📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ทีฆนิกาโย

สีลกฺขนฺธวคฺคปาฬิ

๑. พฺรหฺมชาลสุตฺตํ

ปริพฺพาชกกถา

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. สุปฺปิโยปิ โข ปริพฺพาชโก อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ สทฺธึ อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวน. ตตฺร สุทํ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติห เต อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา [อนุพทฺธา (ก. สี. ปี.)] โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจ.

. อถ โข ภควา อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ [อุปคฺฉิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. สุปฺปิโยปิ โข ปริพฺพาชโก อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ [อุปคฺฉิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวน. ตตฺรปิ สุทํ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติห เต อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา วิหรนฺติ.

. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺิตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยํ สงฺขิยธมฺโม อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา สุปฺปฏิวิทิตา. อยฺหิ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติหเม อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจา’’ติ.

. อถ โข ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อิมํ สงฺขิยธมฺมํ วิทิตฺวา เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺิตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยํ สงฺขิยธมฺโม อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา สุปฺปฏิวิทิตา. อยฺหิ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติหเม อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อาฆาโต น อปฺปจฺจโย น เจตโส อนภิรทฺธิ กรณียา. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ กุปิตา วา อนตฺตมนา วา, ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ กุปิตา วา อนตฺตมนา วา, อปิ นุ ตุมฺเห ปเรสํ สุภาสิตํ ทุพฺภาสิตํ อาชาเนยฺยาถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ อภูตํ อภูตโต นิพฺเพเตพฺพํ – ‘อิติเปตํ อภูตํ, อิติเปตํ อตจฺฉํ, นตฺถิ เจตํ อมฺเหสุ, น จ ปเนตํ อมฺเหสุ สํวิชฺชตี’ติ.

. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท น โสมนสฺสํ น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณียํ. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ อานนฺทิโน สุมนา อุปฺปิลาวิตา ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ ภูตํ ภูตโต ปฏิชานิตพฺพํ – ‘อิติเปตํ ภูตํ, อิติเปตํ ตจฺฉํ, อตฺถิ เจตํ อมฺเหสุ, สํวิชฺชติ จ ปเนตํ อมฺเหสู’ติ.

จูฬสีลํ

. ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย. กตมฺจ ตํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย?

. ‘‘‘ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม นิหิตทณฺโฑ, นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี, ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรตี’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรตี’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี สมโณ โคตโม อาราจารี [อนาจารี (ก.)] วิรโต [ปฏิวิรโต (กตฺถจิ)] เมถุนา คามธมฺมา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

. ‘‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต [เโต (สฺยา. กํ.)] ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺสา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม, ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิต’นฺติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๐. ‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา [สมารพฺภา (สี. ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว…เป….

‘‘‘เอกภตฺติโก สมโณ โคตโม รตฺตูปรโต วิรโต [ปฏิวิรโต (กตฺถจิ)] วิกาลโภชนา….

นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา [นจฺจคีตวาทิตวิสุกทสฺสนา (ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา [สาวิโยคา (สฺยา. กํ. ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….

เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

จูฬสีลํ นิฏฺิตํ.

มชฺฌิมสีลํ

๑๑. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ พีชคามภูตคามสมารมฺภํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา.)] – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ [ปฺจมํ อิติ วา (สี. สฺยา. ก.)]; อิติ เอวรูปา พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๒. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ สนฺนิธิการปริโภคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อนฺนสนฺนิธึ ปานสนฺนิธึ วตฺถสนฺนิธึ ยานสนฺนิธึ สยนสนฺนิธึ คนฺธสนฺนิธึ อามิสสนฺนิธึ อิติ วา อิติ เอวรูปา สนฺนิธิการปริโภคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๓. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ วิสูกทสฺสนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – นจฺจํ คีตํ วาทิตํ เปกฺขํ อกฺขานํ ปาณิสฺสรํ เวตาฬํ กุมฺภถูณํ [กุมฺภถูนํ (สฺยา. ก.), กุมฺภถูณํ (สี.)] โสภนกํ [โสภนฆรกํ (สี.), โสภนครกํ (สฺยา. กํ. ปี.)] จณฺฑาลํ วํสํ โธวนํ หตฺถิยุทฺธํ อสฺสยุทฺธํ มหึสยุทฺธํ [มหิสยุทฺธํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุสภยุทฺธํ อชยุทฺธํ เมณฺฑยุทฺธํ กุกฺกุฏยุทฺธํ วฏฺฏกยุทฺธํ ทณฺฑยุทฺธํ มุฏฺิยุทฺธํ นิพฺพุทฺธํ อุยฺโยธิกํ พลคฺคํ เสนาพฺยูหํ อนีกทสฺสนํ อิติ วา อิติ เอวรูปา วิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๔. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฏฺปทํ ทสปทํ อากาสํ ปริหารปถํ สนฺติกํ ขลิกํ ฆฏิกํ สลากหตฺถํ อกฺขํ ปงฺคจีรํ วงฺกกํ โมกฺขจิกํ จิงฺคุลิกํ [จิงฺคุลกํ (ก. สี.)] ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ อกฺขริกํ มเนสิกํ ยถาวชฺชํ อิติ วา อิติ เอวรูปา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๕. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ โคนกํ จิตฺตกํ ปฏิกํ ปฏลิกํ ตูลิกํ วิกติกํ อุทฺทโลมึ เอกนฺตโลมึ กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ [หตฺถตฺถรณํ อสฺสตฺถรณํ รถตฺถรณํ (สี. ก. ปี.)] อชินปฺปเวณึ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ อิติ วา อิติ เอวรูปา อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๖. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อุจฺฉาทนํ ปริมทฺทนํ นฺหาปนํ สมฺพาหนํ อาทาสํ อฺชนํ มาลาคนฺธวิเลปนํ [มาลาวิเลปนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มุขจุณฺณํ มุขเลปนํ หตฺถพนฺธํ สิขาพนฺธํ ทณฺฑํ นาฬิกํ อสึ [ขคฺคํ (สี. ปี.), อสึ ขคฺคํ (สฺยา. กํ.)] ฉตฺตํ จิตฺรุปาหนํ อุณฺหีสํ มณึ วาลพีชนึ โอทาตานิ วตฺถานิ ทีฆทสานิ อิติ วา อิติ เอวรูปา มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๗. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ [อิตฺถิกถํ ปุริสกถํ (สฺยา. กํ. ก.)] สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานกถาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๘. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ, มิจฺฉา ปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมา ปฏิปนฺโน, สหิตํ เม, อสหิตํ เต, ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ, อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย วิคฺคาหิกกถาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๑๙. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – รฺํ, ราชมหามตฺตานํ, ขตฺติยานํ, พฺราหฺมณานํ, คหปติกานํ, กุมารานํ ‘‘อิธ คจฺฉ, อมุตฺราคจฺฉ, อิทํ หร, อมุตฺร อิทํ อาหรา’’ติ อิติ วา อิติ เอวรูปา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๐. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต กุหกา จ โหนฺติ, ลปกา จ เนมิตฺติกา จ นิปฺเปสิกา จ, ลาเภน ลาภํ นิชิคีํสิตาโร จ [ลาเภน ลาภํ นิชิคึ ภิตาโร (สี. สฺยา.), ลาเภน จ ลาภํ นิชิคีสิตาโร (ปี.)] อิติ [อิติ วา, อิติ (สฺยา. กํ. ก.)] เอวรูปา กุหนลปนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

มชฺฌิมสีลํ นิฏฺิตํ.

มหาสีลํ

๒๑. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – องฺคํ นิมิตฺตํ อุปฺปาตํ สุปินํ ลกฺขณํ มูสิกจฺฉินฺนํ อคฺคิโหมํ ทพฺพิโหมํ ถุสโหมํ กณโหมํ ตณฺฑุลโหมํ สปฺปิโหมํ เตลโหมํ มุขโหมํ โลหิตโหมํ องฺควิชฺชา วตฺถุวิชฺชา ขตฺตวิชฺชา [เขตฺตวิชฺชา (พหูสุ)] สิววิชฺชา ภูตวิชฺชา ภูริวิชฺชา อหิวิชฺชา วิสวิชฺชา วิจฺฉิกวิชฺชา มูสิกวิชฺชา สกุณวิชฺชา วายสวิชฺชา ปกฺกชฺฌานํ สรปริตฺตาณํ มิคจกฺกํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๒. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – มณิลกฺขณํ วตฺถลกฺขณํ ทณฺฑลกฺขณํ สตฺถลกฺขณํ อสิลกฺขณํ อุสุลกฺขณํ ธนุลกฺขณํ อาวุธลกฺขณํ อิตฺถิลกฺขณํ ปุริสลกฺขณํ กุมารลกฺขณํ กุมาริลกฺขณํ ทาสลกฺขณํ ทาสิลกฺขณํ หตฺถิลกฺขณํ อสฺสลกฺขณํ มหึสลกฺขณํ [มหิสลกฺขณํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุสภลกฺขณํ โคลกฺขณํ อชลกฺขณํ เมณฺฑลกฺขณํ กุกฺกุฏลกฺขณํ วฏฺฏกลกฺขณํ โคธาลกฺขณํ กณฺณิกาลกฺขณํ กจฺฉปลกฺขณํ มิคลกฺขณํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๓. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – รฺํ นิยฺยานํ ภวิสฺสติ, รฺํ อนิยฺยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, อิติ อิมสฺส ชโย ภวิสฺสติ, อิมสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๔. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, สูริยคฺคาโห [สุริยคฺคาโห (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เทวทุทฺรภิ [เทวทุนฺทุภิ (สฺยา. กํ. ปี.)] ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก สูริยคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก เทวทุทฺรภิ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๕. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – สุวุฏฺิกา ภวิสฺสติ, ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสติ, สุภิกฺขํ ภวิสฺสติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, เขมํ ภวิสฺสติ, ภยํ ภวิสฺสติ, โรโค ภวิสฺสติ, อาโรคฺยํ ภวิสฺสติ, มุทฺทา, คณนา, สงฺขานํ, กาเวยฺยํ, โลกายตํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๖. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – อาวาหนํ วิวาหนํ สํวรณํ วิวรณํ สํกิรณํ วิกิรณํ สุภคกรณํ ทุพฺภคกรณํ วิรุทฺธคพฺภกรณํ ชิวฺหานิพนฺธนํ หนุสํหนนํ หตฺถาภิชปฺปนํ หนุชปฺปนํ กณฺณชปฺปนํ อาทาสปฺหํ กุมาริกปฺหํ เทวปฺหํ อาทิจฺจุปฏฺานํ มหตุปฏฺานํ อพฺภุชฺชลนํ สิริวฺหายนํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

๒๗. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ ภูตกมฺมํ ภูริกมฺมํ วสฺสกมฺมํ โวสฺสกมฺมํ วตฺถุกมฺมํ วตฺถุปริกมฺมํ อาจมนํ นฺหาปนํ ชุหนํ วมนํ วิเรจนํ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ สีสวิเรจนํ กณฺณเตลํ เนตฺตตปฺปนํ นตฺถุกมฺมํ อฺชนํ ปจฺจฺชนํ สาลากิยํ สลฺลกตฺติยํ ทารกติกิจฺฉา มูลเภสชฺชานํ อนุปฺปทานํ โอสธีนํ ปฏิโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

‘‘อิทํ โข, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.

มหาสีลํ นิฏฺิตํ.

ปุพฺพนฺตกปฺปิกา

๒๘. ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อฺเว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ. กตเม จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ?

๒๙. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน, ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ [อธิวุตฺติปทานิ (สี. ปี.)] อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ?

สสฺสตวาโท

๓๐. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา, สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?

๓๑. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ( ) [(ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปตฺติเลเส) (สฺยา. ก.)] อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ – อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๓๒. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏํ ทฺเวปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตีณิปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาริปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ปฺจปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏํ ทฺเวปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตีณิปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาริปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ปฺจปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ. อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต, เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๓๓. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ วีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตึสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาลีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. เสยฺยถิทํ – ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ วีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตึสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาลีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต, เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๓๔. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี, โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํ ปฏิภานํ เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๓๕. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.

๓๖. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ, ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ; ตฺจ ปชานนํ [ปชานํ (?) ที. นิ. ๓.๓๖ ปาฬิอฏฺกถา ปสฺสิตพฺพํ] ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.

๓๗. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

ปมภาณวาโร.

เอกจฺจสสฺสตวาโท

๓๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?

๓๙. ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย, ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.

๔๐. ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย, ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สุฺํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติ. อถ โข อฺตโร สตฺโต อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สุฺํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยํปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺติ.

๔๑. ‘‘ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปปชฺชติ – ‘อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. อถ อฺเปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํ. เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.

๔๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา [สชฺชิตา (สฺยา. กํ.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? มมฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ – ‘‘อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุ’’นฺติ. อิติ มม จ มโนปณิธิ, อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ.

‘‘เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปมํ อุปปนฺนํ, มยํ ปนมฺห ปจฺฉา อุปปนฺนา’ติ.

๔๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จ. เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จ.

๔๔. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, โส นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๔๕. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? สนฺติ, ภิกฺขเว, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวา, เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา [หสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา (ก.)] วิหรนฺติ. เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ [ปมุสฺสติ (สี. สฺยา.)]. สติยา สมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.

๔๖. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา, เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ. สติยา อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ; นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา. เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ. สติยา สมฺโมสา เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๔๗. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? สนฺติ, ภิกฺขเว, มโนปโทสิกา นาม เทวา, เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.

๔๘. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา, เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ อปฺปทุฏฺจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายิมฺหา. เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา, เต มยํ อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๔๙. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘ยํ โข อิทํ วุจฺจติ จกฺขุํ อิติปิ โสตํ อิติปิ ฆานํ อิติปิ ชิวฺหา อิติปิ กาโย อิติปิ, อยํ อตฺตา อนิจฺโจ อทฺธุโว อสสฺสโต วิปริณามธมฺโม. ยฺจ โข อิทํ วุจฺจติ จิตฺตนฺติ วา มโนติ วา วิฺาณนฺติ วา อยํ อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสตี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๕๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.

๕๑. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.

๕๒. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

อนฺตานนฺตวาโท

๕๓. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?

๕๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.

๕๕. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ.

‘‘โส เอวมาห – ‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.

๕๖. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อุทฺธมโธ อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ, ติริยํ อนนฺตสฺี.

‘‘โส เอวมาห – ‘อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จ. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อุทฺธมโธ อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ, ติริยํ อนนฺตสฺี. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.

๕๗. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘เนวายํ โลโก อนฺตวา, น ปนานนฺโต. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จา’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. เนวายํ โลโก อนฺตวา, น ปนานนฺโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.

๕๘. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.

๕๙. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.

๖๐. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

อมราวิกฺเขปวาโท

๖๑. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ?

๖๒. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘อิทํ กุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ตํ มมสฺส มุสา. ยํ มมสฺส มุสา, โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. อิติ โส มุสาวาทภยา มุสาวาทปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ เม โน; โนติปิ เม โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.

๖๓. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘‘อิทํ อกุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ตตฺถ เม อสฺส ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา ปฏิโฆ วา. ยตฺถ [โย (?)] เม อสฺส ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา ปฏิโฆ วา, ตํ มมสฺส อุปาทานํ. ยํ มมสฺส อุปาทานํ, โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต, โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. อิติ โส อุปาทานภยา อุปาทานปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ เม โน; โนติปิ เม โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.

๖๔. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ. สนฺติ หิ โข สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตา นิปุณา กตปรปฺปวาทา วาลเวธิรูปา, เต ภินฺทนฺตา [โวภินฺทนฺตา (สี. ปี.)] มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานิ, เต มํ ตตฺถ สมนุยุฺเชยฺยุํ สมนุคาเหยฺยุํ สมนุภาเสยฺยุํ. เย มํ ตตฺถ สมนุยุฺเชยฺยุํ สมนุคาเหยฺยุํ สมนุภาเสยฺยุํ, เตสาหํ น สมฺปาเยยฺยํ. เยสาหํ น สมฺปาเยยฺยํ, โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต, โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. อิติ โส อนุโยคภยา อนุโยคปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ เม โน; โนติปิ เม โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.

๖๕. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา มนฺโท โหติ โมมูโห. โส มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เจ เม อสฺส, ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ, ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. ‘นตฺถิ ปโร โลโก…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ ปโร โลโก…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ ปโร โลโก…เป… ‘อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา …เป… ‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏทุกฺกฏานํ (สี. สฺยา. กํ.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘โหติ จ น จ โหติ [น โหติ จ (สี. ก.)] ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ เจ เม อสฺส, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ, ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.

๖๖. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาโท

๖๗. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ?

๖๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, อสฺสตฺตา นาม เทวา. สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต สฺุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ. โส เอวมาห – ‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ ปุพฺเพ นาโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย ปริณโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๖๙. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.

๗๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวีหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

๗๑. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตมารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.

๗๒. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.

๗๓. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

ทุติยภาณวาโร.

อปรนฺตกปฺปิกา

๗๔. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน, อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย [จตุจตฺตาลีสาย (สฺยา. กํ.)] วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ?

สฺีวาโท

๗๕. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ?

๗๖. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘อรูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ…เป… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ… เอกตฺตสฺี อตฺตา โหติ… นานตฺตสฺี อตฺตา โหติ… ปริตฺตสฺี อตฺตา โหติ… อปฺปมาณสฺี อตฺตา โหติ… เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ… เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา โหติ. สุขทุกฺขี อตฺตา โหติ. อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.

๗๗. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว โสฬสหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

อสฺีวาโท

๗๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ?

๗๙. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘อรูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ…เป… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.

๘๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

เนวสฺีนาสฺีวาโท

๘๑. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา, อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ?

๘๒. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา เนวสฺีนาสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ ‘อรูปี อตฺตา โหติ…เป… รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา เนวสฺีนาสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.

๘๓. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺหิ วตฺถูหิ…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

อุจฺเฉทวาโท

๘๔. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ?

๘๕. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (ก. ปี.)] – ‘ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๘๖. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา ทิพฺโพ รูปี กามาวจโร กพฬีการาหารภกฺโข. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๘๗. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา ทิพฺโพ รูปี มโนมโย สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๘๘. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ อากาสานฺจายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๘๙. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๙๐. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, โส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ อากิฺจฺายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๙๑. ‘ตมฺโ เอวมาห – ‘‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘สนฺตเมตํ ปณีตเมต’’นฺติ เนวสฺานาสฺายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.

๙๒. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว สตฺตหิ วตฺถูหิ…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาโท

๙๓. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ?

๙๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘‘ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.

๙๕. ‘‘ตมฺโ เอวมาห –‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? กามา หิ, โภ, อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, เตสํ วิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.

๙๖. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ วิตกฺกิตํ วิจาริตํ, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.

๙๗. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ ปีติคตํ เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.

๙๘. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ สุขมิติ เจตโส อาโภโค, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.

๙๙. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ปฺจหิ วตฺถูหิ…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

๑๐๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

๑๐๑. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ.

๑๐๒. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.

๑๐๓. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.

๑๐๔. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.

ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตวาโร

๑๐๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๐๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๐๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๐๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๐๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

๑๑๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.

ผสฺสปจฺจยาวาโร

๑๑๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๑๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๒๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

๑๓๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.

เนตํ านํ วิชฺชติวาโร

๑๓๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจ อสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา, อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๓๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๔๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๔๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๔๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๔๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

ทิฏฺิคติกาธิฏฺานวฏฺฏกถา

๑๔๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา…เป… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, สพฺเพ เต ฉหิ ผสฺสายตเนหิ ผุสฺส ผุสฺส ปฏิสํเวเทนฺติ เตสํ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ.

วิวฏฺฏกถาทิ

๑๔๕. ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อิเมหิ สพฺเพเหว อุตฺตริตรํ ปชานาติ.

๑๔๖. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ อนฺโตชาลีกตา, เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ, เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข เกวฏฺโฏ วา เกวฏฺฏนฺเตวาสี วา สุขุมจฺฉิเกน ชาเลน ปริตฺตํ อุทกทหํ [อุทกรหทํ (สี. สฺยา. ปี.)] โอตฺถเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เย โข เกจิ อิมสฺมึ อุทกทเห โอฬาริกา ปาณา, สพฺเพ เต อนฺโตชาลีกตา. เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ; เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺตี’ติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ อนฺโตชาลีกตา เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ, เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ.

๑๔๗. ‘‘อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ. ยาวสฺส กาโย สฺสติ, ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา. กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อมฺพปิณฺฑิยา วณฺฏจฺฉินฺนาย ยานิ กานิจิ อมฺพานิ วณฺฏปฏิพนฺธานิ [วณฺฏูปนิพนฺธนานิ (สี. ปี.), วณฺฑปฏิพทฺธานิ (ก.)], สพฺพานิ ตานิ ตทนฺวยานิ ภวนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ, ยาวสฺส กาโย สฺสติ, ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา, กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา’’ติ.

๑๔๘. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, โก นาโม อยํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย’’ติ? ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อานนฺท, อิมํ ธมฺมปริยายํ อตฺถชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, ธมฺมชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, พฺรหฺมชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, ทิฏฺิชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, อนุตฺตโร สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหี’’ติ. อิทมโวจ ภควา.

๑๔๙. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน ทสสหสฺสี [สหสฺสี (กตฺถจิ)] โลกธาตุ อกมฺปิตฺถาติ.

พฺรหฺมชาลสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. สามฺผลสุตฺตํ

ราชามจฺจกถา

๑๕๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส โกมุทิยา จาตุมาสินิยา ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ราชามจฺจปริวุโต อุปริปาสาทวรคโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตทหุโปสเถ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘รมณียา วต โภ โทสินา รตฺติ, อภิรูปา วต โภ โทสินา รตฺติ, ทสฺสนียา วต โภ โทสินา รตฺติ, ปาสาทิกา วต โภ โทสินา รตฺติ, ลกฺขฺา วต โภ โทสินา รตฺติ. กํ นุ ขฺวชฺช สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปยิรุปาเสยฺยาม, ยํ โน ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ?

๑๕๑. เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, ปูรโณ กสฺสโป สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว ปูรณํ กสฺสปํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส ปูรณํ กสฺสปํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

๑๕๒. อฺตโรปิ โข ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, มกฺขลิ โคสาโล สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว มกฺขลึ โคสาลํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส มกฺขลึ โคสาลํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

๑๕๓. อฺตโรปิ โข ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, อชิโต เกสกมฺพโล สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว อชิตํ เกสกมฺพลํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส อชิตํ เกสกมฺพลํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

๑๕๔. อฺตโรปิ โข ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, ปกุโธ [ปกุทฺโธ (สี.)] กจฺจายโน สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว ปกุธํ กจฺจายนํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส ปกุธํ กจฺจายนํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

๑๕๕. อฺตโรปิ โข ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, สฺจโย [สฺชโย (สี. สฺยา.)] เพลฏฺปุตฺโต [เพลฺลฏฺิปุตฺโต (สี.), เวลฏฺปุตฺโต (สฺยา.)] สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว สฺจยํ เพลฏฺปุตฺตํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส สฺจยํ เพลฏฺปุตฺตํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

๑๕๖. อฺตโรปิ โข ราชามจฺโจ ราชานํ มาคธํ อชาตสตฺตุํ เวเทหิปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี.), นาตปุตฺโต (ปี.)] สงฺฆี เจว คณี จ คณาจริโย จ าโต ยสสฺสี ติตฺถกโร สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. ตํ เทโว นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

โกมารภจฺจชีวกกถา

๑๕๗. เตน โข ปน สมเยน ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส อวิทูเร ตุณฺหีภูโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘ตฺวํ ปน, สมฺม ชีวก, กึ ตุณฺหี’’ติ? ‘‘อยํ, เทว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อมฺหากํ อมฺพวเน วิหรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. ตํ โข ปน ภควนฺตํ [ภควนฺตํ โคตมํ (สี. ก. ปี.)] เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตํ เทโว ภควนฺตํ ปยิรุปาสตุ. อปฺเปว นาม เทวสฺส ภควนฺตํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’ติ.

๑๕๘. ‘‘เตน หิ, สมฺม ชีวก, หตฺถิยานานิ กปฺปาเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา ปฺจมตฺตานิ หตฺถินิกาสตานิ กปฺปาเปตฺวา รฺโ จ อาโรหณียํ นาคํ, รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘‘กปฺปิตานิ โข เต, เทว, หตฺถิยานานิ, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’’ติ.

๑๕๙. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ปฺจสุ หตฺถินิกาสเตสุ ปจฺเจกา อิตฺถิโย อาโรเปตฺวา อาโรหณียํ นาคํ อภิรุหิตฺวา อุกฺกาสุ ธาริยมานาสุ ราชคหมฺหา นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน, เยน ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวนํ เตน ปายาสิ.

อถ โข รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส อวิทูเร อมฺพวนสฺส อหุเทว ภยํ, อหุ ฉมฺภิตตฺตํ, อหุ โลมหํโส. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ มํ, สมฺม ชีวก, น วฺเจสิ? กจฺจิ มํ, สมฺม ชีวก, น ปลมฺเภสิ? กจฺจิ มํ, สมฺม ชีวก, น ปจฺจตฺถิกานํ เทสิ? กถฺหิ นาม ตาว มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฑฺฒเตฬสานํ ภิกฺขุสตานํ เนว ขิปิตสทฺโท ภวิสฺสติ, น อุกฺกาสิตสทฺโท น นิคฺโฆโส’’ติ.

‘‘มา ภายิ, มหาราช, มา ภายิ, มหาราช. น ตํ เทว, วฺเจมิ; น ตํ, เทว, ปลมฺภามิ; น ตํ, เทว, ปจฺจตฺถิกานํ เทมิ. อภิกฺกม, มหาราช, อภิกฺกม, มหาราช, เอเต มณฺฑลมาเฬ ทีปา [ปทีปา (สี. สฺยา.)] ฌายนฺตี’’ติ.

สามฺผลปุจฺฉา

๑๖๐. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ยาวติกา นาคสฺส ภูมิ นาเคน คนฺตฺวา, นาคา ปจฺโจโรหิตฺวา, ปตฺติโกว [ปทิโกว (สฺยา.)] เยน มณฺฑลมาฬสฺส ทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ ปน, สมฺม ชีวก, ภควา’’ติ? ‘‘เอโส, มหาราช, ภควา; เอโส, มหาราช, ภควา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน ปุรกฺขโต ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ.

๑๖๑. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา รหทมิว วิปฺปสนฺนํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อิมินา เม อุปสเมน อุทยภทฺโท [อุทายิภทฺโท (สี. ปี.)] กุมาโร สมนฺนาคโต โหตุ, เยเนตรหิ อุปสเมน ภิกฺขุสงฺโฆ สมนฺนาคโต’’ติ. ‘‘อคมา โข ตฺวํ, มหาราช, ยถาเปม’’นฺติ. ‘‘ปิโย เม, ภนฺเต, อุทยภทฺโท กุมาโร. อิมินา เม, ภนฺเต, อุปสเมน อุทยภทฺโท กุมาโร สมนฺนาคโต โหตุ เยเนตรหิ อุปสเมน ภิกฺขุสงฺโฆ สมนฺนาคโต’’ติ.

๑๖๒. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฺชลึ ปณาเมตฺวา, เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุจฺเฉยฺยามหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ กิฺจิเทว เทสํ [กิฺจิเทว เทสํ เลสมตฺตํ (สฺยา. กํ. ก.)]; สเจ เม ภควา โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ, มหาราช, ยทากงฺขสี’’ติ.

๑๖๓. ‘‘ยถา นุ โข อิมานิ, ภนฺเต, ปุถุสิปฺปายตนานิ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสิกปุตฺตา อาฬาริกา กปฺปกา นฺหาปกา [นหาปิกา (สี.), นฺหาปิกา (สฺยา.)] สูทา มาลาการา รชกา เปสการา นฬการา กุมฺภการา คณกา มุทฺทิกา, ยานิ วา ปนฺานิปิ เอวํคตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ, เต ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สิปฺปผลํ อุปชีวนฺติ; เต เตน อตฺตานํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ [ปีเนนฺติ (กตฺถจิ)], มาตาปิตโร สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, ปุตฺตทารํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, สมณพฺราหฺมเณสุ [สมเณสุ พฺราหฺมเณสุ (ก.)] อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺเปนฺติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’’นฺติ?

๑๖๔. ‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ, มหาราช, อิมํ ปฺหํ อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ? ‘‘อภิชานามหํ, ภนฺเต, อิมํ ปฺหํ อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน เต, มหาราช, พฺยากรึสุ, สเจ เต อครุ ภาสสฺสู’’ติ. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ครุ, ยตฺถสฺส ภควา นิสินฺโน, ภควนฺตรูโป วา’’ติ [จาติ (สี. ก.)]. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ภาสสฺสู’’ติ.

ปูรณกสฺสปวาโท

๑๖๕. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน ปูรโณ กสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปูรเณน กสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ, ภนฺเต, ปูรณํ กสฺสปํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ กสฺสป, ปุถุสิปฺปายตนานิ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสิกปุตฺตา อาฬาริกา กปฺปกา นฺหาปกา สูทา มาลาการา รชกา เปสการา นฬการา กุมฺภการา คณกา มุทฺทิกา, ยานิ วา ปนฺานิปิ เอวํคตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ- เต ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สิปฺปผลํ อุปชีวนฺติ; เต เตน อตฺตานํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, มาตาปิตโร สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, ปุตฺตทารํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺเปนฺติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. สกฺกา นุ โข, โภ กสฺสป, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๖๖. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, ปูรโณ กสฺสโป มํ เอตทโวจ – ‘กโรโต โข, มหาราช, การยโต, ฉินฺทโต เฉทาปยโต, ปจโต ปาจาปยโต โสจยโต, โสจาปยโต, กิลมโต กิลมาปยโต, ผนฺทโต ผนฺทาปยโต, ปาณมติปาตาปยโต, อทินฺนํ อาทิยโต, สนฺธึ ฉินฺทโต, นิลฺโลปํ หรโต, เอกาคาริกํ กโรโต, ปริปนฺเถ ติฏฺโต, ปรทารํ คจฺฉโต, มุสา ภณโต, กโรโต น กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุฺชํ กเรยฺย, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณํ เจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปาจาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต ยชนฺโต ยชาเปนฺโต, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน นตฺถิ ปุฺํ, นตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม’ติ. อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, ปูรโณ กสฺสโป สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อกิริยํ พฺยากาสิ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, ปูรโณ กสฺสโป สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อกิริยํ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ปูรณสฺส กสฺสปสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิโกสิตฺวา อนตฺตมโน, อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา, ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต [อนิกฺกุชฺเชนฺโต (สฺยา. กํ. ก.)] อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ [ปกฺกามึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

มกฺขลิโคสาลวาโท

๑๖๗. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน มกฺขลิ โคสาโล เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา มกฺขลินา โคสาเลน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ, ภนฺเต, มกฺขลึ โคสาลํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ โคสาล, ปุถุสิปฺปายตนานิ…เป… สกฺกา นุ โข, โภ โคสาล, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๖๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, มกฺขลิ โคสาโล มํ เอตทโวจ – ‘นตฺถิ มหาราช เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, อเหตู [อเหตุ (กตฺถจิ)] อปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, อเหตู อปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. นตฺถิ อตฺตกาเร, นตฺถิ ปรกาเร, นตฺถิ ปุริสกาเร, นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโม. สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสงฺคติภาวปริณตา ฉสฺเววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ [สุขฺจ ทุกฺขฺจ (สฺยา.)] ปฏิสํเวเทนฺติ. จุทฺทส โข ปนิมานิ โยนิปมุขสตสหสฺสานิ สฏฺิ จ สตานิ ฉ จ สตานิ ปฺจ จ กมฺมุโน สตานิ ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานิ กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จ ทฺวฏฺิปฏิปทา ทฺวฏฺนฺตรกปฺปา ฉฬาภิชาติโย อฏฺ ปุริสภูมิโย เอกูนปฺาส อาชีวกสเต เอกูนปฺาส ปริพฺพาชกสเต เอกูนปฺาส นาคาวาสสเต วีเส อินฺทฺริยสเต ตึเส นิรยสเต ฉตฺตึส รโชธาตุโย สตฺต สฺีคพฺภา สตฺต อสฺีคพฺภา สตฺต นิคณฺิคพฺภา สตฺต เทวา สตฺต มานุสา สตฺต ปิสาจา สตฺต สรา สตฺต ปวุฏา [สปุฏา (ก.), ปพุฏา (สี.)] สตฺต ปวุฏสตานิ สตฺต ปปาตา สตฺต ปปาตสตานิ สตฺต สุปินา สตฺต สุปินสตานิ จุลฺลาสีติ มหากปฺปิโน [มหากปฺปุโน (ก. สี. ปี.)] สตสหสฺสานิ, ยานิ พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. ตตฺถ นตฺถิ ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา อปริปกฺกํ วา กมฺมํ ปริปาเจสฺสามิ, ปริปกฺกํ วา กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กริสฺสามี’ติ เหวํ นตฺถิ. โทณมิเต สุขทุกฺเข ปริยนฺตกเต สํสาเร, นตฺถิ หายนวฑฺฒเน, นตฺถิ อุกฺกํสาวกํเส. เสยฺยถาปิ นาม สุตฺตคุเฬ ขิตฺเต นิพฺเพิยมานเมว ปเลติ, เอวเมว พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’ติ.

๑๖๙. ‘‘อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, มกฺขลิ โคสาโล สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน สํสารสุทฺธึ พฺยากาสิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, มกฺขลิ โคสาโล สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน สํสารสุทฺธึ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, มกฺขลิสฺส โคสาลสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อนตฺตมโน, อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา, ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ.

อชิตเกสกมฺพลวาโท

๑๗๐. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน อชิโต เกสกมฺพโล เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา อชิเตน เกสกมฺพเลน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ, ภนฺเต, อชิตํ เกสกมฺพลํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ อชิต, ปุถุสิปฺปายตนานิ…เป… สกฺกา นุ โข, โภ อชิต, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๗๑. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อชิโต เกสกมฺพโล มํ เอตทโวจ – ‘นตฺถิ, มหาราช, ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก [ปรโลโก (สฺยา.)], นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา [สมคฺคตา (ก.), สมคฺคตา (สฺยา.)] สมฺมาปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ. จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส, ยทา กาลงฺกโรติ, ปถวี ปถวิกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป อาโปกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, เตโช เตโชกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ. อาสนฺทิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ. ยาวาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ. กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ, ภสฺสนฺตา อาหุติโย. ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ. เตสํ ตุจฺฉํ มุสา วิลาโป เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ. พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ, น โหนฺติ ปรํ มรณา’ติ.

๑๗๒. ‘‘อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, อชิโต เกสกมฺพโล สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อุจฺเฉทํ พฺยากาสิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, อชิโต เกสกมฺพโล สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อุจฺเฉทํ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, อชิตสฺส เกสกมฺพลสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อนตฺตมโน อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ.

ปกุธกจฺจายนวาโท

๑๗๓. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน ปกุโธ กจฺจายโน เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปกุเธน กจฺจายเนน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ, ภนฺเต, ปกุธํ กจฺจายนํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ กจฺจายน, ปุถุสิปฺปายตนานิ…เป… สกฺกา นุ โข, โภ กจฺจายน, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๗๔. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, ปกุโธ กจฺจายโน มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, มหาราช, กายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา. เต น อิฺชนฺติ, น วิปริณมนฺติ, น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ, นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. กตเม สตฺต? ปถวิกาโย, อาโปกาโย, เตโชกาโย, วาโยกาโย, สุเข, ทุกฺเข, ชีเว สตฺตเม – อิเม สตฺต กายา อกฏา อกฏวิธา อนิมฺมิตา อนิมฺมาตา วฺฌา กูฏฏฺา เอสิกฏฺายิฏฺิตา. เต น อิฺชนฺติ, น วิปริณมนฺติ, น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ, นาลํ อฺมฺสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วา. ตตฺถ นตฺถิ หนฺตา วา ฆาเตตา วา, โสตา วา สาเวตา วา, วิฺาตา วา วิฺาเปตา วา. โยปิ ติณฺเหน สตฺเถน สีสํ ฉินฺทติ, น โกจิ กิฺจิ [กฺจิ (กํ.)] ชีวิตา โวโรเปติ; สตฺตนฺนํ ตฺเวว [สตฺตนฺนํ เยว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กายานมนฺตเรน สตฺถํ วิวรมนุปตตี’ติ.

๑๗๕. ‘‘อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, ปกุโธ กจฺจายโน สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อฺเน อฺํ พฺยากาสิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, ปกุโธ กจฺจายโน สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน อฺเน อฺํ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ปกุธสฺส กจฺจายนสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อนตฺตมโน, อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ.

นิคณฺนาฏปุตฺตวาโท

๑๗๖. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺเน นาฏปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ, ภนฺเต, นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ อคฺคิเวสฺสน, ปุถุสิปฺปายตนานิ…เป… สกฺกา นุ โข, โภ อคฺคิเวสฺสน, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๗๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อิธ, มหาราช, นิคณฺโ จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, มหาราช, นิคณฺโ จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ? อิธ, มหาราช, นิคณฺโ สพฺพวาริวาริโต จ โหติ, สพฺพวาริยุตฺโต จ, สพฺพวาริธุโต จ, สพฺพวาริผุโฏ จ. เอวํ โข, มหาราช, นิคณฺโ จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. ยโต โข, มหาราช, นิคณฺโ เอวํ จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ; อยํ วุจฺจติ, มหาราช, นิคณฺโ [นิคณฺโ นาฏปุตฺโต (สฺยา. ก.)] คตตฺโต จ ยตตฺโต จ ิตตฺโต จา’ติ.

๑๗๘. ‘‘อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน จาตุยามสํวรํ พฺยากาสิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน จาตุยามสํวรํ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อนตฺตมโน อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ.

สฺจยเพลฏฺปุตฺตวาโท

๑๗๙. ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เยน สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา สฺจเยน เพลฏฺปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทึ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อหํ ภนฺเต, สฺจยํ เพลฏฺปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, โภ สฺจย, ปุถุสิปฺปายตนานิ…เป… สกฺกา นุ โข, โภ สฺจย, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๘๐. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อตฺถิ ปโร โลโกติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, อตฺถิ ปโร โลโกติ อิติ เจ เม อสฺส, อตฺถิ ปโร โลโกติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ. เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน. นตฺถิ ปโร โลโก…เป… อตฺถิ จ นตฺถิ จ ปโร โลโก…เป… เนวตฺถิ น นตฺถิ ปโร โลโก…เป… อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… อตฺถิ จ นตฺถิ จ สตฺตา โอปปาติกา…เป… เนวตฺถิ น นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป…อตฺถิ จ นตฺถิ จ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… เนวตฺถิ น นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อิติ เจ เม อสฺส, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ. เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ.

๑๘๑. ‘‘อิตฺถํ โข เม, ภนฺเต, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน วิกฺเขปํ พฺยากาสิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, อมฺพํ วา ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย; เอวเมว โข เม, ภนฺเต, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน วิกฺเขปํ พฺยากาสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อยฺจ อิเมสํ สมณพฺราหฺมณานํ สพฺพพาโล สพฺพมูฬฺโห. กถฺหิ นาม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุฏฺโ สมาโน วิกฺเขปํ พฺยากริสฺสตี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘กถฺหิ นาม มาทิโส สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา วิชิเต วสนฺตํ อปสาเทตพฺพํ มฺเยฺยา’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, สฺจยสฺส เพลฏฺปุตฺตสฺส ภาสิตํ เนว อภินนฺทึ นปฺปฏิกฺโกสึ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อนตฺตมโน อนตฺตมนวาจํ อนิจฺฉาเรตฺวา ตเมว วาจํ อนุคฺคณฺหนฺโต อนิกฺกุชฺชนฺโต อุฏฺายาสนา ปกฺกมึ.

ปมสนฺทิฏฺิกสามฺผลํ

๑๘๒. ‘‘โสหํ, ภนฺเต, ภควนฺตมฺปิ ปุจฺฉามิ – ‘ยถา นุ โข อิมานิ, ภนฺเต, ปุถุสิปฺปายตนานิ เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสิกปุตฺตา อาฬาริกา กปฺปกา นฺหาปกา สูทา มาลาการา รชกา เปสการา นฬการา กุมฺภการา คณกา มุทฺทิกา, ยานิ วา ปนฺานิปิ เอวํคตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ, เต ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สิปฺปผลํ อุปชีวนฺติ, เต เตน อตฺตานํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, มาตาปิตโร สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, ปุตฺตทารํ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, มิตฺตามจฺเจ สุเขนฺติ ปีเณนฺติ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺเปนฺติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ. สกฺกา นุ โข เม, ภนฺเต, เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’นฺติ?

๑๘๓. ‘‘สกฺกา, มหาราช. เตน หิ, มหาราช, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ เต อสฺส ปุริโส ทาโส กมฺมกาโร [กมฺมกโร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปุพฺพุฏฺายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที มุขุลฺโลกโก [มุขุลฺโลกิโก (สฺยา. กํ. ก.)]. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อจฺฉริยํ, วต โภ, อพฺภุตํ, วต โภ, ปุฺานํ คติ, ปุฺานํ วิปาโก. อยฺหิ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต มนุสฺโส; อหมฺปิ มนุสฺโส. อยฺหิ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เทโว มฺเ. อหํ ปนมฺหิสฺส ทาโส กมฺมกาโร ปุพฺพุฏฺายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที มุขุลฺโลกโก. โส วตสฺสาหํ ปุฺานิ กเรยฺยํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน กาเยน สํวุโต วิหเรยฺย, วาจาย สํวุโต วิหเรยฺย, มนสา สํวุโต วิหเรยฺย, ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺโ, อภิรโต ปวิเวเก. ตํ เจ เต ปุริสา เอวมาโรเจยฺยุํ – ‘ยคฺเฆ เทว ชาเนยฺยาสิ, โย เต โส ปุริโส [โย เต ปุริโส (สี. ก.)] ทาโส กมฺมกาโร ปุพฺพุฏฺายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที มุขุลฺโลกโก; โส, เทว, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน กาเยน สํวุโต วิหรติ, วาจาย สํวุโต วิหรติ, มนสา สํวุโต วิหรติ, ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺโ, อภิรโต ปวิเวเก’ติ. อปิ นุ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอตุ เม, โภ, โส ปุริโส, ปุนเทว โหตุ ทาโส กมฺมกาโร ปุพฺพุฏฺายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที มุขุลฺโลกโก’ติ?

๑๘๔. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อถ โข นํ มยเมว อภิวาเทยฺยามปิ, ปจฺจุฏฺเยฺยามปิ, อาสเนนปิ นิมนฺเตยฺยาม, อภินิมนฺเตยฺยามปิ นํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ, ธมฺมิกมฺปิสฺส รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทเหยฺยามา’’ติ.

๑๘๕. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต โหติ วา สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ โน วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต โหติ สนฺทิฏฺิกํ สามฺผล’’นฺติ. ‘‘อิทํ โข เต, มหาราช, มยา ปมํ ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺตฺต’’นฺติ.

ทุติยสนฺทิฏฺิกสามฺผลํ

๑๘๖. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อฺมฺปิ เอวเมว ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, มหาราช. เตน หิ, มหาราช, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ เต อสฺส ปุริโส กสฺสโก คหปติโก กรการโก ราสิวฑฺฒโก. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, ปุฺานํ คติ, ปุฺานํ วิปาโก. อยฺหิ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต มนุสฺโส, อหมฺปิ มนุสฺโส. อยฺหิ ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เทโว มฺเ. อหํ ปนมฺหิสฺส กสฺสโก คหปติโก กรการโก ราสิวฑฺฒโก. โส วตสฺสาหํ ปุฺานิ กเรยฺยํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ.

‘‘โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน กาเยน สํวุโต วิหเรยฺย, วาจาย สํวุโต วิหเรยฺย, มนสา สํวุโต วิหเรยฺย, ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺโ, อภิรโต ปวิเวเก. ตํ เจ เต ปุริสา เอวมาโรเจยฺยุํ – ‘ยคฺเฆ, เทว ชาเนยฺยาสิ, โย เต โส ปุริโส [โย เต ปุริโส (สี.)] กสฺสโก คหปติโก กรการโก ราสิวฑฺฒโก; โส เทว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน กาเยน สํวุโต วิหรติ, วาจาย สํวุโต วิหรติ, มนสา สํวุโต วิหรติ, ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺโ, อภิรโต ปวิเวเก’’ติ. อปิ นุ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอตุ เม, โภ, โส ปุริโส, ปุนเทว โหตุ กสฺสโก คหปติโก กรการโก ราสิวฑฺฒโก’ติ?

๑๘๗. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อถ โข นํ มยเมว อภิวาเทยฺยามปิ, ปจฺจุฏฺเยฺยามปิ, อาสเนนปิ นิมนฺเตยฺยาม, อภินิมนฺเตยฺยามปิ นํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ, ธมฺมิกมฺปิสฺส รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทเหยฺยามา’’ติ.

๑๘๘. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช? ยทิ เอวํ สนฺเต โหติ วา สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ โน วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต โหติ สนฺทิฏฺิกํ สามฺผล’’นฺติ. ‘‘อิทํ โข เต, มหาราช, มยา ทุติยํ ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺตฺต’’นฺติ.

ปณีตตรสามฺผลํ

๑๘๙. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อฺมฺปิ ทิฏฺเว ธมฺเม สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺเปตุํ อิเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจา’’ติ? ‘‘สกฺกา, มหาราช. เตน หิ, มหาราช, สุโณหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

๑๙๐. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อิธ, มหาราช, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ.

๑๙๑. ‘‘ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ.

๑๙๒. ‘‘โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.

๑๙๓. ‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน, ปริสุทฺธาชีโว สีลสมฺปนฺโน, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร [คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺู (ก.)], สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, สนฺตุฏฺโ.

จูฬสีลํ

๑๙๔. ‘‘กถฺจ, มหาราช, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ. นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย; อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา, อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ…เป… เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ. มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ. ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ. อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติ. เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

จูฬสีลํ นิฏฺิตํ.

มชฺฌิมสีลํ

๑๙๕. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ พีชคามภูตคามสมารมฺภํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ, อิติ เอวรูปา พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๑๙๖. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ สนฺนิธิการปริโภคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – อนฺนสนฺนิธึ ปานสนฺนิธึ วตฺถสนฺนิธึ ยานสนฺนิธึ สยนสนฺนิธึ คนฺธสนฺนิธึ อามิสสนฺนิธึ, อิติ วา อิติ เอวรูปา สนฺนิธิการปริโภคา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๑๙๗. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ วิสูกทสฺสนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – นจฺจํ คีตํ วาทิตํ เปกฺขํ อกฺขานํ ปาณิสฺสรํ เวตาฬํ กุมฺภถูณํ โสภนกํ จณฺฑาลํ วํสํ โธวนํ หตฺถิยุทฺธํ อสฺสยุทฺธํ มหึสยุทฺธํ อุสภยุทฺธํ อชยุทฺธํ เมณฺฑยุทฺธํ กุกฺกุฏยุทฺธํ วฏฺฏกยุทฺธํ ทณฺฑยุทฺธํ มุฏฺิยุทฺธํ นิพฺพุทฺธํ อุยฺโยธิกํ พลคฺคํ เสนาพฺยูหํ อนีกทสฺสนํ อิติ วา อิติ เอวรูปา วิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๑๙๘. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – อฏฺปทํ ทสปทํ อากาสํ ปริหารปถํ สนฺติกํ ขลิกํ ฆฏิกํ สลากหตฺถํ อกฺขํ ปงฺคจีรํ วงฺกกํ โมกฺขจิกํ จิงฺคุลิกํ ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ อกฺขริกํ มเนสิกํ ยถาวชฺชํ อิติ วา อิติ เอวรูปา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๑๙๙. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ โคนกํ จิตฺตกํ ปฏิกํ ปฏลิกํ ตูลิกํ วิกติกํ อุทฺทโลมึ เอกนฺตโลมึ กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ อชินปฺปเวณึ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ อิติ วา อิติ เอวรูปา อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๐. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – อุจฺฉาทนํ ปริมทฺทนํ นฺหาปนํ สมฺพาหนํ อาทาสํ อฺชนํ มาลาคนฺธวิเลปนํ มุขจุณฺณํ มุขเลปนํ หตฺถพนฺธํ สิขาพนฺธํ ทณฺฑํ นาฬิกํ อสึ [ขคฺคํ (สี. ปี.), อสึ ขคฺคํ (สฺยา. กํ.), ขคฺคํ อสึ (ก.)] ฉตฺตํ จิตฺรุปาหนํ อุณฺหีสํ มณึ วาลพีชนึ โอทาตานิ วตฺถานิ ทีฆทสานิ อิติ วา อิติ เอวรูปา มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๑. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ [อิตฺถิกถํ ปุริสกถํ กุมารกถํ กุมาริกถํ (ก.)] สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานกถาย ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๒. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ, มิจฺฉา ปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมา ปฏิปนฺโน, สหิตํ เม, อสหิตํ เต, ปุเร วจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉา วจนียํ ปุเร อวจ, อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย วิคฺคาหิกกถาย ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๓. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปํ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – รฺํ, ราชมหามตฺตานํ, ขตฺติยานํ, พฺราหฺมณานํ, คหปติกานํ, กุมารานํ – ‘อิธ คจฺฉ, อมุตฺราคจฺฉ, อิทํ หร, อมุตฺร อิทํ อาหรา’ติ อิติ วา อิติ เอวรูปา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๔. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต กุหกา จ โหนฺติ ลปกา จ เนมิตฺติกา จ นิปฺเปสิกา จ ลาเภน ลาภํ นิชิคีํสิตาโร จ. อิติ เอวรูปา กุหนลปนา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ’’.

มชฺฌิมสีลํ นิฏฺิตํ.

มหาสีลํ

๒๐๕. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – องฺคํ นิมิตฺตํ อุปฺปาตํ สุปินํ ลกฺขณํ มูสิกจฺฉินฺนํ อคฺคิโหมํ ทพฺพิโหมํ ถุสโหมํ กณโหมํ ตณฺฑุลโหมํ สปฺปิโหมํ เตลโหมํ มุขโหมํ โลหิตโหมํ องฺควิชฺชา วตฺถุวิชฺชา ขตฺตวิชฺชา สิววิชฺชา ภูตวิชฺชา ภูริวิชฺชา อหิวิชฺชา วิสวิชฺชา วิจฺฉิกวิชฺชา มูสิกวิชฺชา สกุณวิชฺชา วายสวิชฺชา ปกฺกชฺฌานํ สรปริตฺตาณํ มิคจกฺกํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๖. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – มณิลกฺขณํ วตฺถลกฺขณํ ทณฺฑลกฺขณํ สตฺถลกฺขณํ อสิลกฺขณํ อุสุลกฺขณํ ธนุลกฺขณํ อาวุธลกฺขณํ อิตฺถิลกฺขณํ ปุริสลกฺขณํ กุมารลกฺขณํ กุมาริลกฺขณํ ทาสลกฺขณํ ทาสิลกฺขณํ หตฺถิลกฺขณํ อสฺสลกฺขณํ มหึสลกฺขณํ อุสภลกฺขณํ โคลกฺขณํ อชลกฺขณํ เมณฺฑลกฺขณํ กุกฺกุฏลกฺขณํ วฏฺฏกลกฺขณํ โคธาลกฺขณํ กณฺณิกลกฺขณํ กจฺฉปลกฺขณํ มิคลกฺขณํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๗. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – รฺํ นิยฺยานํ ภวิสฺสติ, รฺํ อนิยฺยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, อิติ อิมสฺส ชโย ภวิสฺสติ, อิมสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๘. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, สูริยคฺคาโห ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เทวทุทฺรภิ ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก สูริยคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก เทวทุทฺรภิ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๐๙. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – สุวุฏฺิกา ภวิสฺสติ, ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสติ, สุภิกฺขํ ภวิสฺสติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, เขมํ ภวิสฺสติ, ภยํ ภวิสฺสติ, โรโค ภวิสฺสติ, อาโรคฺยํ ภวิสฺสติ, มุทฺทา, คณนา, สงฺขานํ, กาเวยฺยํ, โลกายตํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๑๐. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – อาวาหนํ วิวาหนํ สํวรณํ วิวรณํ สงฺกิรณํ วิกิรณํ สุภคกรณํ ทุพฺภคกรณํ วิรุทฺธคพฺภกรณํ ชิวฺหานิพนฺธนํ หนุสํหนนํ หตฺถาภิชปฺปนํ หนุชปฺปนํ กณฺณชปฺปนํ อาทาสปฺหํ กุมาริกปฺหํ เทวปฺหํ อาทิจฺจุปฏฺานํ มหตุปฏฺานํ อพฺภุชฺชลนํ สิริวฺหายนํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๑๑. ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ ภูตกมฺมํ ภูริกมฺมํ วสฺสกมฺมํ โวสฺสกมฺมํ วตฺถุกมฺมํ วตฺถุปริกมฺมํ อาจมนํ นฺหาปนํ ชุหนํ วมนํ วิเรจนํ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ สีสวิเรจนํ กณฺณเตลํ เนตฺตตปฺปนํ นตฺถุกมฺมํ อฺชนํ ปจฺจฺชนํ สาลากิยํ สลฺลกตฺติยํ ทารกติกิจฺฉา, มูลเภสชฺชานํ อนุปฺปทานํ, โอสธีนํ ปฏิโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๒๑๒. ‘‘ส โข โส, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. เสยฺยถาปิ – มหาราช, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต นิหตปจฺจามิตฺโต กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ ปจฺจตฺถิกโต; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, มหาราช, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ.

มหาสีลํ นิฏฺิตํ.

อินฺทฺริยสํวโร

๒๑๓. ‘‘กถฺจ, มหาราช, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌา โทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌา โทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, มหาราช, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ.

สติสมฺปชฺํ

๒๑๔. ‘‘กถฺจ, มหาราช, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. เอวํ โข, มหาราช, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ.

สนฺโตโส

๒๑๕. ‘‘กถฺจ, มหาราช, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ, สปตฺตภาโรว เฑติ. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. เอวํ โข, มหาราช, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ.

นีวรณปฺปหานํ

๒๑๖. ‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

๒๑๗. ‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี, สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ, อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

๒๑๘. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชยฺย. ตสฺส เต กมฺมนฺตา สมิชฺเฌยฺยุํ. โส ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ, ตานิ จ พฺยนฺตึ กเรยฺย [พฺยนฺตีกเรยฺย (สี. สฺยา. กํ.)], สิยา จสฺส อุตฺตรึ อวสิฏฺํ ทารภรณาย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชสึ. ตสฺส เม เต กมฺมนฺตา สมิชฺฌึสุ. โสหํ ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ, ตานิ จ พฺยนฺตึ อกาสึ, อตฺถิ จ เม อุตฺตรึ อวสิฏฺํ ทารภรณายา’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๒๑๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส อาพาธิโก อสฺส ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน; ภตฺตฺจสฺส นจฺฉาเทยฺย, น จสฺส กาเย พลมตฺตา. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา อาพาธา มุจฺเจยฺย; ภตฺตํ จสฺส ฉาเทยฺย, สิยา จสฺส กาเย พลมตฺตา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อาพาธิโก อโหสึ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน; ภตฺตฺจ เม นจฺฉาเทสิ, น จ เม อาสิ [น จสฺส เม (ก.)] กาเย พลมตฺตา. โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา อาพาธา มุตฺโต; ภตฺตฺจ เม ฉาเทติ, อตฺถิ จ เม กาเย พลมตฺตา’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๒๒๐. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส พนฺธนาคาเร พทฺโธ อสฺส. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา พนฺธนาคารา มุจฺเจยฺย โสตฺถินา อพฺภเยน [อุพฺพเยน (สี. ก.)], น จสฺส กิฺจิ โภคานํ วโย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ พนฺธนาคาเร พทฺโธ อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา พนฺธนาคารา มุตฺโต โสตฺถินา อพฺภเยน. นตฺถิ จ เม กิฺจิ โภคานํ วโย’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๒๒๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ทาโส อสฺส อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโม. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา ทาสพฺยา มุจฺเจยฺย อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโม. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ ทาโส อโหสึ อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโม. โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา ทาสพฺยา มุตฺโต อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโม’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๒๒๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย ทุพฺภิกฺขํ สปฺปฏิภยํ. โส อปเรน สมเยน ตํ กนฺตารํ นิตฺถเรยฺย โสตฺถินา, คามนฺตํ อนุปาปุเณยฺย เขมํ อปฺปฏิภยํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชึ ทุพฺภิกฺขํ สปฺปฏิภยํ. โสมฺหิ เอตรหิ ตํ กนฺตารํ นิตฺถิณฺโณ โสตฺถินา, คามนฺตํ อนุปฺปตฺโต เขมํ อปฺปฏิภย’นฺติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๒๒๓. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ ยถา อิณํ ยถา โรคํ ยถา พนฺธนาคารํ ยถา ทาสพฺยํ ยถา กนฺตารทฺธานมคฺคํ, เอวํ อิเม ปฺจ นีวรเณ อปฺปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติ.

๒๒๔. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ยถา อาณณฺยํ ยถา อาโรคฺยํ ยถา พนฺธนาโมกฺขํ ยถา ภุชิสฺสํ ยถา เขมนฺตภูมึ; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติ.

๒๒๕. ‘‘ตสฺสิเม ปฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสโต ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ.

ปมชฺฌานํ

๒๒๖. ‘‘โส วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

๒๒๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ทกฺโข นฺหาปโก วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเนยฺย, สายํ นฺหานียปิณฺฑิ สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรตา สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน, น จ ปคฺฆรณี; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

ทุติยชฺฌานํ

๒๒๘. ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

๒๒๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อุทกรหโท คมฺภีโร อุพฺภิโททโก [อุพฺภิโตทโก (สฺยา. กํ. ก.)] ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, เทโว จ น กาเลนกาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

ตติยชฺฌานํ

๒๓๐. ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

๒๓๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ [อภิสนฺทานิ ปริสนฺทานิ (ก.)] ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ [ปริปฺผุฏฺานิ (ปี.)], นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวตํ อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

จตุตฺถชฺฌานํ

๒๓๒. ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ.

๒๓๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน อสฺส, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

วิปสฺสนาาณํ

๒๓๔. ‘‘โส [ปุน จปรํ มหาราช ภิกฺขุ โส (ก.)] เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทน-ปริมทฺทน-เภทน-วิทฺธํสน-ธมฺโม; อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’นฺติ.

๒๓๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺราสฺส สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา [ปีตกํ วา โลหิตกํ วา (ก.)] โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน; ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม; อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’นฺติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

มโนมยิทฺธิาณํ

๒๓๖. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต มโนมยํ กายํ อภินิมฺมานาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ.

๒๓๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส มุฺชมฺหา อีสิกํ ปวาเหยฺย [ปพฺพาเหยฺย (สฺยา. ก.)]. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ มุฺโช, อยํ อีสิกา, อฺโ มุฺโช, อฺา อีสิกา, มุฺชมฺหา ตฺเวว อีสิกา ปวาฬฺหา’ติ [ปพฺพาฬฺหาติ (สฺยา. ก.)]. เสยฺยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อสึ โกสิยา ปวาเหยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อสิ, อยํ โกสิ, อฺโ อสิ, อฺา โกสิ, โกสิยา ตฺเวว อสิ ปวาฬฺโห’’ติ. เสยฺยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อหิ, อยํ กรณฺโฑ. อฺโ อหิ, อฺโ กรณฺโฑ, กรณฺฑา ตฺเวว อหิ อุพฺภโต’ติ [อุทฺธริโต (สฺยา. กํ.)]. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต มโนมยํ กายํ อภินิมฺมานาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

อิทฺธิวิธาณํ

๒๓๘. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อิทฺธิวิธาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส. ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ เสยฺยถาปิ อุทเก. อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ [อภิชฺชมาโน (สี. ก.)] เสยฺยถาปิ ปถวิยา. อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

๒๓๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ทกฺโข กุมฺภกาโร วา กุมฺภการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตาย มตฺติกาย ยํ ยเทว ภาชนวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เสยฺยถา วา ปน, มหาราช, ทกฺโข ทนฺตกาโร วา ทนฺตการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ ทนฺตสฺมึ ยํ ยเทว ทนฺตวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เสยฺยถา วา ปน, มหาราช, ทกฺโข สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ สุวณฺณสฺมึ ยํ ยเทว สุวณฺณวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อิทฺธิวิธาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส. ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ เสยฺยถาปิ อุทเก. อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ ปถวิยา. อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

ทิพฺพโสตาณํ

๒๔๐. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ทิพฺพาย โสตธาตุยา จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ.

๒๔๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน. โส สุเณยฺย เภริสทฺทมฺปิ มุทิงฺคสทฺทมฺปิ [มุติงฺคสทฺทมฺปิ (สี. ปี.)] สงฺขปณวทินฺทิมสทฺทมฺปิ [สงฺขปณวเทณฺฑิมสทฺทมฺปิ (สี. ปี.), สงฺขสทฺทํปิ ปณวสทฺทํปิ เทนฺทิมสทฺทํปิ (สฺยา. กํ.)]. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เภริสทฺโท’ อิติปิ, ‘มุทิงฺคสทฺโท’ อิติปิ, ‘สงฺขปณวทินฺทิมสทฺโท’ อิติปิ [สงฺขสทฺโท อิติปิ ปณวสทฺโท อิติปิ เทนฺทิมสทฺโท อิติปิ (สฺยา. กํ.)]. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ทิพฺพาย โสตธาตุยา จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

เจโตปริยาณํ

๒๔๒. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สงฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สงฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

๒๔๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทกปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สกณิกํ วา ‘สกณิก’นฺติ ชาเนยฺย, อกณิกํ วา ‘อกณิก’นฺติ ชาเนยฺย; เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สงฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สงฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ

๒๔๔. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

๒๔๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส สกมฺหา คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย, ตมฺหาปิ คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย. โส ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข สกมฺหา คามา อมุํ คามํ อคจฺฉึ [อคฺฉึ (สฺยา. กํ.)], ตตฺราปิ เอวํ อฏฺาสึ, เอวํ นิสีทึ, เอวํ อภาสึ, เอวํ ตุณฺหี อโหสึ, ตมฺหาปิ คามา อมุํ คามํ อคจฺฉึ, ตตฺราปิ เอวํ อฏฺาสึ, เอวํ นิสีทึ, เอวํ อภาสึ, เอวํ ตุณฺหี อโหสึ, โสมฺหิ ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคโต’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

ทิพฺพจกฺขุาณํ

๒๔๖. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

๒๔๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, มชฺเฌ สิงฺฆาฏเก ปาสาโท. ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ิโต ปสฺเสยฺย มนุสฺเส เคหํ ปวิสนฺเตปิ นิกฺขมนฺเตปิ รถิกายปิ วีถึ สฺจรนฺเต [รถิยาปี รถึ สฺจรนฺเต (สี.), รถิยาย วิถึ สฺจรนฺเตปิ (สฺยา.)] มชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสินฺเนปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เอเต มนุสฺสา เคหํ ปวิสนฺติ, เอเต นิกฺขมนฺติ, เอเต รถิกาย วีถึ สฺจรนฺติ, เอเต มชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสินฺนา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต; ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. ‘อิทมฺปิ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ.

อาสวกฺขยาณํ

๒๔๘. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิเม อาสวาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิ’ติ าณํ โหติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ.

๒๔๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปพฺพตสงฺเขเป อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล. ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย สิปฺปิสมฺพุกมฺปิ สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ โข อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล. ตตฺริเม สิปฺปิสมฺพุกาปิ สกฺขรกถลาปิ มจฺฉคุมฺพาปิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. ‘โส อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘อิเม อาสวาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อิทํ โข, มหาราช, สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปุริเมหิ สนฺทิฏฺิเกหิ สามฺผเลหิ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ. อิมสฺมา จ ปน, มหาราช, สนฺทิฏฺิกา สามฺผลา อฺํ สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา นตฺถี’’ติ.

อชาตสตฺตุอุปาสกตฺตปฏิเวทนา

๒๕๐. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ, ภนฺเต, ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ. อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ ปิตรํ ธมฺมิกํ ธมฺมราชานํ อิสฺสริยการณา ชีวิตา โวโรเปสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ.

๒๕๑. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, มหาราช, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ ปิตรํ ธมฺมิกํ ธมฺมราชานํ ชีวิตา โวโรเปสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, มหาราช, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิเหสา, มหาราช, อริยสฺส วินเย, โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ.

๒๕๒. เอวํ วุตฺเต, ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท จ ทานิ มยํ, ภนฺเต, คจฺฉาม พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, มหาราช, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

๒๕๓. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ขตายํ, ภิกฺขเว, ราชา. อุปหตายํ, ภิกฺขเว, ราชา. สจายํ, ภิกฺขเว, ราชา ปิตรํ ธมฺมิกํ ธมฺมราชานํ ชีวิตา น โวโรเปสฺสถ, อิมสฺมิฺเว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุปฺปชฺชิสฺสถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

สามฺผลสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. อมฺพฏฺสุตฺตํ

๒๕๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน อิจฺฉานงฺคลํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ.

โปกฺขรสาติวตฺถุ

๒๕๕. เตน โข ปน สมเยน พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อุกฺกฏฺํ [โปกฺขรสาตี (สี.), โปกฺขรสาทิ (ปี.)] อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ. อสฺโสสิ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ อิจฺฉานงฺคลํ อนุปฺปตฺโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ [ภควาติ (สฺยา. กํ.), อุปริโสณทณฺฑสุตฺตาทีสุปิ พุทฺธคุณกถายํ เอวเมว ทิสฺสติ]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ, สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.

อมฺพฏฺมาณโว

๒๕๖. เตน โข ปน สมเยน พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส อมฺพฏฺโ นาม มาณโว อนฺเตวาสี โหติ อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ [เพทานํ (ก.)] ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย อนุฺาตปฏิฺาโต สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปาวจเน – ‘‘ยมหํ ชานามิ, ตํ ตฺวํ ชานาสิ; ยํ ตฺวํ ชานาสิ ตมหํ ชานามี’’ติ.

๒๕๗. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อมฺพฏฺํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, ตาต อมฺพฏฺ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ อิจฺฉานงฺคลํ อนุปฺปตฺโต อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ, สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตีติ. เอหิ ตฺวํ ตาต อมฺพฏฺ, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ ชานาหิ, ยทิ วา ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถาสนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต, ยทิ วา โน ตถา. ยทิ วา โส ภวํ โคตโม ตาทิโส, ยทิ วา น ตาทิโส, ตถา มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ เวทิสฺสามา’’ติ.

๒๕๘. ‘‘ยถา กถํ ปนาหํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามิ – ‘ยทิ วา ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถาสนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต, ยทิ วา โน ตถา. ยทิ วา โส ภวํ โคตโม ตาทิโส, ยทิ วา น ตาทิโส’’’ติ?

‘‘อาคตานิ โข, ตาต อมฺพฏฺ, อมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺตึส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. อหํ โข ปน, ตาต อมฺพฏฺ, มนฺตานํ ทาตา; ตฺวํ มนฺตานํ ปฏิคฺคเหตา’’ติ.

๒๕๙. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข อมฺพฏฺโ มาณโว พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา พฺราหฺมณํ โปกฺขรสาตึ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา วฬวารถมารุยฺห สมฺพหุเลหิ มาณวเกหิ สทฺธึ เยน อิจฺฉานงฺคลวนสณฺโฑ เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อารามํ ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู อพฺโภกาเส จงฺกมนฺติ. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, โภ, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ? ตฺหิ มยํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อิธูปสงฺกนฺตา’’ติ.

๒๖๐. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อมฺพฏฺโ มาณโว อภิฺาตโกลฺโ เจว อภิฺาตสฺส จ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส อนฺเตวาสี. อครุ โข ปน ภควโต เอวรูเปหิ กุลปุตฺเตหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป โหตี’’ติ. เต อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอโส อมฺพฏฺ วิหาโร สํวุตทฺวาโร, เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาฬินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏหิ, วิวริสฺสติ เต ภควา ทฺวาร’’นฺติ.

๒๖๑. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว เยน โส วิหาโร สํวุตทฺวาโร, เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาฬินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏสิ. วิวริ ภควา ทฺวารํ. ปาวิสิ อมฺพฏฺโ มาณโว. มาณวกาปิ ปวิสิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อมฺพฏฺโ ปน มาณโว จงฺกมนฺโตปิ นิสินฺเนน ภควตา กฺจิ กฺจิ [กิฺจิ กิฺจิ (ก.)] กถํ สารณียํ วีติสาเรติ, ิโตปิ นิสินฺเนน ภควตา กิฺจิ กิฺจิ กถํ สารณียํ วีติสาเรติ.

๒๖๒. อถ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํ นุ เต, อมฺพฏฺ, พฺราหฺมเณหิ วุทฺเธหิ มหลฺลเกหิ อาจริยปาจริเยหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป โหติ, ยถยิทํ จรํ ติฏฺํ นิสินฺเนน มยา กิฺจิ กิฺจิ กถํ สารณียํ วีติสาเรตี’’ติ?

ปมอิพฺภวาโท

๒๖๓. ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม. คจฺฉนฺโต วา หิ, โภ โคตม, คจฺฉนฺเตน พฺราหฺมโณ พฺราหฺมเณน สทฺธึ สลฺลปิตุมรหติ, ิโต วา หิ, โภ โคตม, ิเตน พฺราหฺมโณ พฺราหฺมเณน สทฺธึ สลฺลปิตุมรหติ, นิสินฺโน วา หิ, โภ โคตม, นิสินฺเนน พฺราหฺมโณ พฺราหฺมเณน สทฺธึ สลฺลปิตุมรหติ, สยาโน วา หิ, โภ โคตม, สยาเนน พฺราหฺมโณ พฺราหฺมเณน สทฺธึ สลฺลปิตุมรหติ. เย จ โข เต, โภ โคตม, มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กณฺหา [กิณฺหา (ก. สี. ปี.)] พนฺธุปาทาปจฺจา, เตหิปิ เม สทฺธึ เอวํ กถาสลฺลาโป โหติ, ยถริว โภตา โคตเมนา’’ติ. ‘‘อตฺถิกวโต โข ปน เต, อมฺพฏฺ, อิธาคมนํ อโหสิ, ยาเยว โข ปนตฺถาย อาคจฺเฉยฺยาถ [อาคจฺเฉยฺยาโถ (สี. ปี.)], ตเมว อตฺถํ สาธุกํ มนสิ กเรยฺยาถ [มนสิกเรยฺยาโถ (สี. ปี.)]. อวุสิตวาเยว โข ปน โภ อยํ อมฺพฏฺโ มาณโว วุสิตมานี กิมฺตฺร อวุสิตตฺตา’’ติ.

๒๖๔. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว ภควตา อวุสิตวาเทน วุจฺจมาโน กุปิโต อนตฺตมโน ภควนฺตํเยว ขุํเสนฺโต ภควนฺตํเยว วมฺเภนฺโต ภควนฺตํเยว อุปวทมาโน – ‘‘สมโณ จ เม, โภ, โคตโม ปาปิโต ภวิสฺสตี’’ติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘จณฺฑา, โภ โคตม, สกฺยชาติ; ผรุสา, โภ โคตม, สกฺยชาติ; ลหุสา, โภ โคตม, สกฺยชาติ; ภสฺสา, โภ โคตม, สกฺยชาติ; อิพฺภา สนฺตา อิพฺภา สมานา น พฺราหฺมเณ สกฺกโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], น พฺราหฺมเณ มาเนนฺติ, น พฺราหฺมเณ ปูเชนฺติ, น พฺราหฺมเณ อปจายนฺติ. ตยิทํ, โภ โคตม, นจฺฉนฺนํ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยทิเม สกฺยา อิพฺภา สนฺตา อิพฺภา สมานา น พฺราหฺมเณ สกฺกโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ ครุํ กโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ มาเนนฺติ, น พฺราหฺมเณ ปูเชนฺติ, น พฺราหฺมเณ อปจายนฺตี’’ติ. อิติห อมฺพฏฺโ มาณโว อิทํ ปมํ สกฺเยสุ อิพฺภวาทํ นิปาเตสิ.

ทุติยอิพฺภวาโท

๒๖๕. ‘‘กึ ปน เต, อมฺพฏฺ, สกฺยา อปรทฺธุ’’นฺติ? ‘‘เอกมิทาหํ, โภ โคตม, สมยํ อาจริยสฺส พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส เกนจิเทว กรณีเยน กปิลวตฺถุํ อคมาสึ. เยน สกฺยานํ สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา สกฺยา เจว สกฺยกุมารา จ สนฺธาคาเร [สนฺถาคาเร (สี. ปี.)] อุจฺเจสุ อาสเนสุ นิสินฺนา โหนฺติ อฺมฺํ องฺคุลิปโตทเกหิ [องฺคุลิปโตทเกน (ปี.)] สฺชคฺฆนฺตา สํกีฬนฺตา, อฺทตฺถุ มมฺเว มฺเ อนุชคฺฆนฺตา, น มํ โกจิ อาสเนนปิ นิมนฺเตสิ. ตยิทํ, โภ โคตม, นจฺฉนฺนํ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยทิเม สกฺยา อิพฺภา สนฺตา อิพฺภา สมานา น พฺราหฺมเณ สกฺกโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ ครุํ กโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ มาเนนฺติ, น พฺราหฺมเณ ปูเชนฺติ, น พฺราหฺมเณ อปจายนฺตี’’ติ. อิติห อมฺพฏฺโ มาณโว อิทํ ทุติยํ สกฺเยสุ อิพฺภวาทํ นิปาเตสิ.

ตติยอิพฺภวาโท

๒๖๖. ‘‘ลฏุกิกาปิ โข, อมฺพฏฺ, สกุณิกา สเก กุลาวเก กามลาปินี โหติ. สกํ โข ปเนตํ, อมฺพฏฺ, สกฺยานํ ยทิทํ กปิลวตฺถุํ, นารหตายสฺมา อมฺพฏฺโ อิมาย อปฺปมตฺตาย อภิสชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา – ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา. อิเมสฺหิ, โภ โคตม, จตุนฺนํ วณฺณานํ ตโย วณฺณา – ขตฺติยา จ เวสฺสา จ สุทฺทา จ – อฺทตฺถุ พฺราหฺมณสฺเสว ปริจารกา สมฺปชฺชนฺติ. ตยิทํ, โภ โคตม, นจฺฉนฺนํ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยทิเม สกฺยา อิพฺภา สนฺตา อิพฺภา สมานา น พฺราหฺมเณ สกฺกโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ ครุํ กโรนฺติ, น พฺราหฺมเณ มาเนนฺติ, น พฺราหฺมเณ ปูเชนฺติ, น พฺราหฺมเณ อปจายนฺตี’’ติ. อิติห อมฺพฏฺโ มาณโว อิทํ ตติยํ สกฺเยสุ อิพฺภวาทํ นิปาเตสิ.

ทาสิปุตฺตวาโท

๒๖๗. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติพาฬฺหํ โข อยํ อมฺพฏฺโ มาณโว สกฺเยสุ อิพฺภวาเทน นิมฺมาเทติ, ยํนูนาหํ โคตฺตํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘กถํ โคตฺโตสิ, อมฺพฏฺา’’ติ? ‘‘กณฺหายโนหมสฺมิ, โภ โคตมา’’ติ. โปราณํ โข ปน เต อมฺพฏฺ มาตาเปตฺติกํ นามโคตฺตํ อนุสฺสรโต อยฺยปุตฺตา สกฺยา ภวนฺติ; ทาสิปุตฺโต ตฺวมสิ สกฺยานํ. สกฺยา โข ปน, อมฺพฏฺ, ราชานํ โอกฺกากํ ปิตามหํ ทหนฺติ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, อมฺพฏฺ, ราชา โอกฺกาโก ยา สา มเหสี ปิยา มนาปา, ตสฺสา ปุตฺตสฺส รชฺชํ ปริณาเมตุกาโม เชฏฺกุมาเร รฏฺสฺมา ปพฺพาเชสิ – โอกฺกามุขํ กรกณฺฑํ [อุกฺกามุขํ กรกณฺฑุํ (สี. สฺยา.)] หตฺถินิกํ สินิสูรํ [สินิปุรํ (สี. สฺยา.)]. เต รฏฺสฺมา ปพฺพาชิตา หิมวนฺตปสฺเส โปกฺขรณิยา ตีเร มหาสากสณฺโฑ, ตตฺถ วาสํ กปฺเปสุํ. เต ชาติสมฺเภทภยา สกาหิ ภคินีหิ สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสุํ.

‘‘อถ โข, อมฺพฏฺ, ราชา โอกฺกาโก อมจฺเจ ปาริสชฺเช อามนฺเตสิ – ‘กหํ นุ โข, โภ, เอตรหิ กุมารา สมฺมนฺตี’ติ? ‘อตฺถิ, เทว, หิมวนฺตปสฺเส โปกฺขรณิยา ตีเร มหาสากสณฺโฑ, ตตฺเถตรหิ กุมารา สมฺมนฺติ. เต ชาติสมฺเภทภยา สกาหิ ภคินีหิ สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปนฺตี’ติ. อถ โข, อมฺพฏฺ, ราชา โอกฺกาโก อุทานํ อุทาเนสิ – ‘สกฺยา วต, โภ, กุมารา, ปรมสกฺยา วต, โภ, กุมารา’ติ. ตทคฺเค โข ปน อมฺพฏฺ สกฺยา ปฺายนฺติ; โส จ เนสํ ปุพฺพปุริโส.

‘‘รฺโ โข ปน, อมฺพฏฺ, โอกฺกากสฺส ทิสา นาม ทาสี อโหสิ. สา กณฺหํ นาม [สา กณฺหํ (ปี.)] ชเนสิ. ชาโต กณฺโห ปพฺยาหาสิ – ‘โธวถ มํ, อมฺม, นหาเปถ มํ อมฺม, อิมสฺมา มํ อสุจิสฺมา ปริโมเจถ, อตฺถาย โว ภวิสฺสามี’ติ. ยถา โข ปน อมฺพฏฺ เอตรหิ มนุสฺสา ปิสาเจ ทิสฺวา ‘ปิสาจา’ติ สฺชานนฺติ; เอวเมว โข, อมฺพฏฺ, เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ปิสาเจ ‘กณฺหา’ติ สฺชานนฺติ. เต เอวมาหํสุ – ‘อยํ ชาโต ปพฺยาหาสิ, กณฺโห ชาโต, ปิสาโจ ชาโต’ติ. ตทคฺเค โข ปน, อมฺพฏฺ กณฺหายนา ปฺายนฺติ, โส จ กณฺหายนานํ ปุพฺพปุริโส. อิติ โข เต, อมฺพฏฺ, โปราณํ มาตาเปตฺติกํ นามโคตฺตํ อนุสฺสรโต อยฺยปุตฺตา สกฺยา ภวนฺติ, ทาสิปุตฺโต ตฺวมสิ สกฺยาน’’นฺติ.

๒๖๘. เอวํ วุตฺเต, เต มาณวกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มา ภวํ โคตโม อมฺพฏฺํ อติพาฬฺหํ ทาสิปุตฺตวาเทน นิมฺมาเทสิ. สุชาโต จ, โภ โคตม อมฺพฏฺโ มาณโว, กุลปุตฺโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, พหุสฺสุโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, กลฺยาณวากฺกรโณ จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปณฺฑิโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปโหติ จ อมฺพฏฺโ มาณโว โภตา โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’’นฺติ.

๒๖๙. อถ โข ภควา เต มาณวเก เอตทโวจ – ‘‘สเจ โข ตุมฺหากํ มาณวกานํ เอวํ โหติ – ‘ทุชฺชาโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, อกุลปุตฺโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, อปฺปสฺสุโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, อกลฺยาณวากฺกรโณ จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ทุปฺปฺโ จ อมฺพฏฺโ มาณโว, น จ ปโหติ อมฺพฏฺโ มาณโว สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’นฺติ, ติฏฺตุ อมฺพฏฺโ มาณโว, ตุมฺเห มยา สทฺธึ มนฺตวฺโห อสฺมึ วจเน. สเจ ปน ตุมฺหากํ มาณวกานํ เอวํ โหติ – ‘สุชาโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, กุลปุตฺโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, พหุสฺสุโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, กลฺยาณวากฺกรโณ จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปณฺฑิโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปโหติ จ อมฺพฏฺโ มาณโว สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’นฺติ, ติฏฺถ ตุมฺเห; อมฺพฏฺโ มาณโว มยา สทฺธึ ปฏิมนฺเตตู’’ติ.

‘‘สุชาโต จ, โภ โคตม, อมฺพฏฺโ มาณโว, กุลปุตฺโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, พหุสฺสุโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, กลฺยาณวากฺกรโณ จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปณฺฑิโต จ อมฺพฏฺโ มาณโว, ปโหติ จ อมฺพฏฺโ มาณโว โภตา โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุํ, ตุณฺหี มยํ ภวิสฺสาม, อมฺพฏฺโ มาณโว โภตา โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตู’’ติ.

๒๗๐. อถ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ โข ปน เต, อมฺพฏฺ, สหธมฺมิโก ปฺโห อาคจฺฉติ, อกามา พฺยากาตพฺโพ. สเจ ตฺวํ น พฺยากริสฺสสิ, อฺเน วา อฺํ ปฏิจริสฺสสิ, ตุณฺหี วา ภวิสฺสสิ, ปกฺกมิสฺสสิ วา เอตฺเถว เต สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสติ. ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, กินฺติ เต สุตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ กุโตปภุติกา กณฺหายนา, โก จ กณฺหายนานํ ปุพฺพปุริโส’’ติ?

เอวํ วุตฺเต, อมฺพฏฺโ มาณโว ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, กินฺติ เต สุตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ กุโตปภุติกา กณฺหายนา, โก จ กณฺหายนานํ ปุพฺพปุริโส’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อมฺพฏฺโ มาณโว ตุณฺหี อโหสิ. อถ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘พฺยากโรหิ ทานิ อมฺพฏฺ, น ทานิ, เต ตุณฺหีภาวสฺส กาโล. โย โข, อมฺพฏฺ, ตถาคเตน ยาวตติยกํ สหธมฺมิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ น พฺยากโรติ, เอตฺเถวสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ.

๒๗๑. เตน โข ปน สมเยน วชิรปาณี ยกฺโข มหนฺตํ อโยกูฏํ อาทาย อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ [สฺโชติภูตํ (สฺยา.)] อมฺพฏฺสฺส มาณวสฺส อุปริ เวหาสํ ิโต โหติ – ‘‘สจายํ อมฺพฏฺโ มาณโว ภควตา ยาวตติยกํ สหธมฺมิกํ ปฺหํ ปุฏฺโ น พฺยากริสฺสติ, เอตฺเถวสฺส สตฺตธา มุทฺธํ ผาเลสฺสามี’’ติ. ตํ โข ปน วชิรปาณึ ยกฺขํ ภควา เจว ปสฺสติ อมฺพฏฺโ จ มาณโว.

๒๗๒. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต ภควนฺตํเยว ตาณํ คเวสี ภควนฺตํเยว เลณํ คเวสี ภควนฺตํเยว สรณํ คเวสี – อุปนิสีทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิเมตํ [กึ เม ตํ (ก.)] ภวํ โคตโม อาห? ปุนภวํ โคตโม พฺรวิตู’’ติ [พฺรูตุ (สฺยา.)].

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, กินฺติ เต สุตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ กุโตปภุติกา กณฺหายนา, โก จ กณฺหายนานํ ปุพฺพปุริโส’’ติ? ‘‘เอวเมว เม, โภ โคตม, สุตํ ยเถว ภวํ โคตโม อาห. ตโตปภุติกา กณฺหายนา; โส จ กณฺหายนานํ ปุพฺพปุริโส’’ติ.

อมฺพฏฺวํสกถา

๒๗๓. เอวํ วุตฺเต, เต มาณวกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘ทุชฺชาโต กิร, โภ, อมฺพฏฺโ มาณโว; อกุลปุตฺโต กิร, โภ, อมฺพฏฺโ มาณโว; ทาสิปุตฺโต กิร, โภ, อมฺพฏฺโ มาณโว สกฺยานํ. อยฺยปุตฺตา กิร, โภ, อมฺพฏฺสฺส มาณวสฺส สกฺยา ภวนฺติ. ธมฺมวาทึเยว กิร มยํ สมณํ โคตมํ อปสาเทตพฺพํ อมฺิมฺหา’’ติ.

๒๗๔. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติพาฬฺหํ โข อิเม มาณวกา อมฺพฏฺํ มาณวํ ทาสิปุตฺตวาเทน นิมฺมาเทนฺติ, ยํนูนาหํ ปริโมเจยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เต มาณวเก เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตุมฺเห, มาณวกา, อมฺพฏฺํ มาณวํ อติพาฬฺหํ ทาสิปุตฺตวาเทน นิมฺมาเทถ. อุฬาโร โส กณฺโห อิสิ อโหสิ. โส ทกฺขิณชนปทํ คนฺตฺวา พฺรหฺมมนฺเต อธียิตฺวา ราชานํ โอกฺกากํ อุปสงฺกมิตฺวา มทฺทรูปึ ธีตรํ ยาจิ. ตสฺส ราชา โอกฺกาโก – ‘โก เนวํ เร อยํ มยฺหํ ทาสิปุตฺโต สมาโน มทฺทรูปึ ธีตรํ ยาจตี’’’ ติ, กุปิโต อนตฺตมโน ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิ [สนฺนหิ (ก.)]. โส ตํ ขุรปฺปํ เนว อสกฺขิ มุฺจิตุํ, โน ปฏิสํหริตุํ.

‘‘อถ โข, มาณวกา, อมจฺจา ปาริสชฺชา กณฺหํ อิสึ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘โสตฺถิ, ภทฺทนฺเต [ภทนฺเต (สี. สฺยา.)], โหตุ รฺโ; โสตฺถิ, ภทฺทนฺเต, โหตุ รฺโ’ติ. ‘โสตฺถิ ภวิสฺสติ รฺโ, อปิ จ ราชา ยทิ อโธ ขุรปฺปํ มุฺจิสฺสติ, ยาวตา รฺโ วิชิตํ, เอตฺตาวตา ปถวี อุนฺทฺริยิสฺสตี’ติ. ‘โสตฺถิ, ภทฺทนฺเต, โหตุ รฺโ, โสตฺถิ ชนปทสฺสา’ติ. ‘โสตฺถิ ภวิสฺสติ รฺโ, โสตฺถิ ชนปทสฺส, อปิ จ ราชา ยทิ อุทฺธํ ขุรปฺปํ มุฺจิสฺสติ, ยาวตา รฺโ วิชิตํ, เอตฺตาวตา สตฺต วสฺสานิ เทโว น วสฺสิสฺสตี’ติ. ‘โสตฺถิ, ภทฺทนฺเต, โหตุ รฺโ โสตฺถิ ชนปทสฺส เทโว จ วสฺสตู’ติ. ‘โสตฺถิ ภวิสฺสติ รฺโ โสตฺถิ ชนปทสฺส เทโว จ วสฺสิสฺสติ, อปิ จ ราชา เชฏฺกุมาเร ขุรปฺปํ ปติฏฺาเปตุ, โสตฺถิ กุมาโร ปลฺโลโม ภวิสฺสตี’ติ. อถ โข, มาณวกา, อมจฺจา โอกฺกากสฺส อาโรเจสุํ – ‘โอกฺกาโก เชฏฺกุมาเร ขุรปฺปํ ปติฏฺาเปตุ. โสตฺถิ กุมาโร ปลฺโลโม ภวิสฺสตี’ติ. อถ โข ราชา โอกฺกาโก เชฏฺกุมาเร ขุรปฺปํ ปติฏฺเปสิ, โสตฺถิ กุมาโร ปลฺโลโม สมภวิ. อถ โข ตสฺส ราชา โอกฺกาโก ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต พฺรหฺมทณฺเฑน ตชฺชิโต มทฺทรูปึ ธีตรํ อทาสิ. มา โข ตุมฺเห, มาณวกา, อมฺพฏฺํ มาณวํ อติพาฬฺหํ ทาสิปุตฺตวาเทน นิมฺมาเทถ, อุฬาโร โส กณฺโห อิสิ อโหสี’’ติ.

ขตฺติยเสฏฺภาโว

๒๗๕. อถ โข ภควา อมฺพฏฺํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ ขตฺติยกุมาโร พฺราหฺมณกฺาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปยฺย, เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺโต ชาเยถ. โย โส ขตฺติยกุมาเรน พฺราหฺมณกฺาย ปุตฺโต อุปฺปนฺโน, อปิ นุ โส ลเภถ พฺราหฺมเณสุ อาสนํ วา อุทกํ วา’’ติ? ‘‘ลเภถ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา โภเชยฺยุํ สทฺเธ วา ถาลิปาเก วา ยฺเ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โภเชยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา มนฺเต วาเจยฺยุํ วา โน วา’’ติ? ‘‘วาเจยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุสฺส อิตฺถีสุ อาวฏํ วา อสฺส อนาวฏํ วา’’ติ? ‘‘อนาวฏํ หิสฺส, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ ขตฺติยา ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิฺเจยฺยุ’’นฺติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘มาติโต หิ, โภ โคตม, อนุปปนฺโน’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ พฺราหฺมณกุมาโร ขตฺติยกฺาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปยฺย, เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺโต ชาเยถ. โย โส พฺราหฺมณกุมาเรน ขตฺติยกฺาย ปุตฺโต อุปฺปนฺโน, อปินุ โส ลเภถ พฺราหฺมเณสุ อาสนํ วา อุทกํ วา’’ติ? ‘‘ลเภถ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา โภเชยฺยุํ สทฺเธ วา ถาลิปาเก วา ยฺเ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โภเชยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา มนฺเต วาเจยฺยุํ วา โน วา’’ติ? ‘‘วาเจยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุสฺส อิตฺถีสุ อาวฏํ วา อสฺส อนาวฏํ วา’’ติ? ‘‘อนาวฏํ หิสฺส, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ ขตฺติยา ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิฺเจยฺยุ’’นฺติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘ปิติโต หิ, โภ โคตม, อนุปปนฺโน’’ติ.

๒๗๖. ‘‘อิติ โข, อมฺพฏฺ, อิตฺถิยา วา อิตฺถึ กริตฺวา ปุริเสน วา ปุริสํ กริตฺวา ขตฺติยาว เสฏฺา, หีนา พฺราหฺมณา. ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณ ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ภสฺสปุเฏน วธิตฺวา รฏฺา วา นครา วา ปพฺพาเชยฺยุํ. อปินุ โส ลเภถ พฺราหฺมเณสุ อาสนํ วา อุทกํ วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา โภเชยฺยุํ สทฺเธ วา ถาลิปาเก วา ยฺเ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา มนฺเต วาเจยฺยุํ วา โน วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุสฺส อิตฺถีสุ อาวฏํ วา อสฺส อนาวฏํ วา’’ติ? ‘‘อาวฏํ หิสฺส, โภ โคตม’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ ขตฺติยา ขตฺติยํ กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณ ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ภสฺสปุเฏน วธิตฺวา รฏฺา วา นครา วา ปพฺพาเชยฺยุํ. อปินุ โส ลเภถ พฺราหฺมเณสุ อาสนํ วา อุทกํ วา’’ติ? ‘‘ลเภถ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา โภเชยฺยุํ สทฺเธ วา ถาลิปาเก วา ยฺเ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โภเชยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุ นํ พฺราหฺมณา มนฺเต วาเจยฺยุํ วา โน วา’’ติ? ‘‘วาเจยฺยุํ, โภ โคตม’’. ‘‘อปินุสฺส อิตฺถีสุ อาวฏํ วา อสฺส อนาวฏํ วา’’ติ? ‘‘อนาวฏํ หิสฺส, โภ โคตม’’.

๒๗๗. ‘‘เอตฺตาวตา โข, อมฺพฏฺ, ขตฺติโย ปรมนิหีนตํ ปตฺโต โหติ, ยเทว นํ ขตฺติยา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ภสฺสปุเฏน วธิตฺวา รฏฺา วา นครา วา ปพฺพาเชนฺติ. อิติ โข, อมฺพฏฺ, ยทา ขตฺติโย ปรมนิหีนตํ ปตฺโต โหติ, ตทาปิ ขตฺติยาว เสฏฺา, หีนา พฺราหฺมณา. พฺรหฺมุนา เปสา, อมฺพฏฺ [พฺรหฺมุนาปิ อมฺพฏฺ (ก.), พฺรหฺมุนาปิ เอโส อมฺพฏฺ (ปี.)], สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา –

‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ,

เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน,

โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ.

‘‘สา โข ปเนสา, อมฺพฏฺ, พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรน คาถา สุคีตา โน ทุคฺคีตา, สุภาสิตา โน ทุพฺภาสิตา, อตฺถสํหิตา โน อนตฺถสํหิตา, อนุมตา มยา. อหมฺปิ หิ, อมฺพฏฺ, เอวํ วทามิ –

‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ,

เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน,

โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ.

ภาณวาโร ปโม.

วิชฺชาจรณกถา

๒๗๘. ‘‘กตมํ ปน ตํ, โภ โคตม, จรณํ, กตมา จ ปน สา วิชฺชา’’ติ? ‘‘น โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย ชาติวาโท วา วุจฺจติ, โคตฺตวาโท วา วุจฺจติ, มานวาโท วา วุจฺจติ – ‘อรหสิ วา มํ ตฺวํ, น วา มํ ตฺวํ อรหสี’ติ. ยตฺถ โข, อมฺพฏฺ, อาวาโห วา โหติ, วิวาโห วา โหติ, อาวาหวิวาโห วา โหติ, เอตฺเถตํ วุจฺจติ ชาติวาโท วา อิติปิ โคตฺตวาโท วา อิติปิ มานวาโท วา อิติปิ – ‘อรหสิ วา มํ ตฺวํ, น วา มํ ตฺวํ อรหสี’ติ. เย หิ เกจิ อมฺพฏฺ ชาติวาทวินิพทฺธา วา โคตฺตวาทวินิพทฺธา วา มานวาทวินิพทฺธา วา อาวาหวิวาหวินิพทฺธา วา, อารกา เต อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย. ปหาย โข, อมฺพฏฺ, ชาติวาทวินิพทฺธฺจ โคตฺตวาทวินิพทฺธฺจ มานวาทวินิพทฺธฺจ อาวาหวิวาหวินิพทฺธฺจ อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สจฺฉิกิริยา โหตี’’ติ.

๒๗๙. ‘‘กตมํ ปน ตํ, โภ โคตม, จรณํ, กตมา จ สา วิชฺชา’’ติ? ‘‘อิธ, อมฺพฏฺ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ…เป… (ยถา ๑๙๑ อาทโย อนุจฺเฉทา, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ).…

‘‘โส วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ, สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมึ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมึ. อิทํ โข ตํ, อมฺพฏฺ, จรณํ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ วิชฺชาย…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ, อิทมฺปิสฺส โหติ วิชฺชาย. อยํ โข สา, อมฺพฏฺ, วิชฺชา.

‘‘อยํ วุจฺจติ, อมฺพฏฺ, ภิกฺขุ ‘วิชฺชาสมฺปนฺโน’ อิติปิ, ‘จรณสมฺปนฺโน’ อิติปิ, ‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน’ อิติปิ. อิมาย จ อมฺพฏฺ วิชฺชาสมฺปทาย จรณสมฺปทาย จ อฺา วิชฺชาสมฺปทา จ จรณสมฺปทา จ อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถิ.

จตุอปายมุขํ

๒๘๐. ‘‘อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย จตฺตาริ อปายมุขานิ ภวนฺติ. กตมานิ จตฺตาริ? อิธ, อมฺพฏฺ, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมฺเว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ขาริวิธมาทาย [ขาริวิวิธมาทาย (สี. สฺยา. ปี.)] อรฺายตนํ อชฺโฌคาหติ – ‘ปวตฺตผลโภชโน ภวิสฺสามี’ติ. โส อฺทตฺถุ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนสฺเสว ปริจารโก สมฺปชฺชติ. อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย อิทํ ปมํ อปายมุขํ ภวติ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กุทาลปิฏกํ [กุทฺทาลปิฏกํ (สี. สฺยา. ปี.)] อาทาย อรฺวนํ อชฺโฌคาหติ – ‘กนฺทมูลผลโภชโน ภวิสฺสามี’ติ. โส อฺทตฺถุ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนสฺเสว ปริจารโก สมฺปชฺชติ. อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย อิทํ ทุติยํ อปายมุขํ ภวติ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กนฺทมูลผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน คามสามนฺตํ วา นิคมสามนฺตํ วา อคฺยาคารํ กริตฺวา อคฺคึ ปริจรนฺโต อจฺฉติ. โส อฺทตฺถุ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนสฺเสว ปริจารโก สมฺปชฺชติ. อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย อิทํ ตติยํ อปายมุขํ ภวติ.

‘‘ปุน จปรํ, อมฺพฏฺ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมํ เจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กนฺทมูลผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน อคฺคิปาริจริยฺจ อนภิสมฺภุณมาโน จาตุมหาปเถ จตุทฺวารํ อคารํ กริตฺวา อจฺฉติ – ‘โย อิมาหิ จตูหิ ทิสาหิ อาคมิสฺสติ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, ตมหํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ปฏิปูเชสฺสามี’ติ. โส อฺทตฺถุ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนสฺเสว ปริจารโก สมฺปชฺชติ. อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย อิทํ จตุตฺถํ อปายมุขํ ภวติ. อิมาย โข, อมฺพฏฺ, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย อิมานิ จตฺตาริ อปายมุขานิ ภวนฺติ.

๒๘๑. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อปินุ ตฺวํ อิมาย อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สนฺทิสฺสสิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’. ‘โกจาหํ, โภ โคตม, สาจริยโก, กา จ อนุตฺตรา วิชฺชาจรณสมฺปทา? อารกาหํ, โภ โคตม, อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สาจริยโก’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อปินุ ตฺวํ อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ขาริวิธมาทาย อรฺวนมชฺโฌคาหสิ สาจริยโก – ‘ปวตฺตผลโภชโน ภวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อปินุ ตฺวํ อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กุทาลปิฏกํ อาทาย อรฺวนมชฺโฌคาหสิ สาจริยโก – ‘กนฺทมูลผลโภชโน ภวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อปินุ ตฺวํ อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กนฺทมูลผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน คามสามนฺตํ วา นิคมสามนฺตํ วา อคฺยาคารํ กริตฺวา อคฺคึ ปริจรนฺโต อจฺฉสิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อปินุ ตฺวํ อิมฺเจว อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณสมฺปทํ อนภิสมฺภุณมาโน ปวตฺตผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน กนฺทมูลผลโภชนตฺจ อนภิสมฺภุณมาโน อคฺคิปาริจริยฺจ อนภิสมฺภุณมาโน จาตุมหาปเถ จตุทฺวารํ อคารํ กริตฺวา อจฺฉสิ สาจริยโก – ‘โย อิมาหิ จตูหิ ทิสาหิ อาคมิสฺสติ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, ตํ มยํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ปฏิปูเชสฺสามา’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

๒๘๒. ‘‘อิติ โข, อมฺพฏฺ, อิมาย เจว ตฺวํ อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย ปริหีโน สาจริยโก. เย จิเม อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย จตฺตาริ อปายมุขานิ ภวนฺติ, ตโต จ ตฺวํ ปริหีโน สาจริยโก. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อมฺพฏฺ, อาจริเยน พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินา วาจา – ‘เก จ มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา, กา จ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ สากจฺฉา’ติ อตฺตนา อาปายิโกปิ อปริปูรมาโน. ปสฺส, อมฺพฏฺ, ยาว อปรทฺธฺจ เต อิทํ อาจริยสฺส พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส.

ปุพฺพกอิสิภาวานุโยโค

๒๘๓. ‘‘พฺราหฺมโณ โข ปน, อมฺพฏฺ, โปกฺขรสาติ รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ทตฺติกํ ภุฺชติ. ตสฺส ราชา ปเสนทิ โกสโล สมฺมุขีภาวมฺปิ น ททาติ. ยทาปิ เตน มนฺเตติ, ติโรทุสฺสนฺเตน มนฺเตติ. ยสฺส โข ปน, อมฺพฏฺ, ธมฺมิกํ ปยาตํ ภิกฺขํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, กถํ ตสฺส ราชา ปเสนทิ โกสโล สมฺมุขีภาวมฺปิ น ทเทยฺย. ปสฺส, อมฺพฏฺ, ยาว อปรทฺธฺจ เต อิทํ อาจริยสฺส พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส.

๒๘๔. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ ราชา ปเสนทิ โกสโล หตฺถิคีวาย วา นิสินฺโน อสฺสปิฏฺเ วา นิสินฺโน รถูปตฺถเร วา ิโต อุคฺเคหิ วา ราชฺเหิ วา กิฺจิเทว มนฺตนํ มนฺเตยฺย. โส ตมฺหา ปเทสา อปกฺกมฺม เอกมนฺตํ ติฏฺเยฺย. อถ อาคจฺเฉยฺย สุทฺโท วา สุทฺททาโส วา, ตสฺมึ ปเทเส ิโต ตเทว มนฺตนํ มนฺเตยฺย – ‘เอวมฺปิ ราชา ปเสนทิ โกสโล อาห, เอวมฺปิ ราชา ปเสนทิ โกสโล อาหา’ติ. อปินุ โส ราชภณิตํ วา ภณติ ราชมนฺตนํ วา มนฺเตติ? เอตฺตาวตา โส อสฺส ราชา วา ราชมตฺโต วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

๒๘๕. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, อมฺพฏฺ, เย เต อเหสุํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ ตทนุภาสนฺติ ภาสิตมนุภาสนฺติ วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฏฺโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิตฺโต ยมตคฺคิ [ยมทคฺคิ (ก.)] องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสฏฺโ กสฺสโป ภคุ – ‘ตฺยาหํ มนฺเต อธิยามิ สาจริยโก’ติ, ตาวตา ตฺวํ ภวิสฺสสิ อิสิ วา อิสิตฺถาย วา ปฏิปนฺโนติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๒๘๖. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, กินฺติ เต สุตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – เย เต อเหสุํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ ตทนุภาสนฺติ ภาสิตมนุภาสนฺติ วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฏฺโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิตฺโต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสฏฺโ กสฺสโป ภคุ, เอวํ สุ เต สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กปฺปิตเกสมสฺสู อามุกฺกมณิกุณฺฑลาภรณา [อามุตฺตมาลาภรณา (สี. สฺยา. ปี.)] โอทาตวตฺถวสนา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘…เป… เอวํ สุ เต สาลีนํ โอทนํ สุจิมํสูปเสจนํ วิจิตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ ปริภุฺชนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘…เป… เอวํ สุ เต เวกนตปสฺสาหิ นารีหิ ปริจาเรนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘…เป… เอวํ สุ เต กุตฺตวาเลหิ วฬวารเถหิ ทีฆาหิ ปโตทลฏฺีหิ วาหเน วิตุเทนฺตา วิปริยายนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘…เป… เอวํ สุ เต อุกฺกิณฺณปริขาสุ โอกฺขิตฺตปลิฆาสุ นครูปการิกาสุ ทีฆาสิวุเธหิ [ทีฆาสิพทฺเธหิ (สฺยา. ปี.)] ปุริเสหิ รกฺขาเปนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’.

‘‘อิติ โข, อมฺพฏฺ, เนว ตฺวํ อิสิ น อิสิตฺถาย ปฏิปนฺโน สาจริยโก. ยสฺส โข ปน, อมฺพฏฺ, มยิ กงฺขา วา วิมติ วา โส มํ ปฺเหน, อหํ เวยฺยากรเณน โสธิสฺสามี’’ติ.

ทฺเวลกฺขณาทสฺสนํ

๒๘๗. อถ โข ภควา วิหารา นิกฺขมฺม จงฺกมํ อพฺภุฏฺาสิ. อมฺพฏฺโปิ มาณโว วิหารา นิกฺขมฺม จงฺกมํ อพฺภุฏฺาสิ. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว ภควนฺตํ จงฺกมนฺตํ อนุจงฺกมมาโน ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ. อทฺทสา โข อมฺพฏฺโ มาณโว ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห ปหูตชิวฺหตาย จ.

๒๘๘. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ อมฺพฏฺโ มาณโว ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ ยถา อทฺทส อมฺพฏฺโ มาณโว ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ. อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ. อถ โข อมฺพฏฺสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปริปุณฺเณหี’’ติ. ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, อมฺพฏฺ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว วฬวารถมารุยฺห ปกฺกามิ.

๒๘๙. เตน โข ปน สมเยน พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อุกฺกฏฺาย นิกฺขมิตฺวา มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธึ สเก อาราเม นิสินฺโน โหติ อมฺพฏฺํเยว มาณวํ ปฏิมาเนนฺโต. อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว เยน สโก อาราโม เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พฺราหฺมณํ โปกฺขรสาตึ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๒๙๐. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อมฺพฏฺํ มาณวํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ตาต อมฺพฏฺ, อทฺทส ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ? ‘‘อทฺทสาม โข มยํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ. ‘‘กจฺจิ, ตาต อมฺพฏฺ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถา สนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต โน อฺถา; กจฺจิ ปน โส ภวํ โคตโม ตาทิโส โน อฺาทิโส’’ติ? ‘‘ตถา สนฺตํเยว, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สทฺโท อพฺภุคฺคโต โน อฺถา, ตาทิโสว โส ภวํ โคตโม โน อฺาทิโส. สมนฺนาคโต จ โส ภวํ โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ โน อปริปุณฺเณหี’’ติ. ‘‘อหุ ปน เต, ตาต อมฺพฏฺ, สมเณน โคตเมน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อหุ โข เม, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน เต, ตาต อมฺพฏฺ, อหุ สมเณน โคตเมน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว ยาวตโก [ยาวติโก (ก. ปี.)] อโหสิ ภควตา สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส อาโรเจสิ.

๒๙๑. เอวํ วุตฺเต, พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘อโห วต เร อมฺหากํ ปณฺฑิตก [ปณฺฑิตกา], อโห วต เร อมฺหากํ พหุสฺสุตก [พหุสฺสุตกา], อโห วต เร อมฺหากํ เตวิชฺชก [เตวิชฺชกา], เอวรูเปน กิร, โภ, ปุริโส อตฺถจรเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยเทว โข ตฺวํ, อมฺพฏฺ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ อาสชฺช อาสชฺช อวจาสิ, อถ โข โส ภวํ โคตโม อมฺเหปิ เอวํ อุปเนยฺย อุปเนยฺย อวจ. อโห วต เร อมฺหากํ ปณฺฑิตก, อโห วต เร อมฺหากํ พหุสฺสุตก, อโห วต เร อมฺหากํ เตวิชฺชก, เอวรูเปน กิร, โภ, ปุริโส อตฺถจรเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ, กุปิโต [โส กุปิโต (ปี.)] อนตฺตมโน อมฺพฏฺํ มาณวํ ปทสาเยว ปวตฺเตสิ. อิจฺฉติ จ ตาวเทว ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

โปกฺขรสาติพุทฺธุปสงฺกมนํ

๒๙๒. อถ โข เต พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ โปกฺขรสาตึ เอตทโวจุํ – ‘‘อติวิกาโล โข, โภ, อชฺช สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สฺเวทานิ [ทานิ สฺเว (สี. ก.)] ภวํ โปกฺขรสาติ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ยาเน อาโรเปตฺวา อุกฺกาสุ ธาริยมานาสุ อุกฺกฏฺาย นิยฺยาสิ, เยน อิจฺฉานงฺคลวนสณฺโฑ เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๒๙๓. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาคมา นุ โข อิธ, โภ โคตม, อมฺหากํ อนฺเตวาสี อมฺพฏฺโ มาณโว’’ติ? ‘‘อาคมา โข เต [เตธ (สฺยา.), เต อิธ (ปี.)], พฺราหฺมณ, อนฺเตวาสี อมฺพฏฺโ มาณโว’’ติ. ‘‘อหุ ปน เต, โภ โคตม, อมฺพฏฺเน มาณเวน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อหุ โข เม, พฺราหฺมณ, อมฺพฏฺเน มาณเวน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ. ‘‘ยถากถํ ปน เต, โภ โคตม, อหุ อมฺพฏฺเน มาณเวน สทฺธึ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? อถ โข ภควา ยาวตโก อโหสิ อมฺพฏฺเน มาณเวน สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส อาโรเจสิ. เอวํ วุตฺเต, พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พาโล, โภ โคตม, อมฺพฏฺโ มาณโว, ขมตุ ภวํ โคตโม อมฺพฏฺสฺส มาณวสฺสา’’ติ. ‘‘สุขี โหตุ, พฺราหฺมณ, อมฺพฏฺโ มาณโว’’ติ.

๒๙๔. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ. อทฺทสา โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควโต กาเย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห ปหูตชิวฺหตาย จ.

๒๙๕. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุยฺเยน เปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ ยถา อทฺทส พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ. อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ.

๒๙๖. อถ โข พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ โน อปริปุณฺเณหี’’ติ. ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

๒๙๗. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควนฺตํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ, มาณวกาปิ ภิกฺขุสงฺฆํ. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๒๙๘. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ พฺราหฺมณํ โปกฺขรสาตึ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมว พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส ตสฺมิฺเว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

โปกฺขรสาติอุปาสกตฺตปฏิเวทนา

๒๙๙. อถ โข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ โคตม, สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ. ยถา จ ภวํ โคตโม อุกฺกฏฺาย อฺานิ อุปาสกกุลานิ อุปสงฺกมติ, เอวเมว ภวํ โคตโม โปกฺขรสาติกุลํ อุปสงฺกมตุ. ตตฺถ เย เต มาณวกา วา มาณวิกา วา ภวนฺตํ โคตมํ อภิวาเทสฺสนฺติ วา ปจฺจุฏฺิสฺสนฺติ [ปจฺจุฏฺสฺสนฺติ (ปี.)] วา อาสนํ วา อุทกํ วา ทสฺสนฺติ จิตฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘‘กลฺยาณํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา’’ติ.

อมฺพฏฺสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. โสณทณฺฑสุตฺตํ

จมฺเปยฺยกพฺราหฺมณคหปติกา

๓๐๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน จมฺปา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ.

๓๐๑. อสฺโสสุํ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ. อถ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี [สงฺฆา สงฺฆี (สี. สฺยา. ปี.)] คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺติ.

๓๐๒. เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติ. อทฺทสา โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี [สงฺเฆ สงฺฆี (สี. ปี.) สงฺฆา สงฺฆี (สฺยา.)] คณีภูเต เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺเต. ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, โภ ขตฺเต, จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺตี’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตเมเต ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘โสณทณฺโฑ, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส ขตฺตา โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘โสณทณฺโฑ โภ พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติ.

โสณทณฺฑคุณกถา

๓๐๓. เตน โข ปน สมเยน นานาเวรชฺชกานํ พฺราหฺมณานํ ปฺจมตฺตานิ พฺราหฺมณสตานิ จมฺปายํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสุํ โข เต พฺราหฺมณา – ‘‘โสณทณฺโฑ กิร พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ. อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, โภ, โหติ – ‘อหมฺปิ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามี’’’ติ.

‘‘มา ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิ. น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สเจ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, โภโต โสณทณฺฑสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ. ยมฺปิ โภโต โสณทณฺฑสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. ยมฺปิ ภวํ โสณทณฺโฑ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ อชฺฌายโก, มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี [พฺรหฺมฑฺฒี (สี.), พฺรหฺมวจฺจสี (ปี.)] อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย [อเนฬคลาย (สี. ปี.), อเนลคฬาย (ก)] อตฺถสฺส วิฺาปนิยา…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ พหูนํ อาจริยปาจริโย ตีณิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ. พหู โข ปน นานาทิสา นานาชนปทา มาณวกา อาคจฺฉนฺติ โภโต โสณทณฺฑสฺส สนฺติเก มนฺตตฺถิกา มนฺเต อธิยิตุกามา …เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต; สมโณ โคตโม ตรุโณ เจว ตรุณปพฺพชิโต จ…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘ภวฺหิ โสณทณฺโฑ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ, รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ, ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ. ยมฺปิ ภวํ โสณทณฺโฑ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ, รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ, ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ. อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

พุทฺธคุณกถา

๓๐๔. เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ –

‘‘เตน หิ, โภ, มมปิ สุณาถ, ยถา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; นตฺเวว อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. ยมฺปิ โภ สมโณ โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม มหนฺตํ าติสงฺฆํ โอหาย ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโต ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺํ จ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทหโรว สมาโน ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อกามกานํ มาตาปิตูนํ อสฺสุมุขานํ รุทนฺตานํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, พฺรหฺมวณฺณี, พฺรหฺมวจฺฉสี, อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สีลวา อริยสีลี กุสลสีลี กุสลสีเลน สมนฺนาคโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พหูนํ อาจริยปาจริโย…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขีณกามราโค วิคตจาปลฺโล…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กมฺมวาที กิริยวาที อปาปปุเรกฺขาโร พฺรหฺมฺาย ปชาย…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต อสมฺภินฺนขตฺติยกุลา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อฑฺฒา กุลา ปพฺพชิโต มหทฺธนา มหาโภคา…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺติ…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ปาเณหิ สรณํ คตานิ…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ ติ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม เอหิสฺวาคตวาที สขิโล สมฺโมทโก อพฺภากุฏิโก อุตฺตานมุโข ปุพฺพภาสี…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จตุนฺนํ ปริสานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมเณ ขลุ, โภ, โคตเม พหู เทวา จ มนุสฺสา จ อภิปฺปสนฺนา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ, น ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อมนุสฺสา มนุสฺเส วิเหเนฺติ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สงฺฆี คณี คณาจริโย ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติ. ยถา โข ปน, โภ, เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ยถา วา ตถา วา ยโส สมุทาคจฺฉติ, น เหวํ สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต. อถ โข อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา ปเสนทิ โกสโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จมฺปํ อนุปฺปตฺโต, จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. เย โข ปน, โภ, เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมฺหากํ คามเขตฺตํ อาคจฺฉนฺติ อติถี โน เต โหนฺติ. อติถี โข ปนมฺเหหิ สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา อปเจตพฺพา. ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร, อติถิมฺหากํ สมโณ โคตโม; อติถิ โข ปนมฺเหหิ สกฺกาตพฺโพ ครุกาตพฺโพ มาเนตพฺโพ ปูเชตพฺโพ อปเจตพฺโพ. อิมินาปงฺเคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. เอตฺตเก โข อหํ, โภ, ตสฺส โภโต โคตมสฺส วณฺเณ ปริยาปุณามิ, โน จ โข โส ภวํ โคตโม เอตฺตกวณฺโณ. อปริมาณวณฺโณ หิ โส ภวํ โคตโม’’ติ.

๓๐๕. เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ โสณทณฺโฑ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺเณ ภาสติ อิโต เจปิ โส ภวํ โคตโม โยชนสเต วิหรติ, อลเมว สทฺเธน กุลปุตฺเตน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อปิ ปุโฏเสนา’’ติ. ‘‘เตน หิ, โภ, สพฺเพว มยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ.

โสณทณฺฑปริวิตกฺโก

๓๐๖. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธึ เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมิ. อถ โข โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ติโรวนสณฺฑคตสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อหฺเจว โข ปน สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย – ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปฺโห เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ’ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย – ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณํ โคตมํ โยนิโส ปฺหํ ปุจฺฉิตุ’นฺติ. ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. มมฺเจว โข ปน สมโณ โคตโม ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตสฺส จาหํ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ น อาราเธยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย – ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปฺโห เอวํ พฺยากาตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปฺโห พฺยากาตพฺโพ’ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย – ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณสฺส โคตมสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธตุ’นฺติ. ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. อหฺเจว โข ปน เอวํ สมีปคโต สมาโน อทิสฺวาว สมณํ โคตมํ นิวตฺเตยฺยํ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย – ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต มานถทฺโธ ภีโต จ, โน วิสหติ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ, กถฺหิ นาม เอวํ สมีปคโต สมาโน อทิสฺวา สมณํ โคตมํ นิวตฺติสฺสตี’ติ. ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ, ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา’’ติ.

๓๐๗. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. จมฺเปยฺยกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

๓๐๘. ตตฺรปิ สุทํ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เอตเทว พหุลมนุวิตกฺเกนฺโต นิสินฺโน โหติ – ‘‘อหฺเจว โข ปน สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย – ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปฺโห เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ’ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย – ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณํ โคตมํ โยนิโส ปฺหํ ปุจฺฉิตุ’นฺติ. ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. มมฺเจว โข ปน สมโณ โคตโม ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตสฺส จาหํ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ น อาราเธยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย – ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปฺโห เอวํ พฺยากาตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปฺโห พฺยากาตพฺโพ’ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย – ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณสฺส โคตมสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธตุ’นฺติ. ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. อโห วต มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณนา’’ติ.

พฺราหฺมณปฺตฺติ

๓๐๙. อถ โข ภควโต โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เอตทโหสิ – ‘‘วิหฺติ โข อยํ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สเกน จิตฺเตน. ยํนูนาหํ โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กติหิ ปน, พฺราหฺมณ, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ?

๓๑๐. อถ โข โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ – ‘อโห วต มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปฺหํ ปุจฺเฉยฺย, อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณนา’ติ, ตตฺร มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปฺหํ ปุจฺฉติ. อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณนา’’ติ.

๓๑๑. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺภุนฺนาเมตฺวา กายํ อนุวิโลเกตฺวา ปริสํ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฺจหิ, โภ โคตม, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺย. กตเมหิ ปฺจหิ? อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก โหติ มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย; สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.

‘‘อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ปฺจนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ปยิตฺวา จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสฺหิ, โภ โคตม, ปฺจนฺนํ องฺคานํ วณฺณํ ปยาม. กิฺหิ วณฺโณ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก จ โหติ มนฺตธโร จ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข โภ โคตม จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.

๓๑๒. ‘‘อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, จตุนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ปยิตฺวา ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสฺหิ, โภ โคตม, จตุนฺนํ องฺคานํ มนฺเต ปยาม. กิฺหิ มนฺตา กริสฺสนฺติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.

‘‘อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ติณฺณํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ปยิตฺวา ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสฺหิ, โภ โคตม, ติณฺณํ องฺคานํ ชาตึ ปยาม. กิฺหิ ชาติ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.

๓๑๓. เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจ, มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจ. อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาตึ เอกํเสน. ภวํ โสณทณฺโฑ สมณสฺเสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี’’ติ.

๓๑๔. อถ โข ภควา เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘สเจ โข ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ – ‘อปฺปสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, อกลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ทุปฺปฺโ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, น จ ปโหติ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’นฺติ, ติฏฺตุ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ตุมฺเห มยา สทฺธึ มนฺตวฺโห อสฺมึ วจเน. สเจ ปน ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ – ‘พหุสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, กลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปณฺฑิโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปโหติ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’นฺติ, ติฏฺถ ตุมฺเห, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ มยา สทฺธึ ปฏิมนฺเตตู’’ติ.

๓๑๕. เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺตุ ภวํ โคตโม, ตุณฺหี ภวํ โคตโม โหตุ, อหเมว เตสํ สหธมฺเมน ปฏิวจนํ กริสฺสามี’’ติ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ, มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ – ‘อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาตึ เอกํเสน. ภวํ โสณทณฺโฑ สมณสฺเสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี’ติ. นาหํ, โภ, อปวทามิ วณฺณํ วา มนฺเต วา ชาตึ วา’’ติ.

๓๑๖. เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ภาคิเนยฺโย องฺคโก นาม มาณวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘ปสฺสนฺติ โน โภนฺโต อิมํ องฺคกํ มาณวกํ อมฺหากํ ภาคิเนยฺย’’นฺติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘องฺคโก โข, โภ, มาณวโก อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย, นาสฺส อิมิสฺสํ ปริสายํ สมสโม อตฺถิ วณฺเณน เปตฺวา สมณํ โคตมํ. องฺคโก โข มาณวโก อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย. อหมสฺส มนฺเต วาเจตา. องฺคโก โข มาณวโก อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. อหมสฺส มาตาปิตโร ชานามิ. องฺคโก โข มาณวโก ปาณมฺปิ หเนยฺย, อทินฺนมฺปิ อาทิเยยฺย, ปรทารมฺปิ คจฺเฉยฺย, มุสาวาทมฺปิ ภเณยฺย, มชฺชมฺปิ ปิเวยฺย, เอตฺถ ทานิ, โภ, กึ วณฺโณ กริสฺสติ, กึ มนฺตา, กึ ชาติ? ยโต โข, โภ, พฺราหฺมโณ สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต, ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ.

สีลปฺากถา

๓๑๗. ‘‘อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ปยิตฺวา เอเกน องฺเคน สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปฺเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม. สีลปริโธตา หิ, โภ โคตม, ปฺา; ปฺาปริโธตํ สีลํ. ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปฺา, ยตฺถ ปฺา ตตฺถ สีลํ. สีลวโต ปฺา, ปฺวโต สีลํ. สีลปฺาณฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติ. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, หตฺเถน วา หตฺถํ โธเวยฺย, ปาเทน วา ปาทํ โธเวยฺย; เอวเมว โข, โภ โคตม, สีลปริโธตา ปฺา, ปฺาปริโธตํ สีลํ. ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปฺา, ยตฺถ ปฺา ตตฺถ สีลํ. สีลวโต ปฺา, ปฺวโต สีลํ. สีลปฺาณฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายตี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, สีลปริโธตา หิ, พฺราหฺมณ, ปฺา, ปฺาปริโธตํ สีลํ. ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปฺา, ยตฺถ ปฺา ตตฺถ สีลํ. สีลวโต ปฺา, ปฺวโต สีลํ. สีลปฺาณฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติ. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, หตฺเถน วา หตฺถํ โธเวยฺย, ปาเทน วา ปาทํ โธเวยฺย; เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, สีลปริโธตา ปฺา, ปฺาปริโธตํ สีลํ. ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปฺา, ยตฺถ ปฺา ตตฺถ สีลํ. สีลวโต ปฺา, ปฺวโต สีลํ. สีลปฺาณฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติ.

๓๑๘. ‘‘กตมํ ปน ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ? กตมา สา ปฺา’’ติ? ‘‘เอตฺตกปรมาว มยํ, โภ โคตม, เอตสฺมึ อตฺเถ. สาธุ วต ภวนฺตํเยว โคตมํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’’ติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุโณหิ; สาธุกํ มนสิกโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ. อิทํ โข ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ, อภินินฺนาเมติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ, อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย อยํ โข สา, พฺราหฺมณ, ปฺา’’ติ.

โสณทณฺฑอุปาสกตฺตปฏิเวทนา

๓๑๙. เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ. อธิวาเสตุ จ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

๓๒๐. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ.

๓๒๑. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน อาสนา วุฏฺหิตฺวา ภวนฺตํ โคตมํ อภิวาเทยฺยํ, เตน มํ สา ปริสา ปริภเวยฺย. ยํ โข ปน สา ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ. ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน อฺชลึ ปคฺคณฺเหยฺยํ, อาสนา เม ตํ ภวํ โคตโม ปจฺจุฏฺานํ ธาเรตุ. อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน เวนํ โอมุฺเจยฺยํ, สิรสา เม ตํ ภวํ โคตโม อภิวาทนํ ธาเรตุ. อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ภวนฺตํ โคตมํ อภิวาเทยฺยํ, เตน มํ สา ปริสา ปริภเวยฺย. ยํ โข ปน สา ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ, ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ. ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา. อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ปโตทลฏฺึ อพฺภุนฺนาเมยฺยํ, ยานา เม ตํ ภวํ โคตโม ปจฺโจโรหนํ ธาเรตุ. อหฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ฉตฺตํ อปนาเมยฺยํ, สิรสา เม ตํ ภวํ โคตโม อภิวาทนํ ธาเรตู’’ติ.

๓๒๒. อถ โข ภควา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ.

โสณทณฺฑสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. กูฏทนฺตสุตฺตํ

ขาณุมตกพฺราหฺมณคหปติกา

๓๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน ขาณุมตํ นาม มคธานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฏฺิกายํ. เตน โข ปน สมเยน กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ. เตน โข ปน สมเยน กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายฺโ อุปกฺขโฏ โหติ. สตฺต จ อุสภสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรีสตานิ สตฺต จ อชสตานิ สตฺต จ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยฺตฺถาย.

๓๒๔. อสฺโสสุํ โข ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ ขาณุมตํ อนุปฺปตฺโต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฏฺิกายํ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.

๓๒๕. อถ โข ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน อมฺพลฏฺิกา เตนุปสงฺกมนฺติ.

๓๒๖. เตน โข ปน สมเยน กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติ. อทฺทสา โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต เยน อมฺพลฏฺิกา เตนุปสงฺกมนฺเต. ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, โภ ขตฺเต, ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน อมฺพลฏฺิกา เตนุปสงฺกมนฺตี’’ติ?

๓๒๗. ‘‘อตฺถิ โข, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ ขาณุมตํ อนุปฺปตฺโต, ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฏฺิกายํ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตเมเต ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติ.

๓๒๘. อถ โข กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ – ‘สมโณ โคตโม ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ชานาตี’ติ. น โข ปนาหํ ชานามิ ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ. อิจฺฉามิ จาหํ มหายฺํ ยชิตุํ. ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

๓๒๙. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม. อุปสงฺกมิตฺวา ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘กูฏทนฺโต, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘‘อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, กูฏทนฺโตปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส ขตฺตา กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘กูฏทนฺโต, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อาคเมนฺตุ กิร โภนฺโต, กูฏทนฺโตปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติ.

กูฏทนฺตคุณกถา

๓๓๐. เตน โข ปน สมเยน อเนกานิ พฺราหฺมณสตานิ ขาณุมเต ปฏิวสนฺติ – ‘‘กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายฺํ อนุภวิสฺสามา’’ติ. อสฺโสสุํ โข เต พฺราหฺมณา – ‘‘กูฏทนฺโต กิร พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ. อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมึสุ.

๓๓๑. อุปสงฺกมิตฺวา กูฏทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, โภ, โหติ – ‘อหมฺปิ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามี’’’ติ.

‘‘มา ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิ. น อรหติ ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สเจ ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, โภโต กูฏทนฺตสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ. ยมฺปิ โภโต กูฏทนฺตสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สมโณ ตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฏทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. ยมฺปิ ภวํ กูฏทนฺโต อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สมโณ ตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฏทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตชาตรูปรชโต…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต พหูนํ อาจริยปาจริโย ตีณิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ, พหู โข ปน นานาทิสา นานาชนปทา มาณวกา อาคจฺฉนฺติ โภโต กูฏทนฺตสฺส สนฺติเก มนฺตตฺถิกา มนฺเต อธิยิตุกามา…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. สมโณ โคตโม ตรุโณ เจว ตรุณปพฺพชิโต จ…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘ภวฺหิ กูฏทนฺโต ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ. ยมฺปิ ภวํ กูฏทนฺโต ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ, รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ กูฏทนฺโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สมโณตฺเวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฏทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

พุทฺธคุณกถา

๓๓๒. เอวํ วุตฺเต กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ –

‘‘เตน หิ, โภ, มมปิ สุณาถ, ยถา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ, น ตฺเวว อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม มหนฺตํ าติสงฺฆํ โอหาย ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโต ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺํ จ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทหโรว สมาโน ยุวา สุสุกาฬเกโส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปเมน วยสา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อกามกานํ มาตาปิตูนํ อสฺสุมุขานํ รุทนฺตานํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย …เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สีลวา อริยสีลี กุสลสีลี กุสลสีเลน สมนฺนาคโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พหูนํ อาจริยปาจริโย…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขีณกามราโค วิคตจาปลฺโล…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กมฺมวาที กิริยวาที อปาปปุเรกฺขาโร พฺรหฺมฺาย ปชาย…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต อสมฺภินฺนขตฺติยกุลา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อฑฺฒา กุลา ปพฺพชิโต มหทฺธนา มหาโภคา…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺติ…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ปาเณหิ สรณํ คตานิ…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ ติ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม เอหิสฺวาคตวาที สขิโล สมฺโมทโก อพฺภากุฏิโก อุตฺตานมุโข ปุพฺพภาสี…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จตุนฺนํ ปริสานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมเณ ขลุ, โภ, โคตเม พหู เทวา จ มนุสฺสา จ อภิปฺปสนฺนา…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ น ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อมนุสฺสา มนุสฺเส วิเหเนฺติ…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สงฺฆี คณี คณาจริโย ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติ, ยถา โข ปน, โภ, เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ยถา วา ตถา วา ยโส สมุทาคจฺฉติ, น เหวํ สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต. อถ โข อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา ปเสนทิ โกสโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป…

‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขาณุมตํ อนุปฺปตฺโต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฏฺิกายํ. เย โข ปน, โภ, เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมฺหากํ คามเขตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, อติถี โน เต โหนฺติ. อติถี โข ปนมฺเหหิ สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา อปเจตพฺพา. ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม ขาณุมตํ อนุปฺปตฺโต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฏฺิกายํ, อติถิมฺหากํ สมโณ โคตโม. อติถิ โข ปนมฺเหหิ สกฺกาตพฺโพ ครุกาตพฺโพ มาเนตพฺโพ ปูเชตพฺโพ อปเจตพฺโพ. อิมินาปงฺเคน นารหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. เอตฺตเก โข อหํ, โภ, ตสฺส โภโต โคตมสฺส วณฺเณ ปริยาปุณามิ, โน จ โข โส ภวํ โคตโม เอตฺตกวณฺโณ. อปริมาณวณฺโณ หิ โส ภวํ โคตโม’’ติ.

๓๓๓. เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา กูฏทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ กูฏทนฺโต สมณสฺส โคตมสฺส วณฺเณ ภาสติ, อิโต เจปิ โส ภวํ โคตโม โยชนสเต วิหรติ, อลเมว สทฺเธน กุลปุตฺเตน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อปิ ปุโฏเสนา’’ติ. ‘‘เตน หิ, โภ, สพฺเพว มยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ.

มหาวิชิตราชยฺกถา

๓๓๔. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธึ เยน อมฺพลฏฺิกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ขาณุมตกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

๓๓๕. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม – ‘สมโณ โคตโม ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ชานาตี’ติ. น โข ปนาหํ ชานามิ ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ. อิจฺฉามิ จาหํ มหายฺํ ยชิตุํ. สาธุ เม ภวํ โคตโม ติวิธํ ยฺสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ เทเสตู’’ติ.

๓๓๖. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต นาม อโหสิ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร. อถ โข, พฺราหฺมณ, รฺโ มหาวิชิตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘อธิคตา โข เม วิปุลา มานุสกา โภคา, มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสามิ, ยํนูนาหํ มหายฺํ ยเชยฺยํ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ.

๓๓๗. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตํ พฺราหฺมณํ อามนฺเตตฺวา เอตทโวจ – ‘อิธ มยฺหํ, พฺราหฺมณ, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – อธิคตา โข เม วิปุลา มานุสกา โภคา, มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสามิ. ยํนูนาหํ มหายฺํ ยเชยฺยํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ. อิจฺฉามหํ, พฺราหฺมณ, มหายฺํ ยชิตุํ. อนุสาสตุ มํ ภวํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’’ติ.

๓๓๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ราชานํ มหาวิชิตํ เอตทโวจ – ‘โภโต โข รฺโ ชนปโท สกณฺฏโก สอุปฺปีโฬ, คามฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ, นิคมฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ, นครฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ, ปนฺถทุหนาปิ ทิสฺสนฺติ. ภวํ โข ปน ราชา เอวํ สกณฺฏเก ชนปเท สอุปฺปีเฬ พลิมุทฺธเรยฺย, อกิจฺจการี อสฺส เตน ภวํ ราชา. สิยา โข ปน โภโต รฺโ เอวมสฺส – ‘‘อหเมตํ ทสฺสุขีลํ วเธน วา พนฺเธน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา สมูหนิสฺสามี’’ติ, น โข ปเนตสฺส ทสฺสุขีลสฺส เอวํ สมฺมา สมุคฺฆาโต โหติ. เย เต หตาวเสสกา ภวิสฺสนฺติ, เต ปจฺฉา รฺโ ชนปทํ วิเหเสฺสนฺติ. อปิ จ โข อิทํ สํวิธานํ อาคมฺม เอวเมตสฺส ทสฺสุขีลสฺส สมฺมา สมุคฺฆาโต โหติ. เตน หิ ภวํ ราชา เย โภโต รฺโ ชนปเท อุสฺสหนฺติ กสิโครกฺเข, เตสํ ภวํ ราชา พีชภตฺตํ อนุปฺปเทตุ. เย โภโต รฺโ ชนปเท อุสฺสหนฺติ วาณิชฺชาย, เตสํ ภวํ ราชา ปาภตํ อนุปฺปเทตุ. เย โภโต รฺโ ชนปเท อุสฺสหนฺติ ราชโปริเส, เตสํ ภวํ ราชา ภตฺตเวตนํ ปกปฺเปตุ. เต จ มนุสฺสา สกมฺมปสุตา รฺโ ชนปทํ น วิเหเสฺสนฺติ; มหา จ รฺโ ราสิโก ภวิสฺสติ. เขมฏฺิตา ชนปทา อกณฺฏกา อนุปฺปีฬา. มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรา มฺเ วิหริสฺสนฺตี’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เย รฺโ ชนปเท อุสฺสหึสุ กสิโครกฺเข, เตสํ ราชา มหาวิชิโต พีชภตฺตํ อนุปฺปทาสิ. เย จ รฺโ ชนปเท อุสฺสหึสุ วาณิชฺชาย, เตสํ ราชา มหาวิชิโต ปาภตํ อนุปฺปทาสิ. เย จ รฺโ ชนปเท อุสฺสหึสุ ราชโปริเส, เตสํ ราชา มหาวิชิโต ภตฺตเวตนํ ปกปฺเปสิ. เต จ มนุสฺสา สกมฺมปสุตา รฺโ ชนปทํ น วิเหึสุ, มหา จ รฺโ ราสิโก อโหสิ. เขมฏฺิตา ชนปทา อกณฺฏกา อนุปฺปีฬา มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรา มฺเ วิหรึสุ. อถ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตํ พฺราหฺมณํ อามนฺเตตฺวา เอตทโวจ – ‘สมูหโต โข เม โภโต ทสฺสุขีโล, โภโต สํวิธานํ อาคมฺม มหา จ เม ราสิโก. เขมฏฺิตา ชนปทา อกณฺฏกา อนุปฺปีฬา มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรา มฺเ วิหรนฺติ. อิจฺฉามหํ พฺราหฺมณ มหายฺํ ยชิตุํ. อนุสาสตุ มํ ภวํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ.

จตุปริกฺขารํ

๓๓๙. ‘‘เตน หิ ภวํ ราชา เย โภโต รฺโ ชนปเท ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ เต ภวํ ราชา อามนฺตยตํ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายฺํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวนฺโต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ. เย โภโต รฺโ ชนปเท อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ภวํ ราชา อามนฺตยตํ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายฺํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวนฺโต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เย รฺโ ชนปเท ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ราชา มหาวิชิโต อามนฺเตสิ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายฺํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวนฺโต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ‘ยชตํ ภวํ ราชา ยฺํ, ยฺกาโล มหาราชา’ติ. เย รฺโ ชนปเท อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ราชา มหาวิชิโต อามนฺเตสิ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายฺํ ยชิตุํ. อนุชานนฺตุ เม ภวนฺโต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ. ‘ยชตํ ภวํ ราชา ยฺํ, ยฺกาโล มหาราชา’ติ. อิติเม จตฺตาโร อนุมติปกฺขา ตสฺเสว ยฺสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติ.

อฏฺ ปริกฺขารา

๓๔๐. ‘‘ราชา มหาวิชิโต อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต, อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย; อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร; พลวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สมนฺนาคโต อสฺสวาย โอวาทปฏิกราย สหติ [ปตปติ (สี. ปี.), ตปติ (สฺยา.)] มฺเ ปจฺจตฺถิเก ยสสา; สทฺโธ ทายโก ทานปติ อนาวฏทฺวาโร สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ โอปานภูโต ปุฺานิ กโรติ; พหุสฺสุโต ตสฺส ตสฺส สุตชาตสฺส, ตสฺส ตสฺเสว โข ปน ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’ติ; ปณฺฑิโต, วิยตฺโต, เมธาวี, ปฏิพโล, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน อตฺเถ จินฺเตตุํ. ราชา มหาวิชิโต อิเมหิ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต. อิติ อิมานิปิ อฏฺงฺคานิ ตสฺเสว ยฺสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติ.

จตุปริกฺขารํ

๓๔๑. ‘‘ปุโรหิโต [ปุโรหิโตปิ (ก. สี. ก.)] พฺราหฺมโณ จตุหงฺเคหิ สมนฺนาคโต. อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อิเมหิ จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคโต. อิติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ ตสฺเสว ยฺสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติ.

ติสฺโส วิธา

๓๔๒. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส ปุพฺเพว ยฺา ติสฺโส วิธา เทเสสิ. สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยิฏฺุกามสฺส [ยิฏฺกามสฺส (ก.)] โกจิเทว วิปฺปฏิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขนฺโธ วิคจฺฉิสฺสตี’ติ, โส โภตา รฺา วิปฺปฏิสาโร น กรณีโย. สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วิปฺปฏิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขนฺโธ วิคจฺฉตี’ติ, โส โภตา รฺา วิปฺปฏิสาโร น กรณีโย. สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยิฏฺสฺส โกจิเทว วิปฺปฏิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขนฺโธ วิคโต’ติ, โส โภตา รฺา วิปฺปฏิสาโร น กรณีโย’’ติ. อิมา โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส ปุพฺเพว ยฺา ติสฺโส วิธา เทเสสิ.

ทส อาการา

๓๔๓. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส ปุพฺเพว ยฺา ทสหากาเรหิ ปฏิคฺคาหเกสุ วิปฺปฏิสารํ ปฏิวิเนสิ. ‘อาคมิสฺสนฺติ โข โภโต ยฺํ ปาณาติปาติโนปิ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตาปิ. เย ตตฺถ ปาณาติปาติโน, เตสฺเว เตน. เย ตตฺถ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, เต อารพฺภ ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ. อาคมิสฺสนฺติ โข โภโต ยฺํ อทินฺนาทายิโนปิ อทินฺนาทานา ปฏิวิรตาปิ…เป… กาเมสุ มิจฺฉาจาริโนปิ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตาปิ… มุสาวาทิโนปิ มุสาวาทา ปฏิวิรตาปิ… ปิสุณวาจิโนปิ ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตาปิ… ผรุสวาจิโนปิ ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตาปิ… สมฺผปฺปลาปิโนปิ สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตาปิ … อภิชฺฌาลุโนปิ อนภิชฺฌาลุโนปิ… พฺยาปนฺนจิตฺตาปิ อพฺยาปนฺนจิตฺตาปิ… มิจฺฉาทิฏฺิกาปิ สมฺมาทิฏฺิกาปิ…. เย ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิกา, เตสฺเว เตน. เย ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิกา, เต อารพฺภ ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตู’ติ. อิเมหิ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส ปุพฺเพว ยฺา ทสหากาเรหิ ปฏิคฺคาหเกสุ วิปฺปฏิสารํ ปฏิวิเนสิ.

โสฬส อาการา

๓๔๔. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส มหายฺํ ยชมานสฺส โสฬสหากาเรหิ จิตฺตํ สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ, โน จ โข ตสฺส อามนฺติตา ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ; อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. โภตา โข ปน รฺา อามนฺติตา ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ.

‘‘สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ, โน จ โข ตสฺส อามนฺติตา อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. โภตา โข ปน รฺา อามนฺติตา คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ.

‘‘สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ, โน จ โข อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. ภวํ โข ปน ราชา อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ.

‘‘สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ โน จ โข อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป… โน จ โข อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร…เป… โน จ โข พลวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สมนฺนาคโต อสฺสวาย โอวาทปฏิกราย สหติ มฺเ ปจฺจตฺถิเก ยสสา…เป… โน จ โข สทฺโธ ทายโก ทานปติ อนาวฏทฺวาโร สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ โอปานภูโต ปุฺานิ กโรติ…เป… โน จ โข พหุสฺสุโต ตสฺส ตสฺส สุตชาตสฺส…เป… โน จ โข ตสฺส ตสฺเสว โข ปน ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ ‘‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’’ติ…เป… โน จ โข ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน อตฺเถ จินฺเตตุํ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. ภวํ โข ปน ราชา ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน อตฺเถ จินฺเตตุํ. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ.

‘‘สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ. โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน; อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. โภโต โข ปน รฺโ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทน. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุ.

‘‘สิยา โข ปน โภโต รฺโ มหายฺํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ. โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย…เป… โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต…เป… โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายฺํ ยชตี’ติ. เอวมฺปิ โภโต รฺโ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิ. โภโต โข ปน รฺโ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตูติ. อิเมหิ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รฺโ มหาวิชิตสฺส มหายฺํ ยชมานสฺส โสฬสหิ อากาเรหิ จิตฺตํ สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ.

๓๔๕. ‘‘ตสฺมึ โข, พฺราหฺมณ, ยฺเ เนว คาโว หฺึสุ, น อเชฬกา หฺึสุ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺึสุ, น วิวิธา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชึสุ, น รุกฺขา ฉิชฺชึสุ ยูปตฺถาย, น ทพฺภา ลูยึสุ พริหิสตฺถาย [ปริหึสตฺถาย (สฺยา. ก. สี. ก.), ปรหึสตฺถาย (ก.)]. เยปิสฺส อเหสุํ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ น ทณฺฑตชฺชิตา น ภยตชฺชิตา น อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ อกํสุ. อถ โข เย อิจฺฉึสุ, เต อกํสุ, เย น อิจฺฉึสุ, น เต อกํสุ; ยํ อิจฺฉึสุ, ตํ อกํสุ, ยํ น อิจฺฉึสุ, น ตํ อกํสุ. สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว โส ยฺโ นิฏฺานมคมาสิ.

๓๔๖. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ, อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ, พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ, คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทาย ราชานํ มหาวิชิตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิทํ, เทว, ปหูตํ สาปเตยฺยํ เทวฺเว อุทฺทิสฺสาภตํ, ตํ เทโว ปฏิคฺคณฺหาตู’ติ. ‘อลํ, โภ, มมาปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ธมฺมิเกน พลินา อภิสงฺขตํ; ตฺจ โว โหตุ, อิโต จ ภิยฺโย หรถา’ติ. เต รฺา ปฏิกฺขิตฺตา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘น โข เอตํ อมฺหากํ ปติรูปํ, ยํ มยํ อิมานิ สาปเตยฺยานิ ปุนเทว สกานิ ฆรานิ ปฏิหเรยฺยาม. ราชา โข มหาวิชิโต มหายฺํ ยชติ, หนฺทสฺส มยํ อนุยาคิโน โหมา’ติ.

๓๔๗. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุรตฺถิเมน ยฺวาฏสฺส [ยฺาวาฏสฺส (สี. ปี. ก.)] ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฏฺเปสุํ. ทกฺขิเณน ยฺวาฏสฺส อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฏฺเปสุํ. ปจฺฉิเมน ยฺวาฏสฺส พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฏฺเปสุํ. อุตฺตเรน ยฺวาฏสฺส คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฏฺเปสุํ.

‘‘เตสุปิ โข, พฺราหฺมณ, ยฺเสุ เนว คาโว หฺึสุ, น อเชฬกา หฺึสุ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺึสุ, น วิวิธา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชึสุ, น รุกฺขา ฉิชฺชึสุ ยูปตฺถาย, น ทพฺภา ลูยึสุ พริหิสตฺถาย. เยปิ เนสํ อเหสุํ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ น ทณฺฑตชฺชิตา น ภยตชฺชิตา น อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ อกํสุ. อถ โข เย อิจฺฉึสุ, เต อกํสุ, เย น อิจฺฉึสุ, น เต อกํสุ; ยํ อิจฺฉึสุ, ตํ อกํสุ, ยํ น อิจฺฉึสุ น ตํ อกํสุ. สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว เต ยฺา นิฏฺานมคมํสุ.

‘‘อิติ จตฺตาโร จ อนุมติปกฺขา, ราชา มหาวิชิโต อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคโต; ติสฺโส จ วิธา อยํ วุจฺจติ พฺราหฺมณ ติวิธา ยฺสมฺปทา โสฬสปริกฺขารา’’ติ.

๓๔๘. เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘อโห ยฺโ, อโห ยฺสมฺปทา’’ติ! กูฏทนฺโต ปน พฺราหฺมโณ ตูณฺหีภูโตว นิสินฺโน โหติ. อถ โข เต พฺราหฺมณา กูฏทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘กสฺมา ปน ภวํ กูฏทนฺโต สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทตี’’ติ? ‘‘นาหํ, โภ, สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทามิ. มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย, โย สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมเทยฺย. อปิ จ เม, โภ, เอวํ โหติ – สมโณ โคตโม น เอวมาห – ‘เอวํ เม สุต’นฺติ วา ‘เอวํ อรหติ ภวิตุ’นฺติ วา; อปิ จ สมโณ โคตโม – ‘เอวํ ตทา อาสิ, อิตฺถํ ตทา อาสิ’ ตฺเวว ภาสติ. ตสฺส มยฺหํ โภ เอวํ โหติ – ‘อทฺธา สมโณ โคตโม เตน สมเยน ราชา วา อโหสิ มหาวิชิโต ยฺสฺสามิ ปุโรหิโต วา พฺราหฺมโณ ตสฺส ยฺสฺส ยาเชตา’ติ. อภิชานาติ ปน ภวํ โคตโม เอวรูปํ ยฺํ ยชิตฺวา วา ยาเชตฺวา วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิตาติ’’? ‘‘อภิชานามหํ, พฺราหฺมณ, เอวรูปํ ยฺํ ยชิตฺวา วา ยาเชตฺวา วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิตา, อหํ เตน สมเยน ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อโหสึ ตสฺส ยฺสฺส ยาเชตา’’ติ.

นิจฺจทานอนุกุลยฺํ

๓๔๙. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ ยฺโ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย [ติวิธยฺสมฺปทาย (ก.)] โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตโร [อปฺปตฺถตโร (สฺยา. กํ.)] จ อปฺปสมารมฺภตโร [อปฺปสมารพฺภตโร (สี. ปี. ก.)] จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อฺโ ยฺโ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยฺโ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘ยานิ โข ปน ตานิ, พฺราหฺมณ, นิจฺจทานานิ อนุกุลยฺานิ สีลวนฺเต ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส ทิยฺยนฺติ; อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ตํ นิจฺจทานํ อนุกุลยฺํ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตรฺจ อปฺปสมารมฺภตรฺจ มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจา’’ติ?

‘‘น โข, พฺราหฺมณ, เอวรูปํ ยฺํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา. ตํ กิสฺส เหตุ? ทิสฺสนฺติ เหตฺถ, พฺราหฺมณ, ทณฺฑปฺปหาราปิ คลคฺคหาปิ, ตสฺมา เอวรูปํ ยฺํ น อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา. ยานิ โข ปน ตานิ, พฺราหฺมณ, นิจฺจทานานิ อนุกุลยฺานิ สีลวนฺเต ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส ทิยฺยนฺติ; เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา. ตํ กิสฺส เหตุ? น เหตฺถ, พฺราหฺมณ, ทิสฺสนฺติ ทณฺฑปฺปหาราปิ คลคฺคหาปิ, ตสฺมา เอวรูปํ ยฺํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน ตํ นิจฺจทานํ อนุกุลยฺํ อิมาย ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฏฺตรฺจ อปฺปสมารมฺภตรฺจ มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจา’’ติ.

๓๕๐. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารํ กโรติ, อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

๓๕๑. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, ปสนฺนจิตฺโต พุทฺธํ สรณํ คจฺฉติ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉติ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉติ; อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

๓๕๒. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, ปสนฺนจิตฺโต สิกฺขาปทานิ สมาทิยติ – ปาณาติปาตา เวรมณึ, อทินฺนาทานา เวรมณึ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณึ, มุสาวาทา เวรมณึ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณึ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

๓๕๓. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อฺโ ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ.

‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยฺโ อิมาย จ ติวิธาย ยฺสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยฺเน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ ปุริเมหิ ยฺเหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ ปุริเมหิ ยฺเหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จาติ. าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ ปุริเมหิ ยฺเหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จ…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยฺโ ปุริเมหิ ยฺเหิ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จ. อิมาย จ, พฺราหฺมณ, ยฺสมฺปทาย อฺา ยฺสมฺปทา อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถี’’ติ.

กูฏทนฺตอุปาสกตฺตปฏิเวทนา

๓๕๔. เอวํ วุตฺเต, กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ. เอสาหํ โภ โคตม สตฺต จ อุสภสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรีสตานิ สตฺต จ อชสตานิ สตฺต จ อุรพฺภสตานิ มุฺจามิ, ชีวิตํ เทมิ, หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายตู’’ติ.

โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยา

๓๕๕. อถ โข ภควา กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ, ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ กูฏทนฺตํ พฺราหฺมณํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ตสฺมิฺเว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

๓๕๖. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

๓๕๗. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก ยฺวาเฏ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม; นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

๓๕๘. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน กูฏทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ยฺวาโฏ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ.

อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข กูฏทนฺตํ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ.

กูฏทนฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. มหาลิสุตฺตํ

พฺราหฺมณทูตวตฺถุ

๓๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เวสาลิยํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อสฺโสสุํ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.

๓๖๐. อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมึสุ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคิโต ภควโต อุปฏฺาโก โหติ. อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมึสุ. อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจุํ – ‘‘กหํ นุ โข, โภ นาคิต, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ? ทสฺสนกามา หิ มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ. ‘‘อกาโล โข, อาวุโส, ภควนฺตํ ทสฺสนาย, ปฏิสลฺลีโน ภควา’’ติ. อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทึสุ – ‘‘ทิสฺวาว มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ คมิสฺสามา’’ติ.

โอฏฺทฺธลิจฺฉวีวตฺถุ

๓๖๑. โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธึ เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต นาคิต, เอตรหิ โส ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ทสฺสนกามา หิ มยํ ตํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘อกาโล โข, มหาลิ, ภควนฺตํ ทสฺสนาย, ปฏิสลฺลีโน ภควา’’ติ. โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทิ – ‘‘ทิสฺวาว อหํ ตํ ภควนฺตํ คมิสฺสามิ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.

๓๖๒. อถ โข สีโห สมณุทฺเทโส เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สีโห สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจ – ‘‘เอเต, ภนฺเต กสฺสป, สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา อิธูปสงฺกนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย; โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธึ อิธูปสงฺกนฺโต ภควนฺตํ ทสฺสนาย, สาธุ, ภนฺเต กสฺสป, ลภตํ เอสา ชนตา ภควนฺตํ ทสฺสนายา’’ติ.

‘‘เตน หิ, สีห, ตฺวฺเว ภควโต อาโรเจหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สีโห สมณุทฺเทโส อายสฺมโต นาคิตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สีโห สมณุทฺเทโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอเต, ภนฺเต, สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา อิธูปสงฺกนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธึ อิธูปสงฺกนฺโต ภควนฺตํ ทสฺสนาย. สาธุ, ภนฺเต, ลภตํ เอสา ชนตา ภควนฺตํ ทสฺสนายา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สีห, วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปฺเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สีโห สมณุทฺเทโส ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปฺเปสิ.

๓๖๓. อถ โข ภควา วิหารา นิกฺขมฺม วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. โอฏฺทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธึ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๓๖๔. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โอฏฺทฺโธ ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ยทคฺเค อหํ, มหาลิ, ภควนฺตํ อุปนิสฺสาย วิหรามิ, น จิรํ ตีณิ วสฺสานิ, ทิพฺพานิ หิ โข รูปานิ ปสฺสามิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณามิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานี’ติ. สนฺตาเนว นุ โข, ภนฺเต, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, อุทาหุ อสนฺตานี’’ติ?

เอกํสภาวิตสมาธิ

๓๖๕. ‘‘สนฺตาเนว โข, มหาลิ, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน สนฺตาเนว สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติ?

๓๖๖. ‘‘อิธ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ.

๓๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป… ปจฺฉิมาย ทิสาย … อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ.

๓๖๘. ‘‘อิธ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ.

๓๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป… ปจฺฉิมาย ทิสาย… อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ.

๓๗๐. ‘‘อิธ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ จ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, ทิพฺพานิ จ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ.

๓๗๑. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป… ปจฺฉิมาย ทิสาย… อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. โส อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ จ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, ทิพฺพานิ จ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ. อยํ โข มหาลิ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน สนฺตาเนว สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติ.

๓๗๒. ‘‘เอตาสํ นูน, ภนฺเต, สมาธิภาวนานํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ. ‘‘น โข, มหาลิ, เอตาสํ สมาธิภาวนานํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. อตฺถิ โข, มหาลิ, อฺเว ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ.

จตุอริยผลํ

๓๗๓. ‘‘กตเม ปน เต, ภนฺเต, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาลิ, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว [สกึเทว (ก.)] อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. อิเม โข เต, มหาลิ, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ.

อริยอฏฺงฺคิกมคฺโค

๓๗๔. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, มหาลิ, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติ.

๓๗๕. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, มคฺโค กตมา ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ โข, มหาลิ, มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย.

ทฺเวปพฺพชิตวตฺถุ

๓๗๖. ‘‘เอกมิทาหํ, มหาลิ, สมยํ โกสมฺพิยํ วิหรามิ โฆสิตาราเม. อถ โข ทฺเว ปพฺพชิตา – มุณฺฑิโย จ ปริพฺพาชโก ชาลิโย จ ทารุปตฺติกนฺเตวาสี เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ. อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา มํ เอตทโวจุํ – ‘กึ นุ โข, อาวุโส โคตม, ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อุทาหุ อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ?

๓๗๗. ‘‘‘เตน หาวุโส, สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘เอวมาวุโส’ติ โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา มม ปจฺจสฺโสสุํ. อหํ เอตทโวจํ – อิธาวุโส ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป… าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ [น กลฺลํ (สี. สฺยา. กํ. ก.)] ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ น กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน โอฏฺทฺโธ ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

มหาลิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. ชาลิยสุตฺตํ

ทฺเวปพฺพชิตวตฺถุ

๓๗๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ปพฺพชิตา – มุณฺฑิโย จ ปริพฺพาชโก ชาลิโย จ ทารุปตฺติกนฺเตวาสี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส โคตม, ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อุทาหุ อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ?

๓๗๙. ‘‘เตน หาวุโส, สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อิธาวุโส, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ กลฺลํ, ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป… าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา…เป….

๓๘๐. …เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, น กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วาติ. อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิ. อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ทฺเว ปพฺพชิตา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

ชาลิยสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. มหาสีหนาทสุตฺตํ

อเจลกสฺสปวตฺถุ

๓๘๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุรุฺายํ [อุชุฺายํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วิหรติ กณฺณกตฺถเล มิคทาเย. อถ โข อเจโล กสฺสโป เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม – ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี’ติ. เย เต, โภ โคตม, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี’ติ, กจฺจิ เต โภโต โคตมสฺส วุตฺตวาทิโน, น จ ภวนฺตํ โคตมํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ.

๓๘๒. ‘‘เย เต, กสฺสป, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี’ติ, น เม เต วุตฺตวาทิโน, อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ เต อสตา อภูเตน. อิธาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํ. อิธ ปนาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํ.

๓๘๓. ‘‘อิธาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ อปฺปทุกฺขวิหารึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํ. อิธ ปนาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ อปฺปทุกฺขวิหารึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํ. โยหํ, กสฺสป, อิเมสํ ตปสฺสีนํ เอวํ อาคติฺจ คติฺจ จุติฺจ อุปปตฺติฺจ ยถาภูตํ ปชานามิ, โสหํ กึ สพฺพํ ตปํ ครหิสฺสามิ, สพฺพํ วา ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสิสฺสามิ อุปวทิสฺสามิ?

๓๘๔. ‘‘สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตา นิปุณา กตปรปฺปวาทา วาลเวธิรูปา. เต ภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานิ. เตหิปิ เม สทฺธึ เอกจฺเจสุ าเนสุ สเมติ, เอกจฺเจสุ าเนสุ น สเมติ. ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู’ติ, มยมฺปิ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู’ติ. ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู’ติ, มยมฺปิ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู’ติ. ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู’ติ, มยํ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู’ติ. ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู’ติ, มยํ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู’ติ.

‘‘ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู’ติ, ปเรปิ ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู’ติ. ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู’ติ, ปเรปิ ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู’ติ. ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู’ติ, ปเร ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู’ติ. ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู’ติ, ปเร ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู’ติ.

สมนุยุฺชาปนกถา

๓๘๕. ‘‘ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – เยสุ โน, อาวุโส, าเนสุ น สเมติ, ติฏฺนฺตุ ตานิ านานิ. เยสุ าเนสุ สเมติ, ตตฺถ วิฺู สมนุยุฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตา. โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, สมโณ วา โคตโม, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยา’ติ?

๓๘๖. ‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตา. สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยา’ติ. อิติห, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุํ.

๓๘๗. ‘‘อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา. โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, สมโณ วา โคตโม, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยา’ ติ?

๓๘๘. ‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา. สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยา’ติ. อิติห, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุํ.

๓๘๙. ‘‘อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตา. โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, โคตมสาวกสงฺโฆ วา, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยสาวกสงฺฆา’ติ?

๓๙๐. ‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตา. โคตมสาวกสงฺโฆ อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยสาวกสงฺฆา’ติ. อิติห, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุํ.

๓๙๑. ‘‘อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ. ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา. โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, โคตมสาวกสงฺโฆ วา, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยสาวกสงฺฆา’ติ?

๓๙๒. ‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตา. โคตมสาวกสงฺโฆ อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยสาวกสงฺฆา’ติ. อิติห, กสฺสป, วิฺู สมนุยุฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุํ.

อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค

๓๙๓. ‘‘อตฺถิ, กสฺสป, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามํเยว สฺสติ สามํ ทกฺขติ [ทกฺขิติ (สี.)] – ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที’ติ. กตโม จ, กสฺสป, มคฺโค, กตมา จ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามํเยว สฺสติ สามํ ทกฺขติ – ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที’ติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ โข, กสฺสป, มคฺโค, อยํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามํเยว สฺสติ สามํ ทกฺขติ ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที’’’ติ.

ตโปปกฺกมกถา

๓๙๔. เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามฺสงฺขาตา จ พฺรหฺมฺสงฺขาตา จ. อเจลโก โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน, น เอหิภทฺทนฺติโก, น ติฏฺภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ, น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติ. โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภุฺชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติ. โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ. อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ.

๓๙๕. ‘‘อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามฺสงฺขาตา จ พฺรหฺมฺสงฺขาตา จ. สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิฺากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี.

๓๙๖. ‘‘อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามฺสงฺขาตา จ พฺรหฺมฺสงฺขาตา จ. สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขิกมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต, อุพฺภฏฺโกปิ [อุพฺภฏฺิโกปิ (ก.)] โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, ผลกเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, ถณฺฑิลเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, เอกปสฺสยิโกปิ โหติ รโชชลฺลธโร, อพฺโภกาสิโกปิ โหติ ยถาสนฺถติโก, เวกฏิโกปิ โหติ วิกฏโภชนานุโยคมนุยุตฺโต, อปานโกปิ โหติ อปานกตฺตมนุยุตฺโต, สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี’’ติ.

ตโปปกฺกมนิรตฺถกถา

๓๙๗. ‘‘อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน…เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปฺาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตา. อถ โข โส อารกาว สามฺา อารกาว พฺรหฺมฺา. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ, สามากภกฺโข…เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปฺาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตา. อถ โข โส อารกาว สามฺา อารกาว พฺรหฺมฺา. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ…เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปฺาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตา. อถ โข โส อารกาว สามฺา อารกาว พฺรหฺมฺา. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี’’ติ.

๓๙๘. เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทุกฺกรํ, โภ โคตม, สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’’นฺติ. ‘‘ปกติ โข เอสา, กสฺสป, โลกสฺมึ ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ. อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน…เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘หนฺทาหํ อเจลโก โหมิ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน…เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรามี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา โหติ พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ, สามากภกฺโข…เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘หนฺทาหํ สากภกฺโข วา โหมิ, สามากภกฺโข วา…เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปมิ ปวตฺตผลโภชี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา โหติ พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ…เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘หนฺทาหํ สาณานิปิ ธาเรมิ, มสาณานิปิ ธาเรมิ…เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรามี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามฺํ วา โหติ พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุกฺกรํ สามฺํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมฺ’นฺติ. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี’’ติ.

๓๙๙. เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทุชฺชาโน, โภ โคตม, สมโณ, ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’’ติ. ‘‘ปกติ โข เอสา, กสฺสป, โลกสฺมึ ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ. อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน…เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส าตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘อยํ อเจลโก โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน…เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ. ยโต โข [ยโต จ โข (ก.)], กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ สามากภกฺโข…เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส าตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘อยํ สากภกฺโข วา โหติ สามากภกฺโข…เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิ.

‘‘สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ…เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ.

‘‘สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส าตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ – ‘อยํ สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ…เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อฺตฺเรว อิมาย มตฺตาย อฺตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ’ติ. ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี’’ติ.

สีลสมาธิปฺาสมฺปทา

๔๐๐. เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตมา ปน สา, โภ โคตม, สีลสมฺปทา, กตมา จิตฺตสมฺปทา, กตมา ปฺาสมฺปทา’’ติ? ‘‘อิธ, กสฺสป, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๑๙๓ อนุจฺเฉเทสุ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ) ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน ปริสุทฺธาชีโว สีลสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต สนฺตุฏฺโ.

๔๐๑. ‘‘กถฺจ, กสฺสป, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, กสฺสป, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสมฺปทาย …เป… (ยถา ๑๙๔ ยาว ๒๑๐ อนุจฺเฉเทสุ)

‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ. เสยฺยถิทํ – สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ…เป… (ยถา ๒๑๑ อนุจฺเฉเท) โอสธีนํ ปติโมกฺโข อิติ วา อิติ, เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสมฺปทาย.

‘‘ส โข โส [อยํ โข (ก.)], กสฺสป, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. เสยฺยถาปิ, กสฺสป, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต นิหตปจฺจามิตฺโต น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ ปจฺจตฺถิกโต. เอวเมว โข, กสฺสป, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, กสฺสป, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ. อยํ โข, กสฺสป, สีลสมฺปทา…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ จิตฺตสมฺปทาย…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ จิตฺตสมฺปทาย. อยํ โข, กสฺสป, จิตฺตสมฺปทา.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาสมฺปทาย…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ…เป… อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาสมฺปทาย. อยํ โข, กสฺสป, ปฺาสมฺปทา.

‘‘อิมาย จ, กสฺสป, สีลสมฺปทาย จิตฺตสมฺปทาย ปฺาสมฺปทาย อฺา สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปฺาสมฺปทา อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถิ.

สีหนาทกถา

๔๐๒. ‘‘สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา สีลวาทา. เต อเนกปริยาเยน สีลสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยาวตา, กสฺสป, อริยํ ปรมํ สีลํ, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิยฺโย! อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย, ยทิทํ อธิสีลํ.

‘‘สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทา. เต อเนกปริยาเยน ตโปชิคุจฺฉาย วณฺณํ ภาสนฺติ. ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา ตโปชิคุจฺฉา, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิยฺโย! อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย, ยทิทํ อธิเชคุจฺฉํ.

‘‘สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปฺาวาทา. เต อเนกปริยาเยน ปฺาย วณฺณํ ภาสนฺติ. ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา ปฺา, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิยฺโย! อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย, ยทิทํ อธิปฺํ.

‘‘สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา วิมุตฺติวาทา. เต อเนกปริยาเยน วิมุตฺติยา วณฺณํ ภาสนฺติ. ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา วิมุตฺติ, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิยฺโย! อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย, ยทิทํ อธิวิมุตฺติ.

๔๐๓. ‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สีหนาทํ โข สมโณ โคตโม นทติ, ตฺจ โข สุฺาคาเร นทติ, โน ปริสาสู’ติ. เต – ‘มา เหว’นฺติสฺสุ วจนียา. ‘สีหนาทฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทตี’ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียา.

‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สีหนาทฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, โน จ โข วิสารโท นทตี’ติ. เต – ‘มา เหว’นฺติสฺสุ วจนียา. ‘สีหนาทฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทตี’’ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียา.

‘‘านํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สีหนาทฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทติ, โน จ โข นํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ…เป… ปฺหฺจ นํ ปุจฺฉนฺติ; โน จ โข เนสํ ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ…เป… ปฺหฺจ เนสํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ; โน จ โข ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ…เป… ปฺหสฺส จ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ; โน จ โข โสตพฺพํ มฺนฺติ…เป… โสตพฺพฺจสฺส มฺนฺติ; โน จ โข สุตฺวา ปสีทนฺติ…เป… สุตฺวา จสฺส ปสีทนฺติ; โน จ โข ปสนฺนาการํ กโรนฺติ…เป… ปสนฺนาการฺจ กโรนฺติ; โน จ โข ตถตฺตาย ปฏิปชฺชนฺติ…เป… ตถตฺตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ; โน จ โข ปฏิปนฺนา อาราเธนฺตี’ติ. เต – ‘มา เหว’นฺติสฺสุ วจนียา. ‘สีหนาทฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทติ, ปฺหฺจ นํ ปุจฺฉนฺติ, ปฺหฺจ เนสํ ปุฏฺโ พฺยากโรติ, ปฺหสฺส จ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ, โสตพฺพฺจสฺส มฺนฺติ, สุตฺวา จสฺส ปสีทนฺติ, ปสนฺนาการฺจ กโรนฺติ, ตถตฺตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ, ปฏิปนฺนา จ อาราเธนฺตี’ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียา.

ติตฺถิยปริวาสกถา

๔๐๔. ‘‘เอกมิทาหํ, กสฺสป, สมยํ ราชคเห วิหรามิ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. ตตฺร มํ อฺตโร ตปพฺรหฺมจารี นิคฺโรโธ นาม อธิเชคุจฺเฉ ปฺหํ อปุจฺฉิ. ตสฺสาหํ อธิเชคุจฺเฉ ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสึ. พฺยากเต จ ปน เม อตฺตมโน อโหสิ ปรํ วิย มตฺตายา’’ติ. ‘‘โก หิ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา น อตฺตมโน อสฺส ปรํ วิย มตฺตาย? อหมฺปิ หิ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา อตฺตมโน ปรํ วิย มตฺตาย. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ.

๔๐๕. ‘‘โย โข, กสฺสป, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺติ อุปสมฺปทํ, จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ, อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ.

อลตฺถ โข อเจโล กสฺสโป ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา กสฺสโป เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต น จิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ – อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสีติ.

มหาสีหนาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. โปฏฺปาทสุตฺตํ

โปฏฺปาทปริพฺพาชกวตฺถุ

๔๐๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ ตึสมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.

๔๐๗. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม, เยน โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม เตนุปสงฺกมิ.

๔๐๘. เตน โข ปน สมเยน โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา.

๔๐๙. อทฺทสา โข โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมโณ โคตโม อาคจฺฉติ. อปฺปสทฺทกาโม โข โส อายสฺมา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.

๔๑๐. อถ โข ภควา เยน โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ, ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทํ อาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ.

นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. โปฏฺปาโทปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โปฏฺปาทํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ [กาย โนตฺถ (สฺยา. ก.)], โปฏฺปาท, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

อภิสฺานิโรธกถา

๔๑๑. เอวํ วุตฺเต โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺเตสา, ภนฺเต, กถา, ยาย มยํ เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา. เนสา, ภนฺเต, กถา ภควโต ทุลฺลภา ภวิสฺสติ ปจฺฉาปิ สวนาย. ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ, นานาติตฺถิยานํ สมณพฺราหฺมณานํ โกตูหลสาลาย สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อภิสฺานิโรเธ กถา อุทปาทิ – ‘กถํ นุ โข, โภ, อภิสฺานิโรโธ โหตี’ติ? ตตฺเรกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘อเหตู อปฺปจฺจยา ปุริสสฺส สฺา อุปฺปชฺชนฺติปิ นิรุชฺฌนฺติปิ. ยสฺมึ สมเย อุปฺปชฺชนฺติ, สฺี ตสฺมึ สมเย โหติ. ยสฺมึ สมเย นิรุชฺฌนฺติ, อสฺี ตสฺมึ สมเย โหตี’ติ. อิตฺเถเก อภิสฺานิโรธํ ปฺเปนฺติ.

‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘น โข ปน เมตํ [น โข นาเมตํ (สี. ปี.)], โภ, เอวํ ภวิสฺสติ. สฺา หิ, โภ, ปุริสสฺส อตฺตา. สา จ โข อุเปติปิ อเปติปิ. ยสฺมึ สมเย อุเปติ, สฺี ตสฺมึ สมเย โหติ. ยสฺมึ สมเย อเปติ, อสฺี ตสฺมึ สมเย โหตี’ติ. อิตฺเถเก อภิสฺานิโรธํ ปฺเปนฺติ.

‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘น โข ปน เมตํ, โภ, เอวํ ภวิสฺสติ. สนฺติ หิ, โภ, สมณพฺราหฺมณา มหิทฺธิกา มหานุภาวา. เต อิมสฺส ปุริสสฺส สฺํ อุปกฑฺฒนฺติปิ อปกฑฺฒนฺติปิ. ยสฺมึ สมเย อุปกฑฺฒนฺติ, สฺี ตสฺมึ สมเย โหติ. ยสฺมึ สมเย อปกฑฺฒนฺติ, อสฺี ตสฺมึ สมเย โหตี’ติ. อิตฺเถเก อภิสฺานิโรธํ ปฺเปนฺติ.

‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘น โข ปน เมตํ, โภ, เอวํ ภวิสฺสติ. สนฺติ หิ, โภ, เทวตา มหิทฺธิกา มหานุภาวา. ตา อิมสฺส ปุริสสฺส สฺํ อุปกฑฺฒนฺติปิ อปกฑฺฒนฺติปิ. ยสฺมึ สมเย อุปกฑฺฒนฺติ, สฺี ตสฺมึ สมเย โหติ. ยสฺมึ สมเย อปกฑฺฒนฺติ, อสฺี ตสฺมึ สมเย โหตี’ติ. อิตฺเถเก อภิสฺานิโรธํ ปฺเปนฺติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว อารพฺภ สติ อุทปาทิ – ‘อโห นูน ภควา, อโห นูน สุคโต, โย อิเมสํ ธมฺมานํ สุกุสโล’ติ. ภควา, ภนฺเต, กุสโล, ภควา ปกตฺู อภิสฺานิโรธสฺส. กถํ นุ โข, ภนฺเต, อภิสฺานิโรโธ โหตี’’ติ?

สเหตุกสฺุปฺปาทนิโรธกถา

๔๑๒. ‘‘ตตฺร, โปฏฺปาท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘อเหตู อปฺปจฺจยา ปุริสสฺส สฺา อุปฺปชฺชนฺติปิ นิรุชฺฌนฺติปี’ติ, อาทิโตว เตสํ อปรทฺธํ. ตํ กิสฺส เหตุ? สเหตู หิ, โปฏฺปาท, สปฺปจฺจยา ปุริสสฺส สฺา อุปฺปชฺชนฺติปิ นิรุชฺฌนฺติปิ. สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ’’.

๔๑๓. ‘‘กา จ สิกฺขา’’ติ? ภควา อโวจ – ‘‘อิธ, โปฏฺปาท, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ตสฺสิเม ปฺจนีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสโต ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ, สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา กามสฺา, สา นิรุชฺฌติ. วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, วิเวกชปีติสุขสุขุม-สจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยํ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา, สา นิรุชฺฌติ. สมาธิชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, สมาธิชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา สมาธิชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา, สา นิรุชฺฌติ. อุเปกฺขาสุขสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, อุเปกฺขาสุขสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา อุเปกฺขาสุขสุขุมสจฺจสฺา, สา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, อทุกฺขมสุขสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา รูปสฺา [ปุริมสฺา (ก.)], สา นิรุชฺฌติ. อากาสานฺจายตนสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, อากาสานฺจายตนสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา อากาสานฺจายตนสุขุมสจฺจสฺา, สา นิรุชฺฌติ. วิฺาณฺจายตนสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, วิฺาณฺจายตนสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

‘‘ปุน จปรํ, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส ยา ปุริมา วิฺาณฺจายตนสุขุมสจฺจสฺา, สา นิรุชฺฌติ. อากิฺจฺายตนสุขุมสจฺจสฺา ตสฺมึ สมเย โหติ, อากิฺจฺายตนสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหติ. เอวมฺปิ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชติ, สิกฺขา เอกา สฺา นิรุชฺฌติ. อยมฺปิ สิกฺขา’’ติ ภควา อโวจ.

๔๑๔. ‘‘ยโต โข, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ อิธ สกสฺี โหติ, โส ตโต อมุตฺร ตโต อมุตฺร อนุปุพฺเพน สฺคฺคํ ผุสติ. ตสฺส สฺคฺเค ิตสฺส เอวํ โหติ – ‘เจตยมานสฺส เม ปาปิโย, อเจตยมานสฺส เม เสยฺโย. อหฺเจว โข ปน เจเตยฺยํ, อภิสงฺขเรยฺยํ, อิมา จ เม สฺา นิรุชฺเฌยฺยุํ, อฺา จ โอฬาริกา สฺา อุปฺปชฺเชยฺยุํ; ยํนูนาหํ น เจว เจเตยฺยํ น จ อภิสงฺขเรยฺย’นฺติ. โส น เจว เจเตติ, น จ อภิสงฺขโรติ. ตสฺส อเจตยโต อนภิสงฺขโรโต ตา เจว สฺา นิรุชฺฌนฺติ, อฺา จ โอฬาริกา สฺา น อุปฺปชฺชนฺติ. โส นิโรธํ ผุสติ. เอวํ โข, โปฏฺปาท, อนุปุพฺพาภิสฺานิโรธ-สมฺปชาน-สมาปตฺติ โหติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, อปิ นุ เต อิโต ปุพฺเพ เอวรูปา อนุปุพฺพาภิสฺานิโรธ-สมฺปชาน-สมาปตฺติ สุตปุพฺพา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. เอวํ โข อหํ, ภนฺเต, ภควโต ภาสิตํ อาชานามิ – ‘ยโต โข, โปฏฺปาท, ภิกฺขุ อิธ สกสฺี โหติ, โส ตโต อมุตฺร ตโต อมุตฺร อนุปุพฺเพน สฺคฺคํ ผุสติ, ตสฺส สฺคฺเค ิตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เจตยมานสฺส เม ปาปิโย, อเจตยมานสฺส เม เสยฺโย. อหฺเจว โข ปน เจเตยฺยํ อภิสงฺขเรยฺยํ, อิมา จ เม สฺา นิรุชฺเฌยฺยุํ, อฺา จ โอฬาริกา สฺา อุปฺปชฺเชยฺยุํ; ยํนูนาหํ น เจว เจเตยฺยํ, น จ อภิสงฺขเรยฺย’’นฺติ. โส น เจว เจเตติ, น จาภิสงฺขโรติ, ตสฺส อเจตยโต อนภิสงฺขโรโต ตา เจว สฺา นิรุชฺฌนฺติ, อฺา จ โอฬาริกา สฺา น อุปฺปชฺชนฺติ. โส นิโรธํ ผุสติ. เอวํ โข, โปฏฺปาท, อนุปุพฺพาภิสฺานิโรธ-สมฺปชาน-สมาปตฺติ โหตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, โปฏฺปาทา’’ติ.

๔๑๕. ‘‘เอกฺเว นุ โข, ภนฺเต, ภควา สฺคฺคํ ปฺเปติ, อุทาหุ ปุถูปิ สฺคฺเค ปฺเปตี’’ติ? ‘‘เอกมฺปิ โข อหํ, โปฏฺปาท, สฺคฺคํ ปฺเปมิ, ปุถูปิ สฺคฺเค ปฺเปมี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา เอกมฺปิ สฺคฺคํ ปฺเปติ, ปุถูปิ สฺคฺเค ปฺเปตี’’ติ? ‘‘ยถา ยถา โข, โปฏฺปาท, นิโรธํ ผุสติ, ตถา ตถาหํ สฺคฺคํ ปฺเปมิ. เอวํ โข อหํ, โปฏฺปาท, เอกมฺปิ สฺคฺคํ ปฺเปมิ, ปุถูปิ สฺคฺเค ปฺเปมี’’ติ.

๔๑๖. ‘‘สฺา นุ โข, ภนฺเต, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณํ, อุทาหุ าณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา สฺา, อุทาหุ สฺา จ าณฺจ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘สฺา โข, โปฏฺปาท, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณํ, สฺุปฺปาทา จ ปน าณุปฺปาโท โหติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิทปฺปจฺจยา กิร เม าณํ อุทปาที’ติ. อิมินา โข เอตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ – ยถา สฺา ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณํ, สฺุปฺปาทา จ ปน าณุปฺปาโท โหตี’’ติ.

สฺาอตฺตกถา

๔๑๗. ‘‘สฺา นุ โข, ภนฺเต, ปุริสสฺส อตฺตา, อุทาหุ อฺา สฺา อฺโ อตฺตา’’ติ? ‘‘กํ ปน ตฺวํ, โปฏฺปาท, อตฺตานํ ปจฺเจสี’’ติ? ‘‘โอฬาริกํ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺตานํ ปจฺเจมิ รูปึ จาตุมหาภูติกํ กพฬีการาหารภกฺข’’นฺติ [กพฬีการภกฺขนฺติ (สฺยา. ก.)]. ‘‘โอฬาริโก จ หิ เต, โปฏฺปาท, อตฺตา อภวิสฺส รูปี จาตุมหาภูติโก กพฬีการาหารภกฺโข. เอวํ สนฺตํ โข เต, โปฏฺปาท, อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ตทมินาเปตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ติฏฺเตว สายํ [ติฏฺเตวายํ (สี. ปี.)], โปฏฺปาท, โอฬาริโก อตฺตา รูปี จาตุมหาภูติโก กพฬีการาหารภกฺโข, อถ อิมสฺส ปุริสสฺส อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺติ. อิมินา โข เอตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา’’ติ.

๔๑๘. ‘‘มโนมยํ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺตานํ ปจฺเจมิ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริย’’นฺติ. ‘‘มโนมโย จ หิ เต, โปฏฺปาท, อตฺตา อภวิสฺส สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย, เอวํ สนฺตมฺปิ โข เต, โปฏฺปาท, อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ตทมินาเปตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ติฏฺเตว สายํ, โปฏฺปาท, มโนมโย อตฺตา สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย, อถ อิมสฺส ปุริสสฺส อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺติ. อิมินาปิ โข เอตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา’’ติ.

๔๑๙. ‘‘อรูปึ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺตานํ ปจฺเจมิ สฺามย’’นฺติ. ‘‘อรูปี จ หิ เต, โปฏฺปาท, อตฺตา อภวิสฺส สฺามโย, เอวํ สนฺตมฺปิ โข เต, โปฏฺปาท, อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ตทมินาเปตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา. ติฏฺเตว สายํ, โปฏฺปาท, อรูปี อตฺตา สฺามโย, อถ อิมสฺส ปุริสสฺส อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺติ. อิมินาปิ โข เอตํ, โปฏฺปาท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อฺาว สฺา ภวิสฺสติ อฺโ อตฺตา’’ติ.

๔๒๐. ‘‘สกฺกา ปเนตํ, ภนฺเต, มยา าตุํ – ‘สฺา ปุริสสฺส อตฺตา’ติ วา ‘อฺาว สฺา อฺโ อตฺตาติ วา’ติ? ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ [เอวํ (ก.)], โปฏฺปาท, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน – ‘สฺา ปุริสสฺส อตฺตา’ติ วา, ‘อฺาว สฺา อฺโ อตฺตาติ วา’’’ติ.

‘‘สเจ ตํ, ภนฺเต, มยา ทุชฺชานํ อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน – ‘สฺา ปุริสสฺส อตฺตา’ติ วา, ‘อฺาว สฺา อฺโ อตฺตา’ติ วา; ‘กึ ปน, ภนฺเต, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ? อพฺยากตํ โข เอตํ, โปฏฺปาท, มยา – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ.

‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, โปฏฺปาท, มยา อพฺยากตํ – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ‘อนฺตวา โลโก…เป… ‘อนนฺตวา โลโก … ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, โปฏฺปาท, มยา อพฺยากตํ – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.

‘‘กสฺมา ปเนตํ, ภนฺเต, ภควตา อพฺยากต’’นฺติ? ‘‘น เหตํ, โปฏฺปาท, อตฺถสํหิตํ น ธมฺมสํหิตํ นาทิพฺรหฺมจริยกํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ตสฺมา เอตํ มยา อพฺยากต’’นฺติ.

‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ภควตา พฺยากต’’นฺติ? ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, โปฏฺปาท, มยา พฺยากตํ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โข, โปฏฺปาท, มยา พฺยากตํ. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ โข, โปฏฺปาท, มยา พฺยากตํ. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ โข, โปฏฺปาท, มยา พฺยากต’’นฺติ.

‘‘กสฺมา ปเนตํ, ภนฺเต, ภควตา พฺยากต’’นฺติ? ‘‘เอตฺหิ, โปฏฺปาท, อตฺถสํหิตํ, เอตํ ธมฺมสํหิตํ, เอตํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ, เอตํ นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ; ตสฺมา เอตํ มยา พฺยากต’’นฺติ. ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ. อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๔๒๑. อถ โข เต ปริพฺพาชกา อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต โปฏฺปาทํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจา [วาจาย (สฺยา. ก.)] สนฺนิโตทเกน สฺฌพฺภริมกํสุ – ‘‘เอวเมว ปนายํ ภวํ โปฏฺปาโท ยฺเทว สมโณ โคตโม ภาสติ, ตํ ตเทวสฺส อพฺภนุโมทติ – ‘เอวเมตํ ภควา เอวเมตํ, สุคตา’ติ. น โข ปน มยํ กิฺจิ [กฺจิ (ปี.)] สมณสฺส โคตมสฺส เอกํสิกํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาม – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘อนนฺตวา โลโก’ติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ วา, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ – ‘‘อหมฺปิ โข, โภ, น กิฺจิ สมณสฺส โคตมสฺส เอกํสิกํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ วา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา; อปิ จ สมโณ โคตโม ภูตํ ตจฺฉํ ตถํ ปฏิปทํ ปฺเปติ ธมฺมฏฺิตตํ ธมฺมนิยามตํ. ภูตํ โข ปน ตจฺฉํ ตถํ ปฏิปทํ ปฺเปนฺตสฺส ธมฺมฏฺิตตํ ธมฺมนิยามตํ, กถฺหิ นาม มาทิโส วิฺู สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมเทยฺยา’’ติ?

จิตฺตหตฺถิสาริปุตฺตโปฏฺปาทวตฺถุ

๔๒๒. อถ โข ทฺวีหตีหสฺส อจฺจเยน จิตฺโต จ หตฺถิสาริปุตฺโต โปฏฺปาโท จ ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. โปฏฺปาโท ปน ปริพฺพาชโก ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ตทา มํ, ภนฺเต, เต ปริพฺพาชกา อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต สมนฺตโต วาจาสนฺนิโตทเกน สฺฌพฺภริมกํสุ – ‘เอวเมว ปนายํ ภวํ โปฏฺปาโท ยฺเทว สมโณ โคตโม ภาสติ, ตํ ตเทวสฺส อพฺภนุโมทติ – ‘เอวเมตํ ภควา เอวเมตํ สุคตา’’ติ. น โข ปน มยํ กิฺจิ สมณสฺส โคตมสฺส เอกํสิกํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาม – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ วา, ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ วา, ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา’ติ. เอวํ วุตฺตาหํ, ภนฺเต, เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจํ – ‘อหมฺปิ โข, โภ, น กิฺจิ สมณสฺส โคตมสฺส เอกํสิกํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ วา…เป… ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา; อปิ จ สมโณ โคตโม ภูตํ ตจฺฉํ ตถํ ปฏิปทํ ปฺเปติ ธมฺมฏฺิตตํ ธมฺมนิยามตํ. ภูตํ โข ปน ตจฺฉํ ตถํ ปฏิปทํ ปฺเปนฺตสฺส ธมฺมฏฺิตตํ ธมฺมนิยามตํ, กถฺหิ นาม มาทิโส วิฺู สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมเทยฺยา’’ติ?

๔๒๓. ‘‘สพฺเพว โข เอเต, โปฏฺปาท, ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา; ตฺวํเยว เนสํ เอโก จกฺขุมา. เอกํสิกาปิ หิ โข, โปฏฺปาท, มยา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา; อเนกํสิกาปิ หิ โข, โปฏฺปาท, มยา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา.

‘‘กตเม จ เต, โปฏฺปาท, มยา อเนกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา? ‘สสฺสโต โลโก’ติ [โลโกติ วา (สี. ก.)] โข, โปฏฺปาท, มยา อเนกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต; ‘อสสฺสโต โลโก’ติ [โลโกติ วา (สี. ก.)] โข, โปฏฺปาท, มยา อเนกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต; ‘อนฺตวา โลโก’ติ [โลโกติ วา (สี. ก.)] โข โปฏฺปาท…เป… ‘อนนฺตวา โลโก’ติ [โลโกติ วา (สี. ก.)] โข โปฏฺปาท… ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ โข โปฏฺปาท… ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ โข โปฏฺปาท… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข โปฏฺปาท… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข โปฏฺปาท… ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข โปฏฺปาท… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, โปฏฺปาท, มยา อเนกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต.

‘‘กสฺมา จ เต, โปฏฺปาท, มยา อเนกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา? น เหเต, โปฏฺปาท, อตฺถสํหิตา น ธมฺมสํหิตา น อาทิพฺรหฺมจริยกา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ. ตสฺมา เต มยา อเนกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา’’.

เอกํสิกธมฺโม

๔๒๔. ‘‘กตเม จ เต, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา? อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โข, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ โข, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ โข, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิโก ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต.

‘‘กสฺมา จ เต, โปฏฺปาท, มยา เอกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา? เอเต, โปฏฺปาท, อตฺถสํหิตา, เอเต ธมฺมสํหิตา, เอเต อาทิพฺรหฺมจริยกา เอเต นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ. ตสฺมา เต มยา เอกํสิกา ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา.

๔๒๕. ‘‘สนฺติ, โปฏฺปาท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ? เต เจ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกนฺตสุขํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ วิหรถา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกํ วา รตฺตึ เอกํ วา ทิวสํ อุปฑฺฒํ วา รตฺตึ อุปฑฺฒํ วา ทิวสํ เอกนฺตสุขึ อตฺตานํ สฺชานาถา’ติ [สมฺปชานาถาติ (สี. สฺยา. ก.)]? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ชานาถ – ‘‘อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’’’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ยา ตา เทวตา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา, ตาสํ ภาสมานานํ สทฺทํ สุณาถ – ‘‘สุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, อุชุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาย; มยมฺปิ หิ, มาริสา, เอวํปฏิปนฺนา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

๔๒๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, โปฏฺปาท, ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ ยา อิมสฺมึ ชนปเท ชนปทกลฺยาณี, ตํ อิจฺฉามิ ตํ กาเมมี’ติ. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ ขตฺติยี วา พฺราหฺมณี วา เวสฺสี วา สุทฺที วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณึ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณึ เอวํนามา เอวํโคตฺตาติ วา, ทีฆา วา รสฺสา วา มชฺฌิมา วา กาฬี วา สามา วา มงฺคุรจฺฉวี วาติ, อมุกสฺมึ คาเม วา นิคเม วา นคเร วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตํ ตฺวํ อิจฺฉสิ กาเมสี’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘อามา’ติ วเทยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

‘‘เอวเมว โข, โปฏฺปาท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติ? เต เจ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกนฺตสุขํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ วิหรถา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกํ วา รตฺตึ เอกํ วา ทิวสํ อุปฑฺฒํ วา รตฺตึ อุปฑฺฒํ วา ทิวสํ เอกนฺตสุขึ อตฺตานํ สฺชานาถา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ชานาถ – ‘‘อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ยา ตา เทวตา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา, ตาสํ ภาสมานานํ สทฺทํ สุณาถ – ‘‘สุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, อุชุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาย; มยมฺปิ หิ, มาริสา, เอวํปฏิปนฺนา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา’’’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

๔๒๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, โปฏฺปาท, ปุริโส จาตุมหาปเถ นิสฺเสณึ กเรยฺย ปาสาทสฺส อาโรหณาย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยสฺส ตฺวํ [ยํ ตฺวํ (สี. ก.)] ปาสาทสฺส อาโรหณาย นิสฺเสณึ กโรสิ, ชานาสิ ตํ ปาสาทํ ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุจฺโจ วา นีโจ วา มชฺฌิโม วา’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘โน’ติ วเทยฺย. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตสฺส ตฺวํ ปาสาทสฺส อาโรหณาย นิสฺเสณึ กโรสี’ติ? อิติ ปุฏฺโ ‘อามา’ติ วเทยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

‘‘เอวเมว โข, โปฏฺปาท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ? เต เจ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกนฺตสุขํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ วิหรถา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอกํ วา รตฺตึ เอกํ วา ทิวสํ อุปฑฺฒํ วา รตฺตึ อุปฑฺฒํ วา ทิวสํ เอกนฺตสุขึ อตฺตานํ สฺชานาถา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ชานาถ อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘โน’ติ วทนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘อปิ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ยา ตา เทวตา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา’ ตาสํ เทวตานํ ภาสมานานํ สทฺทํ สุณาถ- ‘‘สุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, อุชุปฺปฏิปนฺนาตฺถ, มาริสา, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาย; มยมฺปิ หิ, มาริสา, เอวํ ปฏิปนฺนา เอกนฺตสุขํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ? อิติ ปุฏฺา ‘‘โน’’ติ วทนฺติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

ตโย อตฺตปฏิลาภา

๔๒๘. ‘‘ตโย โข เม, โปฏฺปาท, อตฺตปฏิลาภา – โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ, มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ, อรูโป อตฺตปฏิลาโภ. กตโม จ, โปฏฺปาท, โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ? รูปี จาตุมหาภูติโก กพฬีการาหารภกฺโข [กพฬีการภกฺโข (สฺยา. ก.)], อยํ โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ. กตโม มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ? รูปี มโนมโย สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย, อยํ มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ. กตโม อรูโป อตฺตปฏิลาโภ? อรูปี สฺามโย, อยํ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ.

๔๒๙. ‘‘โอฬาริกสฺสปิ โข อหํ, โปฏฺปาท, อตฺตปฏิลาภสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสมิ – ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ. สิยา โข ปน เต, โปฏฺปาท, เอวมสฺส – สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ทุกฺโข จ โข วิหาโรติ, น โข ปเนตํ, โปฏฺปาท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. สํกิเลสิกา เจว ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา จ ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ปามุชฺชํ เจว ภวิสฺสติ ปีติ จ ปสฺสทฺธิ จ สติ จ สมฺปชฺฺจ สุโข จ วิหาโร.

๔๓๐. ‘‘มโนมยสฺสปิ โข อหํ, โปฏฺปาท, อตฺตปฏิลาภสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสมิ ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ. สิยา โข ปน เต, โปฏฺปาท, เอวมสฺส – ‘สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ทุกฺโข จ โข วิหาโร’ติ, น โข ปเนตํ, โปฏฺปาท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. สํกิเลสิกา เจว ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา จ ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ปามุชฺชํ เจว ภวิสฺสติ ปีติ จ ปสฺสทฺธิ จ สติ จ สมฺปชฺฺจ สุโข จ วิหาโร.

๔๓๑. ‘‘อรูปสฺสปิ โข อหํ, โปฏฺปาท, อตฺตปฏิลาภสฺส ปหานาย ธมฺมํ เทเสมิ ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ. สิยา โข ปน เต, โปฏฺปาท, เอวมสฺส – ‘สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ทุกฺโข จ โข วิหาโร’ติ, น โข ปเนตํ, โปฏฺปาท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. สํกิเลสิกา เจว ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา จ ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ, ปามุชฺชํ เจว ภวิสฺสติ ปีติ จ ปสฺสทฺธิ จ สติ จ สมฺปชฺฺจ สุโข จ วิหาโร.

๔๓๒. ‘‘ปเร เจ, โปฏฺปาท, อมฺเห เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กตโม ปน โส, อาวุโส, โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส ตุมฺเห ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ, เตสํ มยํ เอวํ ปุฏฺา เอวํ พฺยากเรยฺยาม – ‘อยํ วา โส, อาวุโส, โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส มยํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสม, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ.

๔๓๓. ‘‘ปเร เจ, โปฏฺปาท, อมฺเห เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กตโม ปน โส, อาวุโส, มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส ตุมฺเห ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ? เตสํ มยํ เอวํ ปุฏฺา เอวํ พฺยากเรยฺยาม – ‘อยํ วา โส, อาวุโส, มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ ยสฺส มยํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสม, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ.

๔๓๔. ‘‘ปเร เจ, โปฏฺปาท, อมฺเห เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กตโม ปน โส, อาวุโส, อรูโป อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส ตุมฺเห ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ, เตสํ มยํ เอวํ ปุฏฺา เอวํ พฺยากเรยฺยาม – ‘อยํ วา โส, อาวุโส, อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ยสฺส มยํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสม, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

๔๓๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, โปฏฺปาท, ปุริโส นิสฺเสณึ กเรยฺย ปาสาทสฺส อาโรหณาย ตสฺเสว ปาสาทสฺส เหฏฺา. ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยสฺส ตฺวํ ปาสาทสฺส อาโรหณาย นิสฺเสณึ กโรสิ, ชานาสิ ตํ ปาสาทํ, ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุจฺโจ วา นีโจ วา มชฺฌิโม วา’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘อยํ วา โส, อาวุโส, ปาสาโท, ยสฺสาหํ อาโรหณาย นิสฺเสณึ กโรมิ, ตสฺเสว ปาสาทสฺส เหฏฺา’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

๔๓๖. ‘‘เอวเมว โข, โปฏฺปาท, ปเร เจ อมฺเห เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘กตโม ปน โส, อาวุโส, โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ…เป… กตโม ปน โส, อาวุโส, มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ…เป… กตโม ปน โส, อาวุโส, อรูโป อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส ตุมฺเห ปหานาย ธมฺมํ เทเสถ, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ, เตสํ มยํ เอวํ ปุฏฺา เอวํ พฺยากเรยฺยาม – ‘อยํ วา โส, อาวุโส, อรูโป อตฺตปฏิลาโภ, ยสฺส มยํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสม, ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานิยา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, โปฏฺปาท, นนุ เอวํ สนฺเต สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต สปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ.

๔๓๗. เอวํ วุตฺเต จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยสฺมึ, ภนฺเต, สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมฆสฺส ตสฺมึ สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมโฆ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ; โอฬาริโก วาสฺส อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึ สมเย สจฺโจ โหติ. ยสฺมึ, ภนฺเต, สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมฆสฺส ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมโฆ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ; มโนมโย วาสฺส อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึ สมเย สจฺโจ โหติ. ยสฺมึ, ภนฺเต, สมเย อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมฆสฺส ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ, โมโฆ มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ; อรูโป วาสฺส อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึ สมเย สจฺโจ โหตี’’ติ.

‘‘ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ; โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ; มโนมโย อตฺตปฏิลาโภตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น มโนมโย อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ; อรูโป อตฺตปฏิลาโภตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ.

๔๓๘. ‘‘สเจ ตํ, จิตฺต, เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘อโหสิ ตฺวํ อตีตมทฺธานํ, น ตฺวํ นาโหสิ; ภวิสฺสสิ ตฺวํ อนาคตมทฺธานํ, น ตฺวํ น ภวิสฺสสิ; อตฺถิ ตฺวํ เอตรหิ, น ตฺวํ นตฺถี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, จิตฺต, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี’’ติ?

‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘อโหสิ ตฺวํ อตีตมทฺธานํ, น ตฺวํ น อโหสิ; ภวิสฺสสิ ตฺวํ อนาคตมทฺธานํ, น ตฺวํ น ภวิสฺสสิ; อตฺถิ ตฺวํ เอตรหิ, น ตฺวํ นตฺถี’ติ. เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, เอวํ พฺยากเรยฺยํ – ‘อโหสาหํ อตีตมทฺธานํ, นาหํ น อโหสึ; ภวิสฺสามหํ อนาคตมทฺธานํ, นาหํ น ภวิสฺสามิ; อตฺถาหํ เอตรหิ, นาหํ นตฺถี’ติ. เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, เอวํ พฺยากเรยฺย’’นฺติ.

‘‘สเจ ปน ตํ, จิตฺต, เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘โย เต อโหสิ อตีโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว [สฺเวว (สี. ปี.), โสเยว (สฺยา.)] เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อนาคโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน? โย [โย วา (ปี.)] เต ภวิสฺสติ อนาคโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน? โย [โย วา (ปี.)] เต เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตปฏิลาโภ, โสว [โส จ (ก.)] เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ อนาคโต’ติ. เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, จิตฺต, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี’’ติ?

‘‘สเจ ปน มํ, ภนฺเต, เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘โย เต อโหสิ อตีโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อนาคโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน. โย เต ภวิสฺสติ อนาคโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน. โย เต เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตปฏิลาโภ, โสว เต อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ อนาคโต’ติ. เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, เอวํ พฺยากเรยฺยํ – ‘โย เม อโหสิ อตีโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว เม อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึ สมเย สจฺโจ อโหสิ, โมโฆ อนาคโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน. โย เม ภวิสฺสติ อนาคโต อตฺตปฏิลาโภ, โสว เม อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึ สมเย สจฺโจ ภวิสฺสติ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน. โย เม เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตปฏิลาโภ, โสว เม อตฺตปฏิลาโภ สจฺโจ, โมโฆ อตีโต, โมโฆ อนาคโต’ติ. เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, เอวํ พฺยากเรยฺย’’นฺติ.

๔๓๙. ‘‘เอวเมว โข, จิตฺต, ยสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ. โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ…เป… ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น มโนมโย อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ; อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ.

๔๔๐. ‘‘เสยฺยถาปิ, จิตฺต, ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ. ยสฺมึ สมเย ขีรํ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย ทธีติ สงฺขํ คจฺฉติ, น นวนีตนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ, น สปฺปีติ สงฺขํ คจฺฉติ, น สปฺปิมณฺโฑติ สงฺขํ คจฺฉติ; ขีรํ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. ยสฺมึ สมเย ทธิ โหติ…เป… นวนีตํ โหติ… สปฺปิ โหติ… สปฺปิมณฺโฑ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย ขีรนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ, น ทธีติ สงฺขํ คจฺฉติ, น นวนีตนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ, น สปฺปีติ สงฺขํ คจฺฉติ; สปฺปิมณฺโฑ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. เอวเมว โข, จิตฺต, ยสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ โหติ…เป… ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ โหติ…เป… ยสฺมึ, จิตฺต, สมเย อรูโป อตฺตปฏิลาโภ โหติ, เนว ตสฺมึ สมเย โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ, น มโนมโย อตฺตปฏิลาโภติ สงฺขํ คจฺฉติ; อรูโป อตฺตปฏิลาโภ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขํ คจฺฉติ. อิมา โข จิตฺต, โลกสมฺา โลกนิรุตฺติโย โลกโวหารา โลกปฺตฺติโย, ยาหิ ตถาคโต โวหรติ อปรามส’’นฺติ.

๔๔๑. เอวํ วุตฺเต, โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

จิตฺตหตฺถิสาริปุตฺตอุปสมฺปทา

๔๔๒. จิตฺโต ปน หตฺถิสาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต; อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ.

๔๔๓. อลตฺถ โข จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต น จิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ – อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต อรหตํ อโหสีติ.

โปฏฺปาทสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.

๑๐. สุภสุตฺตํ

สุภมาณววตฺถุ

๔๔๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม อจิรปรินิพฺพุเต ภควติ. เตน โข ปน สมเยน สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ เกนจิเทว กรณีเยน.

๔๔๕. อถ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต อฺตรํ มาณวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณวก, เยน สมโณ อานนฺโท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ.

๔๔๖. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส มาณวโก สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส มาณวโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ.

๔๔๗. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘‘อกาโล โข, มาณวก. อตฺถิ เม อชฺช เภสชฺชมตฺตา ปีตา. อปฺเปวนาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ.

‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส มาณวโก อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา เยน สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุภํ มาณวํ โตเทยฺยปุตฺตํ เอตทโวจ, ‘‘อโวจุมฺหา โข มยํ โภโต วจเนน ตํ ภวนฺตํ อานนฺทํ – ‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ, เอวฺจ วเทติ – ‘‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติ. เอวํ วุตฺเต, โภ, สมโณ อานนฺโท มํ เอตทโวจ – ‘อกาโล โข, มาณวก. อตฺถิ เม อชฺช เภสชฺชมตฺตา ปีตา. อปฺเปวนาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’ติ. เอตฺตาวตาปิ โข, โภ, กตเมว เอตํ, ยโต โข โส ภวํ อานนฺโท โอกาสมกาสิ สฺวาตนายปิ อุปสงฺกมนายา’’ติ.

๔๔๘. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เจตเกน ภิกฺขุนา ปจฺฉาสมเณน เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ.

อถ โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ภวฺหิ อานนฺโท ตสฺส โภโต โคตมสฺส ทีฆรตฺตํ อุปฏฺาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารี. ภวเมตํ อานนฺโท ชาเนยฺย, เยสํ โส ภวํ โคตโม ธมฺมานํ วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ. กตเมสานํ โข, โภ อานนฺท, ธมฺมานํ โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ; กตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสี’’ติ?

๔๔๙. ‘‘ติณฺณํ โข, มาณว, ขนฺธานํ โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ; เอตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ. กตเมสํ ติณฺณํ? อริยสฺส สีลกฺขนฺธสฺส, อริยสฺส สมาธิกฺขนฺธสฺส, อริยสฺส ปฺากฺขนฺธสฺส. อิเมสํ โข, มาณว, ติณฺณํ ขนฺธานํ โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ; เอตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสี’’ติ.

สีลกฺขนฺโธ

๔๕๐. ‘‘กตโม ปน โส, โภ อานนฺท, อริโย สีลกฺขนฺโธ, ยสฺส โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสี’’ติ?

‘‘อิธ, มาณว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อนุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน, ปริสุทฺธาชีโว, สีลสมฺปนฺโน, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, สนฺตุฏฺโ.

๔๕๑. ‘‘กถฺจ, มาณว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, มาณว, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ; อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ. (ยถา ๑๙๔ ยาว ๒๑๐ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ).

‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ ภูตกมฺมํ ภูริกมฺมํ วสฺสกมฺมํ โวสฺสกมฺมํ วตฺถุกมฺมํ วตฺถุปริกมฺมํ อาจมนํ นฺหาปนํ ชุหนํ วมนํ วิเรจนํ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ สีสวิเรจนํ กณฺณเตลํ เนตฺตตปฺปนํ นตฺถุกมฺมํ อฺชนํ ปจฺจฺชนํ สาลากิยํ สลฺลกตฺติยํ ทารกติกิจฺฉา มูลเภสชฺชานํ อนุปฺปทานํ โอสธีนํ ปฏิโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ, สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ…เป… โอสธีนํ ปฏิโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมึ.

๔๕๒. ‘‘ส โข โส [อยํ โข โส (ก.)], มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. เสยฺยถาปิ, มาณว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต นิหตปจฺจามิตฺโต น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ ปจฺจตฺถิกโต. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโต. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, มาณว, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ.

๔๕๓. ‘‘อยํ โข โส, มาณว, อริโย สีลกฺขนฺโธ ยสฺส โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ. อตฺถิ เจเวตฺถ อุตฺตริกรณีย’’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! โส จายํ, โภ อานนฺท, อริโย สีลกฺขนฺโธ ปริปุณฺโณ, โน อปริปุณฺโณ. เอวํ ปริปุณฺณํ จาหํ, โภ, อานนฺท, อริยํ สีลกฺขนฺธํ อิโต พหิทฺธา อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ น สมนุปสฺสามิ. เอวํ ปริปุณฺณฺจ, โภ อานนฺท, อริยํ สีลกฺขนฺธํ อิโต พหิทฺธา อฺเ สมณพฺราหฺมณา อตฺตนิ สมนุปสฺเสยฺยุํ, เต ตาวตเกเนว อตฺตมนา อสฺสุ – ‘อลเมตฺตาวตา, กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามฺตฺโถ, นตฺถิ โน กิฺจิ อุตฺตริกรณีย’นฺติ. อถ จ ปน ภวํ อานนฺโท เอวมาห – ‘อตฺถิ เจเวตฺถ อุตฺตริกรณีย’’’นฺติ [อิมสฺส อนนฺตรํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ ‘‘ปมภาณวารํ’’ติ ปาโ ทิสฺสติ].

สมาธิกฺขนฺโธ

๔๕๔. ‘‘กตโม ปน โส, โภ อานนฺท, อริโย สมาธิกฺขนฺโธ, ยสฺส โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสี’’ติ?

‘‘กถฺจ, มาณว, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ? อิธ, มาณว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, มาณว, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ.

๔๕๕. ‘‘กถฺจ, มาณว, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, มาณว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. เอวํ โข, มาณว, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ.

๔๕๖. ‘‘กถฺจ, มาณว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ? อิธ, มาณว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ, มาณว, ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ, สปตฺตภาโรว เฑติ; เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ, สมาทาเยว ปกฺกมติ. เอวํ โข, มาณว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ.

๔๕๗. ‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต, อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

๔๕๘. ‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

๔๕๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชยฺย. ตสฺส เต กมฺมนฺตา สมิชฺเฌยฺยุํ. โส ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ ตานิ จ พฺยนฺตึ กเรยฺย, สิยา จสฺส อุตฺตรึ อวสิฏฺํ ทารภรณาย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชสึ. ตสฺส เม เต กมฺมนฺตา สมิชฺฌึสุ. โสหํ ยานิ จ โปราณานิ อิณมูลานิ ตานิ จ พฺยนฺตึ อกาสึ, อตฺถิ จ เม อุตฺตรึ อวสิฏฺํ ทารภรณายา’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๔๖๐. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส อาพาธิโก อสฺส ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน; ภตฺตฺจสฺส นจฺฉาเทยฺย, น จสฺส กาเย พลมตฺตา. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา อาพาธา มุจฺเจยฺย, ภตฺตฺจสฺส ฉาเทยฺย, สิยา จสฺส กาเย พลมตฺตา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อาพาธิโก อโหสึ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน, ภตฺตฺจ เม นจฺฉาเทสิ, น จ เม อาสิ กาเย พลมตฺตา. โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา อาพาธา มุตฺโต ภตฺตฺจ เม ฉาเทติ, อตฺถิ จ เม กาเย พลมตฺตา’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๔๖๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส พนฺธนาคาเร พทฺโธ อสฺส. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา พนฺธนาคารา มุจฺเจยฺย โสตฺถินา อพฺภเยน, น จสฺส กิฺจิ โภคานํ วโย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ พนฺธนาคาเร พทฺโธ อโหสึ. โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา พนฺธนาคารา มุตฺโต โสตฺถินา อพฺภเยน, นตฺถิ จ เม กิฺจิ โภคานํ วโย’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๔๖๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส ทาโส อสฺส อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโม. โส อปเรน สมเยน ตมฺหา ทาสพฺยา มุจฺเจยฺย, อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโม. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ ทาโส อโหสึ อนตฺตาธีโน ปราธีโน น เยนกามํคโม. โสมฺหิ เอตรหิ ตมฺหา ทาสพฺยา มุตฺโต อตฺตาธีโน อปราธีโน ภุชิสฺโส เยนกามํคโม’ติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๔๖๓. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย ทุพฺภิกฺขํ สปฺปฏิภยํ. โส อปเรน สมเยน ตํ กนฺตารํ นิตฺถเรยฺย, โสตฺถินา คามนฺตํ อนุปาปุเณยฺย เขมํ อปฺปฏิภยํ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข ปุพฺเพ สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชึ ทุพฺภิกฺขํ สปฺปฏิภยํ. โสมฺหิ เอตรหิ กนฺตารํ นิตฺถิณฺโณ, โสตฺถินา คามนฺตํ อนุปฺปตฺโต เขมํ อปฺปฏิภย’นฺติ. โส ตโตนิทานํ ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺสํ.

๔๖๔. ‘‘เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ ยถา อิณํ ยถา โรคํ ยถา พนฺธนาคารํ ยถา ทาสพฺยํ ยถา กนฺตารทฺธานมคฺคํ, เอวํ อิเม ปฺจ นีวรเณ อปฺปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติ.

๔๖๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ยถา อาณณฺยํ ยถา อาโรคฺยํ ยถา พนฺธนาโมกฺขํ ยถา ภุชิสฺสํ ยถา เขมนฺตภูมึ. เอวเมว ภิกฺขุ อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสติ.

๔๖๖. ‘‘ตสฺสิเม ปฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสโต ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ.

๔๖๗. ‘‘โส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ทกฺโข นฺหาปโก วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเทยฺย. สายํ นฺหานียปิณฺฑิ สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรตา สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน, น จ ปคฺฆรณี. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สมาธิสฺมึ.

๔๖๘. ‘‘ปุน จปรํ, มาณว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, อุทกรหโท คมฺภีโร อุพฺภิโททโก. ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมา ธารํ อนุปเวจฺเฉยฺย. อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สมาธิสฺมึ.

๔๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, มาณว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวตํ อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สมาธิสฺมึ.

๔๗๐. ‘‘ปุน จปรํ, มาณว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ; นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน อสฺส, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺส. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ; นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. อิทมฺปิสฺส โหติ สมาธิสฺมึ.

๔๗๑. ‘‘อยํ โข โส, มาณว, อริโย สมาธิกฺขนฺโธ ยสฺส โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ. อตฺถิ เจเวตฺถ อุตฺตริกรณีย’’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! โส จายํ, โภ อานนฺท, อริโย สมาธิกฺขนฺโธ ปริปุณฺโณ, โน อปริปุณฺโณ. เอวํ ปริปุณฺณํ จาหํ, โภ อานนฺท, อริยํ สมาธิกฺขนฺธํ อิโต พหิทฺธา อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ น สมนุปสฺสามิ. เอวํ ปริปุณฺณฺจ, โภ อานนฺท, อริยํ สมาธิกฺขนฺธํ อิโต พหิทฺธา อฺเ สมณพฺราหฺมณา อตฺตนิ สมนุปสฺเสยฺยุํ, เต ตาวตเกเนว อตฺตมนา อสฺสุ – ‘อลเมตฺตาวตา, กตเมตฺตาวตา, อนุปฺปตฺโต โน สามฺตฺโถ, นตฺถิ โน กิฺจิ อุตฺตริกรณีย’นฺติ. อถ จ ปน ภวํ อานนฺโท เอวมาห – ‘อตฺถิ เจเวตฺถ อุตฺตริกรณีย’’’นฺติ.

ปฺากฺขนฺโธ

๔๗๒. ‘‘กตโม ปน โส, โภ อานนฺท, อริโย ปฺากฺขนฺโธ, ยสฺส โภ ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสี’’ติ?

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม; อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’นฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺราสฺส สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา’ติ. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยํ โข เม กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทน-วิทฺธํสนธมฺโม. อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’นฺติ. ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส เอวํ ปชานาติ…เป… เอตฺถ ปฏิพทฺธนฺติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๓. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต มโนมยํ กายํ อภินิมฺมานาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส มุฺชมฺหา อีสิกํ ปวาเหยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ มุฺโช อยํ อีสิกา; อฺโ มุฺโช อฺา อีสิกา; มุฺชมฺหา ตฺเวว อีสิกา ปวาฬฺหา’ติ. เสยฺยถา วา ปน, มาณว, ปุริโส อสึ โกสิยา ปวาเหยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อสิ, อยํ โกสิ; อฺโ อสิ, อฺา โกสิ; โกสิยา ตฺเวว อสิ ปวาฬฺโห’ติ. เสยฺยถา วา ปน, มาณว, ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ อหิ, อยํ กรณฺโฑ; อฺโ อหิ, อฺโ กรณฺโฑ; กรณฺฑา ตฺเวว อหิ อุพฺภโต’ติ. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต มโนมยํ กายํ อภินิมฺมานาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป…. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๔. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อิทฺธิวิธาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ. เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ. อาวิภาวํ ติโรภาวํ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส. ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก. อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ. อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํ มหิทฺธิเก เอวํ มหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ทกฺโข กุมฺภกาโร วา กุมฺภการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตาย มตฺติกาย ยฺเทว ภาชนวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เสยฺยถา วา ปน, มาณว, ทกฺโข ทนฺตกาโร วา ทนฺตการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ ทนฺตสฺมึ ยฺเทว ทนฺตวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เสยฺยถา วา ปน, มาณว, ทกฺโข สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา สุปริกมฺมกตสฺมึ สุวณฺณสฺมึ ยฺเทว สุวณฺณวิกตึ อากงฺเขยฺย, ตํ ตเทว กเรยฺย อภินิปฺผาเทยฺย. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ …เป… ยมฺปิ มาณว ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อิทฺธิวิธาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ. เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ …เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๕. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต ทิพฺพาย โสตธาตุยา จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ. เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน. โส สุเณยฺย เภริสทฺทมฺปิ มุทิงฺคสทฺทมฺปิ สงฺขปณวทินฺทิมสทฺทมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เภริสทฺโท อิติปิ มุทิงฺคสทฺโท อิติปิ สงฺขปณวทินฺทิมสทฺโท อิติ’ปิ [อิติปีติ (ก.)]. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป…. ยมฺปิ มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต ทิพฺพาย โสตธาตุยา จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๖. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ, ‘สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘วีตโมหํ วา จิตฺตํ วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘สงฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ สงฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘มหคฺคตํ วา จิตฺตํ มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘สมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘อสมาหิตํ วา จิตฺตํ อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, ‘อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, อิตฺถี วา ปุริโส วา ทหโร ยุวา มณฺฑนชาติโก อาทาเส วา ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อจฺเฉ วา อุทกปตฺเต สกํ มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขมาโน สกณิกํ วา สกณิกนฺติ ชาเนยฺย, อกณิกํ วา อกณิกนฺติ ชาเนยฺย. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ปรสตฺตานํ ปุรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ, สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ…เป… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๗. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต; โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปุริโส สกมฺหา คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย; ตมฺหาปิ คามา อฺํ คามํ คจฺเฉยฺย; โส ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข สกมฺหา คามา อมุํ คามํ อคจฺฉึ, ตตฺร เอวํ อฏฺาสึ เอวํ นิสีทึ เอวํ อภาสึ เอวํ ตุณฺหี อโหสึ. โส ตมฺหาปิ คามา อมุํ คามํ คจฺฉึ, ตตฺราปิ เอวํ อฏฺาสึ เอวํ นิสีทึ เอวํ อภาสึ เอวํ ตุณฺหี อโหสึ. โสมฺหิ ตมฺหา คามา สกํเยว คามํ ปจฺจาคโต’ติ. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๘. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, มชฺเฌสิงฺฆาฏเก ปาสาโท, ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ิโต ปสฺเสยฺย มนุสฺเส เคหํ ปวิสนฺเตปิ นิกฺขมนฺเตปิ รถิกายปิ วีถึ สฺจรนฺเต มชฺเฌสิงฺฆาฏเก นิสินฺเนปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เอเต มนุสฺสา เคหํ ปวิสนฺติ, เอเต นิกฺขมนฺติ, เอเต รถิกาย วีถึ สฺจรนฺติ, เอเต มชฺเฌสิงฺฆาฏเก นิสินฺนา’ติ. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๗๙. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ; อิเม อาสวาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, มาณว, ปพฺพตสงฺเขเป อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล. ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส ตีเร ิโต ปสฺเสยฺย สิปฺปิกสมฺพุกมฺปิ สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อยํ โข อุทกรหโท อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล. ตตฺริเม สิปฺปิกสมฺพุกาปิ สกฺขรกถลาปิ มจฺฉคุมฺพาปิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปี’ติ. เอวเมว โข, มาณว, ภิกฺขุ…เป… ยมฺปิ, มาณว, ภิกฺขุ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อิทมฺปิสฺส โหติ ปฺาย.

๔๘๐. ‘‘อยํ โข, โส มาณว, อริโย ปฺากฺขนฺโธ ยสฺส โส ภควา วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ. นตฺถิ เจเวตฺถ อุตฺตริกรณีย’’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, โภ อานนฺท, อพฺภุตํ, โภ อานนฺท! โส จายํ, โภ อานนฺท, อริโย ปฺากฺขนฺโธ ปริปุณฺโณ, โน อปริปุณฺโณ. เอวํ ปริปุณฺณํ จาหํ, โภ อานนฺท, อริยํ ปฺากฺขนฺธํ อิโต พหิทฺธา อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ น สมนุปสฺสามิ. นตฺถิ เจเวตฺถ [น สมนุปสฺสามิ…เป… นตฺถิ โน กิฺจิ (สฺยา. ก.)] อุตฺตริกรณียํ [อุตฺตรึ กรณียนฺติ (สี. สฺยา. ปี.) อุตฺตริกรณียนฺติ (ก.)]. อภิกฺกนฺตํ, โภ อานนฺท, อภิกฺกนฺตํ, โภ อานนฺท! เสยฺยถาปิ, โภ อานนฺท, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ. เอวเมวํ โภตา อานนฺเทน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ อานนฺท, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ อานนฺโท ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

สุภสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.

๑๑. เกวฏฺฏสุตฺตํ

เกวฏฺฏคหปติปุตฺตวตฺถุ

๔๘๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเน. อถ โข เกวฏฺโฏ คหปติปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เกวฏฺโฏ คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา ภควติ อภิปฺปสนฺนา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เอกํ ภิกฺขุํ สมาทิสตุ, โย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา, อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ; เอวายํ นาฬนฺทา ภิยฺโยโส มตฺตาย ภควติ อภิปฺปสีทิสฺสตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา เกวฏฺฏํ คหปติปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข อหํ, เกวฏฺฏ, ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมิ – เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, คิหีนํ โอทาตวสนานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรถา’’ติ.

๔๘๒. ทุติยมฺปิ โข เกวฏฺโฏ คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ธํเสมิ; อปิ จ, เอวํ วทามิ – ‘อยํ, ภนฺเต, นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา ภควติ อภิปฺปสนฺนา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เอกํ ภิกฺขุํ สมาทิสตุ, โย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ; เอวายํ นาฬนฺทา ภิยฺโยโส มตฺตาย ภควติ อภิปฺปสีทิสฺสตี’’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เกวฏฺฏํ คหปติปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข อหํ, เกวฏฺฏ, ภิกฺขูนํ เอวํ ธมฺมํ เทเสมิ – เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, คิหีนํ โอทาตวสนานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรถา’’’ติ.

ตติยมฺปิ โข เกวฏฺโฏ คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ธํเสมิ; อปิ จ, เอวํ วทามิ – ‘อยํ, ภนฺเต, นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา ภควติ อภิปฺปสนฺนา. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เอกํ ภิกฺขุํ สมาทิสตุ, โย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ. เอวายํ นาฬนฺทา ภิยฺโยโส มตฺตาย ภควติ อภิปฺปสีทิสฺสตี’ติ.

อิทฺธิปาฏิหาริยํ

๔๘๓. ‘‘ตีณิ โข อิมานิ, เกวฏฺฏ, ปาฏิหาริยานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ. กตมานิ ตีณิ? อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ.

๔๘๔. ‘‘กตมฺจ, เกวฏฺฏ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ? อิธ, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ. เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํ มหิทฺธิเก เอวํ มหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ; ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ตเมนํ อฺตโร สทฺโธ ปสนฺโน ปสฺสติ ตํ ภิกฺขุํ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺตํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหนฺตํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหนฺตํ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมานํ คจฺฉนฺตํ เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺตํ เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉนฺตํ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมนฺตํ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํ มหิทฺธิเก เอวํ มหานุภาเว ปาณินา ปรามสนฺตํ ปริมชฺชนฺตํ ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตนฺตํ.

‘‘ตเมนํ โส สทฺโธ ปสนฺโน อฺตรสฺส อสฺสทฺธสฺส อปฺปสนฺนสฺส อาโรเจติ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, สมณสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อมาหํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺตํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหนฺตํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหนฺตํ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตนฺต’นฺติ.

‘‘ตเมนํ โส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอวํ วเทยฺย – ‘อตฺถิ โข, โภ, คนฺธารี นาม วิชฺชา. ตาย โส ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตตี’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, เกวฏฺฏ, อปิ นุ โส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอวํ วเทยฺยา’’ติ? ‘‘วเทยฺย, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิมํ โข อหํ, เกวฏฺฏ, อิทฺธิปาฏิหาริเย อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน อิทฺธิปาฏิหาริเยน อฏฺฏียามิ หรายามิ ชิคุจฺฉามิ’’.

อาเทสนาปาฏิหาริยํ

๔๘๕. ‘‘กตมฺจ, เกวฏฺฏ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ? อิธ, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ อาทิสติ, เจตสิกมฺปิ อาทิสติ, วิตกฺกิตมฺปิ อาทิสติ, วิจาริตมฺปิ อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ.

‘‘ตเมนํ อฺตโร สทฺโธ ปสนฺโน ปสฺสติ ตํ ภิกฺขุํ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ อาทิสนฺตํ, เจตสิกมฺปิ อาทิสนฺตํ, วิตกฺกิตมฺปิ อาทิสนฺตํ, วิจาริตมฺปิ อาทิสนฺตํ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. ตเมนํ โส สทฺโธ ปสนฺโน อฺตรสฺส อสฺสทฺธสฺส อปฺปสนฺนสฺส อาโรเจติ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, สมณสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อมาหํ ภิกฺขุํ อทฺทสํ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ อาทิสนฺตํ, เจตสิกมฺปิ อาทิสนฺตํ, วิตกฺกิตมฺปิ อาทิสนฺตํ, วิจาริตมฺปิ อาทิสนฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’’’นฺติ.

‘‘ตเมนํ โส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอวํ วเทยฺย – ‘อตฺถิ โข, โภ, มณิกา นาม วิชฺชา; ตาย โส ภิกฺขุ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ จิตฺตมฺปิ อาทิสติ, เจตสิกมฺปิ อาทิสติ, วิตกฺกิตมฺปิ อาทิสติ, วิจาริตมฺปิ อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’’’นฺติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, เกวฏฺฏ, อปิ นุ โส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ตํ สทฺธํ ปสนฺนํ เอวํ วเทยฺยา’’ติ? ‘‘วเทยฺย, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิมํ โข อหํ, เกวฏฺฏ, อาเทสนาปาฏิหาริเย อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน อาเทสนาปาฏิหาริเยน อฏฺฏียามิ หรายามิ ชิคุจฺฉามิ’’.

อนุสาสนีปาฏิหาริยํ

๔๘๖. ‘‘กตมฺจ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ? อิธ, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เอวมนุสาสติ – ‘เอวํ วิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ, เอวํ มนสิกโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ, อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’ติ. อิทํ วุจฺจติ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ.

‘‘ปุน จปรํ, เกวฏฺฏ, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ …เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ…เป… าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป… อิทมฺปิ วุจฺจติ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ…เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ…เป… อิทมฺปิ วุจฺจติ, เกวฏฺฏ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ.

‘‘อิมานิ โข, เกวฏฺฏ, ตีณิ ปาฏิหาริยานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิ’’.

ภูตนิโรเธสกภิกฺขุวตฺถุ

๔๘๗. ‘‘ภูตปุพฺพํ, เกวฏฺฏ, อิมสฺมิฺเว ภิกฺขุสงฺเฆ อฺตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘กตฺถ นุ โข อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ?

๔๘๘. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ ตถารูปํ สมาธึ สมาปชฺชิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต เทวยานิโย มคฺโค ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน จาตุมหาราชิกา เทวา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จาตุมหาราชิเก เทเว เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ?

‘‘เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, จาตุมหาราชิกา เทวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘มยมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานาม, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ [วาโยธาตุ. อตฺถิ โข (ปี. เอวมุปริปิ)]. อตฺถิ โข [วาโยธาตุ. อตฺถิ โข (ปี. เอวมุปริปิ)], ภิกฺขุ, จตฺตาโร มหาราชาโน อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จ. เต โข เอตํ ชาเนยฺยุํ, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

๔๘๙. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน จตฺตาโร มหาราชาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตาโร มหาราเช เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, จตฺตาโร มหาราชาโน ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘มยมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานาม, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. อตฺถิ โข, ภิกฺขุ, ตาวตึสา นาม เทวา อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จ. เต โข เอตํ ชาเนยฺยุํ, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

๔๙๐. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน ตาวตึสา เทวา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตาวตึเส เทเว เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, ตาวตึสา เทวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘มยมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานาม, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. อตฺถิ โข, ภิกฺขุ, สกฺโก นาม เทวานมินฺโท อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. โส โข เอตํ ชาเนยฺย, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

๔๙๑. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานามิ, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. อตฺถิ โข, ภิกฺขุ, ยามา นาม เทวา…เป… สุยาโม นาม เทวปุตฺโต… ตุสิตา นาม เทวา… สนฺตุสฺสิโต นาม เทวปุตฺโต… นิมฺมานรตี นาม เทวา … สุนิมฺมิโต นาม เทวปุตฺโต… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี นาม เทวา… วสวตฺตี นาม เทวปุตฺโต อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. โส โข เอตํ ชาเนยฺย, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

๔๙๒. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน วสวตฺตี เทวปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วสวตฺตึ เทวปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, วสวตฺตี เทวปุตฺโต ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานามิ ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. อตฺถิ โข, ภิกฺขุ, พฺรหฺมกายิกา นาม เทวา อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จ. เต โข เอตํ ชาเนยฺยุํ, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

๔๙๓. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ ตถารูปํ สมาธึ สมาปชฺชิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต พฺรหฺมยานิโย มคฺโค ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน พฺรหฺมกายิกา เทวา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมกายิเก เทเว เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, พฺรหฺมกายิกา เทวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘มยมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานาม, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. อตฺถิ โข, ภิกฺขุ, พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ อมฺเหหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. โส โข เอตํ ชาเนยฺย, ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’’ติ.

‘‘‘กหํ ปนาวุโส, เอตรหิ โส มหาพฺรหฺมา’ติ? ‘มยมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา เยน วา พฺรหฺมา ยหึ วา พฺรหฺมา; อปิ จ, ภิกฺขุ, ยถา นิมิตฺตา ทิสฺสนฺติ, อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ, พฺรหฺมุโน เหตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ ปาตุภาวาย, ยทิทํ อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวตี’ติ. อถ โข โส, เกวฏฺฏ, มหาพฺรหฺมา นจิรสฺเสว ปาตุรโหสิ.

๔๙๔. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ เยน โส มหาพฺรหฺมา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกวฏฺฏ, โส มหาพฺรหฺมา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’นฺติ.

‘‘ทุติยมฺปิ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ ตํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘น โขหํ ตํ, อาวุโส, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘‘ตฺวมสิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ. เอวฺจ โข อหํ ตํ, อาวุโส, ปุจฺฉามิ – ‘‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’’’ติ?

‘‘ทุติยมฺปิ โข โส, เกวฏฺฏ, มหาพฺรหฺมา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ ตํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘น โขหํ ตํ, อาวุโส, เอวํ ปุจฺฉามิ – ‘‘ตฺวมสิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ. เอวฺจ โข อหํ ตํ, อาวุโส, ปุจฺฉามิ – ‘‘กตฺถ นุ โข, อาวุโส, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’’’ติ?

๔๙๕. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, มหาพฺรหฺมา ตํ ภิกฺขุํ พาหายํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ อปเนตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘อิเม โข มํ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมกายิกา เทวา เอวํ ชานนฺติ, ‘‘นตฺถิ กิฺจิ พฺรหฺมุโน อฺาตํ, นตฺถิ กิฺจิ พฺรหฺมุโน อทิฏฺํ, นตฺถิ กิฺจิ พฺรหฺมุโน อวิทิตํ, นตฺถิ กิฺจิ พฺรหฺมุโน อสจฺฉิกต’’นฺติ. ตสฺมาหํ เตสํ สมฺมุขา น พฺยากาสึ. อหมฺปิ โข, ภิกฺขุ, น ชานามิ ยตฺถิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขุ, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ, ยํ ตฺวํ ตํ ภควนฺตํ อติธาวิตฺวา พหิทฺธา ปริเยฏฺึ อาปชฺชสิ อิมสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณาย. คจฺฉ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ตเมว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉ, ยถา จ เต ภควา พฺยากโรติ, ตถา นํ ธาเรยฺยาสี’ติ.

๔๙๖. ‘‘อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, เกวฏฺฏ, ภิกฺขุ มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, เกวฏฺฏ, โส ภิกฺขุ มํ เอตทโวจ – ‘กตฺถ นุ โข, ภนฺเต, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ?

ตีรทสฺสิสกุณุปมา

๔๙๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, เกวฏฺฏ, ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขุ, สามุทฺทิกา วาณิชา ตีรทสฺสึ สกุณํ คเหตฺวา นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาหนฺติ. เต อตีรทกฺขินิยา นาวาย ตีรทสฺสึ สกุณํ มุฺจนฺติ. โส คจฺฉเตว ปุรตฺถิมํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ ทิสํ, คจฺฉติ อนุทิสํ. สเจ โส สมนฺตา ตีรํ ปสฺสติ, ตถาคตโกว [ตถาปกฺกนฺโตว (สฺยา.)] โหติ. สเจ ปน โส สมนฺตา ตีรํ น ปสฺสติ, ตเมว นาวํ ปจฺจาคจฺฉติ. เอวเมว โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ยโต ยาว พฺรหฺมโลกา ปริเยสมาโน อิมสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณํ นาชฺฌคา, อถ มมฺเว สนฺติเก ปจฺจาคโต. น โข เอโส, ภิกฺขุ, ปฺโห เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘กตฺถ นุ โข, ภนฺเต, อิเม จตฺตาโร มหาภูตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เสยฺยถิทํ – ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ?

๔๙๘. ‘‘เอวฺจ โข เอโส, ภิกฺขุ, ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ –

‘กตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;

กตฺถ ทีฆฺจ รสฺสฺจ, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;

กตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌตี’ติ.

๔๙๙. ‘‘ตตฺร เวยฺยากรณํ ภวติ –

‘วิฺาณํ อนิทสฺสนํ, อนนฺตํ สพฺพโตปภํ;

เอตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ.

เอตฺถ ทีฆฺจ รสฺสฺจ, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;

เอตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’ติ.

๕๐๐. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน เกวฏฺโฏ คหปติปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

เกวฏฺฏสุตฺตํ นิฏฺิตํ เอกาทสมํ.

๑๒. โลหิจฺจสุตฺตํ

โลหิจฺจพฺราหฺมณวตฺถุ

๕๐๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน สาลวติกา ตทวสริ. เตน โข ปน สมเยน โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ สาลวติกํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายํ, พฺรหฺมเทยฺยํ.

๕๐๒. เตน โข ปน สมเยน โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘‘อิธ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคจฺเฉยฺย, กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตฺวา น ปรสฺส อาโรเจยฺย, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุราณํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อฺํ นวํ พนฺธนํ กเรยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’ติ.

๕๐๓. อสฺโสสิ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สาลวติกํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ.

๕๐๔. อถ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ โรสิกํ [เภสิกํ (สี. ปี.)] นฺหาปิตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม โรสิเก, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ โคตมํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – โลหิจฺโจ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ ภวนฺตํ โคตมํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘‘อธิวาเสตุ กิร ภวํ โคตโม โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ.

๕๐๕. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ [เอวํ ภนฺเตติ (สี. ปี.)] โข โรสิกา นฺหาปิโต โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โรสิกา นฺหาปิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โลหิจฺโจ, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวฺจ วเทติ – อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, ภควา โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

๕๐๖. อถ โข โรสิกา นฺหาปิโต ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โลหิจฺจํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘อโวจุมฺหา โข มยํ โภโต [มยํ ภนฺเต ตว (สี. ปี.)] วจเนน ตํ ภควนฺตํ – ‘โลหิจฺโจ, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวฺจ วเทติ – อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, ภควา โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’ติ. อธิวุตฺถฺจ ปน เตน ภควตา’’ติ.

๕๐๗. อถ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา โรสิกํ นฺหาปิตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม โรสิเก, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส กาลํ อาโรเจหิ – กาโล โภ, โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โรสิกา นฺหาปิโต โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โรสิกา นฺหาปิโต ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

๕๐๘. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สาลวติกา เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน โรสิกา นฺหาปิโต ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ โหติ. อถ โข โรสิกา นฺหาปิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โลหิจฺจสฺส, ภนฺเต, พฺราหฺมณสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ – ‘อิธ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคจฺเฉยฺย, กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตฺวา น ปรสฺส อาโรเจยฺย – กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุราณํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อฺํ นวํ พนฺธนํ กเรยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ – กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’ติ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา โลหิจฺจํ พฺราหฺมณํ เอตสฺมา ปาปกา ทิฏฺิคตา วิเวเจตู’’ติ. ‘‘อปฺเปว นาม สิยา โรสิเก, อปฺเปว นาม สิยา โรสิเก’’ติ.

อถ โข ภควา เยน โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ.

โลหิจฺจพฺราหฺมณานุโยโค

๕๐๙. อถ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โลหิจฺจํ พฺราหฺมณํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร เต, โลหิจฺจ, เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ – ‘อิธ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคจฺเฉยฺย, กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตฺวา น ปรสฺส อาโรเจยฺย – กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุราณํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อฺํ นวํ พนฺธนํ กเรยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’’ ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’. ‘‘ตํ กึ มฺสิ โลหิจฺจ นนุ ตฺวํ สาลวติกํ อชฺฌาวสสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’. ‘‘โย นุ โข, โลหิจฺจ, เอวํ วเทยฺย – ‘โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ สาลวติกํ อชฺฌาวสติ. ยา สาลวติกาย สมุทยสฺชาติ โลหิจฺโจว ตํ พฺราหฺมโณ เอกโก ปริภุฺเชยฺย, น อฺเสํ ทเทยฺยา’ติ. เอวํ วาที โส เย ตํ อุปชีวนฺติ, เตสํ อนฺตรายกโร วา โหติ, โน วา’’ติ?

‘‘อนฺตรายกโร, โภ โคตม’’. ‘‘อนฺตรายกโร สมาโน หิตานุกมฺปี วา เตสํ โหติ อหิตานุกมฺปี วา’’ติ? ‘‘อหิตานุกมฺปี, โภ โคตม’’. ‘‘อหิตานุกมฺปิสฺส เมตฺตํ วา เตสุ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สปตฺตกํ วา’’ติ? ‘‘สปตฺตกํ, โภ โคตม’’. ‘‘สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ วา โหติ สมฺมาทิฏฺิ วา’’ติ? ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, โภ โคตม’’. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, โลหิจฺจ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’.

๕๑๐. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, โลหิจฺจ, นนุ ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลํ อชฺฌาวสตี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’. ‘‘โย นุ โข, โลหิจฺจ, เอวํ วเทยฺย – ‘ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลํ อชฺฌาวสติ; ยา กาสิโกสเล สมุทยสฺชาติ, ราชาว ตํ ปเสนทิ โกสโล เอกโก ปริภุฺเชยฺย, น อฺเสํ ทเทยฺยา’ติ. เอวํ วาที โส เย ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อุปชีวนฺติ ตุมฺเห เจว อฺเ จ, เตสํ อนฺตรายกโร วา โหติ, โน วา’’ติ?

‘‘อนฺตรายกโร, โภ โคตม’’. ‘‘อนฺตรายกโร สมาโน หิตานุกมฺปี วา เตสํ โหติ อหิตานุกมฺปี วา’’ติ? ‘‘อหิตานุกมฺปี, โภ โคตม’’. ‘‘อหิตานุกมฺปิสฺส เมตฺตํ วา เตสุ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สปตฺตกํ วา’’ติ? ‘‘สปตฺตกํ, โภ โคตม’’. ‘‘สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ วา โหติ สมฺมาทิฏฺิ วา’’ติ? ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, โภ โคตม’’. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, โลหิจฺจ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’.

๕๑๑. ‘‘อิติ กิร, โลหิจฺจ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘‘โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ สาลวติกํ อชฺฌาวสติ; ยา สาลวติกาย สมุทยสฺชาติ, โลหิจฺโจว ตํ พฺราหฺมโณ เอกโก ปริภุฺเชยฺย, น อฺเสํ ทเทยฺยา’’ติ. เอวํวาที โส เย ตํ อุปชีวนฺติ, เตสํ อนฺตรายกโร โหติ. อนฺตรายกโร สมาโน อหิตานุกมฺปี โหติ, อหิตานุกมฺปิสฺส สปตฺตกํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. เอวเมว โข, โลหิจฺจ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อิธ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคจฺเฉยฺย, กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตฺวา น ปรสฺส อาโรเจยฺย, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุราณํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อฺํ นวํ พนฺธนํ กเรยฺย…เป… กริสฺสตี’’ติ. เอวํวาที โส เย เต กุลปุตฺตา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม เอวรูปํ อุฬารํ วิเสสํ อธิคจฺฉนฺติ, โสตาปตฺติผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, สกทาคามิผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, อนาคามิผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, อรหตฺตมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, เย จิเม ทิพฺพา คพฺภา ปริปาเจนฺติ ทิพฺพานํ ภวานํ อภินิพฺพตฺติยา, เตสํ อนฺตรายกโร โหติ, อนฺตรายกโร สมาโน อหิตานุกมฺปี โหติ, อหิตานุกมฺปิสฺส สปตฺตกํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, โลหิจฺจ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา.

๕๑๒. ‘‘อิติ กิร, โลหิจฺจ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘‘ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลํ อชฺฌาวสติ; ยา กาสิโกสเล สมุทยสฺชาติ, ราชาว ตํ ปเสนทิ โกสโล เอกโก ปริภุฺเชยฺย, น อฺเสํ ทเทยฺยา’’ติ. เอวํวาที โส เย ราชานํ ปเสนทึ โกสลํ อุปชีวนฺติ ตุมฺเห เจว อฺเ จ, เตสํ อนฺตรายกโร โหติ. อนฺตรายกโร สมาโน อหิตานุกมฺปี โหติ, อหิตานุกมฺปิสฺส สปตฺตกํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. เอวเมว โข, โลหิจฺจ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อิธ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุสลํ ธมฺมํ อธิคจฺเฉยฺย, กุสลํ ธมฺมํ อธิคนฺตฺวา น ปรสฺส อาโรเจยฺย, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม…เป… กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’ติ, เอวํ วาที โส เย เต กุลปุตฺตา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม เอวรูปํ อุฬารํ วิเสสํ อธิคจฺฉนฺติ, โสตาปตฺติผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, สกทาคามิผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, อนาคามิผลมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ, อรหตฺตมฺปิ สจฺฉิกโรนฺติ. เย จิเม ทิพฺพา คพฺภา ปริปาเจนฺติ ทิพฺพานํ ภวานํ อภินิพฺพตฺติยา, เตสํ อนฺตรายกโร โหติ, อนฺตรายกโร สมาโน อหิตานุกมฺปี โหติ, อหิตานุกมฺปิสฺส สปตฺตกํ จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, สปตฺตเก จิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเต มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, โลหิจฺจ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา.

ตโย โจทนารหา

๕๑๓. ‘‘ตโย โขเม, โลหิจฺจ, สตฺถาโร, เย โลเก โจทนารหา; โย จ ปเนวรูเป สตฺถาโร โจเทติ, สา โจทนา ภูตา ตจฺฉา ธมฺมิกา อนวชฺชา. กตเม ตโย? อิธ, โลหิจฺจ, เอกจฺโจ สตฺถา ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, สฺวาสฺส สามฺตฺโถ อนนุปฺปตฺโต โหติ. โส ตํ สามฺตฺถํ อนนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. โส เอวมสฺส โจเทตพฺโพ – ‘‘อายสฺมา โข ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส เต สามฺตฺโถ อนนุปฺปตฺโต, ตํ ตฺวํ สามฺตฺถํ อนนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ – ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส เต สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม โอสกฺกนฺติยา วา อุสฺสกฺเกยฺย, ปรมฺมุขึ วา อาลิงฺเคยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ – กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’ติ. อยํ โข, โลหิจฺจ, ปโม สตฺถา, โย โลเก โจทนารโห; โย จ ปเนวรูปํ สตฺถารํ โจเทติ, สา โจทนา ภูตา ตจฺฉา ธมฺมิกา อนวชฺชา.

๕๑๔. ‘‘ปุน จปรํ, โลหิจฺจ, อิเธกจฺโจ สตฺถา ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, สฺวาสฺส สามฺตฺโถ อนนุปฺปตฺโต โหติ. โส ตํ สามฺตฺถํ อนนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. โส เอวมสฺส โจเทตพฺโพ – ‘‘อายสฺมา โข ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส เต สามฺตฺโถ อนนุปฺปตฺโต. ตํ ตฺวํ สามฺตฺถํ อนนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ – ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส เต สาวกา สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, น จ โวกฺกมฺม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม สกํ เขตฺตํ โอหาย ปรํ เขตฺตํ นิทฺทายิตพฺพํ มฺเยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ – กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’ติ. อยํ โข, โลหิจฺจ, ทุติโย สตฺถา, โย, โลเก โจทนารโห; โย จ ปเนวรูปํ สตฺถารํ โจเทติ, สา โจทนา ภูตา ตจฺฉา ธมฺมิกา อนวชฺชา.

๕๑๕. ‘‘ปุน จปรํ, โลหิจฺจ, อิเธกจฺโจ สตฺถา ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, สฺวาสฺส สามฺตฺโถ อนุปฺปตฺโต โหติ. โส ตํ สามฺตฺถํ อนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. โส เอวมสฺส โจเทตพฺโพ – ‘‘อายสฺมา โข ยสฺสตฺถาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส เต สามฺตฺโถ อนุปฺปตฺโต. ตํ ตฺวํ สามฺตฺถํ อนุปาปุณิตฺวา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ – ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส เต สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม ปุราณํ พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อฺํ นวํ พนฺธนํ กเรยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามิ, กิฺหิ ปโร ปรสฺส กริสฺสตี’’ติ. อยํ โข, โลหิจฺจ, ตติโย สตฺถา, โย โลเก โจทนารโห; โย จ ปเนวรูปํ สตฺถารํ โจเทติ, สา โจทนา ภูตา ตจฺฉา ธมฺมิกา อนวชฺชา. อิเม โข, โลหิจฺจ, ตโย สตฺถาโร, เย โลเก โจทนารหา, โย จ ปเนวรูเป สตฺถาโร โจเทติ, สา โจทนา ภูตา ตจฺฉา ธมฺมิกา อนวชฺชาติ.

นโจทนารหสตฺถุ

๕๑๖. เอวํ วุตฺเต, โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, โกจิ สตฺถา, โย โลเก นโจทนารโห’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, โลหิจฺจ, สตฺถา, โย โลเก นโจทนารโห’’ติ. ‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, สตฺถา, โย โลเก นโจทนารโห’’ติ?

‘‘อิธ, โลหิจฺจ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ). เอวํ โข, โลหิจฺจ, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… ยสฺมึ โข, โลหิจฺจ, สตฺถริ สาวโก เอวรูปํ อุฬารํ วิเสสํ อธิคจฺฉติ, อยมฺปิ โข, โลหิจฺจ, สตฺถา, โย โลเก น