📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาโย
ปาถิกวคฺคปาฬิ
๑. ปาถิกสุตฺตํ
สุนกฺขตฺตวตฺถุ
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ วิหรติ อนุปิยํ นาม [อนุปฺปิยํ นาม (สฺยา.)] มลฺลานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อนุปิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว อนุปิยายํ [อนุปิยํ (ก.)] ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน ภคฺควโคตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อาราโม, เยน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.
๒. อถ ¶ ¶ โข ภควา เยน ภคฺควโคตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อาราโม, เยน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. ภคฺควโคตฺโตปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ ¶ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ¶ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ปจฺจกฺขาโต ทานิ มยา, ภคฺคว, ภควา. น ทานาหํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหรามี’ติ. กจฺเจตํ, ภนฺเต, ตเถว, ยถา สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อวจา’’ติ? ‘‘ตเถว โข เอตํ, ภคฺคว, ยถา สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อวจ’’.
๓. ปุริมานิ, ภคฺคว, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘ปจฺจกฺขามิ ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ. น ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’ติ. ‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ, เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ ¶ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหีติ. นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามีติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ ¶ [ยาว จ (ก.)] เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ.
๔. ‘น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตี’ติ. ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสตี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสามี’ติ; นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสตี’ติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส ¶ , โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, กเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา ¶ อิทฺธิปาฏิหาริเย ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ? ‘กเต ¶ วา, ภนฺเต, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย ยสฺสตฺถาย ภควตา ธมฺโม เทสิโต โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, กเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย, อกเต วา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริเย, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส ¶ สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, กึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กตํ กริสฺสติ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ.
๕. ‘น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อคฺคฺํ ปฺเปตี’ติ [ปฺาเปตีติ (ปี.)]? ‘อปิ นุ ตาหํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ อวจํ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อคฺคฺํ ปฺเปสฺสามี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘ตฺวํ วา ปน มํ เอวํ อวจ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อคฺคฺํ ปฺเปสฺสตี’ติ? ‘โน เหตํ, ภนฺเต’. ‘อิติ กิร, สุนกฺขตฺต, เนวาหํ ตํ วทามิ – เอหิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, มมํ อุทฺทิสฺส วิหราหิ, อหํ เต อคฺคฺํ ปฺเปสฺสามีติ. นปิ กิร มํ ตฺวํ วเทสิ – อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามิ, ภควา เม อคฺคฺํ ปฺเปสฺสตี’ติ. เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสิ? ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ? ‘ปฺตฺเต วา, ภนฺเต, อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย ภควตา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ. ‘อิติ ¶ กิร, สุนกฺขตฺต, ปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, อปฺตฺเต วา อคฺคฺเ, ยสฺสตฺถาย มยา ธมฺโม เทสิโต, โส นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, กึ อคฺคฺํ ปฺตฺตํ ¶ กริสฺสติ? ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธํ’.
๖. ‘อเนกปริยาเยน โข เต, สุนกฺขตฺต, มม วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต ¶ โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน มม วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.
‘อเนกปริยาเยน ¶ โข เต, สุนกฺขตฺต, ธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหีติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน ธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.
‘อเนกปริยาเยน โข เต, สุนกฺขตฺต, สงฺฆสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม – สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ, อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, อเนกปริยาเยน สงฺฆสฺส วณฺโณ ภาสิโต วชฺชิคาเม.
‘อาโรจยามิ โข เต, สุนกฺขตฺต, ปฏิเวทยามิ โข เต, สุนกฺขตฺต. ภวิสฺสนฺติ โข เต, สุนกฺขตฺต, วตฺตาโร, โน วิสหิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, โส อวิสหนฺโต ¶ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺโตติ. อิติ โข เต, สุนกฺขตฺต, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร’ติ.
เอวํ ปิ ¶ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.
โกรกฺขตฺติยวตฺถุ
๗. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ ถูลูสุ [พุมูสุ (สี. ปี.)] วิหรามิ อุตฺตรกา นาม ถูลูนํ นิคโม. อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สุนกฺขตฺเตน ลิจฺฉวิปุตฺเตน ปจฺฉาสมเณน อุตฺตรกํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย กุกฺกุรวติโก จตุกฺกุณฺฑิโก [จตุกุณฺฑิโก (สี. ปี.) จตุโกณฺฑิโก (สฺยา. ก.)] ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภฺุชติ. อทฺทสา โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ กุกฺกุรวติกํ ¶ จตุกฺกุณฺฑิกํ ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทนฺตํ มุเขเนว ภฺุชนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘สาธุรูโป วต, โภ, อยํ [อรหํ (สี. สฺยา. ปี.)] สมโณ จตุกฺกุณฺฑิโก ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภฺุชตี’ติ.
‘‘อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตสฺส ลิจฺฉวิปุตฺตสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สุนกฺขตฺตํ ¶ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย [โมฆปุริส สกฺยปุตฺติโย (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิชานิสฺสสี’ติ! ‘กึ ปน มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ‘ตฺวมฺปิ ¶ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย [โมฆปุริส สกฺยปุตฺติโย (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิชานิสฺสสี’ติ? ‘นนุ เต, สุนกฺขตฺต, อิมํ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ กุกฺกุรวติกํ จตุกฺกุณฺฑิกํ ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทนฺตํ มุเขเนว ¶ ภฺุชนฺตํ ทิสฺวาน เอตทโหสิ – สาธุรูโป วต, โภ, อยํ สมโณ จตุกฺกุณฺฑิโก ฉมานิกิณฺณํ ภกฺขสํ มุเขเนว ขาทติ, มุเขเนว ภฺุชตี’ติ? ‘เอวํ, ภนฺเต. กึ ปน, ภนฺเต, ภควา อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตี’ติ? ‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ. อปิ จ, ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ ปชห. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. ยํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, มฺสิ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ – สาธุรูโป อยํ สมโณติ [มฺสิ ‘‘อเจโล โกรขตฺติโย สาธุรูโป อรหํ สมโณติ’’ (สฺยา.)]. โส สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลงฺกริสฺสติ. กาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. ปี.)] จ กาลกฺจิกา [กาลกฺชา (สี. ปี.), กาลกฺชิกา (สฺยา.)] นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺร อุปปชฺชิสฺสติ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺติ. อากงฺขมาโน จ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาสิ – ชานาสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย [อเจล โกรขตฺติย (ก.)], อตฺตโน คตินฺติ? านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ เต อเจโล โกรกฺขตฺติโย พฺยากริสฺสติ – ชานามิ, อาวุโส สุนกฺขตฺต, อตฺตโน คตึ; กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺรามฺหิ อุปปนฺโนติ.
‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ เอตทโวจ ¶ – ‘พฺยากโต โขสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, สมเณน โคตเมน – อเจโล โกรกฺขตฺติโย สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลงฺกริสฺสติ. กาลงฺกโต ¶ จ กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย ¶ , ตตฺร อุปปชฺชิสฺสติ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺตี’ติ. เยน ตฺวํ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, มตฺตํ มตฺตฺจ ภตฺตํ ภฺุเชยฺยาสิ, มตฺตํ มตฺตฺจ ปานียํ ปิเวยฺยาสิ. ยถา สมณสฺส โคตมสฺส มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.
๘. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เอกทฺวีหิกาย สตฺตรตฺตินฺทิวานิ คเณสิ, ยถา ตํ ตถาคตสฺส อสทฺทหมาโน. อถ โข, ภคฺคว, อเจโล โกรกฺขตฺติโย สตฺตมํ ทิวสํ อลสเกน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺร อุปปชฺชิ. กาลงฺกตฺจ นํ พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสุํ.
๙. ‘‘อสฺโสสิ ¶ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘อเจโล กิร โกรกฺขตฺติโย อลสเกน กาลงฺกโต พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺฑิโต’ติ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน พีรณตฺถมฺพกํ สุสานํ, เยน อเจโล โกรกฺขตฺติโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ ติกฺขตฺตุํ ปาณินา อาโกเฏสิ – ‘ชานาสิ, อาวุโส โกรกฺขตฺติย, อตฺตโน คติ’นฺติ? อถ โข, ภคฺคว, อเจโล โกรกฺขตฺติโย ปาณินา ปิฏฺึ ปริปฺุฉนฺโต วุฏฺาสิ. ‘ชานามิ, อาวุโส สุนกฺขตฺต, อตฺตโน คตึ. กาลกฺจิกา นาม อสุรา สพฺพนิหีโน อสุรกาโย, ตตฺรามฺหิ อุปปนฺโน’ติ วตฺวา ตตฺเถว อุตฺตาโน ปปติ [ปริปติ (สฺยา. ก.)].
๑๐. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว ¶ , สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ, อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ โกรกฺขตฺติยํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน อฺถา’ติ. ‘ตํ ¶ ¶ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อกตํ วาติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตีติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ. ‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.
อเจลกฬารมฏฺฏกวตฺถุ
๑๑. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. ตสฺส สตฺตวตปทานิ [สตฺตวตฺตปทานิ (สฺยา. ปี.)] สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ โหนฺติ – ‘ยาวชีวํ อเจลโก อสฺสํ, น วตฺถํ ปริทเหยฺยํ, ยาวชีวํ พฺรหฺมจารี อสฺสํ, น เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยํ, ยาวชีวํ สุรามํเสเนว ยาเปยฺยํ, น โอทนกุมฺมาสํ ¶ ภฺุเชยฺยํ. ปุรตฺถิเมน เวสาลึ อุเทนํ นาม เจติยํ, ตํ นาติกฺกเมยฺยํ, ทกฺขิเณน เวสาลึ โคตมกํ นาม เจติยํ, ตํ นาติกฺกเมยฺยํ, ปจฺฉิเมน เวสาลึ สตฺตมฺพํ นาม เจติยํ, ตํ ¶ นาติกฺกเมยฺยํ, อุตฺตเรน เวสาลึ พหุปุตฺตํ ¶ นาม [พหุปุตฺตกํ นาม (สฺยา.)] เจติยํ ตํ นาติกฺกเมยฺย’นฺติ. โส อิเมสํ สตฺตนฺนํ วตปทานํ สมาทานเหตุ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม.
๑๒. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ ปฺหํ อปุจฺฉิ. ตสฺส อเจโล กฬารมฏฺฏโก ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายาสิ. อสมฺปายนฺโต โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตสฺส ลิจฺฉวิปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปํ วต โภ อรหนฺตํ สมณํ อาสาทิมฺหเส [อสาทิยิมฺหเส (สฺยา.)]. มา วต โน อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ.
๑๓. ‘‘อถ ¶ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย ปฏิชานิสฺสสี’ติ! ‘กึ ปน มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห – ตฺวมฺปิ นาม, โมฆปุริส, สมโณ สกฺยปุตฺติโย ปฏิชานิสฺสสี’ติ? ‘นนุ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ อปุจฺฉิ. ตสฺส เต อเจโล กฬารมฏฺฏโก ปฺหํ ปุฏฺโ น สมฺปายาสิ. อสมฺปายนฺโต โกปฺจ โทสฺจ ¶ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. ตสฺส เต เอตทโหสิ – ‘‘สาธุรูปํ วต, โภ, อรหนฺตํ สมณํ อาสาทิมฺหเส. มา วต โน อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต. กึ ปน, ภนฺเต, ภควา อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตี’ติ? ‘น ¶ โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ, อปิ จ ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ ปชห. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. ยํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, มฺสิ อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ – สาธุรูโป อยํ [อรหํ (สฺยา.)] สมโณติ, โส นจิรสฺเสว ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภฺุชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน [ยสานิกิณฺโณ (ก.)] กาลํ กริสฺสตี’ติ.
‘‘‘อถ โข, ภคฺคว, อเจโล กฬารมฏฺฏโก นจิรสฺเสว ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภฺุชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน กาลมกาสิ.
๑๔. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘อเจโล กิร กฬารมฏฺฏโก ปริหิโต สานุจาริโก วิจรนฺโต โอทนกุมฺมาสํ ภฺุชมาโน สพฺพาเนว เวสาลิยานิ เจติยานิ สมติกฺกมิตฺวา ยสา นิหีโน กาลงฺกโต’ติ. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ¶ ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ, อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว ¶ เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ กฬารมฏฺฏกํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน ¶ อฺถา’ติ. ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ ¶ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ อกตํ วา’ติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตี’’ติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’นฺติ. ‘‘เอว’มฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.
อเจลปาถิกปุตฺตวตฺถุ
๑๕. ‘‘เอกมิทาหํ, ภคฺคว, สมยํ ตตฺเถว เวสาลิยํ วิหรามิ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต [ปาฏิกปุตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)] เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. โส เวสาลิยํ ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘สมโณปิ โคตโม าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย, อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ ¶ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ ¶ . จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’ติ.
๑๖. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อเจโล, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโต เวสาลิยํ ปฏิวสติ ลาภคฺคปฺปตฺโต เจว ยสคฺคปฺปตฺโต จ วชฺชิคาเม. โส เวสาลิยํ ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – สมโณปิ ¶ โคตโม ¶ าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย, อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ. จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’’ติ.
‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, สุนกฺขตฺต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ¶ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
๑๗. ‘รกฺขเตตํ, ภนฺเต, ภควา วาจํ, รกฺขเตตํ สุคโต วาจ’นฺติ. ‘กึ ¶ ปน มํ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, เอวํ วเทสิ – รกฺขเตตํ, ภนฺเต, ภควา วาจํ, รกฺขเตตํ สุคโต วาจ’นฺติ? ‘ภควตา จสฺส, ภนฺเต, เอสา วาจา เอกํเสน โอธาริตา [โอวาทิตา (ก.)] – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อเจโล จ, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโต วิรูปรูเปน ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺย, ตทสฺส ภควโต มุสา’ติ.
๑๘. ‘อปิ นุ, สุนกฺขตฺต, ตถาคโต ตํ วาจํ ภาเสยฺย ยา สา วาจา ทฺวยคามินี’ติ? ‘กึ ปน, ภนฺเต, ภควตา อเจโล ปาถิกปุตฺโต เจตสา ¶ เจโต ปริจฺจ วิทิโต – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ?
‘อุทาหุ ¶ , เทวตา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ?
๑๙. ‘เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต เจว เม, สุนกฺขตฺต ¶ , อเจโล ปาถิกปุตฺโต อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
‘เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ ¶ , ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
‘อชิโตปิ นาม ลิจฺฉวีนํ เสนาปติ อธุนา กาลงฺกโต ตาวตึสกายํ อุปปนฺโน. โสปิ มํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาโรเจสิ – อลชฺชี, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; มุสาวาที, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต. มมฺปิ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต พฺยากาสิ วชฺชิคาเม – อชิโต ลิจฺฉวีนํ เสนาปติ มหานิรยํ อุปปนฺโนติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, มหานิรยํ อุปปนฺโน; ตาวตึสกายมฺหิ อุปปนฺโน. อลชฺชี, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; มุสาวาที, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต; อภพฺโพ จ, ภนฺเต, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส ¶ เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
‘อิติ โข, สุนกฺขตฺต, เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต เจว เม อเจโล ปาถิกปุตฺโต อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ¶ มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. เทวตาปิ เม เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – อภพฺโพ, ภนฺเต ¶ , อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
‘โส โข ปนาหํ, สุนกฺขตฺต, เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิสฺสามิ ทิวาวิหาราย. ยสฺสทานิ ตฺวํ, สุนกฺขตฺต, อิจฺฉสิ, ตสฺส อาโรเจหี’ติ.
อิทฺธิปาฏิหาริยกถา
๒๐. ‘‘อถ ¶ ขฺวาหํ [อถ โข สฺวาหํ (สฺยา.)], ภคฺคว, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมึ ทิวาวิหาราย. อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ตรมานรูโป เวสาลึ ปวิสิตฺวา เยน อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อภิฺาเต อภิฺาเต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘เอสาวุโส, ภควา เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อภิกฺกมถายสฺมนฺโต อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สาธุรูปานํ สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’ติ ¶ . อถ โข, ภคฺคว, อภิฺาตานํ อภิฺาตานํ ลิจฺฉวีนํ เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปานํ กิร, โภ, สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา ¶ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ; หนฺท วต, โภ, คจฺฉามา’ติ. เยน จ อภิฺาตา อภิฺาตา พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา [นานาติตฺถิย (สฺยา.)] สมณพฺราหฺมณา เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อภิฺาเต อภิฺาเต นานาติตฺถิเย [นานาติตฺถิย (สฺยา.)] สมณพฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘เอสาวุโส, ภควา เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. อภิกฺกมถายสฺมนฺโต อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สาธุรูปานํ สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’ติ. อถ ¶ โข, ภคฺคว, อภิฺาตานํ อภิฺาตานํ นานาติตฺถิยานํ สมณพฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘สาธุรูปานํ กิร, โภ, สมณานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ; หนฺท วต, โภ, คจฺฉามา’ติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภคฺคว, อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา เยน อเจลสฺส ปาถิกปุตฺตสฺส อาราโม เตนุปสงฺกมึสุ. สา เอสา, ภคฺคว, ปริสา มหา โหติ [ปริสา โหติ (สี. สฺยา. ปี.)] อเนกสตา อเนกสหสฺสา.
๒๑. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต – ‘อภิกฺกนฺตา กิร อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม มยฺหํ อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ. สุตฺวานสฺส ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ. อถ โข, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ¶ ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม เตนุปสงฺกมิ.
‘‘อสฺโสสิ โข, ภคฺคว, สา ปริสา – ‘อเจโล กิร ปาถิกปุตฺโต ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม ¶ เตนุปสงฺกนฺโต’ติ [เตนุปสงฺกมนฺโต (สี. ปี. ก.)]. อถ โข, ภคฺคว, สา ปริสา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ –
‘เอหิ ตฺวํ, โภ ปุริส, เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกม. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอวํ วเทหิ – อภิกฺกมาวุโส, ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา, สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน; ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา สมโณปิ โคตโม าณวาโท, อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ. สมโณ ¶ โคตโม อุปฑฺฒปถํ อาคจฺเฉยฺย อหมฺปิ อุปฑฺฒปถํ คจฺเฉยฺยํ. เต ตตฺถ อุโภปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กเรยฺยาม. เอกํ เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ทฺวาหํ กริสฺสามิ. ทฺเว เจ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ, จตฺตาราหํ กริสฺสามิ. จตฺตาริ เจ สมโณ โคตโม ¶ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยานิ กริสฺสติ ¶ , อฏฺาหํ กริสฺสามิ. อิติ ยาวตกํ ยาวตกํ สมโณ โคตโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามี’ติ อภิกฺกมสฺเสว [อภิกฺกมเยว (สี. สฺยา. ปี.)] โข; อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ.
๒๒. ‘‘เอวํ, โภติ โข, ภคฺคว, โส ปุริโส ตสฺสา ปริสาย ปฏิสฺสุตฺวา เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา ¶ โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท; อหมฺปิ าณวาโท. าณวาโท โข ปน าณวาเทน อรหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตุํ…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน’ติ.
‘‘เอวํ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ ¶ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ [สํสพฺพติ (ก.)], น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข โส, ภคฺคว, ปุริโส อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ ¶ , น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ.
๒๓. ‘‘ยทา โข โส, ภคฺคว, ปุริโส อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต. อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ [ปราภูตรูโป โภ อยํ (สฺยา. ก.), ปราภูตรูโป (สี. ปี.)], อเจโล ปาถิกปุตฺโต. อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ¶ มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺย’นฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
๒๔. ‘‘อถ ¶ โข, ภคฺคว, อฺตโร ลิจฺฉวิมหามตฺโต อุฏฺายาสนา ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘เตน หิ, โภ, มุหุตฺตํ ตาว อาคเมถ, ยาวาหํ คจฺฉามิ ¶ [ปจฺจาคจฺฉามิ (?)]. อปฺเปว นาม อหมฺปิ สกฺกุเณยฺยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อิมํ ปริสํ อาเนตุ’นฺติ.
‘‘อถ โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ¶ ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปเนสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สมเณน โคตเมน ปริสติ วาจา – อภพฺโพ โข อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกมเนเนว เต ชยํ กริสฺสาม, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชย’นฺติ.
‘‘เอวํ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ ¶ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ ¶ ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ ¶ . เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ.
๒๕. ‘‘ยทา โข โส, ภคฺคว, ลิจฺฉวิมหามตฺโต อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ ¶ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ [ปราภูตรูโป (สี. ปี.), ปราภูตรูโป อยํ (สฺยา.)], อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจ ปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ [ยาหิ วรตฺตาหิ (สฺยา. ก.)] พนฺธิตฺวา โคยุเคหิ อาวิฺเฉยฺยามาติ [อาวิฺเชยฺยามาติ (สฺยา.), อาวิชฺเฌยฺยามาติ (สี. ปี.)], ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส ¶ เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
๒๖. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อุฏฺายาสนา ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘เตน หิ, โภ, มุหุตฺตํ ตาว อาคเมถ, ยาวาหํ คจฺฉามิ; อปฺเปว นาม อหมฺปิ สกฺกุเณยฺยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อิมํ ปริสํ อาเนตุ’’นฺติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี เยน ตินฺทุกขาณุปริพฺพาชการาโม, เยน อเจโล ปาถิกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ¶ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกนฺตํ เต เสยฺโย. อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี, อภิกฺกนฺตา อภิฺาตา อภิฺาตา จ พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติเนจยิกา นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา. สมโณปิ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปน เต เอสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, เวสาลิยํ ปริสติ วาจา – สมโณปิ โคตโม าณวาโท…เป… ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหํ กริสฺสามีติ. อภิกฺกมสฺเสว, โข อาวุโส ปาถิกปุตฺต, อุปฑฺฒปถํ. สพฺพปมํเยว อาคนฺตฺวา สมโณ โคตโม อายสฺมโต อาราเม ทิวาวิหารํ ¶ นิสินฺโน. ภาสิตา โข ปเนสา, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สมเณน โคตเมน ปริสติ วาจา – อภพฺโพ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจ ปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ พนฺธิตฺวา โคยุเคหิ อาวิฺเฉยฺยามาติ. ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยาติ. อภิกฺกมาวุโส ปาถิกปุตฺต, อภิกฺกมเนเนว เต ชยํ กริสฺสาม, สมณสฺส โคตมสฺส ปราชย’นฺติ.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต, ภคฺคว, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ¶ ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุํ. อถ โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กึ สุ นาม เต, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, ปาวฬา สุ นาม เต ปีกสฺมึ อลฺลีนา, ปีกํ สุ นาม เต ปาวฬาสุ อลฺลีนํ? อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว ¶ สํสปฺปสิ, น สกฺโกสิ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ. เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, วุจฺจมาโน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโส’’ติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุนฺติ.
๒๗. ‘‘ยทา โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อฺาสิ – ‘ปราภูตรูโป อยํ อเจโล ปาถิกปุตฺโต ‘อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ, อถ นํ เอตทโวจ –
‘ภูตปุพฺพํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สีหสฺส มิครฺโ เอตทโหสิ – ยํนูนาหํ อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปยฺยํ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขเมยฺยํ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺเภยฺยํ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกยฺยํ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นเทยฺยํ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกเมยฺยํ. โส วรํ วรํ มิคสํเฆ [มิคสํฆํ (สฺยา. ก.)] วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปยฺย’นฺติ.
‘อถ ¶ โข, อาวุโส, โส สีโห มิคราชา อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปสิ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ ¶ อาสยา นิกฺขมิ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภิ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกามิ. โส วรํ วรํ มิคสงฺเฆ วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปสิ.
๒๘. ‘ตสฺเสว ¶ โข, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สีหสฺส มิครฺโ วิฆาสสํวฑฺโฒ ชรสิงฺคาโล [ชรสิคาโล (สี. สฺยา. ปี.)] ทิตฺโต เจว พลวา จ. อถ โข, อาวุโส, ตสฺส ชรสิงฺคาลสฺส เอตทโหสิ – โก จาหํ, โก สีโห มิคราชา. ยํนูนาหมฺปิ อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปยฺยํ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขเมยฺยํ, อาสยา ¶ นิกฺขมิตฺวา วิชมฺเภยฺยํ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกยฺยํ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นเทยฺยํ, ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกเมยฺยํ. โส วรํ วรํ มิคสงฺเฆ วธิตฺวา มุทุมํสานิ มุทุมํสานิ ภกฺขยิตฺวา ตเมว อาสยํ อชฺฌุเปยฺย’นฺติ.
‘อถ โข โส, อาวุโส, ชรสิงฺคาโล อฺตรํ วนสณฺฑํ นิสฺสาย อาสยํ กปฺเปสิ. ตตฺราสยํ กปฺเปตฺวา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมิ, อาสยา นิกฺขมิตฺวา วิชมฺภิ, วิชมฺภิตฺวา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สิงฺคาลกํเยว อนทิ เภรณฺฑกํเยว [เภทณฺฑกํเยว (ก.)] อนทิ, เก จ ฉเว สิงฺคาเล, เก ปน สีหนาเทติ [สีหนาเท (?)].
‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชมาโน ตถาคเต ¶ อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.
๒๙. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินา โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –
‘สีโหติ ¶ อตฺตานํ สเมกฺขิยาน,
อมฺิ โกตฺถุ มิคราชาหมสฺมิ;
ตเถว [ตเมว (สฺยา.)] โส สิงฺคาลกํ อนทิ,
เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.
‘เอวเมว ¶ โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.
๓๐. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –
‘อฺํ ¶ อนุจงฺกมนํ, อตฺตานํ วิฆาเส สเมกฺขิย;
ยาว อตฺตานํ น ปสฺสติ, โกตฺถุ ตาว พฺยคฺโฆติ มฺติ.
ตเถว ¶ โส สิงฺคาลกํ อนทิ;
เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.
‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชมาโน ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.
๓๑. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ ¶ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ นํ เอตทโวจ –
‘ภุตฺวาน เภเก [ภิงฺเค (ก.)] ขลมูสิกาโย,
กฏสีสุ ขิตฺตานิ จ โกณปานิ [กูณปานิ (สฺยา.)];
มหาวเน สฺุวเน วิวฑฺโฒ,
อมฺิ โกตฺถุ มิคราชาหมสฺมิ.
ตเถว โส สิงฺคาลกํ อนทิ;
เก จ ฉเว สิงฺคาเล เก ปน สีหนาเท’ติ.
‘เอวเมว โข ตฺวํ, อาวุโส ปาถิกปุตฺต, สุคตาปทาเนสุ ชีวมาโน สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชมาโน ¶ ตถาคเต อรหนฺเต สมฺมาสมฺพุทฺเธ อาสาเทตพฺพํ มฺสิ. เก จ ฉเว ปาถิกปุตฺเต, กา จ ตถาคตานํ อรหนฺตานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อาสาทนา’ติ.
๓๒. ‘‘ยโต โข, ภคฺคว, ชาลิโย ทารุปตฺติกนฺเตวาสี อิมินาปิ โอปมฺเมน เนว อสกฺขิ ¶ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ ตมฺหา อาสนา จาเวตุํ. อถ ตํ ปริสํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘ปราภูตรูโป, โภ, อเจโล ปาถิกปุตฺโต อายามิ อาวุโส, อายามิ อาวุโสติ วตฺวา ตตฺเถว สํสปฺปติ, น สกฺโกติ อาสนาปิ วุฏฺาตุ’นฺติ.
๓๓. ‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต, อหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘อภพฺโพ โข, อาวุโส, อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย. สเจปายสฺมนฺตานํ ลิจฺฉวีนํ เอวมสฺส – มยํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ วรตฺตาหิ พนฺธิตฺวา นาเคหิ [โคยุเคหิ (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา ปสฺสิตพฺพา] อาวิฺเฉยฺยามาติ ¶ . ตา วรตฺตา ฉิชฺเชยฺยุํ ปาถิกปุตฺโต วา. อภพฺโพ ปน อเจโล ปาถิกปุตฺโต ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา มม สมฺมุขีภาวํ อาคนฺตุํ. สเจปิสฺส เอวมสฺส – อหํ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สมฺมุขีภาวํ คจฺเฉยฺยนฺติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’ติ.
๓๔. ‘‘อถ ขฺวาหํ, ภคฺคว, ตํ ปริสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสึ สมาทเปสึ สมุตฺเตเชสึ สมฺปหํเสสึ, ตํ ปริสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา มหาพนฺธนา โมกฺขํ กริตฺวา จตุราสีติปาณสหสฺสานิ มหาวิทุคฺคา อุทฺธริตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา สตฺตตาลํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อฺํ สตฺตตาลมฺปิ อจฺจึ [อคฺคึ (สฺยา.)] อภินิมฺมินิตฺวา ปชฺชลิตฺวา ธูมายิตฺวา ¶ [ธูปายิตฺวา (สี. ปี.)] มหาวเน กูฏาคารสาลายํ ปจฺจุฏฺาสึ.
๓๕. ‘‘อถ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภคฺคว, สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยเถว เต อหํ อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อารพฺภ พฺยากาสึ, ตเถว ตํ วิปากํ อฺถา วา’ติ? ‘ยเถว เม, ภนฺเต, ภควา อเจลํ ปาถิกปุตฺตํ อารพฺภ พฺยากาสิ, ตเถว ตํ วิปากํ, โน อฺถา’ติ.
‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, ยทิ เอวํ สนฺเต กตํ วา โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อกตํ วา’ติ? ‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ, โน อกต’นฺติ. ‘เอวมฺปิ โข ¶ มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา ¶ อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตีติ. ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธํ’ติ.
‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโก.
อคฺคฺปฺตฺติกถา
๓๖. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตฺจ ปชานามิ [‘‘ตฺจปชานามี’’ติ อิทํ สฺยาโปตฺถเกนตฺถิ], ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ [ปชานนํ (สฺยา. ก.) อฏฺกถาสํวณฺณนา ปสฺสิตพฺพา] น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา, ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ ¶ .
๓๗. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา, ‘อาโม’ติ [อามาติ (สฺยา.)] ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน [กถํ วิหิตกํโน ปน (ก.)] ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –
๓๘. ‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติ. อถ โข [อถ (สี. สฺยา. ปี.)] อฺตโร ¶ สตฺโต อายุกฺขยา วา ปฺุกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ ¶ . โส ¶ ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยํปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺติ.
‘ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปฺปชฺชติ – อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ. อถ อฺเปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปฺุกฺขยา วา ¶ อาภสฺสรกายา จวิตฺวา พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํ. เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
๓๙. ‘ตตฺราวุโส, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, ตสฺส เอวํ โหติ – อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา [สฺชิตา (สี. ปี.), สชฺชิตา (สฺยา. กํ.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? มมฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ – อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ; อิติ มม จ มโนปณิธิ. อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ.
‘เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ; อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปมํ อุปปนฺนํ; มยํ ปนามฺห ปจฺฉา อุปปนฺนาติ.
๔๐. ‘ตตฺราวุโส ¶ , โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จ. เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จ.
‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน ¶ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย ¶ อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘โส ¶ เอวมาห – โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. โส นิจฺโจ ธุโว [สสฺสโต ทีฆายุโก (สฺยา. ก.)] สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา [อทฺธุวา อสสฺสตา (สฺยา. ก.)] อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถาติ. ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
๔๑. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ ¶ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ ¶ –
๔๒. ‘สนฺตาวุโส, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา [หสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา (ก.)] วิหรนฺติ. เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา [สติยา สมฺโมสาย (สฺยา.)] เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
‘านํ ¶ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ นาติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ, สติยา อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา ¶ อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา, เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา เอวํ [สมฺโมสา เอว (สี. ปี.) สมฺโมสา เต (สฺยา. ก.)] มยํ ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ. เอวํวิหิตกํ โน ¶ ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ. ‘เต ¶ เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
๔๓. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –
๔๔. ‘สนฺตาวุโส, มโนปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ¶ ปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา เต นาติเวลํ ¶ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ อปฺปทุฏฺจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา ¶ [อกิลนฺตจิตฺตา ตมฺหา (ก.)] กายา ¶ น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายิมฺหา. เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา [ปโทสิยิมฺหา (สฺยา.), ปทูสยิมฺหา (?)]. เต มยํ อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เอวํ มยํ [กิลนฺตจิตฺตาเอว มยํ (สี. ปี.), กิลนฺตจิตฺตา (ก.)] ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ. ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
๔๕. ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? เต ¶ มยา ปุฏฺา น ¶ สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมฺเว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ –
๔๖. ‘สนฺตาวุโส, อสฺสตฺตา นาม เทวา. สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
‘านํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ. ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ [อิทํ ปทํ พฺรหฺมชาลสุตฺเต น ทิสฺสติ. เอวํ (ปี. ก.)] สฺุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘โส เอวมาห – อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ ¶ ปุพฺเพ นาโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย [สตฺตกาย (สี. ปี.), สตฺตาย (ก. สี.)] ปริณโตติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคฺํ ปฺเปถา’ติ? ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ. ‘‘อคฺคฺฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ ตฺจ ¶ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
๔๗. ‘‘เอวํวาทึ โข มํ, ภคฺคว, เอวมกฺขายึ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘วิปรีโต สมโณ โคตโม ภิกฺขโว จ. สมโณ โคตโม เอวมาห – ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมึ สมเย อสุภนฺตฺเวว [อสุภนฺเตว (สี. สฺยา. ปี.)] ปชานาตี’ติ [สฺชานาตีติ (สี. ปี.)]. น ¶ โข ปนาหํ, ภคฺคว, เอวํ วทามิ – ‘ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมึ สมเย อสุภนฺตฺเวว ปชานาตี’ติ. เอวฺจ ขฺวาหํ, ภคฺคว, วทามิ – ‘ยสฺมึ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สุภนฺตฺเวว ตสฺมึ สมเย ปชานาตี’ติ.
‘‘เต ¶ จ, ภนฺเต, วิปรีตา, เย ภควนฺตํ วิปรีตโต ทหนฺติ ภิกฺขโว จ. เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ. ปโหติ ¶ เม ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถา อหํ สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติ.
๔๘. ‘‘ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อิงฺฆ ตฺวํ, ภคฺคว, โย จ เต อยํ มยิ ปสาโท, ตเมว ตฺวํ สาธุกมนุรกฺขา’’ติ. ‘‘สเจ ตํ, ภนฺเต, มยา ทุกฺกรํ อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. โย จ เม อยํ, ภนฺเต, ภควติ ปสาโท, ตเมวาหํ สาธุกมนุรกฺขิสฺสามี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ปาถิกสุตฺตํ [ปาฏิกสุตฺตนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิฏฺิตํ ปมํ.
๒. อุทุมฺพริกสุตฺตํ
นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุ
๔๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ ตึสมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข สนฺธาโน คหปติ ทิวา ทิวสฺส [ทิวาทิวสฺเสว (สี. สฺยา. ปี.)] ราชคหา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข สนฺธานสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อสมโย ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข สนฺธาโน คหปติ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เตนุปสงฺกมิ.
๕๐. เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ ¶ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ ¶ อิติ วา.
๕๑. อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก สนฺธานํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวา สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อาคจฺฉติ สนฺธาโน คหปติ. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา ราชคเห ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร สนฺธาโน คหปติ. อปฺปสทฺทกามา ¶ โข ปเนเต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา ¶ , อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.
๕๒. อถ โข สนฺธาโน คหปติ เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา นิคฺโรเธน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สนฺธาโน คหปติ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อฺถา โข อิเม โภนฺโต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ¶ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา. อฺถา โข [จ (สี. ปี.)] ปน โส ภควา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานี’’ติ.
๕๓. เอวํ วุตฺเต นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก สนฺธานํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ยคฺเฆ ¶ คหปติ, ชาเนยฺยาสิ, เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, เกน สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, เกน ปฺาเวยฺยตฺติยํ สมาปชฺชติ? สฺุาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย. โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ [อนฺตปนฺตาเนว (สฺยา.)]. เสยฺยถาปิ นาม โคกาณา ปริยนฺตจารินี อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. เอวเมว สฺุาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา; อปริสาวจโร สมโณ โคตโม; นาลํ สลฺลาปาย. โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. อิงฺฆ, คหปติ, สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทยฺยาม [สํหเรยฺยาม (ก.)], ตุจฺฉกุมฺภีว นํ มฺเ โอโรเธยฺยามา’’ติ.
๕๔. อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สนฺธานสฺส คหปติสฺส นิคฺโรเธน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา คิชฺฌกูฏา ปพฺพตา โอโรหิตฺวา เยน สุมาคธาย ¶ ตีเร โมรนิวาโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมิ. อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ. ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ, อยํ สมโณ โคตโม สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมติ. อปฺปสทฺทกาโม โข ปน โส อายสฺมา, อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว ¶ นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺย. สเจ สมโณ โคตโม ¶ อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – ‘โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.
ตโปชิคุจฺฉาวาโท
๕๕. อถ โข ภควา เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา, สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิคฺโรโธปิ โข ปริพฺพาชโก อฺตรํ นีจาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ, นิคฺโรธ, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ, ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, อทฺทสาม ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ, ทิสฺวาน เอวํ ¶ อโวจุมฺหา – ‘สเจ สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ¶ ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
๕๖. ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, นิคฺโรธ, ตยา อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน, เยนาหํ สาวเก วิเนมิ ¶ , เยน มยา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. อิงฺฆ ตฺวํ มํ, นิคฺโรธ, สเก อาจริยเก อธิเชคุจฺเฉ ปฺหํ ปุจฺฉ – ‘กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’ติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สมณสฺส โคตมสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม สกวาทํ เปสฺสติ, ปรวาเทน ปวาเรสฺสตี’’ติ.
๕๗. อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก อปฺปสทฺเท กตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉาวาทา [ตโรชิคุจฺฉํสาโรทา (ก.)] ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหราม ¶ . กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’’ติ?
‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน [หตฺถาวเลขโน (สฺยา.)], น เอหิภทฺทนฺติโก, น ติฏฺภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ ¶ , น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภฺุชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ¶ ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติ, โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก, สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก, เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ, สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ [ทฺวาหิกํปิ (สี. สฺยา.)] อาหารํ อาหาเรติ, สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. โส สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิฺากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ; วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี. โส สาณานิปิ ธาเรติ ¶ , มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต ¶ , อุพฺภฏฺโกปิ [อุภฏฺโกปิ (สฺยา.), อุพฺภฏฺิโกปิ (ก.)] โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, ผลกเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, ถณฺฑิลเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, เอกปสฺสยิโกปิ โหติ รโชชลฺลธโร, อพฺโภกาสิโกปิ ¶ โหติ ยถาสนฺถติโก, เวกฏิโกปิ โหติ วิกฏโภชนานุโยคมนุยุตฺโต, อปานโกปิ โหติ อปานกตฺตมนุยุตฺโต, สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา วา โหติ อปริปุณฺณา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, โน อปริปุณฺณา’’ติ. ‘‘เอวํ ปริปุณฺณายปิ โข อหํ, นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทามี’’ติ.
อุปกฺกิเลโส
๕๘. ‘‘ยถา ¶ กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา เอวํ ปริปุณฺณาย ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทตี’’ติ? ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ [มทมาปชฺชติ (สฺยา.)]. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส ¶ เตน ตปสา มชฺชติ มุจฺฉติ ¶ ปมาทมาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
๕๙. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ ¶ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ¶ ลาภสกฺการสิโลเกน มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
๖๐. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โภชเนสุ โวทาสํ อาปชฺชติ – ‘อิทํ เม ขมติ, อิทํ เม นกฺขมตี’ติ. โส ยฺจ [ยํ หิ (สี. ปี.)] ขฺวสฺส นกฺขมติ, ตํ สาเปกฺโข ปชหติ. ยํ ปนสฺส ขมติ, ตํ คธิโต [คถิโต (สี. ปี.)] มุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตุ – ‘สกฺกริสฺสนฺติ มํ ราชาโน ราชมหามตฺตา ขตฺติยา พฺราหฺมณา ¶ คหปติกา ติตฺถิยา’ติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
๖๑. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อปสาเทตา [อปสาเรตา (ก.)] โหติ – ‘กึ ปนายํ สมฺพหุลาชีโว [พหุลาชีโว (สี. ปี.)] สพฺพํ สํภกฺเขติ. เสยฺยถิทํ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ, อสนิวิจกฺกํ ทนฺตกูฏํ, สมณปฺปวาเทนา’ติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ปสฺสติ อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา กุเลสุ สกฺกริยมานํ ครุกริยมานํ มานิยมานํ ปูชิยมานํ. ทิสฺวา ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อิมฺหิ นาม สมฺพหุลาชีวํ กุเลสุ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. มํ ปน ตปสฺสึ ลูขาชีวึ กุเลสุ น สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺตี’ติ, อิติ โส อิสฺสามจฺฉริยํ กุเลสุ อุปฺปาเทตา โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
๖๒. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อาปาถกนิสาที โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อตฺตานํ อทสฺสยมาโน กุเลสุ จรติ – ‘อิทมฺปิ เม ตปสฺมึ อิทมฺปิ เม ตปสฺมิ’นฺติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี กิฺจิเทว ปฏิจฺฉนฺนํ เสวติ. โส ‘ขมติ เต อิท’นฺติ ปุฏฺโ สมาโน อกฺขมมานํ อาห – ‘ขมตี’ติ. ขมมานํ ¶ อาห – ‘นกฺขมตี’ติ. อิติ โส สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สนฺตํเยว ปริยายํ อนฺุเยฺยํ นานุชานาติ…เป… อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
๖๓. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โกธโน โหติ อุปนาหี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โกธโน โหติ อุปนาหี. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี มกฺขี โหติ ปฬาสี [ปลาสี (สี. สฺยา. ปี.)] …เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี… สโ โหติ มายาวี… ถทฺโธ โหติ อติมานี… ปาปิจฺโฉ โหติ ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต… สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิเม ตโปชิคุจฺฉา [ตโปชิคุจฺฉาย (?)] อุปกฺกิเลสา วา อนุปกฺกิเลสา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข อิเม, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา [ตโปชิคุจฺฉาย (?)] อุปกฺกิเลสา [อุปกฺกิเลสา โหติ (ก.)], โน อนุปกฺกิเลสา. านํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ตปสฺสี สพฺเพเหว อิเมหิ อุปกฺกิเลเสหิ สมนฺนาคโต อสฺส; โก ปน วาโท อฺตรฺตเรนา’’ติ.
ปริสุทฺธปปฏิกปฺปตฺตกถา
๖๔. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ ¶ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตมโน ¶ โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น อตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา น มชฺชติ น มุจฺฉติ น ปมาทมาปชฺชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
๖๕. ‘‘ปุน ¶ จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตมโน โหติ น ปริปุณฺณสงฺกปฺโป…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น อตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา ลาภสกฺการสิโลกํ อภินิพฺพตฺเตติ, โส เตน ลาภสกฺการสิโลเกน น มชฺชติ น มุจฺฉติ น ปมาทมาปชฺชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
๖๖. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี โภชเนสุ น โวทาสํ อาปชฺชติ – ‘อิทํ เม ขมติ, อิทํ เม นกฺขมตี’ติ. โส ยฺจ ขฺวสฺส นกฺขมติ, ตํ อนเปกฺโข ปชหติ. ยํ ปนสฺส ขมติ ¶ , ตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น ตปํ สมาทิยติ ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตุ – ‘สกฺกริสฺสนฺติ มํ ราชาโน ราชมหามตฺตา ขตฺติยา พฺราหฺมณา คหปติกา ติตฺถิยา’ติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา นาปสาเทตา โหติ – ‘กึ ปนายํ สมฺพหุลาชีโว ¶ สพฺพํ สํภกฺเขติ. เสยฺยถิทํ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ ¶ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ, อสนิวิจกฺกํ ทนฺตกูฏํ, สมณปฺปวาเทนา’ติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ปสฺสติ อฺตรํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา กุเลสุ สกฺกริยมานํ ครุ กริยมานํ มานิยมานํ ปูชิยมานํ. ทิสฺวา ตสฺส น เอวํ ¶ โหติ – ‘อิมฺหิ นาม สมฺพหุลาชีวํ กุเลสุ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. มํ ปน ตปสฺสึ ลูขาชีวึ กุเลสุ น สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺตี’ติ, อิติ โส อิสฺสามจฺฉริยํ กุเลสุ นุปฺปาเทตา โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
๖๘. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น อาปาถกนิสาที โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น อตฺตานํ อทสฺสยมาโน กุเลสุ จรติ – ‘อิทมฺปิ เม ตปสฺมึ, อิทมฺปิ เม ตปสฺมิ’นฺติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น ¶ กฺจิเทว ปฏิจฺฉนฺนํ เสวติ, โส – ‘ขมติ เต อิท’นฺติ ปุฏฺโ สมาโน อกฺขมมานํ อาห – ‘นกฺขมตี’ติ. ขมมานํ อาห – ‘ขมตี’ติ. อิติ โส สมฺปชานมุสา น ภาสิตา โหติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สนฺตํเยว ปริยายํ อนฺุเยฺยํ อนุชานาติ…เป… เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อกฺโกธโน โหติ อนุปนาหี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อกฺโกธโน โหติ อนุปนาหี เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อมกฺขี โหติ อปฬาสี…เป… อนิสฺสุกี โหติ อมจฺฉรี… อสโ โหติ อมายาวี… อตฺถทฺโธ โหติ อนติมานี… ¶ น ปาปิจฺโฉ โหติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต… น มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ น อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต… น สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ น อาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ¶ น สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ น อาธานคฺคาหี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา ¶ โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข ปปฏิกปฺปตฺตา [ปปฺปฏิกปตฺตา (ก.)] โหตี’’ติ.
ปริสุทฺธตจปฺปตฺตกถา
๗๐. ‘‘กิตฺตาวตา ¶ ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ? อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี น ปาณํ อติปาเตติ [อติปาเปติ (ก. สี. ปี. ก.)], น ปาณํ อติปาตยติ, น ปาณมติปาตยโต สมนฺุโ โหติ ¶ . น อทินฺนํ อาทิยติ, น อทินฺนํ อาทิยาเปติ, น อทินฺนํ อาทิยโต สมนฺุโ โหติ. น มุสา ภณติ, น มุสา ภณาเปติ, น มุสา ภณโต สมนฺุโ โหติ. น ภาวิตมาสีสติ [น ภาวิตมาสึ สติ (สี. สฺยา. ปี.)], น ภาวิตมาสีสาเปติ, น ภาวิตมาสีสโต สมนฺุโ โหติ. เอวํ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ.
‘‘ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปฺปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปฺปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. ปี.)] ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ¶ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
๗๑. ‘‘โส ¶ ¶ อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน ¶ อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ. ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข ตจปฺปตฺตา โหตี’’ติ.
ปริสุทฺธเผคฺคุปฺปตฺตกถา
๗๒. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ¶ ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ…เป… ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ¶ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ¶ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ, ตตฺราปาสึ เอวํนาโม ¶ เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา ¶ โหติ, โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ. ‘‘น โข, นิคฺโรธ, เอตฺตาวตา ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ; อปิ จ โข เผคฺคุปฺปตฺตา โหตี’’ติ.
ปริสุทฺธอคฺคปฺปตฺตสารปฺปตฺตกถา
๗๓. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตโปชิคุจฺฉาย อคฺคฺเว ปาเปตุ, สารฺเว ปาเปตู’’ติ. ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ. กถฺจ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ…เป… ยโต โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสี จาตุยามสํวรสํวุโต โหติ, อทุํ จสฺส โหติ ตปสฺสิตาย. โส อภิหรติ โน หีนายาวตฺตติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ…เป… โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ ¶ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน ¶ สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ¶ ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.
‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา วา โหติ อปริสุทฺธา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริสุทฺธา โหติ โน อปริสุทฺธา, อคฺคปฺปตฺตา จ สารปฺปตฺตา จา’’ติ.
๗๔. ‘‘เอตฺตาวตา โข, นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จ. อิติ โข, นิคฺโรธ [อิติ นิคฺโรธ (สฺยา.)], ยํ มํ ตฺวํ อวจาสิ – ‘โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ. อิติ โข ตํ, นิคฺโรธ, านํ อุตฺตริตรฺจ ปณีตตรฺจ, เยนาหํ สาวเก วิเนมิ, เยน มยา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต, เต ปริพฺพาชกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘เอตฺถ มยํ อนสฺสาม สาจริยกา, น มยํ อิโต ภิยฺโย อุตฺตริตรํ ปชานามา’’ติ.
นิคฺโรธสฺส ปชฺฌายนํ
๗๕. ยทา ¶ ¶ อฺาสิ สนฺธาโน คหปติ – ‘‘อฺทตฺถุ โข ทานิเม อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต ภาสิตํ สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺาจิตฺตํ อุปฏฺาเปนฺตี’’ติ. อถ [อถ นํ (ก.)] นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อิติ โข, ภนฺเต นิคฺโรธ, ยํ มํ ตฺวํ อวจาสิ – ‘ยคฺเฆ, คหปติ, ชาเนยฺยาสิ, เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, เกน สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, เกน ปฺาเวยฺยตฺติยํ สมาปชฺชติ, สฺุาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา, อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย, โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ; เสยฺยถาปิ นาม โคกาณา ปริยนฺตจารินี อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. เอวเมว สฺุาคารหตา สมณสฺส โคตมสฺส ปฺา, อปริสาวจโร สมโณ โคตโม นาลํ สลฺลาปาย; โส อนฺตมนฺตาเนว เสวติ; อิงฺฆ, คหปติ, สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทยฺยาม, ตุจฺฉกุมฺภีว นํ มฺเ โอโรเธยฺยามา’ติ. อยํ โข โส, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิธานุปฺปตฺโต, อปริสาวจรํ ปน นํ กโรถ, โคกาณํ ปริยนฺตจารินึ กโรถ, เอกปฺเหเนว นํ สํสาเทถ, ตุจฺฉกุมฺภีว นํ โอโรเธถา’’ติ. เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต ¶ อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.
๗๖. อถ โข ภควา นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร, นิคฺโรธ, ภาสิตา เต เอสา วาจา’’ติ? ‘‘สจฺจํ ¶ , ภนฺเต, ภาสิตา เม เอสา วาจา, ยถาพาเลน ยถามูฬฺเหน ยถาอกุสเลนา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, นิคฺโรธ. กินฺติ เต สุตํ ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เอวํ สุ เต ภควนฺโต สํคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา. เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโก. อุทาหุ, เอวํ สุ เต ภควนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหี’ติ.
‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต. ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ , น เอวํ สุ [นาสฺสุ (สี. ปี.)] เต ภควนฺโต สํคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิ สาจริยโก. เอวํ สุ เต ภควนฺโต อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ, เสยฺยถาปิ ภควา เอตรหี’’’ติ.
‘‘ตสฺส เต, นิคฺโรธ, วิฺุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – ‘พุทฺโธ โส ภควา โพธาย ¶ ธมฺมํ เทเสติ, ทนฺโต โส ภควา ทมถาย ธมฺมํ เทเสติ, สนฺโต โส ภควา สมถาย ธมฺมํ เทเสติ, ติณฺโณ โส ภควา ตรณาย ¶ ธมฺมํ เทเสติ, ปรินิพฺพุโต โส ภควา ปรินิพฺพานาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ?
พฺรหฺมจริยปริโยสานสจฺฉิกิริยา
๗๗. เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยฺวาหํ เอวํ ภควนฺตํ อวจาสึ. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฏิคฺคณฺหาตุ อายตึ สํวรายา’’ติ. ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ [ตํ (สี. สฺยา. ปี.)], นิคฺโรธ, อจฺจโย ¶ อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โย มํ ตฺวํ เอวํ อวจาสิ. ยโต จ โข ตฺวํ, นิคฺโรธ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหาม. วุทฺธิ เหสา, นิคฺโรธ, อริยสฺส วินเย, โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ อายตึ สํวรํ อาปชฺชติ. อหํ โข ปน, นิคฺโรธ, เอวํ วทามิ –
‘เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา [ยถานุสิฏฺํ (?)] ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตวสฺสานิ. ติฏฺนฺตุ, นิคฺโรธ, สตฺต วสฺสานิ. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา ¶ สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ¶ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ ฉ วสฺสานิ. ปฺจ วสฺสานิ… จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํ. ติฏฺตุ, นิคฺโรธ, เอกํ วสฺสํ. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺต มาสานิ. ติฏฺนฺตุ, นิคฺโรธ, สตฺต มาสานิ… ฉ มาสานิ… ปฺจ มาสานิ ¶ … จตฺตาริ มาสานิ… ตีณิ มาสานิ… ทฺเว มาสานิ… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํ. ติฏฺตุ, นิคฺโรธ, อฑฺฒมาโส. เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน, ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตาหํ’.
ปริพฺพาชกานํ ปชฺฌายนํ
๗๘. ‘‘สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อนฺเตวาสิกมฺยตา โน สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว [เต (สี. สฺยา.)] อาจริโย, โส เอว โว อาจริโย โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อุทฺเทสา โน จาเวตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ ¶ , เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว อุทฺเทโส โส เอว โว อุทฺเทโส โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘อาชีวา โน จาเวตุกาโม ¶ สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย เอว โว อาชีโว, โส เอว โว อาชีโว โหตุ. สิยา โข ปน เต, นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘เย โน ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตสุ ปติฏฺาเปตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อกุสลา เจว โว เต ธมฺมา [โวธมฺมา (ก.), เต ธมฺมา (สฺยา.)] โหนฺตุ อกุสลสงฺขาตา จ สาจริยกานํ. สิยา โข ปน เต ¶ , นิคฺโรธ, เอวมสฺส – ‘เย โน ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตหิ วิเวเจตุกาโม สมโณ โคตโม เอวมาหา’ติ. น โข ปเนตํ, นิคฺโรธ, เอวํ ทฏฺพฺพํ. กุสลา เจว โว เต ธมฺมา โหนฺตุ กุสลสงฺขาตา จ สาจริยกานํ. อิติ ขฺวาหํ, นิคฺโรธ, เนว อนฺเตวาสิกมฺยตา เอวํ วทามิ, นปิ อุทฺเทสา จาเวตุกาโม เอวํ ¶ วทามิ, นปิ อาชีวา จาเวตุกาโม เอวํ วทามิ, นปิ เย โว ธมฺมา [นปิ เย โข ธมฺมา (สี.), นปิ เย เต ธมฺมา (สฺยา.), นปิ เย จ โว ธมฺมา (ก.)] อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตสุ ปติฏฺาเปตุกาโม เอวํ วทามิ, นปิ เย โว ธมฺมา [นปิ เย โข ธมฺมา (สี.), นปิ เย เต ธมฺมา (สฺยา.), นปิ เย จ โว ธมฺมา (ก.)] กุสลา กุสลสงฺขาตา สาจริยกานํ, เตหิ วิเวเจตุกาโม เอวํ วทามิ. สนฺติ จ โข, นิคฺโรธ, อกุสลา ธมฺมา อปฺปหีนา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (ก.)] สทรา [สทฺทรา (ปี. ก.), สทรถา (สฺยา. ก.)] ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา, เยสาหํ ปหานาย ธมฺมํ เทเสมิ. ยถาปฏิปนฺนานํ โว สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ, โวทานียา ธมฺมา อภิวฑฺฒิสฺสนฺติ, ปฺาปาริปูรึ เวปุลฺลตฺตฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ¶ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ.
๗๙. เอวํ วุตฺเต, เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘สพฺเพ ปิเม โมฆปุริสา ผุฏฺา ปาปิมตา. ยตฺร หิ นาม เอกสฺสปิ น เอวํ ภวิสฺสติ – ‘หนฺท มยํ อฺาณตฺถมฺปิ สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จราม, กึ กริสฺสติ สตฺตาโห’’’ติ? อถ โข ภควา อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเม สีหนาทํ นทิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปจฺจุปฏฺาสิ [ปจฺจุฏฺาสิ (สี. สฺยา. ปี.)]. สนฺธาโน ปน คหปติ ตาวเทว ราชคหํ ปาวิสีติ.
อุทุมฺพริกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.
๓. จกฺกวตฺติสุตฺตํ
อตฺตทีปสรณตา
๘๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ มาตุลายํ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ.
‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย. โคจเร, ภิกฺขเว, จรตํ สเก เปตฺติเก วิสเย น ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, น ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํ [อารมณํ (?)]. กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒติ.
ทฬฺหเนมิจกฺกวตฺติราชา
๘๑. ‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ นาม อโหสิ จกฺกวตฺตี [จกฺกวตฺติ (สฺยา. ปี.)] ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ¶ อเหสุํ เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํอุ ¶ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน [ธมฺเมน สเมน (สฺยา. ก.)] อภิวิชิย อชฺฌาวสิ.
๘๒. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘ยทา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปสฺเสยฺยาสิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ทฬฺหเนมิสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, ทิสฺวาน เยน ราชา ทฬฺหเนมิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ทฬฺหเนมึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ เต จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุต’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ อามนฺตาเปตฺวา [อามนฺเตตฺวา (สฺยา. ก.)] เอตทโวจ – ‘ทิพฺพํ กิร เม, ตาต กุมาร, จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ. สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกติ านา จวติ, น ทานิ เตน รฺา จิรํ ชีวิตพฺพํ โหตีติ. ภุตฺตา โข ปน ¶ เม มานุสกา กามา, สมโย ทานิ เม ทิพฺเพ กาเม ปริเยสิตุํ. เอหิ ตฺวํ, ตาต กุมาร, อิมํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ปฏิปชฺช. อหํ ปน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ.
๘๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ทฬฺหเนมิ เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ สาธุกํ รชฺเช สมนุสาสิตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. สตฺตาหปพฺพชิเต โข ปน, ภิกฺขเว, ราชิสิมฺหิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรธายิ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต [มุทฺธาวสิตฺโต (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ, อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ. โส เยน ราชิสิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชิสึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชิสิ ราชานํ ขตฺติยํ ¶ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘มา โข ตฺวํ, ตาต, ทิพฺเพ ¶ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ, มา อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ, น หิ เต, ตาต, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ เปตฺติกํ ทายชฺชํ. อิงฺฆ ตฺวํ, ตาต, อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตาหิ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เต อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส [สีสํ นหาตสฺส (สี. ปี.), สีสนฺหาตสฺส (สฺยา.)] อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวิสฺสติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูร’นฺติ.
จกฺกวตฺติอริยวตฺตํ
๘๔. ‘‘‘กตมํ ¶ ปน ตํ, เทว, อริยํ จกฺกวตฺติวตฺต’นฺติ ¶ ? ‘เตน หิ ตฺวํ, ตาต, ธมฺมํเยว นิสฺสาย ธมฺมํ สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต [ครุกโรนฺโต (สี. สฺยา. ปี.)] ธมฺมํ มาเนนฺโต ธมฺมํ ปูเชนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ธมฺมาธิปเตยฺโย ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหสฺสุ อนฺโตชนสฺมึ พลกายสฺมึ ขตฺติเยสุ อนุยนฺเตสุ [อนุยุตฺเตสุ (สี. ปี.)] พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคมชานปเทสุ สมณพฺราหฺมเณสุ มิคปกฺขีสุ. มา จ เต, ตาต, วิชิเต อธมฺมกาโร ปวตฺติตฺถ. เย จ เต, ตาต, วิชิเต อธนา อสฺสุ, เตสฺจ ธนมนุปฺปเทยฺยาสิ [ธนมนุปฺปทชฺเชยฺยาสิ (สี. สฺยา. ปี.)]. เย จ เต, ตาต, วิชิเต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฏิวิรตา ขนฺติโสรจฺเจ นิวิฏฺา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺเฉยฺยาสิ ปริคฺคณฺเหยฺยาสิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ, กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ, กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ, กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย อสฺส, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ? เตสํ สุตฺวา ยํ อกุสลํ ตํ อภินิวชฺเชยฺยาสิ, ยํ กุสลํ ตํ สมาทาย วตฺเตยฺยาสิ. อิทํ โข, ตาต, ตํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺต’นฺติ.
จกฺกรตนปาตุภาโว
๘๕. ‘‘‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ราชิสิสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต [อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ (ก.)] วตฺติ. ตสฺส อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส ¶ อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ. ทิสฺวาน ¶ รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ตทหุโปสเถ ¶ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ ¶ , โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตี’ติ. อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตีติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตราสงฺคํ กริตฺวา วาเมน หตฺเถน ภิงฺการํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน จกฺกรตนํ อพฺภุกฺกิริ – ‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตน’นฺติ.
‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต [สาคตํ (สี. ปี.)] มหาราช, สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภฺุชถา’ติ. เย ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี. ปี.)] อเหสุํ.
๘๖. ‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ทกฺขิณํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ปจฺฉิมํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปจฺฉิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต, มหาราช, สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี ¶ เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภฺุชถา’ติ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปจฺฉิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา ¶ อเหสุํ.
๘๗. ‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปจฺฉิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุตฺตรํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ จกฺกวตฺตึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข, มหาราช, สฺวาคตํ เต, มหาราช ¶ , สกํ เต, มหาราช, อนุสาส, มหาราชา’ติ. ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภฺุชถา’ติ. เย โข ปน, ภิกฺขเว, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ.
‘‘อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อภิวิชินิตฺวา ตเมว ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนฺเตปุรทฺวาเร อตฺถกรณปมุเข [อฑฺฑกรณปมุเข (ก.)] อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนฺเตปุรํ อุปโสภยมานํ.
ทุติยาทิจกฺกวตฺติกถา
๘๘. ‘‘ทุติโยปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี…เป… ตติโยปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… จตุตฺโถปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… ปฺจโมปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… ฉฏฺโปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี… สตฺตโมปิ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘ยทา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปสฺเสยฺยาสิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุตํ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อทฺทสา โข ¶ , ภิกฺขเว, โส ปุริโส พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ ¶ านา จุตํ. ทิสฺวาน เยน ราชา จกฺกวตฺตี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ จกฺกวตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ ¶ , เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ เต จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ านา จุต’นฺติ?
๘๙. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘ทิพฺพํ กิร เม, ตาต กุมาร, จกฺกรตนํ โอสกฺกิตํ, านา จุตํ, สุตํ โข ปน เมตํ – ยสฺส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ โอสกฺกติ, านา จวติ, น ทานิ เตน รฺา จิรํ ชีวิตพฺพํ โหตีติ. ภุตฺตา โข ปน เม มานุสกา กามา, สมโย ทานิ เม ทิพฺเพ กาเม ปริเยสิตุํ, เอหิ ตฺวํ, ตาต กุมาร, อิมํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ปฏิปชฺช ¶ . อหํ ปน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา จกฺกวตฺตี เชฏฺปุตฺตํ กุมารํ สาธุกํ รชฺเช สมนุสาสิตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. สตฺตาหปพฺพชิเต โข ปน, ภิกฺขเว, ราชิสิมฺหิ ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรธายิ.
๙๐. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส เยน ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, เทว, ชาเนยฺยาสิ, ทิพฺพํ จกฺกรตนํ อนฺตรหิต’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน อนฺตรหิเต อนตฺตมโน อโหสิ. อนตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทสิ; โน จ โข ราชิสึ อุปสงฺกมิตฺวา อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉิ. โส สมเตเนว สุทํ ชนปทํ ปสาสติ. ตสฺส สมเตน ชนปทํ ปสาสโต ปุพฺเพนาปรํ ¶ ชนปทา น ปพฺพนฺติ, ยถา ตํ ปุพฺพกานํ ราชูนํ อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานานํ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อมจฺจา ปาริสชฺชา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา มนฺตสฺสาชีวิโน สนฺนิปติตฺวา ราชานํ ขตฺติยํ มุทฺธาภิสิตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘น ¶ โข เต, เทว, สมเตน (สุทํ) ชนปทํ ปสาสโต ปุพฺเพนาปรํ ¶ ชนปทา ปพฺพนฺติ, ยถา ตํ ปุพฺพกานํ ราชูนํ อริเย จกฺกวตฺติวตฺเต วตฺตมานานํ. สํวิชฺชนฺติ โข เต, เทว, วิชิเต อมจฺจา ปาริสชฺชา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา มนฺตสฺสาชีวิโน มยฺเจว อฺเ จ [อฺเ จ ปณฺฑิเต สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺเฉยฺยาสิ (ก.)] เย มยํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ธาเรม. อิงฺฆ ตฺวํ, เทว, อมฺเห อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉ. ตสฺส เต มยํ อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุฏฺา พฺยากริสฺสามา’ติ.
อายุวณฺณาทิปริยานิกถา
๙๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต อมจฺเจ ปาริสชฺเช คณกมหามตฺเต อนีกฏฺเ โทวาริเก มนฺตสฺสาชีวิโน สนฺนิปาเตตฺวา อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุจฺฉิ. ตสฺส เต อริยํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปุฏฺา พฺยากรึสุ. เตสํ สุตฺวา ธมฺมิกฺหิ โข รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทหิ, โน จ โข อธนานํ ธนมนุปฺปทาสิ. อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ ¶ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ¶ ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ [อาทิยสีติ (สฺยา.)]? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส ธนมนุปฺปทาสิ – ‘อิมินา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ธเนน อตฺตนา จ ชีวาหิ, มาตาปิตโร จ โปเสหิ, ปุตฺตทารฺจ โปเสหิ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชหิ, สมณพฺราหฺมเณสุ [สมเณสุ พฺราหฺมเณสุ (พหูสุ)] อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปหิ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิก’นฺติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
‘‘อฺตโรปิ โข, ภิกฺขเว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ ¶ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส ธนมนุปฺปทาสิ – ‘อิมินา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ธเนน อตฺตนา จ ชีวาหิ, มาตาปิตโร จ โปเสหิ, ปุตฺตทารฺจ โปเสหิ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชหิ, สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปหิ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิก’นฺติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, โส ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ ¶ .
๙๒. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, มนุสฺสา – ‘เย กิร, โภ, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เตสํ ราชา ธนมนุปฺปเทตี’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘ยํนูน มยมฺปิ ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยามา’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ ¶ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘สจฺจํ, เทวา’ติ. ‘กึ การณา’ติ? ‘น หิ, เทว, ชีวามี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ โย โย ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิสฺสติ, ตสฺส ตสฺส ธนมนุปฺปทสฺสามิ, เอวมิทํ ¶ อทินฺนาทานํ ปวฑฺฒิสฺสติ. ยํนูนาหํ อิมํ ปุริสํ สุนิเสธํ นิเสเธยฺยํ, มูลฆจฺจํ [มูลฆจฺฉํ (สฺยา.), มูลเฉชฺช (ก.)] กเรยฺยํ, สีสมสฺส ฉินฺเทยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต ปุริเส อาณาเปสิ – ‘เตน หิ, ภเณ, อิมํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ [ปจฺฉาพาหุํ (สฺยา.)] คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส สุนิเสธํ นิเสเธถ, มูลฆจฺจํ กโรถ, สีสมสฺส ฉินฺทถา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ ¶ โข, ภิกฺขเว, เต ปุริสา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ¶ ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส สุนิเสธํ นิเสเธสุํ, มูลฆจฺจํ อกํสุ, สีสมสฺส ฉินฺทึสุ.
๙๓. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, มนุสฺสา – ‘เย กิร, โภ, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เต ราชา สุนิเสธํ นิเสเธติ, มูลฆจฺจํ กโรติ, สีสานิ เตสํ ฉินฺทตี’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘ยํนูน มยมฺปิ ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปสฺสาม [การาเปยฺยาม (สฺยา. ปี.) การาเปยฺยามาติ (ก. สี.)], ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปตฺวา เยสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิสฺสาม, เต สุนิเสธํ ¶ นิเสเธสฺสาม, มูลฆจฺจํ กริสฺสาม, สีสานิ เตสํ ฉินฺทิสฺสามา’ติ. เต ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปสุํ, ติณฺหานิ สตฺถานิ การาเปตฺวา คามฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, นิคมฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, นครฆาตมฺปิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ, ปนฺถทุหนมฺปิ [ปนฺถทูหนํปิ (สี. สฺยา. ปี.)] อุปกฺกมึสุ กาตุํ. เยสํ เต อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยนฺติ, เต สุนิเสธํ นิเสเธนฺติ, มูลฆจฺจํ กโรนฺติ, สีสานิ เตสํ ฉินฺทนฺติ.
๙๔. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ, ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ, สตฺเถ ¶ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อสีติวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
‘‘จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ. คเหตฺวา รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส ทสฺเสสุํ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย ¶ มุทฺธาภิสิตฺโต ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ? ‘น หิ, เทวา’ติ สมฺปชานมุสา อภาสิ.
๙๕. ‘‘อิติ ¶ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ. สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ ¶ , มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
‘‘วีสติวสฺสสหสฺสายุเกสุ ¶ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อฺตโร ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิ. ตเมนํ อฺตโร ปุริโส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาภิสิตฺตสฺส อาโรเจสิ – ‘อิตฺถนฺนาโม, เทว, ปุริโส ปเรสํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยี’ติ เปสฺุมกาสิ.
๙๖. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ, อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ, สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ, ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ, มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต ปิสุณา วาจา เวปุลฺลมคมาสิ, ปิสุณาย วาจาย เวปุลฺลํ คตาย เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
‘‘ทสวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เอกิทํ สตฺตา วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณา. ตตฺถ เย เต สตฺตา ทุพฺพณฺณา, เต วณฺณวนฺเต สตฺเต อภิชฺฌายนฺตา ปเรสํ ทาเรสุ จาริตฺตํ อาปชฺชึสุ.
๙๗. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต…เป… กาเมสุมิจฺฉาจาโร เวปุลฺลมคมาสิ, กาเมสุมิจฺฉาจาเร เวปุลฺลํ คเต เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ¶ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ¶ ปริหายมานานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ปฺจวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
๙๘. ‘‘ปฺจวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว ¶ , มนุสฺเสสุ ทฺเว ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ – ผรุสาวาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ ปฺจวสฺสสหสฺสายุกานํ ¶ มนุสฺสานํ อปฺเปกจฺเจ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุกา, อปฺเปกจฺเจ ทฺเววสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
๙๙. ‘‘อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อภิชฺฌาพฺยาปาทา เวปุลฺลมคมํสุ. อภิชฺฌาพฺยาปาเทสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
๑๐๐. ‘‘วสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ มิจฺฉาทิฏฺิ เวปุลฺลมคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิยา เวปุลฺลํ คตาย เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ วสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ ปฺจวสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
๑๐๑. ‘‘ปฺจวสฺสสตายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ตโย ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ. อธมฺมราโค วิสมโลโภ มิจฺฉาธมฺโม. ตีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ ปฺจวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ อปฺเปกจฺเจ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุกา, อปฺเปกจฺเจ ทฺเววสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
‘‘อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุเกสุ, ภิกฺขเว ¶ , มนุสฺเสสุ อิเม ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ. อมตฺเตยฺยตา อเปตฺเตยฺยตา อสามฺตา อพฺรหฺมฺตา น กุเล เชฏฺาปจายิตา.
๑๐๒. ‘‘อิติ ¶ โข, ภิกฺขเว, อธนานํ ธเน อนนุปฺปทิยมาเน ทาลิทฺทิยํ เวปุลฺลมคมาสิ. ทาลิทฺทิเย เวปุลฺลํ คเต อทินฺนาทานํ เวปุลฺลมคมาสิ. อทินฺนาทาเน เวปุลฺลํ คเต ¶ สตฺถํ เวปุลฺลมคมาสิ. สตฺเถ เวปุลฺลํ คเต ปาณาติปาโต เวปุลฺลมคมาสิ. ปาณาติปาเต เวปุลฺลํ คเต มุสาวาโท เวปุลฺลมคมาสิ. มุสาวาเท เวปุลฺลํ คเต ปิสุณา วาจา เวปุลฺลมคมาสิ. ปิสุณาย วาจาย เวปุลฺลํ คตาย กาเมสุมิจฺฉาจาโร เวปุลฺลมคมาสิ. กาเมสุมิจฺฉาจาเร เวปุลฺลํ คเต ¶ ทฺเว ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, ผรุสา วาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ อภิชฺฌาพฺยาปาทา เวปุลฺลมคมํสุ. อภิชฺฌาพฺยาปาเทสุ เวปุลฺลํ คเตสุ มิจฺฉาทิฏฺิ เวปุลฺลมคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺิยา เวปุลฺลํ คตาย ตโย ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, อธมฺมราโค วิสมโลโภ มิจฺฉาธมฺโม. ตีสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ อิเม ธมฺมา เวปุลฺลมคมํสุ, อมตฺเตยฺยตา อเปตฺเตยฺยตา อสามฺตา อพฺรหฺมฺตา น กุเล เชฏฺาปจายิตา. อิเมสุ ธมฺเมสุ เวปุลฺลํ คเตสุ เตสํ สตฺตานํ อายุปิ ปริหายิ, วณฺโณปิ ปริหายิ. เตสํ อายุนาปิ ปริหายมานานํ วณฺเณนปิ ปริหายมานานํ อฑฺฒเตยฺยวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ วสฺสสตายุกา ปุตฺตา อเหสุํ.
ทสวสฺสายุกสมโย
๑๐๓. ‘‘ภวิสฺสติ ¶ , ภิกฺขเว, โส สมโย, ยํ อิเมสํ มนุสฺสานํ ทสวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ปฺจวสฺสิกา [ปฺจมาสิกา (ก. สี.)] กุมาริกา อลํปเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อิมานิ รสานิ อนฺตรธายิสฺสนฺติ, เสยฺยถิทํ, สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ กุทฺรูสโก อคฺคํ โภชนานํ [อคฺคโภชนํ (สฺยา.)] ภวิสฺสติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาลิมํโสทโน อคฺคํ โภชนานํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ กุทฺรูสโก อคฺคํ โภชนานํ ภวิสฺสติ.
‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ทส กุสลกมฺมปถา สพฺเพน สพฺพํ อนฺตรธายิสฺสนฺติ, ทส อกุสลกมฺมปถา อติพฺยาทิปฺปิสฺสนฺติ [อติวิย ทิปฺปิสฺสนฺติ (สฺยา. ปี.), อติวฺยาทิปฺปิสฺสนฺติ (สี.)]. ทสวสฺสายุเกสุ ¶ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ กุสลนฺติปิ น ภวิสฺสติ, กุโต ปน กุสลสฺส การโก. ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เย เต ภวิสฺสนฺติ อมตฺเตยฺยา ¶ อเปตฺเตยฺยา อสามฺา อพฺรหฺมฺา น กุเล เชฏฺาปจายิโน, เต ปุชฺชา จ ภวิสฺสนฺติ ปาสํสา จ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ มตฺเตยฺยา เปตฺเตยฺยา สามฺา พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน ปุชฺชา จ ปาสํสา จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ เย เต ภวิสฺสนฺติ อมตฺเตยฺยา อเปตฺเตยฺยา อสามฺา อพฺรหฺมฺา น กุเล เชฏฺาปจายิโน, เต ปุชฺชา จ ภวิสฺสนฺติ ปาสํสา จ.
‘‘ทสวสฺสายุเกสุ ¶ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ น ภวิสฺสติ มาตาติ ¶ วา มาตุจฺฉาติ วา มาตุลานีติ วา อาจริยภริยาติ วา ครูนํ ทาราติ วา. สมฺเภทํ โลโก คมิสฺสติ ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา [โสณสิคาลา (สี. ปี.)].
‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เตสํ สตฺตานํ อฺมฺมฺหิ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. มาตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ มาตริ; ปิตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ ปิตริ; ภาตุปิ ภคินิยา ภคินิยาปิ ภาตริ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มาควิกสฺส มิคํ ทิสฺวา ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต โหติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสวสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ เตสํ สตฺตานํ อฺมฺมฺหิ ติพฺโพ อาฆาโต ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ. มาตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ มาตริ; ปิตุปิ ปุตฺตมฺหิ ปุตฺตสฺสปิ ปิตริ; ภาตุปิ ภคินิยา ภคินิยาปิ ภาตริ ติพฺโพ อาฆาโต ¶ ปจฺจุปฏฺิโต ภวิสฺสติ ติพฺโพ พฺยาปาโท ติพฺโพ มโนปโทโส ติพฺพํ วธกจิตฺตํ.
๑๐๔. ‘‘ทสวสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ สตฺตาหํ สตฺถนฺตรกปฺโป ภวิสฺสติ. เต อฺมฺมฺหิ มิคสฺํ ปฏิลภิสฺสนฺติ. เตสํ ติณฺหานิ ¶ สตฺถานิ ¶ หตฺเถสุ ปาตุภวิสฺสนฺติ. เต ติณฺเหน สตฺเถน ‘เอส มิโค เอส มิโค’ติ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ.
‘‘อถ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอกจฺจานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มา จ มยํ กฺจิ [กิฺจิ (ก.)], มา จ อมฺเห โกจิ, ยํนูน มยํ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา รุกฺขคหนํ วา นทีวิทุคฺคํ วา ปพฺพตวิสมํ วา ปวิสิตฺวา วนมูลผลาหารา ยาเปยฺยามา’ติ. เต ติณคหนํ วา วนคหนํ วา รุกฺขคหนํ วา นทีวิทุคฺคํ วา ปพฺพตวิสมํ วา [เต ติณคหนํ วนคหนํ รุกฺขคหนํ นทีวิทุคฺคํ ปพฺพตวิสมํ (สี. ปี.)] ปวิสิตฺวา สตฺตาหํ วนมูลผลาหารา ยาเปสฺสนฺติ. เต ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ติณคหนา วนคหนา รุกฺขคหนา นทีวิทุคฺคา ปพฺพตวิสมา นิกฺขมิตฺวา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา สภาคายิสฺสนฺติ สมสฺสาสิสฺสนฺติ – ‘ทิฏฺา, โภ, สตฺตา ชีวสิ, ทิฏฺา, โภ, สตฺตา ชีวสี’ติ.
อายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถา
๑๐๕. ‘‘อถ ¶ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มยํ โข อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวรูปํ อายตํ าติกฺขยํ ปตฺตา. ยํนูน มยํ กุสลํ กเรยฺยาม. กึ กุสลํ กเรยฺยาม? ยํนูน มยํ ปาณาติปาตา วิรเมยฺยาม, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺเตยฺยามา’ติ. เต ปาณาติปาตา วิรมิสฺสนฺติ, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. เต กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ ¶ . เตสํ อายุนาปิ วฑฺฒมานานํ วณฺเณนปิ วฑฺฒมานานํ ทสวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ.
‘‘อถ โข เตสํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มยํ โข กุสลานํ ธมฺมานํ ¶ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒาม, วณฺเณนปิ วฑฺฒาม. ยํนูน มยํ ภิยฺโยโสมตฺตาย กุสลํ กเรยฺยาม. กึ กุสลํ กเรยฺยาม? ยํนูน มยํ อทินฺนาทานา วิรเมยฺยาม… กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรเมยฺยาม… มุสาวาทา วิรเมยฺยาม… ปิสุณาย วาจาย วิรเมยฺยาม… ผรุสาย วาจาย วิรเมยฺยาม… สมฺผปฺปลาปา วิรเมยฺยาม… อภิชฺฌํ ปชเหยฺยาม… พฺยาปาทํ ปชเหยฺยาม… มิจฺฉาทิฏฺึ ปชเหยฺยาม… ตโย ธมฺเม ปชเหยฺยาม – อธมฺมราคํ วิสมโลภํ มิจฺฉาธมฺมํ… ยํนูน มยํ มตฺเตยฺยา อสฺสาม เปตฺเตยฺยา สามฺา พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺเตยฺยามา’ติ. เต มตฺเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ เปตฺเตยฺยา สามฺา ¶ พฺรหฺมฺา กุเล เชฏฺาปจายิโน, อิทํ กุสลํ ธมฺมํ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ.
‘‘เต กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสนฺติ. เตสํ อายุนาปิ วฑฺฒมานานํ วณฺเณนปิ วฑฺฒมานานํ วีสติวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตารีสวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อสีติวสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อสีติวสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ สฏฺิวสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… สฏฺิวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติติวสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… วีสติติวสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตารีสฉพฺพสฺสสตายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ. จตฺตารีสฉพฺพสฺสสตายุกานํ มนุสฺสานํ ทฺเววสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… ทฺเววสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ จตฺตาริวสฺสสหสฺสายุกา ¶ ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตาริวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อฏฺวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อฏฺวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ วีสติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… วีสติวสฺสสหสฺสายุกานํ ¶ มนุสฺสานํ จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกา ¶ ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… จตฺตารีสวสฺสสหสฺสายุกานํ มนุสฺสานํ อสีติวสฺสสหสฺสายุกา ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ… อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ปฺจวสฺสสติกา กุมาริกา อลํปเตยฺยา ภวิสฺสนฺติ.
สงฺขราชอุปฺปตฺติ
๑๐๖. ‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ตโย อาพาธา ภวิสฺสนฺติ, อิจฺฉา, อนสนํ, ชรา. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ ชมฺพุทีโป อิทฺโธ เจว ภวิสฺสติ ผีโต จ, กุกฺกุฏสมฺปาติกา คามนิคมราชธานิโย [คามนิคมชนปทา ราชธานิโย (ก.)]. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ ชมฺพุทีโป อวีจิ มฺเ ผุโฏ ภวิสฺสติ มนุสฺเสหิ, เสยฺยถาปิ นฬวนํ วา สรวนํ [สารวนํ (สฺยา.)] วา. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ อยํ พาราณสี เกตุมตี นาม ราชธานี ภวิสฺสติ อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ ¶ อิมสฺมึ ชมฺพุทีเป จตุราสีตินครสหสฺสานิ ภวิสฺสนฺติ เกตุมตีราชธานีปมุขานิ. อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เกตุมติยา ราชธานิยา สงฺโข นาม ราชา อุปฺปชฺชิสฺสติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต ¶ วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวิสฺสนฺติ, เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิสฺสติ.
เมตฺเตยฺยพุทฺธุปฺปาโท
๑๐๗. ‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ, ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เมตฺเตยฺโย ¶ นาม ภควา โลเก อุปฺปชฺชิสฺสติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. เสยฺยถาปาหเมตรหิ โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ ¶ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทสฺสติ, เสยฺยถาปาหเมตรหิ อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทมิ. โส ธมฺมํ เทเสสฺสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสติ; เสยฺยถาปาหเมตรหิ ธมฺมํ เทเสมิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสมิ. โส อเนกสหสฺสํ [อเนกสตสหสฺสํ (ก.)] ภิกฺขุสํฆํ ¶ ปริหริสฺสติ, เสยฺยถาปาหเมตรหิ อเนกสตํ ภิกฺขุสํฆํ ปริหรามิ.
๑๐๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สงฺโข นาม ราชา โย โส ยูโป รฺา มหาปนาเทน การาปิโต. ตํ ยูปํ อุสฺสาเปตฺวา อชฺฌาวสิตฺวา ตํ ทตฺวา ¶ วิสฺสชฺชิตฺวา สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ ทานํ ทตฺวา เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา ¶ อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ.
๑๐๙. ‘‘อตฺตทีปา, ภิกฺขเว, วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ.
ภิกฺขุโนอายุวณฺณาทิวฑฺฒนกถา
๑๑๐. ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย. โคจเร, ภิกฺขเว, จรนฺตา สเก เปตฺติเก วิสเย อายุนาปิ วฑฺฒิสฺสถ, วณฺเณนปิ วฑฺฒิสฺสถ, สุเขนปิ วฑฺฒิสฺสถ, โภเคนปิ วฑฺฒิสฺสถ, พเลนปิ วฑฺฒิสฺสถ.
‘‘กิฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อายุสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. โส อิเมสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อายุสฺมึ.
‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วณฺณสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต ¶ วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ¶ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วณฺณสฺมึ.
‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สุขสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน, สุขสฺมึ.
‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โภคสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา ¶ วิหรติ ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โภคสฺมึ.
‘‘กิฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน พลสฺมึ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน พลสฺมึ.
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกพลมฺปิ สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ ทุปฺปสหํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มารพลํ. กุสลานํ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
จกฺกวตฺติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.
๔. อคฺคฺสุตฺตํ
วาเสฏฺภารทฺวาชา
๑๑๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน วาเสฏฺภารทฺวาชา ภิกฺขูสุ ปริวสนฺติ ภิกฺขุภาวํ อากงฺขมานา. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ [ปาสาทจฺฉายายํ (ก.)] อพฺโภกาเส จงฺกมติ.
๑๑๒. อทฺทสา โข วาเสฏฺโ ภควนฺตํ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิตํ ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ. ทิสฺวาน ภารทฺวาชํ อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, อาวุโส ภารทฺวาช, ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ปาสาทา โอโรหิตฺวา ปาสาทปจฺฉายายํ อพฺโภกาเส จงฺกมติ. อายามาวุโส ภารทฺวาช, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อปฺเปว นาม ลเภยฺยาม ภควโต สนฺติกา [สมฺมุขา (สฺยา. ก.)] ธมฺมึ กถํ สวนายา’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข ภารทฺวาโช วาเสฏฺสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
๑๑๓. อถ โข วาเสฏฺภารทฺวาชา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ภควนฺตํ จงฺกมนฺตํ อนุจงฺกมึสุ. อถ โข ภควา วาเสฏฺํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตุมฺเห ¶ ขฺวตฺถ, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณชจฺจา พฺราหฺมณกุลีนา พฺราหฺมณกุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา, กจฺจิ โว, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา น อกฺโกสนฺติ น ปริภาสนฺตี’’ติ? ‘‘ตคฺฆ โน, ภนฺเต, พฺราหฺมณา อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ¶ ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน โว, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีนา อฺเ วณฺณา [หีโน อฺโ วณฺโณ (สี. ปี. ม. นิ. ๒ มธุรสุตฺต)]. พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ ¶ , กณฺหา ¶ อฺเ วณฺณา [กณฺโห อฺโ วณฺโณ (สี. ปี. ม. นิ. ๒ มธุรสุตฺต)]. พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา. พฺราหฺมณาว [พฺราหฺมณา (สฺยา.)] พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา. เต ตุมฺเห เสฏฺํ วณฺณํ หิตฺวา หีนมตฺถ วณฺณํ อชฺฌุปคตา, ยทิทํ มุณฺฑเก สมณเก อิพฺเภ กณฺเห พนฺธุปาทาปจฺเจ. ตยิทํ น สาธุ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยํ ตุมฺเห เสฏฺํ วณฺณํ หิตฺวา หีนมตฺถ วณฺณํ อชฺฌุปคตา ยทิทํ มุณฺฑเก สมณเก อิพฺเภ กณฺเห พนฺธุปาทาปจฺเจ’ติ. เอวํ โข โน, ภนฺเต, พฺราหฺมณา อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ อตฺตรูปาย ปริภาสาย ปริปุณฺณาย, โน อปริปุณฺณายา’’ติ.
๑๑๔. ‘‘ตคฺฆ โว, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา โปราณํ อสฺสรนฺตา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีนา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กณฺหา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติ. ทิสฺสนฺติ โข ปน, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณิโย อุตุนิโยปิ คพฺภินิโยปิ วิชายมานาปิ ¶ ปายมานาปิ. เต จ พฺราหฺมณา โยนิชาว สมานา เอวมาหํสุ ¶ – ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีนา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กณฺหา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติ. เต [เต จ (สฺยา. ก.)] พฺรหฺมานฺเจว อพฺภาจิกฺขนฺติ, มุสา จ ภาสนฺติ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวนฺติ.
จตุวณฺณสุทฺธิ
๑๑๕. ‘‘จตฺตาโรเม, วาเสฏฺ, วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา. ขตฺติโยปิ โข, วาเสฏฺ, อิเธกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺี. อิติ โข, วาเสฏฺ, เยเม ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา นอลมริยา นอลมริยสงฺขาตา กณฺหา กณฺหวิปากา วิฺุครหิตา, ขตฺติเยปิ เต [โข วาเสฏฺ (ก.)] อิเธกจฺเจ สนฺทิสฺสนฺติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ…เป… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ, อิเธกจฺโจ ¶ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺี. อิติ โข, วาเสฏฺ, เยเม ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา…เป… กณฺหา กณฺหวิปากา วิฺุครหิตา; สุทฺเทปิ เต อิเธกจฺเจ สนฺทิสฺสนฺติ.
‘‘ขตฺติโยปิ ¶ โข, วาเสฏฺ, อิเธกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต, อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต, สมฺมาทิฏฺี. อิติ โข, วาเสฏฺ, เยเม ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา อนวชฺชา ¶ อนวชฺชสงฺขาตา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา สุกฺกา สุกฺกวิปากา วิฺุปฺปสตฺถา, ขตฺติเยปิ เต อิเธกจฺเจ สนฺทิสฺสนฺติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ…เป… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ, อิเธกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… อนภิชฺฌาลุ ¶ , อพฺยาปนฺนจิตฺโต, สมฺมาทิฏฺี. อิติ โข, วาเสฏฺ, เยเม ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา อลมริยา อลมริยสงฺขาตา สุกฺกา สุกฺกวิปากา วิฺุปฺปสตฺถา; สุทฺเทปิ เต อิเธกจฺเจ สนฺทิสฺสนฺติ.
๑๑๖. ‘‘อิเมสุ โข, วาเสฏฺ, จตูสุ วณฺเณสุ เอวํ อุภยโวกิณฺเณสุ วตฺตมาเนสุ กณฺหสุกฺเกสุ ธมฺเมสุ วิฺุครหิเตสุ เจว วิฺุปฺปสตฺเถสุ จ ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีนา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กณฺหา อฺเ วณฺณา; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติ. ตํ เตสํ วิฺู นานุชานนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเมสฺหิ, วาเสฏฺ, จตุนฺนํ วณฺณานํ โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺาวิมุตฺโต, โส เนสํ อคฺคมกฺขายติ ธมฺเมเนว, โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ ¶ .
๑๑๗. ‘‘ตทมินาเปตํ, วาเสฏฺ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ธมฺโมว เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
‘‘ชานาติ ¶ โข [โข ปน (ก.)], วาเสฏฺ, ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘สมโณ โคตโม อนนฺตรา [อนุตฺตโร (พหูสุ)] สกฺยกุลา ปพฺพชิโต’ติ. สกฺยา โข ปน, วาเสฏฺ, รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อนุยุตฺตา [อนนฺตรา อนุยนฺตา (สฺยา.), อนนฺตรา อนุยุตฺตา (ก.)] ภวนฺติ. กโรนฺติ โข, วาเสฏฺ, สกฺยา รฺเ ปเสนทิมฺหิ โกสเล นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ. อิติ โข, วาเสฏฺ, ยํ กโรนฺติ สกฺยา รฺเ ปเสนทิมฺหิ โกสเล นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ, กโรติ ¶ ตํ ¶ ราชา ปเสนทิ โกสโล ตถาคเต นิปจฺจการํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ, น นํ [นนุ (พหูสุ)] ‘สุชาโต สมโณ โคตโม, ทุชฺชาโตหมสฺมิ. พลวา สมโณ โคตโม, ทุพฺพโลหมสฺมิ. ปาสาทิโก สมโณ โคตโม, ทุพฺพณฺโณหมสฺมิ. มเหสกฺโข สมโณ โคตโม, อปฺเปสกฺโขหมสฺมี’ติ. อถ โข นํ ธมฺมํเยว สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต ธมฺมํ มาเนนฺโต ธมฺมํ ปูเชนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน เอวํ ราชา ปเสนทิ โกสโล ตถาคเต นิปจฺจการํ กโรติ, อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ. อิมินาปิ โข เอตํ, วาเสฏฺ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา ธมฺโมว เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
๑๑๘. ‘‘ตุมฺเห ขฺวตฺถ, วาเสฏฺ, นานาชจฺจา นานานามา นานาโคตฺตา นานากุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. ‘เก ตุมฺเห’ติ – ปุฏฺา ¶ สมานา ‘สมณา สกฺยปุตฺติยามฺหา’ติ – ปฏิชานาถ. ยสฺส โข ปนสฺส, วาเสฏฺ, ตถาคเต สทฺธา นิวิฏฺา มูลชาตา ปติฏฺิตา ทฬฺหา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ, ตสฺเสตํ กลฺลํ วจนาย – ‘ภควโตมฺหิ ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคตสฺส เหตํ, วาเสฏฺ, อธิวจนํ ‘ธมฺมกาโย’ อิติปิ, ‘พฺรหฺมกาโย’ อิติปิ, ‘ธมฺมภูโต’ อิติปิ, ‘พฺรหฺมภูโต’ อิติปิ.
๑๑๙. ‘‘โหติ โข โส, วาเสฏฺ, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ ¶ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
‘‘โหติ โข โส, วาเสฏฺ, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรกายา ¶ จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉนฺติ. เตธ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
รสปถวิปาตุภาโว
๑๒๐. ‘‘เอโกทกีภูตํ โข ปน, วาเสฏฺ, เตน สมเยน โหติ อนฺธกาโร อนฺธการติมิสา ¶ . น จนฺทิมสูริยา ปฺายนฺติ, น นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปฺายนฺติ, น รตฺตินฺทิวา ปฺายนฺติ, น มาสฑฺฒมาสา ปฺายนฺติ, น อุตุสํวจฺฉรา ปฺายนฺติ ¶ , น อิตฺถิปุมา ปฺายนฺติ, สตฺตา สตฺตาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. อถ โข เตสํ, วาเสฏฺ, สตฺตานํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน รสปถวี อุทกสฺมึ สมตนิ [สมตานิ (พหูสุ)]; เสยฺยถาปิ นาม ปยโส ตตฺตสฺส [ปยตตฺตสฺส (สฺยา.)] นิพฺพายมานสฺส อุปริ สนฺตานกํ โหติ, เอวเมว ปาตุรโหสิ. สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนา, เสยฺยถาปิ นาม สมฺปนฺนํ วา สปฺปิ สมฺปนฺนํ วา นวนีตํ เอวํวณฺณา อโหสิ. เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทมธุํ [ขุทฺทํ มธุํ (ก. สี.)] อเนฬกํ [อเนลกํ (สี. ปี.)], เอวมสฺสาทา อโหสิ. อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตโร สตฺโต โลลชาติโก – ‘อมฺโภ, กิเมวิทํ ภวิสฺสตี’ติ รสปถวึ องฺคุลิยา สายิ. ตสฺส รสปถวึ องฺคุลิยา สายโต อจฺฉาเทสิ, ตณฺหา จสฺส โอกฺกมิ. อฺเปิ โข, วาเสฏฺ, สตฺตา ตสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมานา รสปถวึ องฺคุลิยา สายึสุ. เตสํ รสปถวึ องฺคุลิยา สายตํ อจฺฉาเทสิ, ตณฺหา จ เตสํ โอกฺกมิ.
จนฺทิมสูริยาทิปาตุภาโว
๑๒๑. ‘‘อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา รสปถวึ หตฺเถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุํ. ยโต โข ¶ เต [ยโต โข (สี. สฺยา. ปี.)], วาเสฏฺ, สตฺตา รสปถวึ ¶ หตฺเถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุํ. อถ เตสํ สตฺตานํ สยํปภา อนฺตรธายิ. สยํปภาย อนฺตรหิตาย จนฺทิมสูริยา ปาตุรเหสุํ. จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุรเหสุํ. นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปาตุภูเตสุ รตฺตินฺทิวา ปฺายึสุ. รตฺตินฺทิเวสุ ปฺายมาเนสุ มาสฑฺฒมาสา ปฺายึสุ. มาสฑฺฒมาเสสุ ปฺายมาเนสุ อุตุสํวจฺฉรา ปฺายึสุ. เอตฺตาวตา โข ¶ , วาเสฏฺ, อยํ โลโก ปุน วิวฏฺโฏ โหติ.
๑๒๒. ‘‘อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา รสปถวึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา [ตพฺภกฺขา (สฺยา.)] ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ. ยถา ยถา โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา รสปถวึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ (รสปถวึ ปริภฺุชนฺตานํ) [( ) สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] ขรตฺตฺเจว กายสฺมึ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา [วณฺณเววชฺชตา (ฏีกา)] จ ปฺายิตฺถ. เอกิทํ สตฺตา วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณา. ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวนฺโต, เต ทุพฺพณฺเณ สตฺเต อติมฺนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อมฺเหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติ. เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ รสปถวี อนฺตรธายิ. รสาย ปถวิยา อนฺตรหิตาย สนฺนิปตึสุ. สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนึสุ – ‘อโห รสํ, อโห รส’นฺติ! ตเทตรหิปิ ¶ มนุสฺสา กฺจิเทว สุรสํ [สาธุรสํ (สี. สฺยา. ปี.)] ลภิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อโห รสํ, อโห รส’นฺติ! ตเทว โปราณํ อคฺคฺํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น ตฺเววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ.
ภูมิปปฺปฏกปาตุภาโว
๑๒๓. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฏฺ, สตฺตานํ รสาย ปถวิยา ¶ อนฺตรหิตาย ภูมิปปฺปฏโก ปาตุรโหสิ. เสยฺยถาปิ นาม อหิจฺฉตฺตโก, เอวเมว ปาตุรโหสิ. โส อโหสิ วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน, เสยฺยถาปิ นาม สมฺปนฺนํ วา สปฺปิ สมฺปนฺนํ วา นวนีตํ เอวํวณฺโณ อโหสิ. เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทมธุํ อเนฬกํ, เอวมสฺสาโท ¶ อโหสิ.
‘‘อถ ¶ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา ภูมิปปฺปฏกํ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุํ. เต ตํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ. ยถา ยถา โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา ภูมิปปฺปฏกํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิยฺโยโส มตฺตาย ขรตฺตฺเจว กายสฺมึ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปฺายิตฺถ. เอกิทํ สตฺตา วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณา. ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวนฺโต, เต ทุพฺพณฺเณ สตฺเต อติมฺนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อมฺเหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติ. เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ ภูมิปปฺปฏโก อนฺตรธายิ.
ปทาลตาปาตุภาโว
๑๒๔. ‘‘ภูมิปปฺปฏเก อนฺตรหิเต ปทาลตา [สทฺทาลตา (สี.)] ปาตุรโหสิ, เสยฺยถาปิ นาม กลมฺพุกา [กลมฺพกา (สฺยา.)], เอวเมว ปาตุรโหสิ. สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนา, เสยฺยถาปิ นาม สมฺปนฺนํ วา สปฺปิ สมฺปนฺนํ วา นวนีตํ เอวํวณฺณา อโหสิ. เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทมธุํ อเนฬกํ, เอวมสฺสาทา อโหสิ.
‘‘อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา ปทาลตํ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุํ. เต ตํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ. ยถา ยถา โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา ปทาลตํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิยฺโยโสมตฺตาย ขรตฺตฺเจว กายสฺมึ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปฺายิตฺถ. เอกิทํ ¶ สตฺตา ¶ วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกิทํ สตฺตา ทุพฺพณฺณา. ตตฺถ เย เต สตฺตา วณฺณวนฺโต, เต ทุพฺพณฺเณ สตฺเต ¶ อติมฺนฺติ – ‘มยเมเตหิ วณฺณวนฺตตรา, อมฺเหเหเต ทุพฺพณฺณตรา’ติ. เตสํ วณฺณาติมานปจฺจยา มานาติมานชาติกานํ ปทาลตา อนฺตรธายิ.
‘‘ปทาลตาย อนฺตรหิตาย สนฺนิปตึสุ. สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนึสุ – ‘อหุ วต โน, อหายิ วต โน ปทาลตา’ติ! ตเทตรหิปิ มนุสฺสา เกนจิ [เกนจิเทว (สี. สฺยา. ปี.)] ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺา เอวมาหํสุ – ‘อหุ วต โน, อหายิ ¶ วต โน’ติ! ตเทว โปราณํ อคฺคฺํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น ตฺเววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ.
อกฏฺปากสาลิปาตุภาโว
๑๒๕. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฏฺ, สตฺตานํ ปทาลตาย อนฺตรหิตาย อกฏฺปาโก สาลิ ปาตุรโหสิ อกโณ อถุโส สุทฺโธ สุคนฺโธ ตณฺฑุลปฺผโล. ยํ ตํ สายํ สายมาสาย อาหรนฺติ, ปาโต ตํ โหติ ปกฺกํ ปฏิวิรูฬฺหํ. ยํ ตํ ปาโต ปาตราสาย อาหรนฺติ, สายํ ตํ โหติ ปกฺกํ ปฏิวิรูฬฺหํ; นาปทานํ ปฺายติ. อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา อกฏฺปากํ สาลึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ.
อิตฺถิปุริสลิงฺคปาตุภาโว
๑๒๖. ‘‘ยถา ยถา โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา อกฏฺปากํ สาลึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺํสุ, ตถา ตถา เตสํ สตฺตานํ ภิยฺโยโสมตฺตาย ขรตฺตฺเจว กายสฺมึ โอกฺกมิ, วณฺณเววณฺณตา จ ปฺายิตฺถ, อิตฺถิยา จ อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุรโหสิ ปุริสสฺส จ ปุริสลิงฺคํ. อิตฺถี ¶ จ ปุริสํ อติเวลํ อุปนิชฺฌายติ ปุริโส จ อิตฺถึ. เตสํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายตํ สาราโค อุทปาทิ, ปริฬาโห กายสฺมึ โอกฺกมิ. เต ปริฬาหปจฺจยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสุ.
‘‘เย โข ปน เต, วาเสฏฺ, เตน สมเยน สตฺตา ปสฺสนฺติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺเต, อฺเ ปํสุํ ขิปนฺติ, อฺเ เสฏฺึ ขิปนฺติ ¶ , อฺเ โคมยํ ขิปนฺติ – ‘นสฺส อสุจิ [วสลิ (สฺยา.), วสลี (ก.)], นสฺส อสุจี’ติ. ‘กถฺหิ นาม สตฺโต สตฺตสฺส เอวรูปํ กริสฺสตี’ติ! ตเทตรหิปิ มนุสฺสา เอกจฺเจสุ ชนปเทสุ วธุยา นิพฺพุยฺหมานาย [นิวยฺหมานาย, นิคฺคยฺหมานาย (ก.)] อฺเ ปํสุํ ขิปนฺติ, อฺเ เสฏฺึ ขิปนฺติ, อฺเ ¶ โคมยํ ขิปนฺติ. ตเทว โปราณํ อคฺคฺํ อกฺขรํ อนุสรนฺติ, น ตฺเววสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ.
เมถุนธมฺมสมาจาโร
๑๒๗. ‘‘อธมฺมสมฺมตํ ¶ โข ปน [อธมฺมสมฺมตํ ตํ โข ปน (สฺยา.), อธมฺมสมฺมตํ โข ปน ตํ (?)], วาเสฏฺ, เตน สมเยน โหติ, ตเทตรหิ ธมฺมสมฺมตํ. เย โข ปน, วาเสฏฺ, เตน สมเยน สตฺตา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺติ, เต มาสมฺปิ ทฺเวมาสมฺปิ น ลภนฺติ คามํ วา นิคมํ วา ปวิสิตุํ. ยโต โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา ตสฺมึ อสทฺธมฺเม อติเวลํ ปาตพฺยตํ อาปชฺชึสุ. อถ อคารานิ อุปกฺกมึสุ กาตุํ ตสฺเสว อสทฺธมฺมสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ. อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตรสฺส สตฺตสฺส อลสชาติกสฺส เอตทโหสิ – ‘อมฺโภ, กิเมวาหํ วิหฺามิ สาลึ อาหรนฺโต สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย! ยํนูนาหํ สาลึ อาหเรยฺยํ สกึเทว [สกึเทว (ก.)] สายปาตราสายา’ติ ¶ !
‘‘อถ โข โส, วาเสฏฺ, สตฺโต สาลึ อาหาสิ สกึเทว สายปาตราสาย. อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตโร สตฺโต เยน โส สตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติ. ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต [อาหโฏ (สฺยา.)] เม สาลิ สกึเทว สายปาตราสายา’ติ. อถ โข โส, วาเสฏฺ, สตฺโต ตสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน สาลึ อาหาสิ สกึเทว ทฺวีหาย. ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติ.
‘‘อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตโร สตฺโต เยน โส สตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติ. ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต เม สาลิ สกึเทว ทฺวีหายา’ติ. อถ โข โส, วาเสฏฺ, สตฺโต ตสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน สาลึ อาหาสิ สกึเทว จตูหาย, ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติ.
‘‘อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตโร สตฺโต เยน โส สตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ สตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สาลาหารํ คมิสฺสามา’ติ. ‘อลํ, โภ สตฺต, อาหโต เม สาลิ สกิเทว จตูหายา’ติ. อถ โข โส, วาเสฏฺ, สตฺโต ตสฺส สตฺตสฺส ¶ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมาโน สาลึ อาหาสิ สกิเทว อฏฺาหาย, ‘เอวมฺปิ กิร, โภ, สาธู’ติ.
‘‘ยโต โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา สนฺนิธิการกํ สาลึ อุปกฺกมึสุ ปริภฺุชิตุํ. อถ กโณปิ ¶ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ; ลูนมฺปิ นปฺปฏิวิรูฬฺหํ ¶ , อปทานํ ปฺายิตฺถ, สณฺฑสณฺฑา สาลโย อฏฺํสุ.
สาลิวิภาโค
๑๒๘. ‘‘อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา สนฺนิปตึสุ, สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนึสุ – ‘ปาปกา วต, โภ, ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา. มยฺหิ ปุพฺเพ มโนมยา อหุมฺหา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺมฺหา. เตสํ โน อมฺหากํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน รสปถวี อุทกสฺมึ สมตนิ. สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนา. เต มยํ รสปถวึ หตฺเถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมิมฺห ปริภฺุชิตุํ, เตสํ โน รสปถวึ หตฺเถหิ อาลุปฺปการกํ อุปกฺกมตํ ปริภฺุชิตุํ สยํปภา อนฺตรธายิ. สยํปภาย อนฺตรหิตาย จนฺทิมสูริยา ปาตุรเหสุํ, จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ¶ ปาตุรเหสุํ, นกฺขตฺเตสุ ตารกรูเปสุ ปาตุภูเตสุ รตฺตินฺทิวา ปฺายึสุ, รตฺตินฺทิเวสุ ปฺายมาเนสุ มาสฑฺฒมาสา ปฺายึสุ. มาสฑฺฒมาเสสุ ปฺายมาเนสุ อุตุสํวจฺฉรา ปฺายึสุ. เต มยํ รสปถวึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺมฺหา. เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา รสปถวี อนฺตรธายิ. รสปถวิยา อนฺตรหิตาย ภูมิปปฺปฏโก ปาตุรโหสิ. โส อโหสิ วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน. เต มยํ ภูมิปปฺปฏกํ อุปกฺกมิมฺห ปริภฺุชิตุํ. เต มยํ ตํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺมฺหา. เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา ¶ ภูมิปปฺปฏโก อนฺตรธายิ. ภูมิปปฺปฏเก อนฺตรหิเต ปทาลตา ปาตุรโหสิ. สา อโหสิ วณฺณสมฺปนฺนา คนฺธสมฺปนฺนา รสสมฺปนฺนา. เต มยํ ปทาลตํ อุปกฺกมิมฺห ปริภฺุชิตุํ. เต มยํ ตํ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺมฺหา. เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา ¶ ปทาลตา อนฺตรธายิ. ปทาลตาย อนฺตรหิตาย อกฏฺปาโก สาลิ ปาตุรโหสิ อกโณ อถุโส สุทฺโธ สุคนฺโธ ตณฺฑุลปฺผโล. ยํ ตํ สายํ สายมาสาย อาหราม, ปาโต ตํ โหติ ปกฺกํ ปฏิวิรูฬฺหํ. ยํ ตํ ปาโต ปาตราสาย อาหราม, สายํ ตํ โหติ ปกฺกํ ปฏิวิรูฬฺหํ. นาปทานํ ปฺายิตฺถ. เต มยํ อกฏฺปากํ สาลึ ปริภฺุชนฺตา ตํภกฺขา ตทาหารา จิรํ ทีฆมทฺธานํ อฏฺมฺหา. เตสํ โน ปาปกานํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปาตุภาวา กโณปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธิ, ลูนมฺปิ นปฺปฏิวิรูฬฺหํ, อปทานํ ปฺายิตฺถ, สณฺฑสณฺฑา ¶ สาลโย ิตา. ยํนูน มยํ ¶ สาลึ วิภเชยฺยาม, มริยาทํ เปยฺยามา’ติ! อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา สาลึ วิภชึสุ, มริยาทํ เปสุํ.
๑๒๙. ‘‘อถ โข, วาเสฏฺ, อฺตโร สตฺโต โลลชาติโก สกํ ภาคํ ปริรกฺขนฺโต อฺตรํ [อฺสฺส (?)] ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภฺุชิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ, คเหตฺวา เอตทโวจุํ – ‘ปาปกํ วต, โภ สตฺต, กโรสิ, ยตฺร หิ นาม สกํ ภาคํ ปริรกฺขนฺโต อฺตรํ ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภฺุชสิ. มาสฺสุ, โภ สตฺต, ปุนปิ เอวรูปมกาสี’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข, วาเสฏฺ, โส สตฺโต เตสํ สตฺตานํ ปจฺจสฺโสสิ. ทุติยมฺปิ โข, วาเสฏฺ, โส สตฺโต…เป… ตติยมฺปิ โข, วาเสฏฺ, โส สตฺโต สกํ ภาคํ ปริรกฺขนฺโต อฺตรํ ภาคํ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา ปริภฺุชิ. ตเมนํ อคฺคเหสุํ, คเหตฺวา เอตทโวจุํ – ‘ปาปกํ วต, โภ สตฺต, กโรสิ, ยตฺร หิ นาม สกํ ภาคํ ปริรกฺขนฺโต อฺตรํ ภาคํ อทินฺนํ ¶ อาทิยิตฺวา ปริภฺุชสิ. มาสฺสุ, โภ สตฺต, ปุนปิ เอวรูปมกาสี’ติ. อฺเ ปาณินา ปหรึสุ, อฺเ เลฑฺฑุนา ปหรึสุ, อฺเ ทณฺเฑน ปหรึสุ. ตทคฺเค โข, วาเสฏฺ, อทินฺนาทานํ ปฺายติ, ครหา ปฺายติ, มุสาวาโท ปฺายติ, ทณฺฑาทานํ ปฺายติ.
มหาสมฺมตราชา
๑๓๐. ‘‘อถ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา สนฺนิปตึสุ, สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนึสุ – ‘ปาปกา วต โภ ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา, ยตฺร หิ นาม ¶ อทินฺนาทานํ ปฺายิสฺสติ, ครหา ปฺายิสฺสติ, มุสาวาโท ปฺายิสฺสติ, ทณฺฑาทานํ ปฺายิสฺสติ. ยํนูน มยํ เอกํ สตฺตํ สมฺมนฺเนยฺยาม, โย โน สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีเยยฺย, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครเหยฺย, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชยฺย. มยํ ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทสฺสามา’ติ.
‘‘อถ ¶ โข เต, วาเสฏฺ, สตฺตา โย เนสํ สตฺโต อภิรูปตโร จ ทสฺสนียตโร จ ปาสาทิกตโร จ มเหสกฺขตโร จ ตํ สตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘เอหิ, โภ สตฺต, สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีย, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครห, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ¶ ปพฺพาเชหิ. มยํ ปน เต สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข, วาเสฏฺ, โส สตฺโต เตสํ สตฺตานํ ปฏิสฺสุณิตฺวา สมฺมา ขียิตพฺพํ ขียิ, สมฺมา ครหิตพฺพํ ครหิ, สมฺมา ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชสิ. เต ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทํสุ.
๑๓๑. ‘‘มหาชนสมฺมโตติ ¶ โข, วาเสฏฺ, ‘มหาสมฺมโต, มหาสมฺมโต’ ตฺเวว ปมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. เขตฺตานํ อธิปตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘ขตฺติโย, ขตฺติโย’ ตฺเวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. ธมฺเมน ปเร รฺเชตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘ราชา, ราชา’ ตฺเวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. อิติ โข, วาเสฏฺ, เอวเมตสฺส ขตฺติยมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคฺเน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ, อนฺเสํ. สทิสานํเยว, โน อสทิสานํ. ธมฺเมเนว, โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
พฺราหฺมณมณฺฑลํ
๑๓๒. ‘‘อถ โข เตสํ, วาเสฏฺ, สตฺตานํเยว [เตสํ เยว โข วาเสฏฺ สตฺตานํ (สี. ปี.)] เอกจฺจานํ เอตทโหสิ – ‘ปาปกา วต, โภ, ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา, ยตฺร หิ นาม อทินฺนาทานํ ปฺายิสฺสติ, ครหา ปฺายิสฺสติ, มุสาวาโท ปฺายิสฺสติ, ทณฺฑาทานํ ปฺายิสฺสติ, ปพฺพาชนํ ปฺายิสฺสติ. ยํนูน มยํ ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วาเหยฺยามา’ติ. เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วาเหสุํ ¶ . ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วาเหนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘พฺราหฺมณา, พฺราหฺมณา’ ตฺเวว ปมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. เต อรฺายตเน ปณฺณกุฏิโย ¶ กริตฺวา ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺติ วีตงฺคารา วีตธูมา ปนฺนมุสลา ¶ สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย คามนิคมราชธานิโย โอสรนฺติ ฆาสเมสมานา [ฆาสเมสนา (สี. สฺยา. ปี.)]. เต ฆาสํ ปฏิลภิตฺวา ปุนเทว อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺติ. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิเม โข, โภ, สตฺตา อรฺายตเน ปณฺณกุฏิโย กริตฺวา ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺติ, วีตงฺคารา วีตธูมา ปนฺนมุสลา สายํ สายมาสาย ปาโต ปาตราสาย คามนิคมราชธานิโย โอสรนฺติ ฆาสเมสมานา. เต ฆาสํ ปฏิลภิตฺวา ปุนเทว อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺตี’ติ, ฌายนฺตีติ โข [ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺติ ฌายนฺตีติ โข (สี. ปี.), ปณฺณกุฏีสุ ฌายนฺตีติ โข (ก.)], วาเสฏฺ, ‘ฌายกา, ฌายกา’ ตฺเวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. เตสํเยว โข, วาเสฏฺ, สตฺตานํ เอกจฺเจ สตฺตา อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ ตํ ฌานํ อนภิสมฺภุณมานา [อนภิสํภูนมานา (กตฺถจิ)] คามสามนฺตํ นิคมสามนฺตํ โอสริตฺวา คนฺเถ กโรนฺตา อจฺฉนฺติ. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิเม โข, โภ, สตฺตา อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ ตํ ฌานํ อนภิสมฺภุณมานา คามสามนฺตํ นิคมสามนฺตํ โอสริตฺวา คนฺเถ กโรนฺตา อจฺฉนฺติ, น ทานิเม ฌายนฺตี’ติ. น ทานิเม [น ทานิเม ฌายนฺตี น ทานิเม (สี. ปี. ก.)] ฌายนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘อชฺฌายกา อชฺฌายกา’ ตฺเวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. หีนสมฺมตํ โข ปน, วาเสฏฺ, เตน สมเยน โหติ, ตเทตรหิ เสฏฺสมฺมตํ. อิติ โข, วาเสฏฺ, เอวเมตสฺส พฺราหฺมณมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคฺเน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ ¶ , อนฺเสํ สทิสานํเยว โน อสทิสานํ ธมฺเมเนว ¶ , โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
เวสฺสมณฺฑลํ
๑๓๓. ‘‘เตสํเยว ¶ โข, วาเสฏฺ, สตฺตานํ เอกจฺเจ สตฺตา เมถุนํ ธมฺมํ สมาทาย วิสุกมฺมนฺเต [วิสฺสุตกมฺมนฺเต (สี. ปี.), วิสฺสุกมฺมนฺเต (ก. สี.), วิสุํ กมฺมนฺเต (สฺยา. ก.)] ปโยเชสุํ. เมถุนํ ธมฺมํ สมาทาย วิสุกมฺมนฺเต ปโยเชนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘เวสฺสา, เวสฺสา’ ตฺเวว อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. อิติ โข, วาเสฏฺ, เอวเมตสฺส เวสฺสมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคฺเน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสฺเว สตฺตานํ อนฺเสํ สทิสานํเยว ¶ , โน อสทิสานํ, ธมฺเมเนว โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
สุทฺทมณฺฑลํ
๑๓๔. ‘‘เตสฺเว โข, วาเสฏฺ, สตฺตานํ เย เต สตฺตา อวเสสา เต ลุทฺทาจารา ขุทฺทาจารา อเหสุํ. ลุทฺทาจารา ขุทฺทาจาราติ โข, วาเสฏฺ, ‘สุทฺทา, สุทฺทา’ ตฺเวว อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺตํ. อิติ โข, วาเสฏฺ, เอวเมตสฺส สุทฺทมณฺฑลสฺส โปราเณน อคฺคฺเน อกฺขเรน อภินิพฺพตฺติ อโหสิ เตสํเยว สตฺตานํ อนฺเสํ, สทิสานํเยว โน อสทิสานํ, ธมฺเมเนว, โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
๑๓๕. ‘‘อหุ โข โส, วาเสฏฺ, สมโย, ยํ ขตฺติโยปิ สกํ ธมฺมํ ครหมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ – ‘สมโณ ภวิสฺสามี’ติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ…เป… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ, สกํ ธมฺมํ ครหมาโน ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ – ‘สมโณ ภวิสฺสามี’ติ. อิเมหิ โข, วาเสฏฺ, จตูหิ มณฺฑเลหิ สมณมณฺฑลสฺส อภินิพฺพตฺติ อโหสิ, เตสํเยว สตฺตานํ อนฺเสํ, สทิสานํเยว โน อสทิสานํ, ธมฺเมเนว โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
ทุจฺจริตาทิกถา
๑๓๖. ‘‘ขตฺติโยปิ ¶ โข, วาเสฏฺ, กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ ¶ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิโก มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทาโน [อิทํ ปทํ สี. อิโปตฺถเกสุ นตฺถิ] มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ… สมโณปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิโก มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทาโน มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ.
‘‘ขตฺติโยปิ ¶ โข, วาเสฏฺ, กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา สมฺมาทิฏฺิโก สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทาโน [อิทํ ปทํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ… สมโณปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา สมฺมาทิฏฺิโก สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทาโน สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
๑๓๗. ‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน ทฺวยการี, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี, วิมิสฺสทิฏฺิโก วิมิสฺสทิฏฺิกมฺมสมาทาโน วิมิสฺสทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ [วิมิสฺสทิฏฺิโก วิมิสฺสกมฺมสมาทาโน วิมิสฺสกมฺมสมาทานเหตุ (สฺยา.), วีติมิสฺสทิฏฺิโก วีติมิสฺสทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ (สี. ปี.)] กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที โหติ. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ ¶ …เป… เวสฺโสปิ โข, วาเสฏฺ… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ… สมโณปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน ทฺวยการี ¶ , วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการี, วิมิสฺสทิฏฺิโก วิมิสฺสทิฏฺิกมฺมสมาทาโน วิมิสฺสทิฏฺิกมฺมสมาทานเหตุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที โหติ.
โพธิปกฺขิยภาวนา
๑๓๘. ‘‘ขตฺติโยปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต มนสา สํวุโต สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนมนฺวาย ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายติ [ปรินิพฺพาติ (ก.)]. พฺราหฺมโณปิ โข, วาเสฏฺ…เป… เวสฺโสปิ โข วาเสฏฺ… สุทฺโทปิ โข, วาเสฏฺ ¶ … สมโณปิ โข, วาเสฏฺ, กาเยน สํวุโต วาจาย สํวุโต ¶ มนสา สํวุโต สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนมนฺวาย ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายติ.
๑๓๙. ‘‘อิเมสฺหิ, วาเสฏฺ, จตุนฺนํ วณฺณานํ โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน ¶ สมฺมทฺา วิมุตฺโต โส เนสํ อคฺคมกฺขายติ ธมฺเมเนว. โน อธมฺเมน. ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจ.
๑๔๐. ‘‘พฺรหฺมุนา เปสา, วาเสฏฺ, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา –
‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ.
‘‘สา โข ปเนสา, วาเสฏฺ, พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรน คาถา สุคีตา, โน ทุคฺคีตา. สุภาสิตา, โน ทุพฺภาสิตา. อตฺถสํหิตา, โน อนตฺถสํหิตา. อนุมตา มยา. อหมฺปิ, วาเสฏฺ, เอวํ วทามิ –
‘ขตฺติโย ¶ เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา วาเสฏฺภารทฺวาชา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
อคฺคฺสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.
๕. สมฺปสาทนียสุตฺตํ
สาริปุตฺตสีหนาโท
๑๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเน. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ, น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ.
๑๔๒. ‘‘อุฬารา โข เต อยํ, สาริปุตฺต, อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’นฺติ. กึ เต [กึ นุ (สี. ปี.), กึ นุ โข เต (สฺยา.)], สาริปุตฺต, เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ ¶ , เอวํปฺา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํวิหารี เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘กึ ปน เต [กึ ปน (สี. ปี.)], สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ , สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา, `เอวํสีลา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปิ, เอวํธมฺมา…เป… เอวํปฺา… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘กึ ¶ ปน เต [กึ ปน (สี. ปี.)], สาริปุตฺต, อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘เอวํสีโล ภควา อิติปิ, เอวํธมฺโม…เป… เอวํปฺโ ¶ … เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺโต ภควา อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.
‘‘เอตฺถ จ หิ เต, สาริปุตฺต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ นตฺถิ. อถ กึ จรหิ เต อยํ, สาริปุตฺต, อุฬารา อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ, น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’’นฺติ?
๑๔๓. ‘‘น โข เม [น โข ปเนตํ (สฺยา. ก.)], ภนฺเต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ อตฺถิ. อปิ จ, เม [เม ภนฺเต (สี. ปี. ก.)] ธมฺมนฺวโย วิทิโต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต ¶ , รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ [ทฬฺหุทฺทาปํ (สี. ปี. ก.)] ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ. ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา, าตานํ ปเวเสตา. โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ อนุกฺกมมาโน น ปสฺเสยฺย ปาการสนฺธึ วา ปาการวิวรํ วา อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ¶ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สพฺเพ เต อิมินาว ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ. เอวเมว โข เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต. เย เต, ภนฺเต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา, สตฺต สมฺโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌึสุ. เยปิ เต, ภนฺเต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา, สตฺต สมฺโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสนฺติ. ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺโต ¶ สตฺต สมฺโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ.
๑๔๔. ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, เยน ภควา ¶ เตนุปสงฺกมึ ธมฺมสฺสวนาย. ตสฺส เม, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ เทเสติ อุตฺตรุตฺตรํ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ. ยถา ยถา เม, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ เทเสสิ อุตฺตรุตฺตรํ ปณีตปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ, ตถา ตถาหํ ตสฺมึ ธมฺเม อภิฺา ¶ อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺมคมํ; สตฺถริ ปสีทึ – ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สาวกสงฺโฆ’ติ.
กุสลธมฺมเทสนา
๑๔๕. ‘‘อปรํ ¶ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ตตฺริเม กุสลา ธมฺมา เสยฺยถิทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ตํ ภควา อเสสมภิชานาติ, ตํ ภควโต อเสสมภิชานโต อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถิ, ยทภิชานํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส, ยทิทํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ.
อายตนปณฺณตฺติเทสนา
๑๔๖. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ อายตนปณฺณตฺตีสุ. ฉยิมานิ, ภนฺเต, อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. จกฺขฺุเจว รูปา [รูปานิ (ก.)] จ, โสตฺเจว สทฺทา จ, ฆานฺเจว คนฺธา จ, ชิวฺหา เจว รสา จ, กาโย เจว โผฏฺพฺพา จ, มโน เจว ธมฺมา จ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อายตนปณฺณตฺตีสุ. ตํ ภควา อเสสมภิชานาติ, ตํ ภควโต อเสสมภิชานโต อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถิ, ยทภิชานํ ¶ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส ยทิทํ อายตนปณฺณตฺตีสุ.
คพฺภาวกฺกนฺติเทสนา
๑๔๗. ‘‘อปรํ ¶ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ คพฺภาวกฺกนฺตีสุ. จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, คพฺภาวกฺกนฺติโย. อิธ ¶ , ภนฺเต, เอกจฺโจ อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ; อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ; อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ. อยํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ; อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ; อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ. อยํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ; สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ; อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ. อยํ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ; สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ; สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ. อยํ จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, คพฺภาวกฺกนฺตีสุ.
อาเทสนวิธาเทสนา
๑๔๘. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ อาเทสนวิธาสุ. จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, อาเทสนวิธา. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ นิมิตฺเตน อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส ¶ พหุํ เจปิ อาทิสติ, ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อยํ ปมา อาเทสนวิธา.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ. อปิ จ โข มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ, ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อยํ ทุติยา อาเทสนวิธา.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ, นาปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ. อปิ ¶ จ โข วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ ¶ – ‘เอวมฺปิ เต มโน, อิตฺถมฺปิ เต มโน, อิติปิ เต จิตฺต’นฺติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ, ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อยํ ตติยา อาเทสนวิธา.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสติ, นาปิ มนุสฺสานํ วา อมนุสฺสานํ วา เทวตานํ วา สทฺทํ สุตฺวา อาทิสติ, นาปิ วิตกฺกยโต วิจารยโต วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ ¶ สุตฺวา อาทิสติ. อปิ จ โข อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธึ สมาปนฺนสฺส [วิตกฺกวิจารสมาธิสมาปนฺนสฺส (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๓.๖๑ ปสฺสิตพฺพํ] เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ – ‘ยถา อิมสฺส โภโต มโนสงฺขารา ปณิหิตา. ตถา อิมสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสตี’ติ. โส พหุํ เจปิ อาทิสติ, ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถา. อยํ จตุตฺถา อาเทสนวิธา. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อาเทสนวิธาสุ.
ทสฺสนสมาปตฺติเทสนา
๑๔๙. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ทสฺสนสมาปตฺตีสุ. จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, ทสฺสนสมาปตฺติโย. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา ¶ อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆานิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อยํ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา ¶ โลมา…เป… ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อติกฺกมฺม จ ปุริสสฺส ฉวิมํสโลหิตํ อฏฺึ ปจฺจเวกฺขติ. อยํ ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อติกฺกมฺม จ ปุริสสฺส ฉวิมํสโลหิตํ อฏฺึ ปจฺจเวกฺขติ. ปุริสสฺส จ วิฺาณโสตํ ปชานาติ, อุภยโต อพฺโพจฺฉินฺนํ อิธ โลเก ปติฏฺิตฺจ ปรโลเก ปติฏฺิตฺจ. อยํ ตติยา ทสฺสนสมาปตฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… ลสิกา มุตฺต’นฺติ. อติกฺกมฺม จ ปุริสสฺส ¶ ฉวิมํสโลหิตํ อฏฺึ ปจฺจเวกฺขติ. ปุริสสฺส จ วิฺาณโสตํ ปชานาติ, อุภยโต อพฺโพจฺฉินฺนํ อิธ โลเก อปฺปติฏฺิตฺจ ปรโลเก อปฺปติฏฺิตฺจ. อยํ จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ทสฺสนสมาปตฺตีสุ.
ปุคฺคลปณฺณตฺติเทสนา
๑๕๐. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ปุคฺคลปณฺณตฺตีสุ. สตฺติเม, ภนฺเต, ปุคฺคลา. อุภโตภาควิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโต กายสกฺขี ทิฏฺิปฺปตฺโต สทฺธาวิมุตฺโต ธมฺมานุสารี สทฺธานุสารี. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปุคฺคลปณฺณตฺตีสุ.
ปธานเทสนา
๑๕๑. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ ¶ เทเสติ ปธาเนสุ. สตฺติเม, ภนฺเต สมฺโพชฺฌงฺคา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ¶ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปธาเนสุ.
ปฏิปทาเทสนา
๑๕๒. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ปฏิปทาสุ. จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, ปฏิปทา ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺาติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ทนฺธาภิฺา, อยํ, ภนฺเต, ปฏิปทา อุภเยเนว หีนา อกฺขายติ ทุกฺขตฺตา จ ทนฺธตฺตา จ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา ทุกฺขา ขิปฺปาภิฺา, อยํ ปน, ภนฺเต, ปฏิปทา ทุกฺขตฺตา หีนา ¶ อกฺขายติ ¶ . ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา สุขา ทนฺธาภิฺา, อยํ ปน, ภนฺเต, ปฏิปทา ทนฺธตฺตา หีนา อกฺขายติ. ตตฺร, ภนฺเต, ยายํ ปฏิปทา สุขา ขิปฺปาภิฺา, อยํ ปน, ภนฺเต, ปฏิปทา อุภเยเนว ปณีตา อกฺขายติ สุขตฺตา จ ขิปฺปตฺตา จ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปฏิปทาสุ.
ภสฺสสมาจาราทิเทสนา
๑๕๓. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ภสฺสสมาจาเร. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ น เจว มุสาวาทุปสฺหิตํ วาจํ ภาสติ น จ เวภูติยํ น จ เปสุณิยํ น จ สารมฺภชํ ชยาเปกฺโข; มนฺตา มนฺตา จ วาจํ ภาสติ นิธานวตึ กาเลน. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ภสฺสสมาจาเร.
‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ปุริสสีลสมาจาเร. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สจฺโจ จสฺส สทฺโธ จ, น จ กุหโก, น จ ลปโก, น จ เนมิตฺติโก, น จ นิปฺเปสิโก, น จ ลาเภน ¶ ลาภํ นิชิคีสนโก [ชิชิคึสนโก (สฺยา.), นิชิคึสิตา (สี. ปี.)], อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺู, สมการี, ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต, อตนฺทิโต, อารทฺธวีริโย, ฌายี, สติมา, กลฺยาณปฏิภาโน, คติมา, ธิติมา, มติมา, น จ กาเมสุ คิทฺโธ, สโต จ นิปโก จ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปุริสสีลสมาจาเร.
อนุสาสนวิธาเทสนา
๑๕๔. ‘‘อปรํ ¶ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ อนุสาสนวิธาสุ. จตสฺโส อิมา ภนฺเต อนุสาสนวิธา – ชานาติ ¶ , ภนฺเต, ภควา อปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา ‘อยํ ปุคฺคโล ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน ภวิสฺสติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี ภวิสฺสติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ภวิสฺสติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา ¶ โลกา’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อนุสาสนวิธาสุ.
ปรปุคฺคลวิมุตฺติาณเทสนา
๑๕๕. ‘‘อปรํ ¶ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน ภวิสฺสติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา ¶ – ‘อยํ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี ภวิสฺสติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ภวิสฺสติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’ติ. ชานาติ, ภนฺเต, ภควา ปรํ ปุคฺคลํ ปจฺจตฺตํ โยนิโสมนสิการา – ‘อยํ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’ติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณ.
สสฺสตวาทเทสนา
๑๕๖. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ สสฺสตวาเทสุ. ตโยเม, ภนฺเต, สสฺสตวาทา. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที ¶ ¶ เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร ¶ เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส เอวมาห – ‘อตีตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ – สํวฏฺฏิ วา โลโก วิวฏฺฏิ วาติ. อนาคตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ – สํวฏฺฏิสฺสติ วา โลโก วิวฏฺฏิสฺสติ วาติ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต. เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’นฺติ. อยํ ปโม สสฺสตวาโท.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏํ ทฺเวปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตีณิปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาริปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ปฺจปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต ¶ เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส เอวมาห – ‘อตีตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ สํวฏฺฏิ วา โลโก วิวฏฺฏิ วาติ ¶ . อนาคตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ ¶ สํวฏฺฏิสฺสติ วา โลโก วิวฏฺฏิสฺสติ วาติ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต. เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’นฺติ. อยํ ทุติโย สสฺสตวาโท.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ วีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตึสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาลีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส เอวมาห – ‘อตีตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ สํวฏฺฏิปิ โลโก วิวฏฺฏิปีติ; อนาคตํปาหํ อทฺธานํ ชานามิ สํวฏฺฏิสฺสติปิ โลโก วิวฏฺฏิสฺสติปีติ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ ¶ เอสิกฏฺายิฏฺิโต. เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’นฺติ. อยํ ตติโย สสฺสตวาโท, เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, สสฺสตวาเทสุ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณเทสนา
๑๕๗. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณ. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สมโณ วา ¶ พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ¶ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป ¶ อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป, ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. สนฺติ, ภนฺเต, เทวา [สตฺตา (สฺยา.)], เยสํ น สกฺกา คณนาย วา สงฺขาเนน วา อายุ สงฺขาตุํ. อปิ จ, ยสฺมึ ยสฺมึ อตฺตภาเว อภินิวุฏฺปุพฺโพ [อภินิวุตฺถปุพฺโพ (สี. สฺยา. ปี.)] โหติ ยทิ วา รูปีสุ ยทิ วา อรูปีสุ ยทิ วา สฺีสุ ยทิ วา อสฺีสุ ยทิ วา เนวสฺีนาสฺีสุ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณ.
จุตูปปาตาณเทสนา
๑๕๘. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ สตฺตานํ จุตูปปาตาเณ. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม ¶ วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ ¶ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ ¶ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต ¶ สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, สตฺตานํ จุตูปปาตาเณ.
อิทฺธิวิธเทสนา
๑๕๙. ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ อิทฺธิวิธาสุ. ทฺเวมา, ภนฺเต, อิทฺธิวิธาโย – อตฺถิ, ภนฺเต, อิทฺธิ สาสวา สอุปธิกา, ‘โน อริยา’ติ วุจฺจติ. อตฺถิ, ภนฺเต, อิทฺธิ อนาสวา อนุปธิกา ‘อริยา’ติ วุจฺจติ. ‘‘กตมา จ, ภนฺเต, อิทฺธิ สาสวา สอุปธิกา, ‘โน อริยา’ติ วุจฺจติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย…เป… ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ. เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ ¶ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส. ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก. อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ. อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ. อยํ, ภนฺเต, อิทฺธิ สาสวา สอุปธิกา, ‘โน อริยา’ติ วุจฺจติ.
‘‘กตมา ปน, ภนฺเต, อิทฺธิ อนาสวา อนุปธิกา, ‘อริยา’ติ วุจฺจติ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี ¶ วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูลสฺี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูลฺจ อปฺปฏิกูลฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อยํ, ภนฺเต, อิทฺธิ อนาสวา อนุปธิกา ‘อริยา’ติ วุจฺจติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อิทฺธิวิธาสุ ¶ . ตํ ภควา อเสสมภิชานาติ, ตํ ภควโต อเสสมภิชานโต อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถิ, ยทภิชานํ อฺโ สมโณ ¶ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส ยทิทํ อิทฺธิวิธาสุ.
อฺถาสตฺถุคุณทสฺสนํ
๑๖๐. ‘‘ยํ ¶ ตํ, ภนฺเต, สทฺเธน กุลปุตฺเตน ปตฺตพฺพํ อารทฺธวีริเยน ถามวตา ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปุริสโธรยฺเหน, อนุปฺปตฺตํ ตํ ภควตา. น จ, ภนฺเต, ภควา กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺโต หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น จ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺโต ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ. จตุนฺนฺจ ภควา ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.
อนุโยคทานปฺปกาโร
๑๖๑. ‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตรา สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺยํ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตรา สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺยํ ¶ . ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺยํ.
‘‘สเจ ปน มํ, ภนฺเต, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘เอว’นฺติ วเทยฺยํ. ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘‘เอว’’นฺติ วเทยฺยํ ¶ . ‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺเ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภควตา สมสมา สมฺโพธิย’นฺติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ ภนฺเต ‘โน’ติ วเทยฺยํ.
‘‘สเจ ปน มํ, ภนฺเต, เอวํ ปุจฺเฉยฺย – ‘กึ ปนายสฺมา สาริปุตฺโต เอกจฺจํ อพฺภนุชานาติ ¶ , เอกจฺจํ น อพฺภนุชานาตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, เอวํ พฺยากเรยฺยํ ¶ – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘‘อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา มยา สมสมา สมฺโพธิย’’นฺติ. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘‘ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา มยา สมสมา สมฺโพธิย’’นฺติ. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’’ติ.
‘‘กจฺจาหํ, ภนฺเต, เอวํ ¶ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว ภควโต โหมิ, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขามิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรมิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท [วาทานุปาโต (สี.)] คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, สาริปุตฺต, เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม โหสิ, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขสิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรสิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’ติ.
อจฺฉริยอพฺภุตํ
๑๖๒. เอวํ ¶ วุตฺเต, อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา สลฺเลขตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว, อถ จ ปน เนวตฺตานํ ปาตุกริสฺสติ! เอกเมกฺเจปิ อิโต, ภนฺเต, ธมฺมํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อตฺตนิ สมนุปสฺเสยฺยุํ, เต ตาวตเกเนว ปฏากํ ปริหเรยฺยุํ. อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา สลฺเลขตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต เอวํ มหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว. อถ จ ปน เนวตฺตานํ ปาตุกริสฺสตี’’ติ!
‘‘ปสฺส โข ตฺวํ, อุทายิ, ‘ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา สลฺเลขตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว, อถ จ ปน เนวตฺตานํ ปาตุกริสฺสติ’! เอกเมกฺเจปิ อิโต, อุทายิ, ธมฺมํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อตฺตนิ สมนุปสฺเสยฺยุํ, เต ตาวตเกเนว ปฏากํ ¶ ปริหเรยฺยุํ. ปสฺส โข ตฺวํ, อุทายิ, ‘ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฏฺิตา สลฺเลขตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว, อถ จ ปน เนวตฺตานํ ปาตุกริสฺสตี’’’ติ!
๑๖๓. อถ ¶ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตสฺมา ติห ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมํ ธมฺมปริยายํ อภิกฺขณํ ภาเสยฺยาสิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. เยสมฺปิ หิ, สาริปุตฺต, โมฆปุริสานํ ภวิสฺสติ ตถาคเต กงฺขา วา วิมติ วา, เตสมิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ตถาคเต กงฺขา วา วิมติ วา, สา ปหียิสฺสตี’’ติ. อิติ หิทํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ¶ ภควโต สมฺมุขา สมฺปสาทํ ปเวเทสิ. ตสฺมา อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส สมฺปสาทนียํ ตฺเวว อธิวจนนฺติ.
สมฺปสาทนียสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.
๖. ปาสาทิกสุตฺตํ
๑๖๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ เวธฺา นาม สกฺยา, เตสํ อมฺพวเน ปาสาเท.
นิคณฺนาฏปุตฺตกาลงฺกิริยา
เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี. ปี.)] ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต โหติ. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ? มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เต. ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. วโธเยว โข [วโธเยเวโก (ก.)] มฺเ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ วตฺตติ [อนุวตฺตติ (สฺยา. ก.)]. เยปิ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา ¶ , เตปิ [เต เตสุ (ก.)] นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา [นิพฺพินฺทรูปา (ก.)] วิรตฺตรูปา ปฏิวานรูปา, ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ.
๑๖๕. อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโ [วสฺสํวุตฺโถ (สี. สฺยา. ปี.)] เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท จุนฺทํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส จุนฺท, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายามาวุโส ¶ จุนฺท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสามา’’ติ [อาโรเจยฺยามาติ (สฺยา.)]. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
อถ โข อายสฺมา จ อานนฺโท จุนฺโท จ สมณุทฺเทโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, จุนฺโท สมณุทฺเทโส เอวมาห, ‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต, ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’’’ติ.
อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินโย
๑๖๖. ‘‘เอวํ เหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต ¶ อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต. อิธ, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ น สามีจิปฺปฏิปนฺโน น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตติ. โส ¶ เอวมสฺส วจนีโย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ, สตฺถา จ เต อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตฺวฺจ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตสี’ติ. อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ คารยฺโห, ธมฺโมปิ ตตฺถ คารยฺโห, สาวโก จ ตตฺถ เอวํ ปาสํโส. โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย – ‘เอตายสฺมา ตถา ปฏิปชฺชตุ, ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต’ติ. โย จ สมาทเปติ [สมาทาเปติ (สี. ฏฺ.)], ยฺจ สมาทเปติ, โย จ สมาทปิโต [สมาทาปิโต (สี. ฏฺ.)] ตถตฺตาย ปฏิปชฺชติ. สพฺเพ เต พหุํ อปฺุํ ปสวนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวํ เหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต.
๑๖๗. ‘‘อิธ ¶ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม ¶ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, สตฺถา จ เต อสมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ , ธมฺโม จ ทุรกฺขาโต ทุปฺปเวทิโต อนิยฺยานิโก อนุปสมสํวตฺตนิโก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตฺวฺจ ¶ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตสี’ติ. อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ คารยฺโห, ธมฺโมปิ ตตฺถ คารยฺโห, สาวโกปิ ตตฺถ เอวํ คารยฺโห. โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อทฺธายสฺมา ายปฺปฏิปนฺโน ายมาราเธสฺสตี’ติ. โย จ ปสํสติ, ยฺจ ปสํสติ, โย จ ปสํสิโต ภิยฺโยโส มตฺตาย วีริยํ อารภติ. สพฺเพ เต พหุํ อปฺุํ ปสวนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต.
สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินโย
๑๖๘. ‘‘อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส, อลาภา, ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, สตฺถา จ เต สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตฺวฺจ ตสฺมึ ธมฺเม น ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ, น สามีจิปฺปฏิปนฺโน, น อนุธมฺมจารี, โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตสี’ติ. อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ ปาสํโส, ธมฺโมปิ ตตฺถ ปาสํโส, สาวโก จ ตตฺถ เอวํ คารยฺโห. โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ ¶ สาวกํ เอวํ วเทยฺย – ‘เอตายสฺมา ตถา ปฏิปชฺชตุ ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโต ปฺตฺโต’ติ. โย จ สมาทเปติ, ยฺจ สมาทเปติ, โย จ สมาทปิโต ตถตฺตาย ปฏิปชฺชติ. สพฺเพ เต พหุํ ปฺุํ ปสวนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ ¶ , จุนฺท, โหติ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต.
๑๖๙. ‘‘อิธ ¶ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, สาวโก จ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภา, ตสฺส เต สุลทฺธํ, สตฺถา จ เต [สตฺถา จ เต อรหํ (สฺยา.)] สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ , ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตฺวฺจ ตสฺมึ ธมฺเม ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรสิ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, สมาทาย ตํ ธมฺมํ วตฺตสี’ติ. อิติ โข, จุนฺท, สตฺถาปิ ตตฺถ ปาสํโส, ธมฺโมปิ ตตฺถ ปาสํโส, สาวโกปิ ตตฺถ เอวํ ปาสํโส. โย โข, จุนฺท, เอวรูปํ สาวกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อทฺธายสฺมา ายปฺปฏิปนฺโน ายมาราเธสฺสตี’ติ. โย จ ปสํสติ, ยฺจ ปสํสติ, โย จ ปสํสิโต [ปสตฺโถ (สฺยา.)] ภิยฺโยโส มตฺตาย วีริยํ อารภติ. สพฺเพ เต พหุํ ปฺุํ ปสวนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหติ สฺวากฺขาเต ¶ ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต.
สาวกานุตปฺปสตฺถุ
๑๗๐. ‘‘อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, อวิฺาปิตตฺถา จสฺส โหนฺติ สาวกา สทฺธมฺเม, น จ เตสํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ¶ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. อถ เนสํ สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหติ. เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนุตปฺโป โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สตฺถา จ โน โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต, อวิฺาปิตตฺถา จมฺห สทฺธมฺเม, น จ โน เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ ¶ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. อถ โน สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหตีติ. เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนุตปฺโป โหติ.
สาวกานนุตปฺปสตฺถุ
๑๗๑. ‘‘อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. วิฺาปิตตฺถา จสฺส โหนฺติ ¶ สาวกา สทฺธมฺเม, เกวลฺจ เตสํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. อถ เนสํ สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหติ. เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนนุตปฺโป โหติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตุ? สตฺถา จ โน โลเก อุทปาทิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. วิฺาปิตตฺถา จมฺห สทฺธมฺเม, เกวลฺจ โน ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ โหติ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ ¶ . อถ โน สตฺถุโน อนฺตรธานํ โหตีติ. เอวรูโป โข, จุนฺท, สตฺถา สาวกานํ กาลงฺกโต อนนุตปฺโป โหติ.
พฺรหฺมจริยอปริปูราทิกถา
๑๗๒. ‘‘เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, โน จ โข สตฺถา โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
‘‘ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
๑๗๓. ‘‘เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต ¶ , โน จ ขฺวสฺส เถรา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ¶ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํ. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
‘‘ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํ. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
๑๗๔. ‘‘เอเตหิ เจปิ, จุนฺท, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา ¶ วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํ. โน จ ขฺวสฺส มชฺฌิมา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ…เป… มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส นวา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ…เป… นวา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส เถรา ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ…เป… เถรา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส มชฺฌิมา ¶ ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ…เป… มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ ¶ , โน จ ขฺวสฺส นวา ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ…เป… นวา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ, โน จ ขฺวสฺส อุปาสกา สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน…เป… อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน, โน จ ขฺวสฺส อุปาสกา สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน…เป… อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน, โน จ ขฺวสฺส อุปาสิกา สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย…เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย, โน จ ขฺวสฺส อุปาสิกา สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย…เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย, โน จ ขฺวสฺส พฺรหฺมจริยํ โหติ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ…เป… พฺรหฺมจริยฺจสฺส โหติ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว ¶ เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ, โน จ โข ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ อปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
‘‘ยโต จ โข, จุนฺท, เอเตหิ เจว องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ โหติ, สตฺถา จ โหติ เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, เถรา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํ. มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ…เป… นวา จสฺส ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ…เป… เถรา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา ¶ โหนฺติ…เป… มชฺฌิมา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ…เป… นวา จสฺส ภิกฺขุนิโย สาวิกา โหนฺติ…เป… อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ…เป… คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน ¶ . อุปาสกา จสฺส สาวกา โหนฺติ คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน…เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย…เป… อุปาสิกา จสฺส สาวิกา โหนฺติ คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย…เป… พฺรหฺมจริยฺจสฺส โหติ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ ¶ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ, ลาภคฺคปฺปตฺตฺจ ยสคฺคปฺปตฺตฺจ. เอวํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปริปูรํ โหติ เตนงฺเคน.
๑๗๕. ‘‘อหํ โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถา โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ธมฺโม จ สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. วิฺาปิตตฺถา จ เม สาวกา สทฺธมฺเม, เกวลฺจ เตสํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ อาวิกตํ อุตฺตานีกตํ สพฺพสงฺคาหปทกตํ สปฺปาฏิหีรกตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. อหํ โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถา เถโร รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต.
‘‘สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขู สาวกา โหนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา ปตฺตโยคกฺเขมา. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺส, อลํ อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมหิ สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสตุํ. สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท ¶ , เอตรหิ มชฺฌิมา ภิกฺขู สาวกา…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ นวา ภิกฺขู สาวกา…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขุนิโย สาวิกา…เป… สนฺติ โข ¶ ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ มชฺฌิมา ภิกฺขุนิโย สาวิกา…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ นวา ภิกฺขุนิโย สาวิกา…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวสนา พฺรหฺมจาริโน…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวสนา กามโภคิโน…เป… สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสิกา สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา พฺรหฺมจารินิโย…เป… สนฺติ โข ปน ¶ เม, จุนฺท, เอตรหิ อุปาสิกา สาวิกา คิหินิโย โอทาตวสนา กามโภคินิโย…เป… เอตรหิ โข ปน เม, จุนฺท, พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ.
๑๗๖. ‘‘ยาวตา โข, จุนฺท, เอตรหิ สตฺถาโร โลเก อุปฺปนฺนา, นาหํ, จุนฺท, อฺํ เอกสตฺถารมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวาหํ. ยาวตา โข ปน, จุนฺท, เอตรหิ สงฺโฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปนฺโน; นาหํ, จุนฺท, อฺํ เอกํ สํฆมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ. ยํ โข ตํ, จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิต’นฺติ. อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ…เป… สุปฺปกาสิต’นฺติ.
‘‘อุทโก ¶ [อุทฺทโก (สี. สฺยา. ปี.)] สุทํ, จุนฺท, รามปุตฺโต เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี’ติ. กิฺจ ¶ ปสฺสํ น ปสฺสตีติ? ขุรสฺส สาธุนิสิตสฺส ตลมสฺส ปสฺสติ, ธารฺจ ขฺวสฺส น ปสฺสติ. อิทํ วุจฺจติ – ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี’ติ. ยํ โข ปเนตํ, จุนฺท, อุทเกน รามปุตฺเตน ภาสิตํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ ขุรเมว สนฺธาย. ยฺจ ตํ [ยฺเจตํ (สฺยา. ก.)], จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ปสฺสํ ¶ น ปสฺสตี’ติ, อิทเมว ตํ [อิทเมเวตํ (ก.)] สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี’ติ. กิฺจ ปสฺสํ น ปสฺสตีติ? เอวํ สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิตนฺติ, อิติ เหตํ ปสฺสติ [สุปฺปกาสิตํ, อิติ เหตํ น ปสฺสตีติ (สฺยา. ก.)]. อิทเมตฺถ อปกฑฺเฒยฺย, เอวํ ตํ ปริสุทฺธตรํ อสฺสาติ, อิติ เหตํ น ปสฺสติ [น ปสฺสตีติ (สฺยา. ก.)]. อิทเมตฺถ อุปกฑฺเฒยฺย, เอวํ ตํ ปริปูรํ [ปริสุทฺธตรํ (สฺยา. ก.), ปริปูรตรํ (?)] อสฺสาติ, อิติ ¶ เหตํ น ปสฺสติ. อิทํ วุจฺจติ จุนฺท – ‘ปสฺสํ น ปสฺสตี’ติ. ยํ โข ตํ, จุนฺท, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ…เป… พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิต’นฺติ. อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สพฺพาการสมฺปนฺนํ สพฺพาการปริปูรํ อนูนมนธิกํ สฺวากฺขาตํ เกวลํ ปริปูรํ พฺรหฺมจริยํ สุปฺปกาสิต’นฺติ.
สงฺคายิตพฺพธมฺโม
๑๗๗. ตสฺมาติห, จุนฺท, เย โว มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม จ เต, จุนฺท ¶ , ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา, ยตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ? เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ¶ , อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. อิเม โข เต, จุนฺท, ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา. ยตฺถ สพฺเพเหว สงฺคมฺม สมาคมฺม อตฺเถน อตฺถํ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สงฺคายิตพฺพํ น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
สฺาเปตพฺพวิธิ
๑๗๘. ‘‘เตสฺจ ¶ โว, จุนฺท, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ [สิกฺขิตพฺพํ (พหูสุ)] อฺตโร สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺย. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถฺเจว มิจฺฉา คณฺหาติ, พฺยฺชนานิ จ มิจฺฉา โรเปตี’ติ. ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมานิ วา พฺยฺชนานิ เอตานิ วา พฺยฺชนานิ กตมานิ โอปายิกตรานิ, อิเมสฺจ [อิเมสํ วา (สฺยา. ปี. ก.), อิเมสํ (สี.)] พฺยฺชนานํ อยํ วา อตฺโถ เอโส วา อตฺโถ ¶ กตโม โอปายิกตโร’ติ ¶ ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมาเนว พฺยฺชนานิ โอปายิกตรานิ, ยา เจว [ยฺเจว (สี. ก.), ฏีกา โอโลเกตพฺพา] เอตานิ; อิเมสฺจ [อิเมทํ (สพฺพตฺถ)] พฺยฺชนานํ อยเมว อตฺโถ โอปายิกตโร, ยา เจว [ยฺเจว (สี. ก.), ฏีกา โอโลเกตพฺพา] เอโส’ติ. โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ, อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา สฺเวว สาธุกํ สฺาเปตพฺโพ ตสฺส จ อตฺถสฺส เตสฺจ พฺยฺชนานํ นิสนฺติยา.
๑๗๙. ‘‘อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺย. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถฺหิ โข มิจฺฉา คณฺหาติ พฺยฺชนานิ สมฺมา ¶ โรเปตี’ติ. ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิเมสํ นุ โข, อาวุโส, พฺยฺชนานํ อยํ วา อตฺโถ เอโส วา อตฺโถ กตโม โอปายิกตโร’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘อิเมสํ โข, อาวุโส, พฺยฺชนานํ อยเมว อตฺโถ โอปายิกตโร, ยา เจว เอโส’ติ. โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ, อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา สฺเวว สาธุกํ สฺาเปตพฺโพ ตสฺเสว อตฺถสฺส นิสนฺติยา.
๑๘๐. ‘‘อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺย. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถฺหิ โข สมฺมา คณฺหาติ พฺยฺชนานิ มิจฺฉา โรเปตี’ติ. ตสฺส เนว อภินนฺทิตพฺพํ น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ; อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา โส ¶ เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมานิ วา พฺยฺชนานิ เอตานิ วา พฺยฺชนานิ กตมานิ โอปายิกตรานี’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย – ‘อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺส อิมาเนว พฺยฺชนานิ โอปยิกตรานิ, ยานิ เจว เอตานี’ติ ¶ . โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพ น อปสาเทตพฺโพ; อนุสฺสาเทตฺวา อนปสาเทตฺวา สฺเวว สาธุกํ สฺาเปตพฺโพ เตสฺเว พฺยฺชนานํ นิสนฺติยา.
๑๘๑. ‘‘อปโรปิ เจ, จุนฺท, สพฺรหฺมจารี สงฺเฆ ธมฺมํ ภาเสยฺย. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อยํ โข อายสฺมา อตฺถฺเจว สมฺมา คณฺหาติ พฺยฺชนานิ ¶ จ สมฺมา โรเปตี’ติ. ตสฺส ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ; ตสฺส ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘ลาภา โน อาวุโส, สุลทฺธํ โน อาวุโส, เย มยํ อายสฺมนฺตํ ตาทิสํ สพฺรหฺมจารึ ปสฺสาม เอวํ อตฺถุเปตํ พฺยฺชนุเปต’นฺติ.
ปจฺจยานฺุาตการณํ
๑๘๒. ‘‘น โว อหํ, จุนฺท, ทิฏฺธมฺมิกานํเยว อาสวานํ ¶ สํวราย ธมฺมํ เทเสมิ. น ปนาหํ, จุนฺท, สมฺปรายิกานํเยว อาสวานํ ปฏิฆาตาย ธมฺมํ เทเสมิ. ทิฏฺธมฺมิกานํ เจวาหํ, จุนฺท, อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมิ; สมฺปรายิกานฺจ อาสวานํ ปฏิฆาตาย. ตสฺมาติห, จุนฺท, ยํ โว มยา จีวรํ อนฺุาตํ, อลํ โว ตํ – ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสป [สิรึสป (สฺยา.)] สมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํ. โย ¶ โว มยา ปิณฺฑปาโต อนฺุาโต, อลํ โว โส ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จ [จาติ (พหูสุ)]. ยํ โว มยา เสนาสนํ อนฺุาตํ, อลํ โว ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย, อุณฺหสฺส ปฏิฆาตาย, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ปฏิฆาตาย, ยาวเทว อุตุปริสฺสยวิโนทน ปฏิสลฺลานารามตฺถํ. โย โว มยา คิลานปจฺจยเภสชฺช ปริกฺขาโร อนฺุาโต, อลํ โว โส ยาวเทว อุปฺปนฺนานํ เวยฺยาพาธิกานํ เวทนานํ ปฏิฆาตาย อพฺยาปชฺชปรมตาย [อพฺยาปชฺฌปรมตายาติ (สี. สฺยา. ปี.), อพฺยาพชฺฌปรมตาย (?)].
สุขลฺลิกานุโยโค
๑๘๓. ‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี’ติ. เอวํวาทิโน [วทมานา (สฺยา.)], จุนฺท, อฺติตฺถิยา ¶ ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘กตโม โส ¶ , อาวุโส, สุขลฺลิกานุโยโค? สุขลฺลิกานุโยคา หิ พหู อเนกวิหิตา นานปฺปการกา’ติ.
‘‘จตฺตาโรเม, จุนฺท, สุขลฺลิกานุโยคา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร?
‘‘อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ พาโล ปาเณ วธิตฺวา วธิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ. อยํ ปโม สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ ¶ ¶ อทินฺนํ อาทิยิตฺวา อาทิยิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ. อยํ ทุติโย สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ มุสา ภณิตฺวา ภณิตฺวา อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ. อยํ ตติโย สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน จปรํ, จุนฺท, อิเธกจฺโจ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อยํ จตุตฺโถ สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘อิเม โข, จุนฺท, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยคา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อิเม จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี’ติ. เต โว [เต (สี. ปี.)] ‘มาเหวํ’ ติสฺสุ วจนียา. น เต โว สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ, อพฺภาจิกฺเขยฺยุํ อสตา อภูเตน.
๑๘๔. ‘‘จตฺตาโรเม, จุนฺท, สุขลฺลิกานุโยคา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม จตฺตาโร?
‘‘อิธ ¶ , จุนฺท, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ปโม สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ทุติโย สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ตติโย สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘ปุน จปรํ, จุนฺท, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ¶ ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ จตุตฺโถ สุขลฺลิกานุโยโค.
‘‘อิเม โข, จุนฺท, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยคา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อิเม จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี’ติ. เต โว ‘เอวํ’ ติสฺสุ วจนียา. สมฺมา เต โว วทมานา วเทยฺยุํ, น เต โว อพฺภาจิกฺเขยฺยุํ อสตา อภูเตน.
สุขลฺลิกานุโยคานิสํโส
๑๘๕. ‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อิเม ปนาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ กติ ผลานิ กตานิสํสา ปาฏิกงฺขา’ติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ จตฺตาริ ผลานิ จตฺตาโร ¶ อานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม จตฺตาโร? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อิทํ ปมํ ผลํ, ปโม อานิสํโส. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ ¶ กโรติ. อิทํ ทุติยํ ผลํ, ทุติโย อานิสํโส. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิทํ ตติยํ ผลํ, ตติโย อานิสํโส. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ จตุตฺถํ ผลํ จตุตฺโถ อานิสํโส. อิเม ¶ โข, อาวุโส, จตฺตาโร สุขลฺลิกานุโยเค อนุยุตฺตานํ วิหรตํ อิมานิ จตฺตาริ ผลานิ, จตฺตาโร อานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ.
ขีณาสวอภพฺพานํ
๑๘๖. ‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อฺติตฺถิยา ¶ ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อฏฺิตธมฺมา สมณา สกฺยปุตฺติยา วิหรนฺตี’ติ. เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาวกานํ ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียา. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อินฺทขีโล วา อโยขีโล วา คมฺภีรเนโม สุนิขาโต อจโล อสมฺปเวธี. เอวเมว โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาวกานํ ธมฺมา เทสิตา ปฺตฺตา ยาวชีวํ อนติกฺกมนียา. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, อภพฺโพ โส นว านานิ อชฺฌาจริตุํ. อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ¶ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อาคาริกภูโต; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ฉนฺทาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โทสาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ โมหาคตึ คนฺตุํ; อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ ภยาคตึ คนฺตุํ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทฺา วิมุตฺโต, อภพฺโพ โส อิมานิ นว านานิ อชฺฌาจริตุ’’นฺติ.
ปฺหาพฺยากรณํ
๑๘๗. ‘‘านํ ¶ ¶ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อตีตํ โข อทฺธานํ อารพฺภ สมโณ โคตโม อตีรกํ าณทสฺสนํ ปฺเปติ, โน จ โข อนาคตํ อทฺธานํ อารพฺภ อตีรกํ าณทสฺสนํ ปฺเปติ, ตยิทํ กึสุ ตยิทํ กถํสู’ติ? เต จ อฺติตฺถิยา ¶ ปริพฺพาชกา อฺวิหิตเกน าณทสฺสเนน อฺวิหิตกํ าณทสฺสนํ ปฺเปตพฺพํ มฺนฺติ ยถริว พาลา อพฺยตฺตา. อตีตํ โข, จุนฺท, อทฺธานํ อารพฺภ ตถาคตสฺส สตานุสาริ าณํ โหติ; โส ยาวตกํ อากงฺขติ ตาวตกํ อนุสฺสรติ. อนาคตฺจ โข อทฺธานํ อารพฺภ ตถาคตสฺส โพธิชํ าณํ อุปฺปชฺชติ – ‘อยมนฺติมา ¶ ชาติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’ติ. ‘อตีตํ เจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติ. อตีตํ เจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, ตมฺปิ ตถาคโต น พฺยากโรติ. อตีตํ เจปิ จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณาย. อนาคตํ เจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติ…เป… ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณาย. ปจฺจุปฺปนฺนํ เจปิ, จุนฺท, โหติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, น ตํ ตถาคโต พฺยากโรติ. ปจฺจุปฺปนฺนํ เจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ ¶ อนตฺถสํหิตํ, ตมฺปิ ตถาคโต น พฺยากโรติ. ปจฺจุปฺปนฺนํ เจปิ, จุนฺท, โหติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรณาย.
๑๘๘. ‘‘อิติ โข, จุนฺท, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต กาลวาที [กาลวาที สจฺจวาที (สฺยา.)] ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ. ยฺจ โข, จุนฺท, สเทวกสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ. ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ¶ ลปติ นิทฺทิสติ. สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อฺถา, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ. ยถาวาที, จุนฺท, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ. สเทวเก โลเก, จุนฺท, สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจติ.
อพฺยากตฏฺานํ
๑๘๙. ‘‘านํ ¶ ¶ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กึ นุ โข, อาวุโส, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อพฺยากตํ โข, อาวุโส, ภควตา ¶ – ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กึ ปนาวุโส, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘เอตมฺปิ โข, อาวุโส, ภควตา อพฺยากตํ – ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กึ ปนาวุโส, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อพฺยากตํ ¶ โข เอตํ, อาวุโส, ภควตา – ‘‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กึ ปนาวุโส, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘เอตมฺปิ โข, อาวุโส, ภควตา อพฺยากตํ – ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กสฺมา ปเนตํ, อาวุโส, สมเณน โคตเมน อพฺยากต’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘น เหตํ, อาวุโส, อตฺถสํหิตํ น ธมฺมสํหิตํ ¶ น อาทิพฺรหฺมจริยกํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตํ ภควตา อพฺยากต’นฺติ.
พฺยากตฏฺานํ
๑๙๐. ‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กึ ปนาวุโส, สมเณน โคตเมน พฺยากต’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากตํ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ¶ โข, อาวุโส, ภควตา พฺยากต’นฺติ.
‘‘านํ ¶ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชติ, ยํ อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘กสฺมา ปเนตํ, อาวุโส, สมเณน โคตเมน พฺยากต’นฺติ? เอวํวาทิโน, จุนฺท, อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘เอตฺหิ, อาวุโส, อตฺถสํหิตํ, เอตํ ธมฺมสํหิตํ, เอตํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. ตสฺมา ตํ ภควตา พฺยากต’นฺติ.
ปุพฺพนฺตสหคตทิฏฺินิสฺสยา
๑๙๑. ‘‘เยปิ เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เตปิ โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพา. ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา [ตตฺถ (สฺยา. ก.)] พฺยากริสฺสามิ? เยปิ เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เตปิ โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพา. ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ? กตเม จ เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพา. (ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามิ) [(ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา) สพฺพตฺถ]? สนฺติ โข, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. สนฺติ ปน, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ…เป… สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ… เนว สสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ… สยํกโต ¶ อตฺตา จ โลโก จ… ปรํกโต อตฺตา ¶ จ โลโก จ… สยํกโต จ ¶ ปรํกโต จ อตฺตา จ โลโก จ… อสยํกาโร ¶ อปรํกาโร อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. สสฺสตํ สุขทุกฺขํ… อสสฺสตํ สุขทุกฺขํ… สสฺสตฺจ อสสฺสตฺจ สุขทุกฺขํ… เนวสสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ… สยํกตํ สุขทุกฺขํ… ปรํกตํ สุขทุกฺขํ… สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ… อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ.
๑๙๒. ‘‘ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ – ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ? ยฺจ โข เต เอวมาหํสุ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตํ เตสํ นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถาสฺิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตา. อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปฺตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิยฺโย. อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺติ.
๑๙๓. ‘‘ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ…เป… สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา ¶ จ โลโก จ… สยํกโต อตฺตา จ โลโก จ… ปรํกโต อตฺตา จ โลโก จ… สยํกโต จ ปรํกโต จ อตฺตา จ โลโก จ… อสยํกาโร อปรํกาโร อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ… สสฺสตํ สุขทุกฺขํ… อสสฺสตํ ¶ สุขทุกฺขํ… สสฺสตฺจ อสสฺสตฺจ สุขทุกฺขํ… เนวสสฺสตํ นาสสฺสตํ สุขทุกฺขํ… สยํกตํ สุขทุกฺขํ… ปรํกตํ สุขทุกฺขํ… สยํกตฺจ ปรํกตฺจ สุขทุกฺขํ… อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ – ‘‘อสยํการํ อปรํการํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ สุขทุกฺข’’’นฺติ? ยฺจ โข เต เอวมาหํสุ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตํ เตสํ นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถาสฺิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตา. อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปฺตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิยฺโย. อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺติ. อิเม โข เต, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพา ¶ . ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามีติ [พฺยากริสฺสามีติ (สี. ก.)]?
อปรนฺตสหคตทิฏฺินิสฺสยา
๑๙๔. ‘‘กตเม ¶ จ เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา, ยถา เต พฺยากาตพฺพา. (ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามี) [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ สพฺพตฺถปิ ปริปุณฺโณ ทิสฺสติ]? สนฺติ, จุนฺท, เอเก ¶ สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. สนฺติ ปน, จุนฺท, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อรูปี อตฺตา โหติ…เป… รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… สฺี ¶ อตฺตา โหติ… อสฺี อตฺตา โหติ… เนวสฺีนาสฺี อตฺตา โหติ… อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ – ‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’’ติ? ยฺจ โข เต เอวมาหํสุ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตํ เตสํ นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถาสฺิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตา. อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปฺตฺติยา เนว อตฺตนา สมสมํ สมนุปสฺสามิ กุโต ภิยฺโย. อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺติ.
๑๙๕. ‘‘ตตฺร, จุนฺท, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อรูปี อตฺตา โหติ…เป… รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ… เนวรูปีนารูปี อตฺตา โหติ… สฺี อตฺตา โหติ… อสฺี อตฺตา โหติ… เนวสฺีนาสฺี ¶ อตฺตา โหติ… อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘อตฺถิ นุ โข อิทํ, อาวุโส, วุจฺจติ – ‘‘อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา’’’ติ? ยฺจ โข เต, จุนฺท, เอวมาหํสุ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตํ เตสํ นานุชานามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? อฺถาสฺิโนปิ เหตฺถ, จุนฺท, สนฺเตเก สตฺตา. อิมายปิ โข อหํ, จุนฺท, ปฺตฺติยา เนว อตฺตนา ¶ สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิยฺโย. อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺติ. อิเม โข เต, จุนฺท, อปรนฺตสหคตา ทิฏฺินิสฺสยา, เย โว มยา พฺยากตา ¶ , ยถา เต พฺยากาตพฺพา. ยถา จ เต น พฺยากาตพฺพา, กึ โว อหํ เต ตถา พฺยากริสฺสามีติ [พฺยากริสฺสามีติ (สี. ก.)]?
๑๙๖. ‘‘อิเมสฺจ, จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตานํ ทิฏฺินิสฺสยานํ อิเมสฺจ อปรนฺตสหคตานํ ทิฏฺินิสฺสยานํ ¶ ปหานาย สมติกฺกมาย เอวํ มยา จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา ปฺตฺตา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, จุนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อิเมสฺจ จุนฺท, ปุพฺพนฺตสหคตานํ ทิฏฺินิสฺสยานํ อิเมสฺจ อปรนฺตสหคตานํ ทิฏฺินิสฺสยานํ ¶ ปหานาย สมติกฺกมาย. เอวํ มยา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา ปฺตฺตา’’ติ.
๑๙๗. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน. อถ โข อายสฺมา อุปวาโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ปาสาทิโก วตายํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย; สุปาสาทิโก วตายํ ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย, โก นามายํ ภนฺเต ธมฺมปริยาโย’’ติ? ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อุปวาณ, อิมํ ธมฺมปริยายํ ‘ปาสาทิโก’ ตฺเวว นํ ธาเรหี’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ปาสาทิกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.
๗. ลกฺขณสุตฺตํ
ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ
๑๙๘. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทฺทนฺเต’’ติ [ภทนฺเตติ (สี. สฺยา. ปี.)] เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๑๙๙. ‘‘ทฺวตฺตึสิมานิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ; เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวฏจฺฉโท (สฺยา. ก.), วิวตฺตจฺฉโท (สี. ปี.)].
๒๐๐. ‘‘กตมานิ จ ตานิ, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ¶ ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา? สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท.
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ [สพฺพาการปริปูรานิ สุวิภตฺตนฺตรานิ (สี. ปี.)]. ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อายตปณฺหิ โหติ…เป… ทีฆงฺคุลิ โหติ… มุทุตลุนหตฺถปาโท โหติ… ชาลหตฺถปาโท โหติ… อุสฺสงฺขปาโท โหติ… เอณิชงฺโฆ โหติ… ิตโกว อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ ปริมชฺชติ… โกโสหิตวตฺถคุยฺโห โหติ… สุวณฺณวณฺโณ โหติ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ… สุขุมจฺฉวิ โหติ, สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ… เอเกกโลโม ¶ โหติ, เอเกกานิ โลมานิ โลมกูเปสุ ชาตานิ… อุทฺธคฺคโลโม โหติ, อุทฺธคฺคานิ โลมานิ ชาตานิ นีลานิ อฺชนวณฺณานิ กุณฺฑลาวฏฺฏานิ [กุณฺฑลาวตฺตานิ (พหูสุ)] ทกฺขิณาวฏฺฏกชาตานิ [ทกฺขิณาวตฺตกชาตานิ (สี. สฺยา. ปี.)] … พฺรหฺมุชุคตฺโต โหติ… สตฺตุสฺสโท โหติ… สีหปุพฺพทฺธกาโย โหติ… จิตนฺตรํโส [ปิตนฺตรํโส (สฺยา.)] โหติ… นิคฺโรธปริมณฺฑโล โหติ, ยาวตกฺวสฺส กาโย ตาวตกฺวสฺส พฺยาโม ยาวตกฺวสฺส พฺยาโม ตาวตกฺวสฺส กาโย… สมวฏฺฏกฺขนฺโธ โหติ… รสคฺคสคฺคี โหติ… สีหหนุ โหติ… จตฺตาลีสทนฺโต โหติ ¶ … สมทนฺโต โหติ… อวิรฬทนฺโต โหติ… สุสุกฺกทาโ โหติ… ปหูตชิวฺโห โหติ… พฺรหฺมสฺสโร โหติ กรวีกภาณี… อภินีลเนตฺโต โหติ… โคปขุโม โหติ… อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ, โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ, โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อุณฺหีสสีโส โหติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริโส อุณฺหีสสีโส โหติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘‘อิมานิ โข ตานิ, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ ¶ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวตฺตึส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ พาหิรกาปิ อิสโย ¶ ธาเรนฺติ, โน จ โข เต ชานนฺติ – ‘อิมสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อิทํ ลกฺขณํ ปฏิลภตี’ติ.
(๑) สุปฺปติฏฺิตปาทตาลกฺขณํ
๒๐๑. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ทฬฺหสมาทาโน อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, อวตฺถิตสมาทาโน กายสุจริเต วจีสุจริเต มโนสุจริเต ทานสํวิภาเค สีลสมาทาเน อุโปสถุปวาเส มตฺเตยฺยตาย เปตฺเตยฺยตาย สามฺตาย ¶ พฺรหฺมฺตาย กุเล เชฏฺาปจายิตาย อฺตรฺตเรสุ จ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ ¶ . โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคฺคณฺหาติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน ทิพฺเพน สุเขน ทิพฺเพน ยเสน ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ ทิพฺเพหิ รเสหิ ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุปฺปติฏฺิตปาโท โหติ. สมํ ปาทํ ภูมิยํ นิกฺขิปติ, สมํ อุทฺธรติ, สมํ สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหิ ภูมึ ผุสติ.
๒๐๒. ‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ; เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏกํ อิทฺธํ ผีตํ เขมํ สิวํ นิรพฺพุทํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ ¶ . ราชา สมาโน กึ ลภติ? อกฺขมฺภิโย [อวิกฺขมฺภิโย (สี. ปี.)] โหติ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ¶ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ. ‘‘สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อกฺขมฺภิโย โหติ อพฺภนฺตเรหิ วา พาหิเรหิ วา ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ ราเคน วา โทเสน วา โมเหน วา สมเณน วา ¶ พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๐๓. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘สจฺเจ จ ธมฺเม จ ทเม จ สํยเม,
โสเจยฺยสีลาลยุโปสเถสุ จ;
ทาเน อหึสาย อสาหเส รโต,
ทฬฺหํ สมาทาย สมตฺตมาจริ [สมนฺตมาจริ (สฺยา. ก.)].
‘‘โส เตน กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ [อปกฺกมิ (สฺยา. ก.)],
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ [อํนฺวภิ (ฏีกา)];
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ.
‘‘พฺยากํสุ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา,
สมปฺปติฏฺสฺส น โหติ ขมฺภนา;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน [ปน (สฺยา.)],
ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตกํ.
‘‘อกฺขมฺภิโย ¶ โหติ อคารมาวสํ,
ปราภิภู สตฺตุภิ นปฺปมทฺทโน;
มนุสฺสภูเตนิธ โหติ เกนจิ,
อกฺขมฺภิโย ตสฺส ผเลน กมฺมุโน.
‘‘สเจ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
อคฺโค น โส คจฺฉติ ชาตุ ขมฺภนํ,
นรุตฺตโม เอส หิ ตสฺส ธมฺมตา’’ติ.
(๒) ปาทตลจกฺกลกฺขณํ
๒๐๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต ¶ สมาโน พหุชนสฺส ¶ สุขาวโห อโหสิ, อุพฺเพคอุตฺตาสภยํ อปนุทิตา, ธมฺมิกฺจ รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิธาตา, สปริวารฺจ ทานํ อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. เหฏฺาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ สุวิภตฺตนฺตรานิ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา พฺราหฺมณคหปติกา ¶ เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
มนุสฺสภูโต พหุนํ สุขาวโห;
อุพฺเภคอุตฺตาสภยาปนูทโน,
คุตฺตีสุ รกฺขาวรเณสุ อุสฺสุโก.
‘‘โส ¶ ¶ เตน กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ,
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ;
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
จกฺกานิ ปาเทสุ ทุเวสุ วินฺทติ.
‘‘สมนฺตเนมีนิ สหสฺสรานิ จ,
พฺยากํสุ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา;
ทิสฺวา ¶ กุมารํ สตปฺุลกฺขณํ,
ปริวารวา เหสฺสติ สตฺตุมทฺทโน.
ตถา หี จกฺกานิ สมนฺตเนมินิ,
สเจ ¶ น ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
วตฺเตติ จกฺกํ ปถวึ ปสาสติ,
ตสฺสานุยนฺตาธ [ตสฺสานุยุตฺตา อิธ (สี. ปี.), ตสฺสานุยนฺตา อิธ (สฺยา. ก.)] ภวนฺติ ขตฺติยา.
‘‘มหายสํ สํปริวารยนฺติ นํ,
สเจ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ,
เทวามนุสฺสาสุรสกฺกรกฺขสา [สตฺตรกฺขสา (ก.) สี. สฺยาอฏฺกถา โอโลเกตพฺพา].
‘‘คนฺธพฺพนาคา วิหคา จตุปฺปทา,
อนุตฺตรํ เทวมนุสฺสปูชิตํ;
มหายสํ สํปริวารยนฺติ น’’นฺติ.
(๓-๕) อายตปณฺหิตาทิติลกฺขณํ
๒๐๖. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อโหสิ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ¶ ปฏิลภติ. อายตปณฺหิ จ โหติ, ทีฆงฺคุลิ จ พฺรหฺมุชุคตฺโต จ.
‘‘โส ¶ เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ทีฆายุโก โหติ จิรฏฺิติโก, ทีฆมายุํ ปาเลติ, น สกฺกา โหติ อนฺตรา ชีวิตา โวโรเปตุํ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน ¶ . ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ทีฆายุโก โหติ ¶ จิรฏฺิติโก, ทีฆมายุํ ปาเลติ, น สกฺกา โหติ อนฺตรา ชีวิตา โวโรเปตุํ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘มารณวธภยตฺตโน [มรณวธภยตฺตโน (สี. ปี. ก.), มรณวธภยมตฺตโน (สฺยา.)] วิทิตฺวา,
ปฏิวิรโต ปรํ มารณายโหสิ;
เตน สุจริเตน สคฺคมคมา [เตน โส สุจริเตน สคฺคมคมาสิ (สฺยา.)],
สุกตผลวิปากมนุโภสิ.
‘‘จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
ปฏิลภติ อิธ ตีณิ ลกฺขณานิ;
ภวติ วิปุลทีฆปาสณฺหิโก,
พฺรหฺมาว สุชุ สุโภ สุชาตคตฺโต.
‘‘สุภุโช สุสุ สุสณฺิโต สุชาโต,
มุทุตลุนงฺคุลิยสฺส โหนฺติ;
ทีฆา ตีภิ ¶ ปุริสวรคฺคลกฺขเณหิ,
จิรยปนาย [จิรยาปนาย (สฺยา.)] กุมารมาทิสนฺติ.
‘‘ภวติ ยทิ คิหี จิรํ ยเปติ,
จิรตรํ ปพฺพชติ ยทิ ตโต หิ;
ยาปยติ ¶ จ วสิทฺธิภาวนาย,
อิติ ทีฆายุกตาย ตํ นิมิตฺต’’นฺติ.
(๖) สตฺตุสฺสทตาลกฺขณํ
๒๐๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ทาตา อโหสิ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ¶ ปานานํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, สตฺตุสฺสโท โหติ, สตฺตสฺส อุสฺสทา โหนฺติ; อุโภสุ หตฺเถสุ อุสฺสทา โหนฺติ, อุโภสุ ปาเทสุ อุสฺสทา โหนฺติ, อุโภสุ อํสกูเฏสุ อุสฺสทา โหนฺติ, ขนฺเธ อุสฺสโท โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ปานานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ ปณีตานํ รสิตานํ ขาทนียานํ โภชนียานํ สายนียานํ เลหนียานํ ปานานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ¶ ภควา อโวจ.
‘‘ขชฺชโภชฺชมถ เลยฺย สายิยํ,
อุตฺตมคฺครสทายโก อหุ;
เตน โส สุจริเตน กมฺมุนา,
นนฺทเน จิรมภิปฺปโมทติ.
‘‘สตฺต ¶ จุสฺสเท อิธาธิคจฺฉติ,
หตฺถปาทมุทุตฺจ วินฺทติ;
อาหุ พฺยฺชนนิมิตฺตโกวิทา,
ขชฺชโภชฺชรสลาภิตาย นํ.
‘‘ยํ คิหิสฺสปิ [น ตํ คิหิสฺสาปิ (สฺยา.)] ตทตฺถโชตกํ,
ปพฺพชฺชมฺปิ จ ตทาธิคจฺฉติ;
ขชฺชโภชฺชรสลาภิรุตฺตมํ,
อาหุ สพฺพคิหิพนฺธนจฺฉิท’’นฺติ.
(๗-๘) กรจรณมุทุชาลตาลกฺขณานิ
๒๑๐. ‘‘ยมฺปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคาหโก อโหสิ – ทาเนน เปยฺยวชฺเชน [ปิยวาเจน (สฺยา. ก.)] อตฺถจริยาย สมานตฺตตาย. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ¶ ปฏิลภติ. มุทุตลุนหตฺถปาโท จ โหติ ชาลหตฺถปาโท จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? สุสงฺคหิตปริชโน โหติ, สุสงฺคหิตาสฺส โหนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา ¶ คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? สุสงฺคหิตปริชโน โหติ, สุสงฺคหิตาสฺส โหนฺติ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ทานมฺปิ จตฺถจริยตฺจ [ทานมฺปิ จ อตฺถจริยตมฺปิ จ (สี. ปี.)],
ปิยวาทิตฺจ สมานตฺตตฺจ [ปิยวทตฺจ สมานฉนฺทตฺจ (สี. ปี.)];
กริยจริยสุสงฺคหํ พหูนํ,
อนวมเตน คุเณน ยาติ สคฺคํ.
‘‘จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
กรจรณมุทุตฺจ ชาลิโน จ;
อติรุจิรสุวคฺคุทสฺสเนยฺยํ,
ปฏิลภติ ทหโร สุสุ กุมาโร.
‘‘ภวติ ¶ ¶ ปริชนสฺสโว วิเธยฺโย,
มหิมํ อาวสิโต สุสงฺคหิโต;
ปิยวทู ¶ หิตสุขตํ ชิคีสมาโน [ชิคึ สมาโน (สี. สฺยา. ปี.)],
อภิรุจิตานิ คุณานิ อาจรติ.
‘‘ยทิ จ ชหติ สพฺพกามโภคํ,
กถยติ ธมฺมกถํ ชิโน ชนสฺส;
วจนปฏิกรสฺสาภิปฺปสนฺนา ¶ ,
สุตฺวาน ธมฺมานุธมฺมมาจรนฺตี’’ติ.
(๙-๑๐) อุสฺสงฺขปาทอุทฺธคฺคโลมตาลกฺขณานิ
๒๑๒. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน [สมาโน พหุโน ชนสฺส (สี. ปี.)] อตฺถูปสํหิตํ ธมฺมูปสํหิตํ วาจํ ภาสิตา อโหสิ, พหุชนํ นิทํเสสิ, ปาณีนํ หิตสุขาวโห ธมฺมยาคี. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. อุสฺสงฺขปาโท จ โหติ, อุทฺธคฺคโลโม จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อคฺโค จ โหติ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ กามโภคีนํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อคฺโค จ โหติ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข จ อุตฺตโม จ ปวโร จ สพฺพสตฺตานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อตฺถธมฺมสหิตํ ¶ [อตฺถธมฺมสํหิตํ (ก. สี. ปี.), อตฺถธมฺมุปสํหิตํ (ก.)] ปุเร คิรํ,
เอรยํ พหุชนํ นิทํสยิ;
ปาณินํ หิตสุขาวโห อหุ,
ธมฺมยาคมยชี [ธมฺมยาคํ อสฺสชิ (ก.)] อมจฺฉรี.
‘‘เตน ¶ ¶ โส สุจริเตน กมฺมุนา,
สุคฺคตึ ¶ วชติ ตตฺถ โมทติ;
ลกฺขณานิ จ ทุเว อิธาคโต,
อุตฺตมปฺปมุขตาย [อุตฺตมสุขตาย (สฺยา.), อุตฺตมปมุกฺขตาย (ก.)] วินฺทติ.
‘‘อุพฺภมุปฺปติตโลมวา สโส,
ปาทคณฺิรหุ สาธุสณฺิตา;
มํสโลหิตาจิตา ตโจตฺถตา,
อุปริจรณโสภนา [อุปริชานุโสภนา (สฺยา.), อุปริ จ ปน โสภนา (สี. ปี.)] อหุ.
‘‘เคหมาวสติ เจ ตถาวิโธ,
อคฺคตํ วชติ กามโภคินํ;
เตน อุตฺตริตโร น วิชฺชติ,
ชมฺพุทีปมภิภุยฺย อิริยติ.
‘‘ปพฺพชมฺปิ ¶ จ อโนมนิกฺกโม,
อคฺคตํ วชติ สพฺพปาณินํ;
เตน อุตฺตริตโร น วิชฺชติ,
สพฺพโลกมภิภุยฺย วิหรตี’’ติ.
(๑๑) เอณิชงฺฆลกฺขณํ
๒๑๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สกฺกจฺจํ วาเจตา อโหสิ สิปฺปํ วา วิชฺชํ วา จรณํ วา กมฺมํ วา – ‘กึ ติเม ขิปฺปํ วิชาเนยฺยุํ, ขิปฺปํ ปฏิปชฺเชยฺยุํ, น จิรํ กิลิสฺเสยฺยุ’’นฺติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน ¶ อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. เอณิชงฺโฆ โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ยานิ ตานิ ราชารหานิ ราชงฺคานิ ราชูปโภคานิ ¶ ราชานุจฺฉวิกานิ ตานิ ขิปฺปํ ปฏิลภติ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ยานิ ¶ ตานิ สมณารหานิ สมณงฺคานิ สมณูปโภคานิ สมณานุจฺฉวิกานิ, ตานิ ขิปฺปํ ปฏิลภติ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สิปฺเปสุ วิชฺชาจรเณสุ กมฺเมสุ [กมฺมสุ (สี. ปี.)],
กถํ วิชาเนยฺยุํ [วิชาเนยฺย (สี. ปี.), วิชาเนยฺยุ (สฺยา.)] ลหุนฺติ อิจฺฉติ;
ยทูปฆาตาย ¶ น โหติ กสฺสจิ,
วาเจติ ขิปฺปํ น จิรํ กิลิสฺสติ.
‘‘ตํ กมฺมํ กตฺวา กุสลํ สุขุทฺรยํ [สุขินฺทฺริยํ (ก.)],
ชงฺฆา มนฺุา ลภเต สุสณฺิตา;
วฏฺฏา สุชาตา อนุปุพฺพมุคฺคตา,
อุทฺธคฺคโลมา สุขุมตฺตโจตฺถตา.
‘‘เอเณยฺยชงฺโฆติ ตมาหุ ปุคฺคลํ,
สมฺปตฺติยา ขิปฺปมิธาหุ [ขิปฺปมิทาหุ (?)] ลกฺขณํ;
เคหานุโลมานิ ยทาภิกงฺขติ,
อปพฺพชํ ขิปฺปมิธาธิคจฺฉติ [ขิปฺปมิทาธิคจฺฉติ (?)].
‘‘สเจ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
อนุจฺฉวิกสฺส ยทานุโลมิกํ,
ตํ วินฺทติ ขิปฺปมโนมวิกฺกโม [นิกฺกโม (สี. สฺยา. ปี.)]’’ติ.
(๑๒) สุขุมจฺฉวิลกฺขณํ
๒๑๖. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต ¶ สมาโน สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉิตา อโหสิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ, กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺชํ, กึ เสวิตพฺพํ, กึ น เสวิตพฺพํ, กึ เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย อสฺส, กึ วา ปน เม กรียมานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ¶ อสฺสา’’ติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุขุมจฺฉวิ ¶ โหติ, สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาปฺโ โหติ, นาสฺส โหติ โกจิ ปฺาย สทิโส วา เสฏฺโ วา กามโภคีนํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาปฺโ โหติ ปุถุปฺโ หาสปฺโ [หาสุปฺโ (สี. ปี.)] ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ, นาสฺส โหติ โกจิ ปฺาย สทิโส วา เสฏฺโ วา สพฺพสตฺตานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๑๗. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
อฺาตุกาโม ปริปุจฺฉิตา อหุ;
สุสฺสูสิตา ปพฺพชิตํ อุปาสิตา,
อตฺถนฺตโร อตฺถกถํ นิสามยิ.
‘‘ปฺาปฏิลาภคเตน [ปฺาปฏิลาภกเตน (สี. ปี.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] กมฺมุนา,
มนุสฺสภูโต สุขุมจฺฉวี อหุ;
พฺยากํสุ อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทา,
สุขุมานิ อตฺถานิ อเวจฺจ ทกฺขิติ.
‘‘สเจ น ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
วตฺเตติ จกฺกํ ปถวึ ปสาสติ;
อตฺถานุสิฏฺีสุ ปริคฺคเหสุ จ,
น เตน เสยฺโย สทิโส จ วิชฺชติ.
‘‘สเจ ¶ ¶ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส,
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ;
ปฺาวิสิฏฺํ ลภเต อนุตฺตรํ,
ปปฺโปติ โพธึ วรภูริเมธโส’’ติ.
(๑๓) สุวณฺณวณฺณลกฺขณํ
๒๑๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อกฺโกธโน อโหสิ อนุปายาสพหุโล, พหุมฺปิ วุตฺโต สมาโน นาภิสชฺชิ น กุปฺปิ น พฺยาปชฺชิ น ¶ ปติตฺถียิ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ. ทาตา จ อโหสิ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ [ปาปุรณานํ (สี. สฺยา. ปี.)] โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุวณฺณวณฺโณ โหติ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ลาภี โหติ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อกฺโกธฺจ อธิฏฺหิ อทาสิ [อทาสิ จ (สี. ปี.)],
ทานฺจ วตฺถานิ สุขุมานิ สุจฺฉวีนิ;
ปุริมตรภเว ¶ ิโต อภิวิสฺสชิ,
มหิมิว สุโร อภิวสฺสํ.
‘‘ตํ ¶ กตฺวาน อิโต จุโต ทิพฺพํ,
อุปปชฺชิ [อุปปชฺช (สี. ปี.)] สุกตผลวิปากมนุภุตฺวา;
กนกตนุสนฺนิโภ อิธาภิภวติ,
สุรวรตโรริว อินฺโท.
‘‘เคหฺจาวสติ ¶ ¶ นโร อปพฺพชฺช,
มิจฺฉํ มหติมหึ อนุสาสติ [ปสาสติ (สฺยา.)];
ปสยฺห สหิธ สตฺตรตนํ [ปสยฺห อภิวสน-วรตรํ (สี. ปี.)],
ปฏิลภติ วิมล [วิปุล (สฺยา.), วิปุลํ (สี. ปี.)] สุขุมจฺฉวึ สุจิฺจ.
‘‘ลาภี อจฺฉาทนวตฺถโมกฺขปาวุรณานํ,
ภวติ ยทิ อนาคาริยตํ อุเปติ;
สหิโต [สุหิต (สฺยา.), ส หิ (สี. ปี.)] ปุริมกตผลํ อนุภวติ,
น ภวติ กตสฺส ปนาโส’’ติ.
(๑๔) โกโสหิตวตฺถคุยฺหลกฺขณํ
๒๒๐. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน จิรปฺปนฏฺเ สุจิรปฺปวาสิโน าติมิตฺเต สุหชฺเช สขิโน สมาเนตา อโหสิ. มาตรมฺปิ ปุตฺเตน สมาเนตา อโหสิ, ปุตฺตมฺปิ มาตรา สมาเนตา อโหสิ, ปิตรมฺปิ ¶ ปุตฺเตน สมาเนตา อโหสิ, ปุตฺตมฺปิ ปิตรา สมาเนตา อโหสิ, ภาตรมฺปิ ภาตรา สมาเนตา อโหสิ, ภาตรมฺปิ ภคินิยา สมาเนตา อโหสิ, ภคินิมฺปิ ภาตรา สมาเนตา อโหสิ, ภคินิมฺปิ ภคินิยา สมาเนตา อโหสิ, สมงฺคีกตฺวา [สมคฺคึ กตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] จ อพฺภนุโมทิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ – โกโสหิตวตฺถคุยฺโห โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ปหูตปุตฺโต โหติ, ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ ¶ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน ¶ กึ ลภติ? ปหูตปุตฺโต โหติ, อเนกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๒๑. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
จิรปฺปนฏฺเ สุจิรปฺปวาสิโน;
าตี สุหชฺเช สขิโน สมานยิ,
สมงฺคิกตฺวา อนุโมทิตา อหุ.
‘‘โส เตน [ส เตน (ก.)] กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ,
สุขฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ;
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
โกโสหิตํ วินฺทติ วตฺถฉาทิยํ.
‘‘ปหูตปุตฺโต ¶ ภวตี ตถาวิโธ,
ปโรสหสฺสฺจ [ปโรสหสฺสสฺส (สี. ปี.)] ภวนฺติ อตฺรชา;
สูรา จ วีรา จ [สูรา จ วีรงฺครูปา (ก.)] อมิตฺตตาปนา,
คิหิสฺส ปีตึชนนา ปิยํวทา.
‘‘พหูตรา ปพฺพชิตสฺส อิริยโต,
ภวนฺติ ปุตฺตา วจนานุสาริโน;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน,
ตํ ลกฺขณํ ชายติ ตทตฺถโชตก’’นฺติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
(๑๕-๑๖) ปริมณฺฑลอโนนมชณฺณุปริมสนลกฺขณานิ
๒๒๒. ‘‘ยมฺปิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มหาชนสงฺคหํ [มหาชนสงฺคาหกํ (ก.)] สเมกฺขมาโน [สมเปกฺขมาโน (ก.)] สมํ ชานาติ สามํ ชานาติ, ปุริสํ ชานาติ ปุริสวิเสสํ ชานาติ – ‘อยมิทมรหติ อยมิทมรหตี’ติ ตตฺถ ตตฺถ ปุริสวิเสสกโร อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ ¶ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. นิคฺโรธ ปริมณฺฑโล จ โหติ, ิตโกเยว จ อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ ปริมชฺชติ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ ¶ ? อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ…เป… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค. ตสฺสิมานิ ธนานิ โหนฺติ, เสยฺยถิทํ, สทฺธาธนํ สีลธนํ หิริธนํ โอตฺตปฺปธนํ สุตธนํ จาคธนํ ปฺาธนํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘ตุลิย ปฏิวิจย จินฺตยิตฺวา,
มหาชนสงฺคหนํ [มหาชนํ สงฺคาหกํ (ก.)] สเมกฺขมาโน;
อยมิทมรหติ ตตฺถ ตตฺถ,
ปุริสวิเสสกโร ปุเร อโหสิ.
‘‘มหิฺจ ¶ ปน [สมา จ ปน (สฺยา.), ส หิ จ ปน (สี. ปี.)] ิโต อโนนมนฺโต,
ผุสติ กเรหิ อุโภหิ ชณฺณุกานิ;
มหิรุหปริมณฺฑโล อโหสิ,
สุจริตกมฺมวิปากเสสเกน.
‘‘พหุวิวิธนิมิตฺตลกฺขณฺู,
อตินิปุณา มนุชา พฺยากรึสุ;
พหุวิวิธา ¶ คิหีนํ อรหานิ,
ปฏิลภติ ทหโร สุสุ กุมาโร.
‘‘อิธ ¶ จ มหีปติสฺส กามโภคี,
คิหิปติรูปกา พหู ภวนฺติ;
ยทิ จ ชหติ สพฺพกามโภคํ,
ลภติ อนุตฺตรํ อุตฺตมธนคฺค’’นฺติ.
(๑๗-๑๙) สีหปุพฺพทฺธกายาทิติลกฺขณํ
๒๒๔. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนสฺส อตฺถกาโม อโหสิ หิตกาโม ผาสุกาโม โยคกฺเขมกาโม – ‘กินฺติเม สทฺธาย วฑฺเฒยฺยุํ, สีเลน วฑฺเฒยฺยุํ, สุเตน วฑฺเฒยฺยุํ [สุเตน วฑฺเฒยฺยุํ, พุทฺธิยา วฑฺเฒยฺยุํ (สฺยา.)], จาเคน วฑฺเฒยฺยุํ, ธมฺเมน วฑฺเฒยฺยุํ, ปฺาย วฑฺเฒยฺยุํ, ธนธฺเน วฑฺเฒยฺยุํ, เขตฺตวตฺถุนา วฑฺเฒยฺยุํ, ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ วฑฺเฒยฺยุํ, ปุตฺตทาเรหิ วฑฺเฒยฺยุํ, ทาสกมฺมกรโปริเสหิ วฑฺเฒยฺยุํ, าตีหิ วฑฺเฒยฺยุํ, มิตฺเตหิ วฑฺเฒยฺยุํ, พนฺธเวหิ วฑฺเฒยฺยุ’นฺติ. โส ตสฺส กมฺมสฺส ¶ กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. สีหปุพฺพทฺธกาโย จ โหติ จิตนฺตรํโส จ สมวฏฺฏกฺขนฺโธ จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อปริหานธมฺโม ¶ โหติ, น ปริหายติ ธนธฺเน เขตฺตวตฺถุนา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ ปุตฺตทาเรหิ ทาสกมฺมกรโปริเสหิ าตีหิ มิตฺเตหิ พนฺธเวหิ, น ปริหายติ สพฺพสมฺปตฺติยา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปริหานธมฺโม โหติ, น ปริหายติ สทฺธาย สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย, น ปริหายติ สพฺพสมฺปตฺติยา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สทฺธาย สีเลน สุเตน พุทฺธิยา,
จาเคน ธมฺเมน พหูหิ สาธุหิ;
ธเนน ¶ ธฺเน จ เขตฺตวตฺถุนา,
ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ.
‘‘าตีหิ มิตฺเตหิ จ พนฺธเวหิ จ,
พเลน วณฺเณน สุเขน จูภยํ;
กถํ น หาเยยฺยุํ ปเรติ อิจฺฉติ,
อตฺถสฺส มิทฺธี จ [อิทํ สมิทฺธฺจ (ก.), อทฺธํ สมิทฺธฺจ (สฺยา.)] ปนาภิกงฺขติ.
‘‘ส ¶ สีหปุพฺพทฺธสุสณฺิโต อหุ,
สมวฏฺฏกฺขนฺโธ ¶ จ จิตนฺตรํโส;
ปุพฺเพ สุจิณฺเณน กเตน กมฺมุนา,
อหานิยํ ปุพฺพนิมิตฺตมสฺส ตํ.
‘‘คิหีปิ ธฺเน ธเนน วฑฺฒติ,
ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ;
อกิฺจโน ปพฺพชิโต อนุตฺตรํ,
ปปฺโปติ โพธึ อสหานธมฺมต’’นฺติ [สมฺโพธิมหานธมฺมตนฺติ (สฺยา. ก.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา].
(๒๐) รสคฺคสคฺคิตาลกฺขณํ
๒๒๖. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, รสคฺคสคฺคี โหติ, อุทฺธคฺคาสฺส รสหรณีโย คีวาย ชาตา โหนฺติ สมาภิวาหินิโย [สมวาหรสหรณิโย (สฺยา.)].
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา ¶ สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘น ¶ ปาณิทณฺเฑหิ ปนาถ เลฑฺฑุนา,
สตฺเถน วา มรณวเธน [มารณวเธน (ก.)] วา ปน;
อุพฺพาธนาย ปริตชฺชนาย วา,
น เหยี ชนตมเหโก อหุ.
‘‘เตเนว ¶ โส สุคติมุเปจฺจ โมทติ,
สุขปฺผลํ กริย สุขานิ วินฺทติ;
สโมชสา ¶ [สมฺปชฺชสา (สี. ปี.), ปามฺุชสา (สฺยา.), สามฺจ สา (ก.)] รสหรณี สุสณฺิตา,
อิธาคโต ลภติ รสคฺคสคฺคิตํ.
‘‘เตนาหุ นํ อตินิปุณา วิจกฺขณา,
อยํ นโร สุขพหุโล ภวิสฺสติ;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน [ปน (สฺยา.)],
ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตก’’นฺติ.
(๒๑-๒๒) อภินีลเนตฺตโคปขุมลกฺขณานิ
๒๒๘. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน น จ วิสฏํ, น จ วิสาจิ [น จ วิสาจิตํ (สี. ปี.), น จ วิสาวิ (สฺยา.)], น จ ปน วิเจยฺย เปกฺขิตา, อุชุํ ตถา ปสฏมุชุมโน, ปิยจกฺขุนา พหุชนํ อุทิกฺขิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. อภินีลเนตฺโต จ ¶ โหติ โคปขุโม จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? ปิยทสฺสโน โหติ พหุโน ชนสฺส, ปิโย โหติ ¶ มนาโป พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมชานปทานํ คณกมหามตฺตานํ ¶ อนีกฏฺานํ โทวาริกานํ อมจฺจานํ ปาริสชฺชานํ ราชูนํ โภคิยานํ กุมารานํ. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ…เป… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? ปิยทสฺสโน โหติ พหุโน ชนสฺส, ปิโย โหติ มนาโป ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ เทวานํ มนุสฺสานํ อสุรานํ นาคานํ คนฺธพฺพานํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘น จ วิสฏํ น จ วิสาจิ [วิสาจิตํ (สี. ปี.), วิสาวิ (สฺยา.)], น จ ปน วิเจยฺยเปกฺขิตา;
อุชุํ ตถา ปสฏมุชุมโน, ปิยจกฺขุนา พหุชนํ อุทิกฺขิตา.
‘‘สุคตีสุ ¶ โส ผลวิปากํ,
อนุภวติ ตตฺถ โมทติ;
อิธ จ ปน ภวติ โคปขุโม,
อภินีลเนตฺตนยโน สุทสฺสโน.
‘‘อภิโยคิโน จ นิปุณา,
พหู ปน นิมิตฺตโกวิทา;
สุขุมนยนกุสลา มนุชา,
ปิยทสฺสโนติ ¶ อภินิทฺทิสนฺติ นํ.
‘‘ปิยทสฺสโน คิหีปิ สนฺโต จ,
ภวติ พหุชนปิยายิโต;
ยทิ ¶ จ น ภวติ คิหี สมโณ โหติ,
ปิโย พหูนํ โสกนาสโน’’ติ.
(๒๓) อุณฺหีสสีสลกฺขณํ
๒๓๐. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนปุพฺพงฺคโม อโหสิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ พหุชนปาโมกฺโข กายสุจริเต วจีสุจริเต ¶ มโนสุจริเต ทานสํวิภาเค สีลสมาทาเน อุโปสถุปวาเส มตฺเตยฺยตาย เปตฺเตยฺยตาย สามฺตาย พฺรหฺมฺตาย กุเล เชฏฺาปจายิตาย อฺตรฺตเรสุ จ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ – อุณฺหีสสีโส โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อนฺวายิโก โหติ, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อนฺวายิโก โหติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ¶ ภควา อโวจ.
๒๓๑. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘ปุพฺพงฺคโม สุจริเตสุ อหุ,
ธมฺเมสุ ธมฺมจริยาภิรโต;
อนฺวายิโก พหุชนสฺส อหุ,
สคฺเคสุ เวทยิตฺถ ปฺุผลํ.
‘‘เวทิตฺวา ¶ โส สุจริตสฺส ผลํ,
อุณฺหีสสีสตฺตมิธชฺฌคมา;
พฺยากํสุ พฺยฺชนนิมิตฺตธรา,
ปุพฺพงฺคโม พหุชนํ เหสฺสติ.
‘‘ปฏิโภคิยา มนุเชสุ อิธ,
ปุพฺเพว ตสฺส อภิหรนฺติ ตทา;
ยทิ ขตฺติโย ภวติ ภูมิปติ,
ปฏิหารกํ พหุชเน ลภติ.
‘‘อถ ¶ เจปิ ปพฺพชติ โส มนุโช,
ธมฺเมสุ โหติ ปคุโณ วิสวี;
ตสฺสานุสาสนิคุณาภิรโต,
อนฺวายิโก พหุชโน ภวตี’’ติ.
(๒๔-๒๕) เอเกกโลมตาอุณฺณาลกฺขณานิ
๒๓๒. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต อโหสิ, สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส ¶ . โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. เอเกกโลโม จ โหติ, อุณฺณา จ ภมุกนฺตเร ชาตา โหติ โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อุปวตฺตติ, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา ¶ คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา ¶ สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? มหาสฺส ชโน อุปวตฺตติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘สจฺจปฺปฏิฺโ ปุริมาสุ ชาติสุ,
อทฺเวชฺฌวาโจ อลิกํ วิวชฺชยิ;
น โส วิสํวาทยิตาปิ กสฺสจิ,
ภูเตน ตจฺเฉน ตเถน ภาสยิ [โตสยิ (สี. ปี.)].
‘‘เสตา สุสุกฺกา มุทุตูลสนฺนิภา,
อุณฺณา สุชาตา [อุณฺณาสฺส ชาตา (ก. สี.)] ภมุกนฺตเร อหุ;
น ¶ โลมกูเปสุ ทุเว อชายิสุํ,
เอเกกโลมูปจิตงฺควา อหุ.
‘‘ตํ ลกฺขณฺู พหโว สมาคตา,
พฺยากํสุ ¶ อุปฺปาทนิมิตฺตโกวิทา;
อุณฺณา จ โลมา จ ยถา สุสณฺิตา,
อุปวตฺตตี อีทิสกํ พหุชฺชโน.
‘‘คิหิมฺปิ สนฺตํ อุปวตฺตตี ชโน,
พหุ ปุรตฺถาปกเตน กมฺมุนา;
อกิฺจนํ ปพฺพชิตํ อนุตฺตรํ,
พุทฺธมฺปิ สนฺตํ อุปวตฺตติ ชโน’’ติ.
(๒๖-๒๗) จตฺตาลีสอวิรฬทนฺตลกฺขณานิ
๒๓๔. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสิ. อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย ¶ , อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ ¶ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. จตฺตาลีสทนฺโต จ โหติ อวิรฬทนฺโต จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อเภชฺชปริโส โหติ, อเภชฺชาสฺส โหนฺติ ปริสา, พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ ¶ … พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อเภชฺชปริโส โหติ, อเภชฺชาสฺส โหนฺติ ปริสา, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๓๕. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘เวภูติยํ สหิตเภทการึ,
เภทปฺปวฑฺฒนวิวาทการึ;
กลหปฺปวฑฺฒนอากิจฺจการึ,
สหิตานํ เภทชนนึ น ภณิ.
‘‘อวิวาทวฑฺฒนกรึ สุคิรํ,
ภินฺนานุสนฺธิชนนึ อภณิ;
กลหํ ¶ ชนสฺส ปนุที สมงฺคี,
สหิเตหิ นนฺทติ ปโมทติ จ.
‘‘สุคตีสุ โส ผลวิปากํ,
อนุภวติ ตตฺถ โมทติ;
ทนฺตา อิธ โหนฺติ อวิรฬา สหิตา,
จตุโร ทสสฺส มุขชา สุสณฺิตา.
‘‘ยทิ ¶ ขตฺติโย ภวติ ภูมิปติ,
อวิเภทิยาสฺส ปริสา ภวติ;
สมโณ จ โหติ วิรโช วิมโล,
ปริสาสฺส โหติ อนุคตา อจลา’’ติ.
(๒๘-๒๙) ปหูตชิวฺหาพฺรหฺมสฺสรลกฺขณานิ
๒๓๖. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสิ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. ปหูตชิวฺโห จ โหติ พฺรหฺมสฺสโร จ กรวีกภาณี.
‘‘โส ¶ เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ลภติ? อาเทยฺยวาโจ โหติ, อาทิยนฺติสฺส วจนํ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อาเทยฺยวาโจ ¶ โหติ, อาทิยนฺติสฺส วจนํ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘อกฺโกสภณฺฑนวิเหสการึ,
อุพฺพาธิกํ [อุพฺพาธกรํ (สฺยา.)] พหุชนปฺปมทฺทนํ;
อพาฬฺหํ คิรํ โส น ภณิ ผรุสํ,
มธุรํ ภณิ สุสํหิตํ [สุสหิตํ (สฺยา.)] สขิลํ.
วาจา โส เอรยติ กณฺณสุขา;
วาจาสุจิณฺณผลมนุภวิ,
สคฺเคสุ เวทยถ [เวทยติ (?) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] ปฺุผลํ.
‘‘เวทิตฺวา โส สุจริตสฺส ผลํ,
พฺรหฺมสฺสรตฺตมิธมชฺฌคมา;
ชิวฺหาสฺส โหติ วิปุลา ปุถุลา,
อาเทยฺยวากฺยวจโน ภวติ.
‘‘คิหิโนปิ อิชฺฌติ ยถา ภณโต,
อถ เจ ปพฺพชติ โส มนุโช;
อาทิยนฺติสฺส ¶ วจนํ ชนตา,
พหุโน พหุํ สุภณิตํ ภณโต’’ติ.
(๓๐) สีหหนุลกฺขณํ
๒๓๘. ‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อโหสิ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา…เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, สีหหนุ โหติ.
‘‘โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี…เป… ราชา สมาโน กึ ¶ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ… พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ อพฺภนฺตเรหิ วา พาหิเรหิ วา ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ, ราเคน วา โทเสน วา โมเหน วา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
๒๓๙. ตตฺเถตํ ¶ วุจฺจติ –
‘‘น สมฺผปฺปลาปํ น มุทฺธตํ [พุทฺธตนฺติ (ก.)],
อวิกิณฺณวจนพฺยปฺปโถ อโหสิ;
อหิตมปิ จ อปนุทิ,
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ อภณิ.
‘‘ตํ ¶ กตฺวา อิโต จุโต ทิวมุปปชฺชิ,
สุกตผลวิปากมนุโภสิ;
จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
ทฺวิทุคมวรตรหนุตฺตมลตฺถ.
‘‘ราชา โหติ สุทุปฺปธํสิโย,
มนุชินฺโท มนุชาธิปติ มหานุภาโว;
ติทิวปุรวรสโม ¶ ภวติ,
สุรวรตโรริว อินฺโท.
‘‘คนฺธพฺพาสุรยกฺขรกฺขเสภิ [สุรสกฺกรกฺขเสภิ (สฺยา.)],
สุเรหิ น ¶ หิ ภวติ สุปฺปธํสิโย;
ตถตฺโต ยทิ ภวติ ตถาวิโธ,
อิธ ทิสา จ ปฏิทิสา จ วิทิสา จา’’ติ.
(๓๑-๓๒) สมทนฺตสุสุกฺกทาาลกฺขณานิ
๒๔๐. ‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน มิจฺฉาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปสิ, ตุลากูฏ กํสกูฏ มานกูฏ อุกฺโกฏน วฺจน นิกติ สาจิโยค เฉทน วธ พนฺธน วิปราโมส อาโลป สหสาการา [สาหสาการา (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิวิรโต อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส ¶ กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน ทิพฺเพน สุเขน ทิพฺเพน ยเสน ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ ทิพฺเพหิ รเสหิ ¶ ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ, สมทนฺโต จ โหติ สุสุกฺกทาโ จ.
‘‘โส เตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อขิลมนิมิตฺตมกณฺฏกํ ¶ อิทฺธํ ผีตํ เขมํ สิวํ นิรพฺพุทํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. ราชา สมาโน กึ ลภติ? สุจิปริวาโร โหติ สุจิสฺส โหนฺติ ปริวารา พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ.
‘‘สเจ ¶ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กึ ลภติ? สุจิปริวาโร โหติ, สุจิสฺส โหนฺติ ปริวารา, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ’’. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
‘‘มิจฺฉาชีวฺจ อวสฺสชิ สเมน วุตฺตึ,
สุจินา โส ชนยิตฺถ ธมฺมิเกน;
อหิตมปิ ¶ จ อปนุทิ,
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ อจริ.
‘‘สคฺเค เวทยติ นโร สุขปฺผลานิ,
กริตฺวา นิปุเณภิ วิทูหิ สพฺภิ;
วณฺณิตานิ ติทิวปุรวรสโม,
อภิรมติ รติขิฑฺฑาสมงฺคี.
‘‘ลทฺธานํ ¶ มานุสกํ ภวํ ตโต,
จวิตฺวาน สุกตผลวิปากํ;
เสสเกน ปฏิลภติ ลปนชํ,
สมมปิ สุจิสุสุกฺกํ ¶ [ลทฺธาน มนุสฺสกํ ภวํ ตโต จวิย, ปุน สุกตผลวิปากเสสเกน; ปฏิลภติ ลปนชํ สมมปิ, สุจิ จ สุวิสุทฺธสุสุกฺกํ (สฺยา.)].
‘‘ตํ เวยฺยฺชนิกา สมาคตา พหโว,
พฺยากํสุ นิปุณสมฺมตา มนุชา;
สุจิชนปริวารคโณ ภวติ,
ทิชสมสุกฺกสุจิโสภนทนฺโต.
‘‘รฺโ โหติ พหุชโน,
สุจิปริวาโร มหตึ มหึ อนุสาสโต;
หิตมปิ จ พหุชนสุขฺจ จรนฺติ.
‘‘อถ เจ ปพฺพชติ ภวติ วิปาโป,
สมโณ สมิตรโช วิวฏฺฏจฺฉโท;
วิคตทรถกิลมโถ,
อิมมปิ จ ปรมปิ จ [อิมมฺปิ จ ปรมฺปิ จ (ปี.), ปรํปิ ปรมํปิ จ (สฺยา.)] ปสฺสติ โลกํ.
‘‘ตสฺโสวาทกรา พหุคิหี จ ปพฺพชิตา จ,
อสุจึ ครหิตํ ธุนนฺติ ปาปํ;
ส หิ สุจิภิ ปริวุโต ภวติ,
มลขิลกลิกิเลเส ปนุเทหี’’ติ [ตสฺโสวาทกรา พหุคิหี จ, ปพฺพชิตา จ อสุจิวิครหิต; ปนุทิปาปสฺส หิ สุจิภิปริวุโต, ภวติ มลขิลกกิเลเส ปนุเทติ (สฺยา.)].
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ลกฺขณสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.
๘. สิงฺคาลสุตฺตํ
๒๔๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน สิงฺคาลโก [สิคาลโก (สี.)] คหปติปุตฺโต กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา [ปุถุทฺทิสา (สี. สฺยา. ปี.)] นมสฺสติ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํ.
๒๔๓. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสา โข ภควา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ กาลสฺเสว วุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ ปฺชลิกํ ปุถุทิสา นมสฺสนฺตํ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํ. ทิสฺวา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, คหปติปุตฺต, กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา ¶ นมสฺสสิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิส’’นฺติ? ‘‘ปิตา มํ, ภนฺเต, กาลํ กโรนฺโต เอวํ อวจ – ‘ทิสา, ตาต, นมสฺเสยฺยาสี’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ปิตุวจนํ สกฺกโรนฺโต ครุํ กโรนฺโต มาเนนฺโต ปูเชนฺโต กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปฺชลิโก ปุถุทิสา นมสฺสามิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺิมํ ทิสํ อุปริมํ ¶ ทิส’’นฺติ.
ฉ ทิสา
๒๔๔. ‘‘น โข, คหปติปุตฺต, อริยสฺส วินเย เอวํ ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ, ยถา อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติ.
‘‘เตน ¶ หิ, คหปติปุตฺต สุโณหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยโต ¶ โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวกสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ, จตูหิ จ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ, ฉ จ โภคานํ อปายมุขานิ น เสวติ, โส เอวํ จุทฺทส ปาปกาปคโต ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที [ปฏิจฺฉาที โหติ (สฺยา.)] อุโภโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ. ตสฺส อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหติ ปโร จ โลโก. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
จตฺตาโรกมฺมกิเลสา
๒๔๕. ‘‘กตมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ? ปาณาติปาโต โข, คหปติปุตฺต, กมฺมกิเลโส, อทินฺนาทานํ กมฺมกิเลโส, กาเมสุมิจฺฉาจาโร กมฺมกิเลโส, มุสาวาโท กมฺมกิเลโส. อิมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน [อิทํ วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ าเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ปาณาติปาโต ¶ อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;
ปรทารคมนฺเจว, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ.
จตุฏฺานํ
๒๔๖. ‘‘กตเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต ¶ ปาปกมฺมํ กโรติ, โทสาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โมหาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ภยาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ. ยโต โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก เนว ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉติ; อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], กาฬปกฺเขว จนฺทิมา.
‘‘ฉนฺทา ¶ โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], สุกฺกปกฺเขว [ชุณฺหปกฺเขว (ก.)] จนฺทิมา’’ติ.
ฉ อปายมุขานิ
๒๔๗. ‘‘กตมานิ ¶ ฉ โภคานํ อปายมุขานิ น เสวติ? สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยโค โข, คหปติปุตฺต, โภคานํ อปายมุขํ, วิกาลวิสิขาจริยานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, สมชฺชาภิจรณํ โภคานํ อปายมุขํ, ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, ปาปมิตฺตานุโยโค โภคานํ อปายมุขํ, อาลสฺยานุโยโค [อาลสานุโยโค (สี. สฺยา. ปี.)] โภคานํ อปายมุขํ.
สุราเมรยสฺส ฉ อาทีนวา
๒๔๘. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค. สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ [ธนฺชานิ (สี. ปี.)], กลหปฺปวฑฺฒนี, โรคานํ อายตนํ, อกิตฺติสฺชนนี, โกปีนนิทํสนี ¶ , ปฺาย ทุพฺพลิกรณีตฺเวว ฉฏฺํ ปทํ ภวติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค.
วิกาลจริยาย ฉ อาทีนวา
๒๔๙. ‘‘ฉ ¶ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา วิกาลวิสิขาจริยานุโยเค. อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ, ปุตฺตทาโรปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ, สาปเตยฺยํปิสฺส อคุตฺตํ อรกฺขิตํ โหติ, สงฺกิโย จ โหติ ปาปเกสุ าเนสุ [เตสุ เตสุ าเนสุ (สฺยา.)], อภูตวจนฺจ ตสฺมึ รูหติ, พหูนฺจ ทุกฺขธมฺมานํ ปุรกฺขโต โหติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา วิกาลวิสิขาจริยานุโยเค.
สมชฺชาภิจรณสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๐. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา สมชฺชาภิจรเณ. กฺว [กุวํ (ก. สี. ปี.)] นจฺจํ, กฺว คีตํ, กฺว วาทิตํ, กฺว อกฺขานํ, กฺว ปาณิสฺสรํ, กฺว กุมฺภถุนนฺติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา สมชฺชาภิจรเณ.
ชูตปฺปมาทสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๑. ‘‘ฉ ¶ ¶ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค. ชยํ เวรํ ปสวติ, ชิโน วิตฺตมนุโสจติ, สนฺทิฏฺิกา ธนชานิ, สภาคตสฺส [สภาเย ตสฺส (ก.)] วจนํ น รูหติ, มิตฺตามจฺจานํ ปริภูโต โหติ, อาวาหวิวาหกานํ อปตฺถิโต โหติ – ‘อกฺขธุตฺโต อยํ ปุริสปุคฺคโล นาลํ ทารภรณายา’ติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค.
ปาปมิตฺตตาย ฉ อาทีนวา
๒๕๒. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา ปาปมิตฺตานุโยเค. เย ธุตฺตา, เย โสณฺฑา, เย ปิปาสา, เย เนกติกา, เย วฺจนิกา, เย สาหสิกา. ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ เต สหายา. อิเม ¶ โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา ปาปมิตฺตานุโยเค.
อาลสฺยสฺส ฉ อาทีนวา
๒๕๓. ‘‘ฉ โขเม, คหปติปุตฺต, อาทีนวา อาลสฺยานุโยเค. อติสีตนฺติ ¶ กมฺมํ น กโรติ, อติอุณฺหนฺติ กมฺมํ น กโรติ, อติสายนฺติ กมฺมํ น กโรติ, อติปาโตติ กมฺมํ น กโรติ, อติฉาโตสฺมีติ กมฺมํ น กโรติ, อติธาโตสฺมีติ กมฺมํ น กโรติ. ตสฺส เอวํ กิจฺจาปเทสพหุลสฺส วิหรโต อนุปฺปนฺนา เจว โภคา นุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. อิเม โข, คหปติปุตฺต, ฉ อาทีนวา อาลสฺยานุโยเค’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘โหติ ปานสขา นาม,
โหติ สมฺมิยสมฺมิโย;
โย จ อตฺเถสุ ชาเตสุ,
สหาโย โหติ โส สขา.
‘‘อุสฺสูรเสยฺยา ¶ ปรทารเสวนา,
เวรปฺปสโว [เวรปฺปสงฺโค (สี. สฺยา. ปี.)] จ อนตฺถตา จ;
ปาปา ¶ จ มิตฺตา สุกทริยตา จ,
เอเต ฉ านา ปุริสํ ธํสยนฺติ.
‘‘ปาปมิตฺโต ปาปสโข,
ปาปอาจารโคจโร;
อสฺมา โลกา ปรมฺหา จ,
อุภยา ธํสเต นโร.
‘‘อกฺขิตฺถิโย วารุณี นจฺจคีตํ,
ทิวา โสปฺปํ ปาริจริยา อกาเล;
ปาปา จ มิตฺตา สุกทริยตา จ,
เอเต ฉ านา ปุริสํ ธํสยนฺติ.
‘‘อกฺเขหิ ทิพฺพนฺติ สุรํ ปิวนฺติ,
ยนฺติตฺถิโย ¶ ปาณสมา ปเรสํ;
นิหีนเสวี ¶ น จ วุทฺธเสวี [วุทฺธิเสวี (สฺยา.), พุทฺธิเสวี (ก.)],
นิหียเต กาฬปกฺเขว จนฺโท.
‘‘โย วารุณี อทฺธโน อกิฺจโน,
ปิปาโส ปิวํ ปปาคโต [ปิปาโสสิ อตฺถปาคโต (สฺยา.), ปิปาโสปิ สมปฺปปาคโต (ก.)];
อุทกมิว อิณํ วิคาหติ,
อกุลํ [อากุลํ (สฺยา. ก.)] กาหิติ ขิปฺปมตฺตโน.
‘‘น ทิวา โสปฺปสีเลน, รตฺติมุฏฺานเทสฺสินา [รตฺตินุฏฺานทสฺสินา (สี. ปี.), รตฺตินุฏฺานสีลินา (?)];
นิจฺจํ มตฺเตน โสณฺเฑน, สกฺกา อาวสิตุํ ฆรํ.
‘‘อติสีตํ อติอุณฺหํ, อติสายมิทํ อหุ;
อิติ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเต, อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว.
‘‘โยธ ¶ ¶ สีตฺจ อุณฺหฺจ, ติณา ภิยฺโย น มฺติ;
กรํ ปุริสกิจฺจานิ, โส สุขํ [สุขา (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] น วิหายตี’’ติ.
มิตฺตปติรูปกา
๒๕๔. ‘‘จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺต, อมิตฺตา มิตฺตปติรูปกา เวทิตพฺพา. อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ, อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๕. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต ¶ มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
‘‘อฺทตฺถุหโร โหติ, อปฺเปน พหุมิจฺฉติ ¶ ;
ภยสฺส กิจฺจํ กโรติ, เสวติ อตฺถการณา.
‘‘อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อฺทตฺถุหโร อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๖. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ. อตีเตน ปฏิสนฺถรติ [ปฏิสนฺธรติ (ก.)], อนาคเตน ปฏิสนฺถรติ, นิรตฺถเกน สงฺคณฺหาติ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสุ พฺยสนํ ทสฺเสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ วจีปรโม อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๗. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ. ปาปกํปิสฺส [ปาปกมฺมํปิสฺส (สฺยา.)] อนุชานาติ, กลฺยาณํปิสฺส อนุชานาติ, สมฺมุขาสฺส วณฺณํ ภาสติ, ปรมฺมุขาสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อนุปฺปิยภาณี อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ.
๒๕๘. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ ¶ . สุราเมรย มชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยเค สหาโย โหติ, วิกาล วิสิขา จริยานุโยเค สหาโย โหติ, สมชฺชาภิจรเณ สหาโย โหติ, ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยเค สหาโย โหติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อปายสหาโย อมิตฺโต มิตฺตปติรูปโก เวทิตพฺโพ’’ติ.
๒๕๙. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อฺทตฺถุหโร ¶ มิตฺโต, โย จ มิตฺโต วจีปโร [วจีปรโม (สฺยา.)];
อนุปฺปิยฺจ โย อาห, อปาเยสุ จ โย สขา.
เอเต อมิตฺเต จตฺตาโร, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;
อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ ปฏิภยํ ยถา’’ติ.
สุหทมิตฺโต
๒๖๐. ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , คหปติปุตฺต, มิตฺตา สุหทา เวทิตพฺพา. อุปกาโร [อุปการโก (สฺยา.)] มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ, อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๑. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปมตฺตํ รกฺขติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขติ, ภีตสฺส สรณํ โหติ, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ ตทฺทิคุณํ โภคํ อนุปฺปเทติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๒. ‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขติ, คุยฺหมสฺส ปริคูหติ, อาปทาสุ น วิชหติ, ชีวิตํปิสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตํ โหติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๓. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปาปา นิวาเรติ, กลฺยาเณ นิเวเสติ, อสฺสุตํ สาเวติ, สคฺคสฺส ¶ มคฺคํ อาจิกฺขติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ.
๒๖๔. ‘‘จตูหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. อภเวนสฺส น นนฺทติ, ภเวนสฺส นนฺทติ, อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ, วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, จตูหิ าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ’’ติ.
๒๖๕. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘อุปกาโร ¶ จ โย มิตฺโต, สุเข ทุกฺเข [สุขทุกฺโข (สฺยา. ก.)] จ โย สขา [โย จ มิตฺโต สุเข ทุกฺเข (สี. ปี.)];
อตฺถกฺขายี จ โย มิตฺโต, โย จ มิตฺตานุกมฺปโก.
‘‘เอเตปิ มิตฺเต จตฺตาโร, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;
สกฺกจฺจํ ปยิรุปาเสยฺย, มาตา ปุตฺตํ ว โอรสํ;
ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน, ชลํ อคฺคีว ภาสติ.
‘‘โภเค สํหรมานสฺส, ภมรสฺเสว อิรียโต;
โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ, วมฺมิโกวุปจียติ.
‘‘เอวํ โภเค สมาหตฺวา [สมาหริตฺวา (สฺยา.)], อลมตฺโต กุเล คิหี;
จตุธา วิภเช โภเค, ส เว มิตฺตานิ คนฺถติ.
‘‘เอเกน โภเค ภฺุเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;
จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ.
ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑํ
๒๖๖. ‘‘กถฺจ, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที โหติ? ฉ ¶ อิมา, คหปติปุตฺต, ทิสา เวทิตพฺพา. ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร เวทิตพฺพา, ทกฺขิณา ¶ ทิสา อาจริยา เวทิตพฺพา, ปจฺฉิมา ทิสา ¶ ปุตฺตทารา เวทิตพฺพา, อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา เวทิตพฺพา, เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา เวทิตพฺพา, อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา เวทิตพฺพา.
๒๖๗. ‘‘ปฺจหิ ¶ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ภโต เน [เนสํ (พหูสุ)] ภริสฺสามิ, กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ, กุลวํสํ เปสฺสามิ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ, อถ วา ปน เปตานํ กาลงฺกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามีติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ, ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชนฺติ, สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺติ [นิยฺยาเตนฺติ (ก. สี.)]. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ปุรตฺถิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๖๘. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – อุฏฺาเนน อุปฏฺาเนน สุสฺสุสาย ปาริจริยาย สกฺกจฺจํ สิปฺปปฏิคฺคหเณน [สิปฺปํ ปฏิคฺคหเณน (สฺยา.), สิปฺปอุคฺคหเณน (ก.)]. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ ¶ าเนหิ อนฺเตวาสึ อนุกมฺปนฺติ – สุวินีตํ วิเนนฺติ, สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺติ, สพฺพสิปฺปสฺสุตํ สมกฺขายิโน ภวนฺติ, มิตฺตามจฺเจสุ ปฏิยาเทนฺติ [ปฏิเวเทนฺติ (สฺยา.)], ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสินา ¶ ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อนฺเตวาสึ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ทกฺขิณา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๖๙. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – สมฺมานนาย อนวมานนาย [อวิมานนาย (สฺยา. ปี.)] อนติจริยาย อิสฺสริยโวสฺสคฺเคน อลงฺการานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ ¶ สามิกํ อนุกมฺปติ – สุสํวิหิตกมฺมนฺตา จ โหติ, สงฺคหิตปริชนา [สุสงฺคหิตปริชนา (สี. สฺยา. ปี.)] จ, อนติจารินี จ, สมฺภตฺจ อนุรกฺขติ, ทกฺขา จ โหติ อนลสา สพฺพกิจฺเจสุ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ สามิกํ อนุกมฺปติ. เอวมสฺส เอสา ปจฺฉิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๐. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ทาเนน เปยฺยวชฺเชน [วิยวชฺเชน (สฺยา. ก.)] อตฺถจริยาย สมานตฺตตาย อวิสํวาทนตาย. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ ¶ าเนหิ ¶ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ – ปมตฺตํ รกฺขนฺติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขนฺติ, ภีตสฺส สรณํ โหนฺติ, อาปทาสุ น วิชหนฺติ, อปรปชา จสฺส ปฏิปูเชนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุตฺตรา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๑. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อยฺยิรเกน [อยิรเกน (สี. สฺยา. ปี.)] เหฏฺิมา ¶ ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนน ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน คิลานุปฏฺาเนน อจฺฉริยานํ รสานํ สํวิภาเคน สมเย โวสฺสคฺเคน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺิตา ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ – ปุพฺพุฏฺายิโน จ โหนฺติ, ปจฺฉา นิปาติโน จ, ทินฺนาทายิโน จ, สุกตกมฺมกรา จ, กิตฺติวณฺณหรา จ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ปฺจหิ าเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา เหฏฺิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
๒๗๒. ‘‘ปฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺาตพฺพา – เมตฺเตน กายกมฺเมน เมตฺเตน วจีกมฺเมน เมตฺเตน ¶ มโนกมฺเมน อนาวฏทฺวารตาย อามิสานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ¶ ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺิตา ฉหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ – ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, กลฺยาเณน มนสา อนุกมฺปนฺติ, อสฺสุตํ สาเวนฺติ, สุตํ ปริโยทาเปนฺติ, สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปฺจหิ าเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺิตา อิเมหิ ฉหิ าเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุปริมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา’’ติ.
๒๗๓. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘มาตาปิตา ทิสา ปุพฺพา, อาจริยา ทกฺขิณา ทิสา;
ปุตฺตทารา ¶ ทิสา ปจฺฉา, มิตฺตามจฺจา จ อุตฺตรา.
‘‘ทาสกมฺมกรา ¶ เหฏฺา, อุทฺธํ สมณพฺราหฺมณา;
เอตา ทิสา นมสฺเสยฺย, อลมตฺโต กุเล คิหี.
‘‘ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน, สณฺโห จ ปฏิภานวา;
นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘อุฏฺานโก อนลโส, อาปทาสุ น เวธติ;
อจฺฉินฺนวุตฺติ เมธาวี, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘สงฺคาหโก มิตฺตกโร, วทฺู วีตมจฺฉโร;
เนตา วิเนตา อนุเนตา, ตาทิโส ลภเต ยสํ.
‘‘ทานฺจ เปยฺยวชฺชฺจ, อตฺถจริยา จ ยา อิธ;
สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
เอเต ¶ โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต.
‘‘เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;
ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา.
‘‘ยสฺมา จ สงฺคหา [สงฺคเห (ก.) อฏฺกถายํ อิจฺฉิตปาโ] เอเต, สมฺมเปกฺขนฺติ [สมเวกฺขนฺติ (สี. ปี. ก.)] ปณฺฑิตา;
ตสฺมา ¶ มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต’’ติ.
๒๗๔. เอวํ ¶ วุตฺเต, สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสํฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ, อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
สิงฺคาลสุตฺตํ [สิงฺคาโลวาทสุตฺตนฺตํ (ปี.)] นิฏฺิตํ อฏฺมํ.
๙. อาฏานาฏิยสุตฺตํ
ปมภาณวาโร
๒๗๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข จตฺตาโร มหาราชา [มหาราชาโน (ก.)] มหติยา จ ยกฺขเสนาย มหติยา จ คนฺธพฺพเสนาย มหติยา จ กุมฺภณฺฑเสนาย มหติยา จ นาคเสนาย จตุทฺทิสํ รกฺขํ เปตฺวา จตุทฺทิสํ คุมฺพํ เปตฺวา จตุทฺทิสํ โอวรณํ เปตฺวา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ โอภาเสตฺวา [คิชฺฌกูฏํ โอภาเสตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เตปิ โข ยกฺขา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
๒๗๖. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เวสฺสวโณ มหาราชา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ หิ, ภนฺเต, อุฬารา ยกฺขา ภควโต อปฺปสนฺนา. สนฺติ หิ, ภนฺเต, อุฬารา ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา. สนฺติ หิ ¶ , ภนฺเต, มชฺฌิมา ยกฺขา ภควโต อปฺปสนฺนา. สนฺติ หิ, ภนฺเต, มชฺฌิมา ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา. สนฺติ หิ, ภนฺเต, นีจา ยกฺขา ภควโต อปฺปสนฺนา. สนฺติ หิ, ภนฺเต, นีจา ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา. เยภุยฺเยน ¶ โข ปน, ภนฺเต, ยกฺขา อปฺปสนฺนาเยว ภควโต. ตํ กิสฺส เหตุ? ภควา หิ, ภนฺเต, ปาณาติปาตา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ, อทินฺนาทานา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ, มุสาวาทา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ. เยภุยฺเยน โข ปน, ภนฺเต, ยกฺขา อปฺปฏิวิรตาเยว ปาณาติปาตา, อปฺปฏิวิรตา อทินฺนาทานา, อปฺปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา, อปฺปฏิวิรตา มุสาวาทา, อปฺปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ¶ . เตสํ ตํ โหติ อปฺปิยํ อมนาปํ. สนฺติ หิ, ภนฺเต, ภควโต สาวกา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ ¶ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ [มนุสฺสราหเสยฺยกานิ (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ. ตตฺถ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิวาสิโน, เย อิมสฺมึ ภควโต ปาวจเน อปฺปสนฺนา. เตสํ ปสาทาย อุคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา อาฏานาฏิยํ รกฺขํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหารายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ โข เวสฺสวโณ มหาราชา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อาฏานาฏิยํ รกฺขํ อภาสิ –
๒๗๗. ‘‘วิปสฺสิสฺส จ [อิเม จการา โปราณโปตฺถเกสุ นตฺถิ] นมตฺถุ, จกฺขุมนฺตสฺส สิรีมโต.
สิขิสฺสปิ จ [อิเม จการา โปราณโปตฺถเกสุ นตฺถิ] นมตฺถุ, สพฺพภูตานุกมฺปิโน.
‘‘เวสฺสภุสฺส จ [อิเม จการา โปราณโปตฺถเกสุ นตฺถิ] นมตฺถุ, นฺหาตกสฺส ตปสฺสิโน;
นมตฺถุ ¶ ¶ กกุสนฺธสฺส, มารเสนาปมทฺทิโน.
‘‘โกณาคมนสฺส นมตฺถุ, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต;
กสฺสปสฺส จ [อิเม จการา โปราณโปตฺถเกสุ นตฺถิ] นมตฺถุ, วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ.
‘‘องฺคีรสสฺส นมตฺถุ, สกฺยปุตฺตสฺส สิรีมโต;
โย อิมํ ธมฺมํ เทเสสิ [ธมฺมมเทเสสิ (สี. สฺยา. ปี.), ธมฺมํ เทเสติ (?)], สพฺพทุกฺขาปนูทนํ.
‘‘เย จาปิ นิพฺพุตา โลเก, ยถาภูตํ วิปสฺสิสุํ;
เต ชนา อปิสุณาถ [อปิสุณา (สี. สฺยา. ปี.)], มหนฺตา วีตสารทา.
‘‘หิตํ เทวมนุสฺสานํ, ยํ นมสฺสนฺติ โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
๒๗๘. ‘‘ยโต ¶ อุคฺคจฺฉติ สูริโย [สุริโย (สี. สฺยา. ปี.)], อาทิจฺโจ มณฺฑลี มหา.
ยสฺส จุคฺคจฺฉมานสฺส, สํวรีปิ นิรุชฺฌติ;
ยสฺส จุคฺคเต สูริเย, ‘ทิวโส’ติ ปวุจฺจติ.
‘‘รหโทปิ ¶ ตตฺถ คมฺภีโร, สมุทฺโท สริโตทโก;
เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺติ, ‘สมุทฺโท สริโตทโก’.
‘‘อิโต ¶ ‘สา ปุริมา ทิสา’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘‘คนฺธพฺพานํ อธิปติ [อาธิปติ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ], ‘ธตรฏฺโ’ติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, คนฺธพฺเพหิ ปุรกฺขโต.
‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
เต ¶ จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’.
๒๗๙. ‘‘เยน เปตา ปวุจฺจนฺติ, ปิสุณา ปิฏฺิมํสิกา.
ปาณาติปาติโน ลุทฺทา [ลุทฺธา (ปี. ก.)], โจรา เนกติกา ชนา.
‘‘อิโต ¶ ¶ ‘สา ทกฺขิณา ทิสา’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘‘กุมฺภณฺฑานํ อธิปติ, ‘วิรูฬฺโห’ อิติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, กุมฺภณฺเฑหิ ปุรกฺขโต.
‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘นโม ¶ เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘‘ชินํ ¶ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’.
๒๘๐. ‘‘ยตฺถ โจคฺคจฺฉติ สูริโย, อาทิจฺโจ มณฺฑลี มหา.
ยสฺส โจคฺคจฺฉมานสฺส, ทิวโสปิ นิรุชฺฌติ;
ยสฺส โจคฺคเต สูริเย, ‘สํวรี’ติ ปวุจฺจติ.
‘‘รหโทปิ ตตฺถ คมฺภีโร, สมุทฺโท สริโตทโก;
เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺติ, ‘สมุทฺโท สริโตทโก’.
‘‘อิโต ‘สา ปจฺฉิมา ทิสา’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ¶ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘‘นาคานฺจ ¶ อธิปติ, ‘วิรูปกฺโข’ติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, นาเคเหว ปุรกฺขโต.
‘‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’.
๒๘๑. ‘‘เยน ¶ อุตฺตรกุรุวฺโห [อุตฺตรกุรู รมฺมา (สี. สฺยา. ปี.)], มหาเนรุ สุทสฺสโน.
มนุสฺสา ตตฺถ ชายนฺติ, อมมา อปริคฺคหา.
‘‘น ¶ เต พีชํ ปวปนฺติ, นปิ นียนฺติ นงฺคลา;
อกฏฺปากิมํ สาลึ, ปริภฺุชนฺติ มานุสา.
‘‘อกณํ อถุสํ สุทฺธํ, สุคนฺธํ ตณฺฑุลปฺผลํ;
ตุณฺฑิกีเร ¶ ปจิตฺวาน, ตโต ภฺุชนฺติ โภชนํ.
‘‘คาวึ เอกขุรํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
ปสุํ เอกขุรํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘‘อิตฺถึ วา วาหนํ [อิตฺถี-วาหนํ (สี. ปี.), อิตฺถีํ วาหนํ (สฺยา.)] กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
ปุริสํ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘‘กุมารึ ¶ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
กุมารํ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘‘เต ยาเน อภิรุหิตฺวา,
สพฺพา ทิสา อนุปริยายนฺติ [อนุปริยนฺติ (สฺยา.)];
ปจารา ตสฺส ราชิโน.
‘‘หตฺถิยานํ อสฺสยานํ, ทิพฺพํ ยานํ อุปฏฺิตํ;
ปาสาทา สิวิกา เจว, มหาราชสฺส ยสสฺสิโน.
‘‘ตสฺส จ นครา อหุ,
อนฺตลิกฺเข สุมาปิตา;
อาฏานาฏา กุสินาฏา ปรกุสินาฏา,
นาฏสุริยา [นาฏปุริยา (สี. ปี.), นาฏปริยา (สฺยา.)] ปรกุสิฏนาฏา.
‘‘อุตฺตเรน ¶ กสิวนฺโต [กปิวนฺโต (สี. สฺยา. ปี)],
ชโนฆมปเรน จ;
นวนวุติโย อมฺพรอมฺพรวติโย,
อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี.
‘‘กุเวรสฺส ¶ โข ปน, มาริส, มหาราชสฺส วิสาณา นาม ราชธานี;
ตสฺมา กุเวโร มหาราชา, ‘เวสฺสวโณ’ติ ปวุจฺจติ.
‘‘ปจฺเจสนฺโต ¶ ปกาเสนฺติ, ตโตลา ตตฺตลา ตโตตลา;
โอชสิ เตชสิ ตโตชสี, สูโร ราชา อริฏฺโ เนมิ.
‘‘รหโทปิ ตตฺถ ธรณี นาม, ยโต เมฆา ปวสฺสนฺติ;
วสฺสา ยโต ปตายนฺติ, สภาปิ ตตฺถ สาลวตี [ภคลวตี (สี. สฺยา. ปี.)] นาม.
‘‘ยตฺถ ¶ ยกฺขา ปยิรุปาสนฺติ, ตตฺถ นิจฺจผลา รุกฺขา;
นานา ทิชคณา ยุตา, มยูรโกฺจาภิรุทา;
โกกิลาทีหิ วคฺคุหิ.
‘‘ชีวฺชีวกสทฺเทตฺถ, อโถ โอฏฺวจิตฺตกา;
กุกฺกุฏกา ¶ [กุกุตฺถกา (สี. ปี.)] กุฬีรกา, วเน โปกฺขรสาตกา.
‘‘สุกสาฬิกสทฺเทตฺถ, ทณฺฑมาณวกานิ จ;
โสภติ สพฺพกาลํ สา, กุเวรนฬินี สทา.
‘‘อิโต ‘สา อุตฺตรา ทิสา’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘‘ยกฺขานฺจ อธิปติ, ‘กุเวโร’ อิติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, ยกฺเขเหว ปุรกฺขโต.
‘‘ปุตฺตาปิ ¶ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
‘‘เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตม’’’นฺติ.
‘‘อยํ ¶ ¶ โข สา, มาริส, อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหาราย.
๒๘๒. ‘‘ยสฺส ¶ กสฺสจิ, มาริส, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อยํ อาฏานาฏิยา รกฺขา สุคฺคหิตา ภวิสฺสติ สมตฺตา ปริยาปุตา [ปริยาปุฏา (ก.)]. ตํ เจ อมนุสฺโส ยกฺโข วา ยกฺขินี วา ยกฺขโปตโก วา ยกฺขโปติกา วา ยกฺขมหามตฺโต วา ยกฺขปาริสชฺโช วา ยกฺขปจาโร วา, คนฺธพฺโพ วา คนฺธพฺพี วา คนฺธพฺพโปตโก วา คนฺธพฺพโปติกา วา คนฺธพฺพมหามตฺโต วา คนฺธพฺพปาริสชฺโช วา คนฺธพฺพปจาโร วา, กุมฺภณฺโฑ วา กุมฺภณฺฑี วา กุมฺภณฺฑโปตโก วา กุมฺภณฺฑโปติกา วา กุมฺภณฺฑมหามตฺโต วา กุมฺภณฺฑปาริสชฺโช วา กุมฺภณฺฑปจาโร วา, นาโค วา นาคี วา นาคโปตโก วา นาคโปติกา ¶ วา นาคมหามตฺโต วา นาคปาริสชฺโช วา นาคปจาโร วา, ปทุฏฺจิตฺโต ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา อุปาสกํ วา อุปาสิกํ วา คจฺฉนฺตํ วา อนุคจฺเฉยฺย, ิตํ วา อุปติฏฺเยฺย, นิสินฺนํ วา อุปนิสีเทยฺย, นิปนฺนํ วา อุปนิปชฺเชยฺย. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย คาเมสุ วา นิคเมสุ วา สกฺการํ วา ครุการํ วา. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย อาฬกมนฺทาย นาม ราชธานิยา วตฺถุํ วา วาสํ วา. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย ยกฺขานํ สมิตึ คนฺตุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา อนาวยฺหมฺปิ นํ กเรยฺยุํ อวิวยฺหํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา อตฺตาหิปิ ปริปุณฺณาหิ ปริภาสาหิ ปริภาเสยฺยุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา ริตฺตํปิสฺส ปตฺตํ สีเส นิกฺกุชฺเชยฺยุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา สตฺตธาปิสฺส มุทฺธํ ผาเลยฺยุํ.
‘‘สนฺติ หิ, มาริส, อมนุสฺสา จณฺฑา รุทฺธา [รุทฺทา (สี. ปี.)] รภสา, เต เนว มหาราชานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต โข เต, มาริส, อมนุสฺสา มหาราชานํ ¶ อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. เสยฺยถาปิ, มาริส, รฺโ มาคธสฺส วิชิเต มหาโจรา. เต เนว รฺโ มาคธสฺส อาทิยนฺติ, น รฺโ มาคธสฺส ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น รฺโ มาคธสฺส ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต โข เต, มาริส, มหาโจรา รฺโ มาคธสฺส อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. เอวเมว โข, มาริส, สนฺติ อมนุสฺสา จณฺฑา รุทฺธา รภสา, เต เนว มหาราชานํ ¶ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต ¶ โข เต, มาริส, อมนุสฺสา มหาราชานํ อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. โย หิ โกจิ, มาริส, อมนุสฺโส ยกฺโข วา ยกฺขินี วา…เป… คนฺธพฺโพ วา คนฺธพฺพี วา ¶ … กุมฺภณฺโฑ วา กุมฺภณฺฑี วา… นาโค วา นาคี วา นาคโปตโก วา นาคโปติกา วา นาคมหามตฺโต วา นาคปาริสชฺโช วา นาคปจาโร วา ปทุฏฺจิตฺโต ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา อุปาสกํ วา อุปาสิกํ วา คจฺฉนฺตํ วา อนุคจฺเฉยฺย, ิตํ วา อุปติฏฺเยฺย, นิสินฺนํ วา อุปนิสีเทยฺย, นิปนฺนํ วา อุปนิปชฺเชยฺย. อิเมสํ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกฺกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ – ‘อยํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ ยกฺโข อาวิสติ, อยํ ยกฺโข เหเติ, อยํ ยกฺโข วิเหเติ, อยํ ยกฺโข หึสติ, อยํ ยกฺโข วิหึสติ, อยํ ยกฺโข น มฺุจตี’ติ.
๒๘๓. ‘‘กตเมสํ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ?
‘‘อินฺโท โสโม วรุโณ จ, ภารทฺวาโช ปชาปติ;
จนฺทโน กามเสฏฺโ จ, กินฺนุฆณฺฑุ นิฆณฺฑุ จ.
‘‘ปนาโท ¶ โอปมฺโ จ, เทวสูโต จ มาตลิ;
จิตฺตเสโน จ คนฺธพฺโพ, นโฬ ราชา ชเนสโภ [ชโนสโภ (สฺยา.)].
‘‘สาตาคิโร เหมวโต, ปุณฺณโก กรติโย คุโฬ;
สิวโก ¶ มุจลินฺโท จ, เวสฺสามิตฺโต ยุคนฺธโร.
‘‘โคปาโล สุปฺปโรโธ จ [สุปฺปเคโธ จ (สี. สฺยา. ปี.)], หิริ เนตฺติ [หิรี เนตฺตี (สี. ปี.)] จ มนฺทิโย;
ปฺจาลจณฺโฑ อาฬวโก, ปชฺชุนฺโน สุมโน สุมุโข;
ทธิมุโข มณิ มาณิวโร [มณิ มานิจโร (สฺยา. ปี.)] ทีโฆ, อโถ เสรีสโก สห.
‘‘อิเมสํ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกฺกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ – ‘อยํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ ยกฺโข อาวิสติ, อยํ ยกฺโข เหเติ, อยํ ยกฺโข วิเหเติ, อยํ ยกฺโข หึสติ, อยํ ยกฺโข วิหึสติ, อยํ ยกฺโข น มฺุจตี’ติ.
‘‘อยํ ¶ โข สา, มาริส, อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหาราย. หนฺท จ ทานิ มยํ, มาริส, คจฺฉาม ¶ พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตุมฺเห มหาราชาโน กาลํ มฺถา’’ติ.
๒๘๔. อถ โข จตฺตาโร มหาราชา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. เตปิ โข ยกฺขา อุฏฺายาสนา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ ¶ . อปฺเปกจฺเจ ¶ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา ตตฺเถวนฺตรธายึสูติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
ทุติยภาณวาโร
๒๘๕. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ จตฺตาโร มหาราชา มหติยา จ ยกฺขเสนาย มหติยา จ คนฺธพฺพเสนาย มหติยา จ กุมฺภณฺฑเสนาย มหติยา จ นาคเสนาย จตุทฺทิสํ รกฺขํ เปตฺวา จตุทฺทิสํ คุมฺพํ เปตฺวา จตุทฺทิสํ โอวรณํ เปตฺวา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เตปิ โข, ภิกฺขเว, ยกฺขา อปฺเปกจฺเจ มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ มยา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ เยนาหํ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
๒๘๖. ‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภิกฺขเว, เวสฺสวโณ มหาราชา มํ เอตทโวจ – ‘สนฺติ หิ, ภนฺเต, อุฬารา ยกฺขา ภควโต อปฺปสนฺนา…เป… สนฺติ หิ ¶ , ภนฺเต นีจา ¶ ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา. เยภุยฺเยน โข ปน, ภนฺเต, ยกฺขา อปฺปสนฺนาเยว ภควโต. ตํ กิสฺส เหตุ? ภควา หิ, ภนฺเต, ปาณาติปาตา เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ… สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา ¶ เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ. เยภุยฺเยน โข ปน, ภนฺเต, ยกฺขา อปฺปฏิวิรตาเยว ปาณาติปาตา… อปฺปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา. เตสํ ตํ โหติ อปฺปิยํ อมนาปํ. สนฺติ หิ, ภนฺเต, ภควโต สาวกา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานิ. ตตฺถ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิวาสิโน, เย อิมสฺมึ ภควโต ปาวจเน อปฺปสนฺนา, เตสํ ปสาทาย อุคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา อาฏานาฏิยํ รกฺขํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหารายา’ติ. อธิวาเสสึ โข อหํ, ภิกฺขเว, ตุณฺหีภาเวน. อถ โข, ภิกฺขเว, เวสฺสวโณ มหาราชา เม อธิวาสนํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อาฏานาฏิยํ รกฺขํ อภาสิ –
๒๘๗. ‘วิปสฺสิสฺส จ นมตฺถุ, จกฺขุมนฺตสฺส สิรีมโต.
สิขิสฺสปิ จ นมตฺถุ, สพฺพภูตานุกมฺปิโน.
‘เวสฺสภุสฺส จ นมตฺถุ, นฺหาตกสฺส ตปสฺสิโน;
นมตฺถุ กกุสนฺธสฺส, มารเสนาปมทฺทิโน.
‘โกณาคมนสฺส นมตฺถุ, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต;
กสฺสปสฺส จ นมตฺถุ, วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ.
‘องฺคีรสสฺส นมตฺถุ, สกฺยปุตฺตสฺส สิรีมโต;
โย อิมํ ธมฺมํ เทเสสิ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ.
‘เย จาปิ นิพฺพุตา โลเก, ยถาภูตํ วิปสฺสิสุํ;
เต ชนา อปิสุณาถ, มหนฺตา วีตสารทา.
‘หิตํ เทวมนุสฺสานํ, ยํ นมสฺสนฺติ โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
๒๘๘. ‘ยโต ¶ อุคฺคจฺฉติ สูริโย, อาทิจฺโจ มณฺฑลี มหา.
ยสฺส จุคฺคจฺฉมานสฺส, สํวรีปิ นิรุชฺฌติ;
ยสฺส จุคฺคเต สูริเย, ‘‘ทิวโส’’ติ ปวุจฺจติ.
‘รหโทปิ ¶ ตตฺถ คมฺภีโร, สมุทฺโท สริโตทโก;
เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺติ, ‘‘สมุทฺโท สริโตทโก’’.
‘อิโต ‘‘สา ปุริมา ทิสา’’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘คนฺธพฺพานํ อธิปติ, ‘‘ธตรฏฺโ’’ติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, คนฺธพฺเพหิ ปุรกฺขโต.
‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
‘เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺสา เอวํ วเทมเส.
‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’’.
๒๘๙. ‘เยน เปตา ปวุจฺจนฺติ, ปิสุณา ปิฏฺิมํสิกา.
ปาณาติปาติโน ลุทฺทา, โจรา เนกติกา ชนา.
‘อิโต ¶ ‘‘สา ทกฺขิณา ทิสา’’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘กุมฺภณฺฑานํ อธิปติ, ‘‘วิรูฬฺโห’’ อิติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, กุมฺภณฺเฑหิ ปุรกฺขโต.
‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
‘เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘นโม ¶ เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’’.
๒๙๐. ‘ยตฺถ โจคฺคจฺฉติ สูริโย, อาทิจฺโจ มณฺฑลี มหา.
ยสฺส โจคฺคจฺฉมานสฺส, ทิวโสปิ นิรุชฺฌติ;
ยสฺส โจคฺคเต สูริเย, ‘‘สํวรี’’ติ ปวุจฺจติ.
‘รหโทปิ ตตฺถ คมฺภีโร, สมุทฺโท สริโตทโก;
เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺติ, สมุทฺโท สริโตทโก.
‘อิโต ‘‘สา ปจฺฉิมา ทิสา’’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘นาคานฺจ ¶ อธิปติ, ‘‘วิรูปกฺโข’’ติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, นาเคเหว ปุรกฺขโต.
‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
‘เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตมํ’’.
๒๙๑. ‘เยน อุตฺตรกุรุวฺโห, มหาเนรุ สุทสฺสโน.
มนุสฺสา ตตฺถ ชายนฺติ, อมมา อปริคฺคหา.
‘น ¶ เต พีชํ ปวปนฺติ, นาปิ นียนฺติ นงฺคลา;
อกฏฺปากิมํ สาลึ, ปริภฺุชนฺติ มานุสา.
‘อกณํ อถุสํ สุทฺธํ, สุคนฺธํ ตณฺฑุลปฺผลํ;
ตุณฺฑิกีเร ปจิตฺวาน, ตโต ภฺุชนฺติ โภชนํ.
‘คาวึ เอกขุรํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
ปสุํ เอกขุรํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘อิตฺถึ วา วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
ปุริสํ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘กุมารึ ¶ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ;
กุมารํ วาหนํ กตฺวา, อนุยนฺติ ทิโสทิสํ.
‘เต ยาเน อภิรุหิตฺวา,
สพฺพา ทิสา อนุปริยายนฺติ;
ปจารา ตสฺส ราชิโน.
‘หตฺถิยานํ อสฺสยานํ,
ทิพฺพํ ยานํ อุปฏฺิตํ;
ปาสาทา สิวิกา เจว,
มหาราชสฺส ยสสฺสิโน.
‘ตสฺส จ นครา อหุ,
อนฺตลิกฺเข สุมาปิตา;
อาฏานาฏา กุสินาฏา ปรกุสินาฏา,
นาฏสุริยา ปรกุสิฏนาฏา.
‘อุตฺตเรน กสิวนฺโต,
ชโนฆมปเรน จ;
นวนวุติโย อมฺพรอมฺพรวติโย,
อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี.
‘กุเวรสฺส โข ปน, มาริส, มหาราชสฺส วิสาณา นาม ราชธานี;
ตสฺมา กุเวโร มหาราชา, ‘‘เวสฺสวโณ’’ติ ปวุจฺจติ.
‘ปจฺเจสนฺโต ¶ ปกาเสนฺติ, ตโตลา ตตฺตลา ตโตตลา;
โอชสิ เตชสิ ตโตชสี, สูโร ราชา อริฏฺโ เนมิ.
‘รหโทปิ ตตฺถ ธรณี นาม, ยโต เมฆา ปวสฺสนฺติ;
วสฺสา ยโต ปตายนฺติ, สภาปิ ตตฺถ สาลวตี นาม.
‘ยตฺถ ¶ ยกฺขา ปยิรุปาสนฺติ, ตตฺถ นิจฺจผลา รุกฺขา;
นานา ทิชคณา ยุตา, มยูรโกฺจาภิรุทา;
โกกิลาทีหิ วคฺคุหิ.
‘ชีวฺชีวกสทฺเทตฺถ, อโถ โอฏฺวจิตฺตกา;
กุกฺกุฏกา กุฬีรกา, วเน โปกฺขรสาตกา.
‘สุกสาฬิก สทฺเทตฺถ, ทณฺฑมาณวกานิ จ;
โสภติ สพฺพกาลํ สา, กุเวรนฬินี สทา.
‘อิโต ‘‘สา อุตฺตรา ทิสา’’, อิติ นํ อาจิกฺขตี ชโน;
ยํ ทิสํ อภิปาเลติ, มหาราชา ยสสฺสิ โส.
‘ยกฺขานฺจ อธิปติ, ‘‘กุเวโร’’ อิติ นามโส;
รมตี นจฺจคีเตหิ, ยกฺเขเหว ปุรกฺขโต.
‘ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, เอกนามาติ เม สุตํ;
อสีติ ทส เอโก จ, อินฺทนามา มหพฺพลา.
‘เต จาปิ พุทฺธํ ทิสฺวาน, พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนํ;
ทูรโตว นมสฺสนฺติ, มหนฺตํ วีตสารทํ.
‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
กุสเลน สเมกฺขสิ, อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺติ;
สุตํ เนตํ อภิณฺหโส, ตสฺมา เอวํ วเทมเส.
‘‘ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมํ;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺนํ, พุทฺธํ วนฺทาม โคตม’’นฺติ.
๒๙๒. ‘อยํ โข สา, มาริส ¶ , อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ ¶ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหาราย. ยสฺส กสฺสจิ, มาริส, ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย ¶ วา อยํ อาฏานาฏิยา รกฺขา สุคฺคหิตา ภวิสฺสติ สมตฺตา ปริยาปุตา ตํ เจ อมนุสฺโส ยกฺโข วา ยกฺขินี วา…เป… คนฺธพฺโพ วา คนฺธพฺพี วา…เป… กุมฺภณฺโฑ วา กุมฺภณฺฑี วา…เป… นาโค วา นาคี วา นาคโปตโก วา นาคโปติกา วา นาคมหามตฺโต วา นาคปาริสชฺโช วา นาคปจาโร วา, ปทุฏฺจิตฺโต ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา อุปาสกํ วา อุปาสิกํ วา คจฺฉนฺตํ วา อนุคจฺเฉยฺย, ิตํ วา อุปติฏฺเยฺย, นิสินฺนํ วา อุปนิสีเทยฺย, นิปนฺนํ วา อุปนิปชฺเชยฺย. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย คาเมสุ วา นิคเมสุ วา สกฺการํ วา ครุการํ วา. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย อาฬกมนฺทาย นาม ราชธานิยา วตฺถุํ วา วาสํ วา. น เม โส, มาริส, อมนุสฺโส ลเภยฺย ยกฺขานํ สมิตึ คนฺตุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา อนาวยฺหมฺปิ นํ กเรยฺยุํ อวิวยฺหํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา อตฺตาหิ ปริปุณฺณาหิ ปริภาสาหิ ปริภาเสยฺยุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา ริตฺตํปิสฺส ปตฺตํ สีเส นิกฺกุชฺเชยฺยุํ. อปิสฺสุ นํ, มาริส, อมนุสฺสา สตฺตธาปิสฺส มุทฺธํ ผาเลยฺยุํ. สนฺติ หิ, มาริส, อมนุสฺสา จณฺฑา รุทฺธา รภสา, เต เนว มหาราชานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต โข เต, มาริส, อมนุสฺสา มหาราชานํ อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. เสยฺยถาปิ, มาริส, รฺโ มาคธสฺส วิชิเต มหาโจรา. เต เนว รฺโ มาคธสฺส อาทิยนฺติ, น รฺโ มาคธสฺส ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น รฺโ มาคธสฺส ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต โข เต, มาริส, มหาโจรา รฺโ มาคธสฺส อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. เอวเมว โข, มาริส, สนฺติ อมนุสฺสา จณฺฑา รุทฺธา รภสา, เต เนว มหาราชานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ, น มหาราชานํ ปุริสกานํ ปุริสกานํ อาทิยนฺติ. เต โข เต, มาริส, อมนุสฺสา มหาราชานํ อวรุทฺธา นาม วุจฺจนฺติ. โย หิ โกจิ, มาริส, อมนุสฺโส ยกฺโข วา ยกฺขินี วา…เป… คนฺธพฺโพ วา คนฺธพฺพี วา…เป… กุมฺภณฺโฑ วา กุมฺภณฺฑี วา…เป… นาโค วา นาคี วา…เป… ปทุฏฺจิตฺโต ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา อุปาสกํ วา อุปาสิกํ วา คจฺฉนฺตํ วา อุปคจฺเฉยฺย, ิตํ วา อุปติฏฺเยฺย, นิสินฺนํ วา อุปนิสีเทยฺย, นิปนฺนํ วา อุปนิปชฺเชยฺย. อิเมสํ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกฺกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ – ‘อยํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ ยกฺโข อาวิสติ, อยํ ยกฺโข ¶ เหเติ, อยํ ยกฺโข วิเหเติ, อยํ ยกฺโข หึสติ, อยํ ยกฺโข วิหึสติ, อยํ ยกฺโข น มฺุจตี’ติ.
๒๙๓. ‘กตเมสํ ¶ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ?
‘อินฺโท โสโม วรุโณ จ, ภารทฺวาโช ปชาปติ;
จนฺทโน กามเสฏฺโ จ, กินฺนุฆณฺฑุ นิฆณฺฑุ จ.
‘ปนาโท โอปมฺโ จ, เทวสูโต จ มาตลิ;
จิตฺตเสโน จ คนฺธพฺโพ, นโฬ ราชา ชเนสโภ.
‘สาตาคิโร เหวมโต, ปุณฺณโก กรติโย คุโฬ;
สิวโก มุจลินฺโท จ, เวสฺสามิตฺโต ยุคนฺธโร.
‘โคปาโล สุปฺปโรโธ จ, หิริ เนตฺติ จ มนฺทิโย;
ปฺจาลจณฺโฑ อาฬวโก, ปชฺชุนฺโน สุมโน สุมุโข;
ทธิมุโข มณิ มาณิวโร ทีโฆ, อโถ เสรีสโก สห.
‘อิเมสํ ยกฺขานํ มหายกฺขานํ เสนาปตีนํ มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกฺกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ – ‘‘อยํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ ยกฺโข อาวิสติ, อยํ ยกฺโข เหเติ, อยํ ยกฺโข วิเหเติ, อยํ ยกฺโข หึสติ, อยํ ยกฺโข วิหึสติ, อยํ ยกฺโข น มฺุจตี’’ติ. อยํ โข, มาริส, อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหาราย. หนฺท จ ทานิ มยํ, มาริส, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’’ติ. ‘‘‘ยสฺส ทานิ ตุมฺเห มหาราชาโน กาลํ มฺถา’’’ติ.
๒๙๔. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาราชา อุฏฺายาสนา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. เตปิ โข, ภิกฺขเว, ยกฺขา อุฏฺายาสนา อปฺเปกจฺเจ มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ มยา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ เยนาหํ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ ¶ สาเวตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา ตตฺเถวนฺตรธายึสุ.
๒๙๕. ‘‘อุคฺคณฺหาถ ¶ , ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. ปริยาปุณาถ, ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. ธาเรถ, ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. อตฺถสํหิตา [อตฺถสํหิตายํ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหารายา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
อาฏานาฏิยสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.
๑๐. สงฺคีติสุตฺตํ
๒๙๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน ปาวา นาม มลฺลานํ นครํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน.
อุพฺภตกนวสนฺธาคารํ
๒๙๗. เตน โข ปน สมเยน ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ อุพฺภตกํ นาม นวํ สนฺธาคารํ [สนฺถาคารํ (สี. ปี.), สณฺาคารํ (สฺยา. กํ.)] อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฏฺํ [อนชฺฌาวุตฺถํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตน. อสฺโสสุํ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา – ‘‘ภควา กิร มลฺเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ ปาวํ อนุปฺปตฺโต ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน’’ติ. อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ อุพฺภตกํ นาม นวํ สนฺธาคารํ อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฏฺํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตน. ตฺจ ¶ โข, ภนฺเต, ภควา ปมํ ปริภฺุชตุ, ภควตา ปมํ ปริภุตฺตํ ปจฺฉา ปาเวยฺยกา มลฺลา ปริภฺุชิสฺสนฺติ. ตทสฺส ปาเวยฺยกานํ มลฺลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อธิวาเสสิ โข ภควา ตุณฺหีภาเวน.
๒๙๘. อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ¶ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (ก.)] สนฺธาคารํ สนฺถริตฺวา ภควโต อาสนานิ ปฺาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺเปตฺวา เตลปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข เต ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (สี. ปี. ก.)], ภนฺเต, สนฺธาคารํ, ภควโต อาสนานิ ¶ ปฺตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต, เตลปทีโป อาโรปิโต. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.
๒๙๙. อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข ¶ นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. ปาเวยฺยกาปิ โข มลฺลา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺธาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทึสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. อถ โข ภควา ปาเวยฺยเก มลฺเล พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, วาเสฏฺา, รตฺติ. ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ¶ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
๓๐๐. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาเวยฺยเกสุ มลฺเลสุ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสํฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘วิคตถินมิทฺโธ [วิคตถีนมิทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ. ปฏิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมีกถา. ปิฏฺิ เม อาคิลายติ. ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ [อายเมยฺยามีติ (สฺยา. กํ.)]. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา.
ภินฺนนิคณฺวตฺถุ
๓๐๑. เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต ปาวายํ ¶ อธุนากาลงฺกโต โหติ. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา [ทฺเธฬฺหกชาตา (สฺยา. กํ.)] ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ ¶ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ [วิจรนฺติ (สฺยา. กํ.)] – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ! มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เต. ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. วโธเยว โข มฺเ นิคณฺเสุ ¶ นาฏปุตฺติเยสุ วตฺตติ. เยปิ [เยปิ เต (สี. ปี.)] นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา ¶ , เตปิ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา วิรตฺตรูปา ปฏิวานรูปา, ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ.
๓๐๒. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘นิคณฺโ, อาวุโส, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต, ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’’. ‘‘เอวฺเหตํ, อาวุโส, โหติ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต. อยํ ¶ โข ปนาวุโส อมฺหากํ [อสฺมากํ (ปี.)] ภควตา [ภควโต (ก. สี.)] ธมฺโม สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
‘‘กตโม จาวุโส, อมฺหากํ ภควตา [ภควโต (ก. สี.)] ธมฺโม สฺวากฺขาโต สุปฺปเวทิโต นิยฺยานิโก อุปสมสํวตฺตนิโก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิโต; ยตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ?
เอกกํ
๓๐๓. ‘‘อตฺถิ ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอโก ธมฺโม สมฺมทกฺขาโต. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ ¶ , ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอโก ธมฺโม? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. สพฺเพ สตฺตา สงฺขารฏฺิติกา. อยํ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอโก ธมฺโม สมฺมทกฺขาโต. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ ¶ , ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
ทุกํ
๓๐๔. ‘‘อตฺถิ ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทฺเว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ทฺเว [ทฺเว ธมฺโม (สฺยา. กํ.) เอวมุปริปิ]?
‘‘นามฺจ รูปฺจ.
‘‘อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ.
‘‘ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ.
‘‘อหิริกฺจ [อหิรีกฺจ (กตฺถจิ)] อโนตฺตปฺปฺจ.
‘‘หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ.
‘‘โทวจสฺสตา จ ปาปมิตฺตตา จ.
‘‘โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ.
‘‘อาปตฺติกุสลตา จ อาปตฺติวุฏฺานกุสลตา จ.
‘‘สมาปตฺติกุสลตา จ สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตา จ.
‘‘ธาตุกุสลตา ¶ จ มนสิการกุสลตา จ.
‘‘อายตนกุสลตา จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา จ.
‘‘านกุสลตา จ อฏฺานกุสลตา จ.
‘‘ขนฺติ จ โสรจฺจฺจ.
‘‘สาขลฺยฺจ ปฏิสนฺถาโร จ.
‘‘อวิหึสา จ โสเจยฺยฺจ.
‘‘มุฏฺสฺสจฺจฺจ อสมฺปชฺฺจ.
‘‘สติ จ สมฺปชฺฺจ ¶ .
‘‘อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา จ โภชเน อมตฺตฺุตา จ.
‘‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา จ โภชเน มตฺตฺุตา จ.
‘‘ปฏิสงฺขานพลฺจ [ปฏิสนฺธานพลฺจ (สฺยา.)] ภาวนาพลฺจ.
‘‘สติพลฺจ สมาธิพลฺจ.
‘‘สมโถ จ วิปสฺสนา จ.
‘‘สมถนิมิตฺตฺจ ปคฺคหนิมิตฺตฺจ.
‘‘ปคฺคโห จ อวิกฺเขโป จ.
‘‘สีลวิปตฺติ จ ทิฏฺิวิปตฺติ จ.
‘‘สีลสมฺปทา จ ทิฏฺิสมฺปทา จ.
‘‘สีลวิสุทฺธิ ¶ ¶ จ ทิฏฺิวิสุทฺธิ จ.
‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธิ โข ปน ยถา ทิฏฺิสฺส จ ปธานํ.
‘‘สํเวโค จ สํเวชนีเยสุ าเนสุ สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธานํ.
‘‘อสนฺตุฏฺิตา จ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อปฺปฏิวานิตา จ ปธานสฺมึ.
‘‘วิชฺชา ¶ จ วิมุตฺติ จ.
‘‘ขเยาณํ อนุปฺปาเทาณํ.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทฺเว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
ติกํ
๓๐๕. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ตโย?
‘‘ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ.
‘‘ตีณิ กุสลมูลานิ – อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ.
‘‘ตีณิ ทุจฺจริตานิ – กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ.
‘‘ตีณิ ¶ ¶ สุจริตานิ – กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ ¶ , มโนสุจริตํ.
‘‘ตโย อกุสลวิตกฺกา – กามวิตกฺโก, พฺยาปาทวิตกฺโก, วิหึสาวิตกฺโก.
‘‘ตโย กุสลวิตกฺกา – เนกฺขมฺมวิตกฺโก, อพฺยาปาทวิตกฺโก, อวิหึสาวิตกฺโก.
‘‘ตโย อกุสลสงฺกปฺปา – กามสงฺกปฺโป, พฺยาปาทสงฺกปฺโป, วิหึสาสงฺกปฺโป.
‘‘ตโย กุสลสงฺกปฺปา – เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป, อพฺยาปาทสงฺกปฺโป, อวิหึสาสงฺกปฺโป.
‘‘ติสฺโส ¶ อกุสลสฺา – กามสฺา, พฺยาปาทสฺา, วิหึสาสฺา.
‘‘ติสฺโส กุสลสฺา – เนกฺขมฺมสฺา, อพฺยาปาทสฺา, อวิหึสาสฺา.
‘‘ติสฺโส อกุสลธาตุโย – กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ.
‘‘ติสฺโส กุสลธาตุโย – เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหึสาธาตุ.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ธาตุโย – กามธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุ.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ธาตุโย – รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุ.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ธาตุโย – หีนธาตุ, มชฺฌิมธาตุ, ปณีตธาตุ.
‘‘ติสฺโส ¶ ตณฺหา – กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ตณฺหา – กามตณฺหา, รูปตณฺหา, อรูปตณฺหา.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ตณฺหา – รูปตณฺหา, อรูปตณฺหา, นิโรธตณฺหา.
‘‘ตีณิ ¶ สํโยชนานิ – สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส.
‘‘ตโย อาสวา – กามาสโว, ภวาสโว, อวิชฺชาสโว.
‘‘ตโย ภวา – กามภโว, รูปภโว, อรูปภโว.
‘‘ติสฺโส เอสนา – กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนา.
‘‘ติสฺโส วิธา – เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา.
‘‘ตโย อทฺธา – อตีโต อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน ¶ อทฺธา.
‘‘ตโย อนฺตา – สกฺกาโย อนฺโต, สกฺกายสมุทโย อนฺโต, สกฺกายนิโรโธ อนฺโต.
‘‘ติสฺโส เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา.
‘‘ติสฺโส ทุกฺขตา – ทุกฺขทุกฺขตา, สงฺขารทุกฺขตา, วิปริณามทุกฺขตา.
‘‘ตโย ¶ ราสี ¶ – มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ, สมฺมตฺตนิยโต ราสิ, อนิยโต ราสิ.
‘‘ตโย ตมา [ติสฺโส กงฺขา (พหูสุ) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] – อตีตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, อนาคตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, เอตรหิ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ.
‘‘ตีณิ ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ – ปริสุทฺธกายสมาจาโร อาวุโส ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธวจีสมาจาโร อาวุโส, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธมโนสมาจาโร, อาวุโส, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส มโนทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ.
‘‘ตโย ¶ กิฺจนา – ราโค กิฺจนํ, โทโส กิฺจนํ, โมโห กิฺจนํ.
‘‘ตโย อคฺคี – ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิ.
‘‘อปเรปิ ตโย อคฺคี – อาหุเนยฺยคฺคิ, คหปตคฺคิ, ทกฺขิเณยฺยคฺคิ.
‘‘ติวิเธน รูปสงฺคโห – สนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ รูปํ [สนิทสฺสนสปฺปฏิฆรูปํ (สฺยา. กํ.) เอวมิตรทฺวเยปิ], อนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ รูปํ, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆํ รูปํ.
‘‘ตโย สงฺขารา – ปฺุาภิสงฺขาโร, อปฺุาภิสงฺขาโร ¶ , อาเนฺชาภิสงฺขาโร.
‘‘ตโย ¶ ปุคฺคลา – เสกฺโข ปุคฺคโล, อเสกฺโข ปุคฺคโล, เนวเสกฺโขนาเสกฺโข ปุคฺคโล.
‘‘ตโย เถรา – ชาติเถโร, ธมฺมเถโร, สมฺมุติเถโร [สมฺมติเถโร (สฺยา. กํ.)].
‘‘ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ – ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ.
‘‘ตีณิ โจทนาวตฺถูนิ – ทิฏฺเน, สุเตน, ปริสงฺกาย.
‘‘ติสฺโส ¶ กามูปปตฺติโย [กามุปฺปตฺติโย (สี.), กามุปปตฺติโย (สฺยา. ปี. ก.)] – สนฺตาวุโส สตฺตา ปจฺจุปฏฺิตกามา, เต ปจฺจุปฏฺิเตสุ กาเมสุ วสํ วตฺเตนฺติ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา กามูปปตฺติ. สนฺตาวุโส, สตฺตา นิมฺมิตกามา, เต นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา กาเมสุ วสํ วตฺเตนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา นิมฺมานรตี. อยํ ทุติยา กามูปปตฺติ. สนฺตาวุโส สตฺตา ปรนิมฺมิตกามา, เต ปรนิมฺมิเตสุ กาเมสุ วสํ วตฺเตนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. อยํ ตติยา กามูปปตฺติ.
‘‘ติสฺโส สุขูปปตฺติโย [สุขุปปตฺติโย (สฺยา. ปี. ก.)] – สนฺตาวุโส สตฺตา [สตฺตา สุขํ (สฺยา. กํ.)] อุปฺปาเทตฺวา อุปฺปาเทตฺวา สุขํ วิหรนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา. อยํ ปมา สุขูปปตฺติ. สนฺตาวุโส, สตฺตา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนา ปริปูรา ปริปฺผุฏา. เต กทาจิ กรหจิ อุทานํ อุทาเนนฺติ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ ¶ , เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ทุติยา สุขูปปตฺติ. สนฺตาวุโส, สตฺตา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนา ปริปูรา ปริปฺผุฏา. เต สนฺตํเยว ตุสิตา [สนฺตุสิตา (สฺยา. กํ.)] สุขํ ¶ [จิตฺตสุขํ (สฺยา. ก.)] ปฏิสํเวเทนฺติ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ ตติยา สุขูปปตฺติ ¶ .
‘‘ติสฺโส ปฺา – เสกฺขา ปฺา, อเสกฺขา ปฺา, เนวเสกฺขานาเสกฺขา ปฺา.
‘‘อปราปิ ติสฺโส ปฺา – จินฺตามยา ปฺา, สุตมยา ปฺา, ภาวนามยา ปฺา.
‘‘ตีณาวุธานิ – สุตาวุธํ, ปวิเวกาวุธํ, ปฺาวุธํ.
‘‘ตีณินฺทฺริยานิ – อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, อฺินฺทฺริยํ, อฺาตาวินฺทฺริยํ.
‘‘ตีณิ จกฺขูนิ – มํสจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ, ปฺาจกฺขุ.
‘‘ติสฺโส สิกฺขา – อธิสีลสิกฺขา, อธิจิตฺตสิกฺขา, อธิปฺาสิกฺขา.
‘‘ติสฺโส ภาวนา – กายภาวนา, จิตฺตภาวนา, ปฺาภาวนา.
‘‘ตีณิ ¶ อนุตฺตริยานิ – ทสฺสนานุตฺตริยํ, ปฏิปทานุตฺตริยํ, วิมุตฺตานุตฺตริยํ.
‘‘ตโย สมาธี – สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ.
‘‘อปเรปิ ตโย สมาธี – สฺุโต สมาธิ, อนิมิตฺโต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิ.
‘‘ตีณิ โสเจยฺยานิ – กายโสเจยฺยํ, วจีโสเจยฺยํ, มโนโสเจยฺยํ.
‘‘ตีณิ ¶ โมเนยฺยานิ – กายโมเนยฺยํ, วจีโมเนยฺยํ, มโนโมเนยฺยํ.
‘‘ตีณิ ¶ โกสลฺลานิ – อายโกสลฺลํ, อปายโกสลฺลํ, อุปายโกสลฺลํ.
‘‘ตโย มทา – อาโรคฺยมโท, โยพฺพนมโท, ชีวิตมโท.
‘‘ตีณิ อาธิปเตยฺยานิ – อตฺตาธิปเตยฺยํ, โลกาธิปเตยฺยํ, ธมฺมาธิปเตยฺยํ.
‘‘ตีณิ กถาวตฺถูนิ – อตีตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ อโหสิ อตีตมทฺธาน’นฺติ; อนาคตํ วา อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ ภวิสฺสติ อนาคตมทฺธาน’นฺติ; เอตรหิ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ โหติ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธาน’นฺติ.
‘‘ติสฺโส วิชฺชา ¶ – ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ วิชฺชา, สตฺตานํ จุตูปปาเตาณํ วิชฺชา, อาสวานํ ขเยาณํ วิชฺชา.
‘‘ตโย วิหารา – ทิพฺโพ วิหาโร, พฺรหฺมา วิหาโร, อริโย วิหาโร.
‘‘ตีณิ ปาฏิหาริยานิ – อิทฺธิปาฏิหาริยํ, อาเทสนาปาฏิหาริยํ, อนุสาสนีปาฏิหาริยํ.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
จตุกฺกํ
๓๐๖. ‘‘อตฺถิ ¶ ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ, น วิวทิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม จตฺตาโร?
‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน ¶ สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.
‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ¶ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ.
‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ ¶ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ.
‘‘จตฺตาริ ฌานานิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ [ปมชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)] อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ [ทุติยชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)] อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ ¶ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ [ตติยชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)] อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ [จตุตฺถชฺฌานํ (สฺยา. กํ.)] อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
๓๐๗. ‘‘จตสฺโส สมาธิภาวนา. อตฺถาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ¶ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ. อตฺถาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฏิลาภาย สํวตฺตติ. อตฺถาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ. อตฺถาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา ¶ จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, อาวุโส ¶ , สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฏิลาภาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อาโลกสฺํ มนสิ กโรติ, ทิวาสฺํ อธิฏฺาติ ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ, ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา. อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. อยํ, อาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา าณทสฺสนปฏิลาภาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. วิทิตา สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. อยํ, อาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ.
‘‘กตมา ¶ ¶ จาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ. อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม. อิติ เวทนา…เป… อิติ สฺา… อิติ สงฺขารา… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม. อยํ, อาวุโส, สมาธิภาวนา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติ.
๓๐๘. ‘‘จตสฺโส ¶ อปฺปมฺา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ¶ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน [อพฺยาปชฺเฌน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. ตถา ทุติยํ. ตถา ตติยํ. ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.
‘‘จตฺตาโร อารุปฺปา. [อรูปา (สฺยา. กํ. ปี.)] อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
‘‘จตฺตาริ อปสฺเสนานิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ.
๓๐๙. ‘‘จตฺตาโร ¶ อริยวํสา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน, อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ จีวรเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ จีวรํ อคธิโต [อคถิโต (สี. ปี.)] อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต, อยํ วุจฺจตาวุโส ¶ – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต’.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา ¶ เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต ¶ , อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต’.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน เสนาสเนน, อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ เสนาสนเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ; อลทฺธา จ เสนาสนํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ เสนาสนํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺฌาปนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ; ตาย จ ปน อิตรีตรเสนาสนสนฺตุฏฺิยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต, อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต’.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปหานาราโม โหติ ปหานรโต, ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโต; ตาย จ ปน ปหานารามตาย ปหานรติยา ภาวนารามตาย ภาวนารติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโข อนลโส สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโต’.
๓๑๐. ‘‘จตฺตาริ ¶ ปธานานิ. สํวรปธานํ ปหานปธานํ ภาวนาปธานํ [ภาวนาปฺปธานํ (สฺยา.)] อนุรกฺขณาปธานํ [อนุรกฺขนาปฺปธานํ (สฺยา.)]. กตมฺจาวุโส, สํวรปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ ¶ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน ¶ โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. อิทํ วุจฺจตาวุโส, สํวรปธานํ.
‘‘กตมฺจาวุโส, ปหานปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตึ กโรติ [พฺยนฺตี กโรติ (สฺยา. กํ.)] อนภาวํ คเมติ. อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตึ กโรติ อนภาวํ คเมติ. อิทํ วุจฺจตาวุโส, ปหานปธานํ.
‘‘กตมฺจาวุโส ¶ , ภาวนาปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. อิทํ วุจฺจตาวุโส, ภาวนาปธานํ.
‘‘กตมฺจาวุโส, อนุรกฺขณาปธานํ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ ภทฺรกํ [ภทฺทกํ (สฺยา. กํ. ปี.)] สมาธินิมิตฺตํ อนุรกฺขติ – อฏฺิกสฺํ, ปุฬุวกสฺํ [ปุฬวกสฺํ (สี. ปี.)], วินีลกสฺํ, วิจฺฉิทฺทกสฺํ, อุทฺธุมาตกสฺํ. อิทํ วุจฺจตาวุโส, อนุรกฺขณาปธานํ.
‘‘จตฺตาริ ¶ าณานิ – ธมฺเม าณํ, อนฺวเย าณํ, ปริเย [ปริจฺเจ (สี. ก.), ปริจฺเฉเท (สฺยา. ปี. ก.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] าณํ, สมฺมุติยา าณํ [สมฺมติาณํ (สฺยา. กํ.)].
‘‘อปรานิปิ ¶ ¶ จตฺตาริ าณานิ – ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ.
๓๑๑. ‘‘จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ – สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสฺสวนํ, โยนิโสมนสิกาโร, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ.
‘‘จตฺตาริ โสตาปนฺนสฺส องฺคานิ. อิธาวุโส, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ, ภควา’ติ. ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก [โอปนยิโก (สฺยา. กํ.)] ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ. สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ. อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ.
‘‘จตฺตาริ ¶ ¶ สามฺผลานิ – โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตผลํ.
‘‘จตสฺโส ¶ ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ.
‘‘จตฺตาโร อาหารา – กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถํ.
‘‘จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโย. รูปูปายํ วา, อาวุโส, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ รูปารมฺมณํ [รูปารมณํ (?)] รูปปฺปติฏฺํ นนฺทูปเสจนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ; เวทนูปายํ ¶ วา อาวุโส…เป… สฺูปายํ วา, อาวุโส…เป… สงฺขารูปายํ วา, อาวุโส, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ สงฺขารารมฺมณํ สงฺขารปฺปติฏฺํ นนฺทูปเสจนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ.
‘‘จตฺตาริ อคติคมนานิ – ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคติ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ.
‘‘จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา – จีวรเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; ปิณฺฑปาตเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; เสนาสนเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ; อิติภวาภวเหตุ วา, อาวุโส, ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ.
‘‘จตสฺโส ¶ ปฏิปทา – ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา.
‘‘อปราปิ ¶ จตสฺโส ปฏิปทา – อกฺขมา ปฏิปทา, ขมา ปฏิปทา, ทมา ปฏิปทา, สมา ปฏิปทา.
‘‘จตฺตาริ ¶ ธมฺมปทานิ – อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ.
‘‘จตฺตาริ ธมฺมสมาทานานิ – อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายติฺจ ทุกฺขวิปากํ. อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ. อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ. อตฺถาวุโส, ธมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายติฺจ สุขวิปากํ.
‘‘จตฺตาโร ธมฺมกฺขนฺธา – สีลกฺขนฺโธ, สมาธิกฺขนฺโธ, ปฺากฺขนฺโธ, วิมุตฺติกฺขนฺโธ.
‘‘จตฺตาริ พลานิ – วีริยพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ.
‘‘จตฺตาริ อธิฏฺานานิ – ปฺาธิฏฺานํ, สจฺจาธิฏฺานํ, จาคาธิฏฺานํ, อุปสมาธิฏฺานํ.
๓๑๒. ‘‘จตฺตาริ ¶ ปฺหพฺยากรณานิ – [จตฺตาโร ปฺหาพฺยากรณา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห, ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห, วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห, ปนีโย ปฺโห.
‘‘จตฺตาริ ¶ ¶ กมฺมานิ – อตฺถาวุโส, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถาวุโส, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.
‘‘จตฺตาโร สจฺฉิกรณียา ธมฺมา – ปุพฺเพนิวาโส สติยา สจฺฉิกรณีโย; สตฺตานํ จุตูปปาโต จกฺขุนา สจฺฉิกรณีโย; อฏฺ วิโมกฺขา กาเยน สจฺฉิกรณียา; อาสวานํ ขโย ปฺาย สจฺฉิกรณีโย.
‘‘จตฺตาโร โอฆา – กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆ.
‘‘จตฺตาโร โยคา – กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโค.
‘‘จตฺตาโร ¶ วิสฺโคา – กามโยควิสฺโโค, ภวโยควิสฺโโค, ทิฏฺิโยควิสฺโโค, อวิชฺชาโยควิสฺโโค.
‘‘จตฺตาโร คนฺถา – อภิชฺฌา กายคนฺโถ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ.
‘‘จตฺตาริ อุปาทานานิ – กามุปาทานํ [กามูปาทานํ (สี. ปี.) เอวมิตเรสุปิ], ทิฏฺุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํ.
‘‘จตสฺโส โยนิโย – อณฺฑชโยนิ, ชลาพุชโยนิ, สํเสทชโยนิ, โอปปาติกโยนิ.
‘‘จตสฺโส ¶ ¶ คพฺภาวกฺกนฺติโย. อิธาวุโส, เอกจฺโจ อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ. ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ¶ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺติ.
‘‘จตฺตาโร อตฺตภาวปฏิลาภา. อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนาเยว กมติ, โน ปรสฺเจตนา. อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ ปรสฺเจตนาเยว กมติ, โน อตฺตสฺเจตนา. อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ อตฺตสฺเจตนา เจว กมติ ปรสฺเจตนา จ. อตฺถาวุโส, อตฺตภาวปฏิลาโภ, ยสฺมึ อตฺตภาวปฏิลาเภ เนว อตฺตสฺเจตนา กมติ, โน ปรสฺเจตนา.
๓๑๓. ‘‘จตสฺโส ทกฺขิณาวิสุทฺธิโย. อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ปฏิคฺคาหกโต. อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ปฏิคฺคาหกโต ¶ วิสุชฺฌติ โน ทายกโต. อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา เนว ทายกโต วิสุชฺฌติ โน ¶ ปฏิคฺคาหกโต. อตฺถาวุโส, ทกฺขิณา ทายกโต เจว วิสุชฺฌติ ปฏิคฺคาหกโต จ.
‘‘จตฺตาริ ¶ สงฺคหวตฺถูนิ – ทานํ, เปยฺยวชฺชํ [ปิยวชฺชํ (สฺยา. กํ. ก.)], อตฺถจริยา, สมานตฺตตา.
‘‘จตฺตาโร อนริยโวหารา – มุสาวาโท, ปิสุณาวาจา, ผรุสาวาจา, สมฺผปฺปลาโป.
‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา – มุสาวาทา เวรมณี [เวรมณิ (ก.)], ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อนริยโวหารา – อทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา, อสฺสุเต สุตวาทิตา, อมุเต มุตวาทิตา, อวิฺาเต วิฺาตวาทิตา.
‘‘อปเรปิ ¶ จตฺตาโร อริยโวหารา – อทิฏฺเ อทิฏฺวาทิตา, อสฺสุเต อสฺสุตวาทิตา, อมุเต อมุตวาทิตา, อวิฺาเต อวิฺาตวาทิตา.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อนริยโวหารา – ทิฏฺเ อทิฏฺวาทิตา, สุเต อสฺสุตวาทิตา, มุเต อมุตวาทิตา, วิฺาเต อวิฺาตวาทิตา.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร อริยโวหารา – ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา, สุเต สุตวาทิตา, มุเต มุตวาทิตา, วิฺาเต วิฺาตวาทิตา.
๓๑๔. ‘‘จตฺตาโร ปุคฺคลา. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป ¶ โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต [สีติภูโต (ก.)] สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลา. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน อตฺตหิตาย. อิธาวุโส ¶ , เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จ.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลา – ตโม ตมปรายโน, ตโม โชติปรายโน, โชติ ตมปรายโน, โชติ โชติปรายโน.
‘‘อปเรปิ จตฺตาโร ปุคฺคลา – สมณมจโล, สมณปทุโม, สมณปุณฺฑรีโก, สมเณสุ สมณสุขุมาโล.
‘‘อิเม ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
ปฺจกํ
๓๑๕. ‘‘อตฺถิ ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปฺจ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ปฺจ?
‘‘ปฺจกฺขนฺธา. รูปกฺขนฺโธ เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ.
‘‘ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. รูปุปาทานกฺขนฺโธ [รูปูปาทานกฺขนฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวมิตเรสุปิ] เวทนุปาทานกฺขนฺโธ ¶ สฺุปาทานกฺขนฺโธ สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ.
‘‘ปฺจ กามคุณา. จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสฺหิตา รชนียา ¶ , โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสฺหิตา รชนียา.
‘‘ปฺจ คติโย – นิรโย, ติรจฺฉานโยนิ, เปตฺติวิสโย, มนุสฺสา, เทวา.
‘‘ปฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํ.
‘‘ปฺจ นีวรณานิ – กามจฺฉนฺทนีวรณํ, พฺยาปาทนีวรณํ, ถินมิทฺธนีวรณํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ, วิจิกิจฺฉานีวรณํ.
‘‘ปฺจ โอรมฺภาคิยานิ สฺโชนานิ – สกฺกายทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส, กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท.
‘‘ปฺจ ¶ ¶ อุทฺธมฺภาคิยานิ สฺโชนานิ – รูปราโค, อรูปราโค, มาโน, อุทฺธจฺจํ, อวิชฺชา.
‘‘ปฺจ ¶ สิกฺขาปทานิ – ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา เวรมณี.
๓๑๖. ‘‘ปฺจ อภพฺพฏฺานานิ. อภพฺโพ, อาวุโส, ขีณาสโว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตุํ. อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิตุํ [อาทาตุํ (สฺยา. กํ. ปี.)]. อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ. อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สมฺปชานมุสา ภาสิตุํ. อภพฺโพ ขีณาสโว ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภฺุชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อาคาริกภูโต.
‘‘ปฺจ พฺยสนานิ – าติพฺยสนํ, โภคพฺยสนํ, โรคพฺยสนํ, สีลพฺยสนํ, ทิฏฺิพฺยสนํ. นาวุโส, สตฺตา าติพฺยสนเหตุ วา โภคพฺยสนเหตุ วา โรคพฺยสนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ. สีลพฺยสนเหตุ วา, อาวุโส, สตฺตา ทิฏฺิพฺยสนเหตุ ¶ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
‘‘ปฺจ สมฺปทา – าติสมฺปทา, โภคสมฺปทา, อาโรคฺยสมฺปทา, สีลสมฺปทา, ทิฏฺิสมฺปทา. นาวุโส, สตฺตา าติสมฺปทาเหตุ วา โภคสมฺปทาเหตุ วา อาโรคฺยสมฺปทาเหตุ วา กายสฺส เภทา ¶ ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. สีลสมฺปทาเหตุ วา, อาวุโส, สตฺตา ทิฏฺิสมฺปทาเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.
‘‘ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิธาวุโส ¶ , ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ, อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ¶ ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ, อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต, อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, อาวุโส, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ, อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
‘‘ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิธาวุโส, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ, อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อยํ ทุติโย ¶ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ, วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต, อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, อาวุโส, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ, อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.
‘‘โจทเกน ¶ , อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ. กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน ¶ วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺเตน [เมตฺตาจิตฺเตน (กตฺถจิ)] วกฺขามิ โน โทสนฺตเรนาติ. โจทเกน, อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ.
๓๑๗. ‘‘ปฺจ ¶ ปธานิยงฺคานิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต, โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา ¶ คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. อสโ โหติ อมายาวี, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตา สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ. อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยา.
๓๑๘. ‘‘ปฺจ สุทฺธาวาสา – อวิหา, อตปฺปา, สุทสฺสา, สุทสฺสี, อกนิฏฺา.
‘‘ปฺจ อนาคามิโน – อนฺตราปรินิพฺพายี, อุปหจฺจปรินิพฺพายี, อสงฺขารปรินิพฺพายี, สสงฺขารปรินิพฺพายี, อุทฺธํโสโตอกนิฏฺคามี.
๓๑๙. ‘‘ปฺจ เจโตขิลา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ ¶ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปโม เจโตขิโล. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺเม กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ…เป… สงฺเฆ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ… สิกฺขาย กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ ¶ สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย, อยํ ปฺจโม เจโตขิโล.
๓๒๐. ‘‘ปฺจ ¶ เจตโสวินิพนฺธา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห ¶ อวิคตตณฺโห. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ กาเมสุ อวีตราโค โหติ อวิคตจฺฉนฺโท อวิคตเปโม อวิคตปิปาโส อวิคตปริฬาโห อวิคตตณฺโห, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. อยํ ปโม เจตโส วินิพนฺโธ. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ กาเย อวีตราโค โหติ…เป… รูเป อวีตราโค โหติ…เป… ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ…เป… ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ¶ อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ – ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ¶ ปธานาย. อยํ ปฺจโม เจตโส วินิพนฺโธ.
‘‘ปฺจินฺทฺริยานิ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํ.
‘‘อปรานิปิ ปฺจินฺทฺริยานิ – สุขินฺทฺริยํ, ทุกฺขินฺทฺริยํ, โสมนสฺสินฺทฺริยํ, โทมนสฺสินฺทฺริยํ, อุเปกฺขินฺทฺริยํ.
‘‘อปรานิปิ ปฺจินฺทฺริยานิ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ.
๓๒๑. ‘‘ปฺจ นิสฺสรณิยา [นิสฺสารณียา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] ธาตุโย. อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเม มนสิกโรโต กาเมสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. เนกฺขมฺมํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ ¶ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ กาเมหิ. เย จ กามปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา [วิฆาตปริฬาหา (สฺยา. กํ.)], มุตฺโต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ กามานํ นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน พฺยาปาทํ มนสิกโรโต พฺยาปาเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ¶ ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อพฺยาปาทํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อพฺยาปาเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ พฺยาปาเทน. เย จ พฺยาปาทปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ พฺยาปาทสฺส ¶ นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน วิเหสํ มนสิกโรโต วิเหสาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อวิเหสํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อวิเหสาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ วิเหสาย. เย จ วิเหสาปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ วิเหสาย นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน รูเป มนสิกโรโต รูเปสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อรูปํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อรูเป จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ รูเปหิ. เย จ รูปปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ รูปานํ นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน สกฺกายํ มนสิกโรโต สกฺกาเย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. สกฺกายนิโรธํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ สกฺกาเยน. เย จ สกฺกายปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส ¶ เตหิ, น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณํ.
๓๒๒. ‘‘ปฺจ ¶ วิมุตฺตายตนานิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี ¶ . ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ปมํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ…เป… อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ…เป… อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ…เป… ¶ อปิ จ ขฺวสฺส อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ ¶ , สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ปฺจมํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปฺจ ¶ วิมุตฺติปริปาจนียา สฺา – อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปฺจ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ [สงฺคิติยปฺจกํ นิฏฺิตํ (สฺยา. กํ.)].
ฉกฺกํ
๓๒๓. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ฉ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ฉ?
‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ ¶ อายตนานิ – จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ.
‘‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ – รูปายตนํ, สทฺทายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ, ธมฺมายตนํ.
‘‘ฉ ¶ วิฺาณกายา – จกฺขุวิฺาณํ, โสตวิฺาณํ, ฆานวิฺาณํ, ชิวฺหาวิฺาณํ, กายวิฺาณํ, มโนวิฺาณํ.
‘‘ฉ ผสฺสกายา – จกฺขุสมฺผสฺโส, โสตสมฺผสฺโส, ฆานสมฺผสฺโส, ชิวฺหาสมฺผสฺโส, กายสมฺผสฺโส, มโนสมฺผสฺโส.
‘‘ฉ เวทนากายา – จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา, โสตสมฺผสฺสชา ¶ เวทนา, ฆานสมฺผสฺสชา เวทนา, ชิวฺหาสมฺผสฺสชา เวทนา, กายสมฺผสฺสชา เวทนา, มโนสมฺผสฺสชา เวทนา.
‘‘ฉ สฺากายา – รูปสฺา, สทฺทสฺา, คนฺธสฺา, รสสฺา, โผฏฺพฺพสฺา, ธมฺมสฺา.
‘‘ฉ สฺเจตนากายา – รูปสฺเจตนา, สทฺทสฺเจตนา, คนฺธสฺเจตนา, รสสฺเจตนา, โผฏฺพฺพสฺเจตนา, ธมฺมสฺเจตนา.
‘‘ฉ ¶ ตณฺหากายา – รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฏฺพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหา.
๓๒๔. ‘‘ฉ อคารวา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส; ธมฺเม อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส; สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส; สิกฺขาย อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส; อปฺปมาเท อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส; ปฏิสนฺถาเร [ปฏิสนฺธาเร (ก.)] อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส.
‘‘ฉ คารวา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส; ธมฺเม สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส; สงฺเฆ สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส; สิกฺขาย สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส; อปฺปมาเท สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส; ปฏิสนฺถาเร สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส.
‘‘ฉ โสมนสฺสูปวิจารา ¶ . จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรติ; โสเตน ¶ สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา. มนสา ธมฺมํ วิฺาย โสมนสฺสฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ.
‘‘ฉ ¶ ¶ โทมนสฺสูปวิจารา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โทมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรติ…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย โทมนสฺสฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ.
‘‘ฉ อุเปกฺขูปวิจารา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุเปกฺขาฏฺานิยํ [อุเปกฺขาานิยํ (ก.)] รูปํ อุปวิจรติ…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย อุเปกฺขาฏฺานิยํ ธมฺมํ อุปวิจรติ.
‘‘ฉ สารณียา ธมฺมา. อิธาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ [อาวี (ก. สี. ปี. ก.)] เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรติ ¶ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ¶ ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว ¶ รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
๓๒๕. ฉ วิวาทมูลานิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี, โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี [ปริปูรีการี (สฺยา. กํ.)] โหติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขาย น ปริปูรการี, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ. โย โหติ วิวาโท พหุชนอหิตาย พหุชนอสุขาย อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อาวุโส, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อาวุโส, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี…เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี…เป… สโ โหติ มายาวี… ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺี… สนฺทิฏฺิปรามาสี ¶ ¶ โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี…เป… โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส ¶ , สิกฺขาย น ปริปูรการี, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ. โย โหติ วิวาโท พหุชนอหิตาย พหุชนอสุขาย อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อาวุโส, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, อาวุโส, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อาวุโส, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.
‘‘ฉ ธาตุโย ¶ – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ.
๓๒๖. ‘‘ฉ นิสฺสรณิยา ธาตุโย. อิธาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘เมตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ¶ ยานีกตา วตฺถุกตา ¶ อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, อถ จ ปน เม พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหวํ’, ติสฺส วจนีโย, ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย. อถ จ ปนสฺส พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส, ยทิทํ เมตฺตา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘กรุณา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อถ จ ปน เม วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ, โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ อาวุโส, อนวกาโส, ยํ กรุณาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย ¶ อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิเหสาย, ยทิทํ กรุณา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘มุทิตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อถ จ ปน เม ¶ อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ, โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ มุทิตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย ¶ อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, อรติยา, ยทิทํ มุทิตา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ¶ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อุเปกฺขา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อถ จ ปน เม ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อุเปกฺขาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, ราคสฺส, ยทิทํ อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อนิมิตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อถ จ ปน เม นิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ โหตี’ติ. โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส ¶ วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย, อถ จ ปนสฺส นิมิตฺตานุสาริ ¶ วิฺาณํ ภวิสฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, สพฺพนิมิตฺตานํ, ยทิทํ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสฺมีติ โข เม วิคตํ [วิฆาตํ (สี. ปี.), วิคเต (สฺยา. ก.)], อยมหมสฺมีติ น สมนุปสฺสามิ, อถ จ ปน เม วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น หิ สาธุ ¶ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส, ยํ อสฺมีติ วิคเต [วิฆาเต (สี. ปี.)] อยมหมสฺมีติ อสมนุปสฺสโต, อถ จ ปนสฺส วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉากถงฺกถาสลฺลสฺส, ยทิทํ อสฺมิมานสมุคฺฆาโต’ติ.
๓๒๗. ‘‘ฉ อนุตฺตริยานิ – ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํ.
‘‘ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ ¶ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ.
๓๒๘. ‘‘ฉ ¶ สตตวิหารา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก [อุเปกฺขโก จ (สฺยา. ก.)] วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน.
๓๒๙. ‘‘ฉฬาภิชาติโย. อิธาวุโส, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโก ¶ สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโก สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ กณฺหาภิชาติโก สมาโน อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ. อิธ ปนาวุโส, เอกจฺโจ สุกฺกาภิชาติโก สมาโน ¶ อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานํ อภิชายติ.
‘‘ฉ นิพฺเพธภาคิยา สฺา [นิพฺเพธภาคิยสฺา (สฺยา. กํ.)] – อนิจฺจสฺา อนิจฺเจ, ทุกฺขสฺา ทุกฺเข, อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ฉ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
สตฺตกํ
๓๓๐. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺต ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม สตฺต?
‘‘สตฺต ¶ อริยธนานิ – สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิริธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ.
‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา – สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค ¶ , วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค.
‘‘สตฺต สมาธิปริกฺขารา – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.
‘‘สตฺต อสทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ.
‘‘สตฺต สทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ปฺวา โหติ.
‘‘สตฺต สปฺปุริสธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมฺู จ โหติ อตฺถฺู จ อตฺตฺู จ มตฺตฺู จ กาลฺู จ ปริสฺู จ ปุคฺคลฺู จ.
๓๓๑. ‘‘สตฺต ¶ นิทฺทสวตฺถูนิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม. ธมฺมนิสนฺติยา ¶ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม. อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม. ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม. วีริยารมฺเภ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม. สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม ¶ . ทิฏฺิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม.
‘‘สตฺต สฺา – อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, อสุภสฺา, อาทีนวสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา.
‘‘สตฺต ¶ พลานิ – สทฺธาพลํ, วีริยพลํ, หิริพลํ, โอตฺตปฺปพลํ, สติพลํ, สมาธิพลํ, ปฺาพลํ.
๓๓๒. ‘‘สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ ¶ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส ¶ , สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ สตฺตมี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สตฺต ปุคฺคลา ทกฺขิเณยฺยา – อุภโตภาควิมุตฺโต ¶ , ปฺาวิมุตฺโต, กายสกฺขิ, ทิฏฺิปฺปตฺโต, สทฺธาวิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารี.
‘‘สตฺต อนุสยา – กามราคานุสโย, ปฏิฆานุสโย, ทิฏฺานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, มานานุสโย, ภวราคานุสโย, อวิชฺชานุสโย.
‘‘สตฺต ¶ สฺโชนานิ – อนุนยสฺโชนํ [กามสฺโชนํ (สฺยา. กํ.)], ปฏิฆสฺโชนํ, ทิฏฺิสฺโชนํ, วิจิกิจฺฉาสฺโชนํ, มานสฺโชนํ, ภวราคสฺโชนํ, อวิชฺชาสฺโชนํ.
‘‘สตฺต อธิกรณสมถา – อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ, สติวินโย ทาตพฺโพ, อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ, ปฏิฺาย กาเรตพฺพํ, เยภุยฺยสิกา, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโก.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺต ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
ทุติยภาณวาโร นิฏฺิโต.
อฏฺกํ
๓๓๓. ‘‘อตฺถิ ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อฏฺ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม อฏฺ?
‘‘อฏฺ มิจฺฉตฺตา – มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ.
‘‘อฏฺ ¶ ¶ สมฺมตฺตา – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ.
‘‘อฏฺ ปุคฺคลา ทกฺขิเณยฺยา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; อรหา, อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน.
๓๓๔. ‘‘อฏฺ ¶ กุสีตวตฺถูนิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ ปมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส ¶ กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ ทุติยํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ตติยํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ จตุตฺถํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ¶ จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย กิลนฺโต อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ปฺจมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย ครุโก อกมฺมฺโ, มาสาจิตํ มฺเ ¶ , หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ ฉฏฺํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. ตสฺส เอวํ โหติ ¶ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ; อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุํ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ… อิทํ สตฺตมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานา วุฏฺิโต [คิลานวุฏฺิโต (สทฺทนีติ) อ. นิ. ๖.๑๖ นกุลปิตุสุตฺตฏีกา ปสฺสิตพฺพา] โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, ตสฺส เม กาโย ทุพฺพโล อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ! โส นิปชฺชติ น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ อฏฺมํ กุสีตวตฺถุ.
๓๓๕. ‘‘อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย, อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ! โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา, อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ ปมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ ¶ กตํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปนาหํ กโรนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส ¶ วีริยํ อารภติ… อิทํ ทุติยํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ. หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ตติยํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปนาหํ คจฺฉนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ จตุตฺถํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ ¶ . ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย ลหุโก กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ปฺจมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย พลวา กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ฉฏฺํ อารมฺภวตฺถุ ¶ .
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปวฑฺเฒยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… โส วีริยํ อารภติ… อิทํ ¶ สตฺตมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อาพาโธ ปจฺจุทาวตฺเตยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ! โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา ¶ อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ อฏฺมํ อารมฺภวตฺถุ.
๓๓๖. ‘‘อฏฺ ทานวตฺถูนิ. อาสชฺช ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘อทาสิ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘ทสฺสติ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ น ทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิทํ เม ทานํ ททโต กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’ติ ทานํ เทติ. จิตฺตาลงฺการ-จิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติ.
๓๓๗. ‘‘อฏฺ ทานูปปตฺติโย. อิธาวุโส, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสึสติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. โส ปสฺสติ ¶ ขตฺติยมหาสาลํ วา พฺราหฺมณมหาสาลํ วา คหปติมหาสาลํ วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส ¶ เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ ¶ . ตฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ…เป… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. ปี.)] เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ…เป… เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘ตาวตึสา เทวา…เป… ยามา เทวา…เป… ตุสิตา เทวา ¶ …เป… นิมฺมานรตี เทวา…เป… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อิเธกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘พฺรหฺมกายิกา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ อุตฺตริ อภาวิตํ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. ตฺจ โข สีลวโต ¶ วทามิ โน ทุสฺสีลสฺส; วีตราคสฺส โน สราคสฺส. อิชฺฌตาวุโส, สีลวโต เจโตปณิธิ วีตราคตฺตา.
‘‘อฏฺ ¶ ปริสา – ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณปริสา, คหปติปริสา, สมณปริสา, จาตุมหาราชิกปริสา, ตาวตึสปริสา, มารปริสา, พฺรหฺมปริสา ¶ .
‘‘อฏฺ โลกธมฺมา – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจ.
๓๓๘. ‘‘อฏฺ อภิภายตนานิ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ ¶ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ – เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เอวเมว [เอวเมวํ (ก.)] อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ ¶ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ¶ [กณฺณิการปุปฺผํ (สฺยา. กํ.)] ปีตํ ปีตวณฺณํ ¶ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก ¶ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ ¶ , ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ.
๓๓๙. ‘‘อฏฺ วิโมกฺขา. รูปี รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ปโม วิโมกฺโข.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา ¶ รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ทุติโย วิโมกฺโข.
‘‘สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ. อยํ ตติโย วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส ¶ อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิต นิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข.
‘‘อิเม ¶ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อฏฺ ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
นวกํ
๓๔๐. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธน นว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา; ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม นว?
‘‘นว อาฆาตวตฺถูนิ. ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… อนตฺถํ จรตีติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… อนตฺถํ จริสฺสตีติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… อตฺถํ จรตีติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… อตฺถํ จริสฺสตีติ อาฆาตํ พนฺธติ.
‘‘นว อาฆาตปฏิวินยา. ‘อนตฺถํ เม อจริ [อจรีติ (สฺยา. ก.) เอวํ ‘‘จรติ จริสฺสติ’’ ปเทสุปิ], ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ ¶ ; ‘อนตฺถํ เม ¶ จรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ…เป… อนตฺถํ จรติ…เป… อนตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ…เป… อตฺถํ จรติ…เป… อตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ.
๓๔๑. ‘‘นว สตฺตาวาสา. สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติโย ¶ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส ¶ , สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺโถ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา อสฺิโน อปฺปฏิสํเวทิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อสฺสตฺตา [อสฺิสตฺตา (สฺยา. กํ.)]. อยํ ปฺจโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺโ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ สตฺตโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจาฺายตนูปคา. อยํ อฏฺโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส ¶ , สตฺตา สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม [สมติกฺกมฺม สนฺตเมตํ ปณีตเมตนฺติ (สฺยา. กํ.)] เนวสฺานาสฺายตนูปคา. อยํ นวโม สตฺตาวาโส.
๓๔๒. ‘‘นว อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย. อิธาวุโส ¶ , ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล นิรยํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ปโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล ¶ ติรจฺฉานโยนึ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ทุติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… เปตฺติวิสยํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ตติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ…เป… อสุรกายํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ จตุตฺโถ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… อฺตรํ ทีฆายุกํ เทวนิกายํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ปฺจโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ มิลกฺเขสุ [มิลกฺขเกสุ (สฺยา. กํ.) มิลกฺขูสุ (ก.)] อวิฺาตาเรสุ, ยตฺถ นตฺถิ คติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. อยํ ฉฏฺโ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ. โส จ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิโก วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏ ทุกฺกฏานํ (สี. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ ¶ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ¶ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อยํ สตฺตโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ. โส จ โหติ ทุปฺปฺโ ชโฬ เอฬมูโค, นปฺปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตานมตฺถมฺาตุํ. อยํ อฏฺโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ตถาคโต จ โลเก น [กตฺถจิ นกาโร น ทิสฺสติ] อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ น เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค, ปฏิพโล สุภาสิต-ทุพฺภาสิตานมตฺถมฺาตุํ. อยํ นวโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
๓๔๓. ‘‘นว อนุปุพฺพวิหารา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ¶ …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ¶ ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
๓๔๔. ‘‘นว อนุปุพฺพนิโรธา. ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส กามสฺา นิรุทฺธา โหติ. ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา นิรุทฺธา โหนฺติ. ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ นิรุทฺธา โหติ. จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสฺสา นิรุทฺธา โหนฺติ. อากาสานฺจายตนํ ¶ สมาปนฺนสฺส รูปสฺา นิรุทฺธา โหติ. วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ. อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ. เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ สมาปนฺนสฺส อากิฺจฺายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ. สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สฺา จ เวทนา จ นิรุทฺธา โหนฺติ.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน นว ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ.
ทสกํ
๓๔๕. ‘‘อตฺถิ โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ…เป… อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม ทส?
‘‘ทส นาถกรณา ธมฺมา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ¶ สีลวา ¶ โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย ¶ เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถา สพฺยฺชนา [สาตฺถํ สพฺยฺชนํ (สี. สฺยา. ปี.)] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ [ธตา (ก. สี. สฺยา. กํ.)] ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, ยํปาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ขโม ¶ ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ…เป… ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ…เป… อลํ สํวิธาตุํ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร, อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช [อุฬารปามุชฺโช (สี. ปี.), โอฬารปาโมชฺโช (สฺยา. กํ.)]. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ…เป… อุฬารปาโมชฺโช [อุฬารปามุชฺโช (สี. ปี.), โอฬารปาโมชฺโช (สฺยา. กํ.)]. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส ¶ , ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ ¶ . ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ…เป… ปริกฺขาเรหิ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ…เป… อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ…เป… สริตา อนุสฺสริตา. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ, อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยา. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ…เป… สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยา. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
๓๔๖. ทส กสิณายตนานิ. ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ, อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ ¶ อปฺปมาณํ. อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ… ¶ โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ… วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ, อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ.
๓๔๗. ‘‘ทส ¶ อกุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ.
‘‘ทส ¶ กุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺิ.
๓๔๘. ‘‘ทส อริยวาสา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ, ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการกฺโข, จตุราปสฺเสโน, ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ, สมวยสฏฺเสโน, อนาวิลสงฺกปฺโป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิตฺโต, สุวิมุตฺตปฺโ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ ¶ สุตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ ¶ .
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ยานิ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปุถุปจฺเจกสจฺจานิ, สพฺพานิ ตานิ นุนฺนานิ โหนฺติ ปณุนฺนานิ จตฺตานิ วนฺตานิ มุตฺตานิ ปหีนานิ ปฏินิสฺสฏฺานิ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเมสนา ปหีนา โหติ, ภเวสนา ปหีนา โหติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺโป โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, พฺยาปาทสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, วิหึสาสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺโป โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ ¶ ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โทสา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โมหา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ¶ ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต ¶ อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. ‘โทโส เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. ‘โมโห เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ.
‘‘ทส อเสกฺขา ธมฺมา – อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺิ, อเสกฺโข สมฺมาสงฺกปฺโป, อเสกฺขา สมฺมาวาจา, อเสกฺโข สมฺมากมฺมนฺโต, อเสกฺโข สมฺมาอาชีโว, อเสกฺโข สมฺมาวายาโม, อเสกฺขา สมฺมาสติ, อเสกฺโข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺติ.
‘‘อิเม โข, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ธมฺมา สมฺมทกฺขาตา. ตตฺถ สพฺเพเหว สงฺคายิตพฺพํ น ¶ วิวทิตพฺพํ, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส ¶ จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.
๓๔๙. อถ โข ภควา อุฏฺหิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต, สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ สงฺคีติปริยายํ อภาสี’ติ. อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโต, สมนฺุโ สตฺถา อโหสิ. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
สงฺคีติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
๑๑. ทสุตฺตรสุตฺตํ
๓๕๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ทสุตฺตรํ ปวกฺขามิ, ธมฺมํ นิพฺพานปตฺติยา;
ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย, สพฺพคนฺถปฺปโมจนํ’’.
เอโก ธมฺโม
๓๕๑. ‘‘เอโก, อาวุโส, ธมฺโม พหุกาโร, เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ, เอโก ธมฺโม ปริฺเยฺโย, เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ, เอโก ธมฺโม หานภาคิโย, เอโก ธมฺโม วิเสสภาคิโย, เอโก ธมฺโม ทุปฺปฏิวิชฺโฌ, เอโก ธมฺโม อุปฺปาเทตพฺโพ, เอโก ธมฺโม อภิฺเยฺโย, เอโก ธมฺโม สจฺฉิกาตพฺโพ.
(ก) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม พหุกาโร? อปฺปมาโท กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยํ เอโก ธมฺโม พหุกาโร.
(ข) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ? กายคตาสติ สาตสหคตา. อยํ เอโก ธมฺโม ภาเวตพฺโพ.
(ค) ‘‘กตโม ¶ เอโก ธมฺโม ปริฺเยฺโย? ผสฺโส สาสโว อุปาทานิโย. อยํ เอโก ธมฺโม ปริฺเยฺโย.
(ฆ) ‘‘กตโม ¶ ¶ เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ? อสฺมิมาโน. อยํ เอโก ธมฺโม ปหาตพฺโพ.
(ง) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม หานภาคิโย? อโยนิโส มนสิกาโร. อยํ เอโก ธมฺโม หานภาคิโย.
(จ) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม วิเสสภาคิโย? โยนิโส มนสิกาโร. อยํ เอโก ธมฺโม วิเสสภาคิโย.
(ฉ) ‘‘กตโม ¶ เอโก ธมฺโม ทุปฺปฏิวิชฺโฌ? อานนฺตริโก เจโตสมาธิ. อยํ เอโก ธมฺโม ทุปฺปฏิวิชฺโฌ.
(ช) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม อุปฺปาเทตพฺโพ? อกุปฺปํ าณํ. อยํ เอโก ธมฺโม อุปฺปาเทตพฺโพ.
(ฌ) ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม อภิฺเยฺโย? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. อยํ เอโก ธมฺโม อภิฺเยฺโย.
() ‘‘กตโม เอโก ธมฺโม สจฺฉิกาตพฺโพ? อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ. อยํ เอโก ธมฺโม สจฺฉิกาตพฺโพ.
‘‘อิติ อิเม ทส ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ทฺเว ธมฺมา
๓๕๒. ‘‘ทฺเว ธมฺมา พหุการา, ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา, ทฺเว ธมฺมา ปริฺเยฺยา, ทฺเว ธมฺมา ปหาตพฺพา ¶ , ทฺเว ธมฺมา หานภาคิยา, ทฺเว ธมฺมา วิเสสภาคิยา, ทฺเว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา, ทฺเว ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา, ทฺเว ธมฺมา อภิฺเยฺยา, ทฺเว ธมฺมา ¶ สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา พหุการา? สติ จ สมฺปชฺฺจ. อิเม ทฺเว ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา? สมโถ จ วิปสฺสนา จ. อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา ปริฺเยฺยา? นามฺจ รูปฺจ. อิเม ทฺเว ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ¶ ทฺเว ธมฺมา ปหาตพฺพา? อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ. อิเม ทฺเว ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา หานภาคิยา? โทวจสฺสตา จ ปาปมิตฺตตา จ. อิเม ทฺเว ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา วิเสสภาคิยา? โสวจสฺสตา จ กลฺยาณมิตฺตตา จ. อิเม ทฺเว ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ¶ ทฺเว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? โย จ เหตุ โย จ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, โย จ เหตุ โย จ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา. อิเม ทฺเว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? ทฺเว าณานิ – ขเย าณํ, อนุปฺปาเท าณํ. อิเม ทฺเว ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม ทฺเว ธมฺมา อภิฺเยฺยา? ทฺเว ธาตุโย – สงฺขตา จ ธาตุ อสงฺขตา จ ธาตุ. อิเม ทฺเว ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ¶ ทฺเว ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. อิเม ทฺเว ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ ¶ อิเม วีสติ ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ตโย ธมฺมา
๓๕๓. ‘‘ตโย ธมฺมา พหุการา, ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา…เป… ตโย ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา พหุการา? สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสฺสวนํ, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ. อิเม ตโย ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา? ตโย สมาธี – สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ. อิเม ตโย ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม ¶ ตโย ธมฺมา ปริฺเยฺยา? ติสฺโส เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. อิเม ตโย ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา ปหาตพฺพา? ติสฺโส ตณฺหา – กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา. อิเม ตโย ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา หานภาคิยา? ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ ¶ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ. อิเม ตโย ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม ¶ ตโย ธมฺมา วิเสสภาคิยา? ตีณิ กุสลมูลานิ – อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ. อิเม ตโย ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? ติสฺโส นิสฺสรณิยา ธาตุโย – กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺมํ, รูปานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ อรูปํ, ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ, นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณํ. อิเม ตโย ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม ¶ ตโย ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? ตีณิ าณานิ – อตีตํเส าณํ, อนาคตํเส าณํ, ปจฺจุปฺปนฺนํเส าณํ. อิเม ตโย ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา อภิฺเยฺยา? ติสฺโส ธาตุโย – กามธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุ. อิเม ตโย ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ตโย ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ติสฺโส วิชฺชา – ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ วิชฺชา, สตฺตานํ จุตูปปาเต าณํ วิชฺชา, อาสวานํ ขเย าณํ วิชฺชา. อิเม ตโย ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ ¶ อิเม ตึส ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
จตฺตาโร ธมฺมา
๓๕๔. ‘‘จตฺตาโร ¶ ธมฺมา พหุการา, จตฺตาโร ธมฺมา ภาเวตพฺพา…เป… จตฺตาโร ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา พหุการา? จตฺตาริ จกฺกานิ – ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสูปนิสฺสโย [สปฺปุริสุปสฺสโย (สฺยา. กํ.)], อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปฺุตา. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา ภาเวตพฺพา? จตฺตาโร สติปฏฺานา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ…เป… จิตฺเต… ธมฺเมสุ ¶ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา ปริฺเยฺยา? จตฺตาโร อาหารา – กพฬีกาโร [กวฬีกาโร (สฺยา. กํ.)] อาหาโร โอฬาริโก ¶ วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถํ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา ปหาตพฺพา? จตฺตาโร โอฆา ¶ – กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา หานภาคิยา? จตฺตาโร โยคา – กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโค. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา วิเสสภาคิยา? จตฺตาโร วิสฺโคา – กามโยควิสํโยโค, ภวโยควิสํโยโค, ทิฏฺิโยควิสํโยโค, อวิชฺชาโยควิสํโยโค. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ¶ จตฺตาโร ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? จตฺตาโร สมาธี – หานภาคิโย สมาธิ, ิติภาคิโย สมาธิ, วิเสสภาคิโย สมาธิ, นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? จตฺตาริ าณานิ – ธมฺเม าณํ, อนฺวเย าณํ, ปริเย าณํ, สมฺมุติยา าณํ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา อภิฺเยฺยา? จตฺตาริ อริยสจฺจานิ – ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา. กํ.)] อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ. อิเม จตฺตาโร ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม จตฺตาโร ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? จตฺตาริ สามฺผลานิ – โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตผลํ ¶ . อิเม จตฺตาโร ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ ¶ อิเม จตฺตารีสธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ปฺจ ธมฺมา
๓๕๕. ‘‘ปฺจ ¶ ธมฺมา พหุการา…เป… ปฺจ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา พหุการา? ปฺจ ปธานิยงฺคานิ – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. อสโ โหติ อมายาวี ยถาภูตมตฺตานํ อาวีกตฺตา สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ. อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิเม ปฺจ ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ¶ ปฺจ ธมฺมา ภาเวตพฺพา? ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ – ปีติผรณตา, สุขผรณตา, เจโตผรณตา ¶ , อาโลกผรณตา, ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ [ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ (สฺยา. กํ.)]. อิเม ปฺจ ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา ปริฺเยฺยา? ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อิเม ปฺจ ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา ปหาตพฺพา? ปฺจ นีวรณานิ – กามจฺฉนฺทนีวรณํ, พฺยาปาทนีวรณํ, ถินมิทฺธนีวรณํ, อุทฺธจฺจกุกุจฺจนีวรณํ, วิจิกิจฺฉานีวรณํ. อิเม ปฺจ ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา หานภาคิยา? ปฺจ เจโตขิลา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ. โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ, ตสฺส ¶ จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย ¶ . อยํ ปโม เจโตขิโล. ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺเม กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ…เป… สงฺเฆ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ…เป… สิกฺขาย กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ…เป… สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีสุ ¶ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต, ตสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. ยสฺส จิตฺตํ น นมติ อาตปฺปาย อนุโยคาย สาตจฺจาย ปธานาย. อยํ ปฺจโม เจโตขิโล. อิเม ปฺจ ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา วิเสสภาคิยา? ปฺจินฺทฺริยานิ – สทฺธินฺทฺริยํ, วีริยินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริยํ, สมาธินฺทฺริยํ, ปฺินฺทฺริยํ. อิเม ปฺจ ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? ปฺจ นิสฺสรณิยา ธาตุโย – อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเม มนสิกโรโต กาเมสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. เนกฺขมฺมํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ กาเมหิ. เย จ กามปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ. น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ กามานํ นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน พฺยาปาทํ มนสิกโรโต พฺยาปาเท จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อพฺยาปาทํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อพฺยาปาเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ พฺยาปาเทน. เย จ พฺยาปาทปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ. น ¶ โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน วิเหสํ มนสิกโรโต วิเหสาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อวิเหสํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อวิเหสาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ ¶ . ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ วิเหสาย. เย จ วิเหสาปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ. น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ วิเหสาย นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน รูเป มนสิกโรโต รูเปสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. อรูปํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต อรูเป จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ รูเปหิ. เย จ รูปปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ. น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ รูปานํ นิสฺสรณํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน สกฺกายํ มนสิกโรโต สกฺกาเย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ น ปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. สกฺกายนิโรธํ โข ปนสฺส มนสิกโรโต สกฺกายนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ สุคตํ สุภาวิตํ สุวุฏฺิตํ สุวิมุตฺตํ วิสํยุตฺตํ สกฺกาเยน. เย จ สกฺกายปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ อาสวา วิฆาตา ปริฬาหา, มุตฺโต โส เตหิ. น โส ตํ เวทนํ เวเทติ. อิทมกฺขาตํ สกฺกายสฺส นิสฺสรณํ. อิเม ปฺจ ธมฺมา ¶ ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? ปฺจ าณิโก สมฺมาสมาธิ – ‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติฺจ สุขวิปาโก’ติ ปจฺจตฺตํเยว าณํ อุปฺปชฺชติ. ‘อยํ สมาธิ อริโย นิรามิโส’ติ ปจฺจตฺตฺเว ¶ าณํ อุปฺปชฺชติ. ‘อยํ สมาธิ อกาปุริสเสวิโต’ติ ปจฺจตฺตํเยว าณํ อุปฺปชฺชติ. ‘อยํ สมาธิ สนฺโต ปณีโต ปฏิปฺปสฺสทฺธลทฺโธ เอโกทิภาวาธิคโต, น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต’ติ [น จ สสงฺขารนิคฺคยฺห วาริตวโตติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโต (ก.), น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริยาธิคโต (?)] ปจฺจตฺตํเยว าณํ อุปฺปชฺชติ. ‘โส โข ปนาหํ อิมํ สมาธึ สโตว สมาปชฺชามิ สโต วุฏฺหามี’ติ ปจฺจตฺตํเยว าณํ อุปฺปชฺชติ. อิเม ปฺจ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา อภิฺเยฺยา? ปฺจ วิมุตฺตายตนานิ – อิธาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี. ยถา ¶ ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส [ภิกฺขุ (สฺยา. กํ.)] ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฺปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ปมํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ ¶ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ ยถา ¶ ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ. ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฺปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ทุติยํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ. อปิ จ โข, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฺปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ตติยํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ. อปิ จ โข, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ยถา ยถา ¶ , อาวุโส ¶ , ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฺปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ จตุตฺถํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ; อปิ จ ขฺวสฺส อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย. ยถา ยถา, อาวุโส, ภิกฺขุโน อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ¶ ปฺาย ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฺปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฺปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฺปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฺปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ปฺจมํ วิมุตฺตายตนํ. อิเม ปฺจ ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ปฺจ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา – สีลกฺขนฺโธ ¶ , สมาธิกฺขนฺโธ, ปฺากฺขนฺโธ, วิมุตฺติกฺขนฺโธ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺโธ. อิเม ปฺจ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ อิเม ปฺาส ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ฉ ธมฺมา
๓๕๖. ‘‘ฉ ธมฺมา พหุการา…เป… ฉ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา พหุการา? ฉ สารณียา ธมฺมา. อิธาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ ¶ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห ¶ จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี โหติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย ¶ สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ, ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ ¶ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิ สามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ, สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ. อิเม ฉ ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา? ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ. อิเม ฉ ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา ปริฺเยฺยา? ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ – จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ. อิเม ฉ ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา ปหาตพฺพา? ฉ ตณฺหากายา – รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฏฺพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหา. อิเม ฉ ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ¶ ¶ ฉ ธมฺมา หานภาคิยา? ฉ อคารวา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส. ธมฺเม…เป… สงฺเฆ… สิกฺขาย… อปฺปมาเท… ปฏิสนฺถาเร อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส. อิเม ฉ ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา วิเสสภาคิยา? ฉ คารวา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส ธมฺเม…เป… สงฺเฆ… สิกฺขาย… อปฺปมาเท… ปฏิสนฺถาเร สคารโว วิหรติ สปฺปติสฺโส. อิเม ฉ ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? ฉ นิสฺสรณิยา ธาตุโย – อิธาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘เมตฺตา หิ โข เม, เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, อถ จ ปน เม พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ. น หิ ¶ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ อาวุโส อนวกาโส ยํ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย. อถ จ ปนสฺส พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส, ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘กรุณา ¶ หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. อถ จ ปน เม วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส – ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย, ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ…เป… นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิเหสาย, ยทิทํ กรุณาเจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘มุทิตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา…เป… อถ จ ปน เม อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส – ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ…เป… นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส อรติยา, ยทิทํ มุทิตาเจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ¶ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อุเปกฺขา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ¶ ภาวิตา…เป… อถ จ ปน เม ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส – ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ…เป… นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, ราคสฺส ยทิทํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อนิมิตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา…เป… อถ จ ปน เม นิมิตฺตานุสาริ วิฺาณํ โหตี’ติ. โส – ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ…เป… นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, สพฺพนิมิตฺตานํ ยทิทํ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺตี’ติ.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อสฺมีติ โข เม วิคตํ, อยมหมสฺมีติ น ¶ สมนุปสฺสามิ, อถ จ ปน เม วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’ติ. โส – ‘มา เหวํ’ ติสฺส วจนีโย ‘มายสฺมา เอวํ อวจ, มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขิ, น ¶ หิ สาธุ ภควโต อพฺภกฺขานํ, น หิ ภควา เอวํ วเทยฺย. อฏฺานเมตํ, อาวุโส, อนวกาโส ยํ อสฺมีติ วิคเต อยมหมสฺมีติ อสมนุปสฺสโต. อถ จ ปนสฺส วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสติ, เนตํ านํ วิชฺชติ. นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลสฺส, ยทิทํ อสฺมิมานสมุคฺฆาโฏ’ติ. อิเม ฉ ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม ¶ ฉ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? ฉ สตตวิหารา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิเม ฉ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา อภิฺเยฺยา? ฉ อนุตฺตริยานิ – ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยํ. อิเม ฉ ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ฉ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ฉ อภิฺา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ ¶ , พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ. อาวิภาวํ ติโรภาวํ. ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเส ¶ . ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ เสยฺยถาปิ อุทเก. อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ. อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.
‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ.
‘‘ปรสตฺตานํ ¶ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ [ชานาติ (สฺยา. กํ.)], สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ ¶ …เป… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานาติ.
‘‘โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาตึ…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ ¶ …เป…
‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม ฉ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ อิเม สฏฺิ ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
สตฺต ธมฺมา
๓๕๗. ‘‘สตฺต ¶ ธมฺมา พหุการา…เป… สตฺต ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา พหุการา? สตฺต อริยธนานิ – สทฺธาธนํ, สีลธนํ, หิริธนํ, โอตฺตปฺปธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปฺาธนํ. อิเม สตฺต ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ¶ สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา? สตฺต สมฺโพชฺฌงฺคา – สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค ¶ . อิเม สตฺต ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา ปริฺเยฺยา? สตฺต วิฺาณฏฺิติโย – สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส ¶ , สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ สตฺตมี วิฺาณฏฺิติ. อิเม สตฺต ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา ปหาตพฺพา? สตฺตานุสยา – กามราคานุสโย, ปฏิฆานุสโย, ทิฏฺานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, มานานุสโย, ภวราคานุสโย ¶ , อวิชฺชานุสโย. อิเม สตฺต ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา หานภาคิยา? สตฺต อสทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต ¶ โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเม สตฺต ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา วิเสสภาคิยา? สตฺต สทฺธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิริมา [หิริโก (สฺยา. กํ.)] โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ปฺวา โหติ. อิเม สตฺต ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ¶ ¶ สตฺต ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? สตฺต สปฺปุริสธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมฺู จ โหติ อตฺถฺู จ อตฺตฺู จ มตฺตฺู จ กาลฺู จ ปริสฺู จ ปุคฺคลฺู จ. อิเม สตฺต ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? สตฺต สฺา – อนิจฺจสฺา, อนตฺตสฺา, อสุภสฺา, อาทีนวสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา. อิเม สตฺต ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา อภิฺเยฺยา? สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม. ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ¶ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม. อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม. ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม. วีริยารมฺเม ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ วีริยารมฺเม อวิคตเปโม. สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม. ทิฏฺิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม. อิเม สตฺต ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม สตฺต ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? สตฺต ขีณาสวพลานิ – อิธาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยํปาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยํปาวุโส…เป… ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ¶ ธมฺเมหิ. ยํปาวุโส…เป… ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา ¶ . ยํปาวุโส…เป… ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ โหนฺติ สุภาวิตานิ. ยํปาวุโส…เป… ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ยํปาวุโส…เป… ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยํปาวุโส, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก ¶ มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ. อิเม สตฺต ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติเม สตฺตติ ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
อฏฺ ธมฺมา
๓๕๘. ‘‘อฏฺ ธมฺมา พหุการา…เป… อฏฺ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา พหุการา? อฏฺ เหตู อฏฺ ปจฺจยา อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย ¶ เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตฺถารํ [สตฺถารํ วา (สฺยา. ก.)] อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ, ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมฺจ คารโว ¶ จ. อยํ ปโม เหตุ ปโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย ¶ . ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ตํ โข ปน สตฺถารํ อุปนิสฺสาย วิหรติ อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ ¶ , ยตฺถสฺส ติพฺพํ หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ เปมฺจ คารโว จ. เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ – ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ? อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานี [อนุตฺตานิกตฺจ อุตฺตานึ (ก.)] กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฏฺานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. อยํ ทุติโย เหตุ ทุติโย ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย, เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ตํ โข ปน ธมฺมํ สุตฺวา ทฺวเยน วูปกาเสน สมฺปาเทติ – กายวูปกาเสน จ จิตฺตวูปกาเสน จ. อยํ ตติโย เหตุ ตติโย ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยํ จตุตฺโถ เหตุ จตุตฺโถ ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถา สพฺยฺชนา เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา ¶ วจสา ¶ ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. อยํ ปฺจโม เหตุ ปฺจโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. อยํ ฉฏฺโ ¶ ¶ เหตุ ฉฏฺโ ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต. จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. อยํ สตฺตโม เหตุ สตฺตโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ, อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ อิติ รูปสฺส สมุทโย อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา อิติ เวทนาย สมุทโย อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา อิติ สฺาย สมุทโย อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา อิติ สงฺขารานํ สมุทโย อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. อยํ อฏฺโม เหตุ อฏฺโม ปจฺจโย อาทิพฺรหฺมจริยิกาย ¶ ปฺาย อปฺปฏิลทฺธาย ปฏิลาภาย, ปฏิลทฺธาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ. อิเม อฏฺ ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา? อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ. อิเม อฏฺ ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา ปริฺเยฺยา? อฏฺ โลกธมฺมา – ลาโภ จ, อลาโภ จ, ยโส จ, อยโส จ, นินฺทา จ, ปสํสา จ, สุขฺจ, ทุกฺขฺจ. อิเม อฏฺ ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ¶ อฏฺ ธมฺมา ปหาตพฺพา? อฏฺ มิจฺฉตฺตา ¶ – มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ. อิเม อฏฺ ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา หานภาคิยา? อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน ¶ เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ ปมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติ ¶ . ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ ทุติยํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ ตติยํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ…เป… อิทํ จตุตฺถํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย กิลนฺโต อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ…เป… อิทํ ปฺจมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส ¶ วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ ¶ , ตสฺส เม กาโย ครุโก อกมฺมฺโ, มาสาจิตํ มฺเ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ…เป… อิทํ ฉฏฺํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ, ตสฺส เอวํ โหติ ¶ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุํ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ…เป… อิทํ สตฺตมํ กุสีตวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานาวุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานาวุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เม กาโย ทุพฺพโล อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ. โส นิปชฺชติ…เป… อิทํ อฏฺมํ กุสีตวตฺถุ. อิเม อฏฺ ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา วิเสสภาคิยา? อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ. อิธาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กาตพฺพํ โหติ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘กมฺมํ โข เม กาตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิกาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส ¶ สจฺฉิกิริยายา’ติ. โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ ปมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา กมฺมํ กตํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปนาหํ กโรนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิกาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ ทุติยํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คนฺตพฺโพ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิกาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ ตติยํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุนา มคฺโค คโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปนาหํ คจฺฉนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิกาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ จตุตฺถํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต น ¶ ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ ¶ , ตสฺส เม กาโย ลหุโก กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ ปฺจมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต ลภติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ. ตสฺส เม กาโย พลวา กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ ฉฏฺํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อุปฺปนฺโน โหติ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เม อาพาโธ ปวฑฺเฒยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อิทํ ¶ สตฺตมํ อารมฺภวตฺถุ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลานา วุฏฺิโต โหติ อจิรวุฏฺิโต เคลฺา. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เม อาพาโธ ปจฺจุทาวตฺเตยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’ติ. โส วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ อฏฺมํ อารมฺภวตฺถุ. อิเม อฏฺ ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? อฏฺ อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย. อิธาวุโส, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล นิรยํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ปโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี ¶ สุคตปฺปเวทิโต, อยฺจ ปุคฺคโล ติรจฺฉานโยนึ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ทุติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ…เป… เปตฺติวิสยํ ¶ อุปปนฺโน โหติ. อยํ ตติโย อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… อฺตรํ ทีฆายุกํ เทวนิกายํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ จตุตฺโถ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ มิลกฺเขสุ อวิฺาตาเรสุ, ยตฺถ นตฺถิ คติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. อยํ ปฺจโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิโก วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อยํ ฉฏฺโ อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ ¶ , โส จ โหติ ทุปฺปฺโ ชโฬ เอฬมูโค, นปฺปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตานมตฺถมฺาตุํ. อยํ สตฺตโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.
‘‘ปุน จปรํ…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค, ปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตานมตฺถมฺาตุํ. อยํ อฏฺโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย. อิเม อฏฺ ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา – อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส. สนฺตุฏฺสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส. ปวิวิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส. อารทฺธวีริยสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส. อุปฏฺิตสติสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส. สมาหิตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส ¶ ¶ . ปฺวโต [ปฺาวโต (สี. ปี.)] อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺส. นิปฺปปฺจสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺสาติ [นิปฺปปฺจารามสฺส อยํ ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโนติ (สี. สฺยา. ปี.) องฺคุตฺตเรปิ ตเถว ทิสฺสติ. อฏฺกถาฏีกา ปน โอโลเกตพฺพา] อิเม อฏฺ ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม อฏฺ ธมฺมา อภิฺเยฺยา? อฏฺ อภิภายตนานิ – อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ ¶ , ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ – เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ – เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ ¶ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ ¶ , เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ ¶ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. อิเม อฏฺ ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ¶ ¶ อฏฺ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? อฏฺ วิโมกฺขา – รูปี รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ปโม วิโมกฺโข.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ. อยํ ทุติโย วิโมกฺโข.
‘‘สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ. อยํ ตติโย วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส ¶ อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส ¶ วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข.
‘‘สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. อิเม อฏฺ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ อิเม อสีติ ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
นว ธมฺมา
๓๕๙. ‘‘นว ธมฺมา พหุการา…เป… นว ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ¶ นว ธมฺมา พหุการา? นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา, โยนิโสมนสิกโรโต ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิเต จิตฺเต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ, ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ. อิเม นว ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา? นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ – สีลวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, จิตฺตวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, มคฺคามคฺคาณทสฺสน – วิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, าณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ปฺาวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, วิมุตฺติวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ. อิเม นว ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม นว ธมฺมา ปริฺเยฺยา? นว สตฺตาวาสา – สนฺตาวุโส, สตฺตา นานตฺตกายา ¶ นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส ¶ , สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา ¶ นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺโถ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา อสฺิโน อปฺปฏิสํเวทิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อสฺสตฺตา. อยํ ปฺจโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺโ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ สตฺตโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ อฏฺโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺตาวุโส, สตฺตา สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนูปคา. อยํ นวโม สตฺตาวาโส. อิเม นว ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม นว ธมฺมา ปหาตพฺพา? นว ตณฺหามูลกา ¶ ธมฺมา – ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค ¶ , ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข, อารกฺขาธิกรณํ [อารกฺขาธิกรณํ ปฏิจฺจ (สฺยา. ปี. ก.)] ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสฺุมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. อิเม นว ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ¶ ¶ นว ธมฺมา หานภาคิยา? นว อาฆาตวตฺถูนิ – ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… ‘อนตฺถํ จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… ‘อนตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… ‘อตฺถํ จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ…เป… ‘อตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ. อิเม นว ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม นว ธมฺมา วิเสสภาคิยา? นว อาฆาตปฏิวินยา – ‘อนตฺถํ เม อจริ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จรติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อนตฺถํ เม จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ…เป… อนตฺถํ จรติ…เป… อนตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ; ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ…เป… อตฺถํ จรติ…เป… อตฺถํ จริสฺสติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ อาฆาตํ ¶ ปฏิวิเนติ. อิเม นว ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม นว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? นว นานตฺตา – ธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ผสฺสนานตฺตํ, ผสฺสนานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ เวทนานานตฺตํ, เวทนานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สฺานานตฺตํ, สฺานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สงฺกปฺปนานตฺตํ, สงฺกปฺปนานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฉนฺทนานตฺตํ, ฉนฺทนานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ปริฬาหนานตฺตํ, ปริฬาหนานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ปริเยสนานานตฺตํ, ปริเยสนานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ลาภนานตฺตํ. อิเม นว ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม นว ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? นว สฺา – อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเรปฏิกูลสฺา ¶ , สพฺพโลเกอนภิรติสฺา [อนภิรตสฺา (สฺยา. ก.)], อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข ¶ อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา. อิเม นว ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม นว ธมฺมา อภิฺเยฺยา? นว อนุปุพฺพวิหารา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ¶ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา ¶ …เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม นว ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม นว ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? นว อนุปุพฺพนิโรธา – ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส กามสฺา นิรุทฺธา โหติ, ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา นิรุทฺธา โหนฺติ, ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ นิรุทฺธา โหติ, จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสฺสา นิรุทฺธา โหนฺติ, อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺา นิรุทฺธา โหติ, วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ, อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วิฺาณฺจายตนสฺา ¶ นิรุทฺธา โหติ, เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส อากิฺจฺายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สฺา จ เวทนา จ นิรุทฺธา โหนฺติ. อิเม นว ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ อิเม นวุติ ธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา.
ทส ธมฺมา
๓๖๐. ‘‘ทส ¶ ธมฺมา พหุการา…เป… ทส ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
(ก) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา พหุการา? ทส นาถกรณาธมฺมา – อิธาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, ยํปาวุโส, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต ¶ …เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, ยํปาวุโส, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต…เป… อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… กลฺยาณสมฺปวงฺโก. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวโจ โหติ โสวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ขโม ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อนุสาสนึ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึกรณียานิ ตตฺถ ทกฺโข โหติ อนลโส ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ, อลํ สํวิธาตุํ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อลํ สํวิธาตุํ. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อุฬารปาโมชฺโช. อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ ¶ …เป… อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ…เป… กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สติมา โหติ, ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต, อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ยํปาวุโส, ภิกฺขุ…เป… อยมฺปิ ธมฺโม นาถกรโณ. อิเม ทส ธมฺมา พหุการา.
(ข) ‘‘กตเม ¶ ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา? ทส กสิณายตนานิ – ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ. อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ… โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ… วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ ¶ . อิเม ทส ธมฺมา ภาเวตพฺพา.
(ค) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา ปริฺเยฺยา? ทสายตนานิ – จกฺขายตนํ, รูปายตนํ, โสตายตนํ, สทฺทายตนํ, ฆานายตนํ, คนฺธายตนํ, ชิวฺหายตนํ, รสายตนํ, กายายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ. อิเม ทส ธมฺมา ปริฺเยฺยา.
(ฆ) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา ปหาตพฺพา? ทส มิจฺฉตฺตา – มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ, มิจฺฉาาณํ, มิจฺฉาวิมุตฺติ. อิเม ทส ธมฺมา ปหาตพฺพา.
(ง) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา หานภาคิยา? ทส อกุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ. อิเม ทส ธมฺมา หานภาคิยา.
(จ) ‘‘กตเม ¶ ¶ ทส ธมฺมา วิเสสภาคิยา? ทส กุสลกมฺมปถา – ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺิ. อิเม ทส ธมฺมา วิเสสภาคิยา.
(ฉ) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? ทส อริยวาสา – อิธาวุโส ¶ , ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ, ฉฬงฺคสมนฺนาคโต, เอการกฺโข, จตุราปสฺเสโน, ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ, สมวยสฏฺเสโน, อนาวิลสงฺกปฺโป, ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร, สุวิมุตฺตจิตฺโต, สุวิมุตฺตปฺโ.
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ อธิวาเสติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ, สงฺขาเยกํ วิโนเทติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ยานิ ¶ ตานิ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ¶ ปุถุปจฺเจกสจฺจานิ, สพฺพานิ ตานิ นุนฺนานิ โหนฺติ ปณุนฺนานิ จตฺตานิ วนฺตานิ มุตฺตานิ ปหีนานิ ปฏินิสฺสฏฺานิ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กาเมสนา ปหีนา โหติ, ภเวสนา ปหีนา โหติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สมวยสฏฺเสโน โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺปา โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, พฺยาปาทสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ, วิหึสาสงฺกปฺโป ปหีโน โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อนาวิลสงฺกปฺโป โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ราคา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โทสา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ, โมหา จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตจิตฺโต โหติ.
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘ราโค เม ปหีโน อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. ‘โทโส เม ปหีโน…เป… อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. ‘โมโห เม ปหีโน ¶ …เป… อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’ติ ปชานาติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สุวิมุตฺตปฺโ โหติ. อิเม ทส ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา.
(ช) ‘‘กตเม ทส ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา? ทส สฺา – อสุภสฺา, มรณสฺา, อาหาเรปฏิกูลสฺา, สพฺพโลเกอนภิรติสฺา, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺา, นิโรธสฺา. อิเม ทส ธมฺมา อุปฺปาเทตพฺพา.
(ฌ) ‘‘กตเม ¶ ทส ธมฺมา อภิฺเยฺยา? ทส นิชฺชรวตฺถูนิ – สมฺมาทิฏฺิสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺโป…เป… สมฺมาวาจสฺส มิจฺฉาวาจา… สมฺมากมฺมนฺตสฺส มิจฺฉากมฺมนฺโต… สมฺมาอาชีวสฺส มิจฺฉาอาชีโว… ¶ สมฺมาวายามสฺส มิจฺฉาวายาโม… สมฺมาสติสฺส มิจฺฉาสติ… สมฺมาสมาธิสฺส มิจฺฉาสมาธิ… สมฺมาาณสฺส มิจฺฉาาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. สมฺมาวิมุตฺติสฺส ¶ มิจฺฉาวิมุตฺติ ¶ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. อิเม ทส ธมฺมา อภิฺเยฺยา.
() ‘‘กตเม ¶ ทส ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ทส อเสกฺขา ธมฺมา – อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺิ, อเสกฺโข สมฺมาสงฺกปฺโป, อเสกฺขา สมฺมาวาจา, อเสกฺโข สมฺมากมฺมนฺโต, อเสกฺโข สมฺมาอาชีโว, อเสกฺโข สมฺมาวายาโม, อเสกฺขา สมฺมาสติ, อเสกฺโข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺติ. อิเม ทส ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา.
‘‘อิติ อิเม สตธมฺมา ภูตา ตจฺฉา ตถา อวิตถา อนฺถา สมฺมา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ. อิทมโวจายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ทสุตฺตรสุตฺตํ นิฏฺิตํ เอกาทสมํ.
ปาถิกวคฺโค [ปาฏิกวคฺโค (สี. สฺยา. ปี.)] นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปาถิโก ¶ จ [ปาฏิกฺจ (สฺยา. กํ.)] อุทุมฺพรํ [ปาฏิโกทุมฺพรีเจว (สี. ปี.)], จกฺกวตฺติ อคฺคฺกํ;
สมฺปสาทนปาสาทํ ¶ [สมฺปสาทฺจ ปาสาทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มหาปุริสลกฺขณํ.
สิงฺคาลาฏานาฏิยกํ ¶ , สงฺคีติ จ ทสุตฺตรํ;
เอกาทสหิ สุตฺเตหิ, ปาถิกวคฺโคติ วุจฺจติ.
ปาถิกวคฺคปาฬิ นิฏฺิตา.
ตีหิ วคฺเคหิ ปฏิมณฺฑิโต สกโล
ทีฆนิกาโย สมตฺโต.