📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
อนุทีปนีปา
๑. จิตฺตสงฺคหอนุทีปนา
อนนฺตฺาณํ ¶ นตฺวาน, โลกาโลกกรํ ชินํ;
กริสฺสามิ ปรมตฺถ-ทีปนิยา นุทีปนึ.
[ตตฺถ, โลกาโลกกรนฺติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยํ จตุสฺสจฺจธมฺมเทสนาโลกการกํ. ปรมตฺถทีปนีติ เอตฺถ อตฺโถ ทุวิโธ ปธานตฺโถจ ปริยายตฺโถจ. ตตฺถ ปธานตฺโถ ปรมตฺโถนาม, ปธานตฺโถติจ ปทวากฺยานํ มุขฺยตฺโถ อุชุกตฺโถ. ปริยายตฺโถปิ โกจิ, ยุตฺตรูโป อตฺโถ ปรมตฺโถ เยว. ปรมตฺถํทีเปติปกาเสตีติปรมตฺถทีปนี]. ตํปร มตฺถทีปนึกโรนฺโตอาจริโย ปถมํตาว พุทฺธสฺสภควโต ปณามํกโรติ ‘‘อุทยายสฺสา’’ติอาทินา.
ตตฺถ ‘‘อุทยา’’ติ อุทยโตอุคฺคมนโต. ‘‘ยสฺสา’’ติ ยสฺส สพฺพฺุพุทฺธมหาสูรสฺส. ‘‘เอกสฺสา’’ติ อทุตียสฺส, อสทิ สสฺสวา ¶ . ‘‘สทฺธมฺมรํสิชาลิโน’’ติ เอตฺถสทฺธมฺโมติสตฺถุสา สนธมฺโมวุจฺจติ. ตตฺถจ จตุราสีติสหสฺสธมฺมกฺขนฺธสงฺขาโต เทสนาสทฺธมฺโมอิธาธิปฺเปโต. สทฺธมฺมสงฺขาตํรํสิชาลํอสฺส อตฺถีติ สทฺธมฺมรํสิชาลี. ตสฺสสทฺธมฺมรํสิชาลิโน. ‘‘ปพุชฺฌึสู’’ติ วิกสึสุ, จตุสฺสจฺจฺาณวิกาสํตฺาณสมฺผุลฺลํ ปาปุณึสุ. ‘‘ชนมฺพุชา’’ติ ชนสงฺขาตาอมฺพุชา. ตตฺถชนานาม อิธโพธเนยฺยสตฺตา อธิปฺเปตา, เยสพฺพฺุเทสนํ สุตฺวา จตุสฺสจฺจ ธมฺมํ พุชฺฌิสฺสนฺติ. อมฺพุชาติปทุมา. ‘‘ชาติกฺเขตฺเตมหาสเรติ’’ ชาติกฺเขตฺต สงฺขาเต ชนมฺพุชมหาสเร. ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ นามทสสหสฺส จกฺกวาฬํ, ยํ เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตนฺติ วุจฺจติ. ยตฺถ จ มหาโพธิสตฺตานํ พุทฺธภาวตฺถาย ปถมมหาภินีหารกาลาทีสุ เอกปฺปหาเรนปถวิกมฺปนาทีนิปวตฺตนฺติ. ยตฺถจวสนฺตาเทวพฺรหฺมาโน พุทฺธปริสาโหนฺติ. ชาติกฺเขตฺเตมหาสเรยสฺส เอกสฺส สทฺธมฺมรํสิชาลิโน มหาสูรสฺส อุทยา ตสฺมึ ชาติกฺเขตฺเต มหาสเร ชนมฺพุชาปพุชฺฌึสูติโยชนา.
‘‘ตํ มหาสูร’’นฺติ สพฺพฺุพุทฺธมหาสูริยมณฺฑลํ. ชนมฺพุช สนฺตาเนสุปวตฺตํ มหนฺตํ โมหตมํนูทติ อปเนติ, สทฺธมฺมรํสิชาลํ วิสฺสชฺชนฺโต อนฺตรธาเปตีติ มหาโมหตโมนุโท. ตํ ‘‘มหาโมหตโมนุทํ’’.
เอวํ พุทฺธสฺสปณามํ กตฺวา อตฺตนา อิจฺฉิตํ ปณามปฺปโยชนํ ปริณาเมนฺโต ‘‘สฺชาต’’นฺติอาทิมาห. ‘‘โสมหาสูโรมยฺหํ หทเย สฺชาตํ ตโมขนฺธํ ปนูทต’’นฺติโยชนา. ตตฺถ ‘‘สฺชาต’’นฺติ สุฏฺุชาตํ, อนมตคฺเคสํสาเร ทฬฺหํ ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตโมขนฺธ’’นฺติ มหาโมหตโมขนฺธํ. สพฺพกิเลสตโมขนฺธํ วา. อนฺตรายกรานิ อุปวีฬโกปฆาตกกมฺมานิปิ ตโมขนฺเธ สงฺคหิตานิ เอว. ตถา โรคาทโย อนฺตราย ธมฺมาปิ ตโมชาติกาเอวตโมตมปรายโนติอาทีสุ. ‘‘ปนูทต’’นฺติ ปนูทตุ, อปเนตุ, อนฺตรธาเปตุ.
เอวํ สปฺปโยชนํ ปณามํ กตฺวา อิทานิ สนิทานํ คนฺถปฺปฏิฺํ กโรนฺโต ‘‘โปราณเกหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิทานํ นาม คนฺถปฺปฏิฺาย ¶ อาสนฺนการณํ. กตธํปนตนฺติ, สารตฺถาภิมานีนํ ยาจนฺจสงฺคหสฺสวิปุลตฺถตา จ.
ตตฺถ ทฺวีหิ คาถาหิ สการณํ ยาจนํ ทสฺเสติ. ปุน ทฺวีหิ คาถาหิ สอุปมํวิปุลตฺถตํทสฺเสติ. ‘‘ตสฺมา’’ติอาทินา คนฺถปฺปการ คนฺถคุเณหิ สหคนฺถปฺปฏิฺํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อาทิคาถายํ ‘‘อภิธมฺมตฺถสงฺคเห โปราณเกหิ วิฺูหิ วณฺณิตา พหูวณฺณนา อิธโลกมฺหิทิสฺสนฺตี’’ติ โยชนา. ‘‘วณฺณนา’’ติ โปราณฏีกาโย วุจฺจนฺติ. เอวฺจสติ กสฺมา อภินวํ วณฺณนํ ยาจนฺตีติ. ‘‘เย สารตฺถาภิมานิโน, เต ตาหิพหูหิ โปราณวณฺณนาหิตุฏฺึ นวินฺทนฺติ. ตสฺมา ตํ ยาจนฺตี’’ติโยชนา. เอเตน อปฺปสารตฺถา เอว ตาโปราณวณฺณนาโยติปิ ทีเปติเยว. ตตฺถ ‘‘ตุฏฺิ’’นฺติ สนฺตุฏฺึ. นวินฺทนฺตินปฏิลภนฺติ. ‘‘เย’’ติเยชนา.
สารตฺถเมว อภิมาเนนฺติ, วิเสเสน นนฺทนฺติสีเลนาติ สารตฺถาภิมานิโน. เตนวินฺทนฺตีติปุริเมนสมฺพนฺโธ. ปุน ‘‘เต’’ติ ตาหิ ตุฏฺึ อวินฺทนฺตา เตชนา. ‘‘ม’’นฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. ‘‘สงฺคมฺมา’’ติ สมาคนฺตฺวา. ยสฺมา ปรมตฺถสฺสทีปนํ ยาจนฺติ, ตสฺมา อิมิสฺสาฏีกาย ‘‘ปรมตฺถทีปนี’’ติ นามํปิ สิทฺธํโหติ. ‘‘มหณฺณเว’’ติ มหาสมุทฺเท. ‘‘รตนานี’’ติ สุวณฺณรชตาทีนิ รตนานิ. ‘‘อุทฺธริตฺวา’’ติ อุทฺธํ อาหริตฺวา. ‘‘ยถิจฺฉกํวี’’ติยถิจฺฉิตํปิ. ยตฺตกํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺตกํวีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ทชฺเชยฺยุํ’’ติ ทเทยฺยุํ. กามํ ททนฺตูติ อตฺโถ. เอยฺยาทิวจนานํ อนุมติ อตฺเถปวตฺตนโต. ‘‘นวตฺตพฺพาวอูนตา’’ติ มหณฺณเวรตนานํ อูนตาหานิตา นวตฺตพฺพาว. กสฺมา, อปริมาณ รตนาธิฏฺานตฺตา มหาสมุทฺทสฺส. ยโต โส สาคโรติ วุจฺจติ, สานํธนรตนานํ เคหคพฺภสทิสตฺตาสาคโรติ หิสฺส อตฺโถ.
‘‘ตเถเวตฺถา’’ติ เอตสฺมึ อภิธมฺมตฺถ สงฺคเหตเถว. ‘‘วิปุลตฺถา’’ติ มหนฺตา อตฺถา. ‘‘รตนูปมา’’ติ มหณฺณเว รตนสทิสา. ‘‘สตกฺขตฺตุํปี’’ติ อเนกสตวารํปิ. ‘‘วณฺเณยฺยุํ’’ติ กามํวณฺเณนฺตุ. ‘‘ปริยาทินฺนา’’ติ ปริโต อนวเสสโต อาทินฺนา คหิตา. ปริกฺขีณาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘นเหสฺสเร’’ติ นเหสฺสนฺติ ¶ นภวิสฺสนฺติ. ‘‘ตสฺมา’’ติ ยสฺมาจ ยาจนฺติ, ยสฺมาจ ปริยาทินฺนานเหสฺสนฺติ, ตสฺมา. ‘‘ตาสุวณฺณนาสู’’ติ ตาสุ โปราณฏีกาสุ. ‘‘วณฺณน’’นฺติ อภินววณฺณนํ, อภินวฏีกํกริสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ. กีทิสํวณฺณนํ กริสฺสตีติ อาห ‘‘นานาสารตฺถ สมฺปุณฺณ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อุตฺตานปทพฺยฺชน’’นฺติ อุตฺตานปทฺจ อุตฺตานวากฺยฺจ. ‘‘นาติสงฺเขปวิตฺถาร’’นฺติ นาติสงฺเขปํนาติวิตฺถารฺจ. มนฺทา พุทฺธิ เยสํ เต มนฺทพุทฺธิโน. ‘‘มนฺทา’’ติ มุทุกา. ‘‘พุทฺธี’’ติ าณํ. มนฺทพุทฺธิโน โสตุชเน ปโพเธติ วิกาเสติ, าณ วิกาสํปาเปตีติ มนฺทพุทฺธิปฺปโพธนา. ‘‘กริสฺส’’นฺติ กริสฺสามิ. ‘‘ต’’นฺติ ตํวณฺณนํ. ‘‘ปรมตฺเถสุปาฏวตฺถิโนสุณนฺตู’’ติ โยชนา. ปฏุโนภาโวปาฏวํ. ปฏุโนติ พฺยตฺตสฺสปณฺฑิตสฺส. ปาฏเวน อตฺโถ เยสํ เต ปาฏวตฺถิโน. อิติสทฺโท ปริสมาปนโชตโก. โส หิ คนฺถารพฺภวิธานสฺส อิธปริสมาปนํ ปรินิฏฺานํ าเปตุํ คนฺถารพฺภวากฺยสฺสปริยนฺเต โยชิโต. อวยว วากฺยานํ ปิโยชียติเยว. เอสนโยสพฺพตฺถ.
คนฺถารพฺภคาถาวณฺณนานิฏฺิตา.
๑. เอวํ คนฺถารพฺภวิธานํ กตฺวา อิทานิ อาทิคาถาย สมฺพนฺธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อภิธมฺมตฺถสงฺคห’’นฺติอาทิมาห. สมฺพนฺธนฺติ การณปฺผลสํโยคํ. ตตฺถ คาถาปวตฺตนํ การณํ นาม. ปฺจปิณฺฑตฺถ ทสฺสนํ ผลํ นาม. การณปฺผลสํโยโค สมฺพนฺโธนาม. ‘‘สปฺปโยชเน’’ติ ผลปฺปโยชนสหิเต. คนฺเถน อภิธาตพฺโพ กเถตพฺโพติ คนฺถาภิเธยฺโย. นิปตสฺส กมฺมํ นิปจฺจํ. นิปจฺจ กิริยา, นิปจฺจากาโร, นิปจฺจการสฺสกรณนฺติ สมาโส. ‘‘สา’’ติ รตนตฺตยวนฺทนา. ทสฺสิตาติสมฺพนฺโธ. ‘‘อภิหิตา’’ติ กถิตา. ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปธานตฺถภูตา’’ติ อธิปฺเปตตฺถภูตาติ อธิปฺปาโย. ทุวิโธหิ อตฺโถวจนตฺโถ จ อภิธานตฺโถจ. ตตฺถ คจฺฉตีติ คโต, ปุริโสติ วุตฺเตคจฺฉติ ปเทน วุตฺโต โยโกจิ คจฺฉนฺโต วจนตฺโถนาม. ปุริโสติ ปเทนทสฺสิโต ¶ ปธานตฺโถ อธิปฺเปตตฺโถ อภิเธยฺยตฺโถ นามาติ. ‘‘อภิธมฺมตฺถา’’ติ.
ตตฺถ วุตฺตาภิธมฺมตฺถา, จตุธา ปรมตฺถโต;
จิตฺตํ เจตสิกํ รูปํ, นิพฺพานมิติ สพฺพถา. ติ
เอวํ วุตฺตา อภิธมฺมตฺถา. เอวํ วุตฺตตฺตาเยวจ เตจตฺตาโร อภิธมฺมตฺถา เอว อิธปธานตฺถภูตาติ จ, - ปธานตฺถาเอว อิธคนฺถาภิเธยฺย ภาเวน อธิปฺเปตาติ จวิฺายตีติ อธิปฺปาโย.
เกจิปนวเทยฺยุํ, เตอภิธมฺมตฺถา สงฺคหปฺปกรณํ ปตฺตา วิสุํ สงฺคหตฺถานามภเวยฺยุํ, นอภิธมฺมตฺถา นาม. อิธ จ สงฺคหตฺถา เอว อภิเธยฺยภาเวน อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ อภิเธยฺโย อภิธมฺมตฺถ สงฺคหปฺปเทนาติ. วุจฺจเต. เตอภิธมฺมตฺถา สงฺคหปฺปกรณํ ปตฺตาปิ อภิธมฺมตฺถา เอวนาม โหนฺติ, น วิสุํ สงฺคหตฺถานาม. ตตฺถ วุตฺตาภิธมฺมตฺถาติหิ วุตฺตํ, นตุวุตฺตํ ตตฺถ วุตฺตาสงฺคหตฺถาติ. เอวฺจสติ สงฺคหิตภาวมตฺตํ วิสิฏฺํ โหติ. ตเทว อิธ อภิเธยฺโย นาม สิยาติ วุตฺตํ ‘‘สงฺคหิตภาโวปิ อภิเธยฺโย เยวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘สงฺคหิตภาโว’’ติจิตฺตสงฺคโห, เจตสิกสงฺคโหติอาทินา สงฺคหณกิริยา. สา สงฺคหิเตหิ ธมฺเมหิ อฺา นโหติ. เตสฺเววธมฺเมสุสงฺคยฺหตีติ วุตฺตํ ‘‘สงฺคหิตภาโวปิ อภิเธยฺโย เยวา’’ติ. กิฺจาปิเตหิ อฺานโหติ, เต สฺเวว สงฺคยฺหติ. สาปน คนฺถสฺสปธานตฺโถ นโหติ. อิธ จ ปธานตฺโถว อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ตํนสุนฺทร’’นฺติ. กสฺมา นสุนฺทรนฺติ อาห ‘‘นหิโส’’ติอาทึ. เอตฺถจหิสทฺโท อิมสฺส วากฺยสฺสเหตุวากฺยภาวํ โชเตติ. เอสนโยปรตฺถปิ. ‘‘อิโตปฏฺาย จา’’ติอาทิ คนฺถ ครุโทสวิวชฺชนํ. ตตฺถ ‘‘อิมสฺสสงฺคหสฺสา’’ติ อิมสฺสอภิธมฺมตฺถสงฺคหสฺส. ‘‘ทุตียา’’ติทุตียาฏีกา. ‘‘ทฺเวปี’’ติ ทฺเวปิฏีกาโย. ‘‘วิสุทฺธิมคฺเคมหาฏีกา’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน กตาปรมตฺถมฺชูสานามฏีกา. สา พฺรมฺมรฏฺเ ติริยปพฺพตวาสินา เถเรนกตํ จูฬฏีกํ อุปาทาย มหาฏีกาติ ปากฏา. ตํสนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
คนฺถปฺปกาโรจ ¶ ปการวนฺเตหิ ธมฺเมหิ สเหวสิชฺฌติ, วินา นสิชฺฌตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘โสอภิธมฺมตฺถปเทนา’’ติ วุตฺตํ. กามฺจ โส เตหิ สเหวสิชฺฌติ, วินานสิชฺฌติ. อภิธมฺมตฺถปทํ ปน สงฺคหณกิริยาปการํน วทตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ นสุนฺทร’’นฺติ. ทุวิธํ นามํ อนฺวตฺถนามํ รุฬินามนฺติ. ตตฺถ, อตฺถานุคตํ นามํ อนฺวตฺถนามํ, ยถา สุขิตสฺสชนสฺส สุโขตินามํ. อตฺถรหิตํ อาโรปิตํ นามํ รุฬินามํ, ยถา ทุกฺขิตสฺสชนสฺส สุโขติ นามํ. อิธ ปน อนฺวตฺถนา มนฺติทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถานุคตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อตฺถานุคตา’’ติ สกตฺถานุคตา. สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตานุคตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘คนฺถสมฺา’’ติ คนฺถสมฺมุติ. คนฺถสฺสนามนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺคหคนฺโถนาม ปาฬิยํตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺเณธมฺเม เอกตฺถ สภาคราสิกรณวเสน ปวตฺโต คนฺโถ. ตํ อุคฺคณฺหนฺโต อปฺปเกน คนฺเถนพหุเกธมฺเมสุเขนชานาติ. ‘‘ตทุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสนา’’ติ ตสฺสอุคฺคโหจ ปริปุจฺฉาจาติ ทฺวนฺโท. อาทิสทฺเทน ธารณาทีนิ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ ปาสฺสวาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโหนาม. อุคฺคหิ ตสฺสปาสฺส อตฺถคฺคหณํ ปริปุจฺฉานาม. ‘‘อนายาสโต’’ติ นิทฺทุกฺเขน. ‘‘ลทฺธพฺพํผลานุผล’’นฺติ สมฺพนฺโธ. สรูปโต อวพุชฺฌนํ สรูปาวโพโธ. อาทิสทฺเทน ลกฺขณาวโพโธ รสาว โพโธติอาทึ สงฺคณฺหาติ. อนุปาทาปรินิพฺพานํ อนฺโต ปริโยสานํ ยสฺสาติ อนุปาทาปรินิพฺพานนฺตํ. ตตฺถ ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพาน’’นฺติ ตณฺหาทิฏฺีหิ ขนฺเธสุ อนุปาทายปรินิพฺพานํ. อนุปาทิเสส ปรินิพฺพานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ผลานุผล’’นฺติ ผลฺเจว อนุผลฺจ. ตตฺถ ‘‘ผล’’นฺติ มูลปฺผลํ. ‘‘อนุผล’’นฺติ ปรมฺปรปฺผลํ. ปโยเชตีติ ‘‘ปโยชนํ’’. ปโยเชตีติ นิโยเชติ. กึ นิโยเชติ. ผลตฺถิกํชนํ. กตฺถ นิโยเชติ. ผลนิพฺพตฺตเกกมฺเม. กิมตฺถาย นิโยเชติ. ตสฺสกมฺมสฺส กรณตฺถายาติ. ผลานุภวนตฺถาย ตตฺถตตฺถ ผลานุภวนกิจฺเจสุ ปยุชฺชียตีติ ปโยชนนฺติ ปิวทนฺติ. ‘‘สามตฺถิยโต’’ติ วจนสามตฺถิยโต. กึ วจนสามตฺถิยนฺติ. การณวจนํ ผลํปิทีเปติ. ผลวจนํ การณํปิทีเปติ. ยถาตํ อสุกสฺมึ รฏฺเ สมฺมาเทโว วุฏฺโติ วุตฺเต ตํ รฏฺํสุ ¶ ภิกฺขนฺติ วิฺายติ. อสุกรฏฺํ สุภิกฺขนฺติวุตฺเต ตสฺมึ รฏฺเ สมฺมาเทโว วุฏฺโติ วิฺายตีติ. ปโยชนํ ปน อภิธมฺมตฺถ สทฺเทน ทสฺเสตพฺพํ นตฺถิ, สงฺคหวจนสามตฺถิเยเนว สิทฺธํ โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘สงฺคหสทฺเทนา’’ติ วุตฺตํ. สามตฺถิยทสฺสเน ปน สุฏฺุ ปริปุณฺณวจนํ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ. อิตรถา อนิฏฺตฺถปฺปสงฺโคปิ สิยาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ น สุนฺทร’’นฺติ วตฺวา ‘‘นหี’’ติอาทินา เหตุวากฺเยน ตทตฺถํ สาเธติ.
๒. เอวํ สปฺปโยชเน ปฺจปิณฺฑตฺเถติ เอตฺถ ปฺจปิณฺฑตฺเถ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสํปฺจนฺนํ ปิณฺฑตฺถานํ วิสุํวิสุํ ปฺจปฺปโยชนานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุปฺจสุ ปิณฺฑตฺเถสุ. นสงฺขฺยาตพฺพนฺติ อสงฺขฺเยยฺยํ. สงฺขาตุํอสกฺกุเณยฺยนฺติ อตฺโถ. นปเมตพฺพนฺติ อปฺปเมยฺยํ. ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยนฺติ อตฺโถ. เอวํ กิจฺจปจฺจยานํ กตฺถจิ สกฺกตฺถ ทีปนํ โหติ. สกวจนํ ปาฬิวจเนน สาเธตุํ ‘‘ยถาหา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปาฬิคาถํ อาหริ. ตตฺถ ‘‘ยถาหา’’ติ กถํ อาห อิจฺเจวตฺโถ. อนนฺตเร วุตฺตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ วจนํ กถํ ปาฬิยํ อาห, กถํ อฏฺกถายํ อาห, กถํ ฏีกายํ อาหาติ เอวํ ยถารหํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘เตตาทิเสนิพฺพุเต อกุโตภเย ปูชยโต’’ติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘เต’’ติ พุทฺธ พุทฺธ สาวเก. ‘‘ตาทิเส’’ติ ตถา รูเปสี ลกฺขนฺธาทิคุณ สมฺปนฺเน. ‘‘นิพฺพุเต’’ติ กิเลส นิพฺพาเนน นิพฺพุเต. นตฺถิ กุโตจิ เหตุโต ภยํ เยสํ เต อกุโต ภยา. อนาคามิ ขีณาสวา. ‘‘ภย’’นฺติ จิตฺตุตฺราสภยํ. ‘‘ปูชยโต’’ติ ปูเชนฺตสฺส. ‘‘ตํ ปโยชน’’นฺติตสฺสารตนตฺตย วนฺทนาย ปโยชนํ. ‘‘สงฺคหการา’’ติ พุทฺธโฆสตฺเถราทโย ปจฺฉิม อฏฺกถาการา วุจฺจนฺติ. เตหิ โปราณฏฺกถาสุ ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺเณปกิณฺณกวินิจฺฉเยยุตฺตฏฺาเนสุ สงฺคเหตฺวา อภินว อฏฺกถาโย กโรนฺติ. ตสฺมา สพฺพาอภินวอฏฺกถาโย สงฺคหา นาม โหนฺติ. เต จ อาจริยา สงฺคหการา นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘สงฺคหการาติ พุทฺธโฆส. เป… วุจฺจนฺตี’’ติ. เต อนฺตราย นีวารณเมว อิจฺฉนฺตีติ กถํ วิฺายตีติ เจ. เตสํ วจเนน ¶ วิฺายตีติ ทสฺเสตุํ สงฺคหการ คาถํ อาหริ. ‘‘รตนตฺตเยกตสฺส เอตสฺสนิปจฺจการสฺส อานุภาเวน อนฺตราเย อเสสโตโสเสตฺวาติ โยชนา. ‘‘หี’’ติ าปกเหตุ โชตโก. ‘‘วุตฺต’’นฺติ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตํ.
๓. ‘‘กถฺจโหตี’’ติ สมฺพนฺโธ. อิติ อยํ ปุจฺฉา. ‘‘วุจฺจเต’’ติ วิสชฺชนา กถียเต. ‘‘หี’’ติวิตฺถารโชตโก. ‘‘วนฺทนา กิริยาภินิปฺผาทโก ปฺุปฺปวาโห’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อเนก…เป… วาเร’’ติ อจฺจนฺต สํโยคตฺเถ อุปโยค วจนํ. ‘‘ปฺุาภิสนฺโท’’ติ ปฺุาภิโสโต, ปฺุปฺปวาโหติ ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘โส จ ปฺุาติสฺสโย โหตี’’ติ สมฺพนฺโธ. กสฺมา โส ปฺุา ติสฺสโย โหตีติ. เขตฺต สมฺปตฺติยา จ อชฺฌาสย สมฺปตฺติยา จ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุตฺตเรสู’’ติอาทิมาห. สํวฑฺฒิตฺถาติ สํวฑฺฒิโต. ปฺุาภิสนฺโท. สํวฑฺฒิตสฺสภาโว สํวฑฺฒิตตฺตํ. สุคนฺเธหิวิย สุปริสุทฺธํวตฺถํ ปริภาวียิตฺถาติ ปริภาวิโต. ปฺุาภิสนฺโทเยว. ปริภาวิตสฺส ภาโว ปริภาวิตตฺตํ. อุภยตฺถาปิ เหตุ อตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. ‘‘มหาชุติโก’’ติ มหาเตโช. ‘‘มหปฺผโล’’ติ มูลปฺผเลน มหปฺผโล. ‘‘มหานิสํโส’’ติ อานิสํสปฺผเลน มหานิสํโส. อานิสํสปฺผลนฺติ จ ปรมฺปรา ผลํ วุจฺจติ. อฺํ ปฺุํ อติกฺกมนฺโต สยติ ปวตฺตตีติ อติสฺสโย. ปฺฺุจ ตํ อติสฺสโยจาติ ปฺุาติสฺสโย. อติสฺสยปฺุํ, อธิก ปฺุนฺติ อตฺโถ. ‘‘โส อนุพลํ เทติ, โอกาสลาภํ กโรตี’’ติ สมฺพนฺโธ. กถฺจ อนุพลํ เทติ, กถฺจ โอกาสลาภํ กโรตีติ อาห ‘‘สยํ ปโยค สมฺปตฺติภาเวตฺวา’’ติอาทึ. ตตฺถ ปโยคสมฺปตฺตินาม อตีต ปฺุกมฺมานํ พลวตรํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ โหติ. ‘‘พหิทฺธา’’ติ พหิทฺธสนฺตานโต. ‘‘วิปตฺติปจฺจเย สมฺปตฺติปจฺจเย’’ติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ, วิปตฺติปจฺจยานาม-ราชโตวา โจรโตวา-ติอาทินา อาคตา ทุกฺขุปฺปตฺติปจฺจยา. สมฺปตฺติปจฺจยานาม กายจิตฺตานํ สปฺปาย ปจฺจยา. จตฺตาโร ปจฺจยา จ อุปฏฺากกุลานิ จ อารกฺข เทวตาทโย จ สุขุปฺปตฺติ ปจฺจยา. เตหิ ปจฺจเยหิ ปาโมชฺช พหุ ลสฺส ¶ เถรสฺส สนฺตาเน รตฺติทิวํ ปีติปสฺสทฺธิสุขสมาธีนํ ปวตฺติยา อชฺฌตฺตภูตา อุตุจิตฺตาหารา จ อติ ปณีตา โหนฺติ. เตหิ สมุฏฺิตา สรีรฏฺกธาตุโย จ อติปณีตา เอว หุตฺวา อุปพฺรูหนฺติ. ตตฺถ สรีรฏฺกธาตุโย นาม ปถวิ อาทโย วาตปิตฺตเสมฺหาทโยจ. ‘‘อนุพลํเทตี’’ติอภินวํถามพลํ ปวตฺเตติ. ‘‘ปฺุนฺตรสฺสา’’ติ ปวตฺติวิปากชนกสฺส พหุวิธสฺส ปฺุ กมฺมสฺส. ‘‘อถา’’ติ ตสฺมึ กาเลติ อตฺโถ. ‘‘พลวพลวนฺติโย หุตฺวา’’ติ ปกติ พลโต อติพลวนฺติโย หุตฺวา. ‘‘ตสฺมึ เถรสนฺตาเน’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิฏฺปฺผลฆนปูริเต’’ติ อิฏฺปฺผลภูตานํ รูปสนฺตตีนํ ฆเนน ปูริเต. ‘‘โอกาโส นาม นตฺถี’’ติ ปติฏฺาโนกาโส นาม นตฺถิ. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘ทูรโต อปนีตาเนว โหนฺตี’’ติ สมฺพนฺโธ. อิฏฺปฺผลสนฺตานํ วิพาธนฺติ นีวาเรนฺตีติ อิฏฺปฺผลสนฺตานวิพาธกานิ อุปปีฬกูปฆาตกกมฺมานิ. อนิฏฺปฺผล สนฺตาน ชนกานิ, อกุสล ชนก กมฺมานิ, อปฺุ กมฺมานีติ ตานิติวิธานิ อกุสลกมฺมานิ ทูรโต อปนีตาเนว โหนฺติ, เตสํ วิปากสฺส อโนกาสกรเณนาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘นหี’’ติอาทึ. ‘‘ตโต’’ติ ตสฺมา อปฺุ กมฺมานํ ทูรโต อปนีตตฺตา. อภิวาเทตพฺพานํ มาตาปิตุ สมณพฺราหฺมณาทีนํ อภิวาทนกมฺเมครุํกรณํ อภิวาทน สีลํ นาม. ตํ อสฺส อตฺถีติ อภิวาทนสีลี. คุณวุทฺธวยวุทฺเธ อปเจติ อตฺตานํ นีจวุตฺติ กรเณน ปูเชติสีเลนาติ วุทฺธาปจายี. อุภยตฺถาปิสมฺปทาน วจนํ. เอวนฺติอาทินิ คมน วจนํ. นิคมนฺติ จ นิฏฺงฺคมนํ. ตสฺมาติอาทิ ลทฺธคุณ วจนํ. ลทฺธคุโณติ จ ตํตํปสงฺค วิโสธนํ ปริปุณฺณํ กตฺวา ลทฺโธวิสุทฺโธ อตฺโถ วุจฺจติ. ตถา วจน สามตฺถิเยน ลทฺโธ อตฺถนฺตโรปิ อยมิธ อธิปฺเปโต. ‘‘นเกวลฺจ เถรสฺเสว อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถํ โหตี’’ติ โยชนา. ‘‘โสตูนฺจคหณ กิจฺจ สมฺปชฺชนตฺถ’’นฺติสมฺพนฺโธ. สุณนฺตีติ โสตาโร. เตสํ. ‘‘คณฺหนฺตาน’’นฺติ อุคฺคณฺหนฺตานํ. ‘‘วนฺทนาสิทฺธิยา’’ติร ตนตฺตเยวนฺทนา ปฺุสฺสสิทฺธิโต. ชวนวินิจฺฉเย ยสฺมา อนฺตราย นีวารณํนาม ทิฏฺธมฺเม อิจฺฉิตพฺพํ ผลํ โหติ. ทิฏฺ ¶ ธมฺโม จ ปถม ชวนสฺส วิปากกฺเขตฺตํ. ตสฺมา อุปตฺถมฺภน กิจฺจํ ปตฺวาปิ ปถม ชวน เจตนา เอว อิธปริยตฺตาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนียภูตา’’ติ วุตฺตํ. สา ปน ปถม ชวน เจตนา อุปตฺถมฺภน กิจฺจํ ปตฺวาปิ สพฺพทุพฺพลา เอวสิยา. กสฺมา, อลทฺธาเสวนตฺตา. เสส เจตนาโย เอว พลวติโย สิยุํ. กสฺมา, ลทฺธา เสวนตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สตฺตชวนปกฺเข อธิปฺเปตตฺตา อุปลทฺธพฺพตฺตา ตํ นสุนฺทร’’นฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตี’’ติ วากฺยปริสมาปนํ. ‘‘ยถา อปฺปมตฺตกํ โหติ. เอวเมวํ อปฺปมตฺตกํ โหตี’’ติ โยเชตพฺพํ. ‘‘ตถาหี’’ติ ตโต เอวาติ อตฺโถ. ปฏฺาเนปิ=กพฬีกาโรอาหาโร อิมสฺสกายสฺส อาหาร ปจฺจเยนปจฺจโย=ติวิภตฺโต. อิตรถา ‘กพฬีกาโร อาหาโร อาหารสมุฏฺานานํ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’ติ วิภตฺโต สิยาติ. ‘‘อธุนาวา’’ติ อิมสฺมึ ภเว เอว. เอวํ วนฺทนายปโยชนํ ทีเปตฺวา อิทานิ เสสานํ ปิณฺฑตฺถานํ ปโยชนํ ทีเปตุํ ‘‘ยสฺมาปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ, ‘‘อาทิโตวิทิเตสตี’’ติอาทิมฺหิ-ภาสิสฺสํ อภิธมฺมตฺถ สงฺคห-นฺติ ปทํ สุตฺวา วิฺาเตสติ, ‘‘อุสฺสาโหชายติ’’. อิมํ อุคฺคเหตฺวา สุทุลฺลเภ อภิธมฺมตฺเถ จ อนายาเสน ชานิสฺสาม, ตมฺมูลกสฺส จ อนุปาทา ปรินิพฺพานนฺตสฺส ปโยชนสฺสภาคิโน ภวิสฺสามาติ จิตฺตุปฺปาท สมฺภวโตติ อธิปฺปาโย.
ปิณฺฑตฺถานุทีปนา นิฏฺิตา.
๔. ปทตฺเถ. ‘‘พุชฺฌี’’ติ อฺาสิ. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตสฺมึ ปเท. จ สทฺโท วากฺยารมฺภ โชตโก. วากฺยา รมฺโภติ จ มูลวากฺเย ยํ ยํ วตฺตพฺพํ อวุตฺตํ, ตสฺส ตสฺส กถนตฺถาย อนุวากฺยสฺส อารมฺโภ. พุชฺฌนกิริยาวุจฺจติาณํ. กถํปนอวิปรีตตฺเถ ปวตฺโต สมฺมาสทฺโท อเสส พฺยาปนํ ทีเปตีติ ปุจฺฉาย ปุริมตฺถเม วพฺยติเรกโต จ อนฺวยโต จ ปุน วิตฺถาเรนฺโต ‘‘ตถาหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ, ‘‘ตถาหี’’ติ ตสฺส วจนสฺส อยํ วิตฺถาโรติ โชเตติ. ‘‘อวิปรีต’’นฺติ กิริยาวิเสสน ปทเมตํ. ‘‘อตฺตโน ¶ วิสเย เอวา’’ติ อตฺตโน าณวิสเย เอว เตสํ วิสโยจาติ สมฺพนฺโธ. ยสฺมา เอโกปิ ธมฺโม กาลเทสสนฺตานาทิเภเทน อนนฺต เภโท โหติ. ตสฺมา ปเทสาณิกา ปจฺเจกพุทฺธาทโย เอกธมฺมํปิ สพฺพาการโต ชานิตุํ น สกฺโกนฺติ. เตนาห ‘‘เตหี’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘สพฺพาการโต’’ติ สภาวโต, เหตุโต, ปจฺจยโต, ผลโต, นิสฺสนฺทโต, กาลโต, เทสโตติอาทินา อากาเรน. ‘‘ยตฺถา’’ติ ยสฺมึ อวิสเยธมฺเม. ‘‘เต วิปรีตํ พุชฺเฌยฺยุํ, โส อวิสโย นามธมฺโมนตฺถี’’ติโยชนา. ตํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘เตหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ, ‘‘ติยทฺธคเต’’ติ ตีสุกาเลสุ คเต ปวตฺเต. ‘‘อทฺธามุตฺตเก’’ติ กาลตฺตยวิมุตฺตเก. ‘‘หตฺถมณิเกวิยา’’ติ หตฺถ ตเล ปิตมณิรตนานิวิย. ‘‘สพฺเพ ธมฺมา’’ติอาทิ ปาฬิสาธกํ. ตตฺถ, ‘‘อาปาต’’นฺติ อภิมุขํ ปตนํ. อาพาธนฺติปิ ปาโ, โอตฺถริตฺวา อุปฏฺานนฺติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพฺุมหาภวงฺค’’นฺติ สพฺเพสํสพฺพฺุพุทฺธานํ ปจฺฉิมภเว ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปวตฺตํ อฏฺสุ มหาวิปาเกสุ ปถมมหาวิปากํ ภวงฺค จิตฺตํ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ มหาภวงฺเค. ‘‘นิจฺจกาลํ อุปฏฺหนฺตี’’ติ สพฺพกาลํ อุปฏฺานาการ ปตฺตา หุตฺวา ติฏฺนฺติ. กสฺมา, กสฺสจิ อาวรณสฺส อภาวโต. อิทํปิหิ เอกํ อุปฏฺานํ นามาติ. ‘‘อาวชฺชนายา’’ติ มโนทฺวาราวชฺชน จิตฺเตน. ธมฺมา มหนฺตา. ภวงฺคํ ปริตฺตกํ. ตสฺมา ปริตฺตกํ ภวงฺคํ เอกกฺขเณ มหนฺตานํ ธมฺมานํ นปโหตีติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. ‘‘นโจเทตพฺพเมต’’นฺติ เอตํ านํ นโจเทตพฺพํ. ‘‘ปรมุกฺกํสปตฺตาน’’นฺติ เอตฺถ ‘‘อุกฺกํโส’’ติ อจฺจุคฺคโม อจฺจุตฺตโร. ปรโม อุกฺกํโส ปรมุกฺกํโสติวิคฺคโห.
เอวํ สมฺมาสทฺทสฺส อตฺถํ วิจาเรตฺวา อิทานิ สํสทฺทสฺส อตฺถํ วิจาเรนฺโต ‘‘สํสทฺโทปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ, ‘‘อุปสคฺโค’’ติ อุปสคฺคปทํ. ‘‘ปฏิเวธธมฺเมสู’’ติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีนํ ปฏิวิชฺฌนฺาเณสุ. นตฺถิ อาจริโย เอตสฺสาติ อนาจริโย. สมาสนฺเต กกาเรน สห อนาจริยโก. อนาจริยกสฺส ภาโว อนาจริยกตา. ตํ อนาจริยกตํ. ตตียา รุปฺปสมาปตฺติ นาม ¶ อากิฺจฺายตนชฺฌานํ. ตํ ภควา อาฬารสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหาติ. จตุตฺถารุปฺปสมาปตฺติ นาม เนวสฺา นาสฺายตนชฺฌานํ. ตํ อุทกสฺสสนฺติเก อุคฺคณฺหาตีติ วุตฺตํ ‘‘อาฬารุทกมูลิกา’’ติ. ‘‘อนลงฺกริตฺวา’’ติ อาวชฺชนสมาปชฺชนาทิวเสน อนลงฺกริตฺวา. อนาเสวิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ฉฑฺฑิตตฺตา’’ติ เอตาสมาปตฺติโยนาลํ โพธาย, อถ โข ยาวเทว ตตีย จตุตฺถารุปฺปภวปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนฺตีติ เอวํ อาทีนวํ ทิสฺวา ฉฑฺฑิตตฺตา. ‘‘พุชฺฌนกิริยายา’’ติ ปฏิเวธฺาณสฺส. ‘‘กุโต ปฏิเวธธมฺมา’’ติ ตา กุโต ปฏิเวธธมฺมา โหนฺติ. ปฏิเวธธมฺมา เอว จ พุทฺธภาวายปทฏฺานาโหนฺตีติ อธิปฺปาโย.
ปาฬิยํ. ‘‘ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุธมฺเมสู’’ติ อิมสฺมึ ภเว อิโต ปุพฺเพ กสฺสจิสนฺติเก อนนุสฺสุเต สุจตุสฺสจฺจ ธมฺเมสุ. ‘‘อภิสมฺพุชฺฌี’’ติปเท อภิสมฺโพธิสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคฺาณํ วุตฺตํ. ตเทว าณํ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปทฏฺานํ โหติ. ตปฺปจฺจยา ตทนนฺตรา เอวสพฺพฺุตฺาณํ ปาตุพฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณาตี’’ติ. ‘‘ตทนนฺตรา’’ติ จ อรหตฺต มคฺควีถิยาจ จตุนฺนํ ปจฺจเวกฺขน วารานฺจ อนนฺตเร กาเลติ อตฺโถ. ‘‘นิมิตฺตตฺเถ’’ติ นิมิตฺต เหตฺวตฺเถ. ‘‘ภุมฺม’’นฺติ อฏฺกถาสุอาคตํ สตฺตมีวิภตฺติยานามํ. ตาสุ หิ ปจฺจตฺตวจนํ, อุปโยควจนํ, กรณ วจนํ, สมฺปทาน วจนํ, นิสฺสกฺกวจนํ, สามิวจนํ, สุมฺมวจนนฺติ เอวํ อนุกฺกเมน สตฺตนฺนํ วิภตฺตีนํ นามานิ อาคตานีติ.
‘‘ทสพลฺาเณสู’’ติ านาาน โกสลฺลฺาณาทีสุ ทส าณพเลสุ. ‘‘วสิภาว’’นฺติ เอตฺถ อตฺตโน วสํ วตฺเตตุํ สมตฺถตา สงฺขาโตสตฺติ วิเสโส วโสนาม. วโส เอตสฺส อตฺถีติ วสี-วสิคเณหีติอาทีสุวิย. วสิโน ภาโว วสิภาโว. ตํ วสิภาวนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วสิภาว’’นฺติ อิสฺสรภาวนฺติ. กตฺถจิ ปน ‘‘วสี’’ติ อิตฺถิลิงฺคปทํปิ ทิสฺสติ=ตตฺริมา ปฺจวสิโย อาวชฺชนวสีสมาปชฺชนวสี=ติอาทีสุ.
สมฺมาสมฺพุทฺธปท.
๕. อตุลปเท ¶ . อเนเกหิคุณปเทหิ ปวตฺติตาวนฺทนา ‘‘อเนกคุณปทวิสยานาม’’. ‘‘อิติกึทุตีเยนา’’ติ อิติ ตสฺมา ทุตีเยน อตุลปเทน กึ ปโยชนํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘นน สมตฺถา’’ติ นสมตฺถา น โหตีติ โยชนา. สมตฺถา เอวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘มตฺตการิโน’’ติ ปมาณการิโน. ‘‘เถโร จ เตสํ อฺตโร’’, ตสฺมา มตฺตํ น กโรติ, ทุตียํ อตุล ปทํ อาหรีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อปิจา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘นเกวลํ วนฺทนาย อนฺตรายนีวารณเมว อิจฺฉิ ตพฺพํ โหตี’’ติ โยชนา. ‘‘วนฺทนายา’’ติ วนฺทนาเหตุ. โสปิ ปฺาปาฏวาทิ อตฺโถ. ‘‘คนฺถปาริสุทฺธิยา’’ติ คนฺถโทสานาม ปทโทส วากฺยโทส อตฺถโทสาทโย อตฺถิ. เตหิ โทเสหิ อิมสฺส คนฺถสฺส ปาริสุทฺธิยา. กถํ ปน วนฺทนาย ปฺาปาฏวาทิ อตฺโถสมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘อนุสฺสติฏฺาเนสู’’ติอาทิ. อนุสฺสติฏฺานานิ นาม พุทฺธ ธมฺม สงฺฆสีลาทีนิ. จิตฺตสมาธานํ อาวหตีติ จิตฺตสมาธานาวโห. ‘‘ติกฺขาสูราหุตฺวาวหตี’’ติ คมฺภีเรสุ อตฺถ พฺยฺชน ปเทสุ อมนฺทา วิสฺสฏฺา หุตฺวา วหติ. ‘‘ตทตฺถายปี’’ติ ปฺาปาฏวาทิ อตฺถายปิ. คุณนามปทานํ คุณตฺโถนามวิคฺคห วากฺเยสุ ปากโฏ, สิทฺธปเทสุ อปากโฏ. ตสฺมา ตานิ วิคฺคหตฺถํ อชานนฺตานํ สนฺติเก นาม มตฺตานิ สมฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ยถาวุตฺต วจนตฺถโยเคปิ…เป… ปวตฺตตฺตา’’ติ. ‘‘สภาวนิรุตฺตึ ชานนฺตาน’’นฺติ มาคธ ภาสํ ชานนฺตานํ. มาคธภาสาหิ มูลภาสาติ จ อริยภาสาติ จ มาคธภาสาติ จ ปาฬิภาสาติ จ ธมฺมนิรุตฺตีติ จ สภาวนิรุตฺตีติ จ วุจฺจติ. ‘‘ภาวตฺถสฺุ’’นฺติ เอตฺถ คุณนามานํ คุณตฺโถ ภาวตฺโถ นาม. โส เอวสกตฺโถติ จ วจนตฺโถติ จ วิคฺคหตฺโถติ จ วุจฺจติ. กิริยนามาทีสูปิ เอเสวนโย. ‘‘สตฺถู’’ติ สตฺถุโน. ‘‘สมฺามตฺต’’นฺติ นามสฺามตฺตํ ภวิตุํ นารหติ. ตถาหิ อนาถปิณฺฑิโกเสฏฺิ ราชคหํ อนุปตฺโต พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโนติ สุตฺวา อุทานํ อุทาเนสิ=โฆโสปิ โข เอโสทุลฺลโภ โลกสฺมึ ยทิทํ พุทฺโธ=ติ. ตสฺมา พุทฺโธติ นามํปิ โลเก มหนฺตํ สุทุลฺลภํคุณปทํ โหติ. สมฺมาสมฺพุทฺธ นาเมวตฺตพฺพเมวนตฺถีติ. ‘‘สภาวนิรุตฺตึ ¶ อชานนฺตานํ ปน ปทสหสฺสํ วุจฺจมานํปี’’ติ ติฏฺตุ เอกํ อตุลปทํ, ปทสหสฺสํปิ วุจฺจมานํ สตฺถุสมฺามตฺตเมว สมฺปชฺชติ. ตาทิสาหิ ชนา อิทํ โลเก มหนฺตํ คุณปทนฺติปิ นชานนฺติ. ภาวตฺถํ กึชานิสฺสนฺติ.
‘‘อตุโล’’ติ อฺเน โส อสทิโสติ วา, อฺโ วาเตน สทิโสตสฺสนตฺถีติวา, - ทฺวิธาปิอตฺโถลพฺภติ. สาธกคาถายํ ‘‘ปฏิปุคฺคโล’’ติ ยุคคฺคาหีปุคฺคโล. กิฺจาปิ มกฺขลิ ปูรณาทโย วิสุํวิสุํ - อหํ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี - ติจ, อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ-ติจ ปฏิชานนฺตา ยุคคฺคาหิโน หุตฺวา วิจรนฺติ. ธมฺมโต ปน สิเนรุ ปพฺพต ราชสฺส สนฺติเก สกฺขร กถลานิวิยสมฺปชฺชนฺตีติ. ‘‘อนจฺฉริย’’นฺติ นตาว อจฺฉริตพฺพํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘พุทฺธภูตสฺสา’’ติ พุทฺธภาวํ ภูตสฺสปตฺตสฺส. ‘‘ยํ พุทฺธ ภูตสฺส อตุลตฺตํ, เอตํ อนจฺฉริย’’นฺติ โยชนา. ยทิ เจตํ อนจฺฉริยํ โหติ, กตมํ ปน ตาว อจฺฉริยํ ภวตีติ อาห ‘‘สมฺปติชาตสฺสา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘สมฺปติชาตสฺสา’’ติ อชฺเชวชาตสฺสปิ อสฺส ภควโต. กถํ อตุลตา ปฺายตีติ อาห ‘‘ตทาหี’’ติอาทึ. ‘‘เอกงฺคณานี’’ติ เอกตลานิ. ตทาหิ โพธิสตฺตสฺสปฺุานุภาเวน อติมหนฺโต โอภาโส ปาตุพฺภวติ. = อุฬาโร โอภาโส ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺมเทวานํ เทวานุภาว=นฺติหิ วุตฺตํ. เตน โอภาเสน ผริตา สพฺเพ ปถวิ ปพฺพตาทโย ชาติผลิกกฺขนฺธาวิย สุปฺปสนฺนา โหนฺติ. ทสสหสฺส จกฺกวาฬานิ เอกตลํ หุตฺวา ปฺายนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุ’’นฺติ. ‘‘ปรมาย ปูชายาติ ถุติมงฺคลวจนปูชาย. ‘‘โลกสฺสา’’ติ สพฺพ สตฺตโลกโต. เอวํ อจฺฉมฺภิ วาจํ นิจฺฉาเรสิ ธมฺมตาย สฺโจทิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ‘‘อจฺฉมฺภิวาจ’’นฺติ วิสารทวาจํ. อาสภึ วาจนฺติปิ ปาโ. อุตฺตมวาจนฺติ อตฺโถ. ‘‘นิจฺฉาเรสี’’ติ อุทาหรติ. อิทมฺปิ อนจฺฉริยํ, อฺํ ปิตโต อจฺฉริยตรํ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทาปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปารมิตา คุเณหิ เตน สทิโส โกจินตฺเถว ถเปตฺวา อฺเ จ มหาโพธิ สตฺเตติ อธิปฺปาโย ¶ . ‘‘อสฺสา’’ติ เตน สทิสสฺส. ‘‘นตฺถิภาโว ทีเปตพฺโพ’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ทีเปตพฺโพ’’ติ พุทฺธวํสปาฬิโต อาหริตฺวา ทีเปตพฺโพ. ‘‘กุโตสาวกโพธิสตฺตานํ สตสหสฺสํ สกฺขิสฺสตี’’ติ โยชนา. ปารมิโย ปกาเรนวิจินนฺติ เอเตนาติ ปารมิปวิจโย. าณํ. ตํปนาณํ มหาโพธิสตฺตานํ เอว อุปฺปนฺนํ นโหติ. ปจฺเจกโพธิสตฺต สาวกโพธิสตฺตานํปิ อุปฺปนฺนเมว. ตเทว จ สพฺเพสํปิ โพธิสตฺตานํ นิยตพฺยากรณปฺปฏิลาเภ ปธานการณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘สาวกโพธิสตฺตาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โพธิวุจฺจติวิโมกฺขฺาณํ. อริยมคฺคสฺเสตํ นามํ. โพธิมฺหิสชนฺติ ลคฺคนฺตีติ โพธิสตฺตา. ‘‘ลคฺคนฺตี’’ติ ตปฺปฏิลาภตฺถาย นิยต จิตฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ. โพธิ อตฺถาย ปฏิปนฺนา สตฺตา โพธิสตฺตาติปิ ยุชฺชติ. พุทฺธ สฺุเปิโลเก กมฺมสฺสกตาาเณ ตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต โมกฺขธมฺมปริเยสิโน สตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สมฺภาร ธมฺเม’’ติ ทสวิเธ ปารมิ ธมฺเม. วฏฺฏํ อนุสรนฺติ อนุคจฺฉนฺตีติ วฏฺฏานุสาริโน. ปถวิยํ ปํสุจุณฺณานิ วิย ปกติยา วปุถุภูตาชนาติ ปุถุชฺชนา. มหนฺตาปุถุชฺชนาติ มหาปุถุชฺชนา. วฏฺฏานุสาริโน จ เต มหาปุถุชฺชนาจาติ สมาโส. เตสํ ภาโวติ วิคฺคโห. อยํ ภาโวเยว เตสํ ภูมีติ จ วุจฺจติ. อตฺถโต ปน โมกฺขธมฺมนิรเปกฺขตา เอว. อจฺฉนฺทิกตาติปิ วุจฺจติ. ‘‘โอกฺกนฺตา’’ติ ปวิฏฺา. ตโยนิยตา, โพธิสตฺตนิยโต จ จูฬโสตาปนฺนนิยโต จ อริย โสตาปนฺนนิยโต จ. ตตฺถ โพธิสตฺตนิยโต โพธิสมฺภารพเลน สิทฺโธ. จูฬโสตาปนฺน นิยโต ปจฺจยาการานุโพธฺาณพเลน. อริยโสตาปนฺน นิยโต โสตาปตฺติ มคฺคฺาณ พเลน. เตสุ โพธิสตฺตนิยโต อิธ อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘เอเกน ปริยาเยนา’’ติอาทิ. วตฺตพฺพเมวนตฺถิเตสํ ทฺวินฺนํ โพธิสตฺตานํ ปารมิ ปวิจยฺาณ สมฺปตฺติยา วินา นิยตพฺยากรณ ลาภา สงฺกาย เอว อภาวโตติ อธิปฺปาโย.
ปทสิทฺธิวิจาเรยํ วุตฺตํ วิภาวนิยํ=ตุลายสมิโตตุลฺโย. ตุลฺโย เอว ตุโลยการ โลปวเสนา=ติ. ตํสนฺธาย ‘‘ย การสฺสวาวเสนา’’ติ ¶ วุตฺตํ. ยฺจวุตฺตํ ตตฺเถว=อถวาสมีตตฺเถ อการปจฺจยวเสน ตุลายสมีโตตุโล=ติ. ตํ สนฺธาย ‘‘อการสฺสวาวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตุลายา’’ติ โลเก ธารณตุลาสทิสาย ปฺายาติ อตฺโถ. ‘‘สมีโต’’ติ สมํ กโต. นหิ ตุลสทฺโท ภวิตุํ นยุตฺโต. ยุตฺโต เอวาติ อธิปฺปาโย. กถํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ตุลยิตุ’’นฺติอาทึ. ตตฺถหิ ‘‘ตุลยิตุํ อสกฺกุเณยฺโย’’ติวจเนน ตสฺสกมฺมสาธนตฺตํทสฺเสติ. ‘‘กมฺมสาธเนเนวา’’ติ ปุพฺเพ-ตุลยิตพฺโพ อฺเน สห ปมิตพฺโพติ ตุโลติ เอวํ อิธวุตฺเตน กมฺม สาธน วจนตฺเถเนว. ‘‘ตทตฺถสิทฺธิโต’’ติ ตสฺส วิภาวนิยํ วุตฺตสฺส ทุวิธสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิโต. ‘‘ตโต’’ติ ตุลสทฺทโต. จินฺตาย กึ ปโยชนํ อตฺถิ. นตฺถิเยวาติ อธิปฺปาโย. วทติ สีเลนาติ วตฺตา. วาที ปุคฺคโล. วตฺตุโน อิจฺฉาวตฺติจฺฉา. วตฺตุํ อิจฺฉาวตฺติจฺฉาติปิวทนฺติ. วตฺติจฺฉํ อนุคโต สมฺมุติ สงฺเกตโวหาร สิทฺธตฺตาติ สมาโส. ‘‘เอต’’นฺติ เอตํ ทฺวิธาสิทฺธวจนํ. ‘‘เจ’’ติ เจวเทยฺย. ‘‘นา’’ติ นยุตฺตํ. ‘‘ยถาสุต’’นฺติ ตุล อิติ สุตํ. ‘‘ยุตฺต’’นฺติ ยถาสุต นิยาเมเนว ยุตฺตํ วชฺเชตฺวา. ‘‘อสฺสุตสฺสา’’ติ ธารณตุลาปริยายสฺส อิตฺถิลิงฺคตุลาสทฺทสฺส. ตโตเยวยการ ยุตฺตสฺสตุลฺยสทฺทสฺส จ อสฺสุตสฺส. อิตฺถิลิงฺเคสติ, ตโตปิ เอโก อกาโรติ กตฺวา สมีตตฺเถ ทุตีโย ตทฺธิต อกาโรปิ อสฺสุโตเยวนามโหติ. ‘‘ปริกปฺปนายา’’ติ ปริกปฺเปตฺวา กถนาย. ปโยชนาภาวโต น ยุตฺตนฺติสมฺพนฺโธ. อตุลปทํ.
๖. เอวํ ทฺวินฺนํ ปทานํ ปทตฺถ สํวณฺณนํ กตฺวา อิทานิ เตสํเยว อตฺถุทฺธารสํวณฺณนํ กโรนฺโต ‘‘อิเมหิ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สมฺปทา’’ติ สมฺปตฺติโย. ‘‘โพธิสมฺภารสมฺภรณํ นาม’’ สมตึ สปารมีนํ ปริปูรณํ. ‘‘มหาวชิรฺาณ’’นฺติ ภควโต อาสวกฺขยฺาณมฺปิ วุจฺจติ. ตสฺส ปุพฺพภาเค พุทฺธภาวตฺถาย อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน ฉตฺตึส โกฏิ สตสหสฺส สงฺขานํ เทวสิกํ วฬฺชนกปฺผลสมาปตฺตีนํ ปุพฺพภาค วิปสฺสนาาณมฺปิ มหาวชิรฺาณนฺติ ¶ วุจฺจติ. สพฺพมฺเปตํ มหาฏีกายํ วุตฺตํ. ‘‘มหาโพธิยา’’ติ สพฺพฺุ พุทฺธานํ อภิสมฺโพธิ สงฺขาตสฺส อคฺคมคฺคฺาณสฺส. ปหิยฺยนฺติ ปหาตพฺพา ธมฺมา เอเตนาติ ปหานํ. ปชหนฺติ ปหาตพฺเพธมฺเมเอเตนาติวา ปหานนฺติ กตฺวา ตํ อคฺคมคฺคฺาณมฺปิตํ วิปสฺสนาาณมฺปิ ปหานนฺติ วุจฺจตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ปหานสมฺปทายํ วา สา สงฺคหิตา’’ติ วุตฺตํ. ปฺจสีลานิ. ปาณาติปาตสฺส ปหานํสีลํ, เวรมณิสีลํ, เจตสิกํสีลํ, สํวโรสีลํ, อวีติกฺกโมสิลนฺติอาทีสุวิย เอตฺถหิ ปหานสีลํ นาม ยถา วุตฺเตน อตฺเถน เวรมณิสีลเมวาติ ยุชฺชติ. ปหานํ นาม โกจิธมฺโม นโหตีติ อธิปฺปาเย ปน สติปหาน สีเสน ปหานสาธกํ ตเทวาณทฺวยํ อุปจาเรนปหานนฺติ คเหตพฺพํ. อิตรถา ปหานสมฺปทา นาม อสารา อผลาติ อาปชฺเชยฺยาติ. ปจฺเจกพุทฺธ พุทฺธสาวกา กิเลเส ปชหนฺตาปิ วาสนาย สห อปฺปชหนโต จิตฺต สนฺตาเน โมหวาสนาย วิชฺชมานตฺตา สพฺพฺุ ภาวํ นคจฺฉนฺติ. ตสฺมา ยถาเตสํ กิเลสปฺปหานํ ปหานสมฺปทา นาม นโหติ. นตถาสพฺพฺุพุทฺธานนฺติ อาห ‘‘สหวาสนายา’’ติอาทึ. วิภาวนิยําณสมฺปทา ปถมํ วุตฺตา. ตโต ปหาน สมฺปทา. ฏีกายํ ปน ปหานสมฺปทา ปถมํ วุตฺตา. ตโต อธิคม สมฺปทานาม วุตฺตา. ตโต าณสมฺปทา. ปหานสมฺปทายฺจ อคฺคมคฺคฺาณํ ทสฺสิตํ. อธิคม สมฺปทาติ จ สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิลาโภ วุตฺโต. าณสมฺปทายมฺปน เตหิ ทฺวีหิ าเณหิ อวเสสานิทสพลฺาณาทีนิสพฺพฺาณานิทสฺสิตานิ. อิธปิ ฏีกานยเมว สมฺภาเวนฺโต ‘‘ปหานสมฺปทาเยวปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘สพฺพฺุตฺาณปฺปทฏฺาน’’นฺติ สพฺพฺุตฺาณสฺสปทฏฺานํ, อาสนฺน การณํ. ‘‘น หิ มคฺคฺาณโต อฺา ปหานสมฺปทานาม อตฺถิ’’. ปรมตฺถโต นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทฺจ วิสุทฺธิมคฺเค=ปหานนฺติ โกจิ ธมฺโมนาม นตฺถิ อฺตฺร วุตฺตปฺปการานํ ปาณาติปาตาทีนํ อนุปฺปาทมตฺตโต=ติ อาคตตฺตา วุตฺตํ. ปหายกธมฺมสมาทาเนน ปน ปหาตพฺพ ธมฺมานํ อนุปฺปาโท นาม เอโกปณีต ธมฺโมโหติ. เอกํ สนฺติ ปทํ โหติ. ตถาหิ วุตฺตํ ปฏิสมฺภิทา มคฺเค=อุปฺปาโท ภยํ ¶ , อนุปฺปาโท เขมนฺติ สนฺติปเท าณํ. ปวตฺติ ภยํ, อปฺปวตฺติ เขมนฺติ สนฺติปเทาณ=นฺติ. ตทงฺคปฺปหานํ ปนตทงฺคอนุปฺปาโท นาม. วิกฺขมฺภนปฺปหานํ วิกฺขมฺภน อนุปฺปาโท นาม. สมุจฺเฉทปฺปหานํ สมุจฺเฉท อนุปฺปาโท นามาติ วตฺตพฺพํ. อิธ ปน อนุปฺปาท สมฺปาปกํ วิปสฺสนา าณฺจ มคฺคฺาณฺจ อุปจาเรน ปหานนฺติ อธิปฺเปตํ. กสฺมา, อุปริาณ สมฺปทาทีนํ ปจฺจยตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สมฺปทาสงฺกโร’’ติ สมฺปทาสมฺเภโท, สมฺปทาสมฺมิสฺโส. ‘‘ายาคต’’นฺติ ยุตฺติโต อาคตํ. ‘‘สีลาทิคุเณหี’’ติ สีล สมาธิ ปฺา วิมุตฺติ วิมุตฺติฺาณทสฺสน คุเณหิ. ‘‘อิทฺธิธมฺเมหี’’ติ อิทฺธิวิธาภิฺาทีหิ อิทฺธิคุเณหิ. ‘‘ลกฺขณานุพฺยฺชนปฺปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติ ทฺวตฺตึส มหาปุริสลกฺขเณหิ จ อสีติ ขุทฺทกลกฺขเณหิ จ ปฏิมณฺฑิตสฺส. ‘‘อาสโย’’ติ จิตฺต สนฺตาเน อธิสยิโต อิจฺฉาวิเสโส. ‘‘อชฺฌาสยสฺสา’’ติ อโลภชฺฌาสยาทิกสฺสอชฺฌาสยสฺส. ‘‘อุฬารตา’’ติ ปณีตตา. ‘‘หิตชฺฌาสยตา’’ติหิตกามตา. อปริปาก คตินฺทฺริยานํ สตฺตานํ อินฺทฺริยปริปากกาลาคมนฺจ เอตฺถ วตฺตพฺพํ. ‘‘อภิฺาตาน’’นฺติ อติปากฏานํ. ‘‘ทฺเวปหานสมฺปทา’’ติ ทฺเวปหาน สมฺปทา าณสมฺปทา. สมฺมาสมฺพุทฺธปเท. ‘‘สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌี’’ติ เอตฺถ อภิสมฺโพธิสงฺขาตํ อคฺคมคฺคฺาณํ คหิตํ. ตฺจ ปหานกิจฺจปฺปธานํ โหติ. ‘‘ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต’’ติ เอตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ. ‘‘พเลสุ จ วสิภาว’’นฺติ เอตฺถ ทสพลฺาณานิ คหิตานิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทฺเว…เป… สมฺมาสมฺพุทฺธปเทนวิภาวิตา’’ติ.
สมฺปทานิฏฺิตา.
๗. สสทฺธมฺมคณุตฺตมปเท. ยถา=สสงฺฆํโลกนายกํ นมสฺสิสฺสํ=ติ เอตฺถสหสทฺทสฺส สมวายตฺถตฺตา อหํโลกนายกฺจ สงฺฆฺจ นมสฺสิสฺสนฺติ เอวํ สมวายตฺโถ วิฺายติ. ตถา อิธปิ สมฺมาสมฺพุทฺธฺจสทฺธมฺมฺจ คณุตฺตมฺจ อภิวาทิยามีติ เอวํ กิริยาสมวายตฺโถ สหสทฺเทน ทีปิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทูรโตหํ…เป… เอวมิทํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อิท’’นฺติ สสทฺธมฺมคณุตฺตมปทํ. เอตฺถ ¶ จ‘‘สมวาโย’’ติ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ พหูนํ วา อตฺถานํ เอกสฺมึ ทพฺเพวา คุเณวากิริยายวาสมํ อเวจฺจ อยนํปวตฺตนํ สมวาโย. ปจฺจานุตาป ปจฺจานุโมทนาทิาเนสุ=อหํ ปุพฺเพทานํ นททิสฺสํ, สีลํ นรกฺขิสฺสํ. - อเนกชาติ สํสารํ สนฺธาวิสฺส=นฺติอาทินา อตีเตปิกาเล อนาคตวจนํ ปยุชฺชตีติ อาห ‘‘นมสฺสิสฺส’’นฺติ นมสฺสึติ. ‘‘คุณีภูตาน’’นฺติ สมาสปเท วิเสสนภูตานํ, อปฺปธานภูตานนฺติ อตฺโถ. อพฺภูต ตพฺภาเวจายํ อีกาโร. ยถา, กาโก เสตี ภวติ, พโก กณฺหีภวตีติ. เอตฺถ จ ‘‘เสตี ภวตี’’ติ อเสตปุพฺโพ เสโตภวติ. ‘‘กณฺหีภวตี’’ติ อกณฺหปุพฺโพ กณฺโหภวตีติ อตฺโถ. ตถา อิธปิ. พุทฺธํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจวนฺทิตฺวา-ติอาทีสุ วิสุํวิสุํ ปธานตฺตา อคุณภูตาปิ ธมฺมสงฺฆา อิธสมาสปเท อฺปทตฺถสฺสคุณภูตาโหนฺติ. อยํ อพฺภูตตพฺภาวตฺโถ นาม. ‘‘อภิวาทิตภาโว’’ติ วุตฺเต ตปจฺจยสฺส พหุลํ อตีตกาลวิสยตฺตา ปุพฺเพคนฺถารมฺภกาเล ธมฺม สงฺฆานํปิ เถรสฺส วนฺทนาสิทฺธิ ทสฺสิตา โหติ. ‘‘อภิวาเทตพฺพ ภาโว’’ติ วุตฺเตปน ตพฺพปจฺจยสฺสกาลสามฺวิสยตฺตาน ตถา ทสฺสิตา โหติ. ทานํ ทาตพฺพํ, สีลํ รกฺขิตพฺพนฺติอาทีสุ วิย ธมฺมสงฺฆานามสพฺพกาลํปิ อภิวาเทตพฺพาติ. เอวํ ธมฺมสงฺฆานํ สพฺพกาลํปิ อภิวาทนารหคุโณ เอว ทสฺสิโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ, ‘‘อภิวาทน’’นฺติ อิทํ กิริยาสมวายทสฺสนโต วุตฺตํ. กาลวิเสสํ ปน นทีเปติเยว. ‘‘อตฺตโน นิทสฺสเนนา’’ติ สปุตฺตทาโร อาคโตติ อตฺตนา นีหริตฺวา ทสฺสิเตน ปโยเคน. โสหิ ปโยโค กิริยา สมวายสฺเสว. นคุณสมวายสฺสาติ. เอตฺถ จ เถรสฺส วนฺทนาวจเน เถโร อิเมหิ เยวปเทหิ รตนตฺตยํตีหิทฺวาเร หิวนฺทตีติ คเหตฺวา ‘‘อภิวาทิยา’’ติ เอตฺถ อภิวาทิยาธีติ จ อตฺถํ นีหรนฺติ. อปฺปธาน กิริยาปเท ปน ตทตฺถ นีหรณํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อปิจา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺถโชตเน อยํ นิปาตสมุทโย. ‘‘คนฺถปฺปฏิฺายา’’ติ คนฺถปฺปฏิฺาวจเนน. ‘‘สหฆเฏตฺวา’’ติ เอกโต สมฺพนฺธิตฺวา.
วจนตฺเถ ¶ . สธโน ปุริโส, ธนวาปุริโส-ติ อาทโย สมาสตทฺธิตสทฺทา เยภูยฺเยน อติสฺสยตฺถ ทีปกา โหนฺติ. นหิ อปฺปเกน ธเนน ตถา โวหรนฺติ. ตสฺมา อิธาปิ ตถา รูปํ อติสฺสยตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตนานิมฺมิเตน…เป… สรณภูเตนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ, ‘‘อตฺตนานิมฺมิเตนา’’ติ อตฺตนา อุปฺปาทิเตน. ‘‘นหี’’ติอาทินา ตทตฺถเมว พฺยติเรกโต วิวรติ. ตตฺถ, ‘‘ปรนิมฺมิเตนา’’ติ พุทฺธนิมฺมิเตนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตถา โถมน’’นฺติ สสทฺธมฺม คณุตฺตมนฺติ โถมนํ. ‘‘อิทํปี’’ติ ทุตียตฺถ สมฺปิณฺฑเน อยํปิกาโร. นเกวลํ ปุริมปททฺวยเมว สตฺถุ อสาธารณคุณปทํ โหติ. อถ โข อิทํปิ ปทํ สตฺถุ ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ อสาธารณ ปทเมวโหตีติ โยชนา.
ธมฺมวจนตฺเถ. ‘‘ธาเรตี’’ติ วหติ. คาถายํ ‘‘รกฺขตี’’ติ อปายาทิทุกฺขโตรกฺขติ. ‘‘เยส’’นฺติ กิเลสานํ. ‘‘อิมสฺมึ อตฺเถ’’ติ กิเลสสมุจฺฉินฺทนสงฺขาเต ธารณตฺเถ. ‘‘นิพฺพานฺจนิปฺปริยายโต ธมฺโม นามา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ นิสฺสรณปฺปหานเมว นิพฺพานสฺส กิจฺจํ, อิทฺจ สมุจฺเฉทปฺปหานนฺติ โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘อริยมคฺคาหี’’ติอาทิมาห. ‘‘นิพฺพาเนน สเหว หุตฺวา’’ติ อารมฺมณาธิปติภูตํ อารมฺมณู ปนิสฺสยภูตฺจ นิพฺพานํ อตฺตโน ปติฏฺํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. อปิจ, สมุจฺเฉโทติ จ นิสฺสรณนฺติ จ อตฺถโต สมานคติกํ โหติ. ตสฺมา นิสฺสรณํปิ มุขฺยธารณ เมวาติ ทฏฺพฺพํ. นิสฺสรณเมววา ปธานธารณนฺติ ปิยุชฺชติเยว. ‘‘ธารณูปาโยเยวโหติ’’. นมุขฺยธารณํ. กสฺมา, สมุจฺเฉท กิจฺจาภาวโต. ‘‘เอเตปฺจ ปริยายธมฺมาเยว’’. กสฺมา, นิพฺพานสฺสวิยมคฺคานํ สมุจฺเฉท กิจฺเจ อสหายตฺตาติ. เอตฺถ จ ‘‘สามฺปฺผลานี’’ติ สมณสฺส ภาโว สามฺํ. อริยมคฺคสฺเสตํ นามํ. สามฺสฺสผลํ สามฺปฺผลํ. ทุตียวิกปฺเป อกิจฺจ ปจฺจยภูตาปิ เกจิกิตกปจฺจยา กมฺมตฺเถคตา กิจฺจปจฺจยานํปิ อตฺถํ ทีเปติ. ยถา, ทิฏฺํ, สุตํ, มุตํ, วิฺาตนฺติ วุตฺตํ ‘‘ธารณารโห’’ติ. ‘‘ยถา วุตฺต ธมฺมา เยวา’’ติ ปฺจมุขฺยธมฺมา, ปฺจปริยายธมฺมาเยว. ‘‘เกจี’’ติ จตฺตาโร มคฺคา. ปุน ‘‘เกจี’’ติ นิพฺพานเมว. พหุวจน โสเตปติตตฺตา ¶ เอตฺถ พหุวจนํ รุฬํ. ปุน ‘‘เกจี’’ติ จตฺตาโร สามฺปฺผล ธมฺมา. ‘‘เกจี’’ติ ปริยตฺติ ธมฺโม. เอตฺถาปิ พหุวจนํ โสตปติตเมว. ‘‘ธาเรนฺต’’นฺติ ธาเรนฺตํ ปุคฺคลํ. ตตีย วิกปฺเป ‘‘อปตมานํ วหนฺตี’’ติ อปตมานํ กตฺวา วหนฺติ. จตุตฺถ วิกปฺเป ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตสฺมึ ธมฺเม. ธมฺโมวทีปํ เอเตสนฺติ ธมฺมทีปา. ธมฺโมว ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ธมฺมปฺปฏิสรณา. ธมฺมทีปา ภิกฺขเว ภวถ ธมฺมปฺปฏิสรณา, อนฺปฺปฏิสรณา ติหิ วุตฺตํ. ลทฺธา ปติฏฺา เอเตสนฺติ ลทฺธปฺปติฏฺา. ยุชฺชติเยว. ธมฺมทีปปาานุโลมตฺตาติ อธิปฺปาโย. ธมฺมวิจารณายํ, โจทโกปฏิปตฺติ ธมฺมํ ทสวิธ ธมฺมโต อฺํมฺมาโน ‘‘กสฺมา’’ติอาทินา โจเทติ. โส ปน ปฏิปตฺติ ธมฺโม ตโต อฺโน โหติ, ตตฺเถว อนฺโตคโธติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘มคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา โหตี’’ติ ยถา อมฺพรุกฺโข อมฺพปุปฺผอมฺพปฺผลสฺส ปติฏฺา ภาเวน ปุพฺพภาค นิสฺสโย โหติ. กสฺมา, อิโตเยวตสฺส ปุปฺผปฺผลสฺส ชาตตฺตา เอตฺเถวสํ วฑฺฒิตตฺตา จ. ตถา ปฏิปตฺติ ธมฺโมปิ อริยมคฺคปฺผลสฺสปติฏฺาภาเวน ปุพฺพภาคูปนิสฺสยปฺปฏิปทาโหติ. กสฺมา, อิโตเยว ตสฺสชาตตฺตา เอตฺเถวสํ วฑฺฒิตตฺตา จ. วุตฺตฺเหตํ มหาวคฺค สํยุตฺเต. เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว เยเกจิ เมพีชคามภูตคามาวุฑฺฒึ วิรุฬึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. สพฺเพเต ปถวึ นิสฺสาย ปถวึ ปติฏฺาย. เอวเมว โข ภิกฺขเว ภิกฺขุสีลํ นิสฺสาย สีเลปติฏฺาย อริยํ อฏฺงฺคีกํ มคฺคํ ภาเวนฺโต วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ ธมฺเมสูติ. ‘‘ปุพฺพเจตนาวิยทาเน’’ติ ยถา ติวิธํ ปฺุํ, ทานมยํ ปฺุํ สีลมยํ ปฺุํ ภาวนามยํ ปฺุนฺติ วุตฺเต ทานวตฺถุ ปริเยสนโต ปฏฺาย ทานํ อารพฺภปวตฺตา สพฺพา ปุพฺพภาค เจตนา ทานวจเน สงฺคหิตา ทานนฺตฺเวว สงฺขฺยํคตา. เอวํ โส ปฏิปตฺติ ธมฺโม อริย มคฺควจเน เอวสงฺคหิโต, อริยมคฺโค ตฺเวว สงฺขฺยํ คโตติ วุตฺตํ โหติ.
อิมสฺมึ ธมฺมสํสนฺทเน อปรมฺปิ วตฺตพฺพํ วทนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ยทคฺเคนา’’ติ เยนการณโกฏฺาเสน ธารณูปาโยติอาทินา การณภาเคนาติ อตฺโถ. วนฺทนํ อรห ตีติ ¶ วนฺทเนยฺโย. ตสฺมึ วนฺทเนยฺเย. ‘‘ปุถุชฺชนกลฺยาณโก’’ติ เอตฺถ ติวิโธ กลฺยาณโก วินยกลฺยาณโก สุตฺตนฺตกลฺยาณโก อภิธมฺมกลฺยาณโกติ. ตตฺถ วินเย ปฺตฺตาย กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยา สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วินยกลฺยาณโก นาม. โส อิธ ภิกฺขุ ปาติโมกฺข สํวรสํวุโต วิหรติ อาจาร โคจร สมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ เอตฺถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ วินเย ปฺตฺตากลฺยาณปฺปฏิปตฺติทุวิธา, อาทิ พฺรหฺมจริยกสีลํ อภิสมจาริกสีลนฺติ. ตตฺถ, อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนํ สีลํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ นาม. ขนฺธกปริยาปนฺนํ สีลํ อภิสมจาริกํ นาม.
สุตฺตนฺเตสุ วุตฺตาย กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยา สมนฺนาคโต คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา สุตฺตนฺต กลฺยาณโก นาม. โส จตูหิ ภิกฺขเว ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก สพฺพํ ทุคฺคติภยํ สมติกฺกนฺโต โหติ. กตเมหิ จตูหิ. อิธ ภิกฺขเว อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ อิติ ปิโส ภควา…เป… สตฺถาเทวมนุสฺสานํ, พุทฺโธ, ภควาติ. ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหีติ. สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ. อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหตีติ เอตฺถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาโท นาม อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ติอาทิกานํ คุณปทานํ อตฺถ ชานนฺาเณน ยุตฺโต ปสาโท. อริเยหิกามียนฺติ อิจฺฉียนฺตีติ อริยกนฺตานิ. สุปริสุทฺธสฺส อาชีวฏฺมกสีลสฺเสตํ นามํ. จตฺตาริมานิ ภิกฺขเว โสตาปตฺติยงฺคานิ. กตมานิ จตฺตาริ. สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสฺสวนํ, โยนิโส มนสิกาโร, ธมฺมานุ ธมฺมปฺปฏิปตฺตีติอาทีนิ พหูนิ สุตฺตนฺตานิ อิธ วตฺตพฺพานิ.
อภิธมฺเม วา สุตฺตนฺเตสุ วา วุตฺตาย กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยา สมนฺนาคโตคหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา อภิธมฺมกลฺยาณโก นาม. โส อิธ สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริย ธมฺมสฺสโกวิโท ¶ อริยธมฺเมสุ วินีโต. โส รูปํ อตฺตโต น สมนุปสฺสตีติ เอตฺถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ, ‘‘สุตวา’’ติ เอตฺถ ขนฺธา, ยตน, ธาตุ, ปฏิจฺจสมุปฺปาท, สติปฏฺานา, ทีสุ อุคฺคห ปริปุจฺฉา วินิจฺฉยฺาณ สมนฺนาคโต คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา สุต วา นามาติ อฏฺกถาสุ วุตฺโต. โส เอว ปุถุชฺชน กลฺยาณโกติ จ วุจฺจติ.
ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน. ติ
จ วุตฺตํ. องฺคุตฺตเร ปน จตุกฺกนิปาเต กตโม ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต สุเตน อุปปนฺโน โหติ. อิเธกจฺโจ ธมฺมํ สุณาติ เอกายปิ จาตุปฺปทิกาย คาถาย อตฺถ มฺาย ธมฺม มฺาย ธมฺมา นุ ธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ. อยํ อปฺปสฺสุโตสุเตน อุปปนฺโนติ วุตฺตํ. สุตวาติ จ สุเตน อุปปนฺโนติ จ อตฺถโต เอกนฺติ. ปุถุชฺชน กลฺยาณโก สงฺเฆ เสกฺเขสุสงฺคหิโต. วุตฺตํเหตํ ปริวาเร เก สิกฺขนฺตีติ. ปุถุชฺชน กลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต อริยปุคฺคลา สิกฺขนฺติ. อรหา ขีณาสโว สิกฺขิตสิกฺโขติ. ทกฺขิณ วิภงฺคสุตฺต อฏฺกถายํ ปน. ติ สรณ สรณํ คโต อุปาสโกปิ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน สงฺคหิโตติ วุตฺตํ. ตตฺถ, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโนนาม โสตาปตฺติ มคฺคฏฺโ อริยปุคฺคโล. ‘‘โสหิสงฺคหิโต’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺตาวตา ปฏิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺเฆ อสงฺคหิโต’’ติ สงฺฆํสรณํ คจฺฉามีติ จ, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆติ จ, เอวรูเปสุ าเนสุ อาคเต สงฺฆ วจเน อสงฺคหิโต. ‘‘น หิตํ สรณํ คจฺฉนฺตสฺสสรณคมนํ สมฺปชฺชตี’’ติ อิทํ สงฺฆํสรณํ คจฺฉามีติ เอตฺถ สงฺฆ วจเนตสฺสปุคฺคลสฺส อสงฺคหิต ภาวสาธนตฺถํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติ. สเจ ปน สพฺพํ ภควโต สาวกสงฺฆํ อนุทฺธิสฺสตเมว ปุคฺคลํ สงฺฆํสรณํ คจฺเฉยฺย อายสฺมนฺตํ สรณํ คจฺฉามีติ. สรณ คมนํ น สมฺปชฺชติเยว. อถ สพฺพํ ภควโต สาวกสงฺฆํ อุทฺทิสฺส ตสฺส สนฺติเก สรณํ คจฺเฉยฺย สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามีติ. สมฺปชฺชติเยว ¶ . อิทฺจ ทหรกาเล สพฺพปฺปถมํ สรณคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทฺหิ สรณ คมนํ นาม สกึ คเหตฺวา รตนตฺตเย สทฺธํ อชหนฺตสฺส ยาวชีวํปิ น ภิชฺชติ. ปุนปฺปุนํ คหณ กิจฺจํ นตฺถิ. ปุนปฺปุนํ คณฺหนฺเตปิ โทโสนตฺถิ. ปุนปฺปุนํ ปฺุํ วฑฺฒติ. สพฺพปฺปถมํ คหณกาเล จ อฺเน ทินฺนตฺตา ลทฺธํ นโหติ. อตฺตโนวจี เภเทน ลทฺธํ โหติ. ตสฺมา อฺสฺส สนฺติเก อคฺคเหตฺวา สยเมว วจีเภทํ คณฺหนฺตสฺส คหฏฺสฺส สรณ คมนํ สมฺปชฺชติเยว. ตถา สพฺพานิ คหฏฺสีลานีติ. สามเณร สรณ คมนมฺปน ภิกฺขุนาทินฺนเมว ลพฺภติ. ตฺจ โข อุภินฺนํปิานกรณ สมฺปตฺติยา สติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘โว’’ติ ตุมฺหากํ. โยธมฺโม จ เทสิโต โยวินโยจปฺตฺโต. ‘‘มมจฺจเยนา’’ติ มมาติกฺกเมน. มยิ ปรินิพฺพุเตติ วุตฺตํ โหติ. สตฺถา ภวิสฺสตีติ ปาเสโส. ‘‘สํวณฺณิโต’’ติ สุฏฺุตรํวณฺณิโต โถมิโต. ‘‘กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยํ ิโตปี’’ติ ตีสุกลฺยาณปฺปฏิปตฺตีสุ อฺตรปฺปฏิปตฺติยํ ิโตปิ. ‘‘อฏฺิโตปี’’ติ สพฺพปฺปฏิปตฺติพาหิโร ทุสฺสีโลปาปธมฺโมติ อธิปฺปาโย. วิเสสโต ปน วินยปฺปฏิปตฺติ เอว อิธ ปริยตฺตาติ ทฏฺพฺพา. ‘‘โส’’ติ โสทุสฺสีโล ปาปธมฺโม. อตฺตโนปิ สรณํ นโหติ. อวสฺสํ อปายคามีเยว โส โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘กุโต สรณํ ภวิสฺสตี’’ติ โยชนา. ‘‘อเนเกสุ สุตฺตสหสฺเสสู’’ติ วินเยปิ พหูนิ ครหสุตฺตปทานิ ทิสฺสนฺติ สุตฺตนฺเตสุปิ. วิเสสโต ปน อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺตาทีสุ.
สทฺธมฺมวจนตฺเถ. กิเลเสสเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ สนฺโตติ วจนตฺถํ สนฺธาย ‘‘สมิตกิเลสาน’’นฺติ วุตฺตํ. สนฺต สทฺโท ปน ปสตฺเถจ, ปูชิเตจ, สปฺปุริเสจ, ปณฺฑิเตจ, ทิสฺสตีติ อิมํ อภิธานตฺถํ สนฺธาย ‘‘ปสตฺถาน’’นฺติอาทิวุตฺตํ. ‘‘สจฺโจวา ธมฺโม สทฺธมฺโม’’ติ โยชนา. เอเตน สภาวโต อตฺถิสํวิชฺชตีติ สนฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘โส’’ติ อฺติตฺถิย ธมฺโม. ‘‘ธาเรนฺตสฺสา’’ติ สวนุคฺคหธารณปฺปฏิปชฺชนาทิวเสน ธาเรนฺตสฺส. อหิโตเยว สมฺปชฺชติ, เยภุยฺเยน ทุคฺคติ วิปากตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อยํ ปนา’’ติ สตฺถุ สทฺธมฺโม ปน. ‘‘ตถา ธาเรนฺตสฺสา’’ติ ¶ อยํ เม หิโตติ ธาเรนฺตสฺส หิโตเยวสมฺปชฺชติ, สุคติ นิพฺพาน สมฺปาปกตฺตาติ อธิปฺปาโย.
‘‘สมานทิฏฺิสีลาน’’นฺติ สมานทิฏฺิกานํ สมานสีลานฺจ. เอเตน สมานทิฏฺิสีลา ชนา คณียนฺติ เอตฺถาติ คโณ. สํหนียนฺติ เอกโตกรียนฺติ เอตฺถาติ สงฺโฆติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. สห เอกโต ธมฺมํ จรนฺตีติ สหธมฺมิกา. เอกสฺส สตฺถุโน ธมฺม วินเย ปพฺพชิตา. เตสํ สหธมฺมิกานํ. ภควโต สาวกสงฺโฆ อุตฺตมคโณ นาม. เย เกจิ โลเก สงฺฆาวา คณาวา. ตถาคตสฺส สาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายตีติ หิ วุตฺตํ. โสเยว อิธ คณุตฺตโมติ วุจฺจติ วิเสสน ปร นิปาต วเสนาติ อธิปฺปาโย. อุตฺตมสทฺทสฺส คุณนามตฺตา ‘‘คุณมฺหิเยว ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เตนา’’ติ อุตฺตม สทฺเทน. ‘‘คโณติ สงฺโฆเยว วุจฺจติ’’ สงฺฆสทฺทสฺสปิ สมูหฏฺเ นิรุฬฺหตฺตา, ‘‘โส วินยกมฺเมสุ ปสิทฺโธ’’ติ ปฺจสงฺฆา จตุวคฺคสงฺโฆ, ปฺจวคฺคสงฺโฆ, ทสวคฺคสงฺโฆ, วีสติวคฺคสงฺโฆ, อติเรกวีสติวคฺคสงฺโฆ, จตุวคฺคกรณียํ กมฺมํ, ปฺจวคฺคกรณียํ กมฺมนฺติอาทินา ปสิทฺโธ ปากโฏ. ทกฺขิณา วุจฺจติ กมฺมฺจ กมฺมผลฺจ สทฺทหิตฺวา อายตึ วิปากปฺผลปฺปฏิ ลาภตฺถาย ทินฺนํ ทานกมฺมํ ทกฺขนฺติ วฑฺฒนฺติ สตฺตา เอตายาติ กตฺวา. ตํทกฺขิณํ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อรหตีติ ทกฺขิเณยฺโย. ‘‘อรหตี’’ติ จ อนุตฺตร ปฺุกฺเขตฺต วิเสสตฺตาทายเกน อิจฺฉิต ปตฺถิตสฺส อายตึ ผลสฺส สุฏฺุสมฺปาทนวเสน ทายกสฺส จ อวิราธนโต อสงฺขฺเยยฺยาปฺปเมยฺยวฑฺฒิ อาวหนโต จ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อรหติ. เอวรูปํหิทานํ นาม อุฬารทานํ โหติ. ตํ เยสุทุสฺสีเลสุทิยฺยติ. เตสํ เขตฺต ทุฏฺตฺตา ทายเกน อิจฺฉิตปตฺถิตํ ผลํ น สมฺปาเทติ. นิปฺผลํ วา โหติ. อปฺปปฺผลํ วา. เอวํสติ, เต ทายกฺจ วิราเธนฺติ นาม. ปฺุปฺผลานิ จ วินาเสนฺติ นาม. สยฺจ ตํทานํ ปฏิคฺคหณโต วา ปริโภคโต วา สทฺธาเทยฺยํ วินิปาตนโต วา ทุคฺคติ ภาคิโน โหนฺติ. ตสฺมาเต เอวรูปํ ทานํ ปฏิคฺคณฺหิตุํ นารหนฺตีติ. ‘‘อุปสมฺปทากมฺมํ สมฺมุติ นามา’’ติ เอเกน ปริยาเยน สมฺมุติ กมฺมํ นาม. ตฺหิ กามํเตร สสุสมฺมุติ กมฺเมสุนาคตํ. ตฺติ จตุตฺถ กมฺมวาจา สงฺขาตาย ¶ ปน สงฺฆสมฺมุติยา สิทฺธตฺตา เตน ปริยาเยน สมฺมุติ กมฺมนฺติ วุจฺจตีติ. ‘‘อุปสมฺปนฺนภูมึ ปตฺวา’’ติ อุปสมฺปนฺนภูมิ สงฺขาตํ อุปริานนฺตรํ ปตฺวา. ตถา หิ วุตฺตํ วินเย ภิกฺขุ วิภงฺเค. ตฺติ จตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหนาติ. ตตฺถ, ‘‘านารเหนา’’ติ อุปสมฺปนฺน ภูมิสงฺขาตํ านนฺตรํ ปาเปตุํ อรเหนาติ อตฺโถ. ‘‘อุปสมฺปนฺนภูมี’’ติ จ อุปสมฺปนฺน สีลํ วุจฺจติ. ‘‘วินยกมฺเมสุ ปสิทฺโธ’’ติ. สุณาตุเมภนฺเต สงฺโฆ ติอาทีสุ ปากโฏ. อปิจ ‘‘สมฺมุติ สงฺโฆ’’ติ, เทวสงฺฆาสมาคตาติอาทีสุ วิย พหูนํ สมูหนฏฺเน โลกสมฺมุติยา สิทฺโธสงฺโฆ สมฺมุติ สงฺโฆติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อริยปุคฺคลสมูโห’’ติ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก ภิกฺขุ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน โสตาปตฺติ มคฺคฏฺเ สงฺคหิโตติ, เตน สห อฏฺวิโธ อริย ปุคฺคลสมูโห. ‘‘สมฺมุติ สงฺเฆ อนฺโตคโธเยวา’’ติ เอเตน ทกฺขิเณยฺยสงฺโฆ นาม วิสุํ นวตฺตพฺโพ. ตสฺมิฺจ นวตฺตพฺเพ สติ, สมฺมุติ สงฺโฆติปิ วตฺตพฺพ กิจฺจํ นตฺถิ. ภควโต สาวกสงฺโฆ ตฺเวว วตฺตพฺพํ โหตีติ ทสฺเสติ. สจฺจเมตํ. อิธ ปน สงฺฆวจเนน อาคตฏฺานสฺส ทุวิธตฺตา สงฺฆสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ตตฺถ สมฺมุติ สงฺฆสฺส อาคตฏฺานํ วินยกมฺเมสูติ วุตฺตเมว. อิทานิ อริยสงฺฆสฺส อาคตฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สรณ คมน…เป… อนุสฺสติฏฺาเนสุ อุปสมฺปนฺนภูโต ภิกฺขุสงฺโฆว คเหตพฺโพ. ทกฺขิณาวิสุทฺธิฏฺาเน ปน ปุคฺคลิกทาเนสุ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อุปาสโกปิ สามเณโรปิ ยุชฺชติ. สงฺฆิก ทาเนสุ ปน ภิกฺขุสงฺโฆว. ‘‘ตถา ตถา สํวณฺเณตฺวา’’ติ อาหุเนยฺโย, ปาหุเนยฺโย, ทกฺขิเณยฺโย, อฺชลีกรณียฺโย, อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา, ติอาทินาสุฏฺุ โถเมตฺวา. โส ทกฺขิเณยฺย สงฺโฆ. ‘‘ปุถุชฺชน สงฺโฆ’’ติ อิทํ อริย สงฺเฆน วินาเกวลํ ปุถุชฺชนสงฺฆํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ สงฺฆ วจเนน สงฺฆ ปริยาปนฺโน เอโกปิ ภิกฺขุ คเหตพฺโพ. โส สเจ ปุถุชฺชโน โหติ, อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ นโหติ. ยทิ อริย ปุคฺคโล โหติ, อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โหติ.
ทกฺขิณวิภงฺคสุตฺเต ¶ สงฺฆิกทาเน ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา. เตสํปิ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ. ตทาปานนฺท สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยนฺติ วทามีติ วุตฺตตฺตา สงฺฆิกฏฺานํ ปตฺวา โกจิ ภิกฺขุ ทกฺขิเณยฺย สงฺเฆ อสงฺคหิโตติ นตฺถีติ ทฏฺพฺโพ.
เขตฺตํ ทูเสนฺตีติ เขตฺตทุฏฺานิ. ติณานิ. เขตฺตทุฏฺา กิเลสา. วุตฺตฺหิธมฺมปเท.
ติณโทสานิ เขตฺตานิ, ราคโทสา อยํปชา;
ตสฺมาหิ วีตราเคสุ, ทินฺนํ โหติ มหปฺผลํ.
ติณโทสานิ เขตฺตานิ, โทสโทสา อยํปชา;
ตสฺมาหิ วีตโทเสสุ, ทินฺนํ โหติ มหปฺผลํ.
ติณโทสานิ เขตฺตานิ, โมหโทสา อยํปชา;
ตสฺมาหิ วีตโมเหสุ, ทินฺนํ โหติ มหปฺผลนฺติ.
อิธ ปน สาติสฺสยโต เขตฺตทุฏฺเ กิเลเส ทสฺเสตุํ ‘‘สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานุสยาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สพฺภาวา’’ติ สนฺตสฺส วิชฺชมานสฺสภาโว สพฺภาโวติวิคฺคโห. ‘‘อสฺสา’’ติ ปุถุชฺชน สงฺฆสฺส. ‘‘สทฺธมฺมปเท วุตฺตนเยนา’’ติ อปิจยทคฺเคนาติ วุตฺตนเยน.
สสทฺธมฺมคณุตฺตมปทตฺถานุทีปนี นิฏฺิตา.
๘. ‘‘อภิวาทิยา’’ติ สุขีโหหิสปฺปุริสาติ เอวํ อภิวทาเปตฺวา. อภิวาทนฺจ นาม วนฺทนาเมวาติ วุตฺตํ ‘‘วนฺทิตฺวา’’ติ. วนฺทนฺโตหิ วนฺทเนยฺเย วุทฺเธ ตถา วทาเปติ นาม. ตถา วทนฺจ วนฺทเนยฺยานํวุทฺธานํ วตฺตํ. ‘‘ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา’’ติ ปฏิมุขํ อุปฏฺาเปตฺวา. ‘‘ติวิธา’’ติ ทฺวาร เภเทน ติวิธา. ‘‘วนฺทเนยฺยาน’’นฺติ พุทฺธาทีนํ. ‘‘นิปชฺชนฺโต’’ติ นิปตนฺโต. ‘‘อวนฺทิเยสู’’ติ ภิกฺขูหิ อวนฺทิตพฺเพ สุนวกตราทีสุ. ‘‘คุณปทานี’’ติ คุณทีปกานิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทิปทานิ. เอตฺถจกาเยนวนฺทตีติอาทิ อุปจาร วจนํ โหติ. ยถา จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติ. ตถาหิ วุตฺตํ อฏฺกถาสุ ¶ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ กรณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสน สมตฺเถน จกฺขุ วิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ, อจิตฺตตฺตา. จิตฺตํ น ปสฺสติ, อจกฺขุตฺตา. ทฺวารารมฺมณ สงฺฆฏฺฏเน ปน สติ จกฺขุ ปสาทวตฺถุ เกนจิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา กถา ธนุนา วิชฺฌตีติอาทีสุ วิย สสมฺภาร กถานาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุ วิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถติ. เอตฺถหิ ‘‘กาเยนา’’ติ กาย วิฺตฺติสงฺขาตํ ทฺวาร รูปํ กรณํ โหติ. ตสฺมา จกฺขุนาติ วจเน อุปจาร วจเน สติ กาเยนาติ วจนํปิ อุปจาร วจนนฺติ วิฺายติ. ตถา จกฺขุนาติ ปเท จกฺขุวิฺาเณนาติ อตฺเถ สติ กาเยนาติ ปเทปิ กายกมฺเมนาติ อตฺโถ วิฺายติ. วาจาย วนฺทติ, มนสาวนฺทตี,ติ ปเทสุปิ เอสนโย. เอวฺจ สติ, กาย กมฺเมนวนฺทามิ, วจีกมฺเมน วนฺทามิ, มโนกมฺเมน วนฺทามิ, ตีหิ กมฺเมหิ วนฺทามีติ อิทเมว มุขฺยวจนนฺติ สิทฺธํ โหติ. สพฺพมิทํ อินฺทฺริย สํวรสีลฏฺาเน อฏฺกถาสุ อาคตตฺตา วุตฺตํ. จกฺขุนาติ อิทํ ปน มุขฺย กรณ วจนเมว สมฺภวติ. กสฺมา, จกฺขุสฺส ทสฺสนสงฺขาตสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส วตฺถุ ปุเรชาตินฺทฺริยปจฺจยวิเสสตฺตา. โสเตน สทฺทํสุตฺวาติอาทีสุปิ เอสนโย.
กาเยนวนฺทติ, วาจายวนฺทตี,ติ เอตฺถ ตํกายวจีวิฺตฺติ รูป ทฺวยํ กิฺจาปิ สหชาต เจตนา กมฺเมน ชาตํ โหติ. น ตํ เจตนากมฺมํ วิฺตฺติ ทฺวเยนชาตํ. เอวํ สนฺเตปิ ตํ รูป ทฺวยํ ตสฺสาเจตนาย กายวนฺทนากมฺม, วจีวนฺทนากมฺม สิทฺธิยา อุปนิสฺสย ปจฺจยวิเสโส โหติ. ยถาตํ มาติโต ชาโต ปุตฺโต วุทฺธิ ปตฺโต ตํ ตํ กมฺเมสุ มาตุยา พล วูปนิสฺสโย โหติ. เอวฺจ กตฺวา ตํ รูปทฺวยํ อภิธมฺเม ทฺวารรูปนฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘กาเยน, วาจายา,ติ อิทํปิ มุขฺย กรณ วจนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. กาเยนาติ ปน กายกมฺเมนาติ อตฺเถ สติ, ตสฺสกมฺมสฺส วนฺทนากิริยาย สห อเภโท อาปชฺชตีติ เจ. นาปชฺชติ. กสฺมา เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ ‘กาเยน, วาจาย, มนสาติ อิมสฺมึ สุตฺเต ยถาหิ ‘‘เจตยิตฺวา’’ติ ปุริมเจตนาหิ เจต ยิตฺวา ¶ . ‘‘กมฺมํ กโรตี’’ติ ปจฺฉิมํ สนฺนิฏฺาปน เจตนา กมฺมํ กโรตีติ อตฺโถ. ตถา อิธปิ ปุริมปจฺฉิมเจตนา สมฺภวโตติ. เอตฺถ หิ ‘‘กายกมฺเมนา’’ติ ปุริมเจตนา กมฺมํ คยฺหติ. ‘‘วนฺทตี’’ติ ปจฺฉิม สนฺนิฏฺาปนเจตนากมฺมนฺติ.
๙. ‘‘รจยนฺโต’’ติ วิทหนฺโต. ‘‘รจยิสฺสตี’’ติ อปจฺจกฺเข อตีเต อนาคตวจนํ. ‘‘โปตฺถการุฬฺห’’นฺติ โปตฺถก ปตฺเตสุลิขนวเสน อารุฬฺหํ.
๑๐. อภิธมฺมตฺถปเท. ‘‘อภิธมฺเม’’ติ อภิธมฺมปฺปกรเณ. ‘‘เอตฺถ, เอเตนา’’ติ วจเนหิ สงฺคหสทฺทสฺส เอกเสสวิธานํปิ วิฺายติ. ‘‘อฺํปาฬิทฺวยํ วุจฺจติ’’. กสฺมาตํ ปาฬิทฺวยํ อภิธมฺโม นามาติ วุตฺตํ ‘‘ตฺจา’’ติอาทิ. ‘‘ยถาปวตฺเต’’ติ อตฺตโน ปจฺจยานุรูปํ ปวตฺเต. ‘‘ปรมตฺถธมฺเม เอวา’’ติ ทฺเว เม ภิกฺขเว ปุคฺคลา, ตโยเมภิกฺขเว ปุคฺคลาติอาทินา ปฺตฺติโวหาเรน ปวตฺตาปิ เทสนา ปรมตฺถ ธมฺเมหิ วินา นปวตฺตติ. ปรมตฺถ ธมฺมานํ นานตฺตวเสเนว ปุคฺคลานํ นานตฺตสมฺภวโต. ตสฺมา ปรมตฺถธมฺเม เอว ทีเปติ. น อาณาวิธานํ ทีเปติ. ‘‘ทฺวีสุธมฺเมสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. ‘‘โยอิตรโต’’ติ นิทฺธารณียํ. ‘‘โย’’ติ โย ธมฺโม. ‘‘อิตรโต’’ติ อิตร ธมฺมโต สุตฺตนฺต ธมฺมโต. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติ อิมินาการเณนาติ อตฺโถ. อฏฺกถาสุ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เทเสตพฺพปฺปการานํ อนวเสสวิภตฺติวเสน อติเรกตา, สุทฺธ ธมฺมาธิฏฺาน เทสนา ปวตฺติวเสน วิเสสตา โยเชตพฺพา. ‘‘ยโต’’ติ ยสฺมา อนวเสสวิภตฺติโต, อติวิตฺถารเทสนาภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา เทเวสุ เอว เทเสนฺตีติ อาห ‘‘น หิ มนุสฺสา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘น หิ มนุสฺสา ปฏิคฺคเหตุํ สกฺโกนฺตี’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปวตฺตนโยคฺย’’นฺติ ปวตฺตนตฺถาย ปโหนฺตํ. ‘‘กถามคฺค’’นฺติ เทสนากถาปพนฺธํ. ‘‘เอกมาติกานุ พนฺธา’’ติ กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมาติอาทิกํ เอกํ อภิธมฺม มาติกํ อนุคตา. ‘‘ตสฺสา’’ติ อภิธมฺมสฺส. อติเรก วิเสสตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ติสฺสํ อฏฺสาลินิยํ. อาทิมฺหิเยวตตฺถ เกนฏฺเน อภิธมฺโม, ธมฺมาติเรก ธมฺมวิเสสฏฺเ นา-ติ ¶ วตฺวา ตทตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต สุตฺตฺหิ ปตฺวา ปฺจกฺขนฺธา เอกเทเสเนว วิภตฺตา, นนิปฺปเทเสน. อภิธมฺมํ ปตฺวา ปน นิปฺปเทสโตว วิภตฺตา-ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ธมฺมนามิกาน’’นฺติอาทึ. ‘‘ธมฺโม ปนา’’ติ ปาฬิทฺวยมาห.‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติ อฏฺสาลินิยํ เอวํ วิจาริเตปิสติ. ‘‘สพฺพเชฏฺโก’’ติ ติณฺณํ ปิฏกานํ มชฺเฌสพฺพเชฏฺโก. กสฺมา สพฺพเชฏฺโก สิยาติ อาห ‘‘วินยํ วิวณฺเณนฺตสฺสหี’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘วิวณฺเณนฺตสฺสา’’ติ ครหนฺตสฺส. จรติ ปวตฺตตีติ จกฺกํ. โลกสฺมึ เกนจิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา ปฏินิวตฺติตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อาณาวิธานํ อาณาจกฺกํ นาม. ตถา อสกฺกุเณยฺยํ เทสนา วิธานํ ธมฺมจกฺกํ นาม. ตตฺถ, โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส-ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อาณาวิธานํ อาณาจกฺกํ นาม. จตฺตาริมานิ ภิกฺขเว อริยสจฺจานี-ติอาทิกํ เทสนาวิธานํ ธมฺมจกฺกํ นาม. ตทุภยํปิ โกจิ ภินฺทิตุํ ปาราชิกํ วา ภิกฺขุํ อปาราชิกํ กาตุํ จตุสฺสจฺจํ วา ธมฺมํ อสจฺจํ กาตุํ นสกฺโกติ. อถ โข กโรนฺโตเยว เทวทตฺโตวิย อาปายิโก โหติ. ปาราชิโกจ ภิกฺขุ อตฺตานํ สุทฺธํ อกโรนฺโต อปายคามีเยว โหติ. เอวํ สพฺเพสุ วินย สิกฺขาปเทสุ. เอวํ เกนจิ ปฏินิวตฺติตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตทุภยํปิ อปฺปฏิวตฺติยํ จกฺกํ นาม โหติ. ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส มูล’’นฺติ วินเย ิเต ภิกฺขุสงฺโฆ ปฺายติ. ภิกฺขุ สงฺเฆ ปฺายนฺเต ติวิโธปิสทฺธมฺโมปฺายติ, ติวิธํปิ สตฺถุสาสนํ ติฏฺติ. เอวํ วินโย ติวิธสฺสสาสนสฺส มูลํ โหตีติ. กถฺจปริยตฺติสทฺธมฺเม ปฺายนฺเต ติวิธํปิ สาสนํ ติฏฺตีติ. วุจฺจเต. ตตฺถ สาสนํ ติฏฺตีติ กิตฺตกํกาลํ ติฏฺตีติ. ปฺจวสฺสสหสฺสานิ ติฏฺตีติ โปราณฏฺกถาสุกถยึสุ. มิจฺฉาวาทิโนปนวทนฺติ วินเย จูฬวคฺเคภิกฺขุนิกฺขนฺธเก สเจ อานนฺท มมสาสเนมาตุคาโม ปพฺพชฺชํ นลเภยฺย. วสฺสสหสฺสํ สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺย. อิทานิ มาตุคามสฺส ปพฺพชฺชา อนฺุาตา โคตมิยา ปุนปฺปุนํ อายาจนํ อุปาทาย. ปฺเจวทานิ อานนฺท วสฺสสตานิ สทฺธมฺโมสฺสตีติ วุตฺตํ. ตสฺมา พุทฺธสาสนํ ¶ ปฺจวสฺสสตานิ เอว ติฏฺติ. ตโตปรํ เอกทิวสํปิ น ติฏฺติ. อิทานิ สาสนปฺปฏิ รูปกมตฺตํ โหตีติ. ตํ เตสํ มิจฺฉา วจนมตฺตํ. ‘‘ปฺเจววสฺสสตานี’’ติ อิทํ ปน สนฺนิฏฺาน วจนํ นโหติ. มาตุคามานํ อาทีนว ทีปนมตฺตวจนํ. โส จ อาทีนโว อฏฺครุธมฺเม สณฺเปตฺวา สตฺถารา เอว ปฏิพาหิโต. ปุน ‘‘วสฺสสหสฺส’’นฺติ อิทเมวสนฺนิฏฺาน วจนํ ชาตนฺติ. เอตฺถปิเกจิวทนฺติ วสฺสสหสฺสเมว สาสนํ ติฏฺติ, ตโตปรํ เอกทิวส มตฺตํปิ น ติฏฺติ, อนฺตรธายติ. ตทา สีมาโยปิ อสีมา โหนฺติ. ปจฺฉาตาสุ อุปสมฺปาทิตาปิ อนุปสมฺปนฺนา โหนฺติ. อิทานิ สาสนปฺปฏิ รูปกมตฺตํ โหตีติ. อิทํปิ เตสํ อตฺถฺจการณฺจ อทิสฺวา อชานิตฺวา วุตฺตตฺตา มิจฺฉา วจนมตฺตํ โหติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. ‘‘วสฺสสหสฺสํ สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺยา’’ติ วสฺสสหสฺสเมว สทฺธมฺโม อปริหายมาโน ติฏฺเยฺย. ตโตปรํ ปน น ติฏฺเยฺย, อนุกฺกเมน ปริหายมาโน คจฺเฉยฺยาติ. กถํ ปน อปริหายมาโน ติฏฺติ, กถฺจ ปริหายมาโน คจฺฉตีติ. วุจฺจเต. ปฺจสงฺฆา เวทิตพฺพา. เยสุ สงฺเฆ สุสทฺธมฺโม ติฏฺติ. กตเม ปฺจ. ขีณาสวสงฺโฆ, อนาคามิสงฺโฆ, สกทาคามิสงฺโฆ, โสตาปนฺนสงฺโฆ, ปุถุชฺชนกลฺยาณกสงฺโฆ,ติ. ตตฺถ, วสฺสสหสฺสพฺภนฺตเร สพฺเพปฺจสงฺฆา ปฺายนฺติ. เอวํ วสฺสสหสฺสํ สทฺธมฺโม อปริหายมาโน ติฏฺติ. ตโตปรํ ขีณาสวสงฺโฆ น ปฺายติ. เสสานิ จตฺตาริวสฺสสหสฺสานิ อนุกฺกเมน เสสานํ จตุนฺนํ สงฺฆานํ เขตฺตานิ ชาตานิ. เอวํ ตโตปรํ ปริหายมาโน คจฺฉตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. การณํ วุจฺจเต. ‘‘สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺยา’’ติ เอตฺถ ติวิโธ สทฺธมฺโม ‘ปริยตฺติสทฺธมฺโม, ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม, ปฏิเวธสทฺธมฺโม,ติ. โส เอว ติวิธํ สาสนนฺติ จ วุจฺจติ. ตตฺถ, ปริยตฺติ สทฺธมฺโม นาม สาฏฺกถานิตีณิปิฏกานิ. โสจ เอตรหิ ปริปุณฺโณ ติฏฺติ. กถํ ปริยตฺติ สาสนํ ปฏิรูปกมตฺตํ ภเวยฺย. ภิกฺขู จ ปริยตฺติกมฺมิกา อเนก สตสหสฺสมตฺตา ปฺายนฺติ. กถฺจิทํ สาสนํ ตโตปรํ เอกทิวสํปิ น ติฏฺเยฺย. เต จ ภิกฺขู สีลปฺปฏิปตฺติยํ ิตา อเนก สตสหสฺสมตฺตา เอตรหิ สนฺธิสฺสนฺติ. กถฺจ ปฏิปตฺติ สาสนํ ตโตปรํ ¶ น ติฏฺเยฺย. ปริยตฺติยาจ ปฏิปตฺติยาจ ติฏฺมานายปฏิเวธสทฺธมฺโมปิ น ติฏฺตีติ น วตฺตพฺโพ. ยถาหิ-เอโก ธนเสฏฺิ นาม อตฺถิ. โส ปุตฺตธีตุ ปรมฺปรานํ อตฺถาย มหนฺตารตนนิธโย ภูมิยํ พหูสุฏฺาเนสุ นิทหิตฺวา ปิตา โหนฺติ. โปตฺถเกสุ จ เตสํ ปวตฺตึ ปริปุณฺณํ ลิขิตฺวา เปติ. ตตฺถ นิมีสุ จ โปตฺถเกสุ จ อกฺขเรสุ จ ธรนฺเตสุ เตนิธโย นสฺสนฺติ อนฺตรธายนฺตีติ น วตฺตพฺพาเยว. เอวมิทํ สาสนํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถหิ นิธีนํนิธานภูมิสทิสํ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ, ธนรตนสทิสานิ ธมฺมรตนานิ. ยถา จ เสฏฺิวํเสชาโต พลสมฺปนฺโน ปุริโส โปตฺถกํ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ ขณนฺโต ตานิรตนานิ ลภิสฺสติเยว. เอวมิธปิ พลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ เทสนาธมฺมํ สุตฺวา สุฏฺุ ปฏิปชฺชนฺโต ตานิธมฺมรตนานิ ลภิสฺสติเยว. ลภมาเน จ สติ, กถํ ตานิธมฺมรตนานิ อนฺตรหิตานิ. สีมานฺจ ปวตฺติวานิวตฺติ วา อาณาจกฺกสฺเสว วิสโย โหติ. น ธมฺมจกฺกสฺส. ยฺจ วุตฺตํ-ปฺเจววสฺสสตานิสทฺธมฺโม สฺสตีติ จ, - วสฺสสหสฺสํ สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺยาติ จ. อิทฺจ วจนํ ธมฺมจกฺกเมว โหติ, น อาณาจกฺกํ. พทฺธสีมาโย จ นิวตฺตมานา ทฺวีหิ การเณหิ นิวตฺตนฺติ อนฺตรธายนฺติ. อาณาจกฺกภูตาย กมฺมวาจาย สมูหนเนน วา, สาสนสฺส วา อนฺตรธาเนน. ตตฺถ วสฺสสหสฺสปริยนฺเต กมฺมวาจาย สมูหนนฺจ นตฺถิ. สาสนนฺตรธานฺจ นาม อนาคเต ธาตุปรินิพฺพาเนน ปริจฺฉินฺนํ โหติ. ธาตุปรินิพฺพาเนหิ ชาเต สพฺพํ อาณาจกฺกํ วิคตํ โหติ, อนฺตรธายติ. ธมฺมจกฺกํ ปน เทวโลเกสุ ยาวานาคตพุทฺธกาลาปิ ปวตฺติสฺสติเยว อาฬวกปุจฺฉาคาถาโย วิย. อปิจโย โว อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต. โส โว มมจฺจเยน สตฺถา-ติ วุตฺตํ. โสจติ ปิฏกภูโต ธมฺมวินโย สตฺถา เอตรหิ ติวิธํปิ สาสนํ โลกสฺส ทีเปนฺโต ปกาเสนฺโต ติฏฺติ. ยโตพุทฺธภาสิกานํ เทวมนุสฺสานํ นานา พาหิรเกหิ ชเนหิ อสาธารโณ มหนฺโต าณาโลโก เอตรหิ วิชฺโชตมาโน ปวตฺตติ. เตหิ สพฺพฺุตฺาเณน เทสิตานิ เอตรหิธรมานานิ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธ สหสฺสานิ สุตฺวา อนมตคฺเคสํสาเร ¶ อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ สพฺพํโลกตฺตยปฺปวตฺติฺจ, สพฺพํธมฺมปฺปวตฺติฺจ, สพฺพฺุตฺาณานุคติเกน สุตมยฺาเณน ชานนฺติ. อายติฺจ สคฺคตฺถาย จ มคฺคผลนิพฺพานตฺถาย จ นานาปฺุกิริยวตฺถูนิ อารภนฺติ, ปพฺพชนฺติ. ปริยตฺตึ ปริยาปุณนฺติ. ปฏิปตฺตึ ปูเรนฺติ. ภาวนํภาเวนฺติ. อิทํ สพฺพํ สาสนปฺปฏิรูปกมตฺตํน โหติ. เอกนฺต สาสนํ โหติ. กสฺมา, ยถา ธมฺมํ ยถา วินยํ ปฏิปชฺชนโต. อิมาย จ ปฏิปตฺติยา อายตึ สคฺคมคฺคผล นิพฺพานปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนิกตฺตาติ. เอตฺตาวตา สพฺพํ มิจฺฉาวาทีนํ มิจฺฉาวจนํ วิธมิตํวิทฺธํสิตํ โหตีติ.
ปณามคาถาวณฺณนา.
๑๑. ทุตียคาถาวณฺณนายํ. ‘‘อาทิคาถายา’’ติ ปถมคาถาวากฺเยน. ‘‘ตํ ตํ ปโยชนสหิเต’’ติ เตนเตนปโยชเนน สหิเต. ‘‘ปฺจ อตฺเถ’’ติ ปฺจปิณฺฑตฺเถ. ‘‘เตอภิธมฺมตฺเถ’’ติ อภิธมฺมตฺถปเท ทีปิเต เตอภิธมฺมตฺเถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ติสฺสํ ทุตียคาถายํ. ‘‘นตุ วุตฺต’’นฺติ นปนปกรณํปิ ปุพฺเพวุตฺตํ โหติ. อภิธมฺมตฺถา กุโตปุพฺเพวุตฺตา โหนฺตีติ โยชนา. เอวํตีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ ปถมสฺส กาลวิโรธํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทุตีย ตตียานํ สทฺทโตวิโรธํ วตฺตุํ ‘‘นจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อาทิมฺหิ เยวา’’ติ เอเตน ยทากทาจิ ปจฺจามสนํ อปฺปธานนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘อปฺปธานปทานี’’ติ อภิธมฺมตฺถสงฺคหนฺติ อิมสฺมึ เอกสฺมึ สมาสปเท ปุริมานิ วิเสสน ปทานิ. ตตฺถ สพฺพถาปิ วุตฺตาติ โยชิเต สติ, ตสฺมึ อภิธมฺมตฺถสงฺคหปฺปกรเณ ตสฺมึ อภิธมฺมตฺถ ปเทวา สพฺพถา มยา วุตฺตาติ อตฺโถ โหติ. โส น ยุชฺชติ. ตสฺมึ อภิธมฺเม พุทฺเธน ภควตา สพฺพถา วุตฺตาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. อปฺปธานปทํ ปจฺจามสตีติ โทโสปน อาปชฺชเตว. เตนาห ‘‘เอวฺหิสตี’’ติอาทึ. ตตฺถ, ‘‘เอวฺหิสตี’’ติ อฏฺสาลินิยํ วิย อิธ อภิธมฺมตฺถสงฺคหปทํ ปจฺจามสนฺเต สติ. หิสทฺโท ผล วากฺยโชตโก. ลทฺธคุณโชตโกติปิ ยุชฺชติ. ‘‘ปฏิกฺขิตฺตา โหติ’’ ¶ ตสฺมึ อภิธมฺมตฺถสงฺคหปเท มยา สพฺพถา วุตฺตาติ อตฺถสฺส สมฺภวโต. น เกวลํ โส เอว โทโส อาปชฺชติ. อปโรปิโทโส อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สาหี’’ติอาทิมาห. ธาตุกถายํ วุตฺเตนสงฺคหาสงฺคหาทิปฺปกาเรนาติโยชนา.
๑๒. ปรมตฺถปทวณฺณนายํ. วิเสสนปทํ นาม กตฺถจิ ภูตกถนตฺถายวา ปยุชฺชติ กณฺโหกาโก, เสโตพโก,ติ. กตฺถจิ อฺนิวตฺตนตฺถาย วา ปยุชฺชติ นีโลปโฏ, นีลํปุปฺผ, นฺติ. อิธ ปน อฺ นิวตฺตนตฺถายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิธานิหิสจฺจานี’’ติอาทิมาห. ปฺาปียตีติปฺตฺติ. ปฺาปนฺจ นาม สมคฺคานํ ชนานํ โวหาเรน จ สมฺปฏิจฺฉเนน จาติ ทฺวีหิ องฺเคหิ สิชฺฌตีติ อาห ‘‘เตจมหาชนา’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺมาเต สมฺมุติ สจฺจนฺติ วุจฺจนฺตี’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สมฺมตตฺตา’’ติ โวหริตตฺตาเจว สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา จ. ‘‘วจีสจฺจวิรติสจฺจาน’’นฺติ เอตฺถ วจีสจฺจํ นาม มุสาวาทรหิตํ สจฺจวจนํ. วิรติสจฺจํ นาม สมฺมาวาจาวิรติ. สาหิ มุสาวาทาทีหิ วจีทุจฺจริเตหิ วิรมณมตฺเตน วจีสจฺจนฺติ วุจฺจติ. ‘‘วตฺถุภูตตฺตา’’ติ อธิฏฺานภูตตฺตา. สมฺมุติสจฺจนฺติ วุจฺจนฺติ, สมฺมตตฺตา สมฺมุติ จ, สา สจฺจานํ วตฺถุภูตตฺตา สจฺจฺจาติ กตฺวา. สมฺมุติยา สิทฺธํ สจฺจํ สมฺมุติสจฺจนฺติปิ ยุชฺชติ. ‘‘สมฺมาปฏิปชฺชนฺตา’’ติ ปาโณ นหนฺตพฺโพ, สพฺเพสตฺตา อเวรา โหนฺตูติอาทินา สมฺมาปฏิปชฺชนฺตา. ‘‘สพฺพโลกิยสมฺปตฺติโย’’ติ ทานสีลาทีนํ ปฺุกิริยวตฺถูนํ ผลวิปากภูตา สพฺพโลกิยสมฺปตฺติโย. สพฺเพ ‘‘โพธิสมฺภารธมฺเม’’ติ ทานปารมิสีลปารมิอาทิเกปารมิธมฺเม. ‘‘อาราเธนฺตี’’ติ สมฺปาเทนฺติ. ‘‘มิจฺฉาปฏิปชฺชนฺตา’’ติ ทุจฺจริต ทุราชีวมิจฺฉาชีวาทีนํ วเสน มิจฺฉาปฏิปชฺชนฺตา. ‘‘เอวํ มหนฺตํ สมฺมุติ สจฺจ’’นฺติ เอเตน อหํ ปรมตฺถ สจฺจเมวคณฺหามีติ สมฺมุติ สจฺจํ นภินฺทิตพฺพํ. ภินฺทนฺโตหิ สพฺพสมฺปตฺตีหิ ปริพาหิโร อสฺสาติ ทสฺเสติ. กถฺจ ตํ ภินฺทตีติ. สตฺโต นาม นตฺถิ. สตฺตสฺส ภวโตสงฺกนฺติ นาม นตฺถิ. ภวนิพฺพตฺตกํ กุสลากุสลกมฺมํ นาม นตฺถีติ คณฺหนฺโต อุจฺเฉททิฏฺิยํ ติฏฺติ. สพฺพสมฺปตฺตีหิ ปริพาหิโร โหติ. อปาย ปูรโก ภวตีติ. ‘‘วิชฺชมานนฺตฺเวว คณฺหาเปตี’’ติ สฺา จิตฺตทิฏฺิ ¶ วิปลฺลาสานํ วตฺถุภาเวน คณฺหาเปติ. เตนาห ‘‘สกฺกายทิฏฺี’’ติอาทึ. ‘‘เอวํ วิปรีตฺหิ สมฺมุติสจฺจ’’นฺติ เอเตนสมฺมุติ สจฺจเมวทฬฺหํ คเหตฺวา ปรมตฺถ สจฺจํ นภินฺทิตพฺพํ. ภินฺทนฺโตหิ ตาหิ ทิฏฺีหิ นมุจฺจติ. กถฺจ ตํ ภินฺทติ. ขนฺเธ วา ขนฺธมุตฺตเกวา อตฺตชีเว คเหตฺวา เตจ อตฺตชีวา ปรมฺมรณา อุจฺฉิชฺชนฺตีติ คณฺหนฺโต อุจฺเฉททิฏฺิยํ ติฏฺติ. เต จ อตฺตชีวา ภวาภเวสุสสฺสตา หุตฺวา ภวโตภวํ สํสรนฺติ สนฺธาวนฺตีติ คณฺหนฺโตสสฺสตทิฏฺิยํ ติฏฺติ. ‘‘นวิสํวาเทนฺตี’’ติ วิปรีตํ นาปาเทนฺติ. ‘‘ตํ ปนา’’ติ สภาวสจฺจํ ปน. อนุภวนเภทมตฺตํ อุปาทาเยว เวทนา สุขาติ วุตฺตา. สพฺพาการโต สุขภูตตฺตา เวทนา สุขาติ วุตฺตา นโหติ. ‘‘สพฺพาปิเวทนา ทุกฺขา เอวา’’ติ ปธานตฺโถ. ตตฺถ อนุภวนเภโท ติวิโธ. สาตโต วา อนุภวนํ, อสฺสาตโต วา, มชฺฌตฺตโต วา. ‘‘ทุกฺขา เอวา’’ติ ภยฏฺเน ทุกฺขา เอว. ภยฏฺเนาติ จ สํสาร ภยทสฺสีหิภายิตพฺพฏฺเน. สุโข วิปาโก เยสํ เต สุขวิปากา. เตภูมกกุสลา. ‘‘กุสลสมฺมตา’’ติ เอเตน สภาวสจฺเจปิ เอเตโวหารา โลกสมฺมุติ นิสฺสิตาติ ทีเปติ. ‘‘สาสวตา’’ติ อาสเวหิ สหิตภาโว. ‘‘สํกิเลสิ กตา’’ติ สํกิเลส ธมฺเมหิ สํยุตฺตภาโว. โอเฆหิ จ โยเคหิ จ อุปาทาเนหิ จ ปตฺตพฺพภาโว ‘‘โอฆนียโยคนีย อุปาทานียตา’’. อธิกา อตฺตา อชฺฌตฺตา. พหิทฺธารุกฺเขรูปธมฺมารุกฺขสฺส อตฺตานาม สารฏฺเน. สาขายํ รูปธมฺมา สาขาย อตฺตานาม สารฏฺเน. สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา ปน รูปารูปธมฺมา ตณฺหาปริคฺคห ทฬฺหฏฺเน ตโต พหิทฺธา อตฺตโต อธิกา อตฺตาติ อตฺเถน อชฺฌตฺตาติ โลกสมฺมุติ โหติ. เตนาห ‘‘อชฺฌตฺตติกฺจา’’ติอาทึ. ทุกฺขนิโรธ มคฺคภาโว จ, อิติ อิทํ จตุกฺกํ อริยสจฺจํ นามาติ โยชนา. ‘‘อิทเมวา’’ติ อิทํ จตุกฺกเมว. ‘‘อจลมาน’’นฺติ เอเตน อริยสทฺทสฺส อตฺถํ ทีเปติ. เตภูมก ธมฺมานํ สุขตา นาม จลา โหติ. กสฺมา, อนิจฺจ ธมฺมตฺตา. เต ธมฺเมสุขาติ คเหตฺวา อตฺตโน อชฺฌตฺตงฺคํ กโรนฺตา อจิเรเนว ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ. เต ธมฺเม ทุกฺขาติ ตฺวา เตหิวิมุตฺตา ปุน ทุกฺขํ ปาปุณนฺตีติ นตฺถิ. เอสนโย เสสอริยสจฺเจสุ ¶ . ‘‘เตสู’’ติอาทิมฺหิ ทุวิธานิหิ สจฺจานีติ วุตฺเตสุ ทฺวีสุ สจฺเจสุ. ‘‘เตน วุตฺต’’นฺติอาทิ ลทฺธคุณวจนํ. ‘‘โย วินา อฺาปเทเสนา’’ติ เอตฺถ อฺาปเทโส นาม อฏฺธมฺม สโมธานํ นิสฺสาย ฆฏสณฺานํ ปฺายติ, ปฏสณฺานํ ปฺายติ, ตํ สณฺานํ อตฺตโน สภาเวน วินา อฺาปเทเสน สิทฺธํ โหติ. ยาปนจินฺตน กิริยา นาม อตฺถิ. ยํ จิตฺตนฺติ วุจฺจติ. สา อฺาปเทเสน สิทฺธา น โหติ. อตฺตโน สภาเวเนวสิทฺธา. เอสนโย ผุสนกิริยา, เวทยิตกิริยา, ทีสูติ. อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยวินา อฺาปเทเสนา’’ติอาทิมาห. ‘‘จิตฺเตนปริกปฺเปตฺวา’’ติ มโนวิฺาณ จิตฺเตน อวิชฺชมานํ สณฺานํ วิชฺชมานํ กตฺวา. ‘‘สวิคฺคหํ กตฺวา’’ติ สรีรํ กตฺวา. วตฺถุ ทพฺพสหิตํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘จิตฺตมโยจิตฺตนิมฺมิโต’’ติ สุปินนฺเต ทิฏฺรูปานิ วิย จิตฺเตนปกโต จิตฺเตน นิมฺมิโต. กสฺมา สภาวสิทฺโธ ปรมตฺโถ นามาติ อาห ‘‘โสหี’’ติอาทึ. ‘‘สนฺตี’’ติ เอเตน อสธาตุ วเสน อตฺโถติ สิทฺธํ วุตฺตํ. สทฺทาพุทฺธีหิ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต อตฺโถติปิวทนฺติ. ‘‘อิตรโต’’ติ ปริกปฺปสิทฺธโต. ‘‘ปรโม’’ติ อธิโก. เตนาห ‘‘อุกฺกํสคโต’’ติ. เอเตน ปรมสทฺทสฺส อธิกตฺถํ วทติ. อิทานิ ตสฺส อุตฺตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิวุตฺตํ. ตตฺถ, อิมสฺมึ พุทฺธสาสเน ปฺจสาสน กิจฺจานิ มหนฺตานิ อภิฺเยฺยานํ ธมฺมานํ อภิชานนํ. ปริฺเยฺยานํ ปริชานนํ. ปหาตพฺพานํ ปหานํ. สจฺฉิ กาตพฺพานํ สจฺฉิกรณํ. ภาเวตพฺพานํ ภาวนาติ. ตตฺถ สพฺเพปิ ปรมตฺถ ธมฺมา อภิฺเยฺยา นาม. ทุกฺข สจฺจธมฺมา ปริฺเยฺยา นาม. สมุทย สจฺจธมฺมา ปหาตพฺพา นาม. สามฺปฺผลานิ จ นิพฺพานฺจ สจฺฉิกาตพฺพา นาม. มคฺคสจฺจธมฺมา ภาเวตพฺพา นาม. เตสุ ธมฺเมสุ เตสํ กิจฺจานํ สิทฺธิยา อิมสฺมึ สาสเน สาสนกิจฺจํ สิทฺธํ โหติ. นิฏฺานํ คจฺฉติ. เต จ ธมฺมา เอว รูปานํ สาสน กิจฺจานํ อวิราธกตฺตา อวิสํวาทกตฺตา อุตฺตมฏฺเน ปรมตฺถา นาม โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เย’’ติเยชนา. ‘‘อย’’นฺติ อยํ ธมฺโม. ‘‘ตสฺสา’’ติ ตสฺสอภิฺเยฺยสฺส, ตสฺสปริฺเยฺยสฺส, ตสฺสปหาตพฺพสฺส, ตสฺสสจฺฉิกา ตพฺพสฺส ¶ ตสฺสภาเวตพฺพสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ปรมตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
‘‘ตํ นสุนฺทร’’นฺติ พฺยฺชนโต นสุนฺทรํ. นเกวลํ พฺยฺชนโตเยว นสุนฺทรํ, อตฺถโตปิ นสุนฺทรเมว. จตุสจฺจ ธมฺมาหิ ปจฺเจกพุทฺธฺาณสฺสปิ โคจรา โหนฺติ. ปฺจเยฺย ธมฺมา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺเสว. ตตฺถ จตุสจฺจ ธมฺมา นาม ปรมตฺถ ธมฺมา เอว. ปฺจเยฺยธมฺมา ปน สพฺพ ปฺตฺติยา สห สพฺพปรมตฺถ ธมฺมา. สพฺพฺุพุทฺธานํ จตุสจฺจาภิ สมฺโพโธ ธมฺม ปฺตฺติยา สห สิชฺฌติ. ปจฺเจกพุทฺธานํ จตุสจฺจ สมฺโพโธ ธมฺมปฺตฺติยา สห นสิชฺฌติ. ตสฺมา เต สยํ ปฏิวิทฺธํ จตุสจฺจ ธมฺมํ นาม ปฺตฺตึ นีหริตฺวา ปเรสํ เทเสตุํ น สกฺโกนฺติ. เตสํ จตุสจฺจสมฺโพโธ มูคสฺส สุปินทสฺสนํ วิย โหตีติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตสฺมา ปฺตฺติยา สห ปฺจ เยฺย ธมฺมา เอว สพฺพฺุตฺาณสฺส โคจราติ สกฺกาวตฺตุนฺติ.
ปรมตฺถปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. จิตฺตวจนตฺเถ. นหิ สา อารมฺมเณนวินา ลพฺภติ. จินฺเตตีติ วุตฺเต กึ จินฺเตติ, อารมฺมณํ จินฺเตตีติ เอวํ อารมฺมณภูเตน กมฺมปเทน วินา อสมฺภวโต. ตสฺมา อิธ จินฺตนาติ ทฏฺพฺพา, ตสฺมา อสฺส นามํ สิทฺธนฺติ ทฏฺพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. สุตมยฺาณํ, จินฺตามยฺาณ, นฺติ เอตฺถ อารมฺมณสฺส ภูตสภาว จินฺตาปิ อตฺถิ, สาปฺาเอวาติ ตํ นิวตฺเตตุํ ‘‘อารมฺมณ…เป… ณูปลทฺธิเยวา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตํ, มโน, มานสํ, วิฺาณ, นฺติ สพฺพํ จิตฺตสฺส นามํ. อารมฺมณ ปจฺจยปฺปฏิพทฺธํ โหติ. น อฺปจฺจยปฺปฏิพทฺธํ. น จ อฺปจฺจเยน ลทฺธํ นามํ. เอวรูปสฺส อารมฺมณ วิชานน สงฺขาตสฺส อตฺถนฺตรสฺสโพธกํ นโหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺเตสุ จา’’ติอาทิวุตฺตํ. ‘‘เอเตนา’’ติ อิทํ กตฺตุโน กิริยาสาธเน อติสฺสยูปการกํ กรณ สาธนํ วทตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหี’’ติอาทิวุตฺตํ. ‘‘จินฺตนมตฺต’’นฺติ เอตฺถ มตฺตสทฺโท วิเสสนิวตฺติ อตฺโถติ, เตน นิวตฺติตํ อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพปิหี’’ติอาทินา. ‘‘วิคฺคโห วา’’ติ สรีรํ วา. ปจฺจเยน ¶ อายตฺตา ปจฺจยายตฺตา. ‘‘อายตฺตา’’ติ สมฺพนฺธา. วตฺตนํ วุตฺติ. อุปฺปชฺชนํ วา ิติ วา. ปจฺจยายตฺตา วุตฺติ เอเตสนฺติ ‘‘ปจฺจยายตฺต วุตฺติโน’’. ‘‘ถาเมนา’’ติอาทิ อฺมฺเววจนานิ. ‘‘เอกํ ภาวสาธนเมว ปธานโต ลพฺภตี’’ติ อิทํ ธมฺมานํ ตํ ตํ กิริยา มตฺตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. กิริยามตฺตภูตาปิ ปน เต ธมฺมาสยํ นานาปจฺจยา วตฺถายํ ิตา วา โหนฺติ นานาปจฺจยุปฺปนฺนาวตฺถายํ ิตา วา. ตสฺมา ปรมตฺถ ปเทสุปิ ยถารหํ ตทฺสาธนานํ ปฏิลาโภ อวาริโต โหติ. อิตรถา เหตุ ปจฺจโย, อารมฺมณ ปจฺจโย, สหชาตปจฺจโย, นิสฺสยปจฺจโยติอาทีสุ กถํ ภาวสาธนํ ยุตฺตํ สิยาติ. ‘‘ปธานโต’’ติ มุขฺยโต. ‘‘อเภทสฺส จินฺตนสฺสเภทกรณ’’นฺติ อิทํ จินฺเตตีติ จิตฺตนฺติกตํ กตฺตุสาธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สิลาปุตฺตกสฺสา’’ติ เภสชฺชมูลานํ ปิสนสิลาโปตกสฺส. ตสฺส สรีรํ นาม วิสุํ องฺคํ นตฺถิ. อภินฺนํปิ ภินฺนํ กตฺวา วุจฺจติ ‘‘สิลาปุตฺตกสรีร’’นฺติ. อิทํ อเภทสฺสเภทกรณํ นาม อภูตรูปํ โหติ. ปโยชเน สติ วตฺตพฺพํ, อสติ น วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘ตถากรณฺจา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ปรปริกปฺปิตสฺสา’’ติ ปเรหิ อฺติตฺถา จริเยหิ ปริจินฺติตสฺส. ‘‘สติหิ…เป… กปฺปนายา’’ติ สเจ อตฺตา อตฺถิ, อตฺตา จินฺเตติ, ตสฺมา อตฺตา จิตฺโตนามาติอาทิ วตฺตพฺพํ. น วตฺตพฺพํ จินฺเตตีติ จิตฺตนฺติ, จิตฺตสฺส กิริยามตฺตตฺตา. น ปน อตฺตาทิโก กตฺตา นาม อตฺถิ. ตสฺมา กิริยา มตฺตเมว กตฺตารํ กตฺวา ‘‘จินฺเตตีติ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เตน วิฺายติโลเก อตฺตาทิโกกตฺตา นาม นตฺถีติ. อิทํ อเภทสฺสเภท ปริกปฺปนาย ปโยชนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺตปฺปธาโน’’ติ กิริยาสาธเน พหูนํการกานํ มชฺเฌ สยํปธาโน สยํเชฏฺโก หุตฺวา. ‘‘ตํกตฺตุภาว’’นฺติ โลเกสิทฺธํ กตฺตุภาวํ. ‘‘ปุน กรณภาว’’นฺติ ปุน โลเก สิทฺธํ กรณภาวํ. เอวํ จิตฺตสฺส วจนตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส อภิธานตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ยถยิทํ เย อิเม ติรจฺฉานคตา ปาณา จิตฺตาวิจิตฺตา. เอวํ จิตฺตํ วิจิตฺตํ ยํ อฺํ อตฺถิ, ตํ อฺํ เอกนิกายํปิ นสมนุปสฺสามี-ติ โยชนา. ‘‘นิกาย’’นฺติ สตฺตชาติสมู หํ ¶ .‘‘นิสฺสกฺเก กรณวจน’’นฺติ วิภตฺตาปาทานตฺเถ กรณวจนํ. เอเตน ตโต จรณโต จิตฺตโตติ อตฺถํ วทติ. คาถายํ. ‘‘ตํ ตํ สภาโว’’ติ วิชานนผุสนาทิโก สภาโว, อคฺคิสฺสอุณฺโหวิย. ‘‘กิจฺจสมฺปตฺติโยรโส’’ติ เตน เตน ธมฺเมน กรณกิจฺจฺจ, ตํ กิจฺจํ กตฺวา ลทฺโธ สมฺปตฺติคุโณ จ. อคฺคิสฺส วตฺถุมฺหิ ปริปาจนกิจฺจํ วิย, โอภาสนคุโณวิย จ. ‘‘คยฺหากาโร’’ติ าเณน คเหตพฺโพ ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ธชภูโต อากาโร. สมฺปตฺติ รโสเยว วุจฺจติ. ‘‘ผลํวาปี’’ติ การิยปฺผลํ วาปิ, อคฺคิสฺส ธูโมวิย. ‘‘อาสนฺนการณ’’นฺติ อตฺตโน อนนฺตเร ผลนิพฺพตฺตกํ การณํ, อคฺคิสฺส อคฺคิการก ปุริโส วิย. ‘‘อล’’นฺติ สมตฺถา. ‘‘วิพุทฺธิโน’’ติ วิเสสพุทฺธิ สมฺปนฺนสฺส ปณฺฑิตสฺส. ‘‘ปุพฺพงฺคมรส’’นฺติ อารมฺมณคฺคหเณ ปธานรส กิจฺจํ. ‘‘สนฺธาน ปจฺจุปฏฺาน’’นฺติ นิรนฺตรปฺปวตฺตาการปจฺจุปฏฺานํ. ‘‘นาม รูปปทฏฺาน’’นฺติ ผสฺสาทินามฺจ วตฺถุ รูปฺจจิตฺตสฺสปทฏฺานํ.
จิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. ‘‘เจตสิ ภว’’นฺติ จิตฺตสฺมึ ปาตุภูตํ. ‘‘เอเตน สิทฺธา โหนฺตี’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สา เอว ผสฺสาทีนํ ชาติ. ยาจิตฺตสฺสชรา, สา เอว ผสฺสาทีนํชรา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘เอกวณฺฏูปนิ พนฺธานี’’ติ เอเกน วณฺฏทณฺฑเกน อุปนิพนฺธานิ. ‘‘เอกชาติยาทิ อุปนิพนฺธา’’ติ เอกชาติกถา ทิวเสน อุปนิพนฺธา. ‘‘เจ’’ติ เจวเทยฺย. ‘‘นา’’ติ น วตฺตพฺพํ. คาถายํ. ‘‘ธมฺมา’’ติ นามกฺขนฺธ ธมฺมา. ‘‘มนสา เอวา’’ติ กตฺตุภูเตน มเนน เอว. ‘‘ปกตา’’ติ ปวตฺติตา. ‘‘นิมฺมิตา’’ติ นิปฺผาทิตา. ‘‘จิตฺตกิริยา ภูตา เอวา’’ติ อารมฺมณํ วิชานนฺตํ จิตฺตํ ผุสนาการํ ชเนตฺวาว วิชานาติ. โส ผุสนากาโร ผสฺโสติ วุจฺจติ. อวเสสา ปน สพฺเพปิ เจตสิกธมฺมา ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนฺติ. ผสฺโส เหตุ ผสฺโส ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส อุปาทาย. สฺากฺขนฺธสฺส. สงฺขารกฺขนฺธสฺส อุปาทายาติ หิ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ จิตฺตมูลกตฺตา จิตฺตนิสฺสิตตฺตา จ เตปิธมฺมา จิตฺตกิริ ยาภูตา ¶ เอว โหนฺตีติ. ‘‘เอเตนา’’ติ เอเตนคาถาปเทน. วิภาวนิยํ ปน เอกาลมฺพณตา มตฺเตน วิภาเวติ. ปริปุณฺณานิ เจ ตสิกงฺคานิ อุปริ เถเรน สยเมว วกฺขมานตฺตาติ อธิปฺปาโย. อิธ ปน ปทตฺถวิภาวนฏฺานตฺตา ปริปุณฺเณหิ องฺเคหิ วิภาเวตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตํ นสุนฺทร’’นฺติ. ‘‘วตฺถุมฺหี’’ติ ปฏโกฏฺกาทิมฺหิ. ‘‘นานาจิตฺตกมฺมานี’’ติ หตฺถิ อสฺสรูปาทีนิ. วิชานนมตฺตํ จิตฺตํ, กุสลนฺติ วา อกุสลนฺติ วา วตฺตพฺพํ นตฺถิ. นานาเจตสิเก หิ ยุตฺตตฺตา เอว ตถา วตฺตพฺพํ โหติ. วุตฺตํเหตํ ภควตา. ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ. ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺนฺติ. เตนาห ‘‘อุทกํ วิยจิตฺต’’นฺติอาทึ.
เจตสิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. รุปฺปตีติ ปทํ กตฺตริวาเหตุกมฺมนิวาสิทฺธํ. รุปฺปนฺจวิการาปตฺติ เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สีตุณฺหาทีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘วิสมปฺปวตฺติวเสนา’’ติ ธาตูนํ วิสมปฺปวตฺติวเสน. ธาตุกฺโข ภวเสนาติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘เกนรุปฺปตี’’ติ เอตฺถ ‘‘เกนา’’ติ เหตุ อตฺเถวา เหตุ กตฺตริวา กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ. ตถา สีเตนาติอาทีสุปิ. ฑํสมกสา นาม สูจิมุขา ขุทฺทกมกฺขิกาเจว มหนฺต มกฺขิกา จ. วาตา นาม ปุรตฺถิมวาตาทโย. อาตโป นาม สูริยาตโป. สรึสปานาม อหิ วิจฺฉิก สตปทิกาทโย. เตสํ สมฺผสฺเสหิปิ รุปฺปติ. มรณํ วา คจฺฉติ, มรณ มตฺตํ วา ทุกฺขํ. ‘‘เย ธมฺมา’’ติ ทฺวาทสวิธา สปฺปฏิฆรูปธมฺมา. ‘‘อฺเส’’นฺติ โสฬสนฺนํ อปฺปฏิฆรูปานฺจ อรูปธมฺมานฺจ. ‘‘เตสู’’ติ นิทฺธารเณภุมฺมํ. อิทานิ ปาฬิยา สทฺธึ มุขฺยรุปฺปนํ สํสนฺเทนฺโต ‘‘สมาคโม จา’’ติอาทิมาห. สมาคโม จ นาม อฺมฺาภิฆฏฺฏนํ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. อาปาตาคมนฺจ อารมฺมณกรณฺจ เปตฺวาติ โยชนา. ‘‘มหาภูตานเมว วา’’ติ อาโปธาตุ วชฺชิตานํ ติณฺณํ มหาภูตานเมว วา. ‘‘วิการํ อาปชฺชตี’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ยสฺมึ ขเณ’’ติอาทิมาห. ‘‘สยํปิ วิการปตฺตา โหนฺตี’’ติ ¶ เตมหาภูตาสยํปิ ปกตึ วิชหิตฺวา โอมตฺตาธิมตฺตภาวํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘โอมตฺตาธิมตฺตรูปสนฺตตีนฺจา’’ติ ปรมฺปรโต อุปฺปชฺชมานา รูปสนฺตติโย สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ ปาฬินเยน วิปตฺติวเสน รุปฺปนํ วตฺวา อิทานิ วิปตฺติ วา โหตุ, สมฺปตฺติ วา. ปุริมปจฺฉิ มสนฺตตีนํ วิสทิสปฺปวตฺติภูโต วิกาโรปิ เอเกน ปริยาเยน รุปฺปนํนามาติ กตฺวา ปุน ตํ รุปฺปนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ‘‘ฆฏฺฏนวเสน รุปฺปน ธมฺมาน เมวา’’ติ อาปาตาคมนาทิวเสน รุปฺปนธมฺเมหิวินา อภิฆฏฺฏนวเสนรุปฺปน สภาวานํ รูปธมฺมานเมว สิทฺธนฺติ ปุจฺฉา. ‘‘สวิคฺคหา โหนฺตี’’ติ ทพฺพ สณฺานาการสหิตา โหนฺติ. กสฺมา, โอฬาริกสภาวตฺตา. พหูนฺจรูปกลาปานํ เอกกฺขเณ เอกาพทฺธภาเวนปวตฺตตฺตา. อรูปธมฺมาหิ สณฺหสุขุมสภาวา จ โหนฺติ. สเจ อเนกสตสหสฺสานิปิ เอกโต ปวตฺเตยฺยุํ. ทพฺพสณฺานภาวํ นคมิสฺสนฺติเยว. เอกสฺมิฺจ สตฺตสนฺตาเน เอกกฺขเณ เอก กลาโปว ปวตฺตติ. กสฺมา, อนนฺตร ปจฺจยูปนิพนฺเธน ปวตฺตตฺตา. ตสฺมาเต สวิคฺคหาน โหนฺติ. รูปธมฺมา ปน โอฬาริก สภาวา จ โหนฺติ. พหูนํ สนฺนิจเยสติ ทพฺพสณฺานตฺถาย สํวตฺตนฺติ. เอกกฺขเณ จ พหุกลาปาปิ เอกาพทฺธาหุตฺวา ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา เตสวิคฺคหาโหนฺตีติ.
‘‘สีตาทิคฺคหณสามตฺถิเยนา’’ติ สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปตีติอาทินา โลกสฺส ปจฺจกฺขโต ปากฏสฺส สีตาทิวจนสฺสสามตฺถิเยน. ตฺหิ วจนํ โลกสฺส อปากฏํ อรูปธมฺมานํ รุปฺปนํ อิธนาธิปฺเปตนฺติ ทีเปตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘โวหาโร นามา’’ติ นามสฺา นามาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โลโกปจาเรนา’’ติ พหุชนสฺส อุปจาเรน โวหาเรน กถเนน. ‘‘ปากฏ นิมิตฺตวเสเนวา’’ติ ปากฏสฺส สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตสฺส วเสเนว. ‘‘สีตาทิคฺคหเณน วินาปี’’ติ ปิสทฺเทน สีตาทิคฺคหณสามตฺถิเยนปีติ ทีเปติ. เอวํ สนฺเตปิ ปาฬิสาธกํ นาม น สกฺกาสพฺพตฺถ ลทฺธุํ. ปากฏนิมิตฺต วจนเมว สพฺพตฺถ สาธารณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตปฺปสงฺคนิวตฺตี’’ติ ตสฺส อรูปธมฺมานํ รูปตาปสงฺคสฺส นิวตฺติ. ‘‘อิทฺธิวิกุพฺพนาวสปฺปวตฺตา’’ติ เอตฺถ อิทฺธิวิกุพฺพนานามอิทฺธิยานานปฺปการมาปนํ. ‘‘รูปตา สิทฺธี’’ติ ¶ รูปนฺติ นาม สฺาสิทฺธิ. ‘‘อิทํ ปนา’’ติ อิทํ รูปํ ปน. ‘‘อนุคฺคหานํ สีตาทีนํ วเสนา’’ติ กิฺจาปิปาฬิยํ สีตาทิวจนํ อุปฆาตกานํ สีตาทีนํ วเสน วุตฺตํ. เตจ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ. อนุคฺคาหกา เอว อตฺถิ. เตสํวเสนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปาฬิยํ นิทฺทิฏฺานี’’ติ สฺชานาตีติ โข ภิกฺขเว ตสฺมา สฺาติ วุจฺจติ. กิฺจ สฺชานาติ. นีลํปิ สฺชานาติ, ปีตมฺปิ สฺชานาตี-ติอาทินา จ, วิชานาตีติ โข ภิกฺขเว ตสฺมา วิฺาณนฺติ วุจฺจติ. กิฺจ วิชานาติ. มธุรํปิ วิชานาติ, อมฺพิลํปิ วิชานาตี-ติอาทินา จ-ปาฬิยํ นิทฺทิฏฺานิ.
รูปปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. นิพฺพานปเท. ‘‘ขนฺธาวา’’ติ ภวนฺตเร อปายาทีสุ ภวิสฺสมานา ขนฺธาวา. น หิ อตีต ธมฺมา, นิพฺพายนฺติ นาม, สตฺเต ปีเฬตฺวา นิรุทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปจฺจุปฺปนฺนา จ ธมฺมา เอตรหิ ปีเฬนฺติ, อวสฺสํ อุปฺปชฺชมานา อนาคตธมฺมา จ อนาคเต ปีเฬสฺสนฺติ, กถํ เต นิพฺพายนฺติ นามาติ อาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเนสุ…เป… วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ. ‘‘วิสเยภุมฺม’’นฺติ วิสยาธาเรภุมฺมํ. วิสยาธาโร นามมนุสฺสาภูมิยํ คจฺฉนฺตีติอาทีสุ วิย มุขฺยาธาโร นโหติ. เตน ปน วินา อฺตฺถ ตํ กิริยํ กาตุํ นสกฺโกติ. ตสฺมา อาธารภาเวน ปริกปฺปิโต อาธาโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาอากาเส’’ติอาทิวุตฺตํ. ยถา สกุณานํ ปกฺขน กิริยา นาม อากาเสน วินา อฺตฺถ นสิชฺฌติ. ตถา วฏฺฏทุกฺขธมฺมานํ นิพฺพุติ กิริยาปิ นิพฺพาเนน วินา อฺตฺถ นสิชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เยหิเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เย’’ติ เยติวิธวฏฺฏทุกฺขสนฺตาปธมฺมา. หิสทฺโทนิปาโต. เตสทฺโท วจนาลงฺกาโร. ‘‘ตพฺพินิมุตฺต’’นฺติ นิพฺพานวินิมุตฺตํ. นิพฺพุติานํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา นิพฺพานํ เตสํ นิพฺพุติ กิริยาย วิสยา ธาโรโหตีติ อธิปฺปาโย. ยถา อยํ ปทีโป นิพฺพายติ. ตถาธีรา นิพฺพนฺตีติ โยชนา. ‘‘ตํ ตํ กิเลสานํ วา’’ติ เต สํเตสํกิเลสานํ วา. ‘‘ขนฺธานํ วา’’ติ อนาคตภเวสุ ขนฺธานํ วา. ‘‘ปุนอปฺปฏิสนฺธิกภาว’’นฺติ สนฺตานสฺส ปุน ปฏิสนฺธานาภาวํ ปาปุณนฺติ ¶ อริยา ชนา. ยถา มคฺเค กรณวจนํ ทิสฺสติ อทฺธา อิมายปฏิปตฺติยา ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามีติอาทีสุ. น ตถา นิพฺพาเนติ อาห ‘‘มคฺเควิยา’’ติอาทึ. นิพฺพาเนปนภุมฺมวจนเมว ทิสฺสติ ยตฺถนามฺจรูปฺจ. อเสสํ อุปรุชฺฌตีติอาทีสุ. ตสฺมา นิพฺพาเน กรณ วจนํ น ทิสฺสติ, กรณ ลกฺขณสฺเสว อภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘น จ นิพฺพาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. กรณ ลกฺขณํ นามกตฺตุโน สหการี ปจฺจยภาโว. นนุ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพายนฺตีติ ทิสฺสตีติ. สจฺจํ, ตตฺถ ปน วิเสสเน กรณ วจนํ. น กรณการเก. ตฺหิ สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยานิวตฺตนตฺถํ วุตฺตนฺติ.
นิพฺพานปทวณฺณนา.
ทุตียคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. กามาวจรปเท. ‘‘กามียตี’’ติ อิจฺฉียติ. นิมิตฺตสฺสาทวตฺถุ มชฺฌิมฏฺกถายํ อาคตํ. ‘‘เตกามียนฺตี’’ติ เต อวีจินิรยาทโย อิจฺฉียนฺติ. ‘‘ตตฺถ อุปฺปนฺนานมฺปี’’ติ อวีจินิรยาทีสุ อุปฺปนฺนานํปิ สตฺตานํ. ‘‘ภวนิกนฺติ นาม โหตี’’ติ ภวสงฺขาตํ อตฺตโน ขนฺธํ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโสเม อตฺตาติ คณฺหนฺตี ตณฺหา ภวนิกนฺติ นาม. สา เนรยิกสตฺตานํปิ อตฺถิเยว. ‘‘กาเม อวจรตี’’ติ กาเมปริยาปนฺนํ โหติ. กาเม อนฺโตคธํ โหติ. รูปารูปภูมีสุ อุปฺปนฺนํปิ รูปารูปสงฺขฺยํ นคจฺฉติ. กามสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. กามคณนเมวคจฺฉตีติ อตฺโถ. ‘‘ตีสุภเวสุ อุปฺปนฺนานิปี’’ติ กามรูปารูปสตฺตสนฺตาเนสุ อุปฺปนฺนานิปิ น ตตฺรปริยา ปนฺนาเนว โหนฺติ. ตตฺร อปริยาปนฺนาเนว โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘กามาวจรตาปตฺติโทโส’’ติ กามาวจร ธมฺมาติ วตฺตพฺพตา ปตฺติโทโส. ‘‘รูปาวจรตาทิมุตฺติโทโส’’ติ อิเม รูปาวจร ธมฺมา น โหนฺติ, อรูปาวจร ธมฺมา น โหนฺติ, โลกุตฺตร ธมฺมา น โหนฺตีติ เอวํ วตฺตพฺพตาปตฺติ โทโสติ วุตฺตํ โหติ. เอสนโย ‘‘รูปารูปาวจรตาปตฺติ โทโส กามาวจรตามุตฺติ โทโส’’ ติปเทสุ ¶ . อวจรสทฺทสฺส อุปฺปนฺนตฺเถ คหิเตปิ เอเตโทสา นาปชฺชนฺติ. กสฺมา, โลเก เยภูยฺยนยตพฺพหุลนยานํปิ สพฺภาวาติ อิมมตฺถํ วทนฺโต ‘‘นนุเยภูยฺย วุตฺติวเสนปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เกสฺจี’’ติ เกสฺจิ ปุคฺคลานํ วา ธมฺมานํ วา. ยถามิคลุทฺทโก คาเม จรนฺโตปิ วเน จรณพหุลตฺตา วนจรโกติ นามํ ลภติ. ราชหตฺถี อฺตฺถ จรนฺโตปิ สงฺคาเม จรณพหุลตฺตา สงฺคามาวจโรติ นามํ ลภติ. อยํ เยภูยฺยนโย นาม. ยสฺมึ วเน อมฺพรุกฺขาปิ อตฺถิ, อฺรุกฺขาปิ อตฺถิ. อมฺพรุกฺขพหุลตฺตา ปน ตํ วนํ อมฺพวนนฺติ นามํ ลภติ. เอวํ สิมฺพลิวนาทีสุ. อยํ ตพฺพหุลนโย. อิธ ปน ภูมิโย ตพฺพหุลนเยน กามรูปารูป นามํ ลภนฺติ, ธมฺมา เยภูยฺยนเยน กามาวจราทิ นามํ ลภนฺตีติ. เอวํ คหิเต สติ, เต โทสานา ปชฺชนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา อิธปิ…เป… โทโสตี’’ติอาห. ‘‘นา’’ติ น โกจิโทโส นตฺถิ. อตฺถิ เอวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตสฺมาสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘อสฺสา’’ติ อวจรสทฺทสฺส. ‘‘ตถา อตฺถํ อคฺคเหตฺวา’’ติ อุปฺปชฺชนตฺถํ อคฺคเหตฺวา. ‘‘ปริคฺคาหินิยา กามตณฺหาย กโต’’ติ ตถา ปริคฺคาหินิยา กามตณฺหาย โคจรวิสยตฺตาตายตณฺหาย กโตนาม โหติ. เอเตน กาเมตีติ กาโม, กามตณฺหา. อวจรติ เอตฺถาติ อวจรํ. กามสฺส อวจรนฺติ กามาวจรํ. กาม ตณฺหาย โคจรวิสยตฺตา กามาวจรนฺติ อยมตฺโถปิ สิชฺฌติ.
รูเปอวจรตีติ รูปาวจรํ. ‘‘รูเป’’ติ โสฬสวิธายรูปภูมิยา. ‘‘อวจรตี’’ติ ตตฺถ ปริยาปนฺนภาเวน ปวตฺตติ. อรูเป อวจรตีติ อรูปาวจรํ. ‘‘อรูเป’’ติ จตุพฺพิธาย อรูปภูมิยา. ‘‘อวจรตี’’ติ ตตฺถ ปริยาปนฺนภาเวน ปวตฺตตีติ อิมมตฺถํ วทติ ‘‘รูปารูปาวจเรสุปิ อยํนโย เนตพฺโพ’’ติ. รูเป ภโว รูปํ. รูปตณฺหา. อรูเป ภโว อรูปํ, อรูปตณฺหา. รูปสฺส อวจรํ รูปาวจรํ. อรูปสฺส อวจรํ อรูปาวจรนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ ‘‘เตสุ ปนา’’ติอาทินา. ‘‘อตฺรา’’ติ อิมสฺมึ าเน. ยทิปิ โลโภ, ราโค, กาโม, ตณฺหา, ติสพฺพมฺเปตํ โลภสฺสเววจนํ โหติ. รูปราโค อรูปราโคติ ปน วิสุํ วิภตฺตตฺตา อิธ กามสทฺเทน ตํ ทฺโโลโภ ¶ คยฺหติ. ‘‘สพฺโพปิ โลโภ’’ติ เอเตนสสฺสตุจฺเฉท ทิฏฺิสหคโตปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ.
๑๙. ‘‘รูปารูปสทฺทา ตาสุ ภูมีสุ นิรุฬฺหา’’ติ อนิมิตฺตา หุตฺวา นิรุฬฺหาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ สนิมิตฺตํ นยํ วทติ ‘‘อปิจา’’ติอาทินา. ‘‘นิสฺสโยปจาโร’’ติ านูปจาโร, ยถา สพฺโพคาโม อาคโตติ. ‘‘นิสฺสิโต ปจาโร’’ติ านฺยูปจาโร. ยถา ธชา อาคจฺฉนฺตีติ. ‘‘ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร’’ติ เย เอตสฺมึ อนฺตเร ขนฺธธาตุ อายตนา. ยํ รูปํ, ยา เวทนา, ยาสฺา, เย สงฺขารา, ยํวิฺาณนฺติ โยชนา. ‘‘สุวิสท’’นฺติ เยภูยฺยาทิ นเยหิ อนากุลตฺตาสุวิสุทฺธํ. ‘‘กึ วิกฺเขเปนา’’ติ จิตฺตวิกฺเขเปน กึ ปโยชนนฺติ อตฺโถ.
๒๐. ‘‘ลุชฺชนปฺปลุชฺชนฏฺเนา’’ติ ภิชฺชนปฺปภิชฺชนฏฺเน. ‘‘ยตฺถา’’ติ ยสฺมึ เตภูมเก ธมฺมสมูเห. ‘‘นิวิสตี’’ติ นิจฺจํ วิสติ, อุปคจฺฉติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ มิจฺฉาคฺคาหสฺส. ‘‘เตส’’นฺติ โลกุตฺตร ธมฺมานํ. ‘‘เยส’’นฺติ โลกิย ธมฺมานํ. ‘‘ลุชฺชน’’นฺติ ขณิกภงฺเคน ภิชฺชนํ. ‘‘ปลุชฺชน’’นฺติ สณฺานเภเทน สนฺตติจฺเฉเทน นานปฺปการโต ภิชฺชนํ. นิพฺพานํ ปน อิธ น ลพฺภติ จิตฺตสงฺคหาธิการตฺตาติ อธิปฺปาโย. โส จ อปริยาปนฺนภาโว, วิสุํ เอกาจตุตฺถี อวตฺถา ภูมินามาติ โยชนา.
จตุพฺภูมิวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๑. ‘‘หีน’’นฺติ สทฺธาสติอาทีหิ โสภณธมฺเมหิ อยุตฺตตฺตาหีนํ. ‘‘สพฺพหีน’’นฺติ โลภาทีหิ ปาปธมฺเมหิ ยุตฺตตฺตา สพฺพ จิตฺเตหิ หีนตรํ. ‘‘ตทตฺโถ’’ติ อุปริมานํ จิตฺตานํ โสภณสฺากรณสุขตฺโถ. ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมฺหิ. ‘‘วีถิจิตฺตวเสนาติ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโสเม อตฺตาติ เอวํ ปวตฺตสฺส ภวนิกนฺติ ชวนวีถิจิตฺตสฺส วเสน. เอวฺจสติ, กึ การณํ โลภมูลจิตฺตสฺสปถมํ วจเนติ อาห ‘‘อกุสเลสุ ปนา’’ติอาทึ ¶ .‘‘ทฺวีหิวฏฺฏมูเลหี’’ติ โลภโมหสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ วฏฺฏมูเลหิ.
๒๒. ‘‘สินิทฺธจิตฺต’’นฺติ สาตเวทนายุตฺตตฺตาลูขจิตฺตํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. สุมนสฺสภาโวติ วุตฺเต กายิกสุขเวทนายปิ ปสงฺโค สิยาติ วุตฺตํ ‘‘มานสิก…เป… นาม’’นฺติ. ‘‘สุมนาภิธานสฺสา’’ติ สุมนนามสฺส. ‘‘ปวตฺตินิมิตฺต’’นฺติ ปวตฺติยา อาสนฺน การณํ. กถํ ปน ภาโว ปวตฺตินิมิตฺตํ นามโหตีติ อาห ‘‘ภวนฺติ…เป… กตฺวา’’ติ. นิมิตฺเต ภุมฺมํ. ตถาหิ ภาโว นาม สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ. อิทานิ นิมิตฺต ลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหี’’ติอาทิมาห. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ ปโยเค. ‘‘ทนฺต นิมิตฺต’’นฺติ ทนฺตการณา. ‘‘ตํ เวทนา นิมิตฺต’’นฺติ ตํ เวทนาการณา. เอตฺถ สิยา, ‘‘เอตสฺมินฺติ นิมิตฺเต ภุมฺม’’นฺติ วุตฺตํ, นิมิตฺตฺจนาม อการกํ อสาธนํ, ตํ กถํ สาธนวิคฺคเห ยุชฺชตีติ. อธิกรณ สาธนานุรูปตฺตา สทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. เอเตนาติ จ เอตสฺมาติ จ เหตุ อตฺเถ อุภยวจนนฺติ วทนฺติ. อาสนฺนเหตุ นามสาธนรูโป ภวตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. สุฏฺุ กโรติ, ปกติปจฺจเยน อนิปฺผนฺนํ กมฺมํ อตฺตโน พเลน นิปฺผาเทตีติ สงฺขาโร. ‘‘ปุพฺพาภิสงฺขาโร’’ติ ปุพฺพภาเค อภิสงฺขาโร. ปโยเชติ นิโยเชตีติ ปโยโค. อุเปติ ผลสงฺขาโต อตฺโถ เอเตนาติ อุปาโย. ‘‘อาณตฺติยาวา’’ติ เปสนายวา. ‘‘อชฺเฌสเนน วา’’ติ อายาจเนน วา. ‘‘ตชฺเชตฺวา วา’’ติ ภยํ ทสฺเสตฺวา วา. ‘‘ตํ ตํ อุปายํ ปเร อาจิกฺข’’นฺติ. กถํ อาจิกฺขนฺตีติ อาห ‘‘อกรเณ’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ กมฺเม ปโยเชตีติกตฺวา อิธ สงฺขาโร นามา’’ติ โยชนา. ‘‘ปจฺจย คโณ’’ติ ปกติปจฺจยคโณ. ‘‘เตนา’’ติ สงฺขาเรน. ‘‘สาธารโณ’’ติ กุสลากุสลาพฺยากตานํ สาธารโณ. ‘‘ทุวิเธน สงฺขาเรนา’’ติ ปโยเคน วา อุปาเยน วา. ‘‘โย ปน เตนสหิโต’’ติอาทินา ปุพฺเพวุตฺตเมวตฺถํ ปการนฺตเรนปากฏํ กาตุํ ‘‘โสปน ยทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิตี’’ติอาทิ ลทฺธคุณ วจนํ. ‘‘ปจฺจยคณสฺเสวนาม’’นฺติ ปจฺจยคณสฺเสว วิเสส นามนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปนฺนตฺเถ อิกปจฺจโยติ กถํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติอาทึ. ‘‘ปาฬิย’’นฺติ ธมฺมสงฺคณิปาฬิยํ. ‘‘อสลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อจินฺเตตฺวา อิจฺเจวตฺโถ. สพฺพเมตํ นยุชฺชติเยว. กสฺมา, ปาฬิอฏฺกถาหิ อสํสนฺทนตฺตา, อตฺถยุตฺติพฺยฺชนยุตฺตีนฺจ อวิสทตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ต’’นฺติ จิตฺตํ. ‘‘เอเตนา’’ติ ปุพฺพปฺปโยเคน. ‘‘ยถาวุตฺตนเยนา’’ติ ติกฺขภาวสงฺขาตมณฺฑนวิเสเสน. ‘‘โส ปนา’’ติ ปุพฺพปฺปโยโค ปน. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘ตํ นิพฺพตฺติโต’’ติ เตน ปุพฺพปฺปโยเคน นิพฺพตฺติโต. ‘‘วิรชฺฌิตฺวา’’ติ อยุตฺตปกฺเขปติตฺวา. เอเตนปฏิกฺขิตฺตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. คาถายํ. ‘‘จิตฺตสมฺภวี’’ติ จิตฺตสฺมึ สมฺภูโต. วิเสโส สงฺขาโร นามาติ โยชนา. สโลมโก, สปกฺขโกตฺยาทีสุวิยาติ วุตฺตํ. สาสวา ธมฺมา, สารมฺมณา ธมฺมาตฺยาทีสุวิยาติ ปน วุตฺเต ยุตฺตตรํ. ‘‘ปาฬิอฏฺกถา สิทฺธ’’นฺติ ปาฬิอฏฺกถาโต สิทฺธํ. อปิจยตฺถวิสุทฺธิมคฺคาทีสุ อสงฺขารํ จิตฺตํ, สสงฺขารํ จิตฺตนฺติ อาคตํ. ตตฺถ อยํ ปจฺฉิมนโย ยุตฺโต. อุปายสมุฏฺิตสฺส อเนกสตสมฺภวโต ‘‘อิทฺจ นยทสฺสนเมวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อุทาสินภาเวนา’’ติ มชฺฌตฺตภาเวน. ‘‘ยโต’’ติ ยสฺมา. วิการปตฺโต โหติ. ตโต อธิมตฺตปสฺสนํ วิฺายตีติ โยชนา.
๒๓. อิทานิ สหคตวจน สมฺปยุตฺตวจนานิ วิจาเรนฺโต ‘‘เอตฺถจา’’ติอาทิมารภิ. ‘‘น ปน เต เภทวนฺตา โหนฺตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น นุ เตปิจกฺขุ สมฺผสฺโส, โสตสมฺผสฺโส, ติอาทินา จ, กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, ติอาทินา จ, ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณ, นฺติอาทินาจ เภทวนฺตา โหนฺตีติ. สจฺจํ. เต ปน เภทา อิมํ จิตฺตํ ภินฺนํ น กโรนฺติ. ตสฺมา เต เภทวนฺตาน โหนฺตีติ วุตฺตา. น จ เตสํ อยํ วิกปฺโป อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิมสฺมึ จิตฺเต’’ติ โลภมูลจิตฺเต. ‘‘กตฺถจี’’ติ กิสฺมิฺจิ จิตฺเต. เยวาปนาติ วุตฺเต สุธมฺเมสุ อาคตานิเยวาปนกานิ. ‘‘อฺเหี’’ติ โทสมูลโมหมูเลหิ. นนุตานิปิ อิธ คเหตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นา’’ติ น คเหตพฺพานิ. กสฺมาติ อาห ‘‘เตสุหี’’ติอาทึ ¶ . เตปิ อิธ นคเหตพฺพา สิยุํ. น ปน น คเหตพฺพา. กสฺมา, เวทนาย จ สยํ เภทวนฺตตฺตา, ทิฏฺิสงฺขารานฺจ วิกปฺปสพฺภาวาติ อธิปฺปาโย.
๒๔. ‘‘โสมนสฺสสฺสการณ’’นฺติ โสมนสฺสุปฺปตฺติยา การณํ. โสมนสฺสุปฺปตฺติยา การเณ วุตฺเต ตํ สหคต จิตฺตุปฺปตฺติยาปิการณํ สิทฺธํ โหตีติ กตฺวา ตเมว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘โสมนสฺสปฺปฏิสนฺธิโกหี’’ติอาทึ. หีเนน วา…เป… อารมฺมเณน สมาโยโค, เตน สมายุตฺตสฺสาปิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชมานนฺติอาทินา วตฺตพฺพํ. ตถา พฺยสนมุตฺติยํปิ. อุเปกฺขาการเณ ‘‘พฺยสนมุตฺตี’’ติ อิทํ โทมนสฺสปฺปสงฺคปริหารวจนํ. อชฺฌาสโยวุจฺจติ อชฺฌาวุตฺตํ เคหํ. ทิฏฺิสงฺขาโต อชฺฌาสโยยสฺสาติ ทิฏฺชฺฌาสโย. ตสฺส ภาโว ทิฏฺชฺฌาสยตา. ‘‘อโยนิโส อุมฺมุชฺชน’’นฺติ อนุปายโต อาภุชนํ, มนสิกรณํ. ‘‘จินฺตา ปสุตวเสนา’’ติ คมฺภีเรสุ ธมฺเมสุ จินฺตาปสวนวเสน, วีมํสา วฑฺฒนวเสน. ‘‘ทิฏฺการณเมวา’’ติ ทิฏฺํ การณปฺปฏิรูปกเมว. เตนาห ‘‘สารโตสจฺจโต อุมฺมุชฺชน’’นฺติ. ‘‘ตพฺพิปรีเตนา’’ติ ตโต วิปรีเตน. อทิฏฺชฺฌาสยตา, ทิฏฺิวิปนฺนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สทฺธมฺมสวนตา, สมฺมาวิตกฺกพหุลตา, โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺจ ทิฏฺิวิปฺปโยคการณนฺติ วตฺตพฺพํ.
‘‘อิเมสํ ปน จิตฺตานํ อุปฺปตฺติวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเคคเหตพฺพ’’นฺติ วิสุทฺธิ มคฺเคขนฺธ นิทฺเทสโต คเหตพฺพํ. วุตฺตฺหิตตฺถ. ยทา หินตฺถิกาเมสุ อาทีนโวติอาทินานเยน มิจฺฉาทิฏฺึ ปุเรกฺขิตฺวา หฏฺตุฏฺโ กาเมวา ปริภฺุชติ, ทิฏฺมงฺคลาทีนิ วา สารโตปจฺเจติ สภาว ติกฺเขน อนุสฺสาหิเตนจิตฺเตน. ตทา ปถมํ อกุสล จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา มนฺเทน สมุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทาทุตียํ. ยทา มิจฺฉา ทิฏฺึ อปุเรกฺขิตฺวา เกวลํ หฏฺตุฏฺโ เมถุนํ วา เสวติ, ปร สมฺปตฺตึ วา อภิชฺฌายติ, ปรภณฺฑํ วา หรติ สภาวติกฺเขเนว อนุสฺสาหิเตน จิตฺเตน. ตทา ตตียํ. ยทา มนฺเทน สมุสฺสาหิเตนจิตฺเตน, ตทา จตุตฺถํ. ยทา ปน กามานํ วา อสมฺปตฺตึ อาคมฺม อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาเวน จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตาโหนฺติ ¶ , ตทาเสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ.
โลภมูลจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๕. โทสมูลจิตฺเต. ‘‘วิรูป’’นฺติ ทุฏฺํ, ลุทฺทํ. ทุมฺมนสฺส ภาโวติ วุตฺเต กายิกทุกฺขเวทนายปิ ปสงฺโค สิยาติ วุตฺตํ ‘‘มานสิก…เป… นาม’’นฺติ. ปฏิหฺติ พาธติ. ‘‘สนฺตตฺเต’’ติ สนฺตาปิเต.
๒๖. ‘‘เภทกโร’’ติ อฺมฺวิเสสกโร. ‘‘เภทกราน โหนฺตี’’ติ อิมสฺส จิตฺตสฺส อฺมฺวิเสสกราน โหนฺติ. โทมนสฺสคฺคหณํ ปสงฺคนิวตฺตนตฺถํ คหิตนฺติ โยชนา. ปสงฺโคติ จนานปฺปการโต สชฺชนํ ลคฺคนํ. กถํ ปสงฺโคติ อาห ‘‘ยทาหี’’ติอาทึ. ‘‘ตุฏฺึ ปเวเทนฺตี’’ติ ตุฏฺามยํ อิเมสํ มรเณนาติอาทิ จิกฺขนฺติ. เอวํ สหคตปฺปสงฺคํ นิวตฺเตตฺวา สมฺปยุตฺตปฺปสงฺคํ นิวตฺเตตุํ ‘‘ปฏิฆคฺคหณํปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติรจฺฉานคตปาณวเธ อปฺุํ นาม นตฺถิ. อาทิกปฺปโต ปฏฺาย มนุสฺสานํ ยถากาม ปริโภคตฺถาย โลกิสฺสริเยนถาวรฏฺายินา นิมฺมิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิสฺสฏฺา’’ติ อนาสงฺกา. ‘‘อฺเวา’’ติ อฺเ วา ชเน. วิมติ เอว เวมติกํ. เวมติกํ ชาตํ เยสํ เต เวมติกชาตา. ปุริมจิตฺตสฺสโลภสหคตภาโว อิมานิอฏฺปิ โลภสหคตจิตฺตานินามาติ อิมินา จูฬนิคมเน เนว สิทฺโธวิยาติ โยชนา. จูฬนิคมเนน ปฏิฆสมฺปยุตฺต ภาเวสิทฺเธ โทมนสฺสสหคตภาโวปิ เตนสิทฺโธ เยวาติ กตฺวา ‘‘เตสํ คหณํ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เตส’’นฺติ โทนสฺสปฏิฆานํ. อิมสฺมึ จิตฺเต อิสฺสามจฺฉริยกุกฺกุจฺจานิจถินมิทฺธานิ จ อนิยตโยคีนิ จ โหนฺติ เยวาปนกานิ จ. เตนาห ‘‘ปุริมจิตฺเต’’ติอาทึ. โทมนสฺสํ อิมสฺมึ จิตฺเต อตฺถิ, อฺจิตฺเตสุ นตฺถิ, ตสฺมา อสาธารณ ธมฺโม นาม. อนฺสาธารณ ธมฺโมติปิ วุจฺจติ. ‘‘ยถาตํ’’ติ ตํ นิทสฺสนํ ตทุทาหรณํ ยถา กตมนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุปลกฺเขตี’’ติ ¶ สฺาเปติ. อาตปํตายติรกฺขตีติ อาตปตฺตํ. เสตจฺฉตฺตํ. ลทฺธํ อาตปตฺตํ เยนาติ ลทฺธาตปตฺโต. ราชกุมาโร. โส อาตปตฺตํ ลทฺโธติ วุตฺเต สพฺพํ ราชสมฺปตฺตึ ลทฺโธติ วิฺายติ. ตสฺมา อิทํ อุปลกฺขณ วจนํ ชาตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อุภินฺน’’นฺติ ทฺวินฺนํ โทมนสฺส ปฏิฆานํ. ปุพฺเพ โทมนสฺสสหคตนฺติ วตฺวา นิคมเน ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตานีติ วุตฺตตฺตา ‘‘อิมสฺส…เป… สิทฺธิโต’’ติ วุตฺตํ.
๒๗. ‘‘อนิฏฺโลกธมฺเมหี’’ติ อลาโภ จ, อยโสจ, นินฺทาจ, ทุกฺขฺจาติ จตูหิ อนิฏฺโลกธมฺเมหิ. ‘‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ อหํ อลาภาทีหิ มาสมาคจฺฉีติ ปตฺเถนฺตสฺสปิ กุโตเมเอตฺถโลเกตํ ปตฺถนา ปูรณํ สพฺพกาลํ ลพฺภาติ อตฺโถ. ‘‘ลพฺภา’’ติ จ กมฺมตฺถทีปกํ ปาฏิปทิกปทํ. อิเมสํ อุปฺปตฺติวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค สงฺเขปโตว วุตฺตํ ตสฺส ปาณาติ ปาตาทีสุ ติกฺขมนฺทปฺปวตฺติกาเล ปวตฺติเวทิตพฺพาติ.
โทสมูลจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๘. โมหมูลจิตฺเต. ‘‘มูลนฺตรวิรเหนา’’ติ อฺมูลวิรเหน. สํสปฺปตีติ สํสปฺปมานา. เอวํ นุ โข, อฺถานุ โขติ เอวํ ทฺวิธา เอรยติ กมฺปตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปตีติ วิกฺขิปมานํ. ‘‘นิยมนตฺถ’’นฺติ อิทํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ นามาติ นิยมนตฺถํ. อิทฺหิ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ วิย นิคมเนน สิทฺธํ น โหติ. ‘‘อิธ ลทฺโธกาสํ หุตฺวา’’ติ มูลนฺตร วิรหตฺตา เอว อิธลทฺโธกาสํ หุตฺวา. ปกติ สภาวภูตํ, อิติ ตสฺมา นตฺถีติ โยชนา. ‘‘อโนสกฺกมาน’’นฺติ ปจฺฉโต อนิวตฺตมานํ. ‘‘อสํสีทมาน’’นฺติ เหฏฺโต อปตมานํ. อุภเยน อพฺโพจฺฉินฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อติสมฺมุฬฺหตายา’’ติ มูลนฺตร วิรเหน โมเหน อติสมฺมุฬฺหตาย. ‘‘อติจฺจลตายา’’ติ สํสปฺปมานวิกฺขิปมาเนหิวิจิกิจฺฉุทฺธจฺเจหิ อติจฺจลตาย. ‘‘สพฺพตฺถปี’’ติ สพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ. อฏฺกถายํ สงฺขาร เภเทน อวิชฺชาย ทุวิธภาโวว วุตฺโต. กถํ วุตฺโต. อวิชฺชา อปฺปฏิปตฺติ มิจฺฉา ปฏิปตฺติโต ทุวิธา ตถา สสงฺขา ราสงฺขารโตติ ¶ วุตฺโต. ‘‘ติวิธภาโววา’’ติ อิมสฺมึ จิตฺเตสงฺขารวิมุตฺตาย อวิชฺชาย สทฺธึ ติวิธภาโวว. อิเมสํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปฺปตฺติวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเคสงฺเขปโตววุตฺตํ ตสฺสอสนฺนิฏฺานวิกฺเขปกาเลปวตฺติ เวทิตพฺพาติ.
๒๙. ‘‘สพฺพถาปี’’ติ นิปาตสมุทาโย วา โหตุ อฺมฺเววจโน วา, วิสุํ นิปาโตวาติ เอวํ สพฺพปฺปการโตปิ. อกุสลปเท อกาโร วิรุทฺธตฺโถ. ยถา อมิตฺโต, อสุโร, ติทสฺเสตุํ ‘‘อกุสลานี’’ติอาทิมาห. ‘‘ปฏิวิรุทฺธภาโว’’ติ โมหาทีหิ อกุสเลหิ วิรุทฺธภาโว. ภาวนํนารหนฺตีติ ‘‘อภาวนารหา’’. กถํ ปน ภาวนํนารหนฺตีติ อาห ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติอาทึ. ‘‘นิยามํ โอกฺกมนฺตาปี’’ติ ปฺจานนฺตริย กมฺมภาเวน นิยตมิจฺฉาทิฏฺิภาเวน จ นิยามํ โอกฺกมนฺตาปิ. อปายํ ภชนฺตีติ อปายภาคิโน. กมฺมการกา. เตสํ ภาโว. ตาย. ‘‘วฏฺฏโสตนิยเต’’ติ สํสารวฏฺฏ โสตสฺมึ นิยเต. ‘‘ถิรตรปตฺตา’’ติ สมาธิวเสน ถิรตรภาวํ ปตฺตา. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปการนฺตเรน วิภาเวตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ‘‘สิยุ’’นฺติ ปทํ ธาตุปจฺจเยหิ สิทฺธํ นิปฺผนฺนปทํ นาม นโหติ. กสฺมา, อิธปริกปฺปตฺถสฺส อสมฺภวโต. นิปาตปทํ โหติ. กสฺมา, อเนกตฺถตา สมฺภวโต. อิธ ปน ภวนฺติ สทฺเทน สมานตฺโถ. เตนาห ‘‘นิปาตปทํ อิธ ทฏฺพฺพ’’นฺติ.
อกุสลวณฺณนา.
๓๐. อเหตุกจิตฺเต. ‘‘สพฺพนิหีน’’นฺติ สพฺพจิตฺเตหิ หีนํ. ปุน ‘‘สพฺพนิหีน’’นฺติ สพฺพาเหตุเกหิ หีนํ. ‘‘ต’’นฺติ อกุสล วิปากํ.
๓๑. สุตฺตปาฬิยํ, ‘‘กฏฺ’’นฺติ สุกฺขทารุํ. ‘‘สกลิก’’นฺติ ฉินฺทิตผาลิตํ กฏฺกฺขณฺฑกํ. ‘‘ถุส’’นฺติ วีหิสุงฺกํ. ‘‘สงฺการ’’นฺติ กจวรํ. จกฺขฺุจรูเป จ ปฏิจฺจ ยํวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. ตํ จกฺขุวิฺาณนฺตฺเวว วุจฺจตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ‘‘รูเป’’ติ รูปารมฺมณาน ¶ . ‘‘สทฺเท’’ติอาทีสุปิ เอสนโย. เอตฺถ จ วิฺาณานิ เอกวตฺถุ นิสฺสิตานิ โหนฺติ. ตสฺมา วตฺถุ ทฺวาเรสุ เอกวจนํ วุตฺตํ. อารมฺมณานิ ปน เอกวิฺาเณนาปิ พหูนิ คหิตานิ. ตสฺมา อารมฺมเณสุ พหุวจนํ. ‘‘ทุกฺขยตี’’ติ ทุกฺขํ กโรติ. นามธาตุ ปทฺเหตํ. ยถา อตฺตานํ สุเขติ วีเณตีติ สทฺทวิทู. ธาตุปาเสุ ปน สุขทุกฺขตกฺกิริยายํติ วุตฺตํ. ตกฺกิริยาติ จ สุขกิริยา ทุกฺข กิริยาติ อตฺโถ. สาตกิริยา อสฺสาตกิริยาติ วุตฺตํ โหติ. จ สทฺโท โอกาสตฺโถติ กตฺวา ‘‘ทุกฺกรํ โอกาสทาน’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๒. ‘‘จกฺขุสฺส อสมฺภินฺนตา’’ติ จกฺขุปสาทรูปสฺส อภินฺนตา. ตสฺมิฺหิ ภินฺเนสติ อนฺธสฺส จกฺขุสฺส รูปานินุปฏฺหนฺตีติ. ‘‘โสตสฺสอสมฺภินฺนตา’’ติอาทีสุปิ เอสนโย. ‘‘อาโลกสนฺนิสฺสยปฺปฏิลาโภ’’ติ จกฺขุ จ อาโลเกสติ กิจฺจการี โหติ. อสติ นโหติ. ตถา รูปฺจ. ตสฺมา อาโลโก เตสํ วิสยวิสยีภาวูปคมเน สนฺนิสฺสโย โหติ. ตสฺส อาโลกสนฺนิสฺสยสฺส ปฏิลาโภ. เอสนโย อากาสสนฺนิสฺสยาทีสุ. อิเมสํ องฺคานํ ยุตฺติ ทีปนา อุปริรูปสงฺคเห อาคมิสฺสติ. ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ อฏฺสาลินิยํ. ตตฺถ ‘‘ตสฺมึ ปน อาปาตํ อาคจฺฉนฺเตปิ อาโลกสนฺนิสฺสเย อสติ จกฺขุวิฺาณํ นุปฺปชฺชตี’’ติ วจนํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘ตํ วินา อาโลเกนา’’ติอาทิมาห. ‘‘อภาวทสฺสน ปร’’นฺติ อภาวทสฺสนปฺปธานํ.
๓๓. วิปากวจนตฺเถ. วิปจฺจตีติ วิปากํ. วิปจฺจตีติ จ วิปกฺกภาวํ อาปชฺชติ. ปุพฺเพ กตกมฺมํ อิทานิ นิพฺพตฺตึ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ตทตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อยฺจ อตฺโถ’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ อายูหน สมงฺคิตาปิ อาคตา. อิธ ปนสา เจตนา สมงฺคิตาย สงฺคหิตาติ กตฺวา ‘‘จตสฺโส สมงฺคิถา’’ติ วุตฺตํ. สมงฺคิตาติ จ สมฺปนฺนตา. ‘‘ตํ ตํ กมฺมายูหน กาเล’’ติ ปาณาติ ปาตาทิกสฺส ตพฺพิรมณาทิกสฺส จ ตสฺส ตสฺส ทุจฺจริตสุจริตกมฺมสฺส อายูหนกาเล. สมุจฺจินนกาเลติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพโส อภาวํ ปตฺวาน นิรุชฺฌตี’’ติ ยถา อพฺยากต ¶ ธมฺมานิรุชฺฌมานา สพฺพโส อภาวํ ปตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. ตถา นนิรุชฺฌนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สพฺพาการ ปริปูร’’นฺติ ปาณาติปาตํ กโรนฺตสฺส กมฺมานุ รูปาพหูกาย วจีมโน วิการา สนฺทิสฺสนฺติ. เอสนโย อทินฺนาทานาทีสุ. เอวรูเปหิ สพฺเพหิ อาการ วิกาเรหิ ปริปูรํ. ‘‘นิทหิตฺวา วา’’ติ สณฺเปตฺวา เอว. ‘‘ยํสนฺธายา’’ติ ยํกิริยาวิเสสนิธานํ สนฺธาย.
คาถายํ. ‘‘สชฺชู’’ติ อิมสฺมึ ทิวเส. ‘‘ขีรํ วมุจฺจตี’’ติ ยถา ขีรํ นาม อิมสฺมึ ทิวเส มุจฺจติ. ปกตึ ชหติ. วิปริณามํ คจฺฉติ. น ตถา ปาปํ กตํ กมฺมนฺติ โยชนา. กถํ ปน โหตีติ อาห ‘‘ทหนฺตํ พาลมนฺเวตี’’ติ. ‘‘ภสฺมาฉนฺโนวปาวโก’’ติ ฉาริกา ฉนฺโนวิย อคฺคิ. ‘‘โส ปนา’’ติ กิริยา วิเสโส ปน. ‘‘วิสุํ เอโก ปรมตฺถ ธมฺโมติปิ สงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ วิสุํ สมฺปยุตฺต ธมฺม ภาเวน สงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. โส หิ กมฺมปจฺจยธมฺมตฺตา ปรมตฺถ ธมฺโม น โหตีติ น วตฺตพฺโพ. เตนาห ‘‘อนุสยธาตุโย วิยา’’ติ. ‘‘โส’’ติ กิริยาวิเสโส. ‘‘ต’’นฺติ กมฺมํ วา, กมฺมนิมิตฺตํ วา, คตินิมิตฺตํ วา. ‘‘ตทา โอกาสํ ลภตี’’ติ วิปจฺจนตฺถาย โอกาสํ ลภติ. โอกาสํ ลภิตฺวา ปจฺจุปฏฺาตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตาสุ จ ตูสุสมงฺคิตาสุ. ‘‘อิตี’’ติ ลทฺธคุณวจนํ. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติอาทิ ปุน ลทฺธคุณวจนํ. ‘‘ปาฬิย’’นฺติ ธมฺมสงฺคณิ ปาฬิยํ. ‘‘กมฺมสนฺตานโต’’ติ อรูปสนฺตานํ เอว วุจฺจติ. ‘‘เย ปนา’’ติ คนฺถการา ปน. ‘‘เตส’’นฺติ คนฺถการานํ. อาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. เตสํ วาเทติ วา โยเชตพฺพํ. ยฺจอุปมํ ทสฺเสนฺตีติ โยชนา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ วจเน. น จ น ลภนฺตีติ โยชนา. ‘‘ตทา’’ติ ตสฺมึ ปริณตกาเล. ‘‘นาฬ’’นฺติ ปุปฺผผลานํ ทณฺฑกํ.
๓๔. ‘‘สมฺภโว’’ติ ปสงฺคการณํ. อภิวิเสเสน จรณํ ปวตฺตนํ อภิจาโร. วิเสส วุตฺติ. น อภิจาโร พฺยภิจาโร. สามฺ วุตฺติ. ปกฺขนฺตเรน สาธารณตาติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺขนฺตเรน สาธารณตา นามปกฺขนฺตรสฺส นานปฺปการโต สชฺชนเมว ลคฺคนเมวาติ วุตฺตํ พฺยภิจารสฺสาติ ปสงฺคสฺส อิจฺเจวตฺโถติ. เอตฺถจาติอาทินา ¶ สมฺภวพฺยภิจารานํ อภาวเมว วทติ. อกุสลเหตูหิ จ สเหตุกตา สมฺภโว นตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตส’’นฺติ อกุสลวิปากานํ. ‘‘อพฺยภิจาโรเยวา’’ติ พฺยภิจารรหิโตเยว.
๓๕. ‘‘ปฺจทฺวาเร อุปฺปนฺน’’นฺติ ปฺจทฺวารวิการํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทึ. เอสนโย มโนทฺวาราวชฺชเนปิ.
ยทิ หิ อยมตฺโถสิยา, เอวฺจสติ, อยมตฺโถ อาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตส’’นฺติ วีถิจิตฺตานํ. อุปฺปาทสทฺโทนิยตปุลฺลิงฺโคติ กตฺวา ‘‘ฏีกาสุ ปน…เป… นิทฺทิฏฺํ’’ สิยาติ วุตฺตํ. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ สมฺปยุตฺตเหตุวิรหโตติ วุตฺตนเยน. วิปจฺจน กิจฺจํ นาม วิปากานํ กิจฺจํ. วิปากุปฺปาทนกิจฺจํ นาม กุสลากุสลานํ กิจฺจํ. ‘‘ตํ ตํ กิริยามตฺตภูตานี’’ติ อาวชฺชน กิริยา หสนกิริยามตฺตภูตานิ. ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติจิตฺตานิ นาม เกวลํ กมฺมเวคุกฺขิตฺตภาเวนสนฺตาเนปติตมตฺตตฺตา ทุพฺพล กิจฺจานิ โหนฺติ. ปฺจ วิฺาณานิ จ อสารานํ อพลานํ ปสาทวตฺถูนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนตฺตา ทุพฺพลวตฺถุกานิ โหนฺติ. สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ จ ปฺจวิฺาณานุพนฺธ มตฺตตฺตา ทุพฺพล กิจฺจฏฺานานิ โหนฺติ. ตสฺมา ตานิ สพฺพานิ อตฺตโน อุสฺสาเหนวินา เกวลํ วิปจฺจนมตฺเตน ปวตฺตนฺติ. ‘‘วิปากสนฺตานโต’’ติ ปฺจทฺวาราวชฺชนฺจ มโนทฺวาราวชฺชนฺจ ภวงฺควิปากสนฺตานโต ลทฺธปจฺจยํ โหติ. โวฏฺพฺพนํ ปฺจวิฺาณาทิ วิปากสนฺตานโต ลทฺธปจฺจยํ. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ หสิตุปฺปาทจิตฺต มหากิริยจิตฺตาทีนิ. ‘‘นิรนุสยสนฺตาเน’’ติ อนุสยรหิเต ขีณาสวสนฺตาเน. ‘‘อุสฺสาหรหิตานิ เอวา’’ติ ยถา รุกฺขานํ วาตปุปฺผานิ นาม อตฺถิ. ตานิ ผลุปฺปาทกสิเนหรหิตตฺตา ผลานิ น อุปฺปาเทนฺติ. ตถา ตานิ จ วิปากุปฺปาทกตณฺหาสิเนหรหิตตฺตา อุสฺสาหพฺยาปาร รหิตานิ เอว.
๓๖. เวทนาวิจารณายํ. ‘‘ปิจุปิณฺฑกานํ วิยา’’ติ ทฺวินฺนํ กปฺปาสปิจุปิณฺฑกานํ อฺมฺสงฺฆฏฺฏนํ วิย อุปาทารูปานฺจ อฺมฺสงฺฆฏฺฏนํ ทุพฺพลเมวาติ โยชนา. ‘‘เตสํ อารมฺมณภูตาน’’นฺติ ติณฺณํ มหาภูตานํ. ‘‘กายนิสฺสยภูเตสู’’ติ กายนิสฺสยมหาภูเตสุ ¶ .‘‘เตหี’’ติ ปฺจวิฺาเณหิ. ‘‘ปุริมจิตฺเตนา’’ติ สมฺปฏิจฺฉนจิตฺตโต. ‘‘ต’’นฺติ อกุสลวิปากสนฺตีรณํ. ปฏิเฆน วินา นปฺปวตฺตติ. กสฺมา นปฺปวตฺตตีติ อาห ‘‘เอกนฺตากุสลภูเตนา’’ติอาทึ. ‘‘อพฺยากเตสุ อสมฺภวโต’’ติ อพฺยากต จิตฺเตสุ ยุชฺชิตุํ อสมฺภวโต. กมฺมานุภาวโต จ มฺุจิตฺวา ยถาปุริมํ วิปากสนฺตานํ กมฺมานุภาเวน ปวตฺตํ โหติ. ตถา อปฺปวตฺติตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เกนจี’’ติ เกนจิ จิตฺเตน. ‘‘วิสทิสจิตฺตสนฺตาน ปราวฏฺฏนวเสนา’’ติ ปุริเมนวิปาก จิตฺต สนฺตาเนน วิสทิสํ กุสลาทิ ชวน จิตฺตสนฺตานํ ปรโต อาวฏฺฏา ปน วเสน. ตถาหิทํ จิตฺตทฺวยํ ปาฬิยํ อาวฏฺฏนา, อนฺวาวฏฺฏนา, อาโภโค, สมนฺนาหาโรติ นิทฺทิฏฺํ. ‘‘สพฺพตฺถาปี’’ติ อิฏฺารมฺมเณปิ อนิฏฺารมฺมเณปิ. ‘‘อตฺตโน ปจฺฉา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส วเสนา’’ติ อตฺตโน ปจฺฉา ปวตฺตํ จิตฺตํ ปฏิจฺจ น วตฺตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺตโน ปจฺจเยหิ เอว โส สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ อตฺตโน ปจฺจเยสุ พลวนฺเตสุ สติ, พลวา โหติ. ทุพฺพเลสุ สติ, ทุพฺพโล โหตีติ สกฺกาวตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิสทิส จิตฺตสนฺตาน’’นฺติ โวฏฺพฺพนกิริยจิตฺตสนฺตานํ.
๓๗. สงฺขาร วิจารณายํ ‘‘วิปากุทฺธาเร’’ติ อฏฺสาลินิยํ วิปากุทฺธาร กถายํ. ‘‘อุภยกมฺเมนปี’’ติ สสงฺขาริก กมฺเมนปิ, อสงฺขาริก กมฺเมนปิ. ‘‘เถเรนา’’ติ มหาทตฺตตฺเถเรน. ‘‘ตทุภยภาวาภาโว’’ติ สสงฺขาริก อสงฺขาริกภาวานํ อภาโว. ‘‘ตานิปิ หิ อปริพฺยตฺตกิจฺจานิเยวา’’ติ เอตฺถ อาวชฺชน ทฺวยํ ชวนานํ ปุเรจาริก กิจฺจตฺตา อปริพฺยตฺตกิจฺจํ โหตุ. หสิตุปฺปาทจิตฺตํ ปน ชวนกิจฺจตฺตา กถํ อปริพฺยตฺตกิจฺจํ ภเวยฺยาติ. ตมฺปิ สพฺพฺุตฺาณาทีนํ อนุจาริกมตฺตตฺตา อปริพฺยตฺตกิจฺจํ นาม โหตีติ. ‘‘อฏฺมหาวิปาเกสุ วิย วตฺตพฺโพ’’ติ มหาวิปากานํ สสงฺขาริกา สงฺขาริกภาโว ปุริมภเว มรณาสนฺนกาเล อารมฺมณานํ ปโยเคน สห วา วินา วา อุปฏฺานํ ปฏิจฺจ วุตฺโต, ตถา วตฺตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
๓๘. ‘‘ทุพฺพล กมฺมนิพฺพตฺเตสู’’ติ ปฏิสนฺธิ ภวงฺค จุติกิจฺจานิ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ. ‘‘ทุพฺพลวตฺถุ กิจฺจฏฺาเนสู’’ติ จกฺขาทิวตฺถุเกสุ อาวชฺชนาทิ ทุพฺพลกิจฺจ ทุพฺพลฏฺานิเกสุ. ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา ตทตฺถํ วิวรติ. ตตฺถ ‘‘วิกฺเขปยุตฺต’’นฺติ วิกฺเขปกิจฺเจน อุทฺธจฺเจนยุตฺตํ หุตฺวา. ‘‘กปฺปฏฺิติกํ’’ นาม สงฺฆเภทกมฺมํ. ฉสุวตฺถุ รูเปสุ หทยวตฺถุเมว สุวณฺณรชตํ วิย สารวตฺถุ โหติ. อิตรานิ ผลิกานิวิย ปสาทมตฺตตฺตา อสารานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘จกฺขาทีสุ ทุพฺพลวตฺถูสู’’ติ. ทสฺสนาทีนิ จ กิจฺจานิ ชวน กิจฺจสฺส ปุเรจรตฺตา ขุทฺทกิจฺจานิ โหนฺติ. เตนาห ‘‘ทสฺสนาทีสู’’ติอาทึ.
๓๙. อิธ ทีปนิยํ อิจฺเจวนฺติ ปทํ อฏฺารสาติปทสฺสวิเสสนนฺติ กตฺวา ‘‘สพฺพถาปีติ ปทสฺส…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. วิภาวนิยํ ปน ตํ สพฺพถาปีติ ปทสฺส วิเสสนนฺติ กตฺวา ‘‘สพฺพถา ปีติกุสลากุสลวิปากกิริยาเภเทนา’’ติ วุตฺตํ.
อเหตุกจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๐. โสภณจิตฺเตสุ. อวุตฺตาปิ สิทฺธา โหติ. ยถา อฏฺจิตฺตานิ โลกุตฺตรานีติ จ วุตฺเต อวุตฺเตปิสิชฺฌนฺติ เสสจิตฺตานิ โลกิยานีติ จ สอุตฺตรานีติ จาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺตสมงฺคีโน’’ติ อตฺตนา ปาปกมฺเมน สมนฺนาคเต. ‘‘อนิจฺฉนฺเต เยวา’’ติ สเจปิ อวีจินิมิตฺตสฺสาทวตฺถุ วิย เกจิ อิจฺฉนฺตุ. อชานนฺตานํ ปน อิจฺฉา อปฺปมาณนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘โสภคฺค ปตฺติยา’’ติ เอตฺถ สุภคสฺส ภาโว โสภคฺคนฺติ วิคฺคโห. สุภคสฺสาติ จ สุสิริกสฺส.
๔๑. ‘‘ยาถาวโต’’ติ ยถา สภาวโต. เอตฺถ สิยา ชานาตีติ าณนฺติ วุตฺตํ, กึ สพฺพํ าณํ ยาถาวโต ชานาตีติ. กิฺเจตฺถ. ยทิ สพฺพํ าณํ ยาถาวโต ชานาติ. เอวํ สติ, าเณน จินฺเตนฺตานํ อชานนํ นาม นตฺถิ, วิรชฺฌนํ นาม นตฺถีติ อาปชฺชติ. อถ สพฺพํ าณํ ยาถาวโต น ชานาติ, กตฺถจิ ชานาติ, กตฺถจิ น ชานาติ. เอวฺจสติ, ยตฺถ ชานาติ, ตตฺเถว ตํ าณํ โหติ. ยตฺถ น ชานาติ, ตตฺถ ตํ าณเมว น โหตีติ อาปชฺชตีติ. วุจฺจเต ¶ . าเณน จินฺเตสฺสามีติ จินฺเตนฺตานํปิ ยตฺถ ยตฺถ ยาถาวโต ชานนํ น โหติ, ตตฺถ ตตฺถ าณ วิปฺปยุตฺต จิตฺตํ โหติ. าณปฺปฏิ รูปกา จ ธมฺมา อตฺถิ จิตฺตฺจ วิตกฺโก จ, วิจาโร จ, ทิฏฺิ จ. เอเตหิ จินฺเตนฺตาปิ อหํ าเณน จินฺเตมีติ มฺนฺติ. ‘‘เทยฺย ธมฺมปฏิคฺคาหก สมฺปตฺตี’’ติ เทยฺยธมฺม วตฺถุ สมฺปตฺติ, ปฏิคฺคาหก ปุคฺคล สมฺปตฺติ. ‘‘อพฺยาปชฺชโลกูปปตฺติตา’’ติ เอตฺถ อพฺยาปชฺชโลโก นาม กายิกทุกฺข เจตสิก ทุกฺข รหิโต อุปริเทวโลโก วา พฺรหฺมโลโก วา. อุปปชฺชนํ อุปปตฺติ. ปฏิสนฺธิวเสน อุปคมนนฺติ อตฺโถ. อพฺยาปชฺชโลกํ อุปปตฺติ ยสฺส โส อพฺยาปชฺช โลกูปปตฺติ. ตสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘กิเลส ทูรตา’’ติ สมาปตฺติ พเลน วา, อฺตรปฺปฏิปตฺติยา วา, วิกฺขมฺภิต กิเลสตา วา, อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺน กิเลสตา วา.
เตสํ อุปฺปตฺติ วิธานํ วิสุทฺธิ มคฺเค ขนฺธนิทฺเทเส เอวํ วุตฺตํ. ยทาหิ เทยฺยธมฺม ปฏิคฺคาหกาทิ สมฺปตฺตึ อฺํ วา โสมนสฺสเหตุํ อาคมฺม หฏฺตุฏฺโ อตฺถิทินฺนนฺติอาทินยปฺปวตฺตํ สมฺมาทิฏฺึ ปุเรกฺขิตฺวา อสํสีทนฺโต อนุสฺสาหิโตปเรหิ ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรติ, ตทาสฺส โสมนสฺสสหคตํ าณ สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อสงฺขารํ โหติ. ยทา ปน วุตฺตนเยน หฏฺตุฏฺโ สมฺมาทิฏฺึ ปุเรกฺขิตฺวา อมุตฺต จา คตาทิวเสน สํสีทมาโน วา ปเรหิ วา อุสฺสาหิโต กโรติ, ตทาสฺส ตเทว จิตฺตํ สสงฺขารํ โหติ. อิมสฺมิฺหิ อตฺเถ สงฺขาโรติ เอตํ อตฺตโน วา ปเรสํ วา วเสน ปวตฺตสฺส ปุพฺพปฺปโยคสฺสาธิวจนํ. ยทา ปน าติ ชนสฺส ปฏิปตฺติ ทสฺสเนน ชาตปริจยาพาลทารกา ภิกฺขู ทิสฺวา โสมนสฺส ชาตาสหสา กิฺจิ เทว หตฺถคตํ ททนฺติ วา วนฺทนฺติ วา, ตทา ตตียํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน เทถวนฺทถาติ าตีหิ อุสฺสาหิตา เอวํ ปฏิปชฺชนฺติ, ตทา จตุตฺถํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน เทยฺยธมฺม ปฏิคฺคาหกาทีนํ อสมฺปตฺตึ อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาวํ อาคมฺม จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ. ตทา เสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ.
๔๒. อฏฺปีติ เอตฺถ ปิสทฺเทน อิมานิ จิตฺตานิ น เกวลํ อฏฺเว โหนฺติ ¶ . อถ โข ตโต พหูนิปิ พหุตรานิปิ โหนฺตีติ อิมํ สมฺปิณฺฑนตฺถํ ทีเปตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตนา’’ติอาทิวุตฺตํ. ทสสุ ปฺุกิริยาวตฺถูสุ ทิฏฺุชุ กมฺมํ นาม าณ กิจฺจํ. ตํ กถํ าณ วิปฺปยุตฺต จิตฺเตหิ กโรนฺตีติ. วุจฺจเต. าณ สมฺปยุตฺต จิตฺเตหิ ทิฏฺึ อุชุํกโรนฺตา เตสํ อนฺตรนฺตรา าณโสเต ปติตวเสน าณวิปฺปยุตฺต จิตฺเตหิปิ กโรนฺติเยว. สพฺเพสตฺตา กมฺมสฺสกาติอาทินา, พุทฺโธ โสภควา, สฺวากฺขาโต โส ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน โส สงฺโฆ, ติอาทินา จาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘อิมานิ อฏฺ จิตฺตานี’’ติอาทึ. ตตฺถ ทสปฺุกิริยวตฺถูนิ นาม ‘ทานํ, สีลํ, ภาวนา, อปจายนํ, เวยฺยาวจฺจํ, ปตฺติทานํ, ปตฺตานุโมทนํ, ธมฺมสฺสวนา, ธมฺมเทสนา, ทิฏฺุชุ กมฺมํ,. เตหิ คุณิตานิ วฑฺฒิตานิ. ตานิ จ อฏฺฉสุ อารมฺมเณสุ อุปฺปชฺชนฺติ. ตีณิ จ กมฺมานิ กโรนฺตา เต เหว อฏฺหิ กโรนฺติ. ตานิเยว จ สพฺพานิ อตฺถิ หีนานิ, อตฺถิ มชฺฌิมานิ, อตฺถิ ปณีตานิ. ตสฺมา ปุน อนุกฺกเมน อารมฺมณาทีหิ วฑฺฒนํ กโรติ. ตตฺถ ‘‘ตานิ เปตพฺพานี’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สุทฺธิกานี’’ติ อธิปตีหิ อมิสฺสิตานิ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ อิติ มนสิ กริตฺวา. ตถา าณวิปฺปยุตฺตานิ ทฺเวสหสฺสานิ สตํ สฏฺิ จ โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘วีมํสาวชฺชิเตหี’’ติ วีมํสาธิปติ วชฺชิเตหิ. ‘‘ตถาคุณิตานี’’ติ สพฺพานิ ปฺุกิริยาทีหิ สมํ คุณิตานิ. ‘‘โกสลฺเลนา’’ติ โกสลฺลสงฺขาเตน. ‘‘นานาวชฺชนวีถิย’’นฺติ าณวิปฺปยุตฺต วีถีหิ วิสุํ ภูตาย อาวชฺชนาย ยุตฺต วีถิยํ. ‘‘เตเนวา’’ติ วีมํสาธิปติภูเตน เตเนว อุปนิสฺสยฺาเณน. เอวํ สนฺเตปิ น สกฺกาภวิตุนฺติ สมฺพนฺโธ.
๔๓. วจนตฺเถ ‘‘รุชฺชนฏฺเนา’’ติ ตุทนฏฺเน. ‘‘อหิตฏฺเนา’’ติ หิตวิรุทฺธฏฺเน. ‘‘อนิปุณฏฺเนา’’ติ อสณฺหา สุขุมฏฺเน. ‘‘อนิฏฺวิปากฏฺเนา’’ติ อนิฏฺํ วิปากํ เอเตสนฺติ อนิฏฺ วิปากานิ. เตสํ ภาโว อนิฏฺ วิปากฏฺโ. เตน อนิฏฺ วิปากฏฺเน. ‘‘ตปฺปฏิ ปกฺขตฺตา’’ติ ราคาทีหิ ปฏิปกฺขตฺตา. เอวํ ปริยายตฺถ สงฺขาตํ อภิธานตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺกถาสุ อาคตํ วจนตฺถํ ทสฺเสติ กุจฺฉิเตติอาทินา. ตตฺถ ‘‘กุจฺฉิเต’’ติ เชคุจฺฉิตพฺเพ, นินฺทิ ตพฺเพ ¶ วา. จาเลนฺติ ตทงฺคปฺปหานวเสน, กมฺเปนฺติ วิกฺขมฺภนปฺปหานวเสน, วิทฺธํเสนฺติ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน. ‘‘ตนุกรณฏฺเนา’’ติ สลฺลิขนฏฺเน. ‘‘อนฺตกรณฏฺเนา’’ติ ปริโยสานกรณฏฺเน. ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ ทีปนีนยทสฺสนํ. ‘‘โกสลฺล สมฺภูตฏฺเนา’’ติ มหาอฏฺกถานโย. ตตฺถ, กุสลสฺส ปณฺฑิตสฺส ภาโว เอกาสลฺลํ. าณํ. เตน สมฺภูตํ สฺชาตํ โกสลฺล สมฺภูตํ ติวิคฺคโห.
๔๔. ‘‘พลวกมฺเมนา’’ติ ติเหตุ กุกฺกฏฺ กมฺเมน. ‘‘ทุพฺพล กมฺเมนา’’ติ ติเหตุโกมเกน วา ทฺวิเหตุก กุสล กมฺเมน วา. ‘‘เกหิจิ อาจริเยหี’’ติ โมรวาปิ วาสี มหาทตฺตตฺเถรํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สงฺคหกาเรนา’’ติ ภทฺทนฺต พุทฺธโฆสตฺเถเรน. ‘‘สนฺนิหิต ปจฺจยวเสนา’’ติ อาสนฺเน สณฺิตปจฺจย วเสน. ปจฺจุปฺปนฺน ปจฺจยวเสเนวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปฏฺิตานิ กมฺมาทีนิ อารมฺมณานิ. ปวตฺตานิ มหาวิปากานิ. ‘‘อวิปาก สภาวโต’’ติ อวิปจฺจนสภาวโต. อวิปากุปฺปาทนสภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฏฺกถาย’’นฺติ ธมฺมสงฺคณิฏฺกถายํ. ‘‘อิธา’’ติ มหาวิปากจิตฺเต. ‘‘ตถา อปฺปวตฺติยา จา’’ติ ทานาทิวเสน อปฺปวตฺติโต จ.
๔๕. มหากิริยจิตฺเต. ‘‘อุปรี’’ติ วีถิสงฺคเห ตทา รมฺมณ นิยเม. ‘‘สยเมวา’’ติ อนุรุทฺธตฺเถเรเนว. ‘‘วกฺขตี’’ติ วุจฺจิสฺสติ. ‘‘ยถารห’’นฺติ ขีณาสวสนฺตาเน อุปฺปนฺนานํ มหากิริยานํ อรหานุรูปํ. ภูตกถน วิเสสนํ เตน นิวตฺเตตพฺพสฺส อตฺถสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตํ’’ติ สเหตุกคฺคหณํ. ‘‘พฺยวจฺเฉทกวิเสสน’’นฺติ อเหตุก วิปากกิริย จิตฺตานฺจ สพฺภาวาตปฺปสงฺคสฺส อวจฺเฉทกํ วิเสสนํ. ‘‘ยถา สกฺขร กถลิกํปิ มจฺฉคุมฺพํปิ ติฏฺนฺตํปิ จรนฺตํปิ ปสฺสตี’’ติ วจเน สกฺขร กถลิกํ ติฏฺนฺตํ, มจฺฉคุมฺพํ ติฏฺนฺตํปิ จรนฺตํปิ ปสฺสตีติ เอวํ ยถา ลาภ โยชนา โหติ. ตถา อิธ ปีติ.
๔๖. ‘‘ยทิท’’นฺติ ยา อยํ ทีปน สมตฺถตา, ‘‘อิทํ สามตฺถิย’’นฺติ โยชนา. อยํ สมตฺถ ภาโวติ อตฺโถ. เภทวจเน โจทนายาติ ¶ สมฺพนฺโธ. รจนาคาถายํ. ‘‘เอตานี’’ติ โสภณ กามาวจร จิตฺตานิ. ‘‘ปฺุ ปาป กฺริยาเภทา’’ติ ปฺุ ปาป กฺริยเภเทน.
๔๗. กตเม ธมฺมา กามาวจรา. เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิต วสวตฺติเทเว อนฺโต กริตฺวาติ เอวํ ปาฬิยํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธกามสทฺเทน สโหกาสากามภูมิ วุจฺจตีติ อาห ‘‘กาเม กามภูมิย’’นฺติ. ปริยาปนฺนาติ ปาเสโส. ‘‘กฺริยา จา’’ติ เอตฺถ จ สทฺโท ปน สทฺทตฺโถ. อิติ สทฺโท อิจฺเจวํ สทฺทตฺโถ. เอเตน ปฏิสิทฺธาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ จิตฺตสงฺคเห. ‘‘ตสฺสา’’ติ สพฺพถาสทฺทสฺส. ภโว นาม อินฺทฺริย พทฺธสนฺตานคโต ธมฺม สมูโห วุจฺจติ. อิธ ปน กามาวจรา ธมฺมาติ ปเท กามสทฺโท. โส จ ปถวิ ปพฺพตาทีหิ สทฺธึ สพฺพํ กามภูมึ วทตีติ วุตฺตํ ‘‘ภูมิปริยาโย จา’’ติอาทิ. ‘‘อินฺทฺริยานินฺทฺริยพทฺธ ธมฺม สมูโห’’ติ อินฺทฺริยพทฺธ ธมฺม สมูโห สตฺตสนฺตานาคโต, อนินฺทฺริยพทฺธ ธมฺม สมูโห ปถวิ ปพฺพตาทิ คโต. ตตฺถ ชีวิตินฺทฺริเยน อนาพทฺโธ อนายตฺโต อนินฺทฺริยพทฺโธติ.
อิติกามจิตฺตสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๔๘. รูปาวจรจิตฺเต. ‘‘สมุทิเตนา’’ติ ปฺจงฺค สมุทิเตน. ปฺจนฺนํ องฺคานํ เอกโต สามคฺคิภูเตนาติ อตฺโถ. ปฺจนฺนฺหิ เอกโต สามคฺคิยํ สติเยว อปฺปนา โหติ, โน อสติ. สามคฺคิยนฺติ จ สุฏฺุ พลวตาย สมคฺคภาเวติ อตฺโถ. ‘‘ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา’’ติ ปตฺตพฺพตฺตา. ฌานํ ทุวิธํ อารมฺมณูปนิชฺฌานฺจ ลกฺขณู ปนิชฺฌานฺจาติ อาห ‘‘กสิณาทิกสฺสา’’ติอาทึ. อิธ ปน อารมฺมณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. อุปนิชฺฌานนฺติ จ กสิณ นิมิตฺตาทิกํ อารมฺมณํ เจตสา อุปคนฺตฺวานิชฺฌานํ โอโลกนํ. ฌานสทฺทสฺสฌาปนตฺโถปิ สมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจนีก ธมฺมานฺจ ฌาปนโต’’ติ. อคฺคินา วิย กฏฺานํ กิเลสานํ ทยฺหนโตติ อตฺโถ. เอกคฺคตา เอว สาติสฺสย ยุตฺตา อปฺปนาปตฺตกาเลติ อธิปฺปาโย. ปุพฺพภาเค ปน ปถมชฺฌาเน ¶ วิตกฺกสฺส พลวภาโว อิจฺฉิตพฺโพ. ‘‘สาหี’’ติอาทินา ตทตฺถํ วิวรติ. สาหิ เอกคฺคตาติ จ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. เอโก อตฺตาสภาโว อสฺสาติ เอกตฺตํ. เอกตฺตํ อารมฺมณมสฺสาติ เอกตฺตา รมฺมณา. เอกคฺคตา. ตสฺส ภาโวติ วิคฺคโห.
อคฺคสทฺโท โกฏิ อตฺโถ. โกฏฺาสฏฺโวา. ‘‘ตถา ปวตฺตเน’’ติ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาเวน ปวตฺติยํ. ‘‘อาธิปฺปจฺจคุณโยเคนา’’ติ อธิปติภาวคุณโยเคน. อินฺทฺริยปจฺจยตาคุณโยเคนาติ วุตฺตํ โหติ. สาเยว เอกคฺคตา เอกคฺคตา, สมาธี,ติ จ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สมาธี’’ติ ปทสฺส-สํ-อาธี-ติ-วา, สมอาธีติ-วา, ทฺวิธา ปทจฺเฉโท. ตตฺถ สํอุปสคฺโค สมฺมาสทฺทตฺโถ. สมสทฺโท ปน ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรตีติอาทีสุ วิย นามิกสทฺโทติ ทฺวิธา วิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาเยว จิตฺต’’นฺติอาทิมาห. สาเยว จิตฺตํ-สมฺมา จ อาธิยตีติ สมาธิ, สาเยว จิตฺตํ-สมฺจ อาธิยตีติ สมาธีติ ทฺวิธา วิกปฺโป. ตตฺถ สมฺมา จาติ สุนฺทเรน. อาธิยตีติ อาทหติ. อาทหนฺจ ปนเมวาติ วุตฺตํ ‘‘เปตี’’ติ. สมฺจาติ อวิสมฺจ. ‘‘ตตฺเถวา’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ เอว. ‘‘ลีนุทฺธจฺจาภาวา ปาทเนนา’’ติ ลีนสฺส จ อุทฺธจฺจสฺส จ อภาโว ลีนุทฺธจฺจาภาโว. ตสฺส อาปาทนํ อาปชฺชาปนนฺติ วิคฺคโห. วิวิเธน จิตฺตสฺส สํหรณํ วิสาหาโร. น วิสาหาโร อวิสาหาโร. สาเยว จ นิทฺทิฏฺา. อิติ เอวํ อิเมสุ ทฺวีสุ อตฺเถสุ เอกคฺคตา เอว สาติสฺสยยุตฺตาติ โยเชตพฺพํ. เอวํ ปน สติ, เอกคฺคตา เอว ฌานนฺติ วตฺตพฺพา, น วิตกฺกาทโยติ โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘วิตกฺกาทโยปนา’’ติอาทิมาห. อปิสทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. ปนสทฺโท ปกฺขนฺตรตฺโถ. ตสฺสา เอกคฺคตาย. ‘‘สา ติสฺสย’’นฺติ อติสฺสเยน สห. ‘‘โอสกฺกิตุ’’นฺติ สํสีทิตุํ. ‘‘นํ’’ติ จิตฺตํ. ‘‘สํสปฺปิตุ’’นฺติ เอวํ นุ โข อฺถานุ โขติ ทฺวิธา จฺจลิตุํ. ‘‘อุกฺกณฺิตุ’’นฺติ อฺาภิมุขี ภวิตุํ. อารมิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ลทฺธํ สาตํ เยนาติ ลทฺธสฺสาตํ. ‘‘สาตํ’’ติ สารตฺตํ. ‘‘อุปพฺรูหิตํ’’ติ ภุสํวฑฺฒิตํ. ‘‘สนฺต สภาวตฺตา’’ติ อุปสนฺต สภาวตฺตา. ‘‘ตถา อนุคฺคหิตา’’ติ อารมฺมณาภิมุขกรณาทิวเสน อนุคฺค หิตา ¶ . สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทนีวรณปฺปฏิปกฺขตฺตา ‘‘สยํ…เป… นีวาเรตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นิจฺจลํตฺวา’’ติ อปฺปนากิจฺจมาห.
เอวํ อุปนิชฺฌานตฺถํ ทสฺเสตฺวา ฌาปนตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสุ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตปฺปจฺจนีกา’’ติ เตสํ ฌานงฺค ธมฺมานํ ปจฺจนีกา ปฏิปกฺขา. ‘‘มนสฺมึ ปี’’ติ มโนทฺวาเรปิ. ปเคว กายวจีทฺวาเรสูติ เอวํ สมฺภาวนตฺโถ เจตฺถ ปิสทฺโท. อปิสทฺโทปิ ยุชฺชติ. ‘‘ฌาปิตา นาม โหนฺตี’’ติ ฌานงฺค ธมฺมคฺคีหิ ทฑฺฒานาม โหนฺติ. ‘‘เอวํ สนฺเตปิ เตสํ สมุทาเย เอว ฌาน โวหาโร สิทฺโธ’’ติ โยชนา. ‘‘ธมฺม สามคฺคิปธาน’’นฺติ ฌานฏฺาเน ฌานงฺค ธมฺมานํ มคฺคฏฺาเน มคฺคงฺค ธมฺมานํ โพธิฏฺาเน โพชฺฌงฺค ธมฺมานํ สมคฺคภาวปฺปธานํ.
เอวํ สงฺคหการานํ มติยา ฌานํ วตฺวา อิทานิ อปเรสานํ มติยา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปเร’’ติอาทิมาห. อปเร ปน วทนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ‘‘ยถา สกํกิจฺจานี’’ติ สสฺส อิทํ สกํ. สสฺสาติ อตฺตโน. อิทนฺติ สนฺตกํ. ยานิยานิ อตฺตโน สนฺตกานีติ อตฺโถ. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘ปฏฺาเน ฌานปจฺจยํ ปตฺวา…เป… สาเธนฺติเยว’’. วุตฺตฺหิ ตตฺถ. ฌานปจฺจโยติ ฌานงฺคานิฌานสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํ สมุฏฺานานฺจ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย. มคฺคปจฺจโยติ มคฺคงฺคานิ มคฺคสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํ สมุฏฺานานฺจ รูปานํ มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโยติ. ‘‘ปฺจสมุทิตาทีนี’’ติ ปฺจสมูห ทสสมูหานิ. ‘‘ปถมชฺฌานาทิภาวสฺเสวจา’’ติ ปถมชฺฌานาทิ นามลาภสฺเสวจาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ฌานภาวสฺสา’’ติ ฌานนามลาภสฺส. ‘‘ตถาวิธกิจฺจวิเสสาภาวา’’ติ ตถาวิธานํ อารมฺมณาภินิโรปนาทีนํ กิจฺจ วิเสสานํ อภาวโต.
๔๙. ‘‘เอตฺถ สิยา’’ติ เอตสฺมึ าเน ปุจฺฉาสิยา. ‘‘องฺค เภโท’’ติ ปถมชฺฌาเน ปฺจ องฺคานิ, ทุตียชฺฌาเน จตฺตาริ องฺคานี ติอาทิโก องฺคเภโท. ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสเยนา’’ติ ปุคฺคลสฺส อิจฺฉาวิเสเสน. อิติ อยํ วิสชฺชนา. ‘‘โส’’ติ โส ปุคฺคโล. ‘‘หี’’ติ วิตฺถาร โชตโก. วิตกฺโก สหาโย ยสฺสาติ วิตกฺกสหาโย. ‘‘วิตกฺเก นิพฺพินฺทตี’’ติ โอฬาริโกวตายํ วิตกฺโก, นีวรณานํ อาสนฺเน ิโตติ เอวํ วิตกฺเก อาทีนวํ ทิสฺวา ¶ นิพฺพินฺทติ. ตสฺส อชฺฌาสโยติ สมฺพนฺโธ. วิตกฺกํ วิราเชติ วิคเมติ อติกฺกมาเปตีติ วิตกฺกวิราโค. วิตกฺกวิราโค จ โส ภาวนา จาติ สมาโส. ‘‘อุตฺตรุตฺตรชฺฌานาธิคมเน’’ติ อุตฺตริ อุตฺตริฌานปฺปฏิลาเภ. อชฺฌาสย พเลน ปาทกชฺฌานสทิสํ น โหตีติ สมฺพนฺโธ. เจโตปณิธิ อิชฺฌตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิสุทฺธตฺตา’’ติ สีลวิสุทฺธตฺตา.
๕๐. สงฺขาร เภทวิจารณายํ. ‘‘สงฺขาร เภโท น วุตฺโต’’ติ ปถมชฺฌาน กุสล จิตฺตํ อสงฺขาริกเมกํ, สสงฺขาริกเมกนฺติอาทินา น วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘โส’’ติ สงฺขาร เภโท. ‘‘สิทฺธตฺตา’’ติ สงฺขาร เภทสฺส สิทฺธตฺตา. กถํ สิทฺโธติ อาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. สุขา ปฏิปทา เยสํ ตานิ สุขปฺปฏิปทานิ. เตสํ ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘โย’’ติ โยคีปุคฺคโล. ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมฺหิ. ‘‘วิกฺขมฺเภนฺโต’’ติ วิโมเจนฺโต วิโยคํ กโรนฺโต. ทุกฺเขน วิกฺขมฺเภตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กามาทีนวทสฺสนาทินา’’ติ องฺคารกาสู ปมากามาพหุทุกฺขาพหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถภิยฺโยติอาทินา กาเมสุอาทีนวํ ทิสฺวา. อาทิสทฺเทน วิตกฺกาทีสุ อาทีนวทสฺสนํ สงฺคยฺหติ. ‘‘เตเนวา’’ติ กามาทีนวทสฺสนาทินา เอว. เอตฺถ อภิฺาเภเทน สงฺขาร เภโท น วตฺตพฺโพ, ปฏิปทา เภเทเนว วตฺตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘ขิปฺปาภิฺชฺฌานานํปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ, อภิชานนํ อภิฺา. ขิปฺปาสีฆา อภิฺา เยสํ ตานิ ขิปฺปาภิฺานิ. ทนฺธา อสีฆา อภิฺา เยสํ ตานิ ทนฺธาภิฺานิ. ฌานานิ. ‘‘ยทิ เอว’’นฺติ เอวํ ปฏิปทา เภเทน สงฺขาร เภโท ยทิ สิยาติ อตฺโถ. ‘‘วฬฺชนกาเล’’ติ สมาปตฺติ สมาปชฺชนกาเล. ปฏิพนฺธกา นาม อนฺตรายิกา. ‘‘สนฺนิหิตาสนฺนิหิตวเสนา’’ติ อาสนฺเน สณฺิตาสณฺิตวเสน. สุทฺธํ วิปสฺสนายานํ เยสํ เต สุทฺธวิปสฺสนายานิกา. ‘‘สุทฺธํ’’ติ สมถชฺฌาเนน อสมฺมิสฺสํ. ‘‘สตฺเถน หนิตฺวา’’ติ ปเร น สตฺเถน หนนโต ฉินฺทนโต. ‘‘สหสา’’ติ สีฆตเรน. ‘‘มรนฺตานํ อุปฺปนฺนํ’’ติ มรณาสนฺนกาเล อุปฺปนฺนํติ อธิปฺปาโย. อนาคามิโน หิ สุทฺธ วิปสฺสนายานิกาปิ สมานา ¶ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิโน นาม โหนฺติ. อิจฺฉนฺเต สุสติ กิฺจิ นิมิตฺตํ อารพฺภมนสิการ มตฺเตนปิ ฌานํ อิชฺฌติ. เตนาห ‘‘ตํปิ มคฺคสิทฺธคติก’’นฺติ. ‘‘รูปีพฺรหฺมโลเก’’ติ อิทํ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํปิ ตตฺถ ปากติกภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อรูปี พฺรหฺมโลเก ปน เอกา เอว สมาปตฺติ ปากติกาสมฺภวติ. อุปปตฺติสิทฺธชฺฌานานํ ภวนฺตเร สนฺนิหิต ปจฺจยเภเทน สงฺขาร เภโท วุตฺโต, โส กถํ ปจฺเจตพฺโพติ อาห ‘‘เอกสฺมึ ภเวปิ…เป… ยุตฺตานิ โหนฺตี’’ติ. เอกสฺมึ ภเวสพฺพปฺปถมํ ลทฺธกาเล สงฺขาร เภทสฺส อาสนฺนตฺตา วฬฺชนกาเลปิ โส เอว สงฺขาร เภโท สิยาติ อาสงฺกาสมฺภวโต อิทํ วุตฺตํ. เตน ภวนฺตเร อุปปตฺติ สิทฺธชฺฌานานํ สนฺนิหิต ปจฺจยเภเทน สงฺขารเภเท วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตานิ มคฺค สิทฺธชฺฌาน อุปปตฺติ สิทฺธชฺฌานานิ สนฺนิหิตปจฺจยํ อนเปกฺขิตฺวา มคฺคกฺขณ อุปปตฺติกฺขเณสุ สิทฺธกาเล ฌานุปฺปตฺติ ปฏิปทาย เอว สพฺพโส อภาวํ คเหตฺวา อปรํ วิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานุปฺปตฺติ ปฏิปทา รหิตตฺตา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ มหคฺคตฌานานํ อฏฺกถาวเสน สิทฺธํ สงฺขาร เภทํ วตฺวา อิทานิ ปาฬิวเสนาปิ โส สิทฺโธ เยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ทุกฺขปฺปฏิปทาปุพฺพกานํ ทฺวินฺนํ ทนฺธาภิฺขิปฺปาภิฺสมาธีนํ. ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ เอตํ ปริมาณํ อสฺสาติ เอตฺตาวํ. เอตฺตาวนฺเตน. เอตฺถ สิยา, กสฺมา อิธ สงฺขารเภโท น วุตฺโตติอาทินา วจนกฺกเมน สิทฺโธ โหตีติ สมฺพนฺโธ. เสสํ สุวิฺเยฺยํ.
๕๑. วิภาวนิปาเ. ปริกมฺมํ นาม ปถวี, ปถวี, อาโป, อาโป-ติอาทิกํ, รูปํ อนิจฺจํ, รูปํ ทุกฺขํ, รูปํ อนตฺตา-ติอาทิกฺจภาวนาปริกมฺมํ อธิกาโร นาม ปุพฺพภเวกตภาวนากมฺมํ. ปุพฺพภเวฌานมคฺคผลานิปตฺเถตฺวา กตํ ทานสีลาทิ ปฺุกมฺมฺจ. ‘‘อิทํ ตาวนยุชฺชตี’’ติ เอตฺถ ตาวสทฺโท วตฺตพฺพนฺตราเปกฺขเน นิปาโต. เตน อปรํปิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ ทีเปติ. ปุพฺพาภิสงฺขาโร ทุวิโธ ปกติ ปุพฺพาภิสงฺขาโร, ปโยคปุพฺพาภิสงฺขาโรติ. ตตฺถ ปริกมฺม ปุพฺพาภิสงฺขาโร ปกติ ปุพฺพาภิสงฺขาโร นาม, อยํ ปกติ ปจฺจยคโณ เอว. ปุพฺเพ วุตฺโต ปุพฺพปฺปโยโค ปโยคปุพฺพาภิสงฺขาโร นาม ¶ . โส เอว อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘นหี’’ติอาทิมาห. ‘‘อนฺตมโส’’ติ อนฺติม ปริจฺเฉเทน. ‘‘อาโลปภิกฺขา’’ นาม เอกา โลปภิกฺขา. โส ปริกมฺมสงฺขาตปุพฺพาภิสงฺขาโร. ฌานานิ จ สพฺพานิ อุปฺปนฺนานิ นาม นตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘โส’’ติ ภาวนาภิสงฺขาโร. ‘‘เตสํ’’ติ สพฺเพสํปิ ฌานานํ. น หิ โลกิยชฺฌานานิ นาม…เป… อตฺถิ, อิเมสํ สตฺตานํ สพฺพกปฺเปสุปิ กปฺปวินาสกาเล ฌานานิ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลก ปรายนตา สพฺภาวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปุพฺเพ สมถกมฺเมสุ กตาธิการสฺสา’’ติ อาสนฺนภเวกตาธิการํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทูรภเว ปน สมถกมฺเมสุ อกตาธิกาโร นาม โกจิ นตฺถีติ. ‘‘เอวเมวา’’ติ เอวํ เอว. วิปากชฺฌาเนสุ สงฺขาร เภทสฺส ปุพฺพ กมฺมวเสน วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กุสล กฺริยชฺฌาเนสู’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อถวาติอาทิโก ปจฺฉิม วิกปฺโป นาม’’ อถวา ปุพฺพาภิสงฺขาเรเนว อุปฺปชฺชมานสฺส นกทาจิ อสงฺขาริกภาโว สมฺภวตีติ อสงฺขาริกนฺติ จ, พฺยภิจาราภาวโต สสงฺขาริกนฺติ จ น วุตฺตนฺติ อยํ วิกปฺโป. ตตฺถ อสงฺขาริกนฺติ จ น วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘พฺยภิจารา ภาวโต’’ติ อสงฺขาริกภาเวน ปสงฺคาภาวโต. สสงฺขาริกนฺติ จ น วุตฺตํ. ยทิ วุจฺเจยฺย. นิรตฺถ กเมวตํภเวยฺย. กสฺมา, สมฺภว พฺยภิจารานํ อภาวโต. สมฺภเว พฺยภิจาเร จ. วิเสสนํ สาตฺถกํ สิยาติ หิ วุตฺตํ. น จ นิรตฺถกวจนํ ปณฺฑิตา วทนฺติ. กสฺมา, อปณฺฑิตลกฺขณตฺตา. สติ ปน สมฺภเว จ พฺยภิจาเร จ, ตถา สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมา, สาตฺถกตฺตา. สาตฺถกเมว ปณฺฑิตา วทนฺติ. กสฺมา, ปณฺฑิต ลกฺขณตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๕๒. ปฏิปทา อภิฺาววตฺถาเน. ‘‘นิมิตฺตุปฺปาทโต’’ติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส อุปฺปาทโต. สุขาปน ปฏิปทา, ปจฺฉาทนฺธํ วา ขิปฺปํ วา อุปฺปนฺนํ ฌานํ สุขปฺปฏิปทํ นาม กโรตีติ โยชนา. ‘‘ปุพฺพภเว’’ติ อาสนฺเน ปุพฺพภเว. อนฺตรายิกธมฺมา นาม ‘กิเลสนฺตรายิโก จ, กมฺมนฺตรายิโก จ, วิปากนฺตรายิโก จ, ปฺตฺติ วีติกฺกมนฺตรายิโก จ, อริยูปวาทนฺตรายิโก จ. ตตฺถ ติสฺโส นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโยกิเลสนฺตรายิโก นาม. ปฺจานนฺตริย กมฺมานิ ¶ กมฺมนฺตรายิโก นาม. อเหตุก ทฺวิเหตุกปฺปฏิสนฺธิวิปากา วิปากนฺตรายิโก นาม. ภิกฺขุ ภาเวิตานํ วินย ปฺตฺตึ วีติกฺกมิตฺวา อกตปฺปฏิกมฺโม วีติกฺกโม ปฺตฺติวีติกฺกมนฺตรายิโก นาม. ปฏิกมฺเมปนกเต อนฺตรายิโก น โหติ. อริยปุคฺคลานํ ชาติอาทีหิ อุปวทิตฺวา อกฺโกสิตฺวา อกตปฺปฏิกมฺมํ อกฺโกสนํ อริยูปวาทนฺตรายิโก นาม. อิธปิ ปฏิกมฺเม กเต อนฺตรายิโก น โหติ. เสเสสุ ตีสุ ปฏิกมฺมํ นาม นตฺถิ. อิเม ธมฺมา อิมสฺมึ ภเว ฌานมคฺคานํ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา นาม. เตหิ วิมุตฺโต อนฺตรายิก ธมฺม วิมุตฺโต นาม. ‘‘กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยํ ิโต’’ติ สีลวิสุทฺธิ อาทิกาย กลฺยาณปฺปฏิปตฺติยํ ปริปูรณ วเสน ิโต. ‘‘ฉินฺนปลิโพโธ’’ติ อาวาสปลิโพธาทีนิ ทสวิธานิ ปลิโพธกมฺมานิ ฉินฺทิตฺวา ิโต. ‘‘ปหิตตฺโต’’ติ, ยนฺตํ ปุริสถาเมน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ, น ตํ อปตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตีติ เอวํ ปวตฺเตน สมฺมปฺปธาน วีริเยน สมนฺนาคโต. โส หิ ปหิโต เปสิโต อนเปกฺขิโต อตฺตภาโว อเนนาติ ปหิตตฺโตติ วุจฺจติ. ‘‘นสมฺปชฺชตีติ นตฺถิ’’. สเจ ปฺจปธานิยงฺคสมนฺนาคโต โหตีติ อธิปฺปาโย. ปฺจปธานิยงฺคานิ นาม สทฺธาสมฺปนฺนตา, อสาเยฺยํ, อาโรคฺยํ, อลีนวีริยตา, ปฺวนฺตตา,ติ.
๕๒. วิปากชฺฌาเน. ‘‘มุทุภูตํ’’ติ ภาวนา พลปริตฺตตฺตามนฺทภูตํ. มนฺทภูตตฺตา จ ทุพฺพลํ. ‘‘นานา กิจฺจฏฺาเนสุ จา’’ติ ทสฺสนสวนาทีสุ. ‘‘หีเนสุปิ อตฺตภาเวสู’’ติ อเหตุก ทฺวิเหตุกปุคฺคเลสุปิ. ‘‘อสทิสํปี’’ติ ติเหตุกุกฺกฏฺํปิ กมฺมํ อเหตุกวิปากํปิ ชเนตีติอาทินา อสทิสํปิ วิปากํ ชเนติ. ‘‘ภวงฺคฏฺาเนสุ เยวา’’ติ เอตฺถ ภวงฺค สทฺเทน ปฏิสนฺธิฏฺาน จุติฏฺานานิปิ สงฺคยฺหนฺติ. ‘‘กุสลสทิสเมวา’’ติ ปถมชฺฌานกุสลํ ปถมชฺฌาน วิปากเมว ชเนติ, ทุตียชฺฌาน กุสลํ ทุตียชฺฌาน วิปากเมว ชเนตีติอาทินา กุสล สทิสเมว วิปากํ ชเนติ. ‘‘กุสลเมว…เป… กฺริยชฺฌานํ นาม โหติ’’ อเภทู ปจาเรนาติ อธิปฺปาโย. เภทมฺปิ อเภทํ กตฺวา อุปจาโร โวหาโร อเภทู ปจาโร.
๕๔. สงฺคหคาถา ¶ วณฺณนายํ. ฌานานํ เภโท ฌานเภโท. อตฺถโต ปน ฌาเนหิ สมฺปโยคเภโท ฌานเภโทติ วุตฺโต โหตีติ อาห ‘‘ฌาเนหิ สมฺปโยคเภเทนา’’ติ. ปถมชฺฌานิกํ จิตฺตนฺติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘ตเมวา’’ติ รูปาวจร มานสเมว. วิภาวนิยํ ปน อุปริสงฺคหคาถายํ ฌานงฺค โยคเภเทน, กตฺเวเกกนฺตุ ปฺจธาติ วจนํ ทิสฺวา อิธ ฌาน เภเทนาติ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคเภเทนาติ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ อิธ ฌานเภทสฺส วิสุํ อธิปฺเปตตฺตา ‘‘อฺโหิ ฌานเภโท’’ติอาทิ วุตฺตํ.
รูปาวจรจิตฺตทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๕๕. อรูปจิตฺตทีปนิยํ. ‘‘ภุโส’’ติ อติเรกตรํ. ‘‘สรูปโต’’ติ ปรมตฺถ สภาวโต. นตฺถิ ชฏา เอตฺถาติ อชโฏ. อชโฏ อากาโสติ อชฏากาโส. ‘‘ปริจฺฉินฺนากาโส’’ติ ทฺวารจฺฉิทฺทวาตปานจฺฉิทฺทาทิโก อากาโส, ยตฺถ อากาส กสิณ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺติ. กสิณ นิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏตฺวา ลทฺโธ อากาโส กสิณุคฺฆาฏิมากาโส, กสิณํ อุคฺฆาเฏน นิพฺพตฺโต กสิณุคฺฆาฏิโมติ กตฺวา. รูปกลาปานํ ปริจฺเฉทมตฺตภูโต อากาโส รูปปริจฺเฉทากาโส. ‘‘อนนฺตภาเวน ผรียตี’’ติ จตุรงฺคุลมตฺโตปิโส อนนฺต นามํ กตฺวา ภาวนามนสิกาเรน ผรียติ. ‘‘เทวานํ อธิฏฺานวตฺถู’’ติ มหิทฺธิกานํ คามนคร เทวานํ พลิปฺปฏิคฺคหณฏฺานํ วุจฺจติ, ยตฺถ มนุสฺสา สมเย กุล เทวตานํ พลึ อภิหรนฺติ. ‘‘พลึ’’ติ ปูชนีย วตฺถุ วุจฺจติ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ อารมฺมณเมว. กุสลชฺฌานํ สมาปนฺนสฺสวา, วิปากชฺฌาเนน อุปปนฺนสฺสวา, กฺริยชฺฌาเนน ทิฏฺธมฺม สุข วิหาริสฺสวา, ติโยเชตพฺพํ. อนนฺตนฺติ วุจฺจติ, ยถาปถวีกสิเณ ปวตฺตนโต ฌานํ ปถวีกสิณนฺติ วุจฺจตีติ. ‘‘เอกเทเส’’ติ อุปฺปาเทวา ิติยํ วา ภงฺเควา. อนฺตรหิตตฺตา อนนฺตนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อนนฺต สฺิเต’’ติ อนนฺต นามเก. ‘‘อนนฺตนฺติ ภาวนาย ¶ ปวตฺตตฺตา’’ติ อิทํ ปถมา รุปฺปวิฺาณํ อนนฺตนฺติ เอวํ ปุพฺพภาค ภาวนาย ปวตฺตตฺตา. ‘‘อตฺตโน ผรณาการ วเสนา’’ติ ปุพฺพภาคภาวนํ อนเปกฺขิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘นิรุตฺติ นเยนา’’ติ สกตฺเถ ยปจฺจยํ กตฺวา นการสฺสโลเปน. ‘‘ปาฬิยา นสเมตี’’ติ วิภงฺค ปาฬิยานสเมติ. ‘‘อนนฺตํ ผรตี’’ติ อนนฺตํ อนนฺตนฺติ ผรติ. ‘‘ปถมา รุปฺปวิฺาณาภาโว’’ติ ตสฺส อภาว ปฺตฺติมตฺตํ. ‘‘เนวตฺถี’’ติ นตฺถิ. ‘‘อสฺสา’’ติ จตุตฺถา รุปฺปชฺฌานสฺส. อถวาติอาทีสุ ‘‘ปฏุสฺา กิจฺจสฺสา’’ติ พฺยตฺตสฺา กิจฺจสฺส. ‘‘สงฺขาราวเสส สุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา’’ติ อิมสฺส อตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘เอตฺถจา’’ติอาทิมาห. ‘‘มุทฺธภูตํ’’ติ มตฺถกปตฺตํ. ‘‘เทสนาสีสมตฺตํ’’ติ ราชา อาคจฺฉตีติอาทีสุ วิย ปธาน กถามตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺเสวา’’ติ ปถมา รุปฺปวิฺาณสฺเสว. กุสลภูตํ ปถมา รุปฺปวิฺาณํ ปุถุชฺชนานฺจ เสกฺขานฺจ กุสลภูตสฺส ทุตียารุปฺปวิฺาณสฺส อารมฺมณํ โหติ. อรหา ปน ติวิโธ. ตตฺถ, เอโกปถมา รุปฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปถมารุปฺปํ อสมาปชฺชิตฺวาว ทุตียา รุปฺปํ อุปฺปาเทติ. ตสฺส กุสลภูตํ ปถมา รุปฺปํ กฺริยภูตสฺส ทุตียา รุปฺปสฺส อารมฺมณํ. เอโกปถมา รุปฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปุน ตเมว ปถมา รุปฺปํ สมาปชฺชิตฺวา ทุตียา รุปฺปํ อุปฺปาเทติ. เอโก ทุตียา รุปฺเปตฺวา อรหตฺตํ คจฺฉติ. เตสํ ทฺวินฺนํ กฺริยภูตํ ปถมา รุปฺปวิฺาณํ กฺริยภูตสฺเสว ทุตียารุปฺปสฺส อารมฺมณํ. เตนาห ‘‘วิฺาณํ นามา’’ติอาทึ.
อรูปจิตฺตานุทีปนา.
๕๗. โลกุตฺตรจิตฺเต. ‘‘ชลปฺปวาโห’’ติ อุทกธาราสงฺฆาโฏ. ‘‘ปภวโต’’ติอาทิปวตฺติฏฺานโต. ‘‘ยถาหา’’ติ กถํ ปาฬิยํ อาห. ‘‘เสยฺยถิท’’นฺติ โส กตโม. ‘‘อยํ ปี’’ติ อยํ อริยมคฺโคปิ. เอกจิตฺตกฺขณิโก อริยมคฺโค, กถํ ยาว อนุปาทิเสส นิพฺพานธาตุยาสวติ สนฺทตีติ อาห ¶ ‘‘อานุภาวปฺผรณวเสนา’’ติ. ปาฬิยํ คงฺคาทีนิ ปฺจนฺนํ มหานทีนํ นามานิ. ‘‘สมุทฺท นินฺนา’’ติ มหาสมุทฺทาภิมุขํ นินฺนา นมิตา. ‘‘โปณา’’ติ อนุปติตา. ‘‘ปพฺภารา’’ติ อโธวาหิตา. ‘‘กิเลสานํ’’ติ อนุปคมเน กมฺมปทํ. ปาฬิยํ ‘‘ฆโฏ’’ติ อุทก ปุณฺณฆโฏ. ‘‘นิกุชฺโช’’ติ อโธมุขํ ปิโต. ‘‘โนปจฺจาว มตี’’ติ ปุน โนคิลติ. ‘‘น ปุเนตี’’ติ น ปุน เอติ นุปคจฺฉติ อริยสาวโก. ‘‘น ปจฺเจตี’’ติ น ปฏิ เอติ. ตทตฺถํ วทติ ‘‘น ปจฺจาคจฺฉตี’’ติ. เอวํ ตํ อนิวตฺตคมนํ ปาฬิสาธเกหิ ทีเปตฺวา อิทานิ ยุตฺติสาธเกหิ ปกาเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ยโต’’ติ ยํ การณา. ‘‘เต’’ติ ปุถุชฺชนา. ‘‘ทุสฺสีลา’’ติ นิสฺสีลา. ‘‘อุมฺมตฺตกา’’ติ ปิตฺตุมฺมตฺตกา. ‘‘ขิตฺต จิตฺตา’’ติ ฉฏฺฏิตปกติ จิตฺตายกฺขุมฺมตฺตกา. ‘‘ทุปฺปฺา’’ติ นิปฺปฺา. ‘‘เอฬมูคา’’ติ ทุปฺปฺตาย เอว ปคฺฆริตลาล มุข มูคา. ‘‘ตสฺมึ มคฺเค เอวา’’ติ อฏฺงฺคีเก อริยมคฺเค เอว. โส ปน มคฺโค ปถม มคฺโค, ทุตีย มคฺโค, ตตีย มคฺโค, จตุตฺถ มคฺโค,ติ จตุพฺพิโธ โหติ. ‘‘อาทิโต ปชฺชนํ’’ติ จตูสุ มคฺเคสุ อาทิมฺหิ ปถม มคฺคโสตสฺส ปชฺชนํ คมนํ. ปฏิลาโภติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โสตาปตฺติยา’’ติ โสตสฺส อาปชฺชเนน. ‘‘อธิคมฺมมาโน’’ติ ปฏิลพฺภมาโน. สพฺเพ โพธิปกฺขิย ธมฺมา อนิวตฺต คติยา ปวตฺตมานา โสโตติ วุจฺจนฺตีติ สมฺพนฺโธ. สมฺโพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ. อุปริสมฺโพธิ เอว ปรายนํ เยสํ เต อุปริสมฺโพธิ ปรายนา. ปรายนนฺติ จ ปฏิสรณํ. กถํ โสตาปตฺติ วจนํ มคฺเคน สมานาธิกรณํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปถม มคฺค สงฺขาตาย โสตาปตฺติยา’’ติอาทิ. ‘‘มคฺเคตี’’ติ คเวสติ. มาเรนฺต คมโนนิรุตฺตินเยน มคฺโคติ สิชฺฌตีติ วุตฺตํ ‘‘กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค’’ติ.
๕๘. สกทาคามิ มคฺเค. ‘‘สกึ อาคจฺฉตี’’ติ อิโตคนฺตฺวา ปุน อิธ อาคจฺฉตีติ อตฺโถ. ‘‘สีเลนา’’ติ ปกติสภาเวน. กามโลกํ อาคจฺฉนฺติ เอเตหีติ กามโลกาคมนา. กิเลสา. เตสํ สพฺภาเวน วิชฺชมานภาเวน. ปาฬิยํ ‘‘เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺสา’’ติ กตฺตุ อตฺเถสามิวจนํ. เอกจฺเจน ปุคฺคเลน อปฺปหีนา นีติ สมฺพนฺโธ ¶ . ‘‘สหพฺยตํ’’ติ สหายภาวํ. ‘‘อาคามีโหตี’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ วทติ ‘‘อาคนฺตฺวา อิตฺถตฺต’’นฺติ. อาคจฺฉติ สีเลนาติ อาคนฺตฺวา. อิตฺถํ ภาโว อิตฺถตฺตํ. อิมํ กามตฺตภาวํ อาคนฺตฺวา, ตสฺมา อาคามี นาม โหตีติ โยชนา. ‘‘อยฺจ อตฺโถ’’ติ ปฏิสนฺธิวเสน สกึ อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติอาทิโก อตฺโถ. ‘‘กิเลส คติวเสนา’’ติ กามโลกา คมน กิเลส คติวเสน. มคฺคสหาเยน ฌาเนน วิกฺขมฺภิตา กิเลสา มคฺเคน สมุจฺฉินฺน คติกา โหนฺติ. อยํ มคฺคสหาโยฌานานุภาโว นาม. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทึ. ‘‘เทวโลกโต’’ติ เอตฺถ พฺรหฺมโลโกปิ สงฺคหิโต. ปจฺฉิมสฺมึ ปน อตฺเถ สตีติ โยชนา. อาคมนสีโล อาคนฺตฺวา. น อาคนฺตฺวา อนาคนฺตฺวา. ‘‘เตนา’’ติ อนาคมเนน. ‘‘นานตฺถา สมฺภวโต’’ติ ทฺวีสุ อิตฺถตฺตสทฺเทสุ เอกสฺมึ อิมํ กามาวจร โลกนฺติ เอกสฺมึ อิมํ มนุสฺส โลกนฺติ เอวํ นานตฺถานํ อสมฺภวโต. ปาฬิยํ ‘‘สพฺยา พชฺโฌ’’ติ เจโตทุกฺข สงฺขาเตน เจตสิกโรคา พาเธน สหิโต. เตนาห ‘‘เตหิ ปฏิฆานุสยสฺสา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘เต’’ติ ปุถุชฺชน โสตาปนฺน สกทาคามิโน. สพฺยา พชฺฌานามาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปจฺฉิมสฺส วากฺยสฺสา’’ติ อาคนฺตฺวา อิตฺถตฺตํ โสตาปนฺน สกทาคามิโน เตน ทฏฺพฺพาติ วากฺยสฺส. ‘‘ทฺวีสุ สกทาคามีสู’’ติ อาคนฺตฺวา อิตฺถตฺตนฺติ วุตฺตตฺตา เตน อตฺเถน สกทาคามินามเกสุ ทฺวีสุ โสตาปนฺน สกทาคามีสุ. ‘‘ปุริมสฺสา’’ติ โสตาปนฺนสฺส. ‘‘อนฺ สาธารเณ เนวา’’ติ ทุตีย ผลฏฺาทีหิ อสามฺเเนว. พฺรหฺมโลเกิตานํ โสตาปนฺนานํ สตฺตกฺขตฺตุ ปรม ตาทิภาโว นตฺถิ วิย ทุตีย ผลฏฺานํ สกทาคามิ ภาโวปิ นตฺถิ. เตนาห ‘‘ปถม ทุตีย ผลฏฺาปี’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ ลทฺธคุณวจนํ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ อิมินา การเณน. ‘‘เหฏฺู ปรูปปตฺติวเสนา’’ติ อุปริโต อาคนฺตฺวา เหฏฺูปปตฺติ จ, เหฏฺโต อาคนฺตฺวา อุปรูปปตฺติ จาติ เอวํ เหฏฺูปรูปปตฺติวเสน. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติอาทิ ทุตีย ลทฺธ คุณวจนํ. ‘‘ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา’’ติ ปฺจนฺนํ ปุคฺคลานํ อิธ กามโลเก นิฏฺา อนุปาทิเสส นิพฺพานปตฺตีติ วุตฺตํ ¶ โหติ. ‘‘โส ปนา’’ติ สกทาคามิ ปุคฺคโล ปน. เยสํ ปน อฏฺกถา จริยานํ อตฺโถ, เตสํ อตฺเถโส สกทาคามิ ปุคฺคโล ปฺจวิโธว วุตฺโต, น ฉฏฺโ ปุคฺคโลติ โยชนา. เยสํ ปน อิมํ โลกนฺติ อตฺโถ, เตสํ อตฺเถ ฉฏฺโปิ ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มหาปรินิพฺพาน…เป… อาคโต เยวา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สกึ อาคมนฏฺเน อาคโต เยวา’’ติ สกึ อาคมนฏฺเน สกทาคามีสุ อาคโตเยว. สพฺพฺุ พุทฺธาปิ ปถม ผลฏฺ ภูตา สตฺตกฺขตฺตุ ปรมตายํ สณฺิตา วิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมตายํ’’ติ สตฺตกฺขตฺตุ ปรมภาเว. อิทฺจ นิทสฺสน วจนมตฺตํ. สพฺพฺุ พุทฺธาปิ ทุตีย ผลฏฺภูตา สกึ อาคมนปฺปกติยํ สณฺิตาเยว โหนฺติ. กสฺมา, ตสฺมึ ขเณ ตํ สภาวานติ วตฺตนโตติ อธิปฺปาโย. สพฺโพปิ โส ฉพฺพีโธ ปุคฺคโล อิธ…เป… ทฏฺพฺโพ. เอเตน ยํ วุตฺตํ วิภาวนิยํ ปฺจสุ สกทาคามีสุ ปฺจมโกว อิธาธิปฺเปโตติ. ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. กสฺมา, ปฺจมโก เอว อิธ สกทาคามิปเท อธิปฺเปเตสติ อิตเร จตฺตาโร กตฺถ อธิปฺเปตา สิยุนฺติ วตฺตพฺพตฺตา. ชนกภูโต สมาโน. ‘‘ายาคตา เอวา’’ติ ยุตฺติโต ปรมฺปราคตา เอว. เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทึ. ‘‘อวิรุทฺโธ’’ติ าเยน อวิรุทฺโธ.
๕๙. โอรมฺภาโค นาม เหฏฺาภาโค กามโลโก. โอรมฺภาคาย สํวตฺตนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ กามราค พฺยาปาท สํโยชนาทีนิ. ‘‘โส’’ติ อนาคามิ ปุคฺคโล.
๖๐. มหปฺผลํ กโรนฺติ สีเลนาติ มหปฺผล การิโน. เตสํ ภาโว ‘‘มหปฺผล การิตา’’. สีลาทิ คุโณ. ‘‘อรหตี’’ติ ปฏิคฺคหิตุํ อรหติ. ‘‘อรหโต’’ติ อรหนฺตสฺส. ‘‘นิพฺพจนํ’’ติ นิรุตฺติ. วิคฺคห วากฺยนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุทฺธิกสฺุตาย ตถา น วจิตฺตานิ, สฺุตปฺปฏิปทาย ตถา น วจิตฺตานีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ‘‘สุทฺธิก สฺุตายา’’ติ สุทฺธิกสฺุตวาเร. ‘‘สฺุตปฺปฏิปทายา’’ติ สฺุตปฺปฏิปทาวาเร. ‘‘สจฺจ สติปฏฺาน วิภงฺเคสุ ปนา’’ติ สจฺจ วิภงฺค สติปฏฺาน วิภงฺเคสุ ปน, สพฺพํ จิตฺต วฑฺฒนํ ปาฬิ อฏฺกถาสุ เทสนาวาเร วิจาเรตฺวา เวทิตพฺพํ.
๖๑. ผลจิตฺเต ¶ . โสตาปตฺติยา อธิคตํ ผลํ โสตาปตฺติ ผลํ. ตตฺถ ‘‘อธิคตํ’’ติ ปฏิลทฺธํ. อฏฺงฺคีก ผลํ สนฺธาย ‘‘เตน สมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิรุตฺตี’’ติ วิคฺคโห.
๖๒. ตนุภูเตปิ กาตุํ น สกฺโกติ, กุโต สมุจฺฉินฺทิตุํ. ‘‘ตานี’’ติ อินฺทฺริยานิ. ‘‘ปฏู นี’’ติติกฺขานิ. ‘‘โส’’ติ จตุตฺถ มคฺโค. ‘‘ตา จา’’ติ รูปราค, อรูปราค, มาน, อุทฺธจฺจ, อวิชฺชาทโย จ. ‘‘อฺเ จา’’ติ เตหิ ทสหิ สํโยชเนหิ อฺเ อหิริกาโนตฺตปฺปาทิเก, สพฺเพปิ ปาป ธมฺเม จ.
๖๓. กิริย จิตฺต วิจารณายํ. น คหิตํ อิติ อยํ ปุจฺฉา. อภาวา อิติ อยํ วิสชฺชนาติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘อสฺสา’’ติ กิริยานุตฺตรสฺส. ‘‘นิรนุสยสนฺตาเนปี’’ติ อนุสย รหิเต อรหนฺต สนฺตาเนปิ. ‘‘อิตี’’ติ วากฺย ปริสมาปนมตฺตํ. ‘‘วุจฺจเต’’ติ วิสชฺชนา กถียเต. ปุน อนุปฺปชฺชนํ อนุปฺปาโท. อนุปฺปาโท ธมฺโม สภาโว เยสํ เต อนุปฺปาท ธมฺมา. เตสํ ภาโวติ วิคฺคโห. วิปากฺจ ชเนตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ ชเนตีติ อาห ‘‘กุสล…เป… กตฺวา’’ติ. ตตฺถ, ‘‘กตฺวา’’ติ สาเธตฺวา. สเจปิ กเรยฺยาติ โยชนา. ‘‘โกจี’’ติ อพฺยตฺโต โกจิ อริยสาวโก. ตทา ผล จิตฺตเมว ปวตฺเตยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปฏิพาหิตุํ อสกฺกุเณยฺโย’’ติ อปฺปฏิพาหิโย อานุภาโว อสฺสาติ สมาโส.
๖๔. ‘‘อาทิ อนฺต ปเทสฺเว วา’’ติอาทิมฺหิ ทฺวาทสา กุสลานีติ จ, อนฺเต กฺริย จิตฺตานิ วีสตีติ จ ปเทสุ. รูเป ปริยา ปนฺนานิ จิตฺตานิ. อรูเป ปริยา ปนฺนานิ จิตฺตานิ. ‘‘ปถมาย ภูมิยา ปตฺติยา’’ติ ปถมภูมึ ปาปุณิตุํ. ‘‘สามฺ ผลํ อธิปฺเปตนฺติ วุตฺตํ’’ อฏฺสาลินิยํ. อตฺถโต ปน ธมฺม วิเสโสติ สมฺพนฺโธ. มคฺค ผล นิพฺพาน สงฺขาโต ธมฺม วิเสโส โลกุตฺตรภูมิ นามาติ โยชนา. อวตฺถา ภูมิ เอว นิปฺปริยายภูมิ. กสฺมา, อวตฺถา วนฺตานํ ธมฺมานํ สรูปโต ลทฺธตฺตา. อิตรา โอกาสภูมิ นิปฺปริยาย ภูมิ น โหติ. กสฺมา, ปฺตฺติยา มิสฺสกตฺตา. ‘‘ธมฺมานํ ตํ ตํ อวตฺถา วิเสสวเสเนว สิทฺธา’’ติ เอเตน อวตฺถา ภูมิ เอว ปธาน ภูมีติ ¶ ทสฺเสติ. กามตณฺหาย วิสยภูโต โอฬาริกากาโร กามาวจรตา นาม. ภวตณฺหาย วิสยภูโต มชฺฌิมากาโร รูปารูปาวจรตา นาม. ตาสํ ตณฺหานํ อวิสยภูโต สณฺห สุขุมากาโร โลกุตฺตรตา นาม. หีนานํ อกุสล กมฺมานํ วเสน หีนา อปายภูมิโย. ปณีตานํ กุสล กมฺมานํ วเสน ปณีตา สุคติ ภูมิโย. ตตฺถ จ นานา อกุสล กมฺมานํ วา นานา กุสล กมฺมานํ วา โอฬาริก สุขุมตา วเสน นานา ทุคฺคติ ภูมิโย นานา สุคติ ภูมิโย จ สิทฺธา โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิมาห.
๖๕. คาถาย ปุพฺพทฺธํ นาม-อิตฺถ เมกูน นวุติ, ปฺปเภทํ ปน มานสนฺติ ปาททฺวยํ. อปรทฺธํ นาม เอกวีสสตํวาถ, วิภชนฺติ วิจกฺขณาติ ปาททฺวยํ. ตํ อิมินา น สเมติ. กถํ น สเมติ. อิมินา วจเนน สกลมฺปิ คาถํ เอกูน นวุติปฺปเภทํ มานสํ เอกวีส สตํ กตฺวา วิภชนฺตี-ติ เอวํ เอกวากฺยํ กตฺวา โยชนํ าเปติ. ‘‘ปถมชฺฌาน สทิสฏฺเนา’’ติ โลกิย ปถมชฺฌาน สทิสฏฺเน. ยํ จตุรงฺคีกํ, ตํ สยเมว ทุตียชฺฌานนฺติ สิทฺธํ. ยํ ติยงฺคีกํ, ตํ สยเมว ตตียชฺฌานนฺติ สิทฺธํ. ยํ ทุวงฺคีกํ, ตํ สยเมว จตุตฺถชฺฌานนฺติ สิทฺธํ. ยํ ปุน ทุวงฺคีกํ, ตํ สยเมว ปฺจมชฺฌานนฺติ สิทฺธํ. ‘‘เอวํ วุตฺต’’นฺติ วิภาวนิยํ ฌานงฺควเสน ปถมชฺฌาน สทิสตฺตา ปถมชฺฌานฺจาติ เอวํ วุตฺตํ. วิตกฺกาทิ องฺคปาตุภาเวน ปฺจธา วิภชนฺตีติ สมฺพนฺโธ. น อิตรานิ โลกิยชฺฌานานิ สาติสฺสยโต ฌานานิ นาม สิยุํ. กสฺมาติ อาห ‘‘ตานิ หี’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ตานี’’ติ โลกิยชฺฌานานิ. ‘‘อุเปจฺจา’’ติ อุปคนฺตฺวา. ‘‘ฌาเปนฺตี’’ติ ทหนฺติ. ปกติยา เอว สิทฺโธ โหติ, น ปาทกชฺฌานาทิวเสน สิทฺโธ. ‘‘กิจฺจ’’นฺติ ปฺจงฺคีก ภาวตฺถาย กตฺตพฺพ กิจฺจํ. ‘‘เตน ปจฺจย วิเสเสนา’’ติ ปาทกชฺฌานาทินา ปจฺจย วิเสเสน. ‘‘ตสฺมึ’’ติ ปจฺจย วิเสเส. ยถาโลกิยชฺฌาเนสุ อุปจารภูตา ภาวนา กาจิ วิตกฺก วิราค ภาวนา นาม โหติ…เป… กาจิ รูป วิราค ภาวนา นาม. อสฺิ คามีนํ ปน สฺา วิราค ภาวนา นาม โหติ. เอวเมวนฺติ โยชนา. ‘‘สา’’ติ อุปจาร ภาวนา ¶ .‘‘อุเปกฺขา สหคตํ วา’’ติ เอตฺถ วา สทฺเทน รูปสมติกฺกมํ วา สฺา สมติกฺกมํ วาติ อวุตฺตํ วิกปฺเปติ. อาทิกมฺมิกกาเล เอวํ โหตุ, วสิภูตกาเล ปน กถนฺติ อาห ‘‘ฌาเนสู’’ติอาทึ. นานาสตฺติยุตฺตา โหตีติ วตฺวา นานาสตฺติโย ทสฺเสติ ‘‘กาจี’’ติอาทินา. ยา อุปจาร ภาวนา. ‘‘วิตกฺกํ วิราเชตุํ’’ติ วิตกฺกํ วิคเมตุํ. อตฺตโน ฌานํ อวิตกฺกํ กาตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘อติกฺกาเมตุํ’’ติ. สา อุปจาร ภาวนา. เสสาสุปิ อุปจาร ภาวนาสุ.
๖๖. (ก) ‘‘สา วิปสฺสนา’’ติ วุฏฺานคามินิ วิปสฺสนา. ‘‘วิปสฺสนา ปากติกา เอวา’’ติกาจิ วิราค ภาวนา นาม น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘นิยาเมตุํ’’ติ อวิตกฺกเมว โหตูติ วทมานา วิย ววตฺถเปตุํ. ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ ปาทกวาทิตฺเถรสฺส อธิปฺปาโย. ‘‘สมฺมสียตี’’ติ อิทํ ฌานํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ สมฺมสียติ สมนุปสฺสียติ. ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ. ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย เย เย สมาปตฺติ ธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต โหติ. ตํ ตํ สมาปตฺติ สทิโสว โหติ. สมฺมสิตสมาปตฺติ สทิโสติ อตฺโถติ. เอตฺถ หิ ‘‘ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺายา’’ติ เอเตน ปาทกชฺฌานํ กถิตํ โหติ. ‘‘ปาทกชฺฌาเน สตี’’ติ เอเตน อยํ วาโทปิ ปาทกชฺฌาเนน วินา นสิชฺฌตีติ ทสฺเสติ. ‘‘วิปสฺสนาปิ…เป… ปตฺตา โหตี’’ติ เอเตน อิมสฺมึ วาเทปิ วิปสฺสนา นิยาโม อิจฺฉิตพฺโพติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ยถาโลกิยชฺฌาเนสู’’ติอาทึ. กามฺเจตฺถ…เป… อวิโรโธ วุตฺโต วิย ทิสฺสติ. กถํ. ปฺจมชฺฌานโต วุฏฺาย หิ ปถมชฺฌานาทีนิ สมฺมสโต อุปฺปนฺนมคฺโค ปถมตฺเถรวาเทน ปฺจมชฺฌานิโก, ทุตีย วาเทน ปถมาทิชฺฌานิโก อาปชฺชตีติ ทฺเวปิ วาทา วิรุชฺฌนฺติ. ตตีย วาเทน ปเนตฺถ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ฌานิโก โหตีติ เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ, อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหตีติ เอวํ อวิรุทฺโธ วุตฺโต โหตีติ. เอตฺถ ปน ยํ อิจฺฉติ, ตํ ฌานิโก โหติ. อิจฺฉาย ปน อสติ, วิโรโธเยว. เตนาห ‘‘อิเม ปน วาทา. …เป… ¶ . วิโรโธ ปริหริตุํ’’ติ. ปาฬิยํ ‘‘อชฺฌตฺตํ สฺุตํ มนสิ กโรตี’’ติ อชฺฌตฺตสนฺตาเนตํ ตํ ฌานฺจ ฌานสหคตฺจ ขนฺธ ปฺจกํ นิจฺจ สุข อตฺต ชีวโต สฺุตํ มนสิ กโรติ. ‘‘น ปกฺขนฺทตี’’ติ น ปวิสติ. ‘‘สนฺนิสาเทตพฺพํ’’ติ สนฺนิสินฺนํ กาตพฺพํ. ‘‘เอโกทิกาตพฺพํ’’ติ เอกมุขํ กาตพฺพํ. ‘‘สมาทหาตพฺพํ’’ติ สุฏฺุ เปตพฺพํ. ‘‘นิสฺสายา’’ติ ปาทกํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย.
๖๗. (ก) วาทวิจารณายํ. อุปจาร ภาวนา เอว อุปริชฺฌาเน ฌานงฺคํ นิยาเมตีติ วุตฺตํ. เหฏฺา ปน อชฺฌาสโย เอว อุปริชฺฌาเน ฌานงฺคํ นิยาเมตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อชฺฌาสโย เอวา’’ติ เอว สทฺเทน ปาทกชฺฌานํ นิวตฺเตติ. ‘‘อิธ อุปจาร ภาวนา เอวา’’ติ เอว สทฺเทน อชฺฌาสยํ นิวตฺเตติ. เอเตสุ หิ ทฺวีสุ สห ภาวีสุ อุปจาร ภาวนา เอว ปธานํ โหติ. อชฺฌาสโย ปน ตสฺส นานา สตฺติโยคํ สาเธติ. ‘‘อชฺฌาสย สามฺํ สณฺาตี’’ติ มคฺเค ยํ ลทฺธพฺพํ โหติ, ตํ ลพฺภตุ, มยฺหํ วิเสโส นตฺถีติ เอวํ อชฺฌาสย สามฺํ สณฺาติ. ‘‘ตสฺมิ’’นฺติ อชฺฌาสย วิเสเส. ‘‘โส’’ติ อชฺฌาสย วิเสโส. กสฺมา ยุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิจฺฉิ ติจฺฉิต…เป… นิพฺพตฺตนํ’’ติ. ‘‘สพฺพชฺฌาเนสุ จิณฺณวสิภูตานํ’’ติ อิทํ สมาปชฺชนนฺติ จ นิพฺพตฺตนนฺติ จ ปท ทฺวเย สมฺพนฺธ วจนํ. ‘‘วิปสฺสนา วิเสสตฺถาย เอวา’’ติ วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนา วิเสสตฺถาย เอว. ยสฺมา ปน อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ เอเกกาย สมาปตฺติยา วุฏฺาย วุฏฺิต สมาปตฺติ ธมฺม สมฺมสนํ อาคตํ, น ปน อฺชฺฌาน สมฺมสนํ. ตสฺมา ปาทกชฺฌานเมว ปมาณนฺติ โยชนา. ปาฬิปเทสุ ‘‘คหปตี’’ติ อาลปน วจนํ. ‘‘วิวิจฺเจวา’’ติ วิวิจฺจิตฺวา เอว. วิวิตฺโต วิคโต หุตฺวา เอว. ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ สุฏฺุ สมฺปาปุณิตฺวา. ‘‘อิติ ปฏิสฺจิกฺขตี’’ติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. ‘‘อภิสฺเจตยิต’’นฺติ สุสํ สมฺปิณฺฑิตํ, สํวิทหิตํ. ‘‘ตตฺถ ิโต’’ติ ตสฺมึ ปถมชฺฌาเน อปริหีโน หุตฺวา ิโต. ‘‘เมตฺตาเจโต วิมุตฺตี’’ติ เมตฺตาฌานสงฺขาตา เจโตวิมุตฺติ, อฺตฺถ อลคฺคนวเสน จิตฺตสฺส ปวตฺติ. ตถา กรุณา เจโตวิมุตฺติ. มุทิตา เจโตวิมุตฺติ. ‘‘วิเวกช’’นฺติ กายวิเวก จิตฺตวิเวกานํ วเสน ชาตํ. ‘‘ปีติ สุขํ’’ติ ปีติยา จ สุเขน จ สมฺปนฺนํ. อถวา, วิเวเกหิ ชาตานิ ¶ ปีติ สุขานิ อสฺสาติ วิเวกชํ ปีติ สุขํ. มชฺเฌ นิคฺคหิตาคโม. รูปเมว รูปคตํ, เวทนา เอว เวทนา คตนฺติอาทินา สมาโส. คตสทฺโท จ ปทปูรณมตฺเต ทฏฺพฺโพ. ‘‘เตเนว ธมฺม ราเคน ตายธมฺมนนฺทิยา’’ติ วิปสฺสนานิ กนฺติมาห. สหตฺเถ จ กรณ วจนํ. โอปปาติโก โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตตฺถ ปรินิพฺพายี’’ติ พฺรหฺมโลเก อวสฺสํ ปรินิพฺพาย น ธมฺโม. เตนาห ‘‘อนาวตฺติ ธมฺโม ตสฺมา โลกา’’ติ. ‘‘ปาทกชฺฌานเมว ปมาณ’’นฺติ ปาทกชฺฌานเมว มคฺเคฌานงฺคํ นิยาเมสฺสติ, น สมฺมสิตชฺฌานนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปาทกํ อกตฺวา’’ติ อาสนฺเน อสมาปชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ยํ ยํ ฌานํ อิจฺฉนฺตี’’ติ มคฺเค อิจฺฉนฺติ.
๖๖. (ข) ‘‘ตถา วิโธ’’ติ ตถา ปกาโร. อาสนฺเน วุฏฺิตสฺเสว ฌานสฺส. ‘‘จิตฺตสนฺตานํ วิเสเสตุํ’’ติ สเจ ปาทกชฺฌานํ ปถมชฺฌานํ โหติ, ตโต ปรํ ปวตฺตํ จิตฺตสนฺตานํ วิตกฺเก นินฺนํ โหติ, วิตกฺเก ปกฺขนฺทติ. อถ ปาทกชฺฌานํ ทุตียชฺฌานํ โหติ. ตโต ปรํ ปวตฺตํ จิตฺตสนฺตานํ วิจาเร นินฺนํ โหติ, วิจาเร ปกฺขนฺทตีติอาทินา นเยน จิตฺตสนฺตานํ วิเสเสตุํ. ‘‘ยํ ตตฺถ วุตฺตํ’’ ติยํ วิภาวนิยํ วุตฺตํ.
เวทนา วิจารณายํ. ‘‘น สิทฺโธ’’ติ สิทฺโธ น โหติ. ‘‘อฺถา’’ติ อฺเน ปกาเรน. คหิเต สตีติ โยชนา. ปาทกชฺฌานาทีนํ วเสน สิทฺโธติ คหิเต สตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ยาย กาย จิ เวทนาย ยุตฺตา หุตฺวา’’ติ โสมนสฺส เวทนาย วายุตฺตา หุตฺวา อุเปกฺขา เวทนาย วา ยุตฺตา หุตฺวา. ‘‘เตหิ นิยมิตาย เอเกกาย มคฺค เวทนายา’’ติ ปาทกชฺฌานาทีหิ นิยมิตาย มคฺเค โสมนสฺส เวทนาย เอว วาสทฺธึ ฆฏิเยยฺย มคฺเค อุเปกฺขา เวทนาย เอว วาติ อตฺโถ. เวทนา นาม เอกํ ฌานงฺคํ โหติ. ตสฺมา มคฺเคฌานงฺค นิยเม สิทฺเธ มคฺเค เวทนา นิยโมปิ สิทฺโธ. ตานิ ปน ปาทกชฺฌานาทีนิ มชฺเฌ วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนายํ นกิฺจินิยาเมนฺติ. เอวฺจ สติ, ปาทกชฺฌานาทีหิ นิยมิตาย มคฺเค เอเกกาย เวทนาย สทฺธึ ทฺเว ทฺเว วิปสฺสนา เวทนาโย ฆฏิเยยฺยุํ. มคฺเค โสมนสฺส เวทนาย วา สทฺธึ ทฺเว วิปสฺสนา เวทนาโย ฆฏิเยยฺยุํ. มคฺเค อุเปกฺขา ¶ เวทนาย วา สทฺธึ ทฺเว วิปสฺสนา เวทนาโย ฆฏิเยยฺยุํติ วุตฺตํ โหติ. เอวฺจสติ เอกวีถิยํ ชวนานิ ภินฺน เวทนานิ สิยุํ. ตฺจ น ยุชฺชติ. ตสฺมา มคฺเค เวทนา นิยโม ปาทกชฺฌานาทิ นิยเมน สิทฺโธ น โหติ, วิปสฺสนา นิยเมเนว สิทฺโธติ อธิปฺปาโย. ตานิ ปน ปาทกชฺฌานาทีนิ มชฺเฌ วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนายํ น กิฺจิ น นิยาเมนฺติ. เวทนํ นิยาเมนฺติ เยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํปิ น ยุชฺชตี’’ติ วตฺวา ‘‘ปาทกชฺฌานาทีนํ วเสเนวา’’ติอาทิมาห. ‘‘ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตา อุเปกฺขา’’ติ เอกาว จตุตฺถชฺฌานุ เปกฺขา ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสานิ ปชหิตฺวา ปวตฺตตฺตา ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตา อุเปกฺขา นาม โหติ. ‘‘ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตานิ โสมนสฺสานี’’ติ เอกํ วปถมชฺฌาน โสมนสฺสํ ฉสุ อารมฺมเณสุ ฉ เคหสฺสิตานิ ปชหิตฺวา ปวตฺตตฺตา ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ นาม โหนฺติ. อฏฺกถายฺจ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปถมาทีนิ จ ตีณิ ฌานานี’’ติ จตุกฺกนเย ตีณิ โสมนสฺส ฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา. ‘‘สุทฺธสงฺขาเร จ ปาทเกกตฺวา’’ติ อารมฺมณ ภาเวน ปาทเกกตฺวาติ อธิปฺปาโย. อยฺจ ปาทกชฺฌานาทีนํ วเสน วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนายฺจ มคฺเค จ เวทนา ปริณาโม อฏฺสาลินิยํปิ วิตฺถารโต วุตฺโต. ‘‘อมานุสี รตี โหตี’’ติ มนุสฺสานํ เคหสฺสิตรตึ อติกฺกมฺม ิตตฺตา อมานุสี นาม รติ โหติ. ‘‘สมฺมธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ สมฺมา อนิจฺจ ลกฺขณ ธมฺมํ ปสฺสนฺตสฺส ภิกฺขุโนติ สมฺพนฺโธ.
๖๗. (ข) ‘‘ฌานงฺคโยคเภเทนา’’ติ วุตฺตํ, ฌานโยคเภโท ปน อธิปฺเปโต. ‘‘ปฺจ วิเธฌาน โกฏฺาเส’’ติ ปฺจก นยวเสน วุตฺตํ. อิธ จิตฺต เภทสฺส อธิปฺเปตตฺตา ฌานเภเทติ จ ฌานนฺติ จ วุตฺเตปิ จิตฺตเมว อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
คาถาโยชนาสุ. ‘‘อปราปิ โยชนา วุตฺตา’’ติ อถวา รูปาวจรํ จิตฺตํ อนุตฺตรฺจ ปถมาทิชฺฌาน เภเทน ยถา คยฺหติ, ตถา อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเมฌาเน คยฺหตีติ เอวํ อปราปิ โยชนา วุตฺตา. ‘‘ปิตตฺตา’’ติ อุจฺจาริตตฺตา. อนฺติมคาถา วณฺณนายํ. ‘‘ยถา’’ติ เยน ปกาเรน. ‘‘ตํ สงฺคหํ’’ติ เอก วีสสตสงฺคหํ ¶ . พุชฺฌนฺตีติ พุธา. ‘‘อาหา’’ติ จ ‘‘อาหู’’ติ จ วตฺตมานกาเลปิ อิจฺฉนฺติ สทฺทวิทูติ วุตฺตํ ‘‘กเถนฺติ วา’’ติ. อิทฺจ วจนํ ปุพฺเพ ‘‘อิตฺถเมกูน นวุติ…เป… วิภชนฺติ วิจกฺขณา’’ติ คาถาย นิคมนนฺติ าปนตฺถํ ‘‘วิภชนฺติ วิจกฺขณา’’ติ วุตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ.
อิติปรมตฺถทีปนิยานามฏีกายอนุทีปนิยํ
จิตฺตสงฺคหสฺสอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๒. เจตสิกสงฺคหอนุทีปนา
๖๘. เอวํ ¶ จิตฺต สงฺคหสฺส ทีปนึ กตฺวา เจตสิก สงฺคหสฺส ทีปนึ กโรนฺโต ปถมํ ปุพฺพาปรานุ สนฺธิฺจ อาทิคาถาย ปโยชน สมฺพนฺธฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ’’ติอาทิ มารทฺโธ. ตตฺถ ‘‘อนุปตฺต’’นฺติอาทิมฺหิ จิตฺตํ เจตสิกํ รูปํ, นิพฺพานมิติสพฺพถาติ เอวํ อนุกฺกโม วุตฺโต. เตน อนุกฺกเมน อนุปตฺตํ. เหตุ วิเสสนฺเจตํ. ยสฺมา จิตฺตสงฺคหานนฺตรํ เจตสิก สงฺคโห อนุปตฺโต, ตสฺมา อิทานิ ตํ สงฺคหํ กโรตีติ ทีเปติ. จตฺตาริ สมฺปโยค ลกฺขณานิ ‘เอกุปฺปาทตา, เอก นิโรธตา, เอกา รมฺมณตา, เอก วตฺถุกตา,ติ. ‘‘เจตสิ ยุตฺตา’’ติ จิตฺตสฺมึ นิยุตฺตา. จิตฺตํ นิสฺสาย อตฺตโน อตฺตโน กิจฺเจสุ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนาติ อตฺโถ. ‘‘เจตสา วายุตฺตา’’ติ จิตฺเตน วา สมฺปยุตฺตา. จิตฺเตน สห เอกีภาวํ คตาติ อตฺโถ. ‘‘สรูปทสฺสน’’นฺติ สงฺขฺยาสรูปทสฺสนํ. สิทฺธปทํ นาม ปกติ ปจฺจเยหิ นิปฺผนฺน ปทํ. ‘‘ปุพฺพนฺตโต’’ติ เอกสฺสสงฺขต ธมฺมสฺส ปถม ภาคโต. อุทฺธํ ปชฺชนํ นาม กตมนฺติ อาห ‘‘สรูปโต ปาตุภวน’’นฺติ. ธาตุ ปาเสุ-ชนิปาตุภาเว-ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ชาตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘สรูป วินาโส’’ติ สรูปโต ปาตุภวนฺตสฺส ภาวสฺส วินาโส อนฺตรธานํ. ‘‘เอวํ ปรตฺถ ปี’’ติ ปรสฺมึ เอกาลมฺพณวตฺถุกาทิปเทปิ. ‘‘เอก จิตฺตสฺสปิ พหุเทวา’’ติ จกฺขุ วิฺาณํ รูปํ ปสฺสนฺตํ เอกเมว รูปํ ปสฺสตีติ นตฺถิ. อเนกานิ เอวรูปานิ เอกโต กตฺวา ปสฺสติ. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวฺจ กตฺวา ปาฬิยํ. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุ วิฺาณํ. โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณนฺติอาทินา วตฺถุทฺวาเรสุ เอกวจนํ วตฺวา อารมฺมเณสุ พหุวจนํ กตนฺติ. ‘‘เอกตฺตํ อุปเนตฺวา’’ติ จกฺขุ วิฺาเณ พหูนิปิ รูปารมฺมณานิ รูปตา สมฺเน เอกีภาวํ กตฺวา เอกํ อารมฺมณนฺตฺเวว วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. ตํ น สุนฺทรํ. กสฺมา. อตฺถ วิเสสสฺส อวิฺาปนโต. โกปนายํ อตฺถ วิเสโสติ ¶ . ยาจิตฺตสฺส ชาติ, สาเยว ผสฺสาทีนนฺติอาทิโก อตฺโถ. เตนาห ‘‘อถ โข’’ติอาทึ. อธิปฺเปตา เอกุปฺปาทตา. เอส นโย เอก นิโรธตาทีสุ. ‘‘มูลฏีกาย’’นฺติ รูปกณฺฑมูลฏีกายํ. ‘‘สเหวา’’ติ เอกโต เอว. ‘‘อุปฺปาทาทิปฺปวตฺติโต’’ติ อุปฺปาทสฺส จ ชีรณสฺส จ นิโรธสฺส จ ปวตฺติโต. ‘‘อุปฺปาทาทโย’’ติ อุปฺปาท ชีรณ นิโรธา. ชาติชรามรณานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘เจตสิกามตา’’ติ เจตสิกา อิติ วิฺาตา. ‘‘ภาวปฺปธานํ’’ติ เอกุปฺปาท ภาโว เอกุปฺปาโทติ วุตฺโต. ตถา เอก นิโรธาทีสุ. ยถา อิทํปิ สงฺเฆรตนํ ปณีต-นฺติอาทีสุ อยํ รตน ภาโว ปณีโตติ เหตฺถ อตฺโถ. ‘‘เย’’ติ เย ธมฺมา. ‘‘สหชาต ปจฺจยุปฺปนฺน รูปานิ ปี’’ติ สหชาตปจฺจยโต อุปฺปนฺนานิ รูปานิปิ. เจตสิกานิ นาม สิยุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตทา ยตฺต วุตฺติตายา’’ติ จิตฺตายตฺตวุตฺติยาย. ‘‘เจโตยุตฺตานี’’ติ เหตุ วิเสสนํ. ตเทว เหตุมนฺต วิเสสนนฺติ จ เหตุ อนฺโต นีตวิเสสนนฺติ จ เหตุ อนฺโต คธวิเสสนนฺติ จ วทนฺติ. ‘‘เตส’’นฺติ จิตฺตสฺส สหชาตปจฺจยุปฺปนฺนรูปานํ. ‘‘นานุโภนฺตี’’ติ นปาปุณนฺติ. ‘‘น หิ สกฺกา ชานิตุํ’’ติ เอเตน ภูตกถน วิเสสนานิ เอตานีติ ทีเปติ. ภูตกถนํปิ สมานํ วตฺติจฺฉาวเสน พฺยวจฺเฉทกํปิ สมฺภวติ. ‘‘วโยปฺายตี’’ติ วินาโส ปกาสติ. ‘‘ิตายา’’ติ ติฏฺ มานาย เวทนาย. อฺโ ปกาโร อฺถา. อฺถา ภาโว อฺถตฺตํ. ชราวเสน ปริณาโมติ วุตฺตํ โหติ. โย ปถวีธาตุยา อุปฺปาโท, ยา ิติ, ยา อภินิพฺพตฺติ, โย ปาตุภาโว. เอโส ทุกฺขสฺส อุปฺปาโท, เอสา โรคานํ ิติ, เอโส ชรามรณสฺส ปาตุภาโวติ โยชนา. ‘‘อิตรถา’’ติ อิโต อฺถา คหิเต สตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ รูปารูปกลาเป นานา ธมฺมานํ วเสน พหูสุ อุปฺปาเทสุ จ นิโรเธสุ จ คหิเตสูติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิการรูปานํ’’ติ วิฺตฺติ ทฺวย ลหุตาทิตฺตยานํ. สพฺพานิปิ อุปาทารูปานิ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปวตฺตตฺตา มหาภูต คณนาย จตฺตาริ จตฺตาริ สิยุํติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘สพฺเพสมฺปิ วา’’ติอาทิวุตฺตํ. สพฺเพสมฺปิ วา จกฺขาทีนํ อุปาทารูปานํ เอเกกสฺมึ กลาเป ¶ พหุภาโว วตฺตพฺโพ สิยาติ โยชนา. กสฺมา พหุภาโว วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทึ.
ยทิ เอวํ, เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ลหุตาทีนิปิ เอเกกานิ เอว สิยุํ, อถ กิมตฺถํ ทฺเว ทฺเว กตฺวา วุตฺตานีติ อาห ‘‘กายลหุตา จิตฺต ลหุตาทโยปนา’’ติอาทึ. ‘‘อิมมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อีทิสํ วินิจฺฉยตฺตํ อจินฺเตตฺวาติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิปาเ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน’’ติ เอเตน จิตฺเตน อุปฺปชฺชิตฺวา เตเนว จิตฺเตน สหนิรุชฺฌนวเสน จิตฺตํ อนุปริวตฺติสฺส. ‘‘ปสงฺคา’’ติ เจตสิกตา ปสงฺโค. ‘‘ปุเรตรมุปฺปชฺชิตฺวา’’ติ ปุเรตรํ เอเกน จิตฺเตน สห อุปฺปชฺชิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘จิตฺตสฺสภงฺคกฺขเณ’’ติ อฺสฺส สตฺตร สม จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ. ตถา รูปธมฺมานํ ปสงฺโค น สกฺกา นีวาเรตุํ ติโยชนา. ‘‘ปสงฺโค’’ติ เจตสิกตา ปสงฺโค. ‘‘อลมติ ปปฺเจนา’’ติ อภิธมฺเม เวทนาตฺติเกฏีกาสุ วิย อติ วิตฺถาเรน นิรตฺถกํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘นิรตฺถกํ’’ติ วิภาวนิยํ ปปฺโจ นิรตฺถโก เอวาติ อธิปฺปาโย.
๖๙. ผสฺสวจนตฺเถ. ‘‘ผุสตี’’ติ อารมฺมณํ อาหนติ, สงฺฆฏฺเฏติ. ตฺจ สงฺฆฏฺฏ นํ นโทสปฏิฆสฺส วิย อารมฺมณสฺส วิพาธนํ โหติ, อถ โข ภมรสฺส ปทุม ปุปฺเผสุ ปุปฺผร สคฺคหณํ วิย วิชานน มตฺเต อตฺวา อารมฺมณ รสปาตุภาวตฺถํ ยถารมฺมณํ สํหนน เมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ผุสนฺเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ‘‘อาหจฺจา’’ติ อาหนิตฺวา สมฺปาปุณิตฺวา. ‘‘อุปหจฺจา’’ติ ตสฺเสว เววจนํ. อยมตฺโถ กถํ ปากโฏติ อาห ‘‘ยโต’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ยโต’’ติ ยํ การณา. ‘‘ตทนุภวนฺตี’’ติ ตํ อารมฺมณ รสํ อนุภวนฺตี, เวทนา ปาตุภวติ, เวทนา ปาตุภาวํ ทิสฺวา อารมฺมณปฺผุสนํ าเณ ปากฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. สฺวายํ ผุสน ลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาตา คตวิสย ปทฏฺาโน. ตตฺถ สนฺนิปาโต นาม ติณฺณํ ติณฺณํ ทฺวารา รมฺมณ วิฺาณานํ สงฺคติ สมาคโม สโมธานํ. ตถาหิ วุตฺตํ. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุ วิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส ติอาทิ. ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ อารมฺมเณ สมฺมเทว ฆฏฺฏน ¶ กิจฺโจ. สงฺฆฏฺฏน กิจฺจตฺตา เอว ติณฺณํ สนฺนิปาโต หุตฺวา ธมฺม จินฺตาาณสฺส ปฏิมุขํ อุปฏฺาติ ปกาสตีติ. ‘‘สนฺนิปาต ปจฺจุปฏฺาโน’’. ปจฺจุปฏฺานนฺติ วา ปฺาณํ วุจฺจติ ธโชรถสฺส ปฺาณนฺติ เอตฺถ วิย. สนฺนิปาตากาโร ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺสาติ สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. เวทนาปจฺจุ ปฏฺาโน วา. ธูโมวิย อคฺคิสฺส. เวทนาผลํ ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺสาติ วิคฺคโห. อฏฺสาลินิยํ ปน กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺโส ปถมํ วุตฺโต ติปุจฺฉิตฺวา มหาอฏฺกถา วาโทตาว ทสฺสิโต. จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาตตฺตา. อารมฺมณสฺมิฺหิ จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาโต หุตฺวา ผสฺโส อารมฺมณํ ผุสมาโน อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ปถมํ วุตฺโต. ผสฺเสน ผุสฺสิตฺวา เวทนาย เวทยติ. สฺาย สฺชานาติ. เจตนาย เจตติ. เตน วุตฺตํ ผุฏฺโ ภิกฺขเว เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตีติ. อปิ จ อยํ ผสฺโส นาม ยถาปาสาทํ ปตฺวา ถมฺโภ นาม เสสทพฺพ สมฺภารานํ พลวปจฺจโย. เอวเมว สหชาต สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ พลว ปจฺจโย โหติ. ตสฺมา ปถมํ วุตฺโตติ. สงฺคหกาเรน ปน อิทํ ปน อการณํ, เอกกฺขณสฺมิฺหิ อุปฺปนฺน ธมฺมานํ อยํ ปถมํ อุปฺปนฺโน อยํ ปจฺฉาติ อิทํ วตฺตุํ น ลพฺภา. พลวปจฺจยภาเวปิ ผสฺสสฺสการณํ น ทิสฺสตีติ เอวํ ตํ วาทํ ปฏิกฺขิเปตฺวา อิทํ วุตฺตํ เทสนา วาเรเนว ผสฺโส ปถมํ วุตฺโตติ. ตตฺถ ‘‘เทสนาวาเร เนวา’’ติ เทสนกฺกเมเนว, ตโต อฺํ การณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตสุ ปน ทฺวีสุ วาเทสุ มหาอฏฺกถา วาโท เอว ยุตฺโต. ยฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาโต หุตฺวาติ. ตตฺถ ปถมาภินิปาโตติ อิทํ กิจฺจปฺปธานตฺตา วุตฺตํ. น ปนฺเหิ เจตสิเกหิ วินา วิสุํ ปถมํ อุปฺปนฺนตฺตา. ยถา ตํ เย เกจิ ภิกฺขเว ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา อกุสลปกฺขิกา. สพฺเพ เต มโนปุพฺพงฺคมา, มโน เตสํ ธมฺมานํ ปถมํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ สุตฺเต กิจฺจปฺปธานตฺตา มโน เตสํ ธมฺมานํ ปถมํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ. น ปน สพฺพเจตสิเกหิ วินา วิสุํ ปถมํ อุปฺปนฺนตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. พลวปจฺจย ภาเวปิ ผสฺสสฺสการณํ ทิสฺสติเยว. ผสฺโสเหตุ ผสฺโส ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺา ปนาย. ผสฺโส เหตุ ผสฺโส ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺา นาย ¶ . ผสฺโส เหตุ ผสฺโส ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายาติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา สพฺเพสํ เจตสิกานํ ธมฺมานํ ผสฺสปฺปธานตฺตา เอว ผสฺส พลวปจฺจยตฺตา เอว จ ผสฺโส ปถมํ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ จิตฺตํ อารมฺมณ วิชานนฏฺเน ผสฺสาทีนํ สพฺพเจตสิก ธมฺมานํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ, ปธานํ, เชฏฺกํ. ผสฺโส ปน อารมฺมณ สงฺฆฏฺฏนฏฺเน สพฺเพสํ เจตสิก ธมฺมานํ ปุพฺพงฺคโม โหติ, ปธาโน, เชฏฺโกติ อยํ ทฺวินฺนํ วิเสโสติ. เอตฺถ โจทโก ผุสนํ นาม สปฺปฏิฆรูปานํ เอว กิจฺจนฺติ มฺมาโน ‘‘นนุจา’’ติอาทินา โจเทติ. ‘‘นนุจา’’ติ โจเทธีติ ทีเปติ. ‘‘อปฺปฏิฆสภาวา’’ติ เหตุวิเสสนํ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิวตฺถุํ. อยํ ปน ผสฺโส. ‘‘จิตฺตสฺส วิการา ปตฺตึ’’ติ จลน กมฺปน ถมฺภน เชคุจฺฉ ภย ตาส ฉมฺภิตตฺตา ทิวเสน วิการา ปชฺชนํ. ‘‘เวทนา วิเสสุปฺปตฺตึ’’ติ สุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ สุขเวทนา, ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ทุกฺข เวทนาติอาทินา นเยน ผสฺส วิเสสานุรูปํ เวทนา วิเสสุปฺปตฺตึ สาเธติ. เอตฺถ จ ผุสนํ นาม ทุวิธํ รูปปฺผุสนํ, นามปฺผุสน, นฺติ. ตตฺถ รูปปฺผุสนํ นาม โผฏฺพฺพ ธาตูนํ กิจฺจํ. นามปฺผุสนํ ทุวิธํ ผสฺสปฺผุสนํ, าณปฺผุสน, นฺติ. ตตฺถ าณปฺผุสนํ นาม าณปฺปฏิเวโธ. อปิ จ ฌานมคฺค ผล นิพฺพานานํ ปฏิลาโภปิ ผุสนนฺติ วุจฺจติ. ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ. โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ. ผุสามิ เนกฺขมํ สุขํ. อปุถุชฺชน เสวิตนฺติ-อาทีสุ. อิทํ อุปมา มตฺตํ สิยา, กสฺสจิ มนฺท ปฺสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิท’’นฺติ เขฬุปฺปาท วจนํ. วิฺุสฺส ปน อติปากฏ ผสฺส นิทสฺสเนน อปฺปากฏ ผสฺส วิภาวนํ ยุตฺตเมว. เตนาห ‘‘อติปากฏาย ปนา’’ติอาทึ.
๗๐. เวทนาวจนตฺเถ. ‘‘ตํสมงฺคีปุคฺคลานํ วา’’ติ เวทนา สมงฺคีปุคฺคลานํ วา. ‘‘สาตํ วา’’ติ สาธุรสํ วา. ‘‘อสฺสาตํ วา’’ติ อสาธุรสํ วา. ‘‘กึ เวทยตี’’ติ กตมํ เวทยติ. ‘‘สุขมฺปิ เวทยตี’’ติ สุขมฺปิ เวทนํ เวทยติ. อถวา ‘‘กิฺจเวทยตี’’ติ กถฺจเวทยติ. ‘‘สุขมฺปิ เวทยตี’’ติ สุขํ หุตฺวาปิ เวทยติ. สุข ภาเวน เวทยตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสสปเทสุปิ. ‘‘กิจฺจนฺตรพฺยาวฏา’’ติ อฺกิจฺจพฺยาวฏา. อธิปติ ภาโว อาธิปจฺจํ. อินฺทฺริย กิจฺจํ. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติ ลทฺธคุณวจนํ. ราชารห โภชนํ ¶ ราชคฺคโภชนํ. ‘‘สูทสทิสตา’’ติ รฺโภตฺตการสทิสตา. ตตฺถ สูโท รฺโภตฺตํ ปจนฺโต รสชานนตฺถํ โถกํ คเหตฺวา ชิวฺหคฺเค เปตฺวา รสํ วีมํสติ. ยถิจฺฉิตํ ปน ภฺุชิตุํ อนิสฺสโร. ราชา เอว ยถิจฺฉิตํ ภฺุชิตุํ อิสฺสโร. ราชา วิย เวทนา. สูโท วิย เสสเจตสิก ธมฺมา.
๗๑. สฺาวจนตฺเถ. ‘‘สฺชานาตี’’ติ สุฏฺุ ชานาติ. สุฏฺุชานนฺจ นาม น วิฺาณสฺส วิย วิวิธชานนํ โหติ. น จ ปฺาย วิย ยถาภูตชานนํ โหติ. อถ โข ภูตํ วา โหตุ, อภูตํ วา. ยํ ยํ ฉ หิ วิฺาเณหิ วิชานาติ, ปฺาย วา ปชานาติ. ตสฺส ตสฺส ปจฺฉา อปฺปมุสฺสกรณ เมวาติ วุตฺตํ ‘‘ปุนชานนตฺถํ สฺาณํ กโรตี’’ติ. ตตฺถ ‘‘สฺาณ’’นฺติ นิมิตฺต กรณํ. ภวนฺตรํ ปตฺวาปิ อปฺปมุฏฺภาวํ สาเธติ โอปปาติก ปุคฺคลานนฺติ อธิปฺปาโย. เตหิ ปุริมํ อตฺตโน ภวํ ชานนฺติ. คพฺภเสยฺยกาปิ เกจิ ปุริมํ ภวํ ชานนฺติ, เยชาติสฺสร ปุคฺคลาติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘‘อปฺปมุฏฺภาว’’นฺติ อนฏฺภาวํ. มิจฺฉาภินิเวส สฺา นาม อนิจฺเจ นิจฺจนฺติอาทิปฺปวตฺตา สฺา. ‘‘โพเธตุ’’นฺติ พุชฺฌาเปตุํ. ‘‘ทารุตจฺฉกสทิสาติ จ วุตฺตา’’ติ ทารุตจฺฉโก นาม กฏฺวฑฺฒกี. โส กฏฺกฺขนฺเธสุ นิมิตฺตการีโหติ. สุตจฺฉิตฉินฺทิเตสุ กฏฺเสุ นิมิตฺตานิ กตฺวา เปติ. ปจฺฉาตานิ โอโลเกตฺวา กฏฺานิ กมฺเม อุปเนติ. ‘‘หตฺถิ ทสฺสก อนฺธสทิสา’’ติ เอตฺถ เอโก กิร ราชา เกฬิปฺปสุโต โหติ. โส ชจฺจนฺธานําเน เอกํ หตฺถึ อาเนตฺวาเปนฺโต ชจฺจนฺเธ อาห ชานาถ โภ ตุมฺเห หตฺถินฺติ. เต หตฺถึ ชานิสฺสามาติ ปรามสิตฺวา อตฺตโน ปรามสิตํ ตํ ตํ องฺคมวหตฺถีติ อภินิวิสนฺติ. ทฬฺหํ สลฺลกฺเขนฺติ. ปุน ราชา เต ปุจฺฉิ กีทิโส โภ หตฺถีติ. เต รฺโ หตฺถิสณฺานํ อาจิกฺขนฺตา วิวาทํ อาปชฺชนฺติ. อาจิกฺขนเมว รฺโหตฺถิทสฺสนนฺติ กตฺวา เต หตฺถิทสฺสก อนฺธาติ วุจฺจนฺติ. ‘‘อุปฏฺิตวิสยคฺคหเณ’’ติ รตฺติยํ อนฺธกาเร รชฺชุกฺขณฺฑํ ปสฺสนฺตสฺส สปฺปสณฺานํ อุปฏฺาติ. โส อุปฏฺิตํ สณฺานมตฺตํ สปฺโปติ คณฺหาติ. เอวํ อุปฏฺิตวิสยคฺคหณํ โหติ. มิคโปตกานฺจ อรฺเเขตฺตมชฺเฌปุริสสณฺานํ ติณ รูปํ ปสฺสนฺตานํ ปุริสสณฺา นํ ¶ อุปฏฺาติ. เต อุปฏฺิตํ สณฺานมตฺตํ ปุริโสติ คณฺหิตฺวา โส อมฺเห ปหเรยฺยาติ ปลายนฺติ. วุตฺตา อฏฺสาลินิยํ.
๗๒. เจตนาวจนตฺเถ. เจเตตีติ เจตนา. เจตนฺเจตฺถ อภิสนฺธานํ วา วุจฺจติ ปกปฺปนํ วา อายูหนํ วาติ เอวํ ติธา อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺต ธมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อภิสนฺทหตี’’ติ อภิมุขํ สนฺทหติ, สํโยคํ กโรติ. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ฆเฏตี’’ติ. ‘‘ฆเฏตี’’ติ สมฺพนฺธติ. ‘‘ปกปฺเปติ วาเต’’ติ อถวา เต สมฺปยุตฺต ธมฺเม ปการโต กปฺเปติ, สชฺเชติ. เตนาห ‘‘สํวิทหตี’’ติ. ‘‘สํวิทหตี’’ติ ตฺวํ ผุสนกิจฺจํ กโรหิ, ตฺวํ เวทยิต กิจฺจํ กโรหิ, ตฺวํ สฺชานนกิจฺจํ กโรหีติอาทินา วทมานา วิย สํวิทหติ. ‘‘อายูหติวาเต’’ติ อถวา เตสมฺปยุตฺต ธมฺเม ภุโส พฺยูหยติ, ราสึ กโรติ. เตนาห ‘‘อารมฺมเณ สมฺปิณฺเฑตี’’ติ. ‘‘สโมสรนฺเต’’ติ เอกโต โอสรนฺเต. สงฺคมนฺเต. ‘‘สา’’ติ เจตนา. ‘‘ตายา’’ติ เจตนาย. ‘‘ตสฺมึ’’ติ รูปาทิเกวา อารมฺมเณ. ปฺุาปฺุ กิจฺเจวา. ปวตฺตมานาย สติยา. เชฏฺสิสฺโส นาม พหูสุ สิสฺเสสุ เชฏฺภูโต สิสฺโส. ตสฺมึ สชฺฌายนฺเต เสสา สพฺเพ สชฺฌายนฺติเยว. เตน โส อุภยกิจฺจ สาธโก โหติ. เอวํ มหาวฑฺฒกีปิ.
๗๓. เอกคฺคตาวจนตฺเถ. เอกตฺตารมฺมณํ นาม เอการมฺมณสฺสปิ พหูสุ สภาเวสุ เอกสภาวสงฺขาตํ อารมฺมณํ. ‘‘ตสฺมึ’’ จิตฺตสฺมึ. ‘‘นิวาเต’’ติ วาตรหิเต ปเทเส. ‘‘ทีปจฺจีนํ’’ติ ทีปชาลานํ.
๗๔. ชีวิตินฺทฺริยวจนตฺเถ. ‘‘อิสฺสรภาโว วุจฺจติ’’ ภาวปฺปธาน นเยนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติ ชีวน กิจฺเจ อตฺตโน วสํ วตฺตาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺต สนฺตานํ ชีวนฺตํ หุตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
๗๕. มนสีการวจนตฺเถ. สมาสมชฺเฌ สการาคโม. กรธาตุโยเค อีการาคโม จ ทฏฺพฺโพ. อลุตฺต สตฺตมี ปทนฺถิ เกจิ. เอวํ สติ อีทีฆตฺตํ นสิชฺฌติ. ‘‘อสฺุํ’’ติ อริตฺตํ. ‘‘ปฏิปาเทตี’’ติ ¶ ปฏิปชฺชนํ กิจฺจสาธนํ การาเปติ. อตฺถโต นิโยเชติ นามาติ อาห ‘‘โยเชตี’’ติ. ‘‘อิทเมว ทฺวยํ’’ติ อาวชฺชน ทฺวยํ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ ทฺวยํ. อุปตฺถมฺภิตํ หุตฺวา อารมฺมเณ นินฺนํ กโรตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โยนิโส’’ติ อุปาเยน หิตสุข มคฺเคน. ‘‘อโยนิโส’’ติ อนุปาเยน อหิต อสุข มคฺเคน. ‘‘สมุทาจิณฺณนินฺนนิยามิตาทีหี’’ติ เอตฺถ สมุทาจิณฺณํ นาม อาจิณฺณ กมฺมวเสน สุฏฺุ ปุนปฺปุนํ อาจริตํ. นินฺนํ นาม อิทํ นาม ปสฺสามิ, อิทํ นาม กริสฺสามีติ ปุพฺเพ เอว อชฺฌาสเยน นินฺนํ. นิยามิตํ นาม อิทํ นาม กตฺตพฺพํ, อิทํ นาม น กตฺตพฺพํ, กตฺตพฺพํ กโรมิ, อกตฺตพฺพํ นกโรมีติ เอวํ นิยามิตํ. ‘‘อสติ การณ วิเสเส’’ติ ภวงฺค จิตฺตํ วีถิจิตฺตุปฺปตฺติยา อสติ, วีถิจิตฺตานิ จ กายจิตฺตานํ อกลฺลาทิเกวา อธิมตฺตสฺส อารมฺมณนฺตรสฺส อุปฏฺาเนวา อสติ. ‘‘สาธารณา’’ติ เอตฺถ สํสทฺเท พินฺทุ โลโป, ทีฆตฺตฺจาติ อาห ‘‘สมํ ธาเรนฺตีติ สาธารณา’’ติ.
๗๖. วิตกฺกวจนตฺเถ. ‘‘ตถา ตถา สงฺกปฺเปตฺวา’’ติ กามสงฺกปฺปาทีนํ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีนฺจวเสน เตน เตน ปกาเรน สุฏฺุ จินฺเตตฺวา. ‘‘ตํ’’ติ อารมฺมณํ. ‘‘เต’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺเม. ‘‘อวิตกฺกมฺปิ จิตฺตํ’’ติ ปฺจวิฺาณ จิตฺตฺจ ทุตียา ทิชฺฌาน จิตฺตฺจ. ‘‘อปิจา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ทุตียชฺฌานาทีนิ จา’’ติ ทุตียชฺฌาน จิตฺตาทีนิ จ. ‘‘อุปจาร ภาวนา วเสนา’’ติ สมุทาจิณฺณ วสิภูตาย อุปจาร ภาวนาย วเสน. ‘‘กึ วา เอตายยุตฺติยา’’ติ สวิตกฺก จิตฺตสนฺตาเนติอาทิกาย ยุตฺติยา กึ ปโยชนํ อตฺถีติ อตฺโถ. กิฺจิ ปโยชนํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อารมฺมณํ อาโรหติเยว อารมฺมเณน อวินาภาววุตฺติกตฺตา. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺตํ. นิยามโก นาม นาวํ อิจฺฉิต ทิสาเทสนิโยชโก. ‘‘อกุสลํ ปตฺวา’’ติ วุตฺตํ. กุสลํ ปตฺวา ปน กถํติ. กุสลํ ปตฺวาปิ ปติรูปเทสาวาสาทิวเสน สมุทา จิณฺณ นินฺนาทิวเสน จ ลทฺธ ปจฺจเย สติ จิตฺตมฺปิ สทฺธาสติ อาทโยปิ อารมฺมณ รูหเน ถามคตา เอว. อลทฺธ ปจฺจเย ปน สติ อกุสล ภาเว ตฺวา ถามคตํ โหติ. ‘‘มนสิการ วีริย สตีนํ’’ติ ภาวนา พลปตฺตา นนฺติ อธิปฺปาโย ¶ . เอวํ ปน สติ, วิตกฺกสฺส โอกาโส นตฺถีติ. อตฺถิ. สงฺกปฺปน กิจฺจ วิเสสตฺตา. ตฺหิ กิจฺจํ อฺเสํ อสาธารณํ, วิตกฺกสฺเสว กิจฺจนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิตกฺโกปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘สารมฺมณ สภาวา’’ติ เหตุ วิเสสนเมตํ. ‘‘ตถา วุตฺโต’’ติ วิตกฺโกติ วุตฺโต.
๗๗. วิจารวจนตฺเถ. ‘‘วิจรตี’’ติ เอกเมกสฺมึ เอว อารมฺมเณ วิวิเธน จรติ, ปวตฺตติ. สภาวากาโร นาม นีลปีตาทิโก อคมฺภีโร อารมฺมณ สภาโว จ อารมฺมณสฺส นานา ปวตฺตากาโร จ. ‘‘อนุมชฺชนวเสนา’’ติ ปุนปฺปุนํ มชฺชนวเสน โสธนวเสน. วิตกฺโก โอฬาริโก จ โหตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘โอฬาริโก’’ติ วิจารโต โอฬาริโก. เอวํ เสสปเทสุ. ‘‘ฆณฺฑาภิฆาโต วิยา’’ติ ฆณฺฑาภิฆาเตน ปถมุปฺปนฺนสทฺโท วิยาติ วทนฺติ. ตถาหิ วิจาโร ฆณฺฑสฺส อนุรโว วิย วุตฺโตติ. ทณฺฑเกน ฆณฺฑสฺส อภิฆาต กิริยา วา ฆณฺฑาภิฆาโต. ตถาหิ อารมฺมเณ เจตโส ปถมาภิ นิปาโต วิตกฺโกติ จ, อาหนน ปริยาหนน รโสติ จ วุตฺตํ. ‘‘ฆณฺฑานุรโว วิยา’’ติ ฆณฺฑสฺส อนุรวสทฺโท วิย.
๗๘. อธิโมกฺขวจนตฺเถ. ‘‘สํสปฺปนํ’’ติ อนวตฺถานํ. ‘‘ปกฺขโต มุจฺจนวเสนา’’ติ เอวํ นุ โขติ เอโก ปกฺโข, โนนุ โขติ ทุตีโย ปกฺโข. ตาทิสมฺหา ปกฺขโต มุจฺจนวเสน.
๗๙. วีริยวจนตฺเถ. ‘‘วีรสฺสา’’ติ วิสฺสฏฺสฺส. โส จ กายวจีมโน กมฺเมสุ ปจฺจุ ปฏฺิเตสุ สีตุณฺหาทิ ทุกฺข ภยโต อลีน วุตฺติวเสน ปวตฺโตติ อาห ‘‘กมฺมสูรสฺสา’’ติ. เอเตน อโนตฺตปฺปึ นิวตฺเตติ. อโนตฺตวฺวีหิ ปาปสูโร, อยํ กมฺม สูโรติ. ‘‘มหนฺตํ ปิกมฺม’’นฺติ กุสีตสฺส มหนฺตนฺติ มฺิตํ กมฺมํ. เอวํ เสเสสุ. ‘‘อปฺปกโต คณฺหาตี’’ติ อปฺปกภาเวน คณฺหาติ. อปฺปกเมวิทนฺติ มฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺต กิลมถํ’’ติ กายจิตฺตกฺเขทํ. ‘‘ตํ’’ติ วีริยํ. ‘‘ตถาปวตฺติยา’’ติ กมฺมสูรภาเวน ปวตฺติยา. ‘‘เหตุเจ วา’’ติ เอเตน ภาวสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ. ‘‘กายจิตฺต กิริยาภูตํ’’ติ เอเตน กมฺมสทฺทสฺส อตฺถํ. ‘‘วิธินา’’ติ ¶ ตสฺส ปวตฺติยา ปุพฺพาภิสงฺขาร วิธาเนน. ตเมว วิธานํ กมฺเมสุ เนตพฺพตฺตา นโยติ จ, อุเปตพฺพตฺตา อุปาโยติ จ วุจฺจตีติ อาห ‘‘นเยน อุปาเยนา’’ติ. ตเมว วิธานํ ทสฺเสติ ‘‘วีริยวโต’’ติอาทินา. ‘‘อีรนฺตี’’ติ เอรยนฺติ. ‘‘กิจฺจ สมฺปตฺติยา’’ติ อารมฺมณ วิชานน ผุสนาทิ กิจฺจ สมฺปตฺติ อตฺถาย. พฺยาวฏานิ กายจิตฺตานิ เยสนฺติ วิคฺคโห. ‘‘พฺยาวฏานี’’ติ อุสฺสาหิตานิ. ‘‘ถูณูปตฺถมฺภน สทิสํ’’ติ ชิณฺณสฺส เคหสฺส อปตนตฺถาย สารตฺถมฺเภน อุปตฺถมฺภนสทิสํ. อุปตฺถมฺภกตฺถมฺภสทิสนฺติปิ วทนฺติ. ‘‘สพฺพ สมฺปตฺตีนํ มูลํ’’ติ สพฺพาสํ โลกิย สมฺปตฺตีนํ โลกุตฺตร สมฺปตฺตี นฺจ มูลํ. กสฺมา, ปฺุกมฺม สมฺปตฺติยา จ ปารมิ ปฺุสมฺปตฺติยา จ ปติฏฺานตฺตา. สติหิ ปฺุกมฺมสมฺปตฺติยา สพฺพา โลกิย สมฺปตฺติ สิชฺฌติ. สติ จ ปารมิ ปฺุ สมฺปตฺติยา สพฺพาโลกุตฺตร สมฺปตฺติ สิชฺฌตีติ. เอเตน หีน วีริโย นาม สพฺพ สมฺปตฺติโต ปริพาหิโยติ ทีเปติ.
๘๐. ปีติวจนตฺเถ. ‘‘ปินยตี’’ติ ปิเนติ, ปินํ กโรตีติ อาห ‘‘ตปฺเปตี’’ติ. โตเสตีติ อตฺโถ. ‘‘ตุฏฺึ’’ติ ตุสิตํ, ปหฏฺํ. ‘‘สุหิตํ’’ติ สุธาตํ, สุปุณฺณํ, วทฺธิตํ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ‘‘วฑฺเฒตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปินนฺตี’’ติ ตปฺปนฺติ, โชตนฺติ, วิโรจนฺติ, ทิวา ตปฺปติอาทิจฺโจติอาทีสุ วิย. ขุทฺทิกา ปีติ นาม โลมหํส น มตฺตการิกา ปีติ. ขณิกา ปีติ นาม ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา ปีติ. โอกฺกนฺติกา ปีติ นาม สรีรํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวาภิชฺชนฺตี ปีติ. อุพฺเพคาปีติ นาม กายํ อุทคฺคํ กตฺวา อากาเส อุลฺลงฺฆาเปนฺตี ปีติ. ผรณา ปีติ นาม กปฺปาสวตฺติยํ ผรณกเตลํ วิย สกลกายํ ผรณวเสน ปวตฺตา ปีติ.
๘๑. ฉนฺทวจนตฺเถ. ‘‘อภิสนฺธี’’ติ อภิลาโส, อภิกงฺขนํ. ‘‘กตฺตุสทฺโท’’ติ กรธาตุ วเสน วุตฺตํ. ‘‘สพฺพกิริยา ปทานี’’ติ สพฺพานิ ตุมิจฺฉตฺถ กิริยา ปทานิ. ‘‘อตฺถิโก’’ติ อสิทฺโธ หุตฺวา สาเธตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ อสฺสาติ อตฺถิโก. อิจฺฉนฺโตติปิ วทนฺติ. ‘‘อาราเธตุกามตา วเสนา’’ติ สาเธตุ กามตาวเสน, สมฺปาเทตุ กามตา วเสน. อุสุํ สรํ อ สนฺติ ¶ ขิปนฺตีติ อิสฺสาสา. อิการสฺส อุกาโร. ธนุคฺคหา. ‘‘ยเสน วา’’ติ ปริวาเรน วา, กิตฺติ สทฺเทน วา. ‘‘สเร’’ติ กณฺเฑ. วิภาวนิปาเ นานาวาท โสธนตฺถํ อยฺจาติอาทิวุตฺตํ. ‘‘ยทคฺเคนา’’ติ เยน การณ โกฏฺาเสน. สงฺคหิตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิสฺสชฺชิตพฺพ ยุตฺตเกนา’’ติ วิสฺสชฺชิตพฺพ โยคฺเยน. ‘‘เตน อตฺถิโก เยวา’’ติ ปทุทฺธาโร. ‘‘โส น ยุชฺชตี’’ติ โส อตฺโถ น ยุชฺชติ. ‘‘ขิปิต อุสูนํ’’ติ ปุพฺพภาเค ขิปิต อุสูนํ. ‘‘อตฺถโต ปนา’’ติ อธิปฺปายตฺถโต ปน. ‘‘หตฺถปฺปสารณํ วิยา’’ติ โลเก กิฺจิ อิจฺฉนฺตสฺส ชนสฺส หตฺถปฺปสารณํ วิยาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ถามปตฺโต’’ติ อธิปติ ภาว ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตถาเหสา’’ติอาทึ. ‘‘ตณฺหาย หตฺเถ ิตา’’ติ อุปจาร วจนเมตํ. ตณฺหาย ปริคฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ. นสกฺขิสฺสนฺติเยว, โน นสกฺขิสฺสนฺติ. ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ฉนฺโทเยว ตณฺหาย พลวตโรติ. กสฺมา พลวตโรติ. อาทีนวานิสํส ทสฺสนฺาเณน ยุตฺตตฺตาติ.
๘๒. ‘‘ปกิรนฺตี’’ติ ปตฺถรนฺติ. ‘‘สมานา’’ติ สาวชฺเชหิ ยุตฺตา สาวชฺชา, อนวชฺเชหิ ยุตฺตา อนวชฺชาติ เอวํ สทิสา, สาธารณา.
อฺสมานราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๘๓. อกุสลราสิมฺหิ. ‘‘มุยฺหตี’’ติ าตพฺพสฺสเยฺย ธมฺมสฺส อฺาณ วเสน สมฺมุยฺหติ, จิตฺตสฺส อนฺธภาโว โหติ. จตุรงฺคตโม นาม ‘กาฬปกฺข จาตุทฺทสิ ทิวโส, อฑฺฒรตฺติ สมโย, ติพฺพวนสณฺโฑ, พหลเมฆจฺฉนฺโน,ติ อยํ จตุรงฺคตโม. โส จกฺขุสฺส อนฺธภาวํ กโรติ. เอวํ ตสฺส ตมสฺส จกฺขุสฺส อนฺธภาวกรณํ วิย. าณคติโก โหตีติ ทฏฺพฺโพ อฏฺกถา นเยน. ตเมว อฏฺกถา นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เหสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภิธมฺมฏีกายํ ปน มิจฺฉา าณนฺติ มิจฺฉา วิตกฺโก อธิปฺเปโต. โส หิ มิจฺฉา สงฺกปฺโป หุตฺวา นานปฺปการ จินฺตา ปวตฺติ วเสน าณคติโก โหติ. โมโห ปน จิตฺตสฺส อนฺธี ภูโต ¶ , นานาจินฺตน กิจฺจ รหิโต, กถํ าณคติโก ภเวยฺยาติ ตสฺส อธิปฺปาโย. ‘‘ปาป กิริยาสู’’ติ ทุจฺจริต กมฺเมสุ. ‘‘อุปาย จินฺตาวเสนา’’ติ กตกมฺมสฺส สิทฺธตฺถาย สตฺถาวุธาทิวิธาเนสุ นานาอุปาย จินฺตาวเสน. อปฺปฏิ ปชฺชนํ อปฺปฏิ ปตฺติ. าณ คตึ อคมนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อฺาณเมว วุจฺจตี’’ติ. ‘‘าณคติกา’’ติ าณปฺปวตฺติยา สมานปฺปวตฺติกา. โลโภ าณ คติโก มายาสาเยฺย กมฺเมสุ วิจิตฺตปฺปวตฺติกตฺตา. วิจาโร าณ คติโก. ตถาหิ โส ฌานงฺเคสุ วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโขติ วุตฺโต. จิตฺตสฺส าณ คติ กตา วิจิตฺตตฺถวาจเกน จิตฺตสทฺเทน สิทฺโธ. เต จ ธมฺมา สพฺพ สตฺเตสุ าณ คติกา น โหนฺติ. าณูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา เอว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิมาห. เต สาเธนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปกติยา วิฺุชาติกา นาม ติเหตุกปฺปฏิ สนฺธิกา. อฺปฺปฏิ สนฺธิกาปิ โพธิสตฺต ภูมิยํ ิตา วา ปฺาปสุต ภวโต อาคตา วา. สุตปริยตฺติ สมฺปนฺนา นาม ทฺวิเหตุกปฺปฏิ สนฺธิกาปิ อิมสฺมึ ภเว พหุสฺสุต สมฺปนฺนา จ ปริยตฺติ กมฺม สมฺปนฺนา จ.
๘๔. อหิริกวจนตฺเถ. ‘‘น หิรียตี’’ติ นาม ธาตุ ปทเมตํ. หรายติ ลชฺชตีติ หิรี. หเร ลชฺชายํติ ธาตุ. น หิรี อหิรีติ วจนตฺโถ. ‘‘รุจึ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ คามสู กรสฺส คูถราสิ ทสฺสเน วิย จิตฺตโรจน จิตฺต ขมนํ อุปฺปาเทตฺวา. อตฺตานํ ปาปกมฺม ลิมฺปโต จิตฺตสฺส อลีนตา อชิคุจฺฉนํ นาม. อตฺตานํ อสปฺปุริส ภาวปตฺติโต จิตฺตสฺส อลีนตา อลชฺชา นาม.
๘๕. อโนตฺตปฺปวจนตฺเถ. ‘‘น ภายตี’’ติ ปาปกมฺมํ ภยโต น อุปฏฺาติ. ‘‘น อุตฺรสตี’’ติ ปาปกมฺม เหตุ น กมฺปติ. ‘‘ตาสู’’ติ ปาปกิริยาสุ. ‘‘อสารชฺชมานํ กตฺวา’’ติ สูรํ วิสฺสฏฺํ กตฺวา. อสารชฺชํ นาม สูรภาโว. อนุตฺตาโส นาม ปาปกมฺม เหตุ จิตฺตสฺส อกมฺปนํ. คาถายํ. อชิคุจฺฉนสีโล ปุคฺคโล อเชคุจฺฉี. ‘‘ปาปา’’ติ ปาปกมฺมโต. ‘‘สูกโร’’ติ คามสูกโร. โส คูถโต อเชคุจฺฉี. อหิริโก ปาปโต อเชคุจฺฉีติ โยชนา. อภายนสีโล อภีรู. ‘‘สลโภ’’ติ ปฏงฺโค. ‘‘ปาวกา’’ติ ¶ ทีปชาลมฺหา. สลโภ ปาวกมฺหา อภีรู วิย อโนตฺตวฺวี ปาปโต อภีรูติ โยชนา.
๘๖. อุทฺธจฺจวจนตฺเถ. ‘‘อุทฺธรตี’’ติ อุกฺขิปติ. อารมฺมณสฺมึ น สนฺนิ สีทติ. วิกฺขิปตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วฏฺเฏตฺวา’’ติ อาวฏฺเฏตฺวา. ‘‘วิสฺสฏฺเคณฺฑุโก วิยา’’ติ วิสฺสชฺชิโต สารเคณฺฑุโก วิย. ‘‘ธชปฏากา วิยา’’ติ วาเตริตา ธชปฏากา วิย.
๘๗. โลภวจนตฺเถ. ‘‘ลุพฺภตี’’ติ คิชฺฌติ, อภิกงฺขติ. อภิสชฺชนํ อภิลคฺคนํ. มกฺกฏํ อาลิมฺปติ พนฺธติ เอเตนาติ มกฺกฏา เลโป. ‘‘ตตฺต กปาเล’’ติ อคฺคินาสนฺตตฺเต ฆฏ กปาเล. เตลสฺส วตฺถมฺหิ อฺชนํ อภิลคฺคนํ เตลฺชนํ. รชฺชนํ ปฏิสชฺชนํ ราโค. เตลฺชน ภูโต ราโค เตลฺชน ราโค. น กิเลสราโค. รตฺติ ทิวํ ปวตฺตนฏฺเน ตณฺหา เอว นทีโสตสทิสตฺตา ตณฺหา นที. ‘‘สตฺตานํ’’ติ ปุถุชฺชน สตฺตานํ. ‘‘สุกฺขกฏฺสาขาปลาสติณกสฏานี’’ติ สุกฺข กฏฺกสฏานิ, สุกฺข สาขา กสฏานีติอาทินา โยเชตพฺพํ. กสฏ สทฺเทน อสารภาวํ ทีเปติ. ‘‘นที วิยา’’ติ ปพฺพเตยฺยา นที วิย.
๘๘. ทิฏฺิวจนตฺเถ. ‘‘ทสฺสนํ’’ติ ปริกปฺปนา สิทฺเธสุ มิจฺฉา สภาเวสุ วิปรีต ทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมานํ’’ติ รูปารูป ธมฺมานํ, อนิจฺจตาทิ ธมฺมานฺจ. ‘‘ยาถาว สภาเวสู’’ติ ภูตสภาเวสุ. ภูตสภาโว หิ ยถา ธมฺมํ อวติ รกฺขตีติ อตฺเถน ยาถาโวติ วุจฺจติ. อตฺตานํ ปณฺฑิตํ มฺนฺตีติ ปณฺฑิต มานิโน. ปฏิเวธฺาณํ นาม อริย มคฺคฺาณํ. ปรมํ วชฺชนฺติ ทฏฺพฺพา โลเก มหาสาวชฺชฏฺเน ตํ สทิสสฺส อฺสฺส วชฺชสฺส อภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๘๙. มานวจนตฺเถ. ‘‘มฺตี’’ติ ภูตสภาวํ อติกฺกมฺม อธิกํ กตฺวา อหมสฺมีติอาทินา เตน เตน อภูตากาเรน มฺติ. เตนาห ‘‘อหํ โลเก’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘กฏฺกถิงฺคโร วิยา’’ติ สุกฺขทารุกฺขนฺโธ วิย. โส ปน อุปตฺถมฺภิโต มฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อตฺตานํ อจฺจุคฺคตํ มฺตี’’ติ ปุคฺคลํ มาเนน อภินฺนํ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อุนฺนติ ลกฺขโณ’’ติ อุนฺนมน สภาโว.
๙๐. โทสวจนตฺเถ ¶ . จณฺเฑน กายวจี มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต จณฺฑิโก. จณฺฑิกสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ. ‘‘ปหตาสีวิโส วิยา’’ติ ทณฺเฑน ปหโต อาสีวิโส วิย. ‘‘วิสปฺปนฏฺเนา’’ติ สกลกาเย วิวิเธน สปฺปนฏฺเน, ผรณฏฺเน. อิทฺจ ตํ สมุฏฺาน รูปานํ ผรณ วเสน วุตฺตํ. ‘‘อสนิปาโต วิยา’’ติ สุกฺขา สนิปตนํ วิย. ‘‘ทาวคฺคิวิยา’’ติ อรฺคฺคิ วิย. ‘‘สปตฺโต วิยา’’ติ ทุฏฺเวรี วิย. ‘‘วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิยา’’ติ ยถา มุตฺตํ นาม ปกติยา เอว ทุคฺคนฺธตฺตา ปฏิกุลตฺตา ทูเร ฉฏฺฏนียนฺติ อหิตเมว โหติ. ปุน ปูติภาเว สติ, ทูรตเร ฉฏฺเฏตพฺพํ. วิสสํสฏฺเปน วตฺตพฺพเมวนตฺถิ. สพฺพโส อหิตราสิ โหติ. เอวํ โทโสปิ ตํ สมงฺคีโน ตสฺมึ ขเณ ปเรสํ อมนาปิยตํ อาปาเทติ. อตฺตหิต ปรหิต วินาสฺจ กาเรติ, ปรมฺมรณา อปายฺจ ปาเปตีติ สพฺพโส อหิตราสิ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิสสํสฏฺปูติ มุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ’’ติ.
๙๑. อิสฺสาวจนตฺเถ. ทุวิธา อิสฺสาลทฺธสมฺปตฺติ วิสยา จลภิตพฺพ สมฺปตฺติ วิสยา จ. ตตฺถ ลทฺธ สมฺปตฺติ วิสยํ ตาวทสฺเสติ ‘‘ปเรสํ ปกติยา’’ติอาทินา. ลทฺธ สมฺปตฺติคฺคหเณน อตีต สมฺปตฺติปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. อิสฺสาปกติกาหิ เกจิ อสุโก นาม ปุพฺเพ เอวํ สมฺปตฺติโก อโหสีติ วา, อหํ ปุพฺเพ เอวํ สมฺปตฺติโก อโหสินฺติ วา สุตฺวา นสหนฺติเยว. ตํ วจนํ โสตุํปิ น อิจฺฉนฺตีติ. อสุโกติอาทินา ลภิตพฺพสมฺปตฺติ วิสยํ ทสฺเสติ.
๙๒. มจฺฉริยวจนตฺเถ. ‘‘มม เอวา’’ติ มมปกฺเข เอวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘คุณชาตํ’’วาติ อตฺตนิวิชฺชมานํ สิปฺปวิชฺชาทิ สมฺปตฺติ คุณชาตํ วา. ‘‘วตฺถุ วา’’ติ ธนธฺาทิวตฺถุ วา. ‘‘อวิปฺผาริกตาวเสนา’’ติ อฺเน ตํ สิปฺปวิชฺชาทิกํ วา ธนธฺาทิกํ วา มยฺหํ เทหีติ วุตฺเต ปรหิตตฺถาย ทาตพฺพ ยุตฺตกํ ทสฺสามีติ เอวํ จิตฺเตสติ, ปรหิตปฺผรณาวเสน ตํ จิตฺตํ วิปฺผาริกํ นาม โหติ. เทหีติ วจนมฺปิ โสตุํ อนิจฺฉนฺโต ปรหิตตฺถาย อวิปฺผาริก จิตฺโต นาม โหติ. เอวํ อวิปฺผาริกตาวเสน จรติ ปวตฺตตีติ มจฺฉรฺจ การสฺส ฉ การํ ¶ กตฺวา. ตถา ปวตฺตํ จิตฺตํ. ปุคฺคโล ปน มจฺฉรีติ วุจฺจติ. ‘‘ตํ’’ติ ลทฺธสมฺปตฺตึ. ‘‘ปเรหิ สาธารณํ ทิสฺวา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. สาธารณนฺติ จ ทฺวิสนฺตกํ วาติ สนฺตกํ วา ภวิสฺสมานํ, ปเรหิ วา ปริภฺุชิยมานํ. ‘‘นิคฺคุหนลกฺขณํ’’ติ รกฺขาวรณคุตฺตีหิสงฺโคปน สภาวํ. อตฺตนา ลทฺธ สมฺปตฺติ นาม อิสฺสาย อวิสโย. ลภิตพฺพสมฺปตฺติ ปน อุภย สาธารณํ. ตสฺมา ตตฺถ อุภินฺนํ วิเสโส วตฺตพฺโพติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ยสฺส ลาภํ น อิจฺฉตี’’ติ อตฺตนา ลภตุ วา มาวา, เกวลํ ปร สมฺปตฺตึ อสหนฺโต ยสฺส ปรสฺส ลาภํ น อิจฺฉติ. ‘‘จิตฺต วิฆาโต’’ติ จิตฺต วิหฺนํ. ‘‘อตฺตนา ลทฺธุํ อิจฺฉตี’’ติ ปโร สมฺปชฺชตุ วา มาวา, ยตฺถ ปรลาเภสติ, อตฺตนา น ลภิสฺสติ, ตตฺถ อตฺตนาว ลทฺธุํ อิจฺฉติ. ยตฺถ อตฺตนา จ ลภติ, ปโร จ ลภติ, ตตฺถ วิฆาโต นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อลพฺภมานกํ จินฺเตตฺวา’’ติ อตฺตนา อลภิสฺสมานํ สลฺลกฺเขตฺวา.
๙๓. กุกฺกุจฺจวจนตฺเถ. ‘‘กิริยา กตํ’’ติ กต สทฺทสฺสภาว สาธนมาห. เอวํ วจนตฺถํ ทสฺเสตฺวา อภิเธยฺยตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถโต ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘อนุโสจน วเสนา’’ติ ปจฺฉา ปุนปฺปุนํ จิตฺตสนฺตาปวเสน. โส กุกตนฺติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กุสล ธมฺเมสู’’ติ ปฺุ กิริยวตฺถุ ธมฺเมสุ จิตฺต ปริยาทานาย เอว สํวตฺตติ. กุกฺกุจฺจ สมงฺคี ปุคฺคโล ปฺุกมฺมํ กโรนฺโตปิ จิตฺต สุขํ น ลภติ. พหุชน มชฺเฌ วสิตฺวา นานากิจฺจานิ กโรนฺโต นานา ติรจฺฉาน กถํ กเถนฺโต จิตฺต สุขํ ลภติ. ตทา ตสฺส ปฺุกมฺม กรณตฺถาย จิตฺตํ ปริยาทียติ, ปริกฺขิยฺยติ. จิตฺตวสํ คจฺฉนฺโต วิจรติ. เอวํ จิตฺต ปริยาทานาย เอว สํวตฺตติ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ อฏฺสาลินิยํ. ‘‘กตา กตสฺส สาวชฺชานวชฺชสฺสา’’ติ ปุพฺเพ กตสฺส สาวชฺชกมฺมสฺส, อกตสฺส อนวชฺช กมฺมสฺส. กมฺมตฺเถสามิวจนํ. ‘‘อภิมุขคมนํ’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน จิตฺตสฺส อภิมุขปฺปวตฺตนํ. เอเตน ปฏิมุขํ สรณํ จินฺตนํ ปฏิสาโรติ ทสฺเสติ. ‘‘อกตํ น กโรตี’’ติ อกตํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ น กโรตีติ เอตฺถปิ. ‘‘วิรูโป’’ติ ¶ วีภจฺโฉ อโสภโณ. ‘‘กุจฺฉิโต’’ติ ครหิตพฺโพ. นนุ ปุพฺเพ จิตฺตุปฺปาโท กุจฺฉิโตติ วุตฺโต. อฏฺกถายํ ปน วิปฺปฏิสาโร กุจฺฉิโตติ วุตฺโต. อุภยเมตํ น สเมตีติ. โน น สเมติ, อฺถานุ ปปตฺติโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘เยน จ การเณนา’’ติ กตากตํ ปฏิจฺจ นิรตฺถก จิตฺตปฺปวตฺติ การเณน. โส จิตฺตุปฺปาโทว กุกตปเท คเหตุํ ยุตฺโต, นวิภาวนิยํ วิย กตากต ทุจฺจริต สุจริตนฺติ อธิปฺปาโย. นนุ วิภาวนิยมฺปิ โส จิตฺตุปฺปาโทว อุปจาร นเยน คหิโตติ เจ. ยุตฺติ วเสน จ อฏฺกถาคเมน จ มุขฺยโต สิทฺเธ สติ, กึ อุปจาร นเยน. เตนาห ‘‘วิภาวนิยํ ปนา’’ติอาทึ. กุกตสฺสภาโว กุกฺกุจฺจํ, อการสฺส อุการํ กตฺวาติ อยํ อฏฺกถานโย. อิทานิ สทฺทสตฺถนเยน อปรํ วจนตฺถฺจ อธิปฺปายตฺถฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘ธาตุปาเสู’’ติ อกฺขรธาตุปฺปกาสเนสุ นิรุตฺติ ปาเสุ. ปนฺติเยว, โน น ปนฺติ. เต จ อตฺถา เจตโส วิปฺปฏิสาโร มโน วิเลโขติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตหิ กุกฺกุจฺจปริยาเยหิ สเมนฺติเยว. ตสฺมา อยํ อปโรนโย อิธ อวสฺสํ วตฺตพฺโพ เยวาติ ทีเปติ. วิปฺปฏิ สาริปุคฺคโล จ ตํ ตํ ปฺุกมฺมํ กโรนฺโตปิ วิปฺปฏิ สารคฺคินา ทยฺหมาน จิตฺโต ปฺุกมฺเม จิตฺตปฺปสาทํ นลภติ. จิตฺต สุขํ น วินฺทติ. กึ อิมินา กมฺเมนาติ ตํ ปหาย ยตฺถ จิตฺต สุขํ วินฺทติ, ตตฺถ วิจรติ. เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฺุกมฺมโต สงฺโกจนํ นาม โหตีติ. กิเลสสลฺลิขนํ นาม สนฺตุฏฺิ สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ตทงฺคปฺปหานาทิวเสน ตํ ตํ กิเลสปฺปหานํ วุจฺจติ. ‘‘อนุตฺถุนนากาเรนา’’ติ ปุนปฺปุนํ วิลปนากาเรน. สงฺโกจตีติ วตฺวา ตสฺส อุภยํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุสลกมฺม สมาทาเน’’ติอาทิมาห. นมิตุมฺปิ น เทติ. กุโต สมาทาตุํ วา วฑฺเฒตุํ วา ทสฺสตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตนุกรเณนา’’ติ ทุพฺพลกรเณน. วิเสสนฏฺเกรณ วจนํ. ‘‘โส’’ติ ธมฺมสมูโห. ตํ ปน กุกฺกุจฺจํ. เกจิ ปน กุกฺกุจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺน สุจริต ทุจฺจริตา รมฺมณมฺปิ อนาคต สุจริต ทุจฺจริตา รมฺมณมฺปิ กปฺเปนฺติ. ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห ¶ . มหานิทฺเทสปาเ ทฺวีหากาเรหิ อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฏิสาโร มโนวิเลโขติ ปาโ. ‘‘กตตฺตา จา’’ติ อกตฺตพฺพสฺส กตตฺตา จ. ‘‘อกตตฺตา จา’’ติ กตฺตพฺพสฺส อกตตฺตา จ. เกจิ ปน อยํ วิปฺปฏิสาโร นาม กทาจิ กสฺสจิ เกนจิ การเณน ปุพฺเพกต สุจริตมฺปิ อกต ทุจฺจริตมฺปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ. อุมฺมตฺตกสทิสฺหิ ปุถุชฺชน จิตฺตนฺติ วทนฺติ. ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘เอเตนา’’ติอาทิมาห. โส ปน เกสฺจิ วาเท วิปฺปฏิสาโร นาม โทมนสฺสํ โหติ, น กุกฺกุจฺจนฺติ อธิปฺปาโย. โสจ โข ทฺวิธา ภาโว. อปายภเยน ตชฺชียนฺติ ตาสียนฺตีติ อปายภย ตชฺชิตา. ‘‘น อฺเสํ’’ติ สุจริต ทุจฺจริตํ อชานนฺตานํ อมนสิกโรนฺตานฺจ น โหติ. กถํ วิฺายตีติ เจ. สุจริตทุจฺจริต นาเมน อนุโสจนาการสฺส ทสฺสิตตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘อกตํ เม’’ติอาทิ. ยาถาวมาโน นาม เสยฺยสฺส เสยฺโย หมสฺมีติ สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติอาทินา ปวตฺโต ภูตมาโน. ยฺจกุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อกตฺวา’’ติ ตํ กลฺยาณ กมฺมํ อกตฺวา. ‘‘กตฺวา’’ติ ตํ ปาปกมฺมํ กตฺวา. อิทํ ปน ปุพฺเพกตา กตกาเล เอว อยาถาวํ โหติ. อนุโสจน กาเลปน ยาถาวเมว. ‘‘หตฺถ กุกฺกุจฺจํ’’ติ เอตฺถ สงฺโกจนตฺโถ น ลพฺภติ. กุจฺฉิต กิริยตฺโถ เอว ลพฺภติ. หตฺถโลลตาหิ หตฺถ กุกฺกุจฺจนฺติ วุจฺจติ. ปาทโลลตา จ ปาทกุกฺกุจฺจํ. เตนาห ‘‘อสํยต กุกฺกุจฺจํ นามา’’ติ. ยํ ปน กุกฺกุจฺจํ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ วตฺถุํ. กุกฺกุจฺจํ กโรนฺตีติ กุกฺกุจฺจายนฺตา. นามธาตุ ปทฺเหตํ. กปฺปติ นุ โข, น นุ โข กปฺปตีติ เอวํ วินย สํสยํ อุปฺปาเทนฺตาติ อตฺโถ. ‘‘กุกฺกุจฺจปฺปกตตายา’’ติ กุกฺกุจฺเจน อปกตตาย อภิภูตตาย. ‘‘อตฺตโน อวิสเย’’ติ อาณาจกฺกาเน. อาณาจกฺก สามิโน พุทฺธสฺสวิสยตฺตา อตฺตโน สาวก ภูตสฺส อวิสเยติ อตฺโถ. เย ปน กโรนฺติเยว กุกฺกุจฺจายนฺตา ปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาปตฺตึ’’ติ ทุกฺกฏาปตฺตึ.
๙๔-๙๕. ถินมิทฺธวจนตฺเถสุ. ‘‘จิตฺตํ มนฺทมนฺทํ กตฺวา’’ติ จินฺตน กิจฺเจ อติมนฺทํ ปริทุพฺพลํ กตฺวา. จิตฺตํ คิลานํ มิลาตํ กตฺวาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อชฺโฌตฺถรตี’’ติ อภิภวติ. อารมฺมณ วิชานเน วา ชวนกิจฺเจ วา ปริหีนถามพลํ กโรติ. ‘‘ถิยตี’’ติ ปทํ ปาฬิวเสน สิทฺธนฺติ อาห ‘‘ถินํ ถิยนา’’ติอาทึ. ‘‘อกมฺมฺภูเต กตฺวา’’ติ กายกมฺมาทีสุ อกมฺมกฺขเม ปริทุพฺพเล กตฺวา. [มุคฺคเรน โปเถตฺวา วิยาติ วุตฺตํ โหติ ]. ‘‘เต’’ติ จิตฺต เจตสิเก สมฺปยุตฺต ธมฺเม. ‘‘โอลียาเปตฺวา’’ติ อวลีเน อวสีทนฺเต กตฺวา. เตนาห ‘‘อิริยา ปถํ ปี’’ติอาทึ. ถินํ จิตฺตํ อภิภวติ, วิชานน กิจฺจสฺส เคลฺตฺตา ถินสฺส. มิทฺธํ เจตสิเก อภิภวติ, ผุสนาทิ กิจฺจสฺส เคลฺตฺตา มิทฺธสฺสาติ อธิปฺปาโย.
๙๖. วิจิกิจฺฉาวจนตฺเถ. ‘‘จิกิจฺฉนํ’’ติ โรคาปนย นตฺเถ กิตธาตุวเสน สิทฺธํ สงฺขต กิริยา ปทนฺติ อาห ‘‘าณปฺปฏิกาโรติ อตฺโถ’’ติ. ‘‘ปฏิกาโร’’ติ จ โรคสฺส ปฏิปกฺข กมฺมํ. ‘‘เอตายา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ. วิจินนฺติ ธมฺมํ วิจินนฺตีติ วิจิโน. ธมฺม วีมํสกา. กิจฺฉติ กิลมติ เอตายาติ กิจฺฉา. วิจินํ กิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สภาวํ’’ติอาทิมาห. ‘‘วิจิกิจฺฉตี’’ติ สงฺขตธาตุปทํ. ตฺจ กงฺขายํ วตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิจิกิจฺฉติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวิธา เอฬยติ กมฺปตีติ ทฺเวฬกํ. ตถา ปวตฺตํ จิตฺตํ. ทฺเวฬกสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘พุทฺธาทีสุ อฏฺสู’’ติ พุทฺเธ กงฺขติ, ธมฺเม กงฺขติ, สงฺเฆ กงฺขติ, สิกฺขาย กงฺขติ, ปุพฺพนฺเต กงฺขติ, อปรนฺเต กงฺขติ, ปุพฺพนฺตา ปรนฺเต กงฺขติ, อิทปฺปจฺจยตา ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขตีติ เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ สทฺเธยฺย วตฺถูสุ. ตตฺถ ‘‘พุทฺเธ กงฺขตี’’ติ อิติปิ โส ภควา อรหํติอาทินา วุตฺเตสุ พุทฺธคุเณสุ อสทฺทหนฺโต พุทฺเธ กงฺขติ นาม. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโมติอาทินา วุตฺเตสุ ธมฺม คุเณสุ อสทฺทหนฺโต ธมฺเม กงฺขติ นาม. สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆติอาทินา วุตฺเตสุ สงฺฆคุเณสุ อสทฺทหนฺโต สงฺเฆ กงฺขติ นาม. ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ วฏฺฏ ทุกฺขโต นิยฺยานฏฺเสุ อสทฺทหนฺโต สิกฺขาย กงฺขติ นาม. อตฺตโน อตีต ภวสฺส อตฺถิ นตฺถิภาเว กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺเต กงฺขติ นาม. อตฺตโน ปรมฺมรณา อนาคต ภวสฺส อตฺถิ นตฺถิภาเว กงฺขนฺโต อปรนฺเต กงฺขติ นาม. ตทุภยสฺส อตฺถิ นตฺถิ ภาเว ¶ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตา ปรนฺเต กงฺขติ นาม. อิมสฺมึ ภเว อตฺตโน ขนฺธานํ ปฏิจฺจ สมุปฺปาเท จ ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺนภาเว จ กงฺขนฺโต อิทปฺปจฺจยตา ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ นาม. ‘‘วิมติ วเสนา’’ติ เวมติกภาเวน. ปวตฺตมานา วิจิกิจฺฉา. วิจิกิจฺฉา ปฏิรูปกา นาม สพฺพ ธมฺเมสุ อปฺปฏิหตพุทฺธีนํ สพฺพฺุ พุทฺธานํ เอว นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อสพฺพฺูนํ’’ติอาทิ.
อกุสลราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๙๗. สทฺธาวจนตฺเถ. ‘‘สนฺนิสินฺนํ’’ติ อจลิตํ. ‘‘สุฏฺู’’ติ อนสฺสนฺตํ อจลนฺตฺจ กตฺวา. ‘‘ธาเรตี’’ติ เอวเมว โหตีติ สลฺลกฺขณวเสน ธาเรติ. ตถา เปตีติ. สทฺทหนฺติ วา สทฺธา สมฺปนฺนา สตฺตา. สทฺธาตุํ อรหนฺตีติ สทฺเธยฺยานิ. อกาลุสฺสํ วุจฺจติ อนาวิลํ จิตฺตํ. อกาลุสฺสํ เอว อกาลุสฺสิยํ. ตสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘โอกปฺปนา’’ติ อโหสาธุ อโหสุฏฺูติ อธิมุจฺจนวเสน จินฺตนา. ‘‘มิจฺฉาธิโมกฺโข เยวา’’ติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺโต อธิโมกฺโขเยว. ‘‘วิตฺเต อสตี’’ติ ธเน อสติ. ธนฺหิ วิตฺตนฺติ วุจฺจติ. ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ วินฺทนฺติ เอเตนาติ กตฺวา. ‘‘เตสํ’’ติ มนุสฺสานํ.
๙๘. สติวจนตฺเถ. ‘‘สรตี’’ติ อนุสฺสรติ. ‘‘กตานี’’ติ ปุพฺเพกตานิ. ‘‘กตฺตพฺพานี’’ติ อิทานิ วา ปจฺฉา วา กตฺตพฺพานิ. กลฺยาณ กมฺมํ นามปกติยา จิตฺตสฺส รติฏฺานํ น โหติ. ปาป กมฺมเมว จิตฺตสฺส รติฏฺานํ โหติ. ตสฺมา กลฺยาณ กมฺเม เอว อปฺปมชฺชิตุํ วิสุํ สตินาม อิจฺฉิตพฺพา. ปาปกมฺเม ปน วิสุํ สติยา กิจฺจํ นตฺถิ. สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อปมตฺต รูปา โหนฺติ. เตนาห ‘‘อิตราปนา’’ติอาทึ. ‘‘สติเยว น โหตี’’ติ วิสุํ สติ นามโก เอโก เจตสิโกเยว น โหติ. กตมา ปน สา โหตีติ อาห ‘‘กตสฺสา’’ติอาทึ. ตตฺถ กตสฺส อปฺปมชฺชนํ นาม เกสฺจิ อนุโมทนวเสน เกสฺจิ อนุโสจนวเสน อปฺปมชฺชนํ. กตฺตพฺพสฺส อปฺปมชฺชนํ นาม นิจฺจกาลมฺปิ กาตุํ อภิมุขตา. ‘‘กตสฺสา’’ติ ¶ วา ภุมฺมตฺเถ สามิวจนํ. ตถา เสเสสุ ทฺวีสุ ปเทสุ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. ‘‘นิยุตฺโต’’ติ อปฺปมตฺโต หุตฺวา พฺยาวฏกาย จิตฺโต. สพฺเพสุ าเนสุ อิจฺฉิตพฺพาติ สพฺพตฺถิกา. สา หิ ฉสุ ทฺวาเรสุ จิตฺตสฺส อารกฺข กิจฺจา โหติ อินฺทฺริย สํวรณ ธมฺมตฺตา. ตสฺมา ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ โลภมูลจิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนตฺถาย สา อิจฺฉิตพฺพา, อนิฏฺา รมฺมเณ โทสมูล จิตฺตสฺส, มชฺฌตฺตารมฺมเณ โมหมูล จิตฺตสฺสาติ. อปิ จ, โพชฺฌงฺค ภาวนา าเนสุ อิทํ สุตฺต ปทํ วุตฺตํ. ตสฺมา ภาวนา จิตฺตสฺส ลีนฏฺาเนปิ สา อิจฺฉิตพฺพา ลีนปกฺขโต จิตฺตสฺส นีวารณตฺถายาติอาทินา โยเชตพฺพา.
๙๙-๑๐๐. หิริโอตฺตปฺปวจนตฺเถสุ. ‘‘กายทุจฺจริตาทีหิ ลชฺชตี’’ติ ตานิกาตุํ ลชฺชติ. ตานิ หีนกมฺมานิ ลามกกมฺมานีติ หีเฬตฺวา ตโต อตฺตานํ รกฺขิตุํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘ชิคุจฺฉตี’’ติ. ‘‘อุกฺกณฺตี’’ติ วิรุชฺฌติ, วิโยคํ อิจฺฉติ. ‘‘เตหิ เยวา’’ติ กาย ทุจฺจริตาทีหิเยว. ‘‘อุพฺพิชฺชตี’’ติ อุตฺตสติ, ภยโต อุปฏฺาติ. คาถาสุ. ‘‘อลชฺชิเยสู’’ติ อลชฺชิตพฺเพสุ กลฺยาณ กมฺเมสุ. ‘‘ลชฺชเร’’ติ ลชฺชนฺติ. ‘‘อภเย’’ติ อภายิตพฺเพ กลฺยาณกมฺเม. ยสฺมา ปน สปฺปุริสา อตฺตานํ ปริหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘หิริยา อตฺตนิ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ อตฺตโน ชาติคุณาทิกํ วา สีล คุณาทิกํ วา ครุํ กตฺวา มาทิสสฺส เอว รูปํ ปาปกมฺมํ อยุตฺตํ กาตุํ. ยทิ กเรยฺยํ, ปจฺฉา อตฺตานํ อสุทฺธํ ตฺวา ทุกฺขีทุมฺมโน ภเวยฺยนฺติ เอวํ หิริยา อตฺตนิ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา. ‘‘โอตฺตปฺเปน ปเรสุ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ ปรานุวาทภยํ ภายิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ปรานุวาทภยํ นาม ปเรสํ สาธุ ชนานํ ครหา ภยํ. อฺมฺปิ อปายภยํ สํสาร วฏฺฏภยฺจ เอตฺถ สงฺคยฺหติเยว. โลกํปาเลนฺตีติ โลกปาลา. ‘‘โลกํ’’ติ สตฺตโลกํ. ‘‘ปาเลนฺตี’’ติ อปาย ภยโต รกฺขนฺติ.
๑๐๑. อโลภวจนตฺเถ. อกาโร วิรุทฺธตฺโถติอาห ‘‘โลภปฺปฏิปกฺโข’’ติ. โลภสฺส ปฏิวิรุทฺโธติ อตฺโถ. ปฏิวิรุทฺธตา จ ปหายก ปหาตพฺพ ภาเวน เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสหี’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ โส เนกฺขมฺมธาตุวเสน หุตฺวา ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘หิต สฺิเตสู’’ติ อิทํ เม อตฺถาย หิตาย สุขายาติ เอวํ สฺิเตสุ. ‘‘ลคฺคนวเสนา’’ติ อมฺุจิตุกามตาวเสน. เตสฺเวว ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภวโภค สมฺปตฺติโย คูถราสึ วิย หีเฬตฺวา’’ติ อิทํ โพธิสตฺตานํ วเสน นิทสฺสน วจนํ. ตตฺถ ‘‘หีเฬตฺวา’’ติ ครหิตฺวา. นิกฺขมนฺติ เอเตนาติ เนกฺขมฺโม. โส เอว ธาตูติ เนกฺขมฺมธาตุ.
๑๐๒. อยํ นโย โทสปฺปฏิปกฺโข, โมหปฺปฏิปกฺโขติอาทีสุปิ เนตพฺโพ.
๑๐๓. ตตฺร มชฺฌตฺตตายํ. ‘‘ลีนุทฺธจฺจานํ’’ติ จิตฺตสฺส ลีนตา เอโก วิสมปกฺโข. อุทฺธฏตา ทุตีโย วิสมปกฺโข. ลีนํ จิตฺตํ โกสชฺเช วิสมปกฺเข ปตติ. อุทฺธฏํ จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ วิสมปกฺเข ปตติ. ตทุภยมฺปิ อกุสล ปกฺขิกํ โหติ. ตถา จิตฺตสฺส อติ ลูขตา เอโก วิสม ปกฺโข. อติปหฏฺตา เอโกติอาทินา สพฺพํ โพชฺฌงฺควิธานํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตตฺร มชฺฌตฺตตา ปน สมฺปยุตฺต ธมฺเม อุโภสุ อนฺเตสุ ปาเตตุํ อทตฺวา สยํ มชฺฌิมปฺปฏิปทายํ ทฬฺหํ ติฏฺติ.
๑๐๔. ปสฺสทฺธาทีสุ. ‘‘ตตฺถ ตํ วีนฺทนฺตี’’ติ เตสุ ปฺุ กมฺเมสุ ตํ จิตฺต สุขํ ปฏิลภนฺติ.
๑๐๕. ลหุตา ทฺวเย. ‘‘ตตฺตปาสาเณ’’ติ สนฺตตฺเต ปาสาณปิฏฺเ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปฺุกมฺเมสุ.
๑๐๖-๑๑๐. มุทุตา ทฺวยาทีสุ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.
๑๑๑. วิรติตฺตเย. ‘‘กถา, เจตนา, วิรติ, วเสนา’’ติ ‘กถาสมฺมาวาจา, เจตนา สมฺมาวาจา, วิรติ สมฺมาวาจา, วเสน. ตํ กถาวาจํ สมุฏฺาเปตีติ ตํ สมุฏฺาปิกา. ยา ปน ปาป วิรมณากาเรน จิตฺตสฺส ปวตฺตีติ โยชนา. ‘‘สมาทิยนฺตสฺส วา’’ติ มุสาวาทา วิรมามีติอาทินา วจีเภทํ กตฺวา สมาทิยนฺตสฺส วา. ‘‘อธิฏฺหนฺตสฺส วา’’ติ วจีเภทํ อกตฺวา จิตฺเตเนว ตถา อธิฏฺหนฺตสฺส วา. อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สมาทาน วิรติปฺปวตฺตึ วทติ ¶ . ‘‘อวีติกฺกมนฺตสฺส วา’’ติ เอเตน สมฺปตฺต วิรติปฺปวตฺตึ วทติ. ‘‘เอตายา’’ติ สมฺมาวาจา วิรติยา. สา ปน กตฺตุนา จ กฺริยาย จ สหภาวินี หุตฺวา สมาทาน กฺริยํ สุฏฺุตรํ สาเธติ. ตสฺมา สา กรณ สาธนํ นาม โหติ. เตนาห ‘‘กรณตฺเถวากรณ วจน’’นฺติ. พหูสุชวนวาเรสุ ปวตฺตมาเนสุ ปุริม ปุริม ชวนวารปริยาปนฺนา สมฺมาวาจา ปจฺฉิม ปจฺฉิม ชวนวารสมุฏฺิตาย สมาทาน กฺริยาย ปจฺจโย โหติ. สา ปน ตาย กฺริยาย อสหภาวิตฺตา กรณลกฺขณํ น สมฺปชฺชติ. เหตุ ลกฺขเณ ติฏฺติ. เตนาห ‘‘เหตุ อตฺเถวา กรณวจน’’นฺติ. อิทฺจ อตฺถโต ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. สมฺมาวาจาติ ปทํ ปน กิตสาธน ปทตฺตากรณตฺเถ เอวสิทฺธํ. น หิ อการก ภูโต เหตุ อตฺโถ สาธนํ นาม สมฺภวติ. ‘‘สมาทาน วจนานี’’ติ สมฺมาวาจา สมุฏฺิตานิ สมาทาน วจนานิ. ‘‘ตโต’’ติ ตโตปรํ. ‘‘เตสํ’’ติ เต สํวทมานานํ. อิทฺจ สพฺพํ สมฺมาวาจาติ วจเน วจีเภทวาจํ ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ. สมฺปตฺตวิรติ สมุจฺเฉท วิรติภูตาย ปน สมฺมาวาจาย วจีเภเทน กิจฺจํ นตฺถิ. วิรติ กิจฺจ เมวปธานนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปวตฺตมานา’’ติ ปวตฺตมานตฺตา. วิเสสน เหตุ ปทเมตํ.
๑๑๒-๑๑๓. สมฺมากมฺมนฺเตปิ สมฺมาอาชีเวปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๑๔. ‘‘สมฺปตฺตํ วตฺถุํ’’ติ ปาณาติ ปาตาทิกมฺมสฺส วตฺถุํ. สาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาเยว. กสฺมา, อตฺตโน ปจฺจกฺเข สมฺปตฺต วเสนวตฺถุสฺสธรมานตฺตา. ‘‘สมาทิยนฺตสฺส วา อุปฺปนฺนา’’ติ ปาณาติ ปาตาปฏิวิรมาธีติอาทินา สมาทิยนฺตสฺสยา สมาทานกฺขเณ อุปฺปนฺนา วิรติ. ‘‘สา ปน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหตี’’ติ เอตฺถ กถํ ปจฺจุปฺปนฺนา รมฺมณา โหตีติ. ปาณาติ ปาตาปฏิวิรมาธีติ วทนฺตสฺส จิตฺตํ อนุกฺกเมน ปาณสทฺทาทีนํ อตฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ. ตตฺถ ‘‘ปาโณ’’ติ โวหารโต สตฺโต. ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. โส จ สตฺโต ตฺจชีวิตินฺทฺริยํ โลเก สพฺพกาลมฺปิ สํวิชฺชติเยว. เอวรูปํ ชีวิตินฺทฺริย สามฺํ สนฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติ วุตฺตํ. อทินฺนาทานา ปฏิวิรมาธีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อนาคตา รมฺมณาวา’’ติ ¶ เอตฺถ เอกทิวสํ นิยเมตฺวา สมาทิยนฺตสฺส ตสฺมึ ทิวเส ธรมาน สตฺตาปิ อตฺถิ. อุปฺปชฺชิสฺสมานสตฺตาปิ อตฺถิ. ตทุภยมฺปิ ปาณวจเน สงฺคหิตเมว. ปาณุเปตํ กตฺวา สมาทิยนฺตสฺส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อปิ จ อนาคตกาลิกมฺปิ สมาทานํ อตฺถิเยว. อหํ อสุกทิวสโต ปฏฺาย ยาวชีวมฺปิ ปาณาติปาตา วิรมาธีติอาทิ. เอวํ สมาทาน วิรติ อนาคตา รมฺมณาปิ โหตีติ. ‘‘ปจฺจยสมุจฺเฉทวเสนา’’ติ ตํ ตํ กิเลสานุสย สงฺขาตสฺส ปจฺจยสฺส สมุจฺเฉทวเสน. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๑๕-๑๑๖. อปฺปมฺาทฺวเย. อปิจาติอาทีสุ. ‘‘กลิสมฺภเวภเว’’ติ ทุกฺขุปฺปตฺติปจฺจยภูเต สํสารภเว. ‘‘ปาเปกลิ ปราชเย’’ติ กลิสทฺโท ปาเป จ ปราชเย จ วตฺตตีติ อตฺโถ. สตฺเตหิ กลึ อวนฺติ รกฺขนฺติ เอตายาติ กรุณา. สตฺเตหีติ จ รกฺขณตฺถโยเค อิจฺฉิตสฺมึ อตฺเถ อปาทาน วจนํ. ยถา-กาเก รกฺขนฺติ ตณฺฑุลา-ติ. สตฺเตวา กลิโต อวนฺติ รกฺขนฺติ เอตายาติ กรุณา. กลิโตติ จ รกฺขณตฺถ โยเค อนิจฺฉิตสฺมิมฺปิ อปาทานวจนํ. ยถา-ปาปาจิตฺตํ นิวารเยติ. เอกสฺมึ สตฺเต ปวตฺตาปิ อปฺปมฺา เอว นาม โหนฺติ. ยถา ตํ สพฺพฺุตฺาณํ เอกสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺตมฺปิ สพฺพฺุตฺาณเมว โหตีติ.
๑๑๗. ปฺินฺทฺริเย วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
โสภณราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๑๘. เอตํ ปริมาณํ อสฺสาติ เอตฺตาวํ. ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ เอตฺตาวนฺเตน-ผสฺโส, เวทนา, สฺา,ติอาทิวจนกฺกเมน. ‘‘จิตฺตุปฺปาเทสู’’ติ เอตฺถ-กตเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา. จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺต จิตฺตุปฺปาทา-ติอาทีสุ จิตฺตเจตสิก สมูโห จิตฺตุปฺปาโทติ วุจฺจติ. อิธ ปน จิตฺตานิ เอว จิตฺตุปฺปาทาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘จิตฺตุปฺปาเทสูติ จิตฺเตสุ อิจฺเจว อตฺโถ’’ติ. ‘‘สพฺพทุพฺพลตฺตา’’ติ สพฺพจิตฺเตหิ ทุพฺพลตรตฺตา. ‘‘ภาวนา พเลนา’’ติ วิตกฺก วิราคสตฺติ ¶ ยุตฺเตน อุปจาร ภาวนา พเลน, วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนา ภาวนา พเลน จ. ‘‘พลนายกตฺตา’’ติ พล ธมฺมานํ นายกตฺตา, เชฏฺกตฺตา.
๑๑๙. อกุสล เจตสิเกสุ. ‘‘ปจฺฉิมํ’’ติ สพฺเพสุปิ ทฺวาทสา กุสล จิตฺเตสูติ วจนํ. ‘‘ปุริมสฺสา’’ติ สพฺพา กุสล สาธารณา นามาติ วจนสฺส. ‘‘สมตฺตน วจนํ’’ติ-กสฺมา สพฺพากุสล สาธารณา นามาติ. ยสฺมา สพฺเพสุปิ. ล. จิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา สพฺพา กุสล สาธารณา นามา-ติ เอวํ สาธน วจนํ. ยสฺมา ปน อิเมหิ จตูหิ วินานุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เต สพฺเพสุ เตสุ ลพฺภนฺตีติ โยชนา. กสฺมา วินา นุปฺปชฺชนฺตีติ อาห ‘‘น หิตานี’’ติอาทึ. ‘‘เตหี’’ติ ปาเปหิ. สพฺพ ปาป ธมฺมโตติ อตฺโถ. ‘‘ตถา ตถา อามสิตฺวา’’ติ ทิฏฺิ ขนฺเธสุ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโตติอาทินา อามสติ. มาโน อหนฺติ วา เสยฺโย สทิโสติอาทินา วา อามสติ. เอวํ ตถา ตถา อามสิตฺวา. ‘‘เตสู’’ติ ทิฏฺิมาเนสุ. นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ทิฏฺิ ปรามสนฺตี ปวตฺตตีติ โยชนา. ‘‘ตํ คหิตาการ’’นฺติ ตํ อหนฺติ คหิตํ นิมิตฺตาการํ. สกฺกาย ทิฏฺิ เอว คติ เยสํ เต ทิฏฺิ คติกา. อวิกฺขมฺภิต สกฺกาย ทิฏฺิกา. ‘‘อหนฺติ คณฺหนฺตี’’ติ มาเนน คณฺหนฺติ. ‘‘น หิ มานสฺส วิยา’’ติ ยถา มานสฺส อตฺตสมฺปคฺคหเณ พฺยาปาโร อตฺถิ, น ตถา ทิฏฺิยา อตฺตสมฺปคฺคหเณ พฺยาปาโร อตฺถีติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺตสมฺปคฺคหณํ นาม ปเรหิ สทฺธึ อตฺตานํ เสยฺยาทิวเสน สุฏฺุปคฺคหณํ. ‘‘น จ ทิฏฺิยา วิยา’’ติ ยถา ทิฏฺิยา ธมฺมานํ อยาถาวปกฺขปริกปฺปเน พฺยาปาโร อตฺถีติ โยชนา. ตตฺถ อยาถาวปกฺโข นาม อตฺตา สสฺสโต อุจฺฉินฺโนติอาทิ. มจฺฉริยํ อตฺตสมฺปตฺตีสุ ลคฺคนโลภสมุฏฺิตตฺตา โลภสมฺปยุตฺตเมว สิยาติ โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘มจฺฉริยํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ตาสํ’’ติ อตฺตสมฺปตฺตีนํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๒๐. โสภณเจตสิเกสุ. ‘‘ตีสุ ขนฺเธสุ’’ติ สีลกฺขนฺธ สมาธิกฺขนฺธ ปฺากฺขนฺเธสุ จ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิ ปจฺฉิมโก’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺฉโต อนุพนฺธโกติ อตฺโถ. สมฺมาทิฏฺิยา ปริวา รมตฺโตติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺมึ อสติ ปี’’ติ ทุตียชฺฌานิก มคฺคาทีสุ ตสฺมึ สมฺมาสงฺกปฺเป อสนฺเตปิ. ‘‘สีลสมาธิกฺขนฺธ ธมฺเมสุ ปนา’’ติ ‘สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว,ติ อิเม ตโย ธมฺมา สีลกฺขนฺธ ธมฺมา นาม. สมฺมา วายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธี,ติ อิเม ตโย ธมฺมา สมาธิกฺขนฺธา นาม. อิเมสุ สีลกฺขนฺธ สมาธิกฺขนฺเธสุ. ‘‘เอโก เอกสฺส กิจฺจํ น สาเธตี’’ติ เตสุ สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตสฺส กิจฺจํ น สาเธติ. สมฺมา อาชีวสฺส กิจฺจํ น สาเธติ. สมฺมากมฺมนฺโต จ สมฺมาวาจาย กิจฺจํ น สาเธตีติอาทินา สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิตา วเสนา’’ติ สีลปฺปฏิปกฺข ธมฺมานํ สมุจฺฉินฺทการิตา วเสนาติ อธิปฺปาโย. มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ. น อิตรานิ ปิสุณวาจาทีนีติ โยชนา. เอตฺถ สิยา. มุสาวาทวิรติ นาม กุสล ธมฺโม โหติ. กุสล ธมฺโม จ นาม สพฺพสฺส อกุสล ธมฺมสฺส ปฏิปกฺโข. เอกสฺมิมฺปิ กุสล ธมฺเม อุปฺปชฺชมาเน ตสฺมึ สนฺตาเน สพฺพานิ อกุสลานิ ปชหิตุํ สกฺโกนฺตีติ วตฺตพฺพานิ. อถ จ ปน มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ, น อิตรานีติ วุตฺตํ. กถมิทํ ทฏฺพฺพนฺติ. วุจฺจเต. ปชหิตุํ สกฺโกตีติ อิทํ ปฺจสุ ปหาเนสุ ตทงฺคปฺปหาน วจนํ. ตทงฺคปฺปหานนฺติ จ เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อิธ สปฺปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรมามีติอาทินา วิสุํ วิสุํ สิกฺขาปทานิ สมาทิยิตฺวา ปาณาติ ปาตวิรติ สงฺขาเตน กุสลงฺเคน ปาณาติปาต สงฺขาตํ อกุสลงฺคํ ปชหติ. อทินฺนาทาน วิรติ สงฺขาเตน กุสลงฺเคน อทินฺนาทาน สงฺขาตํ อกุสลงฺคํ ปชหตีติอาทินา วิตฺถาเรตพฺพํ. เอกสฺมิมฺปิ กุสล ธมฺเม อุปฺปชฺชมาเน ตสฺมึ สนฺตาเน สพฺพานิ อกุสลานิ น อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถ ปน อโนกาสตฺตา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ, น ปหานตฺตา. น หิ ตสฺมึ สนฺตาเน ตสฺมึ ขเณ ตานิ อกุสลานิ เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. อถโข สพฺพานิ อฺานิ กุสล จิตฺตานิ จ น อุปฺปชฺชนฺติ. สพฺพานิ อพฺยากต จิตฺตานิ จ น อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ อโนกา สตฺตา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. น ปหานตฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตทงฺคปฺปหานาทิ วเสน ปน ปหานํ สนฺธาย อิธ ¶ ปชหิตุํ สกฺโกติ-น สกฺโกตีติ วุตฺตํ. เอตฺตาวตา ตทงฺคปฺปหานํ นาม สุปากฏํ โหติ. มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ. น อิตรานีติ อิทฺจ สุฏฺุ อุปปนฺนํ โหตีติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ กายงฺคโจปนตฺถาย วาจงฺคโจปนตฺถาย จ ปวตฺตานิ กายวจีโจ ปน ภาคิยานิ นาม. กามาวจร กุสเลสฺเวว วิรติโย สนฺทิสฺสนฺติ. ‘‘กามาวจร กุสเลสุ ปี’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. กามภูมิยํ อุปฺปนฺเนสุ เอว กามาวจร กุสเลสุ สนฺทิสฺสนฺติ. ติวิธ กุหนวตฺถูนิ จ วิรมิตพฺพวตฺถุฏฺาเนิตานิ. เอตฺถ จ กุหนํ นาม วิมฺหาปนํ ลาภสกฺการ สิโลกตฺถาย มนุสฺสานํ นานามายาสาเยฺย กมฺมานิ กตฺวา อจฺฉริยพฺภุต ภาวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปน ติวิธํ ‘ปจฺจยปฺปฏิเสวนกุหนฺจ, สามนฺตชปฺปน กุหนฺจ, อิริยา ปถสณฺา ปน กุหนฺจ. ตตฺถ มหิจฺโฉเยว สมาโน อปฺปิจฺฉาการํ ทสฺเสตฺวา อาทิโต อาคตา คเต จตุปจฺจเย ปฏิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา พหุํ พหุํ อาคเต ปจฺจเย ปฏิคฺคณฺหาติ. อิทํ ปจฺจยปฺปฏิเสวน กุหนํ นาม. ปาปิจฺโฉเยว สมาโน อยํ ฌานลาภีติ วา อภิฺาลาภีติ วา อรหาติ วา ชโน มํ สมฺภาเวตูติ สมฺภาวนํ อิจฺฉนฺโต อตฺตานํ อุตฺตริ มนุสฺส ธมฺมานํ สนฺติเก เต วา อตฺตโน สนฺติเก กตฺวา วฺเจติ. อิทํ สามนฺตชปฺปน กุหนํ นาม. ปาปิจฺโฉเยว สมาโน อยํ สนฺตวุตฺติ สมาหิโต อารทฺธวีริโยติ ชโน มํ สมฺภาเวตูติ สมฺภาวนํ อิจฺฉนฺโต อิริยา ปถ นิสฺสิตํ นานาวฺจนํ กโรติ. อิทํ อิริยา ปถ สณฺาปน กุหนํ นาม. ‘‘สิกฺขาปทสฺส วตฺถูนี’’ติ สุรา ปาน วิกาล โภชน นจฺจคีตวาทิต ทสฺสน สวนาทีนิ. สุราเมรยปานา วิรมาธีติ สมาทิยนฺตสฺส สุราเมรยปาน เจตนา วิรมิตพฺพ วตฺถุ นาม. วิกาล โภชนา วิรมามีติ สมาทิยนฺตสฺส วิกาเล ยาวกาลิก วตฺถุสฺส ปริภฺุชน เจตนา วิรมิตพฺพ วตฺถุ นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. โลกุตฺตร จิตฺเตสุ. ‘สพฺพถาปี,ติ จ ‘นิยตา’ติ จ ‘เอกโต วา’ติ จ ตีณิ วิเสสนานิ. โลกิเยสุ ปน ‘กทาจี’ติ จ ‘วิสุํ วิสุํ’ติ จ ทฺเว ทฺเว วิเสสนานิ. ตตฺถ โลกุตฺตเรสุ ‘สพฺพถาปี’ติ อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหาน ทสฺสนํ ¶ โลกิเยสุปิ ตพฺพิปรีตํ ตทงฺคปฺปหาน ทสฺสนํ อธิปฺเปตนฺติ กตฺวา ‘‘เอเกก ทุจฺจริตปฺปหานวเสเน วา’’ติ วุตฺตํ.
๑๒๑. อปฺปมฺาสุ. ‘‘วิภงฺเค’’ติ อปฺปมฺา วิภงฺเค. ‘‘การฺุปฺปกติกสฺสา’’ติ การฺุสภาวสฺส. ‘‘อนิสฺสุกิโน’’ติ อิสฺสาธมฺมรหิตสฺส. ถามคตา กรุณา โทส สมุฏฺิตํ วิหึสํ ปชหติ. ถามคตา มุทิตา โทสสมุฏฺิตํ อรตึ ปชหตีติ วุตฺตํ ‘‘วิหึสา อรตีนํ นิสฺสรณ ภูตา’’ติ. เอตฺถ จ อรติ นาม สฺุาคาเรสุ จ ภาวนา กมฺเมสุ จ นิพฺพิทา. โทส นิสฺสรเณ สติ โทมนสฺสนิสฺสรณมฺปิ สิทฺธเมว. นิสฺสรณฺจ นาม ปฏิปกฺข ธมฺม สณฺาเนน โหติ. ตสฺมา ปุพฺพภาเคปิ อปฺปมฺาสุ นิจฺจํ โสมนสฺส สณฺานํ เวทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘โทมนสฺสปฺปฏิปกฺขฺจา’’ติอาทิมาห. ‘‘อฏฺกถายปิ สห วิรุทฺโธ’’ติ อฏฺสาลินิยํ อุเปกฺขา สหคต กามาวจร กุสล จิตฺเตสุ กรุณา มุทิตา ปริกมฺมกาเลปิ หิ อิเมสํ อุปฺปตฺติ มหาอฏฺกถายํ อนฺุาตา เอวา-ติ วุตฺตํ. ตาย อฏฺกถายปิ สห วิรุทฺโธ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปฏิกูลา รมฺมเณสุ ปน…เป… วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ ปฏิกูลา รมฺมณานิ นาม โสมนสฺเสน ทูเร โหนฺติ, ตถา ทุกฺขิต สตฺตา จ, ตสฺมา ตทา รมฺมณานิ อสุภ ภาวนา จิตฺตานิ จ กรุณา ภาวนา จิตฺตานิ จ อาทิโต อุเปกฺขา สหคตา เนวาติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ‘‘สาหิเวทนุเปกฺขา นามา’’ติ กามาวจร เวทนุเปกฺขา วุตฺตา. วิภาวนิปาเ, ‘‘อฺวิหิตสฺส ปี’’ติ อฺํ อารมฺมณํ มนสิกโรนฺตสฺสปิ. สชฺฌายนํ สมฺปชฺชติ, สมฺมสนํ สมฺปชฺชตีติ ปาเสโส. อิติ ตสฺมา. เอตฺถ สิยา ‘‘ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น นุ ตมฺปิ อุเปกฺขา สหคต จิตฺเตสุ กรุณา มุทิตานํ สมฺภวํ สาเธติ เยวาติ. สจฺจํ สาเธติเยว. เตน ปน ปริจย วเสน เตสุ ตาสํ สมฺภวํ ทีเปติ. อิธ ปน ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา ‘‘ปฏิกูลา รมฺมเณสู’’ติอาทินา จ ปริจเยน วินา ปกติยา ตาสํ อุเปกฺขา เวทนาย เอว สห ปวตฺติ พหุลตา วุตฺตาติ. ‘‘โยคกมฺม พเลนา’’ติ ยฺุชน วีริย กมฺม พเลน.
๑๒๒. เจโต ¶ ยุตฺตานํ จิตฺต เจตสิกานํ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. เหฏฺา จ วุตฺโต ‘กทาจิ สนฺทิสฺสนฺติ วิสุํ วิสุํ, กทาจิ นานา หุตฺวา ชายนฺตี’ติ. อุปริ จ วกฺขติ ‘อปฺปมฺา วิรติโย ปเนตฺถ ปฺจปิ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพา’ติ. อิสฺสาทีนฺจ นานา กทาจิ โยโค อุปริ ‘อิสฺสามจฺเฉร กุกฺกุจฺจานิ ปเนตฺถ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพานี’ติ วกฺขติ. มานถิน มิทฺธานํ ปน นานา กทาจิ โยโค อิธ วตฺตพฺโพ. ‘‘กทาจี’’ติ วตฺวา ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘เตสํ’’ติอาทินา. ‘‘เตสํ’’ติ ทิฏฺิ วิปฺปยุตฺตานํ. ‘‘นิทฺทาภิภูต วเสนา’’ติ นิทสฺสน วจนเมตํ. เตน โกสชฺชาทีนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘อกมฺมฺตายา’’ติ อกมฺมฺภาเวน. เตหิ อิสฺสามจฺฉริย กุกฺกุจฺเจหิ. เตน จ มาเนน. กิจฺจ วิโรเธ วา อารมฺมณ วิโรเธ วา นานาภาโว. อวิโรเธ สหภาโว.
๑๒๓. ‘‘โยคฏฺานปริจฺฉินฺทน วเสนา’’ติ สพฺพจิตฺต สาธารณา ตาว สพฺเพสุปิ เอกูนนวุติจิตฺตุปฺปาเทสุ, วิตกฺโก ปฺจปฺา สจิตฺเตสูติอาทินา ยุตฺตฏฺาน ภูตานํ จิตฺตานํ คณนสงฺขฺยาปริจฺเฉทวเสน. ‘‘ยุตฺต ธมฺมราสิ ปริจฺฉินฺทน วเสนา’’ติ อนุตฺตเร ฉตฺตึส, มหคฺคเต ปฺจตึสาติอาทินา ยุตฺต ธมฺมราสีนํ คณน สงฺขฺยา ปริจฺเฉท วเสน. เสสํ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ ธมฺมสงฺคณิ ปาฬิยํ. ‘‘เตสํ นยานํ’’ติ จตุกฺก ปฺจก นยานํ.
๑๒๔. ‘‘กายวจี วิโสธน กิจฺจา’’ติ กายทฺวารวจีทฺวาร โสธน กิจฺจา.
๑๒๕. โลกุตฺตร วิรตีนํ โลกุตฺตร วิปาเกสุปิ อุปฺปชฺชนโต ‘‘อิทฺจ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ตาสํ อปฺปมฺานํ. เตสุ มหาวิปาเกสุ. สตฺตปฺตฺตาทีนิ อารมฺมณานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘เตนา’’ติ กุสเลน. ‘‘วิกปฺป รหิตตฺตา’’ติ วิวิธาการ จินฺตน รหิตตฺตา. อปฺปนาปตฺต กมฺม วิเสเสหิ นิพฺพตฺตา อปฺปนาปตฺตกมฺม วิเสส นิพฺพตฺตา. ปฺตฺติ วิเสสานิ นาม ปถวีกสิณ นิมิตฺตาทีนิ. ‘‘อปิ จา’’ติอาทีสุ. น ปฺตฺติ ธมฺเมหิ อตฺถิ. เอวฺจ สติ, กามวิปากานิ กามตณฺหาย อารมฺมณภูตา ปฺตฺติโยปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ. ‘‘สงฺคหนยเภทการกา’’ติ ปถ มชฺฌานิก ¶ จิตฺเตสุ ฉตฺตึส. ทุตียชฺฌานิก จิตฺเตสุ ปฺจตึสาติอาทินา สงฺคหนยเภทสฺส การกา.
๑๒๖. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘ปฺจสุ อสงฺขาริเกสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. ตถา ปฺจสุ สสงฺขาริเกสูติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๒๘. ‘‘ภูมิ ชาติ สมฺปโยคาทิเภเทนา’’ติ ผสฺโสตาว จตุพฺพิโธ โหติ กามาวจโร, รูปาวจโร, อรูปาวจโร จาติ. อยํ ภูมิเภโท.
ทฺวาทสากุสลา ผสฺสา, กุสลา เอกวีสติ;
ฉตฺตึเสว วิปากา จ, วีสติ กฺริยา มตา.
อิติ อยํ ชาติเภโท. โสมนสฺส สหคโต, ทิฏฺิคต สมฺปยุตฺโต, อสงฺขาริโก จ, สสงฺขาริโก จาติอาทินา สมฺปโยคาทิเภโท วตฺตพฺโพ. ‘‘จิตฺเตน สมํ เภท’’นฺติ อตฺตนา วา สมฺปยุตฺเตน จิตฺตเภเทน สมํ เภทํ. เอกูนน วุติยา จิตฺเตสุ วา. เอตฺถ จ วิจิกิจฺฉา เจตสิกํ เอกสฺมึ จิตฺเต ยุตฺตนฺติ เอกเมว โหติ. โทโส, อิสฺสา, มจฺฉริยํ, กุกฺกุจฺจนฺติ อิเม จตฺตาโร ทฺวีสุ จิตฺเตสุ ยุตฺตาติ วิสุํ วิสุํ ทฺเว ทฺเว โหนฺติ. ตถา ทิฏฺิมานา ปจฺเจกํ จตฺตาโร. ถินมิทฺธํ ปจฺเจกํ ปฺจาติอาทินา สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ.
เจตสิกสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๓. ปกิณฺณกสงฺคหอนุทีปนา
๑๒๙. ปกิณฺณกสงฺคเห ¶ . อุภินฺนํ จิตฺต เจตสิกานํ. ‘‘เตปฺาสา’’ติ เตปฺาสวิธา. ‘‘ภาโว’’ติ วิชฺชมานกิริยา. โย ลกฺขณ รสาทีสุ ลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ’’ติอาทึ. ปวตฺโตติ ปาเสส ปทํ. เอเตน ‘เวทนา เภเทน จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโห’ติอาทีสุปิ เวทนา เภเทน ปวตฺโต จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโหติอาทินา สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ. ‘‘วจนตฺโถ ทสฺสิโต’’ติ, กถํ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘เวทนา เภเทน จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโห’’ติอาทิ. ‘‘เตสํ ทานิ ยถารหํ’’ติ เอตฺถ ‘‘เตสํ’’ติ จิตฺตเจตสิกานํ, สงฺคโห นามาติ สมฺพนฺโธ. เอเตน อยํ สงฺคโห จิตฺต เจตสิกานํ เอว สงฺคโหติ สิทฺธํ โหติ. เวทนา เหตุโต. ล. ลมฺพณวตฺถุโต สงฺคโห นามาติ สมฺพนฺโธ. เอเตน อุปริ เวทนา สงฺคโหติอาทีสุ เวทนาโต สงฺคโห เวทนา สงฺคโห. ล. วตฺถุโต สงฺคโห วตฺถุ สงฺคโหติ สิทฺธํ โหติ, เวทนาโตติอาทีสุ จ เวทนา เภทโตติอาทิ อตฺถโต สิทฺธํ โหติ. เอวํ ฉนฺนํ ปกิณฺณกสงฺคหานํ วจนตฺโถ ทสฺสิโต. เตนาห ‘‘เวทนา เภเทนา’’ติอาทึ. อาทินา ทสฺสิโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺคโห นาม นิยฺยเต’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นีโต นาม อตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นิยฺยเต’’ติ จ ปวตฺตียเตติ อตฺโถ. นนุ เตสํ ‘‘สงฺคโห นาม นิยฺยเต’’ติ วุตฺตตฺตา ทฺวีหิ จิตฺต เจตสิเกหิ เอว อยํ สงฺคโห เนตพฺโพติ. น. จิตฺเตน นีเต เจตสิเกหิ วิสุํ เนตพฺพ กิจฺจสฺส อภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺเต ปน สิทฺเธ’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๓๐. เวทนา สงฺคเห. เวทนา เภทํ นิสฺสาย อิมสฺส สงฺคหสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘นิสฺสย ธมฺม ปริคฺคหตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สํยุตฺตเก’’ติ เวทนา สํยุตฺตเก. ‘‘อารมฺมณํ อนุโภนฺตี’’ติ อารมฺมณ รสํ อนุโภนฺติ. ‘‘เต’’ติ เตชนา. ‘‘ตํ’’ติ ตํ อารมฺมณํ. ‘‘สาตโต’’ติ สุขาการโต. ‘‘อสฺสาตโต’’ติ ทุกฺขา การโต ¶ . ตโต อฺโปกาโร นตฺถิ, ตสฺมา เวทนา อนุภวน ลกฺขเณน ติวิธา เอว โหตีติ โยชนา. ‘‘ทฺเว’’ติ ทฺเว เวทนาโย. อุเปกฺขํ สุเข สงฺคเหตฺวา สุขทุกฺขวเสน วา ทฺเว เวทนา วุตฺตาติ โยชนา. ‘‘สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข’’ติ ฌานสมฺปยุตฺตํ อทุกฺขม สุขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจ เภทาทีสุ วิตฺถาโร เวทนา สํยุตฺเต คเหตพฺโพ. เวทยิตนฺติ จ เวทนาติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมึ’’ติ สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ เอว ปวิฏฺํ โหติ. สงฺขาร ทุกฺขตํ อานนฺท มยา สนฺธาย ภาสิตํ สงฺขาร วิปริณามตฺจ, ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมึติ ปาฬิ. ‘‘อินฺทฺริยเภทวเสนา’’ติ โสมนสฺส สหคตํ, อุเปกฺขาสหคตํ, โทมนสฺส สหคตํ, สุขสหคตํ, ทุกฺข สหคตนฺติ เอวํ อินฺทฺริย เภทวเสน. ‘‘เยสุ ธมฺเมสู’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺเมสุ. ‘‘เตสํ’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ. ตตฺถ สุขสมฺปยุตฺตา ธมฺมา กายิก สุข สมฺปยุตฺต เจตสิก สุข สมฺปยุตฺต วเสน ทุวิธา. เอวํ อิสฺสรฏฺานภูตานํ สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ ทุวิธตฺตา อนุภวน เภเท ตีสุ เวทนาสุ เอกํ สุข เวทนํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ. ทุกฺขสมฺปยุตฺต ธมฺเมสุปิ เอเสวนโย. ‘‘อปิ จา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘เตปี’’ติ อุเปกฺขา สมฺปยุตฺตาปิ ธมฺมา. จกฺขาทิ ปสาทกายา นาม จกฺขุ โสต ฆาน ชิวฺหา ปสาทกายา. เตสุ นิสฺสิตา นาม จกฺขุ วิฺาณ จิตฺตุปฺปาทาทโย. ‘‘สพฺภาวา’’ติ สนฺตภาวโต สํวิชฺชมาน ภาวโต ทุวิธา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘เอก รสตฺตา’’ติ มชฺฌตฺตภาเวน เอกรสตฺตา. ‘‘อิตรานี’’ติ โสมนสฺส โทมนสฺส อุเปกฺขินฺทฺริยานิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๓๑. เหตุสงฺคเห. ‘‘สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนํ’’ติ สุฏฺุ ปติฏฺหนฺตีติ สุปฺปติฏฺิตา. สุปฺปติฏฺิต ภาวสาธนํ เหตุ กิจฺจํ นามาติ โยชนา. ‘‘อิเมปิ ธมฺมา’’ติ อิเมปิ ฉ เหตุ ธมฺมา. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ อารมฺมเณสุ, สาเธนฺติ. ตสฺมา สุปฺปติฏฺิต ภาวสาธนํ เหตุกิจฺจํ นามาติ วุตฺตํ. ‘‘อปเร ปนา’’ติ ปฏฺานฏฺ กถายํ ¶ อาคโต เรวตตฺเถร วาโท. ‘‘ธมฺมานํ กุสลาทิ ภาวสาธนํ’’ติ สหชาตธมฺมานํ กุสลภาวสาธนํ อกุสลภาวสาธนํ อพฺยากตภาวสาธนํ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิ ตํ วาทํ ปฏิกฺขิปนฺตานํ ปฏิกฺเขปวจนํ. ‘‘เยส’’นฺติ โมหมูล จิตฺต ทฺวเย โมโห จ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานิ จ. ‘‘น สมฺปชฺเชยฺยา’’ติ สหชาต เหตุโน อภาวา ตสฺส โมหสฺส อกุสล ภาโว, อิตเร สฺจ อพฺยากต ภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ. เหตุ นาม สหชาต ธมฺมานํ กุสลาทิภาวํ สาเธตีติ วุตฺตํ. เอวํ สติ, โส โมโห สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ อกุสล ภาวํ สาเธยฺย. อตฺตโน ปน อกุสล ภาวํ สาเธนฺโต สหชาโต อฺโ เหตุ นตฺถิ. ตสฺมา ตสฺส อกุสลภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. ตถา อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานฺจ อพฺยากตภาวํ สาเธนฺโต โกจิ สหชาโต เหตุ นาม นตฺถีติ เตสมฺปิ อพฺยากต ภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. น จ น สมฺปชฺชติ. ตสฺมา โส เถรวาโท น ยุตฺโตติ. เอตฺถ สิยา. โสจ โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสโล โหติ. ตานิ จ อเหตุก จิตฺตุปฺปาทรูป นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตีติ. เอวํ สนฺเต, ยถา เต ธมฺมา. ตถา อฺเปิ ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย เอว กุสลา กุสลา พฺยากตา ภวิสฺสนฺติ. น เจตฺถ การณํ อตฺถิ, เยนการเณน เต เอว ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสลา พฺยากตา โหนฺติ. อฺเ ปน ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลา กุสลา พฺยากตา น โหนฺติ, เหตูหิ เอว โหนฺตีติ. ตสฺมา เตสํ สพฺเพสมฺปิ กุสลาทิ ภาวตฺถาย เหตูหิ ปโยชนํ นตฺถิ. ตสฺมา โส เถรวาโท น ยุตฺโต เยวาติ. น เกวลฺจ ตสฺมึ เถรวาเท เอตฺตโก โทโส อตฺถิ. อถ โข อฺโปิ โทโส อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย. สเจ ธมฺมานํ กุสลาทิ ภาโว สหชาต เหตุปฺปฏิพทฺโธ สิยา. เอวํ สติ, เหตุ ปจฺจเย กุสล เหตุโต ลทฺธ ปจฺจยานิ รูปานิ กุสลานิ ภเวยฺยุํ. อกุสล เหตุโต ลทฺธ ปจฺจยานิ รูปานิ อกุสลานิ ภเวยฺยุํ ¶ . น จ ภวนฺติ. ตสฺมา โส วาโท อยุตฺโต เยวาติ. อิทานิ ปุน ตํ เถรวาทํ ปคฺคเหตุํ ‘‘ยถาปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ธมฺเมสู’’ติ จตุสฺสจฺจ ธมฺเมสุ. มุยฺหนกิริยา นาม อนฺธการ กิริยา. ธมฺมจฺฉนฺโท นาม ทานํ ทาตุกาโม, สีลํ ปูเรตุกาโม, ภาวนํ ภาเวตุกาโม อิจฺจาทินา ปวตฺโต ฉนฺโท. ‘‘อกฺขนฺตี’’ติ อกฺขมนํ, อโรจนํ, อมนาโป. ปาป ธมฺม ปาปา รมฺมณ วิโรโธ นาม กามราคฏฺานีเยหิ สตฺตวิธ เมถุน ธมฺมาทีหิ ปาป ธมฺเมหิ เจว ปฺจกามคุณา รมฺมเณ หิ จ จิตฺตสฺส วิโรโธ, เชคุจฺโฉ ปฏิกูโล. มุยฺหนกิริยา ปน เอกนฺต อกุสล ชาติกา เอว โหติ. เอตฺตาวตา โมหมูล จิตฺต ทฺวเย โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสโล โหตีติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิกํ ตตฺถ โทสาโรปนํ วิธมติ. อิทานิ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘โยจ ธมฺโม’’ติอาทิมาห. ‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ อฺํ ทุกฺกร การณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อเหตุก จิตฺตานํ’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาทานํ. อตฺตโน ธมฺมตาย เอว สิทฺโธ. เอตฺตาวตา-อเหตุก. ล. นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตี-ติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิ ตตฺถ โทสาโรปนํ อปเนติ. อิทานิ สพฺโพปิ โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสล ภาเวตฺวา อฺเสํ อิจฺฉา นาม อตฺถิ, อกฺขนฺติ นาม อตฺถีติ เอวํ วุตฺตานํ อิจฺฉา อกฺขนฺติ ธมฺมานมฺปิ อกุสล ภาวํ สาเธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ โมโห’’ติอาทิมาห. ‘‘มุยฺหน นิสฺสนฺทานิ เอวา’’ติ มุยฺหนกิริยาย นิสฺสนฺทปฺผลานิ เอว. น เกวลํ โส โลภาทีนํ อกุสลภาวํ สาเธติ, อถ โข อโลภาทีนมฺปิ กุสลภาวํ โส เอว สาเธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อโลภาทีนฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อวิชฺชานุสเยน สเหว สิทฺโธ’’ติ ตานิ สตฺตสนฺตาเน อวิชฺชานุสเย อปฺปหีเน กุสลานิ โหนฺติ. ปหีเน กิริยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ โลภ โทสานํ อโลภาทีนฺจ เหตุ กิจฺจํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตานิ ปน โลภาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. รชฺชน ทุสฺสนานํ นิสฺสนฺทานิ รชฺชนาทินิสฺสนฺทานิ. ‘‘ทิฏฺิ มานาทีนี’’ติ ¶ ทิฏฺิ มาน อิสฺสา มจฺฉริยาทีนิ. อรชฺชน อทุสฺสน อมุยฺหนานํ นิสฺสนฺทานิ อรชฺชนาทิ นิสฺสนฺทานิ. ‘‘สทฺธาทีนี’’ติ สทฺธา สติ หิริ โอตฺตปฺปาทีนิ. ‘‘เหตุมุเขนปี’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานํ อพฺยากตภาโว อตฺตโน ธมฺมตาย สิทฺโธติ วุตฺโต. สเหตุก วิปาก กฺริยานํ อพฺยากต ภาโว ปน อตฺตโน ธมฺมตาย สิทฺโธติปิ สหชาต เหตูนํ เหตุ กิจฺเจน สิทฺโธติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. วิภาว นิปาเ. ‘‘มคฺคิตพฺโพ’’ติ คเวสิตพฺโพ. อถ เตสํ กุสลาทิ ภาโว เสสสมฺปยุตฺต เหตุปฺปฏิ พทฺโธ สิยาติ โยชนา. ‘‘อปฺปฏิ พทฺโธ’’ติ เหตุนา อปฺปฏิ พทฺโธ. ‘‘กุสลาทิภาโว’’ติ กุสลาทิภาโว สิยา. ‘‘โส’’ติ กุสลาทิภาโว. ‘‘อเหตุกานํ’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานํ. อิทานิ ‘ยานิ จ ลทฺธเหตุ ปจฺจยานี’ติอาทิ วจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘ยถาจา’’ติอาทิมาห. ‘‘รูปารูป ธมฺเมสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺม วจนํ. ‘‘อรูป ธมฺเมสุ เอวา’’ติ นิทฺธารณียํ. น รูป ธมฺเมสุ ผรนฺติ. เอวํ สติ, กสฺมา เต รูป ธมฺมา ฌานปจฺจยุปฺปนฺเนสุ วุตฺตาติ อาห ‘‘เต ปนา’’ติอาทึ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ตํ ปน เตสํ’’ติ เตสํ หํสาทีนํ ตํ วณฺณวิเสสํ. ‘‘โยนิโย’’ติ มาตาปิตุ ชาติโย. ‘‘อพฺยากตานํ ปนาติ สพฺพํ’’ติ อพฺยากตานํ ปน อพฺยากตภาโว นิรนุสย สนฺตานปฺปฏิ พทฺโธ, กมฺมปฺปฏิ พทฺโธ, อวิปากภาวปฺปฏิ พทฺโธ จาติ ทฏฺพฺพนฺติ อิทํ สพฺพํ. ‘‘วุตฺต ปกฺเขปตติ เยวา’’ติ ตสฺมึ ปกฺเข อนฺโตคธเมวาติ อธิปฺปาโย.
๑๓๒. กิจฺจสงฺคเห. ตสฺมึ ปริกฺขีเณติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กมฺมสฺสา’’ติ กมฺมนฺตรสฺส. จุตสฺส สตฺตสฺส อภินิพฺพตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภวนฺตราทิปฺปฏิ สนฺธาน วเสนา’’ติ ภวนฺตรสฺส อาทิโกฏิยา ปฏิสนฺธาน วเสน. ภวสนฺตานสฺส ปวตฺตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ ปวตฺตีติ อาห ‘‘ยาว ตํ กมฺมํ’’ติอาทึ. ‘‘อวิจฺเฉทปฺปวตฺติ ปจฺจยงฺคภาเวนา’’ติ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติยา ปธาน ปจฺจย สงฺขาเตน องฺคภาเวน. เอเตน ภวงฺคปเท องฺคสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ ¶ . เตนาห ‘‘ตสฺสหี’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ภวงฺคสฺส. อาวชฺชนํ อาวฏฺฏนนฺติ เอโก วจนตฺโถ. ตํ วา อาวชฺเชตีติ เอโก. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺต สนฺตานํ. อาวฏฺฏติ วา ตํ เอตฺถาติ เอโก. อาวฏฺฏติ วา ตํ เอเตนาติ เอโก. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺต สนฺตานํ. อาวชฺเชติ วาติ เอโก. ‘‘โวฏฺพฺพนํ’’ติ วิ-อว-ปนํติ ปทจฺเฉโท. วิภาวนิ วิจารณายํ. ‘‘เอกาวชฺชน ปริกมฺม จิตฺตโต’’ติ มคฺเคน วา อภิฺาย วา เอกํ สมานํ อาวชฺชนํ อสฺสาติ วิคฺคโห. ตสฺสํ วีถิยํ ‘อาวชฺชนํ, ปริกมฺมํ, อุปจาโร, อนุโลมํ, โคตฺรภู,ติ เอตฺถ ปริกมฺม ชวนจิตฺตํ อิธ ปริกมฺม จิตฺตนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตานี’’ติ มคฺคา ภิฺาชวนานิ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ วิภาวนิ ปาเ. ‘‘ทีฆํ อทฺธานํ’’ติ สกลรตฺติยํ วา สกล ทิวสํ วา นิทฺโทกฺกมน วเสน ทีฆํ กาลํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปฏิสนฺธิยาานํ’’ติ ปฏิสนฺธิกิจฺจสฺส านํ. กาโลหิ นาม วิสุํ จิตฺตสฺส อารมฺมณ ภูโต เอโก ปฺตฺติ ธมฺโมติ เอเตน กาโล นาม สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา กถํ กิจฺจานํ ปวตฺติฏฺานํ นาม สกฺกา ภวิตุนฺติ อิมํ อาสงฺกํ วิโสเธติ. ‘‘อิตรถา’’ติ ตถา อคฺคเหตฺวา อฺถา กิจฺจฏฺานานํ อเภเท คหิเต สตีติ อตฺโถ. ‘‘สยํ โสมนสฺส ยุตฺตํปี’’ติ กทาจิ สยํ โสมนสฺส ยุตฺตํปิ. ‘‘ตํ’’ติ โสมนสฺส สนฺตีรณํ. ‘‘ลทฺธปจฺจย ภาเวนา’’ติ ลทฺธอนนฺตร ปจฺจยภาเวน. ‘‘อาเสวน ภาว รหิตํ ปี’’ติ อาเสวน คุณ รหิตมฺปิ. ตฺหิ อาเสวน ปจฺจเย ปจฺจโยปิ น โหติ, ปจฺจยุปฺปนฺนมฺปิ น โหตีติ. ‘‘ปริกมฺม ภาวนา พเลน จ ปวตฺตตฺตา’’ติ อิทํ ผลสมาปตฺติ วีถิยํ ผลชวเนสุ ปากฏํ. เสสเมตฺถสุโพธเมว.
๑๓๓. ทฺวารสงฺคเห. ‘‘อาทาสปฏฺฏมโย’’ติ อาทาสปฏฺเฏน ปกโต. ‘‘ทฺเว เอวา’’ติ ทฺเว เอว ทฺวารานิ. ‘‘ทฺวาร สทิสตฺตา’’ติ นคร ทฺวาร สทิสตฺตา. ‘‘กมฺมวิเสส มหาภูต วิเสส สิทฺเธนา’’ติ เอตฺถ กมฺมวิเสเสน จ มหาภูต วิเสเสน จ สิทฺโธติ วิคฺคโห. อาวชฺชนาทีนิ จ วีถิ จิตฺตานิ คณฺหนฺติ. ‘‘ยมฺหี’’ติ ยสฺมึ ¶ จกฺขุมฺหิ. ตเทว จกฺขุ จกฺขุทฺวารํ นามาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ’’ติ รูป นิมิตฺตานฺจ อาวชฺชนาทิ วีถิจิตฺตานฺจ. ‘‘วิสย วิสยี ภาวูปคมนสฺสา’’ติ เอตฺถ รูป นิมิตฺตานํ วิสยภาวสฺส อุปคมนํ นาม จกฺขุ มณฺเฑ อาปาตาคมนํ วุจฺจติ. อาวชฺชนาทีนํ วิสยี ภาวสฺส อุปคมนํ นาม เตสํ นิมิตฺตานํ อารมฺมณ กรณํ วุจฺจติ. ‘‘มุขปฺปถภูตตฺตา’’ติ มุขมคฺคภูตตฺตา. เอวํ ทฺวาร สทฺทสฺส กรณ สาธนยุตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อธิกรณ สาธน ยุตฺตึ ทสฺเสติ ‘‘อถวา’’ติอาทินา. ‘‘รูปานํ’’ติ รูป นิมิตฺตานํ. ‘‘จกฺขุเมว จกฺขุ ทฺวาร’’นฺติ เอเตน จกฺขุเมว ทฺวารํ จกฺขุ ทฺวารนฺติ อวธารณ สมาสํ ทสฺเสติ. ‘‘การณํ วุตฺตเมวา’’ติ เหฏฺา จิตฺตสงฺคเห มโนทฺวาราวชฺชนปเท วุตฺตเมว. สพฺพํ เอกูน นวุติวิธํ จิตฺตํ มโนทฺวารเมว นาม โหติ. ตถาหิ วุตฺตํ อฏฺสาลินิยํ อยํ นามมโน มโนทฺวารํ นาม น โหตีติ น วตฺตพฺโพติ. ‘‘อุปปตฺติ ทฺวารเมวา’’ติ อุปปตฺติภว ปริยาปนฺนํ กมฺมชทฺวารเมว. ‘‘อิธ จา’’ติ อิมสฺมึ สงฺคหคนฺเถ จ. ยฺจ สาธก วจนนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตตฺถา’’ติ วิภาวนิยํ. ‘‘ตตฺเถว ตํ ยุตฺตํ’’ติ ตสฺมึ ปาฬิปฺปเทเส เอว ตํ สาธก วจนํ ยุตฺตํ. อิตเร ทฺเว ปจฺจยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มนฺจาติ เอตฺถา’’ติ มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํติ วากฺเย มนฺจาติปเท. ตตฺถ ปน ชวน มโนวิฺาณสฺส อุปฺปตฺติยา จตูสุ ปจฺจเยสุ มนฺจาติ เอตฺถ ทฺวารภูตํ ภวงฺคมโน จ อาวชฺชน มโน จาติ ทฺเว ปจฺจยา ลพฺภนฺติ. ธมฺเม จาติ ปเท ธมฺมารมฺมณ สงฺขาโต เอโก ปจฺจโย ลพฺภติ. จ สทฺเทน มโนวิฺาณ สมฺปยุตฺตกฺขนฺธา คยฺหนฺติ. เอวํ จตฺตาโร ปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติ อิมสฺมึ อฏฺกถา วจเน. ‘‘สนฺนิหิต ปจฺจยานํ เอว ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตา’’ติ ปฏิจฺจ สทฺทสามตฺถิเยน อาสนฺเน ธรมานปจฺจยานํ เอว ตสฺมึ ปาฬิวากฺเย อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘ทฺวารภาวารหสฺสา’’ติ วิสย วิสยีนํ วุตฺต นเยน ปวตฺติ มุขภาวารหสฺส. เอเตน อารมฺมณานิ อาปาตํ อาคจฺฉนฺตุ วา, มาวา, วีถิ จิตฺตานิ ปวตฺตนฺตุวา, มาวา, อปฺปมาณํ. ปภสฺสรปฺปสนฺนภาเวน ทฺวารภาวา รหตา เอว ปมาณนฺติ ทีเปติ. ‘‘นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ’’ติ สนฺนิฏฺานํ เอตฺถ คนฺตพฺพํ. ทฺวารวิการ ¶ มูลกานิ ตาทิสานิ กิจฺจานิ เยสํ ตานิ ตํ กิจฺจวนฺตานิ. ‘‘กมฺมวเสน สิชฺฌนฺตี’’ติ สตฺตสนฺตาเน ปวตฺตนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตํ กิจฺจวนฺตานิ จิตฺตานิ. วิภาวนิ ปาเ ‘‘มโนทฺวาร สงฺขาต ภวงฺคโต’’ติ มโนทฺวาร สงฺขาต ภวงฺค ภาวโต จ. ‘‘อารมฺมณนฺตรคฺคหณวเสน อปฺปวตฺติโต’’ติ ปฏิสนฺธิ จิตฺเตน ยถา คหิตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทิกํ อารมฺมณํ มฺุจิตฺวา ปวตฺติกาเล ฉสุ ทฺวาเรสุ อาปาตาคตสฺส อารมฺมณนฺตรสฺส คหณ วเสน อปฺปวตฺติโต จ. เหฏฺาปิ ปฺจทฺวารา วชฺชน จกฺขุ วิฺาณ สมฺปฏิจฺฉน สนฺตีรณ โวฏฺพฺพน กามาวจรชวน ตทา รมฺมณ วเสนาติอาทินา กิจฺจสีเสเนว. ล. วุตฺโต. เอตฺถหิ อาวชฺชน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ กิจฺจ วิเสสานํ นามานิ โหนฺติ. ‘‘เจ’’ติ เจ วเทยฺย. ‘‘นา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ‘‘ตถา อสฺสุตตฺตา’’ติ เอกูน วีสติ ทฺวาร วิมุตฺตานีติ จ, ฉ ทฺวาริกานิ เจว ทฺวาร วิมุตฺตานีติ จ, มหคฺคต วิปากานิ ทฺวาร วิมุตฺตาเน วาติ จ, สุตํ. น ปน ทฺวาริก วิมุตฺตานีติ สุตํ.
๑๓๔. อารมฺมณ สงฺคเห. ‘‘ทุพฺพล ปุริเสนา’’ติ เคลฺาภิภูตตฺตา วา ชราภิภูตตฺตา วา ทณฺเฑน วา รชฺชุเกน วา วินา อุฏฺาตุมฺปิ ปติฏฺาตุมฺปิ อปราปรํ คนฺตุมฺปิ อสกฺโกนฺเตน ทุพฺพล ปุริเสน ทณฺฑกํ วา รชฺชุกํ วา อาลมฺพิยติ. อาลมฺพิตฺวา อุฏฺาติ. ปติฏฺาติ. อปราปรํ คจฺฉติ. เอวเมว. อมฺุจ มาเนหิ หุตฺวาติ ปาเสโส. ‘‘อาคนฺตฺวา’’ติ อารมฺมณ กรณ วเสน ตโต ตโต อาคนฺตฺวา. ‘‘วิสุํ สิทฺธานี’’ติ อาลมฺพิยตีติ เอตสฺมึ อตฺเถ สติ, อาลมฺพณนฺติ สิชฺฌติ. อารมฺมณนฺติ น สิชฺฌติ. ตานิ เอตฺถ อาคนฺตฺวา รมนฺตีติ เอตสฺมึ อตฺเถ สติ, อารมฺมณนฺติ สิชฺฌติ. อาลมฺพณนฺติ น สิชฺฌติ. เอวฺจ สติ เอกํ ปทํ ทฺวีหิวากฺเยหิ ทสฺสนํ น สุนฺทรนฺติ. ‘‘อฺานิ อารมฺมณานี’’ติ รูปารมฺมณโต อฺานิ สทฺทารมฺมณาทีนิ. ‘‘อาคจฺฉตี’’ติ อาวิภาวํ คจฺฉติ, อุปฺปาทปฺปวตฺติ วเสน ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณาติ. ‘‘อาคจฺฉิตฺถา’’ติ อาวิภาวํ คจฺฉิตฺถ, อุปฺปาทปฺปวตฺติ วเสน ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณิตฺถ. ‘‘อนาคตํ’’ติ เอตฺถ น กาโร อวตฺถา วเสน ปฏิเสโธ. โย ธมฺโม ¶ ปจฺจย สามคฺคิยํ สติ อาคมน ชาติโก อุปฺปชฺชน สีโล. โส เอว อิทานิ อาคจฺฉติ, อิทานิ อาคจฺฉิตฺถ, อิทานิ อาคมน ชาติยํ ิโต, นาคจฺฉติ นาคจฺฉิตฺถาติ อิมินา อตฺเถน โส อนาคโต นาม. นิพฺพาน ปฺตฺติโย ปน อาคมน ชาติกา น โหนฺติ. ตสฺมา อาคมนปฺปสงฺคาภาวโต อนาคตาติ น วุจฺจนฺตีติ. เตนาห ‘‘อุปฺปาท ชาติกา’’ติอาทึ. ‘‘ตํ วิจาเรตพฺพํ’’ติ วตฺวา วิจารณาการํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพปิหี’’ติอาทินา. เต ยทา วตฺตพฺพ ปกฺเข ติฏฺนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุปฺปาท ชาติกานฺเว สงฺขต ธมฺมานํ. ตาสํ นิพฺพาน ปฺตฺตีนํ. ‘‘น ตถา อิเมสํ’’ติ อิเมสํ ทฺวาร วิมุตฺตานํ อารมฺมณํ ปน ตถา น โหตีติ โยชนา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ ภว วิเสเส. วิภาวนิปาเ ‘‘อาวชฺชนสฺสวิยา’’ติ อาวชฺชนสฺส อารมฺมณํ วิย. อคฺคหิตเมว หุตฺวา. ‘‘เอกวชฺชน วีถิยํ อคฺคหิต ภาโว อิธ น ปมาณ’’นฺติ ฉ ทฺวารคฺคหิตนฺติ อิธ อปฺปมาณํ. ภวนฺตเร คหิตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘กาลวิมุตฺต สามฺํ’’วาติ ยํ กิฺจิกาล วิมุตฺตํ วา น โหตีติ อธิปฺปาโย. อาคมสิทฺธิ โวหาโร นาม ‘‘กมฺมนฺติ วา, กมฺมนิมิตฺตนฺติ วา, คติ นิมิตฺตนฺติ วา, ปสิทฺโธ โวหาโร วุจฺจติ. อชาต สตฺตุราชา สงฺกิจฺจชาตเกปิ ปิตรํ มาเรติ. ตสฺมา ‘‘ทฺวีสุภเวสู’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉ หิ ทฺวาเรหี’’ติ กรณ ภูเตหิ ฉหิ จกฺขาทิ ทฺวาเรหิ. ‘‘มรณาสนฺน ชวเนหี’’ติ กตฺตุ ภูเตหิ มรณาสนฺเน ปวตฺเตหิ ฉ ทฺวาริก ชวเนหิ. ‘‘อเนกํ สภาวํ’’ติ อเนกนฺต ภาวํ. ยฺหิ อารมฺมณนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตเมว โหตี’’ติ เอตฺถ อสฺี ภวโต จุตานํ สตฺตานํ กามปฏิสนฺธิยา กมฺมาทิ อารมฺมณํ ภวนฺตเร เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตนฺติ ยุตฺตํ. กสฺมา, ตสฺมึ ภเว กสฺสจิทฺวารสฺเสว อภาวโต. อรูปภวโต จุตานํ ปน กามปฏิสนฺธิยา คติ นิมิตฺต สมฺมตํ อารมฺมณํ กถํ ภวนฺตเร เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตํ ภเวยฺย, มโนทฺวารคฺคหิตเมว ภเวยฺยาติ อิมํ โจทนํ วิโสเธตุํ ‘‘เอตฺถ จ ยสฺมา ปฏฺาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโต จุตานํ สตฺตานํ ยา กามปฏิสนฺธิ, ตสฺสากามปฏิ สนฺธิยา. ปจฺจุปฺปนฺนํ คตินิมิตฺตํ ¶ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ วิคฺคโห. กามปฏิสนฺธิ. ปเรสํ ปโยค พเลนาปิ กมฺมาทีนํ อุปฏฺานํ นาม โหตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘สุฏฺุ อาเสวิตานํ’’ติ จิรกาลํ สงฺฆ วตฺต เจติยวตฺต กรณาทิวเสน ตํ ตํ ภาวนา กมฺมวเสน จ สุฏฺุ อาเสวิตานํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตานํ. ‘‘โหติ เยวา’’ติ กมฺมาทีนํ อุปฏฺานํ นาม โหติเยว. ‘‘อาคนฺตฺวา’’ติ อิมํ มนุสฺส โลกํ อาคนฺตฺวา คณฺหนฺติเยว. ตทาปิ นิรยปาเลหิ ทสฺสิตํ ตํ ตํ คติ นิมิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา จวนฺติ. ‘‘ตํ’’ติ เรวตึ นาม อิตฺถึ. นนุ นิรยปาลา นาม ตาวตึสา ภวนํ คนฺตุํ น สกฺกุเณยฺยุนฺติ. โน นสกฺกุเณยฺยุํ. กสฺมา, มหิทฺธิก ยกฺข ชาติกตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เวสฺสวณ ทูตา’’ติ เวสฺสวณมหาราชสฺส ทูตา. ‘‘อุปจารชฺฌาเนตฺวา’’ติ อปฺปนาฌานํ อปตฺตตาย อุปจารภาวนาภูเต กามาวจรชฺฌาเนตฺวา. ‘‘ตาเนว นิมิตฺตานี’’ติ ปถวีกสิณ นิมิตฺตาทีนิ ปฏิภาค นิมิตฺตานิ. ‘‘กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ’’ติ เตหิ นิมิตฺตารมฺมเณหิ อฺํ อุปจาร ภาวนา กมฺมํ วา ยํ กิฺจิ อนุรูปํ คติ นิมิตฺตํ วา. ‘‘ตาเนว นิมิตฺตานิ คเหตฺวา’’ติ วจเนน ตานิ นิมิตฺตานิ มรณาสนฺน ชวเนหิ คหิตานีติ ทสฺเสติ. ตานิ จ ปฺตฺติ ธมฺมตฺตา กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ น โหนฺตีติ. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนคติ นิมิตฺเต สิทฺเธ สิทฺธเมวา’’ติ ตสฺมึ ภเว คตสฺส ตตฺถ ยาวชีวมฺปิ อนุ ภวิตพฺพํ อารมฺมณํ นาม ตสฺมึ ขเณ ธรมานํ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อตฺถิ. ตโต วฑฺฒมานํ อนาคตมฺปิ อตฺถิ. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺเน อุปฏฺหนฺเต ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ สมฺปชฺชติ. อนาคตํ ปน อนุปฏฺหนฺตมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺเน อนฺโตคธสทิสํ โหตีติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิ ปาเน จ ปจฺจุปฺปนฺน คตินิมิตฺตํ วิย อาปาตมาคตํ, กสฺมา, ปจฺจุปฺปนฺน คติ นิมิตฺเตเนว กิจฺจ สิทฺธิโต-ติ อธิปฺปาโย. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘ตานิหี’’ติอาทีสุ. เกจิ วทนฺติ. อเนโชสนฺติ มารพฺภ. ยํ กาลมกรีมุนีติ วุตฺตตฺตา สพฺพฺุ พุทฺธาทีนํ ปรินิพฺพาน จุติ จิตฺตํ สนฺติ ลกฺขณํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ. ตํ สพฺพถาปิ กามาวจรา ลมฺพณา เนวาติ อิมินา อปเนตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตา นิหิ ¶ สพฺพฺุ พุทฺธานํ อุปฺปนฺนานิ ปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘โลกุตฺตร ธมฺมา’’ติอาทีสุ. ‘‘ตานี’’ติ ทฺวาทสา กุสล จิตฺตานิ อฏฺาณ วิปฺปยุตฺต กุสล กฺริย ชวนานิ จ. อชฺฌาน ลาภิโน ปุถุชฺชนา มหคฺคตชฺฌานานิปิ อาลมฺพิตุํ น สกฺโกนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺตฺติยา สห กามาวจรา รมฺมณานี’’ติ. ‘‘ตาเน วา’’ติ าณ สมฺปยุตฺต กาม กุสลานิ เอว. ฌานลาภีนํ ตาเนว าณ สมฺปยุตฺตกาม กุสลานิ. เหฏฺิม ผลฏฺานํ ตาเนว อตฺตนา อธิคต มคฺคผล นิพฺพานา รมฺมณานิ. ‘‘ฌานานิ ปตฺเถนฺตี’’ติ อายตึ ฌานลาภิโน ภเวยฺยามาติ ปตฺถนํ กโรนฺติ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ เตสํ ปุถุชฺชนานมฺปิ. ‘‘เต’’ติ เต โลกุตฺตร ธมฺมา. ‘‘อนุโภนฺตี’’ติ สมฺปาปุณนฺติ. ‘‘นวนิปาเต’’ติ องฺคุตฺตร นิกาเย นวนิปาเต. เสสํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยเมว.
๑๓๕. วตฺถุสงฺคเห. ‘‘วตฺถู’’ติ นิสฺสย วิเสโส วุจฺจติ. ตานิ นิสฺสย วตฺถูนิ เยสํ ตานิ ตพฺพตฺถุกานิ. ‘‘เตสฺจ สทฺโท น ยุชฺชตี’’ติ เตสํ วาเท จ สทฺโท น ยุชฺชติ. น หิ อลุตฺต จ การํ ทฺวนฺท ปทํ นาม อตฺถีติ. ‘‘ปุพฺพปเทสุ อาเนตพฺโพ’’ติ จกฺขุ วตฺถุ จ โสตวตฺถุ จาติอาทินา อาเนตพฺโพ. สมาส ปทํ น ยุชฺชติ. น หิ สมาส ปทโต เอก เทสํ อฺตฺถ อาเนตุํ ยุชฺชตีติ. อวิภตฺติก นิทฺเทโส นาม จกฺขุํ, โสตํ, ฆานํ, ชิวฺหา, กาโย, หทยํ, วตฺถุ จาติ วตฺตพฺเพ ปุพฺพปเทสุ อวิภตฺติก นิทฺเทโส. เอวฺจสติ วตฺถุ สทฺโท จ สทฺโท จ ปุพฺพปเทสุ อาเนตุํ ลพฺภนฺตีติ. กามตณฺหาย อธีเนน อายตฺเตน กามาวจร กมฺเมน นิพฺพตฺตา กามตณฺหาธีน กมฺม นิพฺพตฺตา. ‘‘รูปาทีนํ ปริโภโค’’ติ รูปาทีนํ ปฺจกามคุณานํ ปริโภโค. ‘‘ปริตฺตกมฺมํ ปี’’ติ สพฺพํ กามาวจร กมฺมมฺปิ. ‘‘ปูรยมานํ’’ติ ปริปูเรนฺตํ. จกฺขุ ทสฺสนานุตฺตริยํ นาม. โสตํ สวนานุตฺตริยํ นาม. สพฺเพสํ ทสฺสน กิจฺจานํ มชฺเฌ พุทฺธ ทสฺสนา ทิวเสน อนุตฺตรํ ทสฺสนํ ชเนตีติ ทสฺสนานุตฺตริยํ. เอวํ สวนานุตฺตริเยปิ จตุสจฺจ ธมฺมสฺสวนา ทิวเสนาติ วตฺตพฺพํ. ‘‘อชฺฌตฺต พหิทฺธ สนฺตา เนสุ ปี’’ติ ¶ อชฺฌตฺต สนฺตาเนปิ พหิทฺธ สนฺตาเนปิ. ‘‘สุทฺเธ’’ติ เกนจิ อาโลเกน จ อนฺธกาเรน จ วิรหิเต. อาโลโก หิ เอโก รูป วิเสโส. ตถา อนฺธกาโร จ. เต จ ตตฺถ นตฺถิ. ‘‘อิมสฺมึ สงฺคเห’’ติ วตฺถุ สงฺคเห. วิสิฏฺํ ชานนํ วิชานนํ. ตฺจ วิชานนํ ตีสุ มโนธาตูสุ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘วิชานน กิจฺจาภาวโต’’ติ. อาวชฺชน กิจฺจํ กิเมตนฺติ, มนสิการ มตฺตํ โหติ. สมฺปฏิจฺฉน กิจฺจฺจ ปฺจวิฺาเณหิ ยถา คหิตาเนว ปฺจารมฺมณานิ สมฺปฏิจฺฉน มตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘วิเสสชานน กิจฺจานิ น โหนฺตี’’ติ. ทสฺสนํ, สวนํ, ฆายนํ, สายนํ, ผุสน, นฺติ อิมานิ กิจฺจานิ โถกํ วิเสส ชานน กิจฺจานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจกฺขโต ทสฺสนา ทิวเสนา’’ติอาทึ. โถกํ วิเสส ชานน กิจฺจานิ โหนฺติ. ตสฺมา ตานิ ปฺจวิฺาณานีติ วุตฺตานิ. อวเสสา ปน สนฺตีรณาทโย มโนวิฺาณธาตุโย นามาติ สมฺพนฺโธ. นนุ มนนฏฺเน มโน จ ตํ วิชานนฏฺเน วิฺาณฺจาติ วุตฺเตปิ ปฺจวิฺาเณหิ วิเสโส นตฺถีติ อาห ‘‘อติสฺสย วิเสส ชานน ธาตุโยติ อตฺโถ’’ติ. เอวํ สนฺเตปิ โส อตฺโถ สทฺทยุตฺติยา สิทฺโธ น โหติ. ยทิจฺฉา วเสน วุตฺโต โหตีติ อาห ‘‘ปริยาย ปทานํ’’ติอาทิ. เอเตน โส อตฺโถ สทฺทยุตฺติยา เอว สิทฺโธ. น ยทิจฺฉาวเสน วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘วิเสสน สมาเส’’ติ มโน จ ตํ วิฺาณฺจาติ มโนวิฺาณนฺติ เอวรูเป กมฺมธารย สมาเส. ‘‘ปทฏฺานํ’’ติ เอตฺถ ปทนฺติ จ านนฺติ จ การณตฺถ วจนานิ, ตสฺมา ปริยาย สทฺทา นาม. ปทฺจ ตํ านฺจาติ วุตฺเต อติสฺสย การณนฺติ อตฺโถ วิฺายติ. ตถา ทุกฺข ทุกฺขํ, รูป รูปํ, ราช ราชา, เทวเทโวติอาทีนิ. ‘‘กตฺถจิ ทิสฺสติ ยุชฺชติ จา’’ติ น หิ กตฺถจิ ทิสฺสติ จ. สเจปิ กตฺถจิ ทิสฺเสยฺย, น หิ ยุชฺชติ จาติ อตฺโถ. ‘‘มนโส วิฺาณํ’’ติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิ จิตฺตโต ปฏฺาย ยาวจุติ จิตฺตา อนฺตเร สพฺพํ จิตฺต สนฺตานํ สตฺต วิฺาณ ธาตูนํ วเสน วิภาคํ กตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ปฺจทฺวารา วชฺชนฺจ สมฺปฏิจฺฉน ทฺวยฺจ มโนธาตุ มตฺตตฺตา มโน นาม. ปฺจวิฺาณานิ วิฺาณ มตฺตานิ นาม. อวเสสานิ สพฺพานิ วิฺาณานิ มนสฺส วิฺาณนฺติ ¶ อตฺเถน มโนวิฺาณานิ นาม. ตตฺถ ‘‘มนสฺส วิฺาณํ’’ติ อนนฺตร ปจฺจย ภูตสฺส วา มนสฺส ปจฺจยุปฺปนฺน ภูตํ วิฺาณํ. เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉน ทฺวยํ ปจฺจยมโน นาม. สนฺตีรณโต ปฏฺาย ยาว ทฺวารนฺตเร ปฺจทฺวารา วชฺชนํ นาคจฺฉติ, ตาว อนฺตเร สพฺพํ มโนวิฺาณ สนฺตานํ ปจฺจยุปฺปนฺน วิฺาณํ นาม. ปุน ‘‘มนสฺส วิฺาณ’’นฺติ ปจฺจยุปฺปนฺน ภูตสฺส มนสฺส ปจฺจย ภูตํ วิฺาณํ. เอตฺถ ปฺจทฺวารา วชฺชนํ ปจฺจยุปฺปนฺน มโน นาม. ตโต ปุเร สพฺพํ มโนวิฺาณ สนฺตานํ ปจฺจย มโน นาม. เสสํ สุวิฺเยฺยํ. อวเสสาปนาติอาทีสุ. ‘‘มโนวิฺาณธาตุ ภาวํ สมฺภาเวตี’’ติ อวเสสา ปน ธมฺมา มโนวิฺาณธาตุ จ นาม โหนฺติ, หทย วตฺถฺุจ นิสฺสายเยว วตฺตนฺตีติ เอวํ เตสํ ธมฺมานํ มโนวิฺาณธาตุ ภาวฺจ สมฺภาเวติ, วณฺเณติ. สุฏฺุ ปกาเสตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปนาติอาทีสุ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ อินฺทฺริย สํยุตฺต ปาฬิยํ. ทุตียชฺฌาเน เอว อปริเสส นิโรธ วจนํ วิรุทฺธํ สิยา. กถํ, สเจ ปฏิโฆ อนีวรณา วตฺโถ นาม นตฺถิ. ปถมชฺฌานโต ปุพฺเพ เอว โส นิรุทฺโธ สิยา. อถ ทุตียชฺฌานุปจาเรปิ โส อุปฺปชฺเชยฺย, ปถมชฺฌานมฺปิ ปริหีนํ สิยา. ตสฺมึ ปริหีเน สติ, ทุตียชฺฌานมฺปิ นุปฺปชฺเชยฺย. เอวํ วิรุทฺธํ สิยา. ‘‘ปุริม การณเมวา’’ติ อนีวรณา วตฺถสฺส ปฏิฆสฺส อภาวโตติ การณํ เอว. ปรโตโฆโส นาม สาวกานํ สมฺมาทิฏฺิปฺปฏิลาภาย ปธาน ปจฺจโย โหติ. โส จ อรูปภเว นตฺถิ. ธมฺมาภิสมโย นาม จตุสจฺจ ธมฺมปฺปฏิเวโธ, พุทฺธา จ ปจฺเจก สมฺพุทฺธา จ สยมฺภุโน ปรโต โฆเสน วินา ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌนฺติ. เต จ ตตฺถ นุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘รูปวิราค ภาวนายา’’ติ รูปวิราค ภาวนา พเลน. เตสํ รูปาวจร จิตฺตานํ. ‘‘สมติกฺกนฺตตฺตา’’ติ เตสุ นิกนฺติปฺปหานวเสน สุฏฺุ อติกฺกนฺตตฺตา. เสสํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.
ปกิณฺณกสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนานิฏฺิตา.
๔. วีถิสงฺคหอนุทีปนา
๑๓๖. วีถิสงฺคเห ¶ . ‘‘เตสฺเ วา’’ติ จิตฺต เจตสิกานํ เอว. ‘‘วุตฺตปฺปกาเรนา’’ติ ‘ตตฺถ จิตฺตํ ตาว จตุพฺพิธํ โหติ กามาวจรํ รูปาวจรํ, ติอาทินา อิจฺเจวํ วุตฺตปฺปกาเรน. ‘‘ปุพฺพา ปรนิยามิตํ’’ติ วา ทฺวตฺตึส สุข ปฺุมฺหาติอาทินา นเยน ปุพฺพา ปรนิยามิตํ. ‘‘อารพฺภคาถายา’’ติ.
วีถิ จิตฺตวเสเนวํ, ปวตฺติย มุทีริโต;
ปวตฺติ สงฺคโห นาม, สนฺธิยํ ทานิ วุจฺจตี.ติ
เอวํ ปวตฺติกาเล ปวตฺติ สงฺคโห, ปฏิสนฺธิกาเล ปวตฺติ สงฺคโหติ สิทฺโธ โหติ. เกจิ วาเท ‘‘ปฏิสนฺธิ ปวตฺติยํ’’ติ นิทฺธารเณ คหิเต ทฺวีสุ ปฏิสนฺธิ สงฺคห ปวตฺติ สงฺคเหสุ อิทานิ ปวตฺติ สงฺคหํ ปวกฺขามิ, ปจฺฉา ปฏิสนฺธิ สงฺคหํ ปวกฺขามีติ อตฺโถ โหติ. ตตฺถ ‘‘ปฏิสนฺธิ สงฺคโห’’ติ ปฏิสนฺธิกาเล สงฺคโห. ‘‘ปวตฺติ สงฺคโห’’ติ ปวตฺติกาเล สงฺคโห. โส จ อุปริคาถาย น สเมตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ สตี’’ติอาทิมาห. ‘‘ตานิ ตีณิ ฉกฺกานิ นิกฺขิตฺตานี’’ติ ฉกฺกมตฺตานิ นิกฺขิตฺตานิ, น สกลํ. วตฺถุ ทฺวารา ลมฺพณ สงฺคโหติ อธิปฺปาโย. ‘‘สา ปนา’’ติ สาวิสยปฺปวตฺติ ปน. ‘‘กาจิ สีฆตมา’’ติ กาจิ อติเรกตรํ สีฆา. ‘‘ทนฺธา’’ติ สณิกา, จิรายิกา. ‘‘อนุปปนฺนา’’ติ อสมฺปนฺนา. อสมฺปนฺน โทโส อาคจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธาตุเภทํ’’ติ สตฺต วิฺาณ ธาตูนํ วิภาคํ. ‘‘ธาตุนานตฺตํ’’ติ ธารณ กิจฺจนานตฺตํ. อิติ ตสฺมา มโนธาตุ วิสุํ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มนนํ’’ติ วิชานนภาวํ อปตฺตํ. อาวชฺชนมตฺต สมฺปฏิจฺฉนมตฺต สงฺขาตํ ชานนมตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ มนนํ’’ติ อนฺตมโส อาวชฺชนมตฺต สมฺปฏิจฺฉนมตฺตํ ปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สุทฺโธ ปน มโนวิฺาณปฺปพนฺโธ’’ติ มโนทฺวาร วิการํ ปฏิจฺจ ปวตฺโต มโนวิฺาณปฺปพนฺโธ. น ภวงฺค มโนวิฺาณปฺปพนฺโธ. โส หิ วีถิมุตฺตตฺตา อิธ อปฺปสงฺโคติ ¶ . มโนทฺวาเร ปน ทฺวิธาติ สมฺพนฺโธ. พุทฺธสฺส ภควโต ปถมาภินีหารกาโล นาม สุเมธตาปสกาเล พุทฺธ ภาวาย กาย จิตฺตานํ อภินีหารกาโล. อาทิสทฺเทน ปจฺฉิม ภเว ปฏิสนฺธิคฺคหณาทึ สงฺคณฺหาติ. ‘‘ชาติ ผลิกกฺขนฺธา วิย สมฺปชฺชนฺตี’’ติ เตน โอภาเสน อชฺโฌตฺถฏตฺตา ชาติผลิกกฺขนฺธ สทิสา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปปตฺติ เทว พฺรหฺมานํ ปนา’’ติ อุปปตฺติปฺปฏิสนฺธิกานํ โอปปาติก เทว พฺรหฺมานํ ปน. ‘‘ปสาท นิสฺสย ภูตานํ’’ติ จกฺขาทีนํ ปสาท วตฺถูนํ นิสฺสย มหาภูตานํ.
‘‘ยานิ ปนา’’ติอาทีสุ. ทฺวตฺติ จิตฺตกฺขณานิ อติกฺกมฺม อาปาตํ อาคจฺฉนฺตีติ โยชนา. เอวํ ปรตฺถปิ. วิภูตสฺสาติ จ อวิภูตสฺสาติ จ อิทํ อาทิมฺหิ มโนทฺวาเร ปน วิภูตสฺสาติ จ อวิภูตสฺสาติ จ ปทานํ อุทฺธรณํ. ‘‘รูปา รูปานํ’’ติ รูป ธมฺมานฺจ อรูป ธมฺมานฺจ. ‘‘ตาวา’’ติ วีถิ จิตฺตปฺปวตฺติ ทสฺสนโต ปถมตรํ เอวาติ อตฺโถ. ‘‘อทฺธาน ปริจฺเฉทํ’’ติ ขณกาล ปริจฺเฉทํ. วิภาวนิปาเ ‘‘อติมหนฺตา ทิวเสน วิสย ววตฺถานํ โหตี’’ติ วจเนน อาทิมฺหิ ‘ฉวตฺถูนิ, ฉ ทฺวารานิ, ฉ อารมฺมณานิ, ฉ วิฺาณานิ, ฉ วีถิโย, ฉ ธาวิสยปฺปวตฺตี,ติ เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ ฉกฺเกสุ ฉธาวิสยปฺปวตฺตีติ ปทมตฺตํ สงฺคณฺหาติ. ตํ อนุปปนฺนํ โหติ. เตนาห ‘‘เอวฺหิ สตี’’ติอาทึ. ‘‘วิสย ววตฺถานตฺถ เมวา’’ติ อติมหนฺตาทิ วิสย ววตฺถานตฺถเมว วุตฺตนฺติ น จ สกฺกา วตฺตุํ. รูปา รูป ธมฺมานํ อทฺธาน ปริจฺเฉโท นาม อภิธมฺเม สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺโพ. ตสฺมา ตสฺส ทสฺสนตฺถมฺปิ ตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สภาวปฺปฏิลาโภ’’ติ จินฺตน ผุสนาทีนํ ปาตุภาโว วุจฺจติ. ‘‘อนิวตฺตี’’ติ อนนฺตรธานํ วุจฺจติ. ‘‘ปริหายิตฺวา’’ติ ชรา กิจฺจํ อาห. ‘‘อจฺฉราสงฺฆาฏกฺขณสฺสา’’ติ องฺคุลีนํ สงฺฆฏฺฏนกฺขณสฺส. อาจริยานนฺทตฺเถโร นาม อภิธมฺม ฏีกากาโร วุจฺจติ. ‘‘อสฺสา วิชฺชุยาิติ นาม วิสุํ น ปฺายตี’’ติ วิชฺชุปฺปาทํ ปสฺสนฺตานํ น ปฺายติ. ตถา จิตฺตมฺปิ วฑฺฒนานนฺตรเมว ภิชฺชตีติ โยชนา. เตนาห ‘‘ตํ ปี’’ติอาทึ. อุทยภาโค นาม วฑฺฒนภาโค, วยภาโค นาม อนฺตรธานภาโค. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติ ลทฺธคุณ วจนํ. ‘‘เอกํจิตฺตํ ¶ ทิวสํ ติฏฺตี’’ติ ปุจฺฉา วจนํ. ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิฺา วจนํ. ‘‘วยกฺขโณ’’ติ ปุจฺฉา. ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺเขโป. ปจฺจตฺต วจนสฺส เอการตฺตํ. เอวํ นวตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘มหาเถเรนา’’ติ โมคฺคลิ ปุตฺตติสฺส มหาเถเรน. นนุ สุตฺตนฺเตสุ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นา’’ติ น อุปลพฺภติ. ‘‘อิมสฺส วุตฺตตฺตา’’ติ อิมสฺส วจนสฺส วุตฺตตฺตา. สงฺขต ลกฺขณํ วิสโย เยสํ ตานิ สงฺขต วิสย ลกฺขณานิ. สงฺขต ธมฺมเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. อยํ อภิธมฺเม ธมฺมตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘สงฺคห กาเรนา’’ติ อาจริย พุทฺธโฆสตฺเถรํ วทติ. ‘‘อตฺถิกฺขณํ’’ติ ขณทฺวยเมว วุจฺจติ. อิติ วตฺวา ตมตฺถํ สาเธนฺตีติ สมฺพนฺโธ. คาถายํ. ‘‘ตสฺเสวา’’ติ ตสฺสา ิติยา เอว เภโท. สพฺพทา สพฺพปาณินํ มรณํ นาม วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘ตมตฺถํ’’ติ ตานิ อตฺถิกฺขณํ อุปาทาย ลพฺภนฺตีติ อตฺถํ. ‘‘อถวา’’ติ เอโก เถรวาโท. ‘‘สนฺตติ วเสน านํ’’ติ ิตาย อฺถตฺตํ ปฺายตีติ เอตฺถ ิตภาวสงฺขาตํ านํ สนฺตติ ิติวเสน เวทิตพฺพนฺติ วทนฺติ. ‘‘อิมสฺมึ ปน สุตฺเต’’ติ เวทนาย อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตาย อฺถตฺตํ ปฺายตีติ อิทํ สุตฺตํ วทติ. ‘‘อปฺปฏิพาเหตฺวา’’ติ อนีวาเรตฺวา. ยาวฑฺฒนสฺส นิวตฺติ นาม อตฺถิ. อุทย ปริยนฺต มตฺตภูตา สา เอว นิวตฺติ. ‘‘ทฺวีหิ ขนฺเธหี’’ติ รูป ชรา รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตา. อรูป ชรา สงฺขารกฺขนฺเธนาติ เอวํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ. ยฺจ ตตฺถ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. รูปสฺส อุปฺปาโท ทฺวิธาภินฺทิตฺวา เทสิโต. กถํ, อุปจโย สนฺตตี ติโยชนา. ‘‘วิภาคา รหสฺสา’’ติ อุปฺปาโท อุปฺปชฺช นฏฺเน เอโก สมาโน รูปานํ วฑฺฒน สมเย อุปฺปาโท. อุปริ วฑฺฒนฏฺเน อุปจโยติ วุตฺโต. อวฑฺฒิตฺวา ิต สมเย อุปฺปาโท ยถา ิต นีหาเรน จิรกาลํ ปวตฺติ อตฺเถน สนฺตตีติ วุตฺโต. เอวํ วิภาคา รหสฺส. ‘‘ยถานุโลม สาสนํ’’ติ วิเนตพฺพ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยานุโลม สาสนํ.
‘‘อรูป’’นฺติอาทีสุ. ‘‘อรูปํ’’ติ สพฺพโส รูปสณฺาน รหิตตฺตา จิตฺต เจตสิกํ นามํ วุจฺจติ. ‘‘อรูปิ สภาวตฺตา’’ติ อรูป ธมฺม สภาวตฺตา อิจฺเจวตฺโถ. ตตฺถ อรูป ธมฺม สภาโว นาม รูป ธมฺมโต สตคุเณนวาสหสฺสคุเณนวาสณฺหสุขุมสภาโว ¶ . วิภาว นิปาเ. ‘‘คาหก คเหตพฺพ ภาวสฺส ตํ ตํ ขณวเสน นิปฺผชฺชนโต’’ติ เอตฺถ ปฺจทฺวาร วีถีสุ วีถิ จิตฺตานฺจ อารมฺมณานฺจ วิสยี วิสยภาโว คาหก คเหตพฺพ ภาโว นาม. ‘‘ตํ ตํ ขณวเสน นิปฺผชฺชนโต’’ติ วีถิ จิตฺตานิ จ เอกสฺมึ อารมฺมเณปิ อาวชฺชนาทีหิ นานา กิจฺเจหิ คณฺหนฺตา เอว คหณ กิจฺจํ สมฺปาเทนฺติ. นานา กิจฺจานิ จ นานา จิตฺตานํ วเสน สมฺปชฺชนฺติ. อารมฺมณานิ จ ปุเรชาตานิ หุตฺวา ยาว ตานิ กิจฺจานิ สมฺปชฺชนฺติ, ตาว ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน ธรมานานิ เอว คหณํ สมฺปาเทนฺติ. เอวํ สติ, คาหกานํ วีถิ จิตฺตานฺจ ขณตฺตยายุกตฺตา เอว คาหก กิจฺจํ นิปฺผชฺชติ, สิชฺฌติ. คเหตพฺพานํ อารมฺมณานฺจ สตฺตรส จิตฺตกฺขณายุกตฺตา เอว คเหตพฺพ กิจฺจํ นิปฺผชฺชติ, สิชฺฌติ. เอวํ ตํ ตํ ขณ วเสน นิปฺผชฺชนโต. วิฺตฺติ ทฺวยํ เอก จิตฺตกฺขณิกํ. กสฺมา, จิตฺตานุ ปริวตฺติ ธมฺมตฺตา. ‘‘อุปฺปาทมตฺตา’’ติ นิปฺผนฺน รูปานํ อุปฺปาทมตฺตา. ‘‘ภงฺคมตฺตา’’ติ เตสเมว ภงฺคมตฺตา. ‘‘รูป ธมฺมานํ’’ติ นิปฺผนฺน รูป ธมฺมานํ. ‘‘อุปฺปาทนิโรธ วิธานสฺสา’’ติ อุปฺปาท นิโรธ วิธานภูตสฺส มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปฏิสิทฺธตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ มหาอฏฺกถา วจนํ. ‘‘ตสฺมึ วาเท’’ติ ตสฺมึ มหาอฏฺกถาวาเท. ‘‘ตตฺถ อาคตา’’ติ ตสฺมึ วาเท อาคตา. ยํ ปน วิภาวนิยํ การณํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตํ ฏีกานยํ’’ติ ตํ โสฬส จิตฺตกฺขณายุก ทีปกํ มูลฏีกานยํ. ตทตฺถํ สาเธนฺเตน วิภาวนิ ฏีกาจริเยน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สงฺคหการสฺส อฏฺกถา จริยสฺส. ‘‘อุปจรียตี’’ติ อุปจาร วเสน โวหรียติ. วิภาวนิปาเ. ‘‘เอตานี’’ติ อารมฺมณานิ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ เอก จิตฺตกฺขณํ. ‘‘เต จา’’ติ รูป ธมฺมา จ. ‘‘ปริปุณฺณ ปจฺจยูปลทฺธา’’ติ ปริปุณฺณํ ปจฺจยํ อุปลทฺธา. ‘‘โส’’ติ ฏีกากาโร. ‘‘อิตรานี’’ติ คนฺธรส โผฏฺพฺพานิ. ‘‘โคจรภาวํ’’ติ ปฺจทฺวาริก จิตฺตานํ โคจรภาวํ. ‘‘ปุริมานิ ทฺเว’’ติ รูปสทฺทา รมฺมณานิ. ‘‘นิมิตฺต วเสน ฆฏฺเฏนฺตี’’ติ อาทาสํ ปสฺสนฺตสฺส มุขสทิสํ มุขนิมิตฺตํ มุขปฺปฏิพิมฺพํ อาทาเส อุปฏฺาติ. เอวํ รูปารมฺมณํ จกฺขุปสาเท สทฺทารมฺมณฺจ โสตปสาเท ตํ สทิส นิมิตฺต วเสน ฆฏฺเฏนฺติ ¶ . นวตฺถุ วเสน ฆฏฺเฏนฺติ. สยํ คนฺตฺวา น ฆฏฺเฏนฺตีติ อธิปฺปาโย. อสมฺปตฺตานฺเว อารมฺมณานํ. ‘‘นิมิตฺตุ ปฏฺาน วเสนา’’ติ นิมิตฺตสฺส อุปฏฺานวเสน. ‘‘นิมิตฺต อปฺปนาวเสนา’’ติ นิมิตฺตสฺส ปเวสน วเสน. มโนทฺวาเร ปน อสมฺปตฺตานิเยว หุตฺวาติ ปาเสโส. ‘‘อาปาตา คมนฺเจตฺถา’’ติอาทีสุ. ‘‘ลฺฉกานํ’’ติ ลฺฉนการานํ. ‘‘ลฺฉนกฺขนฺธํ’’ติ อโยมยํ ลฺฉนกฺขนฺธํ. โส จ ลฺฉนกฺขนฺโธ ตาลปณฺเณ อาปาเตตฺวา อกฺขรํ อุปฏฺาเปติ. ตตฺถ ‘‘อาปาเตตฺวา’’ติ อชฺโฌตฺถริตฺวา. ‘‘จกฺขาทิปฺปเถ’’ติ จกฺขาทีนํ วิสยกฺเขตฺเต. น เกวลํ อตฺตโน ทฺวาเรสุ เอว อาปาต มาคจฺฉนฺติ. อถ โข มโนทฺวาเรปิ อาปาต มาคจฺฉนฺติ. น เกวลํ ภวงฺค มโนทฺวาเร เอว อาปาต มาคจฺฉนฺตีติ โยชนา. ‘‘เตสุ ปนา’’ติ เตสุ อารมฺมเณสุ ปน. ตานิ อารมฺมณานิ เยสํ ตานิ ตทา รมฺมณานิ. น เอกกฺขเณ ปฺจสุ อารมฺมเณสุ วีถิ จิตฺตานิ ปวตฺตนฺติ, เอเกกสฺมึ อารมฺมเณ เอวาติ วุตฺตตฺตา น ทฺวีสุ, น ตีสุ, น จตูสูติปิ วตฺตพฺพํ. พหุจิตฺตกฺขณาตีตานิ ปฺจารมฺมณานิ พหุจิตฺตกฺขณาตีเต ปฺจทฺวาเรติ โยชนา. ปฺจทฺวาเรติ จ ปฺจทฺวาเรสูติ อตฺโถ. ‘‘เอวํ สตี’’ติ เตสํ ปสาทานํ อาวชฺชเนน สทฺธึ อุปฺปตฺติยา สติ. ‘‘อาทิลกฺขณํ’’ติ ปฺจารมฺมณานํ ปฺจทฺวาเรสุ อาปาตา คมน สงฺขาตํ วิสยปฺปวตฺติยา อาทิลกฺขณํ. จลนฺจ ทฏฺพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยถา คหิตํ’’ติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย คหิตปฺปการํ. วิภาวนิปาเ ‘‘โยคฺย เทสาวฏฺาน วเสนา’’ติ อาปาตํ อาคนฺตุํ ยุตฺตฏฺาเน อเวจฺจฏฺาน วเสน. ยุชฺชนฺจ, มนฺถนฺจ, โขภกรณฺจ, ฆฏฺฏนนฺติ จ อาปาตา คมนนฺติ จ วุจฺจตีติ โยชนา. เหฏฺา วุตฺโตเยว อาปาตา คมนฺเจตฺถาติอาทินา. ‘‘นานา านิเยสู’’ติ นานา าเนสุ ิเตสุ. ‘‘เอโก ธมฺมนิยาโม นามา’’ติ ยถา โพธิสตฺเต มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺเต ธมฺมนิยาม วเสน สกเล ชาติกฺเขตฺเต ปถวิกมฺปนํ อโหสิ. ตถา อิธปิ ปฺจทฺวาเรสุ เอเกกสฺมึ ทฺวาเร อารมฺมเณ ฆฏฺเฏนฺเต ธมฺมนิยาม วเสน ภวงฺค จลนํ โหติ. อยํ ธมฺมนิยาโม นาม. ‘‘สเหวา’’ติ เอกโตเยว. กถํ ¶ หทย วตฺถุ นิสฺสิตสฺส ภวงฺคสฺส จลนํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ จ ปฺจวิฺาณสฺส จลนํ สิยาติ อิทํ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา, ตทา ปฺจวิฺาณสฺส อวิชฺชมานตฺตา. ยทา จ ตํ วิชฺชติ, ตทา ตํ น จลตีติ น วตฺตพฺพํ. สพฺพมฺปิ หิ วีถิจิตฺตํ นาม จลติ เยวาติ. สนฺตติ นาม ปุพฺพา ปรปฺปพนฺโธ. สณฺานํ นาม สหปฺปวตฺตานํ เอกโต ิติ. อิธ สณฺานํ อธิปฺเปตํ. ปฺจนิสฺสย มหาภูเตหิ สทฺธึ หทย วตฺถุ นิสฺสยภูตานํ เอก สณฺาน ภาเวน เอกาพทฺธตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘สณฺาน วเสนาติ ปน วตฺตพฺพํ’’ติ. ‘‘ตาทิสสฺส อนุกฺกม จลนสฺสา’’ติ วิภาวนิยํ เภริสกฺขโรปมาย สทฺธึ รูปาทินา ปสาเท ฆฏฺฏิเต ตนฺนิสฺส เยสุ มหาภูเตสุ จลิเตสุ อนุกฺกเมน ตํ สมฺพนฺธานํ เสสรูปานมฺปิ จลเนน หทย วตฺถุมฺหิ จลิเต ตนฺนิสฺสิตสฺส ภวงฺคสฺส จลนา กาเรน ปวตฺติโตตีติ เอวํ วุตฺตสฺส อนุกฺกม จลนสฺส. ‘‘ภวงฺคปฺปวาหํ’’ติ ภวงฺค สนฺตตึ. ‘‘กุรุมานํ’’ติ กโรนฺตํ. สลฺลกฺเขนฺตํ’’ติ อิทเมวาติ สนฺนิฏฺาเปนฺตํ. ‘‘โยนิ โสมนสิการาทิวเสนา’’ติ โยนิ โสมนสิกาโร กุสล ชวนุปฺปตฺติยา ปจฺจโย. อโยนิ โสมนสิกาโร อกุสล ชวนุปฺปตฺติยา ปจฺจโย. นิรนุสย สนฺตานตา กฺริยชวนุปฺปตฺติยา ปจฺจโย. เตสุ จ โสมนสฺส ชวนาทีนํ อุปฺปตฺติ ปจฺจโยปิ เหฏฺา จิตฺต สงฺคเห วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
‘‘ภวงฺคปาโต’’ติอาทีสุ. ‘‘อาวชฺชนโต ปฏฺาย อุฏฺิตํ’’ติ กมฺม วิปากสนฺตานโต จ ตทารมฺมณโต จ มฺุจิตฺวา วิสุํ กฺริยามย พฺยาปาเรน อารมฺมณนฺตรํ คเหตฺวา อุฏฺิตํ สมุฏฺิตํ. ภวงฺค จลนมฺปิ อุฏฺานสฺส อาทิ โหติ. ตสฺมา ตมฺปิ อุฏฺิเต จิตฺต สนฺตาเน สงฺคณฺหนฺโต ปถม ภวงฺค จลนโตเยว วาติ วุตฺตํ. ‘‘อิมสฺมึ าเน’’ติ วีถิ จิตฺตานํ อนุกฺกเมน อตฺตโน กิจฺเจหิ อารมฺมณปฺปวตฺติฏฺาเน. ‘‘โทวาริโกปมา’’ติ พธิรโทวาริโกปมา. ‘‘คามิลฺโลปมา’’ติ คามทารโกปมา. ‘‘อมฺโพปมา’’ติ อมฺพปฺผโลปมา. อฺาปิ อุปมา อตฺถิ. มกฺกฏสุตฺโตปมา, อุจฺฉุยนฺโตปมา, ชจฺจนฺโธปมา. ตาสพฺพาปิ อฏฺสาลินิยํ วิปากุทฺธาร กถาโต ¶ คเหตพฺพา. ‘‘ยตฺถหี’’ติอาทีสุ. ‘‘กถํ ฉ ฉกฺก โยชนา โหตี’’ติ. จกฺขุ วตฺถุ วจนฺจ, จกฺขุทฺวาร วจนฺจ, รูปา รมฺมณ วจนฺจ, จกฺขุ วิฺาณ วจนฺจ, จกฺขุทฺวาร วีถิ จกฺขุ วิฺาณ วีถิ วจนฺจ, อติมหนฺตา รมฺมณ วจนฺจา,ติ เอตานิ ฉวจนานิ. เตหิ ฉฉกฺเกหิ อาหริตฺวา อิมิสฺสํ วีถิยํ ทสฺสิตานิ. เสสวีถีสุปิ ยถาลาภํ ทสฺสิตพฺพานิ. เอวํ ฉฉกฺกโยชนา โหติ. ‘‘เอตฺถ จ ยตฺตกานี’’ติอาทีสุ. ‘‘เอกูน ปฺาส ปริมาเณสู’’ติ เอกสฺสนิปฺผนฺน รูปธมฺมสฺส เอกปฺาส มตฺเตสุ ขุทฺทกกฺขเณสุ อุปฺปาทกฺขณฺจ ภงฺคกฺขณฺจ เปตฺวา มชฺเฌ เอกูน ปฺาส มตฺตานิ ิติกฺขณานิ สนฺติ. เตสุ ขเณสุ อนุกฺกเมน อุปฺปนฺนา เอกูน ปฺาส จกฺขุ ปสาทา จ สนฺติ. ‘‘กิสฺมิฺจี’’ติ เตสุ กตรสฺมึ นาม จกฺขุ ปสาเท น ฆฏฺเฏนฺตีติ น วตฺตพฺพานิ. ‘‘เตสุ ปนา’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. ‘‘ยเทว เอกํ จกฺขู’’ติ นิทฺธารณียํ. ตํ ปน กตมนฺติ. อตีต ภวงฺเคน สทฺธึ อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม ภวงฺค จลนกฺขเณ ลทฺธฆฏนํ เอกํ จกฺขุ. ตํ ปน จกฺขุ วิฺาณสฺส วตฺถุ ภาวฺจ ทฺวารภาวฺจ สาเธติ. เสสวิฺาณานํ ทฺวารภาวํ สาเธตีติ. เตนาห ‘‘ยถารหํ’’ติ. เอตเทว เอตํ เอว จกฺขุ กิจฺจ สาธนํ นาม โหติ วีถิ จิตฺตุปฺปตฺติยา วตฺถุ กิจฺจทฺวาร กิจฺจานํ สาธนโต. ‘‘ยํ มชฺฌิมายุกํ’’ติ มนฺทายุก อมนฺทายุกานํ มชฺเฌ ปวตฺตตฺตา ยํ มชฺฌิมายุกนฺติ วทนฺติ. ตํ กิจฺจ สาธนํ นามาติ โยชนา. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ เอกูน ปฺาส ปริมาเณสุ จกฺขุ ปสาเทสูติ วุตฺตานิ, เตสุ เอกํ กิจฺจ สาธนํ เปตฺวา เสสานิ อิตรานิ อฏฺ จตฺตาลีส จกฺขูนิ โมฆวตฺถูนิ นาม โหนฺติ. รูปา รมฺมเณหิ สทฺธึ ลทฺธ ฆฏฺฏนานมฺปิ สตํ วีถิ จิตฺตุปฺปตฺติยา วตฺถุ กิจฺจทฺวาร กิจฺจรหิตตฺตา. เตสุ กตมานิ มนฺทายุกานิ นามาติ อาห ‘‘ตานิ ปนา’’ติอาทึ. กิจฺจ สาธนโต ปุริมานิ นาม อตีต ภวงฺคโต ปุเร เตรสสุ ภวงฺเคสุ อาทิ ภวงฺคสฺส ภงฺคกฺขณโต ปฏฺาย ขเณ ขเณ อุปฺปนฺนา สตฺตตึส จกฺขุ ปสาทา. ตานิ มนฺทายุกานีติ วทนฺติ. กสฺมา, กิจฺจ สาธนโต อปฺปตรายุกตฺตา. กิจฺจ สาธนโต ปจฺฉิมานิ นาม อตีต ภวงฺคสฺส ิติกฺขณโต ¶ ปฏฺาย ขเณ ขเณ อุปฺปนฺนา เอกาทส จกฺขุ ปสาทา, ตานิ อมนฺทายุกานีติ วทนฺติ. กสฺมา, กิจฺจ สาธนโต พหุตรายุกตฺตา. ตทุภยานิปิ อฏฺ จตฺตาลีส มตฺตานิ เวทิตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตโต’’ติ เตหิ อฏฺจตฺตาลีส มตฺเตหิ. ‘‘ปุริมตรานี’’ติ สตฺตตึส มนฺทายุเกหิ ปุริมตรานิ. ตานิ หิ จกฺขุ วิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ิติ ภาเวน อนุปลทฺธตฺตา อิธ น คหิตานิ. ‘‘ปจฺฉิมตรานี’’ติ เอกาทส อมนฺทายุเกหิ ปจฺฉิมตรานิ. ตานิ จ จกฺขุ วิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนานิปิ ตสฺมึ ขเณ ิติ ภาเวน อนุปลทฺธตฺตา อิธ น คหิตานิ. กสฺมา ปน จกฺขุวิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ิติ ภาเวน อนุปลทฺธานิ ตทุภยานิ อิธ น คหิตานีติ. จกฺขุ วิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ิติ ภาเวน ธรมานานํ อฏฺจตฺตาลีส มตฺตานํ จกฺขูนํ มชฺเฌ เอว กตมํ จกฺขุ จกฺขุ วิฺาณสฺส วตฺถุ กิจฺจ ทฺวาร กิจฺจํ สาเธตีติ อาสงฺกิตพฺพํ โหติ. เอตฺถ จ ปฺจ วตฺถูนิ นาม อตฺตโน ิติกฺขเณ เอว ปฺจวิฺาณานํ วตฺถุทฺวาร กิจฺจ สาธกตฺตา จกฺขุ วิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ิติ ภาเวน อนุปลทฺธตฺตา อิธ น คหิตานีติ จ, จกฺขุ วิฺาณสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ิติ ภาเวน ธรมานานนฺติ จ, วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘เอตฺถ สิยา’’ติอาทีสุ. ‘‘อิมาย วีถิยา’’ติ อิมาย อติมหนฺตา รมฺมณ วีถิยา. ‘‘สมุทายคฺคาหิกา’’ติ รูปา รมฺมณานํ สมูหคฺคาหิกา. ‘‘วณฺณสลฺลกฺขณา’’ติ วณฺณววตฺถานิกา. ‘‘วตฺถุคฺคาหิกา’’ติ ทพฺพ สณฺานคฺคาหิกา. ‘‘นามคฺคาหิกา’’ติ นาม ปฺตฺติคฺคาหิกา. ‘‘อลาตจกฺกสฺส คาหิกา วิยา’’ติ รตฺตนฺธกาเร เอโก อลาตํ คเหตฺวา ปริพฺภมติ. อฺโ ตํ ปสฺสนฺโต จกฺกํ วิย มฺติ. ตตฺถ อลาตสฺส คตคตฏฺาเน ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ อารพฺภ จกฺขุทฺวาร วีถิโย อุปฺปชฺชนฺติ. มโนทฺวาร วีถิโย ปน ปุริม ปุริมาหิ จกฺขุทฺวาร วีถีหิ คหิตานิ อตีต รูปานิ อมฺุจิตฺวา เอกโต สณฺานฺจ สนฺตติฺจ กตฺวา คณฺหนฺติ. ตทา ปสฺสนฺตสฺส จกฺกํ วิย อุปฏฺาติ. เอวํ อยํ สมุทายคฺคาหิกา ทฏฺพฺพา. ‘‘นตฺถิ ตทารมฺมณุปฺปาโท’’ติอาทีสุ. ‘‘ยสฺสา’’ติ ยสฺส อารมฺมณสฺส. จิตฺตานีติ จ นานารมฺมณานีติ จ กมฺมปทานิ. อวเสเส ตสฺมึ ¶ อารมฺมเณ. ‘‘สงฺคห กาเรนา’’ติ โปราณ อฏฺกถาโย เอกโต สงฺคเหตฺวา กตตฺตา พุทฺธโฆสตฺเถเรน กตา สพฺพา อฏฺกถาโย สงฺคหฏฺกถา นาม. โส จ สงฺคห กาโรติ วุจฺจติ. ‘‘อิธ ปี’’ติ อิมสฺมึ อภิธมฺมตฺถ สงฺคเหปิ. ‘‘เถเรนา’’ติ อนุรุทฺธตฺเถเรน. ‘‘เอกมฺปิ อิจฺฉติ เยวา’’ติ. ‘‘ยสฺส หิ จตฺตารี’’ติอาทีสุ ยสฺส อารมฺมณสฺส จตฺตาริ วา ปฺจวา ฉวาติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘ชวนมฺปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุ. ‘‘อตฺตโน ปธาน กฺริยายา’’ติ อนุปฺปชฺชิตฺวาติ ปทสฺส ปรโต ‘ยํ ปวตฺตตี’ติ อตฺตโน ปธาน กฺริยาปทํ อตฺถิ. เตน อตฺตโน กฺริยาปเทน สทฺธินฺติ อตฺโถ. ‘‘กตฺถจิ วุตฺตา’’ติ กตฺถจิ สทฺทคนฺเถสุ วุตฺตา. อปิ จ, เหตุมฺหิ ตฺวาปจฺจโย ลกฺขเณ เหตุมฺหิ จ มานนฺต ปจฺจยา โชตนียฏฺเน วุตฺตา, น วจนียฏฺเนาติ ทฏฺพฺพา. ‘‘ปกติ นิยาเมนา’’ติ เอเตน ปจฺจย วิเสเสสติ, จตฺตาริ วา ปฺจวา ฉวา ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ทีเปติ. เตนาห ‘‘เอตฺถปนา’’ติอาทึ. ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ’’ติ วาสทฺทตฺเถ อฺปทตฺถ สมาสปทนฺติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา’’ติ. ‘‘โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนตา’’ติ อาเสวน ปจฺจยตาวา ปจฺจยุปฺปนฺนตาวา. ‘‘อาวชฺชนายา’’ติ เอตฺถ โวฏฺพฺพน กิจฺจํ อาวชฺชนมฺปิ สงฺคณฺหาติ. อิธปิ อารมฺมณ ทุพฺพลตาย จตุปฺปฺจ ชวนุปฺปตฺติ อิจฺฉิ ตพฺพาติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘อิธ ปี’’ติ อิมสฺมึ ปริตฺตา รมฺมณ วาเรปิ. ติโวฏฺพฺพนิกา ปฺจ ปริตฺตา รมฺมณ วีถิโยติ โยชนา. ‘‘อิตรานี’’ติ ปริตฺต มหนฺตาติ มหนฺตา รมฺมณานิ. ‘‘อุภยถาปี’’ติ อาปาตา คมน วเสนปิ อารมฺมณ กรณ วเสนปิ. อิมสฺส ปทสฺส.
๑๓๗. ‘‘มโนทฺวาเร ปนา’’ติอาทีสุ. ‘‘ปริตฺตกฺขณา ปี’’ติ จิตฺต ผสฺสาทโย อปฺปตรกฺขณาปิ. ‘‘อตีตานาคตา ปี’’ติ อตีตานาคต ธมฺมาปิ. ‘‘ฆฏฺฏเนนา’’ติ รูปาทีนํ ฆฏฺฏเนน. ‘‘ยตฺถา’’ติ ยสฺมึ ภวงฺเค. ‘‘ปฺจทฺวารานุ พนฺธกํ’’ติ ปฺจทฺวาร วีถิ อนุคตํ. อตีตํ อาลมฺพณํ ปวตฺเตติ เยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยถาปาตา คตเมวา’’ติ ปกติยา อาปาตา คตปฺปการเมว. ‘‘ตถา ตถา’’ติ ทิฏฺ สมฺพนฺธาทินา เตน เตน ปกาเรน. ‘‘กิฺจี’’ติ ¶ กิฺจิ อารมฺมณํ. ‘‘ทิสฺวา’’ติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา. ปฺจทฺวารคฺคหิตฺหิ อารมฺมณํ ปจฺจกฺขกตฏฺเน ทิฏฺนฺติ วุจฺจติ. ยํ กิฺจิ อารมฺมณํ. ‘‘อนุมาเนนฺตสฺสา’’ติ เอวเมว ภวิตฺถ, ภวิสฺสติ, ภวตีติ อนุมานฺาเณน จินฺเตนฺตสฺส. ตํ สทิสํ อารมฺมณํ. ‘‘ปรสฺส สทฺทหนา’’ติ ปรวจนํ สุตฺวา ยถา อยํ วทติ, ตเถ เวตนฺติ สทฺทหนา. ‘‘ทิฏฺิ’’ วุจฺจติ าณํ วา ลทฺธิ วา. ‘‘นิชฺฌานํ’’ติ สุฏฺุ โอโลกนํ. ‘‘ขนฺตี’’ติ ขมนํ สหนํ. อฺถตฺตํ อคมนํ. ทิฏฺิยา นิชฺฌานํ ทิฏฺินิชฺฌานํ. ทิฏฺินิชฺฌานสฺส ขนฺติ ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ. ‘‘เสสํ’’ติ นานากมฺม พเลนาติอาทิกํ. ‘‘เทวโต ปสํหารวเสนา’’ติ เทวตา กทาจิ เกสฺจิ สุปินนฺเต นานารมฺมณานิ อุปสํหริตฺวา ทสฺเสนฺติ. เอวํ เทวโต ปสํหาร วเสนาปิ. อนุโพโธ นาม โลกิยฺาณ วเสน จตุสฺสจฺจ ธมฺมานํ อนุพุชฺฌนํ. ปฏิเวโธ นาม โลกุตฺตรฺาณ กิจฺจํ. อนนฺต รูป นิสฺสย ปจฺจยคฺคหเณน ปกตู ปนิสฺสย ปจฺจยมฺปิ อุปลกฺเขติ. จิตฺต สนฺตานสฺส อนนฺตรูปนิสฺสย ปจฺจยภาโว นามาติ สมฺพนฺโธ. อนนฺต รูป นิสฺสย ปจฺจยสตฺติ นาม อนนฺตร ปรมฺปร วิปฺผรณวเสน มหาคติกา โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อนนฺต รูป นิสฺสย ปจฺจยานุ ภาโวติปิ ยุชฺชติ. กถํ มหาวิปฺผาโรติ อาห ‘‘สกึ ปี’’ติอาทึ. ‘‘สุฏฺุ อาเสวิตฺวา’’ติ เอตฺถ ปจฺฉา อปฺปมุสฺสมานํ กตฺวา ปุนปฺปุนํ เสวนํ สุฏฺุ อาเสวนํ นาม. น เกวลํ ปุริม จิตฺต สนฺตานสฺส โส อุปนิสฺสย ปจฺจยานุภาโว เอว มหาวิปฺผาโร โหติ. ปกติยา จิตฺตสฺส วิจิตฺต ภาว สงฺขาตํ จินฺตนา กิจฺจมฺปิ มหาวิปฺผารํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตฺจ นามา’’ติอาทิวุตฺตํ. กถํ มหาวิปฺผารํ โหตีติ อาห ‘‘กิฺจิ นิมิตฺตํ’’ติอาทึ. ‘‘กิฺจิ นิมิตฺตํ’’ติ ทิฏฺาทีสุ นานา รมฺมเณสุ กิฺจิ อปฺปมตฺตกํ ทิฏฺาทิกํ อารมฺมณ นิมิตฺตํ. ‘‘เตหิ จการเณหี’’ติ เตหิ กตฺตุภูเตหิ ทิฏฺาทีหิ การเณหิ. ‘‘โจทียมานํ’’ติ ปโยชียมานํ. ‘‘อชฺฌาสย ยุตฺตํ’’ติ อชฺฌาสเยน สํยุตฺตํ. ภวงฺค จิตฺตสฺส อารมฺมณํ นาม อวิภูตํ โหติ. ภวงฺคํ จาเลตฺวา อาวชฺชนํ นิโยเชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ลทฺธ ปจฺจเยสู’’ติ อาโลกาทิวเสน วา ¶ ทิฏฺาทิวเสน วา ลทฺธ ปจฺจยวนฺเตสุ. ตทภินินฺนากาโร นาม นิจฺจกาลมฺปิ เตสุ อารมฺมเณสุ อภิมุขํ นินฺนากาโร. เตน อากาเรน ปวตฺโต มนสิกาโร. เตน สมฺปยุตฺตสฺส. เอเตหิ วจเนหิ สุทฺธมโนทฺวาเร อารมฺมณานํ อปาตาคมนฺจ ภวงฺค จลนฺจ น เกวลํ ลทฺธ ปจฺจยานํ อารมฺมณานํ วเสเนว โหติ. ตาทิเสน ปน มนสิกาเรน ยุตฺตสฺส สยฺจ วีถิ จิตฺต จินฺตนา กิจฺจสฺส จิตฺตสฺส วเสนาปิ โหตีติ สิทฺธํ โหติ. น หิ อารมฺมณนฺตเร อภินินฺนากาโร นาม นตฺถีติ สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมา, อภาวิต จิตฺตานํ ปมาท พหุลานํ ชนานํ กทาจิ กรหจิ ภาวนา มนสิกาเร กรียมาเนปิ วีถิ จิตฺต สนฺตานสฺส พหิทฺธา นานารมฺมเณสุ อภินินฺนาการสฺส สนฺทิสฺสนโตติ. ‘‘ยถา เจตฺถา’’ติ ยถา เอตฺถ มโนทฺวาเร รูปารูป สตฺตานํ วิภูตา รมฺมเณปิ ตทา รมฺมณุปฺปาโท นตฺถิ, เอวนฺติ โยชนา. าณวิภงฺคฏฺกถายํ ปน โวฏฺพฺพนวาโรปิ อาคโต. ยถาห สุปิเนเนว ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เมติ กถนกาเลปิ อพฺยากโต เยวาติ. ตตฺถ หิ ‘‘อพฺยากโต เยวา’’ติ สุปินนฺเต มโนทฺวาเร ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปนฺนสฺส อาวชฺชนสฺส วเสน อพฺยากโตเยว. ตโต ปรํ ภวงฺคปาโต. อฏฺสาลินิยมฺปิ วุตฺตํ อยํ ปน วาโร ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม ติอาทีนิ วทนกาเล ลพฺภตีติ. ตํ ปน ปฺจ ทฺวาเร ปริตฺตารมฺมเณ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปนฺนสฺส โวฏฺพฺพนสฺส วเสน วุตฺตํ. ‘‘โสปิ อิธ ลทฺธุํ วฏฺฏติ เยวา’’ติ โสปิ วาโร อิมสฺมึ มโนทฺวาเร ลทฺธุํ วฏฺฏติเยว. ‘‘ภวงฺเค จลิเต นิวตฺตนกวารานํ’’ติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ภวงฺค จลนมตฺเต ตฺวา วีถิ จิตฺตานิ อนุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคปาตวเสน นิวตฺตนกานํ โมฆวารานํ มโนทฺวาเรปิ ปมาณํ น ภวิสฺสติเยว. อถ อิมสฺมึวาเร วีถิ จิตฺตปฺปวตฺติ นตฺถิ. เอวํ สติ, อิมสฺมึ วีถิ สงฺคเห โส วาโร น วตฺตพฺโพติ เจ. วตฺตพฺโพเยว. กสฺมา, ฉธา วิสยปฺปวตฺตีติ อิมสฺมึ ฉกฺเก สงฺคหิตตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิสเย จ อาปาตาคเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมณภูตา วิสยปฺปวตฺติ. เอเกกสฺมึ อนุพนฺธกวาเร. ‘‘ตทารมฺมณ วาราทโย’’ติ ตทารมฺมณ วาโร ชวนวาโร โวฏฺพฺพน วาโร ¶ โมฆวาโร. เตสุ ปน ตทา รมฺมณวาโร วตฺถุคฺคหเณ จ นามคฺคหเณ จ น ลพฺภติ. ‘‘วตฺถู’’ติ หิ สณฺาน ปฺตฺติ. ‘‘นามํ’’ติ นาม ปฺตฺติ. น จ ตทา รมฺมณํ ปฺตฺตา รมฺมณํ โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถารหํ’’ติ. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ ทิฏฺวาราทีสุ ฉสุ วาเรสุ. เอตรหิ ปน เกจิ อาจริยาติ ปาเสโส. ‘‘อตีต ภวงฺค วเสนา’’ติ เอกํ ภวงฺคํ อติกฺกมฺม อาปาตา คเต อารมฺมเณ เอโก วาโร, ทฺเว ภวงฺคานิ อติกฺกมฺม อาปาตา คเต เอโกติอาทินา อตีต ภวงฺค เภทวเสน. ‘‘ตทา รมฺมณ วเสนา’’ติ ตทา รมฺมณสฺส อุปฺปนฺนวาโร อนุปฺปนฺน วาโรติ เอวํ ตทา รมฺมณ วเสน. กปฺเปนฺติ จินฺเตนฺติ, วิทหนฺติ วา. ‘‘ขณ วเสน พลวทุพฺพลตา สมฺภโว’’ติ ยถา ปฺจทฺวาเร อติมหนฺตา รมฺมเณสุปิ อารมฺมณ ธมฺมา อุปฺปาทํ ปตฺวา อาทิโต เอกจิตฺตกฺขณมตฺเต ทุพฺพลา โหนฺติ. อตฺตโน ทฺวาเรสุ อาปาตํ อาคนฺตุํ น สกฺโกนฺติ. เอก จิตฺตกฺขณํ ปน อติกฺกมฺม พลวนฺตา โหนฺติ. อตฺตโน ทฺวาเรสุ อาปาตํ คนฺตุํ สกฺโกนฺติ. มหนฺตา รมฺมณาทีสุ ปน ทฺวิ จิตฺตกฺขณิกมตฺเต ทุพฺพลา โหนฺตีติอาทินา วตฺตพฺพา. น ตถา มโนทฺวาเร อารมฺมณานํ ขณ วเสน พลวทุพฺพลตา สมฺภโว อตฺถิ. กสฺมา นตฺถีติ อาห ‘‘ตทา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ตทา’’ติ ตสฺมึ วีถิ จิตฺตปฺปวตฺติกาเล. ‘‘ตตฺถา’’ติ มโนทฺวาเร.
‘‘เอตฺถ สิยา’’ติอาทีสุ. ‘‘สิยา’’ติ เกสฺจิ วิจารณา สิยา. เอกํ อาวชฺชนํ อสฺสาติ เอกาวชฺชนา. ‘‘วีถี’’ติ วีถิจิตฺตปฺปพนฺโธ. เอกาวชฺชนา จ สา วีถิ จาติ วิคฺคโห. ‘‘อาวชฺชนํ’’ติ อาวชฺชน จิตฺตํ. ตํ วา อาวชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตํ ตํ ชวเนนา’’ติ เตน เตน ชวเนน สหุปฺปนฺนํ วา ปรสฺส จิตฺตํ อาวชฺชติ กินฺติ โยชนา. ‘‘กิฺเจตฺถา’’ติ เอตฺถ วจเน กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ยทิ ตาว อาวชฺชนฺจ ชวนานิ จาติ อธิกาโร. ‘‘ตฺหิ จิตฺตํ’’ติ ปรสฺส จิตฺตํ. ‘‘เอวมฺปิ ภินฺนเมวา’’ติ ชวนานํ ธมฺมโต ภินฺนเมว. เอตฺถ อฏฺกถายํ วินิจฺฉิตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตํ จิตฺตํ นิรุทฺธมฺปิ ชวนานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนเมว โหตีติ โยชนา. ‘‘อทฺธาวเสน คหิตํ’’ติ อทฺธา ปจฺจุปฺปนฺน วเสน คหิตํ. ‘‘สนฺตติวเสน คหิตํ’’ติ สนฺตติ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน คหิตํ. อาจริยานนฺทมเต. สพฺเพสมฺปิ อาวชฺชน ชวนานํ. จิตฺตเมว โหติ, ตสฺมา ธมฺมโต อภินฺนํ. ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โหติ, ตสฺมา กาลโต อภินฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนนฺตรปจฺจเย อตีโต จ ปจฺจุปฺปนฺโน จ ขณ วเสน ยุชฺชติ. ยทิ อทฺธาสนฺตติ วเสน ยุชฺเชยฺย, ปจฺจุปฺปนฺโน ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตร ปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺโต ภเวยฺย. กสฺมา, เอกาวชฺชน วีถิยฺหิ สพฺพานิ จิตฺตานิ อทฺธาสนฺตติ วเสน ปจฺจุปฺปนฺนานิ เอว โหนฺตีติ.
๑๓๘. อปฺปนาวาเร. ‘‘อปฺปนา ชวนํ’’ติ กมฺมปทํ. ‘‘ตทา รมฺมณํ’’ติ กตฺตุปทํ. ‘‘อินฺทฺริย สมตาทีหี’’ติ สทฺธาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อฺมฺํ อนติ วตฺตนวเสน สมตาทีหิ. ‘‘ปริโต’’ติ สมนฺตโต. ‘‘อุเปจฺจา’’ติ อุปคนฺตฺวา. อปฺปนํ วหิตุํ ชเนตุํ สมตฺถ ภาโว อปฺปนาวหสมตฺถภาโว. ‘‘ยสฺส ปวตฺติยา’’ติ ยสฺส อุปจาร ชวนสฺส ปวตฺติโต. ‘‘อจิรํ กาลํ’’ติ อจิเรกาเล. ปริตฺต ชาติกา นาม กามาวจรชาติ. ‘‘โคตฺตํ’’ติ กมฺมกตฺตุ ปทํ. ‘‘อภิภุยฺยตี’’ติ ภาวนา พเลน อภิภุยฺยมานํ โหติ. อภิมทฺทียมานํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ฉิชฺชตี’’ติ อิทํ ปน อภิภวนสฺส สิขาปตฺต ทสฺสนํ. ยาว ตํ โคตฺตํ เฉทํ ปาปุณาติ, ตาว อภิภุยฺยติ, มทฺทียตีติ วุตฺตํ โหติ. โคตฺตํ อภิภวตีติ โคตฺรภูติปิ ยุชฺชติ. ‘‘ปฺจมํ’’ติ ปฺจเม จิตฺตวาเร. ‘‘ตทาหิ ชวนํ ปติตํ นาม โหตี’’ติ ปกติยา ชวนปฺปวตฺตินาม สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม โหติ. จตุตฺถฺจ มุทฺธปตฺตํ. ปฺจมโต ปฏฺาย ปติตํ. ตสฺมา ตสฺมึ ปฺจมวาเร ชวนํ ปติตํ นาม โหติ. ‘‘ทุตีเยนา’’ติ ทุตีเยน เอว สทฺเทน. ‘‘ทุตียํ’’ติ ทุตีเย จิตฺตวาเร. ตทา อนุโลมํ ปถมชวนํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อลทฺธา เสวนํ อนุโลม’’นฺติ. ‘‘เอเตเนวา’’ติ เอเตน เอว สทฺท ทฺวเย เนว. อฏฺสาลินิยํ ปน อนฺุาตา วิย ทิสฺสติ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ. มนฺทปฺสฺส จตฺตาริ อนุโลมานิ โหนฺติ, ปฺจมํ โคตฺรภุ, ฉฏฺํ มคฺคจิตฺตํ, สตฺตมํ ผลนฺติ. ‘‘อิตรฏฺกถาสู’’ติ วินยฏฺ กถาทีสุ. ‘‘ปฏิสิทฺธตฺตา’’ติ ปฺจมํ โคตฺร ภุปฺปวตฺติยา ปฏิสิทฺธตฺตา ¶ อาทิมฺหิ อฏฺนฺนํ อฺตฺรสฺมึติ วุตฺตตฺตา อิธ นิรุทฺเธติ ปทํ อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺพเมวาติ วุตฺตํ ‘‘นิรุทฺเธ อนนฺตรเมวาติ ปทจฺเฉโท’’ติ. อนนฺตร สทฺทสฺส จ นิจฺจํ สมฺพนฺธาเปกฺขตฺตา ตเมวปทํ วิภตฺติ ปริณาเมน อธิกตนฺติ อาห ‘‘นิรุทฺธสฺสาติ อตฺถโต ลทฺธเมวา’’ติ. ‘‘วสิภูตาปี’’ติ วสิภูตาปิ สมานา. ‘‘เอกวารํ ชวิตฺวา’’ติ อิทํ โลกิยปฺปนาวเสน วุตฺตํ. โลกุตฺตร อปฺปนาปน สตฺตมมฺปิ อุปฺปชฺชติเยว. มูลฏีกา ปาเ ‘‘ภูมนฺตรปตฺติยา’’ติ โคตฺรภุ จิตฺตํ กามภูมิ โหติ. อปฺปนาปน มหคฺคตภูมิ วา โลกุตฺตรภูมิ วา โหติ. เอวํ ภูมนฺตรปตฺติยา. ‘‘อารมฺมณนฺตร ลทฺธิยา’’ติ ผลสมาปตฺติ วีถิยํ ผลชวนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถหิ ปุริมานิ อนุโลม ชวนานิ สงฺขารา รมฺมณานิ โหนฺติ. ผลชวนํ นิพฺพานารมฺมณํ. อิทฺจ การณมตฺตเมว. ยถาวุตฺต เลฑฺฑุปมา เอว อิธ ยุตฺตรูปาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ เอตํ อตฺถชาตํ น โข เอวํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อนทฺธนียา’’ติ อทฺธานํ ทีฆกาลํ นข มนฺตีติ อนทฺธนียา. อสารา. อสารตฺตา เอว สีฆตรํ รุหนฺติ. สีฆตรํ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ อาปชฺชนฺติ. สารวนฺตา ปน สาเรน สห วฑฺฒมานตฺตา สีฆตรํ นรุหนฺติ. สีฆตรํ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ นา ปชฺชนฺติ. เตนาห ‘‘เอกวสฺสชีวิโน’’ติอาทึ. ‘‘เอวเมวา’’ติอาทีสุ ‘‘ปติตชวเนสู’’ติ ปฺจม ฉฏฺ สตฺตม ชวเนสุ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘สุปกฺกสาลิภตฺต สทิสานี’’ติ ยถา สาลิภตฺตานิ สุปกฺกตฺตา เอว มุทุตรานิ หุตฺวา ทุพฺพลานิ อจิรฏฺิติกานิ. ตสฺมึ ทิวเสปิ ปูติภาวํ คจฺฉนฺติ. เอวํ อปฺปนา ชวนานิ. ‘‘ยสฺมา จา’’ติอาทีสุ. ‘‘ทุวิธสฺส นิยมสฺสา’’ติ ชวนนิยมสฺส จ กาลนิยมสฺส จ. ‘‘ปฏิสนฺธิยา อนนฺตร ปจฺจย ภาวิโน’’ติ สตฺตม ชวน เจตนา อนนฺตร ปจฺจโย, ตทนนฺตเร ปวตฺตํ วิปาก สนฺตานํ ปจฺจยุปฺปนฺโน, ตเมว จ อวสาเน จุติ จิตฺตํ หุตฺวา ภวนฺตเร ปฏิสนฺธิ จิตฺตสฺส อนนฺตร ปจฺจโย. เอวํ ปฏิสนฺธิ จิตฺตสฺส อนนฺตร ปจฺจย ภาเวน อวสฺสํ ภวิสฺสมานสฺสาติ อตฺโถ. อิทฺจ การณ มตฺตเมว. มหาฏีกาวจนํ ปน กิฺจิ วตฺตพฺพ รูปนฺติ น ปฏิกฺขิตฺตํ. ‘‘นิรนฺตรปฺปวตฺตานํ’’ติ ¶ อาทีสุ. ภินฺนา อสทิสา เวทนา เยสํ ตานิ ภินฺนเวทนานิ. ‘‘อาเสวน ปจฺจนีกานํ’’ติ อาเสวน ปจฺจยปฺปฏิ ปกฺขานํ. อภินฺนา เวทนา เยสนฺติ วิคฺคโห. กฺริยชวนานนฺตรํ อรหตฺตผลํ ผลสมาปตฺติ วีถิยํ ทฏฺพฺพํ. เสสเมตฺถสุวิฺเยฺยํ.
๑๓๙. ‘‘สพฺพถา ปี’’ติอาทีสุ. โลเก มชฺฌิมเก หิ มหาชเนหิ อิจฺฉิตมฺปิ กิฺจิ อารมฺมณํ อติอุกฺกฏฺเหิ มนฺธาตุ ราชาทีหิ อิจฺฉิตํ น โหติ. ตถา เตหิ มหาชเนหิ อนิจฺฉิตมฺปิ กิฺจิ อารมฺมณํ อติทุคฺคเตหิ ปจฺจนฺต วาสีหิ อิจฺฉิตํ โหติ. ตสฺมา อารมฺมณานํ อิฏฺานิฏฺ ววตฺถานํ ปตฺวา อติอุกฺกฏฺเหิ จ อติทุคฺคเตหิ จ ววตฺถานํ น คจฺฉติ, มชฺฌิมเกหิ เอว ววตฺถานํ คจฺฉติ. เตนาห ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทึ. ‘‘อารมฺมณํ’’ติ กตฺตุปทํ. ‘‘วิปากจิตฺตํ’’ติ กมฺมปทํ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิ รูปํ. ‘‘กิสฺมิฺจี’’ติ กสฺมึจิ เอกสฺมึ ปุปฺเผ. ‘‘เตน วา’’ติ เตน วา สุขสมฺผสฺเสน วตฺเถน. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
‘‘เวทนานิยโมปนา’’ติอาทีสุ. ‘‘อาทาเส มุขนิมิตฺตสฺส วิยา’’ติ ยถา อาทาเส มุข นิมิตฺตสฺส จลน จวนาทิโยโค นานาวณฺณโยโค จ ยถามุขเมว สิทฺโธ. ตถา วิปากานํ. เวทนา โยโค ปน ยถารมฺมณเมว สิทฺโธติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘เวทนาโยโค’’ติ นานาเวทนาโยโค. ‘‘กปฺเปตฺวา’’ติ จินฺเตตฺวา. ‘‘ปกปฺเปตฺวา’’ติ นานปฺปการโต จินฺเตตฺวา. น เกวลฺจ วิปากานํ เอว ยถารมฺมณํ เวทนา โยโค โหตีติ โยชนา.
‘‘อยฺจา’’ติอาทีสุ. ‘‘อฏฺกถายํ ปี’’ติ ปฏฺาน อฏฺกถายมฺปิ. ‘‘ตทารมฺมณ วเสนา’’ติ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานนฺติ ปาเสโส. ‘‘ปฺจนฺนํ’’ติ โสมนสฺส สนฺตีรเณน สทฺธึ จตฺตาริ มหาวิปาก โสมนสฺสานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปกติ นีหาเรนา’’ติ ปกติยา นิจฺจกาลํ ปวตฺตปฺปกาเรน. ปาฬิปาเ. ภาวิตานิ อินฺทฺริยานิ เยนาติ ภาวิตินฺทฺริโย. ‘‘มนาปํ’’ติ มโนรมฺมํ. ‘‘อมนาปํ’’ติ อมโนรมฺมํ. วิหเรยฺยนฺติ สเจ กงฺขตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปฏิกูเล’’ติ ¶ อมนาเป. ‘‘อปฺปฏิกูล สฺี’’ติ มนาปสฺี. เอวํ เสเสสุ. ‘‘เตสํ’’ติ ขีณาสวานํ. ปาฬิปาเ. ‘‘สุมโน’’ติ โสมนสฺสิโต. ‘‘ทุมฺมโน’’ติ โทมนสฺสิโต. ปาฬิปาเ. ‘‘เมตฺตายวา ผรตี’’ติ อยํ สตฺโต อเวโรโหตูติอาทินา เมตฺตาจิตฺเตน วา ผรติ. ‘‘ธาตุโส อุปสํหรตี’’ติ ยถา ม ม กาโยปิ จตุธาตุ สมุสฺสโย โหติ. ตตฺถ เอกาปิ ธาตุ นาม ปฏิกูลา วา อปฺปฏิกูลา วา น โหติ. เกวลํ ตุจฺฉ สฺุ สภาวมตฺตา โหติ. เอวเมว อิมสฺส สตฺตสฺส กาโยปีติอาทินา ธาตุ โส อุปสํหรติ. ‘‘อสุภาย วา’’ติ อสุภ ภาวนาย วา. อสุภ ภาวนา จิตฺเตน วาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสุภายา’’ติ วา ตสฺส อสุภภาวตฺถาย. เทวนาฏกา เทวจฺฉรา นาม. กุถิตานิ กุฏฺานิ เยสํ ตานิ กุถิต กุฏฺานิ. ‘‘สรีรานี’’ติ กายงฺคานิ. กุถิต กุฏฺานิ สรีรานิ ยสฺส โส กุถิตกุฏฺสรีโร. ‘‘กุถิตานี’’ติ อพฺภุกฺกิรณานิ. เวทนา ยุตฺตานิ โหนฺติ อิติ อปเร วทนฺตีติ โยชนา. ตสฺมา ปจฺจโย โหตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ ปจฺจโย โหตีติ อาห ‘‘ยถา อานิสํส ทสฺสเนนา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ วิสุทฺธิ มคฺคฏฺกถายํ. ‘‘พุทฺธสุพุทฺธตา ทสฺสเนนา’’ติ อตฺตโน สตฺถุภูตสฺส พุทฺธสฺส สุพุทฺธตา ทสฺสเนน. ‘‘อตฺตสมฺปตฺติ ทสฺสเนนา’’ติ มยํ ปน เอวรูปา ทุกฺขา มุตฺตามฺหาติ เอวํ อตฺตโน สมฺปตฺติ ทสฺสเนน. ‘‘อฏฺิกงฺกลิกเปตรูเป’’ติ นิมฺมํ สโลหิเต อฏฺิปฺุชเปตสรีเร. ‘‘กุฏฺิโน’’ติ กุฏฺสรีรสฺส. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ ธมฺมปท อฏฺกถายํ. อติ อิฏฺเ เทวจฺฉร วณฺณาทิเก. อติ อนิฏฺเ กุถิตกุฏฺสรีราทิเก. ‘‘วตฺถุ ภูโต’’ติ อุปฺปตฺติฏฺาน ภูโต. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ’’ติ กตฺตุ อตฺเถสามิวจนํ. ‘‘ตทุภยํ ปี’’ติ อุภยํ ตํ คหณํปิ. ‘‘เตสํ’’ติ เตสํ โลกิย มหาชนานํ. ‘‘วิปลฺลาสวเสเนว โหตี’’ติ เทวจฺฉรวณฺณาทีสุ อติอิฏฺเสุ อติอิฏฺาการโต คหณมฺปิ วิปลฺลาส วเสเนว โหติ. กสฺมา, เทวจฺฉร วณฺณาทีสุ อติ อิฏฺ สฺาย วิปลฺลาส สฺาภาวโต.
วิภาวนิปาเ ¶ . ‘‘ปวตฺติยา’’ติ ปวตฺตนโต. อฏฺกถาธิปฺปาเย ตฺวา วุตฺตตฺตา อฏฺกถาคารเวน’’ตํ วิจาเรตพฺพ เมวา’’ติ วุตฺตํ. อตฺถโต ปน อยุตฺตเมวาติ วุตฺตํ โหติ. เอสนโย อฺตฺถปิ. ‘‘ธมฺม จกฺขุรหิตา’’ติ ธมฺม ววตฺถานฺาณ จกฺขุ รหิตา. ‘‘กุสลากุสลานิ เยวา’’ติ เตสํ ธมฺม จกฺขุ รหิตานํ อุปฺปนฺนานิ กุสลากุสลานิเยว. คาถายํ. ‘‘รูปา’’ติ รูปโต นปฺปเวธนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สทฺทา’’ติอาทีสุปิ เอเสวนโย. นปฺปเวธนฺตีติ จ น จลนฺติ, น กมฺปนฺติ, จิตฺตฺถตฺตํ น คจฺฉนฺติ. ตถา อุเปกฺขา กฺริยชวนานนฺตรมฺปิ ตทารมฺมณานิ โสมนสฺสุ เปกฺขาเวทนา ยุตฺตานิ เอว สิยุนฺติ โยชนา. มูลฏีกาปาเ. ‘‘ตทารมฺมณตา’’ติ ตทารมฺมณตาย ตทารมฺมณภาเวน. ‘‘กตฺถจี’’ติ กตฺถจิ อภิธมฺม ปาฬิยํ. ‘‘วิชฺชมาเน จ ตสฺมึ’’ติ ตสฺมึ กฺริยชวนานุ พนฺธเก ตทา รมฺมเณ วิชฺชมาเน สติ. เอตํ ภวงฺคฺจ นาม อนุพนฺธตีติ สมฺพนฺโธ. นทีโสโต ปฏิโสตคามินาวํ อนุพนฺธติ วิยาติ โยชนา. ‘‘สวิปฺผาริกํ เอวชวนํ’’ติ กิเลส ธมฺมานํ วิปลฺลาส ธมฺมานฺจ วเสน ขณมตฺเตปิ อเนกสเตสุ อารมฺมเณสุ วิวิธากาเรน ผรณเวคสหิตํ กุสลากุสล ชวนเมว อนุพนฺธตีติ ยุตฺตํ. น ปน กฺริยชวนํ อนุพนฺธตีติ ยุตฺตนฺติ โยชนา. ‘‘ฉฬงฺคุ เปกฺขาวโต’’ติ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรตี-ติอาทินา วุตฺตาย ฉ ทฺวาริกวเสน ฉฬงฺค สมนฺนาคตาย อุเปกฺขาย สมฺปนฺนสฺส. วตฺตนํ วุตฺติ. สนฺตา วุตฺติ อสฺสาติ สนฺต วุตฺติ. ตํ วิจาเรนฺโต ‘‘ปฏฺาเน ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ยทิ เจตํ วุจฺเจยฺยา’’ติ เอตฺถ ‘‘เอตํ’’ติ กฺริยา พฺยากเตติอาทิกํ เอตํ วจนํ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ ตสฺมึ วจเน. ‘‘เอวมาทินา’’ติ เอวมาทินา นเยน. วิภาวนิปาเ. ‘‘อุตฺตรํ’’ติ ปริหารํ. ‘‘วิปสฺสนาจาร วเสนา’’ติ วิปสฺสนา ปวตฺติ วเสน. ‘‘เตสํ’’ติ โสมนสฺส โทมนสฺสานํ. ‘‘อิตรีตรานนฺตร ปจฺจยตา’’ติ อฺมฺานนฺตร ปจฺจยตาติ อตฺโถ. ‘‘เถเรนา’’ติ อนุรุทฺธตฺเถเรน. สพฺพานิ ตทา รมฺมณานิ, สพฺพานิ ภวงฺคานิ จ. ‘‘สมุทา จรนฺตี’’ติ จิรกาลํ สฺจรนฺติ ¶ . ‘‘เอตานิหี’’ติอาทินา เตสํ อฏฺารสนฺนํ ชวนานํ อนนฺตรํ ตทารมฺมณานํ อนิยมโต ปวตฺติยา การณยุตฺตึ ทสฺเสติ. สมฺภวติ อุปฺปชฺชติ เอเตนาติ สมฺภโว. ตทา รมฺมณสฺส สมฺภโว ตทา รมฺมณ สมฺภโว. อถวา, สมฺภวนํ อุปฺปชฺชนํ สมฺภโวติ อิเม ทฺเว อตฺเถ ทสฺเสตุํ ‘‘ตทา รมฺมณ สมฺภโว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เยสํ ปนา’’ติอาทีสุ. ‘‘เยสํ’’ติ เยสํ ปุคฺคลานํ. ‘‘อิตรานี’’ติ อุเปกฺขา สนฺตีรณ ทฺวยโต อฺานิ. ‘‘น โหนฺตีติ น วตฺตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ. เอวํสติ, กสฺมา เถเรน อิธ น วุตฺตานีติ. อฏฺสาลินิยํ อวุตฺตตฺตา อิธ น วุตฺตานีติ. อฏฺสาลินิยํ ปน กสฺมา น วุตฺตานิ. เยภูยฺย นิยมโสเต ปติตตฺตา น วุตฺตานิ. น ปน อลพฺภมานตฺตา น วุตฺตานีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘อุเปกฺขาสหคต สนฺตีรณ ทฺวยเมว วุตฺตํ’’ติ อาคนฺตุก ภวงฺคภาเวน วุตฺตํ. ยถาห อถสฺส ยทา โสมนสฺส สหคตปฺปฏิสนฺธิกสฺส ปวตฺเต ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมาเทน ปริหีนชฺฌานสฺส ปณีต ธมฺโม เม นฏฺโติ ปจฺจเวกฺขโต วิปฺปฏิสาริ วเสน โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตทา กึ อุปฺปชฺชติ. โสมนสฺสานนฺตรฺหิ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสานนฺตรฺจ โสมนสฺสํ ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธํ. มหคฺคต ธมฺมํ อารพฺภ ชวเน ชวิเต ตทา รมฺมณมฺปิ ตตฺเถว ปฏิสิทฺธนฺติ. กุสล วิปากาวา อกุสลวิปากาวา อุเปกฺขา สหคตา เหตุกมโนวิฺาณ ธาตุ อุปฺปชฺชติ. กิมสฺสา รมฺมณนฺติ. รูปาทีสุ ปริตฺต ธมฺเมสุ อฺตรํ. เอเตสุ หิ ยเทว ตสฺมึ สมเย อาปาตมาคตํ โหติ. ตํ อารพฺภ เอตํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ-ติ. เอวํ โทมนสฺสสหคต ชวนานุรูปํ อุเปกฺขาสหคต สนฺตีรณ ทฺวยเมว อาคนฺตุก ภวงฺคภาเวน อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ. ‘‘เอตมฺปิ ยุชฺชติ เยวา’’ติ อกุสล ชวนาวสาเน เอตํ สเหตุกํ อาคนฺตุก ภวงฺคํปิ ยุชฺชติเยว. ‘‘โทมนสฺส ชวนานนฺตรํ ภวงฺค ปาโตว โหตี’’ติ อุเปกฺขา สหคต มูลภวงฺค ปาโตว โหติ. อาคนฺตุก ภวงฺเคน กิจฺจํ นตฺถิ. กสฺมา, อุเปกฺขา ปฏิสนฺธิกตฺตา. เนวตทารมฺมณ สมฺภโว อตฺถิ. กสฺมา, เตสุ อารมฺมเณสุ ตทารมฺมณวารสฺส อสมฺภวโต. น ¶ หิ มหนฺตารมฺมเณสุ จ อวิภูตารมฺมเณสุ จ ตทารมฺมณวาโร สมฺภวติ. น จ มูลภวงฺค สมฺภโว อตฺถิ. กสฺมา, มูลภวงฺคภู ตสฺส โสมนสฺส ภวงฺคสฺส โทมนสฺส ชวเนน สห วิรุทฺธตฺตา. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ อิมินา การเณน. ‘‘เอกํ’’ติ เอกํ อุเปกฺขาสหคต วิปากํ. ตถา ตสฺเสว โทมนสฺสํ อุปฺปาเทนฺตสฺส เนว ตทารมฺมณ สมฺภโว อตฺถิ. น จ มูลภวงฺค สมฺภโวติ กตฺวา โทมนสฺสานนฺตรํ ฉสุ…เป… ปวตฺตตีติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘ตสฺเสวา’’ติ โสมนสฺสปฺปฏิสนฺธิกสฺเสว. เนวตทารมฺมณ สมฺภโว อตฺถิ. กสฺมา, อารมฺมณานํ อติมหนฺตตฺเตปิ อติวิภูตตฺเตปิ สติ โสมนสฺส ตทารมฺมณสฺส ชวเนน สห วิรุทฺธตฺตา. อุเปกฺขา ตทา รมฺมณสฺส จ อารมฺมเณน สห วิรุทฺธตฺตา. น หิ อติ อิฏฺารมฺมเณ อุเปกฺขา ตทารมฺมณํ ปวตฺตติ. มหคฺคต ปฺตฺตา รมฺมเณสุ ปน อุภยมฺปิ ตทารมฺมณํ นุปฺปชฺชติเยว. น จ มูลภวงฺค สมฺภโว อตฺถิ. กสฺมา, ชวเนน สห วิรุทฺธตฺตาติ.
‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘สพฺพ ธมฺเมสู’’ติ สพฺเพสุ อารมฺมณ ธมฺเมสุ. ‘‘ปถม สมนฺนาหาโร’’ติ อาวชฺชน กิจฺจํ อาห. สุตฺตนฺต ปาเ. ‘‘ตชฺโช’’ติ เตน อารมฺมณานํ อาปาตา คมเนน ชาโต. ‘‘ตชฺโช’’ติ วา ตทนุรูโปติปิ วทนฺติ. ‘‘วิฺาณภาคสฺสา’’ติ จกฺขุ ทฺวาริก วิฺาณ โกฏฺาสสฺส. ‘‘ยโต’’ติ ยสฺมึ กาเล. กถํ อาวชฺชเนน วินา นุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘สเจ อาวชฺชเนนา’’ติอาทึ. ‘‘เอตฺถ สิยา’’ติอาทีสุ. ยถา ปน นิราวชฺชนํ โหติ ภินฺนา รมฺมณฺจ, เอวํ ตถาติ โยชนา. ‘‘เอกสฺสปี’’ติ เอกสฺส อาคนฺตุก ภวงฺคสฺสปิ นตฺถิ โทโส. มหาอฏฺกถายฺจ นตฺถิ. อฏฺสาลินิยํ ปน อตฺถิเยว. ‘‘สวิปฺผนฺทนตฺตา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ สวิปฺผาริกนฺติ ปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ‘‘อิตเร สฺจา’’ติ มหคฺคตโลกุตฺตร ชวนานฺจ. กานิ จิ ปริตฺตารมฺมณานิปิ สมานานิ. ยทิ ตทารมฺมณู ปนิสฺส ยสฺส กามภวงฺคสฺส อภาวโต ตทารมฺมณานิ รูปารูป พฺรหฺมานํ นุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ สติ, จกฺขุโสต ทฺวาริก จิตฺตานิปิ รูป พฺรหฺมานํ นุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ อาห ‘‘จกฺขุ โสตวิฺาณานิ ปนา’’ติอาทึ. ‘‘อินฺทฺริยปฺปวตฺติ ¶ อานุภาวโต’’ติ จกฺขุ วตฺถุ โสตวตฺถุ สงฺขาตานํ อินฺทฺริย วตฺถูนํ รูป พฺรหฺม สนฺตาเน ปวตฺตตฺตา เตสํ ปวตฺติ อานุภาวโต จกฺขุ โสตวิฺาณานิ รูปพฺรหฺมานํ ปวตฺตนฺติเย วาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปฏิจฺฉน สนฺตีรณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วิกปฺปพเลวา’’ติ กามกุสลา กุสลานํ วิย วิวิเธน อากาเรน กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา อารมฺมณคฺคหสามตฺถิเยวาสติ. ‘‘อปฺปนาปตฺต ภาวนา กมฺมวิเสเส วา’’ติ เอตฺถ อภิฺา ชวนานิ วิย มหคฺคต วิปาก โลกุตฺตร วิปากานิ วิย จาติ วตฺตพฺพํ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ ปฏิจฺจ สมุปฺปาท วิภงฺคฏฺกถายํ. ‘‘วิภาวนิยํ วุตฺต การณานี’’ติ อฏฺกถาโต อาหริตฺวา วิภาวนิยํ วุตฺตานิ ‘อชนกตฺตา ชนก สมานตฺตา ภาวโต’ติอาทีนิ การณานิ.
๑๔๐. ชวน นิยเม. อฏฺกถายมฺปิ ฉกฺขตฺตุํ ปวตฺติ วุตฺตา. ยถาห สเจ ปน พลวา รมฺมณํ อาปาตาคตํ โหติ. กฺริยมโนธาตุยา ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต จกฺขุวิฺาณาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ. ชวนฏฺาเน ปน ปถมกามาวจร กุสล จิตฺตํ ชวนํ หุตฺวา ฉสตฺตวาเร ชวิตฺวา ตทารมฺมณสฺส วารํ เทตีติ. ‘‘มุทุตร ภาเวนา’’ติ มาตุกุจฺฉิมฺหิ ิตกาเลวา สมฺปติ ชาตกาเล วา วตฺถุสฺส อติมุทุภาเวน. ‘‘เกนจิอุปทฺทุต ภาเวนา’’ติ พาฬฺหเคลฺชาตกาเล เกนจิ วาตปิตฺตเสมฺหาทินา อุปทฺทุต ภาเวน. ‘‘อชฺโฌตฺถฏ ภาเวนา’’ติ ตสฺส เววจนมตฺตํ. มนฺทีภูโต เวโค เยสํ ตานิ มนฺทีภูต เวคานิ. ‘‘อสยฺห รูเปหี’’ติ ทุกฺขมสภาเวหิ. อภิภูตานํ สตฺตานํ. ตฺจ โข วจนํ ปากติก สตฺตานํ วเสเนว วุตฺตํ. น สตฺตวิเสสานํ วเสน. เอวํ สติ, สตฺตวิเสสานํ วเสน กถํ ทฏฺพฺพนฺติ อาห ‘‘เย ปนา’’ติอาทึ. ‘‘อุปรี’’ติ มรณุปฺปตฺติฏฺาเน. ‘‘วุตฺตฺหี’’ติ วิสุทฺธิ มคฺเค วุตฺตเมว. ‘‘ยมกปฺปาฏิหาริยํ’’ติ ยุคฬวตฺถูนํ เอกโต ปวตฺต อจฺฉริย กมฺมํ. ‘‘ทฺเว ฌานงฺคานี’’ติ อุเปกฺเขกคฺคตา ฌานงฺคานิ.
‘‘โยคกมฺมสิทฺธิยา’’ติ ภาวนานุ โยคกมฺมสิทฺธสฺส. อิทฺธิ วิกุพฺพนํ นาม อิทฺธิยา นานากมฺมกรณํ. ‘‘สิทฺธิยา เอวา’’ติ สิชฺฌ นตฺถาย เอว ¶ . อตฺตโน อนนฺตเร เอว อุปฺปนฺนํ ผลํ เอติสฺสาติ อานนฺตริกปฺผลา. มคฺคเจตนา. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘มนฺทสฺสา’’ติ มนฺท ปุคฺคลสฺส. ‘‘ติกฺขสฺสา’’ติ ติกฺข ปุคฺคลสฺส. ตีณิ ผลจิตฺตานิ. ‘‘ปโยคาภิสงฺขารสฺสา’’ติ ปถมชฺฌานโต ปฏฺาย สมถ วิปสฺสนายุคนนฺธปฺปวตฺติ สงฺขาตสฺส ปุพฺพปฺปโยคาภิสงฺขารสฺส. ‘‘อกตาธิการสฺสา’’ติ อาสนฺเน ปุริมภเว อกต ฌานปริกมฺมสฺส ปุคฺคลสฺส. สพฺเพสมฺปิ ผลฏฺานํ จิณฺณวสิภาวาเนว โหนฺตีติ โยชนา.
ชวนนิยโมนิฏฺิโต.
๑๔๑. ทุเหตุกาทีสุ. ชาติ ทฺวิเหตุกาทโย เอว อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิสนฺธิวิฺาณ สหคตา’’ติอาทึ. ‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ ปี’’ติ ทฺวิเหตุกานมฺปิ อเหตุกานมฺปิ. ภุโสฌาน มคฺคผลานิ วาเรนฺติ นีวาเรนฺตีติ อาวรณานิ. วิปากานิ จ ตานิ อาวรณานิ จาติ วิคฺคโห. ‘‘วิปากานี’’ติ อเหตุก ทฺวิเหตุก วิปากานิ. เตหิ คหิตปฺปฏิสนฺธิกานํ อิมสฺมึ ภเวฌาน มคฺคผลปฺปฏิลาโภ นาม นตฺถิ. เตนาห ‘‘วิปากาวรณ สพฺภาวโต’’ติอาทึ. ‘‘เตสํ’’ติ ทุคฺคติ อเหตุก ปุคฺคลานํ. ปุคฺคลานนฺติ วุตฺตํ โหติ. น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตเรสํ’’ติ ตโต อฺเสํ สุคติ อเหตุก ปุคฺคลานํ.
‘‘เอตฺถ สิยา’’ติอาทีสุ. ทุคฺคติ ปริยาปนฺนานฺจ อเหตุกานํ. ‘‘มูลภวงฺเค’’ติอาทิมฺหิ ปฏิสนฺธิ จิตฺตํ หุตฺวา อาคเต มูลภวงฺเค. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ ยํ กิฺจิ ภวงฺคํ. ‘‘วุจฺจเต’’ติ วิสชฺชนา วุจฺจเต. ‘‘สพฺพ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ อฏฺสาลินิยํ ตาว วิปากุทฺธารกถายํ โสฬสสุ กามาวจร กุสล วิปาเกสุ อฏฺนฺนํ อเหตุก วิปากานํ เอว อาปายิเกสุ สตฺเตสุ อุปฺปตฺตึ ทสฺเสติ. น อฏฺนฺนํ สเหตุก วิปากานํ. ตถา ปฏิจฺจ สมุปฺปาทฏฺ กถาสุ จ วิฺาณ ปทวณฺณนาสุ อฺาสุ จ อภิธมฺมาวตาราทีสูติ เอวํ สพฺพฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตา นาม โหติ. ‘‘โยคสา ธนียตฺตา’’ติ ¶ ปโยเคน สาเธตพฺพตฺตา. กุสลากุสลานิ หิ วฑฺเฒตุํ วา หาเปตุํ วา ปโยเค กเต วฑฺฒนฺติ เจว หายนฺติ จ. าณวิปฺปยุตฺตภูตํ คเหตุํ ยุตฺตํ. กสฺมา, อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺสาติ วุตฺตสฺส มูลภวงฺคสฺส อเหตุกตฺตา. ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ อเหตุกานํ’’ติ ทุคฺคติ อเหตุกานฺจ สุคติ อเหตุกานฺจ. ‘‘อปเรปนา’’ติอาทิ วิภาวนิยํ อาคโต อปเร วาโท. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘อปเรปน ยถา อเหตุกานํ สเหตุก ตทารมฺมณํ โหติ, เอวํ ทฺวิเหตุกานํ ติเหตุก ตทารมฺมณํปี’ติ วณฺเณนฺติ. เตสํมตานุโรเธน จ อิธปิ าณสมฺปยุตฺต วิปากปฺปฏิกฺเขโป อเหตุเกเยว สนฺธายาติ วทนฺตีติ. ตํ ปน วิปากุทฺธารกถายํ ‘เอตฺเถว ทฺวาทส กมคฺโคปี’ติ จ, เอตฺเถว ทสกมคฺโคปี’ติ จ อาคเตหิ น สเมติ. ตตฺถ หิ โสฬสสุกุสลวิปาเกสุ ทฺวิเหตุก กมฺมนิพฺพตฺตานํ ทฺวินฺนํ ทฺวิเหตุกาเหตุก ปุคฺคลานํ จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺต วิปากานิ วชฺเชตฺวา ทฺวาทส กมคฺโค นาม โหติ. ปุน เสเสสุ ทฺวาทส วิปาเกสุปิ อสงฺขาริก กมฺมนิพฺพตฺตานํ ทฺเว าณวิปฺปยุตฺต สสงฺขาริก วิปากานิ, สสงฺขาริก กมฺมนิพฺพตฺตานฺจ ทฺเว าณวิปฺปยุตฺต อสงฺขาริก วิปากานิ วชฺเชตฺวา ทุติยตฺเถร วาเท ทสกมคฺโค นาม โหตีติ. เอตฺถ ปน ทฺวิ เหตุโกปิ ปุคฺคโล อธิเกน ฉนฺเทน วา วีริเยน วา จิตฺเตน วา ยุตฺโต ปริยตฺติ ธมฺมํ วา นานาวิชฺชาสิปฺปานิ วา พหุํ คณฺเหยฺย, สุเณยฺย, ธาเรยฺย, วาเจยฺย, จินฺเตยฺย. อถสฺส าณสมฺปยุตฺต ชวนํ พหุลํ สมุทา จเรยฺย. ตทา ตสฺส นานากมฺเมน ชวนานุ รูปํ าณสมฺปยุตฺต ตทารมฺมณํ น น สมฺภวตีติ วุตฺตํ. ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสตีติ. ‘‘อฏฺกถายํ ปิหิ. ล. วุตฺตา’’ติ กถํ วุตฺตา. เอตานิ หิ มนุสฺเสสุ จ กามาวจร เทเวสุ จ ปฺุวนฺตานํ ทฺวิเหตุกติ เหตุกานํ ปฏิสนฺธิกาเล ปฏิสนฺธิ หุตฺวา วิปจฺจนฺตีติอาทินา วุตฺตาติ. เต ปน ติวิธา, นววิธาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตสํ ตพฺภาโว’’ติ กุสลานํ กุสลภาโว, อกุสลานํ อกุสลภาโว. ‘‘สิกฺขน ธมฺมยุตฺตา’’ติ ตีหิ สิกฺขาหิ ปหาตพฺพานํ กิเลสานํ อตฺถิตาย สิกฺขิตพฺพตา ปกติยํ ิตาติ อธิปฺปาโย ¶ .‘‘เหฏฺิมานฺจา’’ติ เหฏฺิม ผลานฺจ. ยานิยานิสกานิ ยถาสกํ. ‘‘อุปริมานํ’’ติ อุปริมานํ ปุคฺคลานํ. ‘‘ปรินิฏฺิต สิกฺขา กิจฺจตฺตา’’ติ สิกฺขา กิจฺจํ นาม กิเลส ธมฺมานํ ปหานตฺถาย เอว โหตีติ เตสุ สพฺพโส ปหีเนสุ สิกฺขา กิจฺจํ ปรินิฏฺิตํ โหติ. เอวํ ปรินิฏฺิต สิกฺขา กิจฺจตฺตา. สุฏฺุ ภพฺโพติ สมฺภโว. สมฺภโวติ วิเสสน ปทเมตนฺติ อาห ‘‘ยถา สมฺภวํ’’ติ.
๑๔๒. ‘‘เอตฺเถวา’’ติ เอตสฺมึ กามโลเก เอว. ‘‘ตํ ตํ ปสาทรหิตานํ’’ติ เตนเตน ปสาเทน รหิตานํ. ตสฺมึ ตสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปนฺนานิ ตํ ตํ ทฺวาริกานิ. จตุสฏฺิวีถิ จิตฺตานิ. ทฺเว จตฺตาลีส วีถิ จิตฺตานิ. ‘‘พฺรหฺมโลเก วา’’ติอาทีสุ. อิทํ อฏฺกถา วจนํ. ยถาห รูปภเว จตุนฺนํ วิฺาณานํ, ตเถว ปจฺจโย. ปวตฺเต, โนปฏิสนฺธิยํ. โสจ โข กามาวจเร อนิฏฺ รูปทสฺสน สทฺทสวนวเสน, พฺรหฺมโลเก ปน อนิฏฺา รูปาทโย นาม นตฺถิ. ตถา กามาวจร เทวโลเก ปีติ. ตานิ จตฺตาริ จิตฺตานิ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ รูปโลเก. วิภาวนิปาเ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ วจเน. ‘‘ตํ ตํ ภูมิ ปริยาปนฺเน’’ติ ติสฺสํ ติสฺสํ ภูมิยํ ปริยาปนฺเน. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
วีถิสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๕. วีถิมุตฺตสงฺคหอนุทีปนา
๑๔๓. วีถิมุตฺตสงฺคเห ¶ . ‘‘ปวตฺติสงฺคหํ’’ติ จิตฺตุปฺปาทานํ ปวตฺตาการกถนสงฺคหํ. ‘‘ปฏิสนฺธิยํ’’ติ ปฏิสนฺธิกาเล. ‘‘เตสํ’’ติ จิตฺต เจตสิกานํ. วิภาวนิปาเ. ‘‘ตทาสนฺนตายา’’ติ ตายปฏิสนฺธิยา อาสนฺนตาย. ‘‘ตํ คหเณเน วา’’ติ สนฺธิคฺคหเณน เอว สนฺธิวจเนน เอว. ‘‘วิสยปฺปวตฺติ นามา’’ติ กมฺม กมฺมนิมิตฺตาทีนํ วิสยานํ ทฺวาเรสุ อาปาตา คมน วเสน ปวตฺติ นาม. ‘‘มรณุปฺปตฺติยํ เอว สิทฺธา’’ติ มรณุปฺปตฺติยํ ชวเนสุ เอว สิทฺธา. เอเตน มรณุปฺปตฺติ วิธานํ ชวนปฺปธานํ โหติ, น จุติปฺปธานนฺติ ทีเปติ. น หิ ตสฺมึ วิธาเน ตสฺสํ จุติยํ วิสยปฺปวตฺติ วจนํ นาม อตฺถิ. ชวเนสุ เอว อตฺถิ. สา ปน จุติ ตสฺมึ ภเว อาทิมฺหิ ปฏิสนฺธิ ปวตฺติยา สิทฺธาย สิชฺฌติ เยวาติ. ‘‘เตสํ’’ติ วีถิมุตฺตานํ. ‘‘ภวนฺตี’’ติ ปาตุพฺภวนฺติ. ‘‘ตโต’’ติ อยโต. ‘‘คนฺตพฺพา’’ติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน อุปปชฺชิตพฺพา. ‘‘คจฺฉนฺตี’’ติ ปวตฺตนฺติ. ‘‘ติโร’’ติ ติริยโต. ‘‘อฺฉิตา’’ติ คตา ปวตฺตา, อายตา วา. ‘‘สมานชาติตายา’’ติ ติรจฺฉาน คตชาติ วเสน สมานชาติ ภาเวน. ‘‘ยุวนฺตี’’ติ มิสฺสี ภวนฺติ. ‘‘สุขสมุสฺสยโต’’ติ สุขสมุทายโต. ‘‘ทิพฺพนฺตี’’ติ วิชฺโชตนฺติ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ อิติ วจนตฺถํ กตฺวา อุปริเทวา สุราติ วุจฺจนฺตีติ โยชนา. ‘‘เวปจิตฺติปหาราทาทโย’’ติ เวปจิตฺติ อสุรินฺท ปหาราทอสุรินฺทาทิเก เทวาสุเร. ‘‘สุรปฺปฏิ ปกฺขา’’ติ ตาวตึสาเทวปฺปฏิปกฺขา. ‘‘สุรสทิสา’’ติ ตาวตึสาเทว สทิสา. ‘‘เวมานิกเปเต’’ติ เวมานิก นามเก เปเต. ‘‘วินิปาติเก’’ติ วินิปาติก นามเก ทุคฺคต เทวชาติเก. เตสํ ปวตฺติ อุปริ ‘วินิปาติกาสุรานฺจา’ติ ปเท อาวิ ภวิสฺสติ. ‘‘เตปี’’ติ โลกนฺตริก เนรยิก สตฺตาปิ. ‘‘กาลกฺจิกเปเต’’ติ กาลกฺจิก นามเก เปเต. เอวํ กถาวตฺถุ ปาฬิยํ อาคตา เวสฺสภุ อาทโย ยมราชาโนปนาติ สมฺพนฺโธ. เวสฺสภู ¶ จ โนตฺติ จ โสโม จ ยโม จ เวสฺสวโณ จ อิติ อิเม เปตฺติ ราชาโน. ‘‘รชฺช’’นฺติ ราชภาวํ ราชกิจฺจํ. เย จ ยกฺขรกฺขสา นาม กโรนฺตา วิจรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กุรูรกมฺมการิโน’’ติ ลุทฺทกมฺมการิโน. ‘‘เรวติ วิมาเน’’ติ เรวติ วิมาน วตฺถุมฺหิ. ‘‘อิโต’’ติ มนุสฺส โลกโต, สุคติภวโต วา. เตหิ ยกฺข รกฺขสา นาม ภูมฏฺกาปิ สนฺติ, อากาสฏฺกาปิ. ‘‘นานากมฺมการณาโย’’ติ ทฺวตฺตึส วิธานิ กมฺมกรณ กิจฺจานิ. เตสมฺปิ นิรยปาลานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ติสฺสนฺนํ’’ติ ติสฺสนฺนํ อปายภูมีนํ. อปายภูมิ.
อุสฺสิโต มโน เอเตสนฺติ วา, อุสฺสนฺโน มโน เอเตสนฺติ วา, ทฺวิธาวิคฺคโห. ‘‘อุสฺสิโต’’ติ อุคฺคโต. ‘‘อุสฺสนฺโน’’ติ วิปุโล. กสฺมา ติกฺขตร จิตฺตา โหนฺตีติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปริปุณฺณานํ’’ติอาทึ. ปุพฺพวากฺเย อนนฺต จกฺกวาฬสาธารณ วเสน วุตฺตตฺตา ปุน ‘‘อิมสฺมึ’’ติอาทิ วุตฺตํ. วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อิเธว สพฺพฺุ พุทฺธาทีนํ อุปฺปนฺนโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘อธิคฺคณฺหนฺตี’’ติ อธิกํ กตฺวา คณฺหนฺติ. ‘‘สูรา’’ติ ปาปกลฺยาณ กมฺเมสุ สูรจิตฺตา. ‘‘สติมนฺโต’’ติ วิปุลสฺสติกา. ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ อิเธว สิกฺขตฺตยปูรณ สงฺขาตสฺส พฺรหฺมจริยวาสสฺส อตฺถิตา. ‘‘มริยาทธมฺเมสู’’ติ โลกจาริตฺต ธมฺเมสุ. ‘‘ธตรฏฺโ’’ติ ธตรฏฺโ มหาราชา. เอวํ วิรุฬฺหโกติอาทีสุ. ‘‘คนฺธรุกฺขาธิ วตฺถา’’ติ คนฺธรุกฺเขสุ อชฺฌาวุตฺถา. ‘‘กุมฺภณฺฑา’’ติ กุวุจฺจติ ปถวี. ปถวิ คตานิ รตนภณฺฑานิ เยสํ เตติ วิคฺคโห. ‘‘ทานวรกฺขสา’’ติ ทนุนามเทวธีตาย อปจฺจนฺติ อตฺเถน ทานว นามกา รกฺขสา. อวรุชฺฌนฺติ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อวรุทฺธกา. ‘‘วิคจฺฉรูโป’’ติ วิปนฺนวณฺโณ. ‘‘นิหีนกมฺมกตา’’ติ นิหีนานิปาปกมฺมานิ กตฺวา อาคตา. กาจิคนฺธปฺปิโย ชายนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ยาคนฺธปฺปิโย โชคินีติ จ วุจฺจนฺติ, ชุณฺหาติ จ วุจฺจนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อภิลกฺขิตรตฺตีสู’’ติ อภิฺาตรตฺตีสุ. อุโปสถรตฺตีสูติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โคจรปฺปสุตกาเล’’ติ โคจรตฺถาย วิจริตกาเล. ‘‘ชุติอตฺเถนา’’ติ วิชฺโชตนฏฺเน. วสูนิ ¶ ธนานิ ธาเรนฺตีติ วสุนฺธรา. วสุนฺธรา จ เต เทว ยกฺขา จาติ วิคฺคโห. ‘‘นาคาตฺเวว วุจฺจนฺตี’’ติ ปาฬิยํ นาเคสุ สงฺคยฺหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยา’’ติ ยา ภุมฺมเทวยกฺข ชาติโย. ‘‘ยาสํ’’ติ ยาสํ ภุมฺมเทว ยกฺขชาตีนํ. ‘‘กีฬาปสุตวเสนา’’ติ โพธิสตฺตานฺจ พุทฺธานฺจ อจฺฉริย ธมฺมชาตกาเล อุคฺโฆสน กีฬากมฺมวฑฺฒนวเสน. ‘‘ยาสฺจ มนฺตปทานี’’ติ ยาสํ นิคฺคห ปคฺคหปูชนาทิ วเสน ปวตฺตานิ มนฺตปทานิ. ‘‘เตสู’’ติ + เตสุ จตูสุ อวรุทฺธเกสุ. ‘‘กีฬาโสณฺฑวเสนา’’ติ กีฬาธุตฺตวเสน. ‘‘ฆาสโสณฺฑวเสนา’’ติ ขาทนภฺุชน ธุตฺตวเสน. โสโณ วุจฺจติ สุนโข. ‘‘สตฺเต’’ เนรยิเก วา เปเตวา. ‘‘กามฺจ โหตี’’ติ กิฺจาปิ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘นิพนฺธโนกาโส’’ติ นิจฺจสมฺพนฺธโนกาโส. ‘‘สมุทาคเตสู’’ติ ปรมฺปรโต อาคเตสุ. ‘‘เทวราชฏฺาเนสู’’ติ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ ตาวตึสาภวเน เทวราชฏฺาเนสูติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปาฬิยํ เอวา’’ติ ทีฆนิกาเย ชนวสภสุตฺตปาฬิยํ เอว. ยจฺฉนฺติ นิยจฺฉนฺติ เอตฺถาติ ยาโม. ‘‘นิยจฺฉนฺตี’’ติ อฺมฺํ อิสฺสามจฺฉริย มูลเกหิ กลหภณฺฑนาทีหิ วิคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตํ สหจริตตฺตา’’ติ เตน ยาม นามเกน อิสฺสรเทวกุเลน นิจฺจกาลํ สห ปวตฺตตฺตา. ‘‘วสํ วตฺเตนฺตี’’ติ อิจฺฉํ ปูเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ปุเร’’ติ สมฺมุขฏฺาเน. ตํ ปน านํ อุจฺจฏฺานํ นาม โหตีติ อาห ‘‘อุจฺเจาเน’’ติ. ‘‘สหสฺโส พฺรหฺมา’’ติอาทีสุ อตฺตโน สรีโรภาเสน สหสฺสํ จกฺกวาฬ โลกํ ผรนฺโต สหสฺโสนามาติ อฏฺกถายํ อธิปฺเปตํ. กุลเทวตาโย นาม กุล ปรมฺปร ปูชิต เทวตาโย นาม. ‘‘อุปฏฺหนฺตี’’ติ ยุตฺตฏฺาเน เทววตฺถุ เทวมาลกานิ กตฺวา สมเย สมเย ตตฺถ คนฺตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺติ, วนฺทนฺติ, โถเมนฺติ, วรํ ปตฺเถนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อุปฏฺกา เอวสมฺปชฺชนฺตี’’ติ อุปฏฺกมตฺตาวโหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘กสฺสจี’’ติ กสฺสจิ เหฏฺิมสฺส. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตาสุ พฺรหฺมภูมีสุ. ปุน ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ ทุตียตเล. ‘‘อาภา’’ติ สรีราภา. นิจฺฉรนฺติ องฺคปจฺจงฺเคหิ นิคฺคจฺฉนฺติ. ‘‘อจล สณฺิตา’’ติ ทุตีย ตเล ¶ วิย จลิตา น โหติ. อถ โข อจล สณฺิตา. ‘‘เตสํ’’ติ เตสํวาทีนํ ปาเ. พฺรหฺมปาริสชฺชาติอาทิกํ นามํ นสิทฺธํติ โยชนา. ‘‘อิฺชนชาติเกหี’’ติ จลนชาติเกหิ. ‘‘เหฏฺิมตลานํ อิฺชิตํ ปฺุปฺผลํ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อาเนฺช ชาติเกนา’’ติ อจลนชาติเกน อุเปกฺขาฌาเนน นิพฺพตฺตานํ จตุตฺถตลานํ. ‘‘เกนจิ อนฺตราเยนา’’ติ เตโชสํวฏฺฏาทิเกน อนฺตราเยน. ‘‘เอตฺถปี’’ติ เอตสฺมึ จตุตฺถตเลปิ. ‘‘อายุ เวมตฺตตายา’’ติ อายุปฺปมาณนานตฺตสฺส. ‘‘โอฬาริกานํ’’ติ อิทํ ปกติยา โอฬาริก สภาวตาย วุตฺตํ. น สุขุมานํ อตฺถิตาย. นตฺถิ วิหฺนํ เอเตสนฺติ อวิหา. กึ วิหฺนํ นามาติ อาห ‘‘สมถวิปสฺสนา กมฺเมสุ อวิปฺผาริกตา ปตฺตี’’ติ. จิตฺตสฺส อวิปฺผารตา ปชฺชนํ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปสาท ทิพฺพ ธมฺม ปฺา จกฺขูหี’’ติ ‘ปสาท จกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ธมฺมจกฺขุ, ปฺา จกฺขู, หิ. ตตฺถ ปสาทจกฺขุ เอว อิธ ทิพฺพจกฺขูติปิ วุจฺจติ. ‘‘ธมฺม จกฺขู’’ติ เหฏฺิมมคฺคฺาณํ. ‘‘ปฺา จกฺขู’’ติ วิปสฺสนา าณปจฺจเวกฺขนาาเณหิ สทฺธึ อวเสสํ สพฺพฺาณํ. ‘‘รูปีนํ สตฺตานํ’’ติ รูปกายวนฺตานํ สตฺตานํ. ‘‘กนิฏฺภาโว’’ติ อปฺปตรภาโว. ‘‘อนาคามิมคฺคฏฺสฺสปิ ปฏิกฺเขโป’’ติ สกทาคามิภาเวตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว อนาคามิมคฺโค อุปฺปชฺชติ. โน อฺถาติ อาห ‘‘สกทาคามีนํ ปฏิกฺเขเปนา’’ติอาทึ.
ภูมิจตุกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๔๔. ภวนฺตเร โอกฺกมนฺติ เอตายาติ โอกฺกนฺตีติ ปิยุชฺชติ. ‘‘โสตรหิโต’’ติ ปสาทโสตรหิโต. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อาสิตฺตกาทิภาเวนา’’ติ อาสิตฺตกปณฺฑกาทิ ภาเวน. ‘‘ทฺวีหิ พฺยฺชเนหี’’ติ ทฺวีหิ นิมิตฺเตหิ. ‘‘วิพจฺฉวจโน’’ติ วิปนฺนวจโน. ‘‘วตฺถุ วิปนฺนสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ สมฺภาร จกฺขุ วุจฺจติ. ตสฺส อาทิโต ปฏฺาย วิปนฺนตฺตา เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล วตฺถุวิปนฺโนติ วุจฺจติ. ‘‘ตสฺส ตสฺสา’’ติ จกฺขุโส ตาทิกสฺส ¶ .‘‘ปสูติยํ เยวา’’ติ วิชายมานกาเลเยว. ‘‘ปฺาเวยฺยตฺติยภาวสฺสา’’ติ เอตฺถ พฺยตฺตสฺส ภาโว เวยฺยตฺติยํ. ‘‘พฺยตฺตสฺสา’’ติ ผรณฺาณสฺส ปุคฺคลสฺส. ปฺา สงฺขาตํ เวยฺยตฺติยํ อสฺสาติ วิคฺคโห. ทฺวิเหตุก ติเหตุกานํปิ น สกฺกา นิยเมตุนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ น สกฺกาติ อาห ‘‘มาตุกุจฺฉิมฺหิ วิปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ. กตเมสํ วิปตฺตีติ. อุปฺปนฺนานมฺปิ จกฺขุ โสตานํ วิปตฺติ. เกนการเณน วิปตฺตีติ. ปรูปกฺกเมนวา มาตุยา วิสม ปโยเคน วา นานาพาเธน วา วิปตฺตีติ โยชนา. ธาตุปาเ ยกฺข ปูชายํติ ปิตตฺตา ‘‘ปูชนียฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ยกฺขิตพฺพา ปูชิตพฺพา ยกฺขาติ ทสฺเสติ. เย ปน กิจฺฉชีวิกปตฺตา วิจรนฺติ, เต ภูมสฺสิตา นาม โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘ภูมิสฺสิตา’’ติ ปาเ ภูมิยํ สิตา นิสฺสิตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺุนิพฺพตฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วิรูปา หุตฺวา’’ติ เต วณฺณโตปิ ทุพฺพณฺณา โหนฺติ. สณฺานโตปิ ทุสฺสณฺานา. ชีวิกโตปิ กิจฺฉชีวิกาติอาทินา วิปนฺนรูปา หุตฺวา. ‘วิวสา หุตฺวา นิปตนฺตี’ติ วินิปาติกาติปิ วทนฺติ. วิวสาติ จ อตฺตโน วเสน อิจฺฉาย วินาติ อตฺโถ. ‘‘วิวิตฺตฏฺาเนสู’’ติ ชนวิวิตฺเตสุ าเนสุ. ปริเยสิตฺวา วา ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. ปีเฬตฺวา วา ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. ตาเสตฺวา ปีเฬตฺวา วา ชีวิตํ กปฺเปนฺตีติ โยชนา. ‘‘เวมานิกเปตาปี’’ติ อตฺตโน ปฺุนิพฺพตฺตํ ทิพฺพวิมานํ เยสํ อตฺถิ, เต เวมานิกา. เต ปน ปฺุาปฺุมิสฺสก กมฺเมน นิพฺพตฺตตฺตา เกจิ ทิวา ทิพฺพสุขํ อนุภวนฺติ, รตฺตึ เปตทุกฺขํ. เกจิ รตฺตึ ทิพฺพสุขํ อนุภวนฺติ, ทิวา เปตทุกฺขนฺติ. ปเรหิ ทตฺตํ ทินฺนํ ปฺุปฺผลํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตีติ ปรทตฺตูปชีวิโน. ‘‘ปเรหิ ทินฺนํ ปฺุปฺผลํ’’ติ าตเกหิ ปฺุํ กตฺวา อิทํ เม ปฺุํ เปตานํ กาลงฺกตานํ าตีนํ เทธีติ เอวํ ทินฺนํ ปฺุปฺผลํ. ‘‘สกลจกฺกวาฬปริยาปนฺนา เอกภูมกา’’ติ ยถา ตาวตึสาภูมิ นาม สพฺพ จกฺกวาเฬสุปิ อตฺถิ. สพฺพาปิ ทิพฺเพน วสฺสสหสฺเสน เอกอายุ ปริจฺเฉโท โหติ. อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. น ตถา นิรเยสุ วา ติรจฺฉาน โยนิยํ วา เปตฺติวิสเยวา อสุรกาเยวา มนุสฺเสสุวา ภุมฺมเทเวสุ วา ¶ เอกปริจฺเฉโท นาม อตฺถิ. จตุนฺนํ อปายานํ อายุปฺปมาณ คณนาย นิยโม นตฺถีติ วุตฺตํ, น นุ พฺรหฺม สํยุตฺเต โกกาลิกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ ภควตา วุตฺโต ทสนฺนํ นิรยานํ วิสุํ วิสุํ อตฺถีติ. สจฺจํ อตฺถิ. เต ปน ทสนิรยา อวีจินิรเย ปริยาปนฺนา หุตฺวา ตสฺส ปเทสมตฺตา โหนฺติ. น เตหิ ปเท สมตฺเตหิ สกโล อวีจินิรโย นิยตายุ ปริมาโณติ สกฺกา วตฺตุํ. อปิ จ โสปิ เตสํ อายุปริจฺเฉโท อวีจิภูมิยา นิยาเมน สิทฺโธ น โหติ. เตน เตน กมฺมวิเสเสเนว สิทฺโธ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ เยภูยฺเยน กมฺมปฺปมาณตฺตา’’ติ, ตํ สุ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตตฺถ นิรเยสู’’ติอาทึ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติ น อิตร ทีปวาสีนํ อายุกปฺปสฺส อาโรหณฺจ โอโรหณฺจ อตฺถีติ วุตฺเต สตีติ อตฺโถ. สมาจาโร นาม ทสสุจริตานิ. วิสมาจาโร นาม ทสทุจฺจริตานิ. เตสํ นิสฺสนฺทภูตา สมฺปตฺติวิปตฺติโยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ อิตร ทีปวาสีนํปิ. โส เอวปริจฺเฉโทติ อาปชฺชติ. น จ สกฺกา ตถา ภวิตุํ. อาทิกปฺปกาเล สพฺเพสมฺปิ จตุทีป วาสีนํ อสงฺขฺเยยฺยายุกตา สมฺภวโตติ. อถ อิตรทีปวาสีนมฺปิ อายุกปฺปสฺส อาโรหณํ โอโรหณฺจ อตฺถิ. เอวํ สติ, เอตรหิปิ เตสํ อายุกปฺโป ชมฺพุทีปวาสีนํ อายุกปฺเปน เอกคติโก สิยาติ โจทนา. นิสฺสนฺทมตฺตตฺตาติอาทิ ปริหาโร. นตฺถิ อิทํ มม อิทํ มมาติ ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกตณฺหา เอเตสนฺติ ‘‘อมมา’’. ‘‘อปริคฺคหา’’ติ ปุตฺตทาราทิปริคฺคหรหิตา. ‘‘อุปริเม จาตุมหาราชิเก’’ติ อากาสฏฺกจาตุมหาราชิเก. ทิเว เทวโลเก สิทฺธานิ ทิพฺพานิ. ‘‘ยาว นิมิราชกาลา’’ติ ยาว อมฺหากํ โพธิสตฺตภูตสฺส นิมิรฺโ อุปฺปนฺนกาลา. กสฺส ปพุทฺโธ ปุริเม อนฺตรกปฺเป อุปฺปนฺโน. นิมิราชา ปน อิมสฺมึ อนฺตร กปฺเป อุปฺปนฺโน. ‘‘มนุสฺส โลเกหิ ปฺาสวสฺสานิ จาตุมหาราชิเก เอโกทิพฺพรตฺติทิโว โหตี’’ติอาทิ อภิธมฺเม ธมฺม หทย วิภงฺเค อาคตนเยน วุตฺโต. จตุคฺคุณวจเน. ‘‘อุปริมานํ’’ติ อุปริมานํ เทวานํ. เอกํ วสฺสสหสฺสํ อายุปฺปมาณํ โหตีติ ¶ สมฺพนฺโธ. ‘‘ทฺเว’’ติ ทฺเว วสฺสสหสฺสานิ. ‘‘อฏฺา’’ติ อฏฺวสฺสสหสฺสานิ. ‘‘เหฏฺิมานํ’’ติ เหฏฺิมานํ เทวานํ. ‘‘อุปริมานํ’’ติ อุปริมานํ เทวานํ. ยาเม เอโก รตฺติทิโวติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘จตฺตารี’’ติ มนุสฺสโลเก จตฺตาริ วสฺสสตานิ. เอวํ เสเสสุ. ‘‘อาทิอนฺต ทสฺสนวเสนา’’ติ จาตุมหาราชิเก มนุสฺสวสฺสคณนา ทสฺสนํ อาทิทสฺสนํ นาม. อิทานิ วสวตฺติยํ มนุสฺสวสฺสคณนา ทสฺสนํ อนฺต ทสฺสนํ นาม.
น อติทุพฺพลํติ นาติทุพฺพลํ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ อวิตกฺก อวิจารมตฺตฌานํ. ‘‘ภูมนฺตเร’’ติ ปถมชฺฌานภูมิโต อฺิสฺสํ ทุตียชฺฌานภูมิยํ. กปฺปวจเน. กปฺปียติ วสฺส, อุตุ, มาส, ปกฺข, รตฺติ, ทิวา, ทิวเสน ปริจฺฉิชฺชียตีติ กปฺโป. กปฺปียนฺติ วา นานาธมฺมปฺปวตฺติโย อตีตา ทิวเสน ปริจฺฉิชฺชียนฺติ เอเตนาติ กปฺโป. กาโล. มหนฺโต กปฺโปติ มหากปฺโป. วสฺสานํ สตภาเคหิปิ สหสฺสภาเคหิปิ สตสหสฺสภาเคหิปิ สงฺขาตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อสงฺขฺเยยฺโย. เอกสฺส อสงฺขฺเยยฺยสฺส อนฺตเร ทิสฺสมาโน กปฺโป อนฺตรกปฺโป. สตฺตานํ นานาอายุปริจฺเฉโท อายุกปฺโป. โส ปน มนุสฺสานํ ทสวสฺสายุกกาเล ทสวสฺเสน ปริจฺฉินฺโน. เนวสฺา เทวานํ นิจฺจกาลํ จตุราสีติ กปฺปสหสฺเสหิ ปริจฺฉินฺโน. อนฺตรกปฺโป นาม จูฬกปฺปา วุจฺจนฺตีติ สมฺพนฺโธ. วีสติปฺปเภทา จูฬกปฺปา วุจฺจนฺตีติ เกจิ วทนฺตีติอาทินา โยชนา. ‘‘เย’’ติ เย จตุสฏฺิยาทิเภทา อนฺตรกปฺปา. ‘‘ยถาวินฏฺํ’’ติ วินฏฺปฺปกาเรน วินฏฺปฺปกติยา. วฑฺฒมาโน กปฺโป วิวฏฺโฏ. ‘‘ยถาวิวฏฺฏํ’’ติ วิวฏฺฏปฺปกาเรน วิวฏฺฏปฺปกติยา. อจฺจเยน อติกฺกมเนน. หรเณน อปนยเนน. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ กปฺปวจเน. อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตเชนา’’ติ อคฺคินา. ‘‘สํวฏฺฏตี’’ติ วินสฺสติ ตทา. ‘‘เหฏฺา’’ติ เหฏฺาโลโก. ‘‘จตุสฏฺิวาเรสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ.
คาถาสุ. ‘‘สตฺตสตฺตคฺคินาวารา’’ติ สตฺตสตฺตวารา อคฺคินา วินสฺสนฺติ. อถวา, ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. สตฺตสุสตฺตสุวาเรสุ โลโก ¶ อคฺคินา วินสฺสตีติ โยชนา. เตนาห ‘‘อฏฺเม อฏฺเม’’ติ. ‘‘ทกา’’ติ อุทเกน. อฏฺเม อฏฺเมวาเร โลโก ทเกน วินสฺสตีติ โยชนา. ยทา จตุสฏฺิวารา ปุณฺณา, ตทา เอโก วายุวาโร สิยา. ตตฺถ ‘‘ตทา’’ติ ตสฺมึ จตุสฏฺิวาเร. ‘‘วิวฏฺฏมานํ’’ติ สณฺหมานํ. ‘‘วิวฏฺฏตี’’ติ สณฺหติ. ‘‘สํวฏฺฏมานํ’’ติ วินสฺสมานํ. ‘‘สํวฏฺฏตี’’ติ วินสฺสติ. ‘‘ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ อฑฺฒทฺวยํ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยนฺติ กตฺวา อุปจาเรน วุตฺตํ. ยถาตํ-อาภสฺสรานํ อฏฺกปฺปานีติ. ‘‘อุปฑฺเฒนา’’ติ อุทกวาเร เหฏฺิมภูมีสุ อุทเกน วินสฺสมานาสุ ทุตียชฺฌานภูมิ น ตาว วินสฺสติ. สํวฏฺฏกปฺเปปิ จิรกาลํ ติฏฺเตเยว. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺพฺเจตํ ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. อสงฺขฺเยยฺยกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. อิทเมว ปมาณนฺติ.
ปฏิสนฺธิจตุกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๔๕. กมฺมจตุกฺเก. ‘‘ชเนตี’’ติ อชนิตํ ชเนติ. ปาตุภาเวติ. ‘‘อุปตฺถมฺภตี’’ติ ชนิตํ อุปตฺถมฺภติ. จิรฏฺิติกํ กโรติ. ‘‘อุปปีเฬตี’’ติ ชนิตํ อุปปีเฬติ, ปริหาเปติ. ‘‘อุปฆาเตตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ. ‘‘กฏตฺตา รูปานํ’’ติ กฏตฺตานามกานํ กมฺมชรูปานํ. ‘‘กมฺมปถปตฺตาวา’’ติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิชเนน สติ, สพฺพมฺปิ กมฺมํ กมฺมปถปตฺตํ นาม โหตีติ ทฏฺพฺพํ. วิปจฺจิตฺถาติ วิปกฺกํ. วิปกฺกํ วิปากํ เยสนฺติ วิปกฺก วิปากา. อุปตฺถมฺภมานา ปวตฺตติ. สยํปิ ปจฺจยลาเภ สตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อลทฺโธกาสสฺสา’’ติ อิทํ นิทสฺสน มตฺตํ. ลทฺโธกาสสฺสปิ อุปตฺถมฺภนํ นาม อิจฺฉิตพฺพเมว. อฺํ อกุสลกมฺมํ โอกาสํ ลภตีติ โยชนา. ‘‘จายํ’’ติ เจ อยํ. ‘‘กาลงฺกริยา’’ติ กาลํกเรยฺย. ‘‘อสฺสา’’ติ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส. ‘‘ปสาทิตํ’’ติ ปสนฺนํ. ‘‘ปทูสิตํ’’ติ ปทุฏฺํ. ปุพฺเพ ‘มรณาสนฺน กาเล’ติ วุตฺตตฺตา อิธ ‘ปวตฺติกาเลปี’ติ วุตฺตํ. ‘‘เอตํ’’ติ กมฺมนฺตรสฺส อุปตฺถมฺภนํ. ‘‘ชีวิตปริกฺขาเร’’ติ ชีวิตปริวาเร ปจฺจเย. ‘‘สมุทาเนตฺวา’’ติ สมาห ริตฺวา ¶ .‘‘เอตฺถา’’ติ อุปตฺถมฺภก กมฺมฏฺาเน. ขนฺธสนฺตานสฺส อุปพฺรูหนนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ ‘ชีวิตนฺตราเย อปเนตฺวา’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ขนฺธสนฺตานสฺส จิรตรปฺปวตฺตินฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตปฺปการา’’ติ ‘วิปจฺจิตุํ อลทฺโธกาสาวา วิปกฺก วิปากา วา สพฺพาปิ กุสลา กุสล เจตนา’ติ เอวํ วุตฺตปฺปการา. ‘‘ทุพฺพลตรํ กตฺวา วา วิพาธมานา’’ติ อุปปีฬก กมฺมกิจฺจํ วุตฺตํ. ‘‘ชนก กมฺมสฺส ทุพฺพล อายูหนกาเล’’ติ สมุจฺจยนกาเล. ‘‘วิหต สามตฺถิยํ’’ติ วินาสิตสตฺติกํ. ‘‘มเหสกฺเขสู’’ติ มหานุภาเวสุ. ‘‘อุปตฺถมฺภกมฺปิ ตพฺพิปริยาเยน เวทิตพฺพํ’’ติ อุปปีฬก กมฺมโต วิปริยาเยน เวทิตพฺพํ. ‘อุปริภูมิ นิพฺพตฺตกมฺปิ สมานํ เหฏฺาภูมิยํ นิพฺพตฺเตตี’ติอาทีสุ ‘เหฏฺาภูมิ นิพฺพตฺตกมฺปิ สมานํ อุปริภูมิยํ นิพฺพตฺเตตี’ติอาทินา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อชาตสตฺตุราชวตฺถุมฺหิ ตสฺส รฺโ ปิตุฆาตกมฺมํ มหาอวีจินิรเย นิพฺพตฺตนกมฺปิ สมานํ ปจฺฉา พุทฺธุ ปฏฺาน กมฺเมน พาธียมานํ วิหตสามตฺถิยํ หุตฺวา ตํ อุสฺสทนิรเย นิพฺพตฺเตติ. ขนฺธสนฺตานสฺส วิพาธนํ นาม สตฺตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติ กรณนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ โคมหึสาทีนํ ปุตฺตทาราติมิตฺตานฺจ วิปตฺติกรณํ ตสฺส สตฺตสฺส อุปปีฬก กมฺมกิจฺจํ ภเวยฺย. อฺโหิ โส ปุคฺคโล, อฺเ โคมหึสาทโย. น จ อฺเน กตํ กมฺมํ อฺเสํ สตฺตานํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ วา สุขุปฺปตฺตึ วา กเรยฺยาติ โจทนา. ทุวิธนฺติอาทินา ตํ วิสฺสชฺเชติ. อานนฺท เสฏฺิวตฺถุมฺหิ. โสเสฏฺิ มหามจฺฉริโย อโหสิ. อฺเปิ ทานํ เทนฺเต นีวาเรสิ. โส ตโต จวิตฺวา เอกสฺมึ คามเก เอกิสฺสา อิตฺถิยากุจฺฉิมฺหิ ชาโต. ตสฺส ชาตกาลโต ปฏฺาย ตสฺส ปาปกมฺเมน มาตรํ อาทึ กตฺวา สกลคามิกานํ ชนานํ ทุกฺขุปฺปตฺติ โหตีติ ธมฺมปท อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมา นิสฺสนฺทผลวเสน อฺเน กตํ กมฺมํ อฺเสํ สตฺตานํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ วา สุขุปฺปตฺตึ วา กโรติ เยวาติ ทฏฺพฺพํ. [‘‘กมฺมชสนฺตติ สีเสสู’’ติ ปฏิสนฺธิกาลโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนา เอเกกา กมฺมชรูปสนฺตติ นาม อตฺถิ. สา ปจฺฉา อปราปรํ ตาทิสาย กมฺมชรูปสนฺตติยา ปวตฺตตฺถาย สีสภูตตฺตา ¶ สนฺตติ สีสนฺติ วุจฺจติ. ยํ กิฺจิ เอกํ วากมฺมชสนฺตติ สีสํ. ทฺเว วากมฺมชสนฺตติ สีสานิ ]. วิสุทฺธิมคฺคปาเ. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ อุปฆาตก กมฺมเมว. ‘‘อิธ จา’’ติ อิมสฺมึ อภิธมฺมตฺถสงฺคเห. ‘‘อิมสฺส ปี’’ติ อิมสฺส อุปฆาตก กมฺมสฺสปิ. ทุฏฺคามณิ รฺโ วตฺถุมฺหิ จ โสณตฺเถร ปิตุโน วตฺถุมฺหิ จ เตสํ มรณาสนฺนกาเล ปถมํ ทุคฺคติ นิมิตฺตานิ อุปฏฺหนฺติ. ปจฺฉา รฺโ เอกํ ปุพฺพกตํ กลฺยาณ กมฺมํ อนุสฺสรนฺตสฺส เถรปิตุ จ ตงฺขเณ เอว เอกํ กลฺยาณ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตานิ ทุคฺคติ นิมิตฺตานิ อนฺตรธายนฺติ. สคฺคนิมิตฺตานิ ปาตุพฺภวนฺติ. อุโภปิ จวิตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ. กุสลา กุสล กมฺมานํ ขยํ กโรตีติ กุสลา กุสล กมฺมกฺขยกโร. ‘‘อายุ กมฺเมสุ วิชฺชมาเนสู’’ติ ตสฺส สตฺตสฺส อายุ ปริจฺเฉโท จ ปริยนฺต คโต น โหติ, กมฺมานุภาโว จ ปริกฺขีโณ น โหติ. เอวํ อายุ กมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ. ‘‘อปราธ กมฺมสฺสา’’ติ มาตาปิตูสุวา ธมฺมิกสมณ พฺราหฺมเณสุ วา อปรชฺฌนวเสน กตสฺส อปราธกมฺมสฺส. ‘‘โส ปนา’’ติ มชฺฌิมฏฺกถาวาโท ปน. ‘‘อรุจฺจมาโน วิยา’’ติ อนิจฺฉิยมาโนวิย. ‘‘โส’’ติ มชฺฌิมฏฺกถา วาโท. ‘‘ตตฺถ ปนา’’ติ มชฺฌิมฏฺกถายํ ปน. ‘‘สพฺพฺเจตํ’’ติ สพฺพฺจ เอตํ สุตฺตวจนํ, วเสน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อนิจฺฉนฺเตหิ ฏีกา จริเยหิ. ‘‘วิปากํ ปฏิอิจฺฉิตพฺโพ’’ติ วิปากํ ปฏิจฺจ อิจฺฉิ ตพฺโพ. เอตฺถ ‘‘วิปากํ’’ติ กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺธ สนฺตานํ วุจฺจติ. ตสฺส ชนกํ กมฺมํ ชนก กมฺมนฺติ วุจฺจติ. ตสฺเสว ขนฺธสนฺตานสฺส อุปตฺถมฺภกํ ตสฺเสว อุปปีฬกํ ตสฺเสว อุปฆาตกํ กมฺมํ อุปฆาตก กมฺมนฺติ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สาเกต ปฺเห’’ติ วิปากุทฺธาเร อาคเต สาเกต ปฺเห. ธมฺมทินฺนาย นาม อุคฺคเสน รฺโ เทวิยา วตฺถุมฺหิ สาเทวี ปุพฺเพ เอกํ อชํ ฆาเตสิ, เตน กมฺเมน อปาเยสุ ปติตฺวา ปจฺฉา ปวตฺติ วิปากวเสน พหูสุ ภเวสุ อชสรีเร โลมคณนามตฺตํ อตฺตโน สีสจฺเฉทน ทุกฺขํ อนุโภสีติ. ‘‘สา ปนา’’ติ สา เอกา ปาณาติปาต เจตนา ปน. มหาโมคฺคลาน วตฺถุ นาม ปฺจสต โจรานํ เถรสฺส ฆาต น วตฺถุ ¶ . เถโรหิ อตฺตนา ปุพฺพกเตน อุปจฺเฉทก กมฺเมน โจรฆาตนํ ลภิตฺวา ปรินิพฺพุโต. สามาวติเทวี จ วคฺคุมุทานทิตีรวาสิโน ปฺจสต ภิกฺขู จ อตฺตโน ปุพฺพกเตหิ อุปจฺเฉทก กมฺเมหิ ตาทิสํ ปรูปกฺกมํ ลภิตฺวา สคฺเคสุ นิพฺพตฺตา. ทุสฺสิมาโร นาม กกุสนฺธ พุทฺธกาเล มารเทว ปุตฺโต วุจฺจติ. กลาพุราชานาม ขนฺติ วาทิตา ปสสฺส ฆาตโก วุจฺจติ. เต ปน ตงฺขเณ อตฺตนา กเตน อุปจฺเฉทก กมฺเมน ตงฺขเณ เอว จวิตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตา. ตตฺถ ปุริม วตฺถูสุ อุปจฺเฉทก กมฺมํ อุปจฺฉินฺทน มตฺตํ กโรติ. น อตฺตโน วิปากํ เทติ. ปจฺฉิมวตฺถูสุ ปน อุปจฺฉินฺทนฺจ กโรติ, วิปากฺจ เทตีติ. วิภาวนิปาเ. ‘‘อุปจฺเฉทน ปุพฺพกํ’’ติ อุปจฺเฉทน ปุพฺพกํ วิปากํ ชเนตีติ โยชนา. กมฺมนฺตรสฺส วิปากํ อุปจฺฉินฺทิตฺวาว อตฺตโน วิปากํ ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ‘‘อตฺตโน วิปากํ ชเนตี’’ติ อิธ กทาจิ ชเนติ, กทาจิ น ชเนตีติ เอวํ วิภาคสฺส อกตตฺตา ‘‘ตํ น สุนฺทรํ’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิธ ปุพฺพกเตนา’’ติอาทึ. ‘‘อฏฺกถาสุเยว อาคตตฺตา’’ติ เตสุ วตฺถูสุ เตชนา อุปจฺเฉทก กมฺเมน มรนฺตีติ เอวํ วตฺวา อาคตตฺตา. วิปากํ นิพฺพตฺเตตีติ วิปาก นิพฺพตฺตกํ. ตสฺส ภาโว วิปาก นิพฺพตฺตกตฺตํ. วิปาก นิพฺพตฺตกตฺตสฺส อภาโวติ วิคฺคโห.
ชนกจตุกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๓๖. ‘‘นิกนฺติ พเลน วา ปฏิพาหิยมานํ วิปากํ น เทตี’’ติ ฌานลาภิโน หุตฺวาปิ มรณกาเล อุปฺปชฺชิตุํ นิกนฺติยา สติ, ตํ ฌานํ วิปากํ น เทตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอกสฺสา’’ติ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส. ‘‘เตสํ’’ติ มหคฺคตกมฺม อานนฺตริย กมฺมานํ. อนฺติม ชวนวีถิยํ กตํ นาม วตฺถุ ทุพฺพลตฺตา สยมฺปิ ทุพฺพลํ โหติ. ปฏิสนฺธึ น ชเนติ. เตนาห ‘‘อนฺติม ชวนวีถิโต ปุพฺพภาเค อาสนฺเน กตํ’’ติ. อิทฺจ กมฺมสามฺ วเสน วุตฺตํ. กมฺมวิเสเส ปน สติ, น เทตีติ น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมํ ปนา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. กตํ อาสนฺน กมฺมํ นามาติ คเหตพฺพนฺติ โยชนา. ปาฬิปาเ. อสฺสปุคฺคลสฺส มรณกาเลวา สมฺมาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนา, มิจฺฉาทิฏฺิ สมตฺตา สมาทินฺนาติ โยชนา. ปรโต ปริปุณฺณํ อาคมิสฺสติ. โสมนสฺส ชนกํ ปรเจตนา ปวตฺติวเสน. สนฺตาป ชนกํ กุกฺกุจฺจวิปฺปฏิสารปฺปวตฺติวเสน. อิทํ ครุก จตุกฺกํ นาม อนนฺตเร ภเว วิปจฺจนกานํ กมฺมานํ วเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุปปชฺชเวทนีย กมฺมานิ เอวา’’ติ. กมฺมํ นาม กุสลํ วา โหตุ, อกุสลํ วา. ปุนปฺปุนํ ลทฺธา เสวเน สติ, วิปากํ เทติ. อสติ น เทติ. กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ อุปฺปนฺนํ โหติ จกฺขุ วิฺาณนฺติ จ, อกุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ อุปฺปนฺนํ โหติ จกฺขุ วิฺาณนฺติ จ, ปาฬิยํ วุตฺตํ. เอตฺถหิ กตตฺตาติ วตฺวา ปุน อุปจิตตฺตาติ วจนํ ปุนปฺปุนํ วฑฺฒนสงฺขาเต อาเสวเน สติ เอว วิปากํ เทตีติ าเปติ. ตสฺมา กตมตฺต กมฺมตฺตา กฏตฺตา กมฺมํ นามาติ วุตฺเตปิ อนนฺตรภเว วิปจฺจนก กมฺมสฺเสว อิธ อธิปฺเปตตฺตา ปุนปฺปุนํ ลทฺธา เสวนเมว อิธ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนํ’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติอาทีสุ. ‘‘ยตฺถ ตํ ปุพฺพกตํ กมฺมนฺติ อาคตํ’’ติ ยสฺมึ อฏฺกถา ปเทเส ตํ กฏตฺตา กมฺมํ ปุพฺพกตํ กมฺมํติ อาคตํ. ‘‘กสฺมา อิธา’’ติอาทีสุ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ อภิธมฺมตฺถ สงฺคเห. ปาฬิยํ. ยํ ครุกํ, ตํ วิปากํ เทติ. ตสฺมึ อสติ, ยํ พหุลํ. ตสฺมึ อสติ, ยํ อาสนฺนํ. ตสฺมึ อสติ, ยํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ, ตํ วิปากํ เทตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
สุตฺตนฺตปาเ. สุขเวทนํ ชเนตีติ สุขเวทนียํ. ‘‘สมตฺตา’’ติ สุฏฺุคหิตา. ‘‘สมาทินฺนา’’ติ ตทตฺถวิวรณํ. ‘‘ปริยตฺตํ’’ติ สมตฺถํ. ตมฺพทาธิกสฺส ยาวชีวํ พหูนิ ปาปกมฺมานิ อาจิณฺณานิ. มรณ ทิวเส ปน สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา จวิตฺวา เตน อาสนฺน กมฺเมน สคฺเค นิพฺพตฺติ. วาตกาลสฺส ยาวชีวํ พหูนิ กลฺยาณ กมฺมานิ อาจิณฺณานิ. มรณ ทิวเสปน พุทฺธสาสเน ¶ วิปรีต สฺํ กตฺวา เตน อาสนฺน กมฺเมน อปาเย นิพฺพตฺติ.
ครุกจตุกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๔๗. ทิฏฺธมฺมจตุกฺเก. ปสฺสิตพฺโพติ ทิฏฺโ. ‘‘ธมฺโม’’ติ ขนฺธายตน ธมฺม สมูโห. ทิฏฺโ ธมฺโมติ ทิฏฺ ธมฺโม. วตฺตมาโน ธมฺมสมูโห. โย อตฺตภาโวติ วุจฺจติ. อตฺตสงฺขาตสฺส ทิฏฺิยา ปริกปฺปิตสารสฺส ภาโว ปวตฺติ การณนฺติ กตฺวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺ ธมฺโม วุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ‘‘วิปากํ ปฏิสํเวเทตี’’ติ เอเตน กถํ กมฺมสาธนํ ทสฺเสติ. ปฏิสํเวทน กฺริยาปเท วิปากนฺติ กมฺมปทํ ทิสฺวา วิปากํ นาม เวทิตพฺพํ เวทนียํ. ปฏิสํเวทิตพฺพํ ปฏิสํเวทนียนฺติ วิฺาตตฺตา. ‘‘อุเปจฺจา’’ติ อุปคนฺตฺวา. ‘‘อุปปชฺชิตฺวา’’ติ อุเปจฺจ ปชฺชิตฺวา. ปาปุณิตฺวาติ อตฺโถ. วิภาวนิปาเ. ‘‘ทิฏฺ ธมฺมโต’’ติ ทิฏฺ ธมฺมสฺส. สามิอตฺเถ ปฺจมี. ปาฬิยํ วุตฺตํ. ‘‘เอตฺถหี’’ติอาทิ ปุพฺพวากฺเย วุตฺต นยเมว. อปรสทฺโท นิจฺจํ อปาทานา เปกฺโข. ตฺจ อปาทานํ นาม อนนฺตเร วุตฺตปเทหิ. ‘‘ทิฏฺธมฺมา นาคตานนฺตร ภเวหี’’ติ ทิฏฺธมฺมโต จ อนาคตานนฺตร ภวโต จาติ อตฺโถ. ‘‘ปริวตฺโต’’ติ ปพนฺโธ. อปราปริโยติ วา, อปโร จ อปโร จ อปราปโร. อปราปเร ปวตฺโต อปราปริโยติ อตฺโถ. ‘‘อุปปชฺชภวํ’’ติ อนาคตานนฺตรภวํ. อโหสิ กมฺเม ‘‘อโหสี’’ติ ปทํ อฺาสิ โกณฺฑฺโติ ปเทวิย รุฬฺหีนามปทนฺติ อาห ‘‘อโหสิ นามกํ’’ติ. ตํ ปน รุฬฺหิปทํ กุโตปวตฺตํติ อาห ‘‘อโหสิ กมฺมํ’’ติอาทึ. ‘‘เอวํ วุตฺต ปาวเสนา’’ติ เอตฺถ อิธ วุตฺโต ปาโ สา วเสโส. ปริปุณฺณปาโ ปน อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺม วิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺม วิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิกมฺม วิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิกมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺม วิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺม วิปาโกติอาทินา ปฏิสมฺภิทา มคฺเค อาคโต. ‘‘สา’’ติ ปถม ชวน เจตนา. ‘‘อปฺปตร วิปากา จาตี’’ติ เอตฺถ ‘‘อิตี’’ติ เหตุ ¶ อตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา อจิรฏฺิติ กตฺตา ทิฏฺ ธมฺเม เอว ผลํ ทตฺวา วิคจฺฉติ, ตสฺมา อปฺปตร วิปากตฺตา อเหตุกมตฺตํ ผลํ ทตฺวา วิคจฺฉตีติ โยชนา. ‘‘ปจฺจโยติ จา’’ติ ปจฺจยํ ลทฺธาติ วุตฺโต ปจฺจโยติ จ. ‘‘โส’’ติ มหนฺตํ วุตฺโต ปจฺจโย. ‘‘กากวลิยาทีนํ วิยา’’ติ กากวลิยาทีนํ ปุคฺคลานํ ทิฏฺเวทนีย กมฺมํ วิย. ‘‘ปากฏตรปฺผลทานํ’’ติ สตฺตาหพฺภนฺตเร เอว เสฏฺิฏฺานปฺปฏิ ลาภาทิวเสน ปากฏตรปฺผลทานกํ กมฺมวิเสสํ. กมฺม ปถชวนสนฺตาเน ปวตฺตา ปถมชวน เจตนา วา อิตราปิ ปถม ชวน เจตนา วาติ โยชนา. ‘‘กาจี’’ติ เอกจฺจา ปถมชวน เจตนา. เสสานิ ทิฏฺธมฺม เวทนีย กมฺมานิ.
อุปปชฺชกมฺเม. ‘‘อตฺถ สาธิกา’’ติ สนฺนิฏฺานตฺถสาธิกา. ปาณฆาตาทิ กิจฺจสาธิกาติ วุตฺตํ โหติ. สุฏฺุ นิฏฺาเปตีติ สนฺนิฏฺาปิกา. ‘‘เสสานิ ปี’’ติ เสสานิ อุปปชฺช เวทนีย กมฺมานิปิ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ มนุสฺส โลเก. ‘‘มิสฺสกกมฺมานี’’ติ กุสลา กุสลมิสฺสกานิ กมฺมานิ. เวมานิกเปตวตฺถูนิ วิมานวตฺถุ ปาฬิยํ อาคตานิ. ‘‘สุคติยํ วิปตฺตึ อนุภวนฺตานิ วตฺถูนี’’ติ เอตฺถ ‘‘วิปตฺตึ’’ติ จกฺขุ โสตาทีนํ องฺค ปจฺจงฺคานํ วา วิปตฺตึ. นานา ทุกฺขุปฺปตฺติภูตํ วา วิปตฺตึ. ‘‘ทุคฺคติยํ สมฺปตฺตึ’’ติ มหิทฺธีนํ นาคสุปณฺณาทีนํ สมฺปตฺตึ. ‘‘ยถา วุตฺต วตฺถูหี’’ติ เวมานิก เปตวตฺถาทีหิ. อฏฺกถาปาเ. ‘‘เตสํ สงฺกมนํ นตฺถี’’ติ เตสํ กมฺมานํ วิปจฺจนกาล สงฺกนฺติ นาม นตฺถิ. ‘‘ยถาาเนเยว ปติฏฺนฺตี’’ติ ตานิ ทิฏฺ ธมฺมฏฺานาทิวเสน ภควตา ยถา วุตฺตฏฺาเน เอว ติฏฺนฺติ. ‘‘เอวํ วุตฺตํ’’ติ เตสํ สงฺกมนํ นตฺถีติอาทินเยน วุตฺตํ. ‘‘ยุตฺติยา วา อภาวโต’’ติ เอตฺถ ทิฏฺ ธมฺม เวทนียสฺส ปฏิสนฺธิ วิปากาทิ ยุตฺติยา อภาวโต.
ทิฏฺธมฺมจตุกฺกํ.
๑๔๘. ปากฏฺานจตุกฺเก. ‘‘กายาทีนํ’’ติ โจปนกายาทีนํ. กาย วิฺตฺตาทีนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อติปาเตนฺตี’’ติ อติกฺกมฺม ¶ ปโยเคน อภิภวิตฺวา ปาเตนฺติ. เตนาห ‘‘อติปาตนฺเจตฺถา’’ติอาทึ. ‘‘อทินฺนํ’’ติ สามิเกนอทินฺนํ ปรสนฺตกํ. อคมนียวตฺถูนิ นาม อวีติกฺกมนตฺถาย อนุปคนฺตพฺพานิ มาตุรกฺขิตาทีนิ อิตฺถิ ปุริสสรีรานิ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ปรปาณสฺส. ‘‘ตโต’’ติ ปรปริคฺคหิต ภาวโต. ‘‘อจฺฉินฺทก เจตนา’’ติ ปรสนฺตกสฺส อตฺตโน สนฺตกกรณวเสน ภุสํ ปรสนฺตกา ภาวจฺฉินฺทก เจตนา. วิลุปฺปน เจตนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทกสฺสา’’ติ อตฺตโน มคฺเคน ปรมคฺค สมฺปโยชกสฺส. ‘‘เอตฺถปี’’ติ ยถา อทินฺนาทาเน ปรปริคฺคหิต สฺิโนติ ทุตียํ องฺคปทํ วุตฺตํ. เอวํ เอตฺถปิ. เอตฺถ วทนฺติ อคมนีย วตฺถุ วเสน จิตฺตนฺติ อวตฺวา ตสฺมึ เสวน จิตฺตนฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา อคมนีย วตฺถุ สฺิตาติ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตสทิสํ โหตีติ. น โหติ. น หิ ตสฺมินฺติ วจนํ สฺาวิเสส สหิตํ อตฺถํ วทติ. อีทิเสสุ จ าเนสุ สเจ สฺาปธานํ โหติ. ปาณสฺิตา, ปรปริคฺคหิต สฺิตา,ติ องฺค ปทํ วิย อิธปิ อคมนีย วตฺถุ สฺิตาติ ทุตียํ องฺคปทํ อวสฺสํ วตฺตพฺพํ โหติ. กสฺมา, องฺคนิยมฏฺานตฺตา. เตนาห ‘‘เอเตนา’’ติอาทึ. ‘‘จตุรงฺคีโกว วุตฺโต’’ติ ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา. อคมนีย วตฺถุ, ตสฺมึ เสวน จิตฺตํ, เสวนปฺปโยโค, มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ อธิวาสนนฺติ. ‘‘สา’’ติ ภิกฺขุนี. ‘‘รกฺขิตาสุ สงฺคหิตา’’ติ มาตุรกฺขิต ปิตุ รกฺขิตาทีสุ สงฺคหิตา. ‘‘ฏีกาสุ ปนา’’ติ สุตฺตนฺตฏีกาสุ ปน. ‘‘สา’’ติ ภิกฺขุนี. ปาสณฺฑา วุจฺจนฺติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตาทีนิ. ตํ วาทิโน ปาสณฺฑิยา นาม. เตสํ ธมฺโม ปาสณฺฑิย ธมฺโม นาม. มิจฺฉาจาโรปิ ทุสฺสีลาย อิตฺถิยา วีติกฺกโม อปฺปสาวชฺโช. ตโต โครูป สีลิกาย มหาสาวชฺโช. ตโต สรณงฺคตาย, ปฺจ สิกฺขา ปทิกาย, สามเณริยา, ปุถุชฺชน ภิกฺขุนิยาติอาทิ. อฏฺกถา ปาเ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อิมสฺมึ อกุสลกายกมฺเม. ‘‘น คหิตํ’’ติ เถเรน วา อฏฺกถาจริเยหิ วา น คหิตํ. สุรฺจ เมรยฺจ ปิวนฺติ เอเตนาติ สุราเมรย ปานํ. ตทชฺโฌหรณ เจตนา กมฺมํ. ‘‘สพฺพ ลหุโก’’ติ สพฺเพสํ สุราปาน กมฺม วิปากานํ มชฺเฌ ¶ โย วิปาโก ลหุกตโร, ปวตฺติวิปากมตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิโก’’ติ อุมฺมตฺตภาว สํวตฺตนิโก. ‘‘ปฺจปี’’ติ สุราปาน กมฺเมน สห ปฺจปิ. มูลฏีกา วจเน. ‘‘ตสฺสา’’ติ สุราปาน กมฺมสฺส. ปฏิสมฺภิทา มคฺคฏีกายํ อิมสฺส วากฺยสฺส สํวณฺณนายํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ‘‘ตพฺพิ รมณาทโย จา’’ติ ตโต สุราปานโต วิรมณาทโย จ. ‘‘มทสฺสา’’ติ มชฺชนสฺส. ‘‘อปฺุปถสฺสา’’ติ อกุสล กมฺม ปถสฺส. ‘‘ตพฺพิรติ ปี’’ติ ตโต สุราปานโต วิรติปิ. ‘‘นิมฺมทตายา’’ติ มชฺชนรหิต ภาวสฺส. ‘‘สา’’ติ นิมฺมทตา. ‘‘ปฺุปถสฺสา’’ติ กุสลกมฺม ปถสฺส. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. ‘‘ตานี’’ติ สุราปาน กมฺมตพฺพิรติ กมฺมานิ. ‘‘น อิตรํ’’ติ กมฺมปเถหิ อสมฺพนฺธํ. สุราปานํ วิสุํ ปฏิสนฺธึ น เทตีติ โยชนา. ตพฺพิรติ กมฺเม ปน สเจ อิทํ สุราปานํ นาม ปาปกมฺมํ ทุจฺจริตนฺติ ตฺวา สมาทาน วิรติ สมฺปตฺตวิรติ วเสน ตํ สิกฺขาปทํ รกฺขติ. ตํ สีลํ อฺเหิ ปฺุปเถหิ อสมฺพนฺธมฺปิ วิสุํ ปฏิสนฺธึ น เทตีติ น วตฺตพฺพํ. ‘‘เอวมิทํ ปี’’ติ เอวํ อิทมฺปิ สุราปาน กมฺมํ กมฺม ปถปตฺตสฺส กมฺมสฺส ปริวารภูตํ เอว ปฏิสนฺธึ ชเนตีติ โยชนา. ‘‘ตตฺถา’’ติ กมฺมปถสุตฺเตสุ. สรูปโต น วุตฺตนฺติ จ สกฺกา วตฺตุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยํ’’ติ ยํ สุราปาน กมฺมํ. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ กมฺมปถสุตฺเตสุ. กมฺม ชนนํ นาม ทุจฺจริต กมฺมานํ ชนนํ. สกฺเกน เทวาน มินฺเทน ตสฺส อปายคามิตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ตสฺสาสุราย ปุณฺณํ อิมํ สุรากุมฺภํกิณาถ. มูลํ เทถ คณฺหาถาติ อตฺโถ. ‘‘ตสฺสา’’ติ สุราปาน กมฺมสฺส. อปายํ คเมติ สมฺปาเปตีติ อปาย คามี. ‘‘ยทิทํ’’ติ ยา อยํ ยถาลาภ โยชนา อตฺถิ. มูลฏีกา วจเน. ‘‘กมฺมสหชาตา’’ติ อกุสล กมฺมสหชาตา ตณฺหา. ‘‘เตสํ’’ติ เตสํ ปฺจนฺนํ กมฺมานํ. ‘‘โกฏฺาสโต’’ติ ธมฺมสงฺคณิยํ ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตีติอาทินา วุตฺเต ธมฺมุทฺเทสวาเร ฌานาทิโกฏฺาสา นาม อาคตา. เตสุ ปฺจ สิกฺขาปทา โกฏฺาสโต กมฺมปถ โกฏฺาสิกา เอว. กมฺมปถ โกฏฺาเส อนฺโตคธาติ อตฺโถ. ‘‘ปุริมานํ จตุนฺนํ’’ติ ปาณาติ ปาตาทีนํ ¶ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ‘‘ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ ตสฺส กมฺมปถภาโว ปฏิกฺขิตฺโต. ‘‘ตตียํ’’ติ ตตีย สุตฺตํ. เอตาสุปิ จ อฏฺกถาสุ.
กายกมฺมาทีสุ. สสมฺภารกาโย นาม สกโล รูปกาโย. ปสาทกาโย นาม กายปสาโท เอว. กาย วิฺตฺติ โจปนกาโย นาม. ‘‘โจปน’’นฺติ จ จลนํ วุจฺจติ. ‘‘โส เยวา’’ติ โจปนกาโยเยว. กายกมฺม นาม ลาโภ จ โหติ, ตสฺมา โส กมฺมานํ ปวตฺติ มุขนฺติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘กมฺมานิ วิเสเสตุํ’’ติ อิทํ กายกมฺมํ นาม, อิทํ วจีกมฺมํ นามาติ วิเสเสตุํ นิยเมตุํ. ‘‘สกฺโกนฺตี’’ติ กมฺมานิ วิเสเสตุํ สกฺโกนฺติ. ตสฺมา กายทฺวาเร วุตฺติโตติ จ วจีทฺวาเร วุตฺติโตติ จ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. มิจฺฉาจารสฺส วจีทฺวาเร อปฺปวตฺติโต ‘‘ปุริมานิ ทฺเว’’ติ วุตฺตํ. ‘‘มชฺฌิมานิ จตฺตารี’’ติ มุสาวาทาทีนิ จตฺตาริ วจีกมฺมานิ. ‘‘ฉพฺพิธานิ ตานิ วชฺชานีติ’’ติ ‘กายกมฺมํ ชเหยฺยุ’นฺติอาทีนิ ฉพฺพิธานิ ตานิ วชฺชานิ. กถํ เอกเมเกน พาหุลฺล สทฺเทน ฉพฺพิธานิ ตานิ วชฺเชตีติ. อนฺวยโต จ พฺยติเรกโต จ วชฺเชติ. กถํ, ปาณาติปาต กมฺมํ กทาจิ อปฺปเกน วจีทฺวาเร อุปฺปนฺนมฺปิ กายทฺวาเร เอว ปวตฺติ พหุลตฺตา กายกมฺมเมว โหติ. วจีกมฺม สงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ทฺเว วา อสฺส นามานิ น ภวนฺติ. วจีทฺวาเร ปน อปฺปกวุตฺติตฺตา วจีกมฺมํ นาม น โหติ. กายกมฺมนฺติ นามํ น ชหติ. ทฺเว วา อสฺส นามานิ น ภวนฺตีติ เอวํ เอเกน กายทฺวาเร พาหุลฺล วุตฺติวจเนน ปาณาติปาต กมฺเม ฉพฺพิธานิ วชฺชานิ วชฺเชตีติ. เอวํ เสเสสุ. วนจรโก นาม วนลุทฺทโก. โส ปน กทาจิ อปฺปเกน คาเม จรนฺโตปิ วเน พาหุลฺล จาริตฺตา วนจรโก เอว โหติ. คามจรโกติ นามํ น ลภติ. ทฺเว วา อสฺส นามานิ น ภวนฺติ. เอวํ สงฺคามาวจรกาปิ. สงฺคามาวจโร นาม สงฺคาเม พาหุลฺลาวจโร หตฺถี วุจฺจติ. เอตฺถ มโนทฺวารํ สพฺพ กมฺม สาธารณตฺตา กมฺมานิ วิเสเสตุํ น สกฺโกตีติ วุตฺตํ. เอวฺจสติ, ‘อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺิ เจติ มนสฺมึ วุตฺติโต มโนกมฺมํ นามา’ติ อิทํ น วตฺตพฺพนฺติ. โน น วตฺตพฺพํ. กมฺม สิทฺธึ ปฏิจฺจ อฺทฺวาเรหิ อสาธารณตฺตา ¶ . เตนาห ‘‘มโนกมฺมานิ ปนา’’ติอาทึ. ‘‘สิทฺธํ’’ติ นิพฺพตฺตํ. ‘‘กายกมฺมทฺวารํ’’ติ เอตฺถ ตตฺถ โจปนกาโย กายกมฺมานํ ปวตฺติ พหุลตฺตา กายกมฺม ทฺวารํ นาม. โจปนวาจา ตตฺถ วจีกมฺมานํ ปวตฺติ พหุลตฺตา วจีกมฺมทฺวารํ นาม. กุสลา กุสล ชวน จิตฺตํ ปน มโนกมฺมานํ ตตฺเถว กมฺม กิจฺจ สิทฺธิโต มโนกมฺม ทฺวารํ นามาติ เอวํ กมฺเมน ทฺวาร ววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ตสฺส ทฺวารสฺส นามํ ภินฺทิตุํ วา’’ติ กาโยติ นามํ ภินฺทิตุํ วา. ‘‘อตฺตโน นามํ ทาตุนฺติ วา’’ติ วจีติ นามํ ตสฺส ทาตุํ วา. ‘‘พฺราหฺมณ คามาทีนํ พฺราหฺมณ คามาทิภาโว วิยา’’ติ ตสฺมึ อฺกุเลสุ วสนฺเตสุปิ พฺราหฺมณ กุลพหุลตฺตา พฺราหฺมณ คาโมตฺเวว นามํ โหติ. ตสฺมึ วเน อฺรุกฺเขสุ สนฺเตสุปิ ขทีรรุกฺข พหุลตฺตา ขทีรวนนฺตฺเวว นามํ โหตีติ วตฺตพฺพนฺติ. กายกมฺมํ นิฏฺิตํ.
๑๔๙. วจีกมฺเม. ‘‘มุสา วทนฺตี’’ติ อภูตโต วทนฺติ. ปิสติ เอตายาติ ปิสุณา. ‘‘นิรุตฺติ นเยนา’’ติ เอตฺถ ปิยสฺุ กรณาติ วตฺตพฺเพ อกฺขร โลปกรณํ นิรุตฺติ นโย นาม. ‘‘เยนา’’ติ เยนชเนน. ‘‘สมฺผํ’’ติ เอตฺถ สํสทฺโท สมฺมติ ทุกฺขํ เอเตนาติ อตฺเถน สุเข หิเต วตฺตตีติ อาห ‘‘สํ สุขํ หิตฺจา’’ติ. กีทิสํ สุขํ หิตฺจาติ อาห ‘‘สาธุชเนหิ อธิคนฺตพฺพํ’’ติ. เอเตน ปาปชเนหิ อธิคนฺตพฺพํ หิตสุขํ ปฏิกฺขิปติ. หิตสุขสฺส วินาสนํ นาม ตสฺส อาคมน มคฺคภินฺทนนฺติ อาห ‘‘หิตสุข มคฺคํ ภินฺทตี’’ติ. ‘‘ตํ วา’’ติ เอตฺถ ‘‘ตํ’’ติ หิตสุขํ. ‘‘อตฺถ ธมฺมา ปคตสฺสา’’ติ อตฺถโต จ ธมฺมโต จ อปคตสฺส. ‘‘ปฏิภาณ จิตฺตสฺสา’’ติ สุณนฺตานํ จิตฺตรติ จิตฺตหาสวฑฺฒนตฺถาย ปฏิภาณฺาเณน จิตฺตีกตสฺส. ‘‘ยตฺถา’’ติ ยสฺมึ กถา มคฺเค. ‘‘อตฺถ ธมฺม วินยปทํ’’ติ อตฺถ ปทฺจ ธมฺมปทฺจ วินย ปทฺจ. ตตฺถ อตฺโถ นาม อาโรคฺยสมฺปตฺติ, มิตฺตสมฺปตฺติ, ปฺาสมฺปตฺติ, ธน สมฺปตฺติ, โภคสมฺปตฺติโย. ตาสุ โกสลฺลชนกํ วากฺยปทํ อตฺถปทํ นาม. อิทํ สุจริตํ นาม สคฺคสํวตฺตนิกํ, อิทํ ทุจฺจริตํ นาม อปาย สํวตฺตนิกนฺติ เอวํ สภาว ธมฺเมสุ โกสลฺล ชนกํ วากฺย ปทํ ธมฺม ปทํ นาม. เอวํ จิตฺตํ ทมิตพฺพํ, เอวํ อินฺทฺริยานิ ทมิตพฺพานิ, เอวํ ¶ ราโค วิเนตพฺโพ, เอวํ โทโส วิเนตพฺโพติอาทินา วิเนตพฺเพสุ วินย โกสลฺลชนกํ วากฺยปทํ วินย ปทํ นาม. ยตฺถ เอวรูปํ อตฺถ ปทฺจ ธมฺม ปทฺจ วินย ปทฺจ กิฺจิ นตฺถิ. ตสฺส วาจา วตฺถุมตฺตสฺส เอตํนามํ โหตีติ โยชนา. ‘‘สมฺผํ’’ติ วุตฺตปฺปการํ นิรตฺถกวจนํ. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ วจีกมฺเมสุ. วิสํวาทนํ นาม วิรชฺฌา ปนํ. วิสํวาทโก นาม วิรชฺฌาปนโก. อตฺถํ ภฺชติ วินาเสตีติ อตฺถ ภฺชนโก. ‘‘กมฺมปถเภโท’’ติ ปฏิสนฺธิ ชนโก กมฺมปถวิเสโส. ‘‘อิตโร’’ติ อตฺถ ภฺชนกโต อฺโ มุสาวาโท. ‘‘กมฺม เมวา’’ติ ปวตฺติ วิปาก ชนกํ วจีกมฺมเมว. ‘‘รชานํ’’ติ ธูลีนํ. ตาสุ สุคติ ทุคฺคตีสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ ตทุปฺปชฺชนกานิ. ‘‘ปถภูตตฺตา’’ติ อุปฺปตฺติมคฺคภูตตฺตา. ‘‘เภท ปุเรกฺขาเรนา’’ติ มิตฺตเภทปุเรกฺขาเรน. มิตฺตํ ภินฺทตีติ เภทโก. ‘‘สํกิลิฏฺ เจตนา’’ติ อตฺถ ปุเรกฺขาร ธมฺม ปุเรกฺขาร วินย ปุเรกฺขาร อนุสาสนิ ปุเรกฺขาร รหิตา เกวลํ เภทปุเรกฺขาร เจตนา สํกิลิฏฺ เจตนา นาม. ‘‘ปเร ภินฺเน เยวา’’ติ ปรชเน ปรชเนน มิถุเภทวเสน ภินฺเนเยว. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ ยํ กิฺจิ อกฺโกสวตฺถุ. ‘‘อยํ ปี’’ติ อยํ ผรุสวาจาปิ. เอวํ อกฺโกสน กมฺมํปิ อกฺโกสิตพฺพสฺส ทูเร ิตสฺสปิ มตสฺสปิ สมฺปชฺชตีติ โยชนา. อนตฺถํ นิรตฺถกวาจา วตฺถุ มตฺตํ วิฺาเปตีติ อนตฺถวิฺาปนโก. ‘‘สจฺจโต คณฺหนฺเต เยวา’’ติ ยถา โส กเถติ, ตถา ตํ วตฺถุ อุปฺปนฺน ปุพฺพนฺติ เอวํ สจฺจโต คณฺหนฺเตเยว. เกจิ สจฺจโต คณฺหิตฺวา กิฺจิ วตฺถุํ ปูชนีย าเน เปตฺวา โถเมนฺตา ปูเชนฺตา วนฺทนฺตา ปริหรนฺติ. สมฺปรายิ กตฺถาย ตํ สรณํ คจฺฉนฺติ. สพฺพเมตํ นิรตฺถกํ โหติ. ‘‘ตทสฺสาทวเสนา’’ติ ตํ ราชกถาทึ ตตฺถ จิตฺตรตึ ลภิตฺวา อสฺสาทวเสน กเถนฺตสฺเสว กมฺมํ โหติ. อนิจฺจ ลกฺขณ วิภาวนตฺถาย วา รตนตฺตย คุณวิภาวนตฺถาย วา ปาป ครห กลฺยาณ สมฺภาวนาย วา กเถนฺตสฺส ปน สตฺถกเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อตฺถ ธมฺม วินย นิสฺสิตํ’’ติอาทึ. เสสเมตฺถ กายทฺวาเร ทีปิตเมว.
๑๕๐. มโนกมฺเม ¶ . ‘‘อภิฌายนฺตี’’ติ อติเรกตรํ ฌายนฺติ, จินฺเตนฺติ, โอโลเกนฺติ วาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺสาทมตฺเต อตฺวา’’ติอาทิมาห. ‘‘พฺยาปาเทนฺตี’’ติ วิคตภาวํ อาปาเทนฺติ สมฺปาเปนฺติ. ตฺจ อาปาทนํ น กายวาจาหิ. อถ โข จิตฺเตเนวาติ วุตฺตํ ‘‘จินฺเตนฺตี’’ติ. ‘‘ตพฺพิ ปรีตโต’’ติ สปฺปุริส ปฺตฺติโต วิปรีเตน. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ มโนกมฺเมสุ. ‘‘อิทํ มมสฺสา’’ติ อิทํ สนฺตกํ มมสนฺตกํ ภเวยฺย, อโห สาธุ วตาติ โยชนา. ‘‘อตฺตโน กตฺวา’’ติ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา. ‘‘ลาภาวติเม’’ติ เอตฺถ สุลาภํ ลภนฺตีติ ลาภา. ‘‘อตฺตโน กเรยฺยํ’’ติ อตฺตโน สนฺตกํ กเรยฺยํ. ปรภณฺฑํ วตฺถุ ยสฺสาติ ปรภณฺฑ วตฺถุโก. ‘‘วตฺถู’’ติ อารมฺมณภูตํ วตฺถุ. ยาว น ปริณาเมติ, ตาว น กมฺมปถเภโท โหตีติ โยชนา. ‘‘วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถาสู’’ติ อธิกาโร. ‘‘อยํ’’ติ อยํ สตฺโต. ‘‘ตสฺสา’’ติ ตสฺส สตฺตสฺส. ทสวตฺถุกามิจฺฉาทิฏฺิ นาม ‘นตฺถิทินฺนํ, นตฺถิยิฏฺํ, นตฺถิหุตํ’ติอาทิกา มิจฺฉาทิฏฺิ. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคเตสุ กาจิทิฏฺิโย นตฺถิกาทิ สภาวา โหนฺติ. อิธ ปน ตพฺพหุลนเยน กมฺมเมวาติ วุตฺตํ. ยถาวุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. คจฺฉนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส. ‘‘จิตฺตุปฺปาโท’’ติ มคฺคจิตฺตุปฺปาเท. ‘‘ปสฺสนฺโต’’ติ ตีณิ ลกฺขณานิ ปสฺสนฺโต. วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิยามํ’’ติ สมฺมตฺต นิยามํ. อวิปรีตนิยามนฺติ อตฺโถ. ปุน ‘‘นิยามํ’’ติ มิจฺฉตฺตนิยามํ. วิปรีต นิยามนฺติ อตฺโถ. ติกิจฺฉิตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อเตกิจฺโฉ. เอกนฺเตน อปายคามี โหตีติ อตฺโถ. ‘‘อปสฺสิตฺวา’’ติ ทิฏฺิฏฺานานํ อปสฺสิตฺวา. ‘‘มิจฺฉาธิโมกฺขมตฺเตนา’’ติ ติตฺถา จริเยสุ สทฺทหน มตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘สกํ อาจริยกํ’’ติ อตฺตโน อาจริยสฺส สนฺตกภูตํ. ิโต ปุคฺคโล. อฏฺกถายํ วุตฺโต, ยถาห มิจฺฉตฺตติเก มิจฺฉาสภาวาติ มิจฺฉตฺตา. วิปากทาเน สติ, ขนฺธเภทานนฺตรเมว วิปากทานโต นิยตา. มิจฺฉตฺตา จ เต นิยตา จาติ มิจฺฉตฺตนิยตา. สมฺมาส ภาวาติ สมฺมตฺตา. สมฺมตฺตา จ เต นิยตา จ อนนฺตรเมว ผลทาน นิยเมนาติ สมฺมตฺตนิยตาติ ¶ . ‘‘ตสฺสา’’ติ มิจฺฉาทิฏฺิยา. ‘‘อโจเปตฺวา’’ติ อจาเลตฺวา. ‘‘เอเตนา’’ติ เอเตนปิ สทฺเทน. ‘‘อิเมสํ’’ติ มโนกมฺมานํ. ‘‘เอเตนา’’ติ มนสฺมึ เอวาติ วจเนน. ‘‘อุปปนฺนํ’’ติ ปริปุณฺณํ. ‘‘อุปลกฺขณาทิวเสนา’’ติ อุปลกฺขณนย นิทสฺสนนย ปธานนยาทิวเสน. ‘‘อตฺถนฺตรปฺปสงฺโค โหตี’’ติ กถํ โหติ. เอวสทฺเทน วินา ปาณาติปาต กมฺมํ กายทฺวาเร พาหุลฺล วุตฺติโต กายกมฺมํ นามาติ วุตฺเต อิทํ ลทฺธาตปตฺโต ราชกุมาโรติ วิย อุปลกฺขณนยมตฺตํ. เตน เสสทฺวาเรสุปิ พาหุลฺล วุตฺตึ อุปสลฺลกฺเขตีติ อตฺถนฺตรปฺปสงฺโค สิยาติ. เอวํ เสสนเยสุปีติ. ‘‘อปิจา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ โชเตติ. ‘‘เตสู’’ติ ปาณวธาทีสุ. ‘‘เอกํ องฺคํ’’ติ อุปกฺกโมติ จตุตฺถํ องฺคํ. ‘‘ตํ สหชาตา จา’’ติ เจตนา สหชาตา จ. เจตนา ปกฺเข ภวาติ เจตนา ปกฺขิกา. เจตนา วิย กายกมฺมภาวํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อพฺโพหาริกตฺตํ คจฺฉนฺตี’’ติ มโนกมฺมนฺติ โวหริตุํ อปฺปโหนกตฺตํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อตฺตา ปธานํ เยสํ เต อตฺตปฺปธานา. อภิชฺฌาทโย. อตฺตปฺปธานา น โหนฺติ. เจตนา ปธานา โหนฺติ. อิเธว เต อตฺตปฺปธานา โหนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตถา ตถา’’ติ อโหวต อิทํ มมสฺสาติอาทินา เตน เตน ปกาเรน. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ มโนกมฺเมสุ. ‘‘สพฺเพน สพฺพํ’’ติ ปาฏิปทิกปทเมตํ. สพฺพปฺปการโตติ อตฺโถ. ‘‘อิธา’’ติ มโนกมฺมฏฺาเน. ‘‘มโนกมฺม กิจฺจวิเสเสนา’’ติ อโหวต อิทํ มมสฺสาติอาทิเกน กิจฺจ วิเสเสน. มโนกมฺม ทีปนา นิฏฺิตา.
๑๕๑. ‘‘เอตฺถ จ ทสนฺนํ ปี’’ติอาทีสุ. ‘‘ตาปี’’ติ ตา ปุพฺพาปรเจตนาโยปิ. อาทิโต ปฏฺาย ปวตฺตา ตาปีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยานิปนา’’ติอาทีสุ. เอโก เอกสฺส วทติ อหํ อิมํ สตฺตํ มาเรมิ, ตฺวํ อสุกํสตฺตํ มาเรหีติ. เอวํ วตฺวา อุโภปิ อุปกฺกมํ กโรนฺติ. กมฺมํ ปน อุภินฺนมฺปิ น สิชฺฌติ. ตตฺถ อาณาปกสฺส ตฺวํ อสุกํ สตฺตํ มาเรหีติ อาณาปน กมฺมํ สเจ สิชฺฌติ. วจีทฺวาเร ปวตฺตํ กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน อสิทฺธตฺตา วจีทฺวาเร ทิสฺส มานํ ¶ วจีกมฺมนฺติ วุจฺจติ. วจีทุจฺจริตมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอสนโย เสเสสุปิ.
‘‘โทสมูเลนา’’ติอาทีสุ. โทโส เอว มูลํ โทสมูลํ. โทโส มูลํ มสฺสาติ โทสมูลํ. ตํ สมฺปยุตฺต จิตฺตนฺติ ทฺวิธา อตฺโถ. พฺยาปาโท นาม โทโส เอว. โส กถํ โทเสน มูเลน ชาเยยฺยาติ วุตฺตํ ‘‘ปุริโม พฺยาปาทวชฺเชหี’’ติ. ปรโต อภิชฺฌายมฺปิ เอสนโย. วิภาวนิปาเ. นิธิปากา นาม ราชนิธิ วิธายกา. ตตฺถ จณฺโฑ นิคฺคเหตพฺโพติ อาคตตฺตา ทุฏฺนิคฺคหตฺถนฺติ วุตฺตํ. ราชูนํ อทินฺนาทานํ โมหมูเลน ชายตีติ โยชนา. ‘‘พฺราหฺมณานฺจา’’ติ สกสฺาย เอว ยํ กิฺจิ หรนฺตานํ พฺราหฺมณานฺจ กมฺมผลสมฺพนฺธาปวาทีนฺจ. ‘‘อาหรณํ’’ติ อทินฺนาทานวเสน หรณํ. อวหรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย ปน โมโห ราชูนํ อุปฺปนฺโน, โย จ พฺราหฺมณานํ อุปฺปนฺโน, โย จ กมฺม ผลสมฺพนฺธา ปวาทีนํ อุปฺปนฺโนติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โลโภ นิทานํ กมฺมานํ สมุทยายา’’ติ โลโภ กมฺมานํ สุฏฺุวฑฺฒนาย นิทานํ การณํ โหตีติ โยชนา. สฺชาตา กงฺขาเยสํ เต สฺชาตกงฺขา. ปริโต อุฏฺาติ เอตฺถาติ ปริยุฏฺานํ. กงฺขาย ปริยุฏฺานํ กงฺขาปริยุฏฺานํ. ชนานํ ตานิกมฺมานีติ สมฺพนฺโธ.
อกุสลกมฺมทีปนานิฏฺิตา.
๑๕๗. กุสลกมฺเม. อยํ ปน เอวมาทีสุ สุตฺตปเทสุ อาคโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เมตฺตํ กายกมฺมํ’’ติ เมตฺตาสหคตํ กายกมฺมํ. เอวํ วจีกมฺเมปิ. เจตนา เหตฺถ กมฺมนฺติ อธิปฺเปตา. มโนกมฺเม ปน เจตนาปิ ยุชฺชติ. อพฺยาปาโทปิ ยุชฺชติ. าณํ อนุปริวตฺตีติ าณานุปริวตฺตํ. าณานุปริวตฺตีติปิ ปาโ, โส เยวตฺโถ. ‘‘ปทกฺขิณํ’’ติ ปวฑฺฒิตํ. อปรํ ปริยายํ ทสฺเสติ ‘‘ยสฺมึ ปนา’’ติอาทินา. ทุสฺสีลสฺส ภาโว ทุสฺสิลฺยํ. ปาณาติปาตาทิกมฺมํ. ‘‘ปวตฺตมาเน’’ติ กายทฺวาเร ปวตฺตมาเน. ‘‘ยํ ปน กุสลํ’’ติ ปาณาติ ปาตาทิโต วิรติ กุสลํ ¶ . ‘‘ปวตฺตมานํ’’ติ จิตฺเต ปวตฺตมานํ. ‘‘กิจฺจ สีเสนา’’ติ กิจฺจปฺปธาเนน. กิจฺจํ ปธานํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. เสสเมตฺถ กายกมฺเม สุวิฺเยฺยํ.
‘‘วจีกมฺเมปิ เอเสวนโย’’ติ ยสฺมึ ทุสฺสิลฺเย ปวตฺตมาเน วาจา อปริสุทฺธา โหติ. วจี สํวโร ภิชฺชตีติอาทินา วตฺตพฺพํ. ‘‘อวเสสํ ปนา’’ติ ตีหิ กายกมฺเมหิ จตูหิ วจีกมฺเมหิ อวเสสํ. ตตฺถ ‘‘ตีหิ กายกมฺเมหี’’ติ ตีหิ กายทุจฺจริต วิรติ กมฺเมหิ. ‘‘จตูหิ วจีกมฺเมหี’’ติ จตูหิ วจีทุจฺจริต วิรติ กมฺเมหิ. ‘‘สพฺพํปิ กลฺยาณ กมฺมํ’’ติ สพฺพมฺปิ ทานกมฺมํ, สพฺพมฺปิ ภาวนา กมฺมํ, อปจายน กมฺมํ, เวยฺยาวจฺจกมฺมํ, ปตฺติทานกมฺมํ, ปตฺตานุโมทนากมฺมํ, ธมฺมสวน กมฺมํ, ธมฺม เทสนา กมฺมํ, สพฺพมฺปิ ทิฏฺิชุกมฺมํ ตีสุทฺวาเรสุ ปวตฺตมฺปิ มโนกมฺมํ นามาติ โยชนา. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปริยาเยสุ ปจฺฉิโมเยว ปธานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยาว เทวา’’ติ อนฺติม ปริจฺเฉท โชตโก นิปาโต. มตฺถกปริจฺเฉเทนาติ อตฺโถ.
สีลปเท. ‘‘สีลยตี’’ติ สมฺมา ทหติ จ อุปธาเรติ จาติ ทฺวิธา อตฺโถ. ‘‘สุสมาหิตานี’’ติ สุปฺปติฏฺิตานิ. ‘‘อุปริเม กุสล ธมฺเม’’ติ มหคฺคต โลกุตฺตร กุสลธมฺเม. สตฺตสุ วิสุทฺธีสุ อุปริเม จิตฺต วิสุทฺธาทิ กุสลธมฺเม. ‘‘อธิกุสล ธมฺเม’’ติ อธิเก โพธิปกฺขิย กุสล ธมฺเม. ปเรหิ ทินฺนํ, ตเทว ปตฺตึ. สพฺพานิ ปน ตานิ ทานาทีนิ กุสลานิ. โสเธนฺติ สปฺปุริสาชนา. ตานิ เอวปฺุานิ. เอกเมกํ ปฺุกฺริยวตฺถุ. ‘‘อิมินา ปจฺจเยนา’’ติ จีวราทิ ปจฺจเยน, อนฺนปานาทิ ปจฺจเยน, ธน ธนฺาทิปจฺจเยน วา. ‘‘สพฺพํปิ เจตํ’’ติ สพฺพมฺปิ เอตํ ทสวิธํ ปฺุํ. ‘‘หีเนน ฉนฺเทนา’’ติ ยสกามตาทิวเสน หีเนน ฉนฺเทน, หีเนน จิตฺเตน, หีเนน วีริเยน, หีนาย วีมํสาย. ‘‘มชฺฌิเมนา’’ติ ปฺุปฺผลกามตาทิวเสน มชฺฌิเมน. ‘‘ปณีเตนา’’ติ กตฺตพฺพเมวิทนฺติ อริยวํสานุ พฺรูหนวเสน ปณีเตน ฉนฺทาทินา ปวตฺติ ตํ ปณีตนฺติ โยชนา. ‘‘ยสกามตายา’’ติ กิตฺติ สทฺทกามตาย วา, ปริวารกามตาย วา. ‘‘ปฺุปฺผลกามตายา’’ติ ¶ ภวสมฺปตฺติ โภคสมฺปตฺติกามตาย. ‘‘อริยภาวํ นิสฺสายา’’ติ อิทํ ทานํ นาม อริยานํ วํโส. อหมฺปิ อริโย. ตสฺมา มยาปิ กตฺตพฺพเมวิทนฺติ เอวํ อริยภาวํ นิสฺสายาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘อริโย’’ติ อาจาร อริโยปิ ยุชฺชติ ทสฺสน อริโยปิ. ตตฺถ อาจาร อริโย นาม สปฺปุริโส ปุถุชฺชน กลฺยาณโก วุจฺจติ. ทสฺสน อริโย นาม ปรมตฺถ อริโย. ‘‘ปารมิตา ทานํ’’ติ สพฺพทาเนหิ อคฺคปตฺตํ มหาโพธิ สตฺตานํ ปารงฺคตทานํ. ตฺหิ สพฺพ สตฺตวิโมกฺขตฺถาย ปวตฺติ ตตฺตา อคฺคปตฺตํ โหติ, ปารงฺคตํ. ตโต อุตฺตริตรสฺส กสฺสจิทานสฺส อภาวโต. เสเสสุปิ ปฺุ กฺริยวตฺถูสุ. ‘‘ติกทฺวยํ’’ติ ปุริมาทิ หีนาทิ ติกทฺวยํ. ‘‘อนฺติม วตฺถุนา’’ติ อนฺติม วตฺถุ อชฺฌาปชฺชเนน วา. ‘‘ทุสฺสีโล นามา’’ติ ทุสฺสีล ภิกฺขุ นาม. โส หิ ยาวภิกฺขุปฺปฏีฺํ น วิชหิ. ตาว ภิกฺขุ เอว. น สามเณโร, น คิหี. ตํ เจ อฺโ ภิกฺขุ อมูลเกน อนฺติม วตฺถุนา อนุทฺธํเสติ. อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิ เสโส. โอมสวาเท ปาจิตฺติยํ. สหเสยฺยฏฺาเน เตน สห อติเรก รตฺตึ สยนฺตสฺสาปิ อาปตฺติ นตฺถิ. ตสฺมา โส ทุสฺสีล ภิกฺขุตฺเวว วตฺตพฺโพติ. ‘‘ปุน กมฺมวาจาย สมาทาตพฺพนฺติ นตฺถี’’ติ ยถา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตสฺส สพฺพํ สมาทานํ ภิชฺชติ. ปุน ภิกฺขุภาวํ อิจฺฉนฺเตน ปุน กมฺมวาจาย สมาทาตพฺพํ โหติ. เอวํ ปุน กมฺมวาจาย สมาทาตพฺพนฺติ นตฺถิ. ‘‘อิตเรสุ ปนา’’ติ ลิงฺคนาสนงฺคโต อฺเสุ ทณฺฑกมฺมงฺเคสุ. นิจฺจสีลาทีสุ. ‘‘ยํ นิจฺจเมว วฏฺฏตี’’ติ ยํ ปาณาติปาต วิรติ สีลํ นิจฺจเมว รกฺขิตุํ วฏฺฏติ. อนิจฺจํ น วฏฺฏติ. กสฺมา, ปาณฆาตาทึ กโรนฺตสฺส สพฺพกาลมฺปิ ทุจฺจริต สมฺภวโต. เตนาห ‘‘อนิจฺจํ สาวชฺชํ โหตี’’ติ. ทุจฺจริตํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ยํ นิจฺจมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ปกติ คหฏฺานํ ยํ วิกาล โภชนาทิ วิรติ สีลํ นิจฺจมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อนิจฺจมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ สมาทาน ทิวสํ อติกฺกมิตฺวา วิกาล โภชนาทึ กโรนฺตสฺส วีติกฺกม โทโสวา ทุจฺจริต โทโส วา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘สาวชฺชํ น โหตี’’ติ. ทุจฺจริตํ น โหตีติ อตฺโถ. ตถา ทสสีลฺจ ปกติ คหฏฺานํ ¶ อนิจฺจสีลํ นามาติ โยชนา. ‘‘อนิจฺจสีลเมว โหตี’’ติ ปกติ คหฏฺานํ ตํ ทสสีลํ ยาวชีวํ นิจฺจํ กตฺวา สมาทิยิตฺวา รกฺขนฺตานมฺปิ อปพฺพชิตตฺตา ปพฺพชิเตสุ ชาติ สภาเวเนว สิทฺธํ นิจฺจสีลํ นาม น โหติ. ยาวชีวํ กตฺวา สมาทาน วเสเนว นิจฺจํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เวสธารเณน สห สิทฺธตฺตา’’ติ เอตฺถ กถํ เวสธารเณน สิทฺธํ โหตีติ. เวสธารณํ นาม คิหิวตฺถํ ปหาย กาสาย วตฺถ ธารณํ. กาสายวตฺถฺจ นาม อรหตฺตธโช โหติ. น จ อรหตฺตธชํ ธาเรนฺตสฺส สิกฺขาปทํ อสมาทิยนฺตสฺสปิ วิกาเล ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ตถา นจฺจาทีนิ ปสฺสิตุํ, มาลาทีนิ ธาเรตุํ, อุจฺจาสยนาทีสุ วสิตุํ, ชาตรูปาทีนิ สาทิตุํ. กสฺมา อิติ เจ, เตสฺหิ ตํ ตํ ยถาสกํ สีลํ นิจฺจํ สุทฺธํ กตฺวา รกฺขิตุเมว วฏฺฏตีติอาทินา การณํ เหฏฺา วุตฺตเมวาติ. ‘‘อปฺปนํ อปตฺตาว อธิปฺเปตา’’ติ อปฺปนาปตฺตานํ มหคฺคตภาวนานํ วิสุํ อุปริ วกฺขมานตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอตฺเถวา’’ติ อิมสฺมึ ภาวนา กมฺเม เอว. ‘‘เต สฺเวา’’ติ รตนตฺตยาทีนํ เอว จ. คนฺตุํ อารทฺโธ คมิโก. อทฺธานํ ทีฆมคฺคํ คจฺฉนฺโต อทฺธิโก. ‘‘ปริสุทฺเธนา’’ติ ลาภสกฺการาทิ นิรเปกฺขตาย อตฺตุกฺกํ สน ปรวมฺภนาทิ รหิตตาย จ ปริสุทฺเธน. ‘‘หิตปฺผรณ จิตฺเตนา’’ติ มยิ กโรนฺเต อิมสฺส เอตฺตกํ หิตสุขํ ภวิสฺสตีติ เอวํ เตสํ หิตสุเขสุ ผรณ จิตฺเตน. เมตฺตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺตโน กิจฺเจสุ วิยา’’ติ เอเตน เตสํ สพฺพํ กิจฺจํ อตฺตโนภารํ กโรตีติ ทีเปติ. ‘‘สาธารณ กรณํ’’ติ อตฺตโน ปฺุํ ปเรสํ ทานํ. อตฺต มนตาปเวทนิยาธุสาธูติ วจีเภทกรณํ. ตฺหิทินฺนฺจานุโมทิตฺจ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ชาตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โยนิโสมนสิกาเร ตฺวาติ เอตฺถ สิโลกาทิปกฺขิกํ อโยนิโสมนสิการํ ชหิตฺวา สุณนฺตสฺส อิมํ ธมฺมํ สุตฺวา อตฺถรสธมฺมรสปฺปฏิสํเวที ภวิสฺสามีติ, เทเสนฺตสฺส อิมํ เทเสนฺโต ธมฺมสฺส จ สุณนฺตานฺจ อนุคฺคหํ กริสฺสามีติ โยนิโสมนสิกาเร ตฺวา. ลาภ สกฺการาทิ ปกฺขิโก มนสิกาโร อโยนิ โสมนสิกาโร ¶ นาม. นิยฺยานตฺถ นิสฺสรณตฺถ ปกฺขิโก โยนิโสมนสิกาโร นาม. นิรวชฺช กมฺมานิ นาม กสิโครกฺขาทิ กมฺมานิ. นิรวชฺชสิปฺปานิ นาม วฑฺฒกิสิปฺปาทีนิ เวชฺชสิปฺปาทีนิ จ. นิรวชฺช วิชฺชาานานิ นาม ปรูปโรธร หิตานิ องฺควิชฺชา เวทวิชฺชา มนฺตวิชฺชาทีนิ. ‘‘โวทาน กรณํ’’ติ วิเสเสน วิสุทฺธกรณํ. ‘‘ตํ สภาวตฺตา’’ติ ทานสภาวตฺตา. ‘‘จาริตฺต สีลตฺตา’’ติ สปฺปุริสานํ ปกติ จาริตฺต สีลตฺตา. ปุน ‘‘ตํ สภาวตฺตา’’ติ ภาวนา สภาวตฺตา. ตถาหิ เทเสนฺตสฺส จ สุณนฺตสฺส จ เทสนาโสตานุสาเรน จิตฺตภาวนา าณภาวนาวหตฺตา เทสนาสวนา สภาวา โหนฺติ. อตฺตโน ทิฏฺึ สยเมว อุชุํ กโรนฺตสฺส จ าณภาวนา กมฺมเมว. ตถา ปรสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อุชุํ กโรนฺตสฺสาปีติ. ‘‘ธมฺโม นาม นตฺถี’’ติ เทสนา ธมฺโม นาม นตฺถิ. กสฺมา, ทานสีลานิ เทเสนฺเตนปิ อนฺเต ลกฺขณตฺตเยน สหสจฺจปฺปกาสนสฺส กตฺตพฺพตฺตา. เอเตน เทสนาสวนา อนฺเต ลกฺขณตฺตยานุปสฺสนา ภาวนา กมฺมฏฺาเน ปติฏฺิตตฺตา ตํ สภาวา โหนฺตีติ ทสฺเสติ. ‘‘มโนกมฺม เมวา’’ติ ปทุทฺธาโร. ‘‘มนสฺมึ เอวา’’ติ มโนทฺวาเร เอว. ‘‘กิจฺจสิทฺธิโต’’ติ อปฺปนากิจฺจสฺส สิชฺฌนโต. ‘‘องฺคภาวา สมฺภวโต’’ติ อปฺปนา กิจฺจสิทฺธิยํ องฺคภาวา สมฺภวโต. ‘‘ตฺจภาวนา มย’’นฺติ ปทุทฺธาโร. ‘‘ทานาทิวเสนา’’ติ ทานสีลวเสน. ทานวเสน อปฺปวตฺตนโตติ อิทํ ตาว ยุชฺชติ. สีลวเสน อปฺปวตฺตนโตติ อิทํ ปน ปาฬิยา น สเมติ. ปาฬิยฺหิ มหคฺคตชฺฌาเนสุปิ ปหานํ สีลํ เวรมณิ สีลนฺติอาทิ วุตฺตนฺติ โจทนา. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปริยาเยน วุตฺตํ’’ติ เกนปริยาเยน วุตฺตนฺติ. ปกติ จาริตฺตํ สีลนฺติ วุจฺจติ. อุปฺปนฺเน จ ปถมชฺฌาเน นีวรณานํ ปหานํ นาม ปกติจาริตฺตเมว ปกติ นิยาเมน ปวตฺตเมว. อิติ ปกติจาริตฺตตฺตา สีลนฺติ วุตฺตํ. ปุน นีวรณานํ ปหานเมว เตหิ วิคมนฏฺเน เวรมณีติ จ, ปิทหนฏฺเน สํวโรติ จ, ปหาน กิจฺจํ อวิชหนฏฺเน อวีติกฺกโมติ จ, วุตฺตํ. เจตนาสีลนฺติ เอตฺถ ปน ฌานสมฺปยุตฺต เจตนา เอว วุจฺจติ. สา จ สีลชาติ กตฺตา ¶ สีลนฺติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อปฺปนาปตฺต’’นฺติ ปทุทฺธาโร. ‘‘ฌานเภเทนา’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. รูปาวจรกุสลฺหิ ฌานเภเทน ปฺจวิธํ, ฌานเมว ปน ฌานงฺคเภเทน ปฺจวิธนฺติ.
กุสลกมฺมทีปนา นิฏฺิตา.
๑๕๓. ‘‘เอตฺถา’’ติอาทีสุ. ‘‘ธมฺมสงฺคเห’’ติ ธมฺมสงฺคณิ ปาฬิยํ. ‘‘ทสฺสเนนา’’ติ โสตาปตฺติ มคฺคฺาเณน. ‘‘ตํ’’ติ อุทฺธจฺจ เจตนํ. ‘‘ภาวนายา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตาย ภาวนาย. ปาฬิปาเ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทา’’ติ จิตฺตเจตสิกา วุจฺจนฺติ. ‘‘สิยา’’ติ เอกจฺเจติ อตฺเถ นิปาต ปทํ. อิเมสุ ฉสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ เอกจฺเจ ฉ จิตฺตุปฺปาทา โสตาปตฺติ มคฺเคน ปหาตพฺพา, เอกจฺเจ ฉ จิตฺตุปฺปาทา ตีหิ อุปริ มคฺเคหิ ปหาตพฺพาติ อตฺโถ. ตตฺถ ปถมปเท ‘‘เอกจฺเจ ฉ จิตฺตุปฺปาทา’’ติ กมฺมปถปตฺตกมฺมสหชาตา ฉ จิตฺตุปฺปาทา. ทุตีย ปเท ‘‘เอกจฺเจ ฉ จิตฺตุปฺปาทา’’ติ อกมฺมปถ ปตฺตา ธมฺมิเกสุ าเนสุ อสฺสาทนาภิ นนฺทาทิวเสน ปวตฺตา ฉ จิตฺตุปฺปาทา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ธมฺมสงฺคเห. ‘‘อิตรตฺถา’’ติ อิตเรสุ ภาวนาย ปหาตพฺเพสุ. ‘‘ตสฺสา’’ติ นานกฺขณิก กมฺมปจฺจยสฺส. ปาฬิปาเ. ‘‘สหชาตา’’ติ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนหิ สหชาตา. ‘‘นานกฺขณิกา’’ติ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนหิ อสหชาตา อตีตกาลภูเต นานกฺขเณ ปวตฺตา ปาณาติปาตาทิ เจตนา. ‘‘ยทิ เอวํ’’ติ เอวํ ยทิ สิยาติ อตฺโถ. ยทิ อุทฺธจฺจ เจตนา ทสฺสน ปเท อนุทฺธฏตฺตา ปฏิสนฺธึ นากฑฺฒตีติ วิฺาเยยฺย. เอวํ สตีติ ปาเสโส. ‘‘เจ’’ติ เจ วเทยฺย. ‘‘นา’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ. ‘‘ตสฺสา วิปากสฺสา’’ติ ตสฺสา อุทฺธจฺจ เจตนาย วิปากสฺส. ปาฬิปาเ. ‘‘อิเมสุ ธมฺเมสุ าณํ’’ติ อิเม ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนฺาณํ. ‘‘เตสํ วิปาเก’’ติ อุทฺธจฺจ สหคตานํ วิปาเก. ‘‘าณํ’’ติ ตํ วิปากํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนฺาณํ. ‘‘สพฺพ ทุพฺพลนฺติ จ สกฺกา วตฺตุํ’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อติวิย กาฬกธมฺมตฺตา’’ติ พุทฺธาทีสุ มหนฺเตสุ าเนสุ สทฺธารตนสฺส ¶ อนฺตรายํ กตฺวา ปวตฺตนโต อติเยวกณฺห ธมฺมตฺตา. ตสฺสา วิจิกิจฺฉา เจตนาย ปฏิสนฺธิ อากฑฺฒนมฺปิ วิฺาตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘สภาว วิรุทฺธตฺตา เยวา’’ติ วิจิกิจฺฉา อสนฺนิฏฺาน สภาวา. อธิโมกฺโข สนฺนิฏฺาน สภาโวติ เอวํ สภาว วิรุทฺธตฺตาเยว.
‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทีสุ. ‘‘วิปจฺจตีติ วิปาเจตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ปน ปทรูเปน น สเมตีติ อฺํ อตฺถํ วทนฺโต ‘‘สพฺพมฺปิ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘มหาสมฺปตฺติโย สมุฏฺาเปตฺวา’’ติ เทวโลเก เทวสมฺปตฺติ สทิสา ทิพฺพวิมานาทิกา มหาสมฺปตฺติโย สมุฏฺาเปตฺวา. อิทํ ‘‘โอกาสํ กตฺวา’’ติ ปเท วิเสสนํ. ตตฺถ ‘‘สุข วิปากํ’’ติ อิทํ อฏฺ อเหตุก วิปากานิ สนฺธาย วุตฺตํ. รูปโลเก พฺรหฺมานํ รูปกาโย รูปาวจร กมฺเมน นิพฺพตฺโต. โส จ กามาวจร ธมฺม สมูโห เอว. เอวํ สนฺเต ตสฺมึ โลเก ปฺจ อเหตุก วิปากานิปิ รูปาวจร กมฺเมน นิพฺพตฺตานิ สิยุนฺติ โจทนา. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘รูปาวจร กุสลํหี’’ติอาทิมาห. ‘‘ตานี’’ติ อปายภูมิยํ อุปฺปนฺนานิ อฏฺ อเหตุก วิปากานิ. ‘‘สพฺพสฺมึ กามโลเก’’ติ เอกาทสวิเธ กามโลเก. ‘‘เตสุ จา’’ติ เตสุ อฏฺ อเหตุก วิปาเกสุ จ. ‘‘อารมฺมณนฺตเร’’ติ กสิณ นิมิตฺตาทิโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ. ‘‘นิมิตฺตา รมฺมเณ’’ติ กสิณ นิมิตฺตาทิเก นิมิตฺต ปฺตฺตา รมฺมเณ. ‘‘ตานิ ปฺจวิปากานี’’ติ จกฺขุ วิฺาณาทีนิ ปฺจ อเหตุก วิปากานิ กามาวจร กุสล กมฺมสฺเสว วิปากานิ โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘โสฬสก มคฺโค’’ติ โสฬสกถา มคฺโค กถาปพนฺโธ. เอวํ ทฺวาทส กมคฺโค. ‘‘อเหตุกฏฺก’’นฺติ อเหตุก วิปากฏฺกํ. สมฺมา ปกาเรน ชานาตีติ สมฺปชานํ. าณํ. สมฺปชาเนน กตนฺติ วิคฺคโห. น สมฺปชานกตํ อสมฺปชานกตํ. ‘‘สทฺทหิตฺวา’’ติ เอเตน ทิฏฺุชุ กมฺมาณ สมฺปตฺตึ ทีเปติ. น หิ เตน าเณน อสมฺปนฺโน กมฺมฺจ กมฺมผลฺจ สทฺทหตีติ. ชานิตฺวาติ วา ปาโ สิยา. ‘‘เอกเมกํ’’ติ เอกเมกํ กุสลกมฺมํ. ‘‘กุสล สมเย’’ติ กุสล กมฺม กรณกาเล. กุสลุปฺปตฺติกาเล วา. ยสฺสเม อีทิสํ ปฺุํ ¶ ปสุตํ. ตสฺสเม ภวลาโภ โภคลาโภ มิตฺตลาโภ สพฺเพลาภา เอกนฺเตน สุลาภาติ อตฺโถ. ‘‘สุลทฺธํ’’ติ อิทํ ปฺุํ สุลทฺธํ. เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ สํสริตฺวาติ ปาเสโส. ‘‘เสเสนา’’ติ ตสฺสกมฺมสฺส วิปากาวเสเสน. อฏฺกถา ปาเ. ‘‘เอกปิณฺฑปาตสฺมึ’’ติ เอกวารํ ปิณฺฑปาตทาเน. สํยุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ ‘เอกา เจตนา เอกเมว ปฏิสนฺธึ เทตี’ติ, ตํ สุวุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปฏิปกฺเขหี’’ติ ปฏิปกฺเขหิ อกุสเลหิ. วิเสเสน ภุสํ มุฬฺโห พฺยามุฬฺโห. อติวิย พฺยามุฬฺโห อติพฺยามุฬฺโห. อติพฺยามุฬฺหตฺถาย ปจฺจยภูตนฺติ วิคฺคโห. อติทุปฺปฺาย ปจฺจยภูตนฺติ อตฺโถ. โส หิ เถโร วทตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ เอวํ มนสิกริตฺวา. ‘‘สนฺนิหิตปจฺจยมตฺเตนา’’ติ อาสนฺเน สณฺิตปจฺจย มตฺเตน. ‘‘ปุพฺพปโยค ปจฺจยมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ โหติ. พลวกมฺมวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ติกฺขตรํ วิปากํ. ยทา ปโยค รหิเตน ปจฺจยคเณน อุปฺปชฺชติ, ตทา อสงฺขาริกํ นาม. ยทา ปโยคสหิเตน, ตทา สสงฺขาริกํ นาม. ตตฺถ อสงฺขาริกํ ติกฺขํ นาม. สสงฺขาริกํ มนฺทํ นาม. ตถา ทุพฺพล กมฺเมน อุปฺปนฺเน มนฺทวิปาเกปิ โยเชตพฺพํ. เอวํ ติกฺขมนฺทานํ มนฺทติกฺขตาปตฺติ นาม สิยา. น จ ตถา สกฺกา ภวิตุนฺติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ สิยา, ยทิ ปุพฺพกมฺมวเสน อฏฺนฺนํ มหาวิปากานํ สงฺขารเภโท สิทฺโธ สิยา, อฏฺนฺนํ อเหตุก วิปากานมฺปิ โสสงฺขารเภโท สิทฺโธ ภเวยฺย. ตานิปิ หิ กานิจิ อสงฺขาริเกน กมฺเมน นิพฺพตฺตานิ, กานิจิ สสงฺขาริเกนาติ โจทนา. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘อเหตุก วิปากานํ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘อุภยกมฺม นิพฺพตฺตนํ’’ติ เตสํ สงฺขาร เภทรหิตตฺตา อสงฺขาริก กมฺเมนปิ วิโรโธ นตฺถิ. สสงฺขาริก กมฺเมนปิ วิโรโธ นตฺถิ. อสงฺขาริก กมฺเมนปิ นิพฺพตฺตนฺติ. สสงฺขาริก กมฺเมนปิ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ อุภยกมฺม นิพฺพตฺตนํ ยุตฺตํ. ‘‘อิติ อธิปฺปาโย’’ติ ตสฺส เถรสฺส อธิปฺปาโย. ‘‘น กมฺมาคมน วเสนา’’ติ กมฺมสงฺขาตสฺส จิรกาลโต อาคมน ปจฺจยสฺส วเสน. ‘‘อาคมนํ’’ติ จ อาคจฺฉติ เอเตนาติ อาคมนนฺติ วิคฺคโห. ‘‘กมฺมภเว’’ติ อตีเต ¶ กมฺมกรณภเว. ‘‘เกจนา’’ติ เกจิ. อฏฺสาลินิยํ ปน อาคตาติ จ. ปฏิสมฺภิทา มคฺเค ปน ทฺวิเหตุกา วุตฺตาติ จ สมฺพนฺโธ. อิมสฺมึ าเน ปฏิสมฺภิทา มคฺคฏฺกถา วจนมฺปิ วตฺตพฺพนฺติ วทนฺโต ‘‘ตตฺถ ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตีสุขเณสู’’ติ กมฺมกฺขเณ นิกนฺติกฺขเณ ปฏิสนฺธิกฺขเณติ ตีสุขเณสุ. ‘‘ฏีกาการาปนา’’ติ อภิธมฺมฏีกาการาปน. ‘‘สาวเสสปาโ’’ติ ปาฬิยํ ติเหตุเกน กมฺเมน ทฺวิเหตุก ปฏิสนฺธิ, ทฺวิเหตุเกน กมฺเมน อเหตุก ปฏิสนฺธิ อวเสสา โหติ. เอวํ อวเสส วากฺย สหิโต ปาโ. สริกฺขเมว สริกฺขกํ. กมฺเมน สริกฺขกํ สทิสํ กมฺมสริกฺขกํ. วิปากํ. ‘‘มหาเถเรนา’’ติ สาริปุตฺต มหาเถเรน. เอวฺจ กตฺวาติอาทินา ฏีกาการานํ วจนํ อุปตฺถมฺเภติ.
กามาวจรกมฺมํ นิฏฺิตํ.
๑๕๔. รูปาวจรกมฺเม. ‘‘อปฺปคุณตายา’’ติ อปริจิตตาย. อวฑฺฒตาย. ‘‘หีเนหิ ฉนฺทาทีหี’’ติ ลาภสกฺการ สิโลกาทิ สาเปกฺขตาย หีเนหิ ฉนฺทาทีหิ. ‘‘เต ธมฺมา’’ติ ฉนฺทาทโย ธมฺมา. ตานิ อิธ นาธิปฺเปตานิ. กสฺมา, อุปปตฺติปฺปเภทสฺส อสาธกตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิมาเนวา’’ติ อิมานิ เอว ฌานานิ. ‘‘ติวิธาสู’’ติ เอกสฺมึตเล พฺรหฺมปาริสชฺชาทิ วเสน ติวิธาสุ. ‘‘อฏฺารสปฺปเภเทน วิภชิตฺวา’’ติ ตีสุ หีน มชฺฌิมปณีเตสุ เอเกกสฺมึ หีน หีนํ หีน มชฺฌิมํ หีน ปณีตนฺติอาทินา วิภตฺเตน นววิธานิ โหนฺติ. ปุน เตสุ ตีณิ มชฺฌิมานิ. มชฺฌิมหีนํ มชฺฌิมมชฺฌิมนฺติอาทินา วิภตฺตานิ นววิธานิ โหนฺติ. เอวํ อฏฺารสเภเทน วิภชิตฺวา. ‘‘กมฺมทฺวารานิ นามา’’ติ กมฺมปฺปวตฺติ มุขานิ นาม. ‘‘อิเมหิ ปภาวิตตฺตา’’ติ อิเมหิ ปภาเวหิ มูลการเณหิ ปภาวิตตฺตา ปวตฺตาปิตตฺตา. ‘‘อฏฺารสขตฺติยา’’ติ หีนมชฺฌิมาทิเภเทน อฏฺารส ขตฺติยา. ตถา อฏฺารส พฺราหฺมณาทโย. อฏฺ จตฺตาลีส โคตฺตานิ นาม หีนมชฺฌิมา ทิวเสน ¶ วิภตฺตานิ โคตมโคตฺตาทีนิ อฏฺจตฺตาลีส โคตฺตานิ. เตสํ จาริตฺต ปฏิปตฺติภูตานิ จรณานิปิ อฏฺจตฺตาลีส โหนฺตีติ. เอตฺถ สิยา. ปุริม วจเน หีนาทีนิ พฺรหฺมโลเก, อฏฺกถา วจเนหีนาทีนิ มนุสฺสโลเกติ สาเธตพฺพํ อฺํ, สาธกํ อฺนฺติ โจทนา. ตํ ปริหรติ ‘‘เอเตนหี’’ติอาทินา. ‘‘อุปลกฺเขตี’’ติ ปจฺจกฺขโต ปากฏํ เอกเทสํ ทสฺเสตฺวา อปากเฏ ตาทิเสปิ ชานาเปตีติ อตฺโถ. ‘‘สมตฺถา สมตฺถํ วา’’ติ สมตฺถา สมตฺถภาวํ วา. ‘‘ตถา หาเนนา’’ติ ตถาหิ อเนน อาจริเยน. อนุรุทฺธา จริเยนาติ วุตฺตํ โหติ. นาม รูป ปริจฺเฉเท วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สมานาเสวเน ลทฺเธ สติ, มหพฺพเล วิชฺชมาเน มหคฺคตกมฺมํ วิปากํ ชเนติ. ตาทิสํ เหตุํ อลทฺธา อลภิตฺวา อภิฺา เจตนา วิปากํ น ปจฺจตีติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘สมานา เสวเน’’ติ ภูมิสมานตา วเสน สมานาเสวเน. กามชวนํ กามชวเนน สมานาเสวนํ. รูปชวนํ รูปชวเนน. อรูปชวนํ อรูปชวเนนาติ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมานภูมิกโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ตทภาวโต’’ติ ตาทิสสฺส พลวภาวสฺส อภาวโต. เอกวารมตฺตภูตา มหคฺคต เจตนา จ. ‘‘สพฺพ ปถมภูตา’’ติ สมาปตฺติ วีถีสุ โคตฺรภุสฺส อนนฺตเร มหคฺคต ชวนํ สนฺธาย วุตฺตํ. โลกุตฺตร มคฺคเจตนา กทาจิปิ สมานา เสวนํ น ลภติ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อนนฺตรโต ปฏฺาย ยาวชีวมฺปิ ภวนฺตเรปิ อริยผลํ ชเนติเยว. เอวเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ ปวตฺติผลํ นาม โหติ, อิธ ปน ปฏิสนฺธิ ผลํ วิจาริตํ, ตสฺมา อสมานํ อิทํ นิทสฺสนนฺติ เจ. วุจฺจเต. มคฺคเจตนา นาม ตณฺหา สหายกํ วฏฺฏคามิ กมฺมํ น โหติ. อตณฺหา สหายกํ วิวฏฺฏคามิ กมฺมํ โหติ. ตสฺมา ปฏิสนฺธึ น เทติ. สเจ ปน ตํ ตณฺหา สหายกํ วฏฺฏคามิกมฺมํ ภเวยฺย. ปฏิสนฺธิ กาเลปิ ผลํ ทเทยฺย. อสมานา เสวนตา ปมาณํ น ภเวยฺย. เอวํ อฺการณตฺตา อสมานํ นิทสฺสนํ โหติ. น อสมานา เสวนตายาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อุปจิตตฺตา’’ติ ปุนปฺปุนํ อาเสวน ลาเภน วฑฺฒิตตฺตา. ‘‘สา เจตนา’’ติอาทิกมฺมิกมหคฺคต เจตนา จ. ‘‘นา’’ติ โจทนา ¶ , น สิยาติ อตฺโถ. น จ สาปิ สมานภูมก ธมฺมโต ลทฺธา เสวนา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ กตตฺตา ภาวิตตฺตาติ วุตฺตํ. ภาวิตตฺตาติ จ ปุนปฺปุนํ อาเสวน ลาเภน วฑฺฒิตตฺตา อิจฺเจวตฺโถ. ตสฺมา วิฺายติ อสมานภูมิเกหิ ปุพฺพภาคปฺปวตฺเตหิ กามชวเนหิ ปรมฺปรโต ปุนปฺปุนํ ลทฺธา เสวนตาย เอว อิธ อุปจิตตฺตาติ วุตฺตนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุภยตฺถ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อุภยตฺถา’’ติ อุภเยสุ กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ จ กตตฺตา ภาวิตตฺตาติ จ วุตฺเตสุ ปาเสุ. ‘‘ปถม สมนฺนาหารโต ปฏฺฏายา’’ติ มหคฺคตชฺฌาเน อปฺปนาวีถิโต ปุเร ทฺวีสุ ปริกมฺม ภาวนา อุปจาร ภาวนาสุ ปริกมฺม ภาวนํ ภาเวนฺตสฺส ปถวี ปถวีติอาทินา ปถม สมนฺนาหารโต ปฏฺาย. โลกุตฺตร มคฺเคปน ทสสุ วิปสฺสนา าเณสุ สพฺพปถมํ สมฺมสนฺาณํ ภาเวนฺตสฺส รูปํ อนิจฺจํ เวทนา อนิจฺจาติอาทินา ปถม สมนฺนาหารโต ปฏฺายาติ อตฺโถ. อุปจินิตฺวาติ จ ภาเวตฺวาติ จ วฑฺเฒตฺวา อิจฺเจว อตฺโถ. ‘‘อพฺภุณฺหา’’ติ อภินวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อยํ วาโท’’ติ อนุรุทฺธา จริยสฺส วาโท. ยทิ เอวํ, อฏฺกถาสุ สงฺขาร ปจฺจยา วิฺาณ ปท นิทฺเทเสสุ อภิฺา เจตนา ปเนตฺถ ปรโต วิฺาณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ น คหิตาติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺํ ยุตฺตํ การณํ วตฺตพฺพนฺติ, ตํ วทนฺโต ‘‘จตุตฺถชฺฌาน สมาธิสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ฏีกาการา’’ติ อภิธมฺมฏีกาการา. ‘‘ตสฺสา ปนา’’ติอาทิ อตฺตโนวาท ทสฺสนํ. สาเธนฺติยา อภิฺา เจตนาย. อจิตฺตกภว ปตฺถนาสหิตํ สฺา วิราคนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิธา’’ติ มนุสฺส โลเก.
‘‘อนาคามิโน ปนา’’ติอาทีสุ. ‘‘เอเตนา’’ติ เอเตน อตฺถ วจเนน. ‘‘สทฺธาธิโก’’ติ สนฺธินฺทฺริยาธิโก. เอวํ วีริยาธิกาทีสุปิ. ‘‘อตฺตนา ลทฺธ สมาปตฺตีนํ’’ติ เอกสฺสปิ ปุคฺคลสฺส พหูนํ อตฺตนา ลทฺธ สมาปตฺตีนํ. เตสุ ปุถุชฺชน โสตาปนฺน สกทาคามีสุ. ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ ฌานลาภิ ปุถุชฺชโน. ‘‘นิกนฺติยาสตี’’ติ กามภวนิกนฺติยา สติ. ‘‘อิตเร ปนา’’ติ โสตาปนฺน ¶ สกทาคามิโน ปน. ปริหีนชฺฌานา เอว ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺติ. น นิกนฺติ พเลนาติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิปาเ ‘‘เตสํ ปี’’ติ ฌานลาภิ โสตาปนฺน สกทาคามีนมฺปิ. อิจฺฉนฺเตน ฏีกาจริเยน. ตถา นิกนฺติยา สติ ปุถุชฺชนาทโย กามาวจร กมฺม พเลน กามภเวปิ นิพฺพตฺตนฺตีติ โยชนา. เจโตปณิธิ อิชฺฌติ. กสฺมา, วิสุทฺธตฺตา. สีลวิสุทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เต’’ติ ฌานลาภิ โสตาปนฺน สกทาคามิโน. องฺคุตฺตร ปาเ. ‘‘สหทสฺสนุปฺปาทา’’ติ โสตาปตฺติ มคฺคฺาณํ ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ทสฺสนสฺส อุปฺปาทกฺขเณน สทฺธึ. นตฺถิ ตสฺส ตํ สํโยชนนฺติปิ ปาโ. ‘‘อิมํ โลกํ’’ติ อิมํ กามโลกํ. ‘‘วิปสฺสนา นิกนฺติ ตณฺหา’’ติ เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺม นนฺทิยาติ เอวํ วุตฺตา วิปสฺสนา สุเข นิกนฺติ ตณฺหา. ปจฺจเย สติ กุปฺปนฺติ นสฺสนฺตีติ กุปฺปา. กุปฺปา ธมฺมา เยสํ เต กุปฺป ธมฺมา. ‘‘ธมฺมา’’ติ มหคฺคต ธมฺมา. อิเม ทฺเว โสตาปนฺน สกทาคามิโน สีเลสุ ปริปูรการิโน นาม. สีลปฺปฏิ ปกฺขานํ กิเลสานํ สพฺพโส ปหีนตฺตา. ตสฺมา เต สีเลสุ อกุปฺป ธมฺมาติ วุจฺจนฺติ. สมาธิสฺมึ ปน กุปฺป ธมฺมา เอว. ‘‘มหาพฺรหฺเมสุ น นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ มหาพฺรหฺมตฺตํ น ลภนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘หีนชฺฌาสยตฺตา’’ติ เอตฺถ อิตฺถิโย นาม ปกติยาว หีนชฺฌาสยา โหนฺติ นีจ ฉนฺทา นีจ จิตฺตา มนฺทวีริยา มนฺทปฺา. กสฺมา, หีนลิงฺคตฺตา. กสฺมา จ ตา หีนลิงฺคา โหนฺติ. ทุพฺพล กมฺมนิพฺพตฺตตฺตา. ทุพฺพล กมฺมนฺติ จ ปุริสตฺต ชนกํ กมฺมํ อุปาทาย วุจฺจติ. พฺรหฺมปุโรหิตานมฺปิ สงฺคหณํ เวทิตพฺพํ. กสฺมา, พฺรหฺมปาริสชฺชานนฺติ อฏฺกถา วจนสฺส เยภูยฺยวจนตฺตา. เตนาห ‘‘น มหาพฺรหฺมานํ’’ติ. อิตรถา น พฺรหฺมปุโรหิตานํ น จ มหาพฺรหฺมานนฺติ วุตฺตํ สิยา. น จ ตถา สกฺกา วตฺตุํ ‘พฺรหฺมตฺตนฺติ มหาพฺรหฺมตฺต’นฺติ อิมินา วจเนน วิรุชฺฌนโต. อยฺจ อตฺโถ น เกวลํ เยภูยฺยนยมตฺเตน สิทฺโธ. อถ โข พฺยฺชน สามตฺถิเยนาปิ สิทฺโธติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เต’’ติ พฺรหฺมปุโรหิตา. สํยุตฺตปาเ. ‘‘ปฏิภาตุตํ’’ติ เอตฺถ ‘‘ตํ’’ติ ตุยฺหํ. ธมฺมีกถา ตุยฺหํ ปฏิภาตุ, ปาตุพฺภวตุ. กเถตุ อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ ¶ . ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ อภิภุํ ภิกฺขุํ อาลปติ. ‘‘พฺรหฺมุโน’’ติ มหาพฺรหฺมุโน อตฺถาย. เอวํ เสเสสุ ทฺวีสุ. ‘‘เตสํ’’ติ พฺรหฺมปุโรหิตานํ. วิภาวนิปาเ ‘‘อิติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ ‘‘พฺรหฺมปาริสชฺเชสุ เยวา’’ติ ปุลฺลิงฺค วจนตฺตา ปุคฺคลปฺปธานํ โหติ. นภูมิปฺปธานํ. ตสฺมา อยมตฺโถ ยุตฺติวเสน ทฏฺพฺโพติ. ‘‘ตีสุภวคฺเคสู’’ติ เวหปฺผลภูมิ ปุถุชฺชนภวคฺโค นาม โหติ รูปโลเก. ตโต อุปริ ปุถุชฺชนภูมิยา อภาวโต. อกนิฏฺภูมิ อริยภวคฺโค นาม. ตตฺถ ิตานํ อริยานํ ตตฺเถว นิฏฺานโต. เนวสฺาภูมิ โลกภวคฺโค นาม. ตโต อุปริ โลกสฺเสว อภาวโตติ.
กมฺมจตุกฺกานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๕๕. มรณุปฺปตฺติยํ. ‘‘อายุปริมาณสฺสา’’ติ อายุกปฺปสฺส. ‘‘ตทุภยสฺสา’’ติ อายุกปฺปสฺส จ กมฺมสฺส จ. ‘‘อุปฆาตก กมฺเมนา’’ติ พลวนฺเตน ปาณาติปาตกมฺเมน. ‘‘ทุสฺสิมาร กลาพุราชาทีนํ วิยา’’ติ เตสํ มรณํ วิย. อุปโรธิตํ ขนฺธ สนฺตาน มสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘อุปโรธิตํ’’ติ อุปคนฺตฺวา นิโรธาปิตํ. กมฺมํ ขิยฺยติเยว. เอวํ สติ, สพฺพํปิ มรณํ เอเกน กมฺมกฺขเยน สิทฺธํ. ตสฺมา เอกํ กมฺมกฺขย มรณเมว วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิตเรปิ วุตฺตา’’ติ อิตรานิปิ ตีณิ มรณานิ วุตฺตานีติ โจทนา. วุจฺจเต ปริหาโร. ‘‘สรสวเสเนวา’’ติ อตฺตโน ธมฺมตาวเสเนว. นานา อายุ กปฺปํ วิทหนฺติ สงฺขโรนฺตีติ นานาอายุกปฺป วิธายกา. ‘‘สตฺตนิกาเย’’ติ สตฺตสมูเห. นิจฺจกาลํ ิตึ กโรนฺตีติ ิติกรา. กทาจิ วุทฺธึ กโรนฺติ, กทาจิ หานึ กโรนฺตีติ วุทฺธิกรา หานิกรา จ. ‘‘เตสํ วเสนา’’ติ เตสํ อุตุ อาหารานํ วเสน. ‘‘ตโยปิ เจเต’’ติ เอเตตโยปิ ิติกราทโย. กมฺมํ วิปจฺจมานํ ทตฺวา ขิยฺยตีติ สมฺพนฺโธ. เอเตน เอวรูเปาเน กมฺมํ อปฺปธานนฺติ ทีเปติ. ‘‘ตทนุรูปํ เอวา’’ติ ตํ ทสวสฺสกาลานุ รูปํ เอว. ‘‘โภ คฺจา’’ติ ¶ ธนธฺาทิปริโภคฺจ. เตสํ อุตุอาหารานํ คติ เอเตสนฺติ ตคฺคติกา. เตสํ อุตุอาหารานํ คตึ อนุวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตทนุวตฺติกา’’ติ. สงฺขารวิทูหิ อฺตฺราติ สมฺพนฺโธ. สงฺขารวิทุโน เปตฺวาติ อตฺโถ. อิทฺธิยา ปกตาติ อิทฺธิมยา. ‘‘อิทฺธิยา’’ติ เทวิทฺธิยาวา ภาวนามยิทฺธิยาวา. วิชฺชาย ปกตาติ วิชฺชามยา. ‘‘วิชฺชายา’’ติ คนฺธาริวิชฺชาย. อฏฺิ นฺหารุ มํส โลหิตาทิกา รสธาตุโย อยนฺติ วฑฺฒนฺติ เอเตหีติ รสายนานิ. ตานิ วิทหนฺติ เอเตหีติ รสายน วิธโย. นยูปเทสา. จิรฏฺิติ กตฺถาย ชีวิตํ สงฺขโรนฺติ เอเตหีติ ชีวิต สงฺขารา. อิทฺธิมย วิชฺชามย ชีวิต สงฺขาเรสุ จ รสายน วิธิสงฺขาเตสุ ชีวิต สงฺขาเรสุ จ วิทุโนติ สมาโส. ‘‘ทฺวิ สมุฏฺานิก รูปธมฺเมสู’’ติ อุตุสมุฏฺานิก รูปธมฺเมสุ จ อาหาร สมุฏฺานิก รูปธมฺเมสุ จ. ‘‘ปริณมนฺเตสู’’ติ วิปริณมนฺเตสุ. เตนาห ‘‘ชิยฺยมาเนสู’’ติอาทึ. ‘‘ยาวมหนฺตํ ปีติ’’ สพฺพฺุพุทฺธานํ กมฺมํ วิย โกฏิปตฺตวเสน อติมหนฺตมฺปิ. ‘‘อสฺสา’’ติ กมฺมสฺส. ‘‘อุปจฺเฉทก มรเณปิ เนตพฺโพ’’ติ พลวนฺเต อุปจฺเฉทก กมฺเม อาคเต ยาวมหนฺตมฺปิ ชนก กมฺมํ อตฺตโน วิปากาธิฏฺาน วิปตฺติยา ขิยฺยติเยว. โส จสฺสขโย น สรเสน โหติ, อถ โข อุปจฺเฉทก กมฺม พเลน โหตีติ อิธ อุปจฺเฉทก มรณํ วิสุํ คหิตนฺติ เอวํ อุปจฺเฉทก มรเณปิ เนตพฺโพ. ‘‘อกาล มรณํ’’ติ อายุกฺขยมรณาทีนิ ตีณิ มรณานิ กาลมรณานิ นาม, มรณา รหกาเล มรณานีติ วุตฺตํ โหติ. ตโต อฺํ ยํ กิฺจิ มรณํ อกาล มรณนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ตฺหิ ปวตฺตมานํ’’ติอาทึ. ‘‘มูลเภทโต’’ติ มูลการณปฺปเภทโต. ยสฺมา ปน มิลินฺท ปฺเห วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สนฺนิปตนฺตีติ สนฺนิปาตา. สนฺนิปาเตหิ อุปฺปนฺนา สนฺนิปาติกาติ อตฺถํ สนฺธาย ‘‘สนฺนิปติตานํ’’ติ วุตฺตํ. อถวา. สนฺนิปตนํ สนฺนิปาโต. ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา โทสานํ มิสฺสกภาโว. สนฺนิปาเตน อุปฺปนฺนา สนฺนิปาติกาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อนิสมฺมการีนํ’’ติ อนิสาเมตฺวา อนุปธาเรตฺวา กรณ สีลานํ. ปวตฺตา อาพาธา ¶ วิสมปริหารชานามาติ โยชนา. ‘‘อตฺตนา วากตานํ ปโยคานํ’’ติ สตฺถหรณ, วิสขาทน, อุทกปาตนาทิวเสน กตานํ. ‘‘วินาเสนฺตี’’ติ สตฺถวสฺส วาลุกวสฺสาทีนิ วสฺสาเปตฺวาวา สมุทฺท วีจิโย อุฏฺาเปตฺวาวา เอวรูเป มหนฺเต ภยุปทฺทเว กตฺวา วินาเสนฺติ. ‘‘มนุสฺส ปเถ’’ติ มนุสฺส ปเทเส. ‘‘เต’’ติ จณฺฑา ยกฺขา. ‘‘ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺตี’’ติ มนุสฺสานํ วา โคมหึสานํ วา เมทโลหิตานิ ปาตพฺยตฺถาย เตสุ นานาโรคนฺตร กปฺปานิ อุปฺปาเทตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ สกลํ รชฺชํ วา รฏฺํ วา ทีปกํ วา วินาเสนฺตีติ วุตฺเต สกลํ ชนปทํ วา นครํ วา นิคมํ วา คามํ วา ตํ ตํ ปุคฺคลํ วา วินาเสนฺตีติ วิสุํ วตฺตพฺพํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สตฺถทุพฺภิกฺขโรคนฺตร กปฺปาปี’’ติ สตฺถนฺตร กปฺโป ทุพฺภิกฺขนฺตร กปฺโป โรคนฺตร กปฺโปติ อิเม ตโย อนฺตร กปฺปาปิ อิธ วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. เตสุ ปน โรคนฺตร กปฺโป ยกฺขา วาเฬ อมนุสฺเส โอสฺสชฺชนฺติ, เตน พหู มนุสฺสา กาลงฺกโรนฺตีติ อิมินา เอกเทเสน วุตฺโตเยว. ‘‘อุปปีฬโก ปฆาตกานํ กมฺมานํ วิปจฺจนวเสนา’’ติ เอตฺถ เตสํ กมฺมานํ โอกาสปฺปฏิลาเภน สตฺตสนฺตาเน สุขสนฺตานํ วิพาเธตฺวา มรณํ วา ปาเปตฺวา มรณ มตฺตํ วา ทุกฺขํ ชเนตฺวา ปีฬนฺจ ฆาตนฺจ อิธ วิปจฺจน นาเมน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิปากํ ปน ชเนนฺตุวา, มาวา, อิธ อปฺปมาณนฺติ. เอตฺถ สิยา. อฏฺสุ การเณสุ โอปกฺกมิกฏฺาเน ‘กุปฺปิตาหิ เทวตา สกลํ รชฺชาทิกํ อเสสํ กตฺวา วินาเสนฺตี’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ วินาสิตา ชนา กึ นุ โข อตฺตโน อตฺตโน กมฺม วิปากเชหิ อาพาธน ทณฺเฑหิ วา วินสฺสนฺติ, อุทาหุ วิสุํ โอปกฺกมิเกหิ อาพาธน ทณฺเฑหิ วา วินสฺสนฺติ. ยฺเจตฺถ วุตฺตํ ‘เอวํ อกาล มรณํ อุปจฺเฉทก กมฺมุนา วา อฺเหิ วา อเนก สหสฺเสหิ การเณหิ โหตี’ติ. ตตฺถ ยสฺส อุปจฺเฉทก กมฺมํ นาม นตฺถิ. กึ ตสฺส อฺเน การเณน อกาล มรณํ นาม ภเวยฺยาติ. เอตฺถ วเทยฺยุํ, ตสฺส อฺเน การเณน อกาล มรณํ นาม น ภเวยฺย. สพฺเพ สตฺตา กมฺมสฺสกา, กมฺมทายาทา, กมฺมโยนี, กมฺม พนฺธู, กมฺมปฺปฏิสฺสรณาติหิ วุตฺตํติ ¶ . เตสํ ตํ วาทํ ภินฺทนฺโต ‘‘เยหิเกจิ โลเก ทิสฺสนฺตี’’ติอาทิมาห. ปุน ตทตฺถํ ทฬฺหํ กโรนฺโต ‘‘ยถาหา’’ติอาทึ วทติ. ตตฺถ ทุวิธํ กมฺมผลํ, วิปาก ผลฺจ นิสฺสนฺท ผลฺจ. ตตฺถ วิปาก ผลํ นาม วิปากกฺขนฺธา จ จกฺขุ โสตาทีนิ กฏตฺตา รูปานิ จ. ตํ เยน ปุพฺเพ กมฺมํ กตํ, ตสฺเสว สาธารณํ โหติ. ตสฺส สนฺตาเน เอว ปวตฺตติ. นิสฺสนฺท ผลํ นาม ตสฺส สุขุปฺปตฺติยา วา ทุกฺขุปฺปตฺติยา วา อตฺตโน กมฺมานุภาเวน พหิทฺธา สมุฏฺิตานิ อิฏฺารมฺมณานิ วา อนิฏฺา รมฺมณานิ วา. ตํ ปน อฺเสมฺปิ สาธารณํ โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สกกมฺมสมุฏฺิตา เอว. ล. ปเรสํ สาธารณา เอวา’’ติ. โลเก อฏฺโลก ธมฺมา นาม สพฺเพ กมฺม วิปากชา เอวาติ น วตฺตพฺพา. อิเม จ สตฺตา สํสาเร สํสรนฺตา อฏฺสุโลก ธมฺเมสุ นิมฺมุชฺชนฺตา สํสรนฺติ, ตสฺมา เต วินาปิ อุปปีฬก กมฺเมน อฺเหิ การเณหิ นานาทุกฺขํ ผุสนฺติเยว. ตถา วินาปิ อุปจฺเฉทก กมฺเมน มรณ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติเยว. เตน วุตฺตํ ‘‘กมฺเมน วินา ยโตกุโตจิ สมุฏฺิตา’’ติอาทิ.
‘‘เต อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ เต นานาโรคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘น อุปาย กุสลา วา’’ติ ตโต อตฺตานํ โมเจตุํ การณ กุสลา วา น โหนฺติ. ‘‘น จ ปฏิการ กุสลา วา’’ติ อุปฺปนฺนํ โรคาทิภยํ อปเนตุํ วูปสเมตุํ ปฏิการ กมฺเมติ กิจฺฉกมฺเม กุสลา วา น โหนฺติ. ‘‘นาปิ ปริหาร กุสลา วา’’ติ ตโต โมจนตฺถํ ปริหริตุํ เทสนฺตรํ คนฺตุํ กุสลา วา น โหนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘โรคาทโย เอว ตํ เขเปนฺตา ปวตฺตนฺตี’’ติ กถํ เต ปุพฺพกมฺมํ เขเปนฺตีติ. ตสฺส วิปากภูตํ ชีวิต สนฺตานํ วินาเสนฺตา เขเปนฺติ. วินฏฺเหิ ชีวิต สนฺตาเน ตํ ภวํ ชเนนฺตํ ขิยฺยติ เยวาติ. เตนาห ‘‘ยถาหี’’ติอาทึ. ‘‘กมฺมสฺสปิ ตเถวา’’ติ ตเถว ปุพฺพกมฺมสฺสปิ ติณคฺเค อุสฺสาว พินฺทุสฺเสว ปริทุพฺพลตา สิทฺธา โหติ. ชีวิเต ปริกฺขีเณ ตํ ภวํ ชเนนฺตสฺส ปุพฺพกมฺมสฺสปิ ปริกฺขีณตฺตา. ‘‘เอวฺเจตํ’’ติ เอตํ กมฺมปฺปฏิ สํยุตฺต วจนํ อิธ อมฺเหหิ วุตฺตนเยน สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สพฺพํ ปุพฺเพกตเหตุทิฏฺิ นาม สพฺพํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา สุจริตํ วา ทุจฺจริตํ วา ปุพฺพภเว อตฺตนา ¶ กเตน ปุพฺพกมฺมเหตุนา เอว อุปฺปชฺชตีติ เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ. ‘‘ยํ กิฺจายํ’’ติ ยํ กิฺจิ อยํ. มหาโพธิสตฺตานํ อธิมุตฺติกาลงฺกริยา นาม อิธ เม จิรกาลํ ิตสฺส ปารมิปูรณ กิจฺจํ นตฺถิ, อิทาเนว อิโต จวิตฺวา มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิสฺสามิ, อุปรุชฺฌตุ เม อิทํ ชีวิตนฺติ อธิมฺุจิตฺวา ทฬฺหํ มนสิกริตฺวา กาลงฺกริยา. ‘‘สยเมว สตฺถํ อาหริตฺวา’’ติ สยเมว อตฺตโน คีวํ สตฺเถน หนิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘เอตฺเถวา’’ติ อกาลมรเณ เอว.
‘‘ตถา จา’’ติอาทีสุ. ‘‘สมาปตฺติ ลาภีนํ’’ติ นิทฺธารเณภุมฺม วจนํ. ‘‘ชีวิต สมสีสีนํ’’ติ อรหตฺต มคฺคํ ลภิตฺวา มคฺคปจฺจเวกฺขนวีถิ เอว มรณาสนฺนวีถึ กตฺวา ปรินิพฺพานตฺตา สมํ สีสํ เอเตสนฺติ สมสีสิโน. ‘‘สมํ สีสํ’’ติ ชีวิต สนฺตาน ปริยนฺเตน สมํ วฏฺฏทุกฺข สนฺตาน ปริยนฺตํ วุจฺจติ. ‘‘สพฺเพสํ ปี’’ติ สพฺเพสมฺปิ ขีณาสวานํ. ‘‘อิมํ สุตฺตปทํ’’ติ มหาปรินิพฺพานสุตฺเต อาคตํ สุตฺตปทํ. ‘‘เต’’ติ เต วาทิโน. ‘‘เตนา’’ติ เตน วาทวจเนน. กฺริยมโนธาตุ นาม ปฺจทฺวาราวชฺชนํ. กฺริยาเหตุกมโน วิฺาณธาตุ นาม หสิตุปฺปาทจิตฺตํ. ‘‘อสฺสา’’ติ ปรินิพฺพายนฺตสฺส พุทฺธสฺส. ‘‘น สเมติ เยวา’’ติ สนฺตึ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวาติ เอตฺถ ปรินิพฺพาน ชวเนหิ อารมฺมณํ กตฺวาติ วุตฺเตปิ น สเมติเยว. เตนาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. ‘‘ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายตี’’ติ เอตฺถ ปรินิพฺพาน จุติจิตฺตเมว ภวงฺคนฺติ วุตฺตํ. จุติจิตฺตนฺติ จ ภวนฺตรํ คจฺฉนฺตสฺเสว วุจฺจติ. อิธ ปน โวหาร มตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิภาวนิปาเ. จุติปริโยสานานํ มรณาสนฺน จิตฺตานํ. ยถา ปน พุทฺธานํ ภควนฺตานํ ยาวชีวํ อุปฺปนฺนํ มหาภวงฺคจิตฺตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทโย อารมฺมณํ กโรติเยว. ตถา ปรินิพฺพาน จุติจิตฺตํ ปีติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทึ. นนุ มรณกาเล กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนํ คหณํ นาม ภวนฺตร คมนตฺถาย โหติ, พุทฺธา จ ภวนฺตรํ น คจฺฉนฺติ. ตสฺมา ‘‘น หิ. ล. น กโรตี’’ติ อิทํ น ยุตฺตนฺติ. โน น ยุตฺตํ. ภวนฺตร คมนตฺถายาติ อิทํ ชวเนหิ คหเณ ทฏฺพฺพํ. อิธ ปน จุติจิตฺเตน คหเณติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นจจุติยาคหิตานี’’ติอาทิมาห. ‘‘กมฺมสิทฺธิยา’’ติ กมฺมสิชฺฌนตฺถาย ¶ .‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘ตสฺสา’’ติ โสณตฺเถร ปิตุโน. ‘‘กมฺมพเลนา’’ติอาทีสุ. ‘‘อฺเนปิ การณ พเลนา’’ติ อาจิณฺณภาวาทิเกน การณพเลน. คตินิมิตฺตํ ปน กมฺมพเลเนวาติ ยุตฺตํ สิยา. ‘‘ตโถปฏฺิตํ’’ติ อนฺติมวีถิโต ปุพฺเพ พหูสุวีถีสุ อุปฏฺิตปฺปการนฺติอตฺโถ. ปาปปกฺขิเยสุ ทุคฺคตินิมิตฺเตสุ. กลฺยาณปกฺขิยานิ สคฺคนิมิตฺตานิ. ธมฺมาโสกรฺโ มรณกาเล ปาปปกฺขิยานํ อุปฏฺานํ กตฺถจิ สีหฬคนฺเถ วุตฺตํ.
สกลํ ปถวึ ภุตฺวา,
ทตฺวา โกฏิสตํ ธนํ;
อนฺเต อฑฺฒามลกมตฺตสฺส;
อโสโก อิสฺสรํ คโต; ติ จ;
อโสโก โสก มาคโต; ติ จ;
‘‘ตํ’’ติ วิปจฺจมานกํ กมฺมํ. ‘‘นิยามก สหการิ ปจฺจยภูตา’’ติ เอตฺถ ยถา นาวายํ นิยามโก นาม นาวํ อิจฺฉิตทิสาภิมุขํ นิยาเมติ, นิโยเชติ. ตถา อยํ ตณฺหาปิ ภวนิกนฺติ หุตฺวา จิตฺตสนฺตานํ คนฺตพฺพภวาภิมุขํ นิยาเมติ, นิโยเชติ. กมฺมสฺส จ อจฺจายตฺต สหายภาเวน สหการี ปจฺจโย โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กุสลากุสล กมฺมนิมิตฺตานิ วา’’ติ อฺานิ กุสลา กุสลกมฺมนิมิตฺตานิ วา. ‘‘ตทุปตฺถมฺภิกา’’ติ ตสฺส กมฺมสฺส อุปตฺถมฺภิกา. ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ’’ติ มุขนิมิตฺตาทีสุ อสฺสาเทนฺตํ คิชฺฌนฺตํ. ‘‘ติฏฺมานํ ติฏฺตี’’ติ ติฏฺมานํ หุตฺวา ติฏฺติ. อมฺุจิตฺวา ติฏฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อนุพฺยฺชนํ นาม ปิยสาตรูโป กถิตลปิตาทิ กฺริยาวิเสโส. ‘‘อสฺส ปุคฺคลสฺสา’’ติ อาสนฺน มรณสฺส ปุคฺคลสฺส. อฏฺกถา ปาเ. ‘‘กิเลส พลวินามิตํ’’ติ อวิชฺชา ตณฺหาทีนํ กิเลสานํ พเลน วินามิตํ. ปฏิจฺฉาทิกา อาทีน วา ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺตสนฺตานํ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ กมฺมาทิวิสเย. อฏฺกถาย น สเมติ. ตสฺมึ วิสเยติหิ ตตฺถ วุตฺตํ. น วุตฺตํ ตสฺมึ ภเวติ. ‘‘ตสฺมึ วุตฺตา นํ’’ติ ¶ ตสฺมึ ‘เยภูยฺเยน ภวนฺตเร ฉ ทฺวารคฺคหิตํ’ติ าเน ฏีกาสุ วุตฺตานํ. ตํ สทิส ชวนุปฺปตฺติ นาม กมฺมกรณกาเล ปวตฺต ชวเนหิ สทิสานํ อิทานิ ชวนานํ อุปฺปตฺติ. ภวปฺปฏิจฺฉนฺนฺจ กมฺมํ อปากฏฺจ กมฺมํ น ตถา อุปฏฺาติ. เกวลํ อตฺตานํ อภินวกรณ วเสน ทฺวารปตฺตํ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิสีท ปตฺตา’’ติ วิสฺีภาเวน วิรูปํ หุตฺวา สีทนปตฺตา. ‘‘ตพฺพิปรีเตน ปาปกมฺม พหุลาปิ วตฺตพฺพา’’ติ เตปิวิสีทนฺตเร อาวุธ หตฺถา ปาณฆาตํ กโรนฺตา คณฺหถพนฺธถาติ อุคฺโฆสนฺตา ทุฏฺจิตฺตา โหนฺตีติอาทินา วตฺตพฺพา. อฏฺกถา ปาเสุ. อุกฺขิตฺโต อสิ ยสฺสาติ อุกฺขิตฺตา สิโก. ปตุทนฺติ วิชฺฌนฺติ เอเตนาติ ปโตทนํ. ปาชนทณฺโฑ. ตสฺส อคฺเค กตา สูจิ ปโตทน สูจิ. ‘‘ปโตทน ทุกฺขํ’’ติ วิชฺฌน ทุกฺขํ. กถํ ปน อุกฺขิตฺตาสิกาทิภาเวน อุปฏฺานํ กมฺมุปฏฺานํ นาม โหติ. กถฺจ ตํ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณภาวํ อุเปตีติ อาห ‘‘โส จา’’ติอาทึ. อุปฺปชฺชมานานํ สตฺตานํ. ‘‘อิตเรสํ ปนา’’ติ รูปารูป ภเวสุ อุปฺปชฺชมานานํ ปน. ‘‘ปริปุณฺณํ กตฺวา’’ติ ตทารมฺมณ ปริโยสานายวา สุทฺธาย วา ชวนวีถิยาติ เอวํ ปริปุณฺณํ กตฺวา. อยํ ปน ภวงฺคาวสาเน จุติจิตฺตุปฺปตฺติ นาม อฏฺกถาสุ นตฺถิ. ยฺจ ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายตีติอาทิ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตํ. ตตฺถปิ ‘‘ภวงฺคํ’’ติ จุติจิตฺตเมว ฏีกาสุ วณฺเณนฺติ. ตสฺมา ‘‘ภวงฺคกฺขเยวา’’ติ อิทํ กถํ ยุชฺเชยฺยาติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ. อนุรูปํ เสตีติ อนุสโย. อนุพนฺโธ หุตฺวา เสตีติ อนุสโย. อนุ อนุ วา เสตีติ อนุสโย. เอตฺถ จ อนุสโย นาม ชวนสหชาโต น โหติ. อิธ จ อนุสย นาเมน วุตฺตํ. นานาชวน สหชาตา จ อวิชฺชา ตณฺหา ปฏิสนฺธิยา วิเสส ปจฺจยา โหนฺเตว. กถํ ตา อิธ คหิตา สิยุนฺติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ. เอวํ สนฺเต อวิชฺชา ปริกฺขิตฺเตน ตณฺหามูลเกนาติ วุตฺเตสุ สุฏฺุ ยุชฺชติ. อนุสเยหิ สห ชวนสหชาตานมฺปิ ลทฺธตฺตา. ตสฺมา อิธ อนุสย วจนํ น ยุตฺตนฺติ โจทนา. ยุตฺตเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปริยตฺตา’’ติ สมตฺตา. ‘‘โส ปี’’ติ ผสฺสาทิ ธมฺม สมูโหปิ ¶ .‘‘ตถา รูปา เยวา’’ติ อคฺคมคฺเคน อปฺปหีน รูปาเยว, อนุสยภูตาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺต สนฺตานํ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตทุภยสฺมึ. กถํ ตํ ตตฺถ ขิปนฺตีติ อาห ‘‘ตสฺมึ’’ติอาทึ. ‘‘วิชานนธาตุยา’’ติ วิฺาณ ธาตุยา. สงฺกนฺตา นาม นตฺถิ. ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺตีติ อธิปฺปาโย. กุโต มรณกาเล สงฺกนฺตา นาม อตฺถิ วิชฺชนฺตีติ โยชนา. เอวํ สนฺเต อิทํ วจนํ อนมตคฺคิย สุตฺเตน วิรุทฺธํ สิยาติ. น วิรุทฺธํ. อิทฺหิ อภิธมฺม วจนํ, มุขฺยวจนํ, อนมตคฺคิย สุตฺตํ ปน สุตฺตนฺต วจนํ ปริยาย วจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยฺจา’’ติอาทิมาห. ปริยาเยน วุตฺตนฺติ วตฺวา ตํ ปริยายํ ทสฺเสติ ‘‘เยสฺหี’’ติอาทินา. ‘‘โส’’ติ โส ปุคฺคโล. ‘‘เตสํ’’ติ อวิชฺชา ตณฺหา สงฺขารานฺจ ปฏิสนฺธิ นาม รูป ธมฺมานฺจ. ‘‘เหตุปฺผลสมฺพนฺเธน ภวนฺตรํ สนฺธาวติ สํสรตีติ วุจฺจตี’’ติ ปุพฺเพ กมฺมกรณกาเลปิ เต อวิชฺชา ตณฺหา สงฺขารา เอว โส สตฺโตติ วุจฺจนฺติ. ปจฺฉา เตสํ ผลภูตายํ ปฏิสนฺธิยา ปาตุภวนกาเลปิ สาปฏิสนฺธิ เอว โส สตฺโตติ วุจฺจติ. มชฺเฌ ธมฺมปฺปพนฺโธปิ โส สตฺโตติ วุจฺจติ. เอวํ เหตุธมฺเมหิ สทฺธึ ผลธมฺเม เอกํ สตฺตํ กโรนฺตสฺส เหตุปฺผล สมฺพนฺโธ โหติ. เอวํ เหตุปฺผล สมฺพนฺเธน โส เอว กมฺมํ กโรติ. เตน กมฺเมน โส เอว ภวนฺตรํ สนฺธาวติ สํสรตีติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ อนมตคฺโค ยํ ภิกฺขเว. ล. อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํติ เอวํ สตฺตโวหาเรน วุตฺตตฺตา สาธมฺมเทสนา ปริยายเทสนา โหติ. ปริยายเทสนตฺตา จ สนฺธาวตํ สํสรตนฺติ ปริยาโยปิ สิชฺฌติ. ยสฺสํ ปน ธมฺม เทสนายํ ธมฺมเทสนาติ วจนานุ รูปํ ธมฺมเมว เทเสติ, น สตฺตํ, น ปุคฺคลํ. อยํ ธมฺมเทสนา เอว มุขฺยเทสนา นาม โหติ. ตตฺถ เทสิต ธมฺมา ปน ปกติกาเลปิ เทสนฺตรํ กาลนฺตรํ ขณนฺตรํ สงฺกนฺตา นาม นตฺถิ. ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปนฺนา, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ. ขยวยํ คจฺฉนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘น หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา ธมฺมา. ล. สงฺกนฺตา นาม อตฺถี’ติ. ปฏิโฆโส จ, ปทีโป จ, มุทฺทา จ. อาทิสทฺเทน ปฏิพิมฺพจฺฉายา จ, พีชสงฺขาโร จ, ปาฏิโภโค จ, พาลกุมาร สรีเรสุ อุปยุตฺตา วิชฺชาสิปฺโปสธา จาติ เอวํ อฏฺกถา ยํ ¶ อาคตานิ นิทสฺสนานิ สงฺคยฺหนฺติ. ‘‘นิทสฺสนา’’นีติ จ อุปมาโย วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘‘ปฏิโฆโส’’ติ คมฺภีรเลณ ทฺวาเร ตฺวา สทฺทํ กโรนฺตสฺส อนฺโตเลเณ ปฏิโฆโส ปวตฺตติ. ตตฺถ ทฺวาเร อุปฺปนฺโน มูลสทฺโท อนฺโตเลณํ น คจฺฉติ, อุปฺปนฺนฏฺาเน เอว นิรุชฺฌติ. ปฏิโฆโส จ ตโต อาคโต น โหติ. น จ วินา มูลสทฺท + ปจฺจเยน อฺโต ปวตฺตติ. มูลสทฺทปจฺจยา เอว ตตฺถ ปวตฺตตีติ. ตตฺถ มูลสทฺโท วิย อตีต กมฺมํ. ปฏิโฆโส วิย อนนฺตเร ปฏิสนฺธิ. เอสนโย ปทีป มุทฺทา ปฏิพิมฺพจฺฉายาสุ. ตตฺถ ‘‘ปทีโป’’ติ ปถมํ เอกํ ปทีปํ ชาเลตฺวา เตน อฺํ ปทีปสตมฺปิ ปทีป สหสฺสมฺปิ ชาเลติ. ‘‘มุทฺทา’’ติ ลฺฉนเลขา. ตตฺถ เอเกน ลฺฉนกฺขนฺเธน, เตน ลฺฉนเลขาสตมฺปิ ลฺฉนเลขา สหสฺสมฺปิ กโรติ. ‘‘ปฏิพิมฺพจฺฉายา’’ติ ปสนฺเนสุ อาทาสปฏฺเฏสุวา อุทเกสุวา อุปฺปนฺนา สรีรจฺฉายา. เอเตหิ นิทสฺสเนหิ ผลํ นาม เหตุโต อาคตํ น โหติ. เหตุนา จ วินา น สิชฺฌตีติ เอตฺตกมตฺถํ ทีเปติ. ‘‘พีชสงฺขาโร’’ติ กาลนฺตเร อุปฺปนฺเนสุ ปุปฺผผเลสุ อิจฺฉิตวณฺณ คนฺธรสปาตุภาวตฺถาย โรปนกาเล อมฺพพีชาทีสุ อิจฺฉิตวณฺณ คนฺธรสธาตูนํ ปริภาวนา. ตตฺถ ตปฺปจฺจยา กาลนฺตเร ปุปฺผผเลสุ อุปฺปนฺเนสุ เตวณฺณคนฺธรสา ปาตุพฺภวนฺติ. ‘‘ปาฏิโภโค’’ติ กิฺจิ อตฺถํ สาเธตุํ ปรสฺส สนฺติเก อิณํ คณฺหนฺตสฺส ตวธนํ สํวจฺฉเรน วุฑฺฒิยา สห ทสฺสามิ, สเจ นทเทยฺยํ. อสุกํ นาม มมเขตฺตํ วา วตฺถุวา ตุยฺหํ โหตูติ ปฏิฺาปนํ. ตตฺถ ตปฺปจฺจยา ธนํ ลภิตฺวา ตํ อตฺถฺจ สาเธติ. กาเล สมฺปตฺเต วุฑฺฒิยา สห อิณฺจ โสเธติ. ‘‘วิชฺชาสิปฺโปสธา’’ติ โลเก ปุตฺตเก ยาวชีวํ หิตตฺถาย ทหรกาเล กิฺจิ วิชฺชํวา สิปฺปํวา สิกฺขาเปนฺติ. ยาวชีวํ ขรโรคานํ อนุปฺปาทตฺถาย ทหรกาเล โอชวนฺตํ กิฺจิ โอสธํ วา อชฺโฌหาเรนฺติ. ตตฺถ ตปฺปจฺจยา ปุตฺตานํ ยาวชีวํ หิตปฺปฏิลาโภ วา ตาทิสานํ โรคานํ อนุปฺปาโท วา โหติเยว. เอเตหิ ยถา กาลนฺตเร อสนฺเตสุเยว ปาฏิโภคาทีสุ มูลกมฺเมสุ ปุพฺพภาเค กตปจฺจยา เอว ปจฺฉา อตฺถ สาธนาทีนิ สิชฺฌนฺติ. ตถา กุสลา กุสล กมฺมานิ ¶ กตฺวา กาลนฺตเร เตสุ อสนฺเตสุปิ ปุพฺเพ กตตฺตา เอว ปจฺฉา ปฏิสนฺธาทีนิ ผลานิ ปาตุพฺภวนฺตีติ ทีเปติ. เตนวุตฺตํ ‘‘ปฏิโฆส ปทีปมุทฺทาทีนิ เจตฺถ นิทสฺสนานี’’ติ. ‘‘กมฺมทุพฺพลภาเวนา’’ติ ตทา ชีวิตินฺทฺริยสฺส ทุพฺพลตฺตา กมฺมมฺปิ ทุพฺพลเมว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. กามฺเจตฺถ อฏฺกถายํ วตฺวา ทสฺสิตํ, ตถาปิ สมฺภวตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ‘‘ตํ ปี’’ติ คตินิมิตฺตมฺปิ. ‘‘ตถา จวนฺตานํ’’ติ ทิพฺพรถาทีนิ คตินิมิตฺตํ กตฺวา จวนฺตานํ. ‘‘ทยฺหมานกาเยนา’’ติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. คาถายํ. ปฺจทฺวาเร ปฏิสนฺธิกมฺมํ วินา ทฺวิโคจเร สิยาติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘ทฺวิโคจเร’’ติ กมฺมนิมิตฺต คตินิมิตฺตภูเต ทฺวิโคจเร. ตตฺถ ปฺจทฺวาเร ปฏิสนฺธิ นาม ปฺจทฺวาริก มรณาสนฺน วีถิจิตฺตานํ อนฺเต จ วนฺตานํ ปฏิสนฺธิ. สาปิ คตินิมิตฺตภูเต โคจเร สิยาติ วุตฺเต ปฺจทฺวาริก วีถิจิตฺตานิ ปฺจารมฺมณภูตานิ คตินิมิตฺตานิ อารมฺมณํ กโรนฺตีติปิ สิทฺธํ โหติ. เอวฺจ สติ. เตสํ วีถิจิตฺตานํ อนฺเต อจวิตฺวา ตทนุพนฺธก มโนทฺวาริกวีถิจิตฺเตหิปิ กทาจิ เกสฺจิ จ วนํ นนสมฺภวตีติ สกฺกา วตฺตุํ. เตสุ ปน อนุพนฺธก วีถีสุ อตีตคฺคหณ สมุทายคฺคหเณหิ จ วนฺตานํ อตีตานิปิ คตินิมิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. วตฺถุคฺคหณนามคฺคหเณหิ จ วนฺตานํ ธมฺมา รมฺมณํปิ ลพฺภติเยว. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ อาจริเยน กามาวจร ปฏิสนฺธิยา ฉ ทฺวารคฺคหิตํ กมฺมนิมิตฺตํ คตินิมิตฺตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตา รมฺมณํ อุปลพฺภตีติ. ตํ สุวุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยํ ปน ‘ตเมว ตโถปฏฺิตํ อารมฺมณํ อารพฺภ จิตฺตสนฺตานํ อภิณฺหํ ปวตฺตตี’ติ เอวํ อนฺติมวีถิโต ปุพฺพภาเค พหูนํ วีถิวารานํ ปวตฺตนํ อาจริเยน วุตฺตํ. ตํ ตโถปฏฺิตํ คตินิมิตฺตํ อารพฺภาติปิ ลทฺธุํ วฏฺฏติเยว. เอวฺจสติ, คตินิมิตฺตํปิ อตีตํ ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทาปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สนฺตติ วเสนา’’ติ สนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺน วเสน. ‘‘ตสฺสา’’ติ คตินิมิตฺตสฺส. เยภูยฺเยน วุตฺโต, น สพฺพสงฺคาหิเกน วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘มโนทฺวาริก มรณาสนฺน ชวนานํปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา’’ติ ปุเรชาตปจฺจย ภาเวน อิจฺฉิตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตทนุพนฺธายา’’ติ ตานิ มโนทฺวาริ กมรณาสนฺน ¶ ชวนานิ อนุคตาย. ‘‘ปฏิสนฺธิยาปิ สมฺภวโต’’ติ ตสฺส ปุเรชาต ปจฺจยสฺส ปฏิสนฺธิยาปิ ปุเรชาต ปจฺจยตา สมฺภวโต. นนุ เถเรน ภินฺทิตฺวา อวุตฺเตปิ ภินฺทิตพฺเพ สติ, ภินฺทนเมว ยุตฺตนฺติ เจ. น ยุตฺตํ. กสฺมา, กมฺมนิมิตฺเตน สมานคติกตฺตา. เตนาห ‘‘นจตํ’’ติอาทึ. วิภาวนิยํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํติ วตฺวา อปเรปน อวิเสสโตว วณฺเณนฺตีติ อปเรวาโทปิ วุตฺโต. ตตฺถ ‘‘อวิเสสโต วณฺเณนฺตี’’ติ อภินฺทิตฺวาว วณฺเณนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ตํ อปเรวาทํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ‘‘อฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. อิธ ปน ตํ อปเรวาทํ ปคฺคณฺหนฺโต ปุน ‘‘ยฺจ ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ตทารมฺมณายา’’ติ ตํ คตินิมิตฺตา รมฺมณาย. ‘‘เตสํ วจนํ’’ติ อปเรสํ วจนํ. ‘‘อฺตฺร อวิจารณายา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ อฏฺกถายํ ปนาติอาทิ สพฺพํ วิจารณา วจนเมว โหตีติ. สจฺจํ ยถา ทิฏฺปาวเสน, สาวเสส ปาภาวํ ปน น วิจาเรติเยว. ตสฺมา ‘‘อฺตฺร อวิจารณายา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ สิยา. อฏฺกถาปาโ สาวเสโส โหตุ, มูลฏีกาปาโ ปน มโนทฺวาเร เยวาติ นิยเมตฺวา วุตฺตตฺตา กถํ สาวเสโส สิยาติ. นิยเมตฺวา วุตฺโตปิ อิธ อธิปฺเปตตฺเถ อปริปุณฺเณ สาวเสโส เอว โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อฺํ การณํ นตฺถิ อฺตฺร อวิจารณายา’’ติ. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนมตีตํ’’ติอาทีสุ. ตทารมฺมณาวสานาย ปฺจทฺวาริก ชวนวีถิยา จ วนํ โหตีติ โยชนา. เอวํ อปรตฺถปิ. พลวนฺเตปิ สติ. ตทารมฺมณาวสานาย เอว วีถิยา. ‘‘วุตฺตตฺตา ปนา’’ติ อฏฺกถายํ เอว วุตฺตตฺตา ปน. ‘‘ปุริมภาเค เอวา’’ติ ปฺจทฺวาริก อนฺติม วีถิโต ปุพฺพภาเค เอว. ‘‘ตาหี’’ติ เทยฺยธมฺมวตฺถูหิ. ‘‘ยถาตํ’’ติ ตํ อตฺถชาตํ กตมํ วิยาติ อตฺโถ. ‘‘อิโต’’ติ มนุสฺส ภวโต. นิมิตฺต สทิสํ สทฺทํ วณฺณนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นฏฺจการํ’’ติ ปติตจการํ. อฏฺกถาปาเ าตกา มาตาทโย ปฺจทฺวาเร อุปสํหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตวตฺถายา’’ติ ตวอตฺถาย. ‘‘จีนปฏโสมารปฏาทิวเสนา’’ติ จีนรฏฺเ ปวตฺโต ปโฏ ¶ จีนปโฏ. ตถา โสมารปเฏปิ. ‘‘ตานี’’ติ รสโผฏฺพฺพานิ. โผฏฺพฺพํ ปน อฺํปิ ยุชฺชเตว. อตฺถิทานีติ มนสิกตตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนภูตานีติ วุตฺตํ. ‘‘อรูปีนํ’’ติ อรูปพฺรหฺมานํ. ‘‘เต’’ติ อรูปิโน. ‘‘ตานี’’ติ เหฏฺิมชฺฌานานิ. วิสฺสฏฺํ ลทฺธฌานํ เยสํ เต วิสฺสฏฺชฺฌานา. ‘‘ตโตเยว จา’’ติ วิสฺสฏฺชฺฌานตฺตาเยว จ. อากฑฺฒิตํ มานสํ จิตฺตํ เอเตสนฺติ วิคฺคโห. อิทฺจ เหตุวิเสสน ปทํ. อากฑฺฒิตมานสตฺตา กามภเว อุปฺปชฺชมานานนฺติ ทีเปติ. เตสํ อรูปีนํ. ‘‘อฺํ ทุพฺพล กมฺมํ’’ติ อุปจารชฺฌานกมฺมโต อฺํ ติเหตุโกมกํ กมฺมํ. ‘‘เตสํ’’ติ รูปโลกโต จ วนฺตานํ. ‘‘สโต’’ติ สนฺตสฺส สมานสฺส. ‘‘อุปตฺถมฺภเน การณํ นตฺถี’’ติ อิทํ อุปจารชฺฌาน กมฺมสฺส ครุก กมฺมคติกตฺตา วุตฺตํ. เอกนฺต ครุกกมฺมภูตํปิ ปน มหคฺคตชฺฌาน กมฺมํ นาม นานานิกนฺติ พเลน ปฏิพาหียมานํ ปฏิสนฺธึ น เทติเยว. อุปจารชฺฌาน กมฺเม วตฺตพฺพํ นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตาทิสานี’’ติ ตถา รูปานิ ทฺวิเหตุโกมก กมฺมานิ เตสํ โอกาสํ น ลภนฺติ. นีวรณานํ สุฏฺุวิกฺขมฺภิตตฺตาเยว. ‘‘เยนา’’ติ เยน ฉนฺทาทีนํ ปวตฺติ การเณน. ‘‘นานากมฺมานิ ปี’’ติ อุปจารชฺฌาน กมฺมโต อฺานิ ปจฺจุปฺปนฺน กมฺมานิปิ อตีตภเวสุ กตานิ อปรปริยาย กมฺมานิปิ. ‘‘เยน จา’’ติ เยน นานากมฺมานมฺปิ โอกาส ลาภการเณน จ. ‘‘เต’’ติ รูปี พฺรหฺมาโน. ‘‘วุตฺตนเยเน วา’’ติ สุฏฺุวิกฺขมฺภิตนีวรณานํ เตสํ อปฺปนา ปตฺตชฺฌานวิเสเสน [ ยสฺมา ปนาติอาทินา จ ] ปริภาวิต จิตฺตสนฺตานตฺตา’ติ จ วุตฺตนเยเนว. ‘‘ตํ การณํ’’ติ อเหตุก ปฏิสนฺธิยา อภาว การณํ. ปรมฺปร ภเวสุจ วีถิมุตฺตจิตฺตานํ ปวตฺตาการํ ทสฺเสตุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยถา ตานิเยว โอสธานี’’ติ โลเก เอกํ โอสธํ ลภิตฺวาตํ เทวสิกํ ภฺุชติ. เอโกปถมทิวเส ภฺุชนฺตํ ทิสฺวา กตมํ นาม ตฺวํ โอสธํ ภฺุชสีติ ปุจฺฉิ. อิทํ นาม โอสธํ ภฺุชามีติ วทติ. ปุนทิวเสสุปิ โอสธํ ภฺุชนฺตํ ทิสฺวา ตเถว ปุจฺฉิ. ตเมว โอสธํ ภฺุชามีติ วทติ. ตตฺถ ‘‘ตเมว โอสธํ’’ติ ยํ ปถมทิวเส โอสธํ ตยาจ ปุจฺฉิตํ. มยา จ กถิตํ. ตเมว อชฺช ภฺุชามีติ อตฺโถ. ตตฺถ ¶ ปน ปถมทิวเส ภุตฺตํ โอสธํ อฺํ. อชฺช ภุตฺตํ อฺํ. ตํสทิสํ ปน อฺํปิ ตเมวาติ โลเก โวหรนฺติ ตานิเยว โอสธานิ ภฺุชามีติ. เอวํ อิธปิ ตสฺสทิเส ตพฺโพหาโร ทฏฺพฺโพ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ ภวงฺคจิตฺเต. อวตฺตมาเน อุปปตฺติภโว โอจฺฉิชฺชติ. วตฺตมาเน น โอจฺฉิชฺชติ. ตสฺมา ตสฺส อุปปตฺติ ภวสฺส อโนจฺเฉท องฺคตฺถาย การณตฺตา ภวงฺคนฺติ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปปตฺติ ภโว’’ติ จ กมฺมชกฺขนฺธสนฺตานํ วุจฺจติ. ‘‘ปรสมเย’’ติ อุจฺเฉท ทิฏฺีนํ วาเท. ‘‘วฏฺฏมูลานี’’ติ อวิชฺชาตณฺหา วุจฺจนฺติ. วฏฺฏมูลานิ สุฏฺุอุจฺฉิชฺชนฺติ เอตฺถาติ วิคฺคโห. ‘‘ยสฺส อตฺถายา’’ติ สอุปาทิเสสาทิกสฺส นิพฺพานสฺส ปฏิลาภตฺถาย. ‘‘ปฏฺปียนฺตี’’ติ ปวตฺตาปียนฺติ. ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ อริยา ชนา เอตฺถาติ ปทํ. ปรโต สมนฺติปเท อนุปาทิเสสสฺส คยฺหมานตฺตา อิธ สอุปาทิเสสนฺติ วุตฺตํ. พุชฺฌนฺตีติ พุธา. สุฏฺุ สทฺธึ อุจฺฉินฺนํ สิเนหพนฺธนํ เยหิ เต สุสมุจฺฉินฺนสิเนหพนฺธนา. กถฺจ สุฏฺุอุจฺฉินฺนํ, เกหิ จ สทฺธึ อุจฺฉินฺนนฺติอาห ‘‘อนุสยมตฺตํ ปี’’ติอาทึ. ‘‘เสสกิเลเสหี’’ติ ตณฺหาสิเนห พนฺธนโต อวเสส กิเลเสหิ. ‘‘อธิสยิตํ’’ติ วิกฺขมฺภิตุํปิ อสกฺกุเณยฺยํ หุตฺวา อติเรกตรํ สยิตํ. ‘‘อธิคมาวหํ’’ติ อธิคโม วุจฺจติ นววิโธ โลกุตฺตร ธมฺโม. ตํ อาวหตีติ อธิคมาวหํ. ‘‘สีลํ’’ติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ‘‘ธุตงฺคํ’’ติ เตรสธุตงฺคํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
วีถิมุตฺตสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๖. รูปสงฺคหอนุทีปนา
๑๕๖. รูปสงฺคเห ¶ . ‘‘จิตฺตเจตสิเก’’ติ จิตฺตเจตสิก ธมฺเม. ‘‘ทฺวีหิ ปเภทปฺปวตฺตีหี’’ติ ทฺวีหิ ปเภทสงฺคหปวตฺติ สงฺคเหหิ. ‘‘เย วตฺตนฺตี’’ติ เย ธมฺมา วตฺตนฺติ ปวตฺตนฺติ. ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ เอตฺตเกน ‘ตตฺถ วุตฺตาภิธมฺมตฺถา’ติอาทิเกน วจนกฺกเมน. นิปาตํ อิจฺฉนฺตา เอตฺตเกหิ ปฺจหิ ปริจฺเฉเทหีติ วณฺเณนฺติ. วจนวิปลฺลาสํ อิจฺฉนฺตาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘สมุฏฺาตี’’ติ สุฏฺุ อุฏฺาติ, ปาตุพฺภวติ, วิชฺชมานตํ คจฺฉติ. ‘‘กมฺมาที’’ติ กมฺมาทิปจฺจโย. ‘‘ปิณฺฑี’’ติ เอกคฺฆนตา วุจฺจติ. อุปาทาย มหนฺตานิ เอว หุตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยพทฺธสนฺตานํ สตฺตสนฺตานํ. อชฺฌตฺต สนฺตานํติปิ วุจฺจติ. ‘‘วิสํวาทกฏฺเนา’’ติ วิราธกฏฺเน. ภูตฺจ อภูตํ กตฺวา อภูตฺจ ภูตํ กตฺวา สนฺทสฺสกฏฺเนาติ วุตฺตํ โหติ. ภูตวชฺชปฺปฏิจฺฉาทนกมฺมํ มหามายา นาม. มายํ กโรนฺตีติ มายาการา. อาวิสนํ นาม สตฺตานํ สรีเรสุ อาวิสนํ. คหณํ นาม สตฺตานํ อตฺตโนวสํ วตฺตาปนํ. ตทุภยํ กโรนฺตา กตฺถ ตฺวา กโรนฺติ. อนฺโตวาตฺวา กโรนฺติ, พหิวา ตฺวา กโรนฺตีติ ปากติเกหิ มนุสฺเสหิ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อจินฺเตยฺยฏฺานํ นาม. ‘‘วฺจกฏฺเนา’’ติ เอตา ปกติยา อติทุพฺพณฺณํ อตฺตานํ เทวจฺฉราวณฺณํ กตฺวา วฺเจนฺติ. วสนรุกฺขคุมฺพํปิ ทิพฺพวิมานํ กตฺวา วฺเจนฺติ. เอวรูเปน วฺจกฏฺเน. ‘‘เตเนวฏฺเนา’’ติ วิสํวาทกฏฺาทินา ติวิเธเนว อตฺเถน. ตานิปิหิ อสตฺตภูตํเยว อตฺตานํ สตฺโตติ วิสํวาเทนฺติ. อรุกฺขํเยว อตฺตานํ รุกฺโขติ วิสํวาเทนฺติ. อนิฏฺํ, อกนฺตํ, อมนาปํเยว อตฺตานํ อิฏฺโ, กนฺโต, มนาโปติ วฺเจนฺติ, ตถา สหชาตานฺจ เตสํ อฺมฺสฺส อนฺโต วา ติฏฺนฺติ. อุทาหุพหิวาติฏฺนฺตีติ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ านํ โหตีติ. ‘‘อุภยตฺถปี’’ติ มายาการาทิ มหาภูเตสุ จ ปถวิยาทิมหาภูเตสุ จ. ‘‘อภูตานี’’ติ อสนฺตานิ, อสจฺจานิ ¶ .‘‘อพฺภุตานี’’ติ อจฺฉริยกมฺมานิ. ‘‘อิมสฺมึ ปาเ’’ติ จตุนฺนํ มหาภูตานนฺติ เอวํ สมฺพนฺธ ปทสหิเต ปาเ. อฺตฺถ ปน อุปาทารูปํ อนุปาทารูปนฺติอาทีสุ ยการ วิรโห ทิฏฺโติ อธิปฺปาโย. ธาตูนํ อเนกตฺถตฺตา ‘‘ปถยติ ปกฺขายตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปุถู’’ติ ปาฏิปทิกปทํ. ตเมว ชาตตฺเถ นิรุตฺตินเยน ปถวีติ สิทฺธนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุถุมหนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปกาเรน ถวียตีติ อตฺเถ ปถวีติ อิทํ อุชุกเมว. ‘‘อาเปตี’’ติ พฺยาเปติ. ‘‘อปฺปายตี’’ติ ภุสํ ปายติ, วฑฺเฒติ. เตนาห ‘‘สุฏฺุ พฺรูเหตี’’ติอาทึ. นิสานตฺถวเสเนว ปริปาจนตฺโถปิ ลพฺภตีติ อาห ‘‘ปริปาเจติวา’’ติ. ‘‘สมีเรตี’’ติ สุฏฺุ อีเรติ กมฺเปติ. วายติ วหตีติ วาโย อตฺถาติสฺสย นเยน. ‘‘วิตฺถมฺภนํ’’ติ วิวิเธน อากาเรน ภูตสงฺฆาฏานํ ถมฺภนํ วหนํ อภินีหรณํ. กกฺขฬตา นาม ขรตา ผรุสตา. สหชาตรูปานํ ปติฏฺานตฺถาย ถทฺธตา ถูลตา. สา เสสภูเตสุ นตฺถีติ อาห ‘‘เสสภูตตฺตยํ อุปาทายา’’ติ. ‘‘อนวฏฺานตา’’ติ เอตฺถ อวฏฺานํ นาม อจลฏฺานํ. น อวฏฺานนฺติ อนวฏฺานํ. จลนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘มุทุภูตาปี’’ติอาทึ. อาพนฺธกํ นาม อาพนฺธิตพฺเพ วตฺถุมฺหิ มุทุมฺหิ สติ, ทฬฺหํ น พนฺธติ. ถทฺเธสติ, ทฬฺหํ พนฺธตีติ อิทํ โลกโตว สิทฺธนฺติ อาห ‘‘อาพนฺธิตพฺพายา’’ติอาทึ. ‘‘ตพฺภาวํ’’ติ ปริณตภาวํ. ‘‘ปริปาจกตา ทสฺสนโต’’ติ เหมนฺเต อชฺโฌหฏาหารานํ สุฏฺุปริปาจกตา ทสฺสนโตติ วทนฺติ. อุสติ ทหตีติ อุณฺหํ. ‘‘ทหตี’’ติ จ อุณฺหเตโชปิ อุณฺหภาเวน ทหติ, สีตเตโชปิ สีตภาเวน ทหติ. อุณฺเหน ผุฏฺํ วตฺถุ อุณฺหตฺตํ คจฺฉติ, สีเตน ผุฏฺํ วตฺถุ สีตตฺตํ คจฺฉติ. ยฺจ อุณฺหตฺตํ คจฺฉติ, ตํ อุณฺหเตโช อุณฺหภาเวน ทหตินาม. ยฺจ สีตตฺตํ คจฺฉติ, ตํ สีตเตโช สีตภาเวน ทหตินาม. เอวํ สีตเตโชปิ อุสติทหตีติ อตฺเถน อุณฺหตฺต ลกฺขโณนาม โหตีติ. เอวํสนฺเต นีเลนวณฺเณน ผุฏฺํ วตฺถุ นีลํ โหติ. ปีเตน ผุฏฺํ ปีตํ โหติ. นีลํปิ ปีตํปิ ตํ วตฺถุํ ทหตินามาติ เจ. นีเลน วณฺเณน ผุฏฺํนาม นตฺถิ. ตถา ปีเตน ¶ . กสฺมา, นีลาทีนํ อุปาทารูปานํ ผุสน กิจฺจา ภาวโต. สมฺมิสฺสิตํ นาม โหติ. น จ สมฺมิสฺสนมตฺเตน ทหติ. ผุสนฺโต เอว ทหติ. ผุสนฺตานํปิ ปถวิวาตานํ ทหนกิจฺจํ นตฺถิ. ปริปาจนกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. สเจ ฆนถทฺเธ สิลาถมฺเภ วิตฺถมฺภนํ อตฺถิ, สกโล สิลาถมฺโภ กปฺปาสปิจุคุฬฺโหวิย สิถิโล จ ลหุโก จ ภเวยฺย. นจ ภวติ. ตสฺมา ตตฺถ วิตฺถมฺภนํ นตฺถีติ อธิปฺปาเยน ‘‘โส ปน ฆนถทฺเธสุ สิลาถมฺภาทีสุ น ลพฺภตี’’ติ โจเทติ. ตตฺถ ปน วิตฺถมฺภนํ ลพฺภมานํ อธิมตฺเตน น ลพฺภติ, สหชาตภูตานํ อุปตฺถมฺภนมตฺเตน ลพฺภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นา’’ติ วตฺวา ‘‘ตตฺถหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘วหตี’’ติ ถทฺธกกฺขฬ กิจฺจํ วหติ.
ปสาทรูเปสุ. ‘‘สมวิสมํ’’ติ สมฏฺานฺจ วิสมฏฺานฺจ, สมเทสฺจ วิสมเทสฺจ, สมปถฺจ วิสมปถฺจาติ เอวมาทึ สมวิสมํ. ‘‘อาจิกฺขตี’’ติ อาจิกฺขนฺตํ วิย ตํ ชานน กิจฺจํ สมฺปาเทติ. เตนาห ‘‘สมวิสมชานนสฺส ตํ มูลกตฺตา’’ติ. ‘‘อนิรากรณโต’’ติ อปฺปฏิกฺขิปนโต. ‘‘ตํ วา’’ติ รูปํ วา. สุณนฺติ ชนา. สุยฺยนฺติ ชเนหิ. เอวํ ฆายนฺตีติอาทีสุ. ‘‘ชีวิต นิมิตฺตํ’’ติ ชีวิตปฺปวตฺติการณภูโต. ‘‘นินฺนตายา’’ติ วิสยวิสยีภาวูปคมเนน นินฺนตาย. ‘‘ชีวิตวุตฺติ สมฺปาทกตฺตา’’ติ นานาวจีเภทวจีกมฺมปฺปวตฺตเนนาติ อธิปฺปาโย. อิเม ปน ปฺจ จกฺขุ ปสาทาทโยติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ทฏฺุกามตา’’ติ รูปตณฺหา วุจฺจติ. อาทิสทฺเทน โสตุกามตา ฆายิตุกามตา สายิตุกามตา ผุสิตุกามตาโย สงฺคยฺหนฺติ. อตฺถโต สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺพฺพตณฺหา เอว. ‘‘นิทานํ’’ติ การณํ. ทฏฺุกามตาทโย นิทาน มสฺสาติ วิคฺคโห. กุสลา กุสลกมฺมํ. สมุฏฺาติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ. กมฺมเมว. ทฏฺุกามตาทินิทานกมฺมํ สมุฏฺานํ เยสนฺติ สมาโส. ปถวิอาทีนิ ภูตานิ. เตสํ ปสาโท ลกฺขณํ เอเตสนฺติ วิคฺคโห. ทุตีย วิกปฺเป. รูปาทีนํ ปฺจารมฺมณานํ อภิฆาตํ อรหตีติ รูปาทิอภิฆาตารโห. ภูตานํ ปสาโท ภูตปฺปสาโท. โส ลกฺขณํ เอเตสนฺติ วิคฺคโห. จกฺขุ อูกาสิรปฺปมาเณ ทิฏฺ มณฺฑเล ¶ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ทิฏฺมณฺฑเล’’ติ มหาชเนหิ ปกติ จกฺขุนา ทิฏฺเ ปสนฺนมณฺฑเล. เตลํ สตฺตปิจุปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ติฏฺติวิยาติ โยชนา. ‘‘โสตพิลํ’’ นาม โสตกูโป. ‘‘องฺคุลิเวนา’’ นาม องฺคุลิมุทฺทิกา. ‘‘อุปจิตตนุตมฺพโลมํ’’ติ ราสีกตฺจ วิรฬฺจ ตมฺพโลหวณฺณฺจ สุขุมโลมํ. อุปจิตํ ราสีกตํ ตนุตมฺพโลมํ เอตฺถาติ วิคฺคโห. ‘‘อชปทสณฺานํ’’ติ อชสฺส ปาเทน อกฺกนฺตปทสณฺานวนฺตํ. ‘‘อุปฺปลทลํ’’ นาม อุปฺปลปณฺณํ. อุปฺปลทลสฺส อคฺคสณฺานวนฺตํ. ‘‘วฏฺฏิ’’ นาม อิธ มนุสฺสานํ สรีราการสณฺิตา อายตปิณฺฑิ. ‘‘สุกฺขจมฺมานิ จ เปตฺวา’’ติ สมฺพนฺโธ. เต ปน ปฺจปฺปสาทา. สมุทีรณํ จฺจลนํ. ‘‘ยถาตํ’’ติ กตมํ วิย ตํ. อิเม ปสาทา วิจิตฺตา, กถํวิจิตฺตาติ อาห ‘‘อฺมฺํ อสทิสา’’ติ. กถํ อสทิสาติ อาห ‘‘เตหี’’ติอาทึ.
โคจรรูเปสุ. ‘‘วณฺณวิเสสํ’’ติ วณฺณวิเสสตฺถํ. วณฺณวิการนฺติ วุตฺตํ โหติ. หทเย คโต ปวตฺโต ภาโว หทยงฺคตภาโว. ‘‘ภาโว’’ติ จ อธิปฺปาโย วุจฺจติ. ตํ ปกาเสติ, มุเข วณฺณวิการํ ทิสฺวา อยํ เม ตุสฺสติ, อยํ เม รุจฺจติ, อยํ เม กุปฺปติ, อยํ โสมนสฺสิโต, อยํ โทมนสฺสิโตติ เอวํ ชานนปจฺจยตฺตา. ‘‘ปกติยา ปี’’ติ วณฺณวิเสสํ อนาปชฺชิตฺวาปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยํ กิฺจิทพฺพํ’’ติ สวิฺาณกวตฺถุํ. สมวิสมํ ปุพฺเพ ปกาสิตํ. ตํ ตํ อตฺถํ วา อาจิกฺขติ ตํ สุตฺวา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ชานนโต. อตฺตโน วตฺถุํ วา อาจิกฺขติ ตํ สุตฺวา ตสฺส วตฺถุสฺสปิ ชานนโต. ‘‘อตฺตโน วตฺถุํ สูเจตี’’ติ อิธ อิทํ นาม อตฺถีติ ปกาเสติ. ‘‘ผุสียตี’’ติ ผุสิตฺวา วิชานียติ. ‘‘ตํ’’ติ ผุสนํ. ‘‘ตสฺสา’’ติ อาโปธาตุยา. ‘‘ทฺรวตาวา’’ติ อทฺทตินฺตรสตาวา. ผุสิตฺวา คยฺหติ, สา จ อาโปธาตุ สิยาติ โจเทติ. วุจฺจเต ปริหาโร. เอวํ ปน น ลพฺภติ, ตสฺมา สา เตโชเยว. น อาโปติ. เอตฺถ เอวํ อลพฺภมานาปิ สาสีตตา อาโปเยว, น เตโช. กสฺมา, อาปสฺสปิ สีตุณฺหวเสน ทุวิธตา สมฺภวโต ¶ . ตสฺมิฺหิ โลหรเส อุณฺหตา อุณฺหอาโป, สีตวตฺถูสุ สีตตา สีตอาโปติ เจ. เอวํ ปน สติ เตโช นาม นตฺถีติ อาปชฺชตีติ ปริหาโร. ‘‘สห อปฺปวตฺตนโต’’ติ เอกโต อปฺปวตฺตนโต. ‘‘โอรปารานํ วิยา’’ติ นทิยํ ตีรํ นาม อิทํ โอริมตีรํ, อิทํ ปาริมนฺติ นิยมโต นตฺถิ. ยตฺถ สยํ ติฏฺติ, ตํ โอริมนฺติ, อิตรํ ปาริมนฺติ โวหรติ. เอวํ โอรปารานํ อนวฏฺานํ โหตีติ. เอตฺถ จ ‘‘สีตุณฺหานํ สห อปฺปวตฺตนโต’’ติ เอเตน ยทิ เต สห ปวตฺเตยฺยุํ. ตตฺถ สีตตา อาโปนาม, อุณฺหตา เตโชนามาติ วตฺตพฺพา สิยุํ. น ปน เต สห ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตถา น วตฺตพฺพา โหนฺตีติ ทสฺเสติ. น น วตฺตพฺพา. กสฺมา, อุณฺหเตเชน ยุตฺโตหิ อาโป อุณฺหตฺตเมว คจฺฉติ. ยถาตํ อุณฺหเตเชน ยุตฺตา ปถวีปิ วาโยปิ อุณฺหตฺตเมว คจฺฉนฺตีติ. ตสฺมา เต สห น ปวตฺตนฺติ. สห อปฺปวตฺเตสุปิ เตสุ อฺตฺถ สีตวตฺถูสุ สีตตา อาโปนามาติ วตฺตพฺพเมว โหตีติ โจทนา. เอวํสนฺเต ตสฺมึ โลหรเส สพฺเพปิ รูปธมฺมา อุณฺหตฺตํ คจฺฉนฺตีติ สพฺเพปิ เตโชภาวํ ปาปุณนฺติ. ‘อุณฺหตฺต ลกฺขโณ เตโช’ติหิ วุตฺตํ. ยทิ จ สีตวตฺถูสุ สีตภาโว นาม สิยา. ตตฺถปิ เตน ยุตฺตา สพฺเพปิ รูปธมฺมา สีตตํ คจฺฉนฺติเยว. ตตฺถปิ ตวมติยา สพฺเพปิ อาโปภาวํ ปาปุณนฺติ. น ปน สกฺกา ตถา ภวิตุํ. น หิ เอวรูปํ ลกฺขณฺถตฺตํ นาม เตสํ อตฺถิ. ภาวฺถตฺตเมว อตฺถิ. ตตฺถ ‘‘ลกฺขณฺถตฺตํ’’ นาม ปถวี อาโปภาวํ คจฺฉติ. อาโป ปถวิภาวํ คจฺฉตีติอาทิ. ‘‘ภาวฺถตฺตํ’’ นาม ปถวี กทาจิ กกฺขฬา โหติ. กทาจิ มุทุกา. อาโป กทาจิ อาพนฺธนมตฺโต โหติ. กทาจิ ปคฺฆรณโก. เตโช กทาจิ อุณฺโห, กทาจิ สีโต. วาโย กทาจิ วิตฺถมฺภนมตฺโต, กทาจิ สมุทีรโณติ. เอวํ เอกเมกสฺสา ธาตุยา ติกฺข มนฺท โอมตฺตาธิมตฺตวเสน กฺริยาสงฺกนฺติ นาม อตฺถีติ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ ‘อุณฺหเตเชน ยุตฺโตหิ อาโป อุณฺหตฺตเมว คจฺฉติ, ยถา ตํ อุณฺหเตเชน ยุตฺตา ปถวีปิ วาโยปิ อุณฺหตฺตเมว คจฺฉนฺตี’ติ. ตํ ลกฺขณฺถตฺตวจนํ โหติ. น ยุชฺชติ. น หิ อุณฺหเตเชน ยุตฺตา สพฺเพเตธมฺมา ¶ อุณฺหตฺตํ คจฺฉนฺติ. อตฺตโน อตฺตโน สภาวํ น วิชหนฺติ. ตถาหิ ตสฺมึ ปกฺกุถิเต สนฺตตฺเต โลหรเส ภาโว อุณฺหตฺตํ น คจฺฉติ. อาพนฺธน สภาวํ วา ปคฺฆรณ สภาวํ วา น วิชหติ. ยทิ อุณฺหตฺตํ คจฺเฉยฺย, ตํ สภาวํ วิชเหยฺย. เอวํสติ, ตสฺมึ โลหรเส อาพนฺธนากาโร วา ปคฺฆรณากาโร วา น ปฺาเยยฺย. สพฺเพรูป ธมฺมา วิกฺกิเรยฺยุํ. วิกฺกิริตฺวา อนฺตรธาเรยฺยุํ. น จ น ปฺายติ. นาปิ วิกฺกิรนฺติ. โนจ ตตฺถ อาพนฺธนากาโร อุณฺหตฺตํ คจฺฉติ. อฺโหิ อาพนฺธนากาโร, อฺํ อุณฺหตฺตํ. อาพนฺธนากาโร อาโป, อุณฺหตฺตํ เตโช. ตตฺถ ปถวิวาเยสุปิ เอเสวนโย. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ ‘‘ยทิ เต สห ปวตฺเตยฺยุํ. ตตฺถ สีตตา อาโปนาม, อุณฺหตา เตโช นามาติ วตฺตพฺพา สิยุํ. น ปน เต สห ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา ตถา น วตฺตพฺพา โหนฺตีติ ทสฺเสตี’’ติ. ตํ สุวุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เตสํ อนวฏฺานโต’’ติ เอเตน สเจ เต สีตุณฺหา อวฏฺิตา สิยุํ. อถ สพฺพกาเลปิ สีตตา อาโปนาม, อุณฺหตา เตโชนามาติ วตฺตพฺพา สิยุํ. น ปน เต อวฏฺิตา โหนฺติ. อนวฏฺิตา เอว โหนฺติ. ตสฺมา ตถา น วตฺตพฺพา โหนฺตีติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ อนวฏฺิเตสุ สนฺเตสุ ยทิ สีตตา อาโป นาม, อุณฺหตา เตโชนามาติ วเทยฺยุํ. เอวฺจสติ, อาปเตชาปิ อนวฏฺิตา สิยุํ. โย อิทานิ อาโป, โสเยว ขณนฺตเร เตโช นาม. โย วา อิทานิ เตโช, โสเยว ขณนฺตเร อาโป นามาติ อาปชฺเชยฺยุํ. น จ สกฺกา ตถา ภวิตุํ. ลกฺขณฺถตฺเต อสนฺเต โวหารฺถตฺตสฺสปิ อสมฺภวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘โอรปารานํ วิย เตสํ อนวฏฺานโต จ วิฺายตี’’ติ. ตตฺถ ‘‘วิฺายตี’’ติ สาสีตตา เตโชเยว, น อาโปติ วิฺายตีติ.
‘‘อถ ปนา’’ติอาทีสุ. ยํ ปุพฺเพ ปเรน วุตฺตํ ‘นนุ ทฺรวตา วา ผุสิตฺวา คยฺหตี’ติ. ตํ วิจาเรตุํ ‘‘อถ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อถ ปนา’’ติ ยทิ ปน คยฺหติ, เอวํสตีติ จ. เอวฺจสติ อารมฺมณ ภูโต เอว สิยาติ สมฺพนฺโธ. อยํ ปเนตฺถา ธิปฺปาโย. สเจ ทฺรวภาวภูโต อาโป ผุสิตฺวา คยฺเหยฺย. เอวํ สติ ¶ , อโยปิณฺฑาทีสุ อาพนฺธนมตฺตภูโต อาโปปิ ผุสิตฺวา คเหตพฺโพ สิยา. กสฺมา, อาปภาเวน เอกตฺตา. เอวฺจสติ, เตสุ อโยปิณฺฑาทีสุ โส อาโป ตานิ หตฺเถน วา ปาเทน วา ผุสนฺตสฺส ปหรนฺตสฺส วินา อิตร มหาภูเตหิ วิสุํ กายิก สุขทุกฺขานํ อารมฺมณ ปจฺจโย สิยา. ยถาตํ, เตสฺเวว อโยปิณฺฑาทีสุ ปถวิมหาภูตํ วินา อิตรมหาภูเตหิ วิสุํ กายิกสุขทุกฺขานํ อารมฺมณ ปจฺจโย โหติ. เอวํ เตโชวาเยสุปีติ. น ปน โส วิสุํ กายิกสุขทุกฺขานํ อารมฺมณ ปจฺจโย โหติ. ตสฺมา โส โผฏฺพฺพ สภาโว น โหติ. ยถา จ โส โผฏฺพฺพสภาโว น โหติ. ตถา ปกติ อุทกาทีสุ ทฺรวภาวภูโตปิ อาโป ตานิ ผุสนฺตสฺส ปหรนฺตสฺส กายิกสุขทุกฺขานํ อารมฺมณ ปจฺจโย น โหติ. น จ โผฏฺพฺพ สภาโวติ. เอวฺจสติ, กถํ อโยปิณฺฑาทีสุ อาพนฺธนมตฺตภูโต อาโป กายิกสุขทุกฺขานํ ปจฺจโย น โหติ. กถฺจ เตสุ อิตรมหาภูตานิ วิสุํ วิสุํ กายิกสุขทุกฺขานํ ปจฺจยา โหนฺตีติ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สณฺหถทฺธตาวเสนวา’’ติ เตสุ ิตาย ปถวิธาตุยา สณฺหถทฺธตาวเสน วา. สณฺหปถวีสุขเวทนาย ถทฺธปถวีทุกฺขเวทนาย อารมฺมณ ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสเสสุ. ‘‘อพฺภนฺตรตฺถมฺภนสฺสา’’ติ เตสํ อโยปิณฺฑาทีนํ อพฺภนฺตเร ิตสฺส วิตฺถมฺภน สภาวสฺส. ‘‘โน อฺถา’’ติ ตานิตีณิ การณานิ เปตฺวา อาพนฺธน กฺริยํ ปฏิจฺจ กายิกสุขทุกฺขุปฺปตฺติ นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ปกติ อุทกาทีสุ ทฺรวภาวภูตํ อาโปธาตุมฺปิ ผุสิตฺวา ชานนฺตีติ มหาชนา มฺนฺติ. ตพฺพิโสธเนน สห ลทฺธคุณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ปถมํ ทฺรวตา สหิตานิ. ล. ชานนฺตี’’ติ อิทํ ปธาน วจนํ. โลเก หตฺเถน ปรามสิตฺวา วา จกฺขุนา ทิสฺวา วา อิทํ รสฺสํ, อิทํ ทีฆํ, อิทํ วฏฺฏํ, อิทํ มณฺฑลนฺติอาทินา สณฺานํ ชานนฺตา หตฺถ ผุสเนน วา จกฺขุ ทสฺสเนน วา สเหว ตํ ชานนฺตีติ มฺนฺติ. ตตฺถ ปน ปุริมภาเค กายทฺวารวีถิ จิตฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนานิ ตีณิภูตานิ ผุสิตฺวา วา จกฺขุทฺวาร วีถิจิตฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ รูปํ ทิสฺวา วา ปจฺฉา วตฺถุคฺคหณวีถิยา อุปฺปนฺนาย เอว สณฺานํ ชานนฺติ. เอเสวนโย รตฺติยํ อลาตจกฺกสณฺานํ ชานนฺตสฺสปิ. ตตฺถ ปน พหูนิปิ ปุพฺพาปรวีถิจิตฺตสนฺตานานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. ตถา โลเก จกฺขุนา ทิสฺวา ทฺวารวาตปานาทีนํ ฉิทฺทวิวรานิ ชานนฺตา จกฺขุนา ทสฺสเนน สเหว ตานิ ชานนฺตีติ มฺนฺติ. ตตฺถ ปน ปุริมภาเค จกฺขุทฺวาริกวีถิ จิตฺเตน ปจฺจุปฺปนฺนานิ กวาฏรูปภิตฺติ รูปานิ ปุนปฺปุนํ ทิสฺวา ปจฺฉา อลาตจกฺกสฺส มชฺเฌ วิวรํปิ ชานนฺตา วิย วิสุํ อุปฺปนฺนาย มโนทฺวาริก วิฺาณวีถิยา เอว ตํ ฉิทฺทวิวรภูตํ อากาสํ ชานนฺติ. ตถา หตฺเถน อุทกํ ผุสนฺตสฺส ปถมํ ทฺรวสหิตานิ วิลีนานิ มุทูนิ ตีณิโผฏฺพฺพ มหาภูตานิ วิสุํ วิสุํ กายทฺวาริก วีถิ จิตฺเตหิ ผุสนกิจฺเจน อารมฺมณํ กริตฺวา ปจฺฉา วิสุํ สุทฺธาย มโนทฺวาริก วีถิยา เอว ทฺรวภาวสงฺขาตํ ปคฺฆรณก อาโปธาตุํ ชานนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ ตํ ทฺรวภาวํปิ หตฺเถน ผุสเนน สเหว ชานนฺตีติ มฺนฺตีติ อธิปฺปาโย.
คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ อาห ‘‘คุนฺนํ จรณฏฺานํ’’ติ. อกฺขร วิทู ปน โคสทฺทํ อินฺทฺริยตฺเถปิ อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘โคติ วา’’ติอาทึ. ตานิ จกฺขาทีนิ เอเตสุ รูปาทีสุ จรนฺติ, เอตานิ วา รูปาทีนิ เตสุ จกฺขาทีสุ จรนฺติ. ตตฺถ ปุริเมน คาโว อินฺทฺริยานิ จรนฺติ เอเตสูติ โคจรานีติ ทสฺเสติ. ปจฺฉิเมน โคสุอินฺทฺริเยสุ จรนฺตีติ โคจรานีติ. อิมานิ ปน ปฺจ รูปาทีนิ.
ภาวทฺวเย. อิจฺฉนฏฺเน านฏฺเน ปนฏฺเน จ อิตฺถี. สาหิกามรติ อตฺถาย สยํปิ อฺํกามิกํ อิจฺฉติ. สยฺจ กามิเกน อิจฺฉียติ. อฺโ จ กามิโก ฆราวาส สุขตฺถาย ตตฺถ านํ อุเปติ, ปติฏฺาติ. อายติฺจ กุลวํสปฺปติฏฺานตฺถาย ตตฺถ กุลวํส พีชํ เปตีติ. ปูรณฏฺเน อิจฺฉนฏฺเน จ ปุริโส. โสหิ อตฺตหิตฺจ ปูเรติ, ปรหิตฺจ อิจฺฉติ. อิธโลกหิตฺจ ปูเรติ, ปรโลกหิตฺจ อิจฺฉติ. อุภยโลกหิตฺจ ปูเรติ, โลกุตฺตรหิตฺจ อิจฺฉติ, เอสติ, คเวสตีติ. ปุมสฺสสกํ ปุํสกํ. ปุริสลิงฺคาทิ. นตฺถิ ปุํสกํ เอตสฺสาติ นปุํสกํ. ‘‘ยสฺส ปน ธมฺมสฺสา’’ติ ภาวรูปธมฺมสฺส. ‘‘ตํ’’ติ ขนฺธปฺจกํ. มหาสณฺานํ ¶ สตฺตานํ ชาติเภทํ ลิงฺเคติ าเปตีติ ลิงฺคํ. ลกฺขณปากา นิมินนฺติ สฺชานนฺติ กลฺยาณ ปาปกํ กมฺมวิปากํ เอเตนาติ นิมิตฺตํ. กิริยา กุตฺตํ. อายุกนฺตํ กปฺปียติ สงฺขรียตีติ อากปฺโป. สพฺเพเปเตลิงฺคาทโย. โสจ อวิสทาทิภาโว. ‘‘วจเนสุจา’’ติ อิตฺถิสทฺทปุริสสทฺทาทีสุ จ. ‘‘วจนตฺเถสุ จา’’ติ อิตฺถิ สณฺาน ปุริสสณฺานาทิ อตฺเถสุ จ. ‘‘นิมิตฺตสทฺโท วิยา’’ติ นิมิตฺต สทฺโท องฺคชาเต ปากโฏ วิยาติ. น ปากโฏ ทิฏฺโ. อปากโฏ ปน กตฺถจิ ทิฏฺโติ อธิปฺปาโย. ‘‘ภวนฺติ สทฺทพุทฺธิโย’’ติ สทฺทสตฺถนโย. ‘‘ภวนฺติ ลิงฺคาทีนี’’ติ อฏฺกถานโย. ตตฺถ หิ อิตฺถิลิงฺคาทีนํ เหตุภาว ลกฺขณนฺติ วุตฺตํ. ‘‘เอตสฺมึ สตี’’ติ จ ชาติยา สติ, ชรามรณํ โหติ. อสติ น โหตีติ เอตฺถวิย เหตุ ผลภาวปากฏตฺถํ วุตฺตํ.
วตฺถุรูเป. นิรุตฺตินเยน วจนตฺถา ภวนฺติ. ธาตุ ทฺวยํ นาม มโนธาตุ มโนวิฺาณธาตุ ทฺวยํ. ‘‘อวตฺวา’’ติ หทย วตฺถุํ อวตฺวา. ‘‘ตํ’’ติ หทย วตฺถุ รูปํ. ‘‘ปฺจา’’ติ ปฺจวตฺถูนิ. ‘‘เตสํ’’ติ เตสํ กุสลาทีนํ. ‘‘ตตฺถ วุตฺตํ’’ติ ปฏฺาเน วุตฺตํ. ‘‘ยํ รูปํ นิสฺสายา’’ติ ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺตีติ อิมํ ปาํ นิทฺทิสติ. ‘‘อนฺ สาธารเณสุ าเนสู’’ติ จกฺขุ วตฺถาทีหิ อฺวตฺถูหิ อสาธารเณสุ กุสลากุสลฏฺาเนสุ.
ชีวิตรูเป. ‘‘อาธิปฺปจฺจโยเคนา’’ติ อธิปติภาวโยเคน. ‘‘อธิปติภาโว’’ติ จ อินฺทฺริยปจฺจย กิจฺจํ วุจฺจติ. น อธิปติ ปจฺจยกิจฺจํ. ‘‘ชีวนฺตี’’ติ หริตภาวํ น วิชหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. น หิ ตานิ เอกนฺเตน ชีวนฺตานิ นาม โหนฺติ. ชีวิต รูปสฺส เอกนฺต กมฺมชสฺส พหิทฺธา อนุปลทฺธตฺตา. กมฺมชรูปานิ ชีวนฺติ เยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กมฺเม อสนฺเตปี’’ติ กมฺมเจตนาย ปุพฺเพ นิรุทฺธตฺตา วุตฺตํ. ตทตฺถํ พฺยติเรกโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘ตถาหี’’ติอาทิมาห. ‘‘อิตร รูปานี’’ติ จิตฺตชรูปาทีนิ. เอกวีถิวาโร นาม ปฺจทฺวารวีถิวาโร. มโนทฺวารวีถิวาโร เอกชวน วาโรติ ¶ วุตฺโต. ปริจฺฉินฺนํ โหติ. กสฺมา, เอเกกสฺมึ วีถิวาเร นิรุทฺเธ ภวงฺค สมเย อสทิสสฺส รูปสนฺตานสฺส ปาตุพฺภาวโตติ อธิปฺปาโย. ตฺจ โข รูปวิเสสํ ชานนฺตสฺเสว ปากฏํ โหติ. อชานนฺตสฺส ปน ตงฺขณมตฺเต อปากฏํ. กสฺมา, ตาทิสสฺสปิ อุตุชรูปสนฺตานสฺส โถกํ ปวตฺตนโต. ยสฺสหิ โทส สมุฏฺิเตน รูปสนฺตาเนน มุขรูปํ ทุพฺพณฺณํ โหติ. ตสฺส โทเส นิรุทฺเธปิ ตํ รูปํ โถกํ ทุพฺพณฺณเมว ขายตีติ. ‘‘อุตุชาหารชานฺจ สนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ’’ติ อธิกาโร. เอกํ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนเมว โหตีติ วุตฺตํ. น นุ จกฺขุโสตาทีนิ กมฺมชรูปสนฺตานานิปิ ปวตฺติกาเล กทาจิ สุปฺปสนฺนานิ, กทาจิ ปสนฺนานิ, กทาจิ อปฺปสนฺนานิ ทิสฺสนฺตีติ. สจฺจํ, ตถา ปวตฺติ ปน สนฺตาน วิจฺเฉเทน น โหติ, นานาวิจฺฉินฺเน จ เอเกกสฺมึ สนฺตาเน เตสํ ปุนฆฏนํ นาม นตฺถิ. สกึ อนฺโธ อนฺโธเยว โหติ. พธิโรจ พธิโรเยวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยทิ เอวํ’’ติ เอวํ ยทิ สิยาติ อตฺโถ. ‘‘อรูป ธมฺมานํ สนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ’’ติ อธิกาโร. ‘‘วิปากานี’’ติ ภวงฺคภูตานิ วิปากานิ. เอกสนฺตติวเสน ปวตฺติสฺสนฺติเยว, ตสฺมา เตสํ นานาสนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม น วตฺตพฺพํ. กสฺมา, ยาวชีวมฺปิ เอก กมฺมนิพฺพตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ กุสลา กุสล กฺริยจิตฺตานิ ปน. ‘‘ตทารมฺมณา’’ติ นิรุทฺธารมฺมณา. อทฺธานปฺผรณานุภาเวน ปวตฺตนฺติเยว. น ปน จิตฺตชรูปาทีนิ วิย อตฺตโน ชนกปจฺจเย นิรุทฺเธ นิรุชฺฌนฺติ. อยํ อรูปธมฺมานํ ชีวนฺตตฺเต วิเสโสติ อธิปฺปาโย. ‘‘อยมตฺโถ วตฺตพฺโพ’’ติ อรูป ธมฺมานํ ชีวนฺตตาวิเสโส วตฺตพฺโพ. ยถา รูปสนฺตติยํ อนนฺตร ปจฺจโย นาม นตฺถิ. จุติกาเล ภวนฺตรรูปสนฺตานสฺส กิฺจิ ปจฺจยตฺตํ อนุปคนฺตฺวา นิรุชฺฌติ. เตน ภวนฺตร ปาตุพฺภาโว นาม เตสํ นตฺถิ. น ตถา อรูปสนฺตติยํ. ตตฺถ ปน จุติจิตฺตมฺปิ ปฏิสนฺธิยา อนนฺตร ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตน ภวนฺตรปาตุพฺภาโว นาม เตสํ อตฺถิ. อยมฺปิ อรูปธมฺมานํ ชีวนฺตตฺเต วิเสโส. ตสฺมา อรูปธมฺมานํปิ กมฺมชรูปานํ วิย นิจฺจํ ชีวิตโยเคน ชีวนฺตตฺตา สนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม น ภเวยฺยาติ น โจเทตพฺพนฺติ. กุสลา กุสล กฺริยจิตฺตานิ นาม ¶ อกมฺมชานิ โหนฺติ. จิตฺตชรูปาทีนิ วิย อตีตํ กมฺมํ อนเปกฺขิตฺวา ตงฺขณิเกหิ นานาปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา เตสํ ชีวนฺตานํปิ สตํ อชีวนฺตานํ จิตฺตชรูปาทีนํ วิย นานาสนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม อตฺถิ. ชีวนฺตตา วิเสโสปิ อตฺถีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ เกจิ วทนฺติ. รุกฺขาทีสุปิ ชีวิตํ นาม อตฺถิ. ยโต เตสํ หริตตา จ อหริตตา จ รูหนฺจ-อรูหนฺจ ทิสฺสตีติ. วุจฺจเต, ยทิ เตสํ ชีวิตํ นาม อตฺถิ, อรูปชีวิตํ วา สิยา, รูปชีวิตํ วา. ตตฺถ สเจ อรูปชีวิตํ โหติ. ยถา เตน สมนฺนาคโต สตฺโต ปุนปฺปุนํ มริตฺวา ปุนปฺปุนํ ภวนฺตเร ปาตุพฺภวนฺติ. ตถา รุกฺขาปิ มริตฺวา ภวนฺตเร ปาตุพฺภเวยฺยุํ. อถ รูปชีวิตํ สิยา. ยถา สตฺตานํ จกฺขาทิ องฺเคสุ ชีวิต สนฺตาเน ภินฺเน ตานิ องฺคานิ ปุน ชีวนฺตานิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. ตถา รุกฺขาปิ ขนฺเธสุ วา สาขาสุวา ฉินฺเนสุ ชีวิตสนฺตาเน ภินฺเน เตขนฺธาวา สาขาโย วา ปุน อฺตฺถ โรเปตุํ น สกฺกา ภเวยฺยุํ. สกฺกา เอว ภวนฺติ. ตสฺมา ตทุภยํปิ ชีวิตํ นาม เตสํ นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. วิภาวนิปาเ. น หิ เตสํ กมฺมํเยว ิติการณํ โหตีติ เอตฺถ กมฺมํ ิติการณํ เอว น โหตีติ โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘อาหารชาทีนํ’’ติอาทึ. เอกกลาเป คตา ปวตฺตา สหชาต ปจฺจยา, เตหิ อายตฺตา ปฏิพทฺธาติ วิคฺคโห. กมฺมาทีนํ รูปชนกปจฺจยานํ ชนกานุภาโว นาม รูปกลาปานํ อุปฺปาทกฺขเณ เอว ผรติ, น ิติกฺขเณ. อุปจยสนฺตติโย จ อุปฺปาทกฺขเณ ลพฺภนฺติ, น ิติกฺขเณ. ตสฺมา ตา ชนกปจฺจยานุภาวกฺขเณ ลทฺธตฺตา กุโตจิชาตนามํ ลภนฺติ. ชรตาปน ิติกฺขเณ เอว ลพฺภติ, น อุปฺปาทกฺขเณ. ตสฺมา สา กุโตจิชาต นามํ น ลภติ. ยทิ ปน อาหารชาทีนํ รูปธมฺมานํ ิติ นาม อาหาราทิ ชนกปจฺจยายตฺตา ภเวยฺย. ชรตาปิ ชนกปจฺจยานุภาวกฺขเณว ลพฺภมานา สิยา. เอวฺจสติ, สาปิ กุโตจิชาต นามํ ลเภยฺย. น ปน ลภติ. ตสฺมา เตสํ ิติ นาม ชนกปจฺจยายตฺตา น โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตรถา’’ติอาทิมาห. ‘‘อุปตฺถมฺภมานา’’ติ กลาปนฺตเร ตฺวา อุปตฺถมฺภมานา. ‘‘น ขณิติปฺปวตฺติยา’’ติ ขณิ ติภาเวน ¶ ปวตฺติอตฺถาย อุปตฺถมฺภนฺติ, อนุปาเลตีติ โยชนา. สพฺเพสํปิ รูปารูปธมฺมานํ. ‘‘ตํ’’ติ วิภาวนิวจนํ. ‘‘อิทํ ปนา’’ติ ชีวิตรูปํ ปน.
อาหารรูเป. ‘‘สวตฺถุกวจนํ’’ติ โภชนาทิ วตฺถุนา สห ปวตฺตตีติ สวตฺถุกํ. วจนํ. น หิ นิพฺพตฺติตํ อาหาร รูปํ นาม กพฬํ กาตุํ สกฺกา โหตีติ. ‘‘วิเวจิตานี’’ติ ปาจน กิจฺเจน วิภชิตานิ. วิสุํ วิสุํ กตานิ. ‘‘ปฺจธา วิภาคํ คจฺฉนฺตี’’ติ เอกํ ภาคํ ปาณกา ขาทนฺติ. เอกํ ภาคํ อุทรคฺคิ ฌาเปติ. เอโก ภาโค มุตฺตํ โหติ. เอโกภาโค กรีสํ. เอโกภาโค รสภาวํ อาปชฺชิตฺวา โสณิตมํสาทีนิ อุปพฺรูหยตีติ เอวํ วุตฺตนเยน ปฺจธา วิภาคํ คจฺฉนฺติ. ‘‘โลเก’’ติ โลกิย คนฺเถ. ‘‘ตโต’’ติ อามาสยโต. อนุผรนฺโต หุตฺวา. ‘‘ตสฺสา’’ติ รสภาคสฺส. ‘‘ภูเตสู’’ติ มหาภูเตสุ. สห อินฺทฺริเยน วตฺตตีติ เสนฺทฺริโย. กาโย. อุทยตีติ โอชา. ทการสฺส ชกาโร. อวติ ชเนตีติ โอชา. อวสทฺทสฺส โอกาโร. ‘‘อตฺตโนวตฺถุํ’’ติ อตฺตโนนิสฺสยภูตํ รูปกายํ.
‘‘อฺาปเทโส’’ นาม รูปสฺส ลหุตาติอาทีสุ อฺสฺส รูปสฺส กฺริยามตฺตภาเวน อปทิสนํ วุจฺจติ. ‘‘อุชุกโตว นิปฺผาทิตํ’’ติ มุขฺยโตว ชนิตํ. ยถาหิ สพฺพํ อนิปฺผนฺนรูปํ อชาติ ธมฺมตฺตา อุชุกโต กมฺมาทีหิ ชาตํ นาม น โหติ. กมฺมาทีหิ ชาตํ ปน นิปฺผนฺนรูปํ นิสฺสาย ทิสฺสมานตฺตา านูปจาเรน วิฺตฺติ ทฺวยํ จิตฺตชํติอาทินา วุจฺจติ. น ตถา อิทํ นิปฺผนฺนรูปํ. อิทํ ปน ชาติธมฺมตฺตา อุชุกโตว กมฺมาทีหิ ปจฺจเยหิ นิปฺผาทิตํ ชนิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘รูปํ’’ติ วุตฺเต อนิปฺผนฺนรูปํปิ ลพฺภตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ รูปรูปนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘รุปฺปนลกฺขณ สมฺปนฺนํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ’’ นาม สีตุณฺหาทีหิ วิการปตฺติลกฺขณํ. ตมฺปน อนิปฺผนฺน รูเป มุขฺยโต น ลพฺภติ. นิปฺผนฺนรูเป เอว ลพฺภติ. กสฺมา, นิปฺผนฺนรูปสฺสหิ นานาวิกาโร วิการรูปนฺติ วุจฺจติ. ลกฺขณํ ลกฺขณ รูปนฺติ วุจฺจติ. วิการสฺส ปน วิกาโร นาม นตฺถิ. ลกฺขณสฺส จ ลกฺขณํ ¶ นาม นตฺถิ. ยทิ อตฺถีติ วเทยฺย. วิการสฺส วิกาโร, ตสฺส จ วิกาโร, ตสฺส จ วิกาโรติ อปริยนฺตเมว สิยา. ตถา ลกฺขเณปีติ.
อากาสธาตุยํ. ‘‘ปกาสนฺตี’’ติ อิทํ เอกํ อิทํ เอกนฺติ ปฺายนฺติ. ‘‘ปริจฺฉินฺทตี’’ติ อาห ‘‘ปริโต’’ติอาทึ. ‘‘อสมฺมิสฺสํ’’ติ วตฺวา ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘เอกตฺตํ อนุปคมนํ’’ติ. ปริจฺฉินฺทียตีติ ปริจฺเฉโทติ อาห ‘‘เตหิ วา’’ติอาทึ. ‘‘เตหิ วา’’ติ กลาปนฺตรภูเตหิ วา. ‘‘อตฺตโน วา ปเรสํ วา อกตฺวา’’ติ อตฺตโนปกฺขิกํ วา ปเรสํ ปกฺขิกํ วา อกตฺวา. ปริจฺเฉท กฺริยามตฺตํ ปริจฺเฉโทติ อาห ‘‘เตสํ วา’’ติอาทึ. ‘‘เตสํ วา’’ติ กลาปนฺตรภูตานํ วา. ‘‘อยํ ปนา’’ติ อยํ ปริจฺเฉโท ปน. ‘‘ตสฺสา’’ติ ปริจฺเฉทสฺส. โส ปาฬิยํ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ เอวํ มนสิกตฺวา. ‘‘เอเตหี’’ติ เอเตหิ มหาภูเตหิ. ‘‘อฺมฺ อพฺยาปิตตา’’ติ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา รูปกลาปานํ เอกกลาปตฺตูปคมนํ อฺมฺ พฺยาปิตา นาม, ตถา อนุปคมนํ อฺมฺ อพฺยาปิตตา นาม. เตนาห ‘‘เอกตฺตํ’’ติอาทึ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ติสฺสํ ปาฬิยํ. ‘‘นานากลาปคตานํ ภูตานํ’’ติ เอเตน กลาปปริยนฺตตา เอว วุตฺตา โหติ.
วิฺตฺติ ทฺวเย. ‘‘สยฺจา’’ติ วิฺตฺติ สงฺขาตํ สยฺจ. ‘‘เตนา’’ติ จลมาเนน กายงฺเคน. ‘‘เตหี’’ติ ปจฺจกฺเข ิเตหิ ชเนหิ. ตตฺถาติอาทีสุ. ‘‘กายงฺควิการํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อภิกฺกมนาทิ อตฺถาย หตฺถปาทาทีนํ กายงฺคานํ จลน สงฺขาตํ วิการํ กโรนฺตสฺส. อุปฺปชฺชนฺตา จ สพฺเพเต จิตฺตชวาตกลาปา ยถาธิปฺเปต ทิสาภิมุขา เอว อุปฺปชฺชนฺตีติ โยชนา. ‘‘ยถา วา ตถา วา อนุปฺปชฺชิตฺวา’’ติ อนิยมโต อนุปฺปชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส โจปน กายสฺส. ‘‘เตหี’’ติ จิตฺตชวาตกลาเปหิ. นิยามโก นาวานิโยชโก. ‘‘เต จา’’ติ เตจิตฺตชวาตกลาปสงฺฆาฏา. เอเตน สกลํ กายงฺคํ นิทสฺเสติ. สกลกายงฺคํ นาวาสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘จาเรตฺวา’’ติ วิยูหิตฺวา. กถํ ปน สา นิยามกสทิสี โหตีติ อาห ¶ ‘‘ยถาหี’’ติอาทิ. ยเทตํ สกฺโกตีติ วจนํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กตีปยชวน วาเรหี’’ติ ทฺวตฺติ ชวนวาเรหิ. ‘‘ตโต’’ติ ยสฺมึ วาเร จลน สงฺขาตํ เทสนฺตร ปาปนํ ชายติ. ตโต จลนวารโต. สนฺถมฺภน สนฺธารณานิ เอว สมฺปชฺชนฺติ, น จลนสงฺขาตํ เทสนฺตร ปาปนํ. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอติสฺสํ อฏฺกถายํ. นานาชวนวีถีสุ. ล. อุปตฺถมฺภเน จ ยุชฺชติเยว. น เอกิสฺสาย ชวนวีถิยํ เอว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ นานาชวนวีถีสุ ตถา อุปตฺถมฺภนฺจ คยฺเหยฺย. เอวํสติ, อนฺตรนฺตรา พหู ภวงฺควาราปิ สนฺติ. ตตฺถ กถํ ตทุปตฺถมฺภนํ สมฺปชฺเชยฺยาติ อาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘อุตุชรูปสงฺฆาฏานิ ปี’’ติ ภวงฺคสมเย ปวตฺตานิ อุตุชรูปกลาปสนฺธานกานิ. ‘‘ตทาการ วนฺตานี’’ติ ตสฺสา จิตฺตชรูปสนฺตติยา อาการ วนฺตานิ. ปจฺฉิม ปจฺฉิมานํ รูปกลา ปสงฺฆาฏานํ อปราปรํ อุปฺปชฺชนนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุริมปุริมานํ รูปกลาปสงฺฆาฏานํ ขณิกธมฺมตา จ เตสํ น สิยา. น จ เต ขณิกธมฺมา น โหนฺติ. อฺถา เทสนฺตร สงฺกมนสงฺขาตํ จลนํ เอว น สิยา. จลนํ ติหิ นานากฺริยานํ ปาตุพฺภาโว วุจฺจติ. นานากฺริยา จ นาม นานาธมฺมา เอว. ยสฺมา จ องฺคปจฺจงฺคานํ ขเณขเณ จลนํ นาม โลเก ปจฺจกฺขโต ทิฏฺํ. ตสฺมา เตสํ ขณิกธมฺมตาปิ ทฏฺพฺพา โหตีติ. เอเตน เตสํ ขณิกมรณํ ทสฺเสติ, ยํ รูปารูปธมฺมานํ อนิจฺจลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. อพฺยาปาร ธมฺมตา จ อวสวตฺติตา จ เตสํ น สิยา. น จ เต อพฺยาปาร ธมฺมา, น อวสวตฺติ ธมฺมา จ น โหนฺติ. อฺถา ปจฺจยายตฺต วุตฺติตา เอว เตสํ น สิยา. ปจฺจยายตฺต วุตฺติตาติ จ ปจฺจเย สติ, เต วตฺตนฺติ, อสติ น วตฺตนฺตีติ เอวํ ปวตฺตา ปจฺจยายตฺต วุตฺติตา ยสฺมา จ ปจฺจยสามคฺคิยํ สติ, เต วตฺตนฺติเยว. เตสํ วตฺตนตฺถาย เกนจิพฺยาปาเรน กิจฺจํ นตฺถิ. เต มาวตฺตนฺตูติ จ อตฺตโน วเสน วตฺตนฺติ. ปจฺจเย อสติ, น วตฺตนฺติเยว. เตสํ อวตฺตนตฺถาย เกนจิพฺยาปาเรน กิจฺจํ นตฺถิ. เตมาวตฺตนฺตูติ จ อตฺตโน วเสนวตฺตนฺติ. ยสฺมา จ เตสํ ปจฺจยายตฺต วุตฺติตา นาม โลเก วิฺูนํ ปจฺจกฺขโตทิฏฺา. ตสฺมา เตสํ อพฺยาปารตา จ ¶ อวสวตฺติตา จ ทฏฺพฺพา โหติ. เอเตน เตสํ สพฺเพหิ สตฺตปุคฺคล อตฺตากาเรหิ สพฺพโส สฺุํ ทสฺเสติ, ยํ รูปารูปธมฺมานํ อนตฺตลกฺขณนฺติ วุจฺจตีติ.
‘‘วจีเภทํ’’ติ อกฺขร ปทภาวปตฺตํ วจีมยสทฺทปฺปการํ. อุปาทินฺนกปถวีธาตุโย นาม กมฺมช ปถวีธาตุโย. ตาสุ สงฺฆฏฺฏนนฺติ สมฺพนฺโธ. อตฺตนา สหชาเตนเยน อาการวิกาเรน อุปคจฺฉติ, เยน จ อุปลพฺภตีติ สมฺพนฺโธ. อชฺฌตฺต สนฺตานคตา สพฺเพ จตุชรูปธมฺมาปิ กตฺถจิ อุปาทินฺนกาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘จตุชภูตาย เอว วา’’ติ. ทฺวีสุาน กรเณสุ กรณปกฺเข จลนาการปฺปวตฺตา จิตฺตชปถวีธาตุ านปกฺเข ปถวิธาตุยํ สงฺฆฏฺฏยมานา กมฺมชปถวิยํ เอว ฆฏฺเฏติ. อิตร ปถวิยํ น ฆฏฺเฏตีติ น สกฺกา วตฺตุํติ กตฺวา อิธ เอวคฺคหณํ กตํ. ‘‘วิการ ทฺวยฺจา’’ติ กายวิการ วจีวิการ ทฺวยฺจ. กถํ ปน อสมฺมิสฺสํ กตฺวา เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอตฺถจา’’ติอาทึ. ยํ ปน ตาสํ ฆฏฺฏนปฺปการวิธานํ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตาสํ’’ จิตฺตชปถวีนํ. ‘‘ตํ ตํ วณฺณตฺตปตฺติยา’’ติ ก, ขา, ทิวณฺณตฺตปตฺตตฺถาย. ยํ ปน กายวิฺตฺติฏฺาเน ‘อยฺจ อตฺโถ อุปริ อกฺขรุปฺปตฺติ วิจารณายํ ปากโฏ ภวิสฺสตี’ติ วุตฺตํ. ตํ อิธ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. เตเนว หิ มูลฏีกายํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติ มูลฏีกาปาเ. ‘‘ปุพฺพภาเค’’ติ ปริพฺยตฺต อกฺขรปฺปวตฺตวีถิโต ปุพฺพภาเค. ‘‘นานาชวนวีถีหี’’ติ นานปฺปกาเรหิ ชวนวีถิวาเรหิ. ‘‘ปถมชวนจิตฺตสฺสปี’’ติ ปริพฺยตฺต อกฺขรปฺปวตฺติวีถิยํ อุปฺปนฺนปถมชวน จิตฺตสฺสปิ. ตสฺส อาเสวนฺจ นาม ตโต ปุริเมหิ วีถิวาเรหิ เอว ลทฺธํ สิยาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาเสวนํ’’ติ จ อุปจาร วจนํ ทฏฺพฺพนฺติ เหฏฺา วุตฺตเมว. ‘‘ตสฺสา’’ติ ปริพฺยตฺตกฺขรสฺส. วุตฺตฺจ สทฺทสตฺเถสุ. ‘‘ทีฆมุจฺจเร’’ติ ปฺจทีฆา วุจฺจนฺติ. มิถินฺท ปฺหาปาเ. ‘‘สาธิเก วีหิวาหสเต’’ติ วีหิธฺปูโร สกโฏ วีหิวาโห นาม. วีหิวาหานํ สาธิเก สตสฺมึ. อภิมฺนํ อภิมาโน. ‘‘เสสเมตฺถ กายวิฺตฺติยํ วุตฺตนเย นา’’ติ ¶ ตถาหิ จลนจิตฺตชรูปสนฺตติยํ ปวตฺตานีติอาทินา วุตฺต นเยนาติ อตฺโถ. อิธ ปน วจีเภทกร จิตฺตชสทฺทสนฺตติยํ ปวตฺตานิ อุตุชรูปสงฺฆาฏานีติอาทินา วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘ยถาสมฺภวํ’’ติ. ‘‘ปวตฺตนตฺโถ’’ติ อภิกฺกมนาทิ สชฺฌายนาทีนํ ปวตฺตาปนตฺโถ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘โพเธตุ กามตา รหิเตสู’’ติ อภิกฺกมนปฏิกฺกมนาทีสุ กายวิฺตฺติ จ, สุตฺตนฺต สชฺฌายนาทีสุ วจีวิฺตฺติ จ ปรํ โพเธตุกามตา รหิตาติ ทฏฺพฺพา. ‘‘ทฺวีสุ โพธกวิฺตฺตีสู’’ติ โพธกกายวิฺตฺติ โพธกวจี วิฺตฺตีสุ. ปุริมา กายวิฺตฺติ, ปจฺฉิมา จ วจีวิฺตฺติ. ปจฺฉา สุทฺเธน มโนทฺวาริก ชวเนน เอว วิฺายติ, น ปฺจทฺวาริก ชวเนนาติ โยชนา. จกฺขุวิฺาณ วีถิยา คเหตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กายวิฺาณ วีถิยา’’ติ วจีเภทํ อกตฺวา หตฺถคฺคหณาทิ วเสน อธิปฺปาย วิฺาปเน อยํ กายวิฺาณวีถิ ทฏฺพฺพา. กสฺมา ปน สยฺจวิฺายตีติ วิฺตฺตีติ อยํ วิกปฺโป วุตฺโตติ อาห ‘‘สาหิ อตฺตานํ’’ติอาทึ. ‘‘มชฺเฌ’’ติ วิฺตฺติคฺคหณวีถิ อธิปฺปายคฺคหณวีถินํ มชฺเฌ. กถํ ปวตฺตกวิฺตฺตีสุ อธิปฺปายํ วิฺาเปติ, สยฺจวิฺายตีติ ทฺเว อตฺถา ลพฺภนฺตีติ อาห ‘‘ทฺวีสุ ปนา’’ติอาทึ. อยํ อภิกฺกมติ, อยํ ปฏิกฺกมตีติ ชานนฺตา อภิกฺกมนปโยคฺจ ตปฺปโยค ชนกจิตฺตฺจ ชานนฺติ. ‘‘ปรสฺสกถํ’’ติ โพเธตุกามตารหิตมฺปิ ปรสฺสวจนสทฺทํ. ราคจิตฺตฺจ ชานนฺติ. เตน วุตฺตํ มูลฏีกายํ ปรํ โพเธตุกามตาย วินาปิ อภิกฺกมนาทิปฺปวตฺตเนน โสจิตฺตสหภุวิกาโร อธิปฺปายํ. ล. ทฺวิธาปิ วิฺตฺติ เยวาติ.
วิการรูเปสุ. ‘‘กมฺมโยคฺยํ’’ติ อภิกฺกมนาทิกมฺเมสุ โยเชตุํ ยุตฺตํ. อทนฺธตา วุจฺจติ สีฆปฺปวตฺติ. สา ลกฺขณํ อสฺสาติ วิคฺคโห. สรีร กฺริยานุกุโล กมฺมฺภาโว ลกฺขณํ ยสฺสาติ สมาโส. ‘‘ธาตุโย’’ติ มหาภูตธาตุโย วา, ปิตฺตเสมฺหาทิธาตุโย วา. ปูติมุขสปฺปสงฺขาตสฺส อาปสฺส ปริยุฏฺานนฺติ วากฺยํ. อสยฺหภาโร นาม วหิตุํ ¶ อสกฺกุเณยฺยภาโร. ‘‘สา ปวตฺตตี’’ติ กายลหุตา ปวตฺตติ. ถทฺธํ กโรนฺติ สรีรคตา ธาตุโยติ อธิกาโร. ภุสํ มาเรตีติ อามริโก. ทกาโร อาคโม. คามนิคมวิลุปฺปโก โจรคโณ. ตสฺส ภเยน ปริยุฏฺิตํ. ‘‘วิวฏฺฏมานํ’’ติ วิรูปํ หุตฺวา วฏฺฏนฺตํ. ‘‘มูลภูตา โหตี’’ติ อสปฺปาย เสวเน สติ, สา ปถมํ ปริยุฏฺาติ. สีตาธิกาวา โหติ, อุณฺหาธิกาวา. ตาย ปริยุฏฺิตาย เอว สพฺพปริยุฏฺานานิ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิมาปนติสฺโส รูปชาติโย รูปกายสฺส วิเสสาการา โหนฺติ. อิติ ตสฺมา วิการรูปํ นามาติ โยชนา.
ลกฺขณรูเปสุ. ‘‘จยนํ’’ติ สฺจิตภาวคมนํ. ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมฺหิ. ‘‘อุปริโต’’ติ อุปริภาเค. ‘‘อาจโย’’ติอาทิมฺหิ จโย. ‘‘อุปจโย’’ติ อุปรูปริจโย. ‘‘อทฺธานปูรณวเสนา’’ติ วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ทีฆกาลํ อตฺตภาวํ ปูรณวเสน. ‘‘เตน ปริยาเยนา’’ติ อุปสทฺทสฺส อตฺถนานตฺตํ อจินฺเตตฺวา นิพฺพตฺตึ วฑฺฒิยํ อนฺโตคธํ กตฺวา วุตฺเตน เตนปริยาเยน. ตสฺส จ เอเกกสฺส สนฺตติ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส. ตตฺถ จิตฺตชรูเปสุ อสฺสาส ปสฺสาสานํ วา ปทวารหตฺถวาราทีนํ วา อกฺขรานํ วา นิพฺพตฺติ วฑฺฒิ ปวตฺติโย ทิสฺสนฺติเยว. ตถา นานาจิตฺตสมุฏฺิตานํ นานารูปสนฺตตีนํ ปีติ. อุตุชรูเปสุ อิริยา ปถนานตฺตํ ปฏิจฺจ สุขทุกฺขชนกานํ นานารูปสนฺตตีนํ นิพฺพตฺติวฑฺฒิปวตฺติโย ทิสฺสนฺติเยว. ตถา พหิทฺธา ขาณุกณฺฏกาทิสมฺผสฺเสน สีตุณฺหาทิสมฺผสฺเสน วาตาตปาทิสมฺผสฺเสน วา สรีเร อุปฺปนฺนานํ นานารูปสนฺตตีนมฺปิ จกฺขุโรคาทิรูปานมฺปีติ. อาหารชรูเปสุ อาหารนานตฺตํ ปฏิจฺจ สรีเร อุปฺปนฺนานํ สมวิสมรูปสนฺตตีนํติ. ‘‘อยํ นโย’’ติ พหิทฺธาสนฺตาเน นิทสฺสน นโย. เตน อชฺฌตฺตสนฺตาเนปิ สตฺตสนฺตานานํ หตฺถปาทาทิสนฺตานานํ เกสโลมาทิ สนฺตานานฺจ นิพฺพตฺติ วฑฺฒิปวตฺติโย นิทสฺเสติ. ‘‘ชีรณํ’’ติ อภินวาวตฺถโต หายนํ. ปาฬิปาเ. ‘‘ิตสฺส อฺถตฺตํ’’ติ อฺโ ปกาโร อฺถา. อฺถา ภาโว อฺถตฺตํ ¶ . เอเตน ชราวเสนวา นานาโรคาพาธาทิวเสน วา วิปริณาโม วุตฺโต. ‘‘ตถา อวตฺถาเภทโยคโต’’ติ ชาติรูปเมว อาทิมฺหิ นิพฺพตฺติ โหติ. ตโตปรํ ตเมว วฑฺฒิ โหติ. ตโต ปรํ ตเมว ปวตฺติ โหตีติ เอวํ ตถา อวตฺถาเภทโยคโต. เตนาห ‘‘สาหี’’ติอาทึ. ‘‘ปพนฺธยตี’’ติ ปพนฺธํ กโรติ. สงฺคหคาถาทีสุ ปน สุวิฺเยฺยา. ‘‘เอตฺถ จ ปจฺฉิมานี’’ติอาทีสุ. โวหารสิทฺธมตฺตภาวํ’’ติ ปุคฺคโล สตฺโต อตฺตา ชีโวติอาทิกา ปฺตฺติ นาม โวหาร สิทฺธมตฺตา โหติ. สภาวสิทฺธา น โหติ. สาหิ มหาชเนหิ ขนฺธ ปฺจกํ อุปาทาย ปุคฺคโล นาม อตฺถีติ สมฺมตตฺตา โวหริตตฺตา โวหารสิทฺธา นาม. สภาวสิทฺธา ปน น โหติ. ตสฺมา อริยานํ โวหาเร ปุคฺคโล นาม นตฺถีติ สิชฺฌติ. อิมานิ ปน รูปานิ สภาวสิทฺธตฺตา อริยานํ โวหาเรปิ อตฺถีติ สิชฺฌนฺติ. เตนาห ‘‘ตาทิเสนา’’ติอาทึ. ‘‘สุทฺธธมฺมคติยา สิทฺเธนา’’ติ ปถวีธาตุ นาม สุทฺธธมฺโม โหติ. สา อุปฺปาทมฺปิ คจฺฉติ, ชรมฺปิ คจฺฉติ, เภทมฺปิ คจฺฉติ. ตสฺมา ตสฺสา อุปฺปาโทปิ ชราปิ เภโทปิ สุทฺธธมฺมคติยา สิทฺโธ นาม. เอวํ ลกฺขณรูปานํ สุทฺธธมฺมคติสิทฺธํ ปรมตฺถลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. ตถา วิฺตฺติ ทฺวยสฺสปิ วิการรูปตฺตยสฺสปิ ปริจฺเฉท รูปสฺสปีติ. ยถา จ อิเมสํ รูปานํ. ตถา นิพฺพานสฺสปิ สุทฺธธมฺมคติสิทฺธํ ปรมตฺถลกฺขณํ อตฺถิเยว. กิเลสธมฺมาหิ อริยมคฺเค อภาวิเต ภวปรมฺปราย อุปฺปาทํ คจฺฉนฺติเยว. ภาวิเตปน อนุปฺปาทํ นิโรธํ คจฺฉนฺติเยว. ตสฺมา กิเลสธมฺมานํ อนุปฺปาทนิโรโธปิ สุทฺธธมฺมคติยา สิทฺโธ นาม. เอวํ นิพฺพานสฺสปิ สุทฺธธมฺมคติสิทฺธํ ปรมตฺถลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อตฺถิ ภิกฺขเว อชาตํ อภูตนฺติ อิทํ สุตฺตํปิ เอตฺถ วตฺตพฺพํ. เอเตน อริยโวหาเร นิพฺพานสฺส เอกนฺเตน อตฺถิตา ภควตา วุตฺตา โหติ. เตนาห ‘‘อิตรถา’’ติอาทึ. ‘‘นสภาวโต อนุปลทฺธตฺตา อนิปฺผนฺนานิ นาม โหนฺตี’’ติ เอเตน เอตานิ อสภาวรูปานีติ จ อลกฺขณ รูปานีติ จ อสมฺมสนรูปานีติ จ น สกฺกา วตฺตุํติปิ ทีเปติ. กสฺมา, ยถาสกํ สภาเวหิ สภาววนฺตตฺตา ยถาสกํ ลกฺขเณ หิ สลกฺขณตฺตา ¶ ปฏิสมฺภิทามคฺเค สมฺมสนฺาณ วิภงฺเค ชาติชรามรณานมฺปิ สมฺมสิตพฺพธมฺเมสุ อาคตตฺตาติ. อฏฺสาลินิยมฺปิ อยมตฺโถ วุตฺโตเยว. ยถาห ปรินิปฺผนฺนนฺติ ปนฺนรสรูปานิ ปรินิปฺผนฺนานิ นาม. ทสรูปานิ อปรินิปฺผนฺนานิ นาม. ยทิ อปรินิปฺผนฺนานิ นาม. เอวํสติ, อสงฺขตานิ นาม สิยุํ. เตสํเยว ปนรูปานํ กายวิกาโร กายวิฺตฺติ นาม. วจีวิกาโร วจีวิฺตฺติ นาม. ฉิทฺทํ วิวรํ อากาสธาตุ นาม. ลหุภาโว ลหุตา นาม. มุทุภาโว มุทุตา นาม. กมฺมฺภาโว กมฺมฺตา นาม. นิพฺพตฺติ อุปจโย นาม. ปวตฺติ สนฺตติ นาม. ชีรณากาโร ชรตา นาม. หุตฺวา อภาวากาโร อนิจฺจตา นามาติ สพฺพํ ปรินิปฺผนฺนํ สงฺขตเมวาติ. ตตฺถ ‘‘เตสํเยว รูปานํ’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เตสํเยว ทสนฺนํ รูปานํ มชฺเฌติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิติสพฺพํ’’ติ อิทํ สพฺพํ ทสวิธํ รูปํ ปรินิปฺผนฺนเมว สงฺขตเมวาติ อตฺโถ. ขนฺธวิภงฺคฏฺกถายมฺปิ วุตฺโตว. ยถาห ปฺจวิปนขนฺธา ปรินิปฺผนฺนาว โหนฺติ, โน อปรินิปฺผนฺนา. สงฺขตาว, โน อสงฺขตา. อปิจ นิปฺผนฺนาปิ โหนฺติเยว. สภาวธมฺเมสุหิ นิพฺพานเมเวกํ อปรินิปฺผนฺนํ อนิปฺผนฺนฺจาติ จ. นิโรธสมาปตฺติ จ นาม ปฺตฺติ จ กถนฺติ. นิโรธสมาปตฺติ โลกิยโลกุตฺตราติ วา สงฺขตาสงฺขตาติ วา ปรินิปฺผนฺนาปรินิปฺผนฺนาติ วา น วตฺตพฺพา. นิปฺผนฺนา ปน โหติ. สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺพโต. ตถา นามปฺตฺติ, สาปิหิ โลกิยาทิเภทํ นลภติ. นิปฺผนฺนา ปน โหติ. โน อนิปฺผนฺนา. นามคฺคหณฺหิ คณฺหนฺโตว คณฺหาตีติ จ. เอเตน ลกฺขณรูปานมฺปิ นิปฺผนฺนตา สิทฺธา โหติ. วิสุทฺธิ มคฺเคปน นิปฺผนฺนํ อนิปฺผนฺนํติทุกสฺส นิทฺเทเส. อฏฺารสวิธํ รูปํ ปริจฺเฉทวิการ ลกฺขณภาวํ อติกฺกมิตฺวา สภาเวเนว ปริคฺคเหตพฺพโต นิปฺผนฺนํ, เสสํ ตพฺพิปรีตตาย อนิปฺผนฺนนฺติ จ. นิปฺผนฺนรูปํ ปน รูปรูปํ นามาติ จ. ยํ จตูหิ กมฺมาทีหิ ชาตํ, ตํ จตุชํ นาม. ตํ ลกฺขณ รูปวชฺชํ อวเสสรูปํ. ลกฺขณรูปํ ปน น กุโตจิชาตนฺติ จ วุตฺตํ. สพฺพฺเจตํ อาจริเยหิ คหิตนามมตฺตตฺตา วตฺติจฺฉานุคตํ โหติ. ยํ รุจฺจติ, ตํ คเหตฺวา กเถตพฺพนฺติ.
รูปสมุทฺเทสานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๙๗. รูปวิภาเค ¶ .‘‘เอกวิธนยํ ตาว ทสฺเสตุํ’’ติ รูปวิภาคโต ปถมํ ทสฺเสตุํ. เอเตน เอกวิธนโย รูปวิภาโค นาม น ตาว โหตีติ ทสฺเสติ. ตํ น สเมติ. เกน น สเมตีติ อาห ‘‘วกฺขติหี’’ติอาทึ. ‘‘อชฺฌตฺติกาทิเภเทน วิภชนฺติ วิจกฺขณา’’ติ เอเตน สพฺพํรูปํ อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน ทุวิธนฺติอาทิโก ทุวิธนโย เอว รูปวิภาคนโย นามาติ วิฺายติ. ตสฺมา เตน น สเมตีติ วุตฺตํ โหติ. อปิจ ปาฬิยํ. สเหตุกา ธมฺมา, อเหตุกา ธมฺมาติอาทิ ทุเกสุ สพฺพํรูปํ อเหตุกเมว, น สเหตุกนฺติอาทิ นิยมกรณมฺปิ รูปวิภาโค เอวาติ กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ กามาวจรนฺติอาทีนิ ปน. ‘‘ชนเกน ปจฺจเยนา’’ติ ปธานวจนเมตํ. อุปตฺถมฺภกาทิ ปจฺจยาปิ คเหตพฺพา เอว. ‘‘สงฺคมฺมา’’ติ สมาคนฺตฺวา. ‘‘กรียตี’’ติ นิปฺผาทียติ. โยธมฺโมติอาทีสุ. ‘‘ปหีโน ปี’’ติ ฉินฺทนภินฺทนาทิวเสน ปหีโนปิ. ‘‘ตสฺมึ สตี’’ติ สมุทยปฺปหาเน สติ. กิจฺจปจฺจยานํ อรหตฺถสฺส จ สกฺกตฺถสฺส จ ทีปนโต ทุวิธํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตพฺพิสยสฺสา’’ติ รูปวิสยสฺส. ‘‘เอวํ’’ติ เอวํสนฺเต. ‘‘ปหีนํ ภวิสฺสตี’’ติ อนาคตภเว ปุน อนุปฺปาทตฺถาย อิเธว ปหีนํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุจฺฉินฺนมูลํ’’ติอาทึ. ‘‘ตาลาวตฺถุกตํ’’ติ ฉินฺนตาลกฺขาณุกํ วิย กตํ ภวิสฺสติ. ‘‘อนภาวํ กตํ’’ติ ปุน อภาวํ กตํ. ‘‘ปากโฏ’’ติ ทสฺสนาทิกิจฺจวิเสเสหิ ปฺาโต. ‘‘ตทุปาทายา’’ติ ตํ อุปนิธาย. วิภาวนิปาเ. ‘‘อชฺฌตฺติกรูปํ’’ติ ปทุทฺธารณํ. อตฺตานํ อธิกิจฺจ ปวตฺตํ อชฺฌตฺตํ. อชฺฌตฺตเมว อชฺฌตฺติกนฺติ ทสฺเสติ ‘‘อตฺตภาวสงฺขาตํ’’ติอาทินา. ตํ น สุนฺทรํ. กสฺมา, อชฺฌตฺตธมฺม อชฺฌตฺติก ธมฺมานฺจ อวิเสโส อาปชฺชตีติ วกฺขมานการณตฺตา. ‘‘ทฺวารรูปํ นามา’’ติ ปทุทฺธารปทํ. กสฺมา ทฺวารรูปํ นามาติ อาห ‘‘ยถากฺกมํ’’ติอาทึ. ปรโตปิ เอสนโย. ‘‘เทสนาเภท รกฺขณตฺถํ’’ติ ทุกเทสนาเภทโต รกฺขณตฺถํ. ตตฺถ เทสนาเภโท นาม รูปกณฺเฑ ปฺจวิฺาณานํ วตฺถุ รูปฺจ, น วตฺถุ รูปฺจ ¶ , อารมฺมณ รูปฺจ, น อารมฺมณ รูปฺจ วตฺวา มโนวิฺาณสฺส น วุตฺตํ. ยทิ วุจฺเจยฺย, อารมฺมณทุเก มโนวิฺาณสฺส อารมฺมณ รูปํ, น อารมฺมณ รูปนฺติ ทุกปทํ น ลพฺเภยฺย. อยํ เทสนาเภโท นาม. วตฺถุทุเกสุ หทยวตฺถุวเสน ลพฺภมานํ มโนวิฺาณทุกํ น วุตฺตนฺติ. ‘‘ถูลสภาวตฺตา’’ติ สุขุมรูปํ อุปาทาย วุตฺตํ. ‘‘ทูเร ปวตฺตสฺสปี’’ติ ยถา สุขุมรูปํ อตฺตโน สรีเร ปวตฺตมฺปิ าเณน สีฆํ ปริคฺคเหตุํ น สกฺกา โหติ, ตถา อิทํ. อิมสฺส ปน ทูเร ปวตฺตสฺสปิ. ‘‘คหณโยคฺยตฺตา’’ติ าเณน ปริคฺคหณปตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิปาเ. ‘‘สยํนิสฺสยวเสน จา’’ติ สยฺจ นิสฺสย มหาภูตวเสน จ. ตตฺถ สยํ สมฺปตฺตา นาม โผฏฺพฺพธาตุโย. นิสฺสยวเสน สมฺปตฺตา นาม คนฺธรสา. อุภยถาปิ อสมฺปตฺตา นาม จกฺขุ รูป, โสต สทฺทา. โย ปฏิมุขภาโว อตฺถิ, ยํ อฺมฺปตนํ อตฺถีติ โยชนา. น จ ตานิ อฺปฺปการานิ เอว สกฺกา ภวิตุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุคฺคห อุปฆาตวเสนา’’ติ วฑฺฒนตฺถาย อนุคฺคหวเสน, หายนาทิ อตฺถาย อุปฆาตวเสน. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ จตุสมุฏฺานิกรูปํ คณฺหาติ. ‘‘อาทินฺนปรามฏฺตฺตา’’ติ ตณฺหามาเนหิ เอตํ มม เอโสหมสฺมีติอาทินฺนตฺตา, ทิฏฺิยา เอโส เม อตฺตาติ ปรามฏฺตฺตา จ. ‘‘นิจฺจกาลํ ปวตฺติวเสนา’’ติ เอเกน ชนกกมฺเมน ปฏิสนฺธิกฺขณโต ปฏฺาย นิจฺจกาลํ ปวตฺติวเสน. ‘‘อุปจรียตี’’ติ โวหรียติ. ‘‘อตฺถวิเสสโพโธ’’ติ รูปารมฺมณสฺส กิจฺจวิเสสโพโธ. ‘‘อสมฺปตฺตวเสนา’’ติ วิสยฏฺานํ สยํ อสมฺปชฺชนวเสน. อตฺตโนานํ วา วิสยสฺส อสมฺปชฺชนวเสน. ตตฺถ วิสยสฺส อสมฺปตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตถา โสตสทฺเทสุ จ อฺมฺํ ลคฺคิตฺวา อุปฺปชฺชมาเนสุ. ‘‘สมฺปตฺติยา เอวา’’ติ สมฺปชฺชนตฺถาย เอว. ตถา อาโป จ สมฺปตฺติยา เอว ปจฺจโยติ โยชนา. ทุพฺพลปถวี เอว สนฺนิสฺสโย ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘อสฺสา’’ติ จกฺขุสฺส. ‘‘โสตสฺสปนกถํ’’ติ โสตสฺส อสมฺปตฺตคฺคหณํ กถํ ปากฏํ. สมฺปตฺตคฺคหณํ เอว ปากฏนฺติ ทีเปติ. เตนาห ‘‘ตตฺถหี’’ติอาทึ ¶ . ทกฺขิณปสฺสโต วา สุยฺยติ, เจติยาทิกสฺส ปุรตฺถิมทิสาภาเค ิตานนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปฏิฆฏฺฏนานิฆํโส’’ติ โสเตสุ ปฏิฆฏฺฏนเวโค. ‘‘เตสํ’’ติ อาสนฺเนวา ทูเร วา ิตานํ. โหตุ ทูเร ิตานํ จิเรน สุโตติ อภิมาโน. กสฺมา ปน อุชุกํ อสุตฺวา ทกฺขิณปสฺสโตวา อุตฺตรปสฺสโต วา สุเณยฺย, อสุยฺยมาโน ภเวยฺยาติ ปุจฺฉา. ตํ กเถนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. วิภาวนิปาเ. ‘‘คนฺตฺวา วิสยเทสํ ตํ, ผริตฺวา คณฺหตีติ เจ’’ติ ตํ จกฺขุโสต ทฺวยํ ทูเรวิสยานํ อุปฺปนฺนเทสํ ผริตฺวา คณฺหตีติ เจวเทยฺยาติ อตฺโถ. ทูเรตฺวา ปสฺสนฺโต สุณนฺโต จ มหนฺตมฺปิปพฺพตํ เอกกฺขเณ ปสฺสติ, มหนฺตํปิ เมฆสทฺทํ เอกกฺขเณ สุณาติ. ตสฺมา อุภยํ อสมฺปตฺตโคจรนฺติ วิฺายติ. อิมสฺมึ วจเน ตฺวา อิทํ ปริกปฺปวจนํ ทสฺเสติ ตํ ทฺวยํ วิสยปฺปเทสํ คนฺตฺวา มหนฺตํปิ ปพฺพตํ วา เมฆสทฺทํ วา ผริตฺวา คณฺหาติ. ตสฺมา มหนฺตํปิ ปสฺสติ, สุณาติ. น อสมฺปตฺตโคจรตฺตา มหนฺตํ ปสฺสติ สุณาตีติ โกจิ วเทยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อธิฏฺานวิธาเนปิ ตสฺส โส โคจโร สิยาติ. เอวํสติ, ทิพฺพจกฺขุ ทิพฺพโสตาภิฺานํ อธิฏฺานวิธาเนปิ โส รูปสทฺทวิสโย ตสฺส ปสาทจกฺขุโสตสฺส โคจโร สิยาติ อภิฺาธิฏฺาน กิจฺจํ นาม นตฺถิ. จกฺขุโสตํ เทวโลกมฺปิ คนฺตฺวา ทิพฺพรูปมฺปิ ทิพฺพสทฺทมฺปิ คณฺเหยฺย. น ปน คณฺหาติ. ตสฺมา ตสฺส วิสยเทสคมนฺจ มหนฺตเทสผรณฺจ น จินฺเตตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
รูปวิภาคานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๕๘. รูปสมุฏฺาเน. สุตฺตนฺเตสุ เจตนาสมฺปยุตฺตา อภิชฺฌาทโยปิ กมฺมนฺติ วุตฺตา. เต ปน ปฏฺาเน กมฺมปจฺจยํ ปตฺวา ตปฺปจฺจยกิจฺจํ น สาเธนฺติ, เจตนา เอว สาเธตีติ อาห ‘‘สา เยวา’’ติอาทึ. ‘‘ตํ สมุฏฺานานฺจ รูปานํ’’ติ เหตูหิ จ เหตุสมฺปยุตฺตกธมฺเมหิ จ สมุฏฺานานฺจ รูปานนฺติ อตฺถวเสน เจตสิกธมฺมานมฺปิ ¶ รูปสมุฏฺาปกตา สิทฺธา โหติ. โส หิ อุทยติ ปสวตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กปฺปสณฺาปนวเสนา’’ติ กปฺปปฺปติฏฺาปนวเสน. อชฺฌตฺติกสทฺโท ฉสุ จกฺขาทีสุ อชฺฌตฺติกายตเน สฺเวว ปวตฺตติ. อิธ ปน สกลํ อชฺฌตฺตสนฺตานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺต สนฺตาเนติ ปน วตฺตพฺพํ’’ติ. ‘‘ขเณ ขเณ’’ติ วิจฺฉาวจนํ. ‘‘วิจฺฉา’’ติ จ พหูสุขเณสุ พฺยาปนนฺติ อาห ‘‘ตีสุตีสุขเณสู’’ติ.
ยมกปาเสุ. ยสฺส วา ปน ปุคฺคลสฺส. ‘‘นิรุชฺฌตี’’ติ ภงฺคกฺขณ สมงฺคิตมาห. ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ อุปฺปาทกฺขณ สมงฺคิตํ. ‘‘อิตี’’ติ อยํ ปุจฺฉา. ‘‘โน’’ติ ปฏิกฺเขโป. สมุทยสจฺจสฺส ภงฺคกฺขเณ ทุกฺขสจฺจภูตสฺส รูปสฺสวา นามสฺสวา อุปฺปาโท นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ยสฺส อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ ทฺเว ปาาคเหตพฺพา. ‘‘โน’’ติ กุสลากุสล ธมฺมานํ อุปฺปาทกฺขเณ อพฺยากตภูตานํ รูปานํ วา นามานํ วา นิโรโธ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. เตสุปาเสุ เกสฺจิวาทีนํ วจโนกาสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อรูปภวํ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เจ’’ติ โกจิวาที เจวเทยฺย. ‘‘นา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ จ อุทฺธฏา สิยุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตรตฺถ จา’’ติ ตโต อิตรสฺมึ ยสฺส กุสลา ธมฺมาติอาทิปาเ จ. ‘‘ตมฺปิ นา’’ติ ตมฺปิ วจนํ น วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปุริมโกฏฺาเส’’ติ อสฺสตฺตานํ เตสํ ตตฺถาติ อิมสฺมึ ปุริมปกฺเขติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปจฺฉิมโกฏฺาเส’’ติ สพฺเพสํ จวนฺตานํ ปวตฺเต จิตฺตสฺสภงฺคกฺขเณติ อิมสฺมึ ปจฺฉิม ปกฺเข. จวนฺตานํ อิจฺเจว วุตฺตํ สิยา, น ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณติ, โน จ น วุตฺตํ, ตสฺมา วิฺายติ ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ น อุปฺปชฺชตีติ. รูปชีวิตินฺทฺริเย จ อนุปฺปชฺชมาเน สติ, สพฺพานิ กมฺมชรูปานิ อุตุชรูปานิ อาหารชรูปานิ จ จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺตีติ วิฺาตพฺพํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปจฺฉิมโกฏฺาเส’’ติ สพฺเพสํ จวนฺตานํ ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณติ อิมสฺมึ ปจฺฉิมปกฺเข. ตตฺถ จ ปวตฺเต จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณติ อิทํ อธิปฺเปตํ. เอวํ ปาฬิสาธกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยุตฺติสาธกํ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘ยสฺมา จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตสฺสา’’ติ อานนฺทา จริยสฺส มูลฏีกาการสฺส. วิภาวนิยํ. ภงฺเค รูปสฺส นุปฺปาโท, จิตฺตชานํ วเสน วา. อารุปฺปํ วาปิ สนฺธาย, ภาสิโต ยมกสฺส หิ. น จิตฺตฏฺิติ ภงฺเค จ, น รูปสฺส อสมฺภโว. ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘น หิ น จิตฺตฏฺิตี’’ติ จิตฺตสฺสิติ นาม น หิ นตฺถิ. ‘‘ภงฺเคจา’’ติ จิตฺตสฺสภงฺคกฺขเณ จ. ตํ อสมฺภาเวนฺโต ‘‘ยมกปาฬิโย ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘นานตฺถา นานาพฺยฺชนา’’ติ เอเตน ปาฬิสํสนฺทนา นาม ครุกตฺตพฺพาติ ทีเปติ. ‘‘คมฺภีโร จ สตฺถุ อธิปฺปาโย’’ติ เอเตน อตฺตานํ สตฺถุมตฺุํ กตฺวา อิทํ สนฺธาย เอตํ สนฺธายาติ วตฺตุํ ทุกฺกรนฺติ ทีเปติ. ‘‘สุทฺธํ อรูปเมวา’’ติ สุทฺธํ อรูปปฺปฏิสนฺธึ เอว. ฉ จตฺตาลีสจิตฺตานิ รูปํ ชเนตุํ น สกฺโกนฺติ. เอวํ สติ อรูปวิปากวชฺชิตนฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อรูปวิปากาปนา’’ติอาทึ. วิภาวนิปาเ. ‘‘เหตุโน’’ติ รูปวิราคภาวนา กมฺมสงฺขาตสฺส เหตุสฺส. ‘‘ตพฺพีธุรตายา’’ติ รูปวิรุทฺธตาย. รูปารูปวิราคภาวนาภูโต มคฺโค. เตน นิพฺพตฺตสฺส. รูโปกาโส นาม กามรูปภโว. วิภาวนิปาเ. ‘‘เอกูน น วุติภวงฺคสฺเส วา’’ติ ปวตฺติกาเล รูปชนกสฺส เอกูน น วุติภวงฺค จิตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ ปน อรูปวิปากํ ปวตฺติกาเลปิ รูปชนกํ น โหตีติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทึ. เกจิ ปน ปฏิสนฺธิ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ รูปํ ปจฺฉาชาต ปจฺจยํ น ลภติ. ิติกฺขเณ รูปํ ปรโต ภวงฺคจิตฺตโต ปจฺฉาชาตปจฺจยํ ลภตีติ วทนฺติ. ตํ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ อตฺตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สยํ วิชฺชมาโน หุตฺวา อุปการโก ปจฺจโย อตฺถิปจฺจโย. ปจฺฉาชาโต จ ตสฺส เอกเทโส. ‘‘อายุสงฺขารานํ’’ติ อุสฺมาทีนํ. ‘‘ตํ’’ติ ขีณาสวานํ จุติจิตฺตํ. ‘‘ยถาหา’’ติ โส เถโร กึ อาห. ‘‘วุตฺตํ’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อิติ ปน วจนโต อฺเสํปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ วิฺายตีติ ปธานวจนํ. ปน สทฺโท อรุจิ โชตโก. ‘‘ตถา วุตฺเตปี’’ติ โชเตติ. วจีสงฺขาโร นาม วิตกฺกวิจาโร. กายสงฺขาโร นาม อสฺสาสปสฺสาสวาโต. โส สพฺเพสํปิ กามสตฺตานํ จุติ จิตฺตสฺส ¶ อุปฺปาทกฺขเณ จ ตโต ปุริมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ จ นนิรุชฺฌตีติ วจเนน จุติจิตฺตโต ปุพฺพภาเคเยว อสฺสาสปสฺสาสานํ อภาวํ าเปติ. นนุ อิมิสฺสํ ปาฬิยํ จุติกาเล อสฺสาสปสฺสาสสฺส อภาวํ วทติ. อฺเสํ จิตฺตชรูปานํ อภาวํ น วทติ. ตสฺมา อิมาย ปาฬิยา สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสํ น ชเนตีติ วิฺายติ. น อฺานิ จิตฺตชรูปานีติ โจทนา. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. น หิ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสฺส กายสงฺขาร สมุฏฺาปนํ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘คพฺภคมนาทิวินิพทฺธาภาเว’’ติ มาตุกุจฺฉิมฺหิ คตสฺส อสฺสาสปสฺสาโส น อุปฺปชฺชติ, ตถา อุทเก นิมุคฺคสฺส. พาฬฺหํ วิสฺีภูตสฺส. จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชนฺตสฺส. นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส. รูปารูปภเว ิตสฺสาติ. ตสฺมา เอเตคพฺภคมนาทโย อสฺสาสปสฺสาสํ วินิพทฺธนฺติ นีวาเรนฺตีติ คพฺภคมนาทิวินิพทฺธา. เตสํ อภาโวติ วิคฺคโห. วินา อิเมหิ การเณหิ อสฺสาสปสฺสาสสฺส จ อฺจิตฺตชรูปานฺจ วิเสโส นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อฺํปิ ยุตฺตึ ทสฺเสติ ‘‘จุโต จา’’ติอาทินา. จุโต จ โหติ, อสฺส จิตฺตสมุฏฺาน รูปฺจ ปวตฺตตีติ น จ ยุตฺตนฺติ โยชนา. โส จ สุฏฺุ โอฬาริโก รูปธมฺโม. อิติ ตสฺมา น สกฺกา วตฺตุํติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิมสฺส อตฺถสฺสา’’ติ วตฺวา ตํ อตฺถํ วทติ ‘‘โอฬาริกสฺสา’’ติอาทินา. ‘‘กตีปย ขณมตฺตํ’’ติ ปนฺนรสขณโสฬสขณมตฺตํ. ‘‘จิตฺตชรูปปฺปวตฺติยา’’ติ จิตฺตชรูปปฺปวตฺตนโต. ทุพฺพลา โหนฺติ, ตทา ปฺจารมฺมณานิปิ ปฺจทฺวาเรสุ อาปาตํ นาคจฺฉนฺติ. ‘‘ปจฺจยปริตฺตตาย วา’’ติ ตทา ปจฺฉาชาตปจฺจยสฺส อลาภโต วุตฺตํ. ทุพฺพลา โหนฺติ. ตทา ทุพฺพลตฺตา เอว ปฺจารมฺมณานิ ปฺจทฺวาเรสุ อาปาตํ นาคจฺฉนฺติ. ปริโยสาเนปิ เอกจิตฺตกฺขณมตฺเต. วตฺถุสฺส อาทิอนฺตนิสฺสิตานิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อาทิมฺหิ นิสฺสิตานิ. มรณาสนฺนกาเล อนฺเต นิสฺสิตานิ. สมทุพฺพลานิ เอว โหนฺติ. ตสฺมา ยถา สพฺพปฏิสนฺธิจิตฺตมฺปิ รูปํ น ชเนติ, ตถา สพฺพจุติจิตฺตมฺปิ รูปํ น ชเนตีติ สกฺกา วิฺาตุนฺติ. ‘‘ปาฬิวิโรธํ’’ติ ปุพฺเพ ทสฺสิตาย สงฺขาร ยมกปาฬิยา วิโรธํ ¶ .‘‘การณํ วุตฺตเมวา’’ติ จิตฺตฺหิ อุปฺปาทกฺขเณ เอว ปริปุณฺณํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา พลวํ โหตีติ วุตฺตเมว. ‘‘ตํ’’ติ อปฺปนาชวนํ. อจลมานํ หุตฺวา. ‘‘อพฺโพกิณฺเณ’’ติ วีถิจิตฺต วาเรน อโวกิณฺเณ. น ตถา ปวตฺตมาเนสุ องฺคานิ โอสีทนฺติ, ยถา ปิตาเนว หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. ‘‘น ตโตปรํ’’ติ ตโต อติเรกํ รูปวิเสสํ น ชเนติ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิจิตฺตํ. ‘‘อุตฺตรกิจฺจํ’’ติ อุปรูปริกิจฺจํ. ‘‘อฏฺ ปุถุชฺชนานํ’’ติ อฏฺ โสมนสฺส ชวนานิ หสนํปิ ชเนนฺติ. ฉ ชวนานิ ปฺจชวนานีติ อธิกาโร. เตสํ พุทฺธานํ. สิตกมฺมสฺสาติ สมฺพนฺโธ. สิตกมฺมํ นาม มิหิตกมฺมํ. ‘‘การณํ วุตฺตเมวา’’ติ ‘รูปสฺส ปน อุปตฺถมฺภกภูตา อุตุอาหารา ปจฺฉาชาตปจฺจย ธมฺมา จ ิติกฺขเณ เอว ผรนฺตี’ติ เอวํ การณํ วุตฺตเมว. ‘‘อุตุโน พลวภาโว’’ติ รูปุปฺปาทนตฺถาย พลวภาโว. สนฺตติิติยา พลวภาโว ปน ปจฺฉาชาตปจฺจยายตฺโต โหติ. รูปํ น สมุฏฺาเปยฺย. โน น สมุฏฺาเปตีติ อาห ‘‘วกฺขติ จา’’ติอาทึ. อชฺฌตฺต สนฺตานคโต จ พหิทฺธาสนฺตานคโต จ ทุวิธาหาโรติ สมฺพนฺโธ.
เอตฺถจาติอาทีสุ. อุตุ ปฺจวิโธ. อชฺฌตฺตสนฺตาเน จตุชวเสน จตุพฺพิโธ, พหิทฺธา สนฺตาเน อุตุชวเสน เอโก. ตถา อาหาโรปิ ปฺจวิโธ. เตสุ เปตฺวา พหิทฺธาหารํ อวเสสานํ อชฺฌตฺต สนฺตาเน รูปสมุฏฺาปเน วิวาโท นตฺถิ. พหิทฺธาหารสฺส ปน อชฺฌตฺตสนฺตาเน รูปสมุฏฺาปเน วิวาโท อตฺถีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘อุตุโอชานํ วิยา’’ติ อุตุโอชานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน รูปสมุฏฺาปนํ วิย. อฏฺกถาปาเ. ‘‘ทนฺตวิจุณฺณิตํ ปนา’’ติ ทนฺเตหิ สงฺขาทิตฺวา วิจุณฺณํ กตํ ปน. ‘‘สิตฺถํ’’ติ ภตฺตจุณฺณสิตฺถํ. ฏีกาปาเ. ‘‘สา’’ติ พหิทฺธา โอชา. ‘‘นสงฺขาทิโต’’ติ น สุฏฺุขาทิโต. ‘‘ตตฺตเกนปี’’ติ มุเขปิตมตฺเตนปิ. ‘‘อพฺภนฺตรสฺสา’’ติ อชฺฌตฺตาหารสฺส. ‘‘อฏฺอฏฺรูปานิ สมุฏฺาเปตี’’ติ อุปตฺถมฺภนวเสน สมุฏฺาเปติ, ชนน วเสน ปน อชฺฌตฺติกาหาโร เอว สมุฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปาทินฺนกา’’ติ อชฺฌตฺต สมฺภูตา วุจฺจนฺติ. พหิทฺธา โอชาปิ รูปํ สมุฏฺาเปติ ¶ เยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตนอุตุนา’’ติ อชฺฌตฺต อุตุนา. ‘‘เสทิยมานา’’ติ อุสฺมาปิยมานา. ‘‘ตาย จ โอชายา’’ติ อชฺฌตฺต โอชาย. ‘‘เมทสิเนหุปจย วเสนา’’ติ เมทโกฏฺาสรสสิเนห โกฏฺาสานํ วฑฺฒนวเสน. อิตรานิ ปน ตีณิรูปสมุฏฺานานิ. ปาฬิปาเ. ‘‘อินฺทฺริยานี’’ติ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริย รูปานิ. ‘‘วิหาโร’’ติ สมาปตฺติ เอว วุจฺจติ. สมาปตฺติ จิตฺเตน ชาตตฺตา ตานิ อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺน นีติ กตฺวา กสฺมา วุตฺตนฺติ ปุจฺฉติ. ‘‘อุปจริตตฺตา’’ติ านูปจาเรน โวหริตตฺตา. ‘‘เตสํ น วนฺนํ’’ติ อินฺทฺริยรูปานํ. นิธิกณฺฑปาเ. สุนฺทโร วณฺโณ ยสฺสาติ สุวณฺโณ. สุวณฺณสฺส ภาโว สุวณฺณตา. ตถาสุสฺสรตา. ‘‘สโร’’ติ จ สทฺโท วุจฺจติ. ‘‘สุสณฺานํ’’ติ องฺคปจฺจงฺคานํ สุฏฺุสณฺานํ. ‘‘สุรูปตา’’ติ สุนฺทรรูปกายตา. ‘‘ยถา’’ติ เยนอากาเรน สณฺิเต สติ. ตถา เตน อากาเรน สณฺิตา โหตีติ โยชนา.
ลหุตาทิตฺตเย. ทนฺธตฺตาทิกรานํ ธาตุกฺโขภานํ ปฏิปกฺเขหิ ปจฺจเยหิ สมุฏฺาตีติ วิคฺคโห. ‘‘เอตสฺสา’’ติ ลหุตาทิตฺตยสฺส วุตฺตา. ตสฺมา เอตํ ลหุตาทิตฺตยํ กมฺมสมุฏฺานนฺติ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยมเกสุปิ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเนเนว คหิโต’’ติ ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส โสตายตนํ อุปฺปชฺชตีติ. สจกฺขุกานํ อโสตกานํ อุปปชฺชนฺตานํ เตสํ จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชตีติอาทีสุ อุปฺปาทวาเร ปฏิสนฺธิวเสน, นิโรธวาเร จุติวเสน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํว วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อกมฺมชานํ ปวตฺติกาเล กาลเภโท วุตฺโตติ. ‘‘กมฺมวิปากชา อาพาธาติ วุตฺตํ’’ติ วีถิมุตฺตสงฺคเห อุปจฺเฉทกกมฺมทีปนิยํ ‘อตฺถิ วาต สมุฏฺิตา อาพาธา. ล. อตฺถิ กมฺมวิปากชา อาพาธา’ติ วุตฺตํ. ตานิ อุปปีฬกุปฆาตก กมฺมานิปิ วิปตฺติโย ลภมานานิ เอว โขเภตฺวา นานาพาเธ อุปฺปาเทนฺตีติ สมฺพนฺโธ. สรีเร นฺติ ติฏฺนฺตีติ สรีรฏฺกา. ‘‘ตทนุคติกานิ เอว โหนฺตี’’ติ กมฺมชาทีนิปิ ขุพฺภิตานิ เอว โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. เอเตน อฏฺสุ การเณสุ เยนเกนจิการเณน จกฺขุโรคาทิเก อาพาเธ ¶ ชาเต ตสฺมึ องฺเค ปวตฺตานิ สพฺพานิ โรคสมุฏฺานานิ อาพาธภาวํ คจฺฉนฺติเยว. เอวํ สนฺเตปิ ตปฺปริยาปนฺนานิ กมฺมชรูปานิ ตทนุคติกภาเวน อาพาธภาวํ คจฺฉนฺติ, น อุชุกโต กมฺมวเสนาติ ทีเปติ. กมฺมสมุฏฺาโน อาพาโธ นาม นตฺถิ. ตถาปิ อฏฺสุ อาพาเธสุปิ อตฺถิ วาตสมุฏฺานา อาพาธาติอาทีสุ วิย อตฺถิ กมฺมสมุฏฺานา อาพาธาติ อวตฺวา อตฺถิ กมฺมวิปากชา อาพาธาติ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปปีฬโก ปฆาตกกมฺมานํวเสน อุปฺปนฺโน โยโกจิธาตุกฺโขโภ สุตฺตนฺตปริยาเย น กมฺมวิปาโกติ วุจฺจติเยว. ตโต ชาโต โยโกจิ อาพาโธ กมฺมวิปากโชติ วุตฺโตติ. สุคมฺภีรมิทํานํ. สุฏฺุวิจาเรตฺวา กเถตพฺพํ. ‘‘ยโต’’ติ ยสฺมา กมฺมสมุฏฺานา พาธปจฺจยา. ล. ลพฺภมาโน สิยา. เกวลํ โส กมฺมสมุฏฺาโน อาพาโธ นาม นตฺถีติ โยชนา. ‘‘อวิหึสา กมฺมนิพฺพตฺตา’’ติ เมตฺตากรุณากมฺมนิพฺพตฺตา. สุวิทูรตายเจว นิราพาธา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สณฺิติยา’’ติ ทุกฺโขภนีเย วิเสสนปทํ. เหตุปทํ วา ทฏฺพฺพํ. โขเภตุํ ทุกฺกรา ทุกฺโขภนียา. ‘‘กามํ’’ติ กิฺจาปีติ อตฺเถ นิปาตปทํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
‘‘วุจฺจเต’’ติอาทีสุ. รูปปจฺจยธมฺมานํ ปจฺจยกิจฺจํ ติวิธํ. ชนนฺจ อุปตฺถมฺภนฺจ อนุปาลนฺจ. ตตฺถ ชนนกิจฺจํ ชเนตพฺพานํ ชาติกฺขเณ เอว ลพฺภติ. เสสทฺวยํ ปน ิติกฺขเณปิ ลพฺภติ. ภงฺคกฺขเณ ปน สพฺพํ ปจฺจยกิจฺจํ นตฺถิ. ตตฺถ ชนนกิจฺจวเสน วิจาเรนฺโต ‘‘รูปชนกานํ’’ติอาทิมาห. ‘‘อปิจา’’ติอาทีสุ. ‘‘ตาสํ’’ติ อุปจยสนฺตตีนํ, ชรตา อนิจฺจตานฺจ. ‘‘เตสู’’ติ กุโตจิ สมุฏฺาเนสุ. อิธ ปน อภิธมฺมตฺถ สงฺคเหปน. ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติ ปจฺจยวิเสเสน อทิสฺสมานวิเสสตฺเถปิ. ‘‘สารตร’’นฺติ อติสารภูตํ. ‘‘เสยฺโย’’ติ เสฏฺโ.
รูปสมุฏฺานานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๙. กลาปโยชนายํ ¶ . ‘‘สงฺขาเน’’ติ คณเน. ‘‘เตนา’’ติ สงฺขานฏฺเน เอกสทฺเทน ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปิณฺฑี’’ติ เอกคฺฆโน. มูลฏีกาปาเ. ‘‘อุปฺปาทาทิปฺปวตฺติโต’’ติ อุปฺปาทาทิวเสน ปวตฺตนโต. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. อุปาทารูปานิ ตฺเวว วุจฺจนฺติ. ‘‘เอวํ วิการปริจฺเฉท รูปานิ จ โยเชตพฺพานี’’ติ ปฺจวิการรูปานิ กลาปสฺเสว โจปนาทิสภาวา โหนฺติ, น เอกเมกสฺส รูปสฺส. ตสฺมา ตานิ เอเกกสฺมึ กลาเป เอเกกานิ เอว โหนฺติ. ปริจฺเฉทรูปํ ปน กลาปปริยาปนฺนํ รูปํ น โหติ. ตสฺมา ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ กลาปานํ อนฺตรา ตํปิ เอเกกเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตานํ นิสฺสยตา สมฺภวโต’’ติ เอตฺถ จตุนฺนํ มหาภูตานํปิ ลกฺขณมตฺเตน นานตฺตํ โหติ, ปวตฺติวเสน ปน เอกคฺฆนตฺตา สงฺขานฏฺเนปิ เอโก นิสฺสโยติ วตฺตพฺพเมว. เอวฺหิสติ เอกสทฺทสฺส อตฺถ จลนํ นตฺถีติ. ‘‘เตน สทฺเทนา’’ติ จิตฺตชสทฺเทน. อตฺตานํ โมเจนฺโต ‘‘อธิปฺปาเยนา’’ติ อาห. เถรสฺส อธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตโน อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สทฺเทนา’’ติ จิตฺตชสทฺเทน. ‘‘ตายวาจายา’’ติ วจีมยสทฺเทนาติ อตฺโถ. ‘‘วิฺตฺตี’’ติ วิฺาปนํ อิจฺเจวตฺโถ. วิฺาเปตีติ วิฺาปิโต. ตสฺส ภาโว วิฺาวิตตฺตํ. วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม กสฺสจิ มหนฺตํ อตฺถํ จินฺเตนฺตสฺส โสกวเสน วา ตุฏฺิวเสน วา พลววิตกฺโก ปวตฺตติ. โส โสกํ วา ตุฏฺึ วา สนฺธาเร ตุํ อสกฺโกนฺโต ทุตีเยน สทฺธึ มนฺเตนฺโต วิย อตฺตโน มุเขเยว อพฺยตฺตํ สทฺทํ กตฺวา สมุทีรติ. ปกติชโน ตํ สทฺทมตฺตํ สุณาติ วา น วาสุณาติ. สุณนฺโตปิ อกฺขรํ วา อตฺถํ วา อธิปฺปายํ วา น ชานาติ. ทิพฺพโสเตน วา วิชฺชาโสเตน วาสุณนฺโต อกฺขรํปิ อตฺถํปิ อธิปฺปายํปิ ชานาติ. ชานิตฺวา เอวํปิ เต มโน, อิตฺถํปิ เต มโนติอาทิสติ. อยํ วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท นาม. โส วิฺตฺติรหิโต โสตวิฺเยฺโยติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺโต. สงฺคหกาโรปน วจีมยสทฺโทนาม วิฺตฺติรหิโตติ วา อโสตวิฺเยฺโยติ วา นตฺถีติ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘อาคเต’’ติ อฏฺกถาสุ ¶ อาคเต. ‘‘ปจฺเจตพฺพา’’ติ สทฺธาตพฺพา. ‘‘ฏีกาสุปนสฺสา’’ติ อสฺสสจฺจสงฺเขปสฺส ทฺวีสุฏีกาสุ. อกฺขรฺจ ปทฺจ พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จาติ ทฺวนฺโท. อปฺปฺายมานา อกฺขรปทพฺยฺชนตฺถา ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘อนฺธทมิฬาทีนํ’’ติ อนฺธชาติกทมิฬชาติกาทีนํ มิลกฺขูนํ. ‘‘อุกฺกาสิตสทฺโท จ ขิปิตสทฺโท จ วมิตสทฺโท จ ฉฑฺฑิตสทฺโท จาติ ทฺวนฺโท. อาทิสทฺเทน ตาทิสา อุคฺคาร หิกฺการ หสิต โรทิตาทโย สงฺคณฺหาติ. เสสเมตฺถสุวิฺเยฺยํ.
กลาปโยชนานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๑. รูปปฺปวตฺติกฺกเม. นปุคฺคลวเสน วิเสสนํ โหติ. ภูมิวเสน วิเสสนํ โหติ. ตฺจ โข ปวตฺติกาลวเสนาติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถจาติอาทีสุ. ปุริเมสุ ทฺวีสุ โยนีสุ ปาฬินเยน เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. นิกฺขนฺตา, อิติ ตสฺมา อณฺฑชาติ จ ชลาพุชาติ จ วุจฺจนฺติ. กถํ อยํ นโย ปาฬินโย นาม โหตีติ. ปาฬิยํ อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสํ อภินิพฺภิชฺช อภินิพฺภิชฺช ชายนฺตีติ วจเนน อณฺฑโต ชลาพุโต ชาตา วิชาตา นิกฺขนฺตาติ อตฺโถ วิฺายติ. อฏฺกถายํ ปน อณฺเฑชาตา ชลาพุมฺหิชาตาติ วุตฺตํ. คพฺภปลิเวนาสโย นาม เยน ปลิเวิโต คพฺโภ ติฏฺติ. วิภาวนิปาเ ‘‘อุกฺกํสคติ ปริจฺเฉทวเสนา’’ติ อุกฺกฏฺปฺปวตฺตินิยมนวเสน. อุกฺกฏฺนยวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อภิรูปสฺส กฺา ทาตพฺพาติ เอตฺถ กฺา ทาตพฺพาติ สามฺโต วุตฺเตปิ อภิรูปสฺส ปุริสสฺสาติ วุตฺตตฺตา กฺาปิ อภิรูปกฺา เอว วิฺายติ. อยํ อุกฺกฏฺนโย นาม. ‘‘ตตฺถ ตานิ สพฺพานี’’ติอาทีสุ. ตานิสพฺพานิปิ จกฺขุ โสต ฆาน ภาว ทฺวยานิ น โอมเกน กมฺเมน ลพฺภติ. อุกฺกฏฺเน กมฺเมน เอว ลพฺภตีติ อธิปฺปาโย. วิภงฺคปาเ. สทฺทายตนํ นาม ปฏิสนฺธิกาเล น ลพฺภตีติ วุตฺตํ ‘‘เอกาทสายตนานี’’ติ. จกฺขุเวกลฺลสฺส ทส, โสตเวกลฺลสฺส อปรานิทส, จกฺขุ โสตเวกลฺลสฺสนว ¶ , คพฺภเสยฺยสฺสวเสน สตฺตายตนานิ. ปาฬิยํ โอปปาติ กคพฺภเสยฺยกานํ เอว วุตฺตตฺตา ‘‘ปาฬิยํ อวุตฺตํปิปนา’’ติ วุตฺตํ. อวุตฺตมฺปิ จกฺขาทิเวกลฺลํ. ‘‘อฺมฺํ อวินาภาววุตฺติตา วุตฺตา’’ติ กถํ วุตฺตา ยสฺส ฆานายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ชิวฺหายตนํ อุปฺปชฺชตีติ, อามนฺตา. ยสฺส วา ปน ชิวฺหายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ฆานายตนํ อุปฺปชฺชตีติ, อามนฺตาติอาทินา วุตฺตา เปยฺยาลมุเขน. อาจริยานนฺทตฺเถเร น ปน อิจฺฉิตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ชิวฺหาเวกลฺลตาวิยา’’ติ ชิวฺหาเวกลฺลตานาม นตฺถิ วิย. ‘‘ฆานเวกลฺลตาปิ อตฺถีติ ยุตฺตํ’’ติ เอตฺถ ปาฬิยํ อฆานกานํ อิตฺถีนํ ปุริสานํติ อิทํ มาตุคพฺเภ ฆานายตเน อนุปฺปนฺเนเยว ปุเรตรฺจ วนฺตานํ อิตฺถิปุริสานํ วเสน วุตฺตํ. น ฆานเวกลฺลานํ อตฺถิตายาติปิ วทนฺติ. คพฺเภ เสนฺตีติ คพฺภสยา. คพฺภสยา เอว คพฺภเสยฺยา.
ปวตฺติกาเลติอาทีสุ. มูลฏีกาปาเ. ‘‘โอรโต’’ติ ปฏิสนฺธึ อุปาทาย วุตฺตํ. เอกาทสมสตฺตาเห อนาคเตติ วุตฺตํ โหติ. รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. โน จ จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ อิทํ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสน วุตฺตํ. ตสฺมา ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนํ รูปายตนํ ยาวชีวํปิ อุปฺปนฺนนฺตฺเวว วุจฺจติ. น อุปฺปชฺชิสฺสมานนฺติ. จกฺขายตนํ ปน เอกาทสมสตฺตาหา โอรโต ิตสฺส น อุปฺปนฺนํ. ตทา อนุปฺปนฺนตฺตา เอกาทสเม สตฺตาเห สมฺปตฺเต อุปฺปชฺชิสฺสตีติ วตฺตพฺพํ โหติ. ปจฺฉิม ภวิกตฺตา ปน ตทุภยมฺปิ ภวนฺตเร นุปฺปชฺชิสฺสติเยวาติ. ฆานายตนํ นิพฺพตฺเตตีติ ฆานายตนานิพฺพตฺตตํ, กมฺมํ. เตน กมฺเมน คหิตปฺปฏิสนฺธิกานํ. อิทฺจ ยทิ ตนฺนิพฺพตฺตเกน กมฺเมน ปฏิสนฺธึ คณฺเหยฺยุํ. ฆานายตเน อนุปฺปนฺเน อนฺตรา น กาลงฺกเรยฺยุนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ตนฺนิพฺพตฺตเกน กมฺเมน ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตาปิ ตโต พลวนฺเต อุปจฺเฉทกกมฺเม อาคเต สติ. ฆานายตนุปฺปตฺติกาลํ อปตฺวา อนฺตรา นกาลงฺกโรนฺตีติ นตฺถิ. ‘‘จกฺขุฆาเนสุ วุตฺเตสู’’ติ ฏีกายํ วุตฺเตสุ. ‘‘อตฺถโต สิทฺธา เอวา’’ติ เอกาทสมสตฺตาเห อุปฺปนฺนาติ สิทฺธา เอว. ‘‘อีทิเสสุาเนสู’’ติ สภาวํ วิจาเร ตุํ ทุกฺกเรสุ ¶ าเนสุ. อฏฺกถาเยว ปมาณํ กาตุํ ยุตฺตาติ อธิปฺปาโย. อฏฺกถาปาเ. ‘‘ปุริมํ ภวจกฺกํ’’ติ อวิชฺชามูลกํ เวทนาวสานํ ภวจกฺกํ. ‘‘อนุปุพฺพปฺปวตฺติทีปนโต’’ติ ยถา ปจฺฉิเม ตณฺหามูลเก ภวจกฺเก อุปปตฺติภวปฺปวตฺตึ วทนฺเตน ภวปจฺจยาชาตีติ เอวํ เอกโต กตฺวา วุตฺตา, น ตถา ปุริเม ภวจกฺเก. ตตฺถ ปน สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณ ปจฺจยา นาม รูปนฺติอาทินา อนุปุพฺพปฺปวตฺติทีปนโต. ‘‘โส ปฏิกฺขิตฺโตเยวา’’ติ อายตนานํ กมโต วินิจฺฉยฏฺาเน เทสนากฺกโมว ยุตฺโตติ วตฺวา โส อุปฺปตฺติกฺกโม ปฏิกฺขิตฺโต.
สํยุตฺตเก ยกฺขสํยุตฺตปาฬิยํ. คาถาสุ. ‘‘กลลา’’ติ กลลโต. ‘‘อพฺพุทา’’ติ อพฺพุทโต. ‘‘เปสิยา’’ติ เปสิโต. ‘‘ฆนา’’ติ ฆนโต. ‘‘ชาติอุณฺณํสูหี’’ติ สุทฺธชาติกสฺส เอลกสฺส โลมํสูหิ. ‘‘ปริปกฺกสมูหกํ’’ติ กลลโต ปรํ โถกํ ปริปกฺกฺจ สมูหาการฺจ หุตฺวา. ‘‘วิวตฺตมานํ ตพฺภาวํ’’ติ กลลภาวํ วิชหิตฺวา วตฺตมานํ. ‘‘วิลีนติ ปุสทิสา’’ติ อคฺคิมฺหิ วิลีนติปุรสสทิสา. ‘‘มุจฺจตี’’ติ กปาเล นลคฺคติ. เอตานิชายนฺตีติ เอวํ อฏฺกถายฺจ วุตฺตํ. ‘‘ทฺวา จตฺตาลีสเม สตฺตาเห’’ติ นวมาเส อติกฺกมฺม วีสติเมทิวเส. ยทิ เอวํ, ปฺจเมสตฺตาเห ปฺจปฺปสาขา ชายนฺติ, เอกาทสเมสตฺตาเห จตฺตาริ อายตนานิ ชายนฺติ, มชฺเฌปน ปฺจสตฺตาหา อตฺถิ. ตตฺถ กถนฺติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ. ‘‘ฉสตฺตาหา’’ติ เอกาทสเมน สทฺธึ ฉสตฺตาหา. เอกาทสเมปิ หิ ปจฺฉิมทิวเส ชาตตฺตา ฉทิวสานิ อวสิฏฺานิ โหนฺติ. ‘‘ปริณตกาลา’’ติ ปริปกฺกกาลา. ปริปากคตา เอว หิ กมฺมชมหาภูตา สุปฺปสนฺนา โหนฺติ. เตสฺจ ปสาทคุณา ปสาทรูปา โหนฺตีติ. ‘‘ตสฺสา’’ติ กลลสฺส. วณฺณชาตํ วา สณฺานํ วาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อากาสโกฏฺาสิโก’’ติ มนุสฺเสหิ อากาสโกฏฺาเส ปิโต. หุตฺวาติ ปาเสโส. กถํ ปรมาณุโต ปริตฺตกํ สิยาติ อาห ‘‘โสหี’’ติอาทึ. ‘‘โส’’ติ ปรมาณุ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ กลลรูปํ กลาปตฺตยปริมาณํ. ปรมาณุ ปน ¶ เอกูนปฺาสกลาปปริมาโณ. ตสฺมา ตํ ตโต ปริตฺตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิสนฺธิกฺขณโต ปรํ ปน ตํปิ ขเณขเณ อุปจิตเมว โหติ. ‘‘ธาตูนํ’’ติ จตุธาตุววตฺถาเน อาคตานํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ. กลลสฺสวา อุปจิตปฺปมาณํ คเหตฺวา วุตฺตนฺติปิ ยุชฺชติ. ‘‘วตฺถุสฺมึ’’ติ อพฺพุทาทิวตฺถุมฺหิ. ‘‘ชลาพุมูลานุสาเรนา’’ติ ชลาพุชาตกาเล ตสฺส มูลานุ สาเรนาติ อธิปฺปาโย. คาถายํ. ‘‘มาตุติโร กุจฺฉิคโต’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘มาตุกุจฺฉิคโต ติโร’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มาตุยา ติโรกุจฺฉิ คโต’’ติ. ‘‘ฉิทฺโท’’ติ สุขุเมหิ ฉิทฺเทหิ สมนฺนาคโต. ลทฺธํวา ปานโภชนํ. ‘‘ตโต ปฏฺายา’’ติ สตฺตรสมภวงฺคจิตฺตโต ปฏฺาย. ‘‘รูปสมุฏฺาเน วุตฺตเมวา’’ติ รูปสมุฏฺาเน มูลฏีกาวาท วิจารณายํ ‘ยํ ปิตตฺถ น จ ยุตฺต’นฺติอาทินา วุตฺตเมว. ‘‘อชฺโฌหฏาหาราภาวโต’’ติ พหิทฺธาหาราภาวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตตฺถา’’ติ รูปพฺรหฺมโลเก. อภาวํ วณฺเณติ. กสฺมาปน วณฺเณติ, นนุ วณฺเณนฺตสฺส อฏฺกถา วิโรโธ สิยาติ. วิโรโธ วา โหตุ, อวิโรโธ วา. ปาฬิเยว ปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘รูปธาตุยา’’ติอาทินา วิภงฺเค ปาฬึ อาหริ. ตตฺถ ‘‘รูปธาตุยา’’ติ รูปโลกธาตุยา. รูป พฺรหฺมโลเกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุปปตฺติกฺขเณ’’ติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ. อาจริยสฺส อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘เอตฺถจา’’ติอาทิมาห. ‘‘โผฏฺพฺเพ ปฏิกฺขิตฺเตปี’’ติ ปฺจายตนานีติ วา ปฺจธาตุโยติ วา ปริจฺเฉทกรณเมว ปฏิกฺขิ ปนํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กิจฺจนฺตร สพฺภาวา’’ติ โผฏฺพฺพกิจฺจโต กิจฺจนฺตรสฺส วิชฺชมานตฺตา. กิมฺปน กิจฺจนฺตรนฺติ. รูปกายสฺส ปวตฺติยา เหตุปจฺจยกิจฺจํ. มหาภูตา เหตู มหาภูตา ปจฺจยา รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายาติ หิ ภควตา วุตฺตํ. ตตฺถ เหตุกิจฺจํ นาม รูปชนนกิจฺจํ. ปจฺจย กิจฺจํ นาม รูปูปตฺถมฺภน กิจฺจํ. กิจฺจนฺตรเมวนตฺถีติ ฆานาทีนํ วิสย โคจรภาวกิจฺจํ เตสํ กิจฺจํ นาม, ตโต อฺํ กิจฺจํ นาม นตฺถิ. ‘‘เยนา’’ติ กิจฺจนฺตเรน. ‘‘เต’’ติ คนฺธาทโย. อิทานิ อฏฺก ตานุคตํ ¶ วาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘เยน กิจฺจวิเสเสนา’’ติ วิสยโคจรภาวกิจฺจวิเสเสน. รูปชนนรูปูปตฺถมฺภน กิจฺจวิเสเสน จ. ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ สพฺพสฺมึ ปาฬิปฺปเทเส. ‘‘เตสํ’’ติ คนฺธาทีนํ. ‘‘ตตฺถา’’ติ รูปโลเก. ‘‘นิสฺสนฺท ธมฺมมตฺตภาเวนา’’ติ เอตฺถ ยถา อคฺคิมฺหิ ชาเต ตสฺส นิสฺสนฺทา นาม อิจฺฉนฺตสฺสปิ อนิจฺฉนฺตสฺสปิ ชายนฺติเยว. วณฺโณปิ ชายติ, โอภาโสปิ, คนฺโธปิ, รโสปิ, ธูโมปิ, ปุปฺผุลฺลานิปิ กทาจิ ชายนฺติเยว. เตหิ วณฺณาทีหิ กรณีเย กิจฺจวิเสเส สติปิ อสติปิ. ตถา มหาภูเตสุ ชาเตสุ เตสํ นิสฺสนฺทา นาม อิจฺฉนฺตสฺสปิ อนิจฺฉนฺตสฺสปิ กิจฺจวิเสเส สติปิ อสติปิ ชายนฺติเยว. เอวํ นิสฺสนฺทธมฺมมตฺตภาเวน. อนุปฺปเวโส ยุตฺโต สิยา อชฺฌตฺต สนฺตาเนติ อธิปฺปาโย. พหิทฺธา สนฺตาเน ปน วตฺถา ภรณ วิมานาทีสุ เตสํ ภาโว อิจฺฉิ ตพฺโพ สิยา. อชฺฌตฺเตปิ วา กายํ โอฬาริกํ กตฺวา มาปิตกาเลติ. เอตฺถ จ ‘‘ธมฺมายตน ธมฺมธาตูสุ อนุปฺปเวโส’’ติ เอตฺถ อฏฺสาลินิยํ ตาว. เย ปน อนาปาตาคตา รูปาทโยปิ ธมฺมารมฺมณมิจฺเจว วทนฺตีติ วุตฺตํ. ตํ ตตฺถ ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาปาตาคมนํ นาม วิสยโคจร กิจฺจรหิตตา วุจฺจติ. ตฺจ มนุสฺสานมฺปิ เทวานมฺปิ พฺรหฺมานมฺปิ ปสาทรูเปสุ อนาปาตา คมนเมว อธิปฺเปตํ. ตํ ปน อตฺถินตฺถีติ วิจาเรตฺวา กเถตพฺพํ. อปิ จ นิสฺสนฺทธมฺมา นาม โอฬาริกานํ มหาภูตานํ วิวิธาการาปิ ภเวยฺยุํ. พฺรหฺมานํ ปน อชฺฌตฺต รูปํ อปฺปนา ปตฺตกมฺมวิเสเสน ปวตฺตํ อติสุขุมํ โหติ. ตสฺมา กามสตฺต สนฺตาเน วิย ตตฺถ ปริปุณฺณํ นิสฺสนฺทรูปํ นาม วิจาเรตพฺพเมว. ธมฺมา รมฺมณฺจ มุขฺยธมฺมารมฺมณํ อนุโลม ธมฺมายตนนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ นตฺถิ เยวาติ. ‘‘ชีวิต ฉกฺกฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ รูปโลเก. ‘‘ตตฺถา’’ติ อสฺสตฺเต. กามโลเก ชีวิตนวกํ กสฺมา วิสุํ น วุตฺตนฺติ. ปฏิสนฺธิกฺขเณ กสฺมา น วุตฺตํ. ปวตฺติกาเลปิ วิสุํ น วุตฺตเมว. ‘‘อาหารูปตฺถมฺภกสฺสา’’ติ อาหารสงฺขาตสฺส รูปูปตฺถมฺภกสฺส. ‘‘สกลสรีร พฺยาปิโน อนุปาลกชีวิตสฺสา’’ติ กายทสกภาวทสเกสุ ปริยาปนฺนสฺส ชีวิตสฺส. ‘‘เอต เทวา’’ติ ¶ ชีวิตนวกเมว. ‘‘ตตฺถา’’ติ รูปโลเก. อุทยภูตสฺสา’’ติ วฑฺฒิภูตสฺส. ‘‘ทฺวีสุ อคฺคีสู’’ติ ปาจกคฺคิสฺมิฺจ กายคฺคิสฺมิฺจ. อาตงฺโก วุจฺจติ โรโค. พหุโก อาตงฺโก ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘วิสมเวปากินิยา’’ติ วิสมํ ปาเจนฺติยา. ‘‘คหณิยา’’ติ อุทรคฺคินา. ‘‘ปธานกฺขมายา’’ติ ปธาน สงฺขาตํ ภาวนารพฺภกิจฺจํ ขมนฺติยา. ‘‘เอตํ’’ติ ชีวิตนวกํ. ‘‘เถเรน จา’’ติ อนุรุทฺธตฺเถเรน จ. ‘‘เอตํ’’ติ ชีวิต นวกํ. ‘‘นิโรธกฺกโม’’ติ มรณาสนฺนกาเล นิโรธกฺกโม. ‘‘เอตฺถา’’ติ รูปโลเก. กเฬวรํ วุจฺจติ มตสรีรํ. ตสฺส นิกฺเขโป กเฬวรนิกฺเขโป. อฺเสฺจ โอปปาติกานํ กเฬวรนิกฺเขโป นาม นตฺถิ. กสฺมา ปน เตสํ กเฬวรนิกฺเขโป นาม นตฺถีติ อาห ‘‘เตสฺหี’’ติอาทึ. วิภาวนิปาเ. สพฺเพสํปิ รูปพฺรหฺมานํ. อาหารสมุฏฺานานํ รูปานํ อภาวโต ติสมุฏฺานานีติ วุตฺตํ. อสฺสตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานมฺปิ อภาวโต ทฺวิสมุฏฺานานีติ วุตฺตํ. ‘‘ตานี’’ติ มรณาสนฺน จิตฺตสมุฏฺานานิ. ตํ ปริมาณํ อสฺสาติ ตาวตฺตกํ. ‘‘ลหุกครุกตาทิวิกาโร’’ติ สกลรูปกายสฺส ลหุกครุกาทิวิกาโร. อปิ จ ตตฺถ ทนฺธตฺตาทิกร ธาตุกฺโขภปจฺจยานํ สพฺพโส อภาวโต นิจฺจกาลมฺปิ สกลสรีรสฺส ลหุตาทิคุโณ วตฺตติเยว. กึ ตตฺถ ปฏิปกฺข ธมฺมปฺปวตฺติ จินฺตาย. ตถา อสฺสตฺเตปิ รุปฺปนวิการ จินฺตายาติ.
รูปปฺปวตฺติกฺกมานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๑. นิพฺพานสงฺคเห. ทฺวีสุ นิพฺพานปเทสุ ปถมปทํ อวิฺาตตฺถํ สามฺ ปทํ. ทุตียํ วิฺา ตตฺถํ วิเสสปทํ. กิเลเส สเมตีติ สมโณ. อริยปุคฺคโล. สมณสฺส ภาโว สามฺํ. อริยมคฺโค. สามฺสฺส ผลานิ สามฺผลานิ. โลกโต อุตฺตรติ อติกฺกมตีติ โลกุตฺตรํ. โลเก น ปฺาวียตีติ ปฺตฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘นหี’’ติอาทิมาห ¶ . จตฺตาริมคฺคฺาณานิ จตุมคฺคฺาณนฺติ เอวํ สมาสวเสน เอกวจนนฺตํ ปทํ วากฺยํ ปตฺวา พหุวจนนฺตํ โหตีติอาห ‘‘จตูหิ อริยมคฺคฺาเณหี’’ติ. ‘‘ตาทิสมฺหา’’ติ อริยมคฺคสทิสมฺหา. ‘‘วิมุขานํ’’ติ ปรมฺมุขานํ. ‘‘ชจฺจนฺธานํ วิยา’’ติ ชจฺจนฺธานํ จนฺทมณฺฑลสฺส อวิสยภาโว วิย. ‘‘ตสฺสา’’ติ นิพฺพานสฺส. ตตฺถ ‘‘ชจฺจนฺธานํ’’ติ อวิสยปเท สามิปทํ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ภาวปทํ. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ กิฺจิยํ อตฺถชาตํ. อสฺสนิพฺพานสฺส สิทฺธตนฺติ สมฺพนฺโธ. อปากฏสฺส ธมฺมสฺส. วายาโมปิ นาม น อตฺถิ. กุโต ตสฺส สจฺฉิกรณํ ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เยนา’’ติ วายาเมน. ‘‘นิพฺพาเนน วินา’’ติ นิพฺพานารมฺมณํ อลภิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อกิจฺจสิทฺธึ’’ติ กิเลสปฺปหาน กิจฺจสฺส อสิทฺธึ. ‘‘ตโต’’ติ ตสฺมา. ‘‘วธายา’’ติ วธิตุํ. ‘‘ปริสกฺกนฺตา’’ติ วายมนฺตา. คาถายํ. ‘‘อนฺโตชฏา’’ติ อชฺฌตฺตสนฺตาเน ตณฺหาชฏา, ตณฺหาวินทฺธา. ‘‘พหิชฏา’’ติ พหิทฺธาสนฺตาเน ตณฺหาชฏา, ตณฺหาวินทฺธา. ‘‘ตสฺสา’’ติ ตณฺหาย. ‘‘วตฺถุโต’’ติ วิสุํวิสุํ ชาตสรูปโต. ปรินิพฺพายึสุ, ปรินิพฺพายนฺติ, ปรินิพฺพายิสฺสนฺตีติ ปรินิพฺพุตา. ตการปจฺจยสฺส กาลตฺตเยปิ ปวตฺตนโต. ยถา ทิฏฺา, สุตา, มุตา, วิฺาตา,ติ. วิสิฏฺํ กตฺวา ชานิตพฺพนฺติ วิฺาณํ. น นิทสฺสิตพฺพนฺติ อนิทสฺสนํ. นตฺถิ อนฺโต เอตสฺสาติ อนนฺตํ. สพฺพโต ปวตฺตา คุณปฺปภา เอตสฺสาติ สพฺพโตปภํ. ‘‘ภควตา วุตฺตํ’’ติ ทีฆนิกาเย เกวฏฺฏสุตฺเต วุตฺตํ. ‘‘สวนฺติโย’’ติ มหานทิโย วา กุนฺนทิโย วา. ‘‘อปฺเปนฺตี’’ติ ปวิสนฺติ. ‘‘ธาราติ’’ เมฆวุฏฺิธารา. พุทฺเธสุ อนุปฺปชฺชนฺเตสุ เอกสตฺโตปิ ปรินิพฺพาตุํ น สกฺโกตีติ อิทํ พุทฺธุปฺปาทกปฺเป เอว ปจฺเจก สมฺพุทฺธาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อปทาน ปาฬิยํ ปน พุทฺธสฺุกปฺเปปิ ปจฺเจกสมฺพุทฺธานํ อุปฺปตฺติ อาคตา เอว. ‘‘เอกสตฺโตปี’’ติ วา สาวกสตฺโต คเหตพฺโพ. เอวฺหิ สติ อปทานปาฬิยา อวิโรโธ โหติ. ‘‘อาราเธนฺตี’’ติ สาเธนฺติ ปฏิลภนฺติ. สพฺพโต ปวตฺตา คุณปฺปภา เอตสฺสาติ อตฺถํ สนฺธาย ‘‘สพฺพโตปภา สมฺปนฺนํ’’ติ ¶ วุตฺตํ. ‘‘โชติ วนฺต ตโรวา’’ติ โอภาสวนฺตตโร วา. สพฺพตฺถ ปภวติ สํวิชฺชตีติ สพฺพโตปภนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย สพฺพโต วา ปภุตเมว โหตีติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘น กตฺถจิ นตฺถี’’ติ. ‘‘เอวํสนฺเต ปี’’ติ เอวํ วุตฺตนเยน เอกวิเธ สนฺเตปิ. ‘‘อุปจริตุํ’’ติ อุปจารวเสน โวหริตุํ. ‘‘ยถาหา’’ติ ตสฺมึ เยวสุตฺเต ปุน กึ อาห. ภวํ เนตีติ ภวเนตฺติ. ภวตณฺหา เอว. ‘‘สมฺปรายิกา’’ติ จุติอนนฺตเร ปตฺตพฺพา. ทฺวินฺนํ ขีณาสวานํ อนุปาทิเสสตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘อนุปาทิเสสตา’’ติ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ วุจฺจติ. เสกฺเขสุ อรหตฺตมคฺคฏฺสฺส เสกฺขสฺส กิเลสุปาทิเสส วเสน อนุปาทิเสสตา วุตฺตา. ‘‘กิเลสุปาทิเสโส’’ติ จ กิเลส สงฺขาโต อุปาทิเสโส. ตถา ขนฺธุปาทิเสโสปิ. อนฺตราปรินิพฺพายีติอาทีสุ ปรินิพฺพานํ นาม กิเลสปรินิพฺพานํ วุตฺตํ. อุภโต ภาค วิมุตฺตาทีนํ ปทตฺโถ นวมปริจฺเฉเท อาคมิสฺสติ. ‘‘กิเลสกฺขเยน สเหว ขิยฺยนฺตี’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนภเว อรหตฺตมคฺคกฺขเณ กิเลสกฺขเยน สทฺธึ เอว ขิยฺยนฺติ. อนุปฺปาท ธมฺมตํ คจฺฉนฺติ. ตถา อนาคามิ ปุคฺคลสฺส กามปฏิสนฺธิกฺขนฺธาปิ อนาคามิมคฺคกฺขเณ, โสตาปนฺนสฺส สตฺตภเวเปตฺวา อวเสส กามปฏิสนฺธิกฺขนฺธา โสตาปตฺติ มคฺคกฺขเณ ตํ ตํ กิเลสกฺขเย น สเหว ขิยฺยนฺตีติ. ปจฺจุปฺปนฺนกฺขนฺธา ปน กิเลสกฺขเยน สหขิยฺยนฺติ. ขนฺธุปาทิเสสา นาม หุตฺวา ยาวมรณกาลา ขีณาสวานมฺปิ ปวตฺตนฺติ. กสฺมา ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘ยาวจุติยา ปวตฺตมานํ’’ติอาทึ. ปจฺจุปฺปนฺนกฺขนฺธสนฺตานํ ปน ธมฺมตาสิทฺธนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ผลนิสฺสนฺทภูตํ’’ติ วิปากผลภูตฺจ นิสฺสนฺทผลภูตฺจ หุตฺวา. ‘‘เตนสเหวา’’ติ กิเลสกฺขเยน สเหว. ‘‘ยสฺมาปนา’’ติอาทีสุ. ปริสมนฺตโต พุนฺธนฺติ นีวาเรนฺติ, สนฺติสุขสฺส อนฺตรายํ กโรนฺตีติ ปลิโพธา. กิเลสาภิสงฺขรณ กิจฺจานิ, กมฺมาภิสงฺขรณกิจฺจานิ, ขนฺธาภิสงฺขรณ กิจฺจานิ จ. ปลิโพเธหิ สห วตฺตนฺตีติ สปลิโพธา. สงฺขาร นิมิตฺเตหิ สห วตฺตนฺตีติ สนิมิตฺตา. ตณฺหาปณิธีหิ สห วตฺตนฺตีติ สปณิหิตา ¶ .‘‘ตโต’’ติ ปาปกมฺมโต, อปายทุกฺขโต จ. ‘‘โกจี’’ติ โกจิธมฺโม. ‘‘นิโรเธตุํ สกฺโกตี’’ติ สกฺกายทิฏฺิยา นิรุทฺธาย เต นิรุชฺฌนฺติ. อนิรุทฺธาย นนิรุชฺฌนฺติ. ตสฺมา สกฺกายทิฏฺิ นิโรโธ นิพฺยาปารธมฺโมปิ สมาโน เต ปลิโพเธ นิโรเธติ นาม. ‘‘นิโรเธตุํ สกฺโกตี’’ติ จ อพฺยาปาเร พฺยาปารปริกปฺปนาติ ทฏฺพฺพํ. สกฺกายทิฏฺินิโรโธเยว เต ปลิโพเธ นิโรเธตุํ สกฺโกตีติ เอตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ นิโรโธ เอโกเยว. เอวํ สนฺเตปิ อวิชฺชา นิโรธา สงฺขาร นิโรโธติอาทีสุ วิย อเภเท เภทปริกปฺปนา โหตีติ. อุปฺปาโท จ ปวตฺโต จ อุปฺปาทปฺปวตฺตา. เต มูลํ ยสฺสาติ วิคฺคโห. เยน โอฬาริกากาเรน. มาเรนฺตีติ มารา. วธกปจฺจตฺถิกาติ วุตฺตํ โหติ. กิเลสมาราทโย. มารา ทหนฺติ ติฏฺนฺติ เอเตสูติ มารเธยฺยา. มาเรติ จาเวติ จาติ มจฺจุ. มรณเมว. มจฺจุทหติ ติฏฺติ เอเตสูติ มจฺจุเธยฺยา. ‘‘นตฺถิ ตสฺมึ นิมิตฺตํ’’ติ วุตฺเต ปฺตฺติธมฺเมสุปิ อุปฺปาทปฺปวตฺตมูลํ นิมิตฺตํ นาม นตฺถิ. เอวํสติ, เตหิ นิพฺพานสฺส อวิเสโส อาปชฺชตีติ โจทนา. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘ตฺหี’’ติอาทิมาห. วิทฺธํเสตฺวาติ จ สาเธนฺตนฺติ จ อตฺถวิเสส ปากฏตฺถาย อพฺยาปาเร พฺยาปาร ปริกปฺปนา เอว. ปณีตาทิเภเท. อิทํ พุทฺธานํ นิพฺพานํ ปณีตํ. อิทํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นิพฺพานํ มชฺฌิมํ. อิทํ พุทฺธสาวกานํ นิพฺพานํ หีนนฺติ ภินฺนํ น โหตีติ โยเชตพฺพํ. นานปฺปกาเรน จิตฺตํ นิเธติ เอเตนาติ ปณิหิตํ. ‘‘นิเธตี’’ติ อารมฺมเณสุ นินฺนํ โปณํ ปพฺภารํ กตฺวา เปตีติ อตฺโถ. ตถา ปณิธานปณิธีสุ. อตฺถโต เอกํ อาสาตณฺหาย นามํ. ‘‘ลพฺภมานาปี’’ติ ภวสมฺปตฺติ โภคสมฺปตฺติโย ลพฺภมานาปิ. ‘‘ปิปาสวินย ธมฺมตฺตา’’ติ ปาตุํ ปริภฺุชิตุํ อิจฺฉา ปิปาสา. ปิปาสํ วิเนติ วิคเมตีติ ปิปาสวินโย. ‘‘เวทยิตสุขํ’’ติ เวทนาสุขํ. ‘‘กตมํ ตํ อาวุโส’’ติ ปาฬิปาเ ‘‘ตํ’’ติ ตสฺมา. ‘‘ยเทตฺถ เวทยิตํ นตฺถี’’ติ ยสฺมา เอตฺถ เวทยิตํ นตฺถิ. ตสฺมา นิพฺพาเน สุขํ นาม กตมนฺติ โยชนา. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตสฺมึ นิพฺพาเน. ‘‘เอตเทเวตฺถา’’ติอาทิมฺหิ. ‘‘เอต เทวา’’ติ ¶ เอโสเอว. ยสฺมา เอตฺถ เวทยิตํ นตฺถิ. ตสฺมา เอโส เวทยิตสฺส นตฺถิภาโว เอว เอตฺถนิพฺพาเน สุขนฺติ โยชนา.
‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ยเทตํ ขิยฺยนํ นิรุชฺฌนํ อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. เกจิ ปน ตํขิยฺยน นิรุชฺฌน กฺริยามตฺตํ นิพฺพานํ น โหติ. อภาว ปฺตฺติมตฺตํ โหตีติ วทนฺติ. ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘น หิตํ’’ติอาทิมาห. ‘‘ปฺตฺติรูปํ’’ติ ปฺตฺติสภาโว. ปาฬิปาเ. ‘‘ปทหตี’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กโรติ. ปหิโต อตฺตา อเนนาติ ปหิตตฺโต. ‘‘ปหิโต’’ติ ปทหิโต. อนิวตฺตภาเว ปิโต. เปสิโตติปิ วณฺเณนฺติ. ‘‘กาเยนา’’ติ นามกาเยน. ตณฺหาวเส วตฺตนฺตีติ ตณฺหาวสิกา. ‘‘เตสํ ปี’’ติ เตสํ วาเทปิ. ตสฺมึ ขย นิโรธมตฺเต อนนฺตคุณา นาม นตฺถีติ อิมํ วาทํ วิโสเธตุํ ‘‘นิพฺพานสฺส จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิปกฺขวเสน สิชฺฌนฺตี’’ติ เอเตน วฏฺฏธมฺเมสุ มหนฺตํ อาทีนวํ ปสฺสนฺตา เอว เตสํ นิโรเธ มหนฺตํ คุณานิสํสํ ปสฺสนฺตีติ ทีเปติ. เย ปน ยถาวุตฺตํ ขยนิโรธํ ปรมตฺถนิพฺพานนฺติ น ชานนฺติ, เตสํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอวํ คุณปทานํ คมฺภีรตฺตา ตํขยนิโรธมตฺตํ อนนฺตคุณานํ วตฺถุ น โหตีติ มฺนฺติ. อิทานิ นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺติ วุตฺตํ. กถํ ตํ ขยนิโรธมตฺตํ ปรมสุขํ นาม ภเวยฺยาติ อิมํ วาทํ วิโสเธตุํ ‘‘สนฺติสุขฺจนามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺถิภิกฺขเวติ สุตฺเต. ‘‘โนเจตํ อภวิสฺสา’’ติ เอตํ อชาตํ โนเจ สนฺตํ วิชฺชมานํ น ภเวยฺย. ‘‘นยิมสฺสา’’ติ น อิมสฺส. ปจฺจกฺขภูตํ ขนฺธปฺจกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺสา’’ติ วทติ. นิสฺสกฺกตฺเถ จ สามิวจนํ. อิมสฺมา ชาตา ภูตา กตา สงฺขตา สตฺตานํ นิสฺสรณํ นาม น ปฺาเยยฺยาติ โยชนา. ปรตฺถปิ เอสนโย. เอสนโย สพฺเพสูติอาทีสุ. ทุจฺจริต ธมฺมา นาม ปจฺจเย สติ, ชายนฺติ. อสติ, น ชายนฺตีติ เอวํ ชาตํ วิย อชาตมฺปิ เตสํ อตฺถิ. ยทิ จ อชาตํ นาม นตฺถิ. ชาตเมว อตฺถิ. เอวํสติ, อตฺตนิ ทุจฺจริตานํ อชาตตฺถาย สมฺมาปฏิปชฺชนฺตานํปิ สพฺเพ ทุจฺจริต ธมฺมา อตฺตนิ ชาตาเยว สิยุํ, โน อชาตา. กสฺมา, อชาตสฺส นาม นตฺถิตายาติอาทินา โยเชตพฺพํ.
‘‘เอตฺตาวตา’’ติ ¶ , อตฺถิ ภิกฺขเว อชาตํติอาทินา ปาฬิวจเนน. สพฺเพสงฺขารา สมนฺติ วูปสมนฺติ เอตฺถาติ สพฺพสงฺขาร สมโถ. สพฺเพ อุปธโย เอตฺถ นิสฺสชฺชนฺติ อริยาชนาติ สพฺพุปธินิสฺสคฺโค. ‘‘อุปลพฺภมาโน’’ติ สนฺติลกฺขเณน าเณน อุปลพฺภมาโน. ‘‘เอสึสู’’ติ กตฺวา เอสนกิจฺจสฺส สิขาปตฺตํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิคจฺฉึสู’’ติ วุตฺตํ.
นิพฺพานสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
รูปสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๗. สมุจฺจยสงฺคหอนุทีปนา
๑๖๒. สมุจฺจยสงฺคเห ¶ . อตฺตโน อาเวณิกภูเตน สามฺ ลกฺขเณนติ จ สมฺพนฺโธ. อฺาปเทเสน เอว ตทุภยลกฺขเณน สลกฺขณานิ นาม วุจฺจนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘นิพฺพานสฺสปิ สรูปโต ลพฺภมานสภาวตา’’ติ อฺนิสฺสย รหิเตน ลพฺภมานสภาวตา. นนุ นิพฺพานมฺปิ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติอาทินา อฺนิสฺสยทสฺสนํ อตฺถิ เยวาติ. ทสฺสนมตฺตํ อตฺถิ. นิพฺพานํ ปน ราคาทีหิ ปฏิพทฺธํ น โหติ. อถ โข เตหิ ทูรตรํ โหติ. ปฏิปกฺขตรํ, ปฏิวิรุทฺธตรํ. ยฺหิ รูปสฺส ขโย วโย เภโท อนิจฺจาติ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปสฺส อุปฺปชฺชิตฺวา ขโย วุตฺโตติ โส รูปสฺส นิสฺสิโต เอว โหติ. อิธ ปน ราคาทีนํ ปุน อุปฺปาทสฺสปิ อภาโว วุตฺโตติ โส ราคาทีสุ อนิสฺสิโต เอว. น เกวลํ อนิสฺสิโต. อถ โข เตหิ ทูรตโร จ ปฏิปกฺขตโร จ เตสํ ปฏิปกฺขคุเณหิ อิมสฺสสิทฺธตฺตาติ. อนิปฺผนฺนรูปานิปิ อธิปฺเปตานิ เอว เตสมฺปิ ขนฺธายตนธาตุ สจฺเจสุ สงฺคหิตตฺตา.
อาสวาทีสุ. ‘‘ปาริวาสิยฏฺเนา’’ติ ปริวาสกรณฏฺเน. ‘‘มทนียฏฺเนา’’ติ มทนชนกฏฺเน. ‘‘ปริวาสํ คณฺหนฺตี’’ติ โทสเวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ‘‘ปริวาสํ’’ติ ทุคฺคนฺธตาทิปริวาสํ. ‘‘อาสวภริตเมวา’’ติ อาสเวหิ ปูริตเมว. ‘‘ฉฬารมฺมณานิ ทูเสนฺตี’’ติ ตานิ สาสวาทิภาวํ ปาเปนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ภวโต’’ติ ภูมิโต อิจฺเจวตฺโถ. อวธียติ ปริจฺฉินฺทียติ เอตสฺมาติ อวธิ. อปาทานํ วุจฺจติ. มริยาโท นาม ปริยนฺตปริจฺเฉโท. มริยาทมตฺตภูโต กฺริยาวิสโย มริยาทวิสโย. อวธิ นาม พฺยาปน วิธานํ, กฺริยา พฺยาปนสฺส วิสโย อภิวิธิวิสโย. ‘‘ยสฺสา’’ติ อวธิ วตฺถุสฺส. ‘‘อตฺตานํ’’ติ อวธิวตฺถุํ. ‘‘พหิกตฺวา’’ติ สมฺปตฺตมตฺตํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. อวธิวิจารณายํ. ‘‘สทฺทสฺสา’’ติ ¶ ภควโต กิตฺติสทฺทสฺส. ‘‘ตํ’’ติ อวธิภูตํ อตฺถํ. ‘‘ยโส’’ติ กิตฺติสทฺโท. ‘‘อิตรํ’’ติ อนภิวิธิวิสยํ พหิ กตฺวา ปวตฺตติ.
กามาสวาทีสุ. ‘‘ตนฺนาเมนา’’ติ กามนาเมน. ‘‘ตทารมฺมณา’’ติ กามธมฺมารมฺมณา. ‘‘อยมตฺโถ วา’’ติ กามียตีติอาทินา วุตฺโต ปจฺฉิมตฺโถว. ‘‘มหคฺคตกุสลธมฺมา’’ติ อิธาธิปฺเปตํ กมฺมภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ตํ นิพฺพตฺตา’’ติ เตน นิพฺพตฺตา. ‘‘ตทารมฺมณา’’ติ ทุวิธภวารมฺมณา. ‘‘ตณฺหา เอวา’’ติ ภวตณฺหา เอว. ‘‘ภโว เอวา’’ติ ภวารมฺมณตาย ภวนามิกา ตณฺหา เอว. ‘‘อิเม เอวา’’ติ ตณฺหาทิฏฺิ อวิชฺชา เอว. ‘‘ปริวุตฺเถ สตี’’ติ ปริวสิเต สติ. ‘‘กามวิสยา’’ติ กามธมฺมวิสยา. ‘‘ตสฺมึ’’ติ กามาสเว. ภววิสยา มานาทโย ปริวุตฺถา เอวาติอาทินา โยเชตพฺพํ. ตถา ทิฏฺิวิสยาติ ปเทปิ.
‘‘อนสฺสาสิกํ กตฺวา’’ติ อสฺสาสปสฺสาสรหิตํ กตฺวา. ‘‘อวหนนฏฺเนา’’ติ อชฺโฌตฺถริตฺวา มารณฏฺเน. อโธกตฺวา มารณฏฺเนาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘ทุตฺตรฏฺเนา’’ติ ตตฺถ ปตนฺตสฺส ตริตุํ ทุกฺกรฏฺเน. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ อาสเวสุ วุตฺตนเยน.
‘‘วฏฺฏสฺมึ’’ติ ติวิธวฏฺฏสฺมึ. ‘‘ภวยนฺตเก’’ติ อวิชฺชาสงฺขาราทิเก ภวจกฺเก. ‘‘อามสนํ’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตถา ตถา กปฺเปตฺวา คหณ’’นฺติ. ‘‘สาสเน’’ติ ปริยตฺติสาสเน ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺตนฺเต. ‘‘ทิฏฺิโย ทิฏฺุปาทานํ’’ติ ทิฏฺิวตฺถูสุ ทฬฺหคฺคาหฏฺเน ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺุปาทานํ. อตฺตวาทุปาทาเน. ปริกปฺป พุทฺธิ นาม มิจฺฉาาณํ วุจฺจติ. ‘‘อิสฺสร นิมฺมิตํ’’ติ สกลโลกิสฺสเรน มหาพฺรหฺมุนา อาทิกปฺปกาเล นิมฺมิตํ. ‘‘อธิจฺจ สมุปฺปนฺนํ’’ติ อเหตุ อปจฺจยา สมุปฺปนฺนํ. ‘‘อจฺจนฺตสสฺสตํ’’ติ ภวปรมฺปราสุ สสฺสตํ. ‘‘เอกจฺจสสฺสตํ’’ติ ภววิเสสํ ปตฺวา เอกจฺจานํ สตฺตานํ สสฺสตํ. ‘‘อุจฺฉินฺนํ’’ติ ยตฺถกตฺถจิ ปรมฺมรณา อุจฺฉินฺนํ. ปุราณฺจกมฺมํ ปริกฺขีณํ, นวฺจกมฺมํ อกตํ. เอวํ สํสาร สุทฺธีติอาทินา ¶ คหณนฺติ อตฺโถ. สนฺโต กาโย สกฺกาโย. ‘‘สนฺโต’’ติ ปรมตฺถโต วิชฺชมาโน. ‘‘กาโย’’ติ รูปกาโย, นามกาโย. อตฺตโน อตฺตโน กาโย วา สกฺกาโย. ปจฺจตฺตกาโย, ปาฏิปุคฺคลิก กาโยติ วุตฺตํ โหติ. ยถาวุตฺตกาย ทฺวยเมว. สกฺกาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ. ตตฺถ ‘‘สกฺกาเย ทิฏฺี’’ติ ปุพฺพนฺตาปรนฺต กปฺปิกานํ วิย ปุพฺพนฺตา ปรนฺเตอจินฺเตตฺวา สพฺพสตฺตานํปิ อตฺตโน ขนฺเธสุ เอว ‘รูปํ เม อตฺตาติ วา’ อตฺตา เม รูปวาติ วา, อตฺตนิ เม รูปนฺติ วา, รูปสฺมึ เม อตฺตาติ วา, เอวมาทินา ธมฺมตา สิทฺธา ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ ขนฺธเทสนาทิเก สฺุตธมฺมปฺปฏิสํ ยุตฺเต เทสนา ธมฺเม อสฺสุต ปุพฺพตฺตา นตฺถิ สุตํ เอตสฺสาติ อสฺสุตวา. ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ โลกิยมหาชโน. ตตฺถ ปริยาปนฺโน ปน เอกปุคฺคโลปิ ปุถุชฺชโนตฺเวว วุจฺจติ. โส สุตวาปิ อตฺถิ, อสฺสุตวาปิ อตฺถิ. อิธ อสฺสุตวา อธิปฺเปโต. อริย ปุคฺคโล ปน ตตฺถ ปริยาปนฺโน น โหติ. อหนฺติวา, มมาติ วา, มยีติ วา, เมติ วา, ปรามสน ปทานิ นาม. ‘‘เสสธมฺเมวา คเหตฺวา’’ติ รูปโต อวเสเส นามกฺขนฺธ ธมฺเม อตฺตา เมติ คเหตฺวา วา. ‘‘ธมฺม มุตฺตกํ วา อตฺตานํ คเหตฺวา’’ติ ปฺจกฺขนฺธธมฺมวิมุตฺตํ ปริกปฺปสิทฺธํ อตฺตานํ วา คเหตฺวา. จตสฺโส อวตฺถา ยสฺสาติ จตุราวตฺถิกา. เวทนาย สมฺโภครสตฺตา ‘‘สํภฺุชึ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุขิโต’’ติ สุขเวทนาย สมงฺคีปุคฺคโล. ธมฺมโต ขนฺธ ปฺจกเมว. ตตฺถ ปน สุขเวทนาปธานตฺตา ตถา สมนุปสฺสนฺโต เวทนํ อตฺตาติ สมนุปสฺสติ นาม. ‘‘สมูหโต คเหตฺวา’’ติ อหมสฺมิ, อหํ เอโก สตฺโตติอาทินา สมูหโต. ‘‘วตฺถู’’ติ ปฺจกฺขนฺธา วุจฺจนฺติ. าตปริฺาทิวเสน อปริฺาตานิ วตฺถูนิ เอเตหีติ อปริฺาตวตฺถุกา. เอกมุหุตฺตมตฺเตปิ กาเล. รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทิกํ จตุราวตฺถํ สนฺธาย ‘‘กทาจิ อตฺตโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตนิมิตฺตํ’’ติ อภิกฺกมนาทีสุ กายวจีมโน กฺริยาสุ อหํ อภิกฺกมามิ, อหํ ปฏิกฺกมามีติอาทินา จิตฺเต ทิสฺสมานา อตฺตจฺฉายา วุจฺจติ.
‘‘กามนฏฺเนา’’ติ ¶ อิจฺฉนฏฺเน. ‘‘ฉนฺทนฏฺเนา’’ติ ปตฺถนฏฺเน. ลีนภาโว นาม จิตฺตเจตสิกานํ ปฏิกุฏนํ. อาปาทียเต อาปาทนํ. ลีนภาวสฺส อาปาทนนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ตนฺที’’ติ อาลสฺยํ วุจฺจติ. ‘‘วิชมฺภิตตา’’ นาม กิเลสวเสน กายงฺคานํ วิชมฺภนํ สมิฺชนปฺปสารณาทิกรณํ. สา เอว ปจฺจโย เอตสฺสาติ วิคฺคโห.
อนุสยปทตฺเถ. ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อุปฺปชฺชิตุํ สกฺโกนฺติ. น ปน เอกนฺตโต อุปฺปชฺชนฺติ. สนฺเตสุหิ เอกนฺตโต อุปฺปชฺชนฺเตสุ อนุสยา นาม น โหนฺติ สยนกิจฺจสฺเสว อภาวโต. ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วา อุปฺปชฺชิตุํ ปโหนฺติ. ปตฺโถทโน พหูนํ ชนานํ ปโหตีติอาทีสุ วิย. ปฺตฺติโยหิ อสภาวธมฺมชาติกตฺตา การณ ลาเภปิ อุปฺปชฺชิตุํ นปฺปโหนฺติ. อิเม ปน สภาวธมฺมชาติกตฺตา การณ ลาเภ สติ อุปฺปชฺชิตุํ ปโหนฺตีติ. เอวฺหิสติ, อุปฺปาทํ อปตฺตานํปิ เตสํ ปรมตฺถชาติกตา สิทฺธา โหตีติ. ‘‘สห อนุเสนฺตี’’ติ เอกโต อนุเสนฺตีติ วุตฺตา กามราคานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ วิจิกิจฺฉานุสโย จ. อิเมสํ สตฺตานํ สตฺตสนฺตาเน อนุสยกิจฺจมตฺตํ เปตฺวา เอกโต อุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ. ยทิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ. ทฺวาทสา กุสลจิตฺตานิ สตฺตสนฺตาเน นิจฺจกาลมฺปิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ. น จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา วิฺายติ อุปฺปชฺชนํ นาม อปฺปหีนฏฺเน อุปฺปชฺชนารหภาโว วุตฺโตติ. เสนฺตีติ วตฺวา ตทตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘วิสุํ’’ติอาทินา. ‘‘อวุฏฺิตา’’ติ อุปฺปาทํ อปตฺตา. ‘‘ตถาปวตฺตา’’ติ จาลนากาเรน ปวตฺตา. ปุน ‘‘ตถาปวตฺตา’’ติ ชวนสหชาตากาเรน ปวตฺตา. ‘‘เยสํ’’ติ กามราคานุสยาทีนํ. ‘‘อาวชฺชนํ’’ติ อาวชฺชนจิตฺตํ. ‘‘ทมถํ’’ติ สุทนฺตภาวํ. ‘‘ตถา ปวตฺตา’’ติ จิตฺตสนฺตานานุสยนากาเรน ปวตฺตา. ตาอวตฺถา เยสํ เต ตทวตฺถิกา. ยทิ เต อุปฺปาทํ อปตฺตา. เอวํสติ, เต ปรมตฺถาปิ นาม น ภเวยฺยุนฺติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘เต ปนา’’ติอาทินา. สเจ เต กุสลาพฺยากต จิตฺตสนฺตานมฺปิ อนุคตา. เอวํสติ, เต กุสลาพฺยากตานิ นาม ¶ สิยุนฺติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘น จา’’ติอาทินา. อถ เต เอกนฺต อกุสลา สิยุํ. เอวํสติ, กุสลาพฺยากเตหิ วิรุทฺธา ภเวยฺยุํติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘นาปี’’ติอาทินา. ยทิ อุปฺปาทํ อปตฺตา. เอวํสติ, กาลวิมุตฺตา สิยุนฺติ อาห ‘‘นาปิกาลตฺตย วินิมุตฺตา’’ติอาทึ. ‘‘สานุสเย จิตฺตสนฺตาเน’’ติ เสกฺขปุถุชฺชนานํ จิตฺตสนฺตาเน. ‘‘สห มคฺคุปฺปาทา’’ติ มคฺคุปฺปาเทน สเหว. ‘‘ตตฺถ ตตฺถ วุตฺโต’’ติ อฏฺกถาฏีกาสุ วุตฺโต. ‘‘อนาคตสามฺํ’’ติ อนาคตสทิสํ. น เอกนฺต อนาคตนฺติปิ วทนฺติ. กถํ เต สงฺขตชาติกา โหนฺตีติ อาห ‘‘เตหิ มคฺเค’’ติอาทึ. วิภาวนิปาเ. ‘‘อปฺปหีนา’’ติ มคฺเคน อปฺปหีนา. ‘‘ตทวตฺถา’’ติ อุปฺปชฺชนารหาวตฺถา. ‘‘ตํ สภาวตฺตา’’ติ กามราคาทิ สภาวตฺตา. ‘‘ตถา วุจฺจนฺตี’’ติ อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. อนาคตา นาม น โหนฺติ. จิตฺตสนฺตาเน วตฺตมานภาเวน สิทฺธตฺตา. ‘‘หฺจิ ปชหตี’’ติ ยทิปชหติ. ‘‘เตนหี’’ติ ตโต เอว. ‘‘รตฺโต’’ติ ราคสมงฺคี หุตฺวา. ‘‘ทุฏฺโ’’ติ โทสสมงฺคี หุตฺวา. ‘‘มุฬฺโห’’ติ โมหสมงฺคี หุตฺวา ปชหตีติ โทโส อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ปริยุฏฺาน ปตฺตานํ ราคาทีนํ. ‘‘มคฺควชฺฌํ’’ติ มคฺเคน วธิตพฺพํ. ‘‘อุปฺปนฺนํ’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนํ. วตฺตมานฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ วตฺตมานุปฺปนฺนํ. ‘‘ภุตฺวา’’ติ อารมฺมณํ ปริภฺุชิตฺวา. วิคจฺฉตีติ วิคตํ. ภุตฺวา วิคตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺนํ. วิปจฺจนตฺถาย โอกาสํ กโรนฺตีติ โอกาสกตํ. โอกาสกตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ โอกาสกตุปฺปนฺนํ. สมุทาจาโร วุจฺจติ ภิยฺโย ปวตฺตนํ. สมุทาจาโร จ โส อุปฺปนฺนฺจาติ สมุทาจารุปฺปนฺนํ. ขนฺธปฺจก สงฺขาตํ ภูมึ ลภตีติ ภูมิลทฺธํ. ภูมิลทฺธฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ. อารมฺมณํ อธิกตรํ คณฺหาตีติ อารมฺมณาธิคฺคหิตํ. อารมฺมณาธิคฺคหิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนํ. มหคฺคตชฺฌาเนน อวิกฺขมฺภิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ. มคฺเคน อสมุคฺฆาฏิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อสมุคฺฆาฏิตุปฺปนฺนํ. เอวํ มคฺควชฺฌานํ อนุสยานํ อุปฺปนฺนภาเวน วุตฺตตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนตา ¶ ปริยาโยว เตสํ วตฺตพฺโพติ. ‘‘เสกฺขา’’ติ สตฺตเสกฺขปุคฺคลา.
โอรมฺภาโค วุจฺจติ กามโลโกเจว ปุถุชฺชนภาโว จ. โอรมฺภาเค สนฺทิสฺสนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํภาโค วุจฺจติ มหคฺคตภาโวเจว อริยภาโว จ. อุทฺธํภาเค สนฺทิสฺสนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานิ. ตตฺถ. กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท,ติ อิมานิ ทฺเวสํ โยชนานิ กามโลกสงฺขาเต โอรมฺภาเค เอว สนฺทิสฺสนฺติ. ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส,ติ อิมานิ ตีณิ ปุถุชฺชนภาว สงฺขาเต. เสสานิ ปน ปฺจ มหคฺคตภาวสงฺขาเต จ อริยภาวสงฺขาเตจ อุทฺธํภาเคปิ สนฺทิสฺสนฺติ. อถวา. ปุริมานิ ปฺจยสฺส ตานิ มคฺเคน อปฺปหีนานิ, ตํ อุปริภวคฺเค ิตํปิ กามโลกสงฺขาตํ โอรมฺภาคํ อากฑฺฒนฺติ, ตสฺมา โอรมฺภาคาย สํวตฺตนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. ปจฺฉิมานิ ปฺจ ยสฺส ตานิ อปฺปหีนานิ, ตํ กามโลเก ิตํปิ อุทฺธํภาคํ อากฑฺฒนฺติ, ตสฺมา อุทฺธํภาคาย สํวตฺตนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานิ. ตตฺถหิ ทฺเวรูปารูปราคา เอกนฺเตน มหคฺคตภาวํ อากฑฺฒนฺติเยว. มาโน จ อุทฺธจฺจฺจ อวิชฺชาจาติ อิมานิ จ รูปารูปราคสหคตานิ หุตฺวา อากฑฺฒนฺติ. โอรํ เหฏฺิมํ กามโลกํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํ รูปารูปโลกํ ภชนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานีติปิ วณฺเณนฺติ. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ ทฺเว อิสฺสา สํโยชน มจฺฉริยสํโยชนานิ. ‘‘กโมปน ทฺวินฺนํ ปี’’ติ อิธ สงฺคเห ทฺวินฺนํปิ อนุกฺกโมปน.
‘‘วิพาเธนฺตี’’ติ วิหึสนฺติ. ‘‘อุปตาเปนฺติจา’’ติ อุปคนฺตฺวา สนฺตาเปนฺติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
อกุสลสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๓. มิสฺสกสงฺคเห. ‘‘จิตฺตปฺปฏิปาทนํ จิตฺตนิโยชนํ. ‘‘สุคติ ทุคฺคติ วิวฏฺฏสงฺขาตาสุ จา’’ติ สุคติภว ทุคฺคติ ภวนิพฺพานสงฺขาตาสุ จ. นิพฺพานฺหิ วฏฺฏโต คิคตตฺตา วิวฏฺฏนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ทสฺสนาทีหิ เอวา’’ติ ทสฺสนสงฺกปฺปนาทีหิ เอว. อุชุคติ นาม ¶ หิตสุขสํวตฺตนิกา ปวตฺติ วุจฺจติ. วงฺกคตินาม อหิต ทุกฺขสํวตฺตนิกา ปวตฺติ. ‘‘ปถงฺคานี’’ติ ปถสฺสมคฺคสฺส องฺคานิ. มคฺโคติ จ อุปาโย วุจฺจตีติ อาห ‘‘อุปายงฺคานี’’ติ. ‘‘อิตรานี’’ติ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนิ องฺคานิ. อุชุคติยา คมนสฺส อุปายงฺคานิ. อิเมปิ จตฺตาโร มคฺคงฺค ธมฺมา ธมฺมา นาม อาคตา. ‘‘ตถา ตถา ปวตฺตานํ’’ติ มุสาวาทาทิวเสน ปวตฺตานํ. ‘‘นา นามคฺโควา’’ติ มิจฺฉามคฺโค จ สมฺมามคฺโค จ.
‘‘อตฺตาธีนวุตฺติเก’’ติ อตฺตายตฺตปฺปวตฺติเก. อตฺตโน คติ นาม จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ ทสฺสนาทิ กิจฺจเมว วุจฺจติ. ‘‘อิสฺสรา อธิปติโน’’ติ อิทํ อาธิปฺปจฺจตฺถปากฏตฺถํ วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ภาวปฺปธานวเสน คเหตพฺโพ. อินฺทฺริยํ อิสฺสริยํ อาธิปฺปจฺจนฺติหิ อิเม เอกตฺถาติ. ‘‘อิตฺถาการานิ’’ นาม อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทิ. ‘‘อฺถา อปฺปวตฺติยํ’’ติ อิตฺถิสณฺาเน ปุริสลิงฺคาทีนํ, ปุริสสณฺาเน อิตฺถิลิงฺคาทีนํ อปฺปวตฺติยํ. เตนาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. มโน วิชานนกิจฺเจ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อิสฺสโร โหติ อนฺาภิภวนียภาเวน ปวตฺตนโตติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ปรตฺถ. ‘‘อารมฺมณาธิมุจฺจเน’’ติ อารมฺมเณ นิราสงฺกปฺปวตฺติยํ. ‘‘อารมฺมณุปฏฺาเน’’ติ จิตฺเต พุทฺธคุณาธิกสฺส อารมฺมณสฺส อุปฏฺาเน. ‘‘จตุสจฺจธมฺโม’’ติ เตน ปุคฺคเลน อนฺาต ปุพฺโพ จตุสจฺจ ธมฺโม. อนฺาต ปุพฺพํ อมตํ วา ปทํ. อนฺาตํ สฺสามิ อิติ ปวตฺตํ อินฺทฺริยนฺติ สมาโส. ปฏิปนฺนสฺสาติ ปน อตฺถโต สิทฺธตฺตา วุตฺตํ. ‘‘วิปฺปกตภาเวนา’’ติ อนิฏฺงฺคตภาเวน. ปุนปฺปุนํ ชานนกิจฺจยุตฺตานํ มชฺเฌ ฉนฺนํเสกฺขานํ. เอเตน อวสทฺทสฺสยาว สพฺพกิเลสปฺปหานา ชานนนฺติ อตฺถํ ทีเปติ. ปถม มคฺเคน าตํ มริยาทํ อนติกฺกมฺม ชานนนฺติปิ วณฺเณนฺติ. อาชานิตตฺถาติ อฺาตาวี. อรหา ขีณาสโว กตกิจฺโจ วุสิต พฺรหฺมจริโย. อฺาตาวิโน อินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปรินิฏฺิต อาชานนกิจฺจสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตพฺพิมุตฺตี’’ติ อตฺตคฺคาห วิมุตฺติ. ‘‘ตสฺมึ วา’’ติ ตสฺมึ อตฺตนิวา. ‘‘สํกิลิฏฺโ’’ติ นานากิเลเสหิ สํกิเลสิโต. ‘‘วิปฺผนฺทิโต’’ติ นานาสุขทุกฺเขหิ ¶ สํกมฺปิโต. ‘‘โวทานปตฺติยา’’ติ วิสุทฺธิปตฺตตฺถาย. ‘‘ตายปฏิ ปตฺติยา’’ติ กรณตฺเถ, เหตุ อตฺเถ วา กรณวจนํ. ‘‘โวทานปตฺติยา’’ติ สามิอตฺเถ สามิวจนํ.
‘‘พลียนฺตี’’ติ นามธาตุนิทฺเทโส. เตนาห ‘‘พลสา กโรนฺตี’’ติ. ‘‘พลสา’’ติ พเลน. ปริโต สมนฺตโต เสนฺติ ปริวาเรนฺตีติ ปริสฺสยา. อสฺสทฺธสฺส ภาโว อสฺสทฺธิยํ. โกสชฺชสงฺขาเตน ปฏิปกฺขธมฺเมน. มุฏฺา นฏฺา สติ ยสฺสาติ มุฏฺสฺสติ. มุฏฺสฺสติสฺส ภาโว มุฏฺสฺสจฺจํ. ‘‘เสสทุก ทฺวยํ’’ติ อหิริกทุกํ หิริทุกฺจ.
คหปติ, ชายมฺปตี, ติอาทีสุ วิย ปติสทฺโท สามิอิสฺสร ปริยาโยติ อาห ‘‘ปตีติ สามิอิสฺสโร’’ติ. ‘‘ปเรสํ’’ติ สหชาเตสุ ปเรสํ อินฺทฺริยานํ. ‘‘ปเรหี’’ติ กมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ปเร สหชาเต อินฺทฺริย ธมฺเมติ อตฺโถ. ‘‘อธิโก’’ติ อธิกตโร. ‘‘อตฺตาธีน วุตฺตีนํ’’ติ อตฺตายตฺตวุตฺตีนํ. ‘‘ฉนฺทาคมนวเสน วา’’ติ เอตฺถ อาคจฺฉติ ผลํ เอเตนาติ อาคมนํ. อาทิการณํ, มูลการณํ, ปภวการณํ. ฉนฺโท เอว อาคมนํ ฉนฺทาคมนํ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ อตีตภเวสู’’ติอาทึ. สมฺปยุตฺต ธมฺเม อตฺตปราธีเน กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. มโหโฆ ติณปณฺณกสเฏ อตฺตปราธีเน กโรนฺโต วิยาติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘อตฺตปราธีเน’’ติ อตฺตสงฺขาโตปโร อตฺตปโร. อตฺตปเรน อธีนา อตฺตปราธีนาติ อตฺโถ. ‘‘เสเสสุปี’’ติ เสเสสุ วีริย จิตฺต วีมํสาธิปตีสุปิ. เอเตน ‘วีริยเมว อธิปติ วีริยาธิปติ. วีริยวโต กึ นาม กมฺมํ น สิชฺฌตีติ เอวํ ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน วา ปุพฺเพ อตีตภเวสุ สุฏฺุ อาเสวิตวีริยาคมนวเสน วา เตสุ เตสุ กลฺยาณ ปาปกมฺเมสุ สมฺปยุตฺต ธมฺเม มโหโฆ วิย ติณปณฺณกสเฏ อตฺตปราธีเน นิจฺจํ ปคฺคหิตธุเรกตฺวา ปวตฺตํ วีริย’นฺติอาทินยํ อติทิสติ. ‘‘ปจฺฉิมา ตโย ธมฺมา’’ติ วีริย จิตฺต วีมํสา ธมฺมา. ปรวเสปิ วตฺตนฺติ, ตทา เตสํ อธิปติภาโว นตฺถีติ โจทนา. อธิปติ กิจฺจํ นาม ธุรวาหิตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตํ ตํ กิจฺจ วิเสสํ ¶ อนเปกฺขิตฺวา’’ติ จกฺขุนฺทฺริยํ ทสฺสน กิจฺเจ อิสฺสโร, โสตินฺทฺริยํ สวน กิจฺเจติอาทีสุ ตํ ตํ กิจฺจวิเสสํ อเปกฺขติ, ตถา อนเปกฺขิตฺวา. ‘‘วิชานนาทิ กิจฺจํ’’ติ ‘มโน อารมฺมณ วิชานเน’ติอาทินา วุตฺตํ สพฺพํ อินฺทฺริย กิจฺจํ.
ภุโส หรนฺติ วหนฺตีติ อาหารา. ‘‘ภุโส’’ติ อติเรกตรนฺติ อตฺโถ. กถํ ปน ภุโส หรนฺตีติ อาห ‘‘สหชาตาที’’ติอาทึ. เตเต ปจฺจย ธมฺมา เตเต ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺมา จาติ โยชนา. ‘‘เอตฺถา’’ติ อิมิสฺสํ ปาฬิยํ. ‘‘ปจฺจยาหาโร วา’’ติ เอตฺถ เหตุ อารมฺมณาทิโก สพฺโพปจฺจโย ปจฺจยาหาโร นาม. อาหาร ปจฺจโยปน วิสุํ เอโก ปจฺจยวิเสโส. ‘‘ปจฺจยฏฺเนา’’ติ เหตุ อารมฺมณาทิ ปจฺจยฏฺเน. ‘‘อาหารภูตา’’ติ อุปตฺถมฺภนกิจฺจวิเสสภูตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กฬีรงฺกุรานํ’’ติ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ. ‘‘วฑฺฒิยา’’ติ วฑฺฒนตฺถาย. ‘‘ิติยา’’ติ ิตตฺถาย. อิเมสตฺตา วฏฺเฏ ปวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปกฺเข วิยูหิตฺวา’’ติ ปกฺเข สฺจาเลตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปกฺเข’’ติ วา ปกฺเขหิ วาตํ พฺยูหิตฺวา. ‘‘ตทนุสยิตสฺสา’’ติ ตสฺมึ วิปาก สนฺตาเน อนุสยิ ตสฺส. ‘‘วิภาเวตฺวา’’ติ ปจฺจกฺขโต วิภูตํ ปากฏํ กตฺวา. ‘‘อลภิตฺวา’’ติ จกฺขุมฺหิ อลภิตฺวา. อปสฺสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตตฺเถวา’’ติ นิวาสฏฺาเน เอว. ‘‘สมฺปยุตฺตา’’ติ วิฺาเณน สมฺปยุตฺตา. ภวึสุ วฑฺฒึ สูติ ภูตา. สมฺภวํ วุฑฺฒิการณํ เอสนฺติ คเวสนฺตีติ สมฺภเวสิโน. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ ‘ยถา ยวพีชานํ วา สาลิพีชานํ วา’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ‘‘อาหาเรตี’’ติ ปวตฺเตติ. ‘‘มโนสฺเจตนาหาโร’’ติ กุสลากุสล กมฺมภูโต มโนสฺเจตนาหาโร. ‘‘ตโย ภเว’’ติ ตโย กามภวาทิเก อุปปตฺติภเว. ิติยาติ จ อนุคฺคหายาติ จ วุตฺตํ. อิตรถา อุปฺปตฺติยาติ จ วุตฺตํ สิยาติ อธิปฺปาโย.
‘‘ทุพฺพลกิจฺจฏฺานวตฺถุกตฺตา’’ติ ทุพฺพลกิจฺจตฺตา ทุพฺพลฏฺานตฺตา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา. ‘‘อภินิปาต มตฺตานิ โหนฺตี’’ติ ทสฺสน สวนาทิ มตฺตานิ ¶ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิตกฺก ปจฺฉิมกํ ฌานํ’’ติ ฌานานิ นาม วิตกฺกสฺส ปจฺฉานุคตํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุปฺจวิฺาเณสุ. ‘‘ตา’’ติ เวทนา เอกคฺคตา. ‘‘ตํ’’ติ ฌานกิจฺจํ. เอกคฺคตา พลวตี น โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มคฺคินฺทฺริย พลภาวายา’’ติ มคฺคินฺทฺริย พลภาวตฺถาย. โลกุตฺตรวิปากานิ ชวนกิจฺจานิ จ สาธิปติกานิ จ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ติภูมกานี’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุโพธํ.
มิสฺสกสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๔. โพธิปกฺขิยสงฺคเห. ‘‘สติปฏฺานา’’ติ เอตฺถ ปสทฺโท ปมุขตฺโถ ปธานตฺโถติ อาห ‘‘ปมุขา ปธานา หุตฺวา’’ติ. าสทฺโท คตินิวตฺติ อตฺโถติ อาห ‘‘จิตฺตคมนํ นิวตฺเตตฺวา ปวตฺตนฺตี’’ติ. ‘‘กาเย อนุปสฺสนา’’ติ กาเย ปวตฺตา อนุปสฺสนา. ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺติ โยคิโน เอตายาติ อนุปสฺสนา. กตมํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘อสฺสาสปสฺสาสาทิกสฺสา’’ติอาทึ. กถฺจตํ ปสฺสนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ ตํ กายภาเวนา’’ติอาทิ. อิทานิ ปุนปฺปุน สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาวา’’ติอาทิมาห. เวทนานุ ปสฺสนาทีสุปิ เอเสวนโย. ตํ น สุนฺทรํ. กสฺมา, สกลสฺส รูปกายสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ยทิ เอวนฺติอาทีสุ. ‘‘อิตราปิ สิทฺธา’’ติ กายานุปสฺสนาทโยปิ สิทฺธา. กสฺมา, ธมฺมานุปสฺสนาย อนฺโตคธตฺตา. ‘‘ตถา อนุปสฺสนฺตสฺสา’’ติ รูปฺปนลกฺขณโต อนุปสฺสนฺตสฺส. ‘‘ตํ ตํ สมูหภูตรูปธมฺมวเสนา’’ติ อสฺสาสปสฺสาสาทิ สมูหภูตสฺส รูป ธมฺมสฺส วเสน. ‘‘สุภาทิวิปลฺลาสสฺสา’’ติ สุภ สุข นิจฺจวิปลฺลาสสฺส. ‘‘โอฬาริกสฺสา’’ติ สุปากฏวเสน โอฬาริกสฺส. ‘‘อตฺตูปนิพนฺธา’’ติ อตฺเตน อุปนิพนฺธา, ปฏิพทฺธา.
‘‘กามํ’’ติ เอกนฺเตน. อุปสุสฺสตูติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยนฺตํ’’ติ ฌานาภิฺา มคฺคผลนิพฺพานํ. ‘‘วีริยสฺส สณฺานํ’’ติ วีริยคมนสฺส วีริยปฺปวตฺตนสฺส นิวตฺติวเสน สณฺานํ. อุปฺปนฺนสทฺเทน อตีต กิเลสาปิ ¶ ปจฺจุปฺปนฺน กิเลสาปิ คเหตพฺพา โหนฺตีติ อาห ‘‘อสุกสฺมึ กาเล’’ติอาทึ. ‘‘มยฺหํ อุปฺปนฺนํ’’ติ อิทานิ อุปฺปนฺนํ. ‘‘ปหานายา’’ติ เอตฺถ สมุจฺเฉทปฺปหานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อนุปฺปาท ธมฺมตาปาทนกรณตฺถํ’’ติ. ตตฺถ อนุปฺปาโท ธมฺโม เยสํ เต อนุปฺปาท ธมฺมา. มคฺเคน ปหีนา อกุสล ธมฺมา. อนุปฺปาท ธมฺมานํ ภาโวติ วิคฺคโห. อนุปฺปาท ธมฺมตาย อาปาทนํ. ตสฺส กรณนฺติ สมาโส. ‘‘ทิสฺวา’’ติ เตสํ อุปฺปตฺติ วตฺถุํ ทิสฺวา. ‘‘ปจฺจยสมุจฺฉินฺทนตฺถํ’’ติ ปจฺจยภูตสฺส อนุสยสฺส สมุจฺฉินฺทนตฺถํ. ‘‘อปตฺตา’’ติ อิทานิ อปตฺตา. ‘‘สมเย’’ติ พุทฺธุปฺปาทนวมกฺขเณ. ‘‘นิยามํ น โอกฺกมนฺตี’’ติ อริยมคฺคสงฺขาตํ สมฺมตฺตนิยามํ น โอกฺกมนฺติ. นปฺปวิสนฺติ. กิเลเสหิ อโกเปตพฺพตาย อกุปฺโป ธมฺโม ยสฺสาติ อกุปฺป ธมฺโม. ขีณาสโว. อกุปฺป ธมฺมสฺส ภาโว อกุปฺป ธมฺมตา. อรหตฺต ผลํ. ‘‘เตสํ’’ติ กุสลานํ ธมฺมานํ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ปหานายาติ กตฺวา วิสุทฺธิธมฺเมสุ โยคํ กโรนฺตสฺส อนุกฺกเมน ภาวนา กมฺเม มตฺถกํ ปตฺเตอาทิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนาปิ ปาปกา ปหิยฺยนฺติ. อนุปฺปนฺนาปิ นุปฺปชฺชนฺติ. อนุปฺปนฺนาปิ กุสลา อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปนฺนาปิ ภาวนา ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เอสนโย อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อนุปฺปาทายาติอาทีสุ. เอวํ จตูสุ มุเขสุ เอเกกมุเขนปิ สมฺมา ปทหนฺตสฺส สมฺมปฺปธานํ จตุกิจฺจสาธกํ โหติ. เตนาห ‘‘เอเตสุ ปนา’’ติอาทึ.
อภิวิสิฏฺเน ธมฺมววตฺถานฺาเณน าตพฺพา สพฺเพ ปรมตฺถ ธมฺมา อภิฺเยฺยา นาม. ‘‘อภิฺา สิทฺธี’’ติ อภิชานน กิจฺจสิทฺธิ. วิสุํ วิสุํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา าตพฺพา จตุสจฺจ ธมฺมา ปริฺเยฺยา นาม. เตหิ ทุกฺขสจฺจ ธมฺมา ปริฺาตพฺพภาเวน, สมุทย สจฺจ ธมฺมา ปหาตพฺพ ภาเวน, นิโรธสจฺจ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพ ภาเวน, มคฺคสจฺจ ธมฺมา ภาเวตพฺพภาเวน าตพฺพา โหนฺตีติ. ‘‘ภาวนาสิทฺธี’’ติ ภาวนากิจฺจ สิทฺธิ. ตํ สํยุตฺตเก อิมายปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิภงฺเค ปนา’’ติ อิทฺธิปาทวิภงฺเค ปน. ‘‘จิตฺต เจตสิกราสี’’ติ สห ปุพฺพภาคภาวนาย อุตฺตริ มนุสฺส ธมฺมปริยา ปนฺนา ¶ จิตฺตเจตสิกราสิ. ‘‘ตตฺถ ปนา’’ติ วิภงฺเค ตสฺมึ อุตฺตรจูฬภาชนีเย ปน. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ สงฺคเห.
จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ นาม พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต. ธมฺเม, สงฺเฆ, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโตติ เอวํ วุตฺตานิ โสตาปตฺติยา องฺคานิ. ตตฺถ ‘‘อริยกนฺเตหี’’ติ อริยชเนหิ กามิเตหิ อิจฺฉิเตหิ. ‘‘สีเลหี’’ติ ปฺจนิจฺจสีเลหิ, อาชีวฏฺมกสีเลหิ วา. ‘‘สมฺมปฺปธาเนสู’’ติ สมฺมปฺปธานกิจฺเจสุ.
‘‘โสฬสหิกิจฺเจหี’’ติ เอเกกสฺมึ สจฺเจ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ กิจฺเจหิ. ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, ติอาทีหิ โสฬสหิ อตฺเถหีติ วุตฺตํ โหติ. เต จ อตฺถา ปรโต อาคมิสฺสนฺติ. สติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโคติ วุตฺตํ, กถํ ปน สาสติ สมฺโพธึ สมุฏฺาเปตีติ อาห ‘‘สาหี’’ติอาทึ. เอสนโย เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ. ‘‘เตสุ ธมฺเมสู’’ติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺเมสุ. ‘‘ลีนสงฺโกจ โกสชฺชปกฺขํ’’ติ ลีนปกฺข สงฺโกจ ปกฺขโกสชฺช ปกฺขํ. ธุรํ สุฏฺุ ปคฺคณฺหาติ อุกฺขิปตีติ ธุรสมฺปคฺคโห. ‘‘ธุรํ’’ติ สมถธุรํ วิปสฺสนา ธุรฺจ. ‘‘อรติ อุกฺกณฺ ปกฺขํ’’ติ อรติปกฺข นิพฺพิทาปกฺขํ. ธมฺเม รติ ธมฺมรติ. ธมฺเม นนฺที ธมฺมนนฺที. ธมฺเม อาราโม ธมฺมาราโม. ‘‘สารมฺโภ’’ นาม จิตฺตวิเหสา. ‘‘ทรโถ’’ นาม จิตฺตสนฺตาโป. สมาหิโต ภิกฺขเว ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตีติ วจนโต ปฺาย สมาธิ ปาทกตา ปากฏาติ วุตฺตํ ‘‘ตสฺสา’’ติอาทึ. สมํ อวิสมํ อตฺตโน กิจฺจํ วหติ สีเลนาติ สมวาหี. สมวาหิสฺส ภาโว สมวาหิตา.
สา ปน จตุพฺพิธา โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺสา’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา. ‘‘วิสาขา’’ติ อาลปน ปทํ. ‘สพฺเพ โลกุตฺตเร โหนฺตี’ติ วจนสฺส สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต ปน สตฺตตึสปฺปเภทา’’ติอาทิมาห. น วฏฺานานิ อสฺส อตฺถีติ นวฏฺานิกํ. ‘‘โลกุตฺตเร’’ติ โลกุตฺตร จิตฺเต. ‘‘อตฺตปฺปฏิปกฺขานํ’’ติ อตฺตนา อุชุปฺปฏิปกฺขานํ. ‘‘เต’’ติ โพธิปกฺขิย ธมฺมา. เอเตน ทสฺเสตีติ ¶ สมฺพนฺโธ. ‘‘กุณฺฑลิยา’’ติ เอวํ นามกํ พฺราหฺมณํ อาลปติ. ‘‘วิชฺชา’’ติ มคฺควิชฺชา. ‘‘วิมุตฺตี’’ติ ผลวิมุตฺติ.
โพธิปกฺขิยานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๕. สพฺพสงฺคเห. ‘‘ปฺจราสโย’’ติ ปฺจสงฺคหา. ‘‘อตีตาทิเภทภินฺนานํ’’ติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนเภเทน, อชฺฌตฺต พหิทฺธาเภเทน, โอฬาริกสุขุมเภเทน, หีนปณีตเภเทน, ทูรสนฺติกเภเทน จ ภินฺนานํ. ‘‘อุปปตฺติ ทฺวาเรสู’’ติ จกฺขาทิ ทฺวาเรสุ. ‘‘กมฺมทฺวาเรสู’’ติ กายกมฺมทฺวาราทีสุ. ‘‘สงฺคมฺมา’’ติ สงฺคนฺตฺวา. ‘‘สมาคมฺมา’’ติ สมาคนฺตฺวา. ‘‘สาธารณ กิจฺจานิ วา’’ติ สพฺพิริยาปเถหิ สาธารณ กิจฺจานิวา. ปาฬิปาเ. ‘‘กิฺจา’’ติ กสฺมา จ. ‘‘สงฺขาเรวเทถา’’ติ สงฺขารา สงฺขารา อิติ ตุมฺเห วเทถ. ‘‘กิฺจสงฺขตํ’’ติ กตมฺจสงฺขตํ. ‘‘รูปํ รูปตฺถายา’’ติ รูปวิกติยา ชาตตฺถาย รูปสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. อุปโภโค นาม วตฺถาภรณาทิโก อนฺโตโภโค. ปริโภโค นาม มฺจปีาทิโก พาหิร ปริโภโค. สมฺปรายิกฺจ เวทนนฺติ อธิกาโร. เสเสสุปิ สฺาสงฺขาร วิฺาเณสุปิ. ‘‘ทานํ ทานตฺถายา’’ติ ทานปฺุสฺส ชาตตฺถาย. ทานสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. อถวา ทานสฺส อตฺโถ ทานตฺโถ. ‘‘อตฺโถ’’ติ จ วิปากตฺโถ ผลตฺโถ. ทานวิปากตฺถาย ทานผลตฺถาย ทานปฺุสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อนุยฺุชนฺตา’’ติ วิปสฺสนา กมฺมํ อนุยฺุชนฺตา. ‘‘ตีสุ ธมฺเมสุ กิลมิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กถํ กิลมิสฺสนฺตีติ อาห ‘‘ตถาหิ ยถา’’ติอาทึ. ‘‘สุขสฺิเตสุ ปฏิสรเณสู’’ติ จิตฺตสาตจิตฺตรติ ปฏิลาภตฺถาย ปฏิสรเณสุ อารมฺมเณสุ. ‘‘ตาหี’’ติ สมฺปตฺตีหิ. ‘‘ตา’’ติ สมฺปตฺติโย. ปรมุกฺกํสคตํ สุขสฺิตฏฺานํ โหติ. ตสฺมา ตตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนาาณํ อติเรกตรํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ตทตฺถาย ภควา ตํ เวทนํ วิสุํ เอกํ ขนฺธํ กตฺวา ขนฺธ ¶ เทสนํ เทเสตีติ อธิปฺปาโย. เอสนโย ปรตฺถปิ. ‘‘าณสมฺมตํ’’ติ ปุถุชฺชเนหิ าณสมฺมตํ. ‘‘ปรมํ อตฺตานํ กตฺวา’’ติ โลเก วิฺุตฺตํ ปรมํ โหติ, ตสฺมา วิชานนํ ปรมํ อตฺตานํ กตฺวา. เสสเมตฺถ สุปากฏํ. ‘‘ยตฺถภฺุชตี’’ติอาทีสุ. ‘‘ยตฺถ ภฺุชตี’’ติ ยสฺมึ ภาชเน ภฺุชติ. ‘‘ยฺจ ภฺุชตี’’ติ ยฺจ โภชนํ ภฺุชติ. ‘‘เยน จ ภฺุชตี’’ติ เยนพฺยฺชเนน ภฺุชติ. ‘‘โย จ โภชโก’’ติ สมีเป ตฺวา ปริเวสโก. ‘‘โย จ ภฺุชิตา’’ติ โย จ ภฺุชโก.
‘‘สาสวา เอวา’’ติ สาสวา นาม โลกิย ธมฺมา. ‘‘อุสฺสาหนฺตา วิย โหนฺตี’’ติ อพฺยาปาร ธมฺมตฺตา วุตฺตํ. น หิ อพฺยาปาร ธมฺมานํ เอกนฺเตน อุสฺสาโห นาม อตฺถิ. ผลสฺส นิพฺพตฺตนโต ผลตฺถาย อุสฺสาหนฺตา วิย โหนฺตีติ. ‘‘อากิริตฺวา’’ติ ปตฺถริตฺวา. เสสเมตฺถ สุโพธํ.
ธาตุสงฺคเห. ‘‘อตฺตโน เอว สภาวํ’’ติ อตฺตโน สภาวํ เอวาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อีหา จ พฺยาปาโร จา’’ติ อภิกฺกมามิ ปฏิกฺกมามีติอาทินา อุสฺสาโห จ, อภิกฺกมนาทิ พฺยาปาโร จ. ‘‘น จ ชีวโยคา’’ติ น จ โลกิยมหาชน สมฺมเตน ชีเวน ยุตฺตา. อฏฺกถาปาเ. ยายติ เอตฺถาติ ยนฺตํ. อุทุกฺขลํ. ยนฺต จกฺกยฏฺินาม ยนฺต จกฺกสมฺพนฺธา มุสลยฏฺิ. อรณี วุจฺจติ อคฺคินิพฺพตฺตกตฺถาย กตา ทฺเว สารฆฏิกา. อธรารณี นาม เหฏฺารณี. อุตฺตรารณี นาม อุทฺธารณี. ‘‘สลฺลมิวา’’ติ กณฺโฑวิย. ‘‘สูลมิวา’’ติ วิชฺฌนกทณฺโฑ วิย. ‘‘อาตุราวิยา’’ติ เตหิสลฺลสูเลหิ วิทฺธคิลานา วิย. อยถาภุจฺจ นิมิตฺตํ นาม อยถาภูตํ สตฺตปุคฺคลาทินิมิตฺตํ. ‘‘วนมิโค วิยา’’ติ ติณ รูเป ปุริส สฺาลาโภ วนมิโค วิย. ‘‘องฺคารกาสุยํ’’ติ องฺคารกูเป. ‘‘นานาวิธุปทฺทว นิมิตฺตโต’’ติ นานาวิธานํ อุปทฺทวานํ อุปฺปตฺติ ปจฺจยโต. ‘‘วนมกฺกโฏ วิยา’’ติ วนวานโร วิย. ทุกฺเขน ทมนํ อสฺสาติ ทุทฺทมโน. ‘‘อสฺสขฬุงฺโก’’ติ ทุฏฺ อสฺโส. ‘‘ยตฺถ กามนิปาติโต’’ติ ยสฺมึ ยสฺมึ อารมฺมเณ ปติตุํ กาเมติ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ นิปาติโต. ปุคฺคลวเส ¶ อวตฺติตฺวา อารมฺมเณสุ ยทิจฺฉกํ นิปตนโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘รงฺคนโฏ วิยา’’ติ สมชฺชนฏโก วิย. สภาวโต อตฺถิ สํวิชฺชตีติ สนฺโต. ตโถติ จ อวิตโถติ จ อตฺถโต เอกํ. อฺโ ปกาโร อฺถา. นตฺถิ อฺถา อสฺสาติ อนฺถํ. ทุกฺขทุกฺขํ นาม กายิกทุกฺข เจตสิกทุกฺขํ. ‘‘กมฺมชานํ’’ติ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตา รูปานํ. ‘‘อุปฺปตฺติยา’’ติ อุปฺปาทตฺถาย. ‘‘ปเควา’’ติ ปุเรตรเมว. ‘‘อุปฺปนฺนํ ปี’’ติ อุปฺปนฺนมฺปิ จกฺขุ. ‘‘ปวตฺติยา’’ติ สนฺตานฏฺิติยา ิตตฺถาย. ‘‘ปฏิชคฺคน ทุกฺขํ’’ติ โสธน ทุกฺขํ. ปจฺจยเวกลฺลํ นาม อาหารจฺเฉทาทิกํ. นนุ ภิชฺชนภเยน ปเคว ปจฺจยสมฺปาทนํ นาม สงฺขาร ทุกฺขเมว สิยาติ. สจฺจํ. อิธ ปน อาสนฺเน ภิชฺชนนิมิตฺตํ ทิสฺวา กตํ ปจฺจย สมฺปาทนํ อธิปฺเปตํ. ‘‘รกฺขาวรณคุตฺติ สํวิธาน ทุกฺขํ’’ติ นานาภยโต รกฺขณสฺส จ อาวรณสฺส จ โคปนสฺส จ สํวิธาน ทุกฺขํ. ‘‘ตทุภเยน สเหว สิชฺฌตี’’ติ กสิโครกฺขาทีนิ สงฺขาร กมฺมานิ วา รกฺขาวรณ คุตฺติสํ วิธานาทีนิวา กโรนฺตานํ ตํ ทุกฺข ทุกฺขํ ตทุภเยน ทุกฺเขน สเหว สิชฺฌติ. ‘‘เตสํ’’ติ จกฺขาทีนิ อสฺสาเทนฺตานํ น มุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปวตฺติ นิโรธ ภูตสฺสา’’ติ ปวตฺติยา นิโรธ ภูตสฺส. ‘‘ตํ ปชหติ เยวา’’ติ ตํ โลภํ ปชหติเยว. ‘‘ยาวเทวา’’ติ อุปริมปริยนฺเตน. อหํ อสฺมีติ ปวตฺโต มาโน อสฺมิมาโน. ตสฺส สมุคฺฆาตนํ สมุจฺฉินฺทนํ. ‘‘ปริฺาเตสู’’ติ เตสุ อนุสยิตาย ตณฺหาย ปหานวเสน ปริฺาเตสุ. ‘‘ตพฺพิปรีเตน ปนา’’ติ ตโต วิปรีเตน ปน. อสฺมิมานสฺส อนธิฏฺานภูตาติอาทิ อตฺเถน. อนินฺทฺริยพทฺธ ธมฺมา นาม ปถวีปพฺพตาทีสุ ปวตฺตา รูป ธมฺมา.
สตฺเต อนุกฺกณฺมาเน กโรตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. เตสํ สตฺตานํ. ทุชฺชโห นาม นตฺถิ. ตสฺมา โลโภเยว ทุกฺขสมุทยาริย สจฺจํ นามาติ โยชนา. สาสวา กุสลา กุสล ธมฺมา สมุทยสจฺจํ นาม, ทุกฺข สจฺจภูตานํ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตา รูปานํ สมุทยตฺตา สํวฑฺฒนตฺตา. มูลภาเวน วุตฺตา ¶ ‘อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา’ติอาทีสุ. ‘‘นนฺทนสทิสํ’’ติ เทวโลเก นนฺทนวนุยฺยานสทิสํ. ‘‘อาทิปภวปธานภูตา’’ติ ทุกฺข ธมฺมานํ อาทิภูตา, ปภวภูตา, ปธานภูตา. ‘‘ปภวภูตา’’ติ จ ปถมุปฺปตฺติเหตุภูตา. ‘‘เตสํ’’ติ ทุกฺข ธมฺมานํ.
‘‘กตฺถจี’’ติ กามภวาทีสุ กิสฺมิฺจิภเว. ‘‘กทาจี’’ติ อตีตาทิกาเลสุ กิสฺมิฺจิกาเล. ‘‘เกสฺจี’’ติ เทวมนุสฺสาทีสุ สตฺเตสุ เกสฺจิสตฺตานํ. ‘‘กุโตจี’’ติ พหูสุการเณสุ กุโตจิการณา. ‘‘กถฺจี’’ติ เกนจิปกาเรน.
‘‘ปริณาโม’’ติ ปริณมนํ อฺถาภาโว. ‘‘ตํ สมงฺคีนํ’’ติ เตหิ จกฺขาทีหิ สมงฺคีนํ ปุคฺคลํ. ปาฬิปาเ. ‘‘อาทิตฺตํ’’ติอาทีปิตํ สมุชฺชลนฺตํ. ‘‘เกนา’’ติ กรณภูเตน เกน อคฺคินา. ตถา อริยมคฺโค วิปริณาม ธมฺโม จ โหติ. โสวิปริณาม ทุกฺเขนปิ ปุคฺคลํ ภุสํ ปีเฬติเยวาติ โยชนา. ‘‘นา’’ติ น สิยา. สมนํ วูปสมนํ สนฺติ. สพฺพทุกฺขานํ สนฺตีติ วิคฺคโห. สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺสา’’ติ อริยมคฺคสฺส. ‘‘ปวตฺตมานา จา’’ติ สนฺตติิติวเสน วตฺตมานา จ. ‘‘มหนฺตํ ปริฬาหทุกฺขํ’’ติ โสก ปริเทว ทุกฺข โทมนสฺสุปายาสานํ ปวตฺติวเสน มหนฺตํ ปริฬาห ทุกฺขํ. นิพฺพานสฺส อนุปฺปาท ธมฺมตฺตา อุปฺปาทตฺถาย ปจฺจโย นาม นตฺถิ. ตถา อปฺปวตฺติ ธมฺมตฺตา ปวตฺตตฺถาย. สมฺปาปุณิตพฺพตฺตา ปน สมฺปาปนตฺถาย ปจฺจโย อตฺถีติ อาห ‘‘สมฺปาปก ปจฺจยาภิสงฺขรณเลสํ’’ติ. สมฺปาปก ปจฺจยา นาม อริย มคฺโค จ ตสฺส ปจฺจยา จ.
ภวาภวสงฺขาตสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ ทุกฺขกฺขนฺธํ เอว. อนุปุนปฺปุนํ ปทียเต อนุปฺปทานํ. ‘‘นิยฺยาตนฏฺโ’’ติ หนฺท คณฺหาติ สมฺปฏิจฺฉาปนฏฺโ. ‘‘ตโต’’ติ วฏฺฏทุกฺขโต. ‘‘มุจฺจนูปายสฺสา’’ติ ทานสีลนิกฺขมาทิกสฺส มุจฺจนูปายสฺส. ‘‘นิสฺสรณวิมุตฺติยา’’ติ นิสฺสรณ สงฺขาตาย วิมุตฺติยา. สงฺขาร ทุกฺขสฺส อภาวฏฺโ. ‘‘สมฺโมหสฺส ปหานวเสนา’’ติ เอเตน อิธ ทสฺสนํ นาม อิโต ปฏฺาย จตูสุ สจฺเจสุ อสมฺโมห ภาวปตฺติ เอว อาโลกปตฺติ เอว วุจฺจตีติ ทสฺเสติ ¶ . เตนาห ‘‘ปฏิวิชฺฌนฏฺโ’’ติ. ตณฺหาย ทาโส ตณฺหาทาโส. ตณฺหาทาสสฺส ภาโว ตณฺหาทาสพฺยํ. ปรวสโต วิมุตฺติวเสน อปราธีนตา ภุชิสฺสภาโว นาม. โลกิยมคฺคาหิ ตณฺหาทาสพฺยํ นาติวตฺตนฺติ. ตณฺหาวสํ ปูรยมานา ตณฺหาวิสยํ วิปากํ ชเนนฺติ. อยํ อริยมคฺโค เอว ตณฺหาย อนารมฺมณภาเว ิโต ตณฺหาทาสพฺยํ อติวตฺตติ. ตณฺหาวสํ ภินฺทมาโน ตณฺหาย อวิสยํ วิปากํ ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ทุกฺขมุตฺติยา’’ติ ทุกฺขโต มุจฺจนตฺถํ. ‘‘ทุกฺขวฑฺฒิยา’’ติ ทุกฺขวฑฺฒนตฺถาย. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘ขยวิราค นิโรธ ภูโต’’ติ เอตฺถ กิเลส ธมฺมานํ วิรชฺชนํ วิคมนํ อนฺตรธานํ วิราโค. ‘‘อนตฺถ ปทานี’’ติ อหิตปทานิ. ภยาทีนวปทานิ. ‘‘ทฺวารฉกฺกอารมฺมณ ฉกฺกเภเทนา’’ติ ทฺวารฉกฺกํ ธมฺมารมฺมณํ โหติ. เอวํสติ, อารมฺมณ ฉกฺกนฺติ น วตฺตพฺพํ ธมฺมารมฺมณสฺส วิสุํ คหิตตฺตาติ. โน นวตฺตพฺพํ. กสฺมา, ทฺวารฉกฺกโต เสสานํ ธมฺมารมฺมณานํ อตฺถิตายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปรโต ‘‘เอตฺถปี’’ติอาทีสุ เอเสวนโยติ.
สพฺพสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
สมุจฺจยสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๘. ปจฺจยสงฺคหอนุทีปนา
๑๖๖. เยหิปกาเรหิ ¶ ยถา. เตสํ วิภาโค ตํ วิภาโค. อยฺจนิทฺเทโส เอกเสสนิทฺเทโส, วิจฺฉาโลปนิทฺเทโสวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ’’ติอาทิมาห. น สเมติ. คาถายํ ‘เยสํ’ติอาทินา ตีหิ-ย-สทฺเทหิ ทสฺสิตานํ ติณฺณํ อตฺถานํ-ต-สทฺทตฺถ สมฺภวโต. ต-สทฺทตฺถานฺจ อนุสนฺธิยํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตพฺพโต. ‘‘สมุปฺปชฺชตี’’ติ สุฏฺุ ปริปุณฺณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ, ปาตุภวติ. ‘‘อวินา’’ติ อวินา หุตฺวา. ‘‘สหชาต ธมฺเมหี’’ติ อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขาราติอาทีสุ สงฺขาราทีนํ สหชาต ธมฺเมหิ สเหว อุปฺปชฺชนํ. ‘‘กลาปวเสนา’’ติ สุทฺธ ธมฺม กลาปวเสน. ‘‘สามฺ ลกฺขณํ’’ติ สาธารณ ลกฺขณํ. ‘‘อตฺโถ’’ติ อิทปฺปจฺจยตา สทฺทสฺส อตฺโถ. ‘‘อยมตฺโถ ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ ‘สมุปฺปชฺชนํ สมุปฺปาโท’ติ อยํภาวสาธนตฺโถ ปฏิกฺขิตฺโต. ‘‘อยเมวา’’ติ อยํ ภาวสาธนตฺโถ เอว. ชรามรณํ สมฺภวตีติ โยชนา. ‘‘อุปฺปาทาวา ตถาคตานํ’’ติ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อุปฺปาเทวา สติ. ‘‘อนุปฺปาทาวา’’ติ อนุปฺปาเทวา สติ. ‘‘ิตาว สาธาตู’’ติ ชาติยา สติ ชรามรณสฺส ปวตฺติสภาโว โลเก ิโตเยว. กตมา ปน สาธาตูติ อาห ‘‘ธมฺมฏฺิตตา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมฏฺิตตา’’ติ เกนจิ อกตา สภาวฏฺิตตา. ‘‘ธมฺมนิยามตา’’ติ สภาวนิยามตา. ‘‘ตตฺร ตถตา’’ติ ตสฺมึ สามฺลกฺขเณ สงฺขต ธมฺมานํ ตถตา. สามฺ ลกฺขณเมว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท นามาติ ทสฺเสติ, น อวิชฺชาทิโก ปจฺจย ธมฺโม. กสฺมา, เตหิ วจเนหิ ธมฺมนิยามตา มตฺตสฺส ทสฺสิตตฺตา. อวิชฺชาทีนํ ธมฺม สรูปานํ อทสฺสิตตฺตา. ‘‘ธมฺมนิยามตามตฺตํ’’ติ จ ยถา วุตฺตสามฺ ลกฺขณเมว วุจฺจติ. ยทิ ภาวสาธนํ อิจฺเฉยฺย, ภาวสาธนํ นาม กตฺตุรหิตํ ภเวยฺย. กตฺตุรหิเต จ สติ, กถํ ปฏิจฺจ กฺริยาย สมานกตฺตุกตา ลพฺภติ. อลทฺเธ จ สมานกตฺตุกตฺเต กถฺจ ปุพฺพกาเลตฺวา ¶ ปจฺจยสมฺภโวติ. อยํ ภาวสาธนํ อิจฺฉนฺตสฺส พฺยฺชนยุตฺติวิโรโธ. ตํ ปริหรนฺโต น เจตฺถาติอาทิมาห. คมฺภีโรจานนฺท ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราว ภาโสจาติ ภควตา วุตฺตํ. ภาวสาธเน จ กเต อุปฺปชฺชน กฺริยามตฺตํ นาม วิสุํ เอโก ธมฺโม น โหตีติ กถํ ตํ คมฺภีรํ สิยาติ. อยํ ภาวสาธนํ อิจฺฉนฺตสฺส คมฺภีรวจน วิโรโธ. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘สงฺขต ธมฺเมสุ จา’’ติอาทิมาห. อปิ จ สงฺขต ลกฺขณํ นาม สงฺขต ธมฺมโตปิ คมฺภีรํ โหติ. ตถาหิ จิตฺตํ นาม สงฺขต ธมฺโม. ตฺจ อตฺถิ เมจิตฺตํ นามาติ สตฺตานํ ปากฏํ โหติ. ตสฺส ปน อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ อปากฏํ โหติ สุฏฺุ สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนํ. ตถา เวทนา นาม สุขาวา ทุกฺขาวา สงฺขต ธมฺโม. สา จ อตฺถิ เมเวทนาติ สตฺตานํ ปากฏา โหติ. ตสฺสา ปน อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ อปากฏํ โหติ สุฏฺุ สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนํ. เอวํ เสเสสุ นามธมฺเมสุ จ รูปธมฺเมสุ จ. ยโต สตฺตสุ วิสุทฺธีสุ สงฺขต ธมฺม ววตฺถาน สงฺขาตํ ทิฏฺิวิสุทฺธิาณฺจ อวิชฺชาทิปจฺจย ปริคฺคห สงฺขาตํ กงฺขาวิตรณ วิสุทฺธิาณฺจ ปถมํ สมฺปาเทตฺวา ปจฺฉา ทสวิธานิ สงฺขต ลกฺขณานุปสฺสนา าณานิ สมฺปาเทตพฺพานิ โหนฺตีติ. ยถา จ อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ สงฺขต ธมฺมโต คมฺภีรํ โหติ. ตถา อิทมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาท สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ สงฺขต ธมฺมโต คมฺภีรํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ตพฺภาวภาวีภาโว’’ติ เอตฺถ ภวติ สํวิชฺชตีติ ภาโว. โส โส อวิชฺชาทิโก ภาโว ตพฺภาโว. ตพฺภาเว ภวนฺติ สมฺภวนฺติ สีเลนาติ ตพฺภาวภาวิโน. สงฺขาราทโย. ‘‘ภาโว’’ติ อุปฺปตฺติการณํ. ตพฺภาวภาวีนํ ภาโวติ ตพฺภาวภาวิ ภาโวติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ’’ติอาทิมาห. อปิ จ ‘‘ภาโว’’ติ วิชฺชมานตา วุจฺจติ. ตสฺส ตสฺส ปจฺจย ธมฺมสฺส ภาโวติ ตพฺภาโว. ตพฺภาเว สติ ภวนฺติ สมฺภวนฺติ ธมฺมตายาติ ตพฺภาวภาวิโน. เตสํ ภาโวติปิ ยุชฺชติเยว. ‘‘เหตฺวาทิ ปจฺจย สตฺตินิยามํ’’ติ เหตุปจฺจโย, อารมฺมณ ปจฺจโย, ติอาทีสุ เหตุสทฺท อารมฺมณ สทฺทาทโย โลภาทีนํ รูปารมฺมณาทีนฺจ ¶ ธมฺมานํ ตํ ตํ ปจฺจย สตฺติวิเสสํ ทีเปนฺติ. เตสฺจ โส โส ปจฺจย สตฺติวิเสโส วิสุํ ธมฺมนิยาโม โหติ, เอวํ เหตฺวาทิ ปจฺจยสตฺตินิยามํ นิวตฺเตติ. ‘‘ตถา ตถา’’ติ มูลฏฺโคจรวิสยฏฺาทิเกน เตน เตน ปจฺจยากาเรน. โส หิ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปจฺจย ธมฺมุทฺธาร มตฺเต อตฺวา’’ติ ปจฺจย ธมฺมานํ นาม สฺาวเสน อุทฺธรณมตฺตํ อกตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาหจฺจา’’ติ อาหนิตฺวา ตํ ตํ ปจฺจยสตฺติ วิเสสํ ปาเปตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มตฺถกํ ปาเปตฺวา’’ติ. ปจฺจยสตฺติ วิเสโส หิ เหตุผลทีปเน ตโต อุตฺตริ วตฺตพฺพ กิจฺจาภาวโต มตฺถกํ นาม โหตีติ. ‘‘อโนสกฺกมานา’’ติ อนิวตฺตมานา. ‘‘เอตายา’’ติ ปจฺจย สตฺติยา. ปปฺเจนฺเต อาจริเย.
เอตสฺมา การณา ผลํ เอตเทว ปฏิจฺจ อนาคตปกฺขโต ปจฺจุปฺปนฺนปกฺขํ อาคจฺฉติ ปาตุพฺภวตีติ ปจฺจโย. อุปฺปตฺติการณํ ปวตฺติการณฺจ. ตตฺถ อุปฺปตฺติการณํ ชนกปจฺจโย. ปวตฺติการณํ อุปตฺถมฺภก ปจฺจโย. ‘‘เอเตนา’’ติ เหตุนา. ‘‘กายวจี มโนกมฺมํ’’ติ เอตฺถ ‘‘กมฺมํ’’ติ กฺริยาวุจฺจติ, คมน าน นิสชฺชสยนาทิกํ กายิก กฺริยฺจ. อาลาป สลฺลาป กถน สชฺฌายน คายนาทิกํ วาจสิก กฺริยฺจ. วิชานน จินฺตน วีมํสนาทิกํ มานสิก กฺริยฺจ. ‘‘อภิสงฺขโรนฺตี’’ติ อภินิปฺผาเทนฺติ. ‘‘เอเตหี’’ติ เอเตหิ โลกิยกุสลา กุสล เจตนา ธมฺเมหิ. อปิ จ สงฺขโรนฺติ สตฺตา เอเตหีติ สงฺขารา. ‘‘สงฺขโรนฺตี’’ติ กึ สงฺขโรนฺติ. อตฺตภาวํ สงฺขโรนฺติ. ภวาภวํ สงฺขโรนฺติ. ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ อตฺถํ วา อนตฺถํ วา สงฺขโรนฺติ. สมฺปรายิกมฺปิ อตฺถํ วา อนตฺถํ วา สงฺขโรนฺตีติอาทินา. จกฺขุมฺปิ สงฺขโรนฺติ, โสตํปิ สงฺขโรนฺตีติอาทินา. ทสฺสนมฺปิ สงฺขโรนฺติ, สวนมฺปิ สงฺขโรนฺตีติอาทินา จ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ‘‘วิชานาตี’’ติ วิวิเธน ชานาติ. ภูเตนปิ ชานาติ, อภูเตนปิ ชานาติ. ‘‘นมตี’’ติ โคจร วิสยตฺถาย นมติ. ‘‘รุปฺปตี’’ติ กุปฺปติ, โขภติ. ‘‘ผุสตี’’ติ สํหนติ. ‘‘เวทยตี’’ติ วิทิตํ กโรติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ ลคฺคนวเสน ภุสํ นหติ พนฺธติ, มฺุจิตุํ น เทตีติ ตณฺหาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อุปาทิยตี’’ติ ¶ ทฬฺหํ คณฺหาติ. เตนาห ‘‘อมฺุจคฺคาหํ คณฺหาตี’’ติ. ภวตีติ ภโว. อุปปตฺติภโว. ภวนฺติ เอเตนาติ ภโว. กมฺมภโว. ‘‘ชนนํ’’ติ อภินวสฺส ปาตุพฺภวนํ. ‘‘ชีรณํ’’ติ อภินวภาวโต หายนํ. ‘‘โสจนํ’’ติ จิตฺตสนฺตาปนํ. ‘‘ปริเทวนํ’’ติ โรทนํ. ‘‘ทุกฺขํ’’ติ กายรุชฺชนํ. ‘‘โทมนสฺสํ’’ติ จิตฺตรุชฺชนํ. ‘‘วิสีทนํ’’ติ พาฬฺหํ จิตฺตกิลมถภาเวน วิรูปํ หุตฺวา จิตฺตสฺสสีทนํ. ถามพลขิยฺยนํ. ยโต อสฺสาสปสฺสาสานํ วิรูปปฺปวตฺติวา ตงฺขเณ สพฺพโส อุปรุชฺฌนํ วา โหตีติ. ‘‘เกนจิ สุเขนา’’ติ ทุกฺขสจฺจโต วิมุตฺเตน เกนจิ สนฺติสุเขน.
‘‘ทุกฺขปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ภยฏฺเน ทุกฺขภูตานํ เตภูมิก ธมฺมานํ ทุกฺขภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘สมุทยปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ตณฺหาย ทุกฺข สมุทย ภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘นิโรธปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ตณฺหานิโรธสฺเสว ทุกฺขนิโรธ ภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘มคฺคปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ อฏฺงฺคีก มคฺคสฺเสว ทุกฺขนิโรธ มคฺคภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ปุพฺพนฺโต วุจฺจติ อตีเตกาเล ภวปรมฺปรา. อปรนฺโต วุจฺจติ อนาคเต ภวปรมฺปรา. ปุพฺพนฺตา ปรนฺโต วุจฺจติ ตทุภยํ. ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ขนฺธานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘สุตฺตนฺติกนเยนา’’ติ อภิธมฺเมปิ วิภงฺเค สุตฺตนฺต ภาชนียํ นาม อาคตํ. เตน สุตฺตนฺต ภาชนียนเยน. สาสวา กุสลา กุสล เจตนา สงฺขารา นามาติ โยชนา. ‘‘อภิธมฺมนเยนา’’ติ วิภงฺเค อภิธมฺมภาชนียนเยน. อฏฺกถาปาเ. อวิชฺชา กิริย ธมฺมานํ เนว อุปนิสฺสย ปจฺจยตฺตํ ลภติ. กุสลา กุสลมูลานิ กิริย ธมฺมานํ น อุปนิสฺสย ปจฺจยตฺตํ ลภนฺตีติ โยชนา. กิริย ธมฺมา อวิชฺชาโต จ กุสลา กุสล มูเลหิ จ อุปนิสฺสย ปจฺจยํ น ลภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปจฺจยากาโร’’ติ ปฏิจฺจ สมุปฺปาโท. ‘‘อวิชฺชาวิราคา’’ติ อวิชฺชา วิคมนโต. เตสํปิกิริย ธมฺมานํ. วิฺาณาทีสุปิ กิริย วิฺาณํ, กิริย นามํ, กิริย มนายตนํ, กิริยผสฺโส, กิริย เวทนาติ อตฺถิตาย ‘‘เอสนโย วิฺาณาทีสุปี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กุสลา กุสล วิปากสมฺปยุตฺตํ’’ติ กุสล วิฺาณ สมฺปยุตฺตํ, อกุสลวิฺาณสมฺปยุตฺตํ ¶ , วิปาก วิฺาณ สมฺปยุตฺตํ. ‘‘ตํ อนุปปนฺนํ’’ติ ปวตฺติวิปากวิฺาณ สหคตสฺส ขนฺธตฺตยสฺส ตํ สหชาตสฺส จิตฺตชรูปสฺส จ อวสิฏฺตฺตา ตํ น สมฺปนฺนํติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ วิฺาณปเท ปวตฺติวเสน ทฺวตฺตึสวิธํ วิปากจิตฺตํ วิฺาณํ นามาติ วุตฺตํ. เอวฺจสติ, นาม รูปปเทปิ ปวตฺติวเสน ตทุภยํ ปวตฺติวิฺาณสหคตํปิ คเหตพฺพเมวาติ. ‘‘ตํ ตํ วิฺาณ สมฺปยุตฺตา’’ติ ปฏิสนฺธิวิฺาณ ปวตฺติ วิฺาณสมฺปยุตฺตา. ‘‘ตณฺหุปาทานานิปากฏานี’’ติ ฉ ตณฺหา รูปตณฺหา สทฺทตณฺหาทิวเสน. จตฺตาริ อุปาทานานิ กามุปาทานาทิวเสนาติ เอวํ ปากฏานิเยว. ‘‘ลกฺขณมตฺตานี’’ติ สงฺขต ธมฺมานํ สงฺขตภาวสลฺลกฺขณ นิมิตฺตมตฺตานิ. ‘‘าติพฺยสนาทีหี’’ติ าติวินาสนาทีหิ. ‘‘าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ’’ติ าติวินาสนาทิการณา.
‘‘ขนฺธทุกฺเข’’ติ ปจฺจกฺขนฺธสงฺขาเต ทุกฺขสจฺเจ. ขนฺธปฺปวตฺติ มคฺโค นาม ตณฺหาสมุทโย เอว. ขนฺธนิโรธ มคฺโค นาม อริยมคฺโค. ‘‘ขนฺธ สมุทยภูตา’’ติ ขนฺธปฺปวตฺติยา การณภูตา. ‘‘อวิชฺชานิ วุฏานํ’’ติ อวิชฺชายนีวาริตานํ ปิหิตานํ. ‘‘อปฺปหีน ภวาภิลาสานํ’’ติ มคฺเคน อปฺปหีน ภวปตฺถนานํ. อปฺปหีนภวตณฺหานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิพนฺโธ’’ติ อนฺตราโย. ‘‘อุทยภูตานํ’’ติ วฑฺฒิภูตานํ. ‘‘อวสฺสโย’’ติ นิสฺสโย. สุขเวทนา วิเสสโต ตณฺหาย ปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สุขเวทนาสทิโส’’ติอาทิ. โทมนสฺสานํ ปน ตสฺสา ปจฺจยภาโว ปรโต ปริเยฏฺิตณฺหายํ ปากโฏ ภวิสฺสติ. อุเปกฺขา เวทนาปิ ทุกฺเขน ปีฬิตสฺส สุขาเน ติฏฺติ. สุขํ วิย ตํ ปตฺเถตีติ. สมุทา จริตฺวา ปริจยิตฺวา. ‘‘ตณฺหา เอวา’’ติ กามตณฺหา เอว. ‘‘อตฺตนิ จา’’ติ ทิฏฺิยฺจาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺตโน อารมฺมเณสู’’ติ อตฺต ชีว โลกาทีสุ ทิฏฺิยาคหิตา รมฺมเณสุ. ‘‘อสฺสาทน ขมนโรจนภูตายา’’ติ สาธุวตายํ มมทสฺสนนฺติ เอวํ รชฺชน ตุสฺสน กนฺติภูตาย. ‘‘อุปาทานียสฺสา’’ติ ทฬฺหํ คเหตพฺพสฺส. ‘‘อตฺถสฺสา’’ติ อตฺตโน อตฺตาทิกสฺส อตฺถสฺส. คาถายํ ¶ .‘‘ภวํ โหตี’’ติ ภวนฺโต วฑฺฒนฺโต โหติ. ‘‘ปราภโว’’ติ วินาสนฺโต.
‘‘อทฺธานวนฺเต ธมฺเม’’ติ เตกาลิกสงฺขต ธมฺเม. อปตมาเน กตฺวาติ ปาเสโส. ยถา อุปาทานํติ ทิสฺวา อุปาทารูปํติ ปเท อาทาสทฺโท วิฺายติ. น อุปุพฺพ ปทสทฺโท. อิตรถา อุปาทานนฺติ นสิชฺฌติ. เอวํ อทฺธา, อทฺธาน, ปเทสุปิ. เตนาห ‘‘อทฺธานํ’’ติ นสิชฺฌตีติ. สํขิปนฺติ วีสตาการา เอเตสูติ สงฺเขปา. สงฺคหา. ‘‘วฏฺฏธมฺมา’’ติ สงฺขาราทโย ธมฺมา. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตาสุ อวิชฺชาตณฺหาสุ. กถํ ติฏฺนฺตีติ อาห ‘‘ตทายตฺตวุตฺติตายา’’ติ. ‘‘ปติฏฺา’’ติ สุปฺปติฏฺิตฏฺานานิ. ‘‘ปภวา’’ติ วฏฺฏธมฺมปรมฺปรปฺปวตฺติยา มูล ปธาน การณานิ. ตตฺถ เหตุ จ เทเสตพฺโพ โหติ. อิตรถา อิสฺสรนิมฺมานทิฏฺิ อเหตุก ทิฏฺีนํ โอกาโส สิยาติ. ผลฺจ เทเสตพฺพํ โหติ. อิตรถา อุจฺเฉททิฏฺิยา โอกาโส สิยาติ. ‘‘อทฺธุโน’’ติ ทีฆกาลสฺส. ‘‘นิวตฺเตตี’’ติ สมุจฺฉินฺทติ. ‘‘อเหตู อปจฺจยา สตฺตา ปวตฺตนฺตี’’ติ ปุพฺพเหตุรหิตา ปุพฺพปจฺจยรหิตา หุตฺวา อิเมสตฺตา ปวตฺตนฺติ. ‘‘อวิชฺชาทีหิ สาเธตพฺโพ น โหตี’’ติ ภวปรมฺปราสุ นิจฺโจ หุตฺวา สนฺธาวนฺตสฺส อวิชฺชาทีหิ กตฺตพฺพ กิจฺจํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เกสฺจิ น สมฺภวนฺติเยวา’’ติ อนาคามีนํ อรหนฺตานฺจ น สมฺภวนฺติเยว. มหาอาทีนวราสิทสฺสนตฺถํ โสกาทิวจนํ โหตีติ โยชนา. ‘‘เตสํ’’ติ อฺเสํ ปจฺจยานํ. ‘‘ลทฺธา’’ติ อตฺถโต ลทฺธา. ‘‘ตทวินาภาวิภาวลกฺขเณนา’’ติ เอตฺถ เตน เตน ปจฺจเยน อวินาภาวีนํ ภาโว, โส เอว ลกฺขณนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ปรตฺถ ปี’’ติ อิโต ปเรสุ ตณฺหุปาทาน ภวคฺคหเณนาติอาทีสุปิ. ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมฺหิ. วิภาวนิปาเ. ‘‘กิเลสภาวสามฺโต’’ติ กิเลสภาเวน สมานตฺตา สทิสตฺตา. ‘‘ลกฺขิตพฺพ ธมฺเมหี’’ติ วิฺาณาทีหิ. ‘‘ปถเมน ทุตียสฺสา’’ติ ปถมสงฺเขเปน สทฺธึ ทุตียสฺส สงฺเขปสฺส เอกา สนฺธีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘โลกสฺส ปากฏ โวหาเรนา’’ติ ¶ กิเลสธมฺมา กมฺมธมฺมา จ โลเก เหตูติ ปากฏา โหนฺติ. วิปากธมฺมา ปน ผลนฺติ ปากฏา. เอวํ โลเก ปากฏ โวหาเรน. อิธ ปน กิเลสธมฺมกมฺมธมฺมา วา โหนฺตุ, วิปากธมฺมา วา, โย โย ปจฺจยปกฺเข ิโต, โส โส เหตูติปิ วตฺตพฺโพเยว. โย โย ปจฺจยุปฺปนฺน ปกฺเข ิโต, โส โส ผลนฺติทสฺเสนฺโต ‘‘เหตุผลสทฺทาปนา’’ติอาทิมาห. อฏฺกถา ปาเ. ‘‘สชฺชนฺตสฺสา’’ติ สํวิทหนฺตสฺส. ‘‘อายูหน สงฺขารา นามา’’ติอาทิโต ปฏฺาย สมุจฺจยนสงฺขารา นาม. ‘‘ทกฺขิณํ’’ติ ทานวตฺถุํ. ทกฺขิโณทกํ วา. ‘‘เอตฺถ จา’’ติ อิมสฺมึ ตตียปฺจเก จ. ‘‘วุตฺตนเยเน วา’’ติ ปถมปฺจเก วุตฺตนเยเนว. วิภาวนิปาเ. ‘‘อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา ภโว นามา’’ติ อิทํ อุทฺเทสปาฬิยํ ยถาทิฏฺปาวเสเนว วุตฺตํ. ตถา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา สงฺขารา นามาติ อิทฺจ. อิธ ปน ปุพฺเพเยว ทฺวีสุเหตุปฺจเกสุ ทฺวินฺนํ สงฺขาร กมฺมภวานํ สงฺคหิตตฺตา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว ทฺวินฺนํ สงฺขาร กมฺมภวานํ วิเสโส ยุตฺโต. เตนาห ‘‘ตํ อิธ น ยุชฺชตี’’ติ. ‘‘สงฺคหิตตฺตา’’ติ ปุพฺเพเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘เอตํ’’ติ วิภาวนิ วจนํ. ‘‘ธมฺมวิภาครกฺขณตฺถํ’’ติ วิภงฺเค ภวปเท อุปปตฺติภวสฺสปิ วิภตฺตตฺตา เอวํ วิภตฺตสฺส ธมฺมวิภาคสฺส รกฺขณตฺถํ. ผลปฺจกโต อนฺํปิ อุปปตฺติภวํ อฺํวิย กตฺวา ‘อุปปตฺติภวสงฺขาโต ภเวกเทโส’ติ วุตฺตํ. โส จ อุปปตฺติภโว นาม ปจฺจุปฺปนฺนเหตูหิ นิพฺพตฺตตฺตา จตุตฺเถ ผลปฺจเก เอว สงฺคหิโต. ตสฺมา เตน อุปปตฺติภวสทฺเทน จตุตฺถ ปฺจกเมว คหิตนฺติ ยุตฺตํ. อิตรถา ทฺเว ผลปฺจกานิ วิปากวฏฺฏนฺติ วุตฺเต สิทฺธเมว โหติ. เอวฺจสติ อวเสสา จาติ เอตฺถ ทุตียผลปฺจกเมว อวสิฏฺํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อวิชฺชา นาม โมโห, โส จ อกุสล มูล’’นฺติอาทิ อภิธมฺเม มูลยมเก มูลนาเมน อาคตตฺตา วุตฺตํ. ทฺวีสุปนภว จกฺเกสุ ปุริมจกฺเก อวิชฺชา อาทิ โหติ. ปจฺฉิมจกฺเก ตณฺหา. อาทิ จ นาม มูลนฺติ จ สีสนฺติ จ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถวา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ .‘‘อาคมนสมฺภาเรสู’’ติ อตีตภวโต อิมํภวํ อาคมนสมฺภาเรสุ. ตณฺหา เอว สีสํ กตฺวา วุตฺตาติ โยชนา. ‘‘เตสํ อนฺตเร’’ติ อวิชฺชาสงฺขารานํ อนฺตเร. ตณฺหาย โอกาโส นตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ อวิชฺชาย สติ, ตณฺหา นาม เอกนฺเตน สมฺภวติเยว. สา จ สงฺขารานํ พลวปจฺจโย โหติ. ตสฺมา สา อวิชฺชา ปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหา ปจฺจยา สงฺขาราติ วตฺตพฺพา สิยาติ. ตํ ปริหริตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิวุตฺตํ. ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโท นาม อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติ เอวํ ปวตฺโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. ‘‘ชรามรณมุจฺฉยาติอาทิ นวตฺตพฺพํ สิยา’’ติ ชรามรณมุจฺฉายาติอาทิวจนํ อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาท สมฺพนฺธ วจนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อุปริวฏฺฏมูล ธมฺมปฺปฏิปาทกานํ’’ติ อุปริ ทุติยานาคตภาวาทีสุ อวิชฺชาตณฺหา สงฺขาตานํ วฏฺฏมูลธมฺมานํ นิโยชกานํ. ‘‘เต ปี’’ติ โสกาทโย ทุกฺขธมฺมาปิ. ‘‘อาสวสมฺภูตา’’ติ อาสเวหิ สมฺภูตา สฺชาตา. ‘‘เตสํ’’ติ โสกาทีนํ ทุกฺขธมฺมานํ. ‘‘ชรามรณงฺเค คหณํ’’ติ ทฺวาทสสุ องฺเคสุ ชรามรณงฺเค สงฺคหณํ. ‘‘ปวฑฺฒตี’’ติ ภุสํ วฑฺฒติ. ‘‘อาสวสมุทยา’’ติ อาสวสมุปฺปาทา. ‘‘อวิชฺชาสมุทโย’’ติ อวิชฺชาสมุปฺปาโท. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขาราตี’’ติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ. ‘‘นานาพฺยสน ผุฏฺสฺสา’’ติ าติพฺยสนาทีหิ นานาพฺยสเนหิ ผุฏฺสฺส, วิหึสิตสฺส. ‘‘ยโต’’ติ ยํ การณา, อวิชฺชาตณฺหานํ วฑฺฒนการณา. ‘‘วฏฺฏํ’’ติ สงฺขาราทิกํ ภวจกฺกํ. สํมุยฺหนํ สมฺโมโห. ปริเยสนํ ปริเยฏฺิ. วิปจฺจตีติ วิปาโก. วิปาโก เอว เวปกฺกํ. สมฺโมโห เวปกฺกํ อสฺสาติ สมฺโมหเวปกฺกํ. ตถา ปริเยฏฺิเว ปกฺกฺจาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตทุภยํ’’ติอาทินา. ตทุภยํ วิปากํ เอตสฺสาติ กตฺวา ทุกฺขํ สมฺโมหเวปกฺกนฺติ จ ปริเยฏฺิเวปกฺกนฺติ จ วุจฺจตีติ โยชนา. อปิ จ, สมฺโมหํ วิปาเจติ สฺชเนตีติ สมฺโมห เวปกฺกํ. เอวํ ปริเยฏฺิเวปกฺกนฺติปิ ยุชฺชติ. ‘‘กิจฺฉํ’’ติ กสิรํ ทุกฺขํ อาปนฺโน. ‘‘มิยฺยตี’’ติ มรติ. ‘‘จ วตี’’ติ สงฺกมติ. ‘‘อุปปชฺชตี’’ติ ภวนฺตรํ อุเปติ. ‘‘อถ จ ปนา’’ติ เอวํภูตสฺส ¶ สโต. ‘‘ชรามรณสฺสา’’ติ ชรามรณ สงฺขาตสฺส อิมสฺส ทุกฺขสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิสฺสรณํ’’ติ นิคฺคมนํ. ‘‘นปฺปชานาตี’’ติ อยํ โลโก นปฺปชานาติ. ‘‘อาคติยา’’ติ อิมสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณุปฺปตฺติวเสน อาคมเนน. ‘‘คติยา จา’’ติ อนาคตภเว ชาติปาตุพฺภาววเสน คมเนน จ. อาทิสงฺขาโต ปุพฺพปริยนฺโต ยสฺส อตฺถีติอาทิมนฺตํ. น อาทิมนฺตํ อนาทิมนฺตํ. ‘‘วฏฺฏปฺปวตฺตสฺสา’’ติ ติวิธวฏฺฏสงฺขาตสฺส ปพนฺธปฺปวตฺตสฺส. ชาติยา วุตฺตาย สพฺพานิ ตสฺสา นิทานานิ วุตฺตานิ เอว โหนฺตีติ กตฺวา ‘‘ชาติยา เอว วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิจฺเจวํ’’ติ อิติ เอวํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติอาทินา นเยน ปฏฺเปสิ มหามุนีติ สมฺพนฺโธ. อาจริย วาเทปน ‘‘อิจฺเจวํ’’ติ ชรามรณ มุจฺฉายาติอาทินานเยน. อาพนฺธํ อนาทิกนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธปิ ตเมว สมฺพนฺธํ คเหตฺวา โยเชติ ‘‘อิจฺเจวํ อาพนฺธนฺติ. ล. ปุนปฺปุนํ อาพนฺธํ’’ติ. อวิชฺชา อาทิมฺหิ วุตฺตา. ตสฺมา สา สยํ อเหตุ อปจฺจยา หุตฺวา วฏฺฏสฺส อาทิปจฺจยภูตา โหตีติ โจทนา. ตํ ปริหรติ ‘‘วฏฺฏสฺสา’’ติอาทินา. ‘‘วฏฺฏกถาย สีสภูตตฺตา’’ติ วฏฺฏสฺส อาทินาม นตฺถิ. ตสฺส ปน ปวตฺติ นิวตฺติโย อตฺถิ. ชานนฺเตหิ ตาสํ ปกาสนตฺถาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถานาม วฏฺฏกถา เอกนฺเตน กเถตพฺพา โหติ. กเถนฺเตหิ จ วฏฺฏธมฺมานํ มชฺเฌ กตมสฺส ธมฺมสฺส กิจฺจํ วฏฺฏปฺปวตฺตตฺถาย ปธานตรํ โหตีติ ชานิตพฺพํ โหติ. ตทา กิจฺจวเสน ปธานตรํ เอกํ ธมฺมํ มูลํ สีสํ กตฺวา วฏฺฏกถา กเถตพฺพาติ. อิทํ วฏฺฏกถาย สีสํ นาม. ตตฺถ อวิชฺชา นาม โมโห. โส จ มุยฺหนกิริยา. อนฺธภาวกรณฺจสฺส กิจฺจํ. น จ ปฺา จกฺขุสฺส อนฺธภาวกรณ สทิสํ อฺํ วฏฺฏสฺส ปวตฺตตฺถาย ปธานกิจฺจํ นาม อตฺถิ. ตสฺมา อวิชฺชา เอเวตฺถ สพฺพปฺปธาน กิจฺจตฺตา วฏฺฏกถาย สีสภูตา โหติ. เอวํ วฏฺฏกถาย สีสภูตตฺตา สา อาทิมฺหิ วุตฺตาติ. ‘‘อนาทิกภาโว เอว ทสฺสิโต’’ติ อนาทิกภาโว ทสฺสิโต เอว. โน น ทสฺสิโตติ อตฺโถ. อิติ เอตํ อตฺถชาตํ ปจฺจกฺขโต สิทฺธํ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึภเว. ‘‘ตสฺสา’’ติ อตีต ภวปริยาปนฺนาย ¶ อวิชฺชาย. ‘‘อฺาย อวิชฺชาย เอวา’’ติ อตีตภวโตปิ ปุริมภเว สิทฺธาย อฺาย อวิชฺชาย เอว. ‘‘ตสฺสาปี’’ติ ปุริมตรภเว อวิชฺชายปิ. ‘‘อตฺตภาโว’’ติ ปุริมตโร อตฺตภาโว. ‘‘ปธาน ปจฺจยภูตตฺตา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อนฺธภาวกรณ กิจฺจตฺตา วฏฺฏปฺปวตฺติยา ปธาน ปจฺจยภูตา โหติ. เอวํ ปธานปจฺจยภูตตฺตา. ‘‘ตสฺส ตสฺสาติ นิฏฺานเมว น ปฺาเยยฺยา’’ติ ตสฺส ปจฺจยสฺส ปจฺจโย วตฺตพฺโพ. ตสฺสปิ ปจฺจยสฺส ปจฺจโย วตฺตพฺโพติ เอวํ วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสํปิ นิฏฺานเมว น ปฺาเยยฺย. ‘‘วุตฺโตเยวา’’ติ อวิชฺชาย ปจฺจโย วุตฺโตเยว. ‘‘ปฺจนีวรณาติสฺสวจนียํ’’ติ ปฺจนีวรณ ธมฺมา อวิชฺชาย อาหาโรติ วจนียํ ภเวยฺย. ตตฺถ ‘‘อาหาโร’’ติ พลวปจฺจโย วุจฺจตีติ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๗. ปฏฺานนเย. ‘‘เหตุ จ โส ปจฺจโย จา’’ติ เอตฺถ โลโภ เหตุชาติกตฺตา เหตุ จ โหติ. อารมฺมณานนฺตราทิ ปจฺจเยน อฺธมฺมสฺส ปจฺจโย จ โหตีติ อตฺถสฺส สมฺภวโต ‘‘เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย’’ติ วณฺเณติ. เอวํ วณฺณิเตปิ ‘‘เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย’’ติ เหตุ โหนฺโต ปจฺจโยติ อตฺเถ สติ, โส เยวตฺโถ สมฺภวตีติ ‘‘ปุน เหตุภาเวน ปจฺจโย’’ติ วณฺเณติ. เอตฺถ สิยา, เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เอตฺถ ปท ทฺวยํ เอกธมฺมาธิกรณตฺตา ตุลฺยาธิกรณํ โหติ. เหตุภาเวน ปจฺจโยติ เอตฺถ ปน ปททฺวยํ ตุลฺยาธิกรณํ น โหติ. ปุริม ปทฺหิ ธมฺม ภาวปฺปธานํ, ปจฺฉิมํ ธมฺมปฺปธานนฺติ. เอวํ สนฺเต ตุลฺยาธิกรณํ วากฺยํ ภินฺนาธิกรณํ กตฺวา วณฺเณตีติ น ยุตฺตเมตนฺติ. โน น ยุตฺตํ. มุขฺโยปจารมตฺเตน นานตฺถตฺตา. ปจฺฉิมวากฺยํหิ มุขฺยวจนํ. ปุริมวากฺยํ อุปจาร วจนํ. อุปจารวจเน จ อุปจารตฺโถ ยุชฺชติ. มุขฺยวจเน มุขฺยตฺโถติ. ‘‘เหฏฺาวุตฺตเมวา’’ติ ปกิณฺณกสงฺคเห วุตฺตเมว. หิโนนฺติ เอตฺถาติ เหตุ. หิโนนฺติ เอเตนาติ เหตุ. ¶ ตตฺถ ‘‘หิโนนฺตี’’ติ สุฏฺุปติฏฺหนฺติ. เก ปติฏฺหนฺตีติ อาห ‘‘สหชาต ธมฺมา’’ติ. กถฺจ สุฏฺุปติฏฺหนฺตีติ อาห ‘‘วุทฺธิ วิรุฬฺหิ เวปุลฺลปตฺตวเสนา’’ติ. กสฺมา เต สุฏฺุ ปติฏฺหนฺตีติ. ปติฏฺิตฏฺานสฺส ปติฏฺิตการณสฺส วา ถามพลสมฺปนฺนตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาตินา ถามพลสมฺปนฺเนนา’’ติ วุตฺตํ. เหตุวิเสสนฺเจตํ. อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาติมฺหิ ถามพลสมฺปนฺเน เอตฺถ ธมฺเมติปิ โยเชตพฺพํ. อุปการโกติ จ อุปลทฺธิเยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยาทิเสนสภาเวนา’’ติ เหตุภาวาทิสภาเวน. ‘‘อุปลทฺธิเยวา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ อุปการก สทฺโท กตฺตารํ วา กาเรตารํ วา วทตีติ. โวหารมตฺเตน วทติ. ธมฺมโต ปน กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ สภาว ธมฺเมสู’’ติอาทิมาห. ยทิ ธมฺมโต กตฺตาวา กาเรตาวา นตฺถิ. กสฺมา อุปการโกติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ตถา อุปลทฺธิยํ ปนา’’ติอาทึ.
อารมฺมณปจฺจเย. ‘‘อชฺโฌลมฺพมานา’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน อธิโอลมฺพมานา. ‘‘อารมฺมณภาเวนา’’ติ โคจรวิสยภาเวน.
อธิปติปจฺจเย. ‘‘ครุกตา’’ติ อสฺสาทนาภินนฺทนาทิวเสน วา สทฺธาปสาทาทิวเสน วา ครุกตา. ‘‘สามิโน วิย ทาเส’’ติ สามิโน อตฺตโนทาเส อตฺตโนวเส วตฺตยมานา วิย. สหชาตาธิปติ ปน เหฏฺา สมุจฺจย สงฺคเห วุตฺโตติ อิธ น วุตฺโต.
อนนฺตรปจฺจยทฺวเย. ‘‘อนฺตรํ’’ติ ฉิทฺทํ วิวรํ. ‘‘สนฺตานํ’’ติ จิตฺตสนฺตานํ. ‘‘สนฺตานานุพนฺธวเสนา’’ติ จิตฺตสนฺตานํ ปุนปฺปุนํ พนฺธนวเสน. อุปฺปาทนนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ธมฺมนฺตรสฺสา’’ติ นามกฺขนฺธ ธมฺมนฺตรสฺส. ‘‘อนนฺตร ปจฺจยตา’’ติ อนนฺตรปจฺจย กิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ กิฺจิ ธมฺมนฺตรํ. ‘‘ปุริมปจฺฉิมภาคปฺปวตฺตานํ’’ติ นิโรธสฺส อสฺีภวสฺส จ ปุริมภาเค จ ปจฺฉิมภาเค จ ปวตฺตานํ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทานํ ปี’’ติ นิโรธสฺส ปุพฺพภาเค เนวสฺานาสฺายตน กุสล กฺริย จิตฺตุปฺปาทานํ. ปจฺฉาภาเค อนาคามิผล อรหตฺตผลจิตฺตุปฺปาทานํ ¶ . อสฺีภวสฺส ปุพฺพภาเค กามภเว จุติ จิตฺตุปฺปาทานํ. ปจฺฉาภาเค กามภเว เอว ปฏิสนฺธิ จิตฺตุปฺปาทานํ. เตสุ ปน กถํ อนนฺตรํ นาม สิยา. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปุริมภาค ปจฺฉิม ภาคานํ มชฺเฌ อจิตฺตกสฺส กาลสฺส อจิตฺตกสฺส รูปสนฺตานสฺส จ อนฺตริกตฺตาติ โจทนา. ตํ ปริหริตุํ ‘‘น หิ อภาวภูโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เตสํ’’ติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ. รูปธมฺโม อนฺตรํ น จ กโรติ นาม. อรูปธมฺมานํ อนนฺตรตา นามาติอาทินา โยชนา โหติ. ‘‘ตถาปวตฺตน สมตฺถตา’’ติ เอกีภูตานํ วิย อตฺตโน อนนฺตเร ธมฺมนฺตรํ อุปฺปาทเน สมตฺถตา.
สหชาตปจฺจเย. ‘‘เย ปน ธมฺมา’’ติ ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺมา. ‘‘อตฺตนี’’ติ ปจฺจย ธมฺโม วุจฺจติ.
‘‘อฺมฺํ อุปตฺถมฺภนฺตํ ติทณฺฑํ วิยา’’ติ ภูมิยํ อฺมฺํ นิสฺสาย อุสฺสิตา ตโยทณฺฑา อฺมฺํ อุปตฺถมฺภนฺตา วิย. ‘‘ปุริเมนา’’ติ ปุริเมน สหชาต ปจฺจเยน. ‘‘อิตรีตโร ปตฺถมฺภนํ’’ติ อฺมฺโ ปตฺถมฺภนํ.
‘‘สูโท’’ติ ภตฺตการโก. ‘‘อุกฺขลี’’ติ ภตฺตปจนกุมฺภี. ‘‘วุฏฺิธารา’’ติ เมฆวุฏฺิธารา. ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ ภตฺตุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย. ‘‘ตาสุ อสตี’’ติ สาลิกฺเขตฺต วุฏฺิธาราสุ อสติ. ‘‘พลวตรฏฺเนา’’ติ พลวตรนิสฺสยฏฺเน. ‘‘ปกตูปนิสฺสโย’’ติ เอตฺถ ‘‘ปกโต’’ติ ภุสํ กโต. เตนาห ‘‘สุฏฺุกโต’’ติ. กรณฺจ อตฺตโน สนฺตาเน สุฏฺุอุปฺปาทนฺจ สุฏฺุอุปเสวนฺจ ทฏฺพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตปฺปกาเรนา’’ติ ‘ยถา กเต สตี’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.
‘‘นิสฺสยารมฺมณ ธมฺมา เอวา’’ติ นิสฺสย ปจฺจย ธมฺม อารมฺมณ ปจฺจย ธมฺมา เอว. ‘‘ปุเรชาตตามตฺตวิสิฏฺา’’ติ เอตฺถ มตฺตสทฺเทน นิสฺสยารมฺมณสตฺติโต วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ นาม อตฺถีติปิ วทนฺติ. ตํ วาทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาจริยานนฺทตฺเถเรนา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ ปฺจวตฺถูนิ จ ปฺจารมฺมณานิ จ ปุเรชาตตฺตา เอว สุฏฺุพลวตาย ปฺจวิฺาณานํ วตฺถุ กิจฺจ อารมฺมณ กิจฺจานิ สาเธนฺติ. ตถา หทยวตฺถุ จ มโนธาตุ ¶ มโนวิฺาณธาตู นนฺติ. อยํ วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ วิเสโสติ วเทยฺย. สจฺจํ. สุทฺธมโน ทฺวาเรปน อิธ ตฺวา นิรเยสุ เอวรูปานิ นิรยคฺคิรูปานิ อตฺถิ. อิทานิ เทเวสุ จ เอวรูปานิ ทิพฺพรูปานิ อตฺถีติ จินฺตยนฺตานมฺปิ, เตสุ ปุเร เอวรูปานิ อุปฺปชฺชึสูติ วา, เตสุ อนาคเต เอวรูปานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ วา จินฺตยนฺตานํปิตานิ รูปานิ นิพฺพิเสสานิ หุตฺวา มโนวิฺาณานํ อารมฺมณ ปจฺจยตฺตํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ปุเร ชาตานิ หุตฺวา ตทา วิชฺชมานานิ ปจฺจุปฺปนฺนรูปานิ อารมฺมณ ปุเรชาตปจฺจโย. อิตรานิ อารมฺมณ ปจฺจโย เอว. น เจตฺถ ปุเรชาตานํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปานํ ปุเรชาตตฺเตน วิเสโส อตฺถิ. น จ ตานิ ปุเรชาตปจฺจโย น โหนฺติ. ยทิ วิสุํ ปุเรชาตสตฺติวิเสโส ปุเรชาตปจฺจโยติ วเทยฺย. ตานิ ปุเรชาตปจฺจโย นาม น ภเวยฺยุํ. กสฺมา, ตาทิสสฺส วิเสสสฺส นตฺถิตาย. น จ นภวนฺติ. กสฺมา, ปุเรชาตมตฺตวิเสสสฺส อตฺถิตาย. เอตฺถ วเทยฺยุํ, ปฺจทฺวาเรสุ ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วิสุํ ปุเรชาตสตฺติวิเสโส ทิสฺสตีติ. กิฺจาปิทิสฺสติ. โส ปน พหุวิธานํ นิสฺสย ปจฺจย อารมฺมณปจฺจยานํ มชฺเฌ นิสฺสย สตฺติวิเสโส เอว, อารมฺมณ สตฺติวิเสโส เอว จาติ. อปิ จ วิสุํ ปุเรชาต สตฺติวิเสโส นาม นตฺถีติ อิทํ ยถาวุตฺเต สุทฺธมโนทฺวาเร ตพฺพิเสสาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิสุํ ปุเรชาต สตฺติวิเสโส นาม อตฺถีติ อิทํ ปฺจทฺวาเรสุ ตพฺพิเสสสฺส อตฺถิภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. ยํ รุจฺจติ, ตํ คเหตพฺพํ.
ปจฺฉาชาตปจฺจเย. ‘‘รุกฺขโปตกานํ วิยา’’ติ ปจฺฉา อาสิฺจิยมานํ อุทกํ รุกฺขโปตกานํ วุทฺธวิรุฬฺหภาวํ ปาเปตฺวา อุปตฺถมฺภนวเสน อุปการโก วิยาติ โยชนา. อาหารํ อาสึ สตีติ อาหาราสา. ชิฆจฺฉา, ปิปาสา, ตณฺหา. ตาย สมฺปยุตฺตา เจตนาติ วิคฺคโห. สา ปน อาหาราสา เจตนา อุปตฺถมฺภติ เยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อยมตฺโถ’’ติ ‘สุปากเฏนา’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ. สพฺพาเจสาวิจารณา คิชฺโฌปมาย อุปมามตฺตภาวํ นีวาเรตา โหตีติ.
อาเสวนฺติ ¶ ตํ ปจฺจย ธมฺมํ ปจฺจยุปฺปนฺนา ธมฺมาติ อาเสวนํ. เอเตน ภุโส ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺเมหิ อาเสวิตพฺพตฺตา อาเสวนนฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสตีติ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ ปุริมํ ปุริมํ ปจฺจย ธมฺมํ. ‘‘ภชนฺตี’’ติ อุเปนฺติ. เก ภชนฺตีติ อาห ‘‘อปราปรํ อุปฺปชฺชมานา ธมฺมา’’ติ. ‘‘ธมฺมา’’ติ จ อนนฺตรุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา. กถฺจ ตํ เตภชนฺตีติ อาห ‘‘สุฏฺุเสวมานา วิย ภชมานา วิย ปวตฺตนฺตี’’ติ. วิย สทฺเทน โลเก กิฺจิชนํ เกจิชนา เกนจิ อตฺเถน สุฏฺุเสวนฺตา วิยาติ ทสฺเสติ. กถํ สุฏฺุเสวิยมานา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘ตสฺส ปุริมสฺสา’’ติอาทึ. ปุริมสฺส อนนฺตรสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพปริปูรํ อาการํ’’ติ ชวเวคสหิเตหิ วิชานน ผุสนาทีหิ สาวชฺชาน วชฺชาทีหิ จ สพฺเพหิ ชวนคุเณหิ ปริปูรํ อาการํ. ‘‘อาเสเวตี’’ติ มํ สุฏฺุ เสวถาติ นิโยเชนฺตํ วิย โหติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน วาสํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘วาสํ’’ติ วาสนํ. ‘‘สุฏฺุ คาหาเปตี’’ติ ปริปุณฺณํ เทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ยถา โลเก เอโก ปเรสํ ยถิจฺฉิตํ เทติ. เอวํ เทนฺตํ ปน ปเร ภชนฺติเยว. มํ ภชถาติ นิโยชนกิจฺจํ นตฺถิ. เอวเมว อิธปิ สุฏฺุวาสทานเมว ภชาปนํ นามาติ ทสฺเสติ. ‘‘วฑฺเฒติ วา’’ติ เอเตน อาเสวนา ภาวนา วฑฺฒนาติ อิมํปริยายตฺถํ วทติ. ปุริมาภิโยโค นาม อาทิโต ปฏฺาย สชฺฌายนาทิกมฺเมสุ ยถาสตฺติ ยถาพลํ วา ยามกรณํ. ตถา กโรนฺตสฺส ตํ อุคฺคหณ กมฺมํ อุปรูปริ ปคุณภาวํ คจฺฉตีติ. ‘‘อาเสวนฏฺเนา’’ติ วฑฺฒาปนฏฺเน, อุปการโกติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สชาติยานํ’’ติ กุสลาทิภาเวน สมานชาติกานํ.
กายงฺคาภิสงฺขรณํ นาม กายสฺเจตนากิจฺจํ. วาจงฺคาภิสงฺขรณํ วจีสฺเจตนากิจฺจํ. จิตฺตงฺคาภิสงฺขรณํ มโนสฺเจตนากิจฺจํ. ‘‘กิริยาภาเวนา’’ติ ทสฺสนสวนาทิกิจฺเจสุ คมนาน นิสชฺชาทิกิจฺเจสุ สํวิธานกิริยาภาเวน. ‘‘วตฺถุมฺหี’’ติ คพฺภวตฺถุมฺหิ. ยถาวุตฺตาภิสงฺขรณกิจฺจํ นาม กายงฺควาจงฺค จิตฺตงฺคาภิสงฺขรณ กิจฺจํ. ‘‘ตทภิสงฺขรณเวคชนิตํ’’ติ ตสฺส กายงฺคาทิกสฺส ¶ อภิสงฺขรณเวเคน ชนิตํ กิริยาวิเสส นิธานกิจฺจนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สนฺตาเน’’ติ จิตฺตสนฺตาเน.
วิปจฺจนภาโว จ นาม ปาตุภาโวติ สมฺพนฺโธ. นิรุสฺสาห สนฺตภาโว นาม กุสลา กุสลานํ วิย กายงฺควาจงฺคาภิสงฺขรณ กิจฺเจสุ จ อายตึ วิปจฺจน กิจฺเจสุ จ นิรุสฺสาหภาเวน สนฺตภาโว. น กิเลสุ ปสนฺตภาเวน. จิตฺตาภิสงฺขรณ กิจฺเจสุปน สมฺปยุตฺตเจตนาวเสน ยโถปฏฺิเตสุ อารมฺมเณสุ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ เอกโต สนฺนิปาตคมนุสฺสาหมตฺตํ อตฺถิ. ตโตปรํ ปน สุปิน ทสฺสน กิจฺจํปิ นตฺถีติ. ‘‘มนฺทมนฺทากาเรนา’’ติ มนฺทโต อติมนฺทากาเรน. กิฺจิชานน จิตฺตํ นาม กมฺมาทิ อารมฺมณํ อปฺปมตฺตกํปิ ชานนํ วีถิจิตฺตํ. ตสฺส ปวตฺติยา.
‘‘อรูปิโน’’ติ อรูปลกฺขณ สมงฺคิโน. นามลกฺขณ สมงฺคีโนติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ชนยนฺตาปี’’ติ สหชาต ธมฺเม ชเนนฺตาปิ. ‘‘สนฺตานฏฺิติยา’’ติ ปพนฺธปฺปติฏฺานสฺส.
‘‘กสฺมาปเนตฺถา’’ติอาทีสุ. ‘‘ภาวินฺทฺริย ทฺวยํ’’ติ อิตฺถินฺทฺริย ปุริสินฺทฺริย ทฺวยํ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ อินฺทฺริยปจฺจเย. กสฺมา น คหิตํ. นนุ อิตฺถิลิงฺคาทีนํ ปวตฺติการณตฺตา อิธ คเหตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย. ชนกตฺตํ นาม ชนก กิจฺจํ. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘เอตํตยํปิ นตฺถี’’ติ ชนกตฺตาทิกิจฺจตฺตยํปิ นตฺถิ. เอวํสนฺเตกถํ ลิงฺคาทีนํ ปวตฺติการณํ โหตีติอาห ‘‘เกวลํ ปนา’’ติอาทึ. ‘‘ทฺวยํ’’ติ อิตฺถิภาวปุมฺภาว ทฺวยํ. น อินฺทฺริย ปจฺจยตฺเตน อินฺทฺริยํ นาม โหติ. ยถาหิ เอโก ราชา อตฺตโน วิชิเต เคหานิ กโรนฺติ. เอวํ กโรนฺตูติ เคหสณฺานํ ปฏฺเปติ. สพฺเพชนา ตเถว กโรนฺติ, โน อฺถา. ตตฺถ ราชา เคหุปฺปตฺติยา จ เคหฏฺิติยา จ กิฺจิ กิจฺจํ น กโรติ. เคหสามิกาวา เคหวฑฺฒกิโน วา กโรนฺติ. กโรนฺตา ปน รฺา ปฏฺปิตํ สณฺานํ อนติกฺกมิตฺวาว กโรนฺติ. เอวเมว มิทํ ทฏฺพฺพํ. อุปคนฺตฺวา ฌายนฏฺเนาติ สมฺพนฺโธ. อุปสทฺโท อุปนิสฺสย ปเทวิย อุปริ อตฺโถ. ‘‘อุปรี’’ติ จ ถามพลวุทฺธิวเสนาติ อาห ‘‘ตสฺมึ วา’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ อารมฺมเณ.
‘‘สุคติ ¶ ทุคฺคติ นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. โส อตฺโถ อพฺยากตมคฺคงฺเคสุ นตฺถิ. เอวฺจสติ ตานิ กถํ มคฺคปจฺจยตฺตํ คจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ. ‘‘สมฺมาทสฺสนาทินา’’ติ สมฺมาทสฺสน สงฺกปฺปนาทินา. ‘‘เตสํ’’ติ สมฺมาทิฏฺีนํ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ อพฺยากต ภูตานํ สมฺมาทิฏฺีนมฺปิ. ‘‘เตเนวฏฺเนา’’ติ สมฺมาทสฺสนาทินา ลกฺขณฏฺเน. อถวา. ‘‘เตเนวฏฺเนา’’ติ สุคติ นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺเเน วาติ อตฺโถ. เอวฺจสติ สเหตุกา วิปาก กฺริยา พฺยากตธมฺมาปิ เตเนวฏฺเน สพฺพโส กุสลสทิสา สิยุนฺติ. น สิยุํ, ปจฺจย เวกลฺลตฺตา. วิปากาพฺยากตาหิ กมฺมเวเคน สนฺตาเน ปติตมตฺตตฺตา นิรุสฺสาหสนฺตสภาวโต ตํ สมฺปยุตฺตา เจตนา นานกฺขณิก กมฺมปจฺจยตฺตํ น คจฺฉติ. กิริยาพฺยากตา จ นิรนุสยสนฺตาเน อุปฺปนฺนตฺตา ตํ สมฺปยุตฺตเจตนาปิ ตปฺปจฺจยตฺตํ น คจฺฉติเยว. ตสฺมา เตสุ วิปาก กฺริยาพฺยากเตสุ สมฺมาทิฏฺาทีนิปิ สุคติ สมฺปาปกฏฺํ น สาเธนฺติ. กิเลสปฺปหาน กิจฺจสฺส อภาวโต นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺมฺปิ นสาเธนฺติ. สภาว ลกฺขณเวกลฺลตาปน เตสํ สมฺมาทิฏฺาทีนํ นตฺถิเยว. ตสฺมา ตานิ มคฺคปจฺจเย สงฺคหิตานีติ. อินฺทฺริย ธมฺเมสุ อรูปินฺทฺริยานํ อาธิปฺปจฺจ กิจฺจํ อรูปธมฺเม สฺเวว ผรติ. รูปธมฺมา ปน ตํ สมุฏฺิตตฺตา เอว ตปฺปจฺจยุปฺปนฺเนสุ วุตฺตา. ตถา เหตุ กมฺม มคฺค ฌาเนสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอสนโย กมฺมินฺทฺริยฌานปจฺจเยสุปี’’ติ. ตตฺถ กมฺมสทฺเทน นานกฺขณิก ปจฺจโย คเหตพฺโพ.
‘‘สมฺปยุตฺตาสงฺกา สมฺภวตี’’ติ สหชาตา นามธมฺมา ตํ สมุฏฺาน รูเปหิ, ปจฺฉาชาตา จ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนรูเปหิ, วตฺถุ ธมฺมา จ ตนฺนิสฺสิตนามธมฺเมหิ กาลโต จ านโต จ เอก สมฺพนฺธตฺตา เตสุ สมฺปยุตฺตาสงฺกา สมฺภวติ. ‘‘วิปฺปยุตฺตปจฺจยปฺปสงฺโค นตฺถี’’ติ อารมฺมณานนฺตราทิปจฺจยาปิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนหิ สมฺปยุตฺตา น โหนฺติ. ตสฺมา เตปิ วิปฺปยุตฺตปจฺจย ภาเวน วตฺตพฺพาติ เอวรูโป วิปฺปยุตฺตปจฺจยปฺปสงฺโค เตสุ อารมฺมณ ปจฺจยาทีสุ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
‘‘เหฏฺาวุตฺตปฺปกาเรสุ เอวา’’ติ เอตฺถ เอวสทฺเทน ปจฺจยนฺตรํ น โหตีติ ¶ ทสฺเสติ. ยทิ ปจฺจยนฺตรํ น โหติ, น วตฺตพฺโพเยว. กสฺมา, เทสกสฺส ปุนรุตฺตินิรตฺถกวาทิตา ปตฺติโตติ. โน น วตฺตพฺโพ. กสฺมา, โลเก โย สยํ นตฺถิ, วิคโต โหติ. โส กสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อรหตีติ เอวรูปสฺส มิจฺฉาภินิเวสสฺส ปหานโต. เตน อิมมตฺถํ าเปติ, โลเก เกจิธมฺมา สยํ อตฺถิกาเล เอว อฺเสํ ปจฺจยา โหนฺติ, โน นตฺถิกาเล. เกจิ ธมฺมา สยํ นตฺถิกาเล เอว อฺเสํ ปจฺจยา โหนฺติ, โน อตฺถิกาเลติ อยฺจวิภาโค อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺโพ เยวาติ. ‘‘โอกาสทานสงฺขาเตนา’’ติ ตสฺส อฺสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อุปฺปตฺติยา โอกาสทานสงฺขาเตน.
สุตฺตนฺเต, อตฺถีติ อย เมโก อนฺโตติ สตฺตานํ เสฏฺสารภูโต อตฺตานาม อนมตคฺเค สํสาเร นิจฺจกาลํ อตฺถิ. อุจฺเฉโท วา วิโมกฺโข วา สพฺพโส นตฺถิ. อยํ สสฺสตวาโท นาม เอโกวิสมนฺโต เอกาวิสมาโกฏิ. นตฺถีติ สตฺโตนาม เอกภวปรโม โหติ, มรณโต ปรํ นตฺถิ. เอกนฺเตน อุจฺฉิชฺชติ. อยํ อุจฺเฉทวาโท นาม ทุตีโย วิสมนฺโต ทุตียาวิสมโกฏิ. อิเม ปฏิจฺจ สมุปฺปาทํ อชานนฺตานํ อุโภวิสมนฺตา นาม. ชานนฺตานํ ปน ตาทิโส อตฺตานาม นตฺถิ, โย อตฺถีติ วา นตฺถีติ วา วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. สุทฺธธมฺมปฺปพนฺโธ เอว อตฺถิ. ตสฺส จ ยาว อวิชฺชา อปฺปหีนา โหติ, ตาว อุจฺเฉโท นาม นตฺถิ. อวิชฺชาย ปน ปหีนาย ตโตปรํ น ปวตฺตติ. อตฺถิ นาม น โหติ. อยํ อนฺตทฺวยมุตฺโต มชฺฌิมาโย นาม. พหุํ นานตฺถ สมฺภวํ วณฺเณนฺติเยว. วณฺเณนฺตานํปิ เตสํ พหุ ปโยชนํ นตฺถิ เยวาติ อธิปฺปาโย.
ปจฺจยุทฺเทสานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๘. ปจฺจยนิทฺเทเส. ‘‘ปฺจธา’’ติ ปฺจวิเธหิ ปจฺจเยหิ. ‘‘เอกธา’’ติ เอกวิเธน ปจฺจเยน. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อวิจฺเฉทายา’’ติ อวิจฺเฉทตฺถาย. ‘‘ปฏิปาทนายา’’ติ โยชนตฺถาย. โย โกจิ จิตฺตุปฺปาโท อวิรุทฺธสฺส ยสฺส กสฺสจิ จิตฺตุปฺปาทสฺส ¶ ปจฺจโย น น โหตีติ โยชนา. ‘‘ปุนุปฺปนฺนานํ’’ติ นิรุชฺฌิตฺวา ปุน อุปฺปนฺนานํ. ‘‘ปุริมานิ ชวนานี’’ติ เอตฺถ มคฺโค โคตฺรภุโต อาเสวน ปจฺจยํ ลภติ. ผลสฺส ปน โส ภินฺนชาติกตฺตา อาเสวน ปจฺจโย น โหติ. ผลํ ปน สพฺพโส อาเสวน มุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ตทุภยํ อิธ ปุริมชวนสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘มคฺค ผลชวนวชฺชานี’’ติ. ผลชวนวชฺชานํ ปจฺฉิมานํ ชวนานํ. ‘‘สพฺพาการปาริปูรํ’’ติ เอตฺถ กุสลาทิชาติปิ สงฺคหิตาติ วุตฺตํ ‘‘ชาติมตฺเตนปี’’ติ. อภินฺนา เอว สิยุํ. น ปน ภินฺนา โหนฺติ. กทาจิ เกจิภินฺนา เอว โหนฺติ. ตสฺมา ภินฺนชาติกา ธมฺมา. ล. น สกฺโกนฺตีติ โยชนา. ‘‘กามาวจรภาวโต มหคฺคตานุตฺตรภาวปตฺติ นามา’’ติ จิตฺตสนฺตานสฺสาติ อธิปฺปาโย. โคตฺร ภุจิตฺตํ กามภูมิ. ฌานจิตฺตํ มหคฺคตภูมิ. มคฺคจิตฺตํ โลกุตฺตร ภูมิ. กมฺมเจตนาย นิรุทฺธายปิ ตสฺสา ปวตฺตากาโร นนิรุชฺฌติ. จิตฺตสนฺตานํ อนุคจฺฉติ. โส เอว อายตึ วิปากธมฺมราสิ หุตฺวา ปาตุพฺภวติ. ตสฺมา โส วิปากสฺส พีชสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โส จ ยาว น วิปจฺจติ. ตาว สํสารปฺปวตฺติยา สติ, อนฺตรา วินฏฺโ นาม น โหติ. ตสฺมา กมฺมเจตนา อุปฺปชฺชมานา จิตฺตสนฺตาเน ตสฺส พีชสฺส นิธานตฺถาย อุปฺปชฺชติ, นิรุชฺฌมานา จ นิทหิตฺวา เอว นิรุชฺฌตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน ปวตฺตาการสงฺขาต พีชนิธานฺจา’’ติ. ‘‘เจตนาย โหตี’’ติ เจตนาย สาธารณํ โหติ. ปุเรชาตา สาลรุกฺขโปตกา ปจฺจยา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปุริมจิตฺตกฺขเณสุ อุปฺปนฺนา จตุสมุฏฺานิกรูปธมฺมาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาหารชกาโย’’ติ เอวํ วุตฺตาติ ปาเสโส. ‘‘ปจฺฉา ชาเตนา’’ติ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปโยชนํ นตฺถิ. ชิณฺณปตรุกฺขสฺส อุทกาสิฺจนํ วิย โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยทคฺเคนา’’ติ เยนการณ โกฏฺาเสน. ‘‘วตฺถุ รูปํ’’ติ นิโรธาสนฺนํ หทยวตฺถุ รูปํ. ‘‘เอวมยํ ปี’’ติ เอวํ อยํ ปจฺฉาชาตปจฺจโยปิ. วิวิเธน อากาเรน ผรณํ กาลนฺตร เทสนฺตร คมนํ วิปฺผาโร. มหนฺโต วิปฺผาโร ยสฺสาติ สมาโส. ‘‘วตฺถุมฺหี’’ติ หทยวตฺถุมฺหิ. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ สมฺมิสฺโสติ ปฺจโวกาโร. กาม รูปภโว ¶ . วินา อุปฺปชฺชิตุํ น สกฺโกติ. รูปวิราคภาวนาพเลน รูปสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปุเรชาตํ วา’’ติ เอกจิตฺตกฺขณาตีเต ปุเรชาตํ วา. ‘‘วฑฺฒนปกฺเข ิตํ วา’’ติ ตโต ปจฺฉา ยาว อฏฺม จิตฺตกฺขณา วฑฺฒนปกฺเข ิตํ วา. ‘‘อุปฺปนฺนํ วตฺถู’’ติ อุปฺปนฺนํ วตฺถุรูปํ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อิมสฺมึ ปุเรชาต ปจฺจเย. กิฺจาปิ ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปจฺจนีเย’’ติ ปจฺจนีย วาเร. ‘‘ตํ’’ติ อารมฺมณปุเรชาตํ. ตสฺส อารมฺมณสฺส อปริพฺยตฺตตฺตาวาติ สมฺพนฺโธ. การณํ วทนฺติ ปฏฺานฏีกาจริยา. อรูปภเว มรณาสนฺนกาเล กสฺสจิ คตินิมิตฺตุ ปฏฺานํ อฏฺกถาสุ วุตฺตเมว. เอวฺจสติ, ตตฺถ อารมฺมณ ปุเรชาตํ ลทฺธพฺพเมว. ปฏฺาเนปน ตสฺมึภเว สพฺพํ ปุเรชาตปจฺจยํ ปฏิกฺขิปติ. กสฺมา อิติ เจ, วตฺถุ ปุเรชาตปจฺจยสฺส ตตฺถ อลทฺธพฺพตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘อารุปฺเปวิยา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปฏฺาเน อรูปภเว ทฺเวปิ ปุเรชาตปจฺจยา ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สพฺเพปิ อรูป ปุคฺคลา สพฺพํปิ รูปธมฺมํ อารมฺมณํ น กโรนฺตีติปิ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา อารมฺมณ สงฺคหทีปนิยํ ‘อสฺีภวโต จุตานํ วิย อรูปภวโต จุตานํปิ คตินิมิตฺตภูตํ กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ ภวนฺตเร เกนจิทฺวาเรน อคฺคหิตํ, เกวลํ กมฺมพเลเนว อุปฏฺาปิต’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘คูถกุณปาทีนี’’ติ คูถฺจ มตปูติสรีรานิ จ. ‘‘เอวํ วุตฺเตหี’’ติ ปฏฺาเน วุตฺเตหิ. เต ปน อกุสลา ธมฺมา กถํ จตุภูมิก กุสลานํ อุปนิสฺสย ปจฺจยา โหนฺตีติ อาห ‘‘ตตฺถ อานนฺตริย วชฺชานี’’ติอาทึ. ตตฺถ อานนฺตริย กมฺมกตานํ กิเลสาวรณ กมฺมาวรเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ฌานมคฺคปฺปฏิลาโภ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อานนฺตริย วชฺชานี’’ติ. ‘‘ตานี’’ติ ราคาทีนิ อกุสลานิ จตุภูมิก กุสลานํ อุปฺปตฺติยา พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘สมติกฺกมมุเขนา’’ติ ปฏฺาเน อกุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสย ปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอตสฺส ปฺหสฺส วิภงฺเค ปาณํ หนฺตฺวา ตสฺส ปฏิฆา ตตฺถาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ฌานํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตสฺส ¶ ปฏิฆาตตฺถายา’’ติ ตสฺส ปาณาติปาตกมฺมสฺส ปฏิหนนตฺถาย ปหานตฺถาย สมติกฺกมนตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. โส เจ ปาณาติปาตี ปุคฺคโล ปุน สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา ตสฺส กมฺมสฺส สมติกฺกมนตฺถาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถ กมฺมํ กโรติ. ตทา ตํ ปาณาติ ปาตกมฺมํ ตํ ปุคฺคลํ ทานกมฺเมนิโยเชติ นาม. ตถา สีลกมฺเม อุโปสถ กมฺเมติ. ยถาหิ ราชา เอวํ วเทยฺย อิมสฺมึ ทิวเส โย อุโปสถํ นุปวสติ, ตํ ฆาเตสฺสามีติ. ตทา สพฺเพปิ นาครา อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ. เอวมิทํ ทฏฺพฺพํ. ราชาวิย หิ ตสฺส ปาณาติปาตกมฺมํ. นาครา วิย โส ปาณฆาตโก. อุโปสถ กมฺม กุสลานิ วิย ตสฺส ทานสีล อุโปสถ กมฺม กุสลานีติ. ‘‘ฌานํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทตี’’ติ ปเทสุปิ เอเสวนโย. เอวํ สมติกฺกมมุเขน เอกํปิ อกุสลํ สพฺพานิ จตุภูมิก กุสลานิ อุปนิสฺสย สตฺติยา ชเนติ ปวตฺเตตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ตานิเยว สพฺพานี’’ติ อานนฺตริย กมฺมสหิตานิสพฺพานิ อกุสลานิเยว สพฺเพสํ อกุสลานํ อพฺยากต ธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ทานสีลาทโย กุสลา ธมฺมา. สุฏฺุ พลวํ กมฺมํ อธิปฺเปตํ, น ทุพฺพลํ. อุปนิสฺสยฏฺานตฺตา. เตสํปิ รูปธมฺมานํ พลวนิสฺสยา นนุโหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ โหนฺตีติ อาห ‘‘พหิทฺธารุกฺขติณาทีนํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ปถวีรส อาโปรสวสฺโสทก พีชานิ รุกฺขติณาทีนํ พลวนิสฺสยา โหนฺติ. มูลเภสชฺชาทีนิ อชฺฌตฺตํ สนฺตานํ พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘ปกตสฺเสวา’’ติ ปถมตรํ กตสฺส อุปฺปาทนาทิกมฺมสฺเสว. ‘‘น เอวํ รูปสนฺตาเนนา’’ติ เอวํ รูปสนฺตาเนน อุปฺปาทิตา อุปเสวิตา ธมฺมา นตฺถิ. ‘‘ตํ’’ติ อุตุพีชาทิกํ. กมฺมาทิกฺจ. ‘‘ปกตํ’’ติ ปุเรตรํ อุปฺปาทิตฺจ อุปเสวิตฺจ. สเจตนสฺเสว เจตนํ ปกปฺปนํ ปกรณนฺติ สมฺพนฺโธ. เจตนํ ปกปฺปนํ ปกรณํ นามาติ อตฺโถ. ‘‘ปกปฺปนํ’’ติ จ สํวิธานํ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิกมฺมาทิกํ อุตุโภชนาทิกฺจ. อตฺตโน จ อุปฺปนฺนา ราคาทโย ปรสฺส จ สนฺตาเน ปรสฺส จ อุปฺปนฺนา ราคาทโย อตฺตโน จ สนฺตาเนติ โยชนา ¶ . ‘‘นิทสฺสนํ’’ติ อุทาหรณํ โหติ. มโนปโทสิกเทวา อฺมฺํ ทิสฺวา อตฺตโน มนํ ปทูเสนฺติ. พาฬฺหํ อิสฺสาธมฺมํ อุปฺปาเทนฺติ. ตสฺมึเยว ขเณ จวนฺติ. เตสํ ทฺเว อิสฺสาธมฺมา อฺมฺสฺส พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ. กามาวจร กุสลสฺส พลวนิสฺสยา โหนฺตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. วิภาวนิปาเ. ฌาน มคฺค ผล วิปสฺสนาทิเภทํ อาลมฺพณํ ปจฺจเวกฺขน อสฺสาทนาทิ ธมฺเม อตฺตาธีเน กโรตีติ โยชนา. ‘‘อตฺตาธีเน’’ติ อตฺตายตฺเต อตฺตาพทฺเธ. ปฏฺาเน ปฺหวาเร ทานํ ทตฺวา สีลํสมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ. ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตีติอาทินา อาคตตฺตาทาน สีล. ล. นิพฺพานานิ เจวาติ วุตฺตํ. ราคํ ครุํกตฺวา อสฺสาเทนฺติ, อภินนฺทตีติอาทินา, จกฺขุํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทนฺตีติอาทินา จ อาคตตฺตา ‘‘ราค ทิฏฺิ จกฺขุ โสตาทีนิจา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปรตฺถ ปี’’ติ ปรโต นิสฺสย ปจฺจยาทีสุปิ. ‘‘โส เอวา’’ติ ปจฺจุปตฺถมฺภโก เอว. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิมตฺตํปิ. มหาภูเต กิฺจิ อุปตฺถมฺเภตุํ น สกฺโกนฺตีติ โยชนา. นนุ อาหาร รูปํ มหาภูเต อุปตฺถมฺเภตุํ สกฺโกติ. ชีวิตรูปฺจ กมฺมชมหาภูเต อนุปาเลตุนฺติ. สจฺจํ. อิธ ปน สหชาตปจฺจย กิจฺจํ อธิปฺเปตํ. เตสฺจ ทฺวินฺนํ สหชาตปจฺจย กิจฺจํ นตฺถิ. ตํ ปรโต อาวี ภวิสฺสตีติ. ‘‘วตฺถุ วิปากานํ’’ติ วตฺถุรูปํ วิปากานํ. ปฏฺานปาเ. อารมฺมณฺจ, นิสฺสโย จ, ปุเรชาตฺจ, วิปฺปยุตฺโต จ, อตฺถิ จ, อวิคโต จา,ติ ฉสุปจฺจเยสุ ฆฏิเตสุ ตีณิ วิสชฺชนานิ ลพฺภนฺตีติ โยชนา. ตีณิ วิสชฺชนานิ นาม วตฺถุ กุสลานํ ขนฺธานํ ฉ หิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย. วตฺถุ อกุสลานํ, วตฺถุ อพฺยากตานนฺติ. เอตฺถ จ อตฺตโน อชฺฌตฺตํ วตฺถุํ อารพฺภ วตฺถุ เม อนิจฺจนฺติอาทินา สมฺมสนฺตสฺส วตฺถุรูปํ กุสลานํ ขนฺธานํ ฉหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย. เอตํ มม, เอโส หมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา,ติ อุปาทิยนฺตสฺส วตฺถุ รูปํ อกุสลานํ. อุภยตฺถปิ อาวชฺชนกฺขเณ อพฺยากตานํ. อรหโต ปน ตํ อนิจฺจนฺติอาทินา สมฺมสนฺตสฺส กฺริยาพฺยากตานํ ขนฺธานนฺติ. เตนาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ’’ติ ¶ อตฺตโน ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ. อธิฏฺานวิธาเน ปน อากาส คมเน รูปกายํ อารพฺภจิตฺตํ วิย กายํ ลหุกํ อธิฏฺหนฺตสฺส ตปฺปริยาปนฺนํ วตฺถุ อภิฺาจิตฺต ทฺวยสฺสาติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อนิฏฺเาเน’’ติ ชวนจิตฺตสฺส อาวชฺชเนน วินา อุปฺปชฺชนํ นาม กตฺถจิ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ. กตฺถจิ อนิจฺฉิตพฺพํ. ตตฺถ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาเน, มคฺควีถีสุ โคตฺรภุโวทานฏฺาเน, อาคนฺตุก ภวงฺคฏฺาเนติ อิทํ อิจฺฉิตพฺพฏฺานํ นาม. อิโต อฺํ อนิจฺฉิตฏฺานํ นาม. เอวํ อนิจฺฉิตพฺเพ าเนติ อตฺโถ. ‘‘ปกติกาเล’’ติ มรณาสนฺนกาลโต อฺสฺมึกาเล. ‘‘ตานิวา’’ติ อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสยวตฺถูนิวา. ‘‘อฺํ วา’’ติ วตฺถุโต อฺํ รูปาทิกํ วา. ‘‘ภินฺนารมฺมณานิ นามา’’ติ อฺํ อาวชฺชนสฺส อารมฺมณํ, อฺํ ชวนานนฺติ เอวํ ชวนานิ อาวชฺชเนน ภินฺนารมฺมณานิ วา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉาอุปฺปนฺนานี’’ติอาทิ. ‘‘เตสํ’’ติ วีถิจิตฺตานํ. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ เอววตฺถุ รูปํ. ‘‘วตฺถุ จา’’ติ นิสฺสโย จ. ‘‘เตสํ’’ติ อฏฺกถาจริยานํ. น หิ คเหตุํ สกฺโกนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘กสฺมา วุตฺตํ’’ติอาทีสุ. ‘‘ตสฺส ยกฺขสฺสา’’ติ อินฺทกนามสฺส ตสฺสยกฺขสฺส. ‘‘อิตเรสํปี’’ติ สํเสทโชปปาติกานํปิ. ‘‘ทุวิเธนา’’ติ รูปชนน กิจฺจํ รูปูปตฺถมฺภน กิจฺจนฺติ เอวํ ทุวิเธน. อถวา ‘‘ทุวิเธนา’’ติ อชฺฌตฺตาหารสฺส อุปตฺถมฺภนํ พหิทฺธาหารสฺส อุปตฺถมฺภนนฺติ เอวํ ทุวิเธน. ‘‘ตถารูปานฺจา’’ติ อปฺปนาปตฺตกมฺมวิเสเสน สิทฺธานฺจ. ‘‘อชฺฌตฺตาหาโรปี’’ติ ปิสทฺเทน ยถาวุตฺตชีวิตินฺทฺริยฺจ อรูปาหาเร จ สมฺปิณฺเฑติ. ‘‘วตฺถุวิปากานํ’’ติ วตฺถุรูปํ วิปากานํ. ‘‘สพฺพถา’’ติ อพฺยายปทํ. ตฺจ สพฺพวิภตฺติยุตฺตํ. อิธ ปน ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สพฺพถา’’ติ สพฺพปฺปการนฺติ. ปกาโร จ เวทิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. กถํ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘ติวิโธ’’ติอาทึ. ‘‘สหชาเต สงฺคเหตพฺพํ’’ติ ปจฺจยภาเวน สงฺคเหตพฺพํ. สหชนนํ นาม อตฺตนา สห ชเนนฺตสฺส สหชนนํ. ตฺจ กมฺมจิตฺตาทีนํ วิย วิสุํ ชนนกิจฺจํ น โหติ. อตฺตนิ อุปฺปชฺชนฺเต เอว อิตรานิ รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อนุปฺปชฺชนฺเต น อุปฺปชฺชนฺตีติ เอวรูปํ ชนนกิจฺจํ เวทิตพฺพํ ¶ .‘‘วินาว สหุปฺปาทนกิจฺเจนา’’ติ อตฺตนา สหุปฺปาทนกิจฺเจ อาหารสฺส พฺยาปาโร นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตเนว สหชาตานิ อุปตฺถมฺภนฺโตปิ สหชาตปจฺจยตฺตํ น คจฺฉตีติ. เอสนโย รูปชีวิตินฺทฺริเยปิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ชีวิตํปี’’ติอาทิ. ‘‘ตีสู’’ติ อารมฺมณฺจ อุปนิสฺสโย จ อตฺถิจาติ อิเมสุ ตีสุ. อารมฺมณาธิปติมฺหิ ปุเรชาตา รมฺมณาธิปติปิ อตฺถิ. โส ปุเรชาตตฺถิ ปจฺจโย เอวาติ อตฺถิปจฺจเย สงฺคหิโต. ‘‘ตสฺมึ กเต ปวตฺตมานานํ’’ติ ตสฺมึ กมฺเม กเต ตสฺส กตตฺตา เอว ปวตฺตมานานํ. อารมฺมณากาโร โคจรวิสยากาโร. ‘‘สนฺตานวิเสสํ กตฺวา’’ติ พีชนิธานํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เต’’ติ อารมฺมณปจฺจย กมฺม ปจฺจยา. ‘‘อกาลิโก’’ติ มคฺคเจตนาวเสน อกาลิโก. โสหิ อตฺตโน อนนฺตเรผลํ ชเนติ. ตสฺมา อาคเมตพฺพสฺส อายติกาลสฺส อภาวา อกาลิโกติ วุจฺจติ. อวเสโส นานกฺขณิกปจฺจโย กาลิโก. ‘‘ปจฺจยฏฺเนา’’ติ ปจฺจยกิจฺเจน. โลกปฺปวตฺติยา กมฺมเหตุกตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ผลเหตู ปจาเรนา’’ติ ผลภูตาย สพฺพโลกปฺปวตฺติยา เหตุภูตสฺส กมฺมสฺส นามํ ผลมฺหิ อาโรเปตฺวา โวหาเรน สพฺเพปิ เตวีสติปจฺจยา กมฺมสภาวํ นาติวตฺตนฺตีติ โยชนา. กมฺมปจฺจย สงฺขฺยํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิชฺชมานา เยวา’’ติ อตฺถิปจฺจยา เอวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สาสนยุตฺติยา วิรุทฺธเมวา’’ติ เอตฺถ สาสนยุตฺติ นาม ตีณิปิฏกานิ. ‘‘วิรุทฺธเมวา’’ติ อารมฺมณ ปจฺจยภูตา สพฺเพ ปถวี ปพฺพต นทีสมุทฺท อชฏากาสาทโย จ สพฺพาปฺตฺติโย จ นิพฺพานฺจ กมฺมสงฺขฺยํ คจฺฉนฺตีติ วทนฺโต จ, สพฺเพ อตีตานาคต ธมฺมา อตฺถิปจฺจยา เอวาติ วทนฺโต จ, ตีหิ ปิฏเกหิปิ วิรุชฺฌติเยว. ปฏฺานปาฬิยา ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อตฺถิ สทฺโทหิ ปฏฺาเน ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน วิชฺชมานตฺโถ. น ปรมตฺถ ธมฺม ภาเวน. นาปิโลก สมฺมุติวเสน. น หิ ปรมตฺถ ธมฺม ภูตาปิ อตีตานาคตธมฺมา อิธ อตฺถิ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. นาปิปฺตฺติ โหติ. ‘‘อฺมฺปฺปฏิพทฺธโอกาเส’’ติ อฺมฺํ นิสฺสยนิสฺสิตภาเว น ปฏิพทฺเธ ¶ กามรูปภโวกาเส. ‘‘ยโต’’ติ ยมฺหาปฏิสนฺธิ วิฺาณโต. ‘‘ยโต’’ติ วา ยมฺหาสีสโต, ยมฺหาพีชโต นิพฺพตฺตีติ โยชนา. ‘‘พีชโต วิย มหารุกฺขสฺสา’’ติ พีชปจฺจยา กฬีรงฺกุราทิกสฺส มหารุกฺขสนฺตานสฺส นิพฺพตฺติวิย. ปาฬิปาเ. ‘‘น โอกฺกมิสฺสถา’’ติ สเจ น โอกฺกเมยฺย. ‘‘สมุจฺจิสฺสถา’’ติ อปินุโข สมุจฺเจยฺย, วฑฺเฒยฺย. ‘‘โวกฺกมิสฺสถา’’ติ สเจ วิคเมยฺย, วินาเสยฺย. ‘‘อภินิพฺพตฺติสฺสถา’’ติ อปินุโข อภินิพฺพตฺเตยฺย, ปาตุภเวยฺย. ‘‘โวจฺฉิชฺชิสฺสถา’’ติ สเจอุจฺฉิชฺเชยฺย. ‘‘อาปชฺชิสฺสถา’’ติ อปินุโข อาปชฺเชยฺย. ‘‘ยทิทํ’’ติ ยํ อิทํ. ‘‘อิทํ’’ติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘วิฺาณํ’’ติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ยํ วิฺาณํ อตฺถิ. เอเสว วิฺาณ ธมฺโมติ โยชนา. ‘‘รูปุปฺปตฺติยา’’ติ รูปุปฺปาทสฺส. วิฺาณํ ปจฺจโย เอตสฺสาติ วิฺาณ ปจฺจยา. รูปุปฺปตฺติ. ‘‘รูปปฺปเวณิยา’’ติ กมฺมชรูปสนฺตติยา. ‘‘อุตุอาหาราปี’’ติ อชฺฌตฺต อุตุอชฺฌตฺต อาหาราปิ. อิทฺจ สมฺภวยุตฺติ วเสน วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ปุริมุปฺปนฺนาย รูปปฺปเวณิยา อสติ, อชฺฌตฺตํ เต อุตุอาหาราปิ นตฺถิเยว. พหิทฺธา อุตุปน อสติปิ ปุริมุปฺปนฺนาย รูปปฺปเวณิยา รูปํ น ชเนตีติ น วตฺตพฺพํ. ฏีกาปาเ. ‘‘อรูปํ ปนา’’ติ อรูปภูมิปน. ‘‘ยสฺมึรูเป’’ติ กมฺมชรูเป. ‘‘ปจฺจยภาโว อตฺถี’’ติ ปจฺฉิมรูปุปฺปตฺติยา ปจฺจยสตฺติ อตฺถิ. กสฺมา วิฺายตีติ เจ. ‘‘ปุตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ‘‘พีชภาวสงฺขาตํ’’ติ อมฺพพีชาทีนํ พีชภาวสงฺขาตํ. ‘‘นิยามรูปํ นามา’’ติ อุตุวิเสสมาห. ‘‘ยถา วา ตถา วา’’ติ อนิยมโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โยนิภาวสงฺขาตํ’’ติ ตํ ตํ โคตฺตกุลชาตีนํ ชาติภาวสงฺขาตํ. ‘‘นิยามรูปํ’’ติ อุตุวิเสส สงฺขาตํ นิยามรูปํ. สทิสานิ รูปสณฺานานิ เยสนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ปฏิสนฺธิรูปสฺเสว อานุภาโว’’ติ กลลกาลาทีสุ อุปฺปนฺนสฺส ปฏิสนฺธิรูปสฺเสว อานุภาโว. ปุน ตเมวตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ‘‘สมุทาคตํ’’ติ สุฏฺุ อุปรูปริอาคตํ. อิตฺถิภาวาทิรูปํ พีชรูปฺจ นิยาเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิยามกํ’’ติ นานาวณฺณสณฺานาทีนํ นิยามกํ. ‘‘ตตฺถ ¶ อิมสฺมึ ภเว’’ติอาทีสุ. ธนฺจ ธฺฺจ ตโต อวเสสา สพฺเพอุปโภคปริโภคาจาติ วิคฺคโห. วิชฺชา จ สิปฺปฺจ นานาพหุสฺสุตฺจ ปริยตฺติ จาติ ทฺวนฺโท. ‘‘อนาคตานํ ตาสํ’’ติ ตาสํ อภินวธนธฺาทิสมฺปตฺตีนํ. ‘‘อุปนิสฺสย ปจฺจยตา’’ติ ปุพฺพโยคกมฺมสฺส อุปนิสฺสย ปจฺจยตา. ตตฺถ ธนธฺโภคานํ ปฏิลาภตฺถาย ปุพฺพโยคกรณํ นาม กสิกมฺม วาณิชฺชกมฺมาทีนํ กรณํ. ตตฺถ กสิกมฺเม ตาว ธนธฺโภคานํ ปฏิลาภตฺถาย กสิกมฺมกรเณ ธนธฺโภคา อนาคตูปนิสฺสย ปจฺจโย. อิทานิ กสิกมฺมกรณํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนํ. ธนธฺ โภคานํ ปฏิลาภปริโภคกาเลสุ กสิกมฺมกรณํ อตีตูปนิสฺสย ปจฺจโย. เตสํ ปฏิลาโภ จ ปริโภโค จ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺโน. กสิกมฺมกรณกฺขเณ ปน เขตฺต, วตฺถุ, พีช, เมฆวุฏฺิโย จ นงฺคลาทีนิ กสิภณฺฑานิ จ โคมหึสา จ กมฺมการก ปุริสา จ ปจฺจุปฺปนฺนูปนิสฺสโย. กสิกมฺมกรณํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนํ. กมฺมสาธิกสฺส มาตาปิตาทโย ปุพฺพปุริสา ตสฺส กมฺมสฺส อตีตูปนิสฺสย ปจฺจโย. ตํ กมฺมํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ. เสสํ สุวิฺเยฺยํ.
‘‘ปฺจวิธ’’นฺติอาทีสุ. ‘‘สณฺานตฺตํ’’ติ อณุ, ตชฺชารี, รถเรณุ, ลิกฺขาทีนิ อุปาทาย สพฺเพสํ รูปสณฺานานํ ภาโว สณฺานตฺตํ. ‘‘ภาโว’’ติ จ เตสํ ปวตฺติ วุจฺจติ. ‘‘ปวตฺติ เหตู’’ติ จ ปรมตฺถ รูป ธมฺมา เอว. ‘‘อนุปคมนโต’’ติ เอตฺถ สภาวโต อติสุขุมตฺตา อนุปคมนํ เวทิตพฺพํ. อธิวจนสงฺขาตํ นามาภิธานนฺติ วิคฺคโห. ‘‘อธิวจนํ’’ติ จ อตฺถปฺปกาสกตฺตา อธิกํ วจนํ อธิวจนํ. ‘‘นามาภิธาน’’นฺติ จ นามปฺตฺติ วุจฺจติ. ‘‘คเหตพฺพ ภาโว’’ติ อิทํ จิตฺตํ นาม, อยํ ผสฺโสนามาติอาทินา กเถนฺตานํ สนฺติกา นามาภิธานํ สุตฺวา ตทนุรูปสฺส สภาวตฺถสฺส ชานนวเสน าเณน คเหตพฺพภาโว. นาม ปฺตฺตานุสาเรน ชานิตพฺพตฺตา นามนฺติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมเณ นมตีติ นามํ. อารมฺมณิก ธมฺมา วา เอตฺถ นมนฺตีติ นามนฺติปิ ยุชฺชติ.
อิมสฺมึ ¶ ปจฺจยสงฺคเห ปจฺจยธมฺเมสุ ปฺตฺตีนํปิ สงฺคหิตตฺตา ปฺตฺติ สงฺคโหปิ เถเรน อิธ นิกฺขิตฺโต. ตตฺถ ‘‘ปฺาวียตี’’ติ เอตฺถ ปฺาปนํ นาม โวหารฏฺปนํ. ตฺจปนํ ทฺวีหิการเณหิ สิชฺฌติ วทนฺตานํ โวหาเรน จ, สุณนฺตานํ สมฺปฏิจฺฉเนน จาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปี’’ติอาทิมาห. ‘‘สมฺปฏิจฺฉียตี’’ติ ยถา ปุพฺพปุริเสหิ โวหรียติ, ตถา ปจฺฉิม ชนปรมฺปราหิ โวหรียตีติ วุตฺตํ โหติ. ปกาเรน าปียตีติ ปฺตฺตีติปิ ยุชฺชติ. ‘‘พฺยฺชนตฺโถ’’ติ มนุสฺส, เทว, ปถวี, ปพฺพตาทิโก สทฺทตฺโถ. ‘‘ปฺา ปียนฺตี’’ติ ปกาเรน ปียนฺติ. สทฺทปฺตฺตึ อาหาติ อธิกาโร. อธิมตฺตภาวปฺปกาโร นาม ปถวีปพฺพตาทีสุ ปถวีธาตุยา อธิมตฺต ภาววิเสโส. นที สมุทฺโททกาทีสุ อาโปธาตุยา. อคฺคิกฺขนฺเธสุ เตโชธาตุยา. วาตกฺขนฺเธสุ วาโยธาตุยาติ เอวํ อธิมตฺต ภาววิเสโส. วิวิเธน ปกาเรน ปริณมนํ วิปริณาโมติ อาห ตถา ตถา วิปริณามาการนฺติ. ปถวีปพฺพตาทิโวหาโร สณฺิตาการํ นิสฺสาย ปวตฺโต น โหติ. ปถวี นาม เอวํ สณฺานา, ปพฺพโต นาม เอวํ สณฺาโนติ สณฺานนิยโม นตฺถิ. ปํสุสิลานํ ราสิปฺุชปฺปวตฺติมตฺเตน โวหาโร สิทฺโธติ วุตฺตํ ‘‘น หิ อิธ สณฺานํ ปธานํ’’ติ. ‘‘กฏฺาทโย เอว วุจฺจนฺตี’’ติ เต เอวสณฺานนานตฺตํ ปฏิจฺจ นานาโวหาเรน วุจฺจนฺติ. ปถวี ปพฺพต นที สมุทฺทาทีสุ วิย ภูตานํ ปวตฺติวิเสสากาเรนาติ วุตฺตํ ‘‘น หิ อิธ สมูโห ปธานํ’’ติ. ‘‘อุปาทาปฺตฺตี’’ติ ปฺจกฺขนฺธ ธมฺเม อุปาทาย เตหิ อนฺํ เอกีภูตํ กตฺวา ปฺตฺติ. น อากาส ปฺตฺติ ทิสาเทสปฺตฺติโย วิย เตหิ ขนฺเธหิ มฺุจิตฺวา ปฺตฺติ. ‘‘ยโต’’ติ ยมฺหาทิสโต. ‘‘ลทฺธปฺปกาสตฺตา’’ติ ลทฺธปฺปภาสตฺตา. ‘‘อหสฺสา’’ติ ทิวสสฺส. อุทฺธุมาตกาทีนิ ‘อุทฺธุมาตกํ ปฏิกูลํ’ติอาทินา ปฏิกูลวเสน มนสิกโรนฺตสฺสปิ นิมิตฺตํ อุปฏฺหนฺตํ ภูตวิการปฺปกาเรน อุปฏฺหตีติ กตฺวา ภูตนิมิตฺเต สงฺคณฺหาติ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ ปุคฺคลปฺตฺติ อฏฺกถายํ. ‘‘ตาสํ’’ติ ภูมิปพฺพตาทิกานํ อตฺถ ปฺตฺตีนํ. ‘‘ตถา ตถา’’ติ ¶ อยํ ภูมิ, อยํ ปพฺพโต, ติอาทินา เตน เตน โวหาเรน. อตฺถานํ ปรมตฺถานํ ฉายาติ อตฺถจฺฉายา. ‘‘ฉายา’’ติ จ นิมิตฺตจฺฉายาโย วุจฺจนฺติ. อตฺถจฺฉายานํ อากาโร อตฺถจฺฉายากาโร. ‘‘อากาโร’’ติ จ นานาสมูห นานาสณฺานาทิโก อากาโร. อตฺโถติ วา สทฺทาภิเธยฺโย วจนตฺโถ. โสเยว สมูหาการาทิ นิมิตฺต มตฺตตฺตา อตฺถจฺฉายากาโรติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สทฺทาภิเธยฺย สงฺขาเตนา’’ติอาทินา. ‘‘ทพฺพปฺปฏิพิมฺพากาเรนา’’ติ ทพฺพสงฺขาเตน ปฏิพิมฺพากาเรน. ‘‘โอลมฺพิยา’’ติ อวลมฺพิตฺวา. ‘‘คณนูปคํ กตฺวา’’ติ อย เมโก อตฺโถ, อิทเมกํ วตฺถูติ เอวํ คณนูปคํ กตฺวา. ‘‘อิเมฉา’’ติ อิเม ฉสทฺทปฺตฺติ โวหารา นาม นามกมฺมาทิ นาม. ‘‘อตฺตนี’’ติ นามปท สงฺขาเต อตฺตนิ. อตฺถ วิสยํ เอว หุตฺวา ปวตฺตติ ภาสฺูนนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘นาเม สตี’’ติ อกฺขรสมูโห ปทํ, ปทสมูโห วากฺยนฺติ เอวํ วุตฺเต นามปเท วิชฺชมาเน สติ. ‘‘ตทุคฺคณฺหนฺตานํ’’ติ ตํ ตํ นามปทํ วาจุคฺคตกรณ วเสน อุคฺคณฺหนฺตานํ ชนานํ. ‘‘ตทตฺถา’’ติ ตสฺส ตสฺส นาม ปทสฺส อตฺถา. ‘‘อาคจฺฉนฺติ เยวา’’ติ ภาสฺูนํ าณาภิมุขํ อาคจฺฉนฺติเยว. เอเตน อตฺตนิ อตฺถสฺส นามนํ นาม อตฺถโชตน กิจฺจเมวาติ ทีเปติ. ‘‘สุณนฺตานํ าณํ’’ติ เอตฺถ ‘‘าณํ’’ติ อุปลกฺขณ วจนํ, อกุสล วิฺาณสฺสปิ อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘ตํ ตํ อตฺถาภิมุขํ นาเมตี’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน นาเมติ. ‘‘นามคฺคหณ วเสนา’’ติ อยํ อสุโกนาม โหตูติ เอวํ นามคฺคหณวเสน. ‘‘ธารียตี’’ติ ยาวชีวํปิ อปฺปมุสฺสมานํ กตฺวา ธารียติ. นีหริตฺวา วุจฺจติ อตฺโถ เอตายาติ นิรุตฺติ. ‘‘เอตายา’’ติ กรณภูตาย เอตายนามชาติยา. ‘‘อวิทิตปกฺเข’’ติ นามปทํ อสฺสุตกาเล อวิฺาตปกฺเข. ‘‘ตโต นีหริตฺวา’’ติ อวิทิตปกฺขโต าเณน นีหริตฺวา. ‘‘กถียตี’’ติ ตํ สุตกาเล วทนฺเตน สุณนฺตสฺส อาจิกฺขียติ ชานาปียติ. ‘‘อตฺถสฺสา’’ติ อวิทิตปกฺเข ิตสฺส อตฺถสฺส. ‘‘เอตสฺเส วา’’ติ นามปทสฺเสว. นามปทนฺติ จ กฺริย ปทํปิ ¶ , อุปสคฺคปทมฺปิ, นิปาตปทมฺปิ, ปาฏิปทิกปทํปิ, อิธ นามปทนฺตฺเวว วุจฺจติ. ‘‘วิเสสนภูตานํ’’ติ อฺปทตฺถสมาเส สมาสปทานํ อตฺถา วิเสสนา นาม. เอวํ วิเสสนภูตานํ. ‘‘ปุคฺคลสฺสา’’ติ อฺปทตฺถภูตสฺส อภิฺาลาภี ปุคฺคลสฺส. ‘‘วทนฺตี’’ติ อานนฺทาจริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ ธมฺมสงฺคณิยํ ปฺตฺติทุกนิทฺเทเส มูลฏีกายํ ตถา วทติ. ‘‘ตพฺภาวํ’’ติ อกฺขร ปทพฺยฺชนภาวํ. ‘‘อสฺสา’’ติ นามปฺตฺติยา. อกฺขรปทพฺยฺชนํ โคจโร อารมฺมณํ อสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘อนุสาเรนา’’ติ อนุคมเนน. ‘‘โลกสงฺเกต นิมฺมิตา’’ติ โลกสงฺเกตฺาเณน ปวตฺติตา. ‘‘โลกสงฺเกตฺาณํ’’ติ จ อิทํ นามํ อิมสฺสตฺถสฺส นามํ, อยมตฺโถ อิมสฺส นามสฺส อตฺโถติ เอวํ ปุเรตรํ โลกสฺาณ ชานนกฺาณํ. ‘‘อตีต สทฺทมตฺตารมฺมณา’’ติ โสตวิฺาณ วีถิยา อารมฺมณํ หุตฺวา นิรุทฺธํ อตีต สทฺทมตฺตํ กุรุมานา. ‘‘เตน วุตฺตวจเน’’ติ เตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺเตน ภิกฺขุนา สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ วุตฺตวจเน. ปจฺจุปฺปนฺนํ สทฺทํ โสตวิฺาณ วีถิยา, อตีตฺจ สทฺทํ มโนวิฺาณ วีถิยาติ โยชนา. ‘‘ตานิ อกฺขรานี’’ติ สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ วากฺเย อวยวกฺขรานิ. ‘‘อยํ อกฺขร สมูโห’’ติ อิทํ นามปทนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตสฺส อตฺถสฺส. ‘‘วินิจฺฉยวีถึ’’ติ อกฺขร ปทสลฺลกฺขณวีถิฺจ. ‘‘เอกกฺขเร สทฺเท’’ติ ‘โค’ อิจฺจาทิเก เอกกฺขเร ปฺตฺติ สทฺเท. ‘‘ยา’’ติ นาม ปฺตฺติ. ‘‘วทนฺตสฺส มนสา’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปุพฺพภาเค’’ติ ยํ กิฺจิ อตฺถํ ปเรสํ วตฺตุกาโม วทนฺโต ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส นามํ ปถมํ มโนทฺวารวีถิยา นิยเมตฺวา เอว วทติ, ตํ นามํ ปุพฺพภาเค วทนฺเตน มนสา ววตฺถาปิตา นามปฺตฺตีติ วุจฺจติ. ปฏิปาฏิกถนํ ปวตฺติกฺกมกถนํ. ‘‘วุตฺตํ’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตถา อทฺธมตฺติกนฺติ จ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตํ’’ติ จ สทฺทสตฺเถสุ วุตฺตํ.
คาถายํ. ‘‘มตฺตา’’ติ เอกวิชฺชุปฺปาทกฺขณํ วุจฺจติ. เอกา มตฺตายสฺสาติ เอกมตฺโต. ‘‘ทีฆมุจฺจเต’’ติ ทีโฆ นาม วุจฺจเต. ‘‘ปฺลุโต’’ติ นานปฺปกาเรน รุโต คายิโตติ ปรุโต ¶ . โส เอว รการสฺส ลการํ กตฺวา ปกาเร จ สรโลปํ กตฺวา ปฺลุโตติ วุจฺจติ. คีตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปรมตฺถ สทฺทสงฺฆาฏานํ’’ติ ปรมฺปรา ปวตฺตานํ ปรมตฺถ สทฺทราสีนํ. ‘‘อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานี’’ติ ชวนวีถีนํ อนฺตรนฺตรา ภวงฺคจิตฺเตหิ สทฺธึ อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานิ.
ปฏฺานนยานุทีปนา นิฏฺิตา.
ปจฺจยสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
๙. กมฺมฏฺานสงฺคหอนุทีปนา
๑๗๐. กมฺมฏฺานสงฺคเห ¶ . วิทิโต วิฺาโต นามรูป วิภาโค เยนาติ วิคฺคโห. โยคี ปุคฺคโล. ‘‘กิเลเส สเมตี’’ติ กามจฺฉนฺทาทิเก นีวรณกิเลเส อุปสเมติ. ‘‘ตถา ปวตฺโต’’ติ ภาวนาวเสน ปวตฺโต. วูปสมนวเสน วา ปวตฺโต. ‘‘ตายา’’ติ ตายภาวนา ปฺาย, ปสฺสนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปสฺสิตํ’’ติ สมนุปสฺสิตํ. กถํ กสิณภาวนาทิกํ โยคกมฺมํ อตฺตาว อตฺตโน านํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อาทิมชฺฌปริโยสานานํหี’’ติอาทิ. วิภาวนิปาเ. ‘‘ปทฏฺานตายา’’ติ เอเตน ติฏฺติ อนิวตฺตมานํ ปวตฺตติ เอเตนาติ านนฺติ อตฺเถน ปทฏฺานเมว านนฺติ วุจฺจตีติ ทีเปติ. ‘‘สุขวิเสสานํ’’ติ ฌานสุข มคฺคสุข ผลสุขานํ. ‘‘ทสกสิณานี’’ติอาทีสุ มุขฺยโต วา อุปจารโต วา ทฺวิธาปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทสกสิณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เสสานิปี’’ติ อปฺปมฺาทีนิ เสสกมฺมฏฺานานิปิ. ยํ ยํ อนุรูปํ ยถานุรูปํ. ‘‘สมุทาจรณํ’’ติ ปุนปฺปุนํ ภุสํ ปวตฺตนํ. ‘‘สํสคฺค เภโท’’ติ เอกเมกสฺส ปุคฺคลสฺส กสฺสจิ ทฺเวจริยา, กสฺสจิ ติสฺโสติอาทินา สมฺมิสฺส วิภาโค. อฏฺกถายํ’’ติ วิสุทฺธิมคฺค อฏฺกถายํ. ‘‘สพฺพายปิ อปฺปนายา’’ติ ฌานปฺปนาย จ มคฺคปฺปนาย จ ผลปฺปนาย จ. ‘‘ยา อาสนฺเน ปวตฺตา ทูเร ปวตฺตาติ อธิกาโร. ‘‘อิตรา ปนา’’ติ ทูเร ปวตฺตาปน. ‘‘ตาสํ ปนา’’ติ ติสฺสนฺนํ ภาวนานํ ปน. ‘‘เตสํ ปี’’ติ ทฺวินฺนํ นิมิตฺตานํปิ. ‘‘วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ’’ นาม วิตฺถารโต จตุรงฺคุลาธิกํ วิทตฺถิปฺปมาณํ. วิทตฺถิปฺปมาณํ วา จตุรงฺคุลปฺปมาณํ วาติปิ ยุชฺชติ. ตถาหิ วิสุทฺธิมคฺเค วาโยกสิณ วิธาเน จตุรงฺคุลปฺปมาณํ สีสํ วาเตน ปหริยมานํ ทิสฺวาติ วุตฺตํ. ขลมณฺฑลํ นาม กสฺสกานํ กสฺสมทฺทนภูมิภาคมณฺฑลํ. ‘‘กตํ วา’’ติ นีลาทิวณฺณวิเสสรหิตํ อรุณวณฺณํ มตฺติกกฺขณฺฑํ อุทเกน มทฺทิตฺวา จกฺกมณฺฑลํ วิย ปริมณฺฑลํ สุมฏฺตลํ ¶ ปถวิมณฺฑลํ กโรนฺติ. เอวํ กตํ วา. ‘‘อกตํ วา’’ติ กตฺถจิ ภูมิภาเค เกนจิ อกตํ สยํ ชาตํ วา. ‘‘กสิเณน ชมฺพุทีปสฺสา’’ติ เอตฺถ.
พุทฺโธติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;
วรเมว หิ สาปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺสาติ.
คาถาเสโส. ตตฺถ ชมฺพุทีปสฺส กสิณโต สาปีติวรา เอวาติ โยชนา. ‘‘กสิณโต’’ติ จ สกลมณฺฑลโต. สกลสฺส ชมฺพุทีปมณฺฑลสฺส อิสฺสริยาธิปติโต ปีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สนฺนิวิฏฺา’’ติ สมํ สณฺิตา. ‘‘สณฺาน ปฺตฺตี’’ติ มณฺฑลสณฺาเนน อุปฏฺิตา นิมิตฺตปฺตฺติ เอว วุจฺจติ. ‘‘ผุฏฺฏฺาเน’’ติ กาเยวา รุกฺขคฺคาทีสุวา วาเตน ปหตฏฺาเน. ‘‘วายุ วฏฺฏี’’ติ วาตปริมณฺฑลํ. จนฺทสูริยานํ อคฺคิสฺส จ โอภาเสน วิสิฏฺาติ สมาโส. ‘‘วิสิฏฺา’’ติ วิเสสิตา.
‘‘ธูมาตํ’’ติ ธูมายิตํ. ธูมปูริตปฏํ วิยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘สูนภาวํ คตํ’’ติ. อนฺเต กกาโร นินฺทตฺถโชตโกติ วุตฺตํ ‘‘กุจฺฉิตตฺตา’’ติ. เชคุจฺฉิ ตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ฉวสรีรสฺสา’’ติ ลามกสรีรสฺส. ‘‘ตเทวา’’ติ ฉวสรีรเมว. วิปุพฺพกํ วิจฺฉินฺนกํ นามาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ วิเสเสน นีลนฺติวินีลํ. ตเมว กุจฺฉิตตฺตา วินีลกํ. ‘‘ตเทว ปุน ปจฺจิตฺวา’’ติ วินีลกสรีรเมว ปุน กาลาติกฺกเม ปจฺจิตฺวา. ปูติโลหิตานํ ปริปกฺกภาวํ ปตฺวาติ อตฺโถ. ตโต ตโต ทฺวารจฺฉิทฺทโต. ยุตฺตํ ตเทว สรีรนฺติ สมฺพนฺโธ. วิจฺฉินฺนกํ นาม, วิจฺฉิทฺทกนฺติปิ ปนฺติ. ‘‘อปกฑฺฒิตฺวา’’ติ ขณฺฑานิ สรีรโต โมเจตฺวา ตํ ตํ ปเทสํ กฑฺฒิตฺวา. ‘‘ปคฺฆริตโลหิต สรีรํ’’ติ ฉินฺนวิทฺธฏฺาเนสุ วณมุเขหิ ปคฺฆริตโลหิตสรีรํ.
‘‘พุทฺธานุสฺสตี’’ติ เอตฺถ พุทฺธสทฺโท คุณฺยูปจาร วจนํ โหติ. คุณิโน ทพฺพสฺส นาเมน คุณานํ คเหตพฺพตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘พุทฺธคุณสฺส อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสตี’’ติ. เอสนโย ธมฺมานุสฺสตาทีสุ. ‘‘อรหตาที’’ติ อรหตาทิคุโณ. วิคตานิ ทุสฺสิลฺยาทิ มลานิ ¶ จ มจฺเฉรฺจ ยสฺส ตํ วิคตมลมจฺเฉรํ. ตสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘อตฺตนา อธิคตนิพฺพานฺจา’’ติ เอเตน อริยปุคฺคลานํ กิเลสานํ อจฺจนฺตวูปสโม วุตฺโต. ‘‘ยํ อารพฺภา’’ติ ยํ ปุคฺคลํ อารพฺภ. หิตูปสํหาโร นาม อยํ ปุคฺคโล อเวโร โหตุ, อพฺยาปชฺโช โหตูติอาทินา อเวรตาทีนิ หิตสุขานิ ตสฺมึ ปุคฺคเล จิตฺเตน อุปสํหรณํ. กรุณา, มุทิตา, เหฏฺา เจตสิกสงฺคเห วุตฺตตฺถา เอว. หิตูปสํหาโร จ หิตโมทนา จ อหิตาปนยนฺจาติ ทฺวนฺโท. ตตฺถ หิตูปสํหาโร เมตฺตาย กิจฺจํ. หิตโมทนา มุทิตาย. อหิตาปนยนํ กรุณาย กิจฺจํ. ตตฺถ ปรํ หิตสุขสมฺปนฺนํ ทิสฺวา เตน ปรหิเตน อตฺตนิ ปีติปาโมชฺชวฑฺฒนํ หิตโมทนา นาม. ปรํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา อยํ อิมมฺหาทุกฺขา มุจฺจตุ, มากิลมตูติ เอวํ จิตฺเตน ปรสฺมึ อหิตสฺส ทุกฺขสฺส อปนยนํ อหิตาปนยนํ นาม. ‘‘เตสํ’’ติ ปรสตฺตานํ. สสฺส อตฺตโน อิทนฺติ สกํ. ‘‘อิทํ’’ สุขทุกฺขการณํ. อตฺตนา กตกมฺมํ เอว สกํ เยสํ เต กมฺมสฺสกา. ปรสตฺตา เอว. เตสํ ภาโว. ตสฺส อนุพฺรูหนนฺติ วิคฺคโห. ‘‘สีมสมฺเภโท’’ติ อตฺตา จ ปิยปุคฺคโล จ มชฺฌตฺตปุคฺคโล จ เวริปุคฺคโล จาติ จตสฺโส สีมา. สมฺภินฺทนํ สมฺเภโท. สมฺมิสฺสนํ อนานตฺตกรณนฺติ อตฺโถ. สีมานํ สมฺเภโท สีมสมฺเภโท. สพฺพา อิตฺถิโย, สพฺเพปุริสาติอาทินา โอธิโส ปริจฺเฉทโต ผรณํ โอธิโสผรณํ นาม. สพฺเพสตฺตา, สพฺเพปาณา, สพฺเพภูตาติอาทินา อโนธิโส อปริจฺเฉทโต ผรณํ อโนธิโสผรณํ นาม. ปุรตฺถิมายทิสาย สพฺเพสตฺตา อเวราโหนฺตูติอาทินา ทิสาวิภาควเสน ผรณํ ทิสาผรณํ นาม. ‘‘ตํ สมงฺคีโน จา’’ติ ตาหิ อปฺปมฺาหิ สมงฺคีโน ปุคฺคลา. ‘‘นิจฺจํ โสมฺมหทยภาเวนา’’ติ สพฺพกาลํ สนฺตสีตล หทยภาเวน. พฺรหฺมสทฺโท วา เสฏฺปริยาโย ‘พฺรหฺมํ ปฺุํ ปสวตี’ติอาทีสุ วิย. อสิตพฺพํ ภฺุชิตพฺพนฺติ อสิตํ. ปฺจโภชนํ. ปาตพฺพนฺติ ปีตํ. อฏฺวิธํ ปานํ. ทนฺเตน ขายิตพฺพํ ขาทิตพฺพนฺติ ขายิตํ. ปูวกฺขชฺชผลกฺขชฺชาทิกํ นานาขาทนียํ ¶ . องฺคุลีหิปิ คเหตฺวา สายิตพฺพํ เลหิตพฺพนฺติ สายิตํ. มธุปฺผาณิตาทิกํ สายนียํ. สรสปฺปฏิกูลตา นาม อตฺตโน สภาวโต ปฏิกูลตา. จตุพฺพิโธปิ หิ อาหาโร ภาชเนสุ วา หตฺถมุขาทีสุ วา ยตฺถ ยตฺถ สมฺมกฺเขติ, ลคฺคติ, ลิมฺปติ. ตํ อุทเกน โธวิตพฺพํ โหติ. อโธตํ ปน ตมฺปิ เชคุจฺฉนียํ โหติ. อาสยโต ปฏิกูลตา นาม ตสฺส อชฺโฌหรียมานสฺส กณฺาทีสุ ิเตหิ ปิตฺตเสมฺหาทีหิ อาสเยหิ สมฺมิสฺสนวเสน ปฏิกูลตา. นิธานโต ปฏิกูลตา นาม นิธานโต ปฏิกูลตา. ‘‘นิธานํ’’ติ จ อามาสโย วุจฺจติ. ปกฺกโต ปฏิกูลตา นาม ตสฺส นิธานคตสฺส ปริปกฺกกาเล คูถมุตฺตาทิภาวปตฺติโต ปฏิกูลตา. อปกฺกโต ปฏิกูลตา นาม ตสฺมึ อปริปกฺเก อชิณฺเณ สติ สรีเร นานาโรคุปฺปตฺติวเสน ปฏิกูลตา. ผลโต ปฏิกูลตา นาม ตสฺส ปริปกฺกกาลโต ปฏฺาย สรีเร เกสโลมาทีนํ ปฏิกูลราสีนํ วฑฺฒนวเสน ปฏิกูลตา. นิสฺสนฺทโต ปฏิกูลตา นาม ตสฺส น วหิทฺวาเรหิ วา โลมกูเปหิวา อฺเหิ นานาวณมุเขหิ วา อุคฺฆรณ ปคฺฆรณาทิวเสน ปฏิกูลตา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ จตุพฺพิเธ อาหาเร. ‘‘นิกนฺติปฺปหานสฺา’’ติ กนฺตารมคฺเค มาตาปิตูนํ กนฺตารนิตฺตรณตฺถาย ปุตฺต มํสขาทเน วิย อติ มนฺุเปิ อาหาเร รสตณฺหา ปหานวเสน ปวตฺตา สฺา. ‘‘สลกฺขณาทิวเสนา’’ติ สลกฺขณสสมฺภาราทิวเสน. ‘‘ราเคน จรตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ราเคนา’’ติ กรณตฺเถ, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณวา กรณ วจนํ. ตตฺถ กรณตฺเถตาว ‘‘ราเคน จรตี’’ติ จตูสุ อิริยาปเถสุ เยภูยฺเยน ราคจิตฺเตน จรติ. ราคจิตฺเตน นิยฺยมาโน วิจรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตฺถมฺภูต ลกฺขเณ ปน ‘‘ราเคน จรตี’’ติ เตสุ ราคเกตุ ราคธโช หุตฺวา วิจรตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสา’’ติ ตสฺสปุคฺคลสฺส. ‘‘อุสฺสนฺโน’’ติ อุคฺคโต ปากฏตโร. พหุตโรติปิ วทนฺติ. ‘‘ปหานายา’’ติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิ อตฺโถ. เตน กรุณา ภาเวตพฺพา วิหึสาย ปหานาย. มุทิตา ¶ ภาเวตพฺพา อรติยา ปหานายาติ อิมํ ปาฬิเสสํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘นิสฺสรณตาวจนโต’’ติ นิสฺสรณฺเหตํ พฺยาปาทสฺส ยทิทํ เมตฺตาเจโต วิมุตฺติ. นิสฺสรณฺเหตํ วิเหสายยทิทํ กรุณา เจโตวิมุตฺติ. นิสฺสรณฺเหตํ อรติยา ยทิทํ มุทิตา เจโต วิมุตฺตีติ เอวํ นิสฺสรณ ภาววจนโต จ. จตสฺโส อปฺปมฺาโย. ล. โทส จริตสฺสาติ วุตฺตํ. ‘‘โทส วตฺถุตฺตาภาวโต จา’’ติ โทสุปฺปตฺติยา วตฺถุ ภาวสฺสกรณ ภาวสฺส อภาวโต จ. นีลาทีนิ จตฺตาริ กสิณานิ โทส จริตสฺสาติ วุตฺตํ. กสฺมาปเนตฺถ โทส จริตสฺส อุเปกฺขา สปฺปายการณํ วิสุํ น วุตฺตนฺติ. อฺการณตฺตา น วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ติสฺโส’’ติ ติสฺโส อปฺปมฺาโย. ‘‘มนาปิยรูปานี’’ติ มนาปิยวณฺณานิ. วิกฺขิตฺตจิตฺโต จ โหตีติ อธิกาโร. ‘‘ตสฺสา’’ติ ปมาท พหุลสฺส วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส จ ปุคฺคลสฺส. วุตฺตํ สิยา. วิสุทฺธิ มคฺเค ปน เอวํ วุตฺตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิปาเ. ‘‘พุทฺธิวิสย ภาเวนา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ พุทฺธิวิสยตฺตา โมหจริตสฺส สปฺปายํ. พุทฺธิวิสยภูตานิ มรณ อุปสมสฺา ววตฺถานานิปิ โมหจริตสฺส สปฺปายานิ สิยุนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวฺหิสตี’’ติอาทึ. ‘‘ภูตกสิณานี’’ติ ปถวีกสิณาทีนิ มหาภูตกสิณานิ. ‘‘ตตฺถาปี’’ติ วา เตสุ จตฺตาลีส กมฺมฏฺาเนสุปิ. เอวํสติ วณฺณกสิณานํ ปุถุลขุทฺทกตาปิ เอตฺถ สงฺคหิตา โหตีติ. ‘‘มหนฺตํ’’ติ วิทตฺถิ จตุรงฺคุลโต มหนฺตํ. ยทิ เอวสทฺโท ยถารุตเมว ยุชฺเชยฺย. เอวํสติ ขุทฺทกํ วิตกฺกจริตสฺเสว สปฺปายํ, น พุทฺธิจริตาทีนนฺติ เอวมตฺโถปิ คณฺเหยฺย. อถ พุทฺธิจริตสฺส ปน อสปฺปายํ นาม นตฺถีติ อฏฺกถาวจเนน วิรุชฺเฌยฺยาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ขุทฺทกนฺติ ปเทยุชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อถวา, ปุถุลํ โมหจริตสฺส, ขุทฺทกํ วิตกฺกจริตสฺเสว, นโมหจริตสฺสาติ อตฺเถ สติ, พุทฺธิจริตาทีนํ ปน ปุถุลํปิ ขุทฺทกํปิ อนฺุาตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สพฺพฺเจตํ’’ติ สพฺพฺจ เอตํจริตวิภาควจนํ. อุชุวิปจฺจนีกวเสน ตีสุ อกุสล จริเตสุ ปุคฺคเลสุ. วิตกฺก จริเต ¶ จ อติสปฺปายตาย สทฺธาพุทฺธิ จริเตสูติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา’’ติอาทึ.
‘‘พุทฺธธมฺม. ล. คุณานํ’’ติ เอตฺถ คุณสทฺโท ปุพฺพปเทสุ โยเชตพฺโพ พุทฺธคุณานฺจ ธมฺมคุณานฺจาติอาทินา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ คุณปเท. น ตปฺเปตีติ อตปฺปนีโย. ตปฺปนํ สนฺตุฏฺึ น ชเนตีติ อตฺโถ. สํเวชนํ สํเวคํ ชเนตีติ สํเวชนิโย. ‘‘ธมฺโม’’ติ สภาโว. สํเวชนิโย ธมฺโม ยสฺสาติ สํเวชนิย ธมฺมํ. มรณํ. ‘‘ปฺจมชฺฌานสมาธิสฺสา’’ติ รูปาวจร ปฺจมชฺฌาน สมาธิสฺส. ‘‘อุทยมตฺตานี’’ติ วฑฺฒิตมตฺตานิ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปฏิกูลารมฺมเณสุ. ‘‘ปุพฺพจฺฉฏฺฏกสฺสา’’ติ ปุราณจฺฉฏฺฏกสฺส. คูถมุตฺตวิสฺสชฺชน กสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘คูถราสิ ทสฺสเน วิยา’’ติ. น เต กทาจิ โสมนสฺเสน วินา อปฺปนํ ปาปุณนฺติ. พฺยาปาทวิหึสา อรตีนํ ทูริภาเวน โสมนสฺสุปฺปตฺติยา อติสุกรตฺตา ปฺจมชฺฌาเน วิย สุขโสมนสฺสานฺจ อวิกฺขมฺภนโต. ‘‘อุทาสินปกฺเข’’ติ อชฺฌุเปกฺขนปกฺเข. ‘‘ทฬฺหํ’’ติ ภุสํ. ‘‘วิภูตํ’’ติ ปากฏํ. นิมิตฺตํ ทฬฺหวิภูตํ กตฺวา คหณํ ทฬฺห วิภูตคฺคหณํ. ‘‘กสฺสจิ อารมฺมณสฺสา’’ติ พุทฺธคุณาทิ อารมฺมณสฺส. ‘‘ปฏิภาคนิมิตฺตํ’’ติ เอตฺถ ปฏิภาคสทฺโท ตสฺส ทิเส ปวตฺโตติ อาห ‘‘ตาทิเส’’ติอาทึ. ‘‘ตํสณฺาเน’’ติ เอเตน ปถวิมณฺฑลาทีสุ วิย สณฺานากาเรน ิเตสุ สภาว ธมฺม ปฺุเชสุ เอว ตสฺสทิสํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ นาม สิชฺฌตีติ ทสฺเสติ. ‘‘เอว’’นฺติ สมถสงฺคเห ตาว ทสกสิณานิ, ทสอสุภาติอาทินา วุตฺเตน วจนกฺกเมน. ‘‘อุคฺคหโกสลฺลํ’’ติ ภาวนากมฺมํ อารภิตุกาเมน ภิกฺขุนา อาจริยสฺส สนฺติเก สพฺพสฺส กมฺมฏฺาน วิธานสฺส อุคฺคหณํ อุคฺคโห. ตสฺมึ โกสลฺลํ อุคฺคหโกสลฺลํ. อปิเจตฺถ. สพฺพํ อุคฺคหิตุํ อสกฺโกนฺเตน ยํ อตฺตนา อารภิสฺสติ. ตสฺส เอกสฺส วิธานํ ปริปุณฺณํ อุคฺคเหตพฺพํ. ‘‘อุคฺคณฺหนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ อุกาโร อุปริ อตฺโถ. ‘‘คหณํ’’ติ จ ยถา จิตฺเต อวินสฺสมานํ หุตฺวา ลพฺภติ, ตถา กตฺวา จิตฺเตน คหณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปรูปรี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สมนุปสฺสนฺตสฺสา’’ติ ¶ สมฺมา ปุนปฺปุนํ จกฺขุนา ทสฺสนสทิสํ กโรนฺตสฺส. ปริโต สมนฺตโต กรณํ ปริกมฺมํ. ตสฺมึ นิมิตฺตคฺคหณกมฺเม ยํ ยํ กตฺตพฺพวิธานํ อตฺถิ, ตํ ตํ ปริปุณฺณํ กตฺวา คหณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภาวนาติ วฑฺฒนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติอาทิมาห. ‘‘นิรนฺตรํ ปทหนฺตสฺสา’’ติ รตฺติทิวํ นิรนฺตรํ อารภนฺตสฺส. อุคฺคห นิมิตฺเต สณฺานํ คณฺหนฺโตปิ วณฺณรูปาทินา สภาว ธมฺเมน สเหว คณฺหาติ. ปฏิภาคนิมิตฺเต ปน สภาวธมฺมํ มฺุจิตฺวา ตสฺส ทิสํ นิมิตฺต ปฺตฺติ สงฺขาตํ สุทฺธสณฺานเมว คณฺหาติ. เอตฺถ สิยา, ปฏิภาคนิมิตฺเตปิ วณฺโณ นาม สนฺทิสฺสติ เยวาติ. สจฺจํ. โส ปน ปฏิภาคมตฺตํ โหติ. น เอกนฺตวณฺโณ. เตนาห ‘‘ตปฺปฏิภาคํ วตฺถุ ธมฺมวิมุจฺจิตํ’’ติ. ‘‘สนฺนิสินฺนํ’’ติ อจลํ. ‘‘ปเวสิตํ’’ติ ภาวนาจิตฺตสฺส อพฺภนฺตเร ปกฺขิตฺตํ วิย โหตีติ อธิปฺปาโย. โอภาสตีติ โอภาโส. โอภาโส หุตฺวา ชาตนฺติ โอภาสชาตํ. โอภาสนํ วา โอภาโส. ชาโต โอภาโส อสฺสาติ โอภาสชาตํ. ‘‘ปาเตนฺตี’’ติ ปฏิปาเตนฺติ. ปุน อุปฺปชฺชนวเสน อุฏฺาตุํ น เทนฺติ. ‘‘เอตายา’’ติ กตฺตุ อตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘นิมิตฺตรกฺขณวิธานํ’’ติ สมุปฺปนฺนสฺส นิมิตฺตสฺส อนสฺสนตฺถาย สตฺตวิเธหิ ปลิโพธ ธมฺเมหิ รกฺขณตฺถํ. กตเม ปน เตสตฺตวิธา ปลิโพธธมฺมา นามาติ. อิธ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. วิสุทฺธิ มคฺเค เอว เต วุตฺตาติ ทสฺเสตุํ คาถมาห. ‘‘อาวาโส’’ติ อสปฺปายาวาโส. ‘‘โคจโร’’ติ อสปฺปายโคจรคาโม. ‘‘ภสฺสํ’’ติ อสปฺปายวจนํ. เอวํ ปุคฺคลาทีสุ. ‘‘เสเวถา’’ติ เสเวยฺย. ‘‘เอวฺหิปฏิปชฺชโต’’ติ เอวํหิวชฺชิตพฺเพ วชฺชนวเสน เสวิตพฺเพ เสวนวเสน ปฏิปชฺชนฺตสฺส. ‘‘กามตณฺหาย วิสยภาวํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ เอเตน กามภูมิ กามภวสมติกฺกโม, รูปภูมิรูปภว โอกฺกโม จ วุตฺโต. วสนํ วสี. สตฺติ. สามตฺถิยนฺติ อตฺโถ. วสึ ภูตํ ปตฺตนฺติ วสิภูตํ. วสี เอว วสิตา. ยถา ปารมิตาติ. ‘‘ตโต วิจารนฺติ’’ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ตโต ปีตึติอาทึ สงฺคณฺหาติ. อิจฺฉนฺตานํ เตสํ สพฺพฺุพุทฺธานํ. ‘‘ยตฺถา’’ติ ¶ เยสุทฺวีสุภวงฺเคสุ. ‘‘ภวงฺคจาเร’’ติ ภวงฺคปฺปวตฺติยํ. ‘‘ทนฺธายิตตฺตํ’’ติ ทนฺธํ หุตฺวา อยติ ปวตฺตตีติ ทนฺธายิตํ. ตสฺส ภาโว ทนฺธายิตตฺตํ. ‘‘เปตุํ’’ติ อธิฏฺานํ กตฺวา เปตุํ. ตโต อนติกฺกมิตุํ. ‘‘ยตฺถิจฺฉกํ’’ติอาทีนิ กฺริยาวิเสสนปทานิ. ‘‘ยตฺถิจฺฉกํ’’ติ ยตฺถ ยตฺถ าเน อิจฺฉานุ รูปํ. ยทิจฺฉกนฺติยสฺมึ ยสฺมึ ขเณ อิจฺฉานุ รูปํ. ‘‘ยาวติจฺฉกํ’’ติ ยตฺตเกน ปมาเณน อิจฺฉานุ รูปํ. ‘‘วิตกฺกาทิกํ โอฬาริกงฺคํ ปหานายา’’ติ เอตฺถ กสฺส พเลน ปหานํ โหติ. ตํ ตํ วิราค ภาวนา พเลน ปหานํ โหติ. กาจ ตํ ตํ วิราคภาวนา นาม โหติ. อชฺฌาสย วิเสส ปริคฺคหิตา อุปจารภาวนา เอวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปถมชฺฌานํ ตาวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อาตาปวีริยํ’’ติ เยนวีริเยน โยคิโน อตฺตานํ วา กิเลส ธมฺเม วา อาตาเปนฺติ ปริตาเปนฺติ. ตํ อาตาปวีริยํ นาม. อุคฺฆาฏียมานมฺปิ อากาสเมว โหติ. ตํ อารพฺภ อุปริฌานนฺตรุปฺปตฺติยา ภาวนํ กโรนฺตสฺสปิ ปุนปฺปุนํ ตเมว ปฺจมชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. อารมฺมเณ จ อนติกฺกนฺเต ฌานํปิ อนติกฺกนฺตเมว โหตีติ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ อากาสกสิเณ. ‘‘ตทติกฺกมนสมฺภโว’’ติ กสิณ นิมิตฺตาติกฺกมนสมฺภโว. ‘‘ยถาทิฏฺเ’’ติ ฌานจกฺขุนา ทิฏฺปฺปกาเร. ‘‘สมฺภาเวตฺวา’’ติ โถเมตฺวา. สมฺมา อนุสฺสรณํ สมนุสฺสรณํ. ‘‘อิตเรสํปิ วา’’ติ ปุถุชฺชน ปณฺฑิตานํปิ วา. มรณ สฺา ววตฺถาเนสุ ปริกมฺมฺจ สมาธิยติ, อุปจาโร จ สมฺปชฺชตีติ โยชนา ติกฺขปฺานํ ปน ปุถุชฺชนานํปิ สตํ พุทฺธคุณาทีสุปิ อุปจาร สมฺภโว อฏฺกถายํ วุตฺโตเยว. ‘‘สมถชฺฌาเนสู’’ติ อิทํ อธิการวเสน วุตฺตํ. วิปสฺสนา กมฺมํปิ คเหตพฺพเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ปุพฺเพทานํ ทตฺวา อิมินา ปฺุเน อายตึ ฌานาภิฺาโย วา มคฺคผลานิ วา ปฏิลภิสฺสามีติ ปตฺถนํ กตฺวา อาคโตปิ กตาธิกาโร เอวาติปิ วทนฺติ. กตโม ปน กตาธิกาโร นามาติ อาห ‘‘อาสนฺนภเว’’ติอาทึ. อฏฺวิเธสุ จตุกฺกนยวเสน, นววิเธสุ ปฺจกนยวเสน วุตฺโตติ เตสํ วาทีนํ สาธกวจนํ. วิจาเรตฺวา ปน คเหตพฺพํ. อากาส กสิเณน ¶ วินา อรูปชฺฌานานิ ลภิตฺวา ปุน อภิฺตฺถาย ปริกมฺเมกเต อากาสกสิเณปิ กตฺตพฺพตฺตา ตสฺส อภิฺาปาทกตา สมฺภโว วุตฺโตติ อตฺถสฺส สมฺภวโต. ปุพฺเพ อภาวิต ภาวโนติ จ อกตาธิกาโรติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘อาทิกมฺมิโก’’ติ อภิฺากมฺเม อาทิกมฺมิโก. ‘‘ตาทิสานํ’’ติ ปุพฺเพ อกตาธิการานํ อภาวิตภาวนานํ อิทานิ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กริสฺสามีติ อารภนฺตานํ อภิฺากมฺเม อาทิกมฺมิกกุลปุตฺตานนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิทฺธิวิกุพฺพนํ’’ติ จ อุปลกฺขณวจนํ. ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สวนํ กริสฺสามีติอาทิกํปิ คเหตพฺพํ. อิทฺจ อาทิกมฺมิกวิธานาธิการตฺตา วุตฺตํ. อภิฺาสุ วสิปตฺตานมฺปิ ตํ ปฺจมชฺฌานํ ฉสุอารมฺมเณสุ ยถารหํ อปฺเปติเยว. ‘‘อธิฏฺาตพฺพํ’’ติ ยถิจฺฉิต นิปฺผตฺตตฺถาย สตํ โหตุ สหสฺสํ โหตูติอาทินา จิตฺเตน อภิวิธาตพฺพํ. อภินีหริตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สตํ โหมิ, สหสฺสํ โหมีติ วา’’ติ อตฺตานํ สตํ วา สหสฺสํ วา นิมฺมินนวเสน วุตฺตํ. เสสํ ปน อฺถานิมฺมินนวเสน. โสตุํ วา สทฺทํ, ปสฺสิตุํ วา รูปํ, ชานิตุํ วา ปรจิตฺตํ. อนุสฺสริตุํ วา ปุพฺเพนิวุตฺถํ. อฏฺกถาปาเ. ‘‘อธิฏฺาตี’’ติ อภิฺาย อธิฏฺาติ. อภิวิธาติ นิพฺพตฺเตตีติ วุตฺตํ โหติ. ทุวิธํหิ อธิฏฺานํ ปริกมฺเมน อธิฏฺานํ อภิฺาย อธิฏฺานนฺติ. อิธ ปน อภิฺาย อธิฏฺานํ วุตฺตํ. ‘‘อธิฏฺาน จิตฺเตนา’’ติ อภิฺาจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปริกมฺมจิตฺตสฺสา’’ติ ปุพฺพภาเค อาวชฺชน ปริกมฺม อธิฏฺานปริกมฺมจิตฺตสฺส. ปจฺฉิมํ ปน ปาทกชฺฌาน สมาปชฺชนํ. ปริกมฺมจิตฺตสฺส สมาธานตฺถายาติ วุตฺตํ. ปริกมฺมจิตฺเต สมาหิเต กึ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. ‘‘เสสาภิฺาสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺโพ’’ติ ทิพฺพโสตปริกมฺเม เตเนวปริกมฺม สมาธิฺาณโสเตน อาสนฺเน ทิพฺพวิสยํปิ สทฺทํ สุณาตีติอาทินา วตฺตพฺโพ. ‘‘อิติ กตฺวา’’ติ อิติ มนสิกตฺวา. ‘‘ตํ’’ติ ปจฺฉิมํ ปาทกชฺฌาน สมาปชฺชนํ. ‘‘อิธ นคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ’’ติ เถรสฺส มเตน ทฏฺพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อิธ ปน อาทิกมฺมิกวิธานปฺปธานตฺตา ปจฺฉิมํปิ ปาทกชฺฌาน สมาปชฺชนํ ¶ วตฺตพฺพเมวาติ. ‘‘กายคติกํ อธิฏฺหิตฺวา’’ติ อยํ กาโย วิย อิทํ จิตฺตํปิ ทนฺธคมนํ โหตูติ เอวํ จิตฺตํ กายคติกํ กรเณน อธิฏฺหิตฺวา. ‘‘ทิสฺสมาเนน กาเยนา’’ติ ทนฺธคมเนน คจฺฉนฺตตฺตา พหุชนานมฺปิ ทิสฺสมาเนน รูปกาเยน. ตพฺพิ ปรีเตน สีฆคมนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘อารมฺมณมตฺตํ โหตี’’ติ อนิปฺผนฺนรูปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อารมฺมณ ปุเรชาตํ’’ติ นิปฺผนฺนรูปํ. อิตรํ ปน หทย วตฺถุรูปํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปรจิตฺต วิชานนฏฺาเน อฏฺกถาฏีกาจริยานํ วิจารณา อตฺถีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จ อฏฺกถายํ ตาวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ ธมฺมสงฺคณิ อฏฺกถายํปิ วิสุทฺธิมคฺค อฏฺกถายํปิ. ‘‘ขณิกวเสนา’’ติ ขณิกปจฺจุปฺปนฺนวเสน. อาวชฺชเน นิรุทฺเธติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอกํ จิตฺตํ’’ติ ปรสฺส จิตฺตํ. ตเทว อตีตํ จิตฺตํ คณฺหนฺติ. ‘‘ตานี’’ติ ชวนานิ. ‘‘เตสํ’’ติ ชวนานํ. ‘‘เตนา’’ติ อาวชฺชเนน. ‘‘อิตรถา’’ติ อฺถา สนฺตติ อทฺธาวเสน วุตฺตนฺติ คหิเต สติ. วุตฺโต สิยา. กสฺมา, สนฺตติ อทฺธาวเสน ปจฺจุปฺปนฺเน คหิเต สติ, สพฺพาย เอกชวนวีถิยา เอกปจฺจุปฺปนฺนตฺตา. ‘‘สพฺพานิ จิตฺตานี’’ติ ชวนจิตฺตานิ. ‘‘สหุปฺปนฺนานี’’ติ อิทํ สหุปฺปนฺนานํปิ อตฺถิตาย วุตฺตํ. อาวชฺชนาทีนิ ปน ขณเภทํ นคณฺหนฺติ. สพฺพํ ปรสฺส จิตฺตํ เอกจิตฺตมิว คณฺหนฺติ. ตสฺมา กาลเภโทปิ นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘นิพฺพานฺจา’’ติ วุตฺตํ, กถํ นิพฺพานํ ปุพฺเพนิวุตฺถํ นาม สิยาติ. อตีเต ปรินิพฺพุตานํ มคฺคผลานิ อนุสฺสรณกาเล เตสํ อารมฺมณภูตํ นิพฺพานํปิ อนุสฺสรติเยว. ตตฺถ เตสํ มคฺคผลานํ อตีตตฺตา นิพฺพานํปิ ปุพฺเพนิวุตฺถํ นาม โหตีติ.
‘‘ยํ ยํ อธิฏฺาตี’’ติ ยํ ยํ สตาทิกํ สํวิธาติ. ‘‘ยถา ยถา อธิฏฺาตี’’ติ เยน เยน อาวิภาวาทิเกน ปกาเรน สํวิธาติ. ‘‘ปกติวณฺณํ’’ติ ปกติสณฺานํ. ‘‘ตสฺเสวา’’ติ ปกติวณฺณสฺเสว. เทวานํ ปสาทโสตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อารมฺมณ สมฺปฏิจฺฉน สมตฺถํ’’ติ อารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ สมฺปฏิจฺฉน สมตฺถํ. ตเทว เจโตปริยาณนฺติปิ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เจโต’’ติ จิตฺตํ. ‘‘ปริจฺฉิชฺชา’’ติ อิทํ สราคจิตฺตํ, อิทํ วิราคจิตฺตนฺติอาทินา ¶ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. ‘‘โคจร นิวาสวเสนา’’ติ โคจรํ กตฺวา นิวสนวเสน. สพฺพฺุตฺาณคติกํ สพฺพฺุพุทฺธานํ อนาคตํ สฺาณนฺติ อธิปฺปาโย. อนาคเต สตฺตทิวสโต โอริมา จิตฺตเจตสิก ธมฺมา เจโตปริยฺาณสฺส วิสโยติ กตฺวา อนาคเต สตฺตทิวสโตติ วุตฺตํ. ปฏฺาย ปวตฺตมานาติ ปาเสโส. อิมสฺมึ ทิวเส จ อนาคตปกฺเข สพฺพํปิ อารมฺมณํ ปกติาณสฺส วิสโยติ กตฺวา ‘‘ทุตียทิวสโต ปฏฺายา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เอตํ’’ติ เอตํ อนาคตํ สฺาณํ. ‘‘ยถา เจตํ’’ติ ยถา จ เอตํ อิมสฺมึ ภเว อนาคต ธมฺเม ชานาติ. ‘‘อสาธารณกาลวเสนา’’ติ อฺเนาเณน อสาธารณ กาลวเสน. ปจฺจุปฺปนฺนภโวหิ อฺฺาณสาธารโณติ.
สมถกมฺมฏฺานานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๗๑. วิปสฺสนากมฺมฏฺาเน. ‘‘ยถาทิฏฺํ’’ติ สกฺกายทิฏฺิยา ยถาทิฏฺํ. นิจฺจนิมิตฺตํ นาม สตฺตปุคฺคลาทินิมิตฺตเมว. สตฺตนิมิตฺตฺหิ ปฺตฺติ ธมฺมตฺตา ขเณขเณ ขยวยเภทาภาวโต โส เอวคจฺฉติ โส เอว ติฏฺตีติอาทินา นิจฺจาการสณฺิตํ โหตีติ. ‘‘ธุวนิมิตฺตํ’’ติ ถิรนิมิตฺตํ. อิทมฺปิ โส คจฺฉนฺโตปิ นนสฺสติ, ติฏฺนฺโตปิ นนสฺสตีติอาทินา ถิราการสณฺิตํ สตฺตนิมิตฺตเมว. ‘‘สุขนิมิตฺตํ’’ติ ขเณขเณ ขยวยเภท ทุกฺขานํ อภาวโต สุขิโต นิทฺทุกฺโข นิพฺภโยติอาทินา สุขาการสณฺิตํ สตฺตนิมิตฺตเมว. ‘‘อตฺตนิมิตฺตํ’’ติ คนฺตุํ อิจฺฉนฺโต คจฺฉติ, าตุํ อิจฺฉนฺโต ติฏฺตีติอาทินา วสวตฺตนาการ สณฺิตํ สตฺตนิมิตฺตเมว. ‘‘กิริยา’’ติ ภาวนากิริยา.
วิสุชฺฌตีติ วิสุทฺธิ. วิโสเธตีติ วา วิสุทฺธิ. สีลเมว วิสุทฺธิ สีลวิสุทฺธีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิจฺจสีลเมวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิจฺจสีลเมว อุปริฌานาทิวิเสสานํ อธิฏฺาน กิจฺจสาธกตฺตา อิธ อธิปฺเปตนฺติ วุตฺตํ ‘‘นิจฺจสีลเมวา’’ติ. สมาธิ อธิปฺเปโต ¶ . วกฺขติหิ ‘‘ทุวิโธปิ สมาธิ จิตฺตวิสุทฺธิ นามา’’ติ. เอเตน วิสุชฺฌติ เอตายาติ วิสุทฺธิ. จิตฺตสฺส วิสุทฺธิ จิตฺตวิสุทฺธิ. สมาธิ เอวาติปิ ทีเปติ. วิสุชฺฌนํ วา วิสุทฺธิ. จิตฺตสฺส วิสุทฺธิ จิตฺตวิสุทฺธิ. อตฺถโตปน วิสุทฺธจิตฺตเมว วุจฺจตีติปิ ยุชฺชติ. วิสุทฺธิสทฺท สมฺปนฺเน หิ สติ, จิตฺตวิสุทฺธิ อิจฺเจว วุจฺจติ. น สมาธิวิสุทฺธีติ. ‘‘โสฬสวิธํ กงฺขํ’’ติ อโหสึ นุ โข อห มตีตมทฺธานนฺติอาทินา สุตฺตนฺเตอาคตํ โสฬสวิธํ วิจิกิจฺฉํ. ‘‘อฏฺวิธํ วา กงฺขํ’’ติ สตฺถริกงฺขตีติอาทินา อภิธมฺเม อาคตํ อฏฺวิธํ วิจิกิจฺฉํ. วิสมเหตุทิฏฺิ นาม สตฺตานํ อุปฺปตฺติยา อการณเมว การณํ กตฺวา คหณทิฏฺิ. ‘‘มนสิการวิธี’’ติ อนิจฺจลกฺขณาทีสุ มนสิการวิธิ. อนุปายภูโต มนสิกาโร นาม นิจฺจาทิวเสน มนสิกาโร. อธิมานวตฺถุ นาม โอภาสาทีนิ. ‘‘มคฺคโต’’ติ มคฺคภาเวน. ‘‘อมคฺคโต’’ติ อมคฺคภาเวน. ‘‘ทสฺสนฺจา’’ติ เตสํอธิมานวตฺถูนํ อนิจฺจตาทิทสฺสนฺจ. ตเมว วิสุทฺธินามาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สมฺโมหมลโต’’ติ จตุสจฺจปฺปฏิจฺฉาทก สมฺโมหมลโต. นนุ ทสฺสนนฺติ าณเมว. เอวํสติ, าณนฺติ วุตฺเต สิทฺเธ กตฺวา ทสฺสนสทฺเทน สห าณทสฺสนนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอตฺถจา’’ติอาทึ. ‘‘สุตมยาทิวเสนา’’ติ สุตมย จินฺตามยวเสน. ตตฺถ ยถาสุตสฺส ปาฬิธมฺมสฺส อตฺถมตฺตชานนํ สุตมยฺาณํ นาม. อตฺถํ ตฺวา อตฺถานุรูปสฺส สภาวลกฺขณสฺส จินฺตนาวเสน อุปฺปนฺนํ าณํ จินฺตามยฺาณํ นาม. ‘‘อนุมานาทิาณํปี’’ติ นามรูป ธมฺเมสุ สภาวานุมานฺาณ สภาวชานนฺาณํปิ. ‘‘อตฺตปจฺจกฺขฺาณเมวา’’ติ อตฺตนา ปจฺจกฺขกรณฺาณเมว. ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ มคฺคามคฺคฺาณทสฺสนาทีสุ สพฺเพสุ าเนสุ. เอตฺถ จ ทสสุ วิปสฺสนาาเณสุปิ วิปสฺสนา วจเนน ปจฺจกฺขทสฺสนเมว อธิปฺเปตนฺติ กตฺวา สพฺพตฺถคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมฺมสนฺาณโต ปฏฺาย หิ ทสฺสนเมว อธิปฺเปตํ. น สภาวชานนมตฺตํ. ยโต จกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺเสว สุฏฺุ ปจฺจกฺขโต ทสฺสนตฺถาย ปุนปฺปุนํ ภาวนา กมฺมํ นาม ตตฺถ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ.
‘‘ธมฺมา’’ติ ¶ สงฺขต ธมฺมา. อนิจฺจตา เอว ลกฺขณนฺติ อนิจฺจลกฺขณํ. อนิจฺจานํ วา สงฺขต ธมฺมานํ ลกฺขณนฺติ อนิจฺจลกฺขณนฺติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อภิณฺหสมฺปฏิปฺปีฬนากาโร’’ติ ยถา สีฆโสตายํ นทิยํ นาวาย อุทฺธํ คจฺฉนฺตํ สานาวา อภิสงฺขรณทุกฺเขน อภิณฺหํ สุฏฺุ ปฏิปฺปีเฬติ. กสฺมา, อสติ อภิสงฺขาเร ตงฺขเณ เอว อโธวุยฺหนโต. อโธวุยฺหนฺหิ นาวาย ปกติ กิจฺจํ. อุทฺธํ อารูหนํ อภิสงฺขาร สิทฺธํ. เอวเมวํ สีฆโสเต สํสาเร อตฺตภาเวน อุทฺธํ ขณโต ขณํ ทิวสโต ทิวสํ คจฺฉนฺตํ ปุคฺคลํ อยํ อตฺตภาโว อภิสงฺขรณ ทุกฺเขน อภิณฺหํ สุฏฺุ ปฏิปฺปีเฬติ. กสฺมา, อสติ อภิสงฺขาเร, ปจฺจยเวกลฺเล จ สติ, ตงฺขเณ เอว วิปริณมนโต. วิปริณมนฺหิ อตฺตภาวสฺส ปกติ กิจฺจํ. อุทฺธํคมนํ อภิสงฺขาร สิทฺธํ. เอวํ อภิณฺห สมฺปฏิปฺปีฬนํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ สํสารสฺส สีฆโสตตา นาม อตฺตภาวปริยาปนฺนานํ นาม รูปธมฺมานํ ปวตฺตินิวตฺติ สีฆตา วุจฺจติ. เอตฺถ จ มรณํ ทุวิธํ สมฺมุติ มรณฺจ ปรมตฺถ มรณฺจ. ตตฺถ สมฺมุติ มรณํ นาม สมฺมุติ สจฺจภูตสฺส สตฺตสฺส มรณํ. ตํ เอกภวปริยนฺเต สนฺทิสฺสติ. ปรมตฺถ มรณํ นาม ปรมตฺถ สจฺจภูตานํ นามรูป ธมฺมานํ มรณํ. อิทเมว เอกนฺตมรณํ, สจฺจมรณํ, สภาวมรณํ โหติ. อิมสฺมึ วิปสฺสนา กมฺเม อิทํ ปรมตฺถ มรณํ เอว อนิจฺจตาติ จ วุจฺจติ. ธมฺมานํ สุสานกฺเขตฺตนฺติ จ สุสานภูมีติ จ วุจฺจตีติ. สา จ สุสานภูมินาม สตฺตานํ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย สนฺตานํ อนุพนฺธติเยว. อนุพนฺธตฺตา จ สตฺตานํ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย โส นาม สมโย นตฺถิ, ยตฺถ สตฺตา น มรนฺตีติ. อิทฺจ อนุพนฺธนํ สตฺตานํ อภิณฺหสมฺปฏิปฺปีฬนเมว โหติ. เตสํ สพฺพิริยาปเถสุ ชีวิตสฺส จ องฺคปจฺจงฺคานฺจ กายวจีมโน กมฺมานฺจ สมฺพาธปตฺติโต. อวสวตฺตนากาโร ปน อภิสงฺขาร ทุกฺขํ อภิณฺหํ ปจฺจนุภวนฺตานํ ปากโฏเยว. วสวตฺตเนหิ สติ, อภิสงฺขรณ กิจฺจสฺส โอกาโส นตฺถิ. วสวตฺตเนเนว ยถิจฺฉิ ตสฺส กิจฺจสฺส สมฺปชฺชนโต. โลกสฺมิฺหิ สพฺพํปิ อภิสงฺขาร กิจฺจํ นาม อนฺตมโส อสฺสาสนปสฺสาสน กิจฺจํ อุปาทาย ธมฺมานํ วสวตฺตนาภาวโต กโรนฺตีติ.
อนิจฺจสฺส ¶ ธมฺมสฺส อนุอนุปสฺสนาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุอนุปสฺสนา’’ติ จ าณจกฺขุนา ปุนปฺปุนํ นิชฺฌายนา โอโลกนา. ‘‘ธมฺมานํ’’ติ ปฺจกฺขนฺธ ธมฺมานํ. ‘‘ยตฺถ ยตฺถา’’ติ ยสฺมึ ยสฺมึ สรีรงฺเค. ‘‘ปุราณ ธมฺมานํ’’ติ ปุราณานํ ปาตุพฺภูตานํ, วฑฺฒิตานฺจ ธมฺมโกฏฺาสานํ อนฺตรธานํ วโย วุจฺจติ. วิปสฺสนา กมฺมํ ปตฺวา ขณิกวเสน เอเกกธมฺมวิภาควเสน จ อนุปสฺสนา กิจฺจํ นตฺถีติ อาห ‘‘สมูห สนฺตติวเสน ปนา’’ติ. เอเกกธมฺมวิภาควเสน อนุปสฺสนาปิ ปน ปกติยา สุปากเฏสุ จิตฺตเวทนาทีสุ อิจฺฉิตพฺพาเยว. ‘‘อนิจฺจตาย ปรมาโกฏี’’ติ ตโต อุตฺตริ อนิจฺจตา นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ธมฺมานํ ตถา ตถา ภายิตพฺพปฺปกาโร นาม ปฺจกฺขนฺเธ ‘อนิจฺจโต, ทุกฺขโต, โรคโต, คณฺฑโต, สลฺลโต, อฆโต, อาพาธโต, ติอาทินา วุตฺโต ภายิตพฺพปฺปกาโร. ตสฺส สมนุปสฺสนาาณํ ภยาณํ. เอเตน อปายทุกฺข สํสาร ทุกฺขภีรุเกหิ ชเนหิ ภายิตพฺพนฺติ ภยํ. เต วา ภายนฺติ เอตสฺมาติ ภยํ. ภยสฺส สมนุ ปสฺสนาาณํ ภยาณนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ‘‘กิฺจิภยวตฺถุํ’’ติ สีหพฺยคฺฆาทิกํ ภยวตฺถุํ. ‘‘ปฏิสฺสรเณ’’ติ คุหาเลณาทิเก ปฏิสฺสรเณ. ‘‘เตสํ’’ติ ภิชฺชนสภาวานํ ธมฺมานํ. ‘‘เตหี’’ติ ภิชฺชนสภาเวหิ. อุกฺกณฺตา นาม จิตฺตสฺส วิรุทฺธตา นิกฺขมาภิมุขตา. ‘‘จตฺตาลีสาย อากาเรหี’’ติ ปฺจกฺขนฺเธ ‘อนิจฺจโต, ทุกฺขโต, โรคโต, คณฺฑโต, สลฺลโต, อฆโต, อาพาธโต, ปรโต, ปโลกโต, อีติโต,. อุปทฺทวโต, ภยโต, อุปสคฺคโต, จลโต, ปภงฺคุโต, อทฺธุวโต, อตาณโต, อเลณโต, อสฺสรณโต, ริตฺตโต,. ตุจฺฉโต, สฺุโต, อนตฺตโต, อาทีนวโต, วิปริณาม ธมฺมโต, อสารกโต, อฆมูลโต, วธกโต, วิภวโต, สาสวโต,. สงฺขตโต, มารามิสโต, ชาติธมฺมโต, ชราธมฺมโต, พฺยาธิธมฺมโต, มรณธมฺมโต, โสกปริเทวธมฺมโต, ทุกฺขโทมนสฺส ธมฺมโต, อุปายาส ธมฺมโต, สํกิเลสิก ธมฺมโต, ปสฺสนฺโต สฺุโต โลกํ อเวกฺขตีติ เอวํ มหานิทฺเทเส ¶ โมฆปฺหนิทฺเทเส อาคเตหิ จตฺตาลีสาย อากาเรหิ. ตตฺถ ปฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโตติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจโต’’ติ จ อนิจฺจภาเวนาติ อตฺโถ. สพฺเพปิ ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา เอวาติ ปสฺสนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. กถํ ปน อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต สฺุโต โลกํ อเวกฺขตีติ. นิจฺจคุณ สฺุตาย สฺุโต ปฺจกฺขนฺธภูตํ โลกํ อเวกฺขติ. เสสปเทสุปิ เอเสวนโย. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจา เอวา’’ติ ปฏิสนฺธิกฺขณโต ปฏฺาย ยทากทาจิ มรณ ธมฺมตฺตา อนิจฺจา เอว. ‘‘ทุกฺขา เอวา’’ติ อนิจฺจ ธมฺมตฺตาเยว ทุกฺขา เอว. ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํติหิ วุตฺตํ. ทุกฺข สจฺจธมฺมตฺตา วา. ‘‘โรคา เอวา’’ติ โรคชาติกตฺตา โรคา เอว. เยหิ เกจิ โลเก จกฺขุ โรคาทิกา อเนกสหสฺสา โรคา นาม สนฺทิสฺสนฺติ. สพฺเพเต อิเมปฺจกฺขนฺธา เอว. อิโต อฺโโกจิ โรโค นาม นตฺถิ. ตสฺมา เต เอกนฺเตน โรคชาติกา เอวาติ. อปิ จ, ทุกฺขสจฺจ ธมฺมตฺตาตีหิ ทุกฺขตาหิ จตูหิ ทุกฺขฏฺเหิ จ อภิณฺหสมฺปฏิปฺปีฬนโต รุชฺชนฏฺเน โรคา เอว. ตตฺถ ‘‘ตีหิ ทุกฺขตาหี’’ติ ทุกฺขทุกฺขตา สงฺขาร ทุกฺขตา วิปริณาม ทุกฺขตาติ อิมาหิ ตีหิทุกฺขตาหิ. ‘‘จตูหิ ทุกฺขฏฺเหี’’ติ ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปริณามฏฺโ,ติ อิเมหิ จตูหิ ทุกฺขฏฺเหิ. ทุกฺข กิจฺเจหีติ อตฺโถ. เอสนโย คณฺฑาทีสุ. ตตฺถ คณฺโฑนาม ปีฬกาพาโธ. สลฺลํ นาม วิชฺฌนฏฺเน กิเลส สลฺลฺจ ทุกฺขสลฺลฺจ. อฆนฺติ นิรตฺถกํ. อิเม จ ขนฺธา วิปตฺติปริโยสานตฺตา นิรตฺถกา เอว โหนฺติ. สพฺพาสมฺปตฺติโย วิปตฺติปริโยสานาติ หิ วุตฺตํ. อวิสฺสาสิกฏฺเน ปเร เอว. น หิ เต เอตํ มม, เอโส หมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ เอวํ วิสฺสาสํ อรหนฺติ. ตถา วิสฺสาสํ กโรนฺตสฺส นานาทุกฺเขหิ นิจฺจํ วิหึสนโต. ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ยทากทาจิ ปลุชฺชนธมฺมตฺตา ปโลกธมฺมา เอว. ‘‘อีตี’’ติ อนฺตราโย วุจฺจติ. ขนฺธา อนฺตราย ชาติกา เอวาติ วุตฺตํ โหติ. อชฺฌตฺตภาวํ อุปคนฺตฺวา ทุตตฺตา วิพาธกตฺตา อุปทฺทวา เอว. ภายิตพฺพตฺตา ภยา เอว. อนตฺตา เอว สมานา อชฺฌตฺตภาวํ อุปคนฺตฺวา สชฺชนโต ลคฺคนโต ทุมฺโม จยโต ¶ อุปสคฺคา เอว. นิจฺจกาลํ โลกธมฺเมหิ จลนตฺตา วิปฺผนฺทนตฺตา จลาเอว. นานปฺปกาเรน ภฺชนธมฺมตฺตา ปภงฺคุโน เอว. ขณมตฺตมฺปิ อถิรตฺตา อทฺธุวา เอว. ชรามรณาทิโต อปายวินิปตนาทิโต ภยโต ตายติ รกฺขตีติ ตาณํ. เต จ ขนฺธา กสฺสจิตาณา น โหนฺติ. เตสฺจ กิฺจิตาณํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อตาณา เอว. ภยโต ภีรุกา ชนา ลียนฺติ นิลียนฺติ เอตฺถาติ เลณํ. เต จ กสฺสจิเลณา น โหนฺติ. เตสฺจ กิฺจิเลณํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อเลณา เอว. ภยํ สรติหึสตีติ สรณํ. เต จ กสฺสจิสรณํ น โหนฺติ. เตสฺจ กิฺจิสรณํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อสฺสรณา เอว. นิจฺจตาทีหิ สพฺเพหิ โสภณคุเณหิ สพฺพโส รหิตตฺตา ตุจฺฉตฺตา สฺุตฺตาริตฺตา เอว. ตุจฺฉา เอว. สฺุา เอว. อตฺตา วุจฺจติ ยสฺสกสฺสจิ โกจิ สารภูโต ปฏิสฺสรโณ. เต สยฺจ กสฺสจิ อตฺตาน โหนฺติ. อตฺตโน จ โกจิ อตฺตานาม นตฺถิ. ตสฺมา อนตฺตา เอว. อนิจฺจตาทีหิ อาทีนเวหิ โทเสหิ สมฺปุณฺณตฺตา อาทีนวา เอว. วิปริณาม สภาวตฺตา วิปริณามา เอว. สารภูตสฺส กสฺสจิ อธิฏฺานสฺส อภาวา อสาราเอว. อฆสฺส สพฺพนิรตฺถกสฺส ปติฏฺานตฺตา อฆมูลา เอว. เต สยํ มรณ ธมฺมสมงฺคีโน หุตฺวา เตน มรณสตฺเถน มรณาวุเธน สํสาเร สตฺตานํ นิจฺจํ มารกตฺตา ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกตฺตา วธกา เอว. นิจฺจสุขหิต วุฑฺฒิวิคตตฺตา วิภวา เอว. อาสเวหิ ปริคฺคหิตตฺตา สาสวา เอว. นิจฺจกาลํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติกตฺตา สงฺขตา เอว. กิเลสมารมจฺจุมารานํ อามิสาหารตฺตา มารามิสา เอว. อนิจฺฉนฺตสฺเสว สโต จกฺขุโรคาทิภาเวน อปายภวาทิภาเวน ชาตสภาวตฺตา ชาติธมฺมา เอว. อนิจฺฉนฺตสฺเสว สโต หายนมรณสภาวตฺตา ชรามรณ ธมฺมา เอว. โสกาทีนํ วตฺถุภาเวน ธารณตฺตา โสกาทิ ธมฺมา เอว. ตณฺหา สํกิเลส ทิฏฺิสํกิเลส ทุจฺจริต สํกิเลเสหิ นิยุตฺตตฺตา สํกิเลสิก ธมฺมา เอวาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จตฺตาลีสาย อากาเรหี’’ติ. ‘‘ปฏิสงฺขานวเสนา’’ติ ปริวีมํสนวเสน ¶ .‘‘นิกนฺติยา’’ติ นิกนฺติตณฺหาย. ‘‘ปริยาทินฺนายา’’ติ สุกฺขภาวปตฺตาย. ‘‘ภยฺจา’’ติ ภยาณวเสน อุปฺปนฺนํ โอตฺตปฺปภยฺจ.
โลเก อตฺตชีวา นาม สตฺตานํ อชฺฌตฺต ธมฺเมสุ สารธมฺมา โหนฺติ. เตสุ วิคเตสุ เสสธมฺมา นิสฺสตฺต นิชฺชีวภาวํ ปตฺวา เผคฺคุภูตา กจวรภูตาติ โลกสฺส อภิมาโน. เต จ อตฺตชีวา นาม สพฺพโส นตฺถีติ ทิฏฺเ ขนฺเธสุ กจวรภาวทสฺสนํ อตฺตชีว สฺุตา ทสฺสนํ นาม. ‘‘วิมุจฺจมาโน’’ติ เอเตน วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโขติ อตฺถํ ทสฺเสติ. วิมุจฺจนฺติ เอเตนาติ วิโมกฺโขติปิ ยุชฺชติ. ‘‘นิมิตฺตานี’’ติ วิปลฺลาสธมฺเมหิ นิมฺมิตานิ นิจฺจนิมิตฺต สุขนิมิตฺต อตฺตนิมิตฺต ชีวนิมิตฺตานิ. สตฺต ปุคฺคล อิตฺถิ ปุริส หตฺถ ปาท สีส คีวาทีนิ นิมิตฺตานิ จ. ตตฺถ สงฺขารานํ ขณิก ธมฺมตฺตา อนิจฺจานํเยว สตํ สนฺตติ ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา หิยฺโยปิ โส เอว, อชฺชปิ โส เอวาติอาทินา นิจฺจากาเรน อุปฏฺานํ นิจฺจนิมิตฺตํ นาม. กิเลสมเลหิ ปริคฺคหิตตฺตา อสุภานํเยว สตํ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิทํ อิฏฺํ, กนฺตํ, มนาปํ, ปิยรูป, นฺติอาทินา สุภากาเรน อุปฏฺานํ สุภนิมิตฺตํ นาม. ภยฏฺเน อเขมฏฺเน ทุกฺขานํปิ สตํ ตาเยว ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิทํ สุขํ, นิพฺภยํ, เขมํ, สาตรูป, นฺติอาทินา สุขากาเรน อุปฏฺานํ สุขนิมิตฺตํ นาม. ปจฺจยา ยตฺตวุตฺติกตฺตา ปจฺจเยน วินา เกวลํ อตฺตโน วสายตฺตวุตฺติตา ภาวโต อนตฺตานํเยว สตํ อตฺตโน อิจฺฉาวเสน กโรติ, กเถติ, จินฺเตติ, คนฺตุํ อิจฺฉนฺโต คจฺฉติ, าตุํ อิจฺฉนฺโต ติฏฺตี, ติอาทินา วสวตฺตนากาเรน อุปฏฺานํ อตฺตนิมิตฺตํ นาม. ตถา สตฺโตนาม สตฺตาหํปิ ชีวติ, มาสํปิ ชีวติ, สํวจฺฉรํปิ ชีวตีติอาทินา ชีวากาเรน อุปฏฺานํ ชีวนิมิตฺตํ นาม. นนุ เจตฺถ อตฺตโน อิจฺฉาวเสน กโรตีติอาทีสุ อิจฺฉานาม ตณฺหาวาฉนฺโท วา. ตทุภยมฺปิ จิตฺตสมฺปยุตฺตํ. กรณฺจ นาม กายิกกฺริยาภูตานํ จิตฺตชรูปกลาปานํ ปวตฺติวิเสโส. เอวฺจสติ เตสํ จิตฺตวเสน ปวตฺตตฺตา อตฺตโน อิจฺฉาวเสน กโรตีติ อิทํ อภิธมฺมวิรุทฺธํ น โหตีติ. น น โหติ. อตฺตโนติ จ กโรตีติ จ ¶ วุตฺตตฺตา. น หิ อตฺตานาม อตฺถิ, โย อตฺตโนติ วุจฺเจยฺย. น จ กตฺตานาม อตฺถิ, โย กโรตีติ วุจฺเจยฺย. อิธ ปน ตสฺมึ สมเย ปวตฺตํ ขนฺธปฺจกเมว อตฺตาติ จ กตฺตาติ จ คเหตฺวา อตฺตโนติ จ กโรตีติ จ วุตฺตํ. ‘‘อวสฺสโย โหตี’’ติ ปติฏฺา โหติ. ‘‘วิธมิตฺวา’’ติ าเณน อนฺตรธาเปตฺวา. สภาวโต วิชฺชมานานิ น โหนฺตีติ ทสฺสนาเณน วินิจฺฉยํ ปาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ภาวทสฺสนํ นาม โสกทุกฺขาทีนํ อภาวทสฺสนํ.
‘‘ตํ ตํ ฆนวินิพฺภุชฺชนวเสนา’’ติ สมูหสนฺตติ ฆนาทีนํ ภินฺทน ฉินฺทนวเสน. ตตฺถ สมูหฆนภินฺทนํ อาทิโต ธมฺมววตฺถานาณกิจฺจํ. ตทา อตฺตทิฏฺิ วิกฺขมฺภิตา โหติ. ชีวทิฏฺิ จ นาม สุขุมตรา อตฺตทิฏฺิ เอว วุจฺจติ. มคฺคกฺขณํ ปตฺวา เอว ตทุภยํปิ สพฺพโส สมุจฺฉินฺทตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปณิหิตคุณสฺสา’’ติ ปตฺถิตคุณสฺส.
‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ปตี’’ติ เชฏฺโก วุจฺจติ. ‘‘มุขํ’’ติ มูลการณํ. ปติ จ โส มุขฺจาติ ปติมุขํ. ปติมุขเมว ปาติโมกฺขนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ หี’’ติอาทิมาห. สพฺพโลกิยสีลานิ นาม จตุปาริสุทฺธิสีลานิ. เตสํ มชฺเฌ. ‘‘เชฏฺกตฺตา’’ติ เชฏฺกสีลตฺตา. ‘‘ตเมวา’’ติ วินยปฺตฺติสีลเมว +. ‘‘เยสํ ธมฺมานํ’’ติ อุทฺธจฺจ มุฏฺสฺสจฺจาทิ ธมฺมานํ. ‘‘วิปฺผนฺทิตานิ นามา’’ติ วิปฺปกิณฺณานิ นามาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘โลลานิ นามา’’ติ. ‘‘ตทนุพนฺธา’’ติ ตานิวิปฺผนฺทิตานิ อินฺทฺริยานิ อนุคตา. ‘‘พุทฺธปฺปฏิกุฏฺเหี’’ติ พุทฺเธนภควตา ปฏิกฺโกสิเตหิ นีวาริเตหิ. ‘‘มิจฺฉาปโยเคหี’’ติ อฏฺกุลทูสนกมฺเมหิ เจว เอกวีสติอเนสนกมฺเมหิ จ. ‘‘ติวิธกุหนวตฺถูหี’’ติ ปจฺจยปฺปฏิเสวนฺจ, สามนฺตชปฺปนฺจ, อิริยา ปถ สนฺนิสฺสิตฺจาติ อิเมหิ ติวิเธหิ กุหนวตฺถูหิ. ติวิเธหิ อจฺฉริย กมฺมวิธาเนหีติ วุตฺตํ โหติ. ปริสุชฺฌตีติ ปริสุทฺธิ. ปริสุทฺธิ เอว ปาริสุทฺธิ. ‘‘สมฺโมหสฺสา’’ติ ธาตุมนสิการาทีสุ สมฺมุยฺหนสฺส. ‘‘เคธสฺสา’’ติ สมฺโมหตฺตาเยว ปจฺจเยสุ ภตฺตนิกฺขิตฺตกา กสฺสวิย เคธสฺส, อภิกงฺขสฺส. ‘‘มทสฺสา’’ติ ลาภสกฺการา ทิมูลกสฺส ¶ มานมทสฺส. ‘‘ปมาทสฺสา’’ติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ปมาทสฺส มุฏฺสฺสจฺจสฺส. ตํ ตํ ปโยชน มริยาโท นาม จีวรปจฺจเย ตาว สีตปฺปฏิฆาตาทิโก ปโยชนมริยาโท. ‘‘มริยาโท’’ติ จ ยาวเทวาติ ปเทน ทสฺสิโต สีตปฺปฏิฆาตาทิโก จีวรปฺปโยชน ปริจฺเฉโท. โส จ จีวรปจฺจเย สมฺโมหาทิเก สาวชฺชปกฺเข อปตนตฺถาย ปิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺโมหสฺส เคธสฺส มทสฺส ปมาทสฺส ปหานตฺถํ’’ติ. เอสนโย ปิณฺฑปาตปจฺจยาทีสุปิ. เอเตน ปจฺจเวกฺขนาปาเสุ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ปฏิเสวติ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย อุณฺหสฺส ปฏิฆาตายาติอาทีสุ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย ปฏิเสวติ. น ตโต อุตฺตริ สมฺโมหตฺถาย เคธตฺถาย มทตฺถาย ปมาทตฺถาย ปฏิเสวตีติอาทิ. เอวฺจสติ, ยํ จีวรํ ปฏิเสวนฺตสฺส สมฺโมหเคธมทปฺปมาทา อุปฺปชฺชนฺติ. ตํ น เสวิตพฺพํ. อิตรํ เสวิตพฺพนฺติ ทสฺสิตํ โหตีติ.
‘‘ปจฺจตฺตสภาโว’’ติ ปจฺเจกสภาโว. ‘‘การิยสงฺขาตํ’’ติ กาตพฺพํ อภินิปฺผาเทตพฺพนฺติ การิยํ. อาสนฺนปฺผลํ. เตนาห ‘‘อคฺคิสฺสธูโมวิยา’’ติ. อาสนฺนการณํ ปทฏฺานํ นาม อคฺคิการโก วิย. ปชฺชติ คจฺฉติ ปวตฺตติ ผลํ เอเตนาติ ปทํ. ติฏฺติ ผลํ เอตฺถาติ านํ. อุภยํปิ การณ ปริยาโย เอว. เตน อติสฺสยตฺโถปิ สิชฺฌตีติ อาห ‘‘อาสนฺนการณํ’’ติ. ‘‘สทฺธึ สฺา จิตฺต วิปลฺลาเสหี’’ติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตหีติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตา ปน สฺา จิตฺต วิปลฺลาสา วิกฺขมฺภิตุํ สกฺโกตีติ น วตฺตพฺพา. ‘‘สาสน ธมฺเม’’ติ อนตฺตลกฺขณ สุตฺตนฺตาทิเก สฺุต ธมฺมปฺปฏิสํยุตฺเต เทสนาธมฺเม. ‘‘ทิฏฺิวิปลฺลาโส วิกฺขมฺภิโต’’ติ ตาทิสํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เทสเก สตฺถริ จ เทสิเต ธมฺเม จ สทฺธํ ปฏิลภิตฺวา สจฺจเมว ภควา อาห, อหํ ปน เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา,ติ คณฺหามิ, มิจฺฉาวตายํ มมคาโหติ เอวํ วิกฺขมฺภิโต โหติ. ตโต ปฏฺาย เอโส เม อตฺตาติ วทนฺโตปิ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺเตน น วทติ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน เอว วทตีติ อธิปฺปาโย. อิทมฺปน ทฬฺหคฺคาห วิกฺขมฺภนมตฺตํ เอว ¶ . น อตฺตทสฺสน วิกฺขมฺภนํ. ตํ ปน ธมฺมววตฺถานฺาเณ สิทฺเธ เอว สิชฺฌตีติปิ วทนฺติ. จตุนฺนํ อาหารานํ วเสน จตุธา นามรูปํ ปริคฺคเหตพฺพเมว. กสฺมา, จตฺตาโร อาหาเร ปริคฺคเหตฺวา เตสฺเวว ลกฺขณตฺตยํ สมนุปสฺสนฺตสฺส อนฺเต โลกุตฺตรฺาณทสฺสนปฺปฏิลาภกิจฺจสฺส สิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปฺจธาติอาทีสุ เอสนโย. อาทิกมฺมิกานํ อวิสโย, วิสุํ วิสุํ ลกฺขณ รสาทีหิ ปริคฺคเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ปริคฺคหเณ สกฺโกนฺตสฺสปิ วิปสฺสนา กมฺเม วิสุํ วิสุํ ปสฺสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา จ. ตถาหิ วกฺขติ ‘‘กลาปวเสน สํขิปิตฺวา’’ติ. ‘‘อฺสฺส กสฺสจี’’ติ อตฺตชีวาทิกสฺส. โส กโรติ กุสลากุสลํ กมฺมํ. โส ปฏิสํเวเทติ ภวนฺตรํ ปตฺวา ตพฺพิปากํ. สํสรติ ภวโต ภวํ. สนฺธาวติ กมฺมเวเคน ขิตฺโต. สุทฺเธ นาเม เอว วา รูเป เอว วา อีหาพฺยาปารานํ อภาวทสฺสนโตติ โยชนา. ปุคฺคลสตฺตานํ กฺริยาโยติ สฺิตาติ วิคฺคโห. ‘‘อตฺตาติ ปวตฺตา ทิฏฺี’’ติ การก ทิฏฺิ. ‘‘ตทตฺถา ภินิเวสวเสนา’’ติ สตฺโต, ปุคฺคโล, ติอาทิ โวหารสฺส สพฺภาวโต ตสฺส อตฺถภูโต สตฺตปุคฺคลาทิโกปิ สภาวโต อตฺถิเยว. โน นตฺถีติ เอวํ ทฬฺหํ หทเย สนฺนิธานกรณ วเสน. ‘‘อติธาวนฺจา’’ติ โวหาร ปฺตฺติมตฺเต อฏฺตฺวา ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฺจกฺขนฺเธ สตฺตาทิภาเวน คหณฺจาติ อธิปฺปาโย.
‘‘กมฺมจิตฺโตตุกาหารวเสนา’’ติ เอตฺถ กกาโร สนฺธิ วเสน อาคโม. กมฺมวเสน จิตฺตวเสน อุตุวเสน อาหารวเสนาติ อตฺโถ. อนุรูปานํ ปจฺจยานํ สามคฺคีติ วิคฺคโห. ‘‘อฺถา ปวตฺติยา’’ติ อฺเน ปกาเรน ปวตฺตนสฺส. ‘‘เหตุสมฺภารปจฺจเยหี’’ติ เหตุปจฺจย สมฺภารปจฺจเยหิ. ชนก ปจฺจยา เหตุปจฺจยา นาม. ปริวารปจฺจยา สมฺภารปจฺจยา นาม. ‘‘กมฺมปฺปวตฺติยา’’ติ กมฺมปฺปวตฺติโต. ‘‘วิปากปฺปวตฺติยา’’ติ วิปากปฺปวตฺติโต. เอกสฺส สตฺตสฺส อนมตคฺเค สํสาเร สํสรนฺตสฺส รูปกาโยปิ อตฺถิ นามกาโยปิ อตฺถิ. ตโต อฺโ โกจิสภาโว ¶ นาม นตฺถิ. ทฺเว จ กายา ปฺจโวกาเร สํสรนฺตสฺส เอกโต ปวตฺตนฺติ. อสฺสตฺเต สํสรนฺตสฺส รูปกาโย เอว ปวตฺตติ. โส เอว ตตฺถ เอโกสตฺโตติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. อรูเป สํสรนฺตสฺส นาม กาโย เอว ปวตฺตติ. โส เอว ตตฺถ เอโก สตฺโตติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ‘‘สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ จ ปฺตฺติมตฺตํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. เตสุ จ กาเยสุ รูปกาเย จุติ ปฏิสนฺธีนํ อฺมฺํ อนนฺตร ปจฺจยตา นาม นตฺถิ. เอกเมกสฺมึ ภเว เอกเมโก หุตฺวา จุติกาเล ภิชฺชติ. รูปสนฺตติ ฉิชฺชติ. ปฏิสนฺธิรูเปน สห ปจฺจย ปจฺจยุปฺปนฺนตา ปพนฺโธ นปฺปวตฺตติ. นาม กาเย ปน จุติ ปฏิสนฺธีนํ อฺมฺํ อนนฺตรปจฺจยตา อตฺถิ. จุติกาเลปิ นามสนฺตติ น ฉิชฺชติ. ปฏิสนฺธิ นาเมน สห ปจฺจย ปจฺจยุปฺปนฺนตา ปพนฺโธ ปวตฺตติเยว. ตตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาท กุสโล ภิกฺขุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทฺาเณ ตฺวา เอกสฺมึภเว เอกสฺส สตฺตสฺส ปวตฺตึ ปสฺสนฺโต สตฺตํ นาม น ปสฺสติ. ปุคฺคลํ นาม น ปสฺสติ. อหนฺติปิ น ปสฺสติ. ปโรติปิ น ปสฺสติ. อหํ อตีเตสุ ภเวสุ อโหสินฺติปิ น ปสฺสติ. อิมสฺมึภเว อสฺมีติปิ น ปสฺสติ. อนาคเตสุ ภวิสฺสามีติปิ น ปสฺสติ. อถ โข อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา ปวตฺตนฺติ. สงฺขาร ปจฺจยา ภวนฺตเร วิฺาณํ ปวตฺตตีติอาทินา นเยน นามรูป ธมฺมานํ เหตุผล ปรมฺปราวเสน อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเมว ปสฺสติ. เอกสฺมึภเว ปวตฺตึ ปสฺสนฺเต สติ, อนมตคฺเคสํสาเร อนนฺเตสุ ภเวสุ ตสฺส สตฺตสฺส ปวตฺติ ทิฏฺา เอว โหติ ตตฺถปิ เอวเมว, ตตฺถปิ เอวเมวาติ. ตทา ตสฺส โสฬสวิธา กงฺขา ปหียตีติ อิมมตฺถํ ‘‘ทสฺเสนฺโต อนมตคฺเค สํสาเร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กตมา โสฬสวิธา กงฺขาติ. อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ. น นุ โข อโหสึ. กึ นุ โข อโหสึ. กถํ นุ โข อโหสึ. กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานนฺติ เอวํ ปุพฺพนฺเต ปฺจวิธา กงฺขาวุตฺตา. ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ. น นุ โข ภวิสฺสามิ. กึ นุ โข ภวิสฺสามิ. กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ. กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานนฺติ เอวํ อปรนฺเต ปฺจวิธา กงฺขา วุตฺตา ¶ . อหํ นุ โข สฺมิ. โน นุ โข สฺมิ. กินฺนุ โข สฺมิ. กถํ นุ โข สฺมิ. อหํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต. โส กุหึ คามี ภวิสฺสามีติ เอวํ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉพฺพิธา กงฺขา วุตฺตา. อิมา โสฬสวิธา กงฺขาติ. ตตฺถ อโหสึ นุ โข, น นุ โข อโหสินฺติ อิมินา ปททฺวเยน อตีตกาเล อตฺตโน อตฺถิ นตฺถิภาเว กงฺขติ. สเจ อตฺถิ, กึ นุ โข อโหสินฺติ กงฺขติ. เกนจิ เหตุนา ปจฺจเยน วา อโหสึ. เกนจิ อิทฺธิมนฺเตน วา นิมฺมิโต อโหสึ. อเหตุ อปจฺจยา วา อนิมฺมิโต วา สยํชาโต อโหสินฺติ อตฺโถ. ยทิ เตสุปกาเรสุ อฺตเรน อโหสึ. กถํ นุ โข อโหสึ. อปาทโกวา อโหสึ. ทฺวิปาทโก วา. จตุปฺปาทโกวา. พหุปฺปาทโกวา. รูปีวา. อรูปีวา. สฺีวา. อสฺีวา อิจฺจาทิ. อถ เตสุ อปาทกาทีสุ อฺตโร อหํ อโหสึ. กึ หุตฺวา กึ อโหสึ. ปถมภเว กึ หุตฺวา ทุตีย ภวาทีสุ กึ อโหสินฺติ อิทํ ภวปรมฺปราวเสน วุตฺตํ. เอสนโย อปรนฺเตปิ. ปจฺจุปฺปนฺเน ‘‘อหํ นุ โข สฺมิ, โน นุ โข สฺมี’’ติ ยถา ขุทฺทกวตฺถุ วิภงฺเค อฏฺสตตณฺหาวิจริเตสุ. สตสฺมีติ โหติ. สีตสฺมีติ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สตสฺมี’’ติ อหํ สสฺสโต วา ภวามิ. ‘‘สีตสฺมี’’ติ อหํ อุจฺฉินฺโนวา ภวามีติ อตฺโถ. ยถา จ. อตฺถีติ โข เอโก อนฺโต. นตฺถีติ โข ทุตีโย อนฺโตติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อตฺถี’’ติ อตฺตานาม ภวาภเวสุ นิจฺจกาลํ อตฺถิ. ‘‘นตฺถี’’ติ ตถา นตฺถิ, อุจฺฉิชฺชติ. น โหติ ปรมฺมรณาติ อตฺโถ. ตถา อิธาปิ อหํ นุ โข สฺมิ. โน นุ โข สฺมีติ กงฺขติ. ตตฺถ ‘‘อหํ นุ โขสฺมี’’ติ อยํ อหํ นาม ภวาภเวสุ นิจฺจกาลํ อสฺมิ นุ โข, มม อตฺตานาม สสฺสโต หุตฺวา สพฺพกาลํ อตฺถิ นุ โขติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โน นุ โข สฺมี’’ติ ตถา โน อสฺมิ นุ โข. มม อตฺตา ตถา นตฺถิ นุ โขติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ภวาภเวสู’’ติ ปวตฺเตปิ ปจฺจุปฺปนฺเน วตฺตมานํ อตฺตานํ คเหตฺวา ปวตฺตา ปจฺจุปฺปนฺเน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กึ นุ โข สฺมี’’ติ อหํ นาม สนฺโต ชาโต กึ นุ โข อสฺมิ. เกนจิ เหตุนา ปจฺจเยน วา อสฺมิ นุ โข. เกนจิ อิทฺธิมนฺเตน วา นิมฺมิโต ภวามิ นุ โข. อุทาหุ อเหตุ อปจฺจยา วา ¶ เกนจิ อนิมฺมิโต วา สยํ นุ โข ภวามิ นุ โขติ อตฺโถ. ‘‘กถํ นุ โข สฺมี’’ติ เอตฺถ ปน อปทาทีหิ อโยเชตฺวา อหํ นุ โข กึ โคตฺโต ภวามิ. โคตมโคตฺโต วา วาเสฏฺ โคตฺโต วา ติอาทินา โยเชตพฺพํ. อาทิ กปฺปกาเล ตานิ โคตฺตานิ เอตรหิ สมฺเภทํ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา เตสุ กงฺขนฺโต กงฺขติเยว. ‘‘อหํ กุโต อาคโต’’ติ อหํ อตีเต กุโตภวโต อาคโต อสฺมิ. ‘‘โสกุหึคามี ภวิสฺสามี’’ติ โส อหํ อายตึ ภเว กุหึ คามิโก ภวิสฺสามีติ กงฺขติ. ‘‘กงฺขาย อติกฺกโม’’ติ โส ภิกฺขุ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท อวิชฺชาทิกํ อตีตเหตุ ปฺจกํ ปสฺสนฺโต ตสฺมึภเว สพฺพํปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติเยว. เอวํ ปสฺสนฺโต น ตตฺถ อหํ นาม โกจิ อตฺถิ, ยํ ปฏิจฺจ อตีต วิสยา ปฺจวิธา กงฺขา อุปฺปชฺชติ. ธมฺม มตฺตเมว ตตฺถ อตฺถีติ เอวํ อตีเต กงฺขา วตฺถุสฺส อภาวทสฺสเนน ปฺจวิธาย กงฺขาย อติกฺกโม โหติ. นนุ ตถา ปสฺสนฺตสฺสปิ กถํ นุ โข สฺมิ, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โขติ อยํ กงฺขา อตฺถิเยว. ตถา ปสฺสนฺโตปิ หิ วินา ปุพฺเพนิวาสฺาเณน อตีเต ภเว อหํ ทฺวิปาทโก อโหสินฺติวา จตุปฺปาทโก อโหสินฺติ วา ตโต จุโต อสุกภเว อุปฺปนฺโนติ วา น ชานาติ น ปสฺสตีติ. วุจฺจเต. สา ปน กงฺขา ธมฺม มตฺตปฺปวตฺติ ทสฺสนโต ปฏฺาย อนฺตรายิก กงฺขา น โหติ. วิจิกิจฺฉา ปฏิรูปิกา เอว. สา หิ อริยานํปิ ลพฺภติ เยวาติ. ตถา อนาคเต ผลปฺจกํ ปสฺสนฺโต อปรนฺเต ปฺจวิธํ กงฺขํ อติกฺกมติ. ปจฺจุปฺปนฺเน ผลปฺจกฺจ เหตุปฺจกฺจ ปสฺสนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเน กงฺขา ฉกฺกํ อติกฺกมติ. เสสํ สพฺพํ ปุพฺพนฺเต วุตฺตนยเมวาติ. อฏฺวิธาย กงฺขาย อติกฺกมเน ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฺปฏิโลมํ ปสฺสนฺโต เทสนา ธมฺเม จ โลกุตฺตร ธมฺเมสุ จ กงฺขํ อติกฺกมติ. ธมฺเม กงฺขาติกฺกมเนน สเหว เทเสนฺเต สตฺถริ จ, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปนฺเน สงฺเฆ จ, ตีสุ สิกฺขาสุ จ, ยถาวุตฺเต ปุพฺพนฺเต จ, อปรนฺเต จ, ปุพฺพนฺตา ปรนฺเตสุ จ, ปฏิจฺจสมุปฺปาเทน สห ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ จ สพฺพํ กงฺขํ อติกฺกมติเยว. เตนาห ‘‘สภาว ¶ ธมฺมปฺปวตฺติยา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘สภาวธมฺมปฺปวตฺติยา จา’’ติ ปจฺจยปรมฺปราวเสน สภาวธมฺมานํ ปรมฺปรปฺปวตฺติยา จ. ธมฺมสุ ธมฺมตา นาม เทสนา ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตาทิภาเวน สุนฺทร ธมฺมตา. อนวชฺชธมฺมตา. พุทฺธสุพุทฺธตา นาม ตํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส พุทฺธสฺส สพฺพฺุพุทฺธตา.
ปริยุฏฺิตานํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ วิกฺขมฺภนํ นาม เหฏฺา ธมฺมววตฺถาน วเสน ปจฺจยปริคฺคหวเสน จ สิชฺฌติ. วิปสฺสนา กมฺมํ ปน อนุสยภูตานํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ สลฺลิขนตฺถาย กรียตีติ วุตฺตํ ‘‘อนุสย สมูหนนตฺถฺจา’’ติอาทิ. ‘‘ตตฺถ ปนา’’ติ ตสฺมึ ปฏิสมฺภิทา มคฺเค ปน. วิภตฺเตสูติ ปาเสโส. ‘‘ยสฺสา’’ติ โยคี ปุคฺคลสฺส. ‘‘ยํ ทูเร สนฺติเกวา’’ติ ยํ ทูเร ปวตฺตํ รูปํ วา, สนฺติเก ปวตฺตํ รูปํวาติ ปาเสโส. ‘‘ตทตฺถสฺส ปนา’’ติ สมฺมสิตธมฺมุทฺธารตฺถสฺส. ‘‘าเณน ทฬฺหํ คเหตฺวา’’ติ ธมฺมววตฺถานฺาเณน สุฏฺุวิภูตํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ยํ ยํ ทฬฺหํ คเหตพฺพํ. ตํ ตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ปุน ทฬฺหํ คหิตสฺส รูปสฺส อนิจฺจลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สา จ กฺริยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘นสฺสนฺตี’’ติ ภิชฺชนฺติ. อนิจฺจตํ คจฺฉนฺติ. ‘‘วิตฺถมฺภน กฺริยา’’ติ เอตฺถ วิวิเธน ถมฺภนํ วิตฺถมฺภนํ. นานาทิสาภิมุขวเสน ถมฺภนํ วหนนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิมาสฺจา’’ติ จตุนฺนํ มหาภูตานฺจ. วิสุํ วิสุนฺติ วุตฺตตฺตา ตาสํ อฺมฺฺจ สหชาเตสุ คหณํ สมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘อาปาทีนํ’’ติ. อาปาทีนํ เสสมหาภูตานฺจาติ อตฺโถ. สนฺตติยา สรีรานิ สนฺตติ สรีรานิ. ‘‘ตถา ตถา กปฺเปตฺวา’’ติ รูปธมฺมานํ สนฺตติ ปริวตฺติ นาม อภิกฺกมนฺตสฺส เอวํ ภเวยฺย, ปฏิกฺกมนฺตสฺส เอวํ ภเวยฺย, ตถา สมิฺชนฺตสฺส ปสาเรนฺตสฺสาติอาทินา ปริกปฺเปตฺวา. ‘‘เสสขนฺเธสุปิ ตํ ตํ สนฺตติ นานตฺตํ’’ติ เวทนากฺขนฺเธ ตาว กาเย กายิกสุขสนฺตติ ทุกฺขสนฺตตีนํ นานตฺตํ. จิตฺเต โสมนสฺส โทมนสฺส สนฺตตีนํ. อุเปกฺขา สนฺตติ ปน อวิภูตา โหติ. กปฺเปตฺวา คเหตพฺพา. ยทา จิตฺเต โสมนสฺส โทมนสฺสานิ น สนฺทิสฺสนฺติ, ตทา อิทานิ อุเปกฺขา เม เวทนา ปวตฺตตีติ วา, ยทา ตานิ สนฺทิสฺสนฺติ ¶ , ตทา สา นิรุชฺฌตีติ วา เอวํ ตกฺเกตฺวา สมฺมสิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. สฺากฺขนฺเธ รูปสฺาสทฺทสฺาทีนํ วเสน. สงฺขารกฺขนฺเธ รูปสฺเจตนา สทฺทสฺเจตนาทีนํ วเสน, นานาวิตกฺก วิจาราทีนํ วเสน, โลภาโลภ โทสาโทส โมหาโมหาทีนํ วเสน จ. วิฺาณกฺขนฺเธ จกฺขุวิฺาณาทีนํ, กุสลา กุสลวิฺาณาทีนฺจ วเสน สนฺตติ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. วิสฺสาสํ กโรตีติ วตฺวา ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘เอตํ เม’’ติอาทินา. ตตฺถ ตโยวิสฺสาสา ตณฺหาวิสฺสาโส, มานวิสฺสาโส, ทิฏฺิวิสฺสาโส. ตตฺถ เอตํ มมาติ ตณฺหาวิสฺสาโส. เอโสหมสฺมีติ มานวิสฺสาโส. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิวิสฺสาโส. ‘‘ปริหรตี’’ติ ภวาภเวสุ ปริคฺคเหตฺวา หรติ วหติ. ‘‘ปรมชฺฌตฺตภาเวนา’’ติ ปธานอชฺฌตฺตภาเวน. อชฺฌตฺตสารภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปริคฺคหิโต’’ติ เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิปริคฺคเหน ปริคฺคหิโต. ตโย หิ ปริคฺคหา ตณฺหา ปริคฺคโห, มานปริคฺคโห, ทิฏฺิปริคฺคโหติ. วเส สพฺพโส วตฺตนฺโต นาม เกวลํ วสายตฺตวุตฺติโก เอว สิยา, น ปจฺจยายตฺตวุตฺติโกติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาวุตฺเตหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ยถาวุตฺเตหี’’ติ สพฺพสงฺคเห วุตฺตปฺปกาเรหิ กมฺมาภิสงฺขรณาทีหิ. ‘‘ตถาปริคฺคเหตพฺโพ’’ติ เอโส เม อตฺตาติ เอวํ ปรมชฺฌตฺตภาเวน ปริคฺคเหตพฺโพ. ตถา หิ โย อตฺตโน วเสน วตฺตติ, ตสฺมึ อตฺตโน สามิภาโว นตฺถิ. ยสฺมิฺจ สามิภาโว นตฺถิ, ตสฺมึ รูปาทิเก ธมฺเม อตฺตานํ สามิกํ กตฺวา เอโส มม อตฺตาติ ปริคฺคโห นาม มิจฺฉา เอว. ตถา โย จ ขณิก ธมฺโม โหติ, ขเณ ขเณ ภิชฺชติ, ตํ รูปาทิกํ ขนฺธปฺจกํ อตฺตโน สารํ กตฺวา ตถา ปริคฺคโหปิ มิจฺฉา เอว. เอตฺถ จ ‘‘มิจฺฉา เอวา’’ติ ปรมตฺถ สจฺจํ ปตฺวา มิจฺฉา เอว. วิปลฺลาโส เอวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สุขํ วิทฺธํเสตี’’ติ กายิกสุขฺจ เจตสิก สุขฺจ วิทฺธํเสติ. วินาเสติ. ‘‘นานาทุกฺขํ ชเนตี’’ติ กายิกทุกฺขฺจ เจตสิก ทุกฺขฺจ ชเนติ อุปฺปาเทติ. ‘‘อิทฺจ รูปํ เอทิสเมว โหตี’’ติ กถํ โหติ. มนุสฺสตฺตภาเว ิตานํ สตฺตานํ ยถาปวตฺตํ ¶ มนุสฺส สุขํ วิทฺธํเสติ, ชิณฺณภินฺนภาวํ ปาเปติ, นานาทุกฺขํ ชเนติ. สยํ อปายตฺตภาวํ คเหตฺวา เตสํ นานาอปาย ทุกฺขํ ชเนติ. ตถา เทวตฺตภาเว สกฺกตฺตภาเว พฺรหฺมตฺตภาเว ิตานนฺติอาทินา วตฺตพฺพํ. ตถา มนุสฺสตฺตภาเว ิตานํ นานาวิปริณาม กิจฺเจหิ ยถาปวตฺตํ สุขํ วิทฺธํเสติ, นานาปจฺจยาภิสงฺขรณกิจฺเจหิ นานาทุกฺขํ ชเนติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิทฺจ รูปํ เอทิสเมวา’’ติ. ‘‘สาโรนาม ถามพลวิเสโส วุจฺจตี’’ติ เอเตน ถามพลวิเสเสน สมฺปนฺนํ วตฺถุํปิ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อสารกฏฺเนา’’ติ เอตฺถ สาโร เอว สารกํ, น สารกํ อสารกนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘รูปํ ปน สยํปิ เอวรูโป สาโร น โหตี’’ติ วุตฺตํ. สตฺตานํ อตฺตสาโร ชีวสาโร น โหตีติ อตฺโถ. นตฺถิ สาโร เอตสฺสาติ อสารกนฺติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘น จ เอวรูเปน สาเรน ยุตฺตํ’’ติ วุตฺตํ. อตฺตสาเรน ชีวสาเรน สํยุตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ปุริโม อตฺโถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิทํ สนฺธาย วุตฺโต. ปจฺฉิโม รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํติ อิมานิ สนฺธาย วุตฺโต. เอเตน อสารกฏฺเนาติ อสารภาเวน, อสารยุตฺตภาเวน วาติ จ. อนตฺตาติ เอตฺถปิ น อตฺตา อนตฺตา, นตฺถิ อตฺตา เอตสฺสาติ วา อนตฺตาติ จ ทฺวิธา อตฺโถ สิชฺฌติ. ‘‘ยฺจา’’ติ ยฺจ รูปํ. ‘‘ปีเฬตี’’ติ ตํ สมงฺคี ปุคฺคลํ ปีเฬติ. เอเตน อนตฺตภาเว สิทฺเธ ทุกฺขภาโวปิ สิทฺโธติ ทสฺเสติ. ‘‘ติณฺณํ วยานํ วเสน อทฺธาเภโท โยเชตพฺโพ’’ติ ปถมวเย ปวตฺตํ รูปํ ทุตียวยํ น ปาปุณาติ, ปถมวเย เอว นิรุชฺฌตีติอาทินา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเน อนฺโตคธเภโท โยเชตพฺโพ. ‘‘สภาเคกสนฺตานวเสนา’’ติ สภาคานํ ธมฺมานํ สภาคฏฺเน เอกีภูตา สนฺตติ สภาเคกสนฺตติ. ‘‘สภาคานํ ธมฺมานํ’’ติ จ จิตฺตเชสุตาว นิรนฺตรปฺปวตฺเตน โลภสมฺปยุตฺตจิตฺเตน สหชาตา รูปธมฺมา สภาครูปธมฺมา นาม. ตถา นาม ธมฺมา จ. เอวํ โทสสมฺปยุตฺตาทีสุปิ. อุตุเชสุ นิรนฺตรปฺปวตฺเตน สีตอุตุนา สมุฏฺิตา รูปธมฺมา สภาครูป ธมฺมา นาม. ตถา อุณฺหอุตุนา สมุฏฺิตา. เอสนโย อาหารเชสุปีติ ¶ เอวํ สภาเคกสนฺตติวเสน. ‘‘สมฺปาปุณิตุํ’’ติ าเณน สมฺปาปุณิตุํ. ‘‘อทฺธาสนฺตติวเสนา’’ติ เอตฺถ สนฺตติวเสน สมฺมสนํ วิเสสโต อธิปฺเปตํ. เอวฺจ กตฺวา เหฏฺา อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ ปเท จตุนฺนํ มหาภูตานํ สนฺตติ วิภาคนโย สุฏฺุ ทสฺสิโตติ. ‘‘อนิจฺจลกฺขณ ทสฺสนเมว ปธานํ’’ติ อิมสฺมึ าเณปิ อุทยพฺพยฺาเณปิ ภงฺคฺาเณปิ อนิจฺจลกฺขณ ทสฺสนเมว ปธานํ. ภยฺาเณ จ อาทีนวฺาเณ จ นิพฺพิทาาเณ จ ทุกฺขลกฺขณ ทสฺสนํ ปธานํ. อุปริ จตูสุ าเณสุ อนตฺตลกฺขณ ทสฺสนํ ปธานนฺติ. ‘‘สมุทิเตสู’’ติ อฺมฺํ อวินาภาวสหายภาเวน สมุปฺปนฺเนสุ. อิทฺจ อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย. ตณฺหาสมุทยา อุปาทาน สมุทโย. อาหาร สมุทยา รูปสมุทโยติ ปาฬิวเสน วุตฺตํ. อปฺปหีน วเสนาติ ปาฬิปเท ปน อวิชฺชา ตณฺหา ทิฏฺานุสยานํ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน วิชฺชมานตา เอว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สมุเทนฺตี’’ติ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย เอกโต อุเทนฺติ. อุปรูปริ เอนฺติ. อาคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เอกภวภาเวน ปาตุพฺภวนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ยาวมรณกาลา’’ติอาทึ. ‘‘ปสวนฺตี’’ติ ปวฑฺฒมานา สวนฺติ, ปวตฺตนฺติ, สนฺทนฺติ. ‘‘เตสุ ปนา’’ติ อวิชฺชา ตณฺหุปาทาน กมฺเมสุ. ‘‘นิรุชฺฌนฺตี’’ติ ตสฺมึภเว เอว นิรุชฺฌนฺติ. ตสฺมึ ภเว นิโรโธ นาม ภวนฺตเร ปุน อนุปฺปาโท เยวาติ วุตฺตํ ‘‘ภวนฺตเร’’ติอาทิ. ‘‘ตํ สนฺตติยํ’’ติ ตสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺน ภเวติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปุน อนุปฺปาทสงฺขาตํ นิโรธํ’’ติ สนฺตติ นิโรโธ นาม วุตฺโต. น นิพฺพาน นิโรโธ. เอตาหิ ปจฺจเย สติ, ภวนฺตเร อุปฺปชฺชีสฺสนฺติ เยวาติ. อิทานิ ยถาปวตฺต สนฺตตีสุ ปริยาปนฺนานํ สพฺพปจฺฉิมานํ นามรูปานํ ขณิกนิโรธวเสน อตฺถํ วทนฺโต ‘‘ยถาปวตฺต สนฺตติโย วา ฉิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อุทยพฺพยํ สมนุปสฺสนฺตสฺส จา’’ติ เอตฺถ กตโม อุทโย นาม, กตโม วโย นาม, กถฺจ ตทุภยํ สมนุปสฺสตีติ อาห ‘‘อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺสาติ เอตฺถ ยถา นามา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ตโม ขนฺโธ’’ติ ตโมราสิ. ‘‘เวตี’’ติ วิคจฺฉติ. อนฺตร ธายติ ¶ .‘‘อุทโย’’ติ อุปฺปาโท เจว วฑฺฒิ จ. ‘‘วโย’’ติ วิคมนํ, อนฺตรธานํ. ‘‘นานาปโยควเสนวา’’ติ สมิฺชนปฺปสารณาทิ นานาปโยควเสน วา. อุทยปกฺขานํ นานาสนฺตตีนํ อุทยฺจ อุทยโต. วยปกฺขานํ นานาสนฺตตีนํ วยฺจ วยโตติ โยชนา.
โพชฺฌงฺค ธมฺเมหิ สมฺปนฺนตฺตา อาราเธติ อตฺตโน จิตฺตํติ อารทฺโธ. ตุฏฺจิตฺโตติ อตฺโถ. วิปสฺสตีติ วิปสฺสโก. อารทฺโธ หุตฺวา วิปสฺสโก อารทฺธวิปสฺสโก. ทุวิโธหิ วิปสฺสโก ตรุณ วิปสฺสโก จ อารทฺธ วิปสฺสโก จ. ตตฺถ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ สุฏฺุ อปสฺสนฺโต ทุพฺพลวิปสฺสโก ตรุณ วิปสฺสโก นาม. ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ สุฏฺุ ปสฺสนฺโต วิปสฺสนา กมฺเม อาราธิต จิตฺโต พลววิปสฺสโก อารทฺธวิปสฺสโก นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ.
[ก]
‘สฺุาคาเร ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
อมานุสี รตี โหติ, สมฺม ธมฺมํ วิปสฺสโต,ติ จ.
[ข]
‘โย จ วสฺสสตํ ชีเว, อปสฺสํ อุทยพฺพยํ;
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, ปสฺสโต อุทยพฺพยํ,ติ จ.
อยมิธ อธิปฺเปโต. วิปสฺสนํ อุเปจฺจ กิเลเสนฺติ, มลีนภาวํ คเมนฺตีติ วิปสฺสนุปกฺกิเลสา. ปริพนฺธนฺติ นีวาเรนฺตีติ ปริพนฺธกาติ เหฏฺา วุตฺตเมว อนฺตรายิก ธมฺมานํ นามํ. ‘‘สรีโรภาโส’’ติ สกลสรีรโต นิกฺขนฺโต โอภาโส. ‘‘ปฺจวิธา ปีตี’’ติ ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกา ปีติ, โอกฺกนฺติกา ปีติ, อุพฺเพคา ปีติ, ผรณา ปีตีติ. ‘‘ทุวิธา ปสฺสทฺธี’’ติ อติพลวนฺตี กายปสฺสทฺธิเจว จิตฺตปสฺสทฺธิ จ. วิปสฺสนา กมฺเม โอกปฺปนาการปฺปวตฺตา สทฺธาเอว อธิมุจฺจนฏฺเน อธิโมกฺโข สทฺธาธิโมกฺโข. ‘‘วีริยํ’’ติ ตสฺมึ กมฺเม อนิกฺขิตฺตธุรํ ปคฺคหิตสีสํ วีริยํ. ‘‘สุขํ’’ติ จิตฺตสุขํ. เตนาห ‘‘โสมนสฺสํ’’ติ. ‘‘วิปสฺสนาาณํ’’ติ อินฺทวิสฺสฏฺวชิรสทิสํ พลววิปสฺสนาาณํ. ‘‘สตี’’ติ ตสฺมึ กมฺเม อปฺปมุฏฺา สติ. ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ จิตฺตสฺส ¶ ลีนุทฺธจฺจาทีหิ วิสมนฺเตหิ วิมุตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตตาสงฺขาตา อุเปกฺขา. ‘‘อาวชฺชนุเปกฺขา’’ติ วสิภาวปตฺตา อาวชฺชนสงฺขาตา อุเปกฺขา. ‘‘อาลยํ’’ติ ตณฺหาลยํ. ‘‘กุรุมานา’’ติ กโรนฺตี. ‘‘สุขุมา ตณฺหา’’ติ กุสเลหิ มิสฺสกตฺตา อิทํ อกุสลนฺติปิ ชานิตุํ อสกฺกุเณยฺยา สุขุมตณฺหา. ‘‘น วตเม’’ติ มม น อุปฺปนฺนปุพฺโพวตาติ โยชนา. ‘‘อสฺสาทสหิตา’’ติ โอภาสาทีสุ อสฺสาทตณฺหา สหิตา. ‘‘อธิมาน วเสนา’’ติ อธิกตรํ มฺนาวเสน. ‘‘ตาวเทวา’’ติ นิกนฺติยา อุปฺปตฺติกฺขเณเยว. ‘‘นิกามนากาโร’’ติ อิจฺฉนากาโร. อสฺสาทนากาโร. ‘‘นิกามนสฺสวตฺถู’’ติ นิกนฺติยา วตฺถุ. ‘‘อทฺธา’’ติ เอกนฺเตน. ‘‘หนฺทา’’ติ จิตฺตวิสฺสฏฺกรเณ นิปาตปทํ. อิทาเนว นํ วิโสเธมิ, น จิรํ ปวตฺติตุํ ทสฺสามีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. ‘‘เตสฺเววา’’ติ เตสุโอภาสาทีสุ เอว. อฏฺกถาย น สเมติ. อฏฺกถายํ นิกนฺติ วิกฺขมฺภนสฺส วิสุํ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. วิปสฺสนาปริปาโก นาม วิเสสนฺตรปฺปวตฺเตน ปากโฏติ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺตา’’ติอาทิมาห. วุฏฺานคามินิ วิปสฺสนาภาวปตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ทฺเว วิปสฺสนา จิตฺตานี’’ติ อุปจารานุโลมจิตฺตานิ. โส หิ วุฏฺานนฺติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. สงฺขาร นิมิตฺตโต วา วุฏฺาติ. นิพฺพานํ อารพฺภ ปวตฺติโต. ยทิ เอวํ โคตฺรภุปิ วุฏฺานํ นาม สิยาติ. น สิยา. มคฺคสฺส อาวชฺชนมตฺเต ิตตฺตา. ปฏิเวธกิจฺจสฺสจ สมฺโมห สมุจฺเฉทกิจฺจสฺส อภาวโต. ‘‘สยํ’’ติ มคฺคสงฺขาโต สยํ. ‘‘ตํ สมงฺคีปุคฺคลํ วา’’ติ เตน มคฺเคน สมงฺคีปุคฺคลํ วา. ‘‘วฏฺฏปฺปวตฺตโต จา’’ติ อายตึ ภเวสุ อปายวฏฺฏปฺปวตฺตโต วา, อฏฺม ภวโต ปฏฺาย กามสุคติ วฏฺฏปฺปวตฺตโต วา. อวสฺสํ วุฏฺานํ คเมติ สมฺปาเปตีติ วุฏฺานคามินีติ วจนตฺโถ. ‘‘อวสฺสํ วุฏฺานํ คจฺฉนฺตี’’ติ อิธ ิตานํ วุฏฺานโต นิวตฺติ นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทฺจ ปจฺเจกพุทฺธานํ พุทฺธสาวกานฺจ วเสน ทฏฺพฺพํ. สพฺพฺุ โพธิสตฺตา ปน ปุพฺพพุทฺธานํ สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนา กมฺมํ อารภนฺตา อนุโลมฺาณํ อาหจฺจ เปนฺตีติ อฏฺก ถาสุ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อาหจฺจา’’ติ อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส มตฺถกปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อาวชฺชนฏฺานิยํ’’ติ ตโต ปุพฺพภาเค เกนจิ จิตฺเตน อคฺคหิเต นิพฺพานา รมฺมเณ อาวชฺชนฏฺานิยํ. ‘‘ตํ’’ติ โคตฺรภฺุาณํ. โคตฺตํ ภวติ อภิภวติ ฉินฺทตีติ โคตฺรภุ. โคตฺตํ วา อภิสมฺภุณาติ ปาปุณาตีติ โคตฺรภูติ วจนตฺโถ. กถํ ปน โคตฺรภุ จิตฺตํ โคตฺรภฺุาณํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ ฉินฺทติ, อริยโคตฺตํ ปาปุณาตีติ ยุชฺเชยฺย, โสหิ ปุคฺคโล ตสฺมึขเณ ปุถุชฺชนโคตฺตปริยาปนฺโนเอวาติ. สจฺจํ. อตฺตนิ ปน ฉินฺนตฺตา สยํ ฉินฺทติ นาม. นิพฺพานสฺส จ อริยโคจรตฺตา ตํ อารมฺมณ กรณวเสน อริยโคตฺตํ ปาปุณาติ นามาติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยสตฺติวิเสเสน อตฺตโน อนนฺตเร อริยโคตฺตํ ภาเวติ, ปาตุภาเวตีติ โคตฺรภูติปิ ยุชฺชติ. ‘‘ปริจฺฉิชฺชา’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทีหิ สพฺพวิปฺผนฺทเนหิ มฺุจิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สมฺโมหสฺส ปหานเมว ทฏฺพฺพํ. น เต ธมฺเม อารมฺมณ กรณ วเสน ชานนํ. กถํ เต ธมฺเม อารมฺมณํ อกโรนฺโต มคฺโค เต ธมฺเม ปริชานาติ นามาติ. กิจฺจสิทฺธิ วเสน. โส หิ สมฺโมหํ ปชหนฺโต อารมฺมณํ กโรนฺตานิปิ หิ ปุพฺพภาคฺาณานิ ตปฺปหานกิจฺจสฺส อสาธกตฺตา ทุกฺข สจฺจํ ปริชานนฺตานีติ น วุจฺจนฺติ. มคฺโค ปน อารมฺมณํ อกโรนฺโตปิ ตปฺปหานกิจฺจสฺส สาธกตฺตาตํ สจฺจํ ปริชานาตีติ วุจฺจติ. กสฺมา. ตโต ปฏฺาย ตสฺสปุคฺคลสฺส สพฺพกาลํ ตสฺมึสจฺเจ ปริชานน กิจฺจสฺส สิทฺธตฺตา. ยถาหิ เอโก ปุริโส จกฺขุมฺหิ ปิตฺตเสมฺหาทิโทเสหิ ปลิพุทฺธตฺตา อนฺโธ โหติ. น กิฺจิ ปสฺสติ. ยทา ปน โส เอกํ เตชวนฺตํ อฺชนํ ลภิตฺวา จกฺขุํ อฺชยนฺโต สพฺพรตฺตึ นิทฺทายติ. ตสฺส นิทฺทายนฺตสฺเสว จกฺขุมฺหิ สพฺพโทสา นสฺสนฺติ. จกฺขุ วิปฺปสนฺนํ โหติ. ตงฺขณโต ปฏฺาย โส นิทฺทายนฺโตปิ รูปานิ ปสฺสตีติ วุจฺจติ. กสฺมา, อนฺธภาววิคเมน ทสฺสนกิจฺจสฺส สิทฺธตฺตา. เอวเมวมิทํ ทฏฺพฺพนฺติ. เอกเทเสน วา เหฏฺิมมคฺเคสุ, อนวเสเสน วา อรหตฺตมคฺเค. ‘‘อปจฺฉาวตฺติกํ’’ติ เอตฺถ ปจฺฉโต อาวตฺตนํ ปจฺฉาวตฺตํ. นตฺถิ ปจฺฉาวตฺตํ อสฺสาติ อปจฺฉาวตฺติกนฺติ ¶ วิคฺคโห. ‘‘ปุน อนุปฺปาทธมฺมตาปตฺติวเสน นิโรธสงฺขาตํ’’ติ มคฺคกฺขเณ เอว ตานิวฏฺฏานิ ปุน อนุปฺปาทสภาวํ อาปชฺชนฺติ, นิรุชฺฌนฺติ. ตถา นิโรธสงฺขาตํ. ‘‘อุปฺปาทนสงฺขาตาย ภาวนายา’’ติ เอเตน มคฺคสฺส เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา วฑฺฒนสงฺขาตาย ภาวนาย โอกาโส นตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. อริยมคฺคํ ปฏิลาภตฺถาย ปน ปวตฺติตา ปุพฺพภาคภาวนาปิ มคฺคภาวนา เอว. สา จ อริยมคฺคํ ปตฺวา มตฺถกปตฺตา โหติ. ตสฺมา อริยมคฺโค เอว มตฺถกปตฺโต ภาวนานุตฺตโร โหตีติ อิมินาปริยาเยน วฑฺฒน สงฺขาตาย ภาวนายาติปิ ยุชฺชติเยว. อตฺตโน อนนฺตเร ปวตฺตํ อานนฺตริกํ. อานนฺตริกํ ผลํ เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ตสฺส จ ตโตปรํ ทฺเว วา ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ ปวตฺตนฺตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อปนีโต อคฺคิ เอตสฺมาติ อปนีตคฺคิโก. ‘‘นิพฺพาเปนฺโต วิยา’’ติ เอเตน ปฏิปฺปสฺสมฺภนปฺปหานกิจฺเจน มคฺคานุกุลปฺปวตฺตึ ทสฺเสติ. ‘‘เตสํ’’ติ เตสํ จกฺขูนํ. ตํ รูปํ ตสฺส ปากฏํ น ตาว โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส. ‘‘ปจฺจเวกฺขนวาเรสู’’ติ เอตฺถ ปสาทจกฺขุนา ทิฏฺเ ปวตฺตา อนุพนฺธก วีถิโยปิ สงฺคยฺหนฺติ.
อุปริมคฺเคหิ วธิตพฺพา มาเรตพฺพาติ อุปริมคฺควชฺฌา. ‘‘กิเลสวิภาเคสู’’ติ อสุกมคฺเคน อสุกากิเลสา ปหียนฺตีติ เอวํ กิเลสวิภาเคสุ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ ปฏิสมฺภิทา มคฺคปาฬิยํ. วุจฺจมาเน ปน วตฺตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคาทีนํ ปจฺจเวกฺขนํ นาม มคฺคปจฺจเวกฺขนเมว. ตถา ปจฺฉา วา ปวตฺตตีติ สิทฺธํ. ‘‘อวิรุทฺธา โหตี’’ติ วิสุทฺธิมคฺเคน อสเมนฺตาปิ ปจฺจเวกฺขนฺตานํ อิจฺฉานุรูปสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘อธิมานนิทฺเทส อฏฺกถาสู’’ติ วินเย จตุตฺถปาราชิเก อธิมานปทนิทฺเทส อฏฺกถาสุ. ‘‘โส’’ติ อริยภูโต ภิกฺขุ. ‘‘โน ลทฺธุํ น วฏฺฏตี’’ติ อลทฺธุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ลทฺธุํ โน น วฏฺฏตีติ วา โยชนา. จตุพฺพิธํ มคฺคฺาณํ คหิตํ. าณทสฺสนวิสุทฺธิ นามาติ วุตฺตตฺตา.
‘‘อภินิวิสนํ’’ติ อชฺฌตฺตํ ทฬฺหตรํ ปติฏฺานํ. ‘‘นิขาตสิเนรุปา ทสฺสวิยา’’ติ ¶ ตสฺส ปวตฺตนํ วิย. ‘‘เกวลํ ปจฺจยายตฺต วุตฺติตาย อทิฏฺตฺตา’’ติ เอเตน เอโส เม อตฺตา, น ปรสฺส อตฺตาติ เอวํ อตฺตานํ อตฺตสฺส สามิกํ กตฺวา คหณการณํ วทติ. ตตฺถ เกวลสทฺเทน ปรมตฺถ สจฺจํ ปตฺวา อตฺตสฺเสว อภาวโต ขนฺธปฺจกสฺส อตฺตโนวสายตฺต วุตฺติตํ นิวตฺเตติ. สมฺมุติ สจฺจํ ปน ปตฺวา อตฺตสฺส วิชฺชมานตฺตา มหาชโน อตฺตโน ขนฺธปฺจกํ อตฺตโน วสายตฺต วุตฺตึ มฺมาโน เอโส เม อตฺตาติ คณฺหาติ. ‘‘ขณภงฺคสฺส จ อทิฏฺตฺตา’’ติ เอเตน เอโส เม สารฏฺเน อตฺตา. เอโส มม สาโร. เอตํ มม สรีรํ. ยาว วสฺสสตํปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ เอตํ ขนฺธปฺจกํ น ภิชฺชติ, น วินสฺสติ. ตาว อหํ น มรามิ. ยทา เอตํ ภิชฺชติ, วินสฺสติ. ตทา อหํ มรามิ. อหฺจ มม ขนฺธปฺจกฺจ อทฺวยํ อนานตฺตนฺติ เอวํ คหณการณํ วทติ. ตตฺถ ‘‘ขณภงฺคสฺสา’’ติ นามรูปธมฺมานํ ขเณ ขเณ ภฺชนสฺส ภิชฺชนสฺส มรณสฺส. อิทมฺปนมรณํ สมฺมุติ สจฺเจ นตฺถิ. ปรมตฺถ สจฺเจ เอว อตฺถิ. ตสฺมา ตํ อปสฺสนฺโต มหาชโน อตฺตโน ขนฺธปฺจกํ อตฺตโนสารํ มฺมาโน เอโส เม อตฺตาติ คณฺหาตีติ. ‘‘ตํ ทฺวยํ สุทิฏฺํ กตฺวา’’ติ ขนฺธปฺจกสฺส เกวลํ ปจฺจยายตฺต วุตฺติตฺจ ขณภงฺคฺจ าณ จกฺขุนา สุฏฺุทิฏฺํ กตฺวา. ตตฺถ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สุฏฺุปสฺสนฺโต เกวลํ ปจฺจยายตฺต วุตฺติตฺจ อวสายตฺต วุตฺติตฺจ สุฏฺุ ปสฺสติ. โย จ อตฺตโน วสายตฺตวุตฺติ น โหติ. โส ปรมตฺถสจฺจํ ปตฺวา เอโส มม สนฺตกนฺติปิ วตฺตุํ นารหติ. กุโต มม อตฺตาติ. อปิ จ, สตฺโต นาม สภาวโต นตฺถิ. ปฺตฺติมตฺตํ โหติ. โย ‘อหนฺติ วา, เมติ วา, มมาติ วา, คยฺเหยฺย. อสนฺเต จ อตฺตสฺมึ โก มม อตฺตา นาม ภเวยฺยาติ. ขณภงฺโค โหติ. ขเณ ขเณ ภิชฺชติ. สตฺโต จ นาม เอกสฺมึภเว อาทิมฺหิ สกึ เอว ชายติ. อนฺเต สกึ เอว มรติ. อนฺตรา วสฺสสตํปิ วสฺสสหสฺสํปิ มรณํ นาม นตฺถิ. อฺาหิ ขณิกธมฺมานํ คติ. อฺา สตฺตสฺส. เอวํสนฺเต กถํ ขณิกธมฺมา สตฺตสฺส สารฏฺเน อตฺตานาม ภเวยฺยุนฺติ. ตสฺมา เต อวสวตฺตนฏฺเน อสารกฏฺเน จ อนตฺตา เอว. อปิจ ¶ ‘‘อวสวตฺตนฏฺเนา’’ติ เอตฺถ วโส นาม สตฺตสนฺตาเน เอโก ปธานธมฺโม. สเจ อตฺตานาม อตฺถิ. โส เอว ปธานภูตสฺส วสสฺสปิ อตฺตา ภเวยฺย. เอวํสติ, โย วโส, โส อตฺตา. โย อตฺตา, โส วโสติ ภเวยฺย. ตถา จ สติ, รูปํ อตฺตาติ คณฺหนฺโต รูปฺจ วสฺจ อตฺตานฺจ เอกตฺตํ กตฺวา คณฺหาติ นาม. ตถา เวทนํ อตฺตาติ. สฺํ, สงฺขาเร, วิฺาณํ อตฺตาติ คณฺหนฺเตปิ. เอวฺจสติ, สตฺโต จ ขนฺธปฺจกฺจ วโส จ อตฺตา จ สพฺพเมตํ เอกตฺตํ คจฺฉติ, เอโก สตฺโตติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. น หิ อิมสฺมึ วสวตฺตนฏฺเ เอกสฺสสตฺตสฺส ทฺเว อตฺตา ตโย อตฺตา พหูอตฺตาติ สกฺกา ภวิตุํ. อถ ยถา ยถา สตฺตสฺส วโส วตฺตติ, อิจฺฉา ปวตฺตติ. ตถา ตถา ขนฺธปฺจกมฺปิ นิจฺจกาลํ สตฺตสฺสวสํ อนุคจฺเฉยฺย. กสฺมา, สตฺตสฺส จ ขนฺธปฺจกสฺส จ วสสฺส จ นานตฺตาภาวโต. เอวํ อนุคจฺฉนฺเต สติ. รูปํ เม อตฺตา, เวทนา เม อตฺตาติอาทิคฺคหณํ วฏฺเฏยฺย. สภาวโต อวิรุทฺธํ ภเวยฺย. น ปน ตถา อนุคจฺฉติ. น หิ ทุพฺพณฺโณ ทุรูโป ปุริโส อตฺตโน รูปกายํ อตฺตโน วเสเนว สุวณฺณํ สุรูปํ กาตุํ สกฺโกติ. ตถา ทุสฺสทฺโทวา สุสทฺทํ, ทุคฺคนฺโธวา สุคนฺธํ. น จ อนฺโธวา อนนฺธํ. พธิโรวา อพธิรํ. โรคีวา อโรคํ. กุฏฺีวา อกุฏฺํ. คณฺฑีวา อคณฺฑํ. ชิณฺโณวา ตรุณํ. อชรํ วา อมรณํ วา กาตุํ สกฺโกติ. นาปิ อปาเยสุ จ อปตนฺตํ. ปติตฺวา วา ตโต วิมุตฺตํ กาตุํ สกฺโกติ. ตถา เทโว วา เทวตฺตา อจาเวตุํ. สกฺโกวา สกฺกตฺตา, มาโร วา มารตฺตา, พฺรหฺมา วา พฺรหฺมตฺตาติ. เอสนโย เสสขนฺเธสุปิ. ตถา ปน อวสานุคมนโต ปรมตฺถ สจฺจํ ปตฺวา ขนฺธปฺจเก อตฺตโน สามิกิจฺจํ อิสฺสรกิจฺจํ นาม นตฺถิ. อสามิกเมว ตํ โหติ, อนิสฺสรํ. ตถา จ สติ, อตฺตานํ ตสฺส สามึ อิสฺสรํ กตฺวา รูปํ เม อตฺตาติ คหณํ มิจฺฉาคหณํ นาม โหตีติ. โลเก ปน มหาชโน ธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ น ชานนฺติ, น ปสฺสนฺติ, น ปฏิวิชฺฌนฺติ. เตสํ ปรมฺปร ปจฺจยวเสน ปวตฺตมาเน ขนฺธสนฺตาเน สมฺมุติ สจฺจวเสน นานาวสวตฺตนาการา นาม สนฺติ. นานาสามิ อิสฺสราธิปติโวหารา จ โลเก สนฺทิสฺสนฺติ. เต ¶ สมฺมุติ สจฺจวเสน อุปฺปนฺเนสุ เตสุ สามิอิสฺสราธิปติ โวหาเรสุ โวหารมตฺเต อตฺวา สภาวสจฺจํ มฺนฺตา มิจฺฉาคหณํ คณฺหนฺติ. เอตฺถ สิยา. น นุ วโสนาม อิจฺฉา. สตฺโต จ คนฺตุํ อิจฺฉนฺโต คจฺฉติ. าตุํ อิจฺฉนฺโต ติฏฺติ. เอวํสติ. ตสฺส ขนฺธปฺจกํ ตสฺส วสายตฺต วุตฺติ เอว โหตีติ. น โหติ. กสฺมา, ปจฺจยายตฺต วุตฺติตฺตา เอว. ตถาหิ คนฺตุํ อิจฺฉานาม พหิทฺธา ธนเหตุวา อุปฺปชฺเชยฺย. นานาโภคเหตุ วา. อฺเน วา นานาการเณน. ตตฺถ เยสํ ธเน อสติ, ยํ ยํ ทุกฺขํ อาคจฺเฉยฺย กายิกํ วา เจตสิกํ วา. เตสํ ตํ ตํ ทุกฺขปจฺจยา ธนิจฺฉา นาม อุปฺปชฺชติ. ธนิจฺฉา ปจฺจยา คนฺติจฺฉาทโย อุปฺปชฺชนฺติ. ตถา นานาโภคิจฺฉา นานากมฺมิจฺฉาสุ จาติ. นานาทุกฺขภยุปทฺทวมูลิกาสุ อิจฺฉาสุ วตฺตพฺพ เมว นตฺถิ. ตถา นานารมฺมณานํ ปโลภน ทุกฺขมูลิกาสุ จ นานาวิตกฺกานํ วิปฺผนฺทนมูลิกาสุ จ อิจฺฉาสุ. เอวํ วโสปิ ปจฺจยายตฺต วุตฺติโก เอว โหติ. ‘‘คมนํ’’ติ คมนากาเรน ปวตฺตํ ขนฺธปฺจกํ. เยนเยนธนาทิเหตุนา โส โส วโส อุปฺปชฺชติ. คมนมฺปิ เตน เตเนว อุปฺปชฺชติ อาหารุปตฺถมฺภนาทิปจฺจเยน จ. วโส ปน คมนสฺส ปจฺจเยก เทสมตฺตํ โหติ. โส หิ ตทฺปจฺจเยหิ วินา สยํ อุปฺปชฺชิตุํ น สกฺโกติ. กุโต คมนํ อุปฺปาเทตุํ. เอวํ านาทีสุ. เอวฺจ สติ, อิทํ ขนฺธปฺจกํ ปจฺจยายตฺต วุตฺติกนฺติจฺเจว วตฺตุํ อรหติ. โน วสายตฺต วุตฺติกนฺติ. อปิ จ คนฺตุํ อิจฺฉนฺโต คจฺฉตีติ ปฺตฺติ มตฺตภูโต สตฺโต คจฺฉติ. ขนฺธปฺจกํ ปน ขณิก ธมฺมตฺตา น คจฺฉติ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชติ. สนฺตติ วเสน คมนาการ นิมิตฺตํ ปฺายติ. เอวํ อวสวตฺตนํ โหตีติ. โหตุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนํ. อวิจฺเฉทปฺปวตฺติยา สติ, คมนํ สมฺปชฺชติเยว. คมเน จ สมฺปชฺชมาเน ขณิกภิชฺชเนน โทโส นตฺถีติ เจ. อตฺถิ. ขณิกมรณฺหิ สตฺตสฺส สุสานภูมิ นาม โหติ. อนฺตราเยวา อาคเต ปกฺขลนฺเต วา สติ, คจฺฉนฺโต สตฺโต ยทา กทาจิ มรณํ วา นิคจฺฉติ มรณ มตฺตํ วา ทุกฺขนฺติ. กิเลเส นิมินาติ ปวตฺเตตีติ นิมิตฺตนฺติ วจนตฺโถ. ‘‘วิปลฺลาสนิมิตฺตํ’’ติ จ วิปลฺลาส ธมฺมานํ วเสน อุปฏฺิตํ กิจฺจ นิมิตฺตํ. ตณฺหา เอว ปณิธีติ ¶ สมฺพนฺโธ. มหนฺตานํ อาทีนวานํ ราสิ มหาอาทีนวราสิ. ขนฺเธสุ สฺุตลกฺขณํ นาม อติ คมฺภีรํ โหติ. าณสฺเสว วิสยภูตํ. สฺุต ทสฺสนฺจ ทิฏฺิยา อุชุปฺปฏิปกฺขนฺติ อาห ‘‘สงฺขาเรสุ สฺุตทสฺสนวเสนา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘อตฺถ สิทฺธิ นามา’’ติ มคฺคผลปฺปฏิลาภสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิ นาม. อตฺตาติ อภินิเวโส อตฺตาภินิเวโส. คณฺหาตีติ คาโห. อุปาทียตีติ อตฺโถ. ทิฏฺิสงฺขาโต คาโห ทิฏฺิคฺคาโห. อตฺถาภินิเวโส จ โส ทิฏฺิคฺคาโห จาติ วิคฺคโห. ตสฺส ปฏิปกฺขํ อนตฺตานุปสฺสนาาณํ. อนุ อนุ ภวนํ อานุภาโว. ปรมฺปรโต วฑฺฒนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตถา สมนุปสฺสิตฺวา’’ติ สฺุตา กาเรน สมนุปสฺสิตฺวา. วิมฺุจนฺตสฺส อริยปุคฺคลสฺส. ‘‘อนิจฺจลกฺขณํ นาม นาติ คมฺภีรํ โหติ. สทฺธายปิ วิสยภูตํ. อุนฺนติลกฺขโณ จ อหํ มาโน ขนฺเธสุ นิจฺจธุววิปลฺลาสมูลโก สทฺธาย จ ปฏิปกฺโขติ อาห ‘‘อนิจฺจทสฺสนวเสนา’’ติอาทึ. ‘‘นิมิตฺตาภินิเวสภูตสฺสา’’ติ นิจฺจธุวนิมิตฺตาภินิเวสภูตสฺส. ‘‘มานคฺคาหสฺสา’’ติ มานสงฺขาตสฺส คาหสฺส. ‘‘สทฺธาย ปี’’ติปิสทฺเทน าณํ สมฺปิณฺเฑติ. ทุกฺขลกฺขณํ นาม ภยสํเวค ชนกํ โหติ. อารมฺมเณสุ ตณฺหาโลลสฺส ตณฺหาวิปฺผนฺทนสฺส ปฏิปกฺขํ. วิเสสโต สมาธิสฺส อนุรูปนฺติ อาห ‘‘ทุกฺขทสฺสน วเสนา’’ติอาทึ. ‘‘ติณฺณํ ธมฺมานํ’’ติ ปฺินฺทฺริย สทฺธินฺทฺริย สมาธินฺทฺริย สงฺขาตานํ ติณฺณํ อินฺทฺริย ธมฺมานํ. ‘‘วิปสฺสนา คมนวเสเน วา’’ติ วุฏฺานคามินิ วิปสฺสนา สงฺขาตสฺส อาคมน การณสฺส วเสเนว.
อิทานิ ปุพฺเพ ยํ วุตฺตํ ‘สตฺตอริย ปุคฺคลวิภาคสฺส ปจฺจยภาวปตฺติยา จา’ติ. ตตฺถ สตฺต อริยปุคฺคลวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺมานุสารี นามาติ เอตฺถ ‘‘ธมฺโม’’ติ ปฺา วุจฺจติ ‘สจฺจํ, ธมฺโม, ธีติ, จาโค,ติ เอตฺถ วิย. ติกฺขตรํ ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ปฺาพลานุสาเรน อาทิมฺหิ มคฺคํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. อถวา. ‘‘ธมฺโม’’ติ นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน สงฺขาร ธมฺโม วุจฺจติ. สฺุตทสฺสนฺจ นาม วิเสสโต สุทฺธธมฺม ทสฺสนํ นาม. อิติ สุทฺธธมฺมํ ¶ อนุสฺสรติ, าณคติยา อนุคจฺฉตีติ ธมฺมานุสารี. ทิฏฺิปตฺโตติ เอตฺถ ทิฏฺินาม ทสฺสนฺาณํ วุจฺจติ. อาทิโต ปฏฺาย ปริสุทฺธ ทสฺสนสมฺปนฺนตฺตา ทิฏฺิพเลเนว สุเขน ตํ ตํ มคฺคผลํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปตฺโต. เตเนว ทสฺสน ปฺาพเลน กิเลสพนฺธนโต วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. สงฺขาร ธมฺมานํ ขณิก ธมฺมภาเว สุฏฺุ สทฺทหนํ อเวจฺจปฺปสาโท สทฺธา นาม. ตตฺถ ‘‘อเวจฺจปฺปสาโท’’ติ าณสมฺปยุตฺตปฺปสาโท. ‘‘าณํ’’ติ จ สงฺขาร ธมฺมานํ ขณิกภาวนิมิตฺตานํ ทสฺสนฺาณํ. ตาทิเส หิ าเณ สติ, ตตฺถ อเวจฺจปฺปสาโท นาม ชายติ, โน อฺถาติ. สทฺธํ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี. สทฺธาพเลเนว อาทิมฺหิ อริยมคฺคํ ปาปุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. สทฺธาพเลน วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ‘‘กายสกฺขิ นามา’’ติ เอตฺถ สกฺขํติ สนฺทิฏฺํ. ยํ สาธกนฺติปิ วุจฺจติ. อตฺตโน กาเย เอว ลทฺธํ สกฺขํ ยสฺสาติ กายสกฺขี. ทุกฺขานุ ปสฺสี ปุคฺคโล หิ สํเวค พหุโล โหติ. สํเวโค จ ปธาน วีริยสฺส ปทฏฺานํ. สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตีติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา โส สํเวควเสน ภาวนํ อนุยฺุชนฺโต ยํ ยํ ปุริสถาเมน ปตฺตพฺพํ โหติ. ตํ ตํ ปาปุณาติ. ปาปุณนฺโต จ อตฺตโน กาเย เอว สกฺขํ ลภติ. สนฺทิฏฺํ ฌานสุขํ วา มคฺคผลสุขํ วา ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุภโตภาค วิมุตฺโต’’ติ อรูปชฺฌาเนหิ รูปกายโต อรหตฺตมคฺคผเลหิ นามกายโตติ เอวํ อุโภหิ กายภาเคหิ วิมุตฺโต. เอตฺถ จ ตโย อริยปุคฺคลา ปฺาธิโก จ สทฺธาธิโก จ วีริยาธิโก จ. ตตฺถ ธมฺมานุสารี จ ทิฏฺิปตฺโต จ ปฺาวิมุตฺโต จ ปฺาธิโก นาม. สทฺธานุสารี จ สทฺธาวิมุตฺโต จ สทฺธาธิโก นาม. กายสกฺขี จ อุภโตภาควิมุตฺโต จ วีริยาธิโก นามาติ ทฏฺพฺพํ. อยฺจ ปุคฺคลวิภาคนโย ปฏิสมฺภิทามคฺคนเยน วุตฺโต. อภิธมฺเม ปน ปุคฺคล ปฺตฺติยํ สทฺธาวิมุตฺโต จ กายสกฺขี จ ทฺเวปุคฺคลา เสกฺเขสุ เอว วุตฺตา. อรหตฺตํ ปตฺตา ปน เอเต ทฺเวปิ ปฺาวิมุตฺตา เอวาติ ทฏฺพฺพา. เอตฺถ สิยา, สงฺขาร ธมฺมานํ ขณิก ธมฺมภาเว สุฏฺุ สทฺทหนํ อเวจฺจปฺปสาโท สทฺธา นามาติ วุตฺตํ. กึ ปน ตาทิเสน สทฺธามตฺเตน โสตาปตฺติ มคฺคํ ¶ ปาปุณาตีติ. เอตฺถ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. ภควตา เอว วุตฺตํ. ยถาห มหาวคฺเค โอกฺกนฺต สํยุตฺเต จกฺขุ ภิกฺขเว อนิจฺจํ วิปริณามี อฺถาภาวี, โย เอวํ สทฺทหติ, เอวํ อธิมุจฺจติ. อยํ วุจฺจติ สทฺธานุสารี. โอกฺกนฺโต อริยภูมึ. อติกฺกนฺโต ปุถุชฺชนภูมึ. โส เยนกมฺเมน อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ อุปฺปชฺเชยฺย. น ตํ กมฺมํ กโรตีติ. โสตํ ภิกฺขเว อนิจฺจํ. วิปริณามี อฺถาภาวีติอาทินา ทฺวาทสายตนานิ วิตฺถาเร ตพฺพานิ. ตตฺถ ‘‘วิปริณามี’’ติ วิปริณาโม ยสฺส อตฺถีติ วิปริณามี. วิปริณาโมติ จ ขเณ ขเณ ชีรณตา ภิชฺชนตา วุจฺจติ. ‘‘อฺถาภาวี’’ติ ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘เอวํ อธิมุจฺจตี’’ติ เอเตน าณสมฺปยุตฺตสทฺธํ ทีเปติ. สา เอว โสตาปตฺติยงฺเคสุ พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, ธมฺเม, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโตติ วุตฺตา. ตตฺถ าณสมฺปยุตฺตสทฺธา นาม จกฺขาทีนํ อนิจฺจนิมิตฺต ทสฺสนฺาเณน สมฺปยุตฺตา โอกปฺปนสทฺธา. อนิจฺจนิมิตฺตฺจ นาม รูปํ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติปเท วุตฺตนเยน จกฺขาทินิสฺสยานํ มหาภูตานํ สนฺตติ ปริวตฺตนาทิกํ วุจฺจติ. ตฺหิ ปสฺสนฺโต จกฺขาทีนํ อนิจฺจภาเว สทฺทหติ, อธิมุจฺจติ. ตานิปิ ขเณ ขเณ เอกนฺเตน ภิชฺชติ เยวาติ สทฺธาธิโมกฺขํ สทฺธาวินิจฺฉยํ ปฏิลภตีติ อตฺโถ. ‘‘พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทนา’’ติ เอตฺถ ปน อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺธตาทีนํ พุทฺธคุณาทีนํ ทสฺสนฺาเณน สมฺปยุตฺโต ปสาโท อเวจฺจปฺปสาโท นาม. อริยภูมิ นาม ทิฏฺานุสย วิจิกิจฺฉานุสเยหิ ปริสุทฺธา อวตฺถาภูมิ วุจฺจติ. เตหิ สหิตา อวตฺถาภูมิ ปุถุชฺชนภูมิ นาม. กถํ ปน ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปุถุชฺชนภูมึ อติกฺกนฺตตา อริยภูมึ โอกฺกนฺตตา จ วิฺายตีติ อาห ‘‘โส เยนา’’ติอาทึ. โย อตฺตโน ชีวิตเหตุปิ กิฺจิ กมฺมปถปตฺตํ อปายคามิ กมฺมํ น กโรติ. โส เอกนฺเตน ปุถุชฺชนภูมึ อติกฺกนฺโต, อริยภูมึ โอกฺกนฺโตติ วิฺายตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทํ สทฺธานุสาริสุตฺตํ. อปรํปิ วุตฺตํ จกฺขุ ภิกฺขเว วิปริณามี อฺถาภาวี. ยสฺส เอวํ มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมติ. อยํ วุจฺจติ ธมฺมานุสารี ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘มตฺตโส ¶ นิชฺฌานํ ขมตี’’ติ สทฺธานุสารีวิย สทฺทหนมตฺเต อฏฺตฺวา จกฺขาทีนํ ตาทิสํ อนิจฺจตํ สมนุปสฺสนฺโต โถกํ โถกํ ทสฺสนํ ลภติเยว. เอวํสติ, จกฺขาทีนิ ตสฺส ปุคฺคลสฺส นิชฺฌานํ โอโลกนํ มตฺตโส ขมนฺติ นาม. อิทํ ธมฺมานุสาริสุตฺตํ. อปรํปิ วุตฺตํ จกฺขุ ภิกฺขเว อนิจฺจํ วิปริณามี อฺถาภาวี. โย เอวํ ปชานาติ ปสฺสติ. อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโน ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ ธมฺมานุสารีวิย มตฺตโส นิชฺฌานกฺขมมตฺเต อฏฺตฺวา ปฺาย ปชานาติ, าณจกฺขุโน ปจฺจกฺขโต ปสฺสตีติ อตฺโถ. อิทํ ทิฏฺิปตฺตาทีนํ สุตฺตํ.
‘‘ยถา สกํ ผลํ’’ติ เอตฺถ สสฺส อตฺตโน อิทํ สกํ. ยํ ยํ สกํ ยถาสกนฺติ อตฺถํ ทสฺเสติ โสตาปนฺนสฺสาติอาทินา. ผลสมาปตฺติ วีถิยํ ปน อนุโลมชวนานิ เอว ผลานํ อาสนฺนการณานิ, น มคฺคชวนานีติ อาห ‘‘น มคฺคาคมนวเสนา’’ติ. ‘‘โส’’ติ มคฺโค. สนฺโต สํวิชฺชมาโน สพฺภาโว. ‘‘อสฺสา’’ติ มคฺคสฺส.
อนิจฺจานุปสฺสนา กิจฺจโต อนิมิตฺตา โหติ. สภาวโต สนิมิตฺตาเอว. นิจฺจนิมิตฺตสหิตาเอว. ยโต สา เอโสหมสฺมีติคฺคหณํ ลภติ. อิทํปิ วิปสฺสนาาณํ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ สมนุปสฺสิตพฺพา จ โหตีติ. ตตฺถ จ อภิธมฺมํ ปตฺวา สภาวปฺปธานํ โหติ, น กิจฺจปฺปธานํ. ตสฺมา อภิธมฺม นเยน วิปสฺสนา อตฺตโน นิมิตฺต นามํ มคฺคสฺส ทาตุํ น สกฺโกติ. อยํ อฏฺกถาย อธิปฺปาโย. กิเลส ธมฺมา นาม ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ ปุคฺคลํ ปลิพุนฺธนฺติ. สมฺพาธํ กโรนฺติ. ตสฺมา ปลิโพธกรานาม. ตํ ปุคฺคลํ นิจฺจนิมิตฺต สุภนิมิตฺต สุขนิมิตฺต อตฺตนิมิตฺตานิ คาเหนฺติ. ตสฺมา นิมิตฺตกรานาม. ตํ ปุคฺคลํ อารมฺมเณสุ ภุสํ นิหิตํ นิวิฏฺํ กโรนฺติ. ตสฺมา ปณิธิกรานาม. เต จ มคฺคผลานิ อารมฺมณํ น กโรนฺติ. มคฺคผเลหิ จ สมฺปโยคํ น คจฺฉนฺติ. เอวํ อารมฺมณกรณา ทิวเสน มคฺคผเลสุ เตสํ อภาโว. อภาวตฺตาเอว จ ตานิ มคฺคผลานิ อตฺตโน ธมฺมตาย ตีณินามานิ ลภนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณ กรณวเสนวา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตโน สภาเวนา’’ติ อตฺตโน ธมฺมตาย.
‘‘อตฺตทิฏฺิยา อุปฺปนฺนาย อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อิทํ ตาสํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ อตฺตทิฏฺิยา อวินาภาวํ ทีเปติ. น ปน อตฺตทิฏฺิยา ตาหิ อวินาภาวนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิปจฺจนฺตีติ อปาเยสุ วิปจฺจนฺติ. อปายปฏิสนฺธึ ชเนนฺติ. ทิฏฺสจฺจานฺจ อริยปุคฺคลานํ. ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตา อกุสลธมฺมา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาคฺคหเณน คหิตาติ อาห ‘‘ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา วิปฺปยุตฺตา’’ติ. ‘‘อกุสลธมฺมาเจ วา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนภูตา ทสากุสลกมฺมปถ ธมฺมา เจว. ‘‘สตฺตหิ ภเวหี’’ติ กฺริยาปวคฺเค กรณวจนํ. ยถา สตฺตหิ มาเสหิ วิหารํ นิฏฺาเปตีติ. กฺริยาปวคฺโคติจ กฺริยายสีฆตรํ นิฏฺาปนํ วุจฺจติ. ‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ’’ติ สตฺตวารา. ตีณิ สํโยชนานินาม ‘สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาสสํโยชนานิ,. ‘‘อวินิปาต ธมฺโม’’ติ วิรูปํ หุตฺวา ปตนํ วินิปาโต. อปายนิปาโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธมฺโม’’ติ สภาโว. นตฺถิ วินิปาโต ธมฺโม ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘นิยโต’’ติ สุคติภเวสุ นิยต คติโก. สมฺมา พุชฺฌตีติ สมฺโพธิ. มคฺคฺาณํ. ‘‘ปรายนํ’’ติ ปรภาเค คนฺตพฺพฏฺานํ วุจฺจติ. สมฺโพธิสงฺขาตํ ปรายนํ อสฺสาติ สมฺโพธิปรายโน. ‘‘อนิยมตฺโถ’’ติ วาสทฺทตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. วา สทฺทตฺเถสุ จ อนิยมตฺโถ. น วิกปฺปตฺโถ. วิกปฺปตฺเถหิ สติ ทฺเว เอว สตฺตกฺขตฺตุปรมา ลพฺภนฺติ. มิสฺสกภโวน ลพฺภติ. อนิยมตฺเถ ตโยปิ ลพฺภนฺติ. อฏฺกถายํ ปน สมุจฺจยตฺถสฺส คหิตตฺตา เอโก มิสฺสกภโว เอว ลพฺภติ. นนุ จ สทฺโท นาม สมุจฺจยตฺเถ ปากโฏ, น อนิยมตฺเถ. ตสฺมา สมุจฺจยตฺโถว อิธ ยุตฺโตติ เจ. น ยุตฺโต. กสฺมา. ทฺวินฺนํ อสงฺคหิตตฺตา. อฏฺกถายํ ปน สมุจฺจยตฺถํ คเหตฺวา เต ทฺเว ปุคฺคลา อิมสฺมึ ปาเ อสงฺคหิตาติ วุตฺตํ. ยทิ เต อิมสฺมึ ปาเ อสงฺคหิตา. กตฺถเต สงฺคหิตา ภเวยฺยุํ. น หิ โกจิ สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม นาม อิธ อสงฺคหิโตติ ยุตฺโตติ. ‘‘อสฺสา’’ติ ตสฺสปาฬิปาสฺส. ‘‘เอตฺถ จ ยสฺมา. ล. ปรโม นาม วุตฺโต’’ติ อิทํ อุปริ ‘เย กามภเว เยวา’ติอาทินา ¶ ‘เยทิฏฺ ธมฺเม วา’ติอาทินา จ โยเชตพฺพํ. โส จ สุกฺขวิปสฺสโก วา ปริหีนชฺฌาโน วา ทฏฺพฺโพติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ ปุคฺคลปฺตฺติ ปาฬิยํ. ‘‘อิธ นิฏฺา’’ติ อิมสฺมึ กามโลเก อาสวกฺขยํ ปตฺวา ขนฺธปรินิพฺพานปตฺติ วเสน นิฏฺา. นิฏฺานํ ปริโยสานนฺติ อตฺโถ. กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. ภวโต ภวํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอกเมว ปฏิสนฺธิสงฺขาตํ ภวพีชํ อสฺส อตฺถีติ เอกพีชี. โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา. ตสฺส จ อิธ นิฏฺาติ โยชนา. เกน ปน ติณฺณํ โสตาปนฺนานํ วิเสโส กโตติ. สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม ตาว เกวลํ ปถมมคฺค สมฺปยุตฺเตหิ อินฺทฺริเยหิ กโต. อิตเร ทฺเว อุปริมคฺคตฺถาย ปวตฺติเตหิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ กโตติ. ตตฺถ สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม สพฺพมุทุโก โหติ. ตโต โกลํโกโล ติกฺโข. โส ปน ฉ ภวิโก, ปฺจภวิโก, จตุภวิโก, ติภวิโก, ทฺวิภวิโกติ ปฺจวิโธ. ตตฺถ ปฺจภวิโก ติกฺโข. เสสา อนุกฺกเมน ติกฺขตราติ ทฏฺพฺพา. เอกพีชี ปน เอกภวิโก สพฺพติกฺโข. ตตฺถ สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม เกวเลน ปถมมคฺคานุภาเวน สิทฺธตฺตา สพฺพมุทุโก โหติ. อิตเร ทฺเวปกติยา สตฺตกฺขตฺตุ ปรมภาเว ตฺวา อุปริมคฺคตฺถาย วิปสฺสนา กมฺมํ ปฏฺเปนฺติ. ตทา เตสํ อินฺทฺริยานิ ปุน วิเสส ปตฺตานิ โหนฺติ, ติกฺขานิ. ตสฺมา เต สตฺตกฺขตฺตุ ปรมโต ติกฺขานาม โหนฺตีติ. ‘‘สตฺตวารโต โอรํ วา’’ติ อิทํ โกลํโกล เอกพีชิโน สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยาเมตี’’ติ อิทํ อุปริเม ทฺเวโสตาปนฺเน สนฺธาย วุตฺตํ. สตฺตกฺขตฺตุ ปรโมปน ปถมมคฺเคเนว นิยมิโตติ ทฏฺพฺพํ. ตถาหิ โสเยว สงฺคหปาเ สรูปโต อาคโต โสตาปตฺติ มคฺคํ ภาเวตฺวา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาปหาเนน ปหีนาปายคมโน สตฺตกฺขตฺตุ ปรโม โสตาปนฺโน นาม โหตีติ. อิตเร ปน ทฺเว ปาฬิยํ โสตาปนฺน ปุคฺคลวิภาคฏฺาเนสฺเวว อาคตาติ. ‘‘เย ปนา’’ติ เย โสตาปนฺน ปุคฺคลาปน. คาถายํ ‘‘อิโตสตฺตา’’ติ อิมสฺมึ มนุสฺสโลเก สตฺต สํสรานิ. ‘‘ตโตสตฺตา’’ติ ตสฺมึ เทวโลเก ¶ สตฺตาติ อตฺโถ. องฺคุตฺตรปาเ ‘‘เตนจิตฺตปฺปสาเทนา’’ติ มหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปตุํ สมตฺถสฺส สตฺถุคุเณ จิตฺตปฺปสาโท ชายติ. เตน จิตฺตปฺปสาเทน. ‘‘เตน ปริยาเยนา’’ติ สเจ โส เทเวสุ เอว สํสรติ. สตฺตกฺขตฺตุํ โอปปาติก ปฏิสนฺธิโย คณฺหิตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายิสฺสติ. ยทิ มนุสฺเสสุ เอว สํสรติ. สตฺตคพฺภเสยฺยก ปฏิสนฺธิโย คณฺหิตฺวา เอตฺเถว ปรินิพฺพายิสฺสติ. เอวํ เทสนา วาเรน จุทฺทส กตฺวา เทสิเตน ปริยาเยนาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ วีมํสิตพฺพํ’’ติ วทนฺเตน ฏีกาจริเยน สยํ จุทฺทสปฏิสนฺธิโยว อิจฺฉตีติ ทีเปติ. อิทานิ ตํ จุทฺทสปฏิสนฺธิวาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘วิภงฺเค ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘วิภงฺเค’’ติ อภิธมฺเม าณวิภงฺเค. นตฺถิ านมสฺสาติ อฏฺานํ. ‘‘านํ’’ติ มูลการณํ. นตฺถิ อวกาโส อสฺสาติ อนวกาโส. ‘‘อวกาโส’’ติ ปจฺจยการณํ. ‘‘ยํ’’ติ กฺริยาปรามสนํ. ยํ นิพฺพตฺเตยฺย, ตํ นิพฺพตฺตนํ อฏฺานํ. โส นิพฺพตฺตน ธมฺโม อนวกาโสติ โยชนา. ‘‘อภิสงฺขาร วิฺาณสฺสา’’ติ สตฺตภวโต อุทฺธํ กามภเว ปฏิสนฺธิชนกสฺส กุสลา กุสลกมฺม วิฺาณสฺส. ‘‘นิโรเธนา’’ติ โสตาปตฺติ มคฺคกฺขเณ เอว นิโรธเนน. นิรุชฺฌนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ เย นาม รูปธมฺมา อุปฺปชฺเชยฺยุํ. เอเต นาม รูปธมฺมา เอตฺถ เอตสฺมึ อภิสงฺขาร วิฺาณ นิโรธกฺขเณ นิรุชฺฌนฺตีติ โยชนา. ‘‘ยถาวุตฺตนเยเนวา’’ติ เตน ปริยาเยนาติ วุตฺตปฺปการนเยเนว. ‘‘ตเทกฏฺโมหสฺสา’’ติ เตน ราเคน เตน โทเสน เอกสฺมึ จิตฺเต เอกโต ิตสฺส โมหสฺส. น ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา สมฺปยุตฺตสฺส โมหสฺส. ตสฺส ปถมมคฺเค เอว ปหีนตฺตา. นาปิ อุทฺธจฺจจิตฺตสมฺปยุตฺตสฺส โมหสฺส. ตสฺส จตุตฺถมคฺเค เอว ปหาตพฺพตฺตา. อุปฺปชฺชนฺตา ราคโทสโมหา. ‘‘ธมฺมิเกสู’’ติ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺเนสุ. ‘‘ยโต’’ติ ยํการณา. พลวนฺตการณาติ อตฺโถ. ‘‘เตสํ’’ติ โสตาปนฺนานํ. ‘‘สลฺลิขน วเสนา’’ติ พหลปกฺขํ ถูลภาคํ สุฏฺุลิขนวเสน. อธิจฺจุปฺปตฺติ นาม ปุพฺเพ ยถาปวตฺตํ กาลํ อธิจฺจ อติกฺกมฺม อุปฺปตฺติ ¶ . อุปฺปชฺชนฺตานมฺปิ ราคโทสโมหานํ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ สกทาคามีนมฺปิ. ‘‘เมถุนวตฺถุ สมาโยโค อิจฺฉิโต’’ติ ชายมฺปตีนํ เมถุนกมฺมสมาโยโค นาม สกทาคามีนํ อตฺถีติ อิจฺฉิโต. เถโรหิ อธิจฺจุปฺปตฺติมตฺตํ อิจฺฉติ. ปริยุฏฺานมนฺทตํ น อิจฺฉติ. สกทาคามีนํ ปุตฺตธีตโรปิ สนฺทิสฺสนฺตีติ วทติ. ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ เถรสฺส มโนรถมตฺตํติ วตฺวา ปฏิกฺขิตฺโต. อิทํ สพฺพํ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตํ. ‘‘ฉกฺกนิปาเต’’ติ องฺคุตฺตเร ฉกฺกนิปาเต. ‘‘มิคาสาฬวตฺถุมฺหี’’ติ มิคาสาฬนามิกาย อุปาสิกาย วตฺถุมฺหิ. เกจิ อิมํ วตฺถุํ ทิสฺวา มหาอฏฺกถาวาทํ น โรเจนฺติ. มหาสิวตฺเถรวาทํ โรเจนฺติ. ‘‘อพฺรหฺมจาริโน’’ติ เมถุน ธมฺมา อปฺปฏิวิรตสฺส. ‘‘สกทาคามิตฺตํ พฺยากตํ’’ติ ตสฺมึ กาลงฺกเต โส พฺราหฺมโณ อิธ สกทาคามิภาวํ ปตฺวา ตุสิตากายํ อุปปนฺโนติ เอวํ ตสฺส ยํ สกทาคามิตฺตํ ภควตา พฺยากตํ. ‘‘อธิคมวเสนา’’ติ สกทาคามิภาวํ ปฏิลาภวเสน. น ปน อพฺรหฺมจาริโน สโต อธิคมวเสนาติ อธิปฺปาโย. มรณาสนฺนกาเลปิ หิ สิกฺขาปทาธิฏฺาเนน สห อุปริมคฺคผลาธิคมนํ นาม ติกฺขปฺสฺส อริยสาวกสฺส น ทุกฺกรนฺติ. เอเตน เกสฺจิ เถรวาทโรจนํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. ‘‘สกึเทว อิมํโลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ เอเตน อิโต ปรโลกํ คมนสฺส จ ตโต ปุน อิธาคมนสฺส จ สิทฺธตฺตา อยํ ปุคฺคโล สุทฺเธน มคฺคนิยาเมน กามภเว ทฺวิกฺขตฺตุ ปรโมนาม โหตีติ สิทฺโธ. กถํ. อิธ ปตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี, ตตฺถ ปตฺวา อิธ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ. เสสาปน จตฺตาโร วิปสฺสนานิยาเมน สิทฺธา โหนฺตีติ วิฺายติ. กตเม จตฺตาโร. อิธ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี. ตตฺถ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี. อิธ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี. ตตฺถ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายีติ. เอตฺถ จ ตีสุ โสตาปนฺเนสุ เอโกสตฺตกฺขตฺตุ ปรโม เอว มคฺคนิยาเมน สิทฺโธ. เสสา ปน ทฺเว โสตาปนฺนา วิปสฺสนานิยาเมน สิทฺธา. ฉ สกทาคามีสุ ทฺเว เอว มคฺคนิยาเมน สิทฺธา. เสสา ปน จตฺตาโร วิปสฺสนานิยาเมน สิทฺธา. ตตฺถ มคฺคสิทฺเธสุ โสตาปนฺน สกทาคามีสุ ¶ สงฺกโร นตฺถิ. วิปสฺสนาสิทฺเธสุ ปน สงฺกโร อตฺถิ. อตฺถโต อวิรุทฺเธ สติ, โวหารมตฺเตน สงฺกเร โทโส นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. อาคนฺตฺวาติ ปาวเสน อาคมนโตติ วุตฺตํ. อาคนฺตาติ ปน ปาโ ยุตฺโต. อาคมนสีโล อาคมน ธมฺโม หุตฺวา สกทาคามี นามาติ อตฺโถ. อนาคนฺตฺวา อิตฺถตฺตนฺติ เอตฺถปิ เอเสวนโย. อรหโต ภาโว อรหตฺตํ. อรหตฺต มคฺคํ. ทกฺขิณาย วิปตฺติกรานาม อปฺปปฺผล อปฺปานิสํสกรา. สมฺปตฺติกรา นาม มหปฺผล มหานิสํสกรา. สีลกฺขนฺธาทิคุณา นาม สีลกฺขนฺธ สมาธิกฺขนฺธ ปฺากฺขนฺธ วิมุตฺติกฺขนฺธ วิมุตฺติฺาณ ทสฺสนกฺขนฺธคุณา. ‘‘ทกฺขิเณยฺเยสู’’ติ ทกฺขิณารห ปุคฺคเลสุ. ‘‘ธุรํ’’ติ ปธานสีสฏฺานิยํ วุจฺจติ. สทฺธา เอว ธุรํ อสฺสาติ สทฺธาธุโร. เอวํ ปฺาธุโร. กสฺมา ปเนตฺถ วีริยธุโร น คหิโตติ. ปาฬิยํ สทฺธาวาหี มคฺคํ ภาเวติ, ปฺาวาหี มคฺคํ ภาเวตีติ วุตฺตํ. น ปน วุตฺตํ วีริยวาหี มคฺคํ ภาเวตีติ. ตสฺมา น คหิโตติ. กสฺมา ปน วีริยวาหี มคฺคํ ภาเวตีติ น วุตฺตนฺติ. วุจฺจเต. มคฺคํ ภาเวนฺตสฺส นาม อาทิมฺหิ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปหานาย กมฺมํ มหนฺตํ โหติ. กสฺมา, อปายมูลกตฺตา. ตตฺถ สทฺธา จ วิจิกิจฺฉา จ ทฺเว อุชุปฺปฏิปกฺขา โหนฺติ. ยสฺมึ อารมฺมเณ สทฺธา นิวิสติ, ตสฺมึ วิจิกิจฺฉา นตฺถิ. ยสฺมึ วิจิกิจฺฉา นิวิสติ, ตสฺมึ สทฺธา นตฺถิ. ตถา ปฺาทิฏฺิโย จ อุชุปฺปฏิปกฺขา. ยตฺถ ปฺา, น ตตฺถ ทิฏฺิ. ยตฺถ ทิฏฺิ, น ตตฺถ ปฺาติ. อปิ จ สทฺธา อตฺตโน วิสเย ทิฏฺึ วิธมติเยว. ปฺาย วิจิกิจฺฉาวิธมเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา อารทฺธ วิปสฺสโก อนิจฺจาทีสุ อเวจฺจปฺปสาทมตฺเตนปิ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโย ปชหิตฺวา สทฺธานุสาริภาวฺจ สุฏฺุตรํ ปสีทิตฺวา สทฺธาวิมุตฺตภาวฺจ ปาปุณาติ. ปฺาย อนิจฺจาทีนิ นิชฺฌานกฺขมํ กตฺวา ธมฺมานุสาริภาวฺจ สุฏฺุตรํ ปสฺสิตฺวา ทิฏฺิปตฺตปฺา วิมุตฺตภาวฺจ ปาปุณาติ. วีริยํ ปน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปฏิปกฺขมตฺตมฺปิ น โหติ. อถ โข ตาสํ สหาโยปิ โหติ, ธุรภูตฺจ. ปคฺคหลกฺขณฺหิ วีริยํ. ตํ สทฺธํปิ ปคฺคณฺหาติ, ปฺํปิ ปคฺคณฺหาติ, ทิฏฺึปิ ปคฺคณฺหาติ, วิจิกิจฺฉมฺปิ ปคฺคณฺหาติเยว. กุโตปน อตฺตโน สภาเวน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโย ¶ ปชหิตุํ สกฺขิสฺสติ. ตสฺมา อิมสฺมึ าเน วีริยวาหีติ จ วีริยธุโรติ จ น วุตฺโตติ. กายสกฺขิมฺหิ ปน สทฺธา จ ปฺา จ สมพลา โหนฺติ. วีริยฺจ สยํ สมฺมปฺปธานฏฺาเน ตฺวา ตทุภยํ อุปพฺรูเหติ. โส จ ปุคฺคโล ตทุภยพเลน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทโย ปชหิตฺวา กายสกฺขิภาวํ ปาปุณาติ. อฏฺวิโมกฺเข วา อุปฺปาเทตฺวา อุภโตภาค วิมุตฺตภาวํ ปาปุณาติ. อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปุคฺคเลสุ วีริยสฺส ถาโม สุฏฺุ ปากโฏ. ตสฺมา อิเม ทฺเว วีริยาธิกาตฺเวว วตฺตพฺพา. น วีริยธุโรติ. จตุปฺปฏิปทา นาม ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา. ทุกฺขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. สุขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา. สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา. ติวิธวิโมกฺโข นาม สฺุโต วิโมกฺโข. อนิมิตฺโต วิโมกฺโข. อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข. ‘‘ตโย อนฺตรา ปรินิพฺพายิโน’’ติ เอตฺถ อายุกปฺปสฺส ปริยนฺตํ อปตฺวา อนฺตรา เอว กิเลสปรินิพฺพานปตฺตา อนฺตราปรินิพฺพายี นาม. โส ติวิโธ. อายุกปฺปสฺส ปถมภาเค ปรินิพฺพายี, ทุตียภาเค, ตตียภาเคติ. อิเม ตโย อนฺตรา ปรินิพฺพายิโน นาม. อุปหจฺจปรินิพฺพายี นาม อายุกปฺป ปริยนฺเต ปรินิพฺพายี. อุทฺธํ มุโข วฏฺฏโสโต เอตสฺสาติ อุทฺธํโสโต. อกนิฏฺํ อวสฺสํ คมิสฺสตีติ อกนิฏฺคามี. วิปสฺสนา กมฺมํ สสงฺขารํ สปฺปโยคํ กตฺวา ปรินิพฺพายี สสงฺขาร ปรินิพฺพายี. สงฺขารรหิเตน สุเขน วิปสฺสนา กมฺเมน ปรินิพฺพายี อสงฺขาร ปรินิพฺพายี. ‘‘ทฺวาทส โสตาปนฺนา’’ติ เอกพีชิกา ตโย. เต เอว จตูหิ ปฏิปทาหิ คุณิตา ทฺวาทส. ทฺวาทส สกทาคามิโน ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว.
เอกจฺจานํ เอว อนาคามิ อรหนฺตานํ เอว. ‘‘อชฺโฌสิตสฺสา’’ติ อธิโอสิตสฺส. มเมวิทนฺติ นิฏฺานํ กตฺวา ปิตสฺส. คิลิตฺวา ปิตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. พหเลน ถูเลน กามราเคน วิมุตฺตา พหลราควิมุตฺตา. อารุปฺเปสุ จ ตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย เอว อตฺถิ. น จตสฺโส รูปสมาปตฺติโย. ตสฺมา ตตฺถ อนุปุพฺพนิโรโธ น ลพฺภติ. ‘‘อาทิโต ปฏฺายา’’ติ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ ปถมชฺฌาน สมาปตฺติอาทิ. ตโต ปฏฺาย. อนุปุพฺพนิโรโธ นาม ¶ ปถมชฺฌาเน ปฏิฆสฺานานตฺตสฺานํ นิโรโธ. ปฏิฆสฺา นาม ปฺจวิฺาณสฺา. นานตฺตสฺา นาม กสิณ นิมิตฺตโต อฺเสุ นานารมฺมเณสุ ปวตฺตมโนวิฺาณ สฺา. ทุตียชฺฌาเน วิตกฺก วิจารานํ นิโรโธติอาทินา อนุปุพฺพ นิโรโธ. ‘‘ตโต ปฺจมชฺฌานํ’’ติ ปฺจกนเยน วุตฺตํ. อฏฺสมาปตฺติ วจนํ ปน จตุกฺกนเยน วุตฺตํ. ตทุภยํปิ ปุคฺคลานุรูปํ ลพฺภติเยว. ยุคนนฺธํ นาม ทฺวนฺทพนฺธนํ, สมถวิปสฺสนานํ ยุคนนฺธนฺติ วิคฺคโห. ‘‘สมาปชฺชน วุฏฺาน วิปสฺสนาวเสนา’’ติ เอตฺถ วสิภาวปตฺตํ สมาปชฺชนฺจ วุฏฺานฺจ คเหตพฺพํ. อตฺตโน สรีรา พทฺเธสุ ปริกฺขาเรสุ สมาปตฺติพเลเนว อนฺตรายาภาวโต วิสุํ อธิฏฺาตพฺพ กิจฺจํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน สรีราพทฺเธ ปริกฺขาเร เปตฺวา’’ติ. ‘‘นานาพทฺธานี’’ติ นานาาเนหิ อาพทฺธานิ. นานาาเนสุ ปิตานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปริสฺสเยนา’’ติ อนฺตราเยน. มาวินสฺสนฺตูติ วา นานาพทฺธ อวิโกปนํ อธิฏฺาตพฺพํ. ตทา วุฏฺหามีติวา สงฺฆปฺปติมานนํ อธิฏฺาตพฺพํ. เอวํ สตฺถุปกฺโกสนํปิ. ‘‘อทฺธานปริจฺเฉโท’’ติ อตฺตโน ชีวิตกาลสฺส อุปปริกฺขณํ. มรณฺหิ นาม สมาปตฺติพเลนปิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺกาโหติ. อนฺโต สมาปตฺติยฺจ มรเณ สติ สพฺรหฺมจารีสุ กตฺตพฺพวตฺตํ น กเรยฺย. เอตฺหิ วตฺตํ ยํ อริยสาวกานํ มรณาสนฺเน สพฺรหฺมจารีนํ วา อุปฏฺากานํ วา อปฺปมาทกถานุ สาสนิกมฺมํ. สมาปตฺติยํ วา อฺติตฺถิยานํ ครหา วิวชฺชนตฺถํ. เอวฺหิ เต ครเหยฺยุํ. โคตมสาวกานํ นิโรธสมาปตฺติ นาม เอกํ มรณมุขํ. ยํ สมาปชฺชนฺโต อสุโก ภิกฺขุ มรณํ คจฺฉติ. อนริย กมฺมํ เหตนฺติ.
‘‘ยทตฺถํ’’ติ ปฏิปตฺติ รสสฺสาทตฺถํ. ‘‘ตทตฺเถ’’ติ ตสฺมึ อตฺเถ. นิรามิส สุขํ นาม อามิสรหิต สุขํ. ทุวิธฺหิ สุขํ สามิสสุขฺจ นิรามิสสุขฺจ. ตตฺถ เย โลเก อิฏฺ กนฺต มนาปิยา ปฺจกามคุณา นาม อตฺถิ. เต กิเลเสหิ อามสิตพฺพตฺตา อามิสา นาม. ยฺจสุขํ เต อามิเส ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, ตํ สามิสสุขํ นาม. ยํ โลเก ทิพฺพํ สุขํ มานุสกํ สุขนฺติ มมายนฺติ. ยฺจ อนุภวนฺตํ ¶ มหาชนํ สพฺพานิ อปายภย วฏฺฏภยานิ สมฺปริวาเรนฺติ. ฌานสุข มคฺคสุข ผลสุข นิพฺพานสุขํ ปน นิรามิสสุขํ นาม. ยํ เนกฺขมฺมสุขนฺติ จ ปวิเวกสุขนฺติ จ อุปสมสุขนฺติ จ สมฺโพธิสุขนฺติ จ วิมุตฺติสุขนฺติ จ อริยสุขนฺติ จ อนวชฺชสุขนฺติ จ วุจฺจติ. ยฺจ อนุภวนฺตํ อริยชนํ สพฺพานิ อปายภย วฏฺฏภยานิ สมฺปริวชฺชนฺติ. ‘‘อสฺสาทิตพฺพฏฺเนา’’ติ กิเลสปลิโพเธหิ วิมุตฺตตฺตา วิปุล คมฺภีร สนฺต ปณีตรสตฺตา จ อโหสุขํ อโหสุขนฺติ อุทาหรนฺเตนปิ อสฺสาทิตพฺพฏฺเนาติ.
กมฺมฏฺานสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
นิคมคาถาสุ.
๒๖๒. จริตพฺพนฺติ จาริตฺตํ. ทสกุสลกมฺมปถธมฺมชาตํ. ‘‘กุลาจาเรนา’’ติ กุลปรมฺปรโต อาคเตน อาจาเรน. ‘‘าติ มิตฺต ธน โภคสมฺปตฺติยา’’ติ เหตุอตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘วิสาเล’’ติ วิปุเล. ‘‘เตนา’’ติ ตสฺสปทสฺส วิภตฺยนฺต ทสฺสนํ. ‘‘สทฺธายา’’ติ รตนตฺตเย อเวจฺจปฺปสาทสทฺธาวเสน. ‘‘อภิวุฑฺฒานํ’’ติ หานภาคิย ิติภาคิยภาวํ อติกฺกมฺมวิเสสภาคิย นิพฺเพธภาคิย ภาวปตฺติวเสน อติสฺสย วุฑฺฒานํ. ‘‘ปริสุทฺธานฺจา’’ติ อตฺตุกฺกํสน ปรวมฺภนาทิ โทเสหิ ปริสุทฺธานฺจ. นํ นํ ชนํ ปาติรกฺขตีติ นมฺโป. ทิฏฺทิฏฺเสุ เมตฺตาวิหารีติ วุตฺตํ โหติ. อาวฺหาตพฺโพติ อวฺหโย. นามํ. นมฺโป อิติ อวฺหโย อสฺสาติ นมฺปวฺหโยติ วจนตฺโถ. ‘‘ปณิธายา’’ติ ปตฺเถตฺวาติ อตฺถํ นิวตฺเตติ ‘‘ภุสํ นิธายา’’ติอาทินา. ‘‘อุปาทาย ปฏิจฺจา’’ติ ตสฺส ปทสฺส ปริยายทสฺสนเมตํ. ‘‘อตฺตโน มนฺทพุทฺธีนํ’’ติ ปจฺจกฺเข ธรมานานนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปจฺฉิม ชนานํ วา’’ติ. อนุกมฺปนํ อนุกมฺโป. กถํ นุ โข อิเม ชนา อภิธมฺมตฺเถสุ สุเขน อาชาเนยฺยุนฺติ เอวํ ปวตฺโต จิตฺตพฺยาปาโร. อตฺถโต อนุทยสงฺขาตา กรุณาเยว. เตนาห ‘‘อนุทยํ ¶ การฺุํ’’ติ. ‘‘ปตฺถิตํ’’ติ วา สาธุวตสฺส ยํ เถโร เอวรูปํ ปกรณํ กเรยฺยาติ เอวํ จิรกาลํ ปตฺถิตํ อาสึสิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ขุทฺทสิกฺขาฏีกายํ’’ติ โปราณฏีกํ สนฺธาย วุตฺตํ. โสมวิหาโรตฺเวว ปฺายิตฺถ ตสฺมึ ทีเปติ อธิปฺปาโย. คาถายํ ‘‘อถา’’ติ ตสฺมึกาเล. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตสฺมึ นคเร. ‘‘สทฺโท’’ติ กสฺมา ราชา เอวรูปํ มงฺคลหตฺถึ พฺราหฺมณานํ อทาสิ. เนตํ ปติรูปํ ยํ รฺา กตนฺติ เอวํ ปวตฺโต อมนาปสทฺโท. ‘‘เภรโว’’ติ ภีรุตาชนโก ภยานโก. ‘‘สิวีนํ’’ติ สิวิรฏฺวาสีนํ. ‘‘รฏฺวฑฺฒเน’’ติ รฏฺํ วฑฺเฒตีติ รฏฺวฑฺฒโน. หตฺถินาโค. โส หิ ลกฺขณสมฺปนฺโน อาชานิโย โหติ. ยสฺมึ รฏฺเ ตํ อภิมงฺคลํ กโรนฺติ, ตสฺมึ รฏฺเ เทโว สมฺมา วสฺสติ, นานาภยุปทฺทวา ตสฺมึ นุปฺปชฺชนฺตีติ โลกสมฺมโต มงฺคลหตฺถี โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สิวีนํ รฏฺวฑฺฒเน’’ติ. ‘‘วิตฺถิณฺโณ’’ติ วิตฺถาริโต. อติวิตฺถาโรติ วุตฺตํ โหติ. ธนียนฺติ มหาชเนหิ ทฏฺุํ ปตฺถียนฺตีติ ธฺา. มหิทฺธิกา. อธิวสนฺติ เอตฺถาติ อธิวาโส. ธฺานํ อธิวาโสติ สมาโส. อชฺฌาวสึสุ เอตฺถาติ อชฺฌาวุตฺถํ. กิตฺติคุณวเสน อุเทนฺติ อุคฺคจฺฉนฺตีติ อุทิตา. อุทิตานํปิ อุทิโตติ วิคฺคโห. เตนาห ‘‘นภมชฺเฌ’’ติอาทึ. สารชฺชนํ สารโท. วิคโต สารโท ยสฺสาติ วิสารโท. วิสารทสฺส ภาโว เวสารชฺชํ. ปริยตฺติยํ เวสารชฺชํ ปริยตฺติเวสารชฺชํ. เตปิฏกปริยตฺติยํ เวยฺยตฺติยฺาณํ. ตํ อาทิ เอติสฺสา ปฺายาติ ปริยตฺติเวสารชฺชาทิ ปฺา. ปาปโต ลชฺชนสีลาติ ลชฺชิโนติ อาห ‘‘ปาปครหิโน’’ติ. ปาปํ ธมฺมํ ครหนฺติอาทีนวํ กถยนฺติ สีเลนาติ ปาปครหิโน. ‘‘อนุสฺสรนฺตู’’ติ ปุนปฺปุนํ สรนฺตุ. วิเสเสน ภวนฺติ เวปุลฺลํ คจฺฉนฺตีติ วิภวา. ปฺุานิ จ ตานิ วิภวาจาติ ปฺุวิภวา. วิปุลปฺุานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิปุลานํ’’ติอาทิมาห. อนุตฺตริย ธมฺมา นาม ทสฺสนานุตฺตริย สวนานุตฺตริยาทโย. โลเก พหูสุ ทสฺสเนสุ อิโต อุตฺตรํ อฺํ ทสฺสนํ นาม นตฺถีติ ทสฺสนานุตฺตริยํ. รตนตฺตยทสฺสนํ. จตุสจฺจทสฺสนฺจ. รตนตฺตยคุณกถาสวนํ ¶ , ขนฺธายตน ธาตุ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาสวนฺจ สวนานุตฺตริยํ นาม. เตสุ รตนตฺตยาทีสุ สทฺธา ปฏิลาโภ ลาภานุตฺตริยํ นาม. เตสเมว ปุนปฺปุนํ สรณํ อนุสฺสตานุตฺตริยํ นาม. รตนตฺตเย จตูหิ ปจฺจเยหิ วา วตฺตปฺปฏิวตฺตกรเณน วา ปริจรณํ ปาริจริยานุตฺตริยํ นาม. พุทฺธปฺตฺตาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ สมาทาย สิกฺขนํ สิกฺขานุตฺตริยํ นาม. ตาทิเส ปฺาวทาตคุณโสภาทิเก คุเณ อวสฺสํ ภชนฺติ ปาปุณนฺตีติ ตาทิสคุณภาคิโน. ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ ภวิตุํ อุสฺสาหํ กริสฺสามาติ วุตฺตํ โหติ.
ทีปนิยา นิคมคาถาสุ.
‘‘พสฺหฺยุสฺุจมฺเมกมฺหี’’ติ เอตฺถ ‘‘พสฺหฺยู’’ติ อฏฺสงฺขฺยาย สงฺเกต วจนํ. ‘‘จมฺมํ’’ติ ทฺวิสงฺขฺยาย. เอกฺจ ทุกฺจ สฺฺุจ อฏฺจาติ คณนกฺกโม. สหสฺส ทฺวิสต อฏฺสงฺขาเต สาเกติ อตฺโถ. เอสนโย ปรโต ‘‘นวปฺจ จมฺเมกมฺหี’’ติ ปเทปิ. คาถาวณฺณนาสุ. นครติ น จวตีติ นครํ. ถาวริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘รฺเชตี’’ติ รเมติ. เขมสุภิกฺขตาทิคุเณหิ อนาคเต ชเน คมาเปติ, อาคเต อฺตฺถ คนฺตุํ น เทตีติ วุตฺตํ โหติ. โรหิตมิคา นาม สุวณฺณวณฺณมิคา. ‘‘สาเก’’ติ สากนาเมน รฺา ปุน สงฺขตตฺตา อิมํ กลิยุคํ สากนฺติ วุจฺจติ. ยํ เอตรหิ สากฺรราชนฺติปิ โวหรนฺติ. สากราชา จ นาม อุตฺตราปเถสุ เอโก คนฺธารราชา. ยํ เชฏฺกํ กตฺวา ภินฺนลทฺธิกา วชฺชีภิกฺขู อิมํ ธมฺม วินยํ มหาสงฺฆีกํ นาม สงฺคหํ อาโรเปนฺติ. โส จ ธมฺมวินยสงฺคโห อุตฺตราปเถสุ วตฺตติ. เวสาลิยํ ยสตฺเถร สงฺคโห ปน ทกฺขิณาปเถสูติ. จตฺตาริยุคานิ นาม โลเก ปฺเปนฺติ สตฺยยุคํ, ทฺวาปรยุคํ, เตตฺรยุคํ, กลิยุค,นฺติ. ยุคนฺติ จ อายุปริมาณํ วุจฺจติ. อิทานิปน กลิยุคํ วตฺตติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สาเกติ กลิยุเค’’ติ. ปาปยุเคติ อตฺโถ. ‘‘ล ตี’’ติ สาลิกฺเขตฺตานํ โสธนฏฺานตฺตา เอวํ มฺรมฺมเทสโวหาเรน ลทฺธนามํ ¶ อรฺํ. ตํ ปน มุํรฺวานครสฺส เอสนฺเน ปฺจธนุสติเก ปเทเส ชาตํ. ‘‘วิสฺสุเต’’ติ วิเสเสน กิตฺติเต. สารฺจ อสารฺจ วิเวเจนฺติ วิจาเรตฺวา ชานนฺติสีเลนาติ สาราสาร วิเวกิโนติ วจนตฺโถติ.
อิติ ปรมตฺถทีปนิยา อนุทีปนา นิฏฺิตา.
๑. ปรมตฺถทีปนี นาม, เยน เถเรน สา กตา.
เตเนเว สา กตา โหติ, อยํ ตสฺสานุ ทีปนี.
๒. อฏฺสตฺตทฺวเยกมฺหิ, สาเก สา เชฏฺมาสเก.
กาเฬ นวมิยํ ทิวา, มชฺฌนฺหิเก นิฏฺํ คตา.
อนุทีปนี นิฏฺิตา.