📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาเย
มูลปณฺณาส-อฏฺกถา
(ทุติโย ภาโค)
๓. โอปมฺมวคฺโค
๑. กกจูปมสุตฺตวณฺณนา
๒๒๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ กกจูปมสุตฺตํ. ตตฺถ โมฬิยผคฺคุโนติ โมฬีติ จูฬา วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘เฉตฺวาน โมฬึ วรคนฺธวาสิตํ,
เวหายสํ อุกฺขิปิ สกฺยปุงฺคโว;
รตนจงฺโกฏวเรน วาสโว,
สหสฺสเนตฺโต สิรสา ปฏิคฺคหี’’ติ.
สา ¶ ตสฺส คิหิกาเล มหตี อโหสิ, เตนสฺส โมฬิยผคฺคุโนติ สงฺขา อุทปาทิ. ปพฺพชิตมฺปิ นํ เตเนว นาเมน สฺชานนฺติ. อติเวลนฺติ เวลํ อติกฺกมิตฺวา. ตตฺถ กาลเวลา, สีมเวลา, สีลเวลาติ ติวิธา เวลา. ‘‘ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสี’’ติ (ธมฺมปเท วคฺคานมุทฺทานํ, คาถานมุทฺทานํ; มหาว. ๑-๓) อยํ กาลเวลา นาม. ‘‘ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตตี’’ติ (จูฬว. ๓๘๔; อุทา. ๔๕; อ. นิ. ๘.๑๙) อยํ สีมเวลา นาม. ‘‘เวลาอนติกฺกโม เสตุฆาโต’’ติ (ธ. ส. ๒๙๙-๓๐๑) จ, ‘‘เวลา เจสา อวีติกฺกมนฏฺเนา’’ติ จ, อยํ สีลเวลา นาม. ตํ ติวิธมฺปิ โส อติกฺกมิเยว. ภิกฺขุนิโย หิ โอวทิตุํ กาโล นาม อตฺถิ, โส อตฺถงฺคเตปิ สูริเย ¶ โอวทนฺโต ตํ กาลเวลมฺปิ อติกฺกมิ. ภิกฺขุนีนํ โอวาเท ปมาณํ นาม อตฺถิ สีมา มริยาทา. โส อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ โอวทนฺโต ตํ สีมเวลมฺปิ อติกฺกมิ. กเถนฺโต ปน ทวสหคตํ กตฺวา ทุฏฺุลฺลาปตฺติปโหนกํ กเถติ, เอวํ สีลเวลมฺปิ อติกฺกมิ.
สํสฏฺโติ มิสฺสีภูโต สมานสุขทุกฺโข หุตฺวา. สมฺมุขาติ ปุรโต. อวณฺณํ ภาสตีติ ตา ปน ปจนโกฏฺฏนาทีนิ กโรนฺติโย ทิสฺวา นตฺถิ อิมาสํ อนาปตฺติ นาม, อิมา ภิกฺขุนิโย อนาจารา ทุพฺพจา ปคพฺภาติ อคุณํ กเถติ. อธิกรณมฺปิ กโรตีติ อิเมสํ ภิกฺขูนํ อิมา ภิกฺขุนิโย ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย อกฺขีนิ ทยฺหนฺติ, อิมสฺมึ วิหาเร ปุปฺผปูชา วา อาสนโธวนปริภณฺฑกรณาทีนิ วา อิมาสํ วเสน วตฺตนฺติ. กุลธีตโร เอตา ลชฺชินิโย ¶ , ตุมฺเห อิมา อิทฺจิทฺจ วทถ, อยํ นาม ตุมฺหากํ อาปตฺติ โหติ, วินยธรานํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา วินิจฺฉยํ เม เทถาติ อธิกรณํ อากฑฺฒติ.
โมฬิยผคฺคุนสฺส อวณฺณํ ภาสตีติ นตฺถิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อนาปตฺติ นาม. นิจฺจกาลํ อิมสฺส ปริเวณทฺวารํ อสฺุํ ภิกฺขุนีหีติ อคุณํ กเถติ. อธิกรณมฺปิ กโรนฺตีติ อิเมสํ ภิกฺขูนํ โมฬิยผคฺคุนตฺเถรสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย อกฺขีนิ ทยฺหนฺติ. อิมสฺมึ วิหาเร อฺเสํ วสนฏฺานํ โอโลเกตุมฺปิ น สกฺกา. วิหารํ อาคตภิกฺขุนิโย โอวาทํ วา ปฏิสนฺถารํ วา อุทฺเทสปทํ วา เถรเมว นิสฺสาย ลภนฺติ, กุลปุตฺตโก ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก, เอวรูปํ นาม ตุมฺเห อิทฺจิทฺจ วทถ, เอถ วินยธรานํ สนฺติเก วินิจฺฉยํ เทถาติ อธิกรณํ อากฑฺฒนฺติ.
โส ¶ ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจาติ เนว ปิยกมฺยตาย น เภทาธิปฺปาเยน, อตฺถกามตาย อโวจ. เอกํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุสฺส เอวํ สํสฏฺสฺส วิหรโต อยโส อุปฺปชฺชิสฺสติ. โส สาสนสฺสาปิ อวณฺโณเยว. อฺเน ปน กถิโต อยํ น โอรมิสฺสติ, ภควตา ธมฺมํ เทเสตฺวา โอวทิโต โอรมิสฺสตี’’ติ ตสฺส อตฺถกามตาย ภควนฺตํ เอตํ, ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
๒๒๓. อามนฺเตหีติ ชานาเปหิ. อามนฺเตตีติ ปกฺโกสติ.
๒๒๔. สทฺธาติ ¶ สทฺธาย. ตสฺมาติ ยสฺมา ตฺวํ กุลปุตฺโต เจว สทฺธาปพฺพชิโต จ, ยสฺมา วา เต เอตาหิ สทฺธึ สํสฏฺสฺส วิหรโต เย ตา อกฺโกสิสฺสนฺติ วา, ปหริสฺสนฺติ วา, เตสุ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, สํสคฺเค ปหีเน นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺมา. ตตฺราติ ตสฺมึ อวณฺณภาสเน. เคหสิตาติ ปฺจกามคุณนิสฺสิตา. ฉนฺทาติ ตณฺหาฉนฺทาปิ ปฏิฆฉนฺทาปิ. วิปริณตนฺติ รตฺตมฺปิ จิตฺตํ วิปริณตํ. ทุฏฺมฺปิ, มูฬฺหมฺปิ จิตฺตํ วิปริณตํ. อิธ ปน ตณฺหาฉนฺทวเสน รตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, ปฏิฆฉนฺทวเสน ทุฏฺมฺปิ วฏฺฏติ. หิตานุกมฺปีติ หิเตน อนุกมฺปมาโน หิเตน ผรมาโน. น โทสนฺตโรติ น โทสจิตฺโต ภวิสฺสามิ.
๒๒๕. อถ โข ภควาติ กสฺมา อารภิ? ผคฺคุนสฺส กิร เอตฺตกํ โอวาทํ สุตฺวาปิ, ‘‘ภิกฺขุนิสํสคฺคโต โอรมิสฺสามิ ¶ วิรมิสฺสามี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, ภควตา ปน สทฺธึ ปฏาณี วิย ปฏิวิรุทฺโธ อฏฺาสิ, อถสฺส ภควโต ยถา นาม ชิฆจฺฉิตสฺส โภชเน, ปิปาสิตสฺส ปานีเย, สีเตน ผุฏฺสฺส อุณฺเห ทุกฺขิตสฺส สุเข ปตฺถนา อุปฺปชฺชติ. เอวเมว อิมํ ทุพฺพจํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปมโพธิยํ สุพฺพจา ภิกฺขู อาปาถํ อาคมึสุ. อถ เตสํ วณฺณํ กเถตุกาโม หุตฺวา อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ อาราธยึสูติ คณฺหึสุ ปูรยึสุ. เอกํ สมยนฺติ เอกสฺมึ สมเย. เอกาสนโภชนนฺติ เอกํ ปุเรภตฺตโภชนํ. สูริยุคฺคมนโต หิ ยาว มชฺฌนฺหิกา สตฺตกฺขตฺตุํ ภุตฺตโภชนมฺปิ อิธ เอกาสนโภชนนฺเตว อธิปฺเปตํ. อปฺปาพาธตนฺติ นิราพาธตํ. อปฺปาตงฺกตนฺติ นิทฺทุกฺขตํ. ลหุฏฺานนฺติ สรีรสฺส สลฺลหุกํ อุฏฺานํ. พลนฺติ กายพลํ. ผาสุวิหารนฺติ กายสฺส ¶ สุขวิหารํ. อิมินา กึ กถิตํ? ทิวา วิกาลโภชนํ ปชหาปิตกาโล กถิโต. ภทฺทาลิสุตฺเต ปน รตฺตึ วิกาลโภชนํ ปชหาปิตกาโล กถิโต. อิมานิ หิ ทฺเว โภชนานิ ภควา น เอกปฺปหาเรน ปชหาเปสิ. กสฺมา? อิมาเนว หิ ทฺเว โภชนานิ วฏฺเฏ สตฺตานํ อาจิณฺณานิ. สนฺติ กุลปุตฺตา สุขุมาลา, เต เอกโต ทฺเวปิ โภชนานิ ปชหนฺตา กิลมนฺติ. ตสฺมา เอกโต อปชหาเปตฺวา เอกสฺมึ กาเล ทิวา วิกาลโภชนํ, เอกสฺมึ รตฺตึ วิกาลโภชนนฺติ วิสุํ ปชหาเปสิ. เตสุ อิธ ทิวา วิกาลโภชนํ ปชหาปิตกาโล กถิโต. ตตฺถ ¶ ยสฺมา พุทฺธา น ภยํ ทสฺเสตฺวา ตชฺเชตฺวา ปชหาเปนฺติ, อานิสํสํ ปน ทสฺเสตฺวา ปชหาเปนฺติ, เอวฺหิ สตฺตา สุเขน ปชหนฺติ. ตสฺมา อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต อิเม ปฺจ คุเณ ทสฺเสสิ. อนุสาสนี กรณียาติ ปุนปฺปุนํ สาสเน กตฺตพฺพํ นาโหสิ. ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ มา กโรถา’’ติ สตุปฺปาทกรณียมตฺตเมว อโหสิ. ตาวตฺตเกเนว เต กตฺตพฺพํ อกํสุ, ปหาตพฺพํ ปชหึสุ, ปมโพธิยํ, ภิกฺขเว, สุพฺพจา ภิกฺขู อเหสุํ อสฺสวา โอวาทปฏิกราติ.
อิทานิ เนสํ สุพฺพจภาวทีปิกํ อุปมํ อาหรนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ สุภูมิยนฺติ สมภูมิยํ. ‘‘สุภูมฺยํ สุเขตฺเต วิหตขาณุเก พีชานิ ปติฏฺเปยฺยา’’ติ ¶ (ที. นิ. ๒.๔๓๘) เอตฺถ ปน มณฺฑภูมิ สุภูมีติ อาคตา. จตุมหาปเถติ ทฺวินฺนํ มหามคฺคานํ วินิวิชฺฌิตฺวา คตฏฺาเน. อาชฺรโถติ วินีตอสฺสรโถ. โอธสฺตปโตโทติ ยถา รถํ อภิรุหิตฺวา ิเตน สกฺกา โหติ คณฺหิตุํ, เอวํ อาลมฺพนํ นิสฺสาย ติริยโต ปิตปโตโท. โยคฺคาจริโยติ อสฺสาจริโย. สฺเวว อสฺสทมฺเม สาเรตีติ อสฺสทมฺมสารถิ. เยนิจฺฉกนฺติ เยน เยน มคฺเคน อิจฺฉติ. ยทิจฺฉกนฺติ ยํ ยํ คตึ อิจฺฉติ. สาเรยฺยาติ อุชุกํ ปุรโต เปเสยฺย. ปจฺจาสาเรยฺยาติ ปฏินิวตฺเตยฺย.
เอวเมว โขติ ยถา หิ โส โยคฺคาจริโย เยน เยน มคฺเคน คมนํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ อสฺสา อารุฬฺหาว โหนฺติ. ยาย ยาย จ คติยา อิจฺฉติ, สา สา คติ คหิตาว โหติ. รถํ เปเสตฺวา อสฺสา เนว วาเรตพฺพา น วิชฺฌิตพฺพา โหนฺติ. เกวลํ เตสํ สเม ภูมิภาเค ขุเรสุ นิมิตฺตํ เปตฺวา คมนเมว ปสฺสิตพฺพํ โหติ. เอวํ มยฺหมฺปิ เตสุ ภิกฺขูสุ ปุนปฺปุนํ วตฺตพฺพํ นาโหสิ. อิทํ กโรถ อิทํ มา กโรถาติ สตุปฺปาทนมตฺตเมว กตฺตพฺพํ โหติ. เตหิปิ ตาวเทว กตฺตพฺพํ กตเมว โหติ, อกตฺตพฺพํ ชหิตเมว. ตสฺมาติ ยสฺมา สุพฺพจา ยุตฺตยานปฏิภาคา ¶ หุตฺวา สตุปฺปาทนมตฺเตเนว ปชหึสุ, ตสฺมา ตุมฺเหปิ ปชหถาติ อตฺโถ. เอลณฺเฑหีติ เอลณฺฑา กิร สาลทูสนา โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. วิโสเธยฺยาติ เอลณฺเฑ เจว อฺา จ วลฺลิโย ฉินฺทิตฺวา พหิ นีหรเณน โสเธยฺย. สุชาตาติ สุสณฺิตา. สมฺมา ปริหเรยฺยาติ มริยาทํ พนฺธิตฺวา อุทกาสิฺจเนนปิ กาเลนกาลํ มูลมูเล ¶ ขณเนนปิ วลฺลิคุมฺพาทิจฺเฉทเนนปิ กิปิลฺลปูฏกหรเณนปิ มกฺกฏกชาลสุกฺขทณฺฑกหรเณนปิ สมฺมา วฑฺเฒตฺวา โปเสยฺย. วุทฺธิอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
๒๒๖. อิทานิ อกฺขนฺติยา โทสํ ทสฺเสนฺโต ภูตปุพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เวเทหิกาติ วิเทหรฏฺวาสิกสฺส ธีตา. อถ วา เวโทติ ปฺา วุจฺจติ, เวเทน อีหติ อิริยตีติ เวเทหิกา, ปณฺฑิตาติ อตฺโถ. คหปตานีติ ฆรสามินี. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติโฆโส. โสรตาติ โสรจฺเจน สมนฺนาคตา. นิวาตาติ นิวาตวุตฺติ. อุปสนฺตาติ นิพฺพุตา. ทกฺขาติ ¶ ภตฺตปจนสยนตฺถรณทีปุชฺชลนาทิกมฺเมสุ เฉกา. อนลสาติ อุฏฺาหิกา, สุสํวิหิตกมฺมนฺตาติ สุฏฺุ สํวิหิตกมฺมนฺตา. เอกา อนลสา โหติ, ยํ ยํ ปน ภาชนํ คณฺหาติ, ตํ ตํ ภินฺทติ วา ฉิทฺทํ วา กโรติ, อยํ น ตาทิสาติ ทสฺเสติ.
ทิวา อุฏฺาสีติ ปาโตว กตฺตพฺพานิ เธนุทุหนาทิกมฺมานิ อกตฺวา อุสฺสูเร อุฏฺิตา. เห เช กาฬีติ อเร กาฬิ. กึ เช ทิวา อุฏฺาสีติ กึ เต กิฺจิ อผาสุกํ อตฺถิ, กึ ทิวา อุฏฺาสีติ? โน วต เร กิฺจีติ อเร ยทิ เต น กิฺจิ อผาสุกํ อตฺถิ, เนว สีสํ รุชฺฌติ, น ปิฏฺิ, อถ กสฺมา ปาปิ ทาสิ ทิวา อุฏฺาสีติ กุปิตา อนตฺตมนา ภากุฏิมกาสิ. ทิวาตรํ อุฏฺาสีติ ปุนทิวเส อุสฺสูรตรํ อุฏฺาสิ. อนตฺตมนวาจนฺติ อเร ปาปิ ทาสิ อตฺตโน ปมาณํ น ชานาสิ; กึ อคฺคึ สีโตติ มฺสิ, อิทานิ ตํ สิกฺขาเปสฺสามีติอาทีนิ วทมานา กุปิตวจนํ นิจฺฉาเรสิ.
ปฏิวิสกานนฺติ สามนฺตเคหวาสีนํ. อุชฺฌาเปสีติ อวชานาเปสิ. จณฺฑีติ อโสรตา กิพฺพิสา. อิติ ยตฺตกา คุณา, ตโต ทิคุณา โทสา อุปฺปชฺชึสุ. คุณา นาม สณิกํ สณิกํ อาคจฺฉนฺติ; โทสา เอกทิวเสเนว ปตฺถฏา โหนฺติ. โสรตโสรโตติ อติวิย โสรโต, โสตาปนฺโน ¶ นุ โข, สกทาคามี อนาคามี อรหา นุ โขติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ผุสนฺตีติ ผุสนฺตา ฆฏฺเฏนฺตา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ.
อถ ¶ ภิกฺขุ โสรโตติ เวทิตพฺโพติ อถ อธิวาสนกฺขนฺติยํ ิโต ภิกฺขุ โสรโตติ เวทิตพฺโพ. โย จีวร…เป… ปริกฺขารเหตูติ โย เอตานิ จีวราทีนิ ปณีตปณีตานิ ลภนฺโต ปาทปริกมฺมปิฏฺิปริกมฺมาทีนิ เอกวจเนเนว กโรติ. อลภมาโนติ ยถา ปุพฺเพ ลภติ, เอวํ อลภนฺโต. ธมฺมฺเว สกฺกโรนฺโตติ ธมฺมํเยว สกฺการํ สุกตการํ กโรนฺโต. ครุํ กโรนฺโตติ ครุภาริยํ กโรนฺโต. มาเนนฺโตติ มเนน ปิยํ กโรนฺโต. ปูเชนฺโตติ ปจฺจยปูชาย ปูเชนฺโต. อปจายมาโนติ ธมฺมํเยว อปจายมาโน อปจิตึ นีจวุตฺตึ ทสฺเสนฺโต.
๒๒๗. เอวํ อกฺขนฺติยา โทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เย อธิวาเสนฺติ, เต เอวํ อธิวาเสนฺตีติ ปฺจ วจนปเถ ทสฺเสนฺโต ปฺจิเม, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน. ภูเตนาติ สตา วิชฺชมาเนน. สณฺเหนาติ สมฺมฏฺเน ¶ . อตฺถสฺหิเตนาติ อตฺถนิสฺสิเตน การณนิสฺสิเตน. อกาเลนาติอาทีนิ เตสํเยว ปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. เมตฺตจิตฺตาติ อุปฺปนฺนเมตฺตจิตฺตา หุตฺวา. โทสนฺตราติ ทุฏฺจิตฺตา, อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนโทสา หุตฺวา. ตตฺราติ เตสุ วจนปเถสุ. ผริตฺวาติ อธิมุจฺจิตฺวา. ตทารมฺมณฺจาติ กถํ ตทารมฺมณํ สพฺพาวนฺตํ โลกํ กโรติ? ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตํ ปุคฺคลํ เมตฺตจิตฺตสฺส อารมฺมณํ กตฺวา ปุน ตสฺเสว เมตฺตจิตฺตสฺส อวเสสสตฺเต อารมฺมณํ กโรนฺโต สพฺพาวนฺตํ โลกํ ตทารมฺมณํ กโรติ นาม. ตตฺรายํ วจนตฺโถ. ตทารมฺมณฺจาติ ตสฺเสว เมตฺตจิตฺตสฺส อารมฺมณํ กตฺวา. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. วิปุเลนาติ อเนกสตฺตารมฺมเณน. มหคฺคเตนาติ มหคฺคตภูมิเกน. อปฺปมาเณนาติ สุภาวิเตน. อเวเรนาติ นิทฺโทเสน. อพฺยาพชฺเฌนาติ นิทฺทุกฺเขน. ผริตฺวา วิหริสฺสามาติ เอวรูเปน เมตฺตาสหคเตน เจตสา ตฺจ ปุคฺคลํ สพฺพฺจ โลกํ ตสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมณํ กตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหริสฺสาม.
๒๒๘. อิทานิ ตทตฺถทีปิกํ อุปมํ อาหรนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ อปถวินฺติ นิปฺปถวึ กริสฺสามีติ อตฺโถ. ตตฺร ตตฺราติ ¶ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน. วิกิเรยฺยาติ ปจฺฉิยา ปํสุํ อุทฺธริตฺวา ¶ พีชานิ วิย วิกิเรยฺย. โอฏฺุเภยฺยาติ เขฬํ ปาเตยฺย. อปถวึ กเรยฺยาติ เอวํ กาเยน จ วาจาย จ ปโยคํ กตฺวาปิ สกฺกุเณยฺย อปถวึ กาตุนฺติ? คมฺภีราติ พหลตฺเตน ทฺวิโยชนสตสหสฺสานิ จตฺตาริ จ นหุตานิ คมฺภีรา. อปฺปเมยฺยาติ ติริยํ ปน อปริจฺฉินฺนา. เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปถวี วิย หิ เมตฺตจิตฺตํ ทฏฺพฺพํ. กุทาลปิฏกํ คเหตฺวา อาคตปุริโส วิย ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล. ยถา โส กุทาลปิฏเกน มหาปถวึ อปถวึ กาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ โว ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล เมตฺตจิตฺตสฺส อฺถตฺตํ กาตุํ น สกฺขิสฺสตีติ.
๒๒๙. ทุติยอุปมายํ หลิทฺทินฺติ ยํกิฺจิ ปีตกวณฺณํ. นีลนฺติ กํสนีลํ วา ปลาสนีลํ วา. อรูปีติ อรูโป ¶ . นนุ จ, ทฺวินฺนํ กฏฺานํ วา ทฺวินฺนํ รุกฺขานํ วา ทฺวินฺนํ เสยฺยานํ วา ทฺวินฺนํ เสลานํ วา อนฺตรํ ปริจฺฉินฺนากาสรูปนฺติ อาคตํ, กสฺมา อิธ อรูปีติ วุตฺโตติ? สนิทสฺสนภาวปฏิกฺเขปโต. เตเนวาห ‘‘อนิทสฺสโน’’ติ. ตสฺมิฺหิ รูปํ ลิขิตุํ, รูปปาตุภาวํ ทสฺเสตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ‘‘อรูปี’’ติ วุตฺโต. อนิทสฺสโนติ ทสฺสนสฺส จกฺขุวิฺาณสฺส อนาปาโถ. อุปมาสํสนฺทเน ปเนตฺถ อากาโส วิย เมตฺตจิตฺตํ. ตุลิกปฺจมา จตฺตาโร รงฺคชาตา วิย ปฺจ วจนปถา, ตุลิกปฺจเม รงฺเค คเหตฺวา อาคตปุริโส วิย ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล. ยถา โส ตุลิกปฺจเมหิ รงฺเคหิ อากาเส รูปปาตุภาวํ กาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ โว ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล เมตฺตจิตฺตสฺส อฺถตฺตํ กตฺวา โทสุปฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ น สกฺขิสฺสตีติ.
๒๓๐. ตติยอุปมายํ อาทิตฺตนฺติ ปชฺชลิตํ. คมฺภีรา อปฺปเมยฺยาติ อิมิสฺสา คงฺคาย คมฺภีรฏฺานํ คาวุตมฺปิ อตฺถิ, อฑฺฒโยชนมฺปิ, โยชนมฺปิ. ปุถุลํ ปนสฺสา เอวรูปํเยว, ทีฆโต ปน ปฺจโยชนสตานิ. สา กถํ คมฺภีรา อปฺปเมยฺยาติ? เอเตน ปโยเคน ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธเน อุทกํ วิย ตาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยโต. ิโตทกํ ปน เกนจิ อุปาเยน องฺคุลมตฺตํ วา อฑฺฒงฺคุลมตฺตํ วา เอวํ ตาเปตุํ สกฺกา ภเวยฺย, อยํ ปน น ¶ สกฺกา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. อุปมาสํสนฺทเน ปเนตฺถ คงฺคา วิย เมตฺตจิตฺตํ, ติณุกฺกํ อาทาย อาคตปุริโส วิย ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล. ยถา โส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย คงฺคํ ตาเปตุํ น สกฺโกติ, เอวํ ¶ โว ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล เมตฺตจิตฺตสฺส อฺถตฺตํ กาตุํ น สกฺขิสฺสตีติ.
๒๓๑. จตุตฺถอุปมายํ พิฬารภสฺตาติ พิฬารจมฺมปสิพฺพกา. สุมทฺทิตาติ สุฏฺุ มทฺทิตา. สุปริมทฺทิตาติ อนฺโต จ พหิ จ สมนฺตโต สุปริมทฺทิตา. ตูลินีติ สิมฺพลิตูลลตาตูลสมานา. ฉินฺนสสฺสราติ ฉินฺนสสฺสรสทฺทา. ฉินฺนภพฺภราติ ฉินฺนภพฺภรสทฺทา. อุปมาสํสนฺทเน ปเนตฺถ พิฬารภสฺตา วิย เมตฺตจิตฺตํ, กฏฺกลํ อาทาย อาคตปุริโส วิย ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล. ยถา โส กฏฺเน วา กเลน วา ¶ พิฬารภสฺตํ สรสรํ ภรภรํ สทฺทํ กาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ โว ปฺจ วจนปเถ คเหตฺวา อาคตปุคฺคโล เมตฺตจิตฺตสฺส อฺถตฺตํ กตฺวา โทสานุคตภาวํ กาตุํ น สกฺขิสฺสตีติ.
๒๓๒. โอจรกาติ อวจรกา เหฏฺาจรกา, นีจกมฺมการกาติ อตฺโถ. โย มโน ปทูเสยฺยาติ โย ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา มโน ปทูเสยฺย, ตํ กกเจน โอกนฺตนํ นาธิวาเสยฺย. น เม โส เตน สาสนกโรติ โส เตน อนธิวาสเนน มยฺหํ โอวาทกโร น โหติ. อาปตฺติ ปเนตฺถ นตฺถิ.
๒๓๓. อณุํ วา ถูลํ วาติ อปฺปสาวชฺชํ วา มหาสาวชฺชํ วา. ยํ ตุมฺเห นาธิวาเสยฺยาถาติ โย ตุมฺเหหิ อธิวาเสตพฺโพ น ภเวยฺยาติ อตฺโถ. โน เหตํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, อนธิวาเสตพฺพํ นาม วจนปถํ น ปสฺสามาติ อธิปฺปาโย. ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ อิติ ภควา อรหตฺเตน กูฏํ คณฺหนฺโต ยถานุสนฺธินา เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
กกจูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อลคทฺทูปมสุตฺตวณฺณนา
๒๓๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺตํ. ตตฺถ คทฺเธ พาธยึสูติ คทฺธพาธิโน, คทฺธพาธิโน ปุพฺพปุริสา อสฺสาติ คทฺธพาธิปุพฺโพ, ตสฺส คทฺธพาธิปุพฺพสฺส, คิชฺฌฆาตกกุลปฺปสุตสฺสาติ อตฺโถ. สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. เต กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทอาณาวีติกฺกมวเสน ปฺจวิธา. ตตฺถ ปฺจานนฺตริยธมฺมา กมฺมนฺตรายิกา นาม. ตถา ภิกฺขุนีทูสกกมฺมํ, ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. อริยูปวาทธมฺมา อุปวาทนฺตรายิกา นาม, เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ, ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม. เตปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา, น เทเสติ วา, ตาวเทว, น ตโต ปรํ.
ตตฺรายํ ¶ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก เสสนฺตรายิเก ชานาติ, วินเย ปน อโกวิทตฺตา ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺตรายิเก น ชานาติ, ตสฺมา รโหคโต เอวํ จินฺเตสิ – อิเม อาคาริกา ปฺจ กามคุเณ ปริภฺุชนฺตา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ โหนฺติ. ภิกฺขูปิ มนาปิกานิ จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ ปสฺสนฺติ…เป… กายวิฺเยฺเย โผฏฺพฺเพ ผุสนฺติ, มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณาทีนิ ปริภฺุชนฺติ, เอตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. กสฺมา อิตฺถีนํเยว รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา น วฏฺฏนฺติ? เอเตปิ วฏฺฏนฺตีติ. เอวํ รเสน รสํ สํสนฺเทตฺวา สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ นิจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ เอกํ กตฺวา ถูลวาเกหิ สทฺธึ อติสุขุมสุตฺตํ อุปเนนฺโต วิย, สาสเปน สทฺธึ สิเนรุํ อุปสํหรนฺโต วิย, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปาเทตฺวา, ‘‘กึ ภควตา มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิย มหตา อุสฺสาเหน ปมปาราชิกํ ปฺตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ โทโส’’ติ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌนฺโต เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหนฺโต อริยมคฺเค ขาณุกณฺฏกาทีนิ ปกฺขิปนฺโต เมถุนธมฺเม โทโส นตฺถีติ ชินสฺส อาณาจกฺเก ปหารํ อทาสิ. เตนาห – ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทิ.
เอวํ ¶ ¶ พฺยา โขติ เอวํ วิย โข. สมนุยฺุชนฺตีติอาทีสุ กึ ลทฺธิโก ตฺวํ, ลทฺธึ วเทหีติ ปุจฺฉมานา สมนุยฺุชนฺติ นาม. ทิฏฺึ ปติฏฺาเปนฺตา สมนุคฺคาหนฺติ นาม. เกน การเณน เอวํ วทสีติ การณํ ปุจฺฉนฺตา สมนุภาสนฺติ นาม. อฏฺิกงฺกลูปมาติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๒-๔๘) อฏฺิกงฺกลูปมา อปฺปสฺสาทฏฺเน. มํสเปสูปมา พหุสาธารณฏฺเน. ติณุกฺกูปมา อนุทหนฏฺเน. องฺคารกาสูปมา มหาภิตาปนฏฺเน. สุปินกูปมา อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน. ยาจิตกูปมา ตาวกาลิกฏฺเน. รุกฺขผลูปมา สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน. อสิสูนูปมา อธิกุฏฺฏนฏฺเน. สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน. สปฺปสิรูปมา สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน. ถามสาติ ทิฏฺิถาเมน. ปรามาสาติ ทิฏฺิปรามาเสน. อภินิวิสฺส โวหรตีติ อธิฏฺหิตฺวา โวหรติ ทีเปติ วา.
๒๓๕. ยโต โข เต ภิกฺขูติ ยทา เต ภิกฺขู. เอวํ ¶ พฺยา โข อหํ, ภนฺเต, ภควตาติ อิทํ เอส อตฺตโน อชฺฌาสเยน นตฺถีติ วตฺตุกาโมปิ ภควโต อานุภาเวน สมฺปฏิจฺฉติ, พุทฺธานํ กิร สมฺมุขา ทฺเว กถา กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ.
๒๓๖. กสฺส โข นาม ตฺวํ โมฆปุริสาติ ตฺวํ โมฆปุริส กสฺส ขตฺติยสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เวสฺสสฺส วา สุทฺทสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วา มยา เอวํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสิ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ อยํ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. อริฏฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘ภควา มํ โมฆปุริโสติ วทติ, น โข ปน โมฆปุริสาติ วุตฺตมตฺตเกน มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย น โหติ. อุปเสนมฺปิ หิ วงฺคนฺตปุตฺตํ, ‘อติลหุํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, พาหุลฺลาย อาวตฺโต’ติ (มหาว. ๗๕) ภควา โมฆปุริสวาเทน โอวทิ. เถโร อปรภาเค ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ฉ อภิฺา สจฺฉากาสิ. อหมฺปิ ตถารูปํ วีริยํ ปคฺคณฺหิตฺวา มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา พนฺธนา ปวุตฺตสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส วิย อวิรุฬฺหิภาวํ ทสฺเสนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
อุสฺมีกโตปีติ ¶ , ภิกฺขเว, ตุมฺเห กินฺติ มฺถ, อยํ อริฏฺโ เอวํลทฺธิโก สพฺพฺุตฺาเณน ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหิตฺวา ตถาคตสฺส อาณาจกฺเก ปหารํ ททมาโน อปิ นุ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อุสฺมีกโตปิ? ยถา นิพฺพุเตปิ มหนฺเต อคฺคิกฺขนฺเธ ¶ ขชฺชุปนกมตฺตาปิ อคฺคิปปฏิกา โหติเยว, ยํ นิสฺสาย ปุน มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ภเวยฺย. กึ นุ โข เอวํ อิมสฺส อปฺปมตฺติกาปิ าณุสฺมา อตฺถิ, ยํ นิสฺสาย วายมนฺโต มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยาติ? โน เหตํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, เอวํลทฺธิกสฺส กุโต เอวรูปา าณุสฺมาติ? มคฺคผลานํ ปจฺจยสมตฺถาย าณุสฺมาย อุสฺมีกตภาวํ ปฏิกฺขิปนฺตา วทนฺติ. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชภูโต. ปตฺตกฺขนฺโธติ ปติตกฺขนฺโธ. อปฺปฏิภาโนติ กิฺจิ ปฏิภานํ อปสฺสนฺโต ภินฺนปฏิภาโน เอวรูปมฺปิ นาม นิยฺยานิกสาสนํ ลภิตฺวา อวิรุฬฺหิธมฺโม กิรมฺหิ สมุคฺฆาติตปจฺจโย ชาโตติ อตฺตโน อภพฺพตํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน ภูมึ ขณมาโน นิสีทิ.
ปฺายิสฺสสิ ¶ โขติ อยมฺปิ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. อริฏฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘ภควา มยฺหํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย ปจฺฉินฺโนติ วทติ, น โข ปน พุทฺธา สอุปนิสฺสยานํเยว ธมฺมํ เทเสนฺติ, อนุปนิสฺสยานมฺปิ เทเสนฺติ, อหํ สตฺถุ สนฺติกา สุคโตวาทํ ลภิตฺวา อตฺตโน สมฺปตฺตูปคํ กุสลํ กริสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา โอวาทํ ปฏิปสฺสมฺเภนฺโต ‘‘ปฺายิสฺสสี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ, ตฺวํเยว, โมฆปุริส, อิมินา ปาปเกน ทิฏฺิคเตน นิรยาทีสุ ปฺายิสฺสสิ, มม สนฺติกา ตุยฺหํ สุคโตวาโท นาม นตฺถิ, น เม ตยา อตฺโถ, อิธาหํ ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิสฺสามีติ.
๒๓๗. อถ โข ภควาติ อยมฺปิ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. อิมสฺมิฺหิ าเน ภควา ปริสํ โสเธติ, อริฏฺํ คณโต นิสฺสาเรติ. สเจ หิ ปริสคตานํ กสฺสจิ เอวํ ภเวยฺย – ‘‘อยํ อริฏฺโ ภควตา อกถิตํ กเถตุํ กึ สกฺขิสฺสติ, กจฺจิ นุ โข ปริสมชฺเฌ ภควตา กถาย สมารทฺธาย สหสา กถิต’’นฺติ. เอวํ กถิตํ ปน น อริฏฺโว สุณาติ, อฺเนปิ สุตํ ภวิสฺสติ. อถาปิสฺส สิยา ‘‘ยถา สตฺถา อริฏฺํ นิคฺคณฺหาติ, มมฺปิ เอวํ นิคฺคณฺเหยฺยาติ สุตฺวาปิ ตุณฺหีภาวํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘ตํ ¶ สพฺพํ น กริสฺสนฺตี’’ติ. มยาปิ น กถิตํ, อฺเน สุตมฺปิ นตฺถีติ ‘‘ตุมฺเหปิเม, ภิกฺขเว’’ติอาทินา ปริสาย ลทฺธึ โสเธติ. ปริสาย ปน ลทฺธิโสธเนเนว อริฏฺโ คณโต นิสฺสาริโต นาม โหติ.
อิทานิ อริฏฺสฺส ลทฺธึ ปกาเสนฺโต โส วต, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อฺตฺเรว กาเมหีติอาทีสุ ¶ โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘‘เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ เอวํลทฺธิโก, โส วต กิเลสกาเมหิ เจว กิเลสกามสมฺปยุตฺเตหิ สฺาวิตกฺเกหิ จ อฺตฺร, เอเต ธมฺเม ปหาย, วินา เอเตหิ ธมฺเมหิ, วตฺถุกาเม ปฏิเสวิสฺสติ, เมถุนสมาจารํ สมาจริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อิทํ การณํ นาม นตฺถิ, อฏฺานเมตํ อนวกาโสติ.
๒๓๘. เอวํ ภควา อยํ อริฏฺโ ยถา นาม รชโก สุคนฺธานิปิ ทุคฺคนฺธานิปิ ชิณฺณานิปิ นวานิปิ สุทฺธานิปิ อสุทฺธานิปิ วตฺถานิ เอกโต ภณฺฑิกํ กโรติ, เอวเมว ¶ ภิกฺขูนํ นิจฺฉนฺทราคปณีตจีวราทิปริโภคฺจ อนิพทฺธสีลานํ คหฏฺานํ อนฺตรายกรํ สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ นิพทฺธสีลานํ ภิกฺขูนํ อาวรณกรํ สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ สพฺพํ เอกสทิสํ กโรตีติ อริฏฺสฺส ลทฺธึ ปกาเสตฺวา อิทานิ ทุคฺคหิตาย ปริยตฺติยา โทสํ ทสฺเสนฺโต อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺเจติอาทิมาห. ตตฺถ ปริยาปุณนฺตีติ อุคฺคณฺหนฺติ. สุตฺตนฺติอาทีสุ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา, สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺตรตนสุตฺตนาลกสุอาตุวฏฺฏกสุตฺตานิ, อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค. สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ, ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปทํ, เถรคาถา, เถริคาถา, สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺเวอสีติสุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อิติวุ. ๑,๒) ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพา. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปณฺณาสาธิกานิ ปฺจชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพานิ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อ. นิ. ๔.๑๒๙) สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตา ¶ สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพา. จูฬเวทลฺลมหาเวทลฺลสมฺมาทิฏฺิสกฺกปฺหสงฺขารภาชนิยมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพา.
อตฺถํ น อุปปริกฺขนฺตีติ อตฺถตฺถํ การณตฺถํ น ปสฺสนฺติ น ปริคฺคณฺหนฺติ. อนุปปริกฺขตนฺติ อนุปปริกฺขนฺตานํ. น นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ น อุปฏฺหนฺติ น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, อิมสฺมึ าเน สีลํ สมาธิ วิปสฺสนา มคฺโค ผลํ วฏฺฏํ วิวฏฺฏํ กถิตนฺติ เอวํ ชานิตุํ ¶ น สกฺกา โหนฺตีติ อตฺโถ. เต อุปารมฺภานิสํสา เจวาติ เต ปเรสํ วาเท โทสาโรปนานิสํสา ¶ หุตฺวา ปริยาปุณนฺตีติ อตฺโถ. อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา จาติ เอวํ วาทปโมกฺขานิสํสา, ปเรหิ สกวาเท โทเส อาโรปิเต ตํ โทสํ เอวํ โมเจสฺสามาติ อิมินาว การเณน ปริยาปุณนฺตีติ อตฺโถ. ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺตีติ ยสฺส จ มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อตฺถาย กุลปุตฺตา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ, ตฺจสฺส ธมฺมสฺส อตฺถํ เอเต ทุคฺคหิตคฺคาหิโน นานุโภนฺติ. อปิจ ปรสฺส วาเท อุปารมฺภํ อาโรเปตุํ อตฺตโน วาทํ โมเจตุํ อสกฺโกนฺตาปิ ตฺจ อตฺถํ นานุโภนฺติเยว.
๒๓๙. อลคทฺทตฺถิโกติ อาสิวิสอตฺถิโก. คโทติ หิ วิสสฺส นามํ, ตํ ตสฺส อลํ ปริปุณฺณํ อตฺถีติ อลคทฺโท. โภเคติ สรีเร. อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺเจ กุลปุตฺตา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตีติ นิตฺถรณปริยตฺติวเสน อุคฺคณฺหนฺติ. ติสฺโส หิ ปริยตฺติโย อลคทฺทปริยตฺติ นิตฺถรณปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.
ตตฺถ โย พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา เอวํ จีวราทีนิ วา ลภิสฺสามิ, จตุปริสมชฺเฌ วา มํ ชานิสฺสนฺตีติ ลาภสกฺการเหตุ ปริยาปุณาติ, ตสฺส สา ปริยตฺติ อลคทฺทปริยตฺติ นาม. เอวํ ปริยาปุณโต หิ พุทฺธวจนํ อปริยาปุณิตฺวา นิทฺโทกฺกมนํ วรตรํ.
โย ปน พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา สีลสฺส อาคตฏฺาเน สีลํ ปูเรตฺวา สมาธิสฺส อาคตฏฺาเน สมาธิคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิปสฺสนาย อาคตฏฺาเน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา มคฺคผลานํ อาคตฏฺาเน มคฺคํ ภาเวสฺสามิ ผลํ ¶ สจฺฉิกริสฺสามีติ อุคฺคณฺหาติ, ตสฺส สา ปริยตฺติ นิตฺถรณปริยตฺติ นาม โหติ.
ขีณาสวสฺส ปน ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ นาม. ตสฺส หิ อปริฺาตํ อปฺปหีนํ อภาวิตํ อสจฺฉิกตํ วา นตฺถิ. โส หิ ปริฺาตกฺขนฺโธ ปหีนกิเลโส ภาวิตมคฺโค สจฺฉิกตผโล, ตสฺมา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺโต ตนฺติธารโก ปเวณิปาลโก วํสานุรกฺขโกว หุตฺวา อุคฺคณฺหาติ. อิติสฺส สา ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ นาม โหติ.
โย ¶ ปน ปุถุชฺชโน ฉาตภยาทีสุ คนฺถธเรสุ เอกสฺมึ าเน วสิตุํ อสกฺโกนฺเตสุ สยํ ภิกฺขาจาเรน อกิลมมาโน ¶ อติมธุรํ พุทฺธวจนํ มา นสฺสตุ, ตนฺตึ ธาเรสฺสามิ, วํสํ เปสฺสามิ, ปเวณึ ปาเลสฺสามีติ ปริยาปุณาติ, ตสฺส ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ โหติ, น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? น อตฺตโน าเน ตฺวา ปริยาปุตตฺตา. ปุถุชฺชนสฺส หิ ปริยตฺติ นาม อลคทฺทา วา โหติ นิตฺถรณา วา, สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ นิตฺถรณาว, ขีณาสวสฺส ภณฺฑาคาริกปริยตฺติเยว. อิมสฺมึ ปน าเน นิตฺถรณปริยตฺติ อธิปฺเปตา.
นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ สีลาทีนํ อาคตฏฺาเนสุ อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธิ, อิธ วิปสฺสนา, อิธ มคฺโค, อิธ ผลํ, อิธ วฏฺฏํ, อิธ วิวฏฺฏนฺติ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ. ตฺจสฺส อตฺถํ อนุโภนฺตีติ เยสํ มคฺคผลานํ อตฺถาย ปริยาปุณนฺติ. สุคฺคหิตปริยตฺตึ นิสฺสาย มคฺคํ ภาเวตฺวา ผลํ สจฺฉิกโรนฺตา ตฺจสฺส ธมฺมสฺส อตฺถํ อนุภวนฺติ. ปรวาเท อุปารมฺภํ อาโรเปตุํ สกฺโกนฺตาปิ สกวาเท อาโรปิตํ โทสํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คเหตฺวา โมเจตุํ สกฺโกนฺตาปิ อนุโภนฺติเยว. ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ สีลาทีนํ อาคตฏฺาเน สีลาทีนิ ปูเรนฺตานมฺปิ, ปเรสํ วาเท สหธมฺเมน อุปารมฺภํ อาโรเปนฺตานมฺปิ, สกวาทโต โทสํ หรนฺตานมฺปิ, อรหตฺตํ ปตฺวา ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสตฺวา ธมฺมเทสนาย ปสนฺเนหิ อุปนีเต จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตานมฺปิ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ.
เอวํ ¶ สุคฺคหิเต พุทฺธวจเน อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺเถว นิโยเชนฺโต ตสฺมา ติห, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ทุคฺคหิตปริยตฺติ ทุคฺคหิตอลคทฺโท วิย ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ, สุคฺคหิตปริยตฺติ สุคฺคหิตอลคทฺโท วิย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ตถา นํ ธาเรยฺยาถาติ ตเถว นํ ธาเรยฺยาถ, เตเนว อตฺเถน คณฺเหยฺยาถ. เย วา ปนาสฺสุ วิยตฺตา ภิกฺขูติ เย วา ปน อฺเ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานมหากสฺสปมหากจฺจานาทิกา พฺยตฺตา ปณฺฑิตา ภิกฺขู อสฺสุ, เต ปุจฺฉิตพฺพา. อริฏฺเน วิย ปน มม สาสเน น กลลํ วา กจวรํ วา ปกฺขิปิตพฺพํ.
๒๔๐. กุลฺลูปมนฺติ กุลฺลสทิสํ. นิตฺถรณตฺถายาติ จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย. อุทกณฺณวนฺติ ยฺหิ ¶ อุทกํ คมฺภีรํ น ปุถุลํ. ปุถุลํ วา ปน น คมฺภีรํ, น ตํ อณฺณโวติ วุจฺจติ. ยํ ¶ ปน คมฺภีรฺเจว ปุถุลฺจ, ตํ อณฺณโวติ วุจฺจติ. ตสฺมา มหนฺตํ อุทกณฺณวนฺติ มหนฺตํ ปุถุลํ คมฺภีรํ อุทกนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สาสงฺกํ นาม ยตฺถ โจรานํ นิวุตฺโถกาโส ทิสฺสติ. ิโตกาโส, นิสินฺโนกาโส, นิปนฺโนกาโส ทิสฺสติ. สปฺปฏิภยํ นาม ยตฺถ โจเรหิ มนุสฺสา หตา ทิสฺสนฺติ, วิลุตฺตา ทิสฺสนฺติ, อาโกฏิตา ทิสฺสนฺติ. อุตฺตรเสตูติ อุทกณฺณวสฺส อุปริ พทฺโธ เสตุ. กุลฺลํ พนฺธิตฺวาติ กุลฺโล นาม ตรณตฺถาย กลาปํ กตฺวา พทฺโธ. ปตฺถริตฺวา พทฺธา ปน ปทรจาฏิอาทโย อุฬุมฺโปติ วุจฺจนฺติ. อุจฺจาเรตฺวาติ เปตฺวา. กิจฺจการีติ ปตฺตการี ยุตฺตการี, ปติรูปการีติ อตฺโถ. ธมฺมาปิ โว ปหาตพฺพาติ เอตฺถ ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา. ภควา หิ สมเถปิ ฉนฺทราคํ ปชหาเปสิ, วิปสฺสนายปิ. สมเถ ฉนฺทราคํ กตฺถ ปชหาเปสิ? ‘‘อิติ โข, อุทายิ, เนวสฺานาสฺายตนสฺสปิ ปหานํ วทามิ, ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อุทายิ, ตํ สํโยชนํ อณุํ วา ถูลํ วา, ยสฺสาหํ โน ปหานํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๕๖) เอตฺถ สมเถ ฉนฺทราคํ ปชหาเปสิ. ‘‘อิมํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ทิฏฺึ เอวํ ปริสุทฺธํ เอวํ ปริโยทาตํ น อลฺลีเยถ น เกลาเยถ น ธนาเยถา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๑) เอตฺถ วิปสฺสนาย ฉนฺทราคํ ปชหาเปสิ ¶ . อิธ ปน อุภยตฺถ ปชหาเปนฺโต ‘‘ธมฺมาปิ โว ปหาตพฺพา, ปเคว อธมฺมา’’ติ อาห.
ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ภิกฺขเว, อหํ เอวรูเปสุ สนฺตปฺปณีเตสุ ธมฺเมสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ วทามิ, กึ ปน อิมสฺมึ อสทฺธมฺเม คามธมฺเม วสลธมฺเม ทุฏฺุลฺเล โอทกนฺติเก, ยตฺถ อยํ อริฏฺโ โมฆปุริโส นิทฺโทสสฺี ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราคํ นาลํ อนฺตรายายาติ วทติ. อริฏฺเน วิย น ตุมฺเหหิ มยฺหํ สาสเน กลลํ วา กจวรํ วา ปกฺขิปิตพฺพนฺติ เอวํ ภควา อิมินาปิ โอวาเทน อริฏฺํเยว นิคฺคณฺหาติ.
๒๔๑. อิทานิ ¶ โย ปฺจสุ ขนฺเธสุ ติวิธคฺคาหวเสน อหํ มมนฺติ คณฺหาติ, โส มยฺหํ สาสเน อยํ อริฏฺโ วิย กลลํ กจวรํ ปกฺขิปตีติ ทสฺเสนฺโต ฉยิมานิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิฏฺานานีติ ทิฏฺิปิ ทิฏฺิฏฺานํ, ทิฏฺิยา อารมฺมณมฺปิ ทิฏฺิฏฺานํ, ทิฏฺิยา ปจฺจโยปิ. รูปํ เอตํ มมาติอาทีสุ เอตํ มมาติ ตณฺหาคฺคาโห. เอโสหมสฺมีติ มานคฺคาโห. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิคฺคาโห. เอวํ รูปารมฺมณา ตณฺหามานทิฏฺิโย กถิตา โหนฺติ. รูปํ ปน อตฺตาติ น วตฺตพฺพํ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. ทิฏฺํ รูปายตนํ, สุตํ สทฺทายตนํ ¶ , มุตํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ, ตฺหิ ปตฺวา คเหตพฺพโต มุตนฺติ วุตฺตํ. อวเสสานิ สตฺตายตนานิ วิฺาตํ นาม. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. โลกสฺมิฺหิ ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา โนปตฺตมฺปิ. อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา โนปตฺตมฺปิ. ตตฺถ ปริเยสิตฺวา ปตฺตํ ปตฺตํ นาม. ปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ ปริเยสิตํ นาม. อปริเยสิตฺวา ปตฺตฺจ, อปริเยสิตฺวา โนปตฺตฺจ มนสานุวิจริตํ นาม.
อถ วา ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ ปตฺตฏฺเน ปตฺตํ นาม. ปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ ปริเยสิตํ นาม. อปริเยสิตฺวา โนปตฺตํ มนสานุวิจริตํ นาม. สพฺพํ วา เอตํ มนสา อนุวิจริตตฺตา มนสานุวิจริตํ นาม. อิมินา วิฺาณารมฺมณา ตณฺหามานทิฏฺิโย กถิตา, เทสนาวิลาเสน เหฏฺา ทิฏฺาทิอารมฺมณวเสน วิฺาณํ ทสฺสิตํ ¶ . ยมฺปิ ตํ ทิฏฺิฏฺานนฺติ ยมฺปิ เอตํ โส โลโกติอาทินา นเยน ปวตฺตํ ทิฏฺิฏฺานํ.
โส โลโก โส อตฺตาติ ยา เอสา ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา ทิฏฺิ โลโก จ อตฺตา จาติ คณฺหาติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส เปจฺจ ภวิสฺสามีติ โส อหํ ปรโลกํ คนฺตฺวา นิจฺโจ ภวิสฺสามิ, ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม ภวิสฺสามิ, สิเนรุมหาปถวีมหาสมุทฺทาทีหิ สสฺสตีหิ สมํ ตเถว สฺสามิ. ตมฺปิ เอตํ มมาติ ตมฺปิ ¶ ทสฺสนํ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ สมนุปสฺสติ. อิมินา ทิฏฺารมฺมณา ตณฺหามานทิฏฺิโย กถิตา. วิปสฺสนาย ปฏิวิปสฺสนากาเล วิย ปจฺฉิมทิฏฺิยา ปุริมทิฏฺิคฺคหณกาเล เอวํ โหติ.
สุกฺกปกฺเข รูปํ เนตํ มมาติ รูเป ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหา ปฏิกฺขิตฺตา. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. สมนุปสฺสตีติ อิมสฺส ปน ปทสฺส ตณฺหาสมนุปสฺสนา มานสมนุปสฺสนา ทิฏฺิสมนุปสฺสนา าณสมนุปสฺสนาติ จตสฺโส สมนุปสฺสนาติ อตฺโถ. ตา กณฺหปกฺเข ติสฺสนฺนํ สมนุปสฺสนานํ, สุกฺกปกฺเข าณสมนุปสฺสนาย วเสน เวทิตพฺพา. อสติ น ปริตสฺสตีติ อวิชฺชมาเน ภยปริตสฺสนาย ตณฺหาปริตสฺสนาย วา น ปริตสฺสติ. อิมินา ภควา อชฺฌตฺตกฺขนฺธวินาเส อปริตสฺสมานํ ขีณาสวํ ทสฺเสนฺโต เทสนํ มตฺถกํ ปาเปสิ.
๒๔๒. เอวํ ¶ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขูติ เอวํ ภควตา วุตฺเต อฺตโร อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ – ‘‘ภควตา อชฺฌตฺตกฺขนฺธวินาเส อปริตสฺสนฺตํ ขีณาสวํ ทสฺเสตฺวา เทสนา นิฏฺาปิตา, อชฺฌตฺตํ อปริตสฺสนฺเต โข ปน สติ อชฺฌตฺตํ ปริตสฺสเกน พหิทฺธา ปริกฺขารวินาเส ปริตสฺสเกน อปริตสฺสเกน จาปิ ภวิตพฺพํ. อิติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ อยํ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ จินฺเตตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ภควนฺตํ เอตทโวจ. พหิทฺธา อสตีติ พหิทฺธา ปริกฺขารวินาเส. อหุ วต เมติ อโหสิ วต เม ภทฺทกํ ยานํ วาหนํ หิรฺํ สุวณฺณนฺติ อตฺโถ. ตํ วต เม นตฺถีติ ตํ วต อิทานิ มยฺหํ นตฺถิ, ราชูหิ วา โจเรหิ วา หฏํ, อคฺคินา วา ทฑฺฒํ, อุทเกน วา วุฬฺหํ, ปริโภเคน ¶ วา ชิณฺณํ. สิยา วต เมติ ภเวยฺย วต มยฺหํ ยานํ วาหนํ หิรฺํ สุวณฺณํ สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม. ตํ วตาหํ น ลภามีติ ตมหํ อลภมาโน ตทนุจฺฉวิกํ กมฺมํ อกตฺวา นิสินฺนตฺตา อิทานิ น ลภามีติ โสจติ, อยํ อคาริยโสจนา, อนคาริยสฺส ปตฺตจีวราทีนํ วเสน เวทิตพฺพา.
อปริตสฺสนาวาเร น เอวํ โหตีติ เยหิ กิเลเสหิ เอวํ ภเวยฺย, เตสํ ปหีนตฺตา น เอวํ โหติ. ทิฏฺิฏฺานาธิฏฺานปริยุฏฺานาภินิเวสานุสยานนฺติ ¶ ทิฏฺีนฺจ ทิฏฺิฏฺานานฺจ ทิฏฺาธิฏฺานานฺจ ทิฏฺิปริยุฏฺานานฺจ อภินิเวสานุสยานฺจ. สพฺพสงฺขารสมถายาติ นิพฺพานตฺถาย. นิพฺพานฺหิ อาคมฺม สพฺพสงฺขาราอิฺชิตานิ, สพฺพสงฺขารจลนานิ สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ, ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ตเทว จ อาคมฺม ขนฺธูปธิ กิเลสูปธิ อภิสงฺขารูปธิ, ปฺจกามคุณูปธีติ อิเม อุปธโย ปฏินิสฺสชฺชิยนฺติ, ตณฺหา ขียติ วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ, ‘‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. นิพฺพานายาติ อยํ ปนสฺส สรูปนิทฺเทโส, อิติ สพฺเพเหว อิเมหิ ปเทหิ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยตฺถาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาติ อยมตฺโถ ทีปิโต. ตสฺเสวํ โหตีติ ตสฺส ทิฏฺิคติกสฺส อุจฺฉิชฺชิสฺสามิ นามสฺสุ, วินสฺสิสฺสามิ นามสฺสุ, นาสฺสุ นาม ภวิสฺสามีติ เอวํ โหติ. ทิฏฺิคติกสฺส หิ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สฺุตาปฏิสํยุตฺตํ กตฺวา เทสิยมานํ ธมฺมํ สุณนฺตสฺส ตาโส อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตาโส เหโส, ภิกฺขเว, อสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส โน จสฺสํ, โน จ เม สิยา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๕).
๒๔๓. เอตฺตาวตา ¶ พหิทฺธาปริกฺขารวินาเส ตสฺสนกสฺส จ โนตสฺสนกสฺส จ อชฺฌตฺตกฺขนฺธวินาเส ตสฺสนกสฺส จ โนตสฺสนกสฺส จาติ อิเมสํ วเสน จตุกฺโกฏิกา สฺุตา กถิตา. อิทานิ พหิทฺธา ปริกฺขารํ ปริคฺคหํ นาม กตฺวา, วีสติวตฺถุกํ สกฺกายทิฏฺึ อตฺตวาทุปาทานํ นาม กตฺวา, สกฺกายทิฏฺิปมุขา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺินิสฺสยํ นาม กตฺวา ติโกฏิกํ สฺุตํ ทสฺเสตุํ ตํ, ภิกฺขเว, ปริคฺคหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปริคฺคหนฺติ พหิทฺธา ปริกฺขารํ. ปริคฺคณฺเหยฺยาถาติ ยถา วิฺู มนุสฺโส ปริคฺคณฺเหยฺย ¶ . อหมฺปิ โข ตํ, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ น ปสฺสถ, อหมฺปิ น ปสฺสามิ, อิติ เอวรูโป ปริคฺคโห นตฺถีติ ทสฺเสติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๔๔. เอวํ ติโกฏิกํ สฺุตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อชฺฌตฺตกฺขนฺเธ อตฺตาติ พหิทฺธา ปริกฺขาเร อตฺตนิยนฺติ กตฺวา ทฺวิโกฏิกํ ทสฺเสนฺโต อตฺตนิ วา, ภิกฺขเว, สตีติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ, ภิกฺขเว, อตฺตนิ วา สติ อิทํ เม ปริกฺขารชาตํ อตฺตนิยนฺติ อสฺส, อตฺตนิเยว วา ปริกฺขาเร สติ อยํ เม อตฺตา อิมสฺส ปริกฺขารสฺส สามีติ, เอวํ อหนฺติ. สติ มมาติ, มมาติ สติ อหนฺติ ยุตฺตํ ภเวยฺย. สจฺจโตติ ภูตโต, เถตโตติ ตถโต ถิรโต วา.
อิทานิ อิเม ปฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ เอวํ ติปริวฏฺฏวเสน อคฺคณฺหนฺโต อยํ อริฏฺโ วิย มยฺหํ สาสเน กลลํ กจวรํ ปกฺขิปตีติ ทสฺเสนฺโต ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วาติอาทิมาห. ตตฺถ อนิจฺจํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, ยสฺมา หุตฺวา น โหติ, ตสฺมา อนิจฺจํ. อุปฺปาทวยวตฺติโต วิปริณามตาวกาลิกนิจฺจปฏิกฺเขปฏฺเน วาติ จตูหิ การเณหิ อนิจฺจํ. ทุกฺขํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขํ, สนฺตาปทุกฺขมทุกฺขวตฺถุกสุขปฏิกฺเขปฏฺเน วาติ จตูหิ การเณหิ ทุกฺขํ. วิปริณามธมฺมนฺติ ภวสงฺกนฺติอุปคมนสภาวํ ปกติภาววิชหนสภาวํ. กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ ยุตฺตํ นุ โข ตํ อิเมสํ ติณฺณํ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาหานํ วเสน อหํ มมาติ เอวํ คเหตุํ. โน เหตํ, ภนฺเตติ อิมินา เต ภิกฺขู อวสวตฺตนากาเรน รูปํ, ภนฺเต, อนตฺตาติ ปฏิชานนฺติ. สฺุอสฺสามิกอนิสฺสรอตฺตปฏิกฺเขปฏฺเน วาติ จตูหิ การเณหิ อนตฺตา.
ภควา ¶ หิ กตฺถจิ อนิจฺจวเสน อนตฺตตฺตํ ทสฺเสติ, กตฺถจิ ทุกฺขวเสน, กตฺถจิ อุภยวเสน. ‘‘จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย, ตํ น อุปปชฺชติ, จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ. ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปฺายติ, อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จาติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติ, ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ จกฺขุ อตฺตาติ โย วเทยฺย, อิติ จกฺขุ อนตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๒๒) อิมสฺมิฺหิ ฉฉกฺกสุตฺเต ¶ อนิจฺจวเสน อนตฺตตํ ทสฺเสติ. ‘‘รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว ¶ , อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺย, ลพฺเภถ จ รูเป ‘เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, รูปํ อนตฺตา, ตสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตติ, น จ ลพฺภติ รูเป ‘เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’’’ติ (มหาว. ๒๐; สํ. นิ. ๓.๕๙) อิมสฺมึ อนตฺตลกฺขณสุตฺเต ทุกฺขวเสน อนตฺตตํ ทสฺเสติ. ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา, ยทนตฺตา ตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๗๖) อิมสฺมึ อรหตฺตสุตฺเต อุภยวเสน อนตฺตตํ ทสฺเสติ. กสฺมา? อนิจฺจํ ทุกฺขฺจ ปากฏํ. อนตฺตาติ น ปากฏํ.
ปริโภคภาชนาทีสุ หิ ภินฺเนสุ อโห อนิจฺจนฺติ วทนฺติ, อโห อนตฺตาติ วตฺตา นาม นตฺถิ. สรีเร คณฺฑปิฬกาทีสุ วา อุฏฺิตาสุ กณฺฏเกน วา วิทฺธา อโห ทุกฺขนฺติ วทนฺติ, อโห อนตฺตาติ ปน วตฺตา นาม นตฺถิ. กสฺมา? อิทฺหิ อนตฺตลกฺขณํ นาม อวิภูตํ ทุทฺทสํ ทุปฺปฺาปนํ. เตน ตํ ภควา อนิจฺจวเสน วา ทุกฺขวเสน วา อุภยวเสน วา ทสฺเสติ. ตยิทํ อิมสฺมิมฺปิ เตปริวฏฺเฏ อนิจฺจทุกฺขวเสเนว ทสฺสิตํ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตสฺมา ติห, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ยสฺมา เอตรหิ อฺทาปิ รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, ตสฺมาติ อตฺโถ. ยํกิฺจิ รูปนฺติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค ขนฺธนิทฺเทเส วิตฺถาริตาเนว.
๒๔๕. นิพฺพินฺทตีติ อุกฺกณฺติ. เอตฺถ จ นิพฺพิทาติ วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา อธิปฺเปตา. วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาย หิ พหูนิ นามานิ. เอสา หิ กตฺถจิ สฺคฺคนฺติ วุตฺตา. กตฺถจิ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ. กตฺถจิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ. กตฺถจิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ ¶ . กตฺถจิ ตมฺมยตาปริยาทานนฺติ. กตฺถจิ ตีหิ นาเมหิ. กตฺถจิ ทฺวีหีติ.
ตตฺถ โปฏฺปาทสุตฺเต ตาว ‘‘สฺา โข, โปฏฺปาท, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๑๖) เอวํ สฺคฺคนฺติ วุตฺตา. สุสิมสุตฺเต ‘‘ปุพฺเพ โข, สุสิม, ธมฺมฏฺิติาณํ ¶ , ปจฺฉา นิพฺพาเน าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๗๐) เอวํ ¶ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ วุตฺตา. ทสุตฺตรสุตฺเต ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิปธานิยงฺค’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) เอวํ ปาริสุทฺธิปทานิยงฺคนฺติ วุตฺตา. รถวินีเต ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๗) เอวํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุตฺตา. สฬายตนวิภงฺเค ‘‘อตมฺมยตํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อตมฺมยตํ อาคมฺม ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา, ตํ นิสฺสาย ตํ อาคมฺม เอวเมติสฺสา ปหานํ โหติ, เอวเมติสฺสา สมติกฺกโม โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๐) เอวํ ตมฺมยตาปริยาทานนฺติ วุตฺตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘ยา จ มฺุจิตุกมฺยตา, ยา จ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา, ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๔) เอวํ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตา. ปฏฺาเน ‘‘อนุโลมํ โคตฺรภุสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, อนุโลมํ โวทานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) เอวํ ทฺวีหิ นาเมหิ วุตฺตา. อิมสฺมึ ปน อลคทฺทสุตฺเต นิพฺพินฺทตีติ นิพฺพิทานาเมน อาคตา.
นิพฺพิทา วิรชฺชตีติ เอตฺถ วิราโคติ มคฺโค วิราคา วิมุจฺจตีติ เอตฺถ วิราเคน มคฺเคน วิมุจฺจตีติ ผลํ กถิตํ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตีติ อิธ ปจฺจเวกฺขณา กถิตา.
เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส ยถาภูเตหิ ปฺจหิ การเณหิ นามํ คณฺหนฺโต อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. อวิชฺชาติ วฏฺฏมูลิกา อวิชฺชา. อยฺหิ ทุรุกฺขิปนฏฺเน ปลิโฆติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺส อุกฺขิตฺตตฺตา อุกฺขิตฺตปลิโฆติ วุตฺโต. ตาลาวตฺถุกตาติ สีสจฺฉินฺนตาโล วิย กตา, สมูลํ วา ตาลํ อุทฺธริตฺวา ตาลสฺส วตฺถุ วิย กตา, ยถา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปุน โส ตาโล น ปฺายติ, เอวํ ปุน อปฺตฺติภาวํ ¶ นีตาติ อตฺโถ. โปโนพฺภวิโกติ ปุนพฺภวทายโก. ชาติสํสาโรติอาทีสุ ชายนวเสน เจว สํสรณวเสน จ เอวํ ลทฺธนามานํ ปุนพฺภวขนฺธานํ ปจฺจโย กมฺมาภิสงฺขาโร. โส หิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติกรณวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตตฺตา ปริกฺขาติ วุจฺจติ, เตเนส ตสฺสา สํกิณฺณตฺตา วิกิณฺณตฺตา สํกิณฺณปริกฺโขติ ¶ วุตฺโต. ตณฺหาติ ¶ วฏฺฏมูลิกา ตณฺหา. อยฺหิ คมฺภีรานุคตฏฺเน เอสิกาติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อพฺพูฬฺหตฺตา ลฺุจิตฺวา ฉฑฺฑิตตฺตา อพฺพูฬฺเหสิโกติ วุตฺโต. โอรมฺภาคิยานีติ โอรํ ภชนกานิ กามภเว อุปปตฺติปจฺจยานิ. เอตานิ หิ กวาฏํ วิย นครทฺวารํ จิตฺตํ ปิทหิตฺวา ิตตฺตา อคฺคฬาติ วุจฺจนฺติ. เตเนส เตสํ นิรากตตฺตา ภินฺนตฺตา นิรคฺคโฬติ วุตฺโต. อริโยติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ. ปนฺนทฺธโชติ ปติตมานทฺธโช. ปนฺนภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภารปฺจกามคุณภารา ปนฺนา โอโรหิตา อสฺสาติ ปนฺนภาโร. อปิจ อิธ มานภารสฺเสว โอโรปิตตฺตา ปนฺนภาโรติ อธิปฺเปโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ จ วิสํยุตฺโต. อิธ ปน มานสํโยเคเนว วิสํยุตฺตตฺตา วิสํยุตฺโตติ อธิปฺเปโต. อสฺมิมาโนติ รูเป อสฺมีติ มาโน, เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ… วิฺาเณ อสฺมีติ มาโน.
เอตฺตาวตา ภควตา มคฺเคน กิเลเส เขเปตฺวา นิโรธสยนวรคตสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหรโต ขีณาสวสฺส กาโล ทสฺสิโต. ยถา หิ ทฺเว นครานิ เอกํ โจรนครํ, เอกํ เขมนครํ. อถ เอกสฺส มหาโยธสฺส เอวํ ภเวยฺย – ‘‘ยาวิมํ โจรนครํ ติฏฺติ, ตาว เขมนครํ ภยโต น มุจฺจติ, โจรนครํ อนครํ กริสฺสามี’’ติ สนฺนาหํ กตฺวา ขคฺคํ คเหตฺวา โจรนครํ อุปสงฺกมิตฺวา นครทฺวาเร อุสฺสาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ ขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา สทฺวารพาหกํ กวาฏํ ฉินฺทิตฺวา ปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริกฺขํ สํกิริตฺวา นครโสภนตฺถาย อุสฺสิเต ธเช ปาเตตฺวา นครํ อคฺคินา ฌาเปตฺวา เขมนครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห าติคณปริวุโต สุรสโภชนํ ภฺุเชยฺย, เอวํ โจรนครํ วิย สกฺกาโย, เขมนครํ วิย นิพฺพานํ, มหาโยโธ วิย โยคาวจโร. ตสฺเสวํ โหติ, ‘‘ยาว สกฺกายวฏฺฏํ วตฺตติ, ตาว ทฺวตฺตึสกมฺมการณอฏฺนวุติโรคปฺจวีสติมหาภเยหิ ปริมุจฺจนํ นตฺถี’’ติ. โส มหาโยโธ วิย สนฺนาหํ สีลสนฺนาหํ กตฺวา, ปฺาขคฺคํ คเหตฺวา ขคฺเคน เอสิกตฺถมฺเภ วิย อรหตฺตมคฺเคน ตณฺเหสิกํ ลฺุจิตฺวา, โส โยโธ สทฺวารพาหกํ นครกวาฏํ ¶ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนคฺคฬํ อุคฺฆาเฏตฺวา, โส โยโธ ปลิฆํ วิย, อวิชฺชาปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา ¶ , โส โยโธ ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริกฺขํ วิย กมฺมาภิสงฺขารํ ¶ ภินฺทนฺโต ชาติสํสารปริกฺขํ สํกิริตฺวา, โส โยโธ นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช วิย มานทฺธเช ปาเตตฺวา สกฺกายนครํ ฌาเปตฺวา, โส โยโธ เขมนคเร อุปริปาสาเท สุรสโภชนํ วิย กิเลสนิพฺพานํ นครํ ปวิสิตฺวา อมตนิโรธารมฺมณํ ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน กาลํ วีตินาเมติ.
๒๔๖. อิทานิ เอวํ วิมุตฺตจิตฺตสฺส ขีณาสวสฺส ปเรหิ อนธิคมนียวิฺาณตํ ทสฺเสนฺโต เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ โขติอาทิมาห. ตตฺถ อนฺเวสนฺติ อนฺเวสนฺตา คเวสนฺตา. อิทํ นิสฺสิตนฺติ อิทํ นาม นิสฺสิตํ. ตถาคตสฺสาติ เอตฺถ สตฺโตปิ ตถาคโตติ อธิปฺเปโต, อุตฺตมปุคฺคโล ขีณาสโวปิ. อนนุวิชฺโชติ อสํวิชฺชมาโน วา อวินฺเทยฺโย วา. ตถาคโตติ หิ สตฺเต คหิเต อสํวิชฺชมาโนติ อตฺโถ วฏฺฏติ, ขีณาสเว คหิเต อวินฺเทยฺโยติ อตฺโถ วฏฺฏติ.
ตตฺถ ปุริมนเย อยมธิปฺปาโย – ภิกฺขเว, อหํ ทิฏฺเว ธมฺเม ธรมานกํเยว ขีณาสวํ ตถาคโต สตฺโต ปุคฺคโลติ น ปฺเปมิ. อปฺปฏิสนฺธิกํ ปน ปรินิพฺพุตํ ขีณาสวํ สตฺโตติ วา ปุคฺคโลติ วา กึ ปฺเปสฺสามิ? อนนุวิชฺโช ตถาคโต. น หิ ปรมตฺถโต สตฺโต นาม โกจิ อตฺถิ, ตสฺส อวิชฺชมานสฺส อิทํ นิสฺสิตํ วิฺาณนฺติ อนฺเวสนฺตาปิ กึ อธิคจฺฉิสฺสนฺติ? กถํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยนเย อยมธิปฺปาโย – ภิกฺขเว, อหํ ทิฏฺเว ธมฺเม ธรมานกํเยว ขีณาสวํ วิฺาณวเสน อินฺทาทีหิ อวินฺทิยํ วทามิ. น หิ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อนฺเวสนฺตาปิ ขีณาสวสฺส วิปสฺสนาจิตฺตํ วา มคฺคจิตฺตํ วา ผลจิตฺตํ วา, อิทํ นาม อารมฺมณํ นิสฺสาย วตฺตตีติ ชานิตุํ สกฺโกนฺติ. เต อปฺปฏิสนฺธิกสฺส ปรินิพฺพุตสฺส กึ ชานิสฺสนฺตีติ?
อสตาติ อสนฺเตน. ตุจฺฉาติ ตุจฺฉเกน. มุสาติ มุสาวาเทน. อภูเตนาติ ยํ นตฺถิ, เตน. อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิอาจิกฺขนฺติ, อภิภวิตฺวา วทนฺติ. เวนยิโกติ วินยติ วินาเสตีติ วินโย, โส เอว เวนยิโก, สตฺตวินาสโกติ ¶ อธิปฺปาโย. ยถา จาหํ น, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เยน วากาเรน อหํ น สตฺตวินาสโก. ยถา จาหํ น วทามีติ เยน วา ¶ การเณน อหํ สตฺตวินาสํ น ปฺเปมิ ¶ . อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาหํ น สตฺตวินาสโก, ยถา จ น สตฺตวินาสํ ปฺเปมิ, ตถา มํ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ‘‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’’ติ วทนฺตา สตฺตวินาสโก สมโณ โคตโมติ จ, ‘‘สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปตี’’ติ วทนฺตา สตฺตวินาสํ ปฺเปตีติ จ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตีติ.
ปุพฺเพ จาติ ปุพฺเพ มหาโพธิมณฺฑมฺหิเยว จ. เอตรหิ จาติ เอตรหิ ธมฺมเทสนายฺจ. ทุกฺขฺเจว ปฺเปมิ, ทุกฺขสฺส จ นิโรธนฺติ ธมฺมจกฺกํ อปฺปวตฺเตตฺวา โพธิมณฺเฑ วิหรนฺโตปิ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ จตุสจฺจเมว ปฺเปมีติ อตฺโถ. เอตฺถ หิ ทุกฺขคฺคหเณน ตสฺส มูลภูโต สมุทโย, นิโรธคฺคหเณน ตํสมฺปาปโก มคฺโค คหิโตว โหตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺร เจติ ตสฺมึ จตุสจฺจปฺปกาสเน. ปเรติ สจฺจานิ อาชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสมตฺถปุคฺคลา. อกฺโกสนฺตีติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ วาจาย ปริภาสนฺติ. โรเสนฺติ วิเหเสนฺตีติ โรเสสฺสาม วิเหเสสฺสามาติ อธิปฺปาเยน ฆฏฺเฏนฺติ ทุกฺขาเปนฺติ. ตตฺราติ เตสุ อกฺโกสาทีสุ, เตสุ วา ปรปุคฺคเลสุ. อาฆาโตติ โกโป. อปฺปจฺจโยติ โทมนสฺสํ. อนภิรทฺธีติ อตุฏฺิ.
ตตฺร เจติ จตุสจฺจปฺปกาสเนเยว. ปเรติ จตุสจฺจปฺปกาสนํ อาชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถปุคฺคลา. อานนฺโทติ อานนฺทปีติ. อุปฺปิลาวิตตฺตนฺติ อุปฺปิลาปนปีติ. ตตฺร เจติ จตุสจฺจปฺปกาสนมฺหิเยว. ตตฺราติ สกฺการาทีสุ. ยํ โข อิทํ ปุพฺเพ ปริฺาตนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ ปุพฺเพ โพธิมณฺเฑ ตีหิ ปริฺาหิ ปริฺาตํ. ตตฺถเมติ ตสฺมึ ขนฺธปฺจเก อิเม. กึ วุตฺตํ โหติ? ตตฺราปิ ตถาคตสฺส อิเม สกฺการา มยิ กรียนฺตีติ วา อหํ เอเต อนุภวามีติ วา น โหติ. ปุพฺเพ ปริฺาตกฺขนฺธปฺจกํเยว เอเต สกฺกาเร อนุโภตีติ เอตฺตกเมว โหตีติ. ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสมตฺถา ตถาคตมฺปิ อกฺโกสนฺติ, ตสฺมา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๔๗. ตสฺมา ติห ¶ , ภิกฺขเว, ยํ น ตุมฺหากนฺติ ยสฺมา อตฺตนิเยปิ ฉนฺทราคปฺปหานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ยํ น ตุมฺหากํ, ตํ ปชหถาติ อตฺโถ. ยถาปจฺจยํ วา ¶ กเรยฺยาติ ยถา ยถา อิจฺเฉยฺย ตถา ตถา กเรยฺย. น หิ โน เอตํ, ภนฺเต, อตฺตา วาติ, ภนฺเต, เอตํ ติณกฏฺสาขาปลาสํ อมฺหากํ เนว อตฺตา น อมฺหากํ รูปํ น วิฺาณนฺติ วทนฺติ. อตฺตนิยํ วาติ อมฺหากํ จีวราทิปริกฺขาโรปิ น โหตีติ อตฺโถ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ น ตุมฺหากํ ตํ ปชหถาติ ภควา, ขนฺธปฺจกํเยว น ตุมฺหากนฺติ ทสฺเสตฺวา ปชหาเปติ, ตฺจ โข น อุปฺปาเฏตฺวา, ลฺุจิตฺวา วา. ฉนฺทราควินเยน ปเนตํ ปชหาเปติ.
๒๔๘. เอวํ สฺวากฺขาโตติ เอตฺถ ติปริวฏฺฏโต ปฏฺาย ยาว อิมํ านํ อาหริตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปฏิโลเมน เปมมตฺตเกน สคฺคปรายณโต ปฏฺาย ยาว อิมํ านํ อาหริตุมฺปิ วฏฺฏติ. สฺวากฺขาโตติ สุกถิโต. สุกถิตตฺตา เอว อุตฺตาโน วิวโฏ ปกาสิโต. ฉินฺนปิโลติโกติ ปิโลติกา วุจฺจติ ฉินฺนํ ภินฺนํ ตตฺถ ตตฺถ สิพฺพิตํ คณฺิกตํ ชิณฺณํ วตฺถํ, ตํ ยสฺส นตฺถิ, อฏฺหตฺถํ วา นวหตฺถํ วา อหตสาฏกํ นิวตฺโถ, โส ฉินฺนปิโลติโก นาม. อยมฺปิ ธมฺโม ตาทิโส, น เหตฺถ โกหฺาทิวเสน ฉินฺนภินฺนสิพฺพิตคณฺิกตภาโว อตฺถิ. อปิจ กจวโร ปิโลติโกติ วุจฺจติ. อิมสฺมิฺจ สาสเน สมณกจวรํ นาม ปติฏฺาตุํ น ลภติ. เตเนวาห –
‘‘การณฺฑวํ นิทฺธมถ, กสมฺพฺุจาปกสฺสถ;
ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน.
นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร;
สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’ติ. (สุ. นิ. ๒๘๓-๒๘๕);
อิติ สมณกจวรสฺส ฉินฺนตฺตาปิ อยํ ธมฺโม ฉินฺนปิโลติโก นาม โหติ. วฏฺฏํ ¶ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนายาติ เตสํ วฏฺฏํ อปฺตฺติภาวํ คตํ นิปฺปฺตฺติกํ ชาตํ. เอวรูโป มหาขีณาสโว เอวํ สฺวากฺขาเต สาสเนเยว อุปฺปชฺชติ. ยถา จ ขีณาสโว, เอวํ อนาคามิอาทโยปิ.
ตตฺถ ¶ ¶ ธมฺมานุสาริโน สทฺธานุสาริโนติ อิเม ทฺเว โสตาปตฺติมคฺคฏฺา โหนฺติ. ยถาห – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี, ผเล ิโต ทิฏฺิปฺปตฺโต. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน ปุคฺคโล สทฺธานุสารี, ผเล ิโต สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๓๐). เยสํ มยิ สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตนฺติ อิมินา เยสํ อฺโ อริยธมฺโม นตฺถิ, ตถาคเต ปน สทฺธามตฺตํ เปมมตฺตเมว โหติ. เต วิปสฺสกปุคฺคลา อธิปฺเปตา. วิปสฺสกภิกฺขูนฺหิ เอวํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนานํ ทสพเล เอกา สทฺธา เอกํ เปมํ อุปฺปชฺชติ. ตาย สทฺธาย เตน เปเมน หตฺเถ คเหตฺวา สคฺเค ปิตา วิย โหนฺติ, นิยตคติกา กิร เอเต. โปราณกตฺเถรา ปน เอวรูปํ ภิกฺขุํ จูฬโสตาปนฺโนติ วทนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อลคทฺทูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วมฺมิกสุตฺตวณฺณนา
๒๔๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ วมฺมิกสุตฺตํ. ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ. กุมารกสฺสโปติ ตสฺส นามํ. กุมารกาเล ปพฺพชิตตฺตา ปน ภควตา, ‘‘กสฺสปํ ปกฺโกสถ, อิทํ ผลํ วา ขาทนียํ วา กสฺสปสฺส เทถา’’ติ วุตฺเต, กตรสฺส กสฺสปสฺสาติ กุมารกสฺสปสฺสาติ เอวํ คหิตนามตฺตา ตโต ปฏฺาย วุฑฺฒกาเลปิ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ ตฺเวว ¶ วุจฺจติ. อปิจ รฺา โปสาวนิกปุตฺตตฺตาปิ ตํ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ติ สฺชานึสุ. อยํ ปนสฺส ปุพฺพโยคโต ปฏฺาย อาวิภาวกถา –
เถโร ¶ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล เสฏฺิปุตฺโต อโหสิ. อเถกทิวสํ ภควนฺตํ จิตฺรกถึ เอกํ อตฺตโน สาวกํ านนฺตเร เปนฺตํ ทิสฺวา ภควโต สตฺตาหํ ทานํ ทตฺวา, ‘‘อหมฺปิ ภควา อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส อยํ เถโร วิย จิตฺรกถี สาวโก ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา ปฺุานิ กโรนฺโต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ.
ตทา กิร ปรินิพฺพุตสฺส ภควโต สาสเน โอสกฺกนฺเต ปฺจ ภิกฺขู นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ปพฺพตํ อภิรุยฺห สมณธมฺมํ อกํสุ. สงฺฆตฺเถโร ตติยทิวเส อรหตฺตํ ปตฺโต. อนุเถโร จตุตฺถทิวเส อนาคามี อโหสิ. อิตเร ตโย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. เตสํ เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺตานํ เอโก ตกฺกสิลายํ ราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปุกฺกุสาติ นาม ราชา หุตฺวา ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตฺวา ราชคหํ คจฺฉนฺโต กุมฺภการสาลายํ ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อนาคามิผลํ ปตฺโต. เอโก เอกสฺมึ สมุทฺทปฏฺฏเน กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา นาวํ อารุยฺห ภินฺนนาโว ทารุจีรานิ นิวาเสตฺวา ลาภสมฺปตฺตึ ปตฺโต, ‘‘อหํ อรหา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา, ‘‘น ตฺวํ อรหา, คจฺฉ สตฺถารํ ปฺหํ ปุจฺฉา’’ติ อตฺถกามาย เทวตาย โจทิโต ตถา กตฺวา อรหตฺตผลํ ปตฺโต.
เอโก ¶ ราชคเห เอกิสฺสา กุลทาริกาย กุจฺฉิมฺหิ อุปฺปนฺโน. สา จ ปมํ มาตาปิตโร ยาจิตฺวา ปพฺพชฺชํ อลภมานา กุลฆรํ คตา คพฺภสณฺิตมฺปิ อชานนฺตี สามิกํ อาราเธตฺวา เตน อนฺุาตา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา. ตสฺสา คพฺภินินิมิตฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขุนิโย เทวทตฺตํ ปุจฺฉึสุ, โส ‘‘อสฺสมณี’’ติ อาห. ทสพลํ ปุจฺฉึสุ, สตฺถา อุปาลิตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสิ. เถโร สาวตฺถินครวาสีนิ กุลานิ วิสาขฺจ อุปาสิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา โสเธนฺโต, – ‘‘ปุเร ลทฺโธ คพฺโภ, ปพฺพชฺชา อโรคา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘สุวินิจฺฉิตํ อธิกรณ’’นฺติ เถรสฺส สาธุการํ อทาสิ. สา ภิกฺขุนี ¶ สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิ, ตํ คเหตฺวา ราชา ปเสนทิ โกสโล โปสาเปสิ. ‘‘กสฺสโป’’ติ จสฺส นามํ กตฺวา อปรภาเค อลงฺกริตฺวา ¶ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิ. อิติ รฺโ โปสาวนิกปุตฺตตฺตาปิ ตํ ‘‘กุมารกสฺสโป’’ติ สฺชานึสูติ.
อนฺธวเนติ เอวํนามเก วเน. ตํ กิร วนํ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ กาเล อวิชหิตนามํ อนฺธวนํตฺเวว ปฺายติ. ตตฺรายํ ปฺตฺติวิภาวนา – อปฺปายุกพุทฺธานฺหิ สรีรธาตุ น เอกคฺฆนา โหติ. อธิฏฺานานุภาเวน วิปฺปกิริยติ. เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา, – ‘‘อหํ น จิรฏฺิติโก, อปฺปเกหิ สตฺเตหิ อหํ ทิฏฺโ, เยหิ น ทิฏฺโ, เตว พหุตรา, เต เม ธาตุโย อาทาย ตตฺถ ตตฺถ ปูเชนฺตา สคฺคปรายณา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ปรินิพฺพานกาเล, ‘‘อตฺตโน สรีรํ วิปฺปกิริยตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ทีฆายุกพุทฺธานํ ปน สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนํ ธาตุสรีรํ ติฏฺติ.
กสฺสปสฺสาปิ ภควโต ตเถว อฏฺาสิ. ตโต มหาชนา สนฺนิปติตฺวา, ‘‘ธาตุโย เอกคฺฆนา น สกฺกา วิโยเชตุํ, กึ กริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา เอกคฺฆนเมว เจติยํ กริสฺสาม, กิตฺตกํ ปน โหตุ ตนฺติ อาหํสุ. เอเก สตฺตโยชนิยนฺติ อาหํสุ. เอตํ อติมหนฺตํ, อนาคเต ชคฺคิตุํ น สกฺกา, ฉโยชนํ โหตุ, ปฺจโยชนํ… จตุโยชนํ… ติโยชนํ… ทฺวิโยชนํ… เอกโยชนํ โหตูติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อิฏฺกา กีทิสา โหนฺตูติ พาหิรนฺเต อิฏฺกา รตฺตสุวณฺณมยา เอกคฺฆนา สตสหสฺสคฺฆนิกา โหนฺตุ, อพฺภนฺตริมนฺเต ปฺาสสหสฺสคฺฆนิกา. หริตาลมโนสิลาหิ มตฺติกากิจฺจํ กยิรตุ, เตเลน อุทกกิจฺจนฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา จตฺตาริ มุขานิ จตุธา วิภชึสุ. ราชา เอกํ มุขํ คณฺหิ, ราชปุตฺโต ปถวินฺทรกุมาโร ¶ เอกํ, อมจฺจานํ เชฏฺโก หุตฺวา เสนาปติ เอกํ, ชนปทานํ เชฏฺโก หุตฺวา เสฏฺิ เอกํ.
ตตฺถ ธนสมฺปนฺนตาย ราชาปิ สุวณฺณํ นีหราเปตฺวา อตฺตนา คหิตมุเข กมฺมํ อารภิ, อุปราชาปิ, เสนาปติปิ. เสฏฺินา คหิตมุเข ปน กมฺมํ โอลียติ. ตโต ยโสรโต นาม เอโก อุปาสโก เตปิฏโก ภาณโก อนาคามี อริยสาวโก, โส กมฺมํ โอลียตีติ ตฺวา ปฺจ สกฏสตานิ ¶ โยชาเปตฺวา ชนปทํ คนฺตฺวา ‘‘กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ วีสติวสฺสสหสฺสานิ ตฺวา ปรินิพฺพุโต. ตสฺส โยชนิกํ รตนเจติยํ กยิรติ, โย ยํ ทาตุํ อุสฺสหติ สุวณฺณํ วา หิรฺํ วา สตฺตรตนํ วา หริตาลํ วา มโนสิลํ วา, โส ตํ เทตู’’ติ สมาทเปสิ. มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน ถาเมน หิรฺสุวณฺณาทีนิ อทํสุ. อสกฺโกนฺตา เตลตณฺฑุลาทีนิ เทนฺติเยว. อุปาสโก เตลตณฺฑุลาทีนิ กมฺมการานํ ภตฺตเวตนตฺถํ ปหิณาติ, อวเสเสหิ สุวณฺณํ เจตาเปตฺวา ปหิณาติ, เอวํ สกลชมฺพุทีปํ อจริ.
เจติเย กมฺมํ นิฏฺิตนฺติ เจติยฏฺานโต ปณฺณํ ปหิณึสุ – ‘‘นิฏฺิตํ กมฺมํ อาจริโย อาคนฺตฺวา เจติยํ วนฺทตู’’ติ. โสปิ ปณฺณํ ปหิณิ – ‘‘มยา สกลชมฺพุทีโป สมาทปิโต, ยํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กมฺมํ นิฏฺาเปนฺตู’’ติ. ทฺเวปิ ปณฺณานิ อนฺตรามคฺเค สมาคมึสุ. อาจริยสฺส ปณฺณโต ปน เจติยฏฺานโต ปณฺณํ ปมตรํ อาจริยสฺส หตฺถํ อคมาสิ. โส ปณฺณํ วาเจตฺวา เจติยํ วนฺทิสฺสามีติ เอกโกว นิกฺขมิ. อนฺตรามคฺเค อฏวิยํ ปฺจ โจรสตานิ อุฏฺหึสุ. ตตฺเรกจฺเจ ตํ ทิสฺวา อิมินา สกลชมฺพุทีปโต หิรฺสุวณฺณํ สมฺปิณฺฑิตํ, นิธิกุมฺภี โน ปวฏฺฏมานา อาคตาติ อวเสสานํ อาโรเจตฺวา ตํ อคฺคเหสุํ. กสฺมา ตาตา, มํ คณฺหถาติ? ตยา สกลชมฺพุทีปโต สพฺพํ หิรฺสุวณฺณํ สมฺปิณฺฑิตํ, อมฺหากมฺปิ โถกํ โถกํ เทหีติ. กึ ตุมฺเห น ชานาถ, กสฺสโป ภควา ปรินิพฺพุโต, ตสฺส โยชนิกํ รตนเจติยํ กยิรติ, ตทตฺถาย มยา สมาทปิตํ, โน อตฺตโน อตฺถาย. ตํ ตํ ลทฺธลทฺธฏฺานโต ตตฺเถว เปสิตํ, มยฺหํ ปน นิวตฺถสาฏกมตฺตํ เปตฺวา อฺํ วิตฺตํ กากณิกมฺปิ นตฺถีติ.
เอเก, ‘‘เอวเมตํ วิสฺสเชถ อาจริย’’นฺติ อาหํสุ. เอเก, ‘‘อยํ ราชปูชิโต อมจฺจปูชิโต ¶ , อมฺเหสุ กฺจิเทว นครวีถิยํ ทิสฺวา ราชราชมหามตฺตาทีนํ อาโรเจตฺวา อนยวฺยสนํ ปาปุณาเปยฺยา’’ติ อาหํสุ. อุปาสโก, ‘‘ตาตา, นาหํ เอวํ กริสฺสามี’’ติ อาห. ตฺจ โข เตสุ การฺุเน, น อตฺตโน ชีวิตนิกนฺติยา. อถ เตสุ คเหตพฺโพ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ วิวทนฺเตสุ คเหตพฺโพติ ลทฺธิกา เอว พหุตรา หุตฺวา ชีวิตา โวโรปยึสุ.
เตสํ ¶ ¶ พลวคุเณ อริยสาวเก อปราเธน นิพฺพุตทีปสิขา วิย อกฺขีนิ อนฺตรธายึสุ. เต, ‘‘กหํ โภ จกฺขุ, กหํ โภ จกฺขู’’ติ วิปฺปลปนฺตา เอกจฺเจ าตเกหิ เคหํ นีตา. เอกจฺเจ โนาตกา อนาถาติ ตตฺเถว อฏวิยํ รุกฺขมูเล ปณฺณสาลายํ วสึสุ. อฏวึ อาคตมนุสฺสา การฺุเน เตสํ ตณฺฑุลํ วา ปุฏภตฺตํ วา ปริพฺพยํ วา เทนฺติ. ทารุปณฺณาทีนํ อตฺถาย คนฺตฺวา อาคตา มนุสฺสา กุหึ คตตฺถาติ วุตฺเต อนฺธวนํ คตมฺหาติ วทนฺติ. เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ พุทฺธานํ กาเล ตํ วนํ อนฺธวนํตฺเวว ปฺายติ. กสฺสปพุทฺธกาเล ปเนตํ ฉฑฺฑิตชนปเท อฏวิ อโหสิ. อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถิยา อวิทูเร เชตวนสฺส ปิฏฺิภาเค ปวิเวกกามานํ กุลปุตฺตานํ วสนฏฺานํ ปธานฆรํ อโหสิ, ตตฺถ อายสฺมา กุมารกสฺสโป เตน สมเยน เสขปฏิปทํ ปูรยมาโน วิหรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺธวเน วิหรตี’’ติ.
อฺตรา เทวตาติ นามโคตฺตวเสน อปากฏา เอกา เทวตาติ อตฺโถ. ‘‘อภิชานาติ โน, ภนฺเต, ภควา อหุาตฺตรสฺส มเหสกฺขสฺส สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ภาสิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๖๕) เอตฺถ ปน อภิฺาโต สกฺโกปิ เทวราชา อฺตโรติ วุตฺโต. เทวตาติ จ อิทํ เทวานมฺปิ เทวธีตานมฺปิ สาธารณวจนํ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ เทโว อธิปฺเปโต. อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ, อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๐) ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) เอวมาทีสุ สุนฺทเร.
‘‘โก ¶ เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗) –
เอวมาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธ ปน ขเย. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ ปริกฺขีณาย ¶ รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถายํ เทวปุตฺโต มชฺฌิมยามสมนนฺตเร อาคโตติ ¶ เวทิตพฺโพ. อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเป. วณฺณสทฺโท ปน ฉวิ-ถุติ-กุลวคฺคการณ-สณฺานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ, ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ เอวมาทีสุ ฉวิยา. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ (ม. นิ. ๒.๗๗) เอวมาทีสุ ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๑๕) กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยํ ทฏฺพฺโพ. เตน อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปฉวิอิฏฺวณฺณา, มนาปวณฺณาติ วุตฺตํ โหติ. เทวตา หิ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉมานา ปกติวณฺณํ ปกติอิทฺธึ ปชหิตฺวา โอฬาริกํ อตฺตภาวํ กตฺวา อติเรกวณฺณํ อติเรกอิทฺธึ มาเปตฺวา นฏสมชฺชาทีนิ คจฺฉนฺตา มนุสฺสา วิย อภิสงฺขเตน กาเยน อาคจฺฉนฺติ. อยมฺปิ เทวปุตฺโต ตเถว อาคโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติ.
เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสส-เยภูยฺย-อพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถ-วิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส, ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ (ปารา. ๑) เอวมาทีสุ อนวเสสตฺตมตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อุปสงฺกมิสฺสนฺตี’’ติ เอวมาทีสุ เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. ๒๒๕) เอวมาทีสุ อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ (มหาว. ๒๔๔) เอวมาทีสุ อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส พาหิโย นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) เอวมาทีสุ ทฬฺหตฺถตา ¶ . ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๗) เอวมาทีสุ วิสํโยโค. อิธ ปนสฺส อนวเสสตฺตมตฺโถติ อธิปฺเปโต.
กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหน-โวหาร-กาล-ปฺตฺติ- ¶ เฉทน-วิกปฺป-เลส-สมนฺตภาวาทิ-อเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส, ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต ¶ โคตมสฺส, ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีสุ อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) เอวมาทีสุ โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๒๔) เอวมาทีสุ ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกตา กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๖๕) เอวมาทีสุ เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ (จูฬว. ๔๔๖) เอวมาทีสุ วิกปฺโป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๘๐) เอวมาทีสุ เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๙๔) เอวมาทีสุ สมนฺตภาโว. อิธ ปนสฺส สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา เกวลกปฺปํ อนฺธวนนฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต อนฺธวนนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
โอภาเสตฺวาติ วตฺถาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย จ สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ เอกสฺมึ อนฺเต, เอกสฺมึ โอกาเส อฏฺาสิ. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขู’’ติอาทิวจนมโวจ. กสฺมา ปนายํ อวนฺทิตฺวา สมณโวหาเรเนว กเถตีติ? สมณสฺาสมุทาจาเรเนว. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ อนฺตรา กามาวจเร วสิ. อหํ ปน อสฺมิ ตโต กาลโต ปฏฺาย พฺรหฺมจารี’’ติ สมณสฺาวสฺส สมุทาจรติ, ตสฺมา อวนฺทิตฺวา สมณโวหาเรเนว กเถติ. ปุพฺพสหาโย กิเรโส เทวปุตฺโต เถรสฺส. กุโต ปฏฺายาติ? กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาลโต ปฏฺาย. โย หิ ปุพฺพโยเค อาคเตสุ ปฺจสุ สหาเยสุ อนุเถโร จตุตฺถทิวเส อนาคามี อโหสีติ วุตฺโต, อยํ โส. ตทา กิร เตสุ สงฺฆตฺเถรสฺส อรหตฺเตเนว สทฺธึ อภิฺา อาคมึสุ. โส, ‘‘มยฺหํ กิจฺจํ มตฺถกํ ปตฺต’’นฺติ เวหาสํ อุปฺปติตฺวา อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อาทาย อาคนฺตฺวา, ‘‘อิมํ, อาวุโส, ปิณฺฑปาตํ ภฺุชิตฺวา อปฺปมตฺตา สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ อาห. อิตเร อาหํสุ – ‘‘น, อาวุโส, อมฺหากํ เอวํ กติกา อตฺถิ – ‘โย ปมํ ¶ วิเสสํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาหรติ, เตนาภตํ ภฺุชิตฺวา เสเสหิ ¶ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’ติ. ตุมฺเห อตฺตโน ¶ อุปนิสฺสเยน กิจฺจํ มตฺถกํ ปาปยิตฺถ. มยมฺปิ สเจ โน อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ, กิจฺจํ มตฺถกํ ปาเปสฺสาม. ปปฺโจ เอส อมฺหากํ, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ. โส ยถาผาสุกํ คนฺตฺวา อายุปริโยสาเน ปรินิพฺพายิ.
ปุนทิวเส อนุเถโร อนาคามิผลํ สจฺฉกาสิ, ตสฺส อภิฺาโย อาคมึสุ. โสปิ ตเถว ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา เตหิ ปฏิกฺขิตฺโต ยถาผาสุกํ คนฺตฺวา อายุปริโยสาเน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺติ. โส สุทฺธาวาเส ตฺวา เต สหาเย โอโลเกนฺโต, เอโก ตทาว ปรินิพฺพุโต, เอโก อธุนา ภควโต สนฺติเก อริยภูมึ ปตฺโต, เอโก ลาภสกฺการํ นิสฺสาย, ‘‘อหํ อรหา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สุปฺปารกปฏฺฏเน วสตีติ ทิสฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘น ตฺวํ อรหา, น อรหตฺตมคฺคํ ปฏิปนฺโน, คจฺฉ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณาหี’’ติ อุยฺโยเชสิ. โสปิ อนฺตรฆเร ภควนฺตํ โอวาทํ ยาจิตฺวา, ‘‘ตสฺมา ติห เต พาหิย เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ โหตู’’ติ (อุทา. ๑๐) ภควตา สํขิตฺเตน โอวทิโต อริยภูมึ สมฺปาปุณิ.
ตโต อฺโ เอโก อตฺถิ, โส กุหินฺติ โอโลเกนฺโต อนฺธวเน เสกฺขปฏิปทํ ปูรยมาโน วิหรตีติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สหายกสฺส สนฺติเก คมิสฺสามีติ, คจฺฉนฺเตน ปน ตุจฺฉหตฺเถน อคนฺตฺวา กิฺจิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ, สหาโย โข ปน เม นิรามิโส ปพฺพตมตฺถเก วสนฺโต มยา อากาเส ตฺวา ทินฺนํ ปิณฺฑปาตมฺปิ อปริภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ, อิทานิ อามิสปณฺณาการํ กึ คณฺหิสฺสติ? ธมฺมปณฺณาการํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ พฺรหฺมโลเก ิโตว รตนาวฬึ คนฺเถนฺโต วิย ปนฺนรส ปฺเห วิภชิตฺวา ตํ ธมฺมปณฺณาการํ อาทาย อาคนฺตฺวา สหายสฺส อวิทูเร ตฺวา อตฺตโน สมณสฺาสมุทาจารวเสน ตํ อนภิวาเทตฺวาว, ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขู’’ติ อาลปิตฺวา อยํ วมฺมิโกติอาทิมาห. ตตฺถ ตุริตาลปนวเสน ภิกฺขุ ภิกฺขูติ อาเมฑิตํ เวทิตพฺพํ. ยถา วา เอกเนว ติลเกน นลาฏํ น โสภติ, ตํ ปริวาเรตฺวา อฺเสุปิ ทินฺเนสุ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย โสภติ, เอวํ เอเกเนว ปเทน วจนํ น โสภติ ¶ , ปริวาริกปเทน สทฺธึ ¶ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย โสภตีติ ตํ ปริวาริกปทวเสน วจนํ ผุลฺลิตมณฺฑิตํ วิย กโรนฺโตปิ เอวมาห.
อยํ ¶ วมฺมิโกติ ปุรโต ิโต วมฺมิโก นาม นตฺถิ, เทสนาวเสน ปน ปุรโต ิตํ ทสฺเสนฺโต วิย อยนฺติ อาห. ลงฺคินฺติ สตฺถํ อาทาย ขณนฺโต ปลิฆํ อทฺทส. อุกฺขิป ลงฺคึ อภิกฺขณ สุเมธาติ ตาต, ปณฺฑิต, ลงฺคี นาม รตฺตึ ธูมายติ ทิวา ปชฺชลติ. อุกฺขิเปต ปรํ ปรโต ขณาติ. เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธุมายิกนฺติ มณฺฑูกํ. จงฺกวารนฺติ ขารปริสฺสาวนํ. กุมฺมนฺติ กจฺฉปํ. อสิสูนนฺติ มํสจฺเฉทกํ อสิฺเจว อธิกุฏฺฏนฺจ. มํสเปสินฺติ นิสทโปตปฺปมาณํ อลฺลมํสปิณฺฑํ. นาคนฺติ สุมนปุปฺผกลาปสทิสํ มหาผณํ ติวิธโสวตฺถิกปริกฺขิตฺตํ อหินาคํ อทฺทส. มา นาคํ ฆฏฺเฏสีติ ทณฺฑกโกฏิยา วา วลฺลิโกฏิยา วา ปํสุจุณฺณํ วา ปน ขิปมาโน มา นาคํ ฆฏฺฏยิ. นโม กโรหิ นาคสฺสาติ อุปริวาตโต อปคมฺม สุทฺธวตฺถํ นิวาเสตฺวา นาคสฺส นมกฺการํ กโรหิ. นาเคน อธิสยิตํ ธนํ นาม ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ขาทโต น ขียติ, นาโค เต อธิสยิตํ ธนํ ทสฺสติ, ตสฺมา นโม กโรหิ นาคสฺสาติ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ ยถา ทุกฺขกฺขนฺเธ อิโตติ สาสเน นิสฺสกํ, น ตถา อิธ. อิธ ปน เทวปุตฺเต นิสฺสกฺกํ, ตสฺมา อิโต วา ปนาติ มม วา ปน สนฺติกา สุตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
๒๕๑. จาตุมฺมหาภูติกสฺสาติ จตุมหาภูตมยสฺส. กายสฺเสตํ อธิวจนนฺติ สรีรสฺส นามํ. ยเถว หิ พาหิรโก วมฺมิโก, วมตีติ วนฺตโกติ วนฺตุสฺสโยติ วนฺตสิเนหสมฺพนฺโธติ จตูหิ การเณหิ วมฺมิโกติ วุจฺจติ. โส หิ อหิมงฺคุสอุนฺทูรฆรโคฬิกาทโย นานปฺปกาเร ปาณเก วมตีติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตโกติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วมิตฺวา มุขตุณฺฑเกน อุกฺขิตฺตปํสุจุณฺเณน กฏิปฺปมาเณนปิ โปริสปฺปมาเณนปิ อุสฺสิโตติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ ¶ วนฺตเขฬสิเนเหน อาพทฺธตาย สตฺตสตฺตาหํ เทเว วสฺสนฺเตปิ น วิปฺปกิริยติ, นิทาเฆปิ ตโต ปํสุมุฏฺึ คเหตฺวา ตสฺมึ มุฏฺินา ปีฬิยมาเน สิเนโห นิกฺขมติ, เอวํ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติ วมฺมิโก. เอวมยํ กาโยปิ, ‘‘อกฺขิมฺหา ¶ อกฺขิคูถโก’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการกํ อสุจิกลิมลํ วมตีติ วมฺมิโก. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิกนฺติปริยาทาเนน อตฺตภาวํ ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ อริเยหิ วนฺตโกติปิ วมฺมิโก. เยหิ จายํ ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสิโต นฺหารุสมฺพทฺโธ มํสาวเลปโน อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ ฉวิรฺชิโต สตฺเต วฺเจติ, ตํ สพฺพํ อริเยหิ วนฺตเมวาติ วนฺตุสฺสโยติปิ วมฺมิโก. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕) เอวํ ตณฺหาย ชนิตตฺตา ¶ อริเยหิ วนฺเตเนว ตณฺหาสิเนเหน สมฺพทฺโธ อยนฺติ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติปิ วมฺมิโก. ยถา จ วมฺมิกสฺส อนฺโต นานปฺปการา ปาณกา ตตฺเถว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, คิลานา สยนฺติ, มตา ปตนฺติ. อิติ โส เตสํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหติ. เอวํ ขตฺติยมหาสาลาทีนมฺปิ กาโย อยํ โคปิตรกฺขิโต มณฺฑิตปฺปสาธิโต มหานุภาวานํ กาโยติ อจินฺเตตฺวา ฉวินิสฺสิตา ปาณา จมฺมนิสฺสิตา ปาณา มํสนิสฺสิตา ปาณา นฺหารุนิสฺสิตา ปาณา อฏฺินิสฺสิตา ปาณา อฏฺิมิฺชนิสฺสิตา ปาณาติ เอวํ กุลคณนาย อสีติมตฺตานิ กิมิกุลสหสฺสานิ อนฺโตกายสฺมึเยว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, เคลฺเน อาตุริตานิ สยนฺติ, มตานิ ปตนฺติ, อิติ อยมฺปิ เตสํ ปาณานํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหตีติ ‘‘วมฺมิโก’’ ตฺเวว สงฺขํ คโต. เตนาห ภควา – ‘‘วมฺมิโกติ โข, ภิกฺขุ, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ.
มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺสาติ มาติโต จ ปิติโต จ นิพฺพตฺเตน มาตาเปตฺติเกน สุกฺกโสณิเตน สมฺภูตสฺส. โอทนกุมฺมาสูปจยสฺสาติ โอทเนน เจว กุมฺมาเสน จ อุปจิตสฺส วฑฺฒิตสฺส. อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺสาติ เอตฺถ อยํ กาโย หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจธมฺโม. ทุคฺคนฺธวิฆาตตฺถาย ตนุวิเลปเนน อุจฺฉาทนธมฺโม. องฺคปจฺจงฺคาพาธวิโนทนตฺถาย ขุทฺทกสมฺพาหเนน ปริมทฺทนธมฺโม. ทหรกาเล ¶ วา อูรูสุ สยาเปตฺวา คพฺภวาเสน ทุสฺสณฺิตานํ เตสํ เตสํ องฺคานํ สณฺานสมฺปาทนตฺถํ อฺฉนปีฬนาทิวเสน ปริมทฺทนธมฺโม. เอวํ ปริหรโตปิ จ เภทนวิทฺธํสนธมฺโม ภิชฺชติ เจว วิกิรติ จ, เอวํ สภาโวติ อตฺโถ. ตตฺถ ¶ มาตาเปตฺติกสมฺภวโอทนกุมฺมาสูปจยอุจฺฉาทนปริมทฺทนปเทหิ สมุทโย กถิโต, อนิจฺจเภทวิทฺธํสนปเทหิ อตฺถงฺคโม. เอวํ สตฺตหิปิ ปเทหิ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อุจฺจาวจภาโว วฑฺฒิปริหานิ สมุทยตฺถงฺคโม กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
ทิวา กมฺมนฺเตติ ทิวา กตฺตพฺพกมฺมนฺเต. ธูมายนาติ เอตฺถ อยํ ธูมสทฺโท โกเธ ตณฺหาย วิตกฺเก ปฺจสุ กามคุเณสุ ธมฺมเทสนาย ปกติธูเมติ อิเมสุ อตฺเถสุ วตฺตติ. ‘‘โกโธ ธูโม ภสฺมนิโมสวชฺช’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๖๕) เอตฺถ หิ โกเธ วตฺตติ. ‘‘อิจฺฉาธูมายิตา สตฺตา’’ติ ¶ เอตฺถ ตณฺหาย. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ ภควโต อวิทูเร ธูมายนฺโต นิสินฺโน โหตี’’ติ เอตฺถ วิตกฺเก.
‘‘ปงฺโก จ กามา ปลิโป จ กามา,
ภยฺจ เมตํ ติมูลํ ปวุตฺตํ;
รโช จ ธูโม จ มยา ปกาสิตา;
หิตฺวา ตุวํ ปพฺพช พฺรหฺมทตฺตา’’ติ. (ชา. ๑.๖.๑๔) –
เอตฺถ ปฺจกามคุเณสุ. ‘‘ธูมํ กตฺตา โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๙) เอตฺถ ธมฺมเทสนาย. ‘‘ธโช รถสฺส ปฺาณํ, ธูโม ปฺาณมคฺคิโน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๒) เอตฺถ ปกติธูเม. อิธ ปนายํ วิตกฺเก อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘อยํ รตฺตึ ธูมายนา’’ติ.
ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ตถาคโต หิ สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ นาม. ยถาห – ‘‘สตฺตนฺนํ โข, ภิกฺขุ, ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ. กตเมสํ สตฺตนฺนํ? ราโค พาหิโต โหติ, โทโส… โมโห… มาโน… สกฺกายทิฏฺิ… วิจิกิจฺฉา… สีลพฺพตปรามาโส พาหิโต โหติ. อิเมสํ ภิกฺขุ สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ พาหิตตฺตา พฺราหฺมโณ’’ติ (จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๘). สุเมโธติ สุนฺทรปฺโ. เสกฺขสฺสาติ เอตฺถ สิกฺขตีติ ¶ เสกฺโข. ยถาห – ‘‘สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขุ, ตสฺมา เสกฺโขติ วุจฺจติ. กิฺจ สิกฺขติ? อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๖).
ปฺาย ¶ อธิวจนนฺติ โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย เอตํ อธิวจนํ, น อาวุธสตฺถสฺส. วีริยารมฺภสฺสาติ กายิกเจตสิกวีริยสฺส. ตํ ปฺาคติกเมว โหติ. โลกิยาย ปฺาย โลกิยํ, โลกุตฺตราย ปฺาย โลกุตฺตรํ. เอตฺถ ปนายํ อตฺถทีปนา –
เอโก กิร ชานปโท พฺราหฺมโณ ปาโตว มาณวเกหิ สทฺธึ คามโต นิกฺขมฺม ทิวสํ อรฺเ มนฺเต วาเจตฺวา สายํ คามํ อาคจฺฉติ. อนฺตรามคฺเค จ เอโก วมฺมิโก อตฺถิ. โส รตฺตึ ¶ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติ. พฺราหฺมโณ อนฺเตวาสึ สุเมธํ มาณวํ อาห – ‘‘ตาต, อยํ วมฺมิโก รตฺตึ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติ, วิการมสฺส ปสฺสิสฺสาม, ภินฺทิตฺวา นํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ขิปาหี’’ติ. โส สาธูติ กุทาลํ คเหตฺวา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย ตถา อกาสิ. ตตฺร อาจริยพฺราหฺมโณ วิย ภควา. สุเมธมาณวโก วิย เสกฺโข ภิกฺขุ. วมฺมิโก วิย กาโย. ‘‘ตาต, อยํ วมฺมิโก รตฺตึ ธูมายติ, ทิวา ปชฺชลติ, วิการมสฺส ปสฺสิสฺสาม, ภินฺทิตฺวา นํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ขิปาหี’’ติ พฺราหฺมเณน วุตฺตกาโล วิย, ‘‘ภิกฺขุ จาตุมหาภูติกํ กายํ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ปริคฺคณฺหาหี’’ติ ภควตา วุตฺตกาโล. ตสฺส สาธูติ กุทาลํ คเหตฺวา ตถากรณํ วิย เสกฺขสฺส ภิกฺขุโน, ‘‘โย วีสติยา โกฏฺาเสสุ ถทฺธภาโว, อยํ ปถวีธาตุ. โย ทฺวาทสสุ โกฏฺาเสสุ อาพนฺธนภาโว, อยํ อาโปธาตุ. โย จตูสุ โกฏฺาเสสุ ปริปาจนภาโว, อยํ เตโชธาตุ. โย ฉสุ โกฏฺาเสสุ วิตฺถมฺภนภาโว, อยํ วาโยธาตู’’ติ เอวํ จตุธาตุววตฺถานวเสน กายปริคฺคโห เวทิตพฺโพ.
ลงฺคีติ โข, ภิกฺขูติ กสฺมา ภควา อวิชฺชํ ลงฺคีติ กตฺวา ทสฺเสสีติ? ยถา หิ นครสฺส ทฺวารํ ปิธาย ปลิเฆ โยชิเต มหาชนสฺส คมนํ ปจฺฉิชฺชติ, เย นครสฺส อนฺโต, เต อนฺโตเยว โหนฺติ. เย พหิ, เต พหิเยว. เอวเมว ยสฺส าณมุเข อวิชฺชาลงฺคี ปตติ, ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ าณคมนํ ปจฺฉิชฺชติ, ตสฺมา อวิชฺชํ ลงฺคีติ ¶ กตฺวา ทสฺเสสิ. ปชห อวิชฺชนฺติ เอตฺถ กมฺมฏฺานอุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน อวิชฺชาปหานํ กถิตํ.
อุทฺธุมายิกาติ ¶ โข, ภิกฺขูติ เอตฺถ อุทฺธุมายิกมณฺฑูโก นาม โน มหนฺโต, นขปิฏฺิปฺปมาโณ โหติ, ปุราณปณฺณนฺตเร วา คจฺฉนฺตเร วา วลฺลิอนฺตเร วา วสติ. โส ทณฺฑโกฏิยา วา วลฺลิโกฏิยา วา ปํสุจุณฺณเกน วา ฆฏฺฏิโต อายมิตฺวา มหนฺโต ปริมณฺฑโล เพลุวปกฺกปฺปมาโณ หุตฺวา จตฺตาโร ปาเท อากาสคเต กตฺวา ปจฺฉินฺนคมโน หุตฺวา อมิตฺตวสํ ยาติ, กากกุลลาทิภตฺตเมว โหติ. เอวเมว อยํ โกโธ ปมํ อุปฺปชฺชนฺโต จิตฺตาวิลมตฺตโกว โหติ. ตสฺมึ ขเณ อนิคฺคหิโต วฑฺฒิตฺวา มุขวิกุลนํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต หนุสฺโจปนํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต ผรุสวาจานิจฺฉารณํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต ทิสาวิโลกนํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต อากฑฺฒนปริกฑฺฒนํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต ปาณินา เลฑฺฑุทณฺฑสตฺถปรามสนํ ปาเปติ. ตทา อนิคฺคหิโต ทณฺฑสตฺถาภินิปาตํ ปาเปติ ¶ . ตทา อนิคฺคหิโต ปรฆาตนมฺปิ อตฺตฆาตนมฺปิ ปาเปติ. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘ยโต อยํ โกโธ ปรํ ฆาเตตฺวา อตฺตานํ ฆาเตติ, เอตฺตาวตายํ โกโธ ปรมุสฺสทคโต โหติ ปรมเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติ. ตตฺถ ยถา อุทฺธุมายิกาย จตูสุ ปาเทสุ อากาสคเตสุ คมนํ ปจฺฉิชฺชติ, อุทฺธุมายิกา อมิตฺตวสํ คนฺตฺวา กากาทิภตฺตํ โหติ, เอวเมว โกธสมงฺคีปุคฺคโล กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, อมิตฺตวสํ ยาติ, สพฺเพสํ มารานํ ยถากามกรณีโย โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘อุทฺธุมายิกาติ โข, ภิกฺขุ, โกธูปายาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ตตฺถ พลวปฺปตฺโต โกโธว โกธูปายาโส. ปชห โกธูปายาสนฺติ เอตฺถ ปฏิสงฺขานปฺปหานํ กถิตํ.
ทฺวิธาปโถติ เอตฺถ, ยถา ปุริโส สธโน สโภโค กนฺตารทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ทฺเวธาปถํ ปตฺวา, ‘‘อิมินา นุ โข คนฺตพฺพํ, อิมินา คนฺตพฺพ’’นฺติ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ติฏฺติ, อถ นํ โจรา อุฏฺหิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ, เอวเมว โข มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขุ พุทฺธาทีสุ กงฺขาย อุปฺปนฺนาย กมฺมฏฺานํ ¶ วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, อถ นํ กิเลสมาราทโย สพฺเพ มารา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ, อิติ วิจิกิจฺฉา ทฺเวธาปถสมา โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘ทฺวิธาปโถติ โข, ภิกฺขุ, วิจิกิจฺฉาเยตํ ¶ อธิวจน’’นฺติ. ปชห วิจิกิจฺฉนฺติ เอตฺถ กมฺมฏฺานอุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน วิจิกิจฺฉาปหานํ กถิตํ.
จงฺควารนฺติ เอตฺถ, ยถา รชเกหิ ขารปริสฺสาวนมฺหิ อุทเก ปกฺขิตฺเต เอโก อุทกฆโฏ ทฺเวปิ ทสปิ วีสติปิ ฆฏสตมฺปิ ปคฺฆรติเยว, ปสฏมตฺตมฺปิ อุทกํ น ติฏฺติ, เอวเมว นีวรณสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส อพฺภนฺตเร กุสลธมฺโม น ติฏฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘จงฺควารนฺติ โข, ภิกฺขุ, ปฺจนฺเนตํ นีวรณานํ อธิวจน’’นฺติ. ปชห ปฺจนีวรเณติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนตทงฺควเสน นีวรณปฺปหานํ กถิตํ.
กุมฺโมติ เอตฺถ, ยถา กจฺฉปสฺส จตฺตาโร ปาทา สีสนฺติ ปฺเจว องฺคานิ โหนฺติ, เอวเมว สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา คยฺหมานา ปฺเจว ขนฺธา ภวนฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘กุมฺโมติ โข, ภิกฺขุ, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ. ปชห ปฺจุปาทานกฺขนฺเธติ เอตฺถ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กถิตํ.
อสิสูนาติ ¶ เอตฺถ, ยถา สูนาย อุปริ มํสํ เปตฺวา อสินา โกฏฺเฏนฺติ, เอวมิเม สตฺตา วตฺถุกามตฺถาย กิเลสกาเมหิ ฆาตยมานา วตฺถุกามานํ อุปริ กตฺวา กิเลสกาเมหิ กนฺติตา โกฏฺฏิตา จ โหนฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘อสิสูนาติ โข, ภิกฺขุ, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจน’’นฺติ. ปชห ปฺจ กามคุเณติ เอตฺถ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กถิตํ.
มํสเปสีติ โข, ภิกฺขูติ เอตฺถ อยํ มํสเปสิ นาม พหุชนปตฺถิตา ขตฺติยาทโย มนุสฺสาปิ นํ ปตฺเถนฺติ กากาทโย ติรจฺฉานาปิ. อิเม หิ สตฺตา อวิชฺชาย สมฺมตฺตา นนฺทิราคํ อุปคมฺม วฏฺฏํ วฑฺเฒนฺติ. ยถา วา มํสเปสิ ปิตปิตฏฺาเน ลคฺคติ, เอวมิเม สตฺตา นนฺทิราคพทฺธา วฏฺเฏ ลคฺคนฺติ, ทุกฺขํ ปตฺวาปิ น อุกฺกณฺนฺติ ¶ , อิติ นนฺทิราโค มํสเปสิสทิโส โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘มํสเปสีติ โข, ภิกฺขุ, นนฺทิราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ปชห นนฺทีราคนฺติ เอตฺถ จตุตฺถมคฺเคน นนฺทีราคปฺปหานํ กถิตํ.
นาโคติ โข, ภิกฺขุ, ขีณาสวสฺเสตํ ภิกฺขุโน อธิวจนนฺติ เอตฺถ เยนตฺเถน ขีณาสโว นาโคติ วุจฺจติ, โส อนงฺคณสุตฺเต (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๓) ปกาสิโต เอว. นโม กโรหิ นาคสฺสาติ ขีณาสวสฺส พุทฺธนาคสฺส, ‘‘พุทฺโธ ¶ โส ภควา โพธาย ธมฺมํ เทเสติ, ทนฺโต โส ภควา ทมถาย ธมฺมํ เทเสติ, สนฺโต โส ภควา สมถาย ธมฺมํ เทเสติ, ติณฺโณ โส ภควา ตรณาย ธมฺมํ เทเสติ, ปรินิพฺพุโต โส ภควา ปรินิพฺพานาย ธมฺมํ เทเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๖๑) เอวํ นมกฺการํ กโรหีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิติ อิทํ สุตฺตํ เถรสฺส กมฺมฏฺานํ อโหสิ. เถโรปิ อิทเมว สุตฺตํ กมฺมฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อยเมตสฺส อตฺโถติ อยํ เอตสฺส ปฺหสฺส อตฺโถ. อิติ ภควา รตนราสิมฺหิ มณิกูฏํ คณฺหนฺโต วิย ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
วมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. รถวินีตสุตฺตวณฺณนา
๒๕๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ รถวินีตสุตฺตํ. ตตฺถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร, ตฺหิ มนฺธาตุมหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ราชคหนฺติ วุจฺจติ. อฺเเปตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติ. กึ เตหิ? นามเมตํ ตสฺส นครสฺส. ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ, เสสกาเล สฺุํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนฺตวนํ หุตฺวา ติฏฺติ. เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน, โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ, เตน เวฬุวนนฺติ วุจฺจติ. กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ, เตน กลนฺทกนิวาโปติ วุจฺจติ.
ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต ¶ สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ อุปคโต สุปิ. ปริชโนปิสฺส, ‘‘สุตฺโต ราชา’’ติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกามิ, อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺาภิมุโข อาคจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา, ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทมฺมี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ. ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป ¶ นิวตฺโต. โส ตํ ทิสฺวา, ‘‘อิมาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสนฺจ โฆสาเปสิ. ตสฺมา ตํ ตโต ปภุติ กลนฺทกนิวาปนฺติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ กาฬกานํ นามํ.
ชาติภูมิกาติ ชาติภูมิวาสิโน. ตตฺถ ชาติภูมีติ ชาตฏฺานํ. ตํ โข ปเนตํ เนว โกสลมหาราชาทีนํ น จงฺกีพฺราหมณาทีนํ น สกฺกสุยามสนฺตุสิตาทีนํ น อสีติมหาสาวกาทีนํ น อฺเสํ สตฺตานํ ชาตฏฺานํ ‘‘ชาติภูมี’’ติ วุจฺจติ. ยสฺส ปน ชาตทิวเส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกทฺธชมาลาวิปฺปกิณฺณกุสุมวาสจุณฺณคนฺธสุคนฺธา สพฺพปาลิผุลฺลมิว นนฺทนวนํ วิโรจมานา ปทุมินิปณฺเณ อุทกพินฺทุ วิย อกมฺปิตฺถ, ชจฺจนฺธาทีนฺจ ¶ รูปทสฺสนาทีนิ อเนกานิ ปาฏิหาริยานิ ปวตฺตึสุ, ตสฺส สพฺพฺุโพธิสตฺตสฺส ชาตฏฺานสากิยชนปโท กปิลวตฺถาหาโร, สา ‘‘ชาติภูมี’’ติ วุจฺจติ.
ธมฺมครุภาววณฺณนา
วสฺสํวุฏฺาติ เตมาสํ วสฺสํวุฏฺา ปวาริตปวารณา หุตฺวา. ภควา เอตทโวจาติ ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนีย’’นฺติอาทีหิ วจเนหิ อาคนฺตุกปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอตํ, ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนมโวจ. เต กิร ภิกฺขุ, – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิตฺถ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคตา, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิตฺถ, กุโต จ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อาคจฺฉถา’’ติ ปฏิสนฺถารวเสน ปุจฺฉิตา – ‘‘ภควา สากิยชนปเท กปิลวตฺถาหารโต ชาติภูมิโต อาคจฺฉามา’’ติ อาหํสุ. อถ ภควา เนว สุทฺโธทนมหาราชสฺส, น สกฺโกทนสฺส, น สุกฺโกทนสฺส, น โธโตทนสฺส, น อมิโตทนสฺส, น อมิตฺตาย เทวิยา, น มหาปชาปติยา, น สกลสฺส สากิยมณฺฑลสฺส อาโรคฺยํ ปุจฺฉิ. อถ โข อตฺตนา จ ทสกถาวตฺถุลาภึ ปรฺจ ตตฺถ สมาทเปตารํ ¶ ปฏิปตฺติสมฺปนฺนํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉนฺโต อิทํ – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
กสฺมา ¶ ปน ภควา สุทฺโธทนาทีนํ อาโรคฺยํ อปุจฺฉิตฺวา เอวรูปํ ภิกฺขุเมว ปุจฺฉติ? ปิยตาย. พุทฺธานฺหิ ปฏิปนฺนกา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย จ ปิยา โหนฺติ มนาปา. กึ การณา? ธมฺมครุตาย. ธมฺมครุโน หิ ตถาคตา, โส จ เนสํ ธมฺมครุภาโว, ‘‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ, อปฺปติสฺโส’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๑) อิมินา อชปาลนิคฺโรธมูเล อุปฺปนฺนชฺฌาสเยน เวทิตพฺโพ. ธมฺมครุตาเยว หิ ภควา มหากสฺสปตฺเถรสฺส อภินิกฺขมนทิวเส ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺโต ติคาวุตํ มคฺคํ อคมาสิ. อติเรกติโยชนสตํ มคฺคํ คนฺตฺวา คงฺคาตีเร ธมฺมํ เทเสตฺวา มหากปฺปินํ สปริสํ อรหตฺเต ปติฏฺเปสิ. เอกสฺมึ ปจฺฉาภตฺเต ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ มคฺคํ คนฺตฺวา กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติยามรตฺตึ ธมฺมกถํ กตฺวา ปุกฺกุสาติกุลปุตฺตํ อนาคามิผเล ปติฏฺเปสิ. วีสโยชนสตํ คนฺตฺวา วนวาสิสามเณรสฺส อนุคฺคหํ อกาสิ. สฏฺิโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา ขทิรวนิยตฺเถรสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. อนุรุทฺธตฺเถโร ปาจีนวํสทาเย นิสินฺโน มหาปุริสวิตกฺกํ วิตกฺเกตีติ ตฺวา ตตฺถ ¶ อากาเสน คนฺตฺวา เถรสฺส ปุรโต โอรุยฺห สาธุการมทาสิ. โกฏิกณฺณโสณตฺเถรสฺส เอกคนฺธกุฏิยํ เสนาสนํ ปฺปาเปตฺวา ปจฺจูสกาเล ธมฺมเทสนํ อชฺเฌสิตฺวา สรภฺปริโยสาเน สาธุการมทาสิ. ติคาวุตํ มคฺคํ คนฺตฺวา ติณฺณํ กุลปุตฺตานํ วสนฏฺาเน โคสิงฺคสาลวเน สามคฺคิรสานิสํสํ กเถสิ. กสฺสโปปิ ภควา – ‘‘อนาคามิผเล ปติฏฺิโต อริยสาวโก อย’’นฺติ วิสฺสาสํ อุปฺปาเทตฺวา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา สหตฺถา อามิสํ คเหตฺวา ปริภฺุชิ.
อมฺหากํเยว ภควา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย เชตวนโต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต จาริกํ นิกฺขมิ. โกสลมหาราชอนาถปิณฺฑิกาทโย นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึสุ. อนาถปิณฺฑิโก ฆรํ อาคนฺตฺวา โทมนสฺสปฺปตฺโต นิสีทิ. อถ นํ ปุณฺณา นาม ทาสี โทมนสฺสปฺปตฺโตสิ สามีติ อาห. ‘‘อาม เช, สตฺถารํ นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึ, อถ เม อิมํ ¶ เตมาสํ ธมฺมํ วา โสตุํ, ยถาธิปฺปายํ วา ทานํ ทาตุํ น ลภิสฺสามี’’ติ จินฺตา อุปฺปนฺนาติ. อหมฺปิ สามิ สตฺถารํ นิวตฺเตสฺสามีติ. สเจ นิวตฺเตตุํ สกฺโกสิ, ภุชิสฺสาเยว ตฺวนฺติ. สา คนฺตฺวา ทสพลสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘นิวตฺตถ ภควา’’ติ อาห. ปุณฺเณ ตฺวํ ปรปฏิพทฺธชีวิกา กึ เม กริสฺสสีติ. ภควา ¶ มยฺหํ เทยฺยธมฺโม นตฺถีติ ตุมฺเหปิ ชานาถ, ตุมฺหากํ นิวตฺตนปจฺจยา ปนาหํ ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺหิสฺสามีติ. ภควา สาธุ สาธุ ปุณฺเณติ สาธุการํ กตฺวา นิวตฺเตตฺวา เชตวนเมว ปวิฏฺโ. อยํ กถา ปากฏา อโหสิ. เสฏฺิ สุตฺวา ปุณฺณาย กิร ภควา นิวตฺติโตติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ธีตุฏฺาเน เปสิ. สา ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา ปพฺพชิ, ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิ. อถสฺสา สตฺถา อารทฺธวิปสฺสกภาวํ ตฺวา อิมํ โอภาสคาถํ วิสฺสชฺเชสิ –
‘‘ปุณฺเณ ปูเรสิ สทฺธมฺมํ, จนฺโท ปนฺนรโส ยถา;
ปริปุณฺณาย ปฺาย, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสสี’’ติ. (เถรีคา. ๓);
คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปตฺวา อภิฺาตา สาวิกา อโหสีติ. เอวํ ธมฺมครุโน ตถาคตา.
นนฺทกตฺเถเร ¶ อุปฏฺานสาลายํ ธมฺมํ เทเสนฺเตปิ ภควา อนหาโตว คนฺตฺวา ติยามรตฺตึ ิตโกว ธมฺมกถํ สุตฺวา เทสนาปริโยสาเน สาธุการมทาสิ. เถโร อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต, อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ตยา สุตฺตนฺเต อารทฺธมตฺเตติ. ทุกฺกรํ กริตฺถ, ภนฺเต, พุทฺธสุขุมาลา ตุมฺเหติ. สเจ ตฺวํ, นนฺท, กปฺปํ เทเสตุํ สกฺกุเณยฺยาสิ, กปฺปมตฺตมฺปาหํ ิตโกว สุเณยฺยนฺติ ภควา อโวจ. เอวํ ธมฺมครุโน ตถาคตา. เตสํ ธมฺมครุตาย ปฏิปนฺนกา ปิยา โหนฺติ, ตสฺมา ปฏิปนฺนเก ปุจฺฉิ. ปฏิปนฺนโก จ นาม อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โน อตฺตหิตาย, โน อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โน ปรหิตาย จ, อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน ปรหิตาย จาติ จตุพฺพิโธ โหติ.
ตตฺถ โย สยํ ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ ลาภี โหติ, ปรํ ตตฺถ น โอวทติ น อนุสาสติ อายสฺมา พากุโล ¶ วิย. อยํ อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน นาม โน ปรหิตาย ปฏิปนฺโน, เอวรูปํ ภิกฺขุํ ภควา น ปุจฺฉติ. กสฺมา? น มยฺหํ สาสนสฺส วฑฺฒิปกฺเข ิโตติ.
โย ปน ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ อลาภี, ปรํ เตหิ โอวทติ เตน กตวตฺตสาทิยนตฺถํ อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต วิย, อยํ ปรหิตาย ปฏิปนฺโน ¶ นาม โน อตฺตหิตาย, เอวรูปมฺปิ น ปุจฺฉติ. กสฺมา? อสฺส ตณฺหา มหาปจฺฉิ วิย อปฺปหีนาติ.
โย อตฺตนาปิ ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ อลาภี, ปรมฺปิ เตหิ น โอวทติ, ลาฬุทายี วิย, อยํ เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน น ปรหิตาย, เอวรูปมฺปิ น ปุจฺฉติ. กสฺมา? อสฺส อนฺโต กิเลสา ผรสุเฉชฺชา วิย มหนฺตาติ.
โย ปน สยํ ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ ลาภี, ปรมฺปิ เตหิ โอวทติ, อยํ อตฺตหิตาย เจว ปรหิตาย จ ปฏิปนฺโน นาม สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทโย อสีติมหาเถรา วิย, เอวรูปํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉติ. กสฺมา? มยฺหํ สาสนสฺส วุฑฺฒิปกฺเข ิโตติ. อิธาปิ เอวรูปเมว ปุจฺฉนฺโต – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.
เอวํ ภควตา ปุฏฺานํ ปน เตสํ ภิกฺขูนํ ภควา อตฺตโน ชาติภูมิยํ อุภยหิตาย ปฏิปนฺนํ ¶ ทสกถาวตฺถุลาภึ ภิกฺขุํ ปุจฺฉติ, โก นุ โข ตตฺถ เอวรูโปติ น อฺมฺํ จินฺตนา วา สมนฺตนา วา อโหสิ. กสฺมา? อายสฺมา หิ มนฺตาณิปุตฺโต ตสฺมึ ชนปเท อากาสมชฺเฌ ิโต จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. ตสฺมา เต ภิกฺขู เมฆสทฺทํ สุตฺวา เอกชฺฌํ สนฺนิปติตโมรฆฏา วิย ฆนสชฺฌายํ กาตุํ, อารทฺธภิกฺขู วิย จ อตฺตโน อาจริยํ ปุณฺณตฺเถรํ ภควโต อาโรเจนฺตา เถรสฺส จ คุณํ ภาสิตุํ อปฺปโหนฺเตหิ มุเขหิ เอกปฺปหาเรเนว ปุณฺโณ นาม, ภนฺเต, อายสฺมาติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ ปุณฺโณติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. มนฺตาณิยา ปน โส ปุตฺโต, ตสฺมา มนฺตาณิปุตฺโตติ วุจฺจติ. สมฺภาวิโตติ คุณสมฺภาวนาย สมฺภาวิโต.
อปฺปิจฺฉตาทิวณฺณนา
อปฺปิจฺโฉติ อิจฺฉาวิรหิโต นิอิจฺโฉ นิตฺตณฺโห. เอตฺถ หิ พฺยฺชนํ สาวเสสํ วิย, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. น หิ ตสฺส อนฺโต อณุมตฺตาปิ ปาปิกา อิจฺฉา นาม อตฺถิ. ขีณาสโว เหส สพฺพโส ปหีนตณฺโห. อปิเจตฺถ อตฺริจฺฉตา ปาปิจฺฉตา มหิจฺฉตา อปฺปิจฺฉตาติ อยํ เภโท เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ ¶ สกลาเภ อติตฺตสฺส ปรลาเภ ปตฺถนา อตฺริจฺฉตา นาม. ตาย สมนฺนาคตสฺส เอกภาเชน ปกฺกปูโวปิ อตฺตโน ปตฺเต ปติโต น สุปกฺโก วิย ขุทฺทโก วิย จ ขายติ. สฺเวว ปรสฺส ปตฺเต ปกฺขิตฺโต สุปกฺโก วิย มหนฺโต วิย จ ขายติ. อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปน ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา ปาปิจฺฉตา นาม, สา, ‘‘อิเธกจฺโจ อสฺสทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตู’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว, ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล โกหฺเ ปติฏฺาติ. สนฺตคุณสมฺภาวนา ปน ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา มหิจฺฉตา นาม. สาปิ, ‘‘อิเธกจฺโจ สทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติ อิจฺฉติ, สีลวา สมาโน สีลวาติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ (วิภ. ๘๕๑) อิมินา นเยน อาคตาเยว, ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ทุสฺสนฺตปฺปโย โหติ, วิชาตมาตาปิสฺส จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘อคฺคิกฺขนฺโธ ¶ สมุทฺโท จ, มหิจฺโฉ จาปิ ปุคฺคโล;
สกเฏน ปจฺจยํ เทตุ, ตโยเปเต อตปฺปยา’’ติ.
สนฺตคุณนิคูหนตา ปน ปฏิคฺคหเณ จ มตฺตฺุตา อปฺปิจฺฉตา นาม, ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล อตฺตนิ วิชฺชมานมฺปิ คุณํ ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย, ‘‘สทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติ น อิจฺฉติ. สีลวา, ปวิวิตฺโต, พหุสฺสุโต, อารทฺธวีริโย, สมาธิสมฺปนฺโน, ปฺวา, ขีณาสโว สมาโน ขีณาสโวติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ น อิจฺฉติ, เสยฺยถาปิ มชฺฌนฺติกตฺเถโร.
เถโร กิร มหาขีณาสโว อโหสิ, ปตฺตจีวรํ ปนสฺส ปาทมตฺตเมว อคฺฆติ, โส อโสกสฺส ธมฺมรฺโ วิหารมหทิวเส สงฺฆตฺเถโร อโหสิ. อถสฺส อติลูขภาวํ ทิสฺวา มนุสฺสา, ‘‘ภนฺเต, โถกํ พหิ โหถา’’ติ อาหํสุ. เถโร, ‘‘มาทิเส ขีณาสเว รฺโ สงฺคหํ อกโรนฺเต อฺโ โก กริสฺสตี’’ติ ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา สงฺฆตฺเถรสฺส อุกฺขิตฺตปิณฺฑํ คณฺหนฺโตเยว อุมฺมุชฺชิ. เอวํ ขีณาสโว สมาโน, ‘‘ขีณาสโวติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ น อิจฺฉติ. เอวํ อปฺปิจฺโฉ ปน ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนํ ลาภํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ ลาภํ ถาวรํ กโรติ, ทายกานํ ¶ จิตฺตํ อาราเธติ, ยถา ยถา หิ ¶ โส อตฺตโน อปฺปิจฺฉตาย อปฺปํ คณฺหาติ, ตถา ตถา ตสฺส วตฺเต ปสนฺนา มนุสฺสา พหู เทนฺติ.
อปโรปิ จตุพฺพิโธ อปฺปิจฺโฉ – ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉ ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ อธิคมอปฺปิจฺโฉติ. ตตฺถ จตูสุ ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺโฉ ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ นาม, โส ทายกสฺส วสํ ชานาติ, เทยฺยธมฺมสฺส วสํ ชานาติ, อตฺตโน ถามํ ชานาติ. ยทิ หิ เทยฺยธมฺโม พหุ โหติ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, ทายกสฺส วเสน อปฺปํ คณฺหาติ. เทยฺยธมฺโม อปฺโป, ทายโก พหุํ ทาตุกาโม, เทยฺยธมฺมสฺส วเสน อปฺปํ คณฺหาติ. เทยฺยธมฺโมปิ พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, อตฺตโน ถามํ ตฺวา ปมาเณเนว คณฺหาติ.
ธุตงฺคสมาทานสฺส อตฺตนิ อตฺถิภาวํ นชานาเปตุกาโม ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉ นาม. ตสฺส วิภาวนตฺถํ ¶ อิมานิ วตฺถูนิ – โสสานิกมหาสุมนตฺเถโร กิร สฏฺิ วสฺสานิ สุสาเน วสิ, อฺโ เอกภิกฺขุปิ น อฺาสิ, เตเนวาห –
‘‘สุสาเน สฏฺิ วสฺสานิ, อพฺโพกิณฺณํ วสามหํ;
ทุติโย มํ น ชาเนยฺย, อโห โสสานิกุตฺตโม’’ติ.
เจติยปพฺพเต ทฺเวภาติยตฺเถรา วสึสุ. เตสุ กนิฏฺโ อุปฏฺาเกน เปสิตา อุจฺฉุขณฺฑิกา คเหตฺวา เชฏฺสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ปริโภคํ, ภนฺเต, กโรถาติ. เถรสฺส จ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา มุขํ วิกฺขาลนกาโล อโหสิ. โส อลํ, อาวุโสติ อาห. กจฺจิ, ภนฺเต, เอกาสนิกตฺถาติ. อาหราวุโส, อุจฺฉุขณฺฑิกาติ ปฺาส วสฺสานิ เอกาสนิโก สมาโนปิ ธุตงฺคํ นิคูหมาโน ปริโภคํ กตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ปุน ธุตงฺคํ อธิฏฺาย คโต.
โย ปน สาเกตกติสฺสตฺเถโร วิย พหุสฺสุตภาวํ ชานาเปตุํ น อิจฺฉติ, อยํ ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ นาม. เถโร กิร ขโณ นตฺถีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉาสุ โอกาสํ อกโรนฺโต มรณกฺขยํ, ภนฺเต, ลภิสฺสถาติ โจทิโต คณํ วิสฺสชฺเชตฺวา กณิการวาลิกสมุทฺทวิหารํ คโต. ตตฺถ อนฺโตวสฺสํ เถรนวมชฺฌิมานํ อุปกาโร หุตฺวา ¶ มหาปวารณาย อุโปสถทิวเส ธมฺมกถาย ชนตํ โขเภตฺวา คโต.
โย ปน โสตาปนฺนาทีสุ อฺตโร หุตฺวา โสตาปนฺนาทิภาวํ ชานาเปตุํ น อิจฺฉติ, อยํ อธิคมอปฺปิจฺโฉ ¶ นาม, ตโย กุลปุตฺตา วิย ฆฏิการกุมฺภกาโร วิย จ.
อายสฺมา ปน ปุณฺโณ อตฺริจฺฉตํ ปาปิจฺฉตํ มหิจฺฉตฺจ ปหาย สพฺพโส อิจฺฉาปฏิปกฺขภูตาย อโลภสงฺขาตาย ปริสุทฺธาย อปฺปิจฺฉตาย สมนฺนาคตตฺตา อปฺปิจฺโฉ นาม อโหสิ. ภิกฺขูนมฺปิ, ‘‘อาวุโส, อตฺริจฺฉตา ปาปิจฺฉตา มหิจฺฉตาติ อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพา’’ติ เตสุ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา เอวรูปํ อปฺปิจฺฉตํ สมาทาย วตฺติตพฺพนฺติ อปฺปิจฺฉกถํ กเถสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ อปฺปิจฺฉกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’’ติ.
ทฺวาทสวิธสนฺโตสวณฺณนา
อิทานิ ¶ อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโติอาทีสุ วิเสสตฺถเมว ทีปยิสฺสาม. โยชนา ปน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. สนฺตุฏฺโติ อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต. โส ปเนส สนฺโตโส ทฺวาทสวิโธ โหติ. เสยฺยถิทํ, จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถสารุปฺปสนฺโตโสติ ติวิโธ, เอวํ ปิณฺฑปาตาทีสุ. ตสฺสายํ ปเภทสํวณฺณนา.
อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ลภติ สุนฺทรํ วา อสุนฺทรํ วา. โส เตเนว ยาเปติ อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ, อยมสฺส จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส. อถ โย ปกติทุพฺพโล วา โหติ อาพาธชราภิภูโต วา, ครุจีวรํ ปารุปนฺโต กิลมติ, โส สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส จีวเร ยถาพลสนฺโตโส. อปโร ปณีตปจฺจยลาภี โหติ, โส ปฏฺฏจีวราทีนํ อฺตรํ มหคฺฆจีวรํ พหูนิ วา ปน จีวรานิ ลภิตฺวา อิทํ เถรานํ จิรปพฺพชิตานํ อิทํ พหุสฺสุตานํ อนุรูปํ, อิทํ คิลานานํ อิทํ อปฺปลาภานํ โหตูติ ทตฺวา เตสํ ปุราณจีวรํ วา ¶ สงฺการกูฏาทิโต วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา เตหิ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส จีวเร ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ, อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา ปิณฺฑปาตํ ¶ ลภติ, เยนสฺส ปริภุตฺเตน อผาสุ โหติ, โส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ตํ ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต สปฺปายโภชนํ ภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาพลสนฺโตโส. อปโร พหุํ ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภิคิลานานํ ทตฺวา เตสํ วา เสสกํ ปิณฺฑาย วา จริตฺวา มิสฺสกาหารํ ภฺุชนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ เสนาสนํ ลภติ มนาปํ วา อมนาปํ วา, โส เตน เนว โสมนสฺสํ น ปฏิฆํ อุปฺปาเทติ, อนฺตมโส ติณสนฺถารเกนาปิ ยถาลทฺเธเนว ตุสฺสติ, อยมสฺส เสนาสเน ยถาลาภสนฺโตโส ¶ . โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา เสนาสนํ ลภติ, ยตฺถสฺส วสโต อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส สนฺตเก สปฺปายเสนาสเน วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส เสนาสเน ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปฺุโ เลณมณฺฑปกูฏาคาราทีนิ พหูนิ ปณีตเสนาสนานิ ลภติ, โส ตานิ จีวราทีนิ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภิคิลานานํ ทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. โยปิ, ‘‘อุตฺตมเสนาสนํ นาม ปมาทฏฺานํ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, นิทฺทาภิภูตสฺส ปุน ปฏิพุชฺฌโต ปาปวิตกฺกา ปาตุภวนฺตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา ตาทิสํ เสนาสนํ ปตฺตมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉติ, โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมฺปิสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ เภสชฺชํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส ยํ ลภติ, เตเนว สนฺตุสฺสติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ, อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน เตเลน อตฺถิโก ผาณิตํ ¶ ลภติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต เตลํ คเหตฺวา อฺเทว วา ปริเยสิตฺวา เตหิ เภสชฺชํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปฺุโ พหุํ เตลมธุผาณิตาทิปณีตเภสชฺชํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภิคิลานานํ ทตฺวา เตสํ อาภตเกน เยน เกนจิ ยาเปนฺโตปิ ¶ สนฺตุฏฺโว โหติ. โย ปน เอกสฺมึ ภาชเน มุตฺตหรีตกํ เปตฺวา เอกสฺมึ จตุมธุรํ, ‘‘คณฺห, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ วุจฺจมาโน สจสฺส เตสุ อฺตเรนปิ โรโค วูปสมฺมติ, อถ มุตฺตหรีตกํ นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิตนฺติ จตุมธุรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุตฺตหรีตเกเนว เภสชฺชํ กโรนฺโต ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ, อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิเมสํ ปน ปจฺเจกํ ปจฺจเยสุ ติณฺณํ ติณฺณํ สนฺโตสานํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโสว อคฺโค. อายสฺมา ปุณฺโณ เอเกกสฺมึ ปจฺจเย อิเมหิ ตีหิ สนฺโตเสหิ สนฺตุฏฺโ อโหสิ. สนฺตุฏฺิกถฺจาติ ภิกฺขูนมฺปิ จ อิมํ สนฺตุฏฺิกถํ กตฺตาว อโหสิ.
ติวิธปวิเวกวณฺณนา
ปวิวิตฺโตติ ¶ กายปวิเวโก จิตฺตปวิเวโก อุปธิปวิเวโกติ อิเมหิ ตีหิ ปวิเวเกหิ สมนฺนาคโต. ตตฺถ เอโก คจฺฉติ, เอโก ติฏฺติ, เอโก นิสีทติ, เอโก เสยฺยํ กปฺเปติ, เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, เอโก ปฏิกฺกมติ, เอโก จงฺกมมธิฏฺาติ, เอโก จรติ, เอโก วิหรตีติ อยํ กายปวิเวโก นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย ปน จิตฺตปวิเวโก นาม. นิพฺพานํ อุปธิปวิเวโก นาม. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘กายปวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตปวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตาน’’นฺติ (มหานิ. ๕๗). ปวิเวกกถนฺติ ภิกฺขูนมฺปิ จ อิมํ ปวิเวกกถํ กตฺตา.
ปฺจวิธสํสคฺควณฺณนา
อสํสฏฺโติ ¶ ปฺจวิเธน สํสคฺเคน วิรหิโต. สวนสํสคฺโค ทสฺสนสํสคฺโค สมุลฺลปนสํสคฺโค สมฺโภคสํสคฺโค กายสํสคฺโคติ ปฺจวิโธ สํสคฺโค. เตสุ อิธ ภิกฺขุ สุณาติ, ‘‘อสุกสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมาริกา วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติ. โส ตํ สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา หีนายาวตฺตตีติ เอวํ ปเรหิ วา กถียมานํ รูปาทิสมฺปตฺตึ อตฺตนา วา หสิตลปิตคีตสทฺทํ สุณนฺตสฺส โสตวิฺาณวีถิวเสน ¶ อุปฺปนฺโน ราโค สวนสํสคฺโค นาม. โส อนิตฺถิคนฺธปจฺเจกโพธิสตฺตสฺส จ ปฺจคฺคฬเลณวาสีติสฺสทหรสฺส จ วเสน เวทิตพฺโพ –
ทหโร กิร อากาเสน คจฺฉนฺโต คิริคามวาสิกมฺมารธีตาย ปฺจหิ กุมารีหิ สทฺธึ ปทุมสรํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา ปทุมานิ จ ปิลนฺธิตฺวา มธุรสฺสเรน คายนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา กามราเคน วิทฺโธ วิเสสา ปริหายิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณิ. อิธ ภิกฺขุ น เหว โข สุณาติ, อปิจ โข สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา กุมารึ วา อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ. โส ตํ ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ ¶ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา หีนายาวตฺตตีติ เอวํ วิสภาครูปํ โอโลเกนฺตสฺส ปน จกฺขุวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺนราโค ทสฺสนสํสคฺโค นาม. โส เอวํ เวทิตพฺโพ –
เอโก กิร ทหโร กาลทีฆวาปิทฺวารวิหารํ อุทฺเทสตฺถาย คโต. อาจริโย ตสฺส อนฺตรายํ ทิสฺวา โอกาสํ น กโรติ. โส ปุนปฺปุนฺนํ อนุพนฺธติ. อาจริโย สเจ อนฺโตคาเม น จริสฺสสิ. ทสฺสามิ เต อุทฺเทสนฺติ อาห. โส สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อุทฺเทเส นิฏฺิเต อาจริยํ วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺโต อาจริโย เม อิมสฺมึ คาเม จริตุํ น เทติ, กึ นุ โข การณนฺติ จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปาวิสิ, เอกา กุลธีตา ปีตกวตฺถํ นิวาเสตฺวา เคเห ิตา ทหรํ ทิสฺวา สฺชาตราคา อุฬุงฺเกน ยาคุํ อาหริตฺวา ตสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา นิวตฺติตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถ นํ มาตาปิตโร ¶ กึ อมฺมาติ ปุจฺฉึสุ, ทฺวาเรน คตํ ทหรํ ลภมานา ชีวิสฺสามิ, อลภมานา มริสฺสามีติ. มาตาปิตโร เวเคน คนฺตฺวา คามทฺวาเร ทหรํ ปตฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหาหี’’ติ อาหํสุ. ทหโร อลํ คจฺฉามีติ. เต, ‘‘อิทํ นาม, ภนฺเต, การณ’’นฺติ ยาจิตฺวา – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, เคเห เอตฺตกํ นาม ธนํ อตฺถิ, เอกาเยว โน ธีตา, ตฺวํ โน เชฏฺปุตฺตฏฺาเน สฺสสิ, สุเขน สกฺกา ชีวิตุ’’นฺติ อาหํสุ. ทหโร, ‘‘น มยฺหํ อิมินา ปลิโพเธน อตฺโถ’’ติ อนาทิยิตฺวาว ปกฺกนฺโต.
มาตาปิตโร คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, นาสกฺขิมฺหา ทหรํ นิวตฺเตตุํ, ยํ อฺํ สามิกํ อิจฺฉสิ, ตํ ลภิสฺสสิ, อุฏฺเหิ ขาท จ ปิว จา’’ติ อาหํสุ. สา อนิจฺฉนฺตี สตฺตาหํ นิราหารา หุตฺวา กาลมกาสิ. มาตาปิตโร ตสฺสา สรีรกิจฺจํ กตฺวา ตํ ปีตกวตฺถํ ธุรวิหาเร ภิกฺขุสงฺฆสฺส อทํสุ, ภิกฺขู ¶ วตฺถํ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา ภาชยึสุ. เอโก มหลฺลโก อตฺตโน โกฏฺาสํ คเหตฺวา กลฺยาณีวิหารํ อาคโต. โสปิ ทหโร เจติยํ วนฺทิสฺสามีติ ตตฺเถว คนฺตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสีทิ. มหลฺลโก ตํ วตฺถขณฺฑํ คเหตฺวา, ‘‘อิมินา เม ปริสฺสาวนํ วิจาเรถา’’ติ ทหรํ อโวจ. ทหโร มหาเถร ‘‘กุหึ ลทฺธ’’นฺติ อาห. โส สพฺพํ ปวตฺตึ กเถสิ. โส ตํ สุตฺวาว, ‘‘เอวรูปาย นาม สทฺธึ สํวาสํ นาลตฺถ’’นฺติ ราคคฺคินา ทฑฺโฒ ตตฺเถว กาลมกาสิ.
อฺมฺํ ¶ อาลาปสลฺลาปวเสน อุปฺปนฺนราโค ปน สมุลฺลปนสํสคฺโค นาม. ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ, ภิกฺขุนิยา วา ภิกฺขุสฺส สนฺตกํ คเหตฺวา ปริโภคกรณวเสน อุปฺปนฺนราโค สมฺโภคสํสคฺโค นาม. โส เอวํ เวทิตพฺโพ – มริจวฏฺฏิวิหารมเห กิร ภิกฺขูนํ สตสหสฺสํ ภิกฺขุนีนํ นวุติสหสฺสานิ เอว อเหสุํ. เอโก สามเณโร อุณฺหยาคุํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต สกึ จีวรกณฺเณ เปสิ, สกึ ภูมิยํ. เอกา สามเณรี ทิสฺวา เอตฺถ ปตฺตํ เปตฺวา ยาหีติ ถาลกํ อทาสิ. เต อปรภาเค เอกสฺมึ ภเย อุปฺปนฺเน ปรสมุทฺทํ อคมํสุ. เตสุ ภิกฺขุนี ปุเรตรํ อคมาสิ. สา, ‘‘เอโก กิร สีหฬภิกฺขุ อาคโต’’ติ สุตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺนา, – ‘‘ภนฺเต, มริจวฏฺฏิวิหารมหกาเล ตุมฺเห กติวสฺสา’’ติ ปุจฺฉิ. ตทาหํ สตฺตวสฺสิกสามเณโร. ตฺวํ ปน กติวสฺสาติ? อหํ สตฺตวสฺสิกสามเณรีเยว เอกสฺส ¶ สามเณรสฺส อุณฺหยาคุํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปตฺตปนตฺถํ ถาลกมทาสินฺติ. เถโร, ‘‘อหํ โส’’ติ วตฺวา ถาลกํ นีหริตฺวา ทสฺเสสิ. เต เอตฺตเกเนว สํสคฺเคน พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา ทฺเวปิ สฏฺิวสฺสกาเล วิพฺภมึสุ.
หตฺถคาหาทิวเสน ปน อุปฺปนฺนราโค กายสํสคฺโค นาม. ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาเจติยงฺคเณ กิร ทหรภิกฺขู สชฺฌายํ คณฺหนฺติ. เตสํ ปิฏฺิปสฺเส ทหรภิกฺขุนิโย ธมฺมํ สุณนฺติ. ตตฺเรโก ทหโร หตฺถํ ปสาเรนฺโต เอกิสฺสา ทหรภิกฺขุนิยา กายํ ฉุปิ. สา ตํ หตฺถํ คเหตฺวา อตฺตโน อุรสฺมึ เปสิ, เอตฺตเกน สํสคฺเคน ทฺเวปิ วิพฺภมิตฺวา คิหิภาวํ ปตฺตา.
คาหคาหกาทิวณฺณนา
อิเมสุ ¶ ปน ปฺจสุ สํสคฺเคสุ ภิกฺขุโน ภิกฺขูหิ สทฺธึ สวนทสฺสนสมุลฺลปนสมฺโภคกายปรามาสา นิจฺจมฺปิ โหนฺติเยว, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ เปตฺวา กายสํสคฺคํ เสสา กาเลน กาลํ โหนฺติ; ตถา อุปาสกอุปาสิกาหิ สทฺธึ สพฺเพปิ กาเลน กาลํ โหนฺติ. เตสุ หิ กิเลสุปฺปตฺติโต จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ. เอโก หิ ภิกฺขุ คาหคาหโก โหติ, เอโก คาหมุตฺตโก, เอโก มุตฺตคาหโก, เอโก มุตฺตมุตฺตโก.
ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ มนุสฺสาปิ อามิเสน อุปลาเปตฺวา คหณวเสน อุปสงฺกมนฺติ, ภิกฺขุปิ ปุปฺผผลาทีหิ ¶ อุปลาเปตฺวา คหณวเสน อุปสงฺกมติ, อยํ คาหคาหโก นาม. ยํ ปน มนุสฺสา วุตฺตนเยน อุปสงฺกมนฺติ, ภิกฺขุ ทกฺขิเณยฺยวเสน อุปสงฺกมติ, อยํ คาหมุตฺตโก นาม. ยสฺส มนุสฺสา ทกฺขิเณยฺยวเสน จตฺตาโร ปจฺจเย เทนฺติ, ภิกฺขุ ปุปฺผผลาทีหิ อุปลาเปตฺวา คหณวเสน อุปสงฺกมติ, อยํ มุตฺตคาหโก นาม. ยสฺส มนุสฺสาปิ ทกฺขิเณยฺยวเสน จตฺตาโร ปจฺจเย เทนฺติ, ภิกฺขุปิ จูฬปิณฺฑปาติยติสฺสตฺเถโร วิย ทกฺขิเณยฺยวเสน ปริภฺุชติ, อยํ มุตฺตมุตฺตโก นาม.
เถรํ กิร เอกา อุปาสิกา ทฺวาทส วสฺสานิ อุปฏฺหิ. เอกทิวสํ ตสฺมึ คาเม อคฺคิ อุฏฺหิตฺวา เคหานิ ฌาเปสิ. อฺเสํ กุลูปกภิกฺขู อาคนฺตฺวา ¶ – ‘‘กึ อุปาสิเก, อปิ กิฺจิ ภณฺฑกํ อโรคํ กาตุํ อสกฺขิตฺถา’’ติ ปฏิสนฺถารํ อกํสุ. มนุสฺสา, ‘‘อมฺหากํ มาตุ กุลูปกตฺเถโร ภฺุชนเวลายเมว อาคมิสฺสตี’’ติ อาหํสุ. เถโรปิ ปุนทิวเส ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวาว อาคโต. อุปาสิกา โกฏฺจฺฉายาย นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ สมฺปาเทตฺวา อทาสิ. เถเร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปกฺกนฺเต มนุสฺสา อาหํสุ – ‘‘อมฺหากํ มาตุ กุลูปกตฺเถโร ภฺุชนเวลายเมว อาคโต’’ติ. อุปาสิกา, ‘‘ตุมฺหากํ กุลูปกา ตุมฺหากํเยว อนุจฺฉวิกา, มยฺหํ เถโร มยฺเหว อนุจฺฉวิโก’’ติ อาห. อายสฺมา ปน มนฺตาณิปุตฺโต อิเมหิ ปฺจหิ สํสคฺเคหิ จตูหิปิ ปริสาหิ สทฺธึ อสํสฏฺโ คาหมุตฺตโก เจว มุตฺตมุตฺตโก จ อโหสิ. ยถา จ สยํ อสํสฏฺโ, เอวํ ภิกฺขูนมฺปิ ตํ อสํสคฺคกถํ กตฺตา อโหสิ.
อารทฺธวีริโยติ ¶ ปคฺคหิตวีริโย, ปริปุณฺณกายิกเจตสิกวีริโยติ อตฺโถ. โย หิ ภิกฺขุ คมเน อุปฺปนฺนกิเลสํ านํ ปาปุณิตุํ น เทติ, าเน อุปฺปนฺนกิเลสํ นิสชฺชํ, นิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิเลสํ สยนํ ปาปุณิตุํ น เทติ, มนฺเตน กณฺหสปฺปํ อุปฺปีเฬตฺวา คณฺหนฺโต วิย, อมิตฺตํ คีวาย อกฺกมนฺโต วิย จ วิจรติ, อยํ อารทฺธวีริโย นาม. เถโร จ ตาทิโส อโหสิ. ภิกฺขูนมฺปิ ตเถว วีริยารมฺภกถํ กตฺตา อโหสิ.
สีลสมฺปนฺโนติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สมาธีติ วิปสฺสนาปาทกา อฏฺ สมาปตฺติโย. ปฺาติ โลกิยโลกุตฺตราณํ. วิมุตฺตีติ อริยผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. เถโร สยมฺปิ สีลาทีหิ สมฺปนฺโน อโหสิ ภิกฺขูนมฺปิ สีลาทิกถํ ¶ กตฺตา. สฺวายํ ทสหิ กถาวตฺถูหิ โอวทตีติ โอวาทโก. ยถา ปน เอโก โอวทติเยว, สุขุมํ อตฺถํ ปริวตฺเตตฺวา ชานาเปตุํ น สกฺโกติ. น เอวํ เถโร. เถโร ปน ตานิ ทส กถาวตฺถูนิ วิฺาเปตีติ วิฺาปโก. เอโก วิฺาเปตุํ สกฺโกติ, การณํ ทสฺเสตุํ น สกฺโกติ. เถโร การณมฺปิ สนฺทสฺเสตีติ สนฺทสฺสโก. เอโก วิชฺชมานํ การณํ ทสฺเสติ, คาเหตุํ ปน น สกฺโกติ. เถโร คาเหตุมฺปิ สกฺโกตีติ สมาทปโก. เอวํ สมาทเปตฺวา ¶ ปน เตสุ กถาวตฺถูสุ อุสฺสาหชนนวเสน ภิกฺขู สมุตฺเตเชตีติ สมุตฺเตชโก. อุสฺสาหชาเต วณฺณํ วตฺวา สมฺปหํเสตีติ สมฺปหํสโก.
ปฺจลาภวณฺณนา
๒๕๓. สุลทฺธลาภาติ อฺเสมฺปิ มนุสฺสตฺตภาวปพฺพชฺชาทิคุณลาภา นาม โหนฺติ. อายสฺมโต ปน ปุณฺณสฺส สุลทฺธลาภา เอเต, ยสฺส สตฺถุ สมฺมุขา เอวํ วณฺโณ อพฺภุคฺคโตติ อตฺโถ. อปิจ อปณฺฑิเตหิ วณฺณกถนํ นาม น ตถา ลาโภ, ปณฺฑิเตหิ วณฺณกถนํ ปน ลาโภ. คิหี หิ วา วณฺณกถนํ น ตถา ลาโภ, คิหี หิ ‘‘วณฺณํ กเถสฺสามี’’ติ, ‘‘อมฺหากํ อยฺโย สณฺโห สขิโล สุขสมฺภาโส, วิหารํ อาคตานํ ยาคุภตฺตผาณิตาทีหิ สงฺคหํ กโรตี’’ติ กเถนฺโต อวณฺณเมว กเถติ. ‘‘อวณฺณํ กเถสฺสามี’’ติ ‘‘อยํ เถโร มนฺทมนฺโท วิย อพลพโล วิย ภากุฏิกภากุฏิโก วิย นตฺถิ อิมินา สทฺธึ วิสฺสาโส’’ติ กเถนฺโต วณฺณเมว กเถติ. สพฺรหฺมจารีหิปิ สตฺถุ ปรมฺมุขา ¶ วณฺณกถนํ น ตถา ลาโภ, สตฺถุ สมฺมุขา ปน อติลาโภติ อิมมฺปิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ‘‘สุลทฺธลาภา’’ติ อาห. อนุมสฺส อนุมสฺสาติ ทส กถาวตฺถูนิ อนุปวิสิตฺวา อนุปวิสิตฺวา. ตฺจ สตฺถา อพฺภนุโมทตีติ ตฺจสฺส วณฺณํ เอวเมตํ อปฺปิจฺโฉ จ โส ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ จ โส ภิกฺขูติ อนุโมทติ. อิติ วิฺูหิ วณฺณภาสนํ เอโก ลาโภ, สพฺรหฺมจารีหิ เอโก, สตฺถุ สมฺมุขา เอโก, อนุมสฺส อนุมสฺส เอโก, สตฺถารา อพฺภนุโมทนํ เอโกติ อิเม ปฺจ ลาเภ สนฺธาย ‘‘สุลทฺธลาภา’’ติ อาห. กทาจีติ กิสฺมิฺจิเทว กาเล. กรหจีติ ตสฺเสว เววจนํ. อปฺเปว นาม สิยา โกจิเทว กถาสลฺลาโปติ อปิ นาม โกจิ กถาสมุทาจาโรปิ ภเวยฺย. เถเรน กิร อายสฺมา ปุณฺโณ เนว ทิฏฺปุพฺโพ, นสฺส ธมฺมกถา สุตปุพฺพา. อิติ โส ตสฺส ทสฺสนมฺปิ ธมฺมกถมฺปิ ปตฺถยมาโน เอวมาห.
จาริกาทิวณฺณนา
๒๕๔. ยถาภิรนฺตนฺติ ¶ ยถาอชฺฌาสยํ วิหริตฺวา. พุทฺธานฺหิ เอกสฺมึ าเน วสนฺตานํ ฉายูทกาทิวิปตฺตึ วา อปฺผาสุกเสนาสนํ วา, มนุสฺสานํ อสฺสทฺธาทิภาวํ ¶ วา อาคมฺม อนภิรติ นาม นตฺถิ. เตสํ สมฺปตฺติยา ‘‘อิธ ผาสุ วิหรามา’’ติ อภิรมิตฺวา จิรวิหาโรปิ นตฺถิ. ยตฺถ ปน ตถาคเต วิหรนฺเต สตฺตา สรเณสุ วา ปติฏฺหนฺติ, สีลานิ วา สมาทิยนฺติ, ปพฺพชนฺติ วา, ตโต โสตาปตฺติมคฺคาทีนํ วา ปน เตสํ อุปนิสฺสโย โหติ. ตตฺถ พุทฺธา สตฺเต ตาสุ สมฺปตฺตีสุ ปติฏฺาปนอชฺฌาสเยน วสนฺติ; ตาสํ อภาเว ปกฺกมนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยถาอชฺฌาสยํ วิหริตฺวา’’ติ. จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต. จาริกา จ นาเมสา ภควโต ทุวิธา โหติ ตุริตจาริกา จ, อตุริตจาริกา จ.
ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม. สา มหากสฺสปปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ภควา หิ มหากสฺสปํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต มุหุตฺเตน ติคาวุตํ มคฺคํ อคมาสิ, อาฬวกสฺสตฺถาย ตึสโยชนํ, ตถา องฺคุลิมาลสฺส ¶ . ปุกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ, ขทิรวนิยสฺสตฺถาย สตฺต โยชนสตานิ อคมาสิ; ธมฺมเสนาปติโน สทฺธิวิหาริกสฺส วนวาสีติสฺสสามเณรสฺส ติคาวุตาธิกํ วีสโยชนสตํ.
เอกทิวสํ กิร เถโร, ‘‘ติสฺสสามเณรสฺส สนฺติกํ, ภนฺเต, คจฺฉามี’’ติ อาห. ภควา, ‘‘อหมฺปิ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อานนฺท, วีสติสหสฺสานํ ฉฬภิฺานํ อาโรเจหิ – ‘ภควา วนวาสีติสฺสสามเณรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’’ติ. ตโต ทุติยทิวเส วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต อากาเส อุปฺปติตฺวา วีสโยชนสตมตฺถเก ตสฺส โคจรคามทฺวาเร โอตริตฺวา จีวรํ ปารุปิ. กมฺมนฺตํ คจฺฉมานา มนุสฺสา ทิสฺวา, ‘‘สตฺถา, โภ, อาคโต, มา กมฺมนฺตํ อคมิตฺถา’’ติ วตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา ยาคุํ ทตฺวา ปานวตฺตํ กโรนฺตา, ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ภควา คจฺฉตี’’ติ ทหรภิกฺขู ปุจฺฉึสุ. อุปาสกา, น ภควา อฺตฺถ คจฺฉติ, อิเธว ติสฺสสามเณรสฺส ทสฺสนตฺถาย อาคโตติ ¶ . เต ‘‘อมฺหากํ กิร กุลูปกตฺเถรสฺส ทสฺสนตฺถาย สตฺถา อาคโต, โน วต โน เถโร โอรมตฺตโก’’ติ โสมนสฺสชาตา อเหสุํ.
อถ ¶ ภควโต ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน สามเณโร คามํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ‘‘อุปาสกา มหา ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เต, ‘‘สตฺถา, ภนฺเต, อาคโต’’ติ อาโรเจสุํ, โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปิณฺฑปาเตน อาปุจฺฉิ. สตฺถา ตสฺส ปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา, ‘‘อลํ, ติสฺส, นิฏฺิตํ ภตฺตกิจฺจ’’นฺติ อาห. ตโต อุปชฺฌายํ อาปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจมกาสิ. อถสฺส ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน สตฺถา มงฺคลํ วตฺวา นิกฺขมิตฺวา คามทฺวาเร ตฺวา, ‘‘กตโร เต, ติสฺส, วสนฏฺานํ คมนมคฺโค’’ติ อาห. ‘‘อยํ ภควา’’ติ. มคฺคํ เทสยมาโน ปุรโต ยาหิ ติสฺสาติ. ภควา กิร สเทวกสฺส โลกสฺส มคฺคเทสโก สมาโนปิ ‘‘สกลติคาวุเต มคฺเค สามเณรํ ทฏฺุํ ลจฺฉามี’’ติ ตํ มคฺคเทสกมกาสิ.
โส อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ภควโต วตฺตมกาสิ. อถ นํ ภควา, ‘‘กตโร เต, ติสฺส, จงฺกโม’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สามเณรสฺส นิสีทนปาสาเณ นิสีทิตฺวา, ‘‘ติสฺส, อิมสฺมึ าเน สุขํ วสสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘อาม, ภนฺเต, อิมสฺมึ เม าเน วสนฺตสฺส สีหพฺยคฺฆหตฺถิมิคโมราทีนํ สทฺทํ สุณโต อรฺสฺา อุปฺปชฺชติ, ตาย สุขํ วสามี’’ติ. อถ นํ ภควา, ‘‘ติสฺส, ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตหิ, พุทฺธทายชฺชํ เต ทสฺสามี’’ติ วตฺวา สนฺนิปติเต ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปาเทตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว อคมาสีติ. อยํ ตุริตจาริกา นาม.
ยํ ปน คามนิคมปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนฑฺฒโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม. อิมํ ปน จาริกํ จรนฺโต ภควา มหามณฺฑลํ มชฺฌิมมณฺฑลํ อนฺติมมณฺฑลนฺติ อิเมสํ ติณฺณํ มณฺฑลานํ อฺตรสฺมึ จรติ. ตตฺถ มหามณฺฑลํ นวโยชนสติกํ, มชฺฌิมมณฺฑลํ ฉโยชนสติกํ, อนฺติมมณฺฑลํ ติโยชนสติกํ. ยทา มหามณฺฑเล จาริกํ จริตุกาโม โหติ, มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา ปาฏิปททิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมติ. สมนฺตา โยชนสตํ เอกโกลาหลํ อโหสิ, ปุริมํ ปุริมํ อาคตา นิมนฺเตตุํ ลภนฺติ; อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร มหามณฺฑเล ¶ โอสรติ. ตตฺร ภควา เตสุ เตสุ คามนิคเมสุ เอกาหํ ทฺวีหํ วสนฺโต มหาชนํ อามิสปฏิคฺคเหน อนุคฺคณฺหนฺโต ธมฺมทาเนน จสฺส วิวฏฺฏูปนิสฺสิตํ ¶ กุสลํ วฑฺเฒนฺโต นวหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ.
สเจ ปน อนฺโตวสฺเส ภิกฺขูนํ สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหติ, มหาปวารณาย อปวาเรตฺวา ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวา กตฺติกปุณฺณมาย ปวาเรตฺวา มิคสิรสฺส ปมทิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมิตฺวา มชฺฌิมมณฺฑลํ โอสรติ. อฺเนปิ การเณน มชฺฌิมมณฺฑเล จาริกํ จริตุกาโม จตุมาสํ วสิตฺวาว นิกฺขมติ. วุตฺตนเยเนว อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร มชฺฌิมมณฺฑเล โอสรติ. ภควา ปุริมนเยเนว โลกํ อนุคฺคณฺหนฺโต อฏฺหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ.
สเจ ปน จตุมาสํ วุฏฺวสฺสสฺสาปิ ภควโต เวเนยฺยสตฺตา อปริปกฺกินฺทฺริยา โหนฺติ, เตสํ อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมาโน ¶ อปรมฺปิ เอกํ มาสํ วา ทฺวิติจตุมาสํ วา ตตฺเถว วสิตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมติ. วุตฺตนเยเนว อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร อนฺโตมณฺฑเล โอสรติ. ภควา ปุริมนเยเนว โลกํ อนุคฺคณฺหนฺโต สตฺตหิ วา ฉหิ วา ปฺจหิ วา จตูหิ วา มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ. อิติ อิเมสุ ตีสุ มณฺฑเลสุ ยตฺถ กตฺถจิ จาริกํ จรนฺโต น จีวราทิเหตุ จรติ. อถ โข เย ทุคฺคตา พาลา ชิณฺณา พฺยาธิตา, เต กทา ตถาคตํ อาคนฺตฺวา ปสฺสิสฺสนฺติ? มยิ ปน จาริกํ จรนฺเต มหาชโน ตถาคตทสฺสนํ ลภิสฺสติ, ตตฺถ เกจิ จิตฺตานิ ปสาเทสฺสนฺติ, เกจิ มาลาทีหิ ปูเชสฺสนฺติ, เกจิ กฏจฺฉุภิกฺขํ ทสฺสนฺติ, เกจิ มิจฺฉาทสฺสนํ ปหาย สมฺมาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ เอวํ โลกานุกมฺปาย จาริกํ จรติ.
อปิจ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – ชงฺฆาวิหารวเสน สรีรผาสุกตฺถาย, อตฺถุปฺปตฺติกาลํ อภิกงฺขนตฺถาย, ภิขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺาปนตฺถาย, ตตฺถ ตตฺถ ปริปากคตินฺทฺริเย โพธเนยฺยสตฺเต โพธนตฺถายาติ. อปเรหิปิ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – พุทฺธํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, มหตา ธมฺมวสฺเสน จตสฺโส ปริสา สนฺตปฺเปสฺสามีติ วาติ ¶ . อปเรหิ ปฺจหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ ¶ – ปาณาติปาตา วิรมิสฺสนฺตีติ วา, อทินฺนาทานา… กาเมสุมิจฺฉาจารา… มุสาวาทา… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา วิรมิสฺสนฺตีติ วาติ. อปเรหิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – ปมชฺฌานํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วา, ทุติยํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วาติ. อปเรหิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – โสตาปตฺติมคฺคํ อธิคมิสฺสนฺตีติ วา, โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตผลํ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ วาติ. อยํ อตุริตจาริกา, สา อิธ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุวิธา โหติ นิพทฺธจาริกา, อนิพทฺธจาริกา ¶ จ. ตตฺถ ยํ เอกสฺเสว โพธเนยฺยสตฺตสฺส อตฺถาย คจฺฉติ, อยํ นิพทฺธจาริกา นาม. ยํ ปน คามนิคมนครปฏิปาฏิวเสน จรติ, อยํ อนิพทฺธจาริกา นาม. เอสา อิธ อธิปฺเปตา.
เสนาสนํ สํสาเมตฺวาติ เสนาสนํ ปฏิสาเมตฺวา. ตํ ปน ปฏิสาเมนฺโต เถโร น จูฬปตฺตมหาปตฺต-จูฬถาลกมหาถาลก-ปฏฺฏุณฺณจีวร-ทุกูลจีวราทีนํ ภณฺฑิกํ กตฺวา สปฺปิเตลาทีนํ วา ปน ฆเฏ ปูราเปตฺวา คพฺเภ นิทหิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย กฺุจิกมุทฺทิกาทีนิ โยชาเปสิ. ‘‘สเจ น โหติ ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา อุปาสโก วา, จตูสุ ปาสาเณสุ มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา ปีเ ปีํ อาโรเปตฺวา จีวรวํเส วา จีวรรชฺชุยา วา อุปริ ปฺุชํ กตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๑) วจนโต ปน เนวาสิกํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉนมตฺตเกเนว ปฏิสาเมสิ.
เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามีติ สตฺถุ ทสฺสนกาโม หุตฺวา เยน ทิสาภาเคน สาวตฺถิ เตน ปกฺกามิ. ปกฺกมนฺโต จ น สุทฺโธทนมหาราชสฺส อาโรจาเปตฺวา สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีนิ คาหาเปตฺวา ปกฺกนฺโต. ยูถํ ปหาย นิกฺขนฺโต ปน มตฺตหตฺถี วิย, อสหายกิจฺโจ สีโห วิย, ปตฺตจีวรมตฺตํ อาทาย เอกโกว ปกฺกามิ. กสฺมา ปเนส ปฺจสเตหิ อตฺตโน อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ ราชคหํ อคนฺตฺวา อิทานิ นิกฺขนฺโตติ? ราชคหํ กปิลวตฺถุโต ทูรํ สฏฺิโยชนานิ, สาวตฺถิ ปน ปฺจทส. สตฺถา ราชคหโต ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ อาคนฺตฺวา สาวตฺถิยํ วิหรติ, อิทานิ อาสนฺโน ชาโตติ สุตฺวา นิกฺขมีติ อการณเมตํ. พุทฺธานํ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต หิ เอส โยชนสหสฺสมฺปิ คจฺเฉยฺย, ตทา ¶ ปน ¶ กายวิเวโก น สกฺกา ลทฺธุนฺติ. พหูหิ สทฺธึ คมนกาเล หิ เอกสฺมึ คจฺฉามาติ วทนฺเต เอโก อิเธว วสามาติ วทติ. เอกสฺมึ วสามาติ วทนฺเต เอโก คจฺฉามาติ วทติ. ตสฺมา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตุํ วา ผาสุกเสนาสเน กายวิเวกํ ลทฺธุํ วา น สกฺกา โหติ, เอกกสฺส ปน ตํ สพฺพํ สุลภํ โหตีติ ตทา อคนฺตฺวา อิทานิ ปกฺกามิ.
จาริกํ ¶ จรมาโนติ เอตฺถ กิฺจาปิ อยํ จาริกา นาม มหาชนสงฺคหตฺถํ พุทฺธานํเยว ลพฺภติ, พุทฺเธ อุปาทาย ปน รุฬฺหีสทฺเทน สาวกานมฺปิ วุจฺจติ กิลฺชาทีหิ กตํ พีชนมฺปิ ตาลวณฺฏํ วิย. เยน ภควาติ สาวตฺถิยา อวิทูเร เอกสฺมึ คามเก ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ เชตวนํ ปวิสิตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส วา วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปาเท โธวิตฺวา มกฺเขตฺวา ปานียํ วา ปานกํ วา ปิวิตฺวา โถกํ วิสฺสมิตฺวา สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามีติ จิตฺตมฺปิ อนุปฺปาเทตฺวา อุชุกํ คนฺธกุฏิปริเวณเมว อคมาสิ. เถรสฺส หิ สตฺถารํ ทฏฺุกามสฺส อฺเน ภิกฺขุนา กิจฺจํ นตฺถิ. ตสฺมา ราหุลํ วา อานนฺทํ วา คเหตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามีติ เอวมฺปิ จิตฺตํ น อุปฺปาเทสิ.
เถโร หิ สยเมว พุทฺธสาสเน วลฺลโภ รฺโ สงฺคามวิชยมหาโยโธ วิย. ยถา หิ ตาทิสสฺส โยธสฺส ราชานํ ทฏฺุกามสฺส อฺํ เสวิตฺวา ทสฺสนกมฺมํ นาม นตฺถิ; วลฺลภตาย สยเมว ปสฺสติ. เอวํ เถโรปิ พุทฺธสาสเน วลฺลโภ, ตสฺส อฺํ เสวิตฺวา สตฺถุทสฺสนกิจฺจํ นตฺถีติ ปาเท โธวิตฺวา ปาทปฺุฉนมฺหิ ปฺุฉิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. ภควาปิ ‘‘ปจฺจูสกาเลเยว มนฺตาณิปุตฺโต อาคมิสฺสตี’’ติ อทฺทส. ตสฺมา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา สูจิฆฏิกํ อทตฺวาว ทรถํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา อุฏฺาย นิสีทิ. เถโร กวาฏํ ปณาเมตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ธมฺมิยา กถายาติ ภควา ธมฺมึ กถํ กเถนฺโต จูฬโคสิงฺคสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๒๕ อาทโย) ติณฺณํ กุลปุตฺตานํ สามคฺคิรสานิสํสํ กเถสิ; เสกฺขสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๒ อาทโย) อาวสถานิสํสํ, ฆฏิการสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๘๒ อาทโย) สติปฏิลาภิกํ ปุพฺเพนิวาสปฺปฏิสํยุตฺตกถํ; รฏฺปาลสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๐๔) จตฺตาโร ¶ ธมฺมุทฺเทเส, เสลสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๙๖ อาทโย) ปานกานิสํสกถํ ¶ , อุปกฺกิเลสสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๒๓๖ อาทโย) ภคุตฺเถรสฺส ธมฺมกถํ กเถนฺโต เอกีภาเว อานิสํสํ กเถสิ. อิมสฺมึ ปน รถวินีเต อายสฺมโต ปุณฺณสฺส กเถนฺโต ทสกถาวตฺถุนิสฺสยํ ¶ อนนฺตนยํ นาม ทสฺเสสิ ปุณฺณ, อยมฺปิ อปฺปิจฺฉกถาเยว สนฺโตสกถาเยวาติ. ปฏิสมฺภิทาปตฺตสฺส สาวกสฺส เวลนฺเต ตฺวา มหาสมุทฺเท หตฺถปฺปสารณํ วิย อโหสิ.
เยน อนฺธวนนฺติ ตทา กิร ปจฺฉาภตฺเต เชตวนํ อากิณฺณํ โหติ, พหู ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย เชตวนํ โอสรนฺติ; รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ขนฺธาวารฏฺานํ วิย โหติ, น สกฺกา ปวิเวกํ ลภิตุํ. อนฺธวนํ ปน ปธานฆรสทิสํ ปวิวิตฺตํ, ตสฺมา เยนนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ. กสฺมา ปน มหาเถเร น อทฺทส? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สายนฺหสมเย อาคนฺตฺวา มหาเถเร ทิสฺวา ปุน ทสพลํ ปสฺสิสฺสามิ, เอวํ มหาเถรานํ เอกํ อุปฏฺานํ ภวิสฺสติ, สตฺถุ ทฺเว ภวิสฺสนฺติ, ตโต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา มม วสนฏฺานเมว คมิสฺสามี’’ติ.
สตฺตวิสุทฺธิปฺหวณฺณนา
๒๕๖. อภิณฺหํ กิตฺตยมาโน อโหสีติ ปุนปฺปุนํ วณฺณํ กิตฺตยมาโน วิหาสิ. เถโร กิร ตโต ปฏฺาย ทิวเส ทิวเส สงฺฆมชฺเฌ ‘‘ปุณฺโณ กิร นาม มนฺตาณิปุตฺโต จตูหิ ปริสาหิ สทฺธึ อสํสฏฺโ, โส ทสพลสฺส ทสฺสนตฺถาย อาคมิสฺสติ; กจฺจิ นุ โข มํ อทิสฺวาว คมิสฺสตี’’ติ เถรนวมชฺฌิมานํ สติกรณตฺถํ อายสฺมโต ปุณฺณสฺส คุณํ ภาสติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มหลฺลกภิกฺขู นาม น สพฺพกาลํ อนฺโตวิหาเร โหนฺติ; คุณกถาย ปนสฺส กถิตาย โย จ นํ ภิกฺขุํ ปสฺสิสฺสติ; โส อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสตี’’ติ. อถายํ เถรสฺเสว สทฺธิวิหาริโก ตํ อายสฺมนฺตํ มนฺตาณิปุตฺตํ ปตฺตจีวรมาทาย คนฺธกุฏึ ปวิสนฺตํ อทฺทส. กถํ ปน นํ เอส อฺาสีติ? ปุณฺณ, ปุณฺณาติ วตฺวา กเถนฺตสฺส ภควโต ธมฺมกถาย อฺาสิ – ‘‘อยํ โส เถโร, ยสฺส เม อุปชฺฌาโย อภิณฺหํ กิตฺตยมาโน โหตี’’ติ. อิติ โส อาคนฺตฺวา เถรสฺส อาโรเจสิ. นิสีทนํ อาทายาติ นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจติ อวายิมํ. เถโร ปน จมฺมขณฺฑํ คเหตฺวา อคมาสิ. ปิฏฺิโต ปิฏฺิโตติ ¶ ปจฺฉโต ปจฺฉโต. สีสานุโลกีติ โย อุนฺนตฏฺาเน ปิฏฺึ ปสฺสนฺโต ¶ นินฺนฏฺาเน สีสํ ปสฺสนฺโต คจฺฉติ, อยมฺปิ สีสานุโลกีติ วุจฺจติ. ตาทิโส หุตฺวา อนุพนฺธิ. เถโร หิ กิฺจาปิ สํยตปทสทฺทตาย อจฺจาสนฺโน หุตฺวา คจฺฉนฺโตปิ ปทสทฺเทน น พาธติ, ‘‘นายํ สมฺโมทนกาโล’’ติ ¶ ตฺวา ปน น อจฺจาสนฺโน, อนฺธวนํ นาม มหนฺตํ, เอกสฺมึ าเน นิลีนํ อปสฺสนฺเตน, อาวุโส ปุณฺณ, ปุณฺณาติ อผาสุกสทฺโท กาตพฺโพ โหตีติ นิสินฺนฏฺานชานนตฺถํ นาติทูเร หุตฺวา สีสานุโลกี อคมาสิ. ทิวาวิหารํ นิสีทีติ ทิวาวิหารตฺถาย นิสีทิ.
ตตฺถ อายสฺมาปิ ปุณฺโณ อุทิจฺจพฺราหฺมณชจฺโจ, สาริปุตฺตตฺเถโรปิ. ปุณฺณตฺเถโรปิ สุวณฺณวณฺโณ, สาริปุตฺตตฺเถโรปิ. ปุณฺณตฺเถโรปิ อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาปนฺโน, สาริปุตฺตตฺเถโรปิ. ปุณฺณตฺเถโรปิ กปฺปสตสหสฺสํ อภินีหารสมฺปนฺโน, สาริปุตฺตตฺเถโรปิ กปฺปสตสหสฺสาธิกํ เอกมสงฺขฺเยยฺยํ. ปุณฺณตฺเถโรปิ ปฏิสมฺภิทาปตฺโต มหาขีณาสโว, สาริปุตฺตตฺเถโรปิ. อิติ เอกํ กนกคุหํ ปวิฏฺา ทฺเว สีหา วิย, เอกํ วิชมฺภนภูมึ โอติณฺณา ทฺเว พฺยคฺฆา วิย, เอกํ สุปุปฺผิตสาลวนํ ปวิฏฺา ทฺเว ฉทฺทนฺตนาคราชาโน วิย, เอกํ สิมฺพลิวนํ ปวิฏฺา ทฺเว สุปณฺณราชาโน วิย, เอกํ นรวาหนยานํ อภิรุฬฺหา ทฺเว เวสฺสวณา วิย, เอกํ ปณฺฑุกมฺพลสิลํ อภินิสินฺนา ทฺเว สกฺกา วิย, เอกวิมานพฺภนฺตรคตา ทฺเว หาริตมหาพฺรหฺมาโน วิย จ เต ทฺเวปิ พฺราหฺมณชจฺจา ทฺเวปิ สุวณฺณวณฺณา ทฺเวปิ สมาปตฺติลาภิโน ทฺเวปิ อภินีหารสมฺปนฺนา ทฺเวปิ ปฏิสมฺภิทาปตฺตา มหาขีณาสวา เอกํ วนสณฺฑํ อนุปวิฏฺา ตํ วนฏฺานํ โสภยึสุ.
ภควติ โน, อาวุโส, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ, อาวุโส, กึ อมฺหากํ ภควโต สนฺติเก อายสฺมตา พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตีติ? อิทํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ตสฺส ภควติ พฺรหฺมจริยวาสํ ชานนฺโตปิ กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉิ. ปุริมกถาย หิ อปฺปติฏฺิตาย ปจฺฉิมกถา น ชายติ, ตสฺมา เอวํ ปุจฺฉิ. เถโร อนุชานนฺโต ‘‘เอวมาวุโส’’ติ อาห. อถสฺส ปฺหวิสฺสชฺชนํ โสตุกาโม อายสฺมา สาริปุตฺโต ‘‘กึ นุ โข อาวุโส สีลวิสุทฺธตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ ปฏิปาฏิยา สตฺต วิสุทฺธิโย ปุจฺฉิ. ตาสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อายสฺมา ปน ปุณฺโณ ¶ ยสฺมา จตุปาริสุทฺธิสีลาทีสุ ิตสฺสาปิ พฺรหฺมจริยวาโส มตฺถกํ น ปาปุณาติ, ตสฺมา, ‘‘โน หิทํ, อาวุโส’’ติ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิ.
กิมตฺถํ ¶ ¶ จรหาวุโสติ ยทิ สีลวิสุทฺธิอาทีนํ อตฺถาย พฺรหฺมจริยํ น วุสฺสติ, อถ กิมตฺถํ วุสฺสตีติ ปุจฺฉิ. อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโสติ เอตฺถ อนุปาทาปรินิพฺพานํ นาม อปฺปจฺจยปรินิพฺพานํ. ทฺเวธา อุปาทานานิ คหณูปาทานฺจ ปจฺจยูปาทานฺจ. คหณูปาทานํ นาม กามุปาทานาทิกํ จตุพฺพิธํ, ปจฺจยูปาทานํ นาม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอวํ วุตฺตปจฺจยา. ตตฺถ คหณูปาทานวาทิโน อาจริยา อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ จตูสุ อุปาทาเนสุ อฺตเรนาปิ กฺจิ ธมฺมํ อคฺคเหตฺวา ปวตฺตํ อรหตฺตผลํ อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ กเถนฺติ. ตฺหิ น จ อุปาทานสมฺปยุตฺตํ หุตฺวา กฺจิ ธมฺมํ อุปาทิยติ, กิเลสานฺจ ปรินิพฺพุตนฺเต ชาตตฺตา ปรินิพฺพานนฺติ วุจฺจติ. ปจฺจยูปาทานวาทิโน ปน อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อปฺปจฺจยปรินิพฺพานํ. ปจฺจยวเสน อนุปฺปนฺนํ อสงฺขตํ อมตธาตุเมว อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ กเถนฺติ. อยํ อนฺโต, อยํ โกฏิ, อยํ นิฏฺา. อปฺปจฺจยปรินิพฺพานํ ปตฺตสฺส หิ พฺรหฺมจริยวาโส มตฺถกํ ปตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา เถโร ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถ’’นฺติ อาห. อถ นํ อนุยฺุชนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, สีลวิสุทฺธิ อนุปาทาปรินิพฺพาน’’นฺติ ปุน ปุจฺฉํ อารภิ.
๒๕๘. เถโรปิ สพฺพปริวตฺเตสุ ตเถว ปฏิกฺขิปิตฺวา ปริโยสาเน โทสํ ทสฺเสนฺโต สีลวิสุทฺธึ เจ, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺเปยฺยาติ ยทิ ปฺเปยฺย. สอุปาทานํเยว สมานํ อนุปาทาปรินิพฺพานํ ปฺเปยฺยาติ สงฺคหณธมฺมเมว นิคฺคหณธมฺมํ สปฺปจฺจยธมฺมเมว อปฺปจฺจยธมฺมํ สงฺขตธมฺมเมว อสงฺขตธมฺมนฺติ ปฺเปยฺยาติ อตฺโถ. าณทสฺสนวิสุทฺธิยํ ปน สปฺปจฺจยธมฺมเมว อปฺปจฺจยธมฺมํ สงฺขตธมฺมเมว อสงฺขตธมฺมนฺติ ปฺเปยฺยาติ อยเมว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุถุชฺชโน หิ, อาวุโสติ เอตฺถ วฏฺฏานุคโต โลกิยพาลปุถุชฺชโน ทฏฺพฺโพ. โส หิ จตุปาริสุทฺธิสีลมตฺตสฺสาปิ อภาวโต สพฺพโส อฺตฺร อิเมหิ ธมฺเมหิ. เตน หีติ เยน การเณน เอกจฺเจ ปณฺฑิตา อุปมาย อตฺถํ ชานนฺติ, เตน การเณน อุปมํ เต กริสฺสามีติ ¶ อตฺโถ.
สตฺตรถวินีตวณฺณนา
๒๕๙. สตฺต ¶ รถวินีตานีติ วินีตอสฺสาชานิยยุตฺเต สตฺต รเถ. ยาวเทว, จิตฺตวิสุทฺธตฺถาติ ¶ , อาวุโส, อยํ สีลวิสุทฺธิ นาม, ยาวเทว, จิตฺตวิสุทฺธตฺถา. จิตฺตวิสุทฺธตฺถาติ นิสฺสกฺกวจนเมตํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ, ยาวเทว, จิตฺตวิสุทฺธิสงฺขาตา อตฺถา, ตาว อยํ สีลวิสุทฺธิ นาม อิจฺฉิตพฺพา. ยา ปน อยํ จิตฺตวิสุทฺธิ, เอสา สีลวิสุทฺธิยา อตฺโถ, อยํ โกฏิ, อิทํ ปริโยสานํ, จิตฺตวิสุทฺธิยํ ิตสฺส หิ สีลวิสุทฺธิกิจฺจํ กตํ นาม โหตีติ. เอส นโย สพฺพปเทสุ.
อิทํ ปเนตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ราชา ปเสนทิ โกสโล วิย หิ ชรามรณภีรุโก โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. สาวตฺถินครํ วิย สกฺกายนครํ, สาเกตนครํ วิย นิพฺพานนครํ, รฺโ สาเกเต วฑฺฒิอาวหสฺส สีฆํ คนฺตฺวา ปาปุณิตพฺพสฺส อจฺจายิกสฺส กิจฺจสฺส อุปฺปาทกาโล วิย โยคิโน อนภิสเมตานํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อภิสมยกิจฺจสฺส อุปฺปาทกาโล. สตฺต รถวินีตานิ วิย สตฺต วิสุทฺธิโย, ปมํ รถวินีตํ อารุฬฺหกาโล วิย สีลวิสุทฺธิยํ ิตกาโล, ปมรถวินีตาทีหิ ทุติยาทีนิ อารุฬฺหกาโล วิย สีลวิสุทฺธิอาทีหิ จิตฺตวิสุทฺธิอาทีสุ ิตกาโล. สตฺตเมน รถวินีเตน สาเกเต อนฺเตปุรทฺวาเร โอรุยฺห อุปริปาสาเท าติมิตฺตคณปริวุตสฺส สุรสโภชนปริโภคกาโล วิย โยคิโน าณทสฺสนวิสุทฺธิยา สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา ธมฺมวรปาสาทํ อารุยฺห ปโรปณฺณาสกุสลธมฺมปริวารสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิโรธสยเน นิสินฺนสฺส โลกุตฺตรสุขานุภวนกาโล ทฏฺพฺโพ.
อิติ อายสฺมนฺตํ ปุณฺณํ ทสกถาวตฺถุลาภึ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโร สตฺต วิสุทฺธิโย ปุจฺฉิ. อายสฺมา ปุณฺโณ ทส กถาวตฺถูนิ วิสฺสชฺเชสิ. เอวํ ปุจฺฉนฺโต ปน ธมฺมเสนาปติ กึ ชานิตฺวา ปุจฺฉิ, อุทาหุ อชานิตฺวา? ติตฺถกุสโล วา ปน หุตฺวา วิสยสฺมึ ปุจฺฉิ, อุทาหุ อติตฺถกุสโล หุตฺวา อวิสยสฺมึ? ปุณฺณตฺเถโรปิ จ กึ ชานิตฺวา วิสฺสชฺเชสิ, อุทาหุ อชานิตฺวา? ติตฺถกุสโล วา ปน หุตฺวา วิสยสฺมึ วิสฺสชฺเชสิ, อุทาหุ อติตฺถกุสโล หุตฺวา อวิสเยติ? ชานิตฺวา ติตฺถกุสโล หุตฺวา วิสเย ปุจฺฉีติ หิ วทมาโน ธมฺมเสนาปตึเยว วเทยฺย. ชานิตฺวา ติตฺถกุสโล หุตฺวา ¶ วิสเย วิสฺสชฺเชสีติ วทมาโน ปุณฺณตฺเถรํเยว ¶ วเทยฺย. ยฺหิ วิสุทฺธีสุ สํขิตฺตํ, ตํ กถาวตฺถูสุ วิตฺถิณฺณํ. ยํ กถาวตฺถูสุ สํขิตฺตํ, ตํ วิสุทฺธีสุ วิตฺถิณฺณํ. ตทมินา นเยน เวทิตพฺพํ.
วิสุทฺธีสุ ¶ หิ เอกา สีลวิสุทฺธิ จตฺตาริ กถาวตฺถูนิ หุตฺวา อาคตา อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา อสํสคฺคกถา, สีลกถาติ. เอกา จิตฺตวิสุทฺธิ ตีณิ กถาวตฺถูนิ หุตฺวา อาคตา – ปวิเวกกถา, วีริยารมฺภกถา, สมาธิกถาติ, เอวํ ตาว ยํ วิสุทฺธีสุ สํขิตฺตํ, ตํ กถาวตฺถูสุ วิตฺถิณฺณํ. กถาวตฺถูสุ ปน เอกา ปฺากถา ปฺจ วิสุทฺธิโย หุตฺวา อาคตา – ทิฏฺิวิสุทฺธิ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ, มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ, ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ, าณทสฺสนวิสุทฺธีติ, เอวํ ยํ กถาวตฺถูสุ สํขิตฺตํ, ตํ วิสุทฺธีสุ วิตฺถิณฺณํ. ตสฺมา สาริปุตฺตตฺเถโร สตฺต วิสุทฺธิโย ปุจฺฉนฺโต น อฺํ ปุจฺฉิ, ทส กถาวตฺถูนิเยว ปุจฺฉิ. ปุณฺณตฺเถโรปิ สตฺต วิสุทฺธิโย วิสฺสชฺเชนฺโต น อฺํ วิสฺสชฺเชสิ, ทส กถาวตฺถูนิเยว วิสฺสชฺเชสีติ. อิติ อุโภเปเต ชานิตฺวา ติตฺถกุสลา หุตฺวา วิสเยว ปฺหํ ปุจฺฉึสุ เจว วิสฺสชฺเชสุํ จาติ เวทิตพฺโพ.
๒๖๐. โก นาโม อายสฺมาติ น เถโร ตสฺส นามํ น ชานาติ. ชานนฺโตเยว ปน สมฺโมทิตุํ ลภิสฺสามีติ ปุจฺฉิ. กถฺจ ปนายสฺมนฺตนฺติ อิทํ ปน เถโร สมฺโมทมาโน อาห. มนฺตาณิปุตฺโตติ มนฺตาณิยา พฺราหฺมณิยา ปุตฺโต. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา สุตวตา สาวเกน พฺยากาตพฺพา, เอวเมว พฺยากตาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. อนุมสฺส อนุมสฺสาติ ทส กถาวตฺถูนิ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา. เจลณฺฑุปเกนาติ เอตฺถ เจลํ วุจฺจติ วตฺถํ, อณฺฑุปกํ จุมฺพฏกํ. วตฺถจุมฺพฏกํ สีเส กตฺวา อายสฺมนฺตํ ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา ปริหรนฺตาปิ สพฺรหฺมจารี ทสฺสนาย ลเภยฺยุํ, เอวํ ลทฺธทสฺสนมฺปิ เตสํ ลาภาเยวาติ อฏฺานปริกปฺเปน อภิณฺหทสฺสนสฺส อุปายํ ทสฺเสสิ. เอวํ อปริหรนฺเตน หิ ปฺหํ วา ปุจฺฉิตุกาเมน ธมฺมํ วา โสตุกาเมน ‘‘เถโร กตฺถ ิโต กตฺถ นิสินฺโน’’ติ ¶ ปริเยสนฺเตน จริตพฺพํ โหติ. เอวํ ปริหรนฺตา ปน อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณเยว สีสโต โอโรเปตฺวา มหารเห อาสเน นิสีทาเปตฺวา สกฺกา โหนฺติ ปฺหํ วา ปุจฺฉิตุํ ธมฺมํ วา โสตุํ. อิติ อฏฺานปริกปฺเปน อภิณฺหทสฺสนสฺส อุปายํ ทสฺเสสิ.
สาริปุตฺโตติ จ ปน มนฺติ สาริยา พฺราหฺมณิยา ปุตฺโตติ จ ปน เอวํ มํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺติ. สตฺถุกปฺเปนาติ สตฺถุสทิเสน. อิติ เอกปเทเนว อายสฺมา ¶ ปุณฺโณ สาริปุตฺตตฺเถรํ จนฺทมณฺฑลํ อาหจฺจ เปนฺโต วิย อุกฺขิปิ. เถรสฺส หิ อิมสฺมึ าเน เอกนฺตธมฺมกถิกภาโว ปากโฏ ¶ อโหสิ. อมจฺจฺหิ ปุโรหิตํ มหนฺโตติ วทมาโน ราชสทิโสติ วเทยฺย, โคณํ หตฺถิปฺปมาโณติ, วาปึ สมุทฺทปฺปมาโณติ, อาโลกํ จนฺทิมสูริยาโลกปฺปมาโณติ, อิโต ปรํ เอเตสํ มหนฺตภาวกถา นาม นตฺถิ. สาวกมฺปิ มหาติ วทนฺโต สตฺถุปฏิภาโคติ วเทยฺย, อิโต ปรํ ตสฺส มหนฺตภาวกถา นาม นตฺถิ. อิจฺจายสฺมา ปุณฺโณ เอกปเทเนว เถรํ จนฺทมณฺฑลํ อาหจฺจ เปนฺโต วิย อุกฺขิปิ.
เอตฺตกมฺปิ โน นปฺปฏิภาเสยฺยาติ ปฏิสมฺภิทาปตฺตสฺส อปฺปฏิภานํ นาม นตฺถิ. ยา ปนายํ อุปมา อาหฏา, ตํ น อาหเรยฺยาม, อตฺถเมว กเถยฺยาม. อุปมา หิ อชานนฺตานํ อาหรียตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อฏฺกถายํ ปน อิทมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุปมา นาม พุทฺธานมฺปิ สนฺติเก อาหรียติ, เถรํ ปเนส อปจายมาโน เอวมาหาติ.
อนุมสฺส อนุมสฺส ปุจฺฉิตาติ ทส กถาวตฺถูนิ โอคาเหตฺวา โอคาเหตฺวา ปุจฺฉิตา. กึ ปน ปฺหสฺส ปุจฺฉนํ ภาริยํ, อุทาหุ วิสฺสชฺชนนฺติ? อุคฺคเหตฺวา ปุจฺฉนํ โน ภาริยํ, วิสฺสชฺชนํ ปน ภาริยํ. สเหตุกํ วา สการณํ กตฺวา ปุจฺฉนมฺปิ วิสฺสชฺชนมฺปิ ภาริยเมว. สมนุโมทึสูติ สมจิตฺตา หุตฺวา อนุโมทึสุ. อิติ ยถานุสนฺธินาว เทสนา นิฏฺิตาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
รถวินีตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิวาปสุตฺตวณฺณนา
๒๖๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ นิวาปสุตฺตํ. ตตฺถ เนวาปิโกติ โย มิคานํ คหณตฺถาย อรฺเ ติณพีชานิ วปติ ‘‘อิทํ ติณํ ¶ ขาทิตุํ อาคเต มิเค สุขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. นิวาปนฺติ วปฺปํ. นิวุตฺตนฺติ วปิตํ. มิคชาตาติ มิคฆฏา. อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวา. มุจฺฉิตาติ ตณฺหามุจฺฉนาย มุจฺฉิตา, ตณฺหาย หทยํ ปวิสิตฺวา มุจฺฉนาการํ ปาปิตาติ ¶ อตฺโถ. มทํ อาปชฺชิสฺสนฺตีติ มานมทํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. ปมาทนฺติ วิสฺสฏฺสติภาวํ. ยถากามกรณียา ภวิสฺสนฺตีติ ยถา อิจฺฉิสฺสาม, ตถา กาตพฺพา ภวิสฺสนฺติ. อิมสฺมึ นิวาเปติ อิมสฺมึ นิวาปฏฺาเน. เอกํ กิร นิวาปติณํ นาม อตฺถิ นิทาฆภทฺทกํ, ตํ ยถา ยถา นิทาโฆ โหติ, ตถา ตถา นีวารวนํ วิย เมฆมาลา วิย จ เอกคฺฆนํ โหติ, ตํ ลุทฺทกา เอกสฺมึ อุทกผาสุกฏฺาเน กสิตฺวา วปิตฺวา วตึ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา รกฺขนฺติ. อถ ยทา มหานิทาเฆ สพฺพติณานิ สุกฺขานิ โหนฺติ, ชิวฺหาเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ ทุลฺลภํ โหติ, ตทา มิคชาตา สุกฺขติณานิ เจว ปุราณปณฺณานิ จ ขาทนฺตา กมฺปมานา วิย วิจรนฺตา นิวาปติณสฺส คนฺธํ ฆายิตฺวา วธพนฺธนาทีนิ อคณยิตฺวา วตึ อชฺโฌตฺถรนฺตา ปวิสนฺติ. เตสฺหิ นิวาปติณํ อติวิย ปิยํ โหติ มนาปํ. เนวาปิโก เต ทิสฺวา ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ ปมตฺโต วิย โหติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ติฏฺติ. อนฺโตนิวาปฏฺาเน ตหึ ตหึ อุทกอาวาฏกาปิ โหนฺติ, มิคา วิวฏทฺวาเรน ปวิสิตฺวา ขาทิตมตฺตกํ ปิวิตมตฺตกเมว กตฺวา ปกฺกมนฺติ, ปุนทิวเส กิฺจิ น กโรนฺตีติ กณฺเณ จาลยมานา ขาทิตฺวา ปิวิตฺวา อตรมานา คจฺฉนฺติ, ปุนทิวเส โกจิ กิฺจิ กตฺตา นตฺถีติ ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา ปิวิตฺวา มณฺฑลคุมฺพํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชนฺติ. ลุทฺทกา เตสํ ปมตฺตภาวํ ชานิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย สมฺปริวาเรตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย โกฏฺเฏตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวํ เต ตสฺมึ นิวาเป เนวาปิกสฺส ยถากามกรณียา ภวนฺติ.
๒๖๒. ตตฺร, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เตสุ มิคชาเตสุ. ปมา มิคชาตาติ, มิคชาตา ปมทุติยา นาม นตฺถิ. ภควา ปน อาคตปฏิปาฏิวเสน กปฺเปตฺวา ปมา, ทุติยา, ตติยา ¶ , จตุตฺถาติ นามํ อาโรเปตฺวา ทสฺเสสิ. อิทฺธานุภาวาติ ยถากามํ กตฺตพฺพภาวโต; วสีภาโวเยว หิ เอตฺถ อิทฺธีติ จ อานุภาโวติ จ อธิปฺเปโต.
๒๖๓. ภยโภคาติ ¶ ภเยน โภคโต. พลวีริยนฺติ อปราปรํ สฺจรณวาโยธาตุ, สา ปริหายีติ อตฺโถ.
๒๖๔. อุปนิสฺสาย อาสยํ กปฺเปยฺยามาติ อนฺโต นิปชฺชิตฺวา ขาทนฺตานมฺปิ ภยเมว, พาหิรโต อาคนฺตฺวา ขาทนฺตานมฺปิ ภยเมว, มยํ ปน อมุํ นิวาปฏฺานํ นิสฺสาย เอกมนฺเต อาสยํ กปฺเปยฺยามาติ จินฺตยึสุ. อุปนิสฺสาย ¶ อาสยํ กปฺปยึสูติ ลุทฺทกา นาม น สพฺพกาลํ อปฺปมตฺตา โหนฺติ. มยํ ตตฺถ ตตฺถ มณฺฑลคุมฺเพสุ เจว วติปาเทสุ จ นิปชฺชิตฺวา เอเตสุ มุขโธวนตฺถํ วา อาหารกิจฺจกรณตฺถํ วา ปกฺกนฺเตสุ นิวาปวตฺถุํ ปวิสิตฺวา ขาทิตมตฺตํ กตฺวา อมฺหากํ วสนฏฺานํ ปวิสิสฺสามาติ นิวาปวตฺถุํ อุปนิสฺสาย คหเนสุ คุมฺพวติปาทาทีสุ อาสยํ กปฺปยึสุ. ภฺุชึสูติ วุตฺตนเยน ลุทฺทกานํ ปมาทกาลํ ตฺวา สีฆํ สีฆํ ปวิสิตฺวา ภฺุชึสุ. เกตพิโนติ สิกฺขิตเกราฏิกา. อิทฺธิมนฺตาติ อิทฺธิมนฺโต วิย. ปรชนาติ ยกฺขา. อิเม น มิคชาตาติ. อาคตึ วา คตึ วาติ อิมินา นาม าเนน อาคจฺฉนฺติ, อมุตฺร คจฺฉนฺตีติ อิทํ เนสํ น ชานาม. ทณฺฑวากราหีติ ทณฺฑวากรชาเลหิ. สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรสุนฺติ อติมายาวิโน เอเต, น ทูรํ คมิสฺสนฺติ, สนฺติเกเยว นิปนฺนา ภวิสฺสนฺตีติ นิวาปกฺเขตฺตสฺส สมนฺตา สปฺปเทสํ มหนฺตํ โอกาสํ อนุปริวาเรสุํ. อทฺทสํสูติ เอวํ ปริวาเรตฺวา วากรชาลํ สมนฺตโต จาเลตฺวา โอโลเกนฺตา อทฺทสํสุ. ยตฺถ เตติ ยสฺมึ าเน เต คาหํ อคมํสุ, ตํ านํ อทฺทสํสูติ อตฺโถ.
๒๖๕. ยํนูน มยํ ยตฺถ อคตีติ เต กิร เอวํ จินฺตยึสุ – ‘‘อนฺโต นิปชฺชิตฺวา อนฺโต ขาทนฺตานมฺปิ ภยเมว, พาหิรโต อาคนฺตฺวา ขาทนฺตานมฺปิ สนฺติเก วสิตฺวา ขาทนฺตานมฺปิ ภยเมว, เตปิ หิ วากรชาเลน ปริกฺขิปิตฺวา คหิตาเยวา’’ติ, เตน เตสํ เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูน มยํ ยตฺถ เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ อคติ อวิสโย, ตตฺถ ตตฺถ เสยฺยํ กปฺเปยฺยามา’’ติ. อฺเ ฆฏฺเฏสฺสนฺตีติ ตโต ตโต ทูรตรวาสิโน อฺเ ฆฏฺเฏสฺสนฺติ. เต ฆฏฺฏิตา อฺเติ เตปิ ฆฏฺฏิตา อฺเ ตโต ¶ ทูรตรวาสิโน ฆฏฺเฏสฺสนฺติ. เอวํ อิมํ ¶ นิวาปํ นิวุตฺตํ สพฺพโส มิคชาตา ปริมุจฺจิสฺสนฺตีติ เอวํ อิมํ อมฺเหหิ นิวุตฺตํ นิวาปํ สพฺเพ มิคฆฏา มิคสงฺฆา วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ ปริจฺจชิสฺสนฺติ. อชฺฌุเปกฺเขยฺยามาติ เตสํ คหเณ อพฺยาวฏา ภเวยฺยามาติ; ยถา ตถา อาคจฺฉนฺเตสุ หิ ตรุณโปตโก วา มหลฺลโก วา ทุพฺพโล วา ยูถปริหีโน วา สกฺกา โหนฺติ ลทฺธุํ, อนาคจฺฉนฺเตสุ กิฺจิ นตฺถิ. อชฺฌุเปกฺขึสุ โข, ภิกฺขเวติ เอวํ จินฺเตตฺวา อพฺยาวฏาว อเหสุํ.
๒๖๗. อมุํ ¶ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานีติ เอตฺถ นิวาโปติ วา โลกามิสานีติ วา วฏฺฏามิสภูตานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานเมตํ อธิวจนํ. มาโร น จ พีชานิ วิย กามคุเณ วเปนฺโต อาหิณฺฑติ, กามคุณคิทฺธานํ ปน อุปริ วสํ วตฺเตติ, ตสฺมา กามคุณา มารสฺส นิวาปา นาม โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺสา’’ติ. น ปริมุจฺจึสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาติ มารสฺส วสํ คตา อเหสุํ, ยถากามกรณียา. อยํ สปุตฺตภริยปพฺพชฺชาย อาคตอุปมา.
๒๖๘. เจโตวิมุตฺติ ปริหายีติ เอตฺถ เจโตวิมุตฺติ นาม อรฺเ วสิสฺสามาติ อุปฺปนฺนอชฺฌาสโย; โส ปริหายีติ อตฺโถ. ตถูปเม อหํ อิเม ทุติเยติ อยํ พฺราหฺมณธมฺมิกปพฺพชฺชาย อุปมา. พฺราหฺมณา หิ อฏฺจตฺตาลีสวสฺสานิ โกมารพฺรหฺมจริยํ จริตฺวา วฏฺฏุปจฺเฉทภเยน ปเวณึ ฆฏยิสฺสามาติ ธนํ ปริเยสิตฺวา ภริยํ คเหตฺวา อคารมชฺเฌ วสนฺตา เอกสฺมึ ปุตฺเต ชาเต ‘‘อมฺหากํ ปุตฺโต ชาโต วฏฺฏํ น อุจฺฉินฺนํ ปเวณิ ฆฏิตา’’ติ ปุน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนฺติ วา ตเมว วา ส’กลตฺตวาสํ วสนฺติ.
๒๖๙. เอวฺหิ เต, ภิกฺขเว, ตติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจึสูติ ปุริมา วิย เตปิ มารสฺส อิทฺธานุภาวา น มุจฺจึสุ; ยถากามกรณียาว อเหสุํ. กึ ปน เต อกํสูติ? คามนิคมราชธานิโย โอสริตฺวา เตสุ เตสุ อารามอุยฺยานฏฺาเนสุ อสฺสมํ มาเปตฺวา นิวสนฺตา กุลทารเก หตฺถิอสฺสรถสิปฺปาทีนิ นานปฺปการานิ สิปฺปานิ สิกฺขาเปสุํ. อิติ เต วากรชาเลน ตติยา มิคชาตา วิย มารสฺส ปาปิมโต ¶ ทิฏฺิชาเลน ปริกฺขิปิตฺวา ยถากามกรณียา อเหสุํ.
๒๗๐. ตถูปเม ¶ อหํ อิเม จตุตฺเถติ อยํ อิมสฺส สาสนสฺส อุปมา อาหฏา.
๒๗๑. อนฺธมกาสิ มารนฺติ น มารสฺส อกฺขีนิ ภินฺทิ. วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส ปน ภิกฺขุโน อิมํ นาม อารมฺมณํ นิสฺสาย จิตฺตํ วตฺตตีติ มาโร ปสฺสิตุํ น สกฺโกติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺธมกาสิ มาร’’นฺติ. อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุนฺติ เตเนว ปริยาเยน ยถา มารสฺส จกฺขุ อปทํ ¶ โหติ นิปฺปทํ, อปฺปติฏฺํ, นิรารมฺมณํ, เอวํ วธิตฺวาติ อตฺโถ. อทสฺสนํ คโต ปาปิมโตติ เตเนว ปริยาเยน มารสฺส ปาปิมโต อทสฺสนํ คโต. น หิ โส อตฺตโน มํสจกฺขุนา ตสฺส วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน าณสรีรํ ทฏฺุํ สกฺโกติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ มคฺคปฺาย จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ทิสฺวา จตฺตาโร อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. ติณฺโณ โลเก วิสตฺติกนฺติ โลเก สตฺตวิสตฺตภาเวน วิสตฺติกาติ เอวํ สงฺขํ คตํ. อถ วา ‘‘วิสตฺติกาติ เกนฏฺเน วิสตฺติกา? วิสตาติ วิสตฺติกา วิสฏาติ วิสตฺติกา, วิปุลาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสมาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํ หรตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา, วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา, วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ’’ติ (มหานิ. ๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒, ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๔) วิสตฺติกา. เอวํ วิสตฺติกาติ สงฺขํ คตํ ตณฺหํ ติณฺโณ นิตฺติณฺโณ อุตฺติณฺโณ. เตน วุจฺจติ – ‘‘ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’นฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
นิวาปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปาสราสิสุตฺตวณฺณนา
๒๗๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ปาสราสิสุตฺตํ. ตตฺถ สาธุ มยํ, อาวุโสติ อายาจนฺตา ภณนฺติ. เอเต กิร ปฺจสตา ภิกฺขู ชนปทวาสิโน ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สาวตฺถึ อนุปฺปตฺตา. สตฺถุทสฺสนํ ปน เอเตหิ ลทฺธํ, ธมฺมึ กถํ น ตาว สุณนฺติ. เต สตฺถุคารเวน ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต ¶ , ธมฺมกถํ กเถถา’’ติ วตฺตุํ น สกฺโกนฺติ. พุทฺธา หิ ครู โหนฺติ, เอกจาริโก สีโห มิคราชา วิย, ปภินฺนกฺุชโร วิย, ผณกตอาสีวิโส วิย, มหาอคฺคิกฺขนฺโธ วิย จ ทุราสทา วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อาสีวิโส ยถา โฆโร, มิคราชาว เกสรี;
นาโคว กฺุชโร ทนฺตี, เอวํ พุทฺธา ทุราสทา’’ติ.
เอวํ ¶ ทุราสทํ สตฺถารํ เต ภิกฺขู สยํ ยาจิตุํ อสกฺโกนฺตา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ยาจมานา ‘‘สาธุ มยํ, อาวุโส’’ติ อาหํสุ.
อปฺเปว นามาติ อปิ นาม ลเภยฺยาถ. กสฺมา ปน เถโร เต ภิกฺขู ‘‘รมฺมกสฺส พฺราหฺมณสฺส อสฺสมํ อุปสงฺกเมยฺยาถา’’ติ อาห? ปากฏกิริยตาย. ทสพลสฺส หิ กิริยา เถรสฺส ปากฏา โหติ; ชานาติ เถโร, ‘‘อชฺช สตฺถา เชตวเน วสิตฺวา ปุพฺพาราเม ทิวาวิหารํ กริสฺสติ; อชฺช ปุพฺพาราเม วสิตฺวา เชตวเน ทิวาวิหารํ กริสฺสติ; อชฺช เอกโกว ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสติ; อชฺช ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อิมสฺมึ กาเล ชนปทจาริกํ นิกฺขมิสฺสตี’’ติ. กึ ปนสฺส เอวํ ชานนตฺถํ เจโตปริยาณํ อตฺถีติ? นตฺถิ. อนุมานพุทฺธิยา ปน กตกิริยาย นยคฺคาเหน ชานาติ. ยฺหิ ทิวสํ ภควา เชตวเน วสิตฺวา ปุพฺพาราเม ทิวาวิหารํ กาตุกาโม โหติ, ตทา เสนาสนปริกฺขารภณฺฑานํ ปฏิสามนาการํ ทสฺเสติ, เถโร สมฺมชฺชนิสงฺการฉฑฺฑนกาทีนิ ปฏิสาเมติ. ปุพฺพาราเม วสิตฺวา เชตวนํ ทิวาวิหาราย อาคมนกาเลปิ เอเสว นโย.
ยทา ¶ ปน เอกโก ปิณฺฑาย ปวิสิตุกาโม โหติ, ตทา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทติ. เถโร ‘‘อชฺช ภควา โพธเนยฺยพนฺธวํ ทิสฺวา นิสินฺโน’’ติ ตาย สฺาย ตฺวา ‘‘อชฺช, อาวุโส, ภควา เอกโก ปวิสิตุกาโม, ตุมฺเห ภิกฺขาจารสชฺชา โหถา’’ติ ภิกฺขูนํ สฺํ เทติ. ยทา ปน ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ปวิสิตุกาโม โหติ, ตทา คนฺธกุฏิทฺวารํ อุปฑฺฒปิทหิตํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทติ, เถโร ตาย สฺาย ตฺวา ปตฺตจีวรคฺคหณตฺถาย ภิกฺขูนํ ¶ สฺํ เทติ. ยทา ชนปทจาริกํ นิกฺขมิตุกาโม โหติ, ตทา เอกํ ทฺเว อาโลเป อติเรกํ ภฺุชติ, สพฺพกาลํ จงฺกมนฺจารุยฺห อปราปรํ จงฺกมติ, เถโร ตาย สฺาย ตฺวา ‘‘ภควา, อาวุโส, ชนปทจาริกํ จริตุกาโม, ตุมฺหากํ กตฺตพฺพํ กโรถา’’ติ ภิกฺขูนํ สฺํ เทติ.
ภควา ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ อนิพทฺธวาโส อโหสิ, ปจฺฉา ปฺจวีสติ วสฺสานิ อพฺโพกิณฺณํ สาวตฺถึเยว อุปนิสฺสาย วสนฺโต เอกทิวเส ¶ ทฺเว านานิ ปริภฺุชติ. เชตวเน รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุพฺพาราเม ทิวาวิหารํ กโรติ. ปุพฺพาราเม รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส ปาจีนทฺวาเรน สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เชตวเน ทิวาวิหารํ กโรติ. กสฺมา? ทฺวินฺนํ กุลานํ อนุกมฺปาย. มนุสฺสตฺตภาเว ิเตน หิ อนาถปิณฺฑิเกน วิย อฺเน เกนจิ, มาตุคามตฺตภาเว ิตาย จ วิสาขาย วิย อฺาย อิตฺถิยา ตถาคตํ อุทฺทิสฺส ธนปริจฺจาโค กโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา ภควา เตสํ อนุกมฺปาย เอกทิวเส อิมานิ ทฺเว านานิ ปริภฺุชติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส เชตวเน วสิ, ตสฺมา เถโร – ‘‘อชฺช ภควา สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา สายนฺหกาเล คตฺตานิ ปริสิฺจนตฺถาย ปุพฺพโกฏฺกํ คมิสฺสติ; อถาหํ คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ิตํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา รมฺมกสฺส พฺราหฺมณสฺส อสฺสมํ คเหตฺวา คมิสฺสามิ. เอวมิเม ภิกฺขู ภควโต สมฺมุขา ลภิสฺสนฺติ ธมฺมกถํ สวนายา’’ติ จินฺเตตฺวา เต ภิกฺขู เอวมาห.
มิคารมาตุปาสาโทติ วิสาขาย ปาสาโท. สา หิ มิคาเรน เสฏฺินา มาตุฏฺาเน ปิตตฺตา มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ตสฺมึ กิร ปาสาเท ทฺวินฺนํ มหาสาวกานํ สิริคพฺภานํ ¶ มชฺเฌ ภควโต สิริคพฺโภ อโหสิ. เถโร ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโตคพฺภํ สมฺมชฺชิตฺวา มาลากจวรํ นีหริตฺวา มฺจปีํ ปฺเปตฺวา สตฺถุ สฺํ อทาสิ. สตฺถา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน สีหเสยฺยํ อุปคมฺม ทรถํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา อุฏฺาย ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิตฺวา ¶ สายนฺหสมเย ตโต วุฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต’’ติ.
ปริสิฺจิตุนฺติ โย หิ จุณฺณมตฺติกาทีหิ คตฺตานิ อุพฺพฏฺเฏนฺโต มลฺลกมุฏฺาทีหิ วา ฆํสนฺโต นฺหายติ, โส นฺหายตีติ วุจฺจติ. โย ตถา อกตฺวา ปกติยาว นฺหายติ, โส ปริสิฺจตีติ วุจฺจติ. ภควโตปิ สรีเร ตถา หริตพฺพํ รโชชลฺลํ นาม น อุปลิมฺปติ, อุตุคฺคหณตฺถํ ปน ภควา เกวลํ อุทกํ โอตรติ. เตนาห – ‘‘คตฺตานิ ปริสิฺจิตุ’’นฺติ. ปุพฺพโกฏฺโกติ ปาจีนโกฏฺโก.
สาวตฺถิยํ ¶ กิร วิหาโร กทาจิ มหา โหติ กทาจิ ขุทฺทโก. ตถา หิ โส วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล โยชนิโก อโหสิ, สิขิสฺส ติคาวุโต, เวสฺสภุสฺส อฑฺฒโยชนิโก, กกุสนฺธสฺส คาวุตปฺปมาโณ, โกณาคมนสฺส อฑฺฒคาวุตปฺปมาโณ, กสฺสปสฺส วีสติอุสภปฺปมาโณ, อมฺหากํ ภควโต กาเล อฏฺกรีสปฺปมาโณ ชาโต. ตมฺปิ นครํ ตสฺส วิหารสฺส กทาจิ ปาจีนโต โหติ, กทาจิ ทกฺขิณโต, กทาจิ ปจฺฉิมโต, กทาจิ อุตฺตรโต. เชตวเน คนฺธกุฏิยํ ปน จตุนฺนํ มฺจปาทานํ ปติฏฺิตฏฺานํ อจลเมว.
จตฺตาริ หิ อจลเจติยฏฺานานิ นาม มหาโพธิปลฺลงฺกฏฺานํ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฏฺานํ สงฺกสฺสนครทฺวาเร เทโวโรหณกาเล โสปานสฺส ปติฏฺฏฺานํ มฺจปาทฏฺานนฺติ. อยํ ปน ปุพฺพโกฏฺโก กสฺสปทสพลสฺส วีสติอุสภวิหารกาเล ปาจีนทฺวาเร โกฏฺโก อโหสิ. โส อิทานิปิ ปุพฺพโกฏฺโกตฺเวว ปฺายติ. กสฺสปทสพลสฺส กาเล อจิรวตี นครํ ปริกฺขิปิตฺวา สนฺทมานา ปุพฺพโกฏฺกํ ปตฺวา อุทเกน ภินฺทิตฺวา มหนฺตํ อุทกรหทํ มาเปสิ สมติตฺถํ อนุปุพฺพคมฺภีรํ. ตตฺถ เอกํ รฺโ นฺหานติตฺถํ, เอกํ นาครานํ, เอกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส, เอกํ พุทฺธานนฺติ เอวํ ปาฏิเยกฺกานิ นฺหานติตฺถานิ โหนฺติ รมณียานิ วิปฺปกิณฺณรชตปฏฺฏสทิสวาลิกานิ. อิติ ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน อยํ เอวรูโป ¶ ปุพฺพโกฏฺโก เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ ¶ . อถายสฺมา อานนฺโท อุทกสาฏิกํ อุปเนสิ. ภควา รตฺตทุปฏฺฏํ อปเนตฺวา อุทกสาฏิกํ นิวาเสสิ. เถโร ทุปฏฺเฏน สทฺธึ มหาจีวรํ อตฺตโน หตฺถคตมกาสิ. ภควา อุทกํ โอตริ. สโหตรเณเนวสฺส อุทเก มจฺฉกจฺฉปา สพฺเพ สุวณฺณวณฺณา อเหสุํ. ยนฺตนาลิกาหิ สุวณฺณรสธารานิสิฺจมานกาโล วิย สุวณฺณปฏปสารณกาโล วิย จ อโหสิ. อถ ภควโต นฺหานวตฺตํ ทสฺเสตฺวา นฺหตฺวา ปจฺจุตฺติณฺณสฺส เถโร รตฺตทุปฏฺฏํ อุปเนสิ. ภควา ตํ นิวาเสตฺวา วิชฺชุลตาสทิสํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา มหาจีวรํ อนฺตนฺเตน สํหริตฺวา ปทุมคพฺภสทิสํ กตฺวา อุปนีตํ ทฺวีสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา อฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุพฺพโกฏฺเก คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสี’’ติ.
เอวํ ¶ ิตสฺส ปน ภควโต สรีรํ วิกสิตกมลุปฺปลสรํ สพฺพปาลิผุลฺลํ ปาริจฺฉตฺตกํ ตารามรีจิวิกสิตํ จ คคนตลํ สิริยา อวหสมานํ วิย วิโรจิตฺถ. พฺยามปฺปภาปริกฺเขปวิลาสินี จสฺส ทฺวตฺตึสวรลกฺขณมาลา คนฺเถตฺวา ปิตา ทฺวตฺตึสจนฺทมาลา วิย, ทฺวตฺตึสสูริยมาลา วิย, ปฏิปาฏิยา ปิตา ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺติ ทฺวตฺตึสเทวราชา ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมาโน วิย จ อติวิย วิโรจิตฺถ, วณฺณภูมินาเมสา. เอวรูเปสุ าเนสุ พุทฺธานํ สรีรวณฺณํ วา คุณวณฺณํ วา จุณฺณิยปเทหิ วา คาถาหิ วา อตฺถฺจ อุปมาโย จ การณานิ จ อาหริตฺวา ปฏิพเลน ธมฺมกถิเกน ปูเรตฺวา กเถตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูเปสุ าเนสุ ธมฺมกถิกสฺส ถาโม เวทิตพฺโพ.
๒๗๓. คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโนติ ปกติภาวํ คมยมาโน นิรุทกานิ กุรุมาโน, สุกฺขาปยมาโนติ อตฺโถ. โสทเกน คตฺเตน จีวรํ ปารุปนฺตสฺส หิ จีวเร กณฺณิกา อุฏฺหนฺติ, ปริกฺขารภณฺฑํ ทุสฺสติ. พุทฺธานํ ปน สรีเร รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ; ปทุมปตฺเต ปกฺขิตฺตอุทกพินฺทุ วิย อุทกํ วินิวตฺเตตฺวา คจฺฉติ, เอวํ ¶ สนฺเตปิ สิกฺขาคารวตาย ภควา, ‘‘ปพฺพชิตวตฺตํ นาเมต’’นฺติ มหาจีวรํ อุโภสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา ปุรโต กายํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ เถโร จินฺเตสิ – ‘‘ภควา มหาจีวรํ ปารุปิตฺวา มิคารมาตุปาสาทํ อารพฺภ คมนาภิหารโต ปฏฺาย ทุนฺนิวตฺติโย ภวิสฺสติ; พุทฺธานฺหิ อธิปฺปายโกปนํ นาม เอกจาริกสีหสฺส คหณตฺถํ หตฺถปฺปสารณํ วิย; ปภินฺนวรวารณสฺส โสณฺฑาย ¶ ปรามสนํ วิย; อุคฺคเตชสฺส อาสีวิสสฺส คีวาย คหณํ วิย จ ภาริยํ โหติ. อิเธว รมฺมกสฺส พฺราหฺมณสฺส อสฺสมสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตตฺถ คมนตฺถาย ภควนฺตํ ยาจิสฺสามี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ.
ตตฺถ อนุกมฺปํ อุปาทายาติ ภควโต สมฺมุขา ธมฺมึ กถํ โสสฺสามาติ ตํ อสฺสมํ คตานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ, เตสุ การฺุํ กตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมิยา กถายาติ ทสสุ ปารมิตาสุ อฺตราย ¶ ปารมิยา เจว มหาภินิกฺขมนสฺส จ วณฺณํ กถยมานา สนฺนิสินฺนา โหนฺติ. อาคมยมาโนติ โอโลกยมาโน. อหํ พุทฺโธติ สหสา อปฺปวิสิตฺวา ยาว สา กถา นิฏฺาติ, ตาว อฏฺาสีติ อตฺโถ. อคฺคฬํ อาโกเฏสีติ อคฺคนเขน กวาเฏ สฺํ อทาสิ. วิวรึสูติ โสตํ โอทหิตฺวาว นิสินฺนตฺตา ตงฺขณํเยว อาคนฺตฺวา วิวรึสุ.
ปฺตฺเต อาสเนติ พุทฺธกาเล กิร ยตฺถ ยตฺถ เอโกปิ ภิกฺขุ วิหรติ, สพฺพตฺถ พุทฺธาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. กสฺมา? ภควา กิร อตฺตโน สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ผาสุกฏฺาเน วิหรนฺเต มนสิ กโรติ ‘‘อสุโก มยฺหํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คโต, สกฺขิสฺสติ นุ โข วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ โน วา’’ติ. อถ นํ ปสฺสติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา อกุสลวิตกฺเก วิตกฺกยมานํ, ตโต ‘‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหรนฺตํ อิมํ กุลปุตฺตํ อกุสลวิตกฺกา อภิภวิตฺวา อนมตคฺเค วฏฺฏทุกฺเข สํสาเรสฺสนฺตี’’ติ ตสฺส อนุคฺคหตฺถํ ตตฺเถว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ตํ กุลปุตฺตํ โอวทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา ปุน อตฺตโน วสนฏฺานเมว คจฺฉติ. อเถวํ โอวทิยมานา เต ภิกฺขู จินฺตยึสุ – ‘‘สตฺถา ¶ อมฺหากํ มนํ ชานิตฺวา อาคนฺตฺวา อมฺหากํ สมีเป ิตํเยว อตฺตานํ ทสฺเสติ; ตสฺมึ ขเณ, ‘ภนฺเต, อิธ นิสีทถ, อิธ นิสีทถา’ติ อาสนปริเยสนํ นาม ภาโร’’ติ. เต อาสนํ ปฺเปตฺวาว วิหรนฺติ. ยสฺส ปีํ อตฺถิ, โส ตํ ปฺเปติ. ยสฺส นตฺถิ, โส มฺจํ วา ผลกํ วา กฏฺํ วา ปาสาณํ วา วาลิกปฺุชํ วา ปฺเปติ. ตํ อลภมานา ปุราณปณฺณานิปิ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตตฺถ ปํสุกูลํ ปตฺถริตฺวา เปนฺติ. อิธ ปน ปกติปฺตฺตเมว อาสนํ อโหสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ.
กาย ¶ นุตฺถาติ กตมาย นุ กถาย สนฺนิสินฺนา ภวถาติ อตฺโถ. ‘‘กาย เนตฺถา’’ติปิ ปาฬิ, ตสฺสา กตมาย นุ เอตฺถาติ อตฺโถ. ‘‘กาย โนตฺถา’’ติปิ ปาฬิ, ตสฺสาปิ ปุริโมเยว อตฺโถ. อนฺตรา กถาติ กมฺมฏฺานมนสิการอุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อนฺตรา อฺา เอกา กถา. วิปฺปกตาติ มม อาคมนปจฺจยา อปรินิฏฺิตา สิขํ อปฺปตฺตา. อถ ภควา อนุปฺปตฺโตติ ¶ อถ เอตสฺมึ กาเล ภควา อาคโต. ธมฺมี วา กถาติ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตา วา ธมฺมี กถา. อริโย วา ตุณฺหีภาโวติ เอตฺถ ปน ทุติยชฺฌานมฺปิ อริโย ตุณฺหีภาโว มูลกมฺมฏฺานมฺปิ. ตสฺมา ตํ ฌานํ อปฺเปตฺวา นิสินฺโนปิ, มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺโนปิ ภิกฺขุ อริเยน ตุณฺหีภาเวน นิสินฺโนติ เวทิตพฺโพ.
๒๗๔. ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยสนาติ โก อนุสนฺธิ? เต ภิกฺขู สมฺมุขา ธมฺมึ กถํ โสสฺสามาติ เถรสฺส ภารํ อกํสุ, เถโร เตสํ อสฺสมคมนมกาสิ. เต ตตฺถ นิสีทิตฺวา อติรจฺฉานกถิกา หุตฺวา ธมฺมิยา กถาย นิสีทึสุ. อถ ภควา ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ปริเยสนา อริยปริเยสนา นามา’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ กตมา จ, ภิกฺขเว, อนริยปริเยสนาติ เอตฺถ ยถา มคฺคกุสโล ปุริโส ปมํ วชฺเชตพฺพํ อปายมคฺคํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วามํ มฺุจิตฺวา ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ วทติ. เอวํ ภควา เทสนากุสลตาย ปมํ วชฺเชตพฺพํ อนริยปริเยสนํ อาจิกฺขิตฺวา ปจฺฉา อิตรํ อาจิกฺขิสฺสามีติ อุทฺเทสานุกฺกมํ ภินฺทิตฺวา เอวมาห. ชาติธมฺโมติ ¶ ชายนสภาโว. ชราธมฺโมติ ชีรณสภาโว. พฺยาธิธมฺโมติ พฺยาธิสภาโว. มรณธมฺโมติ มรณสภาโว. โสกธมฺโมติ โสจนกสภาโว. สํกิเลสธมฺโมติ สํกิลิสฺสนสภาโว.
ปุตฺตภริยนฺติ ปุตฺตา จ ภริยา จ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ชาตรูปรชตนฺติ เอตฺถ ปน ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ ยํกิฺจิ โวหารูปคํ โลหมาสกาทิ. ชาติธมฺมา เหเต, ภิกฺขเว, อุปธโยติ เอเต ปฺจกามคุณูปธโย นาม โหนฺติ, เต สพฺเพปิ ชาติธมฺมาติ ทสฺเสติ. พฺยาธิธมฺมวาราทีสุ ชาตรูปรชตํ น คหิตํ, น เหตสฺส สีสโรคาทโย พฺยาธโย นาม โหนฺติ, น สตฺตานํ วิย จุติสงฺขาตํ มรณํ, น โสโก อุปฺปชฺชติ. อยาทีหิ ปน สํกิเลเสหิ สํกิลิสฺสตีติ สํกิเลสธมฺมวาเร คหิตํ. ตถา อุตุสมุฏฺานตฺตา ชาติธมฺมวาเร. มลํ คเหตฺวา ชีรณโต ชราธมฺมวาเร จ.
๒๗๕. อยํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อริยา ปริเยสนาติ, ภิกฺขเว, อยํ นิทฺโทสตายปิ อริเยหิ ปริเยสิตพฺพตายปิ อริยปริเยสนาติ เวทิตพฺพา.
๒๗๖. อหมฺปิ สุทํ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? มูลโต ปฏฺาย มหาภินิกฺขมนํ ทสฺเสตุํ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ภิกฺขเว, อหมฺปิ ปุพฺเพ อนริยปริเยสนํ ปริเยสึ. สฺวาหํ ตํ ปหาย อริยปริเยสนํ ปริเยสิตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต. ปฺจวคฺคิยาปิ อนริยปริเยสนํ ปริเยสึสุ. เต ตํ ปหาย อริยปริเยสนํ ปริเยสิตฺวา ขีณาสวภูมึ ปตฺตา. ตุมฺเหปิ มม เจว ปฺจวคฺคิยานฺจ มคฺคํ อารุฬฺหา. อริยปริเยสนา ตุมฺหากํ ปริเยสนา’’ติ มูลโต ปฏฺาย อตฺตโน มหาภินิกฺขมนํ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.
๒๗๗. ตตฺถ ทหโรว สมาโนติ ตรุโณว สมาโน. สุสุกาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส, อฺชนวณฺณเกโสว หุตฺวาติ อตฺโถ. ภทฺเรนาติ ภทฺทเกน. ปเมน วยสาติ ติณฺณํ วยานํ ปมวเยน. อกามกานนฺติ อนิจฺฉมานานํ, อนาทรตฺเถ สามิวจนํ. อสฺสูนิ มุเข เอเตสนฺติ อสฺสุมุขา; เตสํ อสฺสุมุขานํ, อสฺสุกิลินฺนมุขานนฺติ อตฺโถ. รุทนฺตานนฺติ กนฺทิตฺวา โรทมานานํ. กึ ¶ กุสลคเวสีติ กึ กุสลนฺติ คเวสมาโน. อนุตฺตรํ สนฺติวรปทนฺติ อุตฺตมํ สนฺติสงฺขาตํ วรปทํ, นิพฺพานํ ปริเยสมาโนติ อตฺโถ. เยน อาฬาโร กาลาโมติ เอตฺถ อาฬาโรติ ตสฺส นามํ, ทีฆปิงฺคโล กิเรโส. เตนสฺส อาฬาโรติ นามํ อโหสิ. กาลาโมติ โคตฺตํ. วิหรตายสฺมาติ วิหรตุ อายสฺมา. ยตฺถ วิฺู ปุริโสติ ยสฺมึ ธมฺเม ปณฺฑิโต ปุริโส. สกํ อาจริยกนฺติ อตฺตโน อาจริยสมยํ. อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ ปฏิลภิตฺวา วิหเรยฺย. เอตฺตาวตา เตน โอกาโส กโต โหติ. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ เตสํ สมยํ ตนฺตึ. ปริยาปุณินฺติ สุตฺวาว อุคฺคณฺหึ.
โอฏฺปหตมตฺเตนาติ เตน วุตฺตสฺส ปฏิคฺคหณตฺถํ โอฏฺปหรณมตฺเตน; อปราปรํ กตฺวา โอฏฺสฺจรณมตฺตเกนาติ อตฺโถ. ลปิตลาปนมตฺเตนาติ เตน ลปิตสฺส ปฏิลาปนมตฺตเกน. าณวาทนฺติ ชานามีติ วาทํ ¶ . เถรวาทนฺติ ถิรภาววาทํ, เถโร อหเมตฺถาติ เอตํ วจนํ. อหฺเจว อฺเ จาติ น เกวลํ อหํ, อฺเปิ พหู เอวํ วทนฺติ. เกวลํ สทฺธามตฺตเกนาติ ปฺาย อสจฺฉิกตฺวา สุทฺเธน สทฺธามตฺตเกเนว. โพธิสตฺโต กิร วาจาย ธมฺมํ อุคฺคณฺหนฺโตเยว, ‘‘น ¶ กาลามสฺส วาจาย ปริยตฺติมตฺตเมว อสฺมึ ธมฺเม, อทฺธา เอส สตฺตนฺนํ สมาปตฺตีนํ ลาภี’’ติ อฺาสิ, เตนสฺส เอตทโหสิ.
อากิฺจฺายตนํ ปเวเทสีติ อากิฺจฺายตนปริโยสานา สตฺต สมาปตฺติโย มํ ชานาเปสิ. สทฺธาติ อิมาสํ สตฺตนฺนํ สมาปตฺตีนํ นิพฺพตฺตนตฺถาย สทฺธา. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโย. ปทเหยฺยนฺติ ปโยคํ กเรยฺยํ. นจิรสฺเสว ตํ ธมฺมํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสินฺติ โพธิสตฺโต กิร วีริยํ ปคฺคเหตฺวา กติปาหฺเว สตฺต สุวณฺณนิสฺเสณิโย ปสาเรนฺโต วิย สตฺต สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสิ; ตสฺมา เอวมาห.
ลาภา โน, อาวุโสติ อนุสูยโก กิเรส กาลาโม. ตสฺมา ‘‘อยํ อธุนาคโต, กินฺติ กตฺวา อิมํ ธมฺมํ นิพฺพตฺเตสี’’ติ อุสูยํ อกตฺวา ปสนฺโน ปสาทํ ปเวเทนฺโต เอวมาห. อุโภว สนฺตา อิมํ คณํ ปริหรามาติ ‘‘มหา อยํ คโณ, ทฺเวปิ ชนา ปริหรามา’’ติ วตฺวา คณสฺส สฺํ อทาสิ, ‘‘อหมฺปิ สตฺตนฺนํ สมาปตฺตีนํ ลาภี, มหาปุริโสปิ สตฺตนฺนเมว ¶ , เอตฺตกา ชนา มหาปุริสสฺส สนฺติเก ปริกมฺมํ อุคฺคณฺหถ, เอตฺตกา มยฺห’’นฺติ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา อทาสิ. อุฬารายาติ อุตฺตมาย. ปูชายาติ กาลามสฺส กิร อุปฏฺากา อิตฺถิโยปิ ปุริสาปิ คนฺธมาลาทีนิ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺติ. กาลาโม – ‘‘คจฺฉถ, มหาปุริสํ ปูเชถา’’ติ วทติ. เต ตํ ปูเชตฺวา ยํ อวสิฏฺํ โหติ, เตน กาลามํ ปูเชนฺติ. มหคฺฆานิ มฺจปีานิ อาหรนฺติ; ตานิปิ มหาปุริสสฺส ทาเปตฺวา ยทิ อวสิฏฺํ โหติ, อตฺตนา คณฺหาติ. คตคตฏฺาเน วรเสนาสนํ โพธิสตฺตสฺส ชคฺคาเปตฺวา เสสกํ อตฺตนา คณฺหาติ. เอวํ อุฬาราย ปูชาย ปูเชสิ. นายํ ธมฺโม นิพฺพิทายาติอาทีสุ อยํ สตฺตสมาปตฺติธมฺโม เนว วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย, น วิรชฺชนตฺถาย, น ราคาทินิโรธตฺถาย, น ¶ อุปสมตฺถาย, น อภิฺเยฺยธมฺมํ อภิชานนตฺถาย, น จตุมคฺคสมฺโพธาย, น นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ.
ยาวเทว อากิฺจฺายตนูปปตฺติยาติ ยาว สฏฺิกปฺปสหสฺสายุปริมาเณ อากิฺจฺายตนภเว อุปปตฺติ, ตาวเทว สํวตฺตติ, น ตโต อุทฺธํ. เอวมยํ ปุนราวตฺตนธมฺโมเยว; ยฺจ านํ ปาเปติ, ตํ ชาติชรามรเณหิ อปริมุตฺตเมว มจฺจุปาสปริกฺขิตฺตเมวาติ. ตโต ปฏฺาย จ ปน มหาสตฺโต ยถา นาม ฉาตชฺฌตฺตปุริโส มนฺุโภชนํ ¶ ลภิตฺวา สมฺปิยายมาโนปิ ภฺุชิตฺวา ปิตฺตวเสน วา เสมฺหวเสน วา มกฺขิกาวเสน วา ฉฑฺเฑตฺวา ปุน เอกํ ปิณฺฑมฺปิ ภฺุชิสฺสามีติ มนํ น อุปฺปาเทติ; เอวเมว อิมา สตฺต สมาปตฺติโย มหนฺเตน อุสฺสาเหน นิพฺพตฺเตตฺวาปิ, ตาสุ อิมํ ปุนราวตฺติกาทิเภทํ อาทีนวํ ทิสฺวา, ปุน อิมํ ธมฺมํ อาวชฺชิสฺสามิ วา สมาปชฺชิสฺสามิ วา อธิฏฺหิสฺสามิ วา วุฏฺหิสฺสามิ วา ปจฺจเวกฺขิสฺสามิ วาติ จิตฺตเมว น อุปฺปาเทสิ. อนลงฺกริตฺวาติ อลํ อิมินา, อลํ อิมินาติ ปุนปฺปุนํ อลงฺกริตฺวา. นิพฺพิชฺชาติ นิพฺพินฺทิตฺวา. อปกฺกมินฺติ อคมาสึ.
๒๗๘. น โข ราโม อิมํ ธมฺมนฺติ อิธาปิ โพธิสตฺโต ตํ ธมฺมํ อุคฺคณฺหนฺโตเยว อฺาสิ – ‘‘นายํ อฏฺสมาปตฺติธมฺโม อุทกสฺส วาจาย อุคฺคหิตมตฺโตว, อทฺธา ปเนส ¶ อฏฺสมาปตฺติลาภี’’ติ. เตนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข ราโม…เป… ชานํ ปสฺสํ วิหาสี’’ติ. เสสเมตฺถ ปุริมวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๗๙. เยน อุรุเวลา เสนานิคโมติ เอตฺถ อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ. อถ วา อุรูติ วาลิกา วุจฺจติ; เวลาติ มริยาทา, เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ทสสหสฺสา กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา เอกทิวสํ สนฺนิปติตฺวา กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘กายกมฺมวจีกมฺมานิ นาม ปเรสมฺปิ ปากฏานิ โหนฺติ, มโนกมฺมํ ปน อปากฏํ. ตสฺมา โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส อฺโ โจทโก ¶ นาม นตฺถิ; โส อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทตฺวา ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อาหริตฺวา อิมสฺมึ าเน อากิรตุ, อิทมสฺส ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย โย ตาทิสํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, โส ตตฺถ ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อากิรติ, เอวํ ตตฺถ อนุกฺกเมน มหาวาลิกราสิ ชาโต. ตโต ตํ ปจฺฉิมา ชนตา ปริกฺขิปิตฺวา เจติยฏฺานมกาสิ; ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุรุเวลาติ มหาเวลา, มหาวาลิกราสีติ อตฺโถ’’ติ. ตเมว สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ วา อุรูติ วาลิกา วุจฺจติ, เวลาติ มริยาทา. เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ.
เสนานิคโมติ ¶ เสนาย นิคโม. ปมกปฺปิกานํ กิร ตสฺมึ าเน เสนานิเวโส อโหสิ; ตสฺมา โส ปเทโส เสนานิคโมติ วุจฺจติ. ‘‘เสนานิ-คาโม’’ติปิ ปาโ. เสนานี นาม สุชาตาย ปิตา, ตสฺส คาโมติ อตฺโถ. ตทวสรินฺติ ตตฺถ โอสรึ. รมณียํ ภูมิภาคนฺติ สุปุปฺผิตนานปฺปการชลชถลชปุปฺผวิจิตฺตํ มโนรมฺมํ ภูมิภาคํ. ปาสาทิกฺจ วนสณฺฑนฺติ โมรปิฺฉกลาปสทิสํ ปสาทชนนวนสณฺฑฺจ อทฺทสํ. นทิฺจ สนฺทนฺตินฺติ สนฺทมานฺจ มณิกฺขนฺธสทิสํ วิมลนีลสีตลสลิลํ เนรฺชรํ นทึ อทฺทสํ. เสตกนฺติ ปริสุทฺธํ นิกฺกทฺทมํ. สุปติตฺถนฺติ อนุปุพฺพคมฺภีเรหิ สุนฺทเรหิ ติตฺเถหิ อุเปตํ. รมณียนฺติ รชตปฏฺฏสทิสํ ¶ วิปฺปกิณฺณวาลิกํ ปหูตมจฺฉกจฺฉปํ อภิรามทสฺสนํ. สมนฺตา จ โคจรคามนฺติ ตสฺส ปเทสสฺส สมนฺตา อวิทูเร คมนาคมนสมฺปนฺนํ สมฺปตฺตปพฺพชิตานํ สุลภปิณฺฑํ โคจรคามฺจ อทฺทสํ. อลํ วตาติ สมตฺถํ วต. ตตฺเถว นิสีทินฺติ โพธิปลฺลงฺเก นิสชฺชํ สนฺธายาห. อุปริสุตฺตสฺมิฺหิ ตตฺเถวาติ ทุกฺกรการิกฏฺานํ อธิปฺเปตํ, อิธ ปน โพธิปลฺลงฺโก. เตนาห – ‘‘ตตฺเถว นิสีทิ’’นฺติ. อลมิทํ ปธานายาติ อิทํ านํ ปธานตฺถาย สมตฺถนฺติ เอวํ จินฺเตตฺวา นิสีทินฺติ อตฺโถ.
๒๘๐. อชฺฌคมนฺติ อธิคจฺฉึ ปฏิลภึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนนฺติ สพฺพธมฺมทสฺสนสมตฺถฺจ เม สพฺพฺุตฺาณํ อุทปาทิ. อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ มยฺหํ อรหตฺตผลวิมุตฺติ อกุปฺปตาย จ อกุปฺปารมฺมณตาย จ อกุปฺปา, สา หิ ราคาทีหิ น กุปฺปตีติ อกุปฺปตายปิ อกุปฺปา, อกุปฺปํ นิพฺพานมสฺสารมฺมณนฺติปิ อกุปฺปา. อยมนฺติมา ชาตีติ อยํ สพฺพปจฺฉิมา ชาติ. นตฺถิ ¶ ทานิ ปุนพฺภโวติ อิทานิ เม ปุน ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ เม อุปฺปนฺนนฺติ ทสฺเสติ.
๒๘๑. อธิคโตติ ปฏิวิทฺโธ. ธมฺโมติ จตุสจฺจธมฺโม. คมฺภีโรติ อุตฺตานภาวปฏิกฺเขปวจนเมตํ. ทุทฺทโสติ คมฺภีรตฺตาว ทุทฺทโส ทุกฺเขน ทฏฺพฺโพ, น สกฺกา สุเขน ทฏฺุํ. ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพโธ, ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน อวพุชฺฌิตุํ. สนฺโตติ นิพฺพุโต. ปณีโตติ อตปฺปโก. อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อตกฺกาวจโรติ ตกฺเกน อวจริตพฺโพ โอคาหิตพฺโพ น โหติ, าเณเนว อวจริตพฺโพ. นิปุโณติ สณฺโห. ปณฺฑิตเวทนีโยติ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺเนหิ ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺโพ. อาลยรามาติ ¶ สตฺตา ปฺจสุ กามคุเณสุ อลฺลียนฺติ. ตสฺมา เต อาลยาติ วุจฺจนฺติ. อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ อาลยนฺติ, ตสฺมา อาลยาติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุ มุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนํ อุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, สมฺมุทิโต อาโมทิตปโมทิโต โหติ, น ¶ อุกฺกณฺติ, สายมฺปิ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ; เอวมิเมหิปิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ สมฺมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เนสํ ภควา ทุวิธมฺปิ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อาลยรามา’’ติอาทิมาห.
ยทิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส านํ สนฺธาย ‘‘ยํ อิท’’นฺติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา; อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา; อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. สงฺขาราทิปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสราคา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ; ตสฺมา สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. สา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ ¶ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส, สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. กายกิลมโถ เจว กายวิเหสา จ อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺเต ปน อุภยมฺเปตํ พุทฺธานํ นตฺถิ. อปิสฺสูติ อนุพฺรูหนตฺเถ นิปาโต, โส ‘‘น เกวลํ เอตทโหสิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสู’’ติ ทีเปติ. มนฺติ มม. อนจฺฉริยาติ อนุอจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ; ปริวิตกฺกยิตพฺพตํ ปาปุณึสุ.
กิจฺเฉนาติ ทุกฺเขน, น ทุกฺขาย ปฏิปทาย. พุทฺธานฺหิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฺปฏิปทาว โหนฺติ. ปารมีปูรณกาเล ปน สราคสโทสสโมหสฺเสว สโต อาคตาคตานํ ยาจกานํ ¶ , อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สีสํ กนฺติตฺวา, คลโลหิตํ นีหริตฺวา, สุอฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา, กุลวํสปฺปทีปํ ปุตฺตํ มนาปจารินึ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส, อฺานิ จ ขนฺติวาทิสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนิยปฏิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ¶ . หลนฺติ เอตฺถ ห-กาโร นิปาตมตฺโต, อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทสิตุํ, เอวํ กิจฺเฉน อธิคตสฺส ธมฺมสฺส อลํ เทสิตุํ, ปริยตฺตํ เทสิตุํ, โก อตฺโถ เทสิเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ราคโทสปเรเตหีติ ราคโทสปริผุฏฺเหิ ราคโทสานุคเตหิ วา.
ปฏิโสตคามินฺติ นิจฺจาทีนํ ปฏิโสตํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภนฺติ เอวํ คตํ จตุสจฺจธมฺมํ. ราครตฺตาติ กามราเคน ภวราเคน ทิฏฺิราเคน จ รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภนฺติ อิมินา สภาเวน น ปสฺสิสฺสนฺติ, เต อปสฺสนฺเต โก สกฺขิสฺสติ เอวํ คาหาเปตุํ. ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถตา.
๒๘๒. อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน, อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ. กสฺมา ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ, นนุ เอส มุตฺโต โมเจสฺสามิ, ติณฺโณ ตาเรสฺสามิ.
‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตารยิสฺสํ สเทวก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๕๖) –
ปตฺถนํ ¶ กตฺวา ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ. สจฺจเมตํ, ตเทวํ ปจฺจเวกฺขณานุภาเวน ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ตสฺส หิ สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺตานํ กิเลสคหนตํ, ธมฺมสฺส จ คมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สตฺตานํ กิเลสคหนตา จ ธมฺมคมฺภีรตา จ สพฺพากาเรน ปากฏา ชาตา. อถสฺส ‘‘อิเม สตฺตา กฺชิกปุณฺณา ลาพุ วิย, ตกฺกภริตา จาฏิ วิย, วสาเตลปีตปิโลติกา วิย, อฺชนมกฺขิตหตฺโถ วิย จ กิเลสภริตา อติสํกิลิฏฺา ราครตฺตา โทสทุฏฺา โมหมูฬฺหา, เต กึ นาม ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ จินฺตยโต กิเลสคหนปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมิ.
‘‘อยฺจ ธมฺโม ปถวีสนฺธารกอุทกกฺขนฺโธ วิย คมฺภีโร, ปพฺพเตน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปิโต ¶ สาสโป วิย ทุทฺทโส, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิปฏิปาทนํ วิย ทุรนุโพโธ. นนุ มยา หิ อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ วายมนฺเตน อทินฺนํ ทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตํ สีลํ ¶ นาม นตฺถิ, อปริปูริตา กาจิ ปารมี นาม นตฺถิ? ตสฺส เม นิรุสฺสาหํ วิย มารพลํ วิธมนฺตสฺสาปิ ปถวี น กมฺปิตฺถ, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ โสเธนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, ปจฺฉิมยาเม ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺเสว เม ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. อิติ มาทิเสนาปิ ติกฺขาเณน กิจฺเฉเนวายํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ, ตํ โลกิยมหาชนา กถํ ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมีติ เวทิตพฺพํ.
อปิจ พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตายปิสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ชานาติ หิ ภควา – ‘‘มม อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมมาเน มํ มหาพฺรหฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, อิเม จ สตฺตา พฺรหฺมครุกา, เต ‘สตฺถา กิร ธมฺมํ น เทเสตุกาโม อโหสิ, อถ นํ มหาพฺรหฺมา ยาจิตฺวา เทสาเปสิ, สนฺโต วต, โภ, ธมฺโม ปณีโต วต, โภ, ธมฺโม’ติ มฺมานา สุสฺสูสิสฺสนฺตี’’ติ. อิทมฺปิสฺส การณํ ปฏิจฺจ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายาติ เวทิตพฺพํ.
สหมฺปติสฺสาติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุกพฺรหฺมา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. ตตฺร นํ สหมฺปติพฺรหฺมาติ ปฏิสฺชานนฺติ, ตํ สนฺธายาห – ‘‘พฺรหฺมุโน ¶ สหมฺปติสฺสา’’ติ. นสฺสติ วต, โภติ โส กิร อิมํ สทฺทํ ตถา นิจฺฉาเรสิ, ยถา ทสสหสฺสิโลกธาตุพฺรหฺมาโน สุตฺวา สพฺเพ สนฺนิปตึสุ. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมึ นาม โลเก. ปุรโต ปาตุรโหสีติ เตหิ ทสหิ พฺรหฺมสหสฺเสหิ สทฺธึ ปาตุรโหสิ. อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ, เอวํสภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ภวิสฺสนฺตีติ ปุริมพุทฺเธสุ ทสปฺุกิริยวเสน กตาธิการา ปริปากคตปทุมานิ วิย สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ, ธมฺมเทสนํเยว อากงฺขมานา จตุปฺปทิกคาถาวสาเน อริยภูมึ โอกฺกมนารหา น เอโก, น ทฺเว, อเนกสตสหสฺสา ธมฺมสฺส อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ.
ปาตุรโหสีติ ¶ ¶ ปาตุภวิ. สมเลหิ จินฺติโตติ สมเลหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ จินฺติโต. เต หิ ปุเรตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา สกลชมฺพุทีเป กณฺฏเก ปตฺถรมานา วิย, วิสํ สิฺจมานา วิย จ สมลํ มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมํ เทสยึสุ. อปาปุเรตนฺติ วิวร เอตํ. อมตสฺส ทฺวารนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารภูตํ อริยมคฺคํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธนฺติ อิเม สตฺตา ราคาทิมลานํ อภาวโต วิมเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุพุทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ สุณนฺตุ ตาว ภควาติ ยาจติ.
เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถา ิโตว. น หิ ตสฺส ิตสฺส ทสฺสนตฺถํ คีวุกฺขิปนปสารณาทิกิจฺจํ อตฺถิ. ตถูปมนฺติ ตปฺปฏิภาคํ เสลปพฺพตูปมํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา เสลปพฺพตมุทฺธนิ ิโตว จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย, ตถา ตฺวมฺปิ, สุเมธ, สุนฺทรปฺ-สพฺพฺุตฺาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตํ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารย อุปปริกฺข. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา หิ ปพฺพตปาเท สมนฺตา มหนฺตํ เขตฺตํ กตฺวา ตตฺถ เกทารปาฬีสุ กุฏิกาโย กตฺวา รตฺตึ อคฺคึ ชาเลยฺยุํ. จตุรงฺคสมนฺนาคตฺจ อนฺธการํ อสฺส, อถ ตสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ภูมึ โอโลกยโต เนว เขตฺตํ, น เกทารปาฬิโย, น กุฏิโย, น ตตฺถ สยิตมนุสฺสา ปฺาเยยฺยุํ. กุฏิกาสุ ปน ¶ อคฺคิชาลามตฺตกเมว ปฺาเยยฺย. เอวํ ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห สตฺตนิกายํ โอโลกยโต ตถาคตสฺส, เย เต อกตกลฺยาณา สตฺตา, เต เอกวิหาเร ทกฺขิณชาณุปสฺเส นิสินฺนาปิ พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา สรา วิย โหนฺติ. เย ปน กตกลฺยาณา เวเนยฺยปุคฺคลา, เต เอวสฺส ทูเรปิ ิตา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, โส อคฺคิ วิย หิมวนฺตปพฺพโต วิย จ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทูเร ¶ สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔);
อุฏฺเหีติ ภควโต ธมฺมเทสนตฺถํ จาริกจรณํ ยาจนฺโต ภณติ. วีราติอาทีสุ ภควา วีริยวนฺตตาย วีโร. เทวปุตฺตมจฺจุกิเลสมารานํ วิชิตตฺตา วิชิตสงฺคาโม. ชาติกนฺตาราทินิตฺถรณตฺถาย ¶ เวเนยฺยสตฺถวาหนสมตฺถตาย สตฺถวาโห. กามจฺฉนฺทอิณสฺส อภาวโต อณโณติ เวทิตพฺโพ.
๒๘๓. อชฺเฌสนนฺติ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ าณานํ พุทฺธจกฺขูติ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺส สมนฺตจกฺขูติ, ติณฺณํ มคฺคาณานํ ธมฺมจกฺขูติ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ เยสํ วุตฺตนเยเนว ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ, เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺเจว วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ, เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน นาม.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิ – ‘‘สทฺโธ ปุคฺคโล อปฺปรชกฺโข, อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. อารทฺธวีริโย…, กุสิโต…, อุปฏฺิตสฺสติ…, มุฏฺสฺสติ…, สมาหิโต…, อสมาหิโต…, ปฺวา…, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. ตถา สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย…เป… ปฺวา ปุคฺคโล ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี. โลโกติ ¶ ขนฺธโลโก, อายตนโลโก, ธาตุโลโก, สมฺปตฺติภวโลโก, สมฺปตฺติสมฺภวโลโก, วิปตฺติภวโลโก, วิปตฺติสมฺภวโลโก, เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา – นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา – ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา – จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา – ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา – ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา – สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา – อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา – นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา – ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา – ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส ¶ โลกา – อฏฺารสฺส ธาตุโย. วชฺชนฺติ สพฺเพ กิเลสา วชฺชา, สพฺเพ ทุจฺจริตา วชฺชา, สพฺเพ อภิสงฺขารา วชฺชา, สพฺเพ ภวคามิกมฺมา วชฺชา. อิติ อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเช ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ชานาติ ปสฺสติ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. อิทํ ตถาคตสฺส อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒).
อุปฺปลินิยนฺติ ¶ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อนฺโต นิมุคฺคาเนว โปสิยนฺติ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานีติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ. ตตฺถ ยานิ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ, ตานิ สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ อาคมยมานานิ ิตานิ อชฺช ปุปฺผนกานิ. ยานิ สโมทกํ ิตานิ, ตานิ สฺเว ปุปฺผนกานิ. ยานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ. อุทกา ปน อนุคฺคตานิ อฺานิปิ สโรคอุปฺปลาทีนิ นาม อตฺถิ, ยานิ เนว ปุปฺผิสฺสนฺติ, มจฺฉกจฺฉปภกฺขาเนว ภวิสฺสนฺติ. ตานิ ปาฬึ นารุฬฺหานิ. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพานีติ ทีปิตานิ.
ยเถว หิ ตานิ จตุพฺพิธานิ ปุปฺผานิ, เอวเมว อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโย ปทปรโมติ จตฺตาโร ปุคฺคลา. ตตฺถ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต ¶ เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม’’ (ปุ. ป. ๑๕๑). ตตฺถ ภควา อุปฺปลวนาทิสทิสํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต ‘‘อชฺช ปุปฺผนกานิ วิย อุคฺฆฏิตฺู, สฺเว ปุปฺผนกานิ วิย วิปฺจิตฺู, ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ วิย เนยฺโย, มจฺฉกจฺฉปภกฺขานิ ปุปฺผานิ วิย ปทปรโม’’ติ ¶ อทฺทส. ปสฺสนฺโต จ ‘‘เอตฺตกา อปฺปรชกฺขา, เอตฺตกา มหารชกฺขา, ตตฺราปิ เอตฺตกา อุคฺฆฏิตฺู’’ติ เอวํ สพฺพาการโตว อทฺทส.
ตตฺถ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภควโต ธมฺมเทสนา อตฺถํ สาเธติ. ปทปรมานํ อนาคเต วาสนตฺถาย โหติ. อถ ภควา อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถาวหํ ธมฺมเทสนํ วิทิตฺวา เทเสตุกมฺยตํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน สพฺเพปิ ตีสุ ภเวสุ สตฺเต ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. เย สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตเม เต สตฺตา อภพฺพา, เย เต สตฺตา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ¶ ทุปฺปฺา อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิเม เต สตฺตา อภพฺพา. กตเม เต สตฺตา ภพฺพา? เย เต สตฺตา น กมฺมาวรเณน…เป… อิเม เต สตฺตา ภพฺพา’’ติ (วิภ. ๘๒๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๕). ตตฺถ สพฺเพปิ อภพฺพปุคฺคเล ปหาย ภพฺพปุคฺคเลเยว าเณน ปริคฺคเหตฺวา ‘‘เอตฺตกา ราคจริตา, เอตฺตกา โทสโมหจริตา วิตกฺกสทฺธาพุทฺธิจริตา’’ติ ฉ โกฏฺาเส อกาสิ; เอวํ กตฺวา ธมฺมํ เทสิสฺสามีติ จินฺเตสิ.
ปจฺจภาสินฺติ ปติอภาสึ. อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ, โส มยา วิวริตฺวา ปิโตติ ทสฺเสติ. ปมฺุจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมฺุจนฺตุ, วิสฺสชฺเชนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ, อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา น ภาสึ ¶ . อิทานิ ปน สพฺโพ ชโน สทฺธาภาชนํ อุปเนตุ, ปูเรสฺสามิ เนสํ สงฺกปฺปนฺติ.
๒๘๔. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสีติ เอตํ อโหสิ – กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยนฺติ อยํ ธมฺมเทสนาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อุทปาทีติ อตฺโถ. กทา ปเนส อุทปาทีติ? พุทฺธภูตสฺส อฏฺเม สตฺตาเห.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – โพธิสตฺโต กิร มหาภินิกฺขมนทิวเส วิวฏํ อิตฺถาคารํ ทิสฺวา สํวิคฺคหทโย, ‘‘กณฺฑกํ อาหรา’’ติ ฉนฺนํ อามนฺเตตฺวา ฉนฺนสหาโย อสฺสราชปิฏฺิคโต ¶ นครโต นิกฺขมิตฺวา กณฺฑกนิวตฺตนเจติยฏฺานํ นาม ทสฺเสตฺวา ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมฺม อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตฺวา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปณฺฑวปพฺพเต นิสินฺโน มคธิสฺสเรน รฺา นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘อิมํ รชฺชํ สมฺปฏิจฺฉาหี’’ติ วุตฺโต, ‘‘อลํ มหาราช, น มยฺหํ รชฺเชน อตฺโถ, อหํ รชฺชํ ปหาย โลกหิตตฺถาย ปธานํ อนุยฺุชิตฺวา โลเก วิวฏจฺฉโท ภวิสฺสามีติ นิกฺขนฺโต’’ติ วตฺวา, ‘‘เตน หิ พุทฺโธ หุตฺวา ปมํ มยฺหํ วิชิตํ โอสเรยฺยาสี’’ติ ปฏิฺํ คหิโต กาลามฺจ อุทกฺจ อุปสงฺกมิตฺวา เตสํ ธมฺมเทสนาย สารํ อวินฺทนฺโต ตโต ปกฺกมิตฺวา อุรุเวฬาย ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺโตปิ อมตํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺโต โอฬาริกาหารปฏิเสวเนน กายํ สนฺตปฺเปสิ.
ตทา ¶ จ อุรุเวลคาเม สุชาตา นาม กุฏุมฺพิยธีตา เอกสฺมึ นิคฺโรธรุกฺเข ปตฺถนมกาสิ – ‘‘สจาหํ สมานชาติกํ กุลฆรํ คนฺตฺวา ปมคพฺเภ ปุตฺตํ ลภิสฺสามิ, พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. ตสฺสา สา ปตฺถนา สมิชฺฌิ. สา วิสาขปุณฺณมทิวเส ปาโตว พลิกมฺมํ กริสฺสามีติ รตฺติยา ปจฺจูสสมเย เอว ปายสํ ปฏิยาเทสิ. ตสฺมึ ปายเส ปจฺจมาเน มหนฺตมหนฺตา ปุปฺผุฬา อุฏฺหิตฺวา ทกฺขิณาวฏฺฏา หุตฺวา สฺจรนฺติ. เอกผุสิตมฺปิ พหิ น คจฺฉติ. มหาพฺรหฺมา ฉตฺตํ ธาเรสิ. จตฺตาโร โลกปาลา ขคฺคหตฺถา อารกฺขํ คณฺหึสุ. สกฺโก อลาตานิ สมาเนนฺโต อคฺคึ ชาเลสิ. เทวตา จตูสุ ทีเปสุ โอชํ สํหริตฺวา ¶ ตตฺถ ปกฺขิปึสุ. โพธิสตฺโต ภิกฺขาจารกาลํ อาคมยมาโน ปาโตว คนฺตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทิ. รุกฺขมูเล โสธนตฺถาย คตา ธาตี อาคนฺตฺวา สุชาตาย อาโรเจสิ – ‘‘เทวตา รุกฺขมูเล นิสินฺนา’’ติ. สุชาตา, สพฺพํ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิเก สุวณฺณถาเล ปายสํ วฑฺเฒตฺวา อปราย สุวณฺณปาติยา ปิทหิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา คตา มหาปุริสํ ทิสฺวา สเหว ปาติยา หตฺเถ เปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ยถา มยฺหํ มโนรโถ นิปฺผนฺโน, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ นิปฺผชฺชตู’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
โพธิสตฺโต ¶ เนรฺชราย ตีรํ คนฺตฺวา สุวณฺณถาลํ ตีเร เปตฺวา นฺหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกูนปณฺณาสปิณฺเฑ กโรนฺโต ปายสํ ปริภฺุชิตฺวา ‘‘สจาหํ อชฺช พุทฺโธ ภวามิ, ถาลํ ปฏิโสตํ คจฺฉตู’’ติ ขิปิ. ถาลํ ปฏิโสตํ คนฺตฺวา โถกํ ตฺวา กาลนาคราชสฺส ภวนํ ปวิสิตฺวา ติณฺณํ พุทฺธานํ ถาลานิ อุกฺขิปิตฺวา อฏฺาสิ.
มหาสตฺโต วนสณฺเฑ ทิวาวิหารํ กตฺวา สายนฺหสมเย โสตฺติเยน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา โพธิมณฺฑํ อารุยฺห ทกฺขิณทิสาภาเค อฏฺาสิ. โส ปเทโส ปทุมินิปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย อกมฺปิตฺถ. มหาสตฺโต, ‘‘อยํ มม คุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกตี’’ติ ปจฺฉิมทิสาภาคํ อคมาสิ, โสปิ ตเถว อกมฺปิตฺถ. อุตฺตรทิสาภาคํ อคมาสิ, โสปิ ตเถว อกมฺปิตฺถ. ปุรตฺถิมทิสาภาคํ อคมาสิ, ตตฺถ ปลฺลงฺกปฺปมาณํ านํ สุนิขาตอินฺทขิโล วิย นิจฺจลมโหสิ. มหาสตฺโต ‘‘อิทํ านํ สพฺพพุทฺธานํ กิเลสภฺชนวิทฺธํสนฏฺาน’’นฺติ ตานิ ติณานิ อคฺเค คเหตฺวา จาเลสิ. ตานิ จิตฺตกาเรน ตูลิกคฺเคน ปริจฺฉินฺนานิ วิย อเหสุํ. โพธิสตฺโต ¶ , ‘‘โพธึ อปฺปตฺวา อิมํ ปลฺลงฺกํ น ภินฺทิสฺสามี’’ติ จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ.
ตงฺขณฺเว มาโร พาหุสหสฺสํ มาเปตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติกํ คิริเมขลํ นาม หตฺถึ อารุยฺห นวโยชนํ มารพลํ คเหตฺวา อทฺธกฺขิเกน โอโลกยมาโน ปพฺพโต วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต อุปสงฺกมิ. มหาสตฺโต, ‘‘มยฺหํ ทส ปารมิโย ปูเรนฺตสฺส อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ ¶ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา สกฺขิ นตฺถิ, เวสฺสนฺตรตฺตภาเว ปน มยฺหํ สตฺตสุ วาเรสุ มหาปถวี สกฺขิ อโหสิ; อิทานิปิ เม อยเมว อเจตนา กฏฺกลิงฺครูปมา มหาปถวี สกฺขี’’ติ หตฺถํ ปสาเรติ. มหาปถวี ตาวเทว อยทณฺเฑน ปหตํ กํสถาลํ วิย รวสตํ รวสหสฺสํ มฺุจมานา วิรวิตฺวา ปริวตฺตมานา มารพลํ จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ มฺุจนมกาสิ. มหาสตฺโต สูริเย ธรมาเนเยว มารพลํ วิธมิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสาณํ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาเท าณํ โอตาเรตฺวา วฏฺฏวิวฏฺฏํ สมฺมสิตฺวา อรุโณทเย พุทฺโธ หุตฺวา ¶ , ‘‘มยา อเนกกปฺปโกฏิสตสหสฺสํ อทฺธานํ อิมสฺส ปลฺลงฺกสฺส อตฺถาย วายาโม กโต’’ติ สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อเถกจฺจานํ เทวตานํ, ‘‘กึ นุ โข อฺเปิ พุทฺธตฺตกรา ธมฺมา อตฺถี’’ติ กงฺขา อุทปาทิ.
อถ ภควา อฏฺเม ทิวเส สมาปตฺติโต วุฏฺาย เทวตานํ กงฺขํ ตฺวา กงฺขาวิธมนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา ตาสํ กงฺขํ วิธมิตฺวา ปลฺลงฺกโต อีสกํ ปาจีนนิสฺสิเต อุตฺตรทิสาภาเค ตฺวา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลาธิคมฏฺานํ ปลฺลงฺกฺเจว โพธิรุกฺขฺจ อนิมิเสหิ อกฺขีหิ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ อนิมิสเจติยํ นาม ชาตํ.
อถ ปลฺลงฺกสฺส จ ิตฏฺานสฺส จ อนฺตรา ปุรตฺถิมปจฺฉิมโต อายเต รตนจงฺกเม จงฺกมนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนจงฺกมเจติยํ นาม ชาตํ. ตโต ปจฺฉิมทิสาภาเค เทวตา รตนฆรํ มาปยึสุ, ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ วิเสสโต เจตฺถ อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานํ วิจินนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนฆรเจติยํ นาม ชาตํ. เอวํ โพธิสมีเปเยว จตฺตาริ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา ปฺจเม สตฺตาเห โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ ¶ เตนุปสงฺกมิ, ตตฺราปิ ธมฺมํ วิจินนฺโตเยว วิมุตฺติสุขฺจ ปฏิสํเวเทนฺโต นิสีทิ, ธมฺมํ วิจินนฺโต เจตฺถ เอวํ อภิธมฺเม นยมคฺคํ สมฺมสิ – ปมํ ธมฺมสงฺคณีปกรณํ นาม, ตโต วิภงฺคปกรณํ, ธาตุกถาปกรณํ, ปุคฺคลปฺตฺติปกรณํ, กถาวตฺถุ นาม ปกรณํ, ยมกํ นาม ปกรณํ, ตโต มหาปกรณํ ปฏฺานํ นามาติ.
ตตฺถสฺส ¶ สณฺหสุขุมปฏฺานมฺหิ จิตฺเต โอติณฺเณ ปีติ อุปฺปชฺชิ; ปีติยา อุปฺปนฺนาย โลหิตํ ปสีทิ, โลหิเต ปสนฺเน ฉวิ ปสีทิ. ฉวิยา ปสนฺนาย ปุรตฺถิมกายโต กูฏาคาราทิปฺปมาณา รสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อากาเส ปกฺขนฺทฉทฺทนฺตนาคกุลํ วิย ปาจีนทิสาย อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ ปกฺขนฺทา, ปจฺฉิมกายโต อุฏฺหิตฺวา ปจฺฉิมทิสาย, ทกฺขิณํสกูฏโต อุฏฺหิตฺวา ทกฺขิณทิสาย, วามํสกูฏโต ¶ อุฏฺหิตฺวา อุตฺตรทิสาย อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ ปกฺขนฺทา, ปาทตเลหิ ปวาฬงฺกุรวณฺณา รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา มหาปถวึ วินิวิชฺฌิตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา วาตกฺขนฺธํ ปทาเลตฺวา อชฏากาสํ ปกฺขนฺทา, สีสโต สมฺปริวตฺติยมานํ มณิทามํ วิย นีลวณฺณา รสฺมิวฏฺฏิ อุฏฺหิตฺวา ฉ เทวโลเก วินิวิชฺฌิตฺวา นว พฺรหฺมโลเก เวหปฺผเล ปฺจ สุทฺธาวาเส จ วินิวิชฺฌิตฺวา จตฺตาโร อารุปฺเป อติกฺกมฺม อชฏากาสํ ปกฺขนฺทา. ตสฺมึ ทิวเส อปริมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณา สตฺตา สพฺเพ สุวณฺณวณฺณาว อเหสุํ. ตํ ทิวสฺจ ปน ภควโต สรีรา นิกฺขนฺตา ยาวชฺชทิวสาปิ ตา รสฺมิโย อนนฺตา โลกธาตุโย คจฺฉนฺติเยว.
เอวํ ภควา อชปาลนิคฺโรเธ สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา ตโต อปรํ สตฺตาหํ มุจลินฺเท นิสีทิ, นิสินฺนมตฺตสฺเสว จสฺส สกลํ จกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรนฺโต มหาอกาลเมโฆ อุทปาทิ. เอวรูโป กิร มหาเมโฆ ทฺวีสุเยว กาเลสุ วสฺสติ จกฺกวตฺติมฺหิ วา อุปฺปนฺเน พุทฺเธ วา. อิธ พุทฺธกาเล อุทปาทิ. ตสฺมึ ปน อุปฺปนฺเน มุจลินฺโท นาคราชา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เมโฆ สตฺถริ มยฺหํ ภวนํ ปวิฏฺมตฺเตว อุปฺปนฺโน, วาสาคารมสฺส ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส สตฺตรตนมยํ ปาสาทํ นิมฺมินิตุํ สกฺโกนฺโตปิ เอวํ กเต มยฺหํ มหปฺผลํ น ภวิสฺสติ, ทสพลสฺส กายเวยฺยาวจฺจํ กริสฺสามีติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ กตฺวา สตฺถารํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ ผณํ ธาเรสิ. ปริกฺเขปสฺส อนฺโต โอกาโส เหฏฺา โลหปาสาทปฺปมาโณ อโหสิ. อิจฺฉิติจฺฉิเตน อิริยาปเถน สตฺถา วิหริสฺสตีติ นาคราชสฺส อชฺฌาสโย อโหสิ. ตสฺมา เอวํ มหนฺตํ โอกาสํ ¶ ปริกฺขิปิ. มชฺเฌ รตนปลฺลงฺโก ปฺตฺโต โหติ, อุปริ สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ สโมสริตคนฺธทามกุสุมทามเจลวิตานํ อโหสิ. จตูสุ โกเณสุ คนฺธเตเลน ทีปา ชลิตา, จตูสุ ทิสาสุ วิวริตฺวา จนฺทนกรณฺฑกา ¶ ปิตา. เอวํ ภควา ตํ สตฺตาหํ ตตฺถ วีตินาเมตฺวา ตโต อปรํ สตฺตาหํ ราชายตเน นิสีทิ.
อฏฺเม สตฺตาเห สกฺเกน เทวานมินฺเทน อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ โอสธหรีตกฺจ ¶ ขาทิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา จตูหิ โลกปาเลหิ อุปนีเต ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต ตปุสฺสภลฺลิกานํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา อชปาลนิคฺโรเธ นิสินฺนสฺส สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺโณ อยํ วิตกฺโก อุทปาทิ.
ตตฺถ ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. วิยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยา ปฺาย สมนฺนาคโต. อปฺปรชกฺขชาติโกติ สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตตฺตา นิกฺกิเลสชาติโก วิสุทฺธสตฺโต. อาชานิสฺสตีติ สลฺลกฺเขสฺสติ ปฏิวิชฺฌิสฺสติ. าณฺจ ปน เมติ มยฺหมฺปิ สพฺพฺุตฺาณํ อุปฺปชฺชิ. ภควา กิร เทวตาย กถิเตเนว นิฏฺํ อคนฺตฺวา สยมฺปิ สพฺพฺุตฺาเณน โอโลเกนฺโต อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก กาลํ กตฺวา อากิฺจฺายตเน นิพฺพตฺโตติ อทฺทส. ตํ สนฺธายาห – ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาที’’ติ. มหาชานิโยติ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ปตฺตพฺพมคฺคผลโต ปริหีนตฺตา มหตี ชานิ อสฺสาติ มหาชานิโย. อกฺขเณ นิพฺพตฺตตฺตา คนฺตฺวา เทสิยมานํ ธมฺมมฺปิสฺส โสตุํ โสตปฺปสาโท นตฺถิ, อิธ ธมฺมเทสนฏฺานํ อาคมนปาทาปิ นตฺถิ, เอวํ มหาชานิโย ชาโตติ ทสฺเสติ. อภิโทสกาลงฺกโตติ อฑฺฒรตฺเต กาลงฺกโต. าณฺจ ปน เมติ มยฺหมฺปิ สพฺพฺุตฺาณํ อุทปาทิ. อิธาปิ กิร ภควา เทวตาย วจเนน สนฺนิฏฺานํ อกตฺวา สพฺพฺุตฺาเณน โอโลเกนฺโต ‘‘หิยฺโย อฑฺฒรตฺเต กาลงฺกตฺวา อุทโก รามปุตฺโต เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโต’’ติ อทฺทส. ตสฺมา เอวมาห. เสสํ ปุริมนยสทิสเมว. พหุการาติ พหูปการา. ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺหึสูติ ปธานตฺถาย เปสิตตฺตภาวํ วสนฏฺาเน ปริเวณสมฺมชฺชเนน ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อนุพนฺธเนน มุโขทกทนฺตกฏฺทานาทินา จ อุปฏฺหึสุ. เก ปน เต ปฺจวคฺคิยา นาม? เยเต –
ราโม ¶ ¶ ธโช ลกฺขโณ โชติมนฺติ,
ยฺโ สุโภโช สุยาโม สุทตฺโต;
เอเต ตทา อฏฺ อเหสุํ พฺราหฺมณา,
ฉฬงฺควา มนฺตํ วิยากรึสูติ.
โพธิสตฺตสฺส ¶ ชาตกาเล สุปินปฏิคฺคาหกา เจว ลกฺขณปฏิคฺคาหกา จ อฏฺ พฺราหฺมณา. เตสุ ตโย ทฺเวธา พฺยากรึสุ – ‘‘อิเมหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อคารํ อชฺฌาวสมาโน ราชา โหติ จกฺกวตฺตี, ปพฺพชมาโน พุทฺโธ’’ติ. ปฺจ พฺราหฺมณา เอกํสพฺยากรณา อเหสุํ – ‘‘อิเมหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อคาเร น ติฏฺติ, พุทฺโธว โหตี’’ติ. เตสุ ปุริมา ตโย ยถามนฺตปทํ คตา, อิเม ปน ปฺจ มนฺตปทํ อติกฺกนฺตา. เต อตฺตนา ลทฺธํ ปุณฺณปตฺตํ าตกานํ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘อยํ มหาปุริโส อคารํ น อชฺฌาวสิสฺสติ, เอกนฺเตน พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ นิพฺพิตกฺกา โพธิสตฺตํ อุทฺทิสฺส สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา. เตสํ ปุตฺตาติปิ วทนฺติ. ตํ อฏฺกถาย ปฏิกฺขิตฺตํ.
เอเต กิร ทหรกาเลเยว พหู มนฺเต ชานึสุ, ตสฺมา เต พฺราหฺมณา อาจริยฏฺาเน ปยึสุ. เต ปจฺฉา อมฺเหหิ ปุตฺตทารชฏํ ฉฑฺเฑตฺวา น สกฺกา ภวิสฺสติ ปพฺพชิตุนฺติ ทหรกาเลเยว ปพฺพชิตฺวา รมณียานิ เสนาสนานิ ปริภฺุชนฺตา วิจรึสุ. กาเลน กาลํ ปน ‘‘กึ, โภ, มหาปุริโส มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต’’ติ ปุจฺฉนฺติ. มนุสฺสา, ‘‘กุหึ ตุมฺเห มหาปุริสํ ปสฺสิสฺสถ, ตีสุ ปาสาเทสุ ติวิธนาฏกมชฺเฌ เทโว วิย สมฺปตฺตึ อนุโภตี’’ติ วทนฺติ. เต สุตฺวา, ‘‘น ตาว มหาปุริสสฺส าณํ ปริปากํ คจฺฉตี’’ติ อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรึสุเยว. กสฺมา ปเนตฺถ ภควา, ‘‘พหุการา โข อิเม ปฺจวคฺคิยา’’ติ อาห? กึ อุปการกานํเยว เอส ธมฺมํ เทเสติ, อนุปการกานํ น เทเสตีติ? โน น เทเสติ. ปริจยวเสน เหส อาฬารฺเจว กาลามํ อุทกฺจ รามปุตฺตํ โอโลเกสิ. เอตสฺมึ ปน พุทฺธกฺเขตฺเต เปตฺวา อฺาสิโกณฺฑฺํ ปมํ ธมฺมํ สจฺฉิกาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. กสฺมา? ตถาวิธอุปนิสฺสยตฺตา.
ปุพฺเพ ¶ กิร ปฺุกรณกาเล ทฺเว ภาตโร อเหสุํ. เต เอกโตว สสฺสํ อกํสุ. ตตฺถ เชฏฺกสฺส ¶ ‘‘เอกสฺมึ สสฺเส นววาเร อคฺคสสฺสทานํ มยา ทาตพฺพ’’นฺติ อโหสิ. โส วปฺปกาเล พีชคฺคํ นาม ทตฺวา คพฺภกาเล กนิฏฺเน สทฺธึ มนฺเตสิ – ‘‘คพฺภกาเล คพฺภํ ผาเลตฺวา ทสฺสามา’’ติ. กนิฏฺโ ‘‘ตรุณสสฺสํ นาเสตุกาโมสี’’ติ อาห. เชฏฺโ กนิฏฺสฺส อนนุวตฺตนภาวํ ¶ ตฺวา เขตฺตํ วิภชิตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสโต คพฺภํ ผาเลตฺวา ขีรํ นีหริตฺวา สปฺปิผาณิเตหิ โยเชตฺวา อทาสิ, ปุถุกกาเล ปุถุกํ กาเรตฺวา อทาสิ, ลายเน ลายนคฺคํ เวณิกรเณ เวณคฺคํ กลาปาทีสุ กลาปคฺคํ ขฬคฺคํ ภณฺฑคฺคํ โกฏฺคฺคนฺติ เอวํ เอกสสฺเส นววาเร อคฺคทานํ อทาสิ. กนิฏฺโ ปนสฺส อุทฺธริตฺวา อทาสิ, เตสุ เชฏฺโ อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถโร ชาโต, กนิฏฺโ สุภทฺทปริพฺพาชโก. อิติ เอกสฺมึ สสฺเส นวนฺนํ อคฺคทานานํ ทินฺนตฺตา เปตฺวา เถรํ อฺโ ปมํ ธมฺมํ สจฺฉิกาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ‘‘พหุการา โข อิเม ปฺจวคฺคิยา’’ติ อิทํ ปน อุปการานุสฺสรณมตฺตเกเนว วุตฺตํ.
อิสิปตเน มิคทาเยติ ตสฺมึ กิร ปเทเส อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกสมฺพุทฺธา คนฺธมาทนปพฺพเต สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺติยา วีตินาเมตฺวา นิโรธา วุฏฺาย นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อากาเสน อาคนฺตฺวา นิปตนฺติ. ตตฺถ จีวรํ ปารุปิตฺวา นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา คมนกาเลปิ ตโตเยว อุปฺปติตฺวา คจฺฉนฺติ. อิติ อิสโย เอตฺถ นิปตนฺติ อุปฺปตนฺติ จาติ ตํ านํ อิสิปตนนฺติ สงฺขํ คตํ. มิคานํ ปน อภยตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิสิปตเน มิคทาเย’’ติ.
๒๘๕. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ คยาย จ โพธิสฺส จ วิวเร ติคาวุตนฺตเร าเน. โพธิมณฺฑโต หิ คยา ตีณิ คาวุตานิ. พาราณสี อฏฺารส โยชนานิ. อุปโก โพธิมณฺฑสฺส จ คยาย จ อนฺตเร ภควนฺตํ อทฺทส. อนฺตราสทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํ. อีทิเสสุ จ าเนสุ อกฺขรจินฺตกา ‘‘อนฺตรา คามฺจ นทิฺจ ยาตี’’ติ เอวํ เอกเมว อนฺตราสทฺทํ ปยุชฺชนฺติ. โส ทุติยปเทนปิ โยเชตพฺโพ โหติ ¶ . อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ. อิธ ปน โยเชตฺวา เอว วุตฺโตติ. อทฺธานมคฺคปฏิปนฺนนฺติ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ ปฏิปนฺนํ, ทีฆมคฺคปฏิปนฺนนฺติ อตฺโถ. อทฺธานมคฺคคมนสมยสฺส หิ วิภงฺเค ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามีติ ภฺุชิตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต ¶ ¶ (ปาจิ. ๒๑๘) อทฺธโยชนมฺปิ อทฺธานมคฺโค โหติ. โพธิมณฺฑโต ปน คยา ติคาวุตํ.
สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ิโต. สพฺพวิทูติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อเวทึ อฺาสึ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนุปลิตฺโตติ สพฺเพสุ เตภูมกธมฺเมสุ กิเลสเลปเนน อนุปลิตฺโต. สพฺพํ ชโหติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ ชหิตฺวา ิโต. ตณฺหากฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหากฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. สยํ อภิฺายาติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อตฺตนาว ชานิตฺวา. กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อฺํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํ.
น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิ. นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโลติ มยฺหํ ปฏิภาคปุคฺคโล นาม นตฺถิ. สมฺมาสมฺพุทฺโธติ สเหตุนา นเยน จตฺตาริ สจฺจานิ สยํ พุทฺโธ. สีติภูโตติ สพฺพกิเลสคฺคินิพฺพาปเนน สีติภูโต. กิเลสานํเยว นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. กาสินํ ปุรนฺติ กาสิรฏฺเ นครํ. อาหฺฉํ อมตทุนฺทุภินฺติ ธมฺมจกฺกปฏิลาภาย อมตเภรึ ปหริสฺสามีติ คจฺฉามิ. อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโนติ ภวิตุํ ยุตฺโต. หุเปยฺย ปาวุโสติ, อาวุโส, เอวมฺปิ นาม ภเวยฺย. ปกฺกามีติ วงฺกหารชนปทํ นาม อคมาสิ.
ตตฺเถกํ มิคลุทฺทกคามกํ นิสฺสาย วาสํ กปฺเปสิ. เชฏฺกลุทฺทโก ตํ อุปฏฺาสิ. ตสฺมิฺจ ชนปเท จณฺฑา มกฺขิกา โหนฺติ. อถ นํ เอกาย จาฏิยา วสาเปสุํ, มิคลุทฺทโก ทูเร มิควํ คจฺฉนฺโต ‘‘อมฺหากํ อรหนฺเต มา ปมชฺชี’’ติ ฉาวํ นาม ธีตรํ อาณาเปตฺวา อคมาสิ สทฺธึ ปุตฺตภาตุเกหิ. สา จสฺส ธีตา ทสฺสนียา โหติ โกฏฺาสสมฺปนฺนา. ทุติยทิวเส อุปโก ฆรํ อาคโต ตํ ทาริกํ สพฺพํ อุปจารํ กตฺวา ปริวิสิตุํ ¶ อุปคตํ ทิสฺวา ราเคน อภิภูโต ภฺุชิตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต ภาชเนน ภตฺตํ อาทาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ภตฺตํ เอกมนฺเต นิกฺขิปิตฺวา สเจ ฉาวํ ลภามิ, ชีวามิ, โน เจ, มรามีติ นิราหาโร สยิ. สตฺตเม ¶ ทิวเส มาควิโก อาคนฺตฺวา ธีตรํ อุปกสฺส ปวตฺตึ ปุจฺฉิ. สา ‘‘เอกทิวสเมว อาคนฺตฺวา ปุน นาคตปุพฺโพ’’ติ อาห. มาควิโก อาคตเวเสเนว นํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามีติ ตํขณํเยว คนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, อปฺผาสุก’’นฺติ ปาเท ปรามสนฺโต ¶ ปุจฺฉิ. อุปโก นิตฺถุนนฺโต ปริวตฺตติเยว. โส ‘‘วทถ ภนฺเต, ยํ มยา สกฺกา กาตุํ, ตํ สพฺพํ กริสฺสามี’’ติ อาห. อุปโก, ‘‘สเจ ฉาวํ ลภามิ, ชีวามิ, โน เจ, อิเธว มรณํ เสยฺโย’’ติ อาห. ชานาสิ ปน, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺปนฺติ. น ชานามีติ. น, ภนฺเต, กิฺจิ สิปฺปํ อชานนฺเตน สกฺกา ฆราวาสํ อธิฏฺาตุนฺติ.
โส อาห – ‘‘นาหํ กิฺจิ สิปฺปํ ชานามิ, อปิจ ตุมฺหากํ มํสหารโก ภวิสฺสามิ, มํสฺจ วิกฺกีณิสฺสามี’’ติ. มาควิโก, ‘‘อมฺหากมฺปิ เอตเทว รุจฺจตี’’ติ อุตฺตรสาฏกํ ทตฺวา ฆรํ อาเนตฺวา ธีตรํ อทาสิ. เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺโต วิชายิ. สุภทฺโทติสฺส นามํ อกํสุ. ฉาวา ตสฺส โรทนกาเล ‘‘มํสหารกสฺส ปุตฺต, มิคลุทฺทกสฺส ปุตฺต มา โรที’’ติอาทีนิ วทมานา ปุตฺตโตสนคีเตน อุปกํ อุปฺปณฺเฑสิ. ภทฺเท ตฺวํ มํ อนาโถติ มฺสิ. อตฺถิ เม อนนฺตชิโน นาม สหาโย. ตสฺสาหํ สนฺติเก คมิสฺสามีติ อาห. ฉาวา เอวมยํ อฏฺฏียตีติ ตฺวา ปุนปฺปุนํ กเถติ. โส เอกทิวสํ อนาโรเจตฺวาว มชฺฌิมเทสาภิมุโข ปกฺกามิ.
ภควา จ เตน สมเยน สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน มหาวิหาเร. อถ โข ภควา ปฏิกจฺเจว ภิกฺขู อาณาเปสิ – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ‘อนนฺตชิโน’ติ ปุจฺฉมาโน อาคจฺฉติ, ตสฺส มํ ทสฺเสยฺยาถา’’ติ. อุปโกปิ โข ‘‘กุหึ อนนฺตชิโน วสตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อาคนฺตฺวา วิหารมชฺเฌ ตฺวา กุหึ อนนฺตชิโนติ ปุจฺฉิ. ตํ ภิกฺขู ภควโต สนฺติกํ นยึสุ. โส ภควนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘สฺชานาถ มํ ภควา’’ติ อาห. อาม, อุปก, สฺชานามิ, กุหึ ปน ตฺวํ วสิตฺถาติ. วงฺกหารชนปเท, ภนฺเตติ. อุปก, มหลฺลโกสิ ชาโต ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสีติ. ปพฺพชิสฺสามิ, ภนฺเตติ. ภควา ปพฺพาเชตฺวา ตสฺส กมฺมฏฺานํ อทาสิ. โส กมฺมฏฺาเน กมฺมํ กโรนฺโต อนาคามิผเล ¶ ปติฏฺาย กาลํ กตฺวา อวิเหสุ ¶ นิพฺพตฺโต. นิพฺพตฺตกฺขเณเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ. อวิเหสุ นิพฺพตฺตมตฺตา หิ สตฺต ชนา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, เตสํ โส อฺตโร.
วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อวิหํ ¶ อุปปนฺนาเส, วิมุตฺตา สตฺต ภิกฺขโว;
ราคโทสปริกฺขีณา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติกํ.
อุปโก ปลคณฺโฑ จ, ปุกฺกุสาติ จ เต ตโย;
ภทฺทิโย ขณฺฑเทโว จ, พหุรคฺคิ จ สงฺคิโย;
เต หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปชฺฌคุ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๕);
๒๘๖. สณฺเปสุนฺติ กติกํ อกํสุ. พาหุลฺลิโกติ จีวรพาหุลฺลาทีนํ อตฺถาย ปฏิปนฺโน. ปธานวิพฺภนฺโตติ ปธานโต วิพฺภนฺโต ภฏฺโ ปริหีโน. อาวตฺโต พาหุลฺลายาติ จีวราทีนํ พหุลภาวตฺถาย อาวตฺโต. อปิจ โข อาสนํ เปตพฺพนฺติ อปิจ โข ปนสฺส อุจฺจกุเล นิพฺพตฺตสฺส อาสนมตฺตํ เปตพฺพนฺติ วทึสุ. นาสกฺขึสูติ พุทฺธานุภาเวน พุทฺธเตชสา อภิภูตา อตฺตโน กติกาย าตุํ นาสกฺขึสุ. นาเมน จ อาวุโสวาเทน จ สมุทาจรนฺตีติ โคตมาติ, อาวุโสติ จ วทนฺติ. อาวุโส โคตม, มยํ อุรุเวลายํ ปธานกาเล ตุยฺหํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจริมฺหา, มุโขทกํ ทนฺตกฏฺํ อทมฺหา, วุตฺถปริเวณํ สมฺมชฺชิมฺหา, ปจฺฉา โก เต วตฺตปฺปฏิปตฺติมกาสิ, กจฺจิ อมฺเหสุ ปกฺกนฺเตสุ น จินฺตยิตฺถาติ เอวรูปึ กถํ กเถนฺตีติ อตฺโถ. อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยาย. ปฏิปทายาติ ทุกฺกรปฏิปตฺติยา. ทุกฺกรการิกายาติ ปสตปสต-มุคฺคยูสาทิอาหรกรณาทินา ทุกฺกรกรเณน. อภิชานาถ เม โนติ อภิชานาถ นุ มม. เอวรูปํ ปภาวิตเมตนฺติ เอตํ เอวรูปํ วากฺยเภทนฺติ อตฺโถ. อปิ นุ อหํ อุรุเวลาย ปธาเน ตุมฺหากํ สงฺคณฺหนตฺถํ อนุกฺกณฺนตฺถํ รตฺตึ วา ทิวา ¶ วา อาคนฺตฺวา, – ‘‘อาวุโส, มา วิตกฺกยิตฺถ, มยฺหํ โอภาโส วา นิมิตฺตํ วา ปฺายตี’’ติ เอวรูปํ กฺจิ วจนเภทํ อกาสินฺติ อธิปฺปาโย. เต เอกปเทเนว สตึ ลภิตฺวา อุปฺปนฺนคารวา, ‘‘หนฺท อทฺธา เอส พุทฺโธ ชาโต’’ติ สทฺทหิตฺวา โน เหตํ, ภนฺเตติ อาหํสุ. อสกฺขึ โข อหํ, ภิกฺขเว, ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตุนฺติ อหํ ¶ , ภิกฺขเว, ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู พุทฺโธ อหนฺติ ชานาเปตุํ อสกฺขึ. ตทา ปน ภควา อุโปสถทิวเสเยว อาคจฺฉิ. อตฺตโน พุทฺธภาวํ ชานาเปตฺวา โกณฺฑฺตฺเถรํ กายสกฺขึ กตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตํ กเถสิ. สุตฺตปริโยสาเน เถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ¶ ปติฏฺาสิ. สูริเย ธรมาเนเยว เทสนา นิฏฺาสิ. ภควา ตตฺเถว วสฺสํ อุปคจฺฉิ.
ทฺเวปิ สุทํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู โอวทามีติอาทิ ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ปิณฺฑปาตตฺถายปิ คามํ อปฺปวิสนทีปนตฺถํ วุตฺตํ. เตสฺหิ ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺาเนสุ อุปฺปนฺนมลวิโสธนตฺถํ ภควา อนฺโตวิหาเรเยว อโหสิ. อุปฺปนฺเน อุปฺปนฺเน กมฺมฏฺานมเล เตปิ ภิกฺขู ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺติ. ภควาปิ เตสํ นิสินฺนฏฺานํ คนฺตฺวา มลํ วิโนเทติ. อถ เนสํ ภควตา เอวํ นีหฏภตฺเตน โอวทิยมานานํ วปฺปตฺเถโร ปาฏิปททิวเส โสตาปนฺโน อโหสิ. ภทฺทิยตฺเถโร ทุติยายํ, มหานามตฺเถโร ตติยายํ, อสฺสชิตฺเถโร จตุตฺถิยํ. ปกฺขสฺส ปน ปฺจมิยํ สพฺเพว เต เอกโต สนฺนิปาเตตฺวา อนตฺตลกฺขณสุตฺตํ กเถสิ, สุตฺตปริโยสาเน สพฺเพปิ อรหตฺตผเล ปติฏฺหึสุ. เตนาห – ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู มยา เอวํ โอวทิยมานา…เป… อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ นิพฺพานํ อชฺฌคมํสุ…เป… นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. เอตฺตกํ กถามคฺคํ ภควา ยํ ปุพฺเพ อวจ – ‘‘ตุมฺเหปิ มมฺเจว ปฺจวคฺคิยานฺจ มคฺคํ อารุฬฺหา, อริยปริเยสนา ตุมฺหากํ ปริเยสนา’’ติ อิมํ เอกเมว อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต อาหริ.
๒๘๗. อิทานิ ยสฺมา น อคาริยานํเยว ปฺจกามคุณปริเยสนา ¶ โหติ, อนคาริยานมฺปิ จตฺตาโร ปจฺจเย อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนฺตานํ ปฺจกามคุณวเสน อนริยปริเยสนา โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณาติอาทิมาห. ตตฺถ นวรตฺเตสุ ปตฺตจีวราทีสุ จกฺขุวิฺเยฺยา รูปาติอาทโย จตฺตาโร กามคุณา ลพฺภนฺติ. รโส ปเนตฺถ ปริโภครโส โหติ. มนฺุเ ปิณฺฑปาเต เภสชฺเช จ ปฺจปิ ลพฺภนฺติ. เสนาสนมฺหิ จีวเร วิย จตฺตาโร. รโส ปน เอตฺถาปิ ปริโภครโสว. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? เอวํ ปฺจ กามคุเณ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เย เอวํ วเทยฺยุํ, ‘‘ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อนริยปริเยสนา นาม กุโต, อริยปริเยสนาว ปพฺพชิตาน’’นฺติ, เตสํ ปฏิเสธนตฺถาย ‘‘ปพฺพชิตานมฺปิ จตูสุ ปจฺจเยสุ อปฺปจฺจเวกฺขณปริโภโค อนริยปริเยสนา ¶ เอวา’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ คธิตาติ ตณฺหาเคเธน คธิตา. มุจฺฉิตาติ ตณฺหามุจฺฉาย มุจฺฉิตา ¶ . อชฺโฌปนฺนาติ ตณฺหาย อชฺโฌคาฬฺหา. อนาทีนวทสฺสาวิโนติ อาทีนวํ อปสฺสนฺตา. อนิสฺสรณปฺาติ นิสฺสรณํ วุจฺจติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. เต เตน วิรหิตา.
อิทานิ ตสฺสตฺถสฺส สาธกํ อุปมํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺเรวํ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ – อารฺกมโค วิย หิ สมณพฺราหฺมณา, ลุทฺทเกน อรฺเ ปิตปาโส วิย จตฺตาโร ปจฺจยา, ตสฺส ลุทฺทสฺส ปาสราสึ อชฺโฌตฺถริตฺวา สยนกาโล วิย เตสํ จตฺตาโร ปจฺจเย อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริโภคกาโล. ลุทฺทเก อาคจฺฉนฺเต มคสฺส เยน กามํ อคมนกาโล วิย สมณพฺราหฺมณานํ มารสฺส ยถากามกรณียกาโล, มารวสํ อุปคตภาโวติ อตฺโถ. มคสฺส ปน อพทฺธสฺส ปาสราสึ อธิสยิตกาโล วิย สมณพฺราหฺมณานํ จตูสุ ปจฺจเยสุ ปจฺจเวกฺขณปริโภโค, ลุทฺทเก อาคจฺฉนฺเต มคสฺส เยน กามํ คมนํ วิย สมณพฺราหฺมณานํ มารวสํ อนุปคมนํ เวทิตพฺพํ. วิสฺสตฺโถติ นิพฺภโย นิราสงฺโก. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ปาสราสิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อริยปริเยสนาติปิ เอตสฺเสว นามํ.
๗. จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา
๒๘๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพเสเตน วฬวาภิรเถนาติ, ‘‘เสตา สุทํ อสฺสา ยุตฺตา โหนฺติ เสตาลงฺการา. เสโต รโถ เสตาลงฺกาโร เสตปริวาโร, เสตา รสฺมิโย, เสตา ปโตทลฏฺิ, เสตํ ฉตฺตํ, เสตํ อุณฺหีสํ, เสตานิ วตฺถานิ, เสตา อุปาหนา, เสตาย สุทํ วาลพีชนิยา พีชิยตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔) เอวํ วุตฺเตน สกลเสเตน จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถน.
รโถ ¶ จ นาเมโส ทุวิโธ โหติ – โยธรโถ, อลงฺการรโถติ. ตตฺถ โยธรโถ จตุรสฺสสณฺาโน โหติ นาติมหา, ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา ชนานํ คหณสมตฺโถ. อลงฺการรโถ มหา โหติ, ทีฆโต ทีโฆ, ปุถุลโต ปุถุโล. ตตฺถ ฉตฺตคฺคาหโก วาลพีชนิคฺคาหโก ตาลวณฺฏคฺคาหโกติ เอวํ อฏฺ วา ทส วา สุเขน าตุํ วา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา สกฺโกนฺติ, อยมฺปิ อลงฺการรโถเยว. โส สพฺโพ สจกฺกปฺชรกุพฺพโร รชตปริกฺขิตฺโต อโหสิ. วฬวา ปกติยา เสตวณฺณาว. ปสาธนมฺปิ ตาทิสํ รชตมยํ อโหสิ. รสฺมิโยปิ รชตปนาฬิ สุปริกฺขิตฺตา. ปโตทลฏฺิปิ รชตปริกฺขิตฺตา. พฺราหฺมโณปิ เสตวตฺถํ นิวาเสตฺวา เสตํเยว อุตฺตราสงฺคมกาสิ, เสตวิเลปนํ วิลิมฺปิ, เสตมาลํ ปิลนฺธิ, ทสสุ องฺคุลีสุ องฺคุลิมุทฺทิกา, กณฺเณสุ กุณฺฑลานีติ เอวมาทิอลงฺกาโรปิสฺส รชตมโยว อโหสิ. ปริวารพฺราหฺมณาปิสฺส ทสสหสฺสมตฺตา ตเถว เสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพเสเตน วฬวาภิรเถนา’’ติ.
สาวตฺถิยา นิยฺยาตีติ โส กิร ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานํ เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรติ. อิโต เอตฺตเกหิ ทิวเสหิ นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสตีติ ปุเรตรเมว โฆสนา กรียติ; ตํ สุตฺวา เย นครโต น ปกฺกนฺตา, เต น ปกฺกมนฺติ. เย ปกฺกนฺตา, เตปิ, ‘‘ปฺุวโต สิริสมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อาคจฺฉนฺติ. ยํ ทิวสํ พฺราหฺมโณ นครํ อนุวิจรติ, ตทา ปาโตว นครวีถิโย สมฺมชฺชิตฺวา วาลิกํ โอกิริตฺวา ลาชปฺจเมหิ ปุปฺเผหิ ¶ อภิปฺปกิริตฺวา ปุณฺณฆเฏ เปตฺวา ¶ กทลิโย จ ธเช จ อุสฺสาเปตฺวา สกลนครํ ธูปิตวาสิตํ กโรนฺติ. พฺราหฺมโณ ปาโตว สีสํ นฺหายิตฺวา ปุเรภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วุตฺตนเยเนว เสตวตฺถาทีหิ อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห รถํ อภิรุหติ. อถ นํ เต พฺราหฺมณา สพฺพเสตวตฺถวิเลปนมาลาลงฺการา เสตจฺฉตฺตานิ คเหตฺวา ปริวาเรนฺติ; ตโต มหาชนสฺส สนฺนิปาตนตฺถํ ปมํเยว ตรุณทารกานํ ผลาผลานิ วิกิริตฺวา ตทนนฺตรํ มาสกรูปานิ; ตทนนฺตรํ กหาปเณ วิกิรนฺติ; มหาชนา สนฺนิปตนฺติ. อุกฺกุฏฺิโย เจว เจลุกฺเขปา จ ปวตฺตนฺติ. อถ พฺราหฺมโณ มงฺคลิกโสวตฺถิกาทีสุ มงฺคลานิ เจว สุวตฺถิโย ¶ จ กโรนฺเตสุ มหาสมฺปตฺติยา นครํ อนุวิจรติ. ปฺุวนฺตา มนุสฺสา เอกภูมกาทิปาสาเท อารุยฺห สุกปตฺตสทิสานิ วาตปานกวาฏานิ วิวริตฺวา โอโลเกนฺติ. พฺราหฺมโณปิ อตฺตโน ยสสิริสมฺปตฺติยา นครํ อชฺโฌตฺถรนฺโต วิย ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สาวตฺถิยา นิยฺยาตี’’ติ.
ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา, มชฺฌนฺหกาเลติ อตฺโถ. ปิโลติกํ ปริพฺพาชกนฺติ ปิโลติกาติ เอวํ อิตฺถิลิงฺคโวหารวเสน ลทฺธนามํ ปริพฺพาชกํ. โส กิร ปริพฺพาชโก ทหโร ปมวเย ิโต สุวณฺณวณฺโณ พุทฺธุปฏฺาโก, ปาโตว ตถาคตสฺส เจว มหาเถรานฺจ อุปฏฺานํ กตฺวา ติทณฺฑกุณฺฑิกาทิปริกฺขารํ อาทาย เชตวนา นิกฺขมิตฺวา นคราภิมุโข ปายาสิ. ตํ เอส ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ อทฺทส. เอตทโวจาติ อนุกฺกเมน สนฺติกํ อาคตํ สฺชานิตฺวา เอตํ, ‘‘หนฺท กุโต นุ ภวํ วจฺฉายโน อาคจฺฉตี’’ติ โคตฺตํ กิตฺเตนฺโต วจนํ อโวจ. ปณฺฑิโต มฺเติ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปณฺฑิโตติ มฺติ, อุทาหุ โนติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
โก จาหํ, โภติ, โภ, สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชานเน อหํ โก นาม? โก จ สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามีติ กุโต จาหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามิ, เกน การเณน ชานิสฺสามีติ? เอวํ สพฺพถาปิ อตฺตโน อชานนภาวํ ทีเปติ ¶ . โสปิ นูนสฺส ตาทิโสวาติ โย สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺย, โสปิ นูน ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ตาทิโส พุทฺโธเยว ภเวยฺย. สิเนรุํ วา หิมวนฺตํ วา ปถวึ วา อากาสํ วา ปเมตุกาเมน ตปฺปมาโณว ทณฺโฑ วา รชฺชุ วา ¶ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. สมณสฺส โคตมสฺส ปฺํ ชานนฺเตนปิ ตสฺส าณสทิสเมว สพฺพฺุตฺาณํ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อาทรวเสน ปเนตฺถ อาเมฑิตํ กตํ. อุฬารายาติ อุตฺตราย เสฏฺาย. โก จาหํ, โภติ, โภ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปสํสเน โก นาม? โก จ สมณํ โคตมํ ปสํสิสฺสามีติ เกน การเณน ปสํสิสฺสามิ? ปสตฺถปสตฺโถติ สพฺพคุณานํ อุตฺตริตเรหิ สพฺพโลกปสตฺเถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสตฺโถ, น ตสฺส อฺเหิ ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา หิ จมฺปกปุปฺผํ วา นีลุปฺปลํ วา ปทุมํ วา โลหิตจนฺทนํ วา อตฺตโน วณฺณคนฺธสิริยาว ¶ ปาสาทิกฺเจว สุคนฺธฺจ, น ตสฺส อาคนฺตุเกหิ วณฺณคนฺเธหิ โถมนกิจฺจํ อตฺถิ. ยถา จ มณิรตนํ วา จนฺทมณฺฑลํ วา อตฺตโน อาโลเกเนว โอภาสติ, น ตสฺส อฺเน โอภาสนกิจฺจํ อตฺถิ. เอวํ สมโณ โคตโม สพฺพโลกปสตฺเถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสตฺโถ โถมิโต สพฺพโลกสฺส เสฏฺตํ ปาปิโต, น ตสฺส อฺเน ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิ. ปสตฺเถหิ วา ปสตฺโถติปิ ปสตฺถปสตฺโถ.
เก ปสตฺถา นาม? ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลวาสิเกหิ ปสตฺโถ, พิมฺพิสาโร องฺคมคธวาสีหิ. เวสาลิกา ลิจฺฉวี วชฺชิรฏฺวาสีหิ ปสตฺถา. ปาเวยฺยกา มลฺลา, โกสินารกา มลฺลา, อฺเปิ เต เต ขตฺติยา เตหิ เตหิ ชานปเทหิ ปสตฺถา. จงฺกีอาทโย พฺราหฺมณา พฺราหฺมณคเณหิ, อนาถปิณฺฑิกาทโย อุปาสกา อเนกสเตหิ อุปาสกคเณหิ, วิสาขาทโย อุปาสิกา อเนกสตาหิ อุปาสิกาหิ, สกุลุทายิอาทโย ปริพฺพาชกา อเนเกหิ ปริพฺพาชกสเตหิ, อุปฺปลวณฺณาเถริอาทิกา มหาสาวิกา อเนเกหิ ภิกฺขุนิสเตหิ, สาริปุตฺตตฺเถราทโย มหาสาวกา อเนกสเตหิ ¶ ภิกฺขูหิ, สกฺกาทโย เทวา อเนกสหสฺเสหิ เทเวหิ, มหาพฺรหฺมาทโย พฺรหฺมาโน อเนกสหสฺเสหิ พฺรหฺเมหิ ปสตฺถา. เต สพฺเพปิ ทสพลํ โถเมนฺติ วณฺเณนฺติ, ปสํสนฺตีติ ภควา ‘‘ปสตฺถปสตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.
อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํสํ. อถสฺส ปริพฺพาชโก อตฺตโน ปสาทการณํ อาจิกฺขนฺโต เสยฺยถาปิ, โภ, กุสโล นาควนิโกติอาทิมาห. ตตฺถ นาควนิโกติ นาควนวาสิโก อนุคฺคหิตสิปฺโป ปุริโส. ปรโต ปน อุคฺคหิตสิปฺโป ปุริโส นาควนิโกติ อาคโต. จตฺตาริ ปทานีติ จตฺตาริ าณปทานิ าณวลฺชานิ, าเณน อกฺกนฺตฏฺานานีติ อตฺโถ.
๒๘๙. ขตฺติยปณฺฑิเตติอาทีสุ ¶ ปณฺฑิเตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคเต. นิปุเณติ สณฺเห สุขุมพุทฺธิโน, สุขุมอตฺถนฺตรปฏิวิชฺฌนสมตฺเถ. กตปรปฺปวาเทติ วิฺาตปรปฺปวาเท เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจเย จ. วาลเวธิรูเปติ วาลเวธิธนุคฺคหสทิเส. เต ภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺตีติ วาลเวธิ ¶ วิย วาลํ สุขุมานิปิ ปเรสํ ทิฏฺิคตานิ อตฺตโน ปฺาคเตน ภินฺทนฺตา วิย จรนฺตีติ อตฺโถ. ปฺหํ อภิสงฺขโรนฺตีติ ทุปทมฺปิ ติปทมฺปิ จตุปฺปทมฺปิ ปฺหํ กโรนฺติ. วาทํ อาโรเปสฺสามาติ โทสํ อาโรเปสฺสาม. น เจว สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺตีติ; กสฺมา น ปุจฺฉนฺติ? ภควา กิร ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสนฺโต ปริสาย อชฺฌาสยํ โอโลเกติ, ตโต ปสฺสติ – ‘‘อิเม ขตฺติยปณฺฑิตา คุฬฺหํ รหสฺสํ ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคตา’’ติ. โส เตหิ อปุฏฺโเยว เอวรูเป ปฺเห ปุจฺฉาย เอตฺตกา โทสา, วิสฺสชฺชเน เอตฺตกา, อตฺเถ ปเท อกฺขเร เอตฺตกาติ อิเม ปฺเห ปุจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺเฉยฺย, วิสฺสชฺเชนฺโต เอวํ วิสฺสชฺเชยฺยาติ, อิติ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีเต ปฺเห ธมฺมกถาย อนฺตเร ปกฺขิปิตฺวา วิทฺธํเสติ. ขตฺติยปณฺฑิตา ‘‘เสยฺโย วต โน, เย มยํ อิเม ปฺเห น ปุจฺฉิมฺหา, สเจ หิ มยํ ปุจฺเฉยฺยาม, อปฺปติฏฺเว โน กตฺวา สมโณ โคตโม ขิเปยฺยา’’ติ อตฺตมนา ภวนฺติ.
อปิจ พุทฺธา นาม ธมฺมํ เทเสนฺตา ปริสํ เมตฺตาย ผรนฺติ, เมตฺตาผรเณน ทสพเล มหาชนสฺส จิตฺตํ ปสีทติ, พุทฺธา จ นาม รูปคฺคปฺปตฺตา โหนฺติ ทสฺสนสมฺปนฺนา มธุรสฺสรา มุทุชิวฺหา สุผุสิตทนฺตาวรณา ¶ อมเตน หทยํ สิฺจนฺตา วิย ธมฺมํ กเถนฺติ. ตตฺร เนสํ เมตฺตาผรเณน ปสนฺนจิตฺตานํ เอวํ โหติ – ‘‘เอวรูปํ อทฺเวชฺฌกถํ อโมฆกถํ นิยฺยานิกกถํ กเถนฺเตน ภควตา สทฺธึ น สกฺขิสฺสาม ปจฺจนีกคฺคาหํ คณฺหิตุ’’นฺติ อตฺตโน ปสนฺนภาเวเนว น ปุจฺฉนฺติ.
อฺทตฺถูติ เอกํเสน. สาวกา สมฺปชฺชนฺตีติ สรณคมนวเสน สาวกา โหนฺติ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อรหตฺตผลํ, ตทตฺถาย หิ เต ปพฺพชนฺติ. มนํ วต, โภ, อนสฺสามาติ, โภ, สเจ มยํ น อุปสงฺกเมยฺยาม, อิมินา โถเกน อนุปสงฺกมนมตฺเตน อปยิรุปาสนมตฺเตเนว นฏฺา ภเวยฺยาม. อุปสงฺกมนมตฺตเกน ปนมฺหา น นฏฺาติ อตฺโถ. ทุติยปทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. อสฺสมณาว สมานาติอาทีสุ ¶ ปาปานํ อสมิตตฺตา อสฺสมณาว. อพาหิตตฺตา จ ปน อพฺราหฺมณาว. กิเลสารีนํ อหตตฺตา อนรหนฺโตเยว สมานาติ อตฺโถ.
๒๙๐. อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ. ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสโกติ วุจฺจติ, ยฺจ ¶ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติ. เอวเมว ยํ ปีติมยํ วจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ. เอวรูปํ ปีติมยํ วจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ. หตฺถิปโทปโมติ หตฺถิปทํ อุปมา อสฺส ธมฺมสฺสาติ หตฺถิปโทปโม. โส น เอตฺตาวตา วิตฺถาเรน ปริปูโร โหตีติ ทสฺเสติ. นาควนิโกติ อุคฺคหิตหตฺถิสิปฺโป หตฺถิวนจาริโก. อถ กสฺมา อิธ กุสโลติ น วุตฺโตติ? ปรโต ‘‘โย โหติ กุสโล’’ติ วิภาคทสฺสนโต. โย หิ โกจิ ปวิสติ, โย ปน กุสโล โหติ, โส เนว ตาว นิฏฺํ คจฺฉติ. ตสฺมา อิธ กุสโลติ อวตฺวา ปรโต วุตฺโต.
๒๙๑. วามนิกาติ รสฺสา อายามโตปิ น ทีฆา มหากุจฺฉิหตฺถินิโย. อุจฺจา จ นิเสวิตนฺติ สตฺตฏฺรตนุพฺเพเธ วฏรุกฺขาทีนํ ขนฺธปฺปเทเส ฆํสิตฏฺานํ. อุจฺจา กาฬาริกาติ อุจฺจา จ ยฏฺิสทิสปาทา หุตฺวา, กาฬาริกา จ ทนฺตานํ กฬารตาย. ตาสํ กิร เอโก ทนฺโต อุนฺนโต โหติ, เอโก โอนโต. อุโภปิ จ วิรฬา โหนฺติ, น อาสนฺนา. อุจฺจา ¶ จ ทนฺเตหิ อารฺชิตานีติ สตฺตฏฺรตนุพฺเพเธ วฏรุกฺขาทีนํ ขนฺธปฺปเทเส ผรสุนา ปหตฏฺานํ วิย ทาฏฺาหิ ฉินฺนฏฺานํ. อุจฺจา กเณรุกา นามาติ อุจฺจา จ ยฏฺิสทิสทีฆปาทา หุตฺวา, กเณรุกา จ ทนฺตานํ กเณรุตาย, ตา กิร มกุฬทาา โหนฺติ. ตสฺมา กเณรุกาติ วุจฺจนฺติ. โส นิฏฺํ คจฺฉตีติ โส นาควนิโก ยสฺส วตาหํ นาคสฺส อนุปทํ อาคโต, อยเมว โส, น อฺโ. ยฺหิ อหํ ปมํ ปทํ ทิสฺวา วามนิกานํ ปทํ อิทํ ภวิสฺสตีติ นิฏฺํ น คโต, ยมฺปิ ตโต โอรภาเค ทิสฺวา กาฬาริกานํ ภวิสฺสติ, กเณรุกานํ ภวิสฺสตีติ นิฏฺํ น คโต, สพฺพํ ตํ อิมสฺเสว มหาหตฺถิโน ปทนฺติ มหาหตฺถึ ทิสฺวาว นิฏฺํ คจฺฉติ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – นาควนํ วิย หิ อาทิโต ปฏฺาย ยาว นีวรณปฺปหานา ธมฺมเทสนา เวทิตพฺพา. กุสโล นาควนิโก วิย โยคาวจโร; มหานาโค วิย ¶ สมฺมาสมฺพุทฺโธ; มหนฺตํ หตฺถิปทํ วิย ฌานาภิฺา. นาควนิกสฺส ตตฺถ ตตฺถ หตฺถิปทํ ทิสฺวาปิ วามนิกานํ ปทํ ภวิสฺสติ, กาฬาริกานํ กเณรุกานํ ปทํ ภวิสฺสตีติ อนิฏฺงฺคตภาโว วิย โยคิโน, อิมา ฌานาภิฺา นาม พาหิรกปริพฺพาชกานมฺปิ ¶ สนฺตีติ อนิฏฺงฺคตภาโว. นาควนิกสฺส, ตตฺถ ตตฺถ มยา ทิฏฺํ ปทํ อิมสฺเสว มหาหตฺถิโน, น อฺสฺสาติ มหาหตฺถึ ทิสฺวา นิฏฺงฺคมนํ วิย อริยสาวกสฺส อรหตฺตํ ปตฺวาว นิฏฺงฺคมนํ. อิทฺจ ปน โอปมฺมสํสนฺทนํ มตฺถเก ตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อิมสฺมิมฺปิ าเน วฏฺฏติเยว. อนุกฺกมาคตํ ปน ปาฬิปทํ คเหตฺวา อิเธว กตํ. ตตฺถ อิธาติ เทสาปเทเส นิปาโต. สฺวายํ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๗๙). กตฺถจิ สาสนํ. ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑). กตฺถจิ โอกาสํ. ยถาห –
‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;
ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙; ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐);
กตฺถจิ ¶ ปทปูรณมตฺตเมว. ยถาห – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). อิธ ปน โลกํ อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘พฺราหฺมณ อิมสฺมึ โลเก ตถาคโต อุปฺปชฺชติ อรหํ…เป… พุทฺโธ ภควา’’ติ.
ตตฺถ ตถาคตสทฺโท มูลปริยาเย, อรหนฺติอาทโย วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา. โลเก อุปฺปชฺชตีติ เอตฺถ ปน โลโกติ โอกาสโลโก สตฺตโลโก สงฺขารโลโกติ ติวิโธ. อิธ ปน สตฺตโลโก อธิปฺเปโต. สตฺตโลเก อุปฺปชฺชมาโนปิ จ ตถาคโต น เทวโลเก, น พฺรหฺมโลเก, มนุสฺสโลเกเยว อุปฺปชฺชติ. มนุสฺสโลเกปิ น อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ, อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ. ตตฺราปิ น สพฺพฏฺาเนสุ, ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม. ตสฺสาปเรน มหาสาโล, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ. ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย สลฺลวตี นาม นที, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ. ทกฺขิณาย ทิสาย เสตกณฺณิกํ นาม นิคโม, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ. ปจฺฉิมาย ทิสาย ถูณํ นาม พฺราหฺมณคาโม ¶ , ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ. อุตฺตราย ¶ ทิสาย อุสิรทฺธโช นาม ปพฺพโต, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ’’ติ (มหาว. ๒๕๙) เอวํ ปริจฺฉินฺเน อายามโต ติโยชนสเต วิตฺถารโต อฑฺฒเตยฺยโยชนสเต ปริกฺเขปโต นวโยชนสเต มชฺฌิมปเทเส อุปฺปชฺชติ. น เกวลฺจ ตถาคโตว, ปจฺเจกพุทฺธา อคฺคสาวกา อสีติ มหาเถรา พุทฺธมาตา พุทฺธปิตา จกฺกวตฺตี ราชา อฺเ จ สารปฺปตฺตา พฺราหฺมณคหปติกา เอตฺเถว อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ ตถาคโต สุชาตาย ทินฺนมธุปายสโภชนโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺโค, ตาว อุปฺปชฺชติ นาม. อรหตฺตผเล อุปฺปนฺโน นาม. มหาภินิกฺขมนโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค. ตุสิตภวนโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค. ทีปงฺกรปาทมูลโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค, ตาว อุปฺปชฺชติ นาม. อรหตฺตผเล อุปฺปนฺโน นาม. อิธ สพฺพปมํ อุปฺปนฺนภาวํ สนฺธาย อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ¶ , ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน โหตีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ.
โส อิมํ โลกนฺติ โส ภควา อิมํ โลกํ, อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ. เอวํ สห มาเรน สมารกํ. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ. ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ. ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ. สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลเกน สทฺธึ สตฺตโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโกว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรเทวโลโก คหิโต. สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก. สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปี พฺรหฺมโลโก. สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา.
อปิเจตฺถ ¶ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺส โลกสฺส สจฺฉิกตภาวมาห. ตโต เยสํ อโหสิ – ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉกามาวจริสฺสโร วสวตฺตี. กึ โสปิ เอเตน สจฺฉิกโต’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สมารกนฺติ อาห. เยสํ ปน อโหสิ – ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว ¶ , เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ. กึ โสปิ สจฺฉิกโต’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สพฺรหฺมกนฺติ อาห. ตโต เย จินฺเตสุํ – ‘‘ปุถู สมณพฺราหฺมณา สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกา, กึ เตปิ สจฺฉิกตา’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชนฺติ อาห. เอวํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺานํ สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน ¶ เสสสตฺตโลกสฺส สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสนฺโต สเทวมนุสฺสนฺติ อาห. อยเมตฺถ ภาวานุกฺกโม. โปราณา ปนาหุ – สเทวกนฺติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิเปตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทิยนฺโต ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺส’’นฺติ อาห. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตนากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.
สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ สยนฺติ สามํ อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา. เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต โหติ. ปเวเทตีติ โพเธติ วิฺาเปติ ปกาเสติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ. อาทิมฺหิปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสติ. มชฺเฌปิ… ปริโยสาเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ¶ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ, อตฺถิ สาสนสฺส. เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถาย ปมปาโท อาทิ นาม, ตโต ทฺเว มชฺฌํ นาม, อนฺเต เอโก ปริโยสานํ นาม. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานมาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนํ อนฺตรา มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ปมานุสนฺธิ อาทิ, อนฺเต อนุสนฺธิ ปริโยสานํ, มชฺเฌ เอโก วา ทฺเว วา พหู วา มชฺฌเมว. สาสนสฺส ปน สีลสมาธิวิปสฺสนา ¶ อาทิ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺโต ปน อริยมคฺโค มชฺฌํ นาม, ผลฺเจว นิพฺพานฺจ ปริโยสานํ นาม. ‘‘เอตทตฺถมิทํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยเมตํ สารํ, เอตํ ปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๒๔) หิ เอตฺถ ผลํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพาโนคธฺหิ ¶ , อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ นิพฺพานปรายณํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) เอตฺถ นิพฺพานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. อิธ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ มคฺคํ ปริโยสาเน นิพฺพานํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ. ตสฺมา อฺโปิ ธมฺมกถิโก ธมฺมํ กเถนฺโต –
‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย, มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;
ปริโยสานมฺหิ นิพฺพานํ, เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐);
สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺส หิ ยาคุภตฺตอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนา นิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. ยสฺส ปน เทสนา เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพวิสฺสฏฺสพฺพนิคฺคหีตพฺยฺชนา วา, ตสฺส ทมิฬกิราสวราทิมิลกฺขูนํ ภาสา วิย พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. ภควา ปน –
‘‘สิถิลํ ¶ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหีตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐) –
เอวํ ¶ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา ‘‘สพฺยฺชนํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ.
เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ เกวลนฺติ สกลาธิวจนํ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนาธิกวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สกลปริปุณฺณเมว เทเสติ, เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถี’’ติ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. โย หิ อิทํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามีติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข ¶ หิตผรเณน เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ. ตสฺมา ‘‘ปริสุทฺธํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลสาสนํ. ตสฺมา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ, เอวํ เทเสนฺโต จ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ จริยํ. พฺรหฺมภูตานํ วา พุทฺธาทีนํ จริยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ คหปติ วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ? นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มฺุจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา นาม น พหุกา, คหปติกาว พหุกา, อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.
อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ธมฺมํ สุตฺวา ¶ ธมฺมสฺสามิมฺหิ ตถาคเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธเยว. รโชปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วฏฺฏติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาทเทววิมานาทีสุ ปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ น ¶ สชฺชติ น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ. อปิจ สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย โอกาสาภาวโต. รโชปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสพฺภาวโต.
นยิทํ สุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปกถา – ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ. เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลินํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ, สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ, อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ. ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสฺุจ โอหาเรตฺวา กาสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ. ตสฺมา ปพฺพชฺชา อนคาริยาติ าตพฺพา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปฏิปชฺเชยฺยํ. อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย มหา. อาพนฺธนฏฺเน าติ เอว ปริวฏฺโฏ าติปริวฏฺโฏ. โส วีสติยา เหฏฺา อปฺโป โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา.
๒๙๒. ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ, ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน ¶ โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต, สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ. ปาณาติปาตํ ปหายาติอาทีสุ ปาณาติปาตาทิกถา เหฏฺา วิตฺถาริตา เอว. ปหายาติ อิมํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรโต โหตีติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว โหติ. นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺโฑ เจว นิกฺขิตฺตสตฺโถ จาติ ¶ ¶ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วิหึสนภาวโต สตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺวาสึ วา ปิปฺผลกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคโต. ทยาปนฺโนติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปโก. ตาย ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตโกติ อตฺโถ. วิหรตีติ อิริยติ ปาเลติ.
ทินฺนเมว อาทิยตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน. น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน, อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ.
อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูรจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุนาติ สงฺขํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.
สจฺจํ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ ¶ . ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ, อยํ ปน น ตาทิโส, ชีวิตเหตุปิ มุสาวาทํ อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติเยวาติ สจฺจสนฺโธ. เถโตติ ถิโร, ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก หิ ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย, อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ถิรกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย อินฺทขิโล วิย จ ถิรกโถ โหติ; อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ; อยํ วุจฺจติ เถโต ¶ . ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพโก, สทฺธายิโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ¶ อาปชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.
อิเมสํ เภทายาติ เยสํ อิโต สุตฺวาติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนมฺปิ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา, ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. ‘‘สมคฺคราโม’’ติปิ ปาฬิ, อยเมเวตฺถ อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺร คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคิคุณปริทีปกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.
เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ ¶ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ, อปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี, ปุเร สํวทฺธนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี, ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ ¶ . นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ, มาติมตฺตํ มาตาติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุทฺธิกราติ พหุชนมนาปา.
กาเลน วทตีติ กาลวาที, วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที ¶ . นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺสา อตฺถีติ นิธานวตี, หทเย นิธาตพฺพ ยุตฺตวาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเวกฺขิตฺวา ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ, ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สํหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๓. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ. เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโตอรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภฺุชมาโนปิ ¶ เอกภตฺติโกว โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอกภตฺติโก’’ติ. รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถํคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม. ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา. สาสนสฺส ¶ อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ, อนฺตมโส มยูรนจฺจนาทิวเสนาปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ น ภิกฺขุนีนํ วฏฺฏนฺติ. มาลาทีสุ มาลาติ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํกิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม. อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม. คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ.
อุจฺจาสยนํ ¶ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรณํ. ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ, ตสฺส อุภยสฺสปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว นํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ. อามกธฺปฏิคฺคหณาติ สาลิวีหิยวโคธูมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนฺุาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ.
อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม. ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว. ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ, ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. อเชฬกาทีสุ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ ¶ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ ¶ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว. ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ, คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ, ตสฺมา ทูเตยฺยปหิณคมนานํ อนุโยคาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ ตาว รูปกูฏํ องฺคกูฏํ คหณกูฏํ ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค. กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรติ, ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อทฺธกุลํ ปวิสิตฺวา, ‘‘สุวณฺณภาชนานิ ¶ กิณถา’’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต – ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพา ปาติโย ทตฺวา คจฺฉติ.
มานกูฏํ นาม หทยเภทสิขาเภทรชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺา ฉิทฺเทน มาเนน, ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ; ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ¶ ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.
อุกฺโกฏนาทีสุ ¶ อุกฺโกฏนนฺติ สามิเก อสฺสามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต, ‘‘กึ, โภ, มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต, ‘‘น เม, โภ, มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ‘‘ทฺเว กหาปเณ เทหี’’ติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต, โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ. อาม ทินฺโนติ. ‘‘อิมมฺปิ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โส การณํ วทตีติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.
นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปฏิรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค, เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ, ตสฺมา อุกฺโกฏนสาจิโยโค วฺจนสาจิโยโค นิกติสาจิโยโคติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ. เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ ¶ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสิกกิริยา, เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑคฺคหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
๒๙๔. โส สนฺตุฏฺโ โหตีติ สฺวายํ ภิกฺขุ เหฏฺา วุตฺเตน จตูสุ ปจฺจเยสุ ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต โหติ. อิมินา ปน ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน ¶ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺ ปริกฺขารา วฏฺฏนฺติ ตีณิ จีวรานิ ปตฺโต ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ เอกา สูจิ กายพนฺธนํ ปริสฺสาวนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ติจีวรฺจ ¶ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;
ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.
เต สพฺเพปิ กายปริหาริกาปิ โหนฺติ กุจฺฉิปริหาริกาปิ. กถํ? ติจีวรํ ตาว นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา จ วิจรณกาเล กายํ ปริหรติ โปเสตีติ กายปริหาริกํ โหติ, จีวรกณฺเณน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ปิวนกาเล ขาทิตพฺพผลาผลคฺคหณกาเล จ กุจฺฉึ ปริหรติ โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ โหติ. ปตฺโตปิ เตน อุทกํ อุทฺธริตฺวา นหานกาเล กุฏิปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริโก โหติ, อาหารํ คเหตฺวา ภฺุชนกาเล กุจฺฉิปริหาริโก โหติ. วาสิปิ ตาย ทนฺตกฏฺจฺเฉทนกาเล มฺจปีานํ องฺคปาทจีวรกุฏิทณฺฑกสชฺชนกาเล จ กายปริหาริกา โหติ, อุจฺฉุจฺเฉทนนาฬิเกราทิตจฺฉนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. สูจิปิ จีวรสิพฺพนกาเล กายปริหาริกา โหติ, ปูวํ วา ผลํ วา วิชฺฌิตฺวา ขาทนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา วิจรณกาเล กายปริหาริกํ, อุจฺฉุอาทีนิ พนฺธิตฺวา คหณกาเล กุจฺฉิปริหาริกํ. ปริสฺสาวนํ เตน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา นหานกาเล, เสนาสนปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริกํ, ปานียปริสฺสาวนกาเล เตเนว ติลตณฺฑุลปุถุกาทีนิ คเหตฺวา ขาทนกาเล จ กุจฺฉิปริหาริกํ. อยํ ตาว อฏฺปริกฺขาริกสฺส ปริกฺขารมตฺตา.
นวปริกฺขาริกสฺส ¶ ปน เสยฺยํ ปวิสนฺตสฺส ตตฺรฏฺกปจฺจตฺถรณํ วา กฺุจิกา วา วฏฺฏติ. ทสปริกฺขาริกสฺส นิสีทนํ วา จมฺมขณฺฑํ วา วฏฺฏติ. เอกาทสปริกฺขาริกสฺส กตฺตรยฏฺิ วา เตลนาฬิกา วา วฏฺฏติ. ทฺวาทสปริกฺขาริกสฺส ฉตฺตํ วา อุปาหนา วา วฏฺฏติ. เอเตสุ จ อฏฺปริกฺขาริโกว สนฺตุฏฺโ, อิตเร อสนฺตุฏฺา, มหิจฺฉา มหาภาราติ น วตฺตพฺพา. เอเตปิ หิ อปฺปิจฺฉาว สนฺตุฏฺาว ¶ สุภราว สลฺลหุกวุตฺติโนว. ภควา ปน นยิมํ สุตฺตํ เตสํ วเสน กเถสิ, อฏฺปริกฺขาริกสฺส วเสน กเถสิ. โส หิ ขุทฺทกวาสิฺจ สูจิฺจ ปริสฺสาวเน ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส อนฺโต เปตฺวา ปตฺตํ อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา ติจีวรํ กายปฏิพทฺธํ กตฺวา เยนิจฺฉกํ สุขํ ปกฺกมติ. ปฏินิวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ นามสฺส น โหติ, อิติ ¶ อิมสฺส ภิกฺขุโน สลฺลหุกวุตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ภควา, สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรนาติอาทิมาห.
ตตฺถ กายปริหาริเกนาติ กายปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ ตํ อฏฺปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวา กายปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ, ‘‘มม วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติสฺส สงฺโค วา พทฺโธ วา น โหติ, โส ชิยา มุตฺโต สโร วิย, ยูถา อปกฺกนฺโต มตฺตหตฺถี วิย อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ วนสณฺฑํ รุกฺขมูลํ วนปพฺภารํ ปริภฺุชนฺโต เอโกว ติฏฺติ, เอโกว นิสีทติ, สพฺพิริยาปเถสุ เอโกว อทุติโย.
‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ,
สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;
ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี,
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒);
เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.
อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุณา นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส ¶ รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปกฺขตุณฺฑาทีหิ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ. ‘‘อิทํ อชฺชตนาย อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’’ติ เนสํ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ, อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺโข หุตฺวา โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว – อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค ¶ นิรเปกฺโขเยว ปกฺกมติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมาทาเยว ปกฺกมตี’’ติ. อริเยนาติ นิทฺโทเสน. อชฺฌตฺตนฺติ สเก อตฺตภาเว. อนวชฺชสุขนฺติ นิทฺโทสสุขํ.
๒๙๕. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ. เสสปเทสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลเสหิ ¶ อนวสิตฺตสุขํ, อวิกิณฺณสุขนฺติปิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยสํวรสุขฺหิ ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺมตฺตาทิวเสน ปวตฺตตาย อวิกิณฺณํ โหติ. โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ โส มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวเรน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อิเมสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติสมฺปชฺวเสน สมฺปชานการี โหติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สติปฏฺาเน วุตฺตเมว.
๒๙๖. โส อิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ, ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา, ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ. ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมํ อกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ, โส หิ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยโต วยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ, อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภาสนฺติ, อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ.
ตตฺถ ¶ วิวิตฺตนฺติ สฺุํ อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค, ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ, มฺจปีาทีนเมตํ อธิวจนํ. เตนาห – ‘‘เสนาสนนฺติ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ ภิสิปิ พิมฺโพหนมฺปิ, วิหาโรปิ อฑฺฒโยโคปิ, ปาสาโทปิ, หมฺมิยมฺปิ, คุหาปิ, อฏฺโฏปิ, มาโฬปิ, เลณมฺปิ, เวฬุคุมฺโพปิ ¶ , รุกฺขมูลมฺปิ, มณฺฑโปปิ เสนาสนํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ. อปิจ ‘‘วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา’’ติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. ‘‘มฺโจ ปีํ, ภิสิ พิมฺโพหน’’นฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. ‘‘จิมิลิกา, จมฺมขณฺโฑ, ติณสนฺถาโร, ปณฺณสนฺถาโร’’ติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ‘‘ยตฺถ ¶ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตี’’ติ อิทํ โอกาสเสนาสนํ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว. อิมสฺส ปน สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกํ ทสฺเสนฺโต อรฺํ รุกฺขมูลนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา, สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ อรฺํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ, ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สนฺทจฺฉายํ วิวิตฺตํ รกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน วีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ, อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปฺปเทสํ, ยํ นทีตุมฺพนฺติปิ นทีกฺุชนฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา โหนฺติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิกฺขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺาเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรา, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. วนปตฺถนฺติ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห – ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ (วิภ. ๕๓๑). อพฺโภกาสนฺติ ¶ อจฺฉนฺนํ, อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปฺุชนฺติ ปลาลราสึ ¶ . มหาปลาลปฺุชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ปจฺฉาภตฺตนฺติ ภตฺตสฺส ปจฺฉโต. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตปริเยสนโต ปฏิกฺกนฺโต. ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ¶ ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา, เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ, มุขนฺติ นิยฺยานตฺโถ, สตีติ อุปฏฺานตฺโถ, เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สติ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานสตึ กตฺวา’’ติ.
อภิชฺฌํ โลเกติ เอตฺถ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา โลโก, ตสฺมา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ราคํ ปหาย กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วิคตาภิชฺเฌนาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนตฺตา วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณสทิเสนาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธตีติ อภิชฺฌาโต จิตฺตํ ปริโมเจติ. ยถา นํ สา มฺุจติ เจว, มฺุจิตฺวา จ น ปุน คณฺหาติ, เอวํ กโรตีติ อตฺโถ. พฺยาปาทปโทสํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกมฺมาสาทโย วิย ปุริมปกตึ ปชหตีติ พฺยาปาโท. วิการาปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส. อุภยเมตํ โกธสฺเสวาธิวจนํ. ถินํ จิตฺตเคลฺํ. มิทฺธํ เจตสิกเคลฺํ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. อาโลกสฺีติ ¶ รตฺติมฺปิ ทิวา ทิฏฺอาโลกสฺชานนสมตฺถตาย วิคตนีวรณาย ปริสุทฺธาย สฺาย ¶ สมนฺนาคโต. สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต. อิทํ อุภยํ อาโลกสฺาย อุปการตฺตา วุตฺตํ. อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิโต. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ เอวํ นปฺปวตฺตตีติ อกถํกถี. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺเชสุ ธมฺเมสุ. ‘‘อิเม นุ โข กุสลา, กถมิเม กุสลา’’ติ เอวํ น วิจิกิจฺฉติ น กงฺขตีติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, อิเมสุ ปน นีวรเณสุ ¶ วจนตฺถลกฺขณาทิเภทโต ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ.
๒๙๗. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ อิเม ปฺจ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนา อปิ อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ วา อภิฺา อุจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ; ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตถาคตปทํ อิติปีติ อิทมฺปิ ตถาคตสฺส าณปทํ าณวฬฺชํ าเณน อกฺกนฺตฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ตถาคตนิเสวิตนฺติ ตถาคตสฺส าณผาสุกาย นิฆํสิตฏฺานํ. ตถาคตารฺชิตนฺติ ตถาคตสฺส าณทาาย อารฺชิตฏฺานํ.
๒๙๙. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ยถาสภาวํ ปชานาติ. นตฺเวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺํ คโต โหตีติ อิมา ฌานาภิฺา พาหิรเกหิปิ สาธารณาติ น ตาว นิฏฺํ คโต โหติ. มคฺคกฺขเณปิ อปริโยสิตกิจฺจตาย น ตาว นิฏฺํ คโต โหติ. อปิจ โข นิฏฺํ คจฺฉตีติ อปิจ โข ปน มคฺคกฺขเณ มหาหตฺถึ ปสฺสนฺโต นาควนิโก วิย สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควาติ อิมินา อากาเรน ตีสุ รตเนสุ นิฏฺํ คจฺฉติ. นิฏฺํ คโต โหตีติ เอวํ มคฺคกฺขเณ นิฏฺํ คจฺฉนฺโต อรหตฺตผลกฺขเณ ปริโยสิตสพฺพกิจฺจตาย สพฺพากาเรน ตีสุ รตเนสุ นิฏฺํ คโต โหติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา
๓๐๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตํ. ตตฺถ ชงฺคลานนฺติ ปถวีตลจารีนํ. ปาณานนฺติ สปาทกปาณานํ. ปทชาตานีติ ปทานิ. สโมธานํ คจฺฉนฺตีติ โอธานํ ปกฺเขปํ คจฺฉนฺติ. อคฺคมกฺขายตีติ เสฏฺํ อกฺขายติ. ยทิทํ มหนฺตตฺเตนาติ มหนฺตภาเวน อคฺคํ อกฺขายติ, น คุณวเสนาติ อตฺโถ. เย เกจิ กุสลา ธมฺมาติ เย เกจิ โลกิยา ¶ วา โลกุตฺตรา วา กุสลา ธมฺมา. สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เอตฺถ จตุพฺพิโธ สงฺคโห – สชาติสงฺคโห, สฺชาติสงฺคโห, กิริยสงฺคโห, คณนสงฺคโหติ. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ สพฺเพ พฺราหฺมณา’’ติ เอวํ สมานชาติวเสน สงฺคโห สชาติสงฺคโห นาม. ‘‘สพฺเพ โกสลกา สพฺเพ มาคธกา’’ติ เอวํ สฺชาติเทสวเสน สงฺคโห สฺชาติสงฺคโห นาม. ‘‘สพฺเพ รถิกา สพฺเพ ธนุคฺคหา’’ติ เอวํ กิริยวเสน สงฺคโห กิริยสงฺคโห นาม. ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ คณนสงฺคโห นาม. อิมสฺมิมฺปิ าเน อยเมว อธิปฺเปโต.
นนุ จ ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา กติ อกุสลา กติ อพฺยากตาติ ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน สมุทยสจฺจํ อกุสลํ, มคฺคสจฺจํ กุสลํ, นิโรธสจฺจํ อพฺยากตํ, ทุกฺขสจฺจํ สิยา กุสลํ, สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากต’’นฺติ (วิภ. ๒๑๖-๒๑๗) อาคตตฺตา จตุภูมกมฺปิ กุสลํ ทิยฑฺฒเมว สจฺจํ ภชติ. อถ กสฺมา มหาเถโร จตูสุ อริยสจฺเจสุ คณนํ คจฺฉตีติ อาหาติ? สจฺจานํ อนฺโตคธตฺตา. ยถา หิ ‘‘สาธิกมิทํ, ภิกฺขเว, ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ อนฺวทฺธมาสํ อุทฺเทสํ อาคจฺฉติ, ยตฺถ อตฺตกามา ¶ กุลปุตฺตา สิกฺขนฺติ. ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สิกฺขา อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๘) เอตฺถ สาธิกมิทํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ เอกา อธิสีลสิกฺขาว โหติ, ตํ สิกฺขนฺโตปิ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ ทสฺสิโต, สิกฺขานํ อนฺโตคธตฺตา. ยถา จ เอกสฺส หตฺถิปทสฺส จตูสุ โกฏฺาเสสุ เอกสฺมึ โกฏฺาเส โอติณฺณานิปิ ทฺวีสุ ¶ ตีสุ จตูสุ โกฏฺาเสสุ โอติณฺณานิปิ สิงฺคาลสสมิคาทีนํ ปาทานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คตาเนว โหนฺติ. หตฺถิปทโต อมุจฺจิตฺวา ตสฺเสว อนฺโตคธตฺตา. เอวเมว เอกสฺมิมฺปิ ทฺวีสุปิ ตีสุปิ จตูสุปิ สจฺเจสุ คณนํ คตา ธมฺมา จตูสุ สจฺเจสุ คณนํ คตาว โหนฺติ; สจฺจานํ อนฺโตคธตฺตาติ ทิยฑฺฒสจฺจคณนํ คเตปิ กุสลธมฺเม ‘‘สพฺเพ เต จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติ อาห. ‘‘ทุกฺเข อริยสจฺเจ’’ติอาทีสุ อุทฺเทสปเทสุ เจว ชาติปิ ทุกฺขาติอาทีสุ นิทฺเทสปเทสุ จ ยํ ¶ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. เกวลํ ปเนตฺถ เทสนานุกฺกโมว เวทิตพฺโพ.
๓๐๑. ยถา หิ เฉโก วิลีวกาโร สุชาตํ เวฬุํ ลภิตฺวา จตุธา เฉตฺวา ตโต ตโย โกฏฺาเส เปตฺวา เอกํ คณฺหิตฺวา ปฺจธา ภินฺเทยฺย, ตโตปิ จตฺตาโร เปตฺวา เอกํ คณฺหิตฺวา ผาเลนฺโต ปฺจ เปสิโย กเรยฺย, ตโต จตสฺโส เปตฺวา เอกํ คณฺหิตฺวา กุจฺฉิภาคํ ปิฏฺิภาคนฺติ ทฺวิธา ผาเลตฺวา ปิฏฺิภาคํ เปตฺวา กุจฺฉิภาคํ อาทาย ตโต สมุคฺคพีชนิตาลวณฺฏาทินานปฺปการํ เวฬุวิกตึ กเรยฺย, โส ปิฏฺิภาคฺจ อิตรา จ จตสฺโส เปสิโย อิตเร จ จตฺตาโร โกฏฺาเส อิตเร จ ตโย โกฏฺาเส กมฺมาย น อุปเนสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. เอกปฺปหาเรน ปน อุปเนตุํ น สกฺกา, อนุปุพฺเพน อุปเนสฺสติ. เอวเมว อยํ มหาเถโรปิ วิลีวกาโร สุชาตํ เวฬุํ ลภิตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาเส วิย, อิมํ มหนฺตํ สุตฺตนฺตํ อารภิตฺวา จตุอริยสจฺจวเสน มาติกํ เปสิ. วิลีวการสฺส ตโย โกฏฺาเส เปตฺวา เอกํ คเหตฺวา ตสฺส ปฺจธา กรณํ วิย เถรสฺส ตีณิ อริยสจฺจานิ เปตฺวา เอกํ ทุกฺขสจฺจํ คเหตฺวา ภาเชนฺตสฺส ขนฺธวเสน ปฺจธา กรณํ. ตโต ยถา โส วิลีวกาโร จตฺตาโร โกฏฺาเส ¶ เปตฺวา เอกํ ภาคํ คเหตฺวา ปฺจธา ผาเลสิ, เอวํ เถโร จตฺตาโร อรูปกฺขนฺเธ เปตฺวา รูปกฺขนฺธํ วิภชนฺโต จตฺตาริ จ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปนฺติ ปฺจธา อกาสิ. ตโต ยถา โส วิลีวกาโร จตสฺโส เปสิโย เปตฺวา เอกํ คเหตฺวา กุจฺฉิภาคํ ปิฏฺิภาคนฺติ ทฺวิธา ผาเลสิ, เอวํ เถโร อุปาทาย รูปฺจ ติสฺโส จ ธาตุโย เปตฺวา เอกํ ปถวีธาตุํ วิภชนฺโต อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน ทฺวิธา ทสฺเสสิ. ยถา โส วิลีวกาโร ปิฏฺิภาคํ เปตฺวา กุจฺฉิภาคํ อาทาย นานปฺปการํ วิลีววิกตึ อกาสิ, เอวํ เถโร พาหิรํ ปถวีธาตุํ เปตฺวา อชฺฌตฺติกํ ปถวีธาตุํ วีสติยา อากาเรหิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตูติอาทิมาห.
ยถา ¶ ปน วิลีวกาโร ปิฏฺิภาคฺจ อิตรา จ จตฺตสฺโส เปสิโย อิตเร จ จตฺตาโร โกฏฺาเส อิตเร จ ตโย โกฏฺาเส อนุปุพฺเพน ¶ กมฺมาย อุปเนสฺสติ, น หิ สกฺกา เอกปฺปหาเรน อุปเนตุํ, เอวํ เถโรปิ พาหิรฺจ ปถวีธาตุํ อิตรา จ ติสฺโส ธาตุโย อุปาทารูปฺจ อิตเร จ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺเธ อิตรานิ จ ตีณิ อริยสจฺจานิ อนุปุพฺเพน วิภชิตฺวา ทสฺเสสฺสติ, น หิ สกฺกา เอกปฺปหาเรน ทสฺเสตุํ. อปิจ ราชปุตฺตูปมายปิ อยํ กโม วิภาเวตพฺโพ –
เอโก กิร มหาราชา, ตสฺส ปโรสหสฺสํ ปุตฺตา. โส เตสํ ปิฬนฺธนปริกฺขารํ จตูสุ เปฬาสุ เปตฺวา เชฏฺปุตฺตสฺส อปฺเปสิ – ‘‘อิทํ เต, ตาต, ภาติกานํ ปิฬนฺธนภณฺฑํ ตถารูเป ฉเณ สมฺปตฺเต ปิฬนฺธนํ โน เทหีติ ยาจนฺตานํ ทเทยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธุ เทวา’’ติ สารคพฺเภ ปฏิสาเมสิ, ตถารูเป ฉณทิวเส ราชปุตฺตา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ปิฬนฺธนํ โน, ตาต, เทถ, นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ตาตา, เชฏฺภาติกสฺส โว หตฺเถ มยา ปิฬนฺธนํ ปิตํ, ตํ อาหราเปตฺวา ปิฬนฺธถาติ. เต สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ กิร โน หตฺเถ ปิฬนฺธนภณฺฑํ, ตํ เทถา’’ติ อาหํสุ. โส เอวํ กริสฺสามีติ คพฺภํ วิวริตฺวา, จตสฺโส เปฬาโย นีหริตฺวา ติสฺโส เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา, ตโต ปฺจ สมุคฺเค นีหริตฺวา จตฺตาโร เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา, ตโต ปฺจสุ กรณฺเฑสุ ¶ นีหริเตสุ จตฺตาโร เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา ปิธานํ ปสฺเส เปตฺวา ตโต หตฺถูปคปาทูปคาทีนิ นานปฺปการานิ ปิฬนฺธนานิ นีหริตฺวา อทาสิ. โส กิฺจาปิ อิตเรหิ จตูหิ กรณฺเฑหิ อิตเรหิ จตูหิ สมุคฺเคหิ อิตราหิ ตีหิ เปฬาหิ น ตาว ภาเชตฺวา เทติ, อนุปุพฺเพน ปน ทสฺสติ, น หิ สกฺกา เอกปฺปหาเรน ทาตุํ.
ตตฺถ มหาราชา วิย ภควา ทฏฺพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ ภควา, ธมฺมราชา อนุตฺตโร’’ติ (สุ. นิ. ๕๕๙). เชฏฺปุตฺโต วิย สาริปุตฺตตฺเถโร, วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย, ‘ภควโต ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท, โน อามิสทายาโท’ติ สาริปุตฺตเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย, ภควโต ปุตฺโต…เป… โน อามิสทายาโท’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๗). ปโรสหสฺสราชปุตฺตา วิย ภิกฺขุสงฺโฆ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปโรสหสฺสํ ¶ ¶ ภิกฺขูนํ, สุคตํ ปยิรุปาสติ;
เทเสนฺตํ วิรชํ ธมฺมํ, นิพฺพานํ อกุโตภย’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๑๖);
รฺโ เตสํ ปุตฺตานํ ปิฬนฺธนํ จตูสุ เปฬาสุ ปกฺขิปิตฺวา เชฏฺปุตฺตสฺส หตฺเถ ปิตกาโล วิย ภควโต ธมฺมเสนาปติสฺส หตฺเถ จตุสจฺจปฺปกาสนาย ปิตกาโล, เตเนวาห – ‘‘สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ปโหติ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ วิตฺถาเรน อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปฺาเปตุํ ปฏฺเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๗๑). ตถารูเป ขเณ เตสํ ราชปุตฺตานํ ตํ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ปิฬนฺธนํ ยาจนกาโล วิย ภิกฺขุสงฺฆสฺส วสฺสูปนายิกสมเย อาคนฺตฺวา ธมฺมเทสนาย ยาจิตกาโล. อุปกฏฺาย กิร วสฺสูปนายิกาย อิทํ สุตฺตํ เทสิตํ. รฺโ, ‘‘ตาตา, เชฏฺภาติกสฺส โว หตฺเถ มยา ปิฬนฺธนํ ปิตํ ตํ อาหราเปตฺวา ปิฬนฺธถา’’ติ วุตฺตกาโล วิย สมฺพุทฺเธนาปิ, ‘‘เสเวถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน, ภชถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน. ปณฺฑิตา ภิกฺขู อนุคฺคาหกา สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ เอวํ ธมฺมเสนาปติโน สนฺติเก ภิกฺขูนํ เปสิตกาโล.
ราชปุตฺเตหิ รฺโ กถํ สุตฺวา เชฏฺภาติกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปิฬนฺธนํ ยาจิตกาโล วิย ภิกฺขูหิ สตฺถุกถํ สุตฺวา ¶ ธมฺมเสนาปตึ อุปสงฺกมฺม ธมฺมเทสนํ อายาจิตกาโล. เชฏฺภาติกสฺส คพฺภํ วิวริตฺวา จตสฺโส เปฬาโย นีหริตฺวา ปนํ วิย ธมฺมเสนาปติสฺส อิมํ สุตฺตนฺตํ อารภิตฺวา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ วเสน มาติกาย ปนํ. ติสฺโส เปฬาโย เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา ตโต ปฺจสมุคฺคนีหรณํ วิย ตีณิ อริยสจฺจานิ เปตฺวา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ วิภชนฺตสฺส ปฺจกฺขนฺธทสฺสนํ. จตฺตาโร สมุคฺเค เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา ตโต ปฺจกรณฺฑนีหรณํ วิย จตฺตาโร อรูปกฺขนฺเธ เปตฺวา เอกํ รูปกฺขนฺธํ วิภชนฺตสฺส จตุมหาภูตอุปาทารูปวเสน ปฺจโกฏฺาสทสฺสนํ.
๓๐๒. จตฺตาโร กรณฺเฑ เปตฺวา เอกํ วิวริตฺวา ปิธานํ ปสฺเส เปตฺวา หตฺถูปคปาทูปคาทิปิฬนฺธนทานํ วิย ตีณิ มหาภูตานิ อุปาทารูปฺจ เปตฺวา เอกํ ปถวีธาตุํ วิภชนฺตสฺส พาหิรํ ตาว ปิธานํ วิย เปตฺวา อชฺฌตฺติกาย ¶ ปถวีธาตุยา นานาสภาวโต วีสติยา อากาเรหิ ทสฺสนตฺถํ ‘‘กตมา จาวุโส อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตู’’ติอาทิวจนํ.
ตสฺส ¶ ปน ราชปุตฺตสฺส เตหิ จตูหิ กรณฺเฑหิ จตูหิ สมุคฺเคหิ ตีหิ จ เปฬาหิ ปจฺฉา อนุปุพฺเพน นีหริตฺวา ปิฬนฺธนทานํ วิย เถรสฺสาปิ อิตเรสฺจ ติณฺณํ มหาภูตานํ อุปาทารูปานฺจ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานฺจ ติณฺณํ อริยสจฺจานฺจ ปจฺฉา อนุปุพฺเพน ภาเชตฺวา ทสฺสนํ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตํ ‘‘กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตนฺติ อุภยมฺเปตํ นิยกาธิวจนเมว. กกฺขฬนฺติ ถทฺธํ. ขริคตนฺติ ผรุสํ. อุปาทินฺนนฺติ น กมฺมสมุฏฺานเมว, อวิเสเสน ปน สรีรฏฺกสฺเสตํ คหณํ. สรีรฏฺกฺหิ อุปาทินฺนํ วา โหตุ, อนุปาทินฺนํ วา, อาทินฺนคหิตปรามฏฺวเสน สพฺพํ อุปาทินฺนเมว นาม. เสยฺยถิทํ – เกสา โลมา…เป… อุทริยํ กรีสนฺติ อิทํ ธาตุกมฺมฏฺานิกสฺส กุลปุตฺตสฺส อชฺฌตฺติกปถวีธาตุวเสน ตาว กมฺมฏฺานํ วิภตฺตํ. เอตฺถ ปน มนสิการํ อารภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คเหตุกาเมน ¶ ยํ กาตพฺพํ, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตเมว. มตฺถลุงฺคํ ปน น อิธ ปาฬิอารุฬฺหํ. ตมฺปิ อาหริตฺวา, วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว วณฺณสณฺานาทิวเสน ววตฺถเปตฺวา, ‘‘อยมฺปิ อเจตนา อพฺยากตา สฺุา ถทฺธา ปถวีธาตุ เอวา’’ติ มนสิ กาตพฺพํ. ยํ วา ปนฺมฺปีติ อิทํ อิตเรสุ ตีสุ โกฏฺาเสสุ อนุคตาย ปถวีธาตุยา คหณตฺถํ วุตฺตํ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตูติ ยา จ อยํ วุตฺตปฺปการา อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ. ยา จ พาหิราติ ยา จ วิภงฺเค, ‘‘อโย โลหํ ติปุ สีส’’นฺติอาทินา (วิภ. ๑๗๓) นเยน อาคตา พาหิรา ปถวีธาตุ.
เอตฺตาวตา เถเรน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ นานาสภาวโต วีสติยา อากาเรหิ วิตฺถาเรน ทสฺสิตา, พาหิรา สงฺเขเปน. กสฺมา? ยสฺมิฺหิ าเน สตฺตานํ อาลโย นิกนฺติ ปตฺถนา ปริยุฏฺานํ คหณํ ปรามาโส พลวา โหติ, ตตฺถ เตสํ อาลยาทีนํ อุทฺธรณตฺถํ พุทฺธา วา พุทฺธสาวกา วา วิตฺถารกถํ กเถนฺติ. ยตฺถ ปน น พลวา, ตตฺถ กตฺตพฺพกิจฺจาภาวโต สงฺเขเปน กเถนฺติ. ยถา หิ กสฺสโก เขตฺตํ กสมาโน ยตฺถ มูลสนฺตานกานํ พลวตาย นงฺคลํ ลคฺคติ, ตตฺถ โคเณ เปตฺวา ปํสุํ วิยูหิตฺวา มูลสนฺตานกานิ เฉตฺวา เฉตฺวา ¶ อุทฺธรนฺโต พหุํ วายามํ กโรติ. ยตฺถ ตานิ นตฺถิ, ตตฺถ พลวํ ปโยคํ กตฺวา โคเณ ปิฏฺิยํ ปหรมาโน กสติเยว, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.
ปถวีธาตุเรเวสาติ ทุวิธาเปสา ถทฺธฏฺเน กกฺขฬฏฺเน ผรุสฏฺเน เอกลกฺขณา ปถวีธาตุเยว ¶ , อาวุโสติ อชฺฌตฺติกํ พาหิราย สทฺธึ โยเชตฺวา ทสฺเสติ. ยสฺมา พาหิราย ปถวีธาตุยา อเจตนาภาโว ปากโฏ, น อชฺฌตฺติกาย, ตสฺมา สา พาหิราย สทฺธึ เอกสทิสา อเจตนาเยวาติ คณฺหนฺตสฺส สุขปริคฺคโห โหติ. ยถา กึ? ยถา ทนฺเตน โคเณน สทฺธึ โยชิโต อทนฺโต กติปาหเมว วิสูกายติ วิปฺผนฺทติ, อถ น จิรสฺเสว ทมถํ อุเปติ. เอวํ อชฺฌตฺติกาปิ พาหิราย สทฺธึ เอกสทิสาติ คณฺหนฺตสฺส กติปาหเมว อเจตนาภาโว ¶ น อุปฏฺาติ, อถ น จิเรเนวสฺสา อเจตนาภาโว ปากโฏ โหติ. ตํ เนตํ มมาติ ตํ อุภยมฺปิ น เอตํ มม, น เอโสหมสฺมิ, น เอโส เม อตฺตาติ เอวํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวํ, ตฺหิ อนิจฺจาทิสภาวํ, ตสฺมา อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ อตฺโถ.
โหติ โข โส, อาวุโสติ กสฺมา อารภิ? พาหิรอาโปธาตุวเสน พาหิราย ปถวีธาตุยา วินาสํ ทสฺเสตฺวา ตโต วิเสสตเรน อุปาทินฺนาย สรีรฏฺกปถวีธาตุยา วินาสทสฺสนตฺถํ. ปกุปฺปตีติ อาโปสํวฏฺฏวเสน วฑฺฒมานา กุปฺปติ. อนฺตรหิตา ตสฺมึ สมเย พาหิรา ปถวีธาตุ โหตีติ ตสฺมึ สมเย โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬ ขาโรทเกน วิลียมานา อุทกานุคตา หุตฺวา สพฺพา ปพฺพตาทิวเสน สณฺิตา ปถวีธาตุ อนฺตรหิตา โหติ. วิลียิตฺวา อุทกเมว โหติ. ตาว มหลฺลิกายาติ ตาว มหนฺตาย.
ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;
เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธราติ. –
เอวํ พหลตฺเตเนว มหนฺตาย, วิตฺถารโต ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปฺปมาณาย. อนิจฺจตาติ หุตฺวา อภาวตา. ขยธมฺมตาติ ขยํ คมนสภาวตา ¶ . วยธมฺมตาติ วยํ คมนสภาวตา. วิปริณามธมฺมตาติ ปกติวิชหนสภาวตา, อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณเมว วุตฺตํ. ยํ ปน อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตํ อนตฺตาติ ตีณิปิ ลกฺขณานิ อาคตาเนว โหนฺติ. มตฺตฏฺกสฺสาติ ปริตฺตฏฺิติกสฺส, ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อิมสฺส กายสฺส ปริตฺตฏฺิติตา เวทิตพฺพา ิติปริตฺตตาย จ สรสปริตฺตตาย จ. อยฺหิ อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ, น ชีวติ, น ชีวิสฺสติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ, น ชีวติ, น ชีวิตฺถ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ ¶ , น ชีวิตฺถ, น ชีวิสฺสตีติ วุจฺจติ.
‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;
เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุ โส วตฺตเต ขโณ’’ติ. –
อิทํ ¶ เอตสฺเสว ปริตฺตฏฺิติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ ิติปริตฺตตาย ปริตฺตฏฺิติตา เวทิตพฺพา.
อสฺสาสปสฺสาสูปนิพทฺธาทิภาเวน ปนสฺส สรสปริตฺตตา เวทิตพฺพา. สตฺตานฺหิ อสฺสาสูปนิพทฺธํ ชีวิตํ, ปสฺสาสูปนิพทฺธํ ชีวิตํ, อสฺสาสปสฺสาสูปนิพทฺธํ ชีวิตํ, มหาภูตูปนิพทฺธํ ชีวิตํ, กพฬีการาหารูปนิพทฺธํ ชีวิตํ, วิฺาณูปนิพทฺธํ ชีวิตนฺติ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตํ.
ตณฺหุปาทินฺนสฺสาติ ตณฺหาย อาทินฺนคหิตปรามฏฺสฺส อหนฺติ วา มมนฺติ วา อสฺมีติ วา. อถ ขฺวาสฺส โนเตเวตฺถ โหตีติ อถ โข อสฺส ภิกฺขุโน เอวํ ตีณิ ลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา ปสฺสนฺตสฺส เอตฺถ อชฺฌตฺติกาย ปถวีธาตุยา อหนฺติ วาติอาทิ ติวิโธ ตณฺหามานทิฏฺิคฺคาโห โนเตว โหติ, น โหติเยวาติ อตฺโถ. ยถา จ อาโปธาตุวเสน, เอวํ เตโชธาตุวาโยธาตุวเสนปิ พาหิราย ปถวีธาตุยา อนฺตรธานํ โหติ. อิธ ปน เอกํเยว อาคตํ. อิตรานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ.
ตฺเจ, อาวุโสติ อิธ ตสฺส ธาตุกมฺมฏฺานิกสฺส ภิกฺขุโน โสตทฺวาเร ปริคฺคหํ ปฏฺเปนฺโต พลํ ทสฺเสติ. อกฺโกสนฺตีติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ ตยา อิทฺจิทฺจ กตํ, เอวฺจ เอวฺจ ตํ กริสฺสามาติ วาจาย ปริภาสนฺติ. โรเสนฺตีติ ฆฏฺเฏนฺติ. วิเหเสนฺตีติ ทุกฺขาเปนฺติ, สพฺพํ วาจาย ฆฏฺฏนเมว วุตฺตํ. โส เอวนฺติ โส ธาตุกมฺมฏฺานิโก ¶ เอวํ สมฺปชานาติ. อุปฺปนฺนา โข เม อยนฺติ สมฺปติวตฺตมานุปฺปนฺนภาเวน จ สมุทาจารุปฺปนฺนภาเวน จ อุปฺปนฺนา. โสตสมฺผสฺสชาติ อุปนิสฺสยวเสน โสตสมฺผสฺสโต ชาตา โสตทฺวารชวนเวทนา, ผสฺโส อนิจฺโจติ โสตสมฺผสฺโส หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺโจติ ปสฺสติ. เวทนาทโยปิ ¶ โสตสมฺผสฺสสมฺปยุตฺตาว เวทิตพฺพา. ธาตารมฺมณเมวาติ ธาตุสงฺขาตเมว อารมฺมณํ. ปกฺขนฺทตีติ โอตรติ. ปสีทตีติ ตสฺมึ อารมฺมเณ ปสีทติ, ภุมฺมวจนเมว วา เอตํ. พฺยฺชนสนฺธิวเสน ‘‘ธาตารมฺมณเมวา’’ติ วุตฺตํ, ธาตารมฺมเณเยวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อธิมุจฺจตีติ ธาตุวเสน เอวนฺติ อธิโมกฺขํ ลภติ, น รชฺชติ, น ทุสฺสติ. อยฺหิ ¶ โสตทฺวารมฺหิ อารมฺมเณ อาปาถคเต มูลปริฺาอาคนฺตุกตาวกาลิกวเสน ปริคฺคหํ กโรติ, ตสฺส วิตฺถารกถา สติปฏฺาเน สติสมฺปชฺปพฺเพ วุตฺตา. สา ปน ตตฺถ จกฺขุทฺวารวเสน วุตฺตา, อิธ โสตทฺวารวเสน เวทิตพฺพา.
เอวํ กตปริคฺคหสฺส หิ ธาตุกมฺมฏฺานิกสฺส พลววิปสฺสกสฺส สเจปิ จกฺขุทฺวาราทีสุ อารมฺมเณ อาปาถคเต อโยนิโส อาวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, โวฏฺพฺพนํ ปตฺวา เอกํ ทฺเว วาเร อาเสวนํ ลภิตฺวา จิตฺตํ ภวงฺคเมว โอตรติ, น ราคาทิวเสน อุปฺปชฺชติ, อยํ โกฏิปฺปตฺโต ติกฺขวิปสฺสโก. อปรสฺส ราคาทิวเสน เอกํ วารํ ชวนํ ชวติ, ชวนปริโยสาเน ปน ราคาทิวเสน เอวํ เม ชวนํ ชวิตนฺติ อาวชฺชโต อารมฺมณํ ปริคฺคหิตเมว โหติ, ปุน วารํ ตถา น ชวติ. อปรสฺส เอกวารํ เอวํ อาวชฺชโต ปุน ทุติยวารํ ราคาทิวเสน ชวนํ ชวติเยว, ทุติยวาราวสาเน ปน เอวํ เม ชวนํ ชวิตนฺติ อาวชฺชโต อารมฺมณํ ปริคฺคหิตเมว โหติ, ตติยวาเร ตถา น อุปฺปชฺชติ. เอตฺถ ปน ปโม อติติกฺโข, ตติโย อติมนฺโท, ทุติยสฺส ปน วเสน อิมสฺมึ สุตฺเต, ลฏุกิโกปเม, อินฺทฺริยภาวเน จ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ โสตทฺวาเร ปริคฺคหิตวเสน ธาตุกมฺมฏฺานิกสฺส พลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กายทฺวาเร ทีเปนฺโต ตฺเจ, อาวุโสติอาทิมาห. อนิฏฺารมฺมณฺหิ ปตฺวา ทฺวีสุ วาเรสุ กิลมติ โสตทฺวาเร จ กายทฺวาเร จ. ตสฺมา ยถา นาม เขตฺตสฺสามี ปุริโส กุทาลํ คเหตฺวา เขตฺตํ ¶ อนุสฺจรนฺโต ยตฺถ วา ตตฺถ วา มตฺติกปิณฺฑํ อทตฺวา ทุพฺพลฏฺาเนสุเยว กุทาเลน ภูมึ ภินฺทิตฺวา สติณมตฺติกปิณฺฑํ เทติ. เอวเมว มหาเถโร อนาคเต สิกฺขากามา ปธานกมฺมิกา กุลปุตฺตา อิเมสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ปฏฺเปตฺวา ขิปฺปเมว ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสนฺตีติ อิเมสุเยว ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ คาฬฺหํ กตฺวา สํวรํ เทเสนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ ¶ สมุทาจรนฺตีติ อุปกฺกมนฺติ. ปาณิสมฺผสฺเสนาติ ¶ ปาณิปฺปหาเรน, อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ตถาภูโตติ ตถาสภาโว. ยถาภูตสฺมินฺติ ยถาสภาเว. กมนฺตีติ ปวตฺตนฺติ. เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโตติอาทีสุ อิติปิ โส ภควาติอาทินา นเยน อนุสฺสรนฺโตปิ พุทฺธํ อนุสฺสรติ, วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตาติ อนุสฺสรนฺโตปิ อนุสฺสรติเยว. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโมติอาทินา นเยน อนุสฺสรนฺโตปิ ธมฺมํ อนุสฺสรติ, กกจูปโมวาทํ อนุสฺสรนฺโตปิ อนุสฺสรติเยว. สุปฺปฏิปนฺโนติอาทินา นเยน อนุสฺสรนฺโตปิ สงฺฆํ อนุสฺสรติ, กกโจกนฺตนํ อธิวาสยมานสฺส ภิกฺขุโน คุณํ อนุสฺสรมาโนปิ อนุสฺสรติเยว.
อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺาตีติ อิธ วิปสฺสนุเปกฺขา อธิปฺเปตา. อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา สณฺาตีติ อิธ ฉฬงฺคุเปกฺขา, สา ปเนสา กิฺจาปิ ขีณาสวสฺส อิฏฺานิฏฺเสุ อารมฺมเณสุ อรชฺชนาทิวเสน ปวตฺตติ, อยํ ปน ภิกฺขุ วีริยพเลน ภาวนาสิทฺธิยา อตฺตโน วิปสฺสนํ ขีณาสวสฺส ฉฬงฺคุเปกฺขาาเน เปตีติ วิปสฺสนาว ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม ชาตา.
๓๐๓. อาโปธาตุนิทฺเทเส อาโปคตนฺติ สพฺพอาเปสุ คตํ อลฺลยูสภาวลกฺขณํ. ปิตฺตํ เสมฺหนฺติอาทีสุ ปน ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ สทฺธึ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. ปกุปฺปตีติ โอฆวเสน วฑฺฒติ, สมุทฺทโต วา อุทกํ อุตฺตรติ, อยมสฺส ปากติโก ปโกโป, อาโปสํวฏฺฏกาเล ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ อุทกปูรเมว โหติ. โอคจฺฉนฺตีติ เหฏฺา คจฺฉนฺติ, อุทฺธเน อาโรปิตอุทกํ วิย ขยํ วินาสํ ปาปุณนฺติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓๐๔. เตโชธาตุนิทฺเทเส ¶ เตโชคตนฺติ สพฺพเตเชสุ คตํ อุณฺหตฺตลกฺขณํ. เตโช เอว วา เตโชภาวํ คตนฺติ เตโชคตํ. ปุริเม อาโปคเตปิ ปจฺฉิเม วาโยคเตปิ เอเสว นโย. เยน จาติ เยน เตโชคเตน. ตสฺมึ กุปฺปิเต อยํ กาโย สนฺตปฺปติ, เอกาหิกชราทิภาเวน อุสุมชาโต โหติ. เยน จ ชีรียตีติ เยน อยํ กาโย ชีรติ, อินฺทฺริยเวกลฺลตฺตํ พลปริกฺขยํ วลิปลิตาทิภาวฺจ ปาปุณาติ. เยน จ ปริฑยฺหตีติ เยน กุปฺปิเตน อยํ กาโย ทยฺหติ, โส จ ปุคฺคโล ทยฺหามิ ¶ ทยฺหามีติ กนฺทนฺโต สตโธตสปฺปิโคสีตจนฺทนาทิเลปฺจ ¶ ตาลวณฺฏวาตฺจ ปจฺจาสีสติ. เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตีติ เยน ตํ อสิตํ วา โอทนาทิ, ปีตํ วา ปานกาทิ, ขายิตํ วา ปิฏฺขชฺชกาทิ, สายิตํ วา อมฺพปกฺกมธุผาณิตาทิ สมฺมา ปริปากํ คจฺฉติ, รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ สทฺธึ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ.
หริตนฺตนฺติ หริตเมว. อลฺลติณาทึ อาคมฺม นิพฺพายตีติ อตฺโถ. ปนฺถนฺตนฺติ มหามคฺคเมว. เสลนฺตนฺติ ปพฺพตํ. อุทกนฺตนฺติ อุทกํ. รมณียํ วา ภูมิภาคนฺติ ติณคุมฺพาทิรหิตํ, วิวิตฺตํ อพฺโภกาสํ ภูมิภาคํ. อนาหาราติ นิราหารา นิรุปาทานา, อยมฺปิ ปกติยาว เตโชวิกาโร วุตฺโต, เตโชสํวฏฺฏกาเล ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ฌาเปตฺวา ฉาริกามตฺตมฺปิ น ติฏฺติ. นฺหารุททฺทุเลนาติ จมฺมนิลฺเลขเนน. อคฺคึ คเวสนฺตีติ เอวรูปํ สุขุมํ อุปาทานํ คเหตฺวา อคฺคึ ปริเยสนฺติ, ยํ อปฺปมตฺตกมฺปิ อุสุมํ ลภิตฺวา ปชฺชลติ, เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓๐๕. วาโยธาตุนิทฺเทเส อุทฺธงฺคมา วาตาติ อุคฺคารหิกฺการาทิปวตฺตกา อุทฺธํ อาโรหนวาตา. อโธคมา วาตาติ อุจฺจารปสฺสาวาทินีหรณกา อโธ โอโรหนวาตา. กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา. โกฏฺาสยา วาตาติ อนฺตานํ อนฺโตวาตา. องฺคมงฺคานุสาริโนติ ธมนีชาลานุสาเรน สกลสรีเร องฺคมงฺคานิ อนุสฏา สมิฺชนปสารณาทินิพฺพตฺตกวาตา. อสฺสาโสติ อนฺโตปวิสนนาสิกวาโต ¶ . ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกวาโต. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ สทฺธึ ภาวนานเยน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ.
คามมฺปิ วหตีติ สกลคามมฺปิ จุณฺณวิจุณฺณํ กุรุมานา อาทาย คจฺฉติ, นิคมาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธ วาโยสํวฏฺฏกาเล โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬวิทฺธํสนวเสน ¶ วาโยธาตุวิกาโร ทสฺสิโต. วิธูปเนนาติ อคฺคิพีชนเกน. โอสฺสวเนติ ฉทนคฺเค, เตน หิ อุทกํ สวติ, ตสฺมา ตํ ‘‘โอสฺสวน’’นฺติ วุจฺจติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๓๐๖. เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโสติ อิธ กึ ทสฺเสติ? เหฏฺา กถิตานํ มหาภูตานํ นิสฺสตฺตภาวํ. กฏฺนฺติ ทพฺพสมฺภารํ. วลฺลินฺติ อาพนฺธนวลฺลึ. ติณนฺติ ฉทนติณํ. มตฺติกนฺติ อนุเลปมตฺติกํ. อากาโส ปริวาริโตติ เอตานิ กฏฺาทีนิ อนฺโต จ พหิ จ ปริวาเรตฺวา อากาโส ิโตติ อตฺโถ. อคารํตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อคารนฺติ ปณฺณตฺติมตฺตํ โหติ. กฏฺาทีสุ ปน วิสุํ วิสุํ ราสิกเตสุ กฏฺราสิวลฺลิราสีตฺเวว วุจฺจติ. เอวเมว โขติ เอวเมว อฏฺิอาทีนิ อนฺโต จ พหิ จ ปริวาเรตฺวา ิโต อากาโส, ตาเนว อฏฺิอาทีนิ ปฏิจฺจ รูปํตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ, สรีรนฺติ โวหารํ คจฺฉติ. ยถา กฏฺาทีนิ ปฏิจฺจ เคหนฺติ สงฺขํ คตํ อคารํ ขตฺติยเคหํ พฺราหฺมณเคหนฺติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ ขตฺติยสรีรํ พฺราหฺมณสรีรนฺติ วุจฺจติ, น เหตฺถ โกจิ สตฺโต วา ชีโว วา วิชฺชติ.
อชฺฌตฺติกฺเจว, อาวุโส, จกฺขูติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ? เหฏฺา อุปาทารูปํ จตฺตาโร จ อรูปิโน ขนฺธา ตีณิ จ อริยสจฺจานิ น กถิตานิ, อิทานิ ตานิ กเถตุํ อยํ เทสนา อารทฺธาติ. ตตฺถ จกฺขุํ อปริภินฺนนฺติ จกฺขุปสาเท นิรุทฺเธปิ อุปหเตปิ ปิตฺตเสมฺหโลหิเตหิ ปลิพุทฺเธปิ จกฺขุ จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, ปริภินฺนเมว โหติ, จกฺขุวิฺาณสฺส ปน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ อปริภินฺนํ นาม. พาหิรา จ รูปาติ พาหิรา จตุสมุฏฺานิกรูปา. ตชฺโช สมนฺนาหาโรติ ตํ จกฺขฺุจ รูเป จ ปฏิจฺจ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา อุปฺปชฺชนมนสิกาโร, ภวงฺคาวฏฺฏนสมตฺถํ จกฺขุทฺวาเร ¶ กิริยมโนธาตุจิตฺตนฺติ อตฺโถ. ตํ รูปานํ อนาปาถคตตฺตาปิ อฺาวิหิตสฺสปิ น โหติ, ตชฺชสฺสาติ ตทนุรูปสฺส. วิฺาณภาคสฺสาติ วิฺาณโกฏฺาสสฺส.
ยํ ตถาภูตสฺสาติอาทีสุ ทฺวารวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ ¶ ทสฺเสติ. ตตฺถ ตถาภูตสฺสาติ จกฺขุวิฺาเณน สหภูตสฺส, จกฺขุวิฺาณสมงฺคิโนติ อตฺโถ. รูปนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส น รูปชนกตฺตา จกฺขุวิฺาณกฺขเณ ติสมุฏฺานรูปํ, ตทนนฺตรจิตฺตกฺขเณ จตุสมุฏฺานมฺปิ ลพฺภติ. สงฺคหํ คจฺฉตีติ คณนํ คจฺฉติ. เวทนาทโย จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตาว. วิฺาณมฺปิ จกฺขุวิฺาณเมว. เอตฺถ จ สงฺขาราติ เจตนาว วุตฺตา. สงฺคโหติ เอกโต สงฺคโห. สนฺนิปาโตติ สมาคโม. สมวาโยติ ราสิ. โย ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสตีติ โย ปจฺจเย ปสฺสติ. โส ธมฺมํ ปสฺสตีติ โส ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเม ปสฺสติ, ฉนฺโทติอาทิ สพฺพํ ตณฺหาเววจนเมว ¶ , ตณฺหา หิ ฉนฺทกรณวเสน ฉนฺโท. อาลยกรณวเสน อาลโย. อนุนยกรณวเสน อนุนโย. อชฺโฌคาหิตฺวา คิลิตฺวา คหนวเสน อชฺโฌสานนฺติ วุจฺจติ. ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ นิพฺพานสฺเสว เววจนํ, อิติ ตีณิ สจฺจานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว มคฺคสจฺจํ อาหริตฺวา คเหตพฺพํ, ยา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ ทิฏฺิ สงฺกปฺโป วาจา กมฺมนฺโต อาชีโว วายาโม สติ สมาธิ ภาวนาปฏิเวโธ, อยํ มคฺโคติ. พหุกตํ โหตีติ เอตฺตาวตาปิ พหุํ ภควโต สาสนํ กตํ โหติ, อชฺฌตฺติกฺเจว, อาวุโส, โสตนฺติอาทิวาเรสุปิ เอเสว นโย.
มโนทฺวาเร ปน อชฺฌตฺติโก มโน นาม ภวงฺคจิตฺตํ. ตํ นิรุทฺธมฺปิ อาวชฺชนจิตฺตสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อสมตฺถํ มนฺทถามคตเมว ปวตฺตมานมฺปิ ปริภินฺนํ นาม โหติ. อาวชฺชนสฺส ปน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ อปริภินฺนํ นาม. พาหิรา จ ธมฺมาติ ธมฺมารมฺมณํ. เนว ตาว ตชฺชสฺสาติ อิทํ ภวงฺคสมเยเนว กถิตํ. ทุติยวาโร ปคุณชฺฌานปจฺจเวกฺขเณน วา, ปคุณกมฺมฏฺานมนสิกาเรน วา, ปคุณพุทฺธวจนสชฺฌายกรณาทินา วา, อฺวิหิตกํ สนฺธาย วุตฺโต. อิมสฺมึ วาเร รูปนฺติ จตุสมุฏฺานมฺปิ ลพฺภติ. มโนวิฺาณฺหิ รูปํ สมุฏฺาเปติ, เวทนาทโย มโนวิฺาณสมฺปยุตฺตา ¶ , วิฺาณํ มโนวิฺาณเมว. สงฺขารา ปเนตฺถ ผสฺสเจตนาวเสเนว ¶ คหิตา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิติ มหาเถโร เหฏฺา เอกเทสเมว สมฺมสนฺโต อาคนฺตฺวา อิมสฺมึ าเน ตฺวา เหฏฺา ปริหีนเทสนํ สพฺพํ ตํตํทฺวารวเสน ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ยถานุสนฺธินาว สุตฺตนฺตํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหาสาโรปมสุตฺตวณฺณนา
๓๐๗. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาสาโรปมสุตฺตํ. ตตฺถ อจิรปกฺกนฺเตติ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา รุหิรุปฺปาทกมฺมํ กตฺวา นจิรปกฺกนฺเต สลิงฺเคเนว ปาฏิเยกฺเก ชาเต.
อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กุลปุตฺโตติ กิฺจาปิ อสุกกุลปุตฺโตติ น นิยามิโต, เทวทตฺตํเยว ปน สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โส หิ อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปเวณิยา โอกฺกากวํเส ชาตตฺตา ชาติกุลปุตฺโต. โอติณฺโณติ ยสฺส ชาติ อนฺโต อนุปวิฏฺา, โส ชาติยา โอติณฺโณ นาม. ชราทีสุปิ เอเสว นโย. ลาภสกฺการาทีสุปิ ลาโภติ จตฺตาโร ปจฺจยา. สกฺกาโรติ เตสํเยว สุกตภาโว. สิโลโกติ วณฺณภณนํ. อภินิพฺพตฺเตตีติ อุปฺปาเทติ. อปฺาตาติ ทฺวินฺนํ ชนานํ ิตฏฺาเน น ปฺายนฺติ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ น ลภนฺติ. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปปริวารา, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา คจฺฉนฺตํ น ลภนฺติ.
สาเรน สารกรณียนฺติ รุกฺขสาเรน กตฺตพฺพํ อกฺขจกฺกยุคนงฺคลาทิกํ ยํกิฺจิ. สาขาปลาสํ อคฺคเหสิ พฺรหฺมจริยสฺสาติ มคฺคผลสารสฺส สาสนพฺรหฺมจริยสฺส จตฺตาโร ปจฺจยา สาขาปลาสํ นาม, ตํ อคฺคเหสิ. เตน จ โวสานํ อาปาทีติ เตเนว จ อลเมตฺตาวตา สาโร เม ปตฺโตติ โวสานํ อาปนฺโน.
๓๑๐. าณทสฺสนํ อาราเธตีติ เทวทตฺโต ปฺจาภิฺโ, ทิพฺพจกฺขุ จ ปฺจนฺนํ อภิฺานํ มตฺถเก ิตํ, ตํ อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘าณทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ ¶ . อชานํ อปสฺสํ วิหรนฺตีติ ¶ กิฺจิ สุขุมํ รูปํ อชานนฺตา อนฺตมโส ปํสุปิสาจกมฺปิ อปสฺสนฺตา วิหรนฺติ.
๓๑๑. อสมยวิโมกฺขํ อาราเธตีติ, ‘‘กตโม อสมยวิโมกฺโข? จตฺตาโร จ อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, นิพฺพานฺจ, อยํ อสมยวิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๓) เอวํ ¶ วุตฺเต นวโลกุตฺตรธมฺเม อาราเธติ สมฺปาเทติ ปฏิลภติ. โลกิยสมาปตฺติโย หิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณเยว ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจนฺติ, ตสฺมา, ‘‘กตโม สมยวิโมกฺโข? จตฺตาริ จ ฌานานิ จตสฺโส จ อรูปาวจรสมาปตฺติโย, อยํ สมยวิโมกฺโข’’ติ เอวํ สมยวิโมกฺโขติ วุตฺตา. โลกุตฺตรธมฺมา ปน กาเลน กาลํ วิมุจฺจนฺติ, สกึ วิมุตฺตานิ หิ มคฺคผลานิ วิมุตฺตาเนว โหนฺติ. นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ อจฺจนฺตํ วิมุตฺตเมวาติ อิเม นว ธมฺมา อสมยวิโมกฺโขติ วุตฺตา.
อกุปฺปา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. อยมตฺโถ เอตสฺสาติ เอตทตฺถํ, อรหตฺตผลตฺถมิทํ พฺรหฺมจริยํ. อยํ เอตสฺส อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. เอตํ สารนฺติ เอตํ อรหตฺตผลํ พฺรหฺมจริยสฺส สารํ. เอตํ ปริโยสานนฺติ เอตํ อรหตฺตผลํ พฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานํ, เอสา โกฏิ, น อิโต ปรํ ปตฺตพฺพํ อตฺถีติ ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสาโรปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จูฬสาโรปมสุตฺตวณฺณนา
๓๑๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬสาโรปมสุตฺตํ. ตตฺถ ปิงฺคลโกจฺโฉติ โส พฺราหฺมโณ ปิงฺคลธาตุโก. โกจฺโฉติ ปนสฺส นามํ, ตสฺมา ‘‘ปิงฺคลโกจฺโฉ’’ติ วุจฺจติ. สงฺฆิโนติอาทีสุ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆิโน. สฺเวว คโณ เอเตสํ อตฺถีติ คณิโน. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริยาติ คณาจริยา. าตาติ ปฺาตา ปากฏา. ‘‘อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา, อปฺปิจฺฉตาย ¶ วตฺถมฺปิ น นิวาเสนฺตี’’ติอาทินา นเยน สมุคฺคโต ยโส เอเตสํ ¶ อตฺถีติ ยสสฺสิโน. ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา. สาธุสมฺมตาติ อิเม สาธุ สุนฺทรา สปฺปุริสาติ เอวํ สมฺมตา. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส. อิทานิ เต ทสฺเสนฺโต เสยฺยถิทํ ปูรโณติอาทิมาห. ตตฺถ ปูรโณติ ตสฺส สตฺถุปฏิฺสฺส นามํ. กสฺสโปติ โคตฺตํ. โส กิร อฺตรสฺส กุลสฺส เอกูนทาสสตํ ปูรยมาโน ชาโต, เตนสฺส ‘‘ปูรโณ’’ติ นามํ อกํสุ. มงฺคลทาสตฺตา จสฺส ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ วตฺตา นตฺถิ, อกตํ วา น กตนฺติ. ‘‘โส กิมหเมตฺถ วสามี’’ติ ปลายิ. อถสฺส โจรา วตฺถานิ อจฺฉินฺทึสุ. โส ปณฺเณน วา ติเณน วา ปฏิจฺฉาเทตุมฺปิ อชานนฺโต ชาตรูเปเนว เอกํ คามํ ปาวิสิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ สมโณ อรหา อปฺปิจฺโฉ, นตฺถิ อิมินา สทิโส’’ติ ปูวภตฺตาทีนิ คเหตฺวา อุปสงฺกมนฺติ. โส ‘‘มยฺหํ สาฏกํ อนิวตฺถภาเวน อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตโต ปฏฺาย สาฏกํ ลภิตฺวาปิ น นิวาเสสิ, ตเทว ปพฺพชฺชํ อคฺคเหสิ. ตสฺส สนฺติเก อฺเปิ ปฺจสตา มนุสฺสา ปพฺพชึสุ, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปูรโณ กสฺสโป’’ติ.
มกฺขลีติ ตสฺส นามํ. โคสาลาย ชาตตฺตา โคสาโลติ ทุติยํ นามํ. ตํ กิร สกทฺทมาย ภูมิยา เตลฆฏํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ, ‘‘ตาต, มา ขลี’’ติ สามิโก อาห. โส ปมาเทน ขลิตฺวา ปติตฺวา สามิกสฺส ภเยน ปลายิตุํ อารทฺโธ. สามิโก อุปธาวิตฺวา สาฏกกณฺเณ อคฺคเหสิ. โสปิ สาฏกํ ฉฑฺเฑตฺวา อเจลโก หุตฺวา ปลายิ, เสสํ ปูรณสทิสเมว.
อชิโตติ ¶ ตสฺส นามํ. เกสกมฺพลํ ธาเรตีติ เกสกมฺพโล. อิติ นามทฺวยํ สํสนฺทิตฺวา ‘‘อชิโต เกสกมฺพโล’’ติ วุจฺจติ. ตตฺถ เกสกมฺพโล นาม มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพโล, ตโต ปฏิกิฏฺตรํ วตฺถํ นาม นตฺถิ. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ, เกสกมฺพโล เตสํ ปฏิกิฏฺโ อกฺขายติ, เกสกมฺพโล, ภิกฺขเว, สีเต สีโต อุณฺเห อุณฺโห ทุพฺพณฺโณ ทุคฺคนฺโธ ทุกฺขสมฺผสฺโส’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๘).
ปกุโธติ ¶ ตสฺส นามํ. กจฺจายโนติ โคตฺตํ. อิติ ¶ นามโคตฺตํ สํสนฺทิตฺวา, ‘‘ปกุโธ กจฺจายโน’’ติ วุจฺจติ. สีตุทกปฏิกฺขิตฺตโก เอส, วจฺจํ กตฺวาปิ อุทกกิจฺจํ น กโรติ, อุณฺโหทกํ วา กฺชิยํ วา ลภิตฺวา กโรติ, นทึ วา มคฺโคทกํ วา อติกฺกมฺม, ‘‘สีลํ เม ภินฺน’’นฺติ วาลิกถูปํ กตฺวา สีลํ อธิฏฺาย คจฺฉติ, เอวรูโป นิสฺสิริกลทฺธิโก เอส.
สฺชโยติ ตสฺส นามํ. เพลฏฺสฺส ปุตฺโตติ เพลฏฺปุตฺโต. อมฺหากํ คณฺนกิเลโส ปลิพุชฺฌนกิเลโส นตฺถิ, กิเลสคณฺรหิตา มยนฺติ เอวํ วาทิตาย ลทฺธนามวเสน นิคณฺโ. นาฏสฺส ปุตฺโตติ นาฏปุตฺโต. อพฺภฺํสูติ ยถา เตสํ ปฏิฺา, ตเถว ชานึสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ เนสํ สา ปฏิฺา นิยฺยานิกา สพฺเพ อพฺภฺํสุ. โน เจ, น อพฺภฺํสุ. ตสฺมา กึ เตสํ ปฏิฺา นิยฺยานิกา น นิยฺยานิกาติ, อยเมตสฺส ปฺหสฺส อตฺโถ. อถ ภควา เนสํ อนิยฺยานิกภาวกถเนน อตฺถาภาวโต อลนฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุปมาย อตฺถํ ปเวเทนฺโต ธมฺมเมว เทเสตุํ, ธมฺมํ, เต พฺราหฺมณ, เทเสสฺสามีติ อาห.
๓๒๐. ตตฺถ สจฺฉิกิริยายาติ สจฺฉิกรณตฺถํ. น ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ น ชนยติ. น วายมตีติ วายามํ ปรกฺกมํ น กโรติ. โอลีนวุตฺติโก จ โหตีติ ลีนชฺฌาสโย โหติ. สาถลิโกติ สิถิลคฺคาหี, สาสนํ สิถิลํ กตฺวา คณฺหาติ, ทฬฺหํ น คณฺหาติ.
๓๒๓. อิธ, พฺราหฺมณ ภิกฺขุ, วิวิจฺเจว กาเมหีติ กถํ อิเม ปมชฺฌานาทิธมฺมา าณทสฺสเนน อุตฺตริตรา ชาตาติ? นิโรธปาทกตฺตา. เหฏฺา ปมชฺฌานาทิธมฺมา หิ วิปสฺสนาปาทกา ¶ , อิธ นิโรธปาทกา, ตสฺมา อุตฺตริตรา ชาตาติ เวทิตพฺพา. อิติ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ ยถานุสนฺธินาว นิฏฺเปสิ. เทสนาวสาเน พฺราหฺมโณ สรเณสุ ปติฏฺิโตติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬสาโรปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มหายมกวคฺโค
๑. จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๒๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ นาติเก วิหรตีติ นาติกา นาม เอกํ ตฬากํ นิสฺสาย ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา, เตสุ เอกสฺมึ คาเม. คิฺชกาวสเถติ อิฏฺกามเย อาวสเถ. เอกสฺมึ กิร สมเย ภควา มหาชนสงฺคหํ กโรนฺโต วชฺชิรฏฺเ จาริกํ จรมาโน นาติกํ อนุปฺปตฺโต. นาติกวาสิโน มนุสฺสา ภควโต มหาทานํ ทตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนหทยา, ‘‘สตฺถุ วสนฏฺานํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา อิฏฺกาเหว ภิตฺติโสปานตฺถมฺเภ วาฬรูปาทีนิ ทสฺเสนฺโต ปาสาทํ กตฺวา สุธาย ลิมฺปิตฺวา มาลากมฺมลตากมฺมาทีนิ นิฏฺาเปตฺวา ภุมฺมตฺถรณมฺจปีาทีนิ ปฺเปตฺวา สตฺถุ นิยฺยาเตสุํ. อปราปรํ ปเนตฺถ มนุสฺสา ภิกฺขุสงฺฆสฺส รตฺติฏฺานทิวาฏฺานมณฺฑปจงฺกมาทีนิ การยึสุ. อิติ โส วิหาโร มหา อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คิฺชกาวสเถ’’ติ.
โคสิงฺคสาลวนทาเยติ ตตฺถ เอกสฺส เชฏฺกรุกฺขสฺส ขนฺธโต โคสิงฺคสณฺานํ หุตฺวา วิฏปํ อุฏฺหิ, ตํ รุกฺขํ อุปาทาย สพฺพมฺปิ ตํ วนํ โคสิงฺคสาลวนนฺติ สงฺขํ คตํ. ทาโยติ อวิเสเสน อรฺสฺเสตํ นามํ. ตสฺมา โคสิงฺคสาลวนทาเยติ โคสิงฺคสาลวนอรฺเติ อตฺโถ. วิหรนฺตีติ สามคฺคิรสํ อนุภวมานา วิหรนฺติ. อิเมสฺหิ กุลปุตฺตานํ อุปริปณฺณาสเก ปุถุชฺชนกาโล กถิโต, อิธ ขีณาสวกาโล. ตทา หิ เต ลทฺธสฺสาทา ลทฺธปติฏฺา อธิคตปฏิสมฺภิทา ขีณาสวา หุตฺวา สามคฺคิรสํ อนุภวมานา ตตฺถ วิหรึสุ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เยน โคสิงฺคสาลวนทาโย เตนุปสงฺกมีติ ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรสุ วา อสีติมหาสาวเกสุ ¶ วา, อนฺตมโส ธมฺมภณฺฑาคาริกอานนฺทตฺเถรมฺปิ กฺจิ อนามนฺเตตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรํ อาทาย อนีกา นิสฺสโฏ หตฺถี วิย, ยูถา นิสฺสโฏ กาฬสีโห วิย ¶ , วาตจฺฉินฺโน วลาหโก วิย เอกโกว อุปสงฺกมิ. กสฺมา ปเนตฺถ ภควา สยํ อคมาสีติ? ตโย กุลปุตฺตา ¶ สามคฺคิรสํ อนุภวนฺตา วิหรนฺติ, เตสํ ปคฺคณฺหนโต, ปจฺฉิมชนตํ อนุกมฺปนโต ธมฺมครุภาวโต จ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ อิเม กุลปุตฺเต ปคฺคณฺหิตฺวา อุกฺกํสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺสามี’’ติ. เอวํ ตาว ปคฺคณฺหนโต อคมาสิ. อปรมฺปิสฺส อโหสิ – ‘‘อนาคเต กุลปุตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ สมคฺควาสํ วสนฺตานํ สนฺติกํ สยํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา ตโย กุลปุตฺเต ปคฺคณฺหิ, โก นาม สมคฺควาสํ น วเสยฺยาติ สมคฺควาสํ วสิตพฺพํ มฺมานา ขิปฺปเมว ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ. เอวํ ปจฺฉิมชนตํ อนุกมฺปนโตปิ อคมาสิ. พุทฺธา จ นาม ธมฺมครุโน โหนฺติ, โส จ เนสํ ธมฺมครุภาโว รถวินีเต อาวิกโตว. อิติ อิมสฺมา ธมฺมครุภาวโตปิ ธมฺมํ ปคฺคณฺหิสฺสามีติ อคมาสิ.
ทายปาโลติ อรฺปาโล. โส ตํ อรฺํ ยถา อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปเทเสน มนุสฺสา ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผํ วา ผลํ วา นิยฺยาสํ วา ทพฺพสมฺภารํ วา น หรนฺติ, เอวํ วติยา ปริกฺขิตฺตสฺส ตสฺส อรฺสฺส โยชิเต ทฺวาเร นิสีทิตฺวา ตํ อรฺํ รกฺขติ, ปาเลติ. ตสฺมา ‘‘ทายปาโล’’ติ วุตฺโต. อตฺตกามรูปาติ อตฺตโน หิตํ กามยมานสภาวา หุตฺวา วิหรนฺติ. โย หิ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ เวชฺชกมฺมทูตกมฺมปหิณคมนาทีนํ วเสน เอกวีสติอเนสนาหิ ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ น อตฺตกามรูโป นาม. โย ปน อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา เอกวีสติอเนสนํ ปหาย จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺาย พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายธุตงฺคํ อธิฏฺาย อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คามนฺตํ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กุรุมาโน วิหรติ, อยํ อตฺตกาโม นาม. เตปิ ตโย กุลปุตฺตา เอวรูปา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตกามรูปา วิหรนฺตี’’ติ.
มา เตสํ อผาสุมกาสีติ เตสํ มา อผาสุกํ อกาสีติ ภควนฺตํ วาเรสิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิเม กุลปุตฺตา ¶ สมคฺคา วิหรนฺติ, เอกจฺจสฺส จ คตฏฺาเน ภณฺฑนกลหวิวาทา วตฺตนฺติ, ติขิณสิงฺโค จณฺฑโคโณ วิย โอวิชฺฌนฺโต วิจรติ, อเถกมคฺเคน ทฺวินฺนํ คมนํ น ¶ โหติ, กทาจิ อยมฺปิ เอวํ กโรนฺโต อิเมสํ กุลปุตฺตานํ สมคฺควาสํ ¶ ภินฺเทยฺย. ปาสาทิโก จ ปเนส สุวณฺณวณฺโณ สุรสคิทฺโธ มฺเ, คตกาลโต ปฏฺาย ปณีตทายกานํ อตฺตโน อุปฏฺากานฺจ วณฺณกถนาทีหิ อิเมสํ กุลปุตฺตานํ อปฺปมาทวิหารํ ภินฺเทยฺย. วสนฏฺานานิ จาปิ เอเตสํ กุลปุตฺตานํ นิพทฺธานิ ปริจฺฉินฺนานิ ติสฺโส จ ปณฺณสาลา ตโย จงฺกมา ตีณิ ทิวาฏฺานานิ ตีณิ มฺจปีานิ. อยํ ปน สมโณ มหากาโย วุฑฺฒตโร มฺเ ภวิสฺสติ. โส อกาเล อิเม กุลปุตฺเต เสนาสนา วุฏฺาเปสฺสติ. เอวํ สพฺพถาปิ เอเตสํ อผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. ตํ อนิจฺฉนฺโต, ‘‘มา เตสํ อผาสุกมกาสี’’ติ ภควนฺตํ วาเรสิ.
กึ ปเนส ชานนฺโต วาเรสิ, อชานนฺโตติ? อชานนฺโต. กิฺจาปิ หิ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปนาทีนิ ปาฏิหาริยานิ ปวตฺตึสุ, อรฺวาสิโน ปน ทุพฺพลมนุสฺสา สกมฺมปฺปสุตา ตานิ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺโกนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ จ นาม ยทา อเนกภิกฺขุสหสฺสปริวาโร พฺยามปฺปภาย อสีติอนุพฺยฺชเนหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสิริยา จ พุทฺธานุภาวํ ทสฺเสนฺโต วิจรติ, ตทา โก เอโสติ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺโพ โหติ. ตทา ปน ภควา สพฺพมฺปิ ตํ พุทฺธานุภาวํ จีวรคพฺเภน ปฏิจฺฉาเทตฺวา วลาหกคพฺเภน ปฏิจฺฉนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย อฺาตกเวเสน อคมาสิ. อิติ นํ อชานนฺโตว ทายปาโล นิวาเรสิ.
เอตทโวจาติ เถโร กิร มา สมณาติ ทายปาลสฺส กถํ สุตฺวาว จินฺเตสิ – ‘‘มยํ ตโย ชนา อิธ วิหราม, อฺเ ปพฺพชิตา นาม นตฺถิ, อยฺจ ทายปาโล ปพฺพชิเตน วิย สทฺธึ กเถติ, โก นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ ทิวาฏฺานโต วุฏฺาย ทฺวาเร ตฺวา มคฺคํ โอโลเกนฺโต ภควนฺตํ อทฺทส. ภควาปิ เถรสฺส สห ทสฺสเนเนว สรีโรภาสํ มฺุจิ, อสีติอนุพฺยฺชนวิราชิตา พฺยามปฺปภา ปสาริตสุวณฺณปโฏ วิย วิโรจิตฺถ. เถโร, ‘‘อยํ ทายปาโล ผณกตํ อาสิวิสํ ¶ คีวาย คเหตุํ หตฺถํ ปสาเรนฺโต วิย โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ กเถนฺโตว น ชานาติ, อฺตรภิกฺขุนา วิย สทฺธึ กเถตี’’ติ นิวาเรนฺโต เอตํ, ‘‘มา, อาวุโส ทายปาลา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
เตนุปสงฺกมีติ ¶ กสฺมา ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ อกตฺวา อุปสงฺกมิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ ¶ – ‘‘มยํ ตโย ชนา สมคฺควาสํ วสาม, สจาหํ เอกโกว ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามิ, สมคฺควาโส นาม น ภวิสฺสตี’’ติ ปิยมิตฺเต คเหตฺวาว ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามิ. ยถา จ ภควา มยฺหํ ปิโย, เอวํ สหายานมฺปิ เม ปิโยติ, เตหิ สทฺธึ ปจฺจุคฺคมนํ กาตุกาโม สยํ อกตฺวาว อุปสงฺกมิ. เกจิ ปน เตสํ เถรานํ ปณฺณสาลทฺวาเร จงฺกมนโกฏิยา ภควโต อาคมนมคฺโค โหติ, ตสฺมา เถโร เตสํ สฺํ ททมาโนว คโตติ. อภิกฺกมถาติ อิโต อาคจฺฉถ. ปาเท ปกฺขาเลสีติ วิกสิตปทุมสนฺนิเภหิ ชาลหตฺเถหิ มณิวณฺณํ อุทกํ คเหตฺวา สุวณฺณวณฺเณสุ ปิฏฺิปาเทสุ อุทกมภิสิฺจิตฺวา ปาเทน ปาทํ ฆํสนฺโต ปกฺขาเลสิ. พุทฺธานํ กาเย รโชชลฺลํ นาม น อุปลิมฺปติ, กสฺมา ปกฺขาเลสีติ? สรีรสฺส อุตุคฺคหณตฺถํ, เตสฺจ จิตฺตสมฺปหํสนตฺถํ. อมฺเหหิ อภิหเฏน อุทเกน ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิ, ปริโภคํ อกาสีติ เตสํ ภิกฺขูนํ พลวโสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปีณิตํ โหติ, ตสฺมา ปกฺขาเลสิ. อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจาติ โส กิร เตสํ วุฑฺฒตโร.
๓๒๖. ตสฺส สงฺคเห กเต เสสานํ กโตว โหตีติ เถรฺเว เอตํ กจฺจิ โว อนุรุทฺธาติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ กจฺจีติ ปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต. โวติ สามิวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ อนุรุทฺธา ตุมฺหากํ ขมนียํ, อิริยาปโถ โว ขมติ? กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โว ชีวิตํ ยาเปติ ฆฏิยติ? กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถ, กจฺจิ ตุมฺหากํ สุลภปิณฺฑํ, สมฺปตฺเต โว ทิสฺวา มนุสฺสา อุฬุงฺกยาคุํ วา กฏจฺฉุภิกฺขํ วา ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ ภิกฺขาจารวตฺตํ ปุจฺฉติ. กสฺมา? ปจฺจเยน อกิลมนฺเตน หิ สกฺกา สมณธมฺโม กาตุํ, วตฺตเมว วา เอตํ ปพฺพชิตานํ. อถ ¶ เตน ปฏิวจเน ทินฺเน, ‘‘อนุรุทฺธา, ตุมฺเห ราชปพฺพชิตา มหาปฺุา, มนุสฺสา ตุมฺหากํ อรฺเ วสนฺตานํ อทตฺวา กสฺส อฺสฺส ทาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, ตุมฺเห ปน เอตํ ภฺุชิตฺวา กึ นุ โข มิคโปตกา วิย อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺตา วิหรถ, อุทาหุ สามคฺคิภาโว โว อตฺถี’’ติ สามคฺคิรสํ ปุจฺฉนฺโต, กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคาติอาทิมาห.
ตตฺถ ขีโรทกีภูตาติ ยถา ขีรฺจ อุทกฺจ อฺมฺํ สํสนฺทติ, วิสุํ น โหติ, เอกตฺตํ วิย อุเปติ, กจฺจิ เอวํ สามคฺคิวเสน เอกตฺตูปคตจิตฺตุปฺปาทา ¶ วิหรถาติ ปุจฺฉติ. ปิยจกฺขูหีติ เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา โอโลกนจกฺขูนิ ปิยจกฺขูนิ นาม. กจฺจิ ตถารูเปหิ จกฺขูหิ อฺมฺํ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถาติ ปุจฺฉติ. ตคฺฆาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. เอกํเสน ¶ มยํ, ภนฺเตติ วุตฺตํ โหติ. ยถา กถํ ปนาติ เอตฺถ ยถาติ นิปาตมตฺตํ. กถนฺติ การณปุจฺฉา. กถํ ปน ตุมฺเห เอวํ วิหรถ, เกน การเณน วิหรถ, ตํ เม การณํ พฺรูถาติ วุตฺตํ โหติ. เมตฺตํ กายกมฺมนฺติ เมตฺตจิตฺตวเสน ปวตฺตํ กายกมฺมํ. อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา เจว ปรมฺมุขา จ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ สมฺมุขา กายวจีกมฺมานิ สหวาเส ลพฺภนฺติ, อิตรานิ วิปฺปวาเส. มโนกมฺมํ สพฺพตฺถ ลพฺภติ. ยฺหิ สหวสนฺเตสุ เอเกน มฺจปีํ วา ทารุภณฺฑํ วา มตฺติกาภณฺฑํ วา พหิ ทุนฺนิกฺขิตฺตํ โหติ, ตํ ทิสฺวา เกนิทํ วฬฺชิตนฺติ อวฺํ อกตฺวา อตฺตนา ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วิย คเหตฺวา ปฏิสาเมนฺตสฺส ปฏิชคฺคิตพฺพยุตฺตํ วา ปน านํ ปฏิชคฺคนฺตสฺส สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม โหติ. เอกสฺมึ ปกฺกนฺเต เตน ทุนฺนิกฺขิตฺตํ เสนาสนปริกฺขารํ ตเถว นิกฺขิปนฺตสฺส ปฏิชคฺคิตพฺพยุตฺตฏฺานํ วา ปน ปฏิชคฺคนฺตสฺส ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม โหติ. สหวสนฺตสฺส ปน เตหิ สทฺธึ มธุรํ สมฺโมทนียํ กถํ ปฏิสนฺถารกถํ สารณียกถํ ธมฺมีกถํ สรภฺํ สากจฺฉํ ปฺหปุจฺฉนํ ปฺหวิสฺสชฺชนนฺติ เอวมาทิกรเณ ¶ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม โหติ. เถเรสุ ปน ปกฺกนฺเตสุ มยฺหํ ปิยสหาโย นนฺทิยตฺเถโร กิมิลตฺเถโร เอวํ สีลสมฺปนฺโน, เอวํ อาจารสมฺปนฺโนติอาทิคุณกถนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม โหติ. มยฺหํ ปิยมิตฺโต นนฺทิยตฺเถโร กิมิลตฺเถโร อเวโร โหตุ, อพฺยาปชฺโช สุขี โหตูติ เอวํ สมนฺนาหรโต ปน สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ เมตฺตํ มโนกมฺมํ โหติเยว.
นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายาติ กายฺหิ ปิฏฺํ วิย มตฺติกา วิย จ โอมทฺทิตฺวา เอกโต กาตุํ น สกฺกา. เอกฺจ ปน มฺเ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ ปน โน หิตฏฺเน นิรนฺตรฏฺเน อวิคฺคหฏฺเน สมคฺคฏฺเน เอกเมวาติ ทสฺเสติ. กถํ ปเนตํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิตเรสํ จิตฺตวเสน วตฺตึสูติ? เอกสฺส ปตฺเต มลํ อุฏฺหติ, เอกสฺส จีวรํ กิลิฏฺํ โหติ, เอกสฺส ปริภณฺฑกมฺมํ โหติ. ตตฺถ ยสฺส ปตฺเต มลํ อุฏฺิตํ, เตน มมาวุโส, ปตฺเต มลํ อุฏฺิตํ ปจิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺเต อิตเร มยฺหํ จีวรํ กิลิฏฺํ ¶ โธวิตพฺพํ, มยฺหํ ปริภณฺฑํ กาตพฺพนฺติ อวตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ทารูนิ อาหริตฺวา ฉินฺทิตฺวา ปตฺตกฏาเห ปริภณฺฑํ กตฺวา ตโต ปรํ จีวรํ วา โธวนฺติ, ปริภณฺฑํ วา กโรนฺติ. มมาวุโส, จีวรํ กิลิฏฺํ โธวิตุํ วฏฺฏติ, มม ปณฺณสาลา อุกฺลาปา ปริภณฺฑํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ปมตรํ อาโรจิเตปิ เอเสว นโย.
๓๒๗. สาธุ ¶ สาธุ, อนุรุทฺธาติ ภควา เหฏฺา น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมิมฺหาติ วุตฺเต น สาธุการมทาสิ. กสฺมา? อยฺหิ กพฬีกาโร อาหาโร นาม อิเมสํ สตฺตานํ อปายโลเกปิ เทวมนุสฺสโลเกปิ อาจิณฺณสมาจิณฺโณว. อยํ ปน โลกสนฺนิวาโส เยภุยฺเยน วิวาทปกฺขนฺโท, อปายโลเก เทวมนุสฺสโลเกปิ อิเม สตฺตา ปฏิวิรุทฺธา เอว, เอเตสํ สามคฺคิกาโล ทุลฺลโภ, กทาจิเทว โหตีติ สมคฺควาสสฺส ทุลฺลภตฺตา อิธ ภควา สาธุการมทาสิ. อิทานิ เตสํ อปฺปมาทลกฺขณํ ปุจฺฉนฺโต กจฺจิ ¶ ปน โว, อนุรุทฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ ปจฺจตฺตวจนํ วา, กจฺจิ ตุมฺเหติ อตฺโถ. อมฺหากนฺติ อมฺเหสุ ตีสุ ชเนสุ. ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมตีติ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺจาคจฺฉติ. อวกฺการปาตินฺติ อติเรกปิณฺฑปาตํ อปเนตฺวา ปนตฺถาย เอกํ สมุคฺคปาตึ โธวิตฺวา เปติ.
โย ปจฺฉาติ เต กิร เถรา น เอกโตว ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺติ, ผลสมาปตฺติรตา เหเต. ปาโตว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา วตฺตปฺปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทนฺติ. เตสุ โย ปมตรํ นิสินฺโน อตฺตโน กาลปริจฺเฉทวเสน ปมตรํ อุฏฺาติ; โส ปิณฺฑาย จริตฺวา ปฏินิวตฺโต ภตฺตกิจฺจฏฺานํ อาคนฺตฺวา ชานาติ – ‘‘ทฺเว ภิกฺขู ปจฺฉา, อหํ ปมตรํ อาคโต’’ติ. อถ ปตฺตํ ปิทหิตฺวา อาสนปฺาปนาทีนิ กตฺวา ยทิ ปตฺเต ปฏิวิสมตฺตเมว โหติ, นิสีทิตฺวา ภฺุชติ. ยทิ อติเรกํ โหติ, อวกฺการปาติยํ ปกฺขิปิตฺวา ปาตึ ปิธาย ภฺุชติ. กตภตฺตกิจฺโจ ปตฺตํ โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา ถวิกาย โอสาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสติ. ทุติโยปิ อาคนฺตฺวาว ชานาติ – ‘‘เอโก ปมํ อาคโต, เอโก ปจฺฉโต’’ติ. โส สเจ ปตฺเต ภตฺตํ ปมาณเมว โหติ, ภฺุชติ. สเจ มนฺทํ, อวกฺการปาติโต คเหตฺวา ภฺุชติ. สเจ อติเรกํ ¶ โหติ, อวกฺการปาติยํ ปกฺขิปิตฺวา ปมาณเมว ภฺุชิตฺวา ปุริมตฺเถโร วิย วสนฏฺานํ ปวิสติ. ตติโยปิ อาคนฺตฺวาว ชานาติ – ‘‘ทฺเว ปมํ อาคตา, อหํ ปจฺฉโต’’ติ. โสปิ ทุติยตฺเถโร วิย ภฺุชิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ปตฺตํ โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา ถวิกาย โอสาเปตฺวา อาสนานิ อุกฺขิปิตฺวา ปฏิสาเมติ; ปานียฆเฏ วา ปริโภชนียฆเฏ วา อวเสสํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา ฆเฏ นิกุชฺชิตฺวา อวกฺการปาติยํ สเจ อวเสสภตฺตํ โหติ, ตํ วุตฺตนเยน ชหิตฺวา ปาตึ โธวิตฺวา ปฏิสาเมติ; ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติ. ตโต กจวรํ ฉฑฺเฑตฺวา ¶ สมฺมชฺชนึ อุกฺขิปิตฺวา ¶ อุปจิกาหิ มุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย วสนฏฺานํ ปวิสติ. อิทํ เถรานํ พหิวิหาเร อรฺเ ภตฺตกิจฺจกรณฏฺาเน โภชนสาลายํ วตฺตํ. อิทํ สนฺธาย, ‘‘โย ปจฺฉา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
โย ปสฺสตีติอาทิ ปน เนสํ อนฺโตวิหาเร วตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วจฺจฆฏนฺติ อาจมนกุมฺภึ. ริตฺตนฺติ ริตฺตกํ. ตุจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อวิสยฺหนฺติ อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ, อติภาริยํ. หตฺถวิกาเรนาติ หตฺถสฺาย. เต กิร ปานียฆฏาทีสุ ยํกิฺจิ ตุจฺฉกํ คเหตฺวา โปกฺขรณึ คนฺตฺวา อนฺโต จ พหิ จ โธวิตฺวา อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ตีเร เปตฺวา อฺํ ภิกฺขุํ หตฺถวิกาเรน อามนฺเตนฺติ, โอทิสฺส วา อโนทิสฺส วา สทฺทํ น กโรนฺติ. กสฺมา โอทิสฺส สทฺทํ น กโรนฺติ? ตํ ภิกฺขุํ สทฺโท พาเธยฺยาติ. กสฺมา อโนทิสฺส สทฺทํ น กโรนฺติ? อโนทิสฺส สทฺเท ทินฺเน, ‘‘อหํ ปุเร, อหํ ปุเร’’ติ ทฺเวปิ นิกฺขเมยฺยุํ, ตโต ทฺวีหิ กตฺตพฺพกมฺเม ตติยสฺส กมฺมจฺเฉโท ภเวยฺย. สํยตปทสทฺโท ปน หุตฺวา อปรสฺส ภิกฺขุโน ทิวาฏฺานสนฺติกํ คนฺตฺวา เตน ทิฏฺภาวํ ตฺวา หตฺถสฺํ กโรติ, ตาย สฺาย อิตโร อาคจฺฉติ, ตโต ทฺเว ชนา หตฺเถน หตฺถํ สํสิพฺพนฺตา ทฺวีสุ หตฺเถสุ เปตฺวา อุปฏฺเปนฺติ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺเปมา’’ติ.
ปฺจาหิกํ โข ปนาติ จาตุทฺทเส ปนฺนรเส อฏฺมิยนฺติ อิทํ ตาว ปกติธมฺมสฺสวนเมว, ตํ อขณฺฑํ กตฺวา ปฺจเม ปฺจเม ทิวเส ทฺเว เถรา นาติวิกาเล นฺหายิตฺวา อนุรุทฺธตฺเถรสฺส วสนฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ตโยปิ นิสีทิตฺวา ติณฺณํ ปิฏกานํ อฺตรสฺมึ อฺมฺํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ ¶ , อฺมฺํ วิสฺสชฺเชนฺติ, เตสํ เอวํ กโรนฺตานํเยว อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอตฺตาวตา เถเรน ภควตา อปฺปมาทลกฺขณํ ปุจฺฉิเตน ปมาทฏฺาเนสุเยว อปฺปมาทลกฺขณํ วิสฺสชฺชิตํ โหติ. อฺเสฺหิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขาจารํ ปวิสนกาโล, นิกฺขมนกาโล, นิวาสนปริวตฺตนํ, จีวรปารุปนํ, อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จรณํ ธมฺมกถนํ, อนุโมทนํ ¶ , คามโต นิกฺขมิตฺวา ภตฺตกิจฺจกรณํ, ปตฺตโธวนํ, ปตฺตโอสาปนํ, ปตฺตจีวรปฏิสามนนฺติ ปปฺจกรณฏฺานานิ เอตานิ. ตสฺมา เถโร อมฺหากํ เอตฺตกํ านํ มฺุจิตฺวา ปมาทกาโล นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ปมาทฏฺาเนสุเยว อปฺปมาทลกฺขณํ วิสฺสชฺเชสิ.
๓๒๘. อถสฺส ¶ ภควา สาธุการํ ทตฺวา ปมชฺฌานํ ปุจฺฉนฺโต ปุน อตฺถิ ปน โวติอาทิมาห. ตตฺถ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมาติ มนุสฺสธมฺมโต อุตฺตริ. อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ อริยภาวกรณสมตฺโถ าณวิเสโส. กิฺหิ โน สิยา, ภนฺเตติ กสฺมา, ภนฺเต, นาธิคโต ภวิสฺสติ, อธิคโตเยวาติ. ยาว เทวาติ ยาว เอว.
๓๒๙. เอวํ ปมชฺฌานาธิคเม พฺยากเต ทุติยชฺฌานาทีนิ ปุจฺฉนฺโต เอตสฺส ปน โวติอาทิมาห. ตตฺถ สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมตฺถาย. ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺถาย. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปจฺฉิมปฺเห ปน โลกุตฺตราณทสฺสนวเสน อธิคตํ นิโรธสมาปตฺตึ ปุจฺฉนฺโต อลมริยาณทสฺสนวิเสโสติ อาห. เถโรปิ ปุจฺฉานุรูเปเนว พฺยากาสิ. ตตฺถ ยสฺมา เวทยิตสุขโต อเวทยิตสุขํ สนฺตตรํ ปณีตตรํ โหติ, ตสฺมา อฺํ ผาสุวิหารํ อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วา น สมนุปสฺสามาติ อาห.
๓๓๐. ธมฺมิยา กถายาติ สามคฺคิรสานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย. สพฺเพปิ เต จตูสุ สจฺเจสุ ปรินิฏฺิตกิจฺจา, เตน เตสํ ปฏิเวธตฺถาย กิฺจิ กเถตพฺพํ นตฺถิ. สามคฺคิรเสน ปน อยฺจ อยฺจ อานิสํโสติ สามคฺคิรสานิสํสเมว เนสํ ภควา กเถสิ. ภควนฺตํ อนุสํยายิตฺวาติ อนุคนฺตฺวา. เต กิร ภควโต ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โถกํ ¶ อคมํสุ, อถ ภควา วิหารสฺส ปริเวณปริยนฺตํ คตกาเล, ‘‘อาหรถ เม ปตฺตจีวรํ, ตุมฺเห อิเธว ติฏฺถา’’ติ ปกฺกามิ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวาติ ตโต ิตฏฺานโต นิวตฺติตฺวา. กึ นุ โข มยํ อายสฺมโตติ ภควนฺตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาทีนิ ¶ อธิคนฺตฺวาปิ อตฺตโน คุณกถาย อฏฺฏิยมานา อธิคมปฺปิจฺฉตาย อาหํสุ. อิมาสฺจ อิมาสฺจาติ ปมชฺฌานาทีนํ โลกิยโลกุตฺตรานํ. เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโตติ อชฺช เม อายสฺมนฺโต โลกิยสมาปตฺติยา วีตินาเมสุํ, อชฺช โลกุตฺตรายาติ เอวํ จิตฺเตน จิตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตํ. เทวตาปิ เมติ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, อชฺช อยฺโย นนฺทิยตฺเถโร, อชฺช อยฺโย กิมิลตฺเถโร อิมาย จ อิมาย จ สมาปตฺติยา วีตินาเมสีติ เอวมาโรเจสุนฺติ อตฺโถ. ปฺหาภิปุฏฺเนาติ ตมฺปิ มยา สยํ วิทิตนฺติ วา เทวตาหิ อาโรจิตนฺติ วา เอตฺตเกเนว มุขํ เม สชฺชนฺติ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อปุฏฺเเนว เม น กถิตํ. ภควตา ปน ปฺหาภิปุฏฺเน ปฺหํ อภิปุจฺฉิเตน สตา พฺยากตํ, ตตฺร เม กึ น โรจถาติ อาห.
๓๓๑. ทีโฆติ ¶ ‘‘มณิ มาณิวโร ทีโฆ, อโถ เสรีสโก สหา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๙๓) เอวํ อาคโต อฏฺวีสติยา ยกฺขเสนาปตีนํ อพฺภนฺตโร เอโก เทวราชา. ปรชโนติ ตสฺเสว ยกฺขสฺส นามํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ โส กิร เวสฺสวเณน เปสิโต เอตํ านํ คจฺฉนฺโต ภควนฺตํ สยํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คิฺชกาวสถโต โคสิงฺคสาลวนสฺส อนฺตเร ทิสฺวา ภควา อตฺตนา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โคสิงฺคสาลวเน ติณฺณํ กุลปุตฺตานํ สนฺติกํ คจฺฉติ. อชฺช มหตี ธมฺมเทสนา ภวิสฺสติ. มยาปิ ตสฺสา เทสนาย ภาคินา ภวิตพฺพนฺติ อทิสฺสมาเนน กาเยน สตฺถุ ปทานุปทิโก คนฺตฺวา อวิทูเร ตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา สตฺถริ คจฺฉนฺเตปิ น คโต, – ‘‘อิเม เถรา กึ กริสฺสนฺตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ ปน ตตฺเถว ิโต. อถ เต ทฺเว เถเร อนุรุทฺธตฺเถรํ ปลิเวเนฺเต ทิสฺวา, – ‘‘อิเม เถรา ภควนฺตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาทโย สพฺพคุเณ อธิคนฺตฺวาปิ ภควโตว มจฺฉรายนฺติ, น สหนฺติ, อติวิย นิลียนฺติ ปฏิจฺฉาเทนฺติ, น ทานิ เตสํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ทสฺสามิ, ปถวิโต ยาว ¶ พฺรหฺมโลกา เอเตสํ คุเณ ปกาเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.
ลาภา วต, ภนฺเตติ เย, ภนฺเต, วชฺชิรฏฺวาสิโน ภควนฺตฺจ อิเม จ ตโย กุลปุตฺเต ปสฺสิตุํ ลภนฺติ, วนฺทิตุํ ลภนฺติ, เทยฺยธมฺมํ ทาตุํ ลภนฺติ, ธมฺมํ โสตุํ ลภนฺติ, เตสํ ลาภา, ภนฺเต, วชฺชีนนฺติ อตฺโถ. สทฺทํ สุตฺวาติ ¶ โส กิร อตฺตโน ยกฺขานุภาเวน มหนฺตํ สทฺทํ กตฺวา สกลํ วชฺชิรฏฺํ อชฺโฌตฺถรนฺโต ตํ วาจํ นิจฺฉาเรสิ. เตน จสฺส เตสุ รุกฺขปพฺพตาทีสุ อธิวตฺถา ภุมฺมา เทวตา สทฺทํ อสฺโสสุํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สทฺทํ สุตฺวา’’ติ. อนุสฺสาเวสุนฺติ มหนฺตํ สทฺทํ สุตฺวา สาเวสุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยาว พฺรหฺมโลกาติ ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา. ตฺเจปิ กุลนฺติ, ‘‘อมฺหากํ กุลโต นิกฺขมิตฺวา อิเม กุลปุตฺตา ปพฺพชิตา เอวํ สีลวนฺโต คุณวนฺโต อาจารสมฺปนฺนา กลฺยาณธมฺมา’’ติ เอวํ ตฺเจปิ กุลํ เอเต ตโย กุลปุตฺเต ปสนฺนจิตฺตํ อนุสฺสเรยฺยาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิติ ภควา ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๓๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาโคสิงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ โคสิงฺคสาลวนทาเยติ อิทํ วสนฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺเสุ หิ สุตฺเตสุ, ‘‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ เอวํ ปมํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา วสนฏฺานํ ทสฺเสติ. อิมสฺมึ ปน มหาโคสิงฺคสุตฺเต ภควโต โคจรคาโม อนิพนฺโธ, โกจิเทว โคจรคาโม ภวิสฺสติ. ตสฺมา วสนฏฺานเมว ปริทีปิตํ. อรฺนิทานกํ นาเมตํ สุตฺตนฺติ. สมฺพหุเลหีติ พหุเกหิ. อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหีติ สพฺพตฺถ วิสฺสุเตหิ ปากเฏหิ. เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธินฺติ ปาติโมกฺขสํวราทีหิ ถิรการเกเหว ธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา เถเรหิ, สวนนฺเต ชาตตฺตา สาวเกหิ สทฺธึ เอกโต. อิทานิ เต เถเร ¶ สรูปโต ทสฺเสนฺโต, อายสฺมตา จ สาริปุตฺเตนาติอาทิมาห. ตตฺถายสฺมา สาริปุตฺโต อตฺตโน สีลาทีหิ คุเณหิ พุทฺธสาสเน อภิฺาโต. จกฺขุมนฺตานํ คคนมชฺเฌ ิโต สูริโย วิย จนฺโท วิย, สมุทฺทตีเร ิตานํ ¶ สาคโร วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. น เกวลฺจสฺส อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุณวเสเนว มหนฺตตา เวทิตพฺพา, อิโต อฺเสํ ธมฺมทายาทสุตฺตํ อนงฺคณสุตฺตํ สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ สีหนาทสุตฺตํ รถวินีตํ มหาหตฺถิปโทปมํ มหาเวทลฺลํ จาตุมสุตฺตํ ทีฆนขํ อนุปทสุตฺตํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิ สมฺปสาทนียํ สงฺคีติสุตฺตํ ทสุตฺตรสุตฺตํ ปวารณาสุตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕ อาทโย) สุสิมสุตฺตํ เถรปฺหสุตฺตํ มหานิทฺเทโส ปฏิสมฺภิทามคฺโค เถรสีหนาทสุตฺตํ อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ สุตฺตานํ วเสน เถรสฺส มหนฺตตา เวทิตพฺพา. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙) วุตฺตํ.
มหาโมคฺคลฺลาโนปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส อนุมานสุตฺตํ, จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ มารตชฺชนิยสุตฺตํ ปาสาทกมฺปนํ สกลํ อิทฺธิปาทสํยุตฺตํ นนฺโทปนนฺททมนํ ยมกปาฏิหาริยกาเล เทวโลกคมนํ วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ ¶ . เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๐) วุตฺตํ.
มหากสฺสโปปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส จีวรปริวตฺตนสุตฺตํ ชิณฺณจีวรสุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔ อาทโย) จนฺโทปมํ สกลํ กสฺสปสํยุตฺตํ มหาอริยวํสสุตฺตํ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ ¶ , ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธุตวาทานํ ยทิทํ มหากสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๑) วุตฺตํ.
อนุรุทฺธตฺเถโรปิ ¶ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส จูฬโคสิงฺคสุตฺตํ นฬกปานสุตฺตํ อนุตฺตริยสุตฺตํ อุปกฺกิเลสสุตฺตํ อนุรุทฺธสํยุตฺตํ มหาปุริสวิตกฺกสุตฺตํ เถรสฺส อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ อนุรุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๒) วุตฺตํ.
อายสฺมตา จ เรวเตนาติ เอตฺถ ปน ทฺเว เรวตา ขทิรวนิยเรวโต จ กงฺขาเรวโต จ. ตตฺถ ขทิรวนิยเรวโต ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส กนิฏฺภาติโก, น โส อิธ อธิปฺเปโต. ‘‘อกปฺปิโย คุโฬ, อกปฺปิยา มุคฺคา’’ติ (มหาว. ๒๗๒) เอวํ กงฺขาพหุโล ปน เถโร อิธ เรวโตติ อธิปฺเปโต. โสปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส อภินิกฺขมเนนปิ เอตทคฺเคนปิ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ฌายีนํ ยทิทํ กงฺขาเรวโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๔) วุตฺตํ.
อานนฺทตฺเถโรปิ สีลาทิคุเณหิ เจว อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตคุเณหิ จ เถโร วิย อภิฺาโต ปากโฏ มหา. อปิจสฺส เสกฺขสุตฺตํ พาหิติกสุตฺตํ อาเนฺชสปฺปายํ โคปกโมคฺคลฺลานํ พหุธาตุกํ จูฬสฺุตํ มหาสฺุตํ อจฺฉริยพฺภุตสุตฺตํ ภทฺเทกรตฺตํ มหานิทานํ มหาปรินิพฺพานํ ¶ สุภสุตฺตํ จูฬนิยโลกธาตุสุตฺตํ อภินิกฺขมนํ เอตทคฺคนฺติ อิเมสมฺปิ วเสน มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เอตทคฺคสฺมิฺหิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙-๒๒๓) วุตฺตํ.
อฺเหิ จ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหีติ น เกวลฺจ เอเตเหว, อฺเหิ จ มหาคุณตาย ปากเฏหิ อภิฺาเตหิ พหูหิ ¶ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ ภควา โคสิงฺคสาลวนทาเย วิหรตีติ อตฺโถ. อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต สยํ มหาปฺโ อฺเปิ พหู มหาปฺเ ภิกฺขู คเหตฺวา ตทา ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหาสิ. อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน สยํ อิทฺธิมา, อายสฺมา มหากสฺสโป สยํ ธุตวาโท, อายสฺมา อนุรุทฺโธ สยํ ทิพฺพจกฺขุโก, อายสฺมา เรวโต สยํ ฌานาภิรโต, อายสฺมา อานนฺโท สยํ พหุสฺสุโต อฺเปิ พหู พหุสฺสุเต ภิกฺขู คเหตฺวา ตทา ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหาสิ, เอวํ ตทา เอเต จ อฺเ จ อภิฺาตา มหาเถรา ตึสสหสฺสมตฺตา ภิกฺขู ทสพลํ ปริวาเรตฺวา วิหรึสูติ เวทิตพฺพา.
ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติวิเวกโต วุฏฺิโต. เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมีติ เถโร กิร ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ปจฺฉิมโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต วนนฺเต กีฬนฺตสฺส มตฺตขตฺติยสฺส กณฺณโต ปตมานํ กุณฺฑลํ วิย, สํหริตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปมานํ รตฺตกมฺพลํ วิย, มณินาคทนฺตโต ปตมานํ สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ วิย จ อตฺถํ คจฺฉมานํ ปริปุณฺณปณฺณาสโยชนํ สูริยมณฺฑลํ อทฺทส. ตทนนฺตรํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต เนมิยํ คเหตฺวา ปริวตฺตยมานํ รชตจกฺกํ วิย, รชตกูฏโต นิกฺขมนฺตํ ขีรธารามณฺฑํ วิย, สปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา คคนตเล ปกฺขนฺทมานํ เสตหํสํ วิย จ เมฆวณฺณาย สมุทฺทกุจฺฉิโต อุคฺคนฺตฺวา ปาจีนจกฺกวาฬปพฺพตมตฺถเก สสลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ เอกูนปณฺณาสโยชนํ จนฺทมณฺฑลํ อทฺทส. ตโต สาลวนํ โอโลเกสิ. ตสฺมิฺหิ สมเย สาลรุกฺขา มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา สพฺพปาลิผุลฺลา ทุกูลปารุตา วิย, มุตฺตากลาปวินทฺธา วิย จ วิโรจึสุ. ภูมิตลํ ปุปฺผสนฺถรปูชาย ปฏิมณฺฑิตํ วิย, ตตฺถ ตตฺถ นิปตนฺเตน ปุปฺผเรณุนา ลาขารเสน สิฺจมานํ วิย จ อโหสิ. ภมรมธุกรคณา กุสุมเรณุมทมตฺตา อุปคายมานา วิย วนนฺตเรสุ วิจรนฺติ. ตทา จ อุโปสถทิวโสว โหติ. อถ เถโร, ‘‘กาย นุ โข อชฺช รติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ, อริยสาวกา จ นาม ปิยธมฺมสฺสวนา โหนฺติ. อถสฺส ¶ ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อชฺช มยฺหํ เชฏฺภาติกสฺส ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมรติยา วีตินาเมสฺสามี’’ติ. คจฺฉนฺโต ปน เอกโกว อคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ ปิยสหายํ มหากสฺสปตฺเถรํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ.
เอวมาวุโสติ ¶ โข อายสฺมา มหากสฺสโปติ เถโรปิ ยสฺมา ปิยธมฺมสฺสวโนว อริยสาวโก, ตสฺมา ตสฺส วจนํ สุตฺวา คจฺฉาวุโส, ตฺวํ, มยฺหํ สีสํ วา รุชฺชติ ปิฏฺิ วาติ กิฺจิ เลสาปเทสํ อกตฺวา ตุฏฺหทโยว, ‘‘เอวมาวุโส’’ติอาทิมาห. ปฏิสฺสุตฺวา จ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา มหาโมคฺคลฺลานํ อนุพนฺธิ. ตสฺมึ สมเย ทฺเว มหาเถรา ปฏิปาฏิยา ิตานิ ทฺเว จนฺทมณฺฑลานิ วิย, ทฺเว สูริยมณฺฑลานิ วิย, ทฺเว ฉทฺทนฺตนาคราชาโน วิย, ทฺเว สีหา วิย, ทฺเว พฺยคฺฆา วิย จ วิโรจึสุ. อนุรุทฺธตฺเถโรปิ ตสฺมึ สมเย ทิวาฏฺาเน นิสินฺโน ทฺเว มหาเถเร สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺฉิมโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต สูริยํ วนนฺตํ ปวิสนฺตํ วิย, ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต จนฺทํ วนนฺตโต อุคฺคจฺฉนฺตํ วิย, สาลวนํ โอโลเกนฺโต สพฺพปาลิผุลฺลเมว สาลวนฺจ ทิสฺวา อชฺช อุโปสถทิวโส, อิเม จ เม เชฏฺภาติกา ธมฺมเสนาปติสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, มหนฺเตน ธมฺมสฺสวเนน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ ธมฺมสฺสวนสฺส ภาคี ภวิสฺสามีติ นิสินฺนฏฺานโต วุฏฺาย จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา มหาเถรานํ ปทานุปทิโก หุตฺวา นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสู’’ติ. อุปสงฺกมึสูติ. ปฏิปาฏิยา ิตา ตโย จนฺทา วิย, สูริยา วิย, สีหา วิย จ วิโรจมานา อุปสงฺกมึสุ.
๓๓๓. เอวํ อุปสงฺกมนฺเต ปน เต มหาเถเร อายสฺมา อานนฺโท อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสินฺโนเยว ทิสฺวา, ‘‘อชฺช มหนฺตํ ธมฺมสฺสวนํ ภวิสฺสติ, มยาปิ ตสฺส ภาคินา ภวิตพฺพํ, น โข ปน เอกโกว คมิสฺสามิ, มยฺหํ ปิยสหายมฺปิ เรวตตฺเถรํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ สพฺพํ มหาโมคฺคลฺลานสฺส มหากสฺสปสฺส อนุรุทฺธสฺส อุปสงฺกมเน วุตฺตนเยเนว ¶ วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. อิติ เต ทฺเว ชนา ปฏิปาฏิยา ิตา ทฺเว จนฺทา วิย, สูริยา วิย, สีหา วิย จ วิโรจมานา อุปสงฺกมึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติอาทิ ¶ . ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจาติ ทูรโตว ทิสฺวา อนุกฺกเมน กถาอุปจารํ สมฺปตฺตเมตํ, ‘‘เอตุ โข อายสฺมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. รมณียํ, อาวุโสติ เอตฺถ ทุวิธํ รามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ปุคฺคลรามเณยฺยกฺจ. ตตฺถ วนํ นาม นาคสลฬสาลจมฺปกาทีหิ ¶ สฺฉนฺนํ โหติ พหลจฺฉายํ ปุปฺผผลูปคํ วิวิธรุกฺขํ อุทกสมฺปนฺนํ คามโต นิสฺสฏํ, อิทํ วนรามเณยฺยกํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘รมณียานิ อรฺานิ, ยตฺถ น รมตี ชโน;
วีตราคา รมิสฺสนฺติ, น เต กามคเวสิโน’’ติ. (ธ. ป. ๙๙);
วนํ ปน สเจปิ อุชฺชงฺคเล โหติ นิรุทกํ วิรลจฺฉายํ กณฺฏกสมากิณฺณํ, พุทฺธาทโยเปตฺถ อริยา วิหรนฺติ, อิทํ ปุคฺคลรามเณยฺยกํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ. (ธ. ป. ๙๘);
อิธ ปน ตํ ทุวิธมฺปิ ลพฺภติ. ตทา หิ โคสิงฺคสาลวนํ สพฺพปาลิผุลฺลํ โหติ กุสุมคนฺธสุคนฺธํ, สเทวเก เจตฺถ โลเก อคฺคปุคฺคโล สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตึสสหสฺสมตฺเตหิ อภิฺาตภิกฺขูหิ สทฺธึ วิหรติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘รมณียํ, อาวุโส อานนฺท, โคสิงฺคสาลวน’’นฺติ.
โทสินาติ โทสาปคตา, อพฺภํ มหิกา ธูโม รโช ราหูติ อิเมหิ ปฺจหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิรหิตาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพปาลิผุลฺลาติ สพฺพตฺถ ปาลิผุลฺลา, มูลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคา อปุปฺผิตฏฺานํ นาม นตฺถิ. ทิพฺพา มฺเ คนฺธา สมฺปวนฺตีติ ทิพฺพา มนฺทารปุปฺผโกวิฬารปาริจฺฉตฺตกจนฺทนจุณฺณคนฺธา วิย สมนฺตา ปวายนฺติ, สกฺกสุยาสนฺตุสิตนิมฺมานรติปรนิมฺมิตมหาพฺรหฺมานํ โอติณฺณฏฺานํ วิย วายนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
กถํรูเปน ¶ , อาวุโส อานนฺทาติ อานนฺทตฺเถโร เตสํ ปฺจนฺนํ เถรานํ สงฺฆนวโกว. กสฺมา เถโร ¶ ตํเยว ปมํ ปุจฺฉตีติ? มมายิตตฺตา. เต หิ ทฺเว เถรา อฺมฺํ มมายึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโร, ‘‘มยา กตฺตพฺพํ สตฺถุ อุปฏฺานํ กโรตี’’ติ อานนฺทตฺเถรํ มมายิ. อานนฺทตฺเถโร ภควโต สาวกานํ อคฺโคติ สาริปุตฺตตฺเถรํ มมายิ, กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว อกาสิ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ¶ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมา อานนฺโท ปณีตานิ จีวราทีนิปิ ลภิตฺวา เถรสฺเสว เทติ.
เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ นาม โหตี’’ติ? โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห – ‘‘สเจสิ, พฺราหฺมณ, ธมฺมรตนํ ปูชิตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉติ. โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนิเกน จีวเรน ปูเชสิ. เถโร ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ภควา ‘‘กุโต, อานนฺท, ลทฺธ’’นฺติ อาห. เอเกน, ภนฺเต, พฺราหฺมเณน ทินฺนํ, อิทํ ปนาหํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมติ. เทหิ, อานนฺทาติ. จาริกํ ปกฺกนฺโต, ภนฺเตติ. อาคตกาเล เทหีติ. สิกฺขาปทํ, ภนฺเต, ปฺตฺตนฺติ. กทา ปน สาริปุตฺโต อาคมิสฺสตีติ? ทสาหมตฺเตน, ภนฺเตติ. ‘‘อนุชานามิ, อานนฺท, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๑; มหาว. ๓๔๗) สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว ยํกิฺจิ มนาปํ ลภติ, ตํ อานนฺทตฺเถรสฺส เทติ. เอวํ เต เถรา อฺมฺํ มมายึสุ, อิติ มมายิตตฺตา ปมํ ปุจฺฉิ.
อปิจ อนุมติปุจฺฉา นาเมสา ขุทฺทกโต ปฏฺาย ปุจฺฉิตพฺพา โหติ. ตสฺมา เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปมํ อานนฺทํ ปุจฺฉิสฺสามิ, อานนฺโท อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสติ. ตโต เรวตํ, อนุรุทฺธํ, มหากสฺสปํ, มหาโมคฺคลฺลานํ ¶ ปุจฺฉิสฺสามิ. มหาโมคฺคลฺลาโน อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสติ. ตโต ปฺจปิ เถรา มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อหมฺปิ อตฺตโน ปฏิภานํ พฺยากริสฺสามี’’ติ. เอตฺตาวตาปิ อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา น ภวิสฺสติ, อถ มยํ สพฺเพปิ ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สตฺถา สพฺพฺุตฺาเณน พฺยากริสฺสติ. เอตฺตาวตา อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา ภวิสฺสติ. ยถา หิ ชนปทมฺหิ ¶ อุปฺปนฺโน อฏฺโฏ คามโภชกํ ปาปุณาติ, ตสฺมึ นิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเต ชนปทโภชกํ ปาปุณาติ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต มหาวินิจฺฉยอมจฺจํ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต ¶ เสนาปตึ, ตสฺมึ อสกฺโกนฺเต อุปราชํ, ตสฺมึ วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเต ราชานํ ปาปุณาติ, รฺา วินิจฺฉิตกาลโต ปฏฺาย อฏฺโฏ อปราปรํ น สฺจรติ, ราชวจเนเนว ฉิชฺชติ. เอวเมวํ อหฺหิ ปมํ อานนฺทํ ปุจฺฉิสฺสามิ…เป… อถ มยํ สพฺเพปิ ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สตฺถา สพฺพฺุตฺาเณน พฺยากริสฺสติ. เอตฺตาวตา อยํ ธมฺมเทสนา สิขาปฺปตฺตา เวปุลฺลปฺปตฺตา ภวิสฺสติ. เอวํ อนุมติปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต เถโร ปมํ อานนฺทตฺเถรํ ปุจฺฉิ.
พหุสฺสุโต โหตีติ พหุ อสฺส สุตํ โหติ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ ปาฬิอนุสนฺธิปุพฺพาปรวเสน อุคฺคหิตํ โหตีติ อตฺโถ. สุตธโรติ สุตสฺส อาธารภูโต. ยสฺส หิ อิโต คหิตํ อิโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฏ อุทกํ วิย น ติฏฺติ, ปริสมชฺเฌ เอกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สกฺโกติ, อยํ น สุตธโร นาม. ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส น นสฺสติ, อยํ สุตธโร นาม. สุตสนฺนิจโยติ สุตสฺส สนฺนิจยภูโต. ยถา หิ สุตํ หทยมฺชูสาย สนฺนิจิตํ สิลายํ เลขา วิย, สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ อชฺโฌสาย ติฏฺติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นาม. ธาตาติ ิตา ปคุณา. เอกจฺจสฺส หิ อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ ธาตํ ปคุณํ นิจฺจลิตํ น โหติ, อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหีติ วุตฺเต สชฺฌายิตฺวา สํสนฺทิตฺวา สมนุคฺคาหิตฺวา ชานิสฺสามีติ วทติ. เอกจฺจสฺส ธาตํ ปคุณํ ¶ ภวงฺคโสตสทิสํ โหติ, อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหีติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติ.
วจสา ปริจิตาติ สุตฺตทสก-วคฺคทสก-ปณฺณาสทสกานํ วเสน วาจาย สชฺฌายิตา. มนสานุเปกฺขิตาติ จิตฺเตน อนุเปกฺขิตา, ยสฺส วาจาย สชฺฌายิตํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปากฏํ โหติ. มหาทีปํ ชาเลตฺวา ิตสฺส รูปคตํ วิย ปฺายติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา’’ติ. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุปฺปฏิวิทฺธา. ปริมณฺฑเลหิ ¶ ปทพฺยฺชเนหีติ เอตฺถ ปทเมว อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชนํ, ตํ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา ทสวิธพฺยฺชนพุทฺธิโย อปริหาเปตฺวา วุตฺตํ ¶ ปริมณฺฑลํ นาม โหติ, เอวรูเปหิ ปทพฺยฺชเนหีติ อตฺโถ. อปิจ โย ภิกฺขุ ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขปิตฺวา อฺํ อุปารมฺภกรํ สุตฺตํ อาหรติ, ตสฺส อุปมํ กเถติ, ตทตฺถํ โอหาเรติ, เอวมิทํ คเหตฺวา เอตฺถ ขิปนฺโต เอกปสฺเสเนว ปริหรนฺโต กาลํ ตฺวา วุฏฺหติ. นิกฺขิตฺตสุตฺตํ ปน นิกฺขตฺตมตฺตเมว โหติ, ตสฺส กถา อปริมณฺฑลา นาม โหติ. โย ปน สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา พหิ เอกปทมฺปิ อคนฺตฺวา ปาฬิยา อนุสนฺธิฺจ ปุพฺพาปรฺจ อมกฺเขนฺโต อาจริเยหิ ทินฺนนเย ตฺวา ตุลิกาย ปริจฺฉินฺทนฺโต วิย, คมฺภีรมาติกาย อุทกํ เปเสนฺโต วิย, ปทํ โกฏฺเฏนฺโต สินฺธวาชานีโย วิย คจฺฉติ, ตสฺส กถา ปริมณฺฑลา นาม โหติ. เอวรูปึ กถํ สนฺธาย – ‘‘ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหี’’ติ วุตฺตํ.
อนุปฺปพนฺเธหีติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา อารภิตฺวา อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ตุริตตุริโต อรณึ มนฺเถนฺโต วิย, อุณฺหขาทนียํ ขาทนฺโต วิย, ปาฬิยา อนุสนฺธิปุพฺพาปเรสุ คหิตํ คหิตเมว อคฺคหิตํ อคฺคหิตเมว จ กตฺวา ปุราณปณฺณนฺตเรสุ จรมานํ โคธํ อุฏฺเปนฺโต วิย ตตฺถ ตตฺถ ปหรนฺโต โอสาเปนฺโต โอหาย คจฺฉติ. โยปิ ธมฺมํ กเถนฺโต ¶ กาเลน สีฆํ กาเลน ทนฺธํ กาเลน มหาสทฺทํ กาเลน ขุทฺทกสทฺทํ กโรติ. ยถา เปตคฺคิ กาเลน ชลติ, กาเลน นิพฺพายติ, เอวเมว อิธ เปตคฺคิธมฺมกถิโก นาม โหติ, ปริสาย อุฏฺาตุกามาย ปุนปฺปุนํ อารภติ. โยปิ กเถนฺโต ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถายติ, นิตฺถุนนฺโต กนฺทนฺโต วิย กเถติ, อิเมสํ สพฺเพสมฺปิ กถา อปฺปพนฺธา นาม โหติ. โย ปน สุตฺตํ อารภิตฺวา อาจริเยหิ ทินฺนนเย ิโต อจฺฉินฺนธารํ กตฺวา นทีโสตํ วิย ปวตฺเตติ, อากาสคงฺคโต ภสฺสมานํ อุทกํ วิย นิรนฺตรํ กถํ ปวตฺเตติ, ตสฺส กถา อนุปฺปพนฺธา โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ¶ ‘‘อนุปฺปพนฺเธหี’’ติ. อนุสยสมุคฺฆาตายาติ สตฺตนฺนํ อนุสยานํ สมุคฺฆาตตฺถาย. เอวรูเปนาติ เอวรูเปน พหุสฺสุเตน ภิกฺขุนา ตถารูเปเนว ภิกฺขุสเตน ภิกฺขุสหสฺเสน วา สงฺฆาฏิกณฺเณน วา สงฺฆาฏิกณฺณํ, ปลฺลงฺเกน วา ปลฺลงฺกํ อาหจฺจ นิสินฺเนน โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺย. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๓๔. ปฏิสลฺลานํ อสฺส อาราโมติ ปฏิสลฺลานาราโม. ปฏิสลฺลาเน รโตติ ปฏิสลฺลานรโต.
๓๓๕. สหสฺสํ ¶ โลกานนฺติ สหสฺสํ โลกธาตูนํ. เอตฺตกฺหิ เถรสฺส ธุวเสวนํ อาวชฺชนปฏิพทฺธํ, อากงฺขมาโน ปน เถโร อเนกานิปิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ โวโลเกติเยว. อุปริปาสาทวรคโตติ สตฺตภูมกสฺส วา นวภูมกสฺส วา ปาสาทวรสฺส อุปริ คโต. สหสฺสํ เนมิมณฺฑลานํ โวโลเกยฺยาติ ปาสาทปริเวเณ นาภิยา ปติฏฺิตานํ เนมิวฏฺฏิยา เนมิวฏฺฏึ อาหจฺจ ิตานํ เนมิมณฺฑลานํ สหสฺสํ วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกยฺย, ตสฺส นาภิโยปิ ปากฏา โหนฺติ, อราปิ อรนฺตรานิปิ เนมิโยปิ. เอวเมว โข, อาวุโสติ, อาวุโส, เอวํ อยมฺปิ ทิพฺพจกฺขุโก ภิกฺขุ ทิพฺเพน จกฺขุนา อติกฺกนฺตมานุสเกน สหสฺสํ โลกานํ โวโลเกติ. ตสฺส ปาสาเท ิตปุริสสฺส จกฺกนาภิโย วิย จกฺกวาฬสหสฺเส สิเนรุสหสฺสํ ปากฏํ โหติ. อรา วิย ทีปา ปากฏา โหนฺติ. อรนฺตรานิ วิย ทีปฏฺิตมนุสฺสา ปากฏา โหนฺติ. เนมิโย วิย จกฺกวาฬปพฺพตา ปากฏา โหนฺติ.
๓๓๖. อารฺิโกติ สมาทิณฺณอรฺธุตงฺโค. เสสปเทสุปิ ¶ เอเสว นโย.
๓๓๗. โน จ สํสาเทนฺตีติ น โอสาเทนฺติ. สเหตุกฺหิ สการณํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ วิสฺสชฺชิตุมฺปิ อสกฺโกนฺโต สํสาเทติ นาม. เอวํ น กโรนฺตีติ อตฺโถ. ปวตฺตินี โหตีติ นทีโสโตทกํ วิย ปวตฺตติ.
๓๓๘. ยาย ¶ วิหารสมาปตฺติยาติ ยาย โลกิยาย วิหารสมาปตฺติยา, ยาย โลกุตฺตราย วิหารสมาปตฺติยา.
๓๓๙. สาธุ สาธุ สาริปุตฺตาติ อยํ สาธุกาโร อานนฺทตฺเถรสฺส ทินฺโน. สาริปุตฺตตฺเถเรน ปน สทฺธึ ภควา อาลปติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยถา ตํ อานนฺโทวาติ ยถา อานนฺโทว สมฺมา พฺยากรณมาโน พฺยากเรยฺย, เอวํ พฺยากตํ อานนฺเทน อตฺตโน อนุจฺฉวิกเมว, อชฺฌาสยานุรูปเมว พฺยากตนฺติ อตฺโถ. อานนฺทตฺเถโร หิ อตฺตนาปิ พหุสฺสุโต, อชฺฌาสโยปิสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สาสเน สพฺรหฺมจารี พหุสฺสุตา ภเวยฺยุ’’นฺติ. กสฺมา? พหุสฺสุตสฺส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ สาวชฺชานวชฺชํ, ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ ปากฏํ โหติ. พหุสฺสุโต อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ อาวชฺชิตฺวา อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ ¶ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺคผลนิพฺพานานีติ สีลสฺส อาคตฏฺาเน สีลํ ปูเรตฺวา, สมาธิสฺส อาคตฏฺาเน สมาธึ ปูเรตฺวา วิปสฺสนาย อาคตฏฺาเน วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา มคฺคํ ภาเวตฺวา ผลํ สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ อชฺฌาสโย โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฺจ วา นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อาวชฺชนฺตา สีลาทีนํ อาคตฏฺาเนสุ สีลาทีนิ ปริปูเรตฺวา อนุกฺกเมน มคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.
๓๔๐. อายสฺมา หิ เรวโต ฌานชฺฌาสโย ฌานาภิรโต, ตสฺมาสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี เอกิกา นิสีทิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๑. อายสฺมา ¶ อนุรุทฺโธ ทิพฺพจกฺขุโก, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา อเนเกสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ จวมาเน จ อุปปชฺชมาเน จ สตฺเต ทิสฺวา วฏฺฏภเยน จิตฺตํ สํเวเชตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๒. อายสฺมา มหากสฺสโป ธุตวาโท, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี ธุตวาทา หุตฺวา ธุตงฺคานุภาเวน ปจฺจยตณฺหํ มิลาเปตฺวา อปเรปิ นานปฺปกาเร กิเลเส ธุนิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๓. อายสฺมา ¶ มหาโมคฺคลฺลาโน สมาธิปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต, สุขุมํ ปน จิตฺตนฺตรํ ขนฺธนฺตรํ ธาตฺวนฺตรํ อายตนนฺตรํ ฌาโนกฺกนฺติกํ อารมฺมโณกฺกนฺติกํ องฺคววตฺถานํ อารมฺมณววตฺถานํ องฺคสงฺกนฺติ อารมฺมณสงฺกนฺติ เอกโตวฑฺฒนํ อุภโตวฑฺฒนนฺติ อาภิธมฺมิกธมฺมกถิกสฺเสว ปากฏํ. อนาภิธมฺมิโก หิ ธมฺมํ กเถนฺโต – ‘‘อยํ สกวาโท อยํ ปรวาโท’’ติ น ชานาติ. สกวาทํ ทีเปสฺสามีติ ปรวาทํ ทีเปติ, ปรวาทํ ทีเปสฺสามีติ สกวาทํ ทีเปติ, ธมฺมนฺตรํ วิสํวาเทติ. อาภิธมฺมิโก สกวาทํ สกวาทนิยาเมเนว ¶ , ปรวาทํ ปรวาทนิยาเมเนว ทีเปติ, ธมฺมนฺตรํ น วิสํวาเทติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อาภิธมฺมิกา หุตฺวา สุขุเมสุ าเนสุ าณํ โอตาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๔. อายสฺมา สาริปุตฺโต ปฺาปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต, ปฺวาเยว จ จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตุํ สกฺโกติ, น ทุปฺปฺโ. ทุปฺปฺโ หิ อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตสฺส วเส วตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ กติปาเหเนว คิหิภาวํ ปตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณาติ. ตสฺมา เถรสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อโห วต สพฺรหฺมจารี อจิตฺตวสิกา หุตฺวา จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา สพฺพานสฺส วิเสวิตวิปฺผนฺทิตานิ ภฺชิตฺวา อีสกมฺปิ พหิ นิกฺขมิตุํ อเทนฺตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ¶ โลกุตฺตรธมฺมํ สจฺฉิกเรยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ.
๓๔๕. สพฺเพสํ โว, สาริปุตฺต, สุภาสิตํ ปริยาเยนาติ สาริปุตฺต, ยสฺมา สงฺฆารามสฺส นาม พหุสฺสุตภิกฺขูหิปิ โสภนการณํ อตฺถิ, ฌานาภิรเตหิปิ, ทิพฺพจกฺขุเกหิปิ, ธุตวาเทหิปิ, อาภิธมฺมิเกหิปิ, อจิตฺตวสิเกหิปิ โสภนการณํ อตฺถิ. ตสฺมา สพฺเพสํ ¶ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน, เตน เตน การเณน สุภาสิตเมว, โน ทุพฺภาสิตํ. อปิจ มมปิ สุณาถาติ อปิจ มมปิ วจนํ สุณาถ. น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามีติ น ตาว อหํ อิมํ จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย อาภุชิตํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ, น โมเจสฺสามีติ อตฺโถ. อิทํ กิร ภควา ปริปากคเต าเณ รชฺชสิรึ ปหาย กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ อารุยฺห จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย อปราชิตปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ทฬฺหสมาทาโน หุตฺวา นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา ปจฺจูสสมเย ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ, ตํ อตฺตโน มหาโพธิปลฺลงฺกํ สนฺธาย เอวมาห. อปิจ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโนปิ ปฏิปตฺติสารํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ปสฺสติ หิ ภควา – ‘‘อนาคเต เอวํ อชฺฌาสยา กุลปุตฺตา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิสฺสนฺติ, ‘ภควา มหาโคสิงฺคสุตฺตํ กเถนฺโต อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ…เป… เอวรูเปน โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ อาห, มยํ ภควโต อชฺฌาสยํ คณฺหิสฺสามา’ติ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย ทฬฺหสมาทานา หุตฺวา ‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อิมํ ปลฺลงฺกํ น ภินฺทิสฺสามา’ติ สมณธมฺมํ กาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, เต เอวํ ปฏิปนฺนา กติปาเหเนว ¶ ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ, อิมํ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน ปฏิปตฺติสารํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เอวรูเปน โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ, สาริปุตฺต, เอวรูเปน ภิกฺขุนา นิปฺปริยาเยเนว โคสิงฺคสาลวนํ โสเภยฺยาติ ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาโคสิงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา
๓๔๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาโคปาลกสุตฺตํ. ตตฺถ ติสฺโส กถา เอกนาฬิกา, จตุรสฺสา, นิสินฺนวตฺติกาติ. ตตฺถ ปาฬึ วตฺวา เอเกกปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาฬิกา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, อปณฺฑิตํ ¶ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวาติ จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม. อปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, อปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ โคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนนฺติ อยํ นิสินฺนวตฺติกา นาม. อยํ อิธ สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณา.
เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหีติ เอกาทสหิ อคุณโกฏฺาเสหิ. โคคณนฺติ โคมณฺฑลํ. ปริหริตุนฺติ ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุํ. ผาตึ กาตุนฺติ วฑฺฒึ อาปาเทตุํ. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. น รูปฺู โหตีติ คณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ น ชานาติ. คณนโต น ชานาติ นาม อตฺตโน คุนฺนํ สตํ วา สหสฺสํ วาติ สงฺขฺยํ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา โคคณํ คเณตฺวา, อชฺช เอตฺติกา น ทิสฺสนฺตีติ ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ วา อฏวึ วา วิจรนฺโต น ปริเยสติ, อฺเสํ คาวีสุ อตฺตโน โคคณํ ปวิฏฺาสุปิ โคคณํ คเณตฺวา, ‘‘อิมา เอตฺติกา คาโว น อมฺหาก’’นฺติ ยฏฺิยา โปเถตฺวา น นีหรติ, ตสฺส นฏฺา คาวิโย นฏฺาว โหนฺติ. ปรคาวิโย คเหตฺวา วิจรนฺตํ โคสามิกา ทิสฺวา, ‘‘อยํ เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ เธนุํ คณฺหาตี’’ติ ตชฺเชตฺวา อตฺตโน คาวิโย คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. วณฺณโต น ชานาติ นาม – ‘‘เอตฺติกา คาโว เสตา, เอตฺติกา รตฺตา, เอตฺติกา กาฬา, เอตฺติกา กพรา เอตฺติกา นีลา’’ติ น ชานาติ, โส คาวีสุ หฏาสุ วา…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโล โหตีติ คาวีนํ สรีเร กตํ ธนุสตฺติสูลาทิเภทํ ลกฺขณํ น ชานาติ ¶ , โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา อชฺช อสุกลกฺขณา จ อสุกลกฺขณา จ คาโว ¶ น ทิสฺสนฺติ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตาติ คุนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทีหิ ปหฏฏฺาเนสุ วโณ โหติ. ตตฺถ นีลมกฺขิกา อณฺฑกานิ ปาเตนฺติ, เตสํ อาสาฏิกาติ นาม. ตานิ ทณฺเฑน อปเนตฺวา เภสชฺชํ ทาตพฺพํ โหติ. พาโล ¶ โคปาลโก ตถา น กโรติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตี’’ติ. ตสฺส คุนฺนํ วณา วฑฺฒนฺติ, คมฺภีรา โหนฺติ, ปาณกา กุจฺฉึ ปวิสนฺติ, คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ, น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ, อุภเยสํ ชีวิตนฺตราโย โหติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ คุนฺนํ วุตฺตนเยเนว สฺชาโต วโณ เภสชฺชํ ทตฺวา วาเกน วา จีรเกน วา พนฺธิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตพฺโพ โหติ. พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ, อถสฺส คุนฺนํ วเณหิ ยูสา ปคฺฆรนฺติ, ตา อฺมฺํ นิฆํเสนฺติ, เตน อฺเสมฺปิ วณา ชายนฺติ. เอวํ คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ อนฺโตวสฺเส ฑํสมกสาทีนํ อุสฺสนฺนกาเล โคคเณ วชํ ปวิฏฺเ ตตฺถ ตตฺถ ธูโม กาตพฺโพ โหติ, อปณฺฑิโต โคปาลโก ตํ น กโรติ. โคคโณ สพฺพรตฺตึ ฑํสาทีหิ อุปทฺทุโต นิทฺทํ อลภิตฺวา ปุนทิวเส อรฺเ ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขมูลาทีสุ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถํ สมนฺติ วา วิสมนฺติ วา สคาหนฺติ วา นิคฺคาหนฺติ วา น ชานาติ, โส อติตฺเถน คาวิโย โอตาเรติ. ตาสํ วิสมติตฺเถ ปาสาณาทีนิ อกฺกมนฺตีนํ ปาทา ภิชฺชนฺติ, สคาหํ คมฺภีรํ ติตฺถํ โอติณฺณา กุมฺภีลาทโย คาหา คณฺหนฺติ. อชฺช เอตฺติกา คาโว นฏฺา, อชฺช เอตฺติกาติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
น ¶ ปีตํ ชานาตีติ ปีตมฺปิ อปีตมฺปิ น ชานาติ. โคปาลเกน หิ ‘‘อิมาย คาวิยา ปีตํ, อิมาย น ปีตํ, อิมาย ปานียติตฺเถ โอกาโส ลทฺโธ, อิมาย น ¶ ลทฺโธ’’ติ เอวํ ปีตาปีตํ ชานิตพฺพํ โหติ. อยํ ปน ทิวสภาคํ อรฺเ โคคณํ รกฺขิตฺวา ปานียํ ปาเยสฺสามีติ นทึ วา ¶ ตฬากํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ. ตตฺถ มหาอุสภา จ อนุอุสภา จ พลวคาวิโย จ ทุพฺพลานิ เจว มหลฺลกานิ จ โครูปานิ สิงฺเคหิ วา ผาสุกาหิ วา ปหริตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา อูรุปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ยถากามํ ปิวนฺติ. อวเสสา โอกาสํ อลภมานา ตีเร ตฺวา กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวนฺติ, อปีตา เอว วา โหนฺติ. อถ เน โคปาลโก ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปุน อรฺํ ปเวเสติ, ตตฺถ อปีตคาวิโย ปิปาสาย สุกฺขมานา ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ ‘‘อยํ มคฺโค สโม เขโม, อยํ วิสโม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย’’ติ น ชานาติ. โส สมํ เขมํ มคฺคํ วชฺเชตฺวา โคคณํ อิตรํ มคฺคํ ปฏิปาเทติ, ตตฺถ คาโว สีหพฺยคฺฆาทีนํ คนฺเธน โจรปริสฺสเยน วา อภิภูตา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺติ, เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทนฺติ, น ปานียํ ปิวนฺติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น โคจรกุสโล โหตีติ โคปาลเกน หิ โคจรกุสเลน ภวิตพฺพํ, ปฺจาหิกวาโร วา สตฺตาหิกวาโร วา ชานิตพฺโพ, เอกทิสาย โคคณํ จาเรตฺวา ปุนทิวเส ตตฺถ น จาเรตพฺโพ. มหตา หิ โคคเณน จิณฺณฏฺานํ เภริตลํ วิย สุทฺธํ โหติ นิตฺติณํ, อุทกมฺปิ อาลุฬียติ. ตสฺมา ปฺจเม วา สตฺตเม วา ทิวเส ปุน ตตฺถ จาเรตุํ วฏฺฏติ, เอตฺตเกน หิ ติณมฺปิ ปฏิวิรุหติ, อุทกมฺปิ ปสีทติ. อยํ ปน อิมํ ปฺจาหิกวารํ วา สตฺตาหิกวารํ วา น ชานาติ, ทิวเส ทิวเส รกฺขิตฏฺาเนเยว รกฺขติ. อถสฺส โคคโณ หริตติณํ น ลภติ, สุกฺขติณํ ขาทนฺโต กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวติ, ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปณฺฑิตโคปาลเกน ยาว วจฺฉกสฺส มํสโลหิตํ สณฺาติ, ตาว ¶ เอกํ ทฺเว ถเน เปตฺวา สาวเสสโทหินา ภวิตพฺพํ. อยํ วจฺฉกสฺส กิฺจิ อนวเสเสตฺวา ทุหติ, ขีรปโก วจฺโฉ ขีรปิปาสาย สุกฺขติ, สณฺาตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต กมฺปมาโน ¶ มาตุ ปุรโต ปติตฺวา กาลงฺกโรติ. มาตา ปุตฺตกํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ ปุตฺตโก อตฺตโน มาตุขีรํ ปาตุมฺปิ น ลภตี’’ติ ปุตฺตโสเกน น ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ, น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกติ, ถเนสุ ขีรํ ฉิชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.
คุนฺนํ ปิตุฏฺานํ กโรนฺตีติ โคปิตโร. คาโว ปริณยนฺติ ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ โคปริณายกา. น อติเรกปูชายาติ ปณฺฑิโต หิ โคปาลโก เอวรูเป อุสเภ อติเรกปูชาย ปูเชติ, ปณีตํ โคภตฺตํ เทติ, คนฺธปฺจงฺคุลิเกหิ มณฺเฑติ, มาลํ ปิลนฺเธติ, สิงฺเค สุวณฺณรชตโกสเก จ ธาเรติ, รตฺตึ ทีปํ ชาเลตฺวา เจลวิตานสฺส เหฏฺา สยาเปติ. อยํ ปน ตโต เอกสกฺการมฺปิ น กโรติ, อุสภา อติเรกปูชํ อลภมานา โคคณํ น รกฺขนฺติ, ปริสฺสยํ น วาเรนฺติ. เอวมสฺส โคคโณ ปริหายติ, ปฺจโครสโต ปริพาหิโร โหติ.
๓๔๗. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. น รูปฺู โหตีติ, ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ วุตฺตรูปํ ทฺวีหากาเรหิ น ชานาติ คณนโต วา สมุฏฺานโต วา. คณนโต น ชานาติ นาม, ‘‘จกฺขายตนํ, โสต-ฆาน-ชิวฺหา-กายายตนํ, รูป-สทฺท-คนฺธ-รส-โผฏฺพฺพายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยํ, ชีวิตินฺทฺริยํ, กายวิฺตฺติ, วจีวิฺตฺติ, อากาสธาตุ, อาโปธาตุ, รูปสฺส ลหุตา, มุทุตา, กมฺมฺตา, อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตา, กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ เอวํ ปาฬิยํ อาคตา ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก คณนโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส คณนโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนหิ น วฑฺฒติ, ยถา ¶ จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน, อเสกฺเขน สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
สมุฏฺานโต ¶ ¶ น ชานาติ นาม, ‘‘เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ติสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ จตุสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ น กุโตจิสมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก วณฺณโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ลกฺขณกุสโล โหตีติ กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโตติ เอวํ วุตฺตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณนฺติ น ชานาติ. โส เอวํ อชานนฺโต พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวติ, พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต อเสวนฺโต กปฺปิยากปฺปิยํ กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉอเตกิจฺฉํ การณาการณํ น ชานาติ; ตํ อชานนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ สีลาทีหิ น วฑฺฒติ, โคปาลโก วิย จ ปฺจหิ โครเสหิ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.
น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตีติ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกนฺติ เอวํ วุตฺเต กามวิตกฺกาทิเก น วิโนเทติ, โส อิมํ อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา วิตกฺกวสิโก หุตฺวา วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ, โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติอาทินา นเยน สพฺพารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทติ. โส วิวฏทฺวาโร วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ธูมํ กตฺตา โหตีติ โส โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรติ, ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา อุปนิสินฺนกถํ วา อนุโมทนํ วา น กโรติ ¶ . ตโต นํ มนุสฺสา พหุสฺสุโต คุณวาติ น ชานนฺติ, เต คุณาคุณํ อชานนฺตา จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคหํ น กโรนฺติ ¶ . โส ปจฺจเยหิ ¶ กิลมมาโน พุทฺธวจนํ สชฺฌายํ กาตุํ วตฺตปฏิปตฺตึ ปูเรตุํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู น อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต, ‘‘อิทํ, ภนฺเต, พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ, อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ, อิมสฺมึ าเน ปาฬิ กึ วเทติ, อิมสฺมึ าเน อตฺโถ กึ ทีเปตี’’ติ เอวํ น ปริปุจฺฉติ น ปริปฺหติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต เอวํ อปริปุจฺฉโต อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อปากฏํ น ปากฏํ กโรนฺติ. อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสูติ อเนกวิธาสุ กงฺขาสุ เอกํ กงฺขมฺปิ น ปฏิวิโนเทนฺติ. กงฺขา เอว หิ กงฺขาานิยา ธมฺมา นาม. ตตฺถ เอกํ กงฺขมฺปิ น นีหรนฺตีติ อตฺโถ. โส เอวํ พหุสฺสุตติตฺถํ อนุปสงฺกมิตฺวา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. ยถา จ โส โคปาลโก ติตฺถํ น ชานาติ, เอวํ อยมฺปิ ภิกฺขุ ธมฺมติตฺถํ น ชานาติ, อชานนฺโต อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อภิธมฺมิกํ อุปสงฺกมิตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ ปุจฺฉติ, วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา รูปารูปปริจฺเฉทํ ปุจฺฉติ. เต อวิสเย ปุฏฺา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ, โส อตฺตนา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น ปีตํ ชานาตีติ ยถา โส โคปาลโก ปีตาปีตํ น ชานาติ, เอวํ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ น ชานาติ น ลภติ, สวนมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย อานิสํสํ น วินฺทติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ น สุณาติ, นิสินฺโน นิทฺทายติ, กถํ กเถติ, อฺวิหิตโก โหติ, โส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสุณนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น วีถึ ชานาตีติ โส โคปาลโก มคฺคามคฺคํ วิย, – ‘‘อยํ โลกิโย อยํ โลกุตฺตโร’’ติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ น ปชานาติ. อชานนฺโต โลกิยมคฺเค อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
น โคจรกุสโล โหตีติ โส โคปาลโก ปฺจาหิกวาเร ¶ สตฺตาหิกวาเร วิย จตฺตาโร สติปฏฺาเน ¶ , ‘‘อิเม โลกิยา อิเม โลกุตฺตรา’’ติ ยถาภูตํ น ปชานาติ. อชานนฺโต สุขุมฏฺาเนสุ อตฺตโน ¶ าณํ จราเปตฺวา โลกิยสติปฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต อนวเสสํ ทุหติ. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺตีติ อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. เอตฺถ ทฺเว อภิหารา วาจาภิหาโร จ ปจฺจยาภิหาโร จ. วาจาภิหาโร นาม มนุสฺสา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ ปวาเรนฺติ. ปจฺจยาภิหาโร นาม วตฺถาทีนิ วา เตลผาณิตาทีนิ วา คเหตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, ยาวตเกน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาตีติ ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปมาณํ น ชานาติ, – ‘‘ทายกสฺส วโส เวทิตพฺโพ, เทยฺยธมฺมสฺส วโส เวทิตพฺโพ, อตฺตโน ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ รถวินีเต วุตฺตนเยน ปมาณยุตฺตํ อคฺคเหตฺวา ยํ อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน น ปุน อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.
เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหตีติ โส โคปาลโก มหาอุสเภ วิย เต เถเร ภิกฺขู อิมาย อาวิ เจว รโห จ เมตฺตาย กายกมฺมาทิกาย อติเรกปูชาย น ปูเชติ. ตโต เถรา, – ‘‘อิเม อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี’’ติ นวเก ภิกฺขู ทฺวีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคณฺหนฺติ, น อามิสสงฺคเหน จีวเรน วา ปตฺเตน วา ปตฺตปริยาปนฺเนน วา วสนฏฺาเนน วา. กิลมนฺเต มิลายนฺเตปิ นปฺปฏิชคฺคนฺติ. ปาฬึ วา อฏฺกถํ วา ธมฺมกถาพนฺธํ วา คุยฺหคนฺถํ วา น สิกฺขาเปนฺติ. นวกา เถรานํ สนฺติกา สพฺพโส อิเม ทฺเว สงฺคเห อลภมานา อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ สีลาทีนิ น วฑฺฒนฺติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ, เอวํ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิรา โหนฺติ. สุกฺกปกฺโข กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปลฺลาสวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺโพติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๐. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬโคปาลกสุตฺตํ. ตตฺถ อุกฺกเจลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺมึ กิร มาปิยมาเน รตฺตึ คงฺคาโสตโต มจฺโฉ ถลํ ปตฺโต. มนุสฺสา เจลานิ เตลปาติยํ เตเมตฺวา อุกฺกา กตฺวา มจฺฉํ คณฺหึสุ. นคเร นิฏฺิเต ตสฺส นามํ กโรนฺเต อมฺเหหิ นครฏฺานสฺส คหิตทิวเส เจลุกฺกาหิ มจฺโฉ คหิโตติ อุกฺกเจลา-ตฺเววสฺส นามํ อกํสุ. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ยสฺมึ าเน นิสินฺนสฺส สพฺพา คงฺคา ปากฏา หุตฺวา ปฺายติ, ตาทิเส วาลิกุสฺสเท คงฺคาติตฺเถ สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา มหาคงฺคํ ปริปุณฺณํ สนฺทมานํ โอโลเกนฺโต, – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมํ คงฺคํ นิสฺสาย โกจิ ปุพฺเพ วฑฺฒิปริหานึ ปตฺโต’’ติ อาวชฺชิตฺวา, ปุพฺเพ เอกํ พาลโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสา โคคณา อิมิสฺสา คงฺคาย อาวฏฺเฏ ปติตฺวา สมุทฺทเมว ปวิฏฺา, อปรํ ปน ปณฺฑิตโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสโคคณสฺส โสตฺถิ ชาตา วฑฺฒิ ชาตา อาโรคฺยํ ชาตนฺติ อทฺทส. ทิสฺวา อิมํ การณํ นิสฺสาย ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ จินฺเตตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
มาคธโกติ มคธรฏฺวาสี. ทุปฺปฺชาติโกติ นิปฺปฺสภาโว ทนฺโธ มหาชโฬ. อสมเวกฺขิตฺวาติ อสลฺลกฺเขตฺวา อนุปธาเรตฺวา. ปตาเรสีติ ตาเรตุํ อารภิ. อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานนฺติ คงฺคาย โอริเม ตีเร มคธรฏฺํ, ปาริเม ตีเร วิเทหรฏฺํ, คาโว มคธรฏฺโต วิเทหรฏฺํ เนตฺวา รกฺขิสฺสามีติ อุตฺตรํ ตีรํ ปตาเรสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหาน’’นฺติ. อามณฺฑลิกํ กริตฺวาติ มณฺฑลิกํ กตฺวา. อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสูติ อวฑฺฒึ วินาสํ ปาปุณึสุ, มหาสมุทฺทเมว ปวิสึสุ. เตน หิ โคปาลเกน คาโว โอตาเรนฺเตน คงฺคาย โอริมตีเร สมติตฺถฺจ ¶ วิสมติตฺถฺจ โอโลเกตพฺพํ อสฺส, มชฺเฌ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฏฺานตฺถํ ทฺเว ตีณิ วาลิกตฺถลานิ สลฺลกฺเขตพฺพานิ อสฺสุ. ตถา ปาริมตีเร ตีณิ จตฺตาริ ติตฺถานิ, อิมสฺมา ติตฺถา ภฏฺา อิมํ ติตฺถํ คณฺหิสฺสนฺติ, อิมสฺมา ภฏฺา อิมนฺติ. อยํ ปน พาลโคปาลโก โอริมตีเร คุนฺนํ โอตรณติตฺถํ สมํ วา วิสมํ วา อโนโลเกตฺวาว มชฺเฌ ¶ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฏฺานตฺถํ ทฺเว ตีณิ วาลิกตฺถลานิปิ อสลฺลกฺเขตฺวาว ปรตีเร จตฺตาริ ¶ ปฺจ อุตฺตรณติตฺถานิ อสมเวกฺขิตฺวาว อติตฺเถเนว คาโว โอตาเรสิ. อถสฺส มหาอุสโภ ชวนสมฺปนฺนตาย เจว ถามสมฺปนฺนตาย จ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา ปาริมํ ตีรํ ปตฺวา ฉินฺนตฏฺเจว กณฺฏกคุมฺพคหนฺจ ทิสฺวา, ‘‘ทุพฺพินิวิฏฺเมต’’นฺติ ตฺวา ธุรคฺค-ปติฏฺาโนกาสมฺปิ อลภิตฺวา ปฏินิวตฺติ. คาโว มหาอุสโภ นิวตฺโต มยมฺปิ นิวตฺติสฺสามาติ นิวตฺตา. มหโต โคคณสฺส นิวตฺตฏฺาเน อุทกํ ฉิชฺชิตฺวา มชฺเฌ คงฺคาย อาวฏฺฏํ อุฏฺเปสิ. โคคโณ อาวฏฺฏํ ปวิสิตฺวา สมุทฺทเมว ปตฺโต. เอโกปิ โคโณ อโรโค นาม นาโหสิ. เตนาห – ‘‘ตตฺเถว อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสู’’ติ.
อกุสลา อิมสฺส โลกสฺสาติ อิธ โลเก ขนฺธธาตายตเนสุ อกุสลา อเฉกา, ปรโลเกปิ เอเสว นโย. มารเธยฺยํ วุจฺจติ เตภูมกธมฺมา. อมารเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมา. มจฺจุเธยฺยมฺปิ เตภูมกธมฺมาว. อมจฺจุเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมา. ตตฺถ อกุสลา อเฉกา. วจนตฺถโต ปน มารสฺส เธยฺยํ มารเธยฺยํ. เธยฺยนฺติ านํ วตฺถุ นิวาโส โคจโร. มจฺจุเธยฺเยปิ เอเสว นโย. เตสนฺติ เตสํ เอวรูปานํ สมณพฺราหฺมณานํ, อิมินา ฉ สตฺถาโร ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา.
๓๕๑. เอวํ กณฺหปกฺขํ นิฏฺเปตฺวา สุกฺกปกฺขํ ทสฺเสนฺโต ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ พลวคาโวติ ทนฺตโคเณ เจว เธนุโย จ. ทมฺมคาโวติ ทเมตพฺพโคเณ เจว อวิชาตคาโว จ. วจฺฉตเรติ วจฺฉภาวํ ตริตฺวา ิเต พลววจฺเฉ. วจฺฉเกติ เธนุปเก ตรุณวจฺฉเก ¶ . กิสาพลเกติ อปฺปมํสโลหิเต มนฺทถาเม. ตาวเทว ชาตโกติ ตํทิวเส ชาตโก. มาตุโครวเกน วุยฺหมาโนติ มาตา ปุรโต ปุรโต หุํหุนฺติ โครวํ กตฺวา สฺํ ททมานา อุเรน อุทกํ ฉินฺทมานา คจฺฉติ, วจฺฉโก ตาย โครวสฺาย เธนุยา วา อุเรน ฉินฺโนทเกน คจฺฉมาโน ‘‘มาตุโครวเกน วุยฺหมาโน’’ติ วุจฺจติ.
๓๕๒. มารสฺส ¶ โสตํ เฉตฺวาติ อรหตฺตมคฺเคน มารสฺส ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา. ปารํ คตาติ มหาอุสภา นทีปารํ วิย สํสารปารํ นิพฺพานํ คตา. ปารํ อคมํสูติ มหาอุสภานํ ปารงฺคตกฺขเณ คงฺคาย โสตสฺส ตโย โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ิตา มหาอุสเภ ปารํ ปตฺเต ทิสฺวา เตสํ คตมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา ปารํ อคมํสุ. ปารํ คมิสฺสนฺตีติ จตุมคฺควชฺฌานํ กิเลสานํ ตโย ¶ โกฏฺาเส เขเปตฺวา ิตา อิทานิ อรหตฺตมคฺเคน อวเสสํ ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา พลวคาโว วิย นทีปารํ สํสารปารํ นิพฺพานํ คมิสฺสนฺตีติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธมฺมานุสาริโน, สทฺธานุสาริโนติ อิเม ทฺเว ปมมคฺคสมงฺคิโน.
ชานตาติ สพฺพธมฺเม ชานนฺเตน พุทฺเธน. สุปฺปกาสิโตติ สุกถิโต. วิวฏนฺติ วิวริตํ. อมตทฺวารนฺติ อริยมคฺโค. นิพฺพานปตฺติยาติ ตทตฺถาย วิวฏํ. วินฬีกตนฺติ วิคตมานนฬํ กตํ. เขมํ ปตฺเถถาติ กตฺตุกมฺยตาฉนฺเทน อรหตฺตํ ปตฺเถถ, กตฺตุกามา นิพฺพตฺเตตุกามา โหถาติ อตฺโถ. ‘‘ปตฺต’ตฺถา’’ติปิ ปาโ. เอวรูปํ สตฺถารํ ลภิตฺวา ตุมฺเห ปตฺตาเยว นามาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ภควา ปน ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนา
๓๕๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬสจฺจกสุตฺตํ. ตตฺถ มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ¶ ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ. สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโตกตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏิ เวทิตพฺพา.
สจฺจโก ¶ นิคณฺปุตฺโตติ ปุพฺเพ กิร เอโก นิคณฺโ จ นิคณฺี จ ปฺจ ปฺจ วาทสตานิ อุคฺคเหตฺวา, วาทํ อาโรเปสฺสามาติ ชมฺพุทีเป วิจรนฺตา เวสาลิยํ สมาคตา. ลิจฺฉวิราชาโน ทิสฺวา, – ‘‘ตฺวํ โก, ตฺวํ กา’’ติ ปุจฺฉึสุ. นิคณฺโ – ‘‘อหํ วาทํ อาโรเปสฺสามีติ ชมฺพุทีเป วิจรามี’’ติ อาห. นิคณฺีปิ ตถา อาห. ลิจฺฉวิโน, ‘‘อิเธว อฺมฺํ วาทํ อาโรเปถา’’ติ อาหํสุ. นิคณฺี อตฺตนา อุคฺคหิตานิ ปฺจวาทสตานิ ปุจฺฉิ, นิคณฺโ กเถสิ. นิคณฺเน ปุจฺฉิเตปิ นิคณฺี กเถสิเยว. เอกสฺสปิ น ชโย, น ปราชโย, อุโภ สมสมาว อเหสุํ. ลิจฺฉวิโน, – ‘‘ตุมฺเห อุโภปิ สมสมา อาหิณฺฑิตฺวา กึ กริสฺสถ, อิเธว วสถา’’ติ เคหํ ทตฺวา พลึ ปฏฺเปสุํ. เตสํ สํวาสมนฺวาย จตสฺโส ธีตโร ชาตา, – เอกา สจฺจา นาม, เอกา โลลา นาม, เอกา ปฏาจารา นาม, เอกา อาจารวตี นาม. ตาปิ ปณฺฑิตาว อเหสุํ, มาตาปิตูหิ อุคฺคหิตานิ ปฺจ ปฺจ วาทสตานิ อุคฺคเหสุํ. ตา วยปตฺตา มาตาปิตโร อโวจุํ – ‘‘อมฺหากํ อมฺมา กุเล ทาริกา นาม หิรฺสุวณฺณาทีนิ ทตฺวา กุลฆรํ เปสิตปุพฺพา นาม นตฺถิ. โย ปน อคาริโก ตาสํ วาทํ มทฺทิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ปาทปริจาริกา โหนฺติ. โย ปพฺพชิโต ตาสํ มทฺทิตุํ สกฺโกติ, ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชนฺติ. ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ? มยมฺปิ เอวเมว กริสฺสามาติ. จตสฺโสปิ ปริพฺพาชิกเวสํ คเหตฺวา, ‘‘อยํ ชมฺพุทีโป นาม ชมฺพุยา ปฺายตี’’ติ ชมฺพุสาขํ คเหตฺวา จาริกํ ปกฺกมึสุ. ยํ คามํ ปาปุณนฺติ, ตสฺส ทฺวาเร ปํสุปฺุเช ¶ วา วาลิกปฺุเช วา ชมฺพุธชํ เปตฺวา, – ‘‘โย วาทํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โส อิมํ มทฺทตู’’ติ วตฺวา คามํ ปวิสนฺติ. เอวํ คาเมน คามํ วิจรนฺติโย สาวตฺถึ ปาปุณิตฺวา ตเถว คามทฺวาเร ชมฺพุธชํ ¶ เปตฺวา สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อาโรเจตฺวา อนฺโตนครํ ปวิฏฺา.
เตน สมเยน ภควา สาวตฺถึ นิสฺสาย เชตวเน วิหรติ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต คิลาเน ปุจฺฉนฺโต อชคฺคิตฏฺานํ ชคฺคนฺโต อตฺตโน กิจฺจมหนฺตตาย อฺเหิ ภิกฺขูหิ ทิวาตรํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต คามทฺวาเร ชมฺพุธชํ ทิสฺวา, – ‘‘กิมิท’’นฺติ ทารเก ปุจฺฉิ. เต ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เตน หิ มทฺทถาติ. น สกฺโกม, ภนฺเต, ภายามาติ. ‘‘กุมารา ¶ มา ภายถ, ‘เกน อมฺหากํ ชมฺพุธโช มทฺทาปิโต’ติ วุตฺเต, พุทฺธสาวเกน สาริปุตฺตตฺเถเรน มทฺทาปิโต, วาทํ อาโรเปตุกามา เชตวเน เถรสฺส สนฺติกํ คจฺฉถาติ วเทยฺยาถา’’ติ อาห. เต เถรสฺส วจนํ สุตฺวา ชมฺพุธชํ มทฺทิตฺวา ฉฑฺเฑสุํ. เถโร ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ คโต. ปริพฺพาชิกาปิ คามโต นิกฺขมิตฺวา, ‘‘อมฺหากํ ธโช เกน มทฺทาปิโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ทารกา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ปริพฺพาชิกา ปุน คามํ ปวิสิตฺวา เอเกกํ วีถึ คเหตฺวา, – ‘‘พุทฺธสาวโก กิร สาริปุตฺโต นาม อมฺเหหิ สทฺธึ วาทํ กริสฺสติ, โสตุกามา นิกฺขมถา’’ติ อาโรเจสุํ. มหาชโน นิกฺขมิ, เตน สทฺธึ ปริพฺพาชิกา เชตวนํ อคมึสุ.
เถโร – ‘‘อมฺหากํ วสนฏฺาเน มาตุคามสฺส อาคมนํ นาม อผาสุก’’นฺติ วิหารมชฺเฌ นิสีทิ. ปริพฺพาชิกาโย คนฺตฺวา เถรํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ธโช มทฺทาปิโต’’ติ? อาม, มยา มทฺทาปิโตติ. มยํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ วาทํ กริสฺสามาติ. สาธุ กโรถ, กสฺส ปุจฺฉา กสฺส วิสฺสชฺชนํ โหตูติ? ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา, ตุมฺเห ปน มาตุคามา นาม ปมํ ปุจฺฉถาติ อาห. ตา จตสฺโสปิ จตูสุ ทิสาสุ ตฺวา มาตาปิตูนํ สนฺติเก อุคฺคหิตํ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉึสุ. เถโร ขคฺเคน กุมุทนาฬํ ฉินฺทนฺโต วิย ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ นิชฺชฏํ นิคฺคณฺึ กตฺวา กเถสิ, กเถตฺวา ปุน ปุจฺฉถาติ อาห. เอตฺตกเมว, ภนฺเต, มยํ ชานามาติ. เถโร อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉิตํ มยา กถิตํ, อหํ ปน เอกํ เยว ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามิ, ตํ ตุมฺเห กเถถา’’ติ. ตา เถรสฺส วิสยํ ทิสฺวา, ‘‘ปุจฺฉถ, ภนฺเต, พฺยากริสฺสามา’’ติ วตฺตุํ นาสกฺขึสุ. ‘‘วท, ภนฺเต, ชานมานา ¶ พฺยากริสฺสามา’’ติ ปุน อาหํสุ.
เถโร ¶ อยํ ปน กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปมํ สิกฺขาเปตพฺพปฺโหติ วตฺวา, – ‘‘เอกํ นาม กิ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา เนว อนฺตํ, น โกฏึ อทฺทสํสุ. เถโร กเถถาติ อาห. น ปสฺสาม, ภนฺเตติ. ตุมฺเหหิ วาทสหสฺสํ ปุจฺฉิตํ มยา กถิตํ, มยฺหํ ตุมฺเห เอกํ ปฺหมฺปิ กเถตุํ น สกฺโกถ, เอวํ สนฺเต กสฺส ชโย กสฺส ปราชโยติ? ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ชโย, อมฺหากํ ปราชโยติ. อิทานิ กึ กริสฺสถาติ? ตา มาตาปิตูหิ วุตฺตวจนํ อาโรเจตฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ตุมฺเห มาตุคามา นาม อมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพชิตุํ น วฏฺฏติ, อมฺหากํ ปน สาสนํ คเหตฺวา ¶ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชถาติ. ตา สาธูติ เถรสฺส สาสนํ คเหตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตา จ ปน อปฺปมตฺตา อาตาปินิโย หุตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
อยํ สจฺจโก ตาสํ จตุนฺนมฺปิ กนิฏฺภาติโก. ตาหิ จตูหิปิ อุตฺตริตรปฺโ, มาตาปิตูนมฺปิ สนฺติกา วาทสหสฺสํ, ตโต พหุตรฺจ พาหิรสมยํ อุคฺคเหตฺวา กตฺถจิ อคนฺตฺวา ราชทารเก สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺโต ตตฺเถว เวสาลิยํ วสติ, ปฺาย อติปูริตตฺตา กุจฺฉิ เม ภิชฺเชยฺยาติ ภีโต อยปฏฺเฏน กุจฺฉึ ปริกฺขิปิตฺวา จรติ, อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต’’ติ.
ภสฺสปฺปวาทโกติ ภสฺสํ วุจฺจติ กถามคฺโค, ตํ ปวทติ กเถตีติ ภสฺสปฺปวาทโก. ปณฺฑิตวาโทติ อหํ ปณฺฑิโตติ เอวํ วาโท. สาธุสมฺมโต พหุชนสฺสาติ ยํ ยํ นกฺขตฺตจาเรน อาทิสติ, ตํ ตํ เยภุยฺเยน ตเถว โหติ, ตสฺมา อยํ สาธุลทฺธิโก ภทฺทโกติ เอวํ สมฺมโต มหาชนสฺส. วาเทน วาทํ สมารทฺโธติ กถามคฺเคน โทสํ อาโรปิโต. อายสฺมา อสฺสชีติ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อาจริโย อสฺสชิตฺเถโร. ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโนติ ตโต ตโต ลิจฺฉวิราชเคหโต ตํ ตํ เคหํ คมนตฺถาย อนุจงฺกมมาโน. เยนายสฺมา อสฺสชิ เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? สมยชานนตฺถํ.
เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ ‘สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ อาหิณฺฑามิ, ‘สมยํ ปนสฺส น ชานามี’ติ น อาโรเปสึ. ปรสฺส หิ สมยํ ¶ ตฺวา อาโรปิโต วาโท สฺวาโรปิโต นาม โหติ. อยํ ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก ปฺายติ อสฺสชิตฺเถโร ¶ ; โส อตฺตโน สตฺถุ สมเย โกวิโท, เอตาหํ ปุจฺฉิตฺวา กถํ ปติฏฺาเปตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ. ตสฺมา อุปสงฺกมิ. วิเนตีติ กถํ วิเนติ, กถํ สิกฺขาเปตีติ ปุจฺฉติ. เถโร ปน ยสฺมา ทุกฺขนฺติ วุตฺเต อุปารมฺภสฺส โอกาโส โหติ, มคฺคผลานิปิ ปริยาเยน ทุกฺขนฺติ อาคตานิ, อยฺจ ทุกฺขนฺติ วุตฺเต เถรํ ปุจฺเฉยฺย – ‘‘โภ อสฺสชิ, กิมตฺถํ ตุมฺเห ปพฺพชิตา’’ติ. ตโต ‘‘มคฺคผลตฺถายา’’ติ วุตฺเต, – ‘‘นยิทํ, โภ อสฺสชิ, ตุมฺหากํ สาสนํ นาม, มหาอาฆาตนํ นาเมตํ, นิรยุสฺสโท นาเมส, นตฺถิ ตุมฺหากํ สุขาสา, อุฏฺายุฏฺาย ทุกฺขเมว ชิราเปนฺตา อาหิณฺฑถา’’ติ โทสํ อาโรเปยฺย, ตสฺมา ¶ ปรวาทิสฺส ปริยายกถํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยถา เอส อปฺปติฏฺโ โหติ, เอวมสฺส นิปฺปริยายกถํ กเถสฺสามีติ จินฺเตตฺวา, ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจ’’นฺติ อิมํ อนิจฺจานตฺตวเสเนว กถํ กเถติ. ทุสฺสุตนฺติ โสตุํ อยุตฺตํ.
๓๕๔. สนฺถาคาเรติ ราชกุลานํ อตฺถานุสาสนสนฺถาคารสาลายํ. เยน เต ลิจฺฉวี เตนุปสงฺกมีติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ ปุพฺเพ สมยํ อชานนภาเวน สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ น อาโรเปสึ, อิทานิ ปนสฺส มหาสาวเกน กถิตํ สมยํ ชานามิ, อิเม จ มม อนฺเตวาสิกา ปฺจสตา ลิจฺฉวี สนฺนิปติตา. เอเตหิ สทฺธึ คนฺตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ตสฺมา อุปสงฺกมิ. าตฺตเรนาติ าเตสุ อภิฺาเตสุ ปฺจวคฺคิยตฺเถเรสุ อฺตเรน. ปติฏฺิตนฺติ ยถา เตน ปติฏฺิตํ. สเจ เอวํ ปติฏฺิสฺสติ, อถ ปน อฺเทว วกฺขติ, ตตฺร มยา กึ สกฺกา กาตุนฺติ อิทาเนว ปิฏฺึ ปริวตฺเตนฺโต อาห. อากฑฺเฒยฺยาติ อตฺตโน อภิมุขํ กฑฺเฒยฺย. ปริกฑฺเฒยฺยาติ ปุรโต ปฏิปณาเมยฺย. สมฺปริกฑฺเฒยฺยาติ กาเลน อากฑฺเฒยฺย, กาเลน ปริกฑฺเฒยฺย. โสณฺฑิกากิลฺชนฺติ สุราฆเร ปิฏฺกิลฺชํ. โสณฺฑิกาธุตฺโตติ สุราธุตฺโต. วาลํ กณฺเณ คเหตฺวาติ สุราปริสฺสาวนตฺถวิกํ โธวิตุกาโม ¶ กสฏนิธุนนตฺถํ อุโภสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา. โอธุเนยฺยาติ อโธมุขํ กตฺวา ธุเนยฺย. นิทฺธุเนยฺยาติ อุทฺธํมุขํ กตฺวา ธุเนยฺย. นิปฺโผเฏยฺยาติ ปุนปฺปุนํ ปปฺโผเฏยฺย. สาณโธวิกํ นามาติ เอตฺถ มนุสฺสา สาณสาฏกกรณตฺถํ สาณวาเก คเหตฺวา มุฏฺึ มุฏฺึ พนฺธิตฺวา อุทเก ปกฺขิปนฺติ. เต ตติยทิวเส สุฏฺุ กิลินฺนา โหนฺติ. อถ มนุสฺสา อมฺพิลยาคุสุราทีนิ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา สาณมุฏฺึ คเหตฺวา, ทกฺขิณโต วามโต สมฺมุขา จาติ ตีสุ ผลเกสุ สกึ ทกฺขิณผลเก, สกึ วามผลเก, สกึ สมฺมุขผลเก ปหรนฺตา อมฺพิลยาคุสุราทีนิ ภฺุชนฺตา ปิวนฺตา ขาทนฺตา ¶ โธวนฺติ. มหนฺตา กีฬา โหติ. รฺโ นาโค ตํ กีฬํ ทิสฺวา คมฺภีรํ อุทกํ อนุปวิสิตฺวา โสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา สกึ กุมฺเภ สกึ ปิฏฺิยํ สกึ อุโภสุ ปสฺเสสุ สกึ อนฺตรสตฺถิยํ ปกฺขิปนฺโต กีฬิตฺถ. ตทุปาทาย ตํ กีฬิตชาตํ สาณโธวิกํ นาม วุจฺจติ ¶ , ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สาณโธวิกํ นาม กีฬิตชาตํ กีฬตี’’ติ. กึ โส ภวมาโน สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต, โย ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสตีติ โย สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสติ, โส กึ ภวมาโน กึ ยกฺโข ภวมาโน อุทาหุ อินฺโท, อุทาหุ พฺรหฺมา ภวมาโน ภควโต วาทํ อาโรเปสฺสติ? น หิ สกฺกา ปกติมนุสฺเสน ภควโต วาทํ อาโรเปตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
๓๕๕. เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย สจฺจโก อารามํ ปาวิสิ, ตสฺมึ. กิสฺมึ ปน สมเย ปาวิสีติ? มหามชฺฌนฺหิกสมเย. กสฺมา ปน ตสฺมึ สมเย จงฺกมนฺตีติ? ปณีตโภชนปจฺจยสฺส ถินมิทฺธสฺส วิโนทนตฺถํ. ทิวาปธานิกา วา เต. ตาทิสานฺหิ ปจฺฉาภตฺตํ จงฺกมิตฺวา นฺหตฺวา สรีรํ อุตุํ คณฺหาเปตฺวา นิสชฺช สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. เยน เต ภิกฺขูติ โส กิร กุหึ สมโณ โคตโมติ ปริเวณโต ปริเวณํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ปวิสิสฺสามีติ วิโลเกนฺโต อรฺเ หตฺถี วิย จงฺกเม จงฺกมมาเน ปํสุกูลิกภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ สนฺธาย, ‘‘เยน เต ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ. กหํ ¶ นุ โข, โภติ กตรสฺมึ อาวาเส วา มณฺฑเป วาติ อตฺโถ. เอส, อคฺคิเวสฺสน, ภควาติ ตทา กิร ภควา ปจฺจูสกาเล มหากรุณา สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ สพฺพฺุตฺาณชาลํ ปตฺถริตฺวา โพธเนยฺยสตฺตํ โอโลเกนฺโต อทฺทส – ‘‘สฺเว สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต มหตึ ลิจฺฉวิปริสํ คเหตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุกาโม อาคมิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต มหาปริสาย นิสีทิตุํ สุขฏฺาเน นิสีทิสฺสามีติ คนฺธกุฏึ อปวิสิตฺวา มหาวเน อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. เต ภิกฺขู ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อาคตา, สจฺจเกน ปุฏฺา ทูเร นิสินฺนํ ภควนฺตํ ทสฺเสนฺตา, ‘‘เอส อคฺคิเวสฺสน ภควา’’ติ อาหํสุ.
มหติยา ลิจฺฉวิปริสาย สทฺธินฺติ เหฏฺา ปฺจมตฺเตหิ ลิจฺฉวิสเตหิ ปริวุโตติ วุตฺตํ. เต ¶ เอตสฺส อนฺเตวาสิกาเยว, อนฺโตเวสาลิยํ ปน สจฺจโก ปฺจมตฺตานิ ลิจฺฉวิราชสตานิ คเหตฺวา, ‘‘วาทตฺถิโก ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺโต’’ติ สุตฺวา ทฺวินฺนํ ปณฺฑิตานํ กถาสลฺลาปํ โสสฺสามาติ ¶ เยภุยฺเยน มนุสฺสา นิกฺขนฺตา, เอวํ สา ปริสา มหตี อปริจฺฉินฺนคณนา อโหสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ, ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ, เตสํ, ‘กึ อฺชลิมตฺตกรเณนปิ วนฺทิตํ โหตี’ติ วกฺขาม. สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ, ‘กสฺมา ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ, ‘กึ สีเสน ภูมึ ปหรนฺเตเนว วนฺทิตํ โหติ, นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนา เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ. นาม โคตฺตนฺติ, โภ โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม มิตฺโต นาม อิธ อาคโตติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. โภ โคตม, อหํ วาสิฏฺโ นาม กจฺจาโน นาม อิธ อาคโตติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณกุลปุตฺตา ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามาติ เอวํ อกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา, ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเป กโรนฺโต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ ¶ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจนฺตา ตุณฺหี นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.
๓๕๖. กิฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ โอกาสํ กิฺจิ การณํ, อถสฺส ภควา ปฺหปุจฺฉเน อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อาห – ปุจฺฉ, อคฺคิเวสฺสน, ยทากงฺขสีติ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ปุจฺฉ ยทิ อากงฺขสิ, น เม ปฺหวิสฺสชฺชเน ภาโร อตฺถิ’’. อถ วา ‘‘ปุจฺฉ ยํ อากงฺขสิ, สพฺพํ เต วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ อสาธารณํ ปจฺเจกพุทฺธอคฺคสาวมหาสาวเกหิ. เต หิ ยทากงฺขสีติ น วทนฺติ, สุตฺวา เวทิสฺสามาติ วทนฺติ. พุทฺธา ปน ‘‘ปุจฺฉาวุโส, ยทากงฺขสี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗) วา, ‘‘ปุจฺฉ, มหาราช, ยทากงฺขสี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๒) วา,
‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;
ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ อิติ. (ที. นิ. ๒.๓๕๖) วา,
‘‘เตน ¶ หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ (ม. นิ. ๓.๘๕) วา,
‘‘พาวริสฺส ¶ จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;
กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๖) วา,
‘‘ปุจฺฉ มํ สภิย ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;
ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ อิติ. (สุ. นิ. ๕๑๗) วา –
เตสํ เตสํ ยกฺขนรินฺทเทวสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกานํ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรนฺติ. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ ภควา พุทฺธภูมึ ปตฺวา เอตํ ปวารณํ ปวาเรยฺย. โย โพธิสตฺตภูมิยํ ปเทสาเณปิ ิโต
‘‘โกณฺฑฺ ปฺหานิ วิยากโรหิ,
ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;
โกณฺฑฺ เอโส มนุเชสุ ธมฺโม,
ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๐) –
เอวํ ¶ สกฺกาทีนํ อตฺถาย อิสีหิ ยาจิโต
‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต,
ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;
อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ,
ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๑);
เอวํ ¶ สรภงฺคกาเล, สมฺภวชาตเก จ สกลชมฺพุทีปํ ติกฺขตฺตุํ วิจริตฺวา ปฺหานํ อนฺตกรํ อทิสฺวา สุจิรเตน พฺราหฺมเณน ปฺหํ ปุฏฺโ โอกาเส การิเต, ชาติยา สตฺตวสฺโส รถิกายํ ปํสุํ กีฬนฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อนฺตรวีถิยํ นิสินฺโนว –
‘‘ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถา;
ราชา จ โข ตํ ชานาติ, ยทิ กาหติ วา น วา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๑๗๒) –
สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ.
เอวํ ภควตา สพฺพฺุปวารณาย ปวาริตาย อตฺตมโน ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘กถํ ปน, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห.
อถสฺส ¶ ภควา, ‘‘ปสฺสถ, โภ, อฺํ สาวเกน กถิตํ, อฺํ สตฺถา กเถติ, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว วุตฺตํ, ‘สเจ ตถา ปติฏฺิสฺสติ, ยถาสฺส สาวเกน ปติฏฺิตํ, เอวาหํ วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ. อยํ ปน อฺเมว กเถติ, ตตฺถ กึ มยา สกฺกา กาตุ’’นฺติ เอวํ นิคณฺสฺส วจโนกาโส มา โหตูติ เหฏฺา อสฺสชิตฺเถเรน กถิตนิยาเมเนว กเถนฺโต, เอวํ โข อหํ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. อุปมา มํ, โภ โคตม, ปฏิภาตีติ, โภ โคตม, มยฺหํ เอกา อุปมา อุปฏฺาติ, อาหรามิ ตํ อุปมนฺติ วทติ. ปฏิภาตุ ตํ, อคฺคิเวสฺสนาติ อุปฏฺาตุ เต, อคฺคิเวสฺสน, อาหร ตํ อุปมํ วิสตฺโถติ ภควา อโวจ. พลกรณียาติ พาหุพเลน กตฺตพฺพา กสิวาณิชฺชาทิกา กมฺมนฺตา. รูปตฺตายํ ปุริสปุคฺคโลติ รูปํ อตฺตา อสฺสาติ รูปตฺตา, รูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา ิตปุคฺคลํ ทีเปติ. รูเป ปติฏฺายาติ ตสฺมึ อตฺตาติ คหิตรูเป ปติฏฺหิตฺวา. ปฺุํ วา อปฺุํ วา ปสวตีติ กุสลํ วา อกุสลํ วา ปฏิลภติ. เวทนตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมินา กึ ทีเปติ? อิเม ปฺจกฺขนฺธา อิเมสํ สตฺตานํ ปถวี วิย ปติฏฺา, เต อิเมสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปติฏฺาย กุสลากุสลกมฺมํ นาม อายูหนฺติ. ตุมฺเห เอวรูปํ วิชฺชมานเมว อตฺตานํ ปฏิเสเธนฺโต ปฺจกฺขนฺธา ¶ อนตฺตาติ ทีเปถาติ อติวิย สการณํ กตฺวา อุปมํ อาหริ. อิมินา จ นิคณฺเน อาหฏโอปมฺมํ นิยตเมว ¶ , สพฺพฺุพุทฺธโต อฺโ ตสฺส กถํ ฉินฺทิตฺวา วาเท โทสํ ทาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ทุวิธา หิ ปุคฺคลา พุทฺธเวเนยฺยา จ สาวกเวเนยฺยา จ. สาวกเวเนยฺเย สาวกาปิ วิเนนฺติ พุทฺธาปิ. พุทฺธเวเนยฺเย ปน สาวกา วิเนตุํ น สกฺโกนฺติ, พุทฺธาว วิเนนฺติ. อยมฺปิ นิคณฺโ พุทฺธเวเนยฺโย, ตสฺมา เอตสฺส วาทํ ฉินฺทิตฺวา อฺโ โทสํ ทาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เตนสฺส ภควา สยเมว วาเท โทสทสฺสนตฺถํ นนุ ตฺวํ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห.
อถ นิคณฺโ จินฺเตสิ – ‘‘อติวิย สมโณ โคตโม มม วาทํ ปติฏฺเปติ, สเจ อุปริ โกจิ โทโส ภวิสฺสติ, มมํ เอกกํเยว นิคฺคณฺหิสฺสติ. หนฺทาหํ อิมํ วาทํ มหาชนสฺสาปิ มตฺถเก ปกฺขิปามี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห – อหมฺปิ, โภ โคตม, เอวํ วทามิ รูปํ เม อตฺตา…เป… วิฺาณํ เม อตฺตาติ, อยฺจ มหตี ชนตาติ. ภควา ปน นิคณฺโต สตคุเณนปิ ¶ สหสฺสคุเณนปิ สตสหสฺสคุเณนปิ วาทีวรตโร, ตสฺมา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ นิคณฺโ อตฺตานํ โมเจตฺวา มหาชนสฺส มตฺถเก วาทํ ปกฺขิปติ, นาสฺส อตฺตานํ โมเจตุํ ทสฺสามิ, มหาชนโต นิวตฺเตตฺวา เอกกํเยว นํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ. อถ นํ กิฺหิ เต, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – นายํ ชนตา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคตา, ตฺวํเยว สกลํ เวสาลึ สํวฏฺฏิตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคโต, ตสฺมา ตฺวํ สกเมว วาทํ นิเวเหิ, มา มหาชนสฺส มตฺถเก ปกฺขิปสีติ. โส ปฏิชานนฺโต อหฺหิ, โภ โคตมาติอาทิมาห.
๓๕๗. อิติ ภควา นิคณฺสฺส วาทํ ปติฏฺเปตฺวา, เตน หิ, อคฺคิเวสฺสนาติ ปุจฺฉํ อารภิ. ตตฺถ เตน หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา ตฺวํ ปฺจกฺขนฺเธ อตฺตโต ปฏิชานาสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สกสฺมึ วิชิเตติ อตฺตโน รฏฺเ. ฆาเตตายํ วา ฆาเตตุนฺติ ฆาตารหํ ฆาเตตพฺพยุตฺตกํ ฆาเตตุํ ¶ . ชาเปตายํ วา ชาเปตุนฺติ ธนชานิรหํ ชาเปตพฺพยุตฺตํ ชาเปตุํ ชิณฺณธนํ กาตุํ. ปพฺพาเชตายํ วา ปพฺพาเชตุนฺติ สกรฏฺโต ปพฺพาชนารหํ ปพฺพาเชตุํ, นีหริตุํ. วตฺติตฺุจ อรหตีติ วตฺตติ เจว วตฺติตฺุจ อรหติ. วตฺติตุํ ยุตฺโตติ ทีเปติ. อิติ นิคณฺโ อตฺตโน วาทเภทนตฺถํ อาหฏการณเมว อตฺตโน มารณตฺถาย อาวุธํ ติขิณํ กโรนฺโต วิย วิเสเสตฺวา ทีเปติ, ยถา ตํ พาโล. เอวํ เม รูปํ โหตูติ มม รูปํ เอวํวิธํ โหตุ, ปาสาทิกํ อภิรูปํ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สุวณฺณโตรณํ วิย สุสชฺชิตจิตฺตปโฏ วิย จ มนาปทสฺสนนฺติ. เอวํ เม รูปํ ¶ มา อโหสีติ มม รูปํ เอวํวิธํ มา โหตุ, ทุพฺพณฺณํ ทุสฺสณฺิตํ วลิตปลิตํ ติลกสมากิณฺณนฺติ.
ตุณฺหี อโหสีติ นิคณฺโ อิมสฺมึ าเน วิรทฺธภาวํ ตฺวา, ‘‘สมโณ โคตโม มม วาทํ ภินฺทนตฺถาย การณํ อาหริ, อหํ พาลตาย ตเมว วิเสเสตฺวา ทีเปสึ, อิทานิ นฏฺโมฺหิ, สเจ วตฺตตีติ วกฺขามิ, อิเม ราชาโน อุฏฺหิตฺวา, ‘อคฺคิเวสฺสน, ตฺวํ มม รูเป วโส วตฺตตีติ วทสิ, ยทิ เต รูเป วโส วตฺตติ, กสฺมา ตฺวํ ยถา อิเม ลิจฺฉวิราชาโน ¶ ตาวตึสเทวสทิเสหิ อตฺตภาเวหิ วิโรจนฺติ อภิรูปา ปาสาทิกา, เอวํ น วิโรจสี’ติ. สเจ น วตฺตตีติ วกฺขามิ, สมโณ โคตโม อุฏฺหิตฺวา, ‘อคฺคิเวสฺสน, ตฺวํ ปุพฺเพ วตฺตติ เม รูปสฺมึ วโสติ วตฺวา อิทานิ ปฏิกฺขิปสี’ติ วาทํ อาโรเปสฺสติ. อิติ วตฺตตีติ วุตฺเตปิ เอโก โทโส, น วตฺตตีติ วุตฺเตปิ เอโก โทโส’’ติ ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ ภควา ปุจฺฉิ, ทุติยมฺปิ ตุณฺหี อโหสิ. ยสฺมา ปน ยาวตติยํ ภควตา ปุจฺฉิเต อพฺยากโรนฺตสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลติ, พุทฺธา จ นาม สตฺตานํเยว อตฺถาย กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมีนํ ปูริตตฺตา สตฺเตสุ พลวอนุทฺทยา โหนฺติ. ตสฺมา ยาวตติยํ อปุจฺฉิตฺวา อถ โข ภควา สจฺจกํ นิคณฺปุตฺตํ เอตทโวจ – เอตํ ‘‘พฺยากโรหี ทานี’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
ตตฺถ สหธมฺมิกนฺติ สเหตุกํ สการณํ. วชิรํ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วชิรปาณิ. ยกฺโขติ น โย วา โส วา ยกฺโข, สกฺโก เทวราชาติ เวทิตพฺโพ. อาทิตฺตนฺติ ¶ อคฺคิวณฺณํ. สมฺปชฺชลิตนฺติ สุฏฺุ ปชฺชลิตํ. สโชติภูตนฺติ สมนฺตโต โชติภูตํ, เอกคฺคิชาลภูตนฺติ อตฺโถ. ิโต โหตีติ มหนฺตํ สีสํ, กนฺทลมกุลสทิสา ทาา, ภยานกานิ อกฺขินาสาทีนีติ เอวํ วิรูปรูปํ มาเปตฺวา ิโต. กสฺมา ปเนส อาคโตติ? ทิฏฺิวิสฺสชฺชาปนตฺถํ. อปิจ, ‘‘อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุ’’นฺติ เอวํ ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกภาวํ อาปนฺเน ภควติ สกฺโก มหาพฺรหฺมุนา สทฺธึ อาคนฺตฺวา, ‘‘ภควา ธมฺมํ เทเสถ, ตุมฺหากํ อาณาย อวตฺตมาเน มยํ วตฺตาเปสฺสาม, ตุมฺหากํ ธมฺมจกฺกํ โหตุ, อมฺหากํ อาณาจกฺก’’นฺติ ปฏิฺมกาสิ. ตสฺมา ‘‘อชฺช สจฺจกํ ตาเสตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺชาเปสฺสามี’’ติ อาคโต.
ภควา ¶ เจว ปสฺสติ, สจฺจโก จ นิคณฺปุตฺโตติ ยทิ หิ ตํ อฺเปิ ปสฺเสยฺยุํ. ตํ การณํ อครุ อสฺส, ‘‘สมโณ โคตโม สจฺจกํ อตฺตโน วาเท อโนตรนฺตํ ตฺวา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา ทสฺเสสิ, ตโต สจฺจโก ภเยน กเถสี’’ติ วเทยฺยุํ. ตสฺมา ภควา เจว ปสฺสติ สจฺจโก จ. ตสฺส ตํ ทิสฺวาว สกลสรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, อนฺโตกุจฺฉิ วิปริวตฺตมานา มหารวํ รวิ. โส ‘‘อฺเปิ นุ โข ปสฺสนฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต ¶ กสฺสจิ โลมหํสมตฺตมฺปิ น อทฺทส. ตโต – ‘‘อิทํ ภยํ มเมว อุปฺปนฺนํ. สจาหํ ยกฺโขติ วกฺขามิ, ‘กึ ตุยฺหเมว อกฺขีนิ อตฺถิ, ตฺวเมว ยกฺขํ ปสฺสสิ, ปมํ ยกฺขํ อทิสฺวา สมเณน โคตเมน วาทสงฺฆาเฏ ขิตฺโตว ยกฺขํ ปสฺสสี’ติ วเทยฺยุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา – ‘‘น ทานิ เม อิธ อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, อฺตฺร สมณา โคตมา’’ติ มฺมาโน, อถ โข สจฺจโก นิคณฺปุตฺโต…เป… ภควนฺตํ เอตทโวจ. ตาณํ คเวสีติ ตาณนฺติ คเวสมาโน. เลณํ คเวสีติ เลณนฺติ คเวสมาโน. สรณํ คเวสีติ สรณนฺติ คเวสมาโน. เอตฺถ จ ตายติ รกฺขตีติ ตาณํ. นิลียนฺติ เอตฺถาติ เลณํ. สรตีติ สรณํ, ภยํ หึสติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ.
๓๕๘. มนสิ กริตฺวาติ มนมฺหิ กตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปธาเรตฺวา. เอวํ เม เวทนา โหตูติ กุสลาว โหตุ, สุขาว โหตุ. เอวํ เม สฺา โหตูติ กุสลาว โหตุ, สุขาว โหตุ, โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาว โหตูติ. สงฺขารวิฺาเณสุปิ เอเสว นโย. มา อโหสีติ เอตฺถ ปน วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ ¶ เวทิตพฺโพ. กลฺลํ นูติ ยุตฺตํ นุ. สมนุปสฺสิตุนฺติ ‘‘เอตํ มม เอโสหมสฺมิ เอโส เม อตฺตา’’ติ เอวํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ปสฺสิตุํ. โน หิทํ, โภ โคตมาติ น ยุตฺตเมตํ, โภ โคตม. อิติ ภควา ยถา นาม เฉโก อหิตุณฺฑิโก สปฺปทฏฺวิสํ เตเนว สปฺเปน ปุน ฑํสาเปตฺวา อุพฺพาเหยฺย, เอวํ ตสฺสํเยว ปริสติ สจฺจกํ นิคณฺปุตฺตํ เตเนว มุเขน ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตาติ วทาเปสิ. ทุกฺขํ อลฺลีโนติ อิมํ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ ตณฺหาทิฏฺีหิ อลฺลีโน. อุปคโต อชฺโฌสิโตติปิ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว เวทิตพฺโพ. ทุกฺขํ เอตํ มมาติอาทีสุ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน สมนุปสฺสตีติ อตฺโถ. ปริชาเนยฺยาติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ตีรณปริฺาย ปริโต ชาเนยฺย. ปริกฺเขเปตฺวาติ ขยํ วยํ อนุปฺปาทํ อุปเนตฺวา.
๓๕๙. นวนฺติ ¶ ตรุณํ. อกุกฺกุกชาตนฺติ ปุปฺผคฺคหณกาเล อนฺโต องฺคุฏฺปฺปมาโณ เอโก ฆนทณฺฑโก นิพฺพตฺตติ, เตน วิรหิตนฺติ อตฺโถ. ริตฺโตติ สฺุโ อนฺโตสารวิรหิโต. ริตฺตตฺตาว ตุจฺโฉ. อปรทฺโธติ ปราชิโต. ภาสิตา โข ปน เตติ อิทํ ภควา ตสฺส มุขรภาวํ ¶ ปกาเสตฺวา นิคฺคณฺหนฺโต อาห. โส กิร ปุพฺเพ ปูรณาทโย ฉ สตฺถาโร อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉติ. เต วิสฺสชฺเชตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ เนสํ ปริสมชฺเฌ มหนฺตํ วิปฺปการํ อาโรเปตฺวา อุฏฺาย ชยํ ปเวเทนฺโต คจฺฉติ. โส สมฺมาสมฺพุทฺธมฺปิ ตเถว วิเหเสฺสามีติ สฺาย อุปสงฺกมิตฺวา –
‘‘อมฺโภ โก นาม ยํ รุกฺโข, สินฺนปตฺโต สกณฺฏโก;
ยตฺถ เอกปฺปหาเรน, อุตฺตมงฺคํ วิภิชฺชิต’’นฺติ.
อยํ ขทิรํ อาหจฺจ อสารกรุกฺขปริจิโต มุทุตุณฺฑสกุโณ วิย สพฺพฺุตฺาณสารํ อาหจฺจ าณตุณฺฑเภทํ ปตฺโต สพฺพฺุตฺาณสฺส ถทฺธภาวํ อฺาสิ. ตทสฺส ปริสมชฺเฌ ¶ ปกาเสนฺโต ภาสิตา โข ปน เตติอาทิมาห. นตฺถิ เอตรหีติ อุปาทินฺนกสรีเร เสโท นาม นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ, เอตรหิ ปน นตฺถีติ วทติ. สุวณฺณวณฺณํ กายํ วิวรีติ น สพฺพํ กายํ วิวริ. พุทฺธา นาม คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา ปฏิจฺฉนฺนสรีรา ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺติ. อถ ภควา คลวาฏกสมฺมุขฏฺาเน จีวรํ คเหตฺวา จตุรงฺคุลมตฺตํ โอตาเรสิ. โอตาริตมตฺเต ปน ตสฺมึ สุวณฺณวณฺณา รสฺมิโย ปฺุชปฺุชา หุตฺวา สุวณฺณฆฏโต รตฺตสุวณฺณรสธารา วิย, รตฺตวณฺณวลาหกโต วิชฺชุลตา วิย จ นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณมุรชสทิสํ มหาขนฺธํ อุตฺตมสิรํ ปทกฺขิณํ กุรุมานา อากาเส ปกฺขนฺทึสุ. กสฺมา ปน ภควา เอวมกาสีติ? มหาชนสฺส กงฺขาวิโนทนตฺถํ. มหาชโน หิ สมโณ โคตโม มยฺหํ เสโท นตฺถีติ วทติ, สจฺจกสฺส ตาว นิคณฺปุตฺตสฺส ยนฺตารุฬฺหสฺส วิย เสทา ปคฺฆรนฺติ. สมโณ ปน โคตโม ฆนทุปฏฺฏจีวรํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน, อนฺโต เสทสฺส อตฺถิตา วา นตฺถิตา วา กถํ สกฺกา าตุนฺติ กงฺขํ กเรยฺย, ตสฺส กงฺขาวิโนทนตฺถํ เอวมกาสิ. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชภูโต. ปตฺตกฺขนฺโธติ ปติตกฺขนฺโธ. อปฺปฏิภาโนติ อุตฺตริ อปฺปสฺสนฺโต. นิสีทีติ ปาทงฺคุฏฺเกน ภูมึ กสมาโน นิสีทิ.
๓๖๐. ทุมฺมุโขติ ¶ น วิรูปมุโข, อภิรูโป หิ โส ปาสาทิโก. นามํ ปนสฺส เอตํ. อภพฺโพ ตํ โปกฺขรณึ ปุน โอตริตุนฺติ สพฺเพสํ อฬานํ ¶ ภคฺคตฺตา ปจฺฉินฺนคมโน โอตริตุํ อภพฺโพ, ตตฺเถว กากกุลลาทีนํ ภตฺตํ โหตีติ ทสฺเสติ. วิสูกายิกานีติ ทิฏฺิวิสูกานิ. วิเสวิตานีติ ทิฏฺิสฺจริตานิ. วิปฺผนฺทิตานีติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตานิ. ยทิทํ วาทาธิปฺปาโยติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ; วาทาธิปฺปาโย หุตฺวา วาทํ อาโรเปสฺสามีติ อชฺฌาสเยน อุปสงฺกมิตุํ อภพฺโพ; ธมฺมสฺสวนาย ปน อุปสงฺกเมยฺยาติ ทสฺเสติ. ทุมฺมุขํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ เอตทโวจาติ กสฺมา อโวจ ¶ ? ทุมฺมุขสฺส กิรสฺส อุปมาหรณกาเล เสส ลิจฺฉวิกุมาราปิ จินฺเตสุํ – ‘‘อิมินา นิคณฺเน อมฺหากํ สิปฺปุคฺคหณฏฺาเน จิรํ อวมาโน กโต, อยํ ทานิ อมิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิตุํ กาโล. มยมฺปิ เอเกกํ อุปมํ อาหริตฺวา ปาณิปฺปหาเรน ปติตํ มุคฺคเรน โปเถนฺโต วิย ตถา นํ กริสฺสาม, ยถา น ปุน ปริสมชฺเฌ สีสํ อุกฺขิปิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ, เต โอปมฺมานิ กริตฺวา ทุมฺมุขสฺส กถาปริโยสานํ อาคมยมานา นิสีทึสุ. สจฺจโก เตสํ อธิปฺปายํ ตฺวา, อิเม สพฺเพว คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอฏฺเหิ จลมาเนหิ ิตา; สเจ ปจฺเจกา อุปมา หริตุํ ลภิสฺสนฺติ, ปุน มยา ปริสมชฺเฌ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺกา ภวิสฺสติ, หนฺทาหํ ทุมฺมุขํ อปสาเทตฺวา ยถา อฺสฺส โอกาโส น โหติ, เอวํ กถาวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ตสฺมา เอตทโวจ. ตตฺถ อาคเมหีติ ติฏฺ, มา ปุน ภณาหีติ อตฺโถ.
๓๖๑. ติฏฺเตสา, โภ โคตมาติ, โภ โคตม, เอสา อมฺหากฺเจว อฺเสฺจ ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ วาจา ติฏฺตุ. วิลาปํ วิลปิตํ มฺเติ เอตฺหิ วจนํ วิลปิตํ วิย โหติ, วิปฺปลปิตมตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ติฏฺเตสาติ เอตฺถ กถาติ อาหริตฺวา วตฺตพฺพา. วาจาวิลาปํ วิลปิตํ มฺเติ เอตฺถ ปนิทํ วาจานิจฺฉารณํ วิลปิตมตฺตํ มฺเ โหตีติ อตฺโถ.
อิทานิ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต กิตฺตาวตาติอาทิมาห. ตตฺถ เวสารชฺชปตฺโตติ าณปตฺโต. อปรปฺปจฺจโยติ อปรปฺปตฺติโย. อถสฺส ภควา ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต อิธ, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห, ตํ อุตฺตานตฺถเมว. ยสฺมา ปเนตฺถ ปสฺสตีติ วุตฺตตฺตา เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา. ตสฺมา อุตฺตริ อเสกฺขภูมึ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิสฺส ภควา พฺยากาสิ ¶ . ตตฺถ ¶ ทสฺสนานุตฺตริเยนาติอาทีสุ ทสฺสนานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา. ปฏิปทานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา ปฏิปทา. วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรา วิมุตฺติ. สุทฺธโลกุตฺตรเมว วา คเหตฺวา ทสฺสนานุตฺตริยนฺติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ปฏิปทานุตฺตริยนฺติ เสสานิ มคฺคงฺคานิ. วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ อคฺคผลวิมุตฺติ. ขีณาสวสฺส วา นิพฺพานทสฺสนํ ทสฺสนานุตฺตริยํ ¶ นาม. มคฺคงฺคานิ ปฏิปทานุตฺตริยํ. อคฺคผลํ วิมุตฺตานุตฺตริยนฺติ เวทิตพฺพํ. พุทฺโธ โส ภควาติ โส ภควา สยมฺปิ จตฺตาริ สจฺจานิ พุทฺโธ. โพธายาติ ปเรสมฺปิ จตุสจฺจโพธาย ธมฺมํ เทเสติ. ทนฺโตติอาทีสุ ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน. ทมถายาติ นิพฺพิเสวนตฺถาย. สนฺโตติ สพฺพกิเลสวูปสเมน สนฺโต. สมถายาติ กิเลสวูปสมาย. ติณฺโณติ จตุโรฆติณฺโณ. ตรณายาติ จตุโรฆตรณาย. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปรินิพฺพานายาติ กิเลสปรินิพฺพานตฺถาย.
๓๖๒. ธํสีติ คุณธํสกา. ปคพฺพาติ วาจาปาคพฺพิเยน สมนฺนาคตา. อาสาเทตพฺพนฺติ ฆฏฺเฏตพฺพํ. อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา. นตฺเวว ภวนฺตํ โคตมนฺติ ภวนฺตํ โคตมํ อาสชฺช กสฺสจิ อตฺตโน วาทํ อนุปหตํ สกลํ อาทาย ปกฺกมิตุํ ถาโม นตฺถีติ ทสฺเสติ. น หิ ภควา หตฺถิอาทโย วิย กสฺสจิ ชีวิตนฺตรายํ กโรติ. อยํ ปน นิคณฺโ อิมา ติสฺโส อุปมา น ภควโต อุกฺกํสนตฺถํ อาหริ, อตฺตุกฺกํสนตฺถเมว อาหริ. ยถา หิ ราชา กฺจิ ปจฺจตฺถิกํ ฆาเตตฺวา เอวํ นาม สูโร เอวํ ถามสมฺปนฺโน ปุริโส ภวิสฺสตีติ ปจฺจตฺถิกํ โถเมนฺโตปิ อตฺตานเมว โถเมติ. เอวเมว โสปิ สิยา หิ, โภ โคตม, หตฺถึ ปภินฺนนฺติอาทีหิ ภควนฺตํ อุกฺกํเสนฺโตปิ มยเมว สูรา มยํ ปณฺฑิตา มยํ พหุสฺสุตาเยว เอวํ ปภินฺนหตฺถึ วิย, ชลิตอคฺคิกฺขนฺธํ วิย, ผณกตอาสีวิสํ วิย จ วาทตฺถิกา สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิมฺหาติ อตฺตานํเยว อุกฺกํเสติ. เอวํ อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา ภควนฺตํ นิมนฺตยมาโน อธิวาเสตุ เมติอาทิมาห. ตตฺถ อธิวาเสตูติ สมฺปฏิจฺฉตุ. สฺวาตนายาติ ยํ เม ตุมฺเหสุ การํ กโรโต สฺเว ภวิสฺสติ ปฺฺุจ ปีติปาโมชฺชฺจ, ตทตฺถาย. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ ภควา ¶ กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเรเยว ขนฺตึ ธาเรนฺโต ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสสิ. สจฺจกสฺส อนุคฺคหกรณตฺถํ มนสาว สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๖๓. ยมสฺส ปติรูปํ มฺเยฺยาถาติ เต กิร ลิจฺฉวี ตสฺส ปฺจถาลิปากสตานิ นิจฺจภตฺตํ ¶ อาหรนฺติ ¶ . ตเทว สนฺธาย เอส สฺเว ตุมฺเห ยํ อสฺส สมณสฺส โคตมสฺส ปติรูปํ กปฺปิยนฺติ มฺเยฺยาถ, ตํ อาหเรยฺยาถ; สมณสฺส หิ โคตมสฺส ตุมฺเห ปริจารกา กปฺปิยากปฺปิยํ ยุตฺตายุตฺตํ ชานาถาติ วทติ. ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสูติ อภิหริตพฺพํ ภตฺตํ อภิหรึสุ. ปณีเตนาติ อุตฺตเมน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สนฺตปฺเปตฺวาติ สุฏฺุ ตปฺเปตฺวา, ปริปุณฺณํ สุหิตํ ยาวทตฺถํ กตฺวา. สมฺปวาเรตฺวาติ สุฏฺุ ปวาเรตฺวา, อลํ อลนฺติ หตฺถสฺาย ปฏิกฺขิปาเปตฺวา. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตวนฺตํ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ ปตฺตโต โอนีตปาณึ, อปนีตหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โอนิตฺตปตฺตปาณิ’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ, โอนิตฺตํ นานาภูตํ ปตฺตํ ปาณิโต อสฺสาติ โอนิตฺตปตฺตปาณี. ตํ โอนิตฺตปตฺตปาณึ, หตฺเถ จ ปตฺตฺจ โธวิตฺวา เอกมนฺเต ปตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทีติ ภควนฺตํ เอวํภูตํ ตฺวา เอกสฺมึ โอกาเส นิสีทีติ อตฺโถ. ปฺฺุจาติ ยํ อิมสฺมึ ทาเน ปฺุํ, อายตึ วิปากกฺขนฺธาติ อตฺโถ. ปฺุมหีติ วิปากกฺขนฺธานํเยว ปริวาโร. ตํ ทายกานํ สุขาย โหตูติ ตํ อิเมสํ ลิจฺฉวีนํ สุขตฺถาย โหตุ. อิทํ กิร โส อหํ ปพฺพชิโต นาม, ปพฺพชิเตน จ น ยุตฺตํ อตฺตโน ทานํ นิยฺยาเตตุนฺติ เตสํ นิยฺยาเตนฺโต เอวมาห. อถ ภควา ยสฺมา ลิจฺฉวีหิ สจฺจกสฺส ทินฺนํ, น ภควโต. สจฺจเกน ปน ภควโต ทินฺนํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทีเปนฺโต ยํ โข, อคฺคิเวสฺสนาติอาทิมาห. อิติ ภควา นิคณฺสฺส มเตน วินาเยว อตฺตโน ทินฺนํ ทกฺขิณํ นิคณฺสฺส นิยฺยาเตสิ, สา จสฺส อนาคเต วาสนา ภวิสฺสตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬสจฺจกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนา
๓๖๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาสจฺจกสุตฺตํ. ตตฺถ เอกํ สมยนฺติ จ เตน โข ปน สมเยนาติ จ ปุพฺพณฺหสมยนฺติ จ ตีหิ ปเทหิ เอโกว สมโย วุตฺโต. ภิกฺขูนฺหิ วตฺตปฏิปตฺตึ ¶ กตฺวา มุขํ โธวิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เจติยํ วนฺทิตฺวา กตรํ คามํ ปวิสิสฺสามาติ วิตกฺกมาฬเก ิตกาโล นาม โหติ. ภควา เอวรูเป สมเย รตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปํสุกูลจีวรํ เอกํสํ ปารุปิตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คนฺธกุฏิปมุเข อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย, – ‘‘เอกํ สมยนฺติ จ เตน โข ปน สมเยนาติ จ ปุพฺพณฺหสมย’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปวิสิตุกาโมติ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามีติ เอวํ กตสนฺนิฏฺาโน. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมีติ? วาทาโรปนชฺฌาสเยน. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ปุพฺเพปาหํ อปณฺฑิตตาย สกลํ เวสาลิปริสํ คเหตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปริสมชฺเฌ มงฺกุ ชาโต. อิทานิ ตถา อกตฺวา เอกโกว คนฺตฺวา วาทํ อาโรเปสฺสามิ. ยทิ สมณํ โคตมํ ปราเชตุํ สกฺขิสฺสามิ, อตฺตโน ลทฺธึ ทีเปตฺวา ชยํ กริสฺสามิ. ยทิ สมณสฺส โคตมสฺส ชโย ภวิสฺสติ, อนฺธกาเร นจฺจํ วิย น โกจิ ชานิสฺสตี’’ติ นิทฺทาปฺหํ นาม คเหตฺวา อิมินา วาทชฺฌาสเยน อุปสงฺกมิ.
อนุกมฺปํ อุปาทายาติ สจฺจกสฺส นิคณฺปุตฺตสฺส อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ. เถรสฺส กิรสฺส เอวํ อโหสิ – ‘‘ภควติ มุหุตฺตํ นิสินฺเน พุทฺธทสฺสนํ ธมฺมสฺสวนฺจ ลภิสฺสติ. ตทสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺติสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ปํสุกูลจีวรํ จตุคฺคุณํ ปฺเปตฺวา นิสีทตุ ภควาติ อาห. ‘‘การณํ อานนฺโท วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. ภควนฺตํ เอตทโวจาติ ยํ ปน ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาทาย อาคโต ตํ เปตฺวา ปสฺเสน ตาว ปริหรนฺโต เอตํ สนฺติ, โภ โคตมาติอาทิวจนํ อโวจ.
๓๖๕. ผุสนฺติ หิ เต, โภ โคตมาติ เต สมณพฺราหฺมณา สรีเร อุปฺปนฺนํ สารีริกํ ทุกฺขํ เวทนํ ผุสนฺติ ลภนฺติ, อนุภวนฺตีติ อตฺโถ. อูรุกฺขมฺโภติ ขมฺภกตอูรุภาโว, อูรุถทฺธตาติ ¶ อตฺโถ. วิมฺหยตฺถวเสน ปเนตฺถ ภวิสฺสตีติ อนาคตวจนํ กตํ. กายนฺวยํ โหตีติ กายานุคตํ ¶ โหติ กายสฺส วสวตฺติ. กายภาวนาติ ¶ ปน วิปสฺสนา วุจฺจติ, ตาย จิตฺตวิกฺเขปํ ปาปุณนฺโต นาม นตฺถิ, อิติ นิคณฺโ อสนฺตํ อภูตํ ยํ นตฺถิ, ตเทวาห. จิตฺตภาวนาติปิ สมโถ วุจฺจติ, สมาธิยุตฺตสฺส จ ปุคฺคลสฺส อูรุกฺขมฺภาทโย นาม นตฺถิ, อิติ นิคณฺโ อิทํ อภูตเมว อาห. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ยเถว ‘ภูตปุพฺพนฺติ วตฺวา อูรุกฺขมฺโภปิ นาม ภวิสฺสตี’ติอาทีนิ วทโต อนาคตรูปํ น สเมติ, ตถา อตฺโถปิ น สเมติ, อสนฺตํ อภูตํ ยํ นตฺถิ, ตํ กเถตี’’ติ.
โน กายภาวนนฺติ ปฺจาตปตปฺปนาทึ อตฺตกิลมถานุโยคํ สนฺธายาห. อยฺหิ เตสํ กายภาวนา นาม. กึ ปน โส ทิสฺวา เอวมาห? โส กิร ทิวาทิวสฺส วิหารํ อาคจฺฉติ, ตสฺมึ โข ปน สมเย ภิกฺขู ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ ปฏิสลฺลานํ อุปคจฺฉนฺติ. โส เต ปฏิสลฺลีเน ทิสฺวา จิตฺตภาวนามตฺตํ เอเต อนุยฺุชนฺติ, กายภาวนา ปเนเตสํ นตฺถีติ มฺมาโน เอวมาห.
๓๖๖. อถ นํ ภควา อนุยฺุชนฺโต กินฺติ ปน เต, อคฺคิเวสฺสน, กายภาวนา สุตาติ อาห. โส ตํ วิตฺถาเรนฺโต เสยฺยถิทํ, นนฺโท วจฺโฉติอาทิมาห. ตตฺถ นนฺโทติ ตสฺส นามํ. วจฺโฉติ โคตฺตํ. กิโสติ นามํ. สํกิจฺโจติ โคตฺตํ. มกฺขลิโคสาโล เหฏฺา อาคโตว. เอเตติ เอเต ตโย ชนา, เต กิร กิลิฏฺตปานํ มตฺถกปตฺตา อเหสุํ. อุฬารานิ อุฬารานีติ ปณีตานิ ปณีตานิ. คาเหนฺติ นามาติ พลํ คณฺหาเปนฺติ นาม. พฺรูเหนฺตีติ วฑฺเฒนฺติ. เมเทนฺตีติ ชาตเมทํ กโรนฺติ. ปุริมํ ปหายาติ ปุริมํ ทุกฺกรการํ ปหาย. ปจฺฉา อุปจินนฺตีติ ปจฺฉา อุฬารขาทนียาทีหิ สนฺตปฺเปนฺติ, วฑฺเฒนฺติ. อาจยาปจโย โหตีติ วฑฺฒิ จ อวฑฺฒิ จ โหติ, อิติ อิมสฺส กายสฺส กาเลน วฑฺฒิ, กาเลน ปริหานีติ วฑฺฒิปริหานิมตฺตเมว ปฺายติ, กายภาวนา ปน น ปฺายตีติ ทีเปตฺวา จิตฺตภาวนํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘กินฺติ ปน เต, อคฺคิเวสฺสน, จิตฺตภาวนา สุตา’’ติ อาห. น สมฺปายาสีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ นาสกฺขิ, ยถา ตํ พาลปุถุชฺชโน.
๓๖๗. กุโต ¶ ¶ ปน ตฺวนฺติ โย ตฺวํ เอวํ โอฬาริกํ ทุพฺพลํ กายภาวนํ น ชานาสิ? โส ¶ ตฺวํ กุโต สณฺหํ สุขุมํ จิตฺตภาวนํ ชานิสฺสสีติ. อิมสฺมึ ปน าเน โจทนาลยตฺเถโร, ‘‘อพุทฺธวจนํ นาเมตํ ปท’’นฺติ พีชนึ เปตฺวา ปกฺกมิตุํ อารภิ. อถ นํ มหาสีวตฺเถโร อาห – ‘‘ทิสฺสติ, ภิกฺขเว, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อาจโยปิ อปจโยปิ อาทานมฺปิ นิกฺเขปนมฺปี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๒). ตํ สุตฺวา สลฺลกฺเขสิ – ‘‘โอฬาริกํ กายํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนา โอฬาริกาติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
๓๖๘. สุขสาราคีติ สุขสาราเคน สมนฺนาคโต. สุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนาติ น อนนฺตราว อุปฺปชฺชติ, สุขทุกฺขานฺหิ อนนฺตรปจฺจยตา ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๒.๔๕-๔๖) ปฏิสิทฺธา. ยสฺมา ปน สุเข อนิรุทฺเธ ทุกฺขํ นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิธ เอวํ วุตฺตํ. ปริยาทาย ติฏฺตีติ เขเปตฺวา คณฺหิตฺวา ติฏฺติ. อุภโตปกฺขนฺติ สุขํ เอกํ ปกฺขํ ทุกฺขํ เอกํ ปกฺขนฺติ เอวํ อุภโตปกฺขํ หุตฺวา.
๓๖๙. อุปฺปนฺนาปิ สุขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา กายสฺส. อุปฺปนฺนาปิ ทุกฺขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา จิตฺตสฺสาติ เอตฺถ กายภาวนา วิปสฺสนา, จิตฺตภาวนา สมาธิ. วิปสฺสนา จ สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา. สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน. กถํ? วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ อทฺธาเน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ตตฺถ ตตฺถ อคฺคิอุฏฺานํ วิย โหติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, มตฺถกโต อุสุมวฏฺฏิอุฏฺานํ วิย โหตีติ จิตฺตํ หฺติ วิหฺติ วิปฺผนฺทติ. เอวํ ตาว วิปสฺสนา สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา. อุปฺปนฺเน ปน กายิเก วา เจตสิเก วา ทุกฺเข ตํ ทุกฺขํ วิกฺขมฺเภตฺวา สมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ทุกฺขํ ทูราปคตํ โหติ, อนปฺปกํ สุขํ โอกฺกมติ. เอวํ สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน. ยถา วิปสฺสนา สุขสฺส ปจฺจนีกา, ทุกฺขสฺส อาสนฺนา, น ตถา สมาธิ. ยถา สมาธิ ทุกฺขสฺส ปจฺจนีโก, สุขสฺส อาสนฺโน, น จ ตถา วิปสฺสนาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปฺปนฺนาปิ สุขา ¶ เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ¶ ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา กายสฺส. อุปฺปนฺนาปิ ทุกฺขา เวทนา จิตฺตํ น ปริยาทาย ติฏฺติ, ภาวิตตฺตา จิตฺตสฺสา’’ติ.
๓๗๐. อาสชฺช ¶ อุปนียาติ คุเณ ฆฏฺเฏตฺวา เจว อุปเนตฺวา จ. ตํ วต เมติ ตํ วต มม จิตฺตํ.
๓๗๑. กิฺหิ โน สิยา, อคฺคิเวสฺสนาติ, อคฺคิเวสฺสน, กึ น ภวิสฺสติ, ภวิสฺสเตว, มา เอวํ สฺี โหหิ, อุปฺปชฺชิเยว เม สุขาปิ ทุกฺขาปิ เวทนา, อุปฺปนฺนาย ปนสฺสา อหํ จิตฺตํ ปริยาทาย าตุํ น เทมิ. อิทานิสฺส ตมตฺถํ ปกาเสตุํ อุปริ ปสาทาวหํ ธมฺมเทสนํ เทเสตุกาโม มูลโต ปฏฺาย มหาภินิกฺขมนํ อารภิ. ตตฺถ อิธ เม, อคฺคิเวสฺสน, ปุพฺเพว สมฺโพธา…เป… ตตฺเถว นิสีทึ, อลมิทํ ปธานายาติ อิทํ สพฺพํ เหฏฺา ปาสราสิสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก นิสชฺชา, อิธ ทุกฺกรการิกา.
๓๗๔. อลฺลกฏฺนฺติ อลฺลํ อุทุมฺพรกฏฺํ. สสฺเนหนฺติ สขีรํ. กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิ. อวูปกฏฺาติ อนปคตา. กามจฺฉนฺโทติอาทีสุ กิเลสกาโมว ฉนฺทกรณวเสน ฉนฺโท. สิเนหกรณวเสน สฺเนโห. มุจฺฉากรณวเสน มุจฺฉา. ปิปาสากรณวเสน ปิปาสา. อนุทหนวเสน ปริฬาโหติ เวทิตพฺโพ. โอปกฺกมิกาติ อุปกฺกมนิพฺพตฺตา. าณาย ทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธายาติ สพฺพํ โลกุตฺตรมคฺคเววจนเมว.
อิทํ ปเนตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ – อลฺลํ สขีรํ อุทุมฺพรกฏฺํ วิย หิ กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต อนิสฺสฏปุคฺคลา. อุทเก ปกฺขิตฺตภาโว วิย กิเลสกาเมน ตินฺตตา; มนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อนภินิพฺพตฺตนํ วิย กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต อนิสฺสฏานํ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อนธิคโม. อมนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อนภินิพฺพตฺตนํ วิย เตสํ ปุคฺคลานํ วินาปิ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อนธิคโม. ทุติยอุปมาปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส, ปุริมา สปุตฺตภริยปพฺพชฺชาย อุปมา; ปจฺฉิมา พฺราหฺมณธมฺมิกปพฺพชฺชาย.
๓๗๖. ตติยอุปมาย ¶ ¶ โกฬาปนฺติ ฉินฺนสิเนหํ นิราปํ. ถเล นิกฺขิตฺตนฺติ ปพฺพตถเล วา ภูมิถเล วา นิกฺขิตฺตํ. เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – สุกฺขโกฬาปกฏฺํ วิย หิ กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต นิสฺสฏปุคฺคลา, อารกา อุทกา ถเล นิกฺขิตฺตภาโว วิย กิเลสกาเมน ¶ อตินฺตตา. มนฺถเนนาปิ อคฺคิโน อภินิพฺพตฺตนํ วิย กิเลสกาเมน วตฺถุกามโต นิสฺสฏานํ อพฺโภกาสิกเนสชฺชิกาทิวเสน โอปกฺกมิกาหิปิ เวทนาหิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส อธิคโม. อฺสฺส รุกฺขสฺส สุกฺขสาขาย สทฺธึ ฆํสนมตฺเตเนว อคฺคิโน อภินิพฺพตฺตนํ วิย วินาปิ โอปกฺกมิกาหิ เวทนาหิ สุขาเยว ปฏิปทาย โลกุตฺตรมคฺคสฺส อธิคโมติ. อยํ อุปมา ภควตา อตฺตโน อตฺถาย อาหฏา.
๓๗๗. อิทานิ อตฺตโน ทุกฺกรการิกํ ทสฺเสนฺโต, ตสฺส มยฺหนฺติอาทิมาห. กึ ปน ภควา ทุกฺกรํ อกตฺวา พุทฺโธ ภวิตุํ น สมตฺโถติ? กตฺวาปิ อกตฺวาปิ สมตฺโถว. อถ กสฺมา อกาสีติ? สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺตโน ปรกฺกมํ ทสฺเสสฺสามิ. โส จ มํ วีริยนิมฺมถนคุโณ หาเสสฺสตีติ. ปาสาเท นิสินฺโนเยว หิ ปเวณิอาคตํ รชฺชํ ลภิตฺวาปิ ขตฺติโย น ตถาปมุทิโต โหติ, ยถา พลกายํ คเหตฺวา สงฺคาเม ทฺเว ตโย สมฺปหาเร ทตฺวา อมิตฺตมถนํ กตฺวา ปตฺตรชฺโช. เอวํ ปตฺตรชฺชสฺส หิ รชฺชสิรึ อนุภวนฺตสฺส ปริสํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ปรกฺกมํ อนุสฺสริตฺวา, ‘‘อสุกฏฺาเน อสุกกมฺมํ กตฺวา อสุกฺจ อสุกฺจ อมิตฺตํ เอวํ วิชฺฌิตฺวา เอวํ ปหริตฺวา อิมํ รชฺชสิรึ ปตฺโตสฺมี’’ติ จินฺตยโต พลวโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เอวเมวํ ภควาปิ สเทวกสฺส โลกสฺส ปรกฺกมํ ทสฺเสสฺสามิ, โส หิ มํ ปรกฺกโม อติวิย หาเสสฺสติ, โสมนสฺสํ อุปฺปาเทสฺสตีติ ทุกฺกรมกาสิ.
อปิจ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโนปิ อกาสิเยว, ปจฺฉิมา หิ ชนตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวาปิ ปธานํ ปทหิตฺวาว สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺโต, กิมงฺคํ ปน มยนฺติ ปธานวีริยํ กตฺตพฺพํ มฺิสฺสติ; เอวํ สนฺเต ขิปฺปเมว ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสตีติ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน อกาสิเยว.
ทนฺเตภิทนฺตมาธายาติ ¶ เหฏฺาทนฺเต อุปริทนฺตํ เปตฺวา. เจตสา จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺเตน อกุสลจิตฺตํ. อภินิคฺคณฺเหยฺยนฺติ นิคฺคณฺเหยฺยํ. อภินิปฺปีเฬยฺยนฺติ ¶ นิปฺปีเฬยฺยํ. อภิสนฺตาเปยฺยนฺติ ตาเปตฺวา วีริยนิมฺมถนํ กเรยฺยํ. สารทฺโธติ สทรโถ. ปธานาภิตุนฺนสฺสาติ ปธาเนน อภิตุนฺนสฺส, วิทฺธสฺส สโตติ อตฺโถ.
๓๗๘. อปฺปาณกนฺติ ¶ นิรสฺสาสกํ. กมฺมารคคฺคริยาติ กมฺมารสฺส คคฺครนาฬิยา. สีสเวทนา โหนฺตีติ กุโตจิ นิกฺขมิตุํ อลภมาเนหิ วาเตหิ สมุฏฺาปิตา พลวติโย สีสเวทนา โหนฺติ. สีสเวํ ทเทยฺยาติ สีสเวนํ ทเทยฺย. เทวตาติ โพธิสตฺตสฺส จงฺกมนโกฏิยํ ปณฺณสาลปริเวณสามนฺตา จ อธิวตฺถา เทวตา.
ตทา กิร โพธิสตฺตสฺส อธิมตฺเต กายทาเห อุปฺปนฺเน มุจฺฉา อุทปาทิ. โส จงฺกเมว นิสินฺโน หุตฺวา ปปติ. ตํ ทิสฺวา เทวตา เอวมาหํสุ – ‘‘วิหาโรตฺเวว โส อรหโต’’ติ, ‘‘อรหนฺโต นาม เอวรูปา โหนฺติ มตกสทิสา’’ติ ลทฺธิยา วทนฺติ. ตตฺถ ยา เทวตา ‘‘กาลงฺกโต’’ติ อาหํสุ, ตา คนฺตฺวา สุทฺโธทนมหาราชสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต กาลงฺกโต’’ติ. มม ปุตฺโต พุทฺโธ หุตฺวา กาลงฺกโต, โน อหุตฺวาติ? พุทฺโธ ภวิตุํ นาสกฺขิ, ปธานภูมิยํเยว ปติตฺวา กาลงฺกโตติ. นาหํ สทฺทหามิ, มม ปุตฺตสฺส โพธึ อปตฺวา กาลงฺกิริยา นาม นตฺถีติ.
อปรภาเค สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน ราชคหํ คนฺตฺวา กปิลวตฺถุํ อนุปฺปตฺตสฺส สุทฺโธทนมหาราชา ปตฺตํ คเหตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ยาคุขชฺชกํ ทตฺวา อนฺตราภตฺตสมเย เอตมตฺถํ อาโรเจสิ – ตุมฺหากํ ภควา ปธานกรณกาเล เทวตา อาคนฺตฺวา, ‘‘ปุตฺโต เต, มหาราช, กาลงฺกโต’’ติ อาหํสูติ. กึ สทฺทหสิ มหาราชาติ? น ภควา สทฺทหินฺติ. อิทานิ, มหาราช, สุปินปฺปฏิคฺคหณโต ปฏฺาย อจฺฉริยานิ ปสฺสนฺโต กึ สทฺทหิสฺสสิ? อหมฺปิ พุทฺโธ ชาโต, ตฺวมฺปิ พุทฺธปิตา ชาโต, ปุพฺเพ ปน มยฺหํ อปริปกฺเก าเณ โพธิจริยํ จรนฺตสฺส ธมฺมปาลกุมารกาเลปิ สิปฺปํ อุคฺคเหตุํ คตสฺส, ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต ธมฺมปาลกุมาโร กาลงฺกโต, อิทมสฺส อฏฺี’’ติ ¶ เอฬกฏฺึ อาหริตฺวา ทสฺเสสุํ, ตทาปิ ตุมฺเห, ‘‘มม ปุตฺตสฺส อนฺตรามรณํ นาม นตฺถิ, นาหํ สทฺทหามี’’ติ อโวจุตฺถ, มหาราชาติ อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา ภควา มหาธมฺมปาลชาตกํ กเถสิ.
๓๗๙. มา ¶ โข ตฺวํ มาริสาติ สมฺปิยายมานา อาหํสุ. เทวตานํ กิรายํ ปิยมนาปโวหาโร, ยทิทํ มาริสาติ. อชชฺชิตนฺติ อโภชนํ. หลนฺติ วทามีติ อลนฺติ วทามิ, อลํ อิมินา เอวํ มา กริตฺถ, ยาเปสฺสามหนฺติ เอวํ ปฏิเสเธมีติ อตฺโถ.
๓๘๐-๑. มงฺคุรจฺฉวีติ ¶ มงฺคุรมจฺฉจฺฉวิ. เอตาว ปรมนฺติ ตาสมฺปิ เวทนานเมตํเยว ปรมํ, อุตฺตมํ ปมาณํ. ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตาติ รฺโ กิร วปฺปมงฺคลทิวโส นาม โหติ, ตทา อเนกปฺปการํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทนฺติ. นครวีถิโย โสธาเปตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปาเปตฺวา ธชปฏากาทโย อุสฺสาเปตฺวา สกลนครํ เทววิมานํ วิย อลงฺกโรนฺติ. สพฺเพ ทาสกมฺมกราทโย อหตวตฺถนิวตฺถา คนฺธมาลาทิปฏิมณฺฑิตา ราชกุเล สนฺนิปตนฺติ. รฺโ กมฺมนฺเต นงฺคลสตสหสฺสํ โยชียติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส เอเกน อูนํ อฏฺสตํ โยเชนฺติ. สพฺพนงฺคลานิ สทฺธึ พลิพทฺทรสฺมิโยตฺเตหิ ชาณุสฺโสณิสฺส รโถ วิย รชตปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ. รฺโ อาลมฺพนนงฺคลํ รตฺตสุวณฺณปริกฺขิตฺตํ โหติ. พลิพทฺทานํ สิงฺคานิปิ รสฺมิปโตทาปิ สุวณฺณปริกฺขิตฺตา โหนฺติ. ราชา มหาปริวาเรน นิกฺขมนฺโต ปุตฺตํ คเหตฺวา อคมาสิ.
กมฺมนฺตฏฺาเน เอโก ชมฺพุรุกฺโข พหลปตฺตปลาโส สนฺทจฺฉาโย อโหสิ. ตสฺส เหฏฺา กุมารสฺส สยนํ ปฺเปตฺวา อุปริ สุวณฺณตารกขจิตํ วิตานํ พนฺธาเปตฺวา สาณิปากาเรน ปริกฺขิปาเปตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา ราชา สพฺพาลงฺการํ อลงฺกริตฺวา อมจฺจคณปริวุโต นงฺคลกรณฏฺานํ อคมาสิ. ตตฺถ ราชา สุวณฺณนงฺคลํ คณฺหาติ. อมจฺจา เอเกนูนอฏฺสตรชตนงฺคลานิ คเหตฺวา อิโต จิโต จ กสนฺติ. ราชา ปน โอรโต ปารํ คจฺฉติ, ปารโต วา โอรํ คจฺฉติ. เอตสฺมึ าเน มหาสมฺปตฺติ โหติ, โพธิสตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ธาติโย รฺโ สมฺปตฺตึ ปสฺสิสฺสามาติ อนฺโตสาณิโต พหิ นิกฺขนฺตา. โพธิสตฺโต ¶ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต กฺจิ อทิสฺวา เวเคน อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อานาปาเน ปริคฺคเหตฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสิ. ธาติโย ขชฺชโภชฺชนฺตเร วิจรมานา โถกํ จิรายึสุ, เสสรุกฺขานํ ¶ ฉายา นิวตฺตา, ตสฺส ปน รุกฺขสฺส ปริมณฺฑลา หุตฺวา อฏฺาสิ. ธาติโย อยฺยปุตฺโต เอกโกติ เวเคน สาณึ อุกฺขิปิตฺวา อนฺโต ปวิสมานา โพธิสตฺตํ สยเน ปลฺลงฺเกน นิสินฺนํ ตฺจ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรจยึสุ – ‘‘กุมาโร เทว, เอวํ นิสินฺโน อฺเสํ รุกฺขานํ ฉายา นิวตฺตา, ชมฺพุรุกฺขสฺส ปริมณฺฑลา ิตา’’ติ. ราชา เวเคนาคนฺตฺวา ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา, ‘‘อิทํ เต, ตาต, ทุติยํ วนฺทน’’นฺติ ปุตฺตํ วนฺทิ. อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต…เป… ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตา’’ติ. สิยา นุ โข เอโส มคฺโค โพธายาติ ภเวยฺย นุ โข เอตํ อานาปานสฺสติปมชฺฌานํ พุชฺฌนตฺถาย มคฺโคติ. สตานุสาริวิฺาณนฺติ ¶ นยิทํ โพธาย มคฺโค ภวิสฺสติ, อานาปานสฺสติปมชฺฌานํ ปน ภวิสฺสตีติ เอวํ เอกํ ทฺเว วาเร อุปฺปนฺนสติยา อนนฺตรํ อุปฺปนฺนวิฺาณํ สตานุสาริวิฺาณํ นาม. ยํ ตํ สุขนฺติ ยํ ตํ อานาปานสฺสติปมชฺฌานสุขํ.
๓๘๒. ปจฺจุปฏฺิตา โหนฺตีติ ปณฺณสาลปริเวณสมฺมชฺชนาทิวตฺตกรเณน อุปฏฺิตา โหนฺติ. พาหุลฺลิโกติ ปจฺจยพาหุลฺลิโก. อาวตฺโต พาหุลฺลายาติ รสคิทฺโธ หุตฺวา ปณีตปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อาวตฺโต. นิพฺพิชฺช ปกฺกมึสูติ อุกฺกณฺิตฺวา ธมฺมนิยาเมเนว ปกฺกนฺตา โพธิสตฺตสฺส สมฺโพธึ ปตฺตกาเล กายวิเวกสฺส โอกาสทานตฺถํ ธมฺมตาย คตา. คจฺฉนฺตา จ อฺฏฺานํ อคนฺตฺวา พาราณสิเมว อคมํสุ. โพธิสตฺโต เตสุ คเตสุ อทฺธมาสํ กายวิเวกํ ลภิตฺวา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ.
๓๘๓. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ ภยเภรเว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๓๘๗. อภิชานามิ โข ปนาหนฺติ อยํ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. นิคณฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉึ. สมโณ โคตโม ‘อปราปิ มํ, อคฺคิเวสฺสน, อปราปิ มํ, อคฺคิเวสฺสนา’ติ ปริโยสานํ อทสฺเสนฺโต กเถติเยว. กุปิโต นุ โข’’ติ? อถ ภควา, อคฺคิเวสฺสน ¶ , ตถาคเต อเนกสตาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺเต กุปิโต ¶ สมโณ โคตโมติ เอโกปิ วตฺตา นตฺถิ, ปเรสํ โพธนตฺถาย ปฏิวิชฺฌนตฺถาย เอว ตถาคโต ธมฺมํ เทเสตีติ ทสฺเสนฺโต อิมํ ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ อารพฺภาติ สนฺธาย. ยาวเทวาติ ปโยชนวิธิ ปริจฺเฉทนิยมนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปเรสํ วิฺาปนเมว ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนาย ปโยชนํ, ตสฺมา น เอกสฺเสว เทเสติ, ยตฺตกา วิฺาตาโร อตฺถิ, สพฺเพสํ เทเสตีติ. ตสฺมึเยว ปุริมสฺมินฺติ อิมินา กึ ทสฺเสตีติ? สจฺจโก กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม อภิรูโป ปาสาทิโก สุผุสิตํ ทนฺตาวรณํ, ชิวฺหา มุทุกา, มธุรํ วากฺกรณํ, ปริสํ รฺเชนฺโต มฺเ วิจรติ, อนฺโต ปนสฺส จิตฺเตกคฺคตา นตฺถี’’ติ. อถ ภควา, อคฺคิเวสฺสน, น ตถาคโต ปริสํ รฺเชนฺโต วิจรติ, จกฺกวาฬปริยนฺตายปิ ปริสาย ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ, อสลฺลีโน อนุปลิตฺโต เอตฺตกํ เอกวิหารี, สฺุตผลสมาปตฺตึ อนุยุตฺโตติ ทสฺเสตุํ เอวมาห.
อชฺฌตฺตเมวาติ ¶ โคจรชฺฌตฺตเมว. สนฺนิสาเทมีติ สนฺนิสีทาเปมิ, ตถาคโต หิ ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ เทติ, ตสฺมึ ขเณ ปุพฺพาโภเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, สาธุการสทฺทสฺส นิคฺโฆเส อวิจฺฉินฺเนเยว สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ, พุทฺธานฺหิ ภวงฺคปริวาโส ลหุโก โหตีติ อสฺสาสวาเร ปสฺสาสวาเร สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ. เยน สุทํ นิจฺจกปฺปนฺติ เยน สฺุเน ผลสมาธินา นิจฺจกาลํ วิหรามิ, ตสฺมึ สมาธินิมิตฺเต จิตฺตํ สณฺเปมิ สมาทหามีติ ทสฺเสติ.
โอกปฺปนิยเมตนฺติ สทฺทหนิยเมตํ. เอวํ ภควโต เอกคฺคจิตฺตตํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อิทานิ อตฺตโน โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีตปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อภิชานาติ โข ปน ภวํ โคตโม ทิวา สุปิตาติ อาห. ยถา หิ สุนโข นาม อสมฺภินฺนขีรปกฺกปายสํ สปฺปินา โยเชตฺวา อุทรปูรํ โภชิโตปิ คูถํ ทิสฺวา อขาทิตฺวา คนฺตุํ น สกฺกา, อขาทมาโน ¶ ฆายิตฺวาปิ คจฺฉติ, อฆายิตฺวาว คตสฺส กิรสฺส สีสํ รุชฺชติ; เอวเมวํ อิมสฺสปิ สตฺถา อสมฺภินฺนขีรปกฺกปายสสทิสํ อภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ยาว อาสวกฺขยา ปสาทนียํ ธมฺมเทสนํ เทเสติ. เอตสฺส ปน เอวรูปํ ธมฺมเทสนํ ¶ สุตฺวา สตฺถริ ปสาทมตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีตปฺหํ อปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ยสฺมา ถินมิทฺธํ สพฺพขีณาสวานํ อรหตฺตมคฺเคเนว ปหียติ, กายทรโถ ปน อุปาทินฺนเกปิ โหติ อนุปาทินฺนเกปิ. ตถา หิ กมลุปฺปลาทีนิ เอกสฺมึ กาเล วิกสนฺติ, เอกสฺมึ มกุลานิ โหนฺติ, สายํ เกสฺจิ รุกฺขานมฺปิ ปตฺตานิ ปติลียนฺติ, ปาโต วิปฺผาริกานิ โหนฺติ. เอวํ อุปาทินฺนกสฺส กายสฺส ทรโถเยว ทรถวเสน ภวงฺคโสตฺจ อิธ นิทฺทาติ อธิปฺเปตํ, ตํ ขีณาสวานมฺปิ โหติ. ตํ สนฺธาย, ‘‘อภิชานามห’’นฺติอาทิมาห. สมฺโมหวิหารสฺมึ วทนฺตีติ สมฺโมหวิหาโรติ วทนฺติ.
๓๘๙. อาสชฺช อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา ฆฏฺเฏตฺวา. อุปนีเตหีติ อุปเนตฺวา กถิเตหิ. วจนปฺปเถหีติ วจเนหิ. อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวาติ อลนฺติ จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺโต อภินนฺทิตฺวา วาจายปิ ปสํสนฺโต อนุโมทิตฺวา. ภควตา อิมสฺส นิคณฺสฺส ทฺเว สุตฺตานิ กถิตานิ. ปุริมสุตฺตํ เอโก ภาณวาโร, อิทํ ทิยฑฺโฒ, อิติ อฑฺฒติเย ภาณวาเร สุตฺวาปิ อยํ นิคณฺโ เนว อภิสมยํ ปตฺโต, น ปพฺพชิโต, น สรเณสุ ปติฏฺิโต. กสฺมา เอตสฺส ภควา ¶ ธมฺมํ เทเสสีติ? อนาคเต วาสนตฺถาย. ปสฺสติ หิ ภควา, ‘‘อิมสฺส อิทานิ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, มยฺหํ ปน ปรินิพฺพานโต สมธิกานํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อจฺจเยน ตมฺพปณฺณิทีเป สาสนํ ปติฏฺหิสฺสติ. ตตฺรายํ กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา สมฺปตฺเต กาเล ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา กาฬพุทฺธรกฺขิโต นาม มหาขีณาสโว ภวิสฺสตี’’ติ. อิทํ ทิสฺวา อนาคเต วาสนตฺถาย ธมฺมํ เทเสสิ.
โสปิ ตตฺเถว ตมฺพปณฺณิทีปมฺหิ สาสเน ปติฏฺิเต เทวโลกโต จวิตฺวา ทกฺขิณคิริวิหารสฺส ภิกฺขาจารคาเม เอกสฺมึ อมจฺจกุเล นิพฺพตฺโต ปพฺพชฺชาสมตฺถโยพฺพเน ปพฺพชิตฺวา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา คณํ ปริหรนฺโต ¶ มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปชฺฌายํ ปสฺสิตุํ อคมาสิ. อถสฺส อุปชฺฌาโย สทฺธิวิหาริกํ โจเทสฺสามีติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา อาคเตน เตน สทฺธึ มุขํ ทตฺวา กถามตฺตมฺปิ น อกาสิ. โส ปจฺจูสสมเย วุฏฺาย เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, มยิ คนฺถกมฺมํ กตฺวา ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคเต มุขํ ทตฺวา กถามตฺตมฺปิ น ¶ กริตฺถ, โก มยฺหํ โทโส’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร อาห – ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, พุทฺธรกฺขิต เอตฺตเกเนว ‘ปพฺพชฺชากิจฺจํ เม มตฺถกํ ปตฺต’นฺติ สฺํ กโรสี’’ติ. กึ กโรมิ, ภนฺเตติ? คณํ วิโนเทตฺวา ตฺวํ ปปฺจํ ฉินฺทิตฺวา เจติยปพฺพตวิหารํ คนฺตฺวา สมณธมฺมํ กโรหีติ. โส อุปชฺฌายสฺส โอวาเท ตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ปฺุวา ราชปูชิโต หุตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร เจติยปพฺพตวิหาเร วสิ.
ตสฺมิฺหิ กาเล ติสฺสมหาราชา อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต เจติยปพฺพเต ราชเลเณ วสติ. โส เถรสฺส อุปฏฺากภิกฺขุโน สฺํ อทาสิ – ‘‘ยทา มยฺหํ อยฺโย ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, ธมฺมํ วา กเถติ, ตทา เม สฺํ ทเทยฺยาถา’’ติ. เถโรปิ เอกสฺมึ ธมฺมสฺสวนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร กณฺฏกเจติยงฺคณํ อารุยฺห เจติยํ วนฺทิตฺวา กาฬติมฺพรุรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. อถ นํ เอโก ปิณฺฑปาติกตฺเถโร กาฬการามสุตฺตนฺเต ปฺหํ ปุจฺฉิ. เถโร นนุ, อาวุโส, อชฺช ธมฺมสฺสวนทิวโสติ อาห. อาม, ภนฺเต, ธมฺมสฺสวนทิวโสติ. เตน หิ ปีกํ อาเนถ, อิเธว นิสินฺนา ธมฺมสฺสวนํ กริสฺสามาติ. อถสฺส รุกฺขมูเล อาสนํ ปฺเปตฺวา อทํสุ. เถโร ปุพฺพคาถา วตฺวา กาฬการามสุตฺตํ อารภิ. โสปิสฺส อุปฏฺากทหโร รฺโ ¶ สฺํ ทาเปสิ. ราชา ปุพฺพคาถาสุ อนิฏฺิตาสุเยว ปาปุณิ. ปตฺวา จ อฺาตกเวเสเนว ปริสนฺเต ตฺวา ติยามรตฺตึ ิตโกว ธมฺมํ สุตฺวา เถรสฺส, อิทมโวจ ภควาติ วจนกาเล ¶ สาธุการํ อทาสิ. เถโร ตฺวา, กทา อาคโตสิ, มหาราชาติ ปุจฺฉิ. ปุพฺพคาถา โอสารณกาเลเยว, ภนฺเตติ. ทุกฺกรํ เต มหาราช, กตนฺติ. นยิทํ, ภนฺเต, ทุกฺกรํ, ยทิ ปน เม อยฺยสฺส ธมฺมกถํ อารทฺธกาลโต ปฏฺาย เอกปเทปิ อฺวิหิตภาโว อโหสิ, ตมฺพปณฺณิทีปสฺส ปโตทยฏฺินิตุทนมตฺเตปิ าเน สามิภาโว นาม เม มา โหตูติ สปถมกาสิ.
ตสฺมึ ปน สุตฺเต พุทฺธคุณา ปริทีปิตา, ตสฺมา ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘เอตฺตกาว, ภนฺเต, พุทฺธคุณา, อุทาหุ อฺเปิ อตฺถี’’ติ. มยา กถิตโต, มหาราช, อกถิตเมว พหุ อปฺปมาณนฺติ. อุปมํ, ภนฺเต, กโรถาติ. ยถา, มหาราช ¶ , กรีสสหสฺสมตฺเต สาลิกฺเขตฺเต เอกสาลิสีสโต อวเสสสาลีเยว พหู, เอวํ มยา กถิตคุณา อปฺปา, อวเสสา พหูติ. อปรมฺปิ, ภนฺเต, อุปมํ กโรถาติ. ยถา, มหาราช, มหาคงฺคาย โอฆปุณฺณาย สูจิปาสํ สมฺมุขํ กเรยฺย, สูจิปาเสน คตอุทกํ อปฺปํ, เสสํ พหุ, เอวเมว มยา กถิตคุณา อปฺปา, อวเสสา พหูติ. อปรมฺปิ, ภนฺเต, อุปมํ กโรถาติ. อิธ, มหาราช, จาตกสกุณา นาม อากาเส กีฬนฺตา วิจรนฺติ. ขุทฺทกา สา สกุณชาติ, กึ นุ โข ตสฺส สกุณสฺส อากาเส ปกฺขปสารณฏฺานํ พหุ, อวเสโส อากาโส อปฺโปติ? กึ, ภนฺเต, วทถ, อปฺโป ตสฺส ปกฺขปสารโณกาโส, อวเสโสว พหูติ. เอวเมว, มหาราช, อปฺปกา มยา พุทฺธคุณา กถิตา, อวเสสา พหู อนนฺตา อปฺปเมยฺยาติ. สุกถิตํ, ภนฺเต, อนนฺตา พุทฺธคุณา อนนฺเตเนว อากาเสน อุปมิตา. ปสนฺนา มยํ อยฺยสฺส, อนุจฺฉวิกํ ปน กาตุํ น สกฺโกม. อยํ เม ทุคฺคตปณฺณากาโร อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป อิมํ ติโยชนสติกํ รชฺชํ อยฺยสฺส เทมาติ. ตุมฺเหหิ, มหาราช, อตฺตโน ปสนฺนากาโร กโต, มยํ ปน อมฺหากํ ทินฺนํ รชฺชํ ตุมฺหากํเยว เทม, ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ มหาราชาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสจฺจกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา
๓๙๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทติ ปุพฺพารามสงฺขาเต วิหาเร มิคารมาตุยา ปาสาเท. ตตฺรายํ อนุปุพฺพีกถาอตีเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกา อุปาสิกา ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตสหสฺสํ ทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา, ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อคฺคุปฏฺายิกา โหมี’’ติ ปตฺถนมกาสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต ¶ กาเล ภทฺทิยนคเร เมณฺฑกเสฏฺิปุตฺตสฺส ธนฺชยสฺส เสฏฺิโน คเห สุมนเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตกาเล จสฺสา วิสาขาติ นามํ อกํสุ. สา ยทา ภควา ภทฺทิยนครํ อคมาสิ, ตทา ปฺจหิ ทาริกาสเตหิ สทฺธึ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปมทสฺสนมฺหิเยว โสตาปนฺนา อโหสิ. อปรภาเค สาวตฺถิยํ มิคารเสฏฺิปุตฺตสฺส ปุณฺณวฑฺฒนกุมารสฺส เคหํ คตา, ตตฺถ นํ มิคารเสฏฺิ มาติฏฺาเน เปสิ, ตสฺมา มิคารมาตาติ วุจฺจติ.
ปติกุลํ คจฺฉนฺติยา จสฺสา ปิตา มหาลตาปิฬนฺธนํ นาม การาเปสิ. ตสฺมึ ปิฬนฺธเน จตสฺโส วชิรนาฬิโย อุปโยคํ อคมํสุ, มุตฺตานํ เอกาทส นาฬิโย, ปวาฬานํ ทฺวาวีสติ นาฬิโย, มณีนํ เตตฺตึส นาฬิโย, อิติ เอเตหิ จ อฺเหิ จ สตฺตวณฺเณหิ รตเนหิ นิฏฺานํ อคมาสิ. ตํ สีเส ปฏิมุกฺกํ ยาว ปาทปิฏฺิยา ภสฺสติ, ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธารยมานาว นํ อิตฺถี ธาเรตุํ สกฺโกติ. สา อปรภาเค ทสพลสฺส อคฺคุปฏฺายิกา หุตฺวา ตํ ปสาธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา นวหิ โกฏีหิ ภควโต วิหารํ การยมานา กรีสมตฺเต ภูมิภาเค ปาสาทํ กาเรสิ. ตสฺส อุปริภูมิยํ ปฺจ คพฺภสตานิ โหนฺติ, เหฏฺาภูมิยํ ปฺจาติ คพฺภสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิโต อโหสิ. สา ‘‘สุทฺธปาสาโทว น โสภตี’’ติ ตํ ปริวาเรตฺวา ปฺจ ทฺวิกูฏเคหสตานิ, ปฺจ ¶ จูฬปาสาทสตานิ, ปฺจ ทีฆสาลสตานิ จ การาเปสิ. วิหารมโห จตูหิ มาเสหิ นิฏฺานํ อคมาสิ.
มาตุคามตฺตภาเว ¶ ิตาย วิสาขาย วิย อฺิสฺสา พุทฺธสาสเน ธนปริจฺจาโค นาม นตฺถิ, ปุริสตฺตภาเว ิตสฺส จ อนาถปิณฺฑิกสฺส วิย อฺสฺส พุทฺธสาสเน ธนปริจฺจาโค นาม นตฺถิ. โส หิ จตุปฺาสโกฏิโย วิสฺสชฺเชตฺวา สาวตฺถิยา ทกฺขิณภาเค อนุราธปุรสฺส มหาวิหารสทิเส าเน เชตวนมหาวิหารํ นาม กาเรสิ. วิสาขา, สาวตฺถิยา ปาจีนภาเค อุตฺตมเทวีวิหารสทิเส าเน ปุพฺพารามํ นาม กาเรสิ. ภควา อิเมสํ ทฺวินฺนํ กุลานํ อนุกมฺปาย สาวตฺถึ นิสฺสาย วิหรนฺโต อิเมสุ ทฺวีสุ วิหาเรสุ นิพทฺธวาสํ วสิ. เอกํ อนฺโตวสฺสํ เชตวเน วสติ, เอกํ ปุพฺพาราเม, เอตสฺมึ ปน สมเย ภควา ปุพฺพาราเม วิหรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท’’ติ.
กิตฺตาวตา ¶ นุ โข, ภนฺเตติ กิตฺตเกน นุ โข, ภนฺเต. สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหตีติ ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน ตํ อารมฺมณํ กตฺวา วิมุตฺตจิตฺตตาย ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต นาม สํขิตฺเตน กิตฺตาวตา โหติ? ยาย ปฏิปตฺติยา ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺโต โหติ, ตํ เม ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ สํขิตฺเตน เทเสถาติ ปุจฺฉติ. อจฺจนฺตนิฏฺโติ ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตาติ อจฺจนฺตา. อจฺจนฺตา นิฏฺา อสฺสาติ อจฺจนฺตนิฏฺโ, เอกนฺตนิฏฺโ สตตนิฏฺโติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ โยคกฺเขมีติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี, นิจฺจโยคกฺเขมีติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ พฺรหฺมจารีติ อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี, นิจฺจพฺรหฺมจารีติ อตฺโถ. อจฺจนฺตํ ปริโยสานมสฺสาติ ปุริมนเยเนว อจฺจนฺตปริโยสาโน. เสฏฺโ เทวมนุสฺสานนฺติ เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ เสฏฺโ อุตฺตโม. เอวรูโป ภิกฺขุ กิตฺตาวตา โหติ, ขิปฺปเมตสฺส สงฺเขเปเนว ปฏิปตฺตึ กเถถาติ ภควนฺตํ ยาจติ. กสฺมา ปเนส เอวํ เวคายตีติ? กีฬํ อนุภวิตุกามตาย.
อยํ กิร อุยฺยานกีฬํ อาณาเปตฺวา จตูหิ มหาราชูหิ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขํ คาหาเปตฺวา ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวสงฺเฆน ปริวุโต อฑฺฒติยาหิ นาฏกโกฏีหิ สทฺธึ เอราวณํ ¶ อารุยฺห อุยฺยานทฺวาเร ิโต อิมํ ปฺหํ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘กิตฺตเกน นุ โข ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตสฺส ขีณาสวสฺส สงฺเขปโต อาคมนิยปุพฺพภาคปฏิปทา โหตี’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ปฺโห อติวิย สสฺสิริโก, สจาหํ อิมํ ปฺหํ อนุคฺคณฺหิตฺวาว อุยฺยานํ ปวิสิสฺสามิ, ฉทฺวาริเกหิ อารมฺมเณหิ นิมฺมถิโต น ปุน อิมํ ปฺหํ สลฺลกฺเขสฺสามิ ¶ , ติฏฺตุ ตาว อุยฺยานกีฬา, สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา อุคฺคหิตปฺโห อุยฺยาเน กีฬิสฺสามี’’ติ หตฺถิกฺขนฺเธ อนฺตรหิโต ภควโต สนฺติเก ปาตุรโหสิ. เตปิ จตฺตาโร มหาราชาโน อารกฺขํ คเหตฺวา ิตฏฺาเนเยว ิตา, ปริจาริกเทวสงฺฆาปิ นาฏกานิปิ เอราวโณปิ นาคราชา ตตฺเถว อุยฺยานทฺวาเร อฏฺาสิ, เอวเมส กีฬํ อนุภวิตุกามตาย เวคายนฺโต เอวมาห.
สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสายาติ เอตฺถ สพฺเพ ธมฺมา นาม ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย. เต สพฺเพปิ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินิเวสาย ¶ นาลํ น ปริยตฺตา น สมตฺถา น ยุตฺตา, กสฺมา? คหิตากาเรน อติฏฺนโต. เต หิ นิจฺจาติ คหิตาปิ อนิจฺจาว สมฺปชฺชนฺติ, สุขาติ คหิตาปิ ทุกฺขาว สมฺปชฺชนฺติ, อตฺตาติ คหิตาปิ อนตฺตาว สมฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา นาลํ อภินิเวสาย. อภิชานาตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ าตปริฺาย อภิชานาติ. ปริชานาตีติ ตเถว ตีรณปริฺาย ปริชานาติ. ยํกิฺจิ เวทนนฺติ อนฺตมโส ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตมฺปิ ยํกิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ เวทนํ อนุภวติ. อิมินา ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เวทนาวเสน นิพฺพตฺเตตฺวา อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสติ. สเจ ปน เวทนากมฺมฏฺานํ เหฏฺา น กถิตํ ภเวยฺย, อิมสฺมึ าเน กเถตพฺพํ สิยา. เหฏฺา ปน กถิตํ, ตสฺมา สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา, เต หิ อุปฺปาทวยฏฺเน อนิจฺจา. อนิจฺจานุปสฺสนาติ ปฺจกฺขนฺธานํ ขยโต วยโต ทสฺสนาณํ. อนิจฺจานุปสฺสีติ เตน าเณน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ¶ . ตสฺมา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี วิหรตี’’ติ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต วิหรตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ทฺเว วิราคา ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ สงฺขารานํ ขยวยโต อนุปสฺสนาปิ, อจฺจนฺตวิราคํ นิพฺพานํ วิราคโต ทสฺสนมคฺคาณมฺปิ วิราคานุปสฺสนา. ตทุภยสมางฺคีปุคฺคโล วิราคานุปสฺสี นาม, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิราคานุปสฺสี’’ติ, วิราคโต อนุปสฺสนฺโตติ อตฺโถ. นิโรธานุปสฺสิมฺหิปิ เอเสว นโย, นิโรโธปิ หิ ขยนิโรโธ จ อจฺจนฺตนิโรโธ จาติ ทุวิโธเยว. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปฏินิสฺสคฺโค วุจฺจติ โวสฺสคฺโค, โส จ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ ทุวิโธ โหติ ¶ . ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนา, สา หิ ตทงฺควเสน กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสฺสชฺชติ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ มคฺโค, โส หิ นิพฺพานํ อารมฺมณํ อารมฺมณโต ปกฺขนฺทติ. ทฺวีหิปิ วา การเณหิ โวสฺสคฺโคเยว, สมุจฺเฉทวเสน ขนฺธานํ กิเลสานฺจ โวสฺสชฺชนโต, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทนโต. ตสฺมา กิเลเส จ ขนฺเธ จ ปริจฺจชตีติ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค, นิโรเธ นิพฺพานธาตุยา จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ อุภยมฺเปตํ มคฺเค สเมติ. ตทุภยสมงฺคีปุคฺคโล อิมาย ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคตตฺตา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี นาม โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ. น กิฺจิ โลเก อุปาทิยตีติ ¶ กิฺจิ เอกมฺปิ สงฺขารคตํ ตณฺหาวเสน น อุปาทิยติ น คณฺหาติ น ปรามสติ. อนุปาทิยํ น ปริตสฺสตีติ อคฺคณฺหนฺโต ตณฺหาปริตสฺสนาย น ปริตสฺสติ. ปจฺจตฺตฺเว ปรินิพฺพายตีติ สยเมว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ. ขีณา ชาตีติอาทินา ปนสฺส ปจฺจเวกฺขณาว ทสฺสิตา. อิติ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สํขิตฺเตน ขีณาสวสฺส ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปุจฺฉิโต สลฺลหุกํ กตฺวา สํขิตฺเตเนว ขิปฺปํ กเถสิ.
๓๙๑. อวิทูเร นิสินฺโน โหตีติ อนนฺตเร กูฏาคาเร นิสินฺโน โหติ. อภิสเมจฺจาติ าเณน อภิสมาคนฺตฺวา, ชานิตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กึ นุ โข เอส ชานิตฺวา อนุโมทิ, อุทาหุ ¶ อชานิตฺวา วาติ. กสฺมา ปนสฺส เอวมโหสีติ? เถโร กิร น ภควโต ปฺหวิสฺสชฺชนสทฺทํ อสฺโสสิ, สกฺกสฺส ปน เทวรฺโ, ‘‘เอวเมตํ ภควา เอวเมตํ สุคตา’’ติ อนุโมทนสทฺทํ อสฺโสสิ. สกฺโก กิร เทวราชา มหตา สทฺเทน อนุโมทิ. อถ กสฺมา น ภควโต สทฺทํ อสฺโสสีติ? ยถาปริสวิฺาปกตฺตา. พุทฺธานฺหิ ธมฺมํ กเถนฺตานํ เอกาพทฺธาย จกฺกวาฬปริยนฺตายปิ ปริสาย สทฺโท สุยฺยติ, ปริยนฺตํ ปน มฺุจิตฺวา องฺคุลิมตฺตมฺปิ พหิทฺธา น นิจฺฉรติ. กสฺมา? เอวรูปา มธุรกถา มา นิรตฺถกา อคมาสีติ. ตทา ภควา มิคารมาตุปาสาเท สตฺตรตนมเย กูฏาคาเร สิริคพฺภมฺหิ นิสินฺโน โหติ, ตสฺส ทกฺขิณปสฺเส สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วสนกูฏาคารํ, วามปสฺเส มหาโมคฺคลฺลานสฺส, อนฺตเร ฉิทฺทวิวโรกาโส นตฺถิ, ตสฺมา เถโร น ภควโต สทฺทํ อสฺโสสิ, สกฺกสฺเสว อสฺโสสีติ.
ปฺจหิ ¶ ตูริยสเตหีติ ปฺจงฺคิกานํ ตูริยานํ ปฺจหิ สเตหิ. ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ นาม อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ สุสิรํ ฆนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกตลตูริยํ. วิตตํ นาม อุภยตลํ. อาตตวิตตํ นาม ตนฺติพทฺธปณวาทิ. สุสิรํ วํสาทิ. ฆนํ สมฺมาทิ. สมปฺปิโตติ อุปคโต. สมงฺคีภูโตติ ตสฺเสว เววจนํ. ปริจาเรตีติ ตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต ตโต ตโต อินฺทฺริยานิ จาเรติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปริวาเรตฺวา วชฺชมาเนหิ ปฺจหิ ตูริยสเตหิ สมนฺนาคโต หุตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺตึ ¶ อนุภวตี. ปฏิปณาเมตฺวาติ อปเนตฺวา, นิสฺสทฺทานิ การาเปตฺวาติ อตฺโถ. ยเถว หิ อิทานิ สทฺธา ราชาโน ครุภาวนิยํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา – ‘‘อสุโก นาม อยฺโย อาคจฺฉติ, มา, ตาตา, คายถ, มา วาเทถ, มา นจฺจถา’’ติ นาฏกานิ ปฏิวิเนนฺติ, สกฺโกปิ เถรํ ทิสฺวา เอวมกาสิ. จิรสฺสํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิมํ ปริยายมกาสีติ เอวรูปํ โลเก ปกติยา ปิยสมุทาหารวจนํ โหติ, โลกิยา หิ จิรสฺสํ อาคตมฺปิ อนาคตปุพฺพมฺปิ มนาปชาติยํ อาคตํ ทิสฺวา, – ‘‘กุโต ภวํ อาคโต, จิรสฺสํ ภวํ ¶ อาคโต, กถํ เต อิธาคมนมคฺโค าโต มคฺคมูฬฺโหสี’’ติอาทีนิ วทนฺติ. อยํ ปน อาคตปุพฺพตฺตาเยว เอวมาห. เถโร หิ กาเลน กาลํ เทวจาริกํ คจฺฉติเยว. ตตฺถ ปริยายมกาสีติ วารมกาสิ. ยทิทํ อิธาคมนายาติ โย อยํ อิธาคมนาย วาโร, ตํ, ภนฺเต, จิรสฺสมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. อิทมาสนํ ปฺตฺตนฺติ โยชนิกํ มณิปลฺลงฺกํ ปฺปาเปตฺวา เอวมาห.
๓๙๒. พหุกิจฺจา พหุกรณียาติ เอตฺถ เยสํ พหูนิ กิจฺจานิ, เต พหุกิจฺจา. พหุกรณียาติ ตสฺเสว เววจนํ. อปฺเปว สเกน กรณีเยนาติ สกรณียเมว อปฺปํ มนฺทํ, น พหุ, เทวานํ กรณียํ ปน พหุ, ปถวิโต ปฏฺาย หิ กปฺปรุกฺขมาตุคามาทีนํ อตฺถาย อฏฺฏา สกฺกสฺส สนฺติเก ฉิชฺชนฺติ, ตสฺมา นิยเมนฺโต อาห – อปิจ เทวานํเยว ตาวตึสานํ กรณีเยนาติ. เทวานฺหิ ธีตา จ ปุตฺตา จ องฺเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปาทปริจาริกา อิตฺถิโย สยเน นิพฺพตฺตนฺติ, ตาสํ มณฺฑนปสาธนการิกา เทวธีตา สยนํ ปริวาเรตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ, เวยฺยาวจฺจกรา อนฺโตวิมาเน นิพฺพตฺตนฺติ, เอเตสํ อตฺถาย อฏฺฏกรณํ นตฺถิ. เย ปน สีมนฺตเร นิพฺพตฺตนฺติ, เต ‘‘มม สนฺตกา ตว สนฺตกา’’ติ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา อฏฺฏํ กโรนฺติ, สกฺกํ เทวราชานํ ปุจฺฉนฺติ, โส ยสฺส วิมานํ อาสนฺนตรํ, ตสฺส สนฺตโกติ วทติ. สเจ ทฺเวปิ สมฏฺาเน ¶ โหนฺติ, ยสฺส วิมานํ โอโลเกนฺโต ิโต, ตสฺส สนฺตโกติ วทติ. สเจ เอกมฺปิ น โอโลเกติ, ตํ อุภินฺนํ กลหุปจฺเฉทนตฺถํ อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ. ตํ สนฺธาย, ‘‘เทวานํเยว ตาวตึสานํ กรณีเยนา’’ติ อาห. อปิจสฺส เอวรูปํ กีฬากิจฺจมฺปิ กรณียเมว.
ยํ ¶ โน ขิปฺปเมว อนฺตรธายตีติ ยํ อมฺหากํ สีฆเมว อนฺธกาเร รูปคตํ วิย น ทิสฺสติ. อิมินา – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ น สลฺลกฺเขมี’’ติ ทีเปติ. เถโร – ‘‘กสฺมา นุ โข อยํ ยกฺโข อสลฺลกฺขณภาวํ ทีเปติ, ปสฺเสน ปริหรตี’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘เทวา นาม มหามูฬฺหา โหนฺติ. ฉทฺวาริเกหิ อารมฺมเณหิ นิมฺมถียมานา อตฺตโน ภุตฺตาภุตฺตภาวมฺปิ ปีตาปีตภาวมฺปิ น ชานนฺติ, อิธ กตเมตฺถ ปมุสฺสนฺตี’’ติ อฺาสิ. เกจิ ¶ ปนาหุ – ‘‘เถโร เอตสฺส ครุ ภาวนิโย, ตสฺมา ‘อิทาเนว โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สนฺติเก ปฺหํ อุคฺคเหตฺวา อาคโต, อิทาเนว นาฏกานํ อนฺตรํ ปวิฏฺโติ เอวํ มํ เถโร ตชฺเชยฺยา’ติ ภเยน เอวมาหา’’ติ. เอตํ ปน โกหฺํ นาม โหติ, น อริยสาวกสฺส เอวรูปํ โกหฺํ นาม โหติ, ตสฺมา มูฬฺหภาเวเนว น สลฺลกฺเขสีติ เวทิตพฺพํ. อุปริ กสฺมา สลฺลกฺเขสีติ? เถโร ตสฺส โสมนสฺสสํเวคํ ชนยิตฺวา ตมํ นีหริ, ตสฺมา สลฺลกฺเขสีติ.
อิทานิ สกฺโก ปุพฺเพ อตฺตโน เอวํ ภูตการณํ เถรสฺส อาโรเจตุํ ภูตปุพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สมุปพฺยูฬฺโหติ สนฺนิปติโต ราสิภูโต. อสุรา ปราชินึสูติ อสุรา ปราชยํ ปาปุณึสุ. กทา ปเนเต ปราชิตาติ? สกฺกสฺส นิพฺพตฺตกาเล. สกฺโก กิร อนนฺตเร อตฺตภาเว มคธรฏฺเ มจลคาเม มโฆ นาม มาณโว อโหสิ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต, โพธิสตฺตจริยา วิยสฺส จริยา อโหสิ. โส เตตฺตึส ปุริเส คเหตฺวา กลฺยาณมกาสิ. เอกทิวสํ อตฺตโนว ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา คามมชฺเฌ มหาชนสฺส สนฺนิปติตฏฺาเน กจวรํ อุภยโต อปพฺพหิตฺวา ตํ านํ อติรมณียมกาสิ, ปุน ตตฺเถว มณฺฑปํ กาเรสิ, ปุน คจฺฉนฺเต กาเล สาลํ กาเรสิ. คามโต จ นิกฺขมิตฺวา คาวุตมฺปิ อฑฺฒโยชนมฺปิ ติคาวุตมฺปิ โยชนมฺปิ วิจริตฺวา เตหิ สหาเยหิ สทฺธึ วิสมํ สมํ อกาสิ. เต สพฺเพปิ เอกจฺฉนฺทา ตตฺถ ตตฺถ เสตุยุตฺตฏฺาเนสุ เสตุํ, มณฺฑปสาลาโปกฺขรณีมาลาคจฺฉโรปนาทีนํ ยุตฺตฏฺาเนสุ มณฺฑปาทีนิ กโรนฺตา พหุํ ปฺุมกํสุ ¶ . มโฆ สตฺต วตปทานิ ปูเรตฺวา กายสฺส เภทา สทฺธึ สหาเยหิ ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.
ตสฺมึ ¶ กาเล อสุรคณา ตาวตึสเทวโลเก ปฏิวสนฺติ. สพฺเพ เต เทวานํ สมานายุกา สมานวณฺณา จ โหนฺติ, เต สกฺกํ สปริสํ ทิสฺวา อธุนา นิพฺพตฺตา นวกเทวปุตฺตา อาคตาติ มหาปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก เทวปุตฺตานํ สฺํ ¶ อทาสิ – ‘‘อมฺเหหิ กุสลํ กโรนฺเตหิ น ปเรหิ สทฺธึ สาธารณํ กตํ, ตุมฺเห คณฺฑปานํ มา ปิวิตฺถ ปีตมตฺตเมว กโรถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. พาลอสุรา คณฺฑปานํ ปิวิตฺวา มตฺตา นิทฺทํ โอกฺกมึสุ. สกฺโก เทวานํ สฺํ ทตฺวา เต ปาเทสุ คาหาเปตฺวา สิเนรุปาเท ขิปาเปสิ, สิเนรุสฺส เหฏฺิมตเล อสุรภวนํ นาม อตฺถิ, ตาวตึสเทวโลกปฺปมาณเมว. ตตฺถ อสุรา วสนฺติ. เตสมฺปิ จิตฺตปาฏลิ นาม รุกฺโข อตฺถิ. เต ตสฺส ปุปฺผนกาเล ชานนฺติ – ‘‘นายํ ตาวตึสา, สกฺเกน วฺจิตา มย’’นฺติ. เต คณฺหถ นนฺติ วตฺวา สิเนรุํ ปริหรมานา เทเว วุฏฺเ วมฺมิกปาทโต วมฺมิกมกฺขิกา วิย อภิรุหึสุ. ตตฺถ กาเลน เทวา ชินนฺติ, กาเลน อสุรา. ยทา เทวานํ ชโย โหติ, อสุเร ยาว สมุทฺทปิฏฺา อนุพนฺธนฺติ. ยทา อสุรานํ ชโย โหติ, เทเว ยาว เวทิกปาทา อนุพนฺธนฺติ. ตสฺมึ ปน สงฺคาเม เทวานํ ชโย อโหสิ, เทวา อสุเร ยาว สมุทฺทปิฏฺา อนุพนฺธึสุ. สกฺโก อสุเร ปลาเปตฺวา ปฺจสุ าเนสุ อารกฺขํ เปสิ. เอวํ อารกฺขํ ทตฺวา เวทิกปาเท วชิรหตฺถา อินฺทปฏิมาโย เปสิ. อสุรา กาเลน กาลํ อุฏฺหิตฺวา ตา ปฏิมาโย ทิสฺวา, ‘‘สกฺโก อปฺปมตฺโต ติฏฺตี’’ติ ตโตว นิวตฺตนฺติ. ตโต ปฏินิวตฺติตฺวาติ วิชิตฏฺานโต นิวตฺติตฺวา. ปริจาริกาโยติ มาลาคนฺธาทิกมฺมการิกาโย.
๓๙๓. เวสฺสวโณ จ มหาราชาติ โส กิร สกฺกสฺส วลฺลโภ, พลววิสฺสาสิโก, ตสฺมา สกฺเกน สทฺธึ อคมาสิ. ปุรกฺขตฺวาติ ปุรโต กตฺวา. ปวิสึสูติ ปวิสิตฺวา ปน อุปฑฺฒปิหิตานิ ทฺวารานิ กตฺวา โอโลกยมานา อฏฺํสุ. อิทมฺปิ, มาริส โมคฺคลฺลาน, ปสฺส เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส รามเณยฺยกนฺติ, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิทมฺปิ เวชยนฺตสฺส ปาสาทสฺส รามเณยฺยกํ ปสฺส, สุวณฺณตฺถมฺเภ ปสฺส, รชตตฺถมฺเภ มณิตฺถมฺเภ ปวาฬตฺถมฺเภ โลหิตงฺคตฺถมฺเภ มสารคลฺลตฺถมฺเภ มุตฺตตฺถมฺเภ สตฺตรตนตฺถมฺเภ, เตสํเยว สุวณฺณาทิมเย ฆฏเก วาฬรูปกานิ จ ปสฺสาติ ¶ เอวํ ถมฺภปนฺติโย อาทึ กตฺวา รามเณยฺยกํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ยถา ตํ ปุพฺเพกตปฺุสฺสาติ ¶ ยถา ปุพฺเพ กตปฺุสฺส อุปโภคฏฺาเนน โสภิตพฺพํ, เอวเมวํ โสภตีติ อตฺโถ. อติพาฬฺหํ ¶ โข อยํ ยกฺโข ปมตฺโต วิหรตีติ อตฺตโน ปาสาเท นาฏกปริวาเรน สมฺปตฺติยา วเสน อติวิย มตฺโต.
อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสีติ อิทฺธิมกาสิ. อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา ปาสาทปติฏฺิโตกาสํ อุทกํ โหตูติ อิทฺธึ อธิฏฺาย ปาสาทกณฺณิเก ปาทงฺคุฏฺเกน ปหริ. โส ปาสาโท ยถา นาม อุทกปิฏฺเ ปิตปตฺตํ มุขวฏฺฏิยํ องฺคุลิยา ปหฏํ อปราปรํ กมฺปติ จลติ น สนฺติฏฺติ. เอวเมวํ สํกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ, ถมฺภปิฏฺสงฺฆาฏกณฺณิกโคปานสิอาทีนิ กรกราติ สทฺทํ มฺุจนฺตานิ ปติตุํ วิย อารทฺธานิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สงฺกมฺเปสิ สมฺปกมฺเปสิ สมฺปเวเธสี’’ติ. อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตาติ อโห อจฺฉริยํ, อโห อพฺภุตนฺติ เอวํ สฺชาตอจฺฉริยอพฺภุตา เจว สฺชาตตุฏฺิโน จ อเหสุํ อุปฺปนฺนพลวโสมนสฺสา. สํวิคฺคนฺติ อุพฺพิคฺคํ. โลมหฏฺชาตนฺติ ชาตโลมหํสํ, กฺจนภิตฺติยํ ปิตมณินาคทนฺเตหิ วิย อุทฺธคฺเคหิ โลเมหิ อากิณฺณสรีรนฺติ อตฺโถ. โลมหํโส จ นาเมส โสมนสฺเสนปิ โหติ โทมนสฺเสนปิ, อิธ ปน โสมนสฺเสน ชาโต. เถโร หิ สกฺกสฺส โสมนสฺสเวเคน สํเวเชตุํ ตํ ปาฏิหาริยมกาสิ. ตสฺมา โสมนสฺสเวเคน สํวิคฺคโลมหฏฺํ วิทิตฺวาติ อตฺโถ.
๓๙๔. อิธาหํ, มาริสาติ อิทานิสฺส ยสฺมา เถเรน โสมนสฺสสํเวคํ ชนยิตฺวา ตมํ วิโนทิตํ, ตสฺมา สลฺลกฺเขตฺวา เอวมาห. เอโส นุ เต, มาริส, โส ภควา สตฺถาติ, มาริส, ตฺวํ กุหึ คโตสีติ วุตฺเต มยฺหํ สตฺถุ สนฺติกนฺติ วเทสิ, อิมสฺมึ เทวโลเก เอกปาทเกน วิย ติฏฺสิ, ยํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ, เอโส นุ เต, มาริส, โส ภควา สตฺถาติ ปุจฺฉึสุ. สพฺรหฺมจารี เม เอโสติ เอตฺถ กิฺจาปิ เถโร อนคาริโย อภินีหารสมฺปนฺโน อคฺคสาวโก, สกฺโก อคาริโย, มคฺคพฺรหฺมจริยวเสน ปเนเต สพฺรหฺมจาริโน โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. อโห ¶ นูน เต โส ภควา สตฺถาติ สพฺรหฺมจารี ตาว เต เอวํมหิทฺธิโก, โส ปน เต ภควา สตฺถา อโห นูน มหิทฺธิโกติ สตฺถุ อิทฺธิปาฏิหาริยทสฺสเน ชาตาภิลาปา หุตฺวา เอวมาหํสุ.
๓๙๕. าตฺตรสฺสาติ ¶ ปฺาตฺตรสฺส, สกฺโก หิ ปฺาตานํ อฺตโร. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว, เทสนํ ปน ภควา ยถานุสนฺธินาว นิฏฺาเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา
๓๙๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตํ. ตตฺถ ทิฏฺิคตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺเต ลทฺธิมตฺตํ ทิฏฺิคตนฺติ วุตฺตํ, อิธ สสฺสตทิฏฺิ. โส จ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต, อยํ อปฺปสฺสุโต, ชาตกภาณโก ภควนฺตํ ชาตกํ กเถตฺวา, ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, เตน สมเยน เวสฺสนฺตโร อโหสึ, มโหสโธ, วิธุรปณฺฑิโต, เสนกปณฺฑิโต, มหาชนโก ราชา อโหสิ’’นฺติ สโมธาเนนฺตํ สุณาติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม รูปเวทนาสฺาสงฺขารา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนฺติ, วิฺาณํ ปน อิธโลกโต ปรโลกํ, ปรโลกโต อิมํ โลกํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ สสฺสตทสฺสนํ อุปฺปนฺนํ. เตนาห – ‘‘ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ อนฺ’’นฺติ.
สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน, ‘‘วิฺาณํ ปจฺจยสมฺภวํ, สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชติ, วินา ปจฺจยํ นตฺถิ วิฺาณสฺส สมฺภโว’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา อยํ ภิกฺขุ พุทฺเธน อกถิตํ กเถติ, ชินจกฺเก ปหารํ เทติ, เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหติ, โสตุกามํ ชนํ วิสํวาเทติ, อริยปเถ ติริยํ นิปติตฺวา มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย ปฏิปนฺโน. ยถา นาม รฺโ รชฺเช มหาโจโร อุปฺปชฺชมาโน มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย อุปฺปชฺชติ, เอวํ ชินสาสเน โจโร ¶ หุตฺวา มหาชนสฺส อหิตาย ทุกฺขาย อุปฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ. สมฺพหุลา ภิกฺขูติ ชนปทวาสิโน ปิณฺฑปาติกภิกฺขู. เตนุปสงฺกมึสูติ อยํ ปริสํ ลภิตฺวา สาสนมฺปิ อนฺตรธาเปยฺย, ยาว ปกฺขํ น ลภติ, ตาวเทว นํ ทิฏฺิคตา วิเวเจมาติ สุตสุตฏฺานโตเยว อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวา อุปสงฺกมึสุ.
๓๙๘. กตมํ ตํ สาติ วิฺาณนฺติ สาติ ยํ ตฺวํ วิฺาณํ สนฺธาย วเทสิ, กตมํ ตํ วิฺาณนฺติ? ยฺวายํ, ภนฺเต, วโท เวเทยฺโย ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทตีติ, ภนฺเต, โย อยํ วทติ เวทยติ, โย จายํ ตหึ ตหึ กุสลากุสลกมฺมานํ วิปากํ ปจฺจนุโภติ. อิทํ, ภนฺเต, วิฺาณํ, ยมหํ สนฺธาย วเทมีติ ¶ . กสฺส นุ โข นามาติ ¶ กสฺส ขตฺติยสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เวสฺสสุทฺทคหฏฺปพฺพชิตเทวมนุสฺสานํ วา อฺตรสฺส.
๓๙๙. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ กสฺมา อามนฺเตสิ? สาติสฺส กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘สตฺถา มํ ‘โมฆปุริโส’ติ วทติ, น จ โมฆปุริโสติ วุตฺตมตฺเตเนว มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย น โหติ. อุปเสนมฺปิ หิ วงฺคนฺตปุตฺตํ, ‘อติลหุํ โข ตฺวํ โมฆปุริส พาหุลฺลาย อาวตฺโต’ติ (มหาว. ๗๕) ภควา โมฆปุริสวาเทน โอวทิ. เถโร อปรภาเค ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ฉ อภิฺา สจฺฉากาสิ. อหมฺปิ ตถารูปํ วีริยํ ปคฺคณฺหิตฺวา มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา ฉินฺนปจฺจโย อยํ สาสเน อวิรุฬฺหธมฺโมติ ทสฺเสนฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ. อุสฺมีกโตติอาทิ เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมว. อถ โข ภควาติ อยมฺปิ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. สาติสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘ภควา มยฺหํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถีติ วทติ, กึ สกฺกา อุปนิสฺสเย อสติ กาตุํ? น หิ ตถาคตา สอุปนิสฺสยสฺเสว ธมฺมํ เทเสนฺติ, ยสฺส กสฺสจิ เทเสนฺติเยว. อหํ พุทฺธสฺส สนฺติกา สุคโตวาทํ ลภิตฺวา สคฺคสมฺปตฺตูปคํ กุสลํ กริสฺสามี’’ติ. อถสฺส ภควา, ‘‘นาหํ, โมฆปุริส, ตุยฺหํ โอวาทํ วา อนุสาสนึ วา เทมี’’ติ สุคโตวาทํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิทานิ ปริสาย ¶ ลทฺธึ โสเธนฺโต, ‘‘อิธาหํ ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพมฺปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๐๐. อิทานิ วิฺาณสฺส สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสตุํ ยํ ยเทว, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จาติ สหาวชฺชเนน ภวงฺคมนฺจ เตภูมกธมฺเม จ ปฏิจฺจ. กฏฺฺจ ปฏิจฺจาติอาทิ โอปมฺมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตน กึ ทีเปติ? ทฺวารสงฺกนฺติยา อภาวํ. ยถา หิ กฏฺํ ปฏิจฺจ ชลมาโน อคฺคิ อุปาทานปจฺจเย สติเยว ชลติ, ตสฺมึ อสติ ปจฺจยเวกลฺเลน ตตฺเถว ¶ วูปสมฺมติ, น สกลิกาทีนิ สงฺกมิตฺวา สกลิกคฺคีติอาทิสงฺขฺยํ คจฺฉติ, เอวเมว จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปนฺนํ วิฺาณํ ตสฺมึ ทฺวาเร จกฺขุรูปอาโลกมนสิการสงฺขาเต ปจฺจยมฺหิ สติเยว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสติ ปจฺจยเวกลฺเลน ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, น โสตาทีนิ สงฺกมิตฺวา โสตวิฺาณนฺติอาทิสงฺขฺยํ คจฺฉติ ¶ . เอส นโย สพฺพวาเรสุ. อิติ ภควา นาหํ วิฺาณปฺปวตฺเต ทฺวารสงฺกนฺติมตฺตมฺปิ วทามิ, อยํ ปน สาติ โมฆปุริโส ภวสงฺกนฺตึ วทตีติ สาตึ นิคฺคเหสิ.
๔๐๑. เอวํ วิฺาณสฺส สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปน ปฺจนฺนมฺปิ ขนฺธานํ สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสนฺโต, ภูตมิทนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภูตมิทนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ ชาตํ ภูตํ นิพฺพตฺตํ, ตุมฺเหปิ ตํ ภูตมิทนฺติ, ภิกฺขเว, ปสฺสถาติ. ตทาหารสมฺภวนฺติ ตํ ปเนตํ ขนฺธปฺจกํ อาหารสมฺภวํ ปจฺจยสมฺภวํ, สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชติ เอวํ ปสฺสถาติ ปุจฺฉติ. ตทาหารนิโรธาติ ตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา. ภูตมิทํ โนสฺสูติ ภูตํ นุ โข อิทํ, น นุ โข ภูตนฺติ. ตทาหารสมฺภวํ โนสฺสูติ ตํ ภูตํ ขนฺธปฺจกํ ปจฺจยสมฺภวํ นุ โข, น นุ โขติ. ตทาหารนิโรธาติ ตสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา. นิโรธธมฺมํ โนสฺสูติ ตํ ธมฺมํ นิโรธธมฺมํ นุ โข, น นุ โขติ. สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโตติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ ชาตํ ภูตํ นิพฺพตฺตนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต วิปสฺสนาปฺาย สมฺมา ปสฺสนฺตสฺส. ปฺาย สุทิฏฺนฺติ วุตฺตนเยเนว วิปสฺสนาปฺาย สุฏฺุ ทิฏฺํ. เอวํ เย เย ตํ ปุจฺฉํ สลฺลกฺเขสุํ, เตสํ เตสํ ปฏิฺํ คณฺหนฺโต ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สปฺปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ.
อิทานิ ยาย ปฺาย เตหิ ตํ สปฺปจฺจยํ สนิโรธํ ขนฺธปฺจกํ สุทิฏฺํ, ตตฺถ นิตฺตณฺหภาวํ ปุจฺฉนฺโต อิมํ เจ ตุมฺเหติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺินฺติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺึ ¶ . สภาวทสฺสเนน ปริสุทฺธํ. ปจฺจยทสฺสเนน ปริโยทาตํ. อลฺลีเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อลฺลียิตฺวา วิหเรยฺยาถ. เกลาเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ กีฬมานา วิหเรยฺยาถ ¶ . ธนาเยถาติ ธนํ วิย อิจฺฉนฺตา เคธํ อาปชฺเชยฺยาถ. มมาเยถาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ มมตฺตํ อุปฺปาเทยฺยาถ. นิตฺถรณตฺถาย โน คหณตฺถายาติ โย โส มยา จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย กุลฺลูปโม ธมฺโม เทสิโต, โน นิกนฺติวเสน คหณตฺถาย. อปิ นุ ตํ ตุมฺเห อาชาเนยฺยาถาติ. วิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.
๔๐๒. อิทานิ เตสํ ขนฺธานํ ปจฺจยํ ทสฺเสนฺโต, จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหาราติอาทิมาห, ตมฺปิ วุตฺตตฺถเมว. ยถา ปน เอโก อิมํ ชานาสีติ วุตฺโต, ‘‘น เกวลํ อิมํ, มาตรมฺปิสฺส ชานามิ, มาตุ มาตรมฺปี’’ติ เอวํ ปเวณิวเสน ชานนฺโต สุฏฺุ ชานาติ นาม. เอวเมวํ ภควา น เกวลํ ขนฺธมตฺตเมว ชานาติ, ขนฺธานํ ปจฺจยมฺปิ เตสมฺปิ ปจฺจยานํ ¶ ปจฺจยนฺติ เอวํ สพฺพปจฺจยปรมฺปรํ ชานาติ. โส ตํ, พุทฺธพลํ ทีเปนฺโต อิทานิ ปจฺจยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ, อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหาราติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมว. อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ เอตฺถ ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา วิตฺถาเรตพฺพา ภเวยฺย, สา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาว.
๔๐๔. อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ อิมสฺมึ อวิชฺชาทิเก ปจฺจเย สติ อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ โหติ. อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺส อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยสฺส อุปฺปาทา อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ อุปฺปชฺชติ, เตเนวาห – ‘‘ยทิทํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… สมุทโย โหตี’’ติ. เอวํ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต, อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย เอว ตุ. อเสสวิราคนิโรธาติ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา อนุปฺปาทนิโรธา. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ, เอวํ นิรุทฺธานํ ปน สงฺขารานํ นิโรธา วิฺาณนิโรโธ โหติ, วิฺาณาทีนฺจ นิโรธา นามรูปาทีนิ นิรุทฺธานิเยว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธติอาทึ วตฺวา เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ ¶ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ เกวลสฺสาติ สกลสฺส, สุทฺธสฺส วา, สตฺตวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ¶ ทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหติ.
๔๐๖. อิมสฺมึ อสตีติอาทิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.
๔๐๗. เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏํ กเถตฺวา อิทานิ อิมํ ทฺวาทสงฺคปจฺจยวฏฺฏํ สห วิปสฺสนาย มคฺเคน ชานนฺตสฺส ยา ปฏิธาวนา ปหียติ, ตสฺสา อภาวํ ปุจฺฉนฺโต อปิ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ ชานนฺตาติ เอวํ สหวิปสฺสนาย มคฺเคน ชานนฺตา. เอวํ ปสฺสนฺตาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุพฺพนฺตนฺติ ปุริมโกฏฺาสํ, อตีตขนฺธธาตุอายตนานีติ อตฺโถ. ปฏิธาเวยฺยาถาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปฏิธาเวยฺยาถ. เสสํ สพฺพาสวสุตฺเต วิตฺถาริตเมว.
อิทานิ เนสํ ตตฺถ นิจฺจลภาวํ ปุจฺฉนฺโต, อปิ นุ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอวํ ชานนฺตา เอวํ ปสฺสนฺตา เอวํ วเทยฺยาถ, สตฺถา โน ครูติอาทิมาห. ตตฺถ ครูติ ภาริโก อกามา อนุวตฺติตพฺโพ ¶ . สมโณติ พุทฺธสมโณ. อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยาถาติ อยํ สตฺถา อมฺหากํ กิจฺจํ สาเธตุํ น สกฺโกตีติ อปิ นุ เอวํสฺิโน หุตฺวา อฺํ พาหิรกํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยาถ. ปุถุสมณพฺราหฺมณานนฺติ เอวํสฺิโน หุตฺวา ปุถูนํ ติตฺถิยสมณานํ เจว พฺราหฺมณานฺจ. วตโกตูหลมงฺคลานีติ วตสมาทานานิ จ ทิฏฺิกุตูหลานิ จ ทิฏฺสุตมุตมงฺคลานิ จ. ตานิ สารโต ปจฺจาคจฺเฉยฺยาถาติ เอตานิ สารนฺติ เอวํสฺิโน หุตฺวา ปฏิอาคจฺเฉยฺยาถ. เอวํ นิสฺสฏฺานิ จ ปุน คณฺเหยฺยาถาติ อตฺโถ. สามํ าตนฺติ สยํ าเณน าตํ. สามํ ทิฏฺนฺติ สยํ ปฺาจกฺขุนา ทิฏฺํ. สามํ วิทิตนฺติ สยํ วิภาวิตํ ปากฏํ กตํ. อุปนีตา โข เม ตุมฺเหติ มยา, ภิกฺขเว, ตุมฺเห อิมินา สนฺทิฏฺิกาทิสภาเวน ธมฺเมน นิพฺพานํ อุปนีตา, ปาปิตาติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโกติอาทีนมตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริโต. อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตนฺติ เอตํ วจนมิทํ ตุมฺเหหิ สามํ าตาทิภาวํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
๔๐๘. ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? นนุ เหฏฺา วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนา มตฺถกํ ปาปิตาติ? อาม ปาปิตา. อยํ ปน ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ ¶ , ‘‘อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส ปฏิสนฺธิสมฺมูฬฺโห, ตสฺส สมฺโมหฏฺานํ ¶ วิทฺธํเสตฺวา ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. อปิจ วฏฺฏมูลํ อวิชฺชา, วิวฏฺฏมูลํ พุทฺธุปฺปาโท, อิติ วฏฺฏมูลํ อวิชฺชํ วิวฏฺฏมูลฺจ พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวาปิ, ‘‘ปุน เอกวารํ วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนํ มตฺถกํ ปาเปสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สนฺนิปาตาติ สโมธาเนน ปิณฺฑภาเวน. คพฺภสฺสาติ คพฺเภ นิพฺพตฺตนกสตฺตสฺส. อวกฺกนฺติ โหตีติ นิพฺพตฺติ โหติ. กตฺถจิ หิ คพฺโภติ มาตุกุจฺฉิ วุตฺโต. ยถาห –
‘‘ยเมกรตฺตึ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;
อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓);
กตฺถจิ คพฺเภ นิพฺพตฺตนสตฺโต. ยถาห – ‘‘ยถา โข, ปนานนฺท, อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๕). อิธ สตฺโต อธิปฺเปโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติ.
อิธาติ ¶ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิทํ อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ. มาตุคามสฺส กิร ยสฺมึ โอกาเส ทารโก นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ มหตี โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา ภิชฺชิตฺวา ปคฺฆรติ, วตฺถุ สุทฺธํ โหติ, สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ มาตาปิตูสุ เอกวารํ สนฺนิปติเตสุ ยาว สตฺต ทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ. ตสฺมึ สมเย หตฺถคฺคาหเวณิคฺคาหาทินา องฺคปรามสเนนปิ ทารโก นิพฺพตฺตติเยว. คนฺธพฺโพติ ตตฺรูปคสตฺโต. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ น มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตํ โอโลกยมาโน สมีเป ิโต ปจฺจุปฏฺิโต นาม โหติ. กมฺมยนฺตยนฺติโต ปน เอโก สตฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิพฺพตฺตนโก โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. สํสเยนาติ ‘‘อโรโค นุ โข ภวิสฺสามิ อหํ วา, ปุตฺโต วา เม’’ติ เอวํ มหนฺเตน ชีวิตสํสเยน. โลหิตฺเหตํ, ภิกฺขเวติ ตทา กิร มาตุโลหิตํ ตํ านํ สมฺปตฺตํ ปุตฺตสิเนเหน ปณฺฑรํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. วงฺกกนฺติ คามทารกานํ กีฬนกํ ขุทฺทกนงฺคลํ. ฆฏิกา วุจฺจติ ทีฆทณฺเฑน รสฺสทณฺฑกํ ปหรณกีฬา. โมกฺขจิกนฺติ สมฺปริวตฺตกกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑกํ คเหตฺวา ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนกีฬนนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ ¶ . ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถกนฺติ ขุทฺทกรถํ. ธนุกมฺปิ ขุทฺทกธนุเมว.
๔๐๙. สารชฺชตีติ ราคํ อุปฺปาเทติ. พฺยาปชฺชตีติ พฺยาปาทํ อุปฺปาเทติ. อนุปฏฺิตกายสตีติ กาเย สติ กายสติ, ตํ อนุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. ปริตฺตเจตโสติ อกุสลจิตฺโต. ยตฺถสฺส เต ปาปกาติ ยสฺสํ ผลสมาปตฺติยํ เอเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ น ชานาติ นาธิคจฺฉตีติ อตฺโถ. อนุโรธวิโรธนฺติ ราคฺเจว โทสฺจ. อภินนฺทตีติ ตณฺหาวเสน อภินนฺทติ, ตณฺหาวเสเนว อโห สุขนฺติอาทีนิ วทนฺโต อภิวทติ. อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ ตณฺหาอชฺโฌสานคหเณน คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คณฺหาติ. สุขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา อภินนฺทตุ, ทุกฺขํ กถํ อภินนฺทตีติ? ‘‘อหํ ทุกฺขิโต มม ทุกฺข’’นฺติ คณฺหนฺโต อภินนฺทติ นาม. อุปฺปชฺชติ นนฺทีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. ตทุปาทานนฺติ สาว ตณฺหา คหณฏฺเน อุปาทานํ นาม. ตสฺส อุปาทานปจฺจยา ภโว…เป… สมุทโย โหตีติ, อิทฺหิ ภควตา ปุน เอกวารํ ทฺวิสนฺธิ ติสงฺเขปํ ปจฺจยาการวฏฺฏํ ทสฺสิตํ.
๔๑๐-๔. อิทานิ ¶ วิวฏฺฏํ ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตีติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปมาณเจตโสติ อปฺปมาณํ โลกุตฺตรํ เจโต อสฺสาติ อปฺปมาณเจตโส, มคฺคจิตฺตสมงฺคีติ อตฺโถ. อิมํ โข เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ธาเรถาติ, ภิกฺขเว, อิมํ สํขิตฺเตน เทสิตํ มยฺหํ, ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติเทสนํ ตุมฺเห นิจฺจกาลํ ธาเรยฺยาถ มา ปมชฺเชยฺยาถ. เทสนา หิ เอตฺถ วิมุตฺติปฏิลาภเหตุโต วิมุตฺตีติ วุตฺตา. มหาตณฺหาชาลตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺกนฺติ ตณฺหาว สํสิพฺพิตฏฺเน มหาตณฺหาชาลํ, สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏนฺติ วุจฺจติ; อิติ อิมสฺมึ มหาตณฺหาชาเล ตณฺหาสงฺฆาเฏ จ อิมํ สาตึ ภิกฺขุํ เกวฏฺฏปุตฺตํ ปฏิมุกฺกํ ธาเรถ. อนุปวิฏฺโ อนฺโตคโธติ นํ ธาเรถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาตณฺหาสงฺขยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา
๔๑๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาอสฺสปุรสุตฺตํ. ตตฺถ องฺเคสูติ องฺคา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘องฺคา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ องฺเคสุ ชนปเท. อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโมติ อสฺสปุรนฺติ นครนาเมน ลทฺธโวหาโร องฺคานํ ชนปทสฺส เอโก นิคโม, ตํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. ภควา เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘สมณา สมณาติ โว, ภิกฺขเว, ชโน สฺชานาตี’’ติอาทิวจนมโวจ.
กสฺมา ปน เอวํ อโวจาติ. ตสฺมึ กิร นิคเม มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, ตทหุปพฺพชิตสามเณรมฺปิ วสฺสสติกตฺเถรสทิสํ กตฺวา ปสํสนฺติ; ปุพฺพณฺหสมยํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา พีชนงฺคลาทีนิ คเหตฺวา เขตฺตํ คจฺฉนฺตาปิ, ผรสุอาทีนิ คเหตฺวา อรฺํ ปวิสนฺตาปิ ตานิ อุปกรณานิ นิกฺขิปิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสีทนฏฺานํ อาสนสาลํ วา มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา สมฺมชฺชิตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา อรชปานียํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุยฺโยเชตฺวา ตโต ตานิ อุปกรณานิ อาทาย เขตฺตํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวา อตฺตโน กมฺมานิ กโรนฺติ, กมฺมนฺตฏฺาเนปิ เนสํ อฺา กถา นาม นตฺถิ. จตฺตาโร มคฺคฏฺา จตฺตาโร ผลฏฺาติ อฏฺ ปุคฺคลา อริยสงฺโฆ นาม; เต ‘‘เอวรูเปน สีเลน, เอวรูเปน อาจาเรน, เอวรูปาย ปฏิปตฺติยา สมนฺนาคตา ลชฺชิโน เปสลา อุฬารคุณา’’ติ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ. กมฺมนฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา ภุตฺตสายมาสา ฆรทฺวาเร นิสินฺนาปิ, สยนิฆรํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนาปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ. ภควา เตสํ มนุสฺสานํ นิปจฺจการํ ทิสฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปิณฺฑปาตาปจายเน นิโยเชตฺวา เอตทโวจ.
เย ธมฺมา สมณกรณา จ พฺราหฺมณกรณา จาติ เย ธมฺมา สมาทาย ปริปูริตา สมิตปาปสมณฺจ ¶ พาหิตปาปพฺราหฺมณฺจ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สมณสฺส สมณิยานิ สมณกรณียานิ ¶ . กตมานิ ตีณิ? อธิสีลสิกฺขาสมาทานํ, อธิจิตฺตสิกฺขาสมาทานํ ¶ , อธิปฺาสิกฺขาสมาทาน’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๘๒) เอตฺถ ปน สมเณน กตฺตพฺพธมฺมา วุตฺตา. เตปิ จ สมณกรณา โหนฺติเยว. อิธ ปน หิโรตฺตปฺปาทิวเสน เทสนา วิตฺถาริตา. เอวํ โน อยํ อมฺหากนฺติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ. เอวํ อยํ อมฺหากนฺติ อตฺโถ. มหปฺผลา มหานิสํสาติ อุภยมฺปิ อตฺถโต เอกเมว. อวฺฌาติ อโมฆา. สผลาติ อยํ ตสฺเสว อตฺโถ. ยสฺสา หิ ผลํ นตฺถิ, สา วฺฌา นาม โหติ. สอุทฺรยาติ สวฑฺฒิ, อิทํ สผลตาย เววจนํ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพนฺติ, ภิกฺขเว, เอวํ ตุมฺเหหิ สิกฺขิตพฺพํ. อิติ ภควา อิมินา เอตฺตเกน าเนน หิโรตฺตปฺปาทีนํ ธมฺมานํ วณฺณํ กเถสิ. กสฺมา? วจนปถปจฺฉินฺทนตฺถํ. สเจ หิ โกจิ อจิรปพฺพชิโต พาลภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘‘ภควา หิโรตฺตปฺปาทิธมฺเม สมาทาย วตฺตถาติ วทติ, โก นุ โข เตสํ สมาทาย วตฺตเน อานิสํโส’’ติ? ตสฺส วจนปถปจฺฉินฺทนตฺถํ. อยฺจ อานิสํโส, อิเม หิ ธมฺมา สมาทาย ปริปูริตา สมิตปาปสมณํ นาม พาหิตปาปพฺราหฺมณํ นาม กโรนฺติ, จตุปจฺจยลาภํ อุปฺปาเทนฺติ, ปจฺจยทายกานํ มหปฺผลตํ สมฺปาเทนฺติ, ปพฺพชฺชํ อวฺฌํ สผลํ สอุทฺรยํ กโรนฺตีติ วณฺณํ อภาสิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน วณฺณกถา สติปฏฺาเน (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
๔๑๖. หิโรตฺตปฺเปนาติ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพน, โอตฺตปฺปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพนา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๓๑) เอวํ วิตฺถาริตาย หิริยา เจว โอตฺตปฺเปน จ. อปิเจตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปเตยฺยา หิรี, โลกาธิปเตยฺยํ โอตฺตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ, วิตฺถารกถา ปเนตฺถ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อปิจ อิเม ทฺเว ธมฺมา โลกํ ปาลนโต โลกปาลธมฺมา นามาติ กถิตา. ยถาห – ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. กตเม ทฺเว? หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ ¶ . อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺติ. อิเม จ โข, ภิกฺขเว, ทฺเว สุกฺกา ธมฺมา โลกํ น ปาเลยฺยุํ, นยิธ ปฺาเยถ, ‘มาตา’ติ วา, ‘มาตุจฺฉา’ติ วา, ‘มาตุลานี’ติ วา, ‘อาจริยภริยา’ติ วา, ‘ครูนํ ทารา’ติ วา, สมฺเภทํ ¶ โลโก อคมิสฺส, ยถา อเชฬกา กุกฺกุฏสูกรา โสณสิงฺคาลา’’ติ (อ. นิ. ๒.๙). อิเมเยว ชาตเก ‘‘เทวธมฺมา’’ติ กถิตา. ยถาห –
‘‘หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา ¶ , สุกฺกธมฺมสมาหิตา;
สนฺโต สปฺปุริสา โลเก, เทวธมฺมาติ วุจฺจเร’’ติ. (ชา. ๑.๑.๖);
มหาจุนฺทตฺเถรสฺส ปน กิเลสสลฺเลขนปฏิปทาติ กตฺวา ทสฺสิตา. ยถาห – ‘‘ปเร อหิริกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ หิริมนา ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย. ปเร อโนตฺตาปี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ โอตฺตาปี ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓). อิเมว มหากสฺสปตฺเถรสฺส โอวาทูปสมฺปทาติ กตฺวา ทสฺสิตา. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตสฺมา ติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ, ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสูติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔). อิธ ปเนเต สมณธมฺมา นามาติ ทสฺสิตา.
ยสฺมา ปน เอตฺตาวตา สามฺตฺโถ มตฺถกํ ปตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อปเรปิ สมณกรณธมฺเม ทสฺเสตุํ สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, ตุมฺหากนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สามฺตฺโถติ สํยุตฺตเก ตาว, ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สามฺํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สามฺํ. กตโม จ, ภิกฺขเว, สามฺตฺโถ? โย, ภิกฺขเว, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สามฺตฺโถ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖) มคฺโค ‘‘สามฺ’’นฺติ, ผลนิพฺพานานิ ‘‘สามฺตฺโถ’’ติ วุตฺตานิ. อิมสฺมึ ปน าเน มคฺคมฺปิ ผลมฺปิ เอกโต กตฺวา สามฺตฺโถ กถิโตติ เวทิตพฺโพ. อาโรจยามีติ กเถมิ. ปฏิเวทยามีติ ชานาเปมิ.
๔๑๗. ปริสุทฺโธ โน กายสมาจาโรติ เอตฺถ กายสมาจาโร ปริสุทฺโธ อปริสุทฺโธติ ทุวิโธ. โย หิ ภิกฺขุ ปาณํ ¶ หนติ อทินฺนํ อาทิยติ, กาเมสุ มิจฺฉา จรติ, ตสฺส กายสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม, อยํ ปน กมฺมปถวเสเนว วาริโต. โย ปน ปาณินา วา เลฑฺฑุนา ¶ วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ปรํ โปเถติ วิเหเติ, ตสฺส กายสมาจาโร ¶ อปริสุทฺโธ นาม, อยมฺปิ สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ ปานียฆเฏ วา ปานียํ ปิวนฺตานํ, ปตฺเต วา ภตฺตํ ภฺุชนฺตานํ กากานํ นิวารณวเสน หตฺถํ วา ทณฺฑํ วา เลฑฺฑุํ วา อุคฺคิรติ, ตสฺส กายสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม. อุตฺตาโนติ อุคฺคโต ปากโฏ. วิวโฏติ อนาวโฏ อสฺฉนฺโน. อุภเยนาปิ ปริสุทฺธตํเยว ทีเปติ. น จ ฉิทฺทวาติ สทา เอกสทิโส อนฺตรนฺตเร ฉิทฺทรหิโต. สํวุโตติ กิเลสานํ ทฺวาร ปิทหเนน ปิทหิโต, น วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถาย.
๔๑๘. วจีสมาจาเรปิ โย ภิกฺขุ มุสา วทติ, ปิสุณํ กเถติ, ผรุสํ ภาสติ, สมฺผํ ปลปติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน กมฺมปถวเสน วาริโต. โย ปน คหปติกาติ วา ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา อาทีหิ ขุํเสนฺโต วทติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ ทหเรน วา สามเณเรน วา, ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, อมฺหากํ อุปชฺฌายํ ปสฺสถา’’ติ วุตฺเต, สมฺพหุลา, อาวุโส, ภิกฺขุภิกฺขุนิโย เอกสฺมึ ปเทเส วิจทึสุ, อุปชฺฌาโย เต วิกฺกายิกสากภณฺฑิกํ อุกฺขิปิตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติอาทินา นเยน หสาธิปฺปาโยปิ เอวรูปํ กถํ กเถติ, ตสฺส วจีสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๑๙. มโนสมาจาเร โย ภิกฺขุ อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน กมฺมปถวเสเนว วาริโต. โย ปน อุปนิกฺขิตฺตํ ชาตรูปรชตํ สาทิยติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ นาม. อยมฺปิ สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย ปน ภิกฺขุ กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ ¶ ¶ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส มโนสมาจาโร อปริสุทฺโธ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๒๐. อาชีวสฺมึ โย ภิกฺขุ อาชีวเหตุ เวชฺชกมฺมํ ปหิณคมนํ คณฺฑผาลนํ กโรติ, อรุมกฺขนํ เทติ, เตลํ ปจตีติ เอกวีสติอเนสนาวเสน ชีวิกํ กปฺเปติ. โย วา ปน วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ตสฺส อาชีโว อปริสุทฺโธ นาม. อยํ ปน สิกฺขาปทพทฺเธเนว ปฏิกฺขิตฺโต. อิมสฺมึ สุตฺเต อุภยมฺเปตํ อกเถตฺวา ปรมสลฺเลโข นาม กถิโต. โย หิ ภิกฺขุ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตาทีนิ ลภิตฺวา, ‘‘สฺเว วา ปุนทิวเส วา ภวิสฺสตี’’ติ ¶ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชติ, โย วา ปน นิมฺพงฺกุราทีนิ ทิสฺวา สามเณเร วทติ – ‘‘อํงฺกุเร ขาทถา’’ติ, สามเณรา เถโร ขาทิตุกาโมติ กปฺปิยํ กตฺวา เทนฺติ, ทหเร ปน สามเณเร วา ปานียํ ปิวถ, อาวุโสติ วทติ, เต เถโร ปานียํ ปิวิตุกาโมติ ปานียสงฺขํ โธวิตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ ปริภฺุชนฺตสฺส อาชีโว อปริสุทฺโธ นาม โหติ. วิปรีโต ปริสุทฺโธ นาม.
๔๒๒. มตฺตฺูติ ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตฺู, ยุตฺตฺู, ปมาณฺู.
๔๒๓. ชาคริยมนุยุตฺตาติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา เอกสฺมึ โกฏฺาเส นิทฺทาย โอกาสํ ทตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส ชาคริยมฺหิ ยุตฺตา ปยุตฺตา. สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคิเสยฺยา, เปตเสยฺยา, สีหเสยฺยา, ตถาคตเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี สตฺตา วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ กามโภคิเสยฺยา, เตสุ หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ.
‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ เปตเสยฺยา, เปตา หิ อปฺปมํสโลหิตตฺตา อฏฺิสงฺฆาตชฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ.
‘‘เยภุยฺเยน ¶ , ภิกฺขเว, สีโห มิคราชา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ อนุปกฺขิปิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ สีหเสยฺยา. เตชุสฺสทตฺตา หิ สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ ¶ . ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺราสนฺโต ปพุชฺฌติ. สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขติ. สเจ กิฺจิ านํ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ, ‘‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา, น สูรภาวสฺส จ อนุรูป’’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ. อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘‘ตุยฺหํ ชาติยา สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภิตํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ วิธุนิตฺวา ¶ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ปน ตถาคตเสยฺยาติ วุจฺจติ. ตาสุ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม. ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย อีสกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา, โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก, ชาณุนา วา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, เสยฺยา อผาสุกา โหติ. ยถา ปน น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, เสยฺยา ผาสุกา โหติ, ตสฺมา เอวมาห.
๔๒๕. อภิชฺฌํ โลเกติอาทิ จูฬหตฺถิปเท วิตฺถาริตํ.
๔๒๖. ยา ปนายํ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเวติ อุปมา วุตฺตา. ตตฺถ อิณํ อาทายาติ วฑฺฒิยา ธนํ คเหตฺวา. พฺยนฺตี กเรยฺยาติ วิคตนฺตานิ กเรยฺย. ยถา เตสํ กากณิกมตฺโตปิ ปริยนฺโต นาม นาวสิสฺสติ, เอวํ กเรยฺย, สพฺพโส ปฏินิยฺยาเตยฺยาติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ อาณณฺยนิทานํ. โส หิ อณโณมฺหีติ อาวชฺชนฺโต พลวปาโมชฺชํ ลภติ, พลวโสมนสฺสมธิคจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ.
วิสภาคเวทนุปฺปตฺติยา กกเจเนว จตุอิริยาปถํ ฉินฺทนฺโต อาพาธตีติ อาพาโธ, สฺวาสฺส อตฺถีติ อาพาธิโก. ตํสมุฏฺาเนน ทุกฺเขน ¶ ทุกฺขิโต. อธิมตฺตคิลาโนติ พาฬฺหคิลาโน. นจฺฉาเทยฺยาติ อธิมตฺตพฺยาธิปเรตตาย น รุจฺเจยฺย. พลมตฺตาติ พลเมว, พลฺจสฺส กาเย น ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ อาโรคฺยนิทานํ, ตสฺส หิ อโรโคมฺหีติ อาวชฺชยโต ตทุภยํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ. น ¶ จสฺส กิฺจิ โภคานํ วโยติ กากณิกมตฺตมฺปิ โภคานํ วโย น ภเวยฺย. ตโตนิทานนฺติ พนฺธนาโมกฺขนิทานํ, เสสํ วุตฺตนเยเนว สพฺพปเทสุ โยเชตพฺพํ. อนตฺตาธีโนติ น อตฺตนิ อธีโน, อตฺตโน รุจิยา กิฺจิ กาตุํ น ลภติ. ปราธีโนติ ปเรสุ อธีโน, ปรสฺเสว รุจิยา ปวตฺตติ. น เยน กามํ คโมติ เยน ทิสาภาเคนสฺส กาโม โหติ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ คมนาย, เตน คนฺตุํ น ลภติ. ทาสพฺยาติ ทาสภาวา. ภุชิสฺโสติ อตฺตโน สนฺตโก ¶ . ตโตนิทานนฺติ ภุชิสฺสนิทานํ. กนฺตารทฺธานมคฺคนฺติ กนฺตารํ อทฺธานมคฺคํ, นิรุทกํ ทีฆมคฺคนฺติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ เขมนฺตภูมินิทานํ.
อิเม ปฺจ นีวรเณ อปฺปหีเนติ เอตฺถ ภควา อปฺปหีนํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ อิณสทิสํ, เสสานิ โรคาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา – โย หิ ปเรสํ อิณํ คเหตฺวา วินาเสติ. โส เตหิ อิณํ เทหีติ วุจฺจมาโนปิ ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ ปหริยมาโนปิ กิฺจิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกติ, สพฺพํ ติติกฺขติ, ติติกฺขการณฺหิสฺส ตํ อิณํ โหติ. เอวเมวํ โย ยมฺหิ กามจฺฉนฺเทน รชฺชติ, ตณฺหาคเณน ตํ วตฺถุํ คณฺหาติ, โส เตน ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ ปหริยมาโนปิ สพฺพํ ติติกฺขติ. ติติกฺขการณฺหิสฺส โส กามจฺฉนฺโท โหติ ฆรสามิเกหิ วธียมานานํ อิตฺถีนํ วิยาติ. เอวํ อิณํ วิย กามจฺฉนฺโท ทฏฺพฺโพ.
ยถา ปน ปิตฺตโรคาตุโร มธุสกฺกราทีสุปิ ทินฺเนสุ ปิตฺตโรคาตุรตาย เตสํ รสํ น วินฺทติ, ติตฺตกํ ติตฺตกนฺติ อุคฺคิรติเยว. เอวเมวํ พฺยาปนฺนจิตฺโต หิตกาเมหิ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อปฺปมตฺตกมฺปิ โอวทียมาโน โอวาทํ น คณฺหาติ, ‘‘อติ วิย เม ตุมฺเห อุปทฺทเวถา’’ติอาทีนิ วตฺวา วิพฺภมติ. ปิตฺตโรคาตุรตาย โส ปุริโส มธุสกฺกราทิรสํ วิย, โกธาตุรตาย ¶ ฌานสุขาทิเภทํ สาสนรสํ น วินฺทตีติ. เอวํ โรโค วิย พฺยาปาโท ทฏฺพฺโพ.
ยถา ¶ ปน นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคาเร พทฺโธ ปุริโส นกฺขตฺตสฺส เนว อาทึ, น มชฺฌํ, น ปริโยสานํ ปสฺสติ. โส ทุติยทิวเส มุตฺโต, ‘‘อโห หิยฺโย นกฺขตฺตํ มนาปํ, อโห นจฺจํ, อโห คีต’’นฺติอาทีนิ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? นกฺขตฺตสฺส อนนุภูตตฺตา. เอวเมวํ ¶ ถินมิทฺธาภิภูโต ภิกฺขุ วิจิตฺตนเยปิ ธมฺมสฺสวเน ปวตฺตมาเน เนว ตสฺส อาทึ, น มชฺฌํ, น ปริโยสานํ ชานาติ. โส อุฏฺิเต ธมฺมสฺสวเน, ‘‘อโห ธมฺมสฺสวนํ, อโห การณํ, อโห อุปมา’’ติ ธมฺมสฺสวนสฺส วณฺณํ ภณมานานํ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? ถินมิทฺธวเสน ธมฺมกถาย อนนุภูตตฺตาติ. เอวํ พนฺธนาคารํ วิย ถินมิทฺธํ ทฏฺพฺพํ.
ยถา ปน นกฺขตฺตํ กีฬนฺโตปิ ทาโส, ‘‘อิทํ นาม อจฺจายิกํ กรณียํ อตฺถิ, สีฆํ, ตตฺถ คจฺฉ, โน เจ คจฺฉสิ, หตฺถปาทํ วา เต ฉินฺทามิ กณฺณนาสํ วา’’ติ วุตฺโต สีฆํ คจฺฉติเยว, นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวิตุํ น ลภติ. กสฺมา? ปราธีนตาย. เอวเมวํ วินเย อปฺปกตฺุนา วิเวกตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺเนาปิ กิสฺมิฺจิเทว อนฺตมโส กปฺปิยมํเสปิ อกปฺปิยมํสสฺาย อุปฺปนฺนาย วิเวกํ ปหาย สีลวิโสธนตฺถํ วินยธรสฺส สนฺติเก คนฺตพฺพํ โหติ. วิเวกสุขํ อนุภวิตุํ น ลภติ. กสฺมา? อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูตตายาติ, เอวํ ทาสพฺยํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ทฏฺฏพฺพํ.
ยถา ปน กนฺตารทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน ปุริโส โจเรหิ มนุสฺสานํ วิลุตฺโตกาสํ ปหโตกาสฺจ ทิสฺวา ทณฺฑกสทฺเทนปิ สกุณสทฺเทนปิ โจรา อาคตาติ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิโต โหติ, คจฺฉติปิ, ติฏฺติปิ, นิวตฺตติปิ, คตฏฺานโต อาคตฏฺานเมว พหุตรํ โหติ. โส กิจฺเฉน กสิเรน เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ วา, น วา ปาปุณาติ. เอวเมวํ ยสฺส อฏฺสุ าเนสุ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา โหติ. โส ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิจิกิจฺฉนฺโต อธิมุจฺจิตฺวา สทฺธาย คณฺหิตุํ น สกฺโกติ. อสกฺโกนฺโต มคฺคํ วา ผลํ วา น ปาปุณาตีติ ยถา ¶ กนฺตารทฺธานมคฺเค ‘‘โจรา อตฺถิ นตฺถี’’ติ ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺต จิตฺตสฺส อุปฺปาเทนฺโต เขมนฺตปตฺติยา อนฺตรายํ กโรติ, เอวํ วิจิกิจฺฉาปิ ‘‘พุทฺโธ นุ โข น พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทยมานา อริยภูมิปฺปตฺติยา อนฺตรายํ กโรตีติ กนฺตารทฺธานมคฺโค วิย ทฏฺพฺพา.
อิทานิ ¶ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อาณณฺยนฺติ เอตฺถ ภควา ปหีนกามจฺฉนฺทนีวรณํ อาณณฺยสทิสํ, เสสานิ อาโรคฺยาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา – ยถา หิ ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชตฺวา สมิทฺธกมฺมนฺโต, ‘‘อิทํ อิณํ นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ จินฺเตตฺวา สวฑฺฒิกํ อิณํ นิยฺยาเตตฺวา ปณฺณํ ผาลาเปยฺย. อถสฺส ตโต ปฏฺาย เนว โกจิ ทูตํ เปเสติ, น ปณฺณํ, โส อิณสามิเก ทิสฺวาปิ สเจ อิจฺฉติ, อาสนา อุฏฺหติ, โน เจ, น อุฏฺหติ. กสฺมา? เตหิ สทฺธึ นิลฺเลปตาย อลคฺคตาย. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อยํ กามจฺฉนฺโท นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา กามจฺฉนฺทนีวรณํ ¶ ปชหติ. ตสฺเสวํ ปหีนกามจฺฉนฺทสฺส ยถา อิณมุตฺตสฺส ปุริสสฺส อิณสามิเก ทิสฺวา เนว ภยํ น ฉมฺภิตตฺตํ โหติ. เอวเมว ปรวตฺถุมฺหิ เนว สงฺโค น พนฺโธ โหติ. ทิพฺพานิปิ รูปานิ ปสฺสโต กิเลโส น สมุทาจรติ. ตสฺมา ภควา อาณณฺยมิว กามจฺฉนฺทปฺปหานมาห.
ยถา ปน โส ปิตฺตโรคาตุโร ปุริโส เภสชฺชกิริยาย ตํ โรคํ วูปสเมตฺวา ตโต ปฏฺาย มธุสกฺกราทีนํ รสํ วินฺทติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ, ‘‘อยํ พฺยาปาโท นาม อนตฺถการโก’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา พฺยาปาทนีวรณํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนพฺยาปาโท ยถา ปิตฺตโรควิมุตฺโต ปุริโส มธุสกฺกราทีนิ มธุรานิ สมฺปิยายมาโน ปฏิเสวติ. เอวเมวํ อาจารปณฺณตฺติอาทีนิ สิกฺขาปิยมาโน สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สมฺปิยายมาโน สิกฺขติ. ตสฺมา ภควา อาโรคฺยมิว พฺยาปาทปฺปหานมาห.
ยถา ¶ โส นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคารํ ปเวสิโต ปุริโส อปรสฺมึ นกฺขตฺตทิวเส, ‘‘ปุพฺเพปิ อหํ ปมาทโทเสน พทฺโธ ตํ นกฺขตฺตํ นานุภวามิ, อิทานิ อปฺปมตฺโต ภวิสฺสามี’’ติ ยถาสฺส ปจฺจตฺถิกา โอกาสํ น ลภนฺติ. เอวํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นกฺขตฺตํ อนุภวิตฺวา – ‘‘อโห นกฺขตฺตํ อโห นกฺขตฺต’’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิ. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อิทํ ถินมิทฺธํ นาม มหาอนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา ถินมิทฺธนีวรณํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนถินมิทฺโธ ยถา พนฺธนา มุตฺโต ปุริโส สตฺตาหมฺปิ นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ ¶ อนุภวติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ ธมฺมนกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวนฺโต สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา พนฺธนา โมกฺขมิว ถินมิทฺธปฺปหานมาห.
ยถา ปน ทาโส กฺจิเทว มิตฺตํ อุปนิสฺสาย สามิกานํ ธนํ ทตฺวา อตฺตานํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย ยํ อิจฺฉติ, ตํ กเรยฺย. เอวเมว ภิกฺขุ, ‘‘อิทํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ นาม มหาอนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนุทฺธจฺจกุกฺกุจฺโจ ยถา ภุชิสฺโส ปุริโส ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรติ. น ตํ โกจิ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ ยถาสุขํ เนกฺขมฺมปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ, น นํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ¶ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ. ตสฺมา ภควา ภุชิสฺสํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานมาห.
ยถา พลวา ปุริโส หตฺถสารํ คเหตฺวา สชฺชาวุโธ สปริวาโร กนฺตารํ ปฏิปชฺเชยฺย. ตํ โจรา ทูรโตว ทิสฺวา ปลาเยยฺยุํ. โส โสตฺถินา ตํ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺโต หฏฺตุฏฺโ อสฺส. เอวเมวํ ภิกฺขุ, ‘‘อยํ วิจิกิจฺฉา นาม อนตฺถการิกา’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา วิจิกิจฺฉํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนวิจิกิจฺโฉ ยถา พลวา สชฺชาวุโธ สปริวาโร ปุริโส นิพฺภโย โจเร ติณํ วิย อคเณตฺวา โสตฺถินา นิกฺขมิตฺวา เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ. เอวเมวํ ทุจฺจริตกนฺตารํ นิตฺถริตฺวา ปรมเขมนฺตภูมึ อมตํ นิพฺพานํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา เขมนฺตภูมึ วิย วิจิกิจฺฉาปหานมาห.
๔๒๗. อิมเมว กายนฺติ อิมํ กรชกายํ. อภิสนฺเทตีติ เตเมติ สฺเนเหติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรติ. ปริสนฺเทตีติ สมนฺตโต สนฺเทติ. ปริปูเรตีติ วายุนา ภสฺตํ วิย ปูเรติ. ปริปฺผรตีติ สมนฺตโต ผุสติ ¶ . สพฺพาวโต กายสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน สพฺพโกฏฺาสวโต กายสฺส. กิฺจิ อุปาทินฺนกสนฺตติปวตฺติฏฺาเน ฉวิมํสโลหิตานุคตํ อณุมตฺตมฺปิ านํ ปมชฺฌานสุเขน อผุฏฺํ นาม น โหติ. ทกฺโขติ เฉโก ปฏิพโล นฺหานียจุณฺณานิ กาตฺุเจว โยเชตฺุจ สนฺเนตฺุจ. กํสถาเลติ เยน เกนจิ ¶ โลเหน กตภาชเน. มตฺติกภาชนํ ปน ถิรํ น โหติ, สนฺเนนฺตสฺส ภิชฺชติ, ตสฺมา ตํ น ทสฺเสติ. ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกนฺติ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา. สนฺเนยฺยาติ วามหตฺเถน กํสถาลํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ปมาณยุตฺตํ อุทกํ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา ปริมทฺทนฺโต ปิณฺฑํ กเรยฺย. สฺเนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุคตา. สฺเนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริคตา. สนฺตรพาหิราติ สทฺธึ อนฺโตปเทเสน เจว พหิปเทเสน จ, สพฺพตฺถกเมว อุทกสิเนเหน ผุฏาติ อตฺโถ. น จ ปคฺฆริณีติ น พินฺทุ พินฺทุ อุทกํ ปคฺฆรติ, สกฺกา โหติ หตฺเถนปิ ทฺวีหิปิ ตีหิปิ องฺคุลีหิ คเหตุํ โอวฏฺฏิกมฺปิ กาตุนฺติ อตฺโถ.
๔๒๘. ทุติยชฺฌานสุขอุปมายํ อุพฺภิโตทโกติ อุพฺภินฺนอุทโก, น เหฏฺา อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคจฺฉนอุทโก, อนฺโตเยว ปน อุพฺภิชฺชนอุทโกติ อตฺโถ. อายมุขนฺติ อาคมนมคฺโค. เทโวติ ¶ เมโฆ. กาเลนกาลนฺติ กาเล กาเล, อนฺวทฺธมาสํ วา อนุทสาหํ วาติ อตฺโถ. ธารนฺติ วุฏฺึ. นานุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ น ปเวเสยฺย, น วสฺเสยฺยาติ อตฺโถ. สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวาติ สีตํ วาริ ตํ อุทกรหทํ ปูรยมานํ อุพฺภิชฺชิตฺวา. เหฏฺา อุคฺคจฺฉนอุทกฺหิ อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา ภิชฺชนฺตํ อุทกํ โขเภติ. จตูหิ ทิสาหิ ปวิสนอุทกํ ปุราณปณฺณติณกฏฺทณฺฑกาทีหิ อุทกํ โขเภติ. วุฏฺิอุทกํ ธารานิปาตปุปฺผุฬเกหิ อุทกํ โขเภติ. สนฺนิสินฺนเมว ปน หุตฺวา อิทฺธินิมฺมิตมิว อุปฺปชฺชมานํ อุทกํ อิมํ ปเทสํ ผรติ, อิมํ ปเทสํ น ผรตีติ นตฺถิ. เตน อผุโฏกาโส นาม น โหตีติ. ตตฺถ รหโท วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ทุติยชฺฌานสุขํ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๒๙. ตติยชฺฌานสุขอุปมายํ ¶ อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินี. เสสปททฺวเยสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เสตรตฺตนีเลสุ ยํกิฺจิ อุปฺปลํ อุปฺปลเมว, อูนกสตปตฺตํ ปุณฺฑรีกํ, สตปตฺตํ ปทุมํ. ปตฺตนิยมํ วา วินาปิ เสตํ ปทุมํ, รตฺตํ ปุณฺฑรีกนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต น อุคฺคตานิ. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ¶ อุทกตลสฺส อนฺโต นิมุคฺคานิเยว หุตฺวา โปสีนิ, วฑฺฒีนีติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๓๐. จตุตฺถชฺฌานสุขอุปมายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตนาติ เอตฺถ นิรุปกฺกิเลสฏฺเน ปริสุทฺธํ. ปภสฺสรฏฺเน ปริโยทาตํ เวทิตพฺพํ. โอทาเตน วตฺเถนาติ อิทํ อุตุผรณตฺถํ วุตฺตํ. กิลิฏฺวตฺเถน หิ อุตุผรณํ น โหติ, ตงฺขณโธตปริสุทฺเธน อุตุผรณํ พลวํ โหติ. อิมิสฺสา หิ อุปมาย วตฺถํ วิย กรชกาโย. อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุขํ. ตสฺมา ยถา สุนฺหาตสฺส ปุริสสฺส ปริสุทฺธํ วตฺถํ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนสฺส สรีรโต อุตุ สพฺพเมว วตฺถํ ผรติ, น โกจิ วตฺถสฺส อผุโฏกาโส โหติ. เอวํ จตุตฺถชฺฌานสุเขน ภิกฺขุโน กรชกายสฺส น โกจิ โอกาโส อผุโฏ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จตุตฺถชฺฌานจิตฺตเมว วา วตฺถํ วิย, ตํสมุฏฺานรูปํ อุตุผรณํ วิย. ยถา หิ กตฺถจิ โอทาตวตฺเถ กายํ อปฺผุสนฺเตปิ ตํสมุฏฺาเนน อุตุนา สพฺพตฺถกเมว กาโย ผุฏฺโ โหติ. เอวํ จตุตฺถชฺฌานสมุฏฺิเตน สุขุมรูเปน สพฺพตฺถกเมว ภิกฺขุโน กรชกาโย ผุโฏ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๔๓๑. ปุพฺเพนิวาสาณอุปมายํ ¶ ตํทิวสํ กตกิริยา ปากฏา โหตีติ ตํทิวสํ คตคามตฺตยเมว คหิตํ. ตตฺถ คามตฺตยํ คตปุริโส วิย ปุพฺเพนิวาสาณลาภี ทฏฺพฺโพ. ตโย คามา วิย ตโย ภวา ทฏฺพฺพา. ตสฺส ปุริสสฺส ตีสุ คาเมสุ ตํทิวสํ กตกิริยาย อาวิภาโว วิย ปุพฺเพนิวาสาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตีสุ ภเวสุ กตกิริยาย อาวิภาโว ทฏฺพฺโพ.
๔๓๒. ทิพฺพจกฺขุอุปมายํ ¶ ทฺเว อคาราติ ทฺเว ฆรา. สทฺวาราติ สมฺมุขทฺวารา. อนุจงฺกมนฺเตติ อปราปรํ สฺจรนฺเต. อนุวิจรนฺเตติ อิโต จิโต จ วิจรนฺเต, อิโต ปน เคหา นิกฺขมิตฺวา เอตํ เคหํ, เอตสฺมา วา นิกฺขมิตฺวา อิมํ เคหํ ปวิสนวเสนปิ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ทฺเว อคารา สทฺวารา วิย จุติปฏิสนฺธิโย, จกฺขุมา ¶ ปุริโส วิย ทิพฺพจกฺขุาณลาภี, จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เคหานํ อนฺตเร ตฺวา ปสฺสโต ทฺเว อคาเร ปวิสนกนิกฺขมนกปุริสานํ ปากฏกาโล วิย ทิพฺพจกฺขุลาภิโน อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา โอโลเกนฺตสฺส จวนกอุปปชฺชนกสตฺตานํ ปากฏกาโล. กึ ปน เต าณสฺส ปากฏา, ปุคฺคลสฺสาติ? าณสฺส. ตสฺส ปากฏตฺตา ปน ปุคฺคลสฺส ปากฏาเยวาติ.
๔๓๓. อาสวกฺขยาณอุปมายํ ปพฺพตสงฺเขเปติ ปพฺพตมตฺถเก. อนาวิโลติ นิกฺกทฺทโม. สิปฺปิโย จ สมฺพุกา จ สิปฺปิสมฺพุกํ. สกฺขรา จ กถลา จ สกฺขรกถลํ. มจฺฉานํ คุมฺพา ฆฏาติ มจฺฉคุมฺพํ. ติฏฺนฺตมฺปิ จรนฺตมฺปีติ เอตฺถ สกฺขรกถลํ ติฏฺติเยว, อิตรานิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ. ยถา ปน อนฺตรนฺตรา ิตาสุปิ นิสินฺนาสุปิ วิชฺชมานาสุปิ, ‘‘เอตา คาโว จรนฺตี’’ติ จรนฺติโย อุปาทาย อิตราปิ จรนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เอวํ ติฏฺนฺตเมว สกฺขรกถลํ อุปาทาย อิตรมฺปิ ทฺวยํ ติฏฺนฺตนฺติ วุตฺตํ. อิตรฺจ ทฺวยํ จรนฺตํ อุปาทาย สกฺขรกถลมฺปิ จรนฺตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ตีเร ตฺวา ปสฺสโต สิปฺปิสมฺพุกาทีนํ วิภูตกาโล วิย อาสวานํ ขยาย จิตฺตํ นีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จตุนฺนํ สจฺจานํ วิภูตกาโล ทฏฺพฺโพ.
๔๓๔. อิทานิ สตฺตหากาเรหิ สลิงฺคโต สคุณโต ขีณาสวสฺส นามํ คณฺหนฺโต, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ อิติปีติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมโณ ¶ โหตีติอาทีสุ, ภิกฺขเว, เอวํ ภิกฺขุ สมิตปาปตฺตา สมโณ โหติ. พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ. นฺหาตกิเลสตฺตา นฺหาตโก โหติ, โธตกิเลสตฺตาติ อตฺโถ. จตุมคฺคาณสงฺขาเตหิ เวเทหิ อกุสลธมฺมานํ คตตฺตา เวทคู โหติ, วิทิตตฺตาติ อตฺโถ. เตเนว วิทิตาสฺส โหนฺตีติอาทิมาห. กิเลสานํ สุตตฺตา โสตฺติโย โหติ, นิสฺสุตตฺตา ¶ อปหตตฺตาติ อตฺโถ. กิเลสานํ อารกตฺตา อริโย โหติ, หตตฺตาติ อตฺโถ. เตหิ อารกตฺตา อรหํ โหติ, ทูรีภูตตฺตาติ อตฺโถ. เสสํ สพตฺถ ปากฏเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา
๔๓๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬอสฺสปุรสุตฺตํ. ตสฺส เทสนาการณํ ปุริมสทิสเมว. สมณสามีจิปฺปฏิปทาติ สมณานํ อนุจฺฉวิกา สมณานํ อนุโลมปฺปฏิปทา.
๔๓๖. สมณมลานนฺติอาทีสุ เอเต ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา สมเณ มลิเน กโรนฺติ มลคฺคหิเต, ตสฺมา ‘‘สมณมลา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอเตหิ สมณา ทุสฺสนฺติ, ปทุสฺสนฺติ, ตสฺมา สมณโทสาติ วุจฺจนฺติ. เอเต อุปฺปชฺชิตฺวา สมเณ กสเฏ นิโรเช กโรนฺติ มิลาเปนฺติ, ตสฺมา สมณกสฏาติ วุจฺจนฺติ. อาปายิกานํ านานนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตาปกานํ การณานํ. ทุคฺคติเวทนิยานนฺติ ทุคฺคติยํ วิปากเวทนาย ปจฺจยานํ. มตชํ นามาติ มนุสฺสา ติขิณํ อยํ อเยน สุฆํสิตฺวา ตํ อยจุณฺณํ มํเสน สทฺธึ มทฺทิตฺวา โกฺจสกุเณ ขาทาเปนฺติ. เต อุจฺจารํ กาตุํ อสกฺโกนฺตา มรนฺติ. โน เจ มรนฺติ, ปหริตฺวา มาเรนฺติ. อถ เตสํ กุจฺฉึ ผาเลตฺวา นํ อุทเกน โธวิตฺวา จุณฺณํ คเหตฺวา มํเสน สทฺธึ มทฺทิตฺวา ปุน ขาทาเปนฺตีติ เอวํ สตฺต วาเร ขาทาเปตฺวา คหิเตน อยจุณฺเณน อาวุธํ กโรนฺติ. สุสิกฺขิตา จ นํ อยการา พหุหตฺถกมฺมมูลํ ลภิตฺวา กโรนฺติ. ตํ มตสกุณโต ชาตตฺตา ‘‘มตช’’นฺติ วุจฺจติ, อติติขิณํ โหติ. ปีตนิสิตนฺติ อุทกปีตฺเจว สิลาย จ สุนิฆํสิตํ. สงฺฆาฏิยาติ โกสิยา. สมฺปารุตนฺติ ปริโยนทฺธํ. สมฺปลิเวิตนฺติ สมนฺตโต เวิตํ.
๔๓๗. รโชชลฺลิกสฺสาติ ¶ รโชชลฺลธาริโน. อุทโกโรหกสฺสาติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ อุทกํ โอโรหนฺตสฺส. รุกฺขมูลิกสฺสาติ รุกฺขมูลวาสิโน. อพฺโภกาสิกสฺสาติ อพฺโภกาสวาสิโน. อุพฺภฏฺกสฺสาติ อุทฺธํ ิตกสฺส. ปริยายภตฺติกสฺสาติ มาสวาเรน วา อฑฺฒมาสวาเรน วา ภฺุชนฺตสฺส. สพฺพเมตํ พาหิรสมเยเนว กถิตํ. อิมสฺมิฺหิ สาสเน จีวรธโร ภิกฺขุ สงฺฆาฏิโกติ น วุจฺจติ. รโชชลฺลธารณาทิวตานิ อิมสฺมึ สาสเน นตฺถิเยว. พุทฺธวจนสฺส พุทฺธวจนเมว นามํ, น มนฺตาติ. รุกฺขมูลิโก, อพฺโภกาสิโกติ เอตฺตกํเยว ปน ลพฺภติ. ตมฺปิ พาหิรสมเยเนว กถิตํ. ชาตเมว ¶ นนฺติ ตํทิวเส ชาตมตฺตํเยว ¶ นํ. สงฺฆาฏิกํ กเรยฺยุนฺติ สงฺฆาฏิกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ สงฺฆาฏิกํ กเรยฺยุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๔๓๘. วิสุทฺธมตฺตานํ สมนุปสฺสตีติ อตฺตานํ วิสุชฺฌนฺตํ ปสฺสติ. วิสุทฺโธติ ปน น ตาว วตฺตพฺโพ. ปาโมชฺชํ ชายตีติ ตุฏฺากาโร ชายติ. ปมุทิตสฺส ปีตีติ ตุฏฺสฺส สกลสรีรํ โขภยมานา ปีติ ชายติ. ปีติมนสฺส กาโยติ ปีติสมฺปยุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นามกาโย. ปสฺสมฺภตีติ วิคตทรโถ โหติ. สุขํ เวเทตีติ กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ สุขํ เวทิยติ. จิตฺตํ สมาธิยตีติ อิมินา เนกฺขมฺมสุเขน สุขิตสฺส จิตฺตํ สมาธิยติ, อปฺปนาปตฺตํ วิย โหติ. โส เมตฺตาสหคเตน เจตสาติ เหฏฺา กิเลสวเสน อารทฺธา เทสนา ปพฺพเต วุฏฺวุฏฺิ วิย นทึ ยถานุสนฺธินา พฺรหฺมวิหารภาวนํ โอติณฺณา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, โปกฺขรณีติ มหาสีหนาทสุตฺเต มคฺโค โปกฺขรณิยา อุปมิโต, อิธ สาสนํ อุปมิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยา สมโณ โหตีติ สพฺพกิเลสานํ สมิตตฺตา ปรมตฺถสมโณ โหตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จูฬยมกวคฺโค
๑. สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนา
๔๓๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สาเลยฺยกสุตฺตํ. ตตฺถ โกสเลสูติ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน โกสลาติ วุจฺจติ, ตสฺมึ โกสเลสุ ชนปเท. โปราณา ปนาหุ – ยสฺมา ปุพฺเพ มหาปนาทํ ราชกุมารํ นานานาฏกานิ ทิสฺวา สิตมตฺตมฺปิ อกโรนฺตํ สุตฺวา ราชา อาห – ‘‘โย มม ปุตฺตํ หสาเปติ, สพฺพาลงฺกาเรน นํ อลงฺกโรมี’’ติ. ตโต นงฺคลานิปิ ฉฑฺเฑตฺวา มหาชนกาเย สนฺนิปติเต มนุสฺสา สาติเรกานิ สตฺตวสฺสานิ นานากีฬิกาโย ทสฺเสตฺวา นํ หสาเปตุํ นาสกฺขึสุ. ตโต ¶ สกฺโก เทวนฏํ เปเสสิ. โส ทิพฺพนาฏกํ ทสฺเสตฺวา หสาเปสิ. อถ เต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน วสโนกาสาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เต ปฏิปเถ มิตฺตสุหชฺชาทโย ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตา, ‘‘กจฺจิ, โภ, กุสลํ, กจฺจิ, โภ, กุสล’’นฺติ อาหํสุ. ตสฺมา ตํ ‘‘กุสลํ กุสล’’นฺติ วจนํ อุปาทาย โส ปเทโส โกสลาติ วุจฺจตีติ.
จาริกํ จรมาโนติ อตุริตจาริกํ จรมาโน. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ สตํ วา สหสฺสํ วา สตสหสฺสํ วาติ เอวํ อปริจฺฉินฺเนน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. พฺราหฺมณคาโมติ พฺราหฺมณานํ สโมสรณคาโมปิ พฺราหฺมณคาโมติ วุจฺจติ พฺราหฺมณานํ โภคคาโมปิ. อิธ สโมสรณคาโม อธิปฺเปโต. ตทวสรีติ ตํ อวสริ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ อนิยามิโต; ตสฺมา ตสฺส อวิทูเร พุทฺธานํ อนุจฺฉวิโก เอโก วนสณฺโฑ ภวิสฺสติ, สตฺถา ตํ วนสณฺฑํ คโตติ เวทิตพฺโพ. อสฺโสสุนฺติ สุณึสุ อุปลภึสุ. โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานึสุ. โขติ อวธารณตฺเถ ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ ¶ อวธารณตฺเถน อสฺโสสุํเยว ¶ , น เนสํ โกจิ สวนนฺตราโย อโหสีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.
อิทานิ ยมตฺถํ อสฺโสสุํ, ตํ ปกาเสตุํ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ เตสํ อฺมฺํ อาลปนมตฺตํ. โคตโมติ ภควโต โคตฺตวเสน ปริทีปนํ. ตสฺมา สมโณ ขลุ, โภ, โคตโมติ เอตฺถ สมโณ กิร, โภ, โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวทีปนํ. เกนจิ ปาริชฺุเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ วุตฺตตฺถเมว. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ ¶ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว, ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? ‘‘อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควา’’ติ.
ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา สพฺพาเนว เอตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เตสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.
สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน; อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิ ทุลฺลภทสฺสนานํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเตหิ อสีติอนุพฺยฺชนรตนปฏิมณฺฑิเตหิ ทฺวตฺตึสฺมหาปุริสลกฺขณวเรหิ สมากิณฺณมโนรมสรีรานํ อตปฺปกทสฺสนานํ อติมธุรธมฺมนิคฺโฆสานํ, ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหติ. สเจ ปน อฏฺงฺคสมนฺนาคเตน พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ ¶ ¶ เทเสนฺตสฺส เอกํ ปทมฺปิ โสตุํ ลภิสฺสาม, สาธุตรํเยว ภวิสฺสตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา.
เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สพฺพกิจฺจานิ ปหาย ตุฏฺมานสา อาคมํสุ. เอตทโวจุนฺติ ทุวิธา หิ ปุจฺฉา อคาริกปุจฺฉา อนคาริกปุจฺฉา จ. ตตฺถ ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสล’’นฺติ อิมินา นเยน อคาริกปุจฺฉา อาคตา. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ อิมินา นเยน อนคาริกปุจฺฉา. อิเม ปน อตฺตโน อนุรูปํ อคาริกปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺตา เอตํ, ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย’’ติอาทิวจนํ อโวจุํ. เตสํ ภควา ยถา น สกฺโกนฺติ สลฺลกฺเขตุํ, เอวํ ¶ สํขิตฺเตเนว ตาว ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต, อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข คหปตโยติอาทิมาห. กสฺมา ปน ภควา ยถา น สลฺลกฺเขนฺติ, เอวํ วิสฺสชฺเชสีติ? ปณฺฑิตมานิกา หิ เต; อาทิโตว มาติกํ อฏฺเปตฺวา ยถา สลฺลกฺเขนฺติ, เอวํ อตฺเถ วิตฺถาริเต, เทสนํ อุตฺตานิกาติ มฺนฺตา อวชานนฺติ, มยมฺปิ กเถนฺตา เอวเมว กเถยฺยามาติ วตฺตาโร ภวนฺติ. เตน เนสํ ภควา ยถา น สกฺโกนฺติ สลฺลกฺเขตุํ, เอวํ สํขิตฺเตเนว ตาว ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ. ตโต สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺเตหิ วิตฺถารเทสนํ ยาจิโต วิตฺถาเรน เทเสตุํ, เตน หิ คหปตโยติอาทิมาห. ตตฺถ เตน หีติ การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา มํ ตุมฺเห ยาจถ, ตสฺมาติ อตฺโถ.
๔๔๐. ติวิธนฺติ ตีหิ โกฏฺาเสหิ. กาเยนาติ กายทฺวาเรน. อธมฺมจริยาวิสมจริยาติ อธมฺมจริยสงฺขาตา วิสมจริยา. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺโถ, อธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา, อธมฺมกรณนฺติ อตฺโถ. วิสมา จริยา, วิสมสฺส วา กมฺมสฺส จริยาติ วิสมจริยา. อธมฺมจริยา จ สา วิสมจริยา จาติ อธมฺมจริยาวิสมจริยา. เอเตนุปาเยน สพฺเพสุ กณฺหสุกฺกปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลุทฺโทติ กกฺขโฬ. ทารุโณติ สาหสิโก. โลหิตปาณีติ ปรํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส ปาณี โลหิเตน ลิปฺปนฺติ. สเจปิ น ลิปฺปนฺติ, ตถาวิโธ โลหิตปาณีตฺเวว วุจฺจติ. หตปฺปหเต นิวิฏฺโติ หเต จ ปรสฺส ปหารทาเน ¶ , ปหเต จ ปรมารเณ นิวิฏฺโ. อทยาปนฺโนติ นิกฺกรุณตํ อาปนฺโน.
ยํ ตํ ปรสฺสาติ ยํ ตํ ปรสฺส สนฺตกํ. ปรวิตฺตูปกรณนฺติ ตสฺเสว ปรสฺส วิตฺตูปกรณํ ตุฏฺิชนนํ ¶ ปริกฺขารภณฺฑกํ. คามคตํ วาติ อนฺโตคาเม วา ปิตํ. อรฺคตํ วาติ อรฺเ รุกฺขคฺคปพฺพตมตฺถกาทีสุ วา ปิตํ. อทินฺนนฺติ เตหิ ปเรหิ กาเยน วา วาจาย วา อทินฺนํ. เถยฺยสงฺขาตนฺติ เอตฺถ เถโนติ โจโร. เถนสฺส ภาโว เถยฺยํ, อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกํ, โกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ วิย. เถยฺยฺจ ตํ สงฺขาตฺจาติ เถยฺยสงฺขาตํ, เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ ¶ . กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา เถยฺยสงฺขาเตนาติ อตฺถโต ทฏฺพฺพํ.
มาตุรกฺขิตาติอาทีสุ ยํ ปิตริ นฏฺเ วา มเต วา ฆาสจฺฉาทนาทีหิ ปฏิชคฺคมานา, วยปตฺตํ กุลฆเร ทสฺสามีติ มาตา รกฺขติ, อยํ มาตุรกฺขิตา นาม. เอเตนุปาเยน ปิตุรกฺขิตาทโยปิ เวทิตพฺพา. สภาคกุลานิ ปน กุจฺฉิคเตสุปิ คพฺเภสุ กติกํ กโรนฺติ – ‘‘สเจ มยฺหํ ปุตฺโต โหติ, ตุยฺหํ ธีตา, อฺตฺถ คนฺตุํ น ลภิสฺสติ, มยฺหํ ปุตฺตสฺเสว โหตู’’ติ. เอวํ คพฺเภปิ ปริคฺคหิตา สสฺสามิกา นาม. ‘‘โย อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ คจฺฉติ, ตสฺส เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ เอวํ คามํ วา เคหํ วา วีถึ วา อุทฺทิสฺส ปิตทณฺฑา, ปน สปริทณฺฑา นาม. อนฺตมโส มาลาคุณปริกฺขิตฺตาปีติ ยา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน, ‘‘เอสา เม ภริยา ภวิสฺสตี’’ติ สฺาย ตสฺสา อุปริ เกนจิ มาลาคุณํ ขิปนฺเตน มาลาคุณมตฺเตนาปิ ปริกฺขิตฺตา โหติ. ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหตีติ เอวรูปาสุ อิตฺถีสุ สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต วุตฺตมิจฺฉาจารลกฺขณวเสน วีติกฺกมํ กตฺตา โหติ.
สภาคโตติ สภายํ ิโต. ปริสาคโตติ ปริสายํ ิโต. าติมชฺฌคโตติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต. ปูคมชฺฌคโตติ เสนีนํ มชฺเฌ ิโต. ราชกุลมชฺฌคโตติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต ¶ . อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ. อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺสปิ ลฺชสฺส เหตูติ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กตฺตา โหติ.
อิเมสํ ¶ เภทายาติ เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ โหติ, เตสํ เภทาย. อมูสํ เภทายาติ เยสํ อมุตฺราติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ โหติ, เตสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภทกาติ เอวํ สมคฺคานํ วา ทฺวินฺนํ สหายกานํ เภทํ ¶ กตฺตา. ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตาติ สุฏฺุ กตํ ตยา, ตํ ปชหนฺเตน กติปาเหเนว เต มหนฺตํ อนตฺถํ กเรยฺยาติ เอวํ ภินฺนานํ ปุน อสํสนฺทนาย อนุปฺปทาตา อุปตฺถมฺเภตา การณํ ทสฺเสตาติ อตฺโถ. วคฺโค อาราโม อภิรติฏฺานมสฺสาติ วคฺคาราโม. วคฺครโตติ วคฺเคสุ รโต. วคฺเค ทิสฺวา วา สุตฺวา วา นนฺทตีติ วคฺคนนฺที. วคฺคกรณึ วาจนฺติ ยา วาจา สมคฺเคปิ สตฺเต วคฺเค กโรติ ภินฺทติ, ตํ กลหการณํ วาจํ ภาสิตา โหติ.
อณฺฑกาติ ยถา สโทเส รุกฺเข อณฺฑกานิ อุฏฺหนฺติ, เอวํ สโทสตาย ขุํสนาวมฺภนาทิวจเนหิ อณฺฑกา ชาตา. กกฺกสาติ ปูติกา. ยถา นาม ปูติกรุกฺโข กกฺกโส โหติ ปคฺฆริตจุณฺโณ, เอวํ กกฺกสา โหติ, โสตํ ฆํสมานา วิย ปวิสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กกฺกสา’’ติ. ปรกฏุกาติ ปเรสํ กฏุกา อมนาปา โทสชนนี. ปราภิสชฺชนีติ กุฏิลกณฺฏกสาขา วิย มมฺเมสุ วิชฺฌิตฺวา ปเรสํ อภิสชฺชนี คนฺตุกามานมฺปิ คนฺตุํ อทตฺวา ลคฺคนการี. โกธสามนฺตาติ โกธสฺส อาสนฺนา. อสมาธิสํวตฺตนิกาติ อปฺปนาสมาธิสฺส วา อุปจารสมาธิสฺส วา อสํวตฺตนิกา. อิติ สพฺพาเนว ตานิ สโทสวาจาย เววจนานิ.
อกาลวาทีติ อกาเลน วตฺตา. อภูตวาทีติ ยํ นตฺถิ, ตสฺส วตฺตา. อนตฺถวาทีติ อการณนิสฺสิตํ วตฺตา. อธมฺมวาทีติ อสภาวํ วตฺตา ¶ . อวินยวาทีติ อสํวรวินยปฏิสํยุตฺตสฺส วตฺตา. อนิธานวติ วาจนฺติ หทยมฺชูสายํ นิเธตุํ อยุตฺตํ วาจํ ภาสิตา โหติ. อกาเลนาติ วตฺตพฺพกาลสฺส ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อยุตฺตกาเล วตฺตา โหติ. อนปเทสนฺติ สุตฺตาปเทสวิรหิตํ. อปริยนฺตวตินฺติ อปริจฺเฉทํ, สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส อุปลพฺภํ วา อุปมํ วา วตฺถุํ วา อาหริตฺวา พาหิรกถํเยว กเถติ. นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตเมว โหติ. ‘‘สุตฺตํ นุ โข กเถติ ชาตกํ นุ โข, นสฺส อนฺตํ วา โกฏึ วา ปสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. ยถา วฏรุกฺขสาขานํ คตคตฏฺาเน ปาโรหา โอตรนฺติ, โอติณฺโณติณฺณฏฺาเน สมฺปชฺชิตฺวา ปุน วฑฺฒนฺติเยว ¶ . เอวํ อฑฺฒโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ ¶ คจฺฉนฺติเยว, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน มูลรุกฺโข วินสฺสติ, ปเวณิชาตกาว ติฏฺนฺติ. เอวมยมฺปิ นิคฺโรธธมฺมกถิโก นาม โหติ; นิกฺขิตฺตํ นิกฺขิตฺตมตฺตเมว กตฺวา ปสฺเสเนว ปริหรนฺโต คจฺฉติ. โย ปน พหุมฺปิ ภณนฺโต เอตทตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ อาหริตฺวา ชานาเปตุํ สกฺโกติ, ตสฺส กเถตุํ วฏฺฏติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อตฺถนิสฺสิตํ.
อภิชฺฌาตา โหตีติ อภิชฺฌาย โอโลเกตา โหติ. อโห วตาติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. อภิชฺฌาย โอโลกิตมตฺตเกน เจตฺถ กมฺมปถเภโท น โหติ. ยทา ปน, ‘‘อโห วติทํ มม สนฺตกํ อสฺส, อหเมตฺถ วสํ วตฺเตยฺย’’นฺติ อตฺตโน ปริณาเมติ, ตทา กมฺมปถเภโท โหติ, อยมิธ อธิปฺเปโต.
พฺยาปนฺนจิตฺโตติ วิปนฺนจิตฺโต ปูติภูตจิตฺโต. ปทุฏฺมนสงฺกปฺโปติ โทเสน ทุฏฺจิตฺตสงฺกปฺโป. หฺนฺตูติ ฆาติยนฺตู. วชฺฌนฺตูติ วธํ ปาปุณนฺตุ. มา วา อเหสุนฺติ กิฺจิปิ มา อเหสุํ. อิธาปิ โกปมตฺตเกน กมฺมปถเภโท น โหติ. หฺนฺตูติอาทิจินฺตเนเนว โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.
มิจฺฉาทิฏฺิโกติ อกุสลทสฺสโน. วิปรีตทสฺสโนติ วิปลฺลตฺถทสฺสโน. นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนสฺส ผลาภาวํ สนฺธาย วทติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. หุตนฺติ ปเหณกสกฺกาโร อธิปฺเปโต, ตมฺปิ อุภยํ ผลาภาวเมว ¶ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ สุกตทุกฺกฏานํ, กุสลากุสลานนฺติ อตฺโถ. ผลํ วิปาโกติ ยํ ผลนฺติ วา วิปาโกติ วา วุจฺจติ, ตํ นตฺถีติ วทติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถิ. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ โลเก ิตสฺสปิ ปรโลโก นตฺถิ, สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตีติ ทสฺเสติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาววเสน วทติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวิตฺวา อุปปชฺชนกสตฺตา นาม นตฺถีติ วทติ. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตีติ เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย สยํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวเทนฺติ, เต นตฺถีติ สพฺพฺุพุทฺธานํ อภาวํ ¶ ทีเปติ, เอตฺตาวตา ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ กถิตา โหติ.
๔๔๑. ปาณาติปาตํ ¶ ปหายาติอาทโย สตฺต กมฺมปถา จูฬหตฺถิปเท วิตฺถาริตา. อนภิชฺฌาทโย อุตฺตานตฺถาเยว.
๔๔๒. สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺยนฺติ สหภาวํ อุปคจฺเฉยฺยํ. พฺรหฺมกายิกานํ เทวานนฺติ ปมชฺฌานภูมิเทวานํ. อาภานํ เทวานนฺติ อาภา นาม วิสุํ นตฺถิ, ปริตฺตาภอปฺปมาณาภอาภสฺสรานเมตํ อธิวจนํ. ปริตฺตาภานนฺติอาทิ ปน เอกโต อคฺคเหตฺวา เตสํเยว เภทโต คหณํ. ปริตฺตสุภานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ ภควา อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.
อิธ ตฺวา ปน เทวโลกา สมาเนตพฺพา. ติสฺสนฺนํ ตาว ฌานภูมีนํ วเสน นว พฺรหฺมโลกา, ปฺจ สุทฺธาวาสา จตูหิ อารูเปหิ สทฺธึ นวาติ อฏฺารส, เวหปฺผเลหิ สทฺธึ เอกูนวีสติ, เต อสฺํ ปกฺขิปิตฺวา วีสติ พฺรหฺมโลกา โหนฺติ, เอวํ ฉหิ กามาวจเรหิ สทฺธึ ฉพฺพีสติ เทวโลกา นาม. เตสํ สพฺเพสมฺปิ ภควตา ทสกุสลกมฺมปเถหิ นิพฺพตฺติ ทสฺสิตา.
ตตฺถ ฉสุ ตาว กามาวจเรสุ ติณฺณํ สุจริตานํ วิปาเกเนว นิพฺพตฺติ โหติ. อุปริเทวโลกานํ ปน อิเม กมฺมปถา อุปนิสฺสยวเสน กถิตา ¶ . ทส กุสลกมฺมปถา หิ สีลํ, สีลวโต จ กสิณปริกมฺมํ อิชฺฌตีติ. สีเล ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตติ; ทุติยาทีนิ ภาเวตฺวา ทุติยชฺฌานภูมิอาทีสุ นิพฺพตฺตติ; รูปาวจรชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺิโต ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺตติ; รูปาวจรชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา จตูสุ อรูเปสุ นิพฺพตฺตติ; รูปารูปชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อสฺภโว ปน พาหิรกานํ ตาปสปริพฺพาชกานํ อาจิณฺโณติ อิธ น นิทฺทิฏฺโ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สาเลยฺยกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวรฺชกสุตฺตวณฺณนา
๔๔๔. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ เวรฺชกสุตฺตํ. ตตฺถ เวรฺชกาติ เวรฺชวาสิโน. เกนจิเทว กรณีเยนาติ เกนจิเทว อนิยมิตกิจฺเจน. เสสํ สพฺพํ ปุริมสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ อิธ อธมฺมจารี วิสมจารีติ เอวํ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. ปุริมสุตฺเต ธมฺมาธิฏฺานาติ อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เวรฺชกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา
๔๔๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาเวทลฺลสุตฺตํ. ตตฺถ อายสฺมาติ สคารวสปฺปติสฺสวจนเมตํ. มหาโกฏฺิโกติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต. ทุปฺปฺโ ทุปฺปฺโติ เอตฺถ ปฺาย ทุฏฺํ นาม นตฺถิ, อปฺปฺโ นิปฺปฺโติ อตฺโถ. กิตฺตาวตา นุ โขติ การณปริจฺเฉทปุจฺฉา, กิตฺตเกน นุ โข เอวํ วุจฺจตีติ ¶ อตฺโถ. ปุจฺฉา จ นาเมสา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจวิธา โหติ. ตาสมิทํ นานากรณํ –
กตมา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภูตาย วิภาวนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา.
กตมา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา.
กตมา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา? ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ วิมติปกฺขนฺโท, ทฺเวฬฺหกชาโต, ‘‘เอวํ นุ โข, น นุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข’’ติ, โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ¶ ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒).
‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ? อนิจฺจํ, ภนฺเต’’ติ (มหาว. ๒๑) เอวรูปา อนุมตึ คเหตฺวา ธมฺมเทสนากาเล ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา นาม.
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, สติปฏฺานา, กตเม จตฺตาโร’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๙๐) เอวรูปา ภิกฺขุสงฺฆํ สยเมว ปุจฺฉิตฺวา สยเมว วิสฺสชฺเชตุกามสฺส ปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา นาม. ตาสุ อิธ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา อธิปฺเปตา.
เถโร หิ อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สยเมว ปฺหํ สมุฏฺเปตฺวา สยํ วินิจฺฉินนฺโต อิทํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปสิ. เอกจฺโจ หิ ปฺหํ สมุฏฺาเปตุํเยว สกฺโกติ น นิจฺเฉตุํ; เอกจฺโจ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ น สมุฏฺาเปตุํ; เอกจฺโจ อุภยมฺปิ น สกฺโกติ; เอกจฺโจ อุภยมฺปิ สกฺโกติ. เตสุ เถโร อุภยมฺปิ สกฺโกติเยว. กสฺมา? มหาปฺตาย. มหาปฺํ นิสฺสาย หิ อิมสฺมึ สาสเน สาริปุตฺตตฺเถโร, มหากจฺจานตฺเถโร, ปุณฺณตฺเถโร, กุมารกสฺสปตฺเถโร, อานนฺทตฺเถโร, อยเมว อายสฺมาติ สมฺพหุลา เถรา วิเสสฏฺานํ อธิคตา. น หิ สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ¶ สาวกปารมีาณสฺส มตฺถกํ ปาปุณิตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย สาริปุตฺตตฺเถโร ตํ านํ อธิคโต. ปฺาย หิ เถเรน สทิโส นตฺถิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๙).
ตถา น สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา สมาเนตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย มหากจฺจานตฺเถโร ตตฺถ ปฏิพโล ชาโต, เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๗).
ตถา ¶ น สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ธมฺมกถํ กเถนฺเตน ทส กถาวตฺถูนิ อาหริตฺวา สตฺต วิสุทฺธิโย วิภชนฺเตน ธมฺมกถํ กเถตุํ, มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย ปุณฺณตฺเถโร จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา นิสินฺโน ลีฬายนฺโต ปุณฺณจนฺโท วิย ธมฺมํ กเถสิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค ¶ เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมกถิกานํ ยทิทํ ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๖).
ตถา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถนฺโต อิโต วา เอตฺโต วา อนุกฺกมิตฺวา ยฏฺิโกฏึ คเหตฺวา อนฺโธ วิย, เอกปทิกํ ทณฺฑกเสตุํ อารุฬฺโห วิย จ คจฺฉติ. มหาปฺโ ปน จตุปฺปทิกํ คาถํ นิกฺขิปิตฺวา อุปมา จ การณานิ จ อาหริตฺวา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ คเหตฺวา เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต กเถสิ. มหาปฺตาย ปน กุมารกสฺสปตฺเถโร จตุปฺปทิกํ คาถํ นิกฺขิปิตฺวา อุปมา จ การณานิ จ อาหริตฺวา เตหิ สทฺธึ โยเชนฺโต ชาตสฺสเร ปฺจวณฺณานิ กุสุมานิ ผุลฺลาเปนฺโต วิย สิเนรุมตฺถเก วฏฺฏิสหสฺสํ เตลปทีปํ ชาเลนฺโต วิย เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต ¶ กเถสิ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ จิตฺตกถิกานํ ยทิทํ กุมารกสฺสโป’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๗).
ตถา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ จตูหิ มาเสหิ จตุปฺปทิกมฺปิ คาถํ คเหตุํ น สกฺโกติ. มหาปฺโ ปน เอกปเท ตฺวา ปทสตมฺปิ ปทสหสฺสมฺปิ คณฺหาติ. อานนฺทตฺเถโร ปน มหาปฺตาย เอกปทุทฺธาเร ตฺวา สกึเยว สุตฺวา ปุน อปุจฺฉนฺโต สฏฺิ ปทสหสฺสานิ ปนฺนรส คาถาสหสฺสานิ วลฺลิยา ปุปฺผานิ อากฑฺฒิตฺวา คณฺหนฺโต วิย เอกปฺปหาเรเนว คณฺหาติ. คหิตคหิตํ ปาสาเณ ขตเลขา วิย, สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย จ คหิตากาเรเนว ติฏฺติ. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ คติมนฺตานํ ยทิทํ อานนฺโท ¶ , สติมนฺตานํ, ธิติมนฺตานํ, พหุสฺสุตานํ, อุปฏฺากานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙-๒๒๓).
น หิ สกฺกา ยาย วา ตาย วา อปฺปมตฺติกาย ปฺาย สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา จตุปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส มตฺถกํ ปาปุณิตุํ. มหาปฺเน ปน สกฺกาติ มหาปฺตาย มหาโกฏฺิตตฺเถโร อธิคมปริปุจฺฉาสวนปุพฺพโยคานํ วเสน อนนฺตนยุสฺสทํ ปฏิสมฺภิทาปเภทํ ปตฺโต. เตเนว นํ ภควา เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสมฺภิทาปตฺตานํ ยทิทํ มหาโกฏฺิโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๘).
อิติ ¶ เถโร มหาปฺตาย ปฺหํ สมุฏฺาเปตุมฺปิ นิจฺเฉตุมฺปีติ อุภยมฺปิ สกฺโกติ. โส ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สยเมว สพฺพปฺเห สมุฏฺเปตฺวา สยํ วินิจฺฉินนฺโต อิทํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปตฺวา, ‘‘โสภนา วต อยํ ธมฺมเทสนา, เชฏฺภาติเกน นํ ธมฺมเสนาปตินา สทฺธึ สํสนฺทิสฺสามิ, ตโต อยํ ทฺวินฺนมฺปิ อมฺหากํ เอกมติยา เอกชฺฌาสเยน จ ปิตา อติครุกา ภวิสฺสติ ปาสาณจฺฉตฺตสทิสา, จตุโรฆนิตฺถรณตฺถิกานํ ติตฺเถ ปิตนาวา วิย, มคฺคคมนตฺถิกานํ สหสฺสยุตฺตอาชฺรโถ วิย พหุปการา ภวิสฺสตี’’ติ ทิฏฺสํสนฺทนตฺถํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตาสุ อิธ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา อธิปฺเปตา’’ติ.
นปฺปชานาตีติ ¶ เอตฺถ ยสฺมา นปฺปชานาติ, ตสฺมา ทุปฺปฺโติ วุจฺจตีติ อยมตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิทํ ทุกฺขนฺติ นปฺปชานาตีติ อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, อิโต อุทฺธํ นตฺถีติ ทุกฺขสจฺจํ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ อิโต ทุกฺขํ สมุเทตีติ ปวตฺติทุกฺขปภาวิกา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ อิทํ ทุกฺขํ อยํ ทุกฺขสมุทโย จ อิทํ นาม านํ ปตฺวา นิรุชฺฌตีติ อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ นิโรธสจฺจนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาติ. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ อยํ ปฏิปทา ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉตีติ มคฺคสจฺจํ ยาถาวสรสลกฺขณโต น ปชานาตีติ. อนนฺตรวาเรปิ ¶ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺเขปโต ปเนตฺถ จตุสจฺจกมฺมฏฺานิโก ปุคฺคโล กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
อยฺหิ อาจริยสนฺติเก จตฺตาริ สจฺจานิ สวนโต อุคฺคณฺหาติ. เปตฺวา ตณฺหํ เตภูมกา ธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ นิโรธสจฺจํ, ทุกฺขสจฺจํ ปริชานนฺโต สมุทยสจฺจํ ปชหนฺโต นิโรธปาปโน มคฺโค มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ อุคฺคเหตฺวา อภินิวิสติ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ, วฏฺเฏ อภินิเวโส โหติ, โน วิวฏฺเฏ, ตสฺมา อยํ อภินิวิสมาโน ทุกฺขสจฺเจ อภินิวิสติ.
ทุกฺขสจฺจํ นาม รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธาติ ววตฺถเปตฺวา ธาตุกมฺมฏฺานวเสน โอตริตฺวา, ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปํ รูป’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตทารมฺมณา เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ นามนฺติ เอวํ ยมกตาลกฺขนฺธํ ภินฺทนฺโต วิย ‘‘ทฺเวว อิเม ธมฺมา ¶ นามรูป’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตํ ปเนตํ น อเหตุกํ สเหตุกํ สปฺปจฺจยํ, โก จสฺส ปจฺจโย อวิชฺชาทโย ธมฺมาติ เอวํ ปจฺจเย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม จ ววตฺถเปตฺวา ‘‘สพฺเพปิ ธมฺมา หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา’’ติ อนิจฺจลกฺขณํ อาโรเปติ, ตโต อุทยวยปฺปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขา, อวสวตฺตนากาเรน อนตฺตาติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สมฺมสนฺโต โลกุตฺตรมคฺคํ ปาปุณาติ.
มคฺคกฺขเณ ¶ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ. ทุกฺขํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ. โส ตีณิ สจฺจานิ กิจฺจโต ปฏิวิชฺฌติ, นิโรธํ อารมฺมณโต. ตสฺมิฺจสฺส ขเณ อหํ ทุกฺขํ ปริชานามิ, สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมีติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ. เอตสฺส ปน ปริคฺคณฺหนฺตสฺเสว มคฺโค ¶ ตีสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจํ สาเธนฺโตว นิโรธํ อารมฺมณโต ปฏิวิชฺฌตีติ.
ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจตีติ เอตฺถ เหฏฺิมโกฏิยา โสตาปนฺโน, อุปริมโกฏิยา ขีณาสโว ปฺวาติ นิทฺทิฏฺโ. โย ปน เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนุสนฺธิโต จ ปุพฺพาปรโต จ อุคฺคเหตฺวา เหฏฺุปริยํ กโรนฺโต วิจรติ, อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน ปริคฺคหมตฺตมฺปิ นตฺถิ, อยํ ปฺวา นาม, ทุปฺปฺโ นามาติ? วิฺาณจริโต นาเมส, ปฺวาติ น วตฺตพฺโพ. อถ โย ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา สมฺมสนฺโต อชฺช อชฺเชว อรหตฺตนฺติ จรติ, อยํ ปฺวา นาม, ทุปฺปฺโ นามาติ? ภชาปิยมาโน ปฺวาปกฺขํ ภชติ. สุตฺเต ปน ปฏิเวโธว กถิโต.
วิฺาณํ วิฺาณนฺติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? เยน วิฺาเณน สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เอส ปฺวา นาม ชาโต, ตสฺส อาคมนวิปสฺสนา วิฺาณํ กมฺมการกจิตฺตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. สุขนฺติปิ วิชานาตีติ สุขเวทนมฺปิ วิชานาติ. อุปริปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อิมินา ¶ เถโร ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามีติ ปชานาตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๑๓; ที. นิ. ๒.๓๘๐) นเยน อาคตเวทนาวเสน อรูปกมฺมฏฺานํ กเถสิ. ตสฺสตฺโถ สติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สํสฏฺาติ ¶ เอกุปฺปาทาทิลกฺขเณน สํโยคฏฺเน สํสฏฺา, อุทาหุ วิสํสฏฺาติ ปุจฺฉติ. เอตฺถ จ เถโร มคฺคปฺฺจ วิปสฺสนาวิฺาณฺจาติ อิเม ทฺเว โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม มิสฺเสตฺวา ภูมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา สมยํ อชานนฺโต วิย ปุจฺฉตีติ น เวทิตพฺโพ. มคฺคปฺาย ปน มคฺควิฺาเณน, วิปสฺสนาปฺาย จ วิปสฺสนาวิฺาเณเนว สทฺธึ สํสฏฺภาวํ ปุจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ. เถโรปิสฺส ตเมวตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต อิเม ธมฺมา สํสฏฺาติอาทิมาห. ตตฺถ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานนฺติ อิเมสํ โลกิยมคฺคกฺขเณปิ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณปิ เอกโต อุปฺปนฺนานํ ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ. วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวาติ วิสุํ วิสุํ กตฺวา วินิวฏฺเฏตฺวา, อารมฺมณโต วา วตฺถุโต วา อุปฺปาทโต วา นิโรธโต วา นานากรณํ ¶ ทสฺเสตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. เตสํ เตสํ ปน ธมฺมานํ วิสโย นาม อตฺถิ. โลกิยธมฺมํ ปตฺวา หิ จิตฺตํ เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, โลกุตฺตรํ ปตฺวา ปฺา.
สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ หิ โลกิยธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต, ‘‘ภิกฺขุ, ตฺวํ กตมํ ปฺํ อธิคโต, กึ ปมมคฺคปฺํ, อุทาหุ ทุติย ตติย จตุตฺถ มคฺคปฺ’’นฺติ น เอวํ ปุจฺฉติ. กึ ผสฺโส ตฺวํ, ภิกฺขุ, กึ เวทโน, กึ สฺโ, กึ เจตโนติ น จ ปุจฺฉติ, จิตฺตวเสน ปน, ‘‘กิฺจิตฺโต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ (ปารา. ๑๓๕) ปุจฺฉติ. กุสลากุสลํ ปฺเปนฺโตปิ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) จ, ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) จ เอวํ จิตฺตวเสเนว ปฺาเปติ. โลกุตฺตรํ ปุจฺฉนฺโต ปน กึ ผสฺโส ตฺวํ ภิกฺขุ, กึ เวทโน, กึ สฺโ, กึ เจตโนติ น ปุจฺฉติ. กตมา เต, ภิกฺขุ, ปฺา อธิคตา, กึ ปมมคฺคปฺา, อุทาหุ ทุติยตติยจตุตฺถมคฺคปฺาติ เอวํ ปฺาวเสเนว ปุจฺฉติ.
อินฺทฺริยสํยุตฺเตปิ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ ¶ โสตาปตฺติยงฺเคสุ เอตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, วีริยินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ เอตฺถ วีริยินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สตินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สติปฏฺาเนสุ เอตฺถ สตินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, สมาธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ ฌาเนสุ เอตฺถ สมาธินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถ จ, ภิกฺขเว, ปฺินฺทฺริยํ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอตฺถ ปฺินฺทฺริยํ ¶ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๗๘). เอวํ สวิสยสฺมึเยว โลกิยโลกุตฺตรา ธมฺมา กถิตา.
ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ราชาติ ราชปฺจเมสุ สหาเยสุ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามาติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ ¶ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ. อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโรว, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว, ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ วิจาเรติ. เอวเมวํ โข สทฺธาปฺจมเกสุ อินฺทฺริเยสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ โสตาปตฺติยงฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหณลกฺขณํ วีริยินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สตินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานวิโมกฺเข ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว เคเห วิจาเรติ, เอวเมว อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ.
อิติ ¶ ปฏิสมฺภิทาปตฺตานํ อคฺเค ปิโต มหาโกฏฺิตตฺเถโร โลกิยธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต จิตฺตํ เชฏฺกํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปุจฺฉิ; โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ¶ ปฺํ เชฏฺกํ ปฺํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปุจฺฉิ. ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว วิสฺสชฺเชสีติ.
ยํ หาวุโส, ปชานาตีติ ยํ จตุสจฺจธมฺมมิทํ ทุกฺขนฺติอาทินา นเยน มคฺคปฺา ปชานาติ. ตํ วิชานาตีติ ¶ มคฺควิฺาณมฺปิ ตเถว ตํ วิชานาติ. ยํ วิชานาตีติ ยํ สงฺขารคตํ อนิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปสฺสนาวิฺาณํ วิชานาติ. ตํ ปชานาตีติ วิปสฺสนาปฺาปิ ตเถว ตํ ปชานาติ. ตสฺมา อิเม ธมฺมาติ เตน การเณน อิเม ธมฺมา. สํสฏฺาติ เอกุปฺปาทเอกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาย สํสฏฺา.
ปฺา ภาเวตพฺพาติ อิทํ มคฺคปฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํสมฺปยุตฺตํ ปน วิฺาณํ ตาย สทฺธึ ภาเวตพฺพเมว โหติ. วิฺาณํ ปริฺเยฺยนฺติ อิทํ วิปสฺสนาวิฺาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํสมฺปยุตฺตา ปน ปฺา เตน สทฺธึ ปริชานิตพฺพาว โหติ.
๔๕๐. เวทนา เวทนาติ อิทํ กสฺมา ปุจฺฉติ? เวทนาลกฺขณํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. เอวํ สนฺเตปิ เตภูมิกสมฺมสนจารเวทนาว อธิปฺเปตาติ สลฺลกฺเขตพฺพา. สุขมฺปิ เวเทตีติ สุขํ อารมฺมณํ เวเทติ อนุภวติ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ‘‘รูปฺจ หิทํ, มหาลิ, เอกนฺตทุกฺขํ อภวิสฺส, ทุกฺขานุปติตํ ทุกฺขาวกฺกนฺตํ อนวกฺกนฺตํ สุเขน, นยิทํ สตฺตา รูปสฺมึ สารชฺเชยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, มหาลิ, รูปํ สุขํ สุขานุปติตํ สุขาวกฺกนฺตํ อนวกฺกนฺตํ ทุกฺเขน, ตสฺมา สตฺตา รูปสฺมึ สารชฺชนฺติ, สาราคา สํยุชฺชนฺติ, สํโยคา สํกิลิสฺสนฺติ. เวทนา จ หิทํ… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณฺจ หิทํ, มหาลิ, เอกนฺตทุกฺขํ อภวิสฺส…เป… สํกิลิสฺสนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๐) อิมินา หิ มหาลิสุตฺตปริยาเยน อิธ อารมฺมณํ สุขํ ทุกฺขํ อทุกฺขมสุขนฺติ กถิตํ. อปิจ ปุริมํ สุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา สุขา เวทนา เวเทติ; ปุริมํ ทุกฺขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา ทุกฺขา เวทนา เวเทติ; ปุริมํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อารมฺมณํ กตฺวา อปรา อทุกฺขมสุขา เวทนา เวเทตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เวทนาเยว หิ เวเทติ, น อฺโ โกจิ เวทิตา นาม อตฺถีติ วุตฺตเมตํ.
สฺา ¶ ¶ สฺาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? สพฺพสฺาย ลกฺขณํ. กึ สพฺพตฺถกสฺายาติ? สพฺพสฺาย ลกฺขณนฺติปิ ¶ สพฺพตฺถกสฺาย ลกฺขณนฺติปิ เอกเมเวตํ, เอวํ สนฺเตปิ เตภูมิกสมฺมสนจารสฺาว อธิปฺเปตาติ สลฺลกฺเขตพฺพา. นีลกมฺปิ สฺชานาตีติ นีลปุปฺเผ วา วตฺเถ วา ปริกมฺมํ กตฺวา อุปจารํ วา อปฺปนํ วา ปาเปนฺโต สฺชานาติ. อิมสฺมิฺหิ อตฺเถ ปริกมฺมสฺาปิ อุปจารสฺาปิ อปฺปนาสฺาปิ วฏฺฏติ. นีเล นีลนฺติ อุปฺปชฺชนกสฺาปิ วฏฺฏติเยว. ปีตกาทีสุปิ เอเสว นโย.
ยา จาวุโส, เวทนาติ เอตฺถ เวทนา, สฺา, วิฺาณนฺติ อิมานิ ตีณิ คเหตฺวา ปฺา กสฺมา น คหิตาติ? อสพฺพสงฺคาหิกตฺตา. ปฺาย หิ คหิตาย ปฺาย สมฺปยุตฺตาว เวทนาทโย ลพฺภนฺติ, โน วิปฺปยุตฺตา. ตํ ปน อคฺคเหตฺวา อิเมสุ คหิเตสุ ปฺาย สมฺปยุตฺตา จ วิปฺปยุตฺตา จ อนฺตมโส ทฺเว ปฺจวิฺาณธมฺมาปิ ลพฺภนฺติ. ยถา หิ ตโย ปุริสา สุตฺตํ สุตฺตนฺติ วเทยฺยุํ, จตุตฺโถ รตนาวุตสุตฺตนฺติ. เตสุ ปุริมา ตโย ตกฺกคตมฺปิ ปฏฺฏิวฏฺฏกาทิคตมฺปิ ยํกิฺจิ พหุํ สุตฺตํ ลภนฺติ อนฺตมโส มกฺกฏกสุตฺตมฺปิ. รตนาวุตสุตฺตํ ปริเยสนฺโต มนฺทํ ลภติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เหฏฺโต วา ปฺา วิฺาเณน สทฺธึ สมฺปโยคํ ลภาปิตา วิสฺสฏฺตฺตาว อิธ น คหิตาติ วทนฺติ. ยํ หาวุโส, เวเทตีติ ยํ อารมฺมณํ เวทนา เวเทติ, สฺาปิ ตเทว สฺชานาติ. ยํ สฺชานาตีติ ยํ อารมฺมณํ สฺา สฺชานาติ, วิฺาณมฺปิ ตเทว วิชานาตีติ อตฺโถ.
อิทานิ สฺชานาติ วิชานาติ ปชานาตีติ เอตฺถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อุปสคฺคมตฺตเมว วิเสโส. ชานาตีติ ปทํ ปน อวิเสโส. ตสฺสาปิ ชานนตฺเถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. สฺา หิ นีลาทิวเสน อารมฺมณํ สฺชานนมตฺตเมว, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวธํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. วิฺาณํ นีลาทิวเสน อารมฺมณฺเจว สฺชานาติ, อนิจฺจาทิลกฺขณปฏิเวธฺจ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา ปน มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. ปฺา นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ ¶ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ¶ ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวํ ปาเปตุมฺปิ สกฺโกติ.
ยถา หิ เหรฺิกผลเก กหาปณราสิมฺหิ กเต อชาตพุทฺธิ ทารโก คามิกปุริโส มหาเหรฺิโกติ ¶ ตีสุ ชเนสุ โอโลเกตฺวา ิเตสุ อชาตพุทฺธิ ทารโก กหาปณานํ จิตฺตวิจิตฺตจตุรสฺสมณฺฑลภาวเมว ชานาติ, อิทํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ รตนสมฺมตนฺติ น ชานาติ. คามิกปุริโส จิตฺตาทิภาวฺเจว ชานาติ, มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภครตนสมฺมตภาวฺจ. ‘‘อยํ กูโฏ อยํ เฉโก อยํ กรโต อยํ สณฺโห’’ติ ปน น ชานาติ. มหาเหรฺิโก จิตฺตาทิภาวมฺปิ รตนสมฺมตภาวมฺปิ กูฏาทิภาวมฺปิ ชานาติ, ชานนฺโต จ ปน นํ รูปํ ทิสฺวาปิ ชานาติ, อาโกฏิตสฺส สทฺทํ สุตฺวาปิ, คนฺธํ ฆายิตฺวาปิ, รสํ สายิตฺวาปิ, หตฺเถน ครุกลหุกภาวํ อุปธาเรตฺวาปิ อสุกคาเม กโตติปิ ชานาติ, อสุกนิคเม อสุกนคเร อสุกปพฺพตจฺฉายาย อสุกนทีตีเร กโตติปิ, อสุกาจริเยน กโตติปิ ชานาติ. เอวเมวํ สฺา อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมตฺตเมว สฺชานาติ. วิฺาณํ คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ. ปฺา มหาเหรฺิกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย นีลาทิวเสน อารมฺมณมฺปิ สฺชานาติ, อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฏิเวธมฺปิ ปาเปติ, อุสฺสกฺกิตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ทุปฺปฏิวิชฺโฌ.
เตนาห อายสฺมา นาคเสโน – ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตนฺติ. กึ, ภนฺเต, นาคเสน ภควตา ทุกฺกรํ กตนฺติ? ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ, อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ, อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๗.๑๖). ยถา หิ ติลเตลํ, สาสปเตลํ, มธุกเตลํ, เอรณฺฑกเตลํ, วสาเตลนฺติ อิมานิ ปฺจ เตลานิ เอกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา ทิวสํ ยมกมนฺเถหิ มนฺเถตฺวา ตโต อิทํ ติลเตลํ, อิทํ สาสปเตลนฺติ เอเกกสฺส ปาฏิเยกฺกํ อุทฺธรณํ นาม ทุกฺกรํ, อิทํ ตโต ¶ ทุกฺกรตรํ. ภควา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส ¶ สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา อิเมสํ อรูปีนํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาสิ. ปฺจนฺนํ มหานทีนํ สมุทฺทํ ปวิฏฺฏฺาเน, ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนายา’’ติ เอวํ ปาฏิเยกฺกํ อุทกอุทฺธรเณนาปิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๔๕๑. นิสฺสฏฺเนาติ นิสฺสเฏน ปริจฺจตฺเตน วา. ตตฺถ นิสฺสเฏนาติ อตฺเถ สติ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหีติ ¶ นิสฺสกฺกวจนํ. ปริจฺจตฺเตนาติ อตฺเถ สติ กรณวจนํ เวทิตพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ นิสฺสริตฺวา มโนทฺวาเร ปวตฺเตน ปฺจหิ วา อินฺทฺริเยหิ ตสฺส วตฺถุภาวํ อนุปคมนตาย ปริจฺจตฺเตนาติ. ปริสุทฺเธนาติ นิรุปกฺกิเลเสน. มโนวิฺาเณนาติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานจิตฺเตน. กึ เนยฺยนฺติ กึ ชานิตพฺพํ. ‘‘ยํกิฺจิ เนยฺยํ นาม อตฺถิ ธมฺม’’นฺติอาทีสุ (มหานิ. ๖๙) หิ ชานิตพฺพํ เนยฺยนฺติ วุตฺตํ. อากาสานฺจายตนํ เนยฺยนฺติ กถํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานจิตฺเตน อรูปาวจรสมาปตฺติ เนยฺยาติ? รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน ิเตน อรูปาวจรสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺกา โหติ. เอตฺถ ิตสฺส หิ สา อิชฺฌติ. ตสฺมา ‘‘อากาสานฺจายตนํ เนยฺย’’นฺติอาทิมาห. อถ เนวสฺานาสฺายตนํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ปาฏิเยกฺกํ อภินิเวสาภาวโต. ตตฺถ หิ กลาปโต นยโต สมฺมสนํ ลพฺภติ, ธมฺมเสนาปติสทิสสฺสาปิ หิ ภิกฺขุโน ปาฏิเยกฺกํ อภินิเวโส น ชายติ. ตสฺมา เถโรปิ, ‘‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๙๔) กลาปโต นยโต สมฺมสิตฺวา วิสฺสชฺเชสีติ. ภควา ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส หตฺถคตตฺตา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยมฺปิ ปโรปฺาส ธมฺเม ปาฏิเยกฺกํ อํคุทฺธาเรเนว อุทฺธริตฺวา, ‘‘ยาวตา สฺาสมาปตฺติโย, ตาวตา อฺาปฏิเวโธ’’ติ อาห.
ปฺาจกฺขุนา ปชานาตีติ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุภูตาย ปฺาย ปชานาติ. ตตฺถ ทฺเว ปฺา สมาธิปฺา วิปสฺสนาปฺา จ. สมาธิปฺาย กิจฺจโต อสมฺโมหโต จ ปชานาติ. วิปสฺสนาปฺาย ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ชานนํ กถิตํ. กิมตฺถิยาติ โก เอติสฺสา อตฺโถ. อภิฺตฺถาติอาทีสุ ¶ อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานาตีติ ¶ อภิฺตฺถา. ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริชานาตีติ ปริฺตฺถา. ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปชหตีติ ปหานตฺถา. สา ปเนสา โลกิยาปิ อภิฺตฺถา จ ปริฺตฺถา จ วิกฺขมฺภนโต ปหานตฺถา. โลกุตฺตราปิ อภิฺตฺถา จ ปริฺตฺถา จ สมุจฺเฉทโต ปหานตฺถา. ตตฺถ โลกิยา กิจฺจโต อสมฺโมหโต จ ปชานาติ, โลกุตฺตรา อสมฺโมหโต.
๔๕๒. สมฺมาทิฏฺิยา อุปฺปาทายาติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา จ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา จ. ปรโต จ โฆโสติ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ. โยนิโส จ มนสิกาโรติ อตฺตโน อุปายมนสิกาโร. ตตฺถ สาวเกสุ อปิ ธมฺมเสนาปติโน ทฺเว ปจฺจยา ลทฺธุํ วฏฺฏนฺติเยว. เถโร หิ กปฺปสตสหสฺสาธิกํ ¶ เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูเรตฺวาปิ อตฺตโน ธมฺมตาย อณุมตฺตมฺปิ กิเลสํ ปชหิตุํ นาสกฺขิ. ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา’’ติ (มหาว. ๖๐) อสฺสชิตฺเถรโต อิมํ คาถํ สุตฺวาวสฺส ปฏิเวโธ ชาโต. ปจฺเจกพุทฺธานํ ปน สพฺพฺุพุทฺธานฺจ ปรโตโฆสกมฺมํ นตฺถิ, โยนิโสมนสิการสฺมึเยว ตฺวา ปจฺเจกโพธิฺจ สพฺพฺุตฺาณฺจ นิพฺพตฺเตนฺติ.
อนุคฺคหิตาติ ลทฺธูปการา. สมฺมาทิฏฺีติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ผลกฺขเณ นิพฺพตฺตา เจโตวิมุตฺติ ผลํ อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลา. ตเทว เจโตวิมุตฺติสงฺขาตํ ผลํ อานิสํโส อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ จตุตฺถผลปฺา ปฺาวิมุตฺติ นาม, อวเสสา ธมฺมา เจโตวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. สีลานุคฺคหิตาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สุตนฺติ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ. สากจฺฉาติ กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนกถา. สมโถติ วิปสฺสนาปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย. วิปสฺสนาติ สตฺตวิธา อนุปสฺสนา. จตุปาริสุทฺธิสีลฺหิ ปูเรนฺตสฺส, สปฺปายธมฺมสฺสวนํ สุณนฺตสฺส, กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนํ ฉินฺทนฺตสฺส, วิปสฺสนาปาทิกาสุ อฏฺสมาปตฺตีสุ กมฺมํ กโรนฺตสฺส, สตฺตวิธํ อนุปสฺสนํ ภาเวนฺตสฺส อรหตฺตมคฺโค อุปฺปชฺชิตฺวา ผลํ เทติ.
ยถา หิ มธุรํ อมฺพปกฺกํ ปริภฺุชิตุกาโม อมฺพโปตกสฺส ¶ สมนฺตา อุทกโกฏฺกํ ถิรํ กตฺวา พนฺธติ. ฆฏํ คเหตฺวา กาเลน กาลํ อุทกํ อาสิฺจติ. อุทกสฺส อนิกฺขมนตฺถํ มริยาทํ ถิรํ กโรติ. ยา โหติ ¶ สมีเป วลฺลิ วา สุกฺขทณฺฑโก วา กิปิลฺลิกปุโฏ วา มกฺกฏกชาลํ วา, ตํ อปเนติ. ขณิตฺตึ คเหตฺวา กาเลน กาลํ มูลานิ ปริขณติ. เอวมสฺส อปฺปมตฺตสฺส อิมานิ ปฺจ การณานิ กโรโต โส อมฺโพ วฑฺฒิตฺวา ผลํ เทติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. รุกฺขสฺส สมนฺตโต โกฏฺกพนฺธนํ วิย หิ สีลํ ทฏฺพฺพํ, กาเลน กาลํ อุทกสิฺจนํ วิย ธมฺมสฺสวนํ, มริยาทาย ถิรภาวกรณํ วิย สมโถ, สมีเป วลฺลิอาทีนํ หรณํ วิย กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนํ, กาเลน กาลํ ขณิตฺตึ คเหตฺวา มูลขณนํ วิย สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ ภาวนา. เตหิ ปฺจหิ การเณหิ อนุคฺคหิตสฺส อมฺพรุกฺขสฺส มธุรผลทานกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ อนุคฺคหิตาย สมฺมาทิฏฺิยา อรหตฺตผลทานํ เวทิตพฺพํ.
๔๕๓. กติ ¶ ปนาวุโส, ภวาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? มูลเมว คโต อนุสนฺธิ, ทุปฺปฺโ เยหิ ภเวหิ น อุฏฺาติ, เต ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กามภโวติ กามภวูปคํ กมฺมํ กมฺมาภินิพฺพตฺตา อุปาทินฺนกฺขนฺธาปีติ อุภยเมกโต กตฺวา กามภโวติ อาห. รูปารูปภเวสุปิ เอเสว นโย. อายตินฺติ อนาคเต. ปุนพฺภวสฺส อภินิพฺพตฺตีติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. อิธ วฏฺฏํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺราตตฺราภินนฺทนาติ รูปาภินนฺทนา สทฺทาภินนฺทนาติ เอวํ ตหึ ตหึ อภินนฺทนา, กรณวจเน เจตํ ปจฺจตฺตํ. ตตฺรตตฺราภินนฺทนาย ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา หิ คมนํ โหติ, อาคมนํ โหติ, คมนาคมนํ โหติ, วฏฺฏํ วตฺตตีติ วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ. อิทานิ วิวฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ ปนาวุโส’’ติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน อวิชฺชาวิราคาติ อวิชฺชาย ขยนิโรเธน. วิชฺชุปฺปาทาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชาย อุปฺปาเทน. กึ ¶ อวิชฺชา ปุพฺเพ นิรุทฺธา, อถ วิชฺชา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนาติ? อุภยเมตํ น วตฺตพฺพํ. ปทีปุชฺชลเนน อนฺธการวิคโม วิย วิชฺชุปฺปาเทน อวิชฺชา นิรุทฺธาว โหติ. ตณฺหานิโรธาติ ตณฺหาย ขยนิโรเธน. ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตีติ เอวํ อายตึ ปุนพฺภวสฺส อภินิพฺพตฺติ น โหติ, คมนํ อาคมนํ คมนาคมนํ อุปจฺฉิชฺชติ, วฏฺฏํ น วตฺตตีติ วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ.
๔๕๔. กตมํ ปนาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อุภโตภาควิมุตฺโต ภิกฺขุ กาเลน กาลํ นิโรธํ สมาปชฺชติ. ตสฺส นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ปมํ ฌานนฺติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธํ สมาปชฺชนเกน ¶ ภิกฺขุนา องฺคววตฺถานํ โกฏฺาสปริจฺเฉโท นาม ชานิตพฺโพ, อิทํ ฌานํ ปฺจงฺคิกํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกนฺติ องฺคววตฺถานํ โกฏฺาสปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. วิตกฺโกติอาทีสุ ปน อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, อนุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร, ผรณลกฺขณา ปีติ, สาตลกฺขณํ สุขํ, อวิกฺเขปลกฺขณา จิตฺเตกคฺคตาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา วตฺตนฺติ. กตงฺควิปฺปหีนนฺติ อิธ ปน กึ ปุจฺฉติ? นิโรธํ สมาปชฺชนเกน ภิกฺขุนา อุปการานุปการานิ องฺคานิ ชานิตพฺพานิ, ตานิ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ, วิสฺสชฺชนํ ปเนตฺถ ปากฏเมว. อิติ เหฏฺา นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ คหิตํ, อุปริ ตสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปุจฺฉิสฺสติ. อนฺตรา ปน ฉ สมาปตฺติโย สํขิตฺตา, นยํ วา ทสฺเสตฺวา วิสฺสฏฺาติ เวทิตพฺพา.
๔๕๕. อิทานิ ¶ วิฺาณนิสฺสเย ปฺจ ปสาเท ปุจฺฉนฺโต ปฺจิมานิ, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ โคจรวิสยนฺติ โคจรภูตํ วิสยํ. อฺมฺสฺสาติ จกฺขุ โสตสฺส โสตํ วา จกฺขุสฺสาติ เอวํ เอเกกสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภติ. สเจ หิ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ สโมธาเนตฺวา โสตินฺทฺริยสฺส อุปเนยฺย, ‘‘อิงฺฆ ตาว นํ ววตฺถเปหิ วิภาเวหิ, กึ นาเมตํ อารมฺมณ’’นฺติ. จกฺขุวิฺาณฺหิ วินาปิ มุเขน อตฺตโน ธมฺมตาย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อเร อนฺธพาล ¶ , วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ปริธาวมาโน อฺตฺร มยา กุหึ เอตสฺส ชานนกํ ลภิสฺสสิ, อาหร นํ จกฺขุปสาเท อุปเนหิ, อหเมตํ อารมฺมณํ ชานิสฺสามิ, ยทิ วา นีลํ ยทิ วา ปีตกํ, น หิ เอโส อฺสฺส วิสโย, มยฺเหเวโส วิสโย’’ติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. เอวเมตานิ อฺมฺสฺส โคจรํ วิสยํ น ปจฺจนุโภนฺติ นาม. กึ ปฏิสรณนฺติ เอเตสํ กึ ปฏิสรณํ, กึ เอตานิ ปฏิสรนฺตีติ ปุจฺฉติ. มโน ปฏิสรณนฺติ ชวนมโน ปฏิสรณํ. มโน จ เนสนฺติ มโนทฺวาริกชวนมโน วา ปฺจทฺวาริกชวนมโน วา เอเตสํ โคจรวิสยํ รชฺชนาทิวเสน อนุโภติ. จกฺขุวิฺาณฺหิ รูปทสฺสนมตฺตเมว, เอตฺถ รชฺชนํ วา ทุสฺสนํ วา มุยฺหนํ วา นตฺถิ. เอตสฺมึ ปน ทฺวาเร ชวนํ รชฺชติ วา ทุสฺสติ วา มุยฺหติ วา. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺรายํ อุปมา – ปฺจ กิร ทุพฺพลโภชกา ราชานํ เสวิตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน เอกสฺมึ ปฺจกุลิเก คาเม ปริตฺตกํ อายํ ลภึสุ. เตสํ ตตฺถ ¶ มจฺฉภาโค มํสภาโค ยุตฺติกหาปโณ วา, พนฺธกหาปโณ วา, มาปหารกหาปโณ วา, อฏฺกหาปโณ วา, โสฬสกหาปโณ วา, พาตฺตึสกหาปโณ วา, จตุสฏฺิกหาปโณ วา, ทณฺโฑติ เอตฺตกมตฺตเมว ปาปุณาติ. สตวตฺถุกํ ปฺจสตวตฺถุกํ สหสฺสวตฺถุกํ มหาพลึ ราชาว คณฺหาติ. ตตฺถ ปฺจกุลิกคาโม วิย ปฺจ ปสาทา ทฏฺพฺพา; ปฺจ ทุพฺพลโภชกา วิย ปฺจ วิฺาณานิ; ราชา วิย ชวนํ; ทุพฺพลโภชกานํ ปริตฺตกํ อายปาปุณนํ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนํ รูปทสฺสนาทิมตฺตํ. รชฺชนาทีนิ ปน เอเตสุ นตฺถิ. รฺโ มหาพลิคฺคหณํ วิย เตสุ ทฺวาเรสุ ชวนสฺส รชฺชนาทีนิ เวทิตพฺพานิ.
๔๕๖. ปฺจิมานิ, อาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อนฺโตนิโรธสฺมึ ปฺจ ปสาเท. กิริยมยปวตฺตสฺมิฺหิ ¶ วตฺตมาเน อรูปธมฺมา ปสาทานํ พลวปจฺจยา โหนฺติ. โย ปน ตํ ปวตฺตํ นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปนฺโน, ตสฺส อนฺโตนิโรเธ ปฺจ ปสาทา กึ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺตีติ อิทํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. อายุํ ปฏิจฺจาติ ชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ติฏฺนฺติ ¶ . อุสฺมํ ปฏิจฺจาติ ชีวิตินฺทฺริยํ กมฺมชเตชํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ. ยสฺมา ปน กมฺมชเตโชปิ ชีวิตินฺทฺริเยน วินา น ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตี’’ติ อาห. ฌายโตติ ชลโต. อจฺจึ ปฏิจฺจาติ ชาลสิขํ ปฏิจฺจ. อาภา ปฺายตีติ อาโลโก นาม ปฺายติ. อาภํ ปฏิจฺจ อจฺจีติ ตํ อาโลกํ ปฏิจฺจ ชาลสิขา ปฺายติ.
เอวเมว โข, อาวุโส, อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺตีติ เอตฺถ ชาลสิขา วิย กมฺมชเตโช. อาโลโก วิย ชีวิตินฺทฺริยํ. ชาลสิขา หิ อุปฺปชฺชมานา อาโลกํ คเหตฺวาว อุปฺปชฺชติ. สา เตน อตฺตนา ชนิตอาโลเกเนว สยมฺปิ อณุ ถูลา ทีฆา รสฺสาติ ปากฏา โหติ. ตตฺถ ชาลปวตฺติยา ชนิตอาโลเกน ตสฺสาเยว ชาลปวตฺติยา ปากฏภาโว วิย อุสฺมํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺเตน กมฺมชมหาภูตสมฺภเวน ชีวิตินฺทฺริเยน อุสฺมาย อนุปาลนํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ ทสปิ วสฺสานิ…เป… วสฺสสตมฺปิ กมฺมชเตชปวตฺตํ ปาเลติ. อิติ มหาภูตานิ อุปาทารูปานํ นิสฺสยปจฺจยาทิวเสน ปจฺจยานิ โหนฺตีติ อายุ อุสฺมํ ปฏิจฺจ ติฏฺติ. ชีวิตินฺทฺริยํ ¶ มหาภูตานิ ปาเลตีติ อุสฺมา อายุํ ปฏิจฺจ ติฏฺตีติ เวทิตพฺพา.
๔๕๗. อายุสงฺขาราติ อายุเมว. เวทนิยา ธมฺมาติ เวทนา ธมฺมาว. วุฏฺานํ ปฺายตีติ สมาปตฺติโต วุฏฺานํ ปฺายติ. โย หิ ภิกฺขุ อรูปปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา สฺฺจ เวทนฺจ นิโรเธตฺวา นิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺส ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจยา อรูปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ปน รูปารูปปวตฺตํ ปวตฺตติ. ยถา กึ? ยถา เอโก ปุริโส ชาลาปวตฺเต อุกฺขณฺิโต อุทเกน ปหริตฺวา ชาลํ อปฺปวตฺตํ กตฺวา ฉาริกาย องฺคาเร ปิธาย ตุณฺหี นิสีทติ. ยทา ปนสฺส ปุน ชาลาย อตฺโถ โหติ, ฉาริกํ อปเนตฺวา องฺคาเร ปริวตฺเตตฺวา อุปาทานํ ทตฺวา มุขวาตํ วา ตาลวณฺฏวาตํ วา ททาติ. อถ ชาลาปวตฺตํ ปุน ปวตฺตติ. เอวเมว ชาลาปวตฺตํ วิย อรูปธมฺมา. ปุริสสฺส ชาลาปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา อุทกปฺปหาเรน ชาลํ อปฺปวตฺตํ กตฺวา ฉาริกาย องฺคาเร ปิธาย ตุณฺหีภูตสฺส นิสชฺชา วิย ภิกฺขุโน ¶ อรูปปวตฺเต อุกฺกณฺิตฺวา สฺฺจ เวทนฺจ นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปชฺชนํ. ฉาริกาย ¶ ปิหิตองฺคารา วิย รูปชีวิตินฺทฺริยํ. ปุริสสฺส ปุน ชาลาย อตฺเถ สติ ฉาริกาปนยนาทีนิ วิย ภิกฺขุโน ยถาปริจฺฉินฺนกาลาปคมนํ. อคฺคิชาลาย ปวตฺติ วิย ปุน อรูปธมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ รูปารูปปวตฺติ เวทิตพฺพา.
อายุ อุสฺมา จ วิฺาณนฺติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, กมฺมชเตโชธาตุ, จิตฺตนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา ยทา อิมํ รูปกายํ ชหนฺติ, อถายํ อเจตนํ กฏฺํ วิย ปถวิยํ ฉฑฺฑิโต เสตีติ อตฺโถ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติมํ;
อปวิทฺโธ ตทา เสติ, ปรภตฺตํ อเจตน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);
กายสงฺขาราติ อสฺสาสปสฺสาสา. วจีสงฺขาราติ วิตกฺกวิจารา. จิตฺตสงฺขาราติ สฺาเวทนา. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ. ปริภินฺนานีติ อุปหตานิ, วินฏฺานีติ อตฺโถ. ตตฺถ เกจิ ‘‘นิโรธสมาปนฺนสฺส จิตฺตสงฺขาราว นิรุทฺธา’’ติ วจนโต จิตฺตํ อนิรุทฺธํ โหติ, ตสฺมา สจิตฺตกา อยํ สมาปตฺตีติ วทนฺติ. เต วตฺตพฺพา – ‘‘วจีสงฺขาราปิสฺส นิรุทฺธา’’ติ วจนโต วาจา อนิรุทฺธา โหติ, ตสฺมา นิโรธํ สมาปนฺเนน ธมฺมมฺปิ กเถนฺเตน สชฺฌายมฺปิ ¶ กโรนฺเตน นิสีทิตพฺพํ สิยา. ‘‘โย จายํ มโต กาลงฺกโต, ตสฺสาปิ จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา’’ติ วจนโต จิตฺตํ อนิรุทฺธํ ภเวยฺย, ตสฺมา กาลงฺกเต มาตาปิตโร วา อรหนฺเต วา ฌาปยนฺเตน อนนฺตริยกมฺมํ กตํ ภเวยฺย. อิติ พฺยฺชเน อภินิเวสํ อกตฺวา อาจริยานํ นเย ตฺวา อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ. อตฺโถ หิ ปฏิสรณํ, น พฺยฺชนํ.
อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานีติ กิริยมยปวตฺตสฺมิฺหิ วตฺตมาเน พหิทฺธา อารมฺมเณสุ ปสาเท ฆฏฺเฏนฺเตสุ อินฺทฺริยานิ กิลมนฺตานิ อุปหตานิ มกฺขิตานิ วิย โหนฺติ, วาตาทีหิ อุฏฺิเตน รเชน จตุมหาปเถ ปิตอาทาโส วิย. ยถา ¶ ปน ถวิกายํ ปกฺขิปิตฺวา มฺชูสาทีสุ ปิโต อาทาโส อนฺโตเยว วิโรจติ, เอวํ นิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อนฺโตนิโรเธ ปฺจ ปสาทา อติวิโรจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานี’’ติ.
๔๕๘. กติ ¶ ปนาวุโส, ปจฺจยาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส สุขสฺส จ ปหานาติ จตฺตาโร อปคมนปจฺจยา กถิตา. อนิมิตฺตายาติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? นิโรธโต วุฏฺานกผลสมาปตฺตึ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. อวเสสสมาปตฺติวุฏฺานฺหิ ภวงฺเคน โหติ, นิโรธา วุฏฺานํ ปน วิปสฺสนานิสฺสนฺทาย ผลสมาปตฺติยาติ ตเมว ปุจฺฉติ. สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สพฺพารมฺมณานํ. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโรติ สพฺพนิมิตฺตาปคตาย นิพฺพานธาตุยา มนสิกาโร. ผลสมาปตฺติสหชาตํ มนสิการํ สนฺธายาห. อิติ เหฏฺา นิโรธปาทกํ ปมชฺฌานํ คหิตํ, นิโรธสฺส อนนฺตรปจฺจยํ เนวสฺานาสฺายตนํ คหิตํ, อิธ นิโรธโต วุฏฺานกผลสมาปตฺติ คหิตาติ.
อิมสฺมึ าเน นิโรธกถา กเถตพฺพา โหติ. สา, ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โสฬสหิ าณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตาปฺา นิโรธสมาปตฺติยา าณ’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๘๓) อาคตา. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺสา สพฺพากาเรน วินิจฺฉยกถา กถิตา.
อิทานิ ¶ วลฺชนสมาปตฺตึ ปุจฺฉนฺโต กติ ปนาวุโส, ปจฺจยาติอาทิมาห. นิโรธโต หิ วุฏฺานกผลสมาปตฺติยา ิติ นาม น โหติ, เอกํ ทฺเว จิตฺตวารเมว ปวตฺติตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. อยฺหิ ภิกฺขุ สตฺต ทิวเส อรูปปวตฺตํ นิโรเธตฺวา นิสินฺโน นิโรธวุฏฺานกผลสมาปตฺติยํ น จิรํ ติฏฺติ. วลฺชนสมาปตฺติยํ ปน อทฺธานปริจฺเฉโทว ปมาณํ. ตสฺมา สา ิติ นาม โหติ. เตนาห – ‘‘อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา’’ติ. ตสฺสา จิรฏฺิตตฺถํ กติ ปจฺจยาติ อตฺโถ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺสา ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโรติ อทฺธานปริจฺเฉโท วุตฺโต. วุฏฺานายาติ อิธ ภวงฺควุฏฺานํ ปุจฺฉติ. วิสฺสชฺชเนปิสฺสา สพฺพนิมิตฺตานฺจ ¶ มนสิกาโรติ รูปาทินิมิตฺตวเสน ภวงฺคสหชาตมนสิกาโร วุตฺโต.
๔๕๙. ยา จายํ, อาวุโสติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อิธ อฺํ อภินวํ นาม นตฺถิ. เหฏฺา กถิตธมฺเมเยว เอกโต สโมธาเนตฺวา ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. กตฺถ ปน เต กถิตา? ‘‘นีลมฺปิ ¶ สฺชานาติ ปีตกมฺปิ, โลหิตกมฺปิ, โอทาตกมฺปิ สฺชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๐) เอตสฺมิฺหิ าเน อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ กถิตา. ‘‘นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนนฺติ เนยฺย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๕๑) เอตฺถ อากิฺจฺํ. ‘‘ปฺาจกฺขุนา ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๑) เอตฺถ สฺุตา. ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา วุฏฺานายา’’ติ เอตฺถ อนิมิตฺตา. เอวํ เหฏฺา กถิตาว อิมสฺมึ าเน เอกโต สโมธาเนตฺวา ปุจฺฉติ. ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา เอตา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิทฺทิฏฺาวาติ วตฺวา อฺเ จตฺตาโร ธมฺมา เอกนามกา อตฺถิ. เอโก ธมฺโม จตุนามโก อตฺถิ, เอตํ ปากฏํ กตฺวา กถาเปตุํ อิธ ปุจฺฉตีติ อฏฺกถายํ สนฺนิฏฺานํ กตํ. ตสฺสา วิสฺสชฺชเน อยํ วุจฺจตาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺตีติ อยํ ผรณอปฺปมาณตาย อปฺปมาณา นาม. อยฺหิ อปฺปมาเณ วา สตฺเต ผรติ, เอกสฺมิมฺปิ วา สตฺเต อเสเสตฺวา ผรติ.
อยํ วุจฺจตาวุโส, อากิฺจฺาติ อารมฺมณกิฺจนสฺส อภาวโต อากิฺจฺา. อตฺเตน วาติ อตฺต ภาวโปสปุคฺคลาทิสงฺขาเตน อตฺเตน สฺุํ. อตฺตนิเยน วาติ จีวราทิปริกฺขารสงฺขาเตน อตฺตนิเยน สฺุํ. อนิมิตฺตาติ ¶ ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาเวเนว อนิมิตฺตา, อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สนฺธายาห. นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จาติ พฺยฺชนมฺปิ เนสํ นานา อตฺโถปิ. ตตฺถ พฺยฺชนสฺส นานตา ปากฏาว. อตฺโถ ปน, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ภูมนฺตรโต มหคฺคตา เอว โหติ รูปาวจรา; อารมฺมณโต สตฺต ปฺตฺติอารมฺมณา. อากิฺจฺา ภุมฺมนฺตรโต มหคฺคตา อรูปาวจรา; อารมฺมณโต น วตฺตพฺพารมฺมณา. สฺุตา ภุมฺมนฺตรโต กามาวจรา; อารมฺมณโต สงฺขารารมฺมณา. วิปสฺสนา หิ เอตฺถ สฺุตาติ อธิปฺเปตา. อนิมิตฺตา ภุมฺมนฺตรโต โลกุตฺตรา; อารมฺมณโต นิพฺพนารมฺมณา.
ราโค ¶ โข, อาวุโส, ปมาณกรโณติอาทีสุ ยถา ปพฺพตปาเท ปูติปณฺณรสอุทกํ นาม โหติ กาฬวณฺณํ; โอโลเกนฺตานํ พฺยามสตคมฺภีรํ วิย ขายติ. ยฏฺึ วา รชฺชุํ วา คเหตฺวา มินนฺตสฺส ปิฏฺิปาโทตฺถรณมตฺตมฺปิ น โหติ. เอวเมวํ ยาว ราคาทโย นุปฺปชฺชนฺติ, ตาว ปุคฺคลํ สฺชานิตุํ น สกฺกา โหนฺติ, โสตาปนฺโน วิย, สกทาคามี วิย, อนาคามี วิย จ ขายติ. ยทา ปนสฺส ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตทา รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโหติ ปฺายติ. อิติ เอเต ‘‘เอตฺตโก อย’’นฺติ ปุคฺคลสฺส ปมาณํ ทสฺเสนฺโต วิย อุปฺปชฺชนฺตีติ ปมาณกรณา นาม ¶ วุตฺตา. ยาวตา โข, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโยติ ยตฺตกา อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโย. กิตฺตกา ปน ตา? จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานีติ ทฺวาทส. ตตฺถ พฺรหฺมวิหารา ผรณอปฺปมาณตาย อปฺปมาณา. เสสา ปมาณกรณานํ กิเลสานํ อภาเวน อปฺปมาณา. นิพฺพานมฺปิ อปฺปมาณเมว, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ. อกุปฺปาติ อรหตฺตผลเจโตวิมุตฺติ; สา หิ ตาสํ สพฺพเชฏฺิกา, ตสฺมา อคฺคมกฺขายตีติ วุตฺตา. ราโค โข, อาวุโส, กิฺจโนติ ราโค อุปฺปชฺชิตฺวา ปุคฺคลํ กิฺจติ มทฺทติ ปลิพุนฺธติ. ตสฺมา กิฺจโนติ วุตฺโต. มนุสฺสา กิร โคเณหิ ขลํ มทฺทาเปนฺโต กิฺเจหิ กปิล, กิฺเจหิ กาฬกาติ วทนฺติ. เอวํ มทฺทนตฺโถ กิฺจนตฺโถติ เวทิตพฺโพ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. อากิฺจฺา เจโตวิมุตฺติโย นาม นว ธมฺมา อากิฺจฺายตนฺจ มคฺคผลานิ จ. ตตฺถ อากิฺจฺายตนํ ¶ กิฺจนํ อารมฺมณํ อสฺส นตฺถีติ อากิฺจฺํ. มคฺคผลานิ กิฺจนานํ มทฺทนานํ ปลิพุนฺธนกิเลสานํ นตฺถิตาย อากิฺจฺานิ. นิพฺพานมฺปิ อากิฺจฺํ, เจโตวิมุตฺติ ปน น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ.
ราโค โข, อาวุโส, นิมิตฺตกรโณติอาทีสุ ยถา นาม ทฺวินฺนํ กุลานํ สทิสา ทฺเว วจฺฉกา โหนฺติ. ยาว เตสํ ลกฺขณํ น กตํ โหติ, ตาว ‘‘อยํ อสุกกุลสฺส วจฺฉโก, อยํ อสุกกุลสฺสา’’ติ น สกฺกา โหนฺติ ชานิตุํ. ยทา ปน เตสํ สตฺติสูลาทีสุ อฺตรํ ลกฺขณํ กตํ โหติ, ตทา ¶ สกฺกา โหนฺติ ชานิตุํ. เอวเมว ยาว ปุคฺคลสฺส ราโค นุปฺปชฺชติ, ตาว น สกฺกา โหติ ชานิตุํ อริโย วา ปุถุชฺชโน วาติ. ราโค ปนสฺส อุปฺปชฺชมาโนว สราโค นาม อยํ ปุคฺคโลติ สฺชานนนิมิตฺตํ กโรนฺโต วิย อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘นิมิตฺตกรโณ’’ติ วุตฺโต. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย.
อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ นาม เตรส ธมฺมา – วิปสฺสนา, จตฺตาโร อารุปฺปา, จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานีติ. ตตฺถ วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตํ สุขนิมิตฺตํ อตฺตนิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏตีติ อนิมิตฺตา นาม. จตฺตาโร อารุปฺปา รูปนิมิตฺตสฺส อภาเวน อนิมิตฺตา นาม. มคฺคผลานิ นิมิตฺตกรณานํ กิเลสานํ อภาเวน อนิมิตฺตานิ. นิพฺพานมฺปิ อนิมิตฺตเมว, ตํ ปน เจโตวิมุตฺติ น โหติ, ตสฺมา น คหิตํ. อถ กสฺมา สฺุตา เจโตวิมุตฺติ น คหิตาติ? สา, ‘‘สฺุา ราเคนา’’ติอาทิวจนโต สพฺพตฺถ อนุปวิฏฺาว, ตสฺมา วิสุํ น คหิตา ¶ . เอกตฺถาติ อารมฺมณวเสน เอกตฺถา. อปฺปมาณํ อากิฺจฺํ สฺุตํ อนิมิตฺตนฺติ หิ สพฺพาเนตานิ นิพฺพานสฺเสว นามานิ. อิติ อิมินา ปริยาเยน เอกตฺถา. อฺสฺมึ ปน าเน อปฺปมาณา โหนฺติ, อฺสฺมึ อากิฺจฺา อฺสฺมึ สฺุตา อฺสฺมึ อนิมิตฺตาติ อิมินา ปริยาเยน นานาพฺยฺชนา. อิติ เถโร ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฏฺเปสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา
๔๖๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬเวทลฺลสุตฺตํ. ตตฺถ วิสาโข อุปาสโกติ วิสาโขติ เอวํนามโก อุปาสโก. เยน ธมฺมทินฺนาติ เยน ธมฺมทินฺนา นาม ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ. โก ปนายํ วิสาโข? กา ธมฺมทินฺนา? กสฺมา อุปสงฺกมีติ? วิสาโข นาม ธมฺมทินฺนาย คิหิกาเล ฆรสามิโก. โส ยทา ภควา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก ยสาทโย กุลปุตฺเต วิเนตฺวา อุรุเวลํ ปตฺวา ตตฺถ ชฏิลสหสฺสํ วิเนตฺวา ปุราณชฏิเลหิ ¶ ขีณาสวภิกฺขูหิ สทฺธึ ราชคหํ คนฺตฺวา พุทฺธทสฺสนตฺถํ ทฺวาทสนหุตาย ปริสาย สทฺธึ อาคตสฺส พิมฺพิสารมหาราชสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. ตทา รฺา สทฺธึ อาคเตสุ ทฺวาทสนหุเตสุ เอกํ นหุตํ อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสิ, เอกาทส นหุตานิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ สทฺธึ รฺา พิมฺพิสาเรน. อยํ อุปาสโก เตสํ อฺตโร, เตหิ สทฺธึ ปมทสฺสเนว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย, ปุน เอกทิวสํ ธมฺมํ สุตฺวา สกทาคามิผลํ ปตฺวา, ตโต อปรภาเคปิ เอกทิวสํ ธมฺมํ สุตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺิโต. โส อนาคามี หุตฺวา เคหํ อาคจฺฉนฺโต ยถา อฺเสุ ทิวเสสุ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต สิตํ กุรุมาโน อาคจฺฉติ, เอวํ อนาคนฺตฺวา สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส หุตฺวา อคมาสิ.
ธมฺมทินฺนา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา วีถึ โอโลกยมานา ตสฺส อาคมนาการํ ทิสฺวา, ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กุรุมานา โสปานสีเส ตฺวา โอลมฺพนตฺถํ หตฺถํ ปสาเรสิ. อุปาสโก อตฺตโน หตฺถํ สมิฺเชสิ. สา ‘‘ปาตราสโภชนกาเล ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อุปาสโก ปุพฺเพ ตาย สทฺธึ เอกโต ภฺุชติ. ตํ ทิวสํ ปน ตํ อนปโลเกตฺวา โยคาวจรภิกฺขุ วิย เอกโกว ภฺุชิ. สา, ‘‘สายนฺหกาเล ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. อุปาสโก ตํทิวสํ สิริคพฺภํ น ปาวิสิ, อฺํ คพฺภํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา กปฺปิยมฺจกํ ปฺปาเปตฺวา นิปชฺชิ. อุปาสิกา, ‘‘กึ นุ ขฺวสฺส พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถิ, อุทาหุ เกนจิเทว ปริเภทเกน ภินฺโน, อุทาหุ มยฺเหว โกจิ โทโส อตฺถี’’ติ พลวโทมนสฺสา ¶ ¶ หุตฺวา, ‘‘เอกํ ทฺเว ทิวเส วสิตกาเล สกฺกา าตุ’’นฺติ ตสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.
อุปาสโก, ‘‘กึ ธมฺมทินฺเน อกาเล อาคตาสี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม อยฺยปุตฺต, อาคตามฺหิ, น ตฺวํ ยถา ปุราโณ, กึ นุ เต พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถีติ? นตฺถิ ธมฺมทินฺเนติ. อฺโ โกจิ ปริเภทโก อตฺถีติ? อยมฺปิ นตฺถีติ. เอวํ สนฺเต มยฺเหว โกจิ โทโส ภวิสฺสตีติ. ตุยฺหมฺปิ โทโส นตฺถีติ. อถ กสฺมา มยา สทฺธึ ยถา ปกติยา อาลาปสลฺลาปมตฺตมฺปิ น กโรถาติ? โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ โลกุตฺตรธมฺโม นาม ครุ ภาริโย น ปกาเสตตพฺโพ, สเจ โข ปนาหํ น กเถสฺสามิ, อยํ หทยํ ¶ ผาเลตฺวา เอตฺเถว กาลํ กเรยฺยา’’ติ ตสฺสานุคฺคหตฺถาย กเถสิ – ‘‘ธมฺมทินฺเน อหํ สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นาม อธิคโต, ตํ อธิคตสฺส เอวรูปา โลกิยกิริยา น วฏฺฏติ. ยทิ ตฺวํ อิจฺฉสิ, ตว จตฺตาลีส โกฏิโย มม จตฺตาลีส โกฏิโยติ อสีติโกฏิธนํ อตฺถิ, เอตฺถ อิสฺสรา หุตฺวา มม มาติฏฺาเน วา ภคินิฏฺาเน วา ตฺวา วส. ตยา ทินฺเนน ภตฺตปิณฺฑมตฺตเกน อหํ ยาเปสฺสามิ. อเถวํ น กโรสิ, อิเม โภเค คเหตฺวา กุลเคหํ คจฺฉ, อถาปิ เต พหิทฺธา ปตฺถนา นตฺถิ, อหํ ตํ ภคินิฏฺาเน วา ธิตุฏฺาเน วา เปตฺวา โปเสสฺสามี’’ติ.
สา จินฺเตสิ – ‘‘ปกติปุริโส เอวํ วตฺตา นาม นตฺถิ. อทฺธา เอเตน โลกุตฺตรวรธมฺโม ปฏิวิทฺโธ. โส ปน ธมฺโม กึ ปุริเสเหว ปฏิพุชฺฌิตพฺโพ, อุทาหุ มาตุคาโมปิ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกตี’’ติ วิสาขํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข เอโส ธมฺโม ปุริเสเหว ลภิตพฺโพ, มาตุคาเมนปิ สกฺกา ลทฺธุ’’นฺติ? กึ วเทสิ ธมฺมทินฺเน, เย ปฏิปนฺนกา, เต เอตสฺส ทายาทา, ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, โส โส เอตํ ปฏิลภตีติ. เอวํ สนฺเต มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถาติ. สาธุ ภทฺเท, อหมฺปิ ตํ เอตสฺมึเยว มคฺเค โยเชตุกาโม, มนํ ปน เต อชานมาโน น กเถมีติ ตาวเทว พิมฺพิสารสฺส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.
ราชา ¶ , ‘‘กึ, คหปติ, อกาเล อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ธมฺมทินฺนา, ‘‘มหาราช, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วทตีติ. กึ ปนสฺส ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, โสวณฺณสิวิกํ ¶ เทว, ลทฺธุํ วฏฺฏติ นครฺจ ปฏิชคฺคาเปตุนฺติ. ราชา โสวณฺณสิวิกํ ทตฺวา นครํ ปฏิชคฺคาเปสิ. วิสาโข ธมฺมทินฺนํ คนฺโธทเกน นหาเปตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺการาเปตฺวา โสวณฺณสิวิกาย นิสีทาเปตฺวา าติคเณน ปริวาราเปตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชยมาโน นครวาสนํ กโรนฺโต วิย ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา, ‘‘ธมฺมทินฺนํ ปพฺพาเชถายฺเย’’ติ อาห. ภิกฺขุนิโย ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา โทเส สหิตุํ วฏฺฏติ คหปตี’’ติ อาหํสุ. นตฺถยฺเย โกจิ โทโส, สทฺธาย ปพฺพชตีติ. อเถกา พฺยตฺตา เถรี ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา เกเส โอหาเรตฺวา ¶ ปพฺพาเชสิ. วิสาโข, ‘‘อภิรมยฺเย, สฺวากฺขาโต ธมฺโม’’ติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.
ตสฺสา ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. เตเนว ปลิพุทฺธา สมณธมฺมํ กาตุํ โอกาสํ น ลภติ. อถาจริย-อุปชฺฌายเถริโย คเหตฺวา ชนปทํ คนฺตฺวา อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิตํ กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อารทฺธา, อภินีหารสมฺปนฺนตฺตา ปน นาติจิรํ กิลมิตฺถ.
อิโต ปฏฺาย หิ สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิ. ตทา เอสา เอกสฺมึ กุเล ทาสี หุตฺวา อตฺตโน เกเส วิกฺกิณิตฺวา สุชาตตฺเถรสฺส นาม อคฺคสาวกสฺส ทานํ ทตฺวา ปตฺถนมกาสิ. สา ตาย ปตฺถนาภินีหารสมฺปตฺติยา นาติจิรํ กิลมิตฺถ, กติปาเหเนว อรหตฺตํ ปตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เยนตฺเถน สาสเน ปพฺพชิตา, โส มตฺถกํ ปตฺโต, กึ เม ชนปทวาเสน, มยฺหํ าตกาปิ ปฺุานิ กริสฺสนฺติ, ภิกฺขุนิสงฺโฆปิ ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสติ, ราชคหํ คจฺฉามี’’ติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ คเหตฺวา ราชคหเมว อคมาสิ. วิสาโข, ‘‘ธมฺมทินฺนา กิร อาคตา’’ติ สุตฺวา, ‘‘ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว ชนปทํ คตา, คนฺตฺวาปิ นจิรสฺเสว ปจฺจาคตา, กึ นุ โข ภวิสฺสติ, คนฺตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ทุติยคมเนน ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข วิสาโข อุปาสโก เยน ธมฺมทินฺนา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมี’’ติ.
เอตทโวจาติ ¶ เอตํ สกฺกาโยติอาทิวจนํ อโวจ. กสฺมา อโวจาติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อภิรมสิ นาภิรมสิ, อยฺเย’’ติ เอวํ ปุจฺฉนํ นาม น ปณฺฑิตกิจฺจํ, ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อุปเนตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามิ, ปฺหพฺยากรเณน ตสฺสา อภิรตึ วา อนภิรตึ ¶ วา ชานิสฺสามีติ, ตสฺมา อโวจ. ตํ สุตฺวาว ธมฺมทินฺนา อหํ, อาวุโส วิสาข, อจิรปพฺพชิตา สกายํ วา ปรกายํ วา กุโต ชานิสฺสามีติ วา, อฺตฺเถริโย อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉาติ วา อวตฺวา อุปนิกฺขิตฺตํ สมฺปฏิจฺฉมานา วิย, เอกปาสกคณฺึ โมเจนฺตี วิย คหนฏฺาเน หตฺถิมคฺคํ นีหรมานา วิย ขคฺคมุเขน ¶ สมุคฺคํ วิวรมานา วิย จ ปฏิสมฺภิทาวิสเย ตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺชมานา, ปฺจ โข อิเม, อาวุโส วิสาข, อุปาทานกฺขนฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. อุปาทานกฺขนฺธาติ อุปาทานานํ ปจฺจยภูตา ขนฺธาติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อุปาทานกฺขนฺธกถา วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพา. สา ปเนสา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา เอวาติ ตตฺถ วิตฺตาริตนเยเนว เวทิตพฺพา. สกฺกายสมุทยาทีสุปิ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว.
อิทํ ปน จตุสจฺจพฺยากรณํ สุตฺวา วิสาโข เถริยา อภิรตภาวํ อฺาสิ. โย หิ พุทฺธสาสเน อุกฺกณฺิโต โหติ อนภิรโต, โส เอวํ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตปฺหํ สณฺฑาเสน เอเกกํ ปลิตํ คณฺหนฺโต วิย, สิเนรุปาทโต วาลุกํ อุทฺธรนฺโต วิย วิสฺสชฺเชตุํ น สกฺโกติ. ยสฺมา ปน อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ โลเก จนฺทิมสูริยา วิย พุทฺธสาสเน ปากฏานิ, ปริสมชฺเฌ คโต หิ ภควาปิ มหาเถราปิ สจฺจาเนว ปกาเสนฺติ; ภิกฺขุสงฺโฆปิ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย กุลปุตฺเต จตฺตาริ นาม กึ, จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ปฺหํ อุคฺคณฺหาเปติ. อยฺจ ธมฺมทินฺนา อุปายโกสลฺเล ิตา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา นยํ คเหตฺวา สุเตนปิ กเถตุํ สมตฺถา, ตสฺมา ‘‘น สกฺกา เอติสฺสา เอตฺตาวตา สจฺจานํ ปฏิวิทฺธภาโว าตุํ, สจฺจวินิพฺโภคปฺหพฺยากรเณน สกฺกา าตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เหฏฺา กถิตานิ ทฺเว สจฺจานิ ปฏินิวตฺเตตฺวา คุฬฺหํ กตฺวา คณฺิปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉนฺโต ตฺเว นุ โข, อยฺเยติอาทิมาห.
ตสฺส วิสฺสชฺชเน น โข, อาวุโส วิสาข, ตฺเว อุปาทานนฺติ อุปาทานสฺส สงฺขารกฺขนฺเธกเทสภาวโต น ตํเยว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อฺตฺร ปฺจหิ อุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ. ยทิ หิ ตฺเว ¶ สิยา, รูปาทิสภาวมฺปิ อุปาทานํ สิยา. ยทิ อฺตฺร สิยา, ปรสมเย จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อนุสโย วิย ปณฺณตฺติ วิย นิพฺพานํ วิย จ ขนฺธวินิมุตฺตํ วา สิยา, ฉฏฺโ วา ขนฺโธ ปฺเปตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา เอวํ พฺยากาสิ. ตสฺสา ¶ ¶ พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘อธิคตปติฏฺา อย’’นฺติ วิสาโข นิฏฺมคมาสิ. น หิ สกฺกา อขีณาสเวน อสมฺพทฺเธน อวิตฺถายนฺเตน ปทีปสหสฺสํ ชาเลนฺเตน วิย เอวรูโป คุฬฺโห ปฏิจฺฉนฺโน ติลกฺขณาหโต คมฺภีโร ปฺโห วิสฺสชฺเชตุํ. นิฏฺํ คนฺตฺวา ปน, ‘‘อยํ ธมฺมทินฺนา สาสเน ลทฺธปติฏฺา อธิคตปฏิสมฺภิทา เวสารชฺชปฺปตฺตา ภวมตฺถเก ิตา มหาขีณาสวา, สมตฺถา มยฺหํ ปุจฺฉิตปฺหํ กเถตุํ, อิทานิ ปน นํ โอวตฺติกสารํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต, กถํ ปนายฺเยติอาทิมาห.
๔๖๑. ตสฺส วิสฺสชฺชเน อสฺสุตวาติอาทิ มูลปริยาเย วิตฺถาริตเมว. รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ, ‘‘อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ. ยํ รูปํ โส อหํ, โย อหํ ตํ รูปนฺติ รูปฺจ อตฺตฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เสยฺยถาปิ นาม เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ยา อจฺจิ โส วณฺโณ, โย วณฺโณ สา อจฺจีติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ…เป… อทฺวยํ สมนุปสฺสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๑) เอวํ รูปํ อตฺตาติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย ตํ อตฺตานํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว อตฺตาติ คเหตฺวา ปุปฺผสฺมึ คนฺธํ วิย อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว อตฺตาติ คเหตฺวา กรณฺฑาย มณึ วิย อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เวทนํ อตฺตโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สุทฺธรูปเมว อตฺตาติ กถิตํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เวทนํ อตฺตโต… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ¶ อรูปํ อตฺตาติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ¶ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ… เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา, อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺีติ. เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย, ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ. น รูปํ อตฺตโตติ เอตฺถ รูปํ อตฺตาติ น สมนุปสฺสติ. อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปน สมนุปสฺสติ. น รูปวนฺตํ อตฺตานํ…เป… น วิฺาณสฺมึ อตฺตานนฺติ อิเม ¶ ปฺจกฺขนฺเธ เกนจิ ปริยาเยน อตฺตโต น สมนุปสฺสติ, สพฺพากาเรน ปน อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตาติ สมนุปสฺสติ.
เอตฺตาวตา เถริยา, ‘‘เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ เอวํ ปุริมปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติยา เอตฺตเกน คมนํ โหติ, อาคมนํ โหติ, คมนาคมนํ โหติ, วฏฺฏํ วตฺตตีติ วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺสิตํ. เอวํ โข, อาวุโส วิสาข, สกฺกายทิฏฺิ น โหตีติ ปจฺฉิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺติยา เอตฺตเกน คมนํ น โหติ, อาคมนํ น โหติ, คมนาคมนํ น โหติ, วฏฺฏํ นาม น วตฺตตีติ วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺสิตํ.
๔๖๒. กตโม ปนายฺเย, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ อยํ ปฺโห เถริยา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ ภเวยฺย – ‘‘อุปาสก, ตยา เหฏฺา มคฺโค ปุจฺฉิโต, อิธ กสฺมา มคฺคเมว ปุจฺฉสี’’ติ. สา ปน อตฺตโน พฺยตฺตตาย ปณฺฑิจฺเจน ตสฺส อธิปฺปายํ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อิมินา อุปาสเกน เหฏฺา ปฏิปตฺติวเสน มคฺโค ปุจฺฉิโต ภวิสฺสติ, อิธ ปน ตํ สงฺขตาสงฺขตโลกิยโลกุตฺตรสงฺคหิตาสงฺคหิตวเสน ปุจฺฉิตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวาว ยํ ยํ ปุจฺฉิ, ตํ ตํ วิสฺสชฺเชสิ. ตตฺถ สงฺขโตติ เจติโต กปฺปิโต ปกปฺปิโต อายูหิโต กโต นิพฺพตฺติโต สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชิตพฺโพ. ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโตติ เอตฺถ ยสฺมา มคฺโค สปฺปเทโส, ตโย ขนฺธา นิปฺปเทสา, ตสฺมา อยํ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ตตฺถ สมฺมาวาจาทโย ตโย สีลเมว, ตสฺมา เต สชาติโต สีลกฺขนฺเธน สงฺคหิตาติ. กิฺจาปิ หิ ปาฬิยํ สีลกฺขนฺเธติ ภุมฺเมน ¶ วิย นิทฺเทโส กโต, อตฺโถ ปน กรณวเสน เวทิตพฺโพ. สมฺมาวายามาทีสุ ปน ¶ ตีสุ สมาธิ อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ น สกฺโกติ. วีริเย ปน ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธูปกาโร หุตฺวา สกฺโกติ.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ อุยฺยานํ ปวิฏฺเสุ ตีสุ สหาเยสุ เอโก สุปุปฺผิตํ จมฺปกรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย. อถสฺส ทุติโย โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทเทยฺย, โส ตสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวาปิ กมฺปมาโน คเหตุํ น สกฺกุเณยฺย ¶ . อถสฺส อิตโร อํสกูฏํ อุปนาเมยฺย, โส เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ ยถารุจิ ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิฬนฺธิตฺวา นกฺขตฺตํ กีเฬยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. เอกโต อุยฺยานํ ปวิฏฺา ตโย สหายกา วิย หิ เอกโต ชาตา สมฺมาวายามาทโย ตโย ธมฺมา. สุปุปฺผิตจมฺปโก วิย อารมฺมณํ. หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อตฺตโน ธมฺมตาย อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ อสกฺโกนฺโต สมาธิ. ปิฏฺึ ทตฺวา โอนตสหาโย วิย วายาโม. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ. ยถา เตสุ เอกสฺส ปิฏฺิยํ ตฺวา เอกสฺส อํสกูฏํ โอลุพฺภ อิตโร ยถารุจิ ปุปฺผํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวเมวํ วีริเย ปคฺคหกิจฺจํ สาเธนฺเต, สติยา จ อปิลาปนกิจฺจํ สาเธนฺติยา ลทฺธุปกาโร สมาธิ สกฺโกติ อารมฺมเณ เอกคฺคภาเวน อปฺเปตุํ. ตสฺมา สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต. วายามสติโย ปน กิริยโต สงฺคหิตา โหนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺเปสุปิ ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุทเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ. เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ¶ ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทายา ทินฺนเมว วินิจฺเฉตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา ¶ อิธาปิ สมฺมาทิฏฺิเยว สชาติโต ปฺากฺขนฺเธน สงฺคหิตา. สมฺมาสงฺกปฺโป ปน กิริยโต สงฺคหิโต โหติ. อิติ อิเมหิ ตีหิ ขนฺเธหิ มคฺโค สงฺคหํ คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ.
อิทานิ เอกจิตฺตกฺขณิกํ มคฺคสมาธึ สนิมิตฺตํ สปริกฺขารํ ปุจฺฉนฺโต, กตโม ปนายฺเยติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน จตฺตาโร สติปฏฺานา มคฺคกฺขเณ จตุกิจฺจสาธนวเสน อุปฺปนฺนา สติ, สา สมาธิสฺส ปจฺจยตฺเถน นิมิตฺตํ. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตุกิจฺจสาธนวเสเนว อุปฺปนฺนํ วีริยํ, ตํ ปริวารฏฺเน ปริกฺขาโร โหติ. เตสํเยว ธมฺมานนฺติ เตสํ มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมานํ. อาเสวนาติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว อาเสวนาทโย วุตฺตาติ.
วิตณฺฑวาที ¶ ปน, ‘‘เอกจิตฺตกฺขณิโก นาม มคฺโค นตฺถิ, ‘เอวํ ภาเวยฺย สตฺต วสฺสานี’ติ หิ วจนโต สตฺตปิ วสฺสานิ มคฺคภาวนา โหติ, กิเลสา ปน ลหุ ฉิชฺชนฺตา สตฺตหิ าเณหิ ฉิชฺชนฺตี’’ติ วทติ. โส ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต, ‘‘ยา เตสํเยว ธมฺมานํ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกมฺม’’นฺติ อิทเมว สุตฺตํ อาหริตฺวา, ‘‘อฺเน จิตฺเตน อาเสวติ, อฺเน ภาเวติ, อฺเน พหุลีกโรตี’’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ปนิทํ, สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถ’’นฺติ. ตโต วกฺขติ – ‘‘นีตตฺถํ ยถา สุตฺตํ ตเถว อตฺโถ’’ติ. ตสฺส อิทํ อุตฺตรํ – เอวํ สนฺเต เอกํ จิตฺตํ อาเสวมานํ อุปฺปนฺนํ, อปรมฺปิ อาเสวมานํ, อปรมฺปิ อาเสวมานนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ อาเสวนาว ภวิสฺสติ, กุโต ภาวนา, กุโต พหุลีกมฺมํ? เอกํ วา ภาวยมานํ อุปฺปนฺนํ อปรมฺปิ ภาวยมานํ อปรมฺปิ ภาวยมานนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ ภาวนาว ภวิสฺสติ, กุโต อาเสวนา กุโต พหุลีกมฺมํ? เอกํ วา พหุลีกโรนฺตํ อุปฺปนฺนํ, อปรมฺปิ พหุลีกโรนฺตํ, อปรมฺปิ พหุลีกโรนฺตนฺติ เอวํ ทิวสมฺปิ ¶ พหุลีกมฺมเมว ภวิสฺสติ กุโต อาเสวนา, กุโต ภาวนาติ.
อถ วา เอวํ วเทยฺย – ‘‘เอเกน จิตฺเตน อาเสวติ, ทฺวีหิ ภาเวติ, ตีหิ พหุลีกโรติ. ทฺวีหิ วา อาเสวติ, ตีหิ ภาเวติ, เอเกน พหุลีกโรติ ¶ . ตีหิ วา อาเสวติ, เอเกน ภาเวติ, ทฺวีหิ พหุลีกโรตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘มา สุตฺตํ เม ลทฺธนฺติ ยํ วา ตํ วา อวจ. ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน นาม อาจริยสฺส สนฺติเก วสิตฺวา พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อตฺถรสํ วิทิตฺวา วตฺตพฺพํ โหติ. เอกจิตฺตกฺขณิกาว อยํ อาเสวนา, เอกจิตฺตกฺขณิกา ภาวนา, เอกจิตฺตกฺขณิกํ พหุลีกมฺมํ. ขยคามิโลกุตฺตรมคฺโค พหุลจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ, ‘เอกจิตฺตกฺขณิโกเยวา’ติ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ, สฺชานาตุ, โน เจ สฺชานาติ, คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.
๔๖๓. กติ ปนายฺเย สงฺขาราติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? เย สงฺขาเร นิโรเธตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชติ, เต ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. เตเนวสฺส อธิปฺปายํ ตฺวา เถรี, ปฺุาภิสงฺขาราทีสุ อเนเกสุ สงฺขาเรสุ วิชฺชมาเนสุปิ, กายสงฺขาราทโยว อาจิกฺขนฺตี, ตโยเม ¶ , อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ กายปฏิพทฺธตฺตา กาเยน สงฺขรียติ กรียติ นิพฺพตฺตียตีติ กายสงฺขาโร. วาจํ สงฺขโรติ กโรติ นิพฺพตฺเตตีติ วจีสงฺขาโร. จิตฺตปฏิพทฺธตฺตา จิตฺเตน สงฺขรียติ กรียติ นิพฺพตฺตียตีติ จิตฺตสงฺขาโร. กตโม ปนายฺเยติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? อิเม สงฺขารา อฺมฺมิสฺสา อาลุฬิตา อวิภูตา ทุทฺทีปนา. ตถา หิ, กายทฺวาเร อาทานคหณมฺุจนโจปนานิ ปาเปตฺวา อุปฺปนฺนา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทส อกุสลเจตนาติ เอวํ กุสลากุสลา วีสติ เจตนาปิ อสฺสาสปสฺสาสาปิ กายสงฺขาราตฺเวว วุจฺจนฺติ. วจีทฺวาเร หนุสํโจปนํ วจีเภทํ ปาเปตฺวา อุปฺปนฺนา วุตฺตปฺปการาว วีสติ เจตนาปิ วิตกฺกวิจาราปิ วจีสงฺขาโรตฺเวว วุจฺจนฺติ. กายวจีทฺวาเรสุ โจปนํ อปตฺตา รโห นิสินฺนสฺส จินฺตยโต อุปฺปนฺนา กุสลากุสลา เอกูนตึส เจตนาปิ สฺา จ เวทนา จาติ อิเม ทฺเว ธมฺมาปิ จิตฺตสงฺขาโรตฺเวว วุจฺจนฺติ. เอวํ ¶ อิเม สงฺขารา อฺมฺมิสฺสา อาลุฬิตา อวิภูตา ทุทฺทีปนา. เต ปากเฏ วิภูเต กตฺวา กถาเปสฺสามีติ ปุจฺฉติ.
กสฺมา ปนายฺเยติ อิธ กายสงฺขาราทินามสฺส ปทตฺถํ ปุจฺฉติ. ตสฺส วิสฺสชฺชเน กายปฺปฏิพทฺธาติ กายนิสฺสิตา, กาเย สติ โหนฺติ, อสติ ¶ น โหนฺติ. จิตฺตปฺปฏิพทฺธาติ จิตฺตนิสฺสิตา, จิตฺเต สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ.
๔๖๔. อิทานิ กึ นุ โข เอสา สฺาเวทยิตนิโรธํ วลฺเชติ, น วลฺเชติ. จิณฺณวสี วา ตตฺถ โน จิณฺณวสีติ ชานนตฺถํ ปุจฺฉนฺโต, กถํ ปนายฺเย, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติ โหตีติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน สมาปชฺชิสฺสนฺติ วา สมาปชฺชามีติ วา ปททฺวเยน เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติกาโล กถิโต. สมาปนฺโนติ ปเทน อนฺโตนิโรโธ. ตถา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สจิตฺตกกาโล กถิโต, ปจฺฉิเมน อจิตฺตกกาโล. ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ นิโรธสมาปตฺติโต ปุพฺเพ อทฺธานปริจฺเฉทกาเลเยว, เอตฺตกํ กาลํ อจิตฺตโก ภวิสฺสามีติ อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตํ ภาวิตํ โหติ. ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตีติ ยํ เอวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, ตํ ปุคฺคลํ ตถตฺตาย อจิตฺตกภาวาย อุปเนติ.
ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโรติ เสสสงฺขาเรหิ ปมํ ทุติยชฺฌาเนเยว นิรุชฺฌติ. ตโต กายสงฺขาโรติ ¶ ตโต ปรํ กายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน นิรุชฺฌติ. ตโต จิตฺตสงฺขาโรติ ตโต ปรํ จิตฺตสงฺขาโร อนฺโตนิโรเธ นิรุชฺฌติ. วุฏฺหิสฺสนฺติ วา วุฏฺหามีติ วา ปททฺวเยน อนฺโตนิโรธกาโล กถิโต. วุฏฺิโตติ ปเทน ผลสมาปตฺติกาโล. ตถา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อจิตฺตกกาโล กถิโต, ปจฺฉิเมน สจิตฺตกกาโล. ปุพฺเพว ตถา จิตฺตํ ภาวิตํ โหตีติ นิโรธสมาปตฺติโต ปุพฺเพ อทฺธานปริจฺเฉทกาเลเยว เอตฺตกํ กาลํ อจิตฺตโก หุตฺวา ตโต ปรํ สจิตฺตโก ภวิสฺสามีติ อทฺธานปริจฺเฉทจิตฺตํ ภาวิตํ โหติ. ยํ ตํ ตถตฺตาย อุปเนตีติ ยํ เอวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, ตํ ปุคฺคลํ ตถตฺตาย สจิตฺตกภาวาย อุปเนติ. อิติ เหฏฺา นิโรธสมาปชฺชนกาโล คหิโต, อิธ นิโรธโต วุฏฺานกาโล.
อิทานิ ¶ นิโรธกถํ กเถตุํ วาโรติ นิโรธกถา กเถตพฺพา สิยา, สา ปเนสา, ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โสฬสหิ าณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตาปฺา นิโรธสมาปตฺติยา าณ’’นฺติ มาติกํ เปตฺวา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค กถิตา. ตสฺมา ตตฺถ กถิตนเยเนว คเหตพฺพา ¶ . โก ปนายํ นิโรโธ นาม? จตุนฺนํ ขนฺธานํ ปฏิสงฺขา อปฺปวตฺติ. อถ กิมตฺถเมตํ สมาปชฺชนฺตีติ. สงฺขารานํ ปวตฺเต อุกฺกณฺิตา สตฺตาหํ อจิตฺตกา หุตฺวา สุขํ วิหริสฺสาม, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ นาเมตํ, ยทิทํ นิโรโธติ เอตทตฺถํ สมาปชฺชนฺติ.
ปมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโรติ นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส หิ ผลสมาปตฺติจิตฺตํ ปมํ อุปฺปชฺชติ. ตํสมฺปยุตฺตํ สฺฺจ เวทนฺจ สนฺธาย, ‘‘ปมํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ อาห. ตโต กายสงฺขาโรติ ตโต ปรํ ภวงฺคสมเย กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. กึ ปน ผลสมาปตฺติ อสฺสาสปสฺสาเส น สมุฏฺาเปตีติ? สมุฏฺาเปติ. อิมสฺส ปน จตุตฺถชฺฌานิกา ผลสมาปตฺติ, สา น สมุฏฺาเปติ. กึ วา เอเตน ผลสมาปตฺติ ปมชฺฌานิกา วา โหตุ, ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานิกา วา, สนฺตาย สมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ภิกฺขุโน อสฺสาสปสฺสาสา อพฺโพหาริกา โหนฺติ. เตสํ อพฺโพหาริกภาโว สฺชีวตฺเถรวตฺถุนา เวทิตพฺโพ. สฺชีวตฺเถรสฺส หิ สมาปตฺติโต วุฏฺาย กึสุกปุปฺผสทิเส วีตจฺจิตงฺคาเร มทฺทมานสฺส คจฺฉโต จีวเร อํสุมตฺตมฺปิ น ฌายิ, อุสุมาการมตฺตมฺปิ นาโหสิ, สมาปตฺติผลํ นาเมตนฺติ วทนฺติ. เอวเมวํ สนฺตาย ¶ สมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส ภิกฺขุโน อสฺสาสปสฺสาสา อพฺโพหาริกา โหนฺตีติ ภวงฺคสมเยเนเวตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตโต วจีสงฺขาโรติ ตโต ปรํ กิริยมยปวตฺตวฬฺชนกาเล วจีสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. กึ ภวงฺคํ วิตกฺกวิจาเร น สมุฏฺาเปตีติ? สมุฏฺาเปติ. ตํสมุฏฺานา ปน วิตกฺกวิจารา วาจํ อภิสงฺขาตุํ น สกฺโกนฺตีติ ¶ กิริยมยปวตฺตวฬฺชนกาเลเนวตํ กถิตํ. สฺุโต ผสฺโสติอาทโย สคุเณนาปิ อารมฺมเณนาปิ กเถตพฺพา. สคุเณน ตาว สฺุตา นาม ผลสมาปตฺติ, ตาย สหชาตํ ผสฺสํ สนฺธาย สฺุโต ผสฺโสติ วุตฺตํ. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิเอเสว นโย. อารมฺมเณน ปน นิพฺพานํ ราคาทีหิ สฺุตฺตา สฺุํ นาม, ราคนิมิตฺตาทีนํ อภาวา อนิมิตฺตํ, ราคโทสโมหปฺปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตํ. สฺุตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนผลสมาปตฺติยํ ผสฺโส สฺุโต นาม. อนิมิตฺตาปณิหิเตสุปิ เอเสว นโย.
อปรา ¶ อาคมนิยกถา นาม โหติ, สฺุตา, อนิมิตฺตา, อปฺปณิหิตาติ หิ วิปสฺสนาปิ วุจฺจติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ สงฺขาเร อนิจฺจโต ปริคฺคเหตฺวา อนิจฺจโต ทิสฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม โหติ. โย ทุกฺขโต ปริคฺคเหตฺวา ทุกฺขโต ทิสฺวา ทุกฺขโต วุฏฺาติ, ตสฺส อปฺปณิหิตา นาม. โย อนตฺตโต ปริคฺคเหตฺวา อนตฺตโต ทิสฺวา อนตฺตโต วุฏฺาติ, ตสฺส สฺุตา นาม. ตตฺถ อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต นาม, อนิมิตฺตมคฺคสฺส ผลํ อนิมิตฺตํ นาม. อนิมิตฺตผลสมาปตฺติสหชาเต ผสฺเส ผุสนฺเต อนิมิตฺโต ผสฺโส ผุสตีติ วุจฺจติ. อปฺปณิหิตสฺุเตสุปิ เอเสว นโย. อาคมนิเยน กถิเต ปน สฺุโต วา ผสฺโส อนิมิตฺโต วา ผสฺโส อปฺปณิหิโต วา ผสฺโสติ วิกปฺโป อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา สคุเณน เจว อารมฺมเณน จ กเถตพฺพํ. เอวฺหิ ตโย ผสฺสา ผุสนฺตีติ สเมติ.
วิเวกนินฺนนฺติอาทีสุ นิพฺพานํ วิเวโก นาม, ตสฺมึ วิเวเก นินฺนํ โอนตนฺติ วิเวกนินฺนํ. อฺโต อาคนฺตฺวา เยน วิเวโก, เตน วงฺกํ วิย หุตฺวา ิตนฺติ วิเวกโปณํ. เยน วิเวโก, เตน ปตมานํ วิย ิตนฺติ วิเวกปพฺภารํ.
๔๖๕. อิทานิ ¶ ยา เวทนา นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตา ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉนฺโต กติ ปนายฺเย, เวทนาติ อาห. กายิกํ วาติอาทีสุ ปฺจทฺวาริกํ สุขํ ¶ กายิกํ นาม, มโนทฺวาริกํ เจตสิกํ นามาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สุขนฺติ สภาวนิทฺเทโส. สาตนฺติ ตสฺเสว มธุรภาวทีปกํ เววจนํ. เวทยิตนฺติ เวทยิตภาวทีปกํ, สพฺพเวทนานํ สาธารณวจนํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ิติสุขา วิปริณามทุกฺขาติอาทีสุ สุขาย เวทนาย อตฺถิภาโว สุขํ, นตฺถิภาโว ทุกฺขํ. ทุกฺขาย เวทนาย อตฺถิภาโว ทุกฺขํ, นตฺถิภาโว สุขํ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ชานนภาโว สุขํ, อชานนภาโว ทุกฺขนฺติ อตฺโถ.
กึ อนุสโย อนุเสตีติ กตโม อนุสโย อนุเสติ. อปฺปหีนฏฺเน สยิโต วิย โหตีติ อนุสยปุจฺฉํ ปุจฺฉติ. น โข, อาวุโส ¶ วิสาข, สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตีติ น สพฺพาย สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสติ. น สพฺพาย สุขาย เวทนาย โส อปฺปหีโน, น สพฺพํ สุขํ เวทนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. กึ ปหาตพฺพนฺติ อยํ ปหานปุจฺฉา นาม.
ราคํ เตน ปชหตีติ เอตฺถ เอเกเนว พฺยากรเณน ทฺเว ปุจฺฉา วิสฺสชฺเชสิ. อิธ ภิกฺขุ ราคานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ฌานวิกฺขมฺภิตํ ราคานุสยํ ตถา วิกฺขมฺภิตเมว กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาเตติ. โส อนาคามิมคฺเคน ปหีโนปิ ตถา วิกฺขมฺภิตตฺตาว ปมชฺฌาเน นานุเสติ นาม. เตนาห – ‘‘น ตตฺถ ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ. ตทายตนนฺติ ตํ อายตนํ, ปรมสฺสาสภาเวน ปติฏฺานภูตํ อรหตฺตนฺติ อตฺโถ. อิติ อนุตฺตเรสูติ เอวํ อนุตฺตรา วิโมกฺขาติ ลทฺธนาเม อรหตฺเต. ปิหํ อุปฏฺาปยโตติ ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺส. อุปฺปชฺชติ ปิหาปจฺจยา โทมนสฺสนฺติ ปตฺถนาย ปฏฺปนมูลกํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตํ ปเนตํ น ปตฺถนาย ปฏฺปนมูลกํ อุปฺปชฺชติ, ปตฺเถตฺวา อลภนฺตสฺส ปน อลาภมูลกํ อุปฺปชฺชมานํ, ‘‘อุปฺปชฺชติ ปิหาปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ กิฺจาปิ โทมนสฺสํ นาม เอกนฺเตน อกุสลํ, อิทํ ปน เสวิตพฺพํ โทมนสฺสํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. โยคิโน หิ ¶ เตมาสิกํ ฉมาสิกํ วา นวมาสิกํ วา ปฏิปทํ คณฺหนฺติ. เตสุ โย ตํ ตํ ปฏิปทํ คเหตฺวา อนฺโตกาลปริจฺเฉเทเยว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามีติ ฆเฏนฺโต วายมนฺโต น สกฺโกติ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลน ¶ ปาปุณิตุํ, ตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อาฬินฺทิกวาสิมหาผุสฺสเทวตฺเถรสฺส วิย อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ. เถโร กิร เอกูนวีสติวสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรสิ. ตสฺส, ‘‘อิมสฺมึ วาเร อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามิ, อิมสฺมึ วาเร วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสฺสามี’’ติ มานสํ พนฺธิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺเสว เอกูนวีสติวสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ. ปวารณาทิวเส อาคเต เถรสฺส อสฺสุปาเตน มุตฺตทิวโส นาม นาโหสิ. วีสติเม ปน วสฺเส อรหตฺตํ ปาณุณิ.
ปฏิฆํ ¶ เตน ปชหตีติ เอตฺถ โทมนสฺเสเนว ปฏิฆํ ปชหติ. น หิ ปฏิเฆเนว ปฏิฆปฺปหานํ, โทมนสฺเสน วา โทมนสฺสปฺปหานํ นาม อตฺถิ. อยํ ปน ภิกฺขุ เตมาสิกาทีสุ อฺตรํ ปฏิปทํ คเหตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ปสฺส ภิกฺขุ, กึ ตุยฺหํ สีเลน หีนฏฺานํ อตฺถิ, อุทาหุ วีริเยน, อุทาหุ ปฺาย, นนุ เต สีลํ สุปริสุทฺธํ วีริยํ สุปคฺคหิตํ ปฺา สูรา หุตฺวา วหตี’’ติ. โส เอวํ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา, ‘‘น ทานิ ปุน อิมสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปชฺชิตุํ ทสฺสามี’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กตฺวา อนฺโตเตมาเส วา อนฺโตฉมาเส วา อนฺโตนวมาเส วา อนาคามิมคฺเคน ตํ สมุคฺฆาเตติ. อิมินา ปริยาเยน ปฏิเฆเนว ปฏิฆํ, โทมนสฺเสเนว โทมนสฺสํ ปชหติ นาม.
น ตตฺถ ปฏิฆานุสโย อนุเสตีติ ตตฺถ เอวรูเป โทมนสฺเส ปฏิฆานุสโย นานุเสติ. น ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, ปหีโนว ตตฺถ ปฏิฆานุสโยติ อตฺโถ. อวิชฺชํ เตน ปชหตีติ อิธ ภิกฺขุ อวิชฺชานุสยํ วิกฺขมฺเภตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ฌานวิกฺขมฺภิตํ อวิชฺชานุสยํ ตถา วิกฺขมฺภิตเมว กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตมคฺเคน สมุคฺฆาเตติ. โส อรหตฺตมคฺเคน ปหีโนปิ ตถา วิกฺขมฺภิตตฺตาว จตุตฺถชฺฌาเน ¶ นานุเสติ นาม. เตนาห – ‘‘น ตตฺถ อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ.
๔๖๖. อิทานิ ปฏิภาคปุจฺฉํ ปุจฺฉนฺโต สุขาย ปนายฺเยติอาทิมาห. ตสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา สุขสฺส ทุกฺขํ, ทุกฺขสฺส จ สุขํ ปจฺจนีกํ, ตสฺมา ทฺวีสุ เวทนาสุ วิสภาคปฏิภาโค กถิโต. อุเปกฺขา ปน อนฺธการา อวิภูตา ทุทฺทีปนา, อวิชฺชาปิ ตาทิสาวาติ เตเนตฺถ สภาคปฏิภาโค กถิโต. ยตฺตเกสุ ปน าเนสุ อวิชฺชา ตมํ กโรติ, ตตฺตเกสุ ¶ วิชฺชา ตมํ วิโนเทตีติ วิสภาคปฏิภาโค กถิโต. อวิชฺชาย โข, อาวุโสติ เอตฺถ อุโภเปเต ธมฺมา อนาสวา โลกุตฺตราติ สภาคปฏิภาโคว กถิโต. วิมุตฺติยา โข, อาวุโสติ เอตฺถ อนาสวฏฺเน โลกุตฺตรฏฺเน อพฺยากตฏฺเน จ สภาคปฏิภาโคว กถิโต. อจฺจยาสีติ เอตฺถ ปฺหํ อติกฺกมิตฺวา คโตสีติ อตฺโถ. นาสกฺขิ ปฺหานํ ปริยนฺตํ คเหตุนฺติ ปฺหานํ ปริจฺเฉทปมาณํ คเหตุํ นาสกฺขิ, อปฺปฏิภาคธมฺมสฺส ปฏิภาคํ ปุจฺฉิ. นิพฺพานํ นาเมตํ อปฺปฏิภาคํ ¶ , น สกฺกา นีลํ วา ปีตกํ วาติ เกนจิ ธมฺเมน สทฺธึ ปฏิภาคํ กตฺวา ทสฺเสตุํ. ตฺจ ตฺวํ อิมินา อธิปฺปาเยน ปุจฺฉสีติ อตฺโถ.
เอตฺตาวตา จายํ อุปาสโก ยถา นาม สตฺตเม ฆเร สลากภตฺตํ ลภิตฺวา คโต ภิกฺขุ สตฺต ฆรานิ อติกฺกมฺม อฏฺมสฺส ทฺวาเร ิโต สพฺพานิปิ สตฺต เคหานิ วิรทฺโธว น อฺาสิ, เอวเมวํ อปฺปฏิภาคธมฺมสฺส ปฏิภาคํ ปุจฺฉนฺโต สพฺพาสุปิ สตฺตสุ สปฺปฏิภาคปุจฺฉาสุ วิรทฺโธว โหตีติ เวทิตพฺโพ. นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพานพฺภนฺตรํ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺํ. นิพฺพานปรายนนฺติ นิพฺพานํ ปรํ อยนมสฺส ปรา คติ, น ตโต ปรํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. นิพฺพานํ ปริโยสานํ อวสานํ อสฺสาติ นิพฺพานปริโยสานํ.
๔๖๗. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา, ธาตุกุสลา อายตนกุสลา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลา านาฏฺานกุสลาติ อตฺโถ. มหาปฺาติ มหนฺเต อตฺเถ มหนฺเต ธมฺเม มหนฺตา ¶ นิรุตฺติโย มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหนสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคตา. ยถา ตํ ธมฺมทินฺนายาติ ยถา ธมฺมทินฺนาย ภิกฺขุนิยา พฺยากตํ, อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยนฺติ. เอตฺตาวตา จ ปน อยํ สุตฺตนฺโต ชินภาสิโต นาม ชาโต, น สาวกภาสิโต. ยถา หิ ราชยุตฺเตหิ ลิขิตํ ปณฺณํ ยาว ราชมุทฺทิกาย น ลฺฉิตํ โหติ, น ตาว ราชปณฺณนฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ; ลฺฉิตมตฺตํ ปน ราชปณฺณํ นาม โหติ, ตถา, ‘‘อหมฺปิ ตํ เอวเมว พฺยากเรยฺย’’นฺติ อิมาย ชินวจนมุทฺทิกาย ลฺฉิตตฺตา อยํ สุตฺตนฺโต อาหจฺจวจเนน ชินภาสิโต นาม ชาโต. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา
๔๖๘. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมสมาทานานีติ ธมฺโมติ คหิตคหณานิ. ปจฺจุปฺปนฺนสุขนฺติ ปจฺจุปฺปนฺเน สุขํ, อายูหนกฺขเณ สุขํ ¶ สุกรํ สุเขน สกฺกา ปูเรตุํ. อายตึ ทุกฺขวิปากนฺติ อนาคเต วิปากกาเล ทุกฺขวิปากํ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๔๖๙. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ วตฺถุกาเมสุปิ กิเลสกาเมสุปิ โทโส นตฺถิ. ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ เต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน ปาตพฺยตํ ปิวิตพฺพตํ, ยถารุจิ ปริภฺุชิตพฺพตํ อาปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. โมฬิพทฺธาหีติ โมฬึ กตฺวา พทฺธเกสาหิ. ปริพฺพาชิกาหีติ ตาปสปริพฺพาชิกาหิ. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. ปริฺํ ปฺเปนฺตีติ ปหานํ สมติกฺกมํ ปฺเปนฺติ. มาลุวาสิปาฏิกาติ ทีฆสณฺานํ มาลุวาปกฺกํ. ผเลยฺยาติ อาตเปน สุสฺสิตฺวา ภิชฺเชยฺย. สาลมูเลติ สาลรุกฺขสฺส สมีเป. สนฺตาสํ อาปชฺเชยฺยาติ กสฺมา อาปชฺชติ? ภวนวินาสภยา. รุกฺขมูเล ปติตมาลุวาพีชโต หิ ลตา ¶ อุปฺปชฺชิตฺวา รุกฺขํ อภิรุหติ. สา มหาปตฺตา เจว โหติ พหุปตฺตา จ, โกวิฬารปตฺตสทิเสหิ ปตฺเตหิ สมนฺนาคตา. อถ ตํ รุกฺขํ มูลโต ปฏฺาย วินนฺธมานา สพฺพวิฏปานิ สฺฉาเทตฺวา มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา ติฏฺติ. สา วาเต วา วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต โอฆนํ ชเนตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส สพฺพสาขาปสาขํ ภฺชติ, ภูมิยํ นิปาเตติ. ตโต ตสฺมึ รุกฺเข ปติฏฺิตวิมานํ ภิชฺชติ นสฺสติ. อิติ สา ภวนวินาสภยา สนฺตาสํ อาปชฺชติ.
อารามเทวตาติ ตตฺถ ตตฺถ ปุปฺผารามผลาราเมสุ อธิวตฺถา เทวตา. วนเทวตาติ อนฺธวนสุภควนาทีสุ วเนสุ อธิวตฺถา เทวตา. รุกฺขเทวตาติ อภิลกฺขิเตสุ นเฬรุปุจิมนฺทาทีสุ รุกฺเขสุ อธิวตฺถา เทวตา. โอสธิติณวนปฺปตีสูติ หรีตกีอามลกีอาทีสุ โอสธีสุ ตาลนาฬิเกราทีสุ ติเณสุ วนเชฏฺเกสุ จ วนปฺปติรุกฺเขสุ อธิวตฺถา เทวตา. วนกมฺมิกาติ วเน กสนลายนทารุอาหรณโครกฺขาทีสุ เกนจิเทว ¶ กมฺเมน วา วิจรกมนุสฺสา. อุทฺธเรยฺยุนฺติ ขาเทยฺยุํ. วิลมฺพินีติ วาเตน ปหตปหตฏฺาเนสุ เกฬึ กโรนฺตี วิย วิลมฺพนฺตี. สุโข อิมิสฺสาติ เอวรูปาย มาลุวาลตาย สมฺผสฺโสปิ สุโข, ทสฺสนมฺปิ สุขํ. อยํ เม ทารกานํ อาปานมณฺฑลํ ภวิสฺสติ, กีฬาภูมิ ภวิสฺสติ, ทุติยํ ¶ เม วิมานํ ปฏิลทฺธนฺติ ลตาย ทสฺสเนปิ สมฺผสฺเสปิ โสมนสฺสชาตา เอวมาห.
วิฏภึ กเรยฺยาติ สาขานํ อุปริ ฉตฺตากาเรน ติฏฺเยฺย. โอฆนํ ชเนยฺยาติ เหฏฺา ฆนํ ชเนยฺย. อุปริ อารุยฺห สกลํ รุกฺขํ ปลิเวเตฺวา ปุน เหฏฺา ภสฺสมานา ภูมึ คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ปทาเลยฺยาติ เอวํ โอฆนํ กตฺวา ปุน ตโต ปฏฺาย ยาว มูลา โอติณฺณสาขาหิ อภิรุหมานา สพฺพสาขา ปลิเวเนฺตี มตฺถกํ ปตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน โอโรหิตฺวา จ อภิรุหิตฺวา จ สกลรุกฺขํ สํสิพฺพิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺตี สพฺพสาขา เหฏฺา กตฺวา สยํ อุปริ ตฺวา ¶ วาเต วา วายนฺเต เทเว วา วสฺสนฺเต ปทาเลยฺย. ภินฺเทยฺยาติ อตฺโถ. ขาณุมตฺตเมว ติฏฺเยฺย, ตตฺถ ยํ สาขฏฺกวิมานํ โหติ, ตํ สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติ. รุกฺขฏฺกวิมานํ ปน ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฏฺติ, ตาว น นสฺสติ. อิทํ ปน วิมานํ สาขฏฺกํ, ตสฺมา สพฺพสาขาสุ สํภิชฺชมานาสุ ภิชฺชิตฺถ. เทวตา ปุตฺตเก คเหตฺวา ขาณุเก ิตา ปริเทวิตุํ อารทฺธา.
๔๗๑. ติพฺพราคชาติโกติ พหลราคสภาโว. ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตีติ ติพฺพราคชาติกตฺตา ทิฏฺเ ทิฏฺเ อารมฺมเณ นิมิตฺตํ คณฺหาติ. อถสฺส อาจริยุปชฺฌายา ทณฺฑกมฺมํ อาณาเปนฺติ. โส อภิกฺขณํ ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, นตฺเวว วีติกฺกมํ กโรติ. ติพฺพโทสชาติโกติ อปฺปมตฺติเกเนว กุปฺปติ, ทหรสามเณเรหิ สทฺธึ หตฺถปรามาสาทีนิ กโรนฺโตว กเถติ. โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. โมหชาติโก ปน อิธ กตํ วา กตโต อกตํ วา อกตโต น สลฺลกฺเขติ, ตานิ ตานิ กิจฺจานิ วิราเธติ. โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.
๔๗๒. น ติพฺพราคชาติโกติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพานิ. กสฺมา ปเนตฺถ โกจิ ติพฺพราคาทิชาติโก โหติ, โกจิ น ติพฺพราคาทิชาติโก? กมฺมนิยาเมน. ยสฺส หิ ¶ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ, อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต, โทสโมหา ¶ มนฺทา, ตสฺส มนฺโท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, อโทสาโมหา ปน พลวนฺโต โทสโมเห ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺติ. ตสฺมา โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหติ, สุขสีโล อกฺโกธโน ปฺวา วชิรูปมาโณ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวนฺโต โหนฺติ, อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา, โมโห มนฺโท, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ, ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ ทตฺตาภยตฺเถโร วิย.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทนฺโธ จ, สุขสีลโก ¶ ปน โหติ อกฺโกธโน.
ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อปฺปกิเลโส โหติ, ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุฏฺโ ปน โหติ ทนฺธปฺโ จ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ สุขสีลโก จ, มูฬฺโห ปน โหติ.
ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ ปฺวา จ, ทุฏฺโ ปน โหติ โกธโน.
ยสฺส ¶ ¶ ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาทโย พลวนฺโต โหนฺติ, โลภาทโย มนฺทา, โส มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร วิย อลุทฺโธ อทุฏฺโ ปฺวา จ โหติ.
เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา
๔๗๓. เอวํ ¶ เม สุตฺตนฺติ มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํ. ตตฺถ เอวํกามาติ เอวํอิจฺฉา. เอวํฉนฺทาติ เอวํอชฺฌาสยา. เอวํอธิปฺปายาติ เอวํลทฺธิกา. ตตฺราติ ตสฺมึ อนิฏฺวฑฺฒเน เจว อิฏฺปริหาเน จ. ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภนฺเต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมึ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธมฺเม อุปฺปาเทตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ, ภควตา ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตา. ภควนฺตฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธมฺเม อาชานาม ปฏิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมาติ. ภควํเนตฺติกาติ ภควา หิ ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตาติ. ยถาสภาวโต ¶ ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวา ทสฺสิตา ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม โหนฺติ. ภควํปฏิสรณาติ จตุภูมกา ธมฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฏิสรนฺติ นามาติ ภควํปฏิสรณา. ปฏิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติ. อปิจ มหาโพธิมณฺเฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฏิเวธวเสน ผสฺโส อาคจฺฉติ, อหํ ภควา กินฺนาโมติ? ตฺวํ ผุสนฏฺเน ผสฺโส นาม. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ อาคจฺฉติ. อหํ ภควา กินฺนามนฺติ? ตฺวํ วิชานนฏฺเน วิฺาณํ นามาติ เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ คณฺหนฺโต ภควา ธมฺเม ปฏิสรตีติปิ ภควํปฏิสรณา. ภควนฺตฺเว ปฏิภาตูติ ภควโตเยว เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ อุปฏฺาตุ, ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ.
๔๗๔. เสวิตพฺเพติ ¶ นิสฺสยิตพฺเพ. ภชิตพฺเพติ อุปคนฺตพฺเพ. ยถา ตํ อวิทฺทสุโนติ ยถา อวิทุโน พาลสฺส อนฺธปุถุชฺชนสฺส. ยถา ตํ วิทฺทสุโนติ ยถา วิทุโน เมธาวิโน ปณฺฑิตสฺส.
๔๗๕. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานนฺติ ปุริมสุตฺเต อุปฺปฏิปาฏิอากาเรน มาติกา ปิตา ¶ , อิธ ปน ยถาธมฺมรเสเนว สตฺถา มาติกํ เปสิ. ตตฺถ ธมฺมสมาทานนฺติ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมานํ คหณํ.
๔๗๖. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย สมนฺนาคโต.
๔๗๗. วิชฺชาคโตติ วิชฺชาย สมนฺนาคโต ปฺวา.
๔๗๘. สหาปิ ทุกฺเขนาติ เอตฺถ มิจฺฉาจาโร อภิชฺฌา มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน สุขสมฺปยุตฺตา วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา วา โหติ. เสสา ปาณาติปาตาทโย สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนา’’ติ. โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริเยฏฺึ วา อาปชฺชนฺตสฺส ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ ทุกฺขมฺปิ วฏฺฏติเยว.
๔๗๙. สหาปิ ¶ สุเขนาติ เอตฺถ ปาณาติปาโต ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. เสสา สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติเยว. สหาปิ โสมนสฺเสนาติ โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํ. อิฏฺโผฏฺพฺพสมงฺคิโน วา ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ สุขมฺปิ วฏฺฏติเยว.
๔๘๐. ตติยธมฺมสมาทาเน อิเธกจฺโจ มจฺฉพนฺโธ วา โหติ, มาควิโก วา, ปาณุปฆาตํเยว นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปติ. ตสฺส ครุฏฺานิโย ภิกฺขุ อกามกสฺเสว ปาณาติปาเต อาทีนวํ, ปาณาติปาตวิรติยา จ อานิสํสํ กเถตฺวา สิกฺขาปทํ เทติ. โส คณฺหนฺโตปิ ทุกฺขิโต โทมนสฺสิโตว หุตฺวา คณฺหาติ. อปรภาเค กติปาหํ วีตินาเมตฺวา ¶ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ทุกฺขิโตว โหติ, ตสฺส ปุพฺพาปรเจตนา ทุกฺขสหคตาว โหนฺติ. สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน สุขสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วาติ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ . อิติ ปุพฺพภาคปรภาคเจตนาว สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุกฺเขน สหาปิ โทมนสฺเสนา’’ติ. โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๘๑. จตุตฺถธมฺมสมาทาเน ทสสุปิ ปเทสุ ติสฺโสปิ ปุพฺพภาคาปรภาคสนฺนิฏฺาปกเจตนา สุขสมฺปยุตฺตา โหนฺติเยว, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนสฺเสนา’’ติ. โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๘๒. ติตฺตกาลาพูติ ติตฺตกรสอลาพุ. วิเสน สํสฏฺโติ หลาหลวิเสน สมฺปยุตฺโต มิสฺสิโต ลุฬิโต. นจฺฉาเทสฺสตีติ น รุจฺจิสฺสติ น ตุฏฺึ กริสฺสติ. นิคจฺฉสีติ คมิสฺสสิ. อปฺปฏิสงฺขาย ปิเวยฺยาติ ตํ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิเวยฺย.
๔๘๓. อาปานียกํโสติ อาปานียสฺส มธุรปานกสฺส ภริตกํโส. วณฺณสมฺปนฺโนติ ปานกวณฺณาทีหิ สมฺปนฺนวณฺโณ, กํเส ปกฺขิตฺตปานกวเสน ปานกกํโสปิ เอวํ วุตฺโต. ฉาเทสฺสตีติ ¶ ตฺหิ หลาหลวิสํ ยตฺถ ยตฺถ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺส ตสฺเสว รสํ เทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉาเทสฺสตี’’ติ.
๔๘๔. ปูติมุตฺตนฺติ มุตฺตเมว. ยถา หิ มนุสฺสภาโว สุวณฺณวณฺโณ ปูติกาโยตฺเวว, ตทหุชาตาปิ คโลจิลตา ปูติลตาตฺเวว วุจฺจติ. เอวํ ตงฺขณํ คหิตํ ตรุณมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมว. นานาเภสชฺเชหีติ หรีตกามลกาทีหิ นาโนสเธหิ. สุขี อสฺสาติ อโรโค สุวณฺณวณฺโณ สุขี ภเวยฺย.
๔๘๕. ทธิ จ มธุ จาติ สุปริสุทฺธํ ทธิ จ สุมธุรํ มธุ จ. เอกชฺฌํ สํสฏฺนฺติ เอกโต กตฺวา มิสฺสิตํ อาลุฬิตํ. ตสฺส ตนฺติ ตสฺส ตํ จตุมธุรเภสชฺชํ ปิวโต รุจฺเจยฺย. อิทฺจ ยํ ภคนฺทรสํสฏฺํ โลหิตํ ปกฺขนฺทติ, น ตสฺส เภสชฺชํ, อาหารํ ถมฺเภตฺวา มคฺคํ อวลฺชํ กโรติ. ยํ ¶ ปน ปิตฺตสํสฏฺํ โลหิตํ, ตสฺเสตํ เภสชฺชํ สีตลกิริยาย ปริยตฺตภูตํ.
๔๘๖. วิทฺเธติ ¶ อุพฺพิทฺเธ. เมฆวิคเมน ทูรีภูเตติ อตฺโถ. วิคตวลาหเกติ อปคตเมเฆ, เทเวติ อากาเส. อากาสคตํ ตมคตนฺติ อากาสคตํ ตมํ. ปุถุสมณพฺราหฺมณปรปฺปวาเทติ ปุถูนํ สมณพฺราหฺมณสงฺขาตานํ ปเรสํ วาเท. อภิวิหจฺจาติ อภิหนฺตฺวา. ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จาติ สรทกาเล มชฺฌนฺหิกสมเย อาทิจฺโจว โอภาสํ มฺุจติ ตปติ วิชฺโชตตีติ.
อิทํ ปน สุตฺตํ เทวตานํ อติวิย ปิยํ มนาปํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – ทกฺขิณทิสายํ กิร หตฺถิโภคชนปเท สงฺครวิหาโร นาม อตฺถิ. ตสฺส โภชนสาลทฺวาเร สงฺครรุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา รตฺติภาเค เอกสฺส ทหรสฺส สรภฺวเสน อิทํ สุตฺตํ โอสาเรนฺตสฺส สุตฺวา สาธุการํ อทาสิ. ทหโร กึ เอโสติ อาห. อหํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตาติ. กสฺมึ เทวเต ปสนฺนาสิ, กึ สทฺเท, อุทาหุ สุตฺเตติ? สทฺโท นาม, ภนฺเต, ยสฺส กสฺสจิ โหติเยว, สุตฺเต ¶ ปสนฺนามฺหิ. สตฺถารา เชตวเน นิสีทิตฺวา กถิตทิวเส จ อชฺช จ เอกพฺยฺชเนปิ นานํ นตฺถีติ. อสฺโสสิ ตฺวํ เทวเต สตฺถารา กถิตทิวเสติ? อาม, ภนฺเต. กตฺถ ิตา อสฺโสสีติ? เชตวนํ, ภนฺเต, คตามฺหิ, มเหสกฺขาสุ ปน เทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ ตตฺถ โอกาสํ อลภิตฺวา อิเธว ตฺวา อสฺโสสินฺติ. เอตฺถ ิตาย สกฺกา สุตฺถุ สทฺโท โสตุนฺติ? ตฺวํ ปน, ภนฺเต, มยฺหํ สทฺทํ สุณสีติ? อาม เทวเตติ. ทกฺขิณกณฺณปสฺเส นิสีทิตฺวา กถนกาโล วิย, ภนฺเต, โหตีติ. กึ ปน เทวเต สตฺถุ รูปํ ปสฺสสีติ? สตฺถา มเมว โอโลเกตีติ มฺมานา สณฺาตุํ น สกฺโกมิ, ภนฺเตติ. วิเสสํ ปน นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺขิตฺถ เทวเตติ. เทวตา ตตฺเถว อนฺตรธายิ. ตํ ทิวสํ กิเรส เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิโต. เอวมิทํ สุตฺตํ เทวตานํ ปิยํ มนาปํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วีมํสกสุตฺตวณฺณนา
๔๘๗. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ วีมํสกสุตฺตํ. ตตฺถ วีมํสเกนาติ ตโย วีมํสกา – อตฺถวีมํสโก สงฺขารวีมํสโก สตฺถุวีมํสโกติ. เตสุ, ‘‘ปณฺฑิตา หาวุโส, มนุสฺสา วีมํสกา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒) เอตฺถ อตฺถวีมํสโก อาคโต. ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ธาตุกุสโล จ โหติ, อายตนกุสโล จ โหติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล จ โหติ, านาฏฺานกุสโล จ โหติ, เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ วีมํสโกติ อลํ วจนายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) เอตฺถ สงฺขารวีมํสโก อาคโต. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สตฺถุวีมํสโก อธิปฺเปโต. เจโตปริยายนฺติ จิตฺตวารํ จิตฺตปริจฺเฉทํ. สมนฺเนสนาติ เอสนา ปริเยสนา อุปปริกฺขา. อิติ วิฺาณายาติ เอวํ วิชานนตฺถาย.
๔๘๘. ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต สมนฺเนสิตพฺโพติ อิธ กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยํ ทสฺเสติ. มหา หิ เอส กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสโย ¶ นาม. ตสฺส มหนฺตภาโว เอวํ เวทิตพฺโพ – เอกสฺมึ หิ สมเย อายสฺมา อานนฺโท อุปฑฺฒํ อตฺตโน อานุภาเวน โหติ, อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตานุภาเวนาติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ, – ‘‘อุปฑฺฒมิทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมจริยสฺส, ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา’’ติ. ภควา อาห – ‘‘มา เหวํ, อานนฺท, มา เหวํ, อานนฺท, สกลเมวิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา, กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติ. กถฺจานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต…เป… อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ. อิธานนฺท, ภิกฺขุ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ…เป… สมฺมาสมาธึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ กลฺยาณมิตฺโต…เป… พหุลีกโรติ, ตทมินาเปตํ, อานนฺท, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ. ยถา สกลเมวิทํ พฺรหฺมจริยํ ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตา กลฺยาณสหายตา กลฺยาณสมฺปวงฺกตา. มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ¶ ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ. ชราธมฺมา…เป… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสธมฺมา ¶ สตฺตา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒).
ภิกฺขูนํ พาหิรงฺคสมฺปตฺตึ กเถนฺโตปิ อาห – ‘‘พาหิรํ, ภิกฺขเว, องฺคนฺติ กริตฺวา นาฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหโต อตฺถาย สํวตฺตติ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, กลฺยาณมิตฺตตา. กลฺยาณมิตฺตตา, ภิกฺขเว, มหโต อตฺถาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๑๓). มหาจุนฺทสฺส กิเลสสลฺเลขปฏิปทํ กเถนฺโตปิ, ‘‘ปเร ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ กลฺยาณมิตฺตา ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓) อาห. เมฆิยตฺเถรสฺส วิมุตฺติปริปาจนิยธมฺเม กเถนฺโตปิ, ‘‘อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา ปฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ปฺจ? อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ ¶ กลฺยาณมิตฺโต โหติ’’ติ (อุทา. ๓๑) กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยเมว วิเสเสสิ. ปิยปุตฺตสฺส ราหุลตฺเถรสฺส อภิณฺโหวาทํ เทนฺโตปิ –
‘‘มิตฺเต ภชสฺสุ กลฺยาเณ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;
วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, มตฺตฺู โหหิ โภชเน.
จีวเร ปิณฺฑปาเต จ, ปจฺจเย สยนาสเน;
เอเตสุ ตณฺหํ มากาสิ, มา โลกํ ปุนราคมี’’ติ. (สุ. นิ. ๓๔๐, ๓๔๑) –
กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสยเมว สพฺพปมํ กเถสิ. เอวํ มหา เอส กลฺยาณมิตฺตูปนิสฺสโย นาม. อิธาปิ ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคโต สมนฺเนสิตพฺโพติ เทสนํ อารภิ. ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ตถาคตํ เอสตุ คเวสตูติ อตฺโถ. เอเตน ภควา อยํ มหาชจฺโจติ วา, ลกฺขณสมฺปนฺโนติ วา, อภิรูโป ทสฺสนีโยติ วา, อภิฺาโต อภิลกฺขิโตติ วา, อิมํ นิสฺสายาหํ จีวราทโย ปจฺจเย ลภิสฺสามีติ วา, เอวํ จินฺเตตฺวา มํ นิสฺสาย วสนกิจฺจํ ¶ นตฺถิ. โย ปน เอวํ สลฺลกฺเขติ, ‘‘ปโหติ เม เอส สตฺถา หุตฺวา สตฺถุกิจฺจํ สาเธตุ’’นฺติ, โส มํ ภชตูติ สีหนาทํ นทติ. พุทฺธสีหนาโท กิร นาเมส สุตฺตนฺโตติ.
อิทานิ ¶ เต ทฺเว ธมฺเม ทสฺเสนฺโต จกฺขุโสตวิฺเยฺเยสูติ อาห. ตตฺถ สตฺถุ กายิโก สมาจาโร วีมํสกสฺส จกฺขุวิฺเยฺโย ธมฺโม นาม. วาจสิโก สมาจาโร โสตวิฺเยฺโย ธมฺโม นาม. อิทานิ เตสุ สมนฺเนสิตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต เย สํกิลิฏฺาติอาทิมาห. ตตฺถ สํกิลิฏฺาติ กิเลสสมฺปยุตฺตา. เต จ น จกฺขุโสตวิฺเยฺยา. ยถา ปน อุทเก จลนฺเต วา ปุปฺผุฬเก วา มฺุจนฺเต อนฺโต มจฺโฉ อตฺถีติ วิฺายติ, เอวํ ปาณาติปาตาทีนิ วา กโรนฺตสฺส, มุสาวาทาทีนิ วา ภณนฺตสฺส กายวจีสมาจาเร ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ตํสมุฏฺาปกจิตฺตํ สํกิลิฏฺนฺติ วิฺายติ. ตสฺมา เอวมาห. สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส หิ กายวจีสมาจาราปิ สํกิลิฏฺาเยว นาม. น เต ตถาคตสฺส สํวิชฺชนฺตีติ น เต ตถาคตสฺส อตฺถิ. น อุปลพฺภนฺตีติ เอวํ ชานาตีติ อตฺโถ. นตฺถิตาเยว หิ เต น อุปลพฺภนฺติ น ปฏิจฺฉนฺนตาย. ตถา หิ ภควา เอกทิวสํ อิเมสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขุสงฺฆํ ¶ ปวาเรนฺโต อาห – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โว, น จ เม กิฺจิ ครหถ กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข มยํ, ภนฺเต, ภควโต กิฺจิ ครหาม กายิกํ วา วาจสิกํ วา. ภควา หิ, ภนฺเต, อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชาเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู มคฺควิทู มคฺคโกวิโท. มคฺคานุคา จ, ภนฺเต, เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉาสมนฺนาคตา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕). เอวํ ปริสุทฺธา ตถาคตสฺส กายวจีสมาจารา. อุตฺตโรปิ สุทํ มาณโว ตถาคตสฺส กายวจีทฺวาเร อนาราธนียํ กิฺจิ ปสฺสิสฺสามีติ สตฺต มาเส อนุพนฺธิตฺวา ลิกฺขามตฺตมฺปิ น อทฺทส. มนุสฺสภูโต วา เอส พุทฺธภูตสฺส กายวจีทฺวาเร กึ อนาราธนียํ ปสฺสิสฺสติ? มาโรปิ เทวปุตฺโต โพธิสตฺตสฺส สโต มหาภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ฉพฺพสฺสานิ คเวสมาโน กิฺจิ อนาราธนียํ นาทฺทส, อนฺตมโส เจโตปริวิตกฺกมตฺตมฺปิ. มาโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘สจสฺส วิตกฺกิตมตฺตมฺปิ อกุสลํ ปสฺสิสฺสามิ, ตตฺเถว นํ มุทฺธนิ ปหริตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส ฉพฺพสฺสานิ อทิสฺวา พุทฺธภูตมฺปิ เอกํ วสฺสํ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ วชฺชํ อปสฺสนฺโต คมนสมเย วนฺทิตฺวา –
‘‘มหาวีร ¶ ¶ มหาปฺุํ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
สพฺพเวรภยาตีตํ, ปาเท วนฺทามิ โคตม’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –
คาถํ วตฺวา คโต.
วีติมิสฺสาติ กาเล กณฺหา, กาเล สุกฺกาติ เอวํ โวมิสฺสกา. โวทาตาติ ปริสุทฺธา นิกฺกิเลสา. สํวิชฺชนฺตีติ โวทาตา ธมฺมา อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถาคตสฺส หิ ปริสุทฺธา กายสมาจาราทโย. เตนาห – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อรกฺเขยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย, ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปริสุทฺธวจีสมาจาโร… ปริสุทฺธมโนสมาจาโร… ปริสุทฺธาชีโว, ภิกฺขเว, ตถาคโต ¶ , นตฺถิ ตถาคตสฺส มิจฺฉาชีโว, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย, มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๘).
อิมํ กุสลํ ธมฺมนฺติ อิมํ อนวชฺชํ อาชีวฏฺมกสีลํ. ‘‘อยมายสฺมา สตฺถา กึ นุ โข ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน อติจิรกาลโต ปฏฺาย อิมินา สมนฺนาคโต, อุทาหุ อิตฺตรสมาปนฺโน หิยฺโย วา ปเร วา ปรสุเว วา ทิวเส สมาปนฺโน’’ติ เอวํ คเวสตูติ อตฺโถ. เอกจฺเจน หิ เอกสฺมึ าเน วสนฺเตน พหุ มิจฺฉาชีวกมฺมํ กตํ, ตํ ตตฺถ กาลาติกฺกเม ปฺายติ, ปากฏํ โหติ. โส อฺตรํ ปจฺจนฺตคามํ วา สมุทฺทตีรํ วา คนฺตฺวา ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา อารฺโก วิย หุตฺวา วิหรติ. มนุสฺสา สมฺภาวนํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺส ปณีเต ปจฺจเย เทนฺติ. ชนปทวาสิโน ภิกฺขู ตสฺส ปริหารํ ทิสฺวา, ‘‘อติทปฺปิโต วตายํ อายสฺมา, โก นุ โข เอโส’’ติ ปริคฺคณฺหนฺตา, ‘‘อสุกฏฺาเน อสุกํ นาม มิจฺฉาชีวํ กตฺวา ปกฺกนฺตภิกฺขู’’ติ ตฺวา น สกฺกา อิมินา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตุนฺติ สนฺนิปติตฺวา ธมฺเมน สเมน อุกฺเขปนียาทีสุ อฺตรํ กมฺมํ กโรนฺติ. เอวรูปาย ปฏิจฺฉนฺนปฏิปตฺติยา อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา วีมํสาเปตุํ เอวมาห.
เอวํ ¶ ชานาตีติ ทีฆรตฺตํ สมาปนฺโน, น อิตฺตรสมาปนฺโนติ ชานาติ. อนจฺฉริยํ เจตํ. ยํ ตถาคตสฺส เอตรหิ สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส ทีฆรตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ¶ ปริสุทฺธํ ภเวยฺย. ยสฺส โพธิสตฺตกาเลปิ เอวํ อโหสิ.
อตีเต กิร คนฺธารราชา จ เวเทหราชา จ ทฺเวปิ สหายกา หุตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา รชฺชานิ ปุตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกสฺมึ อรฺคามเก ปิณฺฑาย จรนฺติ. ปจฺจนฺโต นาม ทุลฺลภโลโณ โหติ. ตโต อโลณํ ยาคุํ ลภิตฺวา เอกิสฺสาย สาลาย นิสีทิตฺวา ปิวนฺติ. อนฺตรนฺตเร มนุสฺสา โลณจุณฺณํ อาหริตฺวา เทนฺติ. เอกทิวสํ เอโก เวเทหิสิสฺส ปณฺเณ ปกฺขิปิตฺวา โลณจุณฺณํ อทาสิ ¶ . เวเทหิสิ คเหตฺวา อุปฑฺฒํ คนฺธาริสิสฺส-สนฺติเก เปตฺวา อุปฑฺฒํ อตฺตโน สนฺติเก เปสิ. ตโต โถกํ ปริภุตฺตาวเสสํ ทิสฺวา, ‘‘มา อิทํ นสฺสี’’ติ ปณฺเณน เวเตฺวา ติณคหเน เปสิ. ปุน เอกสฺมึ ทิวเส ยาคุปานกาเล สตึ กตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา คนฺธาริสึ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อิโต โถกํ คณฺหถ อาจริยา’’ติ อาห. กุโต เต ลทฺธํ เวเทหิสีติ? ตสฺมึ ทิวเส ปริภุตฺตาวเสสํ ‘‘มา นสฺสี’’ติ มยา ปิตนฺติ. คนฺธาริสิ คเหตุํ น อิจฺฉติ, อโลณกํเยว ยาคุํ ปิวิตฺวา เวเทหํ อิสึ อโวจ –
‘‘หิตฺวา คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ โสฬส;
โกฏฺาคารานิ ผีตานิ, สนฺนิธึ ทานิ กุพฺพสี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๖);
เวเทหิสิ อโวจ – ‘‘ตุมฺเห รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตา, อิทานิ กสฺมา โลณจุณฺณมตฺตสนฺนิธิการณา ปพฺพชฺชาย อนุจฺฉวิกํ น กโรถา’’ติ? กึ มยา กตํ เวเทหิสีติ? อถ นํ อาห –
‘‘หิตฺวา คนฺธารวิสยํ, ปหูตธนธาริยํ;
ปสาสนโต นิกฺขนฺโต, อิธ ทานิ ปสาสสี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๗);
คนฺธาโร อาห –
‘‘ธมฺมํ ¶ ภณามิ เวเทห, อธมฺโม เม น รุจฺจติ;
ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๘);
เวเทโห ¶ อาห –
‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, ปโร ลภติ รุปฺปนํ;
มหตฺถิยมฺปิ เจ วาจํ, น ตํ ภาเสยฺย ปณฺฑิโต’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๙);
คนฺธาโร อาห –
‘‘กามํ รุปฺปตุ วา มา วา, ภุสํว วิกิรียตุ;
ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๘๐);
ตโต เวเทหิสิ ยสฺส สกาปิ พุทฺธิ นตฺถิ, อาจริยสนฺติเก วินยํ น สิกฺขติ, โส อนฺธมหึโส วิย วเน จรตีติ จินฺเตตฺวา อาห –
‘‘โน ¶ เจ อสฺส สกา พุทฺธิ, วินโย วา สุสิกฺขิโต;
วเน อนฺธมหึโสว, จเรยฺย พหุโก ชโน.
ยสฺมา จ ปนิเธกจฺเจ, อาเจรมฺหิ สุสิกฺขิตา;
ตสฺมา วินีตวินยา, จรนฺติ สุสมาหิตา’’ติ. (ชา. ๑.๗.๘๑-๘๒);
เอวฺจ ปน วตฺวา เวเทหิสิ อชานิตฺวา มยา กตนฺติ คนฺธาริสึ ขมาเปสิ. เต อุโภปิ ตปํ จริตฺวา พฺรหฺมโลกํ อคมํสุ. เอวํ ตถาคตสฺส โพธิสตฺตกาเลปิ ทีฆรตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริสุทฺธํ อโหสิ.
อุตฺตชฺฌาปนฺโน อยมายสฺมา ภิกฺขุ ยสปตฺโตติ อยมายสฺมา อมฺหากํ สตฺถา ภิกฺขุ ตฺตํ ปฺาตภาวํ ¶ ปากฏภาวํ อชฺฌาปนฺโน นุ โข, สยฺจ ปริวารสมฺปตฺตึ ปตฺโต นุ โข โนติ. เตน จสฺส ปฺาตชฺฌาปนฺนภาเวน ยสสนฺนิสฺสิตภาเวน จ กึ เอกจฺเจ อาทีนวา สนฺทิสฺสนฺติ อุทาหุ โนติ เอวํ สมนฺเนสนฺตูติ ทสฺเสติ. น ตาว, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ยาว ภิกฺขุ น ราชราชมหามตฺตาทีสุ อภิฺาตภาวํ วา ปริวารสมฺปตฺตึ วา อาปนฺโน โหติ, ตาว เอกจฺเจ มานาติมานาทโย อาทีนวา น สํวิชฺชนฺติ อุปสนฺตูปสนฺโต วิย โสตาปนฺโน วิย สกทาคามี วิย จ วิหรติ. อริโย นุ โข ปุถุชฺชโน นุ โขติปิ าตุํ น สกฺกา โหติ.
ยโต ¶ จ โข, ภิกฺขเวติ ยทา ปน อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ าโต โหติ ปริวารสมฺปนฺโน วา, ตทา ติณฺเหน สิงฺเคน โคคณํ วิชฺฌนฺโต ทุฏฺโคโณ วิย, มิคสงฺฆํ อภิมทฺทมาโน ทีปิ วิย จ อฺเ ภิกฺขู ตตฺถ ตตฺถ วิชฺฌนฺโต อคารโว อสภาควุตฺติ อคฺคปาเทน ภูมึ ผุสนฺโต วิย จรติ. เอกจฺโจ ปน กุลปุตฺโต ยถา ยถา าโต โหติ ยสสฺสี, ตถา ตถา ผลภารภริโต วิย สาลิ สุฏฺุตรํ โอนมติ, ราชราชมหามตฺตาทีสุ อุปสงฺกมนฺเตสุ อกิฺจนภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมณสฺํ อุปฏฺเปตฺวา ฉินฺนวิสาณอุสโภ วิย, จณฺฑาลทารโก วิย จ โสรโต นิวาโต นีจจิตฺโต หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส เจว สเทวกสฺส จ โลกสฺส, หิตาย สุขาย ปฏิปชฺชติ. เอวรูปํ ปฏิปตฺตึ สนฺธาย ‘‘นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา’’ติ อาห.
ตถาคโต ปน อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ ตาที, โส หิ ลาเภปิ ตาที, อลาเภปิ ¶ ตาที, ยเสปิ ตาที, อยเสปิ ตาที, ปสํสายปิ ตาที, นินฺทายปิ ตาที, สุเขปิ ตาที, ทุกฺเขปิ ตาที, ตสฺมา สพฺพากาเรน นาสฺส อิเธกจฺเจ อาทีนวา สํวิชฺชนฺติ. อภยูปรโตติ อภโย หุตฺวา อุปรโต, อจฺจนฺตูปรโต สตตูปรโตติ อตฺโถ. น วา ภเยน อุปรโตติปิ อภยูปรโต. จตฺตาริ หิ ภยานิ กิเลสภยํ วฏฺฏภยํ ทุคฺคติภยํ อุปวาทภยนฺติ. ปุถุชฺชโน จตูหิปิ ภเยหิ ภายติ. เสกฺขา ตีหิ, เตสฺหิ ทุคฺคติภยํ ปหีนํ, อิติ สตฺต เสกฺขา ภยูปรตา, ขีณาสโว อภยูปรโต นาม, ตสฺส หิ เอกมฺปิ ภยํ นตฺถิ. กึ ปรวาทภยํ นตฺถีติ? นตฺถิ. ปรานุทฺทยํ ปน ปฏิจฺจ, ‘‘มาทิสํ ขีณาสวํ ปฏิจฺจ สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อุปวาทํ รกฺขติ. มูลุปฺปลวาปิวิหารวาสี ยสตฺเถโร วิย.
เถโร ¶ กิร มูลุปฺปลวาปิคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถสฺส อุปฏฺากกุลทฺวารํ ปตฺตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ถณฺฑิลปีกํ นิสฺสาย อาสนํ ปฺเปสุํ. อมจฺจธีตาปิ ตํเยว ปีกํ นิสฺสาย ปรโตภาเค นีจตรํ อาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิ. เอโก เนวาสิโก ภิกฺขุ ปจฺฉา ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ ทฺวาเร ตฺวาว โอโลเกนฺโต เถโร อมจฺจธีตรา สทฺธึ เอกมฺเจ นิสินฺโนติ สลฺลกฺเขตฺวา, ‘‘อยํ ปํสุกูลิโก วิหาเรว อุปสนฺตูปสนฺโต ¶ วิย วิหรติ, อนฺโตคาเม ปน อุปฏฺายิกาหิ สทฺธึ เอกมฺเจ นิสีทตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘กึ นุ โข มยา ทุทฺทิฏฺ’’นฺติ ปุนปฺปุนํ โอโลเกตฺวา ตถาสฺีว หุตฺวา ปกฺกามิ. เถโรปิ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสีทิ. เนวาสิโกปิ กตภตฺตกิจฺโจ วิหารํ คนฺตฺวา, ‘‘ตํ ปํสุกูลิกํ นิคฺคณฺหิตฺวา วิหารา นิกฺกฑฺฒิสฺสามี’’ติ อสฺตนีหาเรน เถรสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปริโภคฆฏโต อุลุงฺเกน อุทกํ คเหตฺวา มหาสทฺทํ กโรนฺโต ปาเท โธวิ. เถโร, ‘‘โก นุ โข อยํ อสฺตจาริโก’’ติ อาวชฺชนฺโต สพฺพํ ตฺวา, ‘‘อยํ มยิ มนํ ปโทเสตฺวา อปายูปโค มา อโหสี’’ติ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา กณฺณิกามณฺฑลสมีเป ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เนวาสิโก ทุฏฺากาเรน ฆฏิกํ อุกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิฏฺโ เถรํ อปสฺสนฺโต, ‘‘เหฏฺามฺจํ ปวิฏฺโ ¶ ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกตฺวา ตตฺถาปิ อปสฺสนฺโต นิกฺขมิตุํ อารภิ. เถโร อุกฺกาสิ. อิตโร อุทฺธํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห – ‘‘ปติรูปํ เต, อาวุโส, ปํสุกูลิก เอวํ อานุภาวสมฺปนฺนสฺส อุปฏฺายิกาย สทฺธึ เอกมฺเจ นิสีทิตุ’’นฺติ. ปพฺพชิตา นาม, ภนฺเต, มาตุคาเมน สทฺธึ น เอกมฺเจ นิสีทนฺติ, ตุมฺเหหิ ปน ทุทฺทิฏฺเมตนฺติ. เอวํ ขีณาสวา ปรานุทฺทยาย อุปวาทํ รกฺขนฺติ.
ขยา ราคสฺสาติ ราคสฺส ขเยเนว. วีตราคตฺตา กาเม น ปฏิเสวติ, น ปฏิสงฺขาย วาเรตฺวาติ. ตฺเจติ เอวํ ตถาคตสฺส กิเลสปฺปหานํ ตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ิตนิสินฺนกาลาทีสุปิ จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวาปิ อิติปิ สตฺถา วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห วนฺตกิเลโส ปหีนมโล อพฺภา มุตฺตปุณฺณจนฺโท วิย สุปริสุทฺโธติ เอวํ ตถาคตสฺส กิเลสปฺปหาเน วณฺณํ กถยมานํ ตํ วีมํสกํ ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ เจติ อตฺโถ.
อาการาติ การณานิ. อนฺวยาติ อนุพุทฺธิโย. สงฺเฆ วา วิหรนฺโตติ อปฺเปกทา อปริจฺฉินฺนคณนสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ วิหรนฺโต. เอโก วา วิหรนฺโตติ อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว ¶ , อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ, เตมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ เอวํ ปฏิสลฺลาเน เจว ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑ จ เอกโก วิหรนฺโต. สุคตาติ สุฏฺุคตา สุปฺปฏิปนฺนา การกา ยุตฺตปยุตฺตา. เอวรูปาปิ หิ เอกจฺเจ ภิกฺขู อตฺถิ. ทุคฺคตาติ ¶ ทุฏฺุคตา ทุปฺปฏิปนฺนา กายทฬฺหิพหุลา วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา. เอวรูปาปิ เอกจฺเจ อตฺถิ. คณมนุสาสนฺตีติ คณพนฺธเนน พทฺธา คณารามา คณพหุลิกา หุตฺวา คณํ ปริหรนฺติ. เอวรูปาปิ เอกจฺเจ อตฺถิ. เตสํ ปฏิปกฺขภูตา คณโต นิสฺสฏา วิสํสฏฺา วิปฺปมุตฺตวิหาริโนปิ อตฺถิ.
อามิเสสุ สนฺทิสฺสนฺตีติ อามิสคิทฺธา อามิสจกฺขุกา จตุปจฺจยอามิสตฺถเมว อาหิณฺฑมานา อามิเสสุ สนฺทิสฺสมานกภิกฺขูปิ อตฺถิ. อามิเสน อนุปลิตฺตา จตูหิ ปจฺจเยหิ ¶ วินิวตฺตมานสา อพฺภา มุตฺตจนฺทสทิสา หุตฺวา วิหรมานาปิ อตฺถิ. นายมายสฺมา ตํ เตน อวชานาตีติ อยํ อายสฺมา สตฺถา ตาย ตาย ปฏิปตฺติยา ตํ ตํ ปุคฺคลํ นาวชานาติ, อยํ ปฏิปนฺโน การโก, อยํ คณโต นิสฺสโฏ วิสํสฏฺโ. อยํ อามิเสน อนุปลิตฺโต ปจฺจเยหิ วินิวตฺตมานโส อพฺภา มุตฺโต จนฺทิมา วิยาติ เอวมสฺส เคหสิตวเสน อุสฺสาทนาปิ นตฺถิ. อยํ ทุปฺปฏิปนฺโน อการโก กายทฬฺหิพหุโล วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาโน, อยํ คณพนฺธนพทฺโธ, อยํ อามิสคิทฺโธ โลโล อามิสจกฺขุโกติ เอวมสฺส เคหสิตวเสน อปสาทนาปิ นตฺถีติ อตฺโถ. อิมินา กึ กถิตํ โหติ? ตถาคตสฺส สตฺเตสุ ตาทิภาโว กถิโต โหติ. อยฺหิ –
‘‘วธกสฺส เทวทตฺตสฺส, โจรสฺสงฺคุลิมาลิโน;
ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺเพสํ สมโก มุนี’’ติ. (มิ. ป. ๖.๖.๕);
๔๘๙. ตตฺร, ภิกฺขเวติ เตสุ ทฺวีสุ วีมํสเกสุ. โย, ‘‘เก ปนายสฺมโต อาการา’’ติ ปุจฺฉายํ อาคโต คณฺิวีมํสโก จ, โย ‘‘อภยูปรโต อยมายสฺมา’’ติ อาคโต มูลวีมํสโก จ. เตสุ มูลวีมํสเกน ตถาคโตว อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉิตพฺโพ. โส หิ ปุพฺเพ ปรสฺเสว กถาย นิฏฺงฺคโต. ปโร จ นาม ชานิตฺวาปิ กเถยฺย อชานิตฺวาปิ. เอวมสฺส กถา ภูตาปิ โหติ อภูตาปิ, ตสฺมา ปรสฺเสว กถาย นิฏฺํ อคนฺตฺวา ตโต อุตฺตริ ตถาคโตว ปฏิปุจฺฉิตพฺโพติ อตฺโถ.
พฺยากรมาโนติ ¶ เอตฺถ ยสฺมา ตถาคตสฺส มิจฺฉาพฺยากรณํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สมฺมา มิจฺฉาติ อวตฺวา พฺยากรมาโนตฺเวว วุตฺตํ. เอตํ ปโถหมสฺมิ ¶ เอตํ โคจโรติ เอส มยฺหํ ปโถ เอส โคจโรติ อตฺโถ. ‘‘เอตาปาโถ’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ มยฺหํ อาชีวฏฺมกสีลํ ปริสุทฺธํ, สฺวาหํ ตสฺส ปริสุทฺธภาเวน วีมํสกสฺส ภิกฺขุโน าณมุเข เอตาปาโถ, เอวํ อาปาถํ คจฺฉามีติ วุตฺตํ โหติ. โน จ เตน ตมฺมโยติ เตนปิ จาหํ ปริสุทฺเธน สีเลน น ตมฺมโย, น สตณฺโห, ปริสุทฺธสีลตฺตาว นิตฺตณฺโหหมสฺมีติ ทีเปติ.
อุตฺตรุตฺตรึ ¶ ปณีตปณีตนฺติ อุตฺตรุตฺตรึ เจว ปณีตตรฺจ กตฺวา เทเสติ. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ กณฺหํ เจว สุกฺกฺจ, ตฺจ โข สปฺปฏิภาคํ สวิปกฺขํ กตฺวา, กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกนฺติ สุกฺกํ ปฏิพาหิตฺวา กณฺหนฺติ เอวํ สปฺปฏิภาคํ กตฺวา กณฺหสุกฺกํ เทเสติ. กณฺหํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสติ, สุกฺกํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสติ. อภิฺาย อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺํ คจฺฉตีติ ตสฺมึ เทสิเต ธมฺเม เอกจฺจํ ปฏิเวธธมฺมํ อภิฺาย เตน ปฏิเวธธมฺเมน เทสนาธมฺเม นิฏฺํ คจฺฉติ. สตฺถริ ปสีทตีติ เอวํ ธมฺเม นิฏฺํ คนฺตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย สมฺมาสมฺพุทฺโธ โส ภควาติ สตฺถริ ปสีทติ. เตน ปน ภควตา โย ธมฺโม อกฺขาโต, โสปิ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม นิยฺยานิกตฺตา. ยฺวาสฺส ตํ ธมฺมํ ปฏิปนฺโน สงฺโฆ, โสปิ สุปฺปฏิปนฺโน วงฺกาทิโทสรหิตํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตาติ เอวํ ธมฺเม สงฺเฆปิ ปสีทติ. ตฺเจติ ตํ เอวํ ปสนฺนํ ตตฺถ ตตฺถ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ กเถนฺตํ ภิกฺขุํ.
๔๙๐. อิเมหิ อากาเรหีติ อิเมหิ สตฺถุวีมํสนการเณหิ. อิเมหิ ปเทหีติ อิเมหิ อกฺขรสมฺปิณฺฑนปเทหิ. อิเมหิ พฺยฺชเนหีติ อิเมหิ อิธ วุตฺเตหิ อกฺขเรหิ. สทฺธา นิวิฏฺาติ โอกปฺปนา ปติฏฺิตา. มูลชาตาติ โสตาปตฺติมคฺควเสน สฺชาตมูลา. โสตาปตฺติมคฺโค หิ สทฺธาย มูลํ นาม. อาการวตีติ การณํ ปริเยสิตฺวา คหิตตฺตา สการณา. ทสฺสนมูลิกาติ โสตาปตฺติมคฺคมูลิกา. โส หิ ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ทฬฺหาติ ถิรา. อสํหาริยาติ หริตุํ น สกฺกา. สมเณน วาติ สมิตปาปสมเณน วา. พฺราหฺมเณน วาติ พาหิตปาปพฺราหฺมเณน วา. เทเวน วาติ อุปปตฺติเทเวน วา. มาเรน วาติ วสวตฺติมาเรน ¶ วา, โสตาปนฺนสฺส หิ วสวตฺติมาเรนาปิ สทฺธา อสํหาริยา โหติ สูรมฺพฏฺสฺส วิย.
โส ¶ กิร สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา เคหํ อาคโต. อถ มาโร ทฺวตฺตึสวรลกฺขณปฺปฏิมณฺฑิตํ พุทฺธรูปํ มาเปตฺวา ตสฺส ¶ ฆรทฺวาเร ตฺวา – ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สาสนํ ปหิณิ. สูโร จินฺเตสิ, ‘‘อหํ อิทาเนว สตฺถุ สนฺติกา ธมฺมํ สุตฺวา อาคโต, กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถุสฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. มาโร อาห – ‘‘ยํ เต มยา, สูรมฺพฏฺ, รูปํ อนิจฺจํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ กถิตํ, ตํ อนุปธาเรตฺวาว สหสา มยา เอวํ วุตฺตํ. ตสฺมา ตฺวํ รูปํ นิจฺจํ…เป… วิฺาณํ นิจฺจนฺติ คณฺหาหี’’ติ. สูโร จินฺเตสิ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ยํ พุทฺธา อนุปธาเรตฺวา อปจฺจกฺขํ กตฺวา กิฺจิ กเถยฺยุํ, อทฺธา อยํ มยฺหํ วิพาธนตฺถํ มาโร อาคโต’’ติ. ตโต นํ ตฺวํ มาโรติ อาห. โส มุสาวาทํ กาตุํ นาสกฺขิ, อาม มาโรสฺมีติ ปฏิชานิ. กสฺมา อาคโตสีติ วุตฺเต ตว สทฺธาจาลนตฺถนฺติ อาห. กณฺห ปาปิม, ตฺวํ ตาว เอกโก ติฏฺ, ตาทิสานํ มารานํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ มม สทฺธํ จาเลตุํ อสมตฺถํ, มคฺเคน อาคตา สทฺธา นาม สิลาปถวิยํ ปติฏฺิตสิเนรุ วิย อจลา โหติ, กึ ตฺวํ เอตฺถาติ อจฺฉรํ ปหริ. โส าตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถวนฺตรธายิ. พฺรหฺมุนา วาติ พฺรหฺมกายิกาทีสุ อฺตรพฺรหฺมุนา วา. เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ เอเต สมณาทโย เปตฺวา อฺเนปิ เกนจิ วา โลกสฺมึ หริตุํ น สกฺกา. ธมฺมสมนฺเนสนาติ สภาวสมนฺเนสนา. ธมฺมตาสุสมนฺนิฏฺโติ ธมฺมตาย สุสมนฺนิฏฺโ, สภาเวเนว สุฏฺุ สมนฺเนสิโต โหตีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
วีมํสกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนา
๔๙๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ โกสมฺพิยสุตฺตํ. ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส กิร นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิ. กุสมฺพสฺส ¶ นาม อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตาติปิ ¶ เอเก. โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม.
ปุพฺเพ กิร อทฺทิลรฏฺํ นาม อโหสิ. ตโต โกตูหลโก นาม ทลิทฺโท ฉาตกภเยน สปุตฺตทาโร เกทารปริจฺฉินฺนํ สุภิกฺขํ รฏฺํ คจฺฉนฺโต ปุตฺตํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต ฉฑฺเฑตฺวา อคมาสิ. มาตา นิวตฺติตฺวา ตํ คเหตฺวา คตา. เต เอกํ โคปาลกคามกํ ปวิสึสุ, โคปาลกานฺจ ตทา ปหตปายโส ปฏิยตฺโต โหติ, ตโต ปายสํ ลภิตฺวา ภฺุชึสุ. อถ โส ปุริโส ปหูตปายสํ ภฺุชิตฺวา ชิราเปตุํ อสกฺโกนฺโต รตฺติภาเค กาลํ กตฺวา ตตฺเถว สุนขิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา กุกฺกุโร ชาโต. โส โคปาลกสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป, โคปาลโก จ ปจฺเจกพุทฺธํ อุปฏฺาสิ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ ภตฺตกิจฺจาวสาเน กุกฺกุรสฺส เอกํ ปิณฺฑํ เทติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา โคปาลเกน สทฺธึ ปณฺณสาลมฺปิ คจฺฉติ.
โส โคปาลเก อสนฺนิหิเต ภตฺตเวลาย สยเมว คนฺตฺวา กาลาโรจนตฺถํ ปณฺณสาลทฺวาเร ภุสฺสติ, อนฺตรามคฺเคปิ จณฺฑมิเค ทิสฺวา ภุสฺสิตฺวา ปลาเปติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ มุทุเกน จิตฺเตน กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตตฺรสฺส โฆสกเทวปุตฺโตตฺเวว นามํ อโหสิ. โส เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ เอกสฺมึ กุลฆเร นิพฺพตฺติ. ตํ อปุตฺตโก เสฏฺิ ตสฺส มาตาปิตูนํ ธนํ ทตฺวา ปุตฺตํ กตฺวา อคฺคเหสิ. อถ โส อตฺตโน ปุตฺเต ชาเต สตฺตกฺขตฺตุํ มาราเปตุํ อุปกฺกมิ. โส ปฺุวนฺตตาย สตฺตสุปิ าเนสุ มรณํ อปฺปตฺวา อวสาเน เอกาย เสฏฺิธีตาย เวยฺยตฺติเยน ลทฺธชีวิโก อปรภาเค ปิตุอจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา โฆสิตเสฏฺิ นาม ¶ ชาโต. อฺเปิ โกสมฺพิยํ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ ทฺเว เสฏฺิโน สนฺติ. อิเมหิ สทฺธึ ตโย อเหสุํ.
เตน ¶ จ สมเยน เตสํ สหายกานํ เสฏฺีนํ กุลูปกา ปฺจสตา อิสโย ปพฺพตปาเท วสึสุ. เต กาเลน กาลํ โลณมฺพิลเสวนตฺถาย มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ วาเร คิมฺหสมเย มนุสฺสปถํ ¶ อาคจฺฉนฺตา นิรุทกมหากนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา กนฺตารปริโยสาเน มหนฺตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา จินฺเตสุํ – ‘‘ยาทิโส อยํ รุกฺโข, อทฺธา เอตฺถ มเหสกฺขาย เทวตาย ภวิตพฺพํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน ปานียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อิเมสํ สงฺคหํ กริสฺสามีติ อตฺตโน อานุภาเวน วิฏปนฺตรโต นงฺคลสีสมตฺตํ อุทกธารํ ปวตฺเตสิ. อิสิคโณ รชตกฺขนฺธสทิสํ อุทกวฏฺฏึ ทิสฺวา อตฺตโน ภาชเนหิ อุทกํ คเหตฺวา ปริโภคํ กตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคอุทกํ ทินฺนํ, อิทํ ปน อคามกํ มหาอรฺํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อาหารมฺปิ ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อุปสํกปฺปนวเสน ทิพฺพานิ ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา สนฺตปฺเปสิ. อิสโย จินฺตยึสุ – ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคอุทกมฺปิ โภชนมฺปิ สพฺพํ ทินฺนํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อตฺตานํ ทสฺเสยฺยา’’ติ.
เทวตา เตสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสสิ. เต อาหํสุ – ‘‘เทวเต, มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคตาสี’’ติ? ภนฺเต, นาติมหนฺตํ ปริตฺตกํ กมฺมํ กตฺวาติ. อุปฑฺฒอุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย หิ เทวตาย สา สมฺปตฺติ ลทฺธา.
อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร เคเห อยํ เทวปุตฺโต กมฺมกาโร อโหสิ. เสฏฺิสฺส หิ เคเห อุโปสถทิวเสสุ อนฺตมโส ทาสกมฺมกาเร อุปาทาย สพฺโพ ชโน อุโปสถิโก โหติ. เอกทิวสํ อยํ กมฺมกาโร เอกโกว ปาโต อุฏฺาย กมฺมนฺตํ คโต. มหาเสฏฺิ นิวาปํ ลภนมนุสฺเส สลฺลกฺเขนฺโต เอตสฺเสเวกสฺส อรฺํ คตภาวํ ตฺวา อสฺส สายมาสตฺถาย นิวาปํ อทาสิ. ภตฺตการิกา ทาสี เอกสฺเสว ภตฺตํ ปจิตฺวา อรฺโต อาคตสฺส ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา อทาสิ, กมฺมกาโร อาห – ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อิมสฺมึ กาเล เคหํ เอกสทฺทํ อโหสิ, อชฺช อติวิย สนฺนิสินฺนํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ ¶ ? ตสฺส สา อาจิกฺขิ – ‘‘อชฺช ¶ อิมสฺมึ เคเห สพฺเพ มนุสฺสา อุโปสถิกา, มหาเสฏฺิ ตุยฺเหเวกสฺส นิวาปํ อทาสี’’ติ. เอวํ อมฺมาติ? อาม สามีติ. อิมสฺมึ กาเล อุโปสถํ สมาทินฺนสฺส อุโปสถกมฺมํ โหติ น โหตีติ มหาเสฏฺึ ปุจฺฉ อมฺมาติ? ตาย คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต มหาเสฏฺิ อาห – ‘‘สกลอุโปสถกมฺมํ น โหติ, อุปฑฺฒกมฺมํ ปน โหติ, อุโปสถิโก โหตู’’ติ ¶ . กมฺมกาโร ภตฺตํ อภฺุชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก หุตฺวา วสนฏฺานํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อาหารปริกฺขีณกายสฺส รตฺตึ วาโต กุปฺปิ. โส ปจฺจูสสมเย กาลํ กตฺวา อุปฑฺฒอุโปสถกมฺมนิสฺสนฺเทน มหาวฏฺฏนิอฏวิยํ นิคฺโรธรุกฺเข เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ อิสีนํ อาโรเจสิ.
อิสโย ตุมฺเหหิ มยํ พุทฺโธ, ธมฺโม, สงฺโฆติ อสุตปุพฺพํ สาวิตา, อุปฺปนฺโน นุ โข โลเก พุทฺโธติ? อาม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโนติ. อิทานิ กุหึ วสตีติ? สาวตฺถึ นิสฺสาย เชตวเน, ภนฺเตติ. อิสโย ติฏฺถ ตาว ตุมฺเห มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามาติ หฏฺตุฏฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพินครํ สมฺปาปุณึสุ. มหาเสฏฺิโน, ‘‘อิสโย อาคตา’’ติ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา, ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส อิสิคณสฺส มหาทานํ อทํสุ. อิสโย ภฺุชิตฺวาว คจฺฉามาติ อาปุจฺฉึสุ. ตุมฺเห, ภนฺเต, อฺสฺมึ กาเล เอกมฺปิ มาสํ ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ มาเส วสิตฺวา คจฺฉถ. อิมสฺมึ ปน วาเร หิยฺโย อาคนฺตฺวา อชฺเชว คจฺฉามาติ วทถ, กิมิทนฺติ? อาม คหปตโย พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน, น โข ปน สกฺกา ชีวิตนฺตราโย วิทิตุํ, เตน มยํ ตุริตา คจฺฉามาติ. เตน หิ, ภนฺเต, มยมฺปิ คจฺฉาม, อมฺเหหิ สทฺธึเยว คจฺฉถาติ. ตุมฺเห อคาริยา นาม มหาชฏา, ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ ปุเรตรํ คมิสฺสามาติ นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ าเน ทฺเวปิ ทิวสานิ อวสิตฺวา ตุริตคมเนเนว สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนวิหาเร สตฺถุ สนฺติกเมว อคมํสุ. สตฺถุ มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา สพฺเพว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
เตปิ ¶ ตโย เสฏฺิโน ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ เจว ปฏฺฏุนฺนทุกูลาทีนิ จ อาทาย โกสมฺพิโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนสามนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา ติณฺณมฺปิ สหายกานํ มธุรธมฺมกถํ กเถสิ. เต พลวโสมนสฺสชาตา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ¶ ปุนทิวเส มหาทานํ อทํสุ. ปุน นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเสติ เอวํ อฑฺฒมาสํ ทานํ ทตฺวา, ‘‘อมฺหากํ ชนปทํ อาคมนาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชึสุ. ภควา, ‘‘สฺุาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. เอตฺตาวตา ปฏิฺา ทินฺนา นาม โหตีติ คหปตโย ¶ สลฺลกฺเขตฺวา ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺาติ ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน าเน วิหารํ กาเรตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา, ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ กถยึสุ. ตโยปิ ชนา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วสนตฺถาย วิหาเร การาปยึสุ. ตตฺถ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม อโหสิ. ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวโน นาม อโหสิ. โฆสิเตน การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม’’ติ.
ภณฺฑนชาตาติอาทีสุ กลหสฺส ปุพฺพภาโค ภณฺฑนํ นาม, ตํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. หตฺถปรามาสาทิวเสน มตฺถกํ ปตฺโต กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตา. วิรุทฺธภูตํ วาทนฺติ วิวาทํ, ตํ อาปนฺนาติ วิวาทาปนฺนา. มุขสตฺตีหีติ วาจาสตฺตีหิ. วิตุทนฺตาติ วิชฺฌนฺตา. เต น เจว อฺมฺํ สฺาเปนฺติ น จ สฺตฺตึ อุเปนฺตีติ เต อตฺถฺจ การณฺจ ทสฺเสตฺวา เนว อฺมฺํ ชานาเปนฺติ. สเจปิ สฺาเปตุํ อารภนฺติ, ตถาปิ สฺตฺตึ น อุเปนฺติ, ชานิตุํ น อิจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. นิชฺฌตฺติยาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ นิชฺฌตฺตีติ สฺตฺติเววจนเมเวตํ. กสฺมา ปเนเต ภณฺฑนชาตา อเหสุนฺติ? อปฺปมตฺตเกน การเณน.
ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกสฺมึ อาวาเส วสนฺติ วินยธโร จ สุตฺตนฺติโก จ. เตสุ สุตฺตนฺติโก ภิกฺขุ เอกทิวสํ ¶ วจฺจกุฏึ ปวิฏฺโ อาจมนอุทกาวเสสํ ภาชเน เปตฺวาว นิกฺขมิ. วินยธโร ปจฺฉา ปวิฏฺโ ตํ อุทกํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ, อาวุโส, ตยา อิทํ อุทกํ ปิตนฺติ? อาม, อาวุโสติ. ตฺวเมตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสีติ? อาม น ชานามีติ. โหติ, อาวุโส, เอตฺถ อาปตฺตีติ. สเจ โหติ เทเสสฺสามีติ. สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ เต อาปตฺตีติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสิ.
วินยธโร ¶ อตฺตโน นิสฺสิตกานํ, ‘‘อยํ สุตฺตนฺติโก อาปตฺตึ อาปชฺชมาโนปิ น ชานาตี’’ติ อาโรเจสิ. เต ตสฺส นิสฺสิตเก ทิสฺวา – ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ อาปตฺติภาวํ น ชานาตี’’ติ อาหํสุ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อาโรเจสุํ. โส ¶ เอวมาห – ‘‘อยํ วินยธโร ปุพฺเพ ‘อนาปตฺตี’ติ วตฺวา อิทานิ ‘อาปตฺตี’ติ วทติ, มุสาวาที เอโส’’ติ. เต คนฺตฺวา, ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย มุสาวาที’’ติ เอวํ อฺมฺํ กลหํ วฑฺฒยึสุ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ภควนฺตํ เอตทโวจาติ เอตํ, ‘‘อิธ, ภนฺเต, โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตฺจ โข เนว ปิยกมฺยตาย น เภทาธิปฺปาเยน, อถ โข อตฺถกามตาย หิตกามตาย. สามคฺคิการโก กิเรส ภิกฺขุ, ตสฺมาสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยถา อิเม ภิกฺขู วิวาทํ อารทฺธา, น สกฺกา มยา, นาปิ อฺเน ภิกฺขุนา สมคฺคา กาตุํ, อปฺเปว นาม สเทวเก โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล ภควา สยํ วา คนฺตฺวา, อตฺตโน วา สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอเตสํ ภิกฺขูนํ ขนฺติเมตฺตาปฏิสํยุตฺตํ สารณียธมฺมเทสนํ กเถตฺวา สามคฺคึ กเรยฺยา’’ติ อตฺถกามตาย หิตกามตาย คนฺตฺวา อโวจ.
๔๙๒. ฉยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สารณียาติ เหฏฺา กลหภณฺฑนวเสน เทสนา อารทฺธา. อิมสฺมึ าเน ฉ สารณียา ธมฺมา อาคตาติ เอวมิทํ โกสมฺพิยสุตฺตํ ยถานุสนฺธินาว คตํ โหติ. ตตฺถ สารณียาติ สริตพฺพยุตฺตา อทฺธาเน อติกฺกนฺเตปิ น ปมุสฺสิตพฺพา. โย เต ธมฺเม ปูเรติ, ตํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยํ กโรนฺตีติ ปิยกรณา. ครุํ กโรนฺตีติ ครุกรณา. สงฺคหายาติ สงฺคหณตฺถาย. อวิวาทายาติ อวิวาทนตฺถาย. สามคฺคิยาติ สมคฺคภาวตฺถาย ¶ . เอกีภาวายาติ เอกีภาวตฺถาย นินฺนานากรณาย. สํวตฺตนฺตีติ ภวนฺติ. เมตฺตํ กายกมฺมนฺติ เมตฺตจิตฺเตน กตฺตพฺพํ กายกมฺมํ. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. อิมานิ ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ, คิหีสุปิ ลพฺภนฺติเยว. ภิกฺขูนฺหิ เมตฺตจิตฺเตน อาภิสมาจาริกธมฺมปูรณํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. คิหีนํ เจติยวนฺทนตฺถาย โพธิวนฺทนตฺถาย สงฺฆนิมนฺตนตฺถาย คมนํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ ปตฺตปฏิคฺคหณํ อาสนปฺาปนํ อนุคมนนฺติ เอวมาทิกํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม.
ภิกฺขูนํ ¶ เมตฺตจิตฺเตน อาจารปฺตฺติสิกฺขาปทํ, กมฺมฏฺานกถนํ ธมฺมเทสนา เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. คิหีนฺจ, ‘‘เจติยวนฺทนตฺถาย คจฺฉาม, โพธิวนฺทนตฺถาย คจฺฉาม, ธมฺมสฺสวนํ กริสฺสาม, ปทีปมาลาปุปฺผปูชํ กริสฺสาม, ตีณิ สุจริตานิ สมาทาย วตฺติสฺสาม, สลากภตฺตาทีนิ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ ทสฺสาม, อชฺช สงฺฆสฺส ¶ จตฺตาโร ปจฺจเย ทสฺสาม, สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา ขาทนียาทีนิ สํวิทหถ, อาสนานิ ปฺาเปถ, ปานียํ อุปฏฺเปถ, สงฺฆํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อาเนถ, ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ฉนฺทชาตา อุสฺสาหชาตา เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติอาทิกถนกาเล เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม.
ภิกฺขูนํ ปาโตว อุฏฺาย สรีรปฏิชคฺคนํ เจติยงฺคณวตฺตาทีนิ จ กตฺวา วิวิตฺตาสเน นิสีทิตฺวา, ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู สุขี โหนฺตุ, อเวรา อพฺยาปชฺฌา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. คิหีนํ ‘‘อยฺยา สุขี โหนฺตุ, อเวรา อพฺยาปชฺฌา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.
อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ. ตตฺถ นวกานํ จีวรกมฺมาทีสุ สหายภาวูปคมนํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. เถรานํ ปน ปาทโธวนวนฺทนพีชนทานาทิเภทมฺปิ สพฺพํ สามีจิกมฺมํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. อุภเยหิปิ ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ ทารุภณฺฑาทีนํ เตสุ อวมฺํ อกตฺวา อตฺตนา ¶ ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ วิย ปฏิสามนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโรติ เอวํ ปคฺคยฺห วจนํ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. วิหาเร อสนฺตํ ปน ปริปุจฺฉนฺตสฺส, กุหึ อมฺหากํ เทวตฺเถโร, อมฺหากํ ติสฺสตฺเถโร กทา นุ โข อาคมิสฺสตีติ เอวํ มมายนวจนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานิ ปน นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา สุปฺปสนฺเนน มุเขน โอโลกนํ สมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. เทวตฺเถโร, ติสฺสตฺเถโร อโรโค โหตุ อปฺปาพาโธติ สมนฺนาหรณํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.
ลาภาติ จีวราทโย ลทฺธปจฺจยา. ธมฺมิกาติ กุหนาทิเภทํ มิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน ภิกฺขาจริยวตฺเตน อุปฺปนฺนา. อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปีติ ปจฺฉิมโกฏิยา ปตฺเต ปริยาปนฺนํ ปตฺตสฺส อนฺโตคตํ ทฺวตฺติกฏจฺฉุภิกฺขามตฺตมฺปิ. อปฺปฏิวิภตฺตโภคีติ เอตฺถ ทฺเว ปฏิวิภตฺตานิ ¶ นาม อามิสปฏิวิภตฺตํ ปุคฺคลปฏิวิภตฺตฺจ. ตตฺถ, ‘‘เอตฺตกํ ทสฺสามิ, เอตฺตกํ น ทสฺสามี’’ติ เอวํ จิตฺเตน วิภชนํ อามิสปฏิวิภตฺตํ นาม. ‘‘อสุกสฺส ทสฺสามิ, อสุกสฺส น ทสฺสามี’’ติ เอวํ จิตฺเตน วิภชนํ ปน ปุคฺคลปฏิวิภตฺตํ นาม. ตทุภยมฺปิ อกตฺวา โย อปฺปฏิวิภตฺตํ ภฺุชติ, อยํ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี นาม.
สีลวนฺเตหิ ¶ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคีติ เอตฺถ สาธารณโภคิโน อิทํ ลกฺขณํ, ยํ ยํ ปณีตํ ลพฺภติ, ตํ ตํ เนว ลาเภน ลาภํ ชิคีสนามุเขน คิหีนํ เทติ, น อตฺตนา ปริภฺุชติ; ปฏิคฺคณฺหนฺโตว สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ คเหตฺวา คณฺฑึ ปหริตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ สงฺฆสนฺตกํ วิย ปสฺสติ. อิทํ ปน สารณียธมฺมํ โก ปูเรติ, โก น ปูเรตีติ? ทุสฺสีโล ตาว น ปูเรติ. น หิ ตสฺส สนฺตกํ สีลวนฺตา คณฺหนฺติ. ปริสุทฺธสีโล ปน วตฺตํ อขณฺเฑนฺโต ปูเรติ.
ตตฺริทํ วตฺตํ – โย หิ โอทิสฺสกํ กตฺวา มาตุ วา ปิตุ วา อาจริยุปชฺฌายาทีนํ วา เทติ, โส ทาตพฺพํ เทติ, สารณียธมฺโม ¶ ปนสฺส น โหติ, ปลิโพธชคฺคนํ นาม โหติ. สารณียธมฺโม หิ มุตฺตปลิโพธสฺเสว วฏฺฏติ, เตน ปน โอทิสฺสกํ เทนฺเตน คิลานคิลานุปฏฺากอาคนฺตุกคมิกานฺเจว นวปพฺพชิตสฺส จ สงฺฆาฏิปตฺตคฺคหณํ อชานนฺตสฺส ทาตพฺพํ. เอเตสํ ทตฺวา อวเสสํ เถราสนโต ปฏฺาย โถกํ โถกํ อทตฺวา โย ยตฺตกํ คณฺหาติ, ตสฺส ตตฺตกํ ทาตพฺพํ. อวสิฏฺเ อสติ ปุน ปิณฺฑาย จริตฺวา เถราสนโต ปฏฺาย ยํ ยํ ปณีตํ, ตํ ตํ ทตฺวา เสสํ ปริภฺุชิตพฺพํ, ‘‘สีลวนฺเตหี’’ติ วจนโต ทุสฺสีลสฺส อทาตุมฺปิ วฏฺฏติ.
อยํ ปน สารณียธมฺโม สุสิกฺขิตาย ปริสาย สุปูโร โหติ, โน อสิกฺขิตาย ปริสาย. สุสิกฺขิตาย หิ ปริสาย โย อฺโต ลภติ, โส น คณฺหาติ, อฺโต อลภนฺโตปิ ปมาณยุตฺตเมว คณฺหาติ, น อติเรกํ. อยฺจ ปน สารณียธมฺโม เอวํ ปุนปฺปุนํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ เทนฺตสฺสาปิ ทฺวาทสหิ วสฺเสหิ ปูรติ, น ตโต โอรํ. สเจ หิ ทฺวาทสเมปิ วสฺเส สารณียธมฺมปูรโก ปิณฺฑปาตปูรํ ปตฺตํ อาสนสาลายํ เปตฺวา นหายิตุํ คจฺฉติ, สงฺฆตฺเถโร จ กสฺเสโส ปตฺโตติ? สารณียธมฺมปูรกสฺสาติ วุตฺเต – ‘‘อาหรถ น’’นฺติ สพฺพํ ¶ ปิณฺฑปาตํ วิจาเรตฺวา ภฺุชิตฺวา จ ริตฺตปตฺตํ เปติ. อถ โส ภิกฺขุ ริตฺตปตฺตํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ อเสเสตฺวาว ปริภฺุชึสู’’ติ โทมนสฺสํ อุปฺปาเทติ, สารณียธมฺโม ภิชฺชติ, ปุน ทฺวาทส วสฺสานิ ปูเรตพฺโพ ¶ โหติ, ติตฺถิยปริวาสสทิโส เหส. สกึ ขณฺเฑ ชาเต ปุน ปูเรตพฺโพว. โย ปน, ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม ปตฺตคตํ อนาปุจฺฉาว สพฺรหฺมจารี ปริภฺุชนฺตี’’ติ โสมนสฺสํ ชเนติ, ตสฺส ปุณฺโณ นาม โหติ.
เอวํ ปูริตสารณียธมฺมสฺส ปน เนว อิสฺสา, น มจฺฉริยํ โหติ, โส มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, สุลภปจฺจโย; ปตฺตคตมสฺส ทียมานมฺปิ น ขียติ, ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ลภติ, ภเย วา ฉาตเก วา สมฺปตฺเต เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – เลณคิริวาสี ติสฺสตฺเถโร กิร มหาคิริคามํ อุปนิสฺสาย วสติ. ปฺาส มหาเถรา นาคทีปํ ¶ เจติยวนฺทนตฺถาย คจฺฉนฺตา คิริคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ อลทฺธา นิกฺขมึสุ. เถโร ปวิสนฺโต เต ทิสฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ลทฺธํ, ภนฺเต’’ติ? วิจริมฺหา, อาวุโสติ. โส อลทฺธภาวํ ตฺวา อาห – ‘‘ยาวาหํ, ภนฺเต, อาคจฺฉามิ, ตาว อิเธว โหถา’’ติ. มยํ, อาวุโส, ปฺาส ชนา ปตฺตเตมนมตฺตมฺปิ น ลภิมฺหาติ. เนวาสิกา นาม, ภนฺเต, ปฏิพลา โหนฺติ, อลภนฺตาปิ ภิกฺขาจารมคฺคสภาวํ ชานนฺตีติ. เถรา อาคมึสุ. เถโร คามํ ปาวิสิ. ธุรเคเหเยว มหาอุปาสิกา ขีรภตฺตํ สชฺเชตฺวา เถรํ โอโลกยมานา ิตา เถรสฺส ทฺวารํ สมฺปตฺตสฺเสว ปตฺตํ ปูเรตฺวา อทาสิ. โส ตํ อาทาย เถรานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ สงฺฆตฺเถรมาห. เถโร, ‘‘อมฺเหหิ เอตฺตเกหิ กิฺจิ น ลทฺธํ, อยํ สีฆเมว คเหตฺวา อาคโต, กึ นุ โข’’ติ เสสานํ มุขํ โอโลเกสิ. เถโร โอโลกนากาเรเนว ตฺวา – ‘‘ธมฺเมน สเมน ลทฺธปิณฺฑปาโต, นิกฺกุกฺกุจฺจา คณฺหถ ภนฺเต’’ติอาทิโต ปฏฺาย สพฺเพสํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา อตฺตนาปิ ยาวทตฺถํ ภฺุชิ.
อถ นํ ภตฺตกิจฺจาวสาเน เถรา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กทา, อาวุโส, โลกุตฺตรธมฺมํ ปฏิวิชฺฌี’’ติ? นตฺถิ เม, ภนฺเต, โลกุตฺตรธมฺโมติ. ฌานลาภีสิ, อาวุโสติ? เอตมฺปิ เม, ภนฺเต, นตฺถีติ. นนุ, อาวุโส, ปาฏิหาริยนฺติ? สารณียธมฺโม เม, ภนฺเต, ปูริโต, ตสฺส เม ¶ ธมฺมสฺส ปูริตกาลโต ¶ ปฏฺาย สเจปิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ โหติ, ปตฺตคตํ น ขียตีติ. สาธุ สาธุ, สปฺปุริส, อนุจฺฉวิกมิทํ ตุยฺหนฺติ. อิทํ ตาว ปตฺตคตํ น ขียตีติ เอตฺถ วตฺถุ.
อยเมว ปน เถโร เจติยปพฺพเต คิริภณฺฑมหาปูชาย ทานฏฺานํ คนฺตฺวา, ‘‘อิมสฺมึ าเน กึ วรภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉติ. ทฺเว สาฏกา, ภนฺเตติ. เอเต มยฺหํ ปาปุณิสฺสนฺตีติ. ตํ สุตฺวา อมจฺโจ รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘เอโก ทหโร เอวํ วทตี’’ติ. ‘‘ทหรสฺเสวํ จิตฺตํ, มหาเถรานํ ปน สุขุมสาฏกา วฏฺฏนฺตี’’ติ วตฺวา, ‘‘มหาเถรานํ ทสฺสามี’’ติ เปสิ. ตสฺส ภิกฺขุสงฺเฆ ปฏิปาฏิยา ิเต เทนฺตสฺส มตฺถเก ปิตาปิ เต สาฏกา หตฺถํ นาโรหนฺติ, อฺเว อาโรหนฺติ. ทหรสฺส ทานกาเล ปน หตฺถํ อารุฬฺหา. โส ¶ ตสฺส หตฺเถ เปตฺวา อมจฺจสฺส มุขํ โอโลเกตฺวา ทหรํ นิสีทาเปตฺวา ทานํ ทตฺวา สงฺฆํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทหรสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา, ‘‘กทา, ภนฺเต, อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺถา’’ติ อาห. โส ปริยาเยนปิ อสนฺตํ อวทนฺโต, ‘‘นตฺถิ มยฺหํ, มหาราช, โลกุตฺตรธมฺโม’’ติ อาห. นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพว อวจุตฺถาติ? อาม, มหาราช, สารณียธมฺมปูรโก อหํ, ตสฺส เม ธมฺมสฺส ปูริตกาลโต ปฏฺาย ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ปาปุณาตีติ. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, อนุจฺฉวิกมิทํ ตุมฺหากนฺติ วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ. อิทํ ภาชนียภณฺฑฏฺาเน อคฺคภณฺฑํ ปาปุณาตีติ เอตฺถ วตฺถุ.
พฺราหฺมณติสฺสภเย ปน ภาตรคามวาสิโน นาคตฺเถริยา อนาโรเจตฺวาว ปลายึสุ. เถรี ปจฺจูสกาเล, ‘‘อติวิย อปฺปนิคฺโฆโส คาโม, อุปธาเรถ ตาวา’’ติ ทหรภิกฺขุนิโย อาห. ตา คนฺตฺวา สพฺเพสํ คตภาวํ ตฺวา อาคมฺม เถริยา อาโรเจสุํ. สา สุตฺวา, ‘‘มา ตุมฺเห เตสํ คตภาวํ จินฺตยิตฺถ, อตฺตโน อุทฺเทสปริปุจฺฉาโยนิโสมนสิกาเรสุเยว โยคํ กโรถา’’ติ วตฺวา ภิกฺขาจารเวลาย ปารุปิตฺวา อตฺตทฺวาทสมา คามทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขมูเล อฏฺาสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา ทฺวาทสนฺนมฺปิ ภิกฺขุนีนํ ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา, ‘‘อยฺเย, อฺตฺถ มา คจฺฉถ, นิจฺจํ อิเธว เอถา’’ติ อาห. เถริยา ปน กนิฏฺภาตา ¶ นาคตฺเถโร นาม อตฺถิ. โส, ‘‘มหนฺตํ ภยํ, น สกฺกา อิธ ยาเปตุํ, ปรตีรํ คมิสฺสามาติ อตฺตทฺวาทสโมว อตฺตโน วสนฏฺานา นิกฺขนฺโต เถรึ ทิสฺวา คมิสฺสามี’’ติ ภาตรคามํ อาคโต. เถรี, ‘‘เถรา อาคตา’’ติ สุตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, กึ อยฺยาติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. สา, ‘‘อชฺช เอกทิวสํ วิหาเรเยว วสิตฺวา สฺเวว คมิสฺสถา’’ติ อาห. เถรา วิหารํ อคมํสุ.
เถรี ¶ ปุนทิวเส รุกฺขมูเล ปิณฺฑาย จริตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชถา’’ติ อาห. เถโร, ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เถรี’’ติ วตฺวา ตุณฺหี อฏฺาสิ. ธมฺมิโก ตาตา ปิณฺฑปาโต ¶ กุกฺกุจฺจํ อกตฺวา ปริภฺุชถาติ. วฏฺฏิสฺสติ เถรีติ. สา ปตฺตํ คเหตฺวา อากาเส ขิปิ, ปตฺโต อากาเส อฏฺาสิ. เถโร, ‘‘สตฺตตาลมตฺเต ิตมฺปิ ภิกฺขุนีภตฺตเมว, เถรีติ วตฺวา ภยํ นาม สพฺพกาลํ น โหติ, ภเย วูปสนฺเต อริยวํสํ กถยมาโน, ‘โภ ปิณฺฑปาติก ภิกฺขุนีภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วีตินามยิตฺถา’ติ จิตฺเตน อนุวทิยมาโน สนฺถมฺเภตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถ เถริโย’’ติ มคฺคํ อารุหิ.
รุกฺขเทวตาปิ, ‘‘สเจ เถโร เถริยา หตฺถโต ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิสฺสติ, น นํ นิวตฺเตสฺสามิ, สเจ ปน น ปริภฺุชิสฺสติ, นิวตฺเตสฺสามี’’ติ จินฺตยมานา ตฺวา เถรสฺส คมนํ ทิสฺวา รุกฺขา โอรุยฺห ปตฺตํ, ภนฺเต, เทถาติ ปตฺตํ คเหตฺวา เถรํ รุกฺขมูลํเยว อาเนตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ปฏิฺํ กาเรตฺวา ทฺวาทส ภิกฺขุนิโย, ทฺวาทส จ ภิกฺขู สตฺต วสฺสานิ อุปฏฺหิ. อิทํ เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺตีติ เอตฺถ วตฺถุ, ตตฺร หิ เถรี สารณียธมฺมปูริกา อโหสิ.
อขณฺฑานีติอาทีสุ ยสฺส สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา สิกฺขาปทํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส สีลํ ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย ขณฺฑํ นาม. ยสฺส ปน เวมชฺเฌ ภินฺนํ, ตสฺส มชฺเฌ ฉิทฺทสาฏโก วิย ฉิทฺทํ นาม โหติ. ยสฺส ปน ปฏิปาฏิยา ทฺเว ตีณิ ภินฺนานิ, ตสฺส ปิฏฺิยํ วา กุจฺฉิยํ วา อุฏฺิเตน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตรวณฺณา คาวี วิย สพลํ นาม โหติ. ยสฺส ปน อนฺตรนฺตรา ภินฺนานิ, ตสฺส ¶ อนฺตรนฺตรา วิสภาคพินฺทุจิตฺรา คาวี วิย กมฺมาสํ นาม โหติ. ยสฺส ปน สพฺเพน สพฺพํ อภินฺนานิ, ตสฺส ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปเนตานิ ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา ภุชิสฺสภาวกรณโต ภุชิสฺสานิ. พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา วิฺุปฺปสตฺถานิ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตา, ‘‘อิทํ นาม ตฺวํ อาปนฺนปุพฺโพ’’ติ เกนจิ ปรามฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา จ อปรามฏฺานิ. อุปจารสมาธึ วา อปฺปนาสมาธึ วา สํวตฺตยนฺตีติ สมาธิสํวตฺตนิกานีติ วุจฺจนฺติ. สีลสามฺคโต ¶ วิหรตีติ เตสุ เตสุ ทิสาภาเคสุ วิหรนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมานภาวูปคตสีโล วิหรติ ¶ . โสตาปนฺนาทีนฺหิ สีลํ สมุทฺทนฺตเรปิ เทวโลเกปิ วสนฺตานํ อฺเสํ โสตาปนฺนาทีนํ สีเลน สมานเมว โหติ, นตฺถิ มคฺคสีเล นานตฺตํ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ยายํ ทิฏฺีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. อริยาติ นิทฺโทสา. นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกา. ตกฺกรสฺสาติ โย ตถาการี โหติ. ทุกฺขกฺขยายาติ สพฺพทุกฺขกฺขยตฺถํ. ทิฏฺิสามฺคโตติ สมานทิฏฺิภาวํ อุปคโต หุตฺวา วิหรติ. อคฺคนฺติ เชฏฺกํ. สพฺพโคปานสิโย สงฺคณฺหาตีติ สงฺคาหิกํ. สพฺพโคปานสีนํ สงฺฆาฏํ กโรตีติ สงฺฆาฏนิกํ. สงฺฆาฏนิยนฺติ อตฺโถ. ยทิทํ กูฏนฺติ ยเมตํ กูฏาคารกณฺณิกาสงฺขาตํ กูฏํ นาม. ปฺจภูมิกาทิปาสาทา หิ กูฏพทฺธาว ติฏฺนฺติ. ยสฺมึ ปติเต มตฺติกํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ ปตนฺติ. ตสฺมา เอวมาห. เอวเมว โขติ ยถา กูฏํ กูฏาคารสฺส, เอวํ อิเมสมฺปิ สารณียธมฺมานํ ยา อยํ อริยา ทิฏฺิ, สา อคฺคา จ สงฺคาหิกา จ สงฺฆาฏนิยา จาติ ทฏฺพฺพา.
๔๙๓. กถฺจ, ภิกฺขเว, ยายํ ทิฏฺีติ เอตฺถ, ภิกฺขเว, ยายํ โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ วุตฺตา, สา กถํ เกน การเณน นิยฺยาตีติ อตฺโถ. ปริยุฏฺิตจิตฺโตว โหตีติ เอตฺตาวตาปิ ปริยุฏฺิตจิตฺโตเยว นาม โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. สุปฺปณิหิตํ เม มานสนฺติ มยฺหํ จิตฺตํ สุฏฺุ ปิตํ. สจฺจานํ โพธายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ โพธตฺถาย. อริยนฺติอาทีสุ ตํ าณํ ยสฺมา อริยานํ โหติ, น ปุถุชฺชนานํ, ตสฺมา อริยนฺติ วุตฺตํ. เยสํ ปน โลกุตฺตรธมฺโมปิ อตฺถิ, เตสํเยว โหติ, น ¶ อฺเสํ, ตสฺมา โลกุตฺตรนฺติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชนานํ ปน อภาวโต อสาธารณํ ปุถุชฺชเนหีติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพวาเรสุ.
๔๙๔. ลภามิ ปจฺจตฺตํ สมถนฺติ อตฺตโน จิตฺเต สมถํ ลภามีติ อตฺโถ. นิพฺพุติยมฺปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สมโถติ เอกคฺคตา. นิพฺพุตีติ กิเลสวูปสโม.
๔๙๕. ตถารูปาย ทิฏฺิยาติ เอวรูปาย โสตาปตฺติมคฺคทิฏฺิยา.
๔๙๖. ธมฺมตายาติ สภาเวน. ธมฺมตา เอสาติ สภาโว ¶ เอส. วุฏฺานํ ปฺายตีติ สงฺฆกมฺมวเสน ¶ วา เทสนาย วา วุฏฺานํ ทิสฺสติ. อริยสาวโก หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ครุกาปตฺตีสุ กุฏิการสทิสํ, ลหุกาปตฺตีสุ สหเสยฺยาทิสทิสํ อจิตฺตกาปตฺตึเยว อาปชฺชติ, ตมฺปิ อสฺจิจฺจ, โน สฺจิจฺจ, อาปนฺนํ น ปฏิจฺฉาเทติ. ตสฺมา อถ โข นํ ขิปฺปเมวาติอาทิมาห. ทหโรติ ตรุโณ. กุมาโรติ น มหลฺลโก. มนฺโทติ จกฺขุโสตาทีนํ มนฺทตาย มนฺโท. อุตฺตานเสยฺยโกติ อติทหรตาย อุตฺตานเสยฺยโก, ทกฺขิเณน วา วาเมน วา ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. องฺคารํ อกฺกมิตฺวาติ อิโต จิโต จ ปสาริเตน หตฺเถน วา ปาเทน วา ผุสิตฺวา. เอวํ ผุสนฺตานํ ปน มนุสฺสานํ น สีฆํ หตฺโถ ฌายติ, ตถา หิ เอกจฺเจ หตฺเถน องฺคารํ คเหตฺวา ปริวตฺตมานา ทูรมฺปิ คจฺฉนฺติ. ทหรสฺส ปน หตฺถปาทา สุขุมาลา โหนฺติ, โส ผุฏฺมตฺเตเนว ทยฺหมาโน จิรีติ สทฺทํ กโรนฺโต ขิปฺปํ ปฏิสํหรติ, ตสฺมา อิธ ทหโรว ทสฺสิโต. มหลฺลโก จ ทยฺหนฺโตปิ อธิวาเสติ, อยํ ปน อธิวาเสตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมาปิ ทหโรว ทสฺสิโต. เทเสตีติ อาปตฺติปฏิคฺคาหเก สภาคปุคฺคเล สติ เอกํ ทิวสํ วา รตฺตึ วา อนธิวาเสตฺวา รตฺตึ จตุรงฺเคปิ ตเม สภาคภิกฺขุโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา เทเสติเยว.
๔๙๗. อุจฺจาวจานีติ อุจฺจนีจานิ. กึ กรณียานีติ กึ กโรมีติ เอวํ วตฺวา กตฺตพฺพกมฺมานิ. ตตฺถ อุจฺจกมฺมํ นาม จีวรสฺส กรณํ รชนํ เจติเย สุธากมฺมํ อุโปสถาคารเจติยฆรโพธิฆเรสุ กตฺตพฺพกมฺมนฺติ เอวมาทิ. อวจกมฺมํ นาม ปาทโธวนมกฺขนาทิขุทฺทกกมฺมํ, อถ วา เจติเย ¶ สุธากมฺมาทิ อุจฺจกมฺมํ นาม. ตตฺเถว กสาวปจนอุทกานยนกุจฺฉกรณ นิยฺยาสพนฺธนาทิ อวจกมฺมํ นาม. อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน โหตีติ อุสฺสุกฺกภาวํ กตฺตพฺพตํ ปฏิปนฺโน โหติ. ติพฺพาเปกฺโข โหตีติ พหลปตฺถโน โหติ. ถมฺพฺจ ¶ อาลุมฺปตีติ ติณฺจ อาลุมฺปมานา ขาทติ. วจฺฉกฺจ อปจินาตีติ วจฺฉกฺจ อปโลเกติ. ตรุณวจฺฉา หิ คาวี อรฺเ เอกโต อาคตํ วจฺฉกํ เอกสฺมึ าเน นิปนฺนํ ปหาย ทูรํ น คจฺฉติ, วจฺฉกสฺส อาสนฺนฏฺาเน จรมานา ติณํ อาลุมฺปิตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา เอกนฺตํ วจฺฉกเมว จ วิโลเกติ, เอวเมว โสตาปนฺโน อุจฺจาวจานิ กึ กรณียานิ กโรนฺโต ตนฺนินฺโน โหติ, อสิถิลปูรโก ติพฺพจฺฉนฺโท พหลปตฺถโน หุตฺวาว กโรติ.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – มหาเจติเย กิร สุธากมฺเม กริยมาเน เอโก อริยสาวโก เอเกน หตฺเถน สุธาภาชนํ, เอเกน กุจฺฉํ คเหตฺวา สุธากมฺมํ กริสฺสามีติ เจติยงฺคณํ อารุฬฺโห. เอโก กายทฬฺหิพหุโล ภิกฺขุ คนฺตฺวา เถรสฺส สนฺติเก อฏฺาสิ. เถโร อฺสฺมึ สติ ปปฺโจ โหตีติ ตสฺมา านา อฺํ านํ คโต. โสปิ ภิกฺขุ ตตฺเถว อคมาสิ. เถโร ปุน อฺํ านนฺติ เอวํ กติปยฏฺาเน อาคตํ, – ‘‘สปฺปุริส มหนฺตํ เจติยงฺคณํ กึ อฺสฺมึ าเน โอกาสํ น ลภถา’’ติ อาห. น อิตโร ปกฺกามีติ.
๔๙๘. พลตาย สมนฺนาคโตติ พเลน สมนฺนาคโต. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถิกภาวํ กตฺวา, อตฺถิโก หุตฺวาติ อตฺโถ. มนสิกตฺวาติ มนสฺมึ กริตฺวา. สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวาติ อปฺปมตฺตกมฺปิ วิกฺเขปํ อกโรนฺโต สกลจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสโตติ ปิตโสโต. อริยสาวกา หิ ปิยธมฺมสฺสวนา โหนฺติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา นิทฺทายมานา วา เยน เกนจิ สทฺธึ สลฺลปมานา วา วิกฺขิตฺตจิตฺตา วา น นิสีทนฺติ, อถ โข อมตํ ปริภฺุชนฺตา วิย อติตฺตาว โหนฺติ ธมฺมสฺสวเน, อถ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห.
๕๐๐. ธมฺมตา ¶ สุสมนฺนิฏฺา โหตีติ สภาโว สุฏฺุ สมนฺเนสิโต โหติ. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ กรณวจนํ ¶ , โสตาปตฺติผลสจฺฉิกตาเณนาติ อตฺโถ. เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคโตติ เอวํ อิเมหิ สตฺตหิ มหาปจฺจเวกฺขณาเณหิ สมนฺนาคโต. อยํ ตาว อาจริยานํ สมานกถา. โลกุตฺตรมคฺโค หิ พหุจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ.
วิตณฺฑวาที ปน เอกจิตฺตกฺขณิโก นาม มคฺโค นตฺถิ, ‘‘เอวํ ภาเวยฺย สตฺต วสฺสานี’’ติ หิ วจนโต สตฺตปิ วสฺสานิ มคฺคภาวนา โหนฺติ. กิเลสา ปน ลหุ ฉิชฺชนฺตา สตฺตหิ าเณหิ ฉิชฺชนฺตีติ วทติ. โส สุตฺตํ อาหราติ วตฺตพฺโพ, อทฺธา อฺํ สุตฺตํ อปสฺสนฺโต, ‘‘อิทมสฺส ปมํ าณํ อธิคตํ โหติ, อิทมสฺส ทุติยํ าณํ…เป… อิทมสฺส สตฺตมํ าณํ อธิคตํ โหตี’’ติ อิมเมว อาหริตฺวา ทสฺเสสฺสติ. ตโต วตฺตพฺโพ กึ ปนิทํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถนฺติ. ตโต วกฺขติ – ‘‘นีตตฺถตฺถํ, ยถาสุตฺตํ ตเถว อตฺโถ’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ธมฺมตา สุสมนฺนิฏฺา โหติ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ เอตฺถ โก อตฺโถ’’ติ? อทฺธา โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยายตฺโถติ วกฺขติ. ตโต ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘มคฺคสมงฺคี ¶ ผลํ สจฺฉิกโรติ, ผลสมงฺคี’’ติ. ชานนฺโต, ‘‘ผลสมงฺคี สจฺฉิกโรตี’’ติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ, – ‘‘เอวํ สตฺตงฺคสมนฺนาคโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โสตาปตฺติผลสมนฺนาคโต โหตีติ อิธ มคฺคํ อภาเวตฺวา มณฺฑูโก วิย อุปฺปติตฺวา อริยสาวโก ผลเมว คณฺหิสฺสติ. มา สุตฺตํ เม ลทฺธนฺติ ยํ วา ตํ วา อวจ. ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน นาม อาจริยสนฺติเก วสิตฺวา พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา อตฺถรสํ วิทิตฺวา วตฺตพฺพํ โหตี’’ติ. ‘‘อิมานิ สตฺต าณานิ อริยสาวกสฺส ปจฺจเวกฺขณาณาเนว, โลกุตฺตรมคฺโค พหุจิตฺตกฺขณิโก นาม นตฺถิ, เอกจิตฺตกฺขณิโกเยวา’’ติ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ สฺชานาตุ. โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
โกสมฺพิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา
๕๐๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ. ตตฺถ ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ ลามกา สสฺสตทิฏฺิ. อิทํ นิจฺจนฺติ อิทํ สห กาเยน พฺรหฺมฏฺานํ อนิจฺจํ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วทติ. ธุวาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ธุวนฺติ ถิรํ. สสฺสตนฺติ สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ อขณฺฑํ สกลํ. อจวนธมฺมนฺติ อจวนสภาวํ. อิทฺหิ น ชายตีติอาทีสุ อิมสฺมึ าเน โกจิ ชายนโก วา ชียนโก วา มียนโก วา จวนโก วา อุปปชฺชนโก วา นตฺถีติ สนฺธาย วทติ. อิโต จ ปนฺนฺติ อิโต สห กายกา พฺรหฺมฏฺานา อุตฺตริ อฺํ นิสฺสรณํ นาม นตฺถีติ เอวมสฺส ถามคตา สสฺสตทิฏฺิ อุปฺปนฺนา โหติ. เอวํวาที ปน โส อุปริ ติสฺโส ฌานภูมิโย จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ สพฺพํ ปฏิพาหติ. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย คโต สมนฺนาคโต อฺาณี อนฺธีภูโต. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.
๕๐๒. อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมาติ มาโร กถํ ภควนฺตํ อทฺทส? โส กิร อตฺตโน ภวเน นิสีทิตฺวา กาเลน กาลํ สตฺถารํ อาวชฺเชติ – ‘‘อชฺช สมโณ โคตโม กตรสฺมึ คาเม วา นิคเม วา วสตี’’ติ. อิมสฺมึ ปน กาเล อาวชฺชนฺโต, ‘‘อุกฺกฏฺํ นิสฺสาย สุภควเน วิหรตี’’ติ ตฺวา, ‘‘กตฺถ นุ โข คโต’’ติ โอโลเกนฺโต พฺรหฺมโลกํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา, ‘‘สมโณ โคตโม พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, ยาว ตตฺถ ธมฺมกถํ กเถตฺวา พฺรหฺมคณํ มม วิสยา นาติกฺกเมติ, ตาว คนฺตฺวา ธมฺมเทสนายํ วิฉนฺทํ กริสฺสามี’’ติ สตฺถุ ปทานุปทิโก คนฺตฺวา พฺรหฺมคณสฺส อนฺตเร อทิสฺสมาเนน กาเยน อฏฺาสิ. โส, ‘‘สตฺถารา พกพฺรหฺมา อปสาทิโต’’ติ ตฺวา พฺรหฺมุโน อุปตฺถมฺโภ หุตฺวา อฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา’’ติ.
พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวาติ เอกสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีรํ ปวิสิตฺวา. มหาพฺรหฺมานํ ปน พฺรหฺมปุโรหิตานํ วา อนฺวาวิสิตุํ น สกฺโกติ. เมตมาสโทติ มา ¶ เอตํ อปสาทยิตฺถ. อภิภูติ ¶ อภิภวิตฺวา ิโต เชฏฺโก. อนภิภูโตติ อฺเหิ อนภิภูโต. อฺทตฺถูติ เอกํสวจเน ¶ นิปาโต. ทสฺสนวเสน ทโส, สพฺพํ ปสฺสตีติ ทีเปติ. วสวตฺตีติ สพฺพชนํ วเส วตฺเตติ. อิสฺสโรติ โลเก อิสฺสโร. กตฺตา นิมฺมาตาติ โลกสฺส กตฺตา จ นิมฺมาตา จ, ปถวีหิมวนฺตสิเนรุจกฺกวาฬมหาสมุทฺทจนฺทิมสูริยา จ อิมินา นิมฺมิตาติ ทีเปติ.
เสฏฺโ สชิตาติ อยํ โลกสฺส อุตฺตโม จ สชิตา จ. ‘‘ตฺวํ ขตฺติโย นาม โหหิ, ตฺวํ พฺราหฺมโณ นาม, เวสฺโส นาม, สุทฺโท นาม, คหฏฺโ นาม, ปพฺพชิโต นาม, อนฺตมโส โอฏฺโ โหหิ, โคโณ โหหี’’ติ เอวํ สตฺตานํ วิสชฺเชตา อยนฺติ ทสฺเสติ. วสี ปิตา ภูตภพฺยานนฺติ อยํ จิณฺณวสิตาย วสี, อยํ ปิตา ภูตานฺจ ภพฺยานฺจาติ วทติ. ตตฺถ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา อนฺโตอณฺฑโกเส เจว อนฺโตวตฺถิมฺหิ จ ภพฺยา นาม, พหิ นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย ภูตา. สํเสทชา ปมจิตฺตกฺขเณ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตา. โอปปาติกา ปมอิริยาปเถ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ เอตสฺส ปุตฺตาติ สฺาย, ‘‘ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ อาห.
ปถวีครหกาติ ยถา ตฺวํ เอตรหิ, ‘‘อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ ปถวึ ครหสิ ชิคุจฺฉสิ, เอวํ เตปิ ปถวีครหกา อเหสุํ, น เกวลํ ตฺวํเยวาติ ทีเปติ. อาปครหกาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. หีเน กาเย ปติฏฺิตาติ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตา. ปถวีปสํสกาติ ยถา ตฺวํ ครหสิ, เอวํ อครหิตฺวา, ‘‘นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อจฺเฉชฺชา อเภชฺชา อกฺขยา’’ติ เอวํ ปถวีปสํสกา ปถวิยา วณฺณวาทิโน อเหสุนฺติ วทติ. ปถวาภินนฺทิโนติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปถวิยา อภินนฺทิโน. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปณีเต กาเย ปติฏฺิตาติ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา. ตํ ตาหนฺติ เตน การเณน ตํ อหํ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. อุปาติวตฺติตฺโถติ อติกฺกมิตฺถ. ‘‘อุปาติวตฺติโต’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ทณฺเฑน ปฏิปฺปณาเมยฺยาติ จตุหตฺเถน มุคฺครทณฺเฑน โปเถตฺวา ปลาเปยฺย. นรกปปาเตติ สตโปริเส มหาโสพฺเภ. วิราเธยฺยาติ ¶ หตฺเถน คหณยุตฺเต วา ปาเทน ปติฏฺานยุตฺเต วา าเน คหณปติฏฺานานิ กาตุํ น สกฺกุเณยฺย. นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสีติ ภิกฺขุ นนุ ตฺวํ อิมํ พฺรหฺมปริสํ สนฺนิปติตํ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ ปสฺสสีติ พฺรหฺมุโน โอวาเท ิตานํ ¶ อิทฺธานุภาวํ ทสฺเสติ. อิติ โข มํ, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา พฺรหฺมปริสํ อุปเนสีติ, ภิกฺขเว ¶ , มาโร ปาปิมา นนุ ตฺวํ ภิกฺขุ ปสฺสสิ พฺรหฺมปริสํ ยเสน จ สิริยา จ โอภาสมานํ วิโรจมานํ โชตยมานํ, ยทิ ตฺวมฺปิ มหาพฺรหฺมุโน วจนํ อนติกฺกมิตฺวา ยเทว เต พฺรหฺมา วทติ, ตํ กเรยฺยาสิ, ตฺวมฺปิ เอวเมวํ ยเสน จ สิริยา จ วิโรเจยฺยาสีติ เอวํ วทนฺโต มํ พฺรหฺมปริสํ อุปเนสิ อุปสํหริ. มา ตฺวํ มฺิตฺโถติ มา ตฺวํ มฺิ. มาโร ตฺวมสิ ปาปิมาติ ปาปิม ตฺวํ มหาชนสฺส มารณโต มาโร นาม, ปาปกํ ลามกํ มหาชนสฺส อยสํ กรณโต ปาปิมา นามาติ ชานามิ.
๕๐๓. กสิณํ อายุนฺติ สกลํ อายุํ. เต โข เอวํ ชาเนยฺยุนฺติ เต เอวํ มหนฺเตน ตโปกมฺเมน สมนฺนาคตา, ตฺวํ ปน ปุริมทิวเส ชาโต, กึ ชานิสฺสสิ, ยสฺส เต อชฺชาปิ มุเข ขีรคนฺโธ วายตีติ ฆฏฺเฏนฺโต วทติ. ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสีติ ปถวึ อชฺโฌสาย คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา ตณฺหามานทิฏฺีหิ คณฺหิสฺสสิ. โอปสายิโก เม ภวิสฺสสีติ มยฺหํ สมีปสโย ภวิสฺสสิ, มํ คจฺฉนฺตํ อนุคจฺฉิสฺสสิ, ิตํ อุปติฏฺิสฺสสิ, นิสินฺนํ อุปนิสีทิสฺสสิ, นิปนฺนํ อุปนิปชฺชิสฺสสีติ อตฺโถ. วตฺถุสายิโกติ มม วตฺถุสฺมึ สยนโก. ยถากามกรณีโย พาหิเตยฺโยติ มยา อตฺตโน รุจิยา ยํ อิจฺฉามิ, ตํ กตฺตพฺโพ, พาหิตฺวา จ ปน ชชฺฌริกาคุมฺพโตปิ นีจตโร ลกุณฺฑฏกตโร กาตพฺโพ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ.
อิมินา เอส ภควนฺตํ อุปลาเปติ วา อปสาเทติ วา. อุปลาเปติ นาม สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ตณฺหาทีหิ ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มยิ คจฺฉนฺเต คมิสฺสสิ, ติฏฺนฺเต สฺสสิ, นิสินฺเน นิสีทิสฺสสิ, นิปนฺเน นิปชฺชิสฺสสิ, อหํ ตํ เสสชนํ ปฏิพาหิตฺวา วิสฺสาสิกํ อพฺภนฺตริกํ ¶ กริสฺสามีติ เอวํ ตาว อุปลาเปติ นาม. เสสปเทหิ ปน อปสาเทติ นาม. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ ตฺวํ ปถวึ อชฺโฌสิสฺสสิ, วตฺถุสายิโก เม ภวิสฺสสิ, มม คมนาทีนิ อาคเมตฺวา คมิสฺสสิ วา สฺสสิ วา นิสีทิสฺสสิ วา นิปชฺชิสฺสสิ วา, มม วตฺถุสฺมึ มยฺหํ อารกฺขํ คณฺหิสฺสสิ, อหํ ปน ตํ ยถากามํ กริสฺสามิ พาหิตฺวา ¶ จ ชชฺฌริกาคุมฺพโตปิ ลกุณฺฑกตรนฺติ เอวํ อปสาเทติ นาม. อยํ ปน พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต, ตสฺมา อิธ อปสาทนาว อธิปฺเปตา. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย.
อปิจ ¶ เต อหํ พฺรหฺเมติ อิทานิ ภควา, ‘‘อยํ พฺรหฺมา มานนิสฺสิโต ‘อหํ ชานามี’ติ มฺติ, อตฺตโน ยเสน สมฺมตฺโต สรีรํ ผุสิตุมฺปิ สมตฺถํ กิฺจิ น ปสฺสติ, โถกํ นิคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ คติฺจ ปชานามีติ นิปฺผตฺติฺจ ปชานามิ. ชุติฺจาติ อานุภาวฺจ ปชานามิ. เอวํ มเหสกฺโขติ เอวํ มหายโส มหาปริวาโร.
ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา วิจรนฺติ. ทิสา ภนฺติ วิโรจนาติ ทิสาสุ วิโรจมานา โอภาสนฺติ, ทิสา วา เตหิ วิโรจมานา โอภาสนฺติ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสธา โลโก, อิมินา จกฺกวาเฬน สทฺธึ จกฺกวาฬสหสฺสนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ เต วตฺตเต วโสติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ตุยฺหํ วโส วตฺตติ. ปโรปรฺจ ชานาสีติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปโรปเร อุจฺจนีเจ หีนปฺปณีเต สตฺเต ชานาสิ. อโถ ราควิราคินนฺติ น เกวลํ, ‘‘อยํ อิทฺโธ อยํ ปกติมนุสฺโส’’ติ ปโรปรํ, ‘‘อยํ ปน สราโค อยํ วีตราโค’’ติ เอวํ ราควิราคินมฺปิ ชนํ ชานาสิ. อิตฺถํภาวฺถาภาวนฺติ อิตฺถํภาโวติ อิทํ จกฺกวาฬํ. อฺถาภาโวติ อิโต เสสํ เอกูนสหสฺสํ. สตฺตานํ อาคตึ คตินฺติ เอตฺถ จกฺกวาฬสหสฺเส ปฏิสนฺธิวเสน สตฺตานํ อาคตึ, จุติวเสน คตึ จ ชานาสิ. ตุยฺหํ ปน อติมหนฺโตหมสฺมีติ สฺา โหติ, สหสฺสิพฺรหฺมา นาม ตฺวํ, อฺเสํ ปน ตยา อุตฺตริ ทฺวิสหสฺสานํ ติสหสฺสานํ จตุสหสฺสานํ ปฺจสหสฺสานํ ทสสหสฺสานํ สตสหสฺสานฺจ พฺรหฺมานํ ปมาณํ นตฺถิ, จตุหตฺถาย ¶ ปิโลติกาย ปฏปฺปมาณํ กาตุํ วายมนฺโต วิย มหนฺโตสฺมีติ สฺํ กโรสีติ นิคฺคณฺหาติ.
๕๐๔. อิธูปปนฺโนติ อิธ ปมชฺฌานภูมิยํ อุปปนฺโน. เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสีติ เตน การเณน ตํ กายํ ตฺวํ น ชานาสิ. เนว เต สมสโมติ ¶ ชานิตพฺพฏฺานํ ปตฺวาปิ ตยา สมสโม น โหมิ. อภิฺายาติ อฺาย. กุโต นีเจยฺยนฺติ ตยา นีจตรภาโว ปน มยฺหํ กุโต.
เหฏฺูปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ ¶ เวหปฺผลพฺรหฺมโลเก ปฺจกปฺปสติกํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา เหฏฺฏูปปตฺติกํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก จตุสฏฺิกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ทุติยชฺฌานํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเรสุ อฏฺกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ปมชฺฌานํ ภาเวตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, โส ปมกาเล อตฺตนา กตกมฺมฺจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ อฺาสิ, กาเล ปน คจฺฉนฺเต อุภยํ ปมุสฺสิตฺวา สสฺสตทิฏฺึ อุปฺปาเทสิ. เตน นํ ภควา, ‘‘เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสิ…เป… กุโต นีเจยฺย’’นฺติ อาห.
อถ พฺรหฺมา จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ อายฺุจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ ปุพฺเพกตกมฺมฺจ ชานาติ, หนฺท นํ ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปุจฺฉามี’’ติ สตฺถารํ อตฺตโน ปุพฺเพกตกมฺมํ ปุจฺฉิ. สตฺถา กเถสิ.
ปุพฺเพ กิเรส กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา, ‘‘ชาติชราพฺยาธิมรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานลาภี หุตฺวา คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ. ตทา จ กาเลน กาลํ สตฺถวาหา ปฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ. มรุกนฺตาเร ปน ทิวา น สกฺกา คนฺตุํ, รตฺตึ คมนํ โหติ. อถ ปุริมสกฏสฺส อคฺคยุเค ยุตฺตพลิพทฺทา คจฺฉนฺตา นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขาว ¶ อเหสุํ. อิตรสกฏานิ ตเถว นิวตฺติตฺวา อรุเณ อุคฺคเต นิวตฺติตภาวํ ชานึสุ. เตสฺจ ตทา กนฺตารํ อติกฺกมนทิวโส อโหสิ. สพฺพํ ทารุทกํ ปริกฺขีณํ, ตสฺมา, ‘‘นตฺถิ ทานิ อมฺหากํ ชีวิต’’นฺติ จินฺเตตฺวา โคเณ จกฺเกสุ พนฺธิตฺวา มนุสฺสา สกฏปจฺฉายายํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชึสุ ¶ . ตาปโสปิ กาลสฺเสว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺโน คงฺคํ โอโลกยมาโน อทฺทส คงฺคํ มหตา อุทโกเฆน วุยฺหมานํ ปวตฺติตมณิกฺขนฺธํ วิย อาคจฺฉนฺตึ. ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ โลเก เอวรูปสฺส มธุโรทกสฺส อลาเภน กิลิสฺสมานา สตฺตา’’ติ. โส เอวํ อาวชฺชนฺโต มรุกนฺตาเร ตํ สตฺถํ ทิสฺวา, ‘‘อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ, ‘‘อิโต มหา อุทกกฺขนฺโธ ฉิชฺชิตฺวา มรุกนฺตาเร สตฺถาภิมุโข คจฺฉตู’’ติ อภิฺาจิตฺเตน อธิฏฺาสิ. สหจิตฺตุปฺปาเทน มาติการุฬฺหํ วิย อุทกํ ตตฺถ อคมาสิ. มนุสฺสา อุทกสทฺเทน วุฏฺาย อุทกํ ทิสฺวา หตฺถตุฏฺา ¶ นฺหายิตฺวา ปิวิตฺวา โคเณปิ ปาเยตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ อคมํสุ. สตฺถา ตํ พฺรหฺมุโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –
‘‘ยํ ตฺวํ อปาเยสิ พหู มนุสฺเส,
ปิปาสิเต ฆมฺมนิ สมฺปเรเต;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,
สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๑) –
อิมํ คาถมาห.
อปรสฺมึ สมเย ตาปโส คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อารฺกํ คามํ นิสฺสาย วสติ. เตน จ สมเยน โจรา ตํ คามํ ปหริตฺวา หตฺถสารํ คเหตฺวา คาวิโย จ กรมเร จ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. คาโวปิ สุนขาปิ มนุสฺสาปิ มหาวิรวํ วิรวนฺติ. ตาปโส ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺชนฺโต, ‘‘มนุสฺสานํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ ¶ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาจิตฺเตน โจรานํ ปฏิปเถ จตุรงฺคินิเสนํ มาเปสิ กมฺมสชฺชํ อาคจฺฉนฺตึ. โจรา ทิสฺวา, ‘‘ราชา’’ติ เต มฺมานา วิโลปํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. ตาปโส ‘‘ยํ ยสฺส สนฺตกํ, ตํ ตสฺเสว โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ, ตํ ตเถว อโหสิ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –
‘‘ยํ ¶ เอณิกูลสฺมึ ชนํ คหีตํ,
อโมจยี คยฺหก นียมานํ;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,
สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๒) –
อิมํ คาถมาห. เอตฺถ เอณิกูลสฺมินฺติ คงฺคาตีเร.
ปุน ¶ เอกสฺมึ สมเย อุปริคงฺคาวาสิกํ กุลํ เหฏฺาคงฺคาวาสิเกน กุเลน สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา พหุํ ขาทนียโภชนียฺเจว คนฺธมาลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา คงฺคาโสเตน อาคจฺฉติ. มนุสฺสา ขาทมานา ภฺุชมานา นจฺจนฺตา คายนฺตา เทววิมาเนน คจฺฉนฺตา วิย พลวโสมนสฺสา อเหสุํ. คงฺเคยฺยโก นาโค ทิสฺวา กุปิโต, ‘‘อิเม มยิ สฺมฺปิ น กโรนฺติ, อิทานิ เน สมุทฺทเมว ปาเปสฺสามี’’ติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺาย ผณํ กตฺวา สุสฺสูการํ กโรนฺโต อฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ตาปโส ปณฺณสาลาย นิสินฺโน สุตฺวา, ‘‘อิเม คายนฺตา นจฺจนฺตา โสมนสฺสชาตา อาคจฺฉนฺติ, อิทานิ ปน ภยรวํ รวึสุ, กึ นุ โข’’ติ อาวชฺชนฺโต นาคราชํ ทิสฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุปณฺณวณฺณํ มาเปตฺวา นาคราชสฺส ทสฺเสสิ. นาคราชา ภีโต ผณํ สํหริตฺวา อุทกํ ปวิฏฺโ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –
‘‘คงฺคาย โสตสฺมึ คหีตนาวํ,
ลุทฺเทน นาเคน มนุสฺสกปฺปา;
อโมจยิตฺถ พลสา ปสยฺห,
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ;
สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๓) –
อิมํ คาถมาห.
อปรสฺมึ ¶ สมเย เอส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เกสโว นาม ตาปโส อโหสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปฺโป นาม มาณโว ¶ เกสวสฺส พทฺธจโร อนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี พุทฺธิสมฺปนฺโน อตฺถจโร อโหสิ. เกสโว ตํ วินา วตฺติตุํ นาสกฺขิ, ตํ นิสฺสาเยว ชีวิกํ กปฺเปสิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต –
‘‘กปฺโป ¶ จ เต พทฺธจโร อโหสิ,
สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺิ;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ,
สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (ชา. ๑.๗.๗๔) –
อิมํ คาถมาห.
เอวํ พฺรหฺมุโน นานตฺตภาเวสุ กตกมฺมํ สตฺถา ปกาเสสิ. สตฺถริ กเถนฺเตเยว พฺรหฺมา สลฺลกฺเขสิ, ทีปสหสฺเส อุชฺชลิเต รูปานิ วิย สพฺพกมฺมานิสฺส ปากฏานิ อเหสุํ. โส ปสนฺนจิตฺโต อิมํ คาถมาห –
‘‘อทฺธา ปชานาสิ มเมตมายุํ,
อฺมฺปิ ชานาสิ ตถา หิ พุทฺโธ;
ตถา หิ ตายํ ชลิตานุภาโว,
โอภาสยํ ติฏฺติ พฺรหฺมโลก’’นฺติ. (ชา. ๑.๗.๗๕);
อถสฺส ภควา อุตฺตริ อสมสมตํ ปกาเสนฺโต ปถวึ โข อหํ พฺรหฺเมติอาทิมาห. ตตฺถ ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตนฺติ ปถวิยา ปถวิสภาเวน อนนุภูตํ อปฺปตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ? นิพฺพานํ. ตฺหิ สพฺพสฺมา สงฺขตา นิสฺสฏตฺตา ปถวิสภาเวน อปฺปตฺตํ นาม. ตทภิฺายาติ ตํ นิพฺพานํ ชานิตฺวา สจฺฉิกตฺวา. ปถวึ นาปโหสินฺติ ปถวึ ตณฺหาทิฏฺิมานคาเหหิ น คณฺหึ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. วิตฺถาโร ปน มูลปริยาเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สเจ โข เต, มาริส, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตนาติ อิทเมว พฺรหฺมา อตฺตโน วาทิตาย สพฺพนฺติ อกฺขรํ นิทฺทิสิตฺวา อกฺขเร โทสํ คณฺหนฺโต อาห. สตฺถา ปน สกฺกายํ สนฺธาย ‘‘สพฺพ’’นฺติ วทติ, พฺรหฺมา สพฺพสพฺพํ สนฺธาย. ตฺวํ ¶ ‘‘สพฺพ’’นฺติ วทสิ, ‘‘สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูต’’นฺติ วทสิ, ยทิ สพฺพํ อนนุภูตํ นตฺถิ, อถสฺส อนนุภูตํ อตฺถิ. มา เหว เต ริตฺตกเมว ¶ อโหสิ ¶ ตุจฺฉกเมว อโหสีติ ตุยฺหํ วจนํ ริตฺตกํ มา โหตุ, ตุจฺฉกํ มา โหตูติ สตฺถารํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ.
สตฺถา ปน เอตสฺมา พฺรหฺมุนา สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน วาทีตโร, ตสฺมา อหํ สพฺพฺจ วกฺขามิ, อนนุภูตฺจ วกฺขามิ, สุณาหิ เมติ ตสฺส วาทมทฺทนตฺถํ การณํ อาหรนฺโต วิฺาณนฺติอาทิมาห. ตตฺถ วิฺาณนฺติ วิชานิตพฺพํ. อนิทสฺสนนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส อาปาถํ อนุปคมนโต อนิทสฺสนํ นาม, ปททฺวเยนปิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. อนนฺตนฺติ ตยิทํ อุปฺปาทวยอนฺตรหิตตฺตา อนนฺตํ นาม. วุตฺตมฺปิ เหตํ –
‘‘อนฺตวนฺตานิ ภูตานิ, อสมฺภูตํ อนนฺตกํ;
ภูเต อนฺตานิ ทิสฺสนฺติ, ภูเต อนฺตา ปกาสิตา’’ติ.
สพฺพโตปภนฺติ สพฺพโส ปภาสมฺปนฺนํ. นิพฺพานโต หิ อฺโ ธมฺโม สปภตโร วา โชติวนฺตตโร วา ปริสุทฺธตโร วา ปณฺฑรตโร วา นตฺถิ. สพฺพโต วา ตถา ปภูตเมว, น กตฺถจิ นตฺถีติ สพฺพโตปภํ. ปุรตฺถิมทิสาทีสุ หิ อสุกทิสาย นาม นิพฺพานํ นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. อถ วา ปภนฺติ ติตฺถสฺส นามํ, สพฺพโต ปภมสฺสาติ สพฺพโตปภํ. นิพฺพานสฺส กิร ยถา มหาสมุทฺทสฺส ยโต ยโต โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ, อติตฺถํ นาม นตฺถิ. เอวเมวํ อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ เยน เยน มุเขน นิพฺพานํ โอตริตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ติตฺถํ. นิพฺพานสฺส อติตฺถํ นาม กมฺมฏฺานํ นตฺถิ. เตน วุตฺตํ สพฺพโตปภนฺติ. ตํ ปถวิยา ปถวตฺเตนาติ ตํ นิพฺพานํ ปถวิยา ปถวีสภาเวน ตโต ปเรสํ อาปาทีนํ อาปาทิสภาเวน จ อนนุภูตํ. อิติ ยํ ตุมฺหาทิสานํ วิสยภูตํ สพฺพเตภูมกธมฺมชาตํ ตสฺส สพฺพตฺเตน ตํ วิฺาณํ อนิทสฺสนํ อนนฺตํ สพฺพโตปตํ อนนุภูตนฺติ วาทํ ปติฏฺเปสิ.
ตโต ¶ พฺรหฺมา คหิตคหิตํ สตฺถารา วิสฺสชฺชาปิโต กิฺจิ คเหตพฺพํ อทิสฺวา ลฬิตกํ กาตุกาโม หนฺท จรหิ เต, มาริส, อนฺตรธายามีติ อาห. ตตฺถ อนฺตรธายามีติ อทิสฺสมานกปาฏิหาริยํ กโรมีติ อาห. สเจ วิสหสีติ ยทิ สกฺโกสิ มยฺหํ อนฺตรธายิตุํ, อนฺตรธายสิ ¶ , ปาฏิหาริยํ กโรหีติ. เนวสฺสุ เม สกฺโกติ อนฺตรธายิตุนฺติ มยฺหํ ¶ อนฺตรธายิตุํ เนว สกฺโกติ. กึ ปเนส กาตุกาโม อโหสีติ? มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุกาโม อโหสิ. พฺรหฺมานฺหิ มูลปฏิสนฺธิกอตฺตภาโว สุขุโม, อฺเสํ อนาปาโถ, อภิสงฺขตกาเยเนว ติฏฺนฺติ. สตฺถา ตสฺส มูลปฏิสนฺธึ คนฺตุํ น อทาสิ. มูลปฏิสนฺธึ วา อคนฺตฺวาปิ เยน ตเมน อตฺตานํ อนฺตรธาเปตฺวา อทิสฺสมานโก ภเวยฺย, สตฺถา ตํ ตมํ วิโนเทสิ, ตสฺมา อนฺตรธายิตุํ นาสกฺขิ. โส อสกฺโกนฺโต วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ. พฺรหฺมคโณ เกฬิมกาสิ – ‘‘เอส โข พโก พฺรหฺมา วิมาเน นิลียติ, กปฺปรุกฺเข นิลียติ, อุกฺกุฏิโก นิสีทติ, พฺรหฺเม ตฺวํ อนฺตรหิโตมฺหี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทสิ นามาติ. โส พฺรหฺมคเณน อุปฺปณฺฑิโต มงฺกุ อโหสิ.
เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, เอเตน พฺรหฺมุนา, ‘‘หนฺท จรหิ เต, มาริส, อนฺตรธายามี’’ติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนฺตรธายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ทิสฺวา อหํ เอตทโวจํ. อิมํ คาถมภาสินฺติ กสฺมา ภควา คาถมภาสีติ? สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมึ าเน อตฺถิภาโว วา นตฺถิภาโว วา กถํ สกฺกา ชานิตุนฺติ เอวํ พฺรหฺมคณสฺส วจโนกาโส มา โหตูติ อนฺตรหิโตว คาถมภาสิ.
ตตฺถ ภเววาหํ ภยํ ทิสฺวาติ อหํ ภเว ภยํ ทิสฺวาเยว. ภวฺจ วิภเวสินนฺติ อิมฺจ กามภวาทิติวิธมฺปิ สตฺตภวํ วิภเวสินํ วิภวํ คเวสมานํ ปริเยสมานมฺปิ ปุนปฺปุนํ ภเวเยว ทิสฺวา. ภวํ นาภิวทินฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กิฺจิ ภวํ น อภิวทึ, น คเวสินฺติ อตฺโถ. นนฺทิฺจ น อุปาทิยินฺติ ภวตณฺหํ น อุปคฺฉึ, น อคฺคเหสินฺติ อตฺโถ. อิติ ¶ จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสนฺโต สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน เทสนานุสาเรน วิปสฺสนาคพฺภํ คาหาเปตฺวา ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผลามตปานํ ปิวึสุ.
อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตาติ อจฺฉริยชาตา อพฺภุตชาตา ตุฏฺิชาตา จ อเหสุํ. สมูลํ ภวํ อุทพฺพหีติ โพธิมณฺเฑ อตฺตโน ตาย ตาย เทสนาย อฺเสมฺปิ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ สมูลกํ ภวํ อุทพฺพหิ, อุทฺธริ อุปฺปาเฏสีติ อตฺโถ.
๕๐๕. ตสฺมึ ¶ ปน สมเย มาโร ปาปิมา โกธาภิภูโต หุตฺวา, ‘‘มยิ วิจรนฺเตเยว สมเณน ¶ โคตเมน ธมฺมกถํ กเถตฺวา ทสมตฺตานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มม วสํ อติวตฺติตานี’’ติ โกธาภิภูตตาย อฺตรสฺส พฺรหฺมปาริสชฺชสฺส สรีเร อธิมุจฺจิ, ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธติ สเจ ตฺวํ เอวํ อตฺตนาว จตฺตาริ สจฺจานิ อนุพุทฺโธ. มา สาวเก อุปเนสีติ คิหิสาวเก วา ปพฺพชิตสาวเก วา ตํ ธมฺมํ มา อุปนยสิ. หีเน กาเย ปติฏฺิตาติ จตูสุ อปาเยสุ ปติฏฺิตา. ปณีเต กาเย ปติฏฺิตาติ พฺรหฺมโลเก ปติฏฺิตา. อิทํ เก สนฺธาย วทติ? พาหิรปพฺพชฺชํ ปพฺพชิเต ตาปสปริพฺพาชเก. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺธุปฺปาเท กุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสฺสจิ กิฺจิ อวิจาเรตฺวา เอกจรา หุตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชึสุ, เต สนฺธาย เอวมาห. อนกฺขาตํ กุสลฺหิ มาริสาติ ปเรสํ อนกฺขาตํ อโนวทนํ ธมฺมกถาย อกถนํ กุสลํ เอตํ เสยฺโย. มา ปรํ โอวทาหีติ กาเลน มนุสฺสโลกํ, กาเลน เทวโลกํ, กาเลน พฺรหฺมโลกํ, กาเลน นาคโลกํ อาหิณฺฑนฺโต มา วิจริ, เอกสฺมึ าเน นิสินฺโน ฌานมคฺคผลสุเขน วีตินาเมหีติ. อนาลปนตายาติ อนุลฺลปนตาย. พฺรหฺมุโน จ อภินิมนฺตนตายาติ พกพฺรหฺมุโน จ อิทฺหิ, มาริส, นิจฺจนฺติอาทินา นเยน สห กายเกน พฺรหฺมฏฺาเนน นิมนฺตนวจเนน. ตสฺมาติ เตน การเณน. อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส พฺรหฺมนิมนฺตนิกํตฺเวว อธิวจนํ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ ชาตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนา
๕๐๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มารตชฺชนียสุตฺตํ. ตตฺถ โกฏฺมนุปวิฏฺโติ กุจฺฉึ ปวิสิตฺวา อนฺตานํ อนฺโต อนุปวิฏฺโ, ปกฺกาสยฏฺาเน นิสินฺโน. ครุคโร วิยาติ ครุกครุโก วิย ถทฺโธ ปาสาณปฺุชสทิโส. มาสาจิตํ ¶ มฺเติ มาสภตฺตํ ภุตฺตสฺส กุจฺฉิ วิย มาสปูริตปสิพฺพโก วิย ตินฺตมาโส วิย จาติ อตฺโถ. วิหารํ ปวิสิตฺวาติ สเจ อาหารโทเสน เอส ครุภาโว, อพฺโภกาเส จงฺกมิตุํ น สปฺปายนฺติ จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปกติปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสากาสีติ, ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อาวชฺชมาโน อตฺตโนเยว อุปาเยน มนสิ อกาสิ. สเจ ปน เถโร อตฺตโน สีลํ อาวชฺเชตฺวา, ‘‘ยํ หิยฺโย วา ปเร วา ปรสุเว วา ปริภุตฺตํ อวิปกฺกมตฺถิ, อฺโ วา โกจิ วิสภาคโทโส, สพฺพํ ชีรตุ ผาสุกํ โหตู’’ติ หตฺเถน กุจฺฉึ ปรามสิสฺส, มาโร ปาปิมา วิลียิตฺวา อคมิสฺส. เถโร ปน ตถา อกตฺวา โยนิโส มนสิ อกาสิ. มา ตถาคตํ วิเหเสสีติ ยถา หิ ปุตฺเตสุ วิเหสิเตสุ มาตาปิตโร วิเหสิตาว โหนฺติ, สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิเกสุ วิเหสิเตสุ อาจริยุปชฺฌายา วิเหสิตาว, ชนปเท วิเหสิเต ราชา วิเหสิโตว โหติ, เอวํ ตถาคตสาวเก วิเหสิเต ตถาคโต วิเหสิโตว โหติ. เตนาห – ‘‘มา ตถาคตํ วิเหเสสี’’ติ.
ปจฺจคฺคเฬ อฏฺาสีติ ปติอคฺคเฬว อฏฺาสิ. อคฺคฬํ วุจฺจติ กวาฏํ, มุเขน อุคฺคนฺตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา พหิปณฺณสาลาย กวาฏํ นิสฺสาย อฏฺาสีติ อตฺโถ.
๕๐๗. ภูตปุพฺพาหํ ปาปิมาติ กสฺมา อิทํ เทสนํ อารภิ? เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อากาสฏฺกเทวตานํ ตาว มนุสฺสคนฺโธ โยชนสเต ิตานํ อาพาธํ กโรติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘โยชนสตํ โข ราชฺ มนุสฺสคนฺโธ เทเว อุพฺพาธตี’ติ (ที. นิ. ๒.๔๑๕). อยํ ปน มาโร นาคริโก ปริโจกฺโข มเหสกฺโข อานุภาวสมฺปนฺโน เทวราชา สมาโน มม กุจฺฉิยํ ปวิสิตฺวา อนฺตานํ อนฺโต ปกฺกาสโยกาเส นิสินฺโน อติวิย ปทุฏฺโ ภวิสฺสติ. เอวรูปํ นาม ¶ เชคุจฺฉํ ¶ ปฏิกูลํ โอกาสํ ปวิสิตฺวา นิสีทิตุํ สกฺโกนฺตสฺส กิมฺํ อกรณียํ ภวิสฺสติ, กึ อฺํ ลชฺชิสฺสติ, ตฺวํ มม าติโกติ ปน วุตฺเต มุทุภาวํ อนาปชฺชมาโน นาม นตฺถิ, หนฺทสฺส ¶ าติโกฏึ ปฏิวิชฺฌิตฺวา มุทุเกเนว นํ อุปาเยน วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อิมํ เทสนมารภิ.
โส เม ตฺวํ ภาคิเนยฺโย โหสีติ โส ตฺวํ ตสฺมึ กาเล มยฺหํ ภาคิเนยฺโย โหสิ. อิทํ ปเวณิวเสน วุตฺตํ. เทวโลกสฺมึ ปน มารสฺส ปิตุ วํโส ปิตามหสฺส วํโส รชฺชํ กโรนฺโต นาม นตฺถิ, ปฺุวเสน เทวโลเก เทวราชา หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ยาวตายุกํ ตฺวา จวติ. อฺโ เอโก อตฺตนา กเตน กมฺเมน ตสฺมึ าเน อธิปติ หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. อิติ อยํ มาโรปิ ตทา ตโต จวิตฺวา ปุน กุสลํ กตฺวา อิมสฺมึ กาเล ตสฺมึ อธิปติฏฺาเน นิพฺพตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิธุโรติ วิคตธุโร, อฺเหิ สทฺธึ อสทิโสติ อตฺโถ. อปฺปกสิเรนาติ อปฺปทุกฺเขน. ปสุปาลกาติ อเชฬกปาลกา. ปถาวิโนติ มคฺคปฏิปนฺนา. กาเย อุปจินิตฺวาติ สมนฺตโต จิตกํ พนฺธิตฺวา. อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสูติ เอตฺตเกน สรีรํ ปริยาทานํ คมิสฺสตีติ จิตกสฺส ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา จตูสุ ทิสาสุ อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสุ. จิตโก ปทีปสิขา วิย ปชฺชลิ, เถรสฺส อุทกเลณํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนกาโล วิย อโหสิ. จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวาติ สมาปตฺติโต วุฏฺาย วิคตธูเม กึสุกวณฺเณ องฺคาเร มทฺทมาโน จีวรานิ วิธุนิตฺวา. สรีเร ปนสฺส อุสุมมตฺตมฺปิ นาโหสิ, จีวเรสุ อํสุมตฺตมฺปิ นชฺฌายิ, สมาปตฺติผลํ นาเมตํ.
๕๐๘. อกฺโกสถาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสถ. ปริภาสถาติ วาจาย ปริภาสถ. โรเสถาติ ฆฏฺเฏถ. วิเหเสถาติ ทุกฺขาเปถ. สพฺพเมตํ วาจาย ฆฏฺฏนสฺเสว อธิวจนํ. ยถา ตํ ทูสี มาโรติ ยถา เอเตสํ ทูสี มาโร. ลเภถ โอตารนฺติ ลเภถ ฉิทฺทํ, กิเลสุปฺปตฺติยา อารมฺมณํ ปจฺจยํ ลเภยฺยาติ อตฺโถ. มุณฺฑกาติอาทีสุ มุณฺเฑ มุณฺฑาติ สมเณ จ สมณาติ ¶ วตฺตุํ วฏฺเฏยฺย, อิเม ปน หีเฬนฺตา มุณฺฑกา สมณกาติ อาหํสุ. อิพฺภาติ คหปติกา. กิณฺหาติ กณฺหา, กาฬกาติ อตฺโถ. พนฺธุปาทาปจฺจาติ เอตฺถ พนฺธูติ พฺรหฺมา อธิปฺเปโต ¶ . ตฺหิ พฺราหฺมณา ปิตามโหติ โวหรนฺติ. ปาทานํ ¶ อปจฺจา ปาทาปจฺจา, พฺรหฺมุโน ปิฏฺิปาทโต ชาตาติ อธิปฺปาโย. เตสํ กิร อยํ ลทฺธิ – ‘‘พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน มุขโต นิกฺขนฺตา, ขตฺติยา อุรโต, เวสฺสา นาภิโต, สุทฺทา ชาณุโต, สมณา ปิฏฺิปาทโต’’ติ.
ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมาติ ฌายิโน มยํ ฌายิโน มยนฺติ. มธุรกชาตาติ อาลสิยชาตา. ฌายนฺตีติ จินฺตยนฺติ. ปชฺฌายนฺตีติอาทีนิ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตานิ. มูสิกํ มคฺคยมาโนติ สายํ โคจรตฺถาย สุสิรรุกฺขโต นิกฺขนฺตํ รุกฺขสาขาย มูสิกํ ปริเยสนฺโต. โส กิร อุปสนฺตูปสนฺโต วิย นิจฺจโลว ติฏฺติ, สมฺปตฺตกาเล มูสิกํ สหสา คณฺหาติ. โกตฺถูติ สิงฺคาโล, โสโณติปิ วทนฺติ. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ สนฺธิมฺหิ จ สมเล จ สงฺกฏิเร จ. ตตฺถ สนฺธิ นาม ฆรสนฺธิ. สมโล นาม คูถนิทฺธมนปนาฬิ. สงฺกฏิรํ นาม สงฺการฏฺานํ. วหจฺฉินฺโนติ กนฺตารโต นิกฺขนฺโต ฉินฺนวโห. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ สนฺธิมฺหิ วา สมเล วา สงฺกฏิเร วา. โสปิ หิ พทฺธคตฺโต วิย นิจฺจโล ฌายติ.
นิรยํ อุปปชฺชนฺตีติ สเจ มาโร มนุสฺสานํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวํ กเรยฺย, มนุสฺสานํ อกุสลํ น ภเวยฺย, มารสฺเสว ภเวยฺย. สรีเร ปน อนธิมุจฺจิตฺวา วิสภาควตฺถุํ วิปฺปฏิสารารมฺมณํ ทสฺเสติ, ตทา กิร โส ภิกฺขู ขิปฺปํ คเหตฺวา มจฺเฉ อชฺโฌตฺถรนฺเต วิย, ชาลํ คเหตฺวา มจฺเฉ คณฺหนฺเต วิย, เลปยฏฺึ โอฑฺเฑตฺวา สกุเณ พนฺธนฺเต วิย, สุนเขหิ สทฺธึ อรฺเ มิควํ จรนฺเต วิย, มาตุคาเม คเหตฺวา อาปานภูมิยํ นิสินฺเน วิย, นจฺจนฺเต วิย, คายนฺเต วิย, ภิกฺขุนีนํ รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ วิสภาคมนุสฺเส นิสินฺเน วิย, ิเต วิย จ กตฺวา ทสฺเสสิ. มนุสฺสา อรฺคตาปิ วนคตาปิ วิหารคตาปิ วิปฺปฏิสารารมฺมณํ ปสฺสิตฺวา อาคนฺตฺวา อฺเสํ กเถนฺติ – ‘‘สมณา ¶ เอวรูปํ อสฺสมณกํ อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺติ, เอเตสํ ทินฺเน กุโต กุสลํ, มา เอเตสํ กิฺจิ อทตฺถา’’ติ. เอวํ เต มนุสฺสา ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน สีลวนฺเต อกฺโกสนฺตา อปฺุํ ปสวิตฺวา อปายปูรกา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.
๕๐๙. อนฺวาวิฏฺาติ ¶ อาวฏฺฏิตา. ผริตฺวา วิหรึสูติ น เกวลํ ผริตฺวา วิหรึสุ. กกุสนฺธสฺส ปน ภควโต โอวาเท ตฺวา อิเม จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ.
๕๑๐. อาคตึ ¶ วา คตึ วาติ ปฏิสนฺธิวเสน อาคมนฏฺานํ วา, จุติวเสน คมนฏฺานํ วา น ชานามิ. สิยา จิตฺตสฺส อฺถตฺตนฺติ โสมนสฺสวเสน อฺถตฺตํ ภเวยฺย. สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตีติ อิธาปิ ปุริมนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถา หิ ปุพฺเพ วิปฺปฏิสารกรํ อารมฺมณํ ทสฺเสติ, เอวมิธาปิ ปสาทกรํ. โส กิร ตทา มนุสฺสานํ ทสฺสนฏฺาเน ภิกฺขู อากาเส คจฺฉนฺเต วิย, ิเต วิย ปลฺลงฺเกน นิสินฺเน วิย, อากาเส สูจิกมฺมํ กโรนฺเต วิย, โปตฺถกํ วาเจนฺเต วิย, อากาเส จีวรํ ปสาเรตฺวา กายํ อุตุํ คณฺหาเปนฺเต วิย, นวปพฺพชิเต อากาเสน จรนฺเต วิย, ตรุณสามเณเร อากาเส ตฺวา ปุปฺผานิ โอจินนฺเต วิย กตฺวา ทสฺเสสิ. มนุสฺสา อรฺคตาปิ วนคตาปิ วิหารคตาปิ ปพฺพชิตานํ ตํ ปฏิปตฺตึ ทิสฺวา อาคนฺตฺวา อฺเสํ กเถนฺติ – ‘‘ภิกฺขูสุ อนฺตมโส สามเณราปิ เอวํมหิทฺธิโก มหานุภาวา, เอเตสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ นาม โหติ, เอเตสํ เทถ สกฺกโรถา’’ติ. ตโต มนุสฺสา ภิกฺขุสงฺฆํ จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกโรนฺตา พหุํ ปฺุํ กตฺวา สคฺคปถปูรกา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.
๕๑๑. เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหรถาติ ภควา สกลชมฺพุทีปํ อาหิณฺฑนฺโต อนฺตมโส ทฺวินฺนมฺปิ ติณฺณมฺปิ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา –
‘‘อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ¶ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
อาหาเร ปฏิกูลสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต รสตณฺหาย จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ¶ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
สพฺพโลเก อนภิรติสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต โลกจิตฺเรสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
อนิจฺจสฺาปริจิเตน ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ลาภสกฺการสิโลเก จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๙) เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา –
เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรถ, อาหาเร ปฏิกูลสฺิโน สพฺพโลเก อนภิรติสฺิโน สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโนติ. อิมานิ จตฺตาริ กมฺมฏฺานานิ กเถสิ. เตปิ ภิกฺขู อิเมสุ จตูสุ กมฺมฏฺาเนสุ กมฺมํ กโรนฺตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สพฺพาสเว เขเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ, อิมานิปิ จตฺตาริ กมฺมฏฺานานิ ราคสนฺตานิ โทสโมหสนฺตานิ ราคปฏิฆาตานิ โทสโมหปฏิฆาตานิ จาติ.
๕๑๒. สกฺขรํ คเหตฺวาติ อนฺโตมุฏฺิยํ ติฏฺนปมาณํ ปาสาณํ คเหตฺวา. อยฺหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ภิกฺขู อกฺโกสาเปตฺวาปิ, พฺราหฺมณคหปติกานํ วเสน ภิกฺขุสงฺฆสฺส ลาภสกฺการํ อุปฺปาทาเปตฺวาปิ, โอตารํ อลภนฺโต อิทานิ สหตฺถา อุปกฺกมิตุกาโม อฺตรสฺส กุมารสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวรูปํ ปาสาณํ อคฺคเหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สกฺขรํ คเหตฺวา’’ติ.
สีสํ โว ภินฺทีติ สีสํ ภินฺทิ, มหาจมฺมํ ฉิชฺชิตฺวา มํสํ ทฺเวธา อโหสิ. สกฺขรา ปนสฺส สีสกฏาหํ อภินฺทิตฺวา อฏฺึ อาหจฺเจว นิวตฺตา. นาคาปโลกิตํ อปโลเกสีติ ปหารสทฺทํ สุตฺวา ยถา นาม หตฺถินาโค ¶ อิโต วา เอตฺโต วา อปโลเกตุกาโม คีวํ อปริวตฺเตตฺวา ¶ สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกติ. เอวํ สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกสิ. ยถา หิ มหาชนสฺส อฏฺีนิ โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ิตานิ, ปจฺเจกพุทฺธานํ องฺกุสลคฺคานิ, น เอวํ พุทฺธานํ. พุทฺธานํ ปน สงฺขลิกานิ วิย เอกาพทฺธานิ หุตฺวา ิตานิ, ตสฺมา ปจฺฉโต อปโลกนกาเล น สกฺกา โหติ คีวํ ปริวตฺเตตุํ. ยถา ปน หตฺถินาโค ปจฺฉาภาคํ อปโลเกตุกาโม สกลสรีเรเนว ปริวตฺตติ, เอวํ ปริวตฺติตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ภควา ยนฺเตน ปริวตฺติตา สุวณฺณปฏิมา วิย สกลสรีเรเนว นิวตฺติตฺวา อปโลเกสิ ¶ , อปโลเกตฺวา ิโต ปน, ‘‘น วายํ ทูสี มาโร มตฺตมฺาสี’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ, อยํ ทูสี มาโร ปาปํ กโรนฺโต เนว ปมาณํ อฺาสิ, ปมาณาติกฺกนฺตมกาสีติ.
สหาปโลกนายาติ กกุสนฺธสฺส ภควโต อปโลกเนเนว สห ตงฺขณฺเว. ตมฺหา จ านา จวีติ ตมฺหา จ เทวฏฺานา จุโต, มหานิรยํ อุปปนฺโนติ อตฺโถ. จวมาโน หิ น ยตฺถ กตฺถจิ ิโต จวติ, ตสฺมา วสวตฺติเทวโลกํ อาคนฺตฺวา จุโต, ‘‘สหาปโลกนายา’’ติ จ วจนโต น ภควโต อปโลกิตตฺตา จุโตติ เวทิตพฺโพ, จุติกาลทสฺสนมตฺตเมว เหตํ. อุฬาเร ปน มหาสาวเก วิรทฺธตฺตา กุทาริยา ปหฏํ วิยสฺส อายุ ตตฺเถว ฉิชฺชิตฺวา คตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโย นามเธยฺยา โหนฺตีติ ตีณิ นามานิ โหนฺติ. ฉผสฺสายตนิโกติ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ ปาฏิเยกฺกาย เวทนาย ปจฺจโย.
สงฺกุสมาหโตติ อยสูเลหิ สมาหโต. ปจฺจตฺตเวทนิโยติ สยเมว เวทนาชนโก. สงฺกุนา สงฺกุ หทเย สมาคจฺเฉยฺยาติ อยสูเลน สทฺธึ อยสูลํ หทยมชฺเฌ สมาคจฺเฉยฺย. ตสฺมึ กิร นิรเย อุปปนฺนานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติ, เถรสฺสาปิ ตาทิโส อโหสิ. อถสฺส หิ นิรยปาลา ตาลกฺขนฺธปมาณานิ อยสูลานิ อาทิตฺตานิ สมฺปชฺชลิตานิ สโชติภูตานิ สยเมว คเหตฺวา ปุนปฺปุนํ นิวตฺตมานา, – ‘‘อิมินา เต าเนน จินฺเตตฺวา ¶ ปาปํ กต’’นฺติ ปูวโทณิยํ ¶ ปูวํ โกฏฺเฏนฺโต วิย หทยมชฺฌํ โกฏฺเฏตฺวา, ปณฺณาส ชนา ปาทาภิมุขา ปณฺณาส ชนา สีสาภิมุขา โกฏฺเฏตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวํ คจฺฉนฺตา ปฺจหิ วสฺสสเตหิ อุโภ อนฺเต ปตฺวา ปุน นิวตฺตมานา ปฺจหิ วสฺสสเตหิ หทยมชฺฌํ อาคจฺฉนฺติ. ตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ.
วุฏฺานิมนฺติ วิปากวุฏฺานเวทนํ. สา กิร มหานิรเย เวทนาโต ทุกฺขตรา โหติ, ยถา หิ สิเนหปานสตฺตาหโต ปริหารสตฺตาหํ ทุกฺขตรํ, เอวํ มหานิรยทุกฺขโต อุสฺสเท วิปากวุฏฺานเวทนา ทุกฺขตราติ วทนฺติ. เสยฺยถาปิ มจฺฉสฺสาติ ปุริสสีสฺหิ วฏฺฏํ โหติ, สูเลน ปหรนฺตสฺส ปหาโร านํ น ลภติ ปริคลติ, มจฺฉสีสํ อายตํ ปุถุลํ, ปหาโร านํ ลภติ ¶ , อวิรชฺฌิตฺวา กมฺมการณา สุกรา โหติ, ตสฺมา เอวรูปํ สีสํ โหติ.
๕๑๓. วิธุรํ สาวกมาสชฺชาติ วิธุรํ สาวกํ ฆฏฺฏยิตฺวา. ปจฺจตฺตเวทนาติ สยเมว ปาฏิเยกฺกเวทนาชนกา. อีทิโส นิรโย อาสีติ อิมสฺมึ าเน นิรโย เทวทูตสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. กณฺห-ทุกฺขํ นิคจฺฉสีติ กาฬก-มาร, ทุกฺขํ วินฺทิสฺสสิ. มชฺเฌ สรสฺสาติ มหาสมุทฺทสฺส มชฺเฌ อุทกํ วตฺถุํ กตฺวา นิพฺพตฺตวิมานานิ กปฺปฏฺิติกานิ โหนฺติ, เตสํ เวฬุริยสฺส วิย วณฺโณ โหติ, ปพฺพตมตฺถเก ชลิตนฬคฺคิกฺขนฺโธ วิย จ เนสํ อจฺจิโย โชตนฺติ, ปภสฺสรา ปภาสมฺปนฺนา โหนฺติ, เตสุ วิมาเนสุ นีลเภทาทิวเสน นานตฺตวณฺณา อจฺฉรา นจฺจนฺติ. โย เอตมภิชานาตีติ โย เอตํ วิมานวตฺถุํ ชานาตีติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ วิมานเปตวตฺถุเกเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปาทงฺคุฏฺเน กมฺปยีติ อิทํ ปาสาทกมฺปนสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. โย เวชยนฺตํ ปาสาทนฺติ อิทํ จูฬตณฺหาสงฺขยวิมุตฺติสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. สกฺกํ โส ปริปุจฺฉตีติ อิทมฺปิ เตเนว ทีเปตพฺพํ. สุธมฺมายาภิโต สภนฺติ สุธมฺมสภาย สมีเป, อยํ ปน พฺรหฺมโลเก สุธมฺมสภาว, น ตาวตึสภวเน. สุธมฺมสภาวิรหิโต หิ เทวโลโก นาม นตฺถิ.
พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรนฺติ พฺรหฺมโลเก ¶ มหาโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทีหิ สาวเกหิ สทฺธึ ตสฺส เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส ¶ ภควโต โอภาสํ. เอกสฺมิฺหิ สมเย ภควา พฺรหฺมโลเก สุธมฺมาย เทวสภาย สนฺนิปติตฺวา, – ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํมหิทฺธิโก. โย อิธ อาคนฺตุํ สกฺกุเณยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺเสว พฺรหฺมคณสฺส จิตฺตมฺาย ตตฺถ คนฺตฺวา พฺรหฺมคณสฺส มตฺถเก นิสินฺโน เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา มหาโมคฺคลฺลานาทีนํ อาคมนํ จินฺเตสิ. เตปิ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปจฺเจกํ ทิสาสุ นิสีทึสุ, สกลพฺรหฺมโลโก เอโกภาโส อโหสิ. สตฺถา จตุสจฺจปฺปกาสนํ ธมฺมํ เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน อเนกานิ พฺรหฺมสหสฺสานิ มคฺคผเลสุ ปติฏฺหึสุ. ตํ สนฺธายิมา คาถา วุตฺตา, โส ปนายมตฺโถ อฺตรพฺรหฺมสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ.
วิโมกฺเขน ¶ อผสฺสยีติ ฌานวิโมกฺเขน ผุสิ. วนนฺติ ชมฺพุทีปํ. ปุพฺพวิเทหานนฺติ ปุพฺพวิเทหานฺจ ทีปํ. เย จ ภูมิสยา นราติ ภูมิสยา นรา นาม อปรโคยานกา จ อุตฺตรกุรุกา จ. เตปิ สพฺเพ ผุสีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปน อตฺโถ นนฺโทปนนฺททมเนน ทีเปตพฺโพ. วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค อิทฺธิกถาย วิตฺถาริตํ. อปฺุํ ปสวีติ อปฺุํ ปฏิลภิ. อาสํ มา อกาสิ ภิกฺขูสูติ ภิกฺขู วิเหเสมีติ เอตํ อาสํ มา อกาสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มารตชฺชนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มูลปณฺณาสฏฺกถา นิฏฺิตา.