📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วิสุทฺธิมคฺค-มหาฏีกา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
สทฺธมฺมรํสิมาลี ¶ ¶ โย, วิเนยฺยกมลากเร;
วิโพเธสิ มหาโมห-ตมํ หนฺตฺวาน สพฺพโส.
าณาติสยพิมฺพํ ตํ, วิสุทฺธกรุณารุณํ;
วนฺทิตฺวา นิรุปกฺเลสํ, พุทฺธาทิจฺจํ มโหทยํ.
โลกาโลกกรํ ธมฺมํ, คุณรสฺมิสมุชฺชลํ;
อริยสงฺฆฺจ สมฺผุลฺลํ, วิสุทฺธกมลากรํ.
วนฺทนาชนิตํ ¶ ปฺุํ, อิติ ยํ รตนตฺตเย;
หตนฺตราโย สพฺพตฺถ, หุตฺวาหํ ตสฺส เตชสา.
สมฺปนฺนสีลาจาเรน, ธีมตา สุจิวุตฺตินา;
อชฺเฌสิโต ทาานาคตฺเถเรน ถิรเจตสา.
วิสุทฺธจริโต นาโถ, ยํ วิสุทฺธิมนุตฺตรํ;
ปตฺวา เทเสสิ กรุณาสมุสฺสาหิตมานโส.
ตสฺสา อธิคมูปาโย, วิสุทฺธนยมณฺฑิโต;
วิสุทฺธิมคฺโค โย วุตฺโต, สุวิสุทฺธปทกฺกโม.
สุวิสุทฺธํ อสํกิณฺณํ, นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ;
มหาวิหารวาสีนํ, สมยํ อวิโลมยํ.
ตสฺส ¶ นิสฺสาย โปราณํ, กถามคฺคํ อนากุลํ;
ตนฺตินยานุคํ สุทฺธํ, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.
อิติ อากงฺขมานสฺส, สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตึ;
วิภชนฺตสฺส ตสฺสตฺถํ, นิสามยถ สาธโวติ.
นิทานาทิกถาวณฺณนา
๑. สฺวายํ วิสุทฺธิมคฺโค ยํ สุตฺตปทํ นิสฺสาย ปฏฺปียติ, ตํ ตาว นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส นิทานาทินิทฺธารณมุเขน นานปฺปการโต อตฺถํ สํวณฺเณตุํ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ธมฺมํ สํวณฺเณนฺเตน หิ อาทิโต ตสฺส นิทานํ วตฺตพฺพํ, ตโต ปโยชนํ ปิณฺฑตฺโถ ปทตฺโถ สมฺพนฺโธ อธิปฺปาโย โจทนา โสธนํ วตฺตพฺพํ. ตถา เจว อาจริเยน ปฏิปนฺนํ. เอตฺถ หิ ภควนฺตํ กิราติอาทิ เทสนาย นิทานปโยชนนิทฺธารณํ, วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสนฺติอาทิ ปิณฺฑตฺถนิทฺธารณํ ¶ , สีเล ตฺวาติอาทิ ปทตฺถสมฺพนฺธาธิปฺปายวิภาวนา, กึ สีลนฺติอาทิ โจทนา, ตโต ปรํ โสธนํ, สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย. กสฺมา ปเนตฺถ วิสฺสชฺชนคาถา อาทิมฺหิ นิกฺขิตฺตา, น ปุจฺฉาคาถา. ปุจฺฉาปุพฺพิกา หิ วิสฺสชฺชนาติ? วุจฺจเต – ตทตฺถสฺส มงฺคลภาวโต, สาสนสฺส อาทิกลฺยาณาทิภาววิภาวนโต, ภยาทิอุปทฺทวนิวารเณน อนฺตรายวิธมนโต, อุปริ สํวณฺเณตพฺพธมฺมสงฺคหโต จาติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถาห – กสฺมา ปนายํ วิสุทฺธิมคฺคกถา วตฺถุปุพฺพิกา อารทฺธา, น สตฺถุโถมนาปุพฺพิกาติ? วุจฺจเต – วิสุํ อสํวณฺณนาทิภาวโต. สุมงฺคลวิลาสินีอาทโย วิย หิ ทีฆนิกายาทีนํ นายํ วิสุํ สํวณฺณนา, น ปกรณนฺตรํ วา อภิธมฺมาวตารสุมตาวตาราทิ วิย. ตาสํเยว ปน สุมงฺคลวิลาสินีอาทีนํ วิเสสภูตา. เตเนวาห ‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค’’ติอาทิ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา; ม. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถา). อถ วา โถมนาปุพฺพิกาปิ จายํ กถา น วตฺถุปุพฺพิกาวาติ ทฏฺพฺพํ. สาสเน หิ วตฺถุกิตฺตนํ น โลเก วิย เกวลํ โหติ, สาสนสมฺปตฺติกิตฺตนตฺตา ปน สตฺถุ อวิปรีตธมฺมเทสนาภาววิภาวเนน สตฺถุคุณสํกิตฺตนํ อุลฺลิงฺคนฺตเมว ปวตฺตติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอตฺตาวตา ติสฺโส สิกฺขา’’ติอาทิ. โสตาปนฺนาทิภาวสฺส จ การณนฺติ เอตฺถ หิ อาทิ-สทฺเทน สพฺพสกทาคามิอนาคามิโน ¶ วิย สพฺเพปิ อรหนฺโต สงฺคยฺหนฺติ วิภาคสฺส อนุทฺธฏตฺตา. เตน ติณฺณมฺปิ โพธิสตฺตานํ นิพฺเพธภาคิยา สีลาทโย อิธ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิวจเนน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ติณฺณมฺปิ หิ เนสํ จริมภเว วิเสสโต สํสารภยิกฺขณํ, ยถาสกํ สีเล ปติฏฺาย สมถวิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ตณฺหาชฏาวิชฏนปฏิปตฺติ จ สมานาติ. อถ วา ‘‘โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ สาธารณวจเนน สาติสยํ, นิรติสยฺจ ตณฺหาชฏาวิชฏนํ คหิตํ. ตตฺถ ยํ นิรติสยํ สวาสนปฺปหานตาย. เตน สตฺถุ ปหานสมฺปทา กิตฺติตา โหติ, ตนฺนิมิตฺตา าณสมฺปทา จ. ตทุภเยน นานนฺตริกตาย อานุภาวสมฺปทาทโยปีติ. เอวมฺปิ โถมนาปุพฺพิกายํ กถาติ เวทิตพฺพํ. อถ วา โถมนาปุพฺพิกา เอวายํ กถาติ ทฏฺพฺพํ, ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติอาทินา สตฺถุ โถมนํ ปุรกฺขตฺวา สํวณฺณนาย อารทฺธตฺตา. สา ปนายํ ยสฺมา ปุจฺฉนฺตสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ พฺยากรณสมตฺถตาย วิภาวนวเสน ปวตฺติตา, อาจิณฺณฺเจตํ อาจริยสฺส ยทิทํ สํวณฺเณตพฺพธมฺมานุกูลํ สํวณฺณนารมฺเภ สตฺถุ อภิตฺถวนํ. ตสฺมา ¶ อิมินา การเณน เอวเมตฺถ โถมนา ปวตฺติตาติ. โถมนาการสฺส วุจฺจมานสฺส การณํ อุทฺธรนฺเตน ปมํ วิสฺสชฺชนคาถํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺสา นิทานโจทนามุเขน ปุจฺฉาคาถํ สรูปโต จ อตฺถโต จ ทสฺเสตฺวา ตสฺสา ปุจฺฉาย อวิปรีตพฺยากรณสมตฺถภาวาวโชตนํ ภควโต โถมนํ ปุรกฺขตฺวา ยถาธิปฺเปตธมฺมสํวณฺณนา กตา. เตนาห ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิ. ตตฺถ คาถาย อตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.
อิตีติอาทีสุ อิตีติ อยํ อิติ-สทฺโท เหตุ ปริสมาปนาทิปทตฺถวิปริยายปการาวธารณนิทสฺสนาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส ‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เหตุมฺหิ อาคโต. ‘‘ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) ปริสมาปเน. ‘‘อิติ วา อิติ เอวรูปา นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๙๗) อาทิอตฺเถ. ‘‘มาคณฺฑิโยติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ ¶ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโป’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๗๓, ๗๕) ปทตฺถวิปริยาเย. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต. สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต. สอุปสคฺโค พาโล, อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) ปกาเร. ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ, กึปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๖) อวธารเณ, สนฺนิฏฺาเนติ อตฺโถ. ‘‘อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐) นิทสฺสเน. อิธาปิ นิทสฺสเน ทฏฺพฺโพ, ปกาเรติปิ วตฺตุํ วฏฺฏเตว. ปโม ปน อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน ทฏฺพฺโพ. หีติ อวธารเณ. อิทนฺติ อาสนฺนปจฺจกฺขวจนํ ยถาธิคตสฺส สุตฺตปทสฺส อภิมุขีกรณโต.
วุตฺตนฺติ อยํ วุตฺต-สทฺโท สอุปสคฺโค, อนุปสคฺโค จ วปฺปนวาปสมีกรณเกโสหารณชีวิตวุตฺติปมุตฺตภาวปาวจนปวตฺติตอชฺเฌสนกถนาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ อยํ –
‘‘คาโว ¶ ตสฺส ปชายนฺติ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;
วุตฺตานํ ผลมสฺนาติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภตี’’ติ. –
อาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๙) วปฺปเน อาคโต. ‘‘โน จ โข ปฏิวุตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๘๙) อฏฺทนฺตกาทีหิ วาปสมีกรเณ. ‘‘กาปฏิโก มาณโว ทหโร วุตฺตสิโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๒๖) เกโสหารเณ. ‘‘ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต มิคภูเตน เจตสา วิหรตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๓๒) ชีวิตวุตฺติยํ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺถายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๕๙; ปารา. ๙๒; ปาจิ. ๖๖๖; มหาว. ๑๒๙) พนฺธนโต ปมุตฺตภาเว. ‘‘เยสมิทํ เอตรหิ โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิต’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘๕; ม. นิ. ๒.๔๒๗; มหาว. ๓๐๐) ปาวจนภาเวน ปวตฺติเต. โลเก ปน ‘‘วุตฺโต คุโณ วุตฺโต ปารายโน’’ติอาทีสุ อชฺเฌสเน. ‘‘วุตฺตํ โข ¶ ปเนตํ ภควตา ‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’ติ’’อาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐) กถเน. อิธาปิ กถเน เอว ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา ‘‘อิติ หิ เอวเมว อิทํ สุตฺตํ เทสิต’’นฺติ ยถานิกฺขิตฺตํ คาถํ เทสิตภาเวน นิทสฺเสติ. ตสฺสา วา เทสิตาการํ อวธาเรติ.
กสฺมาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกํ. ปนาติ วจนาลงฺการมตฺตํ. อุภเยนาปิ การณํ ปุจฺฉติ. เอตนฺติ ยถาวุตฺตํ สุตฺตปทํ ปจฺจามสติ. วุตฺตนฺติ ปุจฺฉานิมิตฺตํ. ตทตฺถสฺส อตฺตโน พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานตํ อุปาทาย ‘‘อิท’’นฺติ วตฺวา ปุน ภควตา ภาสิตาการํ สนฺธาย ‘‘เอต’’นฺติ วุตฺตํ. สกเลน ปนาเนน วจเนน เทสนาย นิทานํ โชติตํ โหติ. ปรโต ตสฺสา เทสกเทสกาลปฏิคฺคาหเก วิภาเวตุํ ‘‘ภควนฺตํ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. เตน วุจฺจมานสฺสตฺถสฺส อนุ อนุ สุยฺยมานตํ ทีเปติ. รตฺติภาเคติ รตฺติยา เอกสฺมึ โกฏฺาเส, มชฺฌิมยาเมติ อธิปฺปาโย. เวสฺสวณาทโย วิย อปากฏนามเธยฺยตฺตา อฺตโร. เทโว เอว เทวปุตฺโต. สํสยสมุคฺฆาฏตฺถนฺติ วิจิกิจฺฉาสลฺลสมุทฺธรณตฺถํ ปุจฺฉีติ โยชนา. ‘‘สํสยสมุคฺฆาฏตฺถ’’นฺติ จ อิมินา ปฺจสุ ปุจฺฉาสุ อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉาติ ทสฺเสติ. เยน อตฺเถน ตณฺหา ‘‘ชฏา’’ติ วุตฺตา, ตเมว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชาลินิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สา หิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภโท อตฺตโน อวยวภูโต เอว ชาโล เอติสฺสา อตฺถีติ ‘‘ชาลินี’’ติ วุจฺจติ.
อิทานิสฺสา ¶ ชฏากาเรน ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปาทีสุ อารมฺมเณสูติ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานมาห, รูปาทิฉฬารมฺมณวินิมุตฺตสฺส ตณฺหาวิสยสฺส อภาวโต. เหฏฺุปริยวเสนาติ กทาจิ รูปารมฺมเณ กทาจิ ยาว ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ยาว รูปารมฺมเณติ เอวํ เหฏฺา, อุปริ จ ปวตฺติวเสน. เทสนากฺกเมน เจตฺถ เหฏฺุปริยตา ทฏฺพฺพา. กทาจิ กามภเว กทาจิ รูปภเว กทาจิ อรูปภเว กทาจิ วา อรูปภเว…เป… กทาจิ กามภเวติ เอวเมตฺถ เหฏฺุปริยวเสน ปวตฺติ เวทิตพฺพา. สพฺพสงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวตฺตา อปราปรุปฺปตฺติ เอตฺถ สํสิพฺพนนฺติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ‘‘สํสิพฺพนฏฺเนา’’ติ อิทํ เยน สมฺพนฺเธน ชฏา วิยาติ ชฏาติ ¶ ชฏาตณฺหานํ อุปมูปเมยฺยตา, ตํทสฺสนํ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ – ยถา ชาลิโน เวฬุคุมฺพสฺส สาขา, โกสสฺจยาทโย จ อตฺตนา อตฺตโน อวยเวหิ สํสิพฺพิตา วินทฺธา ‘‘ชฏา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ตณฺหาปิ สํสิพฺพนสภาเวนาติ, ‘‘สํสิพฺพิตฏฺเนา’’ติ วา ปาโ, อตฺตนาว อตฺตโน สํสิพฺพิตภาเวนาติ อตฺโถ. อยํ หิ ตณฺหา โกสการกิมิ วิย อตฺตนาว อตฺตานมฺปิ สํสิพฺพนฺตี ปวตฺตติ. เตนาห ภควา ‘‘รูปตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๘๖; วิภ. ๒๐๓). อิเม สตฺตา ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคหิตํ วตฺถุํ อตฺตนิพฺพิเสสํ มฺมานา อพฺภนฺตริมํ กโรนฺติ. อพฺภนฺตรตฺโถ จ อนฺโตสทฺโทติ สกปริกฺขาเร อุปฺปชฺชมานาปิ ตณฺหา ‘‘อนฺโตชฏา’’ติ วุตฺตา. ปพฺพชิตสฺส ปตฺตาทิ, คหฏฺสฺส หตฺถิอาทิ สกปริกฺขาโร.
‘‘อตฺตา’’ติ ภวติ เอตฺถ อภิมาโนติ อตฺตภาโว, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. สรีรนฺติ เกจิ. มม อตฺตภาโว สุนฺทโร, อสุกสฺส วิย มม อตฺตภาโว ภเวยฺยาติ วา อาทินา สกอตฺตภาวาทีสุ ตณฺหาย อุปฺปชฺชมานากาโร เวทิตพฺโพ. อตฺตโน จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ. อตฺตโน, ปเรสฺจ รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ. ปเรสํ สพฺพานิ วา, สปรสนฺตติปริยาปนฺนานิ วา จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ. ตถา รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ. ปริตฺตมหคฺคตภเวสุ ปวตฺติยาปิ ตณฺหาย อนฺโตชฏาพหิชฏาภาโว เวทิตพฺโพ. กามภโว หิ กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กถฺจิปิ อวิมุตฺโต อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ ‘‘อชฺฌตฺตํ, อนฺโต’’ติ จ วุจฺจติ. ตพฺพิปริยายโต รูปารูปภโว ‘‘พหิทฺธา, พหี’’ติ จ. เตนาห ภควา ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล’’ติ (อ. นิ. ๒.๓๗). วิสยเภเทน, ปวตฺติอาการเภเทน จ อเนกเภทภินฺนมฺปิ ตณฺหํ ¶ ชฏาภาวสามฺเน เอกนฺติ คเหตฺวา ‘‘ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏายา’’ติ วุตฺตํ. สา ปน ‘‘ปชา’’ติ วุตฺตสตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา เอว หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ตํ ชเฏนฺตี วินนฺธนฺตี ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ชฏาย ชฏิตา ปชา’’ติ. ตถา หิ ปรมตฺถโต ยทิปิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย นตฺถิ, เอกเทโส ปน สมุทาโย นาม น โหตีติ อวยวโต สมุทายํ ภินฺนํ กตฺวา อุปมูปเมยฺยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นาม ¶ เวฬุชฏาทีหิ…เป… สํสิพฺพิตา’’ติ อาห. อิมํ ชฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ตีสุ ธาตูสุ เอกมฺปิ อเสเสตฺวา สํสิพฺพเนน เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ิตํ. เตนสฺสา มหาวิสยตํ, วิชฏนสฺส จ สุทุกฺกรภาวมาห. ‘‘วิชเฏตุํ โก สมตฺโถ’’ติ อิมินา ‘‘วิชฏเย’’ติ ปทํ สตฺติอตฺถํ, น วิธิอาทิอตฺถนฺติ ทสฺเสติ.
เอวํ ‘‘อนฺโตชฏา’’ติอาทินา ปุฏฺโ ปน อสฺส เทวปุตฺตสฺส อิมํ คาถมาหาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอทิโสว อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ สตฺถารํ คุณโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพธมฺเมสูติ อตีตาทิเภทภินฺเนสุ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ. อปฺปฏิหตาณจาโรติ อนวเสสเยฺยาวรณปฺปหาเนน นิสฺสงฺคจารตฺตา นวิหตาณปวตฺติโก. เอเตน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณตาวิภาวเนน อาทิโต ติณฺณํ อาเวณิกธมฺมานํ คหเณเนว ตเทกลกฺขณตาย ตทวินาภาวโต จ ภควโต เสสาเวณิกธมฺมานมฺปิ คหิตภาโว เวทิตพฺโพ. ทิพฺพนฺติ กามคุณาทีหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ, เตสุ วา วิหรนฺติ, วิชยสมตฺถตาโยเคน ปจฺจตฺถิเก วิเชตุํ อิจฺฉนฺติ, อิสฺสริยธนาทิสกฺการทานคฺคหณํ, ตํตํอตฺถานุสาสนฺจ กโรนฺตา โวหรนฺติ, ปฺุาติสยโยคานุภาวปฺปตฺตาย ชุติยา โชตนฺติ, ยถาธิปฺเปตฺจ วิสยํ อปฺปฏิฆาเตน คจฺฉนฺติ, ยถิจฺฉิตนิปฺผาทเน จ สกฺโกนฺตีติ เทวา. อถ วา เทวนียา ตํตํพฺยสนนิตฺถรณตฺถิเกหิ สรณํ ปรายณนฺติ คมนียา, อภิตฺถวนียา วา, โสภาวิเสสโยเคน กมนียาติ วา เทวา. เต ติวิธา – สมฺมุติเทวา อุปปตฺติเทวา วิสุทฺธิเทวาติ. ภควา ปน นิรติสยาย อภิฺากีฬาย อุตฺตเมหิ ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรหิ สปรสนฺตานคตปฺจวิธมารวิชยิจฺฉานิปฺผตฺติยา จิตฺติสฺสริยสตฺตธนาทิสมฺมาปฏิปตฺติ อเวจฺจปสาทสกฺการทานคฺคหณสงฺขาเตน, ธมฺมสภาวปุคฺคลชฺฌาสยานุรูปานุสาสนีสงฺขาเตน จ โวหาราติสเยน ปรมาย ปฺาสรีรปฺปภาสงฺขาตาย ชุติยา, อนฺสาธารณาย าณสรีรคติยา, มารวิชยสพฺพสพฺพฺุคุณปรหิตนิปฺผาทเนสุ อปฺปฏิหตาย สตฺติยา จ สมนฺนาคตตฺตา สเทวเกน โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ คมนียโต, อภิตฺถวนียโต, ภตฺติวเสน กมนียโต จ สพฺเพ ¶ เต เทเว เตหิ คุเณหิ อภิภุยฺย ิตตฺตา เตสํ เทวานํ เสฏฺโ อุตฺตโม เทโวติ เทวเทโว. สพฺพเทเวหิ ¶ ปูชนียตโร เทโวติ วา, วิสุทฺธิเทวภาวสฺส วา สพฺพฺุคุณาลงฺการสฺส วา อธิคตตฺตา อฺเสํ เทวานํ อติสเยน เทโวติ เทวเทโว.
อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สกฺกานํ, มหาพฺรหฺมานฺจ คุณาภิภวนโต อธิโก อติสโย อติเรกตโร วา สกฺโก พฺรหฺมา จาติ สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. าณปฺปหานเทสนาวิเสเสสุ สเทวเก โลเก เกนจิ อวิกฺขมฺภนียฏฺานตาย กุโตจิปิ อุตฺรสฺตาภาวโต จตูหิ เวสารชฺเชหิ วิสารโทติ จตุเวสารชฺชวิสารโท. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา…เป… เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๐; อ. นิ. ๔.๘). านาานาณาทีหิ ทสหิ าณพเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ทสพลธโร. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิธ ตถาคโต านฺจ านโต, อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๒๑; วิภ. ๘๐๙). ยํ กิฺจิ เยฺยํ นาม, ตตฺถ สพฺพตฺเถว อนาวฏาณตาย อนาวรณาโณ. ตฺจ สพฺพํ สมนฺตโต สพฺพาการโต หตฺถตเล อามลกํ วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺสนสมตฺเถน าณจกฺขุนา สมนฺนาคตตฺตา สมนฺตจกฺขุ, สพฺพฺูติ อตฺโถ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ ปจฺฉิมานิ ทฺเว อสาธารณาณานิ คหิตานิ. ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ ภควา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วิตฺถารโต อาคมิสฺสติ.
เอตฺถ จ ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติ อิมินา ติยทฺธารุฬฺหานํ ปุจฺฉานํ ภควโต พฺยากรณสมตฺถตาย ทสฺสิตาย กึ เทวตานมฺปิ ปุจฺฉํ พฺยากาตุํ สมตฺโถ ภควาติ อาสงฺกาย ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘เทวเทโว’’ติ วุตฺตํ. เทวานํ อติเทโว สกฺโก เทวานมินฺโท เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, ‘‘ตโต อิมสฺส โก วิเสโส’’ติ จินฺเตนฺตานํ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘สกฺกานํ อติสกฺโก’’ติ วุตฺตํ. สกฺเกนปิ ปุจฺฉิตมตฺถํ สนงฺกุมาราทโย พฺรหฺมาโน วิสฺสชฺเชนฺติ, ‘‘ตโต อิมสฺส โก อติสโย’’ติ จินฺเตนฺตานํ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา’’ติ วุตฺตํ. อยํ จสฺส วิเสโส จตุเวสารชฺชทสพลาเณหิ ปากโฏ ชาโตติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘จตุ…เป… ¶ ธโร’’ติ วุตฺตํ. อิมานิ จ าณานิ อิมสฺส าณทฺวยสฺส อธิคเมน สเหว สิทฺธานีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนาวรณาโณ สมนฺตจกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ าณทฺวยํ ปฺุาณสมฺภารูปจยสิทฺธาย ภคฺคโทสตาย สิทฺธนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา’’ติ อโวจาติ. เอวเมเตสํ ¶ ปทานํ คหเณ ปโยชนํ, อนุปุพฺพิ จ เวทิตพฺพา. ยํ ปเนตํ ปจฺฉิมํ อนาวรณาณํ สพฺพฺุตฺาณนฺติ าณทฺวยํ, ตํ อตฺถโต อภินฺนํ. เอกเมว หิ ตํ าณํ วิสยปวตฺติมุเขน อฺเหิ อสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตํ. อนวเสสสงฺขตาสงฺขตสมฺมุติธมฺมารมฺมณตาย สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถาวรณาภาวโต นิสฺสงฺคจารมุปาทาย ‘‘อนาวรณาณ’’นฺติปิ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วกฺขาม.
๒. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิเก เอสี คเวสีติ มเหสิ, ภควา. เตน มเหสินา. วณฺณยนฺโตติ วิวรนฺโต วิตฺถาเรนฺโต. ยถาภูตนฺติ อวิปรีตํ. สีลาทิเภทนนฺติ สีลสมาธิปฺาทิวิภาคํ. สุทุลฺลภนฺติ อฏฺกฺขณวชฺชิเตน นวเมน ขเณน ลทฺธพฺพตฺตา สุฏฺุ ทุลฺลภํ. สีลาทิสงฺคหนฺติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคหํ. อริยมคฺโค หิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน, น ตโย ขนฺธา อริยมคฺเคน นิปฺปเทสตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา; ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒). กิเลสโจเรหิ อปริปนฺถนียตาย เขมํ. อนฺตทฺวยปริวชฺชนโต, มายาทิกายวงฺกาทิปฺปหานโต จ อุชุํ. สพฺเพสํ สํกิเลสธมฺมานํ มารณวเสน คมนโต ปวตฺตนโต, นิพฺพานสฺส มคฺคนโต, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคิตพฺพโต จ มคฺคํ. วิสุทฺธิยาติ นิพฺพานาย, วิสุทฺธิภาวาย วา, อรหตฺตายาติ อตฺโถ.
ยถาภูตํ อชานนฺตาติ เอวํ สีลวิสุทฺธิอาทิวิสุทฺธิปรมฺปราย อธิคนฺตพฺโพ เอวรูโป เอวํกิจฺจโก เอวมตฺโถติ ยาถาวโต อนวพุชฺฌนฺตา. สกลสํกิเลสโต, สํสารโต จ สุทฺธึ วิมุตฺตึ กาเมนฺติ ปตฺเถนฺตีติ สุทฺธิกามา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. เตน น เกวลํ สีลมตฺเตน ปริตุฏฺา, อถ โข วิสุทฺธิกามาปิ สมานาติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภาวนาย ยุตฺตปยุตฺตตาย โยคิโน วายมนฺตาปิ วิสุทฺธึ ¶ อุทฺทิสฺส ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรนฺตาปิ อุปายสฺส อนธิคตตฺตา วิสุทฺธึ นาธิคจฺฉนฺตีติ โยชนา. เตสนฺติ โยคีนํ. กามฺจายํ วิสุทฺธิมคฺโค สมนฺตภทฺทกตฺตา สวนธารณปริจยาทิปสุตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาโมชฺชกโร, โยคีนํ ปน สาติสยํ ปโมทเหตูติ อาห ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติ. พาหิรกนิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสตาย สุฏฺุ วิสุทฺธวินิจฺฉยตฺตา สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ. มหาวิหารวาสีนนฺติ อตฺตโน อปสฺสยภูตํ นิกายํ ทสฺเสติ ¶ . เทสนานยนิสฺสิตนฺติ ธมฺมสํวณฺณนานยสนฺนิสฺสิตํ. เอตฺถ จ ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติอาทินา สพฺพสํกิเลสมลวิสุทฺธตาย วิสุทฺธึ นิพฺพานํ ปตฺเถนฺตานํ โยคีนํ เอกํเสน ตทาวหตฺตา ปาโมชฺชกโร าณุตฺตเรหิ สมฺมาปฏิปนฺเนหิ อธิฏฺิตตฺตา สุฏฺุ สมฺมา วิสุทฺธวินิจฺฉโย มหาวิหารวาสีนํ กถามคฺโคติ ทสฺเสติ. สกฺกจฺจํ เม ภาสโต สกฺกจฺจํ นิสามยถาติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺถ จ ‘‘อิมิสฺสา ทานิ คาถายา’’ติ อิมินา วิสุทฺธิมคฺคภาสนสฺส นิสฺสยํ, ‘‘กถิตาย มเหสินา’’ติ อิมินา ตสฺส ปมาณภาวํ, ‘‘ยถาภูตํ อตฺถํ สีลาทิเภทน’’นฺติ อิมินา อวิปรีตปิณฺฑตฺถํ, ‘‘สุทุลฺลภํ…เป… โยคิโน’’ติ อิมินา นิมิตฺตํ, ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติ อิมินา ปโยชนํ, ‘‘วณฺณยนฺโต อตฺถํ, สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ มหาวิหารวาสีนํ เทสนานยนิสฺสิตํ, สกฺกจฺจ’’นฺติ จ อิมินา กรณปฺปการํ ทสฺเสตฺวา ‘‘วิสุทฺธิกามา สพฺเพปิ, นิสามยถ สาธโว’’ติ อิมินา ตตฺถ สกฺกจฺจสวเน สาธุชเน นิโยเชติ. สาธุกํ สวนปฏิพทฺธา หิ สาสนสมฺปตฺติ.
๓. วจนตฺถวิภาวเนน ปเวทิตวิสุทฺธิมคฺคสามฺตฺถสฺส วิสุทฺธิมคฺคกถา วุจฺจมานา อภิรุจึ อุปฺปาเทตีติ ปทตฺถโต วิสุทฺธิมคฺคํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ วิสุทฺธี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยทิทํ ‘‘วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺส’’นฺติ เอตฺถ วิสุทฺธิมคฺคปทํ วุตฺตํ, ตตฺถ. สพฺพมลวิรหิตนฺติ สพฺเพหิ ราคาทิมเลหิ, สพฺเพหิ สํกิเลสมเลหิ จ วิรหิตํ วิวิตฺตํ. ตโต เอว อจฺจนฺตปริสุทฺธํ, สพฺพทา สพฺพถา จ วิสุทฺธนฺติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตํ วิสุทฺธึ มคฺคติ คเวสติ อธิคจฺฉติ เอเตนาติ วิสุทฺธิมคฺโค. เตนาห ‘‘มคฺโคติ อธิคมูปาโย วุจฺจตี’’ติ. วิสุทฺธิมคฺโคติ จ นิปฺปริยาเยน โลกุตฺตรมคฺโค เวทิตพฺโพ, ตทุปายตฺตา ปน ปุพฺพภาคมคฺโค, ตนฺนิสฺสโย กถาปพนฺโธ จ ตถา วุจฺจติ.
สฺวายํ ¶ วิสุทฺธิมคฺโค สตฺถารา เทสนาวิลาสโต, เวเนยฺยชฺฌาสยโต จ นานานเยหิ เทสิโต, เตสุ อยเมโก นโย คหิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ปนาย’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กตฺถจีติ กิสฺมิฺจิ สุตฺเต. วิปสฺสนามตฺตวเสเนวาติ อวธารเณน สมถํ นิวตฺเตติ. โส หิ ตสฺสา ปฏิโยคี, น สีลาทิ. มตฺต-สทฺเทน จ วิเสสนิวตฺติอตฺเถน สวิเสสํ สมาธึ นิวตฺเตติ. โส อุปจารปฺปนาเภโท วิปสฺสนายานิกสฺส เทสนาติ กตฺวา น สมาธิมตฺตํ. น หิ ¶ ขณิกสมาธึ วินา วิปสฺสนา สมฺภวติ. วิปสฺสนาติ จ ติวิธาปิ อนุปสฺสนา เวทิตพฺพา, น อนิจฺจานุปสฺสนาว. น หิ อนิจฺจทสฺสนมตฺเตน สจฺจาภิสมโย สมฺภวติ. ยํ ปน คาถายํ อนิจฺจลกฺขณสฺเสว คหณํ กตํ, ตํ ยสฺส ตเทว สุฏฺุตรํ ปากฏํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตาทิสสฺส วเสน. โสปิ หิ อิตรํ ลกฺขณทฺวยํ วิภูตตรํ กตฺวา สมฺมสิตฺวา วิเสสํ อธิคจฺฉติ, น อนิจฺจลกฺขณเมว.
สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ เตภูมกสงฺขารา, เต หิ สมฺมสนียา. อนิจฺจาติ น นิจฺจา อทฺธุวา อิตฺตรา ขณภงฺคุราติ. ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย. ปสฺสติ สมฺมสติ. อถ ปจฺฉา อุทยพฺพยาณาทีนํ อุปฺปตฺติยา อุตฺตรกาลํ. นิพฺพินฺทติ ทุกฺเขติ ตสฺมึเยว อนิจฺจาการโต ทิฏฺเ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา’’ติ วุตฺเต เตภูมเก ขนฺธปฺจกสงฺขาเต ทุกฺเข นิพฺพินฺทติ นิพฺพิทาาณํ ปฏิลภติ. เอส มคฺโค วิสุทฺธิยาติ เอส นิพฺพิทานุปสฺสนาสงฺขาโต วิราคาทีนํ การณภูโต นิพฺพานสฺส อธิคมูปาโย.
ฌานปฺาวเสนาติ สมถวิปสฺสนาวเสน. ฌานนฺติ เจตฺถ วิปสฺสนาย ปาทกภูตํ ฌานํ อธิปฺเปตํ. ยมฺหีติ ยสฺมึ ปุคฺคเล. ฌานฺจ ปฺา จาติ เอตฺถายมตฺโถ – โย ปุคฺคโล ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตํ อุสฺสุกฺกาเปติ. ส เว นิพฺพานสนฺติเกติ โส พฺยตฺตํ นิพฺพานสฺส สมีเป เอกนฺตโต นิพฺพานํ อธิคจฺฉตีติ.
กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา. สา หิ อปจยคามิตาย สตฺตานํ สุทฺธึ อาวหติ. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิ. สีลนฺติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ชีวิตมุตฺตมนฺติ สมฺมาอาชีโว. ธมฺโมติ อวเสสา จตฺตาโร อริยมคฺคธมฺมา. อถ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมนฺตสฺส คหณํ. ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ ¶ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) วจนโต. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปานํ คหณํ. ธมฺโมติ สมาธิ ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิย. ตคฺคหเณเนว ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ วจนโต สมฺมาวายามสตีนมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. สีลนฺติ สมฺมาวาจาชีวานํ. ชีวิตมุตฺตมนฺติ เอวรูปสฺส อริยปุคฺคลสฺส ชีวิตํ อุตฺตมํ ชีวิตนฺติ เอวเมตฺถ อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
สีลาทิวเสนาติ ¶ สีลสมาธิปฺาวีริยวเสน. สพฺพทาติ สมาทานโต ปภุติ สพฺพกาลํ. สีลสมฺปนฺโนติ จตุปาริสุทฺธิสีลสมฺปทาย สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. ปฺวาติ โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย สมนฺนาคโต. สุสมาหิโตติ ตํสมฺปยุตฺเตน สมาธินา สุฏฺุ สมาหิโต. อารทฺธวีริโยติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ปคฺคหิตวีริโย. ปหิตตฺโตติ นิพฺพานํ ปติเปสิตตฺตตาย กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขจิตฺโต. โอฆนฺติ กาโมฆาทิจตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ, สํสารมโหฆเมว วา.
เอกายโนติ เอกมคฺโค. มคฺคปริยาโย หิ อิธ อยน-สทฺโท, ตสฺมา เอกปถภูโต อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ อตฺโถ. เอกํ วา นิพฺพานํ อยติ คจฺฉตีติ เอกายโน, เอเกน วา คณสงฺคณิกํ ปหาย วิเวกฏฺเน อยิตพฺโพ ปฏิปชฺชิตพฺโพติ เอกายโน, อยนฺติ เตนาติ วา อยโน, เอกสฺส เสฏฺสฺส ภควโต อยโนติ เอกายโน, เตน อุปฺปาทิตตฺตา, เอกสฺมึ วา อิมสฺมึเยว ธมฺมวินเย อยโนติ เอกายโน. สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ ราคาทิมเลหิ, อภิชฺฌาวิสมโลภาทิอุปกฺกิเลเสหิ จ สตฺตานํ วิสุทฺธตฺถาย วิสุชฺฌนตฺถาย. ยทิทนฺติ นิปาโต, เย อิเมติ อตฺโถ. ปุพฺเพ สรณลกฺขเณน มคฺคฏฺเน จ มคฺโคติ วุตฺตสฺเสว กายาทิวิสยเภเทน จตุพฺพิธตฺตา ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุตฺตํ. สมฺมปฺปธานาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปฺปมาทาภิรติอาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ ¶ . อปฺปมาทาภิรติอาทิวเสนาปิ หิ กตฺถจิ วิสุทฺธิมคฺโค เทสิโต. ยถาห –
‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. (ธ. ป. ๓๒);
๔. ตตฺราติ ตสฺสํ คาถายํ. อุปริ วุจฺจมานา คาถาย วิตฺถารสํวณฺณนา นิทฺเทสปฏินิทฺเทสฏฺานิยา, ตโต สํขิตฺตตรา อตฺถวณฺณนา อุทฺเทสฏฺานิยาติ อาห ‘‘อยํ สงฺเขปวณฺณนา’’ติ. ยถาอุทฺทิฏฺสฺส หิ อตฺถสฺส นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา สุกรา, สุโพธา จ โหนฺตีติ. สีเล ปติฏฺายาติ เอตฺถ สีเลติ กุสลสีเล. ยทิปิ ‘‘กตเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา’’ติอาทีสุ อกุสลา ธมฺมาปิ สีลนฺติ อาคตา. วุจฺจมานาย ปน จิตฺตปฺาภาวนาย อธิฏฺานาโยคฺยตาย กิริยสีลานมฺปิ อสมฺภโว, กุโต อิตเรสนฺติ กุสลสีลเมเวตฺถ อธิปฺเปตํ. สีลํ ปริปูรยมาโนติอาทีสุ ปริปูรยมาโนติ ปริปาเลนฺโต, ปริวฑฺเฒนฺโต วา, สพฺพภาเคหิ สํวรนฺโต ¶ , อวีติกฺกมนฺโต จาติ อตฺโถ. ตถาภูโต หิ ตํ อวิชหนฺโต ตตฺถ ปติฏฺิโต นาม โหติ. ‘‘สีเล’’ติ หิ อิทํ อาธาเร ภุมฺมํ. ปติฏฺายาติ ทุวิธา ปติฏฺา นิสฺสยูปนิสฺสยเภทโต. ตตฺถ อุปนิสฺสยปติฏฺา โลกิยา, อิตรา โลกุตฺตรา อภินฺทิตฺวา คหเณ. ภินฺทิตฺวา ปน คหเณ ยถา โลกิยจิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานํ, ปุริมปจฺฉิมานฺจ วเสน นิสฺสยูปนิสฺสยปติฏฺา สมฺภวติ, เอวํ โลกุตฺตเรสุ เหฏฺิมมคฺคผลสีลวเสน อุปนิสฺสยปติฏฺาปิ สมฺภวติ. ‘‘ปติฏฺายา’’ติ จ ปทสฺส ยทา อุปนิสฺสยปติฏฺา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสายา’’ติอาทีสุ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) วิย ปุริมกาลกิริยาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑). ยทา ปน นิสฺสยปติฏฺา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๑; สํ. นิ. ๔.๖๐) วิย สมานกาลกิริยาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวาจาทโย หิ อตฺตนา สมฺปยุตฺตานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ สหชาตวเสเนว นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ.
นรติ ¶ เนตีติ นโร, ปุริโส. ยถา หิ ปมปกติภูโต สตฺโต, อิตราย ปกติยา เสฏฺฏฺเน ปุริ อุจฺเจ าเน เสติ ปวตฺตตีติ ‘‘ปุริโส’’ติ วุจฺจติ, เอวํ นยนฏฺเน ‘‘นโร’’ติ วุจฺจติ. ปุตฺตภาตุภูโตปิ หิ ปุคฺคโล มาตุเชฏฺภคินีนํ เนตุฏฺาเน ติฏฺติ, ปเคว อิตโร อิตราสํ. นเรน โยคโต, นรสฺส อยนฺติ วา นารี, อิตฺถี. สาปิ เจตฺถ กามํ ตณฺหาชฏาวิชฏนสมตฺถตา อตฺถิ, ปธานเมว ปน สตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นโร’’ติ อาห ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๕๗, ๒๕๕). อฏฺกถายํ ปน อวิภาเคน ปุคฺคลปริยาโย อยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘นโรติ สตฺโต’’ติ วุตฺตํ. สปฺโติ วิปากภูตาย สห ปฺาย ปวตฺตตีติ สปฺโ. ตาย หิ อาทิโต ปฏฺาย สนฺตานวเสน พหุลํ ปวตฺตมานาย อยํ สตฺโต สวิเสสํ ‘‘สปฺโ’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. วิปากปฺาปิ หิ สนฺตานวิเสสเนน ภาวนาปฺุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติ อเหตุกทฺวิเหตุกานํ ตทภาวโต. สมฺปชฺสงฺขาตาย จ ตํตํกิจฺจการิกาย ปฺาย วเสน ‘‘สปฺโ’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อฏฺกถายํ ปน นิปก-สทฺเทน ปาริหาริกปฺา คยฺหตีติ วิปากปฺาวเสเนเวตฺถ อตฺโถ วุตฺโต. กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺายาติ กมฺมชาย ติเหตุกปฏิสนฺธิยํ ปฺายาติ เอวํ ติเหตุก-สทฺโท ปฏิสนฺธิ-สทฺเทน สมฺพนฺธิตพฺโพ, น ปฺา-สทฺเทน. น หิ ปฺา ติเหตุกา อตฺถิ. ปฏิสนฺธิโต ปภุติ ปวตฺตมานา ปฺา ‘‘ปฏิสนฺธิยํ ปฺา’’ติ วุตฺตา ตํมูลกตฺตา, น ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺตา เอว.
จินฺเตติ ¶ อารมฺมณํ อุปนิชฺฌายตีติ จิตฺตํ, สมาธิ. โส หิ สาติสยํ อุปนิชฺฌานกิจฺโจ. น หิ วิตกฺกาทโย วินา สมาธินา ตมตฺถํ สาเธนฺติ, สมาธิ ปน เตหิ วินาปิ สาเธตีติ. ปคุณพลวภาวาปาทเนน ปจฺจเยหิ จิตํ, ตถา สนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, สมาธิ. ปมชฺฌานาทิวเสน จิตฺตวิจิตฺตตาย, อิทฺธิวิธาทิจิตฺตกรเณน จ สมาธิ จิตฺตนฺติ วินาปิ ปโรปเทเสนสฺส จิตฺตปริยาโย ลพฺภเตว. อฏฺกถายํ ปน จิตฺต-สทฺโท วิฺาเณ นิรุฬฺโหติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ นิทฺทิฏฺโ’’ติ. ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ชานาตีติ ปฺา. สา ยทิปิ กุสลาทิเภทโต พหุวิธา. ‘‘ภาวย’’นฺติ ปน วจนโต ภาเวตพฺพา อิธาธิปฺเปตาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิปสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ภาวย’’นฺติ จ อิทํ ปจฺเจกํ ¶ โยเชตพฺพํ ‘‘จิตฺตฺจ ภาวยํ, ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ. ตยิทํ ทฺวยํ กึ โลกิยํ, อุทาหุ โลกุตฺตรนฺติ? โลกุตฺตรนฺติ ทฏฺพฺพํ อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต. ตํ หิ ภาวยมาโน อริยมคฺคกฺขเณ ตณฺหาชฏํ สมุจฺเฉทวเสน วิชเฏตีติ วุจฺจติ, น โลกิยํ. นานนฺตริยภาเวน ปเนตฺถ โลกิยาปิ คหิตาว โหนฺติ โลกิยสมถวิปสฺสนาย วินา ตทภาวโต. สมถยานิกสฺส หิ อุปจารปฺปนาปฺปเภทํ สมาธึ อิตรสฺส ขณิกสมาธึ, อุภเยสมฺปิ วิโมกฺขมุขตฺตยํ วินา น กทาจิปิ โลกุตฺตราธิคโม สมฺภวติ. เตนาห ‘‘สมาธิฺเจว วิปสฺสนฺจ ภาวยมาโน’’ติ. ตตฺถ ยทา โลกิยา สมถวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘ภาวย’’นฺติ อิทํ ภาวนากิริยาย เหตุภาวกถนํ, ภาวนาเหตูติ อตฺโถ. ตํภาวนาเหตุกา หิ วิชฏนกิริยาติ. ยทา ปน โลกุตฺตรา อธิปฺเปตา, ตทา เกวลํ วตฺตมานภาวนิทฺเทโส. ตทุภยภาวนาสมกาลเมว หิ ตณฺหาชฏาวิชฏนํ.
‘‘อาตาปี นิปโก’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตภาวนาย อุปการกธมฺมกิตฺตนํ. กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺตสฺส หิ วีริยํ สติ สมฺปชฺนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา พหูปการา. วีริยูปตฺถทฺธฺหิ กมฺมฏฺานํ สติสมฺปชฺานุปาลิตํ น ปริปตติ, อุปริ จ วิเสสํ อาวหติ. ปติฏฺาสิทฺธิยา เจตฺถ สทฺธาสิทฺธิ, สทฺธูปนิสฺสยตฺตา สีลสฺส, วีริยาทิสิทฺธิยา จ. น หิ สทฺเธยฺยวตฺถุํ อสทฺทหนฺตสฺส ยถาวุตฺตวีริยาทโย สมฺภวนฺติ, ตถา สมาธิปิ. ยถา หิ เหตุภาวโต วีริยาทีหิ สทฺธาสิทฺธิ, เอวํ ผลภาวโต เตหิ สมาธิสิทฺธิ. วีริยาทีสุ หิ สมฺปชฺชมาเนสุ สมาธิ สมฺปนฺโนว โหติ อสมาหิตสฺส ตทภาวโต. กถํ ปเนตฺถ สติสิทฺธิ? นิปกคฺคหณโต. ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺตา หิ สติ ‘‘เนปกฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต’’ติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เนปกฺกํ ปฺา’’ติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ตคฺคหเณเนว ¶ สติปิ คหิตาว โหติ. น หิ สติวิรหิตา ปฺา อตฺถีติ. อปเร ปน ‘‘สปฺโ’’ติ อิมินาว ปาริหาริกปฺาปิ คยฺหตีติ ‘‘นิปโก’’ติ ปทสฺส ‘‘สโต’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนํ, ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว. อาตปฺปสทฺโท วิย ปน อาตาปสทฺโท วีริเยเยว ¶ นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘อาตาปีติ วีริยวา’’ติ. อถ วา ปฏิปกฺขปฺปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา. อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโก. วีริยวาติ วา-สทฺโทปิ ตทตฺโถ เอว ทฏฺพฺโพ. เตน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตา วุตฺตา โหติ. เตนาห ‘‘กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเนา’’ติ. อาตาปนคฺคหเณน เจตฺถ อารมฺภ ธาตุมาห อาทิโต วีริยารมฺโภติ กตฺวา, ปริตาปนคฺคหเณน นิกฺกมปรกฺกมธาตุโย สพฺพโส ปฏิปกฺขโต นิกฺขนฺตตํ, อุปรูปริ วิเสสปฺปตฺติฺจ อุปาทาย. นิปยติ วิโสเสติ ปฏิปกฺขํ, ตโต วา อตฺตานํ นิปาติ รกฺขตีติ นิปโก, สมฺปชาโน. กมฺมฏฺานสฺส ปริหรเณ นิยุตฺตาติ ปาริหาริกา.
อภิกฺกมาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ สาตฺถกสมฺปชฺาทิวเสน ปริจฺฉิชฺช เนตีติ สพฺพกิจฺจปริณายิกา. กมฺมฏฺานสฺส วา อุคฺคโห ปริปุจฺฉา ภาวนารมฺโภ มนสิการวิธิ, ตตฺถ จ สกฺกจฺจการิตา สาตจฺจการิตา สปฺปายการิตา นิมิตฺตกุสลตา ปหิตตฺตตา อนฺตราอสงฺโกโจ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา วีริยสมตาปาทนํ วีริยสมตาโยชนนฺติ เอวมาทีนํ สพฺเพสํ กิจฺจานํ ปริณายิกา สพฺพกิจฺจปริณายิกา. ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขูติ สาธารณโต ภิกฺขุลกฺขณกถเนน ปฏิปตฺติยาว ภิกฺขุภาโว, น ภิกฺขกภินฺนปฏธราทิภาเวนาติ ทสฺเสติ. เอวํ หิ กตกิจฺจานํ สามเณราทีนํ, ปฏิปนฺนานฺจ อปพฺพชิตานมฺปิ สงฺคโห กโต โหติ. อิธ ปน ปฏิปชฺชนกวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ วา ภิกฺขุ. โส อิมํ วิชฏเยติ โย นโร สปฺปฺโ สีเล ปติฏฺาย อาตาปี นิปโก จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยนฺติ วุตฺโต, โส ภิกฺขุ อิมํ ตณฺหาชฏํ วิชฏเยติ สมฺพนฺโธ. อิทานิ ตมฺปิ วิชฏนํ เวฬุคุมฺพวิชฏเนน อุปเมตฺวา ทสฺเสตุํ คาถาย ยถาวุตฺเต สีลาทิธมฺเม ‘‘อิมินา จ สีเลนา’’ติอาทินา ปจฺจามสติ. ตตฺถ ยสฺมา โยคาวจรสนฺตานคตา นานากฺขณิกา มิสฺสกา สีลาทิธมฺมา คาถาย คหิตา, ตสฺมา เต เอกจฺจํ คณฺหนฺโต ‘‘ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต’’ติ อาห. น หิ เต ฉ ธมฺมา เอกสฺมึ สนฺตาเน เอกสฺมึ ขเณ ¶ ลพฺภนฺติ. ยสฺมา จ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน คาถา ภาสิตา, ตสฺมา ปุคฺคลาธิฏฺานเมว อุปมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ สุนิสิตนฺติ สุฏฺุ นิสิตํ, อติวิย ติขิณนฺติ อตฺโถ. สตฺถสฺส นิสานสิลายํ นิสิตตรภาวกรณํ, พาหุพเลน จสฺส อุกฺขิปนนฺติ อุภยมฺเปตํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา อุปมา วุตฺตาติ ตทุภยํ อุปเมยฺเย ทสฺเสนฺโต ‘‘สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ…เป… ปฺาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา’’ติ อาห. สมาธิคุเณน หิ ปฺาย ติกฺขภาโว. เตนาห ภควา ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔). วีริยฺจสฺสา อุปตฺถมฺภกํ ปคฺคณฺหนโต. วิชเฏยฺยาติ วิชเฏตุํ สกฺกุเณยฺย. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย หิ วตฺตมานาย โยคาวจโร ตณฺหาชฏํ วิชเฏตุํ สมตฺโถ นาม. วิชฏนํ เจตฺถ สมุจฺเฉทวเสน ปหานนฺติ อาห ‘‘สฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺยา’’ติ. ทกฺขิณํ อรหตีติ ทกฺขิเณยฺโย, อคฺโค จ โส ทกฺขิเณยฺโย จาติ อคฺคทกฺขิเณยฺโย, อคฺคา วา ทกฺขิณา อคฺคทกฺขิณา, ตํ อรหตีติ อคฺคทกฺขิเณยฺโย.
๕. ตตฺราติ ตสฺสํ คาถายํ. อยนฺติ ‘‘นโร’’ติ จ ‘‘ภิกฺขู’’ติ จ วุตฺโต โยคาวจโร. ปุน ตตฺราติ ตสฺสํ ปฺายํ. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. กตฺตริ เจตํ สามิวจนํ, อเนนาติ อตฺโถ. กรณียํ นตฺถิ วิเสสาธานสฺส ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย อภาวโต. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมานุภาเวเนว หิสฺส สา สิทฺธา’’ติ. เตนาติ โยคินา. ภาวนายํ สตตปวตฺติตวีริยตาย สาตจฺจการินา. ปฺาวเสนาติ ยถาวุตฺตเนปกฺกสงฺขาตปฺาวเสน. ยํ กิฺจิ กตฺตพฺพํ, ตสฺส สพฺพสฺส สมฺปชานวเสเนว กรณสีโล, ตตฺถ วา สมฺปชานกาโร เอตสฺส อตฺถิ, สมฺปชานสฺส วา อสมฺโมหสฺส การโก อุปฺปาทโกติ สมฺปชานการี, เตน สมฺปชานการินา. อตฺราติ อสฺสํ คาถายํ. สีลาทิสมฺปาทเน วีริยสฺส เตสํ องฺคภาวโต ตํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สีลสมาธิปฺามุเขนา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘วิสุทฺธิมคฺคํ ทสฺเสตี’’ติ อวิภาคโต เทสนาย ปิณฺฑตฺถํ วตฺวา ปุน ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตฺตาวตาติ เอตฺตกาย เทสนาย. สิกฺขาติ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา. สิกฺขนํ เจตฺถ อาเสวนํ ทฏฺพฺพํ. สีลาทิธมฺเมหิ สํวรณาทิวเสน อาเสวนฺโต เต สิกฺขตีติ ¶ วุจฺจติ. สาสนนฺติ ปฏิปตฺติสาสนํ. อุปนิสฺสโย พลวการณํ. วชฺชนํ อนุปคมนํ. เสวนา ภาวนา. ปฏิปกฺโขติ ปหายกปฏิปกฺโข. ยทิปิ คาถายํ ‘‘สีเล’’ติ สามฺโต วุตฺตํ, น ‘‘อธิสีเล’’ติ. ตํ ปน ตณฺหาชฏาวิชฏนสฺส ปติฏฺาภูตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สีเลน อธิสีลสิกฺขา ปกาสิตา’’ติ. ภวคามิ หิ สีลํ สีลเมว, วิภวคามิ ¶ สีลํ อธิสีลสิกฺขา. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ. เอส นโย เสสสิกฺขาสุปิ.
สีเลนาติ อธิสีลสิกฺขาภูเตน สีเลน. ตํ หิ อนฺสาธารณตาย สาสนสฺส อาทิกลฺยาณตํ ปกาเสติ, น ยมนิยมาทิมตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ จ. กุสลานนฺติ มคฺคกุสลานํ. กุสลานนฺติ วา อนวชฺชานํ. เตน อริยผลธมฺมานมฺปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ. สพฺพปาปสฺส อกรณนฺติ สพฺพสฺสาปิ สาวชฺชสฺส อกิริยา อนชฺฌาปชฺชนํ. เอเตน จาริตฺตวาริตฺตเภทสฺส สพฺพสฺส สีลสฺส คหณํ กตํ โหติ. กตฺตพฺพากรณมฺปิ หิ สาวชฺชเมวาติ. อาทิวจนโตติ คาถายํ วุตฺตสมาธิปฺานํ อาทิมฺหิ วจนโต. อาทิภาโว จสฺส ตมฺมูลกตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ. อาทีนํ วา วจนํ อาทิวจนํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ ‘‘สีลํ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๖) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สีลสฺส วิสุทฺธตฺตา วิปฺปฏิสาราทิเหตูนํ ทูรีกรณโต อวิปฺปฏิสาราทิคุณาวหํ. ‘‘อวิปฺปฏิสาราทิคุณาวหตฺตา’’ติ เอเตน น เกวลํ สีลสฺส กลฺยาณตาว วิภาวิตา, อถ โข อาทิภาโวปีติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิสฺส สุตฺเต (ปริ. ๓๖๖) อวิปฺปฏิสาราทีนํ วิมุตฺติาณปริโยสานานํ ปรมฺปรปจฺจยตา วุตฺตา. สมาธินาติ อธิจิตฺตสิกฺขาภูเตน สมาธินา. สกลํ สาสนํ สงฺคเหตฺวา ปวตฺตาย คาถาย อาทิปเทน อาทิมฺหิ ปฏิปชฺชิตพฺพสฺส สีลสฺส, ตติยปเทน ปริโยสาเน ปฏิปชฺชิตพฺพาย ปฺาย คหิตตฺตา มชฺเฌ ปฏิปชฺชิตพฺโพ สมาธิ ปาริเสสโต ทุติยปเทน คยฺหตีติ ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทาติอาทิวจนโต หิ สมาธิ สาสนสฺส มชฺเฌ’’ติ วุตฺตํ, น กุสลสทฺทสฺส สมาธิปริยายตฺตา. ปุพฺพูปนิสฺสยวโต หิ สมาหิตตาทิอฏฺงฺคสมนฺนาคเมน อภินีหารกฺขมตา สมาธิสฺส อิทฺธิวิธาทิคุณาวหตฺตํ, อคฺคมคฺคปฺาย อธิคตาย ยทตฺถํ ปพฺพชติ, ตํ ปริโยสิตนฺติ ปฺา สาสนสฺส ¶ ปริโยสานํ. เตนาห ภควา ‘‘สิกฺขานิสํสมิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สทฺธาธิปเตยฺยํ ปฺุตฺตรํ วิมุตฺติสาร’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๔๕). สกํ จิตฺตํ สจิตฺตํ, สจิตฺตสฺส สพฺพโส กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทเนน วิโสธนํ สจิตฺตปริโยทาปนํ. เอวํ ปน ปฺากิจฺเจ มตฺถกปฺปตฺเต อุตฺตริ กรณียาภาวโต สาสนสฺส ปฺุตฺตรตา เวทิตพฺพา. ตาทิภาวาวหนโตติ ยาทิโส อิฏฺเสุ, ลาภาทีสุ จ อนุนยาภาวโต, ตาทิโส อนิฏฺเสุ, อลาภาทีสุ จ ปฏิฆาภาวโต. ตโต เอว วา ยาทิโส อนาปาถคเตสุ อิฏฺานิฏฺเสุ, ตาทิโส อาปาถคเตสุปีติ ตาที. ตสฺส ภาโว ตาทิภาโว, ตสฺส อาวหนโต. วาเตนาติ ¶ วาตเหตุ. น สมีรตีติ น จลติ. น สมิฺชนฺตีติ น ผนฺทนฺติ, กุโต จลนนฺติ อธิปฺปาโย.
ตถาติ ยถา สีลาทโย อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปกาสกา, ตถา เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสยสฺสาติ เตสํ ปกาสนาการูปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท. ยสฺมา สีลํ วิสุชฺฌมานํ สติสมฺปชฺพเลน, กมฺมสฺสกตาณพเลน จ สํกิเลสมลโต วิสุชฺฌติ ปาริปูริฺจ คจฺฉติ, ตสฺมา สีลสมฺปทา สิชฺฌมานา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติภาเวน สติพลํ, าณพลฺจ ปจฺจุปฏฺเปตีติ ตสฺสา วิชฺชตฺตยูปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา สภาคเหตุสมฺปาทนโต. สติเนปกฺเกน หิ ปุพฺเพนิวาสวิชฺชาสิทฺธิ, สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺเจสุ สุทิฏฺการิตาปริจเยน จุตูปปาตาณานุพนฺธาย ทุติยวิชฺชาสิทฺธิ, วีติกฺกมาภาเวน สํกิเลสปฺปหานสพฺภาวโต วิวฏฺฏูปนิสฺสยตาวเสน อชฺฌาสยสุทฺธิยา ตติยวิชฺชาสิทฺธิ. ปุเรตรํ สิทฺธานํ สมาธิปฺานํ ปาริปูรึ วินา สีลสฺส อาสวกฺขยาณูปนิสฺสยตา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสเวหิ ทีเปตพฺพา. สมาธิปฺา วิย อภิฺาปฏิสมฺภิทานํ สีลํ น สภาคเหตูติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔) วจนโต สมาธิสมฺปทา ฉฬภิฺตาย อุปนิสฺสโย. ปฺา วิย ปฏิสมฺภิทานํ สมาธิ น สภาคเหตูติ วุตฺตํ ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ. ‘‘โยคา เว ชายเต ภูรี’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒) วจนโต ปุพฺพโยเคน, ครุวาสเทสภาสากโอสลฺลอุคฺคหปริปุจฺฉาทีหิ จ ปริภาวิตา ปฺาสมฺปตฺติ ปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส อุปนิสฺสโย ¶ ปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิโยปิ ปฺาสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยาติ ปฺาย อนธิคนฺตพฺพสฺส วิเสสสฺส อภาวโต, ตสฺสา จ ปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส เอกนฺติกการณโต เหฏฺา วิย ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ อวตฺวา ‘‘น อฺเน การเณนา’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ ‘‘สีลสมฺปตฺติฺหิ นิสฺสายา’’ติ วุตฺตตฺตา ยสฺส สมาธิวิชมฺภนภูตา อนวเสสา ฉ อภิฺา น อิชฺฌนฺติ, ตสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน น สมาธิสมฺปทา อตฺถีติ. สติปิ วิชฺชานํ อภิฺเกเทสภาเว สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา เอว ติสฺโส วิชฺชา คหิตา. ยถา หิ ปฺาสมฺปตฺติสมุทาคตา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺติ, มคฺคกฺขเณ เอว ตาสํ ปฏิลภิตพฺพโต, เอวํ สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา ติสฺโส วิชฺชา สมาธิสมฺปตฺติสมุทาคตา จ ฉ อภิฺา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺตีติ มคฺคาธิคเมเนว ¶ ตาสํ อธิคโม เวทิตพฺโพ. ปจฺเจกพุทฺธานํ, สมฺมาสมฺพุทฺธานฺจ ปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิสมธิคมสทิสา หิ อิเมสํ อริยานํ อิเม วิเสสาธิคมาติ. วินยสุตฺตาภิธมฺเมสุ สมฺมาปฏิปตฺติยา เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสยตาปิ ยถาวุตฺตวิธินา เวทิตพฺพา.
สมฺปนฺนสีลสฺส กามเสวนาภาวโต สีเลน ปมนฺตวิวชฺชนํ วุตฺตํ. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา กามเหตุ ปาณาติปาตาทิวเสนาปิ อสุทฺธปโยคา โหนฺติ. ฌานสุขลาภิโน กายกิลมถสฺส สมฺภโว เอว นตฺถีติ สมาธินา ทุติยนฺตวิวชฺชนํ วุตฺตํ ฌานสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายตฺตา. ปฺายาติ มคฺคปฺาย. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน หิ เอกํสโต อริยมคฺโคว มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ นาม. เอวํ สนฺเตปิ โลกิยปฺาวเสนปิ อนฺตทฺวยวิวชฺชนํ วิภาเวตพฺพํ.
สีลํ ตํสมงฺคิโน กามสุคตีสุเยว นิพฺพตฺตาปนโต จตูหิ อปาเยหิ วิมุตฺติยา การณนฺติ อาห ‘‘สีเลน อปายสมติกฺกมนุปาโย ปกาสิโต โหตี’’ติ. น หิ ปาณาติปาตาทิปฏิวิรติ ทุคฺคติปริกิเลสํ อาวหติ. สมาธิ ตํสมงฺคิโน มหคฺคตภูมิยํเยว นิพฺพตฺตาปเนน สกลกามภวโต วิโมเจตีติ วุตฺตํ ‘‘สมาธินา กามธาตุสมติกฺกมนุปาโย ปกาสิโต โหตี’’ติ. น หิ กามาวจรกมฺมสฺส อนุพลปฺปทายีนํ กามจฺฉนฺทาทีนํ วิกฺขมฺภกํ ฌานํ กามธาตุปริกิเลสาวหํ โหติ. น เจตฺถ อุปจารชฺฌานํ นิทสฺเสตพฺพํ, อปฺปนาสมาธิสฺส ¶ อธิปฺเปตตฺตา. นาปิ ‘‘สีเลเนว อติกฺกมิตพฺพสฺส อปายภวสฺส สมาธินา อติกฺกมิตพฺพตา’’ติ วจโนกาโส. สุคติภวมฺปิ อติกฺกมนฺตสฺส ทุคฺคติสมติกฺกมเน กา กถาติ. สพฺพภวสมติกฺกมนุปาโยติ กามภวาทีนํ นวนฺนมฺปิ ภวานํ สมติกฺกมนุปาโย สีลสมาธีหิ อติกฺกนฺตาปิ ภวา อนติกฺกนฺตา เอว, การณสฺส อปหีนตฺตา. ปฺาย ปนสฺส สุปฺปหีนตฺตา เต สมติกฺกนฺตา เอว.
ตทงฺคปฺปหานวเสนาติ ทีปาโลเกเนว ตมสฺส ปฺุกิริยวตฺถุคเตน เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานวเสน. สมาธินา วิกฺขมฺภนปฺปหานวเสนาติ อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺตินิวารเณน ฆฏปฺปหาเรเนว ชลตเล เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานวเสน. ปฺายาติ อริยมคฺคปฺาย. สมุจฺเฉทปฺปหานวเสนาติ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) วุตฺตสฺส ¶ สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติสงฺขาตสมุจฺฉินฺทนปฺปหานวเสน.
กิเลสานํ วีติกฺกมปฏิปกฺโขติ สํกิเลสธมฺมานํ, กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรสุ วีติกฺกโม อชฺฌาจาโร, ตสฺส ปฏิปกฺโข สีเลน ปกาสิโต โหติ, อวีติกฺกมสภาวตฺตา สีลสฺส. โอกาสาทานวเสน กิเลสานํ จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา อุฏฺานํ ปริยุฏฺานํ. ตํ สมาธิ วิกฺขมฺเภตีติ อาห ‘‘สมาธินา ปริยุฏฺานปฏิปกฺโข ปกาสิโต โหตี’’ติ, สมาธิสฺส ปริยุฏฺานปฺปหายกตฺตา. อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต การณลาเภ อุปฺปตฺติรหา อนุสยา, เต ปน อนุรูปํ การณํ ลทฺธา อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา เวทิตพฺพา. เต อริยมคฺคปฺาย สพฺพโส ปหียนฺตีติ อาห ‘‘ปฺาย อนุสยปฏิปกฺโข ปกาสิโต โหตี’’ติ.
กายทุจฺจริตาทิ ทุฏฺุ จริตํ, กิเลเสหิ วา ทูสิตํ จริตนฺติ ทุจฺจริตํ, ตเมว ยตฺถ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺตานํ สํกิเลเสติ วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ สํกิเลโส, ตสฺส วิโสธนํ สีเลน ตทงฺควเสน ปหานํ วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺส. ตณฺหาสํกิเลสสฺส วิโสธนํ วิกฺขมฺภนวเสน ¶ ปหานํ ปริยุฏฺานปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส, ตณฺหาย จสฺส อุชุวิปจฺจนิกภาวโต. ทิฏฺิสํกิเลสสฺส วิโสธนํ สมุจฺเฉทวเสน ปหานํ อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺาย, ทิฏฺิคตานฺจ อยาถาวคาหีนํ ยาถาวคาหินิยา ปฺาย อุชุวิปจฺจนิกภาวโต.
การณนฺติ อุปนิสฺสยปจฺจโย. สีเลสุ ปริปูรการีติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตตฺตา อาทิพฺรหฺมจริยกานํ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสสงฺขาตานํ มหาสีลสิกฺขาปทานํ อวีติกฺกมนโต ขุทฺทานุขุทฺทกานํ อาปชฺชเน สหสาว เตหิ วุฏฺาเนน สีเลสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ปริปูรํ สมตฺถํ กโรตีติ สีเลสุ ปริปูรการี. ตถา สกทาคามีติ ‘‘สีเลสุ ปริปูรการี’’ติ เอตํ อุปสํหรติ ตถา-สทฺเทน. เอเต หิ ทฺเว อริยา สมาธิปาริปนฺถิกานํ กามราคพฺยาปาทานํ ปฺาปาริปนฺถิกสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกโมหสฺส สพฺพโส อสมูหตตฺตา สมาธึ, ปฺฺจ ภาเวนฺตาปิ สมาธิปฺาสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ มตฺตโส ปมาเณน ปเทสมตฺตเมว กโรนฺตีติ สมาธิสฺมึ, ปฺาย จ มตฺตโส การิโน ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิโน’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. อนาคามี ¶ ปน กามราคพฺยาปาทานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา สมาธิสฺมึ ปริปูรการี. อรหา สพฺพโส สมฺโมหสฺส สุสมูหตตฺตา ปฺาย ปริปูรการี.
วุตฺตํ เหตํ ภควตา (อ. นิ. ๓.๘๗) –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ, ตานิ อาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตา. ยานิ จ โข ตานิ สิกฺขาปทานิ อาทิพฺรหฺมจริยกานิ พฺรหฺมจริยสารุปฺปานิ, ตตฺถ ธุวสีโล จ โหติ ิตสีโล จ, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ…เป… โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ. สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี ¶ โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย ปริปูรการี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
‘‘กถ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สิกฺขาทิเก วิภชิตฺวา วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺเ จาติ ตโย วิเวกา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ, ตีณิ อินฺทฺริยานีติ เอวมาทโย, สิกฺขตฺติกาทีหิ อฺเ จ คุณตฺติกา. เอวรูปาติ ยาทิสกา สิกฺขตฺติกาทโย อิธ สีลาทีหิ ปกาสิตา โหนฺติ, เอทิสา.
เอตฺถ หิ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสฺส สีลสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา สีเลน กายวิเวโก ปกาสิโต โหติ, สมาธินา จิตฺตวิเวโก, ปฺาย อุปธิวิเวโก. ตถา สีเลน อโทโส กุสลมูลํ ปกาสิตํ โหติ, ติติกฺขปฺปธานตาย, อปรูปฆาตสภาวตาย จ สีลสฺส. สมาธินา อโลโภ ¶ กุสลมูลํ, โลภปฏิปกฺขโต, อโลภปธานตาย จ สมาธิสฺส. ปฺาย ปน อโมโหเยว. สีเลน จ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ ปกาสิตํ โหติ. อโทสปฺปธานํ หิ สีลสมฺปทํ นิสฺสาย โทเส อาทีนวทสฺสิโน อนิจฺจานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, อนิจฺจานุปสฺสนา จ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ. สมาธินา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ. ปฺาย สฺุตวิโมกฺขมุขํ. อโลภปฺปธานํ หิ กามนิสฺสรณํ สมาธิสมฺปทํ นิสฺสาย กาเมสุ อาทีนวทสฺสิโน ทุกฺขานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ. ปฺาสมฺปทํ นิสฺสาย อนตฺตานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, อนตฺตานุปสฺสนา จ สฺุตวิโมกฺขมุขํ. ตถา สีเลน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ปกาสิตํ โหติ. ตํ หิ สีเลสุ ปริปูรการิโน อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยํ. สมาธินา อฺินฺทฺริยํ. ตํ หิ อุกฺกํสคตํ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิโน อนาคามิโน, อคฺคมคฺคฏฺสฺส จ อินฺทฺริยํ. ปฺาย อฺาตาวินฺทฺริยํ ปกาสิตํ โหติ. ตทุปฺปตฺติยา หิ อรหา ปฺาย ปริปูรการีติ. อิมินา นเยน อฺเ จ เอวรูปา คุณตฺติกา สีลาทีหิ ปกาเสตพฺพา.
๑. สีลนิทฺเทสวณฺณนา
สีลสรูปาทิกถาวณฺณนา
๖. เอวนฺติ ¶ วุตฺตปฺปกาเรน. อเนกคุณสงฺคาหเกนาติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ, อฺเสฺจ อเนเกสํ คุณานํ สงฺคาหเกน. สีลสมาธิปฺามุเขนาติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๗๗; เถรคา. ๖๗๖; เนตฺติ. ๕) วิย วิปสฺสนามตฺตาทิมุเขน สงฺเขปโต อเทเสตฺวา สีลสมาธิปฺามุเขน เทสิโตปิ, สตฺตตึสายปิ วา โพธิปกฺขิยธมฺมานํ วิสุทฺธิมคฺคนฺโตคธตฺตา ตตฺถ สีลสมาธิปฺา มุขํ ปมุขํ กตฺวา เทสิโตปิ. เอเตน สีลสมาธิปฺาสุ อวเสสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ สภาวโต, อุปการโต จ อนฺโตคธภาโว ทีปิโตติ เวทิตพฺพํ. อติสงฺเขปเทสิโตเยว โหติ สภาววิภาคาทิโต อวิภาวิตตฺตา. นาลนฺติ น ปริยตฺตํ น สมตฺถํ. สพฺเพสนฺติ นาติสงฺเขปนาติวิตฺถารรุจีนมฺปิ, วิปฺจิตฺุเนยฺยานมฺปิ วา. สงฺเขปเทสนา หิ สํขิตฺตรุจีนํ, อุคฺฆฏิตฺูนํเยว จ อุปการาย โหติ, น ปนิตเรสํ. อสฺส วิสุทฺธิมคฺคสฺส. ปุจฺฉนฏฺเน ปฺหา, กิริยา กรณํ กมฺมํ, ปฺหาว กมฺมํ ปฺหากมฺมํ, ปุจฺฉนปโยโค.
กึ สีลนฺติ สรูปปุจฺฉา. เกนฏฺเน สีลนฺติ เกน อตฺเถน สีลนฺติ วุจฺจติ, ‘‘สีล’’นฺติ ปทํ กํ อภิเธยฺยํ นิสฺสาย ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. ตยิทํ สีลํ สภาวโต, กิจฺจโต, อุปฏฺานาการโต, อาสนฺนการณโต จ กถํ ชานิตพฺพนฺติ อาห ‘‘กานสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ. ปฏิปตฺติ นาม ทิฏฺานิสํเส เอว โหตีติ อาห ‘‘กิมานิสํส’’นฺติ. กติวิธนฺติ ปเภทปุจฺฉา. วิภาควนฺตานํ หิ สภาววิภาวนํ วิภาคทสฺสนมุเขเนว โหตีติ. โวทานํ วิสุทฺธิ. สา จ สํกิเลสมลวิมุตฺติ. ตํ อิจฺฉนฺเตน ยสฺมา อุปายโกสลฺลตฺถินา อนุปายโกสลฺลํ วิย สํกิเลโส ชานิตพฺโพติ อาห ‘‘โก จสฺส สํกิเลโส’’ติ.
ตตฺราติ ¶ ตสฺมึ, ตสฺส วา ปฺหากมฺมสฺส. วิสฺสชฺชนนฺติ วิวรณํ. ปุจฺฉิโต หิ อตฺโถ อวิภาวิตตฺตา นิคูฬฺโห มุฏฺิยํ กโต วิย ติฏฺติ. ตสฺส วิวรณํ วิสฺสชฺชนํ วิภูตภาวการณโต. ปาณาติปาตาทีหีติ เอตฺถ ¶ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺส สรเสเนว ปตนสภาวสฺส อนฺตเร เอว อติว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ, อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต, ปาณฆาโต. อาทิสทฺเทน อทินฺนาทานาทึ สงฺคณฺหาติ. เตหิ ปาณาติปาตาทีหิ ทุสฺสีลฺยกมฺเมหิ. วิรมนฺตสฺสาติ สมาทานวิรติวเสน, สมฺปตฺตวิรติวเสน จ โอรมนฺตสฺส. วตฺตปฏิปตฺตินฺติ อุปชฺฌายวตฺตาทิวตฺตกรณํ. เจตนาทโย ธมฺมาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ปาฬิวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เจตยตีติ เจตนา, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึ อารมฺมเณ อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ. เจตนาย อนุกูลวเสเนว หิ ตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมา อารมฺมเณ ปวตฺตนฺติ. เจตนา กามํ กุสลตฺติกสาธารณา, อิธ ปน สีลเจตนา อธิปฺเปตาติ กตฺวา ‘‘กุสลา’’ติ เวทิตพฺพา. เจตสิ นิยุตฺตํ เจตสิกํ, จิตฺตสมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ. เจตนาย สติปิ เจตสิกตฺเต ‘‘เจตนา สีล’’นฺติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทฺเมว วิรติอนภิชฺฌาทิกํ เจตสิกํ สีลํ ทฏฺพฺพํ โคพลีพทฺทาเยน. สํวรณํ สํวโร. ยถา อกุสลา ธมฺมา จิตฺเต น โอตรนฺติ, ตถา ปิทหนํ. อวีติกฺกโม วีติกฺกมสฺส ปฏิปกฺขภูตา อวีติกฺกมวเสน ปวตฺตจิตฺตเจตสิกา. ตตฺถ เจตนา สีลํ นามาติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส สุตฺตปทสฺส วิวรณํ. วิรมนฺตสฺส เจตนาติ วิรติสมฺปยุตฺตํ ปธานภูตํ เจตนมาห. ปูเรนฺตสฺส เจตนาติ วตฺตปฏิปตฺติอายูหินี. วิรมนฺตสฺส วิรตีติ วิรติยา ปธานภาวํ คเหตฺวา วุตฺตํ.
เอตฺถ หิ ยทา ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิ (กถา. ๕๓๙) วจนโต ปาณาติปาตาทีนํ ปฏิปกฺขภูตา ตพฺพิรติวิสิฏฺา เจตนา ตถาปวตฺตา ปธานภาเวน ปาณาติปาตาทิปฏิวิรติสาธิกา โหติ, ตทา ตํสมฺปยุตฺตา วิรติอนภิชฺฌาทโย จ เจตนาปกฺขิกา วา, อพฺโพหาริกา วาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เจตนาสีลํ วุตฺตํ. ยทา ปน ปาณาติปาตาทีหิ สงฺโกจํ อาปชฺชนฺตสฺส ตโต วิรมณากาเรน ปวตฺตมานา เจตนาวิสิฏฺา วิรติ, อนภิชฺฌาทโย จ ตตฺถ ตตฺถ ปธานภาเวน กิจฺจสาธิกา โหนฺติ, ตทา ตํสมฺปยุตฺตา เจตนา วิรติอาทิปกฺขิกา ¶ วา โหติ, อพฺโพหาริกา วาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เจตสิกสีลํ วุตฺตํ.
อิทานิ ¶ สุตฺเต อาคตนเยน กุสลกมฺมปถวเสน เจตนาเจตสิกสีลานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปชหนฺตสฺสาติ สมาทานวเสน ‘‘อิโต ปฏฺาย น กริสฺสามี’’ติ สมฺปตฺตวตฺถุกานิปิ อนชฺฌาจรเณน ปชหนฺตสฺส. สตฺต กมฺมปถเจตนาติ ปาณาติปาตาทิปหานสาธิกา ปฏิปาฏิยา สตฺต กุสลกมฺมปถเจตนา. อภิชฺฌาทิวเสน ยํ ปรทารคมนาทิ กรียติ, ตสฺส ปหายกา อนภิชฺฌาทโย สีลนฺติ อาห ‘‘เจตสิกํ สีลํ นาม อนภิชฺฌา…เป… สมฺมาทิฏฺิธมฺมา’’ติ. ยถา หิ อภิชฺฌาพฺยาปาทวเสน มิจฺฉาจารปาณาติปาตาทโย กรียนฺติ, เอวํ มิจฺฉาทิฏฺิวเสนาปิ เต ปุตฺตมุขทสฺสนาทิอตฺถํ กรียนฺติ. เตสฺจ ปชหนกา อนภิชฺฌาทโยติ. ปาติโมกฺขสํวโร จาริตฺตวาริตฺตวิภาคํ วินยปริยาปนฺนํ สิกฺขาปทสีลํ. สติสํวโร มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ อารกฺขา, สา จ ตถาปวตฺตา สติเยว. าณสํวโร ปฺา. ขนฺติสํวโร อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา อโทสปธานา ขนฺธา, อโทโส เอว วา. วีริยสํวโร กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยํ. ปาติโมกฺขสํวรสติสํวราทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.
โสตานีติ ตณฺหาทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตอวสิฏฺกิเลสโสตานิ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติ วจเนน โสตานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทนํ าณนฺติ วิฺายติ.
อิทมตฺถิกตํ มนสิ กตฺวา เยน าเณน โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยา ปฏิเสวียนฺติ. ตํ ปจฺจยปฏิเสวนมฺปิ าณสภาวตฺตา เอตฺเถว าณสํวเร เอว สโมธานํ สงฺคหํ คจฺฉติ. ขมติ อธิวาเสตีติ ขโม. อุปฺปนฺนนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ ชาตํ นิพฺพตฺตํ. กามวิตกฺกนฺติ กามูปสํหิตํ วิตกฺกํ. นาธิวาเสตีติ จิตฺตํ อาโรเปตฺวา อพฺภนฺตเร น วาเสติ. อาชีวปาริสุทฺธิปีติ พุทฺธปฏิกุฏฺํ มิจฺฉาชีวํ ปหาย อนวชฺเชน ปจฺจยปริเยสเนน สิชฺฌนกํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลมฺปิ เอตฺเถว วีริยสํวเร เอว สโมธานํ คจฺฉติ วีริยสาธนตฺตา. เอตฺถ จ ยถา าณํ ตณฺหาทิโสตานํ ปวตฺตินิวารณโต ปิทหนฏฺเน สํวรณโต สํวโร จ, ปรโต ปวตฺตนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลํ ¶ , เอวํ ขนฺติ อนธิวาสเนน อุปฺปชฺชนกกิเลสานํ อธิวาสเนน สํวรณโต สํวโร จ, ขมนเหตุ อุปฺปชฺชนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลํ, วีริยํ วิโนเทตพฺพานํ ปาปธมฺมานํ วิโนทเนน สํวรณโต สํวโร จ, วิโนทนเหตุ อุปฺปชฺชนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. ยถา ปน ปาติโมกฺขสีลาทิ ตสฺส ตสฺส ปาปธมฺมสฺส ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน สํวรณํ ปิทหนํ, ตํ อุปาทาย สํวโร, เอวํ อสมาทินฺนสีลสฺส อาคตวตฺถุโต วิรมณมฺปีติ อาห ‘‘ยา จ ปาปภีรุกานํ…เป… สํวรสีลนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ. น วีติกฺกมติ เอเตนาติ อวีติกฺกโม. ตถาปวตฺโต กุสลจิตฺตุปฺปาโท.
๗. อวเสเสสุ ปน ปฺเหสุ. สมาธานํ สณฺปนํ. ทุสฺสีลฺยวเสน หิ ปวตฺตา กายกมฺมาทโย สมฺปติ, อายติฺจ อหิตทุกฺขาวหา, น สมฺมา ปิตาติ อสณฺปิตา วิปฺปกิณฺณา วิสฏา จ นาม โหนฺติ, สุสีลฺยวเสน ปน ปวตฺตา ตพฺพิปริยายโต สณฺปิตา อวิปฺปกิณฺณา อวิสฏา จ นาม โหนฺติ ยถา ตํ โอกฺขิตฺตจกฺขุตา อพาหุปฺปจาลนาทิ. เตนาห ‘‘กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ’’ติ. เอเตน สมาธิกิจฺจโต สีลนํ วิเสเสติ. ตสฺส หิ สมาธานํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อวิกฺเขปเหตุตา. อิทํ กายกมฺมาทีนํ สณฺปนํ สํยมนํ. อุปธารณํ อธิฏฺานํ มูลภาโว. ตถา หิสฺส อาทิจรณาทิภาโว วุตฺโต. เตน ปถวีธาตุกิจฺจโต สีลนํ วิเสสิตํ โหติ. สา หิ สหชาตรูปธมฺมานํ สนฺธารณวเสน ปวตฺตติ. อิทํ ปน อนวชฺชธมฺมานํ มูลาธิฏฺานภาเวน. เตนาห ‘‘กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ กุสลธมฺมา นาม สปุพฺพภาคา มหคฺคตานุตฺตรา ธมฺมา. อฺเ ปน อาจริยา. สิรฏฺโติ ยถา สิรสิ ฉินฺเน สพฺโพ อตฺตภาโว วินสฺสติ, เอวํ สีเล ภินฺเน สพฺพํ คุณสรีรํ วินสฺสติ. ตสฺมา ตสฺส อุตฺตมงฺคฏฺโ สีลฏฺโ. ‘‘สิโร สีส’’นฺติ วา วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘สีล’’นฺติ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สีตลฏฺโ ปริฬาหวูปสมนฏฺโ. เตน ต-การสฺส โลปํ กตฺวา นิรุตฺตินเยเนว ‘‘สีล’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิทํ ปโยคสมฺปาทิตํ สพฺพกิเลสปริฬาหวูปสมกรํ โหติ. เอวมาทินาติ ¶ อาทิ-สทฺเทน สยนฺติ อกุสลา เอตสฺมึ สติ อปวิฏฺา โหนฺตีติ สีลํ, สุปนฺติ วา เตน วิหตุสฺสาหานิ สพฺพทุจฺจริตานีติ สีลํ, สพฺเพสํ วา กุสลธมฺมานํ ปเวสารหสาลาติ สีลนฺติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
๘. ‘‘สีลนฏฺเน สีล’’นฺติ ปุพฺเพ สทฺทตฺถุทฺธาเรน ปกาสิโตปิ ภาวตฺโถ เอวาติ อาห ‘‘สีลนํ ลกฺขณํ ตสฺสา’’ติ. น หิ ตสฺส เจตนาทิเภทภินฺนสฺส อนวเสสโต สงฺคาหโก ตโต อฺโ อตฺโถ อตฺถิ, โย ลกฺขณภาเวน วุจฺเจยฺย. นนุ จ อเนกเภทสงฺคาหกํ สามฺลกฺขณํ นาม สิยา, น วิเสสลกฺขณนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺสเนกธา’’ติ.
ยถา ¶ หิ นีลาทิวเสน อเนกเภทภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ วิเสสลกฺขณํ ตทฺธมฺมาสาธารณโต. น อนิจฺจตาทิ วิย, รุปฺปนํ วิย วา สามฺลกฺขณํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ. กึ ปเนตํ สนิทสฺสนตฺตํ นาม? ทฏฺพฺพตา จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาโว. ตสฺส ปน รูปายตนโต อนฺตฺเตปิ อฺเหิ ธมฺเมหิ รูปายตนํ วิเสเสตุํ อฺํ วิย กตฺวา สห นิทสฺสเนน สนิทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ธมฺมสภาวสามฺเน หิ เอกีภูเตสุ ธมฺเมสุ โย นานตฺตกโร สภาโว, โส อฺํ วิย กตฺวา อุปจริตุํ ยุตฺโต. เอวํ หิ อตฺถวิเสสาวโพโธ โหตีติ. อถ วา ‘‘สห นิทสฺสเนนา’’ติ เอตฺถ ตพฺภาวตฺโถ สห-สทฺโท ยถา นนฺทิราคสหคตาติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๔; ปฏิ. ม. ๒.๓๐).
ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสนฺติ กายิกอสํวราทิเภทสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส วิธมนกิจฺจํ. อนวชฺชรสนฺติ อคารยฺหสมฺปตฺติกํ อครหิตพฺพภาเวน สมฺปชฺชนกํ, อวชฺชปฏิปกฺขภาเวน วา สมฺปชฺชนกํ. ลกฺขณาทีสูติ ลกฺขณรสาทีสุ วุจฺจมาเนสุ กิจฺจเมว, สมฺปตฺติ วา รโสติ วุจฺจติ, น รสายตนรสาทีติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘กิจฺจเมวา’’ติ อวธารณํ ตสฺส อิตรรสโต พลวภาวทสฺสนตฺถนฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, กิจฺจเมว, สมฺปตฺติ เอว วา รโสติ อิมสฺส อตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา.
โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานนฺติ ¶ กายาทีหิ สุจิภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ. คหณภาวนฺติ คเหตพฺพภาวํ. เตน อุปฏฺานาการฏฺเน ปจฺจุปฏฺานํ วุตฺตํ, ผลฏฺเน ปน อวิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, สมาธิปจฺจุปฏฺานํ วา. สีลํ หิ สมฺปติเยว อวิปฺปฏิสารํ ปจฺจุปฏฺาเปติ, ปรมฺปราย สมาธึ. อิมสฺส ปน อานิสํสผลสฺส อานิสํสกถายํ วกฺขมานตฺตา อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ผลสฺส อนิจฺฉิตตฺตา อิธ อคฺคหณนฺติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ ผลสฺส อเนกวิธตฺตา, โลกิยาทิสีลสฺสาปิ วิภชิยมานตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิสฺสิตานิสฺสิตวเสนา’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐). ยถา ปถวีธาตุยา กมฺมาทิ ทูรการณํ, เสสภูตตฺตยํ อาสนฺนการณํ, ยถา จ วตฺถสฺส ตนฺตวายตุริเวมสลากาทิ ทูรการณํ, ตนฺตโว อาสนฺนการณํ, เอวํ สีลสฺส สทฺธมฺมสฺสวนาทิ ทูรการณํ, หิริโอตฺตปฺปมสฺส อาสนฺนการณนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หิโรตฺตปฺปฺจ ปนา’’ติอาทิ. หิโรตฺตปฺเป หีติอาทิ ตสฺส อาสนฺนการณภาวสาธนํ. ตตฺถ อุปฺปชฺชติ สมาทานวเสน, ติฏฺติ อวีติกฺกมวเสนาติ เวทิตพฺพํ.
สีลานิสํสกถาวณฺณนา
๙. อวิปฺปฏิสาราทีติ ¶ เอตฺถ วิปฺปฏิสารปฏิปกฺโข กุสลจิตฺตุปฺปาโท อวิปฺปฏิสาโร. โส ปน วิเสสโต ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สุปริสุทฺธํ สีล’’นฺติ อตฺตโน สีลสฺส ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อาทิ-สทฺเทน ปาโมชฺชโภคสมฺปตฺติกิตฺติสทฺทาทึ สงฺคณฺหาติ. อวิปฺปฏิสารตฺถานีติ อวิปฺปฏิสารปฺปโยชนานิ. กุสลานีติ อนวชฺชานิ. อวิปฺปฏิสารานิสํสานีติ อวิปฺปฏิสารุทฺทยานิ. เอเตน อวิปฺปฏิสาโร นาม สีลสฺส อุทฺทยมตฺตํ, สํวฑฺฒิตสฺส รุกฺขสฺส ฉายาปุปฺผสทิสํ. อฺโ เอว ปนาเนน นิปฺผาเทตพฺโพ สมาธิอาทิคุโณติ ทสฺเสติ.
สีลวโต สีลสมฺปทายาติ ปริสุทฺธํ ปริปุณฺณํ กตฺวา สีลสฺส สมฺปาทเนน สีลวโต, ตาย เอว สีลสมฺปทาย. อปฺปมาทาธิกรณนฺติ อปฺปมาทการณา. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตีติ ‘‘อิติปิ สีลวา, อิติปิ กลฺยาณธมฺโม’’ติ สุนฺทโร ถุติโฆโส อุฏฺหติ, โลกํ ปตฺถรติ. วิสารโทติ อตฺตนิ กิฺจิ ครหิตพฺพํ ¶ อุปวทิตพฺพํ อปสฺสนฺโต วิคตสารชฺโช นิพฺภโย. อมงฺกุภูโตติ อวิลกฺโข. อสมฺมูฬฺโหติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๔๘) วิปฺปฏิสาราภาวโต, กุสลกมฺมาทีนํเยว จ ตทา อุปฏฺานโต อมูฬฺโห ปสนฺนมานโส เอว กาลํกโรติ. กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา, ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํ. สุคตินฺติ สุนฺทรํ คตึ. เตน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ. สคฺคนฺติ เทวคตึ. สา หิ รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค, โลกิยติ เอตฺถ อุฬารํ ปฺุผลนฺติ โลโกติ จ วุจฺจติ.
อากงฺเขยฺย เจติ ยทิ อิจฺเฉยฺย. ปิโย จ อสฺสนฺติ ปิยายิตพฺโพ ปิยจกฺขูหิ ปสฺสิตพฺโพ เปมนิโย ภเวยฺยนฺติ อตฺโถ. มนาโปติ สพฺรหฺมจารีนํ มนวฑฺฒนโก, เตสํ วา มเนน ปตฺตพฺโพ, เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ครูติ ครุฏฺานิโย ปาสาณฉตฺตสทิโส. ภาวนีโยติ ‘‘อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติ สมฺภาวนีโย. สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ เอว ปริปูรการี อสฺส, อนูนการี ปริปูรณากาเรน สมนฺนาคโต ภเวยฺย. ‘‘อาทินา นเยนา’’ติ เอเตน ‘‘อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต ¶ อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สฺุาคาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๕) เอวมาทิเก สีลโถมนสุตฺตาคเต สตฺตรส สีลานิสํเส สงฺคณฺหาติ.
อิทานิ น เกวลมิเม เอว อวิปฺปฏิสาราทโย, อถ โข อฺเปิ พหู สีลานิสํสา วิชฺชนฺตีติ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สาสเนติ อิมสฺมึ สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณาวเห สตฺถุสาสเน. อาจารกุลปุตฺตานํ ยํ สีลํ วินา ปติฏฺา อวฏฺานํ นตฺถิ, ตสฺส เอวํ มหานุภาวสฺส สีลสฺส อานิสํสานํ ปริจฺเฉทํ ปริมาณํ โก วเท โก วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน สพฺเพสํเยว โลกิยโลกุตฺตรานํ คุณานํ สีลเมว มูลภูตนฺติ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรมฺปิ มลวิโสธเนน, ปริฬาหวูปสมเนน, สุจิคนฺธวายเนน, สคฺคนิพฺพานาธิคมูปายภาเวน, โสภาลงฺการสาธนตาย ภยวิธมเนน, กิตฺติปาโมชฺชชเนน จ สีลสทิสํ อฺํ สตฺตานํ หิตสุขาวหํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น คงฺคา’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ.
ตตฺถ ¶ สรภูติ เอกา นที, ‘‘ยํ โลเก สรภู’’ติ วทนฺติ. นินฺนคา วาจิรวตีติ ‘‘อจิรวตี’’ติ เอวํนามิกา นที, วาติ สพฺพตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. เตน อวุตฺตา โคธาวรีจนฺทภาคาทิกา สงฺคณฺหาติ. ปาณนฏฺเน ปาณีนํ สตฺตานํ ยํ มลํ สีลชลํ วิโสธยติ, ตํ มลํ วิโสเธตุํ น สกฺกุณนฺติ คงฺคาทโย นทิโยติ ปมคาถาย น-การํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. หาราติ มุตฺตาหารา. มณโยติ เวฬุริยาทิมณโย. อริยนฺติ วิสุทฺธํ. สีลสมุฏฺาโน กิตฺติสทฺโท คนฺโธ มโนหรภาวโต, ทิสาสุ อภิพฺยาปนโต จ ‘‘สีลคนฺโธ’’ติ วุตฺโต. โส หิ ปฏิวาเตปิ ปวตฺตติ. เตนาห ภควา ‘‘สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมตี’’ติ (ธ. ป. ๕๔; อ. นิ. ๓.๘๐; มิ. ป. ๕.๔.๑). โทสานํ พลํ นาม วตฺถุชฺฌาจาโร, ตํ เตสํ กาตุํ อเทนฺตํ สีลํ โทสานํ พลํ ฆาเตตีติ เวทิตพฺพํ.
สีลปฺปเภทกถาวณฺณนา
๑๐. ‘‘กติวิธ’’นฺติ เอตฺถ วิธ-สทฺโท โกฏฺาสปริยาโย ‘‘เอกวิเธน รูปสงฺคโห’’ติอาทีสุ วิย, ปการตฺโถ วา, กติปฺปการํ กิตฺตกา สีลสฺส ปการเภทาติ อตฺโถ. สีลนลกฺขเณนาติ สีลนสงฺขาเตน สภาเวน.
จรนฺติ ¶ เตน สีเลสุ ปริปูรการิตํ อุปคจฺฉนฺตีติ จริตฺตํ, จริตฺตเมว จาริตฺตํ. วาริตโต เตน อตฺตานํ ตายนฺติ รกฺขนฺตีติ วาริตฺตํ. อธิโก สมาจาโร อภิสมาจาโร, ตตฺถ นิยุตฺตํ, โส วา ปโยชนํ เอตสฺสาติ อาภิสมาจาริกํ. อาทิ พฺรหฺมจริยสฺสาติ อาทิพฺรหฺมจริยํ, ตเทว อาทิพฺรหฺมจริยกํ. วิรมติ เอตาย, สยํ วา วิรมติ, วิรมณํ วา วิรติ, น วิรตีติ อวิรติ. นิสฺสยตีติ นิสฺสิตํ, น นิสฺสิตนฺติ อนิสฺสิตํ. ปริยนฺโต เอตสฺส อตฺถีติ ปริยนฺตํ, กาเลน ปริยนฺตํ กาลปริยนฺตํ, ยถาปริจฺฉินฺโน วา กาโล ปริยนฺโต เอตสฺสาติ กาลปริยนฺตํ. ยาว ปาณนํ ชีวนํ โกฏิ เอตสฺสาติ อาปาณโกฏิกํ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ โลเก นิยุตฺตํ, ตตฺถ วา วิทิตนฺติ โลกิยํ. โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ.
ปจฺจยโต, ผลโต จ มชฺฌิมปณีเตหิ นิหีนํ, เตสํ วา คุเณหิ ปริหีนนฺติ หีนํ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ. อุภินฺนเมว เวมชฺเฌ ¶ ภวํ มชฺฌิมํ. อตฺตาธิปติโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตณฺหาย, ทิฏฺิยา วา ปรามฏฺํ ปธํสิตนฺติ ปรามฏฺํ. ตปฺปฏิกฺเขปโต อปรามฏฺํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสํ ปฏิปฺปสฺสทฺธํ. สิกฺขาสุ ชาตํ, เสกฺขสฺส อิทนฺติ วา เสกฺขํ. ปรินิฏฺิตสิกฺขากิจฺจตาย อเสกฺขธมฺมปริยาปนฺนํ อเสกฺขํ. ตทุภยปฏิกฺเขเปน เนวเสกฺขนาเสกฺขํ. หานํ ภชติ, หานภาโค วา เอตสฺส อตฺถีติ หานภาคิยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อปฺปปริมาณตฺตา ปริยนฺตวนฺตํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ ปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลํ. อนปฺปปริมาณตฺตา อปริยนฺตํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ อปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลํ. สพฺพโส ปุณฺณํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ ปริปุณฺณปาริสุทฺธิสีลํ.
๑๑. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สีลนฏฺเน สีล’’นฺติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๗) เหฏฺา วุตฺเตน นเยน. อิทํ กตฺตพฺพนฺติ ปฺตฺตสิกฺขาปทปูรณนฺติ อิทํ อาภิสมาจาริกํ กตฺตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ เอวํ ปฺตฺตสฺส สิกฺขาปทสีลสฺส ปูรณํ. สิกฺขาปทสีลํ หิ ปูเรนฺโต สิกฺขาปทมฺปิ ปูเรติ ปาเลติ นาม. สิกฺขา เอว วา สิกฺขิตพฺพโต, ปฏิปชฺชิตพฺพโต จ สิกฺขาปทํ. ตสฺส ปูรณนฺติปิ โยเชตพฺพํ. อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตสฺส อกรณนฺติ อิทํ ทุจฺจริตํ น กตฺตพฺพนฺติ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตสฺส อกรณํ วิรมณํ. จรนฺติ ตสฺมินฺติ ตสฺมึ สีเล ตํสมงฺคิโน จรนฺตีติ สีลสฺส อธิกรณตํ วิภาเวนฺโต เตสํ ปวตฺติฏฺานภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิตาย ปวตฺตนฺตี’’ติ. วาริตนฺติ อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ อกปฺปิยํ ¶ . ตายนฺตีติ อกรเณเนว ตายนฺติ. เตนาติ วาริตฺตสีลมาห. วาเรติ วา สตฺถา เอตฺถ, เอเตน วาติ วาริตํ, สิกฺขาปทํ. ตํ อวิโกเปนฺโต ตายนฺติ เตนาติ วาริตฺตํ. สทฺธาวีริยสาธนนฺติ สทฺธาย, อุฏฺานวีริเยน จ สาเธตพฺพํ. น หิ อสทฺโธ, กุสีโต จ วตฺตปฏิปตฺตึ ปริปูเรติ, สทฺโธ เอว สตฺถารา ปฏิกฺขิตฺเต อณุมตฺเตปิ วชฺเช ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ อาห ‘‘สทฺธาสาธนํ วาริตฺต’’นฺติ.
อธิสีลสิกฺขาปริยาปนฺนตฺตา อภิวิสิฏฺโ สมาจาโรติ อภิสมาจาโรติ อาห ‘‘อุตฺตมสมาจาโร’’ติ. อภิสมาจาโรว อาภิสมาจาริกํ, ยถา เวนยิโกติ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘) อธิปฺปาโย. อภิสมาจาโร อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต ¶ มคฺคสีลํ, ผลสีลฺจ, ตํ อารพฺภ อุทฺทิสฺส ตทตฺถํ ตปฺปโยชนํ ปฺตฺตํ อาภิสมาจาริกํ. สุปริสุทฺธานิ ตีณิ กายกมฺมานิ, จตฺตาริ วจีกมฺมานิ, สุปริสุทฺโธ อาชีโวติ อิทํ อาชีวฏฺมกํ. ตตฺถ กามํ อาชีวเหตุกโต สตฺตวิธทุจฺจริตโต วิรติ สมฺมาอาชีโวติ โสปิ สตฺตวิโธ โหติ, สมฺมาชีวตาสามฺเน ปน ตํ เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. อถ วา ติวิธกุหนวตฺถุสนฺนิสฺสยโต มิจฺฉาชีวโต วิรตึ เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺโต ‘‘อาชีโว สุปริสุทฺโธ’’ติ. เสฏฺจริยภาวโต มคฺโค เอว พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ, ตสฺส. อาทิภาวภูตนฺติ อาทิมฺหิ ภาเวตพฺพตํ นิปฺผาเทตพฺพตํ ภูตํ ปตฺตํ อาทิภาวภูตํ. กิฺจาปิ เทสนานุกฺกเมน สมฺมาทิฏฺิ อาทิ, ปฏิปตฺติกฺกเมน ปน อาชีวฏฺมกสีลํ อาทีติ. ตสฺส สมฺปตฺติยาติ อาภิสมาจาริกสฺส สมฺปชฺชเนน ปริปูรเณน อาทิพฺรหฺมจริยกํ สมฺปชฺชติ. โย หิ ลหุกานิปิ อปฺปสาวชฺชานิ ปริวชฺเชติ, โส ครุกานิ มหาสาวชฺชานิ พหฺวาทีนวานิ ปริวชฺเชสฺสตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ. สุตฺตํ ปน เอตมตฺถํ พฺยติเรกวเสน วิภาเวติ. ตตฺถ ธมฺมนฺติ สีลํ. ตํ หิ อุปริคุณวิเสสานํ ธารณฏฺเน ธมฺโมติ วุจฺจติ.
วิรติสีลสฺส อิตรสีเลน สติปิ สมฺปโยคาทิเก อสมฺมิสฺสกตาทสฺสนตฺถํ ‘‘เวรมณิมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
‘‘นิสฺสิตานิสฺสิตวเสนา’’ติ เอตฺถ ลพฺภมานนิสฺสยํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘นิสฺสโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาจริเตน นิสฺสยิตพฺพโต ตณฺหาว ตณฺหานิสฺสโย. ตถา ทิฏฺินิสฺสโย. ทิฏฺิจริโต หิ อสติปิ ทิฏฺิยา ตณฺหาวิรเห ทิฏฺินิสฺสิโตว ปวตฺตติ. เทโวติ จตุมหาราชสกฺกสุยามาทิปากฏเทวมาห ¶ . เทวฺตโรติ อปากฏํ. ตณฺหํ เอว นิสฺสิตนฺติ ตณฺหานิสฺสิตํ. ตณฺหาย นิสฺสิตนฺติ จ เกจิ วทนฺติ. เตสํ ‘‘ทฺเว นิสฺสยา’’ติอาทินา วิรุชฺฌติ. สุทฺธิทิฏฺิยาติ ‘‘อิติ สํสารสุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตทิฏฺิยา, โลกุตฺตรํ สีลนฺติ อธิปฺปาโย. ตสฺเสวาติ โลกุตฺตรสฺเสว สมฺภารภูตํ การณภูตํ, วิวฏฺฏูปนิสฺสยนฺติ อตฺโถ.
กาลปริจฺเฉทํ กตฺวาติ ‘‘อิมฺจ รตฺตึ, อิมฺจ ทิว’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๘.๔๑) วิย กาลวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา. กาลปริจฺเฉทํ อกตฺวา สมาทินฺนมฺปิ อนฺตราวิจฺฉินฺนํ ¶ สมฺปตฺตวิรติวเสน ยาวชีวํ ปวตฺติตมฺปิ อาปาณโกฏิกํ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวชีวํ สมาทิยิตฺวา ตเถว ปวตฺติต’’นฺติ วุตฺตํ.
ลาภยสาติองฺคชีวิตวเสนาติ ลาภยสานํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทนวเสน, อุปฺปนฺนานํ รกฺขณวเสน เจว วฑฺฒนวเสน จ าติองฺคชีวิตานํ อวินาสนวเสน. กึ โส วีติกฺกมิสฺสตีติ โย วีติกฺกมาย จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทติ, โส กายวาจาหิ วีติกฺกมิสฺสตีติ กึ อิทํ, นตฺเถตนฺติ อตฺโถ. ปฏิกฺเขเป หิ อยํ กึ-สทฺโท.
อารมฺมณภาเวน วโณ วิย อาสเว กามาสวาทิเก ปคฺฆรตีติ สมฺปโยคภาวาภาเวปิ สหาสเวหีติ สาสวํ. เตภูมกธมฺมชาตนฺติ สีลํ ตปฺปริยาปนฺนนฺติ อาห ‘‘สาสวํ สีลํ โลกิย’’นฺติ. ภววิเสสา สมฺปตฺติภวา. วินโยติ วินยปริยตฺติ, ตตฺถ วา อาคตสิกฺขาปทานิ. ปาโมชฺชํ ตรุณปีติ. ยถาภูตาณทสฺสนํ สปจฺจยนามรูปทสฺสนํ, ตทธิฏฺานา วา ตรุณวิปสฺสนา. นิพฺพิทาติ นิพฺพิทาาณํ. เตน พลววิปสฺสนมาห. วิราโค มคฺโค. วิมุตฺติ อรหตฺตผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณา. กถาติ วินยกถา. มนฺตนาติ วินยวิจารณา. อุปนิสาติ ยถาวุตฺตการณปรมฺปราสงฺขาโต อุปนิสฺสโย. โลกุตฺตรํ มคฺคผลจิตฺตสมฺปยุตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ. ตตฺถ มคฺคสีลํ ภวนิสฺสรณาวหํ โหติ, ปจฺจเวกฺขณาณสฺส จ ภูมิ, ผลสีลํ ปน ปจฺจเวกฺขณาาณสฺเสว ภูมิ.
๑๒. หีนาธิมุตฺติวเสน ฉนฺทาทีนมฺปิ หีนตา. ปณีตาธิมุตฺติวเสน ปณีตตา. ตทุภยเวมชฺฌตาวเสน มชฺฌิมตา. ยเถว หิ กมฺมํ อายูหนวเสน หีนาทิเภทภินฺนํ โหติ, เอวํ ¶ ฉนฺทาทโยปิ ปวตฺติอาการวเสน. โส จ เนสํ ปวตฺติอากาโร อธิมุตฺติเภเทนาติ ทฏฺพฺพํ. ยสกามตายาติ กิตฺติสิโลกาภิรติยา, ปริวาริจฺฉาย วา. ‘‘กถํ นาม มาทิโส อีทิสํ กเรยฺยา’’ติ ปาปชิคุจฺฉาย อริยภาวํ นิสฺสาย. อนุปกฺกิลิฏฺนฺติ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนาหิ, อฺเหิ จ อุปกฺกิเลเสหิ อนุปกฺกิลิฏฺํ. ภวโภคตฺถายาติ ภวสมฺปตฺติอตฺถฺเจว โภคสมฺปตฺติอตฺถฺจ. อตฺตโน วิโมกฺขตฺถาย ปวตฺติตนฺติ สาวกปจฺเจกโพธิสตฺตสีลมาห. สพฺพสตฺตานํ วิโมกฺขตฺถายาติ สพฺพสตฺตานํ สํสารพนฺธนโต ¶ วิโมจนตฺถาย. ปารมิตาสีลํ มหาโพธิสตฺตสีลํ. ยา กรุณูปายโกสลฺลปริคฺคหิตา มหาโพธึ อารพฺภ ปวตฺตา ปรมุกฺกํสคตโสเจยฺยสลฺเลขา เทสกาลสตฺตาทิวิกปฺปรหิตา สีลปารมิตา.
อนนุรูปนฺติ อสารุปฺปํ. อตฺตา เอว ครุ อธิปติ เอตสฺสาติ อตฺตครุ, ลชฺชาธิโก. อตฺตาธิปติโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. โลโก อธิปติ ครุ เอตสฺสาติ โลกาธิปติ, โอตฺตปฺปาธิโก. ธมฺโม นามายํ มหานุภาโว เอกนฺตนิยฺยานิโก, โส จ ปฏิปตฺติยาว ปูเชตพฺโพ. ตสฺมา ‘‘นํ สีลสมฺปทาย ปูเชสฺสามี’’ติ เอวํ ธมฺมมหตฺตํ ปูเชตุกาเมน.
ปรามฏฺตฺตาติ ปราภววเสน อามฏฺตฺตา. ตณฺหาทิฏฺิโย หิ ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา, อิมินา เม สีเลน สํสารสุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ ปวตฺตสฺส สีลํ ปรามสนฺติโย ตํ ปราภวํ ปาเปนฺติ มคฺคสฺส อนุปนิสฺสยภาวกรณโต. ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺสาติ ปุถุชฺชเนสุ กลฺยาณกสฺส. โส หิ ปุถุชฺชโนว หุตฺวา กลฺยาเณหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคโต. ปรามสนกิเลสานํ วิกฺขมฺภนโต, สมุจฺฉินฺทนโต จ เตหิ น ปรามฏฺนฺติ อปรามฏฺํ. ตสฺส ตสฺส กิเลสทรถสฺส ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต วูปสมนโต ปฏิปฺปสฺสทฺธํ.
กตปฏิกมฺมนฺติ วุฏฺานเทสนาหิ ยถาธมฺมํ กตปฏิการํ. เอวํ หิ ตํ สีลํ ปฏิปากติกเมว โหติ. เตนาห ‘‘ตํ วิสุทฺธ’’นฺติ. ‘‘กตปฏิกมฺม’’นฺติ อิมินา จ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺส’’นฺติ อธิฏฺานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อจฺฉมํสํ นุ โข, สูกรมํสํ นุ โข’’ติอาทินา วตฺถุมฺหิ วา, ‘‘ปาจิตฺติยํ นุ โข, ทุกฺกฏํ นุ โข’’ติอาทินา อาปตฺติยา วา, ‘‘มยา ตํ วตฺถุ วีติกฺกนฺตํ นุ โข, น นุ โข วีติกฺกนฺต’’นฺติอาทินา อชฺฌาจาเร วา เวมติกสฺส สํสยาปนฺนสฺส. วิโสเธตพฺพํ ยถาธมฺมํ ปฏิกมฺเมน. วิมติ เอว เวมติกํ, ตสฺมึ เวมติเก สติ, วิมติยา อุปฺปนฺนายาติ อตฺโถ. วิมติ ปฏิวิเนตพฺพาติ สยํ วา ตํ วตฺถุํ ¶ วิจาเรตฺวา, วินยธเร วา ปุจฺฉิตฺวา กงฺขา วิโนเทตพฺพา. นิกฺกงฺเขน ปน กปฺปิยํ เจ กาตพฺพํ, อกปฺปิยํ เจ ฉฑฺเฑตพฺพํ. เตนาห ‘‘อิจฺจสฺส ผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ.
‘‘จตูหิ ¶ อริยมคฺเคหี’’ติอาทินา มคฺคผลปริยาปนฺนํ สีลํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตํ วุตฺตํ. สมุทาเยสุ ปวตฺตโวหารา อวยเวสุปิ ปวตฺตนฺตีติ. เสสนฺติ สพฺพํ โลกิยสีลํ.
ปกติปีติ สภาโวปิ. สุขสีโล สขิโล สุขสํวาโส. เตน ปริยาเยนาติ ปกติอตฺถวาจกตฺเถน. เอกจฺจํ อพฺยากตํ สีลํ อิธาธิปฺเปตสีเลน เอกสงฺคหนฺติ อกุสลสฺเสวายุชฺชมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ อกุสล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ เสกฺขตฺติกํ อิธ คหิตํ, อิธ น อุปนีตํ กุสลตฺติกนฺติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนเยเนวาติ วุตฺเตเนว นเยน กุสลตฺติกํ อคฺคเหตฺวา หีนตฺติกาทีนํ ปฺจนฺนํ ติกานํ วเสน อสฺส สีลสฺส ติวิธตา เวทิตพฺพา.
๑๓. โยธาติ โย อิธ. วตฺถุวีติกฺกเมติ อาปตฺติยา วตฺถุโน วีติกฺกมเน อชฺฌาจาเร. กามสงฺกปฺปาทโย นว มหาวิตกฺกา มิจฺฉาสงฺกปฺปา. เอวรูปสฺสาติ เอทิสสฺส. ตสฺส หิ สีลวนฺเต อนุปสงฺกมิตฺวา ทุสฺสีเล เสวนฺตสฺส ตโต เอว เตสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชเนน ปณฺณตฺติวีติกฺกเม อโทสทสฺสาวิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปพหุลตาย มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อรกฺขโต สีลํ เอกํเสเนว หานภาคิยํ โหติ, น ิติภาคิยํ, กุโต วิเสสาทิภาคิยตา. สีลสมฺปตฺติยาติ สีลปาริปูริยา จตุปาริสุทฺธิสีเลน. อฆฏนฺตสฺส อุตฺตรีติ อุตฺตริ วิเสสาธิคมาย อวายมนฺตสฺส. ิติภาคิยํ สีลํ ภวติ อสมาธิสํวตฺตนิยตฺตา. สมฺปาทิเต หิ สมาธิสฺมึ สีลสฺส สมาธิสํวตฺตนิยตา นิจฺฉิยติ. สมาธตฺถายาติ สมถวเสน สมาธานตฺถาย. นิพฺพิทนฺติ วิปสฺสนํ. พลววิปสฺสนาทสฺสนตฺถํ นิพฺพิทาคหณํ ตาวตาปิ สีลสฺส นิพฺเพธภาคิยภาวสิทฺธิโต.
ยานิ จ สิกฺขาปทานิ เนสํ รกฺขิตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ, ตานิ ปน อสาธารณปฺตฺติโต อฺานิ. เนสนฺติ ‘‘รกฺขิตพฺพานี’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา กตฺตริ สามิวจนํ, เตหิ ภิกฺขูหีติ อตฺโถ. สติ วา อุสฺสาเหติ อุสฺสกฺกิตฺวา สีลานิ รกฺขิตุํ อุสฺสาเห สติ. ทสาติ สามเณเรหิ รกฺขิตพฺพสีลมาห ฆฏิการาทีนํ วิย. อฏฺาติ นจฺจาทิมาลาทิเวรมณึ เอกํ กตฺวา สพฺพปจฺฉิมวชฺชานิ อฏฺ.
อวีติกฺกโมติ ¶ ¶ ปฺจนฺนํ สีลานํ อวีติกฺกโม. ปกติสีลนฺติ สภาวสีลํ. ตตฺรูปปตฺตินิยตํ หิ สีลํ อุตฺตรกุรุกานํ. มริยาทาจาริตฺตนฺติ ตสฺส ตสฺส สาวชฺชสฺส อกรเณ มริยาทภูตํ, ตตฺถ ตตฺถ กุลาทีสุ ปุพฺพปุริเสหิ ปิตํ จาริตฺตํ. กุลเทสปาสณฺฑธมฺโม หิ ‘‘อาจารสีล’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ กุลธมฺโม ตาว พฺราหฺมณาทีนํ อมชฺชปานาทิ, เทสธมฺโม เอกจฺจชนปทวาสีนํ อหึสนาทิ, ปาสณฺฑธมฺโม ติตฺถิยานํ ยมนิยมาทิ. ติตฺถิยมตํ หิ ทิฏฺิปาเสน, ตณฺหาปาเสน จ เฑติ ปวตฺตติ, ปาสํ วา พาธํ อริยวินยสฺส เฑตีติ ‘‘ปาสณฺฑ’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘ปกติยา สีลวตี โหตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐) วจนโต โพธิสตฺตมาตุ ปฺจสิกฺขาปทสีลํ ปริปุณฺณเมว. อิทํ ปน อุกฺกํสคตํ โพธิสตฺตปิตริปิ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ อสํกิลิฏฺํ ‘‘ธมฺมตาสีล’’นฺติ วุตฺตํ. กามคุณูปสํหิตนฺติ กามโกฏฺาเสสุ อสฺสาทูปสํหิตํ กามสฺสาทคธิตํ. ธมฺมตาสีลนฺติ ธมฺมตาย การณนิยาเมน อาคตํ สีลํ. สีลปารมึ หิ ปรมุกฺกํสํ ปาเปตฺวา กุจฺฉิคตสฺส มหาโพธิสตฺตสฺส สีลเตเชน คุณานุภาเวน โพธิสตฺตมาตุ สรเสเนว ปรมสลฺเลขปฺปตฺตํ สีลํ โหติ. มหากสฺสปาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ภทฺทาทิเก สงฺคณฺหาติ. เต กิร สุจิรํ กาลํ สุปริสุทฺธสีลา เอว หุตฺวา อาคตา. เตนาห ‘‘สุทฺธสตฺตาน’’นฺติ. ตาสุ ตาสุ ชาตีสูติ สีลวราชมหึสราชาทิชาตีสุ. ปุพฺเพ ปุริมชาติยํ สิทฺโธ เหตุ เอตสฺสาติ ปุพฺพเหตุกสีลํ. อิทํ ปน ปกติสีลาทิสมาทาเนน วินา อวีติกฺกมลกฺขณํ สมฺปตฺตวิรติสงฺคหํ ทฏฺพฺพํ.
ยํ ภควตา เอวํ วุตฺตํ สีลนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธาติ วกฺขมานสีลปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔; ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). ภิกฺขูติ ตสฺส สีลสฺส ปริปูรกปุคฺคลปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสีเล ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคิภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทํ ปาติโมกฺขสํวรสฺส, อุปริอธิคนฺตพฺพคุณานฺจ อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทํ ปาติโมกฺขโต อจวนภาวปริทีปนํ. สมาทายาติ สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ สิกฺขาย สมงฺคิภาวปริทีปนํ ¶ . สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.
โสติ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ปติฏฺิตภิกฺขุ. เตน ยาทิสสฺส อินฺทฺริยสํวรสีลํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสติ. จกฺขุนาติ ยโต โส สํวโร, ตํ ทสฺเสติ. รูปนฺติ ยตฺถ โส สํวโร, ตํ ทสฺเสติ. ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหีติ สํวรสฺส อุปายํ ทสฺเสติ. ยตฺวาธิกรณ…เป… อนฺวาสฺสเวยฺยุนฺติ สํวรสฺส ปฏิปกฺขํ ตตฺถ อาทีนวํ ทสฺเสติ. สํวราย ปฏิปชฺชตีติ ปเคว สติยา อุปฏฺเปตพฺพตํ ทสฺเสติ. รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยนฺติ สติยา อุปฏฺาปนเมว จกฺขุนฺทฺริยสฺส อารกฺขาติ ทสฺเสติ. จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตีติ ตถาภูตา สติเยเวตฺถ สํวโรติ ทสฺเสติ. วีติกฺกมสฺส วเสนาติ สมฺพนฺโธ. ฉนฺนํ สิกฺขาปทานนฺติ ‘‘อาชีวเหตุ อาชีวการณา อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติอาทินา อาคตานํ ฉนฺนํ ปาราชิกาทิปฏิสํยุตฺตานํ สิกฺขาปทานํ. สามนฺตชปฺปนาทินา ติวิเธน กุหนวตฺถุนา วิมฺหาปนํ กุหนา. อตฺตานํ, ทายกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ยถา โส กิฺจิ ททาติ, เอวํ กถนํ ลปนา. นิมิตฺตํ วุจฺจติ ปจฺจยทานสฺุปฺปาทกํ กายวจีกมฺมํ, เตน นิมิตฺเตน จรติ, นิมิตฺตํ วา กโรตีติ เนมิตฺติโก, ตสฺส ภาโว เนมิตฺติกตา. คนฺธาทโย วิย ลาภาย ปเรสํ อกฺโกสนาทินา นิปิสตีติ นิปฺเปโส, นิปฺเปโสว นิปฺเปสิโก, ตสฺส ภาโว นิปฺเปสิกตา. มหิจฺฉตาย อตฺตนา ลทฺธลาเภน ปรโต ลาภปริเยสนา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา. เอวมาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อนุปฺปิยภาณิตาจาฏุกมฺยตาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏิสงฺขาเนน ปจฺจเวกฺขณาย ปริสุทฺโธ อสํกิลิฏฺโ ปฏิสงฺขานปริสุทฺโธ. จตฺตาโร ปจฺจยา ปริภฺุชียนฺติ เอเตนาติ จตุปจฺจยปริโภโค, ตถาปวตฺตา อนวชฺชเจตนา.
ปาติโมกฺขสํวรสีลวณฺณนา
๑๔. ตตฺราติ เตสุ ปาติโมกฺขสํวราทีสุ. อาทิโต ปฏฺายาติ ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘; ที. นิ. ๑.๑๙๔) อาคตเทสนาย อาทิโต ปภุติ. วินิจฺฉยกถาติ ตตฺถ สํสยวิธมเนน วินิจฺฉยาวหา กถา. ปมสฺส อตฺถสฺส ¶ สพฺพสาธารณตฺตา อสาธารณํ ปพฺพชิตาเวณิกํ ปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉินฺนภินฺนปฏธราทิตาย วา’’ติ อาห. เอวํ หิสฺส ปริปุณฺณปาติโมกฺขสํวรโยคฺยตา ทสฺสิตา โหติ. ภินฺนปฏธราทิภาโว จ นาม ทลิทฺทสฺสาปิ นิคฺคหิตสฺส โหตีติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘สทฺธาปพฺพชิโต’’ติ วตฺวา ปฏิปตฺติยา โยคฺยภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘กุลปุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อาจารกุลปุตฺโต วา หิ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺโกติ ชาติกุลปุตฺโต วา. สิกฺขาปทสีลนฺติ จาริตฺตวาริตฺตปฺปเภทํ สิกฺขาปทวเสน ปฺตฺตํ สีลํ. โยติ ¶ อนิยมนิทฺเทโส โย โกจิ ปุคฺคโล. นนฺติ วินยปริยาปนฺนํ สีลํ. ตนฺติ ปุคฺคลํ. โมกฺเขติ สหการิการณภาวโต. อปาเย ภวานิ อาปายิกานิ. อาทิ-สทฺเทน ตทฺํ สพฺพสํสารทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ. สํวรณํ กายวจีทฺวารานํ ปิทหนํ. เยน เต สํวุตา ปิหิตา โหนฺติ, โส สํวโร. ยสฺมา ปน โส สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกโม วีติกฺกมปฏิปกฺโขติ กตฺวา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กายิกวาจสิกสฺส อวีติกฺกมสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตกายวจีทฺวาโร. ตถาภูโต จ ยสฺมา ตํ อุเปโต เตน จ สมงฺคี นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุปคโต สมนฺนาคโตติ อตฺโถ’’ติ.
อปโร นโย – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย สุกรภาวโต, ปฺุกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตํ หิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ, ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ. อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาตี, ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ ¶ . ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตํ หิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ, ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข, สํสารทุกฺเข จาติ ปาตี, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตํ หิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; อ. นิ. ๔.๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส) จ อาทิ. ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ. อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาตีนิ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตํ หิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ. อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส ¶ อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ, อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ. มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.
อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตี-ติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. อิทํ หิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน, สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺขํ, ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. โมกฺโขติ วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺโข. สีลสํวโร หิ สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโต, ปติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺขํ. อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ, โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวเมตฺถ ปาติโมกฺข-สทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิริยตีติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตติ. ‘‘วิหรตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส ¶ ภิกฺขุโน อิริยาปถวิหาโร ทสฺสิโต. ปาฬิยนฺติ ฌานวิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย).
ตตฺถ กามํ สมณจารํ, สมณโคจรฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺตํ, ยถา ปน มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘วามํ มฺุจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ วชฺเชตพฺพปุพฺพกํ คเหตพฺพํ วเทยฺย, ยถา วา สสีสนฺหาเนน ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนสํวิธานํ ยุตฺตรูปํ, เอวํ ปหีนปาปธมฺมสฺส กลฺยาณธมฺมสมาโยโค ยุตฺตรูโปติ ‘‘อตฺถิ อาจาโร, อตฺถิ อนาจาโร’’ติ ทฺวยํ อุทฺทิสิตฺวา อนาจารํ ตาว วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อนาจาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กายิโก วีติกฺกโมติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ. วาจสิโก วีติกฺกโมติ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. กายิกวาจสิโกติ ตทุภยํ.
เอวํ อาชีวฏฺมกสีลสฺส วีติกฺกโม ทสฺสิโต. อิทานิ มานสํ อนาจารํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพมฺปิ ¶ ทุสฺสีลฺยํ อนาจาโร’’ติ วตฺวา ตตฺถ เอกจฺจิยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเธกจฺโจ เวฬุทาเนน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวฬุทาเนนาติ ปจฺจยุปฺปาทนตฺเถน เวฬุทาเนน. ปตฺตทานาทีสุปิ เอเสว นโย. เวฬูติ มนุสฺสานํ ปโยชนาวโห โย โกจิ เวฬุทณฺโฑ. ปตฺตํ คนฺธิกาทีนํ คนฺธปลิเวนาทิอตฺถํ วา, ตาลนาฬิเกราทิปตฺตํ วา. ปุปฺผํ ยํ กิฺจิ มนุสฺสานํ ปโยชนาวหํ. ตถา ผลํ. สินานํ สิรีสจุณฺณาทินฺหานิยจุณฺณํ. มตฺติกาปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. ทนฺตกฏฺํ ยํ กิฺจิ มุขโสธนตฺถํ ทนฺตโปนํ. จาฏุกมฺยตา อตฺตานํ ทาสํ วิย นีจฏฺาเน เปตฺวา ปรสฺส ขลิตวจนํ สณฺเปตฺวา ปิยกามตาย ปคฺคยฺหวจนํ. มุคฺคสูปฺยตาติ มุคฺคสูปสมตา สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปนํ. ยถา หิ มุคฺคสูเป ปจฺจนฺเต พหู มุคฺคา ปจฺจนฺติ, กติปยา น ปจฺจนฺติ, เอวํ สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปเน พหุ อลิกํ โหติ, อปฺปกํ สจฺจนฺติ. ปริภฏตีติ ปริภโฏ, ปเรสํ ทารเก ปริหรนฺโต. ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, สา เอว ปาริภฏฺยตา, อลงฺกรณาทินา กุลทารกปริหรณสฺเสตํ นามํ. เตสํ เตสํ คิหีนํ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ สาสนปฏิสาสนหรณํ ชงฺฆเปสนิกํ. อฺตรฺตเรนาติ เอเตสํ วา เวฬุทานาทีนํ เวชฺชกมฺมภณฺฑาคาริกกมฺมปิณฺฑปฏิปิณฺฑกมฺมสงฺฆุปฺปาทเจติยุปฺปาทปฏฺปนาทีนํ วา มิจฺฉาชีเวน ชีวิตกปฺปนกกมฺมานํ เยน เกนจิ ¶ . พุทฺธปฏิกุฏฺเนาติ พุทฺเธหิ ครหิเตน ปฏิสิทฺเธน. มิจฺฉาชีเวนาติ น สมฺมาอาชีเวน. อยํ วุจฺจติ อนาจาโรติ อยํ สพฺโพปิ ‘‘อนาจาโร’’ติ กถียติ. อาจารนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ.
โคจรนิทฺเทเสปิ ปมํ อโคจรสฺส วจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. โคจโรติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานํ. อยุตฺตฏฺานํ อโคจโร. เวสิยา โคจโร อสฺสาติ เวสิยาโคจโร, มิตฺตสนฺถววเสน อุปสงฺกมิตพฺพฏฺานนฺติ อตฺโถ. เวสิยา นาม รูปูปชีวินิโย, ตา มิตฺตสนฺถววเสน น อุปสงฺกมิตพฺพา, สมณภาวสฺส อนฺตรายกรตฺตา, ปริสุทฺธาสยสฺสาปิ ครหเหตุโต, ตสฺมา ทกฺขิณาทานวเสน สตึ อุปฏฺเปตฺวาว อุปสงฺกมิตพฺพา. วิธวา วุจฺจนฺติ มตปติกา, ปวุตฺถปติกา วา. ถุลฺลกุมาริกาติ มหลฺลิกา อนิวิฏฺกุมาริโย, ปณฺฑกาติ นปุํสกา. เต หิ อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา โลกามิสสนฺนิสฺสิตกถาพหุลา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา. ภิกฺขุนิโย นาม อุสฺสนฺนพฺรหฺมจริยา. ตถา ภิกฺขูปิ. เตสํ อฺมฺํ วิสภาควตฺถุภาวโต สนฺถววเสน อุปสงฺกมเน กติปาเหเนว พฺรหฺมจริยนฺตราโย สิยา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา. คิลานปุจฺฉนาทิวเสน อุปสงฺกมเน สโตการินา ภวิตพฺพํ. ปานาคารนฺติ สุราปานฆรํ. ตํ โสณฺฑชเนหิ ¶ อวิวิตฺตํ โหติ. ตตฺถ เตหิ โสณฺฑตาทิวเสน น อุปสงฺกมิตพฺพํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกรตฺตา. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหีติอาทีสุ ราชาโน นาม เย รชฺชมนุสาสนฺติ. ราชมหามตฺตา ราชิสฺสริยสทิสาย อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตา. ติตฺถิยาติ วิปรีตทสฺสนา พาหิรกปริพฺพาชกา. ติตฺถิยสาวกาติ เตสุ ทฬฺหภตฺตา ปจฺจยทายกา. อนนุโลมิเกน สํสคฺเคนาติ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนนุโลมิเกน ปจฺจนีกภูเตน สํสคฺเคน สํสฏฺโ วิหรติ, เยน พฺรหฺมจริยนฺตรายํ วา สลฺเลขปริหานึ วา ปาปุณาติ.
อิทานิ อปเรนปิ ปริยาเยน อโคจรํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ วา ปน ตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อสฺสทฺธานีติ พุทฺธาทีสุ สทฺธาวิรหิตานิ. ตโต เอว อปฺปสนฺนานิ, กมฺมกมฺมผลสทฺธาย วา อภาเวน อสฺสทฺธานิ. รตนตฺตยปฺปสาทาภาเวน อปฺปสนฺนานิ. อกฺโกสกปริภาสกานีติ อกฺโกสวตฺถูหิ ¶ อกฺโกสกานิ เจว ภยทสฺสเนน สนฺตชฺชนกานิ จ. อตฺถํ น อิจฺฉนฺติ อนตฺถเมว อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามานิ. หิตํ น อิจฺฉนฺติ อหิตเมว อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามานิ. ผาสุ น อิจฺฉนฺติ อผาสุํเยว อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกกามานิ. โยคกฺเขมํ นิพฺภยํ น อิจฺฉนฺติ, อโยคกฺเขมเมว อิจฺฉนฺตีติ อโยคกฺเขมกามานิ. ภิกฺขูนนฺติ เอตฺถ สามเณรานมฺปิ สงฺคโห. ภิกฺขุนีนนฺติ เอตฺถ สิกฺขมานสามเณรีนํ. สพฺเพสํ หิ สาสนิกานํ อนตฺถกามตาทีปนปทมิทํ วจนํ. ตถารูปานิ กุลานีติ ตาทิสานิ ขตฺติยกุลาทีนิ. เสวตีติ นิสฺสาย ชีวติ. ภชตีติ อุปสงฺกมติ. ปยิรุปาสตีติ ปุนปฺปุนํ อุปคจฺฉติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เวสิยาทิโก, ราชาทิโก, อสฺสทฺธกุลาทิโก จ ตํ ตํ เสวนฺตสฺส ติปฺปกาโรปิ อยุตฺโต โคจโรติ อโคจโร. เอตฺถ หิ เวสิยาทิโก ปฺจกามคุณนิสฺสยโต อโคจโร. ยถาห ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย? ยทิทํ ปฺจ กามคุณา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒). ราชาทิโก สมณธมฺมสฺส อนุปนิสฺสยโต, ลาภสกฺการาสนิวิจกฺกนิปฺโปถนทิฏฺิวิปตฺติเหตุโต จ. อสฺสทฺธกุลาทิโก สทฺธาหานิจิตฺตสนฺตาสาวหโต อโคจโร.
โคจรนิทฺเทเส ‘‘น เวสิยาโคจโร’’ติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. โอปานภูตานีติ อุทปานภูตานิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส จ จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย ยถาสุขํ โอคาหนกฺขมานิ. กาสาวปชฺโชตานีติ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ นิวตฺถปารุตกาสาวานํเยว ปภาหิ เอโกภาสานิ. อิสิวาตปฏิวาตานีติ เคหํ ปวิสนฺตานํ ¶ , นิกฺขมนฺตานฺจ ภิกฺขุภิกฺขุนีสงฺขาตานํ อิสีนํ จีวรวาเตน เจว สมิฺชนปสารณาทิชนิตสรีรวาเตน จ ปฏิวาตานิ ปวายิตานิ วินิทฺธุตกิพฺพิสานิ วา.
อิทานิ นิทฺเทเส อาคตนเยนาปิ อาจารโคจเร ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปาติโมกฺขสีลนิทฺเทเส. อิมินาปิ นเยนาติ อิทานิ วุจฺจมานวิธินาปิ. สงฺฆคโตติ สงฺฆสนฺนิปาตํ คโต. อจิตฺตีการกโตติ อกตจิตฺตีกาโร, อกตคารโวติ อตฺโถ. ฆฏฺฏยนฺโตติ สรีเรน, จีวเรน วา ฆํสนฺโต. ปุรโตปิ ติฏฺติ อจิตฺตีการกโตติ ¶ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ิตโกปีติ อุปริ ติฏฺนฺโต วิย อาสนฺนตรฏฺาเน ิตโกปิ ภณติ. พาหาวิกฺเขปโกติ พาหุํ วิกฺขิปนฺโต. อนุปาหนานนฺติ อนาทเร สามิวจนํ. สอุปาหโนติ อุปาหนารุฬฺโห. เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถรานํ ภิกฺขูนํ ิตฏฺานํ อนุปวิสิตฺวา เตสํ อาสนฺนตรฏฺานํ อุปคนฺตฺวา. กฏฺํ ปกฺขิปติ อคฺคิกุณฺเฑ. โวกฺกมฺมาติ ปสฺสโต อติกฺกมิตฺวา. คูฬฺหานิ สภาวโต ปฏิจฺฉนฺนานิ สาณิปาการาทินา ปฏิจฺฉาทิตานิ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. อสฺสาติ อนาจารสฺส.
อปิจ ภิกฺขูติอาทิ สพฺพสฺเสว ภิกฺขุโน อาจารทสฺสนวเสน ปวตฺตํ อฏฺกถาวจนํ, น นิทฺเทสปาฬิ. สทฺธาสีลสุตจาคาทิคุณเหตุโก ครุภาโว ครุกรณํ วา คารโว, สห คารเวนาติ สคารโว. ครุฏฺานิเยสุ คารวสารชฺชาทิวเสน ปฏิสฺสายนา ปติสฺสา, สปฺปติสฺสวปฏิปตฺติ. สห ปติสฺสายาติ สปฺปติสฺโส. สวิเสสํ หิริมนตาย, โอตฺตปฺปิภาเวน จ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน. เสขิยธมฺมปาริปูริวเสน สุนิวตฺโถ สุปารุโต. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ เจตํ กรณวจนํ. เอเสว นโย อิโต ปเรสุปิ ฉสุ ปเทสุ. อภิกฺกนฺเตนาติ อภิกฺกเมน. อิริยาปถสมฺปนฺโนติ สมฺปนฺนอิริยาปโถ. เตน เสสอิริยาปถานมฺปิ ปาสาทิกตมาห. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ จกฺขุนฺทฺริยาทีสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ สุสํวิหิตารกฺโข. โภชเน มตฺตฺูติ ปริภฺุชิตพฺพโต โภชนสฺิเต จตุพฺพิเธปิ ปจฺจเย ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภคาทิวเสน สพฺพโส ปมาณฺู. ชาคริยมนุยุตฺโตติ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ภาวนามนสิการสงฺขาตํ ชาคริยํ สาตจฺจการิตาวเสน อนุ อนุ ยุตฺโต ตตฺถ ยุตฺตปยุตฺโต. สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโตติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อาจารสฺส สมฺภารทสฺสนํ. ตตฺถ อปฺปิจฺโฉติ นิอิจฺโฉ. สนฺตุฏฺโติ ยถาลาภาทิวเสน สนฺโตเสน ตุฏฺโ. สกฺกจฺจการีติ อาทรการี. ครุจิตฺตีการพหุโลติ ¶ ครุฏฺานิเยสุ ครุกรณพหุโล. อยํ วุจฺจติ อาจาโรติ อยํ สคารวตาทิ อตฺถกาเมหิ อาจริตพฺพโต อาจาโร.
สีลาทีนํ คุณานํ อุปนิสฺสยภูโต อุปนิสฺสยโคจโร. สติสงฺขาโต จิตฺตสฺส อารกฺขภูโต เอว โคจโร อารกฺขโคจโร. กมฺมฏฺานสงฺขาโต จิตฺตสฺส อุปนิพนฺธนฏฺานภูโต โคจโร อุปนิพนฺธโคจโร. อปฺปิจฺฉตาทีหิ ¶ ทสหิ วิวฏฺฏนิสฺสิตาย กถาย วตฺถุภูเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคโต ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต. ตโต เอว กลฺยาโณ สุนฺทโร มิตฺโตติ กลฺยาณมิตฺโต. ตสฺส ลกฺขณํ ปรโต อาคมิสฺสติ. อสฺสุตํ สุตฺตเคยฺยาทึ. สุณาตีติ สุตมยํ าณํ อุปฺปาเทติ. สุตํ ปริโยทาเปตีติ ตเมว ยถาสุตํ อวิสทตาย อปริโยทาตํ ปุนปฺปุนํ ปริปุจฺฉนาทินา วิโสเธติ นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กโรติ. ตตฺถ จ เย กงฺขฏฺานิยา ธมฺมา, เตสุ สํสยํ ฉินฺทนฺโต กงฺขํ วิตรติ. กมฺมกมฺมผเลสุ, รตนตฺตเย จ สมฺมาทิฏฺิยา อุชุกรเณน ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ. ตโต เอว จ ทุวิธายปิ สทฺธาสมฺปทาย จิตฺตํ ปสาเทติ. อถ วา ยถาสุตํ ธมฺมํ ปริโยทเปตฺวา ตตฺถาคเต รูปารูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา สปจฺจยํ นามรูปํ ปริคฺคณฺหนฺโต สตฺตทิฏฺิวงฺกวิธมเนน ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ. ธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตามตฺตทสฺสเนน ตีสุปิ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตรติ. ตโต ปรํ จ อุทยพฺพยาณาทิวเสน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยภูมึ โอกฺกมนฺโต อเวจฺจปสาเทน รตนตฺตเย จิตฺตํ ปสาเทติ. ตถาภูโตว ตสฺส กลฺยาณมิตฺตสฺส อนุสิกฺขเนน สทฺธาทีหิ คุเณหิ น หายติ, อฺทตฺถุ วฑฺฒเตว. เตนาห ‘‘ยสฺส วา’’ติอาทิ.
อนฺตรฆรนฺติ อนฺตเร อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, ตํ เอตสฺสาติ วา ‘‘อนฺตรฆร’’นฺติ ลทฺธนามํ โคจรคามํ ปวิฏฺโ. ตตฺถ ฆเร ฆเร ภิกฺขาปริเยสนาย วีถึ ปฏิปนฺโน. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺาขิตฺตจกฺขุ. กิตฺตเกน ปน โอกฺขิตฺตจกฺขุ โหตีติ อาห ‘‘ยุคมตฺตทสฺสาวี’’ติ. สุสํวุโตติ สํยโต. ยถา ปเนตฺถ สุสํวุโต นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หตฺถึ โอโลเกนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ยตฺถาติ เยสุ สติปฏฺาเนสุ. จิตฺตํ ภาวนาจิตฺตํ. อุปนิพนฺธตีติ อุปเนตฺวา นิพนฺธติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ยถา ¶ ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมํ นโร อิธ;
พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
สติปฏฺานานํ อุปนิพนฺธโคจรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สโก เปตฺติโก วิสโยติ อตฺตโน ปิตุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺตโก, เตน ทิฏฺโ ทสฺสิโต จ วิสโย.
อณุปฺปมาเณสูติ ¶ ปรมาณุปฺปมาเณสุ. อสฺจิจฺจอาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสูติ อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิเยสุ อกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสูติ เอวํ อสฺจิจฺจคฺคหณํ เสขิยวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. เสขิยคฺคหเณน เจตฺถ วตฺตกฺขนฺธกาทีสุ (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) อาคตวตฺตาทีนมฺปิ คหณํ. เตปิ หิ สิกฺขิตพฺพฏฺเน ‘‘เสขิยา’’ติ อิจฺฉิตา. ตถา หิ มาติกายํ ปาราชิกาทีนํ วิย เสขิยานํ ปริจฺเฉโท น กโต. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิยา’’ติ อสฺจิจฺจคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. น หิ มาติกายํ อาคเตสุ ปฺจสตฺตติยา เสขิเยสุ โนสฺาวิโมกฺโข นาม อตฺถิ, อสฺจิจฺจคฺคหเณเนว เจตฺถ อสติอชานนานมฺปิ สงฺคโห กโต. เกจิ ปเนตฺถ อสิฺจิจฺจ อาปนฺนคฺคหเณน อจิตฺตกาปตฺติโย คหิตาติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, ครุกาปตฺตีสุปิ กาสฺจิ อจิตฺตกภาวสพฺภาวโต, อธิฏฺานาวิกมฺมสฺส, เทสนาวิกมฺมสฺเสว วา สพฺพลหุกสฺส วชฺชสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘ยานิ ตานิ วชฺชานิ อปฺปมตฺตกานิ โอรมตฺตกานิ ลหุกานิ ลหุสมฺมตานี’’ติอาทิ. อาทิสทฺเทน ปาติโมกฺขสํวรวิสุทฺธตฺถํ อนติกฺกมนียานํ อนาปตฺติคมนียานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภยทสฺสนสีโลติ ปรมาณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว, สพฺพลหุกํ วา ทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว. ยํ กิฺจีติ มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติอาทิเภทํ ยํ กิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ. สมฺมา อาทายาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ, สพฺพโส จ อาทิยิตฺวา. อยํ ปน อาจารโคจรสมฺปทา กึ ปาติโมกฺขสีเล ปริยาปนฺนา, อุทาหุ อปริยาปนฺนาติ? ปริยาปนฺนา. ยทิ เอวํ กสฺมา ปุน วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ.
อินฺทฺริยสํวรสีลวณฺณนา
๑๕. อินฺทฺริยสํวรสีลํ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส สมฺภารภูตํ, ตสฺมึ สติเยว อิจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘โสติ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิโต ภิกฺขู’’ติ. สมฺปาทิเต หิ เอตสฺมึ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ สุคุตฺตํ สุรกฺขิตเมว โหติ, สุสํวิหิตกณฺฏกวติ วิย สสฺสนฺติ. การณวเสนาติ อสาธารณการณสฺส วเสน. อสาธารณการณวเสน ¶ หิ ผลํ อปทิสียติ, ยถา ยวงฺกุโร เภริสทฺโทติ. นิสฺสยโวหาเรน วา เอตํ นิสฺสิตวจนํ, ยถา มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตีติ. รูปนฺติ รูปายตนํ. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ เอตฺถ ยทิ จกฺขุ รูปํ ปสฺเสยฺย, อฺวิฺาณสมงฺคิโนปิ ปสฺเสยฺยุํ, น เจตํ อตฺถิ, กสฺมา? อเจตนตฺตา จกฺขุสฺส. เตนาห ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา’’ติ. อถ วิฺาณํ รูปํ ปสฺเสยฺย, ติโรกุฏฺฏาทิคตมฺปิ นํ ปสฺเสยฺย อปฺปฏิฆภาวโต, อิทมฺปิ นตฺถิ สพฺพสฺส วิฺาณสฺส ทสฺสนาภาวโต. เตนาห ‘‘จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา’’ติ. ตตฺถ ยถา จกฺขุสนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ปสฺสติ, น ยํ กิฺจิ. ตฺจ เกนจิ กุฏฺฏาทินา อนฺตริเต น อุปฺปชฺชติ, ยตฺถ อาโลกสฺส วิพนฺโธ. ยตฺถ ปน น วิพนฺโธ ผลิกคพฺภปฏลาทิเก, ตตฺถ อนฺตริเตปิ อุปฺปชฺชเตว. เอวํ วิฺาณาธิฏฺิตํ จกฺขุ ปสฺสติ, น ยํ กิฺจีติ วิฺาณาธิฏฺิตํ จกฺขุํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ.
ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺเฏติ ทฺวารสฺส อารมฺมเณน สงฺฆฏฺเฏ สติ, จกฺขุสฺส รูปารมฺมเณ อาปาถคเตติ อธิปฺปาโย. ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตนาติ จกฺขุปสาทวตฺถุเกน ตนฺนิสฺสาย ปวตฺเตน วิฺาเณน, ยํ ‘‘จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปสฺสตีติ โอโลเกติ. จกฺขุปสาทสนฺนิสฺสเย หิ วิฺาเณ อาโลกานุคฺคหิตํ รูปารมฺมณํ สนฺนิสฺสยคุเณน โอภาเสนฺเต ตํสมงฺคิปุคฺคโล ‘‘รูปํ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. โอภาสนฺเจตฺถ อารมฺมณสฺส ยถาสภาวโต วิภาวนํ, ยํ ‘‘ปจฺจกฺขโต คหณ’’นฺติ วุจฺจติ. อุสุนา ลกฺขสฺส เวเธ สิชฺฌนฺเต ตสฺส สมฺภารภูเตน ธนุนา วิชฺฌตีติ วจนํ วิย วิฺาเณน รูปทสฺสเน สิชฺฌนฺเต จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติ อีทิสี สสมฺภารกถา นาเมสา โหติ. สสมฺภารา กถา สสมฺภารกถา, ทสฺสนสฺส การณสหิตาติ อตฺโถ. สสมฺภารสฺส วา ทสฺสนสฺส กถา สสมฺภารกถา. ตสฺมาติ ยสฺมา เกวเลน จกฺขุนา, เกวเลน วา วิฺาเณน รูปทสฺสนํ นตฺถิ, ตสฺมา.
อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วาติ เอตฺถ อิตฺถิสนฺตานนิสฺสิตรูปมุเขน คยฺหมานํ สณฺานํ ถนมํสาวิสทตา ¶ นิมฺมสฺสุมุขตา เกสพนฺธนวตฺถคฺคหณํ อวิสทฏฺานคมนาทิ จ สพฺพํ ‘‘อิตฺถี’’ติ สฺชานนสฺส การณภาวโต อิตฺถินิมิตฺตํ. วุตฺตวิปริยายโต ปุริสนิมิตฺตํ เวทิตพฺพํ. สุภนิมิตฺตาทิกํ วาติ เอตฺถ ราคุปฺปตฺติเหตุภูโต อิฏฺากาโร สุภนิมิตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ปฏิฆนิมิตฺตาทีนํ ¶ สงฺคโห. โส ปน โทสุปฺปตฺติอาทิเหตุภูโต อนิฏฺาทิอากาโร เวทิตพฺโพ. กามฺเจตฺถ ปาฬิยํ อภิชฺฌาโทมนสฺสาว สรูปโต อาคตา, อุเปกฺขานิมิตฺตสฺสาปิ ปน สงฺคโห อิจฺฉิตพฺโพ, อสมเปกฺขเนน อุปฺปชฺชนกโมหสฺสาปิ อสํวรภาวโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘มุฏฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา’’ติ. อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เจตฺถ อฺาณุเปกฺขาย วตฺถุภูตํ อารมฺมณํ, ตฺจสฺส อสมเปกฺขนวเสน เวทิตพฺพํ. เอวํ สงฺเขปโต ราคโทสโมหานํ การณํ ‘‘สุภนิมิตฺตาทิก’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺต’’นฺติ. ทิฏฺมตฺเตเยว สณฺาตีติ ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ (อุทา. ๑๐) สุตฺเต วุตฺตนเยน วณฺณายตเน จกฺขุวิฺาเณน, วีถิจิตฺเตหิ จ คหิตมตฺเตเยว ติฏฺติ, น ตโต ปรํ กิฺจิ สุภาทิอาการํ ปริกปฺเปติ. ปากฏภาวกรณโตติ ปริพฺยตฺตภาวกรณโต วิภูตภาวกรณโต. วิสภาควตฺถุโน หิ หตฺถาทิอวยเวสุ สุภาทิโต ปริกปฺเปนฺตสฺส อปราปรํ ตตฺถ อุปฺปชฺชมานา กิเลสา ปริพฺยตฺตา โหนฺตีติ เต เตสํ อนุพฺยฺชนา นาม. เต ปน ยสฺมา ตถา ตถา สนฺนิวิฏฺานํ ภูตุปาทายรูปานํ สนฺนิเวสากาโร. น หิ ตํ มฺุจิตฺวา ปรมตฺถโต หตฺถาทิ นาม โกจิ อตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘หตฺถปาท…เป… อาการํ น คณฺหาตี’’ติ. กึ ปน คณฺหาตีติ อาห ‘‘ยํ ตตฺถ ภูตํ, ตเทว คณฺหาตี’’ติ. ยํ ตสฺมึ สรีเร วิชฺชมานํ เกสโลมาทิ ภูตุปาทายมตฺตํ วา, ตเทว ยาถาวโต คณฺหาติ. ตตฺถ อสุภาการคหณสฺส นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เจติยปพฺพตวาสี’’ติอาทินา มหาติสฺสตฺเถรวตฺถุํ อาหริ.
ตตฺถ สุมณฺฑิตปสาธิตาติ สุฏฺุ มณฺฑิตา ปสาธิตา จ. อาภรณาทีหิ อาหาริเมหิ มณฺฑนํ. สรีรสฺส อุจฺฉาทนาทิวเสน ปฏิสงฺขรณํ ปสาธนนฺติ วทนฺติ, อาภรเณหิ, ปน วตฺถาลงฺการาทีหิ จ อลงฺกรณํ ปสาธนํ. อูนฏฺานปูรณํ มณฺฑนํ. วิปลฺลตฺถจิตฺตาติ ราควเสน วิปรีตจิตฺตา. โอโลเกนฺโตติ เถโร กมฺมฏฺานมนสิกาเรเนว คจฺฉนฺโต สทฺทกณฺฏกตฺตา ปุพฺพภาคมนสิการสฺส หสิตสทฺทานุสาเรน ‘‘กิเมต’’นฺติ โอโลเกนฺโต. อสุภสฺนฺติ อฏฺิกสฺํ. อฏฺิกกมฺมฏฺานํ หิ เถโร ตทา ปริหรติ. อรหตฺตํ ปาปุณีติ เถโร ¶ กิร ตสฺสา หสนฺติยา ทนฺตฏฺิทสฺสเนเนว ปุพฺพภาคภาวนาย สุภาวิตตฺตา ปฏิภาคนิมิตฺตํ, สาติสยฺจ อุปจารชฺฌานํ ลภิตฺวา ยถาิโตว ตตฺถ ปมชฺฌานํ อธิคนฺตฺวา ตํ ปาทกํ กตฺวา ¶ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคปรมฺปราย อาสวกฺขยํ ปาปุณิ. ปุพฺพสฺํ อนุสฺสรีติ ปุพฺพกํ ยถารทฺธํ กาเลน กาลํ อนุยฺุชิยมานํ อฏฺิกกมฺมฏฺานํ อนุสฺสริ สมนฺนาหริ. อนุมคฺคนฺติ อนุปถํ ตสฺสา ปทานุปทํ. เถรสฺส กิร ภาวนาย ปคุณภาวโต ทนฺตฏฺิทสฺสเนเนว ตสฺสา สกลสรีรํ อฏฺิกสงฺฆาตภาเวน อุปฏฺาสิ. น ตํ ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา สฺชานิ. เตนาห ‘‘นาภิชานามิ…เป… มหาปเถ’’ติ.
‘‘ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตู’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ, น อสํวรสฺสาติ. ยทิทํ ยํ จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนํ ทสฺสิตํ, ตํ อสํวุตจกฺขุนฺทฺริยสฺเสว เหตุ ปวตฺตํ ทสฺสิตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. จกฺขุทฺวาริกสฺส หิ อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนสฺส ตํทฺวาริกวิฺาณสฺส วิย จกฺขุนฺทฺริยํ ปธานการณํ. จกฺขุนฺทฺริยสฺส อสํวุตตฺเต สติ เต อนฺวาสฺสวนฺตีติ อสํวริยมานจกฺขุนฺทฺริยเหตุโก โส อสํวโร ตถา วุตฺโตติ. ยตฺวาธิกรณนฺติ หิ ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส การณาติ อตฺโถ. กีทิสสฺส จ การณาติ? อสํวุตสฺส, กิฺจ อสํวุตํ? ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อภิชฺฌาทโย อนฺวาสฺสวนฺติ, ตสฺส สํวรายาติ อยเมตฺถ โยชนา.
ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วาติอาทิ ปุน อวจนตฺถํ อิเธว สพฺพํ วุตฺตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺพํ. น หิ ปฺจทฺวาเร กายวจีทุจฺจริตสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ อตฺถิ, ตสฺมา ทุสฺสีลฺยาสํวโร มโนทฺวารวเสน, เสสาสํวโร ฉทฺวารวเสน โยเชตพฺโพ. มุฏฺสจฺจาทีนํ หิ สติปฏิปกฺขากุสลธมฺมาทิภาวโต สิยา ปฺจทฺวาเร อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว กายิกวาจสิกวีติกฺกมภูตสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส ตตฺถ อุปฺปตฺติ, ปฺจทฺวาริกชวนานํ อวิฺตฺติชนกตฺตา. ทุสฺสีลฺยาทโย เจตฺถ ปฺจ อสํวรา สีลสํวราทีนํ ปฺจนฺนํ สํวรานํ ปฏิปกฺขภาเวน วุตฺตา. ตสฺมึ สตีติ ตสฺมึ อสํวเร สติ.
ยถา ¶ กินฺติ เยน ปกาเรน ชวเน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’’ติ วุจฺจติ, ตํ นิทสฺสนํ กินฺติ อตฺโถ. ยถาติอาทินา นครทฺวาเร อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ฆราทีนํ อสํวุตตา วิย ชวเน อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ทฺวาราทีนํ อสํวุตตาติ เอวํ อฺาสํวเร อฺาสํวุตตา สามฺเมว นิทสฺเสติ, น ปุพฺพาปรสามฺํ, อนฺโตพหิสามฺํ วา. สติ วา ทฺวารภวงฺคาทิเก ปุน อุปฺปชฺชมานํ ชวนํ พาหิรํ วิย กตฺวา นครทฺวารสมานํ วุตฺตํ ¶ , อิตรฺจ อนฺโตนคเร ฆราทิสมานํ. ปจฺจยภาเวน หิ ปุริมนิปฺผนฺนํ ชวนกาเล อสนฺตมฺปิ ภวงฺคาทิ จกฺขาทิ วิย ผลนิปฺผตฺติยา สนฺตํเยว นาม โหติ. น หิ ธรมานํเยว ‘‘สนฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘พาหิรํ วิย กตฺวา’’ติ จ ปรมตฺถโต ชวนสฺส พาหิรภาเว, อิตรสฺส จ อพฺภนฺตรภาเว อสติปิ ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑.๔๙) วจนโต อาคนฺตุกภูตสฺส กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชมานสฺส ชวนสฺส พาหิรภาโว, ตพฺพิธุรสภาวสฺส อิตรสฺส อพฺภนฺตรภาโว เอเกน ปริยาเยน โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ชวเน วา อสํวเร อุปฺปนฺเน ตโต ปรํ ทฺวารภวงฺคาทีนํ อสํวรเหตุภาวาปตฺติโต. อสํวรสฺส หิ อุปฺปตฺติยา ทฺวารภวงฺคาทีนํ ตสฺส เหตุภาโว ปฺายตีติ. นครทฺวารสทิเสน ชวเนน ปวิสิตฺวา ทุสฺสีลฺยาทิโจรานํ ทฺวารภวงฺคาทีสุ มุสนํ กุสลภณฺฑวินาสนํ กถิตํ. ยสฺมึ หิ ทฺวาเร อสํวโร อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ ทฺวาราทีนํ สํวรูปนิสฺสยภาวํ อุปจฺฉินฺทนฺโตเยว ปวตฺตตีติ. ทฺวารภวงฺคาทีนํ ชวเนน สห สมฺพนฺโธ เอกสนฺตติปริยาปนฺนโต ทฏฺพฺโพ.
เอตฺถ จ จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมเณ อาปาถคเต นิยมิตาทิวเสน กุสลากุสลชวเน สตฺตกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ ตทนุรูปเมว มโนทฺวาริกชวเน ตสฺมึเยวารมฺมเณ สตฺตกฺขตฺตุํเยว อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ ปุน ตสฺมึเยว ทฺวาเร ตเทวารมฺมณํ นิสฺสาย ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติอาทินา ววตฺถเปนฺตํ ปสาทรชฺชนาทิวเสน สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนํ ชวติ. เอวํ ปวตฺตมานํ ชวนํ สนฺธาย ‘‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
ตสฺมึ ปน ชวเน. สีลาทีสูติ สีลสํวรสติสํวราณสํวรขนฺติสํวรวีริยสํวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ. ยถา หิ ปเคว สติอารกฺขํ อนุปฏฺเปนฺตสฺส ¶ ทุสฺสีลฺยาทีนํ อุปฺปตฺติ, เอวํ ปเคว สติอารกฺขํ อุปฏฺเปนฺตสฺส สีลาทีนํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. สทฺทาทีสุปิ ยถารหํ นิมิตฺตานุพฺยฺชนานิ เวทิตพฺพานิ. โสตวิฺาเณน หิ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อิตฺถิสทฺโท’’ติ วา ‘‘ปุริสสทฺโท’’ติ วา อิฏฺานิฏฺาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ, สุตมตฺเต เอว สณฺาติ. โย จ คีตสทฺทาทิกสฺส กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ ลทฺธโวหาโร มนฺทตาราทิวเสน ววตฺถิโต ฉชฺชาทิเภทภินฺโน อากาโร, ตมฺปิ น คณฺหาตีติ. เอวํ คนฺธาทีสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. มโนทฺวาเร ปน สาวชฺชนภวงฺคํ มโนทฺวารํ ตสฺมึ ทฺวาเร ธมฺมารมฺมเณ ¶ อาปาถคเต ตํ ชวนมนสาว วิฺาย วิชานิตฺวาติอาทินา โยเชตพฺพํ. กิเลโส อนุพนฺโธ เอตสฺสาติ กิเลสานุพนฺโธ, โส เอว นิมิตฺตาทิคาโห, ตโต ปริวชฺชนลกฺขณํ กิเลสานุพนฺธนิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณํ. อาทิ-สทฺเทน อนุพฺยฺชนํ สงฺคณฺหาติ.
อาชีวปาริสุทฺธิสีลวณฺณนา
๑๖. วุตฺเตติ อิเธว อุทฺเทสวเสน ปุพฺเพ วุตฺเต. ตถา หิ ‘‘อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทาน’’นฺติ ปทุทฺธารํ กตฺวา ตานิ ปาฬิวเสเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ ตานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยานิ ตานิ เอวํ ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ สมฺพนฺโธ. อาชีวเหตูติ ชีวิกนิมิตฺตํ, ‘‘เอวาหํ ปจฺจเยหิ อกิลมนฺโต ชีวิสฺสามี’’ติ อธิปฺปาเยน. อาชีวการณาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปาปิจฺโฉติ ปาปิกาย อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคโต. อิจฺฉาปกโตติ อิจฺฉาย อปกโต อุปทฺทุโต, อภิภูโต วา. อสนฺตนฺติ อวิชฺชมานํ. อภูตนฺติ อนุปฺปนฺนํ. อนุปฺปนฺนตฺตา หิ ตสฺส ตํ อสนฺตนฺติ ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ การณวจนํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ อุกฺกฏฺปุริสานํ ธมฺมํ, มนุสฺสธมฺมโต วา อุตฺตริ อุกฺกฏฺํ. อุลฺลปตีติ อุคฺคตายุโก ลปติ. สีลํ หิ ภิกฺขุโน อายุ, ตํ ตสฺส ตถาลปนสมกาลเมว วิคจฺฉติ. เตนาห ‘‘อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ ปาราชิกสงฺขาตา อาปตฺติ อสฺส, ปาราชิกสฺิตสฺส วา วีติกฺกมสฺส อาปชฺชนํ อุลฺลปนนฺติ อตฺโถ. สฺจริตฺตํ สมาปชฺชตีติ สฺจรณภาวํ อาปชฺชติ, อิตฺถิยา วา ปุริสมตึ, ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตึ อาโรเจตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิเมสํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วีติกฺกมสฺส วเสนา’’ติ สมฺพนฺโธ เหฏฺา ทสฺสิโต เอว.
กุหนาติอาทีสูติ ¶ เหฏฺา อุทฺทิฏฺปาฬิยาว ปทุทฺธาโร. อยํ ปาฬีติ อยํ วิภงฺเค (วิภ. ๘๖๑) อาคตา นิทฺเทสปาฬิ.
๑๗. จีวราทิปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ลาภา. เต เอว สกฺกจฺจํ อาทรวเสน ทิยฺยมานา สกฺการา. ปตฺถฏยสตา กิตฺติสทฺโท. ตํ ลาภฺจ สกฺการฺจ กิตฺติสทฺทฺจ. สนฺนิสฺสิตสฺสาติ เอตฺถ ตณฺหานิสฺสโย อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ปตฺถยนฺตสฺสา’’ติ. อสนฺตคุณทีปนกามสฺสาติ อสนฺเต อตฺตนิ อวิชฺชมาเน สทฺธาทิคุเณ สมฺภาเวตุกามสฺส. อสนฺตคุณสมฺภาวนตาลกฺขณา, ปฏิคฺคหเณ ¶ จ อมตฺตฺุตาลกฺขณา หิ ปาปิจฺฉตา. อิจฺฉาย อปกตสฺสาติ ปาปิกาย อิจฺฉาย สมฺมาอาชีวโต อเปโต กโตติ อปกโต. ตถาภูโต จ อาชีวูปทฺทเวน อุปทฺทุโตติ กตฺวา อาห ‘‘อุปทฺทุตสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.
กุหนเมว ปจฺจยุปฺปาทนสฺส วตฺถูติ กุหนวตฺถุ. ติวิธมฺเปตํ ตตฺถ อาคตํ ตสฺส นิสฺสยภูตาย อิมาย ปาฬิยา ทสฺเสตุนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตทตฺถิกสฺเสวาติ เตหิ จีวราทีหิ อตฺถิกสฺเสว. ปฏิกฺขิปเนนาติ จีวราทีนํ ปฏิกฺขิปนเหตุ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ปฏิคฺคหเณน จาติ จ-สทฺเทน ปุพฺเพ วุตฺตํ ปฏิกฺขิปนํ สมุจฺจิโนติ.
ภิยฺโยกมฺยตนฺติ พหุกามตํ. ยนฺติ กิริยาปรามสนํ, ตสฺมา ‘‘ธาเรยฺยา’’ติ เอตฺถ ยเทตํ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธารณํ, เอตํ สมณสฺส สารุปฺปนฺติ โยชนา. ปาปณิกานีติ อาปณโต ฉฑฺฑิตานิ. นนฺตกานีติ อนฺตรหิตานิ โจฬขณฺฑานิ. อุจฺจินิตฺวาติ อฺุฉเนน จินิตฺวา สงฺคเหตฺวา. อฺุฉาจริยายาติ อฺุฉาจริยาย ลทฺเธน. คิลานสฺส ปจฺจยภูตา เภสชฺชสงฺขาตา ชีวิตปริกฺขารา คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา. ปูติมุตฺตนฺติ ปุราณสฺส, อปุราณสฺส จ สพฺพสฺส โคมุตฺตสฺเสตํ นามํ. ปูติมุตฺเตนาติ ปูติภาเวน มุตฺเตน ปเรหิ ฉฑฺฑิเตน, ปูติภูเตน วา โคมุตฺเตน. ธุตวาโทติ ปเรสมฺปิ ธุตคุณวาที. สมฺมุขีภาวาติ สมฺมุขโต วิชฺชมานตฺตา, ลพฺภมานตายาติ อตฺโถ.
อตฺตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมสฺส สามนฺเต กตฺวา ชปฺปนํ สามนฺตชปฺปนํ. มเหสกฺโขติ มหานุภาโว, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคเมนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘มิตฺโต’’ติ สามฺโต วตฺวา ปุน ตํ วิเสเสติ ‘‘สนฺทิฏฺโ สมฺภตฺโต’’ติ ¶ . ทิฏฺมตฺโต หิ มิตฺโต สนฺทิฏฺโ. ทฬฺหภตฺติโก สมฺภตฺโต. สหาโยติ สห อายนโก, สขาติ อตฺโถ. สตฺตปทิโน หิ ‘‘สขา’’ติ วุจฺจนฺติ. วิหาโร ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล อาวาโส. อฑฺฒโยโค ทีฆปาสาโท, ครุฬสณฺานปาสาโทติปิ วทนฺติ. ปาสาโท จตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. กูฏาคารํ ทฺวีหิ กณฺณิกาหิ กตฺตพฺพปาสาโท. อฏฺโฏ ปฏิราชูนมฺปิ ปฏิพาหนโยคฺโย จตุปฺจภูมโก ปฏิสฺสยวิเสโส. มาโฬ เอกกูฏสงฺคหิโต อเนกโกณวนฺโต ปฏิสฺสยวิเสโส. อุทฺทณฺโฑ อคพฺภิกา เอกทฺวารา ทีฆสาลาติ วทนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ – วิหาโร นาม ทีฆมุขปาสาโท. อฑฺฒโยโค เอกปสฺเสน ฉทนกเสนาสนํ. ตสฺส กิร เอกปสฺเส ภิตฺติ อุจฺจตรา โหติ, อิตรปสฺเส นีจา, เตน ตํ เอกปสฺสฉทนกํ ¶ โหติ. ปาสาโท อายตจตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนํ จนฺทิกงฺคณยุตฺตํ. คุหา เกวลา ปพฺพตคุหา. เลณํ ทฺวารพทฺธํ. กูฏาคารํ โย โกจิ กณฺณิกาพทฺธปาสาโท. อฏฺโฏ พหลภิตฺติเคหํ. ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฏฺกาหิ เอว ฉทนํ โหติ. อฏฺฏาลกากาเรน กรียตีติปิ วทนฺติ. มาโฬ วฏฺฏากาเรน กตเสนาสนํ. อุทฺทณฺโฑ เอโก ปฏิสฺสยวิเสโส. โย ‘‘ภณฺฑสาลา, อุโทสิต’’นฺติปิ วุจฺจติ. อุปฏฺานสาลา สนฺนิปตนฏฺานํ.
กุจฺฉิตรชภูตาย ปาปิจฺฉตาย นิรตฺถกํ กายวจีวิปฺผนฺทนิคฺคณฺหนํ โกรชํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ โกรชิโก, โกหฺเน สํยตกาโย, อติวิย, อภิณฺหํ วา โกรชิโก โกรชิกโกรชิโก. อติปริสงฺกิโตติ เกจิ. อติวิย กุโห กุหกกุหโก, สาติสยวิมฺหาปโกติ อตฺโถ. อติวิย ลโป ลปนโก ลปกลปโก. มุขสมฺภาวิโกติ โกรชิกโกรชิกาทิภาเวน ปวตฺตวจเนหิ อตฺตโน มุขมตฺเตน อฺเหิ สมฺภาวิโก. โส เอวรูโป เอวรูปตาย เอว อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา ‘‘อยํ สมโณ’’ติอาทีนิ กเถติ. คมฺภีรนฺติอาทิ ตสฺสา กถาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปฏิพทฺธตาย วุตฺตํ.
สมฺภาวนาธิปฺปายกเตนาติ ‘‘กถํ นุ โข มํ ชโน ‘อริโย’ติ วา ‘วิเสสลาภี’ติ วา สมฺภาเวยฺยา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน กเตน. คมนํ สณฺเปตีติ วิเสสลาภีนํ คมนํ วิย อตฺตโน คมนํ สกฺกจฺจํ เปติ ¶ , สโต สมฺปชาโนว คจฺฉนฺโต วิย โหติ. ปณิธายาติ ‘‘อรหาติ มํ ชานนฺตู’’ติ จิตฺตํ สณฺเปตฺวา, ปตฺเถตฺวา วา. สมาหิโต วิยาติ ฌานสมาธินา สมาหิโต วิย. อาปาถกชฺฌายีติ มนุสฺสานํ อาปาถฏฺาเน สมาธิสมาปนฺโน วิย นิสีทนฺโต อาปาถเก ชนสฺส ปากฏฏฺาเน ฌายี. อิริยาปถสงฺขาตนฺติ อิริยาปถสณฺปนสงฺขาตํ.
ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ อโยนิโส อุปฺปาทิตานํ ปจฺจยานํ ปฏิเสวนนฺติ เอวํ กถิเตน, เตน วา ปจฺจยปฏิเสวเนน สงฺขาตพฺเพน กถิตพฺเพน. อฺํ วิย กตฺวา อตฺตโน สมีเป ภณนํ สามนฺตชปฺปิตํ. อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘อฏฺปนา’’ติ วุตฺตํ. กุหนํ กุโห, ตสฺส อยนา ปวตฺติ กุหายนา, กุหสฺส วา ปุคฺคลสฺส อยนา คติ กิริยา กุหายนา. กุเหติ, กุเหน วา อิโตติ กุหิโต, กุหโก.
ปุฏฺสฺสาติ ¶ ‘‘โก ติสฺโส, โก ราชปูชิโต’’ติ ปุฏฺสฺส. อุทฺธํ กตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา วิภวสมฺปตฺติอาทินา ปคฺคเหตฺวา.
อุนฺนหนาติ อุทฺธํ อุทฺธํ พนฺธนา ปลิเวนา. ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกํ คามํ ปวิสิตฺวา อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา เอกํ กุมาริกํ ปกฺโกสึสุ. ตาย อาคตาย ตตฺเรโก เอกํ ปุจฺฉิ ‘‘อยํ, ภนฺเต, กสฺส กุมาริกา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ อุปฏฺายิกาย เตลกนฺทริกาย ธีตา, อิมิสฺสา มาตา มยิ เคหํ คเต สปฺปึ ททมานา ฆเฏเนว เทติ, อยมฺปิ มาตา วิย ฆเฏน เทตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๘๖๒) อุกฺกาเจสิ. อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตลกนฺทริกวตฺถุ เจตฺถ วตฺตพฺพ’’นฺติ.
ธมฺมานุรูปา วาติ มตฺตาวจนานุรูปํ วา. มตฺตาวจนํ หิ ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘สุภาสิตํ อุตฺตมมาหุ สนฺโต, ธมฺมํ ภเณ นาธมฺมํ ตํ ทุติย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓; สุ. นิ. ๔๕๒). เตน พหุํ วิปฺปลปนมาห, สจฺจโต วา อฺา สุภาสิตา วาจา ‘‘ธมฺโม’’ติ เวทิตพฺโพ. มุคฺคสูปสทิสกมฺโม ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโย. เตนาห ‘‘อยํ ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโยติ วุจฺจตี’’ติ. ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตเทว ปาริภฏฺยตา.
นิมิตฺเตน จรนฺโต, ชีวนฺโต วา นิมิตฺตโก, ตสฺส ภาโว เนมิตฺติกตา. อตฺตโน อิจฺฉาย ปกาสนํ โอภาโส. โก ปน โสติ ¶ ? ‘‘อชฺช ภิกฺขูนํ ปจฺจยา ทุลฺลภา ชาตา’’ติอาทิกา ปจฺจยปฏิสํยุตฺตกถา. อิจฺฉิตวตฺถุสฺส สมีเป กถนํ สามนฺตชปฺปา.
อกฺโกสนภเยนาปิ ทเทยฺยาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนํ. ตถา วมฺภนาทโย. อุเปกฺขนา อุปาสกานํ ทายกาทิภาวโต พหิ ฉฑฺฑนา. ขิปนาติ เขปวจนํ. ตํ ปน อวหสิตฺวา วจนํ โหตีติ อาห ‘‘อุปฺปณฺฑนา’’ติ. ปาปนาติ อทายกตฺตสฺส, อวณฺณสฺส วา ปติฏฺาปนํ. ปเรสํ ปิฏฺิมํสขาทนสีโล ปรปิฏฺิมํสิโก, ตสฺส ภาโว ปรปิฏฺิมํสิกตา. อพฺภงฺคนฺติ อพฺภฺชนํ. นิปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิยาติ อนิปฺปิสิเต อลพฺภมานสฺส คนฺธสฺส นิปิสเน ลาโภ วิย ปรคุเณ อนิปฺปิสิเต อลพฺภมานานํ ปจฺจยานํ นิปิสเนน ลาโภ ทฏฺพฺโพติ.
นิกตฺตุํ ¶ อปฺเปน ลาเภน พหุกํ วฺเจตฺวา คเหตุํ อิจฺฉนํ นิชิคีสนํ, ตสฺส ภาโว นิชิคีสนตา. ตสฺเสว อิจฺฉนสฺส ปวตฺติอากาโร, ตํสหชาตํ วา คเวสนกมฺมํ.
องฺคนฺติ หตฺถปาทาทิองฺคานิ อุทฺทิสฺส ปวตฺตํ วิชฺชํ. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสตฺถํ. อุปฺปาตนฺติ อุกฺกาปาตทิสาฑาห-ภูมิจาลาทิอุปฺปาตปฏิพทฺธวิชฺชํ. สุปินนฺติ สุปินสตฺถํ. ลกฺขณนฺติ อิตฺถิปุริสานํ ลกฺขณชานนสตฺถํ. มูสิกจฺฉินฺนนฺติ วตฺถาทีนํ อสุกภาเค มูสิกจฺเฉเท สติ อิทํ นาม ผลํ โหตีติ ชานนกสตฺถํ. ปลาสคฺคิอาทีสุ อิมินา นาม อคฺคินา หุเต อิทํ นาม โหตีติ อคฺคิวเสน โหมวิธานํ อคฺคิโหมํ. อิมินา นเยน ทพฺพิโหมํ เวทิตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ถุสโหมาทีนํ, อฺเสฺจ สุตฺเต อาคตานํ มิจฺฉาชีวานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วีริยสาธนตฺตา อาชีวปาริสุทฺธิสีลสฺส ‘‘ปจฺจยปริเยสนวายาโม’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปาริสุทฺธิ อนวชฺชภาโว, เยน ธมฺเมน สเมน ปจฺจยลาโภ โหติ. น หิ อลโส าเยน ปจฺจเย ปริเยสิตุํ สกฺโกตีติ.
ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลวณฺณนา
๑๘. ปฏิสงฺขาติ อยํ ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๑) วิย ย-การโลเปน นิทฺเทโส. โยนิโสติ เจตฺถ อุปายตฺโถ โยนิโส-สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปาเยน ปเถนา’’ติ. ‘‘ปฏิสงฺขาย ตฺวา’’ติ ¶ วตฺวา ตยิทํ ปฏิสงฺขานํ ปจฺจเวกฺขณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ อตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา หิ ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ สีตปฏิฆาตาทิกํ ตํ ตํ ปโยชนํ ปติ ปติ อเวกฺขิตฺวา, าเณน ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ, เอวํ ปฏิสงฺขายาติ ตเทว ปโยชนํ ปติ ปติ สงฺขาย, ชานิตฺวาติ อตฺโถ. าณปริยาโย หิ อิธ สงฺขา-สทฺโทติ. เอตฺถ จ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทิ กามํ ปจฺจยปริโภคกาเลน วุจฺจติ, ธาตุวเสน ปน ปฏิกูลวเสน วา ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ สุชฺฌตีติ อปเร. ภิชฺชตีติ เกจิ. เอเก ปน ปมํ เอว ปริยตฺตนฺติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. ‘‘จีวร’’นฺติ เอกวจนํ เอกตฺตมตฺตํ วาจกนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนฺตรวาสกาทีสุ ยํ กิฺจี’’ติ วุตฺตํ, ชาติสทฺทตาย ปน ตสฺส ปาฬิยํ เอกวจนนฺติ ยตฺตกานิ จีวรานิ โยคินา ปริหริตพฺพานิ, เตสํ สพฺเพสํ เอกชฺฌํ คหณนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ, ยํ กิฺจีติ วา อนวเสสปริยาทานเมตํ, น อนิยมวจนํ. ‘‘นิวาเสติ วา ปารุปติ วา’’ติ วิกปฺปนํ ปน ปฏิเสวนปริยายสฺส ปริโภคสฺส ¶ วิภาคทสฺสนนฺติ ตํ ปฺเปตฺวา สยนนิสีทน-จีวรกุฏิกรณาทิวเสนาปิ ปริโภคสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
ปโยชนานํ มริยาทา ปโยชนาวธิ, ตสฺส ปริจฺฉินฺทนวเสน โย นิยโม, ตสฺส วจนํ ปโยชนา…เป… วจนํ. อิทานิ ตํ นิยมํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตกเมว หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวธารเณน ลีฬาวิภูสาวิลมฺพนานฏมฺพราทิวเสน วตฺถปริโภคํ นิเสเธติ. เตนาห ‘‘น อิโต ภิยฺโย’’ติ. ลีฬาวเสน หิ เอกจฺเจ สตฺตา วตฺถานิ ปริทหนฺติ เจว อุปสํวิยนฺติ จ. ยถา ตํ โยพฺพเน ิตา นาคริกมนุสฺสา. เอกจฺเจ วิภูสนวเสน, ยถา ตํ รูปูปชีวินิอาทโย. วิลมฺพนวเสน วิลมฺพกา. นฏมฺพรวเสน โภชาทโย. อชฺฌตฺตธาตุกฺโขโภ สีตโรคาทิอุปฺปาทโก. อุตุปริณามนวเสนาติ อุตุโน ปริวตฺตนวเสน วิสภาคสีตอุตุสมุฏฺาเนน. วา-สทฺเทน เหมนฺตาทีสุ หิมปาตาทิวเสน ปวตฺตสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, น อุปฺปาเทติ สีตนฺติ อธิปฺปาโย. ยทตฺถํ ปน ตํ วิโนทนํ, ตํ มตฺถกปฺปตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีตพฺภาหเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพตฺถาติ ‘‘อุณฺหสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทีสุ สพฺเพสุ เสสปโยชเนสุ. ยทิปิ สูริยสนฺตาโปปิ อุณฺโหว, ตสฺส ปน อาตปคฺคหเณน คหิตตฺตา ‘‘อคฺคิสนฺตาปสฺสา’’ติ ¶ วุตฺตํ. เอกจฺโจ ทาวคฺคิสนฺตาโป กายํ จีวเรน ปฏิจฺฉาเทตฺวา สกฺกา วิโนเทตุนฺติ อาห ‘‘ตสฺส วนทาหาทีสุ สมฺภโว เวทิตพฺโพ’’ติ. ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. เต ปน ยสฺมา ฑํสนสีลา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ฑํสนมกฺขิกา’’ติ. สปฺปาทโยติ สปฺปสตปทิอุณฺณนาภิสรพูวิจฺฉิกาทโย. ผุฏฺสมฺผสฺโสติ ผุฏฺวิสมาห. ติวิธา หิ สปฺปา – ทฏฺวิสา ผุฏฺวิสา ทิฏฺวิสา. เตสุ ปุริมกา ทฺเว เอว คหิตา. สตปทิอาทีนมฺปิ ตาทิสานํ สงฺคณฺหนตฺถํ. นิยตปโยชนํ เอกนฺติกํ, สพฺพกาลิกฺจ ปโยชนํ. หิรี กุปฺปติ นิลฺลชฺชตา สณฺาติ. เตนาห ‘‘วินสฺสตี’’ติ. กูปาวตรณํ วา ปฏิจฺฉาทนํ อรหตีติ โกปินํ. หิริยิตพฺพฏฺเน หิรี จ ตํ โกปินฺจาติ หิริโกปินนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตสฺส จาติ จ-สทฺโท ปุพฺเพ วุตฺตปโยชนานํ สมฺปิณฺฑนตฺโถ.
ยํ กิฺจิ อาหารนฺติ ขาทนียโภชนียาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อาหริตพฺพวตฺถุํ. ปิณฺฑาย ภิกฺขาย อุลตีติ ปิณฺโฑโล, ตสฺส กมฺมํ ปิณฺโฑลฺยํ. เตน ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขาจริยาย. ปติตตฺตาติ ปกฺขิปิตตฺตา. ปิณฺฑปาโต ปตฺเต ปกฺขิตฺตภิกฺขาหาโร. ปิณฺฑานํ วา ปาโตติ ฆเร ฆเร ลทฺธภิกฺขานํ สนฺนิปาโต. ‘‘นตฺถิ ทวา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕) สหสา กิริยาปิ ¶ ‘‘ทวา’’ติ วุจฺจติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ทวตฺถํ, กีฬานิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. มุฏฺิกมลฺลา มุฏฺิยุทฺธยุชฺฌนกา. อาทิ-สทฺเทน นิพุทฺธยุชฺฌนกาทีนํ คหณํ. พลมทนิมิตฺตนฺติ พลํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมโท พลมโท. ตํ นิมิตฺตํ, พลสฺส อุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ. โปริสมทนิมิตฺตนฺติ โปริสมโท วุจฺจติ ปุริสมาโน ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ อุปฺปชฺชนกมาโน. อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย ปวตฺโต มาโน, ราโค เอว วา โปริสมโทติ เกจิ. ตํ นิมิตฺตํ. อนฺเตปุริกา ราโชโรธา. สพฺเพสํ สนฺนิเวสโยคฺยตาย เวสิโย รูปูปชีวินิโย. มณฺฑนํ นาม อิธาวยวปาริปูรีติ อาห ‘‘องฺคปจฺจงฺคานํ ปีณภาวนิมิตฺต’’นฺติ, ปริพฺรูหนเหตูติ อตฺโถ. นฏา นาม รงฺคนฏา. นจฺจกา ลงฺฆกาทโย. วิภูสนํ โสภาสมุปฺปาทนนฺติ อาห ‘‘ปสนฺนจฺฉวิวณฺณตานิมิตฺต’’นฺติ.
เอตํ ปทํ. โมหูปนิสฺสยปฺปหานตฺถนฺติ โมหสฺส อุปนิสฺสยตาปหานาย. ทวา หิ โมเหน โหติ, โมหฺจ วฑฺเฒตีติ ตสฺสา วชฺชเนน โมหสฺส อนุปนิสฺสยตา. โทสูปนิสฺสยปฺปหานตฺถนฺติ อิทํ พลมทสฺส, ปุริสมทสฺส ¶ จ โทสเหตุโน วเสน วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน วเสน ‘‘ราคูปนิสฺสยปฺปหานตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. มณฺฑนวิภูสนปฏิกฺเขโป สิยา โมหูปนิสฺสยปฺปหานายปิ, ราคูปนิสฺสยตาย ปน อุชุปฏิปกฺโขติ วุตฺตํ ‘‘ราคูปนิสฺสยปฺปหานตฺถ’’นฺติ. ยทิปิ เอกจฺจสฺส ทวมเท อารพฺภ ปรสฺส ปฏิฆสํโยชนาทีนํ อุปฺปตฺติ โหติเยว มโนปโทสิกเทวาทีนํ วิย, อตฺตโน ปน ทวมเท อารพฺภ เยสํ สวิเสสํ ราคโมหมานาทโย ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. เต สนฺธาย ‘‘อตฺตโน สํโยชนุปฺปตฺติปฏิเสธนตฺถ’’นฺติ วตฺวา มณฺฑนวิภูสนานิ ปฏิจฺจ สวิเสสํ ปรสฺสปิ ราคโมหาทโย ปวตฺตนฺตีติ ‘‘ปรสฺสปิ สํโยชนุปฺปตฺติปฏิเสธนตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ. อโยนิโส ปฏิปตฺติยาติ เอตฺถ กามสุขลฺลิกานุโยคํ มฺุจิตฺวา สพฺพาปิ มิจฺฉาปฏิปตฺติ อโยนิโส ปฏิปตฺติ. ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อโยนิโส ปฏิปตฺติยา, ปจฺฉิเมหิ ทฺวีหิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส ปหานํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ‘‘จตูหิปิ เจเตหี’’ติ ปน วจนโต สพฺเพหิ อุภินฺนมฺปิ ปหานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กามกีฬาปิ ทวนฺโตคธา โหติเยว, ปุริสมโทปิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส เหตุเยวาติ.
จาตุมหาภูติกสฺสาติ จตุมหาภูเต สนฺนิสฺสิตสฺส. รูปกายสฺสาติ จตุสนฺตติรูปสมูหสฺส. ิติยาติ ิตตฺถํ. สา ปนสฺส ิติ ปพนฺธวเสน อิจฺฉิตาติ อาห ‘‘ปพนฺธฏฺิตตฺถ’’นฺติ. ปวตฺติยาติ ชีวิตินฺทฺริยปฺปวตฺติยา. ตถา หิ ชีวิตินฺทฺริยํ ‘‘ยาปนา วตฺตนา’’ติ ¶ (ธ. ส. ๑๙, ๖๓๔) จ นิทฺทิฏฺํ. ตสฺสา จ อวิจฺเฉโท อาหารูปโยเคน โหติ. กายสฺส จิรตรํ ยาว อายุกปฺโป, ตาว อวตฺถานํ ยาปนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิรกาลฏฺิตตฺถํ วา’’ติ อาห. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ฆรูปตฺถมฺภมิวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถายํ โยชนา – ยถา ชิณฺณฆรสามิโก ฆรสฺส อุปตฺถมฺภนํ กโรติ ตสฺส อปตนตฺถํ, ยถา จ สากฏิโก อกฺขพฺภฺชนํ กโรติ ตสฺส สมฺปวตฺตนตฺถํ, เอวเมส โยคี กายสฺส ิตตฺถํ, ยาปนตฺถฺจ ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ ปริภฺุชตีติ. เอเตน ิติ นาม อปตนํ ยาปนา ปวตฺตีติ ทสฺเสติ. น ทวมทมณฺฑนวิภูสนตฺถนฺติ อิทํ ‘‘ยาวเทวา’’ติ อวธารเณน นิวตฺติตตฺถทสฺสนํ. ติฏฺนฺติ อุปาทินฺนธมฺมา เอตายาติ ิติ, อายูติ อาห ‘‘ิตีติ ชีวิตินฺทฺริยสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ตถา หิ ตํ อายุ ‘‘ิตี’’ติ นิทฺทิฏฺํ, ิติยา ยาปนายาติ กายสฺส ¶ ิติเหตุตาย ‘‘ิตี’’ติ ลทฺธโวหารสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตนตฺถนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชีวิตินฺทฺริยปวตฺตาปนตฺถ’’นฺติ. อาพาธฏฺเนาติ วิพาธนฏฺเน, โรคฏฺเน วา. ชิฆจฺฉาปรมา หิ โรคา. อุปรมตฺถนฺติ วูปสมตฺถํ. วณาเลปนมิว วณิโก. อุณฺหสีตาทีสุ อภิภวนฺเตสุ ตปฺปฏิการํ สีตุณฺหํ วิย ปฏิเสวตีติ สมฺพนฺโธ. มคฺคพฺรหฺมจริยํ เปตฺวา สิกฺขตฺตยสงฺคหา สาสนาวจริตพฺพา อนุสาสนี สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ อาห ‘‘สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส จ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส จา’’ติ. อนุคฺคหณตฺถนฺติ อนุ อนุ คณฺหนตฺถํ สมฺปาทนตฺถํ. กายพลํ นิสฺสายาติ ยถาสมารทฺธํ คุณวิเสสปาริปูริเหตุภูตํ กายพลมตฺตํ นิสฺสาย. เตนาห ‘‘สิกฺขตฺตยานุโยควเสนา’’ติอาทิ. กนฺตารนิตฺถรณตฺถิกา ชายมฺปติกา, นทีสมุทฺทนิตฺถรณตฺถิกา จ ปุตฺตมํสาทีนิ ยถา อคิทฺธา อมุจฺฉิตา เกวลํ ตํ ตํ อตฺถสิทฺธิเมว อเวกฺขนฺตา ปฏิเสวนฺติ เตหิ วินา อสิชฺฌนโต, เอวมยมฺปิ เกวลํ ภวกนฺตารนิตฺถรณตฺถิโก อคิทฺโธ อมุจฺฉิโต เตน วินา อสิชฺฌนโต ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวตีติ อุปมาสํสนฺทนํ.
อิตีติ ปการตฺเถ นิปาตปทํ. เตน ปฏิเสวิยมานสฺส ปิณฺฑปาตสฺส ปฏิเสวนากาโร คยฺหตีติ อาห ‘‘เอวํ อิมินา ปิณฺฑปาตปฏิเสวเนนา’’ติ. ปุราณนฺติ โภชนโต ปุริมกาลิกตฺตา ปุราตนํ. ปฏิหงฺขามีติ ปฏิหนิสฺสามิ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ ปฏิเสวตีติ โยชนา. กีทิสํ, กถฺจาติ อาห ‘‘อปริมิต…เป… อฺตโร วิยา’’ติ. อปริมิตํ อปริมาณํ โภชนํ ปจฺจโย เอติสฺสาติ อปริมิตโภชนปจฺจยา, ตํ อปริมิตโภชนปจฺจยํ อตฺตโน คหณีเตชปมาณโต อติกฺกนฺตปมาณโภชนเหตุกนฺติ อตฺโถ. โย พหุํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน ¶ ธมฺมตาย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อาหร หตฺถ’’นฺติ วทติ, อยํ อาหรหตฺถโก. โย ภฺุชิตฺวา อจฺจุทฺธุมาตกุจฺฉิตาย อุฏฺิโตปิ สาฏกํ นิวาเสตุํ น สกฺโกติ, อยํ อลํสาฏโก. โย ภฺุชิตฺวา อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปริวตฺตติ, อยํ ตตฺรวฏฺฏโก. โย ยถา กาเกหิ อามสิตุํ สกฺกา, เอวํ ยาว มุขทฺวารํ อาหาเรติ, อยํ กากมาสโก. โย ภฺุชิตฺวา มุเข สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว วมติ, อยํ ภุตฺตวมิตโก. เอเตสํ อฺตโร วิย. อถ วา ปุราณเวทนา นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ‘‘ปฏิหนิสฺสามี’’ติ ¶ ปฏิเสวติ. นวเวทนา นาม อติภุตฺตปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ‘‘น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ปฏิเสวติ. อถ วา นวเวทนา นาม อภุตฺตปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา, ตสฺสา อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว ปฏิเสวติ. อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกาติ เจตํ ขุทฺทาย วิเสสนํ. ยสฺสา อปฺปวตฺติ โภชเนน กาตพฺพา, ตสฺสา ทสฺสนตฺถํ. อภุตฺตปจฺจเยน, ภุตฺตปจฺจเยน จ อุปฺปชฺชนกานุปฺปชฺชนกเวทนาสุ ปุริมา ยถาปวตฺตา ชิฆจฺฉานิมิตฺตา เวทนา. สา หิ อภฺุชนฺตสฺส ภิยฺโยปวฑฺฒนวเสน อุปฺปชฺชติ. ปจฺฉิมาปิ ขุทฺทานิมิตฺตาว องฺคทาหสูลาทิเวทนา ปวตฺตา. สา หิ ภุตฺตปจฺจยา ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนาว นุปฺปชฺชิสฺสตีติ อยเมตาสํ วิเสโส. วิหึสานิมิตฺตตา เจตาสํ วิหึสาย วิเสโส.
ยา เวทนา. อธุนาติ เอตรหิ. อสปฺปายาปริมิตโภชนํ นิสฺสายาติ อสปฺปายาปริมิตสฺส อาหารสฺส ภฺุชนปโยคํ อาคมฺม อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ปุราณกมฺมปจฺจยวเสนาติ ปุพฺเพ ปุริมชาติยํ กตตฺตา ปุราณสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยตาวเสน ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม อุปฺปชฺชนารหตาย ตํ วชฺเชตฺวา ปโยคสมฺปตฺติยา อุปฏฺาปนํ ทุกฺขเวทนาปจฺจยฆาโต, ปฏิหนนฺจ โหตีติ อาห ‘‘ตสฺสา ปจฺจยํ วินาเสนฺโต ตํ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’’ติ. อยุตฺตปริโภโค ปจฺจเย อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริโภโค. โส เอว กตูปจิตกมฺมตาย กมฺมูปจโย. ตํ นิสฺสาย ปฏิจฺจ อายตึ อนาคเต กาเล อุปฺปชฺชนโต ยา จายํ ‘‘นวเวทนา’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. ยุตฺตปริโภควเสนาติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยานํ ปริโภควเสน, ตสฺสา นวเวทนาย มูลํ อยุตฺตปริโภคกมฺมํ อนิพฺพตฺเตนฺโต สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปาเทนฺโต. เอตฺตาวตาติ ‘‘อิติ ปุราณ’’นฺติอาทินา วุตฺเตน ปททฺวเยน. ‘‘วิหึสูปรติยา’’ติอาทินา วา ปทจตุกฺเกน ยุตฺตปริโภคสงฺคโห ปพฺพชิตานุจฺฉวิกสฺส ปจฺจยปริโภคสฺส วุตฺตตฺตา. อตฺตกิลมถานุโยคปฺปหานํ ชิฆจฺฉาทิทุกฺขปฏิฆาตสฺส ภาสิตตฺตา. ฌานสุขาทีนํ ¶ ปจฺจยภูตสฺส กายสุขสฺส อวิสฺสชฺชนโต ธมฺมิกสุขาปริจฺจาโค จ ทีปิโต โหติ.
อสปฺปายาปริมิตูปโยเคน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทโก, อิริยาปถภฺชนโก วา สิยา ปริสฺสโย, สปฺปายปริมิตูปโยเคน ปน โส น โหติ. ตถา สติ จิรกาลปฺปวตฺติสงฺขาตา สรีรสฺส ยาตฺรา ¶ ยาปนา ภวิสฺสตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริมิตปริโภเคน…เป… ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โย โรโค สาทฺโธ อสาทฺโธ จ น โหติ, โส ยาปฺยโรโค, โส เอตสฺส อตฺถีติ ยาปฺยโรคี. โส หิ นิจฺจกาลํ เภสชฺชํ อุปเสวติ, ตถา อยมฺปีติ. ยทิ ยาตฺราปิ ยาปนา, ปุพฺเพปิ ‘‘ยาปนายา’’ติ วุตฺตํ, โก เอตฺถ วิเสโสติ? ปุพฺเพ ‘‘ยาปนายา’’ติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนา อธิปฺเปตา, อิธ ปน จตุนฺนมฺปิ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนา ยาตฺราติ อยเมตฺถ วิเสโส. พุทฺธปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาชีเวน ปจฺจยปริเยสนา อยุตฺตปริเยสนา. ทายกเทยฺยธมฺมานํ, อตฺตโน จ ปมาณํ อชานิตฺวา ปฏิคฺคหณํ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนตฺถํ วา ปฏิคฺคหณํ อยุตฺตปฏิคฺคหณํ, เยน วา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริโภโค อยุตฺตปริโภโค. เตสํ ปริวชฺชนํ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปาทนาทิวเสน เวทิตพฺพํ. ธมฺเมน หิ ปจฺจเย ปริเยสิตฺวา ธมฺเมน ปฏิคฺคเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนํ อนวชฺชตา นาม.
อรตีติ อุกฺกณฺา. ปนฺตเสนาสเนสุ, อธิกุสลธมฺเมสุ จ อนภิรติ. ตนฺทีติ ปจลายิกา นิทฺทา. วิชมฺภิตาติ ถินมิทฺธาภิภเวน กายสฺส วิชมฺภนา. วิฺูหิ ครหา วิฺูครหา. เอกจฺโจ หิ อนวชฺชํเยว สาวชฺชํ กโรติ, ‘‘ลทฺธํ เม’’ติ ปมาณาธิกํ ภฺุชิตฺวา ตํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ กิลมติ, สกลวิหาเร ภิกฺขู ตสฺส สรีรปฏิชคฺคนเภสชฺชปริเยสนาปสุตา โหนฺติ. อฺเ เต ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกสฺส อุทรํ อุทฺธุมาต’’นฺติอาทีนิ สุตฺวา ‘‘นิจฺจกาลเมส เอวํปกติโก อตฺตโน กุจฺฉิปมาณํ นาม น ชานาตี’’ติ นินฺทนฺติ, เอวํ อนวชฺชํเยว สาวชฺชํ กโรติ. เอวํ อกตฺวา ‘‘อนวชฺชตา จ ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิเสวติ. อตฺตโน หิ ปกติอคฺคิพลาทึ ชานิตฺวา ‘‘เอวํ เม อรติอาทีนํ อภาเวน กายสุขตา, อครหิตพฺพตา จ ภวิสฺสตี’’ติ ปมาณยุตฺตเมว ปฏิเสวติ. ยาวตโก โภชเนน อตฺโถ, ตสฺส สาธเนน ยาวทตฺถํ อุทรสฺส ปริปูรเณน อุทราวเทหกํ โภชนํ ยาวทตฺถอุทราวเทหกโภชนํ, ตสฺส ปริวชฺชเนน. เสยฺยาย สยเนน ลทฺธพฺพสุขํ เสยฺยสุขํ, อุโภหิ ปสฺเสหิ ¶ สมฺปริวตฺตนกํ สยนฺตสฺส อุปฺปชฺชนสุขํ ปสฺสสุขํ ¶ , มิทฺเธน นิทฺทายเนน อุปฺปชฺชนสุขํ มิทฺธสุขํ, เตสํ เสยฺย…เป… สุขานํ ปหานโต จตุนฺนํ อิริยาปถานํ โยคฺยภาวสฺส ปฏิปาทนํ กายสฺส จตุอิริยาปถโยคฺยภาวปฏิปาทนํ, ตโต. สุโข อิริยาปถวิหาโร ผาสุวิหาโร. ปจฺฉิเม วิกปฺเป, สพฺพวิกปฺเปสุ วา วุตฺตํ ผาสุวิหารลกฺขณํ อาคเมน สมตฺเถตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตีสุปิ วิกปฺเปสุ อาหารสฺส อูนปริโภควเสเนว หิ ผาสุวิหาโร วุตฺโตติ.
เอตฺตาวตาติ ‘‘ยาตฺรา’’ติอาทินา วุตฺเตน ปทตฺตเยน. ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ ปโยชนปริคฺคหทีปนา. ยาตฺรา หิ นํ อาหารูปโยคํ ปโยเชตีติ. ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคเหตุโก ผาสุวิหาโร มชฺฌิมา ปฏิปทา อนฺตทฺวยปริวชฺชนโต. อิมสฺมึ ปน าเน อฏฺ องฺคานิ สโมธาเนตพฺพานิ – ‘‘เนว ทวายา’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘น มทายา’’ติ เอกํ, ‘‘น มณฺฑนายา’’ติ เอกํ, ‘‘น วิภูสนายา’’ติ เอกํ, ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนายา’’ติ เอกํ, ‘‘วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’’ติ เอกํ, ‘‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ เอกํ, ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ. ‘‘อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’ติ อยเมตฺถ โภชนานิสํโส. มหาสิวตฺเถโร ปนาห ‘‘เหฏฺา จตฺตาริ องฺคานิ ปฏิกฺเขโป นาม, อุปริ ปน อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตพฺพานี’’ติ. ตตฺถ ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘ยาปนายา’’ติ เอกํ, ‘‘วิหึสูปรติยา’’ติ เอกํ, ‘‘พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’’ติ เอกํ, ‘‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’’ติ เอกํ, ‘‘นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ เอกํ, ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ, ‘‘อนวชฺชตา จา’’ติ เอกํ. ผาสุวิหาโร ปน โภชนานิสํโสติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรนฺโต ปฏิสงฺขา โยนิโส ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ นาม.
ยตฺถ ยตฺถาติ ภุมฺมนิทฺเทเสน เสน-สทฺทสฺส อธิกรณตฺถวุตฺติมาห. ตถา อาสน-สทฺทสฺสาติ. อฑฺฒโยคาทิมฺหีติ อาทิ-สทฺเทน ปาสาทาทึ, มฺจาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. ยตฺถ ยตฺถ วิหาเร วา อฑฺฒโยคาทิมฺหิ วา อาสตีติ วิหารอฑฺฒโยคาทิเก อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน ปีสนฺถตาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปริสหนฏฺเนาติ อภิภวนฏฺเน, วิพาธนฏฺเนาติ อตฺโถ. อุตุเยว อุตุปริสฺสโยติ สีตุณฺหาทิอุตุเยว ¶ อสปฺปาโย วุตฺตนเยน อุตุปริสฺสโย. ตสฺส อุตุปริสฺสยสฺส วิโนทนตฺถํ, อนุปฺปนฺนสฺส อนุปฺปาทนตฺถํ, อุปฺปนฺนสฺส วูปสมนตฺถฺจาติ อตฺโถ. นานารมฺมณโต ¶ ปฏิสํหริตฺวา กมฺมฏฺานภูเต เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส สมฺมเทว ลยนํ ปฏิสลฺลานํ, ตตฺถ อาราโม อภิรติ ปฏิสลฺลานาราโม, ตทตฺถํ. เสนาสนํ หิ วิวิตฺตํ โยคิโน ภาวนานุกูลํ สฺุาคารภาวโต. ตํ ปเนตํ อตฺถทฺวยํ วิภาเวตุํ ‘‘โย สรีราพาธจิตฺตวิกฺเขปกโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกีภาวสุขตฺถนฺติ เอกีภาวเหตุกํ สุขํ เอกีภาวสุขํ, ตทตฺถํ. คณสงฺคณิกกิเลสสงฺคณิกาภาเวน อุปฺปชฺชนกสุขํ.
ยทิ อุตุเยว อุตุปริสฺสโย, ‘‘อุตุ จ สีตุณฺห’’นฺติ สีตุณฺหปฏิฆาตํ วตฺวา อุตุปริสฺสยวิโนทนํ กสฺมา วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘กามฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘นิยตํ อุตุปริสฺสยวิโนทน’’นฺติ เอเตน ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตาย อุณฺหสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ สีตุณฺหํ อนิยตํ กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชนกํ, อุตุปริสฺสโย ปน สพฺพทาภาวี อธิปฺเปโตติ ทสฺเสติ. วุตฺตปฺปกาโรติ ‘‘สีตาทิโก, อสปฺปาโย’’ติ จ เอวํ วุตฺตปฺปกาโร วิวฏงฺคณรุกฺขมูลาทีสุ นิสินฺนสฺส อปริคุตฺติยา อสํวุตทฺวาราทิตาย ปากฏปริสฺสยา, อสปฺปายรูปทสฺสนาทินา อปากฏปริสฺสยา จ ภิกฺขุสฺส กายจิตฺตานํ อาพาธํ กเรยฺยุํ. ยตฺถ คุตฺเต เสนาสเน อาพาธํ น กโรนฺติ. เอวํ ชานิตฺวาติ อุภยปริสฺสยรหิตนฺติ เอวํ ตฺวา ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ เวทิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ.
ธาตุกฺโขภลกฺขณสฺส, ตํเหตุกทุกฺขเวทนาลกฺขณสฺส วา โรคสฺส ปฏิปกฺขภาโว ปฏิอยนฏฺโ. เตนาห ‘‘ปจฺจนีกคมนฏฺเนาติ อตฺโถ’’ติ, วูปสมนฏฺเนาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส กสฺสจีติ สปฺปิอาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ. สปฺปายสฺสาติ หิ ตสฺส วิการวูปสเมนาติ อธิปฺปาโย. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน วิธาตพฺพโต. เตนาห ‘‘เตน อนฺุาตตฺตา’’ติ. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. วิวฏปริกฺเขโป ปริกฺขา อุฑฺฑาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ ปาการปตฺถณฺฑิลนฺติ สตฺต ‘‘นครปริกฺขารา’’ติ วทนฺติ. สีลปริกฺขาโรติ สุวิสุทฺธสีลาลงฺกาโร ¶ . อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตา. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา. ปริวาโรปิ โหติ อนฺตรายานํ ปริโต วารณโต. เตนาห ‘‘ชีวิต…เป… รกฺขณโต’’ติ.
ตตฺถ อนฺตรนฺติ วิวรํ, โอกาโสติ อตฺโถ. เวริกานํ อนฺตรํ อทตฺวา อตฺตโน สามิกานํ ¶ ปริวาเรตฺวา ิตเสวกา วิย รกฺขณโต. อสฺสาติ ชีวิตสฺส. การณภาวโตติ จิรปฺปวตฺติยา การณภาวโต. รสายนภูตํ หิ เภสชฺชํ สุจิรมฺปิ กาลํ ชีวิตํ ปวตฺเตติเยว. ยทิปิ อนุปฺปนฺนา เอว ทุกฺขเวทนา เภสชฺชปริโภเคน ปฏิหฺนฺติ, น อุปฺปนฺนา ตาสํ สรเสเนว ภิชฺชนโต, อุปฺปนฺนสทิสา ปน ‘‘อุปฺปนฺนา’’ติ วุจฺจนฺติ. ภวติ หิ ตํสทิเสสุ ตพฺโพหาโร, ยถา สา เอว ติตฺติริ, ตานิเยว โอสธานีติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนานนฺติ ชาตานํ ภูตานํ นิพฺพตฺตาน’’นฺติ. สฺจยโต ปฏฺาย โส ธาตุกฺโขโภ สมุฏฺานํ เอเตสนฺติ ตํสมุฏฺานา. ‘‘ทุกฺขเวทนา’’ติ วตฺวา สา อกุสลสภาวาปิ อตฺถีติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘อกุสลวิปากเวทนา’’ติ วุตฺตํ. พฺยาพาธนฏฺเน พฺยาพาโธ, พฺยาพาโธว พฺยาพชฺฌํ, ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. นตฺถิ เอตฺถ พฺยาพชฺฌนฺติ อพฺยาพชฺฌํ, นิทฺทุกฺขตา. เตนาห ‘‘อพฺยาพชฺฌปรมตายา’’ติ นิทฺทุกฺขปรมตายาติ. ตํ ทุกฺขนฺติ โรคนิมิตฺตกํ ทุกฺขํ.
จีวราทีนํ ปจฺจยานํ นิสฺสยนํ ปริโภโค เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เต ปฏิจฺจ นิสฺสายา’’ติ วตฺวา ‘‘ปริภฺุชมานา’’ติ วุตฺตํ. ปวตฺตนฺตีติ ชีวนฺติ. ชีวนมฺปิ หิ ปวตฺตนํ, ยโต ชีวิตินฺทฺริยํ ‘‘ปวตฺตนรส’’นฺติ วุจฺจติ.
จตุปาริสุทฺธิสมฺปาทนวิธิวณฺณนา
๑๙. เอวํ ปาติโมกฺขสํวราทิเภเทน นิทฺทิฏฺํ สีลํ ปุน สาธนวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมตสฺมิ’’นฺติอาทิมารทฺธํ. ตตฺถ สาธียติ สมฺปาทิยติ เอเตนาติ สาธนํ, สทฺธา สาธนํ เอตสฺสาติ สทฺธาสาธโน. นนุ จ วีริยสติปฺาหิปิ วินา ปาติโมกฺขสํวโร น สิชฺฌตีติ? สจฺจํ น สิชฺฌติ, สทฺธาย ปน วิเสสเหตุภาวํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห
‘‘สาวกวิสยาตีตตฺตา ¶ สิกฺขาปทปฺตฺติยา’’ติ. ครุกลหุกาทิเภเท โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ ตสฺส ตสฺส อปราธสฺส อนุรูปํ สิกฺขาปทปฺาปนํ นาม สาวกานํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโย. สิกฺขาปทปฺาปนํ ตาว ติฏฺตุ, ตสฺส กาโลปิ นาม สาวกานํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนปฏิกฺเขโป เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ อาห. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ สาริปุตฺต, อาคเมหิ ตฺวํ สาริปุตฺต, ตถาคโตว ตตฺถ กาลํ ¶ ชานิสฺสตี’’ติ (ปารา. ๒๑). ตตฺถ จ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เตน ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺเปม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทาม, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตามา’’ติ (ปารา. ๕๖๕) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สทฺธายาติ สทฺทหเนน สตฺถริ, ธมฺเม จ สทฺธาย ปจฺจุปฏฺาปเนน. ชีวิเตปิ ปเคว ชีวิตปริกฺขาเรติ อธิปฺปาโย.
กิกีว อณฺฑนฺติ กิกีสกุณิกา วิย อตฺตโน อณฺฑํ. สา กิร ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา อณฺฑเมว รกฺขติ. จมรีว วาลธินฺติ จมรีมิโค วิย อตฺตโน วาลธึ. จมรีมิคา กิร พฺยาเธน ปริปาติยมานา ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา กณฺฑกคุมฺพาทีสุ ลคฺคํ อตฺตโน วาลเมว รกฺขนฺติ. ปิยํว ปุตฺตํ เอกกนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา หิ เอกปุตฺตโก กุฏุมฺพิโก ตํ เอกปุตฺตํ, เอกนยโน จ ตํ เอกนยนํ สุฏฺุตรํ รกฺขติ. ตเถว สีลํ อนุรกฺขมานกาติ อนุกมฺปนวเสน วุตฺตํ. สุเปสลาติ สุฏฺุ ปิยสีลา. สทา สพฺพกาลํ ทหรมชฺฌิมเถรกาเลสุ. ฉนฺนมฺปิ คารวานํ วเสน สคารวา, ครุการวนฺโตติ อตฺโถ.
เอวเมว โขติ ยถา มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติกฺกมติ, เอวเมว. มม สาวกาติ อริยสาวเก สนฺธายาห. เต หิ ธุวสีลา. อิมสฺมึ อตฺเถติ ชีวิตเหตุปิ สีลสฺส อวีติกฺกมเน.
มหาวตฺตนิอฏวี นาม วิฺฌาฏวี. หิมวนฺตปสฺเส อฏวีติ เกจิ. เถรนฺติ นามโคตฺตวเสน อปฺาตํ เอกํ เถรํ. นิปชฺชาเปสุํ คนฺตฺวา กสฺสจิ มา อาโรเจยฺยาติ.
ปูติลตายาติ ¶ คโฬจิลตาย. สมสีสีติ ชีวิตสมสีสี. ยสฺส หิ กิเลสสีสํ อวิชฺชํ มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตมคฺโค ปริยาทิยติ, ตโต เอกูนวีสติเม ปจฺจเวกฺขณาเณ ปติฏฺาย ภวงฺโคตฺตรเณ วฏฺฏสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติ, โส อิมาย วารสมตาย ‘‘ชีวิตสมสีสี’’ติ วุจฺจติ. โส จ เถโร ตถา ปรินิพฺพายิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายี’’ติ. อภยตฺเถโร กิร มหาภิฺโ. ตสฺมา เจติยํ การาเปสีติ วทนฺติ. อปฺเปวาติ อปฺเปว นาม อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ชเหยฺย, น ภินฺเทติ น ภินฺเทยฺย, น วีติกฺกเมยฺย.
สติยา ¶ อธิฏฺิตานนฺติ ปเคว อุปฏฺิตาย สติยา อารกฺขวเสน อธิฏฺิตานํ อินฺทฺริยานํ. อนนฺวาสฺสวนียโตติ ทฺวารภาเวน อภิชฺฌาทีหิ อนนุพนฺธิตพฺพโต. วรนฺติ เสฏฺํ. ตตฺตายาติ อุณฺหาย. อาทิตฺตายาติ อาทิโต ปฏฺาย ทิตฺตาย. สมฺปชฺชลิตายาติ สมนฺตโต ชลนฺติยา. สโชติภูตายาติ เอกชาลีภูตาย. สมฺปลิมฏฺนฺติ สพฺพโส อามฏฺํ, อฺจิตนฺติ อตฺโถ. น ตฺเวว วรนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. รูเปสูติ รูปารมฺมเณสุ. อนุพฺยฺชนโส นิมิตฺตคฺคาโหติ กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนวเสน อุปฺปาทเนน ปากฏีกรณวเสน สุภาทินิมิตฺตคฺคาโห, อถ วา อนุพฺยฺชนโสติ หตฺถปาทาทิอนุพฺยฺชนโต, นิมิตฺตคฺคาโหติ อิตฺถิปุริสาทิสุภาทินิมิตฺตคฺคหณํ. จกฺขุทฺวาราทิปวตฺตสฺสาติ จกฺขุทฺวาราทีหิ ปวตฺตสฺส. วิฺาณสฺสาติ ชวนวิฺาณสฺส. นิมิตฺตาทิคฺคาหํ นิเสเธนฺเตน สมฺปาเทตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อสํวิหิตสาขาปริวารนฺติ สมฺมา อวิหิตวติปริกฺเขปํ. ปรสฺสหารีหีติ ปรสนฺตกาวหารเกหิ โจเรหิ. สมติวิชฺฌตีติ สพฺพโส อติวิชฺฌติ อนุปวิสติ.
รูเปสูติ รูปเหตุ รูปนิมิตฺตํ. อุปฺปชฺชนกอนตฺถโต รกฺข อินฺทฺริยนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุ. เอเต หิ ทฺวาราติ เอเต จกฺขาทิทฺวารา. สติกวาเฏน อสํวุตตฺตา วิวฏา. ตโต เอว อรกฺขิตา. กิเลสุปฺปตฺติยา เหตุภาเวน ตํสมงฺคินํ หนนฺตีติ การณูปจาเรเนว วุตฺตํ. เอเต วา รูปาทโย. กิเลสานํ อารมฺมณภูตา ทฺวารา จกฺขาทิทฺวารา. เต กีทิสา วิวฏา อรกฺขิตา อสํวุตจกฺขาทิเหตุํ ตํสมงฺคินํ หนนฺตีติ การณูปจาเรเนว วุตฺตํ. อคารนฺติ เคหํ. ทุจฺฉนฺนนฺติ น สมฺมา ฉาทิตํ. อภาวิตนฺติ โลกุตฺตรภาวนารหิตํ.
สมฺปาทิเตติอาทิสฺส ¶ โวทานปกฺขสฺส อตฺโถ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. อยํ ปน สพฺพโส กิเลสานํ อนุปฺปาโท อติอุกฺกฏฺเทสนา มคฺเคนาคตสทิสตฺตา. สมฺปาเทตพฺโพติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺส’’นฺติ อธิฏฺานสุทฺธิยา สมฺปาเทตพฺโพ.
อธุนาปพฺพชิเตนาติ น จิรปพฺพชิเตน, นวปพฺพชิเตนาติ อตฺโถ. กามราเคน ฑยฺหามีติ กามราคคฺคินา ปริฑยฺหามิ. โส จ ปน ทาโห อิทานิ จิตฺตคโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จิตฺตํ เม ปริฑยฺหตี’’ติ. สาธูติ อายาจนา. นิพฺพาปนนฺติ ตสฺส นิพฺพาปนุปายํ. โคตมาติ เถรํ โคตฺเตน อาลปติ.
สฺาย ¶ วิปริเยสาติ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ ปวตฺตสฺาวิปริเยสเหตุ วิปรีตสฺานิมิตฺตํ. นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ กีทิสํ? ราคูปสฺหิตํ ราคุปฺปตฺติเหตุภูตํ สุภนิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ น มนสิ กโรหิ. น เกวลํ สุภนิมิตฺตสฺสามนสิกาโร เอว, อถ โข อสุภภาวนาย อตฺตโน จิตฺตํ ภาเวหิ. กถํ? เอกคฺคํ สุสมาหิตํ ยถา ตํ อสุภารมฺมเณ วิกฺเขปาภาเวน เอกคฺคํ, สุฏฺุ อปฺปิตภาเวน สุสมาหิตฺจ โหติ, เอวํ ภาเวหีติ. เอวํ สมถภาวนาย กามราคสฺส วิกฺขมฺภนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉทนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขาเร ปรโต ปสฺสาติ สพฺเพปิ สงฺขาเร อวิเธยฺยกตาย ‘‘ปเร’’ติ ปสฺส. อนิจฺจตาย ปน อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขโต, อนตฺตสภาวตฺตา, อตฺตวิรหโต จ โน อตฺตโต ปสฺส. เอวํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต มคฺคปฏิปาฏิยา จตุตฺถมคฺเคน สพฺพโส นิพฺพาเปหิ มหาราคํ เตภูมกสฺส อภิภวนโต มหาวิสยตาย มหาราคํ วูปสเมหิ. ยถา เอตรหิ, เอวํ มา ฑยฺหิตฺโถ ปุนปฺปุนนฺติ ทฬฺหตรํ ราควิโนทเน นิโยเชสิ.
เอวํ อินฺทฺริยสํวรสีลสฺส สมฺปาทเน วิธึ ทสฺเสตฺวา เอวํ ตํ สุสมฺปาทิตํ โหตีติ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทินา ตตฺถ ปริปูรการิโน เถเร นิทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘เลณํ น อุลฺโลกิตปุพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพตฺเถว เถรสฺส ยุคมตฺตทสฺสิตาย วุตฺตํ. กึ ปน เถโร เสนาสนํ น โสเธติ ¶ ? ‘‘อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, อนฺเตวาสิกาทโย เอว กิรสฺส เสนาสนํ โสเธนฺติ. อสฺส นาครุกฺขสฺส.
ตสฺมึ คาเมติ มหาคาเม. ตรุณา ถฺปิวนกา ปุตฺตธีตโร ยาสํ ตา ตรุณปุตฺตา, ตาสํ. ลฺชาเปสีติ ถนปฏฺฏิกาย ถเน พนฺธาเปตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺชาเปสิ. ราชา เถรํ จิรตรํ ทฏฺุํ กาลวิกฺเขปํ กโรนฺโต ‘‘สฺเว สีลานิ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาห. เถโร รฺโ จ เทวิยา จ วนฺทนกาเล สตฺตาการมตฺตํ คณฺหาติ. อิตฺถี ปุริโสติ ปน วิเวกํ น กโรติ. เตนาห ‘‘ววตฺถานํ น กโรมี’’ติ. ‘‘อโห สุปริสุทฺธสีโล วตายํ อยฺโย’’ติ ทณฺฑทีปิกํ คเหตฺวา อฏฺาสิ. อติปริสุทฺธํ ปากฏนฺติ สปฺปายลาเภน กมฺมฏฺานํ อติวิย ปริสุทฺธํ วิภูตํ อโหสิ. สกลํ ปพฺพตํ อุนฺนาทยนฺโตติ ปถวิกมฺปเนน สกลํ ปพฺพตํ เอกํ นินฺนาทํ กโรนฺโต. ตนฺนิวาสิเทวตานํ สาธุการทาเนนาติ เกจิ. ภนฺโตติ อนวฏฺิโต. พาโลติ ตรุณทารโก. อุตฺรสฺโตติ าตเกหิ วินาภาเวน สนฺตฺรสฺโต.
วิสคณฺฑกโรโคติ ¶ ถนกนฺทฬโรคมาห. มาสโรคาทิโกปิ วิสคณฺฑกโรโคติ วทนฺติ. ยโต ปพฺพชิโต, ตโต ปฏฺาย ปพฺพชิตกาลโต ปภุตีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานีติ อินฺทฺริยสํวรสีลานิ. เตสุ หิ ภินฺเนสุ อินฺทฺริยานิปิ ภินฺนานีติ วุจฺจนฺติ อารกฺขาภาวโต, อินฺทฺริยาเนว วา นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคาหสฺส ทฺวารภูตานิ ภินฺนานิ นาม ตํสมงฺคิโน อนตฺถุปฺปตฺติโต, วิปริยายโต อภินฺนานีติ เวทิตพฺพานิ. อินฺทฺริยานํ วา อโยนิโส อุปสํหาโร เภทนํ, โยนิโส อุปสํหาโร อเภทนนฺติ อปเร. มิตฺตตฺเถโรวาติ มหามิตฺตตฺเถโร วิย. วเรติ เสฏฺเ.
ตถา วีริเยนาติ ตถา-สทฺเทน วีริยํ วิเสเสติ. ยถา สติ อนวชฺชลกฺขณาว อินฺทฺริยสํวรสาธนํ, ตถา วีริยํ อนวชฺชลกฺขณํ อาชีวปาริสุทฺธิสาธนนฺติ. วีริยาเปกฺขเมว วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘สมฺมาอารทฺธวีริยสฺสา’’ติ. อยุตฺตา เอสนา อเนสนา, ยถาวุตฺตมิจฺฉาชีวสงฺคหา. สา เอว สตฺถุสาสนสฺส น ปติรูปาติ อปฺปติรูปํ, ตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ. อถ วา ปติรูปวิโรธินี อปฺปติรูปา, ปริคฺคหิตธุตงฺคสฺส ¶ ธุตงฺคนิยมวิโรธินี ยสฺส กสฺสจิ สลฺเลขวิโกปินี ปฏิปตฺติ. อิมสฺมึ ปกฺเข จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, อเนสนํ, อปฺปติรูปฺจ ปหายาติ. ปฏิเสวมาเนน ปริวชฺชยตา สมฺปาเทตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปริสุทฺธุปฺปาเท’’ติ อิมินาว ธมฺมเทสนาทีนํ ปริสุทฺธาย สมุฏฺานตา ทีปิตา โหตีติ ‘‘ธมฺมเทสนาทีหิ จสฺส คุเณหิ ปสนฺนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน พาหุสจฺจวตฺตปริปูรณอิริยาปถสมฺปตฺติอาทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ธุตคุเณ จสฺส ปสนฺนานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิณฺฑปาตจริยาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน มิตฺตสุหชฺชปํสุกูลจริยาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ธุตงฺคนิยมานุโลเมนาติ ตํตํธุตงฺคนิยตาย ปฏิปตฺติยา อนุโลมวเสน, อวิโกปนวเสนาติ อตฺโถ. มหิจฺฉสฺเสว มิจฺฉาชีเวน ชีวิกา, น อปฺปิจฺฉสฺส. อปฺปิจฺฉตาย อุกฺกํสคตาย มิจฺฉาชีวสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกพฺยาธิวูปสมตฺถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปูติหริตกีติ ปูติมุตฺตปริภาวิตํ, ปูติภาเวน วา ฉฑฺฑิตํ หริตกํ. อริยวํโส เอตสฺส อตฺถีติ, อริยวํเส วา นิยุตฺโตติ อริยวํสิโก, ปจฺจยเคธสฺส ทูรสมุสฺสาริตตฺตา อุตฺตโม จ โส อริยวํสิโก จาติ อุตฺตมอริยวํสิโก. ยสฺส กสฺสจีติ ปริคฺคหิตาปริคฺคหิตธุตงฺเคสุ ยสฺส กสฺสจิ.
นิมิตฺตํ นาม ปจฺจเย อุทฺทิสฺส ยถา อธิปฺปาโย ายติ เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ. โอภาโส นาม ¶ อุชุกเมว อกเถตฺวา ยถา อธิปฺปาโย วิภูโต โหติ, เอวํ โอภาสนํ. ปริกถา นาม ปริยาเยน กถนํ. ตถา อุปฺปนฺนนฺติ นิมิตฺตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ.
ทฺวารํ ทินฺนนฺติ โรคสีเสน ปริโภคสฺส ทฺวารํ ทินฺนํ. ตสฺมา อโรคกาเลปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘กิฺจาปิ อาปตฺติ น โหตี’’ติอาทิ. น วฏฺฏตีติ สลฺเลขปฏิปตฺติยํ ิตสฺส น วฏฺฏติ, สลฺเลขํ โกเปตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาชีวํ ปน โกเปตี’’ติ อิมินาว เสนาสนปฏิสํยุตฺตธุตงฺคธรสฺส นิมิตฺตาทโย น วฏฺฏนฺตีติ วทนฺติ. ตทฺธุตงฺคธรสฺสาปิ น วฏฺฏนฺติเยวาติ อปเร. อกโรนฺโตติ ยถาสกํ อนฺุาตวิสเยปิ อกโรนฺโต. อฺตฺเรวาติ เปตฺวา เอว.
คณวาสํ ¶ ปหาย อรฺายตเน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกสฺส มุทฺธภูตาย อคฺคผลสมาปตฺติยา วิหรนฺโต มหาเถโร ‘‘ปวิเวกํ พฺรูหยมาโน’’ติ วุตฺโต. อุทรสนฺนิสฺสิโต วาตาพาโธ อุทรวาตาพาโธ. อสมฺภินฺนํ ขีรํ เอตสฺสาติ อสมฺภินฺนขีรํ, ตเทว ปายาสนฺติ อสมฺภินฺนขีรปายาสํ, อุทเกน อสมฺมิสฺสขีเรน ปกฺกปายาสนฺติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ปายาสสฺส. อุปฺปตฺติมูลนฺติ ‘‘คิหิกาเล เม, อาวุโส, มาตา สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ โยเชตฺวา อสมฺภินฺนขีรปายาสํ อทาสิ, เตน เม ผาสุ อโหสี’’ติ อตฺตโน วจีนิจฺฉารณสงฺขาตํ อุปฺปตฺติเหตุํ. ‘‘อปริโภคารโห ปิณฺฑปาโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เถรสฺส โอภาสนาทิจิตฺตุปฺปตฺติเยว นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, อชฺฌาสยํ ปน อชานนฺตา เอกจฺเจ ปุถุชฺชนา ตถา มฺเยฺยุํ, อนาคเต จ สพฺรหฺมจาริโน เอวํ มม ทิฏฺานุคตึ อาปชฺเชยฺยุนฺติ ปฏิกฺขิปิ. อปิจ มหาเถรสฺส ปรมุกฺกํสคตา สลฺเลขปฏิปตฺติ. ตถา หิ ทหรภิกฺขุโน ‘‘กสฺส สมฺปนฺนํ น มนาป’’นฺติ (ปาจิ. ๒๐๙, ๒๕๗, ๖๑๒, ๑๒๒๘, ๑๒๓๔; จูฬว. ๓๔๓) วจนํ นิสฺสาย ยาว ปรินิพฺพานา ปิฏฺขาทนียํ น ขาทติ.
วจีวิฺตฺติวิปฺผาราติ วจีนิจฺฉารณเหตุ. อตฺถวิฺาปนวเสน ปวตฺตมาโน หิ สทฺโท อสติปิ วิฺตฺติยา ตสฺส เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยภาเว วจีวิฺตฺติวเสเนว ปวตฺตตีติ ‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผาโร’’ติ วุจฺจติ. ภุตฺโตติ ภุตฺตวา สเจ ภเวยฺยํ อหํ. สาติ อสฺส. อการโลเปน หิ นิทฺเทโส ‘‘เอวํส เต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๗) วิย. อนฺตคุณนฺติ อนฺตโภโค. พหิ จเรติ อาสยโต นิกฺขมิตฺวา โคจรคฺคหณวเสน ¶ พหิ ยทิ วิจเรยฺย. ปรมปฺปิจฺฉํ ทสฺเสตุํ โลกโวหาเรเนวมาห. โลเก หิ อยุตฺตโภชนํ โอทริยํ ครหนฺตา เอวํ วทนฺติ ‘‘กึสุ นาม ตสฺส อนฺตานิ พหิ จรนฺตี’’ติ. อาราเธมีติ อาทิโต ปฏฺาย ราเธมิ, วเส วตฺเตมีติ อตฺโถ.
มหาติสฺสตฺเถโร กิร ทุพฺภิกฺขกาเล มคฺคํ คจฺฉนฺโต ภตฺตจฺเฉเทน, มคฺคกิลมเถน จ กิลนฺตกาโย ทุพฺพโล อฺตรสฺส ผลิตสฺส อมฺพสฺส มูเล นิปชฺชิ, พหูนิ อมฺพผลานิ ตหํ ตหํ ปติตานิ โหนฺติ. ตตฺเถโก วุฑฺฒตโร อุปาสโก เถรสฺส สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา ปริสฺสมํ ตฺวา ¶ อมฺพปานํ ปาเยตฺวา อตฺตโน ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา วสนฏฺานํ เนติ. เถโร –
‘‘น ปิตา นปิ เต มาตา, น าติ นปิ พนฺธโว;
กโรเตตาทิสํ กิจฺจํ, สีลวนฺตสฺส การณา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๐) –
อตฺตานํ โอวทิตฺวา สมฺมสนํ อารภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตสฺส ปิฏฺิคโต เอว มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อมฺพขาทกมหาติสฺสตฺเถรวตฺถุปิ เจตฺถ กเถตพฺพ’’นฺติ. สพฺพถาปีติ สพฺพปฺปกาเรนปิ อเนสนวเสน, จิตฺตุปฺปตฺติวเสนปิ, ปเคว กายวจีวิปฺผนฺทิตวเสนาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อเนสนายา’’ติอาทิ.
อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อิณปริโภคอาปตฺติอาทีนวสฺส, ตพฺพิปริยายโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อานิสํสสฺส จ ทสฺสนํ อาทีนวานิสํสทสฺสนํ. ตสฺส ปน ปจฺจยาธิการตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปจฺจเยสู’’ติ. การณการณมฺปิ หิ การณภาเวน วุจฺจติ ยถา ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธนฺติ. เยน การเณน ภิกฺขุโน อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค นาม สิยา, ตสฺมึ วชฺชิเต ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ สิชฺฌติ, วิสุชฺฌติ จาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปจฺจยเคธนฺติ เคธคฺคหเณเนว สมฺโมโหปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ เตน สห ปวตฺตนโต, ตทุปนิสฺสยโต จ. ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺเนติ อิทํ ปจฺจยานํ อาคมนสุทฺธิทสฺสนํ, น ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลวิสุทฺธิทสฺสนํ. ปจฺจยานํ หิ อิทมตฺถิตํ อุปธาเรตฺวา ปริภฺุชนํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ. ยสฺมา ปน เต ปจฺจยา ายาธิคตา เอว ภิกฺขุนา ปริภฺุชิตพฺพา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺเน ปจฺจเย’’ติ. ยถาวุตฺเตน วิธินาติ ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖) วุตฺตวิธินา.
ธาตุวเสน ¶ วาติ ‘‘ยถาปจฺจยํ วตฺตมานํ ธาตุมตฺตเมเวตํ, ยทิทํ จีวราทิ, ตทุปภฺุชโก จ ปุคฺคโล’’ติ เอวํ ธาตุมนสิการวเสน วา. ปฏิกูลวเสน วาติ ปิณฺฑปาเต ตาว อาหาเร ปฏิกูลสฺาวเสน, ‘‘สพฺพานิ ปน อิมานิ จีวราทีนิ อชิคุจฺฉนียานิ, อิมํ ปูติกายํ ปตฺวา อติวิย ชิคุจฺฉนียานิ ชายนฺตี’’ติ เอวํ ปฏิกูลมนสิการวเสน วา. ตโต อุตฺตรีติ ปฏิลาภกาลโต อุปริ. อนวชฺโชว ปริโภโค ¶ อาทิโตว ปฺาย ปริโสธิตตฺตา อธิฏฺหิตฺวา ปิตปตฺตจีวรานํ วิยาติ. ปจฺจเวกฺขณาย อาทิสุทฺธิทสฺสนปรเมตํ, น ปริโภคกาเล ปจฺจเวกฺขณปฏิกฺเขปปรํ. เตนาห ‘‘ปริโภคกาเลปี’’ติอาทิ. ตตฺราติ ตสฺมึ ปริโภคกาเล ปจฺจเวกฺขเณ. สนฺนิฏฺานกโรติ อสนฺเทหกโร เอกนฺติโก.
เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตาปิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนฺุาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส. อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนฺุาตตฺตา, ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยาย ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค, ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘สีลวโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. จีวรํ กายโต โมเจตฺวา ปริโภเค ปริโภเค ปุเรภตฺต…เป… ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ยถาวุตฺตกาลวิเสสวเสน เอกทิวเส จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ ทฺวิกฺขตฺตุํ สกึเยว วา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. สเจ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตํ, ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย…เป… หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํ. หิยฺโย โย มยา ปิณฺฑปาโต ปริภุตฺโต, โส ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทินา สเจ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณํ น กเรยฺยาติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตพฺพํ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเส. สติปจฺจยตาติ สติยา ปจฺจยภาโว ปฏิคฺคหณสฺส, ปริโภคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยภาโว ยุชฺชติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปริภฺุชิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตปีติ ยทิปิ ทฺวีสุปิ าเนสุ ปจฺจเวกฺขณา ยุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ. อปเร ปนาหุ – สติ ปจฺจยตาติ สติ เภสชฺชปริโภคสฺส ปจฺจยภาเว, สติ ปจฺจเยติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตปีติ ปจฺจเย สติปีติ. ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตถา หิ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌติ, น ปจฺจยสฺส ภาวมตฺเตน.
เอวํ ¶ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ วิสุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ ¶ เอตายาติ สุทฺธิ, ยถาธมฺมํ เทสนาว สุทฺธิ เทสนาสุทฺธิ. วุฏฺานสฺสาปิ เจตฺถ เทสนาย เอว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ฉินฺนมูลาปตฺตีนํ ปน อภิกฺขุตาปฏิฺาว เทสนา. อธิฏฺานวิสิฏฺโ สํวโรว สุทฺธิ สํวรสุทฺธิ. ธมฺเมน สเมน ปจฺจยานํ ปริเยฏฺิ เอว สุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ. จตูสุปิ ปจฺจเยสุ วุตฺตวิธินา ปจฺจเวกฺขณาว สุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ. เอส ตาว สุทฺธีสุ สมาสนโย. สุทฺธิมนฺเตสุ ปน เทสนา สุทฺธิ เอตสฺสาติ เทสนาสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สุทฺธิ-สทฺโท ปน วุตฺตนโยว. เอวนฺติ สํวรเภทํ สนฺธายาห. ปหายาติ วชฺเชตฺวา, อกตฺวาติ อตฺโถ.
ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา. อนนฺุาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต, อนฺุาเตสุ เอว จ ปริโภคสมฺภวโต ภิกฺขูหิ ปริภฺุชิตพฺพปจฺจยา ภควโต สนฺตกา. ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ โน อามิสทายาทา’’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙) เอวํ ปวตฺตํ ธมฺมทายาทสุตฺตฺจ เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ สาธกํ.
อวีตราคานํ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิปริโภคสมฺภวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน, อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน, ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เตนาห ‘‘เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภฺุชนฺตี’’ติ.
สพฺเพสนฺติ อริยานํ, ปุถุชฺชนานฺจ. กถํ ปุถุชฺชนานํ อิเม ปริโภคา สมฺภวนฺติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สลฺเลขปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ, ทายกานํ มโนรถสฺส อวิราธนโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺตํ (สํ. นิ. ๕.๑๓) เหตสฺสตฺถสฺส สาธกํ. เตนาห ‘‘สีลวาปิ ¶ หี’’ติอาทิ. ปจฺจนีกตฺตาติ ยถา อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตเทสํ คนฺตุํ น ¶ ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อาณณฺยปริโภโคติ อาห ‘‘อาณณฺยปริโภโค วา’’ติ. เอเตน นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ ทสฺเสติ. อิมาย สิกฺขายาติ สีลสงฺขาตาย สิกฺขาย. กิจฺจการีติ ปฏิฺานุรูปํ ปฏิปชฺชนโต ยุตฺตปตฺตการี.
อิทานิ ตเมว กิจฺจการิตํ สุตฺตปเทน วิภาเวตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิหารนฺติ ปติสฺสยํ. สยนาสนนฺติ มฺจาทึ. อุภเยนปิ เสนาสนเมว วุตฺตํ. อาปนฺติ อุทกํ. สงฺฆาฏิรชูปวาหนนฺติ ปํสุมลาทิโน สงฺฆาฏิคตรชสฺส โธวนํ. สุตฺวาน ธมฺมํ สุคเตน เทสิตนฺติ จีวราทีสุ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวติ สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖) นเยน ภควตา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา. สงฺขาย เสเว วรปฺสาวโกติ ‘‘ปิณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ ปิณฺฑปาตํ, วิหาราทิปเทหิ วุตฺตํ เสนาสนํ, ‘‘ปิปาสาเคลฺสฺส วูปสมนโต ปานียมฺปิ คิลานปจฺจโย’’ติ อาปมุเขน ทสฺสิตํ คิลานปจฺจยํ, สงฺฆาฏิยาทิจีวรนฺติ จตุพฺพิธํ ปจฺจยํ สงฺขาย ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; ธ. ส. ๑๓๕๕) นเยน ปจฺจเวกฺขิตฺวา. เสเว เสวิตุํ สกฺกุเณยฺย อุตฺตมปฺสฺส ภควโต สาวโก เสโข วา ปุถุชฺชโน วา.
ยสฺมา จ สงฺขาย เสวี วรปฺสาวโก, ตสฺมา หิ ปิณฺเฑ…เป… โปกฺขเร วาริพินฺทุ, ตถา โหติ. กาเลนาติ อริยานํ โภชนกาเล. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. ปรโตติ อฺโต ทายกโต. อนุคฺคหาติ อนุกมฺปาย พหุมฺหิ อุปนีเต มตฺตํ โส ชฺา ชาเนยฺย สตตํ สพฺพกาลํ อุปฏฺิโต อุปฏฺิตสฺสติ. อาเลปนรูหเน ยถาติ เภสชฺชเลปเนน วณสฺส รุหเน วิย, มตฺตํ ชาเนยฺยาติ โยชนา. อาหเรติ อาหเรยฺย. ‘‘อาหเรยฺยาหาร’’นฺติ วา ปาโ. ยาปนตฺถนฺติ สรีรสฺส ยาปนาย. อมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉาย อมุจฺฉิโต เคธํ ตณฺหํ อนาปนฺโน.
อตฺตโน ¶ มาตุลสฺส สงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺเสว นามสฺส คหิตตฺตา ภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตสามเณโร. สาลิกูรนฺติ สาลิภตฺตํ. สุนิพฺพุตนฺติ สุสีตลํ. อสฺโตติ อปจฺจเวกฺขณํ สนฺธายาห. สพฺพาสวปริกฺขีโณติ ปริกฺขีณสพฺพาสโว.
ปมสีลปฺจกวณฺณนา
๒๐. ปริยนฺโต ¶ เอเตสํ อตฺถีติ ปริยนฺตานิ, ปริยนฺตานิ สิกฺขาปทานิ เยสํ เต ปริยนฺตสิกฺขาปทา, เตสํ ปริยนฺตสิกฺขาปทานํ. อุปสมฺปนฺนานนฺติ เปตฺวา กลฺยาณปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺเข ตทฺเสํ อุปสมฺปนฺนานํ. สามฺโชตนาปิ หิ วิเสเส ติฏฺติ. กุสลธมฺเม ยุตฺตานนฺติ วิปสฺสนาจาเร ยุตฺตปยุตฺตานํ. เสกฺขธมฺมา ปริยนฺตา ปรมา มริยาทา เอตสฺสาติ เสกฺขปริยนฺโต. นามรูปปริจฺเฉทโต, กุสลธมฺมสมาทานโต วา ปน ปฏฺาย ยาว โคตฺรภู, ตาว ปวตฺตกุสลธมฺมปฺปพนฺโธ เสกฺขธมฺเม อาหจฺจ ิโต เสกฺขปริยนฺโต. เสกฺขธมฺมานํ วา เหฏฺิมนฺตภูตา สิกฺขิตพฺพา โลกิยา ติสฺโส สิกฺขา เสกฺขปริยนฺโต, ตสฺมึ เสกฺขปริยนฺเต. ปริปูรการีนนฺติ กิฺจิปิ สิกฺขํ อหาเปตฺวา ปูเรนฺตานํ. อุปริวิเสสาธิคมตฺถํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขานํ. ตโต เอว สีลปาริปูริอตฺถํ ปริจฺจตฺตชีวิตานํ. ทิฏฺิสํกิเลเสน อปรามสนียโต ปาริสุทฺธิวนฺตํ สีลํ อปรามฏฺปาริสุทฺธิสีลํ. กิเลสานํ สพฺพโส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ปาริสุทฺธิวนฺตํ สีลํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปาริสุทฺธิสีลํ.
อนุปสมฺปนฺนานํ อเสกฺขานํ, เสกฺขานํ, กลฺยาณปุถุชฺชนานฺจ สีลํ มหานุภาวตาย อานุภาวโต อปริยนฺตเมวาติ อาห ‘‘คณนวเสน สปริยนฺตตฺตา’’ติ. กายวาจานํ สํวรณโต, วินยนโต จ สํวรวินยา. เปยฺยาลมุเขน นิทฺทิฏฺาติ ตตฺถ ตตฺถ สตฺถารา เทสิตวิตฺถารนเยน ยถาวุตฺตคณนโต นิทฺทิฏฺา. สิกฺขาติ สีลสงฺขาตา สิกฺขา. วินยสํวเรติ วินยปิฏเก. คณนวเสน สปริยนฺตมฺปิ อุปสมฺปนฺนานํ สีลนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยํ กิฺจิ หิ อุปสมฺปนฺเนน สิกฺขิตพฺพํ สีลํ นาม, ตตฺถ กสฺสจิปิ อนวเสสโต อนวเสสวเสน ¶ . สมาทานภาวนฺติ สมาทานสพฺภาวํ. ลาภ…เป… วเสน อทิฏฺปริยนฺตภาโว ลาภาทิเหตุ สีลสฺส อวีติกฺกโม.
ธนํ จเช องฺควรสฺส เหตุ ปาริปนฺถิกโจราทีหิ อุปทฺทุโต. องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน สปฺปทฏฺาทิกาเล. องฺคํ ธนํ ชีวิตฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต สุตโสมมหาโพธิสตฺตาทโย วิย. เตนาห ‘‘อิมํ สปฺปุริสานุสฺสตึ อวิชหนฺโต’’ติ. ชิฆจฺฉาปริสฺสเมน ชีวิตสํสเย สติปิ. สิกฺขาปทํ อวีติกฺกมฺมาติ อสฺสามิเกสุ อมฺพผเลสุ ¶ ภูมิยํ ปติเตสุ สมีเปเยว สนฺเตสุปิ ปฏิคฺคาหกาภาเวน อปริภฺุชนฺโต ปฏิคฺคหณสิกฺขาปทํ อวีติกฺกมิตฺวา.
สีลวนฺตสฺสาติ สีลวนฺตภาวสฺส การณา, สีลวนฺตสฺส วา ตุยฺหํ เอตาทิสํ อํเสน วาหณาทิกํ กิจฺจํ กโรติ, การณา สีลสฺสาติ อธิปฺปาโย. สุโธตชาติมณิ วิยาติ จตูสุ ปาสาเณสุ สมฺมเทว โธตชาติมณิ วิย. มหาสงฺฆรกฺขิตภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตตฺเถรานํ วิยาติ มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส, ตสฺเสว ภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส วิย จ. ‘‘กิมตฺถํ มยํ อิธาคตา’’ติ มหาชนสฺส วิปฺปฏิสาโร ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อจฺฉริกายาติ องฺคุลิโผฏเนน. อสติยาติ สติสมฺโมเสน. อฺาณปกตนฺติ อฺาเณน อปรชฺฌิตฺวา กตํ, อชานิตฺวา กตนฺติ อตฺโถ.
อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหตีติ สุตฺตเคยฺยาทิสุตรหิโต โหติ เจ. สีเลสุ อสมาหิโตติ ปาติโมกฺขสํวราทิสีเลสุปิ น สมฺมา ปติฏฺิโต โหติ เจ. นาสฺส สมฺปชฺชเต สุตนฺติ อสฺส สีลรหิตสฺส ปุคฺคลสฺส สุตํ อตฺตโน, ปเรสฺจ กตฺถจิ ภวสมฺปตฺติอาวหํ น โหติ. ‘‘ทุสฺสีโลยํ ปุริสปุคฺคโล’’ติ หิ สิกฺขากามา น ตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺติ. พหุสฺสุโตปิ เจติ เอตฺถ เจ-ติ นิปาตมตฺตํ. ปสํสิโตติ ปสํสิโต เอว นาม.
ราควเสน อปรามฏฺคหเณน ตณฺหาปรามาสาภาวมาห. ตถารูปนฺติ ราควเสน อปรามฏฺํ. ภินฺทิตฺวาติ หนิตฺวา. สฺเปสฺสามีติ สฺตฺตึ ¶ กริสฺสามิ, อปฺปกํ เวลํ มํ วิสฺเสชฺเชตุนฺติ อธิปฺปาโย. อฏฺฏิยามีติ ชิคุจฺฉามิ. หรายามีติ ลชฺชามิ.
ปลิปนฺโนติ สีทนฺโต, สมฺมกฺขิโต วา. สีเลเนว สทฺธึ มริสฺสามีติ สีลํ อวินาเสนฺโต เตน สเหว มริสฺสามิ, น อิทานิ กทาจิปิ ตํ ปริจฺจชิสฺสามิ. สติ หิ ภวาทาเน สีเลน วิโยโค สิยา, ภวเมว นาทิยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย. โรคํ สมฺมสนฺโตติ โรคภูตํ เวทนํ เวทนามุเขน เสสารูปธมฺเม, รูปธมฺเม จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนฺโต.
รุปฺปโตติ วิการํ อาปาทิยมานสรีรสฺส. ปริสุสฺสตีติ สมนฺตโต สุสฺสติ. ยถา กึ? ปุปฺผํ ยถา ปํสุนิ อาตเป กตํ สูริยาตปสนฺตตฺเต ปํสุนิ ปิตํ สิรีสาทิปุปฺผํ วิยาติ ¶ อตฺโถ. อชฺนฺติ อมนฺุํ ชิคุจฺฉนียํ. ชฺสงฺขาตนฺติ พาเลหิ ‘‘ชฺ’’นฺติ เอวํ กิตฺติตํ. ชฺรูปํ อปสฺสโตติ ยถาภูตํ อปฺปสฺสโต อวิทฺทสุโน ‘‘ชฺ’’นฺติ ปสํสิตํ. ธิรตฺถุมนฺติ ธิ อตฺถุ อิมํ, ธิ-สทฺทโยเคน สพฺพตฺถ อุปโยควจนํ, อิมสฺส ปูติกายสฺส ธิกาโร โหตูติ อตฺโถ. ทุคฺคนฺธิยนฺติ ทุคฺคนฺธิกํ ทุคฺคนฺธวนฺตํ. ยตฺถ ยถาวุตฺเต ปูติกาเย ราคเหตุ ปมตฺตา ปมาทํ อาปนฺนา. ปชาติ สตฺตา. หาเปนฺติ มคฺคํ สุคตูปปตฺติยาติ สุคตูปปตฺติยา มคฺคํ, สีลมฺปิ หาเปนฺติ, ปเคว ฌานาทินฺติ อธิปฺปาโย. เกวลํ ‘‘อรหนฺโต’’ติ วตฺตพฺพา สาวกขีณาสวา, อิตเร ปน ปจฺเจกพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สห วิเสสเนนาติ อาห ‘‘อรหนฺตาทีน’’นฺติ. สพฺพทรถปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ สพฺพกิเลสทรถปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิยา.
ทุติยสีลปฺจกวณฺณนา
ปาณาติปาตาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานาทีนํ อคฺคมคฺควชฺฌกิเลสปริโยสานานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปหานาทีติ อาทิ-สทฺเทน เวรมณิอาทีนํ จตุนฺนํ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ปหานวเสนา’’ติ ลิขนฺติ, สา ปมาทเลขา. ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลนฺติ หิโรตฺตปฺปกรุณาโลภาทิปมุเขน เยน กุสลจิตฺตุปฺปาเทน ปาณาติปาโต ปหียติ, ตํ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลนฏฺเน สีลํ. ตถา ปาณาติปาตา ¶ วิรติ เวรมณี สีลํ. ปาณาติปาตสฺส ปฏิปกฺขเจตนา เจตนา สีลํ. ปาณาติปาตสฺส สํวรณํ ปเวสทฺวารปิธานํ สํวโร สีลํ. ปาณาติปาตสฺส อวีติกฺกมนํ อวีติกฺกโม สีลํ. อทินฺนาทานสฺสาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อภิชฺฌาทีนํ ปน อนภิชฺฌาทิวเสน ปหานํ เวทิตพฺพํ. เวรมณี เจตนา ตํสมฺปยุตฺตา สํวราวีติกฺกมา ตปฺปมุขา ธมฺมา.
เอวํ ทสกุสลกมฺมปถวเสน ปหานสีลาทีนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายานํ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ, อฏฺารสนฺนํ มหาวิปสฺสนานํ, อริยมคฺคานฺจ วเสน ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เนกฺขมฺเมนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เนกฺขมฺเมนาติ อโลภปฺปธาเนน กุสลจิตฺตุปฺปาเทน. กุสลา หิ ธมฺมา กามปฏิปกฺขา อิธ ‘‘เนกฺขมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตา. เตนาห ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ สีล’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปหานสีลาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. วิเสสเมว วกฺขาม. อพฺยาปาเทนาติ เมตฺตาย. อาโลกสฺายาติ วิภูตํ กตฺวา มนสิกรเณน อุปฏฺิตอาโลกสฺชานเนน ¶ . อวิกฺเขเปนาติ สมาธินา. ธมฺมววตฺถาเนนาติ กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวนิจฺฉเยน. สปจฺจยนามรูปววตฺถาเนนาติปิ วทนฺติ.
เอวํ กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหาเนน ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๓๘) วุตฺตาย ปมชฺฌานาธิคมสฺส อุปายภูตาย ปุพฺพภาคปฏิปทาย วเสน ปหานสีลาทีนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายานํ อฏฺสมาปตฺติอาทีนํ วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘าเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นามรูปปริคฺคหกงฺขาวิตรณานํ หิ วิพนฺธภูตสฺส โมหสฺส ทูรีกรเณน าตปริฺาย ิตสฺส อนิจฺจสฺาทโย สิชฺฌนฺติ. ตถา ฌานสมาปตฺตีสุ อภิรตินิมิตฺเตน ปาโมชฺเชน. ตตฺถ อนภิรติยา วิโนทิตาย ฌานาทีนํ สมธิคโมติ สมาปตฺติวิปสฺสนานํ อรติวิโนทนอวิชฺชาปทาลนาทินา อุปาโยติ วุตฺตํ ‘‘าเณน อวิชฺชาย, ปาโมชฺเชน อรติยา’’ติ. อุปฺปฏิปาฏินิทฺเทโส ปน นีวรณสภาวาย อวิชฺชาย เหฏฺานีวรเณสุปิ สงฺคหทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ปเมน ¶ ฌาเนน นีวรณาน’’นฺติอาทีสุ กถํ ฌานานํ สีลภาโว, กถํ วา ตตฺถ วิรติยา สมฺภโว. สุวิสุทฺธกายกมฺมาทิกสฺส หิ จิตฺตสมาทานวเสน อิมานิ ฌานานิ ปวตฺตนฺติ, น ปริตฺตกุสลานิ วิย กายกมฺมาทิวิโสธนวเสน, นาปิ มคฺคผลธมฺมา วิย ทุจฺจริตทุราชีวสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสนาติ? สจฺจเมตํ. มหคฺคตธมฺเมสุ นิปฺปริยาเยน นตฺถิ สีลนฏฺโ, กุโต วิรมณฏฺโ. ปริยาเยน ปเนตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โก ปน โส ปริยาโย? ยทคฺเคน มหคฺคตา กุสลธมฺมา ปฏิปกฺเข ปชหนฺติ, ตทคฺเคน ตโต โอรตา. เต จ ยถา จิตฺตํ นาโรหนฺติ, เอวํ สํวุตา นาม โหนฺติ. ปริยุฏฺานสงฺขาโต มโนทฺวาเร วีติกฺกโม นตฺถิ เอเตสูติ อวีติกฺกมาติ จ วุจฺจนฺติ, เจตนา ปน ตํสมฺปยุตฺตาติ. โสยมตฺโถ ปรโต อาคมิสฺสติ. เอวฺจ กตฺวา วิตกฺกาทิปหานวจนมฺปิ สมตฺถิตํ โหติ. น หิ นิปฺปริยายโต สีลํ กุสลธมฺมานํ ปหายกํ ยุชฺชติ, น เจตฺถ อกุสลวิตกฺกาทโย อธิปฺเปตา. กิฺจาปิ ปมชฺฌานูปจาเรเยว ทุกฺขสฺส, จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ สุขสฺส ปหานํ โหติ, อติสยปหานํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถน ฌาเนน สุขทุกฺขานํ ปหาน’’นฺติ. ‘‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อารุปฺปกถายํ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๕ อาทโย) อาคมิสฺสติ.
อนิจฺจสฺส, อนิจฺจนฺติ วา อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา. เตภูมิกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ¶ ปวตฺตาย วิปสฺสนาเยตํ นามํ. นิจฺจสฺายาติ ‘‘สงฺขตธมฺมา นิจฺจา สสฺสตา’’ติ เอวํ ปวตฺตาย มิจฺฉาสฺาย, สฺาคฺคหเณเนว ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิโต ปราสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนายาติ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. นนฺทิยาติ สปฺปีติกตณฺหาย. วิราคานุปสฺสนายาติ วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. ราคสฺสาติ สงฺขาเรสุ ราคสฺส. นิโรธานุปสฺสนายาติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนาย. ยถา วา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, อายตึ ปุนพฺภววเสน น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. เตเนวาห ‘‘นิโรธานุปสฺสนาย นิโรเธติ โน สมุเทตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๓). มฺุจิตุกามตาย หิ อยํ พลปฺปตฺตา. สงฺขารานํ ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา หิ อยํ ¶ . อาทานสฺสาติ นิจฺจาทิวเสน คหณสฺส. สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณวเสน เอกตฺตคหณํ ฆนสฺา, ตสฺสา ฆนสฺาย. อายูหนสฺสาติ อภิสงฺขรณสฺส. สงฺขารานํ อวตฺถาทิวิเสสาปตฺติ วิปริณาโม. ธุวสฺายาติ ถิรภาวคหณสฺส. นิมิตฺตสฺสาติ สมูหาทิฆนวเสน สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สงฺขารานํ สวิคฺคหตาย. ปณิธิยาติ ราคาทิปณิธิยา, ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตายาติ อตฺโถ. อภินิเวสสฺสาติ อตฺตานุทิฏฺิยา. อนิจฺจทุกฺขาทิวเสน สพฺพเตภูมกธมฺมติรณา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา. สาราทานาภินิเวสสฺสาติ อสาเรสุ สารคหณวิปลฺลาสสฺส. ยถาภูตาณทสฺสนํ ถิรภาวปตฺตา อนิจฺจาทิอนุปสฺสนาว. อุทยพฺพยาณนฺติ เกจิ. สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนนฺติ อปเร. ‘‘อิสฺสรกุตฺตาทิวเสน โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติ อภินิเวโส สมฺโมหาภินิเวโส. อุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวโสติ เกจิ. ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) สํสยาปตฺติ สมฺโมหาภินิเวโสติ อปเร. สงฺขาเรสุ ตาณเลณภาวคหณํ อาลยาภินิเวโส. ‘‘อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) วจนโต อาลโย ตณฺหา. สา เอว จกฺขาทีสุ, รูปาทีสุ จ อภินิวิสนวเสน ปวตฺติยา อาลยาภินิเวโสติ อปเร. ‘‘เอวํ ิตา เต สงฺขารา ปฏินิสฺสชฺชียนฺตี’’ติ ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา. อปฺปฏิสงฺขา ปฏิสงฺขาย ปฏิปกฺขภูตา โมหปฺปธานา อกุสลธมฺมา. วฏฺฏโต วิคตตฺตา วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ, ตตฺถ นินฺนภาวสงฺขาเตน อนุปสฺสเนน ปวตฺติ วิวฏฺฏานุปสฺสนา, สงฺขารุเปกฺขา เจว อนุโลมาณฺจ. สฺโคาภินิเวโส สํยุชฺชนวเสน สงฺขาเรสุ อภินิวิสนํ.
ทิฏฺเกฏฺานนฺติ ¶ ทิฏฺิยา สหเชกฏฺานฺจ ปหาเนกฏฺานฺจ. โอฬาริกานนฺติ อุปริมคฺควชฺเฌ กิเลเส อุปาทาย วุตฺตํ. อฺถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควชฺเฌหิ โอฬาริกา. อณุสหคตานนฺติ อณุภูตานํ, อิทํ เหฏฺิมมคฺควชฺเฌ อุปาทาย วุตฺตํ. สพฺพกิเลสานนฺติ อวสิฏฺสพฺพกิเลสานํ. น หิ ปมมคฺคาทีหิ ปหีนา กิเลสา ปุน ปหียนฺติ.
‘‘จิตฺตสฺส ¶ อวิปฺปฏิสาราย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย. ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑) วจนโต เจตโส อวิปฺปฏิสารตฺถาย ภวนฺติ. อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย. ‘‘โยนิโส มนสิ กโรโต ปาโมชฺชํ ชายตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) วจนโต ปาโมชฺชาย สํวตฺตนฺติ. ปาโมชฺชํ ปีติยา. ‘‘ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต ปีติยา สํวตฺตนฺติ. ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต ปสฺสทฺธิยา สํวตฺตนฺติ. ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย. ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต โสมนสฺสาย สํวตฺตนฺตีติ. ‘‘สุขตฺถาย สุขํ เวเทตี’’ติ เจตฺถ โสมนสฺสํ ‘‘สุข’’นฺติ วุตฺตํ. อาเสวนายาติ สมาธิสฺส อาเสวนาย. นิรามิเส หิ สุเข สิทฺเธ ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต สมาธิ สิทฺโธเยว โหติ, ตสฺมา สมาธิสฺส อาเสวนาย ปคุณพลวภาวาย สํวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ภาวนายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส วฑฺฒิยา. พหุลีกมฺมายาติ ปุนปฺปุนํ กิริยาย. อลงฺการายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส ปสาธนภูตสทฺธินฺทฺริยาทินิปฺผตฺติยา อลงฺการาย สํวตฺตนฺติ. ปริกฺขารายาติ อวิปฺปฏิสาราทิกสฺส สมาธิสมฺภารสฺส สิทฺธิยา ตสฺเสว สมาธิสฺส ปริกฺขาราย สํวตฺตนฺติ. สมฺภารตฺโถ หิ อิธ ปริกฺขาร-สทฺโท. ‘‘เย จ โข อิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙๑) วิย สมฺภาโรติ จ ปจฺจโย เวทิตพฺโพ. กามฺจายํ ปริกฺขาร-สทฺโท ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺการตฺโถ. ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตฺตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวารตฺโถ วุตฺโต. อิธ ปน อลงฺการปริวารานํ วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘สมฺภารตฺโถ’’ติ วุตฺตํ ¶ . ปริวารายาติ มูลการณภาเวเนว สมาธิสฺส ปริวารภูตสติวีริยาทิธมฺมวิเสสสาธเนน ปริวารสมฺปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. ปาริปูริยาติ วสีภาวสมฺปาปเนน, วิปสฺสนาย ปทฏฺานภาวาปาทเนน จ ปริปุณฺณภาวสาธนโต สมาธิสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตนฺติ.
เอวํ สุปริสุทฺธสีลมูลกํ สพฺพาการปริปูรํ สมาธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘สมาหิโต ปชานาติ ปสฺสติ, ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ ¶ , วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๒; ส. นิ. ๓.๑๔) วจนโต สีลมูลกานิ สมาธิปทฏฺานานิ ปโยชนานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกนฺตนิพฺพิทายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิพฺพิทาย หิ ทสฺสิตาย ตสฺสา ปทฏฺานภูตํ ยถาภูตาณทสฺสนํ ทสฺสิตเมว โหติ, ตสฺมึ อสติ นิพฺพิทาย อสิชฺฌนโต. นิพฺพิทาทโย อตฺถโต วิภตฺตา เอว. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ ปเนตฺถ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ อธิปฺเปตํ. เอวเมตฺถ อมตมหานิพฺพานปริโยสานํ สีลสฺส ปโยชนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ปหานาทีสุ สีลตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปชหนํ อนุปฺปาทนิโรโธ ปหานนฺติ ตสฺส ภาวสาธนตํ สนฺธาย ‘‘ปหานนฺติ โกจิ ธมฺโม นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ยถา ปนสฺส ธมฺมภาโว สมฺภวติ, ตถา เหฏฺา สํวณฺณิตเมว. เอวํ หิสฺส สีลภาโว สุฏฺุ ยุชฺชติ. ตํ ตํ ปหานนฺติ ‘‘ปาณาติปาตสฺส ปหานํ, อทินฺนาทานสฺส ปหาน’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ตํ ตํ ปหานํ. ตสฺส ตสฺส กุสลธมฺมสฺสาติ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ เมตฺตาทิกุสลธมฺมสฺส, อทินฺนาทานสฺส ปหานํ จาคาทิกุสลธมฺมสฺสาติ เอวํ ตสฺส ตสฺส กุสลธมฺมสฺส. ปติฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานภาเวน. ปหานํ หิ ตสฺมึ สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺส ‘‘ปติฏฺาน’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ กตฺวา ยสฺมึ สนฺตาเน ปาณาติปาตาทโย ตสฺส ปกมฺปเหตโวติ ตปฺปหานํ วิกมฺปาภาวกรเณน จ สมาธานํ วุตฺตํ. เอวํ เสสปหาเนสุปิ วตฺตพฺพํ. สมาธานํ สณฺปนํ, สํยมนํ วา. อิตเร จตฺตาโรติ เวรมณิอาทโย จตฺตาโร ธมฺมา น ปหานํ วิย โวหารมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตโต ตโตติ ตมฺหา ตมฺหา ปาณาติปาตาทิโต. ตสฺส ตสฺสาติ ปาณาติปาตาทิกสฺส สํวรณวเสน, ตสฺส ตสฺส วา สํวรสฺส วเสน. ตทุภยสมฺปยุตฺตเจตนาวเสนาติ เวรมณีหิ, สํวรธมฺเมหิ จ สมฺปยุตฺตาย เจตนาย วเสน. ตํ ตํ อวีติกฺกมนฺตสฺสาติ ตํ ตํ ปาณาติปาตาทึ อวีติกฺกมนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส, ธมฺมสมูหสฺส วา วเสน เจตโส ปวตฺติสพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา เอกกฺขเณปิ ลพฺภนฺตีติ อธิปฺปาโย.
สีลสํกิเลสโวทานวณฺณนา
๒๑. สํกิลิสฺสติ ¶ ¶ เตนาติ สํกิเลโส. โก ปน โสติ อาห ‘‘ขณฺฑาทิภาโว สีลสฺส สํกิเลโส’’ติ. โวทายติ วิสุชฺฌติ เอเตนาติ โวทานํ, อขณฺฑาทิภาโว. ลาภยสาทีติ อาทิ-สทฺเทน าติองฺคชีวิตาทีนํ สงฺคโห. สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา เวมชฺเฌติ จ อิทํ เตสํ อุทฺเทสาทิปาฬิวเสน วุตฺตํ. น หิ อฺโ โกจิ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อนุกฺกโม อตฺถิ. ขณฺฑนฺติ ขณฺฑวนฺตํ, ขณฺฑิตํ วา. ฉิทฺทนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิยาติ วตฺถนฺเต, ทสนฺเต วา ฉินฺนวตฺถํ วิย.
เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. เมถุนสํโยควเสนาติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวาปตฺติยา มิถุนานํ อิทนฺติ เมถุนํ, นิพนฺธนํ. เมถุนวเสน สมาโยโค เมถุนสํโยโค. อิธ ปน เมถุนสํโยโค วิยาติ เมถุนสํโยโค, ตสฺส วเสน. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. เอกจฺโจติ เอโก. สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ ปพฺพชฺชามตฺเตน สมโณ วา ชาติมตฺเตน พฺราหฺมโณ วา. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตินฺติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพํ, เมถุนนฺติ อตฺโถ. น เหว โข สมาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. อุจฺฉาทนํ อุพฺพตฺตนํ. สมฺพาหนํ ปริมทฺทนํ. สาทิยตีติ อธิวาเสติ. ตทสฺสาเทตีติ ตํ อุจฺฉาทนาทึ อภิรมติ. นิกาเมตีติ อิจฺฉติ. วิตฺตินฺติ ตุฏฺึ. อิทมฺปิ โขติ เอตฺถ อิทนฺติ ยถาวุตฺตํ สาทิยนาทึ ขณฺฑภาวาทิวเสน เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท วกฺขมานํ อุปาทาย สมุจฺจยตฺโถ. โข-สทฺโท อวธารณตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเทตํ พฺรหฺมจารีปฏิฺสฺส อสติปิ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยํ มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนนฺหาปนสมฺพาหนสาทิยนาทิ, อิทมฺปิ เอกํเสน ตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑาทิภาวาปาทนโต ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปีติ. เอวํ ปน ขณฺฑาทิภาวาปตฺติยา โส อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, น ปริสุทฺธํ, สํยุตฺโต เมถุนสํโยเคน, น วิสํยุตฺโต. ตโต จสฺส น ชาติอาทีหิ ปริมุตฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ วุจฺจตี’’ติอาทิมาห.
สฺชคฺฆตีติ กิเลสวเสน มหาหสิตํ หสติ. สํกีฬตีติ กายสํสคฺควเสน กีฬติ. สํเกลายตีติ สพฺพโส มาตุคามํ เกลายนฺโต ¶ วิหรติ. จกฺขุนาติ อตฺตโน จกฺขุนา. จกฺขุนฺติ มาตุคามสฺส จกฺขุํ. อุปนิชฺฌายตีติ อุเปจฺจ นิชฺฌายติ โอโลเกติ. ติโรกุฏฺฏาติ กุฏฺฏสฺส ¶ ปรโต. ตถา ติโรปาการา. มตฺติกามยา ภิตฺติ กุฏฺฏํ, อิฏฺกามยา ปากาโรติ วทนฺติ. ยา กาจิ วา ภิตฺติ โปริสโต ทิยฑฺฒรตนุจฺจปฺปมาณา กุฏฺฏํ, กุฏฺฏโต อธิโก ปากาโร.
อสฺสาติ พฺรหฺมจารีปฏิฺสฺส. ปุพฺเพติ วตสมาทานโต ปุพฺเพ. กามคุเณหีติ กามโกฏฺาเสหิ. สมปฺปิตนฺติ สุฏฺุ อปฺปิตํ สหิตํ. สมงฺคีภูตนฺติ สมนฺนาคตํ. ปริจารยมานนฺติ กีฬนฺตํ, อุปฏฺหิยมานํ วา. ปณิธายาติ ปตฺเถตฺวา. สีเลนาติอาทีสุ ยมนิยมาทิสมาทานวเสน สีลํ. อวีติกฺกมวเสน วตํ. อุภยมฺปิ สีลํ. ทุกฺกรจริยวเสน ปวตฺติตํ วตํ. ตํตํอกิจฺจสมฺมตโต วา นิวตฺติลกฺขณํ สีลํ. ตํตํสมาทานวโต เวสโภชนกิจฺจกรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วตํ. สพฺพถาปิ ทุกฺกรจริยา ตโป. เมถุนวิรติ พฺรหฺมจริยํ.
สพฺพโสติ อนวเสสโต, สพฺเพสํ วา. อเภเทนาติ อวีติกฺกเมน. อปราย จ ปาปธมฺมานํ อนุปฺปตฺติยา, คุณานํ อุปฺปตฺติยา สงฺคหิโตติ โยชนา. ตตฺถ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. ปรสมฺปตฺติอุสูยนลกฺขณา อิสฺสา. อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขณํ สาเยฺยํ. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวลกฺขโณ ถมฺโภ. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มชฺชนลกฺขโณ มโท. จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโท. อาทิ-สทฺเทน โลภโมหวิปรีตมนสิการาทีนํ สงฺคโห.
อิทานิ ‘‘อขณฺฑาทิภาโว ปนา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยานิ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนุปหตานีติ อนุปทฺทุตานิ. วิวฏฺฏูปนิสฺสยตาย ตณฺหาทาสพฺยโต โมจเนน ภุชิสฺสภาวกรณํ. อวิฺูนํ อปฺปมาณตฺตา วุตฺตํ ‘‘วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา’’ติ. สมาธิสํวตฺตนํ วา เอเตสํ ปโยชนํ, สมาธิสํวตฺตเน วา นิยุตฺตานีติ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. นิทฺทาเนน สสฺสสมฺปตฺติ วิย ปฏิปกฺขวิคเมน สีลสมฺปทา, สา จ ตตฺถ ¶ สติ โทสทสฺสเนติ อาห ‘‘สีลวิปตฺติยา จ อาทีนวทสฺสเนนา’’ติ. นิสมฺมการีนํ ปโยชนครุกตาย ทิฏฺคุเณเยว สมฺมาปฏิปตฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนนา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สีลวิปตฺติยา อาทีนโว สีลสมฺปทาย เหฏฺา ทสฺสิตอานิสํสปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ, ตํ สุวิฺเยฺยนฺติ อวิตฺถาเรตฺวา ปการนฺตเรหิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติ อารทฺธํ. ตตฺถ ยถา สีลสมฺปทา สตฺตานํ มนฺุภาวการณํ, เอวํ สีลวิปตฺติ อมนฺุภาวการณนฺติ อาห ‘‘ทุสฺสีโล…เป… เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อนนุสาสนีโย ชิคุจฺฉิตพฺพโต. ทุกฺขิโตติ สฺชาตทุกฺโข. วิปฺปฏิสารีติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา ปจฺจานุตาปี. ทุพฺพณฺโณติ คุณวณฺเณน, กายวณฺเณน จ วิรหิโต. อสฺสาติ ทุสฺสีลสฺส. สมฺผสฺสิตานํ ทุกฺโข ทุกฺขาวโห สมฺผสฺโส เอตสฺสาติ ทุกฺขสมฺผสฺโส. คุณานุภาวาภาวโต อปฺปํ อคฺฆตีติ อปฺปคฺโฆ. อเนกวสฺสคณิกคูถกูโป วิยาติ อเนกวสฺสสมูเห สฺจิตุกฺการาวาโฏ วิย. ทุพฺพิโสธโน โสเธตุํ อสกฺกุเณยฺโย. ฉวาลาตํ ฉวฑาเห สนฺตชฺชนุมฺมุกฺกํ. อุภโต ปริพาหิโรติ สามฺโต, คิหิโภคโต จ ปริหีโน. สพฺเพสํ เวรี, สพฺเพ วา เวรี เอตสฺสาติ สพฺพเวรี, โส เอว สพฺพเวริโก, ปุริโส. สํวาสํ นารหตีติ อสํวาสารโห. สทฺธมฺเมติ ปฏิปตฺติสทฺธมฺเม, ปฏิเวธสทฺธมฺเม จ.
‘‘อคฺคิกฺขนฺธปริยาเย วุตฺตทุกฺขภาคิตายา’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทุสฺสีลานฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปฺจกามคุณปริโภคสุเข, ปเรหิ กยิรมานวนฺทนมานนาทิสุเข จ อสฺสาเทน คธิตจิตฺตา ปฺจกาม…เป… คธิตจิตฺตา, เตสํ. เต ยถาวุตฺตสุขสฺสาทา ปจฺจยา เอตสฺสาติ ตปฺปจฺจยํ. ทุกฺขนฺติ สมฺพนฺโธ.
ปสฺสถ โนติ ปสฺสถ นุ, อปิ ปสฺสถ. มหนฺตนฺติ วิปุลํ. อคฺคิกฺขนฺธนฺติ อคฺคิสมูหํ. อาทิตฺตนฺติ ปทิตฺตํ. สมฺปชฺชลิตนฺติ สมนฺตโต ปชฺชลิตํ อจฺฉิวิปฺผุลิงฺคานิ มุจฺจนฺตํ. สโชติภูตนฺติ สปภํ สมนฺตโต อุฏฺิตาหิ ชาลาหิ เอกปฺปภาสมุทยภูตํ. ตํ กึ มฺถาติ ตํ อิทานิ มยา วุจฺจมานมตฺถํ กึ มฺถาติ อนุมติคหณตฺถํ ปุจฺฉติ. อาลิงฺเคตฺวาติ อุปคูหิตฺวา. อุปนิสีเทยฺยาติ เตเนว อาลิงฺคเนน อุเปจฺจ นิสีเทยฺย. ยทตฺถเมตฺถ สตฺถา อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนํ, กฺาลิงฺคนฺจ อาเนสิ, ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘อาโรจยามี’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ อาโรจยามีติ อามนฺเตมิ. โวติ ตุมฺเห. ปฏิเวทยามีติ ปโพเธมิ. ทุสฺสีลสฺสาติ นิสฺสีลสฺส สีลวิรหิตสฺส. ปาปธมฺมสฺสาติ ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ลามกสภาวสฺส. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจารสฺสาติ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิตาย อสุจิสฺส หุตฺวา สงฺกาย สริตพฺพสมาจารสฺส. ทุสฺสีโล หิ กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ¶ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรสํ อาสงฺกนีโยว โหติ, เกนจิเทว วา กรณีเยน มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข อิเม มยา กตํ กมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ อตฺตโนเยว สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโรติ. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺสาติ ลชฺชิตพฺพตาย ปฏิจฺฉาเทตพฺพกมฺมนฺตสฺส. อสฺสมณสฺสาติ น สมณสฺส. สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘อหมฺปิ สมโณ’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย สมณปฏิฺสฺส. อเสฏฺจาริตาย อพฺรหฺมจาริสฺส. อุโปสถาทีสุ ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย พฺรหฺมจาริปฏิฺสฺส. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต อนุปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติกสฺส. ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุวสฺสเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุตสฺส. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา, สีลวนฺเตหิ ฉฑฺเฑตพฺพตฺตา จ กสมฺพุชาตสฺส. อคฺคิกฺขนฺธูปมาย หีนูปมภูตายาติ อตฺโถ. เตนาห ภควา – ‘‘เอตเทว ตสฺส วร’’นฺติ. ภควา ทุกฺขํ ทสฺเสตฺวา ทุกฺขํ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ.
วาฬรชฺชุยาติ วาเฬหิ กตรชฺชุยา. สา หิ ขรตรา โหติ. ฆํเสยฺยาติ ปธํสนวเสน ฆํเสยฺย. เตลโธตายาติ เตเลน นิสิตาย. ปจฺโจรสฺมินฺติ ปติอุรสฺมึ อุราภิมุขํ, อุรมชฺเฌติ อธิปฺปาโย. อโยสงฺกุนาติ สณฺฑาเสน. เผณุทฺเทหกนฺติ เผณํ อุทฺเทเหตฺวา, อเนกวารํ เผณํ อุฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.
อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนทุกฺขโตปิ อธิมตฺตทุกฺขตาย กฏุกภูตํ ทุกฺขํ ผลํ เอตสฺสาติ อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนทุกฺขาธิกทุกฺขกฏุกผลํ. กามสุขํ อวิชหโต ภินฺนสีลสฺส ทุสฺสีลสฺส กุโต ตสฺส สุขํ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. สาทเนติ สาทิยเน. ยนฺติ อฺชลิกมฺมสาทนํ. อสีลิโนติ ทุสฺสีลสฺส. อุปหตนฺติ สีลพฺยสเนน อุปทฺทุตํ. ขตนฺติ กุสลมูลานํ ขณเนน ขตํ, ขณิตํ วา คุณํ สรีเรติ อธิปฺปาโย. สพฺพภเยหีติ อตฺตานุวาทาทิสพฺพภเยหิ. อุปจารชฺฌานํ อุปาทาย สพฺเพหิ อธิคมสุเขหิ.
วุตฺตปฺปการวิปรีตโตติ ¶ สีลวิปตฺติยํ วุตฺตาการปฏิปกฺขโต ‘‘มนาโป โหติ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทินา. กายคนฺโธปิ ปาโมชฺชํ, สีลวนฺตสฺส ภิกฺขุโน. กโรติ อปิ เทวานนฺติ เอตฺถ ‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตาน’’นฺติอาทิกา (ชา. ๒.๑๗.๕๕) คาถา วิตฺถาเรตพฺพา. อวิฆาตีติ อปฺปฏิฆาตี. วธพนฺธาทิปริกิเลสา ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา อุปทฺทวา. สมฺปรายิกทุกฺขานํ มูลํ นาม ทุสฺสีลฺยํ. อนฺตมติกฺกนฺตํ อจฺจนฺตํ, อจฺจนฺตํ สนฺตา อจฺจนฺตสนฺตา ¶ กิเลสปริฬาหสงฺขาตทรถานํ อภาเวน สพฺพทา สนฺตา. อุพฺพิชฺชิตฺวาติ าณุตฺราเสน อุตฺตสิตฺวา. โวทาเปตพฺพนฺติ วิโสเธตพฺพํ.
สีลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปมปริจฺเฉทวณฺณนา.
๒. ธุตงฺคนิทฺเทสวณฺณนา
๒๒. อปฺปา ¶ ¶ อิจฺฉา เอตสฺสาติ อปฺปิจฺโฉ, ปจฺจยเคธรหิโต. ตสฺส ภาโว อปฺปิจฺฉตา, อโลภชฺฌาสยตาติ อตฺโถ. สมํ ตุฏฺิ, สนฺเตน, สเกน วา ตุฏฺิ สนฺตุฏฺิ, สนฺตุฏฺิ เอว สนฺตุฏฺิตา, อฺํ อปตฺเถตฺวา ยถาลทฺเธหิ อิตรีตเรหิ ปจฺจเยหิ ปริตุสฺสนา. สนฺตุฏฺิตาทีหีติ ต-กาโร วา ปทสนฺธิกโร. ‘‘สนฺตุฏฺิอาทีหี’’ติ วา ปาโ. เต คุเณติ เต สีลโวทานสฺส เหตุภูเต อปฺปิจฺฉตาทิคุเณ. สมฺปาเทตุนฺติ สมฺปนฺเน กาตุํ. เต หิ สีลวิสุทฺธิยา ปฏิลทฺธมตฺตา หุตฺวา ธุตธมฺเมหิ สมฺปนฺนตรา โหนฺติ. ธุตงฺคสมาทานนฺติ กิเลสานํ ธุนนกองฺคานํ วิทฺธํสนการณานํ สมฺมเทว อาทานํ. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, ธุตงฺคสมาทาเน กเตติ อตฺโถ. อสฺส โยคิโน. สลฺเลโข กิเลสานํ สมฺมเทว ลิขนา เฉทนา ตนุกรณํ. ปวิเวโก จิตฺตวิเวกสฺส อุปายภูตา วิเวกฏฺกายตา. อปจโย ยถา ปฏิปชฺชนโต กิเลสา นํ อปจินนฺติ น อาจินนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชนา. วีริยารมฺโภ อนุปฺปนฺนานํ ปาปธมฺมานํ อนุปฺปาทนาทิวเสน อารทฺธวีริยตา. สุภรตา ยถาวุตฺตอปฺปิจฺฉภาวาทิสิทฺธา อุปฏฺกานํ สุขภรณียตา สุโปสตา. อาทิ-สทฺเทน อปฺปกิจฺจตาสลฺลหุกวุตฺติอาทิเก สงฺคณฺหาติ. สีลฺเจว ยถาสมาทินฺนํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีภาเวน สุปริสุทฺธํ ภวิสฺสติ. วตานิ จ ธุตธมฺมา จ สมฺปชฺชิสฺสนฺติ สมฺปนฺนา ภวิสฺสนฺติ, นิปฺผชฺชิสฺสนฺติ วา. ยา ถิรภูตา อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนสนฺตุฏฺิ โปราณานํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ ปเวณิภาเวน ิตา, ตตฺถ ปติฏฺิตภาวํ สนฺธายาห ‘‘โปราเณ อริยวํสตฺตเย ปติฏฺายา’’ติ. ภาวนา อารมิตพฺพฏฺเน อาราโม เอตสฺสาติ ภาวนาราโม, ตพฺภาโว ภาวนารามตา, สมถวิปสฺสนาภาวนาสุ ยุตฺตปฺปยุตฺตตา. ยสฺมา อธิคมารโห ภวิสฺสติ, ตสฺมาติ สมฺพนฺโธ.
ลาภสกฺการาทิ ตณฺหาย อามสิตพฺพโต, โลกปริยาปนฺนตาย จ โลกามิสํ. นิพฺพานาธิคมสฺส อนุโลมโต อนุโลมปฏิปทา วิปสฺสนาภาวนา. อตฺถโตติ วจนตฺถโต. ปเภทโตติ ¶ วิภาคโต. เภทโตติ วินาสโต. ธุตาทีนนฺติ ธุตธุตวาทธุตธมฺมธุตงฺคานํ. สมาสพฺยาสโตติ สงฺเขปวิตฺถารโต.
๒๓. รถิกาติ ¶ รจฺฉา. สงฺการกูฏาทีนนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อพฺภุคฺคตฏฺเนาติ อุสฺสิตฏฺเน. ‘‘นทิยา กูล’’นฺติอาทีสุ วิย สมุสฺสยตฺโถ กูล-สทฺโทติ อาห ‘‘ปํสุกูลมิว ปํสุกูล’’นฺติ. กุ-สทฺโท กุจฺฉายํ อุล-สทฺโท คติอตฺโถติ อาห ‘‘กุจฺฉิตภาวํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ, ปํสุ วิย กุจฺฉิตํ อุลติ ปวตฺตตีติ วา ปํสุกูลํ. ปํสุกูลสฺส ธารณํ ปํสุกูลํ อุตฺตรปทโลเปน, ตํ สีลมสฺสาติ ปํสุกูลิโก, ยถา ‘‘อาปูปิโก’’ติ. องฺคติ อตฺตโน ผลํ ปฏิจฺจ เหตุภาวํ คจฺฉตีติ องฺคํ, การณํ. เยน ปุคฺคโล ‘‘ปํสุกูลิโก’’ติ วุจฺจติ, โส สมาทานเจตนาสงฺขาโต ธมฺโม ปํสุกูลิกสฺส องฺคนฺติ ปํสุกูลิกงฺคํ. เตนาห ‘‘ปํสุกูลิกสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺสาติ สมาทานสฺส. สมาทิยติ เอเตนาติ สมาทานํ, เจตนา.
เอเตเนว นเยนาติ ยถา ปํสุกูลธารณํ ปํสุกูลํ, ตํสีโล ปํสุกูลิโก, ตสฺส องฺคํ สมาทานเจตนา ‘‘ปํสุกูลิกงฺค’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ เอเตเนว วจนตฺถนเยน ติจีวรธารณํ ติจีวรํ, ตํสีโล เตจีวริโก, ตสฺส องฺคํ สมาทานเจตนา ‘‘เตจีวริกงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. สงฺฆาฏิอาทีสุ เอว ตีสุ จีวเรสุ ติจีวรสมฺา, น กณฺฑุปฏิจฺฉาทิวสฺสิกสาฏิกาทีสูติ ตานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกสงฺขาต’’นฺติ อาห.
ตํ ปิณฺฑปาตนฺติ ปเรหิ ทิยฺยมานานํ ปิณฺฑานํ ปตฺเต ปตนสงฺขาตํ ปิณฺฑปาตํ, ตํ อฺุฉตีติ ปิณฺฑปาติโก, ยถา พาทริโก สามากิโก. ปิณฺฑปาติ เอว ปิณฺฑปาติโก, ยถา ภทฺโท เอว ภทฺทโก. อวขณฺฑนํ วิจฺฉินฺทนํ นิรนฺตรมปฺปวตฺติ. ตปฺปฏิกฺเขปโต อนวขณฺฑนํ อวิจฺฉินฺทนํ นิรนฺตรปฺปวตฺติ. สห อปทาเนนาติ สห อนวขณฺฑเนน. สปทานนฺติ ปทสฺส กิริยาวิเสสนภาวํ, ยตฺถ จ ตํ อนวขณฺฑนํ, ตฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อวขณฺฑนรหิตํ อนุฆรนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. เอกาสเนติ อิริยาปถนฺตเรน อนนฺตริตาย เอกายเยว นิสชฺชาย. ปตฺเต ปิณฺโฑติ เอตฺถ วตฺถุเภโท อิธาธิปฺเปโต, น สามฺํ. เอว-กาโร จ ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เกวลํ เอกสฺมึเยว ปตฺเต’’ติ อาห. อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา อยํ นิทฺเทโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปตฺตปิณฺฑคหเณ ปตฺตปิณฺฑสฺํ กตฺวา’’ติ อาห. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ.
ปจฺฉาภตฺตํ ¶ ¶ นาม ปวารณโต ปจฺฉา ลทฺธภตฺตํ เอว. ขลุ-สทฺทสฺส ปฏิเสธตฺถวาจกตฺตา เตน สมานตฺถํ น-การํ คเหตฺวา อาห ‘‘น ปจฺฉาภตฺติโก’’ติ. สิกฺขาปทสฺส วิสโย สิกฺขาปเทเนว ปฏิกฺขิตฺโต. โย ตสฺส อวิสโย, โส เอว สมาทานสฺส วิสโยติ อาห ‘‘สมาทานวเสน ปฏิกฺขิตฺตาติริตฺตโภชนสฺสา’’ติ. อพฺโภกาเส นิวาโส อพฺโภกาโส. สุสาเน นิวาโส สุสานํ, ตํ สีลํ อสฺสาติอาทินา สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ. ยถาสนฺถตํ วิย ยถาสนฺถตํ, อาทิโต ยถาอุทฺทิฏฺํ. ตํ เหส ‘‘อิทํ พหุมงฺกุณํ ทุคฺคนฺธปวาต’’นฺติอาทิวเสน อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาว สมฺปฏิจฺฉติ. เตเนวาห ‘‘อิทํ ตุยฺห’’นฺติอาทิ. สยนนฺติ นิปชฺชนมาห. เตน เตน สมาทาเนนาติ เตน เตน ปํสุกูลิกงฺคาทิกสฺส สมาทาเนน ธุตกิเลสตฺตาติ วิทฺธํสิตกิเลสตฺตา, ตทงฺควเสน ปหีนตณฺหุปาทานาทิปาปธมฺมตฺตาติ อตฺโถ. เยหิ ตํ กิเลสธุนนํ, ตานิเยว อิธ ธุตสฺส ภิกฺขุโน องฺคานีติ อธิปฺเปตานิ, น อฺานิ ยานิ กานิจิ, อฺเน วา ธุตสฺสาติ อยมตฺโถ อตฺถโต อาปนฺโน. ‘‘าณํ องฺคํ เอเตส’’นฺติ อิมินา าณปุพฺพกตํ เตสํ สมาทานสฺส วิภาเวติ. ปฏิปตฺติยาติ สีลาทิสมฺมาปฏิปตฺติยา. สมาทิยติ เอเตนาติ สมาทานํ, สมาทานวเสน ปวตฺตา เจตนา, ตํ ลกฺขณํ เอเตสนฺติ สมาทานเจตนาลกฺขณานิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถายํ –
‘‘สมาทานกิริยาย, สาธกตมภาวโต;
สมฺปยุตฺตธมฺมา เยนาติ, กรณภาเวน ทสฺสิตา’’ติ.
สมาทานเจตนาย คหณํ ตํมูลกตฺตา ปริหรณเจตนาปิ ธุตงฺคเมว. อตฺตนา, ปรมฺมุเขน จ กุสลภณฺฑสฺส ภุสํ วิลุปฺปนฏฺเน โลลุปฺปํ ตณฺหาจาโร, ตสฺส วิทฺธํสนกิจฺจตฺตา โลลุปฺปวิทฺธํสนรสานิ. ตโต เอว นิลฺโลลุปฺปภาเวน ปจฺจุปติฏฺนฺติ, ตํ วา ปจฺจุปฏฺาเปนฺตีติ นิลฺโลลุปฺปภาวปจฺจุปฏฺานานิ. อริยธมฺมปทฏฺานานีติ ปริสุทฺธสีลาทิสทฺธมฺมปทฏฺานานิ.
ภควโตว สนฺติเก สมาทาตพฺพานีติ อิทํ อนฺตรา อวิจฺเฉทนตฺถํ วุตฺตํ, รฺโ สนฺติเก ปฏิฺาตารหสฺส อตฺถสฺส ตทุปชีวิโน เอกํสโต อวิสํวาทนํ วิย. เสสานํ สนฺติเก สมาทาเนปิ เอเสว นโย. เอกสงฺคีติกสฺสาติ ¶ ปฺจสุ ทีฆนิกายาทีสุ นิกาเยสุ เอกนิกายิกสฺส. อฏฺกถาจริยสฺสาติ ยสฺส อฏฺกถาตนฺติเยว วิเสสโต ปคุณา, ตสฺส. เอตฺถาติ อตฺตนาปิ สมาทานสฺส รุหเน. เชฏฺกภาตุ ธุตงฺคปฺปิจฺฉตาย วตฺถูติ โส กิร เถโร เนสชฺชิโก ¶ , ตสฺส ตํ น โกจิ ชานาติ. อเถกทิวสํ รตฺติยา สยนปิฏฺเ นิสินฺนํ วิชฺชุลโตภาเสน ทิสฺวา อิตโร ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภนฺเต, ตุมฺเห เนสชฺชิกา’’ติ. เถโร ธุตงฺคปฺปิจฺฉตาย ตาวเทว นิปชฺชิตฺวา ปจฺฉา สมาทิยีติ เอวมาคตํ วตฺถุ.
๑. ปํสุกูลิกงฺคกถาวณฺณนา
๒๔. คหปติทานจีวรนฺติ เอตฺถ ทายกภาเวน สมณาปิ อุกฺกฏฺสฺส คหปติปกฺขํเยว ปวิฏฺาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปพฺพชิโต คณฺหิสฺสตี’’ติ ปิตกํ สิยา คหปติจีวรํ, น ปน คหปติทานจีวรนฺติ ตาทิสํ นิวตฺเตตุํ ทานคฺคหณํ. อฺตเรนาติ เอตฺถ สมาทานวจเนน ตาว สมาทินฺนํ โหตุ, ปฏิกฺเขปวจเนน ปน กถนฺติ? อตฺถโต อาปนฺนตฺตา. ยถา ‘‘เทวทตฺโต ทิวา น ภฺุชตี’’ติ วุตฺเต ‘‘รตฺติยํ ภฺุชตี’’ติ อตฺถโต อาปนฺนเมว โหติ, ตสฺส อาหาเรน วินา สรีรฏฺิติ นตฺถีติ, เอวมิธาปิ ภิกฺขุโน คหปติทานจีวเร ปฏิกฺขิตฺเต ตทฺจีวรปฺปฏิคฺคโห อตฺถโต อาปนฺโน เอว โหติ, จีวเรน วินา สาสเน ิติ นตฺถีติ.
เอวํ สมาทินฺนธุตงฺเคนาติอาทิวิธานํ ปํสุกูลิกงฺเค ปฏิปชฺชนวิธิ. สุสาเน ลทฺธํ โสสานิกํ. ตํ ปน ยสฺมา ตตฺถ เกนจิ ฉฑฺฑิตตฺตา ปติตํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุสาเน ปติตก’’นฺติ. เอวํ ปาปณิกมฺปิ ทฏฺพฺพํ. ตาลเวฬิมคฺโค นาม มหาคาเม เอกา วีถิ. อนุราธปุเรติ จ วทนฺติ. ฑฑฺโฒ ปเทโส เอตสฺสาติ ฑฑฺฒปฺปเทสํ, วตฺถํ. มคฺเค ปติตกํ พหุทิวสาติกฺกนฺตํ คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ. ‘‘ทฺวตฺติทิวสาติกฺกนฺต’’นฺติ อปเร. โถกํ รกฺขิตฺวาติ กติปยํ กาลํ อาคเมตฺวา. วาตาหตมฺปิ สามิกานํ สติสมฺโมเสน ปติตสทิสนฺติ ‘‘สามิเก อปสฺสนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา โถกํ อาคเมตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนํ, โจฬกภิกฺขาวเสน ลทฺธฺจ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย ‘‘สมณจีวรํ สิยา นุ โข, โน’’ติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘น ตํ ปํสุกูล’’นฺติ วุตฺตํ. น หิ ตํ เตวีสติยา อุปฺปตฺติฏฺาเนสุ กตฺถจิ ปริยาปนฺนํ. อิทานิ อิมินาว ปสงฺเคน ยํ ภิกฺขุทตฺติเย ลกฺขณปตฺตํ ¶ ปํสุกูลํ, ตสฺส จ อุกฺกฏฺานุกฺกฏฺวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุทตฺติเยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ คาเหตฺวา วา ทียตีติ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา เทนฺเตหิ ยํ จีวรํ วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา ภิกฺขูนํ ทียติ. เสนาสนจีวรนฺติ เสนาสนํ กาเรตฺวา ‘‘เอตสฺมึ เสนาสเน วสนฺตา ปริภฺุชนฺตู’’ติ ¶ ทินฺนจีวรํ. น ตํ ปํสุกูลนฺติ อปํสุกูลภาโว ปุพฺเพ วุตฺตการณโต, คาเหตฺวา ทินฺนตฺตา จ. เตนาห ‘‘โน คาหาเปตฺวา ทินฺนเมว ปํสุกูล’’นฺติ. ตตฺรปีติ ยํ คาเหตฺวา น ทินฺนํ ภิกฺขุทตฺติยํ, ตตฺรปิ เยน ภิกฺขุนา จีวรํ ทียติ, ตสฺส ลาเภ, ทาเน จ วิสุํ วิสุํ อุภยตฺถ อาทรคารวานํ สพฺภาวโต, ตทภาวโต จ ภิกฺขุทตฺติยสฺส เอกโตสุทฺธิ อุภโตสุทฺธิ อนุกฺกฏฺตา โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ทายเกหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนกํ สมเณนาติ อธิปฺปาโย. ยสฺส กสฺสจีติ อุกฺกฏฺาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ. รุจิยาติ ฉนฺเทน. ขนฺติยาติ นิชฺฌานกฺขนฺติยา.
นิสฺสยานุรูปปฏิปตฺติสพฺภาโวติ อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรํ อาจริเยน วุตฺเตสุ จตูสุ นิสฺสเยสุ อตฺตนา ยถาปฏิฺาตทุติยนิสฺสยานุรูปาย ปฏิปตฺติยา วิชฺชมานตา. อารกฺขทุกฺขาภาโวติ จีวรารกฺขนทุกฺขสฺส อภาโว ปํสุกูลจีวรสฺส อโลภนียตฺตา. ปริโภคตณฺหาย อภาโว สวิเสสลูขสภาวตฺตา. ปาสาทิกตาติ ปเรสํ ปสาทาวหตา. อปฺปิจฺฉตาทีนํ ผลนิปฺผตฺติ ธุตงฺคปริหรณสฺส อปฺปิจฺฉตาทีหิเยว นิปฺผาเทตพฺพโต. ธุตธมฺเม สมาทาย วตฺตนํ ยาวเทว อุปริ สมฺมาปฏิปตฺติสมฺปาทนายาติ วุตฺตํ ‘‘สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุพฺรูหน’’นฺติ. มารเสนวิฆาตายาติ มารสฺส, มารเสนาย จ วิหนนาย วิทฺธํสนาย. กายวาจาจิตฺเตหิ ยโต สํยโตติ ยติ, ภิกฺขุ. ธาริตํ ยํ โลกครุนา ปํสุกูลํ, ตํ โก น ธารเย, ยสฺมา วา โลกครุนา ปํสุกูลํ ธาริตํ, ตสฺมา โก ตํ น ธารเยติ โยชนา ยํตํสทฺทานํ เอกนฺตสมฺพนฺธิภาวโต. ปฏิฺํ สมนุสฺสรนฺติ อุปสมฺปทมาเฬ ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ อาจริยปมุขสฺส สงฺฆสฺส สมฺมุขา ทินฺนํ ปฏิฺํ สมนุสฺสรนฺโต.
อิติ ปํสุกูลิกงฺคกถาวณฺณนา.
๒. เตจีวริกงฺคกถาวณฺณนา
๒๕. จตุตฺถกจีวรนฺติ ¶ นิวาสนปารุปนโยคฺยํ จตุตฺถกจีวรนฺติ อธิปฺปาโย, อํสกาสาวสฺส อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพโต. อฺตรวจเนนาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ยาว น สกฺโกติ, ยาว น ลภติ, ยาว น สมฺปชฺชตีติ ปจฺเจกํ ยาว-สทฺโท สมฺพนฺธิตพฺโพ. น สมฺปชฺชตีติ น สิชฺฌติ. นิกฺขิตฺตปจฺจยา โทโส นตฺถีติ นิจยสนฺนิธิธุตงฺคสํกิเลสโทโส ¶ นตฺถิ. อาสนฺเนติ จีวรสฺส อาสนฺเน าเน. รชนกฺขเณ ปริภฺุชนกาสาวํ รชนกาสาวํ. ตตฺรฏฺกปจฺจตฺถรณํ นาม อตฺตโน, ปรสฺส วา สนฺตกํ เสนาสเน ปจฺจตฺถรณวเสน อธิฏฺิตํ. ‘‘อํสกาสาวํ ปริกฺขารโจฬํ โหติ, อิติ ปจฺจตฺถรณํ, อํสกาสาวนฺติ อิมานิ ทฺเวปิ อติเรกจีวรฏฺาเน ิตานิปิ ธุตงฺคเภทํ น กโรนฺตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ปริหริตุํ ปน น วฏฺฏตีติ รชนกาเล เอว อนฺุาตตฺตา นิจฺจปริโภควเสน น วฏฺฏติ เตจีวริกสฺส. อํสกาสาวนฺติ ขนฺเธ เปตพฺพกาสาวํ. กายปริหาริเกนาติ วาตาตปาทิปริสฺสยโต กายสฺส ปริหรณมตฺเตน. สมาทาเยวาติ คเหตฺวา เอว. อปฺปสมารมฺภตาติ อปฺปกิจฺจตา. กปฺปิเย มตฺตการิตายาติ นิสีทนาทิวเสน, ปริกฺขารโจฬวเสน จ พหูสุ จีวเรสุ อนฺุาเตสุปิ ติจีวรมตฺเต ิตตฺตา. สห ปตฺตจรณายาติ สปตฺตจรโณ. ปกฺขี สปกฺขโก.
อิติ เตจีวริกงฺคกถาวณฺณนา.
๓. ปิณฺฑปาติกงฺคกถาวณฺณนา
๒๖. อติเรกลาภนฺติ ‘‘ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสายา’’ติ (มหาว. ๗๓, ๑๒๘) เอวํ วุตฺตภิกฺขาหารลาภโต อติเรกลาภํ, สงฺฆภตฺตาทินฺติ อตฺโถ. สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ. กติปเย ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ. เอกสฺมึ ปกฺเข เอกทิวสํ ทาตพฺพภตฺตํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ อุโปสเถ ทาตพฺพภตฺตํ อุโปสถิกํ. ปฏิปททิวเส ทาตพฺพภตฺตํ ปาฏิปทิกํ. วิหารํ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพภตฺตํ วิหารภตฺตํ. ธุรเคเห เอว เปตฺวา ทาตพฺพภตฺตํ ธุรภตฺตํ. คามวาสีอาทีหิ วาเรน ทาตพฺพภตฺตํ ¶ วารกภตฺตํ. ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถาติอาทินา’’ติ อาทิ-สทฺเทน อุทฺเทสภตฺตาทึ สงฺคณฺหาติ. สาทิตุํ วฏฺฏนฺตีติ ภิกฺขาปริยาเยน วุตฺตตฺตา. เภสชฺชาทิปฏิสํยุตฺตา นิรามิสสลากา. ยาวกาลิกวชฺชาติ จ วทนฺติ. วิหาเร ปกฺกภตฺตมฺปีติ อุปาสกา อิเธว ภตฺตํ ปจิตฺวา ‘‘สพฺเพสํ อยฺยานํ ทสฺสามา’’ติ วิหาเรเยว ภตฺตํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อาหริตฺวาติ ปตฺตํ คเหตฺวา เคหโต อาเนตฺวา. ตํ ทิวสํ นิสีทิตฺวาติ ‘‘มา, ภนฺเต, ปิณฺฑาย จริตฺถ, วิหาเรเยว ภิกฺขา อานียตี’’ติ วทนฺตานํ สมฺปฏิจฺฉเนน ตํ ทิวสํ นิสีทิตฺวา. เสริวิหารสุขนฺติ อปรายตฺตวิหาริตาสุขํ ¶ . อริยวํโสติ อริยวํสสุตฺตปฏิสํยุตฺตา (ที. นิ. ๓.๓๐๙; อ. นิ. ๔.๒๘) ธมฺมกถา. ธมฺมรสนฺติ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชาทิรสํ.
ชงฺฆพลํ นิสฺสาย ปิณฺฑปริเยสนโต โกสชฺชนิมฺมทฺทนตา. ‘‘ยถาปิ ภมโร ปุปฺผ’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๔๙; เนตฺติ. ๑๒๓) วุตฺตวิธินา อาหารปริเยสนโต ปริสุทฺธาชีวตา. นิจฺจํ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺตสฺเสว สุปฺปฏิจฺฉนฺนคมนาทโย เสขิยธมฺมา สมฺปชฺชนฺตีติ เสขิยปฏิปตฺติปูรณํ. ปฏิคฺคหเณ มตฺตฺุตาย, สํสฏฺวิหาราภาวโต จ อปรโปสิตา. กุเล กุเล อปฺปกอปฺปกปิณฺฑคหเณน ปรานุคฺคหกิริยา. อนฺติมาย ชีวิกาย อวฏฺาเนน มานปฺปหานํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ, ยทิทํ ปิณฺโฑลฺย’’นฺติอาทิ (อิติวุ. ๙๑; สํ. นิ. ๓.๘๐). มิสฺสกภตฺเตน ยาปนโต รสตณฺหานิวารณํ. นิมนฺตนาสมฺปฏิจฺฉนโต คณโภชนาทิสิกฺขาปเทหิ อนาปตฺติตา.
อปฺปฏิหตวุตฺติตาย จตูสุปิ ทิสาสุ วตฺตนฏฺเน จาตุทฺทิโส. อาชีวสฺส วิสุชฺฌตีติ อาชีโว อสฺส วิสุชฺฌติ. อตฺตภรสฺสาติ อปฺปานวชฺชสุลภรูเปหิ ปจฺจเยหิ อตฺตโน ภรณโต อตฺตภรสฺส. ตโต เอว เอกวิหาริตาย สทฺธิวิหาริกาทีนมฺปิ อฺเสํ อโปสนโต อนฺโปสิโน. ปททฺวเยนาปิ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน วิจรณโต สลฺลหุกวุตฺติตํ, สุภรตํ, ปรมอปฺปิจฺฉตํ, สนฺตุฏฺิฺจ ทสฺเสติ. เทวาปิ ปิหยนฺติ ตาทิโนติ ตาทิสสฺส ภุสํ อติวิย สนฺตกายวจีมโนกมฺมตาย อุปสนฺตสฺส ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคมโต สพฺพกาลํ สติมโต ปิณฺฑปาติกสฺส ภิกฺขุสฺส สกฺกาทโย ¶ เทวาปิ ปิหยนฺติ ปตฺเถนฺติ. ตสฺส สีลาทิคุเณสุ พหุมานํ อุปฺปาเทนฺตา อาทรํ ชเนนฺติ, ปเคว มนุสฺสา. สเจ โส ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิโต น โหติ, ตทภิกงฺขี น โหตีติ อตฺโถ.
อิติ ปิณฺฑปาติกงฺคกถาวณฺณนา.
๔. สปทานจาริกงฺคกถาวณฺณนา
๒๗. อิมินาติ สปทานจาริเกน. กาลตรนฺติ กาลสฺเสว. อผาสุกฏฺานนฺติ สปริสฺสยาทิวเสน ¶ ทุปฺปเวสนฏฺานํ. ปุรโตติ วีถิยํ คจฺฉนฺตสฺส ปุรโต ฆรํ อปวิฏฺสฺเสว. ปตฺตวิสฺสฏฺฏฺานนฺติ เปสการวีถิยํ เปสการภาวํ นิมฺมินิตฺวา ิตสฺส สกฺกสฺส ฆรทฺวาเร ปตฺตวิสฺสฏฺฏฺานํ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติโก ตํ ทิวสํ น ภิกฺขํ อาคมยมาโน นิสีทติ, ตสฺมา ตํ อนุโลเมติ. กตฺถจิปิ กุเล นิพทฺธํ อุปสงฺกมนาภาวโต ปริจยาภาเวน กุเลสุ นิจฺจนวกตา. สพฺพตฺถ อลคฺคมานสตาย จ โสมฺมภาเวน จ จนฺทูปมตา. กุเลสุ ปริคฺคหจิตฺตาภาเวน ตตฺถ มจฺเฉรปฺปหานํ. หิเตสิตาย วิภาคาภาวโต สมานุกมฺปิตา. กุลานํ สงฺคณฺหนสํสฏฺตาทโย กุลูปกาทีนวา. อวฺหานานภินนฺทนาติ นิมนฺตนวเสน อวฺหานสฺส อสมฺปฏิจฺฉนา. อภิหาเรนาติ ภิกฺขาภิหาเรน. เสริจารนฺติ ยถารุจิ วิจรณํ.
อิติ สปทานจาริกงฺคกถาวณฺณนา.
๕. เอกาสนิกงฺคกถาวณฺณนา
๒๘. นานาสนโภชนนฺติ อเนกสฺมึ อาสเน โภชนํ, เอกนิสชฺชาย เอว อภฺุชิตฺวา วิสุํ วิสุํ นิสชฺชาสุ อาหารปริโภคนฺติ อตฺโถ. ปติรูปนฺติ ยุตฺตรูปํ อนุฏฺาปนียํ. วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วตฺตํ กาตุํ ยุชฺชติ. วตฺตํ นาม ครุฏฺานีเย กตฺตพฺพเมว. ตตฺถ ปน ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ยํ เถรวาทํ อาห ‘‘อาสนํ วา รกฺเขยฺย โภชนํ วา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – เอกาสนิกํ ภิกฺขุํ ภฺุชนฺตํ อาสนํ วา รกฺเขยฺย, ธุตงฺคเภทโต ยาว โภชนปริโยสานา น วุฏฺาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ ¶ . โภชนํ วา รกฺเขยฺย ธุตงฺคเภทโต, อภฺุชิยมานํ ยาว ภฺุชิตุํ นารภติ, ตาว วุฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ตยิทํ ทฺวยํ อิธ นตฺถิ, ตสฺมา วตฺตกรณํ ธุตงฺคํ น รกฺขตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อยฺจา’’ติอาทิ. ‘‘เภสชฺชตฺถเมวา’’ติ อิมินา เภสชฺชปริโภควเสเนว สปฺปิอาทีนิปิ วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ. อปฺปาพาธตาติ อโรคตา. อปฺปาตงฺกตาติ อกิจฺฉชีวิตา สรีรทุกฺขาภาโว. ลหุฏฺานนฺติ กายสฺส ลหุปริวตฺติตา. พลนฺติ สรีรพลํ. ผาสุวิหาโรติ สุขวิหาโร. สพฺพเมตํ พหุกฺขตฺตุํ ภฺุชนปจฺจยา อุปฺปชฺชนวิการปฏิกฺเขปปทํ. รุชาติ โรคา. น กมฺมมตฺตโนติ อตฺตโน โยคกมฺมํ ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตฺจ น ปริหาเปติ, พหุโส โภชเน อพฺยาวฏภาวโต, อโรคภาวโต จาติ อธิปฺปาโย.
อิติ เอกาสนิกงฺคกถาวณฺณนา.
๖. ปตฺตปิณฺฑิกงฺคกถาวณฺณนา
๒๙. อปฺปฏิกูลํ ¶ กตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ ปฏิกูลสฺส ภุตฺตสฺส อคณฺหนมฺปิ สิยาติ อธิปฺปาโย. ปมาณยุตฺตเมว คณฺหิตพฺพนฺติ ‘‘เอกภาชนเมว คณฺหามี’’ติ พหุํ คเหตฺวา น ฉฑฺเฑตพฺพํ. นานารสตณฺหาวิโนทนนฺติ นานารสโภชเน ตณฺหาย วิโนทนํ. อตฺร อตฺร นานาภาชเน ิเต นานารเส อิจฺฉา เอตสฺสาติ อตฺริจฺโฉ, ตสฺส ภาโว อตฺริจฺฉตา, ตสฺสา อตฺริจฺฉตาย ปหานํ. อาหาเร ปโยชนมตฺตทสฺสิตาติ อสมฺภินฺนนานารเส เคธํ อกตฺวา อาหาเร สตฺถารา อนฺุาตปโยชนมตฺตทสฺสิตา. วิสุํ วิสุํ ภาชเนสุ ิตานิ พฺยฺชนานิ คณฺหโต ตตฺถ ตตฺถ สาโภคตาย สิยา วิกฺขิตฺตโภชิตา, น ตถา อิมสฺส เอกปตฺตคตสฺิโนติ วุตฺตํ ‘‘อวิกฺขิตฺตโภชิตา’’ติ. โอกฺขิตฺตโลจโนติ ปตฺตสฺิตาย เหฏฺาขิตฺตจกฺขุ. ปริภฺุเชยฺยาติ ปริภฺุชิตุํ สกฺกุเณยฺย.
อิติ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคกถาวณฺณนา.
๗. ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคกถาวณฺณนา
๓๐. ภฺุชนฺตสฺส ¶ ยํ อุปนีตํ, ตสฺส ปฏิกฺเขเปน ตํ อติริตฺตํ โภชนนฺติ อติริตฺตโภชนํ. ปุน โภชนํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา น ภฺุชิตพฺพํ, ตพฺพิสยตฺตา อิมสฺส ธุตงฺคสฺส. เตนาห ‘‘อิทมสฺส วิธาน’’นฺติ. ยสฺมึ โภชเนติ ยสฺมึ ภฺุชิยมาเน โภชเน. ตเทว ภฺุชติ, น อฺํ. อนติริตฺตโภชนปจฺจยา อาปตฺติ อนติริตฺตโภชนาปตฺติ, ตโต ทูรีภาโว อนาปชฺชนํ. โอทริกตฺตํ ฆสฺมรภาโว กุจฺฉิปูรกตา, ตสฺส อภาโว เอกปิณฺเฑนาปิ ยาปนโต. นิรามิสสนฺนิธิตา นิหิตสฺส อภฺุชนโต. ปุน ปริเยสนวเสน ปริเยสนาย เขทํ น ยาติ. อภิสลฺเลขกานํ สนฺโตสคุณาทีนํ วุทฺธิยา สฺชนนํ สนฺโตสคุณาทิวุฑฺฒิสฺชนนํ. อิทนฺติ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ.
อิติ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคกถาวณฺณนา.
๘. อารฺิกงฺคกถาวณฺณนา
๓๑. คามนฺตเสนาสนํ ¶ ปหาย อรฺเ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพนฺติ เอตฺถ คามนฺตํ, อรฺฺจ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ สทฺธึ อุปจาเรนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ คามปริยาปนฺนตฺตา คามนฺตเสนาสนสฺส ‘‘คาโมเยว คามนฺตเสนาสน’’นฺติ วุตฺตํ. โย โกจิ สตฺโถปิ คาโม นามาติ สมฺพนฺโธ. อินฺทขีลาติ อุมฺมารา. ตสฺสาติ เลฑฺฑุปาตสฺส. วินยปริยาเยน อรฺลกฺขณํ อทินฺนาทานปาราชิเก (ปารา. ๙๒) อาคตํ. ตตฺถ หิ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ อนวเสสโต อวหารฏฺานปริคฺคเห ตทุภยํ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ‘‘เปตฺวา คามฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. คามูปจาโร หิ โลเก คามสงฺขเมว คจฺฉตีติ. นิปฺปริยายโต ปน คามวินิมุตฺตํ านํ อรฺเมว โหตีติ อภิธมฺเม (วิภ. ๕๒๙) คามา ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา, สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ วุตฺตํ. สุตฺตนฺติกปริยาเยน อารฺกสิกฺขาปเท (ปารา. ๖๕๔) ‘‘ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ อาคตํ อารฺิกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย. น หิ โส วินยปริยายิเก ‘‘อรฺเ วสนโต อารฺิโก ปนฺตเสนาสโน’’ติ สุตฺเต วุตฺโต. อยฺจ สุตฺตสํวณฺณนาติ อิธ สพฺพตฺถ สุตฺตนฺตกถาว ¶ ปมาณํ. ตสฺมา ตตฺถ อาคตเมว ลกฺขณํ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา’’ติอาทินา มินนวิธึ อาห. เตเนว หิ มชฺฌิมฏฺกถานโยว (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๖) อิทเมตฺถ ปมาณนฺติ จ วุตฺโต.
ตโต ตโต มคฺคนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ขุทฺทกมคฺคํ ปิทหติ. ธุตงฺคสุทฺธิเกน ธุตงฺคโสธนปสุเตน. ยถาปริจฺฉินฺเน กาเลติ อุกฺกฏฺสฺส ตโยปิ อุตู, มชฺฌิมสฺส ทฺเว, มุทุกสฺส เอโก อุตุ. ตตฺถปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ สอุสฺสาหตฺตา. นิปชฺชิตฺวา คมิสฺสามาติ จิตฺตสฺส สิถิลภาเวน ธุตงฺคํ ภิชฺชตีติ วุตฺตํ. อรฺสฺํ มนสิ กโรนฺโตติ ‘‘อหํ วิเวกวาสํ วสิสฺสามิ, ยถาลทฺโธว กายวิเวโก สาตฺถโก กาตพฺโพ’’ติ มนสิการสพฺภาวโต ‘‘ภพฺโพ…เป… รกฺขิตุ’’นฺติ วุตฺตํ. อสฺส อารฺิกสฺส จิตฺตํ น วิกฺขิปนฺติ อาปาถมนุปคมนโต. วิคตสนฺตาโส โหติ วิเวกปริจยโต. ชีวิตนิกนฺตึ ชหติ พหุปริสฺสเย อรฺเ นิวาเสเนว มรณภยสฺส ทูรีกรณโต. ปวิเวกสุขรสํ อสฺสาเทติ อนุภวติ ชนสํสคฺคาภาวโต. อาราธยนฺโตติ อนุนยนฺโต. ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติยา วิเวกสฺส อธิฏฺานภาวโต อารฺิกงฺคโยคิโน วาหนสทิสนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อวเสสธุตายุโธ’’ติ, อวสิฏฺธุตธมฺมายุโธติ อตฺโถ.
อิติ อารฺิกงฺคกถาวณฺณนา.
๙. รุกฺขมูลิกงฺคกถาวณฺณนา
๓๒. ฉนฺนนฺติ ¶ อิฏฺกาฉทนาทีหิ ฉาทิตํ, อาวสถนฺติ อตฺโถ. สีมนฺตริกรุกฺโขติ ทฺวินฺนํ ราชูนํ รชฺชสีมาย ิตรุกฺโข. ตตฺถ หิ เตสํ ราชูนํ พลกาโย อุปคนฺตฺวา อนฺตรนฺตรา ยุทฺธํ กเรยฺย, โจราปิ ปาริปนฺถิกา สโมสรนฺตา ภิกฺขุสฺส สุเขน นิสีทิตุํ น เทนฺติ. เจติยรุกฺโข ‘‘เทวตาธิฏฺิโต’’ติ มนุสฺเสหิ สมฺมตรุกฺโข ปูเชตุํ อุปคเตหิ มนุสฺเสหิ อวิวิตฺโต โหติ. นิยฺยาสรุกฺโข สชฺชรุกฺขาทิ. วคฺคุลิรุกฺโข วคฺคุลินิเสวิโต. สีมนฺตริกรุกฺขาทโย สปริสฺสยา, ทุลฺลภวิเวกา จาติ อาห ‘‘อิเม รุกฺเข วิวชฺเชตฺวา’’ติ. ปณฺณสฏนฺติ ¶ รุกฺขโต ปติตปณฺณํ. ปฏิจฺฉนฺเน าเน นิสีทิตพฺพํ รุกฺขมูลิกภาวสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ. ฉนฺเน วาสกปฺปนา ธมฺมสฺสวนาทีนมตฺถายปิ โหติ. ตสฺมา ‘‘ชานิตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิตมตฺเต’’ติ วุตฺตํ.
อภิณฺหํ ตรุปณฺณวิการทสฺสเนนาติ อภิกฺขณํ ตรูสุ, ตรูนํ วา ปณฺเณสุ วิการสฺส ขณภงฺคสฺส ทสฺสเนน. เสนาสนมจฺเฉรกมฺมารามตานนฺติ อาวาสมจฺฉริยนวกมฺมรตภาวานํ. เทวตาหีติ รุกฺขเทวตาหิ. ตาปิ หิ รุกฺขฏฺวิมาเนสุ วสนฺติโย รุกฺเขสุ วสนฺติ. อยมฺปิ รุกฺเขติ สหวาสิตา. วณฺณิโตติ ‘‘อปฺปานิ เจวา’’ติอาทินา ปสํสิโต. ‘‘รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา’’ติ (มหาว. ๗๓, ๑๒๘) เอวํ นิสฺสโยติ จ ภาสิโต. อภิรตฺตานิ ตรุณกาเล, นีลานิ มชฺฌิมกาเล, ปณฺฑูนิ ชิณฺณกาเล. ปติตานิ มิลายนวเสน. เอวํ ปสฺสนฺโต ตรุปณฺณานิ ปจฺจกฺขโต เอว นิจฺจสฺํ ปนูทติ ปชหติ, อนิจฺจสฺา เอวสฺส สณฺาติ. ยสฺมา ภควโต ชาติโพธิธมฺมจกฺกปวตฺตนปรินิพฺพานานิ รุกฺขมูเลเยว ชาตานิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘พุทฺธทายชฺชํ รุกฺขมูล’’นฺติ.
อิติ รุกฺขมูลิกงฺคกถาวณฺณนา.
๑๐. อพฺโภกาสิกงฺคกถาวณฺณนา
๓๓. ‘‘รุกฺขมูลํ ปฏิกฺขิปามี’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต ฉนฺนํ อปฺปฏิกฺขิตฺตเมว โหตีติ ‘‘ฉนฺนฺจ ¶ รุกฺขมูลฺจ ปฏิกฺขิปามี’’ติ วุตฺตํ. ธุตงฺคสฺส สพฺพโส ปฏิโยคิปฏิกฺเขเปน หิ สมาทานํ อิชฺฌติ, โน อฺถาติ. ‘‘ธมฺมสฺสวนายา’’ติ อิมินาว ธมฺมํ กเถนฺเตนาปิ อุโปสถทิวสาทีสุ สุณนฺตานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํ เตหิ ยาจิเตน ฉนฺนํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ, ธมฺมํ ปน กเถตฺวา อพฺโภกาโสว คนฺตพฺโพ. รุกฺขมูลิกสฺสาปิ เอเสว นโย. อุโปสถตฺถายาติ อุโปสถกมฺมาย. อุทฺทิสนฺเตนาติ ปเรสํ อุทฺเทสํ เทนฺเตน. อุทฺทิสาเปนฺเตนาติ สยํ อุทฺเทสํ คณฺหนฺเตน. มคฺคมชฺเฌ ิตํ สาลนฺติ สีหฬทีเป วิย มคฺคา อโนกฺกมฺม อุชุกเมว ปวิสิตพฺพสาลํ. เวเคน คนฺตุํ น วฏฺฏติ อสารุปฺปตฺตา. ยาว วสฺสูปรมา ตฺวา คนฺตพฺพํ, น ตาว ธุตงฺคเภโท โหตีติ อธิปฺปาโย.
รุกฺขสฺส ¶ อนฺโต นาม รุกฺขมูลํ. ปพฺพตสฺส ปน ปพฺภารสทิโส ปพฺพตปเทโส. อจฺฉนฺนมริยาทนฺติ ยถา วสฺโสทกํ อนฺโต น ปวิสติ, เอวํ ฉทนสงฺเขเปน อุปริ อกตมริยาทํ. อนฺโต ปน ปพฺภารสฺส วสฺโสทกํ ปวิสติ เจ, อพฺโภกาสสงฺเขปเมวาติ ตตฺถ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. สาขามณฺฑโปติ รุกฺขสาขาหิ วิรฬจฺฉนฺนมณฺฑโป. ปีปโฏ ขลิตฺถทฺธสาฏโก.
ปวิฏฺกฺขเณ ธุตงฺคํ ภิชฺชติ ยถาวุตฺตปพฺภาราทิเก เปตฺวาติ อธิปฺปาโย. ชานิตฺวาติ ธมฺมสฺสวนาทิอตฺถํ ฉนฺนํ รุกฺขมูลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน ‘‘อิทานิ อรุโณ อุฏฺหตี’’ติ ชานิตฺวา. รุกฺขมูเลปิ กตฺถจิ อตฺเถว นิวาสผาสุกตาติ สิยา ตตฺถ อาสงฺคปุพฺพโก อาวาสปลิโพโธ, น ปน อพฺโภกาเสติ อิเธว อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท อานิสํโส วุตฺโต. ปสํสายานุรูปตาติ อนิเกตาติ วุตฺตปสํสาย อนาลยภาเวน อนุจฺฉวิกตา. นิสฺสงฺคตาติ อาวาสปริคฺคหาภาเวเนว ตตฺถ นิสฺสงฺคตา. อสุกทิสาย วสนฏฺานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ คนฺตุํ เนว สกฺกาติ เอทิสสฺส ปริวิตกฺกสฺส อภาวโต จาตุทฺทิโส. มิคภูเตนาติ ปริคฺคหาภาเวน มิคสฺส วิย ภูเตน. สิโตติ นิสฺสิโต. วินฺทตีติ ลภติ.
อิติ อพฺโภกาสิกงฺคกถาวณฺณนา.
๑๑. โสสานิกงฺคกถาวณฺณนา
๓๔. น ¶ สุสานนฺติ อสุสานํ. อฺตฺโถ น-กาโร, สุสานลกฺขณรหิตํ วสนฏฺานนฺติ อธิปฺปาโย. น ตตฺถาติ ‘‘สุสาน’’นฺติ ววตฺถปิตมตฺเต าเน น วสิตพฺพํ. น หิ นามมตฺเตน สุสานลกฺขณํ สิชฺฌติ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ฌาปิตกาลโต ปน ปฏฺาย…เป… สุสานเมว ฉเวน สยิตมตฺตาย สุสานลกฺขณปฺปตฺติโต. ฉวสยนํ หิ ‘‘สุสาน’’นฺติ วุจฺจติ.
โสสานิเกน นาม อปฺปกิจฺเจน สลฺลหุกวุตฺตินา ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมึ ปน วสนฺเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ครุกนฺติ ทุปฺปริหารํ. ตเมว หิ ทุปฺปริหารภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปฺปนฺนปริสฺสยวิฆาตตฺถายาติ ¶ ‘‘สุสานํ นาม มนุสฺสราหสฺเสยฺยก’’นฺติ โจรา กตกมฺมาปิ อกตกมฺมาปิ โอสรนฺติ, ตตฺถ โจเรสุ ภณฺฑสามิเก ทิสฺวา ภิกฺขุสมีเป ภณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาเตสุ มนุสฺสา ภิกฺขุํ ‘‘โจโร’’ติ คเหตฺวา โปเถยฺยุํ, ตสฺมา วิหาเร สงฺฆตฺเถรํ วา โคจรคาเม รฺา นิยุตฺตํ ราชยุตฺตกํ วา อตฺตโน โสสานิกภาวํ ชานาเปตฺวา ยถา ตาทิโส, อฺโ วา ปริสฺสโย น โหติ, ตถา อปฺปมตฺเตน วสิตพฺพํ. จงฺกมนฺตสฺส ยทา อาฬหนํ อภิมุขํ น โหติ, ตทาปิ สํเวคชนนตฺถํ ตตฺถ ทิฏฺิ วิสฺสชฺเชตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อทฺธกฺขิเกน อาฬหนํ โอโลเกนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ.
อุปฺปถมคฺเคน คนฺตพฺพํ อตฺตโน โสสานิกภาวสฺส อปากฏภาวตฺถํ. อารมฺมณนฺติ ตสฺมึ สุสาเน ‘‘อยํ วมฺมิโก, อยํ รุกฺโข, อยํ ขาณุโก’’ติอาทินา ทิวาเยว อารมฺมณํ ววตฺถเปตพฺพํ. ภยานกนฺติ ภยชนกํ วมฺมิกาทึ. เกนจิ เลฑฺฑุปาสาณาทินา อาสนฺเน วิจรนฺตีติ น ปหริตพฺพา. ติลปิฏฺํ วุจฺจติ ปลลํ. มาสมิสฺสํ ภตฺตํ มาสภตฺตํ. คุฬาทีติ อาทิ-สทฺเทน ติลสํคุฬิกาทิฆนปูวฺจ สงฺคณฺหาติ. กุลเคหํ น ปวิสิตพฺพนฺติ เปตธูเมน วาสิตตฺตา, ปิสาจานุพนฺธตฺตา จ กุลเคหสฺส อพฺภนฺตรํ น ปวิสิตพฺพํ. เทวสิกํ ฉวฑาโห ธุวฑาโห. มตาตกานํ ตตฺถ คนฺตฺวา เทวสิกํ โรทนํ ธุวโรทนํ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘ฌาปิตกาลโต ปน ปฏฺายา’’ติ วุตฺตนเยน. ‘‘ปจฺฉิมยาเม ปฏิกฺกมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิจฺฉิตตฺตา ‘‘สุสานํ อคตทิวเส’’ติ องฺคุตฺตรภาณกา.
สุสาเน นิจฺจกาลํ สิวถิกทสฺสเนน มรณสฺสติปฏิลาโภ. ตโต เอว อปฺปมาทวิหาริตา ¶ . ตตฺถ ฉฑฺฑิตสฺส มตกเฬวรสฺส ทสฺสเนน อสุภนิมิตฺตาธิคโม. ตโต เอว กามราควิโนทนํ. พหุลํ สรีรสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวสลฺลกฺขณโต อภิณฺหํ กายสภาวทสฺสนํ. ตโต มรณสฺสติปฏิลาภโต จ สํเวคพหุลตา. พฺยาธิกานํ, ชราชิณฺณานฺจ มตานํ ตตฺถ ทสฺสเนน อาโรคฺยโยพฺพนชีวิตมทปฺปหานํ. ขุทฺทกสฺส, มหโต จ ภยสฺส อภิภวนโต ภยเภรวสหนตา. สํวิคฺคสฺส โยนิโส ปทหนํ สมฺภวตีติ อมนุสฺสานํ ครุภาวนียตา. นิทฺทาคตมฺปีติ สุตฺตมฺปิ, สุปินนฺเตปีติ อธิปฺปาโย.
อิติ โสสานิกงฺคกถาวณฺณนา.
๑๒. ยถาสนฺถติกงฺคกถาวณฺณนา
๓๕. เสนาสนคาหเณ ¶ ปเร อุฏฺาเปตฺวา คหณํ, ‘‘อิทํ สุนฺทรํ, อิทํ น สุนฺทร’’นฺติ ปริตุลยิตฺวา ปุจฺฉนา, โอโลกนา จ เสนาสนโลลุปฺปํ. ตุฏฺพฺพนฺติ ตุสฺสิตพฺพํ. วิหารสฺส ปริยนฺตภาเวน ทูเรติ วา พหูนํ สนฺนิปาตฏฺานาทีนํ อจฺจาสนฺเนติ วา ปุจฺฉิตุํ น ลภติ, ปุจฺฉเนนปิสฺส ธุตงฺคสฺส สํกิลิสฺสนโต. โอโลเกตุนฺติ โลลุปฺปวเสน ปสฺสิตุํ. สจสฺส ตํ น รุจฺจตีติ อสฺส ยถาสนฺถติกสฺส ตํ ยถาคาหิตํ เสนาสนํ อผาสุกภาเวน สเจ น รุจฺจติ, มุทุกสฺส อสติ โรเค ยถาคาหิตํ ปหาย อฺสฺส เสนาสนสฺส คหณํ โลลุปฺปํ, มชฺฌิมสฺส คนฺตฺวา โอโลกนา, อุกฺกฏฺสฺส ปุจฺฉนา. สพฺเพสมฺปิ อุฏฺาเปตฺวา คหเณ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
อุปฏฺาปนียานมฺปิ อนุฏฺาปเนน สพฺรหฺมจารีนํ หิเตสิตา. ตาย กรุณาวิหารานุคุณตา. สุนฺทราสุนฺทรวิภาคากรณโต หีนปณีตวิกปฺปปริจฺจาโค. เตน ตาทิลกฺขณานุคุณตา. ตโต เอว อนุโรธวิโรธปฺปหานํ. ทฺวารปิทหนํ โอกาสาทานโต. ยถาสนฺถตรามตนฺติ ยถาคาหิเต ยถานิทฺทิฏฺเ เสนาสเน อภิรตภาวํ.
อิติ ยถาสนฺถติกงฺคกถาวณฺณนา.
๑๓. เนสชฺชิกงฺคกถาวณฺณนา
๓๖. เสยฺยนฺติ ¶ อิริยาปถลกฺขณํ เสยฺยํ. ตปฺปฏิกฺเขเปเนว หิ ตทตฺถา ‘‘มฺโจ ภิสี’’ติ เอวมาทิกา (จูฬว. ๓๒๑, ๓๒๒) เสยฺยา ปฏิกฺขิตฺตา เอว โหนฺติ. ‘‘เนสชฺชิโก’’ติ จ สยนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา นิสชฺชาย เอว วิหริตุํ สีลมสฺสาติ อิมสฺส อตฺถสฺส อิธ อธิปฺเปตตฺตา เสยฺยา เอเวตฺถ ปฏิโยคินี, น อิตเร ตถา อนิฏฺตฺตา, อสมฺภวโต จ. โกสชฺชปกฺขิโย หิ อิริยาปโถ อิธ ปฏิโยคิภาเวน อิจฺฉิโต, น อิตเร. น จ สกฺกา านคมเนหิ วินา นิสชฺชาย เอว ยาเปตุํ ตถา ปวตฺเตตุนฺติ เสยฺยาเวตฺถ ปฏิโยคินี. เตนาห ‘‘เตน ปนา’’ติอาทิ. จงฺกมิตพฺพํ น ‘‘เนสชฺชิโก อห’’นฺติ สพฺพรตฺตึ นิสีทิตพฺพํ. อิริยาปถนฺตรานุคฺคหิโต หิ กาโย มนสิการกฺขโม โหติ.
จตฺตาโร ¶ ปาทา, ปิฏฺิอปสฺสโย จาติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ปฺจงฺโค. จตูหิ อฏฺฏนีหิ, ปิฏฺิอปสฺสเยน จ ปฺจงฺโคติ อปเร. อุโภสุ ปสฺเสสุ ปิฏฺิปสฺเส จ ยถาสุขํ อปสฺสาย วิหรโต เนสชฺชิกสฺส ‘‘อเนสชฺชิกโต โก วิเสโส’’ติ คาหํ นิวาเรตุํ อภยตฺเถโร นิทสฺสิโต ‘‘เถโร อนาคามี หุตฺวา ปรินิพฺพายี’’ติ.
อุปจฺเฉทียติ เอเตนาติ อุปจฺเฉทนนฺติ วินิพนฺธุปจฺเฉทสฺส สาธกตมภาโว ทฏฺพฺโพ. สพฺพกมฺมฏฺานานุโยคสปฺปายตา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกตฺตา นิสชฺชาย. ตโต เอว ปาสาทิกอิริยาปถตา. วีริยารมฺภานุกูลตา วีริยสมตาโยชนสฺส อนุจฺฉวิกตา. ตโต เอว สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุพฺรูหนตา. ปณิธายาติ เปตฺวา. ตนุนฺติ อุปริมกายํ. วิกมฺเปตีติ จาเลติ, อิจฺฉาวิฆาตํ กโรตีติ อธิปฺปาโย. วตนฺติ ธุตงฺคํ.
อิติ เนสชฺชิกงฺคกถาวณฺณนา.
ธุตงฺคปกิณฺณกกถาวณฺณนา
๓๗. เสกฺขปุถุชฺชนานํ วเสน สิยา กุสลานิ, ขีณาสวานํ วเสน สิยา อพฺยากตานิ ¶ . ตตฺถ เสกฺขปุถุชฺชนา ปฏิปตฺติปูรณตฺถํ, ขีณาสวา ผาสุวิหารตฺถํ ธุตงฺคานิ ปริหรนฺติ. อกุสลมฺปิ ธุตงฺคนฺติ อกุสลจิตฺเตนาปิ ธุตงฺคเสวนา อตฺถีติ อธิปฺปาโย. ตํ น ยุตฺตํ, เยน อกุสลจิตฺเตน ปพฺพชิตสฺส อารฺิกตฺตํ, ตํ ธุตงฺคํ นาม น โหติ. กสฺมา? ลกฺขณาภาวโต. ยํ หิทํ กิเลสานํ ธุนนโต ธุตสฺส ปุคฺคลสฺส, าณสฺส, เจตนาย วา องฺคตฺตํ, น ตํ อกุสลธมฺเมสุ สมฺภวติ. ตสฺมา อรฺวาสาทิมตฺเตน อารฺิกาทโย ตาว โหนฺตุ, อารฺิกงฺคาทีนิ ปน น โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น มย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมานีติ ธุตงฺคานิ. วุตฺตํ เหฏฺา วจนตฺถนิทฺเทเส. น จ อกุสเลน โกจิ ธุโต นาม โหติ, กิเลสานํ ธุนนฏฺเนาติ อธิปฺปาโย. ยสฺส ภิกฺขุโน เอตานิ สมาทานานิ องฺคานิ, เอเตน ปเมนาปิ อตฺถวิกปฺเปน ‘‘นตฺถิ อกุสลํ ธุตงฺค’’นฺติ ทสฺเสติ. น จ อกุสลํ กิฺจิ ธุนาตีติ อกุสลํ กิฺจิ ปาปํ น จ ธุนาติ เอว อปฺปฏิปกฺขโต. เยสํ สมาทานานํ ตํ อกุสลํ าณํ วิย ¶ องฺคนฺติ กตฺวา ตานิ ธุตงฺคานีติ วุจฺเจยฺยุํ. อิมินา ทุติเยนาปิ อตฺถวิกปฺเปน ‘‘นตฺถิ อกุสลํ ธุตงฺค’’นฺติ ทสฺเสติ. นาปิ อกุสลนฺติอาทิ ตติยอตฺถวิกปฺปวเสน โยชนา. ตสฺมาติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนํ.
เยสนฺติ อภยคิริวาสิเก สนฺธายาห. เต หิ ธุตงฺคํ นาม ปฺตฺตีติ วทนฺติ. ตถา สติ ตสฺส ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา กิเลสานํ ธุนนฏฺโปิ น สิยา, สมาทาตพฺพตา จาติ เตสํ วจนํ ปาฬิยา วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘กุสลตฺติกวินิมุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฺตฺติปกฺเข เอเต โทสา ทุนฺนิวารา, ตสฺมา ตํ เตสํ วจนํ น คเหตพฺพํ, วุตฺตนโย เจตนาปกฺโขเยว คเหตพฺโพติ อตฺโถ. ยสฺมา เอเต ธุตคุณา กุสลตฺติเก ปมตติยปทสงฺคหิตา, ตสฺมา สิยา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา วิปากธมฺมธมฺมา, สิยา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา, สิยา อนุปาทินฺนุปาทานิยา, สิยา อสํกิลิฏฺสํกิเลสิกาติ เอวํ เสสติกทุกปเทหิปิ เนสํ ยถารหํ สงฺคโห วิภาเวตพฺโพ.
กามํ สพฺโพปิ อรหา ธุตกิเลโส, อิธ ปน ธุตงฺคเสวนามุเขน กิเลเส วิธุนิตฺวา ิโต ขีณาสโว ‘‘ธุตกิเลโส ปุคฺคโล’’ติ อธิปฺเปโต. ตถา สพฺโพปิ อริยมคฺโค นิปฺปริยาเยน กิเลสธุนโน ธมฺโม, วิเสสโต อคฺคมคฺโค. ปริยาเยน ปน วิปสฺสนาาณาทิ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ธุตงฺคเจตนาสมฺปยุตฺตาณํ ทฏฺพฺพํ. เอวํ ธุตํ ทสฺเสตฺวา ธุตวาเท ทสฺเสตพฺเพ ยสฺมา ธุตวาทเภเทน ¶ ธุโต วิย ธุตเภเทน ธุตวาโทปิ ทุวิโธ, ตสฺมา เตสํ, ตทุภยปฏิกฺเขปสฺส จ วเสน จตุกฺกเมตฺถ สมฺภวตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถิ ธุโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตยิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส ‘‘โส อย’’นฺติ อตฺโถ. ธุตธมฺมา นามาติ ธุตงฺคเสวนาย ปฏิปกฺขภูตานํ ปาปธมฺมานํ ธุนนวเสน ปวตฺติยา ‘‘ธุโต’’ติ ลทฺธนามาย ธุตงฺคเจตนาย อุปการกา ธมฺมาติ กตฺวา ธุตธมฺมา นาม. อสมฺปตฺตสมฺปตฺเตสุ ปจฺจเยสุ อลุพฺภนากาเรน ปวตฺตนโต อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา จ อตฺถโต อโลโภ. ปจฺจยเคธาทิเหตุกานํ โลลตาทีนํ สํกิเลสานํ สมฺมเทว ลิขนโต ¶ เฉทนโต คณสงฺคณิกาทิเภทโต สํสคฺคโต จิตฺตสฺส วิเวจนโต สลฺเลขตา ปวิเวกตา จ อโลโภ อโมโหติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ อนุปตนฺติ ตทนฺโตคธา ตปฺปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตทุภยสฺเสว ปวตฺติวิเสสภาวโต. อิเมหิ กุสลธมฺเมหิ อตฺถี อิทมตฺถี, เยน าเณน ปพฺพชิเตน นาม ปํสุกูลิกงฺคาทีสุ ปติฏฺิเตน ภวิตพฺพนฺติ ยถานุสิฏฺํ ธุตคุเณ สมาทิยติ เจว ปริหรติ จ, ตํ าณํ อิทมตฺถิตา. เตนาห ‘‘อิทมตฺถิตา าณเมวา’’ติ. ปฏิกฺเขปวตฺถูสูติ คหปติจีวราทีสุ เตหิ เตหิ ธุตงฺเคหิ ปฏิกฺขิปิตพฺพวตฺถูสุ. โลภนฺติ ตณฺหํ. เตสฺเวว วาติ ปฏิกฺเขปวตฺถูสุ เอว. อาทีนวปฏิจฺฉาทกนฺติ อารกฺขทุกฺขปราธีนวุตฺติโจรภยาทิอาทีนวปฏิจฺฉาทกํ. อนฺุาตานนฺติ สตฺถารา นิจฺฉนฺทราคปริโภควเสน อนฺุาตานํ สุขสมฺผสฺสอตฺถรณปาวุรณาทีนํ. ปฏิเสวนมุเขนาติ ปฏิเสวนทฺวาเรน, เตน เลเสนาติ อตฺโถ. อติสลฺเลขมุเขนาติ อติวิย สลฺเลขปฏิปตฺติมุเขน, อุกฺกฏฺสฺส วตฺตนกานมฺปิ ปฏิกฺขิปนวเสนาติ อตฺโถ.
สุขุมกรณสนฺนิสฺสโย ราโค ทุกฺขาย ปฏิปตฺติยา ปติฏฺํ น ลภตีติ อาห ‘‘ทุกฺขาปฏิปทฺจ นิสฺสาย ราโค วูปสมฺมตี’’ติ. สลฺเลโข นาม สมฺปชานสฺส โหติ, สติสมฺปชฺเ โมโห อปติฏฺโว อปฺปมาทสมฺภวโตติ วุตฺตํ ‘‘สลฺเลขํ นิสฺสาย อปฺปมตฺตสฺส โมโห ปหียตี’’ติ. เอตฺถาติ เอเตสุ ธุตงฺเคสุ. ตตฺถาติ อรฺรุกฺขมูเลสุ.
สีสงฺคานีติ สีสภูตานิ องฺคานิ, ปเรสมฺปิ เกสฺจิ นานนฺตริกตาย, สุกรตาย จ สงฺคณฺหนโต อุตฺตมงฺคานีติ อตฺโถ. อสมฺภินฺนงฺคานีติ เกหิจิ สมฺเภทรหิตานิ, วิสุํเยว องฺคานีติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมฏฺานํ วฑฺฒติ ราคจริตสฺส โมหจริตสฺส โทสจริตสฺสาปิ, ตํ เอกจฺจํ ¶ ธุตงฺคํ เสวนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. หายติ กมฺมฏฺานํ สุกุมารภาเวนลูขปฏิปตฺตึ อสหนฺตสฺส. วฑฺฒเตว มหาปุริสชาติกสฺสาติ อธิปฺปาโย. น วฑฺฒติ กมฺมฏฺานํ อุปนิสฺสยรหิตสฺส. เอกเมว หิ ธุตงฺคํ ยถา กิเลสธุนนฏฺเน, เอวํ เจตนาสภาวตฺตา. เตนาห ‘‘สมาทานเจตนา’’ติ.
เตรสาปิ ¶ ธุตงฺคานิ สมาทาย ปริหรนฺตานํ ปุคฺคลานํ วเสน ‘‘ทฺวาจตฺตาลีส โหนฺตี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูนํ เตรสนฺนมฺปิ ปริหรณสฺส เอกชฺฌํเยว สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เอกปฺปหาเรน สพฺพธุตงฺคานิ ปริภฺุชิตุํ สกฺโกตี’’ติ วุตฺตํ. กถํ อพฺโภกาเส วิหรนฺตสฺส รุกฺขมูลิกงฺคํ? ‘‘ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปามิ, รุกฺขมูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๒) วจนโต ฉนฺเน อรุณํ อุฏฺาปิตมตฺเต ธุตงฺคํ ภิชฺชติ, น อพฺโภกาเส, ตสฺมา เภทเหตุโน อภาเวน ตมฺปิ อโรคเมว. ตถา เสนาสนโลลุปฺปสฺส อภาเวน ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ ทฏฺพฺพํ. อารฺิกงฺคํ คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๖๙๑-๖๙๒) ปฏิกฺขิตฺตํ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ อนติริตฺตโภชนสิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๒๓๘-๒๔๐). ปวาริตาย หิ ภิกฺขุนิยา อติริตฺตํ กตฺวา ภฺุชิตุํ น ลพฺภติ. กปฺปิเย จ วตฺถุสฺมึ โลลตาปหานาย ธุตงฺคสมาทานํ, น อกปฺปิเย, สิกฺขาปเทเนว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. อฏฺเว โหนฺติ ภิกฺขุนิยา สํกจฺจิกจีวราทีหิ สทฺธึ ปฺจปิ ติจีวรสงฺขเมว คจฺฉนฺตีติ กตฺวา. ยถาวุตฺเตสูติ ภิกฺขูนํ วุตฺเตสุ เตรสสุ ติจีวราธิฏฺานวินยกมฺมาภาวโต เปตฺวา เตจีวริกงฺคํ ทฺวาทส สามเณรานํ. สตฺตาติ ภิกฺขุนีนํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ เอกํ ปหาย สตฺต ติจีวราธิฏฺานวินยกมฺมาภาวโต. ‘‘เปตฺวา เตจีวริกงฺค’’นฺติ หิ อิมํ อนุวตฺตมานเมว กตฺวา ‘‘สตฺต สิกฺขมานสามเณรีน’’นฺติ วุตฺตํ. ปติรูปานีติ อุปาสกภาวสฺส อนุจฺฉวิกานิ.
ธุตงฺคนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ทุติยปริจฺเฉทวณฺณนา.
๓. กมฺมฏฺานคฺคหณนิทฺเทสวณฺณนา
๓๘. อปฺปิจฺฉตาทีหีติ ¶ ¶ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิสลฺเลขปวิเวกาปจยวีริยารมฺภาทีหิ. ปริโยทาเตติ สุวิสุทฺเธ นิรุปกฺกิเลเส. อิมสฺมึ สีเลติ ยถาวุตฺเต จตุปาริสุทฺธิสีเล. ‘‘จิตฺตํ ภาวย’’นฺติ อิมเมว เทสนํ สนฺธายาห ‘‘อติสงฺเขปเทสิตตฺตา’’ติ. โก สมาธีติ สรูปปุจฺฉา. เกนฏฺเน สมาธีติ เกน อตฺเถน สมาธีติ วุจฺจติ, ‘‘สมาธี’’ติ ปทํ กํ อภิเธยฺยตฺถํ นิสฺสาย ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. กติวิโธติ ปเภทปุจฺฉา.
‘‘โก สมาธี’’ติ กามฺจายํ สรูปปุจฺฉา, วิภาควนฺตานํ ปน สรูปวิภาวนํ วิภาคทสฺสนมุเขเนว โหตีติ วิภาโค ตาว อนวเสสโต ทสฺเสตพฺโพ. ตํทสฺสเน จ อยมาทีนโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมาธิ พหุวิโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พหุวิโธติ กุสลาทิวเสน อเนกวิโธ. นานปฺปการโกติ อาลมฺพนมนสิการฉนฺทปณิธิอธิโมกฺขอภินีหารสฺานานตฺตาทินานปฺปกาโร. น สาเธยฺยาติ โลกิยสมาธิสฺส ภาวนา อิธ อธิปฺเปตตฺโถ, ตฺจ น สาเธยฺย. ฌานวิโมกฺขาทีสุ หิ สมาธึ อุทฺธริตฺวา ตสฺส ลพฺภมาเนหิ วิภาเคหิ วิสฺสชฺชเน กริยมาเน ฌานวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย) อาคโต สพฺโพ สมาธิปเภโท วิสฺสชฺเชตพฺโพ สิยา. ตถา จ สติ ยฺวายํ โลกิยสมาธิสฺส ภาวนาวิธิ อธิปฺเปโต, ตสฺส วิสฺสชฺชนาย โอกาโสว น ภเวยฺย. กิฺจ เยนสฺส ติกจตุกฺกฌานิเกน หีนาทิเภทภินฺเนน ปวตฺติวิภาเคน พฺรหฺมปาริสชฺชาทิวเสน นววิโธ, ปฺจมชฺฌานิเกน เวหปฺผลาทิวเสน ทสวิโธ วา เอกาทสวิโธ วา ภวปฺปเภโท นิปฺปชฺชติ. สฺวาสฺส ปวตฺติวิภาโค อยํ โสติ นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมาโน วิกฺเขปาย สิยา, ยถา ตํ อวิสเย. เตนาห ‘‘อุตฺตริ จ วิกฺเขปาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ. กุสลจิตฺเตกคฺคตาติ กุสลา อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณา จิตฺเตกคฺคตา.
จิตฺตเจตสิกานํ สมํ อวิสารวเสน สมฺปิณฺเฑนฺตสฺส วิย อาธานํ สมาธานํ. อวิสารลกฺขโณ ¶ หิ สมาธิ, สมฺปิณฺฑนรโส จ. สมฺมา อวิกฺขิปนวเสน อาธานํ สมาธานํ. อวิกฺเขปลกฺขโณ วา หิ ¶ สมาธิ, วิกฺเขปวิทฺธํสนรโส จาติ. สฺวายํ ยสฺมา เอการมฺมเณ จิตฺตสฺส ิติเหตุ, ตสฺมา ‘‘ปนนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. ตถา เหส ‘‘จิตฺตสฺส ิติ สณฺิติ อวฏฺิตี’’ติ (ธ. ส. ๑๕) นิทฺทิฏฺโ. เอการมฺมณคฺคหณฺเจตฺถ สมาธิสฺส สนฺตานฏฺิติภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิสฺส อฏฺกถายํ ทีปจฺจิฏฺิติ นิทสฺสิตา. อานุภาเวนาติ พเลน, ปจฺจยภาเวนาติ อตฺโถ. อวิกฺขิปมานาติ น วิกฺขิปมานา วูปสมมานา. อุปสมปจฺจุปฏฺาโน หิ สมาธิ. เอเตนสฺส วิกฺเขปปฏิปกฺขตํ ทสฺเสติ. อวิปฺปกิณฺณาติ อวิสฏา. เอเตน อวิสารลกฺขณตํ.
สยํ น วิกฺขิปติ, สมฺปยุตฺตา วา น วิกฺขิปนฺติ เอเตนาติ อวิกฺเขโป, โส ลกฺขณํ เอตสฺสาติ อวิกฺเขปลกฺขโณ. วิกฺเขปํ วิทฺธํเสติ, ตถา วา สมฺปชฺชตีติ วิกฺเขปวิทฺธํสนรโส. อุทฺธจฺเจ อวิกมฺปนวเสน ปจฺจุปติฏฺติ, สมฺปยุตฺตานํ วา ตํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อวิกมฺปนปจฺจุปฏฺาโน. สุขนฺติ นิรามิสํ สุขํ ทฏฺพฺพํ.
๓๙. อวิกฺเขปลกฺขณํ นาม สมาธิสฺส อาเวณิโก สภาโว, น เตนสฺส โกจิ วิภาโค ลพฺภตีติ อาห ‘‘อวิกฺเขปลกฺขเณน ตาว เอกวิโธ’’ติ. สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมเณ อปฺเปนฺโต วิย ปวตฺตตีติ วิตกฺโก อปฺปนา. ตถา หิ โส ‘‘อปฺปนา พฺยปฺปนา’’ติ (ธ. ส. ๗) นิทฺทิฏฺโ. ตปฺปมุขตาวเสน ปน สพฺพสฺมึ มหคฺคตานุตฺตเร ฌานธมฺเม ‘‘อปฺปนา’’ติ อฏฺกถาโวหาโร. ตถา ตสฺส อนุปฺปตฺติฏฺานภูเต ปริตฺตฌาเน อุปจารโวหาโร. คามาทีนํ สมีปฏฺาเน คามูปจาราทิสมฺา วิยาติ อาห ‘‘อุปจารปฺปนาวเสน ทุวิโธ’’ติ. อิธ ปน สมาธิวเสน เวทิตพฺพํ. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ วุจฺจติ วฏฺฏํ, ตปฺปริยาปนฺนตาย โลเก นิยุตฺโต, ตตฺถ วา วิทิโตติ โลกิโย. ตตฺถ อปริยาปนฺนตาย โลกโต อุตฺตโร อุตฺติณฺโณติ โลกุตฺตโร. กามฺเจตฺถ โลกิยสมาธิ ภาเวตพฺพภาเวน คยฺหติ, อุภยํ ปน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตโต อิตรํ นิทฺธาเรตุํ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ’’ติ วุตฺตํ. สปฺปีติกนิปฺปีติกวเสนาติ สห ปีติยา วตฺตตีติ สปฺปีติโก, ปีติสมฺปยุตฺโต. นตฺถิ เอตสฺส ปีตีติ นิปฺปีติโก, ปีติวิปฺปยุตฺโต. เตสํ วเสน. สุเขน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คโตติ สุขสหคโต ¶ , สุขสมฺปยุตฺโตติ อตฺโถ. อุเปกฺขาสหคเตปิ เอเสว นโย. อุเปกฺขาติ เจตฺถ อทุกฺขมสุขเวทนา อธิปฺเปตา. สา หิ สุขทุกฺขาการปวตฺตึ อุเปกฺขติ มชฺฌตฺตาการสณฺิตตฺตา. สุขสหคต-ปเทน ¶ เจตฺถ สปฺปีติโก, นิปฺปีติเกกเทโส จ สงฺคหิโต, อุเปกฺขาสหคต-ปเทน ปน นิปฺปีติเกกเทโสวาติ อยเมเตสํ ปทานํ วิเสโส.
สภาวโต, ปจฺจยโต, ผลโต จ มชฺฌิมปณีเตหิ นิหีโน, เตสํ วา คุเณหิ ปริหีโนติ หีโน, อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปธานภาวํ นีโต ปณีโต, อุภินฺนํ มชฺเฌ ภโว มชฺฌิโม. สมฺปโยควเสน ปวตฺตมาเนน สห วิตกฺเกน สวิตกฺโก, สห วิจาเรน สวิจาโร, สวิตกฺโก จ โส สวิจาโร จาติ สวิตกฺกสวิจาโร. อาทิ-สทฺเทน อวิตกฺกวิจารมตฺโต, อวิตกฺกาวิจาโร จ คหิโต. ตตฺถ วิจารโต อุตฺตริ วิตกฺเกน สมฺปโยคาภาวโต อวิตกฺโก จ โส วิจารมตฺโต จาติ อวิตกฺกวิจารมตฺโต. วิเสสนิวตฺติอตฺโถ วา มตฺต-สทฺโท. สวิตกฺกสวิจาโร หิ สมาธิ วิตกฺกวิสิฏฺเน วิจาเรน สวิจาโร, อยํ ปน วิจารมตฺเตน วิตกฺกสงฺขาตวิเสสรหิเตน, ตสฺมา อวิตกฺกวิจารมตฺโต. อถ วา ภาวนาย ปหีนตฺตา วิตกฺกาภาเวนายํ วิจารมตฺโต, น วิจารโต อฺสฺส อตฺตโน สมฺปยุตฺตธมฺมสฺส กสฺสจิ อภาวาติ ทสฺเสตุํ อวิตกฺก-วจเนน วิจารมตฺต-ปทํ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อุภยรหิโต อวิตกฺกาวิจาโร. ปีติสหคตาทิวเสนาติ ปีติสหคตสุขสหคตอุเปกฺขาสหคตวเสน. ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ สุขสหคตทุเก วุตฺตนยเมว. ปฏิปกฺเขหิ สมนฺตโต ขณฺฑิตตฺตา ปริตฺโต. ปริตฺตนฺติ วา อปฺปมตฺตกํ วุจฺจติ, อยมฺปิ อปฺปานุภาวตาย ปริตฺโต วิยาติ ปริตฺโต. กิเลสวิกฺขมฺภนโต, วิปุลผลโต, ทีฆสนฺตานโต จ มหนฺตภาวํ คโต, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทาทีหิ คโต ปฏิปนฺโนติ มหคฺคโต. อารมฺมณกรณวเสนาปิ นตฺถิ เอตสฺส ปมาณกรธมฺมา, เตสํ วา ปฏิปกฺโขติ อปฺปมาโณ.
ปฏิปชฺชติ ฌานํ เอตายาติ ปฏิปทา, ปุพฺพภาคภาวนา. ทุกฺขา กิจฺฉา ปฏิปทา เอตสฺสาติ ทุกฺขาปฏิปโท. ปกติปฺาย อภิวิสิฏฺตฺตา อภิฺา นาม อปฺปนาวหา ภาวนาปฺา, ทนฺธา มนฺทา อภิฺา เอตสฺสาติ ทนฺธาภิฺโ. ทุกฺขาปฏิปโท จ โส ทนฺธาภิฺโ จาติ ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺโ ¶ , สมาธิ. ตทาทิวเสน. จตุฌานงฺควเสนาติ จตุนฺนํ ฌานานํ องฺคภาววเสน, จตุกฺกนยวเสน เจตํ วุตฺตํ. หานภาคิยาทิวเสนาติ หานโกฏฺาสิกาทิวเสน.
สมาธิเอกกทุกวณฺณนา
ฉนฺนํ ¶ อนุสฺสติฏฺานานนฺติ พุทฺธานุสฺสติอาทีนํ ฉนฺนํ อนุสฺสติกมฺมฏฺานานํ. อิเมสํ วเสนาติ อิเมสํ ทสนฺนํ กมฺมฏฺานานํ วเสน. ‘‘ปุพฺพภาเค เอกคฺคตา’’ติ อิมินา อปฺปนาย อุปการกนานาวชฺชนุปจารสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, น เอกาวชฺชนสฺเสว. อปฺปนาสมาธีนนฺติ อุปกตฺตพฺพอุปการกสมฺพนฺเธ สามิวจนํ ‘‘ปุริสสฺส อตฺโถ’’ติอาทีสุ วิย. ปริกมฺมนฺติ โคตฺรภุ. อปริตฺโต สมาธีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตีสุ ภูมีสูติ กามรูปารูปภูมีสุ. กุสลจิตฺเตกคฺคตาย อธิปฺเปตตฺตา ‘‘อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. สิยา สปฺปีติโก, สิยา นิปฺปีติโกติ อนิยมวจนํ อุปจารสมาธิสามฺเน สพฺเพสมฺปิ วา ฌานานํ นานาวชฺชนวีถิยํ อุปจารสมาธิ สิยา สปฺปีติโก, สิยา นิปฺปีติโก. เอกาวชฺชนวีถิยํ ปน อาทิโต ทุกติกชฺฌานานํ อุปจารสมาธิ สปฺปีติโกว, อิตเรสํ นิปฺปีติโกว, วิสภาคเวทนสฺส จิตฺตสฺส อาเสวนปจฺจยตาภาวโต, เอกวีถิยํ เวทนาปริวตฺตนาภาวโต จ. สิยา สุขสหคโต, สิยา อุเปกฺขาสหคโตติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปน ‘‘ทุกติกชฺฌานาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘ติกจตุกฺกชฺฌานาน’’นฺติ วตฺตพฺพํ.
สมาธิติกวณฺณนา
ปฏิลทฺธมตฺโตติ อธิคตมตฺโต อนาเสวิโต อพหุลีกโต. โส หิ ปริทุพฺพลภาเวน หีโน โหติ. นาติสุภาวิโตติ อติวิย ปคุณภาวํ อปาปิโต. สุภาวิโตติ สุฏฺุ ภาวิโต สมฺมเทว ปคุณตํ อุปนีโต. เตนาห ‘‘วสิปฺปตฺโต’’ติ. ฉนฺทาทีนํ หีนตาทิวเสนาปิ อิเมสํ หีนาทิตา เวทิตพฺพา. ตถา หิ อุฬารปฺุผลกามตาวเสน ปวตฺติโต หีโน, โลกิยาภิฺาสมฺปาทนาย ปวตฺติโต มชฺฌิโม, วิเวกกามตาย อริยภาเว ิเตน ปวตฺติโต ปณีโต ¶ . อตฺตหิตาย ภวสมฺปตฺติอตฺถํ ปวตฺติโต วา หีโน, เกวลํ อโลภชฺฌาสเยน ปวตฺติโต มชฺฌิโม, ปรหิตาย ปวตฺติโต ปณีโต. วฏฺฏชฺฌาสเยน วา ปวตฺติโต หีโน, วิเวกชฺฌาสเยน ปวตฺติโต มชฺฌิโม, วิวฏฺฏชฺฌาสเยน โลกุตฺตรปาทกตฺถํ ปวตฺติโต ปณีโต.
สทฺธึ อุปจารสมาธินาติ สพฺเพสมฺปิ ฌานานํ อุปจารสมาธินา สห. วิตกฺกมตฺเตเยว อาทีนวํ ¶ ทิสฺวาติ วิตกฺเกเยว โอฬาริกโต อุปฏฺหนฺเต ‘‘จิตฺตสฺส โขภกรธมฺโม อย’’นฺติ อาทีนวํ ทิสฺวา วิจารฺจ สนฺตโต มนสิ กริตฺวา. เตนาห ‘‘วิจาเร อทิสฺวา’’ติ. ตํ สนฺธายาติ ตํ เอวํ ปฏิลทฺธํ สมาธึ สนฺธาย. เอตํ ‘‘อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธี’’ติ ทุติยปทํ วุตฺตํ. ตีสูติ อาทิโต ตีสุ.
เตสฺเววาติ เตสุ เอว จตุกฺกปฺจกนเยสุ. ตติเย จตุตฺเถติ จตุกฺกนเย ตติเย, ปฺจกนเย จตุตฺเถติ โยเชตพฺพํ. อวสาเนติ ทฺวีสุปิ นเยสุ ปริโยสานชฺฌาเน. ยถากฺกมํ จตุตฺเถ, ปฺจเม วา. ปีติสุขสหคโต วาติ เอตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ สติปิ ปีติสหคตสฺสาปิ สมาธิสฺส สุขสหคตตฺเต ตีณิปิ ปทานิ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ นิปฺปีติกสุขโต สปฺปีติกสุขสฺส วิเสสทสฺสนตฺถํ สตฺถุ ปีติติกเทสนาติ นิปฺปีติกสฺเสว สุขสฺส วเสน สุขสหคโต สมาธิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ.
อุปจารภูมิยนฺติ อุปจารชฺฌานสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาเท. จิตฺตุปฺปาโท หิ สหชาตธมฺมานํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๙๘๘) วิย. ปริตฺโต สมาธิ กามาวจรภาวโต.
สมาธิจตุกฺกวณฺณนา
ปมสมนฺนาหาโร ภาวนํ อารภนฺตสฺส ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา กมฺมฏฺาเน ปมาภินิเวโส. ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารนฺติ นีวรณวิตกฺกวิจารนิกนฺติอาทีนํ วูปสเม ถิรภูตํ กามาวจรชฺฌานํ. ‘‘ยาว อปฺปนา’’ติ อิมินา ปุพฺพภาคปฺาย เอว อภิฺาภาโว วุตฺโต วิย ทิสฺสตีติ วทนฺติ ¶ . อปฺปนาปฺา ปน อภิฺาว. ยทคฺเคน หิ ปุพฺพภาคปฺาย ทนฺธสีฆตา, ตทคฺเคน อปฺปนาปฺายปีติ. สมุทาจารคหณตายาติ สมุทาจารสฺส คหณภาเวน, ปวตฺติพาหุลฺลโตติ อตฺโถ. อสุขาเสวนาติ กสิรภาวนา.
ปลิโพธุปจฺเฉทาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ภาวนาวิธานาปริหาปนาทึ สงฺคณฺหาติ. อสปฺปายเสวีติ อุปจาราธิคมโต ปุพฺเพ อสปฺปายเสวิตาย ทุกฺขา ปฏิปทา. ปจฺฉา อสปฺปายเสวิตาย ทนฺธา อภิฺา โหติ. สปฺปายเสวิโนติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปุพฺพภาเคติ อุปจารชฺฌานาธิคมโต ¶ โอรภาเค. อปรภาเคติ ตโต อุทฺธํ. ตสฺส โวมิสฺสกตาติ โย ปุพฺพภาเค อสปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค สปฺปายเสวี, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. อิตรสฺส สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา โหติ. เอวํ ปมจตุตฺถานํ โวมิสฺสกตาย ทุติยตติยาติ อตฺโถ. อกตปลิโพธุปจฺเฉทสฺส สปริปนฺถตาย ปฏิปทา ทุกฺขา โหติ, อิตรสฺส สุขา. อสมฺปาทิตอปฺปนาโกสลฺลสฺส าณสฺส อวิสทตาย ทนฺธา อภิฺา โหติ, วิสทตาย ขิปฺปา อภิฺา.
ตณฺหาอวิชฺชาวเสนาติ ตณฺหาอวิชฺชานํ อภิภวานภิภววเสน. สมถวิปสฺสนาธิการวเสนาติ สมถวิปสฺสนาสุ อสโต, สโต จ อธิการสฺส วเสน. ตณฺหาย สมาธิสฺส อุชุปฏิปกฺขตฺตา สา สมถปฏิปทาย ปริปนฺถินีติ อาห ‘‘ตณฺหาภิภูตสฺส หิ ทุกฺขา ปฏิปทา โหตี’’ติ. อภิภโว จสฺสา อิตรกิเลเสหิ อธิกตาย อนภิภูตสฺส ตณฺหายาติ อธิการโต เวทิตพฺพํ. ตถา อวิชฺชา ปฺาย อุชุปฏิปกฺขาติ ตทภิภูตสฺส ทนฺธาภิฺตา วุตฺตา. อกตาธิกาโรติ ภวนฺตเร อกตปริจโย ยถา ปคุณํ กตฺวา วิสฺสฏฺคนฺโถ อปฺปมตฺตเกน ปโยเคน สุปฺปวตฺติ วาจุคฺคโตว โหติ, เอวํ ปุพฺเพ กตปริจยสฺส ภาวนา อปฺปกสิเรเนว อิชฺฌตีติ อาห ‘‘กตาธิการสฺส สุขา’’ติ. สฺวายํ อกโต, กโต จ อธิกาโร สมถนิสฺสิโต ปฏิปทายํ วุตฺโต สมาธิปฺปธานตฺตา ปฏิปทาย. วิปสฺสนานิสฺสิโต อภิฺายํ าณปฺปธานตฺตา อปฺปนาย. กิเลสินฺทฺริยวเสนาติ ติกฺขาติกฺขานํ กิเลสินฺทฺริยานํ วเสน. เตนาห ‘‘ติพฺพกิเลสสฺสา’’ติอาทิ ¶ . ตตฺถ กิเลสา กามจฺฉนฺทาทโย, อินฺทฺริยานิ สทฺธาทีนิ.
ยถาวุตฺตา ปฏิปทาภิฺา ปุคฺคลาธิฏฺานาติ ธมฺมนิทฺเทสมฺปิ ปุคฺคลาธิฏฺานมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘โย ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปฺปคุโณติ น สุภาวิโต วสีภาวํ อปาปิโต. เตนาห ‘‘อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตี’’ติ. อยํ ปริตฺโตติ อยํ สมาธิ อปฺปานุภาวตาย ปริตฺโต. อวฑฺฒิเตติ เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ น วฑฺฒิเต ยถาอุปฏฺิเต อารมฺมเณ. เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ หิ วฑฺฒิตํ อปฺปมาณเมวาติ วทนฺติ. ‘‘ปคุโณ สุภาวิโต’’ติ วตฺวา ‘‘อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกตี’’ติ อิมินา ยถา ปคุโณปิ อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ ปริตฺโตเยว โหติ, น อปฺปมาโณ, เอวํ าณุตฺตรสฺส เอกาสเนเนว อุปริฌานนิพฺพตฺตเนนาติ สุภาวิโตปิ อุปริฌานสฺส ปจฺจยภาวสงฺขาตาย สุภาวิตกิจฺจสิทฺธิยา ‘‘อปฺปมาโณ’’ตฺเวว วุจฺจติ. อปเร ปน สเจ สุภาวิโต ปคุโณ วสีภาวํ ปตฺโต ¶ อุปริฌานสฺส ปจฺจโย อโหนฺโตปิ อปฺปมาโณ เอว, ปมาณกรานํ ราคาทิปฏิปกฺขานํ สุวิทูรภาวโตติ วทนฺติ. วุตฺตลกฺขณโวมิสฺสตายาติ โย อปฺปคุโณ อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, วฑฺฒิเต อารมฺมเณ ปวตฺโต, อยํ ปริตฺโต อปฺปมาณารมฺมโณ. โย ปน ปคุโณ อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, อวฑฺฒิเต อารมฺมเณ ปวตฺโต, อยํ อปฺปมาโณ ปริตฺตารมฺมโณติ เอวํ ปมจตุตฺถสมาธีนํ วุตฺตลกฺขณสฺส โวมิสฺสกภาเวน ทุติยตติยสมาธิสงฺคาหโก โวมิสฺสกนโย เวทิตพฺโพ.
ตโตติ ตโต ปมชฺฌานโต อุทฺธํ. วิรตฺตปีติกนฺติ อติกฺกนฺตปีติกํ วา ชิคุจฺฉิตปีติกํ วา. อวยโว สมุทายสฺส องฺคนฺติ วุจฺจติ, ‘‘เสนงฺคํ รถงฺค’’นฺติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ องฺคภูตา จตฺตาโร สมาธี’’ติ.
หานํ ภชตีติ หานภาคิโย, หานภาโค วา เอตสฺส อตฺถีติ หานภาคิโย, ปริหานโกฏฺาสิโกติ อตฺโถ. อาลยสฺส อเปกฺขาย อปริจฺจชนโต ิตึ ภชตีติ ิติภาคิโย. วิเสสํ ภชตีติ วิเสสภาคิโย. ปจฺจนีกสมุทาจารวเสนาติ ตสฺส ตสฺส ¶ ฌานสฺส ปจฺจนีกานํ นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนํ ปวตฺติวเสน. ตทนุธมฺมตายาติ ตทนุรูปภูตาย สติยา. สณฺานวเสนาติ สณฺหนวเสน ปติฏฺานวเสน. ‘‘สา ปน ตทสฺสาทสงฺขาตา, ตทสฺสาทสมฺปยุตฺตกฺขนฺธสงฺขาตา วา มิจฺฉาสตี’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๗๙๙) วุตฺตํ. ตตฺถ สาเปกฺขสฺส อุปริ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อวิคตนิกนฺติกา ตํตํปริหรณสตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สติยา วา นิกนฺติยา วา’’ติ วิกปฺปวจนฺจ ยุตฺตํ โหติ. วิเสสาธิคมวเสนาติ วิเสสาธิคมสฺส ปจฺจยภาววเสน, วิเสสํ วา อธิคจฺฉติ เอเตนาติ วิเสสาธิคโม, ตสฺส วเสน. นิพฺพิทาสหคตสฺามนสิการสมุทาจารวเสนาติ อาทีนวทสฺสนปุพฺพงฺคมนิพฺพินฺทนาณสมฺปยุตฺตสฺาย จ อาโภคสฺส จ ปวตฺติวเสน. นิพฺเพธภาคิยตาติ สจฺจานํ นิพฺพิชฺฌนปกฺขิกตา วิปสฺสนาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ.
กามสหคตาติ กามารมฺมณา, กามสฺาหิ วา โวกิณฺณา. อวิตกฺกสหคตาติ ‘‘กถํ นุ โข เม อวิตกฺกํ ฌานํ ภเวยฺยา’’ติ เอวํ อวิตกฺการมฺมณา อวิตกฺกวิสยา. กามฺจายํ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺสา’’ติอาทิโก ปาโ ปฺาวเสน อาคโต, สมาธิสฺสาปิ ปเนตฺถ สงฺคโห ¶ อตฺเถวาติ อุทาหรณสฺส สาตฺถกตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตาย ปน ปฺาย สมฺปยุตฺตา สมาธีปิ จตฺตาโร โหนฺตี’’ติ เตสํ วเสน เอวํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
ภาวนามยสฺส สมาธิสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา อุปจาเรกคฺคตา ‘‘กามาวจโร สมาธี’’ติ วุตฺตํ. อธิปตึ กริตฺวาติ ‘‘ฉนฺทวโต เจ สมาธิ โหติ, มยฺหมฺปิ เอวํ โหตี’’ติ ฉนฺทํ อธิปตึ, ฉนฺทํ ธุรํ เชฏฺกํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา. ลภติ สมาธินฺติ เอวํ ยํ สมาธึ ลภติ, อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธิ, ฉนฺทาธิปติสมาธีติ อตฺโถ. เอวํ วีริยสมาธิอาทโยปิ เวทิตพฺพา.
จตุกฺกเภเทติ จตุกฺกวเสน สมาธิปฺปเภทนิทฺเทเส. อฺตฺถ สมฺปโยควเสน วิจาเรน สห วตฺตมาโน วิตกฺโก ปฺจกนเย ทุติยชฺฌาเน วิโยชิโตปิ น สุฏฺุ วิโยชิโตติ, เตน สทฺธึเยว วิจารสมติกฺกมํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกวิจาราติกฺกเมน ตติย’’นฺติ. ทฺวิธา ¶ ภินฺทิตฺวา จตุกฺกเภเท วุตฺตํ ทุติยํ ฌานนฺติ โยชนา. ปฺจฌานงฺควเสนาติ ปฺจนฺนํ ฌานานํ องฺคภาววเสน สมาธิสฺส ปฺจวิธตา เวทิตพฺพา.
๔๐. วิภงฺเคติ าณวิภงฺเค. ตตฺถ หิ ‘‘ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทาน’’นฺติ, เอตฺถ ‘‘สํกิเลส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หานภาคิโย ธมฺโมติ อปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ กามาทิอนุปกฺขนฺทนํ. วิเสสภาคิโย ธมฺโมติ ปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ ทุติยชฺฌานาทิอนุปกฺขนฺทนํ. เตนาห ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภิ’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ (วิภ. อฏฺ. ๘๒๘) – อปคุณสฺส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีนํ ตโต วุฏฺิตํ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ โจเทนฺติ ตุทนฺติ, ตสฺส กามานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน สา ปมชฺฌานปฺา หายติ, ตสฺมา หานภาคินี ปฺา. อวิตกฺกสหคตาติ อวิตกฺกํ ทุติยํ ฌานํ สนฺตโต ปณีตโต มนสิ กโรโต อารมฺมณวเสน อวิตกฺกสหคตา สมุทาจรนฺติ ปคุณปมชฺฌานโต วุฏฺิตํ ทุติยชฺฌานาธิคมตฺถาย โจเทนฺติ ตุทนฺติ, ตสฺส ทุติยชฺฌานานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน ปมชฺฌานปฺา วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปฺปตฺติยา ปทฏฺานตาย วิเสสภาคินี ปฺา. ตํสมฺปยุตฺโต สมาธิ อิธาธิปฺเปโต. อิมินา นเยนาติ อิมินา ปมชฺฌาเน วุตฺเตน วิธินา ทุติยชฺฌานาทีสุปิ หานภาคิยธมฺโม, วิเสสภาคิยธมฺโม จ เวทิตพฺโพ.
ทสปลิโพธวณฺณนา
๔๑. อริยมคฺคสมฺปยุตฺโตติ ¶ โลกุตฺตรอปฺปมาณอปริยาปนฺนคฺคหเณน โลกิเยหิ อสาธารณโต, สปฺปีติกาทิคฺคหเณน สาธารณโต จ อริยมคฺคสมฺปยุตฺโต สมาธิ วุตฺโต. ภาวิโต โหติ สฺาย สมฺปยุตฺตตฺตา. ตนฺติ อริยมคฺคสมาธึ. วิสุนฺติ ปฺาภาวนาย วิสุํ กตฺวา น วทาม.
กมฺมฏฺานภาวนํ ¶ ปริพุนฺเธติ อุปโรเธติ ปวตฺติตุํ น เทตีติ ปลิโพโธ ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา, ปริปนฺโถติ อตฺโถ. อุปจฺฉินฺทิตฺวาติ สมาปเนน, สงฺคหเณน วา อุปรุนฺธิตฺวา, อปลิโพธํ กตฺวาติ อตฺโถ.
อาวสนฺติ เอตฺถาติ อาวาโส. ปริจฺเฉทวเสน เวณิยติ ทิสฺสตีติ ปริเวณํ. วิหาเร ภิกฺขูนํ ตํ ตํ วสนฏฺานํ. สฺวายํ อาวาโส. นวกมฺมาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน อาวาสสฺส ตทฺํ อภิวุทฺธิการณํ สงฺคณฺหาติ. การเณนาติ ‘‘ฉายูทกสมฺปนฺนํ สุลภภิกฺข’’นฺติอาทินา การเณน. อเปกฺขวาติ สาลโย.
ตตฺราติ ตสฺมึ ปลิโพธาภาเว. ปาจีนขณฺฑราชินฺติ ปุรตฺถิมทิสายํ ปพฺพตขณฺฑานํ อนฺตเร วนราชิฏฺานํ. ‘‘นามา’’ติ อิมินา ตสฺส ปเทสสฺส อยํ สมฺาติ ทสฺเสติ. ปฏิสามิตเมวาติ นิจฺจกาลํ ปฏิสาเมตฺวาว วิหารโต นิกฺขมามีติ ทสฺเสติ. ธาตุนิธานฏฺานนฺติ กายพนฺธนธมฺมกรณนฺหานสาฏิกอกฺขกธาตุสงฺขาตานํ ปริโภคสรีรธาตูนํ นิทหิตฏฺานํ. อีทิสสฺส อยํ เถโร วิย อลคฺคจิตฺตสฺส. เอเตน ‘‘ภิกฺขุนา นาม อาวาเส เอวรูเปน ภวิตพฺพ’’นฺติ โอวาโท ทินฺโน โหติ. อิโต ปเรสุปิ วตฺถูสุ เอเสว นโย.
กุลนฺติ กุลคฺคหเณน กุลมนุสฺสานํ คหณํ คามคฺคหเณน คามวาสีนํ วิย. อุปฏฺากกุลมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ปเคว าติกุลนฺติ ทสฺเสติ. อุทฺเทสตฺถนฺติ อุทฺทิสาปนตฺถํ, ปาํ อุทฺทิสาเปตฺวา สชฺฌายิตุนฺติ อตฺโถ. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว ปเทเส, ยตฺถ กตฺถจิ วิหาเรติ อตฺโถ. ตํ วิหารนฺติ ตํ โกรณฺฑกวิหารํ.
อุปคโตติ ¶ วสฺสํ อุปคโต. สทาติ คตกาลโต ปภุติ วิเสสโต ปวาริตทิวสโต ปฏฺาย สพฺพทา ทิวเส ทิวเส. ปริเทวมานาติ ตํตํวิลปนวเสน วิวิธํ ปริเทวนฺตี. สพฺพํ ปวตฺตินฺติ อตฺตนา ตตฺถ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปจฺฉา สมาคมปริโยสานํ ทหรสฺส สพฺพํ ปวตฺตึ.
กายสกฺขินฺติ ¶ ‘‘ปสฺส อิม’’นฺติ มุขปฏิคฺคาหกํ กตฺวา. รถวินีตปฏิปทนฺติ ทสกถาวตฺถุกิตฺตนปุพฺพิกํ รถวินีตูปมาหิ วิภาวิตํ รถวินีตสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๕๒) อาคตํ สตฺตวิสุทฺธิปฏิปทํ. นาลกปฏิปทนฺติ ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๗๐๖) สตฺถารา นาลกตฺเถรสฺส เทสิตปฏิปทํ. ตุวฏกปฏิปทนฺติ ‘‘มูลํ ปปฺจสงฺขายา’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๙๒๒) ภควตา เทสิตปฏิปทํ. ตตฺถ หิ ยถากฺกมํ –
‘‘น มุนี คามมาคมฺม, กุเลสุ สหสา จเร;
ฆาเสสนํ ฉินฺนกโถ, น วาจํ ปยุตํ ภเณ’’. (สุ. นิ. ๗๑๖);
‘‘คาเม จ นาภิสชฺเชยฺย, ลาภกมฺยา ชนํ น ลปเยยฺยา’’ติ. (สุ. นิ. ๙๓๕) –
เอวมาทิกา ปรมปฺปิจฺฉกถา อาคตา. จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาทีปกนฺติ จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ สนฺโตสสฺส, ภาวนารามตาย จ ปกาสกํ.
ลพฺภตีติ ลาโภ. เตนาห ‘‘จตฺตาโร ปจฺจยา’’ติ. มหาปริวาเรติ วิปุลปริวาเร. ปิณฺฑปาตํ ตาว เทนฺตา พุทฺธปูชาปตฺตจีวราทีนิ ตสฺส ปริวารานิ กตฺวา เทนฺติ, ตถา จีวราทิทาเนปิ. พาหุลฺลิกปิณฺฑปาติกาติ ปิณฺฑปาติกา หุตฺวา ปจฺจยพาหุลฺลิกา. วทนฺตีติ ปุริมทิวเส ภิกฺขาย อาหิณฺฑนกาเล ยถาสุตํ วทนฺติ. นิจฺจพฺยาวโฏ อุปาสกาทีนํ สงฺคณฺหเน.
ตสฺสาติ คณสฺส. โสติ คณปลิโพโธ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน คณวาจกสฺส ปริเยสนมฺปิ ลหุกเมว อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห ‘‘โยชนโต ปรํ อคนฺตฺวา’’ติ. อตฺตโน กมฺมนฺติ สมณธมฺมมาห.
กตากเตติ ¶ กเต จ อกเต จ กมฺเม ชานนวเสน อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิตพฺพํ, กตากเตติ วา อปฺปเก จ มหนฺเต จ กเต, ยถา ‘‘ผลาผเล’’ติ. สเจ พหุํ อวสิฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. ภารหารา สงฺฆกิจฺจปริณายกา.
ปพฺพชฺชาเปกฺโขติ ¶ สีหฬทีเป กิร กุลทารกานํ ปพฺพชฺชา อาวาหวิวาหสทิสา, ตสฺมา ตํ ปริจฺฉินฺนทิวสํ อติกฺกเมตุํ น สกฺกา. ‘‘สเจ ตํ อลภนฺโต น สกฺโกติ อธิวาเสตุ’’นฺติอาทินา สมาปเนน ปลิโพธุปจฺเฉโท วุตฺโต, พฺยติเรกโต ปน ‘‘สเจ ตํ อลภนฺโต สกฺโกติ อธิวาเสตุํ, อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺโมว กาตพฺโพ’’ติ อยมตฺโถ ทสฺสิโตติ สงฺคหเณน ปลิโพธุปจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. เอส นโย เสเสสุปิ.
ตถาติ ยถา อุปชฺฌาโย คิลาโน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, ตถา อุปสมฺปาทิตอนฺเตวาสิโก อตฺตโน กมฺมวาจํ วตฺวา อุปสมฺปาทิโต.
โย โกจิ โรโคติ มูลภูโต, อนุพนฺโธ วา อตฺตโน อุปฺปนฺโน. อนมตคฺเคติ อนุ อนุ อมตคฺเค อนาทิมติ.
‘‘คนฺโถ’’ติ อิมินา คนฺถปลิโพโธ อิธ วุตฺโตติ อาห ‘‘ปริยตฺติหรณ’’นฺติ. สชฺฌายาทีหีติ สชฺฌายธารณปริจยปุจฺฉาทีหิ. อิตรสฺสาติ อพฺยาวฏสฺส. ยสฺส คนฺถธุรํ วิสฺสชฺเชตฺวา ิตสฺสาปิ คนฺโถ วตฺตเตว, น ตสฺส คนฺโถ ปลิโพโธ. ยถา ตมฺหิ ตมฺหิ วตฺถุมฺหิ อาคตตฺเถรานํ, นาปิ สพฺเพน สพฺพํ อคนฺถปสุตสฺส. มชฺฌิมปณฺณาสโก อาคจฺฉติ, สุตฺตปเทสานํ วารานฺจ สทิสตาย พฺยามุยฺหนโต. ปุน น โอโลเกสฺสามีติ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คนฺถธุรํ วิสฺสชฺเชมีติ อตฺโถ.
คามวาสิกตฺเถเรหีติ อนุราธปุรวาสีหิ. อนุคฺคเหตฺวาติ อคฺคเหตฺวา ตตฺถ ปริจยํ อกตฺวา. ปฺจนิกายมณฺฑเลติ ทีฆาคมาทิเก ปฺจปิ นิกาเย สิกฺขิตปริสาย. ปริวตฺเตสฺสามีติ วณฺณยิสฺสามิ. สุวณฺณเภรินฺติ เสฏฺเภรึ. กตมาจริยานํ อุคฺคโหติ กตเมสํ อาจริยานํ อุคฺคโห, เกน ปริวตฺตียตีติ อธิปฺปาโย. อาจริยมคฺโคติ อาจริยานํ กถามคฺโค. อตฺตโน อาจริยานนฺติ อตฺตโน กเถตุํ ยุตฺตานํ อาจริยานํ. สุวินิจฺฉิตา สพฺพา ติปิฏกปริยตฺติ ¶ เอตสฺมึ อตฺถีติ สพฺพปริยตฺติโก, เตปิฏโกติ อตฺโถ. ปีเ นิสินฺโน ตโต โอตริตฺวา ภูมิยํ ตฏฺฏิกาย นิสีทิตฺวา. คตกสฺสาติ ปฏิปตฺติคมเนน คตสฺส ทิฏฺสจฺจสฺส. จีวรํ ปารุปิตฺวาติ อาจริยสฺส อปจิติทสฺสนตฺถํ ¶ ปริมณฺฑลํ จีวรํ ปารุปิตฺวา. สาเยฺยาภาวโต อุชุ. การณาการณสฺส อาชานนโต อาชานีโย.
โปถุชฺชนิกาติ ปุถุชฺชเน ภวา. ทุปฺปริหารา พหุปริสฺสยตาย. ตถา หิสฺสา อุตฺตานเสยฺยกทารโก, ตรุณสสฺสฺจ นิทสฺสิตํ. วิปสฺสนาย ปลิโพโธ สมถยานิกสฺส, น วิปสฺสนายานิกสฺส. เยภุยฺเยน หิ ฌานลาภี สมถยานิโกว โหติ วิปสฺสนาสุขโต. อิตเรนาติ สมถตฺถิเกน. อวเสสา นว ปลิโพธา.
กมฺมฏฺานทายกวณฺณนา
๔๒. กมฺมฏฺาเน นิยุตฺโต กมฺมฏฺานิโก, ภาวนมนุยฺุชนฺโต. เตน กมฺมฏฺานิเกน. ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร สพฺเพ ภิกฺขู’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. สหวาสีนํ ภิกฺขูนํ. มุทุจิตฺตตนฺติ อตฺตนิ มุทุจิตฺตตํ ชเนติ, อยฺจ สหวาสีนํ จิตฺตมทฺทวชนนาทิอตฺโถ ‘‘มนุสฺสานํ ปิโย โหตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน เมตฺตานิสํสสุตฺเตน (อ. นิ. ๑๑.๑๕; ปฏิ. ม. ๒.๒๒; มิ. ป. ๔.๔.๖) ทีเปตพฺโพ. อโนลีนวุตฺติโก โหติ สมฺมาปฏิปตฺติยํ. ทิพฺพานิปิ อารมฺมณานิ ปเคว อิตรานิ. สพฺพตฺถ สพฺพสฺมึ สมณกรณีเย, สพฺพสฺมึ วา กมฺมฏฺานานุโยเค. ปุพฺพาเสวนวเสน อตฺถยิตพฺพํ. โยคสฺส ภาวนาย อนุยฺุชนํ โยคานุโยโค, ตเทว กรณียฏฺเน กมฺมํ, ตสฺส โยคานุโยคกมฺมสฺส านํ นิปฺผตฺติเหตุ.
นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตาติ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ วิย เอกทาว อนนุยฺุชิตฺวา สพฺพกาลํ ปริหรณียตฺตา อนุยฺุชิตพฺพตฺตา. เอวมาทิคุณสมนฺนาคตนฺติ ปิยภาวาทีหิ คุเณหิ สมฺปนฺนํ. กลฺยาณมิตฺโต หิ สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ สีลสมฺปนฺโน สุตสมฺปนฺโน จาคสมฺปนฺโน วีริยสมฺปนฺโน สติสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน. ตตฺถ สทฺธาสมฺปตฺติยา สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ, กมฺมผลฺจ, เตน สมฺมาสมฺโพธิยา เหตุภูตํ สตฺเตสุ หิเตสิตํ น ปริจฺจชติ. สีลสมฺปตฺติยา สตฺตานํ ปิโย โหติ ครุ ภาวนีโย โจทโก ปาปครหี วตฺตา วจนกฺขโม, สุตสมฺปตฺติยา สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิปฏิสํยุตฺตานํ คมฺภีรานํ กถานํ กตฺตา โหติ, จาคสมฺปตฺติยา อปฺปิจฺโฉ โหติ ¶ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ, วีริยสมฺปตฺติยา อารทฺธวีริโย โหติ อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติยํ, สติสมฺปตฺติยา ¶ อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, สมาธิสมฺปตฺติยา อวิกฺขิตฺโต สมาหิตจิตฺโต, ปฺาสมฺปตฺติยา อวิปรีตํ ปชานาติ. โส สติยา กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสมาโน ปฺาย สตฺตานํ หิตาหิตํ ยถาภูตํ ชานิตฺวา สมาธินา ตตฺถ เอกคฺคจิตฺโต หุตฺวา วีริเยน สตฺเต อหิตํ นิเสเธตฺวา หิเต นิโยเชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปิโย…เป… นิโยชโกติ เอวมาทิคุณสมนฺนาคต’’นฺติ.
ตํ ปน กลฺยาณมิตฺตํ ปรมุกฺกํสคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มมํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. การกภาวํ โยคกมฺมสฺส. ปกาเสติ อตฺตานํ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสเนน สมุตฺเตชนาย, สมฺปหํสนาย จ, นนุ กเถสิ ปเวณิปาลนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. เอวรูโปติ เปสโล หุตฺวา พหุสฺสุโต. ตนฺติธโรติ สุตฺตธโร ตตฺถ เกหิจิปิ อสํหีโร. วํสานุรกฺขโกติ พุทฺธานุพุทฺธวํสสฺส อนุรกฺขโก. ปเวณิปาลโกติ ปเวณิยา อาจริยุคฺคหณสฺส อนุปาลโก. อาจริยมติโกติ อาจริยมติยํ นิยุตฺโต ตสฺสา อนติวตฺตนโต. น อตฺตโนมตึ ปกาเสติ กเถตีติ น อตฺตโนมติโก, อตฺตโน มตึ ปคฺคยฺห วตฺตา น โหตีติ อตฺโถ.
‘‘ปุพฺเพ วุตฺตขีณาสวาทโย’’ติอาทิ เอกจฺจขีณาสวโต พหุสฺสุโตว กมฺมฏฺานทาเน เสยฺโยติ ทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตขีณาสวาทโยติ ‘‘ยํ กมฺมฏฺานํ คเหตุกาโม’’ติอาทินา วุตฺตขีณาสวาทิกา. อุคฺคหปริปุจฺฉานํ วิโสธิตตฺตาติ อุคฺคเหตพฺพโต ‘‘อุคฺคโห’’ติ ลทฺธนามาย กมฺมฏฺานุปการาย ปาฬิยา, ตทตฺถํ ปริปุจฺฉนโต ‘‘ปริปุจฺฉา’’ติ ลทฺธสมฺาย อตฺถสํวณฺณนาย จ วิเสสโต โสธิตตฺตา นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวา คหิตตฺตา. อิโต จิโต จ สุตฺตฺจ การณฺจ สลฺลกฺเขตฺวาติ ปฺจสุปิ นิกาเยสุ อิโต จิโต จ ตสฺส ตสฺส กมฺมฏฺานสฺส อนุรูปํ สุตฺตปทฺเจว สุตฺตานุคตํ ยุตฺติฺจ สุฏฺุ อุปลกฺเขตฺวา. สปฺปายาสปฺปายํ โยเชตฺวาติ ยสฺส กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขติ, ตสฺส อุปการานุปการํ ยุตฺตึ มคฺคเนน โยเชตฺวา, สมาทาย วา สมฺมเทว หทเย เปตฺวาติ อตฺโถ. มหามคฺคํ ทสฺเสนฺโตติ กมฺมฏฺานวิธึ มหามคฺคํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต.
สพฺพตฺถาติ ¶ ตตฺถ ตตฺถ วิหาเร. วตฺตปฏิปตฺตึ กุรุมาเนนาติ ปวิฏฺกาเล อาคนฺตุกวตฺตํ, นิกฺขมนกาเล คมิกวตฺตนฺติ ยถารหํ ตํ ตํ วตฺตํ ปูเรนฺเตน. สพฺพปาริหาริยเตลนฺติ สพฺเพสํ องฺคานํ ¶ , สพฺเพสํ วา ภิกฺขูนํ อตฺถาย ปริหริตพฺพเตลํ. เปมีติ อนุชานาปนํ. ยํ ตํ สมฺมาวตฺตํ ปฺตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เอกทิวสํ สายํ วิสฺสชฺชิเตนาปีติ โยชนา. อาโรเจตพฺพํ อาคมนการณํ. สปฺปายเวลา สรีรจิตฺตานํ กลฺลสมโย.
จริยาวณฺณนา
๔๓. สนฺตาเน ราคสฺส อุสฺสนฺนภาเวน จรณํ ปวตฺติ ราคจริยา, สา สสฺสตาสยาทโย วิย ทฏฺพฺพา. ตถา โทสจริยาทโย. สํสคฺโค สมฺปโยคารหวเสน เวทิตพฺโพ, ยถา ‘‘ราคโมหจริยา โทสโมหจริยา’’ติอาทิ. สนฺนิปาโต เอกสนฺตติปริยาปนฺนตาวเสน, ยถา ‘‘ราคโทสจริยา ราคโทสโมหจริยา’’ติอาทิ. อิมา เอว หิ สนฺธาย ‘‘อปราปิ จตสฺโส’’ติ วุตฺตํ. ตถาติ ยถา ราคาทีนํ, ตถา สทฺธาทีนํ สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน สทฺธาพุทฺธิจริยา สทฺธาวิตกฺกจริยา พุทฺธิวิตกฺกจริยา สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกจริยาติ. อิมา อปราปิ จตสฺโส. เอวนฺติ สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน. สํสคฺคนฺติ สํสชฺชนํ มิสฺสีกรณํ ‘‘ราคสทฺธาจริยา โทสสทฺธาจริยา’’ติอาทินา. อเนกาติ เตสฏฺิ, ตโต อติเรกาปิ วา, ตา ปน อสมฺโมหนฺเตน สํยุตฺตสุตฺตฏีกายํ วิตฺถารโต ทสฺสิตาติ ตตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. ‘‘ปกตี’’ติ อิมินา อสติ ปฏิปกฺขภาวนายํ ตตฺถ ตตฺถ สนฺตาเน จริยาย สภาวภูตตํ ทสฺเสติ. อุสฺสนฺนตา อฺธมฺเมหิ ราคาทีนํ อธิกตา, ยโต ราคจริยาทีนํ ปจฺจยสมวาเย ราคาทโย พลวนฺโต โหนฺติ, อภิณฺหฺจ ปวตฺตนฺติ. ตาสํ วเสนาติ ฉนฺนํ มูลจริยานํ วเสน ฉเฬว ปุคฺคลา โหนฺติ. อฺถา อเนกปุคฺคลา สิยุํ, ตถา จ สติ อธิปฺเปตตฺถสิทฺธิ จ น สิยาติ อธิปฺปาโย.
สทฺธา พลวตี โหติ ราคุสฺสนฺเน สนฺตาเน ตทนุคุณสฺส ธมฺมสฺส นิโยคโต อธิกภาวสมฺภวโต. เตนาห ‘‘ราคสฺส อาสนฺนคุณตฺตา’’ติ, สิเนหปริเยสนาปริจฺจชเนหิ สภาคธมฺมตฺตาติ อตฺโถ. สภาโค หิ ทูเรปิ อาสนฺเนเยวาติ สภาคตาลกฺขณมิธ อาสนฺนคฺคหณํ. ตตฺถ สทฺธาย สินิยฺหนํ ปสาทวเสน อกาลุสฺสิยํ อลูขตา ¶ , ราคสฺส ปน รฺชนวเสน. สทฺธาย ปริเยสนํ อธิมุจฺจนวเสน ตนฺนินฺนตา, ราคสฺส ตณฺหายนวเสน. สทฺธาย อปริจฺจชนํ โอกปฺปนวเสน อนุปกฺขนฺทนํ, ราคสฺส อภิสงฺควเสนาติ เอวํ ภินฺนสภาวานมฺปิ ¶ เตสํ ยถา อลูขตาทิสามฺเน สภาคตา, เอวํ ตํสมงฺคีนมฺปิ ปุคฺคลานนฺติ อาห ‘‘ราคจริตสฺส สทฺธาจริโต สภาโค’’ติ.
ปฺา พลวตี โหติ โทสุสฺสนฺเน สนฺตาเน ตทนุคุณสฺส ธมฺมสฺส นิโยคโต อธิกภาวสมฺภวโต. เตนาห ‘‘โทสสฺส อาสนฺนคุณตฺตา’’ติ, อนลฺลียนปริเยสนปริวชฺชเนหิ สภาคธมฺมตฺตาติ อตฺโถ. ตตฺถ ปฺาย อารมฺมณสฺส อนลฺลียนํ ตสฺส ยถาสภาวาวโพธวเสน วิสํสฏฺตา, โทสสฺส ปน พฺยาปชฺชนวเสน. ปฺาย ปริเยสนํ ยถาภูตโทสปวิจโย, โทสสฺส อภูตโทสนิชิคีสา. ปฺาย ปริวชฺชนํ นิพฺพินฺทนาทิวเสน าณุตฺราโส, โทสสฺส อหิตาธานวเสน ฉฑฺฑนนฺติ เอวํ ภินฺนสภาวานมฺปิ เตสํ ยถา อนลฺลียนาทิสามฺเน สภาคตา, เอวํ ตํสมงฺคีนมฺปิ ปุคฺคลานนฺติ อาห ‘‘โทสจริตสฺส พุทฺธิจริโต สภาโค’’ติ.
อนฺตรายกรา วิตกฺกาติ มิจฺฉาวิตกฺกา มิจฺฉาสงฺกปฺปา อุปฺปชฺชนฺติ โมหุสฺสนฺเน สนฺตาเน ตทนุคุณสฺส ธมฺมสฺส เยภุยฺเยน ปวตฺติสพฺภาวโต. เตนาห ‘‘โมหสฺส อาสนฺนลกฺขณตฺตา’’ติ, อนวฏฺานจฺจลภาเวหิ สภาคธมฺมตฺตาติ อตฺโถ. ตตฺถ วิตกฺกสฺส อนวฏฺานํ ปริกปฺปวเสน สวิปฺผารตาย, โมหสฺส สมฺมูฬฺหตาวเสน พฺยากุลตาย. ตถา วิตกฺกสฺส ลหุปริวิตกฺกเนน ตทงฺคจลตาย จฺจลตา, โมหสฺส อโนคาฬฺหตายาติ เอวํ ภินฺนสภาวานมฺปิ เตสํ ยถา อนวฏฺานาทิสามฺเน สภาคตา, เอวํ ตํสมงฺคีนมฺปิ ปุคฺคลานนฺติ อาห ‘‘โมหจริตสฺส วิตกฺกจริโต สภาโค’’ติ.
ตณฺหา ราโคเยว สภาวโต, ตสฺมา ราคจริยาวินิมุตฺตา ตณฺหาจริยา นตฺถีติ อตฺโถ. ตํสมฺปยุตฺโตติ เตน ราเคน สมฺปยุตฺโต, โทสาทโย วิย เตน วิปฺปยุตฺโต นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ตทุภยนฺติ ตณฺหามานทฺวยํ. นาติวตฺตตีติ สภาวโต, สมฺปโยควเสน จ น อติกฺกมิตฺวา วฏฺฏติ. กามฺเจตฺถ ยถา ราคโทเสหิ สมฺปโยควเสน สห ¶ วตฺตมานสฺสปิ โมหสฺส อุสฺสนฺนตาวเสน วิสุํ จริยาภาโว, น เกวลํ โมหสฺเสว, ตถา สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกานํ. เอวํ ราเคน สติปิ สมฺปโยเค มานสฺสาปิ วิสุํ จริยาภาโว ยุตฺโต สิยา, เอวํ สนฺเตปิ ราคปฏิฆมานทิฏฺิวิจิกิจฺฉาวิชฺชานํ วิย อนุสยฏฺโ อิเมสํ ราคาทีนํเยว อาเวณิโก จริยฏฺโติ, นตฺเถว มานจริยา. ยโต จริยา ‘‘ปกตี’’ติ วุตฺตา. ปกติ จ สภาโวติ. เอเตเนว ทิฏฺิยาปิ วิสุํ จริยาภาวาภาโว สํวณฺณิโตติ ทฏฺพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน โมหจริยนฺโตคธาว ¶ ทิฏฺิจริยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โมหนิทานตฺตา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จ-สทฺเทน สมฺปโยคํ สมุจฺจิโนติ โมหนิทานตฺตา, โมหสมฺปยุตฺตตฺตา จาติ.
๔๔. กึ สปฺปายนฺติ กีทิสํ เสนาสนาทิสปฺปายํ. ปุพฺพาจิณฺณํ ปุริมชาตีสุ อาจริตํ. เอกจฺเจติ อุปติสฺสตฺเถรํ สนฺธายาห. เตน หิ วิมุตฺติมคฺเค ตถา วุตฺตํ. ปุพฺเพ กิราติ กิร-สทฺโท อรุจิสูจนตฺโถ. อิฏฺปฺปโยโค มนาปกิริยา. สุภกมฺมพหุโล เยภุยฺเยน โสภนกมฺมการี. น สพฺเพ ราคจริตา เอว โหนฺติ, อลุทฺธานมฺปิ ปุพฺเพ อิฏฺปฺปโยคสุภกมฺมพหุลตาสมฺภวโต, สคฺคา จวิตฺวา อิธูปปตฺติสมฺภวโต จ. เอเตน อสติ ปุพฺพเหตุนิยาเม ยถาวุตฺตการณมตฺเตน น เตสํ ลุทฺธตา, ลุทฺธภาวเหตุกา จ ราคจริยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.
อิตเรติ เฉทนาทิกมฺมพหุลา นิรยาทิโต อิธูปปนฺนา จ น สพฺเพ โทสโมหจริตา เอว โหนฺตีติ โยชนา. อิธาปิ ยถาวุตฺตการณสฺส โกธนภาเว, มูฬฺหภาเว จ อเนกนฺติกตฺตา โทสโมหจริตตายปิ อเนกํสิกตา เวทิตพฺพา. ธาตูนํ อุสฺสทนิยโม ยทิ ปมาณโต, โส นตฺถิ, อถ สามตฺถิยโต, โสปิ เอกํสิโก น อุปลพฺภตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถาวุตฺเตเนว นเยน อุสฺสทนิยโม นาม นตฺถี’’ติ. ตตฺถ ยถาวุตฺเตเนวาติ ‘‘ทฺวินฺนํ ปน ธาตูน’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรเนว. โทสนิยเมติ เสมฺหาทิโทสาธิกตาย ราคาทิจริโต โหตีติ โทสวเสน จริยานิยเม ‘‘เสมฺหาธิโก ราคจริโต’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘เสมฺหาธิโก โมหจริโต’’ติ, ‘‘วาตาธิโก โมหจริโต’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘วาตาธิโก ราคจริโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ โทสวเสน นิยมวจนํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธเมว. อปริจฺฉินฺนวจนนฺติ ¶ ปริจฺเฉทการิกาย ปฺาย น ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตวจนํ, อนุปปริกฺขิตวจนนฺติ อตฺโถ.
อุสฺสทกิตฺตเนติ วิปากกถายํ คหิตอุสฺสทกิตฺตเน. ปุพฺพเหตุนิยาเมนาติ ปุริมภเว ปวตฺตโลภาทิเหตุนิยาเมน. นิยาโมติ จ เตสํเยว โลภาทีนํ ปฏินิยโต ลุพฺภนาทิสภาโว ทฏฺพฺโพ. โลโภ อุสฺสโท เอเตสนฺติ โลภุสฺสทา, อุสฺสนฺนโลภา, โลภาธิกาติ อตฺโถ. อโมหุสฺสทา จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน เย อิเม โลภุสฺสทตาทีนํ ปจฺเจกํ โวมิสฺสโต จ จุทฺทส ปเภทา อิจฺฉิตา, เต อนวเสสโต สมฺปิณฺเฑติ ยถาวุตฺเตสุ ฉสฺเวว เตสํ อนฺโตคธตฺตา. ผลภูตา เจตฺถ โลภุสฺสทตาทโย ทฏฺพฺพา.
อิทานิ ¶ ตํ เนสํ โลภุสฺสทตาทีนํ ปจฺเจกํ โวมิสฺสกตาทึ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. กมฺมายูหนกฺขเณติ กมฺมกรณเวลายํ. โลโภ พลวาติ โลโภ ตชฺชาย ปจฺจยสามคฺคิยา สามตฺถิยโต อธิโก โหติ. อโลโภ มนฺโทติ ตปฺปฏิปกฺโข อโลโภ ทุพฺพโล. กถํ ปเนเต โลภาโลภา อฺมฺํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา เอกกฺขเณ ปวตฺตนฺตีติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘เอกกฺขเณ ปวตฺตนฺตี’’ติ. นิกนฺติกฺขณํ ปน อายูหนปกฺขิยเมว กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. ปริยาทาตุนฺติ อภิภวิตุํ น สกฺโกติ. โย หิ ‘‘เอวํสุนฺทรํ เอวํวิปุลํ เอวํมหคฺฆฺจ น สกฺกา ทาตุ’’นฺติอาทินา อมุตฺตจาคตาทิวเสน ปวตฺตาย เจตนาย สมฺปยุตฺโต อโลโภ, โส สมฺมเทว โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. โทสโมหานํ อนุปฺปตฺติยา, ตาทิสปจฺจยลาเภน จ อโทสาโมหา พลวนฺโต. ตสฺมาติ โลภาโทสาโมหานํ พลวภาวโต, อโลภโทสโมหานฺจ ทุพฺพลภาวโตติ วุตฺตเมว การณํ ปจฺจามสติ. โสติ ตํสมงฺคีปุคฺคโล. เตน กมฺเมนาติ เตน โลภาทิอุปนิสฺสยวตา กุสลกมฺมุนา. สุขสีโลติ สขิโล. ตเมวตฺถํ ‘‘อกฺโกธโน’’ติ ปริยาเยน วทติ.
ปุริมนเยเนวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยานุสาเรน มนฺทา อโลภาโทสา โลภโทเส ปริยาทาตุํ น สกฺโกนฺติ, อโมโห ปน พลวา โมหํ ปริยาทาตุํ สกฺโกตีติ เอวํ ตตฺถ ตตฺถ วาเร ยถารหํ อติเทสตฺโถ ¶ เวทิตพฺโพ. ทุฏฺโติ โกธโน. ทนฺโธติ มนฺทปฺโ. สีลโกติ สุขสีโล.
เอตฺถ จ โลภวเสน, โทสโมหโลภโทสโลภโมหโทสโมหโลภโทสโมหวเสนาติ ตโย เอกกา, ตโย ทุกา, เอโก ติโกติ โลภาทิอุสฺสทวเสน อกุสลปกฺเขเยว สตฺต วารา, ตถา กุสลปกฺเข อโลภาทิอุสฺสทวเสนาติ จุทฺทส วารา ลพฺภนฺติ. ตตฺถ อโลภโทสาโมหา, อโลภาโทสโมหา, อโลภโทสโมหา พลวนฺโตติ อาคเตหิ กุสลปกฺเข ตติยทุติยปมวาเรหิ โทสุสฺสทโมหุสฺสทโทสโมหุสฺสทวารา คหิตา เอว โหนฺติ, ตถา อกุสลปกฺเข โลภาโทสโมหา, โลภโทสาโมหา, โลภาโทสาโมหา พลวนฺโตติ อาคเตหิ ตติยทุติยปมวาเรหิ อโทสุสฺสทอโมหุสฺสทอโทสาโมหุสฺสทวารา คหิตา เอวาติ อกุสลกุสลปกฺเขสุ ตโย ตโย วาเร อนฺโตคเธ กตฺวา อฏฺเว วารา ทสฺสิตา. เย ปน อุภเยสํ มิสฺสตาวเสน โลภาโลภุสฺสทวาราทโย อปเร เอกูนปฺาส วารา ทสฺเสตพฺพา, เต อลพฺภนโต เอว น ทสฺสิตา. น หิ เอกสฺมึ สนฺตาเน อนฺตเรน อวตฺถนฺตรํ ‘‘โลโภ จ พลวา, อโลโภ จา’’ติอาทิ ยุชฺชตีติ, ปฏิปกฺขวเสน วา หิ เอเตสํ พลวทุพฺพลภาโว, สหชาตธมฺมวเสน ¶ วา. ตตฺถ โลภสฺส ตาว ปฏิปกฺขวเสน อโลเภน อนธิภูตตาย พลวภาโว, ตถา โทสโมหานํ อโทสาโมเหหิ. อโลภาทีนํ ปน โลภาทิอภิภวนโต, สพฺเพสฺจ สมานชาติยมภิภุยฺย ปวตฺติวเสน สหชาตธมฺมโต พลวภาโว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘โลโภ พลวา อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต โทสโมหา มนฺทา’’ติ. โส จ เนสํ มนฺทพลวภาโว ปุริมูปนิสฺสยโต ตถา อาสยสฺส ปริภาวิตตาย เวทิตพฺโพ.
โย ลุทฺโธติ วุตฺโตติ โย อุสฺสทกิตฺตเน ‘‘ลุทฺโธ’’ติ วุตฺโต, อยํ อิธ จริยาวิจาเร ‘‘ราคจริโต’’ติ เวทิตพฺโพ. ทุฏฺทนฺธาติ ‘‘ทุฏฺโ, ทนฺโธ’’ติ จ วุตฺตา ยถากฺกมํ โทสโมหจริตา. ปฺวาติ สาติสยํ สปฺปฺโ. ยโต สทฺธาวิตกฺเกสุ วิชฺชมาเนสุปิ พุทฺธิจริโตติ วุจฺจติ. อโลภาโทสานํ ¶ พลวภาโว สทฺธูปนิสฺสยตาย วินา น โหตีติ อาห ‘‘อลุทฺธอทุฏฺา ปสนฺนปกติตาย สทฺธาจริตา’’ติ.
อยฺจ นโย สาธารณโต วุตฺโตติ นิพฺพตฺติตปุพฺพเหตุนิยามวเสเนว พุทฺธิจริตาทิเกปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อโมหปริวาเรนาติ อโมหปริกฺขิตฺเตน, อุปนิสฺสยโต สมฺปโยคโต จ ปฺาย อภิสงฺขเตนาติ อตฺโถ. เสสปทตฺตเยปิ เอเสว นโย. โลภาทินา โวมิสฺสปริวาเรนาติ เอตฺถ โลภโมหาทินา อฺมฺอวิรุทฺธโวมิสฺสปริวาเรนาติ อตฺโถ. อวิโรโธ จ ยุคคฺคาหวเสน อปฺปวตฺติยา เวทิตพฺโพ. ตถา หิ สทฺธานุสาริธมฺมานุสาริโคตฺตานิ อฺมฺมฺปิ ภินฺนสภาวาเนว. เอกํเสน จ มิสฺสกจริยาปิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา ปุพฺพเหตุนิยาเมน จริยาสิทฺธิโต. ตถา เจว อุสฺสทกิตฺตนํ ปวตฺตํ ยถารหํ โลภาโลภาทีนํ วิปากสฺส ปจฺจยภาวโต. เตนาห ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๒) –
‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ? กุสลกมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ตโย เหตู กุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว เหตู อกุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ อกุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย เหตู อพฺยากตา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ –
อาทิ ¶ . ปุพฺพเหตุนิยาเมน จ ยถา ติเหตุกสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ, น ตถา ทุเหตุกสฺส. ยถา จ ทุเหตุกสฺส อิติกตฺตพฺพตา เนปกฺกํ, น ตถา อเหตุกสฺส. เอวํ โลภุสฺสทาทโย ปุคฺคลา ราคจริตาทโย โหนฺตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคมวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ โลภาทีสู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๕. ตตฺราติ ¶ ตสฺมึ ปุจฺฉาวจเน. นโยติ ชานนนโย. ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺโตปิ อตฺโถ ธมฺมมุเขเนว ปฺายตีติ ธมฺมาธิฏฺาเนนาห ‘‘จริยาโย วิภาวเย’’ติ. ปกติคมเนนาติ อกิตฺติเมน สภาวคมเนน. จาตุริเยนาติ จาตุรภาเวน สิงฺคาเรน. อุกฺกุฏิกนฺติ อสมฺผุฏฺมชฺฌํ. ขณนฺโต วิยาติ ภูมึ ขณนฺโต วิย. อนุกฑฺฒิตนฺติ ปาทนิกฺเขปสมเย กฑฺฒนฺโต วิย ปาทํ นิกฺขิปติ. เตนสฺส ปทํ อนุกฑฺฒิตํ ปจฺฉโต อฺฉิตํ โหติ. ปริพฺยากุลายาติ ปริโต อาลุฬิตาย. ฉมฺภิโต วิยาติ วิตฺถายนฺโต วิย. ภีโต วิยาติ เกจิ. สหสานุปีฬิตนฺติ อคฺคปาเทน, ปณฺหิยา จ สหสาว สนฺนิรุชฺฌิตํ. วิวฏฺฏจฺฉทสฺสาติ วินิวฏฺฏจฺฉทนสฺส ปหีนกิเลสสฺส. อิทมีทิสํ ปทนฺติ ภควโต ปทํ ทิสฺวา วทติ.
ปาสาทิกนฺติ ปสาทาวหํ. มธุราการนฺติ อิฏฺาการํ. ถทฺธาการนฺติ ถมฺภิตาการํ. อตรมาโนติ นตรมาโน, สณิกนฺติ อตฺโถ. สโมธายาติ สมฺมเทว โอธาย อวิกฺขิปิตฺวา. นิปชฺชิตฺวาติ กายปสารณลกฺขณาย นิปชฺชาย เสยฺยาย นิปชฺชิตฺวา สยติ นิทฺทายติ. ปกฺขิตฺตกาโยติ อวกฺขิตฺตกาโย อวโส วิย สหสา ปติตกาโย. ทุสฺสณฺานนฺติ วิรูปสนฺนิเวสํ. วิกฺขิตฺตกาโยติ อิโต จิโต จ ขิตฺตองฺคปจฺจงฺโค.
สมฺปริวตฺตกนฺติ สมฺปริวตฺติตฺวา. อาโลฬยมาโน วาลิกากจวรานิ อากุลยนฺโต.
นิปุณมธุรสมสกฺกจฺจการีติ สุโกสลฺลํ สุนฺทรํ อวิสมํ สาภิสงฺขารฺจ กรณสีโล. คาฬฺหถทฺธวิสมการีติ ถิรํ อสิถิลํ วิสมฺจ กรณสีโล. อปริจฺฉินฺนํ อปรินิฏฺิตํ.
มุขปูรกนฺติ มุขสฺส ปูรณํ มหนฺตํ. อรสปฏิสํเวทีติ นรสปฏิสํเวที. ภาชเน ฉฑฺเฑนฺโตติ โภชนภาชเน สิตฺถานิ ฉฑฺเฑนฺโต. มุขํ มกฺเขนฺโตติ พหิมุขํ มกฺเขนฺโต.
กิลนฺตรูโป ¶ วิยาติ ตสฺส อสหเนน เขทปฺปตฺโต วิย. อฺาณุเปกฺขายาติ อฺาณภูตาย อุเปกฺขาย. อฺาณสงฺขาตาย อุเปกฺขายาติ เกจิ.
มายาทีสุ ¶ สนฺตโทสปฏิจฺฉทนลกฺขณา มายา. อสนฺตคุณปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อสนฺตคุณสมฺภาวนามุเขน ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตาลกฺขณา ปาปิจฺฉตา. สนฺตคุณสมฺภาวนามุเขน ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตาลกฺขณา มหิจฺฉตา. สกลาเภน อสนฺตุสฺสนลกฺขณา อสนฺตุฏฺิตา. วิชฺฌนฏฺเน สิงฺคํ, สิงฺคารตานาคริกภาวสงฺขาตํ กิเลสสิงฺคํ. อตฺตโน สรีรสฺส, จีวราทิปริกฺขารสฺส จ มณฺฑนวเสน ปวตฺตํ โลลุปฺปํ จาปลฺยํ. เอวมาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อหิริกาโนตฺตปฺปมทปฺปมาทาทโย สงฺคยฺหนฺติ.
ปราปราธสฺส อุปนยฺหนลกฺขโณ อุปนาโห. ปเรสํ คุณมกฺขณลกฺขโณ มกฺโข. ปรสฺส คุเณ ฑํสิตฺวา อปเนนฺโต วิย ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. ปรสมฺปตฺติอุสูยนลกฺขณา อิสฺสา. อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน โทวจสฺสตาปาปมิตฺตตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
อนุสฺสาหนํ ถินํ. อสตฺติวิฆาโต มิทฺธํ. เจตโส อวูปสโม อุทฺธจฺจํ. วิปฺปฏิสาโร กุกฺกุจฺจํ. สํสโย วิจิกิจฺฉา. อโยนิโส ทฬฺหคฺคาโห อาธานคฺคาหิตา. ยถาคหิตสฺส มิจฺฉาคาหสฺส ทุพฺพิเวิยตา ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิยตา. อิธ อาทิ-สทฺเทน มุฏฺสจฺจอสมฺปชฺาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
มุตฺตจาคตาติ วิสฺสฏฺจาคตา นิสฺสงฺคปริจฺจาโค. ยถา มายาทโย, ตถา ปวตฺตา อกุสลกฺขนฺธา, ยถา อริยานํ ทสฺสนกามตาทโย, ตถา ปวตฺตา กุสลกฺขนฺธา เวทิตพฺพา.
ปสาทนียฏฺานํ นาม วตฺถุตฺตยํ. สํเวชนียฏฺานานิ ชาติอาทีนิ. กุสลานุโยเคติ กุสลธมฺมภาวนายํ. ‘‘เอวฺจ เอวฺจ กริสฺสามี’’ติ กิจฺจานํ รตฺติภาเค ปริวิตกฺกนํ รตฺตึ ธูมายนา. ตถาวิตกฺกิตานํ เตสํ ทิวสภาเค อนุฏฺานํ ทิวา ปชฺชลนา. หุราหุรํ ธาวนาติ อิโต จิโต จ ตตฺถ ตตฺถ อารมฺมเณ จิตฺตโวสคฺโค. เตเนวาห ‘‘อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ, เยนิจฺฉกํ ¶ ยตฺถกามํ ยถาสุข’’นฺติ (ธ. ป. ๓๒๖), ‘‘จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕) จ.
ธมฺมปฺปวตฺติทสฺสนาทิ ¶ จ ปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ อนาคตเมวาติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ‘‘สพฺพากาเรนา’’ติ วุตฺตํ. กิฺจิ กิฺจิ อาคตมฺปิ อตฺเถวาติ หิ อธิปฺปาโย. ‘‘น สารโต ปจฺเจตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราคจริตสฺส หี’’ติอาทิมาห. อปฺปมาทวิหาริโนติ ตตฺถ วินิธาย ภาวํ ปฏิปชฺชเนน อปฺปมาทการิโน. ภินฺนลกฺขณา อิริยาปถาทโยติ จาตุริเยน อจาตุริเยน สณิกํ, สหสา จ คมนาทโย. น อุปปชฺชนฺตีติ น ยุชฺชนฺติ. ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพนฺติ ธมฺมปฺปวตฺติอาทึ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพํ.
๔๖. สปฺปายํ หิตํ, กิเลสวิฆาตีติ อตฺโถ. อโธตเวทิกนฺติ อปริสุทฺธปริกฺเขปเวทิกํ. ภูมฏฺกนฺติ ภูมิตเลเยว อุฏฺาปิตํ อุปริมตลรหิตํ. เอกโต โอนตสฺส ปพฺพตปาทสฺส เหฏฺาภาโค อกตภิตฺติภูมิปริกมฺโม อกตปพฺภาโร. ชตุกาภริตนฺติ อโธมุขาหิ โอลมฺพมานมุขาหิ ขุทฺทกวคฺคุลีหิ ปริปุณฺณํ. โอลุคฺควิลุคฺคนฺติ ฉินฺนภินฺนํ. อุชฺชงฺคลํ ลูขธูสรํ ฉายูทกรหิตํ. สีหพฺยคฺฆาทิภเยน สาสงฺกํ. ทุรูปนฺติ วิรูปํ. ทุพฺพณฺณนฺติ อสุนฺทรวณฺณํ, ทุสฺสณฺานํ วา. ชาลากาเรน กตปูวํ ชาลปูวํ. สาณิ วิย ขรสมฺผสฺสนฺติ สาณิผลโก วิย ทุกฺขสมฺผสฺสํ. ภาริกภาเวน, อนฺตรนฺตรา ตุนฺนกรเณน จ กิจฺฉปริหรณํ. อาณิคณฺิกาหโตติ อาณินา, คณฺิยา จ หตโสโภ. อิทํ ราคจริตสฺส สปฺปายํ, เอวมสฺส กิเลสสมุทาจาโร น โหตีติ อธิปฺปาโย. เอเสว นโย เสเสสุปิ.
ทิสามุขนฺติ ทิสาภิมุขํ, อพฺโภกาสาภิมุขนฺติ อธิปฺปาโย. มหากสิณนฺติ มหนฺตํ กสิณมณฺฑลํ. เสสํ เสนาสนาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ โมหจริตสฺส, ตํ โทสจริตสฺส วุตฺตสทิสเมว.
วิตกฺกวิธาวนสฺเสว ปจฺจโย โหติ ยถา ตํ อายสฺมโต เมฆิยตฺเถรสฺส. ทรีมุเขติ ปพฺพตวิวเร. ปริตฺตนฺติ สุปฺปสราวมตฺตํ.
ปเภทปริจฺเฉทโต นิทานปริจฺเฉทโต วิภาวนปริจฺเฉทโต สปฺปายปริจฺเฉทโตติ ปจฺเจกํ ปริจฺเฉท-สทฺโท โยเชตพฺโพ. วิภาวนาติ ‘‘อยํ ราคจริโต’’ติอาทินา ชานนวิภาวนา. เอกจฺจกสิณานุสฺสติฏฺานมตฺตสฺส ¶ ปสงฺเคน กถิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘น จ ตาว จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ สพฺพากาเรน อาวิกต’’นฺติ.
จตฺตาลีสกมฺมฏฺานวณฺณนา
๔๗. สงฺขาตนิทฺเทสโตติ ¶ สงฺขาตานํ ‘‘จตฺตาลีสายา’’ติ สงฺขฺยาวเสน คหิตานํ อุทฺทิฏฺานํ นิทฺเทสโต. ‘‘เอตฺถ เอตฺตกานิ อุปจารชฺฌานาวหานิ, เอตฺตกานิ อปฺปนาชฺฌานาวหานี’’ติ อุปจารปฺปนาวหโต. ‘‘เอตฺตกานิ เอกชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ทุกติกชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ สกลชฺฌานิกานี’’ติ ฌานปฺปเภทโต. ‘‘เอเตสุ องฺคสมติกฺกโม, เอเตสุ อารมฺมณสมติกฺกโม’’ติ เอวํ สมติกฺกมโต. ‘‘เอตฺตกาเนตฺถ วฑฺเฒตพฺพานิ, เอตฺตกานิ น วฑฺเฒตพฺพานี’’ติ วฑฺฒนาวฑฺฒนโต. อารมฺมณโตติ สภาวธมฺมนิมิตฺตนวตฺตพฺพวเสน, จลิตาจลิตวเสน จ อารมฺมณวิภาคโต. ภูมิโตติ กามาวจราทิภูมิวิภาคโต. คหณโตติ ทิฏฺาทิวเสน คหณวิภาคโต. ปจฺจยโตติ อารุปฺปาทีนํ ยถารหํ ปจฺจยภาวโต. จริยานุกูลโตติ ราคจริยาทีนํ อนุกูลภาวโต.
กมฺมฏฺานานีติ อารมฺมณภาเวน โยคกมฺมสฺส ปวตฺติฏฺานานิ. จตุกฺกชฺฌานิกาติ จตุพฺพิธรูปาวจรชฺฌานวนฺโต, เตสํ อารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. จตุกฺกนยวเสน เจตํ วุตฺตํ. ติกจตุกฺกชฺฌานิเกสูติ ติกชฺฌานิเกสุ ปุริเมสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ, จตุกฺกชฺฌานิเกสุ อานาปานกสิเณสุ. เสเสสูติ วุตฺตาวเสเสสุ เอกวีสติยา กมฺมฏฺาเนสุ.
ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺหทยรูปสฺส สตฺตสฺส จิตฺตํ อาทิกมฺมิโก เจโตปริยาเณน ปริจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกติ, น อิตรสฺสาติ กสิณผรณํ เจโตปริยาณสฺส ปจฺจโย โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปรสตฺตานฺจ เจตสา จิตฺตมฺาตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ. โอกาเสน ปริจฺฉินฺนตฺตาติ อตฺตโน ิโตกาเสน ปริจฺฉินฺนตฺตา. ตถา อุคฺคหโกสลฺลสฺส สมฺปาทิตตฺตา ปริจฺฉินฺนากาเรเนว ตานิ อุปติฏฺนฺติ, ตสฺมา น ตตฺถ วฑฺฒนาติ อธิปฺปาโย. สเจ ปน โกจิ วฑฺเฒยฺย, น เตน โกจิ คุโณติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อานิสํสาภาวา จา’’ติ. ‘‘เตสุ ปนา’’ติอาทินา ตเมว อานิสํสาภาวํ วิวรติ. ยสฺมา วฑฺฒิเตสุ กุณปราสิเยว วฑฺฒติ, อวฑฺฒิเตปิ กามราควิกฺขมฺภนา ¶ โหติเยว, ตสฺมา อานิสํสาภาโว. วิภูตาติ วิปุลารมฺมณตาย สุปากฏา, วฑฺฒิตนิมิตฺตตาย อปฺปมาณารมฺมณภาเวน ปริพฺยตฺตาติ อตฺโถ.
เกวลนฺติ ¶ สกลํ อนวเสสํ. ‘‘ปถวึ อิม’’นฺติ วจนํ อุปฏฺานากาเรน วุตฺตํ, น นิมิตฺตสฺส วฑฺฒเนนาติ อธิปฺปาโย. ลาภิตฺตาติ สาติสยํ ลาภิตาย, อุกฺกํสคตวสิภาวโตติ อตฺโถ. เถโร หิ ปรมาย วสิปตฺติยา อสฺสมณฺฑเล อสฺสํ สาเรนฺโต วิย ยตฺถ ตตฺถ นิสินฺโนปิ ิโตปิ ตํ ฌานํ สมาปชฺชเตว. เตนสฺส สมนฺตโต นิมิตฺตํ วฑฺฒิตํ วิย อุปฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพทิสาสู’’ติอาทิ.
วุตฺตาติ ธมฺมสงฺคเห วุตฺตา. มหนฺเตติ วิปุเล. นินฺนถลาทิวเสน หิ เอกเทเส อฏฺตฺวา สมนฺตโต คหณวเสน สกลสรีเร นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺส ตํ มหนฺตํ โหติ. มหนฺเต วา สรีเร. อปฺปเกติ สรีรสฺส เอกเทเส นิมิตฺตํ คณฺหาตีติ โยชนา. อปฺปเก วา ขุทฺทเก ทารกสรีเร. เอตนฺติ อสุภนิมิตฺตํ. อาทีนวนฺติ ‘‘อสุภราสิ เอว วฑฺฒติ, น จ โกจิ อานิสํโส’’ติ วุตฺตํ อาทีนวํ.
เสสานิปิ น วฑฺเฒตพฺพานีติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ อุปปตฺติโต วิวริตุํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปิจุปิณฺฑาทิวเสน อุปฏฺหนฺตมฺปิ นิมิตฺตํ วาตสงฺฆาตสนฺนิสฺสยนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘วาตราสิเยว วฑฺฒตี’’ติ. โอกาเสน ปริจฺฉินฺนนฺติ นาสิกคฺคมุขนิมิตฺตาทิโอกาเสน สปริจฺเฉทํ. วาโยกสิณวฑฺฒเน วิย น เอตฺถ โกจิ คุโณ, เกวลํ วาตวฑฺฒนเมวาติ อาห ‘‘สาทีนวตฺตา’’ติ. เตสนฺติ พฺรหฺมวิหารานํ. นิมิตฺตนฺติ อารมฺมณํ. น จ เตน อตฺโถ อตฺถีติ เตน สตฺตราสิวฑฺฒเนน ปถวีกสิณาทิวฑฺฒเน วิย กิฺจิ ปโยชนํ นตฺถิ. ปริคฺคหวเสนาติ อปริคฺคหิตสฺส ภาวนาวิสยสฺส ปริคฺคหวเสน, น นิมิตฺตวฑฺฒนวเสน. เตนาห ‘‘เอกาวาสทฺวิอาวาสาทินา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ พฺรหฺมวิหารภาวนายํ. ยทยนฺติ ยํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ อยํ โยคี. สีมาสมฺเภเทเนว เหตฺถ อุปจารชฺฌานุปฺปตฺติ, น นิมิตฺตุปฺปตฺติยา. ยทิ เอวํ กถํ ปริตฺตาทิอารมฺมณตา ฌานสฺสาติ อาห ‘‘ปริตฺตอปฺปมาณารมฺมณตาเปตฺถ ปริคฺคหวเสนา’’ติ, กติปเย สตฺเต ปริคฺคเหตฺวา ปวตฺตา เมตฺตาทโย ปริตฺตารมฺมณา, พหุเก อปฺปมาณารมฺมณาติ อตฺโถ. อากาสํ กสิณุคฺฆาฏิมตฺตา น วฑฺเฒตพฺพนฺติ โยชนา. วกฺขติ วา ยํ เตน สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปริกปฺปชเมว อารมฺมณํ วฑฺเฒตุํ สกฺกา, น อิตรนฺติ อาห ‘‘น หิ สกฺกา สภาวธมฺมํ ¶ วฑฺเฒตุ’’นฺติ ¶ . อารุปฺปานํ ปริตฺตอปฺปมาณารมฺมณตา ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาเส, วิปุลกสิณุคฺฆาฏิมากาเส จ ปวตฺติยา เวทิตพฺพา. เสสานิ พุทฺธานุสฺสติอาทีนิ ทส กมฺมฏฺานานิ. อนิมิตฺตตฺตาติ ปฏิภาคนิมิตฺตาภาวา.
ปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณานีติ ปฏิภาคนิมิตฺตภูตานิ อารมฺมณานิ. เสสานิ อฏฺารส. เสสานิ ฉาติ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, อากาสานฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนนฺติ อิมานิ เสสานิ ฉ. วิสฺสนฺทมานปุพฺพตาย วิปุพฺพกํ. ปคฺฆรมานโลหิตตาย โลหิตกํ. กิมีนํ ปจลเนน ปุฬุวกํ, จลิตารมฺมณํ วุตฺตํ. วาตปานวิวราทีหิ อนฺโตปวิฏฺสฺส สูริยาโลกาทิกสฺส จลนากาโร ปฺายตีติ โอภาสมณฺฑลารมฺมณมฺปิ จลิตารมฺมณํ วุตฺตํ. ปุพฺพภาเคติ ปฏิภาคนิมิตฺตปฺปวตฺติยา ปุพฺพภาเค. สนฺนิสินฺนเมวาติ สนฺตํ นิจฺจลเมว.
เทเวสูติ กามาวจรเทเวสุ, ตตฺถ อสุภานํ ปฏิกูลสฺส จ อาหารสฺส อภาวโต. อสฺสาสปสฺสาสานํ พฺรหฺมโลเก อภาวโต ‘‘อานาปานสฺสติ จา’’ติ วุตฺตํ.
ทิฏฺเนาติ ทิฏฺเน วตฺถุนา การณภูเตน. คเหตพฺพานีติ อุคฺคเหตพฺพานิ, อุปฺปาเทตพฺพอุคฺคหนิมิตฺตานีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปุพฺพภาเค’’ติอาทิ. ตสฺสาติ กายคตาสติยา. อุจฺฉุสสฺสาทีนํ ปตฺเตสุ ปจลมานวณฺณคฺคหณมุเขน วา ตสฺส คเหตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเนา’’ติ. น อาทิกมฺมิเกน คเหตพฺพานีติ อาทิกมฺมิเกน น คเหตพฺพานิ, ภาวนารมฺภวเสน น ปฏฺเปตพฺพานิ, เหฏฺิเม ตโย พฺรหฺมวิหาเร, กสิเณสุ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานฺจ อนธิคนฺตฺวา สมฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา.
อิเมสุ ปน กมฺมฏฺาเนสูติ เอตฺถ กมฺมฏฺานคฺคหเณน ยถารหํ อารมฺมณานํ, ฌานานฺจ คหณํ เวทิตพฺพํ. สุขวิหารสฺสาติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส.
‘‘เอกาทส กมฺมฏฺานานิ อนุกูลานี’’ติ อุชุวิปจฺจนีกวเสน เจตํ วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ. วกฺขติ หิ ‘‘สพฺพฺเจต’’นฺติอาทิ. อนุกูลานิ ราควิกฺขมฺภนสฺส อุปายภาวโต. อฏฺ อนุกูลานีติ โยชนา. เอวํ เสเสสุ. เอกนฺติ อิทํ อนุสฺสติอเปกฺขํ อนุสฺสตีสุ เอกนฺติ, น โมหจริตวิตกฺกจริตาเปกฺขํ เตสํ อฺสฺสาปิ อนุกูลสฺส อลพฺภนโต ¶ . ‘‘สทฺธาจริตสฺส ¶ ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย’’ติ อิทํ อติสปฺปายวเสน วุตฺตํ. อิมสฺเสว อุชุวิปจฺจนีกํ อิมสฺส อติสปฺปายนฺติ คเหตพฺพสฺส วิเสสสฺส อภาวโต สพฺพจริตานํ อนุกูลานิ. ปริตฺตนฺติ สราวมตฺตํ, อปฺปมาณนฺติ ตโต อธิกปมาณํ. ปริตฺตํ วา สุปฺปสราวมตฺตํ, อปฺปมาณํ อธิกปมาณํ ขลมณฺฑลาทิกสิณภาเวน ปริคฺคหิตํ.
จตฺตาโร ธมฺมาติ จตฺตาโร มนสิกรณียา ธมฺมา. อุตฺตรีติ สีลสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายธมฺมสฺสวนํ, วีริยํ; ปฺาติ อิเมสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺานโต อุปริ. อสุภาติ อสุภภาวนา เอกาทสสุ อสุภกมฺมฏฺาเนสุ ภาวนานุโยคา. เมตฺตาติ อโนธิโส, โอธิโส วา ปวตฺตา เมตฺตาภาวนา. อานาปานสฺสตีติ โสฬสวตฺถุกา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา. วิตกฺกุปจฺเฉทายาติ มิจฺฉาวิตกฺกานํ อุปจฺฉินฺทนตฺถาย. อนิจฺจสฺาติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๗; ธ. ป. ๒๗๗; มหานิ. ๒๗) เอวํ ปวตฺตา อนิจฺจานุปสฺสนา. อสฺมิมานสมุคฺฆาตายาติ ‘‘อสฺมี’’ติ อุปฺปชฺชนกสฺส นววิธสฺสาปิ มานสฺส สมุจฺฉินฺทนาย. เอตฺถ หิ เอกสฺเสว จตฺตาโร ธมฺมา ภาเวตพฺพา วุตฺตา, น เอกสฺส จตุจริยตาย. เตน วิฺายติ ‘‘สพฺพานิปิ กมฺมฏฺานานิ สพฺพากุสลวิกฺขมฺภนานิ สพฺพกุสลปริพฺรูหนานี’’ติ.
เอกสฺเสว สตฺต กมฺมฏฺานานิ วุตฺตานิ, น จายสฺมา ราหุโล สพฺพจริโตติ อธิปฺปาโย. วจนมตฺเตติ ‘‘อสุกกมฺมฏฺานํ อสุกจริตสฺส อนุกูล’’นฺติ เอวํ วุตฺตวจนมตฺเต. อธิปฺปาโยติ ตถาวจนสฺส อธิปฺปาโย. โส ปน ‘‘สพฺพฺเจต’’นฺติอาทินา วิภาวิโต เอว.
๔๘. ‘‘ปิโย ครู’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๓๗) วุตฺตปฺปการํ กลฺยาณมิตฺตํ. ‘‘อตฺตโน ปตฺตจีวรํ สยเมว คเหตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน อุปสงฺกมิตฺวา. โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชติ ‘‘เอวํ พหุปริสฺสโยยํ อตฺตภาโว าเนเยว มยา นิยฺยาติโต’’ติ. เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ.
อตชฺชนีโยติ น ตชฺเชตพฺโพ น นิคฺคเหตพฺโพ. สฺวายํ อตชฺชนียภาโว โทวจสฺสตาย วา สิยา, อาจริเย อนิวิฏฺเปมตาย วาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุพฺพโจ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย หิ อาจริเยน ตชฺชิยมาโน โกปฺจ โทสฺจ อปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ, โย วา ‘‘กิมสฺส ¶ ¶ สนฺติเก วาเสนา’’ติ ปกฺกมติ, อยํ ทุวิโธปิ อตชฺชนีโย. ธมฺเมนาติ โอวาทานุสาสนิธมฺเมน. คูฬฺหํ คนฺถนฺติ กมฺมฏฺานคนฺถํ, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิสหิตํ คมฺภีรํ สฺุตาปฏิสํยุตฺตฺจ.
ตุมฺหากมตฺถายาติ วุตฺเตติ ‘‘สตโปริเส ปปาเต ปตเนน ตุมฺหากํ โกจิ อตฺโถ โหตี’’ติ เกนจิ วุตฺเต. ฆํเสนฺโตติ ‘‘มนุสฺสกกฺเกน ตุมฺหากํ โกจิ อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ฆํเสนฺโต นิรวเสสํ อตฺตภาวํ เขเปตุํ อุสฺสเหยฺยํ. ‘‘มม อสฺสาสปสฺสาสนิรุนฺธเนน ตุมฺหากํ โกจิ โรควูปสมาทิโก อตฺโถ อตฺถี’’ติ เกนจิ วุตฺเต. ตีหิปิ ภิกฺขูหิ อาจริเย ภตฺติปเวทนมุเขน วีริยารมฺโภ เอว ปเวทิโต.
๔๙. อฺตฺถ ปวตฺติตฺวาปิ จิตฺตํ อาคมฺม ยตฺถ เสติ, โส ตสฺส อาสโย ‘‘มิคาสโย’’ วิย, อาสโย เอว อชฺฌาสโย. โส ทุวิโธ วิปนฺโน, สมฺปนฺโนติ. ตตฺถ วิปนฺโน สสฺสตาทิมิจฺฉาภินิเวสนิสฺสิโต. สมฺปนฺโน ทุวิโธ วฏฺฏนิสฺสิโต, วิวฏฺฏนิสฺสิโตติ. เตสุ วิวฏฺฏนิสฺสิโต อชฺฌาสโย ‘‘สมฺปนฺนชฺฌาสเยนา’’ติ อิธาธิปฺเปโต. อิทานิ นํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘อโลภาทีนํ วเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉหากาเรหีติ อลุพฺภนาทีหิ ฉหิ อากาเรหิ. สมฺปนฺนชฺฌาสเยนาติ ปุพฺพภาคิยานํ สีลสมฺปทาทีนํ สาธนวเสน, โลกุตฺตรานํ อุปนิสฺสยภาเวน จ สมฺปนฺโน อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ สมฺปนฺนชฺฌาสโย, เตน. อโลภาทโย หิ อเนกโทสวิธมนโต, อเนกคุณาวหโต จ สตฺตานํ พหุการา วิเสสโต โยคิโน. ตถา หิ อโลภาทโย มจฺเฉรมลาทีนํ ปฏิปกฺขภาเวน ปวตฺตนฺติ. วุตฺตํ เหตํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ มูลราสีวณฺณนา) –
‘‘อโลโภ มจฺเฉรมลสฺส ปฏิปกฺโข, อโทโส ทุสฺสีลฺยมลสฺส, อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย. อโลโภ เจตฺถ ทานเหตุ, อโทโส สีลเหตุ, อโมโห ภาวนาเหตุ. เตสุ จ อโลเภน อนธิกํ คณฺหาติ ลุทฺธสฺส อธิกคฺคหณโต, อโทเสน อนูนํ ทุฏฺสฺส อูนคฺคหณโต, อโมเหน อวิปรีตํ มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต.
‘‘อโลเภน ¶ เจตฺถ วิชฺชมานํ โทสํ โทสโต ธาเรนฺโต โทเส ปวตฺตติ, ลุทฺโธ หิ โทสํ ปฏิจฺฉาเทติ. อโทเสน วิชฺชมานํ คุณํ คุณโต ธาเรนฺโต คุเณ ปวตฺตติ, ทุฏฺโ หิ คุณํ มกฺเขติ. อโมเหน ยาถาวสภาวํ ยาถาวสภาวโต ธาเรนฺโต ยาถาวสภาเว ปวตฺตติ ¶ , มูฬฺโห หิ ตจฺฉํ ‘อตจฺฉ’นฺติ, อตจฺฉฺจ ‘ตจฺฉ’นฺติ คณฺหาติ. อโลเภน จ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ น โหติ ลุทฺธสฺส ปิยสพฺภาวโต, ปิยวิปฺปโยคาสหนโต จ, อโทเสน อปฺปิยสมฺปโยคทุกฺขํ น โหติ ทุฏฺสฺส อปฺปิยสพฺภาวโต, อปฺปิยสมฺปโยคาสหนโต จ, อโมเหน อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ, อมูฬฺหสฺส หิ ‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสพฺภาวโต.
‘‘อโลเภน เจตฺถ ชาติทุกฺขํ น โหติ อโลภสฺส ตณฺหาปฏิปกฺขโต, ตณฺหามูลกตฺตา จ ชาติทุกฺขสฺส, อโทเสน ชราทุกฺขํ น โหติ ติกฺขโทสสฺส ขิปฺปํ ชราสมฺภวโต, อโมเหน มรณทุกฺขํ น โหติ, สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น จ ตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. อโลเภน จ คหฏฺานํ, อโมเหน ปพฺพชิตานํ, อโทเสน ปน สพฺเพสมฺปิ สุขสํวาสตา โหติ.
‘‘วิเสสโต เจตฺถ อโลเภน เปตฺติวิสเย อุปปตฺติ น โหติ, เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ตณฺหาย เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชนฺติ, ตณฺหาย จ ปฏิปกฺโข อโลโภ. อโทเสน นิรเย อุปปตฺติ น โหติ, โทเสน หิ จณฺฑชาติตาย โทสสทิสํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ, โทสสฺส จ ปฏิปกฺโข อโทโส. อโมเหน ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ, โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหํ ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ, โมหปฏิปกฺโข จ อโมโห. เอเตสุ จ อโลโภ ราควเสน อุปคมนสฺส อภาวกโร, อโทโส โทสวเสน อปคมนสฺส, อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส.
‘‘ตีหิปิ ¶ เจเตหิ ยถาปฏิปาฏิยา เนกฺขมฺมสฺา อพฺยาปาทสฺา อวิหึสาสฺาติ อิมา ติสฺโส, อสุภสฺา อปฺปมาณสฺา ธาตุสฺาติ อิมา จ ติสฺโส สฺาโย โหนฺติ. อโลเภน ปน กามสุขลฺลิกานุโยคอนฺตสฺส, อโทเสน อตฺตกิลมถานุโยคอนฺตสฺส ปริวชฺชนํ โหติ, อโมเหน มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ. ตถา อโลเภน อภิชฺฌากายคนฺถสฺส ปเภทนํ โหติ, อโทเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส, อโมเหน เสสคนฺถทฺวยสฺส. ปุริมานิ จ ทฺเว สติปฏฺานานิ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ อานุภาเวน, ปจฺฉิมานิ ปจฺฉิมสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ.
‘‘อโลโภ ¶ เจตฺถ อาโรคฺยสฺส ปจฺจโย โหติ, อลุทฺโธ หิ โลภนียมฺปิ อสปฺปายํ น เสวติ, เตน อโรโค โหติ. อโทโส โยพฺพนสฺส, อทุฏฺโ หิ วลิตปลิตาวเหน โทสคฺคินา อฑยฺหมาโน ทีฆรตฺตํ ยุวา โหติ. อโมโห ทีฆายุกตาย, อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺเชนฺโต, หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ.
‘‘อโลโภ เจตฺถ โภคสมฺปตฺติยา ปจฺจโย จาเคน โภคปฏิลาภโต, อโทโส มิตฺตสมฺปตฺติยา เมตฺตาย มิตฺตานํ ปฏิลาภโต, อปริหานโต จ, อโมโห อตฺตสมฺปตฺติยา, อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ. อโลโภ จ ทิพฺพวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อโทโส พฺรหฺมวิหารสฺส, อโมโห อริยวิหารสฺส.
‘‘อโลเภน เจตฺถ สกปกฺเขสุ สตฺตสงฺขาเรสุ นิพฺพุโต โหติ เตสํ วินาเสน อภิสงฺคเหตุกสฺส ทุกฺขสฺส อภาวา, อโทเสน ปรปกฺเขสุ, อทุฏฺสฺส หิ เวรีสุปิ เวริสฺาย อภาวโต, อโมเหน อุทาสีนปกฺเขสุ อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต.
‘‘อโลเภน ¶ จ อนิจฺจทสฺสนํ โหติ, ลุทฺโธ หิ อุปโภคาสาย อนิจฺเจปิ สงฺขาเร อนิจฺจโต น ปสฺสติ. อโทเสน ทุกฺขทสฺสนํ, อโทสชฺฌาสโย หิ ปริจฺจตฺตอาฆาตวตฺถุปริคฺคโห สงฺขาเรเยว ทุกฺขโต ปสฺสติ. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ, อมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตหิ อนิจฺจทสฺสนาทีนิ, เอวํ เอเตปิ อนิจฺจทสฺสนาทีหิ โหนฺติ. อนิจฺจทสฺสเนน หิ อโลโภ โหติ, ทุกฺขทสฺสเนน อโทโส, อนตฺตทสฺสเนน อโมโห. โก หิ นาม ‘อนิจฺจมิท’นฺติ สมฺมา ตฺวา ตสฺสตฺถาย ปิหํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺขาเร วา ‘ทุกฺข’นฺติ ชานนฺโต อปรมฺปิ อจฺจนฺตติขิณํ โกธทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, อตฺตสฺุตฺจ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.
เตน วุตฺตํ ‘‘ปุพฺพภาคิยานํ สีลสมฺปทาทีนํ สาธนวเสน โลกุตฺตรานํ, อุปนิสฺสยภาเวน จ สมฺปนฺโน อชฺฌาสโย เอตสฺสาติ สมฺปนฺนชฺฌาสโย’’ติ. เตนาห ‘‘เอวํ ติสฺสนฺนํ โพธีนํ อฺตรํ ปาปุณาตี’’ติ.
อิทานิ ¶ เต อชฺฌาสเย ปาฬิยาว วิภาเวตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉาติ คณนปริจฺเฉโท. อชฺฌาสยาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. อุภยํ ปน เอกชฺฌํ กตฺวา ฉพฺพิธา อชฺฌาสยาติ อตฺโถ. โพธิสตฺตาติ พุชฺฌนกสตฺตา, โพธิยา วา นิยตภาเวน สตฺตา ลคฺคา, อธิมุตฺตา ตนฺนินฺนา ตปฺโปณาติ อตฺโถ. โพธิปริปากาย สํวตฺตนฺตีติ ยถาภินีหารํ อตฺตนา ปตฺตพฺพโพธิยา ปริปาจนาย ภวนฺติ. อโลภชฺฌาสยาติ อลุพฺภนากาเรน ปวตฺตอชฺฌาสยา, อาทิโต ‘‘กถํ นุ โข มยํ สพฺพตฺถ, สพฺพทา จ อลุทฺธา เอว เหสฺสามา’’ติ, มชฺเฌ จ อลุพฺภนวเสเนว, ปจฺฉา จ ตสฺเสว โรจนวเสน ปวตฺตอชฺฌาสยา. โลเภ โทสทสฺสาวิโนติ ลุพฺภนลกฺขเณ โลเภ สพฺพปฺปกาเรน อาทีนวทสฺสาวิโน. อิทํ ตสฺส อชฺฌาสยสฺส เอกเทสโต พฺรูหนาการทสฺสนํ. โลเภ หิ อาทีนวํ, อโลเภ จ อานิสํสํ ปสฺสนฺตสฺส อโลภชฺฌาสโย ปริวฑฺฒติ, สฺวายํ ตตฺถ อาทีนวานิสํสทสฺสนวิธิ วิภาวิโตเยว. เสสปเทสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ¶ ปน วิเสโส – เนกฺขมฺมนฺติ อิธ ปพฺพชฺชา. ปวิเวโก ตทงฺควิเวโก, วิกฺขมฺภนวิเวโก, กายวิเวโก, จิตฺตวิเวโก จ. นิสฺสรณํ นิพฺพานํ. สพฺพภวคตีสูติ สพฺเพสุ ภเวสุ, สพฺพาสุ จ คตีสุ. ตทธิมุตฺตตายาติ ยทตฺถํ ภาวนานุโยโค, ยทตฺถา จ ปพฺพชฺชา, ตทธิมุตฺเตน. เตเนวาห ‘‘สมาธาธิมุตฺเตนา’’ติอาทิ.
๕๐. ‘‘กึ จริโตสี’’ติ ปุจฺฉิโต สเจ ‘‘น ชานามี’’ติ วเทยฺย, ‘‘เก วา เต ธมฺมา พหุลํ สมุทาจรนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. กึ วาติ กึ อสุภํ วา อนุสฺสติฏฺานํ วา อฺํ วา. กึ เต มนสิ กโรโต ผาสุ โหตีติ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาเวน สุขํ โหติ. จิตฺตํ นมตีติ ปกติยาว อภิรติวเสน นมติ. เอวมาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อิริยาปถาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตปิ หิ น สพฺพสฺส เอกํสโต พฺยภิจาริโน เอว. ตถา หิ สมุทาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ วุตฺโต. ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ มนสิการวิธึ กติปยทิวสํ อนุยฺุชาหี’’ติ จ วตฺตพฺโพ.
‘‘ปกติยา อุคฺคหิตกมฺมฏฺานสฺสา’’ติ อิทํ ยํ กมฺมฏฺานํ คเหตุกาโม, ตตฺถ สชฺฌายวเสน วา มนสิการวเสน วา กตปริจยํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอกํ ทฺเว นิสชฺชานีติ เอกํ วา ทฺเว วา อุณฺหาสนานิ. สชฺฌายํ กาเรตฺวา อตฺตโน สมฺมุขาว อธียาเปตฺวา ทาตพฺพํ, โส เจ อฺตฺถ คนฺตุกาโมติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘สนฺติเก วสนฺตสฺสา’’ติ. อาคตาคตกฺขเณ กเถตพฺพํ, ปวตฺตึ สุตฺวาติ อธิปฺปาโย.
ปถวีกสิณนฺติ ¶ ปถวีกสิณกมฺมฏฺานํ. กตสฺสาติ กตสฺส กสิณสฺส. ตํ ตํ อาการนฺติ อาจริเยน กมฺมฏฺาเน วุจฺจมาเน ปทปทตฺถาธิปฺปายโอปมฺมาทิกํ อตฺตโน าณสฺส ปจฺจุปฏฺิตํ ตํ ตํ อาการํ, ยํ ยํ นิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ. อุปนิพนฺธิตฺวาติ อุปเนตฺวา นิพทฺธํ วิย กตฺวา, หทเย เปตฺวา อปมุสฺสนฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ สุฏฺุ อุปฏฺิตสฺสติตาย นิมิตฺตํ คเหตฺวา ตตฺถ สมฺปชานการิตาย สกฺกจฺจํ สุณนฺเตน. ตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตํ สุคฺคหิตํ นิสฺสาย. อิตรสฺสาติ ตถา อคณฺหนฺตสฺส. สพฺพากาเรนาติ กสฺสจิปิ ปการสฺส ตตฺถ อเสสิตตฺตา วุตฺตํ.
กมฺมฏฺานคฺคหณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ตติยปริจฺเฉทวณฺณนา.
๔. ปถวีกสิณนิทฺเทสวณฺณนา
๕๑. ผาสุ ¶ ¶ โหตีติ อาวาสสปฺปายาทิลาเภน มนสิการผาสุตา ภาวนานุกูลตา โหติ. ปริโสเธนฺเตนาติ เตสํ เตสํ คณฺิฏฺานานํ ฉินฺทนวเสน วิโสเธนฺเตน. อกิลมนฺโตเยวาติ อกิลนฺตกาโย เอว. สติ หิ กายกิลมเถ สิยา กมฺมฏฺานมนสิการสฺส อนฺตราโยติ อธิปฺปาโย. คณฺิฏฺานนฺติ อตฺถโต, อธิปฺปายโต จ ทุพฺพินิเวธตาย คณฺิภูตํ านํ. ฉินฺทิตฺวาติ ยาถาวโต อตฺถสฺส, อธิปฺปายสฺส จ วิภาวเนน ฉินฺทิตฺวา, วิภูตํ สุปากฏํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. สุวิสุทฺธนฺติ สุฏฺุ วิสุทฺธํ, นิคุมฺพํ นิชฺชฏนฺติ อตฺโถ.
อนนุรูปวิหารวณฺณนา
๕๒. อฺตเรนาติ อฺตเรนาปิ, ปเคว อเนเกหีติ อธิปฺปาโย. มหนฺตภาโว มหตฺตํ. ตถา เสเสสุ. โสณฺฑวา โสณฺฑี. ตถา ปณฺณนฺติอาทีสุ. โพธิองฺคณาทีสุ กาตพฺพํ อิธ ‘‘วตฺต’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปานียฆฏํ วา ริตฺต’’นฺติ. นิฏฺิตายาติ ปวิฏฺปวิฏฺานํ ทาเนน ปริกฺขีณาย. ชิณฺณวิหาเรปิ ยตฺร ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ ‘‘อายสฺมา, ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กโรตุ, มยํ ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ. เอวรูเป วิหาตพฺพนฺติ อยมฺปิ นโย ลพฺภติ, วุตฺตนยตฺตา ปน น วุตฺโต.
มหาปถวิหาเรติ มหาปถสมีเป วิหาเร. ภาชนทารุโทณิกาทีนีติ รชนภาชนานิ, รชนตฺถาย ทารุ, ทารุมยโทณิกา, รชนปจนฏฺานํ, โธวนผลกนฺติ เอวมาทีนิ. สากหาริกาติ สากหารินิโย อิตฺถิโย. วิสภาคสทฺโท กามคุณูปสํหิโต คีตสทฺโทติ วทนฺติ, เกวโลปิ อิตฺถิสทฺโท วิสภาคสทฺโท เอว. ตตฺราติ ปุปฺผวนฺเต วิหาเร. ตาทิโสเยวาติ ‘‘ตตฺถสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา’’ติอาทินา ยาทิโส ปณฺณวนฺเต วิหาเร อุปทฺทโว วุตฺโต, ตาทิโสเยว. ‘‘ปุปฺผหาริกาโย ปุปฺผํ โอจินนฺติโย’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. อยมิธ วิเสโส.
ปตฺถนีเยติ ¶ ตตฺถ วสนฺเตสุ สมฺภาวนาวเสน อุปสงฺกมนาทินา ปตฺเถตพฺเพ. เตนาห ‘‘เลณสมฺมเต’’ติ. ทกฺขิณาคิรีติ มคธวิสเย ทกฺขิณาคิรีติ วทนฺติ.
วิสภาคารมฺมณานิ ¶ อิฏฺานิ, อนิฏฺานิ จ. อนิฏฺานํ หิ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ฆเฏหิ นิฆํสนฺติโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทพฺพูปกรณโยคฺคา รุกฺขา ทพฺพูปกรณรุกฺขา.
โย ปน วิหาโร. ขลนฺติ ธฺกรณฏฺานํ. คาโว รุนฺธนฺติ ‘‘สสฺสํ ขาทึสู’’ติ. อุทกวารนฺติ เกทาเรสุ สสฺสานํ ทาตพฺพอุทกวารํ. อยมฺปีติ มหาสงฺฆโภโคปิ วิหาโร. วาริยมานา กมฺมฏฺานิเกน ภิกฺขุนา.
สมุทฺทสามุทฺทิกนทีนิสฺสิตํ อุทกปฏฺฏนํ. มหานครานํ อายทฺวารภูตํ อฏวิมุขาทินิสฺสิตํ ถลปฏฺฏนํ. อปฺปสนฺนา โหนฺติ. เตนสฺส ตตฺถ ผาสุวิหาโร น โหตีติ อธิปฺปาโย. มฺมานา ราชมนุสฺสา.
สโมสรเณนาติ อิโต จิโต สฺจรเณน. ปปาเตติ ปปาตสีเส ตฺวา คายิ ‘‘คีตสทฺเทน อิธาคตํ ปปาเต ปาเตตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ. เวเคน คเหตฺวาติ เวเคนาคนฺตฺวา ‘‘กุหึ ยาสี’’ติ ขนฺเธ คเหตฺวา.
ยตฺถาติ ยสฺมึ วิหาเร, วิหารสามนฺตา วา น สกฺกา โหติ กลฺยาณมิตฺตํ ลทฺธุํ, ตตฺถ วิหาเร โส อลาโภ มหาโทโสติ โยชนา.
ปนฺถนินฺติ ปนฺเถ นีโต ปวตฺติโตติ ปนฺถนี, มคฺคนิสฺสิโต วิหาโร. ตํ ปนฺถนึ. โสณฺฑินฺติ โสณฺฑิสหิโต วิหาโร โสณฺฑี, ตํ โสณฺฑึ. ตถา ปณฺณนฺติอาทีสุ. นครนิสฺสิตํ นครนฺติ วุตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘ภีมเสโน ภีโม’’ติ. ทารุนาติ ทารุนิสฺสิเตน สห. วิสภาเคนาติ โย วิสภาเคหิ วุสียติ, วิสภาคานํ วา นิวาโส, โส วิหาโร วิสภาโค. เตน วิสภาเคน สทฺธึ. ปจฺจนฺตนิสฺสิตฺจ สีมานิสฺสิตฺจ อสปฺปายฺจ ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ. ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ, ตมฺปีติ สพฺพตฺถ าน-สทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. อิติ วิฺายาติ ‘‘ภาวนาย อนนุรูปานี’’ติ เอวํ วิชานิตฺวา.
อนุรูปวิหารวณฺณนา
๕๓. อยํ ¶ อนุรูโป นามาติ อยํ วิหาโร ภาวนาย อนุรูโป นาม. นาติทูรนฺติ โคจรฏฺานโต อฑฺฒคาวุตโต โอรภาคตาย น ¶ อติทูรํ. นาจฺจาสนฺนนฺติ ปจฺฉิเมน ปมาเณน โคจรฏฺานโต ปฺจธนุสติกตาย น อติอาสนฺนํ. ตาย จ ปน นาติทูรนาจฺจาสนฺนตาย, โคจรฏฺานํ ปริสฺสยาทิรหิตมคฺคตาย จ คมนสฺส จ อาคมนสฺส จ ยุตฺตรูปตฺตา คมนาคมนสมฺปนฺนํ. ทิวสภาเค มหาชนสํกิณฺณตาภาเวน ทิวา อปฺปากิณฺณํ. อภาวตฺโถ หิ อยํ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๖) วิย. รตฺติยํ ชนาลาปสทฺทาภาเวน รตฺตึ อปฺปสทฺทํ. สพฺพทาปิ ชนสนฺนิปาตนิคฺโฆสาภาเวน อปฺปนิคฺโฆสํ. อปฺปกสิเรนาติ อกสิเรน สุเขเนว. สีลาทิคุณานํ ถิรภาวปฺปตฺติยา เถรา. สุตฺตเคยฺยาทิ พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. วาจุคฺคตกรเณน, สมฺมเทว ครูนํ สนฺติเก อาคมิตภาเวน จ อาคโต ปริยตฺติธมฺมสงฺขาโต อาคโม เอเตสนฺติ อาคตาคมา. สุตฺตาภิธมฺมสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส ธารเณน ธมฺมธรา. วินยสฺส ธารเณน วินยธรา. เตสํเยว ธมฺมวินยานํ มาติกาย ธารเณน มาติกาธรา. ตตฺถ ตตฺถ ธมฺมปริปุจฺฉาย ปริปุจฺฉติ. อตฺถปริปุจฺฉาย ปริปฺหติ วีมํสติ วิจาเรติ. อิทํ, ภนฺเต, กถํ อิมสฺส โก อตฺโถติ ปริปุจฺฉนปริปฺหาการทสฺสนํ. อวิวฏฺเจว ปาฬิยา อตฺถํ ปเทสนฺตรปาฬิทสฺสเนน อาคมโต วิวรนฺติ. อนุตฺตานีกตฺจ ยุตฺติวิภาวเนน อุตฺตานีกโรนฺติ. กงฺขฏฺานิเยสุ ธมฺเมสุ สํสยุปฺปตฺติยา เหตุตาย คณฺิฏฺานภูเตสุ ปาฬิปเทเสสุ ยาถาวโต วินิจฺฉยทาเนน กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘นาติทูรํ, นาจฺจาสนฺนํ, คมนาคมนสมฺปนฺน’’นฺติ เอกํ องฺคํ, ‘‘ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆส’’นฺติ เอกํ, ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺส’’นฺติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส…เป… ปริกฺขารา’’ติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา…เป… กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตี’’ติ เอกํ. เอวํ ปฺจ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
ขุทฺทกปลิโพธวณฺณนา
๕๔. ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉเท ปโยชนํ ปรโต อาคมิสฺสติ. อคฺคฬอนุวาตปริภณฺฑทานาทินา ทฬฺหีกมฺมํ วา. ตนฺตจฺเฉทาทีสุ ตุนฺนกมฺมํ วา กาตพฺพํ.
ภาวนาวิธานวณฺณนา
๕๕. สพฺพกมฺมฏฺานวเสนาติ ¶ ¶ อนุกฺกเมน นิทฺทิสิยมานสฺส จตฺตาลีสวิธสฺส สพฺพสฺส กมฺมฏฺานสฺส วเสน. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตนาติ ปิณฺฑปาตปริโภคโต ปฏินิวตฺเตน, ปิณฺฑปาตภุตฺตาวินา โอนีตปตฺตปาณินาติ อตฺโถ. ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวาติ โภชนนิมิตฺตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา. อาหาเร หิ อาสยํ ปวิฏฺมตฺเต ตสฺส อาคนฺตุกตาย เยภุยฺเยน สิยา สรีรสฺส โกจิ ปริสฺสโม, ตํ วูปสเมตฺวา. ตสฺมึ หิ อวูปสนฺเต สรีรเขเทน จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลเภยฺยาติ. ปวิวิตฺเตติ ชนวิวิตฺเต. สุขนิสินฺเนนาติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย นิสชฺชาย สุขนิสินฺเนน. วุตฺตฺเหตนฺติ ยํ ‘‘กตาย วา’’ติอาทินา ปถวิยา นิมิตฺตคฺคหณํ อิธ วุจฺจติ, วุตฺตํ เหตํ โปราณฏฺกถายํ.
อิทานิ ตํ อฏฺกถาปาฬึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปถวีกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – ปถวีกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโตติ อุคฺคหนิมิตฺตภาเวน ปถวีกสิณํ คณฺหนฺโต อาทิยนฺโต, อุคฺคหนิมิตฺตภูตํ ปถวีกสิณํ อุปฺปาเทนฺโตติ อตฺโถ. อุปฺปาทนฺเจตฺถ ตถานิมิตฺตสฺส อุปฏฺาปนํ ทฏฺพฺพํ. ปถวิยนฺติ วกฺขมานวิเสเส ปถวีมณฺฑเล. นิมิตฺตํ คณฺหาตีติ ตตฺถ จกฺขุนา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ วิย ภาวนาาเณน วกฺขมานวิเสสํ ปถวีนิมิตฺตํ คณฺหาติ. ‘‘ปถวิย’’นฺติ วตฺวาปิ มณฺฑลาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. กเตติ วกฺขมานวิธินา อภิสงฺขเตติ อตฺโถ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. อกเตติ ปากติเก ขลมณฺฑลาทิเก ปถวีมณฺฑเล. สานฺตเกติ สอนฺตเก เอว, สปริจฺเฉเท เอวาติ อตฺโถ. สาวธารณฺเหตํ วจนํ. ตถา หิ เตน นิวตฺติตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน อนนฺตเก’’ติ วุตฺตํ. สโกฏิเยติอาทีนิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. สุปฺปมตฺเต วาติอาทีสุ สุปฺปสราวานิ สมปฺปมาณานิ อิจฺฉิตานิ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘สราวมตฺตํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, สุปฺปมตฺตํ ตโต อธิกปฺปมาณนฺติ. กิตฺติมํ กสิณมณฺฑลํ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สราวมตฺตํ, อุปริมปริจฺเฉเทน สุปฺปมตฺตํ, น ตโต อโธ, อุทฺธํ วาติ ปริตฺตปฺปมาณเภทสงฺคณฺหนตฺถํ ‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’ติ วุตฺต’’นฺติ. ยถาอุปฏฺิเต อารมฺมเณ เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ วฑฺฒิตํ อปฺปมาณเมวาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ฉตฺตมตฺตมฺปิ กสิณมณฺฑลํ กาตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.
โส ¶ ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กโรตีติ โส โยคาวจโร ตํ ปถวีมณฺฑลํ สุคฺคหิตํ นิมิตฺตํ ¶ กโรติ. ยทา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตฺวา ตตฺถ นิมิตฺตํ คเหตฺวา นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺเชนฺตสฺส อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตกฺขเณ วิย อุปฏฺาติ, ตทา สุคฺคหิตํ กโรติ นาม. อเถตฺถ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา อพหิคเตน มานเสน ปุนปฺปุนํ สลฺลกฺเขนฺโต สูปธาริตํ อุปธาเรติ นาม. เอวํ อุปธาริตํ ปน นํ ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺโต มนสิ กโรนฺโต ตเมวารพฺภ อาเสวนํ ภาวนํ พหุลํ ปวตฺเตนฺโต สุววตฺถิตํ ววตฺถเปติ นาม. ตสฺมึ อารมฺมเณติ เอวํ สุคฺคหิตกรณาทินา สมฺมเทว อุปฏฺิเต ตสฺมึ ปถวีกสิณสฺิเต อารมฺมเณ. จิตฺตํ อุปนิพนฺธตีติ อตฺตโน จิตฺตํ อุปจารชฺฌานํ อุปเนตฺวา นิพนฺธติ อฺารมฺมณโต วินิวตฺตํ กโรติ. อทฺธา อิมายาติอาทิ อานิสํสทสฺสาวิตาทสฺสนํ.
อิทานิ ยถาทสฺสิตสฺส อฏฺกถาปาสฺส อตฺถปฺปกาสเนน สทฺธึ ภาวนาวิธึ วิภาเวตุกาโม อกเต ตาว นิมิตฺตคฺคหณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ เยน อตีตภเวปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ อฏฺกถาปาเ. จตุกฺกปฺจกชฺฌานานีติ จตุกฺกปฺจกนยวเสน วทติ. ปฺุวโตติ ภาวนามยปฺุวโต. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺสาติ ตาทิเสเนว อุปนิสฺสเยน สมนฺนาคตสฺส. ขลมณฺฑเลติ มณฺฑลากาเร ธฺกรณฏฺาเน. ตํานปฺปมาณเมวาติ โอโลกิตฏฺานปฺปมาณเมว.
อวิราเธตฺวาติ อวิรชฺฌิตฺวา วุตฺตวิธินา เอว. นีลปีตโลหิตโอทาตสมฺเภทวเสนาติ นีลาทิวณฺณาหิ มตฺติกาหิ ปจฺเจกํ, เอกชฺฌฺจ สํสคฺควเสน. คงฺคาวเหติ คงฺคาโสเต. สีหฬทีเป กิร ราวณคงฺคา นาม นที, ตสฺสา โสเตน ฉินฺนตฏฏฺาเน มตฺติกา อรุณวณฺณา. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คงฺคาวเห มตฺติกาสทิสาย อรุณวณฺณายา’’ติ. อรุณวณฺณาย อรุณนิภาย, อรุณปฺปภาวณฺณายาติ อตฺโถ.
เอวํ กสิณโทเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ กสิณกรณาทิเก เสสากาเร ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺจ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. สํหาริมนฺติ สํหริตพฺพํ คเหตฺวา จรณโยคฺคํ. ตตฺรฏฺกนฺติ ยตฺร กตํ, ตตฺเถว ติฏฺนกํ. วุตฺตปฺปมาณนฺติ ¶ ‘‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’’ติ วุตฺตปฺปมาณํ. วฏฺฏนฺติ มณฺฑลสณฺานํ. ปริกมฺมกาเลติ นิมิตฺตุคฺคหณาย ภาวนากาเล. เอตเทวาติ ยํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลวิตฺถารํ, เอตเทว ปมาณํ สนฺธาย ‘‘สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา’’ติ วุตฺตํ. สุปฺปํ หิ นาติมหนฺตํ, สราวฺจ มหนฺตํ จาฏิปิธานปฺปโหนกนฺติ สมปฺปมาณํ โหติ.
๕๖. ตสฺมาติ ¶ ปริจฺเฉทตฺถาย วุตฺตตฺตา. เอวํ วุตฺตปมาณํ ปริจฺเฉทนฺติ ยถาวุตฺตปฺปมาณํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลวิตฺถารํ ปริจฺเฉทํ กตฺวา, เอวํ วุตฺตปฺปมาณํ วา กสิณมณฺฑลํ วิสภาควณฺเณน ปริจฺเฉทํ กตฺวา. รุกฺขปาณิกาติ กุจนฺทนาทิรุกฺขปาณิกา อรุณวณฺณสฺส วิสภาควณฺณํ สมุฏฺเปติ. ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวาติ วุตฺตํ. ปกติรุกฺขปาณิกา ปน ปาสาณปาณิกาคติกาว. นินฺนุนฺนตฏฺานาภาเวน เภรีตลสทิสํ กตฺวา. ตโต ทูรตเรติอาทิ ยถาวุตฺตโต ปเทสโต, ปีโต จ อฺสฺมึ อาทีนวทสฺสนํ. กสิณโทสาติ หตฺถปาณิปทาทโย อิธ กสิณโทสา.
วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อฑฺฒเตยฺยหตฺถนฺตเร ปเทเส, วิทตฺถิจตุรงฺคุลปาทเก ปีเ’’ติ จ วุตฺตวิธินาว. กาเมสุ อาทีนวนฺติ ‘‘กามา นาเมเต อฏฺิกงฺกลูปมา นิรสฺสาทฏฺเน, ติณุกฺกูปมา อนุทหนฏฺเน, องฺคารกาสูปมา มหาภิตาปฏฺเน, สุปินกูปมา อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน, ยาจิตกูปมา ตาวกาลิกฏฺเน, รุกฺขผลูปมา สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน, อสิสูนูปมา อธิกุฏฺฏนฏฺเน, สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน, สปฺปสิรูปมา สปฏิภยฏฺเนา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๔๑๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๓๔) ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๔; ๒.๔๒) ‘‘กามสุขฺจ นาเมตํ พหุปริสฺสยํ, สาสงฺกํ, สภยํ, สํกิลิฏฺํ, มีฬฺหปริโภคสทิสํ, หีนํ, คมฺมํ, โปถุชฺชนิกํ, อนริยํ, อนตฺถสํหิต’’นฺติอาทินา จ อเนกาการโวการํ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ อาทีนวํ โทสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กามนิสฺสรเณติ กามานํ นิสฺสรณภูเต, เตหิ วา นิสฺสเฏ. อคฺคมคฺคสฺส ปาทกภาเวน สพฺพทุกฺขสมติกฺกมสฺส อุปายภูเต. เนกฺขมฺเมติ ฌาเน. ชาตาภิลาเสน สฺชาตจฺฉนฺเทน. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต ภควา อวิปรีตธมฺมเทสนตฺตา, สฺวากฺขาโต ¶ ธมฺโม เอกนฺตนิยฺยานิกตฺตา, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนโต’’ติ เอวํ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน รตนตฺตยวิสยํ ปีติปาโมชฺชํ ชนยิตฺวา. เนกฺขมฺมํ ปฏิปชฺชติ เอตายาติ เนกฺขมฺมปฏิปทา, สอุปจารสฺส ฌานสฺส, วิปสฺสนาย, มคฺคสฺส, นิพฺพานสฺส จ อธิคมการณนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพ ปน ปมชฺฌานเมว เนกฺขมฺมนฺติ วุตฺตตฺตา วุตฺตาวเสสา สพฺเพปิ เนกฺขมฺมธมฺมา. ยถาห –
‘‘ปพฺพชฺชา ปมํ ฌานํ, นิพฺพานํ จ วิปสฺสนา;
สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา, ‘เนกฺขมฺม’นฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๙);
ปวิเวกสุขรสสฺสาติ ¶ จิตฺตวิเวกาทิวิเวกชสฺส สุขรสสฺส. เอวเมเตหิ ปฺจหิ ปเทหิ ‘‘อานิสํสทสฺสาวี’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ. สเมน อากาเรนาติ อติอุมฺมีลนอติมนฺทาโลจนานิ วชฺเชตฺวา นาติอุมฺมีลนนาติมนฺทาโลจนสงฺขาเตน สเมน อาโลจนากาเรน. นิมิตฺตํ คณฺหนฺเตนาติ ปถวีกสิเณ จกฺขุนา คหิตนิมิตฺตํ มนสา คณฺหนฺเตน. ภาเวตพฺพนฺติ ตถาปวตฺตํ นิมิตฺตคฺคหณํ วฑฺเฒตพฺพํ อาเสวิตพฺพํ พหุลีกาตพฺพํ.
จกฺขุ กิลมติ อติสุขุมํ, อติภาสุรฺจ รูปคตํ อุปนิชฺฌายโต วิย. อติวิภูตํ โหติ อตฺตโน สภาวาวิภาวโต. ตถา จ วณฺณโต วา ลกฺขณโต วา อุปติฏฺเยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘เตนสฺส นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชตี’’ติ. อวิภูตํ โหติ คชนิมฺมีลเนน เปกฺขนฺตสฺส รูปคตํ วิย. จิตฺตฺจ ลีนํ โหติ ทสฺสเน มนฺทพฺยาปารตาย โกสชฺชปาตโต. เตนาห ‘‘เอวมฺปิ นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชตี’’ติ. อาทาสตเล มุขนิมิตฺตทสฺสินา วิยาติ ยถา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตทสฺสี ปุริโส น ตตฺถ อติคาฬฺหํ อุมฺมีลติ, นาปิ อติมนฺทํ, น อาทาสตลสฺส วณฺณํ ปจฺจเวกฺขติ, นาปิ ลกฺขณํ มนสิ กโรติ. อถ โข สเมน อากาเรน โอโลเกนฺโต อตฺตโน มุขนิมิตฺตเมว ปสฺสติ, เอวเมว อยมฺปิ ปถวีกสิณํ สเมน อากาเรน โอโลเกนฺโต นิมิตฺตคฺคหณปฺปสุโตเยว โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘สเมน อากาเรนา’’ติอาทิ. น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพติ โย ตตฺถ ปถวีกสิเณ อรุณวณฺโณ, โส น จินฺเตตพฺโพ. จกฺขุวิฺาเณน ปน คหณํ น สกฺกา นิวาเรตุํ. เตเนเวตฺถ ‘‘น โอโลเกตพฺโพ’’ติ ¶ อวตฺวา ปจฺจเวกฺขณคฺคหณํ กตํ. น ลกฺขณํ มนสิ กาตพฺพนฺติ ยํ ตตฺถ ปถวีธาตุยา ถทฺธลกฺขณํ, ตํ น มนสิ กาตพฺพํ.
ทิสฺวา คเหตพฺพตฺตา ‘‘วณฺณํ อมฺุจิตฺวา’’ติ วตฺวาปิ วณฺณวเสเนตฺถ อาโภโค น กาตพฺโพ, โส ปน วณฺโณ นิสฺสยคติโก กาตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นิสฺสยสวณฺณํ กตฺวา’’ติ. นิสฺสเยน สมานาการสนฺนิสฺสิโต โส วณฺโณ ตาย ปถวิยา สมานคติกํ กตฺวา, วณฺเณน สเหว ‘‘ปถวี’’ติ มนสิ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุสฺสทวเสน ปณฺณตฺติธมฺเมติ ปถวีธาตุยา อุสฺสนฺนภาเวน สตฺติโต อธิกภาเวน สสมฺภารปถวิยํ ‘‘ปถวี’’ติ โย โลกโวหาโร, ตสฺมึ ปณฺณตฺติธมฺเม จิตฺตํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘ปถวี, ปถวี’’ติ มนสิ กาตพฺพํ. ยทิ โลกโวหาเรน ปณฺณตฺติมตฺเต จิตฺตํ เปตพฺพํ, นามนฺตรวเสนปิ ปถวี มนสิ กาตพฺพา ภเวยฺยาติ, โหตุ, โก โทโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหี เมทินี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยมิจฺฉตีติ ยํ นามํ วตฺตุํ อิจฺฉติ, ตํ วตฺตพฺพํ. ตฺจ โข ยทสฺส สฺานุกูลํ ¶ โหติ ยํ นามํ อสฺส โยคิโน ปุพฺเพ ตตฺถ คหิตสฺาวเสน อนุกูลํ ปจุรตาย, ปคุณตาย วา อาคจฺฉติ, ตํ วตฺตพฺพํ. วตฺตพฺพนฺติ จ ปมสมนฺนาหาเร กสฺสจิ วจีเภโทปิ โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ, อาจริเยน วา วตฺตพฺพตํ สนฺธาย. กึ วา พหุนา, ปากฏภาโวเยเวตฺถ ปมาณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กาเลน อุมฺมีเลตฺวา กาเลน นิมฺมีเลตฺวาติ กิฺจิ กาลํ จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา นิมิตฺตคฺคหณวเสน ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ปุน กิฺจิ กาลํ จกฺขุํ นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺชิตพฺพํ. เยนากาเรน โอโลเกตฺวา คหิตํ, เตนากาเรน ปุน ตํ สมนฺนาหริตพฺพํ.
๕๗. อาปาถมาคจฺฉตีติ มโนทฺวาริกชวนานํ โคจรภาวํ อุปคจฺฉติ. ตสฺส อุคฺคหนิมิตฺตสฺส. น ตสฺมึ าเน นิสีทิตพฺพํ. กสฺมา? ยทิ อุคฺคหนิมิตฺเต ชาเตปิ ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ภาเวติ, ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติ น สิยา. สมีปฏฺเน จ น โอโลเกตุํ น สกฺกา. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา’’ติอาทิ. นิสฺสทฺทภาวาย เอกปฏลิกูปาหนาคหณํ, ปริสฺสยวิโนทนตฺถํ กตฺตรทณฺฑคฺคหณํ. สเจ นสฺสติ, อถาเนน ภาเวตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. วกฺขมาเนสุ อสปฺปาเยสุ เกนจิเทว อสปฺปาเยน การณภูเตน. นิมิตฺตํ อาทายาติ ยถาชาตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ คเหตฺวา. สมนฺนาหริตพฺพนฺติ อาวชฺชิตพฺพํ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺปาโย, สมฺมา วา อนุ ¶ อนุ อาหริตพฺพํ กมฺมฏฺานนฺติ อตฺโถ. ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตนฺติ ตกฺกนโต, สวิเสสํ ตกฺกนโต จ ‘‘ตกฺโก, วิตกฺโก’’ติ จ เอวํ ลทฺธนาเมน ภาวนาจิตฺตสมฺปยุตฺเตน สมฺมาสงฺกปฺเปน อาหนนปริยาหนนกิจฺเจน อปราปรํ วตฺตมาเนน กมฺมฏฺานํ อาหตํ, ปริยาหตฺจ กาตพฺพํ, พลปฺปตฺตวิตกฺโก มนสิกาโร พหุลํ ปวตฺเตตพฺโพติ อตฺโถ. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ เอวํ กมฺมฏฺานํ ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กโรนฺตสฺส. ยถา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหติ, เอวํ อนุยฺุชนฺตสฺส. อนุกฺกเมนาติ ภาวนานุกฺกเมน. ยทา สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สุวิสทานิ ติกฺขานิ ปวตฺตนฺติ, ตทา อสฺสทฺธิยาทีนํ ทูรีภาเวน สาติสยถามปฺปตฺเตหิ สตฺตหิ พเลหิ ลทฺธูปตฺถมฺภานิ วิตกฺกาทีนิ กามาวจราเนว ฌานงฺคานิ พหูนิ หุตฺวา ปาตุภวนฺติ. ตโต เอว เตสํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา กามจฺฉนฺทาทโย สทฺธึ ตเทกฏฺเหิ ปาปธมฺเมหิ วิทูรี ภวนฺติ, ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติยา สทฺธึ ตํ อารพฺภ อุปจารชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นีวรณานิ วิกฺขมฺภนฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺนิสีทนฺตีติ สมฺมเทว สีทนฺติ, อุปสมนฺตีติ อตฺโถ.
อิมสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส. องฺคุลิปทปาณิปทาทิโก กสิณโทโส. อาทาสมณฺฑลูปมาทีหิ ¶ อุคฺคหนิมิตฺตโต ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส สุปริสุทฺธตํ, สณฺหสุขุมตฺจ ทสฺเสติ. ตฺจ โข ปฏิภาคนิมิตฺตํ เนว วณฺณวนฺตํ น สณฺานวนฺตํ อปรมตฺถสภาวตฺตา. อีทิสนฺติ วณฺณสณฺานวนฺตํ. ติลกฺขณพฺภาหตนฺติ อุปฺปาทาทิลกฺขณตฺตยานุปวิฏฺํ, อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยงฺกิตํ วา. ยทิ น ปเนตํ ตาทิสํ วณฺณาทิวนฺตํ, กถํ ฌานสฺส อารมฺมณภาโวติ อาห ‘‘เกวลฺหี’’ติอาทิ. สฺชนฺติ ภาวนาสฺาชนิตํ, ภาวนาสฺาย สฺชาตมตฺตํ. น หิ อสภาวสฺส กุโตจิ สมุฏฺานํ อตฺถิ. เตนาห ‘‘อุปฏฺานาการมตฺต’’นฺติ.
๕๘. วิกฺขมฺภิตาเนว สนฺนิสินฺนาว, น ปน ตทตฺถํ อุสฺสาโห กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปจารสมาธินา’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ สมาธิ อตฺถีติ อตฺถโต อาปนฺนนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ หิ สมาธี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ทฺวีหากาเรหีติ ฌานธมฺมานํ ปฏิปกฺขทูรีภาโว, ถิรภาวปฺปตฺติ จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. อิทานิ ตานิ การณานิ อวตฺถามุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อุปจารภูมิยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปจารภูมิยนฺติ อุปจาราวตฺถายํ. ยทิปิ ตทา ฌานงฺคานิ ปฏุตรานิ มหคฺคตภาวปฺปตฺตานิ น อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ ¶ ปน ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิกฺขมฺภเนน จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘นีวรณปฺปหาเนน จิตฺตํ สมาหิตํ โหตี’’ติ. ปฏิลาภภูมิยนฺติ ฌานสฺส อธิคมาวตฺถายํ. ตทา หิ อปฺปนาปตฺตานํ ฌานธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘องฺคปาตุภาเวนา’’ติ. จิตฺตํ สมาหิตํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.
น ถามชาตานีติ น ชาตถามานิ, น ภาวนาพลํ ปตฺตานีติ อตฺโถ. จิตฺตนฺติ ฌานจิตฺตํ. เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวสํ ติฏฺตีติ สมาปตฺติเวลํ สนฺธายาห. อุปจารภูมิยํ นิมิตฺตวฑฺฒนํ ยุตฺตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘นิมิตฺตํ วฑฺเฒตฺวา’’ติ. ลทฺธปริหานีติ ลทฺธอุปจารชฺฌานปริหานิ. นิมิตฺเต อวินสฺสนฺเต ตทารมฺมณฌานมฺปิ อปริหีนเมว โหติ, นิมิตฺเต ปน อารกฺขาภาเวน วินฏฺเ ลทฺธํ ลทฺธํ ฌานมฺปิ วินสฺสติ ตทายตฺตวุตฺติโต. เตนาห ‘‘อารกฺขมฺหี’’ติอาทิ.
สตฺตสปฺปายวณฺณนา
๕๙. ‘‘ถาวรฺจ โหตี’’ติ วตฺวา ยถา ถาวรํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สติ อุปฏฺาติ, จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาลทฺธฺหิ นิมิตฺตํ ตตฺถ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา เอกคฺคตํ วินฺทนฺตสฺส ¶ ถิรํ นาม โหติ, สุรกฺขิตฺจ. สติ-คฺคหเณน เจตฺถ สมฺปชฺํ, สมาธิคฺคหเณน วีริยฺจ สงฺคหิตํ โหติ นานนฺตริยภาวโต. ตตฺถาติ เตสุ อาวาเสสุ. ตีณิ ตีณีติ เอเกกสฺมึ อาวาเส อวุตฺถอวุตฺถฏฺาเน วสนนิยาเมน ตโย ตโย ทิวเส วสิตฺวา.
อุตฺตเรน วา ทกฺขิเณน วาติ วุตฺตํ คมนาคมเน สูริยาภิมุขภาวนิวารณตฺถนฺติ. สหสฺสธนุปฺปมาณํ ทิยฑฺฒโกสํ.
ทฺวตฺตึส ติรจฺฉานกถาติ ราชกถาทิเก (ที. นิ. ๑.๑๗; ม. นิ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๐; อ. นิ. ๑๐.๖๙; ปาจิ. ๕๐๘) สนฺธายาห. ตา หิ ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตาปิ อรฺปพฺพตนทีทีปกถา อิติ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา สคฺคโมกฺขานํ ติรจฺฉานภาวโต ‘‘ทฺวตฺตึส ติรจฺฉานกถา’’ติ วุตฺตา. ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตนฺติ ‘‘อปฺปิจฺฉตา, สนฺตุฏฺิ, ปวิเวโก, อสํสคฺโค, วีริยารมฺโภ, สีล, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ อิมานิ อปฺปิจฺฉกถาทีนํ วตฺถูนิ, ตนฺนิสฺสิตํ ภสฺสํ สปฺปายํ.
อติรจฺฉานกถิโกติ ¶ นติรจฺฉานกถิโก, ติรจฺฉานกถา วิธุรํ ธมฺมิกํ กมฺมฏฺานปฏิสํยุตฺตเมว กถํ กเถตีติ อธิปฺปาโย. สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ สีลสมาธิอาทิคุณสมฺปนฺโน. โย หิ สมาธิกมฺมฏฺานิโก, สมาธิกมฺมฏฺานสฺส วา ปารํ ปตฺโต, โส อิมสฺส โยคิโน สปฺปาโย. เตนาห ‘‘ยํ นิสฺสายา’’ติอาทิ. กายทฬฺหีพหุโลติ กายสฺส สนฺตปฺปนโปสนปฺปสุโต. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖; อ. นิ. ๕.๒๐๖).
โภชนํ เยภุยฺเยน มธุรมฺพิลรสวเสน สตฺตานํ อุปโยคํ คจฺฉติ ทธิอาทีสุ ตถา ทสฺสนโต. กฏุกาทิรสา ปน เกวลํ อภิสงฺขารกา เอวาติ อาห ‘‘กสฺสจิ มธุรํ, กสฺสจิ อมฺพิลํ สปฺปายํ โหตี’’ติ.
ยสฺมึ อิริยาปเถ อาธารภูเต, วตฺตมาเน วา, ยสฺมึ วา อิริยาปเถ ปวตฺตมานสฺส. นิมิตฺตาเสวนพหุลสฺสาติ นิมิตฺเต อาเสวนาพหุลสฺส ปฏิภาคนิมิตฺเต วิสยภูเต ภาวนามนสิการํ ¶ พหุลํ อาเสวนฺตสฺส, นิมิตฺตสฺส วา โคจราเสวนวเสน อาเสวนาพหุลสฺส. เยน หิ ภาเวนฺตสฺส ภาวนาเสวนา, เตน โคจราเสวนาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ.
ทสวิธอปฺปนาโกสลฺลวณฺณนา
๖๐. น โหติ อปฺปนา. เยน วิธินา อปฺปนายํ กุสโล โหติ, โส ทสวิโธ วิธิ อปฺปนาโกสลฺลํ, ตนฺนิพฺพตฺตํ วา าณํ. วตฺถุวิสทกิริยโตติ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณโต อปฺปนาโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ.
๖๑. จิตฺตเจตสิกานํ หิ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ, ตปฺปฏิพทฺธานิ จีวราทีนิ จ อิธ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ. ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. สรีรํ วาติ วา-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, สรีรํ เสทมลคฺคหิตํ วา อฺเน วา อวสฺสุตกิจฺเจน วิพาธิตนฺติ อธิปฺปาโย. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นนุ จายํ นโย ¶ ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉเทน สงฺคหิโต, ปุน กสฺมา วุตฺโตติ? สจฺจํ สงฺคหิโต, โส จ โข ภาวนาย อารมฺภกาเล. อิธ ปน อารทฺธกมฺมฏฺานสฺส อุปจารชฺฌาเน ตฺวา อปฺปนาปริวาสํ วสนฺตสฺส กาลนฺตเร ชาเต ตถาปฏิปตฺติ อปฺปนาโกสลฺลาย วุตฺตา. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส ตานิ วิสโย? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสเนวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑเน. เตน ‘‘น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว, อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตี’’ติ ทสฺสิตํ. ตํสมฺปยุตฺตานํ ปน อปริสุทฺธตา อวุตฺตสิทฺธา, าณสฺส จ วิสุํ คหณํ อปฺปนาย พหุการตฺตา. ตถา หิ ฌานํ ‘‘ทนฺธาภิฺํ, ขิปฺปาภิฺ’’นฺติ าณมุเขน นิทฺทิฏฺํ. นิสฺสยนิสฺสโยปิ นิสฺสโยตฺเวว วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสายา’’ติ. าเณ อวิสเท วิปสฺสนาภาวนา วิย สมาธิภาวนาปิ ปริทุพฺพลา โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริสุทฺเธน าเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมฏฺานนฺติ สมถกมฺมฏฺานํ อาห. วุฑฺฒึ องฺคปาตุภาเวน, วิรูฬฺหึ คุณภาเวน, เวปุลฺลํ สพฺพโส วสิภาวปฺปตฺติยา เวทิตพฺพํ. วิสเท ปนาติ สุกฺกปกฺโข, ตสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖๒. สมภาวกรณนฺติ ¶ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. ยถาปจฺจยํ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน, ปฺาย อวิสทตาย, วีริยาทีนํ จ สิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต, อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคโหว กิจฺจํ, ปคฺคหกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ, วิกฺเขปปฏิปกฺโข. เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ หิ อินฺทฏฺํ กาเรนฺตานํ สหปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ ¶ . ตนฺติ สทฺธินฺทฺริยํ. ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยวตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ, ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปริชานนวเสน ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หาเปตพฺพ’’นฺติ.
ตถา อมนสิกาเรนาติ เยนากาเรน ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, เตนากาเรน ภาวนาย อนนุยฺุชนโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว, อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสสโต กิจฺจุตฺตริเยน, วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ยถา มนสิ กโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน วีริยาทีนํ ปฏุกิจฺจภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ สมรสํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.
วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺตตาย กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสนปฺปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗) โอวทิตฺวา ¶ กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยฺุชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสํ วิสชฺเชนฺโต อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –
‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;
อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –
คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ วกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ. สทฺธาย ปน พลวภาวโต ¶ วิปสฺสนาวีถึ น โอตริ. ตํ ตฺวา ภควา อินฺทฺริยสมตํ ปฏิปาเทนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเยน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ.
อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิอาทิภาวนาย หายติ, สมาธิปกฺขิยตฺตา ตสฺสา. ตถา หิ สา สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ.
โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ (มหาว. ๒๔๓) สุกุมารสฺส โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. โส หิ อายสฺมา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย ปธานมนุยฺุชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีโณวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ โยเชนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ.
เสเสสุปีติ ¶ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ. เอกสฺสาติ เอเกกสฺส. สามฺนิทฺเทโสวายํ ทฏฺพฺโพ. เอวํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปจฺเจกํ อธิมตฺตตาย ปน หาปนวเสน สมตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ เยสํ วิเสสโต อสาธารณโต, สาธารณโต จ สมตา อิจฺฉิตพฺพา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถาติ เอเตสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนานธิกภาวํ. ตถา สมาธิวีริยานํ ¶ . ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺานติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพเมว, ยโต เนสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชตีติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชอุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สมรสตาย สติ อฺมฺูปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌติ.
‘‘พลวสทฺโธ หี’’ติอาทิ นิทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุทฺธปฺปสนฺโน โหติ, น อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ โส อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปฺุํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปฏิรูปเกหิ วฺจิโต. เอวํภูโต ปน สุกฺขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ, สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺวิรโห น อตฺถาวโห อนตฺถาวโห จ, เอวมิธาปิ สมาธิวีริยานํ อฺมฺวิรโห น อวิกฺเขปาวโห วิกฺเขปาวโห จาติ เวทิตพฺพํ. โกสชฺชํ อภิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. อุทฺธจฺจํ อภิภวตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตทุภยนฺติ ตํ สทฺธาปฺาทฺวยํ, สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมรสํ กาตพฺพํ.
สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย เตสํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ มนสิกรณมตฺเตน กถํ ฌานุปฺปตฺตีติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน โอกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ, สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนาปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ อิธาธิปฺเปตอปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ ¶ , โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห – ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑, ๕).
ยทิ ¶ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ, สมาธิวีริยานฺจ สมตา อิจฺฉิตา, กถํ สตีติ อาห ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺเขสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเย คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถาปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺเขน สมาธินา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สา สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. เตน การเณน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพตฺเถน. อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา, สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเยน โพชฺฌงฺคคฺคหเณน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิยา, สพฺพตฺถิยาว สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ตสฺส หิ สติ ปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.
๖๓. จิตฺเตกคฺคตานิมิตฺตสฺสาติ จิตฺเตกคฺคตาย นิมิตฺตสฺส, จิตฺเตกคฺคตาสงฺขาตสฺส จ นิมิตฺตสฺส. จิตฺตสฺส หิ สมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา สมถนิมิตฺตํ รกฺขนฺโตเยว กสิณนิมิตฺตํ รกฺขติ. ตสฺมา ปถวีกสิณาทิกสฺสาติ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺเสว, อถ โข สมถนิมิตฺตสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ตนฺติ รกฺขณโกสลฺลํ. อิธ อปฺปนาโกสลฺลกถายํ ‘‘นิมิตฺตโกสลฺล’’นฺติ อธิปฺเปตํ, กรณภาวนาโกสลฺลานํ ปเคว สิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๖๔. อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปโมทนสํเวชนวิปริยาเย สงฺคณฺหาติ. ลีนนฺติ สงฺกุจิตํ โกสชฺชปกฺขปติตํ. จิตฺตนฺติ ภาวนาจิตฺตํ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวตีติ เอตฺถ ‘‘ตโย’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา ปน เต ภาเวตพฺพา, ตํ สยเมว วกฺขติ.
ปริตฺตนฺติ อปฺปกํ. อุชฺชาเลตุกาโมติ ปทีเปตุกาโม. อุทกวาตํ ทเทยฺยาติ อุทกมิสฺสํ วาตํ อุปเนยฺย. อกาโลติ นกาโล, อยุตฺตกาโล วา. สติอาทิธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา พุชฺฌติ เอตายาติ กตฺวา, ตํสมงฺคิโน วา พุชฺฌตีติ โพธิโน โยคิโน องฺคนฺติ โพชฺฌงฺโค ¶ , ปสตฺโถ, สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค ¶ . กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิเยว สมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – สมาธิสฺส ตาว ปทตฺถลกฺขณานิ เหฏฺา อาคตาเนว. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา. สา ปนายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว อิธ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา เวทิตพฺพา. ทุสมุฏฺาปยนฺติ สมุฏฺาเปตุํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย ธมฺมวิจโย, ปฺาติ อตฺโถ. วีรสฺส ภาโว, กมฺมํ วา, วิธินา วา อีเรตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วีริยํ, อุสฺสาโห. ปีเณติ กายํ, จิตฺตํ จ สนฺตปฺเปตีติ ปีติ.
ยํ ยํ สกํ ยถาสกํ, อตฺตโน อตฺตโนติ อตฺโถ. อาหารวเสนาติ ปจฺจยวเสน. ภาวนาติ อุปฺปาทนา, วฑฺฒนา จ. กุสลากุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลา. เย อกุสลา, เต สาวชฺชา. เย กุสลา, เต อนวชฺชา. อกุสลา หีนา, อิตเร ปณีตา. กุสลาปิ วา หีเนหิ ฉนฺทาทีหิ อารทฺธา หีนา, อิตเร ปณีตา. กณฺหาติ กาฬกา จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณา, สุกฺกาติ โอทาตา จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณา. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหา, สุกฺกาภิชาติเหตุโต สุกฺกา. เต เอว สปฺปฏิภาคา. กณฺหา หิ อุชุวิปจฺจนีกตาย สุกฺเกหิ สปฺปฏิภาคา. ตถา สุกฺกาปิ อิตเรหิ. อถ วา กณฺหา จ สุกฺกา จ สปฺปฏิภาคา จ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา. สุขา หิ เวทนา ทุกฺขาย เวทนาย สปฺปฏิภาคา, ทุกฺขา จ เวทนา สุขาย สปฺปฏิภาคาติ. อนุปฺปนฺนสฺสาติ อนิพฺพตฺตสฺส. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนสฺสาติ นิพฺพตฺตสฺส. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย.
ตตฺถาติ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว’’ติอาทินา ทสฺสิตปาเ. สภาวสามฺลกฺขณปฏิเวธวเสนาติ เอกชฺฌํ กตฺวา คหเณ อนวชฺชสุขวิปากาทิกสฺส วิสุํ วิสุํ ปน ผุสนาทิกสฺส สภาวลกฺขณสฺส, อนิจฺจาทิกสฺส สามฺลกฺขณสฺส จ ปฏิวิชฺฌนวเสน. ปวตฺตมนสิกาโรติ กุสลาทีนํ ตํตํสภาวลกฺขณาทิกสฺส ยาถาวโต อวพุชฺฌนวเสน อุปฺปนฺนชวนจิตฺตุปฺปาโท. โส หิ อวิปรีตมนสิการตาย ‘‘โยนิโสมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต. ตทาโภคตาย อาวชฺชนาปิ ตคฺคติกาว. รุปฺปนลกฺขณาทิกมฺปิ ¶ อิธ สามฺลกฺขเณเนว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กุสลกิริยาย อาทิอารมฺภวเสน ปวตฺตวีริยํ ธิติสภาวตาย ‘‘ธาตู’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อารมฺภธาตูติ ปมวีริยํ วุจฺจตี’’ติ. ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ ¶ หุตฺวา ปฏิปกฺขํ วิธมตีติ อาห ‘‘โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติ. อธิมตฺตาธิมตฺตตรานํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถํ ปฏุปฏุตราทิภาวปฺปตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตร’’นฺติ. ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านิยา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส านิยา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา. าตพฺโพ วา านิโย, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค านิโย เอเตสูติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา, อปราปรํ วตฺตมานา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา. ยสฺมา ปน เตสุ ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วิเสสการณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปีติยา เอว เอตํ นาม’’นฺติ. อุปฺปาทกมนสิกาโรติ ยถา มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ วฑฺฒติ, ตถา ปวตฺตมนสิกาโร.
ปริปุจฺฉกตาติ ปริโยคาเหตฺวา ปุจฺฉกภาโว. ปฺจปิ หิ นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อาจริเย ปริยุปาสิตฺวา ตสฺส ตสฺส อตฺถํ ปริปุจฺฉนฺตสฺส, เต วา สห อฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานํ, ตํ ตํ ‘‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ปุจฺฉนฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ. วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา สงฺเขปโต, วิตฺถารโต จ ปกาสิตา เอว. ตตฺถ ปน สมาธิสํวตฺตนิยภาเวน อาคตา, อิธ ปฺาสํวตฺตนิยภาเวน. ยทคฺเคน หิ สมาธิสํวตฺตนิกา, ตทคฺเคน ปฺาสํวตฺตนิกา สมาธิสฺส าณปจฺจุปฏฺานโต. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑) วุตฺตํ. ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ทุปฺปฺานํ มนฺทพุทฺธีนํ ภตฺตนิกฺขิตฺตกากมํสนิกฺขิตฺตสุนขสทิสานํ โมมูหปุคฺคลานํ ทูรโต ปริจฺจชนา. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม ปฺาย กตาธิการานํ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสุ กุสลานํ อริยานํ, วิปสฺสนากมฺมิกานํ วา มหาปฺานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณาติ คมฺภีราเณหิ จริตพฺพานํ ขนฺธายตนธาตาทีนํ, สจฺจปจฺจยาการาทิทีปนานํ วา สฺุตาปฏิสํยุตฺตานํ สุตฺตนฺตานํ ปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตาติ ปฺาธิมุตฺตตา, ปฺาย นินฺนโปณปพฺภารตาติ อตฺโถ.
อปายาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ชาติอาทึ อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกฺจ ทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ. วีริยายตฺตสฺส โลกิยโลกุตฺตรวิเสสสฺส อธิคโม เอว อานิสํโส, ตสฺส ทสฺสนสีลตา วีริยายตฺต…เป… ทสฺสิตา. สปุพฺพภาโค นิพฺพานคามิมคฺโค คมนวีถิ คนฺตพฺพา ปฏิปชฺชิตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา ¶ . ทายกานํ มหปฺผลภาวกรเณน ปิณฺฑาปจายนตาติ ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลการภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑสฺส ภิกฺขาย ปฏิปูชนา. อิตรถาติ อามิสปูชาย. กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตาติ อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายทฬฺหีพหุลานํ ยาวทตฺถํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุยฺุชนกานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ปุคฺคลานํ ทูรโต ปริจฺจชนา. อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตาติ ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๙; อ. นิ. ๓.๑๖) ภาวนารมฺภวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ ปุคฺคลานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนา. สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานานุภาวสฺส ปจฺจเวกฺขณตา. ตทธิมุตฺตตาติ ตสฺมึ วีริยสมฺโพชฺฌงฺเค อธิมุตฺติ สพฺพิริยาปเถสุ นินฺนโปณปพฺภารตา. เอตฺถ จ ถินมิทฺธวิโนทนกุสีตปุคฺคลปริวชฺชนอารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตทธิมุตฺตตา ปฏิปกฺขวิธมนปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายาทิภยปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกา ทฏฺพฺพา.
พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน ถุสขรหทยา ลูขปุคฺคลา, ตพฺพิปริยาเยน สินิทฺธปุคฺคลา เวทิตพฺพา. พุทฺธาทีนํ คุณปริทีปนา สมฺปสาทนียสุตฺตาทโย (ที. นิ. ๓.๑๔๑ อาทโย) ปสาทนียสุตฺตนฺตา. อิเมหิ อากาเรหีติ ยถาวุตฺเตหิ กุสลาทีนํ สภาวสามฺลกฺขณปฏิวิชฺฌนาทิอากาเรหิ เจว ปริปุจฺฉกตาทิอากาเรหิ จ. เอเต ธมฺเมติ เอเต กุสลาทีสุ โยนิโสมนสิการาทิเก เจว ธมฺมตฺถฺุตาทิเก จ.
๖๕. อจฺจารทฺธวีริยตาทีหีติ อติวิย ปคฺคหิตวีริยตาทีหิ. อาทิ-สทฺเทน สํเวชนปโมทนาทึ สงฺคณฺหาติ. อุทฺธตนฺติ สมาธิอาทีนํ มนฺทตาย อวูปสนฺตํ. ทุวูปสมยนฺติ วูปสเมตุํ สมาธาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ.
ตํ ¶ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวาติ เยนากาเรน อสฺส โยคิโน ปสฺสทฺธิ สมาธิ อุเปกฺขาติ อิเม ปสฺสทฺธิอาทโย ธมฺมา ปุพฺเพ ยถารหํ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนปุพฺพา, ตํ จิตฺตตํสมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปสฺสทฺธาการํ, สมาหิตาการํ, อชฺฌุเปกฺขิตาการฺจ อุปลกฺเขตฺวา อุปธาเรตฺวา. ตีสุปิ ปเทสูติ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กายปฺปสฺสทฺธี’’ติอาทินา อาคเตสุ ตีสุปิ วากฺเยสุ, เตหิ วา ปกาสิเตสุ ตีสุ ธมฺมโกฏฺาเสสุ. ยถาสมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา คยฺหมาโน ¶ สมโถ เอว สมถนิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘สมถนิมิตฺตนฺติ จ สมถสฺเสเวตมธิวจน’’นฺติ. นานารมฺมเณ ปริพฺภมเนน วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส, ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน จ วุตฺโต. เอกคฺคตาภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ. โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘อวิกฺเขปฏฺเน จ ตสฺเสว อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ อธิวจน’’นฺติ.
สรีราวตฺถํ ตฺวา มตฺตโส ปริภุตฺโต ปณีตาหาโร กายลหุตาทีนํ สมุฏฺาปเนน ปสฺสทฺธิยา ปจฺจโย โหติ, ตถา อุตุสปฺปายํ, อิริยาปถสปฺปายฺจ เสวิตํ, ปโยโค จ กายิโก ปวตฺติโตติ อาห ‘‘ปณีตโภชนเสวนตา’’ติอาทิ. ปโยคสมตาทีนํ อภาเวน สทรถกายจิตฺตา ปุคฺคลา สารทฺธปุคฺคลา. วุตฺตวิปริยาเยน ปสฺสทฺธกายา ปุคฺคลา เวทิตพฺพา.
นิรสฺสาทสฺสาติ ภาวนสฺสาทรหิตสฺส. ภาวนา หิ วีถิปฏิปนฺนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสวตี ปวตฺตมานา จิตฺตสฺส อสฺสาทํ อุปสมสุขํ อาวหติ, ตทภาวโต นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ. สทฺธาสํเวควเสนาติ สทฺธาวเสน, สํเวควเสน จ. สมฺปหํสนตาติ สมฺมเทว ปหํสนตา สํเวชนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน ภาวนา จิตฺตสฺส โตสนา. สมฺมาปวตฺตสฺสาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน, สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมํ, สวิเสสฺจ ปวตฺติยา สมฺมเทว ปวตฺตสฺส ภาวนาจิตฺตสฺส. อชฺฌุเปกฺขนตาติ ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาวฏตา. ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตาติ ปมาทีนิ ฌานานิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตาทินา เตเยว วิโมกฺขา เตสํ ‘‘เอวํ ภาวนา, เอวํ สมาปชฺชนา, เอวํ อธิฏฺานํ, เอวํ วุฏฺานํ, เอวํ สํกิเลโส, เอวํ โวทาน’’นฺติ ปติ ปติ อเวกฺขณา.
สตฺตมชฺฌตฺตตาติ ¶ สตฺเตสุ ปิยฏฺานิเยสุปิ คหฏฺปพฺพชิเตสุ มชฺฌตฺตากาโร อชฺฌุเปกฺขนา. สงฺขารมชฺฌตฺตตาติ อชฺฌตฺติเกสุ จกฺขาทีสุ, พาหิเรสุ ปตฺตจีวราทีสุ มชฺฌตฺตากาโร อชฺฌุเปกฺขนา. สตฺตสงฺขารานํ มมายนํ สตฺตสงฺขารเกลายนํ. อิเมหากาเรหีติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ กายจิตฺตานํ ปสฺสทฺธาการสลฺลกฺขณาทิอากาเรหิ เจว สปฺปายาหารเสวนาทิอากาเรหิ จ. เอเต ธมฺเมติ เอเต ปสฺสทฺธิอาทิธมฺเม.
๖๖. ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานสีลานิ อโลภาโทสปฺปธานานิ ¶ , เอวํ ภาวนา อโมหปฺปธานา วิเสสโต อปฺปนาวหา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนาจิตฺตสฺส อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส อภิรุจึ น ชเนติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ยทา จ ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ สมฺมเทว อวีถิปฏิปตฺติยา, ตทา อุปสมสุขสฺส อลาเภน จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ตทุภยํ สนฺธายาห ‘‘ปฺาปโยคมนฺทตายา’’ติอาทิ. นนฺติ จิตฺตํ. ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ, ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิขุปฺปิปาสาทิอฺมฺวิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ. ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต, อนาคเต จ กาเล วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิ. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน, ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิตทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อสฺสาติ จิตฺตสฺส. อลีนนฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิยานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ. อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ. ปฺาปโยคสมฺปตฺติยา, อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ. ปุพฺเพนาปรํ สวิเสสํ ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตตาย นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ. อลีนานุทฺธตตาย หิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ. สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ, สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เนกฺขมฺมปฏิปทนฺติ ฌานปฏิปตฺตึ. สมาธิอธิมุตฺตตาติ สมาธินิพฺพตฺตเน ฌานาธิคเม ยุตฺตปฺปยุตฺตตา. สา ปน ยสฺมา สมาธึ ครุํ กตฺวา ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน ¶ ปวตฺติยา โหติ, ตสฺมา ‘‘สมาธิครู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๖๗. ปฏิลทฺเธ นิมิตฺตสฺมึ เอวํ หิ สมฺปาทยโต อปฺปนาโกสลฺลํ อิมํ อปฺปนา สมฺปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. สาติ อปฺปนา. หิตฺวา หีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา านเมตํ น วิชฺชติ, ตสฺมา จิตฺตปฺปวตฺติอาการํ ภาวนาจิตฺตสฺส ลีนุทฺธตาทิวเสน ปวตฺติอาการํ สลฺลกฺขยํ อุปธาเรนฺโต. สมตํ วีริยสฺเสว วีริยสฺส สมาธินา สมรสตํเยว โยชเยถ. กถํ ปน โยชเยถาติ อาห ‘‘อีสกมฺปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ลยนฺติ ลีนภาวํ, สงฺโกจนฺติ อตฺโถ. ยนฺตนฺติ คจฺฉนฺตํ ¶ , ปคฺคณฺเหเถว สมภาวายาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อจฺจารทฺธํ นิเสเธตฺวา สมเมว ปวตฺตเย’’ติ. กถํ ปน สมเมว ปวตฺตเยติ อาห ‘‘เรณุมฺหี’’ติอาทิ. ยถาติ เรณุอาทีสุ ยถา มธุกราทีนํ ปวตฺติ อุปมาภาเวน อฏฺกถายํ สมฺมวณฺณิตา, เอวํ ลีนุทฺธตภาเวหิ โมจยิตฺวา วีริยสมตาโยชเนน นิมิตฺตาภิมุขํ มานสํ ปฏิปาทเย ปฏิภาคนิมิตฺตาภิมุขํ ภาวนาจิตฺตํ สมฺปาเทยฺยาติ อตฺโถ.
นิมิตฺตาภิมุขปฏิปาทนวณฺณนา
๖๘. ตตฺราติ ตสฺมึ ‘‘เรณุมฺหี’’ติอาทินา วุตฺตคาถาทฺวเย. อตฺถทีปนา อุปมูปเมยฺยตฺถวิภาวนา. อเฉโกติ อกุสโล. ปกฺขนฺโทติ ธาวิตุํ อารทฺโธ. วิกสนกฺขเณเยว สรสํ กุสุมปราคํ โหติ, ปจฺฉา วาตาทีหิ ปริปตติ, วิรสํ วา โหติ. ตสฺมา นิวตฺตเน เรณุ ขียตีติ อาห ‘‘ขีเณ เรณุมฺหิ สมฺปาปุณาตี’’ติ. ปุปฺผราสินฺติ รุกฺขสาขาสุ นิสฺสิตํ ปุปฺผสฺจยํ.
สลฺลกตฺตอนฺเตวาสิเกสูติ สลฺลกตฺตอาจริยสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. อุทกถาลคเตติ อุทกถาลิยํ ปิเต. สตฺถกมฺมนฺติ สิราเวธนาทิสตฺถกมฺมํ. ผุสิตุมฺปิ อุปฺปลปตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สเมนาติ ปุริมกา วิย ครุํ, มนฺทฺจ ปโยคํ อกตฺวา สมปฺปมาเณน ปโยเคน. ตตฺถาติ อุปฺปลปตฺเต. ปริโยทาตสิปฺโปติ สุวิสุทฺธสิปฺโป นิปฺผนฺนสิปฺโป.
มกฺกฏกสุตฺตนฺติ ¶ ลูตสุตฺตํ. นิยามโก นาวาสารถี. ลงฺการนฺติ กิลฺชาทิมยํ นาวากฏสารกํ. เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต นาฬึ ปูเรตีติ สราวาทิคเตน เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต สุขุมจฺฉิทฺทกํ เตลนาฬึ ปูเรติ. เอวเมวาติ ยถา เต อาทิโต วุตฺตมธุกรสลฺลกตฺตอนฺเตวาสิสุตฺตากฑฺฒกนิยามกเตลปูรกา เวเคน ปโยคํ กโรนฺติ, เอวเมว โย ภิกฺขุ ‘‘สีฆํ อปฺปนํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ คาฬฺหํ วีริยํ กโรติ, โย มชฺเฌ วุตฺตมธุกราทโย วิย วีริยํ น กโรติ, อิเม ทฺเวปิ วีริยสมตาภาเวน อปฺปนํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ. โย ปน อวสาเน วุตฺตมธุกราทโย วิย สมปฺปโยโค, อยํ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ วีริยสมตาโยคโตติ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอโก ภิกฺขู’’ติอาทิ. ลีนํ ภาวนาจิตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
ปมชฺฌานกถาวณฺณนา
๖๙. เอวนฺติ ¶ วุตฺตปฺปกาเรน. วีริยสมตาโยชนวเสน วีถิปฏิปนฺนํ ภาวนามานสํ ปฏิภาคนิมิตฺเตเยว ปนวเสน นิมิตฺตาภิมุขํ ปฏิปาทยโต อสฺส โยคิโน. อิชฺฌิสฺสตีติ สมิชฺฌิสฺสติ, อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ. อนุโยควเสนาติ ภาวนาวเสน. เสสานีติ เสสานิ ตีณิ, จตฺตาริ วา. ปกติจิตฺเตหีติ ปากติเกหิ กามาวจรจิตฺเตหิ. พลว…เป… จิตฺเตกคฺคตานิ ภาวนาพเลน ปฏุตรสภาวปฺปตฺติยา. ปริกมฺมตฺตาติ ปฏิสงฺขารกตฺตา. ยทิ อาสนฺนตฺตา อุปจารตา, โคตฺรภุโน เอว อุปจารสมฺา สิยาติ อาห ‘‘สมีปจาริตฺตา วา’’ติ. อนจฺจาสนฺโนปิ หิ นาติทูรปวตฺตี สมีปจารี นาม โหติ. อปฺปนํ อุเปจฺจ จรนฺตีติ อุปจารานิ. อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมานนฺติ นานาวชฺชนวีถิยํ ปริกมฺมานํ. เอตฺถาติ เอเตสุ ปริกมฺมุปจารานุโลมสฺิเตสุ. สพฺพนฺติมนฺติ ตติยํ, จตุตฺถํ วา. ปริตฺตโคตฺตาภิภวนโตติ ปริตฺตสฺส โคตฺตสฺส อภิภวนโต. คํตายตีติ หิ โคตฺตํ, ‘‘ปริตฺต’’นฺติ ปวตฺตมานํ อภิธานํ, พุทฺธิฺจ เอกํสิกวิสยตาย รกฺขตีติ ปริตฺตโคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น ปวตฺตติ, เอวํ อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน. ตสฺมา โส ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. ตํ ปน มหคฺคตานุตฺตรวิธุรํ กามตณฺหาย โคจรภูตํ กามาวจรธมฺมานํ อาเวณิกรูปํ ทฏฺพฺพํ. มหคฺคตโคตฺเตปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาวนโตติ อุปฺปาทนโต.
อวิเสเสน ¶ สพฺเพสํ สพฺพา สมฺาติ ปมนโย คหิตคฺคหณํ โหตีติ อาห ‘‘อคฺคหิตคฺคหเณนา’’ติอาทิ. นานาวชฺชนปริกมฺมเมว ปริกมฺมนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปมํ วา อุปจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตํ, ปฺจมํ วา อปฺปนาจิตฺตํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สเจ จตุตฺถํ โคตฺรภุ โหตีติ อตฺโถ. ปฺจมํ วาติ วา-สทฺโท อนิยเม. สฺวายํ อนิยโม อิมินา การเณนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺจ โข ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ขิปฺปาภิฺสฺส จตุตฺถํ อปฺเปติ, ทนฺธาภิฺสฺส ปฺจมํ. กสฺมา ปน จตุตฺถํ, ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ตโต ปรนฺติ อาห ‘‘ตโต ปรํ ชวนํ ปตตี’’ติ. ตโต ปฺจมโต ปรํ ฉฏฺํ, สตฺตมฺจ ชวนํ ปตนฺตํ วิย โหติ ปริกฺขีณชวตฺตาติ อธิปฺปาโย.
ยถา อลทฺธาเสวนํ ปมชวนํ ทุพฺพลตฺตา โคตฺรภุํ น อุปฺปาเทติ, ลทฺธาเสวนํ ปน พลวภาวโต ¶ ทุติยํ, ตติยํ วา โคตฺรภุํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ลทฺธาเสวนตาย พลวภาวโต ฉฏฺํ, สตฺตมมฺปิ อปฺเปตีติ เถรสฺส อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺมา ฉฏฺเปิ สตฺตเมปิ อปฺปนา โหตี’’ติ. ตนฺติ เถรสฺส วจนํ. สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเทหิ อนุปตฺถมฺภิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อตฺตโนมติมตฺต’’นฺติ. ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๒) ปน สุตฺตปทมการณํ อาเสวนปจฺจยลาภสฺส พลวภาเว อเนกนฺติกตฺตา. ตถา หิ อลทฺธาเสวนาปิ ปมเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียา โหติ, ลทฺธาเสวนา ทุติยเจตนา ยาว ฉฏฺเจตนา อปราปริยเวทนียา. จตุตฺถปฺจเมสุเยวาติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ยุตฺติทสฺสนมุเขน นิคมนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิ ฉฏฺสตฺตมํ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ ปริกฺขีณชวตฺตา, กถํ สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา, อานนฺตริยา จ โหตีติ? นายํ วิเสโส อาเสวนปจฺจยลาเภน พลปฺปตฺติยา. กิฺจรหิ กิริยาวตฺถาวิเสสโต. กิริยาวตฺถา หิ อารมฺภมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธา. ตตฺถ จ ปริโยสานาวตฺถาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาภาเวน อุปปชฺชเวทนียาทิตา โหติ, น พลวภาเวนาติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน ตถา อภิสงฺขตตฺตาติ จ วทนฺติ. ตสฺมา ฉฏฺสตฺตมานํ ปปาตาภิมุขตาย ปริกฺขีณชวตา น สกฺกา นิวาเรตุํ. ตถา หิ ‘‘ยถา หิ ปุริโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สา ¶ จ ปน อปฺปนา. อทฺธานปริจฺเฉโทติ กาลปริจฺเฉโท. โส ปเนตฺถ สตฺตสุ าเนสุ กตฺถจิ อปริมาณจิตฺตกฺขณตาย, กตฺถจิ อติอิตฺตรขณตาย นตฺถีติ วุตฺโต. น เหตฺถ สมฺปุณฺณชวนวีถิ อทฺธา ลพฺภติ. เตเนวาห ‘‘เอตฺถ มคฺคานนฺตรผล’’นฺติอาทิ. เสสฏฺาเนสูติ ปมปฺปนา, โลกิยาภิฺา, มคฺคกฺขโณ, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลกฺขโณติ เอเตสุ จตูสุ าเนสุ.
เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ภาวนากฺกเมน เอส โยคาวจโร ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ วิหรตา จ อเนน ตเทว ปมํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณนฺติ สมฺพนฺโธ.
๗๐. ตตฺถาติ ตสฺมึ ฌานปาเ. วิวิจฺจิตฺวาติ วิสุํ หุตฺวา. เตนาห ‘‘วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา’’ติ, ปชหนวเสน อปสกฺกิตฺวาติ อตฺโถ. วิวิจฺเจว กาเมหีติ เอตฺถ ‘‘วิวิจฺจา’’ติ อิมินา วิเวจนํ ฌานกฺขเณ กามานํ อภาวมตฺตํ วุตฺตํ. ‘‘วิวิจฺเจวา’’ติ ปน อิมินา เอกํสโต กามานํ วิเวเจตพฺพตาทีปเนน ตปฺปฏิปกฺขตา ฌานสฺส, กามวิเวกสฺส จ ฌานาธิคมูปายตา ¶ ทสฺสิตา โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ ฌาน’’นฺติอาทึ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิยา’’ติ เอเตน ยถา ปทีโปภาสาภาเวน รตฺติยํ อนฺธการาภิภโว, เอวํ ฌานาภาเวน สตฺตสนฺตติยํ กามาภิภโวติ ทสฺเสติ.
เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณวจนํ. น โข ปน เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘กาเมหิ เอวา’’ติ อวธารณสฺส อกตตฺตา. นิสฺสรนฺติ นิคฺคจฺฉนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ นิสฺสรณํ. เก นิคฺคจฺฉนฺติ? กามา, เตสํ กามานํ นิสฺสรณํ ปหานํ ตนฺนิสฺสรณํ, ตโต. กถํ ปน สมาเน วิกฺขมฺภเน กามานเมเวตํ นิสฺสรณํ, น พฺยาปาทาทีนนฺติ โจทนํ ยุตฺติโต, อาคมโต จ โสเธตุํ ‘‘กามธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กามธาตุสมติกฺกมนโตติ สกลสฺสปิ กามภวสฺส สมติกฺกมปฏิปทาภาวโต. เตน อิมสฺส ฌานสฺส กามปริฺาภาวมาห. กามราคปฏิปกฺขโตติ วกฺขมานวิภาคสฺส กิเลสกามสฺส ปจฺจตฺถิกภาวโต. เตน ยถา เมตฺตา พฺยาปาทสฺส, กรุณา วิหึสาย, เอวมิทํ ฌานํ กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภูตนฺติ ทสฺเสติ. เอวมตฺตโน ปวตฺติยา, วิปากปฺปวตฺติยา จ กามราคโต, กามธาตุโต ¶ จ วินิวตฺตสภาวตฺตา อิทํ ฌานํ วิเสสโต กามานเมว นิสฺสรณํ. สฺวายมตฺโถ ปาคโต เอวาติ อาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. กามฺเจตมตฺถํ ทีเปตุํ ปุริมปเทเยว อวธารณํ คหิตํ, อุตฺตรปเทปิ ปน ตํ คเหตพฺพเมว ตถา อตฺถสมฺภวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุตฺตรปเทปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิโตติ กามจฺฉนฺทโต. เอส นิยโม. สาธารณวจเนนาติ อวิเสสวจเนน. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ตทงฺควิเวกาทโย. จิตฺตกายอุปธิวิเวกา จิตฺตวิเวกาทโย. ตโย เอว อิธ ฌานกถายํ ทฏฺพฺพา สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวโต.
นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๑, ๗). ตตฺถ หิ ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา – วตฺถุกามา กิเลสกามา จา’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตเม วตฺถุกามา? มนาปิยา รูปา…เป… มนาปิยา โผฏฺพฺพา’’ติอาทินา วตฺถุกามา นิทฺทิฏฺา. เต ปน กามียนฺตีติ กามาติ เวทิตพฺพา. ตตฺเถวาติ นิทฺเทเส เอว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔). ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท, ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, ตโตปิ พลวตโร พหลราโค ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนานิ สงฺกปฺเปติ เอเตนาติ สงฺกปฺโป, ตถาปวตฺโต โลโภ, ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, สงฺกปฺปนวเสเนว ปวตฺโต ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโคติ. สฺวายํ ¶ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการวเสน, อวตฺถาเภทวเสน จ เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘วจฺโฉ ทมฺโม พลีพทฺโท’’ติ. อิเม กิเลสกามา. กาเมนฺตีติ กามา, กาเมนฺติ เอเตหีติ วา.
เอวฺหิ สตีติ เอวํ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ. วตฺถุกาเมหิปีติ ‘‘วตฺถุกาเมหิ วิวิจฺเจวา’’ติปิ อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวํ ยุชฺชมานตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺโถ ปิ-สทฺโท, น กิเลสกามสมุจฺจยตฺโถ. กสฺมา? อิมสฺมึ อตฺเถ กิเลสกาเมหิ วิเวกสฺส ทุติยปเทน วุตฺตตฺตา. เตนาติ วตฺถุกามวิเวเกน. กายวิเวโก วุตฺโต โหติ ปุตฺตทาราทิปริคฺคหวิเวกทีปนโต. ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย, อิโต วา นิทฺธาริเต วิเวกทฺวเย. อกุสล-สทฺเทน ยทิปิ ¶ กิเลสกามา, สพฺพากุสลาปิ วา คหิตา, สพฺพถา ปน กิเลสกาเมหิ วิเวโก วุตฺโตติ อาห ‘‘ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต’’ติ. ทุติเยนาติ จ จิตฺตวิเวเกนาติ อตฺโถ. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตานํ ทฺวินฺนํ ปทานํ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. ตณฺหาทิสํกิเลสานํ วตฺถุโน ปหานํ สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ. โลลภาโว นาม ตตฺถ ตตฺถ รูปาทีสุ ตณฺหุปฺปาโท, ตสฺส เหตุ วตฺถุกามา เอว เวทิตพฺพา. พาลภาโว อวิชฺชา, ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทิ วา, ตสฺส อโยนิโสมนสิกาโร, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา เหตุ. กามคุณาธิคมเหตุปิ ปาณาติปาตาทิอสุทฺธปโยโค โหตีติ ตพฺพิเวเกน ปโยคสุทฺธิ วิภาวิตา. ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน, วิวฏฺฏูปนิสฺสยสํวฑฺฒเนน จ อชฺฌาสยวิโสธนํ อาสยโปสนํ. กาเมสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.
อเนกเภโทติ กามาสวกามราคสํโยชนาทิวเสน, รูปตณฺหาทิวเสน จ อเนกปฺปเภโท. กามจฺฉนฺโทเยวาติ กามสภาโวเยว ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, นาปิ กุสลจฺฉนฺโทติ อธิปฺปาโย. ฌานปฏิปกฺขโตติ ฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวโต ตํเหตุ ตนฺนิมิตฺตํ วิสุํ วุตฺโต. อกุสลภาวสามฺเน อคฺคเหตฺวา วิสุํ สรูเปน คหิโต. ยทิ กิเลสกาโมว ปุริมปเท วุตฺโต, กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘อเนกเภทโต’’ติอาทิ.
อฺเสมฺปิ ทิฏฺิมานอหิริกาโนตฺตปฺปาทีนํ, ตํสหิตผสฺสาทีนฺจ. อุปริ วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ อุปริฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต ตปฺปจฺจนีกนีวรณวจนํ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ เตสํ ปวตฺตินิวารณโต. สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ¶ ปฏิปกฺโข ราคปฺปณิธิยา อุชุวิปจฺจนีกภาวโต, นานารมฺมเณหิ ปโลภิตสฺส ปริพฺภมนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาธานโต จ. ปีติ พฺยาปาทสฺส ปฏิปกฺขา ปาโมชฺเชน สมานโยคกฺเขมตฺตา. วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส ปฏิปกฺโข โยนิโส สงฺกปฺปนวเสน สวิปฺผารปวตฺติโต. สุขํ อวูปสมานุตาปสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปฏิปกฺขํ วูปสนฺตสีตลสภาวตฺตา. วิจาโร วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปฏิรูปสภาวตฺตา. มหากจฺจานตฺเถเรน เทสิตํ ปิฏกานํ สํวณฺณนา เปฏกํ, ตสฺมึ เปฏเก.
ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺสาติ ¶ รูปาทิปฺจกามคุณวิเสสวิสยสฺส. อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานนฺติ พฺยาปาทวิเวกวจเนน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. ๙.๒๙; วิภ. ๙๖๐) อาทิอาฆาตวตฺถุเภทวิสยสฺส โทสสฺส, โมหาธิเกหิ ถินมิทฺธาทีหิ วิเวกวจเนน ปฏิจฺฉาทนวเสน ทุกฺขาทิปุพฺพนฺตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต. กามราคพฺยาปาทตเทกฏฺถินมิทฺธาทิวิกฺขมฺภกฺเจตํ สพฺพากุสลปฏิปกฺขสภาวตฺตา. สพฺพกุสลานํ เตน สภาเวน สพฺพากุสลปฺปหายกํ โหติ, โหนฺตมฺปิ กามราคาทิวิกฺขมฺภนสภาวเมว โหติ ตํสภาวตฺตาติ อวิเสเสตฺวา นีวรณากุสลมูลาทีนํ ‘‘วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตี’’ติ อาห.
๗๑. ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานานํ สภาวธมฺมานํ นตฺถิ กาจิ วสวตฺติตาติ วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘วิตกฺกนํ วิตกฺโก’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ ‘‘วิตกฺกนํ อีทิสมิท’’นฺติ อารมฺมณสฺส ปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหนนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ยสฺมา จิตฺตํ วิตกฺกพเลน อารมฺมณํ อภินิรุฬฺหํ วิย โหติ, ตสฺมา โส อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขโณ วุตฺโต. ยถา หิ โกจิ ราชวลฺลภํ, ตํสมฺพนฺธินํ มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อาโรหติ อนุปวิสติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ยทิ เอวํ, กถํ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหตีติ? วิตกฺกพเลเนว. ยถา หิ โส ปุริโส ปริจเยน เตน วินาปิ นิราสงฺโก ราชเคหํ ปวิสติ, เอวํ ปริจเยน วิตกฺเกน วินาปิ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ปริจเยนาติ จ สนฺตาเน ปวตฺตวิตกฺกภาวนาสงฺขาเตน ปริจเยน. วิตกฺกสฺส หิ สนฺตาเน อภิณฺหํ ปวตฺตสฺส วเสน จิตฺตสฺส อารมฺมณาภิรุหณํ จิรปริจิตํ. เตน ตํ กทาจิ วิตกฺเกน วินาปิ ตตฺถ ปวตฺตเตว. ยถา ตํ าณสหิตํ หุตฺวา สมฺมสนวเสน จิรปริจิตํ กทาจิ าณวิรหิตมฺปิ สมฺมสนวเสน ปวตฺตติ, ยถา วา กิเลสสหิตํ หุตฺวา ปวตฺตํ สพฺพโส ¶ กิเลสรหิตมฺปิ ปริจเยน กิเลสวาสนาวเสน ปวตฺตติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. อาทิโต, อภิมุขํ วา หนนํ อาหนนํ. ปริโต, ปริวตฺเตตฺวา วา อาหนนํ ปริยาหนนํ. ‘‘รูปํ รูปํ, ปถวี ปถวี’’ติ อาโกเฏนฺตสฺส วิย ปวตฺติ ‘‘อาหนนํ, ปริยาหนน’’นฺติ จ เวทิตพฺพํ. อานยนํ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ อุปนยนํ, อากฑฺฒนํ วา.
อนุสฺจรณํ ¶ อนุปริพฺภมนํ. สฺวายํ วิเสโส สนฺตานมฺหิ ลพฺภมาโน เอว สนฺตาเน ปากโฏ โหตีติ ทฏฺพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อนุมชฺชนํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อนุมสนํ, ปริมชฺชนนฺติ อตฺโถ. ตถา หิ วิจาโร ‘‘ปริมชฺชนหตฺโถ วิย, สฺจรณหตฺโถ วิยา’’ติ จ วุตฺโต. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานํ อนุโยชนํ อารมฺมเณ อนุวิจารณสงฺขาตอนุมชฺชนวเสเนว เวทิตพฺพํ. อนุปฺปพนฺธนํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อวิจฺฉินฺนสฺส วิย ปวตฺติ. ตถา หิ โส ‘‘อนุสนฺธานตา’’ติ (ธ. ส. ๘) นิทฺทิฏฺโ. เตเนว จ ‘‘ฆณฺฑานุรโว วิย, ปริพฺภมนํ วิยา’’ติ จ วุตฺโต.
กตฺถจีติ ปมชฺฌาเน, ปริตฺตจิตฺตุปฺปาเทสุ จ. วิจารโต โอฬาริกฏฺเน, วิจารสฺเสว จ ปุพฺพงฺคมฏฺเน อนุรวโต โอฬาริโก, ตสฺส จ ปุพฺพงฺคโม ฆณฺฑาภิฆาโต วิย วิตกฺโก. ยถา หิ ฆณฺฑาภิฆาโต ปมาภินิปาโต โหติ, เอวํ อารมฺมณาภิมุขนิโรปนฏฺเน วิตกฺโก เจตโส ปมาภินิปาโต โหติ. อภิฆาต-คฺคหเณน เจตฺถ อภิฆาตโช สทฺโท คหิโตติ เวทิตพฺโพ. วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต สปริปฺผนฺโท. ปริพฺภมนํ วิย ปริสฺสยาภาววีมํสนตฺถํ. อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยนฺติ อุปจาเร วา อปฺปนายํ วา สนฺตาเนน ปวตฺติยํ. ตตฺถ หิ วิตกฺโก นิจฺจโล หุตฺวา อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย ปวตฺตติ, น ปมาภินิปาเต. ปากโฏ โหตีติ วิตกฺกสฺส วิเสโส อภินิโรปนากาโร โอฬาริกตฺตา ปมชฺฌาเน ปากโฏ โหติ, ตทภาวโต ปฺจกนเย ทุติยชฺฌาเน วิจารสฺส วิเสโส อนุมชฺชนากาโร ปากโฏ โหติ.
วาลณฺฑุปกํ เอฬกโลมาทีหิ กตจุมฺพฏกํ. อุปฺปีฬนหตฺโถติ ปิณฺฑสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ. ตสฺเสว อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ. มณฺฑลนฺติ กํสภาชนาทีสุ กิฺจิ มณฺฑลํ วฏฺฏเลขํ กโรนฺตสฺส. ยถา ปุปฺผผลสาขาทิอวยววินิมุตฺโต อวิชฺชมาโนปิ รุกฺโข ‘‘สปุปฺโผ สผโล’’ติ โวหรียติ, เอวํ วิตกฺกาทิองฺควินิมุตฺตํ อวิชฺชมานมฺปิ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ โวหรียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘รุกฺโข วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฌานภาวนาย ปุคฺคลวเสน เทเสตพฺพตฺตา ¶ ‘‘อิธ ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ฌานานิ อุทฺทิฏฺานีติ. ยทิปิ วิภงฺเค ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา, อตฺโถ ปน ตตฺราปิ วิภงฺเคปิ ยถา อิธ ‘‘อิมินา ¶ จ วิตกฺเกนา’’ติอาทินา ธมฺมวเสน วุตฺโต, เอวเมว ทฏฺพฺโพ, ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺเสว อภาวโตติ อธิปฺปาโย. อตฺโถ…เป… ทฏฺพฺโพ ฌานสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารสมงฺคิตาทสฺสเนน, ฌานสฺเสว จ สวิตกฺกสวิจารตาย วุตฺตตฺตาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
วิเวกาติ วิเวกา เหตุภูตาติ วิเวก-สทฺทสฺส ภาวสาธนตํ สนฺธายาห. วิเวเกติ กตฺตุสาธนตํ, กมฺมสาธนตํ วา. ‘‘วิวิตฺโต’’ติ หิ อิมินา นีวรเณหิ วินาภูโต เตหิ วิเวจิโตติ จ สาธนทฺวยมฺปิ สงฺคหิตเมวาติ.
๗๒. ปีณยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. สมฺปิยายนลกฺขณาติ ปริตุสฺสนลกฺขณา. ปีณนรสาติ ปริพฺรูหนรสา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนรสา. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ. ขุทฺทิกา ลหุํ โลมหํสนมตฺตํ กตฺวา ภินฺนา น ปุน อุปฺปชฺชติ. ขณิกา พหุลํ อุปฺปชฺชติ. อุพฺเพคโต ผรณา นิจฺจลตฺตา, จิรฏฺิติกตฺตา จ ปณีตตรา. เจติยงฺคณํ คนฺตฺวาติ ปุณฺณวลฺลิกวิหาเร เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา. ปกติยา ทิฏฺารมฺมณวเสนาติ ปุพฺเพ มหาเจติยํ คหิตารมฺมณวเสน. จิตฺรเคณฺฑุโก วิจิตฺรากาเรน กตเคณฺฑุโก. อุปนิสฺสเยติ สมีเป, ตสฺส วา วิหารสฺส นิสฺสยภูเต, โคจรฏฺานภูเตติ อตฺโถ.
ฆราชิเรติ เคหงฺคเณ. ปพฺพตสิขเร กตเจติยํ ‘‘อากาสเจติย’’นฺติ วุตฺตํ. คหิตนิมิตฺเตเนวาติ เจติยวนฺทนํ, ธมฺมสฺสวนฺจ อุทฺทิสฺส ‘‘ธฺา วติเม’’ติอาทินา คหิตกุสลนิมิตฺเตเนว การณภูเตน. คหิตํ วา นิมิตฺตํ เอเตนาติ คหิตนิมิตฺตํ, วุตฺตากาเรน ปวตฺตจิตฺตํ, เตน คหิตนิมิตฺเตเนว จิตฺเตน สห. ปกฺขนฺทนฺติ อนุปวิฏฺํ. อนุปริปฺผุฏนฺติ อนุ อนุ สมนฺตโต ผุฏํ, สพฺพโส อนุวิสฏนฺติ อตฺโถ.
ปสฺสทฺธิยา นิมิตฺตภาเวน คพฺภํ คณฺหนฺตี. ปริปาจนวเสน ปริปากํ คจฺฉนฺตี. อปฺปนาสมฺปยุตฺตาว ปีติ อปฺปนาสมาธิปูริกา. ขณิกสมาธิปูริกา จ อุปจารสมาธิปูริกา จ อปฺปนาสมาธิสฺส วิทูรตราติ ตทุภยํ อนามสนฺโต ‘‘ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺสา’’ติอาทิมาห ¶ . สมาธิสมฺปโยคํ คตาติ ปุพฺเพ อุปจารสมาธินา สมฺปยุตฺตา หุตฺวา อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อปฺปนาสมาธินา สมฺปโยคํ คตา.
๗๓. สุขยตีติ ¶ สุขํ, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม ลทฺธสฺสาเท กโรตีติ อตฺโถ. สฺวายํ กตฺตุนิทฺเทโส ปริยายลทฺโธ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุ นิวตฺตนตฺโถ, นิปฺปริยาเยน ปน ภาวสาธนเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขนํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. อิฏฺสภาวตฺตา ตํสมงฺคีปุคฺคลํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม วา อตฺตนิ สาทยตีติ สาตํ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. สาตํ ‘‘มธุร’’นฺติ วทนฺติ. สาตํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ สาตลกฺขณํ. อุปพฺรูหนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สํวฑฺฒนํ. ทุกฺขํ วิย อวิสฺสชฺเชตฺวา อทุกฺขมสุขา วิย อนชฺฌุเปกฺขิตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ, อุปการิตา วา อนุคฺคโห. กตฺถจิ ปมชฺฌานาทิเก. ปฏิลาภตุฏฺีติ ปฏิลาภวเสน อุปฺปชฺชนกตุฏฺิ. ปฏิลทฺธรสานุภวนนฺติ ปฏิลทฺธสฺส อารมฺมณรสสฺส อนุภวนนฺติ สภาวโต ปีติสุขานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขนฺติ วิตกฺกสฺส วิย อิตเรน ปีติยา สุเขน อจฺจนฺตสํโยคมาห. ‘‘ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีตี’’ติ วิจารสฺส วิย วิตกฺเกน สุขสฺส ปีติยา อนจฺจนฺตสํโยคํ. เตน อจฺจนฺตานจฺจนฺตสํโยคิตาย ปีติสุขานํ วิเสสํ ทสฺเสติ. กํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตารํ, นิรุทกมรุฏฺานํ. วนเมว วนนฺตํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเยติ อิฏฺารมฺมณสฺส ปฏิลาภสมเย, ปฏิลทฺธสฺส รสานุภวนสมเย, วนจฺฉายาทีนํ สวนทสฺสนสมเย, ปเวสปริโภคสมเย จ. ปากฏภาวโตติ ยถากฺกมํ ปีติสุขานํ วิภูตภาวโต.
วิเวกชํ ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปุริมสฺมึ อตฺเถ วิเวกชนฺติ ฌานํ วุตฺตํ. ปีติสุขสทฺทโต จ อตฺถิอตฺถวิเสสโต ‘‘อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน’’ติ เอตฺถ อ-กาโร ทฏฺพฺโพ. ทุติเย ปีติสุขเมว วิเวกชํ. ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติ จ อฺปทตฺถสมาโส, ปจฺจตฺตนิทฺเทสสฺส จ อโลโป กโต. โลเป วา สติ ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ ปาโติ อยํ วิเสโส.
อุปสมฺปชฺชาติ เอตฺถ อุป-สํ-สทฺทา ‘‘อุปลพฺภติ, สํภฺุชตี’’ติอาทีสุ วิย นิรตฺถกาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปคนฺตฺวา’’ติอาทึ วตฺวา ปุน เตสํ สาตฺถกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปสมฺปาทยิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา ปตฺวา, สาเธตฺวาติ วา อตฺโถ. อิริยนฺติ กิริยํ. วุตฺติอาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ปาลนาติ หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อิริยาปถนฺตเรหิ รกฺขณา.
ปฺจงฺควิปฺปหีนาทิวณฺณนา
๗๔. ปฺจ ¶ ¶ องฺคานิ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนานิ เอตสฺสาติ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ. ‘‘อคฺยาหิโต’’ติ เอตฺถ อาหิต-สทฺทสฺส วิย วิปฺปหีน-สทฺทสฺเสตฺถ ปรวจนํ ทฏฺพฺพํ, ปฺจหิ องฺเคหิ วิปฺปหีนนฺติ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ. นนุ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา อิมินา ฌาเนน ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ปฺจงฺควิปฺปหีนตาว วุจฺจตีติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. ฌานลาภิโนปิ อฌานสมงฺคิกาเล ฌานปฏิปกฺขโลภจิตฺตาทีนํ ปวตฺติสพฺภาวโต ‘‘ฌานกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ. ปหียนฺตีติ วิคจฺฉนฺติ, นปฺปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. เอกตฺตารมฺมเณติ ปถวีกสิณาทิวเสน เอกสภาเว, เอกคฺคตาสงฺขาเต เอกตฺตาวเห วา อารมฺมเณ. ตนฺติ ตํ นานาวิสยปโลภิตํ จิตฺตํ. กามธาตุปฺปหานายาติ นานาวิสยสมูปพฺยูฬฺหาย กามธาตุยา ปหานาย สมติกฺกมาย ปฏิปทํ ฌานํ นปฺปฏิปชฺชติ. นิรนฺตรนฺติ วิกฺเขเปน อนนฺตริตํ, สหิตนฺติ อตฺโถ. อกมฺมฺนฺติ อกมฺมนียํ, ภาวนากมฺมสฺส อโยคฺยนฺติ อตฺโถ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตนฺติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจน อภิภูตํ. ปริพฺภมติ อนวฏฺานโต, อวฏฺานสฺส สมาธานสฺส อภาวโตติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตนฺติ สาติสยสฺส วิจารสฺส อภาวโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ นุ โข ภควา, น นุ โข’’ติ, ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา มนสิกาเรน, ‘‘ฌานํ สิยา นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา จ ปวตฺตาย วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ. นาโรหติ อปฺปฏิปตฺตินิมิตฺตตฺตา. วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตาติ สมาธิอาทีนํ อุชุวิปจฺจนีกภาเวน ฌานาธิคมสฺส อนฺตรายกรณโต.
เตหีติ ฌานาธิคมสฺส ปจฺจยภูเตหิ วิตกฺกวิจาเรหิ. อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปฺปโยคสฺสาติ ตโต เอวํ สมาธานาย นิปฺผาทิตภาวนาปโยคสฺส. เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวาติ ยถาวุตฺตภาวนาปโยคสมฺปตฺติสมุฏฺานา. ปีติ ปีณนํ ภาวนาวเสน ตปฺปนํ. อุปพฺรูหนํ ภาวนาวเสน ปริวุทฺธึ เจตโส กโรตีติ สมฺพนฺโธ. นนฺติ จิตฺตํ. สเสสสมฺปยุตฺตธมฺมนฺติ อวสิฏฺผสฺสาทิธมฺมสหิตํ, สมํ สมฺมา จ อาธิยตีติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยสมตาวเสน สมํ, ปฏิปกฺขธมฺมานํ. ทูรีภาเว ลีนุทฺธจฺจาภาเวน สมฺมา จ เปตีติ อตฺโถ. เอกคฺคตา หิ สมาธานกิจฺเจน จิตฺตํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตี ฌานกฺขเณ สาติสยํ สมาหิเต กโรตีติ. อุปฺปตฺติวเสนาติ ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชนวเสน ¶ . เอเตสุ ¶ วิตกฺกาทีสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ ตตฺเถว ฌานโวหารโต. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทินาปิ อุปมาวเสน ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ.
ปกติจิตฺตโตติ ปากติกกามาวจรจิตฺตโต. สุวิสเทนาติ สุฏฺุ วิสเทน, ปฏุตเรนาติ อตฺโถ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพาวยววนฺตํ, อนวเสสนฺติ อตฺโถ. อปฺผุฏนฺติ อสมฺผุฏฺํ. อารมฺมเณสุ ผุสิตาติ อปฺปนาวเสน ปวตฺตมานา จิตฺเตกคฺคตา สมนฺตโต อารมฺมณํ ผรนฺตี วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตฺถ ฌานปาเ อคฺคหิตา จิตฺเตกคฺคตา คหิตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ฌานงฺเคสุ. น นิทฺทิฏฺาติ สรูปโต น นิทฺทิฏฺา, สามฺโต ปน ฌานคฺคหเณน คหิตา. เอวํ วุตฺตตฺตาติ สรูเปเนว วุตฺตตฺตา, องฺคเมว จิตฺเตกคฺคตาติ สมฺพนฺโธ. เยน อธิปฺปาเยนาติ เยน วิตกฺกาทีหิ สห วตฺตนฺตํ ธมฺมํ ทีเปตุํ ตสฺส ปกาสนาธิปฺปาเยน ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทินา อุทฺเทโส กโต. โส เอว อธิปฺปาโย เตน ภควตา วิภงฺเค ‘‘จิตฺเตกคฺคตา’’ติ นิทฺทิสนฺเตน ปกาสิโต. ตสฺมา สา ฌานปาเ อคฺคหิตาติ น จินฺเตตพฺพํ.
ติวิธกลฺยาณวณฺณนา
๗๕. อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนาติ ฌานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน. ลกฺขณวเสนาติ เตสํเยว อปฺปนายํ ลกฺขิตพฺพภาววเสน.
ตตฺราติ ตสฺมึ กลฺยาณตาลกฺขณานํ วิภาวเน. ปฏิปทาวิสุทฺธีติ ปฏิปชฺชติ ฌานํ เอตายาติ ปฏิปทา, โคตฺรภุปริโยสาโน ปุพฺพภาคิโย ภาวนานโย. ปริปนฺถโต วิสุชฺฌนํ วิสุทฺธิ, ปฏิปทาย วิสุทฺธิ ปฏิปทาวิสุทฺธิ. สา ปนายํ ยสฺมา ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ฌานปริยาปนฺนาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา. สา ปนายํ วิเสสโต ฌานสฺส ิติกฺขเณ ลพฺภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. สมฺปหํสนาติ ตตฺถ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา. สา ปน ยสฺมา ฌานสฺส โอสานกฺขเณ ปากฏา โหติ ¶ , ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานีติ ปริปนฺถโต จิตฺตสฺส วิสุชฺฌนากาโร ¶ , มชฺฌิมสฺส สมถนิมิตฺตสฺส ปฏิปชฺชนากาโร, ตตฺถ ปกฺขนฺทนากาโรติ อิมานิ ตีณิ ฌานสฺส อาทิโต อุปฺปาทกฺขเณ อปฺปนาปตฺติลกฺขณานิ เตหิ อากาเรหิ วินา อปฺปนาปตฺติยา อภาวโต, อสติ จ อปฺปนาย ตทภาวโต. อาทิกลฺยาณฺเจว วิสุทฺธิปฏิปทตฺตา. ยถาวุตฺเตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคตตฺตา, สมฺปนฺนลกฺขณตฺตา จ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. อิมินา นเยน มชฺฌปริโยสานลกฺขณานฺจ โยชนา เวทิตพฺพา.
สมฺภรียติ ฌานํ เอเตนาติ สมฺภาโร, นานาวชฺชนปริกมฺมํ. สห สมฺภาเรนาติ สสมฺภาโร, โส เอว สสมฺภาริโก. อุปจาโรติ เอกาวชฺชนูปจารมาห. ปคฺคหาทิกิจฺจสฺส ปุพฺพภาเค ภาวนาย เอว สาธิตตฺตา ยา ตตฺถ เอกาวชฺชนูปจาเร สิทฺธา อชฺฌุเปกฺขนา, สา ฌานกฺขเณ ปริพฺรูหิตา นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา’’ติ. ยถาธิคตํ ฌานํ นิสฺสาย โย ปหฏฺากาโร จิตฺตสฺส ปริโตโส, ตํ ปจฺจเวกฺขณาวเสน ปวตฺตํ สนฺธายาห ‘‘สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ. เอเกติ อภยคิริวาสิโน. เต หิ เอวํ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทิเก วณฺณยนฺติ, ตทยุตฺตํ. ตถา หิ สติ อชฺฌานธมฺเมหิ ฌานสฺส คุณสํกิตฺตนํ นาม กตํ โหติ. น หิ ภูมนฺตรํ ภูมนฺตรปริยาปนฺนํ โหติ. ปาฬิยา เจตํ วิรุทฺธนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกตฺตคตํ จิตฺตนฺติ อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน, เอกคฺคตาย จ สิขาปฺปตฺติยา ตทนุคุณํ เอกตฺตํ คตนฺติ เอกตฺตคตํ, สสมฺปยุตฺตํ อปฺปนาปตฺตจิตฺตํ. ตสฺเสว ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทตาทิ อนนฺตรเมว วุจฺจติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกสฺมึเยว อปฺปนาจิตฺตกฺขเณ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อาคมนวเสนาติ ปริกมฺมาคมนวเสน. อนติวตฺตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริเยกรสตาตทุปควีริยวาหนาเสวนานิ สงฺคณฺหาติ. ปริโยทาปกสฺสาติ ปริโสธกสฺส ปภสฺสรภาวกรสฺส. อนติวตฺตนาทิภาวสาธนเมว เจตฺถ าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ เวทิตพฺพา.
ตสฺมินฺติ ตสฺมึ วาเร, จตุปฺจจิตฺตปริมาณาย อปฺปนาวีถิยนฺติ อตฺโถ. ตโต ปริปนฺถโต. จิตฺตํ วิสุชฺฌตีติ ยทิปิ อาคมนํ คเหตุํ อวิเสเสน วิย วุตฺตํ, ปริกมฺมวิสุทฺธิโต ปน อปฺปนาวิสุทฺธิ สาติสยาว. เตนาห ‘‘วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ. อาวรณวิรหิตํ หุตฺวาติ เยนาวรเณน ¶ อาวฏตฺตา จิตฺตํ ตโต ปุพฺเพ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชิตุํ น สกฺโกติ, เตน วิวิตฺตํ หุตฺวา, ตํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อตฺโถ. ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตานํ อุภินฺนํ อนฺตานํ อนุปคมเนน มชฺฌิโม, สวิเสสํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วูปสมนโต ¶ สมโถ, โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต นิมิตฺตฺจาติ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ. เตนาห ‘‘สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยวา’’ติ. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตนฺติ ตสฺส อปฺปนาจิตฺตสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ ปุริมํ จิตฺตํ, โคตฺรภุจิตฺตนฺติ อตฺโถ. เอกสนฺตติปริณามนเยนาติ ยถา ‘‘ตเทว ขีรํ ทธิสมฺปนฺน’’นฺติ, เอวํ สติปิ ปริตฺตมหคฺคตภาวเภเท, ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวเภเท จ เอกิสฺสา เอว สนฺตติยา ปริณามูปคมนนเยน เอกตฺตนยวเสน. ตถตฺตนฺติ ตถภาวํ อปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิตภาวํ. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตาติ วุตฺตากาเรน ปฏิปชฺชมานตฺตา. ยสฺมิฺหิ ขเณ ตถตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺมึเยว ขเณ ตถตฺตุปคมเนน อปฺปนาสมาธินา สมาหิตภาวูปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. ปุริมจิตฺเตติ อปฺปนาจิตฺตสฺส ปุริมสฺมึ จิตฺเต โคตฺรภุจิตฺเต. วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกาติ ตสฺมึ จิตฺเต วิชฺชมานานํ ปริปนฺถวิสุทฺธิมชฺฌิมสมถปฏิปตฺติปกฺขนฺทนาการานํ นิปฺผาทิกา, เตนากาเรน นิปฺผชฺชมานาติ อตฺโถ. เตเยว หิ อาการา ปจฺจยวิเสสโต ฌานกฺขเณ นิปฺผชฺชมานา ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธี’’ติ ลทฺธสมฺา ฌานสฺส ตํ วิเสสํ นิปฺผาเทนฺตา วิย วุตฺตา. อุปฺปาทกฺขเณเยวาติ อตฺตลาภเวลายเมว. ยทิ เอวํ, กถํ เต อาการา นิปฺผชฺชนฺตีติ อาห ‘‘อาคมนวเสนา’’ติ.
ตสฺสาติ จิตฺตสฺส. ‘‘วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ ปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) ปุคฺคลาธิฏฺาเนน อาคตาติ ‘‘พฺยาปารํ อกโรนฺโต’’ติ อาห. สมถปฏิปตฺติตถตฺตุปคมนฺจ อิธ สมถภาวาปตฺติเยวาติ อาห ‘‘สมถภาวูปคมเนนา’’ติ. กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺสาติ ปุพฺเพ ‘‘กถํ นุ โข กิเลสสํสคฺคํ ปชเหยฺย’’นฺติ ปฏิปนฺนสฺส อิทานิ สมถปฏิปตฺติยา ตสฺส ปหีนตฺตา กิเลสสงฺคณิกาภาเวน เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ฌานจิตฺตสฺส. ปริปนฺถวิสุทฺธิมชฺฌิมสมถปฏิปตฺติปกฺขนฺทเนหิ วุทฺธิปฺปตฺติยา อนุพฺรูหิเต ฌานจิตฺเต ลทฺโธกาสา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา สมฺปยุตฺเตสุ สมวาหิตภาเวน ปวตฺตมานา เต อนุพฺรูเหนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา’’ติ.
เย ¶ ปเนเต ยุคนทฺธธมฺมาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ฌานจิตฺเต. อฺมฺานติวตฺตนวเสน กิจฺจกรณโต ยุเค นทฺธา พทฺธา วิย ยุคนทฺธา. วิมุตฺติรเสนาติ วิมุจฺจนกิจฺเจน, วิมุจฺจนสมฺปตฺติยา วา. เอส โยคี. วาหยตีติ ปวตฺเตติ. อสฺสาติ ฌานจิตฺตสฺส. ตสฺมึ ขเณติ ภงฺคกฺขเณ. อุปฺปาทกฺขเณ อตีเต หิ ิติกฺขณโต ปฏฺาย อาเสวนา ¶ ปวตฺตติ นาม. เต อาการาติ อฺมฺานติวตฺตนาทโย ตตฺถ ธมฺมานํ ปวตฺติอาการา. อาเสวนาปิ หิ อาเสวนปจฺจยภาวีนํ ธมฺมานํ ปวตฺติอากาโรเยว. สํกิเลสโวทาเนสูติ สมาธิปฺานํ สมรสตาย อกรณํ ภาวนาย สํกิเลโส, กรณํ โวทานํ. ตถา เสเสสุปิ. เอวเมเตสุ สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวํ โทสํ อานิสํสํ คุณํ ปุเรตรํ ปาฏิหาริยาเณน ทิสฺวา ยถา อฺมฺานติวตฺตนาทโย โหนฺติ, ตถา ภาวนาย สมฺปหํสิตตฺตา เตเนว าเณน วิโสธิตตฺตา. วิโสธนํ เหตฺถ สมฺปหํสนํ. เต อาการา ยสฺมา นิปฺผนฺนา, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ…เป… เวทิตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ ลกฺขณสํวณฺณนาย อาทิมฺหิ วุตฺตํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ.
‘‘ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตี’’ติ โก สมฺพนฺโธ. กสฺมา สมฺปหํสนาว ปริโยสานนฺติ วุตฺตา, น อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ โจทนํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภาวนาจิตฺเต. อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตีติ อปฺปนากาเล ภาวนาย สมปฺปวตฺติยา, ปฏิปกฺขสฺส จ ปหานโต ปคฺคหาทีสุ พฺยาปารสฺส อกาตพฺพโต อชฺฌุเปกฺขนาว โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมเย จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนา, วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ จ อาทิ. สา ปนายํ อชฺฌุเปกฺขนา าณสฺส กิจฺจสิทฺธิยา โหติ, วิเสสโต าณสาธนตฺตา อปฺปนาพฺยาปารสฺสาติ ผเลน การณานุมานาเยน. ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสานนฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา สมตฺเถตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถาปคฺคหิตํ จิตฺตนฺติ ยถา ภาวนาจิตฺตํ โกสชฺชปกฺเข น ปตติ, ตถา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ พหุลีการวเสน ปคฺคหิตํ. สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ปคฺคณฺหนฺเตนาปิ สมาธิสฺส วีริยสมตาโยชนวเสน ปคฺคหิตตฺตา สกฺกจฺจํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา โอกาสํ ¶ ลภติ. ตํ ปน อชฺฌุเปกฺขนํ อุเปกฺขาวเสน ปุพฺเพ ปวตฺตปาริหาริยปฺาวเสน อปฺปนาปฺาย กิจฺจาธิกตาติ อาห ‘‘ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ. ตสฺส อธิมตฺตตฺตา เอว อชฺฌุเปกฺขนฺตสฺเสว นานาสภาเวหิ นีวรณปมุเขหิ กิเลเสหิ อปฺปนาจิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิโมกฺขวเสน วิมุจฺจนวเสน. ปฺาวเสนาติ ปุพฺเพ ปวตฺตปาริหาริยปฺาวเสน. วิมุตฺตตฺตาติ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา เอว. เต ธมฺมา สทฺธาทโย, วิเสสโต สทฺธาปฺาวีริยสมาธโย ¶ จ เอกรสา สมานกิจฺจา โหนฺติ. เอวมยํ อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ภาวนา นิปฺผชฺชมานา าณพฺยาปาโรติ อาห ‘‘าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. เอวํ ติวิธาย ปฏิปทาวิสุทฺธิยา ลทฺธวิเสสาย ติวิธาย อุเปกฺขานุพฺรูหนาย สาติสยํ ปฺินฺทฺริยสฺส อธิมุตฺตภาเวน จตุพฺพิธาปิ สมฺปหํสนา สิชฺฌตีติ อาคมนุเปกฺขา าณกิจฺจวเสน ทสปิ อาการา ฌาเน เอว เวทิตพฺพา.
คณนานุปุพฺพตาติ คณนานุปุพฺพตาย, คณนานุปุพฺพตามตฺตํ วา ปมนฺติ อิทนฺติ อตฺโถ. เตน เทสนากฺกมํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘ปมํ อุปฺปนฺนนฺติ ปม’’นฺติ อิมินา ปฏิปตฺติกฺกมํ, อุปฺปนฺนนฺติ หิ อธิคตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปมํ สมาปชฺชิตพฺพนฺติ ปม’’นฺติ อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณนฺติ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖๐) ปฏิสิทฺธตฺตา อิธ น คหิตํ. อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ ทุวิเธ ฌาเน อิธาธิปฺเปตชฺฌานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณูปนิชฺฌานโต’’ติ วุตฺตํ. ปถวีกสิณสงฺขาตสฺส อตฺตโน อตฺตโน อารมฺมณสฺส รูปํ วิย จกฺขุนา อุปนิชฺฌายนโต. ปจฺจนีกฌาปนโตติ นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ ทหนโต วิกฺขมฺภนวเสน ปชหนโต. สกลฏฺเนาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน กเต วา อกเต วา ปริจฺฉิชฺช คหิเต ปถวีภาเค ปถวีมณฺฑเล สกลารมฺมณกรณฏฺเน. น หิ ตสฺส เอกเทสมารมฺมณํ กรียติ. ปถวีกสิณสนฺนิสฺสยตาย นิมิตฺตํ ปถวีกสิณํ ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตํสหจรณโต ฌานํ ปถวีกสิณํ ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ.
จิรฏฺิติสมฺปาทนวณฺณนา
๗๖. ลกฺขฏฺาเน ิตํ สเรน วาลํ วิชฺฌตีติ วาลเวธี. อิธ ปน อเนกธา ภินฺนสฺส วาลสฺส อํสุํ วิชฺฌนฺโต ‘‘วาลเวธี’’ติ อธิปฺเปโต. เตน ¶ วาลเวธินา. สูเทนาติ ภตฺตกาเรน. ‘‘อาการา ปริคฺคเหตพฺพา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุกุสโลติ สุฏฺุ เฉโก. ธนุคฺคโหติ อิสฺสาโส. กมฺมนฺติ โยคฺยํ. อกฺกนฺตปทานนฺติ วิชฺฌนกาเล อกฺกมนวเสน ปวตฺตปทานํ. อาการนฺติ ธนุชิยาสรานํ คหิตาการํ. ปริคฺคณฺเหยฺยาติ อุปธาเรยฺย. โภชนสปฺปายาทโยติ อาทิ-สทฺโท อวุตฺตาการานมฺปิ สงฺคาหโก ทฏฺพฺโพ. เตน อุตุภาวนานิมิตฺตาทีนมฺปิ ปริคฺคณฺหนํ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ตรุณสมาธิมฺหิ.
ภตฺตารนฺติ ¶ สามินํ, ภตฺตเวตนาทีหิ โปสกนฺติ อตฺโถ. ปริวิสนฺโตติ โภเชนฺโต. ตสฺส รุจฺจิตฺวา ภฺุชนาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส อุปนาเมนฺโตติ โยชนา. อยมฺปิ โยคี. อธิคตกฺขเณ โภชนาทโย อากาเรติ ปุพฺเพ ฌานสฺส อธิคตกฺขเณ กิจฺจสาธเก โภชนาทิคเต อากาเร. คเหตฺวาติ ปริคฺคเหตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา. นฏฺเ นฏฺเ สมาธิมฺหิ ปุนปฺปุนํ อปฺปนาย.
มหานสวิชฺชาปริจเยน ปณฺฑิโต. ตตฺถ วิสทาณตาย พฺยตฺโต. านุปฺปตฺติกกโอสลฺลโยเคน กุสโล. นานจฺจเยหีติ นานจฺจเยหิ นานาสภาเวหิ, นานารเสหีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อมฺพิลคฺเคหี’’ติอาทิ. สูเปหีติ พฺยฺชเนหิ. อมฺพิลคฺเคหีติ อมฺพิลโกฏฺาเสหิ, เย วา อมฺพิลรสา หุตฺวา อคฺคภูตา, เตหิ จตุรมฺพิลาทิมิสฺเสหิ. เอส นโย ติตฺตกคฺคาทีสุปิ. ขาริเกหีติ วาติงฺคณกฬีราทิมิสฺเสหิ. นิมิตฺตนฺติ อาการํ รุจฺจนวเสน ภฺุชนาการํ. อุคฺคณฺหาตีติ อุปรูปริ คณฺหาติ อุปธาเรติ. อิมสฺส วา สูเปยฺยสฺส อตฺถาย หตฺถํ อภิหรติ. อภิหารานนฺติ อภิมุเขน หริตพฺพานํ ปณฺณาการานํ, ปูชาภิหารานํ วา. นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาตีติ ‘‘เอวํ เม จิตฺตํ สมาหิตํ อโหสี’’ติ นิมิตฺตํ คณฺหาติ สลฺลกฺเขติ.
สมาธิปริปนฺถานนฺติ สมาธิสฺส ปริปนฺถภูตานํ. ธมฺมานนฺติ กามจฺฉนฺทาทินีวรณธมฺมานํ. สุวิโสธิตตฺตาติ สุฏฺุ วิโสธิตตฺตา, วิกฺขมฺภนวเสเนว สมฺมเทว ปหีนตฺตาติ อตฺโถ. กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อสุภมนสิการเนกฺขมฺมานิสํสปจฺจเวกฺขณาทีนิ สงฺคณฺหาติ. เนกฺขมฺมคุณทสฺสเนนาปิ ¶ หิ ตสฺส วิพนฺธภูเต กามจฺฉนฺเท อาทีนโว วิเสสโต ปากโฏ โหตีติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ กายทรถํ สารทฺธกายตํ. เตน กายจิตฺตานํ สารมฺภนิมิตฺตสฺส พฺยาปาทนีวรณสฺส น วิโสธนมาห. อารมฺภธาตุมนสิการาทีติ อาทิ-สทฺเทน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคนิมิตฺตานํ, อาโลกสฺาทีนฺจ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สมถนิมิตฺตมนสิการาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อฺเปิ สมาธิปริปนฺเถติ วิจิกิจฺฉาฏฺานิเย, มทมานาทิเก จ สนฺธายาห. อาสยนฺติ วสนกสุสิรํ. สุปริสุทฺธนฺติ อาสงฺกนียตฺตาภาเวน สุฏฺุ ปริสุทฺธํ. เอตฺถาห – นนุ จายํ ปเคว กามาทีนวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมถปฏิปทํ ปฏิปนฺโน อุปจารกฺขเณเยว ฌาเนน นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตานิ, อถ กสฺมา ปุน กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทิ คหิตนฺติ? สจฺจเมตํ. ตํ ปน ปหานมตฺตนฺติ ฌานสฺส จิรฏฺิติยา อติสยปหานตฺถํ ปุน คหิตํ.
อุทฺธจฺจ ¶ มิทฺธนฺติ กุกฺกุจฺจํ, ถินฺจ ตเทกฏฺตาย คหิตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ. สุทฺธนฺตคโตติ สุปริสุทฺธปริยนฺตํ สพฺพโส วิโสธิตโกณปริยนฺตํ อุยฺยานํ คโต. ตหึ รเมติ ตสฺมึ ฌาเน รเมยฺย ทิวสภาคมฺปิ ฌานสมงฺคี เอว ภเวยฺย.
จิตฺตภาวนาเวปุลฺลตฺถนฺติ สมาธิภาวนาย วิปุลภาวาย. ยถา หิ ภาวนาวเสน นิมิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ, เอวมสฺส ภาวนาวเสเนว วฑฺฒนมฺปิ. ตสฺมา เอกงฺคุลาทิวเสน นิมิตฺตํ วฑฺเฒนฺตสฺส ปุนปฺปุนํ พหุลีกาเรน ฌานํ ภาวนาปิ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตภาวนาเวปุลฺลตฺถฺจ ยถาลทฺธํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติ. ตสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส.
นิมิตฺตวฑฺฒนนยวณฺณนา
๗๗. ตตฺราติ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺสาติ อตฺโถ. อวฑฺเฒตฺวาติ ยถา กุมฺภกาโร มตฺติกาย ปตฺตํ กโรนฺโต ปมํ อปริจฺฉินฺทิตฺวาว ปตฺตํ วฑฺเฒติ, เอวํ ปตฺตวฑฺฒนโยเคน ปตฺตวฑฺฒนยุตฺติยา อวฑฺเฒตฺวา ปูวิกสฺส ปูววฑฺฒนํ. ภตฺตสฺส อุปริ ภตฺตปกฺขิปนํ ภตฺตวฑฺฒนํ. วตฺถสฺส ตินฺตสฺส อฺฉนาทิ ทุสฺสวฑฺฒนํ. ปจฺเจกํ โยค-สทฺโท โยเชตพฺโพ. อปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ น วฑฺเฒตพฺพํ สปริจฺเฉเท เอว ภาวนาปวตฺติโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สานฺตเก โน อนนฺตเก’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕).
หํสโปตกาติ ชวนหํสโปตกา. อุกฺกูลํ อุนฺนตฏฺานํ. วิกูลํ นินฺนฏฺานํ. นทีโสเตน กตํ วิทุคฺคํ นทีวิทุคฺคํ. วิสมากาเรน ิโต ปพฺพตปเทโส ปพฺพตวิสโม.
ถูลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ ปจฺจเวกฺขณาพาหุลฺเลน วิภูตภาวโต. ทุพฺพลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ ปคุณพลวภาวสฺส อนาปาทิกตฺตา. อุปริ อุสฺสุกฺกนายาติ ภาวนาย อุปริ อาโรหนาย, ทุติยชฺฌานาธิคมายาติ อตฺโถ.
ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพเต พหุลจารินี. อเขตฺตฺูติ อโคจรฺู. สมาธิปริปนฺถานํ วิโสธนานภิฺาตาย พาโล. ฌานสฺส ปคุณภาวาปาทนเวยฺยตฺติยสฺส อภาเวน อพฺยตฺโต. อุปริฌานสฺส ¶ ปทฏฺานภาวานวโพเธน อเขตฺตฺู. สพฺพถาปิ สมาปตฺติโกสลฺลาภาเวน อกุสโล. สมาธินิมิตฺตสฺส วา อนาเสวนาย พาโล. อภาวนาย อพฺยตฺโต. อพหุลีกาเรน อเขตฺตฺู. สมฺมเทว อนธิฏฺานโต อกุสโลติ โยเชตพฺพํ. อุภโต ภฏฺโติ อุภยโต ฌานโต ภฏฺโ. โส หิ อปฺปคุณตาย น สุปฺปติฏฺิตตาย สอุสฺสาโหปิ วินาสโต, อสามตฺถิยโต จ ฌานทฺวยโต ปริหีโน. จิณฺณวสินาติ อาเสวิตวสินา.
ปฺจวสีกถาวณฺณนา
๗๘. วสนํ วสีติ ธาตุนิทฺเทสตาย กิริยานิทฺเทโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วสิโย’’ติ, ยถารุจิ ปวตฺติโยติ อตฺโถ. อาวชฺชนาย วสี, อาวชฺชนาวเสน วา วสี อาวชฺชนวสี. ฌานํ อาวชฺชิตุํ ยตฺถ ยตฺถ ปเทเส อิจฺฉา ยตฺถิจฺฉกํ. ยทา ยทา, ยสฺมึ ยสฺมึ วา ฌานงฺเค อิจฺฉา ยทิจฺฉกํ. ยาว ยาว อิจฺฉา ยาวทิจฺฉกํ, ท-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘ยาวา’’ติ จ อิทํ พหูนํ ชวนวารานํ นิรนฺตรํ วิย ตถาปวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เอกเมว. โส หิ ปริจฺฉินฺนจิตฺตกฺขโณติ. อาวชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ วุตฺตนเยน ยตฺถ กตฺถจิ าเน ยทา ยทา ¶ ยํ กิฺจิ ฌานงฺคํ อาวชฺเชนฺตสฺส ยถิจฺฉิตํ กาลํ อาวชฺชนาย อาวชฺชนปฺปวตฺติยา ทนฺธายิตตฺตํ วิตฺถายิตตฺตํ, จิรายิตตฺตํ วา นตฺถิ. เอวํ อาวชฺชนวสี สิทฺธา นาม โหตีติ อตฺโถ. เสสาติ วุฏฺานอธิฏฺานปจฺจเวกฺขณาวสิโย.
องฺคสมุทายภาวโต ฌานสฺส ฌาเน อาวชฺชนวสึ นิปฺผาเทตุกาเมน ปฏิปาฏิยา ฌานงฺคานิ อาวชฺเชตพฺพานีติ อาห ‘‘ปมํ วิตกฺกํ อาวชฺชยโต’’ติ. ยทิปิ อาวชฺชนเมเวตฺถ อิจฺฉิตํ อาวชฺชนวสิยา อธิปฺเปตตฺตา, อาวชฺชนาย ปน อุปฺปนฺนาย ชวเนหิ ภวิตพฺพํ. ตานิ จ โข อาวชฺชนตปฺปรตาย จิตฺตาภินีหารสฺส ยถาวชฺชิตฌานงฺคารมฺมณานิ กติปยาเนว โหนฺติ, น ปริปุณฺณานีติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺตี’’ติ. จตฺตาริ ติกฺขินฺทฺริยสฺส. ปฺจ นาติติกฺขินฺทฺริยสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. นิรนฺตรนฺติ วิสภาเคหิ นิรนฺตรํ. อยํ ปนาติ ภวงฺคทฺวยนฺตริตา จตุชวนจิตฺตา ยถาวุตฺตา อาวชฺชนวสี. อฺเสํ วา ธมฺมเสนาปติอาทีนํ. เอวรูเป กาเลติ อุฏฺาย สมุฏฺาย ลหุตรํ อาวชฺชนวสีนิพฺพตฺตนกาเล. สา จ โข อิตฺตรา ปริตฺตกาลา, น สตฺถุ ยมกมหาปาฏิหาริเย วิย ¶ จิรตรปฺปพนฺธวตี. ตถา หิ ตํ สาวเกหิ อสาธารณํ วุตฺตํ. อธิคเมน สมํ สสมฺปยุตฺตสฺส ฌานสฺส สมฺมา อาปชฺชนํ ปฏิปชฺชนํ สมาปชฺชนํ, ฌานสมงฺคิตา.
สีฆนฺติ เอตฺถ สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ ทฺวีสุ ภวงฺเคสุ อุปฺปนฺเนสุ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ สมาปชฺชนํ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา. อยฺจ มตฺถกปฺปตฺตา สมาปชฺชนวสี สตฺถุ ธมฺมเทสนายํ ลพฺภติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสา เอว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามิ เยนสฺสุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗). อิโต สีฆตรา หิ สมาปชฺชนวสี นาม นตฺถิ. ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺตสฺส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ยกฺเขน มหนฺตมฺปิ ปพฺพตกูฏํ ปทาเลตุํ สมตฺเถ ปหาเร สีเส ทินฺเน สมาปชฺชนมฺเปตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ตทา เถโร ตสฺส ปหรณสมเย สมาปตฺตึ อปฺเปสี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๔). ปาฬิยํ ปน ‘‘อฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺโน’’ติ (อุทา. ๓๔) วุตฺตํ. อิเม ปน เถรา ¶ ‘‘สมาปตฺติโต วุฏฺานสมกาลํ เตน ปหาโร ทินฺโน’’ติ วทนฺติ.
อจฺฉรามตฺตนฺติ องฺคุลิโผฏมตฺตํ ขณํ. เปตุนฺติ เสตุ วิย สีฆโสตาย นทิยา โอฆํ เวเคน ปวตฺติตุํ อทตฺวา ยถาวุตฺตกฺขณํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา. อภิภุยฺย ปนํ, อธิฏฺานํ วิยาติ วา อธิฏฺานํ. ตตฺถ วสี อธิฏฺานวสี. ตเถว ลหุํ วุฏฺาตุนฺติ อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ลหุํ ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺาตุํ สมตฺถตา. ภวงฺคจิตฺตุปฺปตฺติเยว เหตฺถ ฌานโต วุฏฺานํ นาม. เอตฺถ จ ยถา ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานํ เปสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน อธิฏฺานสมตฺถตา อธิฏฺานวสี, เอวํ ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสี เวทิตพฺพา, ยา สมาปตฺติ ‘‘วุฏฺานกุสลตา’’ติ วุจฺจติ. ตทุภยทสฺสนตฺถนฺติ อธิฏฺานวุฏฺานวสีทสฺสนตฺถํ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ นิมฺมิตปพฺพเต ตสฺส วิวเร. กิฺจาปิ เอกํเยว ตํ อภิฺาจิตฺตํ เยน ปพฺพตํ นิมฺมิเนยฺย, อภิฺาปาทกสฺส ปน ฌานสฺส ลหุตรํ ปนํ, วุฏฺานฺจ อิธ นิทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอตฺตกา อิทฺธิมนฺตา เอกํ อุปฏฺากํ ครุฬโต รกฺขิตุํ น สกฺขึสู’’ติ คารยฺหา อสฺสาม.
อาวชฺชนานนฺตรานีติ ¶ อาวชฺชนวสีภาวาย ยถากฺกมํ วิตกฺกาทีนํ ฌานงฺคานํ อาวชฺชนาย ปรโต ยานิ ชวนานิ ปวตฺตานิ, ตานิ เตสํ ปจฺจเวกฺขณานิ. ยทคฺเคน อาวชฺชนวสีสิทฺธิ, ตทคฺเคน ปจฺจเวกฺขณาวสีสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๗๙. นีวรณปฺปหานสฺส ตปฺปมตาย อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกา. ถูลํ นาม วิปุลมฺปิ เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียนฺติ อาห ‘‘โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ. สนฺตโต มนสิ กริตฺวาติ ปมชฺฌานํ วิย อโนฬาริกงฺคตฺตา, สนฺตธมฺมสมงฺคิตาย จ ‘‘สนฺต’’นฺติ มนสิ กตฺวา. เย หิ ธมฺมา ทุติยชฺฌาเน ปีติสุขาทโย, กามํ เต ปมชฺฌาเนปิ สนฺติ, เตหิ ปน เต สนฺตตรา เจว ปณีตตรา จ ภวนฺตีติ. นิกนฺตินฺติ นิกามนํ, อเปกฺขนฺติ ¶ อตฺโถ. ปริยาทายาติ เขเปตฺวา. จตฺตาริ ปฺจาติ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทุติยชฺฌานํ เอตสฺส อตฺถีติ ทุติยชฺฌานิกํ. วุตฺตปฺปการาเนวาติ ปมชฺฌาเน วุตฺตปฺปการานิเยว, ปริกมฺมาทินามกานีติ อตฺโถ.
๘๐. วูปสมาติ วูปสมเหตุ, วูปสโมติ เจตฺถ ปหานํ อธิปฺเปตํ, ตฺจ วิตกฺกวิจารานํ. อติกฺกโม อตฺถโต ทุติยชฺฌานกฺขเณ อนุปฺปาโทติ อาห ‘‘สมติกฺกมา’’ติอาทิ. กตเมสํ ปเนตฺถ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อธิปฺเปโต, กึ ปมชฺฌานิกานํ, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกานนฺติ. กิฺเจตฺถ ยทิ ปมชฺฌานิกานํ, นตฺถิ เตสํ วูปสโม. น หิ กทาจิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารรหิตํ อตฺถิ. อถ ทุติยชฺฌานิกานํ, เอวมฺปิ นตฺเถว วูปสโม, สพฺเพน สพฺพํ เตสํ ตตฺถ อภาวโตติ? วุจฺจเต – เยหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปมชฺฌานสฺส โอฬาริกตา, เตสํ สมติกฺกมา ทุติยสฺส ฌานสฺส สมธิคโม, น สภาวโต อโนฬาริกานํ ผสฺสาทีนํ สมติกฺกมาติ อยมตฺโถ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอเตน ทีปิโต. ตสฺมา ‘‘กึ ปมชฺฌานิกานํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อิธาธิปฺเปโต, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกาน’’นฺติ เอทิสี โจทนา อโนกาสาว. ยสฺมา ทิฏฺาทีนวสฺส ตํตํฌานกฺขเณ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ วูปสมนํ อธิปฺเปตํ. วิตกฺกาทโย เอว ฌานงฺคภูตา ตถา กรียนฺติ, น ตํสมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย, ตสฺมา วิตกฺกาทีนํเยว วูปสมาทิวจนํ ายาคตํ. ยสฺมา ปน วิตกฺกาทีนํ วิย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ เอเตน ‘‘เอตํ โอฬาริก’’นฺติ อาทีนวทสฺสนํ สุตฺเต อาคตํ, ตสฺมา อวิเสเสน ¶ วิตกฺกาทีนํ, ตํสหคตานฺจ วูปสมาทิเก วตฺตพฺเพ วิตกฺกาทีนํเยว วูปสโม วุจฺจมาโน อธิกวจนํ อฺํ อตฺถํ โพเธตีติ กตฺวา กิฺจิ วิเสสํ ทีเปตีติ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘โอฬาริกสฺส ปนา’’ติอาทิ คหิตนฺติ อิธ ‘‘เยหิ วิตกฺกวิจาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา วิตกฺกวิจารปีติสุขสมติกฺกมวจนานิ โอฬาริโกฬาริกงฺคสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมทีปกานีติ เตสํ เอกเทสภูตํ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนํ ตํทีปกํ วุตฺตํ. วิสุํ วิสุํ ิเตปิ หิ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนาทิเก ปเหยฺยงฺคนิทฺเทสตาสามฺเน จิตฺเตน สมูหโต คหิเต วิตกฺกวิจารวูปสมวจนสฺส ตเทกเทสตา ทฏฺพฺพา. อยฺจ อตฺโถ ¶ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณนเยน วุตฺโต. อถ วา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว ตํสมติกฺกมา ทุติยาธิคมทีปเกน ปีติวิราคาทิวจนานํ ปีติอาทิสมติกฺกมา ตติยาทิอธิคมทีปกตา ทีปิตา โหตีติ ตสฺส ตํทีปกตา วุตฺตา.
นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปตํ น อชฺฌตฺตชฺฌตฺตาทิ. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิภงฺเค ปนา’’ติอาทิ. นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิยาติ นีลโยคโต วตฺถํ นีลํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เยน สมฺปสาทเนน โยคา ฌานํ สมฺปสาทนํ. ตสฺมึ ทสฺสิเต ‘‘สมฺปสาทนํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ตํโยคา ฌาเน ตํสทฺทปฺปวตฺติ ทสฺสิตาติ อวิโรโธ ยุตฺโต. เอโกทิภาเว กถนฺติ เอโกทิมฺหิ ทสฺสิเต เอโกทิภาวํ ฌานนฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ฌานสฺส เอโกทิวฑฺฒนตา วุตฺตา โหตีติ เจ? ‘‘เอโกทิภาว’’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา เอโกทิสฺส นิทฺเทโส น กาตพฺโพ สิยาติ เอโกทิภาวสทฺโท เอว สมาธิมฺหิ ปวตฺโต สมฺปสาทนสทฺโท วิย ฌาเน ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเปติ ‘‘เจตโส สมฺปสาทยตี’’ติ เอตสฺมึ ปกฺเข ‘‘เจตโส’’ติ จ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘สมฺปสาทนโยคโต ฌานํ สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตปกฺเข. เจตโสติ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ.
เสฏฺโปิ โลเก ‘‘เอโก’’ติ วุจฺจติ ‘‘ยาว ปเร เอกาหํ เต กโรมี’’ติอาทีสุ. เอโก อทุติโย ‘‘เอกากีภิ ขุทฺทเกหิ ชิต’’นฺติอาทีสุ อสหายตฺโถปิ เอก-สทฺโท ทิฏฺโติ อาห ‘‘เอโก อสหาโย หุตฺวา’’ติ. สทฺธาทโยปิ กามํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สาธารณโต, อสาธารณโต จ ปจฺจยา โหนฺติเยว, สมาธิ ปน ฌานกฺขเณ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อวิกฺเขปลกฺขเณ อินฺทฏฺกรเณน สาติสยํ ปจฺจโย โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺตธมฺเม…เป… อธิวจน’’นฺติ อาห.
‘‘สมฺปสาทนํ ¶ , เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วิเสสนทฺวยํ ฌานสฺส อติสยวจนิจฺฉาวเสน คหิตํ. สฺวายมติสโย ยถา อิมสฺมึ ฌาเน ลพฺภติ, น ตถา ปมชฺฌาเนติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมเณ อาหนนปริยาหนนวเสน, อนุมชฺชนอนุโยชนวเสน จ ปวตฺตมานา ธมฺมา สติปิ นีวรณปฺปหาเนน กิเลสกาลุสฺสิยาปคเม ¶ สมฺปยุตฺตานํ กฺจิ โขภํ กโรนฺตา วิย เตหิ จ เต น สนฺนิสินฺนา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกวิจารกฺโขเภน น สุปฺปสนฺน’’นฺติ. ขุทฺทิกา อูมิโย วีจิโย. มหติโย ตรงฺคา. สติปิ อินฺทฺริยสมตฺเต, วีริยสมตาย จ เตเนว โขเภน, สมฺปสาทาภาเวน จ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ พหเล วิย ชเล มจฺโฉ. ยถาวุตฺตกฺโขโภ เอว ปลิโพโธ. เอวํ วุตฺเตนาติ ยสฺสา สทฺธาย วเสน สมฺปสาทนํ, ยสฺสา จ จิตฺเตกคฺคตาย วเสน เอโกทิภาวนฺติ จ ฌานํ วุตฺตํ. ตาสํ เอว ‘‘สทฺทหนา’’ติอาทินา ปวตฺติอาการสฺส วิเสสวิภาวนาวเสน วุตฺเตน. เตน วิภงฺคปาเน. ‘‘สมฺปสาทนโยคโต, สมฺปสาทนโต วา สมฺปสาทนํ, เอโกทึ ภาเวตีติ เอโกทิภาวนฺติ ฌานํ วุตฺต’’นฺติ เอวํ ปวตฺตา อยํ อตฺถวณฺณนา น วิรุชฺฌติ. ยถา ปน อวิโรโธ, โส วุตฺโต เอว.
๘๑. สนฺตาติ สมํ นิโรธํ คตา. สมิตาติ ภาวนาย สมํ คมิตา นิโรธิตา. วูปสนฺตาติ ตโต เอว สุฏฺุ อุปสนฺตา. อตฺถงฺคตาติ อตฺถํ วินาสํ คตา. อพฺภตฺถงฺคตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตํ. อปฺปิตาติ วินาสํ คมิตา. โสสิตาติ ปวตฺติสงฺขาตสฺส สนฺตานสฺส อภาเวน โสสํ สุกฺขภาวํ อิตา. พฺยนฺติกตาติ วิคตนฺตกตา.
อยมตฺโถติ ภาวนาย ปหีนตฺตา วิตกฺกวิจารานํ อภาโว. โจทเกน วุตฺตมตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปริหริตุํ ‘‘เอวเมตํ สิทฺโธวายมตฺโถ’’ติ วตฺวา ‘‘น ปเนต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตนฺติ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอตํ วจนํ. ตทตฺถทีปกนฺติ ตสฺส วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปกํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ทุติยชฺฌานาทิอธิคมูปายทีปเกน อชฺฌตฺตสมฺปสาทนตาย, เจตโส เอโกทิภาวตาย จ เหตุทีปเกน, อวิตกฺกอวิจารภาวเหตุทีปเกน จ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว วิตกฺกวิจาราภาโว ทีปิโตติ กึ ปุน อวิตกฺกอวิจารวจเนน กเตนาติ? น, อทีปิตตฺตา. น หิ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน วิตกฺกวิจารานํ อปฺปวตฺติ วุตฺตา โหติ. วิตกฺกวิจาเรสุ หิ ตณฺหาปฺปหานํ เอเตสํ วูปสมนํ, เย จ สงฺขาเรสุ ตณฺหาปฺปหานํ กโรนฺติ, เตสุ มคฺเคสุ, ปหีนตณฺเหสุ ¶ จ ผเลสุ สงฺขารปวตฺติ โหติ เอว ¶ , เอวเมวิธาปิ วิกฺขมฺภิตวิตกฺกวิจารตณฺหสฺส ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารสมฺปโยโค ปุริเมน น นิวาริโต สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ, อาวชฺชิตุกามตาทิอติกฺกโมว เตสํ วูปสโมติ ทสฺสนตฺถฺจ ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ วุตฺตํ. ปมมฺปีติ ปมํ ฌานมฺปิ.
‘‘ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติย’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. น ตถา อิมสฺส วิตกฺกวิจาราติ ยถา ปมชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณ นีวรณานิ ปหียนฺติ, ตถา อิมสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณ วิตกฺกวิจารา น ปหียนฺติ อสํกิลิฏฺสภาวตฺตา, อุปจารภาวนาย จ เต ปหาตุํ อสมตฺถภาวโต. ยทิปิ ตาย เตสุ ตณฺหา ปหียติ, น ปน สวิเสสํ. สวิเสสฺหิ ตตฺถ ตณฺหาปฺปหานํ อปฺปนาย เอว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปนากฺขเณเยวา’’ติอาทิ. ปหานงฺคตาปิ อติสยปฺปหานวเสเนว เวทิตพฺพา ยถา นีวรณานํ ปมชฺฌานสฺส. ตสฺมาติ ยสฺมา ติวงฺคเมเวตํ ฌานํ, ตสฺมา. ตนฺติ วิภงฺเค วจนํ. รถสฺส ปณฺฑุกมฺพลํ วิย สมฺปสาโท ฌานสฺส ปริกฺขาโร, น ฌานงฺคนฺติ อาห ‘‘สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๘๒. อุปฺปิลาวิตนฺติ กามฺจายํ ปริคฺคเหสุ อปริจฺจตฺตเปมสฺส อนาทีนวทสฺสิโน ตณฺหาสหคตาย ปีติยา ปวตฺติอากาโร, อิธ ปน ทุติยชฺฌานปีติ อธิปฺเปตา. ตถาปิ สพฺพโส ปีติยํ อวิรตฺตํ, สาปิ อนุพนฺเธยฺยาติ วุตฺตํ. อุปฺปิลาวิตํ วิยาติ วา อุปฺปิลาวิตํ. อาทีนวํ หิ ตตฺถ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๘๓. วิรชฺชนํ วิราโค. ตํ ปน วิรชฺชนํ นิพฺพินฺทนมุเขน หีฬนํ วา ตปฺปฏิพทฺธราคปฺปหานํ วาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา’’ติ อาห. วุตฺตปฺปการายาติ ‘‘ยเทว ตตฺถ ปีตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการาย. สมฺปิณฺฑนํ สมุจฺจโย.
มคฺโคติ อุปาโย. ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย.
๘๔. อุปปตฺติโตติ ¶ สมวาหิตภาเวน ปติรูปโต. ฌานุเปกฺขาปิ สมวาหิตเมว อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สมํ ปสฺสตี’’ติ. วิสทายาติ ¶ ปริพฺยตฺตาย สํกิเลสวิคเมน. วิปุลายาติ มหติยา สาติสยํ มหคฺคตภาวปฺปตฺติยา. ถามคตายาติ ปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺตาย.
ปริสุทฺธปกติ ขีณาสวปกติ นิกฺกิเลสตา. สตฺเตสุ กมฺมสฺสกตาทสฺสนเหตุโก สมภาวทสฺสนากาโร มชฺฌตฺตากาโร พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา.
สหชาตธมฺมานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. สมปฺปวตฺติยา ภาวนาย วีถิปฏิปนฺนาย อลีนานุทฺธตา นิรสฺสาทตาย ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาปาราภาวโต สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ มชฺฌตฺตาการภูตา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา.
อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ลีนุทฺธจฺจปกฺขปาตรหิตํ มชฺฌตฺตํ วีริยํ อุเปกฺขา. ตเทว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปวตฺเตตพฺพสฺส ตาทิสสฺส วีริยสฺส นิมิตฺตภาวโต อุเปกฺขานิมิตฺตํ ภาวนาย สมปฺปวตฺติกาเล อุเปกฺขียตีติ อุเปกฺขา, วีริยเมว อุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา.
‘‘ปมํ ฌานํ ปฏิลาภตฺถาย นีวรเณ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลาภตฺถาย อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา อิมา อฏฺ สมาธิวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ…เป… อรหตฺตมคฺคํ ปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาสํ…เป… อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย สฺุตาวิหารสมาปตฺตตฺถาย อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณ’’นฺติ เอวมาคตา อิมา ทส วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺถ จ ปมชฺฌานาทีหิ วิกฺขมฺภิตานิ นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนิ ปฏิสงฺขาย สภาวโต อุปปริกฺขิตฺวา สนฺนิฏฺานวเสน ติฏฺมานา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ทิฏฺาทีนวตฺตา เตสํ คหเณ อุปฺปาทเน อชฺฌุเปกฺขนฺตี วิปสฺสนาปฺา คหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา.
ตตฺถ ¶ ¶ อุปฺปาทนฺติ ปุริมกมฺมปจฺจยา ขนฺธานํ อิธ อุปฺปตฺติมาห. ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตึ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ เตภูมกสงฺขารคตํ นิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. อายูหนนฺติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธินฺติ อายตึ อุปฺปตฺตึ. คตินฺติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตินฺติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตินฺติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๒) เอตฺถ ‘‘อุปปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตวิปากปฺปวตฺตึ. ชาตินฺติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตํ ภวปจฺจยา ชาตึ. ชราพฺยาธิมรณาทโย ปากฏา เอว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส วิสยวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺติ, ชาตี’’ติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ, ‘‘คติ, อุปปตฺติ จา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ เวทิตพฺพํ. อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน มคฺคุปฺปตฺติเหตุภูตา จตสฺโส, ตถา ผลสมาปตฺติยา จตสฺโส, สฺุตวิหารอนิมิตฺตวิหารวเสน ทฺเวติ ทส สงฺขารุเปกฺขา.
ยาติ วิปสฺสนาปฺา. ยทตฺถีติ ยํ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยํ อุปลพฺภติ. ยํ ภูตนฺติ ยํ ปจฺจยนิพฺพตฺตตฺตา ภูตํ ขนฺธปฺจกํ. ตํ ปชหตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทโย ปชหนฺโต สมฺมเทว ทิฏฺาทีนวตฺตา ตปฺปฏิพทฺธจฺฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหติ, ยถา อายตึ อาทานํ น โหติ, ตถา ปฏิปตฺติยา ปชหติ. ตถาภูโต จ ตตฺถ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. วิจินเนติ อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสเนปิ.
สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สมปฺปวตฺติเหตุตาย สมวาหิตภูตา. นีวรณวิตกฺกวิจาราทิสพฺพปจฺจนีเกหิ วิมุตฺตตฺตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา. เตสํ วูปสนฺตตฺตา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อพฺยาปารภาเวน ปวตฺตา, อพฺยาปารตํ วา ปตฺตา.
ยทิ อตฺถโต เอกา, กถมยํ เภโทติ อาห ‘‘เตน เตนา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สติปิ สภาวโต อเภเท เยหิ ปน ปจฺจยวิเสเสหิ สฺวายมิมาสํ อวตฺถาเภโท, เตสํ เอกชฺฌํ อปฺปวตฺติโต น ตาสํ อเภโท, เอกชฺฌํ วา ปวตฺติ, ตสฺมา. เตนาห ‘‘ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติอาทิ.
เอกีภาโวติ ¶ เอกตา. สติปิ มชฺฌตฺตาภาวสามฺเ วิสยเภเทน ปนสฺสา เภโท. ยมตฺถํ ¶ สนฺธาย ‘‘กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕). ตตฺถ ยทตฺถิ ยํ ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกํ, ตํ มฺุจิตุกมฺยตาาเณน ปชหติ. ทิฏฺโสวตฺติกตฺตยสฺส สพฺพลกฺขณวิจินเน วิย ทิฏฺลกฺขณตฺตยสฺส ภูตสฺส สงฺขารลกฺขณวิจินเน อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. สงฺขารานํ อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส สุทิฏฺตฺตา เตสํ วิจินเน มชฺฌตฺตภูตาย วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย ตถา ทิฏฺาทีนวานํ เตสํ คหเณปิ อชฺฌุเปกฺขนา สิทฺธาว โหติ, สพฺพโส วิสงฺขารนินฺนตฺตา อชฺฌาสยสฺส.
อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ. อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานาติ สติปิ สุขปารมิปฺปตฺติยํ ตสฺมึ สุเข อพฺยาวฏา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, สมฺปยุตฺตานํ วา ตตฺถ อพฺยาปารํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ โขภํ, อุปฺปิลวฺจ อาวหนฺเตหิ วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา อปริพฺยตฺตํ. ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย กิจฺจํ. ตทภาวโต อิธ ปริพฺยตฺตํ.
นิฏฺิตา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ เอตสฺส
สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.
๘๕. ‘‘สรตีติ สโต’’ติ ปทสฺส กตฺตุสาธนตมาห. สมฺปชานาตีติ สมฺมเทว ปชานาติ. สรณํ จินฺตนํ อุปฏฺานํ ลกฺขณเมติสฺสาติ สรณลกฺขณา. สมฺมุสฺสนปฏิปกฺโข อสมฺมุสฺสนํ, ตํ กิจฺจํ เอติสฺสาติ อสมฺมุสฺสนรสา. กิเลเสหิ อารกฺขา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, ตโต วา อารกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺมุยฺหนํ สมฺมเทว ปชานนํ, สมฺโมหปฏิปกฺโข วา อสมฺโมโห. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา.
กามํ อุปจารชฺฌานาทีนิ อุปาทาย ปมทุติยชฺฌานานิปิ สุขุมาเนว, อิมํ ปน อุปริฌานํ อุปาทาย ‘‘โอฬาริกตฺตา’’ติ วุตฺตํ. สา จ โอฬาริกตา วิตกฺกาทิถูลงฺคตาย เวทิตพฺพา. เกจิ ‘‘พหุเจตสิกตายา’’ติ จ วทนฺติ ¶ . คติ สุขา โหติ ตตฺถ ฌาเนสูติ อธิปฺปาโย. อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ ‘‘อิทํ นาม ทุกฺกรํ กรียตี’’ติ วตฺตพฺพสฺส อภาวโต. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน สุขุมตฺตาติ อยมตฺโถ กามํ ทุติยชฺฌาเนปิ สมฺภวติ, ตถาปิ เยภุยฺเยน ¶ อวิปฺปโยคีภาเวน วตฺตมาเนสุ ปีติสุเขสุ ปีติสงฺขาตสฺส โอฬาริกงฺคสฺส ปหาเนน สุขุมตาย อิธ สาติสโย สติสมฺปชฺพฺยาปาโรติ วุตฺตํ ‘‘ปุริสสฺสา’’ติอาทิ. ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺยาติ หานภาคิยํ ฌานํ สิยา ทุติยชฺฌานเมว สมฺปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา’’ติ. ‘‘อิทฺจ อติมธุรํ สุข’’นฺติ ตติยชฺฌานสุขํ สนฺธายาห. อติมธุรตา จสฺส ปหาโสทคฺยสภาวาย ปีติยา อภาเวเนว เวทิตพฺพา. อิทนฺติ ‘‘สโต, สมฺปชาโน’’ติ ปททฺวยํ.
ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ ยสฺมา ตสฺส ฌานสมงฺคิโน ยํ นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํ โส ปฏิสํเวเทยฺย. ยํ วา ตนฺติ อถ วา ยํ ตํ ยถาวุตฺตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ. ตํสมุฏฺาเนน ตโต สมุฏฺิเตน อติปณีเตน รูเปน อสฺส ฌานสมงฺคิโน รูปกาโย ยสฺมา ผุโฏ. ยสฺส รูปกายสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ ฌานสมงฺคี กายิกํ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย. ตสฺมา เอตํ เจตสิกกายิกสุขปฏิสํเวทนสงฺขาตํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ อาหา’’ติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – นามกาเยน เจตสิกสุขํ, กายิกสุขเหตุรูปสมุฏฺาปเนน กายิกสุขฺจ ฌานสมงฺคี ปฏิสํเวเทตีติ วุจฺจติ. ผุฏตฺตาติ พฺยาปิตตฺตาติ อตฺโถ. ยถา หิ อุทเกน ผุฏสรีรสฺส ตาทิเส นาติปจฺจนีเก วาตาทิโผฏฺพฺเพ ผุเฏ สุขํ อุปฺปชฺชติ, เอวเมเตหิ ผุฏสรีรสฺสาติ. อปโร นโย – สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กถมาโภเคน วินา สุขปฏิสํเวทนาติ โจทนายํ ‘‘กิฺจาปิ…เป… เอวํ สนฺเตปี’’ติ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตสฺมา สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ โยชนา. อิทานิ สหาปิ อาโภเคน สุขปฏิสํเวทนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ วา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๘๖. ยนฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, ยสฺมาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. ‘‘อาจิกฺขนฺตี’’ติอาทีนิ ปทานิ กิตฺตนตฺถานีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. กินฺตีติ ปสํสนาการปุจฺฉา. เอทิเสสุ ¶ าเนสุ สติคฺคหเณเนว สมฺปชฺมฺปิ คหิตํ โหตีติ อิธ ปาฬิยํ สติยา เอว คหิตตฺตา เอวํ อุปฏฺิตสติตาย ‘‘สติมา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, ‘‘สมฺปชาโน’’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา วา.
ฌานกฺขเณ เจตสิกสุขเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ จ วุตฺตํ. ตติยนฺติ ¶ คณนานุปุพฺพตาติ อิโต ปฏฺาย ทุติยตติยชฺฌานกถาหิ อวิเสโส, วิเสโส จ วุตฺโตติ.
จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา
๘๗. อิทานิ นิพฺพตฺติตวิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติ วตฺวา ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิมาห. อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, อนิฏฺเ าเน ปทนฺตรสงฺคหิตสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตาภาวโต. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อุปฺปชฺชิตพฺพํ สาติสยํ สุขวิราคภาวนาภาวโต. ตานีติ อปฺปนาวีถิยํ ชวนานิ สนฺธายาห.
๘๘. ‘‘ปุพฺเพวา’’ติ วุตฺตตฺตา กทา ปน เตสํ ปหานํ โหตีติ โจทนายํ อาห ‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ’’ติ. เอวํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ปหานกฺกโม นาม ปหายกธมฺมานํ อุปฺปตฺติปฏิปาฏิ. เตน ปน วุจฺจมาเน ‘‘ทุกฺขํ โทมนสฺสํ สุขํ โสมนสฺส’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา. กสฺมา อิโต อฺถา วจนนฺติ อาห ‘‘อินฺทฺริยวิภงฺเค’’ติอาทิ. อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยนฺติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ. กตฺถ จ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ นิโรธฏฺานํ ปุจฺฉติ. เตน ‘‘กตฺถา’’ติ ปุจฺฉายํ, ‘‘เอตฺถา’’ติ วิสฺสชฺชเนปิ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ. ฌานานุภาวนิมิตฺตํ หิ อนุปฺปชฺชนฺตํ ‘‘ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. อติสยนิโรโธ สุฏฺุ ปหานํ อุชุปฏิปกฺเขน วูปสโม.
นานาวชฺชเนติ เยน อาวชฺชเนน อปฺปนาวีถิ, ตโต ภินฺนาวชฺชเน, อเนกาวชฺชเน วา. อปฺปนาวีถิยฺหิ อุปจาโร เอกาวชฺชโน, อิตโร อเนกาวชฺชโน อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตนโต. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. ปีติผรเณนาติ ปีติยา ผรณรสตฺตา, ปีติสมุฏฺานานํ วา ปณีตรูปานํ กายสฺส พฺยาปนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหตี’’ติ. วิตกฺกวิจารปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท ¶ อฏฺานปฺปยุตฺโต, โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส มยฺหํ อติจิรํ วิตกฺกยโต วิจารยโต กาโยปิ กิลมิจิตฺตมฺปิ อุหฺี’’ติ วจนโต กายจิตฺตเขทานํ วิตกฺกวิจารปฺปจฺจยตา เวทิตพฺพา ¶ . ‘‘วิตกฺกวิจารภาเว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ ตตฺถ ทุติยชฺฌานูปจาเร อสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ภเวยฺย.
เอตฺถ จ ยเทเก ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ วทนฺเตน ฌานลาภีนมฺปิ โทมนุสฺสุปฺปตฺติ อตฺถีติ ทสฺสิตํ โหติ. เตน จ อนีวรณสภาโว โลโภ วิย โทโสปิ อตฺถีติ ทีเปติ. น หิ โทเสน วินา โทมนสฺสํ ปวตฺตติ. น เจตฺถ ปฏฺานปาฬิยา วิโรโธ จินฺเตตพฺโพ. ยสฺมา ตตฺถ ปริหีนํ ฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานํ โทมนสฺสํ ทสฺสิตํ, อปริหีนชฺฌานมารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานสฺส โทมนสฺสสฺส อสมฺภวโต. ฌานลาภีนํ สพฺพโส โทมนสฺสํ นุปฺปชฺชตีติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา. น เหว โข โส ปหีนชฺฌาโน อโหสีติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตํ อนีวรณสภาวสฺส โทสสฺส อภาวโต. ยทิ สิยา, รูปารูปาวจรสตฺตานมฺปิ อุปฺปชฺเชยฺย, น จ อุปฺปชฺชติ. ตถา หิ ‘‘อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณ’’นฺติอาทีสุ พฺยาปาทกุกฺกุจฺจนีวรณานิ อนุทฺธฏานิ. น เจตฺถ นีวรณตฺตา ปริหาโร, กามจฺฉนฺทาทีนมฺปิ อนีวรณานํเยว นีวรณสทิสตาย นีวรณปริยายสฺส วุตฺตตฺตา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ, ตมฺปิ อการณํ อุปฺปชฺชมาเนน จ โทมนสฺเสน ฌานโต ปริหายนโต. ลหุเกน ปน ปจฺจเยน ปริหีนํ ตาทิสา อปฺปกสิเรเนว ปฏิปากติกํ กโรนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิทํ ปน ปริกปฺปวจนํ อุปจารกฺขเณ โทมนสฺสสฺส อปฺปหีนภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนาย’’นฺติ. ยทิ ปน ตทา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺเชยฺย, ปมชฺฌานมฺปิสฺส ปริหีนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ปหีนมฺปิ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปีติ วิย น ทูเรติ กตฺวา ¶ ‘‘อาสนฺนตฺตา’’ติ วุตฺตํ. นานาวชฺชนูปจาเร ปหีนมฺปิ ปหานงฺคํ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺย วาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตายา’’ติอาทิมาห. ตาทิสาย อาเสวนาย อิจฺฉิตพฺพตฺตา ยถา มคฺควีถิโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา สทิสานุปสฺสนาว ปวตฺตนฺติ, เอวมิธาปิ อปฺปนาวารโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา อุเปกฺขาสหคตาว ปวตฺตนฺตีติ วทนฺติ.
สมาหฏาติ สมานีตา, สงฺคเหตฺวา วุตฺตาติ อตฺโถ. สุขทุกฺขานิ วิย อโนฬาริกตฺตา อวิภูตตาย สุขุมา. ตโต เอว อนุมินิตพฺพสภาวตฺตา ทุวิฺเยฺยา. ทุฏฺสฺสาติ ทุฏฺปโยคสฺส, ทุทฺทมฺมสฺสาติ อตฺโถ. สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ อฺาโปหนนเยนาติ อธิปฺปาโย.
อทุกฺขมสุขาย ¶ เจโตวิมุตฺติยาติ อิทเมว จตุตฺถชฺฌานํ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยทสฺสนตฺถนฺติ อธิคมสฺส อุปายภูตปจฺจยทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา’’ติ. ทุกฺขปฺปหานาทโยติ จ โสปจารา ปมชฺฌานาทโยเวตฺถ อธิปฺเปตา.
ปหีนาติ วุตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ. เอตาติ สุขาทโย เวทนา.
โสมนสฺสํ ราคสฺส ปจฺจโย. วุตฺตฺหิ ‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). โทมนสฺสํ โทสสฺส ปจฺจโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทุกฺขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ. สุขาทิฆาเตนาติ สุขาทีนํ ปหาเนน. อสฺส ฌานสฺส.
น ทุกฺขนฺติ อทุกฺขํ, ทุกฺขวิธุรํ. ยสฺมา ตตฺถ ทุกฺขํ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขาภาเวนา’’ติ. อสุขนฺติ เอตฺถปิ เอเสว นโย. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. ‘‘ปฏิปกฺขภูต’’นฺติ อิทํ อิธ ตติยเวทนาย ทุกฺขาทีนํ สมติกฺกมวเสน ปตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ, น กุสลากุสลานํ วิย อุชุวิปจฺจนีกตาย. อิฏฺานิฏฺวิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส, อิฏฺานิฏฺวิปรีตํ วา มชฺฌตฺตากาเรน อนุภวนลกฺขณา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา. ตโต เอว มชฺฌตฺตรสา. อวิภูตปจฺจุปฏฺานาติ สุขทุกฺขานิ วิย น วิภูตาการา ¶ , ปิฏฺิปาสาเณ มิคคตมคฺโค วิย เตหิ อนุมาตพฺพา อวิภูตากาโรปฏฺานา. สุขนิโรโธ นาม อิธ จตุตฺถชฺฌานูปจาโร, โส ปทฏฺานํ เอติสฺสาติ สุขนิโรธปทฏฺานา.
๘๙. ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปเนตํ สมาสปทนฺติ อาห ‘‘อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ. สพฺพปจฺจนีกธมฺมปริสุทฺธาย ปจฺจนีกสมเนปิ อพฺยาวฏาย ปาริสุทฺธิอุเปกฺขาย วตฺตมานาย จตุตฺถชฺฌาเน สติ สมฺปหํสนปฺา วิย สุปริสุทฺธา, สุวิสทา จ โหตีติ อาห ‘‘ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเนา’’ติ. ยทิ ตตฺรมชฺฌตฺตตา อิธ ‘‘อุเปกฺขา’’ติ อธิปฺเปตา, กถํ สติเยว ‘‘ปริสุทฺธา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ.
เอวมฺปิ ¶ กสฺมา อยเมว สติ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ วุตฺตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชมานายปิ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย ปจฺจนีกาภิภวโต, สหายปจฺจยเวกลฺลโต จ อปาริสุทฺธิ, ตถา ตํสมฺปยุตฺตานํ. ตทภาวโต อิธ ปาริสุทฺธีติ อิมมตฺถํ รูปกวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สูริยปฺปภาภิภวาติ สูริยปฺปภาย อภิภุยฺยมานตฺตา. อติกฺขตาย จนฺทเลขา วิย รตฺติปิ โสมฺมสภาวา สภาคาย รตฺติยเมว จ จนฺทเลขา สมุชฺชลตีติ สา ตสฺสา สภาคาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา’’ติ อาห.
‘‘เอกวีถิย’’นฺติ อิทํ ตตฺถ โสมนสฺสสฺส เอกํเสน อภาวโต วุตฺตํ, น ตโต ปุริมตเรสุ เอกํเสน ภาวโต. ยถา ปน วิตกฺกาทโย ทุติยาทิชฺฌานกฺขเณเยว ปหียนฺติ, น เตสํ เอกวีถิยํ ปุริมชวเนสุ, น เอวเมตนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. จตุกฺกชฺฌาเนติ จตุกฺกนยวเสน นิพฺพตฺติตชฺฌานจตุกฺเก.
ปฺจกชฺฌานกถาวณฺณนา
๙๐. ตตฺถาติ ปมชฺฌาเน. จตุกฺกนยสฺส ทุติยชฺฌาเน วิยาติ จตุกฺกนยสมฺพนฺธินิ ทุติยชฺฌาเน วิย. ตํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวาติ จตุกฺกนเย ทุติยํ ¶ ‘‘อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ, อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ จ เอวํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปฺจกนเย ทุติยฺเจว ตติยฺจ โหติ อภิธมฺเมติ (ธ. ส. ๑๖๘) อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺเตสุ ปน สรูปโต ปฺจกนโย น คหิโต.
กสฺมา ปเนตฺถ นยทฺวยวิภาโค คหิโตติ? อภิธมฺเม นยทฺวยวเสน ฌานานํ เทสิตตฺตา. กสฺมา จ ตตฺถ ตถา ตานิ เทสิตานิ? ปุคฺคลชฺฌาสยโต, เทสนาวิลาสโต จ. สนฺนิปติตเทวปริสาย กิร เยสํ ยถาเทสิเต ปมชฺฌาเน วิตกฺโก เอว โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อิตเร สนฺตโต. เตสํ อชฺฌาสยวเสน จ จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ฌานํ เทสิตํ. เยสํ วิจาโร, เยสํ ปีติ, เยสํ สุขํ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อิตเร สนฺตโต. เตสํ เตสํ อชฺฌาสยวเสน ตติยาทีนิ ฌานานิ เทสิตานิ. อยํ ตาว ปุคฺคลชฺฌาสโย.
ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ภควา ยสฺมา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต, ตสฺมา าณมหนฺตตาย ¶ เทสนาย สุกุสโล ยํ ยํ องฺคํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน ยถารุจึ เทสนํ นิยาเมนฺโต จตุกฺกนยวเสน, ปฺจกนยวเสน จ. ตตฺถ จ ปฺจงฺคิกํ ปมํ, จตุรงฺคิกํ ทุติยํ, ติวงฺคิกํ ตติยํ, ทุวงฺคิกํ จตุตฺถํ, ทุวงฺคิกเมว ปฺจมํ ฌานํ เทเสสีติ อยํ เทสนาวิลาโส. เอตฺถ จ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ กตฺวา วิภตฺตํ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๘). กสฺมา? เอกตฺตกายนานตฺตสฺีสตฺตาวาสผลตาย ทุติยชฺฌาเนน สมานผลตฺตา, ปมชฺฌานสมาธิโต ชาตตฺตา จ. ปมชฺฌานเมว หิ ‘‘กาเมหิ อกุสเลหิ จ วิวิตฺต’’นฺติ ตทภาวา น อิธ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ, นาปิ ‘‘วิเวกช’’นฺติ. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานานิ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺติ วิตกฺกวูปสมา วิจารวูปสมา อวิตกฺกตฺตา, อวิจารตฺตา จ. เอวฺจ กตฺวา สุตฺตนฺตเทสนายปิ ปฺจกนโย ลพฺภเตวาติ สิทฺธํ โหติ. นนุ สุตฺตนฺเต จตฺตาริเยว ฌานานิ วิภตฺตานีติ ปฺจกนโย น ลพฺภตีติ? น, ‘‘สวิตกฺกสวิจาโร สมาธี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๐๕) สมาธิตฺตยาปเทเสน ปฺจกนยสฺส ¶ ลพฺภมานตฺตา. จตุกฺกนยนิสฺสิโต ปน กตฺวา ปฺจกนโย วิภตฺโตติ สุตฺตนฺตเทสนายปิ ปฺจกนโย นิทฺธาเรตพฺโพ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วิตกฺกสฺส, วิจารสฺส, วิตกฺกวิจารานฺจ ‘‘วิตกฺกวิจาราน’’นฺติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา ‘‘อวิตกฺกํ, อวิจาร’’นฺติ จ วินา, สห จ วิจาเรน วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกํ, สห, วินา จ วิตกฺเกน วิจารปฺปหาเนน อวิจารนฺติ อวิตกฺกํ, อวิจารํ, อวิตกฺกฺจ อวิจารฺจาติ วา ติวิธมฺปิ สกฺกา สงฺคเหตุํ.
ทุติยนฺติ จ วิตกฺกรหิเต, วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต จ ายาคตา เทสนา ทุติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา, วิจารมตฺตรหิเตปิ ทฺวยปฺปหานาธิคตสมานธมฺมตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ปฺจกนยนิทฺเทเส ทุติเย วูปสนฺโตปิ วิตกฺโก สหายภูตวิจาราวูปสเมน น สมฺมา วูปสนฺโตติ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต วิย วิจารวูปสเมเนว ตทุปสมํ, เสสธมฺมานํ สมานตฺจ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ ตติยํ จตุกฺกนเย ทุติเยน นิพฺพิเสสํ วิภตฺตํ. ทุวิธสฺสาปิ สหายวิรเหน, อฺถา จ วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกตฺตํ, สมาธิชํ ปีติสุขตฺตฺจ สมานนฺติ สมานธมฺมตฺตาปิ ทุติยนฺติ นิทฺเทโส ¶ . วิจารมตฺตมฺปิ หิ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิตํ วิย ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๘) อวิตกฺกํ สมาธิชํ ปีติสุขนฺติ วิภตฺตํ. ปมชฺฌาเน วา สหจารีสุ วิตกฺกวิจาเรสุ เอกํ อติกฺกมิตฺวา ทุติยมฺปิ ตตฺรฏฺเมว โทสโต ทิสฺวา อุภยมฺปิ สหาติกฺกมนฺตสฺส ปฺจกนเย ตติยํ วุตฺตํ, ตติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา. ปมโต อนนฺตรภาเวน ปนสฺส ทุติยภาโว จ อุปฺปชฺชตีติ. กสฺมา ปเนวํ สรูปโต ปฺจกนโย น วิภตฺโตติ? วิเนยฺยชฺฌาสยโต. ยถานุโลมเทสนา หิ สุตฺตนฺตเทสนาติ.
ปถวีกสิณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ จตุตฺถปริจฺเฉทวณฺณนา.
๕. เสสกสิณนิทฺเทสวณฺณนา
อาโปกสิณกถาวณฺณนา
๙๑. ยถาวิตฺถาริตสฺส ¶ ¶ อตฺถสฺส อติเทโสปิ วิตฺถารฏฺาเนเยว ติฏฺตีติ อาห ‘‘วิตฺถารกถา โหตี’’ติ. อาโปกสิณนฺติ อาโปกสิณชฺฌานํ, อาโปกสิณกมฺมฏฺานํ วา. สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพนฺติ ปถวีกสิณกมฺมฏฺาเน วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. เอตฺตกมฺปีติ ‘‘กเต วา อกเต วาติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา. สามุทฺทิเกน โลณุทเกน ภริโต ชลาสโย โลณี. นีลาทิวณฺณสงฺกรปริหรณตฺถํ ‘‘สุทฺธวตฺเถน คหิต’’นฺติ วุตฺตํ. อฺนฺติ ภูมึ สมฺปตฺตํ. ตถารูปนฺติ ยาทิสํ อากาสชํ อุทกํ, ตาทิสํ. เตนาห ‘‘วิปฺปสนฺนํ อนาวิล’’นฺติ, ยํ ปน อุทกนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปถวีกสิณกถายํ วุตฺตเมว. ลกฺขณํ ปน อิธ ปคฺฆรณลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
วุตฺตนเยเนวาติ ปถวีกสิณภาวนายํ วุตฺตนเยเนว. ตรงฺคุฏฺานาทิ, เผณมิสฺสตาทิ จ อิธ กสิณโทโส. โสติ โยคาวจโร. ตสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส.
เตโชกสิณกถาวณฺณนา
๙๒. สินิทฺธานิ สิเนหวนฺตานิ. สารทารูนิ น เผคฺคุทารูนิ. ชาลาย จิรฏฺิตตฺถํ สินิทฺธสารทารุคฺคหณํ. ฆฏิกํ ฆฏิกํ กตฺวาติ ขนฺธโส กริตฺวา. อาลิมฺเปตฺวาติ ชาเลตฺวา. ฆนชาลายาติ อวิรฬวเสน ปวตฺตอคฺคิชาลายํ.
ปตนสทิสนฺติ ปตมานสทิสํ. อกเต คณฺหนฺตสฺสาติ วุตฺตนเยน ยถา กสิณมณฺฑลํ ปฺายติ, เอวํ อนภิสงฺขเต เกวเล เตชสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺส.
วาโยกสิณกถาวณฺณนา
๙๓. วุตฺตฺเหตนฺติ ¶ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ, ยสฺมาติ อตฺโถ. ตสฺส ‘‘ตสฺมา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อุจฺฉคฺคนฺติ อุจฺฉุเขตฺเต ยถาิตานํ อคฺคํ. เอริตนฺติ ¶ วาเตน จลิตํ. สเมริตนฺติ สพฺพโส จลิตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘วาโยกสิณํ…เป… อุปลกฺเขตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ, ตสฺมา. สมสีสฏฺิตนฺติ อุปริ ปตฺตานํ วเสน สมสีสํ หุตฺวา ิตํ. เวฬุํ วา รุกฺขํ วาติ เอตฺถาปิ ‘‘สมสีสํ ิตํ ฆนปตฺตเวฬุํ วา ฆนปตฺตรุกฺขํ วา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เอกงฺคุลาทิปฺปมาเณสุ เกเสสุ รสฺสภาวโต, ทีฆตเรสุ โอลมฺพนโต, วิรเฬสุ อนุปฺปเวสโต วาตปฺปหาโร น ปฺายตีติ จตุรงฺคุลปฺปมาณคฺคหณํ, ฆนคฺคหณฺจ กตํ. เอตสฺมึ าเน ปหรตีติ สตึ เปตฺวาติ อุจฺฉคฺคาทีนํ ปจลนาการคฺคหณมุเขน เตสํ ปหารเก วาตสงฺฆาเต สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ตตฺถ สตึ เปตฺวาติ ตสฺมึ กายปเทสสฺส สงฺฆฏฺฏนวเสน ปวตฺเต วายุปิณฺเฑ สงฺฆฏฺฏนาการคฺคหณมุเขน สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘อุสุมวฏฺฏิสทิส’’นฺติ เอเตน ปุริมกสิณสฺส วิย อิมสฺสาปิ นิมิตฺตสฺส สํวิคฺคหตํ ทสฺเสติ. ‘‘นิจฺจล’’นฺติ อิมินา นิจฺจลภาโวเยว อุคฺคหนิมิตฺตโต อิมสฺส วิเสโสติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺสาปิ อุสุมวฏฺฏิสทิสตาว วิภาวิตา โหติ.
นีลกสิณกถาวณฺณนา
๙๔. อฺชนราชิวฏฺฏาทิ วณฺณธาตุยา วา. ตถารูปํ มาลาคจฺฉนฺติ อวิรฬวิกสิตนีลวณฺณปุปฺผสฺฉนฺนํ ปุปฺผคจฺฉํ. อิตเรนาติ อกตาธิกาเรน. คิริกณฺณิกคฺคหเนน นีลํ คิริกณฺณิกมาห. กรณฺฑปฏลํ สมุคฺคปิธานํ. ปตฺเตหิเยวาติ นีลุปฺปลาทีนํ เกสรวณฺฏานิ อปเนตฺวา เกวเลหิ ปตฺเตหิเยว. ปูเรตพฺพนฺติ นีลวณฺณํ วตฺถํ คเหตฺวา ภณฺฑิกํ วิย พนฺธิตฺวา ยถา นีลมณฺฑลํ หุตฺวา ปฺายติ, ตถา จงฺโกฏกํ วา กรณฺฑปฏลํ วา ปูเรตพฺพํ. มุขวฏฺฏิยํ วา อสฺสาติ อสฺส จงฺโกฏกสฺส, กรณฺฑปฏลสฺส วา มุขวฏฺฏิยํ พนฺธิตพฺพํ. มณิตาลวณฺฏํ อินฺทนีลมณิมยํ ตาลวณฺฏํ.
ปีตกสิณกถาวณฺณนา
๙๕. ปีตกสิเณ มาลาคจฺฉนฺติ อิกฺกฏาทิมาลาคจฺฉํ. หริตาลํ, มโนสิลา วา ธาตุ. ปตฺตงฺคปุปฺเผหีติ ¶ ปตฺตงฺคนามิกา ปีตวณฺณปุปฺผา เอกา คจฺฉชาติ, ตสฺส ปุปฺเผหิ. อาสนปูชนฺติ เจติยงฺคเณ กตํ อาสนปูชํ ¶ . กณิการปุปฺผาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อากุลิกิงฺกิราตปุปฺผาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
โลหิตกสิณกถาวณฺณนา
๙๖. โลหิตมณิ โลหิตงฺคมณิอาทิ. โลหิตธาตุ เครุกชาติหิงฺคุลิกาทิ.
โอทาตกสิณกถาวณฺณนา
๙๗. โอทาตกสิเณ มาลาคจฺฉนฺติ นนฺทิยาวตฺตาทิมาลาคจฺฉํ. ธาตุ กกฺกฏิมุตฺตเสติกาทิ.
อาโลกกสิณกถาวณฺณนา
๙๘. ตถา อสกฺโกนฺเตนาติ ยถา สูริยาโลกาทิวเสน โอภาสนิมิตฺตุปฺปาทนํ วุตฺตํ, ตสฺส โอภาสมณฺฑลสฺส น จิรฏฺิติตาย ตถา นิมิตฺตุปฺปาทนํ กาตุํ อสกฺโกนฺเตน. ฆฏมุเขน นิคฺคจฺฉนกโอภาสสฺส มหนฺตภาวโต ‘‘ฆฏมุขํ ปิทหิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ภิตฺติมุขนฺติ ภิตฺติอภิมุขํ. อุฏฺิตมณฺฑลสทิสนฺติ ภิตฺติอาทีสุ อุฏฺิตปากติกอาโลกมณฺฑลสทิสํ. ฆนวิปฺปสนฺนํ อาโลกปฺุชสทิสนฺติ ภควโต พฺยามปฺปภา วิย พหโล, วิปฺปสนฺโน จ หุตฺวา ปฺุชภูโต อาโลโก อตฺถิ เจ, ตํสทิโสติ อตฺโถ.
ปริจฺฉินฺนากาสกสิณกถาวณฺณนา
๙๙. ฉิทฺทสทิสเมว โหตีติ เยหิ ภิตฺติปริยนฺตาทีหิ ปริจฺฉินฺนํ, ตํ ฉิทฺทํ, ตํสทิสํ, เตนวากาเรน อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ‘‘วฑฺฒิยมานมฺปิ น วฑฺฒตี’’ติ อุคฺคหนิมิตฺตสฺส อวฑฺฒนียตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สพฺพมฺปิ หิ อุคฺคหนิมิตฺตํ วฑฺฒิยมานํ น วฑฺฒติเยว. สติปิ จ วฑฺเฒตุกามตายํ วฑฺฒนา น สมฺภวติ ภาวนาย ปริทุพฺพลตฺตา. ภาวนาวเสน หิ นิมิตฺตวฑฺฒนา ¶ . ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน ตสฺมึ อุปฺปนฺเน ภาวนา ถิราติ กตฺวา ‘‘วฑฺฒิยมานํ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจาปิ ¶ ปาฬิยํ ‘‘ปถวีกสิณาทีนิ รูปฌานารมฺมณานิ อฏฺเว กสิณานิ สรูปโต อาคตานิ, โอทาตกสิเณ ปน อาโลกกสิณํ, อากาสกสิเณ จ ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ อนฺโตคธํ กตฺวา เทสนา กตา’’ติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิติ กสิณานิ ทสพโล, ทส ยานิ อโวจา’’ติ. ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยาติ ปุพฺเพ วิย อสาธารณํ ตสฺมึ ตสฺมึ กสิเณ ปฏินิยตเมว อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อสาธารณโต, สาธารณโต จ ตตฺถ ตตฺถ ปกิณฺณกํ วิสฏํ อตฺถํ คเหตฺวา ปวตฺตา ปกิณฺณกกถาปิ วิชานิตพฺพา.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
๑๐๐. อาทิภาโวติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ยสฺส กสฺสจิ ปถวีปกฺขิยสฺส วตฺถุโน นิมฺมานาทึ สงฺคณฺหาติ. านนิสชฺชาทิกปฺปนํ วาติ เอตฺถาปิ ‘‘อากาเส วา อุทเก วา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปริตฺตอปฺปมาณนเยนาติ นีลาทิวณฺณํ อนามสิตฺวา ปริตฺตอปฺปมาณนเยเนว. เอวมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สรีรโต อุทกธารานิมฺมานาทึ สงฺคณฺหาติ.
ยเทว โส อิจฺฉติ ตสฺส ฑหนสมตฺถตาติ พหูสุ กปฺปาสปิจุสารทารุอาทีสุ เอกชฺฌํ ราสิภูเตสุ ิเตสุ ยํ ยเทว อิจฺฉติ, ตสฺส ตสฺเสว ฑหนสมตฺถตา. อิธ อาทิ-สทฺเทน อนฺธการวิธมนาทึ สงฺคณฺหาติ.
วายุคติยา คมนํ วายุคติคมนํ, อติสีฆคมนํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน ยทิจฺฉิตเทสนฺตรํ ปาปุณนาทึ สงฺคณฺหาติ.
สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจนา สุวณฺณภาวาธิฏฺานํ เสยฺยถาปิ อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ (ปารา. ๖๑๙-๖๒๐) ติณณฺฑุปคปาสาทาทีนํ. วุตฺตนเยนาติ สุวณฺณทุพฺพณฺณนเยน.
วณฺณกสิเณสุ ¶ ตตฺถ ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน นีโลภาสนิมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปถวีปพฺพตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมุทฺทาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
สพฺพาเนว ¶ ทสปิ กสิณานิ. อิมํ ปเภทํ ลภนฺตีติ อิมํ วฑฺฒนาทิวิเสสํ ปาปุณนฺติ. เอโกติ เอกจฺโจ. สฺชานาตีติ ภาวนาปฺาย สฺชานาติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อาโปกสิณ’’นฺติอาทิปาฬึ สงฺคณฺหาติ.
อุปริคคนตลาภิมุขํ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติ ปาฬิปทานิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตฺจ โข วฑฺฒนวเสน. เตนาห ‘‘เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒตี’’ติ. เหฏฺาภูมิตลาภิมุขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุพฺเพ วฑฺฒนกาเล ปโยชนํ อนเปกฺขิตฺวา วฑฺเฒนฺตานํ วเสน วุตฺตตฺตา อิทานิ ‘‘เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรตี’’ติ อาห, กสิณํ วฑฺเฒตีติ อตฺโถ. ยถา กินฺติ อาห ‘‘อาโลกมิว ทิพฺพจกฺขุนา รูปทสฺสนกาโม’’ติ. อุทฺธฺเจ รูปํ ทฏฺุกาโม อุทฺธํ อาโลกํ ปสาเรติ, อโธ เจ รูปํ ทฏฺุกาโม อโธ อาโลกํ ปสาเรติ, สมนฺตโต เจ รูปํ ทฏฺุกาโม สมนฺตโต อาโลกํ ปสาเรติ, เอวมยํ กสิณนฺติ อตฺโถ.
เอกสฺสาติ ปถวีกสิณาทีสุ เอเกกสฺส. อฺภาวานุปคมนตฺถนฺติ อฺกสิณภาวานุปคมนทีปนตฺถํ, น อฺํ ปถวีอาทิ. น หิ อุทเกน ิตฏฺาเน สสมฺภารปถวี อตฺถิ. อฺโ กสิณสมฺเภโทติ อาโปกสิณาทินา สงฺกโร. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อาโปกสิณาทีสุ เสสกสิเณสุ. เอกเทเส อฏฺตฺวา อนวเสเสน ผรณปฺปมาณสฺส อคฺคหณโต ผรณํ อปฺปมาณํ. เตเนว หิ เนสํ กสิณสมฺา. ตถา จาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ เจตสา ผรนฺโตติ ภาวนาจิตฺเตน อาลมฺพนํ กโรนฺโต. ภาวนาจิตฺตฺหิ กสิณํ ปริตฺตํ วา วิปุลํ วา เอกกฺขเณ สกลเมว มนสิ กโรติ, น เอกเทสนฺติ.
๑๐๑. อานนฺตริยกมฺมสมงฺคิโนติ ปฺจสุ อานนฺตริยกมฺเมสุ เยน เกนจิ สมนฺนาคตา. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกาติ อเหตุกทิฏฺิ อกิริยทิฏฺิ นตฺถิกทิฏฺีติ ตีสุ มิจฺฉาทิฏฺีสุ ยาย กายจิ นิยตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สมนฺนาคตา. อุภโตพฺยฺชนกปณฺฑกาติ อุภโตพฺยฺชนกา, ปณฺฑกา จ. กามฺเจเต อเหตุกปฏิสนฺธิกตฺตา วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา โหนฺติ, ตถาปิ ติพฺพกิเลสตฺตา กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา วุตฺตา. อเหตุกทฺวิเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อเหตุกปฏิสนฺธิกา ¶ , ทฺวิเหตุกปฏิสนฺธิกา จ. ทุเหตุกปฏิสนฺธิกานมฺปิ หิ อริยมคฺคปฏิเวโธ, ฌานปฏิลาโภ ¶ จ นตฺถิ, ตสฺมา เตปิ วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา เอว.
อปจฺจนีกปฏิปทายนฺติ มคฺคสฺส อนุโลมปฏิปทายํ สจฺจานุโลมิกายํ วิปสฺสนายํ. อจฺฉนฺทิกาติ ‘‘กตฺตุกมฺยตาฉนฺทรหิตา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ วุตฺตํ, ตมฺปิ นิพฺพานาธิคมตฺถเมว กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุตฺตรกุรุกาปิ มนุสฺสา มาราทโย วิย อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา นิพฺพุติฉนฺทรหิตตฺตา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ‘‘ภวงฺคปฺาย ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โสปิ ทุปฺปฺโเยวา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ วุตฺตํ. ยสฺมึ หิ ภวงฺเค วตฺตมาเน ตํสนฺตติยํ โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺตติ, ตํ ตสฺส ปาทกํ นาม โหติ.
กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺชธมฺเมสุ, สุขวิปากธมฺเมสุ วา. โอกฺกมิตุนฺติ อธิคนฺตุํ. กสิเณเยวาติ กสิณกมฺมฏฺาเนเยว. เอเตสนฺติ กมฺมาวรณสมนฺนาคตาทีนํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอเต วิปากนฺตรายาทโย เอวํ อตฺถชานิกรา, อนตฺถเหตุภูตา จ, ตสฺมา. ติณฺณเมว เจตฺถ อนฺตรายานํ คหณํ อิตรสฺส สปฺปฏิการตฺตา, กมฺมนฺตรายปกฺขิกตฺตา วาติ ทฏฺพฺพํ. สปฺปุริสูปนิสฺสยาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ตชฺชํ โยนิโสมนสิการาทึ สงฺคณฺหาติ. สทฺธนฺติ กมฺมผลสทฺธํ, รตนตฺตยสทฺธฺจ. ฉนฺทนฺติ ภาวนานุโยเค ติพฺพกตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ. ปฺนฺติ ปาริหาริยปฺํ. วฑฺเฒตฺวาติ ยถา ภาวนา อิชฺฌติ, ตถา ปริพฺรูเหตฺวา. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยตฺตา, เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา จ น วิภตฺตํ.
เสสกสิณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปฺจมปริจฺเฉทวณฺณนา.
๖. อสุภกมฺมฏฺานนิทฺเทสวณฺณนา
อุทฺธุมาตกาทิปทตฺถวณฺณนา
๑๐๒. ‘‘อวิฺาณกาสุเภสู’’ติ ¶ ¶ อิทํ อุทฺธุมาตกาทีนํ สภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตสฺมา ภูตกถนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, น สวิฺาณกอสุภสฺส อกมฺมฏฺานภาวโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘น เกวลํ มตสรีร’’นฺติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๒). อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุปริ มรณโต ปรํ. สมุคฺคเตนาติ อุฏฺิเตน. อุทฺธุมาตตฺตาติ อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตตฺตา สูนตฺตา. อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกนฺติ ก-กาเรน ปทวฑฺฒนมาห อนตฺถนฺตรโต ยถา ‘‘ปีตกํ โลหิตก’’นฺติ. ปฏิกฺกูลตฺตาติ ชิคุจฺฉนียตฺตา. กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตํ อุทฺธุมาตกนฺติ กุจฺฉนตฺเถ วา อยํ ก-กาโรติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ (มหาว. ๒๘๕; ปริ. ๓๒๕; ที. นิ. ๒.๑๔๙; อ. นิ. ๕.๒๑๓). ตถารูปสฺสาติ ‘‘ภสฺตา วิย วายุนา’’ติอาทินา ยถารูปํ วุตฺตํ, ตถารูปสฺส.
เสตรตฺเตหิ ปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ.
ปริภินฺนฏฺาเนสุ กากกงฺกาทีหิ. วิสฺสนฺทมานปุพฺพนฺติ วิสฺสวนฺตปุพฺพํ, ตหํ ตหํ ปคฺฆรนฺตปุพฺพนฺติ อตฺโถ.
อปธาริตนฺติ วิวฏํ อุคฺฆาฏิตํ. ขิตฺตนฺติ ฉฑฺฑิตํ, โสณสิงฺคาลาทีหิ วิสุํ กตฺวา ขาทเนน สรีรสงฺฆาตโต ลฺุจิตฺวา ตหํ ตหํ ฉฑฺฑิตํ. วิวิธํ ขิตฺตนฺ