📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาเย
ปาถิกวคฺคฏฺกถา
๑. ปาถิกสุตฺตวณฺณนา
สุนกฺขตฺตวตฺถุวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… มลฺเลสุ วิหรตีติ ปาถิกสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. มลฺเลสุ วิหรตีติ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘มลฺลา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ มลฺเลสุ ชนปเท. ‘‘อนุปิยํ นาม มลฺลานํ นิคโม’’ติ อนุปิยนฺติ เอวํนามโก มลฺลานํ ชนปทสฺส เอโก นิคโม, ตํ โคจรคามํ กตฺวา เอกสฺมึ ฉายูทกสมฺปนฺเน วนสณฺเฑ วิหรตีติ อตฺโถ. อโนปิยนฺติปิ ปาโ. ปาวิสีติ ปวิฏฺโ. ภควา ปน น ตาว ปวิฏฺโ, ปวิสิสฺสามีติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน ปาวิสีติ วุตฺโต. ยถา กึ, ยถา ‘‘คามํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺโต ปุริโส ตํ คามํ อปตฺโตปิ ‘‘กุหึ อิตฺถนฺนาโม’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘คามํ คโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ. เอตทโหสีติ คามสมีเป ตฺวา สูริยํ โอโลเกนฺตสฺส เอตทโหสิ. อติปฺปโค โขติ อติวิย ปโค โข, น ตาว กุเลสุ ยาคุภตฺตํ นิฏฺิตนฺติ. กึ ปน ภควา กาลํ อชานิตฺวา นิกฺขนฺโตติ? น อชานิตฺวา. ปจฺจูสกาเลเยว หิ ภควา าณชาลํ ปตฺถริตฺวา โลกํ โวโลเกนฺโต าณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ ภคฺควโคตฺตํ ฉนฺนปริพฺพาชกํ ทิสฺวา ‘‘อชฺชาหํ อิมสฺส ปริพฺพาชกสฺส มยา ปุพฺเพ กตการณํ สมาหริตฺวา ธมฺมํ กเถสฺสามิ, สา ธมฺมกถา ¶ อสฺส มยิ ปสาทปฺปฏิลาภวเสน สผลา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวาว ปริพฺพาชการามํ ปวิสิตุกาโม อติปฺปโคว นิกฺขมิ. ตสฺมา ตตฺถ ปวิสิตุกามตาย เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.
๒. เอตทโวจาติ ¶ ภควนฺตํ ทิสฺวา มานถทฺธตํ อกตฺวา สตฺถารํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอตํ เอตุ โข, ภนฺเตติอาทิกํ วจนํ อโวจ. อิมํ ปริยายนฺติ อิมํ วารํ, อชฺช อิมํ อาคมนวารนฺติ อตฺโถ. กึ ปน ภควา ปุพฺเพปิ ตตฺถ คตปุพฺโพติ? น คตปุพฺโพ, โลกสมุทาจารวเสน ปน เอวมาห. โลกิยา หิ จิรสฺสํ อาคตมฺปิ อนาคตปุพฺพมฺปิ มนาปชาติกํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘กุโต ภวํ อาคโต, จิรสฺสํ ภวํ อาคโต, กถํ เต อิธาคมนมคฺโค าโต, กึ มคฺคมูฬฺโหสี’’ติอาทีนิ วทนฺติ. ตสฺมา อยมฺปิ โลกสมุทาจารวเสน เอวมาหาติ เวทิตพฺโพ. อิทมาสนนฺติ อตฺตโน นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา สมฺปาเทตฺวา ททมาโน เอวมาห. สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโตติ สุนกฺขตฺโต นาม ลิจฺฉวิราชปุตฺโต. โส กิร ตสฺส คิหิสหาโย โหติ, กาเลน กาลํ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ. ปจฺจกฺขาโตติ ‘‘ปจฺจกฺขามิ ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ น ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิอกฺขาโต นิสฺสฏฺโ ปริจฺจตฺโต.
๓. ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสาติ ภควา เม สตฺถา ‘‘ภควโต อหํ โอวาทํ ปฏิกโรมี’’ติ เอวํ อปทิสิตฺวา. โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ยาจโก วา ยาจิตกํ ปจฺจาจิกฺเขยฺย, ยาจิตโก วา ยาจกํ. ตฺวํ ปน เนว ยาจโก น ยาจิตโก, เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต โก สมาโน กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ทสฺเสติ. ปสฺส โมฆปุริสาติ ปสฺส ตุจฺฉปุริส. ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธนฺติ ยตฺตกํ อิทํ ตว อปรทฺธํ, ยตฺตโก เต อปราโธ ตตฺตโก โทโสติ เอวาหํ ภคฺคว ตสฺส โทสํ อาโรเปสินฺติ ทสฺเสติ.
๔. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาติ ปฺจสีลทสสีลสงฺขาตา มนุสฺสธมฺมาอุตฺตริ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิทฺธิภูตํ ปาฏิหาริยํ. กเต วาติ กตมฺหิ วา. ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส ทุกฺขกฺขยสฺส อตฺถาย. โส ¶ นิยฺยาติ ตกฺกรสฺสาติ ¶ โส ธมฺโม ตกฺกรสฺส ยถา มยา ธมฺโม เทสิโต, ตถา การกสฺส สมฺมา ปฏิปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺพวฏฺฏทุกฺขกฺขยาย อมตนิพฺพานสจฺฉิกิริยาย ¶ คจฺฉติ, น คจฺฉติ, สํวตฺตติ, น สํวตฺตตีติ ปุจฺฉติ. ตตฺร สุนกฺขตฺตาติ ตสฺมึ สุนกฺขตฺต มยา เทสิเต ธมฺเม ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย สํวตฺตมาเน กึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กตํ กริสฺสติ, โก เตน กเตน อตฺโถ. ตสฺมิฺหิ กเตปิ อกเตปิ มม สาสนสฺส ปริหานิ นตฺถิ, เทวมนุสฺสานฺหิ อมตนิพฺพานสมฺปาปนตฺถาย อหํ ปารมิโย ปูเรสึ, น ปาฏิหาริยกรณตฺถายาติ ปาฏิหาริยสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺส, โมฆปุริสา’’ติ ทุติยํ โทสํ อาโรเปสิ.
๕. อคฺคฺนฺติ โลกปฺตฺตึ. ‘‘อิทํ นาม โลกสฺส อคฺค’’นฺติ เอวํ ชานิตพฺพมฺปิ อคฺคํ มริยาทํ น ตํ ปฺเปตีติ วทติ. เสสเมตฺถ อนนฺตรวาทานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
๖. อเนกปริยาเยน โขติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ. สุนกฺขตฺโต กิร ‘‘ภควโต คุณํ มกฺเขสฺสามิ, ‘‘โทสํ ปฺเปสฺสามี’’ติ เอตฺตกํ วิปฺปลปิตฺวา ภควโต กถํ สุณนฺโต อปฺปติฏฺโ นิรโว อฏฺาสิ.
อถ ภควา – ‘‘สุนกฺขตฺต, เอวํ ตฺวํ มกฺขิภาเว ิโต สยเมว ครหํ ปาปุณิสฺสสี’’ติ มกฺขิภาเว อาทีนวทสฺสนตฺถํ อเนกปริยาเยนาติอาทิมาห. ตตฺถ อเนกปริยาเยนาติ อเนกการเณน. วชฺชิคาเมติ วชฺชิราชานํ คาเม, เวสาลีนคเร โน วิสหีติ นาสกฺขิ. โส อวิสหนฺโตติ โส สุนกฺขตฺโต ยสฺส ปุพฺเพ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ กเถนฺตสฺส มุขํ นปฺปโหติ, โส ทานิ เตเนว มุเขน อวณฺณํ กเถติ, อทฺธา อวิสหนฺโต อสกฺโกนฺโต พฺรหฺมจริยํ จริตุํ อตฺตโน พาลตาย อวณฺณํ กเถตฺวา หีนายาวตฺโต. พุทฺโธ ปน สุพุทฺโธว, ธมฺโม สฺวากฺขาโตว, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโนว. เอวํ ตีณิ รตนานิ โถเมนฺตา มนุสฺสา ตุยฺเหว โทสํ ทสฺเสสฺสนฺตีติ. อิติ โข เตติ เอวํ โข เต, สุนกฺขตฺต, วตฺตาโร ภวิสฺสนฺติ. ตโต เอวํ โทเส อุปฺปนฺเน สตฺถา อตีตานาคเต อปฺปฏิหตาโณ, มยฺหํ เอวํ โทโส อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ชานนฺโตปิ ปุเรตรํ น กเถสีติ วตฺตุํ น ลจฺฉสีติ ทสฺเสติ. อปกฺกเมวาติ ¶ อปกฺกมิเยว, อปกฺกนฺโต วา จุโตติ อตฺโถ. ยถา ¶ ตํ อาปายิโกติ ยถา อปาเย นิพฺพตฺตนารโห สตฺโต อปกฺกเมยฺย, เอวเมว อปกฺกมีติ อตฺโถ.
โกรกฺขตฺติยวตฺถุวณฺณนา
๗. เอกมิทาหนฺติ ¶ อิมินา กึ ทสฺเสติ? อิทํ สุตฺตํ ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ น กโรตีติ จ อคฺคฺํ น ปฺเปตีติ จ. ตตฺถ ‘‘อคฺคฺํ น ปฺเปตี’’ติ อิทํ ปทํ สุตฺตปริโยสาเน ทสฺเสสฺสติ. ‘‘ปาฏิหาริยํ น กโรตี’’ติ อิมสฺส ปน ปทสฺส อนุสนฺธิทสฺสนวเสน อยํ เทสนา อารทฺธา.
ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอกสฺมึ อหํ. สมยนฺติ สมเย, เอกสฺมึ กาเล อหนฺติ อตฺโถ. ถูลูสูติ ถูลู นาม ชนปโท, ตตฺถ วิหรามิ. อุตฺตรกา นามาติ อิตฺถิลิงฺควเสน อุตฺตรกาติ เอวํนามโก ถูลูนํ ชนปทสฺส นิคโม, ตํ นิคมํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถ. อเจโลติ นคฺโค. โกรกฺขตฺติโยติ อนฺโตวงฺกปาโท ขตฺติโย. กุกฺกุรวติโกติ สมาทินฺนกุกฺกุรวโต สุนโข วิย ฆายิตฺวา ขาทติ, อุทฺธนนฺตเร นิปชฺชติ, อฺมฺปิ สุนขกิริยเมว กโรติ. จตุกฺกุณฺฑิโกติ จตุสงฺฆฏฺฏิโต ทฺเว ชาณูนิ ทฺเว จ กปฺปเร ภูมิยํ เปตฺวา วิจรติ. ฉมานิกิณฺณนฺติ ภูมิยํ นิกิณฺณํ ปกฺขิตฺตํ ปิตํ. ภกฺขสนฺติ ภกฺขํ ยํกิฺจิ ขาทนียํ โภชนียํ. มุเขเนวาติ หตฺเถน อปรามสิตฺวา ขาทนียํ มุเขเนว ขาทติ, โภชนียมฺปิ มุเขเนว ภฺุชติ. สาธุรูโปติ สุนฺทรรูโป. อยํ สมโณติ อยํ อรหตํ สมโณ เอโกติ. ตตฺถ วตาติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. เอวํ กิรสฺส ปตฺถนา อโหสิ ‘‘อิมินา สมเณน สทิโส อฺโ สมโณ นาม นตฺถิ, อยฺหิ อปฺปิจฺฉตาย วตฺถํ น นิวาเสติ, ‘เอส ปปฺโจ’ติ มฺมาโน ภิกฺขาภาชนมฺปิ น ปริหรติ, ฉมานิกิณฺณเมว ขาทติ, อยํ สมโณ นาม. มยํ ปน กึ สมณา’’ติ? เอวํ สพฺพฺุพุทฺธสฺส ปจฺฉโต จรนฺโตว อิมํ ปาปกํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสิ.
เอตทโวจาติ ¶ ภควา กิร จินฺเตสิ ‘‘อยํ สุนกฺขตฺโต ปาปชฺฌาสโย, กึ นุ อิมํ ทิสฺวา จินฺเตสี’’ติ? อเถวํ จินฺเตนฺโต ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘อยํ โมฆปุริโส มาทิสสฺส สพฺพฺุโน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต ¶ อเจลํ อรหาติ มฺติ, อิเธว ทานายํ พาโล นิคฺคหํ อรหตี’’ติ อนิวตฺติตฺวาว เอตํ ตฺวมฺปิ นามาติอาทิวจนมโวจ. ตตฺถ ตฺวมฺปิ นามาติ ครหตฺเถ ปิกาโร. ครหนฺโต หิ นํ ภควา ‘‘ตฺวมฺปิ นามา’’ติ อาห. ‘‘ตฺวมฺปิ นาม เอวํ หีนชฺฌาสโย, อหํ สมโณ สกฺยปุตฺติโยติ เอวํ ปฏิชานิสฺสสี’’ติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. กึ ปน มํ, ภนฺเตติ มยฺหํ, ภนฺเต, กึ คารยฺหํ ทิสฺวา ภควา ‘‘เอวมาหา’’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา อาจิกฺขนฺโต ‘‘นนุ เต’’ติอาทิมาห. มจฺฉรายตีติ ‘‘มา อฺสฺส ¶ อรหตฺตํ โหตู’’ติ กึ ภควา เอวํ อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตีติ ปุจฺฉติ. น โข อหนฺติ อหํ, โมฆปุริส, สเทวกสฺส โลกสฺส อรหตฺตปฺปฏิลาภเมว ปจฺจาสีสามิ, เอตทตฺถเมว เม พหูนิ ทุกฺกรานิ กโรนฺเตน ปารมิโย ปูริตา, น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ. ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ น อรหนฺตํ อรหาติ, อรหนฺเต จ อนรหนฺโตติ เอวํ ตสฺส ทิฏฺิ อุปฺปนฺนา. ตํ สนฺธาย ‘‘ปาปกํ ทิฏฺิคต’’นฺติ อาห. ยํ โข ปนาติ ยํ เอตํ อเจลํ เอวํ มฺสิ. สตฺตมํ ทิวสนฺติ สตฺตเม ทิวเส. อลสเกนาติ อลสกพฺยาธินา. กาลงฺกริสฺสตีติ อุทฺธุมาตอุทโร มริสฺสติ.
กาลกฺจิกาติ เตสํ อสุรานํ นามํ. เตสํ กิร ติคาวุโต อตฺตภาโว อปฺปมํสโลหิโต ปุราณปณฺณสทิโส กกฺกฏกานํ วิย อกฺขีนิ นิกฺขมิตฺวา มตฺถเก ติฏฺนฺติ, มุขํ สูจิปาสกสทิสํ มตฺถกสฺมึเยว โหติ, เตน โอณมิตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ. พีรณตฺถมฺพเกติ พีรณติณตฺถมฺโพ ตสฺมึ สุสาเน อตฺถิ, ตสฺมา ตํ พีรณตฺถมฺพกนฺติ วุจฺจติ.
เตนุปสงฺกมีติ ภควติ เอตฺตกํ วตฺวา ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ คเต วิหารา นิกฺขมิตฺวา อุปสงฺกมิ. เยน ตฺวนฺติ เยน การเณน ตฺวํ. ยสฺมาปิ ภควตา พฺยากโต, ตสฺมาติ อตฺโถ. มตฺตํ ¶ มตฺตนฺติ ปมาณยุตฺตํ ปมาณยุตฺตํ. ‘‘มนฺตา มนฺตา’’ติปิ ปาโ, ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา อุปปริกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. ยถา สมณสฺส โคตมสฺสาติ ยถา สมณสฺส โคตมสฺส มิจฺฉา วจนํ อสฺส, ตถา กเรยฺยาสีติ อาห. เอวํ วุตฺเต อเจโล สุนโข วิย อุทฺธนฏฺาเน นิปนฺโน สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺโต กึ กเถสิ ‘‘สมโณ นาม ¶ โคตโม อมฺหากํ เวรี วิสภาโค, สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย มยํ สูริเย อุคฺคเต ขชฺโชปนกา วิย ชาตา. สมโณ โคตโม อมฺเห, เอวํ วาจํ วเทยฺย อฺถา วา. เวริโน ปน กถา นาม ตจฺฉา น โหติ, คจฺฉ ตฺวํ อหเมตฺถ กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุนเทว นิปชฺชิ.
๘. เอกทฺวีหิกายาติ เอกํ ทฺเวติ วตฺวา คเณสิ. ยถา ตนฺติ ยถา อสทฺทหมาโน โกจิ คเณยฺย, เอวํ คเณสิ. เอกทิวสฺจ ติกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอโก ทิวโส อตีโต, ทฺเว ทิวสา อตีตาติ อาโรเจสิ. สตฺตมํ ทิวสนฺติ โส กิร สุนกฺขตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา สตฺตาหํ นิราหาโรว อโหสิ. อถสฺส สตฺตเม ทิวเส เอโก อุปฏฺาโก ‘‘อมฺหากํ กุลูปกสมณสฺส อชฺช สตฺตโม ทิวโส เคหํ อนาคจฺฉนฺตสฺส อผาสุ นุ โข ชาต’’นฺติ สูกรมํสํ ปจาเปตฺวา ภตฺตมาทาย คนฺตฺวา ปุรโต ภูมิยํ นิกฺขิปิ. อเจโล ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส กถา ¶ ตจฺฉา วา อตจฺฉา วา โหตุ, อาหารํ ปน ขาทิตฺวา สุหิตสฺส เม มรณมฺปิ สุมรณ’’นฺติ ทฺเว หตฺเถ ชณฺณุกานิ จ ภูมิยํ เปตฺวา กุจฺฉิปูรํ ภฺุชิ. โส รตฺติภาเค ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อลสเกน กาลมกาสิ. สเจปิ หิ โส ‘‘น ภฺุเชยฺย’’นฺติ จินฺเตยฺย, ตถาปิ ตํ ทิวสํ ภฺุชิตฺวา อลสเกน กาลํ กเรยฺย. อทฺเวชฺฌวจนา หิ ตถาคตาติ.
พีรณตฺถมฺพเกติ ติตฺถิยา กิร ‘‘กาลงฺกโต โกรกฺขตฺติโย’’ติ สุตฺวา ทิวสานิ คเณตฺวา อิทํ ตาว สจฺจํ ชาตํ, อิทานิ นํ อฺตฺถ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘มุสาวาเทน สมณํ โคตมํ นิคฺคณฺหิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส สรีรํ วลฺลิยา พนฺธิตฺวา อากฑฺฒนฺตา ‘‘เอตฺถ ฉฑฺเฑสฺสาม, เอตฺถ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติ. คตคตฏฺานํ องฺคณเมว โหติ. เต กฑฺฒมานา พีรณตฺถมฺพกสุสานํเยว คนฺตฺวา สุสานภาวํ ตฺวา ‘‘อฺตฺถ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ อากฑฺฒึสุ. อถ ¶ เนสํ วลฺลิ ฉิชฺชิตฺถ, ปจฺฉา จาเลตุํ นาสกฺขึสุ. เต ตโตว ปกฺกนฺตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสุ’’นฺติ.
๙. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? โส กิร จินฺเตสิ ‘‘อวเสสํ ตาว สมณสฺส โคตมสฺส วจนํ สเมติ, มตสฺส ปน อุฏฺาย อฺเน สทฺธึ กถนํ นาม นตฺถิ, หนฺทาหํ คนฺตฺวา ปุจฺฉามิ. สเจ กเถติ, สุนฺทรํ. โน ¶ เจ กเถติ, สมณํ โคตมํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา การเณน อุปสงฺกมิ. อาโกเฏสีติ ปหริ. ชานามิ อาวุโสติ มตสรีรํ อุฏฺหิตฺวา กเถตุํ สมตฺถํ นาม นตฺถิ, อิทํ กถํ กเถสีติ? พุทฺธานุภาเวน. ภควา กิร โกรกฺขตฺติยํ อสุรโยนิโต อาเนตฺวา สรีเร อธิโมเจตฺวา กถาเปสิ. ตเมว วา สรีรํ กถาเปสิ, อจินฺเตยฺโย หิ พุทฺธวิสโย.
๑๐. ตเถว ตํ วิปากนฺติ ตสฺส วจนสฺส วิปากํ ตเถว, อุทาหุ โนติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, ตเถว โส วิปาโกติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิปกฺก’’นฺติปิ ปนฺติ, นิพฺพตฺตนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ ตฺวา ปาฏิหาริยานิ สมาเนตพฺพานิ. สพฺพาเนว เหตานิ ปฺจ ปาฏิหาริยานิ โหนฺติ. ‘‘สตฺตเม ทิวเส มริสฺสตี’’ติ วุตฺตํ, โส ตเถว มโต, อิทํ ปมํ ปาฏิหาริยํ. ‘‘อลสเกนา’’ติ วุตฺตํ, อลสเกเนว มโต, อิทํ ทุติยํ. ‘‘กาลกฺจิเกสุ นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว นิพฺพตฺโต, อิทํ ตติยํ. ‘‘พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว ฉฑฺฑิโต ¶ , อิทํ จตุตฺถํ. ‘‘นิพฺพตฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา สุนกฺขตฺเตน สทฺธึ กเถสฺสตี’’ติ วุตฺโต, โส กเถสิเยว, อิทํ ปฺจมํ ปาฏิหาริยํ.
อเจลกฬารมฏฺฏกวตฺถุวณฺณนา
๑๑. กฬารมฏฺฏโกติ นิกฺขนฺตทนฺตมตฺตโก. นามเมว วา ตสฺเสตํ. ลาภคฺคปฺปตฺโตติ ลาภคฺคํ ปตฺโต, อคฺคลาภํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยสคฺคปฺปตฺโตติ ยสคฺคํ อคฺคปริวารํ ปตฺโต. วตปทานีติ วตานิเยว, วตโกฏฺาสา วา. สมตฺตานีติ คหิตานิ. สมาทินฺนานีติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุรตฺถิเมน เวสาลินฺติ เวสาลิโต อวิทูเร ปุรตฺถิมาย ทิสาย. เจติยนฺติ ¶ ยกฺขเจติยฏฺานํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๑๒. เยน อเจลโกติ ภควโต วตฺตํ กตฺวา เยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เตนุปสงฺกมิ. ปฺหํ อปุจฺฉีติ คมฺภีรํ ติลกฺขณาหตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. น สมฺปายาสีติ น สมฺมา าณคติยา ปายาสิ, อนฺโธ วิย วิสมฏฺาเน ตตฺถ ตตฺเถว ปกฺขลิ. เนว อาทึ, น ปริโยสานมทฺทส. อถ ¶ วา ‘‘น สมฺปายาสี’’ติ น สมฺปาเทสิ, สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ นาสกฺขิ. อสมฺปายนฺโตติ กพรกฺขีนิ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกนฺโต ‘‘อสิกฺขิตกสฺส สนฺติเก วุฏฺโสิ, อโนกาเสปิ ปพฺพชิโต ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต วิจรสิ, อเปหิ มา เอตสฺมึ าเน อฏฺาสี’’ติ วทนฺโต. โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสีติ กุปฺปนาการํ โกปํ, ทุสฺสนาการํ โทสํ, อตุฏฺาการภูตํ โทมนสฺสสงฺขาตํ อปฺปจฺจยฺจ ปากฏมกาสิ. อาสาทิมฺหเสติ อาสาทิยิมฺห ฆฏฺฏยิมฺห. มา วต โน อโหสีติ อโห วต เม น ภเวยฺย. มํ วต โน อโหสีติปิ ปาโ. ตตฺถ มนฺติ สามิวจนตฺเถ อุปโยควจนํ, อโหสิ วต นุ มมาติ อตฺโถ. เอวฺจ ปน จินฺเตตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘ขมถ เม, ภนฺเต’’ติ ตํ ขมาเปสิ. โสปิ อิโต ปฏฺาย อฺํ กิฺจิ ปฺหํ นาม น ปุจฺฉิสฺสสีติ. อาม น ปุจฺฉิสฺสามีติ. ยทิ เอวํ คจฺฉ, ขมามิ เตติ ตํ อุยฺโยเชสิ.
๑๔. ปริหิโตติ ปริทหิโต นิวตฺถวตฺโถ. สานุจาริโกติ อนุจาริกา วุจฺจติ ภริยา, สห อนุจาริกาย สานุจาริโก, ตํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปหาย สภริโยติ อตฺโถ. โอทนกุมฺมาสนฺติ สุรามํสโต อติเรกํ โอทนมฺปิ กุมฺมาสมฺปิ ภฺุชมาโน. ยสา นิหีโนติ ยํ ลาภคฺคยสคฺคํ ปตฺโต, ตโต ปริหีโน หุตฺวา. ‘‘กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริย’’นฺติ อิธ สตฺตวตปทาติกฺกมวเสน สตฺต ปาฏิหาริยานิ เวทิตพฺพานิ.
อเจลปาถิกปุตฺตวตฺถุวณฺณนา
๑๕. ปาถิกปุตฺโตติ ¶ ปาถิกสฺส ปุตฺโต. าณวาเทนาติ าณวาเทน สทฺธึ. อุปฑฺฒปถนฺติ ¶ โยชนํ เจ, โน อนฺตเร ภเวยฺย, โคตโม อฑฺฒโยชนํ, อหํ อฑฺฒโยชนํ. เอส นโย อฑฺฒโยชนาทีสุ. เอกปทวารมฺปิ อติกฺกมฺม คจฺฉโต ชโย ภวิสฺสติ, อนาคจฺฉโต ปราชโยติ. เต ตตฺถาติ เต มยํ ตตฺถ สมาคตฏฺาเน. ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหนฺติ ตโต ตโต ทิคุณํ ทิคุณํ อหํ กริสฺสามิ, ภควตา สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กาตุํ อสมตฺถภาวํ ชานนฺโตปิ ‘‘อุตฺตมปุริเสน สทฺธึ ปฏฺเปตฺวา อสกฺกุณนฺตสฺสาปิ ปาสํโส โหตี’’ติ ตฺวา เอวมาห. นครวาสิโนปิ ¶ ตํ สุตฺวา ‘‘อสมตฺโถ นาม เอวํ น คชฺชติ, อทฺธา อยมฺปิ อรหา ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺส มหนฺตํ สกฺการมกํสุ.
๑๖. เยนาหํ เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สุนกฺขตฺโต กิร ปาถิกปุตฺโต เอวํ วทตี’’ติ อสฺโสสิ. อถสฺส หีนชฺฌาสยตฺตา หีนทสฺสนาย จิตฺตํ อุทปาทิ.
โส ภควโต วตฺตํ กตฺวา ภควติ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ปาถิกปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺเห กิร เอวรูปึ กถํ กเถถา’’ติ? ‘‘อาม, กเถมา’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘มา ภายิตฺถ วิสฺสตฺถา ปุนปฺปุนํ เอวํ วทถ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺาโก, ตสฺส วิสยํ วิชานามิ, ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กาตุํ น สกฺขิสฺสติ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส กเถตฺวา ภยํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อฺโต คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ตุมฺเห มา ภายิตฺถา’’ติ ตํ อสฺสาเสตฺวา ภควโต สนฺติกํ คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘เยนาหํ เตนุปสงฺกมี’’ติ. ตํ วาจนฺติอาทีสุ ‘‘อหํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหีติ วิจรึ, อภูตํ เม กถิตํ นาหํ พุทฺโธ’’ติ วทนฺโต ตํ วาจํ ปชหติ นาม. รโห นิสีทิตฺวา จินฺตยมาโน ‘‘อหํ ‘เอตฺตกํ กาลํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหี’ติ วิจรึ, อิโต ทานิ ปฏฺาย นาหํ พุทฺโธ’’ติ จินฺตยนฺโต ตํ จิตฺตํ ปชหติ นาม. ‘‘อหํ ‘เอตฺตกํ กาลํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหี’ติ ปาปกํ ทิฏฺึ คเหตฺวา วิจรึ, อิโต ทานิ ปฏฺาย อิมํ ทิฏฺึ ปชหามี’’ติ ปชหนฺโต ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชติ นาม. เอวํ อกโรนฺโต ปน ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวาติ วุจฺจติ. วิปเตยฺยาติ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย คีวโต ปเตยฺย, สตฺตธา วา ปน ผเลยฺย.
๑๗. รกฺขเตตนฺติ ¶ รกฺขตุ เอตํ. เอกํเสนาติ นิปฺปริยาเยน. โอธาริตาติ ภาสิตา. อเจโล ¶ จ, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโตติ เอวํ เอกํเสน ภควโต วาจาย โอธาริตาย สเจ อเจโล ปาถิกปุตฺโต. วิรูปรูเปนาติ วิคตรูเปน วิคจฺฉิตสภาเวน รูเปน อตฺตโน รูปํ ปหาย อทิสฺสมาเนน กาเยน. สีหพฺยคฺฆาทิวเสน วา วิวิธรูเปน สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺย. ตทสฺส ภควโต มุสาติ เอวํ สนฺเต ภควโต ตํ วจนํ มุสา ภเวยฺยาติ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ. เปตฺวา กิร เอตํ น อฺเน ภควา มุสาวาเทน นิคฺคหิตปุพฺโพติ.
๑๘. ทฺวยคามินีติ ¶ สรูเปน อตฺถิภาวํ, อตฺเถน นตฺถิภาวนฺติ เอวํ ทฺวยคามินี. อลิกตุจฺฉนิปฺผลวาจาย เอตํ อธิวจนํ.
๑๙. อชิโตปิ นาม ลิจฺฉวีนํ เสนาปตีติ โส กิร ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ, โส กาลมกาสิ. อถสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา มนุสฺสา ปาถิกปุตฺตํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กุหึ นิพฺพตฺโต เสนาปตี’’ติ? โส อาห – ‘‘มหานิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ. อิทฺจ ปน วตฺวา ปุน อาห ‘‘ตุมฺหากํ เสนาปติ มม สนฺติกํ อาคมฺม อหํ ตุมฺหากํ วจนมกตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ ปติฏฺเปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโตมฺหี’’ติ ปโรทิตฺถาติ. เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหารายาติ เอตฺถ ‘‘ปาฏิหาริยกรณตฺถายา’’ติ กสฺมา น วทติ? อภาวา. สมฺมุขีภาโวปิ หิสฺส เตน สทฺธึ นตฺถิ, กุโต ปาฏิหาริยกรณํ, ตสฺมา ตถา อวตฺวา ‘‘ทิวาวิหารายา’’ติ อาห.
อิทฺธิปาฏิหาริยกถาวณฺณนา
๒๐. คหปติเนจยิกาติ คหปติ มหาสาลา. เตสฺหิ มหาธนธฺนิจโย, ตสฺมา ‘‘เนจยิกา’’ติ วุจฺจนฺติ. อเนกสหสฺสาติ สหสฺเสหิปิ อปริมาณคณนา. เอวํ มหตึ กิร ปริสํ เปตฺวา สุนกฺขตฺตํ อฺโ สนฺนิปาเตตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. เตเนว ภควา เอตฺตกํ กาลํ สุนกฺขตฺตํ คเหตฺวา วิจริ.
๒๑. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสภยํ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ สกลสรีรจลนํ. โลมหํโสติ โลมานํ อุทฺธคฺคภาโว. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ¶ อติมหนฺตํ กถํ กเถตฺวา สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ ปฏิวิรุทฺโธ, มยฺหํ โข ปนพฺภนฺตเร อรหตฺตํ วา ปาฏิหาริยกรณเหตุ วา นตฺถิ, สมโณ ปน โคตโม ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, อถสฺส ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา มหาชโน ‘ตฺวํ ทานิ ปาฏิหาริยํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต กสฺมา อตฺตโน ปมาณมชานิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ ปฏิมลฺโล หุตฺวา คชฺชสี’ติ กฏฺเลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ วิเหเสฺสตี’’ติ. เตนสฺส มหาชนสนฺนิปาตฺเจว ¶ เตน ภควโต จ อาคมนํ สุตฺวา ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อุทปาทิ. โส ตโต ทุกฺขา มุจฺจิตุกาโม ตินฺทุกขาณุกปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ อุปสงฺกมีติ น เกวลํ อุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปน ทูรํ อฑฺฒโยชนนฺตรํ ปริพฺพาชการามํ ปวิฏฺโ. ตตฺถปิ จิตฺตสฺสาทํ อลภมาโน อนฺตนฺเตน อาวิชฺฌิตฺวา อารามปจฺจนฺเต เอกํ คหนฏฺานํ อุปธาเรตฺวา ปาสาณผลเก นิสีทิ. อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ อยํ พาโล กสฺสจิเทว กถํ คเหตฺวา อิธาคจฺเฉยฺย, มา นสฺสตุ พาโล’’ติ ‘‘นิสินฺนปาสาณผลกํ ตสฺส สรีเร อลฺลีนํ โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. สห อธิฏฺานจิตฺเตน ตํ ตสฺส สรีเร อลฺลียิ. โส มหาอทฺทุพนฺธนพทฺโธ วิย ฉินฺนปาโท วิย จ อโหสิ.
อสฺโสสีติ อิโต จิโต จ ปาถิกปุตฺตํ ปริเยสมานา ปริสา ตสฺส อนุปทํ คนฺตฺวา นิสินฺนฏฺานํ ตฺวา อาคเตน อฺตเรน ปุริเสน ‘‘ตุมฺเห กํ ปริเยสถา’’ติ วุตฺเต ปาถิกปุตฺตนฺติ. โส ‘‘ตินฺทุกขาณุกปริพฺพาชการาเม นิสินฺโน’’ติ วุตฺตวจเนน อสฺโสสิ.
๒๒. สํสปฺปตีติ โอสีทติ. ตตฺเถว สฺจรติ. ปาวฬา วุจฺจติ อานิสทฏฺิกา.
๒๓. ปราภูตรูโปติ ปราชิตรูโป, วินฏฺรูโป วา.
๒๕. โคยุเคหีติ โคยุตฺเตหิ สตมตฺเตหิ วา สหสฺสมตฺเตหิ วา ยุเคหิ. อาวิฺเฉยฺยามาติ อากฑฺเฒยฺยาม. ฉิชฺเชยฺยุนฺติ ฉินฺเทยฺยุํ. ปาถิกปุตฺโต ¶ วา พนฺธฏฺาเน ฉิชฺเชยฺย.
๒๖. ทารุปตฺติกนฺเตวาสีติ ทารุปตฺติกสฺส อนฺเตวาสี. ตสฺส กิร เอตทโหสิ ‘‘ติฏฺตุ ตาว ปาฏิหาริยํ, สมโณ โคตโม ‘อเจโล ปาถิกปุตฺโต อาสนาปิ น วุฏฺหิสฺสตี’ติ อาห. หนฺทาหํ คนฺตฺวา เยน เกนจิ อุปาเยน ตํ อาสนา วุฏฺาเปมิ. เอตฺตาวตา จ สมณสฺส โคตมสฺส ปราชโย ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห.
๒๗. สีหสฺสาติ จตฺตาโร สีหา ติณสีโห จ กาฬสีโห จ ปณฺฑุสีโห จ เกสรสีโห จ. เตสํ จตุนฺนํ สีหานํ เกสรสีโห อคฺคตํ คโต, โส อิธาธิปฺเปโต. มิครฺโติ สพฺพจตุปฺปทานํ รฺโ. อาสยนฺติ นิวาสํ. สีหนาทนฺติ อภีตนาทํ. โคจราย ¶ ปกฺกเมยฺยนฺติ อาหารตฺถาย ปกฺกเมยฺยํ. วรํ วรนฺติ อุตฺตมุตฺตมํ, ถูลํ ถูลนฺติ อตฺโถ. มุทุมํสานีติ มุทูนิ มํสานิ ¶ . ‘‘มธุมํสานี’’ติปิ ปาโ, มธุรมํสานีติ อตฺโถ. อชฺฌุเปยฺยนฺติ อุปคจฺเฉยฺยํ. สีหนาทํ นทิตฺวาติ เย ทุพฺพลา ปาณา, เต ปลายนฺตูติ อตฺตโน สูรภาวสนฺนิสฺสิเตน การฺุเน นทิตฺวา.
๒๘. วิฆาสสํวฑฺโฒติ วิฆาเสน สํวฑฺโฒ, วิฆาสํ ภกฺขิตา ติริตฺตมํสํ ขาทิตฺวา วฑฺฒิโต. ทิตฺโตติ ทปฺปิโต ถูลสรีโร. พลวาติ พลสมฺปนฺโน. เอตทโหสีติ กสฺมา อโหสิ? อสฺมิมานโทเสน.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เอกทิวสํ กิร โส สีโห โคจรโต นิวตฺตมาโน ตํ สิงฺคาลํ ภเยน ปลายมานํ ทิสฺวา การฺุชาโต หุตฺวา ‘‘วยส, มา ภายิ, ติฏฺ โก นาม ตฺว’’นฺติ อาห. ชมฺพุโก นามาหํ สามีติ. วยส, ชมฺพุก, อิโต ปฏฺาย มํ อุปฏฺาตุํ สกฺขิสฺสสีติ. อุปฏฺหิสฺสามีติ. โส ตโต ปฏฺาย อุปฏฺาติ. สีโห โคจรโต อาคจฺฉนฺโต มหนฺตํ มหนฺตํ มํสขณฺฑํ อาหรติ. โส ตํ ขาทิตฺวา อวิทูเร ปาสาณปิฏฺเ วสติ. โส กติปาหจฺจเยเนว ถูลสรีโร มหาขนฺโธ ชาโต. อถ นํ สีโห อโวจ – ‘‘วยส, ชมฺพุก, มม วิชมฺภนกาเล อวิทูเร ตฺวา ‘วิโรจ สามี’ติ วตฺตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. สกฺโกมิ สามีติ. โส ตสฺส วิชมฺภนกาเล ตถา กโรติ ¶ . เตน สีหสฺส อติเรโก อสฺมิมาโน โหติ.
อเถกทิวสํ ชรสิงฺคาโล อุทกโสณฺฑิยํ ปานียํ ปิวนฺโต อตฺตโน ฉายํ โอโลเกนฺโต อทฺทส อตฺตโน ถูลสรีรตฺเจว มหาขนฺธตฺจ. ทิสฺวา ‘ชรสิงฺคาโลสฺมี’ติ มนํ อกตฺวา ‘‘อหมฺปิ สีโห ชาโต’’ติ มฺิ. ตโต อตฺตนาว อตฺตานํ เอตทโวจ – ‘‘วยส, ชมฺพุก, ยุตฺตํ นาม ตว อิมินา อตฺตภาเวน ปรสฺส อุจฺฉิฏฺมํสํ ขาทิตุํ, กึ ตฺวํ ปุริโส น โหสิ, สีหสฺสาปิ จตฺตาโร ปาทา ทฺเว ทาา ทฺเว กณฺณา เอกํ นงฺคุฏฺํ, ตวปิ สพฺพํ ตเถว, เกวลํ ตว เกสรภารมตฺตเมว นตฺถี’’ติ. ตสฺเสวํ จินฺตยโต อสฺมิมาโน วฑฺฒิ. อถสฺส เตน อสฺมิมานโทเสน เอตํ ‘‘โก จาห’’นฺติอาทิ มฺิตมโหสิ. ตตฺถ โก จาหนฺติ อหํ โก, สีโห มิคราชา โก, น เม าติ, น สามิโก, กิมหํ ¶ ตสฺส นิปจฺจการํ กโรมีติ อธิปฺปาโย. สิงฺคาลกํเยวาติ สิงฺคาลรวเมว. เภรณฺฑกํเยวาติ อปฺปิยอมนาปสทฺทเมว. เก จ ฉเว สิงฺคาเลติ โก จ ลามโก สิงฺคาโล. เก ปน สีหนาเทติ โก ปน สีหนาโท สิงฺคาลสฺส จ สีหนาทสฺส จ โก สมฺพนฺโธติ อธิปฺปาโย. สุคตาปทาเนสูติ สุคตลกฺขเณสุ. สุคตสฺส สาสนสมฺภูตาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ. กถํ ปเนส ตตฺถ ชีวติ? เอตสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย ททมานา ¶ สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ สมฺพุทฺธานํ เทมาติ เทนฺติ, เตน เอส อพุทฺโธ สมาโน พุทฺธานํ นิยามิตปจฺจเย ปริภฺุชนฺโต สุคตาปทาเนสุ ชีวติ นาม. สุคตาติริตฺตานีติ เตสํ กิร โภชนานิ ททมานา พุทฺธานฺจ พุทฺธสาวกานฺจ ทตฺวา ปจฺฉา อวเสสํ สายนฺหสมเย เทนฺติ. เอวเมส สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชติ นาม. ตถาคเตติ ตถาคตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาสาเทตพฺพํ ฆฏฺฏยิตพฺพํ. อถ วา ‘‘ตถาคเต’’ติอาทีนิ อุปโยคพหุวจนาเนว. อาสาเทตพฺพนฺติ อิทมฺปิ พหุวจนเมว เอกวจนํ วิย วุตฺตํ. อาสาทนาติ อหํ พุทฺเธน สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กริสฺสามีติ ฆฏฺฏนา.
๒๙. สเมกฺขิยานาติ สเมกฺขิตฺวา, มฺิตฺวาติ อตฺโถ. อมฺีติ ปุน อมฺิตฺถ โกตฺถูติ ¶ สิงฺคาโล.
๓๐. อตฺตานํ วิฆาเส สเมกฺขิยาติ โสณฺฑิยํ อุจฺฉิฏฺโทเก ถูลํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา. ยาว อตฺตานํ น ปสฺสตีติ ยาว อหํ สีหวิฆาสสํวฑฺฒิตโก ชรสิงฺคาโลติ เอวํ ยถาภูตํ อตฺตานํ น ปสฺสติ. พฺยคฺโฆติ มฺตีติ สีโหหมสฺมีติ มฺติ, สีเหน วา สมานพโล พฺยคฺโฆเยว อหนฺติ มฺติ.
๓๑. ภุตฺวาน เภเกติ อาวาฏมณฺฑูเก ขาทิตฺวา. ขลมูสิกาโยติ ขเลสุ มูสิกาโย จ ขาทิตฺวา. กฏสีสุ ขิตฺตานิ จ โกณปานีติ สุสาเนสุ ฉฑฺฑิตกุณปานิ จ ขาทิตฺวา. มหาวเนติ มหนฺเต วนสฺมึ. สฺุวเนติ ตุจฺฉวเน. วิวฑฺโฒติ วฑฺฒิโต. ตเถว โส สิงฺคาลกํ อนทีติ เอวํ สํวฑฺโฒปิ มิคราชาหมสฺมีติ มฺิตฺวาปิ ยถา ปุพฺเพ ทุพฺพลสิงฺคาลกาเล, ตเถว โส สิงฺคาลรวํเยว อรวีติ ¶ . อิมายปิ คาถาย เภกาทีนิ ภุตฺวา วฑฺฒิตสิงฺคาโล วิย ลาภสกฺการคิทฺโธ ตฺวนฺติ ปาถิกปุตฺตเมว ฆฏฺเฏสิ.
นาเคหีติ หตฺถีหิ. มหาพนฺธนาติ มหตา กิเลสพนฺธนา โมเจตฺวา. มหาวิทุคฺคาติ มหาวิทุคฺคํ นาม จตฺตาโร โอฆา. ตโต อุทฺธริตฺวา นิพฺพานถเล ปติฏฺเปตฺวา.
อคฺคฺปฺตฺติกถาวณฺณนา
๓๖. อิติ ‘‘ภควา เอตฺตเกน กถามคฺเคน ปาฏิหาริยํ น กโรตี’’ติ ปทสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘น อคฺคฺํ ปฺาเปตี’’ติ อิมสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต อคฺคฺฺจาหนฺติ เทสนํ ¶ อารภิ. ตตฺถ อคฺคฺฺจาหนฺติ อหํ, ภคฺคว, อคฺคฺฺจ ปชานามิ โลกุปฺปตฺติจริยวํสฺจ. ตฺจ ปชานามีติ น เกวลํ อคฺคฺเมว, ตฺจ อคฺคฺํ ปชานามิ. ตโต จ อุตฺตริตรํ สีลสมาธิโต ปฏฺาย ยาว สพฺพฺุตฺาณา ปชานามิ. ตฺจ ปชานํ น ปรามสามีติ ตฺจ ปชานนฺโตปิ อหํ อิทํ นาม ปชานามีติ ตณฺหาทิฏฺิมานวเสน น ปรามสามิ. นตฺถิ ตถาคตสฺส ปรามาโสติ ทีเปติ. ปจฺจตฺตฺเว ¶ นิพฺพุติ วิทิตาติ อตฺตนาเยว อตฺตนิ กิเลสนิพฺพานํ วิทิตํ. ยทภิชานํ ตถาคโตติ ยํ กิเลสนิพฺพานํ ชานนฺโต ตถาคโต. โน อนยํ อาปชฺชตีติ อวิทิตนิพฺพานา ติตฺถิยา วิย อนยํ ทุกฺขํ พฺยสนํ นาปชฺชติ.
๓๗. อิทานิ ยํ ตํ ติตฺถิยา อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ, ตํ ทสฺเสนฺโต สนฺติ ภคฺควาติอาทิมาห. ตตฺถ อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตนฺติ อิสฺสรกตํ พฺรหฺมกตํ, อิสฺสรนิมฺมิตํ พฺรหฺมนิมฺมิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมา เอว หิ เอตฺถ อาธิปจฺจภาเวน อิสฺสโรติ เวทิตพฺโพ. อาจริยกนฺติ อาจริยภาวํ อาจริยวาทํ. ตตฺถ อาจริยวาโท อคฺคฺํ. อคฺคฺํ ปน เอตฺถ เทสิตนฺติ กตฺวา โส อคฺคฺํ ตฺเวว วุตฺโต. กถํ วิหิตกนฺติ เกน วิหิตํ กินฺติ วิหิตํ. เสสํ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๑. ขิฑฺฑาปโทสิกนฺติ ขิฑฺฑาปโทสิกมูลํ.
๔๗. อสตาติ ¶ อวิชฺชมาเนน, อสํวิชฺชมานฏฺเนาติ อตฺโถ. ตุจฺฉาติ ตุจฺเฉน อนฺโตสารวิรหิเตน. มุสาติ มุสาวาเทน. อภูเตนาติ ภูตตฺถวิรหิเตน. อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิอาจิกฺขนฺติ. วิปรีโตติ วิปรีตสฺโ วิปรีตจิตฺโต. ภิกฺขโว จาติ น เกวลํ สมโณ โคตโมเยว, เย จ อสฺส อนุสิฏฺึ กโรนฺติ, เต ภิกฺขู จ วิปรีตา. อถ ยํ สนฺธาย วิปรีโตติ วทนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ สมโณ โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. สุภํ วิโมกฺขนฺติ วณฺณกสิณํ. อสุภนฺตฺเววาติ สุภฺจ อสุภฺจ สพฺพํ อสุภนฺติ เอวํ ปชานาติ. สุภนฺตฺเวว ตสฺมึ สมเยติ สุภนฺติ เอว จ ตสฺมึ สมเย ปชานาติ, น อสุภํ. ภิกฺขโว จาติ เย เต เอวํ วทนฺติ, เตสํ ภิกฺขโว จ อนฺเตวาสิกสมณา วิปรีตา. ปโหตีติ สมตฺโถ ปฏิพโล.
๔๘. ทุกฺกรํ โขติ อยํ ปริพฺพาชโก ยทิทํ ‘‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห, ตํ สาเยฺเยน โกหฺเน อาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ เอตฺตกํ ¶ ธมฺมกถํ ¶ กเถสิ, ตมหํ สุตฺวาปิ ปพฺพชิตุํ น สกฺโกมิ, มยา เอตสฺส สาสนํ ปฏิปนฺนสทิเสน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตโต โส สาเยฺเยน โกหฺเน เอวมาห. เตนสฺส ภควา มมฺมํ ฆฏฺเฏนฺโต วิย ‘‘ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว ตยา อฺทิฏฺิเกนา’’ติอาทิมาห. ตํ โปฏฺปาทสุตฺเต วุตฺตตฺถเมว. สาธุกมนุรกฺขาติ สุฏฺุ อนุรกฺข.
อิติ ภควา ปสาทมตฺตานุรกฺขเณ ปริพฺพาชกํ นิโยเชสิ. โสปิ เอวํ มหนฺตํ สุตฺตนฺตํ สุตฺวาปิ นาสกฺขิ กิเลสกฺขยํ กาตุํ. เทสนา ปนสฺส อายตึ วาสนาย ปจฺจโย อโหสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
ปาถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนา
นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุวณฺณนา
๔๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อุทุมฺพริกสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – ปริพฺพาชโกติ ฉนฺนปริพฺพาชโก. อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเมติ อุทุมฺพริกาย เทวิยา สนฺตเก ปริพฺพาชการาเม. สนฺธาโนติ ตสฺส นามํ. อยํ ปน มหานุภาโว ปริวาเรตฺวา วิจรนฺตานํ ปฺจนฺนํ อุปาสกสตานํ อคฺคปุริโส อนาคามี ภควตา มหาปริสมชฺเฌ เอวํ สํวณฺณิโต –
‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สนฺธาโน คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม อิริยติ. กตเมหิ ฉหิ? พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน อริเยน สีเลน อริเยน าเณน อริยาย วิมุตฺติยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต สนฺธาโน คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม อิริยตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๒๐-๑๓๙).
โส ปาโตเยว อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ปุพฺพณฺหสมเย พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ภิกฺขูสุ วิหารํ คเตสุ ฆเร ขุทฺทกมหลฺลกานํ ทารกานํ สทฺเทน อุพฺพาฬฺโห สตฺถุ สนฺติเก ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺโต. เตน วุตฺตํ ทิวา ทิวสฺส ราชคหา นิกฺขมีติ. ตตฺถ ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺหาติกฺกโม, ตสฺมึ ทิวสสฺสาปิ ทิวาภูเต อติกฺกนฺตมตฺเต มชฺฌนฺหิเก นิกฺขมีติ อตฺโถ. ปฏิสลฺลีโนติ ตโต ตโต รูปาทิโคจรโต จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา นิลีโน ฌานรติเสวนาวเสน เอกีภาวํ คโต. มโนภาวนียานนฺติ มนวฑฺฒกานํ. เย จ อาวชฺชโต มนสิกโรโต จิตฺตํ วินีวรณํ โหติ อุนฺนมติ วฑฺฒติ.
๕๐. อุนฺนาทินิยาติอาทีนิ โปฏฺปาทสุตฺเต วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
๕๑. ยาวตาติ ¶ ¶ ¶ ยตฺตกา. อยํ เตสํ อฺตโรติ อยํ เตสํ อพฺภนฺตโร เอโก สาวโก, ภควโต กิร สาวกา คิหิอนาคามิโนเยว ปฺจสตา ราชคเห ปฏิวสนฺติ. เยสํ เอเกกสฺส ปฺจ ปฺจ อุปาสกสตานิ ปริวารา, เต สนฺธาย ‘‘อยํ เตสํ อฺตโร’’ติ อาห. อปฺเปว นามาติ ตสฺส อุปสงฺกมนํ ปตฺถยมาโน อาห. ปตฺถนาการณํ ปน โปฏฺปาทสุตฺเต วุตฺตเมว.
๕๒. เอตทโวจาติ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเคเยว เตสํ กถาย สุตตฺตา เอตํ อฺถา โข อิเมติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อฺติตฺถิยาติ ทสฺสเนนปิ อากปฺเปนปิ กุตฺเตนปิ อาจาเรนปิ วิหาเรนปิ อิริยาปเถนปิ อฺเ ติตฺถิยาติ อฺติตฺถิยา. สงฺคมฺม สมาคมฺมาติ สงฺคนฺตฺวา สมาคนฺตฺวา ราสิ หุตฺวา นิสินฺนฏฺาเน. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺวนปตฺถานิ คามูปจารโต มุตฺตานิ ทูรเสนาสนานิ. ปนฺตานีติ ทูรตรานิ มนุสฺสูปจารวิรหิตานิ. อปฺปสทฺทานีติ วิหารูปจาเรน คจฺฉโต อทฺธิกชนสฺสปิ สทฺเทน มนฺทสทฺทานิ. อปฺปนิคฺโฆสานีติ อวิภาวิตตฺเถน นิคฺโฆเสน มนฺทนิคฺโฆสานิ. วิชนวาตานีติ อนฺโตสฺจาริโน ชนสฺส วาเตน วิคตวาตานิ. มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานีติ มนุสฺสานํ รหสฺสกรณสฺส ยุตฺตานิ อนุจฺฉวิกานิ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ เอกีภาวสฺส อนุรูปานิ. อิติ สนฺธาโน คหปติ ‘‘อโห มม สตฺถา โย เอวรูปานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวตี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ปติฏฺเปตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนนฺโต นิสีทิ.
๕๓. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ สนฺธาเนน คหปตินา อุทานํ อุทาเนนฺเตน วุตฺเต. นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก อยํ คหปติ มม สนฺติเก นิสินฺโนปิ อตฺตโน สตฺถารํเยว โถเมติ อุกฺกํสติ, อมฺเห ปน อตฺถีติปิ น มฺติ, เอตสฺมึ อุปฺปนฺนโกปํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปริ ปาเตสฺสามีติ สนฺธานํ คหปตึ เอตทโวจ.
ยคฺเฆติ โจทนตฺเถ นิปาโต. ชาเนยฺยาสีติ พุชฺเฌยฺยาสิ ปสฺเสยฺยาสิ. เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปตีติ เกน การเณน เกน ¶ ปุคฺคเลน สทฺธึ สมโณ โคตโม สลฺลปติ วทติ ภาสติ. กึ ¶ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยทิ กิฺจิ สลฺลาปการณํ ภเวยฺย, ยทิ วา โกจิ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ สลฺลาปตฺถิโก คจฺเฉยฺย, สลฺลเปยฺย, น ปน การณํ อตฺถิ, น ตสฺส สนฺติกํ โกจิ คจฺฉติ, สฺวายํ เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, อสลฺลปนฺโต กถํ อุนฺนาที ภวิสฺสตี’’ติ.
สากจฺฉนฺติ สํสนฺทนํ. ปฺาเวยฺยตฺติยนฺติ อุตฺตรปจฺจุตฺตรนเยน าณพฺยตฺตภาวํ. สฺุาคารหตาติ ¶ สฺุาคาเรสุ นฏฺา, สมเณน หิ โคตเมน โพธิมูเล อปฺปมตฺติกา ปฺา อธิคตา, สาปิสฺส สฺุาคาเรสุ เอกกสฺส นิสีทโต นฏฺา. ยทิ ปน มยํ วิย คณสงฺคณิกํ กตฺวา นิสีเทยฺย, นาสฺส ปฺา นสฺเสยฺยาติ ทสฺเสติ. อปริสาวจโรติ อวิสารทตฺตา ปริสํ โอตริตุํ น สกฺโกติ. นาลํ สลฺลาปายาติ น สมตฺโถ สลฺลาปํ กาตุํ. อนฺตมนฺตาเนวาติ โกจิ มํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาติ ปฺหาภีโต อนฺตมนฺตาเนว ปนฺตเสนาสนานิ เสวติ. โคกาณาติ เอกกฺขิหตา กาณคาวี. สา กิร ปริยนฺตจารินี โหติ, อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. สา กิร กาณกฺขิภาเวน วนนฺตาภิมุขีปิ น สกฺโกติ ภวิตุํ. กสฺมา? ยสฺมา ปตฺเตน วา สาขาย วา กณฺฏเกน วา ปหารสฺส ภายติ. คุนฺนํ อภิมุขีปิ น สกฺโกติ ภวิตุํ. กสฺมา? ยสฺมา สิงฺเคน วา กณฺเณน วา วาเลน วา ปหารสฺส ภายติ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. สํสาเทยฺยามาติ เอกปฺหปุจฺฉเนเนว สํสาทนํ วิสาทมาปนฺนํ กเรยฺยาม. ตุจฺฉกุมฺภีว นนฺติ ริตฺตฆฏํ วิย นํ. โอโรเธยฺยามาติ วินนฺเธยฺยาม. ปูริตฆโฏ หิ อิโต จิโต จ ปริวตฺเตตฺวา น สุวินนฺธนีโย โหติ. ริตฺตโก ยถารุจิ ปริวตฺเตตฺวา สกฺกา โหติ วินนฺธิตุํ, เอวเมว หตปฺตาย ริตฺตกุมฺภิสทิสํ สมณํ โคตมํ วาทวินนฺธเนน สมนฺตา วินนฺธิสฺสามาติ วทติ.
อิติ ปริพฺพาชโก สตฺถุ สุวณฺณวณฺณํ นลาฏมณฺฑลํ อปสฺสนฺโต ทสพลสฺส ปรมฺมุขา อตฺตโน พลํ ทีเปนฺโต อสมฺภินฺนํ ขตฺติยกุมารํ ชาติยา ฆฏฺฏยนฺโต จณฺฑาลปุตฺโต วิย อสมฺภินฺนเกสรสีหํ ¶ มิคราชานํ ถาเมน ฆฏฺเฏนฺโต ชรสิงฺคาโล วิย จ นานปฺปการํ ตุจฺฉคชฺชิตํ คชฺชิ. อุปาสโกปิ จินฺเตสิ ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อติ วิย คชฺชติ, อวีจิผุสนตฺถาย ปาทํ, ภวคฺคคฺคหณตฺถาย หตฺถํ ปสารยนฺโต วิย นิรตฺถกํ วายมติ. สเจ เม สตฺถา อิมํ านมาคจฺเฉยฺย, อิมสฺส ปริพฺพาชกสฺส ¶ ยาว ภวคฺคา อุสฺสิตํ มานทฺธชํ านโสว โอปาเตยฺยา’’ติ.
๕๔. ภควาปิ เตสํ ตํ กถาสลฺลาปํ อสฺโสสิเยว. เตน วุตฺตํ ‘‘อสฺโสสิ โข อิมํ กถาสลฺลาป’’นฺติ.
สุมาคธายาติ สุมาคธา นาม โปกฺขรณี, ยสฺสา ตีเร นิสินฺโน อฺตโร ปุริโส ปทุมนาฬนฺตเรหิ อสุรภวนํ ปวิสนฺตํ อสุรเสนํ อทฺทส. โมรนิวาโปติ นิวาโป วุจฺจติ ภตฺตํ, ยตฺถ โมรานํ อภเยน สทฺธึ นิวาโป ทินฺโน, ตํ านนฺติ อตฺโถ. อพฺโภกาเสติ องฺคณฏฺาเน. อสฺสาสปตฺตาติ ตุฏฺิปตฺตา โสมนสฺสปตฺตา. อชฺฌาสยนฺติ อุตฺตมนิสฺสยภูตํ. อาทิพฺรหฺมจริยนฺติ ¶ ปุราณพฺรหฺมจริยสงฺขาตํ อริยมคฺคํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โก นาม โส, ภนฺเต, ธมฺโม เยน ภควตา สาวกา วินีตา อชฺฌาสยาทิพฺรหฺมจริยภูตํ อริยมคฺคํ ปูเรตฺวา อรหตฺตาธิคมวเสน อสฺสาสปตฺตา ปฏิชานนฺตี’’ติ.
ตโปชิคุจฺฉาวาทวณฺณนา
๕๕. วิปฺปกตาติ มมาคมนปจฺจยา อนิฏฺิตา, ว หุตฺวา ิตา, กเถหิ, อหเมตํ นิฏฺเปตฺวา มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสมีติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ.
๕๖. ทุชฺชานํ โขติ ภควา ปริพฺพาชกสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก มยา สาวกานํ เทเสตพฺพํ ธมฺมํ เตหิ ปูเรตพฺพํ ปฏิปตฺตึ ปุจฺฉติ, สจสฺสาหํ อาทิโตว ตํ กเถสฺสามิ, กถิตมฺปิ นํ น ชานิสฺสติ, อยํ ปน วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนวาโท, หนฺทาหํ เอตสฺเสว วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉาเปตฺวา ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธิยา นิรตฺถกภาวํ ทสฺเสมิ. อถ ปจฺฉา อิมํ ปฺหํ พฺยากริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุชฺชานํ โข เอตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สเก อาจริยเกติ อตฺตโน อาจริยวาเท. อธิเชคุจฺเฉติ วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนภาเว. กถํ สนฺตาติ กถํ ภูตา. ตโปชิคุจฺฉาติ วีริเยน ปาปชิคุจฺฉา ปาปวิวชฺชนา. ปริปุณฺณาติ ปริสุทฺธา. กถํ ¶ อปริปุณฺณาติ กถํ อปริสุทฺธา โหตีติ เอวํ ปุจฺฉาติ. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.
๕๗. อปฺปสทฺเท ¶ กตฺวาติ นิรเว อปฺปสทฺเท กตฺวา. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม เอกํ ปฺหมฺปิ น กเถติ, สลฺลาปกถาปิสฺส อติพหุกา นตฺถิ, อิเม ปน อาทิโต ปฏฺาย สมณํ โคตมํ อนุวตฺตนฺติ เจว ปสํสนฺติ จ, หนฺทาหํ อิเม นิสฺสทฺเท กตฺวา สยํ กเถมี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปสทฺเท กตฺวา’’ติ. ‘‘ตโปชิคุจฺฉวาทา’’ติอาทีสุ ตโปชิคุจฺฉํ วทาม, มนสาปิ ตเมว สารโต คเหตฺวา วิจราม, กาเยนปิมฺหา ตเมว อลฺลีนา, นานปฺปการกํ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรามาติ อตฺโถ.
อุปกฺกิเลสวณฺณนา
๕๘. ตปสฺสีติ ตปนิสฺสิตโก. ‘‘อเจลโก’’ติอาทีนิ สีหนาเท (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙๓) ¶ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ตปํ สมาทิยตีติ อเจลกภาวาทิกํ ตปํ สมฺมา อาทิยติ, ทฬฺหํ คณฺหาติ. อตฺตมโน โหตีติ โก อฺโ มยา สทิโส อิมสฺมึ ตเป อตฺถีติ ตุฏฺมโน โหติ. ปริปุณฺณสงฺกปฺโปติ อลเมตฺตาวตาติ เอวํ ปริโยสิตสงฺกปฺโป, อิทฺจ ติตฺถิยานํ วเสน อาคตํ. สาสนาวจเรนาปิ ปน ทีเปตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ ธุตงฺคํ สมาทิยติ, โส เตเนว ธุตงฺเคน โก อฺโ มยา สทิโส ธุตงฺคธโรติ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหตีติ ทุวิธสฺสาเปตสฺส ตปสฺสิโน อยํ อุปกฺกิเลโส โหติ. เอตฺตาวตายํ ตโป อุปกฺกิเลโส โหตีติ วทามิ.
อตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตานํ อุกฺกํสติ อุกฺขิปติ. ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อยํ น มาทิโส’’ติ ปรํ สํหาเรติ อวกฺขิปติ.
มชฺชตีติ มานมทกรเณน มชฺชติ. มุจฺฉตีติ มุจฺฉิโต โหติ คธิโต อชฺฌาปนฺโน. ปมาทมาปชฺชตีติ เอตเทว สารนฺติ ปมาทมาปชฺชติ. สาสเน ปพฺพชิโตปิ ธุตงฺคสุทฺธิโก โหติ, น กมฺมฏฺานสุทฺธิโก. ธุตงฺคเมว อรหตฺตํ วิย สารโต ปจฺเจติ.
๕๙. ลาภสกฺการสิโลกนฺติ ¶ เอตฺถ จตฺตาโร ปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ¶ ลาภา, เตเยว สุฏฺุ กตฺวา ปฏิสงฺขริตฺวา ลทฺธา สกฺกาโร, วณฺณภณนํ สิโลโก. อภินิพฺพตฺเตตีติ อเจลกาทิภาวํ เตรสธุตงฺคสมาทานํ วา นิสฺสาย มหาลาโภ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อภินิพฺพตฺเตตี’’ติ วุตฺโต. เสสเมตฺถ ปุริมวารนเยเนว ทุวิธสฺสาปิ ตปสฺสิโน วเสน เวทิตพฺพํ.
๖๐. โวทาสํ อาปชฺชตีติ ทฺเวภาคํ อาปชฺชติ, ทฺเว ภาเค กโรติ. ขมตีติ รุจฺจติ. นกฺขมตีติ น รุจฺจติ. สาเปกฺโข ปชหตีติ สตณฺโห ปชหติ. กถํ? ปาโตว ขีรภตฺตํ ภุตฺโต โหติ. อถสฺส มํสโภชนํ อุปเนติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘อิทานิ เอวรูปํ กทา ลภิสฺสาม, สเจ ชาเนยฺยาม, ปาโตว ขีรภตฺตํ น ภฺุเชยฺยาม, กึ มยา สกฺกา กาตุํ, คจฺฉ โภ, ตฺวเมว ภฺุชา’’ติ ชีวิตํ ปริจฺจชนฺโต วิย สาเปกฺโข ปชหติ. คธิโตติ เคธชาโต. มุจฺฉิโตติ พลวตณฺหาย มุจฺฉิโต สํมุฏฺสฺสตี หุตฺวา. อชฺฌาปนฺโนติ อามิเส อติลคฺโค, ‘‘ภฺุชิสฺสถ, อาวุโส’’ติ ธมฺมนิมนฺตนมตฺตมฺปิ อกตฺวา มหนฺเต มหนฺเต กพเฬ กโรติ. อนาทีนวทสฺสาวีติอาทีนวมตฺตมฺปิ น ปสฺสติ. อนิสฺสรณปฺโติ อิธ มตฺตฺุตานิสฺสรณปจฺจเวกฺขณปริโภคมตฺตมฺปิ ¶ น กโรติ. ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตูติ ลาภาทีสุ ตณฺหาเหตุ.
๖๑. สํภกฺเขตีติ สํขาทติ. อสนิวิจกฺกนฺติ วิจกฺกสณฺานา อสนิเยว. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘อสนิวิจกฺกํ อิมสฺส ทนฺตกูฏํ มูลพีชาทีสุ น กิฺจิ น สํภฺุชติ. อถ จ ปน นํ สมณปฺปวาเทน สมโณติ สฺชานนฺตี’’ติ. เอวํ อปสาเทติ อวกฺขิปติ. อิทํ ติตฺถิยวเสน อาคตํ. ภิกฺขุวเสน ปเนตฺถ อยํ โยชนา, อตฺตนา ธุตงฺคธโร โหติ, โส อฺํ เอวํ อปสาเทติ ‘‘กึ สมณา นาม อิเม สมณมฺหาติ วทนฺติ, ธุตงฺคมตฺตมฺปิ นตฺถิ, อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปริเยสนฺตา ปจฺจยพาหุลฺลิกา วิจรนฺตี’’ติ. ลูขาชีวินฺติ อเจลกาทิวเสน วา ธุตงฺควเสน วา ลูขาชีวึ. อิสฺสามจฺฉริยนฺติ ปรสฺส สกฺการาทิสมฺปตฺติขียนลกฺขณํ ¶ อิสฺสํ, สกฺการาทิกรณอกฺขมนลกฺขณํ มจฺฉริยฺจ.
๖๒. อาปาถกนิสาที ¶ โหตีติ มนุสฺสานํ อาปาเถ ทสฺสนฏฺาเน นิสีทติ. ยตฺถ เต ปสฺสนฺติ, ตตฺถ ิโต วคฺคุลิวตํ จรติ, ปฺจาตปํ ตปฺปติ, เอกปาเทน ติฏฺติ, สูริยํ นมสฺสติ. สาสเน ปพฺพชิโตปิ สมาทินฺนธุตงฺโค สพฺพรตฺตึ สยิตฺวา มนุสฺสานํ จกฺขุปเถ ตปํ กโรติ, มหาสายนฺเหเยว จีวรกุฏึ กโรติ, สูริเย อุคฺคเต ปฏิสํหรติ, มนุสฺสานํ อาคตภาวํ ตฺวา ฆณฺฑึ ปหริตฺวา จีวรํ มตฺถเก เปตฺวา จงฺกมํ โอตรติ, สมฺมฺุชนึ คเหตฺวา วิหารงฺคณํ สมฺมชฺชติ.
อตฺตานนฺติ อตฺตโน คุณํ อทสฺสยมาโนติ เอตฺถ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ, ทสฺสยมาโนติ อตฺโถ. อิทมฺปิ เม ตปสฺมินฺติ อิทมฺปิ กมฺมํ มเมว ตปสฺมึ, ปจฺจตฺเต วา ภุมฺมํ, อิทมฺปิ มม ตโปติ อตฺโถ. โส หิ อสุกสฺมึ าเน อเจลโก อตฺถิ มุตฺตาจาโรติอาทีนิ สุตฺวา อมฺหากํ เอส ตโป, อมฺหากํ โส อนฺเตวาสิโกติอาทีนิ ภณติ. อสุกสฺมึ วา ปน าเน ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ อตฺถีติอาทีนิ สุตฺวา อมฺหากํ เอส ตโป, อมฺหากํ โส อนฺเตวาสิโกติอาทีนิ ภณติ.
กิฺจิเทวาติ กิฺจิ วชฺชํ ทิฏฺิคตํ วา. ปฏิจฺฉนฺนํ เสวตีติ ยถา อฺเ น ชานนฺติ, เอวํ เสวติ. อกฺขมมานํ อาห ขมตีติ อรุจฺจมานํเยว รุจฺจติ เมติ วทติ. อตฺตนา กตํ อติมหนฺตมฺปิ วชฺชํ อปฺปมตฺตกํ กตฺวา ปฺเปติ, ปเรน กตํ ทุกฺกฏมตฺตํ วีติกฺกมมฺปิ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทสฺเสติ. อนฺุเยฺยนฺติ อนุชานิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ.
๖๓. โกธโน ¶ โหติ อุปนาหีติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน, เวรอปฺปฏินิสฺสคฺคลกฺขเณน อุปนาเหน จ สมนฺนาคโต. มกฺขี โหติ ปฬาสีติ ปรคุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน, ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน จ สมนฺนาคโต.
อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรีติ ปรสกฺการาทีสุ อุสูยนลกฺขณาย อิสฺสาย, อาวาสกุลลาภวณฺณธมฺเมสุ มจฺฉรายนลกฺขเณน ปฺจวิธมจฺเฉเรน จ สมนฺนาคโต โหติ. สโ โหติ มายาวีติ เกราฏิกลกฺขเณน สาเยฺเยน, กตปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย จ สมนฺนาคโต ¶ โหติ. ถทฺโธ ¶ โหติ อติมานีติ นิสฺสิเนหนิกฺกรุณถทฺธลกฺขเณน ถมฺเภน, อติกฺกมิตฺวา มฺนลกฺขเณน อติมาเนน จ สมนฺนาคโต โหติ. ปาปิจฺโฉ โหตีติ อสนฺตสมฺภาวนปตฺถนลกฺขณาย ปาปิจฺฉตาย สมนฺนาคโต โหติ. ปาปิกานนฺติ ตาสํเยว ลามกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต. มิจฺฉาทิฏฺิโกติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทินยปฺปวตฺตาย อยาถาวทิฏฺิยา อุเปโต. อนฺตคฺคาหิกายาติ สาเยว ทิฏฺิ อุจฺเฉทนฺตสฺส คหิตตฺตา ‘‘อนฺตคฺคาหิกา’’ติ วุจฺจติ, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิปรามาสีติอาทีสุ สยํ ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ, สนฺทิฏฺิเมว ปรามสติ คเหตฺวา วทตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสี. อาธานํ วุจฺจติ ทฬฺหํ สุฏฺุ ปิตํ, ตถา กตฺวา คณฺหาตีติ อาธานคฺคาหี. อริฏฺโ วิย น สกฺกา โหติ ปฏินิสฺสชฺชาเปตุนฺติ ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยทิเมติ ยทิ อิเม.
ปริสุทฺธปปฏิกปฺปตฺตกถาวณฺณนา
๖๔. อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสีติ เอวํ ภควา อฺติตฺถิเยหิ คหิตลทฺธึ เตสํ รกฺขิตํ ตปํ สพฺพเมว สํกิลิฏฺนฺติ อุปกฺกิเลสปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริสุทฺธปาฬิทสฺสนตฺถํ เทสนมารภนฺโต อิธ, นิคฺโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘น อตฺตมโน’’ติอาทีนิ วุตฺตวิปกฺขวเสเนว เวทิตพฺพานิ. สพฺพวาเรสุ จ ลูขตปสฺสิโน เจว ธุตงฺคธรสฺส จ วเสน โยชนา เวทิตพฺพา. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหตีติ เอวํ โส เตน น อตฺตมนตา น ปริปุณฺณสงฺกปฺปภาวสงฺขาเตน การเณน ปริสุทฺโธ นิรุปกฺกิเลโส โหติ, อุตฺตริ วายมมาโน กมฺมฏฺานสุทฺธิโก หุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖๙. อทฺธา โข, ภนฺเตติ ภนฺเต เอวํ สนฺเต เอกํเสเนว วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนวาโท ปริสุทฺโธ โหตีติ อนุชานาติ. อิโต ปรฺจ อคฺคภาวํ วา สารภาวํ วา อชานนฺโต อคฺคปฺปตฺตา สารปฺปตฺตา จาติ อาห. อถสฺส ภควา สารปฺปตฺตภาวํ ปฏิเสเธนฺโต น โข นิคฺโรธาติอาทิมาห ¶ . ปปฏิกปฺปตฺตา โหตีติ สารวโต รุกฺขสฺส สารํ เผคฺคุํ ตจฺจ อติกฺกมฺม พหิปปฏิกสทิสา โหตีติ ทสฺเสติ.
ปริสุทฺธตจปฺปตฺตาทิกถาวณฺณนา
๗๐. อคฺคํ ¶ ¶ ปาเปตูติ เทสนาวเสน อคฺคํ ปาเปตฺวา เทเสตุ, สารํ ปาเปตฺวา เทเสตูติ ทสพลํ ยาจติ. จาตุยามสํวรสํวุโตติ จตุพฺพิเธน สํวเรน ปิหิโต. น ปาณํ อติปาเตตีติ ปาณํ น หนติ. น ภาวิตมาสีสตีติ ภาวิตํ นาม เตสํ สฺาย ปฺจ กามคุณา, เต น อาสีสติ น เสวตีติ อตฺโถ.
อทุํ จสฺส โหตีติ เอตฺจสฺส อิทานิ วุจฺจมานํ ‘‘โส อภิหรตี’’ติอาทิลกฺขณํ. ตปสฺสิตายาติ ตปสฺสิภาเวน โหติ. ตตฺถ โส อภิหรตีติ โส ตํ สีลํ อภิหรติ, อุปรูปริ วฑฺเฒติ. สีลํ เม ปริปุณฺณํ, ตโป อารทฺโธ, อลเมตฺตาวตาติ น วีริยํ วิสฺสชฺเชติ. โน หีนายาวตฺตตีติ หีนาย คิหิภาวตฺถาย น อาวตฺตติ. สีลโต อุตฺตริ วิเสสาธิคมตฺถาย วีริยํ กโรติเยว, เอวํ กโรนฺโต โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ. ‘‘อรฺ’’นฺติอาทีนิ สามฺผเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๖) วิตฺถาริตาเนว. ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วณฺณิตานิ. ตจปฺปตฺตาติ ปปฏิกโต อพฺภนฺตรํ ตจํ ปตฺตา. เผคฺคุปฺปตฺตาติ ตจโต อพฺภนฺตรํ เผคฺคุํ ปตฺตา, เผคฺคุสทิสา โหตีติ อตฺโถ.
๗๔. ‘‘เอตฺตาวตา, โข นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จา’’ติ อิทํ ภควา ติตฺถิยานํ วเสนาห. ติตฺถิยานฺหิ ลาภสกฺกาโร รุกฺขสฺส สาขาปลาสสทิโส. ปฺจสีลมตฺตกํ ปปฏิกสทิสํ. อฏฺสมาปตฺติมตฺตํ ตจสทิสํ. ปุพฺเพนิวาสาณาวสานา อภิฺา เผคฺคุสทิสา. ทิพฺพจกฺขุํ ปเนเต อรหตฺตนฺติ คเหตฺวา วิจรนฺติ. เตน เนสํ ตํ รุกฺขสฺส สารสทิสํ. สาสเน ปน ลาภสกฺกาโร สาขาปลาสสทิโส. สีลสมฺปทา ปปฏิกสทิสา. ฌานสมาปตฺติโย ตจสทิสา. โลกิยาภิฺา เผคฺคุสทิสา. มคฺคผลํ สาโร. อิติ ภควตา อตฺตโน สาสนํ โอนตวินตผลภารภริตรุกฺขูปมาย อุปมิตํ. โส เทสนากุสลตาย ตโต ตจสารสมฺปตฺติโต มม สาสนํ อุตฺตริตรฺเจว ปณีตตรฺจ, ตํ ตุวํ กทา ชานิสฺสสีติ ¶ อตฺตโนเทสนาย วิเสสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิติ โข นิคฺโรธา’’ติ เทสนํ อารภิ ¶ . เต ปริพฺพาชกาติ เต ตสฺส ปริวารา ตึสสตสงฺขฺยา ปริพฺพาชกา. เอตฺถ มยํ อนสฺสามาติ เอตฺถ อเจลกปาฬิอาทีสุ, อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘อมฺหากํ อเจลกปาฬิมตฺตมฺปิ นตฺถิ ¶ , กุโต ปริสุทฺธปาฬิ. อมฺหากํ ปริสุทฺธปาฬิมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต จาตุยามสํวราทีนิ. จาตุยามสํวโรปิ นตฺถิ, กุโต อรฺวาสาทีนิ. อรฺวาโสปิ นตฺถิ, กุโต นีวรณปฺปหานาทีนิ. นีวรณปฺปหานมฺปิ นตฺถิ, กุโต พฺรหฺมวิหาราทีนิ. พฺรหฺมวิหารมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต ปุพฺเพนิวาสาทีนิ. ปุพฺเพนิวาสาณมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต อมฺหากํ ทิพฺพจกฺขุ. เอตฺถ มยํ สอาจริยกา นฏฺา’’ติ. อิโต ภิยฺโย อุตฺตริตรนฺติ อิโต ทิพฺพจกฺขุาณาธิคมโต ภิยฺโย อฺํ อุตฺตริตรํ วิเสสาธิคมํ มยํ สุติวเสนาปิ น ชานามาติ วทนฺติ.
นิคฺโรธสฺสปชฺฌายนวณฺณนา
๗๕. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกนฺติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘อิเม ปริพฺพาชกา อิทานิ ภควโต ภาสิตํ สุสฺสูสนฺติ, อิมินา จ นิคฺโรเธน ภควโต ปรมฺมุขา กกฺขฬํ ทุราสทวจนํ วุตฺตํ, อิทานิ อยมฺปิ โสตุกาโม ชาโต, กาโล ทานิ เม อิมสฺส มานทฺธชํ นิปาเตตฺวา ภควโต สาสนํ อุกฺขิปิตุ’’นฺติ. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ. อปรมฺปิสฺส อโหสิ ‘‘อยํ มยิ อกเถนฺเต สตฺถารํ น ขมาเปสฺสติ, ตทสฺส อนาคเต อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺติสฺสติ, มยา ปน กถิเต ขมาเปสฺสติ, ตทสฺส ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ. อปริสาวจรํ ปน นํ กโรถาติ เอตฺถ ปนาติ นิปาโต, อถ นํ อปริสาวจรํ กโรถาติ อตฺโถ. ‘‘อปริสาวจเรต’’นฺติปิ ปาโ, อปริสาวจรํ วา เอตํ กโรถ, โคกาณาทีนํ วา อฺตรนฺติ อตฺโถ.
โคกาณนฺติ เอตฺถาปิ โคกาณํ ปริยนฺตจารินึ วิย กโรถาติ อตฺโถ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ อุปคโต. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอนตคีโว. อโธมุโขติ เหฏฺามุโข.
๗๖. พุทฺโธ ¶ ¶ โส ภควา โพธายาติ สยํ พุทฺโธ สตฺตานมฺปิ จตุสจฺจโพธตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ. ทนฺโตติ จกฺขุโตปิ ทนฺโต…เป… มนโตปิ ทนฺโต. ทมถายาติ อฺเสมฺปิ ทมนตฺถาย เอว, น วาทตฺถาย. สนฺโตติ ราคสนฺตตาย สนฺโต, โทสโมหสนฺตตาย สพฺพ อกุสลสพฺพาภิสงฺขารสนฺตตาย สนฺโต. สมถายาติ มหาชนสฺส ราคาทิสมนตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ. ติณฺโณติ จตฺตาโร โอเฆ ติณฺโณ. ตรณายาติ มหาชนสฺส โอฆนิตฺถรณตฺถาย. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปรินิพฺพานายาติ มหาชนสฺสาปิ สพฺพกิเลสปรินิพฺพานตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ.
พฺรหฺมจริยปริโยสานาทิวณฺณนา
๗๗. อจฺจโยติอาทีนิ ¶ สามฺผเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๐) วุตฺตานิ. อุชุชาติโกติ กายวงฺกาทิวิรหิโต อุชุสภาโว. อหมนุสาสามีติ อหํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ อนุสาสามิ, ธมฺมํ อสฺส เทเสมิ. สตฺตาหนฺติ สตฺตทิวสานิ, อิทํ สพฺพมฺปิ ภควา ทนฺธปฺํ ปุคฺคลํ สนฺธายาห อสโ ปน อมายาวี อุชุชาติโก ตํมุหุตฺเตเนว อรหตฺตํ ปตฺตุํ สกฺขิสฺสติ. อิติ ภควา ‘‘อส’’นฺติอาทิวจเนน สโ หิ วงฺกวงฺโก, มยาปิ น สกฺกา อนุสาสิตุนฺติ ทีเปนฺโต ปริพฺพาชกํ ปาเทสุ คเหตฺวา มหาเมรุปาทตเล วิย ขิปิตฺถ. กสฺมา? อยฺหิ อติสโ, กุฏิลจิตฺโต สตฺถริ เอวํ กเถนฺเตปิ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ นาธิมุจฺจติ, อธิมุจฺจนตฺถาย โสตํ น โอทหติ, โกหฺเ ิโต สตฺถารํ ขมาเปติ. ตสฺมา ภควา ตสฺสชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ’’ติอาทิมาห. สํ ปนาหํ อนุสาสิตุํ น สกฺโกมีติ.
๗๘. อนฺเตวาสิกมฺยตาติ อนฺเตวาสิกมฺยตาย, อมฺเห อนฺเตวาสิเก อิจฺฉนฺโต. เอวมาหาติ ‘‘เอตุ วิฺุปุริโส’’ติอาทิมาห. โย เอว โว อาจริโยติ โย เอว ตุมฺหากํ ปกติยา อาจริโย. อุทฺเทสา โน จาเวตุกาโมติ อตฺตโน อนุสาสนึ คาหาเปตฺวา อมฺเห อมฺหากํ อุทฺเทสโต จาเวตุกาโม. โส ¶ เอว โว อุทฺเทโส โหตูติ โย ตุมฺหากํ ปกติยา อุทฺเทโส, โส ตุมฺหากํเยว โหตุ ¶ , น มยํ ตุมฺหากํ อุทฺเทเสน อตฺถิกา. อาชีวาติ อาชีวโต. อกุสลสงฺขาตาติ อกุสลาติ โกฏฺาสํ ปตฺตา. อกุสลา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทธมฺมา ตณฺหาเยว วา วิเสเสน. สา หิ ปุนพฺภวกรณโต ‘‘โปโนพฺภวิกา’’ติ วุตฺตา. สทรถาติ กิเลสทรถสมฺปยุตฺตา. ชาติชรามรณิยาติ ชาติชรามรณานํ ปจฺจยภูตา. สํกิเลสิกา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. โวทานิยาติ, สมถวิปสฺสนา ธมฺมา. เต หิ สตฺเต โวทาเปนฺติ, ตสฺมา ‘‘โวทานิยา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาปาริปูรินฺติ มคฺคปฺาปาริปูรึ. เวปุลฺลตฺตฺจาติ ผลปฺาเวปุลฺลตํ, อุโภปิ วา เอตานิ อฺมฺเววจนาเนว. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ตโต ตุมฺเห มคฺคปฺฺเจว ผลปฺฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ. เอวํ ภควา ปริพฺพาชเก อารพฺภ อตฺตโน โอวาทานุสาสนิยา ผลํ ทสฺเสนฺโต อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.
๗๙. ยถา ตํ มาเรนาติ ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา นิสีทนฺติ เอวเมว ตุณฺหีภูตา…เป… อปฺปฏิภานา นิสินฺนา.
มาโร ¶ กิร สตฺถา อติวิย คชฺชนฺโต พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา อิเมสํ ปริพฺพาชกานํ ธมฺมํ เทเสติ, กทาจิ ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺย, หนฺทาหํ ปริยุฏฺามีติ โส เตสํ จิตฺตานิ ปริยุฏฺาสิ. อปฺปหีนวิปลฺลาสานฺหิ จิตฺตํ มารสฺส ยถากามกรณียํ โหติ. เตปิ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา ถทฺธงฺคปจฺจงฺคา วิย ตุณฺหี อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ สตฺถา อิเม ปริพฺพาชกา อติวิย นิรวา หุตฺวา นิสินฺนา, กึ นุ โขติ อาวชฺชนฺโต มาเรน ปริยุฏฺิตภาวํ อฺาสิ. สเจ ปน เตสํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุ ภเวยฺย, มารํ ปฏิพาหิตฺวาปิ ภควา ธมฺมํ เทเสยฺย, โส ปน เตสํ นตฺถิ. ‘‘สพฺเพปิ เม ตุจฺฉปุริสา’’ติ อฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควโต เอตทโหสิ สพฺเพปิ เม โมฆปุริสา’’ติอาทิ.
ตตฺถ ผุฏฺา ปาปิมตาติ ปาปิมตา มาเรน ผุฏฺา. ยตฺร หิ นามาติ เยสุ นาม. อฺาณตฺถมฺปีติ ¶ ชานนตฺถมฺปิ. กึ กริสฺสติ สตฺตาโหติ สมเณน โคตเมน ปริจฺฉินฺนสตฺตาโห อมฺหากํ กึ กริสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘สมเณน โคตเมน ‘สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตาห’นฺติ วุตฺตํ, โส สตฺตาโห อมฺหากํ กึ อปฺผาสุกํ กริสฺสติ. ¶ หนฺท มยํ สตฺตาหพฺภนฺตเร เอตํ ธมฺมํ สจฺฉิกาตุํ สกฺกา, น สกฺกาติ อฺาณตฺถมฺปิ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ. อถ วา ชานาม ตาวสฺส ธมฺมนฺติ เอกทิวเส เอกวารํ อฺาณตฺถมฺปิ เอเตสํ จิตฺตํ นุปฺปนฺนํ, สตฺตาโห ปน เอเตสํ กุสีตานํ กึ กริสฺสติ, กึ สกฺขิสฺสนฺติ เต สตฺตาหํ ปูเรตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. สีหนาทนฺติ ปรวาทภินฺทนํ สกวาทสมุสฺสาปนฺจ อภีตนาทํ นทิตฺวา. ปจฺจุปฏฺาสีติ ปติฏฺิโต. ตาวเทวาติ ตสฺมิฺเว ขเณ. ราชคหํ ปาวิสีติ ราชคหเมว ปวิฏฺโ. เตสํ ปน ปริพฺพาชกานํ กิฺจาปิ อิทํ สุตฺตนฺตํ สุตฺวา วิเสโส น นิพฺพตฺโต, อายตึ ปน เนสํ วาสนาย ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา
อตฺตทีปสรณตาวณฺณนา
๘๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จกฺกวตฺติสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – มาตุลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา อวิทูเร วนสณฺเฑ วิหรติ. ‘‘ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสี’’ติ เอตฺถ อยมนุปุพฺพิกถา –
ภควา กิร อิมสฺส สุตฺตสฺส สมุฏฺานสมเย ปจฺจูสกาเล มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต อิมาย อนาคตวํสทีปิกาย สุตฺตนฺตกถาย มาตุลนครวาสีนํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมยํ ทิสฺวา ปาโตว วีสติภิกฺขุสหสฺสปริวาโร มาตุลนครํ สมฺปตฺโต. มาตุลนครวาสิโน ขตฺติยา ‘‘ภควา อาคโต’’ติ สุตฺวา ปจฺจุคฺคมฺม ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา มหาสกฺกาเรน นครํ ปเวเสตฺวา นิสชฺชฏฺานํ สํวิธาย ภควนฺตํ มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทํสุ. ภควา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ อิมสฺมึ าเน อิเมสํ มนุสฺสานํ ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, อยํ ปเทโส สมฺพาโธ, มนุสฺสานํ าตุํ วา นิสีทิตุํ วา โอกาโส น ภวิสฺสติ, มหตา โข ปน สมาคเมน ภวิตพฺพ’’นฺติ.
อถ ราชกุลานํ ภตฺตานุโมทนํ อกตฺวาว ปตฺตํ คเหตฺวา นครโต นิกฺขมิ. มนุสฺสา จินฺตยึสุ – ‘‘สตฺถา อมฺหากํ อนุโมทนมฺปิ อกตฺวา คจฺฉติ, อทฺธา ภตฺตคฺคํ อมนาปํ อโหสิ, พุทฺธานํ นาม น สกฺกา จิตฺตํ คเหตุํ, พุทฺเธหิ สทฺธึ วิสฺสาสกรณํ นาม สมุสฺสิตผณํ อาสีวิสํ คีวาย คหณสทิสํ โหติ; เอถ โภ, ตถาคตํ ขมาเปสฺสามา’’ติ. สกลนครวาสิโน ภควตา สเหว นิกฺขนฺตา. ภควา คจฺฉนฺโตว มคธกฺเขตฺเต ิตํ สาขาวิฏปสมฺปนฺนํ สนฺทจฺฉายํ กรีสมตฺตภูมิปตฺถฏํ เอกํ มาตุลรุกฺขํ ทิสฺวา อิมสฺมึ รุกฺขมูเล ¶ นิสีทิตฺวา ธมฺเม เทสิยมาเน ‘‘มหาชนสฺส ¶ านนิสชฺชโนกาโส ภวิสฺสตี’’ติ. นิวตฺติตฺวา ¶ มคฺคา โอกฺกมฺม รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมภณฺฑาคาริกํ อานนฺทตฺเถรํ โอโลเกสิ. เถโร โอโลกิตสฺาย เอว ‘‘สตฺถา นิสีทิตุกาโม’’ติ ตฺวา สุคตมหาจีวรํ ปฺเปตฺวา อทาสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อถสฺส ปุรโต มนุสฺสา นิสีทึสุ. อุโภสุ ปสฺเสสุ ปจฺฉโต จ ภิกฺขุสงฺโฆ, อากาเส เทวตา อฏฺํสุ, เอวํ มหาปริสมชฺฌคโต ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
เต ภิกฺขูติ ตตฺร อุปวิฏฺา ธมฺมปฺปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู. อตฺตทีปาติ อตฺตานํ ทีปํ ตาณํ เลณํ คตึ ปรายณํ ปติฏฺํ กตฺวา วิหรถาติ อตฺโถ. อตฺตสรณาติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. อนฺสรณาติ อิทํ อฺสรณปฏิกฺเขปวจนํ. น หิ อฺโ อฺสฺส สรณํ โหติ, อฺสฺส วายาเมน อฺสฺส อสุชฺฌนโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ, โก หิ นาโถ ปโร สิยา’’ติ (ธ. ป. ๑๖๐). เตนาห ‘‘อนฺสรณา’’ติ. โก ปเนตฺถ อตฺตา นาม, โลกิยโลกุตฺตโร ธมฺโม. เตนาห – ‘‘ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา’’ติ. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติอาทีนิ มหาสติปฏฺาเน วิตฺถาริตานิ.
โคจเรติ จริตุํ ยุตฺตฏฺาเน. สเกติ อตฺตโน สนฺตเก. เปตฺติเก วิสเยติ ปิติโต อาคตวิสเย. จรตนฺติ จรนฺตานํ. ‘‘จรนฺต’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. น ลจฺฉตีติ น ลภิสฺสติ น ปสฺสิสฺสติ. มาโรติ เทวปุตฺตมาโรปิ, มจฺจุมาโรปิ, กิเลสมาโรปิ. โอตารนฺติ รนฺธํ ฉิทฺทํ วิวรํ. อยํ ปนตฺโถ เลฑฺฑุฏฺานโต นิกฺขมฺม โตรเณ นิสีทิตฺวา พาลาตปํ ตปนฺตํ ลาปํ สกุณํ คเหตฺวา. ปกฺขนฺทเสนสกุณวตฺถุนา ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกุณคฺฆิ ลาปํ สกุณํ สหสา อชฺฌปฺปตฺตา อคฺคเหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ลาโป สกุโณ สกุณคฺฆิยา หริยมาโน เอวํ ปริเทวสิ ‘มยเมวมฺห อลกฺขิกา, มยํ อปฺปปฺุา, เย ¶ มยํ อโคจเร จริมฺห ปรวิสเย, สเจชฺช มยํ โคจเร จเรยฺยาม สเก เปตฺติเก วิสเย, น มฺยายํ สกุณคฺฆิ อลํ อภวิสฺส ยทิทํ ยุทฺธายา’ติ. โก ปน เต ลาป โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโยติ? ยทิทํ ¶ นงฺคลกฏฺกรณํ เลฑฺฑุฏฺานนฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกุณคฺฆิ สเก พเล อปตฺถทฺธา สเก พเล อสํวทมานา ลาปํ สกุณํ ปมฺุจิ คจฺฉ โข ตฺวํ ลาป, ตตฺรปิ คนฺตฺวา น โมกฺขสีติ.
อถ โข ¶ , ภิกฺขเว, ลาโป สกุโณ นงฺคลกฏฺกรณํ เลฑฺฑุฏฺานํ คนฺตฺวา มหนฺตํ เลฑฺฑุํ อภิรุหิตฺวา สกุณคฺฆึ วทมาโน อฏฺาสิ ‘‘เอหิ โข ทานิ เม สกุณคฺฆิ, เอหิ โข ทานิ เม สกุณคฺฆี’’ติ. อถ โข สา, ภิกฺขเว, สกุณคฺฆิ สเก พเล อปตฺถทฺธา สเก พเล อสํวทมานา อุโภ ปกฺเข สนฺนยฺห ลาปํ สกุณํ สหสา อชฺฌปฺปตฺตา. ยทา โข, ภิกฺขเว, อฺาสิ ลาโป สกุโณ พหุอาคตา โข มฺยายํ สกุณคฺฆีติ, อถ โข ตสฺเสว เลฑฺฑุสฺส อนฺตรํ ปจฺจุปาทิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกุณคฺฆิ ตตฺเถว อุรํ ปจฺจตาเฬสิ. เอวฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, โหติ โย อโคจเร จรติ ปรวิสเย.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, มา อโคจเร จริตฺถ ปรวิสเย, อโคจเร, ภิกฺขเว, จรตํ ปรวิสเย ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํ. โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย, ยทิทํ ปฺจ กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา. อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย.
โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ…เป… น ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํ. โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย, ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร? อิธ ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ – อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโยติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๑).
กุสลานนฺติ อนวชฺชลกฺขณานํ. สมาทานเหตูติ สมาทาย วตฺตนเหตุ. เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ ¶ เอวํ อิทํ โลกิยโลกุตฺตรํ ปฺุผลํ วฑฺฒติ, ปฺุผลนฺติ จ อุปรูปริ ปฺุมฺปิ ปฺุวิปาโกปิ เวทิตพฺโพ.
ทฬฺหเนมิจกฺกวตฺติราชกถาวณฺณนา
๘๑. ตตฺถ ¶ ทุวิธํ กุสลํ ¶ วฏฺฏคามี จ วิวฏฺฏคามี จ. ตตฺถ วฏฺฏคามิกุสลํ นาม มาตาปิตูนํ ปุตฺตธีตาสุ ปุตฺตธีตานฺจ มาตาปิตูสุ สิเนหวเสน มุทุมทฺทวจิตฺตํ. วิวฏฺฏคามิกุสลํ นาม ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิเภทา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. เตสุ วฏฺฏคามิปฺุสฺส ปริโยสานํ มนุสฺสโลเก จกฺกวตฺติสิรีวิภโว. วิวฏฺฏคามิกุสลสฺส มคฺคผลนิพฺพานสมฺปตฺติ. ตตฺถ วิวฏฺฏคามิกุสลสฺส วิปากํ สุตฺตปริโยสาเน ทสฺเสสฺสติ.
อิธ ปน วฏฺฏคามิกุสลสฺส วิปากทสฺสนตฺถํ, ภิกฺขเว, ยทา ปุตฺตธีตโร มาตาปิตูนํ โอวาเท น อฏฺํสุ, ตทา อายุนาปิ วณฺเณนาปิ อิสฺสริเยนาปิ ปริหายึสุ. ยทา ปน อฏฺํสุ, ตทา วฑฺฒึสูติ วตฺวา วฏฺฏคามิกุสลานุสนฺธิวเสน ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว’’ติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ จกฺกวตฺตีติอาทีนิ มหาปทาเน (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓) วิตฺถาริตาเนว.
๘๒. โอสกฺกิตนฺติ อีสกมฺปิ อวสกฺกิตํ. านา จุตนฺติ สพฺพโส านา อปคตํ. ตํ กิร จกฺกรตนํ อนฺเตปุรทฺวาเร อกฺขาหตํ วิย เวหาสํ อฏฺาสิ. อถสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ขทิรตฺถมฺเภ นิขณิตฺวา จกฺกรตนมตฺถเก เนมิอภิมุขํ เอกํ สุตฺตกํ พนฺธึสุ. อโธภาเคปิ เนมิอภิมุขํ เอกํ พนฺธึสุ. เตสุ อุปริมสุตฺตโต อปฺปมตฺตกมฺปิ โอคตํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ, เหฏฺา สุตฺตสฺส านํ อุปริมโกฏิยา อติกฺกนฺตคตํ านา จุตํ นาม โหติ, ตเทตํ อติพลวโทเส สติ เอวํ โหติ. สุตฺตมตฺตมฺปิ เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตํ วา ภฏฺํ านา จุตเมว โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘โอสกฺกิตํ านา จุต’’นฺติ.
อถ เม อาโรเจยฺยาสีติ ตาต, ตฺวํ อชฺช อาทึ กตฺวา ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ จกฺกรตนสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉ, เอวํ คจฺฉนฺโต ยทา จกฺกรตนํ อีสกมฺปิ โอสกฺกิตํ านา จุตํ ปสฺสสิ, อถ มยฺหํ อาจิกฺเขยฺยาสิ. ชีวิตฺหิ เม ตว หตฺเถ นิกฺขิตฺตนฺติ. อทฺทสาติ อปฺปมตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต เอกทิวสํ อทฺทส.
๘๓. อถ ¶ โข, ภิกฺขเวติ ภิกฺขเว, อถ ราชา ทฬฺหเนมิ ‘‘จกฺกรตนํ โอสกฺกิต’’นฺติ ¶ สุตฺวา อุปฺปนฺนพลวโทมนสฺโส ‘‘น ทานิ มยา จิรํ ชีวิตพฺพํ ภวิสฺสติ, อปฺปาวเสสํ เม อายุ, น เม ทานิ กาเม ปริภฺุชนกาโล, ปพฺพชฺชากาโล เม ¶ อิทานี’’ติ โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ. สมุทฺทปริยนฺตนฺติ ปริกฺขิตฺตเอกสมุทฺทปริยนฺตเมว. อิทํ หิสฺส กุลสนฺตกํ. จกฺกวาฬปริยนฺตํ ปน ปฺุิทฺธิวเสน นิพฺพตฺตํ, น ตํ สกฺกา ทาตุํ. กุลสนฺตกํ ปน นิยฺยาเตนฺโต ‘‘สมุทฺทปริยนฺต’’นฺติ อาห. เกสมสฺสุนฺติ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชนฺตาปิ หิ ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาเรนฺติ. ตโต ปฏฺาย ปรูฬฺหเกเส พนฺธิตฺวา วิจรนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา’’ติ.
กาสายานีติ กสายรสปีตานิ. อาทิโต เอวํ กตฺวา ปจฺฉา วกฺกลานิปิ ธาเรนฺติ. ปพฺพชีติ ปพฺพชิโต. ปพฺพชิตฺวา จ อตฺตโน มงฺคลวนุยฺยาเนเยว วสิ. ราชิสิมฺหีติ ราชอีสิมฺหิ. พฺราหฺมณปพฺพชิตา หิ ‘‘พฺราหฺมณิสโย’’ติ วุจฺจนฺติ. เสตจฺฉตฺตํ ปน ปหาย ราชปพฺพชิตา ราชิสโยติ. อนฺตรธายีติ อนฺตรหิตํ นิพฺพุตทีปสิขา วิย อภาวํ อุปคตํ. ปฏิสํเวเทสีติ กนฺทนฺโต ปริเทวนฺโต ชานาเปสิ. เปตฺติกนฺติ ปิติโต อาคตํ ทายชฺชํ น โหติ, น สกฺกา กุสีเตน หีนวีริเยน ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตนฺเตน ปาปุณิตุํ. อตฺตโน ปน สุกตํ กมฺมํ นิสฺสาย ทสวิธํ ทฺวาทสวิธํ วา จกฺกวตฺติวตฺตํ ปูเรนฺเตเนเวตํ ปตฺตพฺพนฺติ ทีเปติ. อถ นํ วตฺตปฏิปตฺติยํ โจเทนฺโต ‘‘อิงฺฆ ตฺว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อริเยติ นิทฺโทเส. จกฺกวตฺติวตฺเตติ จกฺกวตฺตีนํ วตฺเต.
จกฺกวตฺติอริยวตฺตวณฺณนา
๘๔. ธมฺมนฺติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ. นิสฺสายาติ ตทธิฏฺาเนน เจตสา ตเมว นิสฺสยํ กตฺวา. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุฏฺุ กโต โหติ, เอวเมตํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุํ กโรนฺโต. ธมฺมํ มาเนนฺโตติ ตเมว ธมฺมํ ปิยฺจ ภาวนียฺจ กตฺวา วิหรนฺโต. ธมฺมํ ปูเชนฺโตติ ตํ อปทิสิตฺวา คนฺธมาลาทิปูชเนนสฺส ปูชํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ¶ อปจยมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อฺชลิกรณาทีหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ¶ ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว จ อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติภูโต อาคตภาเวน ธมฺมวเสเนว สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหสฺสูติ ธมฺโม อสฺสา อตฺถีติ ธมฺมิกา, รกฺขา จ อาวรณฺจ คุตฺติ จ รกฺขาวรณคุตฺติ ¶ . ตตฺถ ‘‘ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๕) วจนโต ขนฺติอาทโย รกฺขา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ. ขนฺติยา อวิหึสาย เมตฺตจิตฺตตา อนุทฺทยตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๕). นิวาสนปารุปนเคหาทีนํ นิวารณา อาวรณํ, โจราทิอุปทฺทวนิวารณตฺถํ โคปายนา คุตฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ สุฏฺุ สํวิทหสฺสุ ปวตฺตย เปหีติ อตฺโถ. อิทานิ ยตฺถ สา สํวิทหิตพฺพา, ตํ ทสฺเสนฺโต อนฺโตชนสฺมินฺติอาทิมาห.
ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อนฺโตชนสงฺขาตํ ตว ปุตฺตทารํ สีลสํวเร ปติฏฺเปหิ, วตฺถคนฺธมาลาทีนิ จสฺส เทหิ, สพฺโพปทฺทเว จสฺส นิวาเรหิ. พลกายาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – พลกาโย กาลํ อนติกฺกมิตฺวา ภตฺตเวตนสมฺปทาเนนปิ อนุคฺคเหตพฺโพ. อภิสิตฺตขตฺติยา ภทฺรสฺสาชาเนยฺยาทิรตนสมฺปทาเนนปิ อุปสงฺคณฺหิตพฺพา. อนุยนฺตขตฺติยา เตสํ อนุรูปยานวาหนสมฺปทาเนนปิ ปริโตเสตพฺพา. พฺราหฺมณา อนฺนปานวตฺถาทินา เทยฺยธมฺเมน. คหปติกา ภตฺตพีชนงฺคลผาลพลิพทฺทาทิสมฺปทาเนน. ตถา นิคมวาสิโน เนคมา, ชนปทวาสิโน จ ชานปทา. สมิตปาปพาหิตปาปา สมณพฺราหฺมณา สมณปริกฺขารสมฺปทาเนน สกฺกาตพฺพา. มิคปกฺขิโน อภยทาเนน สมสฺสาเสตพฺพา.
วิชิเตติ อตฺตโน อาณาปวตฺติฏฺาเน. อธมฺมกาโรติ อธมฺมกิริยา. มา ปวตฺติตฺถาติ ยถา นปฺปวตฺตติ, ตถา นํ ปฏิปาเทหีติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณาติ สมิตปาปพาหิตปาปา. มทปฺปมาทา ¶ ปฏิวิรตาติ นววิธา มานมทา, ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสฺสชฺชนสงฺขาตา ปมาทา จ ปฏิวิรตา. ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺาติ อธิวาสนขนฺติยฺจ สุรตภาเว จ ปติฏฺิตา. เอกมตฺตานนฺติ อตฺตโน ราคาทีนํ ทมนาทีหิ เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ สเมนฺติ ปรินิพฺพาเปนฺตีติ วุจฺจนฺติ. กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล ¶ . อภินิวชฺเชยฺยาสีติ คูถํ วิย วิสํ วิย อคฺคึ วิย จ สุฏฺุ วชฺเชยฺยาสิ. สมาทายาติ สุรภิกุสุมทามํ วิย อมตํ วิย จ สมฺมา อาทาย ปวตฺเตยฺยาสิ.
อิธ ตฺวา วตฺตํ สมาเนตพฺพํ. อนฺโตชนสฺมึ พลกาเยปิ เอกํ, ขตฺติเยสุ เอกํ, อนุยนฺเตสุ เอกํ, พฺราหฺมณคหปติเกสุ เอกํ, เนคมชานปเทสุ เอกํ, สมณพฺราหฺมเณสุ เอกํ, มิคปกฺขีสุ เอกํ, อธมฺมการปฺปฏิกฺเขโป เอกํ, อธนานํ ธนานุปฺปทานํ เอกํ สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ เอกนฺติ เอวเมตํ ทสวิธํ โหติ. คหปติเก ปน ปกฺขิชาเต จ วิสุํ กตฺวา คเณนฺตสฺส ทฺวาทสวิธํ โหติ. ปุพฺเพ อวุตฺตํ วา คเณนฺเตน อธมฺมราคสฺส จ วิสมโลภสฺส ¶ จ ปหานวเสน ทฺวาทสวิธํ เวทิตพฺพํ. อิทํ โข ตาต ตนฺติ อิทํ ทสวิธํ ทฺวาทสวิธฺจ อริยจกฺกวตฺติวตฺตํ นาม. วตฺตมานสฺสาติ ปูเรตฺวา วตฺตมานสฺส. ตทหุโปสเถติอาทิ มหาสุทสฺสเน วุตฺตํ.
๙๐. สมเตนาติ อตฺตโน มติยา. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ปสาสตีติ อนุสาสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โปราณกํ ราชวํสํ ราชปเวณึ ราชธมฺมํ ปหาย อตฺตโน มติมตฺเต ตฺวา ชนปทํ อนุสาสตีติ. เอวมยํ มฆเทววํสสฺส กฬารชนโก วิย ทฬฺหเนมิวํสสฺส อุปจฺเฉทโก อนฺติมปุริโส หุตฺวา อุปฺปนฺโน. ปุพฺเพนาปรนฺติ ปุพฺพกาเลน สทิสา หุตฺวา อปรกาลํ. ชนปทา น ปพฺพนฺตีติ น วฑฺฒนฺติ. ยถา ตํ ปุพฺพกานนฺติ ยถา ปุพฺพกานํ ราชูนํ ปุพฺเพ จ ปจฺฉา จ สทิสาเยว หุตฺวา ปพฺพึสุ, ตถา น ปพฺพนฺติ. กตฺถจิ สฺุา โหนฺติ หตวิลุตฺตา, เตลมธุผาณิตาทีสุ ¶ เจว ยาคุภตฺตาทีสุ จ โอชาปิ ปริหายิตฺถาติ อตฺโถ.
อมจฺจา ปาริสชฺชาติ อมจฺจา เจว ปริสาวจรา จ. คณกมหามตฺตาติ อจฺฉิทฺทกาทิปาคณกา เจว มหาอมจฺจา จ. อนีกฏฺาติ หตฺถิอาจริยาทโย. โทวาริกาติ ทฺวารรกฺขิโน. มนฺตสฺสาชีวิโนติ มนฺตา วุจฺจติ ปฺา, ตํ นิสฺสยํ กตฺวา เย ชีวนฺติ ปณฺฑิตา มหามตฺตา, เตสํ เอตํ นามํ.
อายุวณฺณาทิปริหานิกถาวณฺณนา
๙๑. โน ¶ จ โข อธนานนฺติ พลวโลภตฺตา ปน อธนานํ ทลิทฺทมนุสฺสานํ ธนํ นานุปฺปทาสิ. นานุปฺปทิยมาเนติ อนนุปฺปทิยมาเน, อยเมว วา ปาโ. ทาลิทฺทิยนฺติ ทลิทฺทภาโว. อตฺตนา จ ชีวาหีติ สยฺจ ชีวํ ยาเปหีติ อตฺโถ. อุทฺธคฺคิกนฺติอาทีสุ อุปรูปริภูมีสุ ผลทานวเสน อุทฺธมคฺคมสฺสาติ อุทฺธคฺคิกา. สคฺคสฺส หิตา ตตฺรุปปตฺติชนนโตติ โสวคฺคิกา. นิพฺพตฺตฏฺาเน สุโข วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากา. สุฏฺุ อคฺคานํ ทิพฺพวณฺณาทีนํ ทสนฺนํ วิเสสานํ นิพฺพตฺตนโต สคฺคสํวตฺตนิกา. เอวรูปํ ทกฺขิณํ ทานํ ปติฏฺเปตีติ อตฺโถ.
๙๒. ปวฑฺฒิสฺสตีติ วฑฺฒิสฺสติ พหุํ ภวิสฺสติ. สุนิเสธํ นิเสเธยฺยนฺติ สุฏฺุ นิสิทฺธํ นิเสเธยฺยํ. มูลฆจฺจนฺติ มูลหตํ. ขรสฺสเรนาติ ผรุสสทฺเทน. ปณเวนาติ วชฺฌเภริยา.
๙๓. สีสานิ ¶ เนสํ ฉินฺทิสฺสามาติ เยสํ อนฺตมโส มูลกมุฏฺิมฺปิ หริสฺสาม, เตสํ ตเถว สีสานิ ฉินฺทิสฺสาม, ยถา โกจิ หฏภาวมฺปิ น ชานิสฺสติ, อมฺหากํ ทานิ กิเมตฺถ ราชาปิ เอวํ อุฏฺาย ปรํ มาเรตีติ อยํ เนสํ อธิปฺปาโย. อุปกฺกมึสูติ อารภึสุ. ปนฺถทุหนนฺติ ปนฺถฆาตํ, ปนฺเถ ตฺวา โจรกมฺมํ.
๙๔. น หิ, เทวาติ โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา สจฺจํ เทวาติ มุขปฏิฺาย ทินฺนาย มาราเปติ, หนฺทาหํ มุสาวาทํ กโรมี’’ติ, มรณภยา ‘‘น หิ เทวา’’ติ อโวจ.
๙๖. เอกิทนฺติ ¶ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, เอเก สตฺตาติ อตฺโถ. จาริตฺตนฺติ มิจฺฉาจารํ. อภิชฺฌาพฺยาปาทาติ อภิชฺฌา จ พฺยาปาโท จ. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิกา อนฺตคฺคาหิกา ปจฺจนีกทิฏฺิ.
๑๐๑. อธมฺมราโคติ มาตา มาตุจฺฉา ปิตุจฺฉา มาตุลานีติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโค. วิสมโลโภติ ปริโภคยุตฺเตสุปิ าเนสุ อติพลวโลโภ. มิจฺฉาธมฺโมติ ปุริสานํ ปุริเสสุ อิตฺถีนฺจ อิตฺถีสุ ฉนฺทราโค.
อมตฺเตยฺยตาติอาทีสุ ¶ มาตุ หิโต มตฺเตยฺโย, ตสฺส ภาโว มตฺเตยฺยตา, มาตริ สมฺมา ปฏิปตฺติยา เอตํ นามํ. ตสฺสา อภาโว เจว ตปฺปฏิปกฺขตา จ อมตฺเตยฺยตา. อเปตฺเตยฺยตาทีสุปิ เอเสว นโย. น กุเล เชฏฺาปจายิตาติ กุเล เชฏฺานํ อปจิติยา นีจวุตฺติยา อกรณภาโว.
ทสวสฺสายุกสมยวณฺณนา
๑๐๓. ยํ อิเมสนฺติ ยสฺมึ สมเย อิเมสํ. อลํปเตยฺยาติ ปติโน ทาตุํ ยุตฺตา. อิมานิ รสานีติ อิมานิ โลเก อคฺครสานิ. อติพฺยาทิปฺปิสฺสนฺตีติ อติวิย ทิปฺปิสฺสนฺติ, อยเมว วา ปาโ. กุสลนฺติปิ น ภวิสฺสตีติ กุสลนฺติ นามมฺปิ น ภวิสฺสติ, ปฺตฺติมตฺตมฺปิ น ปฺายิสฺสตีติ อตฺโถ. ปุชฺชา จ ภวิสฺสนฺติ ปาสํสา จาติ ปูชารหา จ ภวิสฺสนฺติ ปสํสารหา จ. ตทา กิร มนุสฺสา ‘‘อสุเกน นาม มาตา ปหตา, ปิตา ปหโต, สมณพฺราหฺมณา ชีวิตา โวโรปิตา, กุเล เชฏฺานํ อตฺถิภาวมฺปิ น ชานาติ, อโห ปุริโส’’ติ ตเมว ปูเชสฺสนฺติ เจว ปสํสิสฺสนฺติ จ.
น ¶ ภวิสฺสติ มาตาติ วาติ อยํ มยฺหํ มาตาติ ครุจิตฺตํ น ภวิสฺสติ. เคเห มาตุคามํ วิย นานาวิธํ อสพฺภิกถํ กถยมานา อคารวุปจาเรน อุปสงฺกมิสฺสนฺติ. มาตุจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ มาตุจฺฉาติ มาตุภคินี. มาตุลานีติ มาตุลภริยา. อาจริยภริยาติ สิปฺปายตนานิ สิกฺขาปกสฺส อาจริยสฺส ภริยา. ครูนํ ทาราติ จูฬปิตุมหาปิตุอาทีนํ ภริยา. สมฺเภทนฺติ ¶ มิสฺสีภาวํ, มริยาทเภทํ วา.
ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสตีติ พลวโกโป ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ. อปรานิ ทฺเว เอตสฺเสว เววจนานิ. โกโป หิ จิตฺตํ อาฆาเตตีติ อาฆาโต. อตฺตโน จ ปรสฺส จ หิตสุขํ พฺยาปาเทตีติ พฺยาปาโท. มโนปทูสนโต มโนปโทโสติ วุจฺจติ. ติพฺพํ วธกจิตฺตนฺติ ปิยมานสฺสาปิ ปรํ มารณตฺถาย วธกจิตฺตํ. ตสฺส วตฺถุํ ทสฺเสตุํ มาตุปิ ปุตฺตมฺหีติอาทิ วุตฺตํ. มาควิกสฺสาติ มิคลุทฺทกสฺส.
๑๐๔. สตฺถนฺตรกปฺโปติ ¶ สตฺเถน อนฺตรกปฺโป. สํวฏฺฏกปฺปํ อปฺปตฺวา อนฺตราว โลกวินาโส. อนฺตรกปฺโป จ นาเมส ทุพฺภิกฺขนฺตรกปฺโป โรคนฺตรกปฺโป สตฺถนฺตรกปฺโปติ ติวิโธ. ตตฺถ โลภุสฺสทาย ปชาย ทุพฺภิกฺขนฺตรกปฺโป โหติ. โมหุสฺสทาย โรคนฺตรกปฺโป. โทสุสฺสทาย สตฺถนฺตรกปฺโป. ตตฺถ ทุพฺภิกฺขนฺตรกปฺเปน นฏฺา เยภุยฺเยน เปตฺติวิสเย อุปปชฺชนฺติ. กสฺมา? อาหารนิกนฺติยา พลวตฺตา. โรคนฺตรกปฺเปน นฏฺา เยภุยฺเยน สคฺเค นิพฺพตฺตนฺติ กสฺมา? เตสฺหิ ‘‘อโห วตฺเสํ สตฺตานํ เอวรูโป โรโค น ภเวยฺยา’’ติ เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ. สตฺถนฺตรกปฺเปน นฏฺา เยภุยฺเยน นิรเย อุปปชฺชนฺติ. กสฺมา? อฺมฺํ พลวาฆาตตาย.
มิคสฺนฺติ ‘‘อยํ มิโค, อยํ มิโค’’ติ สฺํ. ติณฺหานิ สตฺถานิ หตฺเถสุ ปาตุภวิสฺสนฺตีติ เตสํ กิร หตฺเถน ผุฏฺมตฺตํ ยํกิฺจิ อนฺตมโส ติณปณฺณํ อุปาทาย อาวุธเมว ภวิสฺสติ. มา จ มยํ กฺจีติ มยํ กฺจิ เอกปุริสมฺปิ ชีวิตา มา โวโรปยิมฺห. มา จ อมฺเห โกจีติ อมฺเหปิ โกจิ เอกปุริโส ชีวิตา มา โวโรปยิตฺถ. ยํนูน มยนฺติ อยํ โลกวินาโส ปจฺจุปฏฺิโต, น สกฺกา ทฺวีหิ เอกฏฺาเน ิเตหิ ชีวิตํ ลทฺธุนฺติ มฺมานา เอวํ จินฺตยึสุ. วนคหนนฺติ วนสงฺขาเตหิ ติณคุมฺพลตาทีหิ คหนํ ทุปฺปเวสฏฺานํ. รุกฺขคหนนฺติ รุกฺเขหิ คหนํ ทุปฺปเวสฏฺานํ. นทีวิทุคฺคนฺติ ¶ นทีนํ อนฺตรทีปาทีสุ ทุคฺคมนฏฺานํ. ปพฺพตวิสมนฺติ ปพฺพเตหิ วิสมํ, ปพฺพเตสุปิ วา วิสมฏฺานํ. สภาคายิสฺสนฺตีติ ¶ ยถา อหํ ชีวามิ ทิฏฺา โภ สตฺตา, ตฺวมฺปิ ตถา ชีวสีติ เอวํ สมฺโมทนกถาย อตฺตนา สภาเค กริสฺสนฺติ.
อายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถาวณฺณนา
๑๐๕. อายตนฺติ มหนฺตํ. ปาณาติปาตา วิรเมยฺยามาติ ปาณาติปาตโต โอสกฺเกยฺยาม. ปาณาติปาตํ วิรเมยฺยามาติปิ สชฺฌายนฺติ, ตตฺถ ปาณาติปาตํ ปชเหยฺยามาติ อตฺโถ. วีสติวสฺสายุกาติ มาตาปิตโร ¶ ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, ปุตฺตา กสฺมา วีสติวสฺสายุกา อเหสุนฺติ เขตฺตวิสุทฺธิยา. เตสฺหิ มาตาปิตโร สีลวนฺโต ชาตา. อิติ สีลคพฺเภ วฑฺฒิตตฺตา อิมาย เขตฺตวิสุทฺธิยา ทีฆายุกา อเหสุํ. เย ปเนตฺถ กาลํ กตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺตา, เต อตฺตโนว สีลสมฺปตฺติยา ทีฆายุกา อเหสุํ.
อสฺสามาติ ภเวยฺยาม. จตฺตารีสวสฺสายุกาติอาทโย โกฏฺาสา อทินฺนาทานาทีหิ ปฏิวิรตานํ วเสน เวทิตพฺพา.
สงฺขราชอุปฺปตฺติวณฺณนา
๑๐๖. อิจฺฉาติ มยฺหํ ภตฺตํ เทถาติ เอวํ อุปฺปชฺชนกตณฺหา. อนสนนฺติ น อสนํ อวิปฺผาริกภาโว กายาลสิยํ, ภตฺตํ ภุตฺตานํ ภตฺตสมฺมทปจฺจยา นิปชฺชิตุกามตาชนโก กายทุพฺพลภาโวติ อตฺโถ. ชราติ ปากฏชรา. กุกฺกุฏสมฺปาติกาติ เอกคามสฺส ฉทนปิฏฺโต อุปฺปติตฺวา อิตรคามสฺส ฉทนปิฏฺเ ปตนสงฺขาโต กุกฺกุฏสมฺปาโต. เอตาสุ อตฺถีติ กุกฺกุฏสมฺปาติกา. ‘‘กุกฺกุฏสมฺปาทิกา’’ติปิ ปาโ, คามนฺตรโต คามนฺตรํ กุกฺกุฏานํ ปทสา คมนสงฺขาโต กุกฺกุฏสมฺปาโท เอตาสุ อตฺถีติ อตฺโถ. อุภยมฺเปตํ ฆนนิวาสตํเยว ทีเปติ. อวีจิ มฺเ ผุโฏ ภวิสฺสตีติ อวีจิมหานิรโย วิย นิรนฺตรปูริโต ภวิสฺสติ.
๑๐๗. ‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เมตฺเตยฺโย นาม ภควา โลเก อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ น วฑฺฒมานกวเสน วุตฺตํ. น หิ พุทฺธา วฑฺฒมาเน อายุมฺหิ นิพฺพตฺตนฺติ, หายมาเน ปน นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา ยทา ตํ อายุ วฑฺฒิตฺวา ¶ อสงฺเขยฺยตํ ปตฺวา ปุน หายมานํ อสีติวสฺสสหสฺสกาเล สฺสติ, ตทา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ. ปริหริสฺสตีติ อิทํ ปน ปริวาเรตฺวา ¶ วิจรนฺตานํ วเสน วุตฺตํ. ยูโปติ ปาสาโท. รฺา มหาปนาเทน การาปิโตติ รฺา เหตุภูเตน ตสฺสตฺถาย สกฺเกน เทวราเชน วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ เปเสตฺวา การาปิโต. ปุพฺเพ กิร ทฺเว ปิตาปุตฺตา นฬการา ปจฺเจกพุทฺธสฺส นเฬหิ จ อุทุมฺพเรหิ ¶ จ ปณฺณสาลํ การาเปตฺวา ตํ ตตฺถ วาสาเปตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหึสุ. เต กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา. เตสุ ปิตา เทวโลเกเยว อฏฺาสิ. ปุตฺโต เทวโลกา จวิตฺวา สุรุจิสฺส รฺโ เทวิยา สุเมธาย กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโต. มหาปนาโท นาม กุมาโร อโหสิ. โส อปรภาเค ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา มหาปนาโท นาม ราชา ชาโต. อถสฺส ปฺุานุภาเวน สกฺโก เทวราชา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ รฺโ ปาสาทํ กโรหีติ ปหิณิ โส ตสฺส ปาสาทํ นิมฺมินิ ปฺจวีสติโยชนุพฺเพธํ สตฺตรตนมยํ สตภูมกํ. ยํ สนฺธาย ชาตเก วุตฺตํ –
‘‘ปนาโท นาม โส ราชา, ยสฺส ยูโป สุวณฺณโย;
ติริยํ โสฬสุพฺเพโธ, อุทฺธมาหุ สหสฺสธา.
สหสฺสกณฺโฑ สตเคณฺฑุ, ธชาลุ หริตามโย;
อนจฺจุํ ตตฺถ คนฺธพฺพา, ฉ สหสฺสานิ สตฺตธา.
เอวเมตํ ตทา อาสิ, ยถา ภาสสิ ภทฺทชิ;
สกฺโก อหํ ตทา อาสึ, เวยฺยาวจฺจกโร ตวา’’ติ. (ชา. ๕.๓.๔๒);
โส ราชา ตตฺถ ยาวตายุกํ วสิตฺวา กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตสฺมึ เทวโลเก นิพฺพตฺเต โส ปาสาโท มหาคงฺคาย อนุโสตํ ปติ. ตสฺส ธุรโสปานสมฺมุขฏฺาเน ปยาคปติฏฺานํ นาม นครํ มาปิตํ. ถุปิกาสมฺมุขฏฺาเน โกฏิคาโม นาม. อปรภาเค อมฺหากํ ภควโต กาเล โส นฬการเทวปุตฺโต เทวโลกโต จวิตฺวา มนุสฺสปเถ ภทฺทชิเสฏฺิ นาม หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส นาวาย คงฺคาตรณทิวเส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ตํ ปาสาทํ ทสฺเสตีติ วตฺถุ วิตฺถาเรตพฺพํ. กสฺมา ปเนส ปาสาโท น อนฺตรหิโตติ? อิตรสฺส อานุภาวา. เตน สทฺธึ ¶ ปฺุํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตกุลปุตฺโต อนาคเต สงฺโข นาม ราชา ภวิสฺสติ. ตสฺส ปริโภคตฺถาย โส ปาสาโท อุฏฺหิสฺสติ, ตสฺมา น อนฺตรหิโตติ.
๑๐๘. อุสฺสาเปตฺวาติ ¶ ตํ ปาสาทํ อุฏฺาเปตฺวา. อชฺฌาวสิตฺวาติ ตตฺถ วสิตฺวา. ตํ ทตฺวา วิสฺสชฺชิตฺวาติ ตํ ปาสาทํ ทานวเสน ทตฺวา นิรเปกฺโข ปริจฺจาควเสน จ วิสฺสชฺชิตฺวา. กสฺส ¶ จ เอวํ ทตฺวาติ? สมณาทีนํ. เตนาห – ‘‘สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานํ ทานํ ทตฺวา’’ติ. กถํ ปน โส เอกํ ปาสาทํ พหูนํ ทสฺสตีติ? เอวํ กิรสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสติ ‘‘อยํ ปาสาโท วิปฺปกิริยตู’’ติ. โส ขณฺฑขณฺฑโส วิปฺปกิริสฺสติ. โส ตํ อลคฺคมาโนว หุตฺวา ‘‘โย ยตฺตกํ อิจฺฉติ, โส ตตฺตกํ คณฺหตู’’ติ ทานวเสน วิสฺสชฺชิสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทานํ ทตฺวา เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต…เป… วิหริสฺสตี’’ติ. เอตฺตเกน ภควา วฏฺฏคามิกุสลสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสติ.
๑๐๙. อิทานิ วิวฏฺฏคามิกุสลสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต ปุน อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถาติอาทิมาห.
ภิกฺขุโน อายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถาวณฺณนา
๑๑๐. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อายุสฺมินฺติ ภิกฺขเว ยํ โว อหํ อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสถาติ อโวจํ, ตตฺถ อิทํ ภิกฺขุโน อายุสฺมึ อิทํ อายุการณนฺติ อตฺโถ. ตสฺมา ตุมฺเหหิ อายุนา วฑฺฒิตุกาเมหิ อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาเวตพฺพาติ ทสฺเสติ.
วณฺณสฺมินฺติ ยํ โว อหํ วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสถาติ อโวจํ, อิทํ ตตฺถ วณฺณการณํ. สีลวโต หิ อวิปฺปฏิสาราทีนํ วเสน สรีรวณฺโณปิ กิตฺติวเสน คุณวณฺโณปิ วฑฺฒติ. ตสฺมา ตุมฺเหหิ วณฺเณน วฑฺฒิตุกาเมหิ สีลสมฺปนฺเนหิ ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
สุขสฺมินฺติ ยํ โว อหํ สุเขนปิ วฑฺฒิสฺสถาติ อโวจํ, อิทํ ตตฺถ วิเวกชํ ปีติสุขาทินานปฺปการกํ ฌานสุขํ. ตสฺมา ตุมฺเหหิ สุเขน วฑฺฒิตุกาเมหิ อิมานิ จตฺตาริ ฌานานิ ภาเวตพฺพานิ.
โภคสฺมินฺติ ยํ โว อหํ โภเคนปิ วฑฺฒิสฺสถาติ อโวจํ, อยํ โส อปฺปมาณานํ สตฺตานํ อปฺปฏิกูลตาวโห สุขสยนาทิ เอกาทสานิสํโส สพฺพทิสาวิปฺผาริตพฺรหฺมวิหารโภโค. ตสฺมา ตุมฺเหหิ โภเคน วฑฺฒิตุกาเมหิ อิเม พฺรหฺมวิหารา ภาเวตพฺพา.
พลสฺมินฺติ ¶ ยํ โว อหํ พเลนปิ วฑฺฒิสฺสถาติ อโวจํ, อิทํ ¶ อาสวกฺขยปริโยสาเน อุปฺปนฺนํ ¶ อรหตฺตผลสงฺขาตํ พลํ. ตสฺมา ตุมฺเหหิ พเลน วฑฺฒิตุกาเมหิ อรหตฺตปฺปตฺติยา โยโค กรณีโย.
ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มารพลนฺติ ยถา อิทํ เทวปุตฺตมารมจฺจุมารกิเลสมารานํ พลํ ทุปฺปสหํ ทุรภิสมฺภวํ, เอวํ อฺํ โลเก เอกพลมฺปิ น สมนุปสฺสามิ. ตมฺปิ พลํ อิทเมว อรหตฺตผลํ ปสหติ อภิภวติ อชฺโฌตฺถรติ. ตสฺมา เอตฺเถว โยโค กรณีโยติ ทสฺเสติ.
เอวมิทํ ปฺุนฺติ เอวํ อิทํ โลกุตฺตรปฺุมฺปิ ยาว อาสวกฺขยา ปวฑฺฒตีติ วิวฏฺฏคามิกุสลานุสนฺธึ นิฏฺเปนฺโต อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ. สุตฺตปริโยสาเน วีสติ ภิกฺขุสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวึสูติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
จกฺกวตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อคฺคฺสุตฺตวณฺณนา
วาเสฏฺภารทฺวาชวณฺณนา
๑๑๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อคฺคฺสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทติ เอตฺถ อยํ อนุปุพฺพิกถา. อตีเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกา อุปาสิกา ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสตสหสฺสสฺส ทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อคฺคุปฏฺายิกา โหมี’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล ภทฺทิยนคเร เมณฺฑกเสฏฺิปุตฺตสฺส ธนฺจยเสฏฺิโน เคเห สุมนเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตกาเล ตสฺสา วิสาขาติ นามํ อกํสุ. สา ยทา ภควา ภทฺทิยนครํ อาคมาสิ, ตทา ปฺจทาสิสเตหิ สทฺธึ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปมทสฺสนมฺหิเยว โสตาปนฺนา อโหสิ.
อปรภาเค สาวตฺถิยํ มิคารเสฏฺิปุตฺตสฺส ปุณฺณวฑฺฒนกุมารสฺส เคหํ คตา. ตตฺถ นํ มิคารเสฏฺิ มาตุฏฺาเน เปสิ. ตสฺมา มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ปติกุลํ คจฺฉนฺติยา จสฺสา ปิตา มหาลตาปิฬนฺธนํ นาม การาเปสิ. ตสฺมึ ปิฬนฺธเน จตสฺโส วชิรนาฬิโย อุปโยคํ อคมํสุ, มุตฺตานํ เอกาทส นาฬิโย, ปวาฬสฺส ทฺวาวีสติ นาฬิโย, มณีนํ เตตฺตึส นาฬิโย. อิติ เอเตหิ จ อฺเหิ จ สตฺตหิ รตเนหิ นิฏฺานํ อคมาสิ. ตํ สีเส ปฏิมุกฺกํ ยาว ปาทปิฏฺิยา ภสฺสติ. ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธารยมานาว นํ อิตฺถี ธาเรตุํ สกฺโกติ. สา อปรภาเค ทสพลสฺส อคฺคุปฏฺายิกา หุตฺวา ตํ ปสาธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา นวหิ โกฏีหิ ภควโต วิหารํ การยมานา กรีสมตฺเต ภูมิภาเค ปาสาทํ กาเรสิ ¶ . ตสฺส อุปริภูมิยํ ปฺจ คพฺภสตานิ โหนฺติ, เหฏฺิมภูมิยํ ปฺจาติ คพฺภสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิโต อโหสิ. สา ‘‘สุทฺธปาสาโทว น โสภตี’’ติ ตํ ปริวาเรตฺวา ปฺจ ทุวฑฺฒเคหสตานิ, ปฺจ จูฬปาสาทสตานิ ¶ , ปฺจ ทีฆสาลสตานิ จ การาเปสิ. วิหารมโห จตูหิ มาเสหิ นิฏฺานํ อคมาสิ.
มาตุคามตฺตภาเว ¶ ิตาย วิสาขาย วิย อฺิสฺสา พุทฺธสาสเน ธนปริจฺจาโค นาม นตฺถิ, ปุริสตฺตภาเว ิตสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส วิย อฺสฺสาติ. โส หิ จตุปณฺณาสโกฏิโย วิสฺสชฺเชตฺวา สาวตฺถิยา ทกฺขิณภาเค อนุราธปุรสฺส มหาวิหารสทิเส าเน เชตวนมหาวิหารํ นาม กาเรสิ. วิสาขา สาวตฺถิยา ปาจีนภาเค อุตฺตรเทวิยา วิหารสทิเส าเน ปุพฺพารามํ นาม กาเรสิ. ภควา อิเมสํ ทฺวินฺนํ กุลานํ อนุกมฺปาย สาวตฺถึ นิสฺสาย วิหรนฺโต อิเมสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ นิพทฺธวาสํ วสิ. เอกํ อนฺโตวสฺสํ เชตวเน วสติ, เอกํ ปุพฺพาราเม. ตสฺมึ สมเย ปน ภควา ปุพฺพาราเม วิหรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท’’ติ.
วาเสฏฺภารทฺวาชาติ วาเสฏฺโ จ สามเณโร ภารทฺวาโช จ. ภิกฺขูสุ ปริวสนฺตีติ เต เนว ติตฺถิยปริวาสํ วสนฺติ, น อาปตฺติปริวาสํ. อปริปุณฺณวสฺสตฺตา ปน ภิกฺขุภาวํ ปตฺถยมานา วสนฺติ. เตเนวาห ‘‘ภิกฺขุภาวํ อากงฺขมานา’’ติ. อุโภปิ เหเต อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺตา, จตฺตาลีส จตฺตาลีส โกฏิวิภวา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู มชฺฌิมนิกาเย วาเสฏฺสุตฺตํ สุตฺวา สรณํ คตา, เตวิชฺชสุตฺตํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อิมสฺมึ กาเล ภิกฺขุภาวํ อากงฺขมานา ปริวสนฺติ. อพฺโภกาเส จงฺกมตีติ อุตฺตรทกฺขิเณน อายตสฺส ปาสาทสฺส ปุรตฺถิมทิสาภาเค ปาสาทจฺฉายายํ ยนฺตรชฺชูหิ อากฑฺฒิยมานํ รตนสตุพฺเพธํ สุวณฺณอคฺฆิกํ วิย อนิลปเถ วิธาวนฺตีหิ ฉพฺพณฺณาหิ พุทฺธรสฺมีหิ โสภมาโน อปราปรํ จงฺกมติ.
๑๑๓. อนุจงฺกมึสูติ อฺชลึ ปคฺคยฺห โอนตสรีรา หุตฺวา อนุวตฺตมานา จงฺกมึสุ. วาเสฏฺํ อามนฺเตสีติ โส เตสํ ปณฺฑิตตโร คเหตพฺพํ วิสฺสชฺเชตพฺพฺจ ชานาติ, ตสฺมา ตํ อามนฺเตสิ. ตุมฺเห ขฺวตฺถาติ ตุมฺเห โข อตฺถ. พฺราหฺมณชจฺจาติ, พฺราหฺมณชาติกา. พฺราหฺมณกุลีนาติ พฺราหฺมเณสุ กุลีนา กุลสมฺปนฺนา. พฺราหฺมณกุลาติ ¶ พฺราหฺมณกุลโต, โภคาทิสมฺปนฺนํ พฺราหฺมณกุลํ ปหายาติ อตฺโถ. น อกฺโกสนฺตีติ ทสวิเธน อกฺโกสวตฺถุนา น อกฺโกสนฺติ. น ปริภาสนฺตีติ นานาวิธาย ปริภวกถาย น ปริภาสนฺตีติ อตฺโถ. อิติ ¶ ภควา ‘‘พฺราหฺมณา อิเม สามเณเร อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺตี’’ติ ชานมาโนว ปุจฺฉติ. กสฺมา? อิเม มยา อปุจฺฉิตา ปมตรํ น กเถสฺสนฺติ, อกถิเต กถา น สมุฏฺาตีติ กถาสมุฏฺาปนตฺถาย. ตคฺฆาติ ¶ เอกํสวจเน นิปาโต, เอกํเสเนว โน, ภนฺเต, พฺราหฺมณา อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตรูปายาติ อตฺตโน อนุรูปาย. ปริปุณฺณายาติ ยถารุจิ ปทพฺยฺชนานิ อาโรเปตฺวา อาโรเปตฺวา ปริปูริตาย. โน อปริปุณฺณายาติ อนฺตรา อฏฺปิตาย นิรนฺตรํ ปวตฺตาย.
กสฺมา ปน พฺราหฺมณา อิเม สามเณเร อกฺโกสนฺตีติ? อปฺปติฏฺตาย. อิเม หิ สามเณรา อคฺคพฺราหฺมณานํ ปุตฺตา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู ชมฺพุทีเป พฺราหฺมณานํ อนฺตเร ปากฏา สมฺภาวิตา เตสํ ปพฺพชิตตฺตา อฺเ พฺราหฺมณปุตฺตา ปพฺพชึสุ. อถ โข พฺราหฺมณา ‘‘อปติฏฺา มยํ ชาตา’’ติ อิมาย อปฺปติฏฺตาย คามทฺวาเรปิ อนฺโตคาเมปิ เต ทิสฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ พฺราหฺมณสมโย ภินฺโน, มุณฺฑสมณกสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต รสคิทฺธา หุตฺวา วิจรถา’’ติอาทีนิ เจว ปาฬิยํ อาคตานิ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติอาทีนิ จ วตฺวา อกฺโกสนฺติ. สามเณรา เตสุ อกฺโกสนฺเตสุปิ โกปํ วา อาฆาตํ วา อกตฺวา เกวลํ ภควตา ปุฏฺา ‘‘ตคฺฆ โน, ภนฺเต, พฺราหฺมณา อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺตี’’ติ อาโรเจสุํ. อถ เน ภควา อกฺโกสนาการํ ปุจฺฉนฺโต ยถา กถํ ปน โวติ ปุจฺฉติ. เต อาจิกฺขนฺตา พฺราหฺมณา ภนฺเตติอาทิมาหํสุ.
ตตฺถ เสฏฺโ วณฺโณติ ชาติโคตฺตาทีนํ ปฺาปนฏฺาเน พฺราหฺมโณว เสฏฺโติ ทสฺเสนฺติ. หีนา อฺเ วณฺณาติ อิตเร ตโย วณฺณา หีนา ลามกาติ วทนฺติ. สุกฺโกติ ปณฺฑโร. กณฺโหติ กาฬโก. สุชฺฌนฺตีติ ชาติโคตฺตาทีนํ ปฺาปนฏฺาเน สุชฺฌนฺติ. พฺรหฺมุโน ปุตฺตาติ มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺตา. โอรสา มุขโต ชาตาติ อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตา, อุเร กตฺวา สํวฑฺฒิตาติ วา โอรสา. พฺรหฺมชาติ ¶ พฺรหฺมโต นิพฺพตฺตา. พฺรหฺมนิมฺมิตาติ พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. พฺรหฺมทายาทาติ พฺรหฺมุโน ทายาทา. หีนมตฺถ วณฺณํ อชฺฌุปคตาติ หีนํ วณฺณํ อชฺฌุปคตา อตฺถ. มุณฺฑเก ¶ สมณเกติ นินฺทนฺตา ชิคุจฺฉนฺตา วทนฺติ, น มุณฺฑกมตฺตฺเจว สมณมตฺตฺจ สนฺธาย. อิพฺเภติ คหปติเก. กณฺเหติ กาฬเก. พนฺธูติ มารสฺส พนฺธุภูเต มารปกฺขิเก. ปาทาปจฺเจติ มหาพฺรหฺมุโน ปาทานํ อปจฺจภูเต ปาทโต ชาเตติ อธิปฺปาโย.
๑๑๔. ‘‘ตคฺฆ โว, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา โปราณํ อสฺสรนฺตา เอวมาหํสู’’ติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ, สามิวจนํ วา, ตุมฺหากํ พฺราหฺมณาติ อตฺโถ. โปราณนฺติ โปราณกํ อคฺคฺํ โลกุปฺปตฺติจริยวํสํ. อสฺสรนฺตาติ อสฺสรมานา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, เอกํเสน โว, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา โปราณํ โลกุปฺปตฺตึ อนนุสฺสรนฺตา อชานนฺตา เอวํ วทนฺตีติ. ‘‘ทิสฺสนฺติ โข ปนา’’ติ เอวมาทิ เตสํ ลทฺธิภินฺทนตฺถาย วุตฺตํ. ตตฺถ พฺราหฺมณิโยติ พฺราหฺมณานํ ปุตฺตปฺปฏิลาภตฺถาย ¶ อาวาหวิวาหวเสน กุลํ อานีตา พฺราหฺมณิโย ทิสฺสนฺติ. ตา โข ปเนตา อปเรน สมเยน อุตุนิโยปิ โหนฺติ, สฺชาตปุปฺผาติ อตฺโถ. คพฺภินิโยติ สฺชาตคพฺภา. วิชายมานาติ ปุตฺตธีตโร ชนยมานา. ปายมานาติ ทารเก ถฺํ ปายนฺติโย. โยนิชาว สมานาติ พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺเคน ชาตา สมานา. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กถํ? ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ…เป… พฺรหฺมทายาทา’’ติ. ยทิ ปน เนสํ ตํ สจฺจวจนํ สิยา, พฺราหฺมณีนํ กุจฺฉิ มหาพฺรหฺมสฺส อุโร ภเวยฺย, พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺโค มหาพฺรหฺมุโน มุขํ ภเวยฺย, น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘เต จ พฺรหฺมูนฺเจว อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติอาทิ.
จตุวณฺณสุทฺธิวณฺณนา
เอตฺตาวตา ‘‘มยํ มหาพฺรหฺมุโน อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตาติ วตฺตุํ มา ลภนฺตู’’ติ อิมํ มุขจฺเฉทกวาทํ วตฺวา ปุน จตฺตาโรปิ วณฺณา กุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตาว ¶ สุชฺฌนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ จตฺตาโรเม, วาเสฏฺ, วณฺณาติอาทิมาห. อกุสลสงฺขาตาติ อกุสลาติ สงฺขาตา อกุสลโกฏฺาสภูตา วา. เอส นโย สพฺพตฺถ. น อลมริยาติ อริยภาเว อสมตฺถา. กณฺหาติ ปกติกาฬกา. กณฺหวิปากาติ วิปาโกปิ ¶ เนสํ กณฺโห ทุกฺโขติ อตฺโถ. ขตฺติเยปิ เตติ ขตฺติยมฺหิปิ เต. เอกจฺเจติ เอกสฺมึ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
สุกฺกาติ นิกฺกิเลสภาเวน ปณฺฑรา. สุกฺกวิปากาติ วิปาโกปิ เนสํ สุกฺโก สุโขติ อตฺโถ.
๑๑๖. อุภยโวกิณฺเณสุ วตฺตมาเนสูติ อุภเยสุ โวกิณฺเณสุ มิสฺสีภูเตสุ หุตฺวา วตฺตมาเนสุ. กตเมสุ อุภเยสูติ? กณฺหสุกฺเกสุ ธมฺเมสุ วิฺุครหิเตสุ เจว วิฺุปฺปสตฺเถสุ จ. ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสูติ เอตฺถ เอเตสุ กณฺหสุกฺกธมฺเมสุ วตฺตมานาปิ พฺราหฺมณา ยเทตํ เอวํ วทนฺติ ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ’’ติอาทิ. ตํ เนสํ วิฺู นานุชานนฺตีติ เย โลเก ปณฺฑิตา, เต นานุโมทนฺติ, น ปสํสนฺตีติ อตฺโถ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเมสฺหิ วาเสฏฺาติอาทิมฺหิ อยํ สงฺเขปตฺโถ. ยํ วุตฺตํ นานุชานนฺตีติ, ตํ กสฺมาติ เจ? ยสฺมา อิเมสํ จตุนฺนํ วณฺณานํ โย ภิกฺขุ อรหํ…เป… สมฺมทฺา วิมุตฺโต, โส เตสํ อคฺคมกฺขายติ, เต จ น เอวรูปา. ตสฺมา เนสํ วิฺู นานุชานนฺติ.
อรหนฺติอาทิปเทสุ เจตฺถ กิเลสานํ อารกตฺตาทีหิ การเณหิ อรหํ. อาสวานํ ขีณตฺตา ขีณาสโว ¶ . สตฺต เสกฺขา ปุถุชฺชนกลฺยาณกา จ พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม. อยํ ปน วุตฺถวาโสติ วุสิตวา. จตูหิ มคฺเคหิ จตูสุ สจฺเจสุ ปริชานนาทิกรณียํ กตํ อสฺสาติ กตกรณีโย. กิเลสภาโร จ ขนฺธภาโร จ โอหิโต อสฺสาติ โอหิตภาโร. โอหิโตติ โอหาริโต. สุนฺทโร อตฺโถ, สโก วา อตฺโถ สทตฺโถ, อนุปฺปตฺโต สทตฺโถ เอเตนาติ อนุปฺปตฺตสทตฺโถ. ภวสํโยชนํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา ปริกฺขีณา อสฺสาติ ปริกฺขีณภวสํโยชโน. สมฺมทฺา วิมุตฺโตติ สมฺมา เหตุนา การเณน ชานิตฺวา วิมุตฺโต. ชเนตสฺมินฺติ ¶ ชเน เอตสฺมึ, อิมสฺมึ โลเกติ อตฺโถ. ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ อิธตฺตภาเว จ ปรตฺตภาเว.
๑๑๗. อนนฺตราติ ¶ อนฺตรวิรหิตา, อตฺตโน กุเลน สทิสาติ อตฺโถ. อนุยุตฺตาติ วสวตฺติโน. นิปจฺจการนฺติ มหลฺลกตรา นิปจฺจการํ ทสฺเสนฺติ. ทหรตรา อภิวาทนาทีนิ กโรนฺติ. ตตฺถ สามีจิกมฺมนฺติ ตํตํวตฺตกรณาทิ อนุจฺฉวิกกมฺมํ.
๑๑๘. นิวิฏฺาติ อภินิวิฏฺา อจลฏฺิตา. กสฺส ปน เอวรูปา สทฺธา โหตีติ? โสตาปนฺนสฺส. โส หิ นิวิฏฺสทฺโธ อสินา สีเส เฉชฺชมาเนปิ พุทฺโธ อพุทฺโธติ วา, ธมฺโม อธมฺโมติ วา, สงฺโฆ อสงฺโฆติ วา น วทติ. ปติฏฺิตสทฺโธ โหติ สูรมฺพฏฺโ วิย.
โส กิร สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา เคหํ อคมาสิ. อถ มาโร ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ พุทฺธรูปํ มาเปตฺวา ตสฺส ฆรทฺวาเร ตฺวา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สาสนํ ปหิณิ. สูรมฺพฏฺโ จินฺเตสิ ‘‘อหํ อิทาเนว สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อาคโต, กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุสฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. มาโร อาห – ‘‘อมฺพฏฺ, ยํ เต มยา ‘รูปํ อนิจฺจํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ กถิตํ, ตํ ทุกฺกถิตํ. อนุปธาเรตฺวาว หิ มยา เอวํ วุตฺตํ. ตสฺมา ตฺวํ ‘รูปํ นิจฺจํ…เป… วิฺาณํ นิจฺจ’นฺติ คณฺหาหี’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อฏฺานเมตํ ยํ พุทฺธา อนุปธาเรตฺวา อปจฺจกฺขํ กตฺวา กิฺจิ กเถยฺยุํ, อทฺธา อยํ มยฺหํ วิจฺฉินฺทชนนตฺถํ มาโร อาคโต’’ติ. ตโต นํ ‘‘ตฺวํ มาโรสี’’ติ อาห. โส มุสาวาทํ กาตุํ นาสกฺขิ. ‘‘อาม มาโรสฺมี’’ติ ปฏิชานาติ. ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ? ตว สทฺธาจาลนตฺถนฺติ อาห. ‘‘กณฺห ปาปิม, ตฺวํ ตาว เอโก ติฏฺ, ตาทิสานํ มารานํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ มม สทฺธํ จาเลตุํ อสมตฺถํ, มคฺเคน อาคตสทฺธา นาม ถิรา สิลาปถวิยํ ปติฏฺิตสิเนรุ วิย อจลา โหติ, กึ ตฺวํ เอตฺถา’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. โส าตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว อนฺตรธายิ. เอวรูปํ สทฺธํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘นิวิฏฺา’’ติ.
มูลชาตา ¶ ปติฏฺิตาติ มคฺคมูลสฺส สฺชาตตฺตา เตน มคฺคมูเลน ปติฏฺิตา. ทฬฺหาติ ถิรา. อสํหาริยาติ ¶ สุนิขาตอินฺทขีโล วิย เกนจิ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยา. ตสฺเสตํ กลฺลํ วจนายาติ ตสฺส อริยสาวกสฺส ยุตฺตเมตํ วตฺตุํ. กินฺติ? ‘‘ภควโตมฺหิ ปุตฺโต โอรโส’’ติ ¶ เอวมาทิ. โส หิ ภควนฺตํ นิสฺสาย อริยภูมิยํ ชาโตติ ภควโต ปุตฺโต. อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตธมฺมโฆสวเสน มคฺคผเลสุ ปติฏฺิตตฺตา โอรโส มุขโต ชาโต. อริยธมฺมโต ชาตตฺตา อริยธมฺเมน จ นิมฺมิตตฺตา ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต. นวโลกุตฺตรธมฺมทายชฺชํ อรหตีติ ธมฺมทายาโท. ตํ กิสฺส เหตูติ ยเทตํ ‘‘ภควโตมฺหิ ปุตฺโต’’ติ วตฺวา ‘‘ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต’’ติ วุตฺตํ, ตํ กสฺมาติ เจ? อิทานิสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ตถาคตสฺส เหตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ธมฺมกาโย อิติปี’’ติ กสฺมา ตถาคโต ‘‘ธมฺมกาโย’’ติ วุตฺโต? ตถาคโต หิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย อภินีหริ. เตนสฺส กาโย ธมฺมมยตฺตา ธมฺโมว. อิติ ธมฺโม กาโย อสฺสาติ ธมฺมกาโย. ธมฺมกายตฺตา เอว พฺรหฺมกาโย. ธมฺโม หิ เสฏฺตฺเถน พฺรหฺมาติ วุจฺจติ. ธมฺมภูโตติ ธมฺมสภาโว. ธมฺมภูตตฺตา เอว พฺรหฺมภูโต.
๑๑๙. เอตฺตาวตา ภควา เสฏฺจฺเฉทกวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปเรนปิ นเยน เสฏฺจฺเฉทกวาทเมว ทสฺเสตุํ โหติ โข โส, วาเสฏฺ, สมโยติอาทิมาห. ตตฺถ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกถา พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตาว. อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉนฺตีติ อิตฺถภาวํ มนุสฺสตฺตํ อาคจฺฉนฺติ. เตธ โหนฺติ มโนมยาติ เต อิธ มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตมานาปิ โอปปาติกา หุตฺวา มเนเนว นิพฺพตฺตาติ มโนมยา. พฺรหฺมโลเก วิย อิธาปิ เนสํ ปีติเยว อาหารกิจฺจํ สาเธตีติ ปีติภกฺขา. เอเตเนว นเยน สยํปภาทีนิปิ เวทิตพฺพานีติ.
รสปถวิปาตุภาววณฺณนา
๑๒๐. เอโกทกีภูตนฺติ สพฺพํ จกฺกวาฬํ เอโกทกเมว ภูตํ. อนฺธกาโรติ ตโม. อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรณํ พหลตมํ. สมตนีติ ปติฏฺหิ สมนฺตโต ปตฺถริ. ปยโส ¶ ตตฺตสฺสาติ ตตฺตสฺส ขีรสฺส. วณฺณสมฺปนฺนาติ วณฺเณน สมฺปนฺนา. กณิการปุปฺผสทิโส หิสฺสา วณฺโณ อโหสิ. คนฺธสมฺปนฺนาติ คนฺเธน สมฺปนฺนา ¶ ทิพฺพคนฺธํ วายติ. รสสมฺปนฺนาติ รเสน สมฺปนฺนา ปกฺขิตฺตทิพฺโพชา วิย โหติ. ขุทฺทมธุนฺติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตมธุํ. อเนฬกนฺติ นิทฺโทสํ มกฺขิกณฺฑกวิรหิตํ. โลลชาติโกติ โลลสภาโว. อตีตานนฺตเรปิ กปฺเป โลโลเยว. อมฺโภติ อจฺฉริยชาโต อาห. กิเมวิทํ ภวิสฺสตีติ ¶ วณฺโณปิสฺสา มนาโป คนฺโธปิ, รโส ปนสฺสา กีทิโส ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. โย ตตฺถ อุปฺปนฺนโลโภ, โส รสปถวึ องฺคุลิยา สายิ, องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหคฺเค เปสิ.
อจฺฉาเทสีติ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตา สตฺต รสหรณีสหสฺสานิ ผริตฺวา มนาปา หุตฺวา ติฏฺติ. ตณฺหา จสฺส โอกฺกมีติ ตตฺถ จสฺส ตณฺหา อุปฺปชฺชิ.
จนฺทิมสูริยาทิปาตุภาววณฺณนา
๑๒๑. อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุนฺติ อาโลปํ กตฺวา ปิณฺเฑ ปิณฺเฑ ฉินฺทิตฺวา ปริภฺุชิตุํ อารภึสุ. จนฺทิมสูริยาติ จนฺทิมา จ สูริโย จ. ปาตุรเหสุนฺติ ปาตุภวึสุ.
โก ปน เตสํ ปมํ ปาตุภวิ, โก กสฺมึ วสติ, กสฺส กึ ปมาณํ, โก อุปริ, โก สีฆํ คจฺฉติ, กติ เนสํ วีถิโย, กถํ จรนฺติ, กิตฺตเก าเน อาโลกํ กโรนฺตีติ? อุโภ เอกโต ปาตุภวนฺติ. สูริโย ปมตรํ ปฺายติ. เตสฺหิ สตฺตานํ สยํปภาย อนฺตรหิตาย อนฺธกาโร อโหสิ. เต ภีตตสิตา ‘‘ภทฺทกํ วตสฺส สเจ อาโลโก ปาตุภเวยฺยา’’ติ จินฺตยึสุ. ตโต มหาชนสฺส สูรภาวํ ชนยมานํ สูริยมณฺฑลํ อุฏฺหิ. เตเนวสฺส สูริโยติ นามํ อโหสิ. ตสฺมึ ทิวสํ อาโลกํ กตฺวา อตฺถงฺคเต ปุน อนฺธกาโร อโหสิ. เต ‘‘ภทฺทกํ วตสฺส สเจ อฺโ อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ จินฺตยึสุ. อถ เนสํ ฉนฺทํ ตฺวาว จนฺทมณฺฑลํ อุฏฺหิ. เตเนวสฺส จนฺโทติ นามํ อโหสิ.
เตสุ จนฺโท อนฺโตมณิวิมาเน วสติ. ตํ พหิ รชเตน ปริกฺขิตฺตํ ¶ . อุภยมฺปิ สีตลเมว อโหสิ. สูริโย อนฺโตกนกวิมาเน วสติ. ตํ พาหิรํ ผลิกปริกฺขิตฺตํ โหติ. อุภยมฺปิ อุณฺหเมว.
ปมาณโต ¶ จนฺโท อุชุกํ เอกูนปฺาสโยชโน. ปริมณฺฑลโต ตีหิ โยชเนหิ อูนทิยฑฺฒสตโยชโน. สูริโย อุชุกํ ปฺาสโยชโน, ปริมณฺฑลโต ทิยฑฺฒสตโยชโน.
จนฺโท เหฏฺา, สูริโย อุปริ, อนฺตรา เนสํ โยชนํ โหติ. จนฺทสฺส เหฏฺิมนฺตโต สูริยสฺส อุปริมนฺตโต โยชนสตํ โหติ.
จนฺโท ¶ อุชุกํ สณิกํ คจฺฉติ, ติริยํ สีฆํ. ทฺวีสุ ปสฺเสสุ นกฺขตฺตตารกา คจฺฉนฺติ. จนฺโท เธนุ วิย วจฺฉํ ตํ ตํ นกฺขตฺตํ อุปสงฺกมติ. นกฺขตฺตานิ ปน อตฺตโน านํ น วิชหนฺติ. สูริยสฺส อุชุกํ คมนํ สีฆํ, ติริยํ คมนํ ทนฺธํ. โส กาฬปกฺขอุโปสถโต ปาฏิปททิวเส โยชนานํ สตสหสฺสํ จนฺทมณฺฑลํ โอหาย คจฺฉติ. อถ จนฺโท เลขา วิย ปฺายติ. ปกฺขสฺส ทุติยาย สตสหสฺสนฺติ เอวํ ยาว อุโปสถทิวสา สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ โอหาย คจฺฉติ. อถ จนฺโท อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อุโปสถทิวเส ปริปุณฺโณ โหติ. ปุน ปาฏิปททิวเส โยชนานํ สตสหสฺสํ ธาวิตฺวา คณฺหาติ. ทุติยาย สตสหสฺสนฺติ เอวํ ยาว อุโปสถทิวสา สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ ธาวิตฺวา คณฺหาติ. อถ จนฺโท อนุกฺกเมน หายิตฺวา อุโปสถทิวเส สพฺพโส น ปฺายติ. จนฺทํ เหฏฺา กตฺวา สูริโย อุปริ โหติ. มหติยา ปาติยา ขุทฺทกภาชนํ วิย จนฺทมณฺฑลํ ปิธียติ. มชฺฌนฺหิเก เคหจฺฉายา วิย จนฺทสฺส ฉายา น ปฺายติ. โส ฉายาย อปฺายมานาย ทูเร ิตานํ ทิวา ปทีโป วิย สยมฺปิ น ปฺายติ.
กติ เนสํ วีถิโยติ เอตฺถ ปน อชวีถิ, นาควีถิ, โควีถีติ ติสฺโส วีถิโย โหนฺติ. ตตฺถ อชานํ อุทกํ ปฏิกูลํ โหติ, หตฺถินาคานํ มนาปํ. คุนฺนํ สีตุณฺหสมตาย ผาสุ โหติ. ตสฺมา ยํ กาลํ จนฺทิมสูริยา อชวีถึ อารุหนฺติ, ตทา เทโว เอกพินฺทุมฺปิ น วสฺสติ. ยทา นาควีถึ อาโรหนฺติ, ตทา ภินฺนํ วิย นภํ ปคฺฆรติ. ยทา โควีถึ อาโรหนฺติ, ตทา อุตุสมตา สมฺปชฺชติ. จนฺทิมสูริยา ฉมาเส สิเนรุโต พหิ นิกฺขมนฺติ, ฉมาเส อนฺโต วิจรนฺติ. เต หิ อาสาฬฺหมาเส สิเนรุสมีเปน วิจรนฺติ. ตโต ปเร ทฺเว มาเส นิกฺขมิตฺวา พหิ วิจรนฺตา ปมกตฺติกมาเส มชฺเฌน คจฺฉนฺติ. ตโต จกฺกวาฬาภิมุขา คนฺตฺวา ตโย มาเส จกฺกวาฬสมีเปน ¶ จริตฺวา ปุน นิกฺขมิตฺวา ¶ จิตฺรมาเส มชฺเฌน คนฺตฺวา ตโต ทฺเว มาเส สิเนรุภิมุขา ปกฺขนฺทิตฺวา ปุน อาสาฬฺเห สิเนรุสมีเปน จรนฺติ.
กิตฺตเก าเน อาโลกํ กโรนฺตีติ? เอกปฺปหาเรน ตีสุ ทีเปสุ อาโลกํ กโรนฺติ. กถํ? อิมสฺมิฺหิ ทีเป สูริยุคฺคมนกาโล ปุพฺพวิเทเห มชฺฌนฺหิโก โหติ, อุตฺตรกุรูสุ อตฺถงฺคมนกาโล, อปรโคยาเน มชฺฌิมยาโม. ปุพฺพวิเทหมฺหิ อุคฺคมนกาโล อุตฺตรกุรูสุ มชฺฌนฺหิโก, อปรโคยาเน อตฺถงฺคมนกาโล, อิธ มชฺฌิมยาโม. อุตฺตรกุรูสุ อุคฺคมนกาโล อปรโคยาเน มชฺฌนฺหิโก, อิธ อตฺถงฺคมนกาโล, ปุพฺพวิเทเห มชฺฌิมยาโม. อปรโคยานทีเป อุคฺคมนกาโล อิธ มชฺฌนฺหิโก, ปุพฺพวิเทเห อตฺถงฺคมนกาโล, อุตฺตรกุรูสุ มชฺฌิมยาโมติ.
นกฺขตฺตานิ ¶ ตารกรูปานีติ กตฺติกาทินกฺขตฺตานิ เจว เสสตารกรูปานิ จ จนฺทิมสูริเยหิ สทฺธึเยว ปาตุรเหสุํ. รตฺตินฺทิวาติ ตโต สูริยตฺถงฺคมนโต ยาว อรุณุคฺคมนา รตฺติ, อรุณุคฺคมนโต ยาว สูริยตฺถงฺคมนา ทิวาติ เอวํ รตฺตินฺทิวา ปฺายึสุ. อถ ปฺจทส รตฺติโย อฑฺฒมาโส, ทฺเว อฑฺฒมาสา มาโสติ เอวํ มาสฑฺฒมาสา ปฺายึสุ. อถ จตฺตาโร มาสา อุตุ, ตโย อุตู สํวจฺฉโรติ เอวํ อุตุสํวจฺฉรา ปฺายึสุ.
๑๒๒. วณฺณเววณฺณตา จาติ วณฺณสฺส วิวณฺณภาโว. เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยาติ เตสํ วณฺณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนอติมานปจฺจยา. มานาติมานชาติกานนฺติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานาติมานสภาวานํ. รสาย ปถวิยาติ สมฺปนฺนรสตฺตา รสาติ ลทฺธนามาย ปถวิยา. อนุตฺถุนึสูติ อนุภาสึสุ. อโห รสนฺติ อโห อมฺหากํ มธุรรสํ อนฺตรหิตํ. อคฺคฺํ อกฺขรนฺติ โลกุปฺปตฺติวํสกถํ. อนุสรนฺตีติ อนุคจฺฉนฺติ.
ภูมิปปฺปฏกปาตุภาวาทิวณฺณนา
๑๒๓. เอวเมว ปาตุรโหสีติ เอทิโส หุตฺวา อุฏฺหิ, อนฺโตวาปิยํ อุทเก ฉินฺเน สุกฺขกลลปฏลํ วิย จ อุฏฺหิ.
๑๒๔. ปทาลตาติ เอกา มธุรรสา ภทฺทาลตา. กลมฺพุกาติ ¶ นาฬิกา. อหุ วต โนติ มธุรรสา วต โน ปทาลตา อโหสิ. อหายิ วต โนติ สา โน เอตรหิ อนฺตรหิตาติ.
๑๒๕. อกฏฺปาโกติ ¶ อกฏฺเเยว ภูมิภาเค อุปฺปนฺโน. อกโณติ นิกฺกุณฺฑโก. อถุโสติ นิตฺถุโส. สุคนฺโธติ ทิพฺพคนฺธํ วายติ. ตณฺฑุลปฺผโลติ สุปริสุทฺธํ ปณฺฑรํ ตณฺฑุลเมว ผลติ. ปกฺกํ ปฏิวิรูฬฺหนฺติ สายํ คหิตฏฺานํ ปาโต ปกฺกํ โหติ, ปุน วิรูฬฺหํ ปฏิปากติกเมว คหิตฏฺานํ น ปฺายติ. นาปทานํ ปฺายตีติ อลายิตํ หุตฺวา อนูนเมว ปฺายติ.
อิตฺถิปุริสลิงฺคาทิปาตุภาววณฺณนา
๑๒๖. อิตฺถิยา จาติ ยา ปุพฺเพ มนุสฺสกาเล อิตฺถี, ตสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภวติ, ปุพฺเพ ปุริสสฺส ปุริสลิงฺคํ. มาตุคาโม นาม หิ ปุริสตฺตภาวํ ลภนฺโต อนุปุพฺเพน ปุริสตฺตปจฺจเย ธมฺเม ¶ ปูเรตฺวา ลภติ. ปุริโส อิตฺถตฺตภาวํ ลภนฺโต กาเมสุมิจฺฉาจารํ นิสฺสาย ลภติ. ตทา ปน ปกติยา มาตุคามสฺส อิตฺถิลิงฺคํ, ปุริสสฺส ปุริสลิงฺคํ ปาตุรโหสิ. อุปนิชฺฌายตนฺติ อุปนิชฺฌายนฺตานํ โอโลเกนฺตานํ. ปริฬาโหติ ราคปริฬาโห. เสฏฺินฺติ ฉาริกํ. นิพฺพุยฺหมานายาติ นิยฺยมานาย.
๑๒๗. อธมฺมสมฺมตนฺติ ตํ ปํสุขิปนาทิ อธมฺโมติ สมฺมตํ. ตเทตรหิ ธมฺมสมฺมตนฺติ ตํ อิทานิ ธมฺโมติ สมฺมตํ, ธมฺโมติ ตํ คเหตฺวา วิจรนฺติ. ตถา หิ เอกจฺเจสุ ชานปเทสุ กลหํ กุรุมานา อิตฺถิโย ‘‘ตฺวํ กสฺมา กเถสิ? ยา โคมยปิณฺฑมตฺตมฺปิ นาลตฺถา’’ติ วทนฺติ. ปาตพฺยตนฺติ เสวิตพฺพตํ. สนฺนิธิการกนฺติ สนฺนิธึ กตฺวา. อปทานํ ปฺายิตฺถาติ ฉินฺนฏฺานํ อูนเมว หุตฺวา ปฺายิตฺถ. สณฺฑสณฺฑาติ เอเกกสฺมึ าเน กลาปพนฺธา วิย คุมฺพคุมฺพา หุตฺวา.
๑๒๘. มริยาทํ ¶ เปยฺยามาติ สีมํ เปยฺยาม. ยตฺร หิ นามาติ โย หิ นาม. ปาณินา ปหรึสูติ ตโย วาเร วจนํ อคณฺหนฺตํ ปาณินา ปหรึสุ. ตทคฺเค โขติ ตํ อคฺคํ กตฺวา.
มหาสมฺมตราชวณฺณนา
๑๓๐. ขียิตพฺพํ ขีเยยฺยาติ ปกาเสตพฺพํ ปกาเสยฺย ขิปิตพฺพํ ขิเปยฺย, หาเรตพฺพํ หาเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. โย เนสํ สตฺโตติ โย ¶ เตสํ สตฺโต. โก ปน โสติ? อมฺหากํ โพธิสตฺโต. สาลีนํ ภาคํ อนุปทสฺสามาติ มยํ เอเกกสฺส เขตฺตโต อมฺพณมฺพณํ อาหริตฺวา ตุยฺหํ สาลิภาคํ ทสฺสาม, ตยา กิฺจิ กมฺมํ น กาตพฺพํ, ตฺวํ อมฺหากํ เชฏฺกฏฺาเน ติฏฺาติ.
๑๓๑. อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตนฺติ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร อุปฺปนฺโน. ขตฺติโย ขตฺติโยตฺเวว ทุติยํ อกฺขรนฺติ น เกวลํ อกฺขรเมว, เต ปนสฺส เขตฺตสามิโน ตีหิ สงฺเขหิ อภิเสกมฺปิ อกํสุ. รฺเชตีติ สุเขติ ปิเนติ. อคฺคฺเนาติ อคฺคนฺติ าเตน, อคฺเค วา าเตน โลกุปฺปตฺติสมเย อุปฺปนฺเนน อภินิพฺพตฺติ อโหสีติ.
พฺราหฺมณมณฺฑลาทิวณฺณนา
๑๓๒. วีตงฺคารา ¶ วีตธูมาติ ปจิตฺวา ขาทิตพฺพาภาวโต วิคตธูมงฺคารา. ปนฺนมุสลาติ โกฏฺเฏตฺวา ปจิตพฺพาภาวโต ปติตมุสลา. ฆาสเมสมานาติ ภิกฺขาจริยวเสน ยาคุภตฺตํ ปริเยสนฺตา. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวาติ เต เอเต มนุสฺสา ปสฺสิตฺวา. อนภิสมฺภุณมานาติ อสหมานา อสกฺโกนฺตา. คนฺเถ กโรนฺตาติ ตโย เวเท อภิสงฺขโรนฺตา เจว วาเจนฺตา จ. อจฺฉนฺตีติ วสนฺติ, ‘‘อจฺเฉนฺตี’’ติปิ ปาโ. เอเสวตฺโถ. หีนสมฺมตนฺติ ‘‘มนฺเต ธาเรนฺติ มนฺเต วาเจนฺตี’’ติ โข, วาเสฏฺ, อิทํ เตน สมเยน หีนสมฺมตํ. ตเทตรหิ เสฏฺสมฺมตนฺติ ตํ อิทานิ ‘‘เอตฺตเก มนฺเต ธาเรนฺติ เอตฺตเก มนฺเต วาเจนฺตี’’ติ เสฏฺสมฺมตํ ชาตํ. พฺราหฺมณมณฺฑลสฺสาติ พฺราหฺมณคณสฺส.
๑๓๓. เมถุนํ ธมฺมํ สมาทายาติ เมถุนธมฺมํ สมาทิยิตฺวา. วิสุกมฺมนฺเต ¶ ปโยเชสุนฺติ โครกฺข วาณิชกมฺมาทิเก วิสฺสุเต อุคฺคเต กมฺมนฺเต ปโยเชสุํ.
๑๓๔. สุทฺทา สุทฺทาติ เตน ลุทฺทาจารกมฺมขุทฺทาจารกมฺมุนา สุทฺทํ สุทฺทํ ลหุํ ลหุํ กุจฺฉิตํ คจฺฉนฺติ, วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อหุ โขติ โหติ โข.
๑๓๕. สกํ ¶ ธมฺมํ ครหมาโนติ น เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปนมตฺเตน สุชฺฌิตุํ สกฺกาติ เอวํ อตฺตโน ขตฺติยธมฺมํ นินฺทมาโน. เอส นโย สพฺพตฺถ. ‘‘อิเมหิ โข, วาเสฏฺ, จตูหิ มณฺฑเลหี’’ติ อิมินา อิมํ ทสฺเสติ ‘‘สมณมณฺฑลํ นาม วิสุํ นตฺถิ, ยสฺมา ปน น สกฺกา ชาติยา สุชฺฌิตุํ, อตฺตโน อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา วิสุทฺธิ โหติ. ตสฺมา อิเมหิ จตูหิ มณฺฑเลหิ สมณมณฺฑลสฺส อภินิพฺพตฺติ โหติ. อิมานิ มณฺฑลานิ สมณมณฺฑลํ อนุวตฺตนฺติ, อนุวตฺตนฺตานิ จ ธมฺเมเนว อนุวตฺตนฺติ, โน อธมฺเมน. สมณมณฺฑลฺหิ อาคมฺม สมฺมาปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา สุทฺธึ ปาปุณนฺตี’’ติ.
ทุจฺจริตาทิกถาวณฺณนา
๑๓๖. อิทานิ ยถาชาติยา น สกฺกา สุชฺฌิตุํ, สมฺมาปฏิปตฺติยาว สุชฺฌนฺติ, ตมตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ขตฺติโยปิ โข, วาเสฏฺาติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตูติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนกมฺมเหตุ, มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสฺส วา สมาทานเหตุ.
๑๓๗. ทฺวยการีติ ¶ กาเลน กุสลํ กโรติ, กาเลน อกุสลนฺติ เอวํ อุภยการี. สุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที โหตีติ เอกกฺขเณ อุภยวิปากทานฏฺานํ นาม นตฺถิ. เยน ปน อกุสลํ พหุํ กตํ โหติ, กุสลํ มนฺทํ, โส ตํ กุสลํ นิสฺสาย ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา นิพฺพตฺตติ. อถ นํ อกุสลกมฺมํ กาณมฺปิ กโรติ ขุชฺชมฺปิ ปีสปฺปิมฺปิ. โส รชฺชสฺส วา อนรโห โหติ, อภิสิตฺตกาเล วา เอวํภูโต โภเค ปริภฺุชิตุํ น สกฺโกติ. อปรสฺส มรณกาเล ทฺเว พลวมลฺลา วิย เต ทฺเวปิ กุสลากุสลกมฺมานิ อุปฏฺหนฺติ. เตสุ อกุสลํ พลวตรํ โหติ, ตํ กุสลํ ปฏิพาหิตฺวา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาเปติ. กุสลกมฺมมฺปิ ปวตฺติเวทนียํ โหติ. ตเมนํ มงฺคลหตฺถึ วา กโรนฺติ มงฺคลอสฺสํ วา มงฺคลอุสภํ วา. โส สมฺปตฺตึ อนุภวติ ¶ . อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที โหตี’’ติ.
โพธิปกฺขิยภาวนาวณฺณนา
๑๓๘. สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานนฺติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ อาทิโกฏฺาสวเสน สตฺตนฺนํ, ปฏิปาฏิยา ปน สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ¶ . ภาวนมนฺวายาติ ภาวนํ อนุคนฺตฺวา, ปฏิปชฺชิตฺวาติ อตฺโถ. ปรินิพฺพายตีติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ. อิติ ภควา จตฺตาโร วณฺเณ ทสฺเสตฺวา วินิวตฺเตตฺวา ปฏิวิทฺธจตุสจฺจํ ขีณาสวเมว เทวมนุสฺเสสุ เสฏฺํ กตฺวา ทสฺเสสิ.
๑๔๐. อิทานิ ตเมวตฺถํ โลกสมฺมตสฺส พฺรหฺมุโนปิ วจนทสฺสนานุสาเรน ทฬฺหํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อิเมสฺหิ วาเสฏฺ จตุนฺนํ วณฺณานนฺติอาทิมาห. ‘‘พฺรหฺมุนาเปสา’’ติอาทิ อมฺพฏฺสุตฺเต วิตฺถาริตํ. อิติ ภควา เอตฺตเกน อิมินา กถามคฺเคน เสฏฺจฺเฉทกวาทเมว ทสฺเสตฺวา สุตฺตนฺตํ วินิวตฺเตตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ. อตฺตมนา วาเสฏฺภารทฺวาชาติ วาเสฏฺภารทฺวาช สามเณราปิ หิ สกมนา ตุฏฺมนา ‘‘สาธุ, สาธู’’ติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทึสุ. อิทเมว สุตฺตนฺตํ อาวชฺชนฺตา อนุมชฺชนฺตา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
อคฺคฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สมฺปสาทนียสุตฺตวณฺณนา
สาริปุตฺตสีหนาทวณฺณนา
๑๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สมฺปสาทนียสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – นาฬนฺทายนฺติ นาฬนฺทาติ เอวํนามเก นคเร, ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา. ปาวาริกมฺพวเนติ ทุสฺสปาวาริกเสฏฺิโน อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺส อุยฺยานํ อโหสิ. โส ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน ตสฺมึ อุยฺยาเน กุฏิเลณมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ ภควโต วิหารํ กตฺวา นิยฺยาเตสิ. โส วิหาโร ชีวกมฺพวนํ วิย ‘‘ปาวาริกมฺพวน’’นฺตฺเวว สงฺขฺยํ คโต, ตสฺมึ ปาวาริกมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ. ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ. กสฺมา เอวํ อโวจ? อตฺตโน อุปฺปนฺนโสมนสฺสปเวทนตฺถํ.
ตตฺรายมนุปุพฺพิกถา – เถโร กิร ตํทิวสํ กาลสฺเสว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา สุนิวตฺถนิวาสโน ปตฺตจีวรมาทาย ปาสาทิเกหิ อภิกฺกนฺตาทีหิ เทวมนุสฺสานํ ปสาทํ อาวหนฺโต นาฬนฺทวาสีนํ หิตสุขมนุพฺรูหยนฺโต ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา สตฺถริ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺานํ อคมาสิ. ตตฺถ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺกนฺเตสุ ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ ปฺเปตฺวา อุทกตุมฺพโต อุทเกน หตฺถปาเท สีตเล กตฺวา ติสนฺธิปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิ.
โส ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สมาปตฺติโต วุฏฺาย อตฺตโน คุเณ อนุสฺสริตุมารทฺโธ. อถสฺส คุเณ อนุสฺสรโต สีลํ อาปาถมาคตํ. ตโต ปฏิปาฏิยาว สมาธิ ปฺา วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปมํ ฌานํ ทุติยํ ฌานํ ตติยํ ฌานํ จตุตฺถํ ฌานํ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ วิฺานฺจายตนสมาปตฺติ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ ¶ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ ¶ วิปสฺสนาาณํ มโนมยิทฺธิาณํ อิทฺธิวิธาณํ ทิพฺพโสตาณํ เจโตปริยาณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ…เป… โสตาปตฺติมคฺโค โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลํ อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทา สาวกปารมีาณํ. อิโต ปฏฺาย กปฺปสตสหสฺสาธิกสฺส อสงฺขฺเยยฺยสฺส อุปริ อโนมทสฺสีพุทฺธสฺส ปาทมูเล กตํ อภินีหารํ อาทึ กตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรโต ยาว นิสินฺนปลฺลงฺกา คุณา อุปฏฺหึสุ.
เอวํ ¶ เถโร อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรมาโน คุณานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉทํ วา ทฏฺุํ นาสกฺขิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ตาว ปเทสาเณ ิตสฺส สาวกสฺส คุณานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ. อหํ ปน ยํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, กีทิสา นุ โข ตสฺส คุณา’’ติ ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุํ อารทฺโธ. โส ภควโต สีลํ นิสฺสาย, สมาธึ ปฺํ วิมุตฺตึ วิมุตฺติาณทสฺสนํ นิสฺสาย, จตฺตาโร สติปฏฺาเน นิสฺสาย, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน จตฺตาโร อิทฺธิปาเท จตฺตาโร มคฺเค จตฺตาริ ผลานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ จตฺตาโร อริยวํเส นิสฺสาย ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุมารทฺโธ.
ตถา ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิกํสมฺมาสมาธึ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสรณิยา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนิยา ปฺา, ฉ สารณีเย ธมฺเม, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารเว, ฉ นิสฺสรณิยา ธาตุโย, ฉ สตตวิหาเร, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉ นิพฺเพธภาคิยา ปฺา, ฉ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, สตฺต สปฺปุริสธมฺเม, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต ปฺา, สตฺต ทกฺขิเณยฺยปุคฺคเล, สตฺต ขีณาสวพลานิ, อฏฺ ปฺาปฏิลาภเหตู, อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อฏฺ โลกธมฺมาติกฺกเม, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺ อกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก, อฏฺ อภิภายตนานิ, อฏฺ วิโมกฺเข, นว โยนิโสมนสิการมูลเก ธมฺเม, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นว สตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฺปฏิวินเย, นว ปฺา, นว นานตฺตานิ, นว อนุปุพฺพวิหาเร, ทส นาถกรเณ ธมฺเม, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปเถ, ทส ตถาคตพลานิ, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาเส, ทส อเสกฺขธมฺเม, เอกาทส เมตฺตานิสํเส, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกากาเร, เตรส ธุตงฺคคุเณ ¶ , จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนิเย ธมฺเม, โสฬสวิธํ อานาปานสฺสตึ, อฏฺารส พุทฺธธมฺเม, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปโรปณฺณาส กุสลธมฺเม, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจรมหาวชิราณํ ¶ นิสฺสาย ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุํ อารภิ.
ตสฺมึเยว ¶ จ ทิวาฏฺาเน นิสินฺโนเยว อุปริ ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริย’’นฺติ อาคมิสฺสนฺติ โสฬส อปรมฺปริยธมฺมา, เตปิ นิสฺสาย อนุสฺสริตุํ อารภิ. โส ‘‘กุสลปฺตฺติยํ อนุตฺตโร มยฺหํ สตฺถา, อายตนปฺตฺติยํ อนุตฺตโร, คพฺภาวกฺกนฺติยํ อนุตฺตโร, อาเทสนาวิธาสุ อนุตฺตโร, ทสฺสนสมาปตฺติยํ อนุตฺตโร, ปุคฺคลปฺตฺติยํ อนุตฺตโร, ปธาเน อนุตฺตโร, ปฏิปทาสุ อนุตฺตโร, ภสฺสสมาจาเร อนุตฺตโร, ปุริสสีลสมาจาเร อนุตฺตโร, อนุสาสนีวิธาสุ อนุตฺตโร, ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณ อนุตฺตโร, สสฺสตวาเทสุ อนุตฺตโร, ปุพฺเพนิวาสาเณ อนุตฺตโร, ทิพฺพจกฺขุาเณ อนุตฺตโร, อิทฺธิวิเธ อนุตฺตโร, อิมินา จ อิมินา จ อนุตฺตโร’’ติ เอวํ ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสรนฺโต ภควโต คุณานํ เนว อนฺตํ, น ปมาณํ ปสฺสิ. เถโร อตฺตโนปิ ตาว คุณานํ อนฺตํ วา ปมาณํ วา นาทฺทส, ภควโต คุณานํ กึ ปสฺสิสฺสติ? ยสฺส ยสฺส หิ ปฺา มหตี าณํ วิสทํ, โส โส พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. โลกิยมหาชโน อุกฺกาสิตฺวาปิ ขิปิตฺวาปิ ‘‘นโม พุทฺธาน’’นฺติ อตฺตโน อตฺตโน อุปนิสฺสเย ตฺวา พุทฺธานํ คุเณ อนุสฺสรติ. สพฺพโลกิยมหาชนโต เอโก โสตาปนฺโน พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. โสตาปนฺนานํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก สกทาคามี. สกทาคามีนํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก อนาคามี. อนาคามีนํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก อรหา พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. อวเสสอรหนฺเตหิ อสีติ มหาเถรา พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหนฺติ. อสีติมหาเถเรหิ จตฺตาโร มหาเถรา. จตูหิ มหาเถเรหิ ทฺเว อคฺคสาวกา. เตสุปิ สาริปุตฺตตฺเถโร, สาริปุตฺตตฺเถรโตปิ เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. สเจ ปน สกลจกฺกวาฬคพฺเภ สงฺฆาฏิกณฺเณน สงฺฆาฏิกณฺณํ ¶ ปหริยมานา นิสินฺนา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธคุเณ อนุสฺสเรยฺยุํ, เตหิ สพฺเพหิปิ เอโก สพฺพฺุพุทฺโธว พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ.
เสยฺยถาปิ นาม มหาชโน ‘‘มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อุตฺตาโน’’ติ ชานนตฺถํ โยตฺตานิ วฏฺเฏยฺย, ตตฺถ โกจิ พฺยามปฺปมาณํ โยตฺตํ วฏฺเฏยฺย, โกจิ ทฺเว พฺยามํ, โกจิ ทสพฺยามํ, โกจิ วีสติพฺยามํ, โกจิ ตึสพฺยามํ, โกจิ จตฺตาลีสพฺยามํ, โกจิ ปฺาสพฺยามํ, โกจิ สตพฺยามํ, โกจิ สหสฺสพฺยามํ ¶ , โกจิ จตุราสีติพฺยามสหสฺสํ. เต นาวํ อารุยฺห, สมุทฺทมชฺเฌ อุคฺคตปพฺพตาทิมฺหิ วา ตฺวา อตฺตโน อตฺตโน โยตฺตํ โอตาเรยฺยุํ, เตสุ ยสฺส โยตฺตํ พฺยามมตฺตํ, โส พฺยามมตฺตฏฺาเนเยว อุทกํ ชานาติ…เป… ยสฺส จตุราสีติพฺยามสหสฺสํ, โส จตุราสีติพฺยามสหสฺสฏฺาเนเยว อุทกํ ชานาติ. ปรโต อุทกํ เอตฺตกนฺติ น ชานาติ. มหาสมุทฺเท ¶ ปน น ตตฺตกํเยว อุทกํ, อถ โข อนนฺตมปริมาณํ. จตุราสีติโยชนสหสฺสํ คมฺภีโร หิ มหาสมุทฺโท, เอวเมว เอกพฺยามโยตฺตโต ปฏฺาย นวพฺยามโยตฺเตน าตอุทกํ วิย โลกิยมหาชเนน ทิฏฺพุทฺธคุณา เวทิตพฺพา. ทสพฺยามโยตฺเตน ทสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย โสตาปนฺเนน ทิฏฺพุทฺธคุณา. วีสติพฺยามโยตฺเตน วีสติพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย สกทาคามินา ทิฏฺพุทฺธคุณา. ตึสพฺยามโยตฺเตน ตึสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อนาคามินา ทิฏฺพุทฺธคุณา. จตฺตาลีสพฺยามโยตฺเตน จตฺตาลีสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อรหตา ทิฏฺพุทฺธคุณา. ปฺาสพฺยามโยตฺเตน ปฺาสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อสีติมหาเถเรหิ ทิฏฺพุทฺธคุณา. สตพฺยามโยตฺเตน สตพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย จตูหิ มหาเถเรหิ ทิฏฺพุทฺธคุณา. สหสฺสพฺยามโยตฺเตน สหสฺสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรน ทิฏฺพุทฺธคุณา. จตุราสีติพฺยามสหสฺสโยตฺเตน จตุราสีติพฺยามสหสฺสฏฺาเน าตอุทกํ วิย ธมฺมเสนาปตินา สาริปุตฺตตฺเถเรน ทิฏฺพุทฺธคุณา. ตตฺถ ยถา โส ปุริโส มหาสมุทฺเท อุทกํ นาม น เอตฺตกํเยว, อนนฺตมปริมาณนฺติ คณฺหาติ, เอวเมว อายสฺมา สาริปุตฺโต ธมฺมนฺวเยน อนฺวยพุทฺธิยา อนุมาเนน นยคฺคาเหน สาวกปารมีาเณ ตฺวา ทสพลสฺส ¶ คุเณ อนุสฺสรนฺโต ‘‘พุทฺธคุณา อนนฺตา อปริมาณา’’ติ สทฺทหิ.
เถเรน หิ ทิฏฺพุทฺธคุเณหิ ธมฺมนฺวเยน คเหตพฺพพุทฺธคุณาเยว พหุตรา. ยถา กถํ วิย? ยถา อิโต นว อิโต นวาติ อฏฺารส โยชนานิ อวตฺถริตฺวา คจฺฉนฺติยา จนฺทภาคาย มหานทิยา ปุริโส สูจิปาเสน อุทกํ คณฺเหยฺย, สูจิปาเสน คหิตอุทกโต อคฺคหิตเมว พหุ โหติ. ยถา วา ปน ปุริโส มหาปถวิโต องฺคุลิยา ปํสุํ คณฺเหยฺย, องฺคุลิยา คหิตปํสุโต อวเสสปํสุเยว พหุ โหติ. ยถา วา ปน ปุริโส มหาสมุทฺทาภิมุขึ องฺคุลึ กเรยฺย, องฺคุลิอภิมุขอุทกโต ¶ อวเสสํ อุทกํเยว พหุ โหติ. ยถา จ ปุริโส อากาสาภิมุขึ องฺคุลึ กเรยฺย, องฺคุลิอภิมุขอากาสโต เสสอากาสปฺปเทโสว พหุ โหติ. เอวํ เถเรน ทิฏฺพุทฺธคุเณหิ อทิฏฺา คุณาว พหูติ เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ.
เอวํ เถรสฺส อตฺตโน จ สตฺถุ จ คุเณ อนุสฺสรโต ยมกมหานทีมโหโฆ วิย อพฺภนฺตเร ¶ ปีติโสมนสฺสํ อวตฺถรมานํ วาโต วิย ภสฺตํ, อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคตอุทกํ วิย มหารหทํ สกลสรีรํ ปูเรติ. ตโต เถรสฺส ‘‘สุปตฺถิตา วต เม ปตฺถนา, สุลทฺธา เม ปพฺพชฺชา, ยฺวาหํ เอวํวิธสฺส สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิโต’’ติ อาวชฺชนฺตสฺส พลวตรํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ.
อถ เถโร ‘‘กสฺสาหํ อิมํ ปีติโสมนสฺสํ อาโรเจยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต อฺโ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา มม อิมํ ปสาทํ อนุจฺฉวิกํ กตฺวา ปฏิคฺคเหตุํ น สกฺขิสฺสติ, อหํ อิมํ โสมนสฺสํ สตฺถุโนเยว ปเวเทยฺยามิ, สตฺถาว เม ปฏิคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสติ, โส หิ ติฏฺตุ มม ปีติโสมนสฺสํ, มาทิสสฺส สมณสตสฺส วา สมณสหสฺสสฺส วา สมณสตสหสฺสสฺส วา โสมนสฺสํ ปเวเทนฺตสฺส สพฺเพสํ มนํ คณฺหนฺโต ปฏิคฺคเหตุํ ¶ สกฺโกติ. เสยฺยถาปิ นาม อฏฺารส โยชนานิ อวตฺถรมานํ คจฺฉนฺตึ จนฺทภาคมหานทึ กุสุมฺภา วา กนฺทรา วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, มหาสมุทฺโทว ตํ สมฺปฏิจฺฉติ. มหาสมุทฺโท หิ ติฏฺตุ จนฺทภาคา, เอวรูปานํ นทีนํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ สมฺปฏิจฺฉติ, น จสฺส เตน อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ, เอวเมว สตฺถา มาทิสสฺส สมณสตสฺส สมณสหสฺสสฺส สมณสตสหสฺสสฺส วา ปีติโสมนสฺสํ ปเวเทนฺตสฺส สพฺเพสํ มนํ คณฺหนฺโต ปฏิคฺคเหตุํ สกฺโกติ. เสสา สมณพฺราหฺมณาทโย จนฺทภาคํ กุสุมฺภกนฺทรา วิย มม โสมนสฺสํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ ¶ . หนฺทาหํ มม ปีติโสมนสฺสํ สตฺถุโนว อาโรเจมีติ ปลฺลงฺกํ วินิพฺภุชิตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา อาทาย สายนฺหสมเย ปุปฺผานํ วณฺฏโต ฉิชฺชิตฺวา ปคฺฆรณกาเล สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน โสมนสฺสํ ปเวเทนฺโต เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํปสนฺโนติ เอวํ อุปฺปนฺนสทฺโธ, เอวํ สทฺทหามีติ อตฺโถ. ภิยฺโยภิฺตโรติ ภิยฺยตโร อภิฺาโต, ภิยฺยตราภิฺโ วา, อุตฺตริตราโณติ อตฺโถ. สมฺโพธิยนฺติ สพฺพฺุตฺาเณ อรหตฺตมคฺคาเณ วา, อรหตฺตมคฺเคเนว หิ พุทฺธคุณา นิปฺปเทสา คหิตา โหนฺติ. ทฺเว หิ อคฺคสาวกา อรหตฺตมคฺเคเนว สาวกปารมีาณํ ปฏิลภนฺติ. ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกโพธิาณํ. พุทฺธา สพฺพฺุตฺาณฺเจว สกเล จ พุทฺธคุเณ. สพฺพฺหิ เนสํ อรหตฺตมคฺเคเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา อรหตฺตมคฺคาณํ สมฺโพธิ นาม โหติ. เตน อุตฺตริตโร ภควตา นตฺถิ. เตนาห ‘‘ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ.
๑๔๒. อุฬาราติ เสฏฺา. อยฺหิ อุฬารสทฺโท ‘‘อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุเร อาคจฺฉติ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ, วจฺฉายโน ¶ , สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๘๐) เสฏฺเ. ‘‘อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๒) วิปุเล. สฺวายมิธ เสฏฺเ อาคโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุฬาราติ เสฏฺา’’ติ. อาสภีติ อุสภสฺส วาจาสทิสี อจลา อสมฺปเวธี. เอกํโส คหิโตติ อนุสฺสเวน วา อาจริยปรมฺปราย วา อิติกิราย ¶ วา ปิฏกสมฺปทาเนน วา อาการปริวิตกฺเกน วา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา วา ตกฺกเหตุ วา นยเหตุ วา อกเถตฺวา ปจฺจกฺขโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิย เอกํโส คหิโต, สนฺนิฏฺานกถาว กถิตาติ อตฺโถ.
สีหนาโทติ เสฏฺนาโท, เนว ทนฺธายนฺเตน น คคฺครายนฺเตน สีเหน วิย อุตฺตมนาโท นทิโตติ อตฺโถ. กึ เต สาริปุตฺตาติ อิมํ เทสนํ กสฺมา อารภีติ? อนุโยคทาปนตฺถํ. เอกจฺโจ หิ สีหนาทํ นทิตฺวา อตฺตโน สีหนาเท อนุโยคํ ทาตุํ น สกฺโกติ, นิฆํสนํ นกฺขมติ, เลเป ปติตมกฺกโฏ วิย โหติ. ยถา ธมมานํ อปริสุทฺธโลหํ ฌายิตฺวา ฌามองฺคาโร โหติ, เอวํ ฌามงฺคาโร วิย โหติ ¶ . เอโก สีหนาเท อนุโยคํ ทาปิยมาโน ทาตุํ สกฺโกติ, นิฆํสนํ ขมติ, ธมมานํ นิทฺโทสชาตรูปํ วิย อธิกตรํ โสภติ, ตาทิโส เถโร. เตน นํ ภควา ‘‘อนุโยคกฺขโม อย’’นฺติ ตฺวา สีหนาเท อนุโยคทาปนตฺถํ อิมมฺปิ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต ตยา. เอวํสีลาติอาทีสุ โลกิยโลกุตฺตรวเสน สีลาทีนิ ปุจฺฉติ. เตสํ วิตฺถารกถา มหาปทาเน กถิตาว.
กึ ปน เต, สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺตีติ อตีตา จ ตาว นิรุทฺธา, อปณฺณตฺติกภาวํ คตา ทีปสิขา วิย นิพฺพุตา, เอวํ นิรุทฺเธ อปณฺณตฺติกภาวํ คเต ตฺวํ กถํ ชานิสฺสสิ, อนาคตพุทฺธานํ ปน คุณา กินฺติ ตยา อตฺตโน จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตาติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. กึ ปน เต, สาริปุตฺต, อหํ เอตรหีติ อนาคตาปิ พุทฺธา อชาตา อนิพฺพตฺตา อนุปฺปนฺนา, เตปิ กถํ ตฺวํ ชานิสฺสสิ? เตสฺหิ ชานนํ อปเท อากาเส ปททสฺสนํ วิย โหติ. อิทานิ มยา สทฺธึ เอกวิหาเร วสสิ, เอกโต ภิกฺขาย จรสิ, ธมฺมเทสนากาเล ทกฺขิณปสฺเส นิสีทสิ, กึ ปน มยฺหํ คุณา อตฺตโน เจตสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตา ตยาติ อนุยฺุชนฺโต เอวมาห.
เถโร ปน ปุจฺฉิเต ปุจฺฉิเต ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปติ. เถรสฺส จ วิทิตมฺปิ อตฺถิ ¶ อวิทิตมฺปิ อตฺถิ, กึ โส อตฺตโน วิทิตฏฺาเน ปฏิกฺเขปํ กโรติ, อวิทิตฏฺาเนติ? วิทิตฏฺาเน น กโรติ, อวิทิตฏฺาเนเยว กโรตีติ. เถโร กิร อนุโยเค อารทฺเธเยว อฺาสิ. น อยํ อนุโยโค สาวกปารมีาเณ, สพฺพฺุตฺาเณ อยํ อนุโยโคติ อตฺตโน สาวกปารมีาเณ ปฏิกฺเขปํ อกตฺวา อวิทิตฏฺาเน ¶ สพฺพฺุตฺาเณ ปฏิกฺเขปํ กโรติ. เตน อิทมฺปิ ทีเปติ ‘‘ภควา มยฺหํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ พุทฺธานํ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติการณชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ นตฺถี’’ติ.
เอตฺถาติ เอเตสุ อตีตาทิเภเทสุ พุทฺเธสุ. อถ กิฺจรหีติ อถ กสฺมา เอวํ าเณ อสติ ตยา เอวํ กถิตนฺติ วทติ.
๑๔๓. ธมฺมนฺวโยติ ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขโต าณสฺส อนุโยคํ อนุคนฺตฺวา อุปฺปนฺนํ อนุมานาณํ นยคฺคาโห วิทิโต. สาวกปารมีาเณ ตฺวาว อิมินาว ¶ อากาเรน ชานามิ ภควาติ วทติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห อปฺปมาโณ อปริยนฺโต. ยถา สพฺพฺุตฺาณสฺส ปมาณํ วา ปริยนฺโต วา นตฺถิ, เอวํ ธมฺมเสนาปติโน นยคฺคาหสฺส. เตน โส ‘‘อิมินา เอวํวิโธ, อิมินา อนุตฺตโร สตฺถา’’ติ ชานาติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห สพฺพฺุตฺาณคติโก เอว. อิทานิ ตํ นยคฺคาหํ ปากฏํ กาตุํ อุปมาย ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา มชฺฌิมปเทเส นครสฺส อุทฺธาปปาการาทีนิ ถิรานิ วา โหนฺตุ, ทุพฺพลานิ วา, สพฺพโส วา ปน มา โหนฺตุ, โจราสงฺกา น โหติ, ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา ปจฺจนฺติมนครนฺติ อาห. ทฬฺหุทฺธาปนฺติ ถิรปาการปาทํ. ทฬฺหปาการโตรณนฺติ ถิรปาการฺเจว ถิรปิฏฺสงฺฆาฏฺจ. เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาห? พหุทฺวาเร หิ นคเร พหูหิ ปณฺฑิตโทวาริเกหิ ภวิตพฺพํ. เอกทฺวาเร เอโกว วฏฺฏติ. เถรสฺส จ ปฺาย สทิโส อฺโ นตฺถิ. ตสฺมา อตฺตโน ปณฺฑิตภาวสฺส โอปมฺมตฺถํ เอกํเยว โทวาริกํ ทสฺเสตุํ เอกทฺวาร’’นฺติ อาห. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต วิสทาโณ. เมธาวีติ านุปฺปตฺติกปฺาสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคโต. อนุปริยายปถนฺติ อนุปริยายนามกํ ปาการมคฺคํ. ปาการสนฺธินฺติ ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺานํ. ปาการวิวรนฺติ ปาการสฺส ฉินฺนฏฺานํ.
เจตโส อุปกฺกิเลเสติ ปฺจ นีวรณานิ จิตฺตํ อุปกฺกิเลเสนฺติ กิลิฏฺํ ¶ กโรนฺติ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺติ, ตสฺมา ‘‘เจตโส อุปกฺกิเลสา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาย ปฺาย วฑฺฒิตุํ น ¶ เทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺุ ปิตจิตฺตา หุตฺวา. สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตนฺติ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาสภาเวน ภาเวตฺวา. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อรหตฺตํ สพฺพฺุตฺาณํ วา ปฏิวิชฺฌึสูติ ทสฺเสติ.
อปิเจตฺถ สติปฏฺานาติ วิปสฺสนา. สมฺโพชฺฌงฺคา มคฺโค. อนุตฺตราสมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตํ. สติปฏฺานาติ วา มคฺคาติ วา โพชฺฌงฺคมิสฺสกา. สมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตเมว. ทีฆภาณกมหาสีวตฺเถโร ปนาห ‘‘สติปฏฺาเน ¶ วิปสฺสนาติ คเหตฺวา โพชฺฌงฺเค มคฺโค จ สพฺพฺุตฺาณฺจาติ คหิเต สุนฺทโร ปฺโห ภเวยฺย, น ปเนวํ คหิต’’นฺติ. อิติ เถโร สพฺพฺุพุทฺธานํ นีวรณปฺปหาเน สติปฏฺานภาวนาย สมฺโพธิยฺจ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณรชตานํ วิย นานตฺตาภาวํ ทสฺเสติ.
อิธ ตฺวา อุปมา สํสนฺเทตพฺพา – อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต ปจฺจนฺตนครํ ทสฺเสสิ, ปาการํ ทสฺเสสิ, ปริยายปถํ ทสฺเสสิ, ทฺวารํ ทสฺเสสิ, ปณฺฑิตโทวาริกํ ทสฺเสสิ, นครํ ปเวสนกนิกฺขมนเก โอฬาริเก ปาเณ ทสฺเสสิ, ปณฺฑิตโทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาวฺจ ทสฺเสสิ. ตตฺถ กึ เกน สทิสนฺติ เจ. นครํ วิย หิ นิพฺพานํ, ปากาโร วิย สีลํ, ปริยายปโถ วิย หิรี, ทฺวารํ วิย อริยมคฺโค, ปณฺฑิตโทวาริโก วิย ธมฺมเสนาปติ, นครปฺปวิสนกนิกฺขมนกโอฬาริกปาณา วิย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา พุทฺธา, โทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาโว วิย อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพุทฺธานํ สีลสมถาทีหิ ปากฏภาโว. เอตฺตาวตา เถเรน ภควา เอวมหํ สาวกปารมีาเณ ตฺวา ธมฺมนฺวเยน นยคฺคาเหน ชานามีติ อตฺตโน สีหนาทสฺส อนุโยโค ทินฺโน โหติ.
๑๔๔. อิธาหํ, ภนฺเต, เยน ภควาติ อิมํ เทสนํ กสฺมา อารภิ ¶ ? สาวกปารมีาณสฺส นิปฺผตฺติทสฺสนตฺถํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย, ภควา อหํ สาวกปารมีาณํ ปฏิลภนฺโต ปฺจนวุติปาสณฺเฑ น อฺํ เอกมฺปิ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา สาวกปารมีาณมฺปิ ปฏิลภึ, ตุมฺเหเยว อุปสงฺกมิตฺวา ตุมฺเห ปยิรุปาสนฺโต ปฏิลภินฺติ. ตตฺถ อิธาติ นิปาตมตฺตํ. อุปสงฺกมึ ธมฺมสวนายาติ ตุมฺเห อุปสงฺกมนฺโต ปนาหํ น จีวราทิเหตุ อุปสงฺกมนฺโต, ธมฺมสวนตฺถาย อุปสงฺกมนฺโต. เอวํ อุปสงฺกมิตฺวา สาวกปารมีาณํ ปฏิลภึ. กทา ปน เถโร ธมฺมสวนตฺถาย อุปสงฺกมนฺโตติ. สูกรขตเลเณ ภาคิเนยฺยทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺตกถนทิวเส (ม. นิ. ๒.๒๐๕) ¶ อุปสงฺกมนฺโต, ตทาเยว สาวกปารมีาณํ ปฏิลภีติ. ตํทิวสฺหิ เถโร ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา ภควนฺตํ พีชมาโน ิโต ตํ เทสนํ สุตฺวา ตตฺเถว สาวกปารมีาณํ ¶ หตฺถคตํ อกาสิ. อุตฺตรุตฺตรํ ปณีตปณีตนฺติ อุตฺตรุตฺตรฺเจว ปณีตปณีตฺจ กตฺวา เทเสสิ. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ กณฺหฺเจว สุกฺกฺจ. ตฺจ โข สปฺปฏิภาคํ สวิปกฺขํ กตฺวา. กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกํ, สุกฺกํ ปฏิพาหิตฺวา กณฺหนฺติ เอวํ สปฺปฏิภาคํ กตฺวา กณฺหสุกฺกํ เทเสสิ, กณฺหํ เทเสนฺโตปิ จ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสสิ, สุกฺกํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสสิ.
ตสฺมึ ธมฺเม อภิฺา อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺมคมนฺติ ตสฺมึ เทสิเต ธมฺเม เอกจฺจํ ธมฺมํ นาม สาวกปารมีาณํ สฺชานิตฺวา ธมฺเมสุ นิฏฺมคมํ. กตเมสุ ธมฺเมสูติ? จตุสจฺจธมฺเมสุ. เอตฺถายํ เถรสลฺลาโป, กาฬวลฺลวาสี สุมตฺเถโร ตาว วทติ ‘‘จตุสจฺจธมฺเมสุ อิทานิ นิฏฺคมนการณํ นตฺถิ. อสฺสชิมหาสาวกสฺส หิ ทิฏฺทิวเสเยว โส ปมมคฺเคน จตุสจฺจธมฺเมสุ นิฏฺํ คโต, อปรภาเค สูกรขตเลณทฺวาเร อุปริ ตีหิ มคฺเคหิ จตุสจฺจธมฺเมสุ นิฏฺํ คโต, อิมสฺมึ ปน าเน ¶ ‘ธมฺเมสู’ติ พุทฺธคุเณสุ นิฏฺํ คโต’’ติ. โลกนฺตรวาสี จูฬสีวตฺเถโร ปน ‘‘สพฺพํ ตเถว วตฺวา อิมสฺมึ ปน าเน ‘ธมฺเมสู’ติ อรหตฺเต นิฏฺํ คโต’’ติ อาห. ทีฆภาณกติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘ตเถว ปุริมวาทํ วตฺวา อิมสฺมึ ปน าเน ‘ธมฺเมสู’ติ สาวกปารมีาเณ นิฏฺํ คโต’’ติ วตฺวา ‘‘พุทฺธคุณา ปน นยโต อาคตา’’ติ อาห.
สตฺถริ ปสีทินฺติ เอวํ สาวกปารมีาณธมฺเมสุ นิฏฺํ คนฺตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สตฺถริ ปสีทึ. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโมติ สุฏฺุ อกฺขาโต สุกถิโต นิยฺยานิโก มคฺโค ผลตฺถาย นิยฺยาติ ราคโทสโมหนิมฺมทนสมตฺโถ.
สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆติ พุทฺธสฺส ภควโต สาวกสงฺโฆปิ วงฺกาทิโทสวิรหิตํ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตา สุปฺปฏิปนฺโนติ ปสนฺโนมฺหิ ภควตีติ ทสฺเสติ.
กุสลธมฺมเทสนาวณฺณนา
๑๔๕. อิทานิ ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมาปชฺชิเต โสฬส อปราปริยธมฺเม ทสฺเสตุํ อปรํ ปน ภนฺเต เอตทานุตฺตริยนฺติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ¶ อนุตฺตริยนฺติ อนุตฺตรภาโว. ยถา ภควา ¶ ธมฺมํ เทเสตีติ ยถา เยนากาเรน ยาย เทสนาย ภควา ธมฺมํ เทเสติ, สา ตุมฺหากํ เทสนา อนุตฺตราติ วทติ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ตาย เทสนาย เทสิเตสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุปิ ภควาว อนุตฺตโรติ ทีเปติ. ยา วา สา เทสนา, ตสฺสา ภูมึ ทสฺเสนฺโตปิ ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ อาห. ตตฺริเม กุสลา ธมฺมาติ ตตฺร กุสเลสุ ธมฺเมสูติ วุตฺตปเท อิเม กุสลา ธมฺมา นามาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ อาโรคฺยฏฺเน, อนวชฺชฏฺเน, โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน, นิทฺทรถฏฺเน, สุขวิปากฏฺเนาติ ปฺจธา กุสลํ เวทิตพฺพํ. เตสุ ชาตกปริยายํ ปตฺวา อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ วฏฺฏติ. สุตฺตนฺตปริยายํ ปตฺวา อนวชฺชฏฺเน. อภิธมฺมปริยายํ ปตฺวา โกสลฺลสมฺภูตนิทฺทรถสุขวิปากฏฺเน. อิมสฺมึ ปน าเน พาหิติกสุตฺตนฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๒.๓๕๘) อนวชฺชฏฺเน กุสลํ ทฏฺพฺพํ.
จตฺตาโร สติปฏฺานาติ จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ¶ , โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานนฺติ เอวํ นานานเยหิ วิภชิตฺวา สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา. ผลสติปฏฺานํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ ปคฺคหฏฺเน เอกลกฺขณา, กิจฺจวเสน นานากิจฺจา. ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทินา นเยน สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา เทสิตา. จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ อิชฺฌนฏฺเน เอกสงฺคหา, ฉนฺทาทิวเสน นานาสภาวา. ‘‘อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทินา นเยน สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว จตฺตาโร อิทฺธิปาทา เทสิตา.
ปฺจินฺทฺริยานีติ อาธิปเตยฺยฏฺเน เอกลกฺขณานิ, อธิโมกฺขาทิสภาววเสน นานาสภาวานิ. สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. ปฺจ พลานีติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน อกมฺปิยฏฺเน วา เอกสงฺคหานิ, สลกฺขเณน นานาสภาวานิ ¶ . สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ สทฺธาทีนิ ปฺจ พลานิ เทสิตานิ. สตฺต โพชฺฌงฺคาติ นิยฺยานฏฺเน เอกสงฺคหา, อุปฏฺานาทินา สลกฺขเณน นานาสภาวา. สมถวิปสฺสนา มคฺควเสเนว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สตฺต โพชฺฌงฺคา เทสิตา.
อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ เหตุฏฺเน เอกสงฺคโห, ทสฺสนาทินา สลกฺขเณน นานาสภาโว. สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เทสิโตติ อตฺโถ.
อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาติ อิทํ กิมตฺถํ อารทฺธํ? สาสนสฺส ปริโยสานทสฺสนตฺถํ. สาสนสฺส หิ น เกวลํ มคฺเคเนว ปริโยสานํ โหติ, อรหตฺตผเลน ปน โหติ. ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ภนฺเต ยา อยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ เอวํเทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. ตํ ¶ ภควาติ ตํ เทสนํ ภควา อเสสํ สกลํ อภิชานาติ. ตํ ภควโตติ ตํ เทสนํ ภควโต อเสสํ อภิชานโต. อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถีติ ตทุตฺตริ อภิชานิตพฺพํ นตฺถิ, อยํ นาม อิโต อฺโ ธมฺโม วา ปุคฺคโล วา ยํ ภควา น ชานาตีติ อิทํ นตฺถิ. ยทภิชานํ อฺโ สมโณ วาติ ยํ ตุมฺเหหิ อนภิฺาตํ, ตํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อภิชานนฺโต ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส, อธิกตรปฺโ ภเวยฺย. ยทิทํ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, กุสเลสุ ธมฺเมสุ ภควตา อุตฺตริตโร นตฺถีติ อยเมตฺถตฺโถ. อิติ ภควาว กุสเลสุ ธมฺเมสุ อนุตฺตโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ ทีเปติ. อิโต ปเรสุ อปรํ ปนาติอาทีสุ วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ปุริมวารสทิสํ ปน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อายตนปณฺณตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๖. อายตนปณฺณตฺตีสูติ อายตนปฺาปนาสุ. อิทานิ ตา อายตนปฺตฺติโย ทสฺเสนฺโต ฉยิมานิ, ภนฺเตติอาทิมาห. อายตนกถา ปเนสา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาเรน กถิตา, เตน น ตํ วิตฺถารยิสฺสาม, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว สา วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
เอตทานุตฺตริยํ ¶ , ภนฺเต, อายตนปณฺณตฺตีสูติ ยายํ อายตนปณฺณตฺตีสุ อชฺฌตฺติกพาหิรววตฺถานาทิวเสน เอวํ เทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
คพฺภาวกฺกนฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๗. คพฺภาวกฺกนฺตีสูติ คพฺโภกฺกมเนสุ. ตา คพฺภาวกฺกนฺติโย ทสฺเสนฺโต จตสฺโส อิมา, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อสมฺปชาโนติ อชานนฺโต สมฺมูฬฺโห หุตฺวา. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ ¶ ปฏิสนฺธิวเสน ปวิสติ. าตีติ วสติ. นิกฺขมตีติ นิกฺขมนฺโตปิ อสมฺปชาโน สมฺมูฬฺโหว นิกฺขมติ. อยํ ปมาติ อยํ ปกติโลกิยมนุสฺสานํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ.
สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ โอกฺกมนฺโต สมฺปชาโน อสมฺมูฬฺโห หุตฺวา โอกฺกมติ.
อยํ ¶ ทุติยาติ อยํ อสีติมหาเถรานํ สาวกานํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. เต หิ ปวิสนฺตาว ชานนฺติ, วสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ น ชานนฺติ.
อยํ ตติยาติ อยํ ทฺวินฺนฺจ อคฺคสาวกานํ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. เต กิร กมฺมเชหิ วาเตหิ อโธสิรา อุทฺธํปาทา อเนกสตโปริเส ปปาเต วิย โยนิมุเข ขิตฺตา ตาฬจฺฉิคฺคเฬน หตฺถี วิย สมฺพาเธน โยนิมุเขน นิกฺขมมานา อนนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ. เตน เนสํ ‘‘มยํ นิกฺขมมฺหา’’ติ สมฺปชานตา น โหติ. เอวํ ปูริตปารมีนมฺปิ จ สตฺตานํ เอวรูเป าเน มหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ อลเมว คพฺภาวาเส นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุํ.
อยํ จตุตฺถาติ อยํ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ วเสน จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺติ. สพฺพฺุโพธิสตฺตา หิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตาปิ ชานนฺติ, ตตฺถ วสนฺตาปิ ชานนฺติ, นิกฺขมนฺตาปิ ชานนฺติ, นิกฺขมนกาเลปิ จ เต กมฺมชวาตา อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ, ทฺเว หตฺเถ ปสาเรตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ิตกาว นิกฺขมนฺติ. ภวคฺคํ อุปาทาย อวีจิอนฺตเร อฺโ ตีสุ กาเลสุ สมฺปชาโน นาม นตฺถิ เปตฺวา สพฺพฺุโพธิสตฺเต. เตเนว เนสํ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนกาเล จ นิกฺขมนกาเล ¶ จ ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปตีติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาเทสนวิธาเทสนาวณฺณนา
๑๔๘. อาเทสนวิธาสูติ อาเทสนโกฏฺาเสสุ. อิทานิ ตา อาเทสนวิธา ทสฺเสนฺโต จตสฺโส อิมาติอาทิมาห. นิมิตฺเตน อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน คตนิมิตฺเตน ิตนิมิตฺเตน วา อิทํ นาม ภวิสฺสตีติ กเถติ.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – เอโก ราชา ติสฺโส มุตฺตา คเหตฺวา ปุโรหิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เม, อาจริย, หตฺเถ’’ติ? โส อิโต จิโต จ โอโลเกสิ. เตน จ สมเยน เอกา สรพู ‘‘มกฺขิกํ คเหสฺสามี’’ติ ปกฺขนฺทิ, คหณกาเล มกฺขิกา ปลาตา, โส มกฺขิกาย มุตฺตตฺตา ‘‘มุตฺตา มหาราชา’’ติ อาห. มุตฺตา ตาว โหตุ, กติ มุตฺตาติ? โส ปุน นิมิตฺตํ โอโลเกสิ. อถ อวิทูเร กุกฺกุโฏ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ติสฺโส มหาราชา’’ติ อาห. เอวํ เอกจฺโจ อาคตนิมิตฺเตน กเถติ. เอเตนุปาเยน คติตนิ มิตฺเตหิปิ กถนํ เวทิตพฺพํ.
อมนุสฺสานนฺติ ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ ¶ จาตุมหาราชิกาทีนํ. สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทนฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปมตฺตาทีนํ สทฺทํ. สุตฺวาติ ตํ สทฺทํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติ อาทิสติ. มโนสงฺขารา ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา สุฏฺปิตา. วิตกฺเกสฺสตีติ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺเตสฺสตีติ ปชานาติ. ชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว เยนากาเรน เอส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ วา อฏฺสมาปตฺติโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม สมถวิปสฺสนาย อารทฺธาเยว ชานาติ, เยนากาเรน เอส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, สกทาคามิมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, อนาคามิมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, อรหตฺตมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา สุฏฺปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา ¶ อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ. อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ, ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา อภิฺาโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ.
ตตฺถ ปุถุชฺชโน เจโตปริยาณลาภี ปุถุชฺชนานํเยว จิตฺตํ ชานาติ, น อริยานํ. อริเยสุปิ เหฏฺิโม เหฏฺิโม อุปริมสฺส อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาติ, อุปริโม ปน เหฏฺิมสฺส ชานาติ. เอเตสุ จ โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. สกทาคามี, อนาคามี, อรหา, อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชติ. เตสฺหิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา สมาปตฺติ ตตฺรุปปตฺติเยว โหติ. ตเถว ตํ โหตีติ อิทํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวี นาม นตฺถิ. เสสํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ทสฺสนสมาปตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๙. อาตปฺปมนฺวายาติอาทิ ¶ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตเมว. อยํ ปเนตฺถ ¶ สงฺเขโป, อาตปฺปนฺติ วีริยํ. ตเทว ปทหิตพฺพโต ปธานํ. อนุยฺุชิตพฺพโต อนุโยโค. อปฺปมาทนฺติ สติอวิปฺปวาสํ. สมฺมามนสิการนฺติ อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติอาทิวเสน ปวตฺตํ อุปายมนสิการํ. เจโตสมาธินฺติ ปมชฺฌานสมาธึ. อยํ ปมา ทสฺสนสมาปตฺตีติ อยํ ทฺวตฺตึ สาการํ ปฏิกูลโต มนสิกตฺวา ปฏิกูลทสฺสนวเสน อุปฺปาทิตา ปมชฺฌานสมาปตฺติ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม, สเจ ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปนฺโน โหติ, อยํ นิปฺปริยาเยเนว ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ.
อติกฺกมฺม จาติ อติกฺกมิตฺวา จ. ฉวิมํสโลหิตนฺติ ฉวิฺจ มํสฺจ โลหิตฺจ. อฏฺึ ปจฺจเวกฺขตีติ อฏฺิ อฏฺีติ ปจฺจเวกฺขติ. อฏฺิ อฏฺีติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปฺปาทิตา อฏฺิอารมฺมณา ทิพฺพจกฺขุปาทกชฺฌานสมาปตฺติ ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม. สเจ ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สกทาคามิมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ. อยํ นิปฺปริยาเยน ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ. กาฬวลฺลวาสี สุมตฺเถโร ปน ‘‘ยาว ตติยมคฺคา วฏฺฏตี’’ติ อาห.
วิฺาณโสตนฺติ ¶ วิฺาณเมว. อุภยโต อพฺโพจฺฉินฺนนฺติ ทฺวีหิปิ ภาเคหิ อจฺฉินฺนํ. อิธ โลเก ปติฏฺิตฺจาติ ฉนฺทราควเสน อิมสฺมิฺจ โลเก ปติฏฺิตํ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. กมฺมํ วา กมฺมโต อุปคจฺฉนฺตํ อิธ โลเก ปติฏฺิตํ นาม. กมฺมภวํ อากฑฺฒนฺตํ ปรโลเก ปติฏฺิตํ นาม. อิมินา กึ กถิตํ? เสกฺขปุถุชฺชนานํ เจโตปริยาณํ กถิตํ. เสกฺขปุถุชฺชนานฺหิ เจโตปริยาณํ ตติยา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม.
อิธ โลเก อปฺปติฏฺิตฺจาติ นิจฺฉนฺทราคตฺตา อิธโลเก จ อปฺปติฏฺิตํ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. กมฺมํ วา กมฺมโต น อุปคจฺฉนฺตํ อิธ โลเก อปฺปติฏฺิตํ นาม. กมฺมภวํ อนากฑฺฒนฺตํ ปรโลเก อปฺปติฏฺิตํ นาม. อิมินา กึ กถิตํ? ขีณาสวสฺส เจโตปริยาณํ กถิตํ. ขีณาสวสฺส หิ เจโตปริยาณํ จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม.
อปิจ ทฺวตฺตึสากาเร อารทฺธวิปสฺสนาปิ ¶ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ. อฏฺิอารมฺมเณ อารทฺธวิปสฺสนา ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ. เสกฺขปุถุชฺชนานํ เจโตปริยาณํ ขีณาสวสฺส เจโตปริยาณนฺติ อิทํ ปททฺวยํ นิจฺจลเมว. อปโร นโย ปมชฺฌานํ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ ¶ . ทุติยชฺฌานํ ทุติยา. ตติยชฺฌานํ ตติยา. จตุตฺถชฺฌานํ จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺติ. ตถา ปมมคฺโค ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ. ทุติยมคฺโค ทุติยา. ตติยมคฺโค ตติยา. จตุตฺถมคฺโค จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺตีติ. เสสเมตฺถ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปุคฺคลปณฺณตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๕๐. ปุคฺคลปณฺณตฺตีสูติ โลกโวหารวเสน ‘‘สตฺโต ปุคฺคโล นโร โปโส’’ติ เอวํ ปฺาเปตพฺพาสุ โลกปฺตฺตีสุ. พุทฺธานฺหิ ทฺเว กถา สมฺมุติกถา, ปรมตฺถกถาติ โปฏฺปาทสุตฺเต (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๓๙-๔๔๓) วิตฺถาริตา.
ตตฺถ ปุคฺคลปณฺณตฺตีสูติ อยํ สมฺมุติกถา. อิทานิ เย ปุคฺคเล ปฺเปนฺโต ปุคฺคลปณฺณตฺตีสุ ภควา อนุตฺตโร โหติ, เต ทสฺเสนฺโต สตฺติเม ภนฺเต ปุคฺคลา. อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต, อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต ¶ วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตานํ, จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตปฺปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ.
ปาฬิ ปเนตฺถ ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺวิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ (ธาตุ. ๒๔) เอวํ อฏฺวิโมกฺขลาภิโน วเสน อาคตา. ปฺาย วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก จ, จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ อิเมสํ วเสน ปฺจวิโธว โหติ.
ปาฬิ ปเนตฺถ อฏฺวิโมกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาคตา. ยถาห ‘‘น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๕).
ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิ กโรตีติ กายสกฺขิ. โส ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ¶ ฉพฺพิโธ โหตีติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย ¶ จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ (ธาตุ. ๒๖).
ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺริทํ สงฺเขปลกฺขณํ, ทุกฺขา สงฺขารา สุโข นิโรโธติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ปสฺสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. วิตฺถารโต ปเนโสปิ กายสกฺขิ วิย ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๗).
สทฺธาย ¶ วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. โสปิ วุตฺตนเยเนว ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๘). เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย, โอกปฺเปนฺตสฺส วิย, อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ, เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน อตินิสิเตน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลวตรํ วายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ปฺาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา.
ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ธมฺโมติ ปฺา, ปฺาปุพฺพงฺคมํ มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺโถ. สทฺธานุสาริมฺหิปิ เอเสว นโย, อุโภเปเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี’’ติ.
ตถา ¶ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ ¶ , สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนสา อุภโตภาควิมุตฺตาทิกถา วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนาธิกาเร วุตฺตา. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปธานเทสนาวณฺณนา
๑๕๑. ปธาเนสูติ อิธ ปทหนวเสน ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา ปธานา’’ติ วุตฺตา. เตสํ วิตฺถารกถา มหาสติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปฏิปทาเทสนาวณฺณนา
๑๕๒. ทุกฺขปฏิปทาทีสุ ¶ อยํ วิตฺถารนโย – ‘‘ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? ทุกฺเขน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? ทุกฺเขน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา’’ติ (วิภ. ๘๐๑). อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ภสฺสสมาจาราทิวณฺณนา
๑๕๓. น เจว มุสาวาทูปสฺหิตนฺติ ภสฺสสมาจาเร ิโตปิ กถามคฺคํ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา กเถนฺโตปิ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ น เจว มุสาวาทูปสฺหิตํ ภาสติ. อฏฺ อนริยโวหาเร วชฺเชตฺวา อฏฺ อริยโวหารยุตฺตเมว ภาสติ. น ¶ จ เวภูติยนฺติ ภสฺสสมาจาเร ิโตปิ เภทกรวาจํ ¶ น ภาสติ. น จ เปสุณิยนฺติ ตสฺสาเยเวตํ เววจนํ. เวภูติยวาจา หิ ปิยภาวสฺส สฺุกรณโต ‘‘เปสุณิย’’นฺติ วุจฺจติ. นามเมวสฺสา เอตนฺติ มหาสีวตฺเถโร อโวจ. น จ สารมฺภชนฺติ สารมฺภชา จ ยา วาจา, ตฺจ น ภาสติ. ‘‘ตฺวํ ทุสฺสีโล’’ติ วุตฺเต, ‘‘ตฺวํ ทุสฺสีโล ตวาจริโย ทุสฺสีโล’’ติ วา, ‘‘ตุยฺหํ อาปตฺตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปาฏลิปุตฺตํ คโต’’ติอาทินา นเยน พหิทฺธา วิกฺเขปกถาปวตฺตํ วา กรณุตฺตริยวาจํ น ภาสติ. ชยาเปกฺโขติ ชยปุเรกฺขาโร หุตฺวา, ยถา หตฺถโก สกฺยปุตฺโต ติตฺถิยา นาม ธมฺเมนปิ อธมฺเมนปิ เชตพฺพาติ สจฺจาลิกํ ยํกิฺจิ ภาสติ, เอวํ ¶ ชยาเปกฺโข ชยปุเรกฺขาโร หุตฺวา น ภาสตีติ อตฺโถ. มนฺตา มนฺตา จ วาจํ ภาสตีติ เอตฺถ มนฺตาติ วุจฺจติ ปฺา, มนฺตาย ปฺาย. ปุน มนฺตาติ อุปปริกฺขิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ภสฺสสมาจาเร ิโต ทิวสภาคมฺปิ กเถนฺโต ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตกถเมว กเถตีติ. นิธานวตินฺติ หทเยปิ นิทหิตพฺพยุตฺตํ. กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน.
เอวํ ภาสิตา หิ วาจา อมุสา เจว โหติ อปิสุณา จ อผรุสา จ อสา จ อสมฺผปฺปลาปา จ. เอวรูปา จ อยํ วาจา จตุสจฺจนิสฺสิตาติปิ สิกฺขตฺตยนิสฺสิตาติปิ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตาติปิ เตรสธุตงฺคนิสฺสิตาติปิ สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมนิสฺสิตาติปิ มคฺคนิสฺสิตาติปิ วุจฺจติ. เตนาห เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ภสฺสสมาจาเรติ ตํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
สจฺโจ จสฺส สทฺโธ จาติ สีลาจาเร ิโต ภิกฺขุ สจฺโจ จ ภเวยฺย สจฺจกโถ สทฺโธ จ สทฺธาสมฺปนฺโน. นนุ เหฏฺา สจฺจํ กถิตเมว, อิธ กสฺมา ปุน วุตฺตนฺติ? เหฏฺา วาจาสจฺจํ กถิตํ. สีลาจาเร ิโต ปน ภิกฺขุ อนฺตมโส หสนกถายปิ มุสาวาทํ น กโรตีติ ทสฺเสตุํ อิธ วุตฺตํ. อิทานิ โส ธมฺเมน สเมน ชีวิตํ กปฺเปตีติ ทสฺสนตฺถํ น จ กุหโกติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘กุหโก’’ติอาทีนิ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตานิ.
อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺูติ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเนปิ ปมาณฺู. สมการีติ ¶ สมจารี, กาเยน วาจาย มนสา จ กายวงฺกาทีนิ ปหาย สมํ จรตีติ อตฺโถ. ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโตติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติ วุตฺตนเยเนว ชาคริยานุโยคํ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรติ. อตนฺทิโตติ นิตฺตนฺที กายาลสิยวิรหิโต. อารทฺธวีริโยติ กายิกวีริเยนาปิ อารทฺธวีริโย โหติ, คณสงฺคณิกํ วิโนเทตฺวา จตูสุ อิริยาปเถสุ อฏฺอารพฺภวตฺถุวเสน เอกวิหารี. เจตสิกวีริเยนาปิ อารทฺธวีริโย ¶ โหติ, กิเลสสงฺคณิกํ ปหาย วิโนเทตฺวา อฏฺสมาปตฺติวเสน เอกวิหารี. อปิ จ ยถา ตถา กิเลสุปฺปตฺตึ นิวาเรนฺโต เจตสิกวีริเยน อารทฺธวีริโย โหติ. ฌายีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ¶ ฌายี. สติมาติ จิรกตาทิอนุสฺสรณสมตฺถาย สติยา สมนฺนาคโต.
กลฺยาณปฏิภาโนติ วากฺกรณสมฺปนฺโน เจว โหติ ปฏิภานสมฺปนฺโน จ. ยุตฺตปฏิภาโน โข ปน โหติ โน มุตฺตปฏิภาโน. สีลสมาจารสฺมิฺหิ ิตภิกฺขุ มุตฺตปฏิภาโน น โหติ, ยุตฺตปฏิภาโน ปน โหติ วงฺคีสตฺเถโร วิย. คติมาติ คมนสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคโต. ธิติมาติ ธารณสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคโต. มติมาติ เอตฺถ ปน มตีติ ปฺาย นามเมว, ตสฺมา ปฺวาติ อตฺโถ. อิติ ตีหิปิ อิเมหิ ปเทหิ ปฺาว กถิตา. ตตฺถ เหฏฺา สมณธมฺมกรณวีริยํ กถิตํ, อิธ พุทฺธวจนคณฺหนวีริยํ. ตถา เหฏฺา วิปสฺสนาปฺา กถิตา, อิธ พุทฺธวจนคณฺหนปฺา. น จ กาเมสุ คิทฺโธติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ อคิทฺโธ. สโต จ นิปโก จาติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติยา เจว าเณน จ สมนฺนาคโต จรตีติ อตฺโถ. เนปกฺกนฺติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคตตฺตา นิปโกติ วุตฺโต. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
อนุสาสนวิธาทิวณฺณนา
๑๕๔. ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสิการาติ อตฺตโน อุปายมนสิกาเรน. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโนติ ยถา มยา อนุสิฏฺํ อนุสาสนี ทินฺนา, ตถา ปฏิปชฺชมาโน. ติณฺณํ ¶ สํโยชนานํ ปริกฺขยาติอาทิ วุตฺตตฺถเมว. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๕. ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณติ โสตาปนฺนาทีนํ ปรปุคฺคลานํ เตน เตน มคฺเคน กิเลสวิมุตฺติาเณ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๖. อมุตฺราสึ เอวํนาโมติ เอโก ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺโต นามโคตฺตํ ปริยาทิยมาโน คจฺฉติ. เอโก สุทฺธขนฺเธเยว อนุสฺสรติ, เอโก หิ สกฺโกติ, เอโก น สกฺโกติ. ตตฺถ โย สกฺโกติ, ตสฺส วเสน อคฺคเหตฺวา อสกฺโกนฺตสฺส วเสน คหิตํ. อสกฺโกนฺโต ปน กึ กโรติ? สุทฺธขนฺเธเยว อนุสฺสรนฺโต คนฺตฺวา อเนกชาติสตสหสฺสมตฺถเก ตฺวา นามโคตฺตํ ปริยาทิยมาโน โอตรติ. ตํ ทสฺเสนฺโต เอวํนาโมติอาทิมาห ¶ ¶ . โส เอวมาหาติ โส ทิฏฺิคติโก เอวมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ สสฺสโตติ วตฺวา ‘‘เต จ สตฺตา สํสรนฺตี’’ติ วทนฺตสฺส วจนํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํ โหติ. ทิฏฺิคติกตฺตา ปเนส เอตํ น สลฺลกฺเขสิ. ทิฏฺิคติกสฺส หิ านํ วา นิยโม วา นตฺถิ. อิมํ คเหตฺวา อิมํ วิสฺสชฺเชติ, อิมํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิมํ คณฺหาตีติ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตเมเวตํ. อยํ ตติโย สสฺสตวาโทติ เถโร ลาภิสฺเสว วเสน ตโย สสฺสตวาเท อาห. ภควตา ปน ตกฺกีวาทมฺปิ คเหตฺวา พฺรหฺมชาเล จตฺตาโร วุตฺตา. เอเตสํ ปน ติณฺณํ วาทานํ วิตฺถารกถา พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
๑๕๗. คณนาย วาติ ปิณฺฑคณนาย. สงฺขาเนนาติ อจฺฉิทฺทกวเสน มโนคณนาย. อุภยถาปิ ปิณฺฑคณนเมว ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, วสฺสานํ สตวเสน สหสฺสวเสน สตสหสฺสวเสน โกฏิวเสน ปิณฺฑํ กตฺวาปิ เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา เอตฺตกา วสฺสโกฏิโยติ วา เอวํ สงฺขาตุํ น สกฺกา. ตุมฺเห ปน อตฺตโน ทสนฺนํ ปารมีนํ ปูริตตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ยสฺมา โว อนาวรณาณํ สูรํ วหติ. ตสฺมา เทสนาาณกุสลตํ ปุรกฺขตฺวา วสฺสคณนายปิ ปริยนฺติกํ กตฺวา กปฺปคณนายปิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอตฺตกนฺติ ¶ ทสฺเสถาติ ทีเปติ. ปาฬิยตฺโถ ปเนตฺถ วุตฺตนโยเยว. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๘. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, สตฺตานํ จุตูปปาตาเณติ ภนฺเต ยาปิ อยํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิวเสน าณเทสนา, สาปิ ตุมฺหากํเยว อนุตฺตรา. อตีตพุทฺธาปิ เอวเมว เทเสสุํ. อนาคตาปิ เอวเมว เทเสสฺสนฺติ. ตุมฺเห เตสํ อตีตานาคตพุทฺธานํ าเณน สํสนฺทิตฺวาว เทสยิตฺถ. ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ ภนฺเต ภควตี’’ติ ทีเปติ. ปาฬิยตฺโถ ปเนตฺถ วิตฺถาริโตเยว.
๑๕๙. สาสวา สอุปธิกาติ สโทสา สอุปารมฺภา. โน อริยาติ วุจฺจตีติ อริยิทฺธีติ น วุจฺจติ. อนาสวา อนุปธิกาติ นิทฺโทสา อนุปารมฺภา. อริยาติ วุจฺจตีติ อริยิทฺธีติ วุจฺจติ. อปฺปฏิกูลสฺี ¶ ตตฺถ วิหรตีติ กถํ อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรตีติ? ปฏิกูเล สตฺเต เมตฺตํ ผรติ, สงฺขาเร ธาตุสฺํ อุปสํหรติ. ยถาห ‘‘กถํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ (ปฏิ. ม. ๓.๙๗)? อนิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรตี’’ติ. ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรตีติ อปฺปฏิกูเล สตฺเต อสุภสฺํ ผรติ, สงฺขาเร อนิจฺจสฺํ อุปสํหรติ. ยถาห ‘‘กถํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี ¶ วิหรติ? อิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรตี’’ติ. เอวํ เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรตีติ อิฏฺเ อรชฺชนฺโต อนิฏฺเ อทุสฺสนฺโต ยถา อฺเ อสมเปกฺขเนน โมหํ อุปฺปาเทนฺติ, เอวํ อนุปฺปาเทนฺโต ฉสุ อารมฺมเณสุ ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก วิหรติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อิทฺธิวิธาสูติ, ภนฺเต, ยา อยํ ทฺวีสุ อิทฺธีสุ เอวํเทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. ตํ ภควาติ ตํ เทสนํ ภควา อเสสํ สกลํ อภิชานาติ. ตํ ภควโตติ ตํ เทสนํ ภควโต อเสสํ อภิชานโต. อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถีติ อุตฺตริ อภิชานิตพฺพํ นตฺถิ. อยํ นาม อิโต อฺโ ธมฺโม วา ปุคฺคโล วา ยํ ภควา น ชานาติ อิทํ นตฺถิ. ยทภิชานํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ ยํ ตุมฺเหหิ อนภิฺาตํ อฺโ สมโณ วา ¶ พฺราหฺมโณ วา อภิชานนฺโต ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส, อธิกตรปฺโ ภเวยฺย. ยทิทํ อิทฺธิวิธาสูติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อิทฺธิวิธาสุ ภควตา อุตฺตริตโร นตฺถิ. อตีตพุทฺธาปิ หิ อิมา ทฺเว อิทฺธิโย เทเสสุํ, อนาคตาปิ อิมาว เทเสสฺสนฺติ. ตุมฺเหปิ เตสํ าเณน สํสนฺทิตฺวา อิมาว เทสยิตฺถ. อิติ ภควา อิทฺธิวิธาสุ อนุตฺตโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ ทีเปติ. เอตฺตาวตา เย ธมฺมเสนาปติ ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา โสฬส อปรมฺปริยธมฺเม สมฺมสิ, เตว ทสฺสิตา โหนฺติ.
อฺถาสตฺถุคุณทสฺสนาทิวณฺณนา
๑๖๐. อิทานิ อปเรนปิ อากาเรน ภควโต คุเณ ทสฺเสนฺโต ยํ ตํ ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺเธน กุลปุตฺเตนาติ สทฺธา กุลปุตฺตา ¶ นาม อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา โพธิสตฺตา. ตสฺมา ยํ สพฺพฺุโพธิสตฺเตน ปตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปน เตน ปตฺตพฺพํ? นว โลกุตฺตรธมฺมา. อารทฺธวีริเยนาติอาทีสุ ‘‘วีริยํ ถาโม’’ติอาทีนิ สพฺพาเนว วีริยเววจนานิ. ตตฺถ อารทฺธวีริเยนาติ ปคฺคหิตวีริเยน. ถามวตาติ ถามสมฺปนฺเนน ถิรวีริเยน. ปุริสถาเมนาติ เตน ถามวตา ยํ ปุริสถาเมน ปตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนนฺตรปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปุริสโธรยฺเหนาติ ยา อสมธุเรหิ พุทฺเธหิ วหิตพฺพา ธุรา, ตํ ธุรํ วหนสมตฺเถน มหาปุริเสน. อนุปฺปตฺตํ ตํ ภควตาติ ตํ สพฺพํ อตีตานาคตพุทฺเธหิ ปตฺตพฺพํ, สพฺพเมว อนุปฺปตฺตํ, ภควโต เอกคุโณปิ อูโน นตฺถีติ ทสฺเสติ. กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคนฺติ วตฺถุกาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคํ. ยถา อฺเ เกณิยชฏิลาทโย สมณพฺราหฺมณา ‘‘โก ชานาติ ปรโลกํ ¶ . สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’’ติ โมฬิพนฺธาหิ ปริพฺพาชิกาหิ ปริจาเรนฺติ สมฺปตฺตํ สมฺปตฺตํ รูปาทิอารมฺมณํ อนุภวมานา กามสุขมนุยุตฺตา, น เอวมนุยุตฺโตติ ทสฺเสติ.
หีนนฺติ ลามกํ. คมฺมนฺติ คามวาสีนํ ธมฺมํ. โปถุชฺชนิกนฺติ ปุถุชฺชเนหิ เสวิตพฺพํ. อนริยนฺติ น นิทฺโทสํ. น วา อริเยหิ เสวิตพฺพํ. อนตฺถสฺหิตนฺติ อนตฺถสํยุตฺตํ. อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ ¶ อตฺตโน อาตาปนปริตาปนานุโยคํ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขยุตฺตํ, ทุกฺขมํ วา. ยถา เอเก สมณพฺราหฺมณา กามสุขลฺลิกานุโยคํ ปริวชฺเชสฺสามาติ กายกิลมถํ อนุธาวนฺติ, ตโต มฺุจิสฺสามาติ กามสุขํ อนุธาวนฺติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน อุโภ เอเต อนฺเต วชฺเชตฺวา ยา สา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี’’ติ เอวํ วุตฺตา สมฺมาปฏิปตฺติ, ตเมว ปฏิปนฺโน. ตสฺมา ‘‘น จ อตฺตกิลมถานุโยค’’นฺติอาทิมาห.
อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจตสิกานํ, กามาวจรจิตฺตานิ อติกฺกมิตฺวา ิตานนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารานํ. โปฏฺปาทสุตฺตนฺตสฺมิฺหิ สปฺปีติกทุติยชฺฌานผลสมาปตฺติ กถิตา (ที. นิ. ๑.๔๓๒). ปาสาทิกสุตฺตนฺเต สห มคฺเคน วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ. ทสุตฺตรสุตฺตนฺเต ¶ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติ. อิมสฺมึ สมฺปสาทนีเย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารชฺฌานานิ กถิตานิ. นิกามลาภีติ ยถากามลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี.
อนุโยคทานปฺปการวณฺณนา
๑๖๑. เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. ตีณิ หิ เขตฺตานิ – ชาติเขตฺตํ อาณาเขตฺตํ วิสยเขตฺตํ. ตตฺถ ชาติเขตฺตํ นาม ทสสหสฺสี โลกธาตุ. สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนกาเล นิกฺขมนกาเล สมฺโพธิกาเล ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติ. โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน อาณาเขตฺตํ นาม. อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนฺหิ เอตฺถ อาณา วตฺตติ. วิสยเขตฺตสฺส ปน ปริมาณํ นตฺถิ, พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เยฺยํ, ยาวตกํ เยฺยํ ตาวตกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เยฺยํ, เยฺยปริยนฺติกํ าณ’’นฺติ (มหานิ. ๕๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ.
อิเมสุ ¶ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. ตีณิ ปิฏกานิ ¶ วินยปิฏกํ, สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ. ติสฺโส สงฺคีติโย มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติ. อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน ‘‘อิมํ จกฺกวาฬํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา เอกโต นุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก ‘‘โพธึ อปตฺวา น อุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ, ตาว ปุพฺเพติ น เวทิตพฺพํ. โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว เขตฺตปริคฺคโห กโต. อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติปิ นิวาริตา โหติ. ปรินิพฺพานโต ปฏฺาย จ ยาว สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย ติฏฺนฺติ, ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํ. ธาตูสุ หิ ิตาสุ ¶ พุทฺธาปิ ิตาว โหนฺติ. ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
ติปิฏกอนฺตรธานกถา
ตีณิ อนฺตรธานานิ นาม ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ ปริยตฺตีติ ตีณิ ปิฏกานิ. ปฏิเวโธติ สจฺจปฺปฏิเวโธ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปทา. ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ปฏิเวธกรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ, เอส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโนติ องฺคุลึ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติ. อิมสฺมึเยว ทีเป เอกวารํ ปุถุชฺชนภิกฺขุ นาม นาโหสิ. ปฏิปตฺติปูรกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ, กทาจิ อปฺปา. อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. สาสนฏฺิติยา ปน ปริยตฺติ ปมาณํ. ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ.
ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปฺจาภิฺา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส น ชานามีติ อาห. ตโต อุทกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตวิเสสํ สํสนฺทิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส อาจิกฺขิ, ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ ฌานํ สมฺปาเทสิ, เอวเมว ¶ ปฺวา ภิกฺขุ ปริยตฺตึ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ตสฺมา ปริยตฺติยา ิตาย สาสนํ ิตํ โหติ. ยทา ปน สา อนฺตรธายติ, ตทา ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติ. ตตฺถ ปฏฺานํ สพฺพปมํ อนฺตรธายติ. อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโห ¶ , ตสฺมึ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ิเตสุปิ สาสนํ ิตเมว โหติ.
ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติ. เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ ¶ คจฺฉติ, สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ, สภิยปุจฺฉา อาฬวกปุจฺฉา วิย จ. เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขึสุ.
ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ิเต สาสนํ ติฏฺติ. ปริวารกฺขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ิเต ิตเมว โหติ. อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกายปิ ิตาย ิตเมว โหติ. มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาสุ ิตาสุ สาสนํ ติฏฺติ. ลิงฺคํ อทฺธานํ คจฺฉติ. เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ปฏิสมฺภิทาปตฺเตหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ. ฉฬภิฺเหิ วสฺสสหสฺสํ. เตวิชฺเชหิ วสฺสสหสฺสํ. สุกฺขวิปสฺสเกหิ วสฺสสหสฺสํ. ปาติโมกฺเขหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ. ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฺปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต ปฏฺาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ. ตโต ปฏฺาย อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
สาสนอนฺตรหิตวณฺณนา
ตีณิ ปรินิพฺพานานิ นาม กิเลสปรินิพฺพานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ ธาตุปรินิพฺพานนฺติ. ตตฺถ กิเลสปรินิพฺพานํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ. ขนฺธปรินิพฺพานํ กุสินารายํ. ธาตุปรินิพฺพานํ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ. มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ. ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ. นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว ¶ คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย น อนฺตรา นสฺสิสฺสนฺติ. สพฺพธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ.
ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ¶ ผริสฺสนฺติ, ตโต ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพาติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การฺุํ กริสฺสนฺติ. เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา ¶ สกภาเวน สนฺธาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ. สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลา ภวิสฺสติ. ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ.
ยาว น เอวํ อนฺตรธายติ, ตาว อจริมํ นาม โหติ. เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชติ. กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ นุปฺปชฺชนฺตีติ? อนจฺฉริยตฺตา. พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา. ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๒). ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อนจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เอกสฺมิฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ. ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ, ตสฺมา นุปฺปชฺชนฺติ. เทสนาย จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ. อฺเน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยา, ตโต อนจฺฉริโย สิยา. เอกสฺมึ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติ, วิวาทภาวโต จ. พหูสุ หิ พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปฺุวาติ วิวเทยฺยุํ. ตสฺมาปิ เอวํ นุปฺปชฺชนฺติ. อปิ เจตํ การณํ มิลินฺทรฺาปิ ปุฏฺเน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
ภนฺเต, นาคเสน, ภาสิตมฺปิ เหตํ ภควตา ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. เทสยนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ¶ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิเย ธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา ¶ จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ ¶ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกสิกฺขา เอกานุสาสนี, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย, โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ เทเสหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติ.
อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย, กมฺเปยฺย, นเมยฺย, โอณเมยฺย, วินเมยฺย, วิกิเรยฺย, วิธเมยฺย, วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย, เอกปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺย, อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย, อปิ นุ สา, มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย, กมฺเปยฺย, นเมยฺย, โอณเมยฺย, วินเมยฺย, วิกิเรยฺย, วิธเมยฺย, วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย โอสีเทยฺย อุทเกติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย…เป… น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาว กณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทีกโต อโนณมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตาวตกํ โภชนํ ภฺุเชยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต ¶ , สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยาติ; เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี ¶ …เป… น านมุปคจฺเฉยฺยาติ.
กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ? อิธ, มหาราช, ทฺเว ¶ สกฏา รตนปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา, เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยาติ. กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตีติ? อาม, ภนฺเต,ติ. เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลติ.
อปิจ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ อฺมฺปิ ตตฺถ อติรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ อมฺหากํ อมจฺโจ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา โหนฺติ; เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ, อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘‘อคฺโค พุทฺโธ’’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘‘เชฏฺโ พุทฺโธ’’ติ, เสฏฺโ พุทฺโธติ, วิสิฏฺโ พุทฺโธติ, อุตฺตโม พุทฺโธติ, ปวโร พุทฺโธติ, อสโม พุทฺโธติ ¶ , อสมสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิภาโค พุทฺโธติ, อปฺปฏิปุคฺคโล ¶ พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิมมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปิจ โข, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา, ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ, ยํ อฺมฺปิ, มหาราช, มหนฺตํ โหติ, ตํ เอกํเยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกาเยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว. มาโร มหนฺโต ¶ , โส เอโกเยว. มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺเสํ โอกาโส น โหติ. ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลเก อุปฺปชฺชตีติ. สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหีติ (มิ. ป. ๕.๑.๑).
ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ นววิธสฺส โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. วาทานุวาโทติ วาโทเยว.
อจฺฉริยอพฺภุตวณฺณนา
๑๖๒. อายสฺมา อุทายีติ ตโย เถรา อุทายี นาม – ลาฬุทายี, กาฬุทายี, มหาอุทายีติ. อิธ มหาอุทายี อธิปฺเปโต. ตสฺส กิร อิมํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา สุณนฺตสฺส อพฺภนฺตเร ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิตฺวา ปาทปิฏฺิโต สีสมตฺถกํ คจฺฉติ, สีสมตฺถกโต ปาทปิฏฺึ อาคจฺฉติ, อุภโต ปฏฺาย มชฺฌํ โอตรติ, มชฺฌโต ปฏฺาย อุภโต คจฺฉติ. โส นิรนฺตรํ ปีติยา ผุฏสรีโร พลวโสมนสฺเสน ทสพลสฺส คุณํ กเถนฺโต อจฺฉริยํ ภนฺเตติอาทิมาห. อปฺปิจฺฉตาติ นิตฺตณฺหตา. สนฺตุฏฺิตาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหากาเรหิ ¶ สนฺโตโส. สลฺเลขตาติ สพฺพกิเลสานํ สลฺลิขิตภาโว. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. น อตฺตานํ ปาตุกริสฺสตีติ อตฺตโน คุเณ น อาวิ กริสฺสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ‘‘โก อมฺเหหิ สทิโส อตฺถี’’ติ วทนฺตา ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นาฬนฺทํ วิจเรยฺยุํ.
ปสฺส ¶ โข ตฺวํ, อุทายิ, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตาติ ปสฺส อุทายิ ยาทิสี ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตาติ เถรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต อาห. กึ ปน ภควา เนว อตฺตานํ ปาตุกโรติ, น อตฺตโน คุณํ กเถตีติ เจ? น, น กเถติ. อปฺปิจฺฉตาทีหิ กเถตพฺพํ, จีวราทิเหตุํ น กเถติ. เตเนวาห – ‘‘ปสฺส โข ตฺวํ, อุทายิ, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา’’ติอาทิ. พุชฺฌนกสตฺตํ ปน อาคมฺม เวเนยฺยวเสน กเถติ. ยถาห –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑);
เอวํ ¶ ตถาคตสฺส คุณทีปิกา พหู คาถาปิ สุตฺตนฺตาปิ วิตฺถาเรตพฺพา.
๑๖๓. อภิกฺขณํ ภาเสยฺยาสีติ ปุนปฺปุนํ ภาเสยฺยาสิ. ปุพฺพณฺหสมเย เม กถิตนฺติ มา มชฺฌนฺหิกาทีสุ น กถยิตฺถ. อชฺช วา เม กถิตนฺติ มา ปรทิวสาทีสุ น กถยิตฺถาติ อตฺโถ. ปเวเทสีติ กเถสิ. อิมสฺส เวยฺยากรณสฺสาติ นิคฺคาถกตฺตา อิทํ สุตฺตํ ‘‘เวยฺยากรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อธิวจนนฺติ นามํ. อิทํ ปน ‘‘อิติ หิท’’นฺติ ปฏฺาย ปทํ สงฺคีติกาเรหิ ปิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
สมฺปสาทนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปาสาทิกสุตฺตวณฺณนา
นิคณฺนาฏปุตฺตกาลงฺกิริยวณฺณนา
๑๖๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ปาสาทิกสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวธฺา นาม สกฺยาติ ธนุมฺหิ กตสิกฺขา เวธฺนามกา เอเก สกฺยา. เตสํ อมฺพวเน ปาสาเทติ เตสํ อมฺพวเน สิปฺปํ อุคฺคณฺหตฺถาย กโต ทีฆปาสาโท อตฺถิ, ตตฺถ วิหรติ. อธุนา กาลงฺกโตติ สมฺปติ กาลงฺกโต. ทฺเวธิกชาตาติ ทฺเวชฺฌชาตา, ทฺเวภาคา ชาตา. ภณฺฑนาทีสุ ภณฺฑนํ ปุพฺพภาคกลโห, ตํ ทณฺฑาทานาทิวเสน ปณฺณตฺติวีติกฺกมวเสน จ วฑฺฒิตํ กลโห. ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา นเยน วิรุทฺธวจนํ วิวาโท. วิตุทนฺตาติ วิชฺฌนฺตา. สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสฺหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตว อธิจิณฺณํ จิรกาลาเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทปฺปโมกฺขตฺถาย อุตฺตริ ปริเยสมาโน วิจร. นิพฺเพเหิ วาติ อถ วา มยา อาโรปิตโทสโต อตฺตานํ โมเจหิ. สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิ. วโธเยวาติ มรณเมว. นาฏปุตฺติเยสูติ นาฏปุตฺตสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. นิพฺพินฺนรูปาติ อุกฺกณฺิตสภาวา อภิวาทนาทีนิปิ น กโรนฺติ. วิรตฺตรูปาติ ¶ วิคตเปมา. ปฏิวานรูปาติ เตสํ สกฺกจฺจกิริยโต นิวตฺตนสภาวา. ยถา ตนฺติ ยถา ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย นิพฺพินฺนวิรตฺตปฺปฏิวานรูเปหิ ภวิตพฺพํ, ตเถว ชาตาติ อตฺโถ. ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเต. ทุปฺปเวทิเตติ ทุวิฺาปิเต. อนุปสมสํวตฺตนิเกติ ราคาทีนํ อุปสมํ กาตุํ อสมตฺเถ. ภินฺนถูเปติ ภินฺทปฺปติฏฺเ. เอตฺถ หิ นาฏปุตฺโตว เนสํ ปติฏฺฏฺเน ถูโป. โส ปน ภินฺโน มโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ภินฺนถูเป’’ติ. อปฺปฏิสรเณติ ตสฺเสว อภาเวน ปฏิสรณวิรหิเต.
นนุ จายํ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทวาสิโก, โส กสฺมา ปาวายํ กาลงฺกโตติ? โส กิร อุปาลินา ¶ คหปตินา ปฏิวิทฺธสจฺเจน ทสหิ ¶ คาถาหิ ภาสิเต พุทฺธคุเณ สุตฺวา อุณฺหํ โลหิตํ ฉฑฺเฑสิ. อถ นํ อผาสุกํ คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ. โส ตตฺถ กาลมกาสิ. กาลํ กุรุมาโน จ จินฺเตสิ – ‘‘มม ลทฺธิ อนิยฺยานิกา สารวิรหิตา, มยํ ตาว นฏฺา, อวเสสชโนปิ มา อปายปูรโก อโหสิ, สเจ ปนาหํ ‘มม สาสนํ อนิยฺยานิก’นฺติ วกฺขามิ, น สทฺทหิสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ ทฺเวปิ ชเน น เอกนีหาเรน อุคฺคณฺหาเปยฺยํ, เต มมจฺจเยน อฺมฺํ วิวทิสฺสนฺติ, สตฺถา ตํ วิวาทํ ปฏิจฺจ เอกํ ธมฺมกถํ กเถสฺสติ, ตโต เต สาสนสฺส มหนฺตภาวํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ.
อถ นํ เอโก อนฺเตวาสิโก อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต ตุมฺเห ทุพฺพลา, มยฺหมฺปิ อิมสฺมึ ธมฺเม สารํ อาจิกฺขถ, อาจริยปฺปมาณ’’นฺติ. ‘‘อาวุโส, ตฺวํ มมจฺจเยน สสฺสตนฺติ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. อปโรปิ อุปสงฺกมิ, ตํ อุจฺเฉทํ คณฺหาเปสิ. เอวํ ทฺเวปิ ชเน เอกลทฺธิเก อกตฺวา พหู นานานีหาเรน อุคฺคณฺหาเปตฺวา กาลมกาสิ. เต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สนฺนิปติตฺวา อฺมฺํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กสฺสาวุโส, อาจริโย สารํ อาจิกฺขี’’ติ? เอโก อุฏฺหิตฺวา มยฺหนฺติ อาห. กึ อาจิกฺขีติ? สสฺสตนฺติ. อปโร ตํ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขี’’ติ อาห. เอวํ สพฺเพ ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขิ, อหํ เชฏฺโก’’ติ อฺมฺํ วิวาทํ วฑฺเฒตฺวา อกฺโกเส เจว ปริภาเส จ หตฺถปาทปฺปหาราทีนิ ¶ จ ปวตฺเตตฺวา เอกมคฺเคน ทฺเว อคจฺฉนฺตา นานาทิสาสุ ปกฺกมึสุ.
๑๖๕. อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภาติโก. ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจรึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ.
‘‘ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโ เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมี’’ติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? นาฏปุตฺเต กิร กาลงฺกเต ชมฺพุทีเป มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ กถํ ปวตฺตยึสุ ‘‘นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เอโก สตฺถาติ ปฺายิตฺถ, ตสฺส กาลงฺกิริยาย สาวกานํ เอวรูโป วิวาโท ชาโต. สมโณ ปน โคตโม ชมฺพุทีเป จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ, สาวกาปิสฺส ปากฏาเยว. กีทิโส นุ โข สมเณ โคตเม ปรินิพฺพุเต สาวกานํ วิวาโท ภวิสฺสตี’’ติ ¶ . เถโร ตํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ กถํ คเหตฺวา ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามิ, สตฺถา เอตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เอกํ เทสนํ กเถสฺสตี’’ติ. โส นิกฺขมิตฺวา เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ.
สามคาโมติ ¶ สามากานํ อุสฺสนฺนตฺตา ตสฺส คามสฺส นามํ. เยนายสฺมา อานนฺโทติ อุชุเมว ภควโต สนฺติกํ อคนฺตฺวา เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ.
พุทฺธกาเล กิร สาริปุตฺตตฺเถโร จ อานนฺทตฺเถโร จ อฺมฺํ มมายึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโร ‘‘มยา กาตพฺพํ สตฺถุ อุปฏฺานํ กโรตี’’ติ อานนฺทตฺเถรํ มมายิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘ภควโต สาวกานํ อคฺโค’’ติ สาริปุตฺตตฺเถรํ มมายิ. กุลทารเก จ ปพฺพาเชตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว อกาสิ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมา อานนฺโท ปณีตานิ จีวราทีนิปิ ลภิตฺวา เถรสฺส อทาสิ.
ธมฺมรตนปูชา
เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ โหตี’’ติ? โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห – ‘‘สเจปิ พฺราหฺมณ ธมฺมรตนํ ปูเชตุกาโม, เอกํ ¶ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ. พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ. ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉาติ. โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’’ติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนิเกน ติจีวเรน ปูเชสิ. เถโร ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ภควา ‘‘กุโต, อานนฺท, ลทฺธ’’นฺติ อาห? เอเกน, ภนฺเต, พฺราหฺมเณน ทินฺนํ, อิทํ ปนาหํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมติ. เทหิ, อานนฺทาติ. จาริกํ ปกฺกนฺโต ภนฺเตติ. อาคตกาเล เทหีติ, สิกฺขาปทํ ภนฺเต, ปฺตฺตนฺติ. กทา ปน สาริปุตฺโต อาคมิสฺสตีติ? ทสาหมตฺเตน ภนฺเตติ. ‘‘อนุชานามิ, อานนฺท, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ.
สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ¶ ตเถว ยํกิฺจิ มนาปํ ลภติ, ตํ อานนฺทตฺเถรสฺส เทติ. โส อิมมฺปิ อตฺตโน กนิฏฺภาติกํ เถรสฺเสว สทฺธิวิหาริกํ อทาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมี’’ติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม มหาปฺโ, โส อิมํ กถํ สตฺถุ อาโรเจสฺสติ, อถ สตฺถา ตทนุรูปํ ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ. กถาปาภตนฺติ กถาย มูลํ. มูลฺหิ ‘‘ปาภต’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อปฺปเกนาปิ ¶ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);
ภควนฺตํ ทสฺสนายาติ ภควนฺตํ ทสฺสนตฺถาย. กึ ปนาเนน ภควา น ทิฏฺปุพฺโพติ? โน น ทิฏฺปุพฺโพ. อยฺหิ อายสฺมา ทิวา นว วาเร, รตฺตึ นว วาเรติ เอกาหํ อฏฺารส วาเร อุปฏฺานเมว คจฺฉติ. ทิวสสฺส ปน สตวารํ วา สหสฺสวารํ วา คนฺตุกาโม สมาโนปิ น อการณา คจฺฉติ, เอกํ ปฺหุทฺธารํ คเหตฺวาว คจฺฉติ. โส ตํ ทิวสํ เตน กถาปาภเตน คนฺตุกาโม เอวมาห.
อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินยวณฺณนา
๑๖๖. เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหตีติ ภควา อานนฺทตฺเถเรน อาโรจิเตปิ ยสฺมา น อานนฺทตฺเถโร อิมิสฺสา กถาย สามิโก, จุนฺทตฺเถโร ปน สามิโก. โสว ตสฺสา อาทิมชฺฌปริโยสานํ ชานาติ. ตสฺมา ภควา เตน สทฺธึ กเถนฺโต ‘‘เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหตี’’ติอาทิมาห ¶ . ตสฺสตฺโถ – จุนฺท เอวฺเหตํ โหติ ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย สาวกา ทฺเวธิกชาตา ภณฺฑนาทีนิ กตฺวา มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ.
อิทานิ ยสฺมา อนิยฺยานิกสาสเนเนว นิยฺยานิกสาสนํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา อาทิโต อนิยฺยานิกสาสนเมว ทสฺเสนฺโต อิธ จุนฺท สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตตีติ น นิรนฺตรํ ปูเรติ, โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา อนฺตรนฺตรํ กตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภาติ ตสฺส ตุยฺหํ เอเต ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติอาทโย ลาภา. สุลทฺธนฺติ มนุสฺสตฺตมฺปิ เต สุลทฺธํ. ตถา ปฏิปชฺชตูติ เอวํ ปฏิปชฺชตุ. ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโตติ เยน เต อากาเรน สตฺถารา ธมฺโม กถิโต. โย จ สมาทเปตีติ โย จ อาจริโย สมาทเปติ. ยฺจ สมาทเปตีติ ยํ อนฺเตวาสึ สมาทเปติ. โย จ สมาทปิโตติ โย จ เอวํ สมาทปิโต อนฺเตวาสิโก. ยถา อาจริเยน สมาทปิตํ, ตถตฺถาย ปฏิปชฺชติ. สพฺเพ เตติ ตโยปิ เต. เอตฺถ หิ อาจริโย สมาทปิตตฺตา อปฺุํ ปสวติ, สมาทินฺนนฺเตวาสิโก สมาทินฺนตฺตา, ปฏิปนฺนโก ปฏิปนฺนตฺตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพ เต พหุํ อปฺุํ ปสวนฺตี’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๖๗. อปิเจตฺถ ¶ ายปฺปฏิปนฺโนติ การณปฺปฏิปนฺโน. ายมาราเธสฺสตีติ การณํ นิปฺผาเทสฺสติ. วีริยํ อารภตีติ อตฺตโน ทุกฺขนิพฺพตฺตกํ วีริยํ กโรติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทุรกฺขาเต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย อารทฺธวีริโย, โส ทุกฺขํ วิหรติ. โย กุสีโต, โส สุขํ วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๘).
สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินยาทิวณฺณนา
๑๖๘. เอวํ อนิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสนฺโต อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ นิยฺยานิโกติ มคฺคตฺถาย ผลตฺถาย จ นิยฺยาติ.
๑๖๙. วีริยํ อารภตีติ อตฺตโน สุขนิปฺผาทกํ วีริยํ อารภติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สฺวากฺขาเต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย กุสีโต, โส ทุกฺขํ วิหรติ. โย อารทฺธวีริโย, โส สุขํ วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๙).
๑๗๐. อิติ ภควา นิยฺยานิกสาสเน สมฺมาปฏิปนฺนสฺส ¶ กุลปุตฺตสฺส ปสํสํ ทสฺเสตฺวา ปุน เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อิธ, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทีติอาทิมาห. ตตฺถ อวิฺาปิตตฺถาติ อโพธิตตฺถา. สพฺพสงฺคาหปทกตนฺติ สพฺพสงฺคหปเทหิ กตํ, สพฺพสงฺคาหิกํ กตํ น โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพสงฺคาหปทคต’’นฺติปิ ปาโ, น สพฺพสงฺคาหปเทสุ คตํ, น เอกสงฺคหชาตนฺติ อตฺโถ. สปฺปาฏิหีรกตนฺติ นิยฺยานิกํ. ยาว ¶ เทวมนุสฺเสหีติ เทวโลกโต ยาว มนุสฺสโลกา สุปฺปกาสิตํ. อนุตปฺโป โหตีติ อนุตาปกโร โหติ. สตฺถา จ โน โลเกติ อิทํ เตสํ อนุตาปการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นานุตปฺโป โหตีติ สตฺถารํ อาคมฺม สาวเกหิ ยํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺส ปตฺตตฺตา อนุตาปกโร น โหติ.
๑๗๒. เถโรติ ถิโร เถรการเกหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต. ‘‘รตฺตฺู’’ติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอเตหิ เจ ปีติ เอเตหิ เหฏฺา วุตฺเตหิ.
๑๗๓. ปตฺตโยคกฺเขมาติ จตูหิ โยเคหิ เขมตฺตา อรหตฺตํ อิธ โยคกฺเขมํ นาม, ตํ ปตฺตาติ อตฺโถ. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺสาติ สมฺมุขา คหิตตฺตา อสฺส สทฺธมฺมํ สมฺมา อาจิกฺขิตุํ สมตฺถา.
๑๗๔. พฺรหฺมจาริโนติ ¶ พฺรหฺมจริยวาสํ วสมานา อริยสาวกา. กามโภคิโนติ คิหิโสตาปนฺนา. ‘‘อิทฺธฺเจวา’’ติอาทีนิ มหาปรินิพฺพาเน วิตฺถาริตาเนว. ลาภคฺคยสคฺคปตฺตนฺติ ลาภคฺคฺเจว ยสคฺคฺจ ปตฺตํ.
๑๗๕. สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขู สาวกาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย เถรา. ภิกฺขุนิโยติ เขมาเถรีอุปฺปลวณฺณเถรีอาทโย. อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวตฺถวสนา พฺรหฺมจาริโนติ จิตฺตคหปติหตฺถกอาฬวกาทโย. กามโภคิโนติ จูฬอนาถปิณฺฑิกมหาอนาถปิณฺฑิกาทโย. พฺรหฺมจารินิโยติ นนฺทมาตาทโย. กามโภคินิโยติ ขุชฺชุตฺตราทโย.
๑๗๖. สพฺพาการสมฺปนฺนนฺติ สพฺพการณสมฺปนฺนํ. อิทเมว ¶ ตนฺติ อิทเมว พฺรหฺมจริยํ, อิมเมว ธมฺมํ สมฺมา เหตุนา นเยน วทมาโน วเทยฺย. อุทกาสฺสุทนฺติ อุทโก สุทํ. ปสฺสํ น ปสฺสตีติ ปสฺสนฺโต น ปสฺสติ. โส กิร อิมํ ปฺหํ มหาชนํ ปุจฺฉิ. เตหิ ‘‘น ชานาม, อาจริย, กเถหิ โน’’ติ วุตฺโต โส อาห – ‘‘คมฺภีโร อยํ ปฺโห อาหารสปฺปาเย สติ โถกํ จินฺเตตฺวา สกฺกา กเถตุ’’นฺติ. ตโต เตหิ จตฺตาโร มาเส ¶ มหาสกฺกาเร กเต ตํ ปฺหํ กเถนฺโต กิฺจ ปสฺสํ น ปสฺสตีติอาทิมาห. ตตฺถ สาธุนิสิตสฺสาติ สุฏฺุนิสิตสฺส ติขิณสฺส, สุนิสิตขุรสฺส กิร ตลํ ปฺายติ, ธารา น ปฺายตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สงฺคายิตพฺพธมฺมาทิวณฺณนา
๑๗๗. สงฺคมฺม สมาคมฺมาติ สงฺคนฺตฺวา สมาคนฺตฺวา. อตฺเถน อตฺถํ, พฺยฺชเนน พฺยฺชนนฺติ อตฺเถน สห อตฺถํ, พฺยฺชเนนปิ สห พฺยฺชนํ สมาเนนฺเตหีติ อตฺโถ. สงฺคายิตพฺพนฺติ วาเจตพฺพํ สชฺฌายิตพฺพํ. ยถยิทํ พฺรหฺมจริยนฺติ ยถา อิทํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ.
๑๗๘. ตตฺร เจติ ตตฺร สงฺฆมชฺเฌ, ตสฺส วา ภาสิเต. อตฺถฺเจว มิจฺฉา คณฺหาติ, พฺยฺชนานิ จ มิจฺฉา โรเปตีติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ เอตฺถ อารมฺมณํ ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ อตฺถํ คณฺหาติ. ‘‘สติปฏฺานานี’’ติ พฺยฺชนํ โรเปติ. อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺสาติ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ. อตฺถสฺส ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ กึ นุ โข อิมานิ พฺยฺชนานิ, อุทาหุ จตฺตาริ สติปฏฺานานี’’ติ เอตานิ วา พฺยฺชนานิ. กตมานิ โอปายิกตรานีติ อิมสฺส อตฺถสฺส กตมานิ พฺยฺชนานิ อุปปนฺนตรานิ อลฺลีนตรานิ. อิเมสฺจ ¶ พฺยฺชนานนฺติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ พฺยฺชนานํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ กึ นุ โข อยํ อตฺโถ, อุทาหุ ‘‘อารมฺมณํ สติปฏฺาน’’นฺติ เอโส อตฺโถติ? อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺสาติ ‘‘อารมฺมณํ สติปฏฺาน’’นฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส. ยา เจว เอตานีติ ยานิ เจว เอตานิ มยา วุตฺตานิ. ยา เจว เอโสติ โย เจว เอส มยา วุตฺโต. โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพติ ตุมฺเหหิ ตาว สมฺมา อตฺเถ จ สมฺมา พฺยฺชเน ¶ จ าตพฺพํ. โส ปน เนว อุสฺสาเทตพฺโพ, น อปสาเทตพฺโพ. สฺาเปตพฺโพติ ชานาเปตพฺโพ. ตสฺส จ อตฺถสฺสาติ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ อตฺถสฺส จ. เตสฺจ พฺยฺชนานนฺติ ‘‘สติปฏฺานา’’ติ พฺยฺชนานํ. นิสนฺติยาติ นิสามนตฺถํ ธารณตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๘๑. ตาทิสนฺติ ตุมฺหาทิสํ. อตฺถุเปตนฺติ อตฺเถน อุเปตํ อตฺถสฺส วิฺาตารํ. พฺยฺชนุเปตนฺติ พฺยฺชเนหิ อุเปตํ พฺยฺชนานํ วิฺาตารํ. เอวํ เอตํ ภิกฺขุํ ¶ ปสํสถ. เอโส หิ ภิกฺขุ น ตุมฺหากํ สาวโก นาม, พุทฺโธ นาม เอส จุนฺทาติ. อิติ ภควา พหุสฺสุตํ ภิกฺขุํ อตฺตโน าเน เปสิ.
ปจฺจยานฺุาตการณาทิวณฺณนา
๑๘๒. อิทานิ ตโตปิ อุตฺตริตรํ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต น โว อหํ, จุนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา นาม อิธโลเก ปจฺจยเหตุ อุปฺปชฺชนกา อาสวา. สมฺปรายิกา อาสวา นาม ปรโลเก ภณฺฑนเหตุ อุปฺปชฺชนกา อาสวา. สํวรายาติ ยถา เต น ปวิสนฺติ, เอวํ ปิทหนาย. ปฏิฆาตายาติ มูลฆาเตน ปฏิหนนาย. อลํ โว ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายาติ ตํ ตุมฺหากํ สีตสฺส ปฏิฆาตาย สมตฺถํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ยํ โว มยา จีวรํ อนฺุาตํ, ตํ ปารุปิตฺวา ทปฺปํ วา มานํ วา กุรุมานา วิหริสฺสถาติ น อนฺุาตํ, ตํ ปน ปารุปิตฺวา สีตปฺปฏิฆาตาทีนิ กตฺวา สุขํ สมณธมฺมํ โยนิโส มนสิการํ กริสฺสถาติ อนฺุาตํ. ยถา จ จีวรํ, เอวํ ปิณฺฑปาตาทโยปิ. อนุปทสํวณฺณนา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
สุขลฺลิกานุโยคาทิวณฺณนา
๑๘๓. สุขลฺลิกานุโยคนฺติ สุขลฺลิยนานุโยคํ, สุขเสวนาธิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. สุเขตีติ สุขิตํ กโรติ. ปีเณตีติ ปีณิตํ ถูลํ กโรติ.
๑๘๖. อฏฺิตธมฺมาติ ¶ นฏฺิตสภาวา. ชิวฺหา โน อตฺถีติ ยํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ กเถนฺติ, กทาจิ มคฺคํ กเถนฺติ, กทาจิ ผลํ กทาจิ นิพฺพานนฺติ อธิปฺปาโย. ชานตาติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ ปสฺสนฺเตน. คมฺภีรเนโมติ ¶ คมฺภีรภูมึ อนุปวิฏฺโ. สุนิขาโตติ สุฏฺุ นิขาโต. เอวเมว โข, อาวุโสติ เอวํ ขีณาสโว อภพฺโพ นว านานิ อชฺฌาจริตุํ. ตสฺมึ อนชฺฌาจาโร อจโล อสมฺปเวธี. ตตฺถ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรปนาทีสุ โสตาปนฺนาทโยปิ อภพฺพา. สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุนฺติ วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม ¶ จ สนฺนิธึ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ. เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโตติ ยถา ปุพฺเพ คิหิภูโต ปริภฺุชติ, เอวํ ปริภฺุชิตุํ อภพฺโพ.
ปฺหพฺยากรณวณฺณนา
๑๘๗. อคารมชฺเฌ วสนฺตา หิ โสตาปนฺนาทโย ยาวชีวํ คิหิพฺยฺชเนน ติฏฺนฺติ. ขีณาสโว ปน อรหตฺตํ ปตฺวาว มนุสฺสภูโต ปรินิพฺพาติ วา ปพฺพชติ วา. จาตุมหาราชิกาทีสุ กามาวจรเทเวสุ มุหุตฺตมฺปิ น ติฏฺติ. กสฺมา? วิเวกฏฺานสฺส อภาวา. ภุมฺมเทวตฺตภาเว ปน ิโต อรหตฺตํ ปตฺวาปิ ติฏฺติ. ตสฺส วเสน อยํ ปฺโห อาคโต. ภินฺนโทสตฺตา ปนสฺส ภิกฺขุภาโว เวทิตพฺโพ. อตีรกนฺติ อตีรํ อปริจฺเฉทํ มหนฺตํ. โน จ โข อนาคตนฺติ อนาคตํ ปน อทฺธานํ อารพฺภ เอวํ น ปฺเปติ, อตีตเมว มฺเ สมโณ โคตโม ชานาติ, น อนาคตํ. ตถา หิสฺส อตีเต อฑฺฒฉฏฺสตชาตกานุสฺสรณํ ปฺายติ. อนาคเต เอวํ พหุํ อนุสฺสรณํ น ปฺายตีติ อิมมตฺถํ มฺมานา เอวํ วเทยฺยุํ. ตยิทํ กึ สูติ อนาคเต อปฺาปนํ กึ นุ โข? กถํสูติ เกน นุ โข การเณน อชานนฺโตเยว นุ โข อนาคตํ นานุสฺสรติ, อนนุสฺสริตุกามตาย นานุสฺสรตีติ. อฺวิหิตเกน าณทสฺสเนนาติ ปจฺจกฺขํ วิย กตฺวา ทสฺสนสมตฺถตาย ทสฺสนภูเตน าเณน อฺตฺถวิหิตเกน าเณน อฺํ อารพฺภ ปวตฺเตน, อฺวิหิตกํ อฺํ อารพฺภ ปวตฺตมานํ าณทสฺสนํ สงฺคาเหตพฺพํ ปฺาเปตพฺพํ มฺนฺติ. เต หิ จรโต จ ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ มฺนฺติ, ตาทิสฺจ าณํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ยถริว พาลา อพฺยตฺตา, เอวํ มฺนฺตีติ เวทิตพฺโพ.
สตานุสารีติ ¶ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติสมฺปยุตฺตกํ. ยาวตกํ อากงฺขตีติ ยตฺตกํ าตุํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ ชานิสฺสามีติ าณํ เปเสสิ. อถสฺส ทุพฺพลปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทนาราโจ วิย อปฺปฏิหตํ ¶ อนิวาริตํ าณํ คจฺฉติ, เตน ยาวตกํ อากงฺขติ ตาวตกํ อนุสฺสรติ. โพธิชนฺติ โพธิมูเล ชาตํ. าณํ อุปฺปชฺชตีติ จตุมคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ. อยมนฺติมา ชาตีติ ¶ เตน าเณน ชาติมูลสฺส ปหีนตฺตา ปุน อยมนฺติมา ชาติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ อปรมฺปิ าณํ อุปฺปชฺชติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อิธโลกตฺถํ วา ปรโลกตฺถํ วา นิสฺสิตํ. น ตํ ตถาคโต พฺยากโรตีติ ตํ ภารตยุทฺธสีตาหรณสทิสํ อนิยฺยานิกกถํ ตถาคโต น กเถติ. ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตนฺติ ราชกถาทิติรจฺฉานกถํ. กาลฺู ตถาคโต โหตีติ กาลํ ชานาติ. สเหตุกํ สการณํ กตฺวา ยุตฺตปตฺตกาเลเยว กเถติ.
๑๘๘. ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ ยถา ยถา คทิตพฺพํ, ตถา ตเถว คทนโต ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ มุตฺวา ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิธมฺมายตนํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. ‘‘ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธ’’นฺติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ, ยฺหิ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส นีลํ ปีตกนฺติอาทิ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ ¶ . ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโทติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. มูลคนฺโธ ตจคนฺโธติอาทิ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. มูลรโส ขนฺธรโสติอาทิ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. กกฺขฬํ มุทุกนฺติอาทิ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวารสฺส อาปาถมาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิทํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ.
ยฺหิ ¶ , จุนฺท, อิเมสํ สตฺตานํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ตตฺถ ตถาคเตน อทิฏฺํ วา อสุตํ วา อมุตํ วา อวิฺาตํ วา นตฺถิ. อิมสฺส มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ. อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ ¶ อตฺถิ. สพฺพมฺปิ ตํ ตถาคตสฺส อปฺปตฺตํ นาม นตฺถิ, าเณน อสจฺฉิกตํ นาม. ‘‘ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ยํ ยถา โลเกน คตํ ตสฺส ตเถว คตตฺตา ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. ปาฬิยํ ปน อภิสมฺพุทฺธนฺติ วุตฺตํ, ตํ คตสทฺเทน เอกตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ ‘‘ตถาคโต’’ติ นิคมนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ตสฺส ยุตฺติ พฺรหฺมชาเล ตถาคตสทฺทวิตฺถาเร วุตฺตาเยว.
อพฺยากตฏฺานวณฺณนา
๑๘๙. เอวํ อตฺตโน อสมตํ อนุตฺตรตํ สพฺพฺุตํ ธมฺมราชภาวํ กเถตฺวา อิทานิ ‘‘ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธีสุ มยา อฺาตํ อทิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ มม าณสฺส อนฺโตเยว ปริวตฺตตี’’ติ สีหนาทํ นทนฺโต านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชตีติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติ สตฺโต. น เหตํ, อาวุโส, อตฺถสํหิตนฺติ อิธโลกปรโลกอตฺถสํหิตํ น โหติ. น จ ธมฺมสํหิตนฺติ นวโลกุตฺตรธมฺมนิสฺสิตํ น โหติ. น ¶ อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตสฺส สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตํ น โหติ.
๑๙๐. อิทํ ทุกฺขนฺติ โขติอาทีสุ ตณฺหํ เปตฺวา อวเสสา เตภุมฺมกา ธมฺมา อิทํ ทุกฺขนฺติ พฺยากตํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส ปภาวิกา ชนิกา ตณฺหา ทุกฺขสมุทโยติ พฺยากตํ. อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ ทุกฺขนิโรโธติ พฺยากตํ. ทุกฺขปริชานโน สมุทยปชหโน นิโรธสจฺฉิกรโณ อริยมคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ พฺยากตํ. ‘‘เอตฺหิ, อาวุโส, อตฺถสํหิต’’นฺติอาทีสุ เอตํ อิธโลกปรโลกอตฺถนิสฺสิตํ นวโลกุตฺตรธมฺมนิสฺสิตํ สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิ ปธานํ ปุพฺพงฺคมนฺติ อยมตฺโถ.
ปุพฺพนฺตสหคตทิฏฺินิสฺสยวณฺณนา
๑๙๑. อิทานิ ยํ ตํ มยา น พฺยากตํ, ตํ อชานนฺเตน น พฺยากตนฺติ มา เอวํ สฺมกํสุ. ชานนฺโตว อหํ เอวํ ‘‘เอตสฺมึ พฺยากเตปิ อตฺโถ นตฺถี’’ติ ¶ น พฺยากรึ. ยํ ปน ยถา พฺยากาตพฺพํ, ตํ มยา พฺยากตเมวาติ สีหนาทํ นทนฺโต ปุน เยปิ เต, จุนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิโยว ทิฏฺินิสฺสยา, ทิฏฺินิสฺสิตกา ทิฏฺิคติกาติ อตฺโถ. อิทเมว สจฺจนฺติ อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ. โมฆมฺนฺติ อฺเสํ วจนํ โมฆํ. อสยํกาโรติ อสยํ กโต.
๑๙๒. ตตฺราติ ¶ เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ. อตฺถิ นุ โข อิทํ อาวุโส วุจฺจตีติ, อาวุโส, ยํ ตุมฺเหหิ สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ วุจฺจติ, อิทมตฺถิ นุ โข อุทาหุ นตฺถีติ เอวมหํ เต ปุจฺฉามีติ อตฺโถ. ยฺจ โข เต เอวมาหํสูติ ยํ ปน เต ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ นานุชานามิ. ปฺตฺติยาติ ทิฏฺิปฺตฺติยา. สมสมนฺติ สเมน าเณน สมํ. ยทิทํ อธิปฺตฺตีติ ยา อยํ อธิปฺตฺติ นาม. เอตฺถ อหเมว ภิยฺโย อุตฺตริตโร น มยา สโม อตฺถิ. ตตฺถ ยฺจ วุตฺตํ ‘‘ปฺตฺติยาติ ยฺจ อธิปฺตฺตี’’ติ อุภยเมตํ อตฺถโต เอกํ. เภทโต หิ ปฺตฺติ อธิปฺตฺตีติ ทฺวยํ โหติ. ตตฺถ ปฺตฺติ นาม ทิฏฺิปฺตฺติ. อธิปฺตฺติ นาม ขนฺธปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ อายตนปฺตฺติ อินฺทฺริยปฺตฺติ สจฺจปฺตฺติ ปุคฺคลปฺตฺตีติ เอวํ วุตฺตา ฉ ปฺตฺติโย. อิธ ปน ปฺตฺติยาติ เอตฺถาปิ ¶ ปฺตฺติ เจว อธิปฺตฺติ จ อธิปฺเปตา, อธิปฺตฺตีติ เอตฺถาปิ. ภควา หิ ปฺตฺติยาปิ อนุตฺตโร, อธิปฺตฺติยาปิ อนุตฺตโร. เตนาห – ‘‘อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺตี’’ติ.
๑๙๖. ปหานายาติ ปชหนตฺถํ. สมติกฺกมายาติ ตสฺเสว เววจนํ. เทสิตาติ กถิตา. ปฺตฺตาติ ปิตา. สติปฏฺานภาวนาย หิ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา สพฺพธมฺเมสุ ยาถาวโต ทิฏฺเสุ ‘‘สุทฺธสงฺขารปฺุโชยํ นยิธ สตฺตูปลพฺภตี’’ติ สนฺนิฏฺานโต สพฺพทิฏฺินิสฺสยานํ ปหานํ โหตีติ. เตน วุตฺตํ. ทิฏฺินิสฺสยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย เอวํ มยา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา ปฺตฺตา’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
ปาสาทิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา
ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวณฺณนา
๑๙๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ลกฺขณสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา. ทฺวตฺตึสิมานีติ ทฺวตฺตึส อิมานิ. มหาปุริสลกฺขณานีติ มหาปุริสพฺยฺชนานิ มหาปุริสนิมิตฺตานิ ‘‘อยํ มหาปุริโส’’ติ สฺชานนการณานิ. ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺสา’’ติอาทิ มหาปทาเน วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
‘‘พาหิรกาปิ อิสโย ธาเรนฺติ, โน จ โข ชานนฺติ ‘อิมสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อิมํ ลกฺขณํ ปฏิลภตี’ติ’’ กสฺมา อาห? อฏฺุปฺปตฺติยา อนุรูปตฺตา. อิทฺหิ สุตฺตํ สอฏฺุปฺปตฺติกํ. สา ปนสฺส อฏฺุปฺปตฺติ กตฺถ สมุฏฺิตา? อนฺโตคาเม มนุสฺสานํ อนฺตเร. ตทา กิร สาวตฺถิวาสิโน อตฺตโน อตฺตโน เคเหสุ จ เคหทฺวาเรสุ จ สนฺถาคาราทีสุ จ นิสีทิตฺวา กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘ภควโต อสีติอนุพฺยฺชนานิ พฺยามปฺปภา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ จ ภควโต กาโย, สพฺพผาลิผุลฺโล วิย ปาริจฺฉตฺตโก, วิกสิตมิว กมลวนํ, นานารตนวิจิตฺตํ วิย สุวณฺณโตรณํ, ตารามริจิวิโรจมิว คคนตลํ, อิโต จิโต จ วิธาวมานา วิปฺผนฺทมานา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย มฺุจนฺโต อติวิย โสภติ. ภควโต จ อิมินา นาม กมฺเมน อิทํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺตนฺติ กถิตํ นตฺถิ, ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ ปน กฏจฺฉุภตฺตมตฺตํ วา ปุพฺเพ ทินฺนปจฺจยา เอวํ อุปฺปชฺชตีติ ภควตา วุตฺตํ. กึ นุ โข สตฺถา กมฺมํ อกาสิ, เยนสฺส อิมานิ ลกฺขณานิ นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ.
อถายสฺมา อานนฺโท อนฺโตคาเม จรนฺโต อิมํ กถาสลฺลาปํ สุตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ วิหารํ อาคนฺตฺวา สตฺถุ วตฺตํ กตฺวา วนฺทิตฺวา ิโต ‘‘มยา, ภนฺเต, อนฺโตคาเม เอกา กถา สุตา’’ติ อาห. ตโต ¶ ภควตา ‘‘กึ เต, อานนฺท, สุต’’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ อาโรเจสิ. สตฺถา เถรสฺส วจนํ ¶ สุตฺวา ปริวาเรตฺวา นิสินฺเน ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ทฺวตฺตึสิมานิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานี’’ติ ปฏิปาฏิยา ลกฺขณานิ ทสฺเสตฺวา เยน กมฺเมน ยํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ เอวมาห.
สุปฺปติฏฺิตปาทตาลกฺขณวณฺณนา
๒๐๑. ปุริมํ ¶ ชาตินฺติอาทีสุ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธา ชาตวเสน ‘‘ชาตี’’ติ วุตฺตา. ตถา ภวนวเสน ‘‘ภโว’’ติ, นิวุตฺถวเสน อาลยฏฺเน วา ‘‘นิเกโต’’ติ. ติณฺณมฺปิ ปทานํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตาเน ิโตติ อตฺโถ. อิทานิ ยสฺมา ตํ ขนฺธสนฺตานํ เทวโลกาทีสุปิ วตฺตติ. ลกฺขณนิพฺพตฺตนสมตฺถํ ปน กุสลกมฺมํ ตตฺถ น สุกรํ, มนุสฺสภูตสฺเสว สุกรํ. ตสฺมา ยถาภูเตน ยํ กมฺมํ กตํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโนติ อาห. อการณํ วา เอตํ. หตฺถิอสฺสมิคมหึสวานราทิภูโตปิ มหาปุริโส ปารมิโย ปูเรติเยว. ยสฺมา ปน เอวรูเป อตฺตภาเว ิเตน กตกมฺมํ น สกฺกา สุเขน ทีเปตุํ, มนุสฺสภาเว ิเตน กตกมฺมํ ปน สกฺกา สุเขน ทีเปตุํ. ตสฺมา ‘‘ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน’’ติ อาห.
ทฬฺหสมาทาโนติ ถิรคหโณ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ทสกุสลกมฺมปเถสุ. อวตฺถิตสมาทาโนติ นิจฺจลคหโณ อนิวตฺติตคหโณ. มหาสตฺตสฺส หิ อกุสลกมฺมโต อคฺคึ ปตฺวา กุกฺกุฏปตฺตํ วิย จิตฺตํ ปฏิกุฏติ, กุสลํ ปตฺวา วิตานํ วิย ปสาริยติ. ตสฺมา ทฬฺหสมาทาโน โหติ อวตฺถิตสมาทาโน. น สกฺกา เกนจิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา กุสลสมาทานํ วิสฺสชฺชาเปตุํ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – ปุพฺเพ กิร มหาปุริโส กลนฺทกโยนิยํ นิพฺพตฺติ. อถ เทเว วุฏฺเ โอโฆ อาคนฺตฺวา กุลาวกํ คเหตฺวา สมุทฺทเมว ปเวเสสิ. มหาปุริโส ‘‘ปุตฺตเก นีหริสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺํ เตเมตฺวา เตเมตฺวา สมุทฺทโต อุทกํ พหิ ขิปิ. สตฺตเม ทิวเส สกฺโก อาวชฺชิตฺวา ตตฺถ อาคมฺม ‘‘กึ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิ? โส ตสฺส อาโรเจสิ. สกฺโก มหาสมุทฺทโต อุทกสฺส ทุนฺนีหรณียภาวํ กเถสิ. โพธิสตฺโต ¶ ตาทิเสน กุสีเตน สทฺธึ กเถตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ‘‘มา อิธ ติฏฺา’’ติ อปสาเรสิ. สกฺโก ‘‘อโนมปุริเสน คหิตคหณํ น สกฺกา วิสฺสชฺชาเปตุ’’นฺติ ตุฏฺโ ตสฺส ปุตฺตเก อาเนตฺวา อทาสิ. มหาชนกกาเลปิ มหาสมุทฺทํ ตรมาโน ‘‘กสฺมา มหาสมุทฺทํ ตรสี’’ติ เทวตาย ปุฏฺโ ‘‘ปารํ คนฺตฺวา กุลสนฺตเก รฏฺเ รชฺชํ คเหตฺวา ทานํ ทาตุํ ตรามี’’ติ อาห. ตโต เทวตาย – ‘‘อยํ มหาสมุทฺโท คมฺภีโร ¶ ¶ เจว ปุถุโล จ, กทา นํ ตริสฺสตี’’ติ วุตฺเต โส อาห ‘‘ตเวโส มหาสมุทฺทสทิโส, มยฺหํ ปน อชฺฌาสยํ อาคมฺม ขุทฺทกมาติกา วิย ขายติ. ตฺวํเยว มํ ทกฺขิสฺสสิ สมุทฺทํ ตริตฺวา สมุทฺทปารโต ธนํ อาหริตฺวา กุลสนฺตกํ รชฺชํ คเหตฺวา ทานํ ททมาน’’นฺติ. เทวตา ‘‘อโนมปุริเสน คหิตคหณํ น สกฺกา วิสฺสชฺชาเปตุ’’นฺติ โพธิสตฺตํ อาลิงฺเคตฺวา หริตฺวา อุยฺยาเน นิปชฺชาเปสิ. โส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ทิวเส ทิวเส ปฺจสตสหสฺสปริจฺจาคํ กตฺวา อปรภาเค นิกฺขมฺม ปพฺพชิโต. เอวํ มหาสตฺโต น สกฺกา เกนจิ สมเณน วา…เป… พฺรหฺมุนา วา กุสลสมาทานํ วิสฺสชฺชาเปตุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทฬฺหสมาทาโน อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อวตฺถิตสมาทาโน’’ติ.
อิทานิ เยสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อวตฺถิตสมาทาโน อโหสิ, เต ทสฺเสตุํ กายสุจริเตติอาทิมาห. ทานสํวิภาเคติ เอตฺถ จ ทานเมว ทิยฺยนวเสน ทานํ, สํวิภาคกรณวเสน สํวิภาโค. สีลสมาทาเนติ ปฺจสีลทสสีลจตุปาริสุทฺธิสีลปูรณกาเล. อุโปสถูปวาเสติ จาตุทฺทสิกาทิเภทสฺส อุโปสถสฺส อุปวสนกาเล. มตฺเตยฺยตายาติ มาตุกาตพฺพวตฺเต. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อฺตรฺตเรสุ จาติ อฺเสุ จ เอวรูเปสุ. อธิกุสเลสูติ เอตฺถ อตฺถิ กุสลา, อตฺถิ อธิกุสลา. สพฺเพปิ กามาวจรา กุสลา กุสลา นาม, รูปาวจรา อธิกุสลา. อุโภปิ เต กุสลา นาม, อรูปาวจรา อธิกุสลา. สพฺเพปิ เต กุสลา ¶ นาม, สาวกปารมีปฏิลาภปจฺจยา กุสลา อธิกุสลา นาม. เตปิ กุสลา นาม, ปจฺเจกโพธิปฏิลาภปจฺจยา กุสลา อธิกุสลา. เตปิ กุสลา นาม, สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิลาภปจฺจยา ปน กุสลา อิธ ‘‘อธิกุสลา’’ติ อธิปฺเปตา. เตสุ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ทฬฺหสมาทาโน อโหสิ อวตฺถิตสมาทาโน.
กฏตฺตา อุปจิตตฺตาติ เอตฺถ สกิมฺปิ กตํ กตเมว, อภิณฺหกรเณน ปน อุปจิตํ โหติ. อุสฺสนฺนตฺตาติ ปิณฺฑีกตํ ราสีกตํ กมฺมํ อุสฺสนฺนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อุสฺสนฺนตฺตา’’ติ วทนฺโต มยา กตกมฺมสฺส จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ, ภวคฺคํ อตินีจํ, เอวํ เม อุสฺสนฺนํ กมฺมนฺติ ทสฺเสติ. วิปุลตฺตาติ อปฺปมาณตฺตา. อิมินา ‘‘อนนฺตํ อปริมาณํ มยา กตํ กมฺม’’นฺติ ทสฺเสติ. อธิคฺคณฺหาตีติ ¶ อธิภวติ, อฺเหิ เทเวหิ อติเรกํ ลภตีติ อตฺโถ. ปฏิลภตีติ อธิคจฺฉติ.
สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหีติ อิทํ ‘‘สมํ ปาทํ ภูมิยํ นิกฺขิปตี’’ติ เอตสฺส วิตฺถารวจนํ. ตตฺถ สพฺพาวนฺเตหีติ สพฺพปเทสวนฺเตหิ, น เอเกน ปเทเสน ปมํ ผุสติ, น เอเกน ¶ ปจฺฉา, สพฺเพเหว ปาทตเลหิ สมํ ผุสติ, สมํ อุทฺธรติ. สเจปิ หิ ตถาคโต ‘‘อเนกสตโปริสํ นรกํ อกฺกมิสฺสามี’’ติ ปาทํ อภินีหรติ. ตาวเทว นินฺนฏฺานํ วาตปูริตา วิย กมฺมารภสฺตา อุนฺนมิตฺวา ปถวิสมํ โหติ. อุนฺนตฏฺานมฺปิ อนฺโต ปวิสติ. ‘‘ทูเร อกฺกมิสฺสามี’’ติ อภินีหรนฺตสฺส สิเนรุปฺปมาโณปิ ปพฺพโต สุเสทิตเวตฺตงฺกุโร วิย โอนมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคจฺฉติ. ตถา หิสฺส ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ‘‘ยุคนฺธรปพฺพตํ อกฺกมิสฺสามี’’ติ ปาเท อภินีหเฏ ปพฺพโต โอนมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคโต. โสปิ ตํ อกฺกมิตฺวา ทุติยปาเทน ตาวตึสภวนํ อกฺกมิ. น หิ จกฺกลกฺขเณน ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ วิสมํ ภวิตุํ สกฺโกติ. ขาณุ วา กณฺฏโก วา สกฺขรา วา กถลา วา อุจฺจารปสฺสาวเขฬสิงฺฆาณิกาทีนิ วา ปุริมตรํ วา อปคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว วา ปถวึ ปวิสนฺติ. ตถาคตสฺส หิ สีลเตเชน ปฺุเตเชน ธมฺมเตเชน ทสนฺนํ ปารมีนํ ¶ อานุภาเวน อยํ มหาปถวี สมฺมา มุทุปุปฺผาภิกิณฺณา โหติ.
๒๐๒. สาครปริยนฺตนฺติ สาครสีมํ. น หิ ตสฺส รชฺชํ กโรนฺตสฺส อนฺตรา รุกฺโข วา ปพฺพโต วา นที วา สีมา โหติ มหาสมุทฺโทว สีมา. เตน วุตฺตํ ‘‘สาครปริยนฺต’’นฺติ. อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏกนฺติ นิจฺโจรํ. โจรา หิ ขรสมฺผสฺสฏฺเน ขิลา, อุปทฺทวปจฺจยฏฺเน นิมิตฺตา, วิชฺฌนฏฺเน กณฺฏกาติ วุจฺจนฺติ. อิทฺธนฺติ สมิทฺธํ. ผีตนฺติ สพฺพสมฺปตฺติผาลิผุลฺลํ. เขมนฺติ นิพฺภยํ. สิวนฺติ นิรุปทฺทวํ. นิรพฺพุทนฺติ อพฺพุทวิรหิตํ, คุมฺพํ คุมฺพํ หุตฺวา จรนฺเตหิ โจเรหิ วิรหิตนฺติ อตฺโถ. อกฺขมฺภิโยติ อวิกฺขมฺภนีโย. น นํ โกจิ านโต จาเลตุํ สกฺโกติ. ปจฺจตฺถิเกนาติ ปฏิปกฺขํ อิจฺฉนฺเตน. ปจฺจามิตฺเตนาติ ปฏิวิรุทฺเธน อมิตฺเตน. อุภยมฺเปตํ สปตฺตเววจนํ. อพฺภนฺตเรหีติ อนฺโต อุฏฺิเตหิ ราคาทีหิ.
พาหิเรหีติ ¶ สมณาทีหิ. ตถา หิ นํ พาหิรา เทวทตฺตโกกาลิกาทโย สมณาปิ โสณทณฺฑกูฏทณฺฑาทโย พฺราหฺมณาปิ สกฺกสทิสา เทวตาปิ สตฺต วสฺสานิ อนุพนฺธมาโน มาโรปิ พกาทโย พฺรหฺมาโนปิ วิกฺขมฺเภตุํ นาสกฺขึสุ.
เอตฺตาวตา ภควตา กมฺมฺจ กมฺมสริกฺขกฺจ ลกฺขณฺจ ลกฺขณานิสํโส จ วุตฺโต โหติ. กมฺมํ นาม สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทฬฺหวีริเยน หุตฺวา กตํ กมฺมํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ทฬฺเหน หุตฺวา กตภาวํ สเทวโก โลโก ชานาตูติ สุปฺปติฏฺิตปาทมหาปุริสลกฺขณํ. ลกฺขณํ นาม สุปฺปติฏฺิตปาทตา. ลกฺขณานิสํโส นาม ปจฺจตฺถิเกหิ อวิกฺขมฺภนียตา.
๒๐๓. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจตีติ ตตฺถ วุตฺเต กมฺมาทิเภเท อปรมฺปิ อิทํ วุจฺจติ, คาถาพนฺธํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตา ปน คาถา โปราณกตฺเถรา ‘‘อานนฺทตฺเถเรน ปิตา วณฺณนาคาถา’’ติ วตฺวา คตา. อปรภาเค เถรา ‘‘เอกปทิโก อตฺถุทฺธาโร’’ติ อาหํสุ.
ตตฺถ ¶ สจฺเจติ วจีสจฺเจ. ธมฺเมติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม. ทเมติ อินฺทฺริยทมเน. สํยเมติ สีลสํยเม. ‘‘โสเจยฺยสีลาลยุโปสเถสุ จา’’ติ เอตฺถ กายโสเจยฺยาทิ ติวิธํ โสเจยฺยํ. อาลยภูตํ สีลเมว สีลาลโย. อุโปสถกมฺมํ อุโปสโถ. อหึสายาติ อวิหึสาย. สมตฺตมาจรีติ สกลํ อจริ.
อนฺวภีติ อนุภวิ. เวยฺยฺชนิกาติ ลกฺขณปากา. ปราภิภูติ ปเร อภิภวนสมตฺโถ. สตฺตุภีติ สปตฺเตหิ อกฺขมฺภิโย โหติ.
น โส คจฺฉติ ชาตุ ขมฺภนนฺติ โส เอกํเสเนว อคฺคปุคฺคโล วิกฺขมฺเภตพฺพตํ น คจฺฉติ. เอสา หิ ตสฺส ธมฺมตาติ ตสฺส หิ เอสา ธมฺมตา อยํ สภาโว.
ปาทตลจกฺกลกฺขณวณฺณนา
๒๐๔. อุพฺเพคอุตฺตาสภยนฺติ อุพฺเพคภยฺเจว อุตฺตาสภยฺจ. ตตฺถ โจรโต วา ราชโต วา ปจฺจตฺถิกโต วา วิโลปนพนฺธนาทินิสฺสยํ ภยํ อุพฺเพโค นาม, ตํมุหุตฺติกํ จณฺฑหตฺถิอสฺสาทีนิ วา อหิยกฺขาทโย วา ปฏิจฺจ โลมหํสนกรํ ภยํ อุตฺตาสภยํ นาม. ตํ สพฺพํ อปนุทิตา ¶ วูปสเมตา. สํวิธาตาติ สํวิทหิตา. กถํ สํวิทหติ? อฏวิยํ สาสงฺกฏฺาเนสุ ทานสาลํ กาเรตฺวา ตตฺถ อาคเต โภเชตฺวา มนุสฺเส ทตฺวา อติวาเหติ, ตํ านํ ปวิสิตุํ อสกฺโกนฺตานํ มนุสฺเส เปเสตฺวา ปเวเสติ. นคราทีสุปิ เตสุ เตสุ าเนสุ อารกฺขํ เปติ, เอวํ สํวิทหติ. สปริวารฺจ ทานํ อทาสีติ อนฺนํ ปานนฺติ ทสวิธํ ทานวตฺถุํ.
ตตฺถ อนฺนนฺติ ยาคุภตฺตํ. ตํ ททนฺโต น ทฺวาเร เปตฺวา อทาสิ, อถ โข อนฺโตนิเวสเน หริตุปลิตฺตฏฺาเน ลาชา เจว ปุปฺผานิ จ วิกิริตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธธูมาทีหิ สกฺการํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ อทาสิ. ยาคุํ เทนฺโต จ สพฺยฺชนํ อทาสิ. ยาคุปานาวสาเน ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา นานปฺปการกํ อนนฺตํ ขชฺชกํ ทตฺวา ปริโยสาเน อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชนํ ปณีตโภชนํ อทาสิ ¶ . ปานํ เทนฺโต อมฺพปานาทิอฏฺวิธํ ¶ ปานํ อทาสิ, ตมฺปิ ยาคุภตฺตํ ทตฺวา. วตฺถํ เทนฺโต น สุทฺธวตฺถเมว อทาสิ, เอกปฏฺฏทุปฏฺฏาทิปโหนกํ ปน ทตฺวา สุจิมฺปิ อทาสิ, สุตฺตมฺปิ อทาสิ, สุตฺตํ วฏฺเฏสิ, สูจิกมฺมกรณฏฺาเน ภิกฺขูนํ อาสนานิ, ยาคุภตฺตํ, ปาทมกฺขนํ, ปิฏฺิมกฺขนํ, รชนํ, ปณฺฑุปลาสํ, รชนโทณิกํ, อนฺตมโส จีวรรชนกํ กปฺปิยการกมฺปิ อทาสิ.
ยานนฺติ อุปาหนํ. ตํ ททนฺโตปิ อุปาหนตฺถวิกํ อุปาหนทณฺฑกํ มกฺขนเตลํ เหฏฺา วุตฺตานิ จ อนฺนาทีนิ ตสฺเสว ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. มาลํ เทนฺโตปิ น สุทฺธมาลเมว อทาสิ, อถ โข นํ คนฺเธหิ มิสฺเสตฺวา เหฏฺิมานิ จตฺตาริ ตสฺเสว ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. โพธิเจติยอาสนโปตฺถกาทิปูชนตฺถาย เจว เจติยฆรธูปนตฺถาย จ คนฺธํ เทนฺโตปิ น สุทฺธคนฺธเมว อทาสิ, คนฺธปิสนกนิสทาย เจว ปกฺขิปนกภาชเนน จ สทฺธึ เหฏฺิมานิ ปฺจ ตสฺส ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. เจติยปูชาทีนํ อตฺถาย หริตาลมโนสิลาจีนปิฏฺาทิวิเลปนํ เทนฺโตปิ น สุทฺธวิเลปนเมว อทาสิ, วิเลปนภาชเนน สทฺธึ เหฏฺิมานิ ฉ ตสฺส ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. เสยฺยาติ มฺจปีํ. ตํ เทนฺโตปิ น สุทฺธกเมว อทาสิ, โกชวกมฺพลปจฺจตฺถรณมฺจปฺปฏิปาทเกหิ สทฺธึ อนฺตมโส มงฺคุลโสธนทณฺฑกํ เหฏฺิมานิ จ สตฺต ตสฺส ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. อาวสถํ ¶ เทนฺโตปิ น เคหมตฺตเมว อทาสิ, อถ โข นํ มาลากมฺมลตากมฺมปฏิมณฺฑิตํ สุปฺตฺตํ มฺจปีํ กาเรตฺวา เหฏฺิมานิ อฏฺ ตสฺส ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. ปทีเปยฺยนฺติ ปทีปเตลํ. ตํ เทนฺโต เจติยงฺคเณ โพธิยงฺคเณ ธมฺมสฺสวนคฺเค วสนเคเห โปตฺถกวาจนฏฺาเน อิมินา ทีปํ ชาลาเปถาติ น สุทฺธเตลเมว อทาสิ, วฏฺฏิ กปลฺลกเตลภาชนาทีหิ สทฺธึ เหฏฺิมานิ นว ตสฺส ปริวารํ กตฺวา อทาสิ. สุวิภตฺตนฺตรานีติ สุวิภตฺตอนฺตรานิ.
ราชาโนติ อภิสิตฺตา. โภคิยาติ โภชกา กุมาราติ ราชกุมารา. อิธ ¶ กมฺมํ นาม สปริวารํ ทานํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม สปริวารํ กตฺวา ทานํ อทาสีติ อิมินา การเณน สเทวโก โลโก ชานาตูติ นิพฺพตฺตํ จกฺกลกฺขณํ. ลกฺขณํ นาม ตเทว จกฺกลกฺขณํ. อานิสํโส มหาปริวารตา.
๒๐๕. ตตฺเถตํ วุจฺจตีติ อิมา ตทตฺถปริทีปนา คาถา วุจฺจนฺติ. ทุวิธา หิ คาถา โหนฺติ – ตทตฺถปริทีปนา จ วิเสสตฺถปริทีปนา จ. ตตฺถ ปาฬิอาคตเมว อตฺถํ ปริทีปนา ตทตฺถปริทีปนา นาม. ปาฬิยํ อนาคตํ ปริทีปนา วิเสสตฺถปริทีปนา นาม. อิมา ปน ตทตฺถปริทีปนา. ตตฺถ ปุเรติ ปุพฺเพ. ปุรตฺถาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุริมาสุ ชาตีสูติ อิมิสฺสา ชาติยา ¶ ปุพฺเพกตกมฺมปฏิกฺเขปทีปนํ. อุพฺเพคอุตฺตาสภยาปนูทโนติ อุพฺเพคภยสฺส จ อุตฺตาสภยสฺส จ อปนูทโน. อุสฺสุโกติ อธิมุตฺโต.
สตปฺุลกฺขณนฺติ สเตน สเตน ปฺุกมฺเมน นิพฺพตฺตํ เอเกกํ ลกฺขณํ. เอวํ สนฺเต โย โกจิ พุทฺโธ ภเวยฺยาติ น โรจยึสุ, อนนฺเตสุ ปน จกฺกวาเฬสุ สพฺเพ สตฺตา เอเกกํ กมฺมํ สตกฺขตฺตุํ กเรยฺยุํ, เอตฺตเกหิ ชเนหิ กตํ กมฺมํ โพธิสตฺโต เอโกว เอเกกํ สตคุณํ กตฺวา นิพฺพตฺโต. ตสฺมา ‘‘สตปฺุลกฺขโณ’’ติ อิมมตฺถํ โรจยึสุ. มนุสฺสาสุรสกฺกรกฺขสาติ มนุสฺสา จ อสุรา จ สกฺกา จ รกฺขสา จ.
อายตปณฺหิตาทิติลกฺขณวณฺณนา
๒๐๖. อนฺตราติ ปฏิสนฺธิโต สรสจุติยา อนฺตเร. อิธ กมฺมํ นาม ปาณาติปาตา วิรติ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ปาณาติปาตํ กโรนฺโต ปทสทฺทสวนภยา ¶ อคฺคคฺคปาเทหิ อกฺกมนฺตา คนฺตฺวา ปรํ ปาเตนฺติ. อถ เต อิมินา การเณน เตสํ ตํ กมฺมํ ชโน ชานาตูติ อนฺโตวงฺกปาทา วา พหิวงฺกปาทา วา อุกฺกุฏิกปาทา วา อคฺคโกณฺฑา วา ปณฺหิโกณฺฑา วา ภวนฺติ. อคฺคปาเทหิ คนฺตฺวา ปรสฺส อมาริตภาวํ ปน ตถาคตสฺส สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อายตปณฺหิ มหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ ¶ . ตถา ปรํ ฆาเตนฺตา อุนฺนตกาเยน คจฺฉนฺตา อฺเ ปสฺสิสฺสนฺตีติ โอนตา คนฺตฺวา ปรํ ฆาเตนฺติ. อถ เต เอวมิเม คนฺตฺวา ปรํ ฆาตยึสูติ เนสํ ตํ กมฺมํ อิมินา การเณน ปโร ชานาตูติ ขุชฺชา วา วามนา วา ปีสปฺปิ วา ภวนฺติ. ตถาคตสฺส ปน เอวํ คนฺตฺวา ปเรสํ อฆาติตภาวํ อิมินา การเณน สเทวโก โลโก ชานาตูติ พฺรหฺมุชุคตฺตมหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ตถา ปรํ ฆาเตนฺตา อาวุธํ วา มุคฺครํ วา คณฺหิตฺวา มุฏฺิกตหตฺถา ปรํ ฆาเตนฺติ. เต เอวํ เตสํ ปรสฺส ฆาติตภาวํ อิมินา การเณน ชโน ชานาตูติ รสฺสงฺคุลี วา รสฺสหตฺถา วา วงฺกงฺคุลี วา ผณหตฺถกา วา ภวนฺติ. ตถาคตสฺส ปน เอวํ ปเรสํ อฆาติตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ ทีฆงฺคุลิมหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. อิทเมตฺถ กมฺมสริกฺขกํ. อิทเมว ปน ลกฺขณตฺตยํ ลกฺขณํ นาม. ทีฆายุกภาโว ลกฺขณานิสํโส.
๒๐๗. มรณวธภยตฺตโนติ เอตฺถ มรณสงฺขาโต วโธ มรณวโธ, มรณวธโต ภยํ มรณวธภยํ, ตํ อตฺตโน ชานิตฺวา. ปฏิวิรโต ปรํมารณายาติ ยถา มยฺหํ มรณโต ภยํ มม ชีวิตํ ¶ ปิยํ, เอวํ ปเรสมฺปีติ ตฺวา ปรํ มารณโต ปฏิวิรโต อโหสิ. สุจริเตนาติ สุจิณฺเณน. สคฺคมคมาติ สคฺคํ คโต.
จวิย ปุนริธาคโตติ จวิตฺวา ปุน อิธาคโต. ทีฆปาสณฺหิโกติ ทีฆปณฺหิโก. พฺรหฺมาว สุชูติ พฺรหฺมา วิย สุฏฺุ อุชุ.
สุภุโชติ สุนฺทรภุโช. สุสูติ มหลฺลกกาเลปิ ตรุณรูโป. สุสณฺิโตติ สุสณฺานสมฺปนฺโน. มุทุตลุนงฺคุลิยสฺสาติ มุทู จ ตลุนา จ องฺคุลิโย อสฺส. ตีภีติ ตีหิ. ปุริสวรคฺคลกฺขเณหีติ ปุริสวรสฺส ¶ อคฺคลกฺขเณหิ. จิรยปนายาติ จิรํ ยาปนาย, ทีฆายุกภาวาย.
จิรํ ยเปตีติ จิรํ ยาเปติ. จิรตรํ ปพฺพชติ ยทิ ตโตติ ตโต จิรตรํ ยาเปติ, ยทิ ปพฺพชตีติ อตฺโถ. ยาปยติ ¶ จ วสิทฺธิภาวนายาติ วสิปฺปตฺโต หุตฺวา อิทฺธิภาวนาย ยาเปติ.
สตฺตุสฺสทตาลกฺขณวณฺณนา
๒๐๘. รสิตานนฺติ รสสมฺปนฺนานํ. ‘‘ขาทนียาน’’นฺติอาทีสุ ขาทนียานิ นาม ปิฏฺขชฺชกาทีนิ. โภชนียานีติ ปฺจ โภชนานิ. สายนียานีติ สายิตพฺพานิ สปฺปินวนีตาทีนิ. เลหนียานีติ นิลฺเลหิตพฺพานิ ปิฏฺปายาสาทีนิ. ปานานีติ อฏฺ ปานกานิ.
อิธ กมฺมํ นาม กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทินฺนํ อิทํ ปณีตโภชนทานํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ลูขโภชเน กุจฺฉิคเต โลหิตํ สุสฺสติ, มํสํ มิลายติ. ตสฺมา ลูขทายกา สตฺตา อิมินา การเณน เนสํ ลูขโภชนสฺส ทินฺนภาวํ ชโน ชานาตูติ อปฺปมํสา อปฺปโลหิตา มนุสฺสเปตา วิย ทุลฺลภนฺนปานา ภวนฺติ. ปณีตโภชเน ปน กุจฺฉิคเต มํสโลหิตํ วฑฺฒติ, ปริปุณฺณกายา ปาสาทิกา อภิรูปทสฺสนา โหนฺติ. ตสฺมา ตถาคตสฺส ทีฆรตฺตํ ปณีตโภชนทายกตฺตํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ สตฺตุสฺสทมหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม สตฺตุสฺสทลกฺขณเมว. ปณีตลาภิตา อานิสํโส.
๒๐๙. ขชฺชโภชฺชมถเลยฺยสายิตนฺติ ¶ ขชฺชกฺจ โภชนฺจ เลหนียฺจ สายนียฺจ. อุตฺตมคฺครสทายโกติ อุตฺตโม อคฺครสทายโก, อุตฺตมานํ วา อคฺครสานํ ทายโก.
สตฺต จุสฺสเทติ สตฺต จ อุสฺสเท. ตทตฺถโชตกนฺติ ขชฺชโภชฺชาทิโชตกํ, เตสํ ลาภสํวตฺตนิกนฺติ อตฺโถ. ปพฺพชมฺปิ จาติ ปพฺพชมาโนปิ จ. ตทาธิคจฺฉตีติ ตํ อธิคจฺฉติ. ลาภิรุตฺตมนฺติ ลาภิ อุตฺตมํ.
กรจรณาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๑๐. ทาเนนาติอาทีสุ ¶ เอกจฺโจ ทาเนเนว สงฺคณฺหิตพฺโพ โหติ, ตํ ทาเนน สงฺคเหสิ. ปพฺพชิตานํ ปพฺพชิตปริกฺขารํ, คิหีนํ คิหิปริกฺขารํ อทาสิ.
เปยฺยวชฺเชนาติ เอกจฺโจ หิ ‘‘อยํ ทาตพฺพํ นาม เทติ, เอเกน ปน วจเนน สพฺพํ มกฺเขตฺวา นาเสติ, กึ เอตสฺส ทาน’’นฺติ วตฺตา โหติ. เอกจฺโจ ‘‘อยํ กิฺจาปิ ทานํ น เทติ, กเถนฺโต ปน เตเลน วิย มกฺเขติ. เอโส เทตุ วา มา วา, วจนเมว ¶ ตสฺส สหสฺสํ อคฺฆตี’’ติ วตฺตา โหติ. เอวรูโป ปุคฺคโล ทานํ น ปจฺจาสีสติ, ปิยวจนเมว ปจฺจาสีสติ. ตํ ปิยวจเนน สงฺคเหสิ.
อตฺถจริยายาติ อตฺถสํวฑฺฒนกถาย. เอกจฺโจ หิ เนว ทานํ, น ปิยวจนํ ปจฺจาสีสติ. อตฺตโน หิตกถํ วฑฺฒิตกถเมว ปจฺจาสีสติ. เอวรูปํ ปุคฺคลํ ‘‘อิทํ เต กาตพฺพํ, อิทํ เต น กาตพฺพํ. เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ, เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ’’ติ เอวํ อตฺถจริยาย สงฺคเหสิ.
สมานตฺตตายาติ สมานสุขทุกฺขภาเวน. เอกจฺโจ หิ ทานาทีสุ เอกมฺปิ น ปจฺจาสีสติ, เอกาสเน นิสชฺชํ, เอกปลฺลงฺเก สยนํ, เอกโต โภชนนฺติ เอวํ สมานสุขทุกฺขตํ ปจฺจาสีสติ. ตตฺถ ชาติยา หีโน โภเคน อธิโก ทุสฺสงฺคโห โหติ. น หิ สกฺกา เตน สทฺธึ เอกปริโภโค กาตุํ, ตถา อกริยมาเน จ โส กุชฺฌติ. โภเคน หีโน ชาติยา อธิโกปิ ทุสฺสงฺคโห โหติ. โส หิ ‘‘อหํ ชาติมา’’ติ โภคสมฺปนฺเนน สทฺธึ เอกปริโภคํ น อิจฺฉติ, ตสฺมึ อกริยมาเน กุชฺฌติ. อุโภหิปิ หีโน ปน สุสงฺคโห โหติ. น หิ โส อิตเรน สทฺธึ เอกปริโภคํ อิจฺฉติ, น อกริยมาเน จ กุชฺฌติ. อุโภหิ ¶ สทิโสปิ สุสงฺคโหเยว. ภิกฺขูสุ ทุสฺสีโล ทุสฺสงฺคโห โหติ. น หิ สกฺกา เตน สทฺธึ เอกปริโภโค กาตุํ, ตถา อกริยมาเน จ กุชฺฌติ. สีลวา สุสงฺคโห โหติ. สีลวา หิ อทียมาเนปิ อกริยมาเนปิ น กุชฺฌติ. อฺํ อตฺตนา ¶ สทฺธึ ปริโภคํ อกโรนฺตมฺปิ น ปาปเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. ปริโภโคปิ เตน สทฺธึ สุกโร โหติ. ตสฺมา เอวรูปํ ปุคฺคลํ เอวํ สมานตฺตตาย สงฺคเหสิ.
สุสงฺคหิตาสฺส โหนฺตีติ สุสงฺคหิตา อสฺส โหนฺติ. เทตุ วา มา วา เทตุ, กโรตุ วา มา วา กโรตุ, สุสงฺคหิตาว โหนฺติ, น ภิชฺชนฺติ. ‘‘ยทาสฺส ทาตพฺพํ โหติ, ตทา เทติ. อิทานิ มฺเ นตฺถิ, เตน น เทติ. กึ มยํ ททมานเมว อุปฏฺหาม? อเทนฺตํ อกโรนฺตํ น อุปฏฺหามา’’ติ เอวํ จินฺเตนฺติ.
อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ กตํ ทานาทิสงฺคหกมฺมํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม โย เอวํ อสงฺคาหโก โหติ, โส อิมินา การเณนสฺส อสงฺคาหกภาวํ ชโน ชานาตูติ ถทฺธหตฺถปาโท เจว โหติ, วิสมฏฺิตาวยวลกฺขโณ จ. ตถาคตสฺส ปน ทีฆรตฺตํ สงฺคาหกภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อิมานิ ทฺเว ¶ ลกฺขณานิ นิพฺพตฺตนฺติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. สุสงฺคหิตปริชนตา อานิสํโส.
๒๑๑. กริยาติ กริตฺวา. จริยาติ จริตฺวา. อนวมเตนาติ อนวฺาเตน. ‘‘อนปโมเทนา’’ติปิ ปาโ, น อปฺปโมเทน, น ทีเนน น คพฺภิเตนาติ อตฺโถ.
จวิยาติ จวิตฺวา. อติรุจิร สุวคฺคุ ทสฺสเนยฺยนฺติ อติรุจิรฺจ สุปาสาทิกํ สุวคฺคุ จ สุฏฺุ เฉกํ ทสฺสเนยฺยฺจ ทฏฺพฺพยุตฺตํ. สุสุ กุมาโรติ สุฏฺุ สุกุมาโร.
ปริชนสฺสโวติ ปริชโน อสฺสโว วจนกโร. วิเธยฺโยติ กตฺตพฺพากตฺตพฺเพสุ ยถารุจิ วิธาตพฺโพ. มหิมนฺติ มหึ อิมํ. ปิยวทู หิตสุขตํ ชิคีสมาโนติ ปิยวโท หุตฺวา หิตฺจ สุขฺจ ปริเยสมาโน. วจนปฏิกรสฺสา ภิปฺปสนฺนาติ วจนปฏิกรา อสฺส อภิปฺปสนฺนา. ธมฺมานุธมฺมนฺติ ธมฺมฺจ อนุธมฺมฺจ.
อุสฺสงฺขปาทาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๑๒. อตฺถูปสํหิตนฺติ ¶ ¶ อิธโลกปรโลกตฺถนิสฺสิตํ. ธมฺมูปสํหิตนฺติ ทสกุสลกมฺมปถนิสฺสิตํ. พหุชนํ นิทํเสสีติ พหุชนสฺส นิทํสนกถํ กเถสิ. ปาณีนนฺติ สตฺตานํ. ‘‘อคฺโค’’ติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ ภาสิตา อุทฺธงฺคมนียา อตฺถูปสํหิตา วาจา. กมฺมสริกฺขกํ นาม โย เอวรูปํ อุคฺคตวาจํ น ภาสติ, โส อิมินา การเณน อุคฺคตวาจาย อภาสนํ ชโน ชานาตูติ อโธสงฺขปาโท จ โหติ อโธนตโลโม จ. ตถาคตสฺส ปน ทีฆรตฺตํ เอวรูปาย อุคฺคตวาจาย ภาสิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อุสฺสงฺขปาทลกฺขณฺจ อุทฺธคฺคโลมลกฺขณฺจ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. อุตฺตมภาโว อานิสํโส.
๒๑๓. เอรยนฺติ ¶ ภณนฺโต. พหุชนํ นิทํสยีติ พหุชนสฺส หิตํ ทสฺเสติ. ธมฺมยาคนฺติ ธมฺมทานยฺํ.
อุพฺภมุปฺปติตโลมวา สโสติ โส เอส อุทฺธคฺคตโลมวา โหติ. ปาทคณฺิรหูติ ปาทโคปฺผกา อเหสุํ. สาธุสณฺิตาติ สุฏฺุ สณฺิตา. มํสโลหิตาจิตาติ มํเสน จ โลหิเตน จ อาจิตา. ตโจตฺถตาติ ตเจน ปริโยนทฺธา นิคุฬฺหา. วชตีติ คจฺฉติ. อโนมนิกฺกโมติ อโนมวิหารี เสฏฺวิหารี.
เอณิชงฺฆลกฺขณวณฺณนา
๒๑๔. สิปฺปํ วาติอาทีสุ สิปฺปํ นาม ทฺเว สิปฺปานิ – หีนฺจ สิปฺปํ, อุกฺกฏฺฺจ สิปฺปํ. หีนํ นาม สิปฺปํ นฬการสิปฺปํ, กุมฺภการสิปฺปํ เปสการสิปฺปํ นหาปิตสิปฺปํ. อุกฺกฏฺํ นาม สิปฺปํ เลขา มุทฺทา คณนา. วิชฺชาติ อหิวิชฺชาทิอเนกวิธา. จรณนฺติ ปฺจสีลํ ทสสีลํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตาชานนปฺา. กิลิสฺเสยฺยุนฺติ กิลเมยฺยุํ. อนฺเตวาสิกวตฺตํ นาม ทุกฺขํ, ตํ เนสํ มา จิรมโหสีติ จินฺเตสิ.
ราชารหานีติ รฺโ อนุรูปานิ หตฺถิอสฺสาทีนิ, ตานิเยว รฺโ เสนาย องฺคภูตตฺตา ราชงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. ราชูปโภคานีติ รฺโ ¶ อุปโภคปริโภคภณฺฑานิ, ตานิ เจว สตฺตรตนานิ จ. ราชานุจฺฉวิกานีติ รฺโ อนุจฺฉวิกานิ. เตสํเยว สพฺเพสํ อิทํ คหณํ. สมณารหานีติ ¶ สมณานํ อนุรูปานิ จีวราทีนิ. สมณงฺคานีติ สมณานํ โกฏฺาสภูตา จตสฺโส ปริสา. สมณูปโภคานีติ สมณานํ อุปโภคปริกฺขารา. สมณานุจฺฉวิกานีติ เตสํเยว อธิวจนํ.
อิธ ปน กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ สกฺกจฺจํ สิปฺปาทิวาจนํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม โย เอวํ สกฺกจฺจํ สิปฺปํ อวาเจนฺโต อนฺเตวาสิเก อุกฺกุฏิกาสนชงฺฆเปสนิกาทีหิ กิลเมติ, ตสฺส ชงฺฆมํสํ ลิขิตฺวา ปาติตํ วิย โหติ. ตถาคตสฺส ปน สกฺกจฺจํ วาจิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อนุปุพฺพอุคฺคตวฏฺฏิตํ เอณิชงฺฆลกฺขณํ ¶ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. อนุจฺฉวิกลาภิตา อานิสํโส.
๒๑๕. ยทูปฆาตายาติ ยํ สิปฺปํ กสฺสจิ อุปฆาตาย น โหติ. กิลิสฺสตีติ กิลมิสฺสติ. สุขุมตฺตโจตฺถตาติ สุขุมตฺตเจน ปริโยนทฺธา. กึ ปน อฺเน กมฺเมน อฺํ ลกฺขณํ นิพฺพตฺตตีติ? น นิพฺพตฺตติ. ยํ ปน นิพฺพตฺตติ, ตํ อนุพฺยฺชนํ โหติ, ตสฺมา อิธ วุตฺตํ.
สุขุมจฺฉวิลกฺขณวณฺณนา
๒๑๖. สมณํ วาติ สมิตปาปฏฺเน สมณํ. พฺราหฺมณํ วาติ พาหิตปาปฏฺเน พฺราหฺมณํ.
มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโต โหตีติ อตฺโถ. ตตฺริทํ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ.
ตตฺถ กตมา มหาปฺา? มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ ปฺากฺขนฺเธ วิมุตฺติกฺขนฺเธ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺตานิ านาานานิ มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ มหนฺเต สติปฏฺาเน สมฺมปฺปธาเน อิทฺธิปาเท มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ พลานิ มหนฺเต โพชฺฌงฺเค มหนฺเต อริยมคฺเค มหนฺตานิ สามฺผลานิ มหนฺตา อภิฺาโย มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.
กตมา ¶ ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุนานาธาตูสุ ปุถุนานาอายตเนสุ ¶ ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ ปุถุนานาสฺุตมนุปลพฺเภสุ ปุถุนานาอตฺเถสุ ธมฺเมสุ นิรุตฺตีสุ ปฏิภาเนสุ. ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ ปุถุนานาสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาทสฺสนกฺขนฺเธสุ ปุถุนานาานาาเนสุ ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ สมฺมปฺปธาเนสุ อิทฺธิปาเทสุ อินฺทฺริเยสุ พเลสุ โพชฺฌงฺเคสุ ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ สามฺผเลสุ อภิฺาสุ ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.
กตมา หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ โภชเน มตฺตฺุตํ ชาคริยานุโยคํ สีลกฺขนฺธํ สมาธิกฺขนฺธํ ปฺากฺขนฺธํ วิมุตฺติกฺขนฺธํ ¶ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล านาานํ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. สติปฏฺาเน สมฺมปฺปธาเน อิทฺธิปาเท อินฺทฺริยานิ พลานิ โพชฺฌงฺเค อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา. อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล เวทตุฏฺิปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.
กตมา ชวนปฺา? ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ ตํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต ขิปฺปํ อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํกิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ, สพฺพํ ตํ วิฺาณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน ทุกฺขํ ภยฏฺเน อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ . จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
กตมา ¶ ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อุปฺปนฺนํ ราคํ โทสํ โมหํ โกธํ อุปนาหํ มกฺขํ ปฬาสํ อิสฺสํ มจฺฉริยํ มายํ สาเยฺยํ ถมฺภํ สารมฺภํ ¶ มานํ อติมานํ มทํ ปมาทํ สพฺเพ กิเลเส สพฺเพ ทุจฺจริเต สพฺเพ อภิสงฺขาเร สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตี กโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ สามฺผลานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.
กตมา นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ โกธํ อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺาติ (ปฏิ. ม. ๓.๓).
๒๑๗. ปพฺพชิตํ อุปาสิตาติ ปณฺฑิตํ ปพฺพชิตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปยิรุปาสิตา. อตฺถนฺตโรติ ยถา เอเก รนฺธคเวสิโน อุปารมฺภจิตฺตตาย โทสํ อพฺภนฺตรํ กริตฺวา นิสามยนฺติ, เอวํ อนิสาเมตฺวา อตฺถํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา อตฺถยุตฺตํ กถํ นิสามยิ อุปธารยิ.
ปฏิลาภคเตนาติ ปฏิลาภตฺถาย คเตน. อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทาติ อุปฺปาเท จ นิมิตฺเต จ เฉกา. อเวจฺจ ทกฺขิตีติ ตฺวา ปสฺสิสฺสติ.
อตฺถานุสิฏฺีสุ ปริคฺคเหสุ จาติ เย อตฺถานุสาสเนสุ ปริคฺคหา อตฺถานตฺถํ ปริคฺคาหกานิ าณานิ, เตสูติ อตฺโถ.
สุวณฺณวณฺณลกฺขณวณฺณนา
๒๑๘. อกฺโกธโนติ ¶ น อนาคามิมคฺเคน โกธสฺส ปหีนตฺตา, อถ โข สเจปิ เม โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ขิปฺปเมว นํ ปฏิวิโนเทยฺยนฺติ เอวํ อกฺโกธวสิกตฺตา. นาภิสชฺชีติ กุฏิลกณฺฏโก วิย ตตฺถ ตตฺถ มมฺมํ ตุทนฺโต วิย น ลคฺคิ. น กุปฺปิ น พฺยาปชฺชีติอาทีสุ ¶ ปุพฺพุปฺปตฺติโก โกโป. ตโต พลวตโร พฺยาปาโท. ตโต พลวตรา ปติตฺถิยนา. ตํ สพฺพํ อกโรนฺโต น กุปฺปิ น พฺยาปชฺชิ น ปติตฺถิยิ. อปฺปจฺจยนฺติ โทมนสฺสํ. น ปาตฺวากาสีติ น กายวิกาเรน วา วจีวิกาเรน วา ปากฏมกาสิ.
อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ อกฺโกธนตา เจว ¶ สุขุมตฺถรณาทิทานฺจ. กมฺมสริกฺขกํ นาม โกธนสฺส ฉวิวณฺโณ อาวิโล โหติ มุขํ ทุทฺทสิยํ วตฺถจฺฉาทนสทิสฺจ มณฺฑนํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา โย โกธโน เจว วตฺถจฺฉาทนานฺจ อทาตา, โส อิมินา การเณนสฺส ชโน โกธนาทิภาวํ ชานาตูติ ทุพฺพณฺโณ โหติ ทุสฺสณฺาโน. อกฺโกธนสฺส ปน มุขํ วิโรจติ, ฉวิวณฺโณ วิปฺปสีทติ. สตฺตา หิ จตูหิ การเณหิ ปาสาทิกา โหนฺติ อามิสทาเนน วา วตฺถทาเนน วา สมฺมชฺชเนน วา อกฺโกธนตาย วา. อิมานิ จตฺตาริปิ การณานิ ทีฆรตฺตํ ตถาคเตน กตาเนว. เตนสฺส อิเมสํ กตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ สุวณฺณวณฺณํ มหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. สุขุมตฺถรณาทิลาภิตา อานิสํโส.
๒๑๙. อภิวิสฺสชีติ อภิวิสฺสชฺเชสิ. มหิมิว สุโร อภิวสฺสนฺติ สุโร วุจฺจติ เทโว, มหาปถวึ อภิวสฺสนฺโต เทโว วิย.
สุรวรตโรริว อินฺโทติ สุรานํ วรตโร อินฺโท วิย.
อปพฺพชฺชมิจฺฉนฺติ อปพฺพชฺชํ คิหิภาวํ อิจฺฉนฺโต. มหติมหินฺติ มหนฺตึ ปถวึ.
อจฺฉาทนวตฺถโมกฺขปาวุรณานนฺติ อจฺฉาทนานฺเจว วตฺถานฺจ อุตฺตมปาวุรณานฺจ. ปนาโสติ วินาโส.
โกโสหิตวตฺถคุยฺหลกฺขณวณฺณนา
๒๒๐. มาตรมฺปิ ¶ ปุตฺเตน สมาเนตา อโหสีติ อิมํ กมฺมํ รชฺเช ปติฏฺิเตน สกฺกา กาตุํ. ตสฺมา โพธิสตฺโตปิ รชฺชํ การยมาโน อนฺโตนคเร จตุกฺกาทีสุ จตูสุ นครทฺวาเรสุ พหินคเร จตูสุ ทิสาสุ อิมํ กมฺมํ กโรถาติ มนุสฺเส เปสิ. เต มาตรํ กุหึ เม ปุตฺโต ปุตฺตํ ¶ น ปสฺสามีติ วิลปนฺตึ ปริเยสมานํ ทิสฺวา เอหิ, อมฺม, ปุตฺตํ ทกฺขสีติ ตํ อาทาย คนฺตฺวา นหาเปตฺวา โภเชตฺวา ปุตฺตมสฺสา ปริเยสิตฺวา ทสฺเสนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ าตีนํ สมงฺคิภาวกรณํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม าตโย หิ สมงฺคีภูตา อฺมฺสฺส วชฺชํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ. กิฺจาปิ หิ เต กลหกาเล กลหํ กโรนฺติ, เอกสฺส ปน โทเส อุปฺปนฺเน อฺํ ชานาเปตุํ น อิจฺฉนฺติ. อยํ นาม เอตสฺส โทโสติ วุตฺเต สพฺเพ อุฏฺหิตฺวา ¶ เกน ทิฏฺํ เกน สุตํ, อมฺหากํ าตีสุ เอวรูปํ กตฺตา นาม นตฺถีติ. ตถาคเตน จ ตํ าติสงฺคหํ กโรนฺเตน ทีฆรตฺตํ อิทํ วชฺชปฺปฏิจฺฉาทนกมฺมํ นาม กตํ โหติ. อถสฺส สเทวโก โลโก อิมินา การเณน เอวรูปสฺส กมฺมสฺส กตภาวํ ชานาตูติ โกโสหิตวตฺถคุยฺหลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. ปหูตปุตฺตตา อานิสํโส.
๒๒๑. วตฺถฉาทิยนฺติ วตฺเถน ฉาเทตพฺพํ วตฺถคุยฺหํ.
อมิตฺตตาปนาติ อมิตฺตานํ ปตาปนา. คิหิสฺส ปีตึ ชนนาติ คิหิภูตสฺส สโต ปีติชนนา.
ปริมณฺฑลาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๒๒. สมํ ชานาตีติ ‘‘อยํ ตารุกฺขสโม อยํ โปกฺขรสาติสโม’’ติ เอวํ เตน เตน สมํ ชานาติ. สามํ ชานาตีติ สยํ ชานาติ. ปุริสํ ชานาตีติ ‘‘อยํ เสฏฺสมฺมโต’’ติ ปุริสํ ชานาติ. ปุริสวิเสสํ ชานาตีติ มุคฺคํ มาเสน สมํ อกตฺวา คุณวิสิฏฺสฺส วิเสสํ ชานาติ. อยมิทมรหตีติ อยํ ปุริโส อิทํ นาม ทานสกฺการํ อรหติ ¶ . ปุริสวิเสสกโร อโหสีติ ปุริสวิเสสํ ตฺวา การโก อโหสิ. โย ยํ อรหติ, ตสฺเสว ตํ อทาสิ. โย หิ กหาปณารหสฺส อฑฺฒํ เทติ, โส ปรสฺส อฑฺฒํ นาเสติ. โย ทฺเว กหาปเณ เทติ, โส อตฺตโน กหาปณํ นาเสติ. ตสฺมา อิทํ อุภยมฺปิ อกตฺวา โย ยํ อรหติ, ตสฺส ตเทว อทาสิ. สทฺธาธนนฺติอาทีสุ สมฺปตฺติปฏิลาภฏฺเน สทฺธาทีนํ ธนภาโว เวทิตพฺโพ.
อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ ปุริสวิเสสํ ตฺวา กตํ สมสงฺคหกมฺมํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ตทสฺส ¶ กมฺมํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อิมานิ ทฺเว ลกฺขณานิ นิพฺพตฺตนฺติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. ธนสมฺปตฺติ อานิสํโส.
๒๒๓. ตุลิยาติ ตุลยิตฺวา. ปฏิวิจยาติ ปฏิวิจินิตฺวา. มหาชนสงฺคาหกนฺติ มหาชนสงฺคหณํ. สเมกฺขมาโนติ สมํ เปกฺขมาโน. อตินิปุณา ¶ มนุชาติ อตินิปุณา สุขุมปฺา ลกฺขณปากมนุสฺสา. พหุวิวิธา คิหีนํ อรหานีติ พหู วิวิธานิ คิหีนํ อนุจฺฉวิกานิ ปฏิลภติ. ทหโร สุสุ กุมาโร ‘‘อยํ ทหโร กุมาโร ปฏิลภิสฺสตี’’ติ พฺยากํสุ มหีปติสฺสาติ รฺโ.
สีหปุพฺพทฺธกายาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๒๔. โยคกฺเขมกาโมติ โยคโต เขมกาโม. ปฺายาติ กมฺมสฺสกตปฺาย. อิธ กมฺมํ นาม มหาชนสฺส อตฺถกามตา. กมฺมสริกฺขกํ นาม ตํ มหาชนสฺส อตฺถกามตาย วฑฺฒิเมว ปจฺจาสีสิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อิมานิ สมนฺตปริปูรานิ อปริหีนานิ ตีณิ ลกฺขณานิ นิพฺพตฺตนฺติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณตฺตยํ. ธนาทีหิ เจว สทฺธาทีหิ จ อปริหานิ อานิสํโส.
๒๒๕. สทฺธายาติ โอกปฺปนสทฺธาย ปสาทสทฺธาย. สีเลนาติ ปฺจสีเลน ทสสีเลน. สุเตนาติ ปริยตฺติสวเนน. พุทฺธิยาติ เอเตสํ พุทฺธิยา ¶ , ‘‘กินฺติ เอเตหิ วฑฺเฒยฺยุ’’นฺติ เอวํ จินฺเตสีติ อตฺโถ. ธมฺเมนาติ โลกิยธมฺเมน. พหูหิ สาธูหีติ อฺเหิปิ พหูหิ อุตฺตมคุเณหิ. อสหานธมฺมตนฺติ อปริหีนธมฺมํ.
รสคฺคสคฺคิตาลกฺขณวณฺณนา
๒๒๖. สมาภิวาหินิโยติ ยถา ติลผลมตฺตมฺปิ ชิวฺหคฺเค ปิตํ สพฺพตฺถ ผรติ, เอวํ สมา หุตฺวา วหนฺติ. อิธ กมฺมํ นาม อวิเหนกมฺมํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ปาณิอาทีหิ ปหารํ ลทฺธสฺส ตตฺถ ตตฺถ โลหิตํ สณฺาติ, คณฺิ คณฺิ หุตฺวา อนฺโตว ปุพฺพํ คณฺหาติ, อนฺโตว ภิชฺชติ, เอวํ โส พหุโรโค โหติ. ตถาคเตน ปน ทีฆรตฺตํ อิมํ อาโรคฺยกรณกมฺมํ กตํ. ตทสฺส สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อาโรคฺยกรํ รสคฺคสคฺคิลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. อปฺปาพาธตา อานิสํโส.
๒๒๗. มรณวเธนาติ ¶ ‘‘เอตํ มาเรถ เอตํ ฆาเตถา’’ติ เอวํ อาณตฺเตน มรณวเธน. อุพฺพาธนายาติ ¶ พนฺธนาคารปฺปเวสเนน.
อภินีลเนตฺตาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๒๘. น จ วิสฏนฺติ กกฺกฏโก วิย อกฺขีนิ นีหริตฺวา น โกธวเสน เปกฺขิตา อโหสิ. น จ วิสาจีติ วงฺกกฺขิโกฏิยา เปกฺขิตาปิ นาโหสิ. น จ ปน วิเจยฺย เปกฺขิตาติ วิเจยฺย เปกฺขิตา นาม โย กุชฺฌิตฺวา ยทา นํ ปโร โอโลเกติ, ตทา นิมฺมีเลติ น โอโลเกติ, ปุน คจฺฉนฺตํ กุชฺฌิตฺวา โอโลเกติ, เอวรูโป นาโหสิ. ‘‘วิเนยฺยเปกฺขิตา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. อุชุํ ตถา ปสฏมุชุมโนติ อุชุมโน หุตฺวา อุชุ เปกฺขิตา โหติ, ยถา จ อุชุํ, ตถา ปสฏํ วิปุลํ วิตฺถตํ เปกฺขิตา โหติ. ปิยทสฺสโนติ ปิยายมาเนหิ ปสฺสิตพฺโพ.
อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ มหาชนสฺส ปิยจกฺขุนา โอโลกนกมฺมํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม กุชฺฌิตฺวา โอโลเกนฺโต กาโณ วิย กากกฺขิ วิย โหติ, วงฺกกฺขิ ปน อาวิลกฺขิ จ โหติเยว. ปสนฺนจิตฺตสฺส ปน โอโลกยโต ¶ อกฺขีนํ ปฺจวณฺโณ ปสาโท ปฺายติ. ตถาคโต จ ตถา โอโลเกสิ. อถสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ ปิยจกฺขุนา โอโลกิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อิมานิ เนตฺตสมฺปตฺติกรานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ นิพฺพตฺตนฺติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. ปิยทสฺสนตา อานิสํโส. อภิโยคิโนติ ลกฺขณสตฺเถ ยุตฺตา.
อุณฺหีสสีสลกฺขณวณฺณนา
๒๓๐. พหุชนปุพฺพงฺคโม อโหสีติ พหุชนสฺส ปุพฺพงฺคโม อโหสิ คณเชฏฺโก. ตสฺส ทิฏฺานุคตึ อฺเ อาปชฺชึสุ. อิธ กมฺมํ นาม ปุพฺพงฺคมตา. กมฺมสริกฺขกํ นาม โย ปุพฺพงฺคโม หุตฺวา ทานาทีนิ กุสลกมฺมานิ กโรติ, โส อมงฺกุภูโต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา ปีติปาโมชฺเชน ปริปุณฺณสีโส วิจรติ, มหาปุริโส จ โหติ. ตถาคโต จ ตถา อกาสิ. อถสฺส สเทวโก โลโก อิมินา การเณน อิทํ ปุพฺพงฺคมกมฺมํ ชานาตูติ อุณฺหีสสีสลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. มหาชนานุวตฺตนตา อานิสํโส.
๒๓๑. พหุชนํ ¶ เหสฺสตีติ พหุชนสฺส ภวิสฺสติ. ปฏิโภคิยาติ ¶ เวยฺยาวจฺจกรา, เอตสฺส พหู เวยฺยาวจฺจกรา ภวิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อภิหรนฺติ ตทาติ ทหรกาเลเยว ตทา เอวํ พฺยากโรนฺติ. ปฏิหารกนฺติ เวยฺยาวจฺจกรภาวํ. วิสวีติ จิณฺณวสี.
เอเกกโลมตาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๓๒. อุปวตฺตตีติ อชฺฌาสยํ อนุวตฺตติ, อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ สจฺจกถนํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ทีฆรตฺตํ อทฺเวชฺฌกถาย ปริสุทฺธกถาย กถิตภาวมสฺส สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ เอเกกโลมลกฺขณฺจ อุณฺณาลกฺขณฺจ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. มหาชนสฺส อชฺฌาสยานุกูเลน อนุวตฺตนตา อานิสํโส. เอเกกโลมูปจิตงฺควาติ เอเกเกหิ โลเมหิ อุปจิตสรีโร.
จตฺตาลีสาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๓๔. อเภชฺชปริโสติ ¶ อภินฺทิตพฺพปริโส. อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ อปิสุณวาจาย กถนํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม ปิสุณวาจสฺส กิร สมคฺคภาวํ ภินฺทนโต ทนฺตา อปริปุณฺณา เจว โหนฺติ วิรฬา จ. ตถาคตสฺส ปน ทีฆรตฺตํ อปิสุณวาจตํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ อิทํ ลกฺขณทฺวยํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. อเภชฺชปริสตา อานิสํโส. จตุโร ทสาติ จตฺตาโร ทส จตฺตาลีสํ.
ปหูตชิวฺหาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๓๖. อาเทยฺยวาโจ โหตีติ คเหตพฺพวจโน โหติ. อิธ กมฺมํ นาม ทีฆรตฺตํ อผรุสวาทิตา. กมฺมสริกฺขกํ นาม เย ผรุสวาจา โหนฺติ, เต อิมินา การเณน เนสํ ชิวฺหํ ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ผรุสวาจาย กถิตภาวํ ชโน ชานาตูติ พทฺธชิวฺหา วา โหนฺติ, คูฬฺหชิวฺหา วา ทฺวิชิวฺหา วา มมฺมนา วา. เย ปน ชิวฺหํ ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ผรุสวาจํ น วทนฺติ, เต พทฺธชิวฺหา คูฬฺหชิวฺหา ทฺวิชิวฺหา น โหนฺติ. มุทุ เนสํ ชิวฺหา โหติ รตฺตกมฺพลวณฺณา. ตสฺมา ตถาคตสฺส ทีฆรตฺตํ ชิวฺหํ ปริวตฺเตตฺวา ผรุสาย วาจาย อกถิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ ปหูตชิวฺหาลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ผรุสวาจํ กเถนฺตานฺจ สทฺโท ภิชฺชติ. เต สทฺทเภทํ กตฺวา ผรุสวาจาย กถิตภาวํ ชโน ชานาตูติ ¶ ¶ ฉินฺนสฺสรา วา โหนฺติ ภินฺนสฺสรา วา กากสฺสรา วา. เย ปน สรเภทกรํ ผรุสวาจํ น กเถนฺติ, เตสํ สทฺโท มธุโร จ โหติ เปมนีโย. ตสฺมา ตถาคตสฺส ทีฆรตฺตํ สรเภทกราย ผรุสวาจาย อกถิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ พฺรหฺมสฺสรลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. อาเทยฺยวจนตา อานิสํโส.
๒๓๗. อุพฺพาธิกนฺติ อกฺโกสยุตฺตตฺตา อาพาธกรึ พหุชนปฺปมทฺทนนฺติ พหุชนานํ ปมทฺทนึ อพาฬฺหํ คิรํ โส น ภณิ ผรุสนฺติ เอตฺถ อกาโร ปรโต ภณิสทฺเทน โยเชตพฺโพ. พาฬฺหนฺติ พลวํ อติผรุสํ. พาฬฺหํ คิรํ โส น อภณีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สุสํหิตนฺติ สุฏฺุ เปมสฺหิตํ. สขิลนฺติ ¶ มุทุกํ. วาจาติ วาจาโย. กณฺณสุขาติ กณฺณสุขาโย. ‘‘กณฺณสุข’’นฺติปิ ปาโ, ยถา กณฺณานํ สุขํ โหติ, เอวํ เอรยตีติ อตฺโถ. เวทยถาติ เวทยิตฺถ. พฺรหฺมสฺสรตฺตนฺติ พฺรหฺมสฺสรตํ. พหุโน พหุนฺติ พหุชนสฺส พหุํ. ‘‘พหูนํ พหุนฺติ’’ปิ ปาโ, พหุชนานํ พหุนฺติ อตฺโถ.
สีหหนุลกฺขณวณฺณนา
๒๓๘. อปฺปธํสิโก โหตีติ คุณโต วา านโต วา ปธํเสตุํ จาเวตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อิธ กมฺมํ นาม ปลาปกถาย อกถนํ. กมฺมสริกฺขกํ นาม เย ตํ กเถนฺติ, เต อิมินา การเณน เนสํ หนุกํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา ปลาปกถาย กถิตภาวํ ชโน ชานาตูติ อนฺโตปวิฏฺหนุกา วา วงฺกหนุกา วา ปพฺภารหนุกา วา โหนฺติ. ตถาคโต ปน ตถา น กเถสิ. เตนสฺส หนุกํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา ทีฆรตฺตํ ปลาปกถาย อกถิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ สีหหนุลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณํ. อปฺปธํสิกตา อานิสํโส.
๒๓๙. อวิกิณฺณวจนพฺยปฺปโถ จาติ อวิกิณฺณวจนานํ วิย ปุริมโพธิสตฺตานํ วจนปโถ อสฺสาติ อวิกิณฺณวจนพฺยปฺปโถ. ทฺวิทุคมวรตรหนุตฺตมลตฺถาติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ คจฺฉตีติ ¶ ทฺวิทุคโม, ทฺวีหิ ทฺวีหีติ จตูหิ, จตุปฺปทานํ วรตรสฺส สีหสฺเสว หนุภาวํ อลตฺถาติ อตฺโถ. มนุชาธิปตีติ มนุชานํ อธิปติ. ตถตฺโตติ ตถสภาโว.
สมทนฺตาทิลกฺขณวณฺณนา
๒๔๐. สุจิปริวาโรติ ¶ ปริสุทฺธปริวาโร. อิธ กมฺมํ นาม สมฺมาชีวตา. กมฺมสริกฺขกํ นาม โย วิสเมน สํกิลิฏฺาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปติ, ตสฺส ทนฺตาปิ วิสมา โหนฺติ ทาาปิ กิลิฏฺา. ตถาคตสฺส ปน สเมน สุทฺธาชีเวน ชีวิตํ กปฺปิตภาวํ สเทวโก โลโก อิมินา การเณน ชานาตูติ สมทนฺตลกฺขณฺจ สุสุกฺกทาาลกฺขณฺจ นิพฺพตฺตติ. ลกฺขณํ นาม อิทเมว ลกฺขณทฺวยํ. สุจิปริวารตา อานิสํโส.
๒๔๑. อวสฺสชีติ ¶ ปหาสิ ติทิวปุรวรสโมติ ติทิวปุรวเรน สกฺเกน สโม. ลปนชนฺติ มุขชํ, ทนฺตนฺติ อตฺโถ. ทิชสมสุกฺกสุจิโสภนทนฺโตติ ทฺเว วาเร ชาตตฺตา ทิชนามกา สุกฺกา สุจิ โสภนา จ ทนฺตา อสฺสาติ ทิชสมสุกฺกสุจิโสภนทนฺโต. น จ ชนปทตุทนนฺติ โย ตสฺส จกฺกวาฬปริจฺฉินฺโน ชนปโท, ตสฺส อฺเน ตุทนํ ปีฬา วา อาพาโธ วา นตฺถิ. หิตมปิ จ พหุชน สุขฺจ จรนฺตีติ พหุชนา สมานสุขทุกฺขา หุตฺวา ตสฺมึ ชนปเท อฺมฺสฺส หิตฺเจว สุขฺจ จรนฺติ. วิปาโปติ วิคตปาโป. วิคตทรถกิลมโถติ วิคตกายิกทรถกิลมโถ. มลขิลกลิกิเลเส ปนุเทหีติ ราคาทิมลานฺเจว ราคาทิขิลานฺจ โทสกลีนฺจ สพฺพกิเลสานฺจ อปนุเทหิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
ลกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา
นิทานวณฺณนา
๒๔๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สิงฺคาลสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ. ตํ กิร เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ, เตน เวฬุวนนฺติ วุจฺจติ. กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ, เตน กลนฺทกนิวาโปติ วุจฺจติ.
ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต สุรามเทน มตฺโต ทิวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. ปริชโนปิสฺส ‘‘สุตฺโต ราชา’’ติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกามิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทมฺมี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ. ราชา ปฏิพุชฺฌิ. กณฺหสปฺโป นิวตฺโต. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสฺจ โฆสาเปสิ. ตสฺมา ตํ ตโต ปภุติ ‘‘กลนฺทกนิวาโป’’ติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํ.
เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ภควา ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป วิหรติ, เตน สมเยน. สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโตติ สิงฺคาลโกติ ตสฺส นามํ. คหปติปุตฺโตติ คหปติสฺส ปุตฺโต คหปติปุตฺโต. ตสฺส กิร ปิตา คหปติมหาสาโล, นิทหิตฺวา ปิตา จสฺส เคเห จตฺตาลีส ธนโกฏิโย ¶ อตฺถิ. โส ภควติ นิฏฺงฺคโต อุปาสโก โสตาปนฺโน, ภริยาปิสฺส โสตาปนฺนาเยว. ปุตฺโต ปนสฺส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน. อถ นํ มาตาปิตโร อภิกฺขณํ เอวํ โอวทนฺติ – ‘‘ตาต สตฺถารํ อุปสงฺกม, ธมฺมเสนาปตึ มหาโมคฺคลฺลานํ ¶ มหากสฺสปํ อสีติมหาสาวเก อุปสงฺกมา’’ติ. โส เอวมาห – ‘‘นตฺถิ มม ตุมฺหากํ สมณานํ อุปสงฺกมนกิจฺจํ, สมณานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตพฺพํ โหติ, โอนมิตฺวา วนฺทนฺตสฺส ปิฏฺิ รุชฺชติ, ชาณุกานิ ขรานิ โหนฺติ, ภูมิยํ นิสีทิตพฺพํ ¶ โหติ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ ชีรนฺติ, สมีเป นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย กถาสลฺลาโป โหติ, ตสฺมึ สติ วิสฺสาโส อุปฺปชฺชติ, ตโต นิมนฺเตตฺวา จีวรปิณฺฑปาตาทีนิ ทาตพฺพานิ โหนฺติ. เอวํ สนฺเต อตฺโถ ปริหายติ, นตฺถิ มยฺหํ ตุมฺหากํ สมณานํ อุปสงฺกมนกิจฺจ’’นฺติ. อิติ นํ ยาวชีวํ โอวทนฺตาปิ มาตาปิตโร สาสเน อุปเนตุํ นาสกฺขึสุ.
อถสฺส ปิตา มรณมฺเจ นิปนฺโน ‘‘มม ปุตฺตสฺส โอวาทํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘ทิสา ตาต นมสฺสาหี’’ติ เอวมสฺส โอวาทํ ทสฺสามิ, โส อตฺถํ อชานนฺโต ทิสา นมสฺสิสฺสติ, อถ นํ สตฺถา วา สาวกา วา ปสฺสิตฺวา ‘‘กึ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิสฺสนฺติ. ตโต ‘‘มยฺหํ ปิตา ทิสา นมสฺสนํ กโรหีติ มํ โอวที’’ติ วกฺขติ. อถสฺส เต ‘‘น ตุยฺหํ ปิตา เอตา ทิสา นมสฺสาเปติ, อิมา ปน ทิสา นมสฺสาเปตี’’ติ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ. โส พุทฺธสาสเน คุณํ ตฺวา ‘‘ปฺุกมฺมํ กริสฺสตี’’ติ. อถ นํ อามนฺตาเปตฺวา ‘‘ตาต, ปาโตว อุฏฺาย ฉ ทิสา นมสฺเสยฺยาสี’’ติ อาห. มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส กถา นาม ยาวชีวํ อนุสฺสรณียา โหติ. ตสฺมา โส คหปติปุตฺโต ตํ ปิตุวจนํ อนุสฺสรนฺโต ตถา อกาสิ. ตสฺมา ‘‘กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๒๔๓. ปุถุทิสาติ พหุทิสา. อิทานิ ตา ทสฺเสนฺโต ปุรตฺถิมํ ทิสนฺติอาทิมาห. ปาวิสีติ น ตาว ปวิฏฺโ, ปวิสิสฺสามีติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน อนฺตรามคฺเค วตฺตมาโนปิ เอวํ วุจฺจติ. อทฺทสา โข ภควาติ น อิทาเนว อทฺทส, ปจฺจูสสมเยปิ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต เอตํ ทิสา นมสฺสมานํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช อหํ สิงฺคาลสฺส คหปติปุตฺตสฺส คิหิวินยํ สิงฺคาลสุตฺตนฺตํ กเถสฺสามิ, มหาชนสฺส สา กถา สผลา ภวิสฺสติ, คนฺตพฺพํ มยา เอตฺถา’’ติ. ตสฺมา ¶ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ, ปวิสนฺโต จ นํ ตเถว อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข ภควา’’ติ. เอตทโวจาติ โส กิร อวิทูเร ิตมฺปิ สตฺถารํ น ปสฺสติ, ทิสาเยว นมสฺสติ. อถํ นํ ภควา สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน วิกสมานํ มหาปทุมํ วิย มุขํ วิวริตฺวา ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, คหปติปุตฺตา’’ติอาทิกํ เอตทโวจ.
ฉทิสาทิวณฺณนา
๒๔๔. ยถา ¶ ¶ กถํ ปน, ภนฺเตติ โส กิร ตํ ภควโต วจนํ สุตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘ยา กิร มม ปิตรา ฉ ทิสา นมสฺสิตพฺพา’’ติ วุตฺตา, น กิร ตา เอตา, อฺา กิร อริยสาวเกน ฉ ทิสา นมสฺสิตพฺพา. หนฺทาหํ อริยสาวเกน นมสฺสิตพฺพา ทิสาเยว ปุจฺฉิตฺวา นมสฺสามีติ. โส ตา ปุจฺฉนฺโต ยถา กถํ ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาติ นิปาตมตฺตํ. กถํ ปนาติ อิทเมว ปุจฺฉาปทํ. กมฺมกิเลสาติ เตหิ กมฺเมหิ สตฺตา กิลิสฺสนฺติ, ตสฺมา กมฺมกิเลสาติ วุจฺจนฺติ. าเนหีติ การเณหิ. อปายมุขานีติ วินาสมุขานิ. โสติ โส โสตาปนฺโน อริยสาวโก. จุทฺทส ปาปกาปคโตติ เอเตหิ จุทฺทสหิ ปาปเกหิ ลามเกหิ อปคโต. ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทีติ ฉ ทิสา ปฏิจฺฉาเทนฺโต. อุโภโลกวิชยายาติ อุภินฺนํ อิธโลกปรโลกานํ วิชินนตฺถาย. อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหตีติ เอวรูปสฺส หิ อิธ โลเก ปฺจ เวรานิ น โหนฺติ, เตนสฺส อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหติ ปริโตสิโต เจว นิปฺผาทิโต จ. ปรโลเกปิ ปฺจ เวรานิ น โหนฺติ, เตนสฺส ปโร จ โลโก อาราธิโต โหติ. ตสฺมา โส กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
๒๔๕. อิติ ภควา สงฺเขเปน มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตเมว วิตฺถาเรนฺโต กตมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสาติอาทิมาห. กมฺมกิเลโสติ กมฺมฺจ ตํ กิเลสสมฺปยุตฺตตฺตา กิเลโส จาติ กมฺมกิเลโส. สกิเลโสเยว หิ ปาณํ หนติ, นิกฺกิเลโส น หนติ, ตสฺมา ปาณาติปาโต ‘‘กมฺมกิเลโส’’ติ วุตฺโต. อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. อถาปรนฺติ อปรมฺปิ เอตทตฺถปริทีปกเมว คาถาพนฺธํ อโวจาติ อตฺโถ.
จตุานาทิวณฺณนา
๒๔๖. ปาปกมฺมํ ¶ กโรตีติ อิทํ ภควา ยสฺมา การเก ทสฺสิเต อการโก ปากโฏ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ มาติกํ เปตฺวาปิ เทสนากุสลตาย ปมตรํ การกํ ทสฺเสนฺโต อาห ¶ . ตตฺถ ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโตติ ฉนฺเทน เปเมน อคตึ คจฺฉนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรนฺโต. ปรปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ โย ‘‘อยํ เม มิตฺโต วา สมฺภตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา าตโก วา ลฺชํ วา ปน เม เทตี’’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ ปกติเวรวเสน ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน ¶ วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ, อยํ โทสาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ โมหาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ราชวลฺลโภ วา วิสมนิสฺสิโต วา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ภยาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน ยํกิฺจิ ภาเชนฺโต ‘‘อยํ เม สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา’’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โมมูหตฺตา ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนํ กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘‘อยํ อิมสฺมึ อทิยฺยมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม.
อริยสาวโก ปน ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺโตปิ ฉนฺทาคติอาทีนิ น คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ.
นิหียติ ยโส ตสฺสาติ ตสฺส อคติคามิโน กิตฺติยโสปิ ปริวารยโสปิ นิหียติ ปริหายติ.
ฉอปายมุขาทิวณฺณนา
๒๔๗. สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยโคติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตํ สพฺพมฺปิ มทกรณวเสน มชฺชํ. ปมาทฏฺานนฺติ ปมาทการณํ. ยาย เจตนาย ตํ มชฺชํ ปิวติ, ตสฺส เอตํ อธิวจนํ. อนุโยโคติ ตสฺส สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานสฺส อนุอนุโยโค ปุนปฺปุนํ กรณํ. ยสฺมา ปเนตํ อนุยุตฺตสฺส อุปฺปนฺนา เจว ¶ โภคา ปริหายนฺติ, อนุปฺปนฺนา จ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ‘‘โภคานํ อปายมุข’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. วิกาลวิสิขาจริยานุโยโคติ อเวลาย วิสิขาสุ จริยานุยุตฺตตา.
สมชฺชาภิจรณนฺติ นจฺจาทิทสฺสนวเสน สมชฺชาคมนํ. อาลสฺยานุโยโคติ กายาลสิยตาย ยุตฺตปฺปยุตฺตตา.
สุราเมรยสฺส ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๔๘. เอวํ ¶ ฉนฺนํ อปายมุขานํ มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตานิ วิภชนฺโต ฉ โข เม, คหปติปุตฺต อาทีนวาติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกาติ สามํ ปสฺสิตพฺพา, อิธโลกภาวินี. ธนชานีติ ธนหานิ. กลหปฺปวฑฺฒนีติ วาจากลหสฺส เจว หตฺถปรามาสาทิกายกลหสฺส จ วฑฺฒนี. โรคานํ อายตนนฺติ เตสํ เตสํ อกฺขิโรคาทีนํ เขตฺตํ. อกิตฺติสฺชนนีติ สุรํ ปิวิตฺวา หิ มาตรมฺปิ ปหรนฺติ ปิตรมฺปิ, อฺํ พหุมฺปิ อวตฺตพฺพํ วทนฺติ, อกตฺตพฺพํ กโรนฺติ. เตน ครหมฺปิ ทณฺฑมฺปิ หตฺถปาทาทิเฉทมฺปิ ปาปุณนฺติ, อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ อกิตฺตึ ปาปุณนฺติ, อิติ เตสํ สา สุรา อกิตฺติสฺชนนี นาม โหติ. โกปีนนิทํสนีติ คุยฺหฏฺานฺหิ วิวริยมานํ หิรึ โกเปติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โกปีน’’นฺติ วุจฺจติ, สุรามทมตฺตา จ ตํ ตํ องฺคํ วิวริตฺวา วิจรนฺติ, เตน เนสํ สา สุรา โกปีนสฺส นิทํสนโต ‘‘โกปีนนิทํสนี’’ติ วุจฺจติ. ปฺาย ทุพฺพลิกรณีติ สาคตตฺเถรสฺส วิย กมฺมสฺสกตปฺํ ทุพฺพลํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลิกรณี’’ติ วุจฺจติ. มคฺคปฺํ ปน ทุพฺพลํ กาตุํ น สกฺโกติ. อธิคตมคฺคานฺหิ สา อนฺโตมุขเมว น ปวิสติ. ฉฏฺํ ปทนฺติ ฉฏฺํ การณํ.
๒๔๙. อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหตีติ อเวลาย จรนฺโต หิ ขาณุกณฺฏกาทีนิปิ อกฺกมติ, อหินาปิ ยกฺขาทีหิปิ สมาคจฺฉติ, ตํ ตํ านํ คจฺฉตีติ ตฺวา เวริโนปิ นํ นิลียิตฺวา คณฺหนฺติ วา หนนฺติ วา. เอวํ อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต โหติ อรกฺขิโต. ปุตฺตทาราปิ ‘‘อมฺหากํ ปิตา อมฺหากํ สามิ รตฺตึ วิจรติ, กิมงฺคํ ปน มย’’นฺติ อิติสฺส ปุตฺตธีตโรปิ ภริยาปิ ¶ พหิ ปตฺถนํ กตฺวา รตฺตึ จรนฺตา อนยพฺยสนํ ปาปุณนฺติ. เอวํ ปุตฺตทาโรปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ. สาปเตยฺยนฺติ ตสฺส ปุตฺตทารปริชนสฺส รตฺตึ จรณกภาวํ ตฺวา โจรา สฺุํ ¶ เคหํ ปวิสิตฺวา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ หรนฺติ. เอวํ สาปเตยฺยมฺปิสฺส อคุตฺตํ อรกฺขิตํ โหติ. สงฺกิโย จ โหตีติ อฺเหิ กตปาปกมฺเมสุปิ ‘‘อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ สงฺกิตพฺโพ โหติ. ยสฺส ยสฺส ฆรทฺวาเรน ยาติ, ตตฺถ ยํ อฺเน โจรกมฺมํ ปรทาริกกมฺมํ วา กตํ, ตํ ‘‘อิมินา กต’’นฺติ วุตฺเต อภูตํ อสนฺตมฺปิ ตสฺมึ รูหติ ปติฏฺาติ. พหูนฺจ ทุกฺขธมฺมานนฺติ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ โทมนสฺสนฺติ วตฺตุํ น สกฺกา, อฺสฺมึ ปุคฺคเล อสติ สพฺพํ วิกาลจาริมฺหิ อาหริตพฺพํ โหติ, อิติ โส พหูนํ ทุกฺขธมฺมานํ ปุรกฺขโต ปุเรคามี โหติ.
๒๕๐. กฺว ¶ นจฺจนฺติ ‘‘กสฺมึ าเน นฏนาฏกาทินจฺจํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ตํ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ โหติ, ตสฺส ‘‘สฺเว นจฺจทสฺสนํ คมิสฺสามี’’ติ อชฺช วตฺถคนฺธมาลาทีนิ ปฏิยาเทนฺตสฺเสว สกลทิวสมฺปิ กมฺมจฺเฉโท โหติ, นจฺจทสฺสเนน เอกาหมฺปิ ทฺวีหมฺปิ ตีหมฺปิ ตตฺเถว โหติ, อถ วุฏฺิสมฺปตฺติยาทีนิ ลภิตฺวาปิ วปฺปาทิกาเล วปฺปาทีนิ อกโรนฺตสฺส อนุปฺปนฺนา โภคา นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส พหิ คตภาวํ ตฺวา อนารกฺเข เคเห โจรา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺติ, เตนสฺส อุปฺปนฺนาปิ โภคา วินสฺสนฺติ. กฺว คีตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ นานากรณํ พฺรหฺมชาเล วุตฺตเมว.
๒๕๑. ชยํ เวรนฺติ ‘‘ชิตํ มยา’’ติ ปริสมชฺเฌ ปรสฺส สาฏกํ วา เวนํ วา คณฺหาติ, โส ‘‘ปริสมชฺเฌ เม อวมานํ กโรสิ, โหตุ, สิกฺขาเปสฺสามิ น’’นฺติ ตตฺถ เวรํ พนฺธติ, เอวํ ชินนฺโต สยํ เวรํ ปสวติ. ชิโนติ อฺเน ชิโต สมาโน ยํ เตน ตสฺส เวนํ วา สาฏโก วา อฺํ วา ปน หิรฺสุวณฺณาทิวิตฺตํ คหิตํ, ตํ อนุโสจติ ‘‘อโหสิ วต เม, ตํ ตํ วต เม นตฺถี’’ติ ตปฺปจฺจยา โสจติ. เอวํ โส ชิโน วิตฺตํ อนุโสจติ. สภาคตสฺส วจนํ น รูหตีติ วินิจฺฉยฏฺาเน สกฺขิปุฏฺสฺส สโต วจนํ น รูหติ, น ปติฏฺาติ, ‘‘อยํ อกฺขโสณฺโฑ ชูตกโร, มา ตสฺส วจนํ คณฺหิตฺถา’’ติ วตฺตาโร ภวนฺติ. มิตฺตามจฺจานํ ¶ ปริภูโต โหตีติ ตฺหิ มิตามจฺจา เอวํ วทนฺติ – ‘‘สมฺม, ตฺวมฺปิ นาม กุลปุตฺโต ชูตกโร ฉินฺนภินฺนโก หุตฺวา วิจรสิ, น เต อิทํ ชาติโคตฺตานํ อนุรูปํ, อิโต ปฏฺาย มา เอวํ กเรยฺยาสี’’ติ. โส เอวํ วุตฺโตปิ เตสํ วจนํ น กโรติ. ตโต เตน สทฺธึ เอกโต น ติฏฺนฺติ ¶ น นิสีทนฺติ. ตสฺส การณา สกฺขิปุฏฺาปิ น กเถนฺติ. เอวํ มิตฺตามจฺจานํ ปริภูโต โหติ.
อาวาหวิวาหกานนฺติ อาวาหกา นาม เย ตสฺส ฆรโต ทาริกํ คเหตุกามา. วิวาหกา นาม เย ตสฺส เคเห ทาริกํ ทาตุกามา. อปตฺถิโต โหตีติ อนิจฺฉิโต โหติ. นาลํ ทารภรณายาติ ทารภรณาย น สมตฺโถ. เอตสฺส เคเห ทาริกา ทินฺนาปิ เอตสฺส เคหโต อาคตาปิ อมฺเหหิ เอว โปสิตพฺพา ภวิสฺสติเยว.
ปาปมิตฺตตาย ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๕๒. ธุตฺตาติ อกฺขธุตฺตา. โสณฺฑาติ อิตฺถิโสณฺฑา ภตฺตโสณฺฑา ปูวโสณฺฑา มูลกโสณฺฑา. ปิปาสาติ ปานโสณฺฑา. เนกติกาติ ปติรูปเกน วฺจนกา. วฺจนิกาติ สมฺมุขาวฺจนาหิ ¶ วฺจนิกา. สาหสิกาติ เอกาคาริกาทิสาหสิกกมฺมการิโน. ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺตีติ เต อสฺส มิตฺตา โหนฺติ. อฺเหิ สปฺปุริเสหิ สทฺธึ น รมติ คนฺธมาลาทีหิ อลงฺกริตฺวา วรสยนํ อาโรปิตสูกโร คูถกูปมิว, เต ปาปมิตฺเตเยว อุปสงฺกมติ. ตสฺมา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม สมฺปรายฺจ พหุํ อนตฺถํ นิคจฺฉติ.
๒๕๓. อติสีตนฺติ กมฺมํ น กโรตีติ มนุสฺเสหิ กาลสฺเสว วุฏฺาย ‘‘เอถ โภ กมฺมนฺตํ คจฺฉามา’’ติ วุตฺโต ‘‘อติสีตํ ตาว, อฏฺีนิ ภิชฺชนฺติ วิย, คจฺฉถ ตุมฺเห ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ อคฺคึ ตปนฺโต นิสีทติ. เต คนฺตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ. อิตรสฺส กมฺมํ ปริหายติ. อติอุณฺหนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
โหติ ปานสขา นามาติ เอกจฺโจ ปานฏฺาเน สุราเคเหเยว สหาโย โหติ. ‘‘ปนฺนสขา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. สมฺมิยสมฺมิโยติ สมฺม สมฺมาติ วทนฺโต สมฺมุเขเยว สหาโย โหติ, ปรมฺมุเข เวรีสทิโส โอตารเมว คเวสติ. อตฺเถสุ ¶ ชาเตสูติ ตถารูเปสุ กิจฺเจสุ สมุปฺปนฺเนสุ. เวรปฺปสโวติ เวรพหุลตา. อนตฺถตาติ อนตฺถการิตา. สุกทริยตาติ สุฏฺุ กทริยตา ถทฺธมจฺฉริยภาโว ¶ . อุทกมิว อิณํ วิคาหตีติ ปาสาโณ อุทกํ วิย สํสีทนฺโต อิณํ วิคาหติ.
รตฺตินุฏฺานเทสฺสินาติ รตฺตึ อนุฏฺานสีเลน. อติสายมิทํ อหูติ อิทํ อติสายํ ชาตนฺติ เย เอวํ วตฺวา กมฺมํ น กโรนฺติ. อิติ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเตติ เอวํ วตฺวา ปริจฺจตฺตกมฺมนฺเต. อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเวติ เอวรูเป ปุคฺคเล อตฺถา อติกฺกมนฺติ, เตสุ น ติฏฺนฺติ.
ติณา ภิยฺโยติ ติณโตปิ อุตฺตริ. โส สุขํ น วิหายตีติ โส ปุริโส สุขํ น ชหาติ, สุขสมงฺคีเยว โหติ. อิมินา กถามคฺเคน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘คิหิภูเตน สตา เอตฺตกํ กมฺมํ น กาตพฺพํ, กโรนฺตสฺส วฑฺฒิ นาม นตฺถิ. อิธโลเก ปรโลเก ครหเมว ปาปุณาตี’’ติ.
มิตฺตปติรูปกาทิวณฺณนา
๒๕๔. อิทานิ ¶ โย เอวํ กโรโต อนตฺโถ อุปฺปชฺชติ, อฺานิ วา ปน ยานิ กานิจิ ภยานิ เยเกจิ อุปทฺทวา เยเกจิ อุปสคฺคา, สพฺเพ เต พาลํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา ‘‘เอวรูปา พาลา น เสวิตพฺพา’’ติ พาเล มิตฺตปติรูปเก อมิตฺเต ทสฺเสตุํ จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺต อมิตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ อฺทตฺถุหโรติ สยํ ตุจฺฉหตฺโถ อาคนฺตฺวา เอกํเสน ยํกิฺจิ หรติเยว. วจีปรโมติ วจนปรโม วจนมตฺเตเนว ทายโก การโก วิย โหติ. อนุปฺปิยภาณีติ อนุปฺปิยํ ภณติ. อปายสหาโยติ โภคานํ อปาเยสุ สหาโย โหติ.
๒๕๕. เอวํ จตฺตาโร อมิตฺเต ทสฺเสตฺวา ปุน ตตฺถ เอเกกํ จตูหิ การเณหิ วิภชนฺโต จตูหิ โข, คหปติปุตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ อฺทตฺถุหโร โหตีติ เอกํเสน หารโกเยว โหติ. สหายสฺส เคหํ ริตฺตหตฺโถ อาคนฺตฺวา นิวตฺถสาฏกาทีนํ วณฺณํ ภาสติ, โส ‘‘อติวิย ตฺวํ สมฺม อิมสฺส วณฺณํ ภาสสี’’ติ อฺํ นิวาเสตฺวา ตํ เทติ. อปฺเปน พหุมิจฺฉตีติ ยํกิฺจิ อปฺปกํ ทตฺวา ตสฺส สนฺติกา พหุํ ปตฺเถติ. ภยสฺส ¶ กิจฺจํ กโรตีติ อตฺตโน ภเย อุปฺปนฺเน ตสฺส ทาโส วิย หุตฺวา ตํ ตํ กิจฺจํ กโรติ, อยํ สพฺพทา น กโรติ, ภเย ¶ อุปฺปนฺเน กโรติ, น เปเมนาติ อมิตฺโต นาม ชาโต. เสวติ อตฺถการณาติ มิตฺตสนฺถววเสน น เสวติ, อตฺตโน อตฺถเมว ปจฺจาสีสนฺโต เสวติ.
๒๕๖. อตีเตน ปฏิสนฺถรตีติ สหาเย อาคเต ‘‘หิยฺโย วา ปเร วา น อาคโตสิ, อมฺหากํ อิมสฺมึ วาเร สสฺสํ อติวิย นิปฺผนฺนํ, พหูนิ สาลิยวพีชาทีนิ เปตฺวา มคฺคํ โอโลเกนฺตา นิสีทิมฺห, อชฺช ปน สพฺพํ ขีณ’’นฺติ เอวํ อตีเตน สงฺคณฺหาติ. อนาคเตนาติ ‘‘อิมสฺมึ วาเร อมฺหากํ สสฺสํ มนาปํ ภวิสฺสติ, ผลภารภริตา สาลิอาทโย, สสฺสสงฺคเห กเต ตุมฺหากํ สงฺคหํ กาตุํ สมตฺถา ภวิสฺสามา’’ติ เอวํ อนาคเตน สงฺคณฺหาติ. นิรตฺถเกนาติ หตฺถิกฺขนฺเธ วา อสฺสปิฏฺเ วา นิสินฺโน สหายํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ, โภ, อิธ นิสีทา’’ติ วทติ. มนาปํ สาฏกํ นิวาเสตฺวา ‘‘สหายกสฺส วต เม อนุจฺฉวิโก อฺโ ปน มยฺหํ นตฺถี’’ติ วทติ, เอวํ นิรตฺถเกน สงฺคณฺหาติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสุ พฺยสนํ ทสฺเสตีติ ‘‘สกเฏน เม อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ‘‘จกฺกมสฺส ภินฺนํ, อกฺโข ฉินฺโน’’ติอาทีนิ วทติ.
๒๕๗. ปาปกมฺปิสฺส อนุชานาตีติ ปาณาติปาตาทีสุ ยํกิฺจิ กโรมาติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สมฺม ¶ กโรมา’’ติ อนุชานาติ. กลฺยาเณปิ เอเสว นโย. สหาโย โหตีติ ‘‘อสุกฏฺาเน สุรํ ปิวนฺติ, เอหิ ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ วุตฺเต สาธูติ คจฺฉติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิติ วิฺายาติ ‘‘มิตฺตปติรูปกา เอเต’’ติ เอวํ ชานิตฺวา.
สุหทมิตฺตาทิวณฺณนา
๒๖๐. เอวํ น เสวิตพฺเพ ปาปมิตฺเต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เสวิตพฺเพ กลฺยาณมิตฺเต ทสฺเสนฺโต ปุน จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ สุหทาติ สุนฺทรหทยา.
๒๖๑. ปมตฺตํ รกฺขตีติ มชฺชํ ปิวิตฺวา คามมชฺเฌ วา คามทฺวาเร วา มคฺเค วา นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘เอวํนิปนฺนสฺส โกจิเทว นิวาสนปารุปนมฺปิ หเรยฺยา’’ติ สมีเป นิสีทิตฺวา ปพุทฺธกาเล คเหตฺวา คจฺฉติ. ปมตฺตสฺส ¶ สาปเตยฺยนฺติ สหาโย ¶ พหิคโต วา โหติ สุรํ ปิวิตฺวา วา ปมตฺโต, เคหํ อนารกฺขํ ‘‘โกจิเทว ยํกิฺจิ หเรยฺยา’’ติ เคหํ ปวิสิตฺวา ตสฺส ธนํ รกฺขติ. ภีตสฺสาติ กิสฺมิฺจิเทว ภเย อุปฺปนฺเน ‘‘มา ภายิ, มาทิเส สหาเย ิเต กึ ภายสี’’ติ ตํ ภยํ หรนฺโต ปฏิสรณํ โหติ. ตทฺทิคุณํ โภคนฺติ กิจฺจกรณีเย อุปฺปนฺเน สหายํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตํ ทิสฺวา วทติ ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ? ราชกุเล กมฺมํ อตฺถีติ. กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? เอโก กหาปโณติ. ‘‘นคเร กมฺมํ นาม น เอกกหาปเณน นิปฺผชฺชติ, ทฺเว คณฺหาหี’’ติ เอวํ ยตฺตกํ วทติ, ตโต ทิคุณํ เทติ.
๒๖๒. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขตีติ อตฺตโน คุยฺหํ นิคูหิตุํ ยุตฺตกถํ อฺสฺส อกเถตฺวา ตสฺเสว อาจิกฺขติ. คุยฺหมสฺส ปริคูหตีติ เตน กถิตํ คุยฺหํ ยถา อฺโ น ชานาติ, เอวํ รกฺขติ. อาปทาสุ น วิชหตีติ อุปฺปนฺเน ภเย น ปริจฺจชติ. ชีวิตมฺปิสฺส อตฺถายาติ อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ตสฺส สหายสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตเมว โหติ, อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวาปิ ตสฺส กมฺมํ กโรติเยว.
๒๖๓. ปาปา นิวาเรตีติ อมฺเหสุ ปสฺสนฺเตสุ ปสฺสนฺเตสุ ตฺวํ เอวํ กาตุํ น ลภสิ, ปฺจ เวรานิ ทส อกุสลกมฺมปเถ มา กโรหีติ นิวาเรติ. กลฺยาเณ นิเวเสตีติ กลฺยาณกมฺเม ตีสุ สรเณสุ ปฺจสีเลสุ ทสกุสลกมฺมปเถสุ วตฺตสฺสุ, ทานํ เทหิ ปฺุํ กโรหิ ธมฺมํ สุณาหีติ เอวํ กลฺยาเณ นิโยเชติ. อสฺสุตํ สาเวตีติ อสฺสุตปุพฺพํ สุขุมํ นิปุณํ ¶ การณํ สาเวติ. สคฺคสฺส มคฺคนฺติ อิทํ กมฺมํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ เอวํ สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขติ.
๒๖๔. อภเวนสฺส น นนฺทตีติ ตสฺส อภเวน อวุฑฺฒิยา ปุตฺตทารสฺส วา ปริชนสฺส วา ตถารูปํ ปาริชฺุํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา น นนฺทติ, อนตฺตมโน โหติ. ภเวนาติ วุฑฺฒิยา ตถารูปสฺส สมฺปตฺตึ วา ¶ อิสฺสริยปฺปฏิลาภํ วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา นนฺทติ, อตฺตมโน โหติ. อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรตีติ ‘‘อสุโก วิรูโป น ปาสาทิโก ทุชฺชาติโก ทุสฺสีโล’’ติ วา วุตฺเต ‘‘เอวํ มา ภณิ, รูปวา จ โส ปาสาทิโก ¶ จ สุชาโต จ สีลสมฺปนฺโน จา’’ติอาทีหิ วจเนหิ ปรํ อตฺตโน สหายสฺส อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ. วณฺณํ ภณมานํ ปสํสตีติ ‘‘อสุโก รูปวา ปาสาทิโก สุชาโต สีลสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘อโห สุฏฺุ วทสิ, สุภาสิตํ ตยา, เอวเมตํ, เอส ปุริโส รูปวา ปาสาทิโก สุชาโต สีลสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ อตฺตโน สหายกสฺส ปรํ วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ.
๒๖๕. ชลํ อคฺคีว ภาสตีติ รตฺตึ ปพฺพตมตฺถเก ชลมาโน อคฺคิ วิย วิโรจติ.
โภเค สํหรมานสฺสาติ อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ อปีเฬตฺวา ธมฺเมน สเมน โภเค สมฺปิณฺเฑนฺตสฺส ราสึ กโรนฺตสฺส. ภมรสฺเสว อิรียโตติ ยถา ภมโร ปุปฺผานํ วณฺณคนฺธํ อโปถยํ ตุณฺเฑนปิ ปกฺเขหิปิ รสํ อาหริตฺวา อนุปุพฺเพน จกฺกปฺปมาณํ มธุปฏลํ กโรติ, เอวํ อนุปุพฺเพน มหนฺตํ โภคราสึ กโรนฺตสฺส. โภคา สนฺนิจยํ ยนฺตีติ ตสฺส โภคา นิจยํ คจฺฉนฺติ. กถํ? อนุปุพฺเพน อุปจิกาหิ สํวฑฺฒิยมาโน วมฺมิโก วิย. เตนาห ‘‘วมฺมิโกวุปจียตี’’ติ. ยถา วมฺมิโก อุปจิยติ, เอวํ นิจยํ ยนฺตีติ อตฺโถ.
สมาหตฺวาติ สมาหริตฺวา. อลมตฺโถติ ยุตฺตสภาโว สมตฺโถ วา ปริยตฺตรูโป ฆราวาสํ สณฺาเปตุํ.
อิทานิ ยถา วา ฆราวาโส สณฺเปตพฺโพ, ตถา โอวทนฺโต จตุธา วิภเช โภเคติอาทิมาห. ตตฺถ ส เว มิตฺตานิ คนฺถตีติ โส เอวํ วิภชนฺโต มิตฺตานิ คนฺถติ นาม อเภชฺชมานานิ เปติ. ยสฺส หิ โภคา สนฺติ, โส เอว มิตฺเต เปตุํ สกฺโกติ, น อิตโร.
เอเกน ¶ โภเค ภฺุเชยฺยาติ เอเกน โกฏฺาเสน โภเค ภฺุเชยฺย. ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเยติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ ปโยเชยฺย. จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺยาติ จตุตฺถํ โกฏฺาสํ นิธาเปตฺวา เปยฺย. อาปทาสุ ภวิสฺสตีติ กุลานฺหิ น สพฺพกาลํ เอกสทิสํ วตฺตติ, กทาจิ ราชาทิวเสน อาปทาปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ¶ เอวํ อาปทาสุ อุปฺปนฺนาสุ ภวิสฺสตีติ ‘‘เอกํ โกฏฺาสํ นิธาเปยฺยา’’ติ อาห ¶ . อิเมสุ ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ กตรโกฏฺาสํ คเหตฺวา กุสลํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘โภเค ภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตโกฏฺาสํ. ตโต คณฺหิตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ กปณทฺธิกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ, เปสการนฺหาปิตาทีนมฺปิ เวตนํ ทาตพฺพํ.
ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑวณฺณนา
๒๖๖. อิติ ภควา เอตฺตเกน กถามคฺเคน เอวํ คหปติปุตฺตสฺส อริยสาวโก จตูหิ การเณหิ อกุสลํ ปหาย ฉหิ การเณหิ โภคานํ อปายมุขํ วชฺเชตฺวา โสฬส มิตฺตานิ เสวนฺโต ฆราวาสํ สณฺเปตฺวา ทารภรณํ กโรนฺโต ธมฺมิเกน อาชีเวน ชีวติ, เทวมนุสฺสานฺจ อนฺตเร อคฺคิกฺขนฺโธ วิย วิโรจตีติ วชฺชนียธมฺมวชฺชนตฺถํ เสวิตพฺพธมฺมเสวนตฺถฺจ โอวาทํ ทตฺวา อิทานิ นมสฺสิตพฺพา ฉ ทิสา ทสฺเสนฺโต กถฺจ คหปติปุตฺตาติอาทิมาห.
ตตฺถ ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทีติ ยถา ฉหิ ทิสาหิ อาคมนภยํ น อาคจฺฉติ, เขมํ โหติ นิพฺภยํ เอวํ วิหรนฺโต ‘‘ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร เวทิตพฺพา’’ติอาทีสุ มาตาปิตโร ปุพฺพุปการิตาย ปุรตฺถิมา ทิสาติ เวทิตพฺพา. อาจริยา ทกฺขิเณยฺยตาย ทกฺขิณา ทิสาติ. ปุตฺตทารา ปิฏฺิโต อนุพนฺธนวเสน ปจฺฉิมา ทิสาติ. มิตฺตามจฺจา ยสฺมา โส มิตฺตามจฺเจ นิสฺสาย เต เต ทุกฺขวิเสเส อุตฺตรติ, ตสฺมา อุตฺตรา ทิสาติ. ทาสกมฺมกรา ปาทมูเล ปติฏฺานวเสน เหฏฺิมา ทิสาติ. สมณพฺราหฺมณา คุเณหิ อุปริ ิตภาเวน อุปริมา ทิสาติ เวทิตพฺพา.
๒๖๗. ภโต เน ภริสฺสามีติ อหํ มาตาปิตูหิ ถฺํ ปาเยตฺวา หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา มุเขน สิงฺฆาณิกํ อปเนตฺวา นหาเปตฺวา มณฺเฑตฺวา ภโต ภริโต ชคฺคิโต, สฺวาหํ อชฺช เต มหลฺลเก ปาทโธวนนฺหาปนยาคุภตฺตทานาทีหิ ภริสฺสามิ.
กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามีติ อตฺตโน กมฺมํ เปตฺวา มาตาปิตูนํ ราชกุลาทีสุ อุปฺปนฺนํ กิจฺจํ ¶ คนฺตฺวา กริสฺสามิ. กุลวํสํ สณฺเปสฺสามีติ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณาทึ อวินาเสตฺวา รกฺขนฺโตปิ ¶ กุลวํสํ สณฺเปติ นาม. มาตาปิตโร อธมฺมิกวํสโต หาเรตฺวา ¶ ธมฺมิกวํเส เปนฺโตปิ, กุลวํเสน อาคตานิ สลากภตฺตาทีนิ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตนฺโตปิ กุลวํสํ สณฺเปติ นาม. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กุลวํสํ สณฺเปสฺสามี’’ติ.
ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามีติ มาตาปิตโร อตฺตโน โอวาเท อวตฺตมาเน มิจฺฉาปฏิปนฺเน ทารเก วินิจฺฉยํ ปตฺวา อปุตฺเต กโรนฺติ, เต ทายชฺชารหา น โหนฺติ. โอวาเท วตฺตมาเน ปน กุลสนฺตกสฺส สามิเก กโรนฺติ, อหํ เอวํ วตฺติสฺสามีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามี’’ติ วุตฺตํ.
ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามีติ เตสํ ปตฺติทานํ กตฺวา ตติยทิวสโต ปฏฺาย ทานํ อนุปฺปทสฺสามิ. ปาปา นิวาเรนฺตีติ ปาณาติปาตาทีนํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อาทีนวํ วตฺวา, ‘‘ตาต, มา เอวรูปํ กรี’’ติ นิวาเรนฺติ, กตมฺปิ ครหนฺติ. กลฺยาเณ นิเวเสนฺตีติ อนาถปิณฺฑิโก วิย ลฺชํ ทตฺวาปิ สีลสมาทานาทีสุ นิเวเสนฺติ. สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺตีติ อตฺตโน โอวาเท ิตภาวํ ตฺวา วํสานุคตํ มุทฺทาคณนาทิสิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ. ปติรูเปนาติ กุลสีลรูปาทีหิ อนุรูเปน.
สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺตีติ สมเย ธนํ เทนฺติ. ตตฺถ นิจฺจสมโย กาลสมโยติ ทฺเว สมยา. นิจฺจสมเย เทนฺติ นาม ‘‘อุฏฺาย สมุฏฺาย อิมํ คณฺหิตพฺพํ คณฺห, อยํ เต ปริพฺพโย โหตุ, อิมินา กุสลํ กโรหี’’ติ เทนฺติ. กาลสมเย เทนฺติ นาม สิขาปนอาวาหวิวาหาทิสมเย เทนฺติ. อปิจ ปจฺฉิเม กาเล มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ‘‘อิมินา กุสลํ กโรหี’’ติ เทนฺตาปิ สมเย เทนฺติ นาม. ปฏิจฺฉนฺนา โหตีติ ยํ ปุรตฺถิมทิสโต ภยํ อาคจฺเฉยฺย, ยถา ตํ นาคจฺฉติ, เอวํ ปิหิตา โหติ. สเจ หิ ปุตฺตา วิปฺปฏิปนฺนา, อสฺสุ, มาตาปิตโร ทหรกาลโต ปฏฺาย ชคฺคนาทีหิ สมฺมา ปฏิปนฺนา, เอเต ทารกา, มาตาปิตูนํ อปฺปติรูปาติ เอตํ ภยํ อาคจฺเฉยฺย. ปุตฺตา สมฺมา ปฏิปนฺนา, มาตาปิตโร วิปฺปฏิปนฺนา, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ นานุรูปาติ เอตํ ภยํ อาคจฺเฉยฺย. อุโภสุ วิปฺปฏิปนฺเนสุ ทุวิธมฺปิ ตํ ภยํ โหติ. สมฺมา ¶ ปฏิปนฺเนสุ สพฺพํ น โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา’’ติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ภควา สิงฺคาลกํ เอตทโวจ – ‘‘น โข เต, คหปติปุตฺต, ปิตา โลกสมฺมตํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ นมสฺสาเปติ. มาตาปิตโร ปน ¶ ปุรตฺถิมทิสาสทิเส กตฺวา นมสฺสาเปติ. อยฺหิ เต ปิตรา ปุรตฺถิมา ทิสา อกฺขาตา, โน อฺา’’ติ.
๒๖๘. อุฏฺาเนนาติ อาสนา อุฏฺาเนน. อนฺเตวาสิเกน หิ อาจริยํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา หตฺถโต ภณฺฑกํ คเหตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา พีชนปาทโธวนปาทมกฺขนานิ กาตพฺพานิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อุฏฺาเนนา’’ติ. อุปฏฺาเนนาติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ อุปฏฺานคมเนน. สิปฺปุคฺคหณกาเล ปน อวสฺสกเมว คนฺตพฺพํ โหติ. สุสฺสูสายาติ สทฺทหิตฺวา สวเนน. อสทฺทหิตฺวา สุณนฺโต หิ วิเสสํ นาธิคจฺฉติ. ปาริจริยายาติ อวเสสขุทฺทกปาริจริยาย. อนฺเตวาสิเกน หิ อาจริยสฺส ปาโตว วุฏฺาย มุโขทกทนฺตกฏฺํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจกาเลปิ ปานียํ คเหตฺวา ปจฺจุปฏฺานาทีนิ กตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. กิลิฏฺวตฺถาทีนิ โธวิตพฺพานิ, สายํ นหาโนทกํ ปจฺจุปฏฺเปตพฺพํ. อผาสุกาเล อุปฏฺาตพฺพํ. ปพฺพชิเตนปิ สพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตํ กาตพฺพํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปาริจริยายา’’ติ. สกฺกจฺจํ สิปฺปปฏิคฺคหเณนาติ สกฺกจฺจํ ปฏิคฺคหณํ นาม โถกํ คเหตฺวา พหุวาเร สชฺฌายกรณํ, เอกปทมฺปิ วิสุทฺธเมว คเหตพฺพํ.
สุวินีตํ วิเนนฺตีติ ‘‘เอวํ เต นิสีทิตพฺพํ, เอวํ าตพฺพํ, เอวํ ขาทิตพฺพํ, เอวํ ภฺุชิตพฺพํ, ปาปมิตฺตา วชฺเชตพฺพา, กลฺยาณมิตฺตา เสวิตพฺพา’’ติ เอวํ อาจารํ สิกฺขาเปนฺติ วิเนนฺติ. สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺตีติ ยถา สุคฺคหิตํ คณฺหาติ, เอวํ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ โสเธตฺวา ปโยคํ ทสฺเสตฺวา คณฺหาเปนฺติ. มิตฺตามจฺเจสุ ปฏิยาเทนฺตีติ ‘‘อยํ อมฺหากํ อนฺเตวาสิโก พฺยตฺโต พหุสฺสุโต มยา สมสโม, เอตํ สลฺลกฺเขยฺยาถา’’ติ เอวํ คุณํ กเถตฺวา มิตฺตามจฺเจสุ ปติฏฺเปนฺติ.
ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺตีติ สิปฺปสิกฺขาปเนเนวสฺส สพฺพทิสาสุ ¶ รกฺขํ กโรนฺติ. อุคฺคหิตสิปฺโป หิ ยํ ยํ ทิสํ คนฺตฺวา สิปฺปํ ทสฺเสติ, ตตฺถ ตตฺถสฺส ลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชติ. โส อาจริเยน กโต นาม โหติ, คุณํ กเถนฺโตปิสฺส มหาชโน อาจริยปาเท โธวิตฺวา วสิตอนฺเตวาสิโก ¶ วต อยนฺติ ปมํ อาจริยสฺเสว คุณํ กเถนฺติ, พฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิสฺส ลาโภ อุปฺปชฺชมาโน อาจริยสนฺตโกว โหติ. อปิจ ยํ วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา คจฺฉนฺตํ อฏวิยํ โจรา น ปสฺสนฺติ, อมนุสฺสา วา ทีฆชาติอาทโย วา น วิเหเนฺติ, ตํ สิกฺขาเปนฺตาปิ ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺติ. ยํ วา โส ทิสํ คโต โหติ, ตโต ¶ กงฺขํ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตมนุสฺเส ‘‘เอติสฺสํ ทิสายํ อมฺหากํ อนฺเตวาสิโก วสติ, ตสฺส จ มยฺหฺจ อิมสฺมึ สิปฺเป นานากรณํ นตฺถิ, คจฺฉถ ตเมว ปุจฺฉถา’’ติ เอวํ อนฺเตวาสิกํ ปคฺคณฺหนฺตาปิ ตสฺส ตตฺถ ลาภสกฺการุปฺปตฺติยา ปริตฺตาณํ กโรนฺติ นาม, ปติฏฺํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๖๙. ตติยทิสาวาเร สมฺมานนายาติ เทวมาเต ติสฺสมาเตติ เอวํ สมฺภาวิตกถากถเนน. อนวมานนายาติ ยถา ทาสกมฺมกราทโย โปเถตฺวา วิเหเตฺวา กเถนฺติ, เอวํ หีเฬตฺวา วิมาเนตฺวา อกถเนน. อนติจริยายาติ ตํ อติกฺกมิตฺวา พหิ อฺาย อิตฺถิยา สทฺธึ ปริจรนฺโต ตํ อติจรติ นาม, ตถา อกรเณน. อิสฺสริยโวสฺสคฺเคนาติ อิตฺถิโย หิ มหาลตาสทิสมฺปิ อาภรณํ ลภิตฺวา ภตฺตํ วิจาเรตุํ อลภมานา กุชฺฌนฺติ, กฏจฺฉุํ หตฺเถ เปตฺวา ตว รุจิยา กโรหีติ ภตฺตเคเห วิสฺสฏฺเ สพฺพํ อิสฺสริยํ วิสฺสฏฺํ นาม โหติ, เอวํ กรเณนาติ อตฺโถ. อลงฺการานุปฺปทาเนนาติ อตฺตโน วิภวานุรูเปน อลงฺการทาเนน. สุสํวิหิตกมฺมนฺตาติ ยาคุภตฺตปจนกาลาทีนิ อนติกฺกมิตฺวา ตสฺส ตสฺส สาธุกํ กรเณน สุฏฺุ สํวิหิตกมฺมนฺตา. สงฺคหิตปริชนาติ สมฺมานนาทีหิ เจว ปเหณกเปสนาทีหิ จ สงฺคหิตปริชนา. อิธ ปริชโน นาม สามิกสฺส เจว อตฺตโน จ าติชโน. อนติจารินีติ สามิกํ มฺุจิตฺวา อฺํ มนสาปิ น ปตฺเถติ. สมฺภตนฺติ กสิวาณิชฺชาทีนิ กตฺวา อาภตธนํ. ทกฺขา ¶ จ โหตีติ ยาคุภตฺตสมฺปาทนาทีสุ เฉกา นิปุณา โหติ. อนลสาติ นิกฺโกสชฺชา. ยถา อฺา กุสีตา นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺนาว โหนฺติ ิตฏฺาเน ิตาว, เอวํ อหุตฺวา วิปฺผาริเตน จิตฺเตน สพฺพกิจฺจานิ นิปฺผาเทติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๐. จตุตฺถทิสาวาเร ¶ อวิสํวาทนตายาติ ยสฺส ยสฺส นามํ คณฺหาติ, ตํ ตํ อวิสํวาเทตฺวา อิทมฺปิ อมฺหากํ เคเห อตฺถิ, อิทมฺปิ อตฺถิ, คเหตฺวา คจฺฉาหีติ เอวํ อวิสํวาเทตฺวา ทาเนน. อปรปชา จสฺส ปฏิปูเชนฺตีติ สหายสฺส ปุตฺตธีตโร ปชา นาม, เตสํ ปน ปุตฺตธีตโร จ นตฺตุปนตฺตกา จ อปรปชา นาม. เต ปฏิปูเชนฺติ เกฬายนฺติ มมายนฺติ มงฺคลกาลาทีสุ เตสํ มงฺคลาทีนิ กโรนฺติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๗๑. ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนนาติ ทหเรหิ กาตพฺพํ มหลฺลเกหิ, มหลฺลเกหิ วา กาตพฺพํ ทหเรหิ, อิตฺถีหิ กาตพฺพํ ปุริเสหิ, ปุริเสหิ วา กาตพฺพํ อิตฺถีหิ อกาเรตฺวา ตสฺส ตสฺส พลานุรูเปเนว กมฺมนฺตสํวิธาเนน. ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนนาติ อยํ ขุทฺทกปุตฺโต, อยํ เอกวิหารีติ ¶ ตสฺส ตสฺส อนุรูปํ สลฺลกฺเขตฺวา ภตฺตทาเนน เจว ปริพฺพยทาเนน จ. คิลานุปฏฺาเนนาติ อผาสุกกาเล กมฺมํ อกาเรตฺวา สปฺปายเภสชฺชาทีนิ ทตฺวา ปฏิชคฺคเนน. อจฺฉริยานํ รสานํ สํวิภาเคนาติ อจฺฉริเย มธุรรเส ลภิตฺวา สยเมว อขาทิตฺวา เตสมฺปิ ตโต สํวิภาคกรเณน. สมเย โวสฺสคฺเคนาติ นิจฺจสมเย จ กาลสมเย จ โวสฺสชฺชเนน. นิจฺจสมเย โวสฺสชฺชนํ นาม สกลทิวสํ กมฺมํ กโรนฺตา กิลมนฺติ. ตสฺมา ยถา น กิลมนฺติ, เอวํ เวลํ ตฺวา วิสฺสชฺชนํ. กาลสมเย โวสฺสคฺโค นาม ฉณนกฺขตฺตกีฬาทีสุ อลงฺการภณฺฑขาทนียโภชนียาทีนิ ทตฺวา วิสฺสชฺชนํ. ทินฺนาทายิโนติ โจริกาย กิฺจิ อคเหตฺวา สามิเกหิ ทินฺนสฺเสว อาทายิโน. สุกตกมฺมกราติ ‘‘กึ เอตสฺส กมฺเมน กเตน, น มยํ ¶ กิฺจิ ลภามา’’ติ อนุชฺฌายิตฺวา ตุฏฺหทยา ยถา ตํ กมฺมํ สุกตํ โหติ, เอวํ การกา. กิตฺติวณฺณหราติ ปริสมชฺเฌ กถาย สมฺปตฺตาย ‘‘โก อมฺหากํ สามิเกหิ สทิโส อตฺถิ, มยํ อตฺตโน ทาสภาวมฺปิ น ชานาม, เตสํ สามิกภาวมฺปิ น ชานาม, เอวํ โน อนุกมฺปนฺตี’’ติ คุณกถาหารกา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๒. เมตฺเตน กายกมฺเมนาติอาทีสุ เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา กตานิ กายกมฺมาทีนิ เมตฺตานิ นาม วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขู นิมนฺเตสฺสามีติ วิหารคมนํ ¶ , ธมกรณํ คเหตฺวา อุทกปริสฺสาวนํ, ปิฏฺิปริกมฺมปาทปริกมฺมาทิกรณฺจ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. ภิกฺขู ปิณฺฑาย ปวิฏฺเ ทิสฺวา ‘‘สกฺกจฺจํ ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถา’’ติอาทิวจนฺเจว, สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมสวนฺจ สกฺกจฺจํ ปฏิสนฺถารกรณาทีนิ จ เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. ‘‘อมฺหากํ กุลูปกตฺเถรา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา’’ติ เอวํ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. อนาวฏทฺวารตายาติ อปิหิตทฺวารตาย. ตตฺถ สพฺพทฺวารานิ วิวริตฺวาปิ สีลวนฺตานํ อทายโก อการโก ปิหิตทฺวาโรเยว. สพฺพทฺวารานิ ปน ปิทหิตฺวาปิ เตสํ ทายโก การโก วิวฏทฺวาโรเยว. อิติ สีลวนฺเตสุ เคหทฺวารํ อาคเตสุ สนฺตํเยว นตฺถีติ อวตฺวา ทาตพฺพํ. เอวํ อนาวฏทฺวารตา นาม โหติ.
อามิสานุปฺปทาเนนาติ ปุเรภตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพกํ อามิสํ นาม, ตสฺมา สีลวนฺตานํ ยาคุภตฺตสมฺปทาเนนาติ อตฺโถ. กลฺยาเณน มนสา อนุกมฺปนฺตีติ ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ อเวรา อโรคา อพฺยาปชฺชา’’ติ เอวํ หิตผรเณน. อปิจ อุปฏฺากานํ เคหํ อฺเ สีลวนฺเต สพฺรหฺมจารี คเหตฺวา ปวิสนฺตาปิ กลฺยาเณน เจตสา อนุกมฺปนฺติ นาม. สุตํ ปริโยทาเปนฺตีติ ยํ เตสํ ปกติยา สุตํ อตฺถิ, ตสฺส อตฺถํ กเถตฺวา กงฺขํ วิโนเทนฺติ, ตถตฺตาย วา ปฏิปชฺชาเปนฺติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๓. อลมตฺโตติ ¶ ปุตฺตทารภรณํ กตฺวา อคารํ อชฺฌาวสนสมตฺโถ. ปณฺฑิโตติ ทิสานมสฺสนฏฺาเน ปณฺฑิโต หุตฺวา. สณฺโหติ ¶ สุขุมตฺถทสฺสเนน สณฺหวาจาภณเนน วา สณฺโห หุตฺวา. ปฏิภานวาติ ทิสานมสฺสนฏฺาเน ปฏิภานวา หุตฺวา นิวาตวุตฺตีติ นีจวุตฺติ. อตฺถทฺโธติ ถมฺภรหิโต. อุฏฺานโกติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโน. อนลโสติ นิกฺโกสชฺโช. อจฺฉินฺนวุตฺตีติ นิรนฺตรกรณวเสน อขณฺฑวุตฺติ. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยา ปฺาย สมนฺนาคโต.
สงฺคาหโกติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหกโร. มิตฺตกโรติ มิตฺตคเวสโน. วทฺูติ ปุพฺพการินา, วุตฺตวจนํ ชานาติ. สหายกสฺส ฆรํ คตกาเล ‘‘มยฺหํ สหายกสฺส เวนํ เทถ, สาฏกํ เทถ, มนุสฺสานํ ภตฺตเวตนํ เทถา’’ติ วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโต ตสฺส อตฺตโน เคหํ ¶ อาคตสฺส ตตฺตกํ วา ตโต อติเรกํ วา ปฏิกตฺตาติ อตฺโถ. อปิจ สหายกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา อิมํ นาม คณฺหิสฺสามีติ อาคตํ สหายกํ ลชฺชาย คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺตํ อนิจฺฉาริตมฺปิ ตสฺส วาจํ ตฺวา เยน อตฺเถน โส อาคโต, ตํ นิปฺผาเทนฺโต วทฺู นาม. เยน เยน วา ปน สหายกสฺส อูนํ โหติ, โอโลเกตฺวา ตํ ตํ เทนฺโตปิ วทฺูเยว. เนตาติ ตํ ตํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ปฺาย เนตา. วิวิธานิ การณานิ ทสฺเสนฺโต เนตีติ วิเนตา. ปุนปฺปุนํ เนตีติ อนุเนตา.
ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปุคฺคเล. รถสฺสาณีว ยายโตติ ยถา อาณิยา สติเยว รโถ ยาติ, อสติ น ยาติ, เอวํ อิเมสุ สงฺคเหสุ สติเยว โลโก วตฺตติ, อสติ น วตฺตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต’’ติ.
น มาตา ปุตฺตการณาติ ยทิ มาตา เอเต สงฺคเห ปุตฺตสฺส น กเรยฺย, ปุตฺตการณา มานํ วา ปูชํ วา น ลเภยฺย.
สงฺคหา เอเตติ อุปโยควจเน ปจฺจตฺตํ. ‘‘สงฺคเห เอเต’’ติ วา ปาโ. สมฺมเปกฺขนฺตีติ สมฺมา เปกฺขนฺติ. ปาสํสา จ ภวนฺตีติ ปสํสนียา จ ภวนฺติ.
๒๗๔. อิติ ภควา ยา ทิสา สนฺธาย เต คหปติปุตฺต ปิตา อาห ‘‘ทิสา นมสฺเสยฺยาสี’’ติ, อิมา ตา ฉ ทิสา. ยทิ ตฺวํ ปิตุ วจนํ กโรสิ, อิมา ทิสา นมสฺสาติ ทสฺเสนฺโต สิงฺคาลสฺส ปุจฺฉาย ตฺวา เทสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ราชคหํ ปิณฺฑาย ¶ ปาวิสิ ¶ . สิงฺคาลโกปิ สรเณสุ ปติฏฺาย จตฺตาลีสโกฏิธนํ พุทฺธสาสเน วิกิริตฺวา ปฺุกมฺมํ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. อิมสฺมิฺจ ปน สุตฺเต ยํ คิหีหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ นาม, ตํ อกถิตํ นตฺถิ, คิหิวินโย นามายํ สุตฺตนฺโต. ตสฺมา อิมํ สุตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมานสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานีติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนา
ปมภาณวารวณฺณนา
๒๗๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อาฏานาฏิยสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – จตุทฺทิสํ รกฺขํ เปตฺวาติ อสุรเสนาย นิวารณตฺถํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขํ เปตฺวา. คุมฺพํ เปตฺวาติ พลคุมฺพํ เปตฺวา. โอวรณํ เปตฺวาติ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขเก เปตฺวา. เอวํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อารกฺขํ สุสํวิหิตํ กตฺวา อาฏานาฏนคเร นิสินฺนา สตฺต พุทฺเธ อารพฺภ อิมํ ปริตฺตํ พนฺธิตฺวา ‘‘เย สตฺถุ ธมฺมอาณํ อมฺหากฺจ ราชอาณํ น สุณนฺติ, เตสํ อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ สาวนํ กตฺวา อตฺตโนปิ จตูสุ ทิสาสุ มหติยา จ ยกฺขเสนายาติอาทีหิ จตูหิ เสนาหิ อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา…เป… เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๒๐) เอวมาทีสุ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร ปณีตตโร จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) เอวมาทีสุ สุนฺทเร.
‘‘โก ¶ เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗);
เอวมาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมาติ (ปารา. ๑๕) เอวมาทีสุ อพฺภนุโมทเน ¶ . อิธ ปน ขเย. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, ปริกฺขีณาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ.
อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเป. วณฺณสทฺโท ปน ฉวิถุติกุลวคฺคการณสณฺานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙) เอวมาทีสุ ฉวิยํ. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต, คหปติ, อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ (ม. นิ. ๒.๗๗) เอวมาทีสุ ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , โภ โคตม, วณฺณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๖๖) เอวมาทีสุ กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) เอวมาทีสุ สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ (ปารา. ๖๐๒) เอวมาทีสุ ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยํ ทฏฺพฺโพ. เตน ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา อภิรูปจฺฉวี’’ติ วุตฺตํ โหติ.
เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสสเยภุยฺยอพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถวิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ (ปารา. ๑) เอวมาทีสุ อนวเสสตา อตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมาคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิตุกามา โหนฺตี’’ติ (มหาว. ๔๓) เอวมาทีสุ เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (มหาว. ๑) เอวมาทีสุ อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๕) เอวมาทีสุ อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต, ภนฺเต, อนุรุทฺธสฺส พาหิโก นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) เอวมาทีสุ ทฬฺหตฺถตา. ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๒) เอวมาทีสุ วิสํโยโค. อิธ ปนสฺส อนวเสสตฺโถ อธิปฺเปโต.
กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติเฉทนวิกปฺปเลสสมนฺตภาวาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส. ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีสุ อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ¶ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) เอวมาทีสุ โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีสุ กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๙๘) ¶ เอวมาทีสุ ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ (วิ. ว. ๑๐๙๔) เอวมาทีสุ เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ (จูฬว. ๔๔๖) เอวมาทีสุ วิกปฺโป, อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๘๐) เอวมาทีสุ เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๙๔) เอวมาทีสุ ¶ สมนฺตภาโว. อิธ ปน สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา ‘‘เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏ’’นฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต คิชฺฌกูฏนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
โอภาเสตฺวาติ วตฺถมาลาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทึสูติ เทวตานํ ทสพลสฺส สนฺติเก นิสินฺนฏฺานํ นาม น พหุ, อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ปริตฺตคารววเสน นิสีทึสุ.
๒๗๖. เวสฺสวโณติ กิฺจาปิ จตฺตาโร มหาราชาโน อาคตา, เวสฺสวโณ ปน ทสพลสฺส วิสฺสาสิโก กถาปวตฺตเน พฺยตฺโต สุสิกฺขิโต, ตสฺมา เวสฺสวโณ มหาราชา ภควนฺตํ เอตทโวจ. อุฬาราติ มเหสกฺขานุภาวสมฺปนฺนา. ปาณาติปาตา เวรมณิยาติ ปาณาติปาเต ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ตโต เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิวาสิโนติ เตสุ เสนาสเนสุ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิพทฺธวาสิโน. อาฏานาฏิยนฺติ อาฏานาฏนคเร พทฺธตฺตา เอวํนามํ. กึ ปน ภควโต อปจฺจกฺขธมฺโม นาม อตฺถีติ, นตฺถิ. อถ กสฺมา เวสฺสวโณ ‘‘อุคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติอาทิมาห? โอกาสกรณตฺถํ. โส หิ ภควนฺตํ อิมํ ปริตฺตํ สาเวตุํ โอกาสํ กาเรนฺโต เอวมาห. สตฺถุ กถิเต อิมํ ปริตฺตํ ครุ ภวิสฺสตีติปิ อาห. ผาสุวิหารายาติ คมนฏฺานาทีสุ จตูสุ อิริยาปเถสุ สุขวิหาราย.
๒๗๗. จกฺขุมนฺตสฺสาติ น วิปสฺสีเยว จกฺขุมา, สตฺตปิ พุทฺธา จกฺขุมนฺโต, ตสฺมา เอเกกสฺส พุทฺธสฺส เอตานิ สตฺต สตฺต นามานิ โหนฺติ. สพฺเพปิ พุทฺธา จกฺขุมนฺโต, สพฺเพ สพฺพภูตานุกมฺปิโน, สพฺเพ นฺหาตกิเลสตฺตา นฺหาตกา. สพฺเพ ¶ มารเสนาปมทฺทิโน, สพฺเพ วุสิตวนฺโต, สพฺเพ วิมุตฺตา, สพฺเพ องฺคโต รสฺมีนํ นิกฺขนฺตตฺตา องฺคีรสา. น เกวลฺจ พุทฺธานํ เอตาเนว สตฺต นามานิ อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ สคุเณน มเหสิโนติ วุตฺตํ.
เวสฺสวโณ ปน อตฺตโน ปากฏนามวเสน เอวมาห. เต ชนาติ อิธ ขีณาสวา ชนาติ อธิปฺเปตา. อปิสุณาถาติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อมุสา อปิสุณา อผรุสา มนฺตภาณิโนติ อตฺโถ ¶ . มหตฺตาติ ¶ มหนฺตภาวํ ปตฺตา. ‘‘มหนฺตา’’ติปิ ปาโ, มหนฺตาติ อตฺโถ. วีตสารทาติ นิสฺสารทา วิคตโลมหํสา.
หิตนฺติ เมตฺตาผรเณน หิตํ. ยํ นมสฺสนฺตีติ เอตฺถ ยนฺติ นิปาตมตฺตํ. มหตฺตนฺติ มหนฺตํ. อยเมว วา ปาโ, อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘เย จาปิ โลเก กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา ยถาภูตํ วิปสฺสิสุํ, วิชฺชาทิคุณสมฺปนฺนฺจ หิตํ เทวมนุสฺสานํ โคตมํ นมสฺสนฺติ, เต ชนา อปิสุณา, เตสมฺปิ นมตฺถู’’ติ. อฏฺกถายํ ปน เต ชนา อปิสุณาติ เต พุทฺธา อปิสุณาติ เอวํ ปมคาถาย พุทฺธานํเยว วณฺโณ กถิโต, ตสฺมา ปมคาถา สตฺตนฺนํ พุทฺธานํ วเสน วุตฺตา. ทุติยคาถาย ‘‘โคตม’’นฺติ เทสนามุขมตฺตเมตํ. อยมฺปิ หิ สตฺตนฺนํเยว วเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – โลเก ปณฺฑิตา เทวมนุสฺสา ยํ นมสฺสนฺติ โคตมํ, ตสฺส จ ตโต ปุริมานฺจ พุทฺธานํ นมตฺถูติ.
๒๗๘. ยโต อุคฺคจฺฉตีติ ยโต านโต อุเทติ. อาทิจฺโจติ อทิติยา ปุตฺโต, เววจนมตฺตํ วา เอตํ สูริยสทฺทสฺส. มหนฺตํ มณฺฑลํ อสฺสาติ มณฺฑลีมหา. ยสฺส จุคฺคจฺฉมานสฺสาติ ยมฺหิ อุคฺคจฺฉมาเน. สํวรีปิ นิรุชฺฌตีติ รตฺติ อนฺตรธายติ. ยสฺส จุคฺคเตติ ยสฺมึ อุคฺคเต.
รหโทติ อุทกรหโท. ตตฺถาติ ยโต อุคฺคจฺฉติ สูริโย, ตสฺมึ าเน. สมุทฺโทติ โย โส รหโทติ วุตฺโต, โส น อฺโ, อถ โข สมุทฺโท. สริโตทโกติ วิสโฏทโก, สริตา นานปฺปการา นทิโย อสฺส อุทเก ปวิฏฺาติ วา สริโตทโก. เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺตีติ ตํ รหทํ ตตฺถ เอวํ ชานนฺติ ¶ . กินฺติ ชานนฺติ? สมุทฺโท สริโตทโกติ เอวํ ชานนฺติ.
อิโตติ สิเนรุโต วา เตสํ นิสินฺนฏฺานโต วา. ชโนติ อยํ มหาชโน. เอกนามาติ อินฺทนาเมน เอกนามา. สพฺเพสํ กิร เตสํ สกฺกสฺส เทวรฺโ นามเมว นามมกํสุ. อสีติ ทส เอโก จาติ เอกนวุติชนา. อินฺทนามาติ อินฺโทติ เอวํนามา. พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนนฺติ กิเลสนิทฺทาปคมเนนาปิ พุทฺธํ. อาทิจฺเจน สมานโคตฺตตายปิ อาทิจฺจพนฺธุนํ. กุสเลน สเมกฺขสีติ อนวชฺเชน นิปุเณน วา สพฺพฺุตฺาเณน มหาชนํ โอโลเกสิ. อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺตีติ อมนุสฺสาปิ ตํ ‘‘สพฺพฺุตฺาเณน ¶ มหาชนํ โอโลเกสี’’ติ วตฺวา วนฺทนฺติ. สุตํ เนตํ อภิณฺหโสติ เอตํ อมฺเหหิ อภิกฺขณํ สุตํ. ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมนฺติ อมฺเหหิ ปุฏฺา ชินํ วนฺทาม โคตมนฺติ วทนฺติ.
๒๗๙. เยน ¶ เปตา ปวุจฺจนฺตีติ เปตา นาม กาลงฺกตา, เต เยน ทิสาภาเคน นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ. ปิสุณา ปิฏฺิมํสิกาติ ปิสุณาวาจา เจว ปิฏฺิมํสํ ขาทนฺตา วิย ปรมฺมุขา ครหกา จ. เอเต จ เยน นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ, สพฺเพปิ เหเต ทกฺขิณทฺวาเรน นีหริตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส ฑยฺหนฺตุ วา ฉิชฺชนฺตุ วา หฺนฺตุ วาติ เอวํ วุจฺจนฺติ. อิโต สา ทกฺขิณา ทิสาติ เยน ทิสาภาเคน เต เปตา จ ปิสุณาทิกา จ นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ, อิโต สา ทกฺขิณา ทิสา. อิโตติ สิเนรุโต วา เตสํ นิสินฺนฏฺานโต วา. กุมฺภณฺฑานนฺติ เต กิร เทวา มโหทรา โหนฺติ, รหสฺสงฺคมฺปิ จ เนสํ กุมฺโภ วิย มหนฺตํ โหติ. ตสฺมา กุมฺภณฺฑาติ วุจฺจนฺติ.
๒๘๐. ยตฺถ โจคฺคจฺฉติ สูริโยติ ยสฺมึ ทิสาภาเค สูริโย อตฺถํ คจฺฉติ.
๒๘๑. เยนาติ เยน ทิสาภาเคน. มหาเนรูติ มหาสิเนรุ ปพฺพตราชา. สุทสฺสโนติ โสวณฺณมยตฺตา สุนฺทรทสฺสโน. สิเนรุสฺส หิ ปาจีนปสฺสํ รชตมยํ, ทกฺขิณปสฺสํ มณิมยํ ¶ , ปจฺฉิมปสฺสํ ผลิกมยํ, อุตฺตรปสฺสํ โสวณฺณมยํ, ตํ มนฺุทสฺสนํ โหติ. ตสฺมา เยน ทิสาภาเคน สิเนรุ สุทสฺสโนติ อยเมตฺถตฺโถ. มนุสฺสา ตตฺถ ชายนฺตีติ ตตฺถ อุตฺตรกุรุมฺหิ มนุสฺสา ชายนฺติ. อมมาติ วตฺถาภรณปานโภชนาทีสุปิ มมตฺตวิรหิตา. อปริคฺคหาติ อิตฺถิปริคฺคเหน อปริคฺคหา. เตสํ กิร ‘‘อยํ มยฺหํ ภริยา’’ติ มมตฺตํ น โหติ, มาตรํ วา ภคินึ วา ทิสฺวา ฉนฺทราโค นุปฺปชฺชติ.
นปิ นียนฺติ นงฺคลาติ นงฺคลานิปิ ตตฺถ ‘‘กสิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ น เขตฺตํ นียนฺติ. อกฏฺปากิมนฺติ อกฏฺเ ภูมิภาเค อรฺเ สยเมว ชาตํ. ตณฺฑุลปฺผลนฺติ ตณฺฑุลาว ตสฺส ผลํ โหติ.
ตุณฺฑิกีเร ปจิตฺวานาติ อุกฺขลิยํ อากิริตฺวา นิทฺธุมงฺคาเรน อคฺคินา ปจิตฺวา. ตตฺถ กิร โชติกปาสาณา นาม โหนฺติ. อถ ¶ โข เต ตโย ปาสาเณ เปตฺวา ตํ อุกฺขลึ อาโรเปนฺติ. ปาสาเณหิ เตโช สมุฏฺหิตฺวา ตํ ปจติ. ตโต ภฺุชนฺติ โภชนนฺติ ตโต อุกฺขลิโต โภชนเมว ภฺุชนฺติ, อฺโ สูโป วา พฺยฺชนํ วา น โหติ, ภฺุชนฺตานํ จิตฺตานุกูโลเยวสฺส รโส โหติ. เต ตํ านํ สมฺปตฺตานํ เทนฺติเยว, มจฺฉริยจิตฺตํ นาม น โหติ. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทโยปิ มหิทฺธิกา ตตฺถ คนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ คณฺหนฺติ.
คาวึ ¶ เอกขุรํ กตฺวาติ คาวึ คเหตฺวา เอกขุรํ วาหนเมว กตฺวา. ตํ อภิรุยฺห เวสฺสวณสฺส ปริจารกา ยกฺขา. อนุยนฺติ ทิโสทิสนฺติ ตาย ตาย ทิสาย จรนฺติ. ปสุํ เอกขุรํ กตฺวาติ เปตฺวา คาวึ อวเสสจตุปฺปทชาติกํ ปสุํ เอกขุรํ วาหนเมว กตฺวา ทิโสทิสํ อนุยนฺติ.
อิตฺถึ วา วาหนํ กตฺวาติ เยภุยฺเยน คพฺภินึ มาตุคามํ วาหนํ กริตฺวา. ตสฺสา ปิฏฺิยา นิสีทิตฺวา จรนฺติ. ตสฺสา กิร ปิฏฺิ โอนมิตุํ สหติ. อิตรา ปน อิตฺถิโย ยาเน โยเชนฺติ. ปุริสํ วาหนํ กตฺวาติ ปุริเส คเหตฺวา ยาเน โยเชนฺติ. คณฺหนฺตา จ สมฺมาทิฏฺิเก คเหตุํ น สกฺโกนฺติ. เยภุยฺเยน ปจฺจนฺติมมิลกฺขุวาสิเก คณฺหนฺติ. อฺตโร กิเรตฺถ ¶ ชานปโท เอกสฺส เถรสฺส สมีเป นิสีทิตฺวา นิทฺทายติ, เถโร ‘‘อุปาสก อติวิย นิทฺทายสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อชฺช, ภนฺเต, สพฺพรตฺตึ เวสฺสวณทาเสหิ กิลมิโตมฺหี’’ติ อาห.
กุมารึ วาหนํ กตฺวาติ กุมาริโย คเหตฺวา เอกขุรํ วาหนํ กตฺวา รเถ โยเชนฺติ. กุมารวาหเนปิ เอเสว นโย. ปจารา ตสฺส ราชิโนติ ตสฺส รฺโ ปริจาริกา. หตฺถิยานํ อสฺสยานนฺติ น เกวลํ โคยานาทีนิเยว, หตฺถิอสฺสยานาทีนิปิ อภิรุหิตฺวา วิจรนฺติ. ทิพฺพํ ยานนฺติ อฺมฺปิ เนสํ พหุวิธํ ทิพฺพยานํ อุปฏฺิตเมว โหติ, เอตานิ ตาว เนสํ อุปกปฺปนยานานิ. เต ปน ปาสาเท วรสยนมฺหิ นิปนฺนาปิ ปีสิวิกาทีสุ จ นิสินฺนาปิ วิจรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปาสาทา สิวิกา เจวา’’ติ. มหาราชสฺส ยสสฺสิโนติ เอวํ อานุภาวสมฺปนฺนสฺส ยสสฺสิโน มหาราชสฺส เอตานิ ยานานิ นิพฺพตฺตนฺติ.
ตสฺส ¶ จ นครา อหุ อนฺตลิกฺเข สุมาปิตาติ ตสฺส รฺโ อากาเส สุฏฺุ มาปิตา เอเต อาฏานาฏาทิกา นครา อเหสุํ, นครานิ ภวึสูติ อตฺโถ. เอกฺหิสฺส นครํ อาฏานาฏา นาม อาสิ, เอกํ กุสินาฏา นาม, เอกํ ปรกุสินาฏา นาม, เอกํ นาฏสูริยา นาม, เอกํ ปรกุสิฏนาฏา นาม.
อุตฺตเรน กสิวนฺโตติ ตสฺมึ ตฺวา อุชุํ อุตฺตรทิสาย กสิวนฺโต นาม อฺํ นครํ. ชโนฆมปเรน จาติ เอตสฺส อปรภาเค ชโนฆํ นาม อฺํ นครํ. นวนวติโยติ อฺมฺปิ นวนวติโย นาม เอกํ นครํ. อปรํ อมฺพรอมฺพรวติโย นาม. อาฬกมนฺทาติ อปรมฺปิ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี.
ตสฺมา ¶ กุเวโร มหาราชาติ อยํ กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ กุเวโร นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา อุจฺฉุวปฺปํ กาเรตฺวา สตฺต ยนฺตานิ โยเชสิ. เอกิสฺสาย ยนฺตสาลาย อุฏฺิตํ อายํ อาคตาคตสฺส มหาชนสฺส ทตฺวา ปฺุํ อกาสิ. อวเสสสาลาหิ ตตฺเถว พหุตโร อาโย อุฏฺาสิ, โส เตน ปสีทิตฺวา อวเสสสาลาสุปิ อุปฺปชฺชนกํ คเหตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทานํ อทาสิ. โส กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิเกสุ กุเวโร นาม เทวปุตฺโต ชาโต. อปรภาเค วิสาณาย ราชธานิยา รชฺชํ กาเรสิ. ตโต ปฏฺาย เวสฺสวโณติ วุจฺจติ.
ปจฺเจสนฺโต ปกาเสนฺตีติ ปฏิเอสนฺโต วิสุํ วิสุํ อตฺเถ อุปปริกฺขมานา ¶ อนุสาสมานา อฺเ ทฺวาทส ยกฺขรฏฺิกา ปกาเสนฺติ. เต กิร ยกฺขรฏฺิกา สาสนํ คเหตฺวา ทฺวาทสนฺนํ ยกฺขโทวาริกานํ นิเวเทนฺติ. ยกฺขโทวาริกา ตํ สาสนํ มหาราชสฺส นิเวเทนฺติ. อิทานิ เตสํ ยกฺขรฏฺิกานํ นามํ ทสฺเสนฺโต ตโตลาติอาทิมาห. เตสุ กิร เอโก ตโตลา นาม, เอโก ตตฺตลา นาม, เอโก ตโตตลา นาม, เอโก โอชสิ นาม, เอโก เตชสิ นาม, เอโก ตโตชสี นาม. สูโร ราชาติ เอโก สูโร นาม, เอโก ราชา นาม, เอโก สูโรราชา นาม, อริฏฺโ เนมีติ เอโก อริฏฺโ นาม, เอโก เนมิ นาม, เอโก อริฏฺเนมิ นาม.
รหโทปิ ¶ ตตฺถ ธรณี นามาติ ตตฺถ ปเนโก นาเมน ธรณี นาม อุทกรหโท อตฺถิ, ปณฺณาสโยชนา มหาโปกฺขรณี อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ยโต เมฆา ปวสฺสนฺตีติ ยโต โปกฺขรณิโต อุทกํ คเหตฺวา เมฆา ปวสฺสนฺติ. วสฺสา ยโต ปตายนฺตีติ ยโต วุฏฺิโย อวตฺถรมานา นิคจฺฉนฺติ. เมเฆสุ กิร อุฏฺิเตสุ ตโต โปกฺขรณิโต ปุราณอุทกํ ภสฺสติ. อุปริ เมโฆ อุฏฺหิตฺวา ตํ โปกฺขรณึ นโวทเกน ปูเรติ. ปุราโณทกํ เหฏฺิมํ หุตฺวา นิกฺขมติ. ปริปุณฺณาย โปกฺขรณิยา วลาหกา วิคจฺฉนฺติ. สภาปีติ สภา. ตสฺสา กิร โปกฺขรณิยา ตีเร สาลวติยา นาม ลตาย ปริกฺขิตฺโต ทฺวาทสโยชนิโก รตนมณฺฑโป อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ปยิรุปาสนฺตีติ นิสีทนฺติ. ตตฺถ นิจฺจผลา รุกฺขาติ ตสฺมึ าเน ตํ มณฺฑปํ ปริวาเรตฺวา สทา ผลิตา อมฺพชมฺพุอาทโย รุกฺขา นิจฺจปุปฺผิตา จ จมฺปกมาลาทโยติ ทสฺเสติ. นานาทิชคณายุตาติ วิวิธปกฺขิสงฺฆสมากุลา. มยูรโกฺจาภิรุทาติ มยูเรหิ โกฺจสกุเณหิ จ อภิรุทา อุปคีตา.
ชีวฺชีวกสทฺเทตฺถาติ ‘‘ชีว ชีวา’’ติ เอวํ วิรวนฺตานํ ชีวฺชีวกสกุณานมฺปิ เอตฺถ สทฺโท ¶ อตฺถิ. โอฏฺวจิตฺตกาติ ‘‘อุฏฺเหิ, จิตฺต, อุฏฺเหิ จิตฺตา’’ติ เอวํ วสฺสมานา อุฏฺวจิตฺตกสกุณาปิ ตตฺถ วิจรนฺติ. กุกฺกุฏกาติ วนกุกฺกุฏกา. กุฬีรกาติ ¶ สุวณฺณกกฺกฏกา. วเนติ ปทุมวเน. โปกฺขรสาตกาติ โปกฺขรสาตกา นาม สกุณา.
สุกสาฬิกสทฺเทตฺถาติ สุกานฺจ สาฬิกานฺจ สทฺโท เอตฺถ. ทณฺฑมาณวกานิ จาติ มนุสฺสมุขสกุณา. เต กิร ทฺวีหิ หตฺเถหิ สุวณฺณทณฺฑํ คเหตฺวา เอกํ โปกฺขรปตฺตํ อกฺกมิตฺวา อนนฺตเร โปกฺขรปตฺเต สุวณฺณทณฺฑํ นิกฺขิปนฺตา วิจรนฺติ. โสภติ สพฺพกาลํ สาติ สา โปกฺขรณี สพฺพกาลํ โสภติ. กุเวรนฬินีติ กุเวรสฺส นฬินี ปทุมสรภูตา, สา ธรณี นาม โปกฺขรณี สทา นิรนฺตรํ โสภติ.
๒๘๒. ยสฺส กสฺสจีติ อิทํ เวสฺสวโณ อาฏานาฏิยํ รกฺขํ นิฏฺเปตฺวา ตสฺสา ปริกมฺมํ ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ สุคฺคหิตาติ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ ปริโสเธตฺวา สุฏฺุ อุคฺคหิตา. สมตฺตา ปริยาปุตาติ ปทพฺยฺชนานิ อหาเปตฺวา ¶ ปริปุณฺณํ อุคฺคหิตา. อตฺถมฺปิ ปาฬิมฺปิ วิสํวาเทตฺวา สพฺพโส วา ปน อปฺปคุณํ กตฺวา ภณนฺตสฺส หิ ปริตฺตํ เตชวนฺตํ น โหติ, สพฺพโส ปคุณํ กตฺวา ภณนฺตสฺเสว เตชวนฺตํ โหติ. ลาภเหตุ อุคฺคเหตฺวา ภณนฺตสฺสาปิ อตฺถํ น สาเธติ, นิสฺสรณปกฺเข ตฺวา เมตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ภณนฺตสฺเสว อตฺถาย โหตีติ ทสฺเสติ. ยกฺขปจาโรติ ยกฺขปริจารโก.
วตฺถุํ วาติ ฆรวตฺถุํ วา. วาสํ วาติ ตตฺถ นิพทฺธวาสํ วา. สมิตินฺติ สมาคมํ. อนาวยฺหนฺติ น อาวาหยุตฺตํ. อวิวยฺหนฺติ น วิวาหยุตฺตํ. เตน สห อาวาหวิวาหํ น กเรยฺยุนฺติ อตฺโถ. อตฺตาหิปิ ปริปุณฺณาหีติ ‘‘กฬารกฺขิ กฬารทนฺตา’’ติ เอวํ เอเตสํ อตฺตภาวํ อุปเนตฺวา วุตฺตาหิ ปริปุณฺณพฺยฺชนาหิ ปริภาสาหิ ปริภาเสยฺยุํ ยกฺขอกฺโกเสหิ นาม อกฺโกเสยฺยุนฺติ อตฺโถ. ริตฺตมฺปิสฺส ปตฺตนฺติ ภิกฺขูนํ ปตฺตสทิสเมว โลหปตฺตํ โหติ. ตํ สีเส นิกฺกุชฺชิตํ ยาว คลวาฏกา ภสฺสติ. อถ นํ มชฺเฌ อโยขีเลน อาโกเฏนฺติ.
จณฺฑาติ ¶ โกธนา. รุทฺธาติ วิรุทฺธา. รภสาติ กรณุตฺตริยา. เนว มหาราชานํ อาทิยนฺตีติ วจนํ น คณฺหนฺติ, อาณํ น กโรนฺติ. มหาราชานํ ปุริสกานนฺติ อฏฺวีสติยกฺขเสนาปตีนํ. ปุริสกานนฺติ ยกฺขเสนาปตีนํ เย มนสฺสา เตสํ. อวรุทฺธา นามาติ ปจฺจามิตฺตา เวริโน. อุชฺฌาเปตพฺพนฺติ ปริตฺตํ วตฺวา อมนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตุํ อสกฺโกนฺเตน เอเตสํ ยกฺขานํ อุชฺฌาเปตพฺพํ, เอเต ชานาเปตพฺพาติ อตฺโถ.
ปริตฺตปริกมฺมกถา
อิธ ¶ ปน ตฺวา ปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ กเถตพฺพํ. ปมเมว หิ อาฏานาฏิยสุตฺตํ น ภณิตพฺพํ, เมตฺตสุตฺตํ ธชคฺคสุตฺตํ รตนสุตฺตนฺติ อิมานิ สตฺตาหํ ภณิตพฺพานิ. สเจ มฺุจติ, สุนฺทรํ. โน เจ มฺุจติ, อาฏานาฏิยสุตฺตํ ภณิตพฺพํ, ตํ ภณนฺเตน ภิกฺขุนา ปิฏฺํ วา มํสํ วา น ขาทิตพฺพํ, สุสาเน น วสิตพฺพํ. กสฺมา? อมนุสฺสา โอกาสํ ลภนฺติ. ปริตฺตกรณฏฺานํ หริตุปลิตฺตํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปริสุทฺธํ อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
ปริตฺตการโก ¶ ภิกฺขุ วิหารโต ฆรํ เนนฺเตหิ ผลกาวุเธหิ ปริวาเรตฺวา เนตพฺโพ. อพฺโภกาเส นิสีทิตฺวา น วตฺตพฺพํ, ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา นิสินฺเนน อาวุธหตฺเถหิ สํปริวาริเตน เมตฺตจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ปมํ สิกฺขาปทานิ คาหาเปตฺวา สีเล ปติฏฺิตสฺส ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอวมฺปิ โมเจตุํ อสกฺโกนฺเตน วิหารํ อาเนตฺวา เจติยงฺคเณ นิปชฺชาเปตฺวา อาสนปูชํ กาเรตฺวา ทีเป ชาลาเปตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา มงฺคลกถา วตฺตพฺพา. สพฺพสนฺนิปาโต โฆเสตพฺโพ. วิหารสฺส อุปวเน เชฏฺกรุกฺโข นาม โหติ, ตตฺถ ภิกฺขุสงฺโฆ ตุมฺหากํ อาคมนํ ปฏิมาเนตีติ ปหิณิตพฺพํ. สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเน อนาคนฺตุํ นาม น ลพฺภติ. ตโต อมนุสฺสคหิตโก ‘‘ตฺวํ โก นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. นาเม กถิเต นาเมเนว อาลปิตพฺโพ. อิตฺถนฺนาม ตุยฺหํ มาลาคนฺธาทีสุ ปตฺติ อาสนปูชาย ปตฺติ ปิณฺฑปาเต ปตฺติ, ภิกฺขุสงฺเฆน ตุยฺหํ ปณฺณาการตฺถาย มหามงฺคลกถา วุตฺตา, ภิกฺขุสงฺเฆ ¶ คารเวน เอตํ มฺุจาหีติ โมเจตพฺโพ. สเจ น มฺุจติ, เทวตานํ อาโรเจตพฺพํ ‘‘ตุมฺเห ชานาถ, อยํ อมนุสฺโส อมฺหากํ วจนํ น กโรติ, มยํ พุทฺธอาณํ กริสฺสามา’’ติ ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอตํ ตาว คิหีนํ ปริกมฺมํ. สเจ ปน ภิกฺขุ อมนุสฺเสน คหิโต โหติ, อาสนานิ โธวิตฺวา สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา คนฺธมาลาทีสุ ปตฺตึ ทตฺวา ปริตฺตํ ภณิตพฺพํ. อิทํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ.
วิกฺกนฺทิตพฺพนฺติ สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา อฏฺวีสติ ยกฺขเสนาปตโย กนฺทิตพฺพา. วิรวิตพฺพนฺติ ‘‘อยํ ยกฺโข คณฺหาตี’’ติอาทีนิ ภณนฺเตน เตหิ สทฺธึ กเถตพฺพํ. ตตฺถ คณฺหาตีติ สรีเร อธิมุจฺจติ. อาวิสตีติ ตสฺเสว เววจนํ. อถ วา ลคฺคติ น อเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เหเตีติ อุปฺปนฺนํ โรคํ วฑฺเฒนฺโต พาธติ. วิเหเตีติ ตสฺเสว เววจนํ. หึสตีติ อปฺปมํสโลหิตํ กโรนฺโต ทุกฺขาเปติ. วิหึสตีติ ตสฺเสว เววจนํ. น มฺุจตีติ อปฺปมาทคาโห หุตฺวา มฺุจิตุํ น อิจฺฉติ, เอวํ เอเตสํ วิรวิตพฺพํ.
๒๘๓. อิทานิ ¶ เยสํ เอวํ วิรวิตพฺพํ, เต ทสฺเสตุํ กตเมสํ ยกฺขานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อินฺโท โสโมติอาทีนิ เตสํ นามานิ. เตสุ เวสฺสามิตฺโตติ ¶ เวสฺสามิตฺตปพฺพตวาสี เอโก ยกฺโข. ยุคนฺธโรปิ ยุคนฺธรปพฺพตวาสีเยว. หิริ เนตฺติ จ มนฺทิโยติ หิริ จ เนตฺติ จ มนฺทิโย จ. มณิ มาณิ วโร ทีโฆติ มณิ จ มาณิ จ วโร จ ทีโฆ จ. อโถ เสรีสโก สหาติ เตหิ สห อฺโ เสรีสโก นาม. ‘‘อิเมสํ ยกฺขานํ…เป… อุชฺฌาเปตพฺพ’’นฺติ อยํ ยกฺโข อิมํ เหเติ วิเหเติ น มฺุจตีติ เอวํ เอเตสํ ยกฺขเสนาปตีนํ อาโรเจตพฺพํ. ตโต เต ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺตโน ธมฺมอาณํ กโรติ, มยมฺปิ อมฺหากํ ยกฺขราชอาณํ กโรมาติ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสนฺติ. เอวํ อมนุสฺสานํ โอกาโส น ภวิสฺสติ, พุทฺธสาวกานํ ผาสุวิหาโร จ ภวิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ โข สา, มาริส, อาฏานาฏิยา รกฺขา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ, ตโต ปรฺจ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สงฺคีติสุตฺตวณฺณนา
๒๙๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สงฺคีติสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – จาริกํ จรมาโนติ นิพทฺธจาริกํ จรมาโน. ตทา กิร สตฺถา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ าณชาลํ ปตฺถริตฺวา โลกํ โวโลกยมาโน ปาวานครวาสิโน มลฺลราชาโน ทิสฺวา อิเม ราชาโน มยฺหํ สพฺพฺุตฺาณชาลสฺส อนฺโต ปฺายนฺติ, กึ นุ โขติ อาวชฺชนฺโต ‘‘ราชาโน เอกํ สนฺธาคารํ กาเรสุํ, มยิ คเต มงฺคลํ ภณาเปสฺสนฺติ, อหํ เตสํ มงฺคลํ วตฺวา อุยฺโยเชตฺวา ‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ธมฺมกถํ กเถหี’ติ สาริปุตฺตํ วกฺขามิ, สาริปุตฺโต ตีหิ ปิฏเกหิ สมฺมสิตฺวา จุทฺทสปฺหาธิเกน ปฺหสหสฺเสน ปฏิมณฺเฑตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สงฺคีติสุตฺตํ นาม กเถสฺสติ, สุตฺตนฺตํ อาวชฺเชตฺวา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมมตฺถํ ทิสฺวา จาริกํ ปกฺกนฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน’’ติ.
อุพฺภตกนวสนฺธาคารวณฺณนา
๒๙๗. อุพฺภตกนฺติ ตสฺส นามํ, อุจฺจตฺตา วา เอวํ วุตฺตํ. สนฺธาคารนฺติ นครมชฺเฌ สนฺธาคารสาลา. สมเณน วาติ เอตฺถ ยสฺมา ฆรวตฺถุปริคฺคหกาเลเยว เทวตา อตฺตโน วสนฏฺานํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เทเวน วาติ อวตฺวา ‘‘สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ภควโต อาคมนํ สุตฺวา ‘‘อมฺเหหิ คนฺตฺวาปิ น ภควา อานีโต, ทูตํ เปเสตฺวาปิ น ปกฺโกสาปิโต, สยเมว ปน มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร อมฺหากํ วสนฏฺานํ สมฺปตฺโต, อมฺเหหิ จ สนฺธาคารสาลา การิตา, เอตฺถ มยํ ทสพลํ อาเนตฺวา มงฺคลํ ภณาเปสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมึสุ.
๒๙๘. เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึสูติ ตํ ทิวสํ กิร ¶ สนฺธาคาเร จิตฺตกมฺมํ นิฏฺเปตฺวา อฏฺฏกา มุตฺตมตฺตา โหนฺติ, พุทฺธา จ นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา, อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา ¶ โน วา. ตสฺมา ภควโต มนํ ชานิตฺวาว ปฏิชคฺคิสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. อิทานิ ปน มนํ ลภิตฺวา ปฏิชคฺคิตุกามา เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ ¶ . สพฺพสนฺถรินฺติ ยถา สพฺพํ สนฺถตํ โหติ, เอวํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต มลฺลราชาโน สนฺธาคารํ ปฏิชคฺคิตฺวา นครวีถิโยปิ สมฺมชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ จ กทลิโย จ ปาเปตฺวา สกลนครํ ทีปมาลาทีหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ขีรปายเก ทารเก ขีรํ ปายฺเยถ, ทหเร กุมาเร ลหุํ ลหุํ โภชาเปตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตีติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ทณฺฑทีปิกํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.
๒๙๙. ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน อติวิย วิโรจติ, สมนฺตปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ อภิรูโป ทสฺสนีโย. ปุริมกายโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. ปจฺฉิมกายโต. ทกฺขิณหตฺถโต. วามหตฺถโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. อุปริ เกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวฏฺเฏหิ โมรคีววณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. เหฏฺา ปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถํ านํ คณฺหาติ. เอวํ สมนฺตา อสีติ หตฺถมตฺตํ านํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา วิธาวนฺติ. สพฺเพ ทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย สุวณฺณฆฏโต นิกฺขนฺตสุวณฺณรสธาราหิ สิฺจมานา วิย ปสาริตสุวณฺณปฏปริกฺขิตฺตา วิย เวรมฺภวาตสมุฏฺิตกึสุกกณิการปุปฺผจุณฺณสมากิณฺณา วิย จ วิปฺปกาสนฺติ.
ภควโตปิ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทฺวตฺตึสวรลกฺขณสมุชฺชลํ สรีรํ สมุคฺคตตารกํ วิย คคนตลํ, วิกสิตมิว ปทุมวนํ ¶ , สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสจนฺทานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺติราชานํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจติ. ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ภิกฺขูปิ สพฺเพว อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา โจทกา ปาปครหิโน สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ¶ ปฺาวิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา. เตหิ ปริวาริโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ ¶ , รตฺตปทุมวนสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา, ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ.
อสีติมหาเถราปิ นํ เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิตา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วนฺตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา. อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ พหุสฺสุตพุทฺเธหิ ปริวาริโต ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติราชา, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริโต มหาพฺรหฺมา, อสเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน ตสฺสํ ปริสติ นิสินฺโน ปาเวยฺยเก มลฺเล พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา อุยฺโยเชสิ.
เอตฺถ จ ธมฺมิกถา นาม สนฺธาคารอนุโมทนปฺปฏิสํยุตฺตา ปกิณฺณกกถา เวทิตพฺพา. ตทา หิ ภควา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย มหาชมฺพุํ มตฺถเก คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย โยชนิยมธุคณฺฑํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา มธุปานํ ปายมาโน วิย จ ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถสิ.
๓๐๐. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมว. อนุวิโลเกตฺวาติ ¶ มํสจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนาติ ทฺวีหิ จกฺขูหิ ตโต ตโต วิโลเกตฺวา. มํสจกฺขุนา หิ เนสํ พหิทฺธา อิริยาปถํ ปริคฺคเหสิ. ตตฺถ เอกภิกฺขุสฺสาปิ เนว หตฺถกุกฺกุจฺจํ น ปาทกุกฺกุจฺจํ อโหสิ, น โกจิ สีสมุกฺขิปิ, น กถํ กเถสิ, น นิทฺทายนฺโต นิสีทิ. สพฺเพปิ ตีหิ สิกฺขาหิ สิกฺขิตา นิวาเต ปทีปสิขา วิย นิจฺจลา นิสีทึสุ. อิติ เนสํ อิมํ อิริยาปถํ มํสจกฺขุนา ปริคฺคเหสิ. อาโลกํ ปน ¶ วฑฺฒยิตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา หทยรูปํ ทิสฺวา อพฺภนฺตรคตํ สีลํ โอโลเกสิ. โส อเนกสตานํ ภิกฺขูนํ อนฺโตกุมฺภิยํ ชลมานํ ปทีปํ วิย อรหตฺตุปคํ สีลํ อทฺทส. อารทฺธวิปสฺสกา หิ เต ภิกฺขู. อิติ เนสํ สีลํ ทิสฺวา ‘‘อิเมปิ ภิกฺขู มยฺหํ อนุจฺฉวิกา, อหมฺปิ อิเมสํ อนุจฺฉวิโก’’ติ จกฺขุตเลสุ นิมิตฺตํ เปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ โอโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ ‘‘ปิฏฺิ เม อาคิลายตี’’ติ. กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉพฺพสฺสานิ มหาปธานํ ¶ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ. อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ.
สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวาติ สนฺธาคารสฺส กิร เอกปสฺเส เต ราชาโน กปฺปิยมฺจกํ ปฺเปสุํ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา นิปชฺเชยฺยา’’ติ. สตฺถาปิ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ อิเมสํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตีติ ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา นิปชฺชิ.
ภินฺนนิคณฺวตฺถุวณฺณนา
๓๐๑. ตสฺส กาลงฺกิริยายาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๓๐๒. อามนฺเตสีติ ภณฺฑนาทิวูปสมกรํ สฺวาขฺยาตํ ธมฺมํ เทเสตุกาโม อามนฺเตสิ.
เอกกวณฺณนา
๓๐๓. ตตฺถาติ ตสฺมึ ธมฺเม. สงฺคายิตพฺพนฺติ สมคฺเคหิ คายิตพฺพํ, เอกวจเนหิ อวิรุทฺธวจเนหิ ภณิตพฺพํ. น วิวทิตพฺพนฺติ อตฺเถ วา พฺยฺชเน วา วิวาโท น กาตพฺโพ. เอโก ธมฺโมติ เอกกทุกติกาทิวเสน พหุธา สามคฺคิรสํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว ‘‘เอโก ธมฺโม’’ติ อาห. สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ สฺาภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารฏฺิติกาติ อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา. อิติ สพฺพสตฺตานํ ิติ เหตุ อาหาโร นาม เอโก ธมฺโม อมฺหากํ ¶ สตฺถารา ยาถาวโต ตฺวา สมฺมทกฺขาโต อาวุโสติ ทีเปติ.
นนุ ¶ จ เอวํ สนฺเต ยํ วุตฺตํ ‘‘อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ, (วิภ. ๑๐๑๗) ตํ วจนํ วิรุชฺฌตีติ, น วิรุชฺฌติ. เตสฺหิ ฌานํ อาหาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหาย. กตเม จตฺตาโร? กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทมฺปิ วิรุชฺฌตีติ, อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติ. เอตสฺมิฺหิ สุตฺเต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณาว ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย อาหาโรติ วุตฺโต. สพฺพธมฺมานฺหิ ¶ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นาม, ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติ. เตเนวาห ‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ปฺจนีวรณาติสฺส วจนียํ. ปฺจนีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ อาหาโร? อโยนิโสมนสิกาโรติสฺส วจนีย’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อยํ อิธ อธิปฺเปโต.
เอตสฺมิฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สพฺโพ คหิโตว โหติ. ตตฺถ อสฺภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ธี จิตฺตํ, ธิพฺพเตตํ จิตฺตํ จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ, จิตฺตฺหิ นิสฺสาเยว วธพนฺธาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. จิตฺเต อสติ นตฺเถตนฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลงฺกตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ิโต วา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา โหติ. เอวรูปานมฺปิ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา, ตเทว เนสํ ปจฺจโย โหติ. ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ, เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฏฺนฺติ. ตสฺมึ นิฏฺิเต ขีณเวโค สโร วิย ปตนฺติ. เย ปน เต เนรยิกา เนว อุฏฺานผลูปชีวี น ปฺุผลูปชีวีติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ ¶ ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโร. กึ ปฺจ อาหารา อตฺถีติ ¶ เจ. ปฺจ, น ปฺจาติ อิทํ น วตฺตพฺพํ. นนุ ปจฺจโย อาหาโรติ วุตฺตเมตํ. ตสฺมา เยน กมฺเมน เต นิรเย นิพฺพตฺตา, ตเทว เตสํ ิติปจฺจยตฺตา อาหาโร โหติ. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘น จ ตาว กาลงฺกโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐).
กพฬีการํ อาหารํ อารพฺภ เจตฺถ วิวาโท น กาตพฺโพ. มุเข อุปฺปนฺโน เขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติ. เขโฬปิ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนิโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สคฺเค สุขเวทนิโย. อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา. รูปารูปภเวสุ เปตฺวา อสฺํ เสสานํ ตโย. อสฺานฺเจว อวเสสานฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อาหาเรน ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ เอตํ ปฺหํ กเถตฺวา ‘‘อยํ โข อาวุโส’’ติ เอวํ นิยฺยาตนมฺปิ ‘‘อตฺถิ โข อาวุโส’’ติ ปุน อุทฺธรณมฺปิ อกตฺวา ‘‘สพฺเพ สตฺตา สงฺขารฏฺิติกา’’ติ ทุติยปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ.
กสฺมา ¶ ปน น นิยฺยาเตสิ น อุทฺธริตฺถ? ตตฺถ ตตฺถ นิยฺยาติยมาเนปิ อุทฺธริยมาเนปิ ปริยาปุณิตุํ วาเจตุํ ทุกฺขํ โหติ, ตสฺมา ทฺเว เอกาพทฺเธ กตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. อิมสฺมิมฺปิ วิสฺสชฺชเน เหฏฺา วุตฺตปจฺจโยว อตฺตโน ผลสฺส สงฺขรณโต สงฺขาโรติ วุตฺโต. อิติ เหฏฺา อาหารปจฺจโย กถิโต, อิธ สงฺขารปจฺจโยติ อยเมตฺถ เหฏฺิมโต วิเสโส. ‘‘เหฏฺา นิปฺปริยายาหาโร คหิโต, อิธ ปริยายาหาโรติ เอวํ คหิเต วิเสโส ปากโฏ ภเวยฺย, โน จ คณฺหึสู’ติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อินฺทฺริยพทฺธสฺสปิ หิ อนินฺทฺริยพทฺธสฺสปิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. วินา ปจฺจเยน ธมฺโม นาม นตฺถิ. ตตฺถ อนินฺทฺริยพทฺธสฺส ติณรุกฺขลตาทิโน ปถวีรโส อาโปรโส จ ปจฺจโย โหติ. เทเว อวสฺสนฺเต หิ ติณาทีนิ มิลายนฺติ, วสฺสนฺเต จ ปน หริตานิ โหนฺติ. อิติ เตสํ ปถวีรโส อาโปรโส จ ปจฺจโย โหติ. อินฺทฺริยพทฺธสฺส อวิชฺชา ตณฺหา กมฺมํ อาหาโรติ เอวมาทโย ปจฺจยา, อิติ เหฏฺา ปจฺจโยเยว อาหาโรติ กถิโต, อิธ สงฺขาโรติ. อยเมเวตฺถ วิเสโส.
อยํ ¶ โข, อาวุโสติ อาวุโส อมฺหากํ สตฺถารา มหาโพธิมณฺเฑ นิสีทิตฺวา สยํ สพฺพฺุตฺาเณน สจฺฉิกตฺวา อยํ เอกธมฺโม เทสิโต. ตตฺถ เอกธมฺเม ตุมฺเหหิ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ. ยถยิทํ พฺรหฺมจริยนฺติ ยถา สงฺคายมานานํ ตุมฺหากํ อิทํ สาสนพฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส. เอเกน หิ ภิกฺขุนา ¶ ‘‘อตฺถิ, โข อาวุโส, เอโก ธมฺโม สมฺมทกฺขาโต. กตโม เอโก ธมฺโม? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. สพฺเพ สตฺตา สงฺขารฏฺิติกา’’ติ กถิเต ตสฺส กถํ สุตฺวา อฺโ กเถสฺสติ. ตสฺสปิ อฺโติ เอวํ ปรมฺปรกถานิยเมน อิทํ พฺรหฺมจริยํ จิรํ ติฏฺมานํ สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺถาย หิตาย ภวิสฺสตีติ เอกกวเสน ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
เอกกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกวณฺณนา
๓๐๔. อิติ เอกกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทุกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ นามรูปทุเก นามนฺติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา นิพฺพานฺจ. ตตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามนฏฺเน นามํ. นามนฏฺเนาติ นามกรณฏฺเน. ยถา หิ มหาชนสมฺมตตฺตา มหาสมฺมตสฺส ¶ ‘‘มหาสมฺมโต’’ติ นามํ อโหสิ, ยถา มาตาปิตโร ‘‘อยํ ติสฺโส นาม โหตุ, ผุสฺโส นาม โหตู’’ติ เอวํ ปุตฺตสฺส กิตฺติมนามํ กโรนฺติ, ยถา วา ‘‘ธมฺมกถิโก วินยธโร’’ติ คุณโต นามํ อาคจฺฉติ, น เอวํ เวทนาทีนํ. เวทนาทโย หิ มหาปถวีอาทโย วิย อตฺตโน นามํ กโรนฺตาว อุปฺปชฺชนฺติ. เตสุ อุปฺปนฺเนสุ เตสํ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. น หิ เวทนํ อุปฺปนฺนํ ‘‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’’ติ, โกจิ ภณติ, น จสฺสา เยน เกนจิ การเณน นามคฺคหณกิจฺจํ อตฺถิ, ยถา ปถวิยา อุปฺปนฺนาย ‘‘ตฺวํ ปถวี นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, จกฺกวาฬสิเนรุมฺหิ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘ตฺวํ จกฺกวาฬํ นาม, ตฺวํ นกฺขตฺตํ นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ, โอปปาติกา ปฺตฺติ นิปตติ, เอวํ เวทนาย อุปฺปนฺนาย ‘‘ตฺวํ เวทนา นาม โหหี’’ติ นามคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ตาย อุปฺปนฺนาย เวทนาติ ¶ นามํ อุปฺปนฺนเมว โหติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย อตีเตปิ หิ เวทนา เวทนาเยว. สฺา. สงฺขารา. วิฺาณํ วิฺาณเมว. อนาคเตปิ. ปจฺจุปฺปนฺเนปิ. นิพฺพานํ ปน สทาปิ นิพฺพานเมวาติ. นามนฏฺเน นามํ. นมนฏฺเนาปิ เจตฺถ จตฺตาโร ขนฺธา นามํ. เต หิ อารมฺมณาภิมุขํ นมนฺติ. นามนฏฺเน สพฺพมฺปิ นามํ. จตฺตาโร หิ ขนฺธา อารมฺมเณ อฺมฺํ นาเมนฺติ ¶ , นิพฺพานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาย อตฺตนิ อนวชฺชธมฺเม นาเมติ.
รูปนฺติ จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปํ, ตํ สพฺพมฺปิ รุปฺปนฏฺเน รูปํ. ตสฺส วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
อวิชฺชาติ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ. อยมฺปิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาเยว. ภวตณฺหาติ ภวปตฺถนา. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๓๑๙).
ภวทิฏฺีติ ภโว วุจฺจติ สสฺสตํ, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. สา ‘‘ตตฺถ กตมา ภวทิฏฺิ? ‘ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’ติ ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๒๐) นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตา. วิภวทิฏฺีติ วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉทํ, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. สาปิ ‘‘ตตฺถ กตมา วิภวทิฏฺิ? ‘น ภวิสฺสติ อตฺตา จ โลโก จา’ติ (ธ. ส. ๒๘๕). ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๒๑) นเยน ตตฺเถว วิตฺถาริตา.
อหิริกนฺติ ¶ ‘‘ยํ น หิรียติ หิรียิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๒๘) เอวํ วิตฺถาริตา นิลฺลชฺชตา. อโนตฺตปฺปนฺติ ‘‘ยํ น โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๒๙) เอวํ วิตฺถาริโต อภายนกอากาโร.
หิรี จ โอตฺตปฺปฺจาติ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพน, โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๐-๓๑) เอวํ วิตฺถาริตานิ หิริโอตฺตปฺปานิ. อปิ เจตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปเตยฺยา หิรี, โลกาธิปเตยฺยํ โอตฺตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา.
โทวจสฺสตาติ ¶ ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคาหิมฺหิ วิปจฺจนีกสาเต อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ, ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ, ตสฺส ภาโว โทวจสฺสตา. วิตฺถารโต ปเนสา ‘‘ตตฺถ กตมา โทวจสฺสตา? สหธมฺมิเก วุจฺจมาเน โทวจสฺสาย’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๓๒) อภิธมฺเม อาคตา. สา อตฺถโต สงฺขารกฺขนฺโธ โหติ. ‘‘จตุนฺนฺจ ขนฺธานํ เอเตนากาเรน ปวตฺตานํ เอตํ อธิวจน’’นฺติ วทนฺติ. ปาปมิตฺตตาติ ¶ ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. วิตฺถารโต ปเนสา – ‘‘ตตฺถ กตมา ปาปมิตฺตตา? เย เต ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ทุสฺสีลา อปฺปสฺสุตา มจฺฉริโน ทุปฺปฺา. ยา เตสํ เสวนา นิเสวนา สํเสวนา ภชนา สํภชนา ภตฺติ สํภตฺติ ตํสมฺปวงฺกตา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๓) เอวํ อาคตา. สาปิ อตฺถโต โทวจสฺสตา วิย ทฏฺพฺพา.
โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ วุตฺตปฺปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพา. อุโภปิ ปเนตา อิธ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา.
อาปตฺติกุสลตาติ ‘‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺติโย. ยา ตาสํ อาปตฺตีนํ อาปตฺติกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๖) เอวํ วุตฺโต อาปตฺติกุสลภาโว.
อาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ‘‘ยา ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺานกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๗) เอวํ วุตฺตา สห กมฺมวาจาย อาปตฺตีหิ วุฏฺานปริจฺเฉทชานนา ปฺา.
สมาปตฺติกุสลตาติ ¶ ‘‘อตฺถิ สวิตกฺกสวิจารา สมาปตฺติ, อตฺถิ อวิตกฺกวิจารมตฺตา สมาปตฺติ, อตฺถิ อวิตกฺกอวิจารา สมาปตฺติ. ยา ตาสํ สมาปตฺตีนํ กุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๘) เอวํ วุตฺตา สห ปริกมฺเมน อปฺปนาปริจฺเฉทชานนา ปฺา. สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ ‘‘ยา ตาหิ สมาปตฺตีหิ วุฏฺานกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๙) เอวํ วุตฺตา ยถาปริจฺฉินฺนสมยวเสเนว สมาปตฺติโต วุฏฺานสมตฺถา ‘‘เอตฺตกํ คเต สูริเย อุฏฺหิสฺสามี’’ติ วุฏฺานกาลปริจฺเฉทกา ปฺา.
ธาตุกุสลตาติ ‘‘อฏฺารส ธาตุโย จกฺขุธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตุ. ยา ตาสํ ธาตูนํ กุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๐) เอวํ วุตฺตา อฏฺารสนฺนํ ¶ ธาตูนํ สภาวปริจฺเฉทกา สวนธารณสมฺมสนปฏิเวธปฺา. มนสิการกุสลตาติ ‘‘ยา ตาสํ ธาตูนํ มนสิการกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๑) เอวํ วุตฺตา ตาสํเยว ธาตูนํ สมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขณปฺา.
อายตนกุสลตาติ ‘‘ทฺวาทสายตนานิ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตนํ. ยา เตสํ อายตนานํ อายตนกุสลตา ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๒) เอวํ วุตฺตา ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อุคฺคหมนสิการปชานนา ปฺา. อปิจ ธาตุกุสลตาปิ อุคฺคหมนสิการสวนสมฺมสนปฏิเวธปจฺจเวกฺขเณสุ ¶ วตฺตติ มนสิการกุสลตาปิ อายตนกุสลตาปิ. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส, สวนอุคฺคหปจฺจเวกฺขณา โลกิยา, ปฏิเวโธ โลกุตฺตโร, สมฺมสนมนสิการา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตาติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… สมุทโย โหตีติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๓) เอวํ วุตฺตา ทฺวาทสนฺนํ ปจฺจยาการานํ อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตา ปฺา.
านกุสลตาติ ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ านนฺติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๔) เอวํ วุตฺตา ‘‘จกฺขุํ วตฺถุํ กตฺวา รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส จกฺขุรูปํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๔๔) านฺเจว การณฺจา’’ติ เอวํ านปริจฺฉินฺทนสมตฺถา ปฺา. อฏฺานกุสลตาติ ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๕) เอวํ วุตฺตา ‘‘จกฺขุํ วตฺถุํ กตฺวา รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา โสตวิฺาณาทีนิ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เตสํ จกฺขุรูปํ น านํ น การณ’’นฺติ เอวํ อฏฺานปริจฺฉินฺทนสมตฺถา ปฺา อปิจ เอตสฺมึ ทุเก ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, านาานกุสโล ¶ ภิกฺขูติ อลํ วจนายาติ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ ปชานาติ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ, ยํ ปุถุชฺชโน กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๗) อิมินาปิ สุตฺเตน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อชฺชวนฺติ ¶ โคมุตฺตวงฺกตา จนฺทวงฺกตา นงฺคลโกฏิวงฺกตาติ ตโย อนชฺชวา. เอกจฺโจ หิ ภิกฺขุ ปมวเย เอกวีสติยา อเนสนาสุ ฉสุ จ อโคจเรสุ จรติ, มชฺฌิมปจฺฉิมวเยสุ ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, อยํ โคมุตฺตวงฺกตา นาม. เอโก ปมวเยปิ ปจฺฉิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, มชฺฌิมวเย ปุริมสทิโส, อยํ จนฺทวงฺกตา นาม. เอโก ปมวเยปิ มชฺฌิมวเยปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ปูเรติ, ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ, ปจฺฉิมวเย ปุริมสทิโส อยํ นงฺคลโกฏิวงฺกตา นาม. เอโก สพฺพเมตํ วงฺกตํ ปหาย ตีสุปิ วเยสุ เปสโล ลชฺชี ¶ กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม โหติ. ตสฺส โย โส อุชุภาโว, อิทํ อชฺชวํ นาม. อภิธมฺเมปิ วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม อชฺชโว. ยา อชฺชวตา อชิมฺหตา อวงฺกตา อกุฏิลตา, อยํ วุจฺจติ อชฺชโว’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๖). ลชฺชวนฺติ ‘‘ตตฺถ กตโม ลชฺชโว? โย หิรียติ หิรียิตพฺเพน หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อยํ วุจฺจติ ลชฺชโว’’ติ เอวํ วุตฺโต ลชฺชีภาโว.
ขนฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา ขนฺติ? ยา ขนฺติ ขมนตา อธิวาสนตา อจณฺฑิกฺกํ อนสฺสุโรโป อตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๔๘) เอวํ วุตฺตา อธิวาสนขนฺติ. โสรจฺจนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมํ โสรจฺจํ? โย กายิโก อวีติกฺกโม, วาจสิโก อวีติกฺกโม, กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจํ. สพฺโพปิ สีลสํวโร โสรจฺจ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๔๙) เอวํ วุตฺโต สุรตภาโว.
สาขลฺยนฺติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ปหาย ยา สา วาจา เนฬา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ยา ตตฺถ สณฺหวาจตา สขิลวาจตา อผรุสวาจตา. อิทํ วุจฺจติ สาขลฺย’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๕๐) เอวํ วุตฺโต สมฺโมทกมุทุกภาโว. ปฏิสนฺถาโรติ อยํ โลกสนฺนิวาโส อามิเสน ธมฺเมน จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ¶ ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ. อภิธมฺเมปิ วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ กตโม ปฏิสนฺถาโร ¶ ? อามิสปฏิสนฺถาโร จ ธมฺมปฏิสนฺถาโร จ. อิเธกจฺโจ ปฏิสนฺถารโก โหติ อามิสปฏิสนฺถาเรน วา ธมฺมปฏิสนฺถาเรน วา. อยํ วุจฺจติ ปฏิสนฺถาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๕๑). เอตฺถ จ อามิเสน สงฺคโห อามิสปฏิสนฺถาโร นาม. ตํ กโรนฺเตน มาตาปิตูนํ ภิกฺขุคติกสฺส เวยฺยาวจฺจกรสฺส รฺโ โจรานฺจ อคฺคํ อคฺคเหตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. อามสิตฺวา ทินฺเน หิ ราชาโน จ โจรา จ อนตฺถมฺปิ กโรนฺติ ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาเปนฺติ, อนามสิตฺวา ทินฺเน อตฺตมนา โหนฺติ. โจรนาควตฺถุอาทีนิ เจตฺถ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ. ตานิ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถายํ ¶ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕-๗) วิตฺถาริตานิ. สกฺกจฺจํ อุทฺเทสทานํ ปาฬิวณฺณนา ธมฺมกถากถนนฺติ เอวํ ธมฺเมน สงฺคโห ธมฺมปฏิสนฺถาโร นาม.
อวิหึสาติ กรุณาปิ กรุณาปุพฺพภาโคปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา อวิหึสา? ยา สตฺเตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ, อยํ วุจฺจติ อวิหึสา’’ติ. โสเจยฺยนฺติ เมตฺตาย จ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส จ วเสน สุจิภาโว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ โสเจยฺยํ? ยา สตฺเตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, อิทํ วุจฺจติ โสเจยฺย’’นฺติ.
มุฏฺสฺสจฺจนฺติ สติวิปฺปวาโส, ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมํ มุฏฺสฺสจฺจํ? ยา อสติ อนนุสฺสติ อปฺปฏิสฺสติ อสฺสรณตา อธารณตา ปิลาปนตา สมฺมุสฺสนตา, อิทํ วุจฺจติ มุฏฺสฺสจฺจํ’’ (ธ. ส. ๑๓๕๖). อสมฺปชฺนฺติ, ‘‘ตตฺถ กตมํ อสมฺปชฺํ? ยํ อฺาณํ อทสฺสนํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูล’’นฺติ เอวํ วุตฺตา อวิชฺชาเยว. สติ สติเยว. สมฺปชฺํ าณํ.
อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตาติ ‘‘ตตฺถ กตมา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา? อิเธกจฺโจ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๕๒) นเยน วิตฺถาริโต อินฺทฺริยสํวรเภโท. โภชเน อมตฺตฺุตาติ ‘‘ตตฺถ กตมา โภชเน อมตฺตฺุตา? อิเธกจฺโจ อปฺปฏิสงฺขา อโยนิโส อาหารํ อาหาเรติ ทวาย มทาย มณฺฑนาย วิภูสนาย. ยา ตตฺถ อสนฺตุฏฺิตา อมตฺตฺุตา อปฺปฏิสงฺขา โภชเน’’ติ เอวํ อาคโต โภชเน อมตฺตฺุภาโว. อนนฺตรทุโก วุตฺตปฺปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.
ปฏิสงฺขานพลนฺติ ¶ ‘‘ตตฺถ กตมํ ปฏิสงฺขานพลํ? ยา ปฺา ปชานนา’’ติ เอวํ วิตฺถาริตํ ¶ อปฺปฏิสงฺขาย อกมฺปนาณํ. ภาวนาพลนฺติ ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ พลํ. อตฺถโต วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺคา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ ภาวนาพลํ? ยา กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺมํ, อิทํ วุจฺจติ ภาวนาพลํ. สตฺตโพชฺฌงฺคา ภาวนาพล’’นฺติ.
สติพลนฺติ อสฺสติยา อกมฺปนวเสน สติเยว. สมาธิพลนฺติ อุทฺธจฺเจ อกมฺปนวเสน สมาธิเยว. สมโถ ¶ สมาธิ. วิปสฺสนา ปฺา. สมโถว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปุน ปวตฺเตตพฺพสฺส สมถสฺส นิมิตฺตวเสน สมถนิมิตฺตํ ปคฺคาหนิมิตฺเตปิ เอเสว นโย. ปคฺคาโห วีริยํ. อวิกฺเขโป เอกคฺคตา. อิเมหิ ปน สติ จ สมฺปชฺฺจ ปฏิสงฺขานพลฺจ ภาวนาพลฺจ สติพลฺจ สมาธิพลฺจ สมโถ จ วิปฺปสฺสนา จ สมถนิมิตฺตฺจ ปคฺคาหนิมิตฺตฺจ ปคฺคาโห จ อวิกฺเขโป จาติ ฉหิ ทุเกหิ ปรโต สีลทิฏฺิสมฺปทาทุเกน จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา ธมฺมา กถิตา.
สีลวิปตฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลวิปตฺติ? กายิโก วีติกฺกโม…เป… สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ สีลวิปตฺตี’’ติ เอวํ วุตฺโต สีลวินาสโก อสํวโร. ทิฏฺิวิปตฺตีติ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิปตฺติ? นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติ เอวํ อาคตา สมฺมาทิฏฺิวินาสิกา มิจฺฉาทิฏฺิ.
สีลสมฺปทาติ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลสมฺปทา? กายิโก อวีติกฺกโม’’ติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตโสรจฺจเมว สีลสฺส สมฺปาทนโต ปริปูรณโต ‘‘สีลสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘สพฺโพปิ สีลสํวโร สีลสมฺปทา’’ติ อิทํ มานสิกปริยาทานตฺถํ วุตฺตํ. ทิฏฺิสมฺปทาติ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิสมฺปทา? อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺํ…เป… สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ ยา เอวรูปา ปฺา ปชานนา’’ติ เอวํ อาคตํ ทิฏฺิปาริปูริภูตํ าณํ.
สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ สีลํ. อภิธมฺเม ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา สีลวิสุทฺธิ? กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม, อยํ วุจฺจติ สีลวิสุทฺธี’’ติ เอวํ วิภตฺตา. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ ทสฺสนํ. อภิธมฺเม ปนายํ ‘‘ตตฺถ กตมา ทิฏฺิวิสุทฺธิ? กมฺมสฺสกตาณํ สจฺจานุโลมิกาณํ มคฺคสมงฺคิสฺสาณํ ผลสมงฺคิสฺสาณ’’นฺติ เอวํ วุตฺตา. เอตฺถ จ ติวิธํ ทุจฺจริตํ อตฺตนา ¶ กตมฺปิ ปเรน กตมฺปิ สกํ นาม น โหติ อตฺถภฺชนโต. สุจริตํ สกํ นาม อตฺถชนนโตติ เอวํ ชานนํ กมฺมสฺสกตาณํ ¶ นาม. ตสฺมึ ตฺวา พหุํ วฏฺฏคามิกมฺมํ อายูหิตฺวา ¶ สุขโต สุเขเนว อรหตฺตํ ปตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. วิปสฺสนาาณํ ปน วจีสจฺจฺจ อนุโลเมติ, ปรมตฺถสจฺจฺจ น วิโลเมตีติ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ วุตฺตํ.
‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธาน’’นฺติ เอตฺถ ทิฏฺิวิสุทฺธีติ าณทสฺสนํ กถิตํ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ ตํสมฺปยุตฺตเมว วีริยํ. อปิ จ ปุริมปเทน จตุมคฺคาณํ. ปจฺฉิมปเทน ตํสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. อภิธมฺเม ปน ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปนาติ ยา ปฺา ปชานนา อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ. ยถาทิฏฺิสฺส จ ปธานนฺติ โย เจตสิโก วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม’’ติ เอวํ อยํ ทุโก วิภตฺโต.
‘‘สํเวโค จ สํเวชนีเยสุ าเนสู’’ติ เอตฺถ ‘‘สํเวโคติ ชาติภยํ ชราภยํ พฺยาธิภยํ มรณภย’’นฺติ เอวํ ชาติอาทีนิ ภยโต ทสฺสนาณํ. สํเวชนียํ านนฺติ ชาติชราพฺยาธิมรณํ. เอตานิ หิ จตฺตาริ ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา, พฺยาธิ ทุกฺโข, มรณํ ทุกฺขนฺติ เอวํ สํเวคุปฺปตฺติการณตฺตา สํเวชนียํ านนฺติ วุตฺตานิ. สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธานนฺติ เอวํ สํเวคชาตสฺส อุปายปธานํ. ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนตี’’ติ เอวํ อาคตวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ.
อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ยา กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย อสนฺตุฏฺสฺส ภิยฺโยกมฺยตา, ตาย หิ สมงฺคีภูโต ปุคฺคโล สีลํ ปูเรตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทติ. ฌานํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ อารภติ. อารทฺธวิปสฺสโก อรหตฺตํ อคเหตฺวา อนฺตรา โวสานํ นาปชฺชติ. อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมินฺติ ‘‘กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย สกฺกจฺจกิริยตา สาตจฺจกิริยตา อฏฺิตกิริยตา อโนลีนวุตฺติตา อนิกฺขิตฺตฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตา อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺม’’นฺติ เอวํ วุตฺตา รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ชาคริยานุโยควเสน อารทฺเธ ปธานสฺมึ อรหตฺตํ อปตฺวา อนิวตฺตนตา.
วิชฺชาติ ¶ ติสฺโส วิชฺชา. วิมุตฺตีติ ทฺเว วิมุตฺติโย, จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ, นิพฺพานฺจ. เอตฺถ จ อฏฺ สมาปตฺติโย นีวรณาทีหิ สุฏฺุ มุตฺตตฺตา อธิมุตฺติ ¶ นาม. นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตโต มุตฺตตฺตา วิมุตฺตีติ เวทิตพฺพํ.
ขเย าณนฺติ กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณํ. อนุปฺปาเท าณนฺติ ปฏิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ วา อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปนฺเน อริยผเล าณํ. เตเนวาห ¶ ‘‘ขเย าณนฺติ มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ. อนุปฺปาเท าณนฺติ ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ. อิเม โข, อาวุโสติอาทิ เอกเก วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ ปฺจตึสาย ทุกานํ วเสน เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ทุกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติกวณฺณนา
๓๐๕. อิติ ทุกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน อารภิ. ตตฺถ ลุพฺภตีติ โลโภ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ทุสฺสตีติ โทโส. มุยฺหตีติ โมโห. เตสํ ปฏิปกฺขนเยน อโลภาทโย เวทิตพฺพา.
ทุฏฺุ จริตานิ, วิรูปานิ วา จริตานีติ ทุจฺจริตานิ. กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา ปวตฺตํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สุฏฺุ จริตานิ, สุนฺทรานิ วา จริตานีติ สุจริตานิ. ทฺเวปิ เจเต ติกา ปณฺณตฺติยา วา กมฺมปเถหิ วา กเถตพฺพา. ปฺตฺติยา ตาว กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม กายทุจฺจริตํ. อวีติกฺกโม กายสุจริตํ. วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม วจีทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม วจีสุจริตํ. อุภยตฺถ ปฺตฺตสฺส สิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโมว มโนทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม มโนสุจริตํ. อยํ ปณฺณตฺติกถา. ปาณาติปาตาทโย ปน ติสฺโส เจตนา กายทฺวาเรปิ วจีทฺวาเรปิ อุปฺปนฺนา กายทุจฺจริตํ. จตสฺโส มุสาวาทาทิเจตนา วจีทุจฺจริตํ. อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มโนทุจฺจริตํ. ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ติสฺโส ¶ เจตนาปิ วิรติโยปิ กายสุจริตํ. มุสาวาทาทีหิ วิรมนฺตสฺส จตสฺโส เจตนาปิ วิรติโยปิ วจีสุจริตํ. อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาทิฏฺีติ ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา ¶ มโนสุจริตนฺติ อยํ กมฺมปถกถา.
กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามวิตกฺโก หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทวิตกฺโก ¶ อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ. วิหึสาวิตกฺโก สงฺขาเรสุ นุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ. อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุนฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ.
เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก. โส อสุภปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ. อสุภชฺฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก. โส เมตฺตาปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ. เมตฺตาฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก. โส กรุณาปุพฺพภาเค กามาวจโร. กรุณาฌาเน รูปาวจโร. ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. ยทา อโลโภ สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา เมตฺตา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺตีติ. กามสงฺกปฺปาทโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เหตํ. อตฺถโต ปน กามวิตกฺกาทีนฺจ กามสงฺกปฺปาทีนฺจ นานากรณํ นตฺถิ.
กามปฏิสํยุตฺตา สฺา กามสฺา. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺตา สฺา พฺยาปาทสฺา. วิหึสาปฏิสํยุตฺตา สฺา วิหึสาสฺา. ตาสมฺปิ กามวิตกฺกาทีนํ ¶ วิย อุปฺปชฺชนากาโร เวทิตพฺโพ. ตํสมฺปยุตฺตาเยว หิ เอตา. เนกฺขมฺมสฺาทโยปิ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิสมฺปยุตฺตาเยว. ตสฺมา ตาสมฺปิ ตเถว กามาวจราทิภาโว เวทิตพฺโพ.
กามธาตุอาทีสุ ‘‘กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ กามธาตุ. สพฺเพปิ อกุสลา ¶ ธมฺมา กามธาตู’’ติ อยํ กามธาตุ. ‘‘พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทธาตุ. ทสสุ อาฆาตวตฺถูสุ จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฏิฆาโต อนตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ อยํ พฺยาปาทธาตุ. ‘‘วิหึสา ปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก มิจฺฉาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ วิหึสาธาตุ. อิเธกจฺโจ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา รชฺชุยา วา อฺตรฺตเรน วา สตฺเต วิเหเตี’’ติ อยํ วิหึสาธาตุ. ตตฺถ ทฺเว กถา สพฺพสงฺคาหิกา จ อสมฺภินฺนา จ. ตตฺถ กามธาตุยา คหิตาย อิตรา ทฺเว คหิตาว โหนฺติ, ตโต ปน นีหริตฺวา อยํ พฺยาปาทธาตุ อยํ วิหึสาธาตูติ ทสฺเสตีติ อยํ สพฺพสงฺคาหิกกถา นาม. กามธาตุํ กเถนฺโต ปน ภควา พฺยาปาทธาตุํ พฺยาปาทธาตุฏฺาเน ¶ , วิหึสาธาตุํ วิหึสาธาตุฏฺาเน เปตฺวา อวเสสํ กามธาตุ นามาติ กเถสีติ อยํ อสมฺภินฺนกถา นาม.
เนกฺขมฺมธาตุอาทีสุ ‘‘เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก สมฺมาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตุ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตู’’ติ อยํ เนกฺขมฺมธาตุ. ‘‘อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุ. ยา สตฺเตสุ เมตฺติ…เป… เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติ อยํ อพฺยาปาทธาตุ. ‘‘อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก…เป… อยํ วุจฺจติ อวิหึสาธาตุ. ยา สตฺเตสุ กรุณา…เป… กรุณาเจโตวิมุตฺตี’’ติ อยํ อวิหึสาธาตุ. อิธาปิ วุตฺตนเยเนว ทฺเว กถา เวทิตพฺพา.
อปราปิ ติสฺโส ธาตุโยติ อฺาปิ สฺุตฏฺเน ติสฺโส ธาตุโย. ตาสุ ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติ เอวํ วิตฺถาริโต กามภโว กามธาตุ นาม. ‘‘เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติ เอวํ วิตฺถาริตา ปน รูปารูปภวา อิตรา ทฺเว ธาตุโย. ธาตุยา อาคตฏฺานมฺหิ หิ ภเวน ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. ภวสฺส อาคตฏฺาเน ธาตุยา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. อิธ ภเวน ปริจฺเฉโท กถิโต. รูปธาตุอาทีสุ ¶ รูปารูปธาตุโย รูปารูปภวาเยว. นิโรธธาตุยา นิพฺพานํ กถิตํ.
หีนาทีสุ หีนา ธาตูติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. อวเสสา เตภูมกธมฺมา ¶ มชฺฌิมธาตุ. นว โลกุตฺตรธมฺมา ปณีตธาตุ.
กามตณฺหาติ ปฺจกามคุณิโก ราโค. รูปารูปภเวสุ ปน ราโค ฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค วิภวตณฺหา. อปิจ เปตฺวา ปจฺฉิมํ ตณฺหาทฺวยํ เสสตณฺหา กามตณฺหา นาม. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? ภวทิฏฺิสหคโต ราโค สาราโค จิตฺตสฺส สาราโค. อยํ วุจฺจติ ภวตณฺหา. ตตฺถ กตมา วิภวตณฺหา? อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค สาราโค จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ วิภวตณฺหา. อวเสสา ตณฺหา กามตณฺหา’’ติ. ปุน กามตณฺหาทีสุ ปฺจกามคุณิโก ราโค กามตณฺหา. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค อิตรา ทฺเว ตณฺหา. อภิธมฺเม ปเนตา ‘‘กามธาตุปฏิสํยุตฺโต…เป… อรูปธาตุปฏิสํยุตฺโต’’ติ เอวํ วิตฺถาริตา. อิมินา วาเรน กึ ทสฺเสติ? สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา รชนียฏฺเน ตณฺหาวตฺถุกาติ สพฺพตณฺหา กามตณฺหาย ปริยาทิยิตฺวา ตโต นีหริตฺวา อิตรา ทฺเว ตณฺหา ทสฺเสติ. รูปตณฺหาทีสุ รูปภเว ¶ ฉนฺทราโค รูปตณฺหา. อรูปภเว ฉนฺทราโค อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค นิโรธตณฺหา.
สํโยชนตฺติเก วฏฺฏสฺมึ สํโยชยนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ. สติ รูปาทิเภเท กาเย ทิฏฺิ, วิชฺชมานา วา กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ, น สกฺโกติ สนฺนิฏฺานํ กาตุนฺติ วิจิกิจฺฉา. สีลฺจ วตฺจ ปรามสตีติ สีลพฺพตปรามาโส. อตฺถโต ปน ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน อาคตา วีสติวตฺถุกา ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ นาม. ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทินา นเยน อาคตา อฏฺวตฺถุกา วิมติ วิจิกิจฺฉา นาม. ‘‘อิเธกจฺโจ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลพฺพเตน สุทฺธีติ สีลํ ปรามสติ, วตํ ปรามสติ, สีลพฺพตํ ปรามสติ. ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคต’’นฺติอาทินา นเยน อาคโต วิปริเยสคฺคาโห สีลพฺพตปรามาโส นาม.
ตโย ¶ อาสวาติ เอตฺถ จิรปาริวาสิยฏฺเน วา อาสวนฏฺเน วา อาสวา. ตตฺถ ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ, ‘‘ปุริมา ¶ , ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย ภวทิฏฺิยา, อิโต ปุพฺเพ ภวทิฏฺิ นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติ เอวํ ตาว จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา เวทิตพฺพา. จกฺขุโต รูเป สวติ อาสวติ สนฺทติ ปวตฺตติ. โสตโต สทฺเท. ฆานโต คนฺเธ. ชิวฺหาโต รเส. กายโต โผฏฺพฺเพ. มนโต ธมฺเม สวติ อาสวติ สนฺทติ ปวตฺตตีติ เอวํ อาสวนฏฺเน อาสวาติ เวทิตพฺพา.
ปาฬิยํ ปน กตฺถจิ ทฺเว อาสวา อาคตา ‘‘ทิฏฺธมฺมิกา จ อาสวา สมฺปรายิกา จ อาสวา’’ติ, กตฺถจิ ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อาสวา. กามาสโว ภวาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ ตโย. อภิธมฺเม เตเยว ทิฏฺาสเวน สทฺธึ จตฺตาโร. นิพฺเพธิกปริยาเย ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา นิรยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา ติรจฺฉานโยนิคามินิยา, อตฺถิ อาสวา เปตฺติวิสยคามินิยา, อตฺถิ อาสวา มนุสฺสโลกคามินิยา อตฺถิ อาสวา เทวโลกคามินิยา’’ติ เอวํ ปฺจ. ฉกฺกนิปาเต อาหุเนยฺยสุตฺเต ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อาสวา สํวรา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ปริวชฺชนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา อธิวาสนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา วิโนทนา ปหาตพฺพา, อตฺถิ อาสวา ภาวนา ปหาตพฺพา’’ติ เอวํ ฉ. สพฺพาสวปริยาเย เตเยว ทสฺสนาปหาตพฺเพหิ สทฺธึ สตฺต. อิมสฺมึ ปน สงฺคีติสุตฺเต ตโย. ตตฺถ ‘‘โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺโต ปฺจกามคุณิโก ¶ ราโค กามาสโว นาม. ‘‘โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺโต สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค, ภววเสน วา ปตฺถนา ภวาสโว นาม. ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา นเยน อาคตา อวิชฺชา อวิชฺชาสโว นามาติ. กามภวาทโย กามธาตุอาทิวเสน วุตฺตาเยว.
กาเมสนาทีสุ ‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? โย กาเมสุ กามจฺฉนฺโท กามชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา’’ติ เอวํ วุตฺโต กามคเวสนราโค กาเมสนา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา ภเวสนา? โย ภเวสุ ¶ ภวจฺฉนฺโท ภวชฺโฌสานํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา’’ติ เอวํ วุตฺโต ภวคเวสนราโค ภเวสนา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? สสฺสโต โลโกติ วา…เป… เนว โหติ น นโหติ ตถาคโต ปรมฺมรณาติ วา, ยา เอวรูปา ทิฏฺิ ทิฏฺิคตํ วิปริเยสคฺคาโห ¶ , อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ เอวํ วุตฺตา ทิฏฺิคติกสมฺมตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส คเวสนทิฏฺิ พฺรหฺมจริเยสนา นาม. น เกวลฺจ ภวราคทิฏฺิโยว, ตเทกฏฺํ กมฺมมฺปิ เอสนาเยว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตตฺถ กตมา กาเมสนา? กามราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ กาเมสนา. ตตฺถ กตมา ภเวสนา? ภวราโค ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ ภเวสนา. ตตฺถ กตมา พฺรหฺมจริเยสนา? อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ ตเทกฏฺํ อกุสลํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ, อยํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริเยสนา’’ติ.
วิธาสุ ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) อาการสณฺานํ วิธา นาม. ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถุ ทุวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) โกฏฺาโส. ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๙๒๐) มาโน วิธา นาม. อิธ โส อธิปฺเปโต. มาโน หิ เสยฺยาทิวเสน วิทหนโต วิธาติ วุจฺจติ. เสยฺโยหมสฺมีติ อิมินา เสยฺยสทิสหีนานํ วเสน ตโย มานา วุตฺตา. สทิสหีเนสุปิ เอเสว นโย.
อยฺหิ มาโน นาม เสยฺยสฺส ติวิโธ, สทิสสฺส ติวิโธ, หีนสฺส ติวิโธติ นววิโธ โหติ. ตตฺถ ‘‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ.
ราชา หิ รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ ¶ . ปพฺพชิโตปิ สีลธุตงฺคาทีหิ ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ‘‘เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ สีลธุตงฺคาทีหิปิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ‘‘เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส ¶ หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนวาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส มยฺหํ ราชาติ โวหารมุขมตฺตเมว, กึ ราชา นาม อหนฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร อหํ ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตกเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ กึ พหุสฺสุโต กึ มหาเถโร ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถีติ ¶ เอตํ มานํ กโรติ.
‘‘สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถีติ วา มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณนฺติ วา อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาหนฺติ วา เอเต มาเน กโรติ.
‘‘หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา ชาตา, อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโยติ วา ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กึ มยฺหํ นานากรณนฺติ วา กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺย อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ, กึ ทาโส นาม อหนฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.
เอตฺถ จ เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ, จ สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ จ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ จ อิเม ตโย มานา ยาถาวมานา นาม อรหตฺตมคฺควชฺฌา. เสสา ฉ มานา อยาถาวมานา นาม ปมมคฺควชฺฌา.
ตโย อทฺธาติ ตโย กาลา. อตีโต อทฺธาติอาทีสุ ทฺเวปริยายา สุตฺตนฺตปริยาโย จ อภิธมฺมปริยาโย จ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีโต อทฺธา นาม. จุติโต ปจฺฉา อนาคโต อทฺธา นาม. สห จุติปฏิสนฺธีหิ ตทนฺตรํ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อภิธมฺมปริยาเยน ตีสุ ขเณสุ ภงฺคโต อุทฺธํ อตีโต อทฺธา นาม. อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อนาคโต ¶ อทฺธา นาม. ขณตฺตเย ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา นาม. อตีตาทิเภโท จ นาม อยํ ธมฺมานํ โหติ, น กาลสฺส. อตีตาทิเภเท ¶ ปน ธมฺเม อุปาทาย อิธ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ กาโล เตเนว โวหาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ตโย อนฺตาติ ตโย โกฏฺาสา. ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๒๗๘) หิ อนฺโตเยว อนฺโต. ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) ปรภาโค อนฺโต. ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๘๐) เอตฺถ ลามกภาโว อนฺโต. ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, ปโม อนฺโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๑) โกฏฺาโส อนฺโต. อิธ โกฏฺาโส อธิปฺเปโต. สกฺกาโยติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. สกฺกายสมุทโยติ ¶ เตสํ นิพฺพตฺติกา ปุริมตณฺหา. สกฺกายนิโรโธติ อุภินฺนํ อปฺปวตฺติภูตํ นิพฺพานํ. มคฺโค ปน นิโรธาธิคมสฺส อุปายตฺตา นิโรเธ คหิเต คหิโตวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุกฺขทุกฺขตาติ ทุกฺขภูตา ทุกฺขตา. ทุกฺขเวทนาเยตํ นามํ. สงฺขารทุกฺขตาติ สงฺขารภาเวน ทุกฺขตา. อทุกฺขมสุขาเวทนาเยตํ นามํ. สา หิ สงฺขตตฺตา อุปฺปาทชราภงฺคปีฬิตา, ตสฺมา อฺทุกฺขสภาววิรหโต สงฺขารทุกฺขตาติ วุตฺตา. วิปริณามทุกฺขตาติ วิปริณาเม ทุกฺขตา. สุขเวทนาเยตํ นามํ. สุขสฺส หิ วิปริณาเม ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา สุขํ วิปริณามทุกฺขตาติ วุตฺตํ. อปิจ เปตฺวา ทุกฺขเวทนํ สุขเวทนฺจ สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ วจนโต สงฺขารทุกฺขตาติ เวทิตพฺพา.
มิจฺฉตฺตนิยโตติ มิจฺฉาสภาโว หุตฺวา นิยโต. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา สทฺธึ อานนฺตริยกมฺมสฺเสตํ นามํ. สมฺมาสภาเว นิยโต สมฺมตฺตนิยโต. จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. น นิยโตติ อนิยโต. อวเสสานํ ธมฺมานเมตํ นามํ.
ตโย ตมาติ ‘‘ตมนฺธกาโร สมฺโมโห อวิชฺโชโฆ มหาภโย’’ติ วจนโต อวิชฺชา ตโม นาม. อิธ ปน อวิชฺชาสีเสน วิจิกิจฺฉา วุตฺตา. อารพฺภาติ อาคมฺม. กงฺขตีติ กงฺขํ อุปฺปาเทติ. วิจิกิจฺฉตีติ วิจินนฺโต กิจฺฉํ อาปชฺชติ, สนฺนิฏฺาตุํ น สกฺโกติ. นาธิมุจฺฉตีติ ตตฺถ อธิมุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. น สมฺปสีทตีติ ตํ อารพฺภ ปสาทํ อาโรเปตุํ น สกฺโกติ.
อรกฺเขยฺยานีติ ¶ ¶ น รกฺขิตพฺพานิ. ตีสุ ทฺวาเรสุ ปจฺเจกํ รกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ, สพฺพานิ สติยา เอว รกฺขิตานีติ ทีเปติ. นตฺถิ ตถาคตสฺสาติ. ‘‘อิทํ นาม เม สหสา อุปฺปนฺนํ กายทุจฺจริตํ, อิมาหํ ยถา เม ปโร น ชานาติ ¶ , ตถา รกฺขามิ, ปฏิจฺฉาเทมี’’ติ เอวํ รกฺขิตพฺพํ นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. กึ ปน เสสขีณาสวานํ กายสมาจาราทโย อปริสุทฺธาติ? โน อปริสุทฺธา. น ปน ตถาคตสฺส วิย ปริสุทฺธา. อปฺปสฺสุตขีณาสโว หิ กิฺจาปิ โลกวชฺชํ นาปชฺชติ, ปณฺณตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา วิหารการํ กุฏิการํ สหคารํ สหเสยฺยนฺติ เอวรูปา กายทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชติ. สฺจริตฺตํ ปทโสธมฺมํ อุตฺตริฉปฺปฺจวาจํ ภูตาโรจนนฺติ เอวรูปา วจีทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชติ. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนวเสน มโนทฺวาเร รูปิยปฺปฏิคฺคาหณาปตฺตึ อาปชฺชติ, ธมฺมเสนาปติสทิสสฺสาปิ หิ ขีณาสวสฺส มโนทฺวาเร สอุปารมฺภวเสน มโนทุจฺจริตํ อุปฺปชฺชติ เอว.
จาตุมวตฺถุสฺมิฺหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ ปณามิตกาเล เตสํ อตฺถาย จาตุเมยฺยเกหิ สกฺเยหิ ภควติ ขมาปิเต เถโร ภควตา ‘‘กินฺติ เต สาริปุตฺต อโหสิ มยา ภิกฺขุสงฺเฆ ปณามิเต’’ติ ปุฏฺโ อหํ ปริสาย อพฺยตฺตภาเวน สตฺถารา ปณามิโต. อิโต ทานิ ปฏฺาย ปรํ น โอวทิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อาห ‘‘เอวํ โข เม, ภนฺเต, อโหสิ ภควตา ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโต, อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหริสฺสติ, มยมฺปิ ทานิ อปฺโปสฺสุกฺกา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺตา วิหริสฺสามา’’ติ.
อถสฺส ตสฺมึ มโนทุจฺจริเต อุปารมฺภํ อาโรเปนฺโต สตฺถา อาห – ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, สาริปุตฺต น โข เต, สาริปุตฺต, ปุนปิ เอวรูปํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. เอวํ ปรํ น โอวทิสฺสามิ นานุสาสิสฺสามีติ วิตกฺกิตมตฺตมฺปิ เถรสฺส มโนทุจฺจริตํ นาม ชาตํ. ภควโต ปน เอตฺตกํ นาม นตฺถิ, อนจฺฉริยฺเจตํ. สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส ทุจฺจริตํ น ภเวยฺย. โพธิสตฺตภูมิยํ ิตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ อนุยฺุชนฺตสฺสาปิ ปนสฺส นาโหสิ. อุทรจฺฉวิยา ปิฏฺิกณฺฏกํ อลฺลีนาย ‘‘กาลงฺกโต สมโณ โคตโม’’ติ เทวตานํ วิมติยา อุปฺปชฺชมานายปิ ‘‘สิทฺธตฺถ กสฺมา กิลมสิ? สกฺกา โภเค ¶ จ ภฺุชิตุํ ปฺุานิ จ กาตุ’’นฺติ มาเรน ปาปิมตา วุจฺจมานสฺส ‘‘โภเค ภฺุชิสฺสามี’’ติ วิตกฺกมตฺตมฺปิ นุปฺปชฺชติ. อถ นํ มาโร โพธิสตฺตกาเล ฉพฺพสฺสานิ พุทฺธกาเล เอกํ วสฺสํ ¶ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ วชฺชํ อปสฺสิตฺวา อิทํ วตฺวา ปกฺกามิ –
‘‘สตฺตวสฺสานิ ¶ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;
โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);
อปิจ อฏฺารสนฺนํ พุทฺธธมฺมานํ วเสนาปิ ภควโต ทุจฺจริตาภาโว เวทิตพฺโพ. อฏฺารส พุทฺธธมฺมา นาม นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, นตฺถิ วจีทุจฺจริตํ, นตฺถิ มโนทุจฺจริตํ, อตีเต พุทฺธสฺส อปฺปฏิหตาณํ, อนาคเต, ปจฺจุปฺปนฺเน พุทฺธสฺส อปฺปฏิหตาณํ, สพฺพํ กายกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ วจีกมฺมํ, สพฺพํ มโนกมฺมํ พุทฺธสฺส ภควโต าณานุปริวตฺติ, นตฺถิ ฉนฺทสฺส หานิ, นตฺถิ วีริยสฺส หานิ, นตฺถิ สติยา หานิ, นตฺถิ ทวา, นตฺถิ รวา, นตฺถิ จลิตํ นตฺถิ สหสา, นตฺถิ อพฺยาวโฏ มโน, นตฺถิ อกุสลจิตฺตนฺติ.
กิฺจนาติ ปลิโพธา. ราโค กิฺจนนฺติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต พนฺธติ ปลิพุนฺธติ ตสฺมา กิฺจนนฺติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.
อคฺคีติ อนุทหนฏฺเน อคฺคิ. ราคคฺคีติ ราโค อุปฺปชฺชมาโน สตฺเต อนุทหติ ฌาเปติ, ตสฺมา อคฺคีติ วุจฺจติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ วตฺถูนิ เอกา ทหรภิกฺขุนี จิตฺตลปพฺพตวิหาเร อุโปสถาคารํ คนฺตฺวา ทฺวารปาลรูปกํ โอโลกยมานา ิตา. อถสฺสา อนฺโต ราโค อุปฺปนฺโน. สา เตเนว ฌายิตฺวา กาลมกาสิ. ภิกฺขุนิโย คจฺฉมานา ‘‘อยํ ทหรา ิตา, ปกฺโกสถ, น’’นฺติ อาหํสุ. เอกา คนฺตฺวา กสฺมา ิตาสีติ หตฺเถ คณฺหิ. คหิตมตฺตา ปริวตฺติตฺวา ปปตา. อิทํ ตาว ราคสฺส อนุทหนตาย วตฺถุ. โทสสฺส ปน อนุทหนตาย มโนปโทสิกา เทวา. โมหสฺส อนุทหนตาย ขิฑฺฑาปโทสิกา เทวา ทฏฺพฺพา. โมหวเสน หิ ตาสํ สติสมฺโมโส โหติ. ตสฺมา ขิฑฺฑาวเสน อาหารกาลํ อติวตฺติตฺวา กาลงฺกโรนฺติ.
อาหุเนยฺยคฺคีติอาทีสุ ¶ อาหุนํ วุจฺจติ สกฺกาโร, อาหุนํ อรหนฺตีติ อาหุเนยฺยา. มาตาปิตโร หิ ปุตฺตานํ พหูปการตาย อาหุนํ ¶ อรหนฺติ. เตสุ วิปฺปฏิปชฺชมานา ปุตฺตา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ. ตสฺมา กิฺจาปิ มาตาปิตโร นานุทหนฺติ, อนุทหนสฺส ปน ปจฺจยา โหนฺติ. อิติ อนุทหนฏฺเน อาหุเนยฺยคฺคีติ วุจฺจนฺติ. สฺวายมตฺโถ มิตฺตวินฺทกวตฺถุนา ทีเปตพฺโพ –
มิตฺตวินฺทโก หิ มาตรา ‘‘ตาต, อชฺช อุโปสถิโก หุตฺวา วิหาเร สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ ¶ สุณ, สหสฺสํ เต ทสฺสามี’’ติ วุตฺโต ธนโลเภน อุโปสถํ สมาทาย วิหารํ คนฺตฺวา อิทํ านํ อกุโตภยนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา ธมฺมาสนสฺส เหฏฺา นิปนฺโน สพฺพรตฺตึ นิทฺทายิตฺวา ฆรํ อคมาสิ. มาตา ปาโตว ยาคุํ ปจิตฺวา อุปนาเมสิ. โส สหสฺสํ คเหตฺวาว ปิวิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ธนํ สํหริสฺสามี’’ติ. โส นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มาตา ‘‘ตาต, อิมสฺมึ กุเล จตฺตาลีสโกฏิธนํ อตฺถิ, อลํ คมเนนา’’ติ นิวาเรสิ. โส ตสฺสา วจนํ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ เอว. มาตา ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ปุรโต ติฏฺตี’’ติ ปาเทน ปหริตฺวา ปติตํ อนฺตรํ กตฺวา อคมาสิ.
มาตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘มาทิสาย มาตริ เอวรูปํ กมฺมํ กตฺวา คตสฺส เต คตฏฺาเน สุขํ ภวิสฺสตีติ เอวํสฺี นาม ตฺวํ ปุตฺตา’’ติ อาห. ตสฺส นาวํ อารุยฺห คจฺฉโต สตฺตเม ทิวเส นาวา อฏฺาสิ. อถ เต มนุสฺสา ‘‘อทฺธา เอตฺถ ปาปปุริโส อตฺถิ สลากํ เทถา’’ติ อาหํสุ. สลากา ทิยฺยมานา ตสฺเสว ติกฺขตฺตุํ ปาปุณาติ. เต ตสฺส อุฬุมฺปํ ทตฺวา ตํ สมุทฺเท ปกฺขิปึสุ. โส เอกํ ทีปํ คนฺตฺวา วิมานเปตีหิ สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตาหิ ‘‘ปุรโต ปุรโต มา อคมาสี’’ติ วุจฺจมาโนปิ ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณํ สมฺปตฺตึ ปสฺสนฺโต อนุปุพฺเพน ขุรจกฺกธรํ เอกํ อทฺทส. ตสฺส ตํ จกฺกํ ปทุมปุปฺผํ วิย อุปฏฺาสิ. โส ตํ อาห – ‘‘อมฺโภ, อิทํ ตยา ปิฬนฺธิตํ ปทุมํ มยฺหํ เทหี’’ติ. ‘‘น อิทํ สามิ ปทุมํ, ขุรจกฺกํ เอต’’นฺติ. โส ‘‘วฺเจสิ มํ, ตฺวํ กึ มยา ปทุมํ อทิฏฺปุพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตฺวํ โลหิตจนฺทนํ วิลิมฺปิตฺวา ปิฬนฺธนํ ปทุมปุปฺผํ มยฺหํ น ทาตุกาโมติ อาห. โส จินฺเตสิ ‘‘อยมฺปิ มยา กตสทิสํ กมฺมํ กตฺวา ตสฺส ผลํ ¶ อนุภวิตุกาโม’’ติ. อถ นํ ‘‘หนฺท เร’’ติ วตฺวา ตสฺส มตฺถเก จกฺกํ ปกฺขิปิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘จตุพฺภิ ¶ อฏฺชฺฌคมา, อฏฺาหิปิ จ โสฬส;
โสฬสาหิ จ พาตฺตึส, อตฺริจฺฉํ จกฺกมาสโท;
อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๐๔).
คหปตีติ ปน เคหสามิโก วุจฺจติ. โส มาตุคามสฺส สยนวตฺถาลงฺการาทิอนุปฺปทาเนน พหูปกาโร. ตํ อติจรนฺโต มาตุคาโม นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุทหนฏฺเน คหปตคฺคีติ วุตฺโต.
ตตฺถ วตฺถุ – กสฺสปพุทฺธสฺส กาเล โสตาปนฺนสฺส อุปาสกสฺส ภริยา อติจารินี อโหสิ ¶ . โส ตํ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา ‘‘กสฺมา ตฺวํ เอวํ กโรสี’’ติ อาห. สา ‘‘สจาหํ เอวรูปํ กโรมิ, อยํ เม สุนโข วิลุปฺปมาโน ขาทตู’’ติ วตฺวา กาลงฺกตฺวา กณฺณมุณฺฑกทเห เวมานิกเปตี หุตฺวา นิพฺพตฺตา. ทิวา สมฺปตฺตึ อนุภวติ, รตฺตึ ทุกฺขํ. ตทา พาราณสีราชา มิควํ จรนฺโต อรฺํ ปวิสิตฺวา อนุปุพฺเพน กณฺณมุณฺฑกทหํ สมฺปตฺโต ตาย สทฺธึ สมฺปตฺตึ อนุภวติ. สา ตํ วฺเจตฺวา รตฺตึ ทุกฺขํ อนุภวติ. โส ตฺวา ‘‘กตฺถ นุ โข คจฺฉตี’’ติ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา อวิทูเร ิโต กณฺณมุณฺฑกทหโต นิกฺขมิตฺวา ตํ ‘‘ปฏปฏ’’นฺติ ขาทมานํ เอกํ สุนขํ ทิสฺวา อสินา ทฺวิธา ฉินฺทิ. ทฺเว อเหสุํ. ปุน ฉินฺเน จตฺตาโร. ปุน ฉินฺเน อฏฺ. ปุน ฉินฺเน โสฬส อเหสุํ. สา ‘‘กึ กโรสิ สามี’’ติ อาห. โส ‘‘กึ อิท’’นฺติ อาห. สา ‘‘เอวํ อกตฺวา เขฬปิณฺฑํ ภูมิยํ นิฏฺุภิตฺวา ปาเทน ฆํสาหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. สุนขา อนฺตรธายึสุ. ตํ ทิวสํ ตสฺสา กมฺมํ ขีณํ. ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา คนฺตุํ อารทฺโธ. สา ‘‘มยฺหํ, สามิ, กมฺมํ ขีณํ มา อคมา’’ติ อาห. ราชา อสุตฺวาว คโต.
ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ เอตฺถ ปน ทกฺขิณาติ จตฺตาโร ปจฺจยา, ภิกฺขุสงฺโฆ ทกฺขิเณยฺโย. โส คิหีนํ ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ สีเลสุ ทสสุ สีเลสุ มาตาปิตุอุปฏฺาเน ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณอุปฏฺาเนติ เอวมาทีสุ กลฺยาณธมฺเมสุ นิโยชเนน พหูปกาโร, ตสฺมึ มิจฺฉาปฏิปนฺนา คิหี ภิกฺขุสงฺฆํ ¶ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตนฺติ, ตสฺมา โสปิ ปุริมนเยเนว อนุทหนฏฺเน ทกฺขิเณยฺยคฺคีติ ¶ วุตฺโต. อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ วิมานวตฺถุสฺมึ เรวตีวตฺถุ วิตฺถาเรตพฺพํ.
‘‘ติวิเธน รูปสงฺคโห’’ติ เอตฺถ ติวิเธนาติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ. สงฺคโหติ ชาติสฺชาติกิริยคณนวเสน จตุพฺพิโธ สงฺคโห. ตตฺถ สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตูติอาทิโก (ม. นิ. ๑.๔๖๒) ชาติสงฺคโห. สพฺเพ โกสลกาติอาทิโก สฺชาติสงฺคโห. สพฺเพ หตฺถาโรหาติอาทิโก กิริยสงฺคโห. จกฺขายตนํ กตมํ ขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตนฺติ อยํ คณนสงฺคโห, โส อิธ อธิปฺเปโต. ตสฺมา ติวิเธน รูปสงฺคโหติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ รูปคณนาติ อตฺโถ.
สนิทสฺสนาทีสุ อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺเตน จกฺขุวิฺาณสงฺขาเตน สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสนํ. จกฺขุปฏิหนนสมตฺถโต สห ปฏิเฆนาติ สปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต รูปายตนเมว. จกฺขุวิฺาณสงฺขาตํ นาสฺส นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนํ. โสตาทิปฏิหนนสมตฺถโต สห ปฏิเฆนาติ ¶ สปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต จกฺขายตนาทีนิ นว อายตนานิ. วุตฺตปฺปการํ นาสฺส นิทสฺสนนฺติ อนิทสฺสนํ. นาสฺส ปฏิโฆติ อปฺปฏิฆํ. ตํ อตฺถโต เปตฺวา ทสายตนานิ อวเสสํ สุขุมรูปํ.
ตโย สงฺขาราติ สหชาตธมฺเม เจว สมฺปราเย ผลธมฺเม จ สงฺขโรนฺติ ราสี กโรนฺตีติ สงฺขารา. อภิสงฺขโรตีติ อภิสงฺขาโร. ปฺุโ อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร.
‘‘ตตฺถ กตโม ปฺุาภิสงฺขาโร? กุสลา เจตนา กามาวจรา รูปาวจรา ทานมยา สีลมยา ภาวนามยา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ อฏฺนฺนํ กามาวจรกุสลมหาจิตฺตเจตนานํ, ปฺจนฺนํ รูปาวจรกุสลเจตนานฺเจตํ อธิวจนํ. เอตฺถ จ ทานสีลมยา อฏฺเว เจตนา โหนฺติ. ภาวนามยา เตรสาปิ. ยถา หิ ปคุณํ ธมฺมํ สชฺฌายมาโน เอกํ ทฺเว อนุสนฺธึ คโตปิ น ชานาติ, ปจฺฉา อาวชฺชนฺโต ชานาติ, เอวเมว กสิณปริกมฺมํ ¶ กโรนฺตสฺส ปคุณชฺฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส าณวิปฺปยุตฺตาปิ ภาวนา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภาวนามยา เตรสาปี’’ติ.
ตตฺถ ทานมยาทีสุ ‘‘ทานํ อารพฺภ ทานมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ ¶ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ทานมโย ปฺุาภิสงฺขาโร. สีลํ อารพฺภ, ภาวนํ อารพฺภ, ภาวนมธิกิจฺจ ยา อุปฺปชฺชติ เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ภาวนามโย ปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ อยํ สงฺเขปเทสนา.
จีวราทีสุ ปน จตูสุ ปจฺจเยสุ รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ อนฺนาทีสุ วา ทสสุ ทานวตฺถูสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค, ปริจฺจาคกาเล, ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตา เจตนา ทานมยา นาม. สีลปูรณตฺถาย ปน ปพฺพชิสฺสามีติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส, ปพฺพชนฺตสฺส มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปพฺพชิโต วตมฺหิ สาธุ สาธูติ อาวชฺชนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ สํวรนฺตสฺส, จีวราทโย ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส, อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตา เจตนา สีลมยา นาม.
ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส…เป… มนํ. รูเป. ธมฺเม. จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ. จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ. จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ. รูปสฺํ ¶ , ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ภาเวนฺตสฺส ปวตฺตา เจตนา ภาวนามยา นามา’’ติ อยํ วิตฺถารกถา.
อปฺุโ จ โส อภิสงฺขาโร จาติ อปฺุาภิสงฺขาโร. ทฺวาทสอกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ เจตนานํ เอตํ อธิวจนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตตฺถ กตโม อปฺุาภิสงฺขาโร? อกุสลเจตนา กามาวจรา, อยํ วุจฺจติ อปฺุาภิสงฺขาโร’’ติ. อาเนฺชํ นิจฺจลํ สนฺตํ วิปากภูตํ อรูปเมว อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. จตุนฺนํ อรูปาวจรกุสลเจตนานํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห ‘‘ตตฺถ กตโม อาเนฺชาภิสงฺขาโร? กุสลเจตนา อรูปาวจรา, อยํ วุจฺจติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร’’ติ.
ปุคฺคลตฺติเก ¶ สตฺตวิโธ ปุริสปุคฺคโล, ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ เสกฺโข. ขีณาสโว สิกฺขิตสิกฺขตฺตา ปุน น สิกฺขิสฺสตีติ อเสกฺโข. ปุถุชฺชโน สิกฺขาหิ ปริพาหิยตฺตา เนวเสกฺโข นาเสกฺโข.
เถรตฺติเก ¶ ชาติมหลฺลโก คิหี ชาติตฺเถโร นาม. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, เถรกรณา ธมฺมา. อิธ, ภิกฺขเว, เถโร สีลวา โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, จตุนฺนํ ฌานานํ ลาภี โหติ, อาสวานํ ขยา พหุสฺสุโต โหติ, จตุนฺนํ ฌานานํ ลาภี โหติ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร เถรกรณา ธมฺมา’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๒). เอวํ วุตฺเตสุ ธมฺเมสุ เอเกน วา อเนเกหิ วา สมนฺนาคโต ธมฺมเถโร นาม. อฺตโร เถรนามโก ภิกฺขูติ เอวํ เถรนามโก วา, ยํ วา ปน มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตํ สามเณราทโย ทิสฺวา เถโร เถโรติ วทนฺติ, อยํ สมฺมุติเถโร นาม.
ปฺุกิริยวตฺถูสุ ทานเมว ทานมยํ. ปฺุกิริยา จ สา เตสํ เตสํ อานิสํสานํ วตฺถุ จาติ ปฺุกิริยวตฺถุ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย. อตฺถโต ปน ปุพฺเพ วุตฺตทานมยเจตนาทิวเสเนว สทฺธึ ปุพฺพภาคอปรภาคเจตนาหิ อิมานิ ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. เอกเมกฺเจตฺถ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย กาเยน กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ โหติ. ตทตฺถํ วาจํ นิจฺฉาเรนฺตสฺส วจีกมฺมํ. กายงฺควาจงฺคํ อโจเปตฺวา มนสา จินฺเตนฺตสฺส มโนกมฺมํ. อนฺนาทีนิ เทนฺตสฺส จาปิ อนฺนทานาทีนิ เทมีติ วา ทานปารมึ อาวชฺเชตฺวา ¶ วา ทานกาเล ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ. วตฺตสีเส ตฺวา ททโต สีลมยํ. ขยโต วยโต สมฺมสนํ ปฏฺเปตฺวา ททโต ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ.
อปรานิปิ สตฺต ปฺุกิริยวตฺถูนิ อปจิติสหคตํ ปฺุกิริยวตฺถุ, เวยฺยาวจฺจสหคตํ, ปตฺตานุปฺปทานํ, ปตฺตพฺภนุโมทนํ, เทสนามยํ, สวนมยํ, ทิฏฺิชุคตํ ปฺุกิริยวตฺถูติ. ตตฺถ มหลฺลกํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนปตฺตจีวรปฺปฏิคฺคหณอภิวาทนมคฺคสมฺปทานาทิวเสน อปจิติสหคตํ เวทิตพฺพํ. วุฑฺฒตรานํ วตฺตปฺปฏิปตฺติกรณวเสน, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา คาเม ภิกฺขํ สมาทเปตฺวา อุปสํหรณวเสน, ‘‘คจฺฉ ภิกฺขูนํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ สุตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ปตฺตาหรณาทิวเสน จ เวยฺยาวจฺจสหคตํ ¶ เวทิตพฺพํ. จตฺตาโร ปจฺจเย ทตฺวา สพฺพสตฺตานํ ปตฺติ โหตูติ ปวตฺตนวเสน ปตฺตานุปฺปทานํ เวทิตพฺพํ. ปเรหิ ทินฺนาย ปตฺติยา สาธุ สุฏฺูติ อนุโมทนาวเสน ¶ ปตฺตพฺภนุโมทนํ เวทิตพฺพํ. เอโก ‘‘เอวํ มํ ‘ธมฺมกถิโก’ติ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อิจฺฉาย ตฺวา ลาภครุโก หุตฺวา เทเสติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก อตฺตโน ปคุณธมฺมํ อปจฺจาสีสมาโน ปเรสํ เทเสติ, อิทํ เทสนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ นาม. เอโก สุณนฺโต ‘‘อิติ มํ ‘สทฺโธ’ติ ชานิสฺสนฺตี’’ติ สุณาติ, ตํ น มหปฺผลํ. เอโก ‘‘เอวํ เม มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ หิตปฺผรเณน มุทุจิตฺเตน ธมฺมํ สุณาติ, อิทํ สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ. ทิฏฺิชุคตํ ปน สพฺเพสํ นิยมลกฺขณํ. ยํกิฺจิ ปฺุํ กโรนฺตสฺส หิ ทิฏฺิยา อุชุภาเวเนว มหปฺผลํ โหติ.
อิติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ ปฺุกิริยวตฺถูนํ ปุริเมเหว ตีหิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เอตฺถ หิ อปจิติเวยฺยาวจฺจานิ สีลมเย. ปตฺติทานปตฺตพฺภนุโมทนานิ ทานมเย. เทสนาสวนานิ ภาวนามเย. ทิฏฺิชุคตํ ตีสุปิ สงฺคหํ คจฺฉติ.
โจทนาวตฺถูนีติ โจทนาการณานิ. ทิฏฺเนาติ มํสจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา วีติกฺกมํ ทิสฺวา โจเทติ. สุเตนาติ ปกติโสเตน วา ทิพฺพโสเตน วา ปรสฺส สทฺทํ สุตฺวา โจเทติ. ปริสงฺกาย วาติ ทิฏฺปริสงฺกิเตน วา สุตปริสงฺกิเตน วา มุตปริสงฺกิเตน วา โจเทติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
กามูปปตฺติโยติ กามูปเสวนา กามปฺปฏิลาภา วา. ปจฺจุปฏฺิตกามาติ นิพทฺธกามา นิพทฺธารมฺมณา. เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติ ยถา มนุสฺสา. มนุสฺสา หิ นิพทฺเธเยว วตฺถุสฺมึ วสํ วตฺเตนฺติ ¶ . ยตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตา โหนฺติ, สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทตฺวา มาตุคามํ อาเนตฺวา นิพทฺธโภคํ ภฺุชนฺติ. เอกจฺเจ เทวา นาม จตุเทวโลกวาสิโน. เตปิ นิพทฺธวตฺถุสฺมึเยว วสํ วตฺเตนฺติ. เอกจฺเจ วินิปาติกา นาม เนรยิเก เปตฺวา อวเสสา มจฺฉกจฺฉปาทโยปิ หิ นิพทฺธวตฺถุสฺมึเยว วสํ วตฺเตนฺติ. มจฺโฉ อตฺตโน มจฺฉิยา กจฺฉโป กจฺฉปิยาติ ¶ . นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวาติ นีลปีตาทิวเสน ยาทิสํ ยาทิสํ อตฺตโน ¶ รูปํ อิจฺฉนฺติ, ตาทิสํ ตาทิสํ นิมฺมินิตฺวา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปุรโต มนาปกายิกา เทวตา วิย. นิมฺมานรตีติ เอวํ สยํ นิมฺมิเต นิมฺมิเต นิมฺมาเน รติ เอเตสนฺติ นิมฺมานรตี. ปรนิมฺมิตกามาติ ปเรหิ นิมฺมิตกามา. เตสฺหิ มนํ ตฺวา ปเร ยถารุจิตํ กามโภคํ นิมฺมินนฺติ, เต ตตฺถ วสํ วตฺเตนฺติ. กถํ ปรสฺส มนํ ชานนฺตีติ? ปกติเสวนวเสน. ยถา หิ กุสโล สูโท รฺโ ภฺุชนฺตสฺส ยํ ยํ โส พหุํ คณฺหาติ, ตํ ตํ ตสฺส รุจฺจตีติ ชานาติ, เอวํ ปกติยา อภิรุจิตารมฺมณํ ตฺวา ตาทิสกํเยว นิมฺมินนฺติ. เต ตตฺถ วสํ วตฺเตนฺติ, เมถุนํ เสวนฺติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘หสิตมตฺเตน โอโลกิตมตฺเตน อาลิงฺคิตมตฺเตน จ เตสํ กามกิจฺจํ อิชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอตํ ปน นตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ. น หิ กาเยน อผุสนฺตสฺส โผฏฺพฺพํ กามกิจฺจํ สาเธติ. ฉนฺนมฺปิ หิ กามาวจรานํ กามา ปากติกา เอว. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ฉ เอเต กามาวจรา, สพฺพกามสมิทฺธิโน;
สพฺเพสํ เอกสงฺขาตํ, อายุ ภวติ กิตฺตก’’นฺติ. (วิภ. ๑๐๒๓);
สุขูปปตฺติโยติ สุขปฺปฏิลาภา. อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปาเทตฺวา สุขํ วิหรนฺตีติ เต เหฏฺา ปมชฺฌานสุขํ นิพฺพตฺเตตฺวา อุปริ วิปากชฺฌานสุขํ อนุภวนฺตีติ อตฺโถ. สุเขน อภิสนฺนาติ ทุติยชฺฌานสุเขน ตินฺตา. ปริสนฺนาติ สมนฺตโต ตินฺตา. ปริปูราติ ปริปุณฺณา. ปริปฺผุฏาติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทมฺปิ วิปากชฺฌานสุขเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อโหสุขํ อโหสุขนฺติ เตสํ กิร ภวโลโภ มหา อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา กทาจิ กรหจิ เอวํ อุทานํ อุทาเนนฺติ. สนฺตเมวาติ ปณีตเมว. ตุสิตาติ ตโต อุตฺตรึ สุขสฺส อปตฺถนโต สนฺตุฏฺา หุตฺวา. สุขํ ปฏิเวเทนฺตีติ ตติยชฺฌานสุขํ อนุภวนฺติ.
เสกฺขา ปฺาติ สตฺต อริยปฺา. อรหโต ปฺา อเสกฺขา. อวเสสา ปฺา เนวเสกฺขานาเสกฺขา.
จินฺตามยาทีสุ ¶ ¶ ¶ อยํ วิตฺถาโร – ‘‘ตตฺถ กตมา จินฺตามยา ปฺา? โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา สิปฺปายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา วิชฺชาฏฺาเนสุ กมฺมสฺสกตํ วา สจฺจานุโลมิกํ วา รูปํ อนิจฺจนฺติ วา…เป… วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ วา ยํ เอวรูปํ อนุโลมิกํ ขนฺตึ ทิฏฺึ รุจึ มุตฺตึ เปกฺขํ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต อสุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ จินฺตามยา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุตมยา ปฺา? โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ…เป… ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต สุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ สุตมยา ปฺา. (ตตฺถ กตมา ภาวนามยา ปฺา?) สพฺพาปิ สมาปนฺนสฺส ปฺา ภาวนามยา ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๖๘-๖๙).
สุตาวุธนฺติ สุตเมว อาวุธํ. ตํ อตฺถโต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ตฺหิ นิสฺสาย ภิกฺขุ ปฺาวุธํ นิสฺสาย สูโร โยโธ อวิกมฺปมาโน มหากนฺตารํ วิย สํสารกนฺตารํ อติกฺกมติ อวิหฺมาโน. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗).
ปวิเวกาวุธนฺติ ‘‘กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโก’’ติ อยํ ติวิโธปิ วิเวโกว อาวุธํ. ตสฺส นานากรณํ กายวิเวโก วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ. อิมสฺมิฺหิ ติวิเธ วิเวเก อภิรโต, น กุโตจิ ภายติ. ตสฺมา อยมฺปิ อวสฺสยฏฺเน อาวุธนฺติ วุตฺโต. โลกิยโลกุตฺตรปฺาว อาวุธํ ปฺาวุธํ. ยสฺส สา อตฺถิ, โส น กุโตจิ ภายติ, น จสฺส โกจิ ภายติ. ตสฺมา สาปิ อวสฺสยฏฺเเนว อาวุธนฺติ วุตฺตา.
อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนฺติ อิโต ปุพฺเพ อนฺาตํ อวิทิตํ ธมฺมํ ชานิสฺสามีติ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปนฺนํ อินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติมคฺคาณสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺินฺทฺริยนฺติ อฺาภูตํ อาชานนภูตํ อินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติผลโต ปฏฺาย ฉสุ าเนสุ าณสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวีสุ ชานนกิจฺจปริโยสานปฺปตฺเตสุ ธมฺเมสุ อินฺทฺริยํ. อรหตฺตผลาณสฺเสตํ อธิวจนํ.
มํสจกฺขุ ¶ ¶ จกฺขุปสาโท. ทิพฺพจกฺขุ อาโลกนิสฺสิตํ าณํ. ปฺาจกฺขุ โลกิยโลกุตฺตรปฺา.
อธิสีลสิกฺขาทีสุ ¶ อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. อิตรสฺมึ ทฺวเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ สีลํ อธิสีลํ, จิตฺตํ อธิจิตฺตํ, ปฺา อธิปฺาติ อยํ ปเภโท เวทิตพฺโพ –
สีลํ นาม ปฺจสีลทสสีลานิ, ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตํ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ อธิจิตฺตํ. กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, วิปสฺสนาปฺา อธิปฺา. อนุปฺปนฺเนปิ หิ พุทฺธุปฺปาเท ปวตฺตตีติ ปฺจสีลทสสีลานิ สีลเมว, ปาติโมกฺขสํวรสีลํ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตตีติ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย. อปิจ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาทินฺนํ ปฺจสีลมฺปิ ทสสีลมฺปิ อธิสีลเมว. สมาปนฺนา อฏฺ สมาปตฺติโยปิ อธิจิตฺตเมว. สพฺพํ วา โลกิยํ สีลเมว, โลกุตฺตรํ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย.
ภาวนาสุ ขีณาสวสฺส ปฺจทฺวาริกกาโย กายภาวนา นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตภาวนา นาม. อรหตฺตผลปฺา ปฺาภาวนา นาม. ขีณาสวสฺส หิ เอกนฺเตเนว ปฺจทฺวาริกกาโย สุภาวิโต โหติ. อฏฺ สมาปตฺติโย จสฺส น อฺเสํ วิย ทุพฺพลา, ตสฺเสว จ ปฺา ภาวิตา นาม โหติ ปฺาเวปุลฺลปตฺติยา. ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.
อนุตฺตริเยสุ วิปสฺสนา ทสฺสนานุตฺตริยํ มคฺโค ปฏิปทานุสฺสริยํ. ผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. ผลํ วา ทสฺสนานุตฺตริยํ. มคฺโค ปฏิปทานุตฺตริยํ. นิพฺพานํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. นิพฺพานํ วา ทสฺสนานุตฺตริยํ, ตโต อุตฺตริฺหิ ทฏฺพฺพํ นาม นตฺถิ. มคฺโค ปฏิปทานุตฺตริยํ. ผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยํ. อนุตฺตริยนฺติ อุตฺตมํ เชฏฺกํ.
สมาธีสุ ปมชฺฌานสมาธิ สวิตกฺกสวิจาโร. ปฺจกนเยน ทุติยชฺฌานสมาธิ อวิตกฺกวิจารมตฺโต. เสโส อวิตกฺกอวิจาโร.
สฺุตาทีสุ ติวิธา กถา อาคมนโต, สคุณโต, อารมฺมณโตติ. อาคมนโต นาม เอโก ภิกฺขุ อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา อนตฺตโต ทิสฺวา อนตฺตโต วุฏฺาติ, ตสฺส วิปสฺสนา สฺุตา นาม โหติ. กสฺมา? อสฺุตตฺตการกานํ กิเลสานํ ¶ อภาวา. วิปสฺสนาคมเนน ¶ มคฺคสมาธิ สฺุโต นาม โหติ. มคฺคาคมเนน ผลสมาธิ สฺุโต นาม. อปโร อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต ทิสฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ. ตสฺส วิปสฺสนา อนิมิตฺตา ¶ นาม โหติ. กสฺมา? นิมิตฺตการกกิเลสาภาวา. วิปสฺสนาคมเนน มคฺคสมาธิ อนิมิตฺโต นาม โหติ. มคฺคาคมเนน ผลํ อนิมิตฺตํ นาม. อปโร ทุกฺขโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต ทิสฺวา ทุกฺขโต วุฏฺาติ, ตสฺส วิปสฺสนา อปฺปณิหิตา นาม โหติ. กสฺมา? ปณิธิการกกิเลสาภาวา. วิปสฺสนาคมเนน มคฺคสมาธิ อปฺปณิหิโต นาม. มคฺคาคมเนน ผลํ อปฺปณิหิตํ นามาติ อยํ อาคมนโต กถา. มคฺคสมาธิ ปน ราคาทีหิ สฺุตตฺตา สฺุโต, ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวา อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวา อปฺปณิหิโตติ อยํ สคุณโต กถา. นิพฺพานํ ราคาทีหิ สฺุตตฺตา ราคาทินิมิตฺตปณิธีนฺจ อภาวา สฺุตฺเจว อนิมิตฺตฺจ อปฺปณิหิตฺจ. ตทารมฺมโณ มคฺคสมาธิ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโต. อยํ อารมฺมณโต กถา.
โสเจยฺยานีติ สุจิภาวกรา โสเจยฺยปฺปฏิปทา ธมฺมา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ‘‘ตตฺถ กตมํ กายโสเจยฺยํ? ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตานํ ติณฺณํ สุจริตานํ วเสน เวทิตพฺโพ.
โมเนยฺยานีติ มุนิภาวกรา โมเนยฺยปฺปฏิปทา ธมฺมา. เตสํ วิตฺถาโร ‘‘ตตฺถ กตมํ กายโมเนยฺยํ? ติวิธกายทุจฺจริตสฺส ปหานํ กายโมเนยฺยํ, ติวิธํ กายสุจริตํ กายโมเนยฺยํ, กายารมฺมเณ าณํ กายโมเนยฺยํ, กายปริฺา กายโมเนยฺยํ, กายปริฺาสหคโต มคฺโค กายโมเนยฺยํ, กายสฺมึ ฉนฺทราคปฺปหานํ กายโมเนยฺยํ, กายสงฺขารนิโรธา จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ กายโมเนยฺยํ. ตตฺถ กตมํ วจีโมเนยฺยํ? จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสฺส ปหานํ วจีโมเนยฺยํ, จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ วจีโมเนยฺยํ, วาจารมฺมเณ าณํ วจีโมเนยฺยํ วาจาปริฺา วจีโมเนยฺยํ ปริฺาสหคโต มคฺโค, วาจาย ฉนฺทราคปฺปหานํ, วจีสงฺขารนิโรธา ทุติยชฺฌานสมาปตฺติ วจีโมเนยฺยํ. ตตฺถ กตมํ มโนโมเนยฺยํ? ติวิธมโนทุจฺจริตสฺส ปหานํ มโนโมเนยฺยํ ¶ , ติวิธํ มโนสุจริตํ มโนโมเนยฺยํ, มนารมฺมเณ าณํ มโนโมเนยฺยํ, มโนปริฺา มโนโมเนยฺยํ. ปริฺาสหคโต มคฺโค, มนสฺมึ ฉนฺทราคปฺปหานํ ¶ , จิตฺตสงฺขารนิโรธา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ มโนโมเนยฺย’’นฺติ (มหานิ. ๑๔).
โกสลฺเลสุ อาโยติ วุฑฺฒิ. อปาโยติ อวุฑฺฒิ. ตสฺส ตสฺส การณํ อุปาโย. เตสํ ปชานนา โกสลฺลํ. วิตฺถาโร ปน วิภงฺเค วุตฺโตเยว.
วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ กตมํ อายโกสลฺลํ? อิเม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อกุสลา ¶ ธมฺมา นุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อกุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺติ. อิเม วา ปน เม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺตีติ, ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ. อิทํ วุจฺจติ อายโกสลฺลํ. ตตฺถ กตมํ อปายโกสลฺลํ? อิเม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌนฺติ. อิเม วา ปน เม ธมฺเม มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ อกุสลา ธมฺมา ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺตีติ, ยา ตตฺถ ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ. อิทํ วุจฺจติ อปายโกสลฺลํ. สพฺพาปิ ตตฺรุปายา ปฺา อุปายโกสลฺล’’นฺติ (วิภ. ๗๗๑). อิทํ ปน อจฺจายิกกิจฺเจ วา ภเย วา อุปฺปนฺเน ตสฺส ติกิจฺฉนตฺถํ านุปฺปตฺติยา การณชานนวเสเนว เวทิตพฺพํ.
มทาติ มชฺชนาการวเสน ปวตฺตมานา. เตสุ ‘‘อหํ นิโรโค สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ, น เม หรีตกีขณฺฑมฺปิ ขาทิตปุพฺพํ, อิเม ปนฺเ อสุกํ นาม านํ รุชฺชติ, เภสชฺชํ ขาทามาติ วิจรนฺติ, โก อฺโ มาทิโส นิโรโค นามา’’ติ เอวํ มานกรณํ อาโรคฺยมโท. ‘‘มหลฺลกกาเล ปฺุํ กริสฺสาม, ทหรมฺห ตาวา’’ติ โยพฺพเน ตฺวา มานกรณํ โยพฺพนมโท. ‘‘จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ; สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’’ติ เอวํ มานกรณํ ชีวิตมโท.
อาธิปเตยฺเยสุ อธิปติโต อาคตํ อาธิปเตยฺยํ. ‘‘เอตฺตโกมฺหิ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา, น เม เอตํ ปติรูป’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ อธิปตฺตึ ¶ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปสฺส อกรณํ ¶ อตฺตาธิปเตยฺยํ นาม. โลกํ อธิปตึ กตฺวา อกรณํ โลกาธิปเตยฺยํ นาม. โลกุตฺตรธมฺมํ อธิปตึ กตฺวา อกรณํ ธมฺมาธิปเตยฺยํ นาม.
กถาวตฺถูนีติ กถาการณานิ. อตีตํ วา อทฺธานนฺติ อตีตํ ธมฺมํ, อตีตกฺขนฺเธติ อตฺโถ. อปิจ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ, ‘อโหสี’ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อโหสี’ติ ตสฺส ปฺตฺติ ‘อโหสี’ติ ตสฺส สมฺา, น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี’ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี’ติ (สํ. นิ. ๓.๖๒) เอวํ อาคเตน นิรุตฺติปถสุตฺเตนเปตฺถ อตฺโถ ทีเปตพฺโพ.
วิชฺชาติ ตมวิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา. วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณฺหิ ¶ อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพนิวาสํ ฉาเทตฺวา ิตํ ตมํ วิชฺฌติ, ปุพฺเพนิวาสฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. จุตูปปาตาณํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, ตฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. อาสวานํ ขเย าณํ จตุสจฺจจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, จตุสจฺจธมฺมฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา.
วิหาเรสุ อฏฺ สมาปตฺติโย ทิพฺโพ วิหาโร. จตสฺโส อปฺปมฺา พฺรหฺมา วิหาโร. ผลสมาปตฺติ อริโย วิหาโร.
ปาฏิหาริยานิ เกวฏฺฏสุตฺเต วิตฺถาริตาเนว.
‘‘อิเม โข, อาวุโส’’ติอาทีสุ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ สมสฏฺิยา ติกานํ วเสน อสีติสตปฺเห กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
ติกวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกวณฺณนา
๓๐๖. อิติ ติกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุกฺกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ‘‘สติปฏฺานจตุกฺกํ’’ ปุพฺเพ วิตฺถาริตเมว.
สมฺมปฺปธานจตุกฺเก ¶ ฉนฺทํ ชเนตีติ ‘‘โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท’’ติ เอวํ วุตฺตํ กตฺตุกมฺยตํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ชเนติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป ¶ . วิตฺถาโร ปน สมฺมปฺปธานวิภงฺเค อาคโตเยว.
อิทฺธิปาเทสุ ฉนฺทํ นิสฺสาย ปวตฺโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา. สมนฺนาคตนฺติ เตหิ ธมฺเมหิ อุเปตํ. อิทฺธิยา ปาทํ, อิทฺธิภูตํ วา ปาทนฺติ อิทฺธิปาทํ ¶ . เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อิทฺธิปาทวิภงฺเค อาคโต เอว. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺส อตฺโถ ทีปิโต. ฌานกถาปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
๓๐๗. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถาย. อิธ ผลสมาปตฺติฌานานิ, ขีณาสวสฺส อปรภาเค นิพฺพตฺติตฌานานิ จ กถิตานิ.
อาโลกสฺํ มนสิกโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ วา สูริยจนฺทปชฺโชตมณิอาทีนํ อาโลกํ อาโลโกติ มนสิกโรติ. ทิวาสฺํ อธิฏฺาตีติ เอวํ มนสิ กตฺวา ทิวาติสฺํ เปติ. ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา ทิฏฺโ อาโลโก, ตเถว ตํ รตฺตึ มนสิกโรติ. ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา รตฺตึ อาโลโก ทิฏฺโ, เอวเมว ทิวา มนสิกโรติ. อิติ วิวเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต อนทฺเธน. สปฺปภาสนฺติ สโอภาสํ. าณทสฺสนปฏิลาภายาติ าณทสฺสนปฏิลาภตฺถาย. อิมินา กึ กถิตํ? มิทฺธวิโนทนอาโลโก กถิโต ปริกมฺมอาโลโก วา. อิมินา กึ กถิตํ โหติ? ขีณาสวสฺส ทิพฺพจกฺขุาณํ. ตสฺมึ วา อาคเตปิ อนาคเตปิ ปาทกชฺฌานสมาปตฺติเมว สนฺธาย ‘‘สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวตี’’ติ วุตฺตํ.
สติสมฺปชฺายาติ สตฺตฏฺานิกสฺส สติสมฺปชฺสฺส อตฺถาย. วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตีติอาทีสุ ขีณาสวสฺส วตฺถุ วิทิตํ โหติ อารมฺมณํ วิทิตํ วตฺถารมฺมณํ วิทิตํ. วตฺถารมฺมณวิทิตตาย เอวํ เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ ติฏฺนฺติ, เอวํ นิรุชฺฌนฺติ. น เกวลฺจ เวทนา เอว อิธ วุตฺตา ¶ สฺาทโยปิ ¶ , อวุตฺตา เจตนาทโยปิ, วิทิตา จ อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ นิรุชฺฌนฺติ จ. อปิ จ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ, อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนายสมุทโย. นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส สมุทยํ ปสฺสติ. เอวํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหติ. กถํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. อนตฺตโต มนสิกโรโต สฺุตูปฏฺานํ วิทิตํ โหติ. เอวํ เวทนาย อุปฏฺานํ วิทิตํ โหติ, ขยโต ภยโต สฺุโต ชานาติ. กถํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ? อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ.…เป… เอวํ เวทนาย อตฺถงฺคโม วิทิโต โหติ. อิมินาปิ นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิติ ¶ รูปนฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. อยํ อาวุโส สมาธิภาวนาติ อยํ อาสวานํ ขยาณสฺส ปาทกชฺฌานสมาธิภาวนา.
๓๐๘. อปฺปมฺาติ ปมาณํ อคเหตฺวา อนวเสสผรณวเสน อปฺปมฺาว. อนุปทวณฺณนา ปน ภาวนาสมาธิวิธานฺจ เอตาสํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. อรูปกถาปิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
อปสฺเสนานีติ อปสฺสยานิ. สงฺขายาติ าเณน ตฺวา. ปฏิเสวตีติ าเณน ตฺวา เสวิตพฺพยุตฺตกเมว เสวติ. ตสฺส จ วิตฺถาโร ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปริภฺุชตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. สงฺขาเยกํ อธิวาเสตีติ าเณน ตฺวา อธิวาเสตพฺพยุตฺตกเมว อธิวาเสติ. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส ขโม โหติ สีตสฺสา’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. ปริวชฺเชตีติ าเณน ตฺวา ปริวชฺเชตุํ ยุตฺตเมว ปริวชฺเชติ. ตสฺส วิตฺถาโร ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. วิโนเทตีติ าเณน ตฺวา วิโนเทตพฺพเมว วิโนเทติ, นุทติ นีหรติ อนฺโต ปวิสิตุํ น เทติ. ตสฺส วิตฺถาโร ‘‘อุปฺปนฺนํ ¶ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน เวทิตพฺโพ.
อริยวํสจตุกฺกวณฺณนา
๓๐๙. อริยวํสาติ ¶ อริยานํ วํสา. ยถา หิ ขตฺติยวํโส, พฺราหฺมณวํโส, เวสฺสวํโส, สุทฺทวํโส, สมณวํโส, กุลวํโส, ราชวํโส, เอวํ อยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส อริยตนฺติ อริยปเวณี นาม โหติ. โส โข ปนายํ อริยวํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาฬานุสาริตคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ. เก ปน เต อริยา เยสํ เอเต วํสาติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร เมธงฺกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา. เตสํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. อปิจ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํสาติ อริยวํสา. เต โข ¶ ปเนเต อคฺคฺา อคฺคาติ ชานิตพฺพา. รตฺตฺา ทีฆรตฺตํ ปวตฺตาติ ชานิตพฺพา. วํสฺา วํสาติ ชานิตพฺพา.
โปราณาติ น อธุนุปฺปตฺติกา. อสํกิณฺณา อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสํกิณฺณปุพฺพา อตีตพุทฺเธหิ น สํกิณฺณปุพฺพา. ‘‘กึ อิเมหี’’ติ น อปนีตปุพฺพา? น สงฺกียนฺตีติ อิทานิปิ น อปนียนฺติ. น สงฺกียิสฺสนฺตีติ อนาคตพุทฺเธหิปิ น อปนียิสฺสนฺติ, เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปฺปฏิกุฏฺา, สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ อนินฺทิตา อครหิตา.
สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรน จีวเรนาติ ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ. อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา – ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ วิตฺถารกถา สามฺผเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ, อิตรีตเรน ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ ¶ ¶ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ วากจีรํ ผลกจีรํ เกสกมฺพลํ วาฬกมฺพลํ โปตฺถโก จมฺมํ อุลูกปกฺขํ รุกฺขทุสฺสํ ลตาทุสฺสํ เอรกทุสฺสํ กทลิทุสฺสํ เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ. จีวรกฺเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ. ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ, ปาปณิกํ, รถิยํ สงฺการกูฏกํ, โสตฺถิยํ, สินานํ, ติตฺถํ, คตปจฺจาคตํ, อคฺคิทฑฺฒํ, โคขายิตํ อุปจิกขายิตํ, อุนฺทูรขายิตํ, อนฺตจฺฉินฺนํ, ทสาจฺฉินฺนํ, ธชาหฏํ, ถูปํ, สมณจีวรํ, สามุทฺทิยํ, อาภิเสกิยํ, ปนฺถิกํ, วาตาหฏํ, อิทฺธิมยํ, เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ.
เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ ¶ . สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมว.
จีวรสนฺโตโสติ วีสติ จีวรสนฺโตสา, วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส, ปฏิลาภสนฺโตโส, มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุทกสนฺโตโส, โธวนสนฺโตโส, กรณสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, สุตฺตสนฺโตโส, สิพฺพนสนฺโตโส, รชนสนฺโตโส, กปฺปสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ.
ตตฺถ สาทกภิกฺขุนา เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺเกตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ. ปํสุกูลิโก ¶ อฑฺฒมาเสเนว กโรติ. อิติ มาสฑฺฒมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส. วิตกฺกสนฺโตเสน ปน สนฺตุฏฺเน ภิกฺขุนา ปาจีนกฺขณฺฑราชิวาสิกปํสุกูลิกตฺเถรสทิเสน ¶ ภวิตพฺพํ.
เถโร กิร เจติยปพฺพตวิหาเร เจติยํ วนฺทิสฺสามีติ อาคโต เจติยํ วนฺทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ จีวรํ ชิณฺณํ พหูนํ วสนฏฺาเน ลภิสฺสามี’’ติ. โส มหาวิหารํ คนฺตฺวา สงฺฆตฺเถรํ ทิสฺวา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ วุตฺโถ ปุนทิวเส จีวรํ อาทาย อาคนฺตฺวา เถรํ วนฺทิ. เถโร กึ อาวุโสติ อาห. คามทฺวารํ, ภนฺเต, คมิสฺสามีติ. อหมฺปาวุโส, คมิสฺสามีติ. สาธุ, ภนฺเตติ คจฺฉนฺโต มหาโพธิทฺวารโกฏฺเก ตฺวา ปฺุวนฺตานํ วสนฏฺาเน มนาปํ ลภิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อปริสุทฺโธ เม วิตกฺโกติ ตโตว ปฏินิวตฺติ. ปุนทิวเส อมฺพงฺคณสมีปโต, ปุนทิวเส มหาเจติยสฺส อุตฺตรทฺวารโต, ตเถว ปฏินิวตฺติตฺวา จตุตฺถทิวเส เถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เถโร อิมสฺส ภิกฺขุโน วิตกฺโก น ปริสุทฺโธ ภวิสฺสตีติ จีวรํ คเหตฺวา เตน สทฺธึเยว ปฺหํ ปุจฺฉมาโน คามํ ปาวิสิ. ตฺจ รตฺตึ เอโก มนุสฺโส อุจฺจารปลิพุทฺโธ สาฏเกเยว วจฺจํ กตฺวา ตํ สงฺการฏฺาเน ฉฑฺเฑสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโร ตํ นีลมกฺขิกาหิ สมฺปริกิณฺณํ ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคเหสิ. มหาเถโร ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหาสี’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, สงฺการฏฺานสฺส อฺชลึ ปคฺคณฺหามิ, มยฺหํ ปิตุ ทสพลสฺส ปคฺคณฺหามิ, ปุณฺณทาสิยา สรีรํ ปารุปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปํสุกูลํ ตุมฺพมตฺเต ปาณเก วิธุนิตฺวา สุสานโต คณฺหนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, ภนฺเต’’ติ. มหาเถโร ‘‘ปริสุทฺโธ วิตกฺโก ปํสุกูลิกสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. ปํสุกูลิกตฺเถโรปิ ตสฺมึเยว าเน ิโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ¶ ตีณิ ผลานิ ปตฺโต ตํ สาฏกํ คเหตฺวา จีวรํ กตฺวา ปารุปิตฺวา ปาจีนกฺขณฺฑราชึ คนฺตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ.
จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม.
ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม.
เอวํ ¶ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโต ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว ¶ สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม.
เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.
ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม.
อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม.
มนาปํ อฺสฺส ทตฺวา อตฺตโน เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม.
‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนุปเคน อุทเกน โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ.
โธวนฺตสฺส ¶ ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ.
เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุมนฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม.
ติมณฺฑลปฺปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส นาม.
จีวรกรณตฺถาย ปน มนาปสุตฺตํ ปริเยสิสฺสามีติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํกิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.
กุสิพนฺธนกาเล ¶ ปน องฺคุลมตฺเต สตฺตวาเร น วิชฺฌิตพฺพํ, เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺตวาเร วิชฺฌิตพฺพํ, เอวํ กโรนฺตสฺส มคฺคปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม.
รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น รชิตพฺพํ. โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ, อยํ รชนสนฺโตโส นาม.
นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ¶ ยํกิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.
หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม.
ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ สเจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ. อาคตมตฺเตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ ¶ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ โหติ. อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม.
วิสฺสชฺชนฺเตน ปน น มุขํ โอโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สารณียธมฺเม ตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺคโต เวทิตพฺพา. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ, เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก ¶ เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก สนฺตุฏฺโ เจว โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.
อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหินคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ. ปฺุวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสติ, สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ เอวํ อลทฺธา จีวรํ น ปริตสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโต อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ เคธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.
อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ ¶ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’’ติ วา ‘‘ปํสุกูลิกงฺคมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส, วณฺณวาทาทีสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย ¶ อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.
อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถาปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ. ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ ‘‘โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มจฺโฉ, มํสํ, ขีรํ, ทธิ, สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ, ยาคุ, ขาทนียํ, สายนียํ, เลหนีย’’นฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.
ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตนฺติ ¶ สงฺฆภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺตํ, นิมนฺตนํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ, อาคนฺตุกภตฺตํ, คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ, ธุรภตฺตํ, กุฏิภตฺตํ, วารภตฺตํ, วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตกฺเขตฺตานิ.
ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส, คมนสนฺโตโส, ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส, ปฏิคฺคหณสนฺโตโส, มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส, โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส, ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโส, อุปการสนฺโตโส, ปริมาณสนฺโตโส, ปริโภคสนฺโตโส, สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส, วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา.
ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรูปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามาติ อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ, เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปรํ วิตกฺเกนฺโต อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑาย ปวิสนฺเตน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ¶ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม.
ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม.
ทูรโตว ¶ อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ, เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม.
‘‘อิมํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิมํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํกิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว, อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุํ ทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ. ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ ¶ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ, วิชาตมาตุยาปิ จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฺปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
สทฺธกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฺปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.
ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามีติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภฺุชนํ อุปการสนฺโตโส นาม.
ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ, อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ หราเปตฺวา ปฏิคฺคหณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส นาม.
‘‘ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม.
นิทหิตฺวา น ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม.
มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ – ปิณฺฑปาติกงฺคํ, สปทานจาริกงฺคํ, เอกาสนิกงฺคํ ¶ , ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. ‘‘วณฺณวาที’’ติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เสนาสเนนาติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนกฺเขตฺตํ ¶ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ, ปีํ, ภิสิ, พิมฺโพหนํ, วิหาโร, อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหา, เลณํ, อฏฺโฏ, มาโฬ ¶ , เวฬุคุมฺโพ, รุกฺขมูลํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.
เสนาสนกฺเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ ฉ เขตฺตานิ.
เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสนาสนปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ – อารฺิกงฺคํ, รุกฺขมูลิกงฺคํ, อพฺโภกาสิกงฺคํ, โสสานิกงฺคํ, ยถาสนฺตติกงฺคนฺติ. เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อิติ เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ภิกฺขุ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ. อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
คิลานปจฺจโย ปน ปิณฺฑปาเตเยว ปวิฏฺโ. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;
เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ.
อิติ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยํ ปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา อิทานิ สหสฺสนยปฺปฏิมณฺฑิตํ จตุตฺถํ ¶ ภาวนารามํ อริยวํสํ กเถตุํ ปุน จปรํ อาวุโส ภิกฺขุ ปหานาราโม โหตีติ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ อารมนํ อาราโม, อภิรตีติ อตฺโถ. ปฺจวิเธ ปหาเน อาราโม อสฺสาติ ปหานาราโม. กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ, เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, พฺยาปาทํ ปชหนฺโต รมติ…เป… สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมติ, อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมตีติ เอวํ ปหาเน รโตติ ปหานรโต ¶ . วุตฺตนเยเนว ¶ ภาวนาย อาราโม อสฺสาติ ภาวนาราโม. ภาวนาย รโตติ ภาวนารโต.
อิเมสุ ปน จตูสุ อริยวํเสสุ ปุริเมหิ ตีหิ เตรสนฺนํ ธุตงฺคานํ จตุปจฺจยสนฺโตสสฺส จ วเสน สกลํ วินยปิฏกํ กถิตํ โหติ. ภาวนาราเมน อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ. อิมํ ปน ภาวนารามตํ อริยวํสํ กเถนฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ. ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ. มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ. อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
ตตฺถ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยาติ โส เนกฺขมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโต รมติ. อพฺยาปาทํ พฺยาปาทํ. อาโลกสฺํ, ถินมิทฺธํ. อวิกฺเขปํ อุทฺธจฺจํ. ธมฺมววตฺถานํ, วิจิกิจฺฉํ. าณํ, อวิชฺชํ. ปาโมชฺชํ, อรตึ. ปมํ ฌานํ, ปฺจ นีวรเณ. ทุติยํ ฌานํ, วิตกฺกวิจาเร. ตติยํ ฌานํ, ปีตึ. จตุตฺถํ ฌานํ, สุขทุกฺเข. อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, รูปสฺํ ปฏิฆสฺํ นานตฺตสฺํ ปชหนฺโต รมติ. วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโต รมติ, อากิฺจฺายตนสฺํ ปชหนฺโต รมติ.
อนิจฺจานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต รมติ, นิจฺจสฺํ ปชหนฺโต รมติ. ทุกฺขานุปสฺสนํ, สุขสฺํ. อนตฺตานุปสฺสนํ, อตฺตสฺํ. นิพฺพิทานุปสฺสนํ, นนฺทึ. วิราคานุปสฺสนํ, ราคํ. นิโรธานุปสฺสนํ, สมุทยํ. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนํ, อาทานํ. ขยานุปสฺสนํ, ฆนสฺํ. วยานุปสฺสนํ, อายูหนํ. วิปริณามานุปสฺสนํ, ธุวสฺํ. อนิมิตฺตานุปสฺสนํ, นิมิตฺตํ. อปณิหิตานุปสฺสนํ, ปณิธึ. สฺุตานุปสฺสนํ อภินิเวสํ. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนํ, สาราทานาภินิเวสํ. ยถาภูตาณทสฺสนํ, สมฺโมหาภินิเวสํ. อาทีนวานุปสฺสนํ, อาลยาภินิเวสํ. ปฏิสงฺขานุปสฺสนํ, อปฺปฏิสงฺขํ. วิวฏฺฏานุปสฺสนํ, สํโยคาภินิเวสํ. โสตาปตฺติมคฺคํ ¶ , ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส. สกทาคามิมคฺคํ, โอฬาริเก กิเลเส. อนาคามิมคฺคํ, อณุสหคเต กิเลเส. อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต รมติ, สพฺพกิเลเส ปชหนฺโต รมตีติ เอวํ ¶ ปฏิสมฺภิทามคฺเค เนกฺขมฺมปาฬิยา กเถตพฺโพ.
ทีฆนิกาเย ¶ ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ, เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ…เป… ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ, ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ? กายคตาสตึ สาตสหคตํ. อิมํ เอกํ ธมฺมํ ภาเวนฺโต รมติ. กตมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ? อสฺมิมานํ. อิมํ เอกํ ธมฺมํ ปชหนฺโต รมติ. กตเม ทฺเว ธมฺเม…เป… กตเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ? ทส กสิณายตนานิ. อิเม ทส ธมฺเม ภาเวนฺโต รมติ. กตเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ? ทส มิจฺฉตฺเต. อิเม ทส ธมฺเม ปชหนฺโต รมติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ ทีฆนิกาเย ทสุตฺตรสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยนาติ เอกายโน, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา, โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย, ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย, ายสฺส อธิคมาย, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ… เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี… ‘อตฺถิ ธมฺมา’ติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ ยาวเทว าณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย อนิสฺสิโต จ วิหรติ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต, ปหานาราโม โหติ ปหานรโต. ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ…เป… ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ…เป… ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ, อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโตติ. อิติ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานสุตฺตนฺตปริยาเยน กเถตพฺโพ.
อภิธมฺเม นิทฺเทสปริยาเยนาติ สพฺเพปิ สงฺขเต อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต…เป… สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสนฺโต รมติ. อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภาวนาราโม โหตีติ เอวํ นิทฺเทสปริยาเยน กเถตพฺโพ.
เนว ¶ อตฺตานุกฺกํเสตีติ อชฺช เม สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตสฺส, โก มยา สทิโส อตฺถีติ เอวํ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, กึ อิเม วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา จรนฺตีติ ¶ เอวํ ปรํ วมฺภนํ น กโรติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๓๑๐. ปธานานีติ ¶ อุตฺตมวีริยานิ. สํวรปธานนฺติ จกฺขาทีนิ สํวรนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ปหานปธานนฺติ กามวิตกฺกาทโย ปชหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. ภาวนาปธานนฺติ โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ. อนุรกฺขณาปธานนฺติ สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ.
วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ วิเวโก วิราโค นิโรโธติ ตีณิปิ นิพฺพานสฺส นามานิ. นิพฺพานฺหิ อุปธิวิเวกตฺตา วิเวโก. ตํ อาคมฺม ราคาทโย วิรชฺชนฺตีติ วิราโค. นิรุชฺฌนฺตีติ นิโรโธ. ตสฺมา ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทีสุ อารมฺมณวเสน อธิคนฺตพฺพวเสน วา นิพฺพานนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ เอตฺถ ทฺเว โวสฺสคฺคา ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จ. ตตฺถ วิปสฺสนา ตทงฺควเสน กิเลเส จ ขนฺเธ จ ปริจฺจชตีติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค. มคฺโค อารมฺมณวเสน นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค. ตสฺมา โวสฺสคฺคปริณามินฺติ ยถา ภาวิยมาโน สติสมฺโพชฺฌงฺโค โวสฺสคฺคตฺถาย ปริณมติ, วิปสฺสนาภาวฺจ มคฺคภาวฺจ ปาปุณาติ, เอวํ ภาเวตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
ภทฺรกนฺติ ภทฺทกํ. สมาธินิมิตฺตํ วุจฺจติ อฏฺิกสฺาทิวเสน อธิคโต สมาธิเยว. อนุรกฺขตีติ สมาธิปริพนฺธกธมฺเม ราคโทสโมเห โสเธนฺโต รกฺขติ. เอตฺถ จ อฏฺิกสฺาทิกา ปฺเจว สฺา วุตฺตา. อิมสฺมึ ปน าเน ทสปิ อสุภานิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เตสํ วิตฺถาโร วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโตเยว.
ธมฺเม าณนฺติ เอกปฏิเวธวเสน จตุสจฺจธมฺเม าณํ จตุสจฺจพฺภนฺตเร นิโรธสจฺเจ ธมฺเม าณฺจ ¶ . ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ธมฺเม าณํ? จตูสุ มคฺเคสุ จตูสุ ผเลสุ าณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๖). อนฺวเย าณนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา ยถา อิทานิ, เอวํ อตีเตปิ อนาคเตปิ อิเมว ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ, อยเมว ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อยเมว นิโรโธ นิโรธสจฺจํ, อยเมว มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ ตสฺส าณสฺส อนุคติยํ าณํ. เตนาห ¶ – ‘‘โส อิมินา ธมฺเมน าเตน ทิฏฺเน ปตฺเตน วิทิเตน ปริโยคาฬฺเหน อตีตานาคเตน นยํ เนตี’’ติ. ปริเย าณนฺติ ปเรสํ จิตฺตปริจฺเฉเท ¶ าณํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ ปริเย าณํ? อิธ ภิกฺขุ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ชานาตี’’ติ (วิภ. ๗๙๖) วิตฺถาเรตพฺพํ. เปตฺวา ปน อิมานิ ตีณิ าณานิ อวเสสํ สมฺมุติาณํ นาม. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมํ สมฺมุติาณํ? เปตฺวา ธมฺเม าณํ เปตฺวา อนฺวเย าณํ เปตฺวา ปริจฺเฉเท าณํ อวเสสํ สมฺมุติาณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๖).
ทุกฺเข าณาทีหิ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ กถิตํ. ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ทฺเว วิวฏฺฏํ, วฏฺเฏ อภินิเวโส โหติ, โน วิวฏฺเฏ. ทฺวีสุ สจฺเจสุ อาจริยสนฺติเก ปริยตฺตึ อุคฺคเหตฺวา กมฺมํ กโรติ, ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ นาม อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ นาม อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ สวนวเสน กมฺมํ กโรติ. ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ วฏฺฏติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธ วฏฺฏติ. ตีณิ กิจฺจวเสน ปฏิวิชฺฌติ, เอกํ อารมฺมณวเสน. ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ.
โสตาปตฺติยงฺคาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๑. โสตาปตฺติยงฺคานีติ โสตาปตฺติยา องฺคานิ, โสตาปตฺติมคฺคสฺส ปฏิลาภการณานีติ อตฺโถ. สปฺปุริสสํเสโวติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ อุปสงฺกมิตฺวา เสวนํ. สทฺธมฺมสฺสวนนฺติ สปฺปายสฺส เตปิฏกธมฺมสฺส สวนํ. โยนิโสมนสิกาโรติ อนิจฺจาทิวเสน มนสิกาโร. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตีติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ.
อเวจฺจปฺปสาเทนาติ ¶ อจลปฺปสาเทน. ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตานิ. ผลธาตุอาหารจตุกฺกานิ อุตฺตานตฺถาเนว. อปิเจตฺถ ลูขปณีตวตฺถุวเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
วิฺาณฏฺิติโยติ วิฺาณํ เอตาสุ ติฏฺตีติ วิฺาณฏฺิติโย. อารมฺมณฏฺิติวเสเนตํ วุตฺตํ. รูปูปายนฺติ รูปํ อุปคตํ หุตฺวา. ปฺจโวการภวสฺมิฺหิ อภิสงฺขารวิฺาณํ รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฏฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. รูปารมฺมณนฺติ รูปกฺขนฺธโคจรํ รูปปติฏฺิตํ หุตฺวา. นนฺทูปเสจนนฺติ ¶ ¶ โลภสหคตํ สมฺปยุตฺตนนฺทิยาว อุปสิตฺตํ หุตฺวา. อิตรํ อุปนิสฺสยโกฏิยา. วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชตีติ สฏฺิปิ สตฺตติปิ วสฺสานิ เอวํ ปวตฺตมานํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. เวทนูปายาทีสุปิ เอเสว นโย. อิเมหิ ปน ตีหิ ปเทหิ จตุโวการภเว อภิสงฺขารวิฺาณํ วุตฺตํ. ตสฺส ยาวตายุกํ ปวตฺตนวเสน วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนา เวทิตพฺพา. จตุกฺกวเสน ปน เทสนาย อาคตตฺตา วิฺาณูปายนฺติ น วุตฺตํ. เอวํ วุจฺจมาเน จ ‘‘กตมํ นุ โข เอตฺถ กมฺมวิฺาณํ, กตมํ วิปากวิฺาณ’’นฺติ สมฺโมโห ภเวยฺย, ตสฺมาปิ น วุตฺตํ. อคติคมนานิ วิตฺถาริตาเนว.
จีวรเหตูติ ตตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามีติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติ. อิติ ภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตูปีติ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ตณฺหุปฺปาทานํ ปหานตฺถาย ปฏิปาฏิยาว จตฺตาโร อริยวํสา เทสิตาติ เวทิตพฺพา. ปฏิปทาจตุกฺกํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อกฺขมาทีสุ ปธานกรณกาเล สีตาทีนิ น ขมตีติ อกฺขมา. ขมตีติ ขมา. อินฺทฺริยทมนํ ทมา. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน วิตกฺกสมนํ สมา.
ธมฺมปทานีติ ¶ ธมฺมโกฏฺาสานิ. อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ นาม อโลโภ วา อโลภสีเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ นาม อโกโป วา เมตฺตาสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสติ ธมฺมปทํ นาม สุปฺปฏฺิตสติ วา สติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ นาม สมาปตฺติ วา อฏฺสมาปตฺติวเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. ทสาสุภวเสน วา อธิคตชฺฌานาทีนิ อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ. จตุพฺรหฺมวิหารวเสน อธิคตานิ อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ. ทสานุสฺสติอาหาเรปฏิกูลสฺาวเสน อธิคตานิ สมฺมาสติ ธมฺมปทํ. ทสกสิณอานาปานวเสน อธิคตานิ สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทนฺติ.
ธมฺมสมาทาเนสุ ปมํ อเจลกปฏิปทา. ทุติยํ ติพฺพกิเลสสฺส อรหตฺตํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อสฺสุมุขสฺสาปิ รุทโต ปริสุทฺธพฺรหฺมจริยจรณํ. ตติยํ กาเมสุ ปาตพฺยตา. จตุตฺถํ จตฺตาโร ปจฺจเย อลภมานสฺสาปิ ¶ ฌานวิปสฺสนาวเสน สุขสมงฺคิโน สาสนพฺรหฺมจริยํ.
ธมฺมกฺขนฺธาติ ¶ เอตฺถ คุณฏฺโ ขนฺธฏฺโ. สีลกฺขนฺโธติ สีลคุโณ. เอตฺถ จ ผลสีลํ อธิปฺเปตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อิติ จตูสุปิ าเนสุ ผลเมว วุตฺตํ.
พลานีติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน อกมฺปิยฏฺเน จ พลานิ. เตสํ ปฏิปกฺเขหิ โกสชฺชาทีหิ อกมฺปนิยตา เวทิตพฺพา. สพฺพานิปิ สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตราเนว กถิตานิ.
อธิฏฺานานีติ เอตฺถ อธีติ อุปสคฺคมตฺตํ. อตฺถโต ปน เตน วา ติฏฺนฺติ, ตตฺถ วา ติฏฺนฺติ, านเมว วา ตํตํคุณาธิกานํ ปุริสานํ อธิฏฺานํ, ปฺาว อธิฏฺานํ ปฺาธิฏฺานํ. เอตฺถ จ ปเมน อคฺคผลปฺา. ทุติเยน วจีสจฺจํ. ตติเยน อามิสปริจฺจาโค. จตุตฺเถน กิเลสูปสโม กถิโตติ เวทิตพฺโพ. ปเมน จ กมฺมสฺสกตปฺํ วิปสฺสนาปฺํ วา อาทึ กตฺวา ผลปฺา กถิตา. ทุติเยน วจีสจฺจํ อาทึ กตฺวา ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ. ตติเยน อามิสปริจฺจาคํ อาทึ กตฺวา อคฺคมคฺเคน กิเลสปริจฺจาโค. จตุตฺเถน สมาปตฺติวิกฺขมฺภิเต ¶ กิเลเส อาทึ กตฺวา อคฺคมคฺเคน กิเลสวูปสโม. ปฺาธิฏฺาเนน วา เอเกน อรหตฺตผลปฺา กถิตา. เสเสหิ ปรมตฺถสจฺจํ. สจฺจาธิฏฺาเนน วา เอเกน ปรมตฺถสจฺจํ กถิตํ. เสเสหิ อรหตฺตปฺาติ มูสิกาภยตฺเถโร อาห.
ปฺหพฺยากรณาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๒. ปฺหพฺยากรณานิ มหาปเทสกถาย วิตฺถาริตาเนว.
กณฺหนฺติ กาฬกํ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ. กณฺหวิปากนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตนโต กาฬกวิปากํ. สุกฺกนฺติ ปณฺฑรํ กุสลกมฺมปถกมฺมํ. สุกฺกวิปากนฺติ สคฺเค นิพฺพตฺตนโต ปณฺฑรวิปากํ. กณฺหสุกฺกนฺติ มิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิฏฺานาทีสุ อุปฺปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ เวทยติ. กุสเลน ราชกุเลปิ นิพฺพตฺโต อกุสเลน ปวตฺเต ทุกฺขํ เวทยติ. อกณฺหอสุกฺกนฺติ กมฺมกฺขยกรํ จตุมคฺคาณํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ¶ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อทานโต อกณฺหาสุกฺกวิปากตฺตา อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สจฺฉิกรณียาติ ¶ ปจฺจกฺขกรเณน เจว ปฏิลาเภน จ สจฺฉิกาตพฺพา. จกฺขุนาติ ทิพฺพจกฺขุนา. กาเยนาติ สหชาตนามกาเยน. ปฺายาติ อรหตฺตผลาเณน.
โอฆาติ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. ตตฺถ ปฺจกามคุณิโก ราโค กาโมโฆ. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภโวโฆ. ตถา ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺโโฆ.
วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. เต โอฆา วิย เวทิตพฺพา.
วิสํโยเชนฺตีติ วิสฺโคา. ตตฺถ อสุภชฺฌานํ กามโยควิสํโยโค. ตํ ปาทกํ กตฺวา อธิคโต อนาคามิมคฺโค เอกนฺเตเนว กามโยควิสฺโโค นาม. อรหตฺตมคฺโค ภวโยควิสฺโโค นาม. โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิโยควิสฺโโค นาม. อรหตฺตมคฺโค อวิชฺชาโยควิสฺโโค นาม.
คนฺถนวเสน ¶ คนฺถา. วฏฺฏสฺมึ นามกายฺเจว รูปกายฺจ คนฺถติ พนฺธติ ปลิพุนฺธตีติ กายคนฺโถ. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺนฺติ เอวํ ปวตฺโต ทิฏฺาภินิเวโส.
อุปาทานานีติ อาทานคฺคหณานิ. กาโมติ ราโค, โสเยว คหณฏฺเน อุปาทานนฺติ กามุปาทานํ. ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิ, สาปิ คหณฏฺเน อุปาทานนฺติ ทิฏฺุปาทานํ. อิมินา สุทฺธีติ เอวํ สีลวตานํ คหณํ สีลพฺพตุปาทานํ. อตฺตาติ เอเตน วทติ เจว อุปาทิยติ จาติ อตฺตวาทุปาทานํ.
โยนิโยติ โกฏฺาสา. อณฺเฑ ชาตาติ อณฺฑชา. ชลาพุมฺหิ ชาตาติ ชลาพุชา. สํเสเท ชาตาติ สํเสทชา. สยนสฺมึ ปูติมจฺฉาทีสุ จ นิพฺพตฺตานเมตํ อธิวจนํ. เวเคน อาคนฺตฺวา อุปปติตา วิยาติ โอปปาติกา. ตตฺถ เทวมนุสฺเสสุ สํเสทชโอปปาติกานํ อยํ ¶ วิเสโส. สํเสทชา มนฺทา ทหรา หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. โอปปาติกา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา หุตฺวา. มนุสฺเสสุ หิ ภุมฺมเทเวสุ จ อิมา จตสฺโสปิ โยนิโย ลพฺภนฺติ. ตถา ติรจฺฉาเนสุ สุปณฺณนาคาทีสุ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตตฺถ, ภิกฺขเว, อณฺฑชา สุปณฺณา อณฺฑเชว นาเค หรนฺติ, น ชลาพุเช น สํเสทเช น โอปปาติเก’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓๙๓). จาตุมหาราชิกโต ปฏฺาย อุปริเทวา โอปปาติกาเยว ¶ . ตถา เนรยิกา. เปเตสุ จตสฺโสปิ ลพฺภนฺติ. คพฺภาวกฺกนฺติโย สมฺปสาทนีเย กถิตา เอว.
อตฺตภาวปฏิลาเภสุ ปโม ขิฑฺฑาปโทสิกวเสน เวทิตพฺโพ. ทุติโย โอรพฺภิกาทีหิ ฆาติยมานอุรพฺภาทิวเสน. ตติโย มโนปโทสิกาวเสน. จตุตฺโถ จาตุมหาราชิเก อุปาทาย อุปริเสสเทวตาวเสน. เต หิ เทวา เนว อตฺตสฺเจตนาย มรนฺติ, น ปรสฺเจตนาย.
ทกฺขิณาวิสุทฺธาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๓. ทกฺขิณาวิสุทฺธิโยติ ทานสงฺขาตา ทกฺขิณา วิสุชฺฌนฺติ มหปฺผลา โหนฺติ เอตาหีติ ทกฺขิณาวิสุทฺธิโย.
ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโตติ ยตฺถ ทายโก สีลวา โหติ, ธมฺเมนุปฺปนฺนํ เทยฺยธมฺมํ เทติ, ปฏิคฺคาหโก ทุสฺสีโล. อยํ ทกฺขิณา เวสฺสนฺตรมหาราชสฺส ทกฺขิณาสทิสา. ปฏิคฺคาหกโต ¶ วิสุชฺฌติ, โน ทายกโตติ ยตฺถ ปฏิคฺคาหโก สีลวา โหติ, ทายโก ทุสฺสีโล, อธมฺเมนุปฺปนฺนํ เทติ, อยํ ทกฺขิณา โจรฆาตกสฺส ทกฺขิณาสทิสา. เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ, โน ปฏิคฺคาหกโตติ ยตฺถ อุโภปิ ทุสฺสีลา เทยฺยธมฺโมปิ อธมฺเมน นิพฺพตฺโต. วิปริยาเยน จตุตฺถา เวทิตพฺพา.
สงฺคหวตฺถูนีติ สงฺคหการณานิ. ตานิ เหฏฺา วิภตฺตาเนว.
อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหารา.
อริยโวหาราติ อริยานํ สปฺปุริสานํ โวหารา.
ทิฏฺวาทิตาติ ¶ ทิฏฺํ มยาติ เอวํ วาทิตา. เอตฺถ จ ตํตํสมุฏฺาปกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อตฺตนฺตปาทิจตุกฺกวณฺณนา
๓๑๔. อตฺตนฺตปาทีสุ ¶ ปโม อเจลโก. ทุติโย โอรพฺภิกาทีสุ อฺตโร. ตติโย ยฺยาชโก. จตุตฺโถ สาสเน สมฺมาปฏิปนฺโน.
อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ ปโม โย สยํ สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ น สมาทเปติ อายสฺมา วกฺกลิตฺเถโร วิย. ทุติโย โย อตฺตนา น สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ สมาทเปติ อายสฺมา อุปนนฺโท วิย. ตติโย โย เนวตฺตนา สีลาทิสมฺปนฺโน, ปรํ สีลาทีสุ น สมาทเปติ เทวทตฺโต วิย. จตุตฺโถ โย อตฺตนา จ สีลาทิสมฺปนฺโน ปรฺจ สีลาทีสุ สมาทเปติ อายสฺมา มหากสฺสโป วิย.
ตมาทีสุ ตโมติ อนฺธการภูโต. ตมปรายโณติ ตมเมว ปรํ อยนํ คติ อสฺสาติ ตมปรายโณ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปโม นีเจ จณฺฑาลาทิกุเล ทุชฺชีวิเต หีนตฺตภาเว นิพฺพตฺติตฺวา ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ. ทุติโย ตถาวิโธ หุตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ. ตติโย อุฬาเร ขตฺติยกุเล พหุอนฺนปาเน สมฺปนฺนตฺตภาเว นิพฺพตฺติตฺวา ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ. จตุตฺโถ ตาทิโสว หุตฺวา ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ.
สมณมจโลติ สมณอจโล. ม-กาโร ปทสนฺธิมตฺตํ. โส โสตาปนฺโน เวทิตพฺโพ. โสตาปนฺโน หิ จตูหิ วาเตหิ อินฺทขีโล วิย ปรปฺปวาเทหิ อกมฺปิโย. อจลสทฺธาย สมนฺนาคโตติ สมณมจโล. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมณมจโล? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐) วิตฺถาโร. ราคโทสานํ ปน ตนุภูตตฺตา สกทาคามี สมณปทุโม ¶ นาม. เตนาห – ‘‘กตโม ปน ปุคฺคโล สมณปทุโม? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ¶ สมณปทุโม’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐). ราคโทสานํ อภาวา ขิปฺปเมว ปุปฺผิสฺสตีติ อนาคามี สมณปุณฺฑรีโก นาม. เตนาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก’’ติ (ปุ. ป. ๑๙๐). อรหา ปน สพฺเพสมฺปิ คนฺถการกิเลสานํ อภาวา สมเณสุ สมณสุขุมาโล นาม. เตนาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล? อิเธกจฺโจ อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล’’ติ.
‘‘อิเม โข ¶ , อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อิติ สมปฺาสาย จตุกฺกานํ วเสน ทฺเวปฺหสตานิ กเถนฺโต เถโร สามคฺคิรสํ ทสฺเสสีติ.
จตุกฺกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกวณฺณนา
๓๑๕. อิติ จตุกฺกวเสน สามคฺคิรสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจกวเสน ทสฺเสตุํ ปุน เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ปฺจสุ ขนฺเธสุ รูปกฺขนฺโธ โลกิโย. เสสา โลกิยโลกุตฺตรา. อุปาทานกฺขนฺธา โลกิยาว. วิตฺถารโต ปน ขนฺธกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. กามคุณา เหฏฺา วิตฺถาริตาว.
สุกตทุกฺกฏาทีหิ คนฺตพฺพาติ คติโย. นิรโยติ นิรสฺสาโท. สโหกาเสน ขนฺธา กถิตา. ตโต ปเรสุ ตีสุ นิพฺพตฺตา ขนฺธาว วุตฺตา. จตุตฺเถ โอกาโสปิ.
อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาคนฺตุกํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปริกฺขาโร ปิโต’’ติอาทีนิ วตฺวา สงฺฆิกมฺปิ อาวาสํ นิวาเรติ. โส กาลงฺกตฺวา เปโต วา อชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. กุเล มจฺฉริยํ กุลมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ เตหิ การเณหิ อตฺตโน อุปฏฺากกุเล อฺเสํ ¶ ปเวสนมฺปิ นิวาเรติ. ลาเภ มจฺฉริยํ ลาภมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ¶ ภิกฺขุ สงฺฆิกมฺปิ ลาภํ มจฺฉรายนฺโต ยถา อฺเ น ลภนฺติ, เอวํ กโรติ. วณฺเณ มจฺฉริยํ วณฺณมจฺฉริยํ. วณฺโณติ เจตฺถ สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ เวทิตพฺโพ. ปริยตฺติธมฺเม มจฺฉริยํ ธมฺมมจฺฉริยํ. เตน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิมํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา เอโส มํ อภิภวิสฺสตี’’ติ อฺสฺส น เทติ. โย ปน ธมฺมานุคฺคเหน วา ปุคฺคลานุคฺคเหน วา น เทติ, น ตํ มจฺฉริยํ.
จิตฺตํ นิวาเรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณานิ. กามจฺฉนฺโท นีวรณปตฺโต อรหตฺตมคฺควชฺโฌ. กามราคานุสโย กามราคสํโยชนปตฺโต อนาคามิมคฺควชฺโฌ. ถินํ จิตฺตเคลฺํ ¶ . มิทฺธํ ขนฺธตฺตยเคลฺํ. อุภยมฺปิ อรหตฺตมคฺควชฺฌํ. ตถา อุทฺธจฺจํ. กุกฺกุจฺจํ อนาคามิมคฺควชฺฌํ. วิจิกิจฺฉา ปมมคฺควชฺฌา.
สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. เตหิ ปน พทฺเธสุ ปุคฺคเลสุ รูปารูปภเว นิพฺพตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิโน อนฺโตพทฺธา พหิสยิตา นาม. เตสฺหิ กามภเว พนฺธนํ. กามภเว อนาคามิโน พหิพทฺธา อนฺโตสยิตา นาม. เตสฺหิ รูปารูปภเว พนฺธนํ. กามภเว โสตาปนฺนสกทาคามิโน อนฺโตพทฺธา อนฺโตสยิตา นาม. รูปารูปภเว อนาคามิโน พหิพทฺธา พหิสยิตา นาม. ขีณาสโว สพฺพตฺถ อพนฺธโน.
สิกฺขิตพฺพํ ปทํ สิกฺขาปทํ, สิกฺขาโกฏฺาโสติ อตฺโถ. สิกฺขาย วา ปทํ สิกฺขาปทํ, อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาย อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน สิกฺขาปทกถา วิภงฺคปฺปกรเณ สิกฺขาปทวิภงฺเค อาคตา เอว.
อภพฺพฏฺานาทิปฺจกวณฺณนา
๓๑๖. ‘‘อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณ’’นฺติอาทิ เทสนาสีสเมว, โสตาปนฺนาทโยปิ ปน อภพฺพา. ปุถุชฺชนขีณาสวานํ นินฺทาปสํสตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตํ. ปุถุชฺชโน นาม คารยฺโห, มาตุฆาตาทีนิปิ กโรติ ¶ . ขีณาสโว ปน ปาสํโส, กุนฺถกิปิลฺลิกฆาตาทีนิปิ น กโรตีติ.
พฺยสเนสุ วิยสฺสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติวินาโสติ อตฺโถ. โภคานํ พฺยสนํ ¶ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ, สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ. ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ เอว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ าติพฺยสนาทีนิ ตีณิ เนว อกุสลานิ น ติลกฺขณาหตานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ ติลกฺขณาหตํ. เตเนว ‘‘นาวุโส, สตฺตา าติพฺยสนเหตุ วา’’ติอาทิมาห.
าติสมฺปทาติ าตีนํ สมฺปทา ปาริปูรี พหุภาโว. โภคสมฺปทายปิ เอเสว นโย. อาโรคฺยสฺส สมฺปทา อาโรคฺยสมฺปทา. ปาริปูรี ทีฆรตฺตํ อโรคตา. สีลทิฏฺิสมฺปทาสุปิ เอเสว นโย ¶ . อิธาปิ าติสมฺปทาทโย โน กุสลา, น ติลกฺขณาหตา. สีลทิฏฺิสมฺปทา กุสลา, ติลกฺขณาหตา. เตเนว ‘‘นาวุโส, สตฺตา าติสมฺปทาเหตุ วา’’ติอาทิมาห.
สีลวิปตฺติสีลสมฺปตฺติกถา มหาปรินิพฺพาเน วิตฺถาริตาว.
โจทเกนาติ วตฺถุสํสนฺทสฺสนา, อาปตฺติสํสนฺทสฺสนา, สํวาสปฺปฏิกฺเขโป, สามีจิปฺปฏิกฺเขโปติ จตูหิ โจทนาวตฺถูหิ โจทยมาเน