📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ทีฆนิกาโย

มหาวคฺคปาฬิ

๑. มหาปทานสุตฺตํ

ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตกถา

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม กเรริกุฏิกายํ. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตา ธมฺมี กถา อุทปาทิ – ‘‘อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส, อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส’’ติ.

. อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย เตสํ ภิกฺขูนํ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ, นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตา ธมฺมี กถา อุทปาทิ – ‘อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา. อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

. ‘‘อิจฺเฉยฺยาถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ โสตุ’’นฺติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล; ยํ ภควา ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเรยฺย, ภควโต สุตฺวา [ภควโต วจนํ สุตฺวา (สฺยา.)] ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ,สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

. ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกนวุติกปฺเป ยํ [เอกนวุโต กปฺโป (สฺยา. กํ. ปี.)] วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกตึเส กปฺเป [เอกตึ สกปฺโป (สี.) เอกตึ โส กปฺโป (สฺยา. กํ. ปี.)] ยํ สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. ตสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, เอกตึเส กปฺเป เวสฺสภู ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว [อิมสฺมึ (กตฺถจี)] โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป โกณาคมโน ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน.

. ‘‘วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสึ, ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน.

. ‘‘วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โคตโม โคตฺเตน อโหสึ.

. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สตฺตติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตึสวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วีสติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อปฺปกํ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ; โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย.

. ‘‘วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุณฺฑรีกสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สาลสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สิรีสสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุทุมฺพรสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิคฺโรธสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ.

. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิภูสมฺภวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โสณุตฺตรํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภิยฺโยสุตฺตรํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ติสฺสภารทฺวาชํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ.

๑๐. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานิ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สฏฺิภิกฺขุสหสฺสานิ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ จตฺตาลีสภิกฺขุสหสฺสานิ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ตึสภิกฺขุสหสฺสานิ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ วีสติภิกฺขุสหสฺสานิ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.

๑๑. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เขมงฺกโร นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อุปสนฺโต นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พุทฺธิโช นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โสตฺถิโช นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สพฺพมิตฺโต นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก.

๑๒. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ [ชเนตฺตี (สฺยา.)]. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อรุโณ นาม ราชา ปิตา อโหสิ. ปภาวตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. อรุณสฺส รฺโ อรุณวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สุปฺปติโต นาม [สุปฺปตีโต นาม (สฺยา.)] ราชา ปิตา อโหสิ. วสฺสวตี นาม [ยสวตี นาม (สฺยา. ปี.)] เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. สุปฺปติตสฺส รฺโ อโนมํ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคิทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. วิสาขา นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน เขโม นาม ราชา อโหสิ. เขมสฺส รฺโ เขมวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ยฺทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. อุตฺตรา นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน โสโภ นาม ราชา อโหสิ. โสภสฺส รฺโ โสภวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พฺรหฺมทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. ธนวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน กิกี นาม [กึ กี นาม (สฺยา.)] ราชา อโหสิ. กิกิสฺส รฺโ พาราณสี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

๑๓. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, นามโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ.

‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, ตถาคตสฺเสว นุ โข เอสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ, อุทาหุ เทวตา ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ. อยฺจ หิทํ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ.

๑๔. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อยํ อนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, นามโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ – ‘‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’ติ. กึ นุ โข, อาวุโส, ตถาคตสฺเสว นุ โข เอสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’ติ. อุทาหุ เทวตา ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๑๕. ‘‘ตถาคตสฺเสเวสา, ภิกฺขเว, ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ. เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ.

‘‘อิจฺเฉยฺยาถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ภิยฺโยโสมตฺตาย ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ โสตุ’’นฺติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล; ยํ ภควา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเรยฺย, ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๑๖. ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.

โพธิสตฺตธมฺมตา

๑๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๑๘. ‘‘ธมฺมตา, เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ. อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา, ยตฺถ ปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา, เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๑๙. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตา จตุทฺทิสํ [จาตุทฺทิสํ (สฺยา.)] รกฺขาย อุปคจฺฉนฺติ – ‘มา นํ โพธิสตฺตํ วา โพธิสตฺตมาตรํ วา มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา โกจิ วา วิเหเสี’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๐. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, ปกติยา สีลวตี โพธิสตฺตมาตา โหติ, วิรตา ปาณาติปาตา, วิรตา อทินฺนาทานา, วิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา, วิรตา มุสาวาทา, วิรตา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๑. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ ปุริเสสุ มานสํ อุปฺปชฺชติ กามคุณูปสํหิตํ, อนติกฺกมนียา จ โพธิสตฺตมาตา โหติ เกนจิ ปุริเสน รตฺตจิตฺเตน. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๒. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, ลาภินี โพธิสตฺตมาตา โหติ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ. สา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๓. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ. สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา, โพธิสตฺตฺจ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺราสฺส [ตตฺรสฺส (สฺยา.)] สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา’ติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ, สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา, โพธิสตฺตฺจ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๔. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, สตฺตาหชาเต โพธิสตฺเต โพธิสตฺตมาตา กาลงฺกโรติ ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๕. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยถา อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ทเสว มาสานิ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๖. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยถา อฺา อิตฺถิกา นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ิตาว โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๗. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, เทวา ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ปจฺฉา มนุสฺสา. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๘. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อปฺปตฺโตว โพธิสตฺโต ปถวึ โหติ, จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตา ปฏิคฺคเหตฺวา มาตุ ปุรโต เปนฺติ – ‘อตฺตมนา, เทวิ, โหหิ; มเหสกฺโข เต ปุตฺโต อุปฺปนฺโน’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๒๙. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต อุเทน [อุทฺเทน (สฺยา.), อุทเรน (กตฺถจิ)] อมกฺขิโต เสมฺเหน อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ [วิสุทฺโธ (สฺยา.)] วิสโท. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มณิรตนํ กาสิเก วตฺเถ นิกฺขิตฺตํ เนว มณิรตนํ กาสิกํ วตฺถํ มกฺเขติ, นาปิ กาสิกํ วตฺถํ มณิรตนํ มกฺเขติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อุภินฺนํ สุทฺธตฺตา. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต, อุเทน อมกฺขิโต เสมฺเหน อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ วิสโท. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๓๐. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, ทฺเว อุทกสฺส ธารา อนฺตลิกฺขา ปาตุภวนฺติ – เอกา สีตสฺส เอกา อุณฺหสฺส เยน โพธิสตฺตสฺส อุทกกิจฺจํ กโรนฺติ มาตุ จ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๓๑. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, สมฺปติชาโต โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข [อุตฺตเรนาภิมุโข (สฺยา.) อุตฺตเรนมุโข (ก.)] สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน, สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภึ วาจํ ภาสติ ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

๓๒. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ, อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา, ยตฺถ ปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา, เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.

ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณา

๓๓. ‘‘ชาเต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิมฺหิ กุมาเร พนฺธุมโต รฺโ ปฏิเวเทสุํ – ‘ปุตฺโต เต, เทว [เทว เต (ก.)], ชาโต, ตํ เทโว ปสฺสตู’ติ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสึ กุมารํ, ทิสฺวา เนมิตฺเต พฺราหฺมเณ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘ปสฺสนฺตุ โภนฺโต เนมิตฺตา พฺราหฺมณา กุมาร’นฺติ. อทฺทสํสุ โข, ภิกฺขเว, เนมิตฺตา พฺราหฺมณา วิปสฺสึ กุมารํ, ทิสฺวา พนฺธุมนฺตํ ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘อตฺตมโน, เทว, โหหิ, มเหสกฺโข เต ปุตฺโต อุปฺปนฺโน, ลาภา เต, มหาราช, สุลทฺธํ เต, มหาราช, ยสฺส เต กุเล เอวรูโป ปุตฺโต อุปฺปนฺโน. อยฺหิ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท.

๓๔. ‘กตเมหิ จายํ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาปี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท.

๓๕. ‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุปฺปติฏฺิตปาโท. ยํ ปายํ, เทว, กุมาโร สุปฺปติฏฺิตปาโท. อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.

‘อิมสฺส, เทว [อิมสฺส หิ เทว (?)], กุมารสฺส เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ. ยมฺปิ, อิมสฺส เทว, กุมารสฺส เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ, อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.

‘อยฺหิ เทว, กุมาโร อายตปณฺหี…เป…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ทีฆงฺคุลี…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร มุทุตลุนหตฺถปาโท…

‘อยฺหิ, เทว กุมาโร ชาลหตฺถปาโท…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อุสฺสงฺขปาโท…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร เอณิชงฺโฆ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ิตโกว อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร โกโสหิตวตฺถคุยฺโห…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุขุมจฺฉวี; สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ [อุปลิปฺปติ (สฺยา.)]

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร เอเกกโลโม; เอเกกานิ โลมานิ โลมกูเปสุ ชาตานิ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อุทฺธคฺคโลโม; อุทฺธคฺคานิ โลมานิ ชาตานิ นีลานิ อฺชนวณฺณานิ กุณฺฑลาวฏฺฏานิ ทกฺขิณาวฏฺฏกชาตานิ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร พฺรหฺมุชุคตฺโต…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สตฺตุสฺสโท…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สีหปุพฺพทฺธกาโย…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร จิตนฺตรํโส [ปิตนฺตรํโส (สฺยา.)]

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร นิคฺโรธปริมณฺฑโล ยาวตกฺวสฺส กาโย ตาวตกฺวสฺส พฺยาโม, ยาวตกฺวสฺส พฺยาโม, ตาวตกฺวสฺส กาโย…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สมวฏฺฏกฺขนฺโธ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร รสคฺคสคฺคี…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สีหหนุ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร จตฺตาลีสทนฺโต…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สมทนฺโต…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อวิรฬทนฺโต…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุสุกฺกทาโ…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ปหูตชิวฺโห…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร พฺรหฺมสฺสโร กรวีกภาณี…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อภินีลเนตฺโต…

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร โคปขุโม…

อิมสฺส, เทว, กุมารสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา. ยมฺปิ อิมสฺส เทว กุมารสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา, อิทมฺปิมสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.

‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อุณฺหีสสีโส. ยํ ปายํ, เทว, กุมาโร อุณฺหีสสีโส, อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.

๓๖. ‘อิเมหิ โข อยํ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน [ธมฺเมน สเมน (สฺยา.)] อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท’ติ.

วิปสฺสีสมฺา

๓๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา เนมิตฺเต พฺราหฺมเณ อหเตหิ วตฺเถหิ อจฺฉาทาเปตฺวา [อจฺฉาเทตฺวา (สฺยา.)] สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ธาติโย อุปฏฺาเปสิ. อฺา ขีรํ ปาเยนฺติ, อฺา นฺหาเปนฺติ, อฺา ธาเรนฺติ, อฺา องฺเกน ปริหรนฺติ. ชาตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส เสตจฺฉตฺตํ ธารยิตฺถ ทิวา เจว รตฺติฺจ – ‘มา นํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา อุสฺสาโว วา พาธยิตฺถา’ติ. ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหุโน ชนสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปลํ วา ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา พหุโน ชนสฺส ปิยํ มนาปํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหุโน ชนสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป. สฺวาสฺสุทํ องฺเกเนว องฺกํ ปริหริยติ.

๓๘. ‘‘ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร มฺชุสฺสโร จ [กุมาโร พฺรหฺมสฺสโร มฺชุสฺสโร จ (สี. ก.)] อโหสิ วคฺคุสฺสโร จ มธุรสฺสโร จ เปมนิยสฺสโร จ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, หิมวนฺเต ปพฺพเต กรวีกา นาม สกุณชาติ มฺชุสฺสรา จ วคฺคุสฺสรา จ มธุรสฺสรา จ เปมนิยสฺสรา จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร มฺชุสฺสโร จ อโหสิ วคฺคุสฺสโร จ มธุรสฺสโร จ เปมนิยสฺสโร จ.

๓๙. ‘‘ชาตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุรโหสิ เยน สุทํ [เยน ทูรํ (สฺยา.)] สมนฺตา โยชนํ ปสฺสติ ทิวา เจว รตฺติฺจ.

๔๐. ‘‘ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนิมิสนฺโต เปกฺขติ เสยฺยถาปิ เทวา ตาวตึสา. ‘อนิมิสนฺโต กุมาโร เปกฺขตี’ติ โข, ภิกฺขเว [อนิมิสนฺโต เปกฺขติ, ชาตสฺส โข ปน ภิกฺขเว (ก.)], วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.

๔๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา อตฺถกรเณ [อฏฺฏ กรเณ (สฺยา.)] นิสินฺโน วิปสฺสึ กุมารํ องฺเก นิสีทาเปตฺวา อตฺเถ อนุสาสติ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปิตุองฺเก นิสินฺโน วิเจยฺย วิเจยฺย อตฺเถ ปนายติ าเยน [อฏฺเฏ ปนายติ าเณน (สฺยา.)]. วิเจยฺย วิเจยฺย กุมาโร อตฺเถ ปนายติ าเยนาติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.

๔๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ตโย ปาสาเท การาเปสิ, เอกํ วสฺสิกํ เอกํ เหมนฺติกํ เอกํ คิมฺหิกํ; ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร วสฺสิเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส [วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก] นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหตี’’ติ.

ปมภาณวาโร.

ชิณฺณปุริโส

๔๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ พหูนํ วสฺสสตานํ พหูนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม สารถิ, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมิทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺตานิ โข เต, เทว, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ [ภทฺรํ ยานํ (สฺยา.), ภทฺทํ ยานํ (ปี.) จตฺตาโร มาเส (สี. ปี.)] อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ.

๔๔. ‘‘อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ชิณฺณํ โคปานสิวงฺกํ โภคฺคํ [ภคฺคํ (สฺยา.)] ทณฺฑปรายนํ ปเวธมานํ คจฺฉนฺตํ อาตุรํ คตโยพฺพนํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? เกสาปิสฺส น ยถา อฺเสํ, กาโยปิสฺส น ยถา อฺเส’นฺติ. ‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ชิณฺโณ นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นาม. น ทานิ เตน จิรํ ชีวิตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ ชราธมฺโม, ชรํ อนตีโต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ ชราธมฺมา, ชรํ อนตีตา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา. อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร, โภ, ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสตี’ติ!

๔๕. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ? กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ชิณฺณํ โคปานสิวงฺกํ โภคฺคํ ทณฺฑปรายนํ ปเวธมานํ คจฺฉนฺตํ อาตุรํ คตโยพฺพนํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต, เกสาปิสฺส น ยถา อฺเสํ, กาโยปิสฺส น ยถา อฺเส’’นฺติ? ‘‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นามา’’ติ. ‘‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ชิณฺโณ นามา’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นาม น ทานิ เตน จิรํ ชีวิตพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ ชราธมฺโม, ชรํ อนตีโต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ ชราธมฺมา, ชรํ อนตีตา’’ติ.

‘‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสตี’’’ติ.

พฺยาธิตปุริโส

๔๖. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ –

‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.

‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ…เป…

๔๗. ‘‘อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ อาพาธิกํ ทุกฺขิตํ พาฬฺหคิลานํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ เสมานํ [สยมานํ (สฺยา. ก.)] อฺเหิ วุฏฺาปิยมานํ อฺเหิ สํเวสิยมานํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? อกฺขีนิปิสฺส น ยถา อฺเสํ, สโรปิสฺส [สิโรปิสฺส (สฺยา.)] น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, พฺยาธิโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นาม อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ พฺยาธิธมฺโม, พฺยาธึ อนตีโต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ พฺยาธิธมฺมา, พฺยาธึ อนตีตา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสตี’ติ.

๔๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ อาพาธิกํ ทุกฺขิตํ พาฬฺหคิลานํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ เสมานํ อฺเหิ วุฏฺาปิยมานํ อฺเหิ สํเวสิยมานํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต, อกฺขีนิปิสฺส น ยถา อฺเสํ, สโรปิสฺส น ยถา อฺเส’’นฺติ? ‘‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นามา’’ติ. ‘‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, พฺยาธิโต นามา’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นาม อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ พฺยาธิธมฺโม, พฺยาธึ อนตีโต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ พฺยาธิธมฺมา, พฺยาธึ อนตีตา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสตี’’’ติ.

กาลงฺกตปุริโส

๔๙. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ – ‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.

‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ…เป…

๕๐. ‘‘อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต มหาชนกายํ สนฺนิปติตํ นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรมานํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘กึ นุ โข, โส, สมฺม สารถิ, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรตี’ติ? ‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นามา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร เปตํ กาลงฺกตํ, ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘กึ ปนายํ, สมฺม สารถิ, กาลงฺกโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นาม. น ทานิ ตํ ทกฺขนฺติ มาตา วา ปิตา วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, โสปิ น ทกฺขิสฺสติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ มรณธมฺโม มรณํ อนตีโต; มมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา; อหมฺปิ น ทกฺขิสฺสามิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ มรณธมฺมา มรณํ อนตีตา; ตมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา; ตฺวมฺปิ น ทกฺขิสฺสสิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร, โภ, ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสติ, มรณํ ปฺายิสฺสตี’ติ.

๕๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต มหาชนกายํ สนฺนิปติตํ นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรมานํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โส, สมฺม สารถิ, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรตี’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสหี’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสสึ. อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร เปตํ กาลงฺกตํ, ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ปนายํ, สมฺม สารถิ, กาลงฺกโต นามา’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นาม. น ทานิ ตํ ทกฺขนฺติ มาตา วา ปิตา วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, โสปิ น ทกฺขิสฺสติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ มรณธมฺโม มรณํ อนตีโต; มมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา; อหมฺปิ น ทกฺขิสฺสามิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ มรณธมฺมา มรณํ อนตีตา; ตมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, ตฺวมฺปิ น ทกฺขิสฺสสิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสติ, มรณํ ปฺายิสฺสตี’’’ติ.

ปพฺพชิโต

๕๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ – ‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.

‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ พหูนํ วสฺสสตานํ พหูนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม สารถิ, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมิทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺตานิ โข เต, เทว, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ.

๕๓. ‘‘อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ภณฺฑุํ ปพฺพชิตํ กาสายวสนํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? สีสํปิสฺส น ยถา อฺเสํ, วตฺถานิปิสฺส น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘เอโส โข, เทว, ปพฺพชิโต นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ปพฺพชิโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, ปพฺพชิโต นาม สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา [สมฺมจริยา (ก.)] สาธุ กุสลกิริยา [กุสลจริยา (สฺยา.)] สาธุ ปุฺกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ. ‘สาธุ โข โส, สมฺม สารถิ, ปพฺพชิโต นาม, สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ กุสลกิริยา สาธุ ปุฺกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา. เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส ปพฺพชิโต เตน รถํ เปเสหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส ปพฺพชิโต เตน รถํ เปเสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ตํ ปพฺพชิตํ เอตทโวจ – ‘ตฺวํ ปน, สมฺม, กึกโต, สีสมฺปิ เต น ยถา อฺเสํ, วตฺถานิปิ เต น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘อหํ โข, เทว, ปพฺพชิโต นามา’ติ. ‘กึ ปน ตฺวํ, สมฺม, ปพฺพชิโต นามา’ติ? ‘อหํ โข, เทว, ปพฺพชิโต นาม, สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ กุสลกิริยา สาธุ ปุฺกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ. ‘สาธุ โข ตฺวํ, สมฺม, ปพฺพชิโต นาม สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ กุสลกิริยา สาธุ ปุฺกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ.

โพธิสตฺตปพฺพชฺชา

๕๔. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร สารถึ อามนฺเตสิ – ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, รถํ อาทาย อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหิ. อหํ ปน อิเธว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รถํ อาทาย ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. วิปสฺสี ปน กุมาโร ตตฺเถว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ.

มหาชนกายอนุปพฺพชฺชา

๕๕. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาชนกาโย จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา [โอริกา (สี. สฺยา.)] ปพฺพชฺชา, ยตฺถ วิปสฺสี กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. วิปสฺสีปิ นาม กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, กิมงฺคํ [กิมงฺค (สี.)] ปน มย’นฺติ.

‘‘อถ โข, โส ภิกฺขเว, มหาชนกาโย [มหาชนกาโย (สฺยา.)] จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา วิปสฺสึ โพธิสตฺตํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชึสุ. ตาย สุทํ, ภิกฺขเว, ปริสาย ปริวุโต วิปสฺสี โพธิสตฺโต คามนิคมชนปทราชธานีสุ จาริกํ จรติ.

๕๖. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข เมตํ [น โข ปเนตํ (สฺยา.)] ปติรูปํ โยหํ อากิณฺโณ วิหรามิ, ยํนูนาหํ เอโก คณมฺหา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต อปเรน สมเยน เอโก คณมฺหา วูปกฏฺโ วิหาสิ, อฺเเนว ตานิ จตุราสีติ ปพฺพชิตสหสฺสานิ อคมํสุ, อฺเน มคฺเคน วิปสฺสี โพธิสตฺโต.

โพธิสตฺตอภินิเวโส

๕๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส วาสูปคตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน, ชายติ จ ชียติ จ มียติ จ [ชิยฺยติ จ มิยฺยติ จ (ก.)] จวติ จ อุปปชฺชติ จ, อถ จ ปนิมสฺส ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ นปฺปชานาติ ชรามรณสฺส, กุทาสฺสุ นาม อิมสฺส ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ ปฺายิสฺสติ ชรามรณสฺสา’ติ?

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหติ, กึปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ชาติยา โข สติ ชรามรณํ โหติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชาติ โหติ, กึปจฺจยา ชาตี’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ภเว โข สติ ชาติ โหติ, ภวปจฺจยา ชาตี’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ภโว โหติ, กึปจฺจยา ภโว’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘อุปาทาเน โข สติ ภโว โหติ, อุปาทานปจฺจยา ภโว’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ อุปาทานํ โหติ, กึปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ตณฺหาย โข สติ อุปาทานํ โหติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ตณฺหา โหติ, กึปจฺจยา ตณฺหา’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘เวทนาย โข สติ ตณฺหา โหติ, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ เวทนา โหติ, กึปจฺจยา เวทนา’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ผสฺเส โข สติ เวทนา โหติ, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ผสฺโส โหติ, กึปจฺจยา ผสฺโส’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘สฬายตเน โข สติ ผสฺโส โหติ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ สฬายตนํ โหติ, กึปจฺจยา สฬายตน’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข สติ สฬายตนํ โหติ, นามรูปปจฺจยา สฬายตน’นฺติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ นามรูปํ โหติ, กึปจฺจยา นามรูป’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘วิฺาเณ โข สติ นามรูปํ โหติ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’นฺติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ วิฺาณํ โหติ, กึปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข สติ วิฺาณํ โหติ, นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ.

๕๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ปจฺจุทาวตฺตติ โข อิทํ วิฺาณํ นามรูปมฺหา, นาปรํ คจฺฉติ. เอตฺตาวตา ชาเยถ วา ชิยฺเยถ วา มิยฺเยถ วา จเวถ วา อุปปชฺเชถ วา, ยทิทํ นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ’.

๕๙. ‘‘‘สมุทโย สมุทโย’ติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

๖๐. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ชรามรณํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ชาติยา โข อสติ ชรามรณํ น โหติ, ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ชาติ น โหติ, กิสฺส นิโรธา ชาตินิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ภเว โข อสติ ชาติ น โหติ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ภโว น โหติ, กิสฺส นิโรธา ภวนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘อุปาทาเน โข อสติ ภโว น โหติ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ อุปาทานํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา อุปาทานนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ตณฺหาย โข อสติ อุปาทานํ น โหติ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ตณฺหา น โหติ, กิสฺส นิโรธา ตณฺหานิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘เวทนาย โข อสติ ตณฺหา น โหติ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ เวทนา น โหติ, กิสฺส นิโรธา เวทนานิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ผสฺเส โข อสติ เวทนา น โหติ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ผสฺโส น โหติ, กิสฺส นิโรธา ผสฺสนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘สฬายตเน โข อสติ ผสฺโส น โหติ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ สฬายตนํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา สฬายตนนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข อสติ สฬายตนํ น โหติ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ นามรูปํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา นามรูปนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘วิฺาเณ โข อสติ นามรูปํ น โหติ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ’ติ.

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ วิฺาณํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา วิฺาณนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข อสติ วิฺาณํ น โหติ, นามรูปนิโรธา วิฺาณนิโรโธ’ติ.

๖๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ มคฺโค สมฺโพธาย ยทิทํ – นามรูปนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ’.

๖๒. ‘‘‘นิโรโธ นิโรโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

๖๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต อปเรน สมเยน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหาสิ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ, ตสฺส ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต น จิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจี’’ติ.

ทุติยภาณวาโร.

พฺรหฺมยาจนกถา

๖๔. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ; โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติ.

๖๕. ‘‘อปิสฺสุ, ภิกฺขเว, วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติ.

‘‘อิติห, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย.

๖๖. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตรสฺส มหาพฺรหฺมุโน วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เอตทโหสิ – ‘นสฺสติ วต โภ โลโก, วินสฺสติ วต โภ โลโก, ยตฺร หิ นาม วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ [นมิ (สฺยา. ก.), นมิสฺสติ (?)], โน ธมฺมเทสนายา’ติ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา [นิทหนฺโต (สฺยา.)] เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, สนฺติ [สนฺตี (สฺยา.)] สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา; อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ.

๖๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต [อถ โข (ก.)], ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ; โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’’ติ. อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม, อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’’ติ.

‘อิติห เม, พฺรหฺเม, ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายา’ติ.

๖๘. ‘‘ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา…เป… ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ.

๖๙. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา สตฺเตสุ จ การุฺตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย [ทุวิฺาปเย ภพฺเพ อภพฺเพ (สฺยา.)] อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ. ก.)] วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ. ก.)] วิหรนฺเต. เสยฺยถาปิ นาม อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิ. อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ สโมทกํ ิตานิ. อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกา อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ อนุปลิตฺตานิ อุทเกน. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต.

๗๐. ‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต, ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ.

‘โสกาวติณฺณํ [โสกาวกิณฺณํ (สฺยา.)] ชนตมเปตโสโก,

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ;

อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม,

สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก.

เทสสฺสุ [เทเสตุ (สฺยา. ปี.)] ภควา ธมฺมํ,

อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’ติ.

๗๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ มหาพฺรหฺมานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา,

เย โสตวนฺโต ปมุฺจนฺตุ สทฺธํ;

วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ,

ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’ติ.

‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา ‘กตาวกาโส โขมฺหิ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมเทสนายา’ติ วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ.

อคฺคสาวกยุคํ

๗๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘อยํ โข ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสนฺติ ปณฺฑิตา วิยตฺตา เมธาวิโน ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติกา. ยํนูนาหํ ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส, ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, เต อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสนฺตี’ติ.

๗๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว โพธิรุกฺขมูเล อนฺตรหิโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา เขเม มิคทาเย ปาตุรโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทายปาลํ [มิคทายปาลํ (สฺยา.)] อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม ทายปาล, พนฺธุมตึ ราชธานึ ปวิสิตฺวา ขณฺฑฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอวํ วเทหิ – วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ, โส ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, ทายปาโล วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุตฺวา พนฺธุมตึ ราชธานึ ปวิสิตฺวา ขณฺฑฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ; โส ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ.

๗๔. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิยฺยึสุ. เยน เขโม มิคทาโย เตน ปายึสุ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว [ปทิกาว (สฺยา.)] เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ. อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

๗๕. ‘‘เตสํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ [อานุปุพฺพิกถํ (สี. ปี.)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.

๗๖. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’นฺติ.

๗๗. ‘‘อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต, ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน [เนกฺขมฺเม (สฺยา.)] อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.

มหาชนกายปพฺพชฺชา

๗๘. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาชนกาโย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ. ขณฺโฑ จ กิร ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา’ติ. สุตฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา ปพฺพชฺชา, ยตฺถ ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสนฺติ, กิมงฺคํ ปน มย’นฺติ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาชนกาโย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิกฺขมิตฺวา เยน เขโม มิคทาโย เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

๗๙. ‘‘เตสํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ จตุราสีติปาณสหสฺสานํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.

๘๐. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ [( ) นตฺถิ อฏฺกถายํ, ปาฬิยํ ปน สพฺพตฺถปิ ทิสฺสติ]. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ.

๘๑. ‘‘อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปาณสหสฺสานิ วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.

ปุริมปพฺพชิตานํ ธมฺมาภิสมโย

๘๒. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ ปุริมานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ, ธมฺมฺจ กิร เทเสตี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ เยน พนฺธุมตี ราชธานี เยน เขโม มิคทาโย เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

๘๓. ‘‘เตสํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.

๘๔. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ.

๘๕. ‘‘อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.

จาริกาอนุชานนํ

๘๖. ‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาภิกฺขุสงฺโฆ ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘มหา โข เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, ยํนูนาหํ ภิกฺขู อนุชาเนยฺยํ – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’’ติ.

๘๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร มหาพฺรหฺมา วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย. เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. มหา โข, ภนฺเต, เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, อนุชานาตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขู – ‘‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ [อฺาตาโร (สฺสพฺพตฺถ)]. อปิ จ, ภนฺเต, มยํ ตถา กริสฺสาม ยถา ภิกฺขู ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา, อิทํ วตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ.

๘๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – มหา โข เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. ยํนูนาหํ ภิกฺขู อนุชาเนยฺยํ – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ, ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายาติ.

‘‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร มหาพฺรหฺมา มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยนาหํ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. มหา โข, ภนฺเต, เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. อนุชานาตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขู – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ…เป… สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ. อปิ จ, ภนฺเต, มยํ ตถา กริสฺสาม, ยถา ภิกฺขู ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา, อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ’.

‘‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จรถ จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ, ภิกฺขเว, ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เยภุยฺเยน เอกาเหเนว ชนปทจาริกํ ปกฺกมึสุ.

๘๙. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ชมฺพุทีเป จตุราสีติ อาวาสสหสฺสานิ โหนฺติ. เอกมฺหิ หิ วสฺเส นิกฺขนฺเต เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตํ โข, มาริสา, เอกํ วสฺสํ; ปฺจ ทานิ วสฺสานิ เสสานิ; ปฺจนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. ทฺวีสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… ตีสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… จตูสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… ปฺจสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตานิ โข, มาริสา, ปฺจวสฺสานิ; เอกํ ทานิ วสฺสํ เสสํ; เอกสฺส วสฺสสฺส อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. ฉสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตานิ โข, มาริสา, ฉพฺพสฺสานิ, สมโย ทานิ พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิตุํ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อถ โข เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺเปกจฺเจ สเกน อิทฺธานุภาเวน อปฺเปกจฺเจ เทวตานํ อิทฺธานุภาเวน เอกาเหเนว พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมึสุ ปาติโมกฺขุทฺเทสายาติ [ปาติโมกฺขุทฺเทสาย (?)].

๙๐. ‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขุสงฺเฆ เอวํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสติ –

‘ขนฺตี ปรมํ ตโป ติติกฺขา,

นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา;

น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี,

น สมโณ [สมโณ (สี. สฺยา. ปี.)] โหติ ปรํ วิเหยนฺโต.

‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธานสาสนํ.

‘อนูปวาโท อนูปฆาโต [อนุปวาโท อนุปฆาโต (ปี. ก.)], ปาติโมกฺเข จ สํวโร;

มตฺตฺุตา จ ภตฺตสฺมึ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;

อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ พุทฺธานสาสน’นฺติ.

เทวตาโรจนํ

๙๑. ‘‘เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข โส สตฺตาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุตฺถปุพฺโพ [อนชฺฌาวุฏฺปุพฺโพ (ก. สี. ก.)] อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหิ. ยํนูนาหํ เยน สุทฺธาวาสา เทวา เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว อุกฺกฏฺายํ สุภควเน สาลราชมูเล อนฺตรหิโต อวิเหสุ เทเวสุ ปาตุรโหสึ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ [อเนกานิ เทวตาสตานิ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ (สฺยา.)] เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, มาริส, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, วิปสฺสิมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ …เป…

‘‘ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ [อเนกานิ เทวตาสตานิ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ (สฺยา. เอวมุปริปิ)] เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป ภควา เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, ขตฺติโย ชาติยา ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, โคตโม โคตฺเตน. ภควโต, มาริสา, อปฺปกํ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย. ภควา, มาริสา, อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. ภควโต, มาริสา, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ภควโต, มาริสา, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. ภควโต, มาริสา, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. ภควโต, มาริสา, อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. ภควโต, มาริสา, สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. ภควโต, มาริสา, เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.

๙๒. ‘‘อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ เทเวหิ สทฺธึ เยน อตปฺปา เทวา เตนุปสงฺกมึ…เป… อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน สุทสฺสา เทวา เตนุปสงฺกมึ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สุทสฺเสหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน สุทสฺสี เทวา เตนุปสงฺกมึ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สุทสฺเสหิ จ เทเวหิ สุทสฺสีหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน อกนิฏฺา เทวา เตนุปสงฺกมึ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ.

‘‘เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ. ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ, เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, วิปสฺสิมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ. ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกตึเส กปฺเป ยํ สิขี ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, สิขิมฺหิ ภควติ ตสฺมิฺเว โข มาริสา, เอกตึเส กปฺเป ยํ เวสฺสภู ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, เวสฺสภุมฺหิ ภควติ…เป… อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป กกุสนฺโธ โกณาคมโน กสฺสโป ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, กกุสนฺธมฺหิ โกณาคมนมฺหิ กสฺสปมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.

๙๓. ‘‘ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป ภควา เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, ขตฺติโย ชาติยา, ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, โคตโม โคตฺเตน. ภควโต, มาริสา, อปฺปกํ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย. ภควา, มาริสา, อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. ภควโต, มาริสา, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ภควโต, มาริสา, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. ภควโต, มาริสา, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. ภควโต, มาริสา, อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อคฺคุปฏฺาโก อโหสิ. ภควโต, มาริสา, สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. ภควโต, มาริสา, เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ, เอวํ ปพฺพชฺชา, เอวํ ปธานํ, เอวํ อภิสมฺโพธิ, เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.

๙๔. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสเวสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ. ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปีติ.

‘‘เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ. ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

มหาปทานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. มหานิทานสุตฺตํ

ปฏิจฺจสมุปฺปาโท

๙๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม [กมฺมาสทมฺมํ นาม (สฺยา.)] กุรูนํ นิคโม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว คมฺภีโร จายํ, ภนฺเต, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ, อถ จ ปน เม อุตฺตานกุตฺตานโก วิย ขายตี’’ติ. ‘‘มา เหวํ, อานนฺท, อวจ, มา เหวํ, อานนฺท, อวจ. คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ. เอตสฺส, อานนฺท, ธมฺมสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมยํ ปชา ตนฺตากุลกชาตา กุลคณฺิกชาตา [คุลาคุณฺิกชาตา (สี. ปี.), คุณคณฺิกชาตา (สฺยา.)] มุฺชปพฺพชภูตา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ.

๙๖. ‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชาตี’ติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา ชาตี’ติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘ภวปจฺจยา ชาตี’ติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ภโว’ติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา ภโว’ติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’ติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ตณฺหา’ติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา ตณฺหา’ติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’ติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา เวทนา’ติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา เวทนา’ติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’ติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ผสฺโส’ติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา ผสฺโส’ติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘นามรูปปจฺจยา ผสฺโส’ติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา นามรูป’นฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา นามรูป’นฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’นฺติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

‘‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ. ‘กึปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ อิจฺจสฺส วจนียํ.

๙๗. ‘‘อิติ โข, อานนฺท, นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ.

๙๘. ‘‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ชาติปจฺจยา ชรามรณํ. ชาติ จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – เทวานํ วา เทวตฺตาย, คนฺธพฺพานํ วา คนฺธพฺพตฺตาย, ยกฺขานํ วา ยกฺขตฺตาย, ภูตานํ วา ภูตตฺตาย, มนุสฺสานํ วา มนุสฺสตฺตาย, จตุปฺปทานํ วา จตุปฺปทตฺตาย, ปกฺขีนํ วา ปกฺขิตฺตาย, สรีสปานํ วา สรีสปตฺตาย [สิรึสปานํ สิรึสปตฺตาย (สี. สฺยา.)], เตสํ เตสฺจ หิ, อานนฺท, สตฺตานํ ตทตฺตาย ชาติ นาภวิสฺส. สพฺพโส ชาติยา อสติ ชาตินิโรธา อปิ นุ โข ชรามรณํ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ชรามรณสฺส, ยทิทํ ชาติ’’.

๙๙. ‘‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ภวปจฺจยา ชาติ. ภโว จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – กามภโว วา รูปภโว วา อรูปภโว วา, สพฺพโส ภเว อสติ ภวนิโรธา อปิ นุ โข ชาติ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ชาติยา, ยทิทํ ภโว’’.

๑๐๐. ‘‘‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา อุปาทานปจฺจยา ภโว. อุปาทานฺจ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – กามุปาทานํ วา ทิฏฺุปาทานํ วา สีลพฺพตุปาทานํ วา อตฺตวาทุปาทานํ วา, สพฺพโส อุปาทาเน อสติ อุปาทานนิโรธา อปิ นุ โข ภโว ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ภวสฺส, ยทิทํ อุปาทานํ’’.

๑๐๑. ‘‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ. ตณฺหา จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหา, สพฺพโส ตณฺหาย อสติ ตณฺหานิโรธา อปิ นุ โข อุปาทานํ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย อุปาทานสฺส, ยทิทํ ตณฺหา’’.

๑๐๒. ‘‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา. เวทนา จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา โสตสมฺผสฺสชา เวทนา ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา กายสมฺผสฺสชา เวทนา มโนสมฺผสฺสชา เวทนา, สพฺพโส เวทนาย อสติ เวทนานิโรธา อปิ นุ โข ตณฺหา ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ตณฺหาย, ยทิทํ เวทนา’’.

๑๐๓. ‘‘อิติ โข ปเนตํ, อานนฺท, เวทนํ ปฏิจฺจ ตณฺหา, ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข. อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ.

๑๐๔. ‘‘‘อารกฺขาธิกรณํ [อารกฺขํ ปฏิจฺจ อารกฺขาธิกรณํ (สฺยา.)] ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺตี’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. อารกฺโข จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส อารกฺเข อสติ อารกฺขนิโรธา อปิ นุ โข ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภเวยฺยุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทานํ อเนเกสํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมฺภวาย ยทิทํ อารกฺโข.

๑๐๕. ‘‘‘มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข. มจฺฉริยฺจ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส มจฺฉริเย อสติ มจฺฉริยนิโรธา อปิ นุ โข อารกฺโข ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย อารกฺขสฺส, ยทิทํ มจฺฉริยํ’’.

๑๐๖. ‘‘‘ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริย’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ. ปริคฺคโห จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส ปริคฺคเห อสติ ปริคฺคหนิโรธา อปิ นุ โข มจฺฉริยํ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย มจฺฉริยสฺส, ยทิทํ ปริคฺคโห’’.

๑๐๗. ‘‘‘อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห. อชฺโฌสานฺจ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส อชฺโฌสาเน อสติ อชฺโฌสานนิโรธา อปิ นุ โข ปริคฺคโห ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ปริคฺคหสฺส – ยทิทํ อชฺโฌสานํ’’.

๑๐๘. ‘‘‘ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสาน’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ. ฉนฺทราโค จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส ฉนฺทราเค อสติ ฉนฺทราคนิโรธา อปิ นุ โข อชฺโฌสานํ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย อชฺโฌสานสฺส, ยทิทํ ฉนฺทราโค’’.

๑๐๙. ‘‘‘วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค. วินิจฺฉโย จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส วินิจฺฉเย อสติ วินิจฺฉยนิโรธา อปิ นุ โข ฉนฺทราโค ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ฉนฺทราคสฺส, ยทิทํ วินิจฺฉโย’’.

๑๑๐. ‘‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย. ลาโภ จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส ลาเภ อสติ ลาภนิโรธา อปิ นุ โข วินิจฺฉโย ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย วินิจฺฉยสฺส, ยทิทํ ลาโภ’’.

๑๑๑. ‘‘‘ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ. ปริเยสนา จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, สพฺพโส ปริเยสนาย อสติ ปริเยสนานิโรธา อปิ นุ โข ลาโภ ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ลาภสฺส, ยทิทํ ปริเยสนา’’.

๑๑๒. ‘‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา. ตณฺหา จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา, สพฺพโส ตณฺหาย อสติ ตณฺหานิโรธา อปิ นุ โข ปริเยสนา ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ปริเยสนาย, ยทิทํ ตณฺหา. อิติ โข, อานนฺท, อิเม ทฺเว ธมฺมา [อิเม ธมฺมา (ก.)] ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ’’.

๑๑๓. ‘‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา. ผสฺโส จ หิ, อานนฺท, นาภวิสฺส สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ กสฺสจิ กิมฺหิจิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุสมฺผสฺโส โสตสมฺผสฺโส ฆานสมฺผสฺโส ชิวฺหาสมฺผสฺโส กายสมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส, สพฺพโส ผสฺเส อสติ ผสฺสนิโรธา อปิ นุ โข เวทนา ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย เวทนาย, ยทิทํ ผสฺโส’’.

๑๑๔. ‘‘‘นามรูปปจฺจยา ผสฺโส’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา นามรูปปจฺจยา ผสฺโส. เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ เยหิ อุทฺเทเสหิ นามกายสฺส ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ เตสุ ลิงฺเคสุ เตสุ นิมิตฺเตสุ เตสุ อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข รูปกาเย อธิวจนสมฺผสฺโส ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ เยหิ อุทฺเทเสหิ รูปกายสฺส ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ…เป… เตสุ อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข นามกาเย ปฏิฆสมฺผสฺโส ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ…เป… เยหิ อุทฺเทเสหิ นามกายสฺส จ รูปกายสฺส จ ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ…เป… เตสุ อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข อธิวจนสมฺผสฺโส วา ปฏิฆสมฺผสฺโส วา ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เยหิ, อานนฺท, อากาเรหิ…เป… เยหิ อุทฺเทเสหิ นามรูปสฺส ปฺตฺติ โหติ, เตสุ อากาเรสุ …เป… เตสุ อุทฺเทเสสุ อสติ อปิ นุ โข ผสฺโส ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย ผสฺสสฺส, ยทิทํ นามรูปํ’’.

๑๑๕. ‘‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ. วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, มาตุกุจฺฉิสฺมึ น โอกฺกมิสฺสถ, อปิ นุ โข นามรูปํ มาตุกุจฺฉิสฺมึ สมุจฺจิสฺสถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, มาตุกุจฺฉิสฺมึ โอกฺกมิตฺวา โวกฺกมิสฺสถ, อปิ นุ โข นามรูปํ อิตฺถตฺตาย อภินิพฺพตฺติสฺสถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, ทหรสฺเสว สโต โวจฺฉิชฺชิสฺสถ กุมารกสฺส วา กุมาริกาย วา, อปิ นุ โข นามรูปํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย นามรูปสฺส – ยทิทํ วิฺาณํ’’.

๑๑๖. ‘‘‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ตทานนฺท, อิมินาเปตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ. วิฺาณฺจ หิ, อานนฺท, นามรูเป ปติฏฺํ น ลภิสฺสถ, อปิ นุ โข อายตึ ชาติชรามรณํ ทุกฺขสมุทยสมฺภโว [ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว (สี. สฺยา. ปี.)] ปฺาเยถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเสว เหตุ เอตํ นิทานํ เอส สมุทโย เอส ปจฺจโย วิฺาณสฺส ยทิทํ นามรูปํ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ชาเยถ วา ชีเยถ [ชิยฺเยถ (ก.)] วา มีเยถ [มิยฺเยถ (ก.)] วา จเวถ วา อุปปชฺเชถ วา. เอตฺตาวตา อธิวจนปโถ, เอตฺตาวตา นิรุตฺติปโถ, เอตฺตาวตา ปฺตฺติปโถ, เอตฺตาวตา ปฺาวจรํ, เอตฺตาวตา วฏฺฏํ วตฺตติ อิตฺถตฺตํ ปฺาปนาย ยทิทํ นามรูปํ สห วิฺาเณน อฺมฺปจฺจยตา ปวตฺตติ.

อตฺตปฺตฺติ

๑๑๗. ‘‘กิตฺตาวตา จ, อานนฺท, อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ? รูปึ วา หิ, อานนฺท, ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ – ‘‘รูปี เม ปริตฺโต อตฺตา’’ติ. รูปึ วา หิ, อานนฺท, อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ – ‘รูปี เม อนนฺโต อตฺตา’ติ. อรูปึ วา หิ, อานนฺท, ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ – ‘อรูปี เม ปริตฺโต อตฺตา’ติ. อรูปึ วา หิ, อานนฺท, อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ – ‘อรูปี เม อนนฺโต อตฺตา’ติ.

๑๑๘. ‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, รูปึ [รูปี (ก.)] ปริตฺตตฺตานุทิฏฺิ อนุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, รูปึ [รูปี (ก.)] อนนฺตตฺตานุทิฏฺิ อนุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, อรูปึ [อรูปี (ก.)] ปริตฺตตฺตานุทิฏฺิ อนุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, อรูปึ [อรูปี (ก.)] อนนฺตตฺตานุทิฏฺิ อนุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, อตฺตานํ ปฺเปนฺโต ปฺเปติ.

นอตฺตปฺตฺติ

๑๑๙. ‘‘กิตฺตาวตา จ, อานนฺท, อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ? รูปึ วา หิ, อานนฺท, ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ – ‘รูปี เม ปริตฺโต อตฺตา’ติ. รูปึ วา หิ, อานนฺท, อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ – ‘รูปี เม อนนฺโต อตฺตา’ติ. อรูปึ วา หิ, อานนฺท, ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ – ‘อรูปี เม ปริตฺโต อตฺตา’ติ. อรูปึ วา หิ, อานนฺท, อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ – ‘อรูปี เม อนนฺโต อตฺตา’ติ.

๑๒๐. ‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส รูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส น โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, รูปึ ปริตฺตตฺตานุทิฏฺิ นานุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส รูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส น โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, รูปึ อนนฺตตฺตานุทิฏฺิ นานุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส อรูปึ ปริตฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส น โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, อรูปึ ปริตฺตตฺตานุทิฏฺิ นานุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ. เอตรหิ วา โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ตตฺถ ภาวึ วา โส อรูปึ อนนฺตํ อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ, ‘อตถํ วา ปน สนฺตํ ตถตฺตาย อุปกปฺเปสฺสามี’ติ อิติ วา ปนสฺส น โหติ. เอวํ สนฺตํ โข, อานนฺท, อรูปึ อนนฺตตฺตานุทิฏฺิ นานุเสตีติ อิจฺจาลํ วจนาย. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, อตฺตานํ น ปฺเปนฺโต น ปฺเปติ.

อตฺตสมนุปสฺสนา

๑๒๑. ‘‘กิตฺตาวตา จ, อานนฺท, อตฺตานํ สมนุปสฺสมาโน สมนุปสฺสติ? เวทนํ วา หิ, อานนฺท, อตฺตานํ สมนุปสฺสมาโน สมนุปสฺสติ – ‘เวทนา เม อตฺตา’ติ. ‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา’ติ อิติ วา หิ, อานนฺท, อตฺตานํ สมนุปสฺสมาโน สมนุปสฺสติ. ‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, โนปิ อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา, อตฺตา เม เวทิยติ, เวทนาธมฺโม หิ เม อตฺตา’ติ อิติ วา หิ, อานนฺท, อตฺตานํ สมนุปสฺสมาโน สมนุปสฺสติ.

๑๒๒. ‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส เอวมาห – ‘เวทนา เม อตฺตา’ติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ติสฺโส โข อิมา, อาวุโส, เวทนา – สุขา เวทนา ทุกฺขา เวทนา อทุกฺขมสุขา เวทนา. อิมาสํ โข ตฺวํ ติสฺสนฺนํ เวทนานํ กตมํ อตฺตโต สมนุปสฺสสี’ติ? ยสฺมึ, อานนฺท, สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; สุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ, อานนฺท, สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; ทุกฺขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมึ, อานนฺท, สมเย อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมึ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ; อทุกฺขมสุขํเยว ตสฺมึ สมเย เวทนํ เวเทติ.

๑๒๓. ‘‘สุขาปิ โข, อานนฺท, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. ทุกฺขาปิ โข, อานนฺท, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. อทุกฺขมสุขาปิ โข, อานนฺท, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. ตสฺส สุขํ เวทนํ เวทิยมานสฺส ‘เอโส เม อตฺตา’ติ โหติ. ตสฺสาเยว สุขาย เวทนาย นิโรธา ‘พฺยคา [พฺยคฺคา (สี. ก.)] เม อตฺตา’ติ โหติ. ทุกฺขํ เวทนํ เวทิยมานสฺส ‘เอโส เม อตฺตา’ติ โหติ. ตสฺสาเยว ทุกฺขาย เวทนาย นิโรธา ‘พฺยคา เม อตฺตา’ติ โหติ. อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทิยมานสฺส ‘เอโส เม อตฺตา’ติ โหติ. ตสฺสาเยว อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา ‘พฺยคา เม อตฺตา’ติ โหติ. อิติ โส ทิฏฺเว ธมฺเม อนิจฺจสุขทุกฺขโวกิณฺณํ อุปฺปาทวยธมฺมํ อตฺตานํ สมนุปสฺสมาโน สมนุปสฺสติ, โย โส เอวมาห – ‘เวทนา เม อตฺตา’ติ. ตสฺมาติหานนฺท, เอเตน เปตํ นกฺขมติ – ‘เวทนา เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสิตุํ.

๑๒๔. ‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส เอวมาห – ‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา’ติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ยตฺถ ปนาวุโส, สพฺพโส เวทยิตํ นตฺถิ อปิ นุ โข, ตตฺถ ‘‘อยมหมสฺมี’’ติ สิยา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเตน เปตํ นกฺขมติ – ‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสิตุํ.

๑๒๕. ‘‘ตตฺรานนฺท, โย โส เอวมาห – ‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, โนปิ อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา, อตฺตา เม เวทิยติ, เวทนาธมฺโม หิ เม อตฺตา’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – เวทนา จ หิ, อาวุโส, สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อปริเสสา นิรุชฺเฌยฺยุํ. สพฺพโส เวทนาย อสติ เวทนานิโรธา อปิ นุ โข ตตฺถ ‘อยมหมสฺมี’ติ สิยา’’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, เอเตน เปตํ นกฺขมติ – ‘‘น เหว โข เม เวทนา อตฺตา, โนปิ อปฺปฏิสํเวทโน เม อตฺตา, อตฺตา เม เวทิยติ, เวทนาธมฺโม หิ เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสิตุํ.

๑๒๖. ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ เนว เวทนํ อตฺตานํ สมนุปสฺสติ, โนปิ อปฺปฏิสํเวทนํ อตฺตานํ สมนุปสฺสติ, โนปิ ‘อตฺตา เม เวทิยติ, เวทนาธมฺโม หิ เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ. โส เอวํ น สมนุปสฺสนฺโต น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ, อนุปาทิยํ น ปริตสฺสติ, อปริตสฺสํ [อปริตสฺสนํ (ก.)] ปจฺจตฺตฺเว ปรินิพฺพายติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุํ โย เอวํ วเทยฺย – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติสฺส [อิติ สา (อฏฺกถายํ ปานฺตรํ)] ทิฏฺี’ติ, ตทกลฺลํ. ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติสฺส ทิฏฺี’ติ, ตทกลฺลํ. ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติสฺส ทิฏฺี’ติ, ตทกลฺลํ. ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติสฺส ทิฏฺี’ติ, ตทกลฺลํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาวตา, อานนฺท, อธิวจนํ ยาวตา อธิวจนปโถ, ยาวตา นิรุตฺติ ยาวตา นิรุตฺติปโถ, ยาวตา ปฺตฺติ ยาวตา ปฺตฺติปโถ, ยาวตา ปฺา ยาวตา ปฺาวจรํ, ยาวตา วฏฺฏํ [ยาวตา วฏฺฏํ วฏฺฏติ (ก. สี.)], ยาวตา วฏฺฏติ [ยาวตา วฏฺฏํ วฏฺฏติ (ก. สี.)], ตทภิฺาวิมุตฺโต ภิกฺขุ, ตทภิฺาวิมุตฺตํ ภิกฺขุํ ‘น ชานาติ น ปสฺสติ อิติสฺส ทิฏฺี’ติ, ตทกลฺลํ.

สตฺต วิฺาณฏฺิติ

๑๒๗. ‘‘สตฺต โข, อานนฺท [สตฺต โข อิมา อานนฺท (ก. สี. สฺยา.)], วิฺาณฏฺิติโย, ทฺเว อายตนานิ. กตมา สตฺต? สนฺตานนฺท, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา, เอกจฺเจ จ เทวา, เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมี วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺี วิฺาณฏฺิติ. สนฺตานนฺท, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ สตฺตมี วิฺาณฏฺิติ. อสฺสตฺตายตนํ เนวสฺานาสฺายตนเมว ทุติยํ.

๑๒๘. ‘‘ตตฺรานนฺท, ยายํ ปมา วิฺาณฏฺิติ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา, เอกจฺเจ จ เทวา, เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. โย นุ โข, อานนฺท, ตฺจ ปชานาติ, ตสฺสา จ สมุทยํ ปชานาติ, ตสฺสา จ อตฺถงฺคมํ ปชานาติ, ตสฺสา จ อสฺสาทํ ปชานาติ, ตสฺสา จ อาทีนวํ ปชานาติ, ตสฺสา จ นิสฺสรณํ ปชานาติ, กลฺลํ นุ เตน ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’…เป… ‘‘ตตฺรานนฺท, ยมิทํ อสฺสตฺตายตนํ. โย นุ โข, อานนฺท, ตฺจ ปชานาติ, ตสฺส จ สมุทยํ ปชานาติ, ตสฺส จ อตฺถงฺคมํ ปชานาติ, ตสฺส จ อสฺสาทํ ปชานาติ, ตสฺส จ อาทีนวํ ปชานาติ, ตสฺส จ นิสฺสรณํ ปชานาติ, กลฺลํ นุ เตน ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตตฺรานนฺท, ยมิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ. โย นุ โข, อานนฺท, ตฺจ ปชานาติ, ตสฺส จ สมุทยํ ปชานาติ, ตสฺส จ อตฺถงฺคมํ ปชานาติ, ตสฺส จ อสฺสาทํ ปชานาติ, ตสฺส จ อาทีนวํ ปชานาติ, ตสฺส จ นิสฺสรณํ ปชานาติ, กลฺลํ นุ เตน ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อิมาสฺจ สตฺตนฺนํ วิฺาณฏฺิตีนํ อิเมสฺจ ทฺวินฺนํ อายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทา วิมุตฺโต โหติ, อยํ วุจฺจตานนฺท, ภิกฺขุ ปฺาวิมุตฺโต.

อฏฺ วิโมกฺขา

๑๒๙. ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, วิโมกฺขา. กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ อยํ ปโม วิโมกฺโข. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ทุติโย วิโมกฺโข. สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, อยํ ตติโย วิโมกฺโข. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม ‘เนวสฺานาสฺา’ยตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ วิโมกฺขา.

๑๓๐. ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อิเม อฏฺ วิโมกฺเข อนุโลมมฺปิ สมาปชฺชติ, ปฏิโลมมฺปิ สมาปชฺชติ, อนุโลมปฏิโลมมฺปิ สมาปชฺชติ, ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ วุจฺจตานนฺท, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต. อิมาย จ อานนฺท อุภโตภาควิมุตฺติยา อฺา อุภโตภาควิมุตฺติ อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

มหานิทานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. มหาปรินิพฺพานสุตฺตํ

๑๓๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ [อุจฺเฉชฺชามิ (สฺยา. ปี.), อุจฺฉิชฺชามิ (ก.)] วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามิ วชฺชี’’ติ [อาปาเทสฺสามิ วชฺชีติ (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๗.๒๒ ปสฺสิตพฺพํ].

๑๓๒. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ. ยถา เต ภควา พฺยากโรติ, ตํ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา มม อาโรเจยฺยาสิ. น หิ ตถาคตา วิตถํ ภณนฺตี’’ติ.

วสฺสการพฺราหฺมโณ

๑๓๓. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ ราชคหมฺหา นิยฺยาสิ, เยน คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา, โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ. ราชา [เอวฺจ วเทติ ราชา (ก.)], โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ.

ราชอปริหานิยธมฺมา

๑๓๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน [วีชยมาโน (สี.), วีชิยมาโน (สฺยา.)]. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, ‘‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา, เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)] มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา, เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา, เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย, ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย, ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี ยานิ ตานิ

วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา, กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ, กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุนฺติ. วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

๑๓๕. อถ โข ภควา วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอกมิทาหํ, พฺราหฺมณ, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท [สานนฺทเร (ก.)] เจติเย. ตตฺราหํ วชฺชีนํ อิเม สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสึ. ยาวกีวฺจ, พฺราหฺมณ, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกเมเกนปิ, โภ โคตม, อปริหานิเยน ธมฺเมน สมนฺนาคตานํ วชฺชีนํ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. โก ปน วาโท สตฺตหิ อปริหานิเยหิ ธมฺเมหิ. อกรณียาว [อกรณียา จ (สฺยา. ก.)], โภ โคตม, วชฺชี [วชฺชีนํ (ก.)] รฺา มาคเธน อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน ยทิทํ ยุทฺธสฺส, อฺตฺร อุปลาปนาย อฺตฺร มิถุเภทา. หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

ภิกฺขุอปริหานิยธมฺมา

๑๓๖. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต วสฺสกาเร พฺราหฺมเณ มคธมหามตฺเต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยาวติกา ภิกฺขู ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยาวติกา ภิกฺขู ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺนิปติโต, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ, ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.

อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา สงฺฆกรณียานิ กริสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อุปฺปนฺนาย ตณฺหาย โปโนพฺภวิกาย น วสํ คจฺฉิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อารฺเกสุ เสนาสเนสุ สาเปกฺขา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปจฺจตฺตฺเว สตึ อุปฏฺเปสฺสนฺติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี ผาสุ [ผาสุํ (สี. สฺยา. ปี.)] วิหเรยฺยุ’นฺติ. วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๗. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น กมฺมารามา ภวิสฺสนฺติ น กมฺมรตา น กมฺมารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ภสฺสารามา ภวิสฺสนฺติ น ภสฺสรตา น ภสฺสารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น นิทฺทารามา ภวิสฺสนฺติ น นิทฺทารตา น นิทฺทารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น สงฺคณิการามา ภวิสฺสนฺติ น สงฺคณิกรตา น สงฺคณิการามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ปาปิจฺฉา ภวิสฺสนฺติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ น ปาปสหายา น ปาปสมฺปวงฺกา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตราโวสานํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๘. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ…เป… ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สทฺธา ภวิสฺสนฺติ…เป… หิริมนา ภวิสฺสนฺติ… โอตฺตปฺปี ภวิสฺสนฺติ… พหุสฺสุตา ภวิสฺสนฺติ… อารทฺธวีริยา ภวิสฺสนฺติ… อุปฏฺิตสฺสตี ภวิสฺสนฺติ… ปฺวนฺโต ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๙. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา โน ปริหานิ.

๑๔๐. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนิจฺจสฺํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… อนตฺตสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อสุภสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อาทีนวสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… ปหานสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… วิราคสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… นิโรธสฺํ ภาเวสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๔๑. ‘‘ฉ, โว ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ …เป… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู, เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี ภวิสฺสนฺติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ยานิ กานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺูปสตฺถานิ [วิฺุปฺปสตฺถานิ (สี.)] อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคตา วิหริสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคตา วิหริสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม ฉ อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ ฉสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

๑๔๒. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรนฺโต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๔๓. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน อมฺพลฏฺิกา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน อมฺพลฏฺิกา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อมฺพลฏฺิกายํ วิหรติ ราชาคารเก. ตตฺราปิ สุทํ ภควา อมฺพลฏฺิกายํ วิหรนฺโต ราชาคารเก เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ อิติ สมาธิ อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๔๔. อถ โข ภควา อมฺพลฏฺิกายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน นาฬนฺทา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นาฬนฺทา ตทวสริ, ตตฺร สุทํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเน.

สาริปุตฺตสีหนาโท

๑๔๕. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํ ปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ. ‘‘อุฬารา โข เต อยํ, สาริปุตฺต, อาสภี วาจา [อาสภิวาจา (สฺยา.)] ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’นฺติ.

‘‘กึ เต [กึ นุ (สฺยา. ปี. ก.)], สาริปุตฺต, เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘กึ ปน เต [กึ ปน (สฺยา. ปี. ก.)], สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปิ, เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘กึ ปน เต, สาริปุตฺต, อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘‘เอวํสีโล ภควา อิติปิ, เอวํธมฺโม เอวํปฺโ เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺโต ภควา อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เอตฺถ จ หิ เต, สาริปุตฺต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ [เจโตปริฺายาณํ (สฺยา.), เจตสา เจโตปริยายาณํ (ก.)] นตฺถิ. อถ กิฺจรหิ เต อยํ, สาริปุตฺต, อุฬารา อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’’นฺติ?

๑๔๖. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ อตฺถิ, อปิ จ เม ธมฺมนฺวโย วิทิโต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ, ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ปเวเสตา. โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ [อนุจริยายปถํ (สฺยา.)] อนุกฺกมมาโน น ปสฺเสยฺย ปาการสนฺธึ วา ปาการวิวรํ วา, อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส [น ปสฺเสยฺย ตสฺส เอวมสฺส (สฺยา.)] – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สพฺเพ เต อิมินาว ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ. เอวเมว โข เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต – ‘เย เต, ภนฺเต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺตา สตฺตโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌึสุ. เยปิ เต, ภนฺเต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสนฺติ. ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’’ติ.

๑๔๗. ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรนฺโต ปาวาริกมฺพวเน เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

ทุสฺสีลอาทีนวา

๑๔๘. อถ โข ภควา นาฬนฺทายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปาฏลิคาโม เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาฏลิคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา – ‘‘ภควา กิร ปาฏลิคามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อาวสถาคาร’’นฺติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ [สพฺพสนฺถริตํ สตฺถตํ (สฺยา.), สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (ก.)] อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา เตลปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)], ภนฺเต, อาวสถาคารํ, อาสนานิ ปฺตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต, เตลปทีโป อาโรปิโต; ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ [อิทํ ปทํ วินยมหาวคฺค น ทิสฺสติ]. นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข [ปุรตฺถิมาภิมุโข (ก.)] นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตเมว ปุรกฺขตฺวา. ปาฏลิคามิกาปิ โข อุปาสกา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทึสุ ภควนฺตเมว ปุรกฺขตฺวา.

๑๔๙. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก อามนฺเตสิ – ‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ – อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

สีลวนฺตอานิสํส

๑๕๐. ‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายา’’ติ.

๑๕๑. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, คหปตโย, รตฺติ, ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาฏลิคามิเกสุ อุปาสเกสุ สุฺาคารํ ปาวิสิ.

ปาฏลิปุตฺตนครมาปนํ

๑๕๒. เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา [สุนีธวสฺสการา (สฺยา. ก.)] มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. เตน สมเยน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺเสว [สหสฺสสฺเสว (สี. ปี. ก.), สหสฺสเสว (ฏีกายํ ปานฺตรํ), สหสฺสสหสฺเสว (อุทานฏฺกถา)] ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตา เทวตาโย สหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก นุ โข [โก นุ โข (สี. สฺยา. ปี. ก.)], อานนฺท, ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี’’ติ [มาเปตีติ (สี. สฺยา. ปี. ก.)]? ‘‘สุนิธวสฺสการา, ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา, เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ, อานนฺท, ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ ยาวตา วณิปฺปโถ อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ. ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ภวิสฺสนฺติ – อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทา วา’’ติ.

๑๕๓. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ, เอกมนฺตํ ิตา โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา เยน สโก อาวสโถ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สเก อาวสเถ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสุํ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อาวสโถ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสุํ สมฺปวาเรสุํ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ, วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;

สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา, สฺเต พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.)].

‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;

ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ [ปูชิตา ปูชยนฺติ นํ (ก.)], มานิตา มานยนฺติ นํ.

‘‘ตโต นํ อนุกมฺปนฺติ, มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;

เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.

อถ โข ภควา สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๑๕๔. เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ‘‘เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม ภวิสฺสติ. เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทึ ตริสฺสติ, ตํ โคตมติตฺถํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา นาวํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺติ อปารา [ปารา (สี. สฺยา. ก.), โอรา (วิ. มหาวคฺค)], ปารํ คนฺตุกามา. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺาสิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อทฺทสา โข ภควา เต มนุสฺเส อปฺเปกจฺเจ นาวํ ปริเยสนฺเต อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺเต อปารา ปารํ คนฺตุกาเม. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ, เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;

กุลฺลฺหิ ชโน พนฺธติ [กุลฺลํ ชโน จ พนฺธติ (สฺยา.), กุลฺลํ หิ ชโน ปพนฺธติ (สี. ปี. ก.)], ติณฺณา [นิติณฺณา, น ติณฺณา (ก.)] เมธาวิโน ชนา’’ติ.

ปมภาณวาโร.

อริยสจฺจกถา

๑๕๕. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน โกฏิคาโม เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน โกฏิคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา โกฏิคาเม วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขสมุทยสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขนิโรธสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ, ยถาภูตํ อทสฺสนา;

สํสิตํ ทีฆมทฺธานํ, ตาสุ ตาสฺเวว ชาติสุ.

ตานิ เอตานิ ทิฏฺานิ, ภวเนตฺติ สมูหตา;

อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา โกฏิคาเม วิหรนฺโต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

อนาวตฺติธมฺมสมฺโพธิปรายณา

๑๕๖. อถ โข ภควา โกฏิคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน นาติกา [นาทิกา (สฺยา. ปี.)] เตนุปงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นาติกา ตทวสริ. ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาฬฺโห นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุ นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? นนฺทา นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุนี นาติเก กาลงฺกตา, ตสฺสา กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? สุทตฺโต นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? สุชาตา นาม, ภนฺเต, อุปาสิกา นาติเก กาลงฺกตา, ตสฺสา กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? กุกฺกุโฏ [กกุโธ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? กาฬิมฺโพ [กาลิงฺโค (ปี.), การฬิมฺโพ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก…เป… นิกโฏ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… กฏิสฺสโห [กฏิสฺสโภ (สี. ปี.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… ตุฏฺโ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… สนฺตุฏฺโ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… ภทฺโท [ภโฏ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… สุภทฺโท [สุภโฏ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ?

๑๕๗. ‘‘สาฬฺโห, อานนฺท, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. นนฺทา, อานนฺท, ภิกฺขุนี ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สุทตฺโต, อานนฺท, อุปาสโก ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสติ. สุชาตา, อานนฺท, อุปาสิกา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา [ปรายนา (สี. สฺยา. ปี. ก.)]. กุกฺกุโฏ, อานนฺท, อุปาสโก ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. กาฬิมฺโพ, อานนฺท, อุปาสโก…เป… นิกโฏ, อานนฺท, อุปาสโก… กฏิสฺสโห, อานนฺท, อุปาสโก… ตุฏฺโ, อานนฺท, อุปาสโก … สนฺตุฏฺโ, อานนฺท, อุปาสโก… ภทฺโท, อานนฺท, อุปาสโก… สุภทฺโท, อานนฺท, อุปาสโก ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ปโรปฺาสํ, อานนฺท, นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา, ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ [ฉาธิกา นวุติ (สฺยา.)], อานนฺท, นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ [ทสาติเรกานิ (สฺยา.)], อานนฺท, ปฺจสตานิ นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา, ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา.

ธมฺมาทาสธมฺมปริยายา

๑๕๘. ‘‘อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ยํ มนุสฺสภูโต กาลงฺกเรยฺย. ตสฺมึเยว [ตสฺมึ ตสฺมึ เจ (สี. ปี.), ตสฺมึ ตสฺมึ โข (สฺยา.)] กาลงฺกเต ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสถ, วิเหสา เหสา, อานนฺท, ตถาคตสฺส. ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมาทาสํ นาม ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ.

๑๕๙. ‘‘กตโม จ โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ?

‘‘อิธานนฺท, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ.

‘‘ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ.

‘‘สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ.

‘‘อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺูปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ.

‘‘อยํ โข โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาติเก วิหรนฺโต คิฺชกาวสเถ เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ –

‘‘อิติ สีลํ อิติ สมาธิ อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๖๐. อถ โข ภควา นาติเก ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน เวสาลี เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ อมฺพปาลิวเน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน โหติ. สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ.

อมฺพปาลีคณิกา

๑๖๑. อสฺโสสิ โข อมฺพปาลี คณิกา – ‘‘ภควา กิร เวสาลึ อนุปฺปตฺโต เวสาลิยํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยาสิ. เยน สโก อาราโม เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อมฺพปาลึ คณิกํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อสฺโสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี – ‘‘ภควา กิร เวสาลึ อนุปฺปตฺโต เวสาลิยํ วิหรติ อมฺพปาลิวเน’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยึสุ. ตตฺร เอกจฺเจ ลิจฺฉวี นีลา โหนฺติ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี ปีตา โหนฺติ ปีตวณฺณา ปีตวตฺถา ปีตาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี โลหิตา โหนฺติ โลหิตวณฺณา โลหิตวตฺถา โลหิตาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี โอทาตา โหนฺติ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อกฺเขน อกฺขํ จกฺเกน จกฺกํ ยุเคน ยุคํ ปฏิวฏฺเฏสิ [ปริวตฺเตสิ (วิ. มหาวคฺค)]. อถ โข เต ลิจฺฉวี อมฺพปาลึ คณิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘กึ, เช อมฺพปาลิ, ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อกฺเขน อกฺขํ จกฺเกน จกฺกํ ยุเคน ยุคํ ปฏิวฏฺเฏสี’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน เม, อยฺยปุตฺตา, ภควา นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ‘‘เทหิ, เช อมฺพปาลิ, เอตํ [เอกํ (ก.)] ภตฺตํ สตสหสฺเสนา’’ติ. ‘‘สเจปิ เม, อยฺยปุตฺตา, เวสาลึ สาหารํ ทสฺสถ [ทชฺเชยฺยาถ (วิ. มหาวคฺค)], เอวมหํ ตํ [เอวมฺปิ มหนฺตํ (สฺยา.), เอวํ มหนฺตํ (สี. ปี.)] ภตฺตํ น ทสฺสามี’’ติ [เนว ทชฺชาหํ ตํ ภตฺตนฺติ (วิ. มหาวคฺค)]. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺห [ชิตมฺหา (พหูสุ)] วต โภ อมฺพกาย, ชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา’’ติ [‘‘ชิตมฺหา วต โภ อมฺพปาลิกาย วฺจิตมฺหา วต โภ อมฺพปาลิกายา’’ติ (สฺยา.)].

อถ โข เต ลิจฺฉวี เยน อมฺพปาลิวนํ เตน ปายึสุ. อทฺทสา โข ภควา เต ลิจฺฉวี ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยสํ [เยหิ (วิ. มหาวคฺค)], ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ เทวา ตาวตึสา อทิฏฺปุพฺพา, โอโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวิปริสํ; อปโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวิปริสํ; อุปสํหรถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวิปริสํ – ตาวตึสสทิส’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อถ โข ภควา เต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘‘อธิวุตฺถํ [อธิวาสิตํ (สฺยา.)] โข เม, ลิจฺฉวี, สฺวาตนาย อมฺพปาลิยา คณิกาย ภตฺต’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺห วต โภ อมฺพกาย, ชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.

๑๖๒. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อาราเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อมฺพปาลิยา คณิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมาหํ, ภนฺเต, อารามํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อารามํ. อถ โข ภควา อมฺพปาลึ คณิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ตตฺรปิ สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรนฺโต อมฺพปาลิวเน เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

เวฬุวคามวสฺสูปคมนํ

๑๖๓. อถ โข ภควา อมฺพปาลิวเน ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน เวฬุวคามโก [เพฬุวคามโก (สี. ปี.)] เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เวฬุวคามโก ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวฬุวคามเก วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สมนฺตา เวสาลึ ยถามิตฺตํ ยถาสนฺทิฏฺํ ยถาสมฺภตฺตํ วสฺสํ อุเปถ [อุปคจฺฉถ (สฺยา.)]. อหํ ปน อิเธว เวฬุวคามเก วสฺสํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา สมนฺตา เวสาลึ ยถามิตฺตํ ยถาสนฺทิฏฺํ ยถาสมฺภตฺตํ วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ. ภควา ปน ตตฺเถว เวฬุวคามเก วสฺสํ อุปคจฺฉิ.

๑๖๔. อถ โข ภควโต วสฺสูปคตสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, พาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตา สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ อนามนฺเตตฺวา อุปฏฺาเก อนปโลเกตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปรินิพฺพาเยยฺยํ. ยํนูนาหํ อิมํ อาพาธํ วีริเยน ปฏิปณาเมตฺวา ชีวิตสงฺขารํ อธิฏฺาย วิหเรยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตํ อาพาธํ วีริเยน ปฏิปณาเมตฺวา ชีวิตสงฺขารํ อธิฏฺาย วิหาสิ. อถ โข ภควโต โส อาพาโธ ปฏิปสฺสมฺภิ. อถ โข ภควา คิลานา วุฏฺิโต [คิลานวุฏฺิโต (สทฺทนีติ)] อจิรวุฏฺิโต เคลฺา วิหารา นิกฺขมฺม วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทิฏฺโ เม, ภนฺเต, ภควโต ผาสุ; ทิฏฺํ เม, ภนฺเต, ภควโต ขมนียํ, อปิ จ เม, ภนฺเต, มธุรกชาโต วิย กาโย. ทิสาปิ เม น ปกฺขายนฺติ; ธมฺมาปิ มํ น ปฏิภนฺติ ภควโต เคลฺเน, อปิ จ เม, ภนฺเต, อโหสิ กาจิเทว อสฺสาสมตฺตา – ‘น ตาว ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, น ยาว ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหรตี’’’ติ.

๑๖๕. ‘‘กึ ปนานนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ มยิ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสึสติ (สี. สฺยา.)]? เทสิโต, อานนฺท, มยา ธมฺโม อนนฺตรํ อพาหิรํ กริตฺวา. นตฺถานนฺท, ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺิ. ยสฺส นูน, อานนฺท, เอวมสฺส – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติ วา ‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’ติ วา, โส นูน, อานนฺท, ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหเรยฺย. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติ วา ‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’ติ วา. สกึ [กึ (สี. ปี.)], อานนฺท, ตถาคโต ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหริสฺสติ. อหํ โข ปนานนฺท, เอตรหิ ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. อาสีติโก เม วโย วตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ชชฺชรสกฏํ เวมิสฺสเกน [เวฬุมิสฺสเกน (สฺยา.), เวฆมิสฺสเกน (ปี.), เวธมิสฺสเกน, เวขมิสฺสเกน (ก.)] ยาเปติ, เอวเมว โข, อานนฺท, เวมิสฺสเกน มฺเ ตถาคตสฺส กาโย ยาเปติ. ยสฺมึ, อานนฺท, สมเย ตถาคโต สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา เอกจฺจานํ เวทนานํ นิโรธา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ผาสุตโร, อานนฺท, ตสฺมึ สมเย ตถาคตสฺส กาโย โหติ. ตสฺมาติหานนฺท, อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ. เย หิ เกจิ, อานนฺท, เอตรหิ วา มม วา อจฺจเยน อตฺตทีปา วิหริสฺสนฺติ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา, ตมตคฺเค เม เต, อานนฺท, ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ เย เกจิ สิกฺขากามา’’ติ.

ทุติยภาณวาโร.

นิมิตฺโตภาสกถา

๑๖๖. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหาหิ, อานนฺท, นิสีทนํ, เยน จาปาลํ เจติยํ [ปาวาลํ (เจติยํ (สฺยา.)] เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวา วิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิสีทนํ อาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา เยน จาปาลํ เจติยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข อานนฺโท ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๑๖๗. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ [สตฺตมฺพกํ (ปี.)] เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน [อากงฺขมาโน (?)], อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต. ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ.

มารยาจนกถา

๑๖๘. อถ โข มาโร ปาปิมา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข มาโร ปาปิมา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานี [อุตฺตานึ (ก.), อุตฺตานิ (สี. ปี.)] กริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภิกฺขู ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสกา ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสิกา ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธํ เจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธํ เจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ภควา มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ, น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ.

อายุสงฺขารโอสฺสชฺชนํ

๑๖๙. อถ โข ภควา จาปาเล เจติเย สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ. โอสฺสฏฺเ จ ภควตา อายุสงฺขาเร มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก สโลมหํโส [โลมหํโส (สฺยา.)], เทวทุนฺทุภิโย [เทวทุทฺรภิโย (ก.)] จ ผลึสุ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภวํ, ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนิ;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ.

มหาภูมิจาลเหตุ

๑๗๐. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, มหา วตายํ ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส; เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, มหา วตายํ, ภนฺเต, ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ, ภนฺเต, ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส; เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

๑๗๑. ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. กตเม อฏฺ? อยํ, อานนฺท, มหาปถวี อุทเก ปติฏฺิตา, อุทกํ วาเต ปติฏฺิตํ, วาโต อากาสฏฺโ. โหติ โข โส, อานนฺท, สมโย, ยํ มหาวาตา วายนฺติ. มหาวาตา วายนฺตา อุทกํ กมฺเปนฺติ. อุทกํ กมฺปิตํ ปถวึ กมฺเปติ. อยํ ปโม เหตุ ปโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต, เทโว วา มหิทฺธิโก มหานุภาโว, ตสฺส ปริตฺตา ปถวีสฺา ภาวิตา โหติ, อปฺปมาณา อาโปสฺา. โส อิมํ ปถวึ กมฺเปติ สงฺกมฺเปติ สมฺปกมฺเปติ สมฺปเวเธติ. อยํ ทุติโย เหตุ ทุติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตกายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ตติโย เหตุ ตติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมา นิกฺขมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ จตุตฺโถ เหตุ จตุตฺโถ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ปฺจโม เหตุ ปฺจโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ฉฏฺโ เหตุ ฉฏฺโ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ สตฺตโม เหตุ สตฺตโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ อฏฺโม เหตุ อฏฺโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ.

อฏฺ ปริสา

๑๗๒. ‘‘อฏฺ โข อิมา, อานนฺท, ปริสา. กตมา อฏฺ? ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณปริสา, คหปติปริสา, สมณปริสา, จาตุมหาราชิกปริสา [จาตุมฺมหาราชิกปริสา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ตาวตึสปริสา, มารปริสา, พฺรหฺมปริสา. อภิชานามิ โข ปนาหํ, อานนฺท, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพํ เจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ. ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? อภิชานามิ โข ปนาหํ, อานนฺท, อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสํ…เป… คหปติปริสํ… สมณปริสํ… จาตุมหาราชิกปริสํ… ตาวตึสปริสํ… มารปริสํ… พฺรหฺมปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพํ เจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ. ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? อิมา โข, อานนฺท, อฏฺ ปริสา.

อฏฺ อภิภายตนานิ

๑๗๓. ‘‘อฏฺ โข อิมานิ, อานนฺท, อภิภายตนานิ. กตมานิ อฏฺ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. อิมานิ โข, อานนฺท, อฏฺ อภิภายตนานิ.

อฏฺ วิโมกฺขา

๑๗๔. ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, วิโมกฺขา. กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ปโม วิโมกฺโข. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ทุติโย วิโมกฺโข. สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, อยํ ตติโย วิโมกฺโข. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ วิโมกฺขา.

๑๗๕. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ อุรุเวลายํ วิหรามิ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. อถ โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา มํ เอตทโวจ – ‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, อานนฺท, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ –

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ.

๑๗๖. ‘‘อิทาเนว โข, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย มาโร ปาปิมา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา มํ เอตทโวจ – ‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’ติ.

๑๗๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, อานนฺท, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ, นจิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. อิทาเนว โข, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย ตถาคเตน สเตน สมฺปชาเนน อายุสงฺขาโร โอสฺสฏฺโ’’ติ.

อานนฺทยาจนกถา

๑๗๘. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

‘‘อลํทานิ, อานนฺท. มา ตถาคตํ ยาจิ, อกาโลทานิ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาจนายา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตสฺส โพธิ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘อถ กิฺจรหิ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาวตติยกํ อภินิปฺปีเฬสี’’ติ? ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’’ติ. ‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, อานนฺทา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ, ยํ ตฺวํ ตถาคเตน เอวํ โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๗๙. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ ราชคเห วิหรามิ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียํ, อานนฺท, ราชคหํ, รมณีโย, อานนฺท, คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๐. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ โคตมนิคฺโรเธ…เป… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ โจรปปาเต… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ เวภารปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหายํ… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลายํ… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ สีตวเน สปฺปโสณฺฑิกปพฺภาเร… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ ตโปทาราเม… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ ชีวกมฺพวเน… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาเย ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียํ, อานนฺท, ราชคหํ, รมณีโย คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต, รมณีโย โคตมนิคฺโรโธ, รมณีโย โจรปปาโต, รมณียา เวภารปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหา, รมณียา อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลา, รมณีโย สีตวเน สปฺปโสณฺฑิกปพฺภาโร, รมณีโย ตโปทาราโม, รมณีโย เวฬุวเน กลนฺทกนิวาโป, รมณียํ ชีวกมฺพวนํ, รมณีโย มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาโย. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา…เป… อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๑. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ อุเทเน เจติเย. ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย, ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๒. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ โคตมเก เจติเย …เป… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ สตฺตมฺเพ เจติเย… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ พหุปุตฺเต เจติเย… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท เจติเย… อิทาเนว โข ตาหํ, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย อามนฺเตสึ – ‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๓. ‘‘นนุ เอตํ [เอวํ (สฺยา. ปี.)], อานนฺท, มยา ปฏิกจฺเจว [ปฏิคจฺเจว (สี. ปี.)] อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว. ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา, ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ เนตํ านํ วิชฺชติ’. ยํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ตถาคเตน จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ โอสฺสฏฺโ อายุสงฺขาโร, เอกํเสน วาจา ภาสิตา – ‘น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. ตฺจ [ตํ วจนํ (สี.)] ตถาคโต ชีวิตเหตุ ปุน ปจฺจาวมิสฺสตีติ [ปจฺจาคมิสฺสตีติ (สฺยา. ก.)] เนตํ านํ วิชฺชติ. อายามานนฺท, เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยาวติกา ภิกฺขู เวสาลึ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยาวติกา ภิกฺขู เวสาลึ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺนิปติโต, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ, ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.

๑๘๔. อถ โข ภควา เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เย เต มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เต โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา, เย โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา, เย โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

๑๘๕. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘หนฺททานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ. นจิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา [อิโต ปรํ สฺยามโปตฺถเก เอวํปิ ปาโ ทิสฺสติ –§ทหราปิ จ เย วุทฺธา, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา.§อฑฺฒาเจว ทลิทฺทา จ, สพฺเพ มจฺจุปรายนา.§ยถาปิ กุมฺภการสฺส, กตํ มตฺติกภาชนํ.§ขุทฺทกฺจ มหนฺตฺจ, ยฺจ ปกฺกํ ยฺจ อามกํ.§สพฺพํ เภทปริยนฺตํ, เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.§อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา]. –

‘‘ปริปกฺโก วโย มยฺหํ, ปริตฺตํ มม ชีวิตํ;

ปหาย โว คมิสฺสามิ, กตํ เม สรณมตฺตโน.

‘‘อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต, สุสีลา โหถ ภิกฺขโว;

สุสมาหิตสงฺกปฺปา, สจิตฺตมนุรกฺขถ.

‘‘โย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, อปฺปมตฺโต วิหสฺสติ;

ปหาย ชาติสํสารํ, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติ [วิหริสฺสติ (สฺยา.), วิเหสฺสติ (สี.)].

ตติโย ภาณวาโร.

นาคาปโลกิตํ

๑๘๖. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นาคาปโลกิตํ เวสาลึ อปโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ, อานนฺท, ตถาคตสฺส เวสาลิยา ทสฺสนํ ภวิสฺสติ. อายามานนฺท, เยน ภณฺฑคาโม [ภณฺฑุคาโม (ก.)] เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ภณฺฑคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ภณฺฑคาเม วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? อริยสฺส, ภิกฺขเว, สีลสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, อริยํ สีลํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อริโย สมาธิ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ, อริยา ปฺา อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อริยา วิมุตฺติ อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘สีลํ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา;

อนุพุทฺธา อิเม ธมฺมา, โคตเมน ยสสฺสินา.

‘‘อิติ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมมกฺขาสิ ภิกฺขุนํ;

ทุกฺขสฺสนฺตกโร สตฺถา, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต’’ติ.

ตตฺราปิ สุทํ ภควา ภณฺฑคาเม วิหรนฺโต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

จตุมหาปเทสกถา

๑๘๗. อถ โข ภควา ภณฺฑคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน หตฺถิคาโม, เยน อมฺพคาโม, เยน ชมฺพุคาโม, เยน โภคนครํ เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน โภคนครํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา โภคนคเร วิหรติ อานนฺเท [สานนฺทเร (ก.)] เจติเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, มหาปเทเส เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๑๘๘. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาเรตพฺพานิ [โอตาเรตพฺพานิ], วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ [โอตาริยมานานิ] วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ [โอตรนฺติ (สี. ปี. อ. นิ. ๔.๑๘๐], น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ, วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ, น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ…เป… น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; เตสฺจ เถรานํ ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ…เป… วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; เตสฺจ เถรานํ สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ วิหรติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาริตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ, น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ เถรสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ จ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ, วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ เถรสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทเส ธาเรยฺยาถา’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา โภคนคเร วิหรนฺโต อานนฺเท เจติเย เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

กมฺมารปุตฺตจุนฺทวตฺถุ

๑๘๙. อถ โข ภควา โภคนคเร ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปาวา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาวา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน. อสฺโสสิ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร ปาวํ อนุปฺปตฺโต, ปาวายํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปหูตฺจ สูกรมทฺทวํ ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ, เตน มํ ปริวิส. ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ, เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ, เตน ภควนฺตํ ปริวิสิ. ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ, เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ. อถ โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ, ตํ โสพฺเภ นิขณาหิ. นาหํ ตํ, จุนฺท, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย, ยสฺส ตํ ปริภุตฺตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย อฺตฺร ตถาคตสฺสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ, ตํ โสพฺเภ นิขณิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๑๙๐. อถ โข ภควโต จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, โลหิตปกฺขนฺทิกา ปพาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตา สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน กุสินารา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;

อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติกํ.

ภุตฺตสฺส จ สูกรมทฺทเวน,

พฺยาธิปฺปพาฬฺโห อุทปาทิ สตฺถุโน;

วิเรจมาโน [วิริจฺจมาโน (สี. สฺยา. ก.), วิริฺจมาโน (?)] ภควา อโวจ,

คจฺฉามหํ กุสินารํ นครนฺติ.

ปานียาหรณํ

๑๙๑. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ, ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กกุธา [กกุถา (สี. ปี.)] นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา [เสตกา (สี.)] สุปฺปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ, คตฺตานิ จ สีตี [สีตํ (สี. ปี. ก.)] กริสฺสตี’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ, ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กกุธา นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา สุปฺปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ, คตฺตานิ จ สีตีกริสฺสตี’’ติ.

ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน สา นทิกา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สา นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา, อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทิตฺถ [สนฺทติ (สฺยา.)]. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อยฺหิ สา นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทตี’’ติ. ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อิทานิ สา ภนฺเต นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทิตฺถ. ปิวตุ ภควา ปานียํ ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ. อถ โข ภควา ปานียํ อปายิ.

ปุกฺกุสมลฺลปุตฺตวตฺถุ

๑๙๒. เตน โรโข ปน สมเยน ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต อาฬารสฺส กาลามสฺส สาวโก กุสินาราย ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ. ทิสฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, สนฺเตน วต, ภนฺเต, ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, อาฬาโร กาลาโม อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน มคฺคา โอกฺกมฺม อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อาฬารํ กาลามํ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกมึสุ. อถ โข, ภนฺเต, อฺตโร ปุริโส ตสฺส สกฏสตฺถสฺส [สกฏสตสฺส (ก.)] ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เยน อาฬาโร กาลาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อาฬารํ กาลามํ เอตทโวจ – ‘อปิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ อทฺทสา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, อทฺทส’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สทฺทํ อสฺโสสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สุตฺโต อโหสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สุตฺโต อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สฺี อโหสี’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. ‘โส ตฺวํ, ภนฺเต, สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสิ; อปิสุ [อปิ หิ (สี. สฺยา. ปี.)] เต, ภนฺเต, สงฺฆาฏิ รเชน โอกิณฺณา’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สนฺเตน วต โภ ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ยตฺร หิ นาม สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว ทกฺขติ, น ปน สทฺทํ โสสฺสตี’ติ! อาฬาเร กาลาเม อุฬารํ ปสาทํ ปเวเทตฺวา ปกฺกามี’’ติ.

๑๙๓. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ปุกฺกุส, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา – โย วา สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺย; โย วา สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ [วิชฺชุตาสุ (สี. สฺยา. ปี.)] นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺยา’’ติ? ‘‘กิฺหิ, ภนฺเต, กริสฺสนฺติ ปฺจ วา สกฏสตานิ ฉ วา สกฏสตานิ สตฺต วา สกฏสตานิ อฏฺ วา สกฏสตานิ นว วา สกฏสตานิ [นว วา สกฏสตานิ ทส วา สกฏสตานิ (สี.)], สกฏสหสฺสํ วา สกฏสตสหสฺสํ วา. อถ โข เอตเทว ทุกฺกรตรํ เจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ โย สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺยา’’ติ.

‘‘เอกมิทาหํ, ปุกฺกุส, สมยํ อาตุมายํ วิหรามิ ภุสาคาเร. เตน โข ปน สมเยน เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา อวิทูเร ภุสาคารสฺส ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา [พลิพทฺทา (สี. ปี.)]. อถ โข, ปุกฺกุส, อาตุมาย มหาชนกาโย นิกฺขมิตฺวา เยน เต ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปนาหํ, ปุกฺกุส, สมเยน ภุสาคารา นิกฺขมิตฺวา ภุสาคารทฺวาเร อพฺโภกาเส จงฺกมามิ. อถ โข, ปุกฺกุส, อฺตโร ปุริโส ตมฺหา มหาชนกายา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข อหํ, ปุกฺกุส, ตํ ปุริสํ เอตทโวจํ – ‘กึ นุ โข เอโส, อาวุโส, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต’ติ? ‘อิทานิ, ภนฺเต, เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา. เอตฺเถโส มหาชนกาโย สนฺนิปติโต. ตฺวํ ปน, ภนฺเต, กฺว อโหสี’ติ? ‘อิเธว โข อหํ, อาวุโส, อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, อทฺทสา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, อทฺทส’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สทฺทํ อสฺโสสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สุตฺโต อโหสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สุตฺโต อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สฺี อโหสี’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. ‘โส ตฺวํ, ภนฺเต, สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ?

‘‘อถ โข, ปุกฺกุส, ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สนฺเตน วต โภ ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ยตฺร หิ นาม สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ทกฺขติ, น ปน สทฺทํ โสสฺสตี’ติ [สุณิสฺสติ (สฺยา.)]. มยิ อุฬารํ ปสาทํ ปเวเทตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอสาหํ, ภนฺเต, โย เม อาฬาเร กาลาเม ปสาโท ตํ มหาวาเต วา โอผุณามิ สีฆโสตาย [สิงฺฆโสตาย (ก.)] วา นทิยา ปวาเหมิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๑๙๔. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, ภเณ, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ปุริโส ปุกฺกุสสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ อาหริ [อาหรสิ (ก.)]. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘อิทํ, ภนฺเต, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ, ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ปุกฺกุส, เอเกน มํ อจฺฉาเทหิ, เอเกน อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เอเกน ภควนฺตํ อจฺฉาเทติ, เอเกน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ. อถ โข ภควา ปุกฺกุสํ มลฺลปุตฺตํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

๑๙๕. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อจิรปกฺกนฺเต ปุกฺกุเส มลฺลปุตฺเต ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต กายํ อุปนาเมสิ. ตํ ภควโต กายํ อุปนามิตํ หตจฺจิกํ วิย [วีตจฺจิกํวิย (สี. ปี.)] ขายติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ยาว ปริสุทฺโธ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. อิทํ, ภนฺเต, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต กายํ อุปนามิตํ หตจฺจิกํ วิย ขายตี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท ทฺวีสุ กาเลสุ อติวิย ตถาคตสฺส กาโย ปริสุทฺโธ โหติ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมสุ ทฺวีสุ? ยฺจ, อานนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเมสุ โข, อานนฺท, ทฺวีสุ กาเลสุ อติวิย ตถาคตสฺส กาโย ปริสุทฺโธ โหติ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. ‘‘อชฺช โข, ปนานนฺท, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน อนฺตเรน [อนฺตเร (สฺยา.)] ยมกสาลานํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ [ภวิสฺสตีติ (ก.)]. อายามานนฺท, เยน กกุธา นที เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ, ปุกฺกุโส อภิหารยิ;

เตน อจฺฉาทิโต สตฺถา, เหมวณฺโณ อโสภถาติ.

๑๙๖. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน กกุธา นที เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กกุธํ นทึ อชฺโฌคาเหตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ จุนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, จุนฺทก, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ.

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา จุนฺทโก ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวา. อายสฺมา ปน จุนฺทโก ตตฺเถว ภควโต ปุรโต นิสีทิ.

คนฺตฺวาน พุทฺโธ นทิกํ กกุธํ,

อจฺโฉทกํ สาตุทกํ วิปฺปสนฺนํ;

โอคาหิ สตฺถา อกิลนฺตรูโป [สุกิลนฺตรูโป (สี. ปี.)],

ตถาคโต อปฺปฏิโม จ [อปฺปฏิโมธ (ปี.)] โลเก.

นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จุทตาริ สตฺถา [ปิวิตฺวา จุนฺทเกน, ปิวิตฺวา จ อุตฺตริ (ก.)],

ปุรกฺขโต ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌ;

วตฺตา [สตฺถา (สี. สฺยา. ปี.)] ปวตฺตา ภควา อิธ ธมฺเม,

อุปาคมิ อมฺพวนํ มเหสิ.

อามนฺตยิ จุนฺทกํ นาม ภิกฺขุํ,

จตุคฺคุณํ สนฺถร เม นิปชฺชํ;

โส โจทิโต ภาวิตตฺเตน จุนฺโท,

จตุคฺคุณํ สนฺถริ ขิปฺปเมว.

นิปชฺชิ สตฺถา อกิลนฺตรูโป,

จุนฺโทปิ ตตฺถ ปมุเข [สมุเข (ก.)] นิสีทีติ.

๑๙๗. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข [โย โข (ก.)], ปนานนฺท, จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส โกจิ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทยฺย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, อลาภา ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต’ติ. จุนฺทสฺส, อานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิเนตพฺโพ – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, ลาภา ตสฺส เต สุลทฺธํ, ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส จุนฺท, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ทฺเว เม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา [สมา สมผลา (ก.)] สมวิปากา [สมสมวิปากา (สี. สฺยา. ปี.)], อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา, อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. อายุสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, วณฺณสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สุขสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, ยสสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สคฺคสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิต’นฺติ. จุนฺทสฺส, อานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิเนตพฺโพ’’ติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ,

สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ,

ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ.

จตุตฺโถ ภาณวาโร.

ยมกสาลา

๑๙๘. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน หิรฺวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน หิรฺวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มฺจกํ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มฺจกํ ปฺเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน.

เตน โข ปน สมเยน ยมกสาลา สพฺพผาลิผุลฺลา โหนฺติ อกาลปุปฺเผหิ. เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย.

๑๙๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สพฺพผาลิผุลฺลา โข, อานนฺท, ยมกสาลา อกาลปุปฺเผหิ. เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. น โข, อานนฺท, เอตฺตาวตา ตถาคโต สกฺกโต วา โหติ ครุกโต วา มานิโต วา ปูชิโต วา อปจิโต วา. โย โข, อานนฺท, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตถาคตํ สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ อปจิยติ [อิทํ ปทํ สีสฺยาอิโปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ], ปรมาย ปูชาย. ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา วิหริสฺสาม สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโนติ. เอวฺหิ โว, อานนฺท, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

อุปวาณตฺเถโร

๒๐๐. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปุรโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรสิ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารี. อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’ติ. โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารี. อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ. โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ? ‘‘เยภุยฺเยน, อานนฺท, ทสสุ โลกธาตูสุ เทวตา สนฺนิปติตา ตถาคตํ ทสฺสนาย. ยาวตา, อานนฺท, กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ, นตฺถิ โส ปเทโส วาลคฺคโกฏินิตุทนมตฺโตปิ มเหสกฺขาหิ เทวตาหิ อปฺผุโฏ. เทวตา, อานนฺท, อุชฺฌายนฺติ – ‘ทูรา จ วตมฺห อาคตา ตถาคตํ ทสฺสนาย. กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อยฺจ มเหสกฺโข ภิกฺขุ ภควโต ปุรโต ิโต โอวาเรนฺโต, น มยํ ลภาม ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ.

๒๐๑. ‘‘กถํภูตา ปน, ภนฺเต, ภควา เทวตา มนสิกโรตี’’ติ [มนสิ กโรนฺตีติ (สฺยา. ก.)]? ‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา อากาเส ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ [ฉินฺนํปาทํวิย ปปตนฺติ (สฺยา.)], อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ [จกฺขุมา (สฺยา. ก.)] โลเก อนฺตรธํอายิสฺสตี’ติ.

‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา ปถวิยํ ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรธายิสฺสตี’’’ติ.

‘‘ยา ปน ตา เทวตา วีตราคา, ตา สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ.

จตุสํเวชนียฏฺานานิ

๒๐๒. ‘‘ปุพฺเพ, ภนฺเต, ทิสาสุ วสฺสํ วุฏฺา [วสฺสํวุตฺถา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ ตถาคตํ ทสฺสนาย. เต มยํ ลภาม มโนภาวนีเย ภิกฺขู ทสฺสนาย, ลภาม ปยิรุปาสนาย. ภควโต ปน มยํ, ภนฺเต, อจฺจเยน น ลภิสฺสาม มโนภาวนีเย ภิกฺขู ทสฺสนาย, น ลภิสฺสาม ปยิรุปาสนายา’’ติ.

‘‘จตฺตาริมานิ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิธ ตถาคโต ชาโต’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’นฺติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. อิมานิ โข, อานนฺท, จตฺตาริ สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานิ.

‘‘อาคมิสฺสนฺติ โข, อานนฺท, สทฺธา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย – ‘อิธ ตถาคโต ชาโต’ติปิ, ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติปิ, ‘อิธ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’นฺติปิ, ‘อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’ติปิ. เย หิ เกจิ, อานนฺท, เจติยจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสนฺนจิตฺตา กาลงฺกริสฺสนฺติ, สพฺเพ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ.

อานนฺทปุจฺฉากถา

๒๐๓. ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต, มาตุคาเม ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘อทสฺสนํ, อานนฺทา’’ติ. ‘‘ทสฺสเน, ภควา, สติ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อนาลาโป, อานนฺทา’’ติ. ‘‘อาลปนฺเตน ปน, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘สติ, อานนฺท, อุปฏฺาเปตพฺพา’’ติ.

๒๐๔. ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชาย. อิงฺฆ ตุมฺเห, อานนฺท, สารตฺเถ ฆฏถ อนุยุฺชถ [สทตฺเถ อนุยุฺชถ (สี. สฺยา.), สทตฺถํ อนุยุฺชถ (ปี.), สารตฺเถ อนุยุฺชถ (ก.)], สารตฺเถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถ. สนฺตานนฺท, ขตฺติยปณฺฑิตาปิ พฺราหฺมณปณฺฑิตาปิ คหปติปณฺฑิตาปิ ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา, เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ.

๒๐๕. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘รฺโ, อานนฺท, จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ, อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเนฺติ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ. เอเตนุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ [สรีเร (สฺยา. ก.)] เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ ฌาเปนฺติ. จาตุมหาปเถ [จาตุมฺมหาปเถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ถูปํ กโรนฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ. ยถา โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพํ. จาตุมหาปเถ ตถาคตสฺส ถูโป กาตพฺโพ. ตตฺถ เย มาลํ วา คนฺธํ วา จุณฺณกํ [วณฺณกํ (สี. ปี.)] วา อาโรเปสฺสนฺติ วา อภิวาเทสฺสนฺติ วา จิตฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺติ เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย.

ถูปารหปุคฺคโล

๒๐๖. ‘‘จตฺตาโรเม, อานนฺท, ถูปารหา. กตเม จตฺตาโร? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห, ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห, ราชา จกฺกวตฺตี [จกฺกวตฺติ (สฺยา. ก.)] ถูปารโหติ.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกสฺส ถูโป’ติ อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ราชา จกฺกวตฺตี ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ราชา จกฺกวตฺตี ถูปารโห. อิเม โข, อานนฺท จตฺตาโร ถูปารหา’’ติ.

อานนฺทอจฺฉริยธมฺโม

๒๐๗. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท วิหารํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โรทมาโน อฏฺาสิ – ‘‘อหฺจ วตมฺหิ เสโข สกรณีโย, สตฺถุ จ เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ, โย มม อนุกมฺปโก’’ติ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กหํ นุ โข, ภิกฺขเว, อานนฺโท’’ติ? ‘‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท วิหารํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โรทมาโน ิโต – ‘อหฺจ วตมฺหิ เสโข สกรณีโย, สตฺถุ จ เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ, โย มม อนุกมฺปโก’’’ติ. อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน อานนฺทํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อานนฺท, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อานนฺท, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อานนฺท, มา โสจิ มา ปริเทวิ, นนุ เอตํ, อานนฺท, มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’; ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา. ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ มา ปลุชฺชี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ทีฆรตฺตํ โข เต, อานนฺท, ตถาคโต ปจฺจุปฏฺิโต เมตฺเตน กายกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน, เมตฺเตน วจีกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน, เมตฺเตน มโนกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน. กตปุฺโสิ ตฺวํ, อานนฺท, ปธานมนุยุฺช, ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’’ติ.

๒๐๘. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมาเยว อุปฏฺากา อเหสุํ, เสยฺยถาปิ มยฺหํ อานนฺโท. เยปิ เต, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมาเยว อุปฏฺากา ภวิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ มยฺหํ อานนฺโท. ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, อานนฺโท; เมธาวี, ภิกฺขเว, อานนฺโท. ชานาติ ‘อยํ กาโล ตถาคตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ ภิกฺขูนํ, อยํ กาโล ภิกฺขุนีนํ, อยํ กาโล อุปาสกานํ, อยํ กาโล อุปาสิกานํ, อยํ กาโล รฺโ ราชมหามตฺตานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกาน’นฺติ.

๒๐๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา [อพฺภุตธมฺมา (สฺยา. ก.)] อานนฺเท. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ, อานนฺโท, ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท.

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา รฺเ จกฺกวตฺติมฺหิ. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา โหติ. อถ โข ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี โหติ. สเจ ภิกฺขเว, พฺราหฺมณปริสา…เป… คหปติปริสา…เป… สมณปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, สมณปริสา โหติ, อถ โข ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี โหติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ. อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว ภิกฺขุนีปริสา…เป… อุปาสกปริสา…เป… อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ. อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ.

มหาสุทสฺสนสุตฺตเทสนา

๒๑๐. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภนฺเต, ภควา อิมสฺมึ ขุทฺทกนครเก อุชฺชงฺคลนครเก สาขานครเก ปรินิพฺพายิ. สนฺติ, ภนฺเต, อฺานิ มหานครานิ, เสยฺยถิทํ – จมฺปา ราชคหํ สาวตฺถี สาเกตํ โกสมฺพี พาราณสี; เอตฺถ ภควา ปรินิพฺพายตุ. เอตฺถ พหู ขตฺติยมหาสาลา, พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติมหาสาลา ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา. เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ ‘‘มาเหวํ, อานนฺท, อวจ; มาเหวํ, อานนฺท, อวจ – ‘ขุทฺทกนครกํ อุชฺชงฺคลนครกํ สาขานครก’นฺติ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นาม อโหสิ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปฺปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส อยํ กุสินารา กุสาวตี นาม ราชธานี อโหสิ, ปุรตฺถิเมน จ ปจฺฉิเมน จ ทฺวาทสโยชนานิ อายาเมน; อุตฺตเรน จ ทกฺขิเณน จ สตฺตโยชนานิ วิตฺถาเรน. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทวานํ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี อิทฺธา เจว โหติ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณยกฺขา จ สุภิกฺขา จ; เอวเมว โข, อานนฺท, กุสาวตี ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตา อโหสิ ทิวา เจว รตฺติฺจ, เสยฺยถิทํ – หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน เภริสทฺเทน มุทิงฺคสทฺเทน วีณาสทฺเทน คีตสทฺเทน สงฺขสทฺเทน สมฺมสทฺเทน ปาณิตาฬสทฺเทน ‘อสฺนาถ ปิวถ ขาทถา’ติ ทสเมน สทฺเทน.

‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, กุสินารํ ปวิสิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจหิ – ‘อชฺช โข, วาเสฏฺา, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อภิกฺกมถ วาเสฏฺา, อภิกฺกมถ วาเสฏฺา. มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – อมฺหากฺจ โน คามกฺเขตฺเต ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิ, น มยํ ลภิมฺหา ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อตฺตทุติโย กุสินารํ ปาวิสิ.

มลฺลานํ วนฺทนา

๒๑๑. เตน โข ปน สมเยน โกสินารกา มลฺลา สนฺธาคาเร [สนฺถาคาเร (สี. สฺยา. ปี.)] สนฺนิปติตา โหนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โกสินารกานํ มลฺลานํ สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจสิ – ‘‘อชฺช โข, วาเสฏฺา, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อภิกฺกมถ วาเสฏฺา อภิกฺกมถ วาเสฏฺา. มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘อมฺหากฺจ โน คามกฺเขตฺเต ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิ, น มยํ ลภิมฺหา ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ. อิทมายสฺมโต อานนฺทสฺส วจนํ สุตฺวา มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา อปฺเปกจฺเจ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรธายิสฺสตี’ติ. อถ โข มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อหํ โกสินารเก มลฺเล เอกเมกํ ภควนฺตํ วนฺทาเปสฺสามิ, อวนฺทิโต ภควา โกสินารเกหิ มลฺเลหิ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติ. ยํนูนาหํ โกสินารเก มลฺเล กุลปริวตฺตโส กุลปริวตฺตโส เปตฺวา ภควนฺตํ วนฺทาเปยฺยํ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, มลฺโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท โกสินารเก มลฺเล กุลปริวตฺตโส กุลปริวตฺตโส เปตฺวา ภควนฺตํ วนฺทาเปสิ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, มลฺโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เอเตน อุปาเยน ปเมเนว ยาเมน โกสินารเก มลฺเล ภควนฺตํ วนฺทาเปสิ.

สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุ

๒๑๒. เตน โข ปน สมเยน สุภทฺโท นาม ปริพฺพาชโก กุสินารายํ ปฏิวสติ. อสฺโสสิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก – ‘‘อชฺช กิร รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โข สุภทฺทสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน, เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’’’นฺติ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน – เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’นฺติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเสิ, กิลนฺโต ภควา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก…เป… ตติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน – เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’นฺติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา’’ติ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเสิ, กิลนฺโต ภควา’’ติ.

๒๑๓. อสฺโสสิ โข ภควา อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อานนฺท, มา สุภทฺทํ วาเรสิ, ลภตํ, อานนฺท, สุภทฺโท ตถาคตํ ทสฺสนาย. ยํ กิฺจิ มํ สุภทฺโท ปุจฺฉิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อฺาเปกฺโขว ปุจฺฉิสฺสติ, โน วิเหสาเปกฺโข. ยํ จสฺสาหํ ปุฏฺโ พฺยากริสฺสามิ, ตํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉาวุโส สุภทฺท, กโรติ เต ภควา โอกาส’’นฺติ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป, มกฺขลิ โคสาโล, อชิโต เกสกมฺพโล, ปกุโธ กจฺจายโน, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, สพฺเพเต สกาย ปฏิฺาย อพฺภฺึสุ, สพฺเพว น อพฺภฺึสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภฺึสุ, เอกจฺเจ น อพฺภฺึสู’’ติ? ‘‘อลํ, สุภทฺท, ติฏฺเตตํ – ‘สพฺเพเต สกาย ปฏิฺาย อพฺภฺึสุ, สพฺเพว น อพฺภฺึสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภฺึสุ, เอกจฺเจ น อพฺภฺึสู’ติ. ธมฺมํ เต, สุภทฺท, เทเสสฺสามิ; ตํ สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

๒๑๔. ‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ น อุปลพฺภติ. ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ยสฺมิฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ. อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, อิเธว, สุภทฺท, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหิ [อฺเ (ปี.)]. อิเม [อิเธว (ก.)], สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสาติ.

‘‘เอกูนตึโส วยสา สุภทฺท,

ยํ ปพฺพชึ กึกุสลานุเอสี;

วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ,

ยโต อหํ ปพฺพชิโต สุภทฺท.

ายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี,

อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถิ.

‘‘ทุติโยปิ สมโณ นตฺถิ. ตติโยปิ สมโณ นตฺถิ. จตุตฺโถปิ สมโณ นตฺถิ. สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหิ. อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ.

๒๑๕. เอวํ วุตฺเต สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘โย โข, สุภทฺท, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ. จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตนหานนฺท, สุภทฺทํ ปพฺพาเชหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ลาภา โว, อาวุโส อานนฺท; สุลทฺธํ โว, อาวุโส อานนฺท, เย เอตฺถ สตฺถุ [สตฺถารา (สฺยา.)] สมฺมุขา อนฺเตวาสิกาภิเสเกน อภิสิตฺตา’’ติ. อลตฺถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา สุภทฺโท เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ‘ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ’ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา สุภทฺโท อรหตํ อโหสิ. โส ภควโต ปจฺฉิโม สกฺขิสาวโก อโหสีติ.

ปฺจโม ภาณวาโร.

ตถาคตปจฺฉิมวาจา

๒๑๖. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปนานนฺท, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อตีตสตฺถุกํ ปาวจนํ, นตฺถิ โน สตฺถา’ติ. น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา. ยถา โข ปนานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โข มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ. เถรตเรน, อานนฺท, ภิกฺขุนา นวกตโร ภิกฺขุ นาเมน วา โคตฺเตน วา อาวุโสวาเทน วา สมุทาจริตพฺโพ. นวกตเรน ภิกฺขุนา เถรตโร ภิกฺขุ ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ. อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตุ. ฉนฺนสฺส, อานนฺท, ภิกฺขุโน มมจฺจเยน พฺรหฺมทณฺโฑ ทาตพฺโพ’’ติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’’ติ? ‘‘ฉนฺโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. โส ภิกฺขูหิ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ’’ติ.

๒๑๗. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ, น มยํ สกฺขิมฺหา ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’ นฺติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ, น มยํ สกฺขิมฺหา ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’ นฺติ. ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุคารเวนปิ น ปุจฺเฉยฺยาถ. สหายโกปิ, ภิกฺขเว, สหายกสฺส อาโรเจตู’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, เอวํ ปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ, ‘นตฺถิ เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา’’’ติ. ‘‘ปสาทา โข ตฺวํ, อานนฺท, วเทสิ, าณเมว เหตฺถ, อานนฺท, ตถาคตสฺส. นตฺถิ อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา. อิเมสฺหิ, อานนฺท, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ โย ปจฺฉิมโก ภิกฺขุ, โส โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

๒๑๘. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ. อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจา.

ปรินิพฺพุตกถา

๒๑๙. อถ โข ภควา ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ปมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชิ, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพุโต, ภนฺเต อนุรุทฺธ, ภควา’’ติ. ‘‘นาวุโส อานนฺท, ภควา ปรินิพฺพุโต, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ.

อถ โข ภควา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชิ, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ปมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายิ.

๒๒๐. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก สโลมหํโส. เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา พฺรหฺมาสหมฺปติ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสยํ;

ยตฺถ เอตาทิโส สตฺถา, โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล;

ตถาคโต พลปฺปตฺโต, สมฺพุทฺโธ ปรินิพฺพุโต’’ติ.

๒๒๑. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา สกฺโก เทวานมินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข’’ติ.

๒๒๒. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา อายสฺมา อนุรุทฺโธ อิมา คาถาโย อภาสิ –

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาโส, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน;

อเนโช สนฺติมารพฺภ, ยํ กาลมกรี มุนิ.

‘‘อสลฺลีเนน จิตฺเตน, เวทนํ อชฺฌวาสยิ;

ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหู’’ติ.

๒๒๓. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา อายสฺมา อานนฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ตทาสิ ยํ ภึสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;

สพฺพาการวรูเปเต, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต’’ติ.

๒๒๔. ปรินิพฺพุเต ภควติ เย เต ตตฺถ ภิกฺขู อวีตราคา อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏนฺติ, ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา, เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ.

๒๒๕. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ. นนุ เอตํ, อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’. ตํ กุเตตฺถ, อาวุโส, ลพฺภา. ‘ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชี’ติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. เทวตา, อาวุโส, อุชฺฌายนฺตี’’ติ. ‘‘กถํภูตา ปน, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ เทวตา มนสิ กโรตี’’ติ [ภนฺเต อนุรุทฺธ เทวตา มนสิ กโรนฺตีติ (สฺยา. ก.)]?

‘‘สนฺตาวุโส อานนฺท, เทวตา อากาเส ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’ติ. สนฺตาวุโส อานนฺท, เทวตา ปถวิยา ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’ติ. ยา ปน ตา เทวตา วีตราคา, ตา สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ. อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ อานนฺโท ตํ รตฺตาวเสสํ ธมฺมิยา กถาย วีตินาเมสุํ.

๒๒๖. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส อานนฺท, กุสินารํ ปวิสิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจหิ – ‘ปรินิพฺพุโต, วาเสฏฺา, ภควา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺถา’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อตฺตทุติโย กุสินารํ ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน โกสินารกา มลฺลา สนฺธาคาเร สนฺนิปติตา โหนฺติ เตเนว กรณีเยน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โกสินารกานํ มลฺลานํ สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจสิ – ‘ปรินิพฺพุโต, วาเสฏฺา, ภควา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺถา’ติ. อิทมายสฺมโต อานนฺทสฺส วจนํ สุตฺวา มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา อปฺเปกจฺเจ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ.

พุทฺธสรีรปูชา

๒๒๗. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ปุริเส อาณาเปสุํ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, กุสินารายํ คนฺธมาลฺจ สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ สนฺนิปาเตถา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา คนฺธมาลฺจ สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ ปฺจ จ ทุสฺสยุคสตานิ อาทาย เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ, เยน ภควโต สรีรํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา เจลวิตานานิ กโรนฺตา มณฺฑลมาเฬ ปฏิยาเทนฺตา เอกทิวสํ วีตินาเมสุํ.

อถ โข โกสินารกานํ มลฺลานํ เอตทโหสิ – ‘‘อติวิกาโล โข อชฺช ภควโต สรีรํ ฌาเปตุํ, สฺเว ทานิ มยํ ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา เจลวิตานานิ กโรนฺตา มณฺฑลมาเฬ ปฏิยาเทนฺตา ทุติยมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ตติยมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, จตุตฺถมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ปฺจมมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ฉฏฺมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ.

อถ โข สตฺตมํ ทิวสํ โกสินารกานํ มลฺลานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา ทกฺขิเณน ทกฺขิณํ นครสฺส หริตฺวา พาหิเรน พาหิรํ ทกฺขิณโต นครสฺส ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’’ติ.

๒๒๘. เตน โข ปน สมเยน อฏฺ มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา ‘‘มยํ ภควโต สรีรํ อุจฺจาเรสฺสามา’’ติ น สกฺโกนฺติ อุจฺจาเรตุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย, เยนิเม อฏฺ มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา ‘มยํ ภควโต สรีรํ อุจฺจาเรสฺสามา’ติ น สกฺโกนฺติ อุจฺจาเรตุ’’นฺติ? ‘‘อฺถา โข, วาเสฏฺา, ตุมฺหากํ อธิปฺปาโย, อฺถา เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘มยํ ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา ทกฺขิเณน ทกฺขิณํ นครสฺส หริตฺวา พาหิเรน พาหิรํ ทกฺขิณโต นครสฺส ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’ติ; เทวตานํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘มยํ ภควโต สรีรํ ทิพฺเพหิ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา อุตฺตเรน อุตฺตรํ นครสฺส หริตฺวา อุตฺตเรน ทฺวาเรน นครํ ปเวเสตฺวา มชฺเฌน มชฺฌํ นครสฺส หริตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุรตฺถิมโต นครสฺส มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ เอตฺถ ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’ติ. ‘‘ยถา, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย, ตถา โหตู’’ติ.

๒๒๙. เตน โข ปน สมเยน กุสินารา ยาว สนฺธิสมลสํกฏีรา ชณฺณุมตฺเตน โอธินา มนฺทารวปุปฺเผหิ สนฺถตา [สณฺิตา (สฺยา.)] โหติ. อถ โข เทวตา จ โกสินารกา จ มลฺลา ภควโต สรีรํ ทิพฺเพหิ จ มานุสเกหิ จ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา อุตฺตเรน อุตฺตรํ นครสฺส หริตฺวา อุตฺตเรน ทฺวาเรน นครํ ปเวเสตฺวา มชฺเฌน มชฺฌํ นครสฺส หริตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุรตฺถิมโต นครสฺส มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ เอตฺถ จ ภควโต สรีรํ นิกฺขิปึสุ.

๒๓๐. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ – ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต อานนฺท, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘ยถา โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘รฺโ, วาเสฏฺา, จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ, อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเนฺติ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ. เอเตน อุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ ฌาเปนฺติ. จาตุมหาปเถ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ถูปํ กโรนฺติ. เอวํ โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ. ยถา โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพํ. จาตุมหาปเถ ตถาคตสฺส ถูโป กาตพฺโพ. ตตฺถ เย มาลํ วา คนฺธํ วา จุณฺณกํ วา อาโรเปสฺสนฺติ วา อภิวาเทสฺสนฺติ วา จิตฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ปุริเส อาณาเปสุํ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, มลฺลานํ วิหตํ กปฺปาสํ สนฺนิปาเตถา’’ติ.

อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเสุํ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเสุํ. เอเตน อุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ ภควโต สรีรํ เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา ภควโต สรีรํ จิตกํ อาโรเปสุํ.

มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุ

๒๓๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อาชีวโก กุสินาราย มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวา ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตํ อาชีวกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อาชีวกํ เอตทโวจ – ‘‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อามาวุโส, ชานามิ, อชฺช สตฺตาหปรินิพฺพุโต สมโณ โคตโม. ตโต เม อิทํ มนฺทารวปุปฺผํ คหิต’’นฺติ. ตตฺถ เย เต ภิกฺขู อวีตราคา อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา, เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ.

๒๓๒. เตน โข ปน สมเยน สุภทฺโท นาม วุทฺธปพฺพชิโต ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข สุภทฺโท วุทฺธปพฺพชิโต เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ, สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน. อุปทฺทุตา จ โหม – ‘อิทํ โว กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ. อิทานิ ปน มยํ ยํ อิจฺฉิสฺสาม, ตํ กริสฺสาม, ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ. นนุ เอตํ, อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’. ตํ กุเตตฺถ, อาวุโส, ลพฺภา. ‘ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ มา ปลุชฺชี’ติ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.

๒๓๓. เตน โข ปน สมเยน จตฺตาโร มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา – ‘‘มยํ ภควโต จิตกํ อาฬิมฺเปสฺสามา’’ติ น สกฺโกนฺติ อาฬิมฺเปตุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย, เยนิเม จตฺตาโร มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา – ‘มยํ ภควโต จิตกํ อาฬิมฺเปสฺสามา’ติ น สกฺโกนฺติ อาฬิมฺเปตุ’’นฺติ? ‘‘อฺถา โข, วาเสฏฺา, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘เทวตานํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘อยํ อายสฺมา มหากสฺสโป ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. น ตาว ภควโต จิตโก ปชฺชลิสฺสติ, ยาวายสฺมา มหากสฺสโป ภควโต ปาเท สิรสา น วนฺทิสฺสตี’’’ติ. ‘‘ยถา, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย, ตถา โหตู’’ติ.

๒๓๔. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เยน กุสินารา มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ, เยน ภควโต จิตโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิ. ตานิปิ โข ปฺจภิกฺขุสตานิ เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทึสุ. วนฺทิเต จ ปนายสฺมตา มหากสฺสเปน เตหิ จ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สยเมว ภควโต จิตโก ปชฺชลิ.

๒๓๕. ฌายมานสฺส โข ปน ภควโต สรีรสฺส ยํ อโหสิ ฉวีติ วา จมฺมนฺติ วา มํสนฺติ วา นฺหารูติ วา ลสิกาติ วา, ตสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ, น มสิ; สรีราเนว อวสิสฺสึสุ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ, น มสิ; เอวเมว ภควโต สรีรสฺส ฌายมานสฺส ยํ อโหสิ ฉวีติ วา จมฺมนฺติ วา มํสนฺติ วา นฺหารูติ วา ลสิกาติ วา, ตสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ, น มสิ; สรีราเนว อวสิสฺสึสุ. เตสฺจ ปฺจนฺนํ ทุสฺสยุคสตานํ ทฺเวว ทุสฺสานิ น ฑยฺหึสุ ยฺจ สพฺพอพฺภนฺตริมํ ยฺจ พาหิรํ. ทฑฺเฒ จ โข ปน ภควโต สรีเร อนฺตลิกฺขา อุทกธารา ปาตุภวิตฺวา ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสิ. อุทกสาลโตปิ [อุทกํ สาลโตปิ (สี. สฺยา. กํ.)] อพฺภุนฺนมิตฺวา ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสิ. โกสินารกาปิ มลฺลา สพฺพคนฺโธทเกน ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรานิ สตฺตาหํ สนฺธาคาเร สตฺติปฺชรํ กริตฺวา ธนุปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวา [ปริกฺขิปิตฺวา (สฺยา.)] นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกรึสุ ครุํ กรึสุ มาเนสุํ ปูเชสุํ.

สรีรธาตุวิภาชนํ

๒๓๖. อสฺโสสิ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย อหมฺปิ ขตฺติโย, อหมฺปิ อรหามิ ภควโต สรีรานํ ภาคํ, อหมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ.

อสฺโสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสุํ โข กปิลวตฺถุวาสี สกฺยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข กปิลวตฺถุวาสี สกฺยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควา อมฺหากํ าติเสฏฺโ, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสุํ โข อลฺลกปฺปกา พุลโย [ถูลโย (สฺยา.)] – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข อลฺลกปฺปกา พุลโย โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสุํ โข รามคามกา โกฬิยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข รามคามกา โกฬิยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสิ โข เวฏฺทีปโก พฺราหฺมโณ – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข เวฏฺทีปโก พฺราหฺมโณ โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย อหํ ปิสฺมิ พฺราหฺมโณ, อหมฺปิ อรหามิ ภควโต สรีรานํ ภาคํ, อหมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ.

อสฺโสสุํ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต โกสินารกา มลฺลา เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจุํ – ‘‘ภควา อมฺหากํ คามกฺเขตฺเต ปรินิพฺพุโต, น มยํ ทสฺสาม ภควโต สรีรานํ ภาค’’นฺติ.

๒๓๗. เอวํ วุตฺเต โทโณ พฺราหฺมโณ เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจ –

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวาจํ,

อมฺหาก [ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ นิคฺคหีตโลโป]; พุทฺโธ อหุ ขนฺติวาโท;

หิ สาธุ ยํ อุตฺตมปุคฺคลสฺส,

สรีรภาเค สิยา สมฺปหาโร.

สพฺเพว โภนฺโต สหิตา สมคฺคา,

สมฺโมทมานา กโรมฏฺภาเค;

วิตฺถาริกา โหนฺตุ ทิสาสุ ถูปา,

พหู ชนา จกฺขุมโต ปสนฺนา’’ติ.

๒๓๘. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตฺวฺเว ภควโต สรีรานิ อฏฺธา สมํ สวิภตฺตํ วิภชาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โทโณ พฺราหฺมโณ เตสํ สงฺฆานํ คณานํ ปฏิสฺสุตฺวา ภควโต สรีรานิ อฏฺธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิตฺวา เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจ – ‘‘อิมํ เม โภนฺโต ตุมฺพํ ททนฺตุ อหมฺปิ ตุมฺพสฺส ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ. อทํสุ โข เต โทณสฺส พฺราหฺมณสฺส ตุมฺพํ.

อสฺโสสุํ โข ปิปฺปลิวนิยา [ปิปฺผลิวนิยา (สฺยา.)] โมริยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ปิปฺปลิวนิยา โมริยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘นตฺถิ ภควโต สรีรานํ ภาโค, วิภตฺตานิ ภควโต สรีรานิ. อิโต องฺคารํ หรถา’’ติ. เต ตโต องฺคารํ หรึสุ [อาหรึสุ (สฺยา. ก.)].

ธาตุถูปปูชา

๒๓๙. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชคเห ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. เวสาลิกาปิ ลิจฺฉวี เวสาลิยํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. กปิลวตฺถุวาสีปิ สกฺยา กปิลวตฺถุสฺมึ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. อลฺลกปฺปกาปิ พุลโย อลฺลกปฺเป ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. รามคามกาปิ โกฬิยา รามคาเม ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. เวฏฺทีปโกปิ พฺราหฺมโณ เวฏฺทีเป ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. ปาเวยฺยกาปิ มลฺลา ปาวายํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. โกสินารกาปิ มลฺลา กุสินารายํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. โทโณปิ พฺราหฺมโณ ตุมฺพสฺส ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. ปิปฺปลิวนิยาปิ โมริยา ปิปฺปลิวเน องฺคารานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. อิติ อฏฺ สรีรถูปา นวโม ตุมฺพถูโป ทสโม องฺคารถูโป. เอวเมตํ ภูตปุพฺพนฺติ.

๒๔๐. อฏฺโทณํ จกฺขุมโต สรีรํ, สตฺตโทณํ ชมฺพุทีเป มเหนฺติ.

เอกฺจ โทณํ ปุริสวรุตฺตมสฺส, รามคาเม นาคราชา มเหติ.

เอกาหิ ทาา ติทิเวหิ ปูชิตา, เอกา ปน คนฺธารปุเร มหียติ;

กาลิงฺครฺโ วิชิเต ปุเนกํ, เอกํ ปน นาคราชา มเหติ.

ตสฺเสว เตเชน อยํ วสุนฺธรา,

อายาคเสฏฺเหิ มหี อลงฺกตา;

เอวํ อิมํ จกฺขุมโต สรีรํ,

สุสกฺกตํ สกฺกตสกฺกเตหิ.

เทวินฺทนาคินฺทนรินฺทปูชิโต,

มนุสฺสินฺทเสฏฺเหิ ตเถว ปูชิโต;

ตํ วนฺทถ [ตํ ตํ วนฺทถ (สฺยา.)] ปฺชลิกา ลภิตฺวา,

พุทฺโธ หเว กปฺปสเตหิ ทุลฺลโภติ.

จตฺตาลีส สมา ทนฺตา, เกสา โลมา จ สพฺพโส;

เทวา หรึสุ เอเกกํ, จกฺกวาฬปรมฺปราติ.

มหาปรินิพฺพานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. มหาสุทสฺสนสุตฺตํ

๒๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน อนฺตเรน ยมกสาลานํ ปรินิพฺพานสมเย. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภนฺเต, ภควา อิมสฺมึ ขุทฺทกนครเก อุชฺชงฺคลนครเก สาขานครเก ปรินิพฺพายิ. สนฺติ, ภนฺเต, อฺานิ มหานครานิ. เสยฺยถิทํ – จมฺปา, ราชคหํ, สาวตฺถิ, สาเกตํ, โกสมฺพี, พาราณสี; เอตฺถ ภควา ปรินิพฺพายตุ. เอตฺถ พหู ขตฺติยมหาสาลา พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติมหาสาลา ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา, เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ.

๒๔๒. ‘‘มา เหวํ, อานนฺท, อวจ; มา เหวํ, อานนฺท, อวจ – ขุทฺทกนครกํ อุชฺชงฺคลนครกํ สาขานครก’’นฺติ.

กุสาวตีราชธานี

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นาม อโหสิ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต [ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต (ก.), จกฺกวตฺตีธมฺมิโก ธมฺมราชา (มหาปรินิพฺพานสุตฺต)] จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส อยํ กุสินารา กุสาวตี นาม ราชธานี อโหสิ. ปุรตฺถิเมน จ ปจฺฉิเมน จ ทฺวาทสโยชนานิ อายาเมน, อุตฺตเรน จ ทกฺขิเณน จ สตฺตโยชนานิ วิตฺถาเรน. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทวานํ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี อิทฺธา เจว โหติ ผีตา จ [อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ (สฺยา.)] พหุชนา จ อากิณฺณยกฺขา จ สุภิกฺขา จ; เอวเมว โข, อานนฺท, กุสาวตี ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตา อโหสิ ทิวา เจว รตฺติฺจ, เสยฺยถิทํ – หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน เภริสทฺเทน มุทิงฺคสทฺเทน วีณาสทฺเทน คีตสทฺเทน สงฺขสทฺเทน สมฺมสทฺเทน ปาณิตาฬสทฺเทน ‘อสฺนาถ ปิวถ ขาทถา’ติ ทสเมน สทฺเทน.

‘‘กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี สตฺตหิ ปากาเรหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ. เอโก ปากาโร โสวณฺณมโย, เอโก รูปิยมโย, เอโก เวฬุริยมโย, เอโก ผลิกมโย, เอโก โลหิตงฺกมโย [โลหิตงฺคมโย (ก.), โลหิตกมโย (พฺยากรเณสุ)], เอโก มสารคลฺลมโย, เอโก สพฺพรตนมโย. กุสาวติยา, อานนฺท, ราชธานิยา จตุนฺนํ วณฺณานํ ทฺวารานิ อเหสุํ. เอกํ ทฺวารํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. เอเกกสฺมึ ทฺวาเร สตฺต สตฺต เอสิกา นิขาตา อเหสุํ ติโปริสงฺคา ติโปริสนิขาตา ทฺวาทสโปริสา อุพฺเพเธน. เอกา เอสิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี สตฺตหิ ตาลปนฺตีหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ. เอกา ตาลปนฺติ โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. โสวณฺณมยสฺส ตาลสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ อโหสิ, รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส ตาลสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ อโหสิ, โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส ตาลสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ อโหสิ, ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส ตาลสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ อโหสิ, เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. โลหิตงฺกมยสฺส ตาลสฺส โลหิตงฺกมโย ขนฺโธ อโหสิ, มสารคลฺลมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. มสารคลฺลมยสฺส ตาลสฺส มสารคลฺลมโย ขนฺโธ อโหสิ, โลหิตงฺกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. สพฺพรตนมยสฺส ตาลสฺส สพฺพรตนมโย ขนฺโธ อโหสิ, สพฺพรตนมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ตาสํ โข ปนานนฺท, ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย [กมนีโย (สี. สฺยา. ปี.)] จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ, เอวเมว โข, อานนฺท, ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ.

จกฺกรตนํ

๒๔๓. ‘‘ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน สตฺตหิ รตเนหิ สมนฺนาคโต อโหสิ จตูหิ จ อิทฺธีหิ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ. ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘สุตํ โข ปเนตํ – ‘‘ยสฺส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ, โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ. อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตี’ติ.

๒๔๔. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วาเมน หตฺเถน สุวณฺณภิงฺการํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน จกฺกรตนํ อพฺภุกฺกิริ – ‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตน’นฺติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ ปวตฺติ [ปวตฺตติ (สฺยา. ก.)], อนฺวเทว [อนุเทว (สฺยา.)] ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย, ยสฺมึ โข ปนานนฺท, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา มหาสุทสฺสโน วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปนานนฺท, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข มหาราช, สฺวาคตํ เต มหาราช, สกํ เต มหาราช, อนุสาส มหาราชา’ติ. ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ น อาทาตพฺพํ, กาเมสุ มิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภณิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปนานนฺท, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ. อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ทกฺขิณํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ปจฺฉิมํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ปจฺฉิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุตฺตรํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปนานนฺท, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา มหาสุทสฺสโน วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปนานนฺท, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข มหาราช, สฺวาคตํ เต มหาราช, สกํ เต มหาราช, อนุสาส มหาราชา’ติ. ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ น อาทาตพฺพํ, กาเมสุ มิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภณิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปนานนฺท, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ.

๒๔๕. ‘‘อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อภิวิชินิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนฺเตปุรทฺวาเร อตฺถกรณปมุเข อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสิ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนฺเตปุรํ อุปโสภยมานํ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ.

หตฺถิรตนํ

๒๔๖. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส หตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ สพฺพเสโต สตฺตปฺปติฏฺโ อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม อุโปสโถ นาม นาคราชา. ตํ ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จิตฺตํ ปสีทิ – ‘ภทฺทกํ วต โภ หตฺถิยานํ, สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’ติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, หตฺถิรตนํ – เสยฺยถาปิ นาม คนฺธหตฺถาชานิโย ทีฆรตฺตํ สุปริทนฺโต, เอวเมว ทมถํ อุปคจฺฉิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว หตฺถิรตนํ วีมํสมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ อภิรุหิตฺวา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อนุยายิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา ปาตราสมกาสิ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ หตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ.

อสฺสรตนํ

๒๔๗. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อสฺสรตนํ ปาตุรโหสิ สพฺพเสโต กาฬสีโส มุฺชเกโส อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม วลาหโก นาม อสฺสราชา. ตํ ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จิตฺตํ ปสีทิ – ‘ภทฺทกํ วต โภ อสฺสยานํ สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’ติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, อสฺสรตนํ เสยฺยถาปิ นาม ภทฺโท อสฺสาชานิโย ทีฆรตฺตํ สุปริทนฺโต, เอวเมว ทมถํ อุปคจฺฉิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว อสฺสรตนํ วีมํสมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ อภิรุหิตฺวา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อนุยายิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา ปาตราสมกาสิ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ อสฺสรตนํ ปาตุรโหสิ.

มณิรตนํ

๒๔๘. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส มณิรตนํ ปาตุรโหสิ. โส อโหสิ มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตสฺส โข ปนานนฺท, มณิรตนสฺส อาภา สมนฺตา โยชนํ ผุฏา อโหสิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว มณิรตนํ วีมํสมาโน จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มณึ ธชคฺคํ อาโรเปตฺวา รตฺตนฺธการติมิสาย ปายาสิ. เย โข ปนานนฺท, สมนฺตา คามา อเหสุํ, เต เตโนภาเสน กมฺมนฺเต ปโยเชสุํ ทิวาติ มฺมานา. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ มณิรตนํ ปาตุรโหสิ.

อิตฺถิรตนํ

๒๔๙. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อิตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกิสา นาติถูลา นาติกาฬิกา นาจฺโจทาตา อติกฺกนฺตา มานุสิวณฺณํ [มานุสฺสิวณฺณํ (สฺยา.)] อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณํ. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส เอวรูโป กายสมฺผสฺโส โหติ, เสยฺยถาปิ นาม ตูลปิจุโน วา กปฺปาสปิจุโน วา. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส สีเต อุณฺหานิ คตฺตานิ โหนฺติ, อุณฺเห สีตานิ. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส กายโต จนฺทนคนฺโธ วายติ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ. ตํ โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปุพฺพุฏฺายินี อโหสิ ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี. ตํ โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนํ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ มนสาปิ โน อติจริ [อติจรี (ก.), อติจารี (สี. สฺยา. ปี.)], กุโต ปน กาเยน. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ.

คหปติรตนํ

๒๕๐. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส คหปติรตนํ ปาตุรโหสิ. ตสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุรโหสิ เยน นิธึ ปสฺสติ สสฺสามิกมฺปิ อสฺสามิกมฺปิ. โส ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, เทว, โหหิ, อหํ เต ธเนน ธนกรณียํ กริสฺสามี’ติ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว คหปติรตนํ วีมํสมาโน นาวํ อภิรุหิตฺวา มชฺเฌ คงฺคาย นทิยา โสตํ โอคาหิตฺวา คหปติรตนํ เอตทโวจ – ‘อตฺโถ เม, คหปติ, หิรฺสุวณฺเณนา’ติ. ‘เตน หิ, มหาราช, เอกํ ตีรํ นาวา อุเปตู’ติ. ‘อิเธว เม, คหปติ, อตฺโถ หิรฺสุวณฺเณนา’ติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, คหปติรตนํ อุโภหิ หตฺเถหิ อุทกํ โอมสิตฺวา ปูรํ หิรฺสุวณฺณสฺส กุมฺภึ อุทฺธริตฺวา ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ – ‘อลเมตฺตาวตา มหาราช, กตเมตฺตาวตา มหาราช, ปูชิตเมตฺตาวตา มหาราชา’ติ? ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘อลเมตฺตาวตา คหปติ, กตเมตฺตาวตา คหปติ, ปูชิตเมตฺตาวตา คหปตี’ติ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ คหปติรตนํ ปาตุรโหสิ.

ปริณายกรตนํ

๒๕๑. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปริณายกรตนํ ปาตุรโหสิ ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปยาเปตพฺพํ อุปยาเปตุํ, อปยาเปตพฺพํ อปยาเปตุํ, เปตพฺพํ เปตุํ. โส ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, เทว, โหหิ, อหมนุสาสิสฺสามี’ติ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ ปริณายกรตนํ ปาตุรโหสิ.

‘‘ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิเมหิ สตฺตหิ รตเนหิ สมนฺนาคโต อโหสิ.

จตุอิทฺธิสมนฺนาคโต

๒๕๒. ‘‘ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน จตูหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคโต อโหสิ. กตมาหิ จตูหิ อิทฺธีหิ? อิธานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อภิรูโป อโหสิ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ปมาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ทีฆายุโก อโหสิ จิรฏฺิติโก อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ทุติยาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อปฺปาพาโธ อโหสิ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ตติยาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน พฺราหฺมณคหปติกานํ ปิโย อโหสิ มนาโป. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปิตา ปุตฺตานํ ปิโย โหติ มนาโป, เอวเมว โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน พฺราหฺมณคหปติกานํ ปิโย อโหสิ มนาโป. รฺโปิ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส พฺราหฺมณคหปติกา ปิยา อเหสุํ มนาปา. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปิตุ ปุตฺตา ปิยา โหนฺติ มนาปา, เอวเมว โข, อานนฺท, รฺโปิ มหาสุทสฺสนสฺส พฺราหฺมณคหปติกา ปิยา อเหสุํ มนาปา.

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน จตุรงฺคินิยา เสนาย อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ. อถ โข, อานนฺท, พฺราหฺมณคหปติกา ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อตรมาโน, เทว, ยาหิ, ยถา ตํ มยํ จิรตรํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. ราชาปิ, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อตรมาโน, สารถิ, รถํ เปเสหิ, ยถา อหํ พฺราหฺมณคหปติเก จิรตรํ ปสฺเสยฺย’นฺติ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย จตุตฺถิยา [จตุตฺถาย (สฺยา.)] อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาหิ จตูหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคโต อโหสิ.

ธมฺมปาสาทโปกฺขรณี

๒๕๓. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสุ ตาลนฺตริกาสุ ธนุสเต ธนุสเต โปกฺขรณิโย มาเปยฺย’นฺติ.

‘‘มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสุ ตาลนฺตริกาสุ ธนุสเต ธนุสเต โปกฺขรณิโย. ตา โข ปนานนฺท, โปกฺขรณิโย จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ จิตา อเหสุํ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ตาสุ โข ปนานนฺท, โปกฺขรณีสุ จตฺตาริ จตฺตาริ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ, เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ เอกํ รูปิยมยํ เอกํ เวฬุริยมยํ เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ, ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ, เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ตา โข ปนานนฺท, โปกฺขรณิโย ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺตา อเหสุํ เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสุ โปกฺขรณีสุ เอวรูปํ มาลํ โรปาเปยฺยํ อุปฺปลํ ปทุมํ กุมุทํ ปุณฺฑรีกํ สพฺโพตุกํ สพฺพชนสฺส อนาวฏ’นฺติ. โรปาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสุ โปกฺขรณีสุ เอวรูปํ มาลํ อุปฺปลํ ปทุมํ กุมุทํ ปุณฺฑรีกํ สพฺโพตุกํ สพฺพชนสฺส อนาวฏํ.

๒๕๔. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร นฺหาปเก ปุริเส เปยฺยํ, เย อาคตาคตํ ชนํ นฺหาเปสฺสนฺตี’ติ. เปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร นฺหาปเก ปุริเส, เย อาคตาคตํ ชนํ นฺหาเปสุํ.

‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร เอวรูปํ ทานํ ปฏฺเปยฺยํ – อนฺนํ อนฺนฏฺิกสฺส [อนฺนตฺถิตสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.), เอวํ สพฺพตฺถ ปกภิรูเปเนว ทิสฺสติ], ปานํ ปานฏฺิกสฺส, วตฺถํ วตฺถฏฺิกสฺส, ยานํ ยานฏฺิกสฺส, สยนํ สยนฏฺิกสฺส, อิตฺถึ อิตฺถิฏฺิกสฺส, หิรฺํ หิรฺฏฺิกสฺส, สุวณฺณํ สุวณฺณฏฺิกสฺสา’ติ. ปฏฺเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร เอวรูปํ ทานํ – อนฺนํ อนฺนฏฺิกสฺส, ปานํ ปานฏฺิกสฺส, วตฺถํ วตฺถฏฺิกสฺส, ยานํ ยานฏฺิกสฺส, สยนํ สยนฏฺิกสฺส, อิตฺถึ อิตฺถิฏฺิกสฺส, หิรฺํ หิรฺฏฺิกสฺส, สุวณฺณํ สุวณฺณฏฺิกสฺส.

๒๕๕. ‘‘อถ โข, อานนฺท, พฺราหฺมณคหปติกา ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทาย ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิทํ, เทว, ปหูตํ สาปเตยฺยํ เทวฺเว อุทฺทิสฺส อาภตํ, ตํ เทโว ปฏิคฺคณฺหตู’ติ. ‘อลํ โภ, มมปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ธมฺมิเกน พลินา อภิสงฺขตํ, ตฺจ โว โหตุ, อิโต จ ภิยฺโย หรถา’ติ. เต รฺา ปฏิกฺขิตฺตา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘น โข เอตํ อมฺหากํ ปติรูปํ, ยํ มยํ อิมานิ สาปเตยฺยานิ ปุนเทว สกานิ ฆรานิ ปฏิหเรยฺยาม. ยํนูน มยํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ มาเปยฺยามา’ติ. เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘นิเวสนํ เต เทว, มาเปสฺสามา’ติ. อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตุณฺหีภาเวน.

๒๕๖. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สกฺโก เทวานมินฺโท รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย วิสฺสกมฺมํ [วิสุกมฺมํ (ก.)] เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม วิสฺสกมฺม, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ มาเปหิ ธมฺมํ นาม ปาสาท’นฺติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ – ‘นิเวสนํ เต เทว, มาเปสฺสามิ ธมฺมํ นาม ปาสาท’นฺติ. อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตุณฺหีภาเวน.

‘‘มาเปสิ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ ธมฺมํ นาม ปาสาทํ. ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท ปุรตฺถิเมน ปจฺฉิเมน จ โยชนํ อายาเมน อโหสิ. อุตฺตเรน ทกฺขิเณน จ อฑฺฒโยชนํ วิตฺถาเรน. ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส ติโปริสํ อุจฺจตเรน วตฺถุ จิตํ อโหสิ จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส จตุราสีติ ถมฺภสหสฺสานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอโก ถมฺโภ โสวณฺณมโย, เอโก รูปิยมโย, เอโก เวฬุริยมโย, เอโก ผลิกมโย. ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท จตุนฺนํ วณฺณานํ ผลเกหิ สนฺถโต อโหสิ – เอกํ ผลกํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ.

‘‘ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส จตุวีสติ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺเม, อานนฺท, ปาสาเท จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ กูฏาคารํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมเย กูฏาคาเร รูปิยมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, รูปิยมเย กูฏาคาเร โสวณฺณมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, เวฬุริยมเย กูฏาคาเร ทนฺตมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, ผลิกมเย กูฏาคาเร สารมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ. โสวณฺณมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร รูปิยมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร โสวณฺณมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ, รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร ผลิกมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ, เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร เวฬุริยมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ, ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ.

๒๕๗. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร สพฺพโสวณฺณมยํ ตาลวนํ มาเปยฺยํ, ยตฺถ ทิวาวิหารํ นิสีทิสฺสามี’ติ. มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร สพฺพโสวณฺณมยํ ตาลวนํ, ยตฺถ ทิวาวิหารํ นิสีทิ. ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺโต อโหสิ, เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

๒๕๘. ‘‘ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท ทฺวีหิ กิงฺกิณิกชาเลหิ [กิงฺกณิกชาเลหิ (สฺยา. ก.)] ปริกฺขิตฺโต อโหสิ – เอกํ ชาลํ โสวณฺณมยํ เอกํ รูปิยมยํ. โสวณฺณมยสฺส ชาลสฺส รูปิยมยา กิงฺกิณิกา อเหสุํ, รูปิยมยสฺส ชาลสฺส โสวณฺณมยา กิงฺกิณิกา อเหสุํ. เตสํ โข ปนานนฺท, กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ [กุสเลหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ, วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ, เอวเมว โข, อานนฺท, เตสํ กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต เตสํ กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ. นิฏฺิโต โข ปนานนฺท, ธมฺโม ปาสาโท ทุทฺทิกฺโข อโหสิ มุสติ จกฺขูนิ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน [อพฺภุคฺคมมาโน (สี. ปี. ก.)] ทุทฺทิกฺโข [ทุทิกฺโข (ปี.)] โหติ มุสติ จกฺขูนิ; เอวเมว โข, อานนฺท, ธมฺโม ปาสาโท ทุทฺทิกฺโข อโหสิ มุสติ จกฺขูนิ.

๒๕๙. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ธมฺมสฺส ปาสาทสฺส ปุรโต ธมฺมํ นาม โปกฺขรณึ มาเปยฺย’นฺติ. มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ธมฺมสฺส ปาสาทสฺส ปุรโต ธมฺมํ นาม โปกฺขรณึ. ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี ปุรตฺถิเมน ปจฺฉิเมน จ โยชนํ อายาเมน อโหสิ, อุตฺตเรน ทกฺขิเณน จ อฑฺฒโยชนํ วิตฺถาเรน. ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ จิตา อโหสิ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ธมฺมาย, อานนฺท, โปกฺขรณิยา จตุวีสติ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ – เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี สตฺตหิ ตาลปนฺตีหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ – เอกา ตาลปนฺติ โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. โสวณฺณมยสฺส ตาลสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ อโหสิ รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส ตาลสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ อโหสิ โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส ตาลสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ อโหสิ ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส ตาลสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ อโหสิ เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. โลหิตงฺกมยสฺส ตาลสฺส โลหิตงฺกมโย ขนฺโธ อโหสิ มสารคลฺลมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. มสารคลฺลมยสฺส ตาลสฺส มสารคลฺลมโย ขนฺโธ อโหสิ โลหิตงฺกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. สพฺพรตนมยสฺส ตาลสฺส สพฺพรตนมโย ขนฺโธ อโหสิ, สพฺพรตนมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ตาสํ โข ปนานนฺท, ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ, วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ, เอวเมว โข, อานนฺท, ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ.

‘‘นิฏฺิเต โข ปนานนฺท, ธมฺเม ปาสาเท นิฏฺิตาย ธมฺมาย จ โปกฺขรณิยา ราชา มหาสุทสฺสโน ‘เย [เย โก ปนานนฺท (สฺยา. ก.)] เตน สมเยน สมเณสุ วา สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ วา พฺราหฺมณสมฺมตา’, เต สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา ธมฺมํ ปาสาทํ อภิรุหิ.

ปมภาณวาโร.

ฌานสมฺปตฺติ

๒๖๐. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ? อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว, เสยฺยถิทํ ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺสา’ติ.

‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน เยน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร ิโต อุทานํ อุทาเนสิ – ‘ติฏฺ, กามวิตกฺก, ติฏฺ, พฺยาปาทวิตกฺก, ติฏฺ, วิหึสาวิตกฺก. เอตฺตาวตา กามวิตกฺก, เอตฺตาวตา พฺยาปาทวิตกฺก, เอตฺตาวตา วิหึสาวิตกฺกา’ติ.

๒๖๑. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา โสวณฺณมเย ปลฺลงฺเก นิสินฺโน วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหาสิ, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ.

๒๖๒. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหา กูฏาคารา นิกฺขมิตฺวา โสวณฺณมยํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา รูปิยมเย ปลฺลงฺเก นิสินฺโน เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ. ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ.

จตุราสีติ นครสหสฺสาทิ

๒๖๓. ‘‘รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส จตุราสีติ นครสหสฺสานิ อเหสุํ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ อเหสุํ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ; จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ อเหสุํ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ; จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ; จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ; จตุราสีติ รถสหสฺสานิ อเหสุํ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ; จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ อเหสุํ มณิรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ; จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ อเหสุํ คหปติรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อเหสุํ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ อเหสุํ ทุหสนฺทนานิ [ทุกูลสนฺทนานิ(ปี.)] ทุกูลสนฺทานานิ [ทุกูลสนฺทนานิ (ปี.) ทุกูลสนฺทานานิ (สํ. นิ. ๓.๙๖)] กํสูปธารณานิ; จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ อเหสุํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ; (รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส) [( ) สี. อิโปตฺถเกสุ นตฺถิ] จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ อเหสุํ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยิตฺถ.

๒๖๔. ‘‘เตน โข ปนานนฺท, สมเยน รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘อิมานิ โข เม จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, ยํนูน วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ปริณายกรตนํ อามนฺเตสิ – ‘อิมานิ โข เม, สมฺม ปริณายกรตน, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, เตน หิ, สมฺม ปริณายกรตน, วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตู’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อานนฺท, ปริณายกรตนํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อปเรน สมเยน วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคมํสุ.

สุภทฺทาเทวิอุปสงฺกมนํ

๒๖๕. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทาย เทวิยา พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน เอตทโหสิ – ‘จิรํ ทิฏฺโ โข เม ราชา มหาสุทสฺสโน. ยํนูนาหํ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี อิตฺถาคารํ อามนฺเตสิ – ‘เอถ ตุมฺเห สีสานิ นฺหายถ ปีตานิ วตฺถานิ ปารุปถ. จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา มหาสุทสฺสโน, ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, อยฺเย’ติ โข, อานนฺท, อิตฺถาคารํ สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิสฺสุตฺวา สีสานิ นฺหายิตฺวา ปีตานิ วตฺถานิ ปารุปิตฺวา เยน สุภทฺทา เทวี เตนุปสงฺกมิ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี ปริณายกรตนํ อามนฺเตสิ – ‘กปฺเปหิ, สมฺม ปริณายกรตน, จตุรงฺคินึ เสนํ, จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา มหาสุทสฺสโน, ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, เทวี’ติ โข, อานนฺท, ปริณายกรตนํ สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิสฺสุตฺวา จตุรงฺคินึ เสนํ กปฺปาเปตฺวา สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิเวเทสิ – ‘กปฺปิตา โข, เทวิ, จตุรงฺคินี เสนา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’ติ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อิตฺถาคาเรน เยน ธมฺโม ปาสาโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา เยน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวารพาหํ อาลมฺพิตฺวา อฏฺาสิ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺทํ สุตฺวา – ‘กึ นุ โข มหโต วิย ชนกายสฺส สทฺโท’ติ มหาวิยูหา กูฏาคารา นิกฺขมนฺโต อทฺทส สุภทฺทํ เทวึ ทฺวารพาหํ อาลมฺพิตฺวา ิตํ, ทิสฺวาน สุภทฺทํ เทวึ เอตทโวจ – ‘เอตฺเถว, เทวิ, ติฏฺ มา ปาวิสี’ติ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, มหาวิยูหา กูฏาคารา โสวณฺณมยํ ปลฺลงฺกํ นีหริตฺวา สพฺพโสวณฺณมเย ตาลวเน ปฺเปหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อานนฺท, โส ปุริโส รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มหาวิยูหา กูฏาคารา โสวณฺณมยํ ปลฺลงฺกํ นีหริตฺวา สพฺพโสวณฺณมเย ตาลวเน ปฺเปสิ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน.

๒๖๖. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทาย เทวิยา เอตทโหสิ – ‘วิปฺปสนฺนานิ โข รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต, มา เหว โข ราชา มหาสุทสฺสโน กาลมกาสี’ติ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ –

‘อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อิตฺถิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’ติ.

๒๖๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สุภทฺทํ เทวึ เอตทโวจ –

‘ทีฆรตฺตํ โข มํ ตฺวํ, เทวิ, อิฏฺเหิ กนฺเตหิ ปิเยหิ มนาเปหิ สมุทาจริตฺถ; อถ จ ปน มํ ตฺวํ ปจฺฉิเม กาเล อนิฏฺเหิ อกนฺเตหิ อปฺปิเยหิ อมนาเปหิ สมุทาจรสี’ติ. ‘กถํ จรหิ ตํ, เทว, สมุทาจรามี’ติ? ‘เอวํ โข มํ ตฺวํ, เทวิ, สมุทาจร – ‘‘สพฺเพเหว, เทว, ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว, มา โข ตฺวํ, เทว, สาเปกฺโข กาลมกาสิ, ทุกฺขา สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา, ครหิตา จ สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต เทว จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสี’’’ติ.

๒๖๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี ปโรทิ อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี อสฺสูนิ ปุฺฉิตฺวา [ปมชฺชิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.), ปุฺชิตฺวา (ก.)] ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ –

‘สพฺเพเหว, เทว, ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว, มา โข ตฺวํ, เทว, สาเปกฺโข กาลมกาสิ, ทุกฺขา สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา, ครหิตา จ สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห, ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อิตฺถิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห, ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสี’ติ.

พฺรหฺมโลกูปคมํ

๒๖๙. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นจิรสฺเสว กาลมกาสิ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา มนุฺํ โภชนํ ภุตฺตาวิสฺส ภตฺตสมฺมโท โหติ, เอวเมว โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส มารณนฺติกา เวทนา อโหสิ. กาลงฺกโต จ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สุคตึ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬํ [กีฬิตํ (ก.), กีฬิกํ (สี. ปี.)] กีฬิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ โอปรชฺชํ กาเรสิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ คิหิภูโต [คิหีภูโต (สี. ปี.)] ธมฺเม ปาสาเท พฺรหฺมจริยํ จริ [พฺรหฺมจริยมจริ (ก.)]. โส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

๒๗๐. ‘‘สิยา โข ปนานนฺท, เอวมสฺส – ‘อฺโ นูน เตน สมเยน ราชา มหาสุทสฺสโน อโหสี’ติ, น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อหํ เตน สมเยน ราชา มหาสุทสฺสโน อโหสึ. มม ตานิ จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ, มม ตานิ จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ, มม ตานิ จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ, มม ตานิ จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยิตฺถ.

๒๗๑. ‘‘เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีตินครสหสฺสานํ เอกฺเว ตํ นครํ โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ กุสาวตี ราชธานี. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติปาสาทสหสฺสานํ เอโกเยว โส ปาสาโท โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ ธมฺโม ปาสาโท. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติกูฏาคารสหสฺสานํ เอกฺเว ตํ กูฏาคารํ โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ มหาวิยูหํ กูฏาคารํ. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติปลฺลงฺกสหสฺสานํ เอโกเยว โส ปลฺลงฺโก โหติ, ยํ เตน สมเยน ปริภุฺชามิ ยทิทํ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ทนฺตมโย วา สารมโย วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีตินาคสหสฺสานํ เอโกเยว โส นาโค โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ อุโปสโถ นาคราชา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติอสฺสสหสฺสานํ เอโกเยว โส อสฺโส โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ วลาหโก อสฺสราชา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติรถสหสฺสานํ เอโกเยว โส รโถ โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ เวชยนฺตรโถ. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติอิตฺถิสหสฺสานํ เอกาเยว สา อิตฺถี โหติ, ยา เตน สมเยน ปจฺจุปฏฺาติ ขตฺติยานี วา เวสฺสินี [เวสฺสายินี (สฺยา.), เวลามิกานี (ก. สี. ปี.) เวลามิกา (สํ. นิ. ๓.๙๖)] วา. เตสํ โข ปนานนฺท, วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติวตฺถโกฏิสหสฺสานํ เอกํเยว ตํ ทุสฺสยุคํ โหติ, ยํ เตน สมเยน ปริทหามิ โขมสุขุมํ วา กปฺปาสิกสุขุมํ วา โกเสยฺยสุขุมํ วา กมฺพลสุขุมํ วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติถาลิปากสหสฺสานํ เอโกเยว โส ถาลิปาโก โหติ, ยโต นาฬิโกทนปรมํ ภุฺชามิ ตทุปิยฺจ สูเปยฺยํ.

๒๗๒. ‘‘ปสฺสานนฺท, สพฺเพเต สงฺขารา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา. เอวํ อนิจฺจา โข, อานนฺท, สงฺขารา; เอวํ อทฺธุวา โข, อานนฺท, สงฺขารา; เอวํ อนสฺสาสิกา โข, อานนฺท, สงฺขารา! ยาวฺจิทํ, อานนฺท, อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ, อลํ วิรชฺชิตุํ, อลํ วิมุจฺจิตุํ.

‘‘ฉกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, อานนฺท, อภิชานามิ อิมสฺมึ ปเทเส สรีรํ นิกฺขิปิตํ, ตฺจ โข ราชาว สมาโน จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต, อยํ สตฺตโม สรีรนิกฺเขโป. น โข ปนาหํ, อานนฺท, ตํ ปเทสํ สมนุปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยตฺถ ตถาคโต อฏฺมํ สรีรํ นิกฺขิเปยฺยา’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข’’ติ.

มหาสุทสฺสนสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. ชนวสภสุตฺตํ

นาติกิยาทิพฺยากรณํ

๒๗๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา. ปี.)] วิหรติ คิฺชกาวสเถ. เตน โข ปน สมเยน ภควา ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ [เจติยวํเสสุ (ก.)] กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ [มจฺฉสุรเสเนสุ (สฺยา.), มจฺฉสูรเสเนสุ (สี. ปี.)] – ‘‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน [อุปปนฺโนติ (ก.)]. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน, สกิเทว [สกึเทว (ก.)] อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’ติ.

๒๗๔. อสฺโสสุํ โข นาติกิยา ปริจารกา – ‘‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ [ปฺหาเวยฺยากรณํ (สฺยา. ก.)] สุตฺวา.

๒๗๕. อสฺโสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

อานนฺทปริกถา

๒๗๖. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข ปนาปิ อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตฺู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สุฺา มฺเ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ [องฺคมาคธิเกหิ (สฺยา.)] ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ [เตน โข ปนาปิ (สฺยา.)] อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน. เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา; เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. อยํ โข ปนาปิ อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานฺเจว ชานปทานฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ – ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา กาลงฺกโต, เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ วิชิเต ผาสุ [ผาสุกํ (สฺยา.)] วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สงฺเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต. ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. ภควโต โข ปน สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย. ภควา เจ โข ปน มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย, ทีนมนา [นินฺนมนา (สฺยา.), ทีนมานา (สี. ปี.)] เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา’’ติ?

๒๗๗. อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ เอโก รโห อนุวิจินฺเตตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณาติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ. อิเม โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตฺู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สุฺา มฺเ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน, เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา. เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. อยํ โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานฺเจว ชานปทานฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ – ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา กาลงฺกโต. เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ วิชิเต ผาสุ วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สงฺเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต; ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. ภควโต โข ปน, ภนฺเต, สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย? ภควา เจ โข ปน, ภนฺเต, มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย ทีนมนา เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา’’ติ. อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ ภควโต สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

๒๗๘. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย นาติกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา [อฏฺิกตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา [สพฺพเจตสา (ปี.)] สมนฺนาหริตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ – ‘‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อทฺทสา โข ภควา มาคธเก ปริจารเก ‘‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต คิฺชกาวสถา นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ.

๒๗๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปสนฺตปทิสฺโส [อุปสนฺตปติโส (ก.)] ภนฺเต ภควา ภาติริว ภควโต มุขวณฺโณ วิปฺปสนฺนตฺตา อินฺทฺริยานํ. สนฺเตน นูนชฺช ภนฺเต ภควา วิหาเรน วิหาสี’’ติ? ‘‘ยเทว โข เม ตฺวํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกนฺโต, ตเทวาหํ นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ – ‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’ติ. อทฺทสํ โข อหํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก ‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’’ติ.

ชนวสภยกฺโข

๒๘๐. ‘‘อถ โข, อานนฺท, อนฺตรหิโต ยกฺโข สทฺทมนุสฺสาเวสิ – ‘ชนวสโภ อหํ ภควา; ชนวสโภ อหํ สุคตา’ติ. อภิชานาสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุตํ [สุตฺวา (ปี.)] ยทิทํ ชนวสโภ’’ติ?

‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุตํ ยทิทํ ชนวสโภติ, อปิ จ เม, ภนฺเต, โลมานิ หฏฺานิ ‘ชนวสโภ’ติ นามเธยฺยํ สุตฺวา. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘น หิ นูน โส โอรโก ยกฺโข ภวิสฺสติ ยทิทํ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุปฺตฺตํ ยทิทํ ชนวสโภ’’ติ. ‘‘อนนฺตรา โข, อานนฺท, สทฺทปาตุภาวา อุฬารวณฺโณ เม ยกฺโข สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. ทุติยมฺปิ สทฺทมนุสฺสาเวสิ – ‘พิมฺพิสาโร อหํ ภควา; พิมฺพิสาโร อหํ สุคตาติ. อิทํ สตฺตมํ โข อหํ, ภนฺเต, เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สหพฺยตํ อุปปชฺชามิ, โส ตโต จุโต มนุสฺสราชา ภวิตุํ ปโหมิ [โส ตโต จุโต มนุสฺสราชา, อมนุสฺสราชา ทิวิ โหมิ (สี. ปี.)].

อิโต สตฺต ตโต สตฺต, สํสารานิ จตุทฺทส;

นิวาสมภิชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.

๒๘๑. ‘ทีฆรตฺตํ โข อหํ, ภนฺเต, อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามิ, อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตายา’ติ. ‘อจฺฉริยมิทํ อายสฺมโต ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส, อพฺภุตมิทํ อายสฺมโต ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส. ‘‘ทีฆรตฺตํ โข อหํ, ภนฺเต, อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามี’’ติ จ วเทสิ, ‘‘อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตายา’’ติ จ วเทสิ, กุโตนิทานํ ปนายสฺมา ชนวสโภ ยกฺโข เอวรูปํ อุฬารํ วิเสสาธิคมํ สฺชานาตีติ? น อฺตฺร, ภควา, ตว สาสนา, น อฺตฺร [อฺตฺถ (สี. ปี.)], สุคต, ตว สาสนา; ยทคฺเค อหํ, ภนฺเต, ภควติ เอกนฺติกโต [เอกนฺตโต (สฺยา.), เอกนฺตคโต (ปี.)] อภิปฺปสนฺโน, ตทคฺเค อหํ, ภนฺเต, ทีฆรตฺตํ อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามิ, อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตาย. อิธาหํ, ภนฺเต, เวสฺสวเณน มหาราเชน เปสิโต วิรูฬฺหกสฺส มหาราชสฺส สนฺติเก เกนจิเทว กรณีเยน อทฺทสํ ภควนฺตํ อนฺตรามคฺเค คิฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นิสินฺนํ – ‘‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, ยํ เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส ตสฺสํ ปริสายํ ภาสโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ภควนฺตฺจ ทกฺขามิ, อิทฺจ ภควโต อาโรเจสฺสามีติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, ทฺเวปจฺจยา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’.

เทวสภา

๒๘๒. ‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วสฺสูปนายิกาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา. มหตี จ ทิพฺพปริสา [ทิพฺพา ปริสา (สี. ปี.)] สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ [นิสินฺนา โหติ (สี.), สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา (ก.)], จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย ธตรฏฺโ มหาราชา ปจฺฉิมาภิมุโข [ปจฺฉาภิมุโข (ก.)] นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ทกฺขิณาย ทิสาย วิรูฬฺหโก มหาราชา อุตฺตราภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ปจฺฉิมาย ทิสาย วิรูปกฺโข มหาราชา ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; อุตฺตราย ทิสาย เวสฺสวโณ มหาราชา ทกฺขิณาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา. ยทา, ภนฺเต, เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ. อิทํ เนสํ โหติ อาสนสฺมึ; อถ ปจฺฉา อมฺหากํ อาสนํ โหติ. เย เต, ภนฺเต, เทวา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา อธุนูปปนฺนา ตาวตึสกายํ, เต อฺเ เทเว อติโรจนฺติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ‘‘ทิพฺพา วต โภ กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’ติ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา [สอินฺทกา (สี.)];

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สฺยา.)];

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ.

‘เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ‘‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’ติ. อถ โข, ภนฺเต, เยนตฺเถน เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, ตํ อตฺถํ จินฺตยิตฺวา ตํ อตฺถํ มนฺตยิตฺวา วุตฺตวจนาปิ ตํ [วุตฺตวจนา นามิทํ (ก.)] จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ. ปจฺจานุสิฏฺวจนาปิ ตํ [ปจฺจานุสิฏฺวจนา นามิทํ (ก.)] จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ, สเกสุ สเกสุ อาสเนสุ ิตา อวิปกฺกนฺตา [อธิปกฺกนฺตา (ก.)].

เต วุตฺตวากฺยา ราชาโน, ปฏิคฺคยฺหานุสาสนึ;

วิปฺปสนฺนมนา สนฺตา, อฏฺํสุ สมฺหิ อาสเนติ.

๒๘๓. ‘อถ โข, ภนฺเต, อุตฺตราย ทิสาย อุฬาโร อาโลโก สฺชายิ, โอภาโส ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘ยถา โข, มาริสา, นิมิตฺตานิ ทิสฺสนฺติ, อุฬาโร อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ. พฺรหฺมุโน เหตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ ปาตุภาวาย ยทิทํ อาโลโก สฺชายติ โอภาโส ปาตุภวตีติ.

‘‘ยถา นิมิตฺตา ทิสฺสนฺติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ;

พฺรหฺมุโน เหตํ นิมิตฺตํ, โอภาโส วิปุโล มหา’’ติ.

สนงฺกุมารกถา

๒๘๔. ‘อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’’ติ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’’ติ. อิทํ สุตฺวา เทวา ตาวตึสา เอกคฺคา สมาปชฺชึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’’ติ.

‘ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา ปาตุภวติ. โย โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน ปกติวณฺโณ อนภิสมฺภวนีโย โส เทวานํ ตาวตึสานํ จกฺขุปถสฺมึ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, โสวณฺโณ วิคฺคโห มานุสํ วิคฺคหํ อติโรจติ; เอวเมว โข, ภนฺเต, ยทา พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, น ตสฺสํ ปริสายํ โกจิ เทโว อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. สพฺเพว ตุณฺหีภูตา ปฺชลิกา ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺติ – ‘‘ยสฺสทานิ เทวสฺส ปลฺลงฺกํ อิจฺฉิสฺสติ พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร, ตสฺส เทวสฺส ปลฺลงฺเก นิสีทิสฺสตี’’ติ.

‘ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ; อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อธุนาภิสิตฺโต รชฺเชน, อุฬารํ โส ลภติ เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ โสมนสฺสปฏิลาภํ. เอวเมว โข, ภนฺเต, ยสฺส เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา กุมารวณฺณี [กุมารวณฺโณ (สฺยา. ก.)] หุตฺวา ปฺจสิโข เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุรโหสิ. โส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส สุปจฺจตฺถเต วา ปลฺลงฺเก สเม วา ภูมิภาเค ปลฺลงฺเกน นิสีเทยฺย; เอวเมว โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

‘‘นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

‘‘เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

‘‘อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ.

๒๘๕. ‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ; อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ วิสฺสฏฺโ จ วิฺเยฺโย จ มฺชุ จ สวนีโย จ พินฺทุ จ อวิสารี จ คมฺภีโร จ นินฺนาที จ. ยถาปริสํ โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สเรน วิฺาเปติ; น จสฺส พหิทฺธา ปริสาย โฆโส นิจฺฉรติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ, โส วุจฺจติ ‘‘พฺรหฺมสฺสโร’’ติ.

‘อถ โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เตตฺตึเส อตฺตภาเว อภินิมฺมินิตฺวา เทวานํ ตาวตึสานํ ปจฺเจกปลฺลงฺเกสุ ปลฺลงฺเกน [ปจฺเจกปลฺลงฺเกน (ก.)] นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เย หิ เกจิ, โภ, พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา สีเลสุ ปริปูรการิโน เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺเปกจฺเจ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ. เย สพฺพนิหีนํ กายํ ปริปูเรนฺติ, เต คนฺธพฺพกายํ ปริปูเรนฺตี’’’ติ.

๒๘๖. ‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ; อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต โฆโสเยว เทวา มฺนฺติ – ‘‘ยฺวายํ มม ปลฺลงฺเก สฺวายํ เอโกว ภาสตี’’ติ.

เอกสฺมึ ภาสมานสฺมึ, สพฺเพ ภาสนฺติ นิมฺมิตา;

เอกสฺมึ ตุณฺหิมาสีเน, สพฺเพ ตุณฺหี ภวนฺติ เต.

ตทาสุ เทวา มฺนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ยฺวายํ มม ปลฺลงฺกสฺมึ, สฺวายํ เอโกว ภาสตีติ.

‘อถ โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เอกตฺเตน อตฺตานํ อุปสํหรติ, เอกตฺเตน อตฺตานํ อุปสํหริตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปลฺลงฺเก ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

ภาวิตอิทฺธิปาโท

๒๘๗. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺตฺตา อิทฺธิปหุตาย [อิทฺธิพหุลีกตาย (สฺยา.)] อิทฺธิวิสวิตาย [อิทฺธิวิเสวิตาย (สฺยา.)] อิทฺธิวิกุพฺพนตาย. กตเม จตฺตาโร? อิธ โภ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. จิตฺตสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. อิเม โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺตฺตา อิทฺธิปหุตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย.

‘‘‘เย หิ เกจิ โภ อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภสุํ, สพฺเพ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. เยปิ หิ เกจิ โภ อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภสฺสนฺติ, สพฺเพ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. เยปิ หิ เกจิ โภ เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺติ, สพฺเพ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. ปสฺสนฺติ โน โภนฺโต เทวา ตาวตึสา มมปิมํ เอวรูปํ อิทฺธานุภาว’’นฺติ? ‘‘เอวํ มหาพฺรหฺเม’’ติ. ‘‘อหมฺปิ โข โภ อิเมสํเยว จตุนฺนฺจ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา เอวํ มหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

ติวิโธ โอกาสาธิคโม

๒๘๘. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย โอกาสาธิคมา อนุพุทฺธา สุขสฺสาธิคมาย. กตเม ตโย? อิธ โภ เอกจฺโจ สํสฏฺโ วิหรติ กาเมหิ สํสฏฺโ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. โส อปเรน สมเยน อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. โส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ อสํสฏฺโ วิหรติ กาเมหิ อสํสฏฺโ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. ตสฺส อสํสฏฺสฺส กาเมหิ อสํสฏฺสฺส อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ [ปามุชฺชํ (ปี. ก.)] ชาเยถ, เอวเมว โข, โภ, อสํสฏฺสฺส กาเมหิ อสํสฏฺสฺส อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปโม โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย.

‘‘‘ปุน จปรํ, โภ, อิเธกจฺจสฺส โอฬาริกา กายสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ, โอฬาริกา วจีสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ, โอฬาริกา จิตฺตสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ. โส อปเรน สมเยน อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. ตสฺส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ โอฬาริกา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, โอฬาริกา วจีสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, โอฬาริกา จิตฺตสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ตสฺส โอฬาริกานํ กายสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ วจีสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ จิตฺตสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ ชาเยถ, เอวเมว โข โภ โอฬาริกานํ กายสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ วจีสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ จิตฺตสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทุติโย โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย.

‘‘‘ปุน จปรํ, โภ, อิเธกจฺโจ ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ‘อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส อปเรน สมเยน อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. โส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ, ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต อวิชฺชา ปหียติ, วิชฺชา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ ชาเยถ, เอวเมว โข, โภ, อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตติโย โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย. อิเม โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย โอกาสาธิคมา อนุพุทฺธา สุขสฺสาธิคมายา’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ, อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

จตุสติปฏฺานํ

๒๘๙. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร สติปฏฺานา ปฺตฺตา กุสลสฺสาธิคมาย. กตเม จตฺตาโร? อิธ, โภ, ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต ตตฺถ สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วิปฺปสีทติ. โส ตตฺถ สมฺมา สมาหิโต สมฺมา วิปฺปสนฺโน พหิทฺธา ปรกาเย าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ…เป… พหิทฺธา ปรเวทนาสุ าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ…เป… พหิทฺธา ปรจิตฺเต าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรนฺโต ตตฺถ สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วิปฺปสีทติ. โส ตตฺถ สมฺมา สมาหิโต สมฺมา วิปฺปสนฺโน พหิทฺธา ปรธมฺเมสุ าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อิเม โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร สติปฏฺานา ปฺตฺตา กุสลสฺสาธิคมายา’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

สตฺต สมาธิปริกฺขารา

๒๙๐. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺต สมาธิปริกฺขารา สมฺมาสมาธิสฺส ปริภาวนาย สมฺมาสมาธิสฺส ปาริปูริยา. กตเม สตฺต? สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ. ยา โข, โภ, อิเมหิ สตฺตหงฺเคหิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา ปริกฺขตา, อยํ วุจฺจติ, โภ, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส อิติปิ สปริกฺขาโร อิติปิ. สมฺมาทิฏฺิสฺส โภ, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ. สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ. ยฺหิ ตํ, โภ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ อปารุตา อมตสฺส ทฺวารา’ติ อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. สฺวากฺขาโต หิ, โภ, ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก, อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ อปารุตา อมตสฺส ทฺวารา [ทฺวาราติ (สฺยา. ก.)].

‘‘‘เย หิ เกจิ, โภ, พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคตา, เย จิเม โอปปาติกา ธมฺมวินีตา สาติเรกานิ จตุวีสติสตสหสฺสานิ มาคธกา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา. อตฺถิ เจเวตฺถ สกทาคามิโน.

‘‘อตฺถายํ [อถายํ (สี. สฺยา.)] อิตรา ปชา, ปุฺาภาคาติ เม มโน;

สงฺขาตุํ โนปิ สกฺโกมิ, มุสาวาทสฺส โอตฺตปฺป’’นฺติ.

๒๙๑. ‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ, อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, เอวรูโปปิ นาม อุฬาโร สตฺถา ภวิสฺสติ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายิสฺสนฺตี’’ติ. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เวสฺสวณํ มหาราชานํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ เวสฺสวโณ มหาราชา อตีตมฺปิ อทฺธานํ เอวรูโป อุฬาโร สตฺถา อโหสิ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายึสุ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ เอวรูโป อุฬาโร สตฺถา ภวิสฺสติ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายิสฺสนฺตี’’’ติ.

๒๙๒. ‘‘‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ อภาสิ, อิมมตฺถํ เวสฺสวโณ มหาราชา พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส เทวานํ ตาวตึสานํ ภาสโต สมฺมุขา สุตํ [สุตฺวา (สี. ปี.)] สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ สยํ ปริสายํ อาโรเจสิ’’.

อิมมตฺถํ ชนวสโภ ยกฺโข เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สยํ ปริสายํ ภาสโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ [ปฏิคฺคเหตฺวา (สี. ปี.)] ภควโต อาโรเจสิ. อิมมตฺถํ ภควา ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส สมฺมุขา สุตฺวา สมฺมุขา ปฏิคฺคเหตฺวา สามฺจ อภิฺาย อายสฺมโต อานนฺทสฺส อาโรเจสิ, อิมมตฺถมายสฺมา อานนฺโท ภควโต สมฺมุขา สุตฺวา สมฺมุขา ปฏิคฺคเหตฺวา อาโรเจสิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตนฺติ.

ชนวสภสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. มหาโควินฺทสุตฺตํ

๒๙๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ โข เม, ภนฺเต, เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อาโรเจมิ ตํ ภควโต’’ติ. ‘‘อาโรเจหิ เม ตฺวํ, ปฺจสิขา’’ติ ภควา อโวจ.

เทวสภา

๒๙๔. ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปวารณาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา; มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ; ปุรตฺถิมาย ทิสาย ธตรฏฺโ มหาราชา ปจฺฉิมาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ทกฺขิณาย ทิสาย วิรูฬฺหโก มหาราชา อุตฺตราภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ปจฺฉิมาย ทิสาย วิรูปกฺโข มหาราชา ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; อุตฺตราย ทิสาย เวสฺสวโณ มหาราชา ทกฺขิณาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา. ยทา ภนฺเต, เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ, อิทํ เนสํ โหติ อาสนสฺมึ; อถ ปจฺฉา อมฺหากํ อาสนํ โหติ.

‘‘เย เต, ภนฺเต, เทวา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา อธุนูปปนฺนา ตาวตึสกายํ, เต อฺเ เทเว อติโรจนฺติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา; ‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’ติ.

๒๙๕. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’นฺติ.

‘‘เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโส มตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา; ‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’’ติ.

อฏฺ ยถาภุจฺจวณฺณา

๒๙๖. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘อิจฺเฉยฺยาถ โน ตุมฺเห, มาริสา, ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ โสตุ’นฺติ? ‘อิจฺฉาม มยํ, มาริส, ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ โสตุ’นฺติ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ – ‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา? ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สฺวากฺขาโต โข ปน เตน ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. เอวํ โอปเนยฺยิกสฺส ธมฺมสฺส เทเสตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อิทํ กุสลนฺติ โข ปน เตน ภควตา สุปฺตฺตํ, อิทํ อกุสลนฺติ สุปฺตฺตํ. อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ สุปฺตฺตํ. เอวํ กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชเสวิตพฺพาเสวิตพฺพหีน-ปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคานํ ธมฺมานํ ปฺเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เอวํ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ปฺเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อภินิปฺผนฺโน [อภินิปฺปนฺโน (ปี. ก.)] โข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภ อภินิปฺผนฺโน สิโลโก, ยาว มฺเ ขตฺติยา สมฺปิยายมานรูปา วิหรนฺติ, วิคตมโท โข ปน โส ภควา อาหารํ อาหาเรติ. เอวํ วิคตมทํ อาหารํ อาหรยมานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ลทฺธสหาโย โข ปน โส ภควา เสขานฺเจว ปฏิปนฺนานํ ขีณาสวานฺจ วุสิตวตํ. เต ภควา อปนุชฺช เอการามตํ อนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ เอการามตํ อนุยุตฺตํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ยถาวาที โข ปน โส ภควา ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที, อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. เอวํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ติณฺณวิจิกิจฺโฉ โข ปน โส ภควา วิคตกถํกโถ ปริโยสิตสงฺกปฺโป อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. เอวํ ติณฺณวิจิกิจฺฉํ วิคตกถํกถํ ปริโยสิตสงฺกปฺปํ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา’ติ.

๒๙๗. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโส มตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุตฺวา. ตตฺร, ภนฺเต, เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘อโห วต, มาริสา, จตฺตาโร สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘ติฏฺนฺตุ, มาริสา, จตฺตาโร สมฺมาสมฺพุทฺธา, อโห วต, มาริสา, ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘ติฏฺนฺตุ, มาริสา, ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธา, อโห วต, มาริสา, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ.

๒๙๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส เอตทโวจ – ‘อฏฺานํ โข เอตํ, มาริสา, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชติ. อโห วต, มาริสา, โส ภควา อปฺปาพาโธ อปฺปาตงฺโก จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. อถ โข, ภนฺเต, เยนตฺเถน เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, ตํ อตฺถํ จินฺตยิตฺวา ตํ อตฺถํ มนฺตยิตฺวา วุตฺตวจนาปิ ตํ จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ. ปจฺจานุสิฏฺวจนาปิ ตํ จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ, สเกสุ สเกสุ อาสเนสุ ิตา อวิปกฺกนฺตา.

เต วุตฺตวากฺยา ราชาโน, ปฏิคฺคยฺหานุสาสนึ;

วิปฺปสนฺนมนา สนฺตา, อฏฺํสุ สมฺหิ อาสเนติ.

๒๙๙. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, อุตฺตราย ทิสาย อุฬาโร อาโลโก สฺชายิ, โอภาโส ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘ยถา โข, มาริสา, นิมิตฺตานิ ทิสฺสนฺติ, อุฬาโร อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ; พฺรหฺมุโน เหตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ ปาตุภาวาย, ยทิทํ อาโลโก สฺชายติ โอภาโส ปาตุภวตีติ.

‘ยถา นิมิตฺตา ทิสฺสนฺติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ;

พฺรหฺมุโน เหตํ นิมิตฺตํ, โอภาโส วิปุโล มหา’ติ.

สนงฺกุมารกถา

๓๐๐. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ. อิทํ สุตฺวา เทวา ตาวตึสา เอกคฺคา สมาปชฺชึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ.

‘‘ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา ปาตุภวติ. โย โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน ปกติวณฺโณ, อนภิสมฺภวนีโย โส เทวานํ ตาวตึสานํ จกฺขุปถสฺมึ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, โสวณฺโณ วิคฺคโห มานุสํ วิคฺคหํ อติโรจติ, เอวเมว โข, ภนฺเต, ยทา พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, น ตสฺสํ ปริสายํ โกจิ เทโว อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. สพฺเพว ตุณฺหีภูตา ปฺชลิกา ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺติ – ‘ยสฺสทานิ เทวสฺส ปลฺลงฺกํ อิจฺฉิสฺสติ พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร, ตสฺส เทวสฺส ปลฺลงฺเก นิสีทิสฺสตี’ติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อธุนาภิสิตฺโต รชฺเชน, อุฬารํ โส ลภติ เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ โสมนสฺสปฏิลาภํ, เอวเมว โข, ภนฺเต, ยสฺส เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อนฺตรหิโต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

‘นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

‘เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

‘อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’นฺติ.

๓๐๑. ‘‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร อภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ วิสฺสฏฺโ จ วิฺเยฺโย จ มฺชุ จ สวนีโย จ พินฺทุ จ อวิสารี จ คมฺภีโร จ นินฺนาที จ. ยถาปริสํ โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สเรน วิฺาเปติ, น จสฺส พหิทฺธา ปริสาย โฆโส นิจฺฉรติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ, โส วุจฺจติ ‘พฺรหฺมสฺสโร’ติ. อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ เอตทโวจุํ – ‘สาธุ, มหาพฺรหฺเม, เอตเทว มยํ สงฺขาย โมทาม; อตฺถิ จ สกฺเกน เทวานมินฺเทน ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺจา วณฺณา ภาสิตา; เต จ มยํ สงฺขาย โมทามา’ติ.

อฏฺ ยถาภุจฺจวณฺณา

๓๐๒. ‘‘อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘สาธุ, เทวานมินฺท, มยมฺปิ ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุเณยฺยามา’ติ. ‘เอวํ มหาพฺรหฺเม’ติ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ.

‘‘ตํ กึ มฺติ, ภวํ มหาพฺรหฺมา? ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สฺวากฺขาโต โข ปน เตน ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. เอวํ โอปเนยฺยิกสฺส ธมฺมสฺส เทเสตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อิทํ กุสล’นฺติ โข ปน เตน ภควตา สุปฺตฺตํ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ สุปฺตฺตํ, ‘อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ สุปฺตฺตํ. เอวํ กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชเสวิตพฺพาเสวิตพฺพหีนปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคานํ ธมฺมานํ ปฺาเปตารํ. อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เอวํ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ปฺาเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อภินิปฺผนฺโน โข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภ อภินิปฺผนฺโน สิโลโก, ยาว มฺเ ขตฺติยา สมฺปิยายมานรูปา วิหรนฺติ. วิคตมโท โข ปน โส ภควา อาหารํ อาหาเรติ. เอวํ วิคตมทํ อาหารํ อาหรยมานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ลทฺธสหาโย โข ปน โส ภควา เสขานฺเจว ปฏิปนฺนานํ ขีณาสวานฺจ วุสิตวตํ, เต ภควา อปนุชฺช เอการามตํ อนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ เอการามตํ อนุยุตฺตํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ยถาวาที โข ปน โส ภควา ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที; อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. เอวํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปฺปนฺนํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ติณฺณวิจิกิจฺโฉ โข ปน โส ภควา วิคตกถํกโถ ปริโยสิตสงฺกปฺโป อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. เอวํ ติณฺณวิจิกิจฺฉํ วิคตกถํกถํ ปริโยสิตสงฺกปฺปํ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา’ติ.

๓๐๓. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ. เตน สุทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร อตฺตมโน โหติ ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุตฺวา. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา กุมารวณฺณี หุตฺวา ปฺจสิโข เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุรโหสิ. โส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส สุปจฺจตฺถเต วา ปลฺลงฺเก สเม วา ภูมิภาเค ปลฺลงฺเกน นิสีเทยฺย, เอวเมว โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

โควินฺทพฺราหฺมณวตฺถุ

๓๐๔. ‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว ทีฆรตฺตํ มหาปฺโว โส ภควา อโหสิ. ภูตปุพฺพํ, โภ, ราชา ทิสมฺปติ นาม อโหสิ. ทิสมฺปติสฺส รฺโ โควินฺโท นาม พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต อโหสิ. ทิสมฺปติสฺส รฺโ เรณุ นาม กุมาโร ปุตฺโต อโหสิ. โควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส โชติปาโล นาม มาณโว ปุตฺโต อโหสิ. อิติ เรณุ จ ราชปุตฺโต โชติปาโล จ มาณโว อฺเ จ ฉ ขตฺติยา อิจฺเจเต อฏฺ สหายา อเหสุํ. อถ โข, โภ, อโหรตฺตานํ อจฺจเยน โควินฺโท พฺราหฺมโณ กาลมกาสิ. โควินฺเท พฺราหฺมเณ กาลงฺกเต ราชา ทิสมฺปติ ปริเทเวสิ – ‘‘ยสฺมึ วต, โภ, มยํ สมเย โควินฺเท พฺราหฺมเณ สพฺพกิจฺจานิ สมฺมา โวสฺสชฺชิตฺวา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรม, ตสฺมึ โน สมเย โควินฺโท พฺราหฺมโณ กาลงฺกโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต โภ เรณุ ราชปุตฺโต ราชานํ ทิสมฺปตึ เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตฺวํ, เทว, โควินฺเท พฺราหฺมเณ กาลงฺกเต อติพาฬฺหํ ปริเทเวสิ. อตฺถิ, เทว, โควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส โชติปาโล นาม มาณโว ปุตฺโต ปณฺฑิตตโร เจว ปิตรา, อลมตฺถทสตโร เจว ปิตรา; เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ อนุสาสิ, เตปิ โชติปาลสฺเสว มาณวสฺส อนุสาสนิยา’’ติ. ‘‘เอวํ กุมารา’’ติ? ‘‘เอวํ เทวา’’ติ.

มหาโควินฺทวตฺถุ

๓๐๕. ‘‘อถ โข, โภ, ราชา ทิสมฺปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยน โชติปาโล นาม มาณโว เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา โชติปาลํ มาณวํ เอวํ วเทหิ – ‘ภวมตฺถุ ภวนฺตํ โชติปาลํ, ราชา ทิสมฺปติ ภวนฺตํ โชติปาลํ มาณวํ อามนฺตยติ, ราชา ทิสมฺปติ โภโต โชติปาลสฺส มาณวสฺส ทสฺสนกาโม’’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข, โภ, โส ปุริโส ทิสมฺปติสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา เยน โชติปาโล มาณโว เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมตฺถุ ภวนฺตํ โชติปาลํ, ราชา ทิสมฺปติ ภวนฺตํ โชติปาลํ มาณวํ อามนฺตยติ, ราชา ทิสมฺปติ โภโต โชติปาลสฺส มาณวสฺส ทสฺสนกาโม’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โภ โชติปาโล มาณโว ตสฺส ปุริสสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ราชา ทิสมฺปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ทิสมฺปตินา รฺา สทฺธึ สมฺโมทิ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, โภ, โชติปาลํ มาณวํ ราชา ทิสมฺปติ เอตทโวจ – ‘‘อนุสาสตุ โน ภวํ โชติปาโล, มา โน ภวํ โชติปาโล อนุสาสนิยา ปจฺจพฺยาหาสิ. เปตฺติเก ตํ าเน เปสฺสามิ, โควินฺทิเย อภิสิฺจิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข, โภ, โส โชติปาโล มาณโว ทิสมฺปติสฺส รฺโ ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, โภ, ราชา ทิสมฺปติ โชติปาลํ มาณวํ โควินฺทิเย อภิสิฺจิ, ตํ เปตฺติเก าเน เปสิ. อภิสิตฺโต โชติปาโล มาณโว โควินฺทิเย เปตฺติเก าเน ปิโต เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ อนุสาสิ เตปิ อตฺเถ อนุสาสติ, เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ นานุสาสิ, เตปิ อตฺเถ อนุสาสติ; เยปิสฺส ปิตา กมฺมนฺเต อภิสมฺโภสิ, เตปิ กมฺมนฺเต อภิสมฺโภติ, เยปิสฺส ปิตา กมฺมนฺเต นาภิสมฺโภสิ, เตปิ กมฺมนฺเต อภิสมฺโภติ. ตเมนํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘‘โควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ, มหาโควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ’’ติ. อิมินา โข เอวํ, โภ, ปริยาเยน โชติปาลสฺส มาณวสฺส โควินฺโท มหาโควินฺโทตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.

รชฺชสํวิภชนํ

๓๐๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร เรณุํ ราชปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. อายนฺตุ, โภนฺโต, เยน เรณุ ราชปุตฺโต เตนุปสงฺกมถ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชปุตฺตํ เอวํ วเทถ – ‘‘มยํ โข โภโต เรณุสฺส สหายา ปิยา มนาปา อปฺปฏิกูลา, ยํสุโข ภวํ ตํสุขา มยํ, ยํทุกฺโข ภวํ ตํทุกฺขา มยํ. ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร ภวนฺตํ เรณุํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. สเจ ภวํ เรณุ รชฺชํ ลเภถ, สํวิภเชถ โน รชฺเชนา’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ โข โภโต เรณุสฺส สหายา ปิยา มนาปา อปฺปฏิกูลา; ยํสุโข ภวํ ตํสุขา มยํ, ยํทุกฺโข ภวํ ตํทุกฺขา มยํ. ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน โภ ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร ภวนฺตํ เรณุํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. สเจ ภวํ เรณุ รชฺชํ ลเภถ, สํวิภเชถ โน รชฺเชนา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, โภ, อฺโ มม วิชิเต สุโข ภเวถ [สุขา ภเวยฺยาถ (ก.), สุขํ ภเวยฺยาถ, สุขเมเธยฺยาถ (สี. ปี.),สุข เมเธถ (?)], อฺตฺร ภวนฺเตภิ? สจาหํ, โภ, รชฺชํ ลภิสฺสามิ, สํวิภชิสฺสามิ โว รชฺเชนา’’’ติ.

๓๐๗. ‘‘อถ โข, โภ, อโหรตฺตานํ อจฺจเยน ราชา ทิสมฺปติ กาลมกาสิ. ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร เรณุํ ราชปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. อภิสิตฺโต เรณุ รชฺเชน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต. อภิสิตฺโต เรณุ รชฺเชน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ, มทนียา กามา? อายนฺตุ, โภนฺโต, เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมถ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอวํ วเทถ – ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต, อภิสิตฺโต ภวํ เรณุ รชฺเชน, สรติ ภวํ ตํ วจน’’’นฺติ?

๓๐๘. ‘‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต, อภิสิตฺโต ภวํ เรณุ รชฺเชน, สรติ ภวํ ตํ วจน’’นฺติ? ‘‘สรามหํ, โภ, ตํ วจนํ [วจนนฺติ (สฺยา. ก.)]. โก นุ โข, โภ, ปโหติ อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิตุ’’นฺติ? ‘‘โก นุ โข, โภ, อฺโ ปโหติ, อฺตฺร มหาโควินฺเทน พฺราหฺมเณนา’’ติ? อถ โข, โภ, เรณุ ราชา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอวํ วเทหิ – ‘ราชา ตํ, ภนฺเต, เรณุ อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข, โภ, โส ปุริโส เรณุสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา ตํ, ภนฺเต, เรณุ อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ตสฺส ปุริสสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุนา รฺา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, โภ, มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เรณุ ราชา เอตทโวจ – ‘‘เอตุ, ภวํ โควินฺโท, อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชตู’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เรณุสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิ. สพฺพานิ สกฏมุขานิ ปฏฺเปสิ [อฏฺเปสิ (สี. ปี.)]. ตตฺร สุทํ มชฺเฌ เรณุสฺส รฺโ ชนปโท โหติ.

๓๐๙. ทนฺตปุรํ กลิงฺคานํ [กาลิงฺคานํ (สฺยา. ปี. ก.)], อสฺสกานฺจ โปตนํ.

มเหสยํ [มาหิสฺสติ (สี. สฺยา. ปี.)] อวนฺตีนํ, โสวีรานฺจ โรรุกํ.

มิถิลา จ วิเทหานํ, จมฺปา องฺเคสุ มาปิตา;

พาราณสี จ กาสีนํ, เอเต โควินฺทมาปิตาติ.

๓๑๐. ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา ยถาสเกน ลาเภน อตฺตมนา อเหสุํ ปริปุณฺณสงฺกปฺปา – ‘‘ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ, ตํ โน ลทฺธ’’นฺติ.

‘‘สตฺตภู พฺรหฺมทตฺโต จ, เวสฺสภู ภรโต สห;

เรณุ ทฺเว ธตรฏฺา จ, ตทาสุํ สตฺต ภารธา’ติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

กิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนํ

๓๑๑. ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ โควินฺโท เรณุสฺส รฺโ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโล. เอวเมว โข ภวํ โควินฺโท อมฺหากมฺปิ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโล, อนุสาสตุ โน ภวํ โควินฺโท; มา โน ภวํ โควินฺโท อนุสาสนิยา ปจฺจพฺยาหาสี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตสํ ฉนฺนํ ขตฺติยานํ ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ สตฺต จ ราชาโน ขตฺติเย มุทฺธาวสิตฺเต รชฺเช [มุทฺธาภิสิตฺเต รชฺเชน (สฺยา.)] อนุสาสิ, สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ มนฺเต วาเจสิ.

๓๑๒. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อปเรน สมเยน เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ [อพฺภุคฺคฺฉิ (สี. ปี.)] – ‘‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’’ติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยฺหํ โข เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. ยํนูนาหํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลีเยยฺยํ, กรุณํ ฌานํ ฌาเยยฺย’’นฺติ.

๓๑๓. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

๓๑๔. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ, ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’’ติ.

๓๑๕. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. เตน หิ, โภ, ยถาสุเต ยถาปริยตฺเต มนฺเต วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรถ, อฺมฺฺจ มนฺเต วาเจถ; อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

๓๑๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภตี, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภตี, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตีติ, อิจฺฉามหํ, โภตี, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’’ติ.

๓๑๗. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ปุรตฺถิเมน นครสฺส นวํ สนฺธาคารํ การาเปตฺวา วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิ, กรุณํ ฌานํ ฌายิ; นาสฺสุธ โกจิ อุปสงฺกมติ [อุปสงฺกมิ (ปี.)] อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรน. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อหุเทว อุกฺกณฺนา อหุ ปริตสฺสนา – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ น พฺรหฺมุนา มนฺเตมี’’’ติ.

พฺรหฺมุนา สากจฺฉา

๓๑๘. ‘‘อถ โข, โภ, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว, พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อหุเทว ภยํ อหุ ฉมฺภิตตฺตํ อหุ โลมหํโส ยถา ตํ อทิฏฺปุพฺพํ รูปํ ทิสฺวา. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘‘วณฺณวา ยสวา สิริมา, โก นุ ตฺวมสิ มาริส;

อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

‘‘มํ เว กุมารํ ชานนฺติ, พฺรหฺมโลเก สนนฺตนํ [สนนฺติจ (ก.)];

สพฺเพ ชานนฺติ มํ เทวา, เอวํ โควินฺท ชานหิ’’.

‘‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, มธุสากฺจ [มธุปากฺจ (สี. สฺยา. ปี.)] พฺรหฺมุโน;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภวํ’’.

‘‘ปฏิคฺคณฺหาม เต อคฺฆํ, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ;

ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปราย สุขาย จ;

กตาวกาโส ปุจฺฉสฺสุ, ยํ กิฺจิ อภิปตฺถิต’’นฺติ.

๓๑๙. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรน. กึ นุ โข อหํ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ ปุจฺเฉยฺยํ ทิฏฺธมฺมิกํ วา อตฺถํ สมฺปรายิกํ วา’ติ? อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘กุสโล โข อหํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อตฺถานํ, อฺเปิ มํ ทิฏฺธมฺมิกํ อตฺถํ ปุจฺฉนฺติ. ยํนูนาหํ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ สมฺปรายิกฺเว อตฺถํ ปุจฺเฉยฺย’นฺติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุจฺฉามิ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ,

กงฺขี อกงฺขึ ปรเวทิเยสุ;

กตฺถฏฺิโต กิมฺหิ จ สิกฺขมาโน,

ปปฺโปติ มจฺโจ อมตํ พฺรหฺมโลก’’นฺติ.

‘‘หิตฺวา มมตฺตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม,

เอโกทิภูโต กรุเณธิมุตฺโต [กรุณาธิมุตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)];

นิรามคนฺโธ วิรโต เมถุนสฺมา,

เอตฺถฏฺิโต เอตฺถ จ สิกฺขมาโน;

ปปฺโปติ มจฺโจ อมตํ พฺรหฺมโลก’’นฺติ.

๓๒๐. ‘‘หิตฺวา มมตฺต’นฺติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, ‘อิติ หิตฺวา มมตฺต’นฺติ อหํ โภโต อาชานามิ. ‘เอโกทิภูโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ, อิติ เอโกทิภูโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. ‘กรุเณธิมุตฺโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ กรุณาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. อิติ ‘กรุเณธิมุตฺโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อามคนฺเธ จ โข อหํ โภโต ภาสมานสฺส น อาชานามิ.

‘‘เก อามคนฺธา มนุเชสุ พฺรหฺเม,

เอเต อวิทฺวา อิธ พฺรูหิ ธีร;

เกนาวฏา [เกนาวุฏา (สฺยา.)] วาติ ปชา กุรุตุ [กุรุรู (สฺยา.), กุรุฏฺรู (ปี.), กุรูรุ (?)],

อาปายิกา นิวุตพฺรหฺมโลกา’’ติ.

‘‘โกโธ โมสวชฺชํ นิกติ จ ทุพฺโภ,

กทริยตา อติมาโน อุสูยา;

อิจฺฉา วิวิจฺฉา ปรเหนา จ,

โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;

เอเตสุ ยุตฺตา อนิรามคนฺธา,

อาปายิกา นิวุตพฺรหฺมโลกา’’ติ.

‘‘ยถา โข อหํ โภโต อามคนฺเธ ภาสมานสฺส อาชานามิ. เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

เรณุราชอามนฺตนา

๓๒๑. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวํ ปุโรหิตํ ปริเยสตุ, โย โภโต รชฺชํ อนุสาสิสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ.

‘‘อามนฺตยามิ ราชานํ, เรณุํ ภูมิปตึ อหํ;

ตฺวํ ปชานสฺสุ รชฺเชน, นาหํ โปโรหิจฺเจ รเม’’.

‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ, อหํ ปริปูรยามิ เต;

โย ตํ หึสติ วาเรมิ, ภูมิเสนาปติ อหํ;

ตุวํ ปิตา อหํ ปุตฺโต, มา โน โควินฺท ปาชหิ’’ [ปาเชหิ (อฏฺกถายํ สํวณฺณิตปานฺตรํ)].

‘‘นมตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;

อมนุสฺสวโจ สุตฺวา, ตสฺมาหํ น คเห รเม’’.

‘‘อมนุสฺโส กถํวณฺโณ, กึ เต อตฺถํ อภาสถ;

ยฺจ สุตฺวา ชหาสิ โน, เคเห อมฺเห จ เกวลี’’.

‘‘อุปวุตฺถสฺส เม ปุพฺเพ, ยิฏฺุกามสฺส เม สโต;

อคฺคิ ปชฺชลิโต อาสิ, กุสปตฺตปริตฺถโต’’.

‘‘ตโต เม พฺรหฺมา ปาตุรหุ, พฺรหฺมโลกา สนนฺตโน;

โส เม ปฺหํ วิยากาสิ, ตํ สุตฺวา น คเห รเม’’.

‘‘สทฺทหามิ อหํ โภโต, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ;

อมนุสฺสวโจ สุตฺวา, กถํ วตฺเตถ อฺถา.

‘‘เต ตํ อนุวตฺติสฺสาม, สตฺถา โควินฺท โน ภวํ;

มณิ ยถา เวฬุริโย, อกาโจ วิมโล สุโภ;

เอวํ สุทฺธา จริสฺสาม, โควินฺทสฺสานุสาสเน’’ติ.

‘‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม. อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

ฉ ขตฺติยอามนฺตนา

๓๒๒. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวนฺโต ปุโรหิตํ ปริเยสนฺตุ, โย ภวนฺตานํ รชฺเช อนุสาสิสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อิเม โข พฺราหฺมณา นาม ธนลุทฺธา; ยํนูน มยํ มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ ธเนน สิกฺเขยฺยามา’’ติ. เต มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘สํวิชฺชติ โข, โภ, อิเมสุ สตฺตสุ รชฺเชสุ ปหูตํ สาปเตยฺยํ, ตโต โภโต ยาวตเกน อตฺโถ, ตาวตกํ อาหรียต’’นฺติ. ‘‘อลํ, โภ, มมปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ภวนฺตานํเยว วาหสา. ตมหํ สพฺพํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อิเม โข พฺราหฺมณา นาม อิตฺถิลุทฺธา; ยํนูน มยํ มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อิตฺถีหิ สิกฺเขยฺยามา’’ติ. เต มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘สํวิชฺชนฺติ โข, โภ, อิเมสุ สตฺตสุ รชฺเชสุ ปหูตา อิตฺถิโย, ตโต โภโต ยาวติกาหิ อตฺโถ, ตาวติกา อานียต’’นฺติ. ‘‘อลํ, โภ, มมปิมา [มมปิตา (ก.), มมปิ (สี.)] จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย. ตาปาหํ สพฺพา ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยนฺติ’’.

๓๒๓. ‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตีติ.

‘‘สเจ ชหถ กามานิ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน;

อารมฺภวฺโห ทฬฺหา โหถ, ขนฺติพลสมาหิตา.

‘‘เอส มคฺโค อุชุมคฺโค, เอส มคฺโค อนุตฺตโร;

สทฺธมฺโม สพฺภิ รกฺขิโต, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยาติ.

‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺต วสฺสานิ อาคเมตุ. สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, สตฺต วสฺสานิ, นาหํ สกฺโกมิ, ภวนฺเต, สตฺต วสฺสานิ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ [มนฺตาย (พหูสุ)] โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท ฉพฺพสฺสานิ อาคเมตุ…เป… ปฺจ วสฺสานิ อาคเมตุ… จตฺตาริ วสฺสานิ อาคเมตุ… ตีณิ วสฺสานิ อาคเมตุ… ทฺเว วสฺสานิ อาคเมตุ… เอกํ วสฺสํ อาคเมตุ, เอกสฺส วสฺสสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, เอกํ วสฺสํ, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต เอกํ วสฺสํ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺต มาสานิ อาคเมตุ, สตฺตนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, สตฺต มาสานิ, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต สตฺต มาสานิ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ. คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ.

‘‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท ฉ มาสานิ อาคเมตุ…เป… ปฺจ มาสานิ อาคเมตุ… จตฺตาริ มาสานิ อาคเมตุ… ตีณิ มาสานิ อาคเมตุ… ทฺเว มาสานิ อาคเมตุ… เอกํ มาสํ อาคเมตุ… อทฺธมาสํ อาคเมตุ, อทฺธมาสสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, อทฺธมาโส, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต อทฺธมาสํ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺตาหํ อาคเมตุ, ยาว มยํ สเก ปุตฺตภาตโร รชฺเชน [รชฺเช (สฺยา.)] อนุสาสิสฺสาม, สตฺตาหสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘น จิรํ โข, โภ, สตฺตาหํ, อาคเมสฺสามหํ ภวนฺเต สตฺตาห’’นฺติ.

พฺราหฺมณมหาสาลาทีนํ อามนฺตนา

๓๒๔. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวนฺโต อาจริยํ ปริเยสนฺตุ, โย ภวนฺตานํ มนฺเต วาเจสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส. เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘มา ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. ปพฺพชฺชา, โภ, อปฺเปสกฺขา จ อปฺปลาภา จ; พฺรหฺมฺํ มเหสกฺขฺจ มหาลาภฺจา’’ติ. ‘‘มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ – ‘‘ปพฺพชฺชา อปฺเปสกฺขา จ อปฺปลาภา จ, พฺรหฺมฺํ มเหสกฺขฺจ มหาลาภฺจา’’ติ. โก นุ โข, โภ, อฺตฺร มยา มเหสกฺขตโร วา มหาลาภตโร วา! อหฺหิ, โภ, เอตรหิ ราชาว รฺํ พฺรหฺมาว พฺราหฺมณานํ [พฺรหฺมานํ (สี. ปี. ก.)] เทวตาว คหปติกานํ. ตมหํ สพฺพํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

ภริยานํ อามนฺตนา

๓๒๕. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เอตทโวจ – ‘‘ยา โภตีนํ อิจฺฉติ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ อฺํ วา ภตฺตารํ ปริเยสตุ. อิจฺฉามหํ, โภตี, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภตี, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘ตฺวฺเว โน าติ าติกามานํ, ตฺวํ ปน ภตฺตา ภตฺตุกามานํ. สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

มหาโควินฺทปพฺพชฺชา

๓๒๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. ปพฺพชิตํ ปน มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ สตฺต จ ราชาโน ขตฺติยา มุทฺธาวสิตฺตา สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ จตฺตารีสา จ ภริยา สาทิสิโย อเนกานิ จ ขตฺติยสหสฺสานิ อเนกานิ จ พฺราหฺมณสหสฺสานิ อเนกานิ จ คหปติสหสฺสานิ อเนเกหิ จ อิตฺถาคาเรหิ อิตฺถิโย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชึสุ. ตาย สุทํ, โภ, ปริสาย ปริวุโต มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ คามนิคมราชธานีสุ จาริกํ จรติ. ยํ โข ปน, โภ, เตน สมเยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ คามํ วา นิคมํ วา อุปสงฺกมติ, ตตฺถ ราชาว โหติ รฺํ, พฺรหฺมาว พฺราหฺมณานํ, เทวตาว คหปติกานํ. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ขิปนฺติ วา อุปกฺขลนฺติ วา เต เอวมาหํสุ – ‘‘นมตฺถุ มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส, นมตฺถุ สตฺต ปุโรหิตสฺสา’’’ติ.

๓๒๗. ‘‘มหาโควินฺโท, โภ, พฺราหฺมโณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา…เป… อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ สาวกานฺจ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสิ.

๓๒๘. ‘‘เย โข ปน, โภ, เตน สมเยน มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส สาวกา สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชึสุ. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺเปกจฺเจ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; เย สพฺพนิหีนํ กายํ ปริปูเรสุํ เต คนฺธพฺพกายํ ปริปูเรสุํ. อิติ โข, โภ [ปน (สฺยา. ก.)], สพฺเพสํเยว เตสํ กุลปุตฺตานํ อโมฆา ปพฺพชฺชา อโหสิ อวฺฌา สผลา สอุทฺรยา’’’ติ.

๓๒๙. ‘‘สรติ ตํ ภควา’’ติ? ‘‘สรามหํ, ปฺจสิข. อหํ เตน สมเยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ อโหสึ. อหํ เตสํ สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสึ. ตํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.

อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. กตมฺจ ตํ, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อิทํ โข ตํ, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ.

๓๓๐. ‘‘เย โข ปน เม, ปฺจสิข, สาวกา สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, เต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ; เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, เต ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา โหนฺติ ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน โหนฺติ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ [กโรนฺติ (สี. ปี.)]. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา โหนฺติ อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา. อิติ โข, ปฺจสิข, สพฺเพสํเยว อิเมสํ กุลปุตฺตานํ อโมฆา ปพฺพชฺชา [ปพฺพชา อโหสิ (ก.)] อวฺฌา สผลา สอุทฺรยา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

มหาโควินฺทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. มหาสมยสุตฺตํ

๓๓๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ; ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อถ โข จตุนฺนํ สุทฺธาวาสกายิกานํ เทวตานํ [เทวานํ (สี. สฺยา. ปี.)] เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ; ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ยํนูน มยมฺปิ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สนฺติเก ปจฺเจกํ คาถํ [ปจฺเจกคาถํ (สี. สฺยา. ปี.), ปจฺเจกคาถา (ก. สี.)] ภาเสยฺยามา’’ติ.

๓๓๒. อถ โข ตา เทวตา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว สุทฺธาวาเสสุ เทเวสุ อนฺตรหิตา ภควโต ปุรโต ปาตุรเหสุํ. อถ โข ตา เทวตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘มหาสมโย ปวนสฺมึ, เทวกายา สมาคตา;

อาคตมฺห อิมํ ธมฺมสมยํ, ทกฺขิตาเย อปราชิตสงฺฆ’’นฺติ.

อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ตตฺร ภิกฺขโว สมาทหํสุ, จิตฺตมตฺตโน อุชุกํ อกํสุ [อุชุกมกํสุ (สี. สฺยา. ปี.)];

สารถีว เนตฺตานิ คเหตฺวา, อินฺทฺริยานิ รกฺขนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ.

อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘เฉตฺวา ขีลํ เฉตฺวา ปลิฆํ, อินฺทขีลํ อูหจฺจ [อุหจฺจ (ก.)] มเนชา;

เต จรนฺติ สุทฺธา วิมลา, จกฺขุมตา สุทนฺตา สุสุนาคา’’ติ.

อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ.

เทวตาสนฺนิปาตา

๓๓๓. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, ทสสุ โลกธาตูสุ เทวตา สนฺนิปติตา โหนฺติ [( ) สี. อิโปตฺถเกสุ นตฺถิ], ตถาคตํ ทสฺสนาย ภิกฺขุสงฺฆฺจ. เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตํปรมาเยว [เอตปรมาเยว (สี. สฺยา. ปี.)] เทวตา สนฺนิปติตา อเหสุํ เสยฺยถาปิ มยฺหํ เอตรหิ. เยปิ เต, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตํปรมาเยว เทวตา สนฺนิปติตา ภวิสฺสนฺติ เสยฺยถาปิ มยฺหํ เอตรหิ. อาจิกฺขิสฺสามิ, ภิกฺขเว, เทวกายานํ นามานิ; กิตฺตยิสฺสามิ, ภิกฺขเว, เทวกายานํ นามานิ; เทเสสฺสามิ, ภิกฺขเว, เทวกายานํ นามานิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ.

๓๓๔. ภควา เอตทโวจ –

‘‘สิโลกมนุกสฺสามิ, ยตฺถ ภุมฺมา ตทสฺสิตา;

เย สิตา คิริคพฺภรํ, ปหิตตฺตา สมาหิตา.

‘‘ปุถูสีหาว สลฺลีนา, โลมหํสาภิสมฺภุโน;

โอทาตมนสา สุทฺธา, วิปฺปสนฺนมนาวิลา’’ [วิปฺปสนฺนามนาวิลา (ปี. ก.)].

ภิยฺโย ปฺจสเต ตฺวา, วเน กาปิลวตฺถเว;

ตโต อามนฺตยี สตฺถา, สาวเก สาสเน รเต.

‘‘เทวกายา อภิกฺกนฺตา, เต วิชานาถ ภิกฺขโว’’;

เต จ อาตปฺปมกรุํ, สุตฺวา พุทฺธสฺส สาสนํ.

เตสํ ปาตุรหุ าณํ, อมนุสฺสานทสฺสนํ;

อปฺเปเก สตมทฺทกฺขุํ, สหสฺสํ อถ สตฺตรึ.

สตํ เอเก สหสฺสานํ, อมนุสฺสานมทฺทสุํ;

อปฺเปเกนนฺตมทฺทกฺขุํ, ทิสา สพฺพา ผุฏา อหุํ.

ตฺจ สพฺพํ อภิฺาย, ววตฺถิตฺวาน [ววกฺขิตฺวาน (สี. สฺยา. ปี.), อเวกฺขิตฺวาน (ฏีกา)] จกฺขุมา;

ตโต อามนฺตยี สตฺถา, สาวเก สาสเน รเต.

‘‘เทวกายา อภิกฺกนฺตา, เต วิชานาถ ภิกฺขโว;

เย โวหํ กิตฺตยิสฺสามิ, คิราหิ อนุปุพฺพโส.

๓๓๕. ‘‘สตฺตสหสฺสา เต ยกฺขา, ภุมฺมา กาปิลวตฺถวา.

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘ฉสหสฺสา เหมวตา, ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุตีมนฺโต [ชุตีมนฺโต (สี. ปี.)], วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘สาตาคิรา ติสหสฺสา, ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘อิจฺเจเต โสฬสสหสฺสา, ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘เวสฺสามิตฺตา ปฺจสตา, ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘กุมฺภีโร ราชคหิโก, เวปุลฺลสฺส นิเวสนํ;

ภิยฺโย นํ สตสหสฺสํ, ยกฺขานํ ปยิรุปาสติ;

กุมฺภีโร ราชคหิโก, โสปาคา สมิตึ วนํ.

๓๓๖. ‘‘ปุริมฺจ ทิสํ ราชา, ธตรฏฺโ ปสาสติ.

คนฺธพฺพานํ อธิปติ, มหาราชา ยสสฺสิโส.

‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, อินฺทนามา มหพฺพลา;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘ทกฺขิณฺจ ทิสํ ราชา, วิรูฬฺโห ตํ ปสาสติ [ตปฺปสาสติ (สฺยา.)];

กุมฺภณฺฑานํ อธิปติ, มหาราชา ยสสฺสิโส.

‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, อินฺทนามา มหพฺพลา;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘ปจฺฉิมฺจ ทิสํ ราชา, วิรูปกฺโข ปสาสติ;

นาคานฺจ อธิปติ, มหาราชา ยสสฺสิโส.

‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, อินฺทนามา มหพฺพลา;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘อุตฺตรฺจ ทิสํ ราชา, กุเวโร ตํ ปสาสติ;

ยกฺขานฺจ อธิปติ, มหาราชา ยสสฺสิโส.

‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, อินฺทนามา มหพฺพลา;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘ปุริมํ ทิสํ ธตรฏฺโ, ทกฺขิเณน วิรูฬฺหโก;

ปจฺฉิเมน วิรูปกฺโข, กุเวโร อุตฺตรํ ทิสํ.

‘‘จตฺตาโร เต มหาราชา, สมนฺตา จตุโร ทิสา;

ททฺทลฺลมานา [ททฺทฬฺหมานา (ก.)] อฏฺํสุ, วเน กาปิลวตฺถเว.

๓๓๗. ‘‘เตสํ มายาวิโน ทาสา, อาคุํ [อาคู (สฺยา.), อาคุ (สี. ปี.) เอวมุปริปิ] วฺจนิกา สา.

มายา กุเฏณฺฑุ วิเฏณฺฑุ [เวเฏณฺฑุ (สี. สฺยา. ปี.)], วิฏุจฺจ [วิฏู จ (สฺยา.)] วิฏุโฏ สห.

‘‘จนฺทโน กามเสฏฺโ จ, กินฺนิฆณฺฑุ [กินฺนุฆณฺฑุ (สี. สฺยา. ปี.)] นิฆณฺฑุ จ;

ปนาโท โอปมฺโ จ, เทวสูโต จ มาตลิ.

‘‘จิตฺตเสโน จ คนฺธพฺโพ, นโฬราชา ชเนสโภ [ชโนสโภ (สฺยา.)];

อาคา ปฺจสิโข เจว, ติมฺพรู สูริยวจฺจสา [สุริยวจฺจสา (สี. ปี.)].

‘‘เอเต จฺเ จ ราชาโน, คนฺธพฺพา สห ราชุภิ;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

๓๓๘. ‘‘อถาคุํ นาคสา นาคา, เวสาลา สหตจฺฉกา.

กมฺพลสฺสตรา อาคุํ, ปายาคา สห าติภิ.

‘‘ยามุนา ธตรฏฺา จ, อาคู นาคา ยสสฺสิโน;

เอราวโณ มหานาโค, โสปาคา สมิตึ วนํ.

‘‘เย นาคราเช สหสา หรนฺติ, ทิพฺพา ทิชา ปกฺขิ วิสุทฺธจกฺขู;

เวหายสา [เวหาสยา (สี. ปี.)] เต วนมชฺฌปตฺตา, จิตฺรา สุปณฺณา อิติ เตส นามํ.

‘‘อภยํ ตทา นาคราชานมาสิ, สุปณฺณโต เขมมกาสิ พุทฺโธ;

สณฺหาหิ วาจาหิ อุปวฺหยนฺตา, นาคา สุปณฺณา สรณมกํสุ พุทฺธํ.

๓๓๙. ‘‘ชิตา วชิรหตฺเถน, สมุทฺทํ อสุราสิตา.

ภาตโร วาสวสฺเสเต, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน.

‘‘กาลกฺจา มหาภิสฺมา [กาลกฺชา มหาภึสา (สี. ปี.)], อสุรา ทานเวฆสา;

เวปจิตฺติ สุจิตฺติ จ, ปหาราโท นมุจี สห.

‘‘สตฺจ พลิปุตฺตานํ, สพฺเพ เวโรจนามกา;

สนฺนยฺหิตฺวา พลิเสนํ [พลีเสนํ (สฺยา.)], ราหุภทฺทมุปาคมุํ;

สมโยทานิ ภทฺทนฺเต, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

๓๔๐. ‘‘อาโป จ เทวา ปถวี, เตโช วาโย ตทาคมุํ.

วรุณา วารณา [วารุณา (สฺยา.)] เทวา, โสโม จ ยสสา สห.

‘‘เมตฺตา กรุณา กายิกา, อาคุํ เทวา ยสสฺสิโน;

ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน.

‘‘อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘เวณฺฑุเทวา สหลิ จ [เวณฺหูจ เทวา สหลีจ (สี. ปี.)], อสมา จ ทุเว ยมา;

จนฺทสฺสูปนิสา เทวา, จนฺทมาคุํ ปุรกฺขตฺวา.

‘‘สูริยสฺสูปนิสา [สุริยสฺสูปนิสา (สี. สฺยา. ปี.)] เทวา, สูริยมาคุํ ปุรกฺขตฺวา;

นกฺขตฺตานิ ปุรกฺขตฺวา, อาคุํ มนฺทวลาหกา.

‘‘วสูนํ วาสโว เสฏฺโ, สกฺโกปาคา ปุรินฺทโท;

ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน.

‘‘อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘อถาคุํ สหภู เทวา, ชลมคฺคิสิขาริว;

อริฏฺกา จ โรชา จ, อุมาปุปฺผนิภาสิโน.

‘‘วรุณา สหธมฺมา จ, อจฺจุตา จ อเนชกา;

สูเลยฺยรุจิรา อาคุํ, อาคุํ วาสวเนสิโน;

ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน.

‘‘อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘สมานา มหาสมนา, มานุสา มานุสุตฺตมา;

ขิฑฺฑาปโทสิกา อาคุํ, อาคุํ มโนปโทสิกา.

‘‘อถาคุํ หรโย เทวา, เย จ โลหิตวาสิโน;

ปารคา มหาปารคา, อาคุํ เทวา ยสสฺสิโน;

ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน.

‘‘อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘สุกฺกา กรมฺภา [กรุมฺหา (สี. สฺยา. ปี.)] อรุณา, อาคุํ เวฆนสา สห;

โอทาตคยฺหา ปาโมกฺขา, อาคุํ เทวา วิจกฺขณา.

‘‘สทามตฺตา หารคชา, มิสฺสกา จ ยสสฺสิโน;

ถนยํ อาค ปชฺชุนฺโน, โย ทิสา อภิวสฺสติ.

‘‘ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘เขมิยา ตุสิตา ยามา, กฏฺกา จ ยสสฺสิโน;

ลมฺพีตกา ลามเสฏฺา, โชตินามา จ อาสวา;

นิมฺมานรติโน อาคุํ, อถาคุํ ปรนิมฺมิตา.

‘‘ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน;

อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต, วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน;

โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ.

‘‘สฏฺเเต เทวนิกายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน;

นามนฺวเยน อาคจฺฉุํ [อาคฺฉุํ (สี. สฺยา. ปี.)], เย จฺเ สทิสา สห.

‘‘‘ปวุฏฺชาติมขิลํ [ปวุตฺถชาตึ อขิลํ (สี. ปี.)], โอฆติณฺณมนาสวํ;

ทกฺเขโมฆตรํ นาคํ, จนฺทํว อสิตาติคํ’.

๓๔๑. ‘‘สุพฺรหฺมา ปรมตฺโต จ [ปรมตฺโถ จ (ก.)], ปุตฺตา อิทฺธิมโต สห.

สนงฺกุมาโร ติสฺโส จ, โสปาค สมิตึ วนํ.

‘‘สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํ, มหาพฺรหฺมาภิติฏฺติ;

อุปปนฺโน ชุติมนฺโต, ภิสฺมากาโย ยสสฺสิโส.

‘‘ทเสตฺถ อิสฺสรา อาคุํ, ปจฺเจกวสวตฺติโน;

เตสฺจ มชฺฌโต อาค, หาริโต ปริวาริโต.

๓๔๒. ‘‘เต จ สพฺเพ อภิกฺกนฺเต, สอินฺเท [สินฺเท (สฺยา.)] เทเว สพฺรหฺมเก.

มารเสนา อภิกฺกามิ, ปสฺส กณฺหสฺส มนฺทิยํ.

‘‘‘เอถ คณฺหถ พนฺธถ, ราเคน พทฺธมตฺถุ โว;

สมนฺตา ปริวาเรถ, มา โว มุฺจิตฺถ โกจิ นํ’.

‘‘อิติ ตตฺถ มหาเสโน, กณฺโห เสนํ อเปสยิ;

ปาณินา ตลมาหจฺจ, สรํ กตฺวาน เภรวํ.

‘‘ยถา ปาวุสฺสโก เมโฆ, ถนยนฺโต สวิชฺชุโก; +

ตทา โส ปจฺจุทาวตฺติ, สงฺกุทฺโธ อสยํวเส [อสยํวสี (สี. ปี.)].

๓๔๓. ตฺจ สพฺพํ อภิฺาย, ววตฺถิตฺวาน จกฺขุมา.

ตโต อามนฺตยี สตฺถา, สาวเก สาสเน รเต.

‘‘มารเสนา อภิกฺกนฺตา, เต วิชานาถ ภิกฺขโว;

เต จ อาตปฺปมกรุํ, สุตฺวา พุทฺธสฺส สาสนํ;

วีตราเคหิ ปกฺกามุํ, เนสํ โลมาปิ อิฺชยุํ.

‘‘‘สพฺเพ วิชิตสงฺคามา, ภยาตีตา ยสสฺสิโน;

โมทนฺติ สห ภูเตหิ, สาวกา เต ชเนสุตา’’ติ.

มหาสมยสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. สกฺกปฺหสุตฺตํ

๓๔๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ, ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. เตน โข ปน สมเยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อุสฺสุกฺกํ อุทปาทิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ มคเธสุ วิหรนฺตํ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ทิสฺวาน เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, มาริสา, ภควา มคเธสุ วิหรติ, ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ยทิ ปน, มาริสา, มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข เทวา ตาวตึสา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ.

๓๔๕. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ [คนฺธพฺพปุตฺตํ (สฺยา.)] อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, ตาต ปฺจสิข, ภควา มคเธสุ วิหรติ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ยทิ ปน, ตาต ปฺจสิข, มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อนุจริยํ อุปาคมิ.

๓๔๖. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เทเวหิ ตาวตึเสหิ ปริวุโต ปฺจสิเขน คนฺธพฺพเทวปุตฺเตน ปุรกฺขโต เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต มคเธสุ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต ปจฺจุฏฺาสิ. เตน โข ปน สมเยน เวทิยโก ปพฺพโต อติริว โอภาสชาโต โหติ อมฺพสณฺฑา จ พฺราหฺมณคาโม ยถา ตํ เทวานํ เทวานุภาเวน. อปิสฺสุทํ ปริโต คาเมสุ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘‘อาทิตฺตสฺสุ นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต ฌายติสุ [ฌายตสฺสุ (สฺยา.), ปชฺฌายิตสฺสุ (สี. ปี.)] นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต ชลติสุ [ชลตสฺสุ (สฺยา.), ชลิตสฺสุ (สี. ปี.)] นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต กึสุ นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต อติริว โอภาสชาโต อมฺพสณฺฑา จ พฺราหฺมณคาโม’’ติ สํวิคฺคา โลมหฏฺชาตา อเหสุํ.

๓๔๗. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ทุรุปสงฺกมา โข, ตาต ปฺจสิข, ตถาคตา มาทิเสน, ฌายี ฌานรตา, ตทนฺตรํ [ตทนนฺตรํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] ปฏิสลฺลีนา. ยทิ ปน ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ภควนฺตํ ปมํ ปสาเทยฺยาสิ, ตยา, ตาต, ปมํ ปสาทิตํ ปจฺฉา มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย เยน อินฺทสาลคุหา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เอตฺตาวตา เม ภควา เนว อติทูเร ภวิสฺสติ นาจฺจาสนฺเน, สทฺทฺจ เม โสสฺสตี’’ติ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ปฺจสิขคีตคาถา

๓๔๘. เอกมนฺตํ ิโต โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต เพลุวปณฺฑุวีณํ [เวฬุวปณฺฑุวีณํ อาทาย (สฺยา.)] อสฺสาเวสิ, อิมา จ คาถา อภาสิ พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา –

‘‘วนฺเท เต ปิตรํ ภทฺเท, ติมฺพรุํ สูริยวจฺฉเส;

เยน ชาตาสิ กลฺยาณี, อานนฺทชนนี มม.

‘‘วาโตว เสทตํ กนฺโต, ปานียํว ปิปาสโต;

องฺคีรสิ ปิยาเมสิ, ธมฺโม อรหตามิว.

‘‘อาตุรสฺเสว เภสชฺชํ, โภชนํว ชิฆจฺฉโต;

ปรินิพฺพาปย มํ ภทฺเท, ชลนฺตมิว วารินา.

‘‘สีโตทกํ โปกฺขรณึ, ยุตฺตํ กิฺชกฺขเรณุนา;

นาโค ฆมฺมาภิตตฺโตว, โอคาเห เต ถนูทรํ.

‘‘อจฺจงฺกุโสว นาโคว, ชิตํ เม ตุตฺตโตมรํ;

การณํ นปฺปชานามิ, สมฺมตฺโต ลกฺขณูรุยา.

‘‘ตยิ เคธิตจิตฺโตสฺมิ, จิตฺตํ วิปริณามิตํ;

ปฏิคนฺตุํ น สกฺโกมิ, วงฺกฆสฺโตว อมฺพุโช.

‘‘วามูรุ สช มํ ภทฺเท, สช มํ มนฺทโลจเน;

ปลิสฺสช มํ กลฺยาณิ, เอตํ เม อภิปตฺถิตํ.

‘‘อปฺปโก วต เม สนฺโต, กาโม เวลฺลิตเกสิยา;

อเนกภาโว สมุปฺปาทิ, อรหนฺเตว ทกฺขิณา.

‘‘ยํ เม อตฺถิ กตํ ปุฺํ, อรหนฺเตสุ ตาทิสุ;

ตํ เม สพฺพงฺคกลฺยาณิ, ตยา สทฺธึ วิปจฺจตํ.

‘‘ยํ เม อตฺถิ กตํ ปุฺํ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

ตํ เม สพฺพงฺคกลฺยาณิ, ตยา สทฺธึ วิปจฺจตํ.

‘‘สกฺยปุตฺโตว ฌาเนน, เอโกทิ นิปโก สโต;

อมตํ มุนิ ชิคีสาโน [ชิคึสาโน (สี. สฺยา. ปี.)], ตมหํ สูริยวจฺฉเส.

‘‘ยถาปิ มุนิ นนฺเทยฺย, ปตฺวา สมฺโพธิมุตฺตมํ;

เอวํ นนฺเทยฺยํ กลฺยาณิ, มิสฺสีภาวํ คโต ตยา.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

ตาหํ ภทฺเท วเรยฺยาเห, เอวํ กาโม ทฬฺโห มม.

‘‘สาลํว น จิรํ ผุลฺลํ, ปิตรํ เต สุเมธเส;

วนฺทมาโน นมสฺสามิ, ยสฺสา เสตาทิสี ปชา’’ติ.

๓๔๙. เอวํ วุตฺเต ภควา ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สํสนฺทติ โข เต, ปฺจสิข, ตนฺติสฺสโร คีตสฺสเรน, คีตสฺสโร จ ตนฺติสฺสเรน; น จ ปน [เนว ปน (สฺยา.)] เต ปฺจสิข, ตนฺติสฺสโร คีตสฺสรํ อติวตฺตติ, คีตสฺสโร จ ตนฺติสฺสรํ. กทา สํยูฬฺหา ปน เต, ปฺจสิข, อิมา คาถา พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา’’ติ? ‘‘เอกมิทํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปนาหํ, ภนฺเต, สมเยน ภทฺทา นาม สูริยวจฺฉสา ติมฺพรุโน คนฺธพฺพรฺโ ธีตา, ตมภิกงฺขามิ. สา โข ปน, ภนฺเต, ภคินี ปรกามินี โหติ; สิขณฺฑี นาม มาตลิสฺส สงฺคาหกสฺส ปุตฺโต, ตมภิกงฺขติ. ยโต โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ภคินึ นาลตฺถํ เกนจิ ปริยาเยน. อถาหํ เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย เยน ติมฺพรุโน คนฺธพฺพรฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อสฺสาเวสึ, อิมา จ คาถา อภาสึ พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา –

‘‘วนฺเท เต ปิตรํ ภทฺเท, ติมฺพรุํ สูริยวจฺฉเส;

เยน ชาตาสิ กลฺยาณี, อานนฺทชนนี มม. …เป…

สาลํว น จิรํ ผุลฺลํ, ปิตรํ เต สุเมธเส;

วนฺทมาโน นมสฺสามิ, ยสฺสา เสตาทิสี ปชา’’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, ภทฺทา สูริยวจฺฉสา มํ เอตทโวจ – ‘น โข เม, มาริส, โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ สุธมฺมายํ สภายํ อุปนจฺจนฺติยา. ยโต โข ตฺวํ, มาริส, ตํ ภควนฺตํ กิตฺเตสิ, โหตุ โน อชฺช สมาคโม’ติ. โสเยว โน, ภนฺเต, ตสฺสา ภคินิยา สทฺธึ สมาคโม อโหสิ. น จ ทานิ ตโต ปจฺฉา’’ติ.

สกฺกูปสงฺกม

๓๕๐. อถ โข สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปฏิสมฺโมทติ ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต ภควตา, ภควา จ ปฺจสิเขนา’’ติ. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘อภิวาเทหิ เม ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ภควนฺตํ – ‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ’’. ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทติ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. ‘‘เอวํ สุขี โหตุ, ปฺจสิข, สกฺโก เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน; สุขกามา หิ เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา’’ติ.

๓๕๑. เอวฺจ ปน ตถาคตา เอวรูเป มเหสกฺเข ยกฺเข อภิวทนฺติ. อภิวทิโต สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เทวาปิ ตาวตึสา อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. ปฺจสิโขปิ คนฺธพฺพเทวปุตฺโต อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

เตน โข ปน สมเยน อินฺทสาลคุหา วิสมา สนฺตี สมา สมปาทิ, สมฺพาธา สนฺตี อุรุนฺทา [อุรุทฺทา (ก.)] สมปาทิ, อนฺธกาโร คุหายํ อนฺตรธายิ, อาโลโก อุทปาทิ ยถา ตํ เทวานํ เทวานุภาเวน.

๓๕๒. อถ โข ภควา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยมิทํ อายสฺมโต โกสิยสฺส, อพฺภุตมิทํ อายสฺมโต โกสิยสฺส ตาว พหุกิจฺจสฺส พหุกรณียสฺส ยทิทํ อิธาคมน’’นฺติ. ‘‘จิรปฏิกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม; อปิ จ เทวานํ ตาวตึสานํ เกหิจิ เกหิจิ [เกหิจิ (สฺยา.)] กิจฺจกรณีเยหิ พฺยาวโฏ; เอวาหํ นาสกฺขึ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. เอกมิทํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ สลฬาคารเก. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, สาวตฺถึ อคมาสึ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน ภควา อฺตเรน สมาธินา นิสินฺโน โหติ, ภูชติ [ภุฺชตี จ (สี. ปี.), ภุชคี (สฺยา.)] จ นาม เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส ปริจาริกา ภควนฺตํ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, ปฺชลิกา นมสฺสมานา ติฏฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, ภูชตึ เอตทโวจํ – ‘อภิวาเทหิ เม ตฺวํ, ภคินิ, ภควนฺตํ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, สา ภูชติ มํ เอตทโวจ – ‘อกาโล โข, มาริส, ภควนฺตํ ทสฺสนาย; ปฏิสลฺลีโน ภควา’ติ. ‘เตน หี, ภคินิ, ยทา ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโต โหติ, อถ มม วจเนน ภควนฺตํ อภิวาเทหิ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. กจฺจิ เม สา, ภนฺเต, ภคินี ภควนฺตํ อภิวาเทสิ? สรติ ภควา ตสฺสา ภคินิยา วจน’’นฺติ? ‘‘อภิวาเทสิ มํ สา, เทวานมินฺท, ภคินี, สรามหํ ตสฺสา ภคินิยา วจนํ. อปิ จาหํ อายสฺมโต เนมิสทฺเทน [จกฺกเนมิสทฺเทน (สฺยา.)] ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโต’’ติ. ‘‘เย เต, ภนฺเต, เทวา อมฺเหหิ ปมตรํ ตาวตึสกายํ อุปปนฺนา, เตสํ เม สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, ทิพฺพา กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’ติ. ตํ เม อิทํ, ภนฺเต, สกฺขิทิฏฺํ ยโต ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ทิพฺพา กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายาติ.

โคปกวตฺถุ

๓๕๓. ‘‘อิเธว, ภนฺเต, กปิลวตฺถุสฺมึ โคปิกา นาม สกฺยธีตา อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการินี. สา อิตฺถิตฺตํ [อิตฺถิจิตฺตํ (สฺยา.)] วิราเชตฺวา ปุริสตฺตํ [ปุริสจิตฺตํ (สฺยา.)] ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา. เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ อมฺหากํ ปุตฺตตฺตํ อชฺฌุปคตา. ตตฺรปิ นํ เอวํ ชานนฺติ – ‘โคปโก เทวปุตฺโต, โคปโก เทวปุตฺโต’ติ. อฺเปิ, ภนฺเต, ตโย ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺนา. เต ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจารยมานา อมฺหากํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ อมฺหากํ ปาริจริยํ. เต อมฺหากํ อุปฏฺานํ อาคเต อมฺหากํ ปาริจริยํ โคปโก เทวปุตฺโต ปฏิโจเทสิ – ‘กุโตมุขา นาม ตุมฺเห, มาริสา, ตสฺส ภควโต ธมฺมํ อสฺสุตฺถ [อายุหิตฺถ (สฺยา.)] – อหฺหิ นาม อิตฺถิกา สมานา พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการินี อิตฺถิตฺตํ วิราเชตฺวา ปุริสตฺตํ ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา, เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปุตฺตตฺตํ อชฺฌุปคตา. อิธาปิ มํ เอวํ ชานนฺติ ‘‘โคปโก เทวปุตฺโต โคปโก เทวปุตฺโต’ติ. ตุมฺเห ปน, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺนา. ทุทฺทิฏฺรูปํ วต, โภ, อทฺทสาม, เย มยํ อทฺทสาม สหธมฺมิเก หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺเน’ติ. เตสํ, ภนฺเต, โคปเกน เทวปุตฺเตน ปฏิโจทิตานํ ทฺเว เทวา ทิฏฺเว ธมฺเม สตึ ปฏิลภึสุ กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ, เอโก ปน เทโว กาเม อชฺฌาวสิ.

๓๕๔. ‘‘‘อุปาสิกา จกฺขุมโต อโหสึ,

นามมฺปิ มยฺหํ อหุ ‘โคปิกา’ติ;

พุทฺเธ จ ธมฺเม จ อภิปฺปสนฺนา,

สงฺฆฺจุปฏฺาสึ ปสนฺนจิตฺตา.

‘‘‘ตสฺเสว พุทฺธสฺส สุธมฺมตาย,

สกฺกสฺส ปุตฺโตมฺหิ มหานุภาโว;

มหาชุตีโก ติทิวูปปนฺโน,

ชานนฺติ มํ อิธาปิ ‘โคปโก’ติ.

‘‘‘อถทฺทสํ ภิกฺขโว ทิฏฺปุพฺเพ,

คนฺธพฺพกายูปคเต วสีเน;

อิเมหิ เต โคตมสาวกาเส,

เย จ มยํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูตา.

‘‘‘อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหิมฺหา,

ปาทูปสงฺคยฺห สเก นิเวสเน;

กุโตมุขา นาม อิเม ภวนฺโต,

พุทฺธสฺส ธมฺมานิ ปฏิคฺคเหสุํ [พุทฺธสฺส ธมฺมํ น ปฏิคฺคเหสุํ (สฺยา.)].

‘‘‘ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ หิ ธมฺโม,

สุเทสิโต จกฺขุมตานุพุทฺโธ;

อหฺหิ ตุมฺเหว อุปาสมาโน,

สุตฺวาน อริยาน สุภาสิตานิ.

‘‘‘สกฺกสฺส ปุตฺโตมฺหิ มหานุภาโว,

มหาชุตีโก ติทิวูปปนฺโน;

ตุมฺเห ปน เสฏฺมุปาสมานา,

อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา.

‘‘‘หีนํ กายํ อุปปนฺนา ภวนฺโต,

อนานุโลมา ภวตูปปตฺติ;

ทุทฺทิฏฺรูปํ วต อทฺทสาม,

สหธมฺมิเก หีนกายูปปนฺเน.

‘‘‘คนฺธพฺพกายูปคตา ภวนฺโต,

เทวานมาคจฺฉถ ปาริจริยํ;

อคาเร วสโต มยฺหํ,

อิมํ ปสฺส วิเสสตํ.

‘‘‘อิตฺถี หุตฺวา สฺวชฺช ปุโมมฺหิ เทโว,

ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต’;

เต โจทิตา โคตมสาวเกน,

สํเวคมาปาทุ สเมจฺจ โคปกํ.

‘‘‘หนฺท วิยายาม [วิคายาม (สฺยา.), วิตายาม (ปี.)] พฺยายาม [วิยายมาม (สี. ปี.)],

มา โน มยํ ปรเปสฺสา อหุมฺหา’;

เตสํ ทุเว วีริยมารภึสุ,

อนุสฺสรํ โคตมสาสนานิ.

‘‘อิเธว จิตฺตานิ วิราชยิตฺวา,

กาเมสุ อาทีนวมทฺทสํสุ;

เต กามสํโยชนพนฺธนานิ,

ปาปิมโยคานิ ทุรจฺจยานิ.

‘‘นาโคว สนฺนานิ คุณานิ [สนฺทานคุณานิ (สี. ปี.), สนฺตานิ คุณานิ (สฺยา.)] เฉตฺวา,

เทเว ตาวตึเส อติกฺกมึสุ;

สอินฺทา เทวา สปชาปติกา,

สพฺเพ สุธมฺมาย สภายุปวิฏฺา.

‘‘เตสํ นิสินฺนานํ อภิกฺกมึสุ,

วีรา วิราคา วิรชํ กโรนฺตา;

เต ทิสฺวา สํเวคมกาสิ วาสโว,

เทวาภิภู เทวคณสฺส มชฺเฌ.

‘‘‘อิเมหิ เต หีนกายูปปนฺนา,

เทเว ตาวตึเส อภิกฺกมนฺติ’;

สํเวคชาตสฺส วโจ นิสมฺม,

โส โคปโก วาสวมชฺฌภาสิ.

‘‘‘พุทฺโธ ชนินฺทตฺถิ มนุสฺสโลเก,

กามาภิภู สกฺยมุนีติ ายติ;

ตสฺเสว เต ปุตฺตา สติยา วิหีนา,

โจทิตา มยา เต สติมชฺฌลตฺถุํ.

‘‘‘ติณฺณํ เตสํ อาวสิเนตฺถ [อวสีเนตฺถ (ปี.)] เอโก,

คนฺธพฺพกายูปคโต วสีโน;

ทฺเว จ สมฺโพธิปถานุสาริโน,

เทเวปิ หีเฬนฺติ สมาหิตตฺตา.

‘‘‘เอตาทิสี ธมฺมปฺปกาสเนตฺถ,

น ตตฺถ กึกงฺขติ โกจิ สาวโก;

นิติณฺณโอฆํ วิจิกิจฺฉฉินฺนํ,

พุทฺธํ นมสฺสาม ชินํ ชนินฺทํ’.

‘‘ยํ เต ธมฺมํ อิธฺาย,

วิเสสํ อชฺฌคํสุ [อชฺฌคมํสุ (สฺยา.)] เต;

กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ,

ทุเว เตสํ วิเสสคู.

‘‘ตสฺส ธมฺมสฺส ปตฺติยา,

อาคตมฺหาสิ มาริส;

กตาวกาสา ภควตา,

ปฺหํ ปุจฺเฉมุ มาริสา’’ติ.

๓๕๕. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ทีฆรตฺตํ วิสุทฺโธ โข อยํ ยกฺโข [สกฺโก (สี. สฺยา. ปี.)], ยํ กิฺจิ มํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อตฺถสฺหิตํเยว ปุจฺฉิสฺสติ, โน อนตฺถสฺหิตํ. ยฺจสฺสาหํ ปุฏฺโ พฺยากริสฺสามิ, ตํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ.

๓๕๖. อถ โข ภควา สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

๓๕๗. กตาวกาโส สกฺโก เทวานมินฺโท ภควตา อิมํ ภควนฺตํ [เทวานมินฺโท ภควนฺตํ อิมํ (สี. ปี.)] ปมํ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กึ สํโยชนา นุ โข, มาริส, เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา, เต – ‘อเวรา อทณฺฑา อสปตฺตา อพฺยาปชฺชา วิหเรมุ อเวริโน’ติ อิติ จ เนสํ โหติ, อถ จ ปน สเวรา สทณฺฑา สสปตฺตา สพฺยาปชฺชา วิหรนฺติ สเวริโน’’ติ? อิตฺถํ สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ ปฺหํ [อิมํ ปมํ ปฺหํ (สี. ปี.)] อปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ –

‘‘อิสฺสามจฺฉริยสํโยชนา โข, เทวานมินฺท, เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา, เต – ‘อเวรา อทณฺฑา อสปตฺตา อพฺยาปชฺชา วิหเรมุ อเวริโน’ติ อิติ จ เนสํ โหติ, อถ จ ปน สเวรา สทณฺฑา สสปตฺตา สพฺยาปชฺชา วิหรนฺติ สเวริโน’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๕๘. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘อิสฺสามจฺฉริยํ ปน, มาริส, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ; กิสฺมึ สติ อิสฺสามจฺฉริยํ โหติ; กิสฺมึ อสติ อิสฺสามจฺฉริยํ น โหตี’’ติ? ‘‘อิสฺสามจฺฉริยํ โข, เทวานมินฺท, ปิยาปฺปิยนิทานํ ปิยาปฺปิยสมุทยํ ปิยาปฺปิยชาติกํ ปิยาปฺปิยปภวํ; ปิยาปฺปิเย สติ อิสฺสามจฺฉริยํ โหติ, ปิยาปฺปิเย อสติ อิสฺสามจฺฉริยํ น โหตี’’ติ.

‘‘ปิยาปฺปิยํ โข ปน, มาริส, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ; กิสฺมึ สติ ปิยาปฺปิยํ โหติ; กิสฺมึ อสติ ปิยาปฺปิยํ น โหตี’’ติ? ‘‘ปิยาปฺปิยํ โข, เทวานมินฺท, ฉนฺทนิทานํ ฉนฺทสมุทยํ ฉนฺทชาติกํ ฉนฺทปภวํ; ฉนฺเท สติ ปิยาปฺปิยํ โหติ; ฉนฺเท อสติ ปิยาปฺปิยํ น โหตี’’ติ.

‘‘ฉนฺโท โข ปน, มาริส, กึนิทาโน กึสมุทโย กึชาติโก กึปภโว; กิสฺมึ สติ ฉนฺโท โหติ; กิสฺมึ อสติ ฉนฺโท น โหตี’’ติ? ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน วิตกฺกสมุทโย วิตกฺกชาติโก วิตกฺกปภโว; วิตกฺเก สติ ฉนฺโท โหติ; วิตกฺเก อสติ ฉนฺโท น โหตี’’ติ.

‘‘วิตกฺโก โข ปน, มาริส, กึนิทาโน กึสมุทโย กึชาติโก กึปภโว; กิสฺมึ สติ วิตกฺโก โหติ; กิสฺมึ อสติ วิตกฺโก น โหตี’’ติ? ‘‘วิตกฺโก โข, เทวานมินฺท, ปปฺจสฺาสงฺขานิทาโน ปปฺจสฺาสงฺขาสมุทโย ปปฺจสฺาสงฺขาชาติโก ปปฺจสฺาสงฺขาปภโว; ปปฺจสฺาสงฺขาย สติ วิตกฺโก โหติ; ปปฺจสฺาสงฺขาย อสติ วิตกฺโก น โหตี’’ติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินึ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ?

เวทนากมฺมฏฺานํ

๓๕๙. ‘‘โสมนสฺสํปาหํ [ปหํ (สี. ปี.), จาหํ (สฺยา. กํ.)], เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ.

๓๖๐. ‘‘โสมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา โสมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โสมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ โสมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา โสมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โสมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ โสมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต [เส (สี. ปี.)] ปณีตตเร. โสมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๑. ‘‘โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา โทมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โทมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ โทมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา โทมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โทมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ โทมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเร. โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๒. ‘‘อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา อุเปกฺขํ ‘อิมํ โข เม อุเปกฺขํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปา อุเปกฺขา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชฺา อุเปกฺขํ ‘อิมํ โข เม อุเปกฺขํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปา อุเปกฺขา เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเร. อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๓. ‘‘เอวํ ปฏิปนฺโน โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินึ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต, ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

ปาติโมกฺขสํวโร

๓๖๔. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ? ‘‘กายสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. วจีสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ปริเยสนํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพ’’มฺปิ.

‘‘กายสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา กายสมาจารํ ‘อิมํ โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา กายสมาจารํ ‘อิมํ โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ. กายสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘วจีสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา วจีสมาจารํ ‘อิมํ โข เม วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป วจีสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา วจีสมาจารํ ‘อิมํ โข เม วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป วจีสมาจาโร เสวิตพฺโพ. วจีสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘ปริเยสนํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปริเยสนํ ‘อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปา ปริเยสนา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชฺา ปริเยสนํ ‘อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปา ปริเยสนา เสวิตพฺพา. ปริเยสนํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘เอวํ ปฏิปนฺโน โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

อินฺทฺริยสํวโร

๓๖๕. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ อินฺทฺริยสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ? ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ฆานวิฺเยฺยํ คนฺธํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ชิวฺหาวิฺเยฺยํ รสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สงฺขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. ยถารูปํ, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ น เสวิตพฺพํ. ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวิตพฺพํ. ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํ เสวโต…เป… ฆานวิฺเยฺยํ คนฺธํ เสวโต… ชิวฺหาวิฺเยฺยํ รสํ เสวโต… กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํ เสวโต… มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม น เสวิตพฺโพ. ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม เสวิตพฺโพ.

‘‘อิมสฺส โข เม, ภนฺเต, ภควตา สงฺขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานโต ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๖๖. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ? ‘‘น โข, เทวานมินฺท, สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ.

‘‘กสฺมา ปน, มาริส, น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ? ‘‘อเนกธาตุ นานาธาตุ โข, เทวานมินฺท, โลโก. ตสฺมึ อเนกธาตุนานาธาตุสฺมึ โลเก ยํ ยเทว สตฺตา ธาตุํ อภินิวิสนฺติ, ตํ ตเทว ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตสฺมา น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ.

‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ? ‘‘น โข, เทวานมินฺท, สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ.

‘‘กสฺมา ปน, มาริส, น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ? ‘‘เย โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขู ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตา เต อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา. ตสฺมา น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ.

อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๖๗. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘เอชา, ภนฺเต, โรโค, เอชา คณฺโฑ, เอชา สลฺลํ, เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. ตสฺมา อยํ ปุริโส อุจฺจาวจมาปชฺชติ. เยสาหํ, ภนฺเต, ปฺหานํ อิโต พหิทฺธา อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โอกาสกมฺมมฺปิ นาลตฺถํ, เต เม ภควตา พฺยากตา. ทีฆรตฺตานุสยิตฺจ ปน [ทีฆรตฺตานุปสฺสตา, ยฺจ ปน (สฺยา.), ทีฆรตฺตานุสยิโน, ยฺจ ปน (สี. ปี.)] เม วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ, ตฺจ ภควตา อพฺพุฬฺห’’นฺติ.

‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อิเม ปฺเห อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ? ‘‘อภิชานามหํ, ภนฺเต, อิเม ปฺเห อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน เต, เทวานมินฺท, พฺยากํสุ? สเจ เต อครุ ภาสสฺสู’’ติ. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ครุ ยตฺถสฺส ภควา นิสินฺโน ภควนฺตรูโป วา’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทวานมินฺท, ภาสสฺสู’’ติ. ‘‘เยสฺวาหํ [เยสาหํ (สี. สฺยา. ปี.)], ภนฺเต, มฺามิ สมณพฺราหฺมณา อารฺิกา ปนฺตเสนาสนาติ, ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺฉามิ, เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมํเยว ปฏิปุจฺฉนฺติ – ‘โก นาโม อายสฺมา’ติ? เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ – ‘อหํ โข, มาริส, สกฺโก เทวานมินฺโท’ติ. เต มมํเยว อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉนฺติ – ‘กึ ปนายสฺมา, เทวานมินฺท [เทวานมินฺโท (สี. ปี.)], กมฺมํ กตฺวา อิมํ านํ ปตฺโต’ติ? เตสาหํ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสมิ. เต ตาวตเกเนว อตฺตมนา โหนฺติ – ‘สกฺโก จ โน เทวานมินฺโท ทิฏฺโ, ยฺจ โน อปุจฺฉิมฺหา, ตฺจ โน พฺยากาสี’ติ. เต อฺทตฺถุ มมํเยว สาวกา สมฺปชฺชนฺติ, น จาหํ เตสํ. อหํ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต สาวโก โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

โสมนสฺสปฏิลาภกถา

๓๖๘. ‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ? ‘‘อภิชานามหํ, ภนฺเต, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อภิชานาสิ อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ?

‘‘ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห [สมูปพฺพุฬฺโห (สี. ปี.)] อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต, สงฺคาเม เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ [ปราชึสุ (สี. ปี.)]. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคามสฺส เอตทโหสิ – ‘ยา เจว ทานิ ทิพฺพา โอชา ยา จ อสุรา โอชา, อุภยเมตํ [อุภยเมตฺถ (สฺยา.)] เทวา ปริภุฺชิสฺสนฺตี’ติ. โส โข ปน เม, ภนฺเต, เวทปฏิลาโภ โสมนสฺสปฏิลาโภ สทณฺฑาวจโร สสตฺถาวจโร น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย โข ปน เม อยํ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เวทปฏิลาโภ โสมนสฺสปฏิลาโภ, โส อทณฺฑาวจโร อสตฺถาวจโร เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ.

๓๖๙. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทสี’’ติ? ‘‘ฉ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;

ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริส.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ปมํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘จุตาหํ ทิวิยา กายา, อายุํ หิตฺวา อมานุสํ;

อมูฬฺโห คพฺภเมสฺสามิ, ยตฺถ เม รมตี มโน.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ทุติยํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘สฺวาหํ อมูฬฺหปฺสฺส [อมูฬฺหปฺหสฺส (?)], วิหรํ สาสเน รโต;

าเยน วิหริสฺสามิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ตติยํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘าเยน เม จรโต จ, สมฺโพธิ เจ ภวิสฺสติ;

อฺาตา วิหริสฺสามิ, สฺเวว อนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, จตุตฺถํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘จุตาหํ มานุสา กายา, อายุํ หิตฺวาน มานุสํ;

ปุน เทโว ภวิสฺสามิ, เทวโลกมฺหิ อุตฺตโม.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ปฺจมํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘เต [เย (?)] ปณีตตรา เทวา, อกนิฏฺา ยสสฺสิโน;

อนฺติเม วตฺตมานมฺหิ, โส นิวาโส ภวิสฺสติ.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ฉฏฺํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘อิเม โข อหํ, ภนฺเต, ฉ อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

๓๗๐. ‘‘อปริโยสิตสงฺกปฺโป, วิจิกิจฺโฉ กถํกถี.

วิจรึ ทีฆมทฺธานํ, อนฺเวสนฺโต ตถาคตํ.

‘‘ยสฺสุ มฺามิ สมเณ, ปวิวิตฺตวิหาริโน;

สมฺพุทฺธา อิติ มฺาโน, คจฺฉามิ เต อุปาสิตุํ.

‘‘‘กถํ อาราธนา โหติ, กถํ โหติ วิราธนา’;

อิติ ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ [สมฺโภนฺติ (สฺยา.)], มคฺเค ปฏิปทาสุ จ.

‘‘ตฺยสฺสุ ยทา มํ ชานนฺติ, สกฺโก เทวานมาคโต;

ตฺยสฺสุ มเมว ปุจฺฉนฺติ, ‘กึ กตฺวา ปาปุณี อิทํ’.

‘‘เตสํ ยถาสุตํ ธมฺมํ, เทสยามิ ชเน สุตํ [ชเนสุต (ก. สี.)];

เตน อตฺตมนา โหนฺติ, ‘ทิฏฺโ โน วาสโวติ จ’.

‘‘ยทา จ พุทฺธมทฺทกฺขึ, วิจิกิจฺฉาวิตารณํ;

โสมฺหิ วีตภโย อชฺช, สมฺพุทฺธํ ปยิรุปาสิย [ปยิรุปาสยึ (สฺยา. ก.)].

‘‘ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, พุทฺธํ อปฺปฏิปุคฺคลํ;

อหํ วนฺเท มหาวีรํ, พุทฺธมาทิจฺจพนฺธุนํ.

‘‘ยํ กโรมสิ พฺรหฺมุโน, สมํ เทเวหิ มาริส;

ตทชฺช ตุยฺหํ กสฺสาม [ทสฺสาม (สฺยา. ก.)], หนฺท สามํ กโรม เต.

‘‘ตฺวเมว อสิ [ตุวเมวสิ (ปี.)] สมฺพุทฺโธ, ตุวํ สตฺถา อนุตฺตโร;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล’’ติ.

๓๗๑. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘พหูปกาโร โข เมสิ ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ยํ ตฺวํ ภควนฺตํ ปมํ ปสาเทสิ. ตยา, ตาต, ปมํ ปสาทิตํ ปจฺฉา มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิมฺหา อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ. เปตฺติเก วา าเน ปยิสฺสามิ, คนฺธพฺพราชา ภวิสฺสสิ, ภทฺทฺจ เต สูริยวจฺฉสํ ทมฺมิ, สา หิ เต อภิปตฺถิตา’’ติ.

อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปาณินา ปถวึ ปรามสิตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ.

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. อฺเสฺจ อสีติยา เทวตาสหสฺสานํ, อิติ เย สกฺเกน เทวานมินฺเทน อชฺฌิฏฺปฺหา ปุฏฺา, เต ภควตา พฺยากตา. ตสฺมา อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส สกฺกปฺหาตฺเวว อธิวจนนฺติ.

สกฺกปฺหสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. มหาสติปฏฺานสุตฺตํ

๓๗๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติ [ภทนฺเตติ (สี. สฺยา. ปี.)] เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

อุทฺเทโส

๓๗๓. ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา.

‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.

อุทฺเทโส นิฏฺิโต.

กายานุปสฺสนา อานาปานปพฺพํ

๓๗๔. ‘‘กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ, สโตว ปสฺสสติ. ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข ภมกาโร วา ภมการนฺเตวาสี วา ทีฆํ วา อฺฉนฺโต ‘ทีฆํ อฺฉามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา อฺฉนฺโต ‘รสฺสํ อฺฉามี’ติ ปชานาติ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ. ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข [เอวมฺปิ (สี. สฺยา. ปี.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

อานาปานปพฺพํ นิฏฺิตํ.

กายานุปสฺสนา อิริยาปถปพฺพํ

๓๗๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา ‘คจฺฉามี’ติ ปชานาติ, ิโต วา ‘ิโตมฺหี’ติ ปชานาติ, นิสินฺโน วา ‘นิสินฺโนมฺหี’ติ ปชานาติ, สยาโน วา ‘สยาโนมฺหี’ติ ปชานาติ, ยถา ยถา วา ปนสฺส กาโย ปณิหิโต โหติ, ตถา ตถา นํ ปชานาติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

อิริยาปถปพฺพํ นิฏฺิตํ.

กายานุปสฺสนา สมฺปชานปพฺพํ

๓๗๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

สมฺปชานปพฺพํ นิฏฺิตํ.

กายานุปสฺสนา ปฏิกูลมนสิการปพฺพํ

๓๗๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ, มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ, หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ, อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ [กรีสํ มตฺถลุงฺคํ (ก.)], ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท, อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุภโตมุขา ปุโตฬิ [มูโตฬี (สฺยา.), มุโตลิ (ปี.)] ปูรา นานาวิหิตสฺส ธฺสฺส, เสยฺยถิทํ สาลีนํ วีหีนํ มุคฺคานํ มาสานํ ติลานํ ตณฺฑุลานํ. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส มุฺจิตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อิเม สาลี, อิเม วีหี อิเม มุคฺคา อิเม มาสา อิเม ติลา อิเม ตณฺฑุลา’ติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺต’นฺติ.

อิติ อชฺฌตฺตํ วา…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

ปฏิกูลมนสิการปพฺพํ นิฏฺิตํ.

กายานุปสฺสนา ธาตุมนสิการปพฺพํ

๓๗๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา จตุมหาปเถ พิลโส วิภชิตฺวา นิสินฺโน อสฺส, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

ธาตุมนสิการปพฺพํ นิฏฺิตํ.

กายานุปสฺสนา นวสิวถิกปพฺพํ

๓๗๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา …เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ กงฺเกหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ พฺยคฺเฆหิ วา ขชฺชมานํ ทีปีหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ วา [คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ, สุวาเนหิ วา ขชฺชมานํ, สิคาเลหิ วา ขชฺชมานํ, (สฺยา. ปี.)] ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ นิมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ [อปคตนฺหารุสมฺพนฺธานิ (สฺยา.)] ทิสา วิทิสา วิกฺขิตฺตานิ, อฺเน หตฺถฏฺิกํ อฺเน ปาทฏฺิกํ อฺเน โคปฺผกฏฺิกํ [‘‘อฺเน โคปฺผกฏฺิก’’นฺติ อิทํ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อฺเน ชงฺฆฏฺิกํ อฺเน อูรุฏฺิกํ อฺเน กฏิฏฺิกํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺฏฺิกํ อฺเน กณฺฑกฏฺิกํ อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน อุรฏฺิกํ อฺเน อํสฏฺิกํ อฺเน พาหุฏฺิกํ (สฺยา.)] อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิฏฺิกํ อฺเน ขนฺธฏฺิกํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺฏฺิกํ อฺเน กณฺฑกฏฺิกํ อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน อุรฏฺิกํ อฺเน อํสฏฺิกํ อฺเน พาหุฏฺิกํ (สฺยา.)] อฺเน คีวฏฺิกํ อฺเน หนุกฏฺิกํ อฺเน ทนฺตฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา …เป… วิหรติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฏิภาคานิ…เป… อฏฺิกานิ ปุฺชกิตานิ เตโรวสฺสิกานิ …เป… อฏฺิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา กายสฺมึ วิหรติ. ‘อตฺถิ กาโย’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ.

นวสิวถิกปพฺพํ นิฏฺิตํ.

จุทฺทส กายานุปสฺสนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนา

๓๘๐. ‘‘กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขํ วา เวทนํ เวทยมาโน ‘สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. ทุกฺขํ วา เวทนํ เวทยมาโน ‘ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. อทุกฺขมสุขํ วา เวทนํ เวทยมาโน ‘อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. สามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา สุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ สุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. สามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา ทุกฺขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. สามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, นิรามิสํ วา อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยมาโน ‘นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา เวทนาสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ เวทนา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ.

เวทนานุปสฺสนา นิฏฺิตา.

จิตฺตานุปสฺสนา

๓๘๑. ‘‘กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. สงฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สงฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา จิตฺตสฺมึ วิหรติ, ‘อตฺถิ จิตฺต’นฺติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ.

จิตฺตานุปสฺสนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนา นีวรณปพฺพํ

๓๘๒. ‘‘กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ?

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโท’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโท’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส กามจฺฉนฺทสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ พฺยาปาทํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโท’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ พฺยาปาทํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโท’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส พฺยาปาทสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส พฺยาปาทสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส พฺยาปาทสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ถินมิทฺธํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ถินมิทฺธ’นฺติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ถินมิทฺธํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ถินมิทฺธ’นฺติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ถินมิทฺธสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ถินมิทฺธสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส ถินมิทฺธสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจ’นฺติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจ’นฺติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วิจิกิจฺฉา’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนาย วิจิกิจฺฉาย อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ นีวรเณสุ.

นีวรณปพฺพํ นิฏฺิตํ.

ธมฺมานุปสฺสนา ขนฺธปพฺพํ

๓๘๓. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม, อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ, อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย, อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ.

ขนฺธปพฺพํ นิฏฺิตํ.

ธมฺมานุปสฺสนา อายตนปพฺพํ

๓๘๔. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ?

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุฺจ ปชานาติ, รูเป จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘โสตฺจ ปชานาติ, สทฺเท จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘ฆานฺจ ปชานาติ, คนฺเธ จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘ชิวฺหฺจ ปชานาติ, รเส จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘กายฺจ ปชานาติ, โผฏฺพฺเพ จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘มนฺจ ปชานาติ, ธมฺเม จ ปชานาติ, ยฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สํโยชนสฺส ปหานํ โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ ปหีนสฺส สํโยชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย, อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ.

อายตนปพฺพํ นิฏฺิตํ.

ธมฺมานุปสฺสนา โพชฺฌงฺคปพฺพํ

๓๘๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, อสนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ‘นตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค’ติ ปชานาติ, ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาโท โหติ ตฺจ ปชานาติ, ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย ปาริปูรี โหติ ตฺจ ปชานาติ.

‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ.

โพชฺฌงฺคปพฺพํ นิฏฺิตํ. [โพชฺฌงฺคปพฺพํ นิฏฺิตํ, ปมภาณวารํ (สฺยา.)]

ธมฺมานุปสฺสนา สจฺจปพฺพํ

๓๘๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

ทุกฺขสจฺจนิทฺเทโส

๓๘๗. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโคปิ ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโคปิ ทุกฺโข [อปฺปิเยหิ…เป… วิปฺปโยโค ทุกฺโขติปาโ เจว ตํนิทฺเทโส จ กตฺถจิ น ทิสฺสติ, อฏฺกถายํปิ ตํสํวณฺณนา นตฺถิ], ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ, สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [ปฺจุปาทานกฺขนฺธาปิ (ก.)] ทุกฺขา.

๓๘๘. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ชาติ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชาติ สฺชาติ โอกฺกนฺติ อภินิพฺพตฺติ ขนฺธานํ ปาตุภาโว อายตนานํ ปฏิลาโภ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ชาติ.

๓๘๙. ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ชรา? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชรา ชีรณตา ขณฺฑิจฺจํ ปาลิจฺจํ วลิตฺตจตา อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโก, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ชรา.

๓๙๐. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, มรณํ? ยํ [อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา ตมฺหา สตฺตนิกายา จุติ จวนตา เภโท อนฺตรธานํ มจฺจุ มรณํ กาลกิริยา ขนฺธานํ เภโท กเฬวรสฺส นิกฺเขโป ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโท, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, มรณํ.

๓๙๑. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, โสโก? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส โสโก โสจนา โสจิตตฺตํ อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โสโก.

๓๙๒. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริเทโว? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อาเทโว ปริเทโว อาเทวนา ปริเทวนา อาเทวิตตฺตํ ปริเทวิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว ปริเทโว.

๓๙๓. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ? ยํ โข, ภิกฺขเว, กายิกํ ทุกฺขํ กายิกํ อสาตํ กายสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ.

๓๙๔. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โทมนสฺสํ? ยํ โข, ภิกฺขเว, เจตสิกํ ทุกฺขํ เจตสิกํ อสาตํ มโนสมฺผสฺสชํ ทุกฺขํ อสาตํ เวทยิตํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, โทมนสฺสํ.

๓๙๕. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อุปายาโส? โย โข, ภิกฺขเว, อฺตรฺตเรน พฺยสเนน สมนฺนาคตสฺส อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อายาโส อุปายาโส อายาสิตตฺตํ อุปายาสิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อุปายาโส.

๓๙๖. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข? อิธ ยสฺส เต โหนฺติ อนิฏฺา อกนฺตา อมนาปา รูปา สทฺทา คนฺธา รสา โผฏฺพฺพา ธมฺมา, เย วา ปนสฺส เต โหนฺติ อนตฺถกามา อหิตกามา อผาสุกกามา อโยคกฺเขมกามา, ยา เตหิ สทฺธึ สงฺคติ สมาคโม สโมธานํ มิสฺสีภาโว, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข.

๓๙๗. ‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข? อิธ ยสฺส เต โหนฺติ อิฏฺา กนฺตา มนาปา รูปา สทฺทา คนฺธา รสา โผฏฺพฺพา ธมฺมา, เย วา ปนสฺส เต โหนฺติ อตฺถกามา หิตกามา ผาสุกกามา โยคกฺเขมกามา มาตา วา ปิตา วา ภาตา วา ภคินี วา มิตฺตา วา อมจฺจา วา าติสาโลหิตา วา, ยา เตหิ สทฺธึ อสงฺคติ อสมาคโม อสโมธานํ อมิสฺสีภาโว, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข.

๓๙๘. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ? ชาติธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. ชราธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ – ‘อโห วต มยํ น ชราธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชรา อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. พฺยาธิธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ‘อโห วต มยํ น พฺยาธิธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน พฺยาธิ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. มรณธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ‘อโห วต มยํ น มรณธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน มรณํ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ‘อโห วต มยํ น โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ, อิทมฺปิ ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ.

๓๙๙. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา? เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ.

สมุทยสจฺจนิทฺเทโส

๔๐๐. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา.)] อริยสจฺจํ? ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] นนฺทีราคสหคตา [นนฺทิราคสหคตา (สี. สฺยา. ปี.)] ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา.

‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, ตณฺหา กตฺถ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, กตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ? ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘กิฺจ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ? จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ. โสตํ โลเก…เป… ฆานํ โลเก… ชิวฺหา โลเก… กาโย โลเก… มโน โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปา โลเก… สทฺทา โลเก… คนฺธา โลเก… รสา โลเก… โผฏฺพฺพา โลเก… ธมฺมา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘จกฺขุวิฺาณํ โลเก… โสตวิฺาณํ โลเก… ฆานวิฺาณํ โลเก… ชิวฺหาวิฺาณํ โลเก… กายวิฺาณํ โลเก… มโนวิฺาณํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส โลเก… โสตสมฺผสฺโส โลเก… ฆานสมฺผสฺโส โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺโส โลเก… กายสมฺผสฺโส โลเก… มโนสมฺผสฺโส โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… โสตสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… กายสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปสฺา โลเก… สทฺทสฺา โลเก… คนฺธสฺา โลเก… รสสฺา โลเก… โผฏฺพฺพสฺา โลเก… ธมฺมสฺา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปสฺเจตนา โลเก… สทฺทสฺเจตนา โลเก… คนฺธสฺเจตนา โลเก… รสสฺเจตนา โลเก… โผฏฺพฺพสฺเจตนา โลเก… ธมฺมสฺเจตนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปตณฺหา โลเก… สทฺทตณฺหา โลเก… คนฺธตณฺหา โลเก… รสตณฺหา โลเก… โผฏฺพฺพตณฺหา โลเก… ธมฺมตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปวิตกฺโก โลเก… สทฺทวิตกฺโก โลเก… คนฺธวิตกฺโก โลเก… รสวิตกฺโก โลเก… โผฏฺพฺพวิตกฺโก โลเก… ธมฺมวิตกฺโก โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ.

‘‘รูปวิจาโร โลเก… สทฺทวิจาโร โลเก… คนฺธวิจาโร โลเก… รสวิจาโร โลเก… โผฏฺพฺพวิจาโร โลเก… ธมฺมวิจาโร โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ.

นิโรธสจฺจนิทฺเทโส

๔๐๑. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา.)] อริยสจฺจํ? โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย.

‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, ตณฺหา กตฺถ ปหียมานา ปหียติ, กตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ? ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘กิฺจ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ? จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ. โสตํ โลเก…เป… ฆานํ โลเก… ชิวฺหา โลเก… กาโย โลเก… มโน โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปา โลเก… สทฺทา โลเก… คนฺธา โลเก… รสา โลเก… โผฏฺพฺพา โลเก… ธมฺมา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘จกฺขุวิฺาณํ โลเก… โสตวิฺาณํ โลเก… ฆานวิฺาณํ โลเก… ชิวฺหาวิฺาณํ โลเก… กายวิฺาณํ โลเก… มโนวิฺาณํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส โลเก… โสตสมฺผสฺโส โลเก… ฆานสมฺผสฺโส โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺโส โลเก… กายสมฺผสฺโส โลเก… มโนสมฺผสฺโส โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… โสตสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก … ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… กายสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก… มโนสมฺผสฺสชา เวทนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปสฺา โลเก… สทฺทสฺา โลเก… คนฺธสฺา โลเก… รสสฺา โลเก… โผฏฺพฺพสฺา โลเก… ธมฺมสฺา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปสฺเจตนา โลเก… สทฺทสฺเจตนา โลเก… คนฺธสฺเจตนา โลเก… รสสฺเจตนา โลเก… โผฏฺพฺพสฺเจตนา โลเก… ธมฺมสฺเจตนา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปตณฺหา โลเก… สทฺทตณฺหา โลเก… คนฺธตณฺหา โลเก… รสตณฺหา โลเก… โผฏฺพฺพตณฺหา โลเก… ธมฺมตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปวิตกฺโก โลเก… สทฺทวิตกฺโก โลเก… คนฺธวิตกฺโก โลเก… รสวิตกฺโก โลเก… โผฏฺพฺพวิตกฺโก โลเก… ธมฺมวิตกฺโก โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ.

‘‘รูปวิจาโร โลเก… สทฺทวิจาโร โลเก… คนฺธวิจาโร โลเก… รสวิจาโร โลเก… โผฏฺพฺพวิจาโร โลเก… ธมฺมวิจาโร โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌติ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ.

มคฺคสจฺจนิทฺเทโส

๔๐๒. ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ? ยํ โข, ภิกฺขเว, ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป? เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาทสงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป, อยํ วุจฺจติ ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา? มุสาวาทา เวรมณี [เวรมณิ (ก.)] ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ผรุสาย วาจาย เวรมณี สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต? ปาณาติปาตา เวรมณี อทินฺนาทานา เวรมณี กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวายาโม? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ; อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาวายาโม.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสติ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ.

๔๐๓. ‘‘อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ, อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ. สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ, สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ. ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ, น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ.

สจฺจปพฺพํ นิฏฺิตํ.

ธมฺมานุปสฺสนา นิฏฺิตา.

๔๐๔. ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺตวสฺสานิ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา; สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา.

‘‘ติฏฺนฺตุ, ภิกฺขเว, สตฺตวสฺสานิ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย ฉ วสฺสานิ…เป… ปฺจ วสฺสานิ… จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํ… ติฏฺตุ, ภิกฺขเว, เอกํ วสฺสํ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺตมาสานิ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา; สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา.

‘‘ติฏฺนฺตุ, ภิกฺขเว, สตฺต มาสานิ. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย ฉ มาสานิ…เป… ปฺจ มาสานิ… จตฺตาริ มาสานิ… ตีณิ มาสานิ … ทฺเว มาสานิ… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํ… ติฏฺตุ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาโส. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, อิเม จตฺตาโร สติปฏฺาเน เอวํ ภาเวยฺย สตฺตาหํ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อฺตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา; สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตาติ.

๔๐๕. ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานาติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

มหาสติปฏฺานสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.

๑๐. ปายาสิสุตฺตํ

๔๐๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา กุมารกสฺสโป โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน เสตพฺยา นาม โกสลานํ นครํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา กุมารกสฺสโป เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน [สีสปาวเน (สฺยา.)]. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ.

ปายาสิราชฺวตฺถุ

๔๐๗. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิสฺส ราชฺสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏกฺกฏานํ (สี. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. อสฺโสสุํ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ กุมารกสฺสโป สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ [พุทฺโธ (สฺยา. ก.)] เจว อรหา จ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติ. อถ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สึสปาวนํ [เยน สึสปาวนํ, เตนุปสงฺกมนฺติ (สี. ปี.)].

๔๐๘. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิ ราชฺโ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติ. อทฺทสา โข ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต อุตฺตเรนมุเข คจฺฉนฺเต เยน สึสปาวนํ [เยน สึสปาวนํ, เตนุปสงฺกมนฺเต (สี. ปี.)], ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, โภ ขตฺเต, เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สึสปาวน’’นฺติ [เอตฺถ ปน สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ, นตฺถิ ปานฺตรํ]?

‘‘อตฺถิ โข, โภ, สมโณ กุมารกสฺสโป, สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว อรหา จา’ติ [อรหา จ (สฺยา. ก.)]. ตเมเต [ตเมนํ เต (สี. ก.), ตเมนํ (ปี.)] ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘ปายาสิ, โภ, ราชฺโ เอวมาห – อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชฺโ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’ติ. ปุรา สมโณ กุมารกสฺสโป เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก พาเล อพฺยตฺเต สฺาเปติ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. นตฺถิ หิ, โภ ขตฺเต, ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข โส ขตฺตา ปายาสิสฺส ราชฺสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘ปายาสิ, โภ, ราชฺโ เอวมาห, อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชฺโ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ.

๔๐๙. อถ โข ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ปริวุโต เยน สึสปาวนํ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เสตพฺยกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ อายสฺมนฺตํ กุมารกสฺสปํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทึสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

นตฺถิกวาโท

๔๑๐. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปายาสิ ราชฺโ อายสฺมนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ กสฺสป, เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘นาหํ, ราชฺ, เอวํวาทึ เอวํทิฏฺึ อทฺทสํ วา อสฺโสสึ วา. กถฺหิ นาม เอวํ วเทยฺย – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ?

จนฺทิมสูริยอุปมา

๔๑๑. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อิเม จนฺทิมสูริยา อิมสฺมึ วา โลเก ปรสฺมึ วา, เทวา วา เต มนุสฺสา วา’’ติ? ‘‘อิเม, โภ กสฺสป, จนฺทิมสูริยา ปรสฺมึ โลเก, น อิมสฺมึ; เทวา เต น มนุสฺสา’’ติ. ‘‘อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ.

๔๑๒. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย, เยน เต ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี. เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’ติ. ภวนฺโต โข ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยาถ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตี’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

โจรอุปมา

๔๑๓. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อิธ เต ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสยฺยุํ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา [กาเรตฺวา (สฺยา. ก.)] ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ [รถิยาย รถิยํ (พหูสู)] สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส อาฆาตเน สีสํ ฉินฺทถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส อาฆาตเน นิสีทาเปยฺยุํ. ลเภยฺย นุ โข โส โจโร โจรฆาเตสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา, อมุกสฺมึ เม คาเม วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ, อุทาหุ วิปฺปลปนฺตสฺเสว โจรฆาตา สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’’นฺติ? ‘‘น หิ โส, โภ กสฺสป, โจโร ลเภยฺย โจรฆาเตสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา อมุกสฺมึ เม คาเม วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ. อถ โข นํ วิปฺปลปนฺตสฺเสว โจรฆาตา สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’’นฺติ. ‘‘โส หิ นาม, ราชฺ, โจโร มนุสฺโส มนุสฺสภูเตสุ โจรฆาเตสุ น ลภิสฺสติ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา, อมุกสฺมึ เม คาเม วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ. กึ ปน เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา ลภิสฺสนฺติ นิรยปาเลสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต นิรยปาลา, ยาว มยํ ปายาสิสฺส ราชฺสฺส คนฺตฺวา อาโรเจม – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๑๔. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย เยน เต ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี. เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตีติ. ภวนฺโต โข ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาถ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตี’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

คูถกูปปุริสอุปมา

๔๑๕. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ [อุปมายปิเธกจฺเจ (สี. สฺยา.), อุปมายปิอิเธกจฺเจ (ปี.)] วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ปุริโส คูถกูเป สสีสกํ [สสีสโก (สฺยา.)] นิมุคฺโค อสฺส. อถ ตฺวํ ปุริเส อาณาเปยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธรถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายา เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺชถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส กายา เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺเชยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏถา’ติ [สุปฺปฏฺฏิตํ อุปฺปฏฺเฏถาติ (ก.)]. เต ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กโรถา’ติ. เต ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปถา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆฺจ มาลํ มหคฺฆฺจ วิเลปนํ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหรถา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆฺจ มาลํ มหคฺฆฺจ วิเลปนํ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฺจกามคุณานิ อุปฏฺาเปถา’ติ. เต ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฺจกามคุณานิ อุปฏฺาเปยฺยุํ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส สุนฺหาตสฺส สุวิลิตฺตสฺส สุกปฺปิตเกสมสฺสุสฺส อามุกฺกมาลาภรณสฺส โอทาตวตฺถวสนสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ปริจารยมานสฺส ปุนเทว ตสฺมึ คูถกูเป นิมุชฺชิตุกามตา [นิมุชฺชิตุกามฺยตา (สฺยา. ก.)] อสฺสา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุจิ, โภ กสฺสป, คูถกูโป อสุจิ เจว อสุจิสงฺขาโต จ ทุคฺคนฺโธ จ ทุคฺคนฺธสงฺขาโต จ เชคุจฺโฉ จ เชคุจฺฉสงฺขาโต จ ปฏิกูโล จ ปฏิกูลสงฺขาโต จา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, มนุสฺสา เทวานํ อสุจี เจว อสุจิสงฺขาตา จ, ทุคฺคนฺธา จ ทุคฺคนฺธสงฺขาตา จ, เชคุจฺฉา จ เชคุจฺฉสงฺขาตา จ, ปฏิกูลา จ ปฏิกูลสงฺขาตา จ. โยชนสตํ โข, ราชฺ, มนุสฺสคนฺโธ เทเว อุพฺพาธติ. กึ ปน เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เต อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ? อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๑๖. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย …เป… ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ``ยถา กถํ วิย, ราชฺาติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตนฺติ. ภวนฺโต โข ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ, เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาถ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – `อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติ. ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตีติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

ตาวตึสเทวอุปมา

๔๑๗. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ; ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ยํ โข ปน, ราชฺ, มานุสฺสกํ วสฺสสตํ, เทวานํ ตาวตึสานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)], ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ เทวานํ ตาวตึสานํ อายุปฺปมาณํ. เย เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. สเจ ปน เตสํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ยาว มยํ ทฺเว วา ตีณิ วา รตฺตินฺทิวา ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรม, อถ มยํ ปายาสิสฺส ราชฺสฺส คนฺตฺวา อาโรเจยฺยาม – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. อปิ นุ เต อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยุํ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป. อปิ หิ มยํ, โภ กสฺสป, จิรํ กาลงฺกตาปิ ภเวยฺยาม. โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา. น มยํ โภโต กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา’’ติ.

ชจฺจนฺธอุปมา

๔๑๘. ‘‘เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ชจฺจนฺโธ ปุริโส น ปสฺเสยฺย กณฺห – สุกฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ [มฺเชฏฺกานิ (สฺยา.)] รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, นตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, นตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ ปีตกานิ รูปานิ, นตฺถิ ปีตกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ โลหิตกานิ รูปานิ, นตฺถิ โลหิตกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, นตฺถิ มฺชิฏฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ สมวิสมํ, นตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวี. นตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, นตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ จนฺทิมสูริยา, นตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวี. อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติ. สมฺมา นุ โข โส, ราชฺ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป. อตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, อตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. อตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, อตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวี…เป… อตฺถิ สมวิสมํ, อตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวี. อตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, อตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. อตฺถิ จนฺทิมสูริยา, อตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวี. ‘อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติ. น หิ โส, โภ กสฺสป, สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, ชจฺจนฺธูปโม มฺเ ปฏิภาสิ ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ’’.

‘‘โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’’ติ วา, ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา? น มยํ โภโต กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา’’ติ. ‘‘น โข, ราชฺ, เอวํ ปโร โลโก ทฏฺพฺโพ, ยถา ตฺวํ มฺสิ อิมินา มํสจกฺขุนา. เย โข เต ราชฺ สมณพฺราหฺมณา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, เต ตตฺถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺติ. เต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อิมํ เจว โลกํ ปสฺสนฺติ ปรฺจ สตฺเต จ โอปปาติเก. เอวฺจ โข, ราชฺ, ปโร โลโก ทฏฺพฺโพ; นตฺเวว ยถา ตฺวํ มฺสิ อิมินา มํสจกฺขุนา. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๑๙. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธาหํ, โภ กสฺสป, ปสฺสามิ สมณพฺราหฺมเณ สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม ชีวิตุกาเม อมริตุกาเม สุขกาเม ทุกฺขปฏิกูเล. ตสฺส มยฺหํ, โภ กสฺสป, เอวํ โหติ – สเจ โข อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา เอวํ ชาเนยฺยุํ – ‘อิโต โน มตานํ เสยฺโย ภวิสฺสตี’ติ. อิทานิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา วิสํ วา ขาเทยฺยุํ, สตฺถํ วา อาหเรยฺยุํ, อุพฺพนฺธิตฺวา วา กาลงฺกเรยฺยุํ, ปปาเต วา ปปเตยฺยุํ. ยสฺมา จ โข อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา น เอวํ ชานนฺติ – ‘อิโต โน มตานํ เสยฺโย ภวิสฺสตี’ติ, ตสฺมา อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ชีวิตุกามา อมริตุกามา สุขกามา ทุกฺขปฏิกูลา อตฺตานํ น มาเรนฺติ [( ) นตฺถิ (สฺยา. ปี.)]. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

คพฺภินีอุปมา

๔๒๐. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ปชาปติโย อเหสุํ. เอกิสฺสา ปุตฺโต อโหสิ ทสวสฺสุทฺเทสิโก วา ทฺวาทสวสฺสุทฺเทสิโก วา, เอกา คพฺภินี อุปวิชฺา. อถ โข โส พฺราหฺมโณ กาลมกาสิ. อถ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ [มาตุสปตึ (สฺยา.)] เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, สพฺพํ ตํ มยฺหํ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม [ปิตุ เม สนฺตโก (สฺยา.)] โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ [นียฺยาเตหีติ (สี. ปี.)]. เอวํ วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘อาคเมหิ ตาว, ตาต, ยาว วิชายามิ. สเจ กุมารโก ภวิสฺสติ, ตสฺสปิ เอกเทโส ภวิสฺสติ; สเจ กุมาริกา ภวิสฺสติ, สาปิ เต โอปโภคฺคา [อุปโภคฺคา (สฺยา.)] ภวิสฺสตี’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, สพฺพํ ตํ มยฺหํ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม, โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ. ทุติยมฺปิ โข สา พฺราหฺมณี ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘อาคเมหิ ตาว, ตาต, ยาว วิชายามิ. สเจ กุมารโก ภวิสฺสติ, ตสฺสปิ เอกเทโส ภวิสฺสติ; สเจ กุมาริกา ภวิสฺสติ สาปิ เต โอปโภคฺคา [อุปโภคฺคา (สฺยา.)] ภวิสฺสตี’ติ. ตติยมฺปิ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, สพฺพํ ตํ มยฺหํ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม, โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ.

‘‘อถ โข สา พฺราหฺมณี สตฺถํ คเหตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา อุทรํ โอปาเทสิ [อุปฺปาเตสิ (สฺยา.)] – ‘ยาว วิชายามิ ยทิ วา กุมารโก ยทิ วา กุมาริกา’ติ. สา อตฺตานํ เจว ชีวิตฺจ คพฺภฺจ สาปเตยฺยฺจ วินาเสสิ. ยถา ตํ พาลา อพฺยตฺตา อนยพฺยสนํ อาปนฺนา อโยนิโส ทายชฺชํ คเวสนฺตี, เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสสิ อโยนิโส ปรโลกํ คเวสนฺโต; เสยฺยถาปิ สา พฺราหฺมณี พาลา อพฺยตฺตา อนยพฺยสนํ อาปนฺนา อโยนิโส ทายชฺชํ คเวสนฺตี. น โข, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา อปกฺกํ ปริปาเจนฺติ; อปิ จ ปริปากํ อาคเมนฺติ. ปณฺฑิตานํ อตฺโถ หิ, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณานํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ ชีวิเตน. ยถา ยถา โข, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ, ตถา ตถา พหุํ ปุฺํ ปสวนฺติ, พหุชนหิตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๒๑. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว กุมฺภิยา ปกฺขิปิตฺวา มุขํ ปิทหิตฺวา อลฺเลน จมฺเมน โอนนฺธิตฺวา อลฺลาย มตฺติกาย พหลาวเลปนํ [พหลวิเลปนํ (สฺยา. ก.)] กริตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ เทถา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว กุมฺภิยา ปกฺขิปิตฺวา มุขํ ปิทหิตฺวา อลฺเลน จมฺเมน โอนนฺธิตฺวา อลฺลาย มตฺติกาย พหลาวเลปนํ กริตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ เทนฺติ. ยทา มยํ ชานาม ‘กาลงฺกโต โส ปุริโส’ติ, อถ นํ กุมฺภึ โอโรเปตฺวา อุพฺภินฺทิตฺวา มุขํ วิวริตฺวา สณิกํ นิลฺโลเกม [วิโลเกม (สฺยา.)] – ‘อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

สุปินกอุปมา

๔๒๒. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. อภิชานาสิ โน ตฺวํ, ราชฺ, ทิวา เสยฺยํ อุปคโต สุปินกํ ปสฺสิตา อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’นฺติ? ‘‘อภิชานามหํ, โภ กสฺสป, ทิวาเสยฺยํ อุปคโต สุปินกํ ปสฺสิตา อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’นฺติ. ‘‘รกฺขนฺติ ตํ ตมฺหิ สมเย ขุชฺชาปิ วามนกาปิ เวลาสิกาปิ [เจลาวิกาปิ (สฺยา.), เกฬายิกาปิ (สี.)] โกมาริกาปี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ กสฺสป, รกฺขนฺติ มํ ตมฺหิ สมเย ขุชฺชาปิ วามนกาปิ เวลาสิกาปิ [เจลาวิกาปิ (สฺยา.), เกฬายิกาปิ (สี.)] โกมาริกาปี’’ติ. ‘‘อปิ นุ ตา ตุยฺหํ ชีวํ ปสฺสนฺติ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘ตา หิ นาม, ราชฺ, ตุยฺหํ ชีวนฺตสฺส ชีวนฺติโย ชีวํ น ปสฺสิสฺสนฺติ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา. กึ ปน ตฺวํ กาลงฺกตสฺส ชีวํ ปสฺสิสฺสสิ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๒๓. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว ตุลาย ตุเลตฺวา ชิยาย อนสฺสาสกํ มาเรตฺวา ปุนเทว ตุลาย ตุเลถา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว ตุลาย ตุเลตฺวา ชิยาย อนสฺสาสกํ มาเรตฺวา ปุนเทว ตุลาย ตุเลนฺติ. ยทา โส ชีวติ, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปน โส กาลงฺกโต โหติ ตทา ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

สนฺตตฺตอโยคุฬอุปมา

๔๒๔. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ปุริโส ทิวสํ สนฺตตฺตํ อโยคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ ตุลาย ตุเลยฺย. ตเมนํ อปเรน สมเยน สีตํ นิพฺพุตํ ตุลาย ตุเลยฺย. กทา นุ โข โส อโยคุโฬ ลหุตโร วา โหติ มุทุตโร วา กมฺมฺตโร วา, ยทา วา อาทิตฺโต สมฺปชฺชลิโต สโชติภูโต, ยทา วา สีโต นิพฺพุโต’’ติ? ‘‘ยทา โส, โภ กสฺสป, อโยคุโฬ เตโชสหคโต จ โหติ วาโยสหคโต จ อาทิตฺโต สมฺปชฺชลิโต สโชติภูโต, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปน โส อโยคุโฬ เนว เตโชสหคโต โหติ น วาโยสหคโต สีโต นิพฺพุโต, ตทา ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปนายํ กาโย เนว อายุสหคโต โหติ น อุสฺมาสหคโต น วิฺาณสหคโต ตทา ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

๔๒๕. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารุฺจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ ชีวิตา โวโรเปถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ อนุปหจฺจ ฉวิฺจ…เป… ชีวิตา โวโรเปนฺติ. ยทา โส อามโต โหติ, ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อุตฺตานํ นิปาเตถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตํ ปุริสํ อุตฺตานํ นิปาเตนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อวกุชฺชํ นิปาเตถ… ปสฺเสน นิปาเตถ… ทุติเยน ปสฺเสน นิปาเตถ… อุทฺธํ เปถ… โอมุทฺธกํ เปถ… ปาณินา อาโกเฏถ… เลฑฺฑุนา อาโกเฏถ… ทณฺเฑน อาโกเฏถ… สตฺเถน อาโกเฏถ… โอธุนาถ สนฺธุนาถ นิทฺธุนาถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตํ ปุริสํ โอธุนนฺติ สนฺธุนนฺติ นิทฺธุนนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. ตสฺส ตเทว จกฺขุ โหติ เต รูปา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. ตเทว โสตํ โหติ เต สทฺทา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. ตเทว ฆานํ โหติ เต คนฺธา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. สาว ชิวฺหา โหติ เต รสา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. สฺเวว กาโย โหติ เต โผฏฺพฺพา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

สงฺขธมอุปมา

๔๒๖. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร สงฺขธโม สงฺขํ อาทาย ปจฺจนฺติมํ ชนปทํ อคมาสิ. โส เยน อฺตโร คาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มชฺเฌ คามสฺส ิโต ติกฺขตฺตุํ สงฺขํ อุปลาเปตฺวา สงฺขํ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ โข, ราชฺ, เตสํ ปจฺจนฺตชนปทานํ [ปจฺจนฺตชานํ (สี.)] มนุสฺสานํ เอตทโหสิ – ‘อมฺโภ กสฺส นุ โข [เอตทโหสิ ‘‘กิสฺส ทุโข (ปี.)] เอโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. สนฺนิปติตฺวา ตํ สงฺขธมํ เอตทโวจุํ – ‘อมฺโภ, กสฺส นุ โข เอโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. ‘เอโส โข, โภ, สงฺโข นาม ยสฺเสโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. เต ตํ สงฺขํ อุตฺตานํ นิปาเตสุํ – ‘วเทหิ, โภ สงฺข, วเทหิ, โภ สงฺขา’ติ. เนว โส สงฺโข สทฺทมกาสิ. เต ตํ สงฺขํ อวกุชฺชํ นิปาเตสุํ, ปสฺเสน นิปาเตสุํ, ทุติเยน ปสฺเสน นิปาเตสุํ, อุทฺธํ เปสุํ, โอมุทฺธกํ เปสุํ, ปาณินา อาโกเฏสุํ, เลฑฺฑุนา อาโกเฏสุํ, ทณฺเฑน อาโกเฏสุํ, สตฺเถน อาโกเฏสุํ, โอธุนึสุ สนฺธุนึสุ นิทฺธุนึสุ – ‘วเทหิ, โภ สงฺข, วเทหิ, โภ สงฺขา’ติ. เนว โส สงฺโข สทฺทมกาสิ.

‘‘อถ โข, ราชฺ, ตสฺส สงฺขธมสฺส เอตทโหสิ – ‘ยาว พาลา อิเม ปจฺจนฺตชนปทามนุสฺสา, กถฺหิ นาม อโยนิโส สงฺขสทฺทํ คเวสิสฺสนฺตี’ติ. เตสํ เปกฺขมานานํ สงฺขํ คเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ สงฺขํ อุปลาเปตฺวา สงฺขํ อาทาย ปกฺกามิ. อถ โข, ราชฺ, เตสํ ปจฺจนฺตชนปทานํ มนุสฺสานํ เอตทโหสิ – ‘ยทา กิร, โภ, อยํ สงฺโข นาม ปุริสสหคโต จ โหติ วายามสหคโต [วาโยสหคโต (สฺยา.)] จ วายุสหคโต จ, ตทายํ สงฺโข สทฺทํ กโรติ, ยทา ปนายํ สงฺโข เนว ปุริสสหคโต โหติ น วายามสหคโต น วายุสหคโต, นายํ สงฺโข สทฺทํ กโรตี’ติ. เอวเมว โข, ราชฺ, ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ, ตทา อภิกฺกมติปิ ปฏิกฺกมติปิ ติฏฺติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, จกฺขุนาปิ รูปํ ปสฺสติ, โสเตนปิ สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนนปิ คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหายปิ รสํ สายติ, กาเยนปิ โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสาปิ ธมฺมํ วิชานาติ. ยทา ปนายํ กาโย เนว อายุสหคโต โหติ, น อุสฺมาสหคโต, น วิฺาณสหคโต, ตทา เนว อภิกฺกมติ น ปฏิกฺกมติ น ติฏฺติ น นิสีทติ น เสยฺยํ กปฺเปติ, จกฺขุนาปิ รูปํ น ปสฺสติ, โสเตนปิ สทฺทํ น สุณาติ, ฆาเนนปิ คนฺธํ น ฆายติ, ชิวฺหายปิ รสํ น สายติ, กาเยนปิ โผฏฺพฺพํ น ผุสติ, มนสาปิ ธมฺมํ น วิชานาติ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ [วิปาโกติ, ปมภาณวารํ (สฺยา.)].

๔๒๗. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี, อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมสฺส ปุริสสฺส ฉวึ ฉินฺทถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส ฉวึ ฉินฺทนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ ปสฺสาม. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมสฺส ปุริสสฺส จมฺมํ ฉินฺทถ, มํสํ ฉินฺทถ, นฺหารุํ ฉินฺทถ, อฏฺึ ฉินฺทถ, อฏฺิมิฺชํ ฉินฺทถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส อฏฺิมิฺชํ ฉินฺทนฺติ, เนวสฺส มยํ ชีวํ ปสฺเสยฺยาม. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.

อคฺคิกชฏิลอุปมา

๔๒๘. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร อคฺคิโก ชฏิโล อรฺายตเน ปณฺณกุฏิยา สมฺมติ [วสติ (สี. ปี.)]. อถ โข, ราชฺ, อฺตโร ชนปเท สตฺโถ [สตฺโถ ชนปทปเทสา (สี.), ชนปโท สตฺถวาโส (สฺยา.), ชนปทปเทโส (ปี.)] วุฏฺาสิ. อถ โข โส สตฺโถ [สตฺถวาโส (สฺยา.)] ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส อสฺสมสฺส สามนฺตา เอกรตฺตึ วสิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข, ราชฺ, ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ เยน โส สตฺถวาโส เตนุปสงฺกเมยฺยํ, อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ อุปกรณํ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล กาลสฺเสว วุฏฺาย เยน โส สตฺถวาโส เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อทฺทส ตสฺมึ สตฺถวาเส ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ ฉฑฺฑิตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘น โข เม ตํ ปติรูปํ ยํ เม เปกฺขมานสฺส มนุสฺสภูโต กาลงฺกเรยฺย; ยํนูนาหํ อิมํ ทารกํ อสฺสมํ เนตฺวา อาปาเทยฺยํ โปเสยฺยํ วฑฺเฒยฺย’นฺติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ อสฺสมํ เนตฺวา อาปาเทสิ โปเสสิ วฑฺเฒสิ. ยทา โส ทารโก ทสวสฺสุทฺเทสิโก วา โหติ [อโหสิ (?)] ทฺวาทสวสฺสุทฺเทสิโก วา, อถ โข ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส ชนปเท กฺจิเทว กรณียํ อุปฺปชฺชิ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘อิจฺฉามหํ, ตาต, ชนปทํ [นครํ (ก.)] คนฺตุํ; อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺยาสี’ติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ เอวํ อนุสาสิตฺวา ชนปทํ อคมาสิ. ตสฺส ขิฑฺฑาปสุตสฺส อคฺคิ นิพฺพายิ.

‘‘อถ โข ตสฺส ทารกสฺส เอตทโหสิ – ‘ปิตา โข มํ เอวํ อวจ – ‘‘อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺยาสี’’ติ. ยํนูนาหํ อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺย’นฺติ. อถ โข โส ทารโก อรณิสหิตํ วาสิยา ตจฺฉิ – ‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. เนว โส อคฺคึ อธิคจฺฉิ. อรณิสหิตํ ทฺวิธา ผาเลสิ, ติธา ผาเลสิ, จตุธา ผาเลสิ, ปฺจธา ผาเลสิ, ทสธา ผาเลสิ, สตธา [วีสติธา (สฺยา.)] ผาเลสิ, สกลิกํ สกลิกํ อกาสิ, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏสิ, อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา มหาวาเต โอปุนิ [โอผุนิ (สฺยา. ก.)] – ‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. เนว โส อคฺคึ อธิคจฺฉิ.

‘‘อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ชนปเท ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิ เต, ตาต, อคฺคิ น นิพฺพุโต’ติ? ‘อิธ เม, ตาต, ขิฑฺฑาปสุตสฺส อคฺคิ นิพฺพายิ. ตสฺส เม เอตทโหสิ – ‘‘ปิตา โข มํ เอวํ อวจ อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต, ตาต, อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺยาสีติ. ยํนูนาหํ อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺย’’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ตาต, อรณิสหิตํ วาสิยา ตจฺฉึ – ‘‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’’นฺติ. เนวาหํ อคฺคึ อธิคจฺฉึ. อรณิสหิตํ ทฺวิธา ผาเลสึ, ติธา ผาเลสึ, จตุธา ผาเลสึ, ปฺจธา ผาเลสึ, ทสธา ผาเลสึ, สตธา ผาเลสึ, สกลิกํ สกลิกํ อกาสึ, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏสึ, อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา มหาวาเต โอปุนึ – ‘‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’’นฺติ. เนวาหํ อคฺคึ อธิคจฺฉิ’’’นฺติ. อถ โข ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘ยาว พาโล อยํ ทารโก อพฺยตฺโต, กถฺหิ นาม อโยนิโส อคฺคึ คเวสิสฺสตี’ติ. ตสฺส เปกฺขมานสฺส อรณิสหิตํ คเหตฺวา อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘เอวํ โข, ตาต, อคฺคิ นิพฺพตฺเตตพฺโพ. น ตฺเวว ยถา ตฺวํ พาโล อพฺยตฺโต อโยนิโส อคฺคึ คเวสี’ติ. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อโยนิโส ปรโลกํ คเวสิสฺสสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ, ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ, มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

๔๒๙. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.

ทฺเว สตฺถวาหอุปมา

๔๓๐. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, มหาสกฏสตฺโถ สกฏสหสฺสํ ปุรตฺถิมา ชนปทา ปจฺฉิมํ ชนปทํ อคมาสิ. โส เยน เยน คจฺฉิ, ขิปฺปํเยว ปริยาทิยติ ติณกฏฺโทกํ หริตกปณฺณํ. ตสฺมึ โข ปน สตฺเถ ทฺเว สตฺถวาหา อเหสุํ เอโก ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ, เอโก ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ. อถ โข เตสํ สตฺถวาหานํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข มหาสกฏสตฺโถ สกฏสหสฺสํ; เต มยํ เยน เยน คจฺฉาม, ขิปฺปเมว ปริยาทิยติ ติณกฏฺโทกํ หริตกปณฺณํ. ยํนูน มยํ อิมํ สตฺถํ ทฺวิธา วิภเชยฺยาม – เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ เอกโต ปฺจ สกฏสตานี’ติ. เต ตํ สตฺถํ ทฺวิธา วิภชึสุ [วิภเชสุํ (ก.)] เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ, เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ. เอโก สตฺถวาโห พหุํ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ อาโรเปตฺวา สตฺถํ ปยาเปสิ [ปายาเปสิ (สี. ปี.)]. ทฺวีหตีหปยาโต โข ปน โส สตฺโถ อทฺทส ปุริสํ กาฬํ โลหิตกฺขํ [โลหิตกฺขึ (สฺยา.)] สนฺนทฺธกลาปํ [อาสนฺนทฺธกลาปํ (สฺยา.)] กุมุทมาลึ อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ กทฺทมมกฺขิเตหิ จกฺเกหิ ภทฺเรน รเถน ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตํ’, ทิสฺวา เอตทโวจ – ‘กุโต, โภ, อาคจฺฉสี’ติ? ‘อมุกมฺหา ชนปทา’ติ. ‘กุหึ คมิสฺสสี’ติ? ‘อมุกํ นาม ชนปท’นฺติ. ‘กจฺจิ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ, โภ, ปุริโส เอวมาห – ‘‘ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’’ติ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สตฺถํ ปยาเปถา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สตฺถํ ปยาเปสุํ. เต ปเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. ทุติเยปิ สตฺถวาเส… ตติเยปิ สตฺถวาเส… จตุตฺเถปิ สตฺถวาเส… ปฺจเมปิ สตฺถวาเส… ฉฏฺเปิ สตฺถวาเส… สตฺตเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. สพฺเพว อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสุ. เย จ ตสฺมึ สตฺเถ อเหสุํ มนุสฺสา วา ปสู วา, สพฺเพ โส ยกฺโข อมนุสฺโส ภกฺเขสิ. อฏฺิกาเนว เสสานิ.

‘‘ยทา อฺาสิ ทุติโย สตฺถวาโห – ‘พหุนิกฺขนฺโต โข, โภ, ทานิ โส สตฺโถ’ติ พหุํ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ อาโรเปตฺวา สตฺถํ ปยาเปสิ. ทฺวีหตีหปยาโต โข ปน โส สตฺโถ อทฺทส ปุริสํ กาฬํ โลหิตกฺขํ สนฺนทฺธกลาปํ กุมุทมาลึ อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ กทฺทมมกฺขิเตหิ จกฺเกหิ ภทฺเรน รเถน ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา เอตทโวจ – ‘กุโต, โภ, อาคจฺฉสี’ติ? ‘อมุกมฺหา ชนปทา’ติ. ‘กุหึ คมิสฺสสี’ติ? ‘อมุกํ นาม ชนปท’นฺติ. ‘กจฺจิ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ. อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ, โภ, ‘‘ปุริโส เอวมาห – ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ; มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’’ติ. อยํ โภ ปุริโส เนว อมฺหากํ มิตฺโต, น าติสาโลหิโต, กถํ มยํ อิมสฺส สทฺธาย คมิสฺสาม. น โว ฉฑฺเฑตพฺพานิ ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ยถาภเตน ภณฺเฑน สตฺถํ ปยาเปถ. น โน ปุราณํ ฉฑฺเฑสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยถาภเตน ภณฺเฑน สตฺถํ ปยาเปสุํ. เต ปเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. ทุติเยปิ สตฺถวาเส… ตติเยปิ สตฺถวาเส… จตุตฺเถปิ สตฺถวาเส… ปฺจเมปิ สตฺถวาเส… ฉฏฺเปิ สตฺถวาเส… สตฺตเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. ตฺจ สตฺถํ อทฺทสํสุ อนยพฺยสนํ อาปนฺนํ. เย จ ตสฺมึ สตฺเถปิ อเหสุํ มนุสฺสา วา ปสู วา, เตสฺจ อฏฺิกาเนว อทฺทสํสุ เตน ยกฺเขน อมนุสฺเสน ภกฺขิตานํ.

‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ โข, โภ, สตฺโถ อนยพฺยสนํ อาปนฺโน, ยถา ตํ เตน พาเลน สตฺถวาเหน ปริณายเกน. เตน หิ, โภ, ยานมฺหากํ สตฺเถ อปฺปสารานิ ปณิยานิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา, ยานิ อิมสฺมึ สตฺเถ มหาสารานิ ปณิยานิ, ตานิ อาทิยถา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยานิ สกสฺมึ สตฺเถ อปฺปสารานิ ปณิยานิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา ยานิ ตสฺมึ สตฺเถ มหาสารานิ ปณิยานิ, ตานิ อาทิยิตฺวา โสตฺถินา ตํ กนฺตารํ นิตฺถรึสุ, ยถา ตํ ปณฺฑิเตน สตฺถวาเหน ปริณายเกน. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสสิ อโยนิโส ปรโลกํ คเวสนฺโต เสยฺยถาปิ โส ปุริโม สตฺถวาโห. เยปิ ตว [เต (ก.)] โสตพฺพํ สทฺธาตพฺพํ [สทฺทหาตพฺพํ (ปี. ก.)] มฺิสฺสนฺติ, เตปิ อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ เต สตฺถิกา. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

๔๓๑. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ, อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.

คูถภาริกอุปมา

๔๓๒. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร สูกรโปสโก ปุริโส สกมฺหา คามา อฺํ คามํ อคมาสิ. ตตฺถ อทฺทส ปหูตํ สุกฺขคูถํ ฉฑฺฑิตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘อยํ โข ปหุโต สุกฺขคูโถ ฉฑฺฑิโต, มม จ สูกรภตฺตํ [สูกรานํ ภกฺโข (สฺยา.)]; ยํนูนาหํ อิโต สุกฺขคูถํ หเรยฺย’นฺติ. โส อุตฺตราสงฺคํ ปตฺถริตฺวา ปหูตํ สุกฺขคูถํ อากิริตฺวา ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา สีเส อุพฺพาเหตฺวา [อุจฺจาโรเปตฺวา (ก. สี. ก.)] อคมาสิ. ตสฺส อนฺตรามคฺเค มหาอกาลเมโฆ ปาวสฺสิ. โส อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ ยาว อคฺคนขา คูเถน มกฺขิโต คูถภารํ อาทาย อคมาสิ. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘กจฺจิ โน ตฺวํ, ภเณ, อุมฺมตฺโต, กจฺจิ วิเจโต, กถฺหิ นาม อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ ยาว อคฺคนขา คูเถน มกฺขิโต คูถภารํ หริสฺสสี’ติ. ‘ตุมฺเห ขฺเวตฺถ, ภเณ, อุมฺมตฺตา, ตุมฺเห วิเจตา, ตถา หิ ปน เม สูกรภตฺต’นฺติ. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, คูถภาริกูปโม [คูถหาริกูปโม (สี. ปี.)] มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

๔๓๓. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.

อกฺขธุตฺตกอุปมา

๔๓๔. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, ทฺเว อกฺขธุตฺตา อกฺเขหิ ทิพฺพึสุ. เอโก อกฺขธุตฺโต อาคตาคตํ กลึ คิลติ. อทฺทสา โข ทุติโย อกฺขธุตฺโต ตํ อกฺขธุตฺตํ อาคตาคตํ กลึ คิลนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ – ‘ตฺวํ โข, สมฺม, เอกนฺติเกน ชินาสิ, เทหิ เม, สมฺม, อกฺเข ปโชหิสฺสามี’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข โส อกฺขธุตฺโต ตสฺส อกฺขธุตฺตสฺส อกฺเข ปาทาสิ. อถ โข โส อกฺขธุตฺโต อกฺเข วิเสน ปริภาเวตฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ โข, สมฺม, อกฺเขหิ ทิพฺพิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข โส อกฺขธุตฺโต ตสฺส อกฺขธุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ. ทุติยมฺปิ โข เต อกฺขธุตฺตา อกฺเขหิ ทิพฺพึสุ. ทุติยมฺปิ โข โส อกฺขธุตฺโต อาคตาคตํ กลึ คิลติ. อทฺทสา โข ทุติโย อกฺขธุตฺโต ตํ อกฺขธุตฺตํ ทุติยมฺปิ อาคตาคตํ กลึ คิลนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ลิตฺตํ ปรเมน เตชสา, คิลมกฺขํ ปุริโส น พุชฺฌติ;

คิล เร คิล ปาปธุตฺตก [คิลิ เร ปาปธุตฺตก (ก.)], ปจฺฉา เต กฏุกํ ภวิสฺสตีติ.

‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, อกฺขธุตฺตกูปโม มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

๔๓๕. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.

สาณภาริกอุปมา

๔๓๖. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร ชนปโท วุฏฺาสิ. อถ โข สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, สมฺม, เยน โส ชนปโท เตนุปสงฺกมิสฺสาม, อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ ธนํ อธิคจฺเฉยฺยามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข สหายโก สหายกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. เต เยน โส ชนปโท, เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ [คามปชฺชํ (สฺยา.), คามปตฺตํ (สี.)] เตนุปสงฺกมึสุ, ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ สาณํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘อิทํ โข, สมฺม, ปหูตํ สาณํ ฉฑฺฑิตํ, เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ พนฺธ, อหฺจ สาณภารํ พนฺธิสฺสามิ, อุโภ สาณภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข สหายโก สหายกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา สาณภารํ พนฺธิตฺวา เต อุโภ สาณภารํ อาทาย เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ สาณสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข, สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม สาณํ, อิทํ ปหูตํ สาณสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สาณสุตฺตภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ จ, อลํ เม ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สาณภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สาณสุตฺตภารํ อาทิยิ.

‘‘เต เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตา สาณิโย ฉฑฺฑิตา, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข, สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม สาณํ วา สาณสุตฺตํ วา, อิมา ปหูตา สาณิโย ฉฑฺฑิตา. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สาณสุตฺตภารํ ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สาณิภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ จ, อลํ เม, ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สาณสุตฺตภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สาณิภารํ อาทิยิ.

‘‘เต เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ โขมํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา…เป… ปหูตํ โขมสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ โขมทุสฺสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสิกสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสิกทุสฺสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ อยํ [อยสํ (สฺยา.)] ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ โลหํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ ติปุํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สีสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สชฺฌํ [สชฺฌุํ (สี. สฺยา. ปี.)] ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สุวณฺณํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข, สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม สาณํ วา สาณสุตฺตํ วา สาณิโย วา โขมํ วา โขมสุตฺตํ วา โขมทุสฺสํ วา กปฺปาสํ วา กปฺปาสิกสุตฺตํ วา กปฺปาสิกทุสฺสํ วา อยํ วา โลหํ วา ติปุํ วา สีสํ วา สชฺฌํ วา, อิทํ ปหูตํ สุวณฺณํ ฉฑฺฑิตํ. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สชฺฌภารํ [สชฺฌุภารํ (สี. สฺยา. ปี.)] ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สุวณฺณภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ จ, อลํ เม ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สชฺฌภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สุวณฺณภารํ อาทิยิ.

‘‘เต เยน สโก คาโม เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ โย โส สหายโก สาณภารํ อาทาย อคมาสิ, ตสฺส เนว มาตาปิตโร อภินนฺทึสุ, น ปุตฺตทารา อภินนฺทึสุ, น มิตฺตามจฺจา อภินนฺทึสุ, น จ ตโตนิทานํ สุขํ โสมนสฺสํ อธิคจฺฉิ. โย ปน โส สหายโก สุวณฺณภารํ อาทาย อคมาสิ, ตสฺส มาตาปิตโรปิ อภินนฺทึสุ, ปุตฺตทาราปิ อภินนฺทึสุ, มิตฺตามจฺจาปิ อภินนฺทึสุ, ตโตนิทานฺจ สุขํ โสมนสฺสํ อธิคจฺฉิ. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, สาณภาริกูปโม มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.

สรณคมนํ

๔๓๗. ‘‘ปุริเมเนว อหํ โอปมฺเมน โภโต กสฺสปสฺส อตฺตมโน อภิรทฺโธ. อปิ จาหํ อิมานิ วิจิตฺรานิ ปฺหาปฏิภานานิ โสตุกาโม เอวาหํ ภวนฺตํ กสฺสปํ ปจฺจนีกํ กาตพฺพํ อมฺิสฺสํ. อภิกฺกนฺตํ, โภ กสฺสป, อภิกฺกนฺตํ, โภ กสฺสป. เสยฺยถาปิ, โภ กสฺสป, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ เอวเมวํ โภตา กสฺสเปน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ กสฺสป, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ กสฺสโป ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ.

‘‘อิจฺฉามิ จาหํ, โภ กสฺสป, มหายฺํ ยชิตุํ, อนุสาสตุ มํ ภวํ กสฺสโป, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

ยฺกถา

๔๓๘. ‘‘ยถารูเป โข, ราชฺ, ยฺเ คาโว วา หฺนฺติ อเชฬกา วา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา วา หฺนฺติ, วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ มิจฺฉาทิฏฺี มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, กสฺสโก พีชนงฺคลํ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ทุกฺเขตฺเต ทุพฺภูเม อวิหตขาณุกณฺฏเก พีชานิ ปติฏฺาเปยฺย ขณฺฑานิ ปูตีนิ วาตาตปหตานิ อสารทานิ อสุขสยิตานิ. เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. อปิ นุ ตานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ [วิรุฬฺหึ (โมคฺคลาเน)] เวปุลฺลํ อาปชฺเชยฺยุํ, กสฺสโก วา วิปุลํ ผลํ อธิคจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ [น เอวํ (สฺยา. ก.)] โภ กสฺสป’’. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยถารูเป ยฺเ คาโว วา หฺนฺติ, อเชฬกา วา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา วา หฺนฺติ, วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ มิจฺฉาทิฏฺี มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร.

‘‘ยถารูเป จ โข, ราชฺ, ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ สมฺมาทิฏฺี สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, กสฺสโก พีชนงฺคลํ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ สุเขตฺเต สุภูเม สุวิหตขาณุกณฺฏเก พีชานิ ปติฏฺเปยฺย อขณฺฑานิ อปูตีนิ อวาตาตปหตานิ สารทานิ สุขสยิตานิ. เทโว จ กาเลน กาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. อปิ นุ ตานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺเชยฺยุํ, กสฺสโก วา วิปุลํ ผลํ อธิคจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยถารูเป ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ สมฺมาทิฏฺี สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’ติ.

อุตฺตรมาณววตฺถุ

๔๓๙. อถ โข ปายาสิ ราชฺโ ทานํ ปฏฺเปสิ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ. ตสฺมึ โข ปน ทาเน เอวรูปํ โภชนํ ทียติ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ, โธรกานิ [โถรกานิ (สี. ปี.), โจรกานิ (สฺยา.)] จ วตฺถานิ คุฬวาลกานิ [คุฬคาฬกานิ (ก.)]. ตสฺมึ โข ปน ทาเน อุตฺตโร นาม มาณโว วาวโฏ [พฺยาวโฏ (สี. ปี.)] อโหสิ. โส ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสติ – ‘‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’นฺติ. อสฺโสสิ โข ปายาสิ ราชฺโ – ‘‘อุตฺตโร กิร มาณโว ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสติ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’’นฺติ. อถ โข ปายาสิ ราชฺโ อุตฺตรํ มาณวํ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสสิ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสสิ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’นฺติ? นนุ มยํ, ตาต อุตฺตร, ปุฺตฺถิกา ทานสฺเสว ผลํ ปาฏิกงฺขิโน’’ติ? ‘‘โภโต โข ทาเน เอวรูปํ โภชนํ ทียติ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ, ยํ ภวํ ปาทาปิ [ปาทาสิ (ก.)] น อิจฺเฉยฺย สมฺผุสิตุํ [ฉุปิตุํ (ปี. ก.)], กุโต ภุฺชิตุํ, โธรกานิ จ วตฺถานิ คุฬวาลกานิ, ยานิ ภวํ ปาทาปิ [อจิตฺติกตํ (ก.)] น อิจฺเฉยฺย สมฺผุสิตุํ, กุโต ปริทหิตุํ. ภวํ โข ปนมฺหากํ ปิโย มนาโป, กถํ มยํ มนาปํ อมนาเปน สํโยเชมา’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ยาทิสาหํ โภชนํ ภุฺชามิ, ตาทิสํ โภชนํ ปฏฺเปหิ. ยาทิสานิ จาหํ วตฺถานิ ปริทหามิ, ตาทิสานิ จ วตฺถานิ ปฏฺเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข อุตฺตโร มาณโว ปายาสิสฺส ราชฺสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยาทิสํ โภชนํ ปายาสิ ราชฺโ ภุฺชติ, ตาทิสํ โภชนํ ปฏฺเปสิ. ยาทิสานิ จ วตฺถานิ ปายาสิ ราชฺโ ปริทหติ, ตาทิสานิ จ วตฺถานิ ปฏฺเปสิ.

๔๔๐. อถ โข ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชิ สุฺํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว. โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ.

ปายาสิเทวปุตฺโต

๔๔๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ควมฺปติ อภิกฺขณํ สุฺํ เสรีสกํ วิมานํ ทิวาวิหารํ คจฺฉติ. อถ โข ปายาสิ เทวปุตฺโต เยนายสฺมา ควมฺปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ควมฺปตึ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข ปายาสึ เทวปุตฺตํ อายสฺมา ควมฺปติ เอตทโวจ – ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปายาสิ ราชฺโ’’ติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิโก อโหสิ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘สจฺจาหํ, ภนฺเต, เอวํทิฏฺิโก อโหสึ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. อปิ จาหํ อยฺเยน กุมารกสฺสเปน เอตสฺมา ปาปกา ทิฏฺิคตา วิเวจิโต’’ติ. ‘‘โย ปน เต, อาวุโส, ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส กุหึ อุปปนฺโน’’ติ? ‘‘โย เม, ภนฺเต, ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. อหํ ปน, ภนฺเต, อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สุฺํ เสรีสกํ วิมานํ. เตน หิ, ภนฺเต ควมฺปติ, มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา เอวมาโรเจหิ – ‘สกฺกจฺจํ ทานํ เทถ, สหตฺถา ทานํ เทถ, จิตฺตีกตํ ทานํ เทถ, อนปวิทฺธํ ทานํ เทถ. ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สุฺํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยต’’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา ควมฺปติ มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘‘สกฺกจฺจํ ทานํ เทถ, สหตฺถา ทานํ เทถ, จิตฺตีกตํ ทานํ เทถ, อนปวิทฺธํ ทานํ เทถ. ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สุฺํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยต’’นฺติ.

ปายาสิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.

มหาวคฺโค นิฏฺิโต.

ตสฺสุทฺทานํ –

มหาปทาน นิทานํ, นิพฺพานฺจ สุทสฺสนํ;

ชนวสภ โควินฺทํ, สมยํ สกฺกปฺหกํ;

มหาสติปฏฺานฺจ, ปายาสิ ทสมํ ภเว [สติปฏฺานปายาสิ, มหาวคฺคสฺส สงฺคโห (สี. ปี.) สติปฏฺานปายาสิ, มหาวคฺโคติ วุจฺจตีติ (สฺยา.)].

มหาวคฺคปาฬิ นิฏฺิตา.