสปิ เจตนา ทานมเย ปุฺเ โหนฺติ, เอวํ ตถา ทานมยปุฺโต เสเสสุปิ สีลมยภาวนามเยสุ ติสฺโส เจตนา ปณฺฑิโต ทีปเย กเถยฺย.

หิ สจฺจํ ยทา ปน โย ปุคฺคโล เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺตึ อาคมฺม ปฏิจฺจ. ปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺตินฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เทสกาลกลฺยาณมิตฺตาทโย คหิตา. อฺํ วา โสมนสฺสเหตุนฺติ อฺ-คฺคหเณน สทฺธาพหุลตาวิสุทฺธิทิฏฺิตากุสลกิริยานิสํสทสฺสิตาโสมนสฺสปฏิสนฺธิกตาทีนํ สงฺคโห. อตฺถิ ทินฺนํ ทานสฺส ผลํ อตฺถิ. อาทิ-สทฺเทน อตฺถิหุตาทโย คหิตา. ปุรกฺขตฺวาติ ปุรโต กตฺวา. ปเรหิ อนุสฺสาหิโต อโจทิโต ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรติ. ทานาทีนีติ วจเนน เทยฺยธมฺมํ นิสฺสาย ปวตฺตทานเจตนา คเหตพฺพา. ตทา อสฺส ปุคฺคลสฺส. สงฺขรณํ สงฺขาโร, นตฺถิ สงฺขาโร เอตสฺสาติ อสงฺขาโร, ตํ เอว อสงฺขาริกํ, อปฺปโยคนฺติ อตฺโถ. วุตฺตนเยนาติ วุตฺตนโย นาม ‘‘เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺติ’’นฺติ วจนํ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร นาม อตฺตโน วา ปวตฺตสฺส ปุพฺพปฺปโยคสฺส อธิวจนํ, ปรสฺส วา ปวตฺตปุพฺพปฺปโยคสฺส อธิวจนํ. อยมสฺส อธิปฺปาโย – ยทา โย ‘‘ทานาทีนิ กริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ สมุปฺปาเทตฺวา นากาสิ, ปจฺฉา อตฺตโน ปุพฺพเจตนาย อุสฺสาหิโต กโรติ, ตทา สสงฺขาริกํ โหติ, อตฺตโน ปุพฺพปฺปโยเคน สห ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ปฏิปตฺติทสฺสเนน ปฏิปชฺชิตพฺพา สีลาทีหิ ปฏิปชฺชนฺติ ชานนฺติ คจฺฉนฺติ วา นิพฺพานํ เอตายาติ ปฏิปตฺติ, ตาย ทสฺสนํ ปฏิปตฺติทสฺสนํ, เตน. ชาโต ปริจโย เอเตสนฺติ ชาตปริจยา. สหสาติ เวเคน. จตูสุปิ วิกปฺเปสุ ทสฺเสยฺย.

๒๖. ทสปุฺกฺริยาทีนํ วเสน จ พหูนิปิ ภวนฺติ เอตานิ ปน จิตฺตานิ ทสปุฺกิริยาทีนํ วเสนปิ พหูนิปิ ภวนฺติ อิติ เอวํ ปกาสเย ภควา ปกาเสยฺย.

๒๗.

สตฺตรส สหสฺสานิ, ทฺเว สตานิ อสีติ จ;

กามาวจรปุฺานิ, ภวนฺตีติ วินิทฺทิเสติ. –

กามาวจรปุฺานิ สตฺตรส สหสฺสานิ จ ทฺเว สตานิ จ อสีติ จ ภวนฺติ, อิติ วจนํ วินิทฺทิเส อาจริโย กเถยฺย.

ทสปุฺกฺริยาวตฺถุ, ฉทฺวาราธิปตีหิ จ;

กายาทีหิ จ ตีเหว, หีนาทีหิ จ ตีหิ ตุ.

ทฺวีสุ ภเวสุ กามภวรูปภเวสุ. ปฏิปทาทิเภทโต ทุกฺขาปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, ทุกฺขาปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺํ, สุขาปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, สุขาปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺํ. รูปาวจรภาวนาปุฺวสปฺปวตฺตํ รูปาวจเร ปวตฺตสฺส ภาวนาปุฺสฺส วเสน ปวตฺตํ รูปาวจรูปปตฺตินิปฺผาทกํ รูปาวจเร อุปปตฺติยา ปฏิสนฺธิยา นิปฺผาทกํ โหติ.

สวตฺถุกาวตฺถุกเภทโตติ อรูปาวจรํ ยทา กามรูเป ชายติ, ตทา หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ชายติ, อิติ ตสฺมา สวตฺถุกํ นาม ชาตํ. ยทา อรูเป ชายติ, ตทา หทยวตฺถุํ อนิสฺสาย ชายติ, อิติ ตสฺมา อวตฺถุกํ นาม ชาตํ.

อากาสานฺจายตนสฺส กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ อารมฺมณํ. วิฺาณฺจายตนสฺส ตตฺถ ปวตฺตวิฺาณํ, ตสฺมึ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตํ วิฺาณํ จิตฺตํ อารมฺมณํ โหติ. อากิฺจฺายตนสฺส ตสฺส อปคโม ตสฺส อากาสานฺจายตนสฺส อปคโม อภาโว โวหาโร อารมฺมณํ โหติ. เนวสฺานาสฺายตนสฺส อากิฺจฺายตนํ อารมฺมณํ โหติ.

รูเป สฺา รูปสฺา. สฺาสีเสน จิตฺตมฺปิ คหิตํ. สมติกฺกมา กสิณุคฺฆาฏิมากาสสมติกฺกมเนน. ปฏิเฆ ทฺวารารมฺมณานํ สงฺฆฏฺฏเน ปวตฺตา สฺา ปฏิฆสฺา. ทฺวิปฺจวิฺาณานํ อธิวจนํ. ตาสํ ปฏิฆสฺานํ ทฺวิปฺจวิฺาณานํ อตฺถงฺคมา อตฺถงฺคเมน. นานา อตฺตา สภาโว เอตสฺสาติ นานตฺตํ, อารมฺมณํ, นานตฺเต นานาสภาเว ปวตฺตา สฺา นานตฺตสฺา, นานา อตฺตา สภาโว เอติสฺสาติ วา นานตฺตา, สาเยว สฺา นานตฺตสฺา, กามาวจรสฺาติ อตฺโถ. ตาสํ นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อมนสิกาเรน.

นิยตานิยตวตฺถุกเภทโตติ โสตาปตฺติมคฺโค นิยตวตฺถุโก. กสฺมา? กามรูเปสุเยว หทยวตฺถุํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต. อิตเร ปน ตโย มคฺคา อนิยตวตฺถุกา. กสฺมา? กามรูเปสุ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ชายนฺติ, อรูเป หทยวตฺถุํ อนิสฺสาย ชายนฺติ, ตสฺมา อนิยตวตฺถุกา. ตีหิ วิโมกฺขมุเขหีติ สุฺตอนิมิตฺตอปฺปณิหิตสงฺขาเตหิ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ.

ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนา. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสาเยว สํโยชนา สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสสํโยชนา, เตสํ ปหานํ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสสํโยชนปฺปหานํ, ตํ กโรตีติ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสสํโยชนปฺปหานกรํ, โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ. มาโนปิ เอกเทสโต อปายคามิโกเยว ปหิยฺยเต. โสตาปตฺติมคฺเคน นิสฺเสสโต น ปหิยฺยเต. เสสกิเลเสสุปิ เอเสว นโย. อุทฺธจฺจํ ปน เอกเทสโตปิ อปายคามิกมฺปิ น ปหิยฺยติ. สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตกรํ. โสตาปตฺติมคฺเคน นาสิตสํโยชนานํ ปหานํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? ปมมคฺคโต ทุติยมคฺคสฺส มหนฺตตฺตา ปมมคฺเคน นาสิตา สํโยชนา ทุติยมคฺเคน นาสิตาติ ปฺายติ, อิติ ยสฺมา, ตสฺมา น วุตฺตํ. ตติยจตุตฺถมคฺเคสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ เอตสฺมึ โลกุตฺตรจิตฺเต. เอเกกนฺติ วิจฺฉาวเสน วุตฺตํ. มคฺคานุรูปนฺติ วจนํ ปมมคฺคสฺส ปมผลฺจ อนุรูปนฺติ วิฺาปนตฺถํ.

๒๘. กาเม อฏฺเว กามาวจเร อฏฺ เอว จิตฺตานิ, รูเป รูปภเว ปฺจ จิตฺตานิ, อรูปิสุ จตฺตาริ จิตฺตานิ, อนุตฺตรานิ โลกุตฺตรจิตฺตานิ จตฺตาริ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน กุสลานิ จิตฺตานิ เอกวีสติ โหนฺติ.

๒๙. กุสลากุสลาปคเตน สตา มุนินา กุสลโต, อกุสลโต จ อปคเตน สตา สติสมฺปนฺเนน กุสเล กุสเลน เฉเกน วสินา ปฺจวสีหิ สมนฺนาคเตน ยํ กุสลจิตฺตํ จตุภูมิคตํ จตูสุ ภูมีสุ ปวตฺตํ สกลํ สพฺพํ ลปิตํ กถิตํ, ตํ กุสลจิตฺตํ มยาปิ พุทฺธทตฺตาจริเยน ลปิตํ กถิตํ.

นิยตานิยตวตฺถุวเสนาติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตทฺวยํ กาเมเยว หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ชายติ, อฺภูมีสุ น ชายติ, ตสฺมา นิยตวตฺถุกํ โหติ. อิตรานิ ปน อกุสลานิ กามรูเปสุ อุปฺปชฺชนกาเล หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ชายนฺติ, อรูเป หทยวตฺถุํ อนิสฺสาย ชายนฺติ, ตสฺมา อนิยตวตฺถุกานิ, เตน. ปฏิสนฺธิชนกาชนกวเสน จาติ อุทฺธจฺจสหคตํ ปฏิสนฺธึ น ชเนติ. ยทิ ปฏิสนฺธึ ชเนยฺย, อปาเยสุเยว ชเนยฺย. กสฺมา? โสตาปตฺติมคฺเคน เอกเทสโต อปายคามิกมฺปิ น ชหิตํ, สพฺพํ น ชหิตนฺติ อตฺโถ. โสปิ มคฺโค อปายคามี น โหติ. อฺเ ปน กิเลสา เอกเทสวเสน อปายคามิกา ชหิตา, เตน ปมมคฺเคนาติ ตสฺมา น ชเนติ. เอกาทสวิธํ ปน ปฏิสนฺธึ ชเนติ, เตน.

ทิฏฺมงฺคลาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สุตมงฺคลาทีนิ คหิตานิ. สารโต อุตฺตมโต ปจฺเจติ สทฺทหติ. สภาวติกฺเขน สภาโว ติกฺโข เอตสฺสาติ สภาวติกฺขํ, เตน สภาวติกฺเขน.

อสฺส ปน ปฏิฆสมฺปยุตฺตสฺส ปาณาติปาตาทีสุ อกุสลกมฺเมสุ ติกฺขปฺปวตฺติกาเล อสงฺขาริกสฺส อุปฺปตฺติ, มนฺทปฺปวตฺติกาเล สสงฺขาริกสฺส อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

ตสฺส โมมูหสฺส.

ทุกฺขวิเสสสฺส ทุกฺขนานตฺตสฺส.

๓๐. โลภมูลวเสน อฏฺ จิตฺตานิ, โทสมูลวสา ทุเว จิตฺตานิ, โมหมูลวเสน ทฺเว จิตฺตานิ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน อกุสลานิ ทฺวาทสปฺปการานิ สิยุํ ภเวยฺยุํ.

๓๑. ยํ ปาปมานสํ ยํ อกุสลจิตฺตํ ปาปาปาเปสุ ปาปอปาเปสุ กุสลากุสเลสุ อปาเปน อปฺปวตฺเตน ปาปาปาปปฺปหีเนน วุตฺตํ อีริตํ กถิตํ, ตํ ปาปมานสํ ตํ อกุสลจิตฺตํ มยา สมุทาหฏํ กถิตํ.

ยถา ปนสฺส ยถา ปน อสฺส วิปากสฺส กุสลํ ทานาทิวเสน ทานาทีนํ ทสปุฺกิริยวตฺถูนํ วเสน ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ, อิทํ วิปากจิตฺตํ ตถา ปวตฺตติ. หิ สจฺจํ อิทํ วิปากํ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติตทารมฺมณวเสน ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสุ กามาวจรธมฺมนฺโตคเธสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ วิเสเส อสติปิ กุสลสมฺปยุตฺตธมฺมโต อสฺส วิปากสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ นานตฺเต อสติปิ อิทํ วิปากํ อาทาสตลาทีสุ ธมฺมชาเตสุ มุขนิมิตฺตํ วิย นิรุสฺสาหํ. อยมสฺสาธิปฺปาโย – ยถา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ มุเข จลิเต จลติ, อจลิเต น จลติ, มุขสฺส การณํ วินา มุขนิมิตฺตสฺส วิย การณํ นตฺถิ, เอวํ กุสลการณา วิปากสฺส อฺํ การณํ นตฺถิ, นิรุสฺสาหํ วิปากํ.

๓๒. กามาวจรเทวานํ มนุสฺสานํ อิเม อฏฺ มหาวิปากา ทุเหตุกติเหตุกานํ กามาวจรเทวานํ, มนุสฺสานฺจ ปฏิสนฺธิโย ภวนฺติ.

๓๓-๔. ตโต ปรํ ปวตฺติยํ ยาวตายุกํ ภวงฺคํ หุตฺวา พลวารมฺมเณ อติมหนฺตวิภูตารมฺมเณ ตทารมฺมณฺจ หุตฺวา ตโต ปรํ มรณกาลสฺมึ จุติ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน จตูสุ าเนสุ วิปจฺจนฺติ วิปากภาเวน ชายนฺติ.

๓๕. สภูมิกุสเลเหว มหาปากา สมา วินา มหาปากา กมฺมทฺวารํ กมฺมการณํ วินา, กมฺมฺจ มหาปุฺานํ กิริยวตฺถุกํ วินา วชฺเชตฺวา สภูมิกุสเลเหว อตฺตโน ภูมิยํ ปวตฺเตหิ กุสเลหิ เอว สมา สทิสา. กมฺมทฺวารํ นาม กายวิฺตฺติกมฺมทฺวารํ, วจีวิฺตฺติกมฺมทฺวารํ, ภวงฺคสงฺขาตํ มโนทฺวารํ, อิติ ติวิธํ กมฺมทฺวารํ กมฺมการณํ. กมฺมํ นาม อฏฺกามาวจรกุสลเจตนา อิธ อธิปฺเปตา.

๓๖. ปากา กุสลวิปากา อวิฺตฺติชนตฺตา จ วิฺตฺติ จ วิฺตฺติ จ วิฺตฺติวิฺตฺติโยติ วตฺตพฺเพ สรูเปกเสสํ กตฺวา ‘‘วิฺตฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตา ชเนนฺตีติ วิฺตฺติชนา, น วิฺตฺติชนา อวิฺตฺติชนา, เตสํ ภาโว อวิฺตฺติชนตฺตํ. ตสฺมา อวิฺตฺติชนตฺตา กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺติสงฺขาตานํ กมฺมทฺวารานํ อชนกตฺตา มโนทฺวารสงฺขาตสฺส กมฺมทฺวารสฺส วเสน จ อปฺปวตฺตนโต อวิปากสภาวโต จ อกมฺมภาวโต จ อปฺปวตฺตนโต เจว ปุฺกิริยวตฺถุวเสน อปฺปวตฺตนโต เจว ปุฺเหิ โน สมา อสทิสา.

๓๗-๙. ปริตฺตารมฺมณตฺตา หิ เตสเมกนฺตโต เตสํ วิปากานํ เอกนฺตโต ปริตฺตารมฺมณตฺตา กามาวจรารมฺมณตฺตา เตสุ วิปาเกสุ สตฺตปฺตฺติการมฺมณา กรุณามุทิตา กทาจิ กิสฺมิฺจิ กาเล น ชายนฺติ, ตถา เอวํ ติสฺโส ปน วิรติโย เอเตสุ วิปาเกสุ น ชายนฺติ, หิ กสฺมา การณา น ชายนฺติ, ปฺจ สิกฺขาปทา กุสลาติ กุสลา นามาติ สตฺถุนา วุตฺตา ยสฺมา การณา, ตสฺมา น ชายนฺติ. ตถาธิปติโนเปตฺถ ตถา เอวเมว จตฺตาโร อธิปติโนปิ เอเตสุ วิปาเกสุ น สนฺติ. กสฺมา? ฉนฺทาทีนิ ธมฺมชาตานิ ปุเรตรํ กตฺวา อนุปฺปชฺชนโต น สนฺติ, อิติ วจนํ วินิทฺทิเส อาจริโย กเถยฺย.

๔๐. อสงฺขารสสงฺขารวิธานํ ปน ปุฺโต วิปาเกสุ อสงฺขารสสงฺขารวิธานํ ปุฺโต กุสลโต อาคมนวเสน เยฺยํ. ตตฺถ เอกจฺจานํ อาจริยานํ มเตน มุเข จลิเต อาทาสตเล มุขนิมิตฺตจลนํ วิย อสงฺขารสฺส กุสลสฺส วิปาโก อสงฺขาโร โหติ, สสงฺขารสฺส กุสลสฺส วิปาโก สสงฺขาโร โหติ, เอวํ อาคมนวเสน เยฺยํ. ปจฺจยโต เจว เยฺยํ ตตฺถ เอกจฺจานํ อาจริยานํ มเตน พลวนฺเตหิ วิภูเตหิ ปจฺจเยหิ กมฺมาทีหิ อุปฺปนฺโน อสงฺขาโร ทุพฺพเลหิ สสงฺขาโรติ เอวํ ปจฺจยวเสน วิฺเยฺยํ ชานิตพฺพํ.

๔๑-๒. หีนาทีนํ ปุฺานํ วิปากตฺตา หีนาทโย วิปากา ปุฺวาทินา ชิเนน ปริทีปิตา ภวนฺติ, อิติ เอวํ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน ปวตฺตํ อิทํ อฏฺวิธํ จิตฺตํ เอกนฺเตน สวตฺถุกํ กามโลกสฺมึ ชายเต, อฺตฺถ ปน อฺาสุ ภูมีสุ น ชายเต.

วิฺาณปฺจกํ นิยตารมฺมณนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส รูปเมว อารมฺมณํ, น สทฺทาทโย. เสสตฺตยํ ยทา จกฺขุวิฺาเณน คหิตํ อารมฺมณํ กโรติ, ตทาสฺส รูปํ อารมฺมณํ โหติ. ยทา โสตวิฺาเณน คหิตํ, ตทาสฺส สทฺโท อารมฺมโณ โหติ. ยทา ฆานชิวฺหากายวิฺาเณหิ คหิตานิ อารมฺมณานิ กโรนฺติ, ตทาสฺส คนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมณานิ โหนฺติ. มโนวิฺาณธาตุทฺวยํ ยทา ตทารมฺมณํ โหติ, ตทา ฉอารมฺมณํ โหติ, เอวํ อนิยตารมฺมณํ โหติ.

รูปารมฺมณาย กิริยามโนธาตุยา อปคโม ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ เอตสฺสาติ อปคมปทฏฺานํ, ตาย อาวชฺชนํ กตฺวา ิตาย จกฺขุวิฺาเณน ทสฺสนกิจฺจํ กรียตีติ อตฺโถ. ตถาภาวปจฺจุปฏฺานํ สมฺปฏิจฺฉนภาเวน คยฺหาการํ. สนฺตีรณาทิรสา โสมนสฺสยุตฺตา มโนวิฺาณธาตุสนฺตีรณตทารมฺมณรสา, อุเปกฺขายุตฺตา ปน สนฺตีรณตทารมฺมณปฏิสนฺธิภวงฺคจุติรสา, ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา สนฺตีรณาทิภาเวน คยฺหาการํ.

๔๓. กามาวจรปุฺสฺส กามาวจรกุสลสฺส โสฬส วิปากา โหนฺติ. อิติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ วจนํ ติเหตุกปุฺสฺส อุกฺกฏฺสฺส วเสน อาจริโย ปริทีปเย. อยเมตฺถ อตฺโถ – ฉนฺทาธิปเตยฺยาทีนํ วเสน อุกฺกฏฺติเหตุกกุสลํ กามสุคติยํ ติเหตุกปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต อฏฺ อเหตุกกุสลวิปากานิ, อฏฺ มหากุสลวิปากานีติ โสฬส ปากานิ นิปฺผาเทติ.

๔๔. กุสลานุคตํ กตฺวา ภาชิตํ กึ มหคฺคตํ วิปากจิตฺตํ กุสลานุคตํ กุสลํ อนุคตํ กตฺวา มหคฺคตกุสลจิตฺเตน สมานํ กตฺวา ภควตา ภาชิตํ เทสิตํ. กึ เกน การเณน? กามาวจรปุฺํว กามาวจรกุสลํ อิว อสมานผลํ นตฺถิ ยโต ยสฺมา การณา, ตสฺมา วิปากํ กุสลานุคตํ กตฺวา ภควตา ภาชิตํ เทสิตํ. กามาวจรปุฺํวาติ ยถา อฏฺวิเธสุ กามาวจรกุสเลสุ อุกฺกฏฺติเหตุกกุสลํ กามสุคติยํ ติเหตุกปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต โสฬส กุสลวิปากานิ นิปฺผาเทติ, ติเหตุกโอมกฺจ ทุเหตุกอุกฺกฏฺฺจ กามสุคติยํ ทุเหตุกปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต ติเหตุกวิรหิตานิ อเหตุกทุเหตุกสงฺขาตานิ วิปากานิ นิปฺผาเทติ, ทุเหตุกโอมกํ ปน กามสุคติยํ อเหตุกปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต อฏฺ อเหตุกวิปากานิ นิปฺผาเทติ, เอวํ กามาวจรปุฺํ อสมานผลํว โหติ.

๔๕. คชาทีนํ ฉายา คชาทิสทิสา โหติ ยถา, เอวํ มหคฺคตวิปากํ สพฺพถา สพฺพปกาเรน อตฺตโน กุสเลเหว สมานํ โหติ.

๔๖-๗. กามาวจรปุฺํว นาปราปริยเวทนํ อิทํ มหคฺคตกุสลํ กามาวจรปุฺํว อปราปริยเวทนํ อปรสฺมึ ภเว ผลทายกํ โหติ, ฌานา อปริหีนสฺส ภวคามิโน ปฏิสนฺธิคามิโน สตฺตสฺส กุสลานนฺตรํเยว ผลํ อุปฺปชฺชติ, อิติ จ าปนตฺถํ เอตสฺส มหคฺคตวิปากสฺส กุสลานุคตํ กุสลานุคมนํ ภควตา กตํ.

๔๘. เอตฺถ เอตสฺมึ มหคฺคตวิปาเก ปฏิปทากฺกโม เตสฺจ หีนาทีนํ เภทโต ฌานาคมนโต มหคฺคตกุสลฌานสฺส อาคมนวเสน วิภาวินา ปณฺฑิเตน เวทิตพฺโพ.

๔๙. เอตฺถ วิปาเก ฉนฺทาทิอธิปตีนํ อภาโว, อยเมว วิเสสโต กุสลโต อยํ เอว วิเสโส, เสสํ สพฺพปการํ อวิเสเสน กุสเลน สมํ มตํ กถิตํ ภควตา.

๕๐. สุฺตํ อนิมิตฺตนฺติ, ตถาปณิหิตนฺติปิ สุฺตํ อนตฺตา, อนิมิตฺตํ อนิจฺจํ, อปฺปณิหิตํ ทุกฺขํ อิติ เอตานิ ตีณิ นามานิ มคฺคสฺส อนนฺตเร จตุพฺพิธสฺส มคฺคสฺส อนนฺตเร จตุพฺพิเธ ผเล โหนฺติ.

๕๑. ลพฺภนฺติ ปรภาคสฺมึ มคฺคานนฺตเร ปวตฺตผลโต อฺสฺมึ กาเล วฬฺชนผเลสุ ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนกาเลสุ เอตานิ ตีณิ นามานิ น ลพฺภนฺเต, ผเลหิ วิปสฺสนาวเสเนว อนตฺตอนิจฺจทุกฺขสงฺขาตานํ ติณฺณํ วิปสฺสนานํ วเสน เอว ตานิ ตีณิ นามานิ ลพฺภเร ผเลหิ ลพฺภนฺเต.

๕๒. โหนฺติ สาธิปตีเนว โลกุตฺตรผลานิ ตุ เอกนฺตโต สาธิปตีนิ เอว โหนฺติ, โลกุตฺตรผลานิ เปตฺวา อฺสฺมึ วิปาเก อธิปตี นตฺถิ.

๕๓. มคฺโค อตฺตโน มคฺคภาเวน มคฺโค นาม วุจฺจเต ภควตา. ผลํ มคฺคํ อุปาทาย อฏฺงฺคิกมคฺคํ นิสฺสยํ กตฺวา มคฺโค นาม อิติ วจนํ วุจฺจเต ภควตา.

๕๔. อิเม สตฺต อกุสลวิปากา. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, ตสฺสทิสตฺตา โคจโร อารมฺมณนฺติ อตฺโถ, อนิฏฺโ จ อนิฏฺมชฺฌตฺโต จ อนิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตา, เตเยว โคจโร อนิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตโคจโร, ตสฺมึ อนิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร วตฺตเร วตฺตนฺติ. สุขาทิตฺตยยุตฺตา เต เต อฏฺ อเหตุกกุสลวิปากา สุขาทิตฺตยยุตฺตา สุขโสมนสฺสอุเปกฺขาเวทนาหิ สหคตา. ทุกฺขุเปกฺขายุตา อิเม อิเม สตฺต อเหตุกอกุสลวิปากา ทุกฺขุเปกฺขาเวทนาหิ สหคตา.

๕๕. เอวํ ฉตฺตึสธา ปากํ ปากสาสนปูชิโต สุคโต. กึ วิสิฏฺโ? ปากํ นาม อสุรํ, ตํ สาสติ, ปาเกน อตฺตโน ปุฺผเลน เทเว อนุสาสตีติ วา ปากสาสโน, โก โส? สกฺโก. เตน ปากสาสเนน ปูชิโต สวิปากาวิปาเกสุ กุสลวิปากกิริเยสุ กุสโล เฉโก เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปากํ จิตฺตํ ฉตฺตึสปฺปการํ อพฺรฺวิ อโวจ.

อนุฬาเรสูติ ขุทฺทเกสุ. ตถาภาวปจฺจุปฏฺานา ฉฬารมฺมณวิชานนคยฺหาการา. สพฺพฺุตฺาณสฺส คติ วิย คติ เอติสฺสาติ สพฺพฺุตฺาณคติกา.

๕๖. โสมนสฺสยุตฺตานฏฺ, กุสลากุสลานิ จ โสมนสฺสยุตฺตานิ อฏฺ กุสลากุสลานิ จ, กฺริยโต ปน ปฺจ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน หาสจิตฺตานิ เตรส.

๕๗. ปุถุชฺชนา หสนฺเตตฺถ เอตฺถ เอเตสุ เตรสจิตฺเตสุ ปุถุชฺชนา ปน อฏฺหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. เสขา สตฺต อริยา ฉหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. อเสขา ขีณาสวา ปฺจหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ.

กุสลานิ ปน รูปารูปกุสลานิ เสขปุถุชฺชนานํ อุปฺปชฺชนฺติ. อิมานิ รูปารูปกิริยานิ ขีณาสวานํ ภาวนาเยว กาโร ภาวนากาโร, ตสฺส วโส ภาวนาการวโส, เตน ปวตฺตานิ. ตานิ รูปารูปกุสลานิ ภาวนาปุฺวสปฺปวตฺตานิ ภาวนากุสลวเสน ปวตฺตานิ. อิเมสํ รูปารูปกิริยานํ เตสฺจ รูปารูปกุสลานํ อยเมว วิเสโส.

๕๘-๙. ยา ปุถุชฺชนกาลสฺมึ, อภินิพฺพตฺติตา ปน ปุถุชฺชนกาลสฺมึ ปุถุชฺชนภาวฏฺิเตน โยคินา อภินิพฺพตฺติตา ยา รูปารูปสมาปตฺติ, สา รูปารูปสมาปตฺติ โส โยคี ขีณาสโว ภิกฺขุ หุตฺวา นํ รูปารูปสมาปตฺตึ ยาว ยตฺตกํ กาลํ น สมาปชฺชเต, ตาว ตตฺตเกน กาเลน ตสฺส ขีณาสวภิกฺขุโน กุสลา เอว รูปารูปกุสลา เอว โหติ. ขีณาสเวน สา รูปารูปสมาปตฺติ สเจ ยทิ สมาปนฺนา สมาปชฺชิตา, กฺริยา รูปารูปกิริยา โหติ.

๖๐. เอกาทสวิธํ กาเม กามาวจเร กิริยจิตฺตํ เอกาทสวิธํ, รูเป รูปาวจเร ปฺจ, อรูปิสุ จตฺตาริ อิติ สพฺพานิ กฺริยจิตฺตานิ วีสติ.

๖๑. โลกุตฺตรกฺริยจิตฺตํ, ปน กสฺมา น วิชฺชติ? มคฺคสฺส เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา น วิชฺชติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – จตุมคฺคฏฺโ ขีณาสโว นาม น โหติ, มคฺคานนฺตรเมว ผลํ อุปฺปชฺชติ, มคฺโคปิ เอกจิตฺตกฺขณิโก ยทิ จิตฺตํ พหุจิตฺตกฺขณิกํ, ผลสมงฺคิโน ขีณาสวสฺสปิ มคฺคจิตฺตํ ภเวยฺย, เอวํ สติ โลกุตฺตรกิริยจิตฺตํ ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย.

๖๒. กฺริยากฺริยาปตฺติวิภาคเทสโก กรณํ กฺริยํ, กฺริยํ นาม วินยปริยาเยน อกตฺตพฺพสฺส กรณํ, น กรณํ อกฺริยํ, อกฺริยํ นาม วินยปริยาเยน กตฺตพฺพสฺส อกรณํ, อาปชฺชนํ อาปตฺติ, กฺริยาย กรเณน อาปตฺติ กฺริยาปตฺติ, อกฺริยาย อกรเณน อาปตฺติ อกฺริยาปตฺติ, กฺริยาปตฺติ จ อกฺริยาปตฺติ จ กฺริยาปตฺยากฺริยาปตฺติโย, เอกสฺส อาปตฺติ-สทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘กฺริยากฺริยาปตฺติโย’’ติ วุตฺตํ, ตาสํ วิภาโค กฺริยากฺริยาปตฺติวิภาโค, เทเสตีติ เทสโก, ตสฺส เทสโก กฺริยากฺริยาปตฺติวิภาคเทสโก. ณฺวุ-ตุ-ปจฺจเยสุ ปเรสุ กมฺมตฺเถ ฉฏฺี โหตีติ วทนฺติ. ชิโน กึ วิสิฏฺโ? กฺริยากฺริยาปตฺติวิภาคเทสโก หิตาหิตานํ สกฺริยากฺริยารโต หิตสฺส สกฺริยาย รโต, อหิตสฺส อกฺริยาย รโต, ยํ กฺริยากฺริยํ, กฺริยํ นาม กฺริยจิตฺตํ, อกฺริยํ นาม กุสลากุสลวิปากจิตฺตํ อิจฺฉนฺติ เอเก. ตํ น. กสฺมา? กุสลาธิกาเร ‘‘กุสลํ มุนินา ลปิตํ’’ อกุสลาธิกาเร ‘‘ปาปมานสํ ปาปาปาเปสฺวปาเปน วุตฺตํ’’ วิปากาธิกาเร ‘‘ปากํ สุคโต อพฺรวี’’ติ วตฺวา ปุน กฺริยาธิกาเร ‘‘กุสลากุสลวิปากานิ อโวจา’’ติ วจนสฺส วตฺตพฺพาภาวโต. เตน วาสฺส กฺริยากฺริยํ เอตสฺสาติ กฺริยากฺริยํ, กฺริยากฺริยสภาวนฺติ อตฺโถ. อยเมว สารโต ปจฺเจตพฺโพ. ยํ กฺริยากฺริยํ จิตฺตํ กฺริยากฺริยาสภาวํ อโวจ เทเสสิ, ตํ กฺริยากฺริยํ กฺริยากฺริยสภาวํ มยา สมีริตํ, สมฺมา ปกาเรน อีริตํ กถิตํ.

๖๔. เอกูนนวุติ สพฺเพ, จิตฺตุปฺปาทา มเหสินา โลกุตฺตเร อฏฺ กตฺวา เอกูนนวุติ สพฺเพ จิตฺตุปฺปาทา มเหสินา ตถาคเตน สมาสโต สงฺเขปโต นิทฺทิฏฺา.

๖๕. ปิฏเก อภิธมฺมสฺมึ, เย ภิกฺขู ปาฏวตฺถิโน อภิธมฺมปิฏเก ปฏุโน ภาโว ปาฏวํ, เตน อตฺโถ ปาฏวตฺโถ, โส เอเตสํ อตฺถีติ ปาฏวตฺถิโน, เฉกภาวตฺถิกา เย ภิกฺขู, เตหิ ภิกฺขูหิ อยํ อภิธมฺมาวตาโร อุคฺคเหตพฺโพ สิกฺขิตพฺโพ ปุนปฺปุนํ จินฺติตพฺโพ.

๖๖. เย ชนา ตสฺสงฺกาเสน ตํสนฺนิเภน อภิธมฺมาวตาเรน อภิธมฺมมโหทธึ มหาสาครสนฺนิภํ อภิธมฺมํ ตรนฺติ, เต อิมํ โลกํ ปรโลกฺจ ตรนฺติ. อิตีติ ปริสมาปเน.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

จิตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปโม ปริจฺเฉโท.

๒. ทุติโย ปริจฺเฉโท

เจตสิกนิทฺเทสวณฺณนา

๖๗. จิตฺตานนฺตรมุทฺทิฏฺา, เย จ เจตสิกา มยา เย จ เจตสิกา จิตฺตานนฺตรํ มยา อุทฺทิฏฺา, อิโต ปรํ อิทานิ เตสํ เจตสิกานํ วิภาชนํ กริสฺสามิ อหํ.

อิเมสุ ปน กรุณามุทิตาวเสน ภาวนากาเล กรุณาปุพฺพภาโค วา, อปฺปนาปตฺตาย กรุณาย ปุพฺพภาโค, ตสฺมึ ปุพฺพภาเค, กรุณาโต ปุพฺพภาเค กามาวจรจิตฺเตติ อตฺโถ. เอกา กรุณา อุปฺปชฺชติ. มุทิตาปุพฺพภาเค วา อปฺปนาปตฺตาย มุทิตาย ปุพฺพภาเค เอกา มุทิตา อุปฺปชฺชติ. อิมินา กามาวจรจิตฺเตน โยคี มิจฺฉากมฺมนฺตาทีหิ ธมฺเมหิ วิรมติ. รมุ-ธาตุ กีฬายํ, วิ-สทฺโท วิรมณตฺโถ.

๖๘. อาทินา ปุฺจิตฺเตน, เตตฺตึส นิยตา มตา อาทินา ปุฺจิตฺเตน ปมมหากุสลจิตฺเตน สห นิยตา เตตฺตึส เจตสิกา ภควตา มตาติ, อถ วา กรุณามุทิตา อนิยตา เอเกน ธมฺเมน สห จตุตฺตึส ธมฺมา ภวนฺติ.

๖๙. กสฺมา ปเนตฺถ เมตฺตา จ, อุเปกฺขา จ น อุทฺธฏา เอตฺถ เอเตสุ เยวาปนกธมฺเมสุ, นิทฺธารณํ, เมตฺตา จ อุเปกฺขา จ ธมฺมราเชน สตฺถุนา น อุทฺธฏา น วุตฺตา กสฺมา การณา.

๗๐. อพฺยาปาเทน เมตฺตาปิ อพฺยาปาเทน เมตฺตา คหิตา, อุเปกฺขาติ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย จ คหิตา ยสฺมา การณา, ตสฺมา อุโภเปตา ภควตา น คหิตา.

๗๑. กสฺมา เยวาปนา ธมฺมา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา สพฺเพ เต เยวาปนา ธมฺมา เยวาปนนามกา ปาฬิยํ สรูเปน เอว. พนฺธติ สฺเนเหน เอตสฺมินฺติ พนฺธุ, อาทิจฺจสฺส พนฺธุ อาทิจฺจพนฺธุ, เตน อาทิจฺจพนฺธุนา พุทฺเธน น จ อุทฺธฏา น เทสิตา.

๗๒. กสฺมา การณา? ยสฺมา อนิยตา เกจิ เยวาปนกา อนิยตา, ยสฺมา การณา ราสึ ทุกวคฺคาทิราสึ น ภชนฺติ น เสวนฺติ, ยสฺมา การณา เกจิ เยวาปนกา ทุพฺพลา, ตสฺมา ปาฬิยํ ภควตา น วุตฺตา.

๗๓. ฉนฺทาธิโมกฺขมุทิตา มนสิ จ กาโร,

มชฺฌตฺตตา จ กรุณา วิรติตฺตยฺจ;

ปุฺเสุ เตน นิยตานิยตา จ สพฺเพ,

เยวาปนา มุนิวเรน น เจว วุตฺตา.

ฉนฺทาธิโมกฺโข มุทิตา มนสิกาโร มชฺฌตฺตตา กรุณา วิรติตฺตยฺจ ปุฺเสุกุสเลสุ นิยตา จตฺตาโร อนิยตา ปฺจ สพฺเพ เยวาปนา น จ เอว เตน มุนิวเรน วุตฺตา.

๗๔-๘๐. กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺโสว, ปมํ สมุทีริโต เอตฺถ เอเตสุ เจตสิเกสุ, ชาตินิทฺธารณํ, ผสฺโสว ปมํ สมุทีริโต กถิโต. กสฺมา การณา? กิร มยา สุตํ, อารมฺมเณ จิตฺตสฺส ปมํ อภินิปาตตฺตา ผสฺโส ปมํ สมุทีริโต, ผุสิตฺวา ปน ผสฺเสน ผสฺเสน อารมฺมณํ ผุสิตฺวา โยคิโน เวทนาย อารมฺมณํ เวทเย, สฺาย สฺชานาติ, เจตนาย อารมฺมณํ เจตเย. สหชาตานํ เจตสิกานํ ผสฺโสว อิธ อิมสฺมึ จิตฺเต มเหสินา ปมํ วุตฺโต. หิ กสฺมา การณา? ยสฺมา พลวปจฺจยตฺตา, ตสฺมา วุตฺโต. อการณมิทํ สพฺพํ, จิตฺตานํ ตุ สเหว จ ‘‘ปมาภินิปาตตฺตา’’ติ จ ‘‘พลวปจฺจยตฺตา’’ติ จ อิทํ สพฺพํ วจนํ อการณํ อเหตุกํ อยุตฺตํ, กสฺมา การณา? จิตฺตชานํ จิตฺเตหิ สหปฺปวตฺตานํ เจตสิกานํ เอกุปฺปาทาทิภาเวน สมานุปฺปาทสมานนิโรธสมานาลมฺพณสมานวตฺถุกภาเวน ปวตฺติโต อการณํ อยุตฺตํ. อยํ ตุ ปมุปฺปนฺโน, อยํ ปจฺฉาติ นตฺถิทํ อยํ ธมฺโม ปมุปฺปนฺโน, อยํ ธมฺโม ปจฺฉากาเล อุปฺปนฺโน อิติ อิทํ วจนํ นตฺถิ. พลวปจฺจยตฺเตปิ การณํ น จ ทิสฺสติ. เทสนากฺกมโต เจว ปมํ สมุทีริโต อิจฺเจวํ อิติ เอวํ อิติ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ผสฺสสฺส ปมํ สมุทีริตตํ วิฺุนา วิภาวินา วิฺเยฺยํ, วิเสสโต วิเสเสน อฺถา น วิฺเยฺยํ. น จ ปริเยสิตพฺโพยํ, ตสฺมา ปุพฺพาปรกฺกโม ยสฺมา การณา อยํ ปุพฺพาปรกฺกโม วิฺุนา น จ ปริเยสิตพฺโพ น คเวสิตพฺโพ, ธมฺมา เอว วจนตฺถลกฺขณาทีหิ วิชานตา ปณฺฑิเตน ปริเยสิตพฺพา.

อิฏฺาการานุภวนรสา อิฏฺารมฺมณานุภวนกิจฺจา สุโภชนรสํ อนุภวนฺโต ราชา วิย. เจตสิกอสฺสาทปจฺจุปฏฺานา เจตสิกปสฺสทฺธิปทฏฺานา.

ปจฺจาภิฺาณกรณรสา ปฏิชานนกิจฺจา วฑฺฒกิสฺส อภิฺาณกรณมิว วฑฺฒกิโน สกึ สฺชานิตฺวาปิ ทารุหเรสุ สุตฺตสฺส ปฏิปสารณํ วิยาติ อธิปฺปาโย. ยถาคหิตนิมิตฺตวเสนาติ ยถาปวตฺติตนิมิตฺตสฺส วเสน. มนสิ อภินิเวสกรณํ คยฺหาการา.

อายูหนรสา ปวตฺตนกิจฺจสาธกา. มหาวฑฺฒกิอาทโย วิย ยถา มหาวฑฺฒกี สยมฺปิ ทารุํ ตจฺฉติ, ปเรปิ ทารุํ ตจฺฉาเปติ, เอวํ สยมฺปิ อารมฺมเณ สนฺทหติ, สมฺปยุตฺตธมฺเมปิ อภิสนฺทหาเปติ.

อาหนนํ ภุโส หนนํ, ปริยาหนนํ สมนฺตา หนนํ, ตํ รโส เอตสฺสาติ อาหนนปริยาหนนรโส.

อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ อารมฺมณปริมทฺทนลกฺขโณ.

ปินยตีติ ปีติ, สหชาตธมฺเม อารมฺมเณ ปินยตีติ อตฺโถ. กายจิตฺตผรณรสา. อุทคฺคสฺส จิตฺตสฺส ภาโว โอทคฺยํ, ตํ ปจฺจุปฏฺานํ เอตสฺสาติ โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา.

สทฺทหนฺติ วตฺถุตฺตยํ สทฺทหนฺติ. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา อนาวิลภาวปจฺจุปฏฺานา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา สทฺทหิตพฺพวตฺถุตฺตยาสนฺนการณา.

อรฺคตสุเทสโก วิย อรฺเ คโต มคฺคสุเทสโก วิย.

อตฺตนา อวินิพฺภุตฺตานํ ธมฺมานนฺติ อวิคตานํ เจตสิกานํ. เตสนฺติ เตสํ เจตสิกานํ ธมฺมานํ. สนฺเตปิ จ เตสํ เจตสิกานํ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เตสํ ปาเลตพฺพานํ เจตสิกานํ ปวตฺตกฺขเณเยว ตํ ชีวิตํ เต ธมฺเม ปาเลตพฺเพ เจตสิเก อนุปาเลติ. อุทกํ วิยาติ ยถา อุทกํ อตฺตนิ อุปฺปลาทีนิ อนุปาเลติ, ตถา อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน สนฺเตปิ เตสํ อตฺถิกฺขเณเยว อนุปาเลติ, วิชฺชมานกฺขเณว อนุปาเลตีติ อธิปฺปาโย. ปจฺจยุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม อนุปาเลติ, ธาติ วิย กุมารํ อฺาย ชนิตํ กุมารํ รกฺขนฺตี ธาติ วิย, ปรสฺส ปุตฺตํ องฺกาทินา ธาเรตีติ ธาติ. สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว ปวตฺตติ อตฺตนา ปวตฺติเตหิ ธมฺเมหิ สมฺปวตฺตติ. นิยามโก วิย ยถา นิยามโก เอกนาวาย วุตฺเถหิ ชเนหิ สห ปวตฺตติ, ภงฺคโต อุทฺธํ ตํ ชีวิตํ น ปวตฺตยติ, อตฺตโน จ อภาวา ปยิตพฺพานํ เจตสิกานฺจ อภาวา, ภงฺคกฺขเณ เจตสิเก น เปติ สยํ ภิชฺชมานตฺตา, วฏฺฏิสฺเนโห ขียมาโน ปทีปสิขํ น กโรติ ยถา.

โสมฺมภาวปจฺจุปฏฺาโนติ มุทุภาวปจฺจุปฏฺาโน, สีตลภาวปจฺจุปฏฺาโน วา.

กาโยติ เจตฺถ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ อิเม ขนฺธา คหิตา.

นิมฺมทฺทนรสาติ นิมฺมทฺทนกิจฺจา. กายจิตฺตานํ อวูปสมตาอุทฺธจฺจาทิกิเลสปฏิปกฺขภูตาติ อาทิคฺคหเณน กุกฺกุจฺจํ คเหตพฺพํ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

เจตสิกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติโย ปริจฺเฉโท.

๓. ตติโย ปริจฺเฉโท

เจตสิกวิภาคนิทฺเทสวณฺณนา

๘๙. สพฺเพ เจตสิกา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา เย สพฺเพ เจตสิกา อาทิจฺจพนฺธุนา พุทฺเธน วุตฺตา, เต สพฺเพ เจตสิกา นามสามฺโต นามสมานภาเวน ทฺเวปฺาสภวนฺติ เต, อโนตฺตปฺปปริโยสานา ทฺวิปฺาส ภวนฺติ.

๙๐-๙๒. จตุปฺาสธา กาเม, รูเป ปฺจทเสริตา กาเม กามาวจเร จตุปฺาส จิตฺตานิ อีริตา. รูเป รูปาวจเร ปฺจทส จิตฺตานิ อีริตา ภวนฺติ. ทฺวาทสารูเป อรูปาวจเร ทฺวาทส จิตฺตานิ ภวนฺติ. จตฺตาลีส มนาสวา โลกุตฺตรจิตฺตานิ จตฺตาลีส ภวนฺติ, เอกวีสสตํ สพฺเพ จิตฺตุปฺปาทา สมาสโต สงฺเขปโต เอกวีสสตํ โหติ. เอเตสุ เตสมุปฺปตฺตึ อิโต ปรํ เอเตสุ มยา วุตฺเตสุ จิตฺเตสุ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อุปฺปตฺตึ เอกํ เอกํ อุทฺธริตฺวา จิตฺตเจตสิเกสุ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย อหํ ปวกฺขามิ เทสิสฺสามิ.

๙๓. เอกคฺคตา จิตฺเตกคฺคตา มนกฺกาโร มนสิกาโร ชีวิตํ ผสฺสปฺจกํ เอเต อฏฺ เจตสิกา อวินิพฺโภคา อฺมฺโต อวิคตา เอกุปฺปาทา สมานุปฺปาทา สหกฺขยา สหวยา.

๙๔. ผสฺโส จ เวทนา สฺา, เจตนา ชีวิตินฺทฺริยํ เอกคฺคตา มนกฺกาโร อิเม เจตสิกา สพฺพสาธารณา สพฺพจิตฺเตหิ สาธารณา, สพฺพจิตฺตานํ สาธารณา วา.

๙๕. วิตกฺโก ปฺจปฺาส-จิตฺเตสุ สมุทีริโต. จาโร ฉสฏฺิจิตฺเตสุ วิตกฺโก ตาว ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิตกามาวจเรสุ เจว เอกาทสสุ ปมชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ ปฺจปฺาสจิตฺเตสุ ภควตา สมุทีริโต. วิจาโร ทฺวิปฺจวิฺาณวชฺชิตกามาวจรจิตฺเตสุ เอกาทสสุ ปมชฺฌานจิตฺเตสุ จ เอกาทสสุ ทุติยชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ ฉสฏฺิจิตฺเตสุ ชายติ. เอตฺถ เอตสฺมึ วจเน สํสโย นตฺถิ.

๙๖. เอกปฺาสจิตฺเตสุ, ปีติ เตสฏฺิยา สุขํ ปีติโทมนสฺสุเปกฺขาสหคตกายวิฺาณจตุตฺถชฺฌานวชฺชิเตสุ เอกปฺาสจิตฺเตสุ ชายติ. สุขํ โทมนสฺสทุกฺขุเปกฺขาสหคตวชฺชิเตสุ เตสฏฺิจิตฺเตสุ ชายติ. อุเปกฺขา โสมนสฺสสุขทุกฺขสหคตวชฺชิเตสุ ปฺจปฺาสจิตฺเตสุ ชายติ. ทุกฺขํ อกุสลวิปากกายวิฺาณปฏิฆสหคเตสุ ตีสุ จิตฺเตสุ ชายติ.

๙๗. โหติ ทฺวาสฏฺิจิตฺเตสุ, โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปน โทมนสฺสทุกฺขสุขุเปกฺขาสหคตวชฺชิเตสุ ทฺวาสฏฺิจิตฺเตสุ ชายติ. ทุกฺขินฺทฺริยํ ปเนกสฺมึ อกุสลวิปาเก กายวิฺาเณ ชายติ. ตเถกมฺหิ สุขินฺทฺริยํ ตถา เอกสฺมึ ปุฺปาเก กายวิฺาเณ โหติ.

๙๘. ปฺจุตฺตรสเต จิตฺเต, วีริยํ อาห นายโก ชิโน ปฺจทฺวาราวชฺชนทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณวชฺชิเต ปฺจุตฺตรสเต จิตฺเต วีริยํ อาห กเถสิ. จตุตฺตรสเต จิตฺเต, สมาธินฺทฺริยมพฺรฺวิ วิจิกิจฺฉาสหคตทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณปฺจทฺวาราวชฺชนวชฺชิเต จตุตฺตรสเต จิตฺเต สมาธินฺทฺริยํ อโวจ.

๙๙. สพฺพาเหตุกจิตฺตานิ, เปตฺวา เจกเหตุเก สพฺพานิ อฏฺารส อเหตุกจิตฺตานิ เอกเหตุกจิตฺตทฺวยฺจ เปตฺวา เสสสฺมึ เอกุตฺตรสเต จิตฺเต ฉนฺทสฺส อุปฺปตฺตึ อุทฺทิเส ปณฺฑิโต กเถยฺย.

๑๐๐. เปตฺวา ทส วิฺาเณ จกฺขุวิฺาณาทิเก ทส วิฺาเณ จ วิจิกิจฺฉายุตมฺปิ จิตฺตํ เปตฺวา เสสสฺมึ ทสุตฺตรสเต จิตฺเต อธิโมกฺโข ภควตา อุทีริโต.

๑๐๑-๒. สทฺธา สติ หิรี โอตฺตปฺปํ อโลโภ อโทโส ตตฺรมชฺฌตฺตํ ฉ ยุคฬา จ อิติ อิเม เอกูนวีสติ ธมฺมา นิยตา หุตฺวา เอกนวุติยา จิตฺเต ชายนฺติ. เอกูนวีสติ ธมฺมา อเหตุเกสุ อฏฺารสสุ อปุฺเสุ ทฺวาทสสุ อกุสเลสุ น ชายเร น ชายนฺติ.

๑๐๓. เอกูนาสีติยา จิตฺเต, ปฺา ชายติ สพฺพทา ปฺา ทฺวาทสอกุสลอฏฺารสอเหตุกมหากุสลาณวิปฺปยุตฺตมหาวิปากาณวิปฺปยุตฺตมหากิริยาาณวิปฺปยุตฺตวชฺชิเต เอกูนาสีติยา จิตฺเต ชายติ. อฏฺวีสติยา จิตฺเต, กรุณามุทิตา สิยุํ กรุณามุทิตา อฏฺสุ มหากุสเลสุ, อฏฺสุ มหากิริยาสุ, รูปาวจรปฺจมชฺฌานวชฺชิเตสุ ทฺวาทสรูปาวจเรสุ จาติ อฏฺวีสติยา จิตฺเตสุ สิยุํ ภเวยฺยุํ.

๑๐๔. กามาวจรปุฺเสุ, สพฺพโลกุตฺตเรสุ จ กามาวจรมหากุสเลสุ จิตฺเตสุ สพฺเพสุ โลกุตฺตเรสุ จาติ สห อฏฺเก จตฺตาลีสวิเธ จิตฺเต วิรติตฺตยํ โหติ.

๑๐๕. สทฺธา สติ หิโรตฺตปฺปํ อโลภาทิตฺตยมฺปิ จ ยุคฬานิ ฉ จ มชฺฌตฺตํ กรุณามุทิตาปิ จ.

๑๐๖. ตถา ติสฺโส วิรติโย สพฺเพ เต ปฺจวีสติ ธมฺมา มหากุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตอพฺยากตจิตฺตสมฺปยุตฺตาติ กุสเลน สพฺเพสุเยว ธมฺเมสุ เฉเกน วิชิตงฺคเณน ปกาสิตา.

๑๐๗. อหิรีกํ อโนตฺตปฺปํ, โมโห อุทฺธจฺจเมว จาติ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา นิยตา หุตฺวา ทฺวาทสาปุฺจิตฺเตสุเยว ทฺวาทสอกุสลจิตฺเตสุเยว ชายเร ชายนฺติ.

๑๐๘-๙. โลโภ โทโส จ โมโห จ, มาโน ทิฏฺิ จ สํสโย วิจิกิจฺฉา มิทฺธํ อุทฺธจฺจํ กุกฺกุจฺจํ ถินํ มจฺฉริยมฺปิ จ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ อิสฺสา จ โทมนสฺสกํ เอเต ธมฺมา อกุสลา อกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา เอกนฺเตน มเหสินา วิชิตงฺคณวิคตมเลน วุตฺตา.

๑๑๐. โลโภ อฏฺสุ โลภมูเลสุ จิตฺเตสุ ภควตา นิทฺทิฏฺโ ทสฺสิโต. ทิฏฺิ จตูสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺเตสุ วุตฺตา. มาโน ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ จตูสุ คาหูปวาทปฺปภินฺทเนน วุตฺโต. โทโส ทฺวีสุ เอว ปฏิฆสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺเตสุ มุนินฺเทน วุตฺโต.

๑๑๑. อิสฺสามจฺเฉรกุกฺกุจฺจา ทฺวีสุ โทสมูเลสุ จิตฺเตสุ ชายนฺติ, โน สห สห โน ชายนฺติ, เอเกโกว ชายนฺตีติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉา ปเนกสฺมึ วิจิกิจฺฉา ปน เอกสฺมึ วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต ชายติ. ถินมิทฺธํ ปฺจสุ สสงฺขาริกอกุสลจิตฺเตสุ ชายติ.

๑๑๒-๓. ผสฺโส จ เวทนา สฺา, เจตนา ชีวิตํ มโน วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ วีริยํ สมาธิ จ ฉนฺโท เจวาธิโมกฺโข จ มนสิกาโร จ จุทฺทส ธมฺมา กุสลา จ กุสลเจตสิกา จ โหนฺติ. อกุสลา เจว อกุสลเจตสิกา เจว อพฺยากตาปิ จ อพฺยากตเจตสิกา จ โหนฺติ.

๑๑๔. เอกูนตึสจิตฺเตสุ, ฌานํ ปฺจงฺคิกํ มตํ จตูสุ โสมนสฺสสหคตากุสเลสุ, ทฺวาทสสุ โสมนสฺสสหคตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยจิตฺเตสุ, สุขสนฺตีรณหสิตุปฺปาทจิตฺเตสุ, ตีสุ รูปปมชฺฌานจิตฺเตสุ, อฏฺสุ โลกุตฺตรปมชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ เอกูนตึสจิตฺเตสุ ปฺจงฺคิกํ ปฺจาวยวฌานยุตฺตํ ฌานํ สุคเตน มตํ. อุเปกฺขาสหคตานิ จตฺตาริ โลภมูลานิ จ ทฺเว โทสมูลานิ จ ทฺเว โมหมูลานิ จ มโนธาตุตฺติกฺจ อุเปกฺขาสหคตา ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย จ ทฺวาทสุเปกฺขาสหคตานิ มหากุสลมหาวิปากกิริยจิตฺตานิ ตีณิ รูปทุติยชฺฌานจิตฺตานิ อฏฺ โลกุตฺตรทุติยชฺฌานจิตฺตานิ จาติ สตฺตตึส จิตฺตานิ จตุฌานงฺคยุตฺตานิ จตุฌานาวยวยุตฺตานิ อิติ เอวํ นิทฺทิเส กเถยฺย.

๑๑๕. เอกาทสวิธํ จิตฺตํ, ติวงฺคิกมุทีริตํ ตีณิ รูปาวจรตติยชฺฌานจิตฺตานิ, อฏฺโลกุตฺตรตติยชฺฌานจิตฺตานิ จาติ เอกาทสวิธํ จิตฺตํ ติวงฺคิกํ ติอวยวฌานยุตฺตํ, ฉ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานปฺจมชฺฌานจิตฺตานิ, ทฺวาทสารูปาวจรจิตฺตานิ, โสฬส โลกุตฺตรจตุตฺถชฺฌานปฺจมชฺฌานจิตฺตานิ จาติ จตุตึสวิธํ จิตฺตํ ทุวงฺคิกํ ทฺวิอวยวฌานยุตฺตํ อุทีริตํ ชิเนน อีริตํ.

๑๑๖. สภาเวนาวิตกฺเกสุ, ฌานงฺคานิ น อุทฺธเร สภาเวน ปกติยา อวิตกฺเกสุ วิตกฺกวิรหิเตสุ ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ ฌานงฺคานิ ฌานาวยวานิ ชิโน น อุทฺธเร. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – อฺตฺถ วิตกฺโก ฌานจิตฺเตน วิปฺปหีโน ภาสิโต, อิเมสุ ปน เนว ฌานจิตฺเตน ปหีนา, ปกติยา วิตกฺกวิรหิตานิ ทฺวิปฺจวิฺาณานิ สพฺพาเหตุกจิตฺเตสุ มคฺคงฺคานิ มคฺคาวยวานิ ชิโน น อุทฺธเร น เทเสยฺย.

๑๑๗. พุโธ ชิโน ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ มโนธาตุตฺติเก จ ตีสุ สนฺตีรเณสุ จาติ โสฬสจิตฺเตสุ ตีณินฺทฺริยานิ วเท กเถยฺย. เอกสฺมึ ปน จตฺตาริ เอกสฺมึ วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ โหนฺติ, เอกาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ วิจิกิจฺฉายุตฺตจิตฺตวชฺชิเตสุ หสิตุปฺปาเท เจว โวฏฺพฺพนจิตฺเต จาติ เตรสสุ จิตฺเตสุ ปฺจ อินฺทฺริยานิ พุโธ ภควา อุทฺธเร อุทฺธเรยฺย.

๑๑๘. สตฺต ทฺวาทสจิตฺเตสุ, อินฺทฺริยานิ ชิโนพฺรฺวิ ชิโน พุทฺโธ าณวิปฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสจิตฺเตสุ สตฺต อินฺทฺริยานิ อพฺรฺวิ กเถสิ, เอเกนูเนสุ อฏฺเว, จตฺตาลีสมเนสุ จ ชิโน าณสมฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ จิตฺเตสุ, ปฺจทสสุ รูเปสุ, ทฺวาทสสุ อรูเปสุ จาติ เอเกนูเนสุ จตฺตาลีสมเนสุ อฏฺเว อินฺทฺริยานิ อพฺรฺวิ.

๑๑๙. จตฺตาลีสาย โลกุตฺตรจิตฺเตสุ นวกํ อินฺทฺริยนวกํ นายโก อพฺรฺวิ กเถสิ. เอวํ อินฺทฺริยโยโคปิ, เวทิตพฺโพ วิภาวินา เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺเตสุ อินฺทฺริยโยโค วิภาวินา วิเสเสน ปฺํ ภาเวตุํ ปกาเสตุํ สีลเมตสฺสาติ วิภาวี, เตน เวทิตพฺโพ.

๑๒๐. อมคฺคงฺคานิ นาเมตฺถ, อฏฺารส อเหตุกา เอตฺถ เอเตสุ จิตฺเตสุ อฏฺารส อเหตุกา นตฺถิ มคฺโค เอเตสูติ อมคฺคงฺคานิ นาม, ฌานงฺคานิ น วิชฺชนฺติ, วิฺาเณสุ ทฺวิปฺจสุ ทฺวิปฺจวิฺาเณสุ ฌานงฺคานิปิ น สํวิชฺชนฺติ.

๑๒๑. เอกํ จิตฺตํ ทุมคฺคงฺคํ เอกํ วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺตํ ทุมคฺคงฺคํ ทุมคฺคาวยวํ, จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตากุสลจิตฺเตสุ จ ทฺวีสุ ปฏิฆยุตฺเตสุ จ อุทฺธจฺจยุตฺเตสุ จาติ สตฺตสุ จิตฺเตสุ จ ติมคฺคงฺคานิ ติมคฺคาวยวานิ โหนฺติ. จตฺตาลีสาย จิตฺเตสุ, มคฺโค โส จตุรงฺคิโก จตูสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตากุสเลสุ าณวิปฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ จิตฺเตสุ จ รูปาวจรทุติยตติยจตุตฺถปฺจมชฺฌานสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ รูปาวจเรสุ, ทฺวาทสสุ อรูปาวจเรสุ จาติ จตฺตาลีสาย จิตฺเตสุ จตุรงฺคิโก มคฺโค จตุราวยโว มคฺโค โหติ.

๑๒๒. ปฺจทฺทสสุ จิตฺเตสุ, มคฺโค ปฺจงฺคิโก มโต าณสมฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ, ตีสุ รูปปมชฺฌานจิตฺเตสุ จาติ ปฺจทฺทสสุ จิตฺเตสุ ปฺจงฺคิโก ปฺจาวยโว มคฺโค ภควตา มโต. ทฺวตฺตึสจิตฺเตสุ มคฺโค สตฺตงฺคิโกปิ จ โลกุตฺตรทุติยตติยจตุตฺถปฺจมชฺฌานสงฺขาเตสุ ทฺวตฺตึสจิตฺเตสุ มคฺโค สตฺตงฺคิโก สตฺตาวยโว โหติ.

๑๒๓. มคฺโค อฏฺสุ จิตฺเตสุ มคฺคผลวเสน อฏฺสุ โลกุตฺตรจิตฺเตสุ มคฺโค อฏฺงฺคิโก อฏฺาวยโว โหติ. อิติ ปริสมาปเน. ตุ ปทปูรเณ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน สพฺพจิตฺเตสุ มคฺคงฺคานิ มคฺคาวยวานิ ธีโร อุทฺธเรยฺย, เทเสยฺยาติ อตฺโถ.

๑๒๔. พลานิ ทฺเว ทฺวิจิตฺเตสุ หสิตุปฺปาทโวฏฺพฺพนสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ จิตฺเตสุ ทฺเว พลานิ โหนฺติ. เอกสฺมึ ตีณิ ทีปเย เอกสฺมึ วิจิกิจฺฉายุตฺเต ตีณิ พลานิ ธีโร ทีปเย ปกาเสยฺย. วิจิกิจฺฉายุตฺตโต เสเสสุ เอกาทสสุ อกุสเลสุ จตฺตาริ พลานิ โหนฺติ. ฉ ทฺวาทสสุ าณวิปฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ จิตฺเตสุ ฉ พลานิ โหนฺตีติ ธีโร นิทฺทิเส กเถยฺย.

๑๒๕. เอกูนาสีติยา สตฺต าณสมฺปยุตฺตมหากุสลมหาวิปากมหากิริยาสงฺขาเตสุ ทฺวาทสสุ กามาวจรจิตฺเตสุ, สตฺตวีสติยา มหคฺคตจิตฺเตสุ, จตฺตาลีสโลกุตฺตรจิตฺเตสุ จาติ เอกูนาสีติยา จิตฺเตสุ สตฺต พลานิ โหนฺติ. โสฬเสวาพลานิ ตุ ทฺวิปฺจวิฺาณานิ จ ติสฺโส มโนธาตุโย จ ตีณิ สนฺตีรณานิ จาติ โสฬส เอว จิตฺตานิ อพลานิ พลวิรหิตานิ โหนฺติ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตํ สพลํ พเลน สหคตํ อพลมฺปิ จ พลวิรหิตฺจาปิ จิตฺตํ วิฺเยฺยํ ธีเรน วิชานิตพฺพํ.

๑๒๖. ฌานงฺคมคฺคงฺคพลินฺทฺริยานิ, จิตฺเตสุ ชายนฺติ หิ เยสุ ยานิ เยสุ จิตฺเตสุ ยานิ ฌานงฺคมคฺคงฺคพลอินฺทฺริยานิ ชายนฺติ, มยา สมาเสน สมุทฺธริตฺวา อสํสฏฺํ อุทฺธริตฺวา เตสุ จิตฺเตสุ สพฺพานิปิ ตานิ ฌานงฺคมคฺคงฺคพลอินฺทฺริยานิ สมาเสน สงฺเขเปน มยา พุทฺธทตฺตาจริเยน วุตฺตานิ กถิตานิ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

เจตสิกวิภาคนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติโย ปริจฺเฉโท.

๔. จตุตฺโถ ปริจฺเฉโท

เอกวิธาทินิทฺเทสวณฺณนา

๑๒๗.

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, นยเมกวิธาทิกํ;

อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ, พุทฺธิยา ปน วุทฺธิยา.

อหํ อิโต ปรํ อิโต ปริจฺเฉทโต ปรํ เอกวิธาทิกํ นยํ อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ พุทฺธิยา วุทฺธิตฺถาย ปวกฺขามิ เทเสสฺสามิ.

๑๒๘. สพฺพเมกวิธํ จิตฺตํ, วิชานนสภาวโต สพฺพํ จิตฺตํ วิชานนสภาวโต เอกวิธํ, ทุวิธฺจ ภเว จิตฺตํ อเหตุกสเหตุกโต อิทํ จิตฺตํ ทุวิธํ ภเวยฺย.

๑๒๙. ปุฺาปุฺวิปากา หิ, กาเม ทส จ ปฺจ จ หิ สจฺจํ กาเม กามาวจเร กุสลากุสลวิปากา ทส ปฺจ จ กิริยา ติสฺโส อิติ สพฺเพ อฏฺารส จิตฺตุปฺปาทา อเหตุกา.

๑๓๐. อเหตุกโต จิตฺตุปฺปาทโต เสสา เอกสตฺตติ จิตฺตุปฺปาทา สเหตุกาติ สเหตุกา นามาติ มเหสินา ตาทินา อวิปรีตสภาเวน เหตุวาทินา ปจฺจยวาทินา นิทฺทิฏฺา.

๑๓๑. สวตฺถุกาวตฺถุกโต สวตฺถุกอวตฺถุกวเสน ตถา อุภยวเสน สวตฺถุกวเสน, อวตฺถุกวเสน จ สพฺพํ วุตฺตปฺปกาเรน จ มานสํ ติวิธํ โหติ.

๑๓๒-๔. สพฺโพ กามวิปาโก จ, รูเป ปฺจทสาปิ จ จิตฺตุปฺปาทา อาทิมคฺโค ปมมคฺโค หสิตุปฺปาโท มโนธาตุกิริยาปิ จ โทมนสฺสทฺวยฺจาปิ เตจตฺตาลีส มานสา วินา วตฺถุํ วตฺถุํ วชฺเชตฺวา น อุปฺปชฺชนฺติ, เอกนฺเตน สวตฺถุกา นาม. อรูปาวจรวิปากา จ เอกนฺเตน อวตฺถุกา, มยา วุตฺตโต จิตฺตุปฺปาทโต เสสานิ ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ อุภยถา สวตฺถุกาวตฺถุกวเสน สิยุํ.

๑๓๕. เอเกการมฺมณํ จิตฺตํ, ปฺจารมฺมณเมว จ จิตฺตํ ฉฬารมฺมณกฺเจติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรนาปิ ติวิธํ จิตฺตํ สิยา.

๑๓๖-๘. วิฺาณานิ จ ทฺเว ปฺจ, อฏฺ โลกุตฺตรานิ จ อภิฺามานสํ เปตฺวา สพฺพํ มหคฺคตฺเจวาติ เตจตฺตาลีส จิตฺตุปฺปาทา ปน เอเกการมฺมณา วิฺเยฺยา ธีเรน. ตตฺถ จิตฺเต มโนธาตุตฺตยํ ปฺจารมฺมณํ อีริตํ ภควตา. มยา วุตฺตจิตฺตโต เสสานิ เตจตฺตาลีส จิตฺตานิ ฉฬารมฺมณิกานิ มตานิ สตฺถุนา, ตถา เอวํ จิตฺตํ กุสลากุสลาทิโต ติวิธํ. อาทิ-สทฺเทน อพฺยากตํ คเหตพฺพํ.

๑๓๙. อเหตุกํ จิตฺตํ เอกเหตุกฺจ จิตฺตํ ทฺวิเหตุกฺจ จิตฺตํ ติเหตุกฺจ จิตฺตนฺติ เอวํ อิมินา ปกาเรน จิตฺตํ จตุพฺพิธํ วิภาวินา วิฺาตพฺพํ.

๑๔๐-๒. เหฏฺา มยาปิ นิทฺทิฏฺา อฏฺารส จิตฺตุปฺปาทา อเหตุกา, วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสํยุตฺตํ จิตฺตํ เอกเหตุกํ เอวํ อุทีริตํ ภควตา. กาเม กามาวจเร ปุฺวิปากกฺริยโต กุสลวเสน จ วิปากวเสน จ กิริยาวเสน จ ทฺวาทสธา จิตฺตุปฺปาทา อกุสลา จ ทสธา จาติ พาวีสติ จิตฺตุปฺปาทา ทุเหตุกา. กาเม กามาวจเร ปุฺวิปากกฺริยโต ปุฺวเสน จ วิปากวเสน จ กิริยาวเสน จ ทฺวาทสธา จิตฺตุปฺปาทา. สพฺพํ มหคฺคตฺเจว อปฺปมาณํ โลกุตฺตรจิตฺตฺจ ติเหตุกํ.

๑๔๓-๕๐. รูปีริยาปถวิฺตฺติ-ชนกาชนกาทิโตติ รูปอิริยาปถวิฺตฺติชนกวเสน รูปอิริยาปถชนกวเสน จ รูปชนกวเสน จ ติกิจฺจาชนกวเสน จาติอาทีหิ ปกาเรหิ สพฺพํ จิตฺตํ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ จิตฺเต ทฺวาทสากุสลา, กามธาตุยา กุสลา, ตถา กาเม ทส กิริยา, อภิฺามานสํ ทฺวยํ, อิเม พาตฺตึส มานสา รูปานิ สมุฏฺาเปนฺติ, อิริยาปถํ กปฺเปนฺติ, วิฺตฺตึ ชนยนฺติ. กุสลา มหคฺคตมานสา กิริยา จ มหคฺคตมานสา, อฏฺ อนาสวจิตฺตานิ, ฉพฺพีสติ จ มานสา รูปานิ สมุฏฺาเปนฺติ, อิริยาปถํ กปฺเปนฺติ. โจปนํ น ปาเปนฺติ วิฺตฺตึ น ชนยนฺตีติ อตฺโถ. อิเม จิตฺตุปฺปาทา ทุกิจฺจนิยตา, ทส วิฺาเณ เปตฺวา ทฺวีสุ ภูมีสุ วิปากา มโนธาตุทฺวยสนฺตีรณตฺตยมหาวิปากรูปวิปากานํ วเสน อฏฺารส ปากา มโนธาตุ กิริยา เจวาติ อิมานิ เอกูนวีสติ จิตฺตานิ รูปานิ สมุฏฺาเปนฺติ, อิตรทฺวยํ น กโรนฺติ, ปุน ทฺเวปฺจวิฺาณา ปมํ ‘‘ทส วิฺาเณ’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปุนา’’ติ วุตฺตา. อรูปีสุ วิปากา จ สพฺเพสํ สตฺตานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ อรหโต จุติจิตฺตฺจ อิเม โสฬส มานสา ติกิจฺจานิ น กโรนฺติ.

๑๕๑. เอกทฺวิติจตุฏฺาน-ปฺจฏฺานปฺปเภทโต เอกกิจฺจทฺวิกิจฺจติกิจฺจจตุกิจฺจปฺจกิจฺจเภเทน ปฺจธา จิตฺตํ ปฺจปการํ จิตฺตํ ปฺจนิมฺมลโลจโน พุทฺโธ อกฺขาสิ กเถสิ.

๑๕๒.

กุสลากุสลา สพฺเพ, จิตฺตุปฺปาทา มหากฺริยา;

มหคฺคตา กฺริยา เจว, จตฺตาโร ผลมานสา.

๑๕๓. สพฺเพว ปฺจปฺาส จิตฺตุปฺปาทา ชวนฏฺานโตเยว ชวนกิจฺจวเสเนว เอกฏฺาเน เอกกิจฺเจ นิปฺปปฺเจน สตฺถุนา ตณฺหามานทิฏฺิวิรหิเตน สตฺถุนา นิยามิตา กถิตา.

๑๕๔. ปุน ทฺเวปฺจวิฺาณา จิตฺตุปฺปาทา ทสฺสเน สวเน ตถา ฆายเน สายนฏฺาเน ผุสเน ปฏิปาฏิยา สตฺถุนา นิยามิตา.

๑๕๕. มโนธาตุตฺติกํ อาวชฺชเน ปฏิจฺฉเน, เอเต อฏฺสฏฺิ จิตฺตุปฺปาทา เอกฏฺานิกตํ เอกกิจฺจภาวํ คตา ปตฺตา ภวนฺติ.

๑๕๖-๘. จิตฺตทฺวยํ ทฺวิฏฺานิกํ นาม อุทีริตํ ภควตา, โสมนสฺสยุตํ จิตฺตํ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณํ สิยา. ฉทฺวาเร ตทาลมฺพณฺจ พลวารมฺมเณ อติมหนฺตารมฺมเณ สติ สิยา, ตถา โวฏฺพฺพนํ ปฺจทฺวาเรสุ โวฏฺพฺพนํ โหติ. มโนทฺวาเรสุ ปน สพฺเพสํ อารมฺมณานํ อาวชฺชนํ โหติ, อิทํ จิตฺตทฺวยํ ทฺวิฏฺานิกํ นาม โหติ.

๑๕๙. ปฏิสนฺธิยา านโต ปฏิสนฺธิยา กิจฺจวเสน ภวงฺคสฺส านโต ภวงฺคสฺส กิจฺจวเสน จุติยา านโต จุติยา กิจฺจวเสน เต มหคฺคตวิปากา นว ติฏฺานิกา ติกิจฺจาติ มุนินา มตา.

๑๖๐-๓. อฏฺ กามา มหาปากา, ปฏิสนฺธิภวงฺคโต ปฏิสนฺธิภวงฺควเสน ตทารมฺมณโต เจว ตทารมฺมณวเสน จ เอว จุติฏฺานวเสน จ อฏฺ จิตฺตานิ จตุฏฺานิกจิตฺตานิ โหนฺติ, อิติ วจนํ ธีโร นิทฺทิเส, กุสลากุสลปาโกเปกฺขาสหคตทฺวยํ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณํ ภเว, ฉทฺวาริเกสุปิ พลวารมฺมเณ สติ ตทารมฺมณตา สิยา. ปฏิสนฺธิภวงฺคานํ านวเสน จ จุติฏฺานวเสน จ อิทํ จิตฺตทฺวยํ ปฺจฏฺานิกจิตฺตํ นามาติ อุทีริตํ มุนินา.

๑๖๔. ปฺจกิจฺจํ ทฺวยํ จิตฺตํ, อฏฺกํ ปน จตุกิจฺจํ, นวกํ ติกิจฺจํ, ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา ทฺวิกิจฺจา, อิเมสํ อิเมหิ จิตฺตุปฺปาเทหิ เสสํ เอกกํ กิจฺจํ.

๑๖๕.

ภวงฺคาวชฺชนฺเจว, ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

สนฺตีรณํ โวฏฺพฺพนํ, ชวนํ ภวติ สตฺตมํ.

๑๖๖. ฉพฺพิธํ โหติ ตํ ฉนฺนํ ตํ จิตฺตํ ฉนฺนํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนวิฺาณานํ ปเภทโต ฉพฺพิธํ โหติ, จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ สตฺตนฺนํ วเสน จิตฺตํ สตฺตธา โหติ.

๑๖๗. เอเกการมฺมณํ ฉกฺกํ, ปฺจารมฺมณเภทโต ฉฬารมฺมณโต เจว ฉฬารมฺมณจิตฺตวเสน มโน จิตฺตํ อฏฺวิธํ โหติ.

๑๖๘. ตตฺถ ตสฺมึ จิตฺเต ทฺเวปฺจวิฺาณา เอเกกโคจรา โหนฺติ, ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา รูปารมฺมณิกา, ทฺเว ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา สทฺทาทิโคจรา.

๑๖๙. ปฺจาภิฺาวิวชฺชิตํ สพฺพํ มหคฺคตํ, สพฺพํ โลกุตฺตรฺจ อิติ อิทํ จิตฺตํ เอเกการมฺมณํ ภเว.

๑๗๐. อิทํ ฉกฺกํ เอเกการมฺมณํ วิภาวินา เยฺยํ, มโนธาตุตฺตยํ ปฺจารมฺมณิกํ นาม ภเว.

๑๗๑. กามาวจรจิตฺตานิ จตฺตาลีสํ ตถา เอเกกํ สพฺพานิ อภิฺานิ จ ฉฬารมฺมณิกานีติ ฉฬารมฺมณิกานิ นาม ปณฺฑิเตน วิฺเยฺยานิ.

๑๗๒. สตฺตวิฺาณธาตูสุ ปจฺฉิมํ มโนวิฺาณธาตุฺจ กุสลากุสลาพฺยากตวเสน ติธา กตฺวา นววิธํ จิตฺตํ โหติ.

๑๗๓. มโนวิฺาณธาตุยา เภโท ปุฺาปุฺวเสเนว วิปากกิริยเภทโต ฉสตฺตติวิโธ โหติ.

๑๗๔. มโนธาตุํ วิปากกิริยเภทโต ทฺวิธา กตฺวา ปุพฺเพ วุตฺเตหิ นวธา จิตฺเตหิ มานสํ ทสธา โหติ.

๑๗๕. ปจฺฉิมํ ธาตุทฺวยํ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุทฺวยํ, มโนธาตุํ กุสลวิปากอกุสลวิปากกิริยาวเสน ติธา กตฺวา, มโนวิฺาณธาตุฺจ กุสลากุสลาพฺยากตวเสน ติวิธา กตฺวา จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาเณหิ สห จิตฺตํ เอกาทสวิธํ โหติ, อิติ อิทํ วจนํ ปณฺฑิโต ปริทีปเย.

๑๗๖. มโนวิฺาณธาตุมฺปิ กุสลากุสลาทิโต กุสลากุสลวิปากกิริยาวเสน จตุธา วิภชิตฺวาน ตํ จิตฺตํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาเณหิ สห ติปฺปการาย มโนธาตุยา จ สห ทฺวาทสธาปิ ธีโร วเท.

๑๗๗-๙. จิตฺตํ จุทฺทสฏฺานเภเทน จุทฺทสธา ภเว, ปฏิสนฺธิยา วเสน จ ภวงฺควเสน จ จุติยา วเสน จ อาวชฺชนสฺส วเสน จ ปฺจนฺนํ ทสฺสนาทีนํ กิจฺจานํ วเสน จ สมฺปฏิจฺฉนเจตโส วเสน จ สนฺตีรณสฺส วเสน จ โวฏฺพฺพนชวนานํ วเสน จ, ยถา เอวํ ตทารมฺมณจิตฺตสฺส วเสน จาติ เอวํ อิมินา ปกาเรน านเภทโต กิจฺจเภเทน จุทฺทสธา จิตฺตํ โหติ, อิติ อิทํ วจนํ ธีโร ปริทีปเย ปริทีเปยฺย.

๑๘๐. ภูมิปุคฺคลนานตฺตวเสน ภูมินานตฺตวเสน, ปุคฺคลนานตฺตวเสน จ จิตฺตานํ ปวตฺติโต อิทํ จิตฺตํ พหุธา โหติ, อิติ วจนฺจ ธีโร วิภาวเย ปกาเสยฺย.

๑๘๑. อิธ อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ มติมา อิมสฺมึ เอกวิธาทินเย กุสโล เฉโก โหติ, อภิธมฺเม ปวตฺตา อตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน หตฺถคตา หตฺถปวิฏฺา อามลกา วิย สุทฺธมณิกา วิย โหนฺติ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

เอกวิธาทินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺโถ ปริจฺเฉโท.

๕. ปฺจโม ปริจฺเฉโท

ภูมิปุคฺคลจิตฺตุปฺปตฺตินิทฺเทสวณฺณนา

๑๘๒.

อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, พุทฺธิวุทฺธิกรํ นยํ;

จิตฺตานํ ภูมิสุปฺปตฺตึ, ปุคฺคลานํ วเสน จ.

อหํ อิโต ปรํ พุทฺธิวุทฺธิกรํ นยํ มติวทฺธิกรํ นยํ ปวกฺขามิ เทเสสฺสามิ. จิตฺตานํ ภูมิสุปฺปตฺตึ ปุคฺคลานํ วเสน จ ภูมีสุ จิตฺตานํ อุปฺปตฺตึ, ปุคฺคลานํ วเสน ภูมีสุ จิตฺตานํ อุปฺปตฺติฺจ ปวกฺขามิ.

๑๘๓. เทวา เจว มนุสฺสา จ, ติสฺโส จ อปายภูมิโย โหนฺติ, คติโย ปฺจ เตสํ เทวมนุสฺสติรจฺฉานเปตนิรยคตีนํ วเสน ปฺจ คติโย นิทฺทิฏฺา สตฺถุนา ทสฺสิตา ภควตา. ตโย ภวา ปน กามรูปารูปภววเสน ตโย สตฺถุนา นิทฺทิฏฺา ทสฺสิตา.

๑๘๔-๕. ภูมิโย ตตฺถ ตึเสว, ตาสุ ตึเสว ปุคฺคลา ตตฺถ เตสุ ตีสุ ภเวสุ ตึส เอว ภูมิโย โหนฺติ, ตาสุ ภูมีสุ อุปฺปนฺนา ปุคฺคลา ตึส เอว โหนฺติ, เอตาสุ ภูมีสุ อุปฺปนฺนา สพฺเพ จ ปน ปุคฺคลา ปฏิสนฺธิกจิตฺตานํ วเสน เอกูนวีสติ โหนฺติ. ปฏิสนฺธิ จ นาเมสา เอสา ปฏิสนฺธิ จ นาม ทุวิธา ทฺวิปฺปการา สมุทีริตา สตฺถุนา กถิตา.

๑๘๖. อจิตฺตกา ปฏิสนฺธิ, สจิตฺตกา ปฏิสนฺธิ จ อิติ ทุวิธา ปฏิสนฺธิ โหติ, อสฺิพฺรหฺมานํ ปฏิสนฺธิ อจิตฺตกา รูปปฏิสนฺธิ โหติ. เสสา รูปปฏิสนฺธิโต เสสา สจิตฺตกา สจิตฺตกปฏิสนฺธิ เยฺยา ปณฺฑิเตน ชานิตพฺพา. สา ปน สจิตฺตกา ปฏิสนฺธิ เอกูนวีสติ โหติ.

๑๘๗. ปฏิสนฺธิวเสเนว สจิตฺตกปฏิสนฺธิวเสน เอว วีสติ ปุคฺคลา โหนฺติ. อิธ อิมสฺมึ จิตฺตาธิกาเร จิตฺตาธิการตฺตา อจิตฺตกปฏิสนฺธิ รูปปฏิสนฺธิ น จ อุทฺธฏา น จ กถิตา มยา.

๑๘๘. อเหตุทฺวิติเหตูติ, ปุคฺคลา ติวิธา สิยุํ อเหตุกทฺวิเหตุกติเหตุกา อิติ ติวิธา ติปฺปการา ปุคฺคลา สิยุํ ภเวยฺยุํ. อริยา ปน ปุคฺคลา อฏฺ อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน สพฺเพ ปุคฺคลา เอกาทส อีริตา กถิตา ภควตา.

๑๘๙. ภูมีสุ ตึสภูมีสุ จิตฺตานํ อุปฺปตฺตึ เอเตสํ ปน สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ ปเภทโต ภูมีสุ จิตฺตานํ อุปฺปตฺติฺจ คณฺหโต คณฺหนฺตสฺส มม วจนํ นิโพธถ, ตุมฺเห ชานาถ สุณาถ.

๑๙๐. ตีสุ ภูมีสุ กติ จิตฺตานิ ชายนฺติ? เม มยฺหํ วท ตานิ จิตฺตานิ ตฺวํ กเถหิ, สพฺพาสุ ภูมีสุ จุทฺทส เอว จิตฺตานิ. ตํ ยถา –

โวฏฺพฺพํ กามปุฺฺจ, วิยุตฺตานิ จ ทิฏฺิยา;

อุทฺธจฺจสหิตฺเจว, โหนฺติ สพฺพตฺถ จุทฺทส.

๑๙๑. สทา วีสติ จิตฺตานิ, กาเมเยว ภเว สิยุํ วีสติ จิตฺตานิ กาเมเยว ภเว สทา สพฺพสฺมึ กาเล สิยุํ ภเวยฺยุนฺติ. ตํ ยถา –

กาเม อฏฺ มหาปากา, โทมนสฺสทฺวยมฺปิ จ;

ตถา ฆานาทิวิฺาณตฺตยํ ปากา อปุฺชา.

ฆานาทิวิฺาณตฺตยนฺติ กุสลวิปากฆานาทิตฺตยํ. ปากา อปุฺชา อกุสลโต ชาตา อเหตุกา สตฺต วิปากา. ปฺจ รูปภเวเยว ปฺจ จิตฺตานิ รูปภเวเยว ภวนฺติ. จตฺตาเรว อรูปิสุ จตฺตาริ จิตฺตานิ อรูปีสุเยว โหนฺติ. ตํ ยถา –

รูเปว รูปปากา วารุปฺปปากา อรูปิสุ;

นว มหคฺคตา ปากา, รูปารูเปว ชายเร.

๑๙๒. กามรูปภเวสฺเวว อฏฺารส จิตฺตานิ ภวนฺติ.

ตํ ยถา –

ปุฺรูปานิ ปฺเจว, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

จกฺขุโสตทฺวยํ ปุฺปากํ สนฺตีรณทฺวยํ.

ปุฺปากํ หสิตุปฺปาทมโนธาตุกฺริยาปิ จ;

อฏฺารสาทิมคฺเคน, ปฺจ รูปกฺริยาปิ จ;

กามรูปภเวสฺเวว, เอตาเนว สทา สิยุํ.

ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ, โหนฺติ ตีสุ ภเวสุปิ ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

ปฏิฆทฺวยวชฺชิตานิ, อปุฺานิ ทเสว จ;

มหาปุฺานิ อฏฺเว, โวฏฺพฺพนกฺริยานิ จ.

ปุฺารุปฺปานิ จตฺตาริ, อารุปฺปกิริยานิ จ;

กนิฏฺมคฺควชฺชานิ, สตฺต โลกุตฺตรานิ จ;

ทฺเวจตฺตาลีส จิตฺตานิ, โหนฺติ ตีสุ ภเวสุปิ.

๑๙๓. เปตฺวา ปน สพฺเพสํ, จตสฺโสปายภูมิโย จตสฺโส อปายภูมิโย เปตฺวา วชฺเชตฺวา อปายโต เสสานํ สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ ฉพฺพีสภูมีสุ เตรส เอว จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

จตุตฺถารูปาวจรํ, อนาคามิผลาทโย;

มหากฺริยา จ ชายนฺติ, เตรสาปายวชฺชิตา.

อนาคามิผลาทโยติ อาทิ-สทฺเทน หิ อรหตฺตผลานิ คหิตานิ.

๑๙๔. อปรานิ จตสฺโสปิ, เปตฺวารุปฺปภูมิโย จตสฺโส อรูปภูมิโย เปตฺวา เสสาสุ ฉพฺพีสภูมีสุ อปรานิ จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

มโนธาตุกฺริยฺเจว, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

จกฺขุโสตทฺวยํ ปุฺปากํ สนฺตีรณทฺวยํ;

เฉว จิตฺตานิ ชายนฺติ, ตถา อุปริวชฺชิเต.

๑๙๕. สุทฺธาวาสิกเทวานํ, เปตฺวา ปฺจ ภูมิโย ปฺจ ภูมิโย เปตฺวา ปฺจวีสติภูมีสุ ปฺจ จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา สมฺปยุตฺตานํ, วิจิกิจฺฉายุตํ ตถา;

ปฺจ สพฺพตฺถ ชายนฺติ, สุทฺธาวาสวิวชฺชิเต.

๑๙๖.

อปรานิ ทุเว โหนฺติ, ปฺจวีสติภูมิสุ;

เปตฺวา เนวสฺฺจ, จตสฺโสปายภูมิโย.

จตสฺโสปายภูมิโย เนวสฺานาสฺฺจ เปตฺวาเยว ปฺจวีสติภูมีสุ อปรานิ ทุเว จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

เปตฺวา เนวสฺฺจ, จตสฺโสปายภูมิโย;

เสสาสุ ตติยารุปฺปชวนํ ชายติ ทฺวยํ.

๑๙๗. ทฺเวปิ จิตฺตานิ ชายนฺติ, จตุวีสติภูมิสุ จตสฺโสปายภูมิโย อากิฺจฺฺจ เนวสฺฺจ เปตฺวา เสสาสุ จตุวีสติภูมีสุ ทฺเวปิ จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

จตุตฺถตติยารุปฺปํ, เปตฺวาปายภูมิโย;

เสสาสุ ทุติยารุปฺป-ชวนํ ชายติ ทฺวยํ.

๑๙๘. อปายภูมิโย หิตฺวา จตสฺโส อปายภูมิโย ติสฺโส อุปริ อรูปภูมิโย หิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา เสสาสุ เตวีสติภูมีสุ ทฺเวเยว ปน จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

อปายภูมิโย หิตฺวา, ติสฺโสจารุปฺปภูมิโย;

เสสาสุ ปมารุปฺปํ, ชวนทฺวยํ ชายติ.

๑๙๙. อรูเป จ อปาเย จ อฏฺ ภูมิโย เปตฺวา เสสาสุ พาวีสติภูมีสุ เอกาทสวิธํ จิตฺตํ โหติ. ตํ ยถา –

สพฺพํ รูปฺจ วิปากํ, เปตฺวา สิตมานสํ;

เอกาทเสว ชายติ, อปายารูปวชฺชิเต.

๒๐๐. สุทฺธาวาเส อปาเย จ นว ภูมิโย เปตฺวา เสสาสุ เอกวีสาสุ ภูมีสุ นิจฺจมฺปิ จตฺตาโร เอว มานสา โหนฺติ. ตํ ยถา –

โสตาปตฺติผลฺเจว, สกทาคามิผลมฺปิ จ;

สกทาคามิมคฺโค จ, เปตฺวาปายสุทฺธเก;

อนาคามิมคฺโค เจว, เอกวีสาสุ โหนฺติ หิ.

๒๐๑. เอกํ สตฺตรสสฺเวว, จิตฺตํ ชายติ ภูมิสุ สุทฺธาวาสอปายารุปฺปภูมิโย เปตฺวา อวเสสาสุ สตฺตรสสุ ภูมีสุ เอกํ จิตฺตํ ชายติ. ตํ ยถา –

สุทฺธาวาเส อปาเย จ, เปตฺวารุปฺปภูมิโย;

อาทิมคฺโค เอโก โหติ, สตฺตรสสุ ภูมิสุ.

๒๐๒.

ทฺวาทเสว ตุ ชายนฺเต, เอกาทสสุ ภูมิสุ;

เปตฺวา ปน สพฺพาปิ, ภูมิโย หิ มหคฺคตา. –

เอกูนวีสติภูมิโย เปตฺวา เสสาสุ เอกาทสสุ ภูมีสุ ทฺวาทส จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยาปุฺปากา สตฺต จ ปุฺชํ;

ฆานาทิตฺตยํ เสสาสุ, หิตฺวา สพฺพา มหคฺคตา.

๒๐๓. กามาวจรเทวานํ วเสน จ มนุสฺสานํ วเสน จ สตฺตสุ กามาวจรภูมีสุ อฏฺ จิตฺตานิ สพฺพทา ชายนฺติ. ตํ ยถา –

กาเม เทวมนุสฺสานํ, มหาปากานิ ชายเร;

สทา สตฺตสุ เอตานิ, หิตฺวา เตวีส ภูมิโย.

๒๐๔. ปฺจมชฺฌานปาเกโก, ชายเต ฉสุ ภูมิสุ เอโก ปฺจมชฺฌานวิปาโก เวหปฺผลาทีสุ ฉสุ ภูมีสุ ชายติ. จตฺตาริ ปน รูปวิปากจิตฺตานิ ตีสุ ตีสุ ภูมีสุ ชายนฺติ. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – เอโก ปมรูปวิปาโก พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมานํ ตีสุ ภูมีสุ ชายติ, เอโก ทุติยรูปวิปาโก, เอโก ตติยรูปวิปาโก จ ปริตฺตาภาอปฺปมาณาภาอาภสฺสรานํ ตีสุ ภูมีสุ ชายติ, เอโก จตุตฺถรูปวิปาโก ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺหานํ ตีสุ ภูมีสุ ชายติ.

๒๐๕. จตฺตาริ ปน จิตฺตานิ, โหนฺติ เอเกกภูมิสุ อรูปาวจรวิปากานํ วเสน จตฺตาริ ปน จิตฺตานิ เอเกกภูมีสุ เอเกกาสุ ภูมีสุ โหนฺติ, อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน สพฺพาสุ ภูมีสุ จิตฺตุปฺปาทํ ปริทีปเย ปณฺฑิโต กเถยฺย.

๒๐๖-๗. กุสลากุสลา กาเม กาเม วีสติ กุสลากุสลา, เตสํ ปากา อเหตุกา เตสํ กุสลากุสลานํ อเหตุกา ปฺจทส วิปากา อาวชฺชนทฺวยฺจ อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน สตฺตตึส มานสา นรกาทีสุ จตูสุ อปาเยสุปิ ชายเร. อวเสสานิ ทฺวิปฺาส จิตฺตานิ กทาจิปิ กิสฺมิฺจิ กาเลปิ นุปฺปชฺชนฺติ. ตํ ยถา –

ปฺจทสานิ รูเป ตุ, อรูเป ทฺวาทสีริตา;

อฏฺ โลกุตฺตราเนว, กามปากา สเหตุกา.

อฏฺ มหากฺริยา เจว, หสิตุปฺปาทมานสํ;

ทฺวิปฺาสานิ จิตฺตานิ, อปาเยสุ น ชายเร.

๒๐๘. กาเม เทวมนุสฺสานํ กามาวจเร เทวมนุสฺสานํ มหคฺคตา นว ปากา เนว ชายนฺติ, อสีติ หทยา มานสา สทา ชายนฺติ. ตํ ยถา –

ทฺวาทสากุสลาเนว, กุสลาเนกวีสติ;

สตฺตวีสติ ปากา จ, มหคฺคตวิวชฺชิตา.

กาเม เทวมนุสฺสานํ, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ;

โหนฺติ อสีติ จิตฺตานิ, วิฺเยฺยานิ วิภาวินา.

๒๐๙-๑๒. กาเม กามาวจเร อฏฺ มหาวิปากา โทมนสฺสทฺวยมฺปิ จ ตถา ฆานาทิวิฺาณตฺตยํ กุสลวิปากํ อปุฺชา สตฺต ปากา. นตฺถิ อารุปฺปปากา จ, รูปาวจรภูมิยํ อรูปปากา จ จตฺตาโร รูปาวจรภูมิยํ นตฺถิ. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – รูปาวจรภูมิยํ อฏฺ มหาวิปากา กามสุคติสตฺตานํ ทฺวินฺนํ วิปากจิตฺตตฺตา น โหนฺติ, ฌาเนน วิกฺขมฺภิตตฺตา โทมนสฺสทฺวยมฺปิ นตฺถิ, ฆานชิวฺหากายปสาทวิรหิตตฺตา กุสลวิปากํ ฆานาทิตฺตยํ นตฺถิ, อนิฏฺารมฺมณานํ อภาวโต สตฺต อกุสลวิปากา จ นตฺถิ, อรูปปากา จ นตฺถิ. กสฺมา? อรูปานํ วิปากจิตฺตตฺตา. อิเมหิ สห จิตฺเตหิ อิเมหิ จตุวีสติจิตฺเตหิ สห ตโย มคฺคา ผลทฺวยํ โสตาปตฺติมคฺโค สกทาคามิมคฺโค อนาคามิมคฺโค จ โสตาปตฺติผลสกทาคามิผลานิ จ จตฺตาโร ทิฏฺิสํยุตฺตา วิจิกิจฺฉาสํยุตฺตมฺปิ จ จตฺตาโร เหฏฺิมา ปากา จ สุทฺธาวาเส น ลพฺภเร น ลพฺภนฺติ. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิปุคฺคลานํ อสาธารณตฺตา สุทฺโธ จ อาวาโส, อถ วา โฆราติกฺกมฏฺิตตฺตา อนาคามิปุคฺคลา สุทฺธา นาม, จตุโรฆติณฺณตฺตา ขีณาสวา สุทฺธา นาม, เตสํ สุทฺธานํ ทฺวินฺนํ อุตฺตมสตฺตานํ อาวาโสติปิ สุทฺธาวาโส, ตสฺมึ.

อยเมตฺถาธิปฺปาโย – สุทฺธาวาเส ปน โสตาปตฺติมคฺคโสตาปตฺติผลสกทาคามิมคฺคสกทาคามิผลอนาคามิมคฺคา น วิชฺชนฺติ. กสฺมาติ เจ? อนาคามิผลฏฺานํเยว ตสฺมึ อุปฺปชฺชนโต จตฺตาโร ทิฏฺิสํยุตฺตา จ วิจิกิจฺฉายุตฺตฺจ ปฺจ อกุสลจิตฺตานํ โสตาปนฺเนน วินาสิตตฺตา, อิติ ตสฺมา การณา น ชายนฺติ. จตฺตาโร เหฏฺิมวิปากา เหฏฺิมานํ รูปพฺรหฺมานํ วิปากจิตฺตตฺตา นตฺถิ. เสสานิ เอกปฺาส จิตฺตานิ สุทฺธาวาเส ปน ลพฺภนฺติ. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา วิปฺปยุตฺตานิ, อุทฺธจฺจสหคตํ ตถา;

กามปุฺานิ อฏฺ จ, รูปปุฺานิ ปฺจ วา.

อรูปกุสลาเนว, มคฺโค ขีณาสวสฺส จ;

จกฺขุโสตมโนธาตุ, ปุฺชา ตีรณา ทุเว.

ปฺจมชฺฌานปาโก จ, อนาคามิผลาทโย;

สุทฺธาวาเสสุ ลพฺภนฺติ, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ.

รูปาวจริกา สพฺเพ สพฺพานิ รูปาวจรานิ ปฺจทส จิตฺตานิ, กามธาตุยา สพฺเพ เตวีสติ วิปากา.

๒๑๓. โทมนสฺสาทิมคฺโค จ โทมนสฺสทฺวยฺจ อาทิมคฺโค จ โสตาปตฺติมคฺโค จ, กฺริยา จ ทฺเว อเหตุกา ปฺจทฺวาราวชฺชนหสิตุปฺปาทานิ กิริยานิ จาติ เตจตฺตาลีส จิตฺตานิ อรูปภูมิยํ นตฺถิ. ปฺจ รูปาวจรวิปากา รูปีนํ วิปากจิตฺตตฺตา นตฺถิ. รูปชวนานิ เหฏฺิมฌานานํ วิรตฺตตฺตา นตฺถิ. จกฺขุโสตวิฺาณานิ ปุฺชานิ ปสาทรหิตตฺตา นตฺถิ. ฆานาทิวิฺาณานิ ปกติยาเยว นตฺถิ. กุสลวิปากา มโนธาตุ จกฺขาทิคฺคหิตปฺจารมฺมณตฺตา อรูปานํ ธมฺมารมฺมณตฺตา นตฺถิ, อสติ จกฺขาทิวิฺาเณ สา จ ปุฺชา มโนธาตุ ตาย จ อสติยา จกฺขาทิวิฺาณมฺปิ นตฺถิเยว. กิริยามโนธาตุปิ ปฺจารมฺมณตฺตาเยว นตฺถิ, หสิตุปฺปาโทปิ รูปกายาภาวา สิตสฺสาภาวา นตฺถิ, ปุพฺเพว ทิฏฺสจฺจา อริยา รูปภูมิกา, ตสฺมา อาทิมคฺโคปิ นตฺถิ.

๒๑๔. เอวํ ภูมิวเสเนว, จิตฺตุปฺปตฺตึ วิภาวเย เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ภูมิวเสน จิตฺตุปฺปตฺตึ วิภาวเย ธีโร กเถยฺย. ตถา เอวํ เอกาทสนฺนํ ปุคฺคลานํ วเสน จิตฺตุปฺปตฺตึ ธีโร วิภาวเย กเถยฺย.

๒๑๕.

กุสลากุสลา กาเม,

เตสํ ปากา อเหตุกา;

อาวชฺชนทฺวยฺจาติ,

สตฺตตึเสว มานสาติ. –

อยํ วุตฺตตฺถา.

๒๑๖. เอวํ จตูสฺวปายภูมีสุ มนุสฺสภูมิยฺจาติ ปฺจภูมีสุ อเหตุกสฺส สตฺตสฺส ชายนฺเต อุปฺปชฺชนฺติ. ทฺเวปฺาสาวเสสานิ, น ชายนฺติ กทาจิปิ อวเสสานิ ทฺเวปฺาส จิตฺตานิ กทาจิปิ น ชายนฺติ น อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ สรูปโต วุตฺตาเนว.

๒๑๗. อเหตุกสฺส สตฺตสฺส อุปฺปชฺชนฺเตหิ สตฺตตึสจิตฺเตหิ สห ทุเหตุกา, จตุมหาวิปากา จาติ จตฺตาลีส จิตฺตานิ ตถา เอกกํ ทุเหตุกสฺส สตฺตสฺส ชายนฺติ.

๒๑๘-๒๓. สพฺเพ มหคฺคตา เจว สพฺเพ สตฺตวีสติวิธา มหคฺคตา เจว สพฺเพปิ จ อนาสวา สพฺเพ อฏฺ โลกุตฺตรา เจว จตฺตาโร ติเหตุกวิปากา จ กาเม หสิตุปฺปาโท สเหตุกมหากิริยา จาติ นว กฺริยาปิ เจติ จตฺตาลีสํ ตถา อฏฺ จ ทุเหตุโน สตฺตสฺส น ชายนฺติ.

อยเมตฺถาธิปฺปาโย – ทุเหตุโน รูปารูปสมาปตฺติยา อสมตฺถตาย สตฺตวีส มหคฺคตา น ชายนฺติ, มคฺคผลํ อธิคนฺตุํ อสมตฺถตาย อฏฺ โลกุตฺตรา น ชายนฺติ, ติเหตุกวิปากา ติเหตุกานํ สตฺตานํ วิปากจิตฺตตฺตา น ชายนฺติ, นว กิริยานิ ขีณาสวานํเยว อุปฺปชฺชมานตฺตา น ชายนฺตีติ. กามาวจรสตฺตสฺส, ติเหตุปฏิสนฺธิโน ปุถุชฺชนสฺส จตุปฺาส มานสา ชายนฺติ. กตมานิ ตานิ? ทุเหตุกสฺส วุตฺตานิ จตฺตาลีส จิตฺตานิ ตถา เอกฺจ กามธาตุยํ จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตวิปากา รูปารูเปสุ นว ปุฺานิ จาติ จตุปฺาส มานสา ชายนฺติ. ปุถุชฺชนสฺส ติเหตุโน กามสตฺตสฺส ปฺจตึส จิตฺตานิ น ชายเร น ชายนฺติ. ตํ ยถา –

อาวชฺชนทฺวยํ หิตฺวา, อฏฺารส กฺริยาปิ จ;

นว มหคฺคตา ปากา, อฏฺ โลกุตฺตรานิ จ.

กามปุถุชฺชนสฺเสว, ติเหตุปฏิสนฺธิโน;

ปฺจตึเสว จิตฺตานิ, น ชายนฺติ กทาจิปิ.

ฉเทเวสุ มนุสฺเสสุ จาติ สตฺตสุ ภูมีสุ ชาตสฺส โสตาปนฺนสฺส เทหิโน สตฺตสฺส ปฺาส จิตฺตานิ ชายนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร นิทฺทิเส กเถยฺย. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา วิปฺปยุตฺตานิ, โทมนสฺสทฺวยมฺปิ จ;

อุทฺธจฺจสหิตฺเจว, กามปุฺานิ อฏฺ จ.

นว มหคฺคตปุฺานิ, อาวชฺชนทฺวยมฺปิ จ;

สพฺเพ กามวิปากา จ, โสตาปตฺติผลมฺปิ จ.

อสฺส โสตาปนฺนสฺส นวตึเสว จิตฺตานิ น อุปฺปชฺชนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร ทีปเย เทเสยฺย. ตํ ยถา –

อาวชฺชนทฺวยํ หิตฺวา, อฏฺารส กฺริยาปิ จ;

นว มหคฺคตา ปากา, สตฺต โลกุตฺตรานิ จ.

ทิฏฺิยา สมฺปยุตฺตานิ, วิจิกิจฺฉายุตํ ตถา;

นวตึส น ชายนฺติ, โสตาปนฺนสฺส เทหิโน.

๒๒๔. ปมํ ผลํ เปตฺวา โสตาปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส วุตฺตานิ จิตฺตานิ อตฺตโน สกทาคามิโน ผเลน สกทาคามิผเลน สห สกทาคามิปุคฺคลสฺส สิยุํ.

๒๒๕. โสตาปนฺนสฺส วุตฺตานิ, เปตฺวา ปฏิฆทฺวยํ ทุติยฺจ ผลํ สกทาคามิผลฺจ หิตฺวา อตฺตโน อนาคามิผเลน สห โสตาปนฺนสฺส สตฺตสฺส วุตฺตานิ ยานิ อฏฺจตฺตาลีส จิตฺตานิ อตฺถิ, ตานิ อนาคามิสฺส สตฺตสฺส ชายนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส.

๒๒๖. กติ จิตฺตานิ ชายนฺติ, กาเม อรหโต ปน กาเม สตฺตสุ กามภูมีสุ ชาตสฺส อรหโต ขีณาสวสฺส กติ จิตฺตานิ ชายนฺติ? จตฺตาริ จ จตฺตารีสฺจ จิตฺตานิ กาเม สตฺตสุ กามภูมีสุ ชาตสฺส อรหโต สิยุํ ภเวยฺยุํ. ตํ ยถา –

เตวีส กามปากานิ, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ;

อรหตฺตผเลเนว, กาเม อรหโต สิยุํ.

๒๒๗. มคฺคฏฺานํ จตุนฺนมฺปิ เตสํ ปุคฺคลานํ สกํ สกํ มคฺคจิตฺตํ สิยา ภเวยฺย. เอกจิตฺตกฺขณา หิ เต หิ สจฺจํ ตํ มยา วุตฺตํ วจนํ. เต มคฺคา เอกจิตฺตกฺขณา.

๒๒๘. ปุถุชฺชนสฺส ตีสฺเวว, ปมชฺฌานภูมิสุ ตีสุ เอว ปมชฺฌานภูมีสุ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส พฺรหฺมุโน ปฺจตึส เอว จิตฺตานิ ชายนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส อุจฺจาเรยฺย. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, นว ปุฺา มหคฺคตา.

จกฺขุโสตทฺวยํ ปุฺปากํ สนฺตีรณทฺวยํ;

อาวชฺชนทฺวยฺเจว, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

ปมชฺฌานปาโก จ, ปฺจตึเสว ชายเร.

๒๒๙-๒๓๔. ฆานาทีสุ ปสาเทสุ ปวตฺตํ กุสลวิปากํ วิฺาณตฺตยํ สตฺต อปุฺชา ปากา อฏฺ มหาปากา ตถา อุปริฌานภูมีสุ ชาตา ปากา อารุปฺปา จตฺตาโร วิปากาปิ จ โทมนสฺสทฺวยมฺปิ จ อาวชฺชนทฺวยวชฺชา อฏฺารส กฺริยา เจว อฏฺ โลกุตฺตรานิ จ เอตานิ จตุปฺาส จิตฺตานิ ปมชฺฌานภูมีสุ ตีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปุถุชฺชนสฺส เทหิโน สตฺตสฺส น จ ลพฺภเร น ลพฺภนฺติ. ตาสุ ตีสุ ภูมีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปุถุชฺชนสฺส พฺรหฺมุโน วุตฺเตสุ จิตฺเตสุ อปุฺปฺจกํ หิตฺวา ตตฺถ ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ นิพฺพตฺตสฺส โสตาปนฺนสฺส พฺรหฺมุโน ปมผเลน สห เอกตึส จิตฺตานิ ชายเร ชายนฺติ. สกทาคามิโน ตตฺถ ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ ชาตสฺส สกทาคามิโน พฺรหฺมุโน เตสุ จิตฺเตสุ ปมํ ผลํ เปตฺวา สกทาคามิผลํ ปกฺขิปิตฺวา เอกตึเสว จิตฺตานิ ชายเร. อนาคามิสฺส ตตฺเถว ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ เอว ชาตสฺส อนาคามิสฺส ทุติยํ ผลํ เปตฺวา อตฺตโน ผลจิตฺเตน สห เอกตึเสว จิตฺตานิ ชายนฺติ.

๒๓๕.

วิฺาณํ จกฺขุโสตานํ, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

สนฺตีรณทฺวยฺเจว, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ.

๒๓๖-๗. อรหตฺตผลํ ปมชฺฌานโต สมฺภโว ปาโก สตฺตวีสติ จิตฺตานิ อรหนฺตสฺส ขีณาสวสฺส ชายเร. ปุถุชฺชนสฺส ตีสฺเวว ตีสุ เอว ทุติยชฺฌานภูมีสุ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส พฺรหฺมุโน ทุติยชฺฌานตติยชฺฌานปาเกน สห ฉตฺตึส จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, นว ปุฺมหคฺคตา.

จกฺขุโสตทฺวยํ ปุฺปากํ สนฺตีรณทฺวยํ;

อาวชฺชนทฺวยฺเจว, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ.

ทุติยชฺฌานปาเกน, ตติยชฺฌานปากโต;

ฉตฺตึเสว จ จิตฺตานิ, ทุติยชฺฌานเทหิโน.

๒๓๘-๒๔๑. ปุถุชฺชนสฺส วุตฺเตสุ, หิตฺวา วาปุฺปฺจกํ อตฺตโน ผเลน สห พาตฺตึส จิตฺตานิ โสตาปนฺนสฺส ชายนฺติ. โสตาปนฺนสฺส วุตฺเตสุ, เปตฺวา ปมํ ผลํ โสตาปนฺนสฺส วุตฺเตสุ ปมํ ผลํ เปตฺวา อตฺตโน ผลจิตฺเตน สห พาตฺตึส จิตฺตานิ, สกทาคามิสฺส วุตฺเตสุ ทุติยํ ผลํ เปตฺวา อนาคามิผเลน สห พาตฺตึเสว จิตฺตานิ อสฺส อนาคามิโน ภวนฺติ. อรหนฺตสฺส ตีสฺเวว, อฏฺวีสติ อตฺตโน ตีสุ เอว ทุติยชฺฌานภูมีสุ ชาตสฺส อรหโต อตฺตโน ผเลน ทุติยชฺฌานตติยชฺฌานปากโต ปาเกหิ สห อฏฺวีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

วิฺาณํ จกฺขุโสตานํ, ปุฺชํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

สนฺตีรณทฺวยฺเจว, กฺริยจิตฺตานิ วีสติ.

อรหตฺตผลํ ปาโก, ทุติยชฺฌานสมฺภโว;

ตติยชฺฌานปาโก จ, อฏฺวีสติ มานสา.

๒๔๒-๖. ปริตฺตกสุภาทีนํ, เทวานํ ตีสุ ภูมีสุ จตุตฺถชฺฌานวิปาเกน สห ปฺจตึเสว จิตฺตานิ ชายนฺติ. โสตาปนฺนสฺส ตตฺเถก-ตึส จิตฺตานิ ชายเรตตฺถ ตาสุ ตีสุ ปริตฺตกสุภาทีนํ ภูมีสุ โสตาปนฺนสฺส จ เอกตึส จิตฺตานิ ชายเร. ยถา เอวํ สกทาคามิโน เอกตึส จิตฺตานิ ชายเร. ตถา อนาคามิโน เอกตึส ชายเร. ตตฺเถว ตาสุ ตีสุ ภูมีสุ เอว ชาตสฺส ขีณาสวสฺส สตฺตวีสติ มานสา โหนฺติ, ตถา เอวํ เวหปฺผเล เวหปฺผลภูมิยํ ชาตานํ ปุถุชฺชนเสกฺขานํ ปฺจนฺนํ สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ มานสา โหนฺติ. ปฺจสุ สุทฺธาวาสิกภูมีสุ ชาตสฺส อนาคามิโน สตฺตสฺส เอกตึเสว จิตฺตานิ โหนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร ปริทีปเย เทเสยฺย. ตตฺเถว ตาสุ สุทฺธาวาสภูมีสุ เอว ชาตสฺส อรหโต สตฺตวีสติ มานสา โหนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน รูปีสุ ปฺจทสสุ รูปิภูมีสุ ชาตานํ สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ จิตฺตานิ วิภาวินา ธีเรน วิฺเยฺยานิ ชานิตพฺพานิ.

๒๔๗. จตุวีสติ จิตฺตานิ, ปมารุปฺปภูมิยํ ปมอารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส จตุวีสติ จิตฺตานิ ชายนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, อารุปฺปกุสลานิ จ;

ปมารุปฺปปาโก จ, กฺริยาโวฏฺพฺพนมฺปิ จ.

๒๔๘-๒๕๑. โสตาปนฺนสฺส ตตฺเถว, เปตฺวาปุฺปฺจกํตตฺถ ติสฺสํ ปมารุปฺปภูมิยํ เอว โสตาปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส อปุฺปฺจกํ หิตฺวา อตฺตโน ผเลน สห วีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ. ตถา ตตฺถ ติสฺสํ ปมารุปฺปภูมิยํ สกทาคามิโน, อนาคามิโนปิ จ ปุคฺคลสฺส ปุพฺพํ ปุพฺพํ ผลํ วินา วชฺเชตฺวา อตฺตโน ผเลน สห วีสติ จิตฺตานิ ชายนฺติ. ขีณาสวสฺส ตตฺเถว ตตฺถ ติสฺสํ ปมารุปฺปภูมิยํ เอว ชาตสฺส ขีณาสวสฺส ทส ปฺจ มานสา จ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

มหากฺริยานิ อฏฺเว, จตฺวารุปฺปกฺริยานิ จ;

อรหตฺตผลํ ปาโก, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ.

ทุติยารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส สตฺตสฺส เตวีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, ปุฺารูปูปรี ตโย;

ทุติยารุปฺปปาโก จ, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ.

อิติ เอวํ อิมินา ปกาเรน วตฺวา กเถตฺวา ธีโร ปณฺฑิโต วิภาวเย เทเสยฺย. เอตฺถ เอติสฺสํ ทุติยารุปฺปภูมิยํ ชาตานํ ติณฺณนฺนํ เสกฺขานมฺปิ เอกูนวีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา วิปฺปยุตฺตานิ, อุทฺธจฺจสหิตํ ตถา;

กามปุฺานิ อฏฺเว, ปุฺารูปูปรี ตโย.

ทุติยารุปฺปปาโก จ, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ;

สกสกผเลเนว, จิตฺตาเนกูนวีสติ.

๒๕๒. จุทฺทเสว ตุ จิตฺตานิ ทุติยารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส กิริยจิตฺตานิ ทฺวาทส เอโก ปาโก อรหตฺตผลฺจาติ จุทฺทเสว จิตฺตานิ โหนฺติ. ตํ ยถา –

มหากฺริยานิ อฏฺเว, กฺริยารูปูปรี ตโย;

โวฏฺพฺพฺจ สโก ปาโก, อรหตฺตผลมฺปิ จ.

๒๕๓. ปุถุชฺชนสฺส สตฺตสฺส, ตติยารุปฺปภูมิยํ ตติยอรูปภูมิยํ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส สตฺตสฺส พาวีสติ จิตฺตานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร ปกาสเย. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, ปุฺารูปูปรี ทุเว;

ตติยารุปฺปปาโก จ, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ.

๒๕๔-๕. อฏฺารเสว จิตฺตานิ, โสตาปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส อฏฺารส เอว จิตฺตานิ ชายเร. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา วิปฺปยุตฺตานิ, อุทฺธจฺจสหิตํ ตถา;

มหาปุฺานิ อฏฺเว, ปุฺารูปูปรี ทุเว.

อฏฺารเสว ปาเกน, โสตาปตฺติผเลน จ;

โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ, โสตาปนฺนสฺส ชายเร.

สกทาคามิโน ปมํ ผลํ เปตฺวา อตฺตโน ผเลน ตานิ อฏฺารส จิตฺตานิ โหนฺติ. สกทาคามิโน วุตฺเตสุ จิตฺเตสุ ทุติยํ ผลํ เปตฺวา อตฺตโน ผเลน สห อฏฺารส จิตฺตานิ เอว อนาคามิสฺส ชายเร.

๒๕๖. เตรเสว จ จิตฺตานิ, ตติยารุปฺปภูมิยํ ตติยอรูปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส เตรเสว จิตฺตานิ ชายนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส. ตํ ยถา –

มหากฺริยานิ อฏฺเว, กฺริยารูปูปรี ทุเว;

อรหตฺตผลํ ปาโก, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ.

๒๕๗. เอกวีสติ จิตฺตานิ, จตุตฺถารุปฺปภูมิยํ จตุตฺถอรูปภูมิยํ ชาตสฺส ปุถุชฺชนสฺส สตฺตสฺส เอกวีสติ จิตฺตานิ ชายนฺติ. อิติ อิทํ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส. ตํ ยถา –

โทมนสฺสทฺวยํ หิตฺวา, อปุฺานิ ทเสว จ;

กามปุฺานิ อฏฺเว, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ;

จตุตฺถารุปฺปปุฺฺจ, สปาเกเนกวีสติ.

๒๕๘-๒๖๐. โสตาปนฺนสฺส สตฺตสฺส, สตฺตรส จิตฺตานิ ธีโร ปกาสเย. ตํ ยถา –

ทิฏฺิยา วิปฺปยุตฺตานิ, อุทฺธจฺจสหิตํ ตถา;

กามปุฺานิ อฏฺเว, โสตาปตฺติผลมฺปิ จ;

จตุตฺถารุปฺปปุฺฺจ, สปาโก โวฏฺพฺพมฺปิ จ.

สกทาคามิโน ปมํ ผลํ เปตฺวา ตานิ เอว จิตฺตานิ สผเลน โหนฺติ. สกทาคามิโน วุตฺเตสุ จิตฺเตสุ ทุติยํ ผลํ เปตฺวา อตฺตโน ผเลน สตฺตรส มานสา อนาคามิสฺส โหนฺติ. ทฺวาทเสว ตุ จิตฺตานิ, จตุตฺถารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส อรหนฺตสฺส ทฺวาทส เอว จิตฺตานิ ชายนฺติ. ตํ ยถา –

มหากฺริยานิ อฏฺเว, โวฏฺพฺพฺจาปิ มานสํ;

จตุตฺถฺจ กฺริยารูปํ, ปาโก อรหโต ผลํ.

อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปุคฺคลานํ วเสน ภูมีสุ จิตฺตปฺปวตฺตึ วิทู ธีโร วิภาวเย.

๒๖๑-๒. เหฏฺิมานํ อรูปีนํ, พฺรหฺมานํ อุปรูปริ ชาตา อรูปกุสลา เจว กิริยาปิ จ อุปฺปชฺชนฺติ. อุทฺธํ อุทฺธํ ภาเค ชาตานํ อรูปีนํ พฺรหฺมานํ เหฏฺิมา เหฏฺิมา อารุปฺปา เหฏฺาภาเค ชาตา อรูปาวจรา ปน เนว ชายนฺติ. กสฺมา การณาติ? กิร มยา สุตํ, เหฏฺิมฌาเนสุ ทิฏฺาทีนวโต ทิฏฺโทสภาวโต เนว ชายนฺติ.

๒๖๓-๕. เปตฺวา ปมํ มคฺคํ โสตาปตฺติมคฺคํ เปตฺวา กุสลานุตฺตรา ตโย ตโย อนุตฺตรา กุสลา ตโย มคฺคา, กามาวจรปุฺานิ อฏฺ, ตถา ทส อปุฺานิ จิตฺตานิ, อรูปปุฺานิ จตฺตาริ. สพฺเพ ปากา อนุตฺตรา สพฺพานิ โลกุตฺตรผลานิ, ปมารุปฺปปาโก จ นว กามกิริยาปิ จ, อรูปาปิ สพฺพา กิริยา, เอตานิ ปน เตจตฺตาลีส มานสา ปมารุปฺปภูมิยํ อุปฺปชฺชนฺติ.

๒๖๖-๗. สพฺโพ เตวีสติกามวิปาโก, สพฺโพ ปนฺนรสวิโธ มหคฺคโต รูโป จิตฺตุปฺปาโท, มโนธาตุ กิริยามโนธาตุ, โทมนสฺสทฺวยมฺปิ จ อาทิมคฺโค จ ตถา อุปริ ชาตา ตโย อรูปปากา จาติ ฉจตฺตาลีส จิตฺตานิ เอตฺถ เอติสฺสํ ปมารุปฺปภูมิยํ นตฺถิ.

๒๖๘-๙. วุตฺเตสุ ปน จิตฺเตสุ, ปมารุปฺปภูมิยํ วุตฺเตสุ จิตฺเตสุ กุสลปากกิริยาวเสน ปมารุปฺปตฺตยํ เปตฺวา อตฺตโน ปาโก จาติ จตฺตาลีส จิตฺตานิ ทุติยารุปฺปภูมิยํ ชายนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เสสทฺวเย ปมทุติยารุปฺปโต เสสอากิฺจฺายตนเนวสฺานาสฺายตนภูมิทฺวเย เหฏฺิมเหฏฺิมํ กุสลวิปากกิริยาวเสน เหฏฺาภาเค ชาตํ อรูปตฺตยํ หิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปากา เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปณฺฑิเตน เยฺยา ชานิตพฺพา.

๒๗๐-๓. จตฺตาโร จ อนาสวา, วิปากา จตฺตาริ โลกุตฺตรผลจิตฺตานิ, สพฺเพ สพฺพานิ จ จตูสุ อารุปฺปภูมีสุ โหนฺติ. โวฏฺพฺพเนน จิตฺเตน สห กาเม อฏฺ มหากิริยา, จตสฺโส อรูปกิริยาปิ จาติ เตรส เอว กิริยา ปมารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส ชายนฺติ. ทุติยารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส ปมารุปฺปกิริยํ หิตฺวา ทฺวาทส เอว กิริยา โหนฺติ. ตติยารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส ปมทุติยารุปฺปกิริยานิ หิตฺวา เอกาทส กิริยา โหนฺติ. จตุตฺถารุปฺปภูมิยํ ชาตสฺส ขีณาสวสฺส ปมทุติยตติยารุปฺปกิริยานิ หิตฺวา ทเสว กิริยา เยฺยา ชานิตพฺพา.

๒๗๔.

อรหโต ปน จิตฺตานิ, โหนฺติ เอกูนวีสติ;

อรหตฺตํ กฺริยา สพฺพา, เปตฺวาวชฺชนทฺวยํ.

อาวชฺชนทฺวยํ เปตฺวา สพฺพา กิริยา, อรหตฺตผลฺจาติ เอกูนวีสติ จิตฺตานิ อรหโต ปน โหนฺติ. อาวชฺชนทฺวยํ กิฺจาปิ ขีณาสวสฺส โหนฺติ, เอวมฺปิ อฺเสํ ปุถุชฺชนเสกฺขานมฺปิ โหนฺติเยว. เอกูนวีสติ จิตฺตานิ ขีณาสวสฺส เอว โหนฺติ, น อฺเสนฺติ าปนตฺถํ ‘‘อาวชฺชนทฺวยํ เปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

๒๗๕-๖. จตุนฺนํ ผลฏฺานํ ปุคฺคลานฺจ ติเหตุกปุถุชฺชเน จ เตรเสว จิตฺตานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร ปกาสเย. ตํ ยถา – จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา มหาวิปากานิ, นว รูปารูปปากา จ อิเม เตรเสว จิตฺตานิ ภวนฺติ.

๒๗๗-๙. จตุนฺนํ ผลฏฺานํ ปุคฺคลานฺจ ทุเหตุกปุถุชฺชเน จ าณปริหีนานิ จตฺตาริ วิปากานิ เอว ชายเร. ปุถุชฺชนานํ ติณฺณมฺปิ, จตุนฺนํ อริยเทหินํ อริยคตานํ สตฺตนฺนํ ปุคฺคลานํ สตฺตรเสว จิตฺตานิ ภวนฺติ. ตํ ยถา – ทุเว ปฺจวิฺาณานิ, มโนธาตุตฺตยสนฺตีรณานิ, โวฏฺพฺพนฺจ อิเม สตฺตรส เอว โหนฺติ.

๒๘๐-๕. เหฏฺา ติณฺณํ ผลฏฺานํ, ติเหตุกปุถุชฺชเน จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ มหคฺคตานิ เอว กุสลานิ โหนฺติ. ติณฺณํ ปุถุชฺชนานฺจ, อาทิโต ติณฺณํ อริยานํ เหฏฺา อริยานํ เตรเสว จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร นิทฺทิเส. อฏฺเว กามปุฺานิ, อปุฺโต อกุสลวเสน ทิฏฺิหีนา จตฺตาโร จิตฺตุปฺปาทาปิ, อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตฺจาติ เตรส จิตฺตานิ โหนฺติ. เหฏฺา ทฺวินฺนํ ผลฏฺานํ โสตาปนฺนสกทาคามิปุคฺคลานํ สพฺพปุถุชฺชเน อเหตุกทุเหตุกติเหตุกปุถุชฺชเน โทมนสฺสยุตฺตํ ทฺวยเมว จิตฺตํ ชายเต. ติณฺณํ ปุถุชฺชนานฺจ ปฺจ เอว ชายเร. ตํ ยถา –

จตฺตาริ ทิฏฺิยุตฺตานิ, วิจิกิจฺฉายุตมฺปิ จ;

มคฺคฏฺานํ จตุนฺนมฺปิ, มคฺคจิตฺตํ สกํ สกํ.

เตสํ จตุนฺนํ มคฺคฏฺานํ ปุคฺคลานํ สกํ สกํ เอกเมว มคฺคจิตฺตํ ภเว ภเวยฺย. อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ธีโร ปณฺฑิโต วิภาวเย จิตฺตปฺปวตฺตึ ปกาสเย.

๒๘๖-๙. มยา ภเวสุ จิตฺตานํ, ปุคฺคลานํ วเสน จ. ภเวสุ สพฺพภเวสุ จิตฺตานํ, ปุคฺคลานํ วเสน จ จิตฺตปฺปวตฺติ ภิกฺขูนํ อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย เฉกภาวาย มยา ปกาสิตา. เอวํ สพฺพมิทํ จิตฺตํ, ภูมิปุคฺคลเภทโต เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ภูมิปุคฺคลเภทโต อิทํ สพฺพํ จิตฺตํ พหุธาปิ จ พหุปฺปการมฺปิ จ โหติ. อิติ คหณํ วิภาวินา วิฺาตพฺพํ. สกฺกา วุตฺตานุสาเรน มยา วุตฺตสฺส อนุสาเรน เภโท จิตฺตเภโท วิภาวินา าตุํ วิชานิตุํ สกฺกา. คนฺถวิตฺถารภีเตน มยา อิทํ จิตฺตปฺปวตฺติทีปกวจนํ สํขิตฺตํ, ปุพฺพาปรํ วิโลเกตฺวา, จินฺเตตฺวา จ ปุนปฺปุนํ อตฺถํ อุปปริกฺขิตฺวา วิภาวินา คเหตพฺพํ.

๒๙๐. อิมฺจาภิธมฺมาวตารํ สุสารํ, วรํ สตฺตโมหนฺธการปฺปทีปํ อิมฺจ อภิธมฺมาวตารปฺปกรณํ สุสารํ สุนฺทรสารภูตํ วรํ สตฺตอนฺธการสทิเส โมเห ปทีปํ ปชฺโชตปฺปทีปํ โย นโร สาธุกํ จินฺเตติ วาเจติปิ, ตํ นรํ ราคโทสา จิรํ จิรกาลํ โนปยนฺติ น อุปคจฺฉนฺติ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ภูมิปุคฺคลจิตฺตุปฺปตฺตินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจโม ปริจฺเฉโท.

๖. ฉฏฺโ ปริจฺเฉโท

อารมฺมณวิภาควณฺณนา

๒๙๑.

เอเตสํ ปน จิตฺตานํ, อารมฺมณมิโต ปรํ;

ทสฺสยิสฺสามหํ เตน, วินา นตฺถิ หิ สมฺภโว.

อิโต ปรํ อิโต ปริจฺเฉทโต ปรํ อหํ เอเตสํ ปน จิตฺตานํ อารมฺมณํ ทสฺสยิสฺสามิ. หิ กสฺมา? เตน วินา ตํ อารมฺมณํ วชฺเชตฺวา จิตฺตานํ สมฺภโว นตฺถิ ยสฺมา การณา, ตสฺมา การณา ทสฺสยิสฺสามิ.

๒๙๒.

รูปํ สทฺทํ คนฺธํ รสํ, โผฏฺพฺพํ ธมฺมเมว จ;

ฉธา อารมฺมณํ อาหุ, ฉฬารมฺมณโกวิทา.

ฉฬารมฺมเณสุ เฉกา ปณฺฑิตา อารมฺมณํ ฉธา ฉปฺปการํ อาหุ กเถสุํ.

๒๙๓. ตตฺถ ภูเต อุปาทาย. ตตฺถ เตสุ อารมฺมเณสุ ภูเต อุปาทาย ภูเต ปฏิจฺจ วณฺโณ จตุสมุฏฺิโต กมฺมจิตฺตอุตุอาหารสงฺขาเตหิ จตูหิ ปจฺจเยหิ สมุฏฺิโต นิพฺพตฺโต นิทสฺสเนน สห ปวตฺโต ปฏิเฆน สห ปวตฺโต รูปารมฺมณสฺิโต.

๒๙๔. ทุวิโธปิ สมุทฺทิฏฺโ, สทฺโท จิตฺโตตุสมฺภโว สทฺโท ทุวิโธปิ มุนินา สมุทฺทิฏฺโ จิตฺโตตุสมฺภโว, สวิฺาณกสทฺโทว จิตฺตสมุฏฺิโต โหติ. กถํ? วจีเภทกจิตฺเตน ภูตาย ชาตาย ภูมิยา ปถวีธาตุยา วิการตา ปถวีลกฺขณภาวโต อติถทฺธลกฺขณตา วิการตา นาม. สา วจีวิฺตฺติ วิฺายตีติ วิฺตฺติยา อุปาทิณฺณฆฏฺฏนสฺส กมฺมชปถวีธาตุยา ฆฏฺฏนสฺส การณํ จิตฺตชปถวีธาตุยา กมฺมชปถวีธาตุยา ฆฏฺฏนฺจ สทฺโท จ อปุพฺพํ อจริมํ โหติ.

๒๙๕. อวิฺาณกสทฺโท โย โส อวิฺาณกสทฺโท อุตุสมุฏฺิโต โหติ. อยํ ทุวิโธปิ สทฺโท สทฺทารมฺมณตํ คโต สทฺทารมฺมณภาวํ ปตฺโต.

๒๙๖. ธรียตีติ คจฺฉนฺโต คจฺฉนฺโต ชเนหิ ธรียเตติ คนฺโธ. คมุ สปฺป คติมฺหิ, ธร ธารเณ. สูจนโต อตฺตโน สาธารณสฺส ปุปฺผาทิโน วตฺถุสฺส ปกาสนโตปิ วา คนฺโธ นาม. คนฺธ สูจเน. อยํ คนฺโธ จตูหิ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺาโน. คนฺธารมฺมณสมฺมโต.

๒๙๗. รสมานา รสนฺตีติ, รโสติ ปริกิตฺติโต ชนา รสมานา ยํ ธมฺมชาตํ รสนฺติ อนุภวนฺติ, อิติ ยสฺมา การณา, ตสฺมา การณา รโส อิติ รโส นาม ปณฺฑิเตหิ ปริกิตฺติโต, โส รโส จตุสมฺภูโต รสารมฺมณนามโก.

๒๙๘. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ ยํ ธมฺมชาตํ ชเนหิ ผุสียตีติ ตสฺมา โผฏฺพฺพํ, ปถวีเตชวายโว. ตํ โผฏฺพฺพํ จตุสมฺภูตํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ มตํ.

๒๙๙. สพฺพํ นามฺจ รูปฺจ, หิตฺวา รูปาทิปฺจกํ รูปาทิปฺจกํ หิตฺวา สพฺพํ นามฺจ จิตฺตเจตสิกนิพฺพานนามฺจ รูปฺจ ปฺจปสาทสุขุมรูปฺจ ลกฺขณานิ จ อนิจฺจทุกฺขอนตฺตลกฺขณานิ จ ปฺตฺติ จ ธมฺมารมฺมณสฺิตํ.

๓๐๐. ฉารมฺมณานิ ลพฺภนฺติ, กามาวจรภูมิยํ กามาวจรภูมิยํ ฉารมฺมณานิ ลพฺภนฺติ. ตีณิ รูปาวจเร รูปสทฺทธมฺมารมฺมณวเสน ลพฺภนฺติ. อรูเป ปน เอเกกํ ธมฺมารมฺมณํ ลพฺภติ.

๓๐๑-๓. ขณวตฺถุปริตฺตตฺตา, อาปาถํ น วชนฺติ เย เย รูปาทโย ปฺจ วิสยา ขณวตฺถุปริตฺตตฺตา ปฺจารมฺมณานํ ขณสฺส ปริตฺตตฺตา มนฺทตฺตา เตสํ อปฺปายุกตฺตา วตฺถุปริตฺตตฺตา ปฺจารมฺมณานํ อติขุทฺทกวตฺถุกตฺตา อาปาถํ ปฺจทฺวาเรสุ ปากฏภาวํ น วชนฺติ, ปฺจปสาเทสุ ฆฏฺฏนกิจฺจํ น สาเธนฺติ, เต รูปาทโย ปฺจ วิสยา ธมฺมารมฺมณํ โหนฺติ. อิติ เยสํ เอกจฺจานํ อาจริยานํ มตํ โหติ. กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. เต ปฏิกฺขิปิตพฺพาว เต เอวํ วาทิโน เอกจฺเจ อาจริยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา, มยา ปฏิเสธิตพฺพา. กสฺมา? จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณสฺส โคจรภูตํ สทฺทํ น ปฏิอนุโภติ, โสตวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภูตํ รูปํ น ปฏิอนุโภติ. อิติ อฺมฺสฺส โคจรํ เนว ปจฺจนุโภนฺตานํ เตสํ ปฺจนฺนํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วิฺาณานํ ตฺจ โคจรํ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺขาตํ ชวนํ ปน ปจฺจนุโภติ. อิติ วจนสฺส ภควตา วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. รูปาทโย ปน วิสยา รูปาทิปฺจารมฺมณานิ เอว โหนฺติ.

๓๐๔-๖. ทิพฺพจกฺขาทิาณานํ, รูปาทีเนว โคจรา ตานิ รูปาทีนิ เอว โคจรา ทิพฺพจกฺขาทิาณานํ อนาปาถคตานํ เอว ปากฏภาวํ อปฺปตฺตาเนว. อิติปิ วจนํ วุตฺตํ น ยุชฺชติ. ยํ ธมฺมชาตํ รูปารมฺมณํ ภวนฺตํ, ตํ ธมฺมชาตํ กถํ เกน ปกาเรน ธมฺมารมฺมณํ ภเวยฺย? เอวํ สติ รูปารมฺมณสฺส ธมฺมารมฺมณตฺเต สติ เอเตสํ รูปารมฺมณธมฺมารมฺมณานํ นิยโมปิ กถํ ภเว เกน ปกาเรน ภเวยฺย? สพฺพํ อารมฺมณํ เอตํ เอตํ สพฺพํ อารมฺมณํ ฉพฺพิธํ ฉปฺปการํ ภควตา สมุทีริตํ. ตํ ปริตฺตตฺติกาทีนํ วเสน พหุปฺปกาเรหิ มตํ.

๓๐๗. สพฺโพ กามวิปาโก จ สพฺโพ เตวีสติกามวิปาโก จ กฺริยาเหตุทฺวยมฺปิ จ มโนธาตุหสิตุปฺปาทวเสน กิริยาเหตุทฺวยมฺปิ จาติ ปฺจวีสติ จิตฺตุปฺปาทา เอกนฺตปริตฺตารมฺมณา เอกนฺตกามาวจรารมฺมณา สิยุํ ภเวยฺยุํ.

๓๐๘-๑๐. อิฏฺาทิเภทา ปฺเจว, รูปสทฺทาทโย ปน ทฺวิปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ปฏิปาฏิยา อนุกฺกเมน โคจรา โหนฺติ. รูปาทิปฺจกํ สพฺพํ, มโนธาตุตฺตยสฺส ตุ มโนธาตุตฺตยสฺส ปน สพฺพํ รูปาทิปฺจกํ อารมฺมณํ โหติ, เอเตสํ เตรสนฺนํ ปน จิตฺตานํ รูปกฺขนฺโธว โคจโร อารมฺมณํ โหติ. นารูปํ นามํ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. น จ ปฺตฺตึ ปฺตฺตึ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. นาตีตํ อตีตํ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. น จนาคตํ อนาคตํ อารมฺมณํ น กโรนฺติ เอว. หิ สจฺจํ วตฺตมาโน โคจโร เอเตสํ ทฺวิปฺจวิฺาณานํ, มโนธาตุตฺตยสฺส จาติ เตรสนฺนํ จิตฺตานํ ตํ อารมฺมณํ วตฺตมานํ เอว ปจฺจุปฺปนฺนํ เอว.

๓๑๑. เตรเสตานิ จิตฺตานิ, ชายนฺเต กามธาตุยํ เอตานิ เตรส จิตฺตานิ กามธาตุยํ ชายนฺติ, รูปาวจเร ปุฺชานิ จกฺขุโสตวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนานิ, กิริยามโนธาตุ จาติ จตฺตาริ จิตฺตานิ ชายนฺติ. อรูปิสุ อรูปภูมีสุ เนว กิฺจิปิ เอกมฺปิ จิตฺตํ เนว ชายติ.

๓๑๒-๓. มหาปากานมฏฺนฺนํ อฏฺนฺนํ มหาวิปากานํ ปวตฺติยํ ฉสุ ทฺวาเรสุ ตทารมฺมณกิจฺจานํ รูปาทิฉปริตฺตานิ โคจรา. สนฺตีรณตฺตยสฺสปิ ปวตฺติยํ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณตฺตยกิจฺจสฺส, ฉทฺวาเรสุ ตทาลมฺพณกิจฺจสฺส จ รูปาทิฉปริตฺตานิ โคจรา. รูปาทโย ปริตฺตา ฉ, หสิตุปฺปาทโคจรา หสิตุปฺปาทสฺส รูปาทโย ฉ ปริตฺตา โคจรา โหนฺติ. ปฺจทฺวาเร ปฏุปฺปนฺนา ปฺจสุ ทฺวาเรสุ เย โคจรา ปจฺจุปฺปนฺนา, มโนทฺวาเร ติกาลิกา เย โคจรา ติกาลิกา ตีสุ กาเลสุ นิยุตฺตา.

๓๑๔-๕. ทุติยารุปฺปจิตฺตฺจ, จตุตฺถารุปฺปมานสํ กุสลวิปากกิริยาวเสน ฉพฺพิธํ จิตฺตํ มหคฺคตโคจรํ นิยตํ นิยตารมฺมณํ โหติ, ตํ ฉพฺพิธํ จิตฺตํ มหคฺคตโคจรํ ปุพฺเพ อตฺตนา อธิคตอากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนกุสลารมฺมณํ, เตสุ ทฺเว ทุติยจตุตฺถารุปฺปปากา ‘‘ยสฺส ยสฺส กุสลฌานสฺส ยํ ยํ อารมฺมณํ คเหตฺวา พฺรหฺมโลเก ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ วจนโต สกสกกุสลสฺส อารมฺมณํ เอว เตสํ วิปากานํ อารมฺมณํ โหติ. นิพฺพานารมฺมณตฺตา หิ, เอกนฺเตน อนฺโต อฏฺานาสวจิตฺตานํ อปฺปมาโณว นิพฺพานํ เอว โคจรํ อารมฺมณํ โหติ. หิ กสฺมา การณา? นิพฺพานารมฺมณตฺตา, น อฺโต อารมฺมณโต.

๓๑๖-๓๒๐. จตฺตาโร าณหีนา จ, กามาวจรปุฺโต กามาวจรกุสลวเสน จตฺตาโร าณหีนา จ กฺริยโต กิริยวเสน จตฺตาโร าณหีนา จ ทฺวาทสากุสลานิ จ เต ปริตฺตารมฺมณา เจว มหคฺคตโคจรา จ, เต น วตฺตพฺพา จ โหนฺติ. กสฺมา? ปฺตฺตารมฺมณตฺตา. จตฺตาโร าณสํยุตฺตา, ปุฺโต กุสลวเสน จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา, กฺริยโต กิริยวเสน จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา จ ตถา อภิฺาทฺวยฺจ กิริยาโวฏฺพฺพนมฺปิ จ เอกาทสนฺนํ เอเตสํ จิตฺตานํ โคจโร ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณวเสน ติวิโธ โหติ. อิเม เอกาทส น วตฺตพฺพาปิ โหนฺติ. กสฺมา? ปฺตฺตารมฺมณตฺตา. ยานิ วุตฺตาวเสสานิ วุตฺตโต จิตฺตโต เสสานิ ยานิ จิตฺตานิ, ตานิ น วตฺตพฺพารมฺมณานีติ วิภาวินา วิฺเยฺยานิ.

ปริตฺตารมฺมณตฺติกํ สมตฺตํ.

๓๒๑.

ทุติยารุปฺปจิตฺตฺจ, จตุตฺถารุปฺปมานสํ;

ฉพฺพิธํ ปน เอกนฺตอตีตารมฺมณํ สิยา.

๓๒๒-๖. วิฺาณานํ ทฺวิปฺจนฺนํ ทฺวินฺนํ ปฺจวิฺาณานํ, มโนธาตุตฺตยสฺส จ เตรสนฺนํ จิตฺตานํ โคจรา รูปาทโย ปฺจ ธมฺมา ปจฺจุปฺปนฺนาว, อฏฺ กามมหาวิปากา ตทารมฺมณกิจฺจวเสน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนโคจรา, จุติกิจฺจวเสน อตีตารมฺมณา, ปฏิสนฺธิภวงฺคกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณา. โสมนสฺสสนฺตีรณํ สนฺตีรณกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. ตทารมฺมณกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนานาคตาตีตารมฺมณํ. เสสสนฺตีรณทฺวยํ สนฺตีรณกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ, ตทารมฺมณกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนานาคตาตีตารมฺมณํ, จุติกิจฺจวเสน อตีตารมฺมณํ, ปฏิสนฺธิภวงฺคกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณํ. หสิตุปฺปาทจิตฺตํ ชวนกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนาตีตานาคตโคจรํ. อิติ เอเต ทฺวาทส มานสา ปน สิยาตีตารมฺมณา อตีตารมฺมณา สิยุํ. ปจฺจุปฺปนฺนานาคตโคจรา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา อนาคตารมฺมณา สิยุํ. กาเม วีสติ กุสลากุสลา กฺริยโต กิริยวเสน กาเม นว มานสา, โวฏฺพฺพํ โวฏฺพฺพนกิจฺจวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ, อาวชฺชนกิจฺจวเสน ติกาลารมฺมณํ. มหากิริยมานสา ชวนกิจฺจวเสน ติกาลารมฺมณา, สนฺเต ปฺตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณา. ทฺเว อภิฺามานสาปิ อภิฺากิจฺจวเสน อตีตาทิโคจรา สิยุํ. อิเม มานสา ปฺตฺติกาเลปิ สนฺเต นวตฺตพฺพา ภวนฺติ. รูปารูปภเวสุ มยา วุตฺตโต เสสานิ สพฺพานิ จิตฺตานิ อตีตารมฺมณาทินา อตีตารมฺมณาทิวเสน ปณฺฑิเตน น วตฺตพฺพานิ น กถิตพฺพานิ โหนฺติ เอว, ปฺตฺตารมฺมณานิ เอว โหนฺตีติ อตฺโถ.

๓๒๗. กามโต จ กฺริยา ปฺจ กามาวจรวเสน ปฺจ กิริยา, รูปโต รูปาวจรวเสน ปฺจมี กฺริยา อภิฺาจิตฺตํ, เอเตสํ ฉนฺนํ จิตฺตานํ นตฺถิ กิฺจิ เอกมฺปิ อโคจรํ อนารมฺมณํ, สพฺพารมฺมณนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจมี กฺริยา’’ติ วจนํ อภิฺาจิตฺตวเสน วุตฺตํ. สุทฺธฌานสฺส ปฺจมรูปกิริยสฺส ปฺตฺตารมฺมณํ เอวาติ เวทิตพฺพํ.

๓๒๘. นิพฺพานฺจ จตุพฺพิธํ ผลํ, มคฺคํ รูปฺจ อรูปํ จิตฺตเจตสิกสงฺขาตํ นามฺจ โคจรํ กาตุํ ยานิ จิตฺตานิ สกฺโกนฺติ, ตานิ จิตฺตานิ เม วท, อาจริย, ตานิ มยฺหํ กเถหิ.

๓๒๙-๓๐. จตฺตาโร าณสํยุตฺตา, ปุฺโต ปุฺวเสน จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา, กฺริยโต ตถา กิริยวเสน จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา, ทฺเว อภิฺามานสา, กิริยาโวฏฺพฺพนมฺปิ จาติ เอกาทส จิตฺตานิ นิพฺพานฺจ ผลฺจ มคฺคฺจ รูปฺจ อรูปํ นามฺจ โคจรํ กาตุํ สกฺโกนฺติ.

๓๓๑-๔. จิตฺเตสุ ปน สพฺเพสุ ยานิ จิตฺตานิ อรหตฺตผลํ อรหตฺตมคฺคํ โคจรํ กาตุํ สกฺโกนฺติ, ตานิ กติ จิตฺตานิ เม วท ตานิ มยฺหํ ตฺวํ กเถหิ. สพฺเพสุ ปน จิตฺเตสุ, ฉ จ จิตฺตานิ เม สุณ, โภ ภทฺทมุข, ตฺวํ มยฺหํ วจนํ สุโณหิ, สพฺเพสุ ปน จิตฺเตสุ ฉ จิตฺตานิ อรหตฺตผลํ อรหตฺตมคฺคํ โคจรํ กาตุํ สกฺโกนฺติ. จตฺตาโร าณสํยุตฺตา, กิริยา จ โวฏฺพฺพนมฺปิ จ กิริยาภิฺามโน จาติ ฉ จ จิตฺตานิ โคจรํ กาตุํ สกฺโกนฺติ. ปุฺโต ปุฺวเสน จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตา, ปุฺโต ปุฺวเสน อภิฺาจิตฺตฺจ อรหตฺตผลํ มคฺคํ โคจรํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ.

๓๓๕-๘. อรหโต ขีณาสวสฺส มคฺคจิตฺตํ ผลมานสํ วา ปุถุชฺชนา วา เสกฺขา วา วิชานิตุํ น สกฺโกนฺติ. กสฺมา การณา? ปุถุชฺชโน โสตาปนฺนสฺส มานสํ น ชานาติ, โสตาปนฺโน สกทาคามิสฺส มานสํ น ชานาติ, สกทาคามี อนาคามิสฺส มานสํ น ชานาติ, อนาคามี อรหนฺตสฺส มานสํ น ชานาติ. เหฏฺิโม เหฏฺิโม ปุคฺคโล อุปรูปริ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส มานสํ เนว ชานาติ, อุปรูปริ ิโต ปุคฺคโลปิ เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺส ปุคฺคลสฺส มานสํ ชานาติ.

๓๓๙-๓๔๒. โย ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ อารมฺมณํ เอกํ เอกํ อุทฺธริตฺวา อิโต ปรํ ปวกฺขามิ. กุสลารมฺมณํ กาเม กาเม อฏฺวิธํ กุสลํ อฏฺวิธสฺส กามาวจรกุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ. กถํ? ปุพฺเพว กตํ อฏฺวิธํ มหากุสลํ ปจฺฉา โสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตจิตฺตทฺวเยน วา โสมนสฺสสหคตาณวิปฺปยุตฺตจิตฺตทฺวเยน วา อุเปกฺขาสหคตาณสมฺปยุตฺตทฺวเยน วา อุเปกฺขาสหคตาณวิปฺปยุตฺตทฺวเยน วา อนุสฺสรณกอาลาทีสุ ตสฺส อฏฺวิธสฺส กุสลสฺส ชวนกิจฺจวเสน อารมฺมณํ โหติ, วิปฺปฏิสารกาลาทีสุ ทฺวาทสวิธสฺส อกุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, กุสลสฺส อภิฺามานสสฺส จ กิริยสฺส อภิฺามานสสฺส จ อารมฺมณํ โหติ, เอกาทสวิธสฺส กามาวจรวิปากสฺส ตทารมฺมณวเสน อารมฺมณํ โหติ. ตถา กามกฺริยสฺสาติ ชวนกิจฺจวเสน หสนสฺส อาวชฺชนกิจฺจวเสน โวฏฺพฺพนสฺส ชวนกิจฺจวเสน มหากิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ, เอเตสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ สิยา ภเวยฺย. รูปาวจรปุฺานิ ปฺจ ตโต ฉราสิโต กามวิปากํ วชฺเชตฺวา ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณานิ โหนฺติ. ตทา โลภมูลโมหมูลวเสน อตฺตนา ปฏิลทฺธฌานานํ อนุสฺสรณกาเล ตสฺส ทสวิธสฺส อกุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, ติเหตุกปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส ฌานโต ปริหีนสฺส ฌานํ ปจฺจเวกฺขโต ฌานารมฺมณํ โทมนสฺสยุตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส ปฏิฆทฺวยสฺส อารมฺมณํ โหติ. กามกฺริยสฺสาติ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณานิ กิริยามโนธาตุหสนานิ วชฺเชตฺวา อาวชฺชนกิจฺจวเสน โวฏฺพฺพนสฺส, ชวนกิจฺจวเสน มหากิริยสฺส จ อารมฺมณํ โหติ.

๓๔๓. อารุปฺปกุสลฺจาปิ, เตภูมกุสลสฺส จ มหากุสลสฺส จ อภิฺากิจฺจวเสน ปฺจมรูปกุสลสฺส จ ทุติยจตุตฺถอรูปกุสลสฺส จ เตภูมกกฺริยสฺสาปิ โวฏฺพฺพนสฺส มหากิริยสฺส จ อภิฺากิจฺจวเสน ปฺจมรูปกิริยสฺส จ ทุติยจตุตฺถารุปฺปกิริยสฺส จ อารมฺมณํ โหติ, ทุติยารุปฺปกิริยสฺส จ ปมารุปฺปกิริยาย อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, จตุตฺถารุปฺปกิริยสฺส จ ตติยารุปฺปกิริยาย อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, เอวฺจ สติ กถํ ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปกิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตติยารุปฺปกุสลฺจ จตุตฺถารุปฺปกิริยสฺส อารมฺมณํ โหตีติ เจ วตฺตพฺพํ, ยทา ปุถุชฺชนโยคี วา เสกฺโข วา โยคี รูปสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺหิตฺวา อากาสานฺจายตนสงฺขาตํ ปมารุปฺปสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วีตราโค หุตฺวา อตฺตนา อธิคตา สมาปตฺติโย คเหตฺวา ปุถุชฺชนเสกฺขกาเล อตฺตนา อนธิคตํ ทุติยํ อรูปสมาปตฺตึ สมาปชฺชิ, ตทา ขีณาสวกาเล สมาปชฺชิตํ ทุติยํ อรูปกิริยํ ปมารุปฺปกุสลํ อารมฺมณํ กโรติ, เอวํ ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปกิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ.

ยทา โยคี รูปสมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺหิตฺวา ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปกุสลํ ตติยารุปฺปกุสลฺจ สมาปชฺชิตฺวา ขีณาสโว หุตฺวา อตฺตนา อธิคตา สมาปตฺติโย คเหตฺวา อตฺตนา อนธิคตํ จตุตฺถํ อรูปสมาปตฺตึ สมาปชฺชิ, ตทา จตุตฺถารุปฺปกิริยา ตติยารุปฺปกุสลํ อารมฺมณํ กโรติ, เอวํ จตุตฺถารุปฺปกิริยสฺส ตติยารุปฺปกุสลํ อารมฺมณํ โหติ, ปจฺฉา ขีณาสวกาเล สมาปชฺชิตา รูปารูปสมาปตฺติโย โหนฺติ. ยถา โหติ, ตถา เอว อกุสลสฺสปิ อารมฺมณํ โหติ.

๓๔๔-๗. อรูปาวจรปากานนฺติ ชาตินิทฺธารณํ, จตุตฺถทุติยานํ อรูปปากานมฺปิ อารมฺมณํ โหติ, ‘‘จตุตฺถทุติยาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ ติยานํ-สทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘จตุตฺถทู’’ติ วุตฺตํ, ตทา ทฺวินฺนํ อรูปปากานํ ปมารุปฺปตติยารุปฺปชวนานิ อารมฺมณานิ โหนฺติ, ‘‘ยสฺส กุสลสฺส ฌานสฺส ยํ อารมฺมณํ คเหตฺวา พฺรหฺมโลเก ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ วจนโต สกสกกุสลานํ อารมฺมณภูตานิ อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนานิ เตสํ ทุติยจตุตฺถารุปฺปปากานํ อารมฺมณานิ โหนฺติ, เอวํ อรูปกุสลํ อิเมสํ อฏฺราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ. อปริยาปนฺนปุฺมฺปิ จตุพฺพิธโลกุตฺตรกุสลมฺปิ กามาวจรโต กามาวจรวเสน กุสลสฺส าณสมฺปยุตฺตมหากุสลสฺส จ กฺริยสฺส โวฏฺพฺพนสฺส, าณสมฺปยุตฺตโต กิริยสฺส จ รูปโต รูปาวจรวเสน ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส จ ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จาติ จตุนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ สทา โหติ, อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – เสกฺขานํ าณสมฺปยุตฺตมหากุสลสฺส, โวฏฺพฺพนสฺส, ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส จ ติวิธํ โลกุตฺตรปุฺํ อารมฺมณํ โหติ. ขีณาสวสฺส โวฏฺพฺพนสฺส, าณสมฺปยุตฺตมหากิริยสฺส, ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จ อรหตฺตปุฺํ อารมฺมณํ โหติ. ยถา ตถา เอว สพฺพํ อกุสลํ กามาวจรโต กามาวจรวเสน กุสลสฺส มหากุสลสฺส, กฺริยสฺส หสนโวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส จ รูปาวจรโต ปน รูปาวจรวเสน ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส, ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จ อารมฺมณํ โหติ, ยถา ตถา เอว สพฺพสฺส อกุสลสฺส จ กามาวจรวิปากานํ ตทารมฺมณกิจฺจวเสน เอกาทสนฺนฺจาติ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ ภควตา อีริตํ.

๓๔๘-๓๕๒. วิปาการมฺมณํ กาเม สพฺพํ วิปาการมฺมณํ กามาวจรโตปิ กามาวจรวเสนปิ กุสลสฺส มหากุสลสฺส, กฺริยสฺส หสนโวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส จ รูปาวจรโต เจว รูปาวจรวเสน จ เอว ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส, ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จ กามาวจรปากานํ กามาวจรวิปากานํ เอกาทสนฺนฺจ ตเถว อกุสลสฺส จ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ โหติ. รูเป วิปาการมฺมณํ กามาวจรโตปิ จ กามาวจรวเสนปิ จ กุสลสฺส มหากุสลสฺส, กฺริยสฺส จ โวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส จ รูปาวจรโต เจว รูปาวจรวเสน จ เอว กุสลสฺส จ อปุฺสฺส จาติ ปฺจนฺนํ ราสีนํ โคจโร โหติ, อรูปาวจรปาเกสุ อยํ นโย ภควตา มโต. วฏฺเฏ น ปริยาปนฺนา นปฺปวิฏฺาติ อปริยาปนฺนา, เตสํ ปุคฺคลานํ ปากาปิ กามโต กามาวจรวเสน กุสลสฺส าณสมฺปยุตฺตมหากุสลสฺส, กฺริยสฺส จ โวฏฺพฺพนาณสมฺปยุตฺตมหากิริยสฺส จ รูปโตปิ รูปาวจรวเสนปิ กุสลสฺส ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส, กฺริยสฺส จ ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จ เอวํ อารมฺมณํ โหตีติ. เอตฺถายมธิปฺปาโย อปริยาปนฺนปุฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๓๕๓-๖. กาเม อิทํ สพฺพกิริยจิตฺตํ กามาวจรโตปิ จ กามาวจรวเสนปิ จ กุสลสฺส มหากุสลสฺส, กฺริยสฺส จ หสนโวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส จ รูปาวจรโต เจว รูปาวจรวเสน จ เอว กุสลสฺส ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส, กฺริยสฺส จ ปฺจมสฺส รูปกิริยสฺส จ เอกาทสกามาวจรปากสฺส จ ตเถว อกุสลสฺส จ เอเตสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ โหติ. ยํ กฺริยามานสํ รูเป รูปาวจเร ยํ กิริยามานสํ, กามปากํ ตโต วินา ตโต ราสิโต กามปากํ วินา วชฺเชตฺวา ปฺจนฺนํ ปน ราสีนํ อารมฺมณํ โหติ. กามาวจรโต กามาวจรวเสน กิริยสฺส โวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ, หสนํ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา รูปกิริยํ อารมฺมณํ น กโรติ. กฺริยาจิตฺตํ ปนารุปฺเป อรูปกิริยาจิตฺตํ ปน เตสํ ปฺจนฺนํ เอว จ ราสีนํ อารุปฺปกฺริยสฺสาปิ ปมารุปฺปกิริยํ ทุติยารุปฺปกิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตติยารุปฺปกิริยํ จตุตฺถารุปฺปกิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ. อิติ ฉนฺนํ ราสีนํ โคจโร โหติเยว.

๓๕๗-๘.

รูปํ จตุสมุฏฺานํ, รูปารมฺมณสฺิตํ;

กามาวจรปุฺสฺส, ตเถว กุสลสฺส จ;

อภิฺาทฺวยจิตฺตสฺส, กามปากกฺริยสฺส จ.

ทฺวิจกฺขุวิฺาณมโนธาตุทฺวยสนฺตีรณตฺตยมหาปากสฺส จ กามกิริยสฺส จาติ เอกาทสวิธสฺส กามกิริยสฺส จ ฉนฺนํ เอเตสํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

๓๕๙-๓๖๐. นิพฺพานารมฺมณํ กามรูปาวจรโต กามรูปาวจรวเสน เสกฺขานํ าณสมฺปยุตฺตมหากุสลสฺส, รูปาวจรวเสน ปฺจมสฺส รูปกุสลสฺส จ กามรูปกิริยสฺส จ ขีณาสวานํ โวฏฺพฺพนาณสมฺปยุตฺตมหากิริยสฺส จ ปฺจมรูปกิริยสฺส จ อุภยสฺสาปิ จิตฺตสฺส อารมฺมณํ โหติ. อปริยาปนฺนโต เจว โลกุตฺตรวเสน จ เอว ผลสฺส, กุสลสฺส จ เอเตสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

๓๖๑-๒. นานปฺปการกํ สพฺพํ, ปฺตฺตารมฺมณํ ปน เตภูมกสฺส ปุฺสฺส มหากุสลสฺส, สุทฺธฌานสฺส ปฺจวิธสฺส รูปกุสลสฺส, ปมารุปฺปตติยารุปฺปกุสลสฺส จ ตเถว อกุสลสฺส จ รูปารูปวิปากสฺส สพฺพสฺส รูปวิปากสฺส, ปมารุปฺปตติยารุปฺปวิปากสฺส จ เตภูมกกฺริยสฺส จ หสนโวฏฺพฺพนมหากิริยสฺส สพฺพสฺส รูปกิริยสฺส, ปมารุปฺปตติยารุปฺปกิริยสฺส จาติ นวนฺนํ ปน ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

๓๖๓-๔. รูปารมฺมณิกา ทฺเว ตุ ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา รูปารมฺมณิกา, ทฺเว ทฺเว สทฺทาทิโคจรา ทฺเว ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา สทฺทารมฺมณาทิโคจรา, ตโย มโนธาตุสงฺขาตา จิตฺตุปฺปาทา ปฺจารมฺมณิกา นาม มตา ภควตา. อิธ อิมสฺมึ กามาวจราธิกาเร เอกจตฺตาลีเสว จิตฺตุปฺปาทา ฉฬารมฺมณิกา มตา. อยํ กามาวจรจิตฺตานํ อารมฺมณกฺกโม.

๓๖๕-๙. ปฺจาภิฺา วิวชฺเชตฺวา, รูปารูปา อนาสวา อิเม สพฺเพ จิตฺตุปฺปาทา ธมฺมารมฺมณโคจรา โหนฺติ. ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปเจตโส กุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, ทุติยารุปฺปเจตโส วิปากสฺส จ อารมฺมณํ โหติ, ทุติยารุปฺปเจตโส กิริยสฺส จ อารมฺมณํ โหติ. ทุติยารุปฺปเจตโส กิริยสฺส ปมารุปฺปกุสลารมฺมณภาเว การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ปมารุปฺปปาโกยํ, ทุติยารุปฺปเจตโส กุสลสฺส จ ทุติยารุปฺปเจตโส วิปากสฺส จ ทุติยารุปฺปเจตโส กิริยสฺส จ อารมฺมณํ น โหติ. หิ กสฺมา? เตสํ ทุติยารุปฺปกุสลวิปากกิริยานํ ปมารุปฺปกุสลารมฺมณตฺตา. ปมํ ตุ กฺริยาจิตฺตํ ปมํ กิริยาจิตฺตํ ปน ทุติยารุปฺปเจตโส ปุฺสฺส อารมฺมณํ น โหติ. ทุติยารุปฺปเจตโส วิปากสฺส อารมฺมณํ น โหติ. รูปารูปภเวสุ หิ ขีณาสวา วิปากจิตฺตานิ จุติวเสน สกสกกุสลานํ อารมฺมณํ กโรนฺติ. ปมํ ตุ กฺริยาจิตฺตํ ปน ทุติยารุปฺปเจตโส กิริยสฺส อารมฺมณํ โหติ. อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตานํ อารมฺมณุปฺปตฺติ วิภาวินา ธีเรน เยฺยา.

๓๗๐-๓. ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขสฺส, อรูปารมฺมณํ ทฺวิธา ทฺวิปฺปการํ กุสลํ กุสลสฺส ทุติยารุปฺปกุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปวิปากสฺส อารมฺมณํ สิยา ภเวยฺย. ขีณาสวสฺส ภิกฺขุสฺส, ปมารุปฺปมานสํ อารมฺมณํ ติธา ติปฺปการํ โหติ. อิติ วจนํ มเหสินา วุตฺตํ. กฺริยสฺสาปิ ทุติยารุปฺปกิริยสฺสาปิ ปมารุปฺปกิริยา อารมฺมณํ โหติ. กุสลมฺปิ ปมารุปฺปกุสลมฺปิ ทุติยารุปฺปกิริยสฺส จ อารมฺมณํ โหติ. กุสลํ ปมารุปฺปกุสลํ ทุติยารุปฺปวิปากสฺส อารมฺมณํ โหติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปมารุปฺปมานสํ อารมฺมณํ ติธา โหติ. ตติยารุปฺปจิตฺตมฺปิ จตุตฺถารุปฺปเจตโส กุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, จตุตฺถารุปฺปเจตโส วิปากสฺส จ ตํ อารมฺมณํ โหติ. เอวเมว ยถา ปมารุปฺปมานสํ อารมฺมณํ ทฺวิธา โหติ, เอวเมว ตถา ตติยารุปฺปจิตฺตํ อารมฺมณํ ทฺวิธา โหติ. ยถา ปมารุปฺปมานสํ อารมฺมณํ ติธา โหติ, เอวเมว ตถา ตติยารุปฺปจิตฺตํ อารมฺมณํ ติธา สิยา.

๓๗๔. ยํ ยํ ปน อิธารพฺภ อิธ อิมสฺมึ อธิกาเร ยํ ยํ โคจรํ อารพฺภ ปฏิจฺจ เย เย จิตฺตุปฺปาทา ชายนฺติ, โส โส โคจโร เตสฺจ เตสฺจ จิตฺตุปฺปาทานํ อารมฺมณปจฺจโย โหติ.

๓๗๕. โย ปน นโร อิมสฺส อภิธมฺมาวตารสฺส กิร ปารํ ทุตฺตรํ อิธ อิมสฺมึ โลเก อุตฺตรติ, โส นโร อภิธมฺมมหณฺณเว ปารํ ทุตฺตรํ อุตฺตรํ อุตฺตรติ เอว.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

อารมฺมณวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉฏฺโ ปริจฺเฉโท.

๗. สตฺตโม ปริจฺเฉโท

วิปากจิตฺตปฺปวตฺตินิทฺเทสวณฺณนา

๓๗๖.

อนนฺตาเณน นิรงฺคเณน,

คุเณสินา การุณิเกน เตน;

วุตฺเต วิปาเก มติปาฏวตฺถํ,

วิปากจิตฺตปฺปภวํ สุณาถ.

เยน ชิเนน อนนฺตาเณน นิกฺกิเลเสน คุเณสินา การุณิเกน เตน ชิเนน วุตฺเต วิปากสฺมึ มติปาฏวตฺถํ มติเฉกภาวตฺถาย วิปากจิตฺตปฺปภวํ มยา ภณมานํ วิปากจิตฺตปฺปวตฺตึ ตุมฺเห สุณาถ.

๓๗๗. เอกูนตึส กมฺมานิ, ปากา ทฺวตฺตึส ภควตา ทสฺสิตา, กมฺมานิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ทิสฺสเร, วิปากา ฉสุ ทฺวาเรสุ ทิสฺสนฺติ.

๓๗๘-๙. กุสลํ กามโลกสฺมึ กามโลกมฺหิ กุสลํ ปวตฺเต, ปฏิสนฺธิยฺจ ตํตํปจฺจยมาคมฺม ตํตํปจฺจยํ ปฏิจฺจ. โส โส ปจฺจโย ตํตํปจฺจโย, ‘‘ตตปจฺจโย’’ติ วตฺตพฺเพ นิคฺคหีตาคมวเสน ‘‘ตํตํปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. วิจฺฉากมฺมธารยสมาโสยํ. วิวิธํ ผลํ ททาติ. เอกาย เจตนาย เอกา ปฏิสนฺธิ ภควตา ปกาสิตา. นานากมฺเมหิ นานา ปฏิสนฺธิโย จ ภวนฺติ.

๓๘๐-๑. ติเหตุกํ ตุ ยํ กมฺมํ ติเหตุกํ ยํ กมฺมํ ปน กามาวจรสฺิตํ ติเหตุกํ วิปากํ ทุเหตุฺจ วิปากํ อเหตุฺจ วิปากํ เทติ. ทุเหตุกํ ตุ ยํ กมฺมํ ทุเหตุกํ ยํ กมฺมํ ปน, ตํ กมฺมํ ติเหตุกํ วิปากํ น เทติ, อตฺตโน วิปากํ ทุเหตุฺจ อเหตุฺจ เทติ.

๓๘๒-๓. ติเหตุเกน กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา โหติ, ทุเหตุกาปิ ปฏิสนฺธิ โหเตว, อเหตุกา ปฏิสนฺธิ เนว โหติ, อุกฺกฏฺติเหตุกกมฺเมน ติเหตุกา ปฏิสนฺธิ, โอมกติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ อธิปฺปาโย. ทุเหตุเกน กมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ, อเหตุกาปิ ปฏิสนฺธิ โหเตว, ติเหตุกา ปฏิสนฺธิ เนว โหติ. อุกฺกฏฺทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ, โอมกทุเหตุกกมฺเมน อเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ อธิปฺปาโย.

๓๘๔. อสงฺขารกมฺมํ อสงฺขารวิปากํ เทติ, สสงฺขารวิปากมฺปิ เทติ, สสงฺขารกมฺมํ สสงฺขารผลํ, ตถา อสงฺขารผลํ เทติ.

๓๘๕. เอกาย เจตนาเยตฺถ เอตฺถ เอตาสุ เจตนาสุ เอกาย กุสลาย เจตนาย โสฬสวิธา วิปากจิตฺตานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ชิโน ปกาสเย.

๓๘๖-๙๒. เวทนาปริวตฺตนํ อารมฺมเณน โหเตว, ตทารมฺมณจิตฺตมฺปิ ชวเนน นิยามิตํ, โสมนสฺสยุตฺเต กุสเล ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสยุตฺตเมว โหตีติ อตฺโถ. อุเปกฺขายุตฺตกุสเลปิ เอเสว นโย. กามาวจรจิตฺเตน กุสเลนาทินา ปเมน กุสเลน ตุลฺเยน วิปากจิตฺเตน. ตติยาวิเสสนํ. เยน สตฺเตน คหิตา ปฏิสนฺธิ เจ ยทิ, อิฏฺเ พลวารมฺมเณ มนาเป อติมหนฺตารมฺมเณ ตสฺส สตฺตสฺส จกฺขุสฺส จกฺขุปสาทสฺส อาปาถํ ปากฏภาวํ อาคเต สติ มโนธาตุยา ตาย ภวงฺคสฺมึ อาวฏฺฏิเต ภวงฺคโสเต ฉินฺทิเต สติ จกฺขุวิฺาณกาทีสุ วีถิจิตฺเตสุ ชาเตสุ ปมํ กุสลํ กามมานสํ ชวนํ หุตฺวา ชายเต. สตฺตกฺขตฺตุวารานิ ชวิตฺวาน ปเม มหากุสเล คเต ตเทว ตํ เอว อิฏฺํ อารมฺมณํ กตฺวา เตเนว ปมมหากุสเลน สทิสํ ตทารมฺมณวิปากจิตฺตํ. สนฺธิยา ตุลฺยโต ปฏิสนฺธิยา ตุลฺยภาเวน มูลภวงฺคนฺติ มูลภวงฺคํ นาม ภควตา ปวุจฺจเต. ตฺจ ตทารมฺมณจิตฺตํ สนฺตีรณํ โสมนสฺสยุตฺตํ สนฺตีรณํ ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ เอตฺถ เอตสฺมึ วีถิจิตฺเต คณนูปคจิตฺตานิ คณนํ อุปคตานิ จิตฺตานิ จตฺตาริ เอว ภวนฺติ.

๓๙๓-๔. ยทา หิ ทุติยํ จิตฺตํ, กุสลํ ชวนํ ยทา ยสฺมึ กาเล ตสฺเสว โสมนสฺสติเหตุโน ปุคฺคลสฺส ทุติยํ กุสลํ จิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตสฺมึ กาเล เตน ชวเนน ตุลฺยวิปากํ ตทารมฺมณํ. ตสฺส สนฺธิยา อสมานตฺตา ตสฺส ตทารมฺมณจิตฺตสฺส สนฺธิยา อสมานตฺตา ทฺเว นามานิ อสฺส วิปากจิตฺตสฺส อเนน วิปากจิตฺเตน ลพฺภเร ลพฺภนฺติ, ‘‘อาคนฺตุกภวงฺค’’นฺติ นามํ ‘‘ตทารมฺมณก’’นฺติ จ นามํ อิติ ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺติ.

๓๙๕-๖. ยทา ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส ตติยํ ปุฺํ ชวนํ โหติ, ตทา เตน ชวเนน สทิสํ ตติยํ ปากํ ตทารมฺมณิกํ สิยา. อิทํ วิปากจิตฺตํ อาคนฺตุกภวงฺคนฺติ อาคนฺตุภวงฺคํ นาม ภควตา วุจฺจเต, ปุริมานิ จ ปฺจ วิปากจิตฺตานิ อิมินา ปน ตติยวิปาเกน ปน สทฺธึ จิตฺตานิ โหนฺติ.

๓๙๗-๘. ยทา จตุตฺถํ กุสลํ ชวนํ โหติ, ตทา เตน ชวเนน ตุลฺยํ จตุตฺถวิปากํ ตทารมฺมณภาวํ วเช คจฺเฉยฺย. จตุตฺถวิปากํ อาคนฺตุกภวงฺคํ ตทารมฺมณนามกํ โหติ, ปุริมานิ ฉ ปากานิ อิมินา สห จตุตฺถปาเกน สตฺต จิตฺตานิ โหนฺติ.

๓๙๙-๔๐๓. ยทา ยสฺมึ กาเล ตสฺมึ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ ปน ตถา อาปาถํ อาคจฺฉติ จ, ตทา วุตฺตนเยน อาวชฺชนทสฺสนสมฺปฏิจฺฉนจิตฺเตสุ ชาเตสุ อิธ อิมสฺมึ มชฺฌตฺตารมฺมเณ อารมฺมณวเสน เวทนา ปริวตฺตติ, ตสฺมา อุเปกฺขาสหคตํ สนฺตีรณํ มโน โหติ. อุเปกฺขาสหคเตสุ เอว จตูสุปิ ชวเนสุ ชวิเตสุ เตหิ ชวเนหิ ตุลฺยานิ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานิ ชายเร. อจฺจนฺตํ เอกนฺเตน เวทนาย อุเปกฺขาเวทนาย ปุริเมหิ โสมนสฺสสหคเตหิ จิตฺเตหิ อสมานตฺตา จตฺตาริ จิตฺตานิ นามโต ปิฏฺิภวงฺคานิ นาม โหนฺติ, ปิฏฺิภวงฺคานิ โสมนสฺสวิปากานํ ปจฺฉาภาเค ภวงฺคานีติ อตฺโถ. อิมานิ อุเปกฺขาสหคตานิ ปฺจ วิปากานิ ปุริเมหิ สตฺตหิ วิปาเกหิ สทฺธึ ทฺวาทส วิปากานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส.

๔๐๔-๖. ยถา จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส วิปากานิ โหนฺติ, ตถา เอวํ โสตาทีสุ ทฺวาเรสุปิ ทฺวาทส ปากานิ โหนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร นิทฺทิเส, อิเม มยา วุตฺตา วิปากา สมสฏฺิ ภวนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต สมสฏฺิ วิปากานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมึ วจเน สํสโย นตฺถิ. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส ปากา, โสตวิฺาณกาทีนิ จตฺตาริ จาติ โสฬส ปากานิ โหนฺติ.

๔๐๗-๑๑. เอเกน ติเหตุกกุสเลน อสงฺขาริเกน กมฺเมน อายูหิเต ยถา, เอวเมว สสงฺขารติเหตุกกุสเลนาปิ อสงฺขารสสงฺขารอุเปกฺขาสหคเตหิปิ กุสเลหิ กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต เตสํ ติณฺณํ กุสลานํ วิปาเกหิ ตีหิปิ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา เอเสว นโย ปณฺฑิเตน ชานิตพฺโพ. อิธ อิมสฺมึ อุเปกฺขาสหคตทฺวเย อิฏฺมชฺฌตฺตโคจรสฺส วเสน วิปากจิตฺตปฺปวตฺตึ ปมํ ทสฺเสตฺวา ทสฺเสตพฺพาถ ปจฺฉา ตุ, อิฏฺสฺมึ โคจเร อิธ อถ ปจฺฉา มยา วุตฺตจิตฺตปฺปวตฺติโต ปจฺฉากาเล ปน อิธ อิมสฺมึ อิฏฺโคจเร เอเกกสฺมึ ปน ทฺวาทส ทฺวาทส ปากา ปณฺฑิเตน ทสฺเสตพฺพา. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน โสฬส ปากจิตฺตานิ โหนฺติ. ปุพฺเพ กาเล มยา วุตฺตนเยเนว สพฺพํ วจนํ อเสสโต อเสสภาเวน ปณฺฑิเตน เยฺยํ.

๔๑๒-๔. ติเหตุเกน กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา ภวติ, อิติ อยํ วาโร เอตฺตาวตา เอตฺตเกน วจเนน มยา วุตฺโต. เอกํ กมฺมํ เอกสฺมึ ภเว เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนติ, ตโต ปฏิสนฺธิโต อปรํ อฺํ ทุติยํ ปฏิสนฺธึ น ชเนติ, ปวตฺติยํ อเนกานิ วิปากานิ สฺชเนติ. หิ สจฺจํ ‘‘เอกํ กมฺม’’นฺติอาทิกํ วจนํ. เอกสฺมา พีชา เอกโต พีชโต เอกํ องฺกุรํ ชายติ, อสฺส พีชสฺส พหูนิ ผลานิ เหตุปฺปวตฺติโต สลิลาทิเหตุปฺปตฺติยา โหนฺติ.

๔๑๕-๒๑. ทุเหตุเกน กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ทุเหตุกา โหติ, อิติ วจนํ อยํ วาโร อนุปุพฺเพน อนุปฏิปาฏิยา อาคโต. อิธ อิมสฺมึ อธิกาเร ทุเหตุเกน ปุฺเน โสมนสฺสยุตฺเตน อสงฺขาริเกน จิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต ปน ทุเหตุเกน โสมนสฺสยุตฺตกุสเลน ตุลฺเยน ปาเกน เยน สตฺเตน คหิตา ปฏิสนฺธิ เจ, อิฏฺเ อารมฺมเณ ตสฺส สตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคเต โสมนสฺสยุตฺเต าณหีเน กุสลมานเส ตสฺมึ ทุเหตุเก สตฺตกฺขตฺตุํ ชวิตฺวาน คเต ตํ เอว อารมฺมณํ กตฺวา ตทนนฺตรํ ตสฺส ชวนสฺส อนนฺตรํ ตํสริกฺขกํ เตน ชวเนน สทิสํ เอกนฺตํ อสงฺขาริกมานสํ ชายติ. นฺติ ตํ จิตฺตํ มูลภวงฺคนฺติ มูลภวงฺคํ นาม ตทารมฺมณมิจฺจปิ ตทารมฺมณํ นาม อุภยมฺปิ นามํ ตสฺเสว นามํ ตสฺส จิตฺตสฺส เอว นามํ. อิติ เอวํ อิมินา ปกาเรน ภควตา ปริทีปิตํ. ทุเหตุเก สสงฺขาเร กุสเล ชวเน ชวิเตปิ จ ตํสมํ เตน จิตฺเตน สทิสํ อาคนฺตุกสงฺขาตํ ตทารมฺมณมานสํ โหติ.

๔๒๒-๙. ตเถว จ ตถา เอว จ อิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร ทุเหตูนํ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขายุตฺตานํ ชวนานํ อนนฺตรํ ตาทิสานิ เตหิ ชวเนหิ สทิสานิ ทฺเว ตทารมฺมณมานสานิ ชายนฺเต, เตสํ ตทารมฺมณมานสานํ ‘‘ปิฏฺิภวงฺค’’นฺติ นามํ, ‘‘อาคนฺตุกภวงฺค’’นฺติ จ นามํ โหติ. สนฺตีรณทฺวยฺเจว ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ อิมานิ ทฺเว ภวงฺคานิ จาติ อฏฺ วิปากา จกฺขุทฺวาเร โหนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฺจสุ ทฺวาเรสุปิ จ อฏฺ อฏฺ วิปาเก กตฺวา ปวตฺติยํ จตฺตาลีส วิปากานิ ภวนฺติ. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ, จกฺขุทฺวาเร ปนฏฺ จ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ จ วิปากา โสตฆานาทินา วิปาเกน สทฺธึ ทฺวาทส เอว วิปากานิ ภวนฺติ. เอกาย เจตนาเยวํ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต ปน สติ ทฺวาทเสว วิปากานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ วิชิตกุสลยุทฺธสงฺคาเมน ปกาสิตํ เทสิตํ. ทุเหตุกตฺตเยนาปิ, เสเสน สทิเสน ตุ มยา วุตฺตโต ทุเหตุโต เสเสน ทุเหตุกตฺตเยนาปิ สทิเสน ปาเกน อาทินฺนสนฺธิโน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส สตฺตสฺส เอวํ นโย มโต กถิโต นิรงฺคเณน. ทุเหตุเกน กมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหติ. อิติ อยํ วาโร จ เอตฺตาวตา เอตฺตเกน วจเนน มยา วุตฺโต.

๔๓๐-๘. ทุเหตุเกน กมฺเมน อเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหติ, อิติ อยํ วาโร อนุปุพฺเพน ปฏิปาฏิยา อาคโต. เตสุ จตูสุปิ ทุเหตุเกสุ กุสเลสุ จิตฺเตสุ อฺตเรเนว เหตุเกน กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต สติ ตสฺเสว ทุเหตุกสฺส กุสลชวนสฺส ปากภูตาย อุเปกฺขาสหคตาเหตุกาย มโนวิฺาณธาตุยา อาทินฺนปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส สา ปฏิสนฺธิ กมฺมสทิสา นาม น วตฺตพฺพา ปณฺฑิเตหิ. หิ สจฺจํ ‘‘ปฏิสนฺธิ น วตฺตพฺพา’’ติอาทิกํ วจนํ. กมฺมํ ทุเหตุกํ โหติ, ปฏิสนฺธิ อเหตุกา โหติ. ตสฺส เทหิโน สตฺตสฺส วุฑฺฒิมุเปตสฺส วุฑฺฒึ อุปคตสฺส จกฺขุทฺวาเร ปน อิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร อาปาถมาคเต สติ ทุเหตุกานํ จตุนฺนํ ปุฺานํ ยสฺส กสฺสจิ ชวนสฺส อวสานมฺหิ อิทํ อเหตุกํ มโน ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. เอตฺถ เอตสฺมึ วจเน สํสโย สนฺเทโห นตฺถิ, ตํ อเหตุกจิตฺตํ มูลภวงฺคฺจ ตทารมฺมณเมว จ โหติ. จกฺขุวิฺาณกาทีสุปิ วีถิจิตฺเตสุ ชาเตสุ อุเปกฺขาสหคตํเยว สนฺตีรณมฺปิ จ โหติ. เตสุ เอกํ เปตฺวาน, คหิตาคฺคหเณนิธ เตสุ ทฺวีสุ สนฺตีรณตทารมฺมณกิจฺเจสุ วิปาเกสุ เอกํ สนฺตีรณกิจฺจํ ตทารมฺมณกิจฺจํ ตํ จิตฺตํ เปตฺวา คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน อิธ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ คณนูปคจิตฺตานิ ตีณิเยว ภวนฺติ.

๔๓๙-๔๑. อิฏฺเ อารมฺมเณ จกฺขุ-ทฺวาเร อาปาถมาคเต ตทา สนฺตีรณฺเจว โสมนสฺสยุตฺตํเยว โหติ, ตทารมฺมณมานสฺจ โสมนสฺสยุตฺตํเยว โหติ, เตสุ สนฺตีรณตทารมฺมณกิจฺเจสุ วิปาเกสุ เอเกกํ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตทารมฺมณกิจฺจํ วา จิตฺตํ คเหตฺวา ปุริมานิ จ ตีณิ จตฺตาริ เอว วิปากานิ ภวนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฺจสุ ทฺวาเรสุปิ จตฺตาริ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานีติ ปวตฺติยํ วิปากานิ วีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ.

๔๔๒-๘. จกฺขุทฺวาเร ตุ จตฺตาริ, คหิตาคฺคหเณนิธ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร ปน จตฺตาริ วิปากานิ อิธ อิมสฺมึ อิฏฺารมฺมเณ โสตฆานาทินา วิปาเกน สทฺธึ อเหตุกํ อฏฺกํ โหติ เอว. อเหตุกปฏิสนฺธิสฺส สตฺตสฺส ทุเหตุกํ, ติเหตุกํ วา ตทารมฺมณํ น ภเว น ภเวยฺย, ทุเหตุปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส ติเหตุกํ ตทารมฺมณํ น ภเว. ชาตา สุคติยํ เยน, ปาเกน ปฏิสนฺธิ ตุ สุคติยํ เยน ปาเกน ปฏิสนฺธิ ชาตา, เตน วิปาเกน ตุลฺยมฺปิ, หีนํ วา เตสํ ตทารมฺมณํ ภเวยฺย. มนุสฺสโลกํ สนฺธาย, วุตฺตฺจาเหตุกฏฺกํ สุคติยํ อเหตุกฏฺกฺจ มนุสฺสโลกฺจ สนฺธาย ปฏิจฺจ การณํ กตฺวา มยา วุตฺตํ. จตูสุปิ อปาเยสุ ปน อเปโต อโย ปติฏฺา เอเตหีติ อปาโย, เตสุ. ปวตฺเต อเหตุกํ อฏฺกํ อาปายิเกหิ ลพฺภติ. เถโร เนรยิกานํ ตุ, ธมฺมํ เทเสติ วสฺสติ ถิโร ถิรการธมฺโม ยสฺมึ อตฺถีติ เถโร, ทุติยอคฺคสาวกภูโต อิทฺธิมา โมคฺคลฺลานตฺเถโร เนรยิกานํ นิรเย ชาตานํ สตฺตานํ ธมฺมํ เทเสติ วสฺสติ, ‘‘อุจฺฉงฺเค มํ นิสีทิตฺวา’’ติอาทีสุ วิย เทวํ วสฺสาเปตีติ อตฺโถ. คนฺธํ วายุฺจ มาเปติ ยทา, ตทา ปน เตสํ เนรยิกานํ สตฺตานํ เตหิ เนรยิกสตฺเตหิ เถรํ ทิสฺวา, ธมฺมฺจ สุตฺวา, คนฺธฺจ ฆายิตฺวา ชลํ อุทกฺจ ปิวตํ ปิวนฺตานํ มุทุํ วายุฺจ เตหิ ผุสตํ ผุสนฺตานํ เตสํ เนรยิกสตฺตานํ จกฺขุวิฺาณกาทีนิ ปฺจปิ ปุฺชานิ เอว กุสลวิปากานิ เอว สนฺตีรณทฺวยํ ปุฺชํ เอว กุสลวิปากํ เอว ปุฺชา เอว เอกา มโนธาตุ อิติ อฏฺกํ โหติ.

๔๔๙-๕๐. อยํ ตาว กถา ‘‘จกฺขุวิฺาณกาทีนิ ปุฺชาเนวา’’ติอาทิกา อยํ กถา อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร กามาวจเร ปุฺานํ ชวนานํ วเสน มยา วุตฺตา. ตทารมฺมณเจตโส ตทารมฺมณจิตฺตสฺส ยํ นิยมตฺตํ ‘‘ตทารมฺมณมานสํ ชวเนน นิยามิต’’นฺติอาทิวจเนน มยา วุตฺตํ, ตํ นิยมตฺตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตํ. โสมนสฺสยุตฺเต กามาวจรกุสเล ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสยุตฺตเมว โหติ, อุเปกฺขายุตฺเต กามาวจรกุสเล ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ อุเปกฺขายุตฺตเมว โหติ, เนตํ อกุสเล อุเปกฺขายุตฺเต วิจิกิจฺฉาทิเก อกุสเล ชวเน ปน ชวิเต โสมนสฺสยุตฺตมฺปิ ตทารมฺมณํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อิติปิ วจนํ อาจริเยน ทีปิตํ.

๔๕๑-๗. อิธ อิมสฺมึ อธิปฺปาเย อกุสลจิตฺเตสุ โสมนสฺสยุตฺเตสุ จตูสุปิ อิฏฺเ อารมฺมเณ เตสุ จิตฺเตสุ ชวิเตสุ โสมนสฺสยุตฺตา อเหตุมโนวิฺาณธาตุ ตทนนฺตรํ เตสํ อกุสลชวนานํ อนนฺตรํ ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. อุเปกฺขายุตฺเตสุ ฉสุ อกุสลจิตฺเตสุ อิฏฺมชฺฌตฺเต โคจเร ชวิเตสุ ปุฺชา อุเปกฺขาสหคตา อเหตุมโนวิฺาณธาตุ เอว ตทนนฺตรํ วา เตสํ อุเปกฺขาสหคตานํ ฉนฺนํ อกุสลชวนานํ อนนฺตรํ ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. อิฏฺารมฺมณโยคสฺมึ พุทฺธรูปาทิอิฏฺารมฺมณโยคสฺมึ กงฺขโต ‘‘พุทฺโธ นุ โข, โน พุทฺโธ’’ติ กงฺขนฺตสฺส สตฺตสฺส อุทฺธตสฺส วา สตฺตสฺส ตทารมฺมณมานสํ โสมนสฺสยุตฺตํ อเหตุกํ วิปากํ โหติ ปิฏฺิภวงฺคํ. โสมนสฺสยุเต จิตฺเต, ชวเน ชวิเต ปน โสมนสฺสยุตฺตา เอว ปฺจ ตทารมฺมณมานสา ปณฺฑิเตน คเวสิตพฺพา. อุเปกฺขาสหคเต จิตฺเต ชวเน ปน ชวิเต สติ อุเปกฺขาสหคตา ฉ จ ตทารมฺมณมานสา ปณฺฑิเตน คเวสิตพฺพา.

๔๕๘-๖๓. ติเหตุโสมนสฺเสน, อาทินฺนปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส ฌานโต ปริหีนสฺส วิปฺปฏิสาริโน ตํ ฌานํ ปจฺจเวกฺขโต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส โทมนสฺสยุตฺตํ จิตฺตํ โหติ. ตสฺส โทมนสฺสสฺส อนนฺตรํ กึ มานสํ ชายเต, ตฺวํ โทมนสฺสยุตฺตชวนสฺส อนนฺตรมานสํ พฺรูหิ กเถหิ. ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธา หิ โทมนสฺสสฺสานนฺตรํ โสมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธา ปฏฺานปฺปกรเณ ภควตา นิวาริตา, อสฺส โสมนสฺสสฺส วา อนนฺตรํ โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ปฏฺาเน ปฏฺานปฺปกรเณ ปฏิสิทฺธา ภควตา นิวาริตา. มหคฺคตํ ปนารพฺภ มหคฺคตํ ปฏิจฺจ ชวเน ชวิเตปิ จ ตทารมฺมณมานสํ ตตฺเถว ตสฺมึ ปฏฺาเน เอว ปฏิสิทฺธํ ภควตา นิวาริตํ. ตสฺมา การณา ภวงฺคปาโต วา ตทารมฺมณเมว วา น โหติ. กึ นุ กาตพฺพํ เตสํ ภวงฺคตทารมฺมณานํ อภาเว การณํ ยํ กาตพฺพํ, อมฺเหหิ ตํ การณํ กึ นุ ปุจฺฉาม, ตํ ตทตฺถํ อาภิธมฺมิกภาเวน อาภิธมฺมิก ตํ การณํ วท วทาหิ. อุเปกฺขาสหคตาเหตุมโนวิฺาณธาตุ ปุฺาปุฺวิปากา ตทารมฺมณิกา สิยา ภเวยฺย.

๔๖๔-๗. อิมสฺส ตทารมฺมณสฺส อาวชฺชนํ กึ นตฺถิ? ตํ ตทารมฺมณมานสํ กถํ เกน ปกาเรน ชายเต? ภวงฺคอาวชฺชนานํ จิตฺตานํ กึ อาวชฺชนมตฺตํ? มคฺคสฺส อนนฺตรสฺส จ ผลสฺสาปิ กึ อาวชฺชนํ นตฺถิ? นิโรธา จ นิโรธโต วุฏฺหนฺตสฺส ภิกฺขุโน ผลจิตฺตสฺส วาติ มยา สุตํ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน อาวชฺชนํ นตฺถิ. วินา อาวชฺชเนนาปิ, โหตุ ชายตุ มานสํ จิตฺตํ อาวชฺชเนน วินา อาวชฺชนํ วชฺเชตฺวา โหตุ ชายตุ, กิมสฺสารมฺมณํ อสฺส ตทารมฺมณมานสสฺส กึ อารมฺมณํ, ปณฺฑิต, ตฺวํ อารมฺมณํ ยทิ ชานาสิ, ตํ อารมฺมณํ พฺรูหิ มยฺหํ กเถหิ. วินา อารมฺมเณเนตํ เอตํ มานสํ อารมฺมเณน วินา อารมฺมณํ วชฺเชตฺวา น ชายติ. หิ สจฺจํ ‘‘วินา อารมฺมเณเนต’’นฺติอาทิกํ วจนํ, ตทารมฺมณมานสํ ยทา โทมนสฺสยุตฺตํ ชวนํ มหคฺคตารมฺมณํ ชวติ, ตทา ตสฺมึเยว ชวนจิตฺตกฺขเณ ปริตฺเตสุ กามาวจรารมฺมเณสุ ยํ กิฺจิ ปริตฺตารมฺมณํ อารพฺภ ปฏิจฺจ ชายติ.

๔๖๘-๗๓. อุตุพีชนิยาโม จ อุตุนิยาโม พีชนิยาโม จ กมฺมธมฺมนิยามตา จ กมฺมนิยามตา จ สีลาทิปารมีธมฺมนิยามตา จ จิตฺตสฺส นิยาโม จาติ ปฺจ นิยามตา ปณฺฑิเตน เยฺยา. ตตฺถ เตสุ ปฺจสุ นิยาเมสุ สพฺเพสํ ปน รุกฺขานํ เอกปฺปหาเรน ผลปุปฺผาทิธารณํ อุตุ, อยํ อุตุนิยามตา. เตสํ เตสํ ตุ พีชานํ, ตํตํตุลฺยผลุพฺภโว เตสํ เตสํ พีชานํ ปน เตหิ เตหิ พีเชหิ ตุลฺยานมฺปิ สสฺสานํ ผลานํ อุปฺปตฺติ, อยํ พีชนิยามตา. มตฺถเก นาฬิเกรสฺส นาฬิเกรผลสฺส มตฺถเก ฉิทฺทตฺตํ ฉิทฺทภาโว, อยํ พีชโช พีชโต ชาโต นิยาโม. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกฺจ วิปากํ ทุเหตุกฺจ วิปากํ อเหตุกฺจ วิปากํ ยโต ยํ กมฺมํ เทติ, อยํ กมฺมนิยามตา. โพธิสตฺตสฺส ชาติยํ ชินงฺกุรสฺส ชาติกฺขเณ เมทนีกมฺปนาทิกํ อเนกวิเสสตฺตํ, อยํ สีลาทิปารมีธมฺมนิยามตา. เตน โคจเรน ปสาทสฺมึ ฆฏฺฏิเต สติ อิธ อิมสฺมึ จิตฺตวีถิยํ อาวชฺชนาทีนํ จิตฺตานํ อุปฺปตฺติ, อยํ จิตฺตนิยามตา.

๔๗๔. โย ปุคฺคโล ธีโร ธีรสมฺปนฺโน คุณสมฺปนฺโน วิกฺขิตฺตปาโป โมหนฺธการาปคมํ อนฺธการมนิสฺสาย อวิชฺชานิสฺสรณํ ยทิจฺเฉ สเจ อิจฺเฉยฺย, โส ธีโร อิมํ อภิธมฺมาวตารปฺปกรณํ อนฺธชฺชนานํ อนฺธสทิสพาลชนานํ หทยนฺธการํ วิทฺธํสนํ อนฺธการสนฺนิสฺสิตสฺส ยสฺส หทยสฺส วิทฺธํสนกรํ ชลนฺตํ ทีปํ ชลมานํ ทีปํ. ปยตฺโตติ ปกาเรน ยตติ วีริยํ กโรตีติ ปยตฺโต, สตตํ สพฺพทา สิกฺเขถ สชฺฌายนธารณจินฺตนวเสน สิกฺเขยฺย.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

วิปากจิตฺตปฺปวตฺตินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตโม ปริจฺเฉโท.

๘. อฏฺโม ปริจฺเฉโท

ปกิณฺณกนิทฺเทสวณฺณนา

๔๗๕.

อิทานิ ปน สพฺเพสํ, เอเตสํ มานสํ มยา;

ปาฏวตฺถาย ภิกฺขูนํ, กถียติ ปกิณฺณกํ.

อิทานิ ปน กาเล เอเตสํ ติเหตุกทฺวิเหตุกอเหตุกานํ สพฺเพสํ ปุคฺคลานํ ปกิณฺณกํ มานสํ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถาย ภิกฺขูนํ เฉกภาวตฺถาย มยา กถียเต อุจฺจเต.

๔๗๖-๘๕. ปนฺถมกฺกฏโก อุณฺณนาภิ ปนฺถมกฺกฏโก นาม ปฺจสุ ทิสาสุ ตสฺส สุตฺตํ ปสาเรตฺวา ชาลมชฺเฌ นิปชฺชติ. ปมาย ทิสาเยตฺถ เอตฺถ เอตาสุ ทิสาสุ ปมาย ทิสาย ปสาริเต สุตฺเต ปาณเกน ปฏงฺเคน วา มกฺขิกาย วา ฆฏฺฏิเต สติ สา อุณฺณนาภิ กิฺจิ จลิตฺวา ผนฺทนํ กตฺวา นิปนฺนฏฺานโต สุตฺตานุสาเรน สุตฺตํ อนุสาเรตฺวา ตสฺส ปาณกสฺส ยูสํ ยูสสงฺขาตํ โสณิตํ ปิวติ. ปุนาคนฺตฺวา ตตฺเถว ตสฺมึ ชาลมชฺเฌเยว ยถาสุขํ นิปชฺชติ, ยถา ปมาย ทิสาย จลนาทิกํ กิริยํ กโรติ, เอวเมว ทุติยาทีสุ จตูสุ ทิสาสุ จลนาทิกํ กิริยํ กโรติ, เอวํ ปฺจสุ ทิสาสุ สุตฺตํ วิย ปฺจ ปสาทา ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพา, มชฺเฌ มกฺกฏโก วิย จ จิตฺตํ ปน ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพํ. ปาณกาทีหิ ขุทฺทกติรจฺฉาเนหิ ตสฺส สงฺฆฏฺฏนา วิย อารมฺมเณ ปน ปสาทานํ สงฺฆฏฺฏนา ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพา. ชาลมชฺเฌ นิปนฺนาย อุณฺณนาภิยา ตํ จลนํ วิย ปสาเท ฆฏฺเฏตีติ ปสาทฆฏฺฏนํ, กึ ตํ? อารมฺมณํ. ตตฺถ ติสฺสํ วีถิยํ ปสาทฆฏฺฏนํ อารมฺมณํ คเหตฺวา มโนธาตุกิริยาจิตฺตํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตีติ ภวงฺคาวฏฺฏนํ มตํ ภควตา. ตสฺส ปนฺถมกฺกฏกสฺส สุตฺตานุสารํว สุตฺตํ อนุคมนํ วิย วีถิจิตฺตปฺปวตฺตนํ ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพํ. สีเส ปน วิชฺฌิตฺวา อสฺส มกฺกฏสฺส ยูสปานํ วิย ชวนสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมเณสุ ปวตฺตนํ ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพํ. ปุน อาคนฺตฺวา สุตฺตชาลมชฺเฌ นิปชฺชนํ ยถา วตฺถุํเยว หทยวตฺถุํ เอว นิสฺสาย จิตฺตสฺส ปริวตฺตนํ ปณฺฑิเตน ทฏฺพฺพํ.

๔๘๖-๙๓. อิทํ ตุ ปน โอปมฺมํ, อตฺถํ ทีเปติ กึ ตุ หิ อิทํ โอปมฺมํ กํ อตฺถํ ทีเปติ ปกาเสติ? ปมํ ปสาเท อารมฺมเณน ฆฏฺฏิเต สติ ปสาทวตฺถุโต ปสาโท วตฺถุ นิสฺสโย เอตสฺสาติ ปสาทวตฺถุ, จิตฺตํ, ตโต ปสาทวตฺถุโต, ปมํ เอว วตฺถุสนฺนิสฺสิตํ ภวงฺคสงฺขาตํ มโน ชายติ, อิติปิ อตฺโถ เตน โอปมฺเมน ทีปิโต. เอเกการมฺมณํ ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ สพฺพโส สพฺพปฺปกาเรน ปน อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยมตฺโถปิ เตน โอปมฺเมน ทีปิโต ‘‘ทฺวีสุ ทฺวีสุ ทฺวาเรสู’’ติ, เอกํ รูปารมฺมณํ เอกสฺมึเยว ขเณ จกฺขุทฺวาเร, มโนทฺวาเร จาติ ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ อาปาถํ อาคจฺฉตีติ อตฺโถ. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโย เยฺโย. รูปํ จกฺขุปสาทมฺหิ ฆฏฺเฏตฺวา ตงฺขเณ ปน ตสฺส ขเณ ปน ตถา มโนทฺวาเร ปน อาปาถํ อาคจฺฉติ, ภวงฺคจลนสฺส ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. น สํสโย เอตสฺมึ วจเน สํสโย นตฺถิ. ยถา ขโค ยถา สกุโณ. หิ สจฺจํ มยา วุตฺตํ วจนํ. รุกฺขคฺเค รุกฺขโกฏิยํ นิลียนฺโตว สาขิโน สาขํ ฆฏฺเฏติ, ตสฺส ฉายา ภูมิยํ ปถวิยํ ผรติ ปฏิหฺติ. อิธาติ นิปาโต. สาขาย สกุเณน ฆฏฺฏนํ ภูมิยํ ฉายาผรณาปิ จ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขณสฺมึเยว ชายเร ชายนฺติ. เอวเมว ปน รูปสฺส, ปสาทสฺส จ ฆฏฺฏนํ, ตเถว อตฺถโต อตฺถวเสน ภวงฺคจลนสฺสาปิ ปจฺจยตฺเตน ปจฺจยภาเวน มโนทฺวาเร อาปาถํ อาคมนํ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณเยว โหติ.

๔๙๔-๗. ตโต ปรํ ภวงฺคโสตํ ฉินฺทิตฺวา จกฺขุทฺวาเร จกฺขุปสาเท ยถากฺกมํ อาวชฺชเน สมุปฺปนฺเน, ทสฺสเน สมุปฺปนฺเน, สมฺปฏิจฺฉเน สมุปฺปนฺเน, สนฺตีรเณ สมุปฺปนฺเน, ตถา โวฏฺพฺพเน จ สมุปฺปนฺเน กุสลํ ชวนจิตฺตํ ชวติ, ตถา อกุสลเมว จิตฺตํ ชวติ. โสตทฺวาราทีสุปิ สทฺทาทีนํ อารมฺมณานํ ฆฏฺฏเน เอเสว นโย อวิเสเสน วิฺุนา วิฺเยฺโย. เอตสฺส อตฺถสฺส ทีปเน โทวาริโกปมาทีนิ วจนานิ อุทฺธริตฺวา ตโต ปกรณโต นีหริตฺวา เอตฺถ เอตสฺมึ วีถิยาธิกาเร วิฺุนา ทสฺเสตพฺพานิ.

๔๙๘-๙. อสมฺเภเทน จกฺขุสฺสาติ ตสฺสาปิ จกฺขุ อสมฺภินฺนํ โหติ. ชีวิตา นิรุทฺธมฺปิ ปิตฺเตน วา เสมฺเหน วา รุหิเรน วา ปลิพุทฺธํ จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ สมฺภินฺนํ นาม, สกฺโกนฺตํ อสมฺภินฺนํ นาม โหติ. เตน จกฺขุปสาทสฺส อสมฺภินฺเนน รูปาปาถคมเนน อาโลกสนฺนิสฺสเยนาปิ. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน สมนกฺการเหตุนา ปฺจทฺวาราวชฺชนปจฺจเยน สห ปวตฺตเนน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สํ เอกโต อินฺติ ปวตฺตนฺตีติ สเมตา, สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ, ตํ จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุปสาทนิสฺสิตํ วิฺาณํ สมฺปยุตฺเตหิ เจตสิเกหิ สห ชายเต.

๕๐๐-๑. อสมฺเภเทน โสตสฺส โสตปสาทสฺส อสมฺภินฺเนน สทฺทาปาถคเมน จ สทฺทสฺส อาปาถคมเนน จ. อากาสนิสฺสเยนาปิ ปิหิตกณฺณจฺฉิทฺทสฺส โสตวิฺาณํ นุปฺปชฺชติ. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน. สมนกฺการเหตุนา ปฺจทฺวาราวชฺชนปจฺจเยน สห ปวตฺเตน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ ตํ โสตวิฺาณํ สมฺปยุตฺเตหิ สห ชายติ.

๕๐๒-๓. อสมฺเภเทน ฆานสฺส ฆานปสาทสฺส อสมฺภินฺเนน คนฺธาปาถคเมน จ คนฺธสฺส อาปาถคมเนน จ. วาโยสนฺนิสฺสเยนาปีติ ฆานพิลมฺหิ ปวิสนฺเตน วายุนาติ อตฺโถ. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน. สมนกฺการเหตุนา ปฺจทฺวาราวชฺชนปจฺจเยน สห ปวตฺเตน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ ตํ ฆานวิฺาณํ สมฺปยุตฺเตหิ สห ชายติ.

๕๐๔-๕. อสมฺเภเทน ชิวฺหาย ชิวฺหาย อสมฺภินฺเนน รสาปาถคเมน จ รสสฺส อาปาถคมเนน จ. อาโปสนฺนิสฺสเยนาปีติ ชิวฺหาเตมนํ อาปํ ลทฺธา จ อุปฺปชฺชติ, เตน วินา สุกฺขขาทนีเย ชิวฺหาย สายิเตปิ ชิวฺหาวิฺาณํ นุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน. สมนกฺการเหตุนา ปฺจทฺวาราวชฺชนปจฺจเยน สห ปวตฺเตน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ ตํ ชิวฺหาวิฺาณํ สมฺปยุตฺเตหิ สห ชายติ.

๕๐๖-๗. กายปสาทสฺส อสมฺเภเทน โผฏฺพฺพสฺส อาปาถคมเนน จ. ปถวีนิสฺสเยนาปีติ เตน วินา กายทฺวารมฺปีติ พหิทฺธา มหาภูตารมฺมณํ อชฺฌตฺติกํ กายปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา ปสาทปจฺจเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน. สมนกฺการเหตุนา ปฺจทฺวาราวชฺชนปจฺจเยน สห ปวตฺเตน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ ตํ กายวิฺาณํ สมฺปยุตฺเตหิ สห ชายติ.

๕๐๘-๙. อสมฺเภทา มนสฺสาปีติ มนนฺติ ภวงฺคจิตฺตํ. ตํ นิรุทฺธมฺปิ อาวชฺชนจิตฺตสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสมตฺถํ มนฺทตมคตเมว วตฺตมานมฺปิ สมฺภินฺนํ นาม โหติ. อาวชฺชนสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ อสมฺภินฺนํ นาม. มนสฺส อสมฺเภเทน ธมฺมสฺส อาปาถคมเนน จ วตฺถุสนฺนิสฺสเยน หทยวตฺถุสนฺนิสฺสเยน. เตน ติวิเธน ปจฺจเยน. สมนกฺการเหตุนา มโนทฺวาราวชฺชเนน สห ปวตฺเตน. เอเตหิ ปน จตูหิ ปจฺจเยหิ สเมเตหิ สหคเตหิ สมาคมํ เอกีภาวํ อาคเตหิ ตํ มโนวิฺาณํ ตํ มโนวิฺาณสงฺขาตํ ชวนจิตฺตํ สมฺปยุตฺเตหิ สห ชายเต.

๕๑๐-๑๑. มโน ภวงฺคจิตฺตํ นาม วิภาวินา เวทิตพฺพํ. อาวชฺชนกฺริยาจิตฺตํ อาวชฺชนกิริยาจิตฺตทฺวยํ สมนกฺกาโร นาม วิภาวินา สฺิตํ. วตฺถุสนฺนิสฺสเยน อิติ อยํ ปาโ สพฺพตฺถ สพฺเพสุ ภเวสุ น คจฺฉติ. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกาโร โวกิณฺโณติ ปฺจโวกาโร, ปฺจโวการภวํ สนฺธาย การณํ กตฺวา ‘‘วตฺถุสนฺนิสฺสเยนา’’ติ อยํ ปาโ ปน กถิโต มยา, ปฺจโวการภโว นาม กามรูปภโว, อรูปภโว จตุโวการภโว นาม, อสฺีภโว เอกโวการภโว นาม. อยํ ปาโ จตุโวการอรูปภวํ สนฺธาย น กถิโตติ อตฺโถ. วตฺถุสฺส รูปตฺตา อรูปภเว กถํ วตฺถุสนฺนิสฺสโย ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

๕๑๒-๔. ปฏิสนฺธาทิจิตฺตานิ, สพฺพาเนกูนวีสติ โหนฺติ, กามาวจเรสุ ทส, รูเปสุ ปฺจ, อรูปีสุ จตฺตาริ, สพฺพานิ ปฏิสนฺธิจิตฺตานิ เอกูนวีสติ โหนฺติ. กมฺมํ นาม กุสลากุสลเจตนา. กมฺมนิมิตฺตํ นาม รูปานิ ปฺจารมฺมณานิ ปฺตฺติ จ มหคฺคตจิตฺตฺจ. ตถา คตินิมิตฺตกํ นาม กปฺปรุกฺขาทโย, อกุสลปกฺเข รูปาทิอารมฺมณภูตา โลหกุมฺภาทโย จ. อิติ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เตสํ ปฏิสนฺธาทิจิตฺตานํ อารมฺมณํ ติวิธํ ภควตา อุทีริตํ. กามาวจรสนฺธีนํ ปริตฺตารมฺมณํ กามาวจรารมฺมณํ ภควตา มตํ. ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปาทิปฺจารมฺมณํ, คตินิมิตฺตํ ปฺจารมฺมณฺจ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โหติ. อตีตํ วา กมฺมํ กุสลากุสลเจตนา อตีตาเยว, น ปจฺจุปฺปนฺนา. อนาคตํ อารมฺมณํ นตฺถิ.

๕๑๕-๒๖. อฏฺเว จ มหาวิปากา, ตีณิ สนฺตีรณานิ จาติ เอกาทสวิธํ จิตฺตํ ตทารมฺมณสฺิตํ. เอกาทสวิเธ จิตฺเต ตทารมฺมณสฺิเต ปุฺวิปากานิ กุสลวิปากา ทส โหนฺติ, อปุฺชํ อกุสลวิปากํ ปน เอกํ โหติ. มหาวิปากา รูปารูปภวทฺวเย น ชายนฺติ, กามรูปภเว สนฺตีรณตฺตยํ โหติ. ยานิ ตทารมฺมณจิตฺตานิ สตฺถุนา ชิเนน วุตฺตานิ, เตสุ ตทารมฺมณจิตฺเตสุ เอกมฺปิ ตทารมฺมณจิตฺตํ รูปารูปภวทฺวเย ตทารมฺมณํ หุตฺวา กทาจิปิ นปฺปวตฺตติ. กสฺมา การณา? ตตฺถ ตสฺมึ รูปารูปภวทฺวเย ‘‘ตทารมฺมณํ น โหตี’’ติ วจนํ โจทโก ภเวยฺย, พีชสฺสาภาวโต ปน น โหตีติ ปริหาโร. อกามาวจรารมฺมเณ อกามาวจรธมฺเม อิทํ ตทารมฺมณมานสํ เนว อนุพนฺธติ. หิ กสฺมา การณา? ปริตฺตารมฺมณตฺตา จ เอกนฺเตน อวสฺสํ ตทารมฺมณมานสสฺส กามาวจรารมฺมณตฺตา จ ตถา อปริจิตตฺตา จ สพฺพทา นานุพนฺธติ. ตฺหิ ยถา ปิตรํ วา ปิตุสทิสํ วา าตึ อนุพนฺธนฺโตปิ ตรุณทารโก ฆรทฺวารนฺตรวีถิจตุกฺกาทิมฺหิ ปริจิเตเยว เทเส อนุพนฺธติ, น อรฺํ วา ยุทฺธภูมึ วา คจฺฉติ, เอวํ กามาวจเร ธมฺเม อนุพนฺธนฺตมฺปิ มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺมมารพฺภ ปวตฺตมาเน ธมฺเม นานุพนฺธติ. ยสฺมา จสฺส สพฺโพ กามาวจรปาโก จ กิริยามโนธาตุ กิริยาอเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โสมนสฺสสหคตา อิเม ธมฺมา ปริตฺตารมฺมณาติ เอวํ อจฺจนฺตํ ปริตฺตเมว อารมฺมณํ วุตฺตํ, ตสฺมา เจตํ มหคฺคตโลกุตฺตรารมฺมเณ กามาวจรธมฺเมปิ นานุพนฺธตีติ เวทิตพฺพํ.

๕๒๗-๓๒. กึ เตน ยุตฺติวาเทน, วุตฺตํ อฏฺกถาสุ หิ ‘‘ชนกํ เตน ตุลฺย’’นฺติอาทิเกน เตน, ยุตฺติยา วาโท ยุตฺติวาโท, ‘‘ชนกํ เตน ตุลฺย’’นฺติอาทิกาย ยุตฺติกถาย กึ ปโยชนํ วุตฺตํ? อฏฺกถาสุ หิ สจฺจํ ‘‘กึ เตน ยุตฺติวาเทนา’’ติ วจนํ, ‘‘อตฺถกถาสู’’ติ วตฺตพฺเพ สมาเส หิ ตฺถ-สฺส ฏฺ-การํ กตฺวา ‘‘อฏฺกถาสู’’ติ วุตฺตํ. กามาวจเร ธมฺเม ปฏิจฺจ ตทารมฺมณภาวทีปกํ วจนํ อาจริเยน วุตฺตํ. ตทารมฺมณจิตฺตานิ, เอกาทสปิ สพฺพโส สพฺพปฺปกาเรนปิ ตทารมฺมณจิตฺตานิ นามโคตฺตํ ปนารพฺภ ติสฺสาทิกํ นามปฺตฺตึ ปฏิจฺจ กจฺจายนโคตฺตกสฺสปโคตฺตาทิกํ โคตฺตปฺตฺตึ ปฏิจฺจ ชวเน ชวิเตปิ จ ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺติ, รูปารูปภเวสุ วา ตทารมฺมณํ น คณฺหนฺติ. ยทา ปฺตฺติมารพฺภ, ชวเน ชวิเตปิ วา ยทา มยา วุตฺตาย ปฺตฺติยา เสสปฺตฺตึ ปฏิจฺจ ชวเน ชวิเตปิ วา ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน, ตถา ทุกฺขอนิจฺจอนตฺตลกฺขณารมฺมณิกาย วิปสฺสนาย ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน. ตทารมฺมณา น ลพฺภนฺติ, มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ มิจฺฉตฺเต มิจฺฉาสภาเว ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทิวเสน นิยตานิ จตฺตาริ ทิฏฺิยุตฺตชวนานิ มิจฺฉตฺตนิยตานิ, มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน, โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ชวเน คเตปิ ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน. ตถา มหคฺคเต ธมฺเม อารพฺภ ชวเน ชวิเตปิ ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน, ปฏิสมฺภิทาาณํ อารพฺภ ชวเน ชวิเตปิ ตทารมฺมณํ น ลพฺภเต อาจริเยน. มโนทฺวาเรปิ สพฺเพสํ ชวนานํ อนนฺตรํ อนุปุพฺพโต ตทารมฺมณจิตฺตานิ ภวนฺติ.

๕๓๓-๔. มโนทฺวาเร อารมฺมณฆฏฺฏนา น วิชฺชติ. ภวงฺคโต เจตโส วีถิจิตฺตสฺส วุฏฺานํ กถํ เกน ปกาเรน โหติ? มโนทฺวาเรปิ ฆฏฺฏนาย วินา ฆฏฺฏนํ วชฺเชตฺวา อาปาถํ อาคจฺฉนฺเตว ยสฺมา การณา, ตสฺมา วีถิจิตฺตานํ สมฺภโว โหติ.

๕๓๕-๖. ทฺวาทสาปุฺจิตฺตานํ ทฺวาทสอกุสลจิตฺตานํ วิปากา สตฺตสตฺตติ ปาปปากา ทฺวาทสปาปจิตฺตานํ วิปากา จตุราสีติ ปวตฺติยํ โหนฺติ. เอกสฺส โสมนสฺสยุตฺตทิฏฺิสมฺปยุตฺตากุสลสฺส จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ, สมฺปฏิจฺฉนํ, อุเปกฺขายุตฺตสนฺตีรณานิ จาติ สตฺต อกุสลปากา โหนฺติ. ตถา เสสานํ เอกาทสนฺนํ อกุสลานมฺปิ สตฺต วิปากา โหนฺติ. เอกาทสวิธานํ ตุ, หิตฺวา อุทฺธจฺจมานสํ อุทฺธจฺจมานสํ หิตฺวา เอกาทสวิธานํ ปฏิสนฺธิโย เอกาทสวิธา เจว ภวนฺติ.

๕๓๗-๘. กฺริยจิตฺเตสุ สพฺเพสุ ยํ อาวชฺชนทฺวยํ ชวนํ น จ โหติ, ตํ อาวชฺชนทฺวยํ กรณมตฺตตฺตา กิริยามตฺตตฺตา วาตปุปฺผสมํ วาตปุปฺเผน สทิสํ มตํ ภควตา. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – ขีณาสเว อุปฺปนฺนกาเล วา ตํ อาวชฺชนทฺวยํ กิริยจิตฺตํ ภวิตุํ ยุตฺตํ. สพฺเพสุ ปุถุชฺชเนสุ อุปฺปนฺนกาเล กถํ กิริยา โหตีติ เจ? กรณมตฺตตฺตา อผลทายกํ วาตปุปฺผํ วิย อผลทายกํ กิริยจิตฺตํ ภวิตุํ ยุตฺติหาโร กิริยา ปน โหติ. ยํ สพฺพํ กิริยจิตฺตํ กิจฺจสาธนโต ชวนกิจฺจสาธนวเสน ชวนตฺตํ ชวนภาวํ ปตฺตํ ฉินฺนมูลสฺส รุกฺขสฺส ปุปฺผํ อผลํ โหติ ยถา, เอวํ ฉินฺนาวิชฺชาตณฺหามูลสฺส วีตราคสฺส ตํ สพฺพํ กิริยจิตฺตํ อผลํ วิปากวิรหิตํ สิยา ภเวยฺย.

๕๓๙-๔๐. ปฏิจฺจ ปน เอตสฺมา, ผลเมตีติ ปจฺจโย เอกํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เอตสฺมา ธมฺมโต ผลํ เอติ ปวตฺตติ ตสฺมา ปจฺจโย, โย ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส ิติยา อุปฺปตฺติยาปิ อุปกาโร นาม โหติ, โส ธมฺโม ตสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโยติ ปจฺจโย นาม ปณฺฑิเตน ปวุจฺจเต. สมฺภโว ปภโว เหตุ การณํ ปจฺจโย มโต ภควตา. อิทํ วจนํ อฺตฺถ ทีปนวจนํ.

๕๔๑. โลภาทิ ปน โย ธมฺโม, มูลฏฺเนุปการโก โย โลภาทิ ปน ธมฺโม มูลภาเวน ผลธมฺมสฺส อุปการโก, โส โลภาทิธมฺโม ผลธมฺมสฺส เหตูติ เหตุ นาม วิภาวินา วิฺาตพฺโพ.

๕๔๒. โลโภ โทโส จ โมโห จ ตถา อโลภาทโย ตโย เหตู, เต ฉ เอว เหตุโย โหนฺติ, ชาติโต ชาติวเสน กุสลชาติอกุสลชาติอพฺยากตชาติวเสน นวธา นวหิ โกฏฺาเสหิ สิยุํ.

๕๔๓-๔. ธมฺมานํ กุสลาทีนํ, กุสลาทิตฺตสาธโก โย ธมฺโม กุสลาทีนํ ธมฺมานํ กุสลาทิตฺตสาธโก กุสลาทิภาวสาธโก, โส ธมฺโม มูลฏฺโ นาม. เอวํ วจนํ เอเก เอกจฺเจ อาจริยา วทนฺติ. เอวํ สนฺเต กุสลากุสลาทีนํ ธมฺมานํ กุสลาทิตฺตสาธกวเสน มูลฏฺเ สนฺเต ตํสมุฏฺานรูปีสุ เตหิ จิตฺเตหิ สมุฏฺานรูเปสุ เตหิ จิตฺเตหิ สมุฏฺิเตสุ จิตฺตชรูเปสุ เหตูนํ โลภาทิเหตูนํ เหตุปจฺจยตา กทาจิปิ เนว สมฺปชฺชติ. อยเมตฺถาธิปฺปาโย – ยทิ จิตฺเตสุ รูปานิ สมุฏฺาเปนฺเตสุ เต โลภาทโยปิ จิตฺตานํ สมฺปยุตฺตจิตฺตานํ เอกุปฺปาทตฺตา จ รูปานิ สมุฏฺาเปนฺติเยว. ตทา เตสํ มเต เตสํ จิตฺตชรูปานํ กุสลาทิตฺตํ สิยา. น จ กทาจิ รูปานิ กุสลาทินามกานิ ทิสฺสนฺติ ยสฺมา, ตสฺมา จิตฺตชรูปานํ กุสลาทิภาวาปนตฺถํ เตสํ จิตฺตชรูปานํ เต โลภาทโย เหตุปจฺจยา น โหนฺติ, อิติ วจนํ วตฺตพฺพํ สิยา. เอวฺจ สติ จิตฺตชรูปานิ นาม กทาจิปิ วิยุตฺตานิ จรนฺติ, ตสฺมา กุสลาทิตฺตสาธโก มูลฏฺโ น โหติ.

๕๔๕-๖. หิ สจฺจํ ‘‘เอวํ สนฺเต ตุ เหตูน’’นฺติอาทิกํ วจนํ. เต โลภาทโย เหตู เตสํ รูปานํ กุสลาทิตํ กุสลาทิภาวํ น สาเธนฺติ น นิปฺผาเทนฺติ. เต เหตู เตสํ ปน รูปานํ ปจฺจยา น จ น โหนฺติเยว, ตสฺมา การณา กุสลาทีนํ ธมฺมานํ กุสลาทิตฺตสาธโก โย ธมฺโม, โส ธมฺโม มูลฏฺโติ มูลสภาโว นาม สมยฺุนา สมยวิชานนสีเลน วิฺุนา คนฺตพฺโพ ชานิตพฺโพ.

๕๔๗. สุปฺปติฏฺิตภาวสฺส, สาธเนนุปการโก สุปฺปติฏฺิตภาวํ สาธเนน อุปการโก โย อตฺโถ, โส อตฺโถ เหตูนํ โลภาทีนํ มูลฏฺโ มูลสภาโว อิติ จ คหณํ วิภาวินา วิฺาตพฺพํ.

๕๔๘-๙. กุสลากุสลา เหตู กุสลา เหตู, อกุสลา เหตู, กฺริยาเหตู สพฺพโส สพฺพปฺปกาเรน สพฺเพ กิริยาเหตุโย จ สมฺปยุตฺตานํ ปฺจโวการภูมิยํ สมฺปยุตฺตานํ ธมฺมานํ อฺมฺปจฺจยภาเวน เหตุปจฺจยตํ ยาตา คตา. ตํสมุฏฺานานํ จิตฺตชรูปานฺจ เหตุปจฺจยตํ ยาตา คตา, เอเต เหตู จตุโวการภูมิยํ สมฺปยุตฺตานํ เอว ธมฺมานํ เหตุปจฺจยตํ ยาตา คตา.

๕๕๐-๑. กาเม วิปากเหตูปิ อตฺตนา สมฺปยุตฺตานํ เหตุปจฺจยตํ ยาตา, ปฏิสนฺธิกฺขเณปิ กฏตฺตารูปชาตานํ กมฺมชรูปานํ เหตุปจฺจยตํ ยาตา, ตสฺมา ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทกฺขเณเยว กมฺมชรูปานํ อุปฺปาโท โหติ, ยสฺมา การณา ปวตฺติยํ จิตฺตชานฺจ รูปานํ เหตุปจฺจยตํ คตา.

๕๕๒-๕. รูเป วิปากเหตู กามาวจรภูมิยํ เหตุโย วิย เหตุปจฺจยา โหนฺติ, ปฺจโวกาเร โลกุตฺตรวิปากเหตโว จิตฺตชานํ รูปานฺจ สมฺปยุตฺตานฺจ ปฺจโวการภูมิยํ เหตุปจฺจยา โหนฺติ. จตุโวกาเร โลกุตฺตรวิปากชา เหตโว สมฺปยุตฺตานํ เอว จตุโวการภูมิยํ เหตุปจฺจยา ภวนฺติ. อิตเร จตุโวกาเร อรูปภเว วิปากชา เหตโว สมฺปยุตฺตานํ เอว สภูมิยํ อตฺตโน ภูมิยํ อรูปภูมิยํ เหตุปจฺจยา โหนฺติ. เหตุตฺโถ เหตูนํ อตฺโถ เหตุโย เจว เหตุปจฺจโย เจว เหตุปจฺจยสมฺภโว เหตุปจฺจยุปฺปตฺติ, เอวเมว เอวํ อิมินา ปกาเรน. สฺชาโต สุขเหตุ ยสฺสาติ สฺชาตสุขเหตุ, เตน วิฺเยฺโย.

๕๕๖-๘. ฉนฺโท จิตฺตฺจ วีริยํ วีมํสา จาติ จตุธาธิปตี โลกาธิปตินา สตฺถุนา วุตฺตา. ฉนฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติกาลสฺมึ โย ฉนฺโท, โส ฉนฺทาธิปติ นาม, ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา สมาธิกรณจิตฺตสฺส เอเสว นโย เสเสสุปิ จ ตีสุ มยา วุตฺตโต ฉนฺทาธิปติโต เสเสสุปิ จ อธิปตีสุ. โย ธมฺโม เชฏฺฏฺเน อุปการโก, โส ธมฺโม อธิปตีติ อธิปติ นาม ภควตา นิทฺทิฏฺโ.

๕๕๙.

สุมติมติวิโพธนํ วิจิตฺตํ,

กุมติมตินฺธนปาวกํ ปธานํ;

อิมมติมธุรํ อเวทิ โย โย,

ชินวจนํ สกลํ อเวทิ โส โส.

โย โย ชโน อิมํ อภิธมฺมาวตารํ สุมติมติวิโพธนํ สุมตีนํ สุนฺทรมตีนํ ปณฺฑิตานํ มติยา วิโพธนกรํ วิจิตฺตํ กุมตีนํ กุจฺฉิตมตีนํ พาลานํ มติอินฺธเน ปธานํ ปาวกํ อติมธุรกรํ อเวทิ ชานิ, โส โส ชโน สกลํ ชินวจนํ อเวทิ ชานิ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ปกิณฺณกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺโม ปริจฺเฉโท.

๙. นวโม ปริจฺเฉโท

ปุฺวิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๕๖๐-๒.

พาตฺตึสปากจิตฺตานิ, โลกิกาเนว ยานิ หิ;

เอเตสํ ปากจิตฺตานํ, ปฏิสนฺธิปวตฺติสุ.

ยานิ โลกิกานิ เอว พาตฺตึส ปากจิตฺตานิ โหนฺติ, เอเตสํ ปากจิตฺตานํ ปุฺาปุฺาทิสงฺขารา ภวาทีสุ โยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ ยถา เยน ปกาเรน ปจฺจยา โหนฺติ เอว, อิเมสํ วิปากจิตฺตานํ เตปิ สงฺขารา ภวาทีสุ โยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ ตถา เตน ปกาเรน วิภาวินา ปณฺฑิเตน วิฺาตพฺพา. ตโย ภวา จตสฺโส จ โยนิโย กามภวรูปภวอรูปภววเสน ตโย ภวา, อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกโยนิวเสน จตสฺโส จ โยนิโย, นิรยคติติรจฺฉานคติเปตคติมนุสฺสคติเทวคติวเสน คติปฺจกํ, สนฺธิสฺาย ปฏิสนฺธิสฺาย นานตฺตา นานาภาวโต, กายสฺสาปิ จ รูปกายสฺสาปิ จ นานตฺตา นานาภาวโต กามสุคติโย, นานา อตฺตา สภาโว เอตสฺสาติ นานตฺตา, นานตฺโต รูปกาโย เอเตสนฺติ นานตฺตกายา, นานา สภาโว เอตสฺสาติ นานตฺตา, นานตฺตาเยว สฺา นานตฺตสฺา, สา เอเตสํ อตฺถีติ นานตฺตสฺี นาม, ปมชฺฌานภูมิ จ จตุราปายภูมิโย จ นานตฺตกายเอกตฺตสฺี นาม, ทุติยชฺฌานภูมิ เอกตฺตกายนานตฺตสฺี นาม, ตติยชฺฌานภูมิเวหปฺผลภูมิสุทฺธาวาสภูมิโย เอกตฺตกายเอกตฺตสฺี นาม, เหฏฺา ิตา รูเปหิ สทฺธึ สตฺตวิฺาณฏฺิติโย, ติฏฺนฺติ วิฺาณานิ เอตฺถาติ ิติโย, วิฺาณานํ ิติโย วิฺาณฏฺิติโย, วิฺาณสฺส อภาวโต อสฺีภูมิ น คยฺหเต, จตุตฺถารุปฺปภูมิ จ ปฏุวิฺาณาภาวโต น คยฺหเต. สตฺตาวาสวเสน อสฺีภูมึ, จตุตฺถารุปฺปภูมิฺจ ปน คเหตฺวา เต สตฺตาวาสา นว เอว โหนฺติ.

๕๖๓-๘. กาเม ปุฺาภิสงฺขารสฺิตา อฏฺ เจตนา ปูเรนฺติ อตฺตโน การกํ ปูเรนฺติ จ, อชฺฌาสยํ ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ ปุฺานิ, อภิสงฺขโรนฺติ วิปากํ, กมฺมชรูปฺจาติ อภิสงฺขารา, ปุฺานิ เอว อภิสงฺขารา ปุฺาภิสงฺขารา, เตเยว สฺิตา ปุฺาภิสงฺขารสฺิตา, กาเม ปุฺาภิสงฺขารสฺิตา อฏฺ เจตนา. นวนฺนํ ปากจิตฺตานํ อุเปกฺขายุตฺตาเหตุกมหาวิปากวเสน นวนฺนํ ปากจิตฺตานํ กามสุคติยํ ปน นานา วตฺตมานเจตนาขณโต ปรํ ขณํ เอตสฺสาติ นานาขณํ, ตํ เอว นานกฺขณิกํ, ตเมว กมฺมํ นานกฺขณิกกมฺมํ, วตฺตมานเจตนาโต ปรา อตีตเจตนาติ อตฺโถ. พลวา นิสฺสยปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย, พลวตฺโถ เจตฺถ อุป-สทฺโท, พลวปจฺจโยติ อตฺโถ, นานกฺขณิกกมฺมปจฺจยวเสน พลวปจฺจยวเสน จาติ อตฺโถ. ทฺเวธา ทฺวีหิ ปกาเรหิ เตสํ ปฏิสนฺธิยํ ปจฺจยา ภวนฺติ, ตา อฏฺ กามาวจรมหากุสลเจตนา อุเปกฺขาสหิตาเหตุมโนวิฺาณธาตุยา วินา อุเปกฺขาสหคตาเหตุมโนวิฺาณธาตุํ วชฺเชตฺวา ปริตฺตปากานํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายสมฺปฏิจฺฉนโสมนสฺสยุตฺตาเหตุกกุสลวิปากานํ ทฺเวธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปวตฺติยํ ปจฺจยา โหนฺติ. ตาเยว เจตนา ตา เอว อฏฺ กามาวจรมหากุสลเจตนา รูปภเว ปฺจนฺนํ ปากจิตฺตานํ กุสลวิปากจิตฺตานํ จกฺขุโสตสมฺปฏิจฺฉนโสมนสฺสยุตฺตอุเปกฺขายุตฺตสนฺตีรณานํ ทฺเวธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปวตฺติยํ ปจฺจยา โหนฺติ. อฏฺนฺนํ ตุ ปริตฺตานํ, กาเม ทุคฺคติยํ ตถา อฏฺนฺนํ ปริตฺตานํ กุสลวิปากานํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายสมฺปฏิจฺฉนานํ, ทฺวินฺนํ สนฺตีรณานฺจ ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺติ, ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปน ปจฺจยา น โหนฺติ. วุตฺตปฺปการาว กาเม สุคติยํ ยถาวุตฺตปฺปการาว อฏฺ กามาวจรมหากุสลเจตนา กามสุคติยํ ตถา โสฬสนฺนํ กุสลวิปากานํ ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ทฺเวธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจยา โหนฺติ, ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ สตฺตนฺนํ กุสลวิปากานํ ปจฺจยา โหนฺติ. ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ นวนฺนํ กุสลวิปากจิตฺตานํ ปจฺจยา โหนฺติ.

๕๖๙-๗๔. รูเป ปุฺาภิสงฺขารา, รูปาวจรภูมิยํ ปฺจนฺนํ ปากจิตฺตานํ ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺติมาปุฺสงฺขารา, กาเม ทุคฺคติยํ ทฺวิธา อิเม อปุฺาภิสงฺขารา, อิมา กุสลปฏิปกฺขา อุทฺธจฺจวชฺชา เอกาทส เจตนา กามทุคฺคติยํ เอกสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ทฺวิธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจยา โหนฺติ. ทฺวาทส อกุสลเจตนา ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ เอว ฉนฺนํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายสมฺปฏิจฺฉนานํ อกุสลวิปากานํ ปจฺจยา โหนฺติ, ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปจฺจยา โน โหนฺติ. สตฺตนฺนมฺปิ ภวนฺเตว ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อกุสลวิปากานิ สตฺตนฺนํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณานํ ปจฺจยา ภวนฺติ. กาเม สุคติยํ เตสํ, สตฺตนฺนมฺปิ ตเถว จ ทฺวาทสากุสลเจตนา กาเม สุคติยํ ตเถว จ เตสํ สตฺตนฺนํ อกุสลวิปากานํ ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺติ, ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปจฺจยา น โหนฺติ. วิฺาณานํ จตุนฺนมฺปิ, เตสํ รูปภเว ตถา ตาเยว ทฺวาทสากุสลเจตนา รูปภเว เตสํ จตุนฺนํ อกุสลวิปากานํ จกฺขุโสตสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณสงฺขาตานํ วิฺาณานํ ตถา ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺติ, ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปจฺจยา น โหนฺติ. โส จ กามภเวนิฏฺรูปาทิอุปลทฺธิยํ โส จ อปุฺาภิสงฺขาโร กามภเว อนิฏฺรูปาทิอุปลทฺธิยํ อมนาปรูปาทีนิ อารมฺมณานิ อุปลทฺธิยํ เตสํ จตุนฺนํ อปุฺชานํ วิฺาณานํ ปจฺจโย โหติ. หิ สจฺจํ ‘‘โส จ กามภเวนิฏฺ-รูปาทิอุปลทฺธิย’’นฺติอาทิกํ วจนํ. อนิฏฺรูปาทโย นาม วิสยา พฺรหฺมโลเก น วิชฺชเร น วิชฺชนฺติ.

๕๗๕-๖. ตเถวาเนฺชสงฺขาโร น อิฺชติ น ผนฺทติ น จลตีติ อาเนฺชํ, อาเนฺชฺจ ตํ สงฺขาโร จาติ อาเนฺชสงฺขาโร, ตถา เอว อาเนฺชสงฺขาโร อรูปาวจรภูมิยํ จตุนฺนํ ปากจิตฺตานํ ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปจฺจโย โหติ. ภเวสฺเวเต ภเวสุ เอเต วุตฺตปฺปการา ปจฺจยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ ยถา จ เยน เยน จ ปกาเรน นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจยา โหนฺติ, เตน ปจฺจยา ตถา เตน เตน ปกาเรน วิภาวินา วิชานนฺเตน ปณฺฑิเตน เยฺยา.

๕๗๗. เอเสว จ นโย เยฺโย, โยนิอาทีสุ โยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ เอเสว จ นโย ภเวสุ มยา วุตฺโต เอว นโย ปณฺฑิเตน เยฺโย. ตตฺริทํ ตตฺร ภเวสุ อาทิโต ปฏฺาย วุตฺตํ อิทํ วจนํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ อุปายมตฺตทีปนํ โหติ.

๕๗๘-๘๑. อวิเสเสน ปุฺาภิ-สงฺขาโร ทฺวิภเวสุปิ กามปุฺาภิสงฺขารวเสน, รูปปุฺาภิสงฺขารวเสน จ ปุฺาภิสงฺขาโร อวิเสเสน สมานภาเวน ทฺวีสุ ภเวสุ กามรูปภเวสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา โส สงฺขาโร สพฺพปากํ ชเนติ นิพฺพตฺเตติ. ตถา จตูสุ วิฺเยฺโย, อณฺฑชาทีสุ โยนิสุ ทฺวิภเวสุ ปุฺาภิสงฺขาโร วิย ตถา จตูสุ อณฺฑชาทีสุ โส ปุฺาภิสงฺขาโร ปณฺฑิเตน เยฺโย. ‘‘อณฺฑชาทีสู’’ติ วจนํ ปทุมปจฺเจกพุทฺธานํ มนุสฺสตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. พหุเทวมนุสฺสานํ วเสน ทฺวีสุ คตีสุ เอว จ ตถา โส ปุฺาภิสงฺขาโร ปณฺฑิเตน เยฺโย. ตถา นานตฺตกายาทิ-วิฺาณานํ ิตีสุปิ นานตฺตกายนานตฺตสฺีนานตฺตกอายเอกตฺตสฺี เอกตฺตกายนานตฺตสฺี เอกตฺตกายเอกตฺตสฺีนํ วเสน จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสุ โส ปุฺาภิสงฺขาโร ปณฺฑิเตน เยฺโย. นานตฺตกายนานตฺตสฺีนานตฺตกายเอกตฺตสฺีเอกตฺตกายนานตฺตสฺีเอกตฺตกายเอกตฺตสฺีนํ วเสน วุตฺตปฺปการสฺมึ จตุพฺพิเธ สตฺตาวาเส ตถา โส ปุฺาภิสงฺขาโร ปณฺฑิเตน เยฺโย. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปุฺาภิสงฺขาโร ภวาทีสุ ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ ยถารหํ โสฬสนฺนํ กามกุสลปากานํ, ปฺจนฺนํ รูปปากานฺจาติ เอกวีสติปากานํ ทฺวิธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ.

๕๘๒-๓. กาเม อปุฺสงฺขาโร กามภเว อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกโยนิวเสน อณฺฑชาทีสุ โยนีสุ นิรยคติเปตคติติรจฺฉานคติวเสน ตีสุ คตีสุ นานตฺตกายเอกตฺตสฺีวเสน เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา นานตฺตกายเอกตฺตสฺีวเสน จ เอกสฺมึ ปน สตฺตาวาเส ทฺวิธา นานกฺขณิกกมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปวตฺเต ปวตฺติกฺขเณ ปฏิสนฺธิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ โส อปุฺาภิสงฺขาโร ปจฺจโย โหติ.

๕๘๔-๖. ตเถวาเนฺชสงฺขาโร ตถา เอว อาเนฺชสงฺขาโร, เอการูปภเว เอกสฺมึ อรูปภเว เอกิสฺสา โอปปาติกโยนิยา เจว เอกิสฺสา เทวคติยาปิ จ อากาสานฺจายตนภูมิ วิฺาณฺจายตนภูมิ อากิฺจฺายตนภูมิวเสน ตีสุ เอว จิตฺตฏฺิตีสุ จตุนฺนํ อรูปภูมีนํ วเสน จตุพฺพิเธ สตฺตาวาเส จตุนฺนํ อรูปปากจิตฺตานํ ทฺเวธา นานกฺขณิกกมฺโมปนิสฺสยปจฺจเยหิ โส อาเนฺชาภิสงฺขาโร ปจฺจโย โหติ. ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ, วเสเนวํ ภวาทีสุ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ วเสน ภวาทีสุ ยถา เย สงฺขารา เอสํ ปากจิตฺตานํ ปจฺจยา โหนฺติ, ตถา เต สงฺขารา เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปณฺฑิเตน วิชานิตพฺพา.

๕๘๗-๙๐. น รูปารูปธมฺมานํ, สงฺกนฺติ ปน วิชฺชติ รูปธมฺมานํ, จิตฺตเจตสิกสงฺขาตานํ นามธมฺมานฺจ สงฺกนฺติ ปน สงฺกมนํ ปน น วิชฺชติ. สงฺกนฺติภาเว อสติ อตีตภวโต อิธ อิมสฺมึ ภเว รูปธมฺมานํ สงฺกมนภาเว อสติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ กถํ เกน ปกาเรน สิยา ภเวยฺย? นตฺถิ จิตฺตสฺส สงฺกนฺติ, อตีตภวโต อิธ อิมสฺมึ ภเว จิตฺตสฺส สงฺกนฺติ สงฺกมนํ นตฺถิ, ตโต อตีตภวโต อตีตํ เหตุํ วินา วชฺเชตฺวา อิธ อิมสฺมึ ภเว จิตฺตสฺส ปาตุภาโว น วิชฺชติ. สุลทฺธปจฺจยํ รูปารูปมตฺตํ สุฏฺุ ลทฺธปจฺจยํ รูปนามมตฺตํ ชายติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปจฺจยํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชมานํ รูปารูปมตฺตํ รูปนามมตฺตํ ชายติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปจฺจยํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชมานํ รูปารูปมตฺตํ ภวนฺตรํ อฺภวํ ปฏิสนฺธึ อุเปติ อุปคจฺฉติ. อิติ วจนํ สมฺาย โลกิยโวหาเรน ปวุจฺจเต, สตฺโต วา นตฺถิ, สตฺโต ชีโวติ เววจนํ, อตฺตา วาปิ น วิชฺชติ.

๕๙๑-๙. ตสฺสิทํ ปากฏํ กตฺวา, ปฏิสนฺธิกฺกมํ ปน ตสฺส สตฺตสฺส อิทํ ปฏิสนฺธิกฺกมํ สุทุพฺพุธํ อติทุพฺพิชานํ ปากฏํ กตฺวา อหํ ทสฺสยิสฺสามิ, ตเมตํ ปฏิสนฺธิกฺกมํ สาธุ สาธุกํ นิโพธถ, สาธุ สาธุกํ มนสิ กโรถ, วิวิเธสุ อารมฺมเณสุ โลภวเสน จิตฺตํ อนาเมตฺวา วชิรมฺชูสาย อนคฺฆมณิรตนํ ปกฺขิปนฺโต วิย จิตฺเต เปตฺวาติ อตฺโถ. อตีตสฺมึ ภเว ตสฺส, อาสนฺนมรณสฺส หิอิโต ภวโต อตีตสฺมึ ภเว อาสนฺนมรณสฺส ตสฺส สรีรสฺมึ อาตเป ปกฺขิตฺตํ หริตํ ตาลปณฺณํ วิย สุสฺสมาเน สติ จกฺขุนฺทฺริยาทิเก อินฺทฺริเย นฏฺเ หทยวตฺถุมตฺตสฺมึ ิเต กายปฺปสาทิเก วิฺาเณ ตสฺมึ ขเณ วตฺถุสนฺนิสฺสิตํ หทยวตฺถุนิสฺสิตํ. ‘‘จิตฺต’’นฺติ วจนํ ภวงฺคมโนทฺวาราวชฺชนชวนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺพานุเสวิตนฺติ อิโต กาลา ปุพฺพกาเล เตน ปน อนุเสวิตํ อนุจิณฺณํ ปุฺํ กมฺมํ วา อปุฺํ เอว วา กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตํ วา กมฺมผเลน ทฺวาเรสุ ปจฺจุปฏฺิตํ อาลมฺพิตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนชวนวเสน เสวิตจิตฺตํ ปวตฺตติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปวตฺตมานํ ตํ วิฺาณํ ตํ ชวนจิตฺตํ ลทฺธปจฺจยํ ลทฺธารมฺมณปจฺจยํ. อวิชฺชาย ปฏิจฺฉนฺนาทีนเว วิสเยติ อกุสลชวเน ชวิเต ตสฺส ชวนสฺส อวิชฺชาย อปฺปฏิจฺฉนฺนโทเส ตสฺมึ กมฺมาทิเก อารมฺมเณ กุสลชวเน ชวิเต ตโต จิตฺตวีถิโต ปุพฺพภาเค ปวตฺตาย อวิชฺชาย ปฏิจฺฉนฺนโทเส ตสฺมึ กมฺมาทิเก อารมฺมเณ. ตณฺหาติ อกุสลชวเนน สหโช โลโภ, อกุสลชวเน วา ชวิเต ตโต วีถิจิตฺตโต ปุพฺพภาเค ปวตฺโต โลโภ ตณฺหา. นเมตีติ อฺํ อารมฺมณํ อคฺคาหาเปตฺวา ทฬฺหคฺคาหวเสน ตํ เอว กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสงฺขาตํ อารมฺมณํ คณฺหาเปตีติ อตฺโถ. สหชา สงฺขารา ปน ตสฺส จิตฺตสฺส สหชา เอกโต ชาตา เจตนา ปน ตสฺมึ เยวารมฺมเณ ขิปนฺติ ปวตฺตนฺติ. อิมสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนภเว เอกสนฺตติวสา ปวตฺตาย ตณฺหาย นมียมานํ ตํ วิฺาณํ โอริมา ตีรมฺหา รชฺชุกํ อาลมฺพิตฺวา มาติกาติกฺกโม ปุริโส วิย เอตํ ปุริมํ นิสฺสยภูตํ หทยวตฺถุํ ชหติ ฉฑฺเฑติ, จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อปรํ กมฺมสมฺภูตํ นิสฺสยํ อปรํ อฺกมฺมโต สมฺภูตํ นิสฺสยภูตํ หทยวตฺถุํ ลภิตฺวา วา อลภิตฺวาปิ วา อารมฺมณาทีหิ ปจฺจเยหิ ตํ ปฏิสนฺธิสงฺขาตํ มานสํ ปวตฺตติ. ‘‘ลภิตฺวา’’ติ วจนํ กามรูปภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อลภิตฺวา’’ติ วจนํ อรูปภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ เอเตสุ จิตฺเตสุ ปุริมํ ‘‘ชหตี’’ติ วจเนน วุตฺตฺเจว จิตฺตํ, จุติจิตฺตํ ปจฺฉิมํ ‘‘อารมฺมณาทีหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺตตี’’ติ วจเนน วุตฺตฺเจว จิตฺตํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปณฺฑิเตน เวทิตพฺพํ.

๖๐๐-๖. ตเทตํ ตํ เอตํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปุริมา ภวโต อิธ อิมสฺมึ ปจฺฉิมภเว นาปิ อาคตํ, กมฺมาทิฺจ เหตุํ วินา วชฺเชตฺวา ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปาตุภูตํ น เจว ตํ เอตฺถ เอตสฺมึ วจเน เอตสฺส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ปุริมา ภวโต อิธ อิมสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนภเว อนาคมเน อตีตภวเหตูหิ อตีตภเว กมฺมาทิปจฺจเยหิ เอตสฺส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส สมฺภเว. ปฏิโฆสทีปมุทฺทาที, ภวนฺเตตฺถ นิทสฺสนา เอตฺถ เอตสฺมึ ตสฺส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส อตีตภวโต อนาคมเน อตีตภเว เหตูหิ สมฺภเว ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทิอตฺถนิทสฺสนา อุปมา ภวนฺติ. อฺตฺร อฺสฺมึ ปฏิโฆสาทีนํ อตฺถานํ ปวตฺติฏฺาเน อาคนฺตฺวา สทฺทาทิเหตุกา สทฺทาทโย ปจฺจยา โหนฺติ ยถา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมสฺมึ าเน ชเนหิ ปวตฺตาปิตา สทฺททีปมุทฺทาทโย อตฺถา ปพฺพตนฺตราทีสุ อฺเสุ าเนสุ ปวตฺตานํ ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทีนํ อตฺถานํ เหตุกา โหนฺติ. เตสุ สทฺทาทีสุ ปจฺจเยสุ สนฺเตสุ เย เต ปฏิโฆสาทโย โหนฺติ, อสนฺเตสุ น โหนฺติ ยถา, เอวเมว จ วิฺาณํ อตีตภวโต ปจฺจุปฺปนฺนภววิฺาณวเสน ปวตฺตํ วิฺาณํ วิภาวินา เวทิตพฺพํ. สนฺตานพนฺธโต สนฺตานพนฺธวเสน เอกตา อตีตภวปจฺจุปฺปนฺนภววิฺาณวเสน ปวตฺตสฺส วิฺาณสฺส เอกีภาโว นตฺถิ, นานตาปิ ตสฺส วิฺาณสฺส นานาภาโวปิ ปจฺเจกภาโว อปิ. สติ สนฺตานพนฺเธ ตุ, เอกนฺเตเนกตา สิยา สนฺตานพนฺเธ สติ เอกนฺเตน ตสฺส วิฺาณสฺส เอกตา เอกีภาโว สิยา ภเวยฺย, ขีรสภาวโต ปคฺฆรณสภาวโต ขีรโต สมฺภูตํ ฆนสภาวํ กทาจิปิ กิสฺมิฺจิปิ กาเล น ภเวยฺย, สพฺพทา ปคฺฆรณสภาวขีรเมว ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อถาปิ อปโร นโยปิ สา เอกนฺตนานตา ตสฺส วิฺาณสฺส โส เอกนฺตนานาภาโว ยทิ ภเวยฺย, ขีรสามิโก โส ปุคฺคโล ทธิสามิ น ภเวยฺย. ขีรกาเล ขีรสฺส อิสฺสรภูโต สามิโก ปคฺฆรณสภาวํ ชหิตฺวา ทธิสฺส อุปฺปชฺชมานกาเล ตสฺส ทธิสฺส อิสฺสโร น ภเวยฺย, ตโต ขีรสามิโก อฺโ ปุคฺคโล ตสฺส ทธิสฺส อนิสฺสโร อสามิโก ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา การณา เอตฺถ เอตสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺกมวินิจฺฉเย เอกนฺตเอกตาปิ วา เอกนฺตนานตาปิ วา สมยฺุนา วิฺุนา น เจว อุปคนฺตพฺพา.

๖๐๗-๑๐. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน อสงฺกนฺติปาตุภาเว สงฺกนฺติปาตุภาวรหิเต ภเว สติ อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธาทิสมตา อภิสมฺภูตา เย ขนฺธา โหนฺติ, เอเตสํ อิธ อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว นิรุทฺธตฺตา อิธ อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ชเนหิ กตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส ผลเหตุโน ผลสฺส ปจฺจยภูตสฺส ปรตฺถ ปรสฺมึ โลเก อาคมโต เจว เอวํ อฺสฺส สตฺตสฺส อฺโต กมฺมโต หิ ตโต สตฺตโต อฺเน สตฺเตน กตโต อฺโต เจว กมฺมโต ตํ ผลํ สิยา ภเวยฺย, ‘‘อฺสฺส สตฺตสฺสา’’ติ วจเนน ติตฺถิยสตฺตสฺสปิ กมฺมํ อฺสฺส จ ผลํ ทเทยฺยาติ อตฺโถ, ตสฺมา การณา เอตํ สพฺพํ เอว จ ตุมฺเหหิ วุตฺตวิธานํ น สุนฺทรํ. เอตฺถาหาติ เอตสฺมึ าเน ตฺวา โจทโก อาห – นนุ เอวํ ‘‘อสงฺกนฺติปาตุภาเว ภเว สตี’’ติอาทิกํ วจนํ นิยตีติ? วุจฺจเต – สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ เอกสฺมึ สนฺตาเน ปวตฺตมานํ ยํ เอตํ ผลํ อฺสฺส สตฺตสฺส น โหติ, อฺโต กมฺมโต น จ โหติ, พีชานํ อภิสงฺขาโร เอตสฺสตฺถสฺส ‘‘เอกสฺมึ สนฺตาเน’’ติอาทิกสฺส เอตสฺส อตฺถสฺส สาธโก นิปฺผาทโก โหติ.

๖๑๑-๕. เอกสฺมึ ปน สนฺตาเน, วตฺตมานํ ผลํ ปน อฺสฺส สตฺตสฺสาปิ วา น โหติ, ตํ ผลํ อฺโต กมฺมโต น โหติ. พีชานํ อภิสงฺขาโร เอตสฺสตฺถสฺส ‘‘เอกสฺมึ ปน สนฺตาเน’’ติอาทิกสฺส เอตสฺส อตฺถสฺส สาธโก นิปฺผาทโก โหติ, พีชานํ อภิสงฺขาเร มธุอาทินา วตฺถุนา ชเนหิ กเต ตสฺส พีชสฺส สนฺตาเน ปมํ ลทฺธปจฺจโย ปมํ ลทฺธมธุอาทิปจฺจโย ตสฺส พีชสฺส ผลํ กาลนฺตเร มธุอาทินา พีชาภิสงฺขรณโต อฺสฺมึ กาเล มธุโร โหติ. หิ สจฺจํ ‘‘พีชานํ อภิสงฺขาเร’’ติอาทิกํ วจนํ. ตานิ หิ ตานิ เอว ปมํ มธุอาทินา ชเนหิ โรปิตานิ พีชานิ อภิสงฺขรณโต กาลนฺตเร มธุรภาวํ ผลมฺปิ วา ผลฏฺํ วา น ปาปุณนฺติ. เอวํ อิมินา ปกาเรน อิทํ มยา วุตฺตํ ‘‘เอกสฺมึ ปน สนฺตาเน’’ติอาทิกํ วจนํ ปณฺฑิเตน เยฺยํ. อปิ จ อปโร นโย. พาลกาเล ตรุณกาเล เตน ตรุเณน ปยุตฺเตน วิชฺชาสิปฺโปสธาทินา กมฺเมนาปิ ตสฺส วุทฺธกาลสฺมึ ผลทานสีเลน อยํ ‘‘เอกสฺมึ ปน สนฺตาเน’’ติอาทิโก อตฺโถ ปณฺฑิเตน ทีเปตพฺโพ.

๖๑๖-๒๐. โจทโก ปุนาห – เอวํ สนฺเตปิ ตํ กมฺมํ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน กมฺเม สนฺเตปิ สํวิชฺชมาเนปิ ตํ กมฺมํ เอตสฺมึเยว ขเณ วิชฺชมานมฺปิ วา ผลสฺส ปจฺจโย โหติ. อถ วาวิชฺชมานกํ ปจฺจโย น ภเวยฺย. เอตสฺมึเยว ขเณ อวิชฺชมานกํ กมฺมํ วา ผลสฺส ปจฺจโย โหติ. สเจ ยทิ วิชฺชมานํ ผลสฺส ปจฺจโย โหติ, ตปฺปวตฺติกฺขเณ ปน ตสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติกฺขเณ ตสฺส กมฺมสฺส วิชฺชมานกาเล ปน เหตุนา กมฺเมเนว สทฺธึ ปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ วา อปโร นโย. วิชฺชมานํ นิรุทฺธํ กมฺมํ วิปากสฺส ปจฺจโย ยทิ ภเวยฺย, ปวตฺติกฺขณโต ตสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติกฺขณโต ปุพฺเพ วา กาเล, ตสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติกฺขณโต ปจฺฉา วา อวิชฺชมานกาเลติ อตฺโถ. นิจฺจผลํ สิยาติ สพฺพทา กมฺมปจฺจยวิรหิตํ ผลํ สิยาติ อตฺโถ. อาจริเยน วุจฺจเต – ‘‘โลภํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, โสตาปตฺติปฏิลาภาย อหเมว ปาฏิโภโค’’ติอาทีสุ ปาเสุ ปาฏิโภโค วิย กมฺมํ ทฏฺพฺพํ. โสตาปตฺติผลํ วิย กมฺมโต สมฺภูตํ ผลํ ทฏฺพฺพํ. กฏตฺตาเยว ชเนหิ กฏตฺตาเยว ตํ กมฺมํ ผลสฺส ปจฺจโย โหติ, อสฺส วิชฺชมานตฺตํ น จ โหติ, ตสฺส อวิชฺชมานสฺส กมฺมสฺส วิชฺชมานตา วา น จ เนว โหติ.

๖๒๑. อภิธมฺมาวตาโรยํ อภิธมฺมาวตาโร อยํ ปรมตฺถปฺปกาสโน ภูตตฺถทีปโน โสตูนํ ปุคฺคลานํ ปีติพุทฺธิวิวฑฺฒโน ปณฺฑิเตหิ วิวิเธสุ อารมฺมเณสุ จิตฺตํ อนาเมตฺวา สกฺกจฺเจน มนสิกาเรน โสตพฺโพ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ปุฺวิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวโม ปริจฺเฉโท.

๑๐. ทสโม ปริจฺเฉโท

รูปวิภาควณฺณนา

๖๒๒. วุตฺตมาทิมฺหิ ยํ รูปํ, จิตฺตชานมนนฺตรํ ยํ รูปํ จิตฺตเจตสิกานํ อนนฺตรํ อาทิมฺหิ ปกรณาทิมฺหิ ‘‘จิตฺตํ เจตสิกํ รูป’’นฺติอาทินา วจเนน อาจริเยน วุตฺตํ, อิโต ปรํ อิทานิ ตสฺส รูปสฺส วิภาวนํ สมาเสน สงฺเขเปน กริสฺสํ.

๖๒๓. ยํ รุปฺปตีติ รูปนฺติ ยํ ธมฺมชาตํ รุปฺปติ สีตาทินา วิรุทฺธปจฺจเยน วิการมาปชฺชติ. ตถา รูปยตีติ รูปํ ยํ ธมฺมชาตํ วณฺณวิการมาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ อชฺฌาสยํ ปกาเสติ, อิติ ตสฺมา รูปํ, กึ ตํ? วณฺณายตนํ. รูปารูปภวาตีโต, สุรูโป รูปมพฺรฺวิ ภควา รูปารูปภวอตีโต สุรูโป รูปํ อพฺรฺวิ กเถสิ.

๖๒๕-๖. มหาภูเตนาติ มหนฺโต ภูโต อุปฺปตฺติ เอตสฺสาติ มหาภูโต, เตน. วฺจกตฺตา มหาภูตสมาติ วา.

๖๓๐. นิรุปาทานมานโสติ อุปาทานวิรหิตจิตฺโต.

๖๓๓. ตสฺส สมฺปตฺตีติ ตสฺส กิจฺจสฺส สมฺปตฺติ.

๖๓๔. อุปพฺรูหนรสาติ วฑฺฒนกิจฺจา.

๖๓๗. อาสยานุสเย าณนฺติ เอตฺถ อาสโย นาม

สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี จ, ขนฺตี สจฺจานุโลมิกํ;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิตํ.

อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, อนฺโต โข, กจฺจาน, อตฺถิ อิติ อยํ เอโก อนฺโต โกฏฺาโส, อยํ สสฺสตทิฏฺิ. นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต, อยํ อุจฺเฉททิฏฺิ. ขนฺตี สจฺจานุโลมิกนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมิกาณํ, สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อตฺโถ. ยถาภูตฺจ ยํ าณนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ าณํ. เอตํ อาสยสทฺทิตนฺติ เอตํ อาสยํ อิติ กถิตํ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน อาสเย าณํ นาม. อนุสโย นาม ทิฏฺานุสยาทโย อนุสยา สตฺต. อินฺทฺริยานํ ปโรปเรติ ปเร อธิกภาเวน โอปเร จ ติกฺขานุภาเวน อยํ สตฺโต ติกฺขสทฺธินฺทฺริโย มุทุสทฺธินฺทฺริโย หีนสทฺธินฺทฺริโยติ อตฺโถ. สมาธินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ สตฺตานํ อินฺทฺริยานํ ปรโอปเร าณํ.

๖๓๘. สพฺพฺุตา าณนฺติ ติเหตุกกามาวจรกฺริยาจตุกฺกํ คเหตพฺพํ.

๖๔๑. อกฺขิกูเฏหิ มตฺถลุงฺเคน ปริจฺฉินฺโน อนฺตโต.

๖๔๕. ภาวสมฺภวสณฺานาติ อิตฺถิปุมสมฺภวภูตวณฺณายตนํ.

๖๔๗. เอเต ทส จตุสมุฏฺานา สมฺภารา จตูหิ ปจฺจเยหิ จตฺตาลีส ภวนฺติ.

๖๕๒. นิวิฏฺเติ ปติฏฺิเต.

๖๕๘. อุพฺพิอธิกานํ ปถวีอธิกานํ.

๖๖๐-๒. วิเสเส สตีติ นิสฺสยภูตานํ จตุนฺนํ วิเสเส สติ, สพฺพโส สพฺเพสํ วิเสสปริกปฺปนํ ปหาย เอว กมฺมวิเสเสน ปสาทานํ วิเสสตา เยฺยา.

๖๖๓. สทฺทียตีติ อุจฺจารียเต. รสนฺตีติ อสฺสาเทนฺติ.

๖๖๘. ปรโตติ ปมกปฺปโต อปรภาเค ปฏิสนฺธิยํ ภาวทฺวยํ สมุฏฺาตีติ วิฺเยฺยํ. ‘‘ปวตฺเตปิ สมุฏฺายา’’ติอาทิกํ โสณกุมาราทโย สนฺธาย วุตฺตํ.

๖๗๒. น ตํ พฺยฺชนการณนฺติ ตํ อินฺทฺริยทฺวยํ พฺยฺชนสฺส การณํ น สิยา. ตสฺสาติ พฺยฺชนสฺส.

๖๗๔. อุพฺพาหนนฺติ นีหรณํ.

๖๗๖-๗. อนฺนปานาทิกํ วตฺถุ ยํ กมฺมชํ อคฺคึ หรติ, เกวลํ เอกํ หุตฺวา ตํ อนฺนปานาทิกํ วตฺถุ ชีวิตํ ปน ปาเลตุํ น จ สกฺโกติ. เอกโต ชีวิตํ ปาเลตุฺจ สกฺโกนฺติ.

กาเยน รูปกาเยน อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ภาโว กายคฺคหณานุสาเรน กายคฺคหณสฺส อนุจินฺตเนน คหิตาย วาโยธาตุวิการสงฺขาตาย เอตาย ธมฺมชาติยา ปณฺฑิเตหิ วิฺายเต. อิติปิ ตสฺมา กายวิฺตฺติ.

๖๘๑. เอกาวชฺชนวีถิยํ เหฏฺา ฉหิ จิตฺเตหิ วาโยธาตุสมุฏฺิตํ อุปตฺถมฺภํ ลภิตฺวา.

๖๘๔. สห สทฺเทน วาติ สทฺเทน สเหว.

๖๙๐-๑. เอตาสํ ปน ลหุตาทีนํ ติสฺสนฺนํ ปวตฺติยํ นิทสฺสนํ กมโต อาโรคฺยํ ลหุตา, มทฺทิตํ ธมฺมํ มุทุตา, ธนฺตเหมํ กมฺมฺตา โหติ. ลหุตาทิตฺตยํ ปน กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, อาหาราทิตฺตยํเยว ลหุตาทิตฺตยํ กโรติ ยสฺมา, ตโต ตํ ติชํ นาม.

๖๙๓. วุตฺตมาการนานตฺตาติ เอตฺถ อาการนานตฺตา นาม อาจยาการอนุพนฺธตาการวเสน วุตฺตํ. เวเนยฺยานํ วเสน วาติ เอเก เวเนยฺยา อาจยวเสน ชาติรูปํ ชานนฺติ, เอเก อนุพนฺธตาวเสน ชานนฺติ. อิติ เวเนยฺยานํ ชานนวเสน ชาติรูปํ ทฺวิธา วุตฺตํ.

๖๙๔. สภาวานปคเม อตฺตโน สภาวสฺส อนปคเม สติ.

เต มิทฺธรูปวาทาจริยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. กถํ? อทฺธา มุนิสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตวาติ โย ตฺวํ อทฺธา เอกนฺเตน มุนิ อสิ สมฺพุทฺโธ อสิ นีวรณา ธมฺมา ตว ตุยฺหํ นตฺถิ, อิติ วจเน สเจ มิทฺธํ นีวรณํ รูเป ปวิฏฺํ สิยา. ภควตา รูปกายสฺส วิชฺชมานตฺตา ‘‘นตฺถิ นีวรณา ตวา’’ติ วจนํ วตฺตพฺพํ สิยา. ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน สห นีวรณฺเจว โหติ, นีวรณสมฺปยุตฺตฺจ โหติ. อิติ สมฺปยุตฺตวจนโต สมฺปยุตฺตสฺส รูปสฺส อภาวโต ตมฺปิ น วตฺตพฺพํ สิยา. น ปุเรชาตปจฺจยาติ อฺมฺปจฺจยาติ อตฺโถ. สเจ ถินมิทฺธํ รูปํ สิยา, กถํ อรูเปปิ อฺมฺํ สิยา, น สิยาติ อตฺโถ. อรูเปปิ กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุปฺปชฺชติ. อิติ วจเนน จ น มิทฺธรูปํ สิยา, อรูเป กถํ สิยาติ อตฺโถ. อรูปเมว มิทฺธํ อิติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อรูเปปิ เอตสฺส มิทฺธสฺส อุปฺปตฺติยา สาธกวจนโต นิฏฺํ เอตฺถ จ อวคนฺตพฺพํ ‘‘อรูป’’นฺติ วิฺุนา.

๗๐๕-๖. กมฺเมน วีสติ รูปาติ อฏฺินฺทฺริยวตฺถุอฏฺาวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา กมฺมชา. เจตสา วิฺตฺติทฺวยสทฺทลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา จิตฺตชา. อุตุนา สทฺทลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา อุตุชา. อาหารโต ลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา อาหารชา.

๗๐๗-๑๗. ชาเยยฺยุํ ยทิ ตานิปีติ ตานิ ชรตาอนิจฺจตารูปา ยทิ ชาเยยฺยุํ, เอวํ สนฺเต ตุ เตสํ ชรตาอนิจฺจตา เภทา สิยุํ. หิ สจฺจํ วจนํ ปาโก น ปจฺจติ, เภโท วา น จ ภิชฺชติ ยสฺมา, ตสฺมา เตสํ ปากเภทา สิยุนฺติ, ตํ วจนํ นตฺถิ. เอตํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชาตสฺส นิปฺผนฺนรูปสฺส ปากเภทตฺตา น ชายติ. สิยา กสฺสจิ พุทฺเธตฺถาติ เอตฺถ ชรตาอนิจฺจตาวินิจฺฉยาธิกาเร กสฺสจิ ชนสฺส พุทฺธิ าณํ ยทิ สิยา, ‘‘รูปสฺสูปจโย’’ติ วจเนน ‘‘ชาติ ชายตี’’ติ วจนํ ทีปิตํ ยถา, เอวํ ตถา ปาโกปิ ปจฺจตุ, เภโทปิ ปริภิชฺชตุ, เอวํ พุทฺธิ สิยา. ชาติ น เจว ชายเต. อิติ อิมินา ปกาเรน วิภาวินา เยฺยา. ชาติ ชายมานสฺส นิปฺผนฺนรูปสฺส นิพฺพตฺติ นาม ปกาสิตา. ตตฺถ ยสฺส สิยา ตตฺถ วจเน ยสฺส ชนสฺส พุทฺธิ สิยา. เยสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ชาติ อตฺถิ, สา ชาติ อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ ตปฺปจฺจยตฺตโวหารํ เตสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ปจฺจยฏฺเน ลทฺธโวหารํ กมฺมชาทิกํ โวหารํ ลภเตว ยถา, ตถา เตสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ เต ปากเภทา อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ นาม ตปฺปจฺจยตฺตโวหารํ ลภนฺติ, อิติ พุทฺธิ สิยา. ตสฺส ชนสฺส เอวํ วตฺตพฺพํ – อิทํ สนฺตตูปจยทฺวยํ กมฺมาทิสมฺภวํ โหติ ยถา, เอวํ ปากเภทา ตํ กมฺมาทิสมฺภวโวหารํ กทาจิปิ น ลภนฺติ. หิ สจฺจํ วจนํ กสฺมา การณา ชนกานํ กมฺมาทิปจฺจยานํ อานุภาวสงฺขาเต ขณุปฺปาเท เตสํ ปากเภทานํ อภาวโต น ลภนฺติ. วุตฺตปฺปกาเรน ขณุปฺปาเท ชาติปรมฺปราภาวโต สา ชาติ ลพฺภเต, ตสฺมา การณา ชาติ เอว อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ ปจฺจยตฺตโวหารํ ลภติ, อิตรํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ปน น ลภติ. ตํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชิยฺยติ อิติ ภิชฺชติ อิติ วา น วตฺตพฺพํ โหติ. กสฺมา? กมฺมาทิปจฺจยานํ อานุภาวกฺขเณ ตสฺส ชรตาอนิจฺจตาทฺวยสฺส ปจฺจยานํ อภาวโต.

๗๑๘-๒๓. อนิจฺจํ สงฺขตฺเจตํ ชรามรณํ อนิจฺจสงฺขาตํ อิติปิ วจนสฺส ภควตา วุตฺตตฺตา ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชายติ, เอวํ อิติ ตฺวํ เจ มฺสิ, เอวํ ‘‘ชายติ เอวา’’ติ วจนํ ภควตา น วตฺตพฺพํ. หิ กสฺมา การณา? ‘‘อนิจฺจํ สงฺขตฺเจตํ, ชรามรณมิจฺจปี’’ติวุตฺตภาวาทินา อาการเทสนาปริยาเยน เลเสน ภควตา อนิจฺจานํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ชรามรณสงฺขาตํ สภาวโต ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตฺจาปิ จิตฺตชานํ วิการตฺตา วิฺตฺติโย ‘‘จิตฺตชา’’ติ วุตฺตา วิย, ตถา เอวํ ภควตา วุตฺตํ. ยทิ เอวํ อตฺเถ สติ เอตํ รุปฺปนลกฺขณตฺตยํ อชาตตฺตา จ สพฺพถา สพฺพากาเรน ขํปุปฺผํว นตฺถิ, อสงฺขตํ นิพฺพานํ วิย นิจฺจํวาติ จ โจทโก วเทยฺย, นตฺถิ นิจฺจนฺติ อิทํ อุภยวจนํ โน ภควตา วตฺตพฺพํ. กสฺมา? นิสฺสยธมฺมานํ อายตฺตภาเวน ปวตฺติโต ปถวิยาทีนํ นิสฺสยานํ ภาเว สติ ตสฺส ลกฺขณตฺตยสฺส ภาวโต, ตสฺมา ขํปุปฺผํว ตํ ลกฺขณตฺตยํ น นตฺถิ, อตฺถีติ อตฺโถ. ปถวีอาทีนํ อภาเว ตํ ลกฺขณตฺตยํ น จ ลพฺภติ ยสฺมา, ตสฺมา นิพฺพานํ วิย, ตถา นิจฺจํ น.

๗๒๔-๕. ปริจฺเฉทาทโย อนิปฺผนฺนา. เตสเมว จ รูปานํ เตสเมว นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ วิการตฺตา นิปฺผนฺนา เจว สงฺขตา เสสวเสน วุตฺตานํ ปเภทกโตติ ทสฺสนโต. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

๗๖๗.

คนฺตุํ ปนิจฺเฉ ปิฏเกภิธมฺเม,

โย ธมฺมเสนาปตินา สมตฺตํ;

หิตตฺถินา เตน จ ภิกฺขุนายํ,

สกฺกจฺจ สมฺมา ปน สิกฺขิตพฺโพ.

โย ภิกฺขุ อภิธมฺเม ปิฏเก ธมฺมเสนาปตินา สมตฺตํ สภาวํ คนฺตุํ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺย, เตน จ ภิกฺขุนา หิตตฺถินา สกฺกจฺจํ อาทเรน สมฺมา ตีรณจินฺตนสชฺฌายเนหิ อยํ อภิธมฺมาวตาโร สิกฺขิตพฺโพ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

รูปวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสโม ปริจฺเฉโท.

๑๑. เอกาทสโม ปริจฺเฉโท

นิพฺพานนิทฺเทสวณฺณนา

๗๖๙. ภวาภวํ วินนโตติ ขุทฺทกํ, มหนฺตํ ภวํ สิพฺพนโต. สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโคติ สพฺเพหิ สงฺขารูปธิกิเลสูปธิขนฺธูปธีหิ ปฏินิสฺสชฺชนํ. อจฺจุติรสํ อจุติสมฺปตฺติกํ. นิพฺพานํ ปุฏฺเนาติ สุคเตน นิพฺพานํ ปุฏฺเน สาริปุตฺตตฺเถเรน. อุภินฺนํ สุตฺตานนฺติ ธมฺมเสนาปติวุตฺตานํ ทฺวินฺนํ สุตฺตานนฺติ อตฺโถ. ขยสฺส อุปนิสฺสยตฺตาติ ขยสฺส พลวการณตฺตา. ปุถูนํ ธมฺมานํ อปฺปมตฺตกฺขเณ ราคาทิกฺขยมตฺตํ นิพฺพานํ ภเวยฺย. สพฺเพ พาลปุถุชฺชนา สมธิคตนิพฺพานา สจฺฉิกตนิโรธา ภเวยฺยุํ. กิฺจ ภิยฺโย กึ อุตฺตริ การณฺจ อตฺถีติ อตฺโถ. ราคาทีนํ สงฺขตตฺตา เตสํ สงฺขตานํ นิพฺพานํ สงฺขตลกฺขณํ ภเวยฺย. กึ ปเนตฺถาติ เอเตสุ ขเณสุ กึ ปน ขเณ ตฺวํ วเทสิ. ขีเณสฺเววาติ ภวาทีสุ ขีเณสุ เอว. นิรุตฺตโรติ นิปฺผนฺนหาโร.

๗๗๑. อสฺสทฺโธติ พาหิรสทฺธาย วิรหิโต. วนฺตาโสติ วนฺตา วมิตา อาสา ตณฺหา เยนาติ วนฺตาโส.

นิสฺสรณิยาติ นิสฺสรเณ นิยุตฺตา. ยทิทํ เนกฺขมฺมํ ยํ อิทํ กามานํ เอตํ นิสฺสรณํ นิโรโธ, ตสฺส กิฺจิภูตสฺส สงฺขตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมชาตสฺส นิโรโธ นิสฺสรณนฺติ, เอวํ อิมินา ปกาเรน วุตฺตสฺส ตสฺส นิสฺสรณนามกสฺส อภาวปฺปตฺติโทสโต นิสฺสรณนามกานํ ปมชฺฌานอากาสานฺจายตนานมฺปิ อภาโว ภเวยฺย. อตฺถิ นิสฺสรณนฺติ อตฺถิ นิพฺพานํ. อุปฺปาทาทีนนฺติ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคานํ. ปปฺจาภาวโตติ ตณฺหามานทิฏฺีนํ อภาวโต.

๗๗๒. อปโลกิตนฺติ อทสฺสนธมฺมํ.

๗๗๔. อพฺยาปชฺฌนฺติ นิทุกฺขํ. อกฺขรนฺติ อขรํ.

๗๗๗. สทฺธาพุทฺธิกรํ ตถาคตมเต ชินวจเน สมฺโมหวิทฺธํสนํ ปฺาสมฺภวํ ปฺาการณํ สมฺปสาทนกรํ. อตฺถพฺยฺชนสาลินนฺติ อตฺถพฺยฺชนสารวนฺตํ สุมธุรํ สารฺุ ชินสาสนสารฺู วิมฺหาปนํ อจฺเฉรกรํ อิมํ เอวํ วุตฺตปฺปการํ อภิธมฺมาวตารํ โย ชานาติ, โส ชโน คมฺภีเร นิปุเณ นิปุณาณโคจเร อภิธมฺมปิฏเก ปทํ นิฏฺํ อุตฺตมสนฺนิฏฺานํ ยาติ ปาปุณาติ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

นิพฺพานนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสโม ปริจฺเฉโท.

๑๒. ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท

ปฺตฺตินิทฺเทสวณฺณนา

สงฺขายตีติ สงฺขา, กถียตีติ อตฺโถ. กินฺติ กึ อิติ กถียติ. ‘‘อห’’นฺติ ‘‘มม’’นฺติ กถียติ.

ตชฺชาปฺตฺตีติ ตสฺส จกฺขุโสตาทิกสฺส อนุรูปวเสน ชาตา ปฺตฺตีติ อตฺโถ.

เอกสฺสวาติ เอกสฺส นามธมฺมสฺส ‘‘อจฺโฉ’’ติ นามํ คเหตฺวา พหูนํ นามธมฺมานํ ‘‘อจฺโฉ’’ติ นามํ คเหตฺวา. สมูหเมวาติ นามธมฺมานํ สมูหํ เอว.

คหิโต ปุพฺเพ สงฺเกโต เอเตนาติ คหิตปุพฺพสงฺเกตํ. กึ ตํ? มโนทฺวาราวชฺชนชวนวิฺาณํ. เตน คหิตาย ปฺตฺติยา วิฺายติ ‘‘สตฺตา’’ติ ‘‘กมฺมชา’’ติ กถียติ.

อิตฺถี จ ปุริโส จ อิตฺถิปุริสา, เต อาทโย เยสํ เต อิตฺถิปุริสาทโย, เตสํ.

๗๗๘. ตติยา โกฏีติ ตติโย โกฏฺาโส.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ปฺตฺตินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท.

๑๓. เตรสโม ปริจฺเฉโท

การกปฏิเวธวณฺณนา

เวทกสฺสาติ สุขทุกฺขเวทกสฺส. ตทายตฺตวุตฺตีนนฺติ เตสํ อายตฺตา ปฏิพทฺธา เยสํ วิปากานํ เต ตทายตฺตวุตฺติโน, เตสํ. อตฺร อิมสฺมึ าเน อาจริเยน ปริหาโร วุจฺจเต. กุโตยํ ตว ตตฺถานุโรโธติ ตตฺถ ตสฺมึ อฺสฺส อตฺตการกสฺส อภาเวปิ สตฺตุสงฺขาตสฺส อตฺตโน ภาเวปิ อยํ ตว อนุโรโธ อนุนโย กุโต เกน การเณน อิธ อิมสฺมึ อสติ กตฺตริ กุสลาทีนํ อตฺถิภาเว กมฺมวิโรโธ กุโต เกน การเณน. อถาปีติ อปโร นโยปิ. กิฺเจตฺถาติ เอตฺถ เอติสฺสํ โจทนายํ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, อวสิฏฺํ ตาว พฺรูหิ, อปริสมตฺตา เต โจทนา. ตสฺสาติ อตฺตโน. การกเวทกตฺตาภาโวติ การกเวทกตฺตสฺส อภาโว สิยา.

อถ น ภวตีติ อตฺตโน อนาเส เจตนาปิ อนาโส ยทิ น ภวติ. ปฏิฺา หีนาติ ‘‘เจตนาย อนฺโ อตฺตา’’ติ ปฏิฺา หีนา. วุตฺตปฺปการโตติ ‘‘อตฺตโน อนาเส เจตนาย นาโส น ภวติ’’อิติ วุตฺตปฺปการโต. วิปรีตนฺติ ‘‘อตฺตโน อนาเส เจตนาย อนาโส’’อิติ วิปรีตคฺคหณํ สิยา. อตฺตา นสฺสตุ, เจตนา ติฏฺตุ, อถ ปน เอวํ น ภวตีติ อตฺตา นสฺสตุ, เจตนา ติฏฺตุ, เอวํ คหณํ ปน น ภวติ. อนฺตฺตปกฺขํ ปริจฺจช ปริจฺจชาหิ ‘‘เจตนาย อนฺโ อตฺตา’’ติ. ปฏิฺา หีนา ยสฺส โส ปฏิฺาหีโน.

อุภินฺนํ เจตนตฺตานํ เอกเทสตา เอกเทสภาโว นตฺถิ. เอวฺจ สตีติ เอวํ อุภินฺนํ เอกเทสสฺส อภาเว สติ โก โทโส อิติ ตฺวํ เจ วเทยฺยาสิ. ยํ ปน ตยา วุตฺตํ ยถา รูปรสคนฺธาทีนํ เอกเทเส วตฺตมานานมฺปิ ลกฺขณโต อฺตฺตนฺติ ยํ วจนํ ปน ตยา วุตฺตํ, ตํ วจนํ อยุตฺตํ, นานุรูปนฺติ อตฺโถ. ตว ปฏิฺา หีนาติ ‘‘เอกเทเส วตฺตมานานํ เจตนตฺตานํ ลกฺขณโต อฺตฺต’’นฺติ ปฏิฺา หีนา.

เอวฺจ สตีติ เอตํ เจตนาย อฺภาเว สติ โก โทโส อิติ เจ ภวํ วเทยฺย. ‘‘อเจตโน อตฺตา’’ติ วจนํ, ปุพฺเพ วุตฺตโทสโตติ ‘‘ปาการตรุปาสาณติณสทิโส สิยา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตโทสโต.

๗๘๐. อตฺถิ สตฺโตปปาติโกติ โอปปาติกา สตฺตา อตฺถิ.

๗๘๑. ภาราทานนฺติ ภารคฺคหณํ. ภารนิกฺเขปนนฺติ ภาโรโรปนํ.

๗๘๓. เอกสฺส ปุคฺคลสฺส อฏฺิสฺจโย อฏฺิสมูโห เอเกน กปฺเปน ปพฺพตสโม ราสิ สิยา.

๗๘๕. โภ มาร, ตฺวํ สตฺโต อิติ ปจฺเจสิ, กํ สทฺทหสิ, ‘‘สตฺโต’’ติ คหณํ เต ตว ทิฏฺิคตํ, สุทฺธสงฺขารปุฺโช อยํ, อิธ โลเก สตฺโต น อุปลพฺภติ.

๗๘๗. โย ภิกฺขุ อิมํ คนฺถํ อจฺจนฺตํ สตตมฺปิ จินฺเตติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปรมา ปฺา เวปุลํ วิปุลภาวํ คจฺฉติ.

๗๘๘. โย ภิกฺขุ อิมํ อภิธมฺมาวตารํ อติมติกรํ อุตฺตมํ อภิฺาณกรํ วิมติวินาสกรํ กงฺขจฺเฉทกรํ ปิยกฺกรํ เปมกรํ สทา ปติ, สุณาติ, ตสฺส ภิกฺขุโน มติ อิธ สาสเน ิเต วิกสติ ปฏิผุลฺลติ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

การกปฏิเวธวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตรสโม ปริจฺเฉโท.

๑๔. จุทฺทสโม ปริจฺเฉโท

รูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา

๗๘๙-๙๓. หิตานยนฺติ หิตาวหํ. มานสฺจ สุคตนฺติ สุฏฺุ ปวตฺตมานสฺจ. มธุรา อตฺถวณฺณนา เอตสฺสาติ มธุรตฺถวณฺณนํ. อุตฺตรํ ตุ มนุสฺสานํ, ธมฺมโต าณทสฺสนนฺติ มนุสฺสานํ โลกิยธมฺมโต อุตฺตริภูตาณทสฺสนโลกุตฺตรํ. สงฺกสฺสรสมาจาเรติ สงฺกาย กงฺขาย สริตพฺพสมาจาเร. อจฺฉิทฺทํ อกฺขณฺฑํ อกมฺมาสํ. อตฺถกาเมนาติ อตฺตโน หิตกาเมน.

๗๙๗. ทุวิธลกฺขณํ จาริตฺตวาริตฺตลกฺขณํ.

๘๐๕. เตสํ จริตานํ โวมิสฺสกนยา.

๘๐๗. สวณฺณกสิณาติ นีลปีตโอทาตโลหิตวณฺณกสิณา.

๘๐๘. ตํ เอกกํ อานาปานํ อสฺสาสปสฺสาโส.

๘๐๙-๑๐. มรณูปสมายุตฺตา สตีติ มรณานุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ. อาหารนิสฺสิตสฺาติ อาหาเร ปฏิกูลสฺา. ธาตุววตฺถานนฺติ จตุธาตุววตฺถานํ.

๘๑๑-๒. อนุกูลา อิเม สพฺพ-จริตานนฺติ วณฺณิตาติ ยํ กมฺมฏฺานํ สทฺธาจริตสฺส อนุกูลํ, ตเมว ปฺาจริตสฺส อนุกูลนฺติ อธิปฺปาโย. อิทํ สพฺพํ ปน วจนํ เอกนฺตวิปจฺจนีกภาวโต เอกนฺตปฏิปกฺขภาวโต อติสปฺปายโต วุตฺตํ, อิติ วิภาวินา เยฺยํ.

๘๓๕. วิปสฺสนาภวสมฺปตฺติ-สุขานํ ปจฺจยา สิยุํ วิปสฺสนาสมฺปตฺติสุขานํ ภวสมฺปตฺติสุขานํ ปจฺจยา สิยุํ.

๘๓๘. สมฺมฏฺานํ มโนภุโนติ มโนภุหทโย ตสฺส หทยสฺส สมฺมฏฺานํ.

๘๔๔. ปตฺตุกาเมน ธีมตา กสิณํ กตฺตพฺพํ.

๘๔๕. สํหาริมนฺติ อิโต จิโต จ หริตพฺพกสิณํ. ตตฺรฏฺกนฺติ ตสฺมึ าเน ิตํ อิโต จิโต จ อนาหริตพฺพํ กสิณํ.

๘๔๙. วิวฏฺฏํ ปน มิจฺฉตาติ นิพฺพานํ อิจฺฉนฺเตน วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ วฏฺฏํ กาตุํ ตํ กสิณํ วฏฺฏติ.

๘๕๑-๒. หตฺถปาสปฺปมาณสฺมึ, ตมฺหา กสิณมณฺฑลาติ ตโต กสิณมณฺฑลโต หตฺถปาสปฺปมาณสฺมึ ปเทเส วิทตฺถิจตุรงฺคุเล อุจฺเจ. ปริมุขํ สตินฺติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ.

๘๕๓-๔. เนกฺขมฺมนฺติ ฌานํ. เขมโต ทฏฺุํ ทิสฺวา อหํ อิมาย ปฏิปตฺติยา อทฺธา เอกนฺเตน ปวิเวกสุขสฺส นิพฺพานสุขสฺส ภาคี อสฺสํ ภเวยฺยํ.

๘๕๖. โส กสิณสฺส วณฺโณ เตน โยคินา น เปกฺขิตพฺโพ, กสิณสฺส ลกฺขณํ น เปกฺขิตพฺพํ อุสฺสทสฺส วเสน วณฺณํ อมุฺจิตฺวา.

๘๖๐. เอวํ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน เอกคฺคเจตโส เอกคฺคจิตฺตสฺส โยคิโน นิมีเลตฺวา อาวชฺชนฺตสฺส ยถา เยน ปกาเรน กมฺมฏฺานํ โหติ อุมฺมีลิเต กาเลปิ, ตถา เตน ปกาเรน ตํ กมฺมฏฺานํ อาปาถํ ยาติ เจ ยทิ อาคจฺฉติ, อุคฺคหเมว อุคฺคหนิมิตฺตํ.

๘๖๔. ปาทานํ โธวเน ปปฺจปริหารตฺถํ. เอกตลิกาติ เอกตลมตฺตา.

๘๖๕. ตํ สํหาริมํ กสิณมาทาย.

๘๖๖. สมนฺนาหริตพฺพนฺติ กมฺมฏฺานํ สุมเนน อาหริตพฺพํ, มนสิกาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตกฺกาหฏนฺติ วิตกฺเกน อาหฏํ ผุสิตํ กเร กเรยฺย.

๘๖๘. นฺติ ตํ นิมิตฺตํ.

๘๗๑-๔. อิมสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส. ปุริมสฺสาติ อุคฺคหนิมิตฺตสฺส. โก ปน อยํ วิเสโส? ถวิกา นีหริตํ อาทาสมณฺฑลํ มชฺชิตํ วิย. โตยเท กาฬเมเฆ เสตพลากา วิย. ตทา ตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปทาเลตฺวาว นิคฺคตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. ตโต อุคฺคหนิมิตฺตโต. นฺติ ตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. สณฺานวนฺตฺจ วณฺณวนฺตฺจ น จ อุปฏฺาการมตฺตํ. ปฺชนฺติ ปฺาย ชาตํ.

๘๗๗-๘. อุปจารกฺขเณ ตสฺสาติ ตสฺส สมาธิโน อุปจารกฺขเณ. นีวรณปฺปหาเนน สมาธิโน ปฏิลาภกฺขเณ ปน องฺคานํ วิตกฺกาทีนํ ปาตุภาเวน อิติ ทฺวีหิ อากาเรหิ.

๘๗๙. ทฺวินฺนํ สมาธีนนฺติ อุปจารปฺปนาสมาธีนํ.

๘๘๒. จกฺกวตฺติยคพฺโภว รตนํ วิย อสฺส อเนน สุทุลฺลภํ.

๘๘๔. อยนฺติ ปฏิสนฺธิสนฺถาโร.

๘๙๑-๒. สมตํ วีริยสฺเสวาติ วีริยสมภาวํ. ลยํ ลีนภาวํ อีสกมฺปิ ยนฺตํ คจฺฉนฺตํ มานสํ อาวชฺชนจิตฺตํ.

๘๙๕-๙. ภวงฺคํ ปน ปจฺฉิชฺช อุจฺฉินฺทิตฺวา ตเทว ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา โยคิโน มโนทฺวารมฺหิ ชายติ. ตโตติ อาวชฺชนโต ตตฺเรวารมฺมเณ ตสฺมึ ปถวีกสิณสงฺขาเต อารมฺมเณ ตสฺส โยคิโน ชวนานิ จตฺตาริ วา ปฺจ วา ชายนฺเต. อวสาเน เอกํ ชวนมานสํ รูปาวจริกํ โหติ, ตสฺมึ รูปาวจริเก วิตกฺกาทโย องฺคา. อฺเหิ อฺเสํ จิตฺตานํ อฺเหิ วิตกฺกาทีหิ พลวตรา โหนฺติ. ตานิ อปฺปนาภาวํ อปฺปตฺตานิ อปฺปนาเจตโส ปริกมฺโมปจารโต ปริกมฺมภาวโต ปริกมฺมานีติ วุจฺจนฺเต, อุปจารภาวโต อุปจารานีติ จ วุจฺจนฺเต. ตานิ ชวนานิ อปฺปนายานุโลมตฺตา อนุโลมานิ เอว จ วุจฺจนฺติ. เอตฺถ อนุโลมเกสุ ยํ สพฺพนฺติมํ ชวนํ, ตํ โคตฺรภูติ ปวุจฺจติ.

๙๐๑. โคตฺรภุ ทิฏฺนฺติ โคตฺรภุ นาม อุทฺทิฏฺํ.

๙๐๔-๕. ปุริเมหิ ชวเนหิ ยํ อาเสวนํ, ตํ พลวปจฺจยํ ลทฺธา ลภิตฺวา ฉฏฺํ ชวนํ, สตฺตมํ วา ชวนํ อปฺเปติ. อิติ วจนํ ปวุจฺจติ, เอตฺถ วาเท โคทตฺโต นาม อาภิธมฺมิโก อาจริโย อาห. ฉินฺนตเฏ มุขํ ยสฺส ฉินฺนตฏมุโข.

๙๐๘. ปจฺจเวกฺขณา เหตุ ยสฺส อาวชฺชนสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณเหตุกํ.

๙๑๑-๒. กามจฺฉนฺทสฺส นานาวิสเย ปลุทฺธสฺส. เจตโส เอกสฺมึ วิสเย สมาธาเนน สมาธิ.

๙๑๕. สยฺจ อติสนฺตโต สุขํ อวูปสนฺตสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจทฺวยสฺส ปฏิปกฺขโต วุตฺตํ.

๙๑๗. ปฺจงฺควิปฺปยุตฺตนฺติ ปฺจนีวรณวิปฺปยุตฺตํ. ปฺจงฺคสํยุตนฺติ วิตกฺกาทีหิ ยุตฺตํ.

๙๒๐-๑. เวปุลฺลนฺติ กมฺมฏฺานสฺส วิปุลภาวํ. ตฺจ ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปจารํ วิจาเรตฺวา วฑฺเฒตุํ วฏฺฏติ.

๙๒๘-๓๑. ปมาทโยคิโนติ ปมาทวเสน โยคิสมฺปนฺนสฺส กามสหคตา สฺามนกฺการา มนสิการา เจ จรนฺติ, ตสฺส โยคิโน ตํ ฌานํ หานภาคิยํ โหติ. สติ สนฺติฏฺเต ตสฺมึ, สนฺตา ตทนุธมฺมตา ตสฺมึ ปมชฺฌาเน ตทนุธมฺมตา ตสฺส ปมชฺฌานสฺส อนุรูปา สติ นิกนฺติ สนฺตา สํวิชฺชมานา สนฺติฏฺเต สนฺติฏฺติ, ตํ ฌานํ มนฺทสฺส โยคิโน ิติภาคิยํ โหติ, ิตึ ภชติ. วิเสสภาคิยํ โหติ, วิเสสํ ทุติยาทิภาวนํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. นิพฺพิทาสํยุตา สฺา, มนกฺการาติ นิพฺพิทาวิปสฺสนาสํยุตฺตา สฺามนกฺการา. นิพฺเพธภาคิยนฺติ โลกุตฺตรภาคิยํ, โลกุตฺตรมคฺคภาคิยนฺติ อตฺโถ.

๙๓๓. อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนากุสลารโย อาสนฺนากุสลาริกา ยสฺมา ตกฺกจารานํ ถูลตฺตา จ, ตสฺมา การณา อยํ สมาปตฺติ องฺคทุพฺพลา.

๙๓๕. นิกนฺตินฺติ ตณฺหํ. ปริยาทายาติ โสสาเปตฺวา.

๙๓๖. วิธินาติ ปุพฺเพ วุตฺตวิธินา. สตสฺสาติ สติสมฺปนฺนสฺส.

๙๓๘. นิมิตฺตํ ตุ ตเทว จาติ ตเมว ปมนิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’อิติ เอวํ มนสา กโรนฺตสฺส.

๙๔๓. สมฺปสาทนนฺติ สทฺธา. มชฺฌตฺตนฺติ ตตฺรมชฺฌตฺตตา.

๙๔๔. ทุวงฺคหีนนฺติ วิตกฺกวิจารหีนํ.

๙๔๘. ปีติ นาม เจตโส จิตฺตสฺส อุปฺปิลาปนํ อุปฺปิลาปิตตฺตํ ยโต ยสฺมา การณา.

๙๖๑-๒. อาสนฺนปีติโทสาติ ปีติเยว โทสา. เอตฺถ เอตสฺมึ ตติยชฺฌาเน ยเทว ยํ เอว สุขํ อิติ เอวํ สุขํ เจตโส อาโภโค มนสิกาโร. เอวํ อิมินา ปกาเรน สุขสฺส ถูลตฺตา อยํ สมาปตฺติ องฺคทุพฺพลา โหติ.

๙๗๔-๕. สุขํ อุเปกฺขาย อาเสวนํ ปน น โหติ ยสฺมา อุเปกฺขาย อาเสวนํ ปน น โหติ, ยสฺมา อุเปกฺขาสหคตานิ ชวนานิ ชวนฺติ, ตสฺมา จตุตฺถชฺฌานํ อุเปกฺขาสหคตํ สมุทีริตํ.

๙๗๖. ทุติยชฺฌานํ ทฺวิธา ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ ิตํ.

๙๗๙. อยํ อภิธมฺมาวตาโร สุมธุรวรตรวจโน กํ นุ ชนํ เนว รฺชยติ, อตินิสิตวิสโท พุทฺธิปฺปจาโร ยสฺส โส อตินิสิตวิสทพุทฺธิปฺปจาโร, โส เตน ชเนน เวทนีโย ชานิตพฺโพ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

รูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จุทฺทสโม ปริจฺเฉโท.

๑๕. ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท

อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา

๙๘๒-๓. รูเป โข วิชฺชมานสฺมินฺติ รูปกาเย วิชฺชมาเน ทณฺฑาทานาทโย ทณฺฑคฺคหณาทโย. อิติ รูเป รูปกาเย อาทีนวํ ทิสฺวา.

๙๘๔. สูกราภิหโตว สาติ สูกรํ อนุพนฺธิโต สา สุนโข วิย.

๙๘๕. วสีติ โยคี.

๙๘๘-๙๙๐. ผุฏฺโกาสฺจ เตน ตนฺติ เตน จิตฺเตน ผุฏฺํ ตโมกาสํ ‘‘อนนฺโต อากาโส’’อิติ จ มนสา กโรนฺโต เอว อุคฺฆาเฏติ. อิติ วจนํ วุจฺจเต, อยมฺโ นโย, ‘‘อากาโส’’ อิติ มนสา กโรนฺโต ตํ กสิณํ น สํเวลฺเลติ.

๙๙๘. รูปาวจรชฺฌานเมว ปจฺจตฺถิกํ รูปาวจรชฺฌานปจฺจตฺถิกํ.

๑๐๐๔. อากาสผุฏวิฺาเณติ ผุฏเมว วิฺาณํ ผุฏวิฺาณํ, ตสฺมึ อากาสารมฺมเณ ผุฏวิฺาเณ.

๑๐๐๕-๖. อยํ อากาโส อนนฺโต อิติ เอวํ ตํ อากาสเมว ผริตฺวา ปวตฺตํ วิฺาณํ วิฺาณฺจ อิติ วจนํ วุจฺจเต. วิฺาณํ อนนฺตํ นาม น โหติ, อนนฺตารมฺมณตฺตา ‘‘วิฺาณํ อนนฺต’’นฺติ วุจฺจเต, ตํ วิฺาณํ มนกฺการวเสน อปิ อนนฺตํ ปริทีปิตํ.

๑๐๑๐. ปมารุปฺปวิฺาณสฺส อภาโว ตสฺส เอว ปมารุปฺปสฺส สุฺโต สุฺภาวโต.

๑๐๑๓. สติ ติฏฺติ ภิยฺโย พลวา สติ ติฏฺติ.

๑๐๑๕. อภาวเก นตฺถิภาเว.

๑๐๑๗-๘. ทุติยารุปฺปจกฺขุนาติ จกฺขุนา ทุติยารุปฺปํ ‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา อากาเรน ปริกมฺมวเสน มนกฺกาเร. ตสฺสาปคมมตฺตฺจ ตสฺส ปมารุปฺปสฺส อปคมมตฺตฺจ.

๑๐๒๙. ยา นาม อยํ สมาปตฺติ อภาวมตฺตมฺปิ โคจรํ กตฺวา สฺสติ, อยํ สมาปตฺติ วต เอกนฺเตน อโห สนฺตาติ ปทิสฺสติ.

๑๐๓๓. ยาย สฺาย เนวสฺี, นาสฺี จ โหติ, เกวลํ เอกนฺเตน อถ โข สา สฺา เอทิสี น โหติ.

๑๐๓๕-๗. ปฏุสฺาย กิจฺจสฺส เนว กรณโต อยํ สมาปตฺติ ‘‘เนวสฺา’’ติ นิทฺทิฏฺาติ จตุตฺถอารุปฺปโต สมฺภวา ปวตฺตา เตโชธาตุ สุโขทเก ทหนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ ยถา, สา สงฺขารธมฺมานํ อวเสสตฺตา.

๑๐๔๐. ปาสาทตลฺจ สาฏิกา จ.

๑๐๔๑. โย ปน ภิกฺขุ อิมํ รูปารูปชฺฌานสมาปตฺติวิธานํ สารตรํ ชานาติ, โส รูปารูปชฺฌานสมาปตฺติปุเรกฺโข เสกฺโข ภวํ กามภวํ อภิภุยฺย อภิภวิตฺวา รูปารูปํ ยาติ ปาปุณาติ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท.

๑๖. โสฬสโม ปริจฺเฉโท

อภิฺานิทฺเทสวณฺณนา

๑๐๔๕. สตาติ สติสมฺปนฺเนน. อนุโยคนฺติ วีริยํ.

๑๐๔๗. โยคาวจรภิกฺขุนา นิพฺพตฺติตาสุ อภิฺาสุ อสฺส โยคาวจรสฺส ภิกฺขุโน สมาธิภาวนา นิฏฺํ ปริโยสานํ คตา สิยา.

๑๐๕๐. ทนฺเตติ ทนฺเต ิเต. อจเลติ อจเล ิเต.

๑๐๕๒-๔. อภิฺาย ปาทกํ การณํ อภิฺาปาทกํ โยคี สตํ วาปิ สหสฺสํ วาปิ ยทิ สเจ อิจฺฉติ, อภิฺาปาทกํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต อภิฺาปาทกฌานโต วุฏฺาย วุฏฺหิตฺวา ‘‘สตํ โหมิ, สตํ โหมิ’’ อิติ เอวํ กามาวจรปริกมฺมมานสํ กตฺวา อภิฺาย ปาทกํ การณภูตํ ฌานํ ปุนาธิฏฺาติ ปุน อาปชฺชิตฺวา ตโต ฌานโต วุฏฺาย ปุน อธิฏฺาติ, สหาธิฏฺาเนน เจตสา อธิฏฺานสงฺขาเตน จตุตฺถชฺฌานจิตฺเตน สห โส โยคี สตํ โหติ. อิทฺธิวิธาณํ.

๑๐๖๗-๘. เอโส อธิคตาภิฺโ โยคี ปาทการมฺมเณน จตุตฺถชฺฌานสฺส ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาเตน อารมฺมเณน ผุฏฺเ โอกาเส คเต ปวตฺเต ปน สทฺเท สุณาติ. ทิพฺพโสตาณํ.

๑๐๖๙. ปรสฺส จิตฺตํ ปริยติ ปริจฺฉิชฺชตีติ เจโตปริยํ, ตเมว มานสํ เจโตปริยมานสํ.

๑๐๗๐. หทยํ ปน นิสฺสายาติ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตมานโลหิตํ, หทยโกเส ปวตฺตํ รุหิรนฺติ อตฺโถ.

๑๐๗๕. กามาวจรจิตฺตฺจาติ กามาวจรสตฺตานํ กามาวจรจิตฺตฺจ. รูปารูเปสุ รูปภวารูปภเวสุ สตฺตานํ มานสฺจ. กึ ภูตํ? สราคาทิปฺปเภทกํ มานสํ สพฺพํ เจโตปริยาณํ ชานาติ. เจโตปริยาณํ.

๑๐๗๗-๘๒. นิสชฺชา สพฺพปจฺฉิมาติ สพฺเพสํ อิริยาปถานํ ปจฺฉา ชาตา นิสชฺชา ภิกฺขุนา อาวชฺชิตพฺพา. ตโต ปภุติ ตโต สพฺพปจฺฉิมโต นิสชฺชาโต ปภุติ ตํ สพฺพํ ปจฺฉิมนิสชฺชํ อาทึ กตฺวา ปฏิโลมกฺกมา ปฏิโลมกฺกเมน สพฺพํ อตฺตนา กตํ อาวชฺชิตพฺพํ. อสฺมึ ภเว ยาว ยตฺตกํ กาลํ สนฺธิ ปฏิสนฺธิ โหติ, ตาว ตตฺตกํ กาลํ กตํ กิริยํ เตน ภิกฺขุนา อาวชฺชิตพฺพํ. ปุริมสฺมึ ภเวปิ จุติกฺขเณปิ นิพฺพตฺตํ นามรูปฺจ สาธุกํ อาวชฺชิตพฺพํ. จุติกฺขเณ นิพฺพตฺเต ตสฺมึ นามรูเป เอวํ ภิกฺขุนา อาวชฺชิตพฺเพ ยทา ตเทว ตเมว นามรูปํ อารมฺมณํ กตฺวา จุติกฺขเณ มโนทฺวาเร มนกฺกาโร มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ.

๑๐๘๖-๙๖. อภิฺาปาทกํ กสิณารมฺมณํ ฌานํ อภินีหารกฺขมํ กตฺวา อิเมสุ ตีสุ กสิเณสุ กตปุฺเหิ. ตสฺมา ตมิตรํ วาปีติ อาโลกกสิณํ วา อิตรํ วาปิ กสิณทฺวยํ ยถากฺกมํ อุปฺปาเทตฺวา อุปจารภูมิยํเยว ตฺวา ตํ อาโลกกสิณํ เปตพฺพํ. อปฺปนํ ปณฺฑิโต น อุปฺปาเทยฺย, สเจ อุปฺปาเทติ, ตํ อาโลกกสิณํ ปาทกชฺฌานนิสฺสิตํ ปาทกชฺฌานสฺส อารมฺมณํ โหติ. วฑฺฒิตสฺส ฌานสฺส อนฺโตคธํ รูปํ เตน โยคินา ปสฺสิตพฺพํ ภเว ภเวยฺย. ตํ รูปํ ปสฺสโต ปสฺสนฺตสฺส ตสฺส โยคิโน ปริกมฺมสฺส วาโร อติกฺกมติ, ตาวเท ตสฺมึเยว ขเณ อาโลโกปิ ตสฺส โยคิโน อาโลโกปิ ขิปฺปํ อนฺตรธายติ. ตสฺมึ อาโลเก อนฺตรหิเต รูปคตํ รูปํ น ทิสฺสติ. ทิวสมฺปิ นิสีทิตฺวา ปสฺสโต รูปทสฺสนํ โหติ.

๑๑๐๐-๑. ตํจิตฺตสํยุตนฺติ เตน จตุตฺถชฺฌาเนน ยุตฺตํ จิตฺตํ. อนาคตํสาณสฺส ปริกมฺมํ, ยถากมฺมูปคสฺส าณสฺส จ ปริกมฺมํ. ทิพฺพจกฺขุาณํ.

๑๑๐๓. โย ภิกฺขุ อิธ อิมสฺมึ สาสเน อิมํ ปน คนฺถํ สุณาติ, จิตฺเต กโรติ จ, โส ภิกฺขุ อเนน ตเรน อิมินา คนฺเถน ตริตฺวา อภิธมฺมมหณฺณวปารํ ยาติ ปาปุณาติ, ชานาตีติ อตฺโถ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

อภิฺานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสฬสโม ปริจฺเฉโท.

๑๗. สตฺตรสโม ปริจฺเฉโท

อภิฺารมฺมณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๐๔. อนาคตํสาณฺจาติ น อาคโต อนาคโต, น ตาว สมฺปตฺโตติ อตฺโถ, อนาคเต อํสา โกฏฺาสา เตสํ าณํ อนาคตํสาณํ. ยํ ยํ กมฺมํ ยถากมฺมํ, ตํ อุปคจฺฉติ ชานาตีติ ยถากมฺมุปคํ, วิปากเจตนาชานนกาณํ.

๑๑๐๗-๙. ตตฺถ เตสุ อารมฺมณตฺติเกสุ. จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กตฺวาติ ตํ กายํ จิตฺตํ สนฺนิสฺสิตํ กริตฺวา ตเมว กายจิตฺตเจตสิกวเสน มหคฺคเต จิตฺตสฺมึ สมาโรเปติ าณํ อิทฺธิวิธาณํ, ตโต กายารมฺมณโต กายสฺส ปริตฺตตฺตา กามาวจรตฺตา ปริตฺตารมฺมณํ าณํ สิยา.

๑๑๑๐-๓. ทิสฺสมาเนน กาเยน, คนฺตุกาโม ยทา ภเว โย โยคี ทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโม ยทา ภเวยฺย, โส โยคี ตทา จิตฺตํ กายสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา รูปกาเย สนฺนิสฺสิตํ กตฺวา ตํ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ กายวเสน กาเย อาโรเปติ, ตทา ฌานารมฺมณโต ตํ าณํ มหคฺคตโคจรํ โหติ, ยํ าณํ ยทา อนาคตฺจ ธมฺมชาตํ, อตีตฺจ ธมฺมชาตํ วิสยํ อารมฺมณํ กโรติ, ตทา ตํ าณํ อตีตารมฺมณํ โหติ, ตทา อนาคตารมฺมณํ อารมฺมณกรณกาเล อนาคตโคจรํ โหติ. ทิสฺสมาเนน กาเยน ตสฺส ภิกฺขุโน คมเน ปน สติ ตสฺส โยคิโน าณสฺส โคจโร ปจฺจุปฺปนฺโน นาม โหติ, อิติ วินิทฺทิเส.

๑๑๑๔. กายํ จิตฺตสฺส วเสน จิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตํ กายสฺส วเสน กาเย อาโรเปติ, อิติ ปริณามนกาลสฺมึ ตสฺส โยคิโน าณํ อชฺฌตฺตารมฺมณํ สิยา. สมฺปวตฺตติ สตฺตสูติ ปริตฺตมหคฺคตอตีตอนาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณสงฺขาเตสุ สตฺตสุ อารมฺมเณสุ สมฺปวตฺตติ.

๑๑๒๐. ชานเน มชฺฌิมานนฺติ มหคฺคตานํ ชานเน.

๑๑๒๒. เอตสฺส เจโตปริยาณสฺส มคฺคารมฺมณตา ปริยาเยน เอว มตา าตา.

๑๑๒๖-๗. ตตฺถ ติกฺขณสมฺปตฺตํ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ขณาทิกํ.

ตตฺถ เตสุ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ขณาทิกํ ติกฺขณสมฺปตฺตํ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคกฺขณสมฺปตฺตํ ขณาทิกํ ขณาเยว ตํ ขณาวยวํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. เอกทฺเวสนฺตติวารปริยาปนฺนนฺติ เอกจิตฺตทฺวิจิตฺตวีถิวารปริยาปนฺนํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปจฺฉิมนฺติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ.

๑๑๓๑-๒. เยน อาวชฺชนจิตฺเตน ธมฺเม อาวชฺชติ, เยน เจตสา ชานาติ, เตสํ ทฺวินฺนํ อาวชฺชนชวนจิตฺตานํ สหฏฺานสฺส อภาวา ตํ ‘‘ขณาทิกตฺตยํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทิกํ ‘‘เอกสฺส จิตฺตเมเกน, อวสฺสํ ปน วิชฺฌติ’’อิติ ปริโยสานํ วจนํ น ยุชฺชติ. อาวชฺชนชวนานํ นานารมฺมณภาวํ ปตฺติโต อาปชฺชนโต จ น ยุชฺชติ. อนิฏฺเ ปน าเน เตสํ อาวชฺชนชวนานํ เอการมฺมณภาเว อนิจฺฉิเต ตสฺมึ าเน น ยุชฺชติ, อฺสฺมึ ปน าเน มคฺควีถิยํ อาวชฺชนปริกมฺมชวนานํ กสิณาทิกํ อารมฺมณํ โหติ, โคตฺรภุโลกุตฺตรจิตฺตานฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ โหติ, เอตฺถ อารมฺมณชวนานํ เอการมฺมณตา อนิจฺฉตา.

๑๑๓๔-๔๑. ‘‘เอกพฺภวปริจฺฉินฺนํ, ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปจฺฉิม’’นฺติ วตฺวา ปุน อฺเน ปริยาเยน ตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ทสฺเสตุํ อิทํ อทฺธาขฺยํ อทฺธานาม ปจฺจุปฺปนฺนํ ชวนวารโต ทีเปตพฺพํ. อิติ วจนํ นิทฺทิฏฺํ. ยทา อิทฺธิมา โยคี ปรสฺส จิตฺตํ าตุํ อาวชฺชติ, ตสฺส อาวชฺชนมโน ปจฺจุปฺปนฺนขณวฺหยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา เตน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌติ, เตสุ นิรุทฺเธสุ ตสฺส โยคิโน จตฺตาริ, ปฺจ วา ชวนานิ ชายนฺติ. เอเตสํ จตุนฺนํ, ปฺจนฺนํ ชวนานํ ยํ ปจฺฉิมํ จิตฺตํ อิทฺธิจิตฺตมุทีริตํ. อิทฺธิจิตฺตโต เสสานิ กามาวจรจิตฺตานิ. เอเตสํ กามาวจเร อิทฺธิชวนานํ ตเทว จ ปรจิตฺตํ อารมฺมณํ โหติ ยสฺมา, ตสฺมา สพฺพานิ ตานิ ชวนานิ เอการมฺมณตํ ยนฺติ, เตสํ ชวนานํ นานารมฺมณตา อทฺธาวสา น ภเวยฺย, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณโต เตสํ ชวนานํ เอการมฺมณภาเวปิ อิทฺธิมานสเมว จ ปรสฺส จิตฺตํ ชานาติ. อิตรานิ กามาวจรานิ ปน จิตฺตานิ ปรสฺส จิตฺตํ น ชานนฺติ. ยถา จกฺขุทฺวาเร ตุ วิฺาณนฺติ จกฺขุวิฺาณํ รูปํ ปสฺสติ, ตถา อิตรํ จิตฺตํ น ปสฺสติ.

๑๑๖๑. อนาคตํสาณสฺสาติ อนาคตํสาณสฺส อนาคตํ ธมฺมํ อโคจรํ, โคจรํ น โหติเยวาติ อตฺโถ.

๑๑๖๙. วิวิธตฺถานิ วณฺณปทานิ ยสฺมึ โส วิวิธตฺถวณฺณปโท, ตํ มธุรตฺถมตินีหรํ อุตฺตมํ โสตุชนสฺส หทยํ ปีติกรํ สเจตโน โก นาม มนุโช น สุเณยฺย.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

อภิฺารมฺมณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตรสโม ปริจฺเฉโท.

๑๘. อฏฺารสโม ปริจฺเฉโท

ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๗๕. ยา สฺชานนมตฺตํว, สฺา นีลาทิโต ปนาติ สา สฺา นีลาทิวเสน สฺชานนมตฺตํว กโรติ. ลกฺขณปฺปฏิเวธนฺติ อนิจฺจาทิลกฺขณปฏิพุชฺฌนํ.

๑๑๗๗. ตํ วิฺาณํ อุสฺสกฺกิตฺวา อุทฺธํ สกฺกํ กตฺวา สตฺเต มคฺคํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ.

๑๑๗๘-๙. สพฺเพสํ ปน ธมฺมานํ สภาวปฏิเวธนํ อวิปรีตวเสน ปฏิพุชฺฌนํ ปฺาย ลกฺขณํ.

๑๑๘๐. สมาธิ อาสนฺนการณํ เอตายาติ สมาธาสนฺนการณา.

๑๑๘๑. ลกฺขเณเนกธาติ สพฺพธมฺมํ ปฏิพุชฺฌนลกฺขเณน ปฺาว เอกธา วุตฺตา.

๑๑๘๓. ภูริปฺเนาติ ภูเต อตฺเถ อวิปรีเต อตฺเถ รมตีติ ภูริ, ภูริ ปฺา เอตสฺสาติ ภูริปฺโ, เตน.

๑๑๘๖-๙๑. ตีสุ อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ จ าเณสุ อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ ชาเตสุ าเณสุ จ าณํ. ยํ กิฺจิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ ผลํ ธมฺมชาตํ. ภาสิตตฺโถติ ปาฬิยา อตฺโถ. เอเต ปฺจ ธมฺมา อตฺถสฺิตา อตฺถนามกา. ผลนิพฺพตฺตโก เหตูติ ชนนโก ปจฺจโย. ภาสิตนฺติ ปาฬิ. ธมฺมสฺิตาติ ธมฺมนามกา. สภาวนิรุตฺตีติ อวิปรีตโวหาโร. ปริยตฺตีติ สิกฺขนํ. สวนาธิคเมหิ ปุพฺพโยเคน ปุพฺเพ ปวตฺตนาย.

๑๑๙๒. ภูมิภูเตสูติ วิปสฺสนาย ภูมิภูเตสุ.

๑๑๙๔. ชนนาทิโตติ ชาติอาทิโต ภีเตน ปฺา ภาเวตพฺพา.

๑๒๐๓. เอกาสีติยา จิตฺเตนาติ โลกุตฺตรจิตฺตวชฺชิเตน วิปสฺสนาภูมิภูเตน เอกาสีติยา จิตฺเตน.

๑๒๐๘. สตฺตสมฺโมหฆาตตฺถนฺติ สตฺโตติ สมฺโมหสฺส วินาสิตตฺถํ.

๑๒๑๑. นิรีหกนฺติ อีหวิรหิตํ พฺยาปารวิรหิตํ, ทารุรชฺชุสมาโยเค.

๑๒๑๕. อุโภ ภิชฺชนฺติ ปจฺจยาติ อฺมฺปจฺจยการณา.

๑๒๒๕. อนฺตทฺวยนฺติ กามสุขลฺลิกานุโยคอตฺตกิลมถานุโยคทฺวยํ. ภาวเยติ ทิฏฺิวิสุทฺธึ วฑฺเฒยฺย.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺารสโม ปริจฺเฉโท.

๑๙. เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโท

กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

๑๒๓๑. อิจฺเจวมาทิพาตฺตึสโกฏฺาสานํ ปจฺจยสฺส เหตุปจฺจเย ตาว โยคี มนสา ปริคฺคณฺหาติ.

๑๒๓๓. เหตฺวงฺกุรสฺส พีชํ ตุ พีชํ องฺกุรสฺส เหตุชนกํ, ปถวาทโย องฺกุรสฺส ปจฺจยา.

๑๒๓๔. ปฺจ ธมฺมาติ อวิชฺชาตณฺหุปาทานกมฺมาหารา เหตุปจฺจยา ธมฺมา.

๑๒๓๕. กมฺมํ ปุตฺตสฺส ชนโก ปิตา วิย นามรูปสฺส ชนกํ.

๑๒๓๘. ปจฺจยาติ ปจฺจเยน.

๑๒๔๐. ยา สาติ ยา สา กงฺขา. ปุพฺพนฺเต ปุพฺพโกฏฺาเส.

๑๒๔๑. สพฺพถา สพฺพโกฏฺาสโต อนวเสสาว ตสฺส โยคิโน สา กงฺขา ปหิยฺยติ นาสียเต.

๑๒๔๓. อตฺถสาธิกาติ กุสลปกฺเข ทานาทิอตฺถสาธิกา, อกุสลปกฺเข ปาณาติปาตาทิอตฺถสาธิกา.

ตํ วิปากนฺติ อุปฆาตกกมฺมสฺส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ. เอวํ เอโก โยคี กมฺมวิปากวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติ.

๑๒๔๖. เหตุผลสฺส สมฺพนฺธวเสนาติ เหตุผลสมฺพนฺธวเสน อิทํ นามรูปํ เกวลํ เอกนฺเตน ปวตฺตติ, อิติ สมฺมา อวิปรีตากาเรน สํ อนุปสฺสติ.

๑๒๔๗. ปากปฺปวตฺติโต อุทฺธํ ปากปฏิเวทกํ น ปสฺสติ น ชานิยเต.

๑๒๕๐-๑. อปฺปวตฺติ นาม น ทิสฺสติ, อุปปนฺนํ ทิสฺสติ. ติตฺถิยา เอตมตฺถํ อนฺาย อชานิตฺวา อสยํวสี สตฺตสฺนฺติ ‘‘สตฺโต’’ติ สฺํ คเหตฺวาน สสฺสตอุจฺเฉททสฺสิโน อฺมฺํ วิโรธิโน หุตฺวา ทฺวาสฏฺิทิฏฺึ คณฺหนฺติ.

๑๒๕๔. อุโภติ อุโภ กมฺมวิปากา อฺมฺโต สุฺา. น จ กมฺมํ วินา ผลนฺติ กมฺมํ วินา ผลํ น จ โหติ.

๑๒๕๕. สมฺภาเรหีติ สูริยาทิสมฺภาเรหิ.

๑๒๕๗. สุฺํ ตํ นามรูปธมฺมํ.

๑๒๕๘. เหตุสมฺภารปจฺจยาติ เหตุนา จ สมฺภารปจฺจเยหิ จ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโท.

๒๐. วีสติโม ปริจฺเฉโท

มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

๑๒๖๔. ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺสาติ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส นามรูปธมฺมสฺส.

๑๒๖๖-๘. อุปฺปชฺชโต อุปฺปชฺชนฺตสฺส นามรูปธมฺมสฺส ราสิโต นิจยโต อาคมนฺจ นตฺถิ. ทิสาคมนนฺติ ทิสาย คมนํ. นิรุทฺธสฺสาปิ นามรูปธมฺมสฺส เอกสฺมึ าเน นิจโยติ จ นตฺถิ.

๑๒๗๐-๑. อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ. ตณฺหาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหานิโรธา รูปนิโรโธ. กมฺมสมุทยา รูปสมุทโย, กมฺมนิโรธา รูปนิโรโธ. อาหารนิโรธา รูปนิโรโธ. ธมฺเมติ สงฺขารธมฺเม.

๑๒๘๐. สมฺปตฺตปฏิเวธสฺสาติ สมฺปตฺตโลกุตฺตรสงฺขาตมคฺคผลสฺส โสตาปนฺนาทิปุคฺคลสฺส. วิปฺปฏิปนฺนสฺสาติ ปฏิปตฺติยํ อปฺปฏิปนฺนสฺส, วิรุทฺธวเสน ปฏิปนฺนสฺส วา.

๑๒๘๖. กายจิตฺตานีติ กายาติ เวทนาสฺาสงฺขารา. จิตฺตนฺติ วิฺาณํ.

๑๒๙๐. ยโต ยโต ปจฺจยาทิโต. ยํ อมตํ นิพฺพานํ วิชานตํ วิชานนฺตานํ ปีติปาโมชฺชํ, เตหิ ลภิตพฺพํ อมตํ, อมตํ วิย ปีติปาโมชฺชํ วา.

๑๒๙๓. อปฺปตฺเตติ อตฺตนิ มคฺคผลสฺมึ อปฺปตฺเต. ปตฺตสฺีติ มคฺคผเล อหํ ปตฺโต อสฺมิ อิติ สฺิโต โหติ.

๑๒๙๗. สารเวทิโนติ สารชานนสีลา. นฺติ ตํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนํ. อิทํ าณํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนนฺติ มคฺคามคฺคาณทสฺสนํ นาม.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสติโม ปริจฺเฉโท.

๒๑. เอกวีสติโม ปริจฺเฉโท

ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

๑๒๙๙. อุปลฺเลสวิมุตฺตํ สุวิสทํ าณนฺติ อฏฺวิธาณํ สนฺธายาห.

๑๓๐๒. สจฺจานุโลมาณนฺติ อยเมว ปวุจฺจติ.

๑๓๐๖. อยํ สิขาปตฺตา วิปสฺสนา เอว สจฺจานุโลมาณํ นาม ปวุจฺจติ.

๑๓๐๙. ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุ-เปกฺขาคตนเยนาติ ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุเปกฺขาสงฺขาเตน าเณน กตนเยน.

๑๓๑๔-๖. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ, อุทฺธฺจ อนุโลมโตติ อุทฺธํ วตฺตมานานํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อนุโลมโต, อิทํ อนุโลมาณํ วุฏฺานคามินิยา ปริโยสานํ นาม ภาสิตํ มเหสินา กถิตํ. สจฺจานุโลมาณํ อาหจฺจ อุปฺปนฺนา, สพฺพปฺปกาเรน โคตฺรภุปริโยสานํ.

๑๓๑๘. ตตฺถาติ วิปสฺสนาย.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกวีสติโม ปริจฺเฉโท.

๒๒. ทฺวาวีสติโม ปริจฺเฉโท

าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๑๙-๒๒. อาวชฺชนสฺส หิตํ อาวชฺชนิยํ, ตํ านํ เอตสฺสาติ อาวชฺชนิยานํ, โคตฺรภูติ อตฺโถ. ตํ โคตฺรภุจิตฺตํ มคฺคจิตฺตสฺส อาวชฺชนิยานตฺตา. ปฏิปทาาณทสฺสนํ กุทาจนํ น จ ภชติ, ตเถว าณทสฺสนวิสุทฺธึ กุทาจนํ น ภชเตว. อุภินฺนํ าณานํ อนฺตรา เอกํ อพฺโพหาริกํ โวหาเร นิยุตฺตนฺติ โวหาริกํ, น โวหาริกํ อพฺโพหาริกํ. วิปสฺสนาย โสตสฺมึ วิปสฺสนาย โสเต ปติตตฺตา วิปสฺสนา นาม โวหริตพฺพา. ตโต นิพฺพานโต.

๑๓๒๕. สูรํ ติกฺขํ วิปสฺสนนฺติ โคตฺรภุจิตฺตํ สนฺธายาห.

๑๓๒๖-๙. วิสงฺขารนฺติ สงฺขาเรหิ วิคตํ. ปมาวชฺชนฺเจวาติ ปมาวชฺชนํ วิย. ปมาโภคตาปิ จาติ ปมมนสิการา วิย. มคฺคสฺส อนนฺตราทีหิ ปจฺจเยหิ. ตสฺสาติ มคฺคสฺส. สิขาปตฺตาย ตาย วิปสฺสนาย มุทฺธมฺหิ มตฺถเก. อนาวตฺตนฺติ อนิวตฺตํ.

๑๓๓๐-๓. เอเกน อาวชฺชเนน เอกิสฺสาเยว วีถิยา. อนุโลมโคตฺรภุเจตสนฺติ อนุโลมโคตฺรภุจิตฺตานํ นานารมฺมณตา วุตฺตา. ตํ โคตฺรภุจิตฺตํ อนาวชฺชนมฺปิ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา. สฺํ ทตฺวา วิยาติ ‘‘อหํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรมิ, ตฺวมฺปิ ตเมวารมฺมณํ กโรหิ’’ อิติ สฺํ ทตฺวา วิยาติ อธิปฺปาโย. สฺิตนฺติ สฺํ. กทาจิปิ อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ มคฺโค เอส เอโส มคฺโค ปุพฺเพ อนิพฺพิทฺธปุพฺโพ.

๑๓๓๖. อุชฺฌตีติ ฉินฺทติ.

๑๓๓๘. อเนเกสํ อานิสํสานํ ทายเกน อาทิมคฺเคน สํยุตฺตํ. ปมมคฺคาณํ.

๑๓๔๑. เอกสฺสาเสวนํ นตฺถิ เอกสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อาเสวนปจฺจโย นตฺถิ, ตสฺมา การณา ทฺเว จิตฺตุปฺปาทา อนุโลมกา. เตหีติ จิตฺตุปฺปาเทหิ อาเสวนปจฺจยํ ลทฺธา ลภิตฺวา ตติยํ จิตฺตํ โคตฺรภุ โหติ.

๑๓๔๕-๗. มคฺคเปกฺขนเหตุ ยสฺส อาวชฺชนมนโส, ตํ มคฺคเปกฺขนเหตุกํ. ตสฺมึ นิรุทฺเธติ ตสฺมึ อาวชฺชนจิตฺเต นิรุทฺเธ มคฺคสฺส ปจฺจเวกฺขณสฺิตานิ สตฺต ชวนานิ ปฏิปาฏิยา ชายนฺเต. ปจฺจเวกฺขณาณานิ เอกูนวีสติ โหนฺติ.

๑๓๕๑. ตโต ตทา วิปสฺสนาวีถึ โอตรติ. ทุติยมคฺคาณํ.

๑๓๖๑. มูลฆาตนฺติ มูลฆาตนํ. ตติยมคฺคาณํ.

๑๓๖๓. อนาวตฺติสภาวโตติ อนิวตฺตโต. จตุตฺถมคฺคาณํ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาวีสติโม ปริจฺเฉโท.

๒๓. เตวีสติโม ปริจฺเฉโท

กิเลสปหานนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๗๕. อิธ ปน อิมสฺมึ ปนาธิกาเร การณูปจาเรน ลาภาทิการณสฺส โวหาเรน, ลาโภ อาทิ วตฺถุ ยสฺส อนุนยสฺสาติ ลาภาทิวตฺถุโก, ตสฺส.

สุขุมาติ กามราคปฏิฆา สุขุมา.

๑๓๗๖. เยน เยน ปมมคฺคาทิาเณน โย โย สํโยชนาทิโก ปหาตพฺโพ ธมฺโม ฆาตํ วินาสํ ยาติ, โส โส ธมฺโม เตน เตน อเสเสน าเณน เอวํ สาธุ มยา สนฺทสฺสิโต.

๑๓๘๓. ปริฺาภิสมเยนาติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานเนน. ทุกฺขํ อภิสเมตีติ ทุกฺขํ ปฏิวิชฺฌติ.

๑๓๙๔. โย โยคี อิมํ วิทิตฺวา หิตภาวนํ วนํ วเนตพฺพํ วิทิตฺวา ชานิตฺวา เว เอกนฺเตน สุขสํหิตํ หิตํ อุเปติ, จิตฺตสฺส ตมํ อนุตฺตมํ หีนํ วิธูย วินาเสตฺวา อวิคฺคหกมฺปทํ ปทํ อวิคฺคหกํ สรีรรหิตํ ปทํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ าตพฺพํ ปทํ นิพฺพานํ อุเปติ ปาปุณาติ จ.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

กิเลสปหานนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตวีสติโม ปริจฺเฉโท.

๒๔. จตุวีสติโม ปริจฺเฉโท

ปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๙๕. รูปํ รูปสฺสาติ รูปํ รูปสฺส. อรูปสฺส นามสฺส.

๑๓๙๖. มิสฺสกสฺสาติ นามรูปมิสฺสกสฺสาติ อตฺโถ.

๑๓๙๗. ติปฺจ จาติ ปนฺนรส จ.

๑๓๙๙. เอโกติ กมฺมปจฺจโย. ทฺเวกาลิโกติ อตีตปจฺจุปฺปนฺนกาลวเสน ทฺวีสุ กาเลสุ นิยุตฺโต. ทสฺสิโตติ ภควตา เทสิโต.

อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย

ปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุวีสติโม ปริจฺเฉโท.

นิคมนกถาวณฺณนา

๑๔๐๑. สุมติมติวิจารโพธโนติ สุมตีนํ สุนฺทรปฺานํ กวีนํ มติยา วิจารสฺส โพธโน. วิมติวิโมหวินาสโนติ วิมตีนํ พาลานํ วิโมหสฺส วินาสโน. กุมติมติมหาตโมนาโสติ กุมตีนํ พาลานํ มหาตมสนฺนิภาย มติยา นาสโก. ปฏุมติภาสกโรติ ปฏูนํ ปณฺฑิตานํ ติกฺขปฺาย โอภาสกโร.

๑๔๐๒. สุมตินามโก ภิกฺขุ อสมานโต อสทิสาย ปูชาย มม อายาจิโต ยโต ยสฺมา การณา, ตโต ตสฺมา การณา อยํ อภิธมฺมาวตาโร. ปทาโต ปทาติ โกฏฺาสโต โกฏฺาสโต. หิตวิภาวนา ภาวนาติ หิตปฺปกาสนาย ภาวนาย มยา รจิโต. อถ วา อหํ สุมตินา ภิกฺขุนา อสมานโต มานโต อายาจิโต ยโต ยสฺมา, ตโต ตสฺมา.

๑๔๐๕. ติวิธา พฺยปฺปถานฺหิ คติโยติ พฺยปฺปถานํ วจนานํ อตฺถคนฺถยุตฺติวเสน ติวิธา คติโย.

๑๔๐๖. นิกายนฺตรลทฺธีหีติ อฺสฺมึ นิกาเย ลทฺธีหิ. วาจนามคฺคนิสฺสิโตติ วจนปฺปพนฺธนิสฺสิโต.

๑๔๑๐. อสํกิณฺณกุลากุเลติ อสมฺมิสฺสกุเลหิ อากิณฺเณ. สุปสนฺนสิโตทเกติ มธุรสีโตทเก.

๑๔๑๑. สงฺกเฏติ สมฺพาเธ.

๑๔๑๒. เกลาสสิขราการปาสาทปฏิมณฺฑิเตติ รชตปพฺพตมตฺถกนิเภหิ ปาสาเทหิ อลงฺกเต.

๑๔๑๓. วิวิธาการจารุปาการโคปุเรติ วิวิธสณฺานมนุฺปาการทฺวารโกฏฺเก.

๑๔๑๔. สลฺเลขาติ สลฺเลขวุตฺติ. สาขลฺเยติ สขิลภาเว. สตาติ สติสมฺปนฺเนน.

๑๔๑๕. วสฺสวลาหกา เทวาติ วสฺสวลาหกภูตา เทวา อมรา.

นิคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อภิธมฺมาวตารปุราณฏีกา นิฏฺิตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมาวตาร-อภินวฏีกา

(ปโม ภาโค)

คนฺถารมฺภกถา

(ก) วิสุทฺธกรุณาาณํ, พุทฺธํ สมฺพุทฺธปูชิตํ;

ธมฺมํ สทฺธมฺมสมฺภูตํ, วนฺเท สํฆํ นิรงฺคณํ.

(ข) สาริปุตฺตํ มหาเถรํ, ปริยตฺติวิสารทํ;

นมามิ สนฺตวุตฺตึ เม, คุรุํ คารวภาชนํ.

(ค) วนฺทนฺเตน มยา เอวํ,

ยา ลทฺธา ปุฺสมฺปทา;

หิตฺวา ตสฺสานุภาเวน,

อนฺตราเย อเสสโต.

(ฆ) มหาวิหารวาสีนํ, เถรานํ ถิรสีลินํ;

วํสาลงฺการภูเตน, ภูตานุคฺคหการินา.

(ง) เถเรน พุทฺธทตฺเตน, รจิตํ ยํ มโนรมํ;

ปิฏเก อภิธมฺมสฺมึ, โอตารุปายภาวโต.

(จ) อภิธมฺมาวตาโรติ, ลทฺธนาเมน วิสฺสุตํ;

นานานิปุณคมฺภีรนยํ ปกรณุตฺตมํ.

(ฉ) อตฺถสํวณฺณนํ ตสฺส, อารภิสฺสํ ยถาพลํ;

ปาโมชฺชชนนตฺถาย, อาภิธมฺมิกภิกฺขุนนฺติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

. ปรมนิปุณวิจิตฺตนยสมนฺนาคตํ สกสมยสมยนฺตรคหนวิคฺคาหณสมตฺถํ สุวิมลวิปุลปฺาเวยฺยตฺติยชนนํ ปกรณมิทมารภนฺโตยมาจริโย ปมํ ตาว รตนตฺตยปฺปณามกรเณน อนฺตรายนิวารณฺเจว ปฺาปาฏวฺจ ปตฺเถติ. รตนตฺตยปฺปณาโม หิ อตฺถโต ปณามกิริยาภินิปฺผาทิกา กุสลเจตนา. สา จ วนฺทเนยฺยวนฺทกานํ เขตฺตชฺฌาสยสมฺปทาหิ ทิฏฺธมฺมเวทนียภูตา ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส กมฺมสฺส อนุพลปฺปทานวเสน ตนฺนิพฺพตฺติตวิปากสนฺตติยา อนฺตรายกรานิ อุปปีฬกอุปจฺเฉทกกมฺมานิ ปฏิพาหิตฺวา ตนฺนิทานานํ ยถาธิปฺเปตสิทฺธิวิพนฺธกานํ โรคาทิอนฺตรายานมปฺปวตฺตึ สาเธติ, ราคาทิมลวิกฺขาลเนน จ จิตฺตสนฺตานํ ปริโสเธตฺวา ตนฺนิสฺสิตาย ปฺาย ยถาธิปฺเปตสิทฺธิสมฺปาทกํ ติกฺขวิสทภาวมาวหติ. กิฺจิ อาจิณฺณเมตํ ปณฺฑิตานํ, ยทิทํ คนฺถสมารมฺเภ รตนตฺตยปฺปณามกรณํ, ตสฺมา สปฺปุริสาจารานุรกฺขณตฺถฺจ อาทิมฺหิ รตนตฺตยวนฺทนา อารทฺธาติ เอวมาทินา อฺานิปิ พหูนิ ปโยชนานิ นิทฺธาเรตพฺพานิ. ตานิ ปน ตตฺถ ตตฺถ พหุธา วิตฺถาริตานีติ ตํ ปปฺจปริสฺสมํ เปตฺวา ยถานุปฺปตฺตเมว ตาว วณฺณยิสฺสาม.

เอตฺถ จ รตนตฺตยปฺปณามํ กตฺตุกาโม ตถาคตมูลกตฺตา เสสรตนานํ ปมํ ตาว ตถาคตสฺส โถมนาปุพฺพงฺคมํ ปณามมารภนฺโต อาห ‘‘อนนฺตกรุณาปฺ’’นฺติอาทิ. โถมนาปุพฺพงฺคเมน หิ ปณาเมน สตฺถุ คุณาติสยโยโค, ตโต จสฺส อนุตฺตรวนฺทนียภาโว, เตน จ อตฺตโน วนฺทนาย เขตฺตงฺคตภาโว, เขตฺตงฺคตาย จ วนฺทนาย ยถาธิปฺเปตนิปฺผตฺติยา เหตุภาโว จ ทสฺสิโต โหติ.

ตตฺถ วนฺทิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโส. ตสฺส ปน โอสานคาถายํ ‘‘ปวกฺขามี’’ติ อิมินา อปรกาลกิริยาวจเนน สห สมฺพนฺโธ. พุทฺธนฺติ วนฺทนกิริยาย กมฺมนิทฺเทโส. ‘‘อนนฺตกรุณาปฺ’’นฺติอาทิกํ ปน ตพฺพิเสสนํ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. กิรียติ ทุกฺขิเตสุ ปสารียตีติ วา กรุณา. อถ วา กโรตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ ชนยตีติ อตฺโถ. กิณาตีติ วา กรุณา, ปรสฺส ทุกฺขํ ปจฺจยเวกลฺลกรณโต หึสตีติ อตฺโถ. ปชานาตีติ ปฺา, ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. กรุณา จ ปฺา จ กรุณาปฺา, นตฺถิ เอตาสํ อนฺโตติ อนนฺตา, อนนฺตา กรุณาปฺา เอตสฺสาติ อนนฺตกรุณาปฺโ, ตํ อนนฺตกรุณาปฺํ.

เอตฺถ จ อุปฺปาทวยนฺตตาวเสน เจว สนฺตติปริโยสานวเสน จ สติปิ ภควโต กรุณาปฺานํ สปริยนฺตภาเว อนนฺตารมฺมเณสุ ปวตฺตนโต อนนฺตตา เวทิตพฺพา. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส หิ สพฺพสตฺตานํ ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺตา อนฺสาธารณา มหากรุณา กฺจิ สตฺตํ อวชฺเชตฺวา สพฺเพสุ สตฺเตสุ นิรวเสเสน ปวตฺตติ, ตถา สพฺพธมฺมสภาวโพธนสมตฺถา สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตา ปฺาปิ สกลเยฺยธมฺเมสุ อนวเสสโต ปวตฺตติ, ตสฺมา อนนฺตารมฺมณปฺปวตฺตกรุณาาณวนฺตตาย อนนฺตกรุณาปฺโ ภควา. กรุณาปฺาคฺคหเณน เจตฺถ ภควโต สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ. ตถา หิ กรุณาคฺคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต สกลโลกิยคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา, ปฺาคฺคหเณน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตาติ.

อปิจ สพฺพพุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ, ปฺา ปริโยสานํ. มหากรุณาสฺโจทิตมานโส หิ ภควา สํสารปงฺกโต สตฺตานํ สมุทฺธรณตฺถาย กตาภินีหาโร อนุปุพฺเพน ปารมิโย ปูเรตฺวา อนุตฺตรสมฺมาสมฺโพธิยา อธิคเมน สกลพุทฺธคุเณ ปฏิลภิ. อิติ สกลพุทฺธคุณานํ ตนฺนิทานภาวโต กรุณา สพฺพพุทฺธคุณานมาทิ, สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานสฺส ปน มคฺคาณสฺส ปฏิลภนโต อุตฺตริกรณียาภาวโต ปฺา ปริโยสานํ. อาทิปริโยสานทสฺสเนน จ สกลพุทฺธคุณา นยโต ทสฺสิตา โหนฺติ. นยคฺคาโห เอว หิ สพฺพพุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย, อิตรถา ตาทิสสฺส สพฺพฺุพุทฺธสฺสปิ วจนปถาตีตํ ตถาคตคุณํ อนุปทํ วณฺเณนฺโต โก นาม ปริโยสานมาหริตุํ สกฺกุเณยฺยาติ.

เอวํ กรุณาปฺามุเขน สงฺเขปโต สกลพุทฺธคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวาปิ ปุน อตฺตโน พุทฺธคุณสํกิตฺตเน อติตฺตาภาเวน เจว ปเรสฺจ ปสาทพาหุลฺลชนนตฺถํ ตทนฺโตคเธปิ วิสิฏฺคุเณ ปธานภาเวน นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตถาคต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ตถาคต’’นฺติ ตถา อาคตตาทีหิ อฏฺหิ การเณหิ ตถาคตํ. วุตฺตฺเหตํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๒ นิทานกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐) –

‘‘อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต, ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโต’’ติ.

‘‘กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา, กึ วุตฺตํ โหติ? มนุสฺสตฺตาทิอฏฺงฺคสมนฺนาคเตน เยน อภินีหาเรน เต ภควนฺโต อาคตา, เตเนว จ อภินีหาเรน อยมฺปิ ภควา อาคโต, ยถา จ เต ภควนฺโต สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา ปฺจมหาปริจฺจาคาทีนิ สมฺปาเทตฺวา อาคตา, ยถา จ เต สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม ภาเวตฺวา พฺรูเหตฺวา อาคตา, ตถา อยมฺปิ ภควา อาคโตติ เอวํ ตาว ตถา อาคโต’’ติ ตถาคโต. (๑)

‘‘กถํ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา เต ภควนฺโต สตฺตปทวีติหาเรน คตา, ยถา วา เต สมถวิปสฺสนามคฺเคหิ ตํ ตํ อกุสลปกฺขํ วิธมิตฺวา คตา, ตถา อยมฺปิ ภควา คโต, เอวํ ตถา คโตติ ตถาคโต. (๒)

‘‘กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? ยสฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ยํ สภาวสรสลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, ตฺเจส ตถลกฺขณํ อาคโต ยาถาวโต อธิคโต, ตสฺมา ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต คมนตฺถานํ พุชฺฌนตฺถสมฺภวโต. ตถา หิ วทนฺติ ‘เย คติอตฺถา, เต พุชฺฌนตฺถา. เย พุชฺฌนตฺถา, เต คติอตฺถา’ติ. (๓)

‘‘กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ยสฺมา ‘อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมต’นฺติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) ‘อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ’ติอาทิวจนโต จ ตถธมฺมสงฺขาเต สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาเท ยาถาวโต อาคโต อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต. (๔)

‘‘กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ยสฺมา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ ฉทฺวารคฺคหิเต อารมฺมเณ อวิปรีตเมว ปสฺสติ ชานาติ, ตฺวา จ ปเนวํ ‘กตมํ ตํ รูปายตนํ, ยํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทายา’ติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖ อาทโย) ตถเมส อวิปรีตํ วิภชติ ทสฺเสติ, ตสฺมา ตถํ อาคจฺฉติ ปสฺสติ ชานาติ, ตํ วา อาคมยติ ทสฺเสตีติ ตถาคโตติ เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. (๕)

‘‘กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยสฺมา เอส อภิสมฺโพธิโต ยาว ปรินิพฺพานา ราคมทาทินิมฺมถนวเสน เอกสทิสเมว ธมฺมํ ตถํ อวิตถํ ภาสติ, ตสฺมา ตถํ คทติ, ตโถ อวิปรีโต อาคโทวจนเมตสฺสาติ วา ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ วุตฺโตติ เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต. (๖)

‘‘กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควา หิ ‘ยถา วาที ตถา การี’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓; จูฬนิ. โปสาลมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๓) วจนโต อตฺตโน วาจาย อนุรูปเมว กโรติ, ตสฺมา ยถา วาจา, ตถา กาโยปิ คโต ปวตฺโต อิมสฺสาติ ตถาคโตติ เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต. (๗)

‘‘กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? ยสฺมา ปเนส อนุปมาย สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปทาย สมนฺนาคตตฺตา สเทวกํ โลกํ อภิภุยฺย ปวตฺตติ, ตสฺมา อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ.

ตตฺเรวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิยาติ อคโท, เทสนาวิลาโส เจว ปุฺุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก วิย ทิพฺพาคเทน สปฺเป สพฺพปรปฺปวาทิโน, สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต ยถาวุตฺโต อคโท เอตสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ทีฆาคมสํวณฺณนาทีสุ คเหตพฺโพ. อาห เจตฺถ –

‘‘ยเถว โลกมฺหิ วิปสฺสิอาทโย,

สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;

ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต,

ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๒ นิทานกถา);

‘‘ปหาย กามาทิมเล ยถา คตา,

สมาธิาเณหิ วิปสฺสิอาทโย;

มเหสิโน สกฺยมุนี ชุตินฺธโร,

ตถา คโต เตน ตถาคโต มโต.

‘‘ตถฺจ ธาตฺวายตนาทิลกฺขณํ,

สภาวสามฺวิภาคเภทโต;

สยมฺภุาเณน ชิโนยมาคโต,

ตถาคโต วุจฺจติ สกฺยปุงฺคโว.

‘‘ตถานิ สจฺจานิ สมนฺตจกฺขุนา,

ตถา อิทปฺปจฺจยตา จ สพฺพโส;

อนฺเยฺเยน ยโต วิภาวิตา,

ยาถาวโต เตน ชิโน ตถาคโต.

‘‘อนนฺตเภทาสุปิ โลกธาตุสุ,

ชินสฺส รูปายตนาทิโคจเร;

วิจิตฺตเภเท ตถเมว ทสฺสนํ,

ตถาคโต เตน สมนฺตโลจโน.

‘‘ยโต จ ธมฺมํ ตถเมว ภาสติ,

กโรติ วาจายนุโลมมตฺตโน;

คุเณหิ โลกํ อภิภุยฺยิรียติ,

ตถาคโต เตนปิ โลกนายโก’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๓๘; ที. นิ. ฏี. ๑.๗);

เกนจิ คุเณน อตฺตโน วิสิฏฺสฺส กสฺสจิ อภาวโต นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร. ภควโต หิ อวีจิโต ปฏฺาย ยาว ภวคฺคํ ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ น โกจิ เกนจิ คุเณน สมสโมปิ อตฺถิ, กุโต ปน อุตฺตริตโร. ยถาห –

‘‘รูเป สีเล สมาธิมฺหิ, ปฺาย จ อสาทิโส;

วิมุตฺติยา สมสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน’’ติ.

วินฺทิตฺวาติ ตีหิ วนฺทนาหิ ตนฺนินฺนตาทิวเสน นมสฺสิตฺวา. กายวจีมโนทฺวารวเสน หิ ติสฺโส วนฺทนา. ยถาห ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, วนฺทนา กาเยน วนฺทติ, วจสา วนฺทติ, มนสา วนฺทตี’’ติ. ตตฺถ พุทฺธาทิคุณารมฺมณา กามาวจรกุสลกิริยานมฺตรา เจตนา กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา กายทฺวารปฺปวตฺติวเสน อุปฺปนฺนา กายวนฺทนาติ วุจฺจติ, สาเยว วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารปฺปวตฺติวเสน อุปฺปนฺนา วจีวนฺทนาติ, อุภยวิฺตฺติโย ปน อสมุฏฺาเปตฺวา เกวลํ มโนทฺวารปฺปวตฺติวเสน อุปฺปนฺนา มโนวนฺทนาติ. สิรสาติ อุตฺตมงฺเคน กรณภูเตน. อพุชฺฌิ, โพเธตีติ วา พุทฺโธ. อยฺหิ จตุสจฺจธมฺเม สยมฺปิ อพุชฺฌิ, ปเรปิ โพเธติ, ตสฺมา พุชฺฌนโพธนฏฺเน ‘‘พุทฺโธ’’ติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒). อถ วา พุธ-สทฺทสฺส ชาครณวิกสนตฺเถสุปิ ปวตฺตนโต อพุชฺฌิ สวาสนสมฺโมหนิทฺทาย อจฺจนฺตํ วิคโต, พุทฺธิยา วิกสิตวาติ วา พุทฺโธ. ภควา หิ วตฺถุสภาวทสฺสนวิพนฺธิกาย อวิชฺชาสงฺขาตาย นิทฺทาย อริยมคฺคาเณน สห วาสนาย สมุจฺฉินฺนตฺตา ตโต อจฺจนฺตํ วิคโต. ปรมรุจิรสิริโสภคฺคสมาคเมน วิกสิตมิว ปทุมํ อปริมิตคุณคณาลงฺกตสพฺพฺุตฺาณสมาคเมน วิกสิโต วิกาสมนุปฺปตฺโต, ตสฺมา ชาครณวิกสนตฺถวเสนปิ ‘‘พุทฺโธ’’ติ วุจฺจติ.

เอตฺตาวตา จ ทฺวีหิ อากาเรหิ ภควโต โถมนา กตา โหติ อตฺตหิตสมฺปตฺติโต, ปรหิตปฏิปตฺติโต จ. ตาสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ อนาวรณาณาธิคโม สวาสนสกลสํกิเลสานมจฺจนฺตปฺปหานํ อนุปาทิเสสนิพฺพานาธิคโม จ, ปรหิตปฏิปตฺติ ปน อาสยปฺปโยควเสน ทุวิธํ ปรหิตสมีหนํ. ตตฺถ ธมฺมเทสนาย อภาชเนสุ เทวทตฺตาทีสุ วิโรธิสตฺเตสุปิ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยตา อปริปากคตินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปริปากกาลาคมนฺจ อาสโย นาม. ตทฺสตฺตานํ ปน ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส ยานตฺตยมุเขน สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนา ปโยโค นาม. ทุวิธาสุ ปเนตาสุ ปรหิตปฏิปตฺตีสุ, ติวิธาสุ จ อตฺตหิตสมฺปตฺตีสุ อนนฺตกรุณา-วจเนน, ตถา อาคตฏฺเน จ ตถาคต-สทฺเทน อาสยวเสน ปรหิตปฏิปตฺติ ทสฺสิตา, โพธนฏฺเน พุทฺธ-สทฺเทน, ตถทสฺสนฏฺเน จ ตถาคตฏฺเน จ ตถาคตสทฺเทน ปโยควเสน, อนนฺตปฺา-วจเนน, าณคติทีปเกน ตถาคต-สทฺเทน, พุชฺฌนชาครณวิกสนฏฺเน จ พุทฺธ-สทฺเทน ติวิธาปิ อตฺตหิตสมฺปตฺติ, อนุตฺตรวจเนน จ อตฺตหิตปรหิตสมฺปตฺติ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา.

อปิจ เหตุผลสตฺตูปการสมฺปทาวเสน ตีหากาเรหิปิ ภควโต โถมนา ปวตฺตตีติ ตํวเสนเปตฺถ โถมนา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ เหตุสมฺปทา นาม มหากรุณาสมาโยโค, โพธิสมฺภารสมฺภรณฺจ ตมฺมูลกตฺตา สกลพุทฺธคุณานํ. ผลสมฺปทา ปน จตุพฺพิธา าณสมฺปทา, ปหานสมฺปทา, อานุภาวสมฺปทา, รูปกายสมฺปทา จาติ. ตาสุ สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานํ สพฺพฺุตฺาณํ, ตมฺมูลกานิ จ ทสพลาทิาณานิ าณสมฺปทา นาม. อคฺคมคฺคภาวนาย สพฺพกิเลสานํ สห วาสนาหิ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ ปหานสมฺปทา. อจินฺเตยฺยาปริมิตานํ สพฺพโลกหิตานํ นิปฺผาทเน, สเทวกโลกาภิภวเน จ อาธิปจฺจํ อานุภาวสมฺปทา. สกลโลกนยนาภิเสกภูตา ปน ลกฺขณานุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตา อตฺตภาวสมฺปตฺติ รูปกายสมฺปทา นาม. สตฺตูปกาโร เหฏฺา วุตฺตปรหิตปฏิปตฺติวเสเนว เวทิตพฺโพ. อิมาสุ ปน อนนฺตกรุณา-วจเนน, ตถา อาคตฏฺเน จ ตถาคต-สทฺเทน เหตุสมฺปทา ทสฺสิตา. ผลสมฺปทาสุ าณสมฺปทา เจว ปหานสมฺปทา จ อนนฺตปฺา-วจเนน, อภิสมยปริทีปเกน ตถาคตสทฺเทน, พุชฺฌนชาครณวิกสนฏฺเน, จ พุทฺธ-สทฺเทน ทสฺสิตา, อานุภาวสมฺปทาปิ อภิภวนฏฺเน ตถาคต-สทฺเทน, อนุตฺตร-วจเนน จ วิภาวิตา, รูปกายสมฺปทา ปน รูปคฺคปฺปตฺติทีปเกน อนุตฺตร-สทฺเทน ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ พุทฺธรตนสฺส โถมนาปุพฺพงฺคมํ ปณามํ กตฺวา อิทานิ เสสรตนานมฺปิ ปณามมารภนฺโต อาห ‘‘ธมฺมํ สาธุคณมฺปิ จา’’ติ. ภควโต โถมเนน จ สฺวากฺขาตตาทโย ธมฺมคุณา, สุปฺปฏิปนฺนตาทโย สงฺฆคุณา จ ทสฺสิตา โหนฺติ ตปฺปภวสฺส อนฺถาภาวโตติ น เตสํ วิสุํ โถมนา กตา. อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ปุคฺคเล ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จ อปายทุกฺเขสุ เจว วฏฺฏทุกฺเขสุ จ อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม, โส จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ, จตุนฺนฺจ สามฺผลานํ, นิพฺพานสฺส, ปริยตฺติธมฺมสฺส จ วเสน ทสวิโธ. วุตฺตฺเหตํ ฉตฺตวิมาเน

‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ,

ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;

มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ,

ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๗);

เอตฺถ หิ กามราคาทิเภโท สพฺโพปิ ราโค วิรชฺชติ เอเตนาติ ‘‘ราควิราโค’’ติ มคฺโค กถิโต. เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย, อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณสฺส จ โสกสฺส ตทุปฺปตฺติยํ สพฺพโส ปริกฺขีณตฺตา ‘‘อเนชมโสก’’นฺติ ผลํ กถิตํ. เกนจิ ปจฺจเยน อสงฺขตตฺตา ‘‘ธมฺมมสงฺขต’’นฺติ นิพฺพานํ วุตฺตํ. อวิโรธทีปนโต ปน อตฺถพฺยฺชนสฺส สมฺปนฺนตาย, ปกฏฺคุณวิภาวนโต สุฏฺุ วิภชิตตฺตา จ ‘‘อปฺปฏิกูล’’นฺติอาทินา สพฺโพปิ ปริยตฺติธมฺโม กถิโต. ตตฺถ อริยมคฺคนิพฺพานานิ นิปฺปริยาเยเนว อปายาทิโต ธารณโต ธมฺโม, ผลปริยตฺติโย ปน ปริยาเยน. ตถา เหตฺถ ธารณํ นาม อปายาทินิพฺพตฺตกกิเลสวิทฺธํสนํ. อิติ อริยมคฺคสฺส กิเลสสมุจฺเฉทกตาย, นิพฺพานสฺส จ อาลมฺพณภาเวน ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตายปิ อุภินฺนมฺปิ นิปฺปริยายโต ลพฺภติ. อิตเรสุ ปน อริยผลสฺส มคฺเคน สมุจฺฉินฺนกิเลสานํ ปฏิปสฺสทฺธกิจฺจตาย, มคฺคานุกูลปฺปวตฺติโต ปริยตฺติธมฺมสฺส จ ตทธิคมเหตุตายาติ อุภินฺนมฺปิ ปริยายโตว ลพฺภตีติ.

อตฺตหิตปรหิตํ สาเธนฺตีติ สาธู, เตสํ คโณ สมุทาโยติ สาธุคโณ, สาธุ จายํ คโณ จาติ วา สาธุคโณ, สาธุโน วา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อายตฺโต คโณ ตสฺส โอรสปุตฺตภาวโตติ สาธุคโณ. โส ปน จตุนฺนํ อริยมคฺคสมงฺคีนํ, จตุนฺนฺจ ผลสมงฺคีนํ วเสน อฏฺวิโธ อริยสงฺโฆ, ตํ สาธุคณํ. ปิจาติ นิปาตสมุทาโย, เอโก วา นิปาโต, ติณฺณํ รตนานํ วนฺทนกิริยาย สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เกจิ ‘‘คโณ’’ติ อิธ ปกรณโตว อริยคณปุคฺคโลว ลพฺภตีติ สาธูติ ภาวนปุํสกวเสน ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ อิมินา สห โยเชนฺติ, ตทา ปน สาธูติ ภยลาภาทิวิรเหน สกฺกจฺจํ อาทรนฺติ อตฺโถ.

. เอวํ ปกรณารมฺเภ ยถาธิปฺเปตํ รตนตฺตยปฺปณามํ กตฺวา อิทานิ ยตฺถ ปาฏวตฺถาย อิทํ ปกรณํ ปฏฺปียติ, ตํ สทฺธึ เทสกเทสปฏิคฺคาหกสมฺปตฺตีหิ วิภาเวตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปณฺฑุกมฺพลนามายา’’ติอาทิ. ตตฺถ เทวราชสฺส ปณฺฑุกมฺพลนามาย สิลาย วิมเล สีตเล ตเล นิสินฺโน อตุลวิกฺกโม เทวเทเวหิ ปูชิโต เทวเทโว เทวปุรกฺขโต เทวานํ เทวโลกสฺมึ ยํ ธมฺมํ เทเสสีติ สมฺพนฺโธ.

อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – ปณฺฑุกมฺพลสริกฺขวณฺณตาย ‘‘ปณฺฑุกมฺพล’’นฺติ นามํ สมฺา เอติสฺสาติ ปณฺฑุกมฺพลนามา. สา หิ สกฺกสฺส ตาทิสปุฺานุภาเวน นิพฺพตฺตา ปณฺฑุกมฺพลชยสุมนปุปฺผสมาเนน วณฺเณน สพฺพกาลํ วิโรจติ, ปมาณโต ปน สฏฺิโยชนายามา, ปฺาสโยชนวิตฺถารา, ปนฺนรสโยชนุพฺเพธา จ โหติ. สิลายาติ อวยวสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ตุลาย สมฺมิโต ตุลฺโย, น ตุลฺโย อตุลฺโย, อตุลฺโย วิกฺกโม พลํ เอตสฺสาติ อตุลฺยวิกฺกโม. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส หิ ปรมปารมิตานุภาวสํสิทฺเธน หตฺถิคณนาย โกฏิสหสฺสหตฺถีนํ, ปุริสคณนาย ทสโกฏิสหสฺสปุริสานํ พเลหิ สมปฺปมาเณน กายพเลน, อปฺปมาเณน จ าณพเลน น กสฺสจิ เทวพฺรหฺมาทีสุ อฺตรสฺส พลตุลนาย อุปเนตพฺพํ อตฺถิ. อถ วา อนฺสาธารณตฺตา อตุลฺโย ปรกฺกมสงฺขาโต อปริมาณคุณวิเสสาวเหน อนฺสาธารเณน สมฺมปฺปธาเนน สมนฺนาคตตฺตา วา อตุลฺโย สมฺมปฺปธานสงฺขาโต วิกฺกโม อิมสฺสาติ อตุลฺยวิกฺกโม. ‘‘อตุลฺยวิกฺกโม’’ติ จ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ย-การโลปํ กตฺวา ‘‘อตุลวิกฺกโม’’ติ วุตฺตํ. อถ วา สมฺมิตตฺเถ อ-การปจฺจยสฺสาปิ สมฺภวโต อตุโล วิกฺกโม อสฺสาติ ‘‘อตุลวิกฺกโม’’ติ วุตฺตํ.

ทิพฺพนฺตีติ เทวา, ปฺจกามคุณาทีหิ กีฬนฺติ, เตสุ วา วิหรนฺติ, วิชยสมตฺถตาโยเคน พาหิรพฺภนฺตริเก ปจฺจตฺถิเก วิเชตุํ อิจฺฉนฺติ, อิสฺสริยธนาทิสกฺการทานคฺคหณํ, ตํตํอตฺถานุสาสนฺจ กโรนฺตา โวหรนฺติ, ปุฺาณานุภาวปฺปตฺตาย ชุติยา โชเตนฺติ, ยถาธิปฺเปตฺจ วิสยํ อปฺปฏิฆาเตน คจฺฉนฺติ, ยถิจฺฉิตนิปฺผาทเน จ สกฺโกนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา เทวนียา ตํตํพฺยสนนิตฺถรณตฺถิเกหิ ‘‘สรณํ ปรายณ’’นฺติ คมนียา, อภิตฺถวนียา โสภาวิเสสโยเคน กมนียาติ วา เทวา, เต ติวิธา – สมฺมุติเทวา อุปปตฺติเทวา วิสุทฺธิเทวาติ. ตตฺถ สมฺมุติเทวา นาม มหาสมฺมตาทโย ขตฺติยา. อุปปตฺติเทวา นาม จาตุมหาราชิเก อุปาทาย ตทุตฺตริเทวา. วิสุทฺธิเทวา นาม ขีณาสวา. อิธ ปน อุปปตฺติเทวา ทฏฺพฺพา. โน จ โข เตปิ อวิเสเสน, เปตฺวา ปน ยามาทิเก จาตุมหาราชิกตาวตึสวาสิโนว อธิปฺเปตา. เตสํ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ รฺชนโต ราชา, เทวานํ ราชา อิสฺสโร เทวราชา, ตสฺส เทวราชสฺส, ‘‘สกฺกสฺส เทวรฺโ’’ติ อธิปฺปาโย. หิ อฺเสํ เทวโลเกสุ นิสินฺโน ภควา อภิธมฺมปิฏกํ เทเสสีติ.

. นฺติ อนิยมนิทฺเทโส, ตสฺส ปน ‘‘ตตฺถา’’ติ อิมินา นิยมนํ เวทิตพฺพํ. ยถาวุตฺตานํ ติณฺณมฺปิ เทวานํ อุตฺตโม เทโว เตหิ สพฺเพหิ อธิกตรํ กีฬนาทิโยคโตติ เทวเทโว, ภควา. โส หิ นิรติสยาย อภิฺากีฬาย อุตฺตเมหิ ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรหิ สปรสนฺตานสิทฺธาย ปฺจวิธมารวิชยิจฺฉานิพฺพตฺติยา จิตฺติสฺสริยสตฺตธนาทิสมฺมาปฏิปตฺติอเวจฺจปฺปสาทสกฺการทานคฺคหณสงฺขาเตน, ยถาปราธยถานุโลมยถาธมฺมานุสาสนสงฺขาเตน จ โวหาราติสเยน ปรมาย ปฺาย จ สรีรปฺปภาสงฺขาตาย ชุติยา อนุปมาย าณสรีรคติยา มารวิชยสพฺพฺุตฺาณปรหิตนิปฺผาทเนสุ อปฺปฏิหตาย สตฺติยา จ สมนฺนาคตตฺตา สเทวเกน วา โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ คมนียโต, อภิตฺถวนียโต, ภตฺติวเสน กมนียโต จ สพฺเพ เต เทเว เตหิ เตหิ คุเณหิ อภิภุยฺย ิโตติ สพฺพเทเวหิ ปูชนียตโร เทโว, วิสุทฺธิเทวภาวสงฺขาตสฺส วา สพฺพฺุคุณาลงฺการสฺส อธิคตตฺตา อฺเสฺจ เทวานํ อติสเยน เทโวติ เทวเทโว. เทวานนฺติ ตทา ธมฺมปฏิคฺคาหกานํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬาธิวาสีนํ มาตุเทวปุตฺตปฺปมุขานํ อุปปตฺติเทวานํ. วิสุทฺธิเทวานมฺเปตฺถ คหณนฺติ วทนฺติ. เต ปน อุปปตฺติเทเวสฺเวว สงฺคหิตา มนุสฺสอรหนฺตานํ ตตฺถ อภาวโต. เทวเทเวหีติ วิสุทฺธิเทเวหิ. วิสุทฺธิเทวา หิ วุตฺตนเยน อิตรเทเวหิ สาติสยํ กีฬนาทิโยคโต อิธ ‘‘เทวเทวา’’ติ อธิปฺเปตา, เตหิ. ปูชิโตติ ปูชิตพฺโพ, ปูชิตุํ อรโหติ อตฺโถ. เอเตน วิสุทฺธิเทเวสุปิ ภควโต อคฺคปุคฺคลตํ ทีเปติ. เทเสสีติ มธุรกรวีกสทฺทสทิสํ พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรนฺโต ปกาเสสิ. เทวโลกสฺมินฺติ ตาวตึสเทวโลเก. สภาวสามฺลกฺขณํ ธาเรตีติ ธมฺโม, กุสลาทิเภโท อภิธมฺโม, อิธ ปน ตปฺปกาสกํ อภิธมฺมปิฏกํ ‘‘ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปิฏกุตฺตเม’’ติ. เทวปุรกฺขโตติ ทสสหสฺสจกฺกวาฬวาสิทิพฺพพฺรหฺเมหิ ปุรกฺขโต, ปริวาริโตติ อตฺโถ.

นนุ จ ‘‘เทวาน’’นฺติ วจเนเนว เทวปุรกฺขตภาโว สิทฺโธติ กึ ‘‘เทวปุรกฺขโต’’ติ วจเนน? นายํ โทโส. ภควา หิ กทาจิ จูฬปนฺถกตฺเถราทีนํ วิย ปรมฺมุเขปิ นิสีทิตฺวา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา สตฺตานํ สมฺมุเข นิสินฺนํ วิย ทสฺเสนฺโต ธมฺมํ เทเสติ, กทาจิปิ ปารายนิกพฺราหฺมณาทีนํ วิย สมฺมุเขปิ นิสีทิตฺวา อฺเหิ จ ปริวุโต อฺเสมฺปิ ธมฺมํ เทเสติ, อิธ ปน น ตถา, เทเวหิเยว ปริวุโต เทวานํ เทเสตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เทวปุรกฺขโต’’ติปิ วตฺตพฺพเมวาติ.

. เอวเมตสฺมึ ปกรเณ คารวชนนตฺถํ เตน สมฺปาเทตพฺพปาฏววิสยํ อภิธมฺมปิฏกํ เทสกาทิสมฺปตฺตีหิ สห วิภาเวตฺวา อิทานิ ยถาธิปฺเปตปกรณารมฺภปโยชนาภิธานาภิเธยฺยโสตุชนสมุสฺสาหนกรณปฺปการานิ จ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถาห’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ปาฏวตฺถายา’’ติ อิมินา ปกรณารมฺภปโยชนํ วุตฺตํ. ‘‘อภิธมฺมาวตาร’’นฺติ อิมินา อภิธานาภิเธยฺยานิ. ‘‘มธุร’’นฺติอาทีหิ ปกรณํ วิเสเสติ. ‘‘สมาเสนา’’ติ จ อิมินา โสตุชนสมุสฺสาหนกรณปฺปการานีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อห’’นฺติ กตฺตุภูตํ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. ตถา หิ โย ปโร น โหติ, โส นิยกชฺฌตฺตสงฺขาโต อตฺตา ‘‘อห’’นฺติ วุจฺจติ.

ปฏุโน ภาโว ปาฏวํ, ตํเยว อตฺโถ ปโยชนฏฺเนาติ ปาฏวตฺโถ, ตทตฺถาย. ตํ สนฺธาย วิวิธนยคฺคหณสมตฺถสฺส สุตมยาณสฺส อุปฺปาทนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. สํสาเร ภยํ อิกฺขนฺติ, ภินฺทนฺติ วา ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขู, เตสํ. ปิฏกฺจ ตํ อุตฺตมฺจาติ ปิฏกุตฺตมํ, ตสฺมึ ปิฏกุตฺตเม, อภิธมฺมปิฏเกติ อธิปฺปาโย. ตฺหิ ปริยตฺติภาชนตฺถโต ปิฏกํ, ตีสุ ปิฏเกสุ วิสิฏฺภาวโต อุตฺตมฺจาติ ปิฏกุตฺตมํ. ตตฺถ ปริยตฺติภาชนตฺถโตติ ปริยตฺติอตฺเถน เจว ภาชนตฺเถน จ. ตถา หิ ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) ปริยตฺติ ปิฏกนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทาลปิฏก’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๘; อ. นิ. ๓.๗๐) ยํ กิฺจิ ภาชนมฺปิ. ตสฺมา อิทมฺปิ ปริยาปุณิตพฺพฏฺเน ปริยตฺติ, อภิธมฺมตฺถานมาธารณตฺเถน ภาชนฺจาติ ปริยตฺติภาชนตฺถโต ปิฏกนฺติ วุจฺจติ. เตเนวาหุ –

‘‘ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู,

ปริยตฺติพฺภาชนตฺถโต อาหุ;

เตน สโมธาเนตฺวา,

ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา);

วิสิฏฺภาโว ปนสฺส โลกโวหารมติกฺกมฺม ยถาสภาววเสน เทสนโต, วิสิฏฺธมฺมกฺขนฺธวิภาวนโต จ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘สตฺโต ปุคฺคโล ภิกฺขู’’ติอาทิกํ โลกโวหารมติกฺกมฺม ‘‘ขนฺธธาตุอายตน’’นฺติอาทินา ยถาธมฺมวเสเนว พาหุลฺลเทสนา ปวตฺตา, น อิตเรสุ วิย ยถาวุตฺตโวหารวเสน, ยโต อิทํ ยถาธมฺมสาสนนฺติ วุจฺจติ. สพฺพสงฺขตธมฺมวิสิฏฺโ เจตฺถ ปฺากฺขนฺโธ วิเสสโต วิภาวิโต, ตสฺมา ติณฺณมฺปิ ปิฏกานํ พุทฺธวจนภาเวปิ ยถาสภาวานติกฺกมเทสนาทิโต อิทเมว ตีสุ ปิฏเกสุ วิสิฏฺนฺติ ยุตฺตํ. อปิจ ธมฺมาติเรกธมฺมวิเสสภาวโต จสฺส วิสิฏฺภาโว เวทิตพฺโพ. อภิธมฺเม หิ นิปฺปเทสโต ขนฺธายตนาทิธมฺมานํ วิภตฺตตฺตา อิตรทฺวยโต อติเรกตรา, วิสิฏฺา จ ปาฬิ โหติ, ตสฺมา อติเรกสฺส, วิสิฏฺสฺส จ ปาฬิธมฺมสฺส วเสน อิทเมว ตีสุ ปิฏเกสุ อุตฺตมนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ยถาวุตฺตวิสิฏฺภาวโยคโตเยว เจตํ ‘‘อภิธมฺมปิฏก’’นฺติ วุจฺจติ อภิ-สทฺทสฺส วิสิฏฺภาวโชตนโต. อปิจ วุฑฺฒิมนฺตาทิธมฺมานํ เอตฺถ วุตฺตตฺตา เจตํ อภิธมฺมปิฏกํ. ยถาหุ โปราณา –

‘‘ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา);

ตถา เหตฺถ ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ, เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖๐ อาทโย) วุฑฺฒิมนฺโตปิ ธมฺมา วุตฺตา, ‘‘รูปารมฺมณํ วา สทฺทารมฺมณํ วา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน อารมฺมณาทีหิ ลกฺขิตพฺพตฺตา สลกฺขณาปิ ‘‘เสกฺขา ธมฺมา อเสกฺขา ธมฺมา, โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน ปูชิตา ปูชารหาปิ ‘‘ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) นเยน สภาวปริจฺฉินฺนตฺตา ปริจฺฉินฺนาปิ ‘‘มหคฺคตา ธมฺมา อปฺปมาณา ธมฺมา (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๒, ทุกมาติกา ๙๙), อนุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน อธิกา วิสิฏฺาปิ ธมฺมา วุตฺตา, ตสฺมา อภิ-สทฺทสฺส วุฑฺฒิอาทิอตฺเถสุปิ ปวตฺตนโต ‘‘วุฑฺฒิมนฺโต ธมฺมา เอตฺถา’’ติอาทินา นิพฺพจเนน อิทํ ปิฏกํ ‘‘อภิธมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. อภิธมฺมํ โอตรนฺติ อเนนาติ อภิธมฺมาวตารํ นาม ปกรณํ. อิมินา ปนสฺส อตฺถานุคตมภิธานํ ทสฺเสติ. ตุ-สทฺโท ปทปูรเณ. อาจริเยน หิ คาถาปทปูรณตฺถํ เยภุยฺเยน ตตฺถ ตตฺถ นิปาตา วุจฺจนฺติ. ยตฺถ ปน เนสํ ปโยชนวิเสโส ทิสฺสติ, ตตฺเถว ตมตฺถํ วกฺขาม. มธุรนฺติ นิปฺปริยายโต มธุร-สทฺโทยํ ชิวฺหาวิฺเยฺเย รสวิเสเส วตฺตติ, อิธ ปน อิฏฺภาวสามฺเน อตฺถพฺยฺชนสมฺปตฺติ มธุรสทฺเทน วุตฺตา. ภวติ หิ ตํสทิสสฺส ตํ-สทฺเทนาภิธานํ ยถา ‘‘อคฺคิมาณโว’’ติ. เตน ปน มธุเรน โยคโต อิทมฺปิ มธุรํ ยถา นีลคุณโยคโต นีลุปฺปลนฺติ. นิปุณคมฺภีราย พฺยฺชนสมฺปตฺติยา เจว อตฺถสมฺปตฺติยา จ อภิธมฺมวิสยํ มตึ วฑฺเฒตีติ มติวฑฺฒนํ. อถ วา พฺยฺชนสมฺปตฺติยา ‘‘มธุร’’นฺติ วุตฺตํ, อตฺถสมฺปตฺติยา ‘‘มติวฑฺฒน’’นฺติ.

. ตาฬนฺติ กุฺจิกํ, กุฺจิกาสทิสนฺติ อตฺโถ. มุยฺหนฺติ เตนาติ โมโห, อวิชฺชาเยตํ อธิวจนํ, โมโหเยว อภิธมฺมมหาปุรํ ปวิสนฺตานํ ปเวสนนิวารณตฺตา กวาฏภูโตติ โมหกวาฏํ, ตสฺส. วิฆาเฏติ, วิฆาฏียติ อเนนาติ วา วิฆาฏนํ. นนุ จ อวิชฺชากวาฏํ ปฺาย อุคฺฆาฏียติ. สา หิ ตสฺสา อุชุวิปจฺจนีกภูตาติ? สจฺจํ, อิทมฺปิ ตสฺสา การณภาเวน ‘‘โมหกวาฏวิฆาฏนกร’’นฺติ วุตฺตํ. การณการณมฺปิ หิ การณวเสน วุจฺจติ ยถา ‘‘โจเรหิ คาโม ทฑฺโฒ, ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธ’’นฺติ.

. สุทุตฺตรนฺติ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธสงฺขาตจตุคมฺภีรภาวปฏิสํยุตฺตตาย มนฺทพุทฺธีหิ ตริตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อติทุตฺตรํ, เตเนว เจทํ มโหทธิสมานตฺตา ‘‘มโหทธี’’ติ วุตฺตํ. มหณฺณโวปิ หิ จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร น สกฺกา อฺตฺร สิเนรุปพฺพตราชโต เกนจิ ปติฏฺํ ลทฺธุํ, เอวมิทมฺปิ จตุคมฺภีรตาปฏิสํยุตฺตํ อฺตฺร ตถาคตา น เกนจิ ปติฏฺํ ลทฺธุํ สกฺกาติ. ตรนฺตานนฺติ อตฺถคฺคหณวเสน อุตฺตริตุกามานํ. เอตฺถ จ ‘‘ตรํวา’’ติ อธิการวเสน วตฺตพฺพํ, วกฺขมานํ วา อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตรนฺตานนฺติ ปรตีรสมฺปาปุณนตฺถํ อุตฺตรนฺตานํ. ตรํวาติ อุฬุมฺปํ วิย, ตํสมานนฺติ อตฺโถ. มกรา นาม มจฺฉชาติกา, เตสํ อากโร นิวาสภูมีติ มกรากโร, ตํ.

. อภิธมฺเม นิยุตฺตา อาภิธมฺมิกา, เตสํ. หตฺถสารํ วิยาติ หตฺถสารํ. ยถา หิ มนุสฺสานํ พหูสุ รตนาทีสุ วิชฺชมาเนสุปิ อาปทาสุ จ สุขปริโภคตฺถํ หตฺเถ กยิรมานํ สารรตนาทิกํ ‘‘หตฺถสาร’’นฺติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ สติปิ มหนฺเต อภิธมฺมปิฏเก ตสฺส สพฺพโส วิตฺติณฺณตาย ปริหริตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตทตฺถสารสมฺปิณฺฑนวเสน กยิรมานํ อาภิธมฺมิกภิกฺขูนํ สุขปริหรณตฺถาย สมฺปชฺชตีติ หตฺถสารสทิสตฺตา ‘‘หตฺถสาร’’นฺติ วุตฺตํ. ปวกฺขามีติ ปกาเรน กเถสฺสามิ, อนาคตวจนฺเจตํ, วตฺตมานสมีปตฺตา วา อนาคเต วตฺตมานูปจารโต วตฺตมานวจนํ, ปฏิฺานนฺตรเมว วกฺขตีติ. อตฺถวเสน ปกาเรน กเถนฺโตปิ สทฺทวเสน สงฺขิปิตฺวา กเถสฺสามีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมาเสนา’’ติ. สมสนํ สํขิปนํ สมาโส, เตน สมาเสน, น พฺยาสวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺตาวตา จ ปโยชนาภิธานาภิเธยฺยโสตุชนสมุสฺสาหนกรณปฺปการานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา โสตุชนสมุสฺสาหนํ นาม เตสํ สกฺกจฺจสวเน นิยุฺชนํ, ตสฺมา เต ตตฺถ นิโยเชนฺโต อาห ‘‘ตํ สุณาถ สมาหิตา’’ติ. สกฺกจฺจสวนปฏิพทฺธา หิ สมฺมาปฏิปตฺตีติ. ตตฺถ นฺติ ตํ มยา วกฺขมานํ อภิธมฺมาวตารํ สุณาถ นิสามยถ. สมาหิตา สมฺมา อาหิตา, อวิกฺขิตฺตจิตฺตาติ อตฺโถ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ปโม ปริจฺเฉโท

จิตฺตนิทฺเทโส

กามาวจรกุสลวณฺณนา

. เอวํ ตาว รตนตฺตยปฺปณามาทิกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยถารทฺธปฺปกรณสฺส อตฺถสรีรภูตมภิธมฺมํ สงฺเขปโต อุทฺทิสนฺโต อาห ‘‘จิตฺตํ เจตสิก’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จิตฺตสทฺทสฺส ตาว วจนตฺถํ สยเมว อนนฺตรํ วิปฺเจติ. ‘‘เจตสิก’’นฺติอาทีสุ ปน อวิปฺปโยคีภาเวน เจตสิ จิตฺเต นิยุตฺตํ, ตตฺถ วา ภวํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ เจตสิกํ, เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺเสตํ อธิวจนํ. รุปฺปติ, รูปียตีติ วา รูปํ, สีตุณฺหาทีหิ วิการมาปชฺชติ, อาปาทียตีติ อตฺโถ, จตุนฺนํ มหาภูตานํ, จตุวีสติอุปาทารูปานฺจ วเสน อฏฺวีสติวิธสฺส รูปกฺขนฺธสฺเสตํ อธิวจนํ. ภวาภวํ วินนโต สํสิพฺพนโต วานํ วุจฺจติ ตณฺหา, น วิชฺชติ สา เอตฺถ, ตโต วา นิกฺขนฺตํ เอตนฺติ นิพฺพานํ, อมตํ อสงฺขตํ วตฺถุ. อิติ-สทฺโท นิทสฺสเน. นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตริตโรติ นิรุตฺตโร. อถ วา จตุเวสารชฺชวิหารตฺตา นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตรํ ปจฺจนีกวจนนฺติ นิรุตฺตโร. าณปฺปหานอนฺตรายนิยฺยานิเกสุ หิ สเทวเก โลเก น โกจิ สตฺถุ สหธมฺมิกํ อุตฺตรํ วจนํ กเถตุํ สมตฺโถ อตฺถีติ. ตตฺร ภควา อุตฺราสาภาวโต วิสารโทว โหติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, สาริปุตฺต, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.

‘‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณาติ ตตฺร วต มํ…เป… วิหรามิ.

‘‘เย จ โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายาติ ตตฺร วต มํ…เป… วิหรามิ.

‘‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ ตตฺร วต มํ…เป… วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๐).

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปกาเสตีติ จตุสจฺจปฺปกาสโน. ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺควเสน หิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห, ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๓). ตตฺถ เตภูมกา ธมฺมา อเนกุปทฺทวาธิฏฺานตาย ธุวสุภาทิวิรเหน, กุจฺฉิตตุจฺฉฏฺเน จ ทุกฺขํ นาม. กมฺมาทิวิเสสปจฺจยสมวาเย ทุกฺขุปฺปตฺติการณภาเวน ตณฺหา สมุทโย นาม ‘‘สเมจฺจ อุเทติ ทุกฺขํ อิมสฺมา’’ติ กตฺวา. ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรโธ นิพฺพานํ. ตํ ปน ทุกฺขนิโรธํ อาลมฺพณกรณวเสน คมนโต ปาปุณนโต, ตทธิคมาย ปฏิปทาภาวโต จาติ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ โลกุตฺตรมคฺโค วุจฺจติ. สจฺจฏฺโ ปน เตสํ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาวโต เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺหิ ‘‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. เอตฺถ ปน จตุนฺนํ อริยผลานํ, อริยมคฺคสมฺปยุตฺตานฺจ สจฺจวินิสฺสฏภาเวปิ อิธ มคฺคนิพฺพานปฺปกาสนตาวจเนเนว ตปฺปกาสนตฺถมฺปิ วุตฺตํ โหติ, อนาสวภาเวน เอกลกฺขณตฺตา ตํตํเหตุกวิสยภาวโต จาติ ทฏฺพฺพํ.

เอตฺถ จ ‘‘นิรุตฺตโร จตุสจฺจปฺปกาสโน’’ติ อิเมหิ ภควโต จิตฺตาทิจตุพฺพิธธมฺมเทสนานุกูลคุณวิเสสํ ทสฺเสติ อตถาวิธสฺส ตํเทสนาสามตฺถิยาโยคโต. อถ วา ‘‘นิรุตฺตโร’’ติ วจเนน จตุพฺพิธธมฺมสฺส อนฺถตฺตํ ทีเปติ. ‘‘จตุสจฺจปฺปกาสโน’’ติ ปน อิมินา เย เต ธมฺมา ภควตา วิเนยฺยปริปาจนตฺถํ เทสิตา, น เต อิธ อธิปฺเปตา. เย ปน ปริปาจิเตหิ เตหิ อภิสเมตพฺพวเสน ทุกฺขาทโย จตุพฺพิธา วุตฺตา, เตเยว อุทฺทิสิตพฺพตฺเถน อธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ.

เอวํ สงฺเขปโต จตฺตาโร ธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา อิทานิ อุทฺเทโส นาม นิทฺเทสตฺถาย โหตีติ ยถาอุทฺทิฏฺธมฺเม นิทฺทิสิตุํ ‘‘ตตฺถ จิตฺต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ จิตฺตาทีสุ ธมฺเมสุ. วิสยวิชานนํ จิตฺตนฺติ ยํ วิสยสงฺขาตสฺส อารมฺมณสฺส วิชานนํ อุปลทฺธิ, ตํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. อิมินา ปน จิตฺตสฺส อารมฺมณปฏิพทฺธวุตฺติตํ, อนิจฺจตํ, อการกตฺจ ทีเปติ. ‘‘วิสยวิชานน’’นฺติ หิ อารมฺมเณน จิตฺตํ อุปลกฺเขนฺโต ตสฺส ตทายตฺตวุตฺติตํ, ตํทีปเนน จ ตทภิมุขกาเลเยว อุปฺปตฺติทีปนโต อนิจฺจภาวฺจ ทีเปติ. ภาวนิทฺเทเสน ปน วิชานนมตฺตทีปนโต อการกภาวํ. ยถาปจฺจยฺหิ ปวตฺติมตฺตเมเวตํ, ยทิทํ สภาวธมฺโม นามาติ. เอวฺจ กตฺวา สพฺเพสมฺปิ จิตฺตเจตสิกธมฺมานํ ภาวสาธนเมว นิปฺปริยายโต ลพฺภติ. ยํ ปน ‘‘จินฺเตตีติ จิตฺตํ, เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร’’ติอาทินา กตฺตุกรณวเสน นิพฺพจนํ วุจฺจติ, ตํ ปริยายกถนนฺติ เวทิตพฺพํ. สกสกกิจฺเจสุ หิ ธมฺมานํ อตฺตปฺปธานตาสมาโรปเนน กตฺตุภาโว, ตทนุกูลภาเวน ตํสมฺปยุตฺตธมฺมสมูเห กตฺตุภาวสมาโรปเนน กรณตฺตฺจ ปริยายโตว ลพฺภตีติ. ตถา นิทสฺสนํ ปน ธมฺมสภาวโต อฺสฺส กตฺตาทิโน อภาวปริทีปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘วิสยวิชานน’’นฺติ จ เอเตน จิตฺตสฺส อารมฺมณูปลทฺธิลกฺขณตา วุตฺตาติ อิทานิสฺส รสาทีนิ วุจฺจนฺติ. ปุพฺพงฺคมรสฺหิ จิตฺตํ สนฺธานปจฺจุปฏฺานํ นามรูปปทฏฺานํ. ทฺวารํ ปตฺวา ตทารมฺมณฺหิ วิภาวนฏฺเน จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ. ตถา หิ จกฺขุทฺวาเรน ทฏฺพฺพํ รูปารมฺมณํ จิตฺเตเนว ชานาติ…เป… มโนทฺวาเรน วิฺาตพฺพํ ธมฺมารมฺมณํ จิตฺเตเนว ชานาติ. ยถา หิ นครคุตฺติโก นครมชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสีทิตฺวา ‘‘อยํ เนวาสิโก, อยํ อาคนฺตุโก’’ติ อาคตาคตํ ชนํ อุปธาเรติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา ทฺวารํ ปตฺวา ตทารมฺมณํ วิภาวนฏฺเน ปุเรจาริกนฺติ ปุพฺพงฺคมรสํ. ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปฺปชฺชมานํ ปุริมํ ปุริมํ นิรนฺตรํ กตฺวา สนฺทหมานมิว อุปฏฺาติ, คหณภาวํ คจฺฉตีติ สนฺธานปจฺจุปฏฺานํ. ปฺจโวกาเร ปนสฺส นิยมโต นามรูปํ, จตุโวการภเว นามเมว ปทฏฺานนฺติ นามรูปปทฏฺานฺจ โหติ. นานตฺตํ ปน ลกฺขณาทีนํ อุปริ วกฺขมานนเยน เวทิตพฺพํ. วกฺขติ หิ รูปปริจฺเฉเท

‘‘สามฺํ วา สภาโว วา, ธมฺมานํ ลกฺขณํ มตํ;

กิจฺจํ วา ตสฺส สมฺปตฺติ, รโสติ ปริทีปิโต.

‘‘ผลํ วา ปจฺจุปฏฺานํ, อุปฏฺานนโยปิ วา;

อาสนฺนการณํ ยํ ตุ, ตํ ปทฏฺานสฺิต’’นฺติ. (อภิธ. ๖๓๓-๖๓๔);

ยตฺถ ยตฺถ ปน ลกฺขณาทีนิ วุจฺจนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อิมินาว นเยน เตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

วจนตฺถวิชานเนน วิทิตจิตฺตสามฺสฺส อุตฺตริ จิตฺตวิภาโค วุจฺจมาโน โสเภยฺยาติ วจนตฺถวิชานนเมว ตาว อาทิมฺหิ ยุตฺตตรนฺติ ตํ ตาว กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉติ ‘‘ตสฺส ปน โก วจนตฺโถ’’ติ. ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา – (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๔๔๙; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐) อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตตฺถ ยํ อฺาตํ อทิฏฺํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ปฺหากรณํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา นาม. ยํ ปน าตํ ทิฏฺํ, ตสฺส อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหากรณํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา นาม. ปกติยา ปน สํสยปกฺขนฺทนสฺส อตฺตโน สํสยสมุคฺฆาฏนตฺถํ ปฺหากรณํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา นาม. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ? อนิจฺจํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๗๙; มหาว. ๒๑) อนุมติคฺคหณตฺถํ ปฺหากรณํ อนุมติปุจฺฉา นาม. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๓; สํ. นิ. ๕.๔๐๒-๔๐๔) ปน ตํตํธมฺมานํ เทสนาธิปฺปาเยน ปฺหากรณํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา นาม.

ตาสุ ปุริมา ติสฺโส อาจริยานํ น สมฺภวนฺติ. น หิ เต คนฺถกรณตฺถาย อารภิตฺวา อิทานิ อทิฏฺํ โชเตนฺติ, ทิฏฺํ สํสนฺเทนฺติ, สํสยํ วา ปกฺขนฺทนฺติ ตพฺพิโสธนปุพฺพกเมว คนฺถกรเณ อภินิเวสนโต. อิตรา ปน ทฺเว สมฺภวนฺติ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อปิจ โจทนํ สมุฏฺาเปนฺตา อาจริยา อฺํ โจทกํ ปริกปฺเปตฺวา ตสฺส วจนวเสน สมุฏฺาเปนฺตีติ ตํวเสเนตฺถ อทิฏฺโชตนาวิมติจฺเฉทนาปุจฺฉาปิ ลพฺภนฺเตวาติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺสาติ ตสฺส จิตฺต-สทฺทสฺส. จิตฺเต หิ อธิคเต ตสฺส วาจโก สทฺโทปิ สหจริยโต อธิคโตว โหตีติ ตสฺส อิธ ต-สทฺเทน ปริคฺคโห. เกจิ ปน ‘‘ตสฺส จิตฺตสฺสา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ ‘‘ตสฺส โก วจนตฺโถ’’ติ อิมินา น สเมติ. น หิ จิตฺตสฺส ‘‘โก วจนตฺโถ’’ติ ปุจฺฉา สมฺภวตีติ.

อิทานิ ยถาปุจฺฉิตมตฺถํ วิสฺสชฺเชตุํ ‘‘วุจฺจเต’’ติ ตาว ปฏิฺํ กตฺวา ‘‘สพฺพสงฺคาหกวเสนา’’ติอาทินา วิสฺสชฺชนมารทฺธํ. ตตฺถ สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ เหฏฺิมนฺตโต จกฺขุวิฺาณาทโย อุปาทาย สพฺเพสํ อารมฺมณวิชานนสภาวตฺตา เตสํ สพฺเพสเมว สงฺคาหกวเสน, น ปน วกฺขมานนิพฺพจเนสุ วิย ยถาลาภวเสนาติ อตฺโถ. จินฺเตตีติ วิชานาติ. จินฺเตนฺติ เตน โคจรนฺติ วา จิตฺตํ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ กตฺตุตาสมาโรปเนน หิสฺส กรณภาโว ลพฺภติ. สพฺพสงฺคาหกวเสน ตาว อตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยถาลาภวเสนปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตสนฺตานํ วา จิโนตีติปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพจิตฺตสาธารณตฺตา หิ จิตฺต-สทฺทสฺส ยตฺถ ยตฺถ ยถา ยถา อตฺโถ ลพฺภติ, ตตฺถ ตตฺถ ตถา ตถา คเหตพฺโพ. ยสฺส ปน จิตฺตสฺส ยถาวุตฺตอตฺถวิเสโส น ลพฺภติ, ตํ รุฬฺหีวเสน จิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา กิลฺชาทีหิ กตมฺปิ ตาลปณฺเณหิ กตสริกฺขกตาย รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘ตาลวณฺฏ’’นฺตฺเวว วุจฺจตีติ. อตฺตสนฺตานนฺติ สกสนฺตานํ, ชวนสนฺตานนฺติ อตฺโถ. อตฺต-สทฺทสฺส หิ ปรปจฺจนีกวจนตฺตา อตฺตโน สนฺตาโนติ สทิสวเสน อุปฺปชฺชมาโน ชวนสนฺตาโน วุจฺจติ. ตํ จิโนติ ราสึ กโรตีติ อยมตฺโถ สาเสวนกานํ ชวนจิตฺตานํ วเสน ทฏฺพฺโพ. ตานิ หิ ปุเรชาตานิ ปจฺฉาชาตานํ อาเสวนปจฺจยา หุตฺวา อตฺตโน ชวนสนฺตานสฺส ปคุณพลวภาวกรเณน ตํ จินนฺติ นาม. วา-สทฺโท อสพฺพสงฺคาหกตฺถวิกปฺปเน. ปิ-สทฺโท กิริยาสมฺปิณฺฑนตฺเถ. อถ วา ‘‘สพฺพสงฺคาหกวเสนา’’ติ อิมสฺส อิธาปิ สมฺพนฺโธ โหตีติ อิทมฺปิ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตนฺติ คยฺหมาเน อตฺตสนฺตานนฺติ วิฺาณวจนสฺส อตฺต-สทฺทสฺส สกตฺถวุตฺติตฺตาเยว ตํวเสน จิตฺตสนฺตานนฺติ อตฺโถ. อนนฺตราทิปจฺจยวเสน หิ จิตฺตสนฺตานสฺส อพฺโพจฺฉินฺนปฺปวตฺติกรณโต สพฺพเมว จิตฺตชาตํ จิตฺตสนฺตานํ จิโนติ นาม. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วา-สทฺโท กิริยาวิกปฺปนตฺโถ. ปิ-สทฺโท ‘‘จิตฺต’’นฺติ อิมสฺส อากฑฺฒนตฺโถติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมปกฺเข ปน จิตฺตนฺติ อธิการโตว คเหตพฺพํ.

. วิจิตฺตํ กโรติ, วิจิตฺตสฺส วา กรณนฺติ วิจิตฺตกรณํ, ตโต วิจิตฺตกรณา, วิจิตฺตจิตฺตกมฺมาทีนํ กรณโตติ อตฺโถ. โลกสฺมิฺหิ ยํ กิฺจิ จิตฺตกมฺมาทิเภทํ วิจิตฺตํ สิปฺปชาตํ, สพฺพํ ตํ จิตฺเตเนว จินฺเตตฺวา กรียตีติ. เตนาห ภควา – ‘‘ทิฏฺํ โว, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตนฺติ? เอวํ, ภนฺเต. ตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, จรณํ นาม จิตฺตํ จิตฺเตเนว จินฺติต’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐). สฺวายมตฺโถ สวิฺตฺติกานํ พาตฺตึสจิตฺตานมุปลพฺภติ. สาสวกุสลากุสลํ วา วิจิตฺตคติอาทิกรณโต วา วิจิตฺตกรณฏฺเน จิตฺตํ. นนุ จ วิจิตฺตคติอาทโย กมฺมวเสน นิปฺผชฺชนฺติ. ยถาห –

‘‘กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ คติยา นานากรณํ ปฺายติ อปทา ทฺวิปทา จตุปฺปทา พหุปฺปทา รูปิโน อรูปิโน สฺิโน อสฺิโน เนวสฺีนาสฺิโน, กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อุปปตฺติยา นานากรณํ ปฺายติ อุจฺจนีจตา หีนปณีตตา สุคตทุคฺคตตา, กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ อตฺตภาเว นานากรณํ ปฺายติ สุวณฺณทุพฺพณฺณตา สุชาตทุชฺชาตตา สุสณฺิตทุสฺสณฺิตตา, กมฺมนานากรณํ ปฏิจฺจ สตฺตานํ โลกธมฺเม นานากรณํ ปฺายติ ลาภาลาเภ ยสายเส นินฺทาปสํสายํ สุขทุกฺเข’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑).

ตสฺมา กมฺมเภทนิพฺพตฺตตฺตา คติอาทีนํ จิตฺตตา. กมฺมนฺติ จ เจตสิกธมฺมภูตา เจตนา, อภิชฺฌาทโย จ วุจฺจนฺติ, น จิตฺตนฺติ. กถํ จิตฺตสฺส วิจิตฺตคติอาทิกรณนฺติ? วุจฺจเต – กมฺมสฺส จิตฺตสนฺนิสฺสิตตฺตา ตนฺนิปฺผาทิตมฺปิ จิตฺเตเนว กตํ โหติ, ยถา ราชโยเธน ปราชิโต สตฺตุรฺา ชิโตติ วุจฺจติ. วิจิตฺตํ กรณมสฺสาติ วา วิจิตฺตกรณํ. ตโต เอกฏฺานิกวชฺชิตฺหิ จิตฺตํ ปจฺเจกํ ปฏิสนฺธาทิวิจิตฺตกิริยวนฺตตาย, สพฺพเมว วา จิตฺตํ อาวชฺชนาทิอฺมฺวิสทิสกิริยวนฺตตาย วิจิตฺตกรณํ ยุตฺตนฺติ. สพฺพวิกปฺเปสุปิ ‘‘รูปภโว รูป’’นฺติอาทีสุ วิย อุตฺตรปทโลโป จิตฺตปริยาเยน จ วิจิตฺต-สทฺเทน วา วิคฺคโห วิ-สทฺทโลโป วา ทฏฺพฺโพ. อถ วา ‘‘วิจิตฺตกรณา’’ติ อิทํ จิตฺตวิจิตฺตภาวสฺส าปกเหตุนิทสฺสนํ. เตน ยสฺมา อิทํ วิจิตฺตกรณํ, ตสฺมา ตสฺส วิจิตฺตสฺส นิปฺผาทกํ สยมฺปิ ตเถว วิจิตฺตนฺติ วิฺาตพฺพนฺติ เอวํ กรณวิจิตฺตตาย วิจิตฺตตฺตา จิตฺตนฺติ อตฺโถ. เปตฺวา ตํ กรณวิจิตฺตตาย วิจิตฺตภาวํ อตฺตโน เอว ชาติภูมิสมฺปโยคาทิวเสน วิจิตฺตตาย จิตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺตโน จิตฺตตาย วา’’ติ. ตตฺถ ยสฺมา อฺเทว กุสลํ, อฺํ อกุสลํ, อฺํ อพฺยากตํ, อฺํ กามาวจรํ, อฺํ รูปาวจราทิเภทํ, อฺํ สราคํ, อฺํ วีตราคํ, อฺํ สโทสํ, อฺํ วีตโทสํ, อฺํ สโมหํ, อฺํ วีตโมหํ, อฺํ รูปารมฺมณํ, อฺํ สทฺทาทิอารมฺมณํ, รูปารมฺมเณสุ จ อฺํ นีลารมฺมณํ, อฺํ ปีตาทิอารมฺมณํ. เอวํ สทฺทารมฺมณาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ. สพฺเพสุ เจว เตสุ อฺํ หีนํ, อฺํ มชฺฌิมํ, อฺํ ปณีตํ, หีนาทีสุ จ อฺํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ, อฺํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีริยาธิปเตยฺยํ, อฺํ วีมํสาธิปเตยฺยนฺติ เอวมาทินา ชาติภูมิสมฺปยุตฺตอารมฺมณหีนมชฺฌิมปณีตอธิปติอาทีนํ วเสน วิจิตฺตมเนกปฺปการํ, ตสฺมา อิมาย อตฺตวิจิตฺตตาย วา จิตฺตนฺติ วุจฺจตีติ.

กามฺเจตฺถ เอกเมว จิตฺตํ เอวํ วิจิตฺตํ นาม น โหติ, วิจิตฺตานํ ปน อนฺโตคธตฺตา เอเตสุ ยํ กิฺจิ เอกมฺปิ วิจิตฺตตาย จิตฺตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ สมุทายโวหาเรน อวยวสฺสาปิ โวหริยมานตฺตา ยถา ปพฺพตนทีสมุทฺทาทีนเมกเทสา ทิฏฺา ปพฺพตาทโย ทิฏฺาติ, ยถา จ เอเกกจิตฺตสมฺปยุตฺตาปิ เวทนาทโย ราสฏฺเน ขนฺธโวหาเรน ‘‘เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ’’ติอาทินา วุจฺจนฺติ. อปิเจตฺถ วิปากวิฺาณํ กมฺมกิเลเสหิ จิตนฺติ จิตฺตํ, ตํ กิเลสสหาเยน กมฺมุนา ผลภาเวน นิพฺพตฺติตํ เตหิ จิตํ นาม โหติ. โหตุ ตาวิทํ โลกิยวิปากํ สนฺธาย, โลกุตฺตรํ ปน ปตฺวา กถนฺติ? วุจฺจเต – ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา, ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ…เป… ตสฺมึ สมเย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา อริยมคฺคเจตนายปิ อวิชฺชูปนิสฺสยภาวสฺส ปกาสิตตฺตา โลกุตฺตรกุสลสฺสาปิ อนุสยา อุปนิสฺสยา โหนฺตีติ ตนฺนิพฺพตฺติตสฺส วิปากสฺส กมฺมกิเลสสฺจิตตาปริยาโย ลพฺภตีติ. จิตํ ตายตีติ วา จิตฺตํ. กมฺมาทิสฺจิโตปิ หิ อตฺตภาโว วิฺาณูปรเม มโตติ วุจฺจติ. ยถาห –

‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติมํ;

อปฺปวิทฺโธ ตทา เสติ, นิรตฺถํว กลิงฺคร’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);

โส ปนายํ จิตฺต-สทฺโท กิฺจาปิ อเนกตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘จิตฺโต จ คหปตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๒.๑๓๓; ๔.๑๗๖) ปฺตฺติยํ อาคโต. ‘‘สพฺโพ โลโก ปรจิตฺเตน อจิตฺโต’’ติอาทีสุ วิฺาเณ. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ, เอวํ จิตฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐) วิจิตฺเต, นานปฺปกาเรติ อตฺโถ. ‘‘จรณํ นาม จิตฺต’’นฺติอาทีสุ จิตฺตกมฺมเก. อิธ ปน จตุพฺพิธธมฺเม นิทฺเทสโต ปกรณวเสน ยถาวุตฺตวจนตฺถยุตฺโต วิฺาณวจโนว ทฏฺพฺโพติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปฺตฺติยมฺปี’’ติอาทิ. ปฺาปียติ เอตายาติ ปฺตฺติ, ตสฺสํ นามปฺตฺติยนฺติ อตฺโถ. จิตฺโตติ หิ เอกสฺส คหปติโน นามํ. ปิ-สทฺโท วกฺขมานสมฺปิณฺฑนตฺโถ. วิฺาเณติ สวิปากาวิปากเภเท จิตฺเต. ตฺหิ วิชานนฏฺเน ‘‘วิฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘วิชานาตีติ โข, ภิกฺขเว, วิฺาณํ, ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจตี’’ติ. จิตฺตสมฺมุตีติ จิตฺตโวหาโร. ทฏฺพฺพาติ วิฺาตพฺพา. อิธาติ อิมสฺมึ จตุพฺพิธธมฺมนิทฺเทสฏฺาเน. วิฺุนาติ วิชานตา, อาภิธมฺมิเกนาติ อตฺโถ.

วิภาควนฺตานํ ธมฺมานํ สภาววิภาวนํ วิภาเคน วินา น โหตีติ จิตฺตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สารมฺมณโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อาลมฺพนฺติ ตํ นิสฺสาย ปวตฺตนฺตีติ อารมฺมณํ, ปจฺจโย, โคจโร จ. ตถา หิ ‘‘ลภติ มาโร อารมฺมณํ, ลภติ มาโร โอตาร’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๘๐) ปจฺจโย ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙) โคจโร. อิธ ปน อุภยมฺปิ วฏฺฏติ สพฺพสฺเสว จิตฺตสฺส สปฺปจฺจยสโคจรตฺตา. สห อารมฺมเณน วตฺตติ ตทวินาภาวโตติ สารมฺมณํ. ภาวปฺปธานนิทฺเทสวเสน เจตฺถ สารมฺมณภาโว สารมฺมณ-สทฺเทน วุตฺโต ยถา ‘‘อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ (ขุ. ปา. ๖.๓). จกฺขุ สุฺํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๘๕) รตนอตฺตตฺตนิยาทิภาโว รตนาทีหิ สทฺเทหีติ, ตโต สารมฺมณภาวโตติ อตฺโถ. เอวมฺตฺถาปิ ยถานุรูปํ ทฏฺพฺพํ. เอกวิธนฺติ เอกปฺปการํ, เอกโกฏฺาสนฺติ อตฺโถ.

สวิปากาวิปากโตติ วิปากุปฺปาทนสภาวสฺส วิชฺชมานาวิชฺชมานภาวโต. วิปาก-สทฺโท หิ ทฺวีสุ อตฺเถสุ ปวตฺตติ. กตฺถจิ วิปกฺกภาวมาปนฺเนสุ อรูปธมฺเมสุ, กตฺถจิ วิปากุปฺปาทนสภาเว. ตถา เหส ‘‘วิปากา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๓) วิปกฺกภาวมาปนฺเนสุ อรูปธมฺเมสุ ปวตฺตติ. ‘‘วิปากธมฺมธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๓) วิปากุปฺปาทนสภาเว. อิธ ปน วิปากุปฺปาทนสภาโว ทฏฺพฺโพ. อิตรถา หิ อภิฺากุสลาทีนํ สวิปาก-ปเท อสงฺคหิตภาวาปตฺติ สิยา. ตถา หิ ยทิ วิปกฺกภาวมาปนฺนา เอว ธมฺมา อิธ คหิตา สิยุํ, เต ยสฺส สนฺติ, ตํ สวิปากมิตรมวิปากนฺติ อภิฺากุสลสฺส เจว กทาจิ อวิปากสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิกมฺมสฺส ภาวนายปหาตพฺพากุสลสฺส จ วิปากุปฺปตฺติยา อภาวโต อวิปาก-ปทสงฺคโห สิยา, เอวฺจ สติ ‘‘อวิปากํ อพฺยากต’’นฺติ วกฺขมานตฺตา เนสํ อพฺยากตภาโว อาปชฺชติ, น เจตมิฏฺํ กุสลากุสลนิทฺเทเสเยว เตสํ นิทฺเทสโต. วิปากุปฺปาทนสภาเว ปน คหิเต ตํสภาโว นาม อนุปจฺฉินฺนาวิชฺชมานตณฺหานุสยสฺมึ สนฺตาเน สพฺยาปารปฺปวตฺติ เอวาติ ตสฺสา เตสุปิ อตฺถิตาย อสติปิ วิปากุปฺปาทเน สวิปาก-ปทสงฺคโห สิทฺโธติ น โกจิ อิฏฺวิฆาโต อาปชฺชติ. เยน ปน การเณน อภิฺากุสลาทิกมวิปากํ, โย เจตฺถ วตฺตพฺโพ วินิจฺฉโย, ตํ สพฺพํ ตสฺส ตสฺส อาคตฏฺาเนเยว ทสฺสยิสฺสาม.

กตมํ ปเนตฺถ สวิปากํ, กตมมวิปากนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ สวิปาก’’นฺติอาทิ. อพฺยากตนฺติ วิปากกิริยาวเสน ทุวิธมพฺยากตํ. เตสุ วิปากจิตฺตํ ตาว อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ วิย นิรุสฺสาหตฺตา วิปากุปฺปาทเน อสมตฺถํ. กิริยจิตฺเตสุ จ ยเทตํ ขีณาสวสนฺตาเนเยว นิยตมฏฺารสวิธํ วิฺาณํ, ตํ อุปจฺฉินฺนภวมูลาย สนฺตติยํ ปวตฺตตีติ สมุจฺฉินฺนมูลาย ลตาย ปุปฺผํ วิย ผลทายี น โหติ. อาวชฺชนทฺวยํ ปน อนุปจฺฉินฺนภวมูเลปิ สนฺตาเน ปวตฺตมานํ อนาเสวนภาเวน ทุพฺพลตฺตา โมฆปุปฺผมิว พีชภาเว อสมตฺถํ อผลเมว. อิติ สพฺพเมตํ อพฺยากตํ วิปาการหตาภาวโต อวิปากนฺติ วุตฺตํ ‘‘อวิปากํ อพฺยากต’’นฺติ. ชายนฺติ เอตฺถ อสทิสาปิ สทิสาการาติ ชาติ, สมานากาโร, กุสลากุสลาพฺยากตานํ ชาติ กุสลากุสลาพฺยากตชาติ, ตสฺสา เภทโต ติวิธํ กุสลํ อกุสลํ อพฺยากตนฺติ. วจนตฺถปุจฺฉาย ปโยชนํ วุตฺตเมว.

๑๐. ‘‘กุจฺฉิตาน’’นฺติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ กุจฺฉิตานนฺติ นินฺทิตานํ, อสุจิ วิย นาคริเกหิ วิฺูหิ ครหิตพฺพานํ ปาปธมฺมานนฺติ อตฺโถ. สลนโตติ หึสนโต, อปนยนโต วา. กุสลฺหิ ยถานุรูปํ ตทงฺคาทิวเสน อกุสลธมฺเม ปชหนฺตํ เต หึสติ, อปนยตีติ วา วุจฺจติ. อถ วา สลนโต สํวรณโต, ปิทหนโตติ อตฺโถ. กุสลธมฺมวเสน หิ อกุสลปฺปวตฺตินิวารเณน, อปฺปวตฺติธมฺมตาปาทเนน จ มนจฺฉฏฺเสุ ทฺวาเรสุ อปฺปวตฺติยา สํวุตา ปิหิตา โหนฺติ. กุสานนฺติ ราคาทิอสุจิสมฺปโยเคน นานาวิธทุกฺขเหตุตาย จ กุจฺฉิเตนากาเรน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน สยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ กุสา, ปาปธมฺมา. อถ วา กุจฺฉิตานํ ปาณาติปาตาทีนํ สาวชฺชธมฺมานํ สานโต นิสานโต เตชนโต กุสา, โทสโลภาทโย. โทสาทีนฺหิ วเสน เจตนาย ติกฺขภาวปฺปตฺติยา ปาณาติปาตาทีนํ มหาสาวชฺชตาติ. เตสํ ลวเนน ฉินฺทเนน ยถานุรูปํ ปชหเนนาติ อตฺโถ. กุเสนาติ กุจฺฉิตานํ สานโต ตนุกรณโต, โอสานกรณโต วา ‘‘กุสา’’ติ ลทฺธนาเมน าเณน. ลาตพฺพตฺตาติ อาทาตพฺพตฺตา, สหชาตอุปนิสฺสยภาเวน สนฺตาเน ปวตฺเตตพฺพตฺตา. าณฺหิ ติเหตุกกุสลํ สหชาตภาเวน เจว อุปนิสฺสยภาเวน จ, ทุเหตุกกุสลํ อุปนิสฺสยภาเวเนว สนฺตาเน ปวตฺเตติ. เอวฺจ กตฺวา โกสลฺลสมฺภูตฏฺโ กุสลฏฺโติ สพฺพกุสลานํ สาธารณวเสน อตฺโถ วุจฺจติ. อถ วา กุเสนาติ ชาติสทฺทตาย เอกวจนนิทฺเทโส, กุเสหีติ ปน อตฺโถ. ปุฺกิริยาวเสน หิ ปวตฺตานิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ยถาวุตฺตนเยน ‘‘กุสานี’’ติ วุจฺจนฺติ, เตหิ ลาตพฺพตฺตา วุตฺตนเยน ปวตฺเตตพฺพตฺตา. อปิเจตฺถ –

‘‘กุโส วิย ลุนาตีติ, กุสา วิย ลุนาติ วา;

กุสลํ กุํ สเลตีติ, ลุนาติ กุสมิจฺจปี’’ติ.

ตตฺถ ยถา กุโส คหิโต อุภยภาคคตํ หตฺถปเทสํ ลุนาติ, เอวมิทมฺปิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนวเสน อุภยภาคคตํ กิเลสปกฺขํ ลุนาติ ฉินฺทติ, เสยฺยถาปิ – ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ, วายมติ, อุปฺปนฺนานํ…เป… ปหานายา’’ติ อาคตํ สมฺมปฺปธานํ. ตสฺมา กุโส วิย ลุนาตีติ กุสลํ. กุสา วิย ลุนาตีติ เอตฺถ ‘‘กุ’’อิติ ภูมิ วุจฺจติ, ธมฺมานํ อธิฏฺานภาเวน ตํสทิสตาย อิธ รูปารูปกฺขนฺโธ วุตฺโต. อตฺตโน นิสฺสยภูตสฺส ตสฺส เอตรหิ, อายติฺจ อนุทหนโต วินาสนโต กุํ สายนฺตีติ กุสา, ราคาทโย, เต วิย อตฺตโน นิสฺสยํ ลุนาติ ฉินฺทตีติ กุสลํ. ปโยคสมฺปาทิตา หิ กุสลธมฺมา อจฺจนฺตเมว รูปารูปธมฺเม อปฺปวตฺติกรเณน สมุจฺฉินฺทนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปาปนโตติ. วุตฺตนเยน ปน ‘‘กุ’’นฺติ ลทฺธนามสฺส รูปารูปกฺขนฺธสฺส สลนโต อปนยนโต กุํ สเลตีติ กุสลํ. กุสํ ลุนาตีติ ปน กุจฺฉิตา เอตฺถ สยนฺตีติ กุโส, กาโย, ตํ ลุนาติ ยถาวุตฺตวเสเนวาติ กุสลํ.

๑๑. อิทานิ กุสล-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารทสฺสนตฺถมาห ‘‘เฉเก กุสล-สทฺโทย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ (ม. นิ. ๒.๘๗), กุสลานจฺจคีตสฺส, สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๙๔) เฉเก ทิฏฺโ, เฉกปริยาโย ปวีณตฺโถติ อตฺโถ. ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) จ ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) จ เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุฺํ วฑฺฒติ (ที. นิ. ๓.๘๐), กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑) จ อาทีสุ อิฏฺวิปาเก. อนวชฺชาทิเกติ อนวชฺชอิฏฺวิปาเก, ‘‘อนวชฺชาทิเก’’ติ จ อตฺตนา วกฺขมานลกฺขณสฺส อนุรูปตฺตา วุตฺตํ, น ปน อาโรคฺยตฺถสฺส อสมฺภวโต. กิเลสโรคสฺส หิ อภาวโต กุสลํ อาโรคฺยํ โหติ.

วชฺชา ราคาทโย, เต ยสฺส น สนฺติ, ตํ อนวชฺชํ, อิฏฺโ วิปาโก จตุกฺขนฺธสงฺขาโต ยสฺส, ตํ อิฏฺวิปากํ, อิฏฺวิปากตา จสฺส ตํสภาววนฺตตาย ทฏฺพฺพา, น ตสฺส อวสฺสํ อิฏฺวิปากสมฺภวโตเยว, ลกฺขียติ อเนนาติ ลกฺขณํ, อนวชฺชฺจ ตํ อิฏฺวิปากฺจาติ อนวชฺชอิฏฺวิปากํ. ตํ ลกฺขณมสฺสาติ อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณํ.

นนุ จ กุสลเมว อนวชฺชอิฏฺวิปากํ, วุตฺตนิยาเมน ปน อนวชฺชอิฏฺวิปากโต อฺํ กุสลํ สิยา. น หิ สยเมว อตฺตโน ลกฺขณนฺติ สกฺกา วตฺตุนฺติ? นายํ โทโส ปริฺาตาปริฺาตวจนตฺถภาวเภเท เอกสฺสาปิ ลกฺขิตพฺพลกฺขณภาวปริกปฺปนโต. ‘‘อนวชฺชอิฏฺวิปาก’’นฺติ หิ ปริฺาตวจนตฺถํ. ‘‘กุสล’’นฺติ อปริฺาตวจนตฺถํ. เอวฺจ เยน สภาเวน ปริฺาตวจนตฺถสฺส สทฺทสฺส อตฺโถ โหติ, เยน จ อปริฺาตวจนตฺถสฺส, เตสํ ปริฺาตาปริฺาตวจนตฺถสภาวานํ เภเทน ตํสมงฺคิสฺส กุสลสฺส เอกสฺสาปิ เภโท ปริกปฺปียติ ยถา ‘‘ปุเร ภวํ ปฏุ อาสิ, ปฏุตโร เอตรหี’’ติ คุณเภเทน, วตฺถุเภเทน จ ปริกปฺปียติ, ตสฺมา ปริฺาตวจนตฺถภาเวน ลกฺขณํ, อปริฺาตวจนตฺถภาเวน ลกฺขิตพฺพนฺติ เอวํ ปริกปฺปิตเภเท ปริคฺคยฺหมาเน น โกจิ โทโส อาปชฺชติ.

อถ วา ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, อนวชฺชอิฏฺวิปากฺจ ตํ ลกฺขณฺจาติ อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณํ, ยํ อนวชฺชอิฏฺวิปากํ หุตฺวา ลกฺขียติ, ตํ กุสลนฺติ อตฺโถ. อถ วา อนวชฺช-สทฺเทน อนวชฺชภาโว วุตฺโต, อิฏฺวิปากสทฺเทน อิฏฺวิปากภาโว, ตสฺมา อนวชฺโช จ อิฏฺวิปาโก จ อนวชฺชอิฏฺวิปากํ, ตํ ลกฺขณเมตสฺสาติ กรณตฺเถ, กมฺมตฺเถ วา ลกฺขณ-สทฺเทน อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณนฺติ อนวชฺชอิฏฺวิปากสภาววนฺตํ, อนวชฺชอิฏฺวิปากภาเวน ลกฺขิตพฺพํ วาติ อตฺโถ. กึ ปเนตฺถ การณํ ปททฺวยปริคฺคเหน, นนุ เอเกเนว ปเทน อธิปฺเปตตฺถสิทฺธิ สิยา. กิฺจาปิ หิ ‘‘อนวชฺชลกฺขณ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) วิย วชฺชรหิตตฺตา อพฺยากตสฺสาปิ ปสงฺโค สิยาติ อิฏฺวิปาก-ปทํ วตฺตพฺพเมว, ‘‘อิฏฺวิปากลกฺขณ’’นฺติ ปน วุตฺเต อิตรํ น วตฺตพฺพํ อพฺยากตสฺส วิปาการหภาเวน อิฏฺวิปากตาปสงฺคภาวโต? สจฺจเมตํ, อนวชฺช-ปเทน กุสลสฺส ปวตฺติสุขตํ, อิฏฺวิปาก-ปเทน จ วิปากสุขตํ ทสฺเสตุํ ปททฺวยํ วุตฺตํ. อนวชฺชปทฺหิ อตฺตโน ปวตฺติสภาววเสน ลกฺขณวจนํ, อิตรํ กาลนฺตเร วิปากุปฺปาทนสมตฺถตาวเสนาติ. อถ วา กุสลสฺส อตฺถวิสุทฺธึ ทสฺเสตุํ ปุริมปทํ วุตฺตํ, ปริสุทฺธวิปากตํ ทสฺเสตุํ ปจฺฉิมํ. ปุริมํ วา กุสลสฺส อกุสลสภาวโต นิวตฺตนํ, ปจฺฉิมํ อพฺยากตสภาวโตติ อลมติปปฺเจน. เอตฺถ จ ‘‘อนวชฺช…เป… ลกฺขณ’’นฺติ วจเนน กุสลสฺส สามฺลกฺขณํ วุตฺตํ อนวชฺชอิฏฺวิปากสภาวสฺส กุสลชาติยา สาธารณตฺตา. อกุสลาทีนมสาธารณภาเวน สภาวลกฺขณํ วาติ ทฏฺพฺพํ.

อกุสลวิทฺธํสนรสนฺติ ยถานุรูปํ อกุสลปฺปชหนกิจฺจํ. กุสลฺหิ ปริตฺตมหคฺคตโลกุตฺตรเภทภินฺนํ ยถากฺกมํ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อกุสลปกฺขํ ปชหติ. อถ ตทงฺคาทิปฺปหานานํ กึ นานากรณนฺติ? วุจฺจเต – ทานาทิปุฺกิริยวตฺถุคเตน เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส มจฺเฉราทิอกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ, ตํ ทีปาโลเกน อนฺธการวิทฺธํสนํ วิย ทฏฺพฺพํ, กามาวจรกุสลานํ ปริตฺตานุภาวตาย เตหิ อตฺตโน ิติกฺขเณ วิทฺธํสิตานมกุสลานํ ตทปคเม สติ ปุน อาคเมน โวตฺถรณโต. เตสํ เตสํ นีวรณธมฺมานํ วิกฺขมฺภนสงฺขาตํ ปวตฺตินิวารณวเสน ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, ตํ ฆฏปฺปหาเรน ชลตเล เสวาลวิยูหนํ วิย ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ พลวตา ฆฏปฺปหาเรน ทูรีกตํ เสวาลํ ตสฺมึ อปนีเตปิ ตํปหารเวเคน สหสา น โอตฺถรติ, เอวเมว อุปจารปฺปนาเภเทน ฌาเนน วิกฺขมฺภิตา กามจฺฉนฺทาทโย ตทปฺปวตฺติกาเลปิ ตสฺส พเลน สหสา น โอตฺถรนฺตีติ. อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนสงฺขาตํ สมฺมา อุจฺเฉทวเสน ปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ตํ ปน อสนิสมฺปาเตน รุกฺขาทีนํ สมูลวิทฺธํสนํ วิย ทฏฺพฺพํ. น หิ อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺนกิเลสา อนุสยมตฺตเกนาปิ สนฺตาเน ปวตฺตนฺติ. ยถา ปน เอกวารปฺปวตฺเตนปิ อินฺทคฺคินา สห มูเลหิ วิทฺธํสิตา รุกฺขาทโย น ปุน วิรุหนฺติ, เอวเมวํ เอกจิตฺตกฺขณิเกนปิ เตน อตฺตโน อุปฺปาทมตฺเตเนว อนุสยมตฺตฏฺายิโนปิ กิเลสา สพฺเพน สพฺพํ วิทฺธํสิตาเยว โหนฺติ.

โวทานํ วิสุทฺธิ, สํกิเลสมลวิมุตฺตีติ อตฺโถ, ตถา หุตฺวา ปจฺจุปฏฺานมสฺสาติ โวทานปจฺจุปฏฺานํ, ปริสุทฺธากาเรน โยคิโน าณสฺส อุปฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ กุสลสฺส วชฺชรหิตอิฏฺวิปากสภาเวหิ ลกฺขณํ, กิจฺจอุปฏฺานาการวเสน จ รสปจฺจุปฏฺานานิ วตฺวา ปุน วชฺชปฏิปกฺขภาววเสน จ ลกฺขณํ, สมฺปตฺติผลวเสน จ รสาทิกํ ทสฺเสตุํ ‘‘วชฺชปฏิปกฺขตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วชฺชานํ ปฏิปกฺขภาโว วชฺชปฏิปกฺขตฺตํ, ตโต. เอเตน ‘‘อนวชฺชลกฺขณ’’นฺติ เอตฺถ อ-กาโร ปฏิปกฺขตฺโถติ ทสฺเสติ, เตน ปนสฺส อพฺยากตโต นิวตฺตนํ กตํ. อิตรถา หิ นาสฺส วชฺชํ, วชฺชโต อฺํ วา อนวชฺชนฺติ อพฺยากตสฺสาปิ ตํลกฺขณตาปสงฺโค สิยา. ‘‘วชฺชปฏิปกฺขตฺตา’’ติ ปน วุตฺเต ยสฺมา กุสลากุสลานเมว ปหายกปฺปหาตพฺพภาเวน อาโลกนฺธการานํ วิย อฺมฺํ อุชุวิปจฺจนีกภาโว, ตสฺมา กุสลเมว วชฺชปฏิปกฺขตฺตา อนวชฺชลกฺขณํ, น อฺนฺติ อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ. โวทานภาวรสนฺติ โวทานภาวสมฺปตฺติกํ, กิเลสมเลหิ อสํกิลิฏฺภาเวน สมฺปชฺชนกนฺติ อตฺโถ. ปจฺจุปฏฺาปียติ อุปนียติ การเณน, อตฺตโน วา การณํ ปฏิจฺจ, ตปฺปฏิพทฺธภาเวน ปฏิมุขํ วา อุปฏฺาตีติ ปจฺจุปฏฺานํ, อิฏฺโ วิปาโก ปจฺจุปฏฺานมสฺสาติ อิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ.

อสติ โยนิโสมนสิกาเร กุสลสฺส อนุปฺปชฺชนโต, สติ จ ตสฺมึ อุปฺปชฺชนโต ตสฺส โส อาสนฺนการณนฺติ อาห ‘‘โยนิโสมนสิการปทฏฺาน’’นฺติ. ตตฺถ โยนิโส ปเถน อุปาเยน มนสิกาโร โยนิโสมนสิกาโร, อตฺถโต ปน สานุสยสนฺตานวโต ฉนฺนํ ทฺวารานมาปาถคเตสฺวารมฺมเณสุ ปติรูปเทสวาสาทิสมฺปตฺติยา กุสลธมฺมานํ ปจฺจยภาเวน ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา อุปฺปนฺนมาวชฺชนํ โยนิโสมนสิกาโร นาม. วุตฺตปฏิปกฺขวเสน อโยนิโสมนสิกาโรปิ ทฏฺพฺโพ. ยํ ปน นิรนุสยสนฺตานสมงฺคิสฺส กิริยจิตฺตานํ ปจฺจยภาเวน อุปฺปนฺนํ, ตํ เปตฺวา นิรวชฺชธมฺมํ สาวชฺชธมฺมสฺส กสฺสจิ ปจฺจยภาวานุปคมนโต โยนิโสมนสิการปกฺขํ วา ภเชยฺย. ขีณาสวสนฺตานคตตฺตา โยนิโสอโยนิโสภาวมนเปกฺขิตฺวา อาปาถคตารมฺมเณสุ อุปฺปตฺติมตฺตํ วินา น กสฺสจิ กุสลากุสลภาวสฺส ปจฺจโย โหตีติ ตทุภยวเสน นวตฺตพฺพตฺตา อพฺยากตมนสิกาโรติ วา สงฺขํ คจฺเฉยฺยาติ.

สาวชฺชานิฏฺวิปากลกฺขณมกุสลนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘วชฺชา ราคาทโย, เต ยสฺส สนฺติ, ตํ สาวชฺชํ, อนิฏฺโ วิปาโก ยสฺส, ตํ อนิฏฺวิปาก’’นฺติอาทินา วุตฺตนยานุสาเรน ปฏิปกฺขโยชนา ทฏฺพฺพา. รสาทิโต ปเนตํ อนตฺถชนนรสํ, สํกิเลสปจฺจุปฏฺานํ. อถ วา คารยฺหภาวโต สาวชฺชลกฺขณเมว, สํกิเลสภาวรสํ, อนิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. วจนตฺถโต ปน น กุสลนฺติ อกุสลํ, กุสลปฏิปกฺขนฺติ อตฺโถ. ปฏิปกฺขตฺเถ หิ อยํ อกาโร, น ปน อฺตฺเถ, นาปิ อภาเว. อิตรถา หิ ติกํ น สิยา, ทุกํ, จตุกฺกํ วา อาปชฺเชยฺย. ตถา หิ ยทิ กุสลโต อฺมกุสลํ สิยา, ตทา อพฺยากตสฺสาปิ ตโต อฺภาเวน อกุสล-สทฺทสงฺคโหติ กุสลากุสลชาติเภทโต ทุวิธนฺติ ทุกํ วตฺตพฺพํ. ยทิ จ กุสลาภาโว อกุสลํ, เตน น กาจิ ชาติ คยฺหตีติ กุสลาพฺยากตชาติเภทโต ทุกเมว วตฺตพฺพํ. อถ สิยา ‘‘อภาโวปิ วิสุํ คเหตพฺโพ’’ติ, เอวํ สติ ตสฺส ชาติยา อภาวโต ชาติ-สทฺเทน สห สมฺพนฺโธ น สิยา. วิชฺชมานสฺส หิ ชาติ นาม โหติ. ยเถว วา กุสลสฺส อภาโว, เอวํ อพฺยากตสฺสาปิ อภาโว อตฺถีติ อนพฺยากตชาติปิ วตฺตพฺพาติ จตุกฺกํ อาปชฺเชยฺย. น เจตมิฏฺํ กุสลาทิวเสน ติวิธชาติยา เอว อิจฺฉิตตฺตา, ปาฬิยฺจ ‘‘กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ ติกวเสเนว วุตฺตตฺตา ‘‘กุสลปฏิปกฺข’’นฺติ ปน วุจฺจมาเน มิตฺตปฏิปกฺโข อมิตฺโต วิย, โลภปฏิปกฺโข อโลโภ วิย จ ยํ ธมฺมชาตํ กุสลสฺส อุชุวิปจฺจนีกภูตํ, ตํ อกุสลนฺติ ตสฺส วเสน ติกํ อุปปนฺนํ โหติ, อุชุวิปจฺจนีกตา จสฺส สาวชฺชานิฏฺวิปากตฺตา, เตน ปหาตพฺพภาวโต จ เวทิตพฺพา, น ปน กุสลวินาสนโต. น หิ อกุสเลน กุสลํ ปหียติ, มหาพลตฺตา ปน กุสลเมว ตํ ปชหติ. กุสลฺหิ มหาพลํ, อกุสลํ ทุพฺพลํ. เตเนวาห ‘‘อพลา นํ พลียนฺติ, มทฺทนฺเตนํ ปริสฺสยา’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๖), ตสฺมา กุสลเมว ยถาวุตฺตนเยน อกุสลสฺส ปหายกํ, นากุสลํ อิตรสฺสาติ เวทิตพฺพํ.

ตทุภย…เป… อพฺยากตนฺติ ยํ ธมฺมชาตํ กุสลํ วิย น อนวชฺชอิฏฺวิปากลกฺขณํ, นาปิ อกุสลํ วิย สาวชฺชานิฏฺวิปากลกฺขณํ, อถ โข อวิปากตฺตา ตทุภยวิปรีตลกฺขณํ, ตํ อพฺยากตนฺติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘ตทุภยวิปรีตลกฺขณ’’นฺติ วุตฺเต สุขทุกฺขเวทนานํ วิปรีตา อุเปกฺขาเวทนา วิย อิฏฺานิฏฺวิปากานํ วิปรีโต อฺโ โกจิ วิปาโก ยสฺส อตฺถิ, ตํ อพฺยากตนฺติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ตถา อสมฺภวโต. ยถา หิ อาโลกนฺธการานํ วิปรีโต อฺโ โกจิ นตฺถิ, เอวมิฏฺานิฏฺวิปากานํ วิปรีโต น โกจิ วิปาโก อตฺถีติ. อถ วา ตํ-สทฺโท อิธ อิฏฺานิฏฺวิปากนิรเปกฺขํ กุสลากุสลมตฺตเมว ปจฺจามสตีติ กุสลากุสลานํ สวิปากตฺตา ตทุภยวิปรีตลกฺขณํ, ตํ อวิปากลกฺขณนฺติ อตฺโถติ อลเมตฺถ อนุโยเคน. กุสลากุสลภาเวน น พฺยากตนฺติ อพฺยากตํ. กุสลากุสลฺหิ วตฺวา อพฺยากตสฺส วุตฺตตฺตา กุสลากุสลภาเวเนว อวุตฺตตฺตาติ วิฺายติ, น ปการนฺตเรน. ตถา อวจนฺจ ตสฺส ตทุภยวิปรีตลกฺขณตฺตาเยว, น ปน อวตฺตพฺพตฺตามตฺเตนาติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา วิ-สทฺโท วิโรธิวจโน. อา-สทฺโท อภิมุขภาวปฺปกาสโน, ตสฺมา อตฺตโน ปจฺจเยหิ อฺมฺํ วิโรธาภิมุขตํ กตํ ลกฺขณวิโรธโต ปหายกปฺปหาตพฺพภาวโต วาติ พฺยากตํ, กุสลากุสลํ. ตโต อฺํ อพฺยากตํ. ตฺหิ ลกฺขณโต อฺมฺํ กุสลากุสลํ วิย น ตสฺส วิรุทฺธํ. น หิ อวิปากตํ อนิฏฺวิปากตา วิย, อิฏฺวิปากตาย อิฏฺวิปากตา วิย จ อนิฏฺวิปากตาย อิฏฺานิฏฺวิปากตาหิ วิรุชฺฌติ, น จาปิ อพฺยากตํ กุสลากุสเลสุ กิฺจิ ปชหติ, น จ เกนจิ ปหาตพฺพนฺติ. ‘‘ตทุภยวิปรีตลกฺขณมพฺยากต’’นฺติ วิฺายมาเน อโหสิ กมฺมํ, นาโหสิ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ อิมินา ติเกน สงฺคหิตสฺส คติอุปธิกาลปฺปโยควิปตฺตีหิ อวิปากสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิกมฺมสฺส ภาวนายปหาตพฺพสฺส อกุสลสฺส จ อภิฺากุสลสฺส จ วิปากุปฺปาทนาภาวโต ‘‘สิยา นุ โข อพฺยากตภาโว วา’’ติ กทาจิ โกจิ จินฺเตยฺยาติ ตนฺนิวารณตฺถมาห ‘‘อวิปาการหํ วา’’ติ, วิปากํ ทาตุํ นารหติ ตตฺถ สามตฺถิยาภาวโตติ อวิปาการหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทิฏฺธมฺมเวทนียาทโย ตาว ปจฺจยเวกลฺลาทีหิ การเณหิ อวิปากา, สเจ ปเนเต ตพฺพิทูรา อสฺสุ, ตทา วิปากทาเน สมตฺถตาย วิปาการหาเยว, ตํ ปน น ตถา, อถ โข เยน เกนจิ อากาเรน วิปากทาเน อสมตฺถตาเยว วิปาการหํ น โหติ, ตํ อพฺยากตํ นามาติ.

อิทานิ เอวํ ติกวเสน นิทฺทิฏฺเสุ กุสลาทีสุ ปมํ ตาว กุสลจิตฺตํ วิภชนฺโต ‘‘ตตฺถ กุสลจิตฺต’’นฺติอาทินา ตสฺส คณนปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. เอกวีสติวิธนฺติ อฏฺ กามาวจรานิ, ปฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานิ, จตฺตาริ โลกุตฺตรานีติ เอวํ สงฺเขปโต เอกวีสติวิธํ. ภูมิโต จตุพฺพิธนฺติ กามรูปารูปโลกุตฺตรภูมิสงฺขาตานํ จตุนฺนํ ภูมีนํ วเสน ตตฺถ ปวตฺตมานํ จิตฺตมฺปิ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมิ, านํ, อวตฺถา จ. อวตฺถาปิ หิ อวตฺถวนฺตานํ ปวตฺติฏฺานํ วิย คยฺหติ. เอวฺหิ เนสํ สุขคฺคหณํ โหติ. อวตฺถาติ เจตฺถ ธมฺมานํ กามตณฺหาทีหิ ปริจฺฉินฺนาปริจฺฉินฺนภาโว. ตตฺถ ปุริมา ติสฺโส ภูมิโย อุภยวเสน เวทิตพฺพา, อิตรา อวตฺถาวเสเนว. น หิ โลกุตฺตรธมฺมานํ กามภวาทิโต อฺํ านมุปลพฺภตีติ.

อฺตฺถ ปวตฺตมานสฺสาปิ วกฺขมานนเยน กามภูมิปริยาปนฺนตฺตา ภูมิโต เอกวิธนฺติ. สวตฺถุกาวตฺถุกเภทโตติ จกฺขาทีนิ ปฺจ, หทยฺจาติ ฉ วตฺถูนิ. กุสลสฺส ปน จกฺขาทินิสฺสิตตฺตาภาวโต หทยวตฺถุ อิธ วตฺถูติ อธิปฺเปตํ. เตน สหิตํ เอกนฺเตน ตนฺนิสฺสิตปฺปวตฺติโตติ สวตฺถุกํ, กามรูปธาตุยํ ปวตฺตมานวิฺาณํ. ตตฺถ หิ อรูปสฺส รูปปฏิพนฺธปฺปวตฺติ, อรูปธาตุยํ ปน รูปาภาวโต วตฺถุวิรหิตเมว ปวตฺตตีติ ตตฺถ ปวตฺตมานํ อวตฺถุกํ. หีน…เป… ติวิธนฺติ เอตฺถ ปจฺจยโต, ผลโต จ มชฺฌิมปณีเตหิ นิหีนํ, เตสํ วา คุเณหิ ปริหีนนฺติ หีนํ, อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ, อุภินฺนํ เวมชฺเฌ ภวํ มชฺฌิมํ. ตตฺถ หีเนน ฉนฺเทน จิตฺเตน วีริเยน วีมํสาย วา ปวตฺติตํ หีนํ, มชฺฌิเมหิ ฉนฺทาทีหิ ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, ปณีเตหิ ปณีตํ. ฉนฺทาทีนํ ปน หีนาทิภาโว อธิมุตฺติวเสน ทฏฺพฺโพ. หีนาธิมุตฺติวเสน หิ เนสํ หีนตา, ปณีตาธิมุตฺติวเสน ปณีตตา, ตทุภยเวมชฺฌวเสน มชฺฌิมตา. ยสกามตาย วา กตํ กุสลํ หีนํ, ปุฺผลกามตาย มชฺฌิมํ, ‘‘ปุฺํ นาเมตํ สาธูหิ กตฺตพฺพเมวา’’ติ เอวํ อริยภาวํ นิสฺสาย กตํ ปณีตํ. ‘‘อหมสฺมิ ทานปติ, อิเม ปนฺเ ทานทาสาทโย’’ติอาทินา อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนาหิ อุปกฺกิลิฏฺํ ปวตฺติตํ วา หีนํ, ตถา อนุปกฺกิลิฏฺํ มชฺฌิมํ, มคฺคผลปทฏฺานํ ปณีตํ. ภวโภคสมฺปตฺตินิมิตฺตํ วา กตํ หีนํ, สาวกปจฺเจกโพธิปารมิตาวเสน อตฺตโน วิโมกฺขตฺถาย กตํ มชฺฌิมํ, สมฺมาสมฺโพธิปารมิตาวเสน สพฺเพสํ วิโมกฺขตฺถาย กตํ ปณีตนฺติ.

โสมนสฺสุ…เป… เภทโตติ เภท-สทฺโท ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘โสมนสฺสุเปกฺขาเภทโต าณเภทโต ปโยคเภทโต’’ติ. ตตฺถ ปโยคเภทโตติ สงฺขารเภทโตติ อตฺโถ. นนุ จ โสมนสฺสุเปกฺขาเภโท ตาว ยุตฺโต เตสํ ภินฺนสภาวตฺตา. าณปฺปโยคเภโท ปน กถนฺติ? วุจฺจเต – าณปฺปโยคกโต เภโท าณปฺปโยคเภโท เตสํ ภาวาภาวมุปาทาย ปวตฺตตฺตา. อิทานิ ตเมว โสมนสฺสุเปกฺขาทิเภทํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยถิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺติอาทินา วิสฺสชฺเชติ. ตตฺถ เสยฺยถิทนฺติ ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ.

โสภนํ มโน, โสภนํ วา มโน เอตสฺสาติ สุมโน, ตสฺส ภาโว โสมนสฺสํ, มานสิกสุขเวทนาเยตํ อธิวจนํ, โสมนสฺเสน อุปฺปาทโต ยาว นิโรธา สหคตํ ปวตฺตํ สํสฏฺํ สมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อถ วา โสมนสฺเสน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตนฺติ โสมนสฺสสหคตํ. ชานาติ ยถาสภาวํ ปฏิวิชฺฌตีติ าณํ, เตน สมํ เอกุปฺปาทาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ าณสมฺปยุตฺตํ. นาสฺส สงฺขาโร อตฺถีติ อสงฺขารํ, อสงฺขารเมว อสงฺขาริกํ. สห สงฺขาเรน ปวตฺตมานํ สสงฺขารํ, ตเทว สสงฺขาริกํ. สงฺขาโรติ เจตฺถ อตฺตโน, ปรสฺส วา ปุพฺพปฺปโยโค ‘‘สงฺขโรติ ติกฺขภาวสงฺขาเตน มณฺฑนวิเสเสน สชฺเชติ, สงฺขรียติ วา สชฺชียติ จิตฺตํ เอเตนา’’ติ กตฺวา. ตตฺถ ทานาทิปุฺกรณกาเล มจฺเฉรมลถินมิทฺธาทีหิ อุปกฺกิเลเสหิ สํสีทมาเน จิตฺเต อุปกฺกิเลสวูปสมวเสน, จิตฺตสฺส จ อุสฺสาหชนนวเสน ตีสุ ทฺวาเรสุ ปวตฺโต สมฺมาวายาโม อตฺตโน ปโยโค นาม. กุสลกรเณ นิรุสฺสาหสฺส ปน ‘‘อมฺโภ, สปฺปุริส, กุสลกรณํ นาม ปณฺฑิเตหิ อาเสวิตมคฺโค, ตตฺถ ตยาปิ ปฏิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ทานํ เทหิ, สีลํ รกฺข, ตฺหิ เต อตฺถาย หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติอาทินา กุสลกรณตฺถาย อุสฺสาหชนนวเสน ปเรสํ กายวจีทฺวาเรสุ ปวตฺตา อาณตฺติ ปรปฺปโยโค นาม. เตสุ ปน ปุริโม ปุพฺพภาคปฺปวตฺตจิตฺตสนฺตาเน, ปจฺฉิโม ปเรสํ จิตฺตสนฺตาเนเยว สมฺภวตีติ ตนฺนิพฺพตฺติโต จิตฺตสฺส ติกฺขภาวสงฺขาโต วิเสโส อิธ อุปจารโต สงฺขาโรติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ อาจริยา –

‘‘ปุพฺพปฺปโยคสมฺภูโต, วิเสโส จิตฺตสมฺภวี;

สงฺขาโร อิติ สงฺขาร-สภาวฺูหิ กิตฺติโต’’ติ.

อถ วา ‘‘สสงฺขาริกมสงฺขาริก’’นฺติ จ เอตํ เกวลํ สงฺขารสฺส ภาวาภาวมตฺตาเปกฺขาย วุตฺตํ, น ตสฺส สหปฺปวตฺติสพฺภาวาภาวโตติ ภินฺนสนฺตานปฺปวตฺติโนปิ สงฺขารสฺส อิทมตฺถิตาย ตํวเสน นิพฺพตฺตํ จิตฺตํ สงฺขาโร อสฺส อตฺถีติ สสงฺขาริกํ สห-สทฺทสฺส วิชฺชมานตฺถปริทีปนโต ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ วิย. ตพฺพิปรีตํ ปน ตทภาวโต ยถาวุตฺตวเสเนว อสงฺขาริกํ. อถ วา สงฺขรณํ, สงฺขรียติ วา เอเตน อาคนฺตุกสมฺภูเตน จิตฺตสํสีทนสภาวาปนยนวเสเนว สชฺชียติ, สงฺขโรติ วา ตํ ยถาวุตฺตวเสเนวาติ สงฺขาโรติ อุชุกเมว ปุพฺพปฺปโยคชนิโต ติกฺขภาโว วุจฺจติ, ตทภาวโต อสงฺขาริกํ, สภาวติกฺขนฺติ อตฺโถ. ตํสหคตาย สสงฺขาริกํ, อถ วา มจฺเฉรมลาทีหิ สงฺขรียตีติ สงฺขาโร, จิตฺตสฺส สํสีทนสภาโว, โส ยสฺส นตฺถีติ อสงฺขาริกํ, อิตรํ สสงฺขาริกํ. ปณีตอุตุโภชนาทิโก วา พลวปจฺจโย สงฺขาโร ‘‘สงฺขโรติ จิตฺตํ ติกฺขภาเวน, สงฺขรียติ วา ตํ เอเตนา’’ติ กตฺวา. อ-การสฺส วุฑฺฒตฺถวุตฺติตาย วุฑฺฒิปฺปตฺโต สงฺขาโร อสฺสาติ อสงฺขาริกํ, พลวปจฺจยวนฺตนฺติ อตฺโถ. วุฑฺฒิปริทีปเกน ปน อ-กาเรน อวิเสสิตตฺตา สสงฺขาริกํ สปฺปจฺจยํ ทุพฺพลปจฺจยนฺติ อธิปฺปาโย. าเณน วิปฺปยุตฺตํ วิรหิตนฺติ าณวิปฺปยุตฺตํ.

อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา, เวทิยมานาปิ อารมฺมณํ อชฺฌุเปกฺขติ, มชฺฌตฺตาการสณฺิติยาติ อตฺโถ. อถ วา อิฏฺเ, อนิฏฺเ จ อารมฺมเณ ปกฺขปาตาภาเวน อุปปตฺติโต ยุตฺติโต อิกฺขติ อนุภวตีติ อุเปกฺขา. อถ วา อุเปตา สุขทุกฺขานํ อวิรุทฺธา อิกฺขา อนุภวนนฺติ อุเปกฺขา. อวิรุทฺธตฺตาเยว เหสา เตสํ อนนฺตรมฺปิ ปวตฺตติ. สุขทุกฺขเวทนา ปน วิสุํ วิสุํ วิรุทฺธสภาวตฺตา นาฺมฺํ อนนฺตรํ ปวตฺตนฺติ. เตเนว หิ ปฏฺาเน โสมนสฺสสฺส อนนฺตรํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสสฺส อนนฺตรํ โสมนสฺสสฺส จ อุปฺปตฺติ ปฏิสิทฺธา. อยฺจ อตฺโถ โลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตเวทนายปิ ลพฺภติ, ปุริมา ปน ทฺเว น ตถา. น หิ โลภสหคตาทีนํ มชฺฌตฺตากาเรน อชฺฌุเปกฺขนํ, อุปปตฺติโต อิกฺขนํ วา อตฺถีติ. อุเปกฺขาสหคตนฺติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

นนุ จ อฺเปิ ผสฺสาทโย สมฺปยุตฺตธมฺมา อตฺถีติ โสมนสฺสาทีนํ วเสเนว ปน อฏฺวิธตา กสฺมา คหิตาติ? เภทกรภาวโต. ผสฺสาทีนฺหิ สพฺพจิตฺตสาธารณตฺตา, สทฺธาทีนฺจ สพฺพกุสลสาธารณตฺตา น เตหิ จิตฺตสฺส วิภาโค, โสมนสฺสาทโย ปน กตฺถจิ จิตฺเต โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ ปากโฏว เตหิ จิตฺตสฺส วิภาโคติ. กสฺมา ปเนเต กตฺถจิ จิตฺเต โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ? การณสฺส สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวโต. กึ ปน เนสํ การณนฺติ? วุจฺจเต – ตตฺถ โสมนสฺสสหคตภาโว ตาว อารมฺมณวเสน โหติ. อิฏฺารมฺมณสฺมิฺหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺตมุปฺปชฺชติ. นนุ จ อิฏฺารมฺมณํ โลภสฺส วตฺถุ รชฺชนียตฺตาติ กถํ ตตฺถ กุสลํ อุปฺปชฺชตีติ? นยิทเมกนฺติกํ อิฏฺเปิ อารมฺมเณ นิยมิตาทิวเสน กุสลสฺส อุปฺปชฺชนโต. ยสฺส หิ ‘‘กุสลเมว มยา กตฺตพฺพ’’นฺติ กุสลกรเณเยว จิตฺตํ นิยมิตํ โหติ, อกุสลปฺปวตฺติโตว นิวตฺเตตฺวา กุสลกรเณเยว ปริณามิตํ, อภิณฺหกรเณน จ กุสลํ สมุทาจิณฺณํ, ปฏิรูปเทสวาสสทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยปุพฺเพกตปุฺตาสงฺขาตจตุจกฺกูปนิสฺสยวเสน, โยนิโส จ อาโภโค ปวตฺตติ, ตสฺส อิฏฺเปิ อารมฺมเณ อโลภสมฺปยุตฺตเมว จิตฺตมุปฺปชฺชติ, น โลภสมฺปยุตฺตํ. โหติ เจตฺถ –

‘‘นิยามปริณาเมหิ, สมุทาจิณฺณตาย จ;

าณปุพฺพงฺคมาโภคา, อิฏฺเปิ กุสลํ สิยา’’ติ.

อปิจ สทฺธาพหุลตาทีหิ จ การเณหิ จิตฺตสฺส โสมนสฺสสหคตตา เวทิตพฺพา. อสฺสทฺธานํ, หิ มิจฺฉาทิฏฺิกานฺจ เอกนฺตมิฏฺารมฺมณภูตํ ตถาคตรูปมฺปิ ทิสฺวา โสมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ. เย จ กุสลปฺปวตฺติยํ อานิสํสํ น ปสฺสนฺติ, เตสํ ปเรหิ อุสฺสาหิตานํ กุสลํ กโรนฺตานมฺปิ โสมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา สทฺธาพหุลตา วิสุทฺธิทิฏฺิตา อานิสํสทสฺสาวิตาติ อิเมหิปิ การเณหิ จิตฺตสฺส โสมนสฺสสหคตตา โหติ.

อปิจ เย เต เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ. เสยฺยถิทํ – พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สํฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ ลูขปุคฺคลปริวชฺชนํ สินิทฺธปุคฺคลเสวนา ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณา ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิปิ การเณหิ จิตฺตสฺส โสมนสฺสสหคตภาโว เวทิตพฺโพ. พุทฺธาทิคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺส หิ ยาว อุปจารุปฺปาทา สกลสรีรํ ผรมานา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ตถา ทีฆรตฺตํ อกฺขณฺฑตาทิวเสน อตฺตนา รกฺขิตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, คิหิโน ทสสีลํ ปฺจสีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, ทุพฺภิกฺขภยาทีสุ ปณีตํ โภชนํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวา ‘‘เอวํนาม ทานํ อทาสิ’’นฺติ อตฺตโนจาคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, คิหิโนปิ ตถารูเป กาเล สีลวนฺตานํ ทินฺนทานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, เยหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา เทวา เทวตฺตํ คตา, ตถารูปานํ คุณานํ อตฺตนิ อตฺถิตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, สมถวิปสฺสนาหิ วิกฺขมฺภิตกิเลเส สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ อสมุทาจรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อโห มยฺหํ กิเลสา น สมุทาจรนฺตี’’ติ จินฺเตนฺตสฺส, เจติยทสฺสนเถรทสฺสเนสุ อสกฺกจฺจกิริยาย สํสุจิตลูขภาเวน พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน คทฺรภปิฏฺเ รชสทิเส ลูขปุคฺคเล ปริวชฺชนฺตสฺส, พุทฺธาทีสุ ปสาทพหุเล มุทุจิตฺเต สินิทฺธปุคฺคเล ปฏิเสวนฺตสฺส, รตนตฺตยคุณปริทีปเก ปสาทนียสุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, านนิสชฺชาทีสุปิ ปีติอุปฺปาทนตฺถํ ตนฺนินฺนตาทิวเสน ปวตฺเตนฺตสฺส เยภุยฺเยน ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติยา จ โสมนสฺเสน สห อวินาภาวโต ตทุปฺปตฺติยา ตสฺสาปิ อุปฺปตฺติ นิยตาติ เอวํ ปีติการณานิปิ โสมนสฺสการณานีติ ทฏฺพฺพานิ. กิฺจ – อคมฺภีรปกติตา, โสมนสฺสปฏิสนฺธิกตาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ โสมนสฺสสหคตตา โหติ. โย หิ อคมฺภีรปกติโก โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ หิโตปกรเณ ตุสฺสติ, โย จ โสมนสฺสปฏิสนฺธิโก อปฺปสนฺเนสุ อารมฺมเณสุปิ อปฺปฏิกฺกูลทสฺสาวี, ตสฺส เยภุยฺเยน โสมนสฺสสหคตจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยถาวุตฺตานํ ปน โสมนสฺสการณานมภาเวน มชฺฌตฺตารมฺมณตาย จ อุเปกฺขาสหคตตา เวทิตพฺพา.

าณสมฺปยุตฺตสฺส ปน กมฺมโต อุปปตฺติโต อินฺทฺริยปริปากโต กิเลสทูรีภาวโตติ อิเมหิ การเณหิ โหติ. โย หิ ปเรสํ หิตชฺฌาสเยน ธมฺมํ เทเสติ หีนุกฺกฏฺาทีนิ จ นฬการมุทฺทาคณนาทีนิ สิปฺปายตนานิ, วฑฺฒกีกสิวาณิชฺชาทีนิ จ กมฺมายตนานิ, วิสหรณาทีนิ จ วิชฺชายตนานีติ เอวํ นิรวชฺชสิปฺปายตนาทีนิ สิกฺขาเปติ, สยํ วา สิกฺขติ, ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กตฺวา ธมฺมํ กถาเปติ, ‘‘อายตึ ปฺวา ภวิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปตฺวา นานปฺปการํ ปุฺกมฺมํ กโรติ, ตสฺเสวํ นานปฺปการํ ปฺาสํวตฺตนิกกมฺมํ สมฺปาเทนฺตสฺส ตํ กมฺมํ อุปนิสฺสาย อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อพฺยาปชฺเช โลเก อุปฺปนฺนสฺส อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ตสฺส ตตฺถ สุขิโน ธมฺมปทานิ ปิลวนฺติ, ทนฺโธ, ภิกฺขเว, สตุปฺปาโท, อถ โส สตฺโต ขิปฺปเมว วิเสสภาคี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๑).

ตถา ปฺาทสกํ สมฺปตฺตสฺส อินฺทฺริยปริปากํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ โหติ. เยน ปน สมถวิปสฺสนาภาวนาหิ กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, ตสฺส กิเลสทูรีภาวํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ าณสมฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยถาห –

‘‘โยคา เว ชายเต ภูริ, อโยคา ภูริสงฺขโย’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๒).

อปิจ เย เต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ. เสยฺยถิทํ – ปริปุจฺฉกตา วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ การเณหิ าณสมฺปยุตฺตภาโว โหติ. ตถา หิ โย ปฺวนฺเต อุปสงฺกมฺม ขนฺธธาตุอายตนอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคสมถวิปสฺสนาทีนํ ปริปุจฺฉาพหุโล โหติ, ตสฺส ตํวเสน อุปฺปนฺนํ สุตมยาณํ อาทึ กตฺวา อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ าณสหคตํ โหติ. เยน ปน นขเกสจีวรเสนาสนาทีนิ อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูนิ ปุพฺเพ อวิสทานิ เฉทนมลหรณาทินา วิสทานิ กตานิ, ตสฺเสวํ วิสทวตฺถุกสฺส อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ วิสทํ าณํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. ยสฺส จ สทฺธินฺทฺริยาทีสุ อฺตรํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต ตานิ สกสกกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา โส ตสฺส โพชฺฌงฺควิภงฺเค อาคตนเยน เตน เตน อากาเรน สมตฺตํ ปฏิปาเทติ, ตสฺเสวํ อินฺทฺริยานํ สมตฺตํ ปฏิปาเทนฺตสฺส วิปสฺสนาาณาทีนํ วเสน จิตฺตํ าณสหคตํ โหติ. โย ปน ทุปฺปฺปุคฺคเล ปริวชฺเชติ, ปฺวนฺตปุคฺคเล วา ปยิรุปาสติ, ขนฺธาทีสุ โอคาฬฺหํ ภควโต คมฺภีราณจริยํ วา ปจฺจเวกฺขติ, านนิสชฺชาทีสุ ตทธิมุตฺตจิตฺโต วา วิหรติ, อิเมสมฺปิ อุปฺปชฺชมานํ กุสลํ าณสมฺปยุตฺตํ โหติ. อปิจ พุทฺธาทิคุณานุสฺสรเณนปิ จิตฺตํ าณสหคตํ โหติ. ยถาห –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑).

เอวํ พุทฺธานุสฺสติอาทโยปิ ราคาทิมลวิโสธเนน าณุปฺปตฺติเหตุกาเยวาติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจ – ติเหตุกปฏิสนฺธิกตา าณุปฺปตฺติการณํ. ปฏิสนฺธิปฺา หิ อาทิโต ปฏฺาย ภวงฺคสนฺตติวเสน พหุลํ ปวตฺตมานา สนฺตานปริภาวเนน าณุปฺปตฺติยา สวิเสสอุปนิสฺสโย โหติ. อสงฺขาริกตฺตํ ปน สปฺปายอุตุโภชนอาวาสาทิปจฺจเยหิ โหตีติ. โหนฺติ เจตฺถ –

‘‘อิฏฺารมฺมณตา สทฺธาพาหุลฺยํ ทิฏฺิสุทฺธิ จ;

ผลทสฺสาวิตา เจว, ปีติโพชฺฌงฺคเหตุโย.

‘‘เอกาทส ตถา ธมฺมา, อคมฺภีรสภาวตา;

โสมนสฺสยุตฺตา สนฺธิ, อิจฺเจเต สุขเหตุโย.

‘‘อภาโว สุขเหตูนํ, มชฺฌตฺตารมฺมณนฺติ จ;

อุเปกฺขุปฺปตฺติเหตุ จ, เอวํ เยฺยา วิภาวินา.

‘‘กมฺมูปปตฺติโต เจว, ตถา อินฺทฺริยปากโต;

กิเลสูปสมา ธมฺม-วิจยสฺส จ เหตุหิ.

‘‘สตฺตธมฺเมหิ พุทฺธาทิ-คุณานุสฺสรเณน จ;

สปฺปฺสนฺธิโต เจว, จิตฺตํ าณยุตํ สิยา.

‘‘อุตุโภชนอาวาส-สปฺปายาทีหิ เหตุหิ;

อสงฺขาริกภาโวปิ, วิฺาตพฺโพ วิภาวินา’’ติ.

เอวํ เวทนาาณปฺปโยคเภทโต อฏฺวิธํ กามาวจรจิตฺตํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘อิทํ…เป… นามา’’ติ.

๑๒. เยน ปนตฺเถน อิทํ ‘‘กามาวจร’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ทานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺทานโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อุทฺทานโตติ อุทฺเทสโต, สงฺเขปโตติ อตฺโถ. กิฺจาปิ อวสิฏฺกิเลสาทโย วิย กิเลสกาโมปิ อสฺสาเทตพฺพตาย วตฺถุกาเม สงฺคหิโต าณํ วิย เยฺเยติ สงฺเขปโต เอโกเยว กาโม สิยา, ตถาปิ กิเลสกาโม วตฺถุกามภาวํ คจฺฉนฺโต กามนียฏฺเน คจฺฉติ, น กามนวเสน. กามนวเสน จ ปน กิเลสกาโมว โหติ, น ปน วตฺถุกาโมติ อาห ‘‘กฺเลสวตฺถุวสา’’ติอาทิ. โก ปเนตฺถ วตฺถุกาโม, โก กิเลสกาโมติ โจทนํ มนสิ นิธาย ‘‘ฉนฺโท กาโม, ราโค กาโม, ฉนฺทราโค กาโม, สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม’’ติ (มหานิ. ๑) เอวํ นิทฺเทสปาฬิยํ อาคตา นิทฺทิฏฺา กามตณฺหาว อิธ กิเลสกาโม. วตฺถุกาโมติ จ ‘‘มนาปิกา รูปา…เป… มนาปิกา โผฏฺพฺพา…เป… สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมา…เป… สพฺเพปิ รูปาวจรา…เป… สพฺเพปิ อรูปาวจรา…เป… กามา’’ติ (มหานิ. ๑) ตตฺเถว นิทฺทิฏฺา สวิฺาณาวิฺาณปฺปเภทา เตภูมกธมฺมาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กิเลโส…เป… วฏฺฏก’’นฺติ. ‘‘ฉนฺทราโควา’’ติ อวธารเณน กิเลสภาเวน นิรุฬฺเหสุ โลภโทสโมหาทีสุ ทสสุ โทสโมหาทโย นว กิเลเส ปฏิกฺขิปติ. กามรูปารูปตณฺหาย วตฺถุ ปติฏฺานํ, การณภูตนฺติ วา วตฺถุ.

๑๓. กถํ ปน กิเลสกาโม นาม, กถฺจ วตฺถุกาโมติ อาห ‘‘กิเลสกาโม’’ติอาทิ. กาเมตีติ วตฺถุกามํ ปตฺเถติ. กามียตีติ กิเลสกาเมน ปตฺถียติ. อิติ-สทฺโท ‘‘ตสฺมา’’ติ อิมสฺส อตฺเถ. -สทฺโท เอว-การตฺเถ, เตน ยสฺมา กิเลสกาโม กาเมตีติ กาโม, วตฺถุกาโม จ กามียตีติ, ตสฺมา เอว กิเลสกาโม, วตฺถุกาโม จาติ ทุวิโธปิ เอส กาโม การกทฺวเย กตฺตริ, กมฺมนิ จ สิชฺฌติ, กตฺตุภาวํ, กมฺมภาวฺจ ปจฺจนุโภตีติ อตฺโถ. อถ วา ทุวิโธติ ทฺวินฺนํ กามานํ วาจกโต ทุวิโธ. ‘‘กาโม’’ติ อยํ สทฺโท การกทฺวเย สิชฺฌติ ยถาวุตฺตการกยุคเฬ นิปฺผชฺชติ, กตฺตริ, กมฺมนิ จ ‘‘กาโม’’ติ ปทสมฺภโว โหตีติ อตฺโถ. โว-กาโร ปน นิปาตมตฺตํ ‘‘เอวํ โว กาลามา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) วิย. อถ วา โวการกทฺวเยติ ขนฺธทฺวเยติ อตฺโถ. กิเลสกาโม หิ สงฺขารสภาวตฺตา สงฺขารกฺขนฺเธ, วตฺถุกาโม จ วกฺขมานนเยน ปฺจกามคุณภูโต รูปสภาวตฺตา รูปกฺขนฺเธติ เอวํ ทุวิโธเปส กาโม ขนฺธทฺวเย สิชฺฌติ นิปฺผชฺชติ, อนฺโตภาวํ คจฺฉตีติ.

๑๔. สมฺปชฺชนานิ สมฺปตฺติโย, ตาสํ วเสน วิสยวิสยีภาเวน อฺมฺํ สโมสรณวเสน, สมฺปาปุณนวเสนาติ อตฺโถ. อิมินา ปน อิทํ ทีเปติ – ยตฺถ ทุวิโธปิ กาโม วิสยวิสยีภาเวน สหิโต ปวตฺตติ, โสเยว เอกาทสวิโธ ปเทโส กามาวจรสฺิโต. ยตฺถ ปน รูปารูปธาตุยํ เกวลํ วตฺถุกาโมว ปวตฺตติ, น โส ปเทโส กามาวจโร นามาติ. นนุ จ ทุวิโธปิ สหิโต รูปารูปธาตูสุ ปวตฺตติ, รูปารูปาวจรธมฺมานํ วตฺถุกามตฺตา, ตทารมฺมณภูตานฺจ รูปารูปตณฺหานํ ตํโยเคน กิเลสกามภาวสิทฺธิโตติ? นยิทเมวํ โอรมฺภาคิยภูตสฺส พหลกิเลสสฺเสว กามราคสฺส อิธ กิเลสกามภาเวน อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘อุทฺทานโต ทุเว กามา’’ติ สพฺเพ กาเม อุทฺทิสิตฺวาปิ หิ ‘‘ปเทโส จตุปายาน’’นฺติอาทินา วิสยนิยมเนน ‘‘ทุวิโธปิ อย’’นฺติ เอตฺถ กาเมกเทสภูโต นีวรณาวตฺถาย กถิโต กามราโค กิเลสกามภาเวน, ตพฺพตฺถุกาเยว ธมฺมา วตฺถุกามภาเวน คหิตา, น รูปารูปตณฺหา, ตพฺพตฺถุกธมฺมา จาติ าปียติ. เอวฺจ กตฺวา อุปริ วกฺขมานา สสตฺถาวจรูปมา อุปปนฺนา โหติ, ยถาวุตฺตานเมว กามานํ อิธ อธิปฺเปตตฺตา รูปารูปธาตูสุ วิมานกปฺปรุกฺขวตฺถาลงฺการปริตฺตกุสลาทิเภเทสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปวตฺโต ฉนฺทราโค กิเลสกาโม นาม น โหติ, น จ ตพฺพตฺถุภูตํ วิมานกปฺปรุกฺขาทิปริตฺตธมฺมชาตํ วตฺถุกาโม นามาติ สิทฺธํ. เตเนวาห ‘‘กาโม วา กามสฺา วา พฺรหฺมโลเก น วิชฺชตี’’ติ. กามาวจรสตฺตสนฺตานคตตณฺหาย วิสยภาเว สติ ปน ตํโยเคน รูปารูปธาตูสุปิ ปวตฺตมาโน ปริตฺตธมฺโม วตฺถุกาโมเยวาติ เวทิตพฺพํ. อถ วา นิทฺเทเส อาคตนเยน นิรวเสโส กิเลสกาโม กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหานิโรธตณฺหาปเภโท อิธ ปวตฺตติ. วตฺถุกาเมสุปิ อปฺปกํ รูปารูปวิปากมตฺตํ เปตฺวา สพฺโพเยว อิธ ปวตฺตตีติ อนวเสสปฺปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘กาโมยํ ทุวิโธปิ จา’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เอวํ วุตฺตํ, เตสุ ปน พหลกิเลสกามภูโต พหลกามราโค จ ตพฺพตฺถุกา ปฺจ กามคุณา จ อิธ คหิตาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สมฺปตฺตีนํ วเสนา’’ติ วุตฺตํ. สมฺปชฺชนวเสน, สมิชฺฌนวเสนาติ อตฺโถ. อวจรตีติ ปวตฺตติ. อิติ-สทฺโท เหตุมฺหิ, ยสฺมา ทุวิโธปิ อยํ กาโม อวจรติ, ตสฺมา กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจรสฺิโตติ อตฺโถ.

๑๕. สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปุฺสมฺมตา อยา เยภุยฺเยน อเปตาติ อปายา. นิรยาทิวเสน จตฺตาโร อปายา จตุปายา. ฉนฺนนฺติ จาตุมหาราชิกตาวตึสยามาตุสิตานิมฺมานรติปรนิมฺมิตวสวตฺติสงฺขาตานํ ฉนฺนํ เทวโลกานํ. เมรุปาทวาสิโน ปน อสุรา ตาวตึเสสุเยว สงฺคยฺหนฺตีติ น เตหิ สทฺธึ สตฺตนฺนนฺติ วุตฺตํ. มนโส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา, สติสูรภาวพฺรหฺมจริยโยคฺยตาทิคุณวเสน อุปจิตมานสตาย อุกฺกฏฺคุณจิตฺตตายาติ อตฺโถ, เต ปน นิปฺปริยายโต ชมฺพุทีปวาสิโน เวทิตพฺพา. ยถาห –

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑).

เตหิ ปน สมานรูปาทิตาย สทฺธึ ปริตฺตทีปวาสีหิ อิตรมหาทีปวาสิโนปิ ‘‘มนุสฺสา’’อิจฺเจว ปฺายึสุ. โลกิยา ปน มนุโน อปจฺจภาเวเนว ‘‘มนุสฺสา’’ติ วทนฺติ. เอกาทสวิโธติ จตุราปาเยสุ ติรจฺฉานเปตฺติวิสยานํ วิสุํ ปริจฺฉินฺนสฺส โอกาสสฺส อภาเวปิ ยตฺถ เต อรฺสมุทฺทปพฺพตปาทาทิเก นิพทฺธวาสํ วสนฺติ, ตาทิสสฺส านสฺส คหิตตฺตา เอกาทสวิโธ.

๑๖. นนุ เจตฺถ อฺเสมฺปิ ธมฺมานํ ปวตฺติสมฺภวโต กามสฺเสว อวจรณวเสน กถํ นามลาโภติ อาห ‘‘อสฺสาภิลกฺขิตตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ อสฺสาติ อิมสฺส ทุวิธสฺส กามสฺส. อภิลกฺขิตตฺตาติ เอกาทสวิเธ ปเทเส ปากฏตฺตา. อถ วา อสฺสาติ กรณตฺเถ สามิวจนํ, ตสฺมา อเนน ทุวิเธน กาเมน เอกาทสวิธสฺส ปเทสสฺส อภิลกฺขิตตฺตา, ปฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ. อถ วา อุปโยคตฺเถ สามิวจนวเสน อสฺส เอกาทสวิธสฺส ปเทสสฺส เตน ทุวิเธน อภิลกฺขิตตฺตาติ อตฺโถ. สห สตฺเถหีติ สสตฺถา, ยตฺถ เต อวจรนฺติ, โส สสตฺถาวจโร, ปเทโส. โส วิย. ยถา หิ ยสฺมึ ปเทเส สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ, โส วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ทฺวิปทจตุปฺปทาทีสุ อวจรนฺเตสุ เตสํ ตตฺถ ปากฏตฺตา, เตหิ วา อภิลกฺขิตตฺตา ‘‘สสตฺถาวจโร’’ตฺเวว ปฺายติ, เอวํ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ รูปาวจราทีสุ อวจรนฺเตสุ อภิลกฺขณวเสน อยํ ปเทโส ‘‘กามาวจโร’’ตฺเวว สฺิโตติ. เอส นโย รูปารูปาวจเรสุ.

๑๗-๘. นนุ จ จิตฺตํ กามาวจรนฺติ วุตฺตํ, ยถาวุตฺตนเยน ปน ปเทสสฺส คหิตตฺตา กถํ ตตฺถ อวจรนฺตํ กามาวจรํ นามาติ อาห ‘‘สฺวาย’’นฺติอาทิ. โส อยํ กามาวจโร ‘‘กาโม’’ติ สฺิโตติ สมฺพนฺโธ. รูปภโว รูปนฺติ ยถา รูปภโว รูปํ. อวุตฺโตปิ หิ ยถาสทฺโท เอวํ-สทฺทสนฺนิฏฺานโต ลพฺภติ. ยถา ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ เอตฺถ ‘‘รูปภวูปปตฺติยา’’ติ วตฺตพฺเพ รูปภโว ‘‘รูป’’นฺติ สฺิโตติ อยเมตฺถ อตฺโถ. กถํ ปเนส เอวํ สฺิโตติ อาห ‘‘อุตฺตรสฺสา’’ติอาทิ. อถ วา ยถา อุตฺตรสฺส ปทสฺส โลปํ กตฺวา อุทีริโต เอส รูปภโว ‘‘รูป’’นฺติ สฺิโต, เอวํ สฺวายํ กามาวจโร กาโมติ สมฺพนฺโธ. ตสฺมึ กาเมติ ตสฺมึ อุตฺตรปทโลปวเสน กามสฺิเต ปเทเส. อิทนฺติ อิทํ อฏฺวิธํ จิตฺตํ. อธิการวเสน ปน ตสฺส คหเณปิ สพฺเพสเมว ปริตฺตจิตฺตานมยมตฺโถ ลพฺภติ สพฺเพสมฺปิ กาเม อวจรณโต. สทาติ สพฺพกาลํ, พาหุลฺเยนาติ อธิปฺปาโย. อิมินา ปน อิทํ ทีเปติ – ยถา สงฺคาเม เยภุยฺเยน อวจรนฺโต ‘‘สงฺคามาวจโร’’ติ ลทฺธนาโม หตฺถี อฺตฺถ อวจรนฺโตปิ พาหุลฺลปฺปวตฺติวเสน ‘‘สงฺคามาวจโร’’ตฺเวว ปฺายติ, เอวมิทํ อฺตฺถ อวจรนฺตมฺปิ กามโลเก พาหุลฺลวุตฺติโต ‘‘กามาวจร’’มิจฺเจว วุตฺตนฺติ. เตน ปน นนุ เจตํ รูปารูปภเวสุปิ อวจรณโต รูปาวจราทินามมฺปิ ลเภยฺยาติ อิทํ โจทนํ ปริหรติ. โหติ เจตฺถ –

‘‘กาเมวจรตีตฺเยตํ, กามาวจรสฺิตํ;

เสเส อวจรนฺตมฺปิ, สงฺคามาวจโร ยถา’’ติ.

อิติ-สทฺโท เหตุมฺหิ. -สทฺโท วตฺตพฺพนฺตรสมุจฺจเย. เตน ยสฺมา อุตฺตรปทโลเปน กามาวจโร ‘‘กาโม’’ติ สฺิโต, ยสฺมา จ ตสฺมึ กาเม อิทํ จิตฺตํ สทา อวจรติ, ตสฺมา ‘‘กามาวจร’’มิจฺเจว กถิตํ, น ปน กามาวจราวจรํ, นาปิ รูปารูปาวจรนฺติ วาติ อธิปฺปาโย. กามฆาตินาติ เทสนาาเณน วิเนยฺยสนฺตานคตสฺส กิเลสกามสฺส หนนสีเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.

๑๙. ปฏิสนฺธึ …เป… อวจารยตีติ วาติ อถ วา ยสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปนฺนมฺปิ กาเม ภเวเยว ปฏิสนฺธึ อวจารยติ, ตสฺมา อิทํ กาเม อวจารยตีติ ‘‘กามาวจร’’นฺติ กถิตํ จา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ อุตฺตรปทโลปวเสน ปทสมฺภวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วินาปิ อุตฺตรปทโลปํ กามาวจร-สทฺทสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริยาปนฺนนฺติ ตตฺร วา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺราติ ตสฺมึ กามภเว. ปริยาปนฺนนฺติ อนฺโตคธํ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย –

‘‘กตเม ธมฺมา กามาวจรา? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. อิเม ธมฺมา กามาวจรา’’ติ (ธ. ส. ๑๒๘๗) –

วุตฺตตฺตา ยถา มนุสฺสิตฺถิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตปิ ติรจฺฉานคติโก ติรจฺฉานโยนิยเมว ปริยาปนฺนตฺตา ‘‘ติรจฺฉาโน’’ตฺเวว วุจฺจติ, เอวมิทํ รูปารูปภเวสุ อุปฺปนฺนมฺปิ กามภวปริยาปนฺนตฺตา ‘‘กามาวจร’’มิจฺเจว กถิตนฺติ. ตปฺปริยาปนฺนตา จสฺส อวีจิปรนิมฺมิตปริจฺฉินฺโนกาสนินฺนาย กามตณฺหาย วิสยภาวโตติ เวทิตพฺพา. ตถา หิ วุตฺตํ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน นิกฺเขปกณฺเฑปิ ‘‘‘เอตฺถาวจรา’ติ วจนํ อวีจิปรนิมฺมิตปริจฺฉินฺโนกาสาย กามตณฺหาย วิสยภาวํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ปทสมฺภโว ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺโพ – กามตณฺหา กาโม, โส เอตฺถ อารมฺมณกรณวเสน อวจรตีติ กามาวจรนฺติ. นนุ เจตฺถ กตมา กามตณฺหา, ยา กามาวจรธมฺมารมฺมณา ตณฺหา. กตเม กามาวจรธมฺมา, เย กามตณฺหาวิสยาติ เอวํ อิตรีตรนิสฺสยตาโทโส อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, อวีจิอาทิเอกาทโสกาสนินฺนตาย ยํกิฺจิ ตณฺหํ กามตณฺหาภาเวน คเหตฺวา ตํสภาวาย ตณฺหาย วิสยภาเวน กามาวจรธมฺมานํ อุปลกฺเขตพฺพภาวโต. อถ วา กิเลสวตฺถุวเสน ทุวิโธปิ กาโม ยถารหํ สหชาตวเสน เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจรํ, อารมฺมณกรณวเสน วา ทุวิเธปิ กาเม เอตํ อวจรตีติ กามาวจรํ. อถ วา มฺจนิสฺสิตเกสุ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺเตสุ นิสฺสยนิสฺสิตานํ อเภทสฺส พุทฺธิยา คหิตตฺตา นิสฺสิตเกสุ นิสฺสยูปจารวเสน ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมตมฺปิ กามาวจรภเว ปวตฺตนวเสน ตนฺนิสฺสิตตฺตา นิสฺสยโวหาเรน ‘‘กามาวจร’’นฺติ วุจฺจติ. โหติ เจตฺถ –

‘‘กาโมวจรตีตฺเยตฺถ, กาเมวจรตีติ วา;

านูปจารโต วาปิ, ตํ กามาวจรํ ภเว’’ติ.

๒๐. ปุชฺชผลนิพฺพตฺตนโต, อตฺตสนฺตานํ ปุนนโต จ ปุฺานิ, กตฺตพฺพตาย กิริยา, เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถุตาย วตฺถูนิ จาติ ปุฺกิริยวตฺถูนิ. คณนโต ทสปริมาณตฺตา ทส จ ตานิ ปุฺกิริยวตฺถูนิ จาติ ทส ปุฺกิริยวตฺถูนิ, เตสํ วเสนาติ ทสปุฺกฺริยวตฺถุวเสน, ทสปุฺกิริยวตฺถุภาเวน ตํมยํ หุตฺวาติ อตฺโถ. เอว-กาเรน ปน รูปารูปโลกุตฺตรํ วิย น เกวลํ ภาวนาวเสเนวาติ ทสฺเสติ. อถ วา ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสเนว ปวตฺตติ, น ปน ปเรหิ ปริกปฺปิตปรปสํสาทิปุฺกิริยวตฺถุวเสนาติ เอว-สทฺเทน อวธารณํ. ยโต วกฺขติ ‘‘สพฺพานุสฺสติปุฺฺจา’’ติอาทิ.

๒๑. กานิ ปน ตานิ ทสปุฺกิริยวตฺถูนิ, เยสํ วเสน อิทํ อฏฺวิธํ จิตฺตํ ปวตฺตตีติ วุตฺตนฺติ อิมํ อนุโยคํ สนฺธาย ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทานํ สีล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทิยฺยติ เอเตนาติ ทานํ, ปริจฺจาคเจตนา. อิธ ปน จิตฺตาธิการวเสน ตํสมฺปยุตฺตํ คเหตพฺพํ. ตถา ‘‘สีลา’’ทีสุปิ. สีลตีติ สีลํ, กายวจีกมฺมานิ สมาทหตีติ อตฺโถ. สุสิลฺยวเสน หิ กายกมฺมาทีนิ อวิปฺปกิณฺณานิ สมฺปติ, อายติฺจ หิตสุขาวหานิ สมฺมา ปิตานิ สมาหิตานิ โหนฺติ, สีลยติ อุปธาเรตีติ วา สีลํ. อุปธารณํ ปเนตฺถ กุสลานํ อธิฏฺานภาโว. ภาเวติ กุสลธมฺเม อาเสวติ วฑฺเฒติ เอตายาติ ภาวนา. อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผนฺนา ปตฺติ ทิยฺยติ เอเตนาติ ปตฺติทานํ. ตํตํกิจฺจกรเณ พฺยาวฏสฺส ภาโว เวยฺยาวจฺจํ. เทเสติ เอตายาติ เทสนา. ปตฺตึ อนุโมทติ เอเตนาติ ปตฺตานุโมโท. ปุพฺพปทโลเปน ปน ‘‘อนุโมโท’’ติ วุตฺตํ. ทิฏฺิยา อุชุภาโว ทิฏฺิชุตฺตํ, สมฺมาทิฏฺิยา อุชุกรณนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน, ปรสฺส วา หิตชฺฌาสยวเสน สมฺมา สุณนฺติ เอตายาติ สํสุติ. ปูชาวเสน อปจายติ สามีจึ กโรติ เอเตนาติ อปจาโย. ปุฺกิริยวตฺถูนํ ปเภโท ปุฺกิริยวตฺถุปฺปเภโท. มชฺฌปทโลปวเสน ปน ‘‘ปุฺวตฺถุปฺปเภโท’’ติ วุตฺตํ ยถา อาชฺยุตฺโต รโถ ‘‘อาชฺรโถ’’ติ. อยํ ตาเวตฺถ ปทวิจาโร.

อยํ ปน วินิจฺฉโย – ตตฺถ เสขปุถุชฺชนานํ ปรํ อุทฺทิสฺส ปูชานุคฺคหกามตาย อตฺตโน วิชฺชมานวตฺถุปริจฺจชนวเสน ปวตฺตา เจตนา ทานมยปุฺกิริยวตฺถุ นาม. ขีณาสวานมฺปิ ตถา ปวตฺตา ทานเมว, สา ปน ปุฺกิริยา นาม น โหตีติ น อิธ อธิปฺเปตา. ปุชฺชผลนิพฺพตฺตนโต, หิ อตฺตสนฺตานํ ปุนนโต จ ปุฺํ, น จ ขีณาสวสนฺตาเน ปวตฺตา ผลนิพฺพตฺติกา โหติ, น จ ตํ ปุนาติ วิสุทฺธสนฺตานปฺปวตฺตตฺตาติ. เอวํ เสเสสุปิ.

ยา ปน นิจฺจสีลอุโปสถสีลาทิวเสน ปฺจสีลํ อฏฺสีลํ ทสสีลํ สมาทิยนฺตสฺส, อสมาทิยนฺตสฺสปิ กุลจาริตฺตวเสน สมฺปตฺตกายทุจฺจริตาทีหิ วิรมนฺตสฺส, อุปสมฺปทมาฬเก สํวรํ สมาทิยนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ ปริปูเรนฺตสฺส, อาปาถคตวิสเยสุ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ถเกนฺตสฺส, จีวราทิเก จ ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, กุหนาทิวตฺถุโต อาชีวํ ปริโสเธนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา, อยํ สีลมยปุฺกิริยวตฺถุนาม. เอตฺถาห – ‘‘ทานํ นาเมตํ มยฺหํ กุลวํโส กุลจาริตฺต’’นฺติ เอวํ จาริตฺตสีเล ตฺวา เทนฺตสฺส ปวตฺตา ทานมยปุฺกิริยวตฺถุ กึ, อุทาหุ สีลมยนฺติ? สีลมยเมว จาริตฺตสีลภาวโต. เทยฺยธมฺมปริจฺจาควเสน ปวตฺตาปิ เหสา ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส อปรภาเค เจตนาย จ ตถา ปวตฺตตฺตา สีลมยเมว ปุฺกิริยวตฺถุ, น ทานมยํ. ปูชานุคฺคหกามตาย หิ ทินฺนํ ทานมยนฺติ.

‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปน จกฺขาทิเก ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สมฺมสนฺตสฺส ปวตฺตา โคตฺรภุโวทานปริโยสานา วิปสฺสนาเจตนา, กสิณาทีสุ อารมฺมเณสุ อปฺปนํ อปฺปตฺตา โคตฺรภุปริโยสานา ปริกมฺมเจตนา จาติ อยํ ภาวนามยปุฺกิริยวตฺถุ นาม. อปฺปนาปฺปตฺตาปิ ภาวนาเยว, สา ปน น กามาวจราติ อิธ น คหิตา. นิรวชฺชวิชฺชายตนกมฺมายตนสิปฺปายตนานํ สิกฺขนเจตนาปิ ภาวนามเยเยว สโมธานํ คจฺฉตีติ อาจริยา. ยา เจตฺถ เทยฺยธมฺมํ ขยโต วยโต สมฺมสิตฺวา ททโต ปวตฺตา, สาปิ ปุพฺเพ วิย อุภยภาเค เจตนานํ ตถา ปวตฺตตฺตา ภาวนามยปุฺกิริยวตฺถุเยวาติ เวทิตพฺพํ.

ทานาทิกํ ยํ กิฺจิ สุจริตกมฺมํ กตฺวา ‘‘อสุกสฺส จ นาม ปตฺติ โหตุ, สพฺพสตฺตานํ วา โหตู’’ติ เอวํ อตฺตนา กตสฺส ปเรหิ สาธารณภาวํ ปจฺจาสีสนวเสน ปวตฺตา ปตฺติทานมยปุฺกิริยวตฺถุ นาม. กึ ปเนวํ ปตฺตึ ททโต ปุฺกฺขโย โหตีติ? น โหติ, ยถา ปน เอกํ ทีปํ ชาเลตฺวา ตโต ทีปสหสฺสํ ชาเลนฺตสฺส ปมทีโป ขีโณติ น วตฺตพฺโพ, ปุริมาโลเกน ปน สทฺธึ ปจฺฉิมาโลกสฺส เอกีภาเว อติมหาว โหติ, เอวเมว ปตฺตึ ททโต ปริหานิ นาม น โหติ, วุฑฺฒิเยว ปน โหตีติ ทฏฺพฺพา. กถํ ปเนสา ทินฺนา นาม โหตีติ? ‘‘อิทํ เม ปุฺกมฺมํ สพฺพสตฺตานํ, อสุกสฺส วา ปริณมตู’’ติ เอวํ ปุพฺพภาเค, ปจฺฉาปิ วา วจีเภทํ กโรนฺเตน มนสา เอว วา จินฺเตนฺเตน ทินฺนา นาม โหติ. เกจิ ปน ‘‘ยํ มยา กตํ สุจริตํ, ตสฺส ผลํ ‘ทมฺมี’ติ วุตฺเตปิ ปตฺติ ทินฺนาว โหตี’’ติ วทนฺติ. กุสลกมฺมาธิการตฺตา ปน ปเรหิ จ กมฺมสฺเสว อนุโมทิตพฺพตฺตา กมฺมเมว ทาตพฺพํ, อนุโมเทนฺเตนปิ กมฺมเมว อนุโมทิตพฺพนฺติ อิทเมตฺถ อาจริยานํ สนฺนิฏฺานํ.

จีวราทีสุ ปจฺจาสารหิตสฺส อสํกิลิฏฺเน อชฺฌาสเยน สมณพฺราหฺมณานํ วตฺตปฏิวตฺตกรณวเสน, คิลานุปฏฺานวเสน จ ปวตฺตา เวยฺยาวจฺจมยปุฺกิริยวตฺถุ นาม.

อามิสกิฺจกฺขาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส อตฺตโน ปคุณํ ธมฺมํ วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา เทเสนฺตสฺส, ตเถว นิรวชฺชวิชฺชายตนาทิกํ อุปทิสนฺตสฺส จ ปวตฺตา เทสนามยปุฺกิริยวตฺถุ นาม. ปเรหิ กตํ ยํ กิฺจิ สุจริตกมฺมํ ทินฺนมทินฺนมฺปิ วา อิสฺสามจฺเฉรมลํ ปหาย ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ อนุโมทนฺตสฺส ปวตฺตา อนุโมทนปุฺกิริยวตฺถุ นาม, ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา กมฺมสฺสกตาาณวเสน ทิฏฺึ อุชุํ กโรนฺตสฺส ปวตฺตา ทิฏฺิชุกมฺมปุฺกิริยวตฺถุ นาม. ยทิ เอวํ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตสฺส ทิฏฺิชุกมฺมปุฺกิริยตา น ลพฺภตีติ? โน น ลพฺภติ ปุริมปจฺฉิมเจตนานมฺปิ ตํตํปุฺกิริยาสฺเวว สงฺคณฺหนโต. ตถา หิ วกฺขติ –

‘‘ปุริมา มุฺจนา เจว, ปรา ติสฺโสปิ เจตนา;

โหติ ทานมยํ ปุฺํ, เอวํ เสเสสุ ทีปเย’’ติ.

ตสฺมา กิฺจาปิ อุชุกรณเวลายํ าณสมฺปยุตฺตเมว จิตฺตํ โหติ, ปุริมปจฺฉาภาเค ปน าณวิปฺปยุตฺตมฺปิ โหตีติ ตสฺสาปิ ทิฏฺิชุกมฺมปุฺกิริยภาโว อุปฺปชฺชติ.

อปเร ปนาหุ – วิฺาณปฺาณวเสน ทสฺสนํ ทิฏฺิ, จิตฺตํ ปฺา จ. ทิฏฺิยา อุชุภาโว ทิฏฺิชุตฺตํ. กึ ตํ? กุสลฺจ วิฺาณํ กมฺมสฺสกตาาณาทิ จ สมฺมาทสฺสนํ. ตตฺถ กุสลวิฺาเณน าณุปฺปาเทปิ อตฺตโน สุจริตานุสฺสรณปรคุณปสํสาสรณคมนานํ สงฺคโห, กมฺมสฺสกตาาเณน กมฺมปถสมฺมาทิฏฺิยาติ. ทานาทิสมฺปยุตฺตํ ปน าณํ ทานาทีสฺเวว อนฺโตคธนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอวมิมํ ธมฺมํ สุตฺวา ตตฺถ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺโต โลกิยโลกุตฺตรคุณวิเสสํ อธิคมิสฺสามิ, พหุสฺสุโต วา หุตฺวา ปเร ธมฺมเทสนาย อนุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ อตฺตโน, ปเรสํ วา วิมุตฺตายตนสีเสน สทฺธมฺมํ สุณนฺตสฺส ปวตฺตา สวนมยปุฺกิริยวตฺถุ นาม. นิรวชฺชวิชฺชายตนาทิสวนเจตนาปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. ปูชารเห, ครุฏฺานิเย, มหลฺลเก จ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺหนฺตสฺส ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณมคฺคทานอภิวาทนอฺชลิกมฺมกรณอาสนปุปฺผคนฺธาทิอภิหารํ กโรนฺตสฺส จ ปวตฺตา พหุมานเจตนา อปจิติสหคตปุฺกิริยวตฺถุ นาม. เวยฺยาวจฺจาปจายนานฺหิ อยํ วิเสโส – วยสา, คุเณน จ เชฏฺานํ, คิลานานฺจ ตํตํกิจฺจกรณํ เวยฺยาวจฺจํ, สามีจิกิริยา อปจายนนฺติ.

๒๒-๓. เอวํ อฏฺกถาย อาคตนเยน ทสปุฺกิริยวตฺถูนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺเต อาคตนเยน ทานํ สีลํ ภาวนาติ ตีณิเยว ทสฺเสตุํ เตสุ อิตเรสมฺปิ สงฺคหํ ทีเปนฺโต อาห ‘‘คจฺฉนฺติ สงฺคห’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปตฺติทานานุโมทนา ทาเน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ ตํสภาวตฺตา. ทานมฺปิ หิ อิสฺสามจฺเฉรานํ ปฏิปกฺขํ, เอเตปิ, ตสฺมา สมานปฏิปกฺขตาย ทาเนน สห เอกลกฺขณตฺตา เอเต ทานมยปุฺกิริยวตฺถุมฺหิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เวยฺยาวจฺจาปจายนา สีลมเย ปุฺเ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ จาริตฺตสีลสภาวตฺตา. เทสนาสวนทิฏฺิอุชุกา ปน กุสลธมฺมาเสวนโต ภาวนโต ภาวนามเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน ‘‘เทเสนฺโต, สุณนฺโต จ เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌ เทเสติ, สุณาติ จ, ตานิ จ เทสนาสวนานิ ปฏิเวธเมว อาหรนฺตีติ เทสนาสวนํ ภาวนามเย สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ วทนฺติ. ธมฺมทานภาวโต ‘‘เทสนา ทานมเย สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติปิ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา ทิฏฺิชุกมฺมํ สพฺพตฺถาปิ สพฺเพสํ นิยมนลกฺขณตฺตาติ. ทานาทีสุ หิ ยํ กิฺจิ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยาว วิโสธิตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘ทิฏฺิชุกมฺมํ ปน สพฺเพสํ นิยมนลกฺขณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕) วุตฺตํ. มหาสํฆิยา ปน อภยคิริวาสิโน จ ทิฏฺิชุกมฺมํ วิสุํ ปุฺกิริยภาเวน น คณฺหนฺติ. ตถา หิ เต ทานํ สีลํ ภาวนา สํสุติ เทสนานุสฺสติโมทนํ เวยฺยาวจฺจปูชาสรณปฺปตฺติปสํสา จาติ อตฺตนา กตปุฺานุสฺสรณํ พุทฺธาทีสุ สรณคมนํ ปรคุณปสํสาติ อิมานิ ตีณิ ปกฺขิปิตฺวา ทิฏฺิชุกมฺมํ อคฺคเหตฺวา ทฺวาทส ปุฺกิริยวตฺถูนิ ปฺาเปนฺติ. ปุน ตีเณวาติ ปมํ ทสาปิ สมานา ปุน สงฺเขปโต ตีเณว สมฺโภนฺติ.

๒๔. อิทานิ ปเรหิ นิทฺทิสิยมานานํ ปุฺานุสฺสรณาทีนํ อตฺตนา นิทฺทิฏฺเสฺเวว สโมธานํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพานุสฺสติปุฺฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพสฺเสว อตฺตนา กตสุจริตสฺส อนุสฺสรณํ สพฺพานุสฺสติปุฺํ นาม. ปสํสาติ ปเรหิ กตาย ปุฺกิริยาย, สมฺมาปฏิปตฺติยา จ วิปฺปสนฺนจิตฺเตน ปสํสนํ, สนฺตุสฺสนนฺติ อตฺโถ. สรณตฺตยนฺติ เอตฺถ สรนฺติ หึสนฺตีติ สรณานิ, พุทฺธาทีนิ ตีณิ รตนานิ. ตานิ หิ สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุคฺคติปริกฺกิเลสํ หึสนฺติ วินาเสนฺติ. ตโย อวยวา อสฺสาติ ตยํ, ตีหิ อวยเวหิ ยุตฺตสมุทายสฺเสตํ อธิวจนํ, สรณานํ ตยํ สรณตฺตยํ, ตีณิ สรณานีติ วุตฺตํ โหติ. น หิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถีติ. อิธ ปน สรณตฺตยคฺคหเณน อุปจารโต, อุตฺตรปทโลปโต วา สรณคมนํ อธิปฺเปตํ. น หิ สรณตฺตยํ ปุฺกิริยวตฺถุ นาม โหติ. อตฺถโต ปเนตํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สํโฆ’’ติอาทินา พุทฺธาทีสุ ปสาทปฏิลาภวเสน ปวตฺตา เจตนา ทิฏฺิชุกมฺมสฺมึ สงฺคหํ ยนฺติ ตํวเสเนว เตสํ อิชฺฌโต. น หิ วิปรีตทิฏฺิกสฺส อิมานิ ตีณิ สมฺภวนฺติ, ตสฺมา เต เอกนฺเตน ทิฏฺิชุกมฺมปุฺกิริยวตฺถุสฺมึ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, น วิสุํ ปุฺกิริยภาเวน คเหตพฺพาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘นตฺถิ สํสโย’’ติ. ทิฏฺิชุกมฺมสฺส ภาวนามยสงฺคเหปิ สงฺเขปนเยน ภาวนามเย สงฺคยฺหนฺติ, วิตฺถารนเยน ปน ‘‘กตฺถ นุ โข’’ติ สํสโย สิยาติ อิเมสํ ภาวนามยสงฺคโห น วุตฺโต. ทิฏฺิชุกมฺมสฺส วา สพฺเพสํ มหปฺผลภาวนิยามกตฺเตน มูลภูตตฺตา ตสฺส ปธานภาวํ ทสฺเสตุํ วิสุํ ตตฺถ สงฺคยฺหนฺตีติ วุตฺตํ. อปเร ปน ‘‘สงฺคณฺหนฺโต สงฺคณฺหาติ, คณฺหนฺโต ‘มุฺจตี’ติ วจนโต สรณคมนสฺส สีลสมาทาเน วิย คหณํ สมฺภวตีติ สีลมเย สงฺคยฺหตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘สรณคมนํ ปณิปาตภาวโต อปจิติสหคเต สงฺคยฺหตี’’ติ เกจิ.

๒๕. อิทานิ ยถาวุตฺตปุฺกิริยวตฺถูนํ ปุริมปจฺฉิมภาควเสน ปวตฺตมานาปิ เจตนา ตตฺถ ตตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุริมา มุฺจนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุริมาติ ทานตฺถาย เทยฺยธมฺมํ ธมฺเมน สเมน อุปฺปาเทนฺตสฺส, อุปฺปนฺนํ ‘‘ปริจฺจชิสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺตสฺส, ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสนฺตสฺส จ ยาว วตฺถุโน ปฏิคฺคาหกสฺส หตฺเถ วิสฺสชฺชนํ, ปริณามนํ วา, ตาว ปวตฺตา ปุพฺพภาคเจตนา. ปฏิคฺคาหกสฺส ปน หตฺเถ วิสฺสชฺชนเจตนา, ปริณามนเจตนา วา มุฺจนเจตนา นาม. สาเยว นิคฺคหีตโลเปน ‘‘มุจนา’’ติ วุตฺตา. ‘‘มุฺจนา’’อิติเยว วา ปาโ. ปราติ อตฺตนา วิสฺสฏฺวตฺถุมฺหิ อาลยํ อกตฺวา ‘‘สาธุ สุฏฺุ อคฺคํ ทานํ เม ทินฺน’’นฺติ โสมนสฺสจิตฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนา อปรภาคเจตนา. ติสฺโสปิ เจตนาติ อิติ อยฺจ ปุริมา เจตนา, อยฺจ มุฺจนเจตนา, อยฺจ อปรเจตนาติ ติสฺโสปิ เจตนา เอกโต หุตฺวา ทานมยํ ปุฺํ โหติ, ทานมยปุฺกิริยวตฺถุ นาม โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ปุฺ’’นฺติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โหตี’’ติ เอกวจนนิทฺเทโส. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ เสเสสุปิ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอวํ เสเสสุ ทีปเย’’ติ. เสเสสูติ สีลาทีสุ ปุฺกิริยวตฺถูสุ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน ‘‘สีลํ ‘รกฺขิสฺสามี’ติ จินฺเตนฺตสฺส, ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส ปวตฺตา ปุริมเจตนา, สีลํ สมาทิยนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส, สีลํ ปริปูเรนฺตสฺส อุปฺปนฺนา มชฺฌิมเจตนา, ‘ปูริตํ เม’ติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนา อปรเจตนาติ เอวํ ติสฺโสปิ เจตนา เอกโต หุตฺวา สีลมยปุฺกิริยวตฺถุ นามา’’ติอาทินา ทีปเย, ปกาเสยฺยาติ อตฺโถ. นนุ จ อตฺตนา กตปุฺานุสฺสรณเจตนา ทิฏฺิชุกมฺมสงฺคหิตา, อยฺจ อปรเจตนา สาเยวาติ กถมสฺสา ตตฺถ สงฺคโหติ? นายํ โทโส, วิสยเภเทน อุภินฺนมฺปิ วิเสสสพฺภาวโต. ปุฺานุสฺสรณฺหิ อตฺตนา กตปุฺวิสยเมว. อยํ ปน ตพฺพตฺถุวิสยาติ ปากโฏเยว ทฺวินฺนํ วิเสโสติ.

เอตฺตาวตา จ ยํ วุตฺตํ ‘‘ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสเนว ปวตฺตตี’’ติ, ตตฺถ ทสปุฺกิริยวตฺถูนิ สรูปโต, สงฺคหโต จ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตถาปวตฺตมานสฺส จสฺส ปาเฏกฺกํ ปวตฺตาการวิสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อยนฺติ วกฺขมานนิทสฺสนํ. ทาตพฺโพ ธมฺโม เทยฺยธมฺโม, อนฺนาทิทสวิธํ วตฺถุ. วุตฺตฺหิ –

‘‘อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ, มาลาคนฺธวิเลปนํ;

เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, ทานวตฺถู ทสาวิเม’’ติ.

ปฏิคฺคาหโก อาทิ เยสํ เทสกาลมิตฺตาทีนํ เต ปฏิคฺคาหกาทโย, เทยฺยธมฺมสฺส, ปฏิคฺคาหกาทีนฺจ สมฺปตฺติ สมฺปนฺนตา เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺติ. ตตฺถ เทยฺยธมฺมสฺส ปณีตมนาปภาโว ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนภาโว เทยฺยธมฺมสมฺปตฺติ. ปฏิคฺคาหกานํ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาโว ปฏิคฺคาหกสมฺปตฺติ. ทุลฺลภอนฺนปานาทิโก เทโส เทสสมฺปตฺติ. ตาทิโสว กาโล กาลสมฺปตฺติ. ทุลฺลภอนฺนปานาทิเก หิ เทเส, กาเล วา ทินฺนํ อชฺฌาสยสฺส พลวตาย มหปฺผลํ, โสมนสฺสเหตุกฺจ โหติ, ตสฺมา เต ทานสฺส สมฺปตฺติวเสน วุตฺตา. มิตฺตสมฺปตฺติ ปน กลฺยาณมิตฺตภาโว. กลฺยาณมิตฺตฺหิ นิสฺสาย ทานาทีสุ จิตฺตํ โอทคฺยปฺปตฺตํ โหติ. ปริจาริกสมฺปตฺติ ปน อนาณตฺติยาปิ ตํตํกิจฺจสมฺปาทเน อปฺปมตฺตสฺส ปริจาริกชนสฺส ปฏิลาโภ. อฺํ วา โสมนสฺสเหตุนฺติ สทฺธาพหุลตาวิสุทฺธิทิฏฺิตาทิเภทํ อฺํ โสมนสฺสการณํ วา. อาคมฺมาติ อุปาคมฺม, ปฏิจฺจาติ อตฺโถ. หฏฺปหฏฺโติ โสมนสฺสวเสน หฏฺโ เจว ปหฏฺโ จ. อุภเยนปิ อธิกโสมนสฺสํ วุตฺตํ. อตฺถิ…เป… ปวตฺตนฺติ ‘‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๑) เอวํ ปวตฺตํ ทสวิธํ สมฺมาทิฏฺิวตฺถุวเสน เจว ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยาทีนํ วเสน จ ปวตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน หิ น เกวลํ นวนฺนํเยว สมฺมาทิฏฺิวตฺถูนํ คหณํ, อถ โข ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยานมฺปิ สงฺคโห. สมฺมา าเยน ปวตฺตา ทิฏฺิ, ปสตฺถา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ, ตํ. ปุรกฺขตฺวาติ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา. ตฺจ โข สหชาตปุพฺพงฺคมวเสน ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑-๒) วิย สมฺปโยคสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

อนุสฺสาหิโตติ โลภมจฺฉริยาทิวเสน ปุฺกิริยาย สงฺโกจํ อนาปชฺชนโต อตฺตนา, ปเรน วา เกนจิ อนุสฺสาหิโต หุตฺวา. สภาวโต หิ ปุฺปฺปวตฺติทสฺสนมิทํ. ปเรหีติ ปน ปรปากฏุสฺสาหทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ปมนฺติ เทสนากฺกเมน, อิธ นิทฺทิฏฺกฺกเมน วา ปมํ. มหากุสลจิตฺตนฺติ โสมนสฺสสหคตตาทิองฺคปาริปูริยา มหนฺตํ กุสลจิตฺตํ. อถ วา ปจฺฉิมภวิกโพธิสตฺตานํ ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนโต มหนฺตํ ปูชิตํ กุสลจิตฺตนฺติ มหากุสลจิตฺตํ. สพฺเพสมฺปิ หิ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ ปฏิสนฺธิ เมตฺตาปุพฺพงฺคมสฺส ติเหตุกโสมนสฺสมยสฺส อสงฺขาริกจิตฺตสฺส วิปาโกติ วุตฺตํ. เอตฺถ ‘‘เทยฺยธมฺม…เป… หฏฺปหฏฺโ’’ติ เอตฺตาวตา อิมสฺส โสมนสฺสสหคตภาวมาห, ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา’’ติ าณสมฺปยุตฺตภาวํ, ‘‘อนุสฺสาหิโต’’ติ ปน อิมินา อสงฺขาริกภาวนฺติ ทฏฺพฺพํ.

วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺตึ, อฺํ วา โสมนสฺสการณํ อาคมฺมา’’ติ เอวํ วุตฺตนเยน. อุสฺสาหิโตติ เทยฺยธมฺเม สาเปกฺขาทิตาย, สีลสมฺปทาทีสุ อนธิมุตฺตตาทีหิ จ ปุฺกิริยาย สงฺโกจาปชฺชนโต อตฺตนา, ปเรน วา เกนจิ อุสฺสาหิโต. ปเรหีติ ปน วุตฺตนยเมว. กโรติ ทานาทีนิ ปุฺานีติ สมฺพนฺโธ. ตเมวาติ โสมนสฺสสหคตาทินา ตํสทิสตาย วุตฺตํ. โหติ หิ ตํสทิเสปิ ตํโวหาโร ยถา จ ‘‘สาเยว ติตฺติรี, ตานิเยว โอสธานี’’ติ. เอตฺถ ปน ‘‘อุสฺสาหิโต’’ติ อิมินา สสงฺขาริกตํ ทสฺเสติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิมสฺมึ ปนตฺเถติ อิมสฺมึ สสงฺขาริกสทฺทาภิเธยฺเย, อุสฺสาหิตพฺพจิตฺตสงฺขาเต อตฺเถ ตํวิสเยติ อตฺโถ. ปุพฺพปฺปโยคสฺสาติ ปุฺกิริยาย สงฺโกเจ ชายมาเน ตโต วิเวเจตฺวา สมุสฺสาหนวเสน ปวตฺตสฺส จิตฺตปฺปโยคสฺส. ปุพฺพ-คฺคหณํ ปเนตฺถ ตถาปวตฺตปุพฺพาภิสงฺขารวเสน โส ปโยโค โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ, น ตสฺส ปุพฺพกาลิกตายาติ วุตฺโตวายมตฺโถ.

ปฏิปตฺติทสฺสเนนาติ ภิกฺขู ทิสฺวา เทยฺยธมฺมปริจฺจชนวนฺทนาทิปฏิปตฺติทสฺสเนน. พลนฺติ อนนฺตีติ พาลา, อสฺสาสิตปสฺสาสิตมตฺเตเนว ชีวนฺติ, น ปฺาชีวิเตนาติ อธิปฺปาโย. พาลาเยว พาลกา. เต ปน อิธ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา อภาเวน อสฺชาตพุทฺธิโน ทารกา. ปากฏวเสน เจตฺถ พาลก-คฺคหณํ. สหสา กรณาทิกาเล ปน อิตเรสมฺปิ าณวิปฺปยุตฺตํ โหตีติ. โสมนสฺสํ ชาตํ เอเตสนฺติ โสมนสฺสชาตา, ชาตโสมนสฺสาติ อตฺโถ. สหสาติ สีฆํ สีฆํ ทาตุกามตาย อุปฺปตฺติสมกาลเมว.

เอตฺถ จ ‘‘ปฏิปตฺติทสฺสเนนา’’ติ อิมินา ปเรสํ ปโยคาภาวมาห, ‘‘ชาตปริจยา’’ติ อตฺตโน ปโยคาภาวํ. อุภเยนาปิ อิมสฺส อสงฺขาริกภาวํ ทีเปติ. ‘‘พาลกา, สหสา’’ติ จ อิเมหิ าณวิปฺปยุตฺตภาวมาห, ‘‘ภิกฺขู…เป… ชาตา’’ติ โสมนสฺสสหคตภาวํ. อถ วา ‘‘ปฏิปตฺติ…เป… ปริจยา’’ติ อิมินา อสงฺขาริกภาวสฺส ‘‘พาลกา ภิกฺขู…เป… ชาตา’’ติ จ อิเมหิ าณวิปฺปยุตฺตโสมนสฺสสหคตภาวสฺส จ ทีปิตตฺตา ‘‘สหสา’’ติ วจเนน ยถาวุตฺตเมว าณวิปฺปยุตฺตอสงฺขาริกภาวํ ปกาเสติ. เอวํ สติ ปฏิโลมโต โสมนสฺสสหคตาทิภาโว ทสฺสิโต โหติ. อนุโลมโต ปน ‘‘โสมนสฺสชาตา’’ติ อิมินา โสมนสฺสสหคตภาวํ, สหสา-คฺคหเณน าณวิปฺปยุตฺตาสงฺขาริกภาวํ ทีเปติ. ‘‘ปฏิปตฺติ…เป… ทิสฺวา’’ติ เอตฺตาวตา ปน โสมนสฺสสหคตาทิภาวสฺส การณํ วุตฺตนฺติ. เตติ เต าตกา, เต พาลกาติ วา อตฺโถ. ‘‘โสมนสฺสเหตูนํ อภาวํ อาคมฺมา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. มชฺฌตฺตารมฺมณํ ตถารูเป เจโตภิสงฺขาราทโยปิ หิ อุเปกฺขาสหคตตาย การณเมวาติ. จิตฺตสฺส โสมนสฺสาภาเว ปุคฺคลสฺสปิ โสมนสฺสรหิตตา โหตีติ ‘‘จตูสุปิ…เป… โหนฺตี’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา วุตฺตํ, โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ ปุฺํ กโรนฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอว’’นฺติอาทิ นิคมนํ.

อิเมสุ ปน อฏฺสุ วิฺาเณสุ โสมนสฺสสหคตโต อุเปกฺขาสหคตํ พลวตรํ, าณวิปฺปยุตฺตโต าณสมฺปยุตฺตํ, สสงฺขาริกโต อสงฺขาริกํ สทิสํ พลวตรํ. วิสทิสํ ปน เวทนาาณปฺปโยควเสน พลวํ, ทุพฺพลฺจ โหติ. โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกโต หิ อุเปกฺขาสหคตติเหตุกสสงฺขาริกํ พลวตรํ, อุเปกฺขาสหคตทุเหตุกอสงฺขาริกโต โสมนสฺสสหคตติเหตุกอสงฺขาริกํ พลวตรํ. อิติ จตุตฺถจิตฺตโต ตติยจิตฺตํ พลวตรํ, ตโต อฏฺมจิตฺตํ, ตโต สตฺตมจิตฺตํ, ตโต ทุติยจิตฺตํ, ตโต ปมจิตฺตํ, ตโต ฉฏฺจิตฺตํ, ตโต ปฺจมจิตฺตนฺติ เอวมิเมสํ พลวพลวตรภาโว เวทิตพฺโพ.

๒๖. เอวํ ปาฬิยํ อาคตนเยน เวทนาาณปฺปโยคเภทโต อฏฺวิธตํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ อฏฺกถายํ อาคตปุฺกิริยาทีนํ วเสนปิ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทส ปุฺกฺริยาทีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ฉนฺนํ อารมฺมณานํ, จตุนฺนํ อธิปตีนํ, ติณฺณํ กมฺมานํ, หีนาทิเภทสฺส จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตเนวาหุ –

‘‘กเมน ปุฺวตฺถูหิ, โคจราธิปตีหิ จ;

กมฺมหีนาทิโต จาปิ, คเณยฺย นยโกวิโท’’ติ.

๒๗. อิทานิ ตถาปวตฺตมานสฺส ตสฺส โย โย เตสํ เตสํ วเสน ลพฺภมาโน คณนปริจฺเฉโท, ตํ สมฺปิณฺฑิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตรส สหสฺสานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺเถวํ คณนา เวทิตพฺพา – อิมานิ ตาว อฏฺ วิฺาณานิ ทสนฺนํ ปุฺกิริยวตฺถูนํ วเสน ปวตฺตนโต ปจฺเจกํ ทส ทสาติ กตฺวา อสีติ จิตฺตานิ โหนฺติ, ตานิ จ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตนโต ฉคฺคุณิตานิ สาสีติกานิ จตฺตาริ สตานิ โหนฺติ, ตานิ จตุนฺนํ อธิปตีนํ สหโยควเสน จตุคฺคุณิตานิ สหสฺสํ, วีสาธิกานิ จ นว สตานิ โหนฺติ, ตานิ จ กายวจีมโนสงฺขาตานํ ติณฺณํ กมฺมานํ วเสน ติคุณิตานิ สสฏฺิสตฺตสตาธิกานิ ปฺจ สหสฺสานิ โหนฺติ, ตานิ จ หีนมชฺฌิมปณีตเภทโต ติคุณิตานิ สาสีติกทฺวิสตาธิกานิ สตฺตรส สหสฺสานิ โหนฺตีติ. นนุ จ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตานํ วีมํสาธิปติสหโยคาภาวโต อธิปติวเสน สหสฺสํ, สาสีติกานิ จ ฉ สตานิ โหนฺตีติ ตานิ กมฺมาทีนํ วเสน สมฺปิณฺฑิตานิ วีสสตาธิกานิ ปนฺนรส สหสฺสานิ ภวนฺตีติ? สจฺจเมตํ, โสตปติตวเสน ปน ตํ อนาทิยิตฺวา อธิปติคณนา คหิตาติ น ตสฺส วเสน คณนหานิ กตาติ ทฏฺพฺพํ.

นนุ จ ‘‘สวิปากํ กุสล’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ปน กถํ, กุหึ, กึ ผลตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ. ยสฺมา ติเหตุกํ กุสลํ ติเหตุกํ วา ทุเหตุกํ วา ปฏิสนฺธึ เทติ, นาเหตุกํ ปฏิสนฺธึ เทติ. ยทา จ ติเหตุกํ ปฏิสนฺธึ ชเนติ, ตทา ปวตฺเต โสฬส วิปากานิ อภินิปฺผาเทติ. ยทา ทฺวิเหตุกํ, ตทา ทฺวาทส. ทุเหตุกํ ปน ทุเหตุกมเหตุกฺจ ปฏิสนฺธึ ชเนติ, น ติเหตุกํ. ยทา จ ทุเหตุกํ ชเนติ, ตทา ปวตฺติยํ ทฺวาทส. ยทา อเหตุกํ, ตทา อฏฺ. เย ปน อาคมนโต วิปากสฺส สงฺขารเภทมิจฺฉนฺติ, เตสํ มเตน ติเหตุกํ ทฺวาทส, ทส วา วิปจฺจติ, ทุเหตุกํ ทส, อฏฺ วา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ. นานาวิธสมฺปตฺติฏฺานภาวโต โสภนา, คนฺตพฺพโต คติ จาติ สุคติ, กามาวจรภโวว สุคติ กามาวจรสุคติ. ตสฺสํ กามาวจรสุคติยํ. ภวโภคสมฺปตฺตินฺติ เอตฺถ จ ภวตีติ ภโว, อุปปตฺติภวสงฺขาตานํ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปานเมตํ คหณํ, ภุฺชิตพฺพโต โภโค, ปวตฺติยํ ปฏิลภิตพฺพสมฺปตฺติ, ภโวติ วา ปฏิสนฺธิ, โภโค เสสวิปากกฏตฺตารูเปหิ สห ปวตฺติยํ ปฏิลภิตพฺพา สมฺปตฺติ, ภโว จ โภโค จ ภวโภโค, เตเยว สมฺปนฺนภาวโต สมฺปตฺติ, เตสํ วา สมฺปตฺติ ภวโภคสมฺปตฺติ, ตํ อภินิปฺผาเทติ, ชนกวเสน จ อุปนิสฺสยวเสน จ สาเธตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ภวโภคสมฺปตฺตีนํ นิรวเสสโต ลพฺภมานฏฺานํ สนฺธาย ‘‘กามาวจรสุคติย’’นฺติ วุตฺตํ. สเหตุกวิปากวชฺชํ ปน ปวตฺติวิปากกฏตฺตารูปสภาวํ ภวสมฺปตฺตึ, เอกจฺจโภคสมฺปตฺติฺจ, โภคสมฺปทเมว วา อวิเสเสน สุคติยํ ทุคฺคติยมฺปิ อภินิปฺผาเทติเยว. นาคสุปณฺณาทีนมฺปิ หิสฺส เทวสมฺปตฺติสทิสํ มนุฺํ โภคชาตํ, ตพฺพิสยานิ จ วิปากจิตฺตานิ, สุวณฺณตาสุสฺสรตาทิ จ ตํ สพฺพํ กามาวจรกุสลสฺเสว ผลํ. น หิ อกุสลสฺส อิฏฺผลํ อตฺถิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ อกุสลสฺส อิฏฺโ กนฺโต วิปาโก สํวิชฺชตี’’ติ.

กามาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรกุสลวณฺณนา

อิทานิ ยสฺมา กามาวจรกุสลานนฺตรํ อุทฺทิฏฺสฺส รูปาวจรกุสลสฺส นิทฺเทสาวกาโส อนุปฺปตฺโต, ตสฺมา ตํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อิตเรสู’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิตเรสูติ ยถาวุตฺตกามาวจรกุสลโต อิตเรสุ, รูปาวจราทีสูติ อตฺโถ. สวตฺถุกโต เอกวิธํ เอกนฺเตน วตฺถุสนฺนิสฺสิตตฺตา. น หิ อรูปธาตุยํ รูปาวจรธมฺมา ลพฺภนฺติ รูปวิราคภาวนาย นิพฺพตฺตตฺตา ปุน รูปาวจรชฺฌานสมาปตฺติยา อภาวโต.

หีนมชฺฌิมปณีตเภทโตติ เอตฺถ ปุพฺเพ วิย อธิปตีนํ หีนาทิภาเวหิ ฌานสฺส หีนาทิภาโว โยเชตพฺโพ. อถ วา ปฏิลทฺธมตฺตมนาเสวิตํ หีนํ ปริทุพฺพลภาวโต, นาติสุภาวิตํ อปริปุณฺณวสิภาวํ มชฺฌิมํ, อติวิย สุภาวิตํ ปน สพฺพโส ปริปุณฺณวสิภาวํ ปณีตํ. ตถา อุฬารปุฺผลกามตาวเสน ปวตฺติตํ หีนํ, โลกิยาภิฺตฺถาย ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, วิเวกกามตาย อริยภาเว ิเตน ปวตฺติตํ ปณีตํ. อตฺตหิตาย วา ปวตฺติตํ หีนํ, เกวลํ อโลภชฺฌาสเยน ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, ปรหิตาย ปวตฺติตํ ปณีตํ. วฏฺฏชฺฌาสเยน วา ปวตฺติตํ หีนํ, วิเวกชฺฌาสเยน ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, วิวฏฺฏชฺฌาสเยน โลกุตฺตรปาทกตฺถํ ปวตฺติตํ ปณีตํ.

ปฏิปทาทิเภทโตติ ทุกฺขปฏิปทาทนฺธาภิฺาทีนํ ปฏิปทาภิฺานํ เภเทน. ปฏิปทาวจเนเนว วา ตทวินาภาวโต อภิฺาปิ ลพฺภติ. ตถา เหตฺถ ปฏิปทาจตุกฺกนฺติ โวหรนฺตีติ อาทิ-สทฺเทน อธิปติอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, ตสฺมา ปฏิปทาทิเภทโตติ ปฏิปทาเภทโต, อธิปติเภทโต, อารมฺมณเภทโต, หานภาคิยาทิเภทโตติ อตฺโถ. ตตฺถ ปฏิปทาเภทโต ตาว ทุกฺขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, ทุกฺขปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺํ, สุขปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ, สุขปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺนฺติ เอวํ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ ทุกฺขา ปฏิปทา อสฺสาติ ทุกฺขปฏิปทํ. ทนฺธา อภิฺา อสฺสาติ ทนฺธาภิฺํ. เอส นโย ‘‘ทุกฺขปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺ’’นฺติอาทีสุปิ.

ตตฺถ อปฺปหีนนีวรณสฺส, อวิกฺขมฺภิตฌานนิกนฺติกสฺส จ าณกิจฺจสฺส อปริพฺยตฺตตาย ปรินิฏฺิตสกลปุพฺพกิจฺจสฺส ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ วา ‘‘อาโป อาโป’’ติ วา เอวํ ปวตฺตปมสมนฺนาหารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารุปฺปตฺติยา นีวรณปฺปหานํ, นิกนฺติวิกฺขมฺภนฺจ โหติ, ตาว ปวตฺตา ปุพฺพภาคภาวนา ปฏิปทา นาม ‘‘ปฏิปชฺชติ ฌานํ เอตายา’’ติ กตฺวา. ปหีนนีวรณสฺส, ปน วิกฺขมฺภิตฌานนิกนฺติกสฺส จ าณกิจฺจสฺส ปริพฺยตฺตภาวโต อุปจารชฺฌานํ อาทึ กตฺวา ยาว อปฺปนาย อุปฺปตฺติ, ตาว ปวตฺตา ปฺา ปุพฺพภาคปฺาย วิสิฏฺภาวโต อภิฺา นาม, ตสฺมา โย อาทิโต กิเลเส ฌานนิกนฺติฺจ วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, วิกฺขมฺภิตกิเลสฌานนิกนฺติ จ อปฺปนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ทุกฺขปฏิปทํ, ทนฺธาภิฺฺจ ฌานํ โหติ. โย ปน สสงฺขาเรน กิเลสาทิเก วิกฺขมฺเภตฺวา น จิเรน องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ทุกฺขปฏิปทํ, ขิปฺปาภิฺฺจ. โย กิเลสาทิเก วิกฺขมฺเภนฺโต สุเขน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, อปฺปนาปริวาสํ ปน จิรายติ, ตสฺส สุขปฏิปทํ, ทนฺธาภิฺํ. โย ปน สุเขเนว กิเลสาทิเก วิกฺขมฺเภตฺวา สีฆเมว อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตสฺส สุขปฏิปทํ, ขิปฺปาภิฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

โส ปนายํ ปฏิปทาภิฺานํ เภโท กิเลสินฺทฺริยาธิการวเสน เวทิตพฺโพ. ยสฺส หิ ราคาทโย กิเลสา ติพฺพา โหนฺติ, สทฺธาปฺจมกานิ จ อินฺทฺริยานิ มุทูนิ. โย จ สมถวิปสฺสนาสุ อกตาธิกาโร, ตสฺส ปวตฺตฌานํ ทุกฺขปฏิปทํ, ทนฺธาภิฺฺจ โหติ. ตสฺส หิ กิเลสสมุทาจารติพฺพตาย นีวรณวิกฺขมฺภนสฺส กิจฺเฉน กสิเรน สมิชฺฌนโต ปฏิปทา ทุกฺขา อสุขา, ตสฺเสว สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ มุทุตาย อภิฺาปิ ทนฺธา มนฺทา อสีฆปฺปวตฺตินี โหติ. ภวนฺตเร วา สมเถ อกตาธิการตฺตา ปฏิปทา ทุกฺขา, วิปสฺสนาย อกตาธิการตฺตา อภิฺาปิ ทนฺธา. โย ปน วุตฺตวิปรีโต โหติ, ตสฺส กิเลสานํ อติพฺพสมุทาจารตาย, อินฺทฺริยานฺจ ติขีณตาย สมถวิปสฺสนาสุ กตาธิการตาย ยถากฺกมํ สุขปฏิปทา, ขิปฺปาภิฺา จ โหติ. ภวนฺตเร กตปริจยสฺส หิ ยถา ปคุณํ กตฺวา วิสฺสฏฺคนฺโถ อปฺปมตฺตเกน ปโยเคน สุปฺปวตฺติ วาจุคฺคโต จ โหติ, เอวํ ภาวนา อปฺปกสิเรเนว อิชฺฌตีติ. สฺวายํ อกโต, กโต จ อธิกาโร สมถนิสฺสิโต ปฏิปทายํ วุตฺโต สมาธิปฺปธานตฺตา ปฏิปทาย. วิปสฺสนานิสฺสิโต อภิฺาย าณปฺปธานตฺตา อปฺปนายาติ ทฏฺพฺพํ.

โย ปน ติพฺพกิเลโส ติกฺขินฺทฺริโย วิปสฺสนายเมว วา กตาธิกาโร โหติ, ตสฺส วุตฺตนเยน ทุกฺขา ปฏิปทา, ขิปฺปา ปน อภิฺา โหติ, ตพฺพิปรีตสฺส สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺาติ. ตสฺมา กิเลสานํ ติพฺพมนฺทภาวโต, อินฺทฺริยานํ ติขิณมุทุภาวโต, ปุพฺพปริจยสฺส จ สมฺภวาสมฺภววเสนาติ เอวํ กิเลสินฺทฺริยาธิการวเสน อิมาสํ เภโท เวทิตพฺโพ.

อปิจ ยานิ ปรโต สปฺปายาสปฺปายานิ, ปลิโพธุปจฺเฉทาทีนิ ปุพฺพกิจฺจานิ, อปฺปนาโกสลฺลานิ จ อาคมิสฺสนฺติ, เตสุ โย อุปจาราธิคมโต ปุพฺเพ, ปจฺฉา จ อสปฺปายเสวี โหติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา, ทนฺธา จ อภิฺา โหติ. อุภยตฺถ สปฺปายเสวิโน สุขา ปฏิปทา, ขิปฺปา จ อภิฺา. โย ปน ตโต ปุพฺพภาเค อสปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค สปฺปายเสวี โหติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา, ขิปฺปา อภิฺา. ตพฺพิปรีตสฺส สุขา ปฏิปทา, ทนฺธา อภิฺา จ เวทิตพฺพา.

ตถา ปลิโพธุปจฺเฉทาทิปุพฺพกิจฺจํ อสมฺปาเทตฺวา ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส สปริปนฺถตาย ทุกฺขา ปฏิปทา, วิปริยาเยน อปริปนฺถตาย สุขา. อปฺปนาโกสลฺลานิ อสมฺปาเทนฺตสฺส าณสฺส อวิสทตาย ทนฺธา อภิฺา โหติ, สมฺปาเทนฺตสฺส วิปริยายโต ขิปฺปา อภิฺาติ. กิฺจ – ตณฺหาวิชฺชาติภวนวเสน เอตาสํ เภโท เวทิตพฺโพ. ตณฺหาภิภูตสฺส หิ ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ ตสฺสา สมาธิสฺส อุชุปฏิปกฺขตฺตา สมถปฏิปทาย ปริปนฺถกภาวโต, อนภิภูตสฺส ตทภาวโต สุขา. อวิชฺชาภิภูตสฺส จ ตสฺสา ปฺาย อุชุปฏิปกฺขภาวโต ทนฺธา อภิฺา, อิตรสฺส ขิปฺปา อภิฺาติ. โส ปนายํ ปฏิปทาเภโท เกวลํ สมถภาวนาวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส, มคฺคาธิคมวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส ปน นตฺถิ ทุกฺขปฏิปทาทิเภโท. เกจิ ปน มคฺควเสเนว ตสฺส ปฏิปทาทิเภทํ วณฺเณนฺติ ‘‘มคฺคสฺส หิ ทุกฺขปฏิปทาทิภาเว ตสฺมึ ทุกฺขปฏิปทาทิก’’นฺติ.

อธิปติเภทาทีสุ ปน ฉนฺทาธิปเตยฺยํ จิตฺตาธิปเตยฺยํ วีริยาธิปเตยฺยํ วีมํสาธิปเตยฺยนฺติ เอวํ อธิปติเภทโต, ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณํ, อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณํ, อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ เอวํ อารมฺมณเภทโต, หานภาคิยํ ิติภาคิยํ วิเสสภาคิยํ นิพฺเพธภาคิยนฺติ เอวํ หานภาคิยาทิเภทโต จ จตุพฺพิธตา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ‘‘ฉนฺทวโต เจ ฌานํ นิพฺพตฺติสฺสติ, มยฺหมฺปิ นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ เอวํ ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ ฉนฺทาธิปเตยฺยํ. เอส นโย ‘‘จิตฺตาธิปเตยฺยา’’ทีสุปิ. อปฺปคุณํ ปน อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสกฺโกนฺตํ ปริตฺตํ, สุปฺปสราวมตฺเตสุ อวฑฺฒิตารมฺมเณสุ นิพฺพตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ. วุตฺตปฏิปกฺขโต ปน ยถากฺกมํ อปฺปมาณารมฺมณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. หานภาคิยาทิวิเสสํ สยเมว วกฺขติ.

ฌานงฺคโยคเภทโตติ กตฺถจิ ปฺจ ฌานงฺคานิ, กตฺถจิ จตฺตาริ, กตฺถจิ ตีณิ, กตฺถจิ ทฺเว, กตฺถจิ อปรานิ ทฺเวติ เอวํ ฌานงฺคานํ สมฺปโยคเภทโต. นนุ เจตฺถ กามาวจรกุสเล วิย สงฺขารเภโท กสฺมา น คหิโต. อิทมฺปิ หิ เกวลํ สมถานุโยควเสน ปฏิลทฺธํ สสงฺขารํ, มคฺคาธิคมวเสน ปฏิลทฺธมสงฺขารํ, ตสฺมา ‘‘ฌานงฺคสงฺขารโยคเภทโต ทสวิธ’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ? นยิทเมวํ, มคฺคาธิคมวเสน สตฺติโต ปฏิลทฺธสฺสาปิ อปรภาเค ปริกมฺมวเสเนว อุปฺปชฺชนโต, ตสฺมา สพฺพสฺสปิ ฌานสฺส ปริกมฺมสงฺขาตปุพฺพาภิสงฺขาเรน วินา เกวลํ อธิการวเสน อนุปฺปชฺชนโต ‘‘อสงฺขาร’’นฺติปิ วตฺตุํ น สกฺกา, อธิกาเรน จ วินา เกวลํ ปริกมฺมาภิสงฺขาเรเนว อนุปฺปชฺชนโต ‘‘สสงฺขาร’’นฺติปิ วตฺตุํ น สกฺกาติ ฌานงฺคโยคเภทโต ปฺจวิธตา จ วุตฺตาติ.

กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉาติ อิมานิ ปฺจ นีวรณานิ วิปฺปหีนานิ เอตสฺสาติ กามจฺฉนฺท…เป… วิปฺปหีนํ. ‘‘อคฺยาหิโต’’ติ เอตฺถ อาหิต-สทฺทสฺส วิย วิปฺปหีน-สทฺทสฺเสตฺถ ปรวจนํ ทฏฺพฺพํ. กามจฺฉนฺทาทีหิ วา วิปฺปหีนํ วิสํยุตฺตํ เตสํ ปหายกภาเวนาติ กามจฺฉนฺท…เป… วิปฺปหีนํ. ตตฺถ กาเมตีติ กาโม, ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท จาติ กามจฺฉนฺโท, พหลกามราคสฺเสตํ อธิวจนํ. พฺยาปาทาทีนมตฺถํ วกฺขติ. ยสฺมา กามจฺฉนฺทาทีสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตานิสฺส ปหานงฺคานีติ เวทิตพฺพานิ. นนุ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา อิมินา ฌาเนน ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ปฺเจว ปหานงฺควเสน วุตฺตานีติ? วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา. กามจฺฉนฺทวเสน หิ นานาวิสยปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ สมาธิยติ. กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา นานาวิสยสมุปพฺยูฬฺหาย กามธาตุยา ปหานปฏิปทํ น ปฏิปชฺชติ, พฺยาปาเทน จ อารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น สมาหิตํ ปวตฺตติ, ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ, วิจิกิจฺฉาอุปหตํ ฌานาธิคมปฏิปทํ นาโรหติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ นุ โข, น นุ โข, ปถวี ปถวี’’ติอาทินา ปวตฺตมนสิกาเรน ‘‘ฌานํ สิยา นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา วิจิกิจฺฉนฺตสฺส ฌานาธิคมปฏิปทาย อสํสิชฺฌนโต. ยโต วกฺขติ –

‘‘ภาคี อสฺสมหํ อทฺธา, อิมาย ปฏิปตฺติยา;

ปวิเวกสุขสฺสาติ, กตฺวา อุสฺสาหมุตฺตม’’นฺติ.

ตสฺมา สมาธิอาทีนํ อุชุวิปจฺจนีกภาเวน วิเสเสน ฌานาธิคมสฺส อนฺตรายกรณโต เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานิ. โหติ เจตฺถ –

‘‘ปจฺจนีกา ยโต ปฺจ, สมาธาทีนเมตฺถ หิ;

ฌานนฺตรายิกา ตสฺมา, ปหานงฺเค นิยามิตา’’ติ.

เอวมิทํ ปหานงฺควเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺควเสน ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺก…เป… สมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิตกฺกาทโย วจนตฺถลกฺขณาทิวเสน อุปริ อาคมิสฺสนฺติ. ยสฺมา ปน อิเมสุ อุปฺปนฺเนสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ, เตนสฺส อิมานิ สมฺปโยคงฺคานีติ เวทิตพฺพานิ, ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน เนมิอาทิองฺคสมุทาเย รถาทิโวหาโร โหติ, เอวํ ฌานงฺคสมุทาเย ฌานโวหาโร. วุตฺตมฺปิ เหตํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๖๙). กสฺมา ปน อฺเสุปิ ผสฺสาทีสุ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ อิมานิเยว ปฺจ ฌานงฺควเสน วุตฺตานีติ? วุจฺจเต – อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ. วิตกฺโก หิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุพนฺธติ. เอวํ ฌานาธิคมสฺส วิเสสปจฺจยภูเตหิ เตหิ อวิกฺเขปาย สมาทหิตปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมุฏฺานา ปีติ ปีณนํ, สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ. อถ นํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ เอเตหิ อภินิโรปนานุพนฺธนปีณนอุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา สมาธานกิจฺเจน อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตี เอกตฺตารมฺมเณ สมํ, สมฺมา จ อาธิยติ, อินฺทฺริยสมตาวเสน สมํ, ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีภาเวน ลีนุทฺธจฺจาภาเวน สมฺมา จ เปตีติ เอวเมเตสเมว อุปนิชฺฌานกิจฺจํ อาเวณิกํ. กามจฺฉนฺทาทิปฏิปกฺขภาเวน ปน สยเมว วกฺขติ. เอวํ อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ อิเมเยว ปฺจ ฌานงฺคภาเวน ววตฺถิตาติ. ยถาหุ –

‘‘อุปนิชฺฌานกิจฺจตฺตา, กามาทิปฏิปกฺขโต;

สนฺเตสุปิ จ อฺเสุ, ปฺเจว ฌานสฺิตา’’ติ.

เทสนากฺกมโต, มหคฺคตธมฺเมสุ ปมํ อธิคนฺตพฺพโต จ ปมํ, ปมํ สมาปชฺชิตพฺพนฺติปิ ปมนฺติ วทนฺติ. ตํ ปน น เอกนฺตลกฺขณํ ฌานปฏิโลมาทิวเสน สมาปชฺชเน อสมฺภวโต.

ปุริมปจฺฉิมจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชมานสฺสาปิ อปฺปนากฺขเณ อนุปฺปชฺชนโต วิตกฺโก วิปฺปหีโน เอตสฺส, ตโต วา เอตํ วิปฺปหีนนฺติ วิตกฺกวิปฺปหีนํ. ภาวนาย หิ ปหีนตฺตา วิตกฺโก ฌานกฺขเณ นุปฺปชฺชติ. อสํกิลิฏฺสภาวตฺตา ปน อุปจารภาวนาย จ ตํ ปหาตุํ อสมตฺถภาวโต ปุริมภาเค, ปจฺฉาภาเค จ อปจฺจนีกจิตฺตปฺปวตฺติโต อุปฺปชฺชติเยวาติ.

นนุ จ ‘‘อสํกิลิฏฺสภาวตฺตา’’ติ วุตฺตํ, อถ กถํ ฌาเนน เอส ปหียติ? น หิ กุสเลหิ อสํกิลิฏฺธมฺมสฺส ปหานํ อตฺถิ ราคาทิสํกิลิฏฺานํ ปาปธมฺมานเมตสฺส อุชุปฏิปกฺขภาวโตติ? วุจฺจเต – อสํกิลิฏฺสภาวสฺสาปิ เอตสฺส โอฬาริกตาย ทุพฺพลภาวโต ฌานกฺขเณ อนุปฺปตฺติสภาวาปาทนตฺถํ ตตฺถ นิกนฺติวิกฺขมฺภนวเสน ทุติยชฺฌานภาวนา โหตีติ ตสฺสา พเลน ตํ ฌานกฺขเณ อนุปฺปชฺชนฺตํ นิกนฺติวิกฺขมฺภนวเสน วา วิกฺขมฺภิตํ ปหีนํ นาม โหติ. ยทิ เอวํ อุปจาเรนปิ นิกนฺติ วิกฺขมฺภียตีติ ตตฺถปิสฺส ปหานํ สิยา, ยถา ปมชฺฌานสฺส อุปจาเร นีวรณานีติ? นยิทเมวํ, นีวรณปฺปหานสฺส วิย วิตกฺการมฺมณิกนิกนฺติ วิกฺขมฺภนสฺส อุปจาเรน สาติสยํ อนิปฺผชฺชนโต. สาติสยฺหิ ตตฺถ นิกนฺติปฺปหานํ อปฺปนาย เอว โหติ, ตสฺมา ยทโวจุมฺหา ‘‘อุปจารภาวนาย จ ตํ ปหาตุํ อสมตฺถภาวโต’’ติ, ตํ สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘วิจารวิปฺปหีน’’นฺติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ทุติยชฺฌาเนเยว ปหีนสฺส วิตกฺกสฺส อิธ อปฺปวตฺติมตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารวิปฺปหีน’’นฺติ วิตกฺก-คฺคหณํ กตํ. เอวํ ‘‘วิตกฺกวิจารปีติวิปฺปหีน’’นฺติอาทีสุปิ.

ยถาสมฺภวนฺติ ปถวีกสิณาทีสุ ยํ ยํ อารมฺมณํ ยสฺส ยสฺส สมฺภวติ, ตทนติกฺกมโต. กสิณานาปาเนสุ หิ ปฺเจว ฌานานิ ปวตฺตนฺติ, อสุภกายคตาสตีสุ ปมชฺฌานํ, อนุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเรสุ ปฺจมชฺฌานวชฺชานิ, อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร ปฺจมชฺฌานนฺติ.

ปถวีกสิณาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-คฺคหเณน เกวลํ อาโปกสิณาทีนเมว, อถ โข อสุภาทีนมฺปิ อปฺปนาวหกมฺมฏฺานานํ สงฺคโหติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อภิภายตนวิโมกฺขฌานานิ ปวตฺตาการมตฺตโต ภินฺนานิ, อารมฺมณโต ปน กสิณายตนาเนว โหนฺตีติ กสิณายตนฌาเนเหว ตานิ สงฺคหิตานิ. ‘‘ยถาสมฺภวํ…เป… อเนกวิธ’’นฺติ วา วจเนน รูปาวจรชฺฌาเน สพฺโพปิ ลพฺภมานกเภโท สงฺคหิโตติ อภิภายตนวิโมกฺขฌานานิ วิสุํ น วุตฺตานิ, ตานิ ปน สรูปโต เอวํ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺถ าณุตฺตรสฺส โยคาวจรสฺส ปถวีกสิณาทิอารมฺมณํ อภิภวิตฺวา ‘‘น เมตฺถ อปฺปนานิพฺพตฺตเน ภาโร’’ติ ปฏิปนฺนสฺส นิมิตฺตุปฺปตฺติโต อุทฺธํ ทุติยตติยวีถิยํ, จตุตฺถปฺจมวีถิยํ วา ปฏิลทฺธํ ฌานํ อภิภายตนํ นาม. ตฺหิ อารมฺมณํ อภิภวตีติ อภิภู, โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานตาย, มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตาย วา อายตนนฺติ อภิภายตนํ, อภิภวิตพฺพํ วา อภิภู, อาลมฺพณํ, ตํ อายตนมสฺสาติ อภิภายตนํ. อถ วา อาลมฺพณาภิภวนโตเยว อภิภู, ปริกมฺมํ, าณํ วา, ตํ อายตนํ การณมสฺสาติ อภิภายตนํ. ปริกมฺมํ, าณํ วา อาลมฺพณํ อภิภวิตฺวา ปวตฺตมานํ อุปจารุปฺปตฺติโต ปฺจมวีถิมนติกฺกมิตฺวา อปฺปนํ นิพฺพตฺเตติ. ปฺจมวีถิโต ปรํ นิพฺพตฺตํ ปน อภิภวิตุกามตาย นิพฺพตฺติตมฺปิ อภิภายตนํ นาม น โหติ. สามฺคติยา ปน กสิณายตนเมว โหติ. อิมเมว หิ สีฆตรปฺปวตฺตึ สนฺธาย อฏฺกถายํ ‘‘ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๒๐๔) วุตฺตํ. นนุ จ อฏฺกถายํ ยถารุตวเสเนว อตฺโถ กสฺมา น คยฺหติ. ‘‘สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนวา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๒๐๔) หิ วุตฺตตฺตา นิมิตฺตุปฺปตฺติยา สหุปฺปนฺนํ ฌานมภิภายตนนฺติ วิฺายตีติ? นยิทเมวํ, นิมิตฺตุปฺปาเทน สห อปฺปนาย อสมฺภวโต. นิมิตฺตุปฺปาโทติ หิ อิธ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ ตทารมฺมณสฺส วา อุปจารชฺฌานสฺส, กึ ตาว ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติยา สห อปฺปนาย นิพฺพตฺติ อุปจารชฺฌาเน อสติ ตสฺสา อสมฺภวโต, นาปิ อุปจารชฺฌาเนน สห เอกวีถิยํ นิพฺพตฺติ ตสฺสา อุปจารภาวนาปพนฺธเสวิตพฺพภาเวน ตทา อสมฺภวโต, ตสฺมา นาติจิรายนปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ สมีปิมฺหิ สมีปการียูปจาเรน อฏฺกถายํ ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยทิ นิมิตฺตุปฺปตฺติโต นาติจิรปฺปวตฺตมภิภายตนํ, กถํ ตสฺส ทนฺธาภิฺาขิปฺปาภิฺาเภโท ปาฬิยํ วุตฺโตติ? วุจฺจเต – จตุตฺถปฺจมชวนวีถิยํ อุปฺปนฺนํ จิรกาลนิพฺพตฺติตาย ทนฺธาภิฺํ, ทุติยตติยวีถิยํ อุปฺปนฺนํ ตพฺพิปรีตลกฺขณตาย ขิปฺปาภิฺนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อภิภายตนํ นาม วสิภาวปฺปตฺตเมว, เนตร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, วสิภาวปฺปตฺติยา นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ทูรตรภาเวน ‘‘สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตี’’ติ อฏฺกถาวจเนน สห วิรุชฺฌนโต.

อปิจ วสิภาวปฺปตฺตํ ฌานํ อภิภวนการณนิรเปกฺขํ วสิภาวพเลเนว สกฺกจฺจํ สมาปชฺชิตุํ น สกฺกาติ น ตํ อภิภายตนํ นาม โหติ, ตสฺมา อปฺปตฺตวสิภาวา ปมุปฺปนฺนาเยว อภิภายตนนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. ยทิ เอวํ กถํ ‘‘อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณํ, อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติ (ธ. ส. ๒๑๒-๒๑๓) อภิภายตนเทสนายํ วุตฺตํ. วสิภาวปฺปตฺตฺหิ ฌานํ อปฺปมาณนฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ อุปฺปนฺนมตฺตตฺตา ปริตฺตเมวาติ? นายํ โทโส. ปมํ อภิภายตนวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานํ ปจฺฉา วสิภาวปฺปตฺตมฺปิ อภิภายตนนามเมว ลภตีติ วสิภาวปฺปตฺตมภิภายตนํ อปฺปมาณํ, อิตรํ ปริตฺตํ.

อถ วา วสิภาวปฺปตฺตํ อปฺปมาณนฺติ อุกฺกํสคติปริคฺคหวเสน วุจฺจติ. ตํ ปน ยํ พลวตรํ, ตํ อปฺปมาณนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส อุปลกฺขณํ กตฺวา วทนฺติ. พลวภาวนิพนฺธนํ อปฺปมาณตฺตํ. พลวภาโว จ ปมอปฺปนาวารโต ปจฺฉิมปจฺฉิมอปฺปนาวารานํ พลวตาย อวสิตาปตฺเตปิ ฌาเน สมฺภวตีติ พลวนฺตํ อปฺปมาณํ, อิตรํ ปริตฺตนฺติ เอวํ อวสิตาปตฺเตปิ ฌาเน อปฺปมาณาทิภาโว เวทิตพฺโพ. อถ วา อปฺปนาย พลวภาโว นาม อุปจารสฺส พลวตาย สติ โหติ. อุปจารฺจ ตํ พลวํ, ยํ สหสา อปฺปนํ อุปฺปาเทตุํ สกฺกุเณยฺย, ตสฺมา ขิปฺปาภิฺานํ ทฺวินฺนํ อภิภายตนฌานานํ อุปจารวีถิยา อนนฺตรํ ทุติยวีถิยํ อุปฺปนฺนํ อุปจารชฺฌานสฺส พลวตาย สยมฺปิ พลวตรนฺติ อปฺปมาณํ นาม โหติ. ทุติยวีถิมติกฺกมิตฺวา ตติยวีถิยํ อุปฺปนฺนํ ตทิตรสภาวตาย ปริตฺตํ. ตถา ทนฺธาภิฺานํ จตุตฺถวีถิยํ อุปฺปนฺนํ อปฺปมาณํ. ปฺจมวีถิยํ อุปฺปนฺนํ ปริตฺตนฺติ. อถ วา ยตฺถ กตฺถจิ อปฺปนาวีถิยํ ปฺจมํ อุปฺปชฺชนกอปฺปนาโต จตุตฺถํ อุปฺปชฺชมานาย พลวภาโวติ ตํวเสนาเปตฺถ ปริตฺตอปฺปมาณตา เวทิตพฺพา.

ตํ ปเนตํ คณนโต อฏฺวิธํ โหติ. ยถาห –

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามิ. นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามิ. ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. โลหิตานิ โลหิตวณฺณานิ โลหิตนิทสฺสนานิ โลหิตนิภาสานิ. โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ๓.๓๓๘; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๑.๔๒๗-๔๓๔; ๘.๖๕).

ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺเตสุ เกสาทีสุ ปริกมฺมอปฺปนาสฺาวิรหิโต. พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา อฏฺสุ กสิเณสุ, จตูสุ ภูตกสิเณสุ เอว วา กตปริกมฺมกตาย ปริกมฺมวเสน เจว อปฺปนาวเสน จ ตานิ พหิทฺธา อฏฺ, จตฺตาริ วา กสิณรูปานิ ปสฺสติ. ปริตฺตานีติ อมหนฺตานิ. อภิภุยฺยาติ ยถา มหคฺฆโส สมฺปนฺนคหณิโก ปุริโส กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘กึ เอตฺถ ภุฺชิตพฺพํ ภตฺตํ อตฺถี’’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา สพฺพํ เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กึ เอตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’’ติ ตานิ รูปานิ ปริกมฺเมน, าเณน วา อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. เหฏฺา วุตฺตนเยน สีฆํ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตติ. ‘‘ชานามิ ปสฺสามี’’ติ อิมินา ปนสฺส ปุพฺพาโภโค กถิโต, ตทาคมนโต จ อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตาภิสงฺขาโร. อิตรถา อเนน อาโภคมตฺเต กถิเต เตน สาธิตพฺพํ ฌานํ น วุตฺตํ โหติ, อภิภายตนเทสนาวายํ ฌานวิสยาติ. อาคมฏฺกถาสุ ปน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส ปุพฺพภาคภาวนาวเสน ฌานกฺขเณ ปวตฺตมภิภวนาการํ คเหตฺวา ปวตฺตมาโภคํ สนฺธาย –

‘‘อิมินา ปนสฺส อาโภโค กถิโต. โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติย’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) วุตฺตํ.

ทุติเย สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณานิ. ปริสุทฺธานิ หิ นีลาทีนิ สุวณฺณานิ, อปริสุทฺธานิ ทุพฺพณฺณานีติ อิธ อธิปฺเปตานิ.

ตติเย อปฺปมาณานีติ วุทฺธิปฺปมาณานิ วิปุลานิ ขลมณฺฑลาทีนิ. วฑฺฒนวเสน ปเนตฺถ อปฺปมาณตา น คหิตา กสิณวฑฺฒนสฺส อิธ อสมฺภวโต. กสิณสฺส หิ ทฺเว วฑฺฒนภูมิโย อุปจารภูมิ, อปฺปนาภูมิ วา. ตตฺถ น ตาว อิธ อุปจารภูมิยํ วฑฺฒนํ สมฺภวติ. นิมิตฺตุปฺปตฺติยา สมกาลํ วิย อุปฺปชฺชมาเน ฌาเน กุโต ตสฺส โอกาโสติ, นาปิ อปฺปนาภูมิยํ. วฑฺฒิตสฺส ปมุปฺปนฺนฌานารมฺมณตา น ยุชฺชติ, ตสฺมา สภาวมหนฺตาเนว อาลมฺพณานิ อิธ อปฺปมาณานีติ อธิปฺเปตานิ. เกจิ ปน ‘‘วฑฺฒิตวเสเนว อปฺปมาณานีติ คเหตฺวา ปมํ อภิภวนิจฺฉาย อภาเวน วฑฺเฒตฺวา ปจฺฉา อภิภวนิจฺฉาย สติ อภิภวนากาเรน ปวตฺโต ตสฺมึ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อปฺปนํ ปฏิลภิตฺวา วฑฺฒิตนิมิตฺเตสุ อิทํ อภิภายตนํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

จตุตฺเถ อภิภุยฺยาติ อภิภวิตฺวา. ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘‘‘อฺโปิ โหตุ, อฺโปิ โหตู’ติ กึ เอส มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ น ตํ มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร วิสทาโณ ปุคฺคโล ‘‘‘กึ เอตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, นยิทํ อปฺปมาณ’นฺติ มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร’’ติ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. วุตฺตนเยเนว อปฺปนํ นิพฺพตฺเตติ.

ปฺจเม นีลานิ…เป… นีลนิภาสานีติ เอตานิ ปริยายนามานีติ ตตฺถ ‘‘นีลานี’’ติ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตํ. เอตฺตเกเยว ปน วุตฺเต ตํโยคโต ตพฺโพหาเรน คุณยุตฺเตปิ ปสงฺโค สิยาติ ตนฺนิวารณตฺถํ ‘‘นีลวณฺณานี’’ติ วณฺณวเสน วุตฺตํ. เอวมฺปิ หิ พหุพฺพีหิวเสน คุโณปิ ปสงฺโค โหตีติ ‘‘นีลนิทสฺสนานี’’ติ นิทสฺสนวเสน วุตฺตํ. นิทสฺสิตพฺพฺหิ นิทสฺสนํ, จกฺขุนา ทฏฺพฺพํ รูปํ. ตโต เสตาทินิวารณตฺถํ นีล-สทฺเทน สห สมาโส กโตติ อปฺายมานจีวรานิ อสมฺภินฺนวณฺณานิ เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสมานานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘นีลนิภาสานี’’ติ อิทํ ปน โอภาสวเสน วุตฺตํ, นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เตสํ สุวิสุทฺธตฺตํ ทสฺเสติ. ‘ปีตานี’’ติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฏฺสุ เจเตสุ ปุริมํ อภิภวนากาเรน วณฺณาโภครหิตานิ อฏฺปิ กสิณานิ ปริตฺตานิ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตติยํ ตถา อปฺปมาณานิ. ทุติยจตุตฺถานิเยว ทฺเว วณฺณาโภคสหิตานิ อารพฺภ อุปฺปนฺนํ, น ปน วณฺณกสิณวเสน อุปฺปนฺนํ ตสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา.

ปฺจมาทีนิ ปน เตสุ กตาธิกาเร สนฺธาย สุวิสุทฺธวณฺณวเสเนว เทสิตานิ. น หิ เตสํ อภิภวนสฺส ปริตฺตตา, อปฺปมาณตา วา การณํ, อถ โข สุวิสุทฺธนีลาทิภาโว. ตตฺถ หิ เต กตาธิการาติ. นนุ จ อาคมฏฺกถาสุ ‘‘สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตอปฺปมาณวเสเนว อิมานิ อภิภายตนานิ เทสิตานี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๖๕) วุตฺตนฺติ? สจฺจํ, ตํ ปน อาคเม อภิภายตนานํ อฺถา อาคตตฺตา วุตฺตํ. ตตฺถ หิ –

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; ๓.๓๓๘; ม. นิ. ๒.๒๔๙; อ. นิ. ๑.๔๒๗-๔๓๔; ๘.๖๕) –

เอวํ จตฺตาริเยว อภิภายตนานิ อาคตานิ, ตสฺมา ตทฏฺกถาสุ วณฺณาโภเค วิชฺชมาเน อวิชฺชมาเนปิ ปริตฺตอปฺปมาณตาวเสเนว อิเมสํ เทสิตภาโว วุตฺโต. ปริตฺตอปฺปมาณตา หิ อิเมสุ จตูสุ อภิภวนสฺส การณํ วณฺณาโภเค วิชฺชมาเน อวิชฺชมาเนปีติ. นนุ จ สพฺพตฺถ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วจนโต วณฺณาโภคสหิตานิเยว ตตฺถ คหิตานีติ? ตํ น, วณฺณาโภครหิตานิ, สหิตานิ จ สพฺพานิ ปริตฺตานิ เอกโต กตฺวา ‘‘ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วุตฺตานิ, ตถา ‘‘อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ. ยทิ เอวํ กถํ วิสิฏฺานํ วณฺณาโภครหิตานํ, สหิตานฺจ เอกชฺฌํ มนสิกาโร, น เอกชฺฌํ, วิสุํเยว เตสํ มนสิกาโร. ยทิ เอวํ วิสุํ กถเมกตฺตนฺติ? ปริตฺตภาวสามฺโต. ยทิ เอวํ สุวณฺณทุพฺพณฺณ-คฺคหณมติริจฺจติ อวสิฏฺโติ? นาติริจฺจติ ปริยายเทสนาภาวโต. อตฺถิ หิ เอส ปริยาโย, ยทิทํ วณฺณาโภคชนิตาชนิตํ วิเสสํ อคฺคเหตฺวา ปริตฺตภาวสามฺเน เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘ปริตฺตานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺวา ปุน ตทนฺโตคธเมว ปเภทํ วิเนยฺยวเสน ทสฺเสตุํ ตานิ จ กทาจิ วณฺณวเสน อาวชฺชิตานิ โหนฺติ, ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตาย วณฺณาโภครหิตานิ, สหิตานิ จ วิสุํ มนสิ กตฺวา อุภยตฺถาปิ วณฺณาโภครหิตปริตฺตาภิภวเน, ตํสหิตปริตฺตาภิภวเน จ ปริตฺตาภิภวนสามฺํ คเหตฺวา เอกตฺตํ กตนฺติ. อภิธมฺเม ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วณฺณาโภครหิตานิ, สหิตานิ จ วิสุํ วุตฺตานิ. อตฺถิ หิ อุภยตฺถาภิภวนวิเสโสติ. โหตุ ตาว, เอวํ สุตฺตาภิธมฺมปาวิเสสโต อฏฺกถาย ปาเภเท ปน โก อธิปฺปาโยติ? วุจฺจเต – สุตฺตนฺเต หิ ปมวิโมกฺขํ ทฺเวธา ภินฺทิตฺวา ปมทุติยอภิภายตนานิ วุตฺตานิ, ปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขานมฺปิ อภิภวนปริยาโย วิชฺชตีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อภิภายตนทฺวยํ วุตฺตํ.

ตติยจตุตฺถอภิภายตเนสุ ทุติยวิโมกฺโข, วณฺณาภิภายตเนสุ ตติยวิโมกฺโข จ อภิภวนปฺปวตฺติโต สงฺคหิโต, อิธ ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขาภิภายตนานิ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วิโมกฺเข วชฺเชตฺวา อภิภายตนานิ กถิตานิ. สพฺพานิ จ วิโมกฺขกิจฺจานิ วิโมกฺขเทสนาย วุตฺตานิ, ตเทตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ สุตฺเต อาคตสฺส อภิภายตนทฺวยสฺส อภิธมฺเม อวจนโต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนฺจ สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต ววตฺถานํ กตนฺติ วิฺายติ. อวสฺสฺเจตํ เอว สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, น สมฺปฏิจฺฉนฺเตหิ สุตฺตาภิธมฺมปาเภเท อฺํ การณํ วตฺตพฺพํ. อถ กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ, นนุ อฏฺกถายเมว ‘‘กสฺมา ปน ยถา สุตฺตนฺเต ‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานี’ติอาทิ วุตฺตํ, เอวํ อวตฺวา อิธ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาว วุตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต’’ติ การณํ วุตฺตนฺติ? น ตํ ตสฺส การณวจนํ, อถ โข กตฺถจิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปานิ ปสฺสตี’’ติ อวตฺวา สพฺพตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ, ตสฺส จ การณวจนํ. เตเนว หิ ตตฺถ วา อิธ วา ‘‘พหิทฺธา รูปานิเยว อภิภวิตพฺพานี’’ติ ตตฺเถว วุตฺตํ, อนภิภวนียตา จ อชฺฌตฺตรูปานํ พหิทฺธา รูปานิ วิย อวิภูตตฺตา. น หิ สุฏฺุ วิภูตภาวมนฺตเรน าณุตฺตรานํ อารมฺมณาภิภวนํ สมฺภวตีติ. นนุ จ อฏฺกถายํ ปาทฺวยวิเสสสฺส เทสนาวิลาโส การณภาเวน วุตฺโตติ? สจฺจํ วุตฺโต, โส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสเนว เวทิตพฺโพ. เทสนาวิลาโส หิ นาม วิเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิชฺชมานสฺเสว ปริยายสฺส วิภาวนํ, น ยสฺส กสฺสจีติ. เอวํ ตาว อภิภายตนํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ วิโมกฺโขติ ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส ฌานํ สมาปชฺชิตุกามตาวสปฺปวตฺตชวนวีถิสมนนฺตรเมว ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺองฺคปจฺจงฺคสฺส วิย ทารกสฺส อารมฺมเณ นิราสงฺกเมว หุตฺวา ปมกปฺปนา วิย จ ลหุํ อวุฏฺหิตฺวา อนฺตมโส จตุปฺจจิตฺตกฺขณโต อโนสกฺกิตฺวา อารมฺมเณ อภิรติวเสน ปวตฺตสฺส วสิภาวปฺปตฺตสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺหิ กสิณายตนวเสน วา อภิภายตนวเสน วา อุปฺปนฺนํ ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตฺตา, อารมฺมเณ อธิมุตฺตตาย จ ‘‘วิโมกฺโข’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถายํ

‘‘เกนฏฺเน ปน วิโมกฺโข เวทิตพฺโพติ? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก อยํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ อธิมุจฺจนฏฺโ’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๒๔๘).

ยทิ วสิภาวปฺปตฺตเมว วิโมกฺโข, กถมสฺส อารมฺมณจตุกฺเก ปริตฺตตา ปาฬิยํ วุตฺตา. อวสิตาปตฺตฺหิ ฌานํ ปริตฺตนฺติ วุจฺจตีติ? นายํ โทโส, ปริปุณฺณวสิภาวปฺปตฺตํ สนฺธาย อปริปุณฺณวสิภาวปฺปตฺตสฺส ปริตฺตภาเวน ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตา, ตสฺมา วสิภาวปฺปตฺตเมว ฌานํ วิโมกฺโข นาม, น อิตรํ. อิตรํ ปน ยทิ กสิณายตนวเสน อุปฺปนฺนํ, กสิณายตนํ. อถ อภิภายตนวเสน, อภิภายตนเมวาติ. เกจิ ปน ‘‘ปมอปฺปนาโต ปจฺฉิมปจฺฉิมาย ปฏิปกฺขโต สุฏฺุ วิมุตฺตตฺตา กสิณายตนวเสน, อภิภายตนวเสน จ อุปฺปนฺนํ ปมกปฺปนํ เปตฺวา เสสํ วิโมกฺโขเยวา’’ติ วทนฺติ.

ตํ ปเนตํ คณนโต ติวิธํ. ยถาห –

‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๔; ๓.๓๓๙; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙).

ตตฺถ รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺส อตฺถีติ รูปี. รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ นรูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา. ‘‘สุภ’’นฺติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภ’’นฺติ อธิมุจฺจนวเสน ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺชิตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยาทีนิ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตาติ. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน ‘‘อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) พฺรหฺมวิหารวเสน สุภวิโมกฺโข วุตฺโต. ธมฺมสงฺคณิยํ ปน พฺรหฺมวิหารานํ วิสุํเยว อาคตตฺตา ตํ นยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สุนีลกาทิวเสเนว สุภวิโมกฺโข อฏฺกถายํ อนุฺาโตติ อิธาปิ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ววตฺถานํ กตนฺติ เอวํ ตาว วิโมกฺขฌานํ เวทิตพฺพํ.

ยถานุรูปนฺติ หีนาทิอนุรูปํ. ปมชฺฌานฺหิ หีนํ กปฺปสฺส ตติยภาคายุเก พฺรหฺมปาริสชฺเช อุปปตฺตึ นิปฺผาเทติ, มชฺฌิมํ อุปฑฺฒกปฺปายุเก พฺรหฺมปุโรหิเต, ปณีตํ เอกกปฺปายุเก มหาพฺรหฺเม. ตถา ทุติยชฺฌานํ, ตติยชฺฌานฺจ หีนํ ทฺวิกปฺปายุเก ปริตฺตาเภ, มชฺฌิมํ จตุกปฺปายุเก อปฺปมาณาเภ, ปณีตํ อฏฺกปฺปายุเก อาภสฺสเร. จตุตฺถชฺฌานํ หีนํ โสฬสกปฺปายุเก ปริตฺตาสุเภ, มชฺฌิมํ ทฺวตฺตึสกปฺปายุเก อปฺปมาณสุเภ, ปณีตํ จตุสฏฺิกปฺปายุเก สุภกิณฺเห. ปฺจมชฺฌานํ ปน ติวิธมฺปิ ปฺจกปฺปสตายุเก เวหปฺผเล อุปปตฺตึ นิปฺผาเทติ, ตเทว ติตฺถิเยหิ สฺาวิราควเสน ภาวิตํ ปฺจกปฺปสตายุเกเยว อสฺสตฺเต. อนาคามีหิ ปน ปุถุชฺชนาทิกาเล ปจฺฉาปิ ภาวิตํ สทฺธาทิอินฺทฺริยาธิมุตฺตตานุกฺกเมน ยถากฺกมํ สหสฺสทฺวิสหสฺสจตุสหสฺสอฏฺสหสฺสโสฬสสหสฺสกปฺปายุเกสุ อวิหาอตปฺปาสุทสฺสาสุทสฺสีอกนิฏฺนามเกสุ ปฺจสุทฺธาวาเสสุ อุปปตฺตึ นิปฺผาเทตีติ เอวเมตํ ยถานุรูปํ โสฬสรูปาวจรพฺรหฺมโลกูปปตฺตินิปฺผาทกนฺติ อาห ‘‘ยถานุรูปํ…เป… โหตี’’ติ.

ยสฺมา ปน รูปภเวปิ ปวตฺติยํ ลภิตพฺพา อุปโภคสมฺปตฺติ กามาวจรสฺเสว ผลํ, ตสฺมา อิธ ‘‘ภวโภคสมฺปตฺตึ นิปฺผาเทตี’’ติ อวตฺวา อุปปตฺตินิปฺผาทนเมว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ทุติยชฺฌานภูมึ อุปาทาย สพฺพตฺถ ปริปุณฺณสฺส มหากปฺปสฺส วเสน ปริจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ, ปมชฺฌานภูมิยํ ปน อสงฺขฺเยยฺยกปฺปวเสน. น หิ ตตฺถ อิตรวเสน ปริจฺเฉโท สมฺภวติ เอกกปฺเปปิ อวินาสาภาเวน มหากปฺปสฺส จตุตฺถภาเคเยว ตสฺส สณฺหนโต.

รูปาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรูปาวจรกุสลวณฺณนา

อิทานิ อรูปาวจรกุสลสฺส นิทฺเทสาวกาโส อนุปฺปตฺโตติ ตนฺนิทฺเทสตฺถมาห ‘‘เสเสสุ ปนา’’ติอาทิ. อากาสกสิณวชฺชิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ กสิณสฺส อุคฺฆาฏนโต ลทฺธมากาสํ กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ. ตตฺถ ปวตฺตํ วิฺาณนฺติ อากาสานฺจายตนมาห. ตฺหิ ทุติยารุปฺปสฺส อารมฺมณํ โหติ. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, รูปนิมิตฺตทณฺฑาทานสมฺภวทสฺสนาทินา สพฺเพน รูปธมฺเมสุ, ปถวีกสิณาทิรูปนิมิตฺเตสุ ตทารมฺมณชฺฌาเนสุ จ โทสทสฺสนากาเรน, เตสุ เอว วา รูปนิมิตฺเตสุ นิกนฺติปฺปหานอสมาปชฺชิตุกามตาทินา อากาเรนาติ อตฺโถ. อถ วา สพฺพโสติ สพฺพาสํ, กุสลาทิเภเทน อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ ‘‘รูป’’นฺติ วุจฺจติ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ วิย. ตทารมฺมณมฺปิ กสิณรูปํ ปุริมปทโลเปน ‘‘เทเวน ทตฺโตติ, พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา อิธ รูเป รูปชฺฌาเน ตํสหคตสฺา รูปสฺาติ คหิตา, สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํ. ‘‘รูป’’นฺติ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปนามวนฺตนฺติ อตฺโถ. ตํคหิเตน ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ นามนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘รูปสฺาน’’นฺติ หิ สรูเปกเสสวเสน นิทฺเทโส กโต. สมติกฺกมาติ วิราคา, นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน นวนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ อนวเสสานํ สพฺพากาเรน จ, เตสุ เอว วา นิกนฺติปฺปหานอสมาปชฺชิตุกามตาทินา อากาเรน วิราคา, นิโรธา จ ชิคุจฺฉนโต เจว ตปฺปฏิพนฺธฉนฺทราควิกฺขมฺภนโต จ นิพฺพตฺตํ อากาสานฺจายตนสฺาย สหคตํ อรูปาวจรกุสลจิตฺตํ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน ตํ นิพฺพตฺเตตุนฺติ.

น เกวลํ เอตาสํเยว สมติกฺกมนโต อิทํ นิพฺพตฺตํ, อถ โข ปฏิฆสฺาทีนมตฺถงฺคมาทิโตปีติ อาห ‘‘ปฏิฆสฺาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ, รูปาทีนฺจ อารมฺมณานํ ปฏิฆาเตน อฺมฺสโมธานสงฺขาเตน ปฏิหนเนน อุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทิทฺวิปฺจสฺานเมตํ อธิวจนํ. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓).

ตาสํ กุสลากุสลวิปากภูตานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา อปฺปวตฺติกรเณนาติ วุตฺตํ โหติ. นนุ จ เอตา รูปาวจรชฺฌานสมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ. น หิ ปมชฺฌานาทิสมาปนฺนกาเล ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตตีติ? สจฺจเมตํ, ยถา ปน ‘‘สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ เอตฺถ ปสํสาวเสน อฺตฺถ ปหีนานมฺปิ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน, ‘‘สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปหานา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิมคฺคํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ เอตฺถ ปมมคฺเคเยว ปหีนานํ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ทุติยมคฺเค จ วจนํ, เอวเมว อิมสฺมึ ฌาเน ปฏิปชฺชนกานํ อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรสมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ, น ปน ปหีนตฺตา น สนฺติ. กิฺจรหิ ปจฺจยาภาเวน. น หิ รูปาวจรภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ, รูปายตฺตา เอว ตาสํ ปวตฺตีติ. อรูปภาวนา ปน รูปวิราคาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘ตา เอตฺถ ปหีนา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตถา หิ เอตาสํ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโก’’ติ วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตา เอว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชาภิสงฺขารวจนาทีหิ, ‘‘เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อรูปา’’ติอาทินา จ อาเนฺชตา, สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา.

นานตฺตสฺานนฺติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตานํ, นานตฺตานํ วา สฺานํ, วุตฺตาวเสสานํ จตุจตฺตาลีสกามาวจรสฺานนฺติ อตฺโถ. เอตา เอว หิ –

‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) –

เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา. ตา ปน ยสฺมา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว อารมฺมเณ ปวตฺตนฺติ, ยสฺมา จ อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสปฺปเภทา นานาสภาวา, อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุจฺจนฺติ. อมนสิการาติ สพฺพโส อนาวชฺชนา อสมนฺนาหารา อปจฺจเวกฺขณเหตุ ชวนปฏิปาทเกน วา ภวงฺคจิตฺตสฺส อนฺโต อกรณา เปตฺวา กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ นานารมฺมเณ จิตฺตสฺส อสงฺขรณโตติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา หิ นานตฺตสฺามนสิการเหตูนํ รูปธมฺมานํ สมติกฺกโมปิ วุตฺโต, รูปชฺฌาเน ปน ตทภาวโต ‘‘นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ น วุตฺตํ. อถ สมติกฺกมาทีนํ กึ นานากรณนฺติ? วุจฺจเต – ยสฺมา รูปสฺา, ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺติตภเวปิ น วิชฺชนฺติ, อรูปสฺาย ภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ รูปสฺาปฏิฆสฺานํ ยาว อตฺตโน วิปากุปฺปตฺติ, ตาว อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิยมานตฺตา, ปเคว ปน อิมํ ฌานํ สมาปนฺนกาเล, ตสฺมา ‘‘สมติกฺกมา, อตฺถงฺคมา’’ติ อุภยถาปิ ตาสํ อภาโวเยว ทสฺสิโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยา ตสฺมึ ภเว น อุปฺปชฺชนฺติ เอกนฺตรูปนิสฺสิตตฺตา, ตา อโนกาสตาย น อุปฺปชฺชนฺติ, น อรูปภาวนาย นิวาริตตฺตา, อนิวาริตตฺตา จ กาจิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิกาโร อนาวชฺชนํ อปจฺจเวกฺขณํ ชวนปฏิปาทเกน วา ภวงฺคมนสฺส อนฺโต อกรณํ อปฺปเวสนํ วุตฺตํ. ตตฺร ปวตฺตมานานมฺปิ หิ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ตาสํ อมนสิกาโรเยว อิตรถา ฌานสมาปตฺติยา อภาวโต. อิติ สงฺเขปโต ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ อิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ, ‘‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานํ ปหานํ, อมนสิกาโร จ วุตฺโต, ตีหิ ปเนเตหิ สมาธิสฺส ถิรภาโว กถิโตติ.

อากาสานฺจายตนสฺาสหคตนฺติ เอตฺถ ปน นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อนนฺตํ อากาสํ อากาสานนฺตํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ, อนนฺตตา ปน อุปฺปาทวยนฺตาภาวโต อนนฺตมนสิการวเสน วา เวทิตพฺพา. น หิ เอตสฺส อุปฺปาทนฺโต, วยนฺโต วา ปฺายติ อสภาวธมฺมตฺตา. สภาวธมฺโม หิ อหุตฺวา สมฺภวนโต, หุตฺวา จ วินสฺสนโต อุปฺปาทวยนฺตปริจฺฉินฺโน, เนตโร. น จ ปเนตํ มนสิ กโรนฺโต โยคาวจโร ตสฺส ปริจฺเฉทสงฺขาตมนฺตํ คณฺหาติ, อถ โข รูปวิเวกมตฺตสฺเสว คหเณน อนนฺตผรณากาเรเนว มนสิการํ ปวตฺเตติ, ตสฺมา อุปฺปาทวยนฺตวิรหโต มนสิการวเสน วา เอตมนนฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อนนฺตากาส’’นฺติ จ วตฺตพฺเพ อนนฺต-สทฺทสฺส ปรนิปาตวเสน ‘‘อากาสานนฺต’’นฺติ วุจฺจติ. อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ สํโยคปรสฺส ต-การสฺส จ-การํ กตฺวา, ตเทว อายตนํ สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส อารมฺมณภาวโต อธิฏฺานฏฺเน เทวายตนํ วิยาติ อากาสานฺจายตนํ, ตสฺมึ อปฺปนาปตฺตา สฺา อากาสานฺจายตนสฺา, ตาย สหคตํ วิฺาณํ อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ. อถ วา อากาสานฺจํ อายตนมสฺสา สสมฺปยุตฺตธมฺมาย สฺายาติ อากาสานฺจายตนา, สาเยว สฺา, ตาย ฌานํ สหคตนฺติ อากาสานฺจายตนสฺาสหคตํ.

วิฺาณ…เป… สหคตนฺติ ยเทตํ ปมารุปฺปวิฺาณํ, ตํสภาวธมฺมตฺตา อุปฺปาทาทิอนฺตวนฺตมฺปิ อารมฺมณกรณวเสน อนนฺตากาเส ผรณโต อตฺตานํ อารพฺภ อนฺตสฺส อคฺคหณวเสน ปวตฺตมนสิการโต วา อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณานนฺตํ, ‘‘วิฺาณานฺจ’’นฺติ วตฺตพฺเพ วิฺาณฺจ-สทฺโท ตทตฺเถ นิรูฬฺโห อา-การ น-การโลโปติ วา กตฺวา ‘‘วิฺาณฺจ’’มิจฺเจว วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา วกฺขติ –

‘‘วิฺาณานนฺตมิจฺเจวํ, วตฺตพฺพํ ปนิทํ สิยา’’ติ.

อถ วา ทุติยารุปฺปวิฺาเณน อฺจิตพฺพํ อารมฺมณวเสน ปาปุณิตพฺพนฺติ วิฺาณฺจํ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

อากิฺจฺา…เป… สหคตนฺติ นาสฺส ปมารุปฺปวิฺาณสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. สติ หิ ภงฺคมตฺเตปิ ตสฺส สกิฺจนตา สิยา. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เนวสฺา…เป… สหคตนฺติ เหฏฺิมฌาเนสุ วิย โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต เนวสฺส สฺา อตฺถีติ เนวสฺํ, สุขุมาย จ สฺาย อตฺถิตาย นาสฺส สฺา นตฺถีติ นาสฺํ, เนวสฺฺจ ตํ นาสฺฺเจติ เนวสฺานาสฺํ, จตุตฺถารุปฺปชฺฌานํ. ยทิ เอวํ ‘‘เนวสฺนาสฺ’’นฺติ วตฺตพฺพํ? สจฺจเมตํ. วจนโสภนตฺถํ ปน ทีฆํ กตฺวา วุตฺตํ. อถ วา เนวสฺส สฺา นาสฺาติ เอวํ เอกชฺฌํ พหุพฺพีหิสมาสวเสน ‘‘เนวสฺานาสฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เนวสฺานาสฺฺจ ตํ อายตนฺจ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตาติ เนวสฺานาสฺายตนํ, เตน สมฺปยุตฺตํ สฺาสหคตํ เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ. อถ วา สฺาเยว ปฏุสฺากิจฺจกรเณ อสมตฺถตาย เนวสฺา, อุณฺโหทเก เตโชธาตุ วิย สงฺขาราวเสสสุขุมภาวปฺปตฺติยา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, สา เอว เสสธมฺมานํ นิสฺสยปจฺจยตาย, อธิฏฺานฏฺเน ธมฺมายตนปริยาปนฺนตาย เอว วา อายตนนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนภูตาย สฺาย สหคตนฺติ เนวสฺานาสฺายตนสฺาสหคตํ.

ยถานุรูปํ…เป… นิปฺผาทกนฺติ ‘‘ปมารุปฺปภูมิยา ปมํ, ทุติยารุปฺปภูมิยา ทุติย’’นฺติอาทินา อตฺตโน อนุรูปวเสน จตูสุ อรูปภูมีสุ อุปปตฺติสาธกํ. ตาสุ ปน ปมา วีสติสหสฺสกปฺปายุกา โหติ, ทุติยา จตฺตาลีสสหสฺสกปฺปายุกา, ตติยา สฏฺิสหสฺสกปฺปายุกา, จตุตฺถา ปน จตุราสีติสหสฺสกปฺปายุกาติ เวทิตพฺพํ.

อรูปาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา

เอวํ ติวิธมฺปิ โลกิยกุสลํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ โลกุตฺตรกุสลํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘อิตรํ ปนา’’ติอาทิ. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, โส ติวิโธ – สงฺขารโลโก สตฺตโลโก ภาชนโลโกติ. ตโต อิทํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ. จตฺตาโรปิ หิ มคฺคา อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตสงฺขารโลกโต อุตฺตรนฺติ อนาสวภาเวน. สตฺตโลเกสุ จ โสตาปตฺติมคฺโค อนริยโลกโต อุตฺตรติ, สกทาคามิมคฺโค โสตาปนฺนโลกโต, อนาคามิมคฺโค สกทาคามิโลกโต, อรหตฺตมคฺโค อนาคามิโลกโต อุตฺตรติ. ภาชนโลเกสุ ปน ปมมคฺโค อปายโลกโต อุตฺตรติ, สกทาคามิมคฺโค กามโลเกกเทสโต, อนาคามิมคฺโค สกลกามโลกโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปโลกโต อุตฺตรติ. อิติ จตุพฺพิธมฺปิ มคฺคจิตฺตํ ติวิธโลกโต อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ, กุจฺฉิตสลนาทิโต ปน กุสลํ, จินฺตนาทิโต จิตฺตฺจาติ โลกุตฺตรกุสลจิตฺตํ. ผลํ ปน โลกโต อุตฺติณฺณตฺตา โลกุตฺตรํ, อุภยมฺปิ วา สห นิพฺพาเนน อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตโลกโต อุตฺตรํ วิสิฏฺตรนฺติ โลกุตฺตรํ. ยถาห ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐).

นิยตานิยตวตฺถุกเภทโตติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส ปรโตโฆสปจฺจเยน วินา อนุปฺปชฺชนโต อรูปภเว สมฺภโว นตฺถีติ ตํ นิยตวตฺถุกํ, อิตรํ ปน สตฺตวิธมฺปิ ปรโตโฆสํ วินาปิ วิปสฺสนาพเลเนว นิปฺผชฺชนโต ตตฺถาปิ สมฺภวตีติ อนิยตวตฺถุกํ.

ตีหิ…เป… ติวิธนฺติ โลกุตฺตรวิโมกฺขานํ ทฺวารภาวโต วิโมกฺขมุขสงฺขาตาหิ สุฺตานุปสฺสนาทีหิ ตีหิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาหิ ปตฺตพฺพโต อิทํ โลกุตฺตรกุสลํ ติวิธํ สุฺตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ. กตเม ปน เต โลกุตฺตรวิโมกฺขาติ? นว โลกุตฺตรธมฺมา. ยถาห ‘‘จตฺตาโร จ อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ, อยํ อนาสโว วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๓). อิมานิ หิ สํกิเลสธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺขา นาม. ตานิ ปน ปจฺเจกํ สุฺโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโขติ ติวิธานิ. ยถาห ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วิโมกฺขา – สุฺโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). อิธ ปน กุสลาธิการตฺตา จตุมคฺคสงฺขาตาเยว โลกุตฺตรธมฺมา อธิปฺเปตา.

สุฺตาทินามลาโภ จ เนสํ อาคมนโต, สคุณโต, อารมฺมณโต จ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ อาคจฺฉติ มคฺโค, ผลฺจ เอเตนาติ อาคมนํ. ตฺหิ ทุวิธํ มคฺคาคมนํ, ผลาคมนฺจ. เตสุ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา มคฺคาคมนํ, อริยมคฺโค ผลาคมนํ. ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺาเน มคฺคาคมนํ คเหตพฺพํ, ผลสฺส อาคตฏฺาเน ผลาคมนํ. อิธ ปน มคฺคสฺส อาคตตฺตา มคฺคาคมนํ คหิตนฺติ. ตโต อาคมนโต. สคุณโตติ สภาวโต. อารมฺมณโตติ อารมฺมณธมฺมโต.

โย หิ สพฺพสงฺขารานํ อนตฺตลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย อนตฺตานุปสฺสนาย วเสน มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา อสุฺตฺตกรานํ อตฺตาภินิเวสปจฺจยานํ ทิฏฺเกฏฺกิเลสานํ วิกฺขมฺภิตภาเวน เตภูมกธมฺมานํ อตฺตสุฺตาย ยาถาวโต คหณโต สุฺตานุปสฺสนา นาม โหติ. ตาย ปน ปฏิลทฺธมคฺโค สุฺตาย อาคตตฺตา สุฺโต นาม. เตนาห ‘‘อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).

โย ปน สพฺพสงฺขารานํ อนิจฺจลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตาทิคาหกรานํ กิเลสานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา ธุวภาวูปฏฺานสงฺขาตนิจฺจนิมิตฺตาทิโน อคฺคหณโต อนิมิตฺตานุปสฺสนา นาม. ตาย ปน ลทฺธมคฺโค อนิมิตฺตาย อาคตตฺตา อนิมิตฺโต นาม. เตนาห ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).

โย ปน สพฺพสงฺขารานํ ทุกฺขลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา ตณฺหาปณิธานสฺส วิกฺขมฺภเนน ปณิธิวิรหิตตฺตา อปฺปณิหิตานุปสฺสนา นาม. ตาย ปน ลทฺธมคฺโค อปฺปณิหิตาย อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต นาม. เตนาห ‘‘ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติ. อยํ ตาวสฺส อาคมนวเสน นามลาโภ.

อตฺตโน ปน ราคาทีหิ สุฺตตฺตา, นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิตตฺตา, ตณฺหาปณิธิอภาวโต จ สคุณโต, ราคาทิสุฺสฺเสว, นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิตสฺส, ปณิธิวิปฺปมุตฺตสฺส จ นิพฺพานสฺส อารมฺมณกรณโต อารมฺมณโต จ สุฺตาทิวิโมกฺโข นาม โหตีติ เอวมสฺส สคุณารมฺมเณหิ นามลาโภ ทฏฺพฺโพ. โส จ โข สุตฺตนฺตปริยาเยเนว, โน อภิธมฺมปริยาเยน. สุตฺตนฺตกถา หิ ปริยายเทสนา, อิตรา นิปฺปริยายเทสนา, ตสฺมา สคุณารมฺมณโต นามสฺส สพฺพสาธารณภาเวน อววตฺถานกรตฺตา ปริยายภาวโต สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลาโภ, อาคมนโต ปน อภิธมฺมปริยาเยนปิ ววตฺถานกรภาเวน นิปฺปริยายตฺตา. เตเนว หิ อาจริเยน ‘‘ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ปตฺตพฺพโต ติวิธ’’นฺติ วิโมกฺขมุขเมว ธุรํ กตฺวา วุตฺตํ, น ‘‘สุฺตาทินามโต ติวิธ’’นฺติ. อนิมิตฺตนามํ ปเนตฺถ อาคมนโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลพฺภติ อภิธมฺเม มคฺคํ ปติ อนิมิตฺตนามสฺส อนุทฺธตตฺตา. อนุทฺธฏตฺตํ ปน น อนุทฺธริตพฺพตามตฺเตน, อถ โข นิปฺปริยายโต ตสฺส มคฺเค อลพฺภนโต. กิฺจาปิ หิ อยํ วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏนฺตี ปวตฺตติ, สงฺขารนิมิตฺตสฺส ปน อนิสฺสชฺชนโต น นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ ลภติ. ยํ ปเนตํ สุตฺเต –

‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสี’’ติ. (สุ. นิ. ๓๔๔) –

มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาววจนํ, ตํ ยถาวุตฺตปริยายวเสน ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ. อภิธมฺเม ปน ยา สยมฺปิ นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ น ลภติ, สา กถํ มคฺคสฺส ตํ ทเทยฺยาติ มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ น อุทฺธฏํ. ยทิ เอวํ สุฺตนาเมนปิ อิทํ สมานํ. อนตฺตานุปสฺสนาปิ หิ กิฺจาปิ ปุคฺคลสุฺตํ คณฺหาติ, ธมฺมสุฺตํ ปน น คณฺหาตีติ สยํ นิปฺปริยาเยน สุฺตานุปสฺสนา นาม น โหตีติ สุฺตนามมฺปิ มคฺคสฺส น ทเทยฺย. อถ ปุคฺคลสุฺตาคฺคหณมตฺเตน สยํ สุฺตานุปสฺสนา หุตฺวา มคฺคสฺส ตํ ทเทยฺย, อนิจฺจานุปสฺสนาปิ สงฺขารนิมิตฺตสฺส คหเณปิ นิจฺจนิมิตฺตาทิอุคฺฆาฏนโต สยํ อนิมิตฺตานุปสฺสนา หุตฺวา มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ ทเทยฺยาติ? น อิทเมวํ, นิจฺจาทินิมิตฺตุคฺฆาฏเนน อนิมิตฺตภาวสฺส นิปฺปริยาเยน มคฺเค อลพฺภนโต นิจฺจาทินิมิตฺตุคฺฆาฏนสฺสปิ ปริยายภาวโต. นนุ อิทมฺปิ สพฺพตฺถ สมานํ. สุฺตอปฺปณิหิตภาโวปิ หิ นิปฺปริยาเยน อมคฺเค น ลพฺภติ ปุคฺคลสุฺตคฺคหณสฺส, ปณิธิโสสนสฺส จ อุชุกํ มคฺเคเนว นิปฺผชฺชนโต, ตสฺมา สุฺตานุปสฺสนาปิ อปฺปณิหิตานุปสฺสนาปิ ปริยาเยเนว ตํ ตํ นามํ ลภนฺตีติ มคฺคสฺส นิปฺปริยายโต นามํ น เทนฺตีติ? น, ตโต ลทฺธอริยมคฺคสฺส นิปฺปริยายโต สมฺปยุตฺตธมฺมวเสเนว สุฺตอปฺปณิหิตนามสมฺภวโต. กถํ? เปตฺวา พุทฺธุปฺปาทํ สรภงฺคสตฺถาราทิกาเลปิ ทุพฺพิชานียภาเวน สุขุมสฺส อนตฺตลกฺขณสฺส ปฺาย เอว โคจรภาวโต อนตฺตานุปสฺสนาย อนุปสฺสนโต มคฺคกฺขเณ ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘อนตฺตโต มนสิกโรโต ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๑).

ตฺจ ปน สยํ อตฺตาภินิเวสสมุคฺฆาฏนโต, อริยมคฺคปริยาปนฺนตฺตา จ นิปฺปริยายโตว สุฺตนามํ ลภติ. ทุกฺขานุปสฺสนาย สมาธิวิปจฺจนีกสฺส ปณิธิสงฺขาตราคสฺส โสสนโต ตสฺสา วเสน อนุปสฺสนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘ทุกฺขโต มนสิกโรโต สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ. ตฺจ ปน สยํ ปณิธิโสสนโต, อริยมคฺคปริยาปนฺนตฺตา จ นิปฺปริยายโตว อปฺปณิหิตนามํ ลภติ. สพฺพสงฺขารานํ ปน อนิจฺจภาวํ อาคมนโต สุตฺวา ปจฺฉา สยํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสโต ‘‘อนิจฺจเมว วต โส ภควา ‘อนิจฺจ’นฺติ อาหา’’ติ ภควติ สทฺธาพาหุลฺลปฏิลาภโต อนิจฺจานุปสฺสนาย มนสิกโรโต มคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ. ตํ ปน สยํ สงฺขารนิมิตฺตโต วุฏฺหนฺตมฺปิ อริยมคฺคปริยาปนฺนํ น โหตีติ นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ น ลภติ, ตสฺมา ยถา กายกมฺมาธิกํ จิตฺตํ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สุฺตสงฺขาตปฺินฺทฺริยาธิมตฺโต มคฺโค สุฺตนามํ ลภติ, อปฺปณิหิตสงฺขาตสมาธินฺทฺริยาธิมตฺโต อปฺปณิหิตนามํ, สทฺธินฺทฺริยาธิมตฺโต ปน สทฺธาย อนิมิตฺตนามาลาภโต สยมฺปิ ตํ น ลภติ. ยทิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน สุฺตาทินามาลาโภ, อถ กถํ ‘‘อาคมนโต’’ติ วุตฺตํ? สจฺจํ, อาคมนโต อธิมตฺตสฺส ปน อินฺทฺริยสฺส วเสน ลทฺธนามมฺปิ อาคมนโตว ลทฺธํ โหติ.

อถ วา อภิธมฺมปริยาเยนปิ สุฺตภาโว นาม ปุคฺคลสุฺตาเยวาติ ปุคฺคลสุฺตคฺคาหิตาย อนตฺตานุปสฺสนาย สุฺตนามํ นิปฺปริยายโตว ลพฺภติ. ปณิธิ นาม ราคาทิกา เอวาติ ราคาทิโสสิตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย อปฺปณิหิตนามมฺปิ นิปฺปริยายโตว ลพฺภติ.

นิมิตฺตนฺติ ปน เปตฺวา สุตฺตนฺตปริยายํ อภิธมฺมปริยาเยน สงฺขารนิมิตฺตํ โหตีติ สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหิตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตนามํ นิปฺปริยายโต น ลพฺภติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต สุฺตอปฺปณิหิตนามิกานํ อนตฺตทุกฺขานุปสฺสนานํ วเสน ปฏิลทฺธมคฺโค อาคมนโต สุฺตอปฺปณิหิตนามํ ลภติ, อนิมิตฺตนามํ ปน ปริยายโตว ลภติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนิมิตฺตนามํ ปเนตฺถ อาคมนโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลพฺภติ อภิธมฺเม มคฺคํ ปติ อนิมิตฺตนามสฺส อนุทฺธฏตฺตา’’ติ. อิติ อิเมสํ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ ปเวสนทฺวารภาวโต สุฺตานุปสฺสนาทินามิกา อนตฺตานุปสฺสนาทิกา ติสฺโส อนุกฺกเมน พลวภาวํ ปตฺวา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาภูตา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ เวทิตพฺพานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ตีณิ โข ปนิมานิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺติ, สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตาย อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพสงฺขาเรสุ มโนสมุตฺเตชนตาย อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพธมฺเม ปรโต สมนุปสฺสนตาย สุฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, อิมานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๙).

เอตฺถ หิ ปริจฺเฉทปริวฏุมโตติ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ. อนิจฺจานุปสฺสนา หิ ‘‘อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คตึ สมนฺเนสมานา วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ปริวฏุมโต ปริยนฺตโต สมนุปสฺสติ. สมนุปสฺสนตายาติ สมฺมเทว อนุปสฺสนตาย สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตาย. ทุกฺขานุปสฺสเนน หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํวิชฺชติ. ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ‘‘นาหํ, น มม’’นฺติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตาย. อิติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ ติณฺณํ วเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนว จ ตทนนฺตเร ปฺหาวิสฺสชฺชเน –

‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ, ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ, อนตฺตโต มนสิกโรโต สุฺโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๙) –

วุตฺตํ. นนุ เจตฺถ อภิธมฺมาวตารสฺส ภาสมานตฺตา อภิธมฺมปริยาเยเนว วิโมกฺขมุขานิ จ ววตฺถเปตุํ ยุตฺตนฺติ? สจฺจํ, อนิจฺจานุปสฺสนายปิ ปน มคฺควุฏฺานํ โหตีติ ปกาสนตฺถํ สุตฺตนฺตปริยาเยนปิ เอกํ ววตฺถานํ กตํ, ตถา วุฏฺิโต ปน มคฺโค อภิธมฺมปริยาเยน สุทฺธิกปฏิปทายเมว สงฺคยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ.

จตุมคฺคโยคเภทโตติ โสตาปตฺติอาทีหิ จตูหิ อริยมคฺเคหิ สมฺปโยคปฺปเภทโต. อริยมคฺคานํ ปน สมฺมาทิฏฺาทิอฏฺงฺคสภาวตฺตา, เตสฺจ สพฺพโลกุตฺตเร อตฺถิตาย ภงฺควเสน อเภเทปิ อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวตรตมภาเวน สจฺฉิกิริยาวิเสสโต กิเลสานํ ปหานเภโท โหตีติ ตํวเสน จตุพฺพิธตา ทฏฺพฺพา. เตเนวาห ‘‘สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉา’’ติอาทิ. สติ วิชฺชมาเน ปฺจกฺขนฺธสงฺขาเต กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ, สยํ วา ตตฺถ สติ ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ, ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตตฺตนิยาภินิเวสวเสน ปวตฺตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา เอตํ อธิวจนํ. สา ปน เอเกกสฺมึ ขนฺเธ จตุธา อภินิเวสนวเสน วีสติวิธา โหติ. ตถา หิ โกจิ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ ‘‘ยํ รูปํ, โส อตฺตา, โย อตฺตา, ตํ รูปํ, ยถา ทีปสฺส วณฺโณเยว อจฺจิ, อจฺจิเยว วณฺโณ’’ติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ สมนุปสฺสติ, ฉายาวนฺตํ วิย รุกฺขํ. อตฺตนิ วา รูปํ, ปุปฺเผ วิย คนฺธํ. รูปสฺมึ วา อตฺตานํ, สมุคฺเค วิย มณิ. เอวํ เวทนาทีสุปิ ‘‘เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. ตตฺถ โย ปฺจวิโธ อพฺยติริตฺตอตฺตาภินิเวโส, สา อุจฺเฉททิฏฺิ. โย ปน ปนฺนรสวิโธ พฺยติริตฺตอตฺตาภินิเวโส, สา สสฺสตทิฏฺีติ เวทิตพฺพํ.

สภาวํ วิจินนฺโต ตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา, ติกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วา วิคตา จิกิจฺฉา าณปติกาโร อิมิสฺสาติ วิจิกิจฺฉา. สา ปน –

‘‘สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ, ธมฺเม, สงฺเฆ, สิกฺขาย, ปุพฺพนฺเต, อปรนฺเต, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๐๘ โถกํ. วิสทิสํ) –

เอวํ พุทฺธาทีสุ กงฺขาวเสน อฏฺวตฺถุกา,

‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสึ, กึ นุ โข อโหสึ, กถํ นุ โข อโหสึ, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, ภวิสฺสามิ นุ โข อหมนาคตมทฺธานํ, น นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหมนาคตมทฺธานํ, เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) –

เอวํ ปุพฺพนฺตาทโย อารพฺภ ปวตฺติวเสน โสฬสวตฺถุกา จ นิทฺทิฏฺา.

ตตฺถ สตฺถริ กงฺขนฺโต ตสฺส รูปกายธมฺมกายานํ วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตฺจ กงฺขติ, ธมฺเม กงฺขนฺโต ตสฺส สฺวากฺขาตทฺวากฺขาตภาเว กงฺขติ, สงฺเฆ กงฺขนฺโต ตสฺส สุปฺปฏิปนฺนวิปฺปฏิปนฺนตาทิภาเว กงฺขติ, สิกฺขาย กงฺขนฺโต ตสฺสา สุปฺตฺตทุปฺปฺตฺตภาวํ กงฺขติ, ปุพฺพนฺเต กงฺขนฺโต สสฺสตาการํ, อธิจฺจสมุปฺปตฺติอาการฺจ นิสฺสาย อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตฺจ กงฺขติ, อปรนฺเต กงฺขนฺโต สสฺสตาการํ, อุจฺเฉทาการฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตโน อุปฺปตฺตึ, อนุปฺปตฺติฺจ กงฺขติ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตโน อตฺถิภาวํ, นตฺถิภาวฺจ กงฺขติ. ปจฺจุปฺปนฺโน หิ อทฺธา ปุพฺพภาคาปรภาคโกฏฺาสวนฺตตาย ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺโต’’ติ วุจฺจติ, ยุตฺตํ ปน ตํ อารพฺภ กงฺขาชนนนฺติ? ยุตฺตํ, อยุตฺตนฺติ กา เอตฺถ จินฺตา. อุมฺมตฺตโก วิย หิ พาลปุถุชฺชโน. ตสฺมา โส ยํ กิฺจิ กงฺขติเยว. เตเนว จ โสฬสวตฺถุกวิจิกิจฺฉานิทฺเทเส ‘‘เอตรหิ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาจริยา ปน ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺโตติ อตีตานาคเต เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตทุภยมารพฺภ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขตี’’ติปิ วทนฺติ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขนฺโต ปน อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยานํ, สงฺขาราทีนฺจ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ เหตุเหตุสมุปฺปนฺนภาวสฺส สพฺภาวาสพฺภาวํ กงฺขตีติ เอวํ ตาว อฏฺวตฺถุกกงฺขาย ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

โสฬสวตฺถุกา ปน ‘‘อโหสึ นุ โข…เป… น นุ โข อโหสิ’’นฺติ กงฺขนฺโต วุตฺตนเยเนว อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ กงฺขติ. กึ นุ โข อโหสินฺติ ชาติลิงฺคุปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย นุ โข อโหสึ, พฺราหฺมณาทีสุ คหฏฺาทีสุ เทวาทีสุ อฺตโร นุ โข’’ติ กงฺขติ. กถํ นุ โขติ สณฺานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีโฆ นุ โข อโหสึ, รสฺสโอทาตกาฬาทีนฺจ อฺตโร’’ติ กงฺขติ. อิสฺสรนิมฺมานาทีนิ นิสฺสาย ‘‘เกน นุ โข ปกาเรน อโหสิ’’นฺติ นิพฺพตฺตนาการโต กงฺขตีติ วทนฺติ. กึ หุตฺวา กึ อโหสินฺติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมโณ อโหสึ…เป… เทโว หุตฺวา นุ โข มนุสฺโส อโหสิ’’นฺติ อตฺตโน อปราปรํ ปวตฺตึ กงฺขติ. ภวิสฺสามิ นุ โข, น นุ โขติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อนาคเต อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ กงฺขติ. ‘‘กึ นุ โข ภวิสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตนยเมว. อหํ นุ โขสฺมิ, น นุ โขสฺมีติ อิทานิ อตฺตโน อตฺถิภาวํ, นตฺถิภาวฺจ กงฺขติ. ตตฺถ การณํ วุตฺตเมว. กึ นุ โขสฺมีติ ขตฺติยาทิโกว สมาโน อตฺตโน ขตฺติยาทิภาวํ กงฺขติ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. กถํ นุ โขสฺมีติ ‘‘อพฺภนฺตเร ชีโว นาม อตฺถี’’ติ คเหตฺวา ตสฺส ทีฆาทิภาวํ กงฺขติ. ปจฺจุปฺปนฺนํ ปน อตฺตโน สรีรสณฺานํ อชานนฺโต นาม นตฺถิ. กุโต อาคโต, กุหึ คามี ภวิสฺสตีติ อตฺตภาวสฺส อาคตคตฏฺานานิ กงฺขตีติ เวทิตพฺพํ.

สีลฺจ วตฺจ สีลพฺพตํ, ตตฺถ โคสีลาทิอสุทฺธิมคฺโค สมาทานวเสน สีลํ, อวีติกฺกมวเสน วตํ. อุภยถาปิ วา สีลํ, ตโปกมฺมภาเวน คหิตตฺตา วตํ. ควาทิปกติภาวโต อตฺตโน วา ควาทิภาวาธิฏฺานํ สีลํ, ‘‘คจฺฉนฺโต ภกฺเขติ, ติฏฺนฺโต มุตฺเตตี’’ติอาทินา ควาทิกิริยาย กรณํ วตํ. ตํตํอกิจฺจสมฺมสโต วา นิวตฺติ สีลํ, ตํสมาทานวโต เวสโภชนกิจฺจจรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วตํ. สภาวํ อติกฺกมฺม ปรโต อามสนํ คหณนฺติ ปรามาโส, สีลพฺพตสฺส ปรามาโส สีลพฺพตปรามาโส. อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธิ, สีลพฺพเตน สุทฺธีติ เอวํ อสุทฺธิมคฺเค ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปวตฺตสฺส มิจฺฉาภินิเวสสฺเสตํ อธิวจนํ. สกฺกายทิฏฺิ จ วิจิกิจฺฉา จ สีลพฺพตปรามาโส จาติ สกฺกาย…เป… ปรามาโส, เตเยว กมฺมวิปาเกสุ, วฏฺฏสฺมึ วา สตฺเต สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ, เตสํ ทิฏฺิวิสุทฺธิอาทีหิ ตทงฺควเสน ปหีนานํ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน อจฺจนฺตสมุจฺเฉทปฺปหานํ กโรตีติ สกฺกา…เป…ปฺปหานกรํ.

นิพฺพานํ ปติ สวนโต สนฺทนโต โสโต วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิกมคฺโค, ตสฺส อาทิโต ปชฺชนํ โสตาปตฺติ, นิพฺพานํ มคฺคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉตีติ วา มคฺโค, โสตาปตฺติ เอว มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. อถ วา โสตํ อาทิโต ปชฺชติ อธิคจฺฉตีติ โสตาปตฺติ, ปโม อริยปุคฺคโล, ตสฺส มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, สมฺมาทิฏฺิอาทีนิ อฏฺงฺคานิ, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ.

รชฺชติ อภิสชฺชตีติ ราโค, โส อิธ ปฺจกามวิสยา, กามภววิสยา จ ตณฺหา. ทุสฺสตีติ โทโส, ทสวิธอาฆาตวตฺถุปทฏฺาโน พฺยาปาโท. มุยฺหตีติ โมโห, ทุกฺขาทีสุ อฏฺสุ อฺาณํ. เอเตสํ กิเลสานํ ตนุตฺตํ ตนุภาวํ กโรตีติ ราค…เป… ตนุตฺตกรํ. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ ตนุตฺตํ อภิณฺหานุปฺปตฺติโต, ปริยุฏฺานมนฺทตาย จาติ. สกทาคามิสฺส หิ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ วิรฬาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา อุปฺปชฺชนฺตาปิ มทฺทนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา นุปฺปชฺชนฺติ. ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทมนฺทา ตนุกตนุกา อุปฺปชฺชนฺติ. เกจิ ปน สกทาคามิสฺส กิเลสา จิเรน อุปฺปชฺชนฺตาปิ พหลาว อุปฺปชฺชนฺติ. ตถา หิสฺส ปุตฺตธีตโร ทิสฺสนฺตีติ วทนฺติ. ตํ อการณํ, วตฺถุปฏิเสวเนน วินาปิ คพฺภคฺคหณสพฺภาวโต, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว ทฺวีหิ การเณหิ เนสํ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ. กสฺมา ปเนตฺถ โมหสฺส ตนุภาโว วุตฺโต, นนุ ตติยมคฺควชฺฌานเมว อิมินา ตนุตฺตกรณํ วตฺตพฺพํ, อิตรถา เหฏฺา ตีหิปิ มคฺเคหิ อุปริมคฺควชฺฌกิเลสานํ พหลาพหลาวตฺถาย ปหียมานตฺตา อิธ สพฺเพสเมว อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ ตนุภาโว วตฺตพฺโพ, เตเนว จ ปาฬิยมฺปิ ‘‘กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย ทุติยาย ภูมิยา ปตฺติยา’’ติ วุตฺตนฺติ. สจฺจเมตํ, สุตฺเต ปน อุปริมคฺควชฺฌานํ ตนุภาวปริยายํ คเหตฺวา ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหตี’’ติ เหตุตฺตยตนุภาวสฺส อาคตตฺตา อิธาปิ ตทนุโลเมน วุตฺตํ. ‘‘กามราคพฺยาปาทาน’’มิจฺเจว วา ปาโ. ตถา หิ เอตฺเถว อุปริ ทุติยมคฺคาณนิทฺเทเส ‘‘พฺยาปาทกามราคานํ, ตนุภาวํ ตุ สาธย’’นฺติ (อภิธ. ๑๓๕๓) วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิวเสน สกิเทว อิมํ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. กิฺจาปิ หิ มคฺคฏฺสฺส ปฏิสนฺธิวเสน อาคมนาสมฺภวโต ผลฏฺโเยว สกทาคามี นาม โหติ, ตสฺส ปน อาคมนภูโต มคฺโค มคฺคนฺตราวจฺเฉทนตฺถํ ตทายตฺตภาวูปนยเนน สกทาคามิมคฺโคติ วุจฺจติ, ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ.

ปฺจสุ กามคุเณสุ, กามภเว จ ราโค กามราโค. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตนฺติ พฺยาปาโท. ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ กามธาตุํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี. รูปภเว ฉนฺทราโค รูปราโค. อรูปภเว ฉนฺทราโค อรูปราโค. มาโน อิธ อรหตฺตาธิคมํ ปฏิจฺจ อุณฺณติมตฺตํ. อุทฺธจฺจมฺปิ ‘‘โก เม ภาโร กิเลสสมุจฺเฉทเน’’ติ เอวมาการปฺปวตฺตํ จิตฺตสฺส อวูปสมมตฺตํ. อวิชฺชาปิ อสุเข สุขสฺาวิปลฺลาโส. อารกตฺตา กิเลเสหิ, มิจฺฉาปฏิปนฺเนหิ วา, ราคาทิอรีนํ, สํสารจกฺกสฺส อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, รโหปิ ปาปากรเณน ปาปกรเณ รหสฺส อภาวา, รหิตพฺพโต ชหิตพฺพโต ‘‘รหา’’ติ ลทฺธนามานํ วา ปาปธมฺมานํ อภาวโต, สาธูหิ อรหิตพฺพโต อปริจฺจชิตพฺพโต, รหสงฺขาตสฺส วา คมนสฺส สํสาเร อภาวโต อรหา, อฏฺโม อริยปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อรหตฺตํ, อคฺคผลสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺหิ ‘‘อรหา’’ติ อภิธานสฺส, พุทฺธิยา จ ปวตฺตินิพนฺธนตฺตา อรหโต ภาโวติ กตฺวา ‘‘อรหตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส อาคมนภูโต มคฺโค อรหตฺตมคฺโค, ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อรหตฺตมคฺคจิตฺตํ.

ฌานงฺคโยคเภทโตติ รูปาวจรํ วิย ปฺจหิ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคเภทโต. กถํ ปนสฺส เภโทติ? เอตฺถ ตาว อฏฺกถาวาโท, ตโย จ เถรวาทาติ จตฺตาโร วาทา โหนฺติ. ตถา หิ อฏฺกถายํ ตาว ‘‘สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺวา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนามคฺคสฺส ฌานงฺคํ นิยเมตี’’ติ วุตฺตํ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปน ‘‘มคฺคาสนฺนวิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตํ ปาทกชฺฌานํ นิยเมตี’’ติ อาห. โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถโร ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺติ. ยฺหิ ฌานํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, ตํสทิโสว โหตี’’ติ อาห. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปน ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมติ, ‘อโห วต ปฺจงฺคิกํ, จตุรงฺคิกํ วา มคฺคํ ปาปุเณยฺย’นฺติอาทินา ยถา ยถาสฺส อชฺฌาสโย โหติ, ตถา ตถา มคฺโค โหตี’’ติ อาห.

ยสฺมา ปน อฏฺกถาวาโท ปมาณํ, ตโย จ เถรา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา, ตสฺมา จตฺตาโรปิ วาทา อฺมฺํ อปฺปฏิพาหนวเสน เอวํ เวทิตพฺพา. กถํ? กามาวจรธมฺเม ตาว สมฺมสิตฺวา สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปฺปนฺนมคฺโคปิ สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ วิปสฺสนานิยาเมน ปมชฺฌานิกาว โหนฺติ. สเจ ปน กิฺจิ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส วเสน องฺคปริณาโม โหตีติ ตํตํฌานสทิโส โหติ. ยสฺมา ปเนตฺถ กามาวจรกฺขนฺเธ อารพฺภ ปวตฺตา วิปสฺสนา กามาวจรธมฺเมสุ จ มหคฺคตธมฺเมสุ วิย ภาวนาวิเสสโต ฌานงฺควิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’’ติ เอวํ ปวตฺโต ทุติยตฺเถรวาโท อิมํ วาทํ น ปวิสติ. ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สเจ ปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, สมฺมสิตชฺฌานนิยาเมน ตํตํฌานิโก โหติ. สเจ ปมชฺฌานโต วุฏฺาย ทุติยาทิฌาเน สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิโต, ปุคฺคลชฺฌาสยนิยาเมน ทฺวีสุ อฺตรชฺฌานสทิโส โหติ. สเจ ปน ปุคฺคลสฺส ตถาวิโธ อชฺฌาสโย นตฺถิ, ตทา กถนฺติ? เอตฺถ ตาว เกจิ ‘‘นานาวชฺชนวีถิยเมว นิวตฺตมานปาทกชฺฌานโต เอกาวชฺชนวีถิยํ โคตฺรภุภาวํ ปตฺวา นิวตฺตมานาย วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธาเยว พลวนฺโต, ตสฺมา สมฺมสิตกฺขนฺธนิยาเมน ตํสทิโส มคฺโค โหตี’’ติ วทนฺติ. เอวฺจ สติ ‘‘ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหตี’’ติ เอวํ ปวตฺโต ปมตฺเถรวาโท ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย กามาวจรกฺขนฺเธ สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺคเมว สนฺธาย ติฏฺตีติ.

อปเร ปน ‘‘ปาทกชฺฌานํ มคฺคสฺส มูลการณวเสน ปจฺจโย โหติ อาสนฺนการณวเสนปิ, สมฺมสิตกฺขนฺธา ปน มูลการณวเสเนว ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา สมฺมสิตกฺขนฺธโต ปาทกชฺฌานเมว พลวตรนฺติ ปาทกชฺฌานสทิโส มคฺโค โหตี’’ติ วทนฺติ. เอวํ สนฺเต ปน ‘‘สมฺมสิตกฺขนฺธนิยาเมนา’’ติ เอวํ ปวตฺโต ทุติยตฺเถรวาโท สมาปตฺตึ ปาทกํ อกตฺวา เกวลํ ฌานธมฺเมเยว สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺคเมว สนฺธาย ติฏฺติ. ยสฺมา ปน เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริฌานํ พลปฺปตฺตํ โหติ, ตสฺมา เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต วุฏฺาย อุปรูปริฌานธมฺเม วิปสฺสโต อุปฺปนฺนมคฺโค ปาทกชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา สมฺมสิตชฺฌานวเสน ตํตํฌานิโก โหติ. อุปรูปริฌานโต ปน วุฏฺาย เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สมฺมสิตชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานสทิโส โหตีติ อิทเมตฺถ สารตรํ. เอวฺหิ สติ ทฺวินฺนมฺปิ เถรานํ วาทา นิปฺปเทสวิสยา สมผลา โหนฺติ.

ตติยตฺเถรวาโท เจตฺถ ปาทกชฺฌานํ, สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา อชฺฌาสยมตฺเตเนว น อิชฺฌติ. ตีสุปิ วาเทสุ เปตฺวา เสสฌานงฺคปริณามํ เวทนาปริณาโม วิปสฺสนานิยาเมเนว โหติ. ตโยปิ เถรวาทา วิปสฺสนานิยาเมน วินา น โหนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. นนุ จ เวทนาปิ ฌานงฺคเมว, ตสฺมา ตายปิ ปาทกชฺฌานนิยาเมเนว ภวิตพฺพนฺติ? ตํ น, เวทนายปิ ปาทกชฺฌานนิยาเมน ปริณาเม สติ วิปสฺสนานิยามํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานนิยาเมเนว มคฺคกฺขเณ เสสฌานงฺคานิ ปริณามฏฺาเนเยว เวทนายปิ ปริณาโม ภเวยฺย, ตถา ปน อหุตฺวา เอกาวชฺชนวีถิยา อาทิโตว ปริณามนโต มคฺควุฏฺานวีถิยา อาสนฺนตรปฺปวตฺตาย วิปสฺสนาย วเสน เวทนานิยาโม โหติ.

อถ วา ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานานํ สมฺภเว เตสุ อนุปฺปนฺนา เวทนา วิปสฺสนาย น โหตีติ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานนิยาเมน ปริณมตีติปิ น สกฺกา วตฺตุํ. เอตฺถ สิยา – ยตฺถ ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ, ตตฺถ ตํ นิยเมติ. ยตฺถ ปน ติกจตุกฺกปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, ตสฺมึ อรูปภเว กึ นิยเมตีติ? ตตฺถาปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. โย หิ ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อรูปภเว นิพฺพตฺโต ปมชฺฌานิกาย โสตาปตฺติผลสมาปตฺติยา วุฏฺาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุปริ ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ, ตสฺส ตานิ ปมชฺฌานิกาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานิกาทีสุปิ เอเสว นโย. อรูเปปิ หิ โลกุตฺตรํ ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตีติ เอวเมตฺถ เอเกกสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺส ฌานงฺคโยคเภโท เวทิตพฺโพติ.

มคฺคา…เป… นิปฺผาเทตีติ เตภูมกกุสลํ วิย ปฏิสนฺธิปฺปวตฺตีสุ อวิปจฺจวนฺตมฺปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปสฺส ผลสฺส นิปฺผาทเนน ตํตํผลปฺปตฺเต โสตาปนฺโน สกทาคามี อนาคามี อรหาติ สามฺโต จตฺตาโร อริยปุคฺคเล อภินิปฺผาเทตีติ. วิเสสโต ปน สตฺตกฺขตฺตุปรมตาทิเก อเนเกปิ โสตาปนฺนาทโย นิปฺผาเทติ.

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุภูมกกุสลวณฺณนา

๒๘. เอวํ จตุภูมกกุสลจิตฺตํ สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘กาเม อฏฺเวา’’ติอาทิ. ตตฺถ กาเมติ กามภเว. ตถา ‘‘รูเป’’ติอาทีสุ.

๒๙. กุสลากุสลาปคเตนาติ กุสลากุสลกมฺมโต อปคเตน. อคฺคมคฺคสฺส หิ อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย อรหโต สพฺพานิ กุสลากุสลกมฺมานิ ปหีนานิ นาม โหนฺติ ปจฺจยเวกลฺเลน ปฏิสนฺธิทาเน อสมตฺถภาวโต. ยโต จ อริยมคฺคาณํ ‘‘กมฺมกฺขยกร’’นฺติ วุจฺจติ. อถ วา อเหตุอปจฺจยวิสุชฺฌนสฺส อภาวโต กิเลสสมุจฺเฉทเกน มคฺคกุสเลน อกุสเลหิ อปคเตน. กุสเล กุสเลนาติ กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ กุสลสงฺขาตาย ปฏิปตฺติยํ เทสนุปฺปาทนาทีสุ เฉเกน. มุนินาติ อุภยโลกมุนนเกน อคฺคผลาเณน, สพฺพฺุตฺาเณน วา สมนฺนาคตตฺตา มุนินา. เตนาห –

‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติ.

วสินาติ ฉฬภิฺตาย ปรเมน จิตฺตวสิภาเวน สมนฺนาคตตฺตา, ฌานาทีสุ ปฺจวิธวสิสพฺภาวโต จ วสิภูเตน วสิภาวูปคตินฺทฺริเยน.

จตุภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลวณฺณนา

เอตฺตาวตา จ ยํ ‘‘กุสลากุสลาพฺยากตชาติเภทโต ติวิธ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตํ กุสลํ, ตํ สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺํ อกุสลํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘อกุสลํ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘ภูมิโต เอกวิธ’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กามาวจรเมวา’’ติ. นิกายนฺตริกา ปน รูปารูปาวจรมฺปิ อกุสลํ อิจฺฉนฺตีติ เตสํ มตินิเสธนตฺถํ อวธารณํ กตํ. มหคฺคตภูมิยํ อุปฺปชฺชนฺตมฺปิ เหตํ ตตฺถ รูปธาตุยํ ปวตฺติวิปากํ เทนฺตมฺปิ เอกนฺเตน กามาวจรเมวาติ. กุโต ปเนส นิยโมติ? กามตณฺหาวิสยภาวโต. กามตณฺหาวิสยตา หิ กามาวจรภาวสฺส การณํ ยถา รูปารูปตณฺหาวิสยตา รูปารูปภาวสฺส. เอกํเสน เจตํ เอวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อิตรถา พฺยาปิตลกฺขณํ น สิยา. ยทิ หิ อาลมฺพิตพฺพธมฺมวเสน ภูมิววตฺถานํ กเรยฺย, เอวํ สติ อนารมฺมณานํ สงฺคโห น สิยา. อถ วิปากทานวเสน, เอวมฺปิ อวิปากานํ สงฺคโห น สิยา, ตสฺมา อาลมฺพณธมฺมวเสเนว ปริยาปนฺนานํ สา กาตพฺพา. อปริยาปนฺนานํ ปน โลกโต อุตฺติณฺณตาย โลกุตฺตรตา, อุตฺตริตราภาวโต อนุตฺตรตา จ เวทิตพฺพาติ.

โทมนสฺสสฺส อนีวรณาวตฺถาย อภาเวน ตํสหคตจิตฺตุปฺปาโท กามภูมิยํเยว ปวตฺตตีติ โส นิยตวตฺถุโก, อิตเร อรูปภูมิยมฺปิ ปวตฺตนโต อนิยตวตฺถุกาติ อาห ‘‘นิยตา…เป… ทุวิธ’’นฺติ. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานํ โมเหกเหตุกตฺตา, อิตเรสมฺปิ โลภโมหโทสโมหวเสน ทฺวิเหตุกตฺตา อาห ‘‘เอกเหตุกทุเหตุกโต’’ติ. อาทิโต เอกาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปฏิสนฺธิชนนโต, อุทฺธจฺจสหคตสฺส ตทภาวโต อาห ‘‘ปฏิสนฺธิชนกาชนกโต’’ติ. อุทฺธจฺจสหคตฺหิ ปวตฺติวิปากํ เทนฺตมฺปิ ปฏิสนฺธึ นากฑฺฒติ. ยโต วกฺขติ –

‘‘เอกาทสวิธานํ ตุ, หิตฺวา อุทฺธจฺจมานสํ;

เอกาทสวิธา เจว, ภวนฺติ ปฏิสนฺธิโย’’ติ. (อภิธ. ๕๓๖);

เยน ปน การเณน ตํ ปฏิสนฺธึ นากฑฺฒติ, ตํ ปฏิสนฺธิวินิจฺฉยกถาหิ อิมิสฺสา คาถาย วณฺณนาปเทเสเยว วกฺขาม. ตีหิ เวทนาหีติ สุขทุกฺโขเปกฺขาสงฺขาตาหิ ตีหิ เวทนาหิ. ยถาห – ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา. กตมา ติสฺโส? สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๙). ยํ ปน กตฺถจิ สุตฺเต ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๖๗) วจนํ, ตํ กุสลปกฺขิกํ อุเปกฺขํ สุเข, อกุสลปกฺขิกฺจ ทุกฺเข ปกฺขิปิตฺวา ปริยาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สุปฺปติฏฺิตภาวการณตฺตา มูลมิวาติ มูลํ, โลโภ มูลํ เอตสฺสาติ โลภมูลํ. กิฺจาปิ หิ โมโหปิ โลภมูเลสุ อตฺถิ, โส ปน สพฺพากุสลสาธารณตฺตา ววตฺถานกโร น โหตีติ อสาธารณธมฺมวเสน ‘‘โลภมูล’’นฺตฺเวว วุตฺตํ ยถา ‘‘เภริสทฺโท ยวงฺกุโร’’ติ. ตถา ‘‘โทสมูล’’นฺติ เอตฺถาปิ. มูลนฺตรวิรหโต โมโห เอว มูลํ อิมสฺส, นาฺนฺติ โมหมูลํ.

มิจฺฉาวเสน ทสฺสนํ ทิฏฺิ, ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ยถา ‘‘อากาสคตํ ถามคต’’นฺติ. อถ วา วิปริเยสคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา คตเมว, น เอตฺถ คนฺตพฺพวตฺถุ ตถาสภาวนฺติ ทิฏฺิคตํ, ทฺวาสฏฺิยา วา ทิฏฺีสุ อนฺโตคธนฺติ ทิฏฺิคตํ, เตน สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ.

‘‘ยทา หี’’ติอาทิ โลภมูลจิตฺตานํ ปวตฺติอาการทสฺสนํ. มิจฺฉาทิฏฺินฺติ อุจฺเฉททิฏฺิอาทึ มิจฺฉาทิฏฺึ. ตาย หิ วิปลฺลตฺตจิตฺตา ตาว โกธวิสโย, ยาว อินฺทฺริยโคจโรติ ปรโลกํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นตฺถิ กาเมสุ อาทีนโว’’ติ คณฺหนฺติ. อาทิ-สทฺเทน –

‘‘เอส ปนฺโถวิตโถ เทวยาเน,

เยน ยนฺติ ปุตฺตวนฺโต วิโสกา;

ตํ ปสฺสนฺติ ปสโว ปกฺขิโน จ,

เตน เต มาตริปิ มิถุนํ จรนฺตี’’ติ. –

อาทินา นเยน ปุตฺตมุขทสฺสนํ สคฺคโมกฺขมคฺโคติ เอวมาทิกํ มิจฺฉาทิฏฺึ สงฺคณฺหาติ. กาเม วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. เตน ‘‘พฺราหฺมณานํ สุวณฺณหรณเมว อทินฺนาทาเน สาวชฺชํ, อิตรํ อนวชฺชํ, คุรูนํ, คุนฺนํ, อตฺตโน ชีวิตสฺส, วิวาหสฺส จ อตฺถาย มุสาวาโท อนวชฺโช, อิตโร สาวชฺโช, คุรุอาทีนํ อตฺถาย เปสุฺกรณํ อนวชฺชํ, อิตรํ สาวชฺชํ, ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิกถา ปาปวูปสมาย โหตี’’ติ เอวมาทิเก มิจฺฉาคาเห สงฺคณฺหาติ. ทิฏฺมงฺคลาทีนีติ ทิฏฺสุตมุตมงฺคลานิ. สารโต ปจฺเจตีติ วุฑฺฒิยา ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน อคฺคเหตฺวา ‘‘อิทเมว วุฑฺฒิการณ’’นฺติ เอวํ สารวเสน คณฺหาติ. สภาวติกฺเขเนวาติ โลภสฺส, มิจฺฉาภินิเวสสฺส วา วเสน สรเสเนว ติขิเณน กุรุเรน. มนฺเทนาติ ทนฺเธน อติขิเณน. ตาทิสํ ปน อตฺตโน, ปรสฺส วา สมุสฺสาหเนน ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สมุสฺสาหิเตนา’’ติ. ปรสฺส ภณฺฑํ วา หรตีติ วา-สทฺเทน ตถาปวตฺตนกมุสาวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. กามานํ วาติ อนุภุยฺยมานานํ กามคุณานํ. วา-สทฺเทน ปรสนฺตกสฺส อยถาธิปฺเปตตาย ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ คหณาทิกํ สงฺคณฺหาติ.

สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน เภทาภาวโต โทสมูลํ อสงฺขาริกสสงฺขาริกเภทโต ทุวิธํ. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ? อสาธารณธมฺเมหิ ตสฺส จิตฺตสฺส อุปลกฺขณตฺถํ. ปาณสฺส อตีว, อติกฺกมิตฺวา วา ปาตนํ ปาณาติปาโต. อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานมุสาวาทเปสุฺผรุสสมฺผปฺปลาปพฺยาปาเท สงฺคณฺหาติ. ทสอกุสลกมฺมปเถสุ หิ กาเมสุมิจฺฉาจารอภิชฺฌามิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตา ตโยว กมฺมปถา อิมินา น สิชฺฌนฺติ. สภาวติกฺขํ หุตฺวา ปวตฺตมานํ จิตฺตํ อสงฺขารเมว โหติ, อิตรํ สสงฺขารนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ติกฺขมนฺทปฺปวตฺติกาเล’’ติ. มนฺทํ ปน หุตฺวา ปวตฺตมานํ เอกํเสน สสงฺขารเมวาติ น สกฺกาว วิฺาตุํ. ยํ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน ปวตฺตติ, ตํ มนฺทเมว โหตีติ กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

โมหมูลํ จิตฺตํ มูลนฺตรวิรหโต อติมูฬฺหํ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโยคโต จฺจลฺจาติ อุเปกฺขาสหคตเมว โหติ, น ตสฺส กทาจิปิ สภาวติกฺขตา อตฺถิ. อารมฺมเณ หิ สํสปฺปนวเสน, วิกฺขิปนวเสน จ ปวตฺตมานสฺส จิตฺตทฺวยสฺส กึ ตาทิเส กิจฺเจ สภาวติกฺขตาย, อุสฺสาเหตพฺพตาย วา ภวิตพฺพํ, ตสฺมา น ตตฺถ สงฺขารเภโท อตฺถิ. นนุ จ อุทฺธจฺจํ สพฺพากุสลสาธารณํ, กสฺมา ปน เอตเมว เตน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจสหคต’’นฺติ. วิเสสโต พลวภาวโต. อิทฺหิ เอตสฺมึ จิตฺเต พลวํ, ตสฺมา สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมว เตน วิเสสิตพฺพํ. เตเนว หิ ปาฬิยํ เสสากุสเลสุ อุทฺธจฺจํ เยวาปนกวเสน อาคตํ, อิธ ปน สรูปโตเยว นิทฺทิฏฺํ. เอวํ อสาธารณปฺปธานธมฺมวเสน โมหมูลํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตนฺติ ทุวิธํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อสนฺนิฏฺานํ สํสโย, วิกฺเขโป อวูปสโม, ภนฺตตาติ อตฺโถ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาสหคตสฺส อสนฺนิฏฺานกาเล, อุทฺธจฺจสหคตสฺส วิกฺเขปกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

ยถานุรูปนฺติ ปฏิสนฺธิชนกาชนกสฺส, กมฺมปถภาวปฺปตฺตาปตฺตสฺส จ อนุรูปโต. อถ วา ยถานุรูปนฺติ โย ยสฺส เหตุ, ตทนุรูปโต. เยภุยฺเยน หิ โลภมูลเกน ขุปฺปิปาสาทินิรนฺตรเปตวิสเย อุปฺปชฺชนฺติ, โทสมูลเกน โทโส วิย จณฺฑชาตตาย ตํสริกฺขเก นิรเย, โมหมูลเกน นิจฺจสมฺมูฬฺหาย ติรจฺฉานโยนิยํ, ตสฺมา โลภาทิเหตุอนุรูปโต ตตฺถ ตตฺถ อปาเย อุปปตฺตึ นิปฺผาเทตีติ อาห ‘‘ยถานุรูปํ…เป… อุปปตฺติยา’’ติ. อกุสลวิปากานํ ทุกฺขปฺปธานตาย ‘‘ทุกฺขวิเสสสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

๓๑. อปาเปน อลามเกน ปาปาปาปปฺปหีเนน ปาปาปาเปสุ มานเสสุ ยํ ปาปมานสํ วุตฺตํ, ปาปาปาเปสุ ปุคฺคเลสุ อปาเปน ปาปาปาปปฺปหีเนน ยํ ปาปมานสํ วุตฺตนฺติ วา สมฺพนฺโธ. อถ วา ปาปาปาเปสุ มานเสสุ ปาเปน ปาปมานเสน ปาปวเสน ปาปาปาปปฺปหีเนน ยํ ปาปมานสํ วุตฺตนฺติ โยชนา. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อสมฺมาสมฺพุทฺเธน ตาว ธมฺมสภาวสฺส ทุพฺพิชานียตฺตา กุสลมฺปิ อกุสลโต, อกุสลมฺปิ กุสลโต วุจฺเจยฺย, ภควโต ปน สห วาสนาหิ วิทฺธํสิตากุสลสฺส กมฺมกฺขยกราเณน ปจฺจยเวกลฺลโต วิทฺธํสิตกุสลกมฺมสฺส จ สมฺมาสมฺพุทฺธภาวโต เอกนฺเตเนว อกุสลเทสนา อกุสลธมฺมวเสเนวาติ.

อกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.

อพฺยากตวณฺณนา

อฺมฺวิสิฏฺานํ กุสลากุสลานํ ปากนฺติ วิปากํ, วิปกฺกภาวมาปนฺนานมรูปธมฺมานเมตมธิวจนํ. ยถา หิ โลเก สาลิพีชาทีนํ ผลานิ ตํสทิสานิ นิพฺพตฺตานิ วิปกฺกานิ นาม โหนฺติ, วิปากนิรุตฺติฺจ ลภนฺติ, น มูลงฺกุรปตฺตทณฺฑนฬาทีนิ, เอวํ กุสลากุสลานํ ผลานิ อรูปธมฺมภาเวน, สารมฺมณภาเวน จ ตํสทิสานิ วิปกฺกภาวมาปนฺนานีติ วิปากนิรุตฺตึ ลภนฺติ, น ปน กมฺมาภินิพฺพตฺตาปิ รูปธมฺมา กมฺมวิสทิสตฺตา. วิปากเมว จิตฺตํ วิปากจิตฺตํ. กรณมตฺตํ กิริยา ผลทานาสมฺภวโต. เยน ปน การเณน ตสฺส ผลทานํ น สมฺภวติ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. กิริยา เอว จิตฺตํ กิริยจิตฺตํ. วิปากสฺส กามาวจราทิภาโว กุสเล วุตฺตนเยน ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺโพ. อโลภาทิสมฺปยุตฺตเหตูหิ สห วตฺตนโต สเหตุกํ. ตทภาวโต อเหตุกํ. นิพฺพตฺตกเหตุวเสน สิชฺฌมานมฺปิ เหตํ สมฺปยุตฺตเหตุวเสเนว ‘‘สเหตุกมเหตุก’’นฺติ วุจฺจติ, อิตรถา ววตฺถานาภาวโต.

สกกุสลํ วิยาติ อตฺตโน ชนกํ กามาวจรกุสลํ วิย. ชนกชนิตพฺพสมฺพนฺธวเสน หิ ตํ ตํ กุสลํ ตสฺส ตสฺส วิปากสฺส สกํ นามํ โหติ.

‘‘สกกุสลํ วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปวตฺตาการอารมฺมณาทิโต จสฺส ตํสทิสตา อาปชฺเชยฺยาติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ. ฉสุ อารมฺมเณสูติ ปริตฺตาทิอตีตาทิอชฺฌตฺตาทิเภเทสุ ฉสุ รูปาทิอารมฺมเณสุ. ภวนฺตรปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธิ. อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภาเวน ภวสฺส องฺคนฺติ ภวงฺคํ. นิพฺพตฺติตภวโต ปริคฺตาย จุติเหตุตาย จุติ. ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสูติ กามาวจรธมฺมปริยาปนฺเนสุ. กามาวจรธมฺมา หิ กิเลสวิกฺขมฺภนาทีสุ อสมตฺถภาเวน ปริตฺตานุภาวตาย, โอฬาริกาหิ วา กามตณฺหาทีหิ ปริโต คหิตตฺตา ‘‘ปริตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. วิปากสฺส สงฺกปฺเปตฺวา อารมฺมณคฺคหณาภาวโต กมฺมานุรูปเมว ปวตฺตตีติ ปริตฺตกมฺมวิปาโก ปริตฺตารมฺมเณเยว ปวตฺติตุมรหติ, น มหคฺคตอปฺปมาณารมฺมเณติ วุตฺตํ ‘‘ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสู’’ติ. ยทิ เอวํ มหคฺคตวิปาโกปิ มหคฺคตารมฺมเณเยว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, สฺายตฺตารมฺมณสฺส สมาธิปฺปธานสฺส กมฺมสฺส อปฺปนาปตฺตสฺส ตาทิเสเนว วิปาเกน ภวิตพฺพตฺตา. วณฺณลกฺขณาทิกฺหิ อคฺคเหตฺวา โลกสฺานุโรเธเนว คหิเต ปถวาทิเก ปริกมฺมสฺาย สมุปฺปาทิตํ ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตมารมฺมณํ สฺาวสํ สฺายตฺตํ โหติ, ตสฺมา ตทารมฺมณสฺส สมาธิปฺปธานสฺส อปฺปนาปตฺตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สมาธิปฺปธานอปฺปนาปตฺเตหิ วิย สฺายตฺตารมฺมณตาย นิพฺพิเสเสเนว ภวิตพฺพํ. ปริตฺตวิปาโก ปน มหคฺคตอปฺปมาณปฺตฺตารมฺมณกมฺมนิพฺพตฺโตปิ โหติ, โส ปรโต อาคมิสฺสติ.

มุขนิมิตฺตํ วิยาติ มุขํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนนิมิตฺตํ วิย. ยถา หิ ตํ นิรีหํ อปรํ มุขนิมิตฺตํ อุปฺปาเทตุํ, อฺํ วา กิฺจิ อตฺตโน พเลน กาตุํ น สกฺโกติ, เอวเมตมฺปิ วิปากุปฺปาทนาทีสุ น อุสฺสหติ. เตนาห ‘‘นิรุสฺสาห’’นฺติ. อุสฺสาโหติ เจตฺถ อนุปจฺฉินฺนาวิชฺชาตณฺหามานานุสยสฺมึ สนฺตาเน วิปากุปฺปาทนสมตฺถตาสงฺขาโต, อาเสวนปจฺจยภาวสงฺขาโต, วิฺตฺติชนกตาสงฺขาโต จ พฺยาปาโร. โส วิปาเก นตฺถิ กมฺมเวคุกฺขิตฺตตฺตา ปติตํ วิย หุตฺวา ปวตฺตมานสฺส ตสฺส เอกนฺเตน ทุพฺพลภาวโตติ ตํ นิรุสฺสาหํ.

วิปจฺจนฏฺานนฺติ วิปจฺจนวเสน ปวตฺตนฏฺานํ, ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติตทารมฺมณวเสน จตุกิจฺจานเมเตสํ ปวตฺติโอกาโสติ อตฺโถ. ตตฺถ จุติภวงฺคานํ อนฺตราฬํ ปฏิสนฺธิกิจฺจานํ านํ, ปฏิสนฺธิอาวชฺชนานํ, ตทารมฺมณาวชฺชนานํ, ชวนาวชฺชนานํ, โวฏฺพฺพนาวชฺชนานฺจ อนฺตราฬํ ภวงฺคกิจฺจานํ านํ, ตทารมฺมณปฏิสนฺธีนํ, ชวนปฏิสนฺธีนํ, ภวงฺคปฏิสนฺธีนํ วา อนฺตราฬํ จุติกิจฺจานํ านํ, ชวนภวงฺคานํ อนฺตราฬํ ตทารมฺมณกิจฺจานํ านนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยสฺมา ปเนตํ านํ ธมฺมานํ ตํตํกิจฺจวเสน ปากฏํ โหติ, ตสฺมา านํ เวทิตพฺพนฺติ านํ อุทฺธริตฺวา ปากฏกิจฺจวเสเนว ตํ ปกาเสตุํ ‘‘อิมานิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา กิจฺจมฺปิ กิจฺจวนฺตานํ ปวตฺติฏฺานภาเวน คยฺหตีติ านนฺติปิ กิจฺจเมว อุทฺธฏนฺติ ตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อิมานิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๓๒. อณฺฑชชลาพุชโยนิสมฺภวานํ มนุสฺสานํ, วินิปาติกาสุรานฺจ อเหตุกปฏิสนฺธิยาปิ สพฺภาวโต อาห ‘‘ทุเหตุกติเหตูน’’นฺติ. ปฏิสนฺธิวิฺาณสมฺปยุตฺตา ทฺเว อโลภาทโย เหตู เยสํ เต ทุเหตุกา. เอส นโย ติเหตุเกสุปิ. ตตฺถ ทุเหตุกานํ าณวิปฺปยุตฺตานิ จตฺตาริ, ติเหตุกานํ าณสมฺปยุตฺตานิ จตฺตาริ ปฏิสนฺธิโย โหนฺติ, ตถา ภวงฺคจุติโยปิ. เยน เยน หิ จิตฺเตน ปฏิสนฺธิ โหติ, ตํ ตเทว ภวงฺคจุติวเสนปิ ปวตฺตติ. ตทารมฺมณํ ปน อวิเสเสน ทฏฺพฺพํ ทุเหตุกานมฺปิ ติเหตุกตทารมฺมณสฺส อิจฺฉิตตฺตา. นนุ เจตํ อสมเปกฺขิตาภิธานํ อาจริเยเนว อิมสฺส ปฏิสิทฺธตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ –

‘‘อเหตุปฏิสนฺธิสฺส, น ตทารมฺม