📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

มชฺฌิมนิกาเย

มชฺฌิมปณฺณาส-อฏฺกถา

๑. คหปติวคฺโค

๑. กนฺทรกสุตฺตวณฺณนา

. เอวํ เม สุตนฺติ กนฺทรกสุตฺตํ. ตตฺถ จมฺปายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ จมฺปกรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา จมฺปาติ สงฺขมคมาสิ. คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรติ ตสฺส จมฺปานครสฺส อวิทูเร คคฺคราย นาม ราชมเหสิยา ขณิตตฺตา คคฺคราติ ลทฺธโวหารา โปกฺขรณี อตฺถิ. ตสฺสา ตีเร สมนฺตโต นีลาทิปฺจวณฺณกุสุมปฏิมณฺฑิตํ มหนฺตํ จมฺปกวนํ. ตสฺมึ ภควา กุสุมคนฺธสุคนฺเธ จมฺปกวเน วิหรติ. ตํ สนฺธาย ‘‘คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร’’ติ วุตฺตํ. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ อทสฺสิตปริจฺเฉเทน มหนฺเตน ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ. เปสฺโสติ ตสฺส นามํ. หตฺถาโรหปุตฺโตติ หตฺถาจริยสฺส ปุตฺโต. กนฺทรโก จ ปริพฺพาชโกติ กนฺทรโกติ เอวํนาโม ฉนฺนปริพฺพาชโก. อภิวาเทตฺวาติ ฉพฺพณฺณานํ ฆนพุทฺธรสฺมีนํ อนฺตรํ ปวิสิตฺวา ปสนฺนลาขารเส นิมุชฺชมาโน วิย, สิงฺคีสุวณฺณวณฺณํ ทุสฺสวรํ ปสาเรตฺวา สสีสํ ปารุปมาโน วิย, วณฺณคนฺธสมฺปนฺนจมฺปกปุปฺผานิ สิรสา สมฺปฏิจฺฉนฺโต วิย, สิเนรุปาทํ อุปคจฺฉนฺโต ปุณฺณจนฺโท วิย ภควโต จกฺกลกฺขณปฏิมณฺฑิเต อลตฺตกวณฺณผุลฺลปทุมสสฺสิริเก ปาเท วนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทีติ ฉนิสชฺชโทสวิรหิเต เอกสฺมึ โอกาเส นิสีทิ.

ตุณฺหีภู ตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมวาติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ เอกภิกฺขุสฺสาปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา นตฺถิ, สพฺเพ ภควโต เจว คารเวน อตฺตโน จ สิกฺขิตสิกฺขตาย อฺมฺํ วิคตสลฺลาปา อนฺตมโส อุกฺกาสิตสทฺทมฺปิ อกโรนฺตา สุนิขาตอินฺทขีลา วิย นิวาตฏฺาเน สนฺนิสินฺนํ มหาสมุทฺทอุทกํ วิย กาเยนปิ นิจฺจลา มนสาปิ อวิกฺขิตฺตา รตฺตวลาหกา วิย สิเนรุกูฏํ ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. ปริพฺพาชกสฺส เอวํ สนฺนิสินฺนํ ปริสํ ทิสฺวา มหนฺตํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. อุปฺปนฺนํ ปน อนฺโตหทยสฺมึเยว สนฺนิทหิตุํ อสกฺโกนฺโต ปิยสมุทาหารํ สมุฏฺาเปสิ. ตสฺมา อจฺฉริยํ โภติอาทิมาห.

ตตฺถ อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหนํ วิย นิจฺจํ น โหตีติ อจฺฉริยํ. อยํ ตาว สทฺทนโย. อยํ ปน อฏฺกถานโย, อจฺฉราโยคฺคนฺติ อจฺฉริยํ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภยมฺเปตํ วิมฺหยสฺเสวาธิวจนํ. ตํ ปเนตํ ครหอจฺฉริยํ, ปสํสาอจฺฉริยนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อจฺฉริยํ โมคฺคลฺลาน อพฺภุตํ โมคฺคลฺลาน, ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสตีติ (จูฬว. ๓๘๓; อ. นิ. ๘.๒๐), อิทํ ครหอจฺฉริยํ นาม. ‘‘อจฺฉริยํ นนฺทมาเต อพฺภุตํ นนฺทมาเต, ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสีติ (อ. นิ. ๗.๕๓) อิทํ ปสํสาอจฺฉริยํ นาม. อิธาปิ อิทเมว อธิปฺเปตํ’’ อยฺหิ ตํ ปสํสนฺโต เอวมาห.

ยาวฺจิทนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยาวาติ ปมาณปริจฺเฉโท, ยาว สมฺมา ปฏิปาทิโต, ยตฺตเกน ปมาเณน สมฺมา ปฏิปาทิโต, น สกฺกา ตสฺส วณฺเณ วตฺตุํ, อถ โข อจฺฉริยเมเวตํ อพฺภุตเมเวตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตปรมํเยวาติ เอวํ สมฺมา ปฏิปาทิโต เอโส ภิกฺขุสงฺโฆ ตสฺสาปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปรโมติ เอตปรโม, ตํ เอตปรมํ ยถา อยํ ปฏิปาทิโต, เอวํ ปฏิปาทิตํ กตฺวา ปฏิปาเทสุํ, น อิโต ภิยฺโยติ อตฺโถ. ทุติยนเย เอวํ ปฏิปาเทสฺสนฺติ, น อิโต ภิยฺโยติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปฏิปาทิโตติ อาภิสมาจาริกวตฺตํ อาทึ กตฺวา สมฺมา อปจฺจนีกปฏิปตฺติยํ โยชิโต. อถ กสฺมา อยํ ปริพฺพาชโก อตีตานาคเต พุทฺเธ ทสฺเสติ, กิมสฺส ติยทฺธชานนาณํ อตฺถีติ. นตฺถิ, นยคฺคาเห ปน ตฺวา ‘‘เยนากาเรน อยํ ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิสินฺโน ทนฺโต วินีโต อุปสนฺโต, อตีตพุทฺธาปิ เอตปรมํเยว กตฺวา ปฏิปชฺชาเปสุํ, อนาคตพุทฺธาปิ ปฏิปชฺชาเปสฺสนฺติ, นตฺถิ อิโต อุตฺตริ ปฏิปาทนา’’ติ มฺมาโน อนุพุทฺธิยา เอวมาห.

. เอวเมตํ กนฺทรกาติ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. ภควา กิร ตํ สุตฺวา ‘‘กนฺทรก ตฺวํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสนฺโตติ วทสิ, อิมสฺส ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปสนฺตการณํ ตุยฺหํ อปากฏํ, น หิ ตฺวํ สมตึส ปารมิยา ปูเรตฺวา กุสลมูลํ ปริปาเจตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ, มยา ปน ปารมิโย ปูเรตฺวา าตตฺถจริยํ โลกตฺถจริยํ พุทฺธตฺถจริยฺจ โกฏึ ปาเปตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธํ, มยฺหํ เอเตสํ อุปสนฺตการณํ ปากฏ’’นฺติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

สนฺติ หิ กนฺทรกาติ อยมฺปิ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. ภควโต กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อิมํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสนฺโตติ วทติ, อยฺจ ภิกฺขุสงฺโฆ กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา กุหกภาเวน อิริยาปถํ สณฺเปนฺโต จิตฺเตน อนุปสนฺโต น อุปสนฺตาการํ ทสฺเสติ. เอตฺถ ปน ภิกฺขุสงฺเฆ ปฏิปทํ ปูรยมานาปิ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มตฺถกํ ปตฺวา ิตภิกฺขูปิ อตฺถิ, ตตฺถ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มตฺถกํ ปตฺตา อตฺตนา ปฏิวิทฺธคุเณเหว อุปสนฺตา, ปฏิปทํ ปูรยมานา อุปริมคฺคสฺส วิปสฺสนาย อุปสนฺตา, อิโต มุตฺตา ปน อวเสสา จตูหิ สติปฏฺาเนหิ อุปสนฺตา. ตํ เนสํ อุปสนฺตการณํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อยํ ภิกฺขุสงฺโฆ อุปสนฺโต’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺติ หิ กนฺทรกา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อรหนฺโต ขีณาสวาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มูลปริยายสุตฺตวณฺณนายเมว วุตฺตํ. เสขปฏิปทมฺปิ ตตฺเถว วิตฺถาริตํ. สนฺตตสีลาติ สตตสีลา นิรนฺตรสีลา. สนฺตตวุตฺติโนติ ตสฺเสว เววจนํ, สนฺตตชีวิกา วาติปิ อตฺโถ. ตสฺมึ สนฺตตสีเล ตฺวาว ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, น ทุสฺสีลฺยํ มรณํ ปาปุณนฺตีติ อตฺโถ.

นิปกาติ เนปกฺเกน สมนฺนาคตา ปฺวนฺโต. นิปกวุตฺติโนติ ปฺาย วุตฺติโน, ปฺาย ตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺติ. ยถา เอกจฺโจ สาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ ชีวิตการณา ฉสุ อโคจเรสุ จรติ, เวสิยาโคจโร โหติ, วิธวถุลฺลกุมาริกปณฺฑกปานาคารภิกฺขุนิโคจโร โหติ. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน (วิภ. ๕๑๔), เวชฺชกมฺมํ กโรติ, ทูตกมฺมํ กโรติ, ปหิณกมฺมํ กโรติ, คณฺฑํ ผาเลติ, อรุมกฺขนํ เทติ, อุทฺธํวิเรจนํ เทติ, อโธวิเรจนํ เทติ, นตฺถุเตลํ ปจติ, ปิวนเตลํ ปจติ, เวฬุทานํ, ปตฺตทานํ, ปุปฺผทานํ, ผลทานํ, สินานทานํ, ทนฺตกฏฺทานํ, มุโขทกทานํ, จุณฺณมตฺติกทานํ เทติ, จาฏุกมฺยํ กโรติ, มุคฺคสูปิยํ, ปาริภฏุํ, ชงฺฆเปสนิยํ กโรตีติ เอกวีสติวิธาย อเนสนาย ชีวิกํ กปฺเปนฺโต อนิปกวุตฺติ นาม โหติ, น ปฺาย ตฺวา ชีวิกํ กปฺเปติ, ตโต กาลกิริยํ กตฺวา สมณยกฺโข นาม หุตฺวา ‘‘ตสฺส สงฺฆาฏิปิ อาทิตฺตา โหติ สมฺปชฺชลิตา’’ติ วุตฺตนเยน มหาทุกฺขํ อนุโภติ. เอวํวิธา อหุตฺวา ชีวิตเหตุปิ สิกฺขาปทํ อนติกฺกมนฺโต จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺาย ยถาพลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา รถวินีตปฏิปทํ, มหาโคสิงฺคปฏิปทํ, มหาสุฺตปฏิปทํ, อนงฺคณปฏิปทํ, ธมฺมทายาทปฏิปทํ, นาลกปฏิปทํ, ตุวฏฺฏกปฏิปทํ, จนฺโทปมปฏิปทนฺติ อิมานิ อริยปฏิปทานิ ปูเรนฺโต จตุปจฺจย-สนฺโตส-ภาวนาราม-อริยวํสปฏิปตฺติยํ กายสกฺขิโน หุตฺวา อนีกา นิกฺขนฺตหตฺถี วิย ยูถา วิสฺสฏฺสีโห วิย นิปจฺฉาพนฺธมหานาวา วิย จ คมนาทีสุ เอกวิหาริโน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อชฺชอชฺเชว อรหตฺตนฺติ ปวตฺตอุสฺสาหา วิหรนฺตีติ อตฺโถ.

สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺปิตจิตฺตา หุตฺวา. เสสา สติปฏฺานกถา เหฏฺา วิตฺถาริตาว. อิธ ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สติปฏฺานา กถิตา, เอตฺตเกน ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปสนฺตการณํ กถิตํ โหติ.

. ยาว สุปฺตฺตาติ ยาว สุฏฺปิตา สุเทสิตา. มยมฺปิ หิ, ภนฺเตติ อิมินา เอส อตฺตโน การกภาวํ ทสฺเสติ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ อุกฺขิปติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย, มยมฺปิ หิ, ภนฺเต, คิหิ…เป… สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา วิหราม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปน อยเมว กสิ จ พีชฺจ ยุคนงฺคลฺจ ผาลปาจนฺจ, ตสฺมา ภิกฺขุสงฺโฆ สพฺพกาลํ สติปฏฺานปรายโณ, มยํ ปน กาเลน กาลํ โอกาสํ ลภิตฺวา เอตํ มนสิการํ กโรม, มยมฺปิ การกา, น สพฺพโส วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานาเยวาติ. มนุสฺสคหเนติ มนุสฺสานํ อชฺฌาสยคหเนน คหนตา, อชฺฌาสยสฺสาปิ เนสํ กิเลสคหเนน คหนตา เวทิตพฺพา. กสฏสาเยฺเยสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อปริสุทฺธฏฺเน กสฏตา, เกราฏิยฏฺเน สาเยฺยตา เวทิตพฺพา. สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานาตีติ เอวํ คหนกสฏเกราฏิยานํ มนุสฺสานํ หิตาหิตปฏิปทํ ยาว สุฏฺุ ภควา ชานาติ. ยทิทํ ปสโวติ เอตฺถ สพฺพาปิ จตุปฺปทชาติ ปสโวติ อธิปฺเปตา. ปโหมีติ สกฺโกมิ. ยาวตเกน อนฺตเรนาติ ยตฺตเกน ขเณน. จมฺปํ คตาคตํ กริสฺสตีติ อสฺสมณฺฑลโต ยาว จมฺปานครทฺวารา คมนฺจ อาคมนฺจ กริสฺสติ. สาเยฺยานีติ สตฺตานิ. กูเฏยฺยานีติ กูฏตฺตานิ. วงฺเกยฺยานีติ วงฺกตฺตานิ. ชิมฺเหยฺยานีติ ชิมฺหตฺตานิ. ปาตุกริสฺสตีติ ปกาเสสฺสติ ทสฺเสสฺสติ. น หิ สกฺกา เตน ตานิ เอตฺตเกน อนฺตเรน ทสฺเสตุํ.

ตตฺถ ยสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน าตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา สฺสามีติ น โหติ, ตสฺมึ าตุกามฏฺาเนเยว นิขาตตฺถมฺโภ วิย จตฺตาโร ปาเท นิจฺจเล กตฺวา ติฏฺติ, อยํ สโ นาม. ยสฺส ปน กิสฺมิฺจิเทว าเน อวจฺฉินฺทิตฺวา ขนฺธคตํ ปาเตตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา ปาเตสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว อวจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตติ, อยํ กูโฏ นาม. ยสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน มคฺคา อุกฺกมฺม นิวตฺติตฺวา ปฏิมคฺคํ อาโรหิตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา เอวํ กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว มคฺคา อุกฺกมฺม นิวตฺติตฺวา ปฏิมคฺคํ อาโรหติ, อยํ วงฺโก นาม. ยสฺส ปน กาเลน วามโต กาเลน ทกฺขิณโต กาเลน อุชุมคฺเคเนว คนฺตุกามสฺส สโต ยํ านํ มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ, ปุรโต คนฺตฺวา วฺเจตฺวา เอวํ กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว กาเลน วามโต กาเลน ทกฺขิณโต กาเลน อุชุมคฺคํ คจฺฉติ, ตถา ลณฺฑํ วา ปสฺสาวํ วา วิสฺสชฺเชตุกามสฺส สโต อิทํ านํ สุสมฺมฏฺํ อากิณฺณมนุสฺสํ รมณียํ, อิมสฺมึ าเน เอวรูปํ กาตุํ น ยุตฺตํ, ปุรโต คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนาเน กริสฺสามีติ น โหติ, ตตฺเถว กโรติ, อยํ ชิมฺโห นาม. อิติ อิมํ จตุพฺพิธมฺปิ กิริยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สพฺพานิ ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ ปาตุกริสฺสตีติ เอวํ กโรนฺตาปิ เต สาทโย ตานิ สาเยฺยาทีนิ ปาตุกโรนฺติ นาม.

เอวํ ปสูนํ อุตฺตานภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มนุสฺสานํ คหนภาวํ ทสฺเสนฺโต อมฺหากํ ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ทาสาติ อนฺโตชาตกา วา ธนกฺกีตา วา กรมรานีตา วา สยํ วา ทาสพฺยํ อุปคตา. เปสฺสาติ เปสนการกา. กมฺมกราติ ภตฺตเวตนภตา. อฺถาว กาเยนาติ อฺเเนวากาเรน กาเยน สมุทาจรนฺติ, อฺเเนวากาเรน วาจาย, อฺเน จ เนสํ อากาเรน จิตฺตํ ิตํ โหตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ เย สมฺมุขา สามิเก ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺติ, หตฺถโต ภณฺฑกํ คณฺหนฺติ, อิมํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิมํ คณฺหนฺตา เสสานิปิ อาสน-ปฺาปน-ตาลวณฺฏพีชน-ปาทโธวนาทีนิ สพฺพานิ กิจฺจานิ กโรนฺติ, ปรมฺมุขกาเล ปน เตลมฺปิ อุตฺตรนฺตํ น โอโลเกนฺติ, สตคฺฆนเกปิ สหสฺสคฺฆนเกปิ กมฺเม ปริหายนฺเต นิวตฺติตฺวา โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉนฺติ, อิเม อฺถา กาเยน สมุทาจรนฺติ นาม. เย ปน สมฺมุขา ‘‘อมฺหากํ สามิ อมฺหากํ อยฺโย’’ติอาทีนิ วตฺวา ปสํสนฺติ, ปรมฺมุขา อวตฺตพฺพํ นาม นตฺถิ, ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ วทนฺติ, อิเม อฺถา วาจาย สมุทาจรนฺติ นาม.

. จตฺตาโรเม เปสฺสปุคฺคลาติ อยมฺปิ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. อยฺหิ เปสฺโส ‘‘ยาวฺจิทํ, ภนฺเต, ภควา เอวํ มนุสฺสคหเณ เอวํ มนุสฺสกสเฏ เอวํ มนุสฺสสาเยฺเย วตฺตมาเน สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานาตี’’ติ อาห. ปุริเม จ ตโย ปุคฺคลา อหิตปฏิปทํ ปฏิปนฺนา, อุปริ จตุตฺโถ หิตปฏิปทํ, เอวมหํ สตฺตานํ หิตาหิตํ ชานามีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เหฏฺา กนฺทรกสฺส กถาย สทฺธึ โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยาวฺจิทํ โภตา โคตเมน สมฺมา ภิกฺขุสงฺโฆ ปฏิปาทิโต’’ติ. อถสฺส ภควา ‘‘ปุริเม ตโย ปุคฺคเล ปหาย อุปริ จตุตฺถปุคฺคลสฺส หิตปฏิปตฺติยํเยว ปฏิปาเทมี’’ติ ทสฺเสนฺโตปิ อิมํ เทสนํ อารภิ. สนฺโตติ อิทํ สํวิชฺชมานาติ ปทสฺเสว เววจนํ. ‘‘สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา’’ติ (วิภ. ๕๔๒) เอตฺถ หิ นิรุทฺธา สนฺตาติ วุตฺตา. ‘‘สนฺตา เอเต วิหารา อริยสฺส วินเย วุจฺจนฺตี’’ติ เอตฺถ (ม. นิ. ๑.๘๒) นิพฺพุตา. ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ เอตฺถ (ชา. ๒.๒๑.๔๑๓) ปณฺฑิตา. อิธ ปน วิชฺชมานา อุปลพฺภมานาติ อตฺโถ.

อตฺตนฺตปาทีสุ อตฺตานํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ อตฺตนฺตโป. อตฺตโน ปริตาปนานุโยคํ อตฺตปริตาปนานุโยคํ. ปรํ ตปติ ทุกฺขาเปตีติ ปรนฺตโป. ปเรสํ ปริตาปนานุโยคํ ปรปริตาปนานุโยคํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. นิจฺฉาโตติ ฉาตํ วุจฺจติ ตณฺหา, สา อสฺส นตฺถีติ นิจฺฉาโต. สพฺพกิเลสานํ นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต. อนฺโต ตาปนกิเลสานํ อภาวา สีตโล ชาโตติ สีติภูโต. ฌานมคฺคผลนิพฺพานสุขานิ ปฏิสํเวเทตีติ สุขปฏิสํเวที. พฺรหฺมภูเตน อตฺตนาติ เสฏฺภูเตน อตฺตนา. จิตฺตํ อาราเธตีติ จิตฺตํ สมฺปาเทติ, ปริปูเรติ คณฺหาติ ปสาเทตีติ อตฺโถ.

. ทุกฺขปฏิกฺกูลนฺติ ทุกฺขสฺส ปฏิกูลํ, ปจฺจนีกสณฺิตํ ทุกฺขํ อปตฺถยมานนฺติ อตฺโถ.

. ปณฺฑิโตติ อิธ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโตติ น วตฺตพฺโพ, สติปฏฺาเนสุ ปน กมฺมํ กโรตีติ ปณฺฑิโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มหาปฺโติ อิทมฺปิ มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติอาทินา มหาปฺลกฺขเณน น วตฺตพฺพํ, สติปฏฺานปริคฺคาหิกาย ปน ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา มหาปฺโติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต อคมิสฺสาติ มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต หุตฺวา คโต ภเวยฺย, โสตาปตฺติผลํ ปาปุเณยฺยาติ อตฺโถ. กึ ปน เยสํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว ิเตปิ เตสํ อนฺตราโย โหตีติ. อาม โหติ, น ปน พุทฺเธ ปฏิจฺจ, อถ โข กิริยปริหานิยา วา ปาปมิตฺตตาย วา โหติ. ตตฺถ กิริยปริหานิยา โหติ นาม – สเจ หิ ธมฺมเสนาปติ ธนฺชานิสฺส พฺราหฺมณสฺส อาสยํ ตฺวา ธมฺมํ อเทสยิสฺสา, โส พฺราหฺมโณ โสตาปนฺโน อภวิสฺสา, เอวํ ตาว กิริยปริหานิยา โหติ. ปาปมิตฺตตาย โหติ นาม – สเจ หิ อชาตสตฺตุ เทวทตฺตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมํ นากริสฺสา, สามฺผลสุตฺตกถิตทิวเสว โสตาปนฺโน อภวิสฺสา, ตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมสฺส กตตฺตา ปน น โหติ, เอวํ ปาปมิตฺตตาย โหติ. อิมสฺสาปิ อุปาสกสฺส กิริยปริหานิ ชาตา, อปรินิฏฺิตาย เทสนาย อุฏฺหิตฺวา ปกฺกนฺโต. อปิจ, ภิกฺขเว, เอตฺตาวตาปิ เปสฺโส หตฺถาโรหปุตฺโต มหตา อตฺเถน สํยุตฺโตติ กตเรน มหนฺเตน อตฺเถน? ทฺวีหิ อานิสํเสหิ. โส กิร อุปาสโก สงฺเฆ จ ปสาทํ ปฏิลภิ, สติปฏฺานปริคฺคหณตฺถาย จสฺส อภินโว นโย อุทปาทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘มหตา อตฺเถน สํยุตฺโต’’ติ. กนฺทรโก ปน สงฺเฆ ปสาทเมว ปฏิลภิ. เอตสฺส ภควา กาโลติ เอตสฺส ธมฺมกฺขานสฺส, จตุนฺนํ วา ปุคฺคลานํ วิภชนสฺส กาโล.

. โอรพฺภิกาทีสุ อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา, อุรพฺเภ หนตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ เอเสว นโย. ลุทฺโทติ ทารุโณ กกฺขโฬ. มจฺฉฆาตโกติ มจฺฉพนฺธเกวฏฺโฏ. พนฺธนาคาริโกติ พนฺธนาคารโคปโก. กุรุรกมฺมนฺตาติ ทารุณกมฺมนฺตา.

. มุทฺธาวสิตฺโตติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺโต. ปุรตฺถิเมน นครสฺสาติ นครโต ปุรตฺถิมทิสาย. สนฺถาคารนฺติ ยฺสาลํ. ขราชินํ นิวาเสตฺวาติ สขุรํ อชินจมฺมํ นิวาเสตฺวา. สปฺปิเตเลนาติ สปฺปินา จ เตเลน จ. เปตฺวา หิ สปฺปึ อวเสโส โย โกจิ สฺเนโห เตลนฺติ วุจฺจติ. กณฺฑูวมาโนติ นขานํ ฉินฺนตฺตา กณฺฑูวิตพฺพกาเล เตน กณฺฑูวมาโน. อนนฺตรหิตายาติ อสนฺถตาย. สรูปวจฺฉายาติ สทิสวจฺฉาย. สเจ คาวี เสตา โหติ, วจฺโฉปิ เสตโกว. สเจ คาวี กพรา วา รตฺตา วา, วจฺโฉปิ ตาทิโส วาติ เอวํ สรูปวจฺฉาย. โส เอวมาหาติ โส ราชา เอวํ วเทติ. วจฺฉตราติ ตรุณวจฺฉกภาวํ อติกฺกนฺตา พลววจฺฉา. วจฺฉตรีสุปิ เอเสว นโย. พริหิสตฺถายาติ ปริกฺเขปกรณตฺถาย เจว ยฺภูมิยํ อตฺถรณตฺถาย จ. เสสํ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถาริตตฺตา อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กนฺทรกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา

๑๗. เอวํ เม สุตนฺติ อฏฺกนาครสุตฺตํ. ตตฺถ เพลุวคามเกติ เวสาลิยา ทกฺขิณปสฺเส อวิทูเร เพลุวคามโก นาม อตฺถิ, ตํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถ. ทสโมติ โส หิ ชาติโคตฺตวเสน เจว สารปฺปตฺตกุลคณนาย จ ทสเม าเน คณียติ, เตนสฺส ทสโมตฺเวว นามํ ชาตํ. อฏฺกนาคโรติ อฏฺกนครวาสี. กุกฺกุฏาราโมติ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต อาราโม.

๑๘. เตน ภควตา…เป… อกฺขาโตติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ, โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา, เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย สพฺพํ เยฺยธมฺมํ ปสฺสตา. อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อรีนํ หตตฺตา ปจฺจยาทีนฺจ อรหตฺตา อรหตา, สมฺมา สามฺจ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหตา, สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ การเณหิ โถมิเตน. อตฺถิ นุ โข เอโก ธมฺโม อกฺขาโตติ.

๑๙. อภิสงฺขตนฺติ กตํ อุปฺปาทิตํ. อภิสฺเจตยิตนฺติ เจตยิตํ ปกปฺปิตํ. โส ตตฺถ ิโตติ โส ตสฺมึ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ิโต. ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยาติ ปททฺวเยหิ สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค วุตฺโต. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺเพน สพฺพํ ฉนฺทราคํ ปริยาทิยิตุํ สกฺโกนฺโต อรหา โหติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ. โส สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราคสฺส อปฺปหีนตฺตา จตุตฺถชฺฌานเจตนาย สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ, อยํ อาจริยานํ สมานกถา.

วิตณฺฑวาที ปนาห ‘‘เตเนว ธมฺมราเคนาติ วจนโต อกุสเลน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตตี’’ติ โส ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ, อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต อิทเมว อาหริสฺสติ, ตโต วตฺตพฺโพ ‘‘กึ ปนิทํ สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ นีตตฺถ’’นฺติ, อทฺธา นีตตฺถนฺติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – เอวํ สนฺเต อนาคามิผลตฺถิเกน สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, ฉนฺทราเค อุปฺปาทิเต อนาคามิผลํ ปฏิวิทฺธํ ภวิสฺสติ ‘‘มา สุตฺตํ เม ลทฺธ’’นฺติ ยํ วา ตํ วา ทีเปหิ. ปฺหํ กเถนฺเตน หิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา อตฺถรสํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ, อกุสเลน หิ สคฺเค, กุสเลน วา อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย, อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน โทสเชน กมฺเมน โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย’’ติ –

เอวํ ปฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ สฺชานาตุ, โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

ยถา จ ปน อิมสฺมึ สุตฺเต, เอวํ มหามาลุกฺโยวาเทปิ มหาสติปฏฺาเนปิ กายคตาสติสุตฺเตปิ สมถวิปสฺสนา กถิตา. ตตฺถ อิมสฺมึ สุตฺเต สมถวเสน คจฺฉโตปิ วิปสฺสนาวเสน คจฺฉโตปิ สมถธุรเมว ธุรํ, มหามาลุกฺโยวาเท วิปสฺสนาว ธุรํ, มหาสติปฏฺานํ ปน วิปสฺสนุตฺตรํ นาม กถิตํ, กายคตาสติสุตฺตํ สมถุตฺตรนฺติ.

อยํ โข คหปติ…เป… เอกธมฺโม อกฺขาโตติ เอกธมฺมํ ปุจฺฉิเตน อยมฺปิ เอกธมฺโมติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา เอกธมฺโม นาม ชาโต. มหาสกุลุทายิสุตฺตสฺมิฺหิ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอกธมฺโม นาม ชาตานิ, อิธ เอกาทสปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโมติ อาคตานิ. อมตุปฺปตฺติยตฺเถน วา สพฺพานิปิ เอกธมฺโมติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๒๑. นิธิมุขํ คเวสนฺโตติ นิธึ ปริเยสนฺโต. สกิเทวาติ เอกปโยเคน. กถํ ปน เอกปโยเคเนว เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหตีติ. อิเธกจฺโจ อรฺเ นิธึ คเวสมาโน จรติ, ตเมนํ อฺตโร อตฺถจรโก ทิสฺวา ‘‘กึ โภ จรสี’’ติ ปุจฺฉติ. โส ‘‘ชีวิตวุตฺตึ ปริเยสามี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘เตน หิ สมฺม อาคจฺฉ, เอตํ ปาสาณํ ปวตฺเตหี’’ติ อาห. โส ตํ ปวตฺเตตฺวา อุปรูปริ ปิตา วา กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา วา เอกาทส กุมฺภิโย ปสฺเสยฺย, เอวํ เอกปโยเคน เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหติ.

อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺตีติ อฺติตฺถิยา หิ ยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตสฺส สิปฺปุคฺคหณโต ปุเร วา ปจฺฉา วา อนฺตรนฺตเร วา เคหโต นีหริตฺวา ธนํ เทนฺติ. เยสํ เคเห นตฺถิ, เต าติสภาคโต ปริเยสนฺติ, ตถา อลภมานา ภิกฺขมฺปิ จริตฺวา เทนฺติเยว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

กิมงฺคํ ปนาหนฺติ พาหิรกา ตาว อนิยฺยานิเกปิ สาสเน สิปฺปมตฺตทายกสฺส ธนํ ปริเยสนฺติ; อหํ ปน เอวํวิเธ นิยฺยานิกสาสเน เอกาทสวิธํ อมตุปฺปตฺติปฏิปทํ เทเสนฺตสฺส อาจริยสฺส ปูชํ กึ น กริสฺสามิ, กริสฺสามิเยวาติ วทติ. ปจฺเจกทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทสีติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอเกกํ ทุสฺสยุคมทาสีติ อตฺโถ. สมุทาจารวจนํ ปเนตฺถ เอวรูปํ โหติ, ตสฺมา อจฺฉาเทสีติ วุตฺตํ. ปฺจสตวิหารนฺติ ปฺจสตคฺฆนิกํ ปณฺณสาลํ กาเรสีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เสขสุตฺตวณฺณนา

๒๒. เอวํ เม สุตนฺติ เสขสุตฺตํ. ตตฺถ นวํ สนฺถาคารนฺติ อธุนา การิตํ สนฺถาคารํ, เอกา มหาสาลาติ อตฺโถ. อุยฺโยคกาลาทีสุ หิ ราชาโน ตตฺถ ตฺวา ‘‘เอตฺตกา ปุรโต คจฺฉนฺตุ, เอตฺตกา ปจฺฉา, เอตฺตกา อุโภหิ ปสฺเสหิ, เอตฺตกา หตฺถีสุ อภิรุหนฺตุ, เอตฺตกา อสฺเสสุ, เอตฺตกา รเถสุ ติฏฺนฺตู’’ติ เอวํ สนฺถํ กโรนฺติ, มริยาทํ พนฺธนฺติ, ตสฺมา ตํ านํ สนฺถาคารนฺติ วุจฺจติ. อุยฺโยคฏฺานโต จ อาคนฺตฺวา ยาว เคเหสุ อลฺลโคมยปริภณฺฑาทีนิ กโรนฺติ, ตาว ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ เต ราชาโน ตตฺถ สนฺถมฺภนฺตีติปิ สนฺถาคารํ. เตสํ ราชูนํ สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคารํ คณราชาโน หิ เต, ตสฺมา อุปฺปนฺนกิจฺจํ เอกสฺส วเสน น ฉิชฺชติ, สพฺเพสํ ฉนฺโท ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา สพฺเพ ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา อนุสาสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สห อตฺถานุสาสนํ อคารนฺติปิ สนฺถาคาร’’นฺติ. ยสฺมา ปเนเต ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิมสฺมึ กาเล กสิตุํ วฏฺฏติ, อิมสฺมึ กาเล วปิตุ’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ฆราวาสกิจฺจานิ สมฺมนฺตยนฺติ, ตสฺมา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ ฆราวาสํ ตตฺถ สนฺถรนฺตีติปิ สนฺถาคารํ. อจิรการิตํ โหตีติ กฏฺกมฺม-สิลากมฺม-จิตฺตกมฺมาทิวเสน สุสชฺชิตํ เทววิมานํ วิย อธุนา นิฏฺาปิตํ. สมเณน วาติ เอตฺถ ยสฺมา ฆรวตฺถุปริคฺคหกาเลเยว เทวตา อตฺตโน วสนฏฺานํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา ‘‘เทเวน วา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนา’’ติ วุตฺตํ.

เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ สนฺถาคารํ นิฏฺิตนฺติ สุตฺวา ‘‘คจฺฉาม, นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ทฺวารโกฏฺกโต ปฏฺาย สพฺพํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ สนฺถาคารํ เทววิมานสทิสํ อติวิย มโนรมํ สสฺสิริกํ เกน ปมํ ปริภุตฺตํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส ปมํ ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ทกฺขิเณยฺยวเสน ทิยฺยมาเนปิ สตฺถุโนว อนุจฺฉวิกํ, ตสฺมา ปมํ สตฺถารํ ปริภุฺชาเปสฺสาม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาคมนํ กริสฺสาม, ภิกฺขุสงฺเฆ อาคเต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสติ, สตฺถารํ ติยามรตฺตึ อมฺหากํ ธมฺมกถํ กถาเปสฺสาม, อิติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺตํ มยํ ปจฺฉา ปริภุฺชิสฺสาม, เอวํ โน ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อุปสงฺกมึสุ.

เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมึสูติ ตํ ทิวสํ กิร สนฺถาคารํ กิฺจาปิ ราชกุลานํ ทสฺสนตฺถาย เทววิมานํ วิย สุสชฺชิตํ โหติ สุปฏิชคฺคิตํ, พุทฺธารหํ ปน กตฺวา อปฺปฺตฺตํ. พุทฺธา หิ นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา โน วา, ตสฺมา ภควโต มนํ ชานิตฺวาว ปฺาเปสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. อิทานิ ปน มนํ ลภิตฺวา ปฺาเปตุกามา เยน สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ.

สพฺพสนฺถรึ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวาติ ยถา สพฺพเมว สนฺถตํ โหติ, เอวํ ตํ สนฺถราเปตฺวา. สพฺพปมํ ตาว ‘‘โคมยํ นาม สพฺพมงฺคเลสุ วฏฺฏตี’’ติ สุธาปริกมฺมกตมฺปิ ภูมึ อลฺลโคมเยน โอปุฺฉาเปตฺวา ปริสุกฺขภาวํ ตฺวา ยถา อกฺกนฺตฏฺาเน ปทํ น ปฺายติ, เอวํ จตุชฺชาติยคนฺเธหิ ลิมฺปาเปตฺวา อุปริ นานาวณฺเณ กฏสารเก สนฺถริตฺวา เตสํ อุปริ มหาปิฏฺิกโกชวเก อาทึ กตฺวา หตฺถตฺถรก-อสฺสตฺถรก-สีหตฺถรก-พฺยคฺฆตฺถรก-จนฺทตฺถรก-สูริยตฺถรก-จิตฺตตฺถรกาทีหิ นานาวณฺเณหิ อตฺถรเณหิ สนฺถริตพฺพกยุตฺตํ สพฺโพกาสํ สนฺถราเปสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพสนฺถรึ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวา’’ติ.

อาสนานิ ปฺาเปตฺวาติ มชฺฌฏฺาเน ตาว มงฺคลตฺถมฺภํ นิสฺสาย มหารหํ พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ ยํ ยํ มุทุกฺจ มโนรมฺจ ปจฺจตฺถรณํ, ตํ ตํ ปจฺจตฺถริตฺวา ภควโต โลหิตกํ มนุฺทสฺสนํ อุปธานํ อุปทหิตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกวิจิตฺตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามปตฺตทามาทีหิ ปจฺจตฺถรเณหิ อลงฺกริตฺวา สมนฺตา ทฺวาทสหตฺถฏฺาเน ปุปฺผชาลํ กริตฺวา ตึสหตฺถมตฺตํ านํ ปฏสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ นิสฺสาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลฺลงฺกปี-อปสฺสยปี-มุณฺฑปีานิ ปฺาเปตฺวา อุปริ เสตปจฺจตฺถรเณหิ ปจฺจตฺถราเปตฺวา ปาจีนภิตฺตึ นิสฺสาย อตฺตโน อตฺตโน มหาปิฏฺิกโกชวเก ปฺาเปตฺวา หํสโลมาทิปูริตานิ อุปธานานิ ปาเปสุํ ‘‘เอวํ อกิลมมานา สพฺพรตฺตึ ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาสนานิ ปฺาเปตฺวา’’ติ.

อุทกมณิกนฺติ มหากุจฺฉิกํ อุทกจาฏึ. อุปฏฺเปตฺวาติ เอวํ ภควา จ ภิกฺขุสงฺโฆ จ ยถารุจิยา หตฺเถ วา โธวิสฺสนฺติ ปาเท วา, มุขํ วา วิกฺขาเลสฺสนฺตีติ เตสุ เตสุ าเนสุ มณิวณฺณสฺส อุทกสฺส ปูราเปตฺวา วาสตฺถาย นานาปุปฺผานิ เจว อุทกวาสจุณฺณานิ จ ปกฺขิปิตฺวา กทลิปณฺเณหิ ปิทหิตฺวา ปติฏฺาเปสุํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อุปฏฺเปตฺวา’’ติ.

เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวาติ รชตสุวณฺณาทิมยทณฺฑาสุ ทีปิกาสุ โยนกรูปกิราตรูปกาทีนํ หตฺเถ ปิตสุวณฺณรชตาทิมยกปลฺลกาทีสุ จ เตลปฺปทีปํ ชลยิตฺวาติ อตฺโถ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต สกฺยราชาโน น เกวลํ สนฺถาคารเมว, อถ โข โยชนาวฏฺเฏ กปิลวตฺถุสฺมึ นครวีถิโยปิ สมฺมชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ จ กทลิโย จ ปาเปตฺวา สกลนครํ ทีปมาลาทีหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ‘‘ขีรปายเก ทารเก ขีรํ ปาเยถ, ทหเร กุมาเร ลหุํ ลหุํ โภเชตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ทณฺฑทีปิกา อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.

อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมีติ. ‘‘ยสฺส ทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ เอวํ กิร กาเล อาโรจิเต ภควา ลาขารเสน ตินฺตรตฺตโกวิฬารปุปฺผวณฺณํ รตฺตทุปฏฺฏํ กตฺตริยา ปทุมํ กนฺตนฺโต วิย สํวิธาย ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต นิวาเสตฺวา สุวณฺณปามงฺเคน ปทุมกลาปํ ปริกฺขิปนฺโต วิย วิชฺชุลฺลตาสสฺสิริกํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกมฺพเลน คชกุมฺภํ ปริโยนทฺธนฺโต วิย รตนสตุพฺเพเธ สุวณฺณคฺฆิเก ปวาฬชาลํ ขิปมาโน วิย สุวณฺณเจติเย รตฺตกมฺพลกฺจุกํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย คจฺฉนฺตํ ปุณฺณจนฺทํ รตฺตวณฺณวลาหเกน ปฏิจฺฉาทยมาโน วิย กฺจนปพฺพตมตฺถเก สุปกฺกลาขารสํ ปริสิฺจนฺโต วิย จิตฺตกูฏปพฺพตมตฺถกํ วิชฺชุลฺลตาย ปริกฺขิปนฺโต วิย จ สจกฺกวาฬสิเนรุยุคนฺธรํ มหาปถวึ จาเลตฺวา คหิตํ นิคฺโรธปลฺลวสมานวณฺณํ รตฺตวรปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวารโต นิกฺขมิ กฺจนคุหโต สีโห วิย อุทยปพฺพตกูฏโต ปุณฺณจนฺโท วิย จ. นิกฺขมิตฺวา ปน คนฺธกุฏิปมุเข อฏฺาสิ.

อถสฺส กายโต เมฆมุเขหิ วิชฺชุกลาปา วิย รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสธาราปริเสกมฺชริปตฺตปุปฺผผลวิฏเป วิย อารามรุกฺเข กรึสุ. ตาวเทว จ อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย มหาภิกฺขุสงฺโฆ ภควนฺตํ ปริวาเรสิ. เต ปน ปริวาเรตฺวา ิตา ภิกฺขู เอวรูปา อเหสุํ อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา โจทกา ปาปครหี สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนาติ. เตหิ ปริวาริโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ รตฺตปทุมสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาเถราปิ นํ เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิกา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วนฺตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา.

อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ พหุสฺสุตพุทฺเธหิ ปริวาริโต, ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติ, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริตมหาพฺรหฺมา, ตาราคณปริวาริโต วิย ปุณฺณจนฺโท, อสเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน กปิลวตฺถุคมนมคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

อถสฺส ปุรตฺถิมกายโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. ปจฺฉิมกายโต ทกฺขิณหตฺถโต, วามหตฺถโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. อุปริ เกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวตฺเตหิ โมรคีววณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. เหฏฺา ปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมี อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถฏฺานํ อคฺคเหสิ. เอวํ สมนฺตา อสีติหตฺถมตฺตํ านํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา กฺจนทณฺฑทีปิกาหิ นิจฺฉริตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทชาลา วิย จาตุทฺทีปิกมหาเมฆโต นิกฺขนฺตวิชฺชุลฺลตา วิย วิธาวึสุ. สพฺพทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย, สุวณฺณฆฏา นิกฺขนฺตสุวณฺณรสธาราหิ สิฺจมานา วิย, ปสาริตสุวณฺณปฏปริกฺขิตฺตา วิย, เวรมฺภวาตสมุฏฺิตกึสุกกณิการปุปฺผจุณฺณสโมกิณฺณา วิย วิปฺปกิรึสุ.

ภควโตปิ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทฺวตฺตึสวรลกฺขณสมุชฺชลํ สรีรํ สมุคฺคตตารกํ วิย คคนตลํ, วิกสิตมิว ปทุมวนํ, สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก, ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสูจนฺทานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺตีนํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจิตฺถ, ยถา ตํ ทสหิ ปารมีหิ ทสหิ อุปปารมีหิ ทสหิ ปรมตฺถปารมีหิ สุปูริตาหิ สมตึสปารมิตาหิ อลงฺกตํ. กปฺปสตสหสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทินฺนทานํ รกฺขิตสีลํ กตกลฺยาณกมฺมํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว โอสริตฺวา วิปากํ ทาตุํ านํ อลภมานํ สมฺพาธปตฺตํ วิย อโหสิ. นาวาสหสฺสภณฺฑํ เอกนาวํ อาโรปนกาโล วิย, สกฏสหสฺสภณฺฑํ เอกสกฏํ อาโรปนกาโล วิย, ปฺจวีสติยา นทีนํ โอฆสฺส สมฺภิชฺช มุขทฺวาเร เอกโต ราสีภูตกาโล วิย จ อโหสิ.

อิมาย พุทฺธสิริยา โอภาสมานสฺสาปิ จ ภควโต ปุรโต อเนกานิ ทณฺฑทีปิกสหสฺสานิ อุกฺขิปึสุ. ตถา ปจฺฉโต. วามปสฺเส ทกฺขิณปสฺเส. ชาติกุสุมจมฺปกวนมลฺลิกรตฺตุปฺปลนีลุปฺปลมกุลสินฺทุวารปุปฺผานิ เจว นีลปีตาทิวณฺณสุคนฺธคนฺธจุณฺณานิ จ จาตุทฺทีปิกเมฆวิสฺสฏฺโทกวุฏฺิโย วิย วิปฺปกิรึสุ. ปฺจงฺคิกตูริยนิคฺโฆสา เจว พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณปฺปฏิสํยุตฺตา ถุติโฆสา จ สพฺพทิสา ปูรยึสุ. เทวมนุสฺสนาคสุปณฺณคนฺธพฺพยกฺขาทีนํ อกฺขีนิ อมตปานํ วิย ลภึสุ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา ปทสหสฺเสน คมนวณฺณํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺริทํ มุขมตฺตํ –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺโน, กมฺปยนฺโต วสุนฺธรํ;

อเหยนฺโต ปาณานิ, ยาติ โลกวินายโก.

ทกฺขิณํ ปมํ ปาทํ, อุทฺธรนฺโต นราสโภ;

คจฺฉนฺโต สิริสมฺปนฺโน, โสภเต ทฺวิปทุตฺตโม.

คจฺฉโต พุทฺธเสฏฺสฺส, เหฏฺา ปาทตลํ มุทุ;

สมํ สมฺผุสเต ภูมึ, รชสา นุปลิปฺปติ.

นินฺนฏฺานํ อุนฺนมติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก;

อุนฺนตฺจ สมํ โหติ, ปถวี จ อเจตนา.

ปาสาณา สกฺขรา เจว, กถลา ขาณุกณฺฏกา;

สพฺเพ มคฺคา วิวชฺชนฺติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก.

นาติทูเร อุทฺธรติ, นจฺจาสนฺเน จ นิกฺขิปํ;

อฆฏฺฏยนฺโต นิยฺยาติ, อุโภ ชาณู จ โคปฺผเก.

นาติสีฆํ ปกฺกมติ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;

น จาติสณิกํ ยาติ, คจฺฉมาโน สมาหิโต.

อุทฺธํ อโธ จ ติริยํ, ทิสฺจ วิทิสํ ตถา;

น เปกฺขมาโน โส ยาติ, ยุคมตฺตมฺหิ เปกฺขติ.

นาควิกฺกนฺตจาโร โส, คมเน โสภเต ชิโน;

จารุํ คจฺฉติ โลกคฺโค, หาสยนฺโต สเทวเก.

อุฬุราชาว โสภนฺโต, จตุจารีว เกสรี;

โตสยนฺโต พหู สตฺเต, ปุรํ เสฏฺํ อุปาคมี’’ติ.

วณฺณกาโล นาม กิเรส, เอวํวิเธสุ กาเลสุ พุทฺธสฺส สรีรวณฺเณ วา คุณวณฺเณ วา ธมฺมกถิกสฺส ถาโมเยว ปมาณํ จุณฺณิยปเทหิ วา คาถาพนฺเธน วา ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ. ทุกฺกถิตนฺติ น วตฺตพฺพํ. อปฺปมาณวณฺณา หิ พุทฺธา, เตสํ พุทฺธาปิ อนวเสสโต วณฺณํ วตฺตุํ อสมตฺถา, ปเคว อิตรา ปชาติ. อิมินา สิริวิลาเสน อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สกฺยราชปุรํ ปวิสิตฺวา ภควา ปสนฺนจิตฺเตน ชเนน คนฺธธูมวาสจุณฺณาทีหิ ปูชยมาโน สนฺถาคารํ ปาวิสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน เอวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.

ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา ทุกูลจุมฺพฏเกน โวทกํ กตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา รตฺตกมฺพลปลิเวิเต ปีเ ปิตรตฺตสุวณฺณฆนปฏิมา วิย อติวิโรจิตฺถ. อยํ ปเนตฺถ โปราณานํ วณฺณภณนมคฺโค –

‘‘คนฺตฺวาน มณฺฑลมาฬํ, นาควิกฺกนฺตจรโณ;

โอภาสยนฺโต โลกคฺโค, นิสีทิ วรมาสเน.

ตสฺมึ นิสินฺโน นรทมฺมสารถิ,

เทวาติเทโว สตปุฺลกฺขโณ;

พุทฺธาสเน มชฺฌคโต วิโรจติ,

สุวณฺณเนกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล.

เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, นิกฺขิตฺตํ ปณฺฑุกมฺพเล;

วิโรจติ วีตมโล, มณิเวโรจโน ยถา.

มหาสาโลว สมฺผุลฺโล, เนรุราชาวลงฺกโต;

สุวณฺณยูปสงฺกาโส, ปทุโม โกกนโท ยถา.

ชลนฺโต ทีปรุกฺโขว, ปพฺพตคฺเค ยถา สิขี;

เทวานํ ปาริจฺฉตฺโตว, สพฺพผุลฺโล วิโรจถา’’ติ.

กาปิลวตฺถเว สกฺเย พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถายาติ เอตฺถ ธมฺมี กถา นาม สนฺถาคารอนุโมทนปฺปฏิสํยุตฺตา ปกิณฺณกกถา เวทิตพฺพา. ตทา หิ ภควา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย มหาชมฺพุํ ขนฺเธ คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย โยชนิกํ มธุภณฺฑํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา มธุปานํ ปายมาโน วิย กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถสิ. ‘‘อาวาสทานํ นาเมตํ มหาราช มหนฺตํ, ตุมฺหากํ อาวาโส มยา ปริภุตฺโต ภิกฺขุสงฺเฆน ปริภุตฺโต มยา จ ภิกฺขุสงฺเฆน จ ปริภุตฺโต ปน ธมฺมรตเนน ปริภุตฺโต เยวาติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺโต นาม โหติ. อาวาสทานสฺมิฺหิ ทินฺเน สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหติ. ภูมฏฺกปณฺณสาลาย วา สาขามณฺฑปสฺส วาปิ อานิสํโส นาม ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกา’’ติ นานานยวิจิตฺตํ พหุํ ธมฺมกถํ กเถตฺวา –

‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ, ตโต วาฬมิคานิ จ;

สรีสเป จ มกเส, สิสิเร จาปิ วุฏฺิโย.

ตโต วาตาตโป โฆโร, สฺชาโต ปฏิหฺติ;

เลณตฺถฺจ สุขตฺถฺจ, ฌายิตุฺจ วิปสฺสิตุํ.

วิหารทานํ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ;

ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.

วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;

เตสํ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. (จูฬว. ๒๙๕) –

เอวํ อยมฺปิ อาวาเส อานิสํโส, อยมฺปิ อานิสํโสติ พหุเทวรตฺตึ อติเรกตรํ ทิยฑฺฒยามํ อาวาสานิสํสกถํ กเถสิ. ตตฺถ อิมา คาถาว สงฺคหํ อารุฬฺหา, ปกิณฺณกธมฺมเทสนา ปน สงฺคหํ น อาโรหติ. สนฺทสฺเสสีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสีติ ธมฺมกถํ กถาเปตุกาโม ชานาเปสิ. อถ กสฺมา สาริปุตฺตมหาโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทีสุ อสีติมหาเถเรสุ วิชฺชมาเนสุ ภควา อานนฺทตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ. ปริสชฺฌาสยวเสน. อายสฺมา หิ อานนฺโท พหุสฺสุตานํ อคฺโค, ปโหสิ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ มธุรธมฺมกถํ กเถตุนฺติ สากิยมณฺฑเล ปากโฏ ปฺาโต. ตสฺส สกฺยราชูหิ วิหารํ คนฺตฺวาปิ ธมฺมกถา สุตปุพฺพา, โอโรธา ปน เนสํ น ยถารุจิยา วิหารํ คนฺตุํ ลภนฺติ, เตสํ เอตทโหสิ – ‘‘อโห วต ภควา อปฺปํเยว ธมฺมกถํ กเถตฺวา อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส อานนฺทสฺส ภารํ กเรยฺยา’’ติ. เตสํ อชฺฌาสยวเสน ภควา ตสฺเสว ภารมกาสิ.

เสโข ปาฏิปโทติ ปฏิปนฺนโก เสขสมโณ. โส ตุยฺหํ ปฏิภาตุ อุปฏฺาตุ, ตสฺส ปฏิปทํ เทเสหีติ ปฏิปทาย ปุคฺคลํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ? พหูหิ การเณหิ. อิเม ตาว สกฺยา มงฺคลสาลาย มงฺคลํ ปจฺจาสีสนฺติ วฑฺฒึ อิจฺฉนฺติ, อยฺจ เสขปฏิปทา มยฺหํ สาสเน มงฺคลปฏิปทา วฑฺฒมานกปฏิปทาติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. ตสฺสฺจ ปริสติ เสขาว พหู นิสินฺนา, เต อตฺตนา ปฏิวิทฺธฏฺาเน กถียมาเน อกิลมนฺตาว สลฺลกฺเขสฺสนฺตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. อายสฺมา จ อานนฺโท เสขปฏิสมฺภิทาปตฺโตว, โส อตฺตนา ปฏิวิทฺเธ ปจฺจกฺขฏฺาเน กเถนฺโต อกิลมนฺโต วิฺาเปตุํ สกฺขิสฺสตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ. เสขปฏิปทาย จ ติสฺโสปิ สิกฺขา โอสฏา, ตตฺถ อธิสีลสิกฺขาย กถิตาย สกลํ วินยปิฏกํ กถิตเมว โหติ, อธิจิตฺตสิกฺขาย กถิตาย สกลํ สุตฺตนฺตปิฏกํ กถิตํ โหติ, อธิปฺาสิกฺขาย กถิตาย สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ กถิตํ โหติ, อานนฺโท จ พหุสฺสุโต ติปิฏกธโร, โส ปโหติ ตีหิ ปิฏเกหิ ติสฺโส สิกฺขา กเถตุํ, เอวํ กถิเต สกฺยานํ มงฺคลเมว วฑฺฒิเยว ภวิสฺสตีติปิ อิมํ ปฏิปทํ นิยเมสิ.

ปิฏฺิ เม อาคิลายตีติ กสฺมา อาคิลายติ? ภควโต หิ ฉพฺพสฺสานิ ปธานํ ปทหนฺตสฺส มหนฺตํ กายทุกฺขํ อโหสิ, อถสฺส อปรภาเค มหลฺลกกาเล ปิฏฺิวาโต อุปฺปชฺชิ. อการณํ วา เอตํ. ปโหติ หิ ภควา อุปฺปนฺนํ เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา เอกมฺปิ ทฺเวปิ สตฺตาเห เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิตุํ. สนฺถาคารสาลํ ปน จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุฺชิตุกาโม อโหสิ, ตตฺถ ปาทโธวนฏฺานโต ยาว ธมฺมาสนา อคมาสิ, เอตฺตเก าเน คมนํ นิปฺผนฺนํ. ธมฺมาสนํ ปตฺโต โถกํ ตฺวา นิสีทิ, เอตฺตเก านํ. ทิยฑฺฒยามํ ธมฺมาสเน นิสีทิ, เอตฺตเก าเน นิสชฺชา นิปฺผนฺนา. อิทานิ ทกฺขิเณน ปสฺเสน โถกํ นิปนฺเน สยนํ นิปฺผชฺชิสฺสตีติ เอวํ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุฺชิตุกาโม อโหสิ. อุปาทินฺนกสรีรฺจ นาม ‘‘โน อาคิลายตี’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา จิรํ นิสชฺชาย สฺชาตํ อปฺปกมฺปิ อาคิลายนํ คเหตฺวา เอวมาห.

สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวาติ สนฺถาคารสฺส กิร เอกปสฺเส เต ราชาโน ปฏฺฏสาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา กปฺปิยมฺจกํ ปฺเปตฺวา กปฺปิยปจฺจตฺถรเณน อตฺถริตฺวา อุปริ สุวณฺณ-ตารก-คนฺธมาลา-ทามปฏิมณฺฑิตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธเตลปฺปทีปํ อาโรปยึสุ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา ธมฺมาสนโต วุฏฺาย โถกํ วิสฺสมนฺโต อิธ นิปชฺเชยฺย, เอวํ โน อิมํ สนฺถาคารํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ. สตฺถาปิ ตเทว สนฺธาย ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา นิปชฺชิ. อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวาติ เอตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา วุฏฺหิสฺสามีติ วุฏฺานสฺํ จิตฺเต เปตฺวา.

๒๓. มหานามํ สกฺกํ อามนฺเตสีติ โส กิร ตสฺมึ กาเล ตสฺสํ ปริสติ เชฏฺโก ปาโมกฺโข, ตสฺมึ สงฺคหิเต เสสปริสา สงฺคหิตาว โหตีติ เถโร ตเมว อามนฺเตสิ. สีลสมฺปนฺโนติ สีเลน สมฺปนฺโน, สมฺปนฺนสีโล ปริปุณฺณสีโลติ อตฺโถ. สทฺธมฺเมหีติ สุนฺทรธมฺเมหิ, สตํ วา สปฺปุริสานํ ธมฺเมหิ.

๒๔. กถฺจ มหานามาติ อิมินา เอตฺตเกน าเนน เสขปฏิปทาย มาติกํ เปตฺวา ปฏิปาฏิยา วิตฺถาเรตุกาโม เอวมาห. ตตฺถ สีลสมฺปนฺโนติอาทีนิ ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติ อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

๒๕. กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ, หิริยิตพฺพานิ กายทุจฺจริตาทีนิ หิริยติ ชิคุจฺฉตีติ อตฺโถ. โอตฺตปฺปนิทฺเทเส เหตฺวตฺเถ กรณวจนํ, กายทุจฺจริตาทีหิ โอตฺตปฺปสฺส เหตุภูเตหิ โอตฺตปฺปติ ภายตีติ อตฺโถ. อารทฺธวีริโยติ ปคฺคหิตวีริโย อโนสกฺกิตมานโส. ปหานายาติ ปหานตฺถาย. อุปสมฺปทายาติ ปฏิลาภตฺถาย. ถามวาติ วีริยถาเมน สมนฺนาคโต. ทฬฺหปรกฺกโมติ ถิรปรกฺกโม. อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อโนโรปิตธุโร อโนสกฺกิตวีริโย. ปรเมนาติ อุตฺตเมน. สติเนปกฺเกนาติ สติยา จ นิปกภาเวน จ. กสฺมา ปน สติภาชนิเย ปฺา อาคตาติ? สติยา พลวภาวทีปนตฺถํ. ปฺาวิปฺปยุตฺตา หิ สติ ทุพฺพลา โหติ, สมฺปยุตฺตา พลวตีติ.

จิรกตมฺปีติ อตฺตนา วา ปเรน วา กาเยน จิรกตํ เจติยงฺคณวตฺตาทิ อสีติ มหาวตฺตปฏิปตฺติปูรณํ. จิรภาสิตมฺปีติ อตฺตนา วา ปเรน วา วาจาย จิรภาสิตํ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสน-อุทฺทิสาปน-ธมฺโมสารณ-ธมฺมเทสนา-อุปนิสินฺนกถา-อนุโมทนิยาทิวเสน ปวตฺติตํ วจีกมฺมํ. สริตา อนุสฺสริตาติ ตสฺมึ กาเยน จิรกเต ‘‘กาโย นาม กายวิฺตฺติ, จิรภาสิเต วาจา นาม วจีวิฺตฺติ. ตทุภยมฺปิ รูปํ, ตํสมุฏฺาปิกา จิตฺตเจตสิกา อรูปํ. อิติ อิเม รูปารูปธมฺมา เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ นิรุทฺธา’’ติ สรติ เจว อนุสฺสรติ จ, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. โพชฺฌงฺคสมุฏฺาปิกา หิ สติ อิธ อธิปฺเปตา. ตาย สติยา เอส สกิมฺปิ สรเณน สริตา, ปุนปฺปุนํ สรเณน อนุสฺสริตาติ เวทิตพฺพา.

อุทยตฺถคามินิยาติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยวยคามินิยา อุทยฺจ วยฺจ ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถาย. อริยายาติ วิกฺขมฺภนวเสน จ สมุจฺเฉทวเสน จ กิเลเสหิ อารกา ิตาย ปริสุทฺธาย. ปฺาย สมนฺนาคโตติ วิปสฺสนาปฺาย เจว มคฺคปฺาย จ สมงฺคีภูโต. นิพฺเพธิกายาติ สาเยว นิพฺพิชฺฌนโต นิพฺเพธิกาติ วุจฺจติ, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ตตฺถ มคฺคปฺาย สมุจฺเฉทวเสน อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกา. วิปสฺสนาปฺาย ตทงฺควเสน นิพฺเพธิกาย มคฺคปฺาย ปฏิลาภสํวตฺตนโต จาติ วิปสฺสนา ‘‘นิพฺเพธิกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ อิธาปิ มคฺคปฺา ‘‘สมฺมา เหตุนา นเยน วฏฺฏทุกฺขํ เขปยมานา คจฺฉตีติ สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินี นาม. วิปสฺสนา ตทงฺควเสน วฏฺฏทุกฺขฺจ กิเลสทุกฺขฺจ เขปยมานา คจฺฉตีติ ทุกฺขกฺขยคามินี. ทุกฺขกฺขยคามินิยา วา มคฺคปฺาย ปฏิลาภสํวตฺตนโต เอสา ทุกฺขกฺขยคามินี’’ติ เวทิตพฺพา.

๒๖. อภิเจตสิกานนฺติ อภิจิตฺตํ เสฏฺจิตฺตํ สิตานํ นิสฺสิตานํ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขปฏิลาภเหตูนํ. นิกามลาภีติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตา. อกิจฺฉลาภีติ นิทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี. ปคุณภาเวน เอโก อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, สมาธิปาริปนฺถิกธมฺเม ปน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภตุํ น สกฺโกติ, โส อตฺตโน อนิจฺฉาย ขิปฺปเมว วุฏฺาติ, ยถาปริจฺเฉทวเสน สมาปตฺตึ เปตุํ น สกฺโกติ อยํ กิจฺฉลาภี กสิรลาภี นาม. เอโก อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ จ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, สมาธิปาริปนฺถิกธมฺเม จ อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, โส ยถาปริจฺเฉทวเสเนว วุฏฺาตุํ สกฺโกติ, อยํ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี นาม.

๒๗. อยํ วุจฺจติ มหานาม อริยสาวโก เสโข ปาฏิปโทติ มหานาม อริยสาวโก เสโข ปาฏิปโท วิปสฺสนาคพฺภาย วฑฺฒมานกปฏิปทาย สมนฺนาคโตติ วุจฺจตีติ ทสฺเสติ. อปุจฺจณฺฑตายาติ อปูติอณฺฑตาย. ภพฺโพ อภินิพฺภิทายาติ วิปสฺสนาทิาณปฺปเภทาย ภพฺโพ. สมฺโพธายาติ อริยมคฺคาย. อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺสาติ อรหตฺตํ อนุตฺตโร โยคกฺเขโม นาม, ตทภิคมาย ภพฺโพติ ทสฺเสติ. ยา ปนายเมตฺถ อตฺถทีปนตฺถํ อุปมา อาหฏา, สา เจโตขิลสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยกรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อุสฺโสฬฺหิปนฺนรเสหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตภาโว’’ติ ยํ เอวํ โอปมฺมสํสนฺทนํ อาคตํ, ตํ อิธ เอวํ สีลสมฺปนฺโน โหตีติอาทิวจนโต ‘‘ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยกรณํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน สีลสมฺปนฺนตาทีหิ ปนฺนรเสหิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภาโว’’ติ. เอวํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตสทิสเมว.

๒๘. อิมํเยว อนุตฺตรํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อิมํ ปมาทิชฺฌาเนหิ อสทิสํ อุตฺตมํ จตุตฺถชฺฌานิกํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ. ปมาภินิพฺภิทาติ ปโม าณเภโท. ทุติยาทีสุปิ เอเสว นโย. กุกฺกุฏจฺฉาปโก ปน เอกวารํ มาตุกุจฺฉิโต เอกวารํ อณฺฑโกสโตติ ทฺเว วาเร ชายติ. อริยสาวโก ตีหิ วิชฺชาหิ ตาโย วาเร ชายติ. ปุพฺเพนิวาสจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา ปุพฺเพนิวาสาเณน ปมํ ชายติ, สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา ทิพฺพจกฺขุาเณน ทุติยํ ชายติ, จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตฺวา อาสวกฺขยาเณน ตติยํ ชายติ.

๒๙. อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมินฺติ อิทมฺปิ สีลํ อสฺส ภิกฺขุโน จรณํ นาม โหตีติ อตฺโถ. จรณํ นาม พหุ อเนกวิธํ, สีลาทโย ปนฺนรสธมฺมา, ตตฺถ อิทมฺปิ เอกํ จรณนฺติ อตฺโถ. ปทตฺโถ ปน จรติ เตน อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺฉตีติ จรณํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

อิทมฺปิสฺส โหติ วิชฺชายาติ อิทํ ปุพฺเพนิวาสาณํ ตสฺส วิชฺชา นาม โหตีติ อตฺโถ. วิชฺชา นาม พหุ อเนกวิธา, วิปสฺสนาณาทีนิ อฏฺ าณานิ, ตตฺถ อิทมฺปิ าณํ เอกา วิชฺชาติปิ อตฺโถ. ปทตฺโถ ปน วินิวิชฺฌิตฺวา เอตาย ชานาตีติ วิชฺชา. เอส นโย สพฺพตฺถ. วิชฺชาสมฺปนฺโน อิติปีติ ตีหิ วิชฺชาหิ วิชฺชาสมฺปนฺโน อิติปิ. จรณสมฺปนฺโน อิติปีติ ปฺจทสหิ ธมฺเมหิ จรณสมฺปนฺโน อิติปิ. ตทุภเยน ปน วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน อิติปีติ.

๓๐. สนงฺกุมาเรนาติ โปราณกกุมาเรน, จิรกาลโต ปฏฺาย กุมาโรติ ปฺาเตน. โส กิร มนุสฺสปเถ ปฺจจูฬกกุมารกกาเล ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, ตสฺส โส อตฺตภาโว ปิโย อโหสิ มนาโป, ตสฺมา ตาทิเสเนว อตฺตภาเวน จรติ, เตน นํ สนงฺกุมาโรติ สฺชานนฺติ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ ‘‘อหํ โคตโม, อหํ กสฺสโป’’ติ, เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. อนุมตา ภควตาติ มม ปฺหพฺยากรเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เทสิตาติ อมฺพฏฺสุตฺเต พุทฺเธน ภควตา ‘‘อหมฺปิ, อมฺพฏฺ, เอวํ วทามิ –

‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;

วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’ติ’’. (ที. นิ. ๑.๒๗๗) –

เอวํ ภาสนฺเตน อนุฺาตา อนุโมทิตา. สาธุ สาธุ อานนฺทาติ, ภควา กิร อาทิโต ปฏฺาย นิทฺทํ อโนกฺกมนฺโตว อิมํ สุตฺตํ สุตฺวา อานนฺเทน เสขปฏิปทาย กูฏํ คหิตนฺติ ตฺวา อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน สาธุการํ อทาสิ. เอตฺตาวตา จ ปน อิทํ สุตฺตํ ชินภาสิตํ นาม ชาตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เสขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โปตลิยสุตฺตวณฺณนา

๓๑. เอวํ เม สุตนฺติ โปตลิยสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุตฺตราเปสูติ องฺคาเยว โส ชนปโท, มหิยา ปนสฺส อุตฺตเรน ยา อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา อุตฺตราโปติปิ วุจฺจติ. กตรมหิยา อุตฺตเรน ยา อาโปติ, มหามหิยา. ตตฺถายํ อาวิภาวกถา – อยํ กิร ชมฺพุทีโป ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ. ตตฺถ จ จตุสหสฺสโยชนปฺปมาโณ ปเทโส อุทเกน อชฺโฌตฺถโฏ สมุทฺโทติ สงฺขํ คโต. ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ. ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ หิมวา ปติฏฺิโต อุพฺเพเธน ปฺจโยชนสติโก จตุราสีติกูฏสหสฺสปฏิมณฺฑิโต สมนฺตโต สนฺทมานปฺจสตนทีวิจิตฺโต, ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน เจว คมฺภีรตาย จ ปณฺณาสปณฺณาสโยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินีทโห สีหปปาตทโหติ สตฺต มหาสรา ปติฏฺิตา. เตสุ อโนตตฺตทโห สุทสฺสนกูฏํ จิตฺรกูฏํ กาฬกูฏํ คนฺธมาทนกูฏํ เกลาสกูฏนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิตฺโต.

ตตฺถ สุทสฺสนกูฏํ โสวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุพฺเพธํ อนฺโตวงฺกํ กากมุขสณฺานํ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ. จิตฺรกูฏํ สพฺพรตนมยํ. กาฬกูฏํ อฺชนมยํ. คนฺธมาทนกูฏํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ, มูลคนฺโธ สารคนฺโธ เผคฺคุคนฺโธ ตจคนฺโธ ปปฏิกคนฺโธ รสคนฺโธ ปตฺตคนฺโธ ปุปฺผคนฺโธ ผลคนฺโธ คนฺธคนฺโธติ อิเมหิ ทสหิ คนฺเธหิ อุสฺสนฺนํ นานปฺปการโอสธสฺฉนฺนํ, กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฏฺติ. เกลาสกูฏํ รชตมยํ. สพฺพานิ สุทสฺสเนน สมานุพฺเพธสณฺานานิ, ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตานิ. ตานิ สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ วสฺสนฺติ, นทิโย จ เตสุ สนฺทนฺติ. ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติ. จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตตฺถ โอภาสํ กโรนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น กโรนฺติ, เตเนวสฺส อโนตตฺตนฺติ สงฺขา อุทปาทิ.

ตตฺถ มโนหรสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมลุทกานิ นฺหานติตฺถานิ สุปฏิยตฺตานิ โหนฺติ, เยสุ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา จ อิทฺธิมนฺโต จ อิสโย นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย อุยฺยานกีฬกํ กีฬนฺติ.

ตสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ สีหมุขํ หตฺถิมุขํ อสฺสมุขํ อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตสฺโส นทิโย สนฺทนฺติ. สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ. หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภา. ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติสฺโส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวนฺเตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ. ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวนฺเตเนว อุตฺตรหิมวนฺเตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ทกฺขิณทิสโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิเณน อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเเนว สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา วุฏฺาย ปริกฺเขเปน ติคาวุตปฺปมาณา อุทกธารา จ หุตฺวา อากาเสน สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภินฺโน. ตตฺถ ปฺาสโยชนปฺปมาณา ติยคฺคฬา นาม โปกฺขรณี ชาตา, โปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิโยชนานิ คตา. ตโต ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน สฏฺิโยชนานิ คนฺตฺวา วิฺฌุํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปฺจงฺคุลิสทิสา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. สา ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฏฺาเน อาวฏฺฏคงฺคาติ วุจฺจติ. อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน กณฺหคงฺคาติ, อากาเสน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน อากาสคงฺคาติ, ติยคฺคฬปาสาเณ ปฺาสโยชโนกาเส ิตา ติยคฺคฬโปกฺขรณีติ, กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน พหลคงฺคาติ, อุมงฺเคน สฏฺิโยชนานิ คตฏฺาเน อุมงฺคคงฺคาติ วุจฺจติ. วิฺฌุํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตฏฺาเน ปน คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหีติ ปฺจธา สงฺขํ คตา. เอวเมตา ปฺจ มหานทิโย หิมวนฺตโต ปภวนฺติ. ตาสุ ยา อยํ ปฺจมี มหี นาม, สา อิธ มหามหีติ อธิปฺเปตา. ตสฺสา อุตฺตเรน ยา อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท องฺคุตฺตราโปติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ องฺคุตฺตราเปสุ ชนปเท.

อาปณํ นามาติ ตสฺมึ กิร นิคเม วีสติ อาปณมุขสหสฺสานิ วิภตฺตานิ อเหสุํ. อิติ โส อาปณานํ อุสฺสนฺนตฺตา อาปณนฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ตสฺส จ นิคมสฺส อวิทูเร นทีตีเร ฆนจฺฉาโย รมณีโย ภูมิภาโค มหาวนสณฺโฑ, ตสฺมึ ภควา วิหรติ. เตเนเวตฺถ วสนฏฺานํ น นิยามิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เยนฺตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมีติ ภิกฺขุสงฺฆํ วสนฏฺานํ เปเสตฺวา เอกโกว อุปสงฺกมิ โปตลิยํ คหปตึ สนฺธาย. โปตลิโยปิ โข คหปตีติ โปตลิโยติ เอวํนามโก คหปติ. สมฺปนฺนนิวาสนปาวุรโณติ ปริปุณฺณนิวาสนปาวุรโณ, เอกํ ทีฆทสํ สาฏกํ นิวตฺโถ เอกํ ปารุโตติ อตฺโถ. ฉตฺตุปาหนาหีติ ฉตฺตํ คเหตฺวา อุปาหนา อารุยฺหาติ อตฺโถ. อาสนานีติ ปลฺลงฺกปีปลาลปีกาทีนิ. อนฺตมโส สาขาภงฺคมฺปิ หิ อาสนนฺเตว วุจฺจติ. คหปติวาเทนาติ คหปตีติ อิมินา วจเนน. สมุทาจรตีติ โวหรติ.

ภควนฺตํ เอตทโวจาติ ตติยํ คหปตีติ วจนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ภควนฺตเมตํ ‘‘ตยิทํ, โภ, โคตมา’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ นจฺฉนฺนนฺติ น อนุจฺฉวิกํ. นปฺปติรูปนฺติ น สารุปฺปํ. อาการาติอาทีนิ สพฺพาเนว การณเววจนานิ. ทีฆทสวตฺถธารณ-เกสมสฺสุนขปนาทีนิ หิ สพฺพาเนว คิหิพฺยฺชนานิ ตสฺส คิหิภาวํ ปากฏํ กโรนฺตีติ อาการา, คิหิสณฺาเนน สณฺิตตฺตา ลิงฺคา, คิหิภาวสฺส สฺชานนนิมิตฺตตาย นิมิตฺตาติ วุตฺตา. ยถา ตํ คหปติสฺสาติ ยถา คหปติสฺส อาการลิงฺคนิมิตฺตา ภเวยฺยุํ, ตเถว ตุยฺหํ. เตน ตาหํ เอวํ สมุทาจรามีติ ทสฺเสติ. อถ โส เยน การเณน คหปติวาทํ นาธิวาเสติ, ตํ ปกาเสนฺโต ‘‘ตถา หิ ปน เม’’ติอาทิมาห.

นิยฺยาตนฺติ นิยฺยาติตํ. อโนวาที อนุปวาทีติ ‘‘ตาตา, กสถ, วปถ, วณิปฺปถํ ปโยเชถา’’ติอาทินา หิ นเยน โอวทนฺโต โอวาที นาม โหติ. ‘‘ตุมฺเห น กสถ, น วปถ, น วณิปฺปถํ ปโยเชถ, กถํ ชีวิสฺสถ, ปุตฺตทารํ วา ภริสฺสถา’’ติอาทินา นเยน ปน อุปวทนฺโต อุปวาที นาม โหติ. อหํ ปน อุภยมฺปิ ตํ น กโรมิ. เตนาหํ ตตฺถ อโนวาที อนุปวาทีติ ทสฺเสติ. ฆาสจฺฉาทนปรโม วิหรามีติ ฆาสมตฺตฺเจว อจฺฉาทนมตฺตฺจ ปรมํ กตฺวา วิหรามิ, ตโต ปรํ นตฺถิ, น จ ปตฺเถมีติ ทีเปติ.

๓๒. คิทฺธิโลโภ ปหาตพฺโพติ เคธภูโต โลโภ ปหาตพฺโพ. อนินฺทาโรสนฺติ อนินฺทาภูตํ อฆฏฺฏนํ. นินฺทาโรโสติ นินฺทาฆฏฺฏนา. โวหารสมุจฺเฉทายาติ เอตฺถ โวหาโรติ พฺยวหารโวหาโรปิ ปณฺณตฺติปิ วจนมฺปิ เจตนาปิ. ตตฺถ –

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติ. (ม. นิ. ๒.๔๕๗) –

อยํ พฺยวหารโวหาโร นาม. ‘‘สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) อยํ ปณฺณตฺติโวหาโร นาม. ‘‘ตถา ตถา โวหรติ อปรามส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๓๒) อยํ วจนโวหาโร นาม. ‘‘อฏฺ อริยโวหารา อฏฺ อนริยโวหรา’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๗) อยํ เจตนาโวหาโร นาม, อยมิธาธิปฺเปโต. ยสฺมา วา ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย คิหีติ เจตนา นตฺถิ, สมโณติ เจตนา โหติ. คิหีติ วจนํ นตฺถิ, สมโณติ วจนํ โหติ. คิหีติ ปณฺณตฺติ นตฺถิ, สมโณติ ปณฺณตฺติ โหติ. คิหีติ พฺยวหาโร นตฺถิ, สมโณติ วา ปพฺพชิโตติ วา พฺยวหาโร โหติ. ตสฺมา สพฺเพเปเต ลพฺภนฺติ.

๓๓. เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ ปาณาติปาตีติ เอตฺถ ปาณาติปาโตว สํโยชนํ. ปาณาติปาตสฺเสว หิ เหตุ ปาณาติปาตปจฺจยา ปาณาติปาตี นาม โหติ. ปาณาติปาตานํ ปน พหุตาย ‘‘เยสํ โข อห’’นฺติ วุตฺตํ. เตสาหํ สํโยชนานนฺติ เตสํ อหํ ปาณาติปาตพนฺธนานํ. ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนติ อิมินา อปาณาติปาตสงฺขาเตน กายิกสีลสํวเรน ปหานตฺถาย สมุจฺเฉทนตฺถาย ปฏิปนฺโน. อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺยาติ กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ นาม ชีวิตา อโวโรปนกสาสเน ปพฺพชิตฺวา ปาณาติปาตมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปาณาติปาตมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกติ, กึ เอตสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจ ตุลยิตฺวา ปริโยคาเหตฺวา อฺเปิ วิฺู ปณฺฑิตา ครเหยฺยุํ. เอตเทว โข ปน สํโยชนเมตํ นีวรณนฺติ ทสสุ สํโยชเนสุ ปฺจสุ จ นีวรเณสุ อปริยาปนฺนมฺปิ ‘‘อฏฺ นีวรณา’’ติ เทสนาวเสเนตํ วุตฺตํ. วฏฺฏพนฺธนฏฺเน หิ หิตปฏิจฺฉาทนฏฺเน จ สํโยชนนฺติปิ นีวรณนฺติปิ วุตฺตํ. อาสวาติ ปาณาติปาตการณา เอโก อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ. วิฆาตปริฬาหาติ วิฆาตา จ ปริฬาหา จ. ตตฺถ วิฆาตคฺคหเณน กิเลสทุกฺขฺจ วิปากทุกฺขฺจ คหิตํ, ปริฬาหคฺคหเณนปิ กิเลสปริฬาโห จ วิปากปริฬาโห จ คหิโต. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๔-๔๐. อยํ ปน วิเสโส – เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานายาติ อิมสฺมึ ปเท อิมินา ทินฺนาทานสงฺขาเตน กายิกสีลสํวเรน, สจฺจวาจาสงฺขาเตน วาจสิกสีลสํวเรน, อปิสุณาวาจาสงฺขาเตน วาจสิกสีลสํวเรน, อคิทฺธิโลภสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน, อนินฺทาโรสสงฺขาเตน กายิกวาจสิกสีลสํวเรน, อโกธุปายาสสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน, อนติมานสงฺขาเตน มานสิกสีลสํวเรน ปหานตฺถาย สมุจฺเฉทนตฺถาย ปฏิปนฺโนติ เอวํ สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.

อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ อิเมสุ ปน ปเทสุ ติณสลากมฺปิ นาม อุปาทาย อทินฺนํ อคฺคหณสาสเน ปพฺพชิตฺวา อทินฺนาทานมตฺตโตปิ วิรมิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา อทินฺนาทานมตฺตโตปิ โอรมิตุํ น สกฺโกติ, กึ อิมสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุํ? หสาเปกฺขตายปิ นาม ทวกมฺยตาย วา มุสาวาทํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. สพฺพากาเรน ปิสุณํ อกรณสาสเน นาม ปพฺพชิตฺวา. อปฺปมตฺตกมฺปิ คิทฺธิโลภํ อกรณสาสเน นาม ปพฺพชิตฺวาปิ. กกเจน องฺเคสุ โอกฺกนฺติยมาเนสุปิ นาม ปเรสํ นินฺทาโรสํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. ฉินฺนขาณุกณฺฏกาทีสุปิ นาม โกธุปายาสํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา. อธิมานมตฺตมฺปิ นาม มานํ อกรณสาสเน ปพฺพชิตฺวา อติมานมตฺตมฺปิ ปชหิตุํ น สกฺโกมิ, กึ มยฺหํ ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย. เอวรูเป นาม สาสเน ปพฺพชิตฺวา อติมานมตฺตมฺปิ ปชหิตุํ น สกฺโกติ, กึ อิมสฺส ปพฺพชฺชายาติ เอวํ อนุวิจฺจาปิ มํ วิฺู ครเหยฺยุนฺติ เอวํ สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.

อาสวาติ อิมสฺมึ ปน ปเท อทินฺนาทานการณา กามาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโวติ ตโย อาสวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา มุสาวาทการณา ปิสุณาวาจาการณา จ, คิทฺธิโลภการณา ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว จ, นินฺทาโรสการณา อวิชฺชาสโวว, ตถา โกธุปายาสการณา, อติมานการณา ภวาสโว อวิชฺชาสโว จาติ ทฺเวว อาสวา อุปฺปชฺชนฺตีติ เอวํ อาสวุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

อิเมสุ ปน อฏฺสุปิ วาเรสุ อสมฺโมหตฺถํ ปุน อยํ สงฺเขปวินิจฺฉโย – ปุริเมสุ ตาว จตูสุ วิรมิตุํ น สกฺโกมีติ วตฺตพฺพํ, ปจฺฉิเมสุ ปชหิตุํ น สกฺโกมีติ. ปาณาติปาตนินฺทาโรสโกธุปายาเสสุ จ เอโก อวิชฺชาสโวว โหติ, อทินฺนาทานมุสาวาทปิสุณาวาจาสุ กามาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว, คิทฺธิโลเภ ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว, อติมาเน ภวาสโว อวิชฺชาสโว, อปาณาติปาตํ ทินฺนาทานํ กายิกํ สีลํ, อมุสา อปิสุณํ วาจสิกสีลํ, เปตฺวา อนินฺทาโรสํ เสสานิ ตีณิ มานสิกสีลานิ. ยสฺมา ปน กาเยนปิ ฆฏฺเฏติ โรเสติ วาจายปิ, ตสฺมา อนินฺทาโรโส ทฺเว านานิ ยาติ, กายิกสีลมฺปิ โหติ วาจสิกสีลมฺปิ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส จ ภิกฺขุโน ปฏิสงฺขาปหานวเสน คิหิโวหารสมุจฺเฉโท กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

กามาทีนวกถาวณฺณนา

๔๒. วิตฺถารเทสนายํ ตเมนํ ทกฺโขติ ปทสฺส อุปสุมฺเภยฺยาติ อิมินา สทฺธึ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ตเมนํ กุกฺกุรํ อุปสุมฺเภยฺย, ตสฺส สมีเป ขิเปยฺยาติ อตฺโถ. อฏฺิกงฺกลนฺติ อุรฏฺึ วา ปิฏฺิกณฺฏกํ วา สีสฏฺึ วา. ตฺหิ นิมฺมํสตฺตา กงฺกลนฺติ วุจฺจติ. สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตนฺติ ยถา สุนิกฺกนฺตํ โหติ, เอวํ นิกฺกนฺตํ นิลฺลิขิตํ, ยเทตฺถ อลฺลีนมํสํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ นิลฺลิขิตฺวา อฏฺิมตฺตเมว กตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘นิมฺมํส’’นฺติ. โลหิตํ ปน มกฺขิตฺวา ติฏฺติ, เตน วุตฺตํ ‘‘โลหิตมกฺขิต’’นฺติ.

พหุทุกฺขา พหุปายาสาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิเกหิ ทุกฺเขหิ พหุทุกฺขา, อุปายาสสํกิเลเสหิ พหุปายาสา. ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตาติ ยา อยํ ปฺจกามคุณารมฺมณวเสน นานาสภาวา, ตาเนว จ อารมฺมณานิ นิสฺสิตตฺตา ‘‘นานตฺตสิตา’’ติ วุจฺจติ ปฺจกามคุณูเปกฺขา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา. เอกตฺตา เอกตฺตสิตาติ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขา, สา หิ ทิวสมฺปิ เอกสฺมึ อารมฺมเณ อุปฺปชฺชนโต เอกสภาวา, ตเทว เอกํ อารมฺมณํ นิสฺสิตตฺตา เอกตฺตสิตา นาม. ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยตฺถ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขายํ ยํ อุเปกฺขํ อาคมฺม ยํ ปฏิจฺจ สพฺเพน สพฺพํ อปริเสสา โลกามิสสงฺขาตา ปฺจกามคุณามิสา นิรุชฺฌนฺติ. ปฺจกามคุณามิสาติ จ กามคุณารมฺมณฉนฺทราคา, คหณฏฺเน เตเยว จ อุปาทานาติปิ วุตฺตา. ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตีติ ตํ โลกามิสูปาทานานํ ปฏิปกฺขภูตํ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขเมว วฑฺเฒติ.

๔๓. อุฑฺฑีเยยฺยาติ อุปฺปติตฺวา คจฺเฉยฺย. อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา. วิตจฺเฉยฺยุนฺติ มุขตุณฺฑเกน ฑํสนฺตา ตจฺเฉยฺยุํ. วิสฺสชฺเชยฺยุนฺติ มํสเปสึ นเขหิ กฑฺฒิตฺวา ปาเตยฺยุํ.

๔๗. ยานํ วา โปริเสยฺยนฺติ ปุริสานุจฺฉวิกํ ยานํ. ปวรมณิกุณฺฑลนฺติ นานปฺปการํ อุตฺตมมณิฺจ กุณฺฑลฺจ. สานิ หรนฺตีติ อตฺตโน ภณฺฑกานิ คณฺหนฺติ.

๔๘. สมฺปนฺนผลนฺติ มธุรผลํ. อุปปนฺนผลนฺติ ผลูปปนฺนํ พหุผลํ.

๔๙. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตมํ ปภสฺสรํ นิรุปกฺกิเลสํ.

๕๐. อารกา อหํ, ภนฺเตติ ปถวิโต นภํ วิย สมุทฺทสฺส โอริมตีรโต ปรตีรํ วิย จ สุวิทูรวิทูเร อหํ. อนาชานีเยติ คิหิโวหารสมุจฺเฉทนสฺส การณํ อชานนเก. อาชานียโภชนนฺติ การณํ ชานนฺเตหิ ภุฺชิตพฺพํ โภชนํ. อนาชานียโภชนนฺติ การณํ อชานนฺเตหิ ภุฺชิตพฺพํ โภชนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โปตลิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ชีวกสุตฺตวณฺณนา

๕๑. เอวํ เม สุตนฺติ ชีวกสุตฺตํ. ตตฺถ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเนติ เอตฺถ ชีวตีติ ชีวโก. กุมาเรน ภโตติ โกมารภจฺโจ. ยถาห ‘‘กึ เอตํ ภเณ กาเกหิ สมฺปริกิณฺณนฺติ? ทารโก เทวาติ. ชีวติ ภเณติ? ชีวติ เทวาติ. เตน หิ ภเณ ตํ ทารกํ อมฺหากํ อนฺเตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ เทถ โปเสตุนฺติ. ตสฺส ชีวตีติ ชีวโกติ นามํ อกํสุ, กุมาเรน โปสาปิโตติ โกมารภจฺโจติ นามํ อกํสู’’ติ (มหาว. ๓๒๘). อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาเรน ปน ชีวกวตฺถุ ขนฺธเก อาคตเมว. วินิจฺฉยกถาปิสฺส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วุตฺตา.

อยํ ปน ชีวโก เอกสฺมึ สมเย ภควโต โทสาภิสนฺนํ กายํ วิเรเจตฺวา สีเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ ทตฺวา วตฺถานุโมทนปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย จินฺเตสิ – ‘‘มยา ทิวสสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ พุทฺธุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ, อิทฺจ เวฬุวนํ อติทูเร, มยฺหํ อุยฺยานํ อมฺพวนํ อาสนฺนตรํ, ยํนูนาหเมตฺถ ภควโต วิหารํ กาเรยฺย’’นฺติ. โส ตสฺมึ อมฺพวเน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานเลณกุฏิมณฺฑปาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภควโต อนุจฺฉวิกํ คนฺธกุฏึ กาเรตฺวา อมฺพวนํ อฏฺารสหตฺถุพฺเพเธน ตมฺพปฏฺฏวณฺเณน ปากาเรน ปริกฺขิปาเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ จีวรภตฺเตน สนฺตปฺเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ปาเตตฺวา วิหารํ นิยฺยาเตสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน’’ติ.

อารภนฺตีติ ฆาเตนฺติ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อุทฺทิสิตฺวา กตํ. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ กตํ. อถ วา ปฏิจฺจกมฺมนฺติ นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ ปฏิจฺจ กมฺมเมตฺถ อตฺถีติ มํสํ ‘‘ปฏิจฺจกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ โหติ โย เอวรูปํ มํสํ ปริภุฺชติ, โสปิ ตสฺส กมฺมสฺส ทายาโท โหติ, วธกสฺส วิย ตสฺสาปิ ปาณฆาตกมฺมํ โหตีติ เตสํ ลทฺธิ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ ภควตา วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. เอตฺถ จ การณํ นาม ติโกฏิปริสุทฺธมจฺฉมํสปริโภโค, อนุการณํ นาม มหาชนสฺส ตถา พฺยากรณํ. ยสฺมา ปน ภควา อุทฺทิสฺสกตํ น ปริภุฺชติ, ตสฺมา เนว ตํ การณํ โหติ, น ติตฺถิยานํ ตถา พฺยากรณํ อนุการณํ. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา อนุวาโท วา วิฺูหิ ครหิตพฺพการณํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กึ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘กึ สพฺพากาเรนปิ ตุมฺหากํ วาเท คารยฺหํ การณํ นตฺถี’’ติ. อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิภวิตฺวา อาจิกฺขนฺติ.

๕๒. าเนหีติ การเณหิ. ทิฏฺาทีสุ ทิฏฺํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ ทิฏฺํ. สุตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ สุตํ. ปริสงฺกิตํ นาม ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตนฺติ ติวิธํ โหติ.

ตตฺรายํ สพฺพสงฺคาหกวินิจฺฉโย – อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต วา นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, อปิจ สุณนฺติ ‘‘มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน สุเตน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ปน ปสฺสนฺติ น สุณนฺติ, อปิจ เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ. เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตํ นาม. เอตมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กตํ, ปวตฺตมํสํ วา กตํ, กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติกา โหนฺติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ, อิตเรสํ วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ ‘‘อมฺหากํ อตฺถาย กตํ’’ติ ชานนฺติ อฺเปิ ‘‘เอเตสํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ ตํ น วฏฺฏติ. สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสํ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจิ วา อตฺถาย อุทฺทิสฺส กตํ สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส เจ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ. กสฺสาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ, ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ. อุทฺทิสฺสกตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ. อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. อุทฺทิสฺสกตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ, อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว. ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนาปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสฺหิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิ จ มิคมํสสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

อทิฏฺนฺติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. อสุตนฺติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. อปริสงฺกิตนฺติ ทิฏฺปริสงฺกิตาทิวเสน อปริสงฺกิตํ. ปริโภคนฺติ วทามีติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ ปริสุทฺธํ ติโกฏิปริสุทฺธํ นาม โหติ, ตสฺส ปริโภโค อรฺเ ชาตสูเปยฺยสากปริโภคสทิโส โหติ, ตถารูปํ ปริภุฺชนฺตสฺส เมตฺตาวิหาริสฺส ภิกฺขุโน โทโส วา วชฺชํ วา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ ปริภุฺชิตพฺพนฺติ วทามีติ อตฺโถ.

๕๓. อิทานิ ตาทิสสฺส ปริโภเค เมตฺตาวิหาริโนปิ อนวชฺชตํ ทสฺเสตุํ อิธ, ชีวก, ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา ภิกฺขูติ วุตฺตํ, อถ โข อตฺตานเมว สนฺธาย เอตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ภควตา หิ มหาวจฺฉโคตฺตสุตฺเต, จงฺกีสุตฺเต, อิมสฺมึ สุตฺเตติ ตีสุ าเนสุ อตฺตานํเยว สนฺธาย เทสนา กตา. ปณีเตน ปิณฺฑปาเตนาติ เหฏฺา อนงฺคณสุตฺเต โย โกจิ มหคฺโฆ ปิณฺฑปาโต ปณีตปิณฺฑปาโตติ อธิปฺเปโต, อิธ ปน มํสูปเสจโนว อธิปฺเปโต. อคถิโตติ ตณฺหาย อคถิโต. อมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉนาย อมุจฺฉิโต. อนชฺโฌปนฺโนติ น อธิโอปนฺโน, สพฺพํ อาลุมฺปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว คิลิตุกาโม กาโก วิย น โหตีติ อตฺโถ. อาทีนวทสฺสาวีติ เอกรตฺติวาเสน อุทรปฏลํ ปวิสิตฺวา นวหิ วณมุเขหิ นิกฺขมิสฺสตีติอาทินา นเยน อาทีนวํ ปสฺสนฺโต. นิสฺสรณปฺโ ปริภุฺชตีติ อิทมตฺถมาหารปริโภโคติ ปฺาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริภุฺชติ. อตฺตพฺยาพาธาย วา เจเตตีติ อตฺตทุกฺขาย วา จิเตติ. สุตเมตนฺติ สุตํ มยา เอตํ ปุพฺเพ, เอตํ มยฺหํ สวนมตฺตเมวาติ ทสฺเสติ. สเจ โข เต, ชีวก, อิทํ สนฺธาย ภาสิตนฺติ, ชีวก, มหาพฺรหฺมุนา วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน พฺยาปาทาทโย ปหีนา, เตน โส เมตฺตาวิหารี มยฺหํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน, สเจ เต อิทํ สนฺธาย ภาสิตํ, เอวํ สนฺเต ตว อิทํ วจนํ อนุชานามีติ อตฺโถ. โส สมฺปฏิจฺฉิ.

๕๔. อถสฺส ภควา เสสพฺรหฺมวิหารวเสนาปิ อุตฺตริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต ‘‘อิธ, ชีวก, ภิกฺขู’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

๕๕. โย โข ชีวกาติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. อิมสฺมิฺหิ าเน ภควา ทฺวารํ ถเกติ, สตฺตานุทฺทยํ ทสฺเสติ. สเจ หิ กสฺสจิ เอวมสฺส ‘‘เอกํ รสปิณฺฑปาตํ ทตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ สคฺคสมฺปตฺตึ ปฏิลภนฺติ, ยํกิฺจิ กตฺวา ปรํ มาเรตฺวาปิ รสปิณฺฑปาโตว ทาตพฺโพ’’ติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘โย โข, ชีวก, ตถาคตํ วา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อิมินา ปเมน าเนนาติ อิมินา อาณตฺติมตฺเตเนว ตาว ปเมน การเณน. คลปฺปเวธเกนาติ โยตฺเตน คเล พนฺธิตฺวา กฑฺฒิโต คเลน ปเวเธนฺเตน. อารภิยมาโนติ มาริยมาโน. อกปฺปิเยน อาสาเทตีติ อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ, ทีปิมํสํ วา มิคมํสนฺติ ขาทาเปตฺวา – ‘‘ตฺวํ กึ สมโณ นาม, อกปฺปิยมํสํ เต ขาทิต’’นฺติ ฆฏฺเฏติ. เย ปน ทุพฺภิกฺขาทีสุ วา พฺยาธินิคฺคหณตฺถํ วา ‘‘อจฺฉมํสํ นาม สูกรมํสสทิสํ, ทีปิมํสํ มิคมํสสทิส’’นฺติ ชานนฺตา ‘‘สูกรมํสํ อิทํ, มิคมํสํ อิท’’นฺติ วตฺวา หิตชฺฌาสเยน ขาทาเปนฺติ, น เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตสฺหิ พหุปุฺเมว โหติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ อยํ อาคตผโล วิฺาตสาสโน ทิฏฺสจฺโจ อริยสาวโก. อิมํ ปน ธมฺมเทสนํ โอคาหนฺโต ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมกถาย ถุตึ กโรนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ชีวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุปาลิสุตฺตวณฺณนา

๕๖. เอวํ เม สุตนฺติ อุปาลิสุตฺตํ. ตตฺถ นาฬนฺทายนฺติ นาลนฺทาติ เอวํนามเก นคเร ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา. ปาวาริกมฺพวเนติ ทุสฺสปาวาริกเสฏฺิโน อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺส อุยฺยานํ อโหสิ, โส ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน ตสฺมึ อุยฺยาเน กุฏิเลณมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ ภควโต วิหารํ กตฺวา นิยฺยาเทสิ, โส วิหาโร ชีวกมฺพวนํ วิย ปาวาริกมฺพวนนฺเตว สงฺขํ คโต. ตสฺมึ ปาวาริกมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ. ทีฆตปสฺสีติ ทีฆตฺตา เอวํลทฺธนาโม. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺโต. สาสเน วิย กึ ปน พาหิรายตเน ปิณฺฑปาโตติ โวหาโร อตฺถีติ, นตฺถิ.

ปฺเปตีติ ทสฺเสติ เปติ. ทณฺฑานิ ปฺเปตีติ อิทํ นิคณฺสมเยน ปุจฺฉนฺโต อาห. กายทณฺฑํ วจีทณฺฑํ มโนทณฺฑนฺติ เอตฺถ ปุริมทณฺฑทฺวยํ เต อจิตฺตกํ ปยฺยเปนฺติ. ยถา กิร วาเต วายนฺเต สาขา จลติ, อุทกํ จลติ, น จ ตตฺถ จิตฺตํ อตฺถิ, เอวํ กายทณฺโฑปิ อจิตฺตโกว โหติ. ยถา จ วาเต วายนฺเต ตาลปณฺณาทีนิ สทฺทํ กโรนฺติ, อุทกานิ สทฺทํ กโรนฺติ, น จ ตตฺถ จิตฺตํ อตฺถิ, เอวํ วจีทณฺโฑปิ อจิตฺตโกว โหตีติ อิมํ ทณฺฑทฺวยํ อจิตฺตกํ ปฺเปนฺติ. จิตฺตํ ปน มโนทณฺฑนฺติ ปฺเปนฺติ. อถสฺส ภควา วจนํ ปติฏฺเปตุกาโม ‘‘กึ ปน ตปสฺสี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ กถาวตฺถุสฺมินฺติ เอตฺถ กถาเยว กถาวตฺถุ. กถายํ ปติฏฺเปสีติ อตฺโถ. กสฺมา ปน ภควา เอวมกาสิ? ปสฺสติ หิ ภควา ‘‘อยํ อิมํ กถํ อาทาย คนฺตฺวา อตฺตโน สตฺถุ มหานิคณฺสฺส อาโรเจสฺสติ, ตาสฺจ ปริสติ, อุปาลิ คหปติ นิสินฺโน, โส อิมํ กถํ สุตฺวา มม วาทํ อาโรเปตุํ อาคมิสฺสติ, ตสฺสาหํ ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, โส ติกฺขตฺตุํ สรณํ คมิสฺสติ, อถสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสฺสามิ, โส สจฺจปกาสนาวสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺสติ, ปเรสํ สงฺคหตฺถเมว หิ มยา ปารมิโย ปูริตา’’ติ. อิมมตฺถํ ปสฺสนฺโต เอวมกาสิ.

๕๗. กมฺมานิ ปฺเปสีติ อิทํ นิคณฺโ พุทฺธสมเยน ปุจฺฉนฺโต อาห. กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมนฺติ เอตฺถ กายทฺวาเร อาทานคหณมุฺจนโจปนปตฺตา อฏฺกามาวจรกุสลเจตนา ทฺวาทสากุสลเจตนาติ วีสติเจตนา กายกมฺมํ นาม. กายทฺวาเร อาทานาทีนิ อปตฺวา วจีทฺวาเร วจนเภทํ ปาปยมานา อุปฺปนฺนา ตาเยว วีสติเจตนา วจีกมฺมํ นาม. อุภยทฺวาเร โจปนํ อปฺปตฺวา มโนทฺวาเร อุปฺปนฺนา เอกูนตึสกุสลากุสลเจตนา มโนกมฺมํ นาม. อปิจ สงฺเขปโต ติวิธํ กายทุจฺจริตํ กายกมฺมํ นาม, จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ วจีกมฺมํ นาม, ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ มโนกมฺมํ นาม. อิมสฺมิฺจ สุตฺเต กมฺมํ ธุรํ, อนนฺตรสุตฺเต ‘‘จตฺตาริมานิ ปุณฺณ กมฺมานิ มยา สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๑) เอวมาคเตปิ เจตนา ธุรํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปวตฺตา เจตนา ‘‘กณฺหํ กณฺหวิปาก’’นฺติอาทิเภทํ ลภติ. นิทฺเทสวาเร จสฺส ‘‘สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทินา นเยน สา วุตฺตาว. กายทฺวาเร ปวตฺตา ปน อิธ กายกมฺมนฺติ อธิปฺเปตํ, วจีทฺวาเร ปวตฺตา วจีกมฺมํ, มโนทฺวาเร ปวตฺตา มโนกมฺมํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต กมฺมํ ธุรํ, อนนฺตรสุตฺเต เจตนา’’ติ. กมฺมมฺปิ หิ ภควา กมฺมนฺติ ปฺเปติ ยถา อิมสฺมึเยว สุตฺเต. เจตนมฺปิ, ยถาห – ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ, เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓). กสฺมา ปน เจตนา กมฺมนฺติ วุตฺตา? เจตนามูลกตฺตา กมฺมสฺส.

เอตฺถ จ อกุสลํ ปตฺวา กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ, กุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ. ตถา หิ มาตุฆาตาทีนิ จตฺตาริ กมฺมานิ กาเยเนว อุปกฺกมิตฺวา กาเยเนว กโรติ, นิรเย กปฺปฏฺิกสงฺฆเภทกมฺมํ วจีทฺวาเรน กโรติ. เอวํ อกุสลํ ปตฺวา กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ นาม. เอกา ปน ฌานเจตนา จตุราสีติกปฺปสหสฺสานิ สคฺคสมฺปตฺตึ อาวหติ, เอกา มคฺคเจตนา สพฺพากุสลํ สมุคฺฆาเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาเปติ. เอวํ กุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ มหนฺตนฺติ วทนฺโต น กิลมติ นาม. อิมสฺมึ ปน าเน ภควา อกุสลํ ปตฺวา มโนกมฺมํ มหาสาวชฺชํ วทมาโน นิยตมิจฺฉาทิฏฺึ สนฺธาย วทติ. เตเนวาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, มหาสาวชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).

อิทานิ นิคณฺโปิ ตถาคเตน คตมคฺคํ ปฏิปชฺชนฺโต กิฺจิ อตฺถนิปฺผตฺตึ อปสฺสนฺโตปิ ‘‘กึ ปนาวุโส, โคตมา’’ติอาทิมาห.

๕๘. พาลกินิยาติ อุปาลิสฺส กิร พาลกโลณการคาโม นาม อตฺถิ, ตโต อายํ คเหตฺวา มนุสฺสา อาคตา, โส ‘‘เอถ ภเณ, อมฺหากํ สตฺถารํ มหานิคณฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตาย ปริสาย ปริวุโต ตตฺถ อคมาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘พาลกินิยา ปริสายา’’ติ, พาลกคามวาสินิยาติ อตฺโถ. อุปาลิปมุขายาติ อุปาลิเชฏฺกาย. อปิจ พาลกินิยาติ พาลวติยา พาลุสฺสนฺนายาติปิ อตฺโถ. อุปาลิปมุขายาติ อุปาลิคหปติเยว ตตฺถ โถกํ สปฺปฺโ, โส ตสฺสา ปมุโข เชฏฺโก. เตนาปิ วุตฺตํ ‘‘อุปาลิปมุขายา’’ติ. หนฺทาติ วจสายตฺเถ นิปาโต. ฉโวติ ลามโก. โอฬาริกสฺสาติ มหนฺตสฺส. อุปนิธายาติ อุปนิกฺขิปิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, กายทณฺฑสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อยํ นุ โข มหนฺโต, อยํ มหนฺโต’’ติ เอวํ โอโลกิยมาโน ฉโว มโนทณฺโฑ กึ โสภติ, กุโต โสภิสฺสติ, น โสภติ, อุปนิกฺเขปมตฺตมฺปิ นปฺปโหตีติ ทีเปติ. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, ตปสฺสีติ ทีฆตปสฺสิสฺส สาธุการํ เทนฺโต, ภนฺเตติ นาฏปุตฺตมาลปติ.

๖๐. โข เมตํ, ภนฺเต, รุจฺจตีติ, ภนฺเต, เอตํ มยฺหํ น รุจฺจติ. มายาวีติ มายากาโร. อาวฏฺฏนิมายนฺติ อาวฏฺเฏตฺวา คหณมายํ. อาวฏฺเฏตีติ อาวฏฺเฏตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ. คจฺฉ ตฺวํ คหปตีติ กสฺมา มหานิคณฺโ คหปตึ ยาวตติยํ ปหิณติเยว? ทีฆตปสฺสี ปน ปฏิพาหเตว? มหานิคณฺเน หิ ภควตา สทฺธึ เอกํ นครํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺเตนปิ น ภควา ทิฏฺปุพฺโพ. โย หิ สตฺถุวาทปฏิฺโ โหติ, โส ตํ ปฏิฺํ อปฺปหาย พุทฺธทสฺสเน อภพฺโพ. ตสฺมา เอส พุทฺธทสฺสนสฺส อลทฺธปุพฺพตฺตา ทสพลสฺส ทสฺสนสมฺปตฺติฺจ นิยฺยานิกกถาภาวฺจ อชานนฺโต ยาวตติยํ ปหิณเตว. ทีฆตปสฺสี ปน กาเลน กาลํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ติฏฺติปิ นิสีทติปิ ปฺหมฺปิ ปุจฺฉติ, โส ตถาคตสฺส ทสฺสนสมฺปตฺติมฺปิ นิยฺยานิกกถาภาวมฺปิ ชานาติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ คหปติ ปณฺฑิโต, สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก คนฺตฺวา ทสฺสเนปิ ปสีเทยฺย, นิยฺยานิกกถํ สุตฺวาปิ ปสีเทยฺย. ตโต น ปุน อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ. ตสฺมา ยาวตติยํ ปฏิพาหเตว.

อภิวาเทตฺวาติ วนฺทิตฺวา. ตถาคตฺหิ ทิสฺวา ปสนฺนาปิ อปฺปสนฺนาปิ เยภุยฺเยน วนฺทนฺติเยว, อปฺปกา น วนฺทนฺติ. กสฺมา? อติอุจฺเจ หิ กุเล ชาโต อคารํ อชฺฌาวสนฺโตปิ วนฺทิตพฺโพเยวาติ. อยํ ปน คหปติ ปสนฺนตฺตาว วนฺทิ, ทสฺสเนเยว กิร ปสนฺโน. อาคมา นุ ขฺวิธาติ อาคมา นุ โข อิธ.

๖๑. สาธุ สาธุ, ภนฺเต, ตปสฺสีติ ทีฆตปสฺสิสฺส สาธุการํ เทนฺโต, ภนฺเตติ, ภควนฺตํ อาลปติ. สจฺเจ ปติฏฺายาติ ถุสราสิมฺหิ อาโกฏิตขาณุโก วิย อจลนฺโต วจีสจฺเจ ปติฏฺหิตฺวา. สิยา โนติ ภเวยฺย อมฺหากํ.

๖๒. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. อสฺสาติ ภเวยฺย. สีโตทกปฏิกฺขิตฺโตติ นิคณฺา สตฺตสฺาย สีโตทกํ ปฏิกฺขิปนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มโนสตฺตา นาม เทวาติ มนมฺหิ สตฺตา ลคฺคา ลคิตา. มโนปฏิพทฺโธติ ยสฺมา มนมฺหิ ปฏิพทฺโธ หุตฺวา กาลงฺกโรติ, ตสฺมา มโนสตฺเตสุ เทเวสุ อุปปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปิตฺตชรโรโค ภวิสฺสติ. เตนสฺส อุณฺโหทกํ ปิวิตุํ วา หตฺถปาทาทิโธวนตฺถาย วา คตฺตปริสิฺจนตฺถาย วา อุปเนตุํ น วฏฺฏติ, โรโค พลวตโร โหติ. สีโตทกํ วฏฺฏติ, โรคํ วูปสเมติ. อยํ ปน อุณฺโหทกเมว ปฏิเสวติ, ตํ อลภมาโน โอทนกฺชิกํ ปฏิเสวติ. จิตฺเตน ปน สีโตทกํ ปาตุกาโม จ ปริภุฺชิตุกาโม จ โหติ. เตนสฺส มโนทณฺโฑ ตตฺเถว ภิชฺชติ. โส กายทณฺฑํ วจีทณฺฑํ รกฺขามีติ สีโตทกํ ปาตุกาโม วา ปริภุฺชิตุกาโม วา สีโตทกเมว เทถาติ วตฺตุํ น วิสหติ. ตสฺส เอวํ รกฺขิตาปิ กายทณฺฑวจีทณฺฑา จุตึ วา ปฏิสนฺธึ วา อากฑฺฒิตุํ น สกฺโกนฺติ. มโนทณฺโฑ ปน ภินฺโนปิ จุติมฺปิ ปฏิสนฺธิมฺปิ อากฑฺฒติเยว. อิติ นํ ภควา ทุพฺพลกายทณฺฑวจีทณฺฑา ฉวา ลามกา, มโนทณฺโฑว พลวา มหนฺโตติ วทาเปสิ.

ตสฺสปิ อุปาสกสฺส เอตทโหสิ. ‘‘มุจฺฉาวเสน อสฺิภูตานฺหิ สตฺตาหมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสา นปฺปวตฺตนฺติ, จิตฺตสนฺตติปวตฺติมตฺเตเนว ปน เต มตาติ น วุจฺจนฺติ. ยทา เนสํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, ตทา ‘มตา เอเต นีหริตฺวา เต ฌาเปถา’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ. กายทณฺโฑ นิรีโห อพฺยาปาโร, ตถา วจีทณฺโฑ. จิตฺเตเนว ปน เตสํ จุติปิ ปฏิสนฺธิปิ โหติ. อิติปิ มโนทณฺโฑว มหนฺโต. ภิชฺชิตฺวาปิ จุติปฏิสนฺธิอากฑฺฒนโต เอเสว มหนฺโต. อมฺหากํ ปน มหานิคณฺสฺส กถา อนิยฺยานิกา’’ติ สลฺลกฺเขสิ. ภควโต ปน วิจิตฺตานิ ปฺหปฏิภานานิ โสตุกาโม น ตาว อนุชานาติ.

น โข เต สนฺธิยตีติ น โข เต ฆฏิยติ. ปุริเมน วา ปจฺฉิมนฺติ ‘‘กายทณฺโฑ มหนฺโต’’ติ อิมินา ปุริเมน วจเนน อิทานิ ‘‘มโนทณฺโฑ มหนฺโต’’ติ อิทํ วจนํ. ปจฺฉิเมน วา ปุริมนฺติ เตน วา ปจฺฉิเมน อทุํ ปุริมวจนํ น ฆฏิยติ.

๖๓. อิทานิสฺส ภควา อฺานิปิ การณานิ อาหรนฺโต ‘‘ตํ กึ มฺสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จาตุยามสํวรสํวุโตติ น ปาณมติปาเตติ, น ปาณมติปาตยติ, น ปาณมติปาตยโต สมนุฺโ โหติ. น อทินฺนํ อาทิยติ, น อทินฺนํ อาทิยาเปติ, น อทินฺนํ อาทิยโต สมนุฺโ โหติ. น มุสา ภณติ, น มุสา ภณาเปติ, น มุสา ภณโต สมนุฺโ โหติ. น ภาวิตมาสีสติ, น ภาวิตมาสีสาเปติ, น ภาวิตมาสีสโต สมนุฺโ โหตีติ อิมินา จตุโกฏฺาเสน สํวเรน สํวุโต. เอตฺถ จ ภาวิตนฺติ ปฺจกามคุณา.

สพฺพวาริวาริโตติ วาริตสพฺพอุทโก, ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ อตฺโถ. โส หิ สีโตทเก สตฺตสฺี โหติ, ตสฺมา น ตํ วลฺเชติ. อถ วา สพฺพวาริวาริโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน วาริตปาโป. สพฺพวาริยุตฺโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ยุตฺโต. สพฺพวาริธุโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ธุตปาโป. สพฺพวาริผุโฏติ สพฺเพน ปาปวารเณน ผุโฏ. ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทตีติ ขุทฺทเก ปาเณ วธํ อาปาเทติ. โส กิร เอกินฺทฺริยํ ปาณํ ทุวินฺทฺริยํ ปาณนฺติ ปฺเปติ. สุกฺขทณฺฑก-ปุราณปณฺณสกฺขร-กถลานิปิ ปาโณเตว ปฺเปติ. ตตฺถ ขุทฺทกํ อุทกพินฺทุ ขุทฺทโก ปาโณ, มหนฺตํ มหนฺโตติ สฺี โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กิสฺมึ ปฺเปตีติ กตฺถ กตรสฺมึ โกฏฺาเส ปฺเปติ. มโนทณฺฑสฺมินฺติ มโนทณฺฑโกฏฺาเส, ภนฺเตติ. อยํ ปน อุปาสโก ภณนฺโตว สยมฺปิ สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อมฺหากํ มหานิคณฺโ ‘อสฺเจตนิกํ กมฺมํ อปฺปสาวชฺชํ, สฺเจตนิกํ มหาสาวชฺช’นฺติ ปฺเปตฺวา เจตนํ มโนทณฺโฑติ ปฺเปติ, อนิยฺยานิกา เอตสฺส กถา, ภควโตว นิยฺยานิกา’’ติ.

๖๔. อิทฺธาติ สมิทฺธา. ผีตาติ อติสมิทฺธา สพฺพปาลิผุลฺลา วิย. อากิณฺณมนุสฺสาติ ชนสมากุลา. ปาณาติ หตฺถิอสฺสาทโย ติรจฺฉานคตา เจว อิตฺถิปุริสทารกาทโย มนุสฺสชาติกา จ. เอกํ มํสขลนฺติ เอกํ มํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อิทฺธิมาติ อานุภาวสมฺปนฺโน. เจโตวสิปฺปตฺโตติ จิตฺเต วสีภาวปฺปตฺโต. ภสฺมํ กริสฺสามีติ ฉาริกํ กริสฺสามิ. กิฺหิ โสภติ เอกา ฉวา นาฬนฺทาติ อิทมฺปิ ภณนฺโต โส คหปติ – ‘‘กายปโยเคน ปฺาสมฺปิ มนุสฺสา เอกํ นาฬนฺทํ เอกํ มํสขลํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, อิทฺธิมา ปน เอโก เอเกเนว มโนปโทเสน ภสฺมํ กาตุํ สมตฺโถ. อมฺหากํ มหานิคณฺสฺส กถา อนิยฺยานิกา, ภควโตว กถา นิยฺยานิกา’’ติ สลฺลกฺเขสิ.

๖๕. อรฺํ อรฺภูตนฺติ อคามกํ อรฺเมว หุตฺวา อรฺํ ชาตํ. อิสีนํ มโนปโทเสนาติ อิสีนํ อตฺถาย กเตน มโนปโทเสน ตํ มโนปโทสํ อสหมานาหิ เทวตาหิ ตานิ รฏฺานิ วินาสิตานิ. โลกิกา ปน อิสโย มนํ ปโทเสตฺวา วินาสยึสูติ มฺนฺติ. ตสฺมา อิมสฺมึ โลกวาเท ตฺวาว อิทํ วาทาโรปนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ ทณฺฑกีรฺาทีนํ เอวํ อรฺภูตภาโว ชานิตพฺโพ – สรภงฺคโพธิสตฺตสฺส ตาว ปริสาย อติเวปุลฺลตํ คตาย กิสวจฺโฉ นาม ตาปโส มหาสตฺตสฺส อนฺเตวาสี วิเวกวาสํ ปตฺถยมาโน คณํ ปหาย โคธาวรีตีรโต กลิงฺครฏฺเ ทณฺฑกีรฺโ กุมฺภปุรํ นาม นครํ อุปนิสฺสาย ราชุยฺยาเน วิเวกมนุพฺรูหยมาโน วิหรติ. ตสฺส เสนาปติ อุปฏฺาโก โหติ.

ตทา จ เอกา คณิกา รถํ อภิรุหิตฺวา ปฺจมาตุคามสตปริวารา นครํ อุปโสภยมานา วิจรติ. มหาชโน ตเมว โอโลกยมาโน ปริวาเรตฺวา วิจรติ, นครวีถิโย นปฺปโหนฺติ. ราชา วาตปานํ วิวริตฺวา ิโต ตํ ทิสฺวา กา เอสาติ ปุจฺฉิ. ตุมฺหากํ นครโสภินี เทวาติ. โส อุสฺสูยมาโน ‘‘กึ เอตาย โสภติ, นครํ สยํ โสภิสฺสตี’’ติ ตํ านนฺตรํ อจฺฉินฺทาเปสิ.

สา ตโต ปฏฺาย เกนจิ สทฺธึ สนฺถวํ กตฺวา านนฺตรํ ปริเยสมานา เอกทิวสํ ราชุยฺยานํ ปวิสิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ อาลมฺพนผลกํ นิสฺสาย ปาสาณผลเก นิสินฺนํ ตาปสํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘กิลิฏฺโ วตายํ ตาปโส อนฺชิตมณฺฑิโต, ทาิกาหิ ปรุฬฺหาหิ มุขํ ปิหิตํ, มสฺสุนา อุรํ ปิหิตํ, อุโภ กจฺฉา ปรุฬฺหา’’ติ. อถสฺสา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ – ‘‘อหํ เอเกน กิจฺเจน วิจรามิ, อยฺจ เม กาฬกณฺณี ทิฏฺโ, อุทกํ อาหรถ, อกฺขีนิ โธวิสฺสามี’’ติ อุทกทนฺตกฏฺํ อาหราเปตฺวา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา ตาปสสฺส สรีเร ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ เขฬํ ปาเตตฺวา ทนฺตกฏฺํ ชฏามตฺถเก ขิปิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุทกํ ตาปสสฺส มตฺถกสฺมึเยว สิฺจิตฺวา – ‘‘เยหิ เม อกฺขีหิ กาฬกณฺณี ทิฏฺโ, ตานิ โธตานิ กลิปวาหิโต’’ติ นิกฺขนฺตา.

ตํทิวสฺจ ราชา สตึ ปฏิลภิตฺวา – ‘‘โภ กุหึ นครโสภินี’’ติ ปุจฺฉิ. อิมสฺมึเยว นคเร เทวาติ. ปกติฏฺานนฺตรํ ตสฺสา เทถาติ านนฺตรํ ทาเปสิ. สา ปุพฺเพ สุกตกมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธํ านนฺตรํ ตาปสสฺส สรีเร เขฬปาตเนน ลทฺธนฺติ สฺมกาสิ.

ตโต กติปาหสฺสจฺจเยน ราชา ปุโรหิตสฺส านนฺตรํ คณฺหิ. โส นครโสภินิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภคินิ กินฺติ กตฺวา านนฺตรํ ปฏิลภี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘กึ พฺราหฺมณ อฺํ กาตพฺพํ อตฺถิ, ราชุยฺยาเน อนฺชิตกาฬกณฺณี กูฏชฏิโล เอโก อตฺถิ, ตสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตหิ, เอวํ านนฺตรํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส ‘‘เอวํ กริสฺสามิ ภคินี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา ตาย กถิตสทิสเมว สพฺพํ กตฺวา นิกฺขมิ. ราชาปิ ตํทิวสเมว สตึ ปฏิลภิตฺวา – ‘‘กุหึ, โภ, พฺราหฺมโณ’’ติ ปุจฺฉิ. อิมสฺมึเยว นคเร เทวาติ. ‘‘อมฺเหหิ อนุปธาเรตฺวา กตํ, ตเทวสฺส านนฺตรํ เทถา’’ติ ทาเปสิ. โสปิ ปุฺพเลน ลภิตฺวา ‘‘ตาปสสฺส สรีเร เขฬปาตเนน ลทฺธํ เม’’ติ สฺมกาสิ.

ตโต กติปาหสฺสจฺจเยน รฺโ ปจฺจนฺโต กุปิโต. ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมสฺสามีติ จตุรงฺคินิยา เสนาย นิกฺขมิ. ปุโรหิโต คนฺตฺวา รฺโ ปุรโต ตฺวา ‘‘ชยตุ มหาราชา’’ติ วตฺวา – ‘‘ตุมฺเห, มหาราช, ชยตฺถาย คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิ. อาม พฺราหฺมณาติ. เอวํ สนฺเต ราชุยฺยาเน อนฺชิตกาฬกณฺณี เอโก กูฏชฏิโล วสติ, ตสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตถาติ. ราชา ตสฺส วจนํ คเหตฺวา ยถา คณิกาย จ เตน จ กตํ, ตเถว สพฺพํ กตฺวา โอโรเธปิ อาณาเปสิ – ‘‘เอตสฺส กูฏชฏิลสฺส สรีเร เขฬํ ปาเตถา’’ติ. ตโต โอโรธาปิ โอโรธปาลกาปิ ตเถว อกํสุ. อถ ราชา อุยฺยานทฺวาเร รกฺขํ ปาเปตฺวา ‘‘รฺา สทฺธึ นิกฺขมนฺตา สพฺเพ ตาปสสฺส สรีเร เขฬํ อปาเตตฺวา นิกฺขมิตุํ น ลภนฺตี’’ติ อาณาเปสิ. อถ สพฺโพ พลกาโย จ เสนิโย จ เตเนว นิยาเมน ตาปสสฺส อุปริ เขฬฺจ ทนฺตกฏฺานิ จ มุขวิกฺขาลิต อุทกฺจ ปาปยึสุ, เขโฬ จ ทนฺตกฏฺานิ จ สกลสรีรํ อวตฺถรึสุ.

เสนาปติ สพฺพปจฺฉา สุณิตฺวา ‘‘มยฺหํ กิร สตฺถารํ ภวนฺตํ ปุฺกฺเขตฺตํ สคฺคโสปานํ เอวํ ฆฏฺฏยึสู’’ติ อุสุมชาตหทโย มุเขน อสฺสสนฺโต เวเคน ราชุยฺยานํ อาคนฺตฺวา ตถา พฺยสนปตฺตํ อิสึ ทิสฺวา กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ทฺวีหิ หตฺเถหิ ทนฺตกฏฺานิ อปวิยูหิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา นิสีทาเปตฺวา อุทกํ อาหราเปตฺวา นฺหาเปตฺวา สพฺพโอสเธหิ เจว จตุชฺชาติคนฺเธหิ จ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา สุขุมสาฏเกน ปุฺฉิตฺวา ปุรโต อฺชลึ กตฺวา ิโต เอวมาห ‘‘อยุตฺตํ, ภนฺเต, มนุสฺเสหิ กตํ, เอเตสํ กึ ภวิสฺสตี’’ติ. เทวตา เสนาปติ ติธา ภินฺนา, เอกจฺจา ‘‘ราชานเมว นาเสสฺสามา’’ติ วทนฺติ, เอกจฺจา ‘‘สทฺธึ ปริสาย ราชาน’’นฺติ, เอกจฺจา ‘‘รฺโ วิชิตํ สพฺพํ นาเสสฺสามา’’ติ. อิทํ วตฺวา ปน ตาปโส อปฺปมตฺตกมฺปิ โกปํ อกตฺวา โลกสฺส สนฺติอุปายเมว อาจิกฺขนฺโต อาห ‘‘อปราโธ นาม โหติ, อจฺจยํ ปน เทเสตุํ ชานนฺตสฺส ปากติกเมว โหตี’’ติ.

เสนาปติ นยํ ลภิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ, มหาราช, นิราปราเธ มหิทฺธิเก ตาปเส อปรชฺฌนฺเตหิ ภาริยํ กมฺมํ กตํ, เทวตา กิร ติธา ภินฺนา เอวํ วทนฺตี’’ติ สพฺพํ อาโรเจตฺวา – ‘‘ขมาปิเต กิร, มหาราช, ปากติกํ โหติ, รฏฺํ มา นาเสถ, ตาปสํ ขมาเปถา’’ติ อาห. ราชา อตฺตนิ โทสํ กตํ ทิสฺวาปิ เอวํ วทติ ‘‘น ตํ ขมาเปสฺสามี’’ติ. เสนาปติ ยาวตติยํ ยาจิตฺวา อนิจฺฉนฺตมาห – ‘‘อหํ, มหาราช, ตาปสสฺส พลํ ชานามิ, น โส อภูตวาที, นาปิ กุปิโต, สตฺตานุทฺทเยน ปน เอวมาห ขมาเปถ นํ มหาราชา’’ติ. น ขมาเปมีติ. เตน หิ เสนาปติฏฺานํ อฺสฺส เทถ, อหํ ตุมฺหากํ อาณาปวตฺติฏฺาเน น วสิสฺสามีติ. ตฺวํ เยนกามํ คจฺฉ, อหํ มยฺหํ เสนาปตึ ลภิสฺสามีติ. ตโต เสนาปติ ตาปสสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กถํ ปฏิปชฺชามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. เสนาปติ เย เต วจนํ สุณนฺติ, สพฺเพ สปริกฺขาเร สธเน สทฺวิปทจตุปฺปเท คเหตฺวา สตฺตทิวสพฺภนฺตเร พหิ รชฺชสีมํ คจฺฉ, เทวตา อติวิย กุปิตา ธุวํ รฏฺมฺปิ อรฏฺํ กริสฺสนฺตีติ. เสนาปติ ตถา อกาสิ.

ราชา คตมตฺโตเยว อมิตฺตมถนํ กตฺวา ชนปทํ วูปสเมตฺวา อาคมฺม ชยขนฺธาวารฏฺาเน นิสีทิตฺวา นครํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อนฺโตนครํ ปาวิสิ. เทวตา ปมํเยว อุทกวุฏฺึ ปาตยึสุ. มหาชโน อตฺตมโน อโหสิ ‘‘กูฏชฏิลํ อปรทฺธกาลโต ปฏฺาย อมฺหากํ รฺโ วฑฺฒิเยว, อมิตฺเต นิมฺมเถสิ, อาคตทิวเสเยว เทโว วุฏฺโ’’ติ. เทวตา ปุน สุมนปุปฺผวุฏฺึ ปาตยึสุ, มหาชโน อตฺตมนตโร อโหสิ. เทวตา ปุน มาสกวุฏฺึ ปาตยึสุ. ตโต กหาปณวุฏฺึ, ตโต กหาปณตฺถํ น นิกฺขเมยฺยุนฺติ มฺมานา หตฺถูปคปาทูปคาทิกตภณฺฑวุฏฺึ ปาเตสุํ. มหาชโน สตฺตภูมิกปาสาเท ิโตปิ โอตริตฺวา อาภรณานิ ปิฬนฺธนฺโต อตฺตมโน อโหสิ. ‘‘อรหติ วต กูฏชฏิลเก เขฬปาตนํ, ตสฺส อุปริ เขฬปาติตกาลโต ปฏฺาย อมฺหากํ รฺโ วฑฺฒิ ชาตา, อมิตฺตมถนํ กตํ, อาคตทิวเสเยว เทโว วสฺสิ, ตโต สุมนวุฏฺิ มาสกวุฏฺิ กหาปณวุฏฺิ กตภณฺฑวุฏฺีติ จตสฺโส วุฏฺิโย ชาตา’’ติ อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรตฺวา รฺโ กตปาเป สมนุฺโ ชาโต.

ตสฺมึ สมเย เทวตา เอกโตธารอุภโตธาราทีนิ นานปฺปการานิ อาวุธานิ มหาชนสฺส อุปริ ผลเก มํสํ โกฏฺฏยมานา วิย ปาตยึสุ. ตทนนฺตรํ วีตจฺจิเก วีตธูเม กึสุกปุปฺผวณฺเณ องฺคาเร, ตทนนฺตรํ กูฏาคารปฺปมาเณ ปาสาเณ, ตทนนฺตรํ อนฺโตมุฏฺิยํ อสณฺหนิกํ สุขุมวาลิกํ วสฺสาปยมานา อสีติหตฺถุพฺเพธํ ถลํ อกํสุ. รฺโ วิชิตฏฺาเน กิสวจฺฉตาปโส เสนาปติ มาตุโปสกราโมติ ตโยว มนุสฺสภูตา อโรคา อเหสุํ. เสสานํ ตสฺมึ กมฺเม อสมงฺคีภูตานํ ติรจฺฉานานํ ปานียฏฺาเน ปานียํ นาโหสิ, ติณฏฺาเน ติณํ. เต เยน ปานียํ เยน ติณนฺติ คจฺฉนฺตา อปฺปตฺเตเยว สตฺตเม ทิวเส พหิรชฺชสีมํ ปาปุณึสุ. เตนาห สรภงฺคโพธิสตฺโต –

‘‘กิสฺหิ วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี,

อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรฏฺโ;

กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ,

ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเย’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๐);

เอวํ ตาว ทณฺฑกีรฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ.

กลิงฺครฏฺเ ปน นาฬิกิรรฺเ รชฺชํ การยมาเน หิมวติ ปฺจสตตาปสา อนิตฺถิคนฺธา อชินชฏวากจีรธรา วนมูลผลภกฺขา หุตฺวา จิรํ วีตินาเมตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถํ มนุสฺสปถํ โอตริตฺวา อนุปุพฺเพน กลิงฺครฏฺเ นาฬิกิรรฺโ นครํ สมฺปตฺตา. เต ชฏาชินวากจีรานิ สณฺเปตฺวา ปพฺพชิตานุรูปํ อุปสมสิรึ ทสฺสยมานา นครํ ภิกฺขาย ปวิสึสุ. มนุสฺสา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท ตาปสปพฺพชิเต ทิสฺวา ปสนฺนา นิสชฺชฏฺานํ สํวิธาย หตฺถโต ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ สมฺปาเทตฺวา อทํสุ. ตาปสา กตภตฺตกิจฺจา อนุโมทนํ อกํสุ. มนุสฺสา สุตฺวา ปสนฺนจิตฺตา ‘‘กุหึ ภทนฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ ปุจฺฉึสุ. ยถาผาสุกฏฺานํ, อาวุโสติ. ภนฺเต, อลํ อฺตฺถ คมเนน, ราชุยฺยาเน วสถ, มยํ ภุตฺตปาตราสา อาคนฺตฺวา ธมฺมกถํ โสสฺสามาติ. ตาปสา อธิวาเสตฺวา อุยฺยานํ อคมํสุ. นาครา ภุตฺตปาตราสา สุทฺธวตฺถนิวตฺถา ‘‘ธมฺมกถํ โสสฺสามา’’ติ สงฺฆา คณา คณีภูตา อุยฺยานาภิมุขา อคมํสุ. ราชา อุปริปาสาเท ิโต เต ตถา คจฺฉมาเน ทิสฺวา อุปฏฺากํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เอเต ภเณ นาครา สุทฺธวตฺถา สุทฺธุตฺตราสงฺคา หุตฺวา อุยฺยานาภิมุขา คจฺฉนฺติ, กิเมตฺถ สมชฺชํ วา นาฏกํ วา อตฺถี’’ติ? นตฺถิ เทว, เอเต ตาปสานํ สนฺติเก ธมฺมํ โสตุกามา คจฺฉนฺตีติ. เตน หิ ภเณ อหมฺปิ คจฺฉิสฺสามิ, มยา สทฺธึ คจฺฉนฺตูติ. โส คนฺตฺวา เตสํ อาโรเจสิ – ‘‘ราชาปิ คนฺตุกาโม, ราชานํ ปริวาเรตฺวาว คจฺฉถา’’ติ. นาครา ปกติยาปิ อตฺตมนา ตํ สุตฺวา – ‘‘อมฺหากํ ราชา อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ทุสฺสีโล, ตาปสา ธมฺมิกา, เต อาคมฺม ราชาปิ ธมฺมิโก ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตมนตรา อเหสุํ.

ราชา นิกฺขมิตฺวา เตหิ ปริวาริโต อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาปเสหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตาปสา ราชานํ ทิสฺวา ปริกถาย กุสลสฺเสกสฺส ตาปสสฺส ‘‘รฺโ ธมฺมํ กเถหี’’ติ สฺมทํสุ, โส ตาปโส ปริสํ โอโลเกตฺวา ปฺจสุ เวเรสุ อาทีนวํ ปฺจสุ จ สีเลสุ อานิสํสํ กเถนฺโต –

‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร น จริตพฺโพ, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ปาณาติปาโต นาม นิรยสํวตฺตนิโก โหติ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก, ตถา อทินฺนาทานาทีนิ. ปาณาติปาโต นิรเย ปจฺจิตฺวา มนุสฺสโลกํ อาคตสฺส วิปากาวเสเสน อปฺปายุกสํวตฺตนิโก โหติ, อทินฺนาทานํ อปฺปโภคสํวตฺตนิกํ, มิจฺฉาจาโร พหุสปตฺตสํวตฺตนิโก, มุสาวาโท อภูตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก, มชฺชปานํ อุมฺมตฺตกภาวสํวตฺตนิก’’นฺติ –

ปฺจสุ เวเรสุ อิมํ อาทีนวํ กเถสิ.

ราชา ปกติยาปิ อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน ทุสฺสีโล, ทุสฺสีลสฺส จ สีลกถา นาม ทุกฺกถา, กณฺเณ สูลปฺปเวสนํ วิย โหติ. ตสฺมา โส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ‘เอเต ปคฺคณฺหิสฺสามี’ติ อาคโต, อิเม ปน มยฺหํ อาคตกาลโต ปฏฺาย มํเยว ฆฏฺเฏนฺตา วิชฺฌนฺตา ปริสมชฺเฌ กเถนฺติ, กริสฺสามิ เนสํ กาตฺตพฺพ’’นฺติ. โส ธมฺมกถาปริโยสาเน ‘‘อาจริยา สฺเว มยฺหํ เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตตฺวา อคมาสิ. โส ทุติยทิวเส มหนฺเต มหนฺเต โกฬุมฺเพ อาหราเปตฺวา คูถสฺส ปูราเปตฺวา กทลิปตฺเตหิ เนสํ มุขานิ พนฺธาเปตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปาเปสิ, ปุน พหลมธุกเตลนาคพลปิจฺฉิลฺลาทีนํ กูเฏ ปูเรตฺวา นิสฺเสณิมตฺถเก ปาเปสิ, ตตฺเถว จ มหามลฺเล พทฺธกจฺเฉ หตฺเถหิ มุคฺคเร คาหาเปตฺวา เปตฺวา อาห ‘‘กูฏตาปสา อติวิย มํ วิเหยึสุ, เตสํ ปาสาทโต โอตรณกาเล กูเฏหิ ปิจฺฉิลฺลํ โสปานมตฺถเก วิสฺสชฺเชตฺวา สีเส มุคฺคเรหิ โปเถตฺวา คเล คเหตฺวา โสปาเน ขิปถา’’ติ. โสปานปาทมูเล ปน จณฺเฑ กุกฺกุเร พนฺธาเปสิ.

ตาปสาปิ ‘‘สฺเว ราชเคเห ภุฺชิสฺสามา’’ติ อฺมฺํ โอวทึสุ – ‘‘มาริสา ราชเคหํ นาม สาสงฺกํ สปฺปฏิภยํ, ปพฺพชิเตหิ นาม ฉทฺวารารมฺมเณ สฺเตหิ ภวิตพฺพํ, ทิฏฺทิฏฺเ อารมฺมเณ นิมิตฺตํ น คเหตพฺพํ, จกฺขุทฺวาเร สํวโร ปจฺจุปฏฺเปตพฺโพ’’ติ.

ปุนทิวเส ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวา วากจีรํ นิวาเสตฺวา อชินจมฺมํ เอกํสคตํ กตฺวา ชฏากลาปํ สณฺเปตฺวา ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา ปฏิปาฏิยา ราชนิเวสนํ อภิรุฬฺหา. ราชา อารุฬฺหภาวํ ตฺวา คูถโกฬุมฺพมุขโต กทลิปตฺตํ นีหราเปสิ. ทุคฺคนฺโธ ตาปสานํ นาสปุฏํ ปหริตฺวา มตฺถลุงฺคปาตนาการปตฺโต อโหสิ. มหาตาปโส ราชานํ โอโลเกสิ. ราชา – ‘‘เอตฺถ โภนฺโต ยาวทตฺถํ ภุฺชนฺตุ เจว หรนฺตุ จ, ตุมฺหากเมตํ อนุจฺฉวิกํ, หิยฺโย อหํ ตุมฺเห ปคฺคณฺหิสฺสามีติ อาคโต, ตุมฺเห ปน มํเยว ฆฏฺเฏนฺโต วิชฺฌนฺตา ปริสมชฺเฌ กถยิตฺถ, ตุมฺหากมิทํ อนุจฺฉวิกํ, ภุฺชถา’’ติ มหาตาปสสฺส อุลุงฺเกน คูถํ อุปนาเมสิ. มหาตาปโส ธี ธีติ วทนฺโต ปฏินิวตฺติ. ‘‘เอตฺตเกเนว คจฺฉิสฺสถ ตุมฺเห’’ติ โสปาเน กูเฏหิ ปิจฺฉิลฺลํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา มลฺลานํ สฺมทาสิ. มลฺลา มุคฺคเรหิ สีสานิ โปเถตฺวา คีวาย คเหตฺวา โสปาเน ขิปึสุ, เอโกปิ โสปาเน ปติฏฺาตุํ นาสกฺขิ, ปวฏฺฏมานา โสปานปาทมูลํเยว ปาปุณึสุ. สมฺปตฺเต สมฺปตฺเต จณฺฑกุกฺกุรา ปฏปฏาติ ลุฺจมานา ขาทึสุ. โยปิ เนสํ อุฏฺหิตฺวา ปลายติ, โสปิ อาวาเฏ ปตติ, ตตฺราปิ นํ กุกฺกุรา อนุพนฺธิตฺวา ขาทนฺติเยว. อิติ เนสํ กุกฺกุรา อฏฺิสงฺขลิกเมว อวเสสยึสุ. เอวํ โส ราชา ตปสมฺปนฺเน ปฺจสเต ตาปเส เอกทิวเสเนว ชีวิตา โวโรเปสิ.

อถสฺส รฏฺเ เทวตา ปุริมนเยเนว ปุน นววุฏฺิโย ปาเตสุํ. ตสฺส รชฺชํ สฏฺิโยชนุพฺเพเธน วาลิกถเลน อวจฺฉาทิยิตฺถ. เตนาห สรภงฺโค โพธิสตฺโต –

‘‘โย สฺเต ปพฺพชิเต อวฺจยิ,

ธมฺมํ ภณนฺเต สมเณ อทูสเก;

ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ,

สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๑);

เอวํ กาลิงฺคารฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ.

อตีเต ปน พาราณสินคเร ทิฏฺมงฺคลิกา นาม จตฺตาลีสโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน เอกา ธีตา อโหสิ ทสฺสนียา ปาสาทิกา. สา รูปโภคกุลสมฺปตฺติสมฺปนฺนตาย พหูนํ ปตฺถนียา อโหสิ. โย ปนสฺสา วาเรยฺยตฺถาย ปหิณาติ, ตํ ตํ ทิสฺวานสฺส ชาติยํ วา หตฺถปาทาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ โทสํ อาโรเปตฺวา ‘‘โก เอส ทุชฺชาโต ทุสฺสณฺิโต’’ติอาทีนิ วตฺวา – ‘‘นีหรถ น’’นฺติ นีหราเปตฺวา ‘‘เอวรูปมฺปิ นาม อทฺทสํ, อุทกํ อาหรถ, อกฺขีนิ โธวิสฺสามี’’ติ อกฺขีนิ โธวติ. ตสฺสา ทิฏฺํ ทิฏฺํ วิปฺปการํ ปาเปตฺวา นีหราเปตีติ ทิฏฺมงฺคลิกา ตฺเวว สงฺขา อุทปาทิ, มูลนามํ อนฺตรธายิ.

สา เอกทิวสํ คงฺคาย อุทกกีฬํ กีฬิสฺสามีติ ติตฺถํ สชฺชาเปตฺวา ปหูตํ ขาทนียโภชนียํ สกเฏสุ ปูราเปตฺวา พหูนิ คนฺธมาลาทีนิ อาทาย ปฏิจฺฉนฺนยานํ อารุยฺห าติคณปริวุตา เคหมฺหา นิกฺขมิ. เตน จ สมเยน มหาปุริโส จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺโต พหินคเร จมฺมเคเห วสติ, มาตงฺโคตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. โส โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก หุตฺวา เกนจิเทว กรณีเยน อนฺโตนครํ ปวิสิตุกาโม เอกํ นีลปิโลติกํ นิวาเสตฺวา เอกํ หตฺเถ พนฺธิตฺวา เอเกน หตฺเถน ปจฺฉึ, เอเกน ฆณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อุสฺสรถ อยฺยา, จณฺฑาโลห’’นฺติ ชานาปนตฺถํ ตํ วาเทนฺโต นีจจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ทิฏฺทิฏฺเ มนุสฺเส นมสฺสมาโน นครํ ปวิสิตฺวา มหาปถํ ปฏิปชฺชิ.

ทิฏฺมงฺคลิกา ฆณฺฑสทฺทํ สุตฺวา สาณิอนฺตเรน โอโลเกนฺตี ทูรโตว ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. มาตงฺโค อยฺเยติ. ‘‘กึ วต, โภ, อกุสลํ อกรมฺห, กสฺสายํ นิสฺสนฺโท, วินาโส นุ โข เม ปจฺจุปฏฺิโต, มงฺคลกิจฺเจน นาม คจฺฉมานา จณฺฑาลํ อทฺทส’’นฺติ สรีรํ กมฺเปตฺวา ชิคุจฺฉมานา เขฬํ ปาเตตฺวา ธาติโย อาห – ‘‘เวเคน อุทกํ อาหรถ, จณฺฑาโล ทิฏฺโ, อกฺขีนิ เจว นาม คหิตมุขฺจ โธวิสฺสามี’’ติ โธวิตฺวา รถํ นิวตฺตาเปตฺวา สพฺพปฏิยาทานํ เคหํ เปเสตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. สุราโสณฺฑาทโย เจว ตสฺสา อุปฏฺากมนุสฺสา จ ‘‘กุหึ, โภ ทิฏฺมงฺคลิกา, อิมายปิ เวลาย นาคจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉนฺตา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา – ‘‘มหนฺตํ วต, โภ, สุรามํสคนฺธมาลาทิสกฺการํ จณฺฑาลํ นิสฺสาย อนุภวิตุํ น ลภิมฺห, คณฺหถ จณฺฑาล’’นฺติ คตฏฺานํ คเวสิตฺวา นิราปราธํ มาตงฺคปณฺฑิตํ ตชฺชิตฺวา – ‘‘อเร มาตงฺค ตํ นิสฺสาย อิทฺจิทฺจ สกฺการํ อนุภวิตุํ น ลภิมฺหา’’ติ เกเสสุ คเหตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา ชาณุกปฺปรปาสาณาทีหิ โกฏฺเฏตฺวา มโตติ สฺาย ปาเท คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา สงฺการกูเฏ ฉฑฺเฑสุํ.

มหาปุริโส สฺํ ปฏิลภิตฺวา หตฺถปาเท ปรามสิตฺวา – ‘‘อิทํ ทุกฺขํ กํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ จินฺเตนฺโต – ‘‘น อฺํ กฺจิ, ทิฏฺมงฺคลิกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา ‘‘สจาหํ ปุริโส, ปาเทสุ นํ นิปาเตสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เวธมาโน ทิฏฺมงฺคลิกาย กุลทฺวารํ คนฺตฺวา – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิกํ ลภนฺโต วุฏฺหิสฺสามิ, อลภนฺตสฺส เอตฺเถว มรณ’’นฺติ เคหงฺคเณ นิปชฺชิ. เตน จ สมเยน ชมฺพุทีเป อยํ ธมฺมตา โหติ – ยสฺส จณฺฑาโล กุชฺฌิตฺวา คพฺภทฺวาเร นิปนฺโน มรติ, เย จ ตสฺมึ คพฺเภ วสนฺติ, สพฺเพ จณฺฑาลา โหนฺติ. เคหมชฺฌมฺหิ มเต สพฺเพ เคหวาสิโน, ทฺวารมฺหิ มเต อุภโต อนนฺตรเคหวาสิกา, องฺคณมฺหิ มเต อิโต สตฺต อิโต สตฺตาติ จุทฺทสเคหวาสิโน สพฺเพ จณฺฑาลา โหนฺตีติ. โพธิสตฺโต ปน องฺคเณ นิปชฺชิ.

เสฏฺิสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘มาตงฺโค เต สามิ เคหงฺคเณ ปติโต’’ติ คจฺฉถ ภเณ, กึ การณาติ วตฺวา เอกมาสกํ ทตฺวา อุฏฺาเปถาติ. เต คนฺตฺวา ‘‘อิมํ กิร มาสกํ คเหตฺวา อุฏฺหา’’ติ วทึสุ. โส – ‘‘นาหํ มาสกตฺถาย นิปนฺโน, ทิฏฺมงฺคลิกาย สฺวาหํ นิปนฺโน’’ติ อาห. ทิฏฺมงฺคลิกาย โก โทโสติ? กึ ตสฺสา โทสํ น ปสฺสถ, นิรปราโธ อหํ ตสฺสา มนุสฺเสหิ พฺยสนํ ปาปิโต, ตํ ลภนฺโตว วุฏฺหิสฺสามิ, อลภนฺโต น วุฏฺหิสฺสามีติ.

เต คนฺตฺวา เสฏฺิสฺส อาโรเจสุํ. เสฏฺิ ธีตุ โทสํ ตฺวา ‘‘คจฺฉถ, เอกํ กหาปณํ เทถา’’ติ เปเสติ. โส ‘‘น อิจฺฉามิ กหาปณํ, ตเมว อิจฺฉามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เสฏฺิ จ เสฏฺิภริยา จ – ‘‘เอกาเยว โน ปิยธีตา, ปเวณิยา ฆฏโก อฺโ ทารโกปิ นตฺถี’’ติ สํเวคปฺปตฺตา – ‘‘คจฺฉถ ตาตา, โกจิ อมฺหากํ อสหนโก เอตํ ชีวิตาปิ โวโรเปยฺย, เอตสฺมิฺหิ มเต สพฺเพ มยํ นฏฺา โหม, อารกฺขมสฺส คณฺหถา’’ติ ปริวาเรตฺวา อารกฺขํ สํวิธาย ยาคุํ เปสยึสุ, ภตฺตํ ธนํ เปสยึสุ, เอวํ โส สพฺพํ ปฏิกฺขิปิ. เอวํ เอโก ทิวโส คโต; ทฺเว, ตโย, จตฺตาโร, ปฺจ ทิวสา คตา.

ตโต สตฺตสตฺตเคหวาสิกา อุฏฺาย – ‘‘น สกฺโกม มยํ ตุมฺเห นิสฺสาย จณฺฑาลา ภวิตุํ, อมฺเห มา นาเสถ, ตุมฺหากํ ทาริกํ ทตฺวา เอตํ อุฏฺาเปถา’’ติ อาหํสุ. เต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ ปหิณึสุ, โส ปฏิกฺขิปเตว. เอวํ ฉ ทิวสา คตา. สตฺตเม ทิวเส อุภโต จุทฺทสเคหวาสิกา สนฺนิปติตฺวา – ‘‘น มยํ จณฺฑาลา ภวิตุํ สกฺโกม, ตุมฺหากํ อกามกานมฺปิ มยํ เอตสฺส ทาริกํ ทสฺสามา’’ติ อาหํสุ.

มาตาปิตโร โสกสลฺลสมปฺปิตา วิสฺี หุตฺวา สยเน นิปตึสุ. อุภโต จุทฺทสเคหวาสิโน ปาสาทํ อารุยฺห สุปุปฺผิตกึสุกสาขํ อุจฺฉินฺทนฺตา วิย ตสฺสา สพฺพาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา นเขหิ สีมนฺตํ กตฺวา เกเส พนฺธิตฺวา นีลสาฏกํ นิวาสาเปตฺวา หตฺเถ นีลปิโลติกขณฺฑํ เวเตฺวา กณฺเณสุ ติปุปฏฺฏเก ปิฬนฺธาเปตฺวา ตาลปณฺณปจฺฉึ ทตฺวา ปาสาทโต โอตาราเปตฺวา ทฺวีสุ พาหาสุ คเหตฺวา – ‘‘ตว สามิกํ คเหตฺวา ยาหี’’ติ มหาปุริสสฺส อทํสุ.

นีลุปฺปลมฺปิ อติภาโรติ อนุกฺขิตฺตปุพฺพา สุขุมาลทาริกา ‘‘อุฏฺาหิ สามิ, คจฺฉามา’’ติ อาห. โพธิสตฺโต นิปนฺนโกว อาห ‘‘นาหํ อุฏฺหามี’’ติ. อถ กินฺติ วทามีติ. ‘‘อุฏฺเหิ อยฺย มาตงฺคา’’ติ เอวํ มํ วทาหีติ. สา ตถา อโวจ. น ตุยฺหํ มนุสฺสา อุฏฺานสมตฺถํ มํ อกํสุ, พาหาย มํ คเหตฺวา อุฏฺาเปหีติ. สา ตถา อกาสิ. โพธิสตฺโต อุฏฺหนฺโต วิย ปริวฏฺเฏตฺวา ภูมิยํ ปติตฺวา – ‘‘นาสิตํ, โภ, ทิฏฺมงฺคลิกาย ปมํ มนุสฺเสหิ โกฏฺฏาเปตฺวา, อิทานิ สยํ โกฏฺเฏตี’’ติ วิรวิตฺถ. สา กึ กโรมิ อยฺยาติ? ทฺวีหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา อุฏฺาเปหีติ. สา ตถา อุฏฺาเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา คจฺฉาม สามีติ. คจฺฉา นาม อรฺเ โหนฺติ, มยํ มนุสฺสา, อติโกฏฺฏิโตมฺหิ ตุยฺหํ มนุสฺเสหิ, น สกฺโกมิ ปทสา คนฺตุํ, ปิฏฺิยา มํ เนหีติ. สา โอนมิตฺวา ปิฏฺึ อทาสิ. โพธิสตฺโต อภิรุหิ. กุหึ เนมิ สามีติ? พหินครํ เนหีติ. สา ปาจีนทฺวารํ คนฺตฺวา – ‘‘อิธ เต สามิ วสนฏฺาน’’นฺติ ปุจฺฉิ. กตรฏฺานํ เอตนฺติ? ปาจีนทฺวารํ สามีติ. ปาจีนทฺวาเร จณฺฑาลปุตฺตา วสิตุํ น ลภนฺตีติ อตฺตโน วสนฏฺานํ อนาจิกฺขิตฺวาว สพฺพทฺวารานิ อาหิณฺฑาเปสิ. กสฺมา? ภวคฺคปตฺตมสฺสา มานํ ปาเตสฺสามีติ. มหาชโน อุกฺกุฏฺิมกาสิ – ‘‘เปตฺวา ตุมฺหาทิสํ อฺโ เอติสฺสา มานํ เภทโก นตฺถี’’ติ.

สา ปจฺฉิมทฺวารํ ปตฺวา ‘‘อิธ เต สามิ วสนฏฺาน’’นฺติ ปุจฺฉิ. กตรฏฺานํ เอตนฺติ? ปจฺฉิมทฺวารํ สามีติ. อิมินา ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา จมฺมเคหํ โอโลเกนฺตี คจฺฉาติ. สา ตตฺถ คนฺตฺวา อาห ‘‘อิทํ จมฺมเคหํ ตุมฺหากํ วสนฏฺานํ สามี’’ติ? อามาติ ปิฏฺิโต โอตริตฺวา จมฺมเคหํ ปาวิสิ.

ตตฺถ สตฺตฏฺทิวเส วสนฺโต สพฺพฺุตคเวสนธีโร เอตฺตเกสุ ทิวเสสุ น จ ชาติสมฺเภทมกาสิ. ‘‘มหากุลสฺส ธีตา สเจ มํ นิสฺสาย มหนฺตํ ยสํ น ปาปุณาติ, น จมฺหาหํ จตุวีสติยา พุทฺธานํ อนฺเตวาสิโก. เอติสฺสา ปาทโธวนอุทเกน สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสกกิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘อคารมชฺเฌวสนฺโต น สกฺขิสฺสามิ, ปพฺพชิตฺวา ปน สกฺขิสฺสามี’’ติ. จินฺเตตฺวา ตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิเก มยํ ปุพฺเพ เอกจรา กมฺมํ กตฺวาปิ อกตฺวาปิ สกฺกา ชีวิตุํ, อิทานิ ปน ทารภรณํ ปฏิปนฺนมฺห, กมฺมํ อกตฺวา น สกฺกา ชีวิตุํ, ตฺวํ ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา สุสานาทีสุ นนฺตกานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา นิวาสนปารุปนํ กตฺวา สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกจโร ลทฺธกายวิเวโก กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อิทานิ สกฺกา ทิฏฺมงฺคลิกาย อวสฺสเยน มยา ภวิตุ’’นฺติ พาราณสิอภิมุโข คนฺตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขํ จรมาโน ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหาภิมุโข อคมาสิ.

สา ตํ ทฺวาเร ิตํ ทิสฺวา อสฺชานนฺตี – ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต, จณฺฑาลานํ วสนฏฺานเมต’’นฺติ อาห. โพธิสตฺโต ตตฺเถว อฏฺาสิ. สา ปุนปฺปุนํ โอโลเกนฺตี สฺชานิตฺวา หตฺเถหิ อุรํ ปหริตฺวา วิรวมานา ปาทมูเล ปติตฺวา อาห – ‘‘ยทิ เต สามิ เอทิสํ จิตฺตํ อตฺถิ, กสฺมา มํ มหตา ยสา ปริหาเปตฺวา อนาถํ อกาสี’’ติ. นานปฺปการํ ปริเทวํ ปริเทวิตฺวา อกฺขีนิ ปุฺฉมานา อุฏฺาย ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา อนฺโตเคเห นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขํ อทาสิ. มหาปุริโส ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อาห – ‘‘ทิฏฺมงฺคลิเก มา โสจิ มา ปริเทวิ, อหํ ตุยฺหํ ปาทโธวนอุทเกน สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสกกิจฺจํ กาเรตุํ สมตฺโถ, ตฺวํ ปน เอกํ มม วจนํ กโรหิ, นครํ ปวิสิตฺวา ‘น มยฺหํ สามิโก จณฺฑาโล, มหาพฺรหฺมา มยฺหํ สามิโก’ติ อุคฺโฆสยมานา สกลนครํ จราหี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ทิฏฺมงฺคลิกา – ‘‘ปกติยาปิ อหํ สามิ มุขโทเสเนว พฺยสนํ ปตฺตา, น สกฺขิสฺสาเมวํ วตฺตุ’’นฺติ อาห. โพธิสตฺโต – ‘‘กึ ปน ตยา มยฺหํ อคาเร วสนฺตสฺส อลิกวจนํ สุตปุพฺพํ, อหํ ตทาปิ อลิกํ น ภณามิ, อิทานิ ปพฺพชิโต กึ วกฺขามิ, สจฺจวาที ปุริโส นามาห’’นฺติ วตฺวา – ‘‘อชฺช ปกฺขสฺส อฏฺมี, ตฺวํ ‘อิโต สตฺตาหสฺสจฺจเยน อุโปสถทิวเส มยฺหํ สามิโก มหาพฺรหฺมา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสตี’ติ สกลนคเร อุคฺโฆเสหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.

สา สทฺทหิตฺวา หฏฺตุฏฺา สูรา หุตฺวา สายํปาตํ นครํ ปวิสิตฺวา ตถา อุคฺโฆเสสิ. มนุสฺสา ปาณินา ปาณึ ปหรนฺตา – ‘‘ปสฺสถ, อมฺหากํ ทิฏฺมงฺคลิกา จณฺฑาลปุตฺตํ มหาพฺรหฺมานํ กโรตี’’ติ หสนฺตา เกฬึ กโรนฺติ. สา ปุนทิวเสปิ ตเถว สายํปาตํ ปวิสิตฺวา – ‘‘อิทานิ ฉาหจฺจเยน, ปฺจาห-จตูห-ตีห-ทฺวีห-เอกาหจฺจเยน มยฺหํ สามิโก มหาพฺรหฺมา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ.

พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ ทิฏฺมงฺคลิกา อติสูรา หุตฺวา กเถติ, กทาจิ เอวํ สิยา, เอถ มยํ ทิฏฺมงฺคลิกาย วสนฏฺานํ ปฏิชคฺคามา’’ติ จมฺมเคหสฺส พาหิรภาคํ สมนฺตา ตจฺฉาเปตฺวา วาลิกํ โอกิรึสุ. สาปิ อุโปสถทิวเส ปาโตว นครํ ปวิสิตฺวา ‘‘อชฺช มยฺหํ สามิโก อาคมิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ. พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ โภ น ทูรํ อปทิสฺสติ, อชฺช กิร มหาพฺรหฺมา อาคมิสฺสติ, วสนฏฺานํ สํวิทหามา’’ติ จมฺมเคหํ สมชฺชาเปตฺวา หริตูปลิตฺตํ อหตวตฺเถหิ ปริกฺขิปิตฺวา มหารหํ ปลฺลงฺกํ อตฺถริตฺวา อุปริ เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธมาลทามานิ โอสารยึสุ. เตสํ ปฏิชคฺคนฺตานํเยว สูริโย อตฺถํ คโต.

มหาปุริโส จนฺเท อุคฺคตมตฺเต อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย กามาวจรจิตฺเตน ปริกมฺมํ กตฺวา อิทฺธิจิตฺเตน ทฺวาทสโยชนิกํ พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จนฺทวิมานสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา วนนฺตโต อพฺภุสฺสกฺกมานํ จนฺทํ ภินฺทิตฺวา จนฺทวิมานํ โอหาย ปุรโต หุตฺวา ‘‘มหาชโน มํ ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา – ‘‘สจฺจํ, โภ, ทิฏฺมงฺคลิกาย วจนํ, อาคจฺฉนฺตํ มหาพฺรหฺมานํ ปูเชสฺสามา’’ติ คนฺธมาลํ อาทาย ทิฏฺมงฺคลิกาย ฆรํ ปริวาเรตฺวา อฏฺาสิ. มหาปุริโส มตฺถกมตฺถเกน สตฺตวาเร พาราณสึ อนุปริคนฺตฺวา มหาชเนน ทิฏฺภาวํ ตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มนุสฺสปฺปมาณเมว มาเปตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว จมฺมเคหํ ปาวิสิ. มหาชโน ทิสฺวา – ‘‘โอติณฺโณ โน มหาพฺรหฺมา, สาณึ อาหรถา’’ติ นิเวสนํ มหาสาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา ปริวาเรตฺวา ิโต.

มหาปุริโสปิ สิริสยนมชฺเฌ นิสีทิ. ทิฏฺมงฺคลิกา สมีเป อฏฺาสิ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘อุตุสมโย เต ทิฏฺมงฺคลิเก’’ติ. อาม อยฺยาติ. มยา ทินฺนํ ปุตฺตํ คณฺหาหีติ องฺคุฏฺเกน นาภิมณฺฑลํ ผุสิ. ตสฺสา ปรามสเนเนว คพฺโภ ปติฏฺาสิ. มหาปุริโส – ‘‘เอตฺตาวตา เต ทิฏฺมงฺคลิเก ปาทโธวนอุทกํ สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสโกทกํ ภวิสฺสติ, ตฺวํ ติฏฺา’’ติ วตฺวา พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส นิกฺขมิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จณฺฑมณฺฑลเมว ปวิฏฺโ. สา ตโต ปฏฺาย พฺรหฺมปชาปตี นาม ชาตา. ปาทโธวนอุทกํ ลภนฺโต นาม นตฺถิ.

พฺราหฺมณา – ‘‘พฺรหฺมปชาปตึ อนฺโตนคเร วสาเปสฺสามา’’ติ สุวณฺณสิวิกาย อาโรเปตฺวา ยาว สตฺตมโกฏิยา อปริสุทฺธชาติกสฺส สิวิกํ คเหตุํ น อทํสุ. โสฬส ชาติมนฺตพฺราหฺมณา คณฺหึสุ. เสสา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา – ‘‘น สกฺกา, โภ, อุจฺฉิฏฺเคเห พฺรหฺมปชาปติยา วสิตุํ, วตฺถุํ คเหตฺวา เคหํ กริสฺสาม, ยาว ปน ตํ กรียติ, ตาว มณฺฑเปว วสตู’’ติ มณฺฑเป วสาเปสุํ. ตโต ปฏฺาย จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทิตุกามา กหาปณํ ทตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺติ, สวนูปจาเร วนฺทิตุกามา สตํ ทตฺวา ลภนฺติ, อาสนฺเน ปกติกถํ สวนฏฺาเน วนฺทิตุกามา ปฺจสตานิ ทตฺวา ลภนฺติ, ปาทปิฏฺิยํ สีสํ เปตฺวา วนฺทิตุกามา สหสฺสํ ทตฺวา ลภนฺติ, ปาทโธวนอุทกํ ปตฺถยมานา ทสสหสฺสานิ ทตฺวา ลภนฺติ. พหินครโต อนฺโตนคเร ยาว มณฺฑปา อาคจฺฉนฺติยา ลทฺธธนํเยว โกฏิสตมตฺตํ อโหสิ.

สกลชมฺพุทีโป สงฺขุภิ, ตโต สพฺพราชาโน ‘‘พฺรหฺมปชาปติยา ปาทโธวเนน อภิเสกํ กริสฺสามา’’ติ สตสหสฺสํ เปเสตฺวา ลภึสุ. มณฺฑเป วสนฺติยา เอว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. มหาปุริสํ ปฏิจฺจ ลทฺธกุมาโร ปาสาทิโก อโหสิ ลกฺขณสมฺปนฺโน. มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺโต ชาโตติ สกล ชมฺพุทีโป เอกโกลาหโล อโหสิ. กุมารสฺส ขีรมณิมูลํ โหตูติ ตโต ตโต อาคตธนํ โกฏิสหสฺสํ อโหสิ. เอตฺตาวตา นิเวสนมฺปิ นิฏฺิตํ. กุมารสฺส นามกรณํ กริสฺสามาติ นิเวสนํ สชฺเชตฺวา กุมารํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา มณฺฑเป ชาตตฺตา มณฺฑพฺโยตฺเวว นามํ อกํสุ.

กุมาโร สุเขน สํวฑฺฒมาโน สิปฺปุคฺคหณวยปตฺโตติ สกลชมฺพุทีเป สิปฺปชานนกา ตสฺส สนฺติเก อาคนฺตฺวา สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ. กุมาโร เมธาวี ปฺวา สุตํ สุตํ มุตํ อาวุณนฺโต วิย คณฺหาติ, คหิตคหิตํ สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตเตลํ วิย ติฏฺติ. ยาวตา วาจุคฺคตา ปริยตฺติ อตฺถิ, เตน อนุคฺคหิตา นาม นาโหสิ. พฺราหฺมณา ตํ ปริวาเรตฺวา จรนฺติ, โสปิ พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ. เคเห อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ นิจฺจภตฺตํ ภุฺชนฺติ. เคหมฺปิสฺส สตฺตทฺวารโกฏฺกํ มหนฺตํ อโหสิ. เคเห มงฺคลทิวเส ชมฺพุทีปวาสีหิ เปสิตธนํ โกฏิสหสฺสมตฺตํ อโหสิ.

โพธิสตฺโต อาวชฺเชสิ – ‘‘ปมตฺโต นุ โข กุมาโร อปฺปมตฺโต’’ติ. อถสฺส ตํ ปวตฺตึ ตฺวา – ‘‘พฺราหฺมณภตฺโต ชาโต, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ, ตํ น ชานาติ, คจฺฉามิ นํ ทเมมี’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวา – ‘‘ทฺวารโกฏฺกา อติสมฺพาธา, น สกฺกา โกฏฺเกน ปวิสิตุ’’นฺติ อากาเสนาคนฺตฺวา อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานํ ภุฺชนฏฺาเน อากาสงฺคเณ โอตริ. มณฺฑพฺยกุมาโรปิ สุวณฺณกฏจฺฉุํ คาหาเปตฺวา – ‘‘อิธ สูปํ เทถ อิธ โอทน’’นฺติ ปริวิสาเปนฺโต โพธิสตฺตํ ทิสฺวา ทณฺฑเกน ฆฏฺฏิตอาสิวิโส วิย กุปิตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘กุโต นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสี,

โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ,

โก เร ตุวํ โหสิ อทกฺขิเณยฺโย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑);

อถ นํ มหาสตฺโต อกุชฺฌิตฺวาว โอวทนฺโต อาห –

‘‘อนฺนํ ตเวทํ ปกตํ ยสสฺสิ,

ตํ ขชฺชเร ภุฺชเร ปิยฺยเร จ;

ชานาสิ มํ ตฺวํ ปรทตฺตูปชีวึ,

อุตฺติฏฺ ปิณฺฑํ ลภตํ สปาโก’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๒);

โส นยิทํ ตุมฺหาทิสานํ ปฏิยตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘อนฺนํ มเมทํ ปกตํ พฺราหฺมณานํ,

อตฺถตฺถิตํ สทฺทหโต มเมทํ;

อเปหิ เอตฺโต กิมิธฏฺิโตสิ,

น มาทิสา ตุยฺหํ ททนฺติ ชมฺมา’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓);

อถ โพธิสตฺโต ‘‘ทานํ นาม สคุณสฺสปิ นิคฺคุณสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ ทาตพฺพํ, ยถา หิ นินฺเนปิ ถเลปิ ปติฏฺาปิตํ พีชํ ปถวีรสํ อาโปรสฺจ อาคมฺม สมฺปชฺชติ, เอวํ นิปฺผลํ นาม นตฺถิ, สุเขตฺเต วปิตพีชํ วิย คุณวนฺเต มหปฺผลํ โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ คาถมาห –

‘‘ถเล จ นินฺเน จ วปนฺติ พีชํ,

อนูปเขตฺเต ผลมาสมานา;

เอตาย สทฺธาย ททาหิ ทานํ,

อปฺเปว อาราธเย ทกฺขิเณยฺเย’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๔);

อถ กุมาโร โกธาภิภูโต – ‘‘เกนิมสฺส มุณฺฑกสฺส ปเวโส ทินฺโน’’ติ ทฺวารรกฺขาทโย ตชฺเชตฺวา –

‘‘เขตฺตานิ มยฺหํ วิทิตานิ โลเก,

เยสาหํ พีชานิ ปติฏฺเปมิ;

เย พฺราหฺมณา ชาติมนฺตูปปนฺนา,

ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๕) –

คาถํ วตฺวา ‘‘อิมํ ชมฺมํ เวณุปทเรน โปเถตฺวา คีวายํ คเหตฺวา สตฺตปิ ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกมิตฺวา พหิ นีหรถา’’ติ อาห. อถ นํ มหาปุริโส อาห –

‘‘คิรึ นเขน ขณสิ, อโย ทนฺเตภิ ขาทสิ;

ชาตเวทํ ปทหสิ, โย อิสึ ปริภาสสี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๙);

เอวฺจ ปน วตฺวา – ‘‘สเจ มฺยายํ หตฺเถ วา ปาเท วา คณฺหาเปตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, พหุํ อปุฺํ ปสเวยฺยา’’ติ สตฺตานุทฺทยตาย เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนฺตรวีถิยํ โอตริ. ภควา สพฺพฺุตํ ปตฺโต ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘อิทํ วตฺวาน มาตงฺโค, อิสิ สจฺจปรกฺกโม;

อนฺตลิกฺขสฺมึ ปกฺกามิ, พฺราหฺมณานํ อุทิกฺขต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๐);

ตาวเทว นครรกฺขิกเทวตานํ เชฏฺกเทวราชา มณฺฑพฺยสฺส คีวํ ปริวตฺเตสิ. ตสฺส มุขํ ปริวตฺเตติตฺวา ปจฺฉามุขํ ชาตํ, อกฺขีนิ ปริวตฺตานิ, มุเขน เขฬํ วมติ, สรีรํ ถทฺธํ สูเล อาโรปิตํ วิย อโหสิ. อสีติสหสฺสา ปริจารกยกฺขา อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ ตเถว อกํสุ. เวเคน คนฺตฺวา พฺรหฺมปชาปติยา อาโรจยึสุ. สา ตรมานรูปา อาคนฺตฺวา ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา คาถมาห –

‘‘อาเวธิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ,

พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส,

โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๑);

อถสฺสา อาโรเจสุํ –

‘‘อิธาคมา สมโณ ทุมฺมวาสี,

โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว,

สงฺการโจฬํ ปฏิมุฺจ กณฺเ,

โส เต อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๒);

สา สุตฺวาว อฺาสิ – ‘‘มยฺหํ ยสทายโก อยฺโย อนุกมฺปาย ปุตฺตสฺส ปมตฺตภาวํ ตฺวา อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต อุปฏฺาเก ปุจฺฉิ –

‘‘กตมํ ทิสํ อคมา ภูริปฺโ,

อกฺขาถ เม มาณวา เอตมตฺถํ;

คนฺตฺวาน ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยํ,

อปฺเปว นํ ปุตฺต ลเภมุ ชีวิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๓);

เต อาหํสุ –

‘‘เวหายสํ อคมา ภูริปฺโ,

ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

อปิจาปิ โส ปุริมทิสํ อคจฺฉิ,

สจฺจปฺปฏิฺโ อิสิ สาธุรูโป’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๔);

มหาปุริโสปิ อนฺตรวีถิยํ โอติณฺณฏฺานโต ปฏฺาย – ‘‘มยฺหํ ปทวฬฺชํ หตฺถิอสฺสาทีนํ วเสน มา อนฺตรธายิตฺถ, ทิฏฺมงฺคลิกาเยว นํ ปสฺสตุ, มา อฺเ’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาปนมตฺตํ มิสฺสโกทนํ คเหตฺวา ปฏิกฺกมนสาลายํ นิสินฺโน ภุฺชิตฺวา โถกํ ภุตฺตาวเสสํ ภิกฺขาภาชเนเยว เปสิ. ทิฏฺมงฺคลิกาปิ ปาสาทา โอรุยฺห อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชมานา ปทวฬฺชํ ทิสฺวา – ‘‘อิทํ มยฺหํ ยสทายกสฺส อยฺยสฺส ปท’’นฺติ ปทานุสาเรนาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ทาเสน กตาปราธํ มยฺหํ ขมถ, น หิ ตุมฺเห โกธวสิกา นาม, เทถ เม ปุตฺตสฺส ชีวิต’’นฺติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา –

‘‘อาเวธิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ,

พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;

เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส,

โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๕.๑๕) –

คาถํ อภาสิ. มหาปุริโส อาห – ‘‘น มยํ เอวรูปํ กโรม, ปพฺพชิตํ ปน หึสนฺเต ทิสฺวา ปพฺพชิเตสุ สคารวาหิ ภูตยกฺขเทวตาหิ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ.

เกวลํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ มโนปโทโส มา โหตุ, เทวตาหิ กตํ โหตุ, สุขมาปยา, ภนฺเต, เทวตา, อปิจาหํ, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชามีติ. เตน หิ โอสธํ เต กเถสฺสามิ, มม ภิกฺขาภาชเน ภุตฺตาวเสสํ ภตฺตมตฺถิ, ตตฺถ โถกํ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา โถกํ คเหตฺวา ตว ปุตฺตสฺส มุเข ปกฺขิป, อวเสสํ อุทกจาฏิยํ อาโลเฬตฺวา อสีติยา พฺราหฺมณสหสฺสานํ มุเข ปกฺขิปาติ. สา เอวํ กริสฺสามีติ ภตฺตํ คเหตฺวา มหาปุริสํ วนฺทิตฺวา คนฺตฺวา ตถา อกาสิ.

มุเข ปกฺขิตฺตมตฺเต เชฏฺกเทวราชา – ‘‘สามิมฺหิ สยํ เภสชฺชํ กโรนฺเต อมฺเหหิ น สกฺกา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ กุมารํ วิสฺสชฺเชสิ. โสปิ ขิปิตฺวา กิฺจิ ทุกฺขํ อปฺปตฺตปุพฺโพ วิย ปกติวณฺโณ อโหสิ. อถ นํ มาตา อโวจ – ‘‘ปสฺส ตาต ตว กุลุปกานํ หิโรตฺตปฺปรหิตานํ วิปฺปการํ, สมณา ปน น เอวรูปา โหนฺติ, สมเณ ตาต โภเชยฺยาสี’’ติ. ตโต เสสกํ อุทกจาฏิยํ อาลุฬาเปตฺวา พฺราหฺมณานํ มุเข ปกฺขิปาเปสิ. ยกฺขา ตาวเทว วิสฺสชฺเชตฺวา ปลายึสุ. พฺราหฺมณา ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา อุฏฺหิตฺวา กึ อมฺหากํ มุเข ปกฺขิตฺตนฺติ ปุจฺฉึสุ. มาตงฺคอิสิสฺส อุจฺฉิฏฺภตฺตนฺติ. เต ‘‘จณฺฑาลสฺส อุจฺฉิฏฺกํ ขาทาปิตมฺหา, อพฺราหฺมณา ทานิมฺหา ชาตา, อิทานิ โน พฺราหฺมณา ‘อสุทฺธพฺราหฺมณา อิเม’ติ สมฺโภคํ น ทสฺสนฺตี’’ติ ตโต ปลายิตฺวา มชฺฌรฏฺํ คนฺตฺวา มชฺฌราชสฺส นคเร อคฺคาสนิกา พฺราหฺมณา นาม มยนฺติ ราชเคเห ภุฺชนฺติ.

ตสฺมึ สมเย โพธิสตฺโต ปาปนิคฺคหํ กโรนฺโต มานชาติเก นิมฺมทยนฺโต วิจรติ. อเถโก ‘‘ชาติมนฺตตาปโส นาม มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อฺเสุ สฺมฺปิ น กโรติ. โพธิสตฺโต ตํ คงฺคาตีเร วสมานํ ทิสฺวา ‘‘มานนิคฺคหมสฺส กริสฺสามี’’ติ ตตฺถ อคมาสิ. ตํ ชาติมนฺตตาปโส ปุจฺฉิ – ‘‘กึ ชจฺโจ ภว’’นฺติ? จณฺฑาโล อหํ อาจริยาติ. อเปหิ จณฺฑาล อเปหิ จณฺฑาล, เหฏฺาคงฺคาย วส, มา อุปริคงฺคาย อุทกํ อุจฺฉิฏฺมกาสีติ.

โพธิสตฺโต – ‘‘สาธุ อาจริย, ตุมฺเหหิ วุตฺตฏฺาเน วสิสฺสามี’’ติ เหฏฺาคงฺคาย วสนฺโต ‘‘คงฺคาย อุทกํ ปฏิโสตํ สนฺทตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ชาติมนฺตตาปโส ปาโตว คงฺคํ โอรุยฺห อุทกํ อาจมติ, ชฏา โธวติ. โพธิสตฺโต ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺโต ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ เขฬํ อุทเก ปาเตติ. ทนฺตกฏฺกุจฺฉิฏฺกมฺปิ ตตฺเถว ปวาเหติ. ยถา เจ ตํ อฺตฺถ อลคฺคิตฺวา ตาปสสฺเสว ชฏาสุ ลคฺคติ, ตถา อธิฏฺาสิ. เขฬมฺปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ตาปสสฺส ชฏาสุเยว ปติฏฺาติ.

ตาปโส จณฺฑาลสฺสิทํ กมฺมํ ภวิสฺสตีติ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา คนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อิทํ, โภ จณฺฑาล, คงฺคาย อุทกํ ตยา ปฏิโสตคามิกต’’นฺติ? อาม อาจริย. เตน หิ ตฺวํ เหฏฺาคงฺคาย มา วส, อุปริคงฺคาย วสาติ. สาธุ อาจริย, ตุมฺเหหิ วุตฺตฏฺาเน วสิสฺสามีติ ตตฺถ วสนฺโต อิทฺธึ ปฏิปฺปสฺสมฺเภสิ, อุทกํ ยถาคติกเมว ชาตํ. ปุน ตาปโส ตเทว พฺยสนํ ปาปุณิ. โส ปุน คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ, – ‘‘โภ จณฺฑาล, ตฺวมิทํ คงฺคาย อุทกํ กาเลน ปฏิโสตคามึ กาเลน อนุโสตคามึ กโรสี’’ติ? อาม อาจริย. จณฺฑาล, ‘‘ตฺวํ สุขวิหารีนํ ปพฺพชิตานํ สุเขน วสิตุํ น เทสิ, สตฺตเม เต ทิวเส สตฺตธา มุทฺธา ผลตู’’ติ. สาธุ อจริย, อหํ ปน สูริยสฺส อุคฺคนฺตุํ น ทสฺสามีติ.

อถ มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘เอตสฺส อภิสาโป เอตสฺเสว อุปริ ปติสฺสติ, รกฺขามิ น’’นฺติ สตฺตานุทฺทยตาย ปุนทิวเส อิทฺธิยา สูริยสฺส อุคฺคนฺตุํ น อทาสิ. อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโย นาม อจินฺเตยฺโย, ตโต ปฏฺาย อรุณุคฺคํ น ปฺายติ, รตฺตินฺทิวปริจฺเฉโท นตฺถิ, กสิวณิชฺชาทีนิ กมฺมานิ ปโยเชนฺโต นาม นตฺถิ.

มนุสฺสา – ‘‘ยกฺขาวฏฺโฏ นุ โข อยํ ภูตเทวฏฺโฏนาคสุปณฺณาวฏฺโฏ’’ติ อุปทฺทวปฺปตฺตา ‘‘กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ราชกุลํ นาม มหาปฺํ, โลกสฺส หิตํ จินฺเตตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ ราชกุลํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา สุตฺวา ภีโตปิ อภีตาการํ กตฺวา – ‘‘มา ตาตา ภายถ, อิมํ การณํ คงฺคาตีรวาสี ชาติมนฺตตาปโส ชานิสฺสติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺขา ภวิสฺสามา’’ติ กติปเยเหว อตฺถจรเกหิ มนุสฺเสหิ สทฺธึ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา กตปฏิสนฺถาโร ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ตาปโส อาห – ‘‘อาม มหาราช, เอโก จณฺฑาโล อตฺถิ, โส อิมํ คงฺคาย อุทกํ กาเลน อนุโสตคามึ กาเลน ปติโสตคามึ กโรติ, มยา ตทตฺถํ กิฺจิ กถิตํ อตฺถิ, ตํ ปุจฺฉถ, โส ชานิสฺสตี’’ติ.

ราชา มาตงฺคอิสิสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, อรุณสฺส อุคฺคนฺตุํ น เทถา’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, มหาราชาติ. กึ การณา ภนฺเตติ? ชาติมนฺตตาปสการณา, มหาราช, ชาติมนฺตตาปเสน อาคนฺตฺวา มํ วนฺทิตฺวา ขมาปิตกาเล ทสฺสามิ มหาราชาติ. ราชา คนฺตฺวา ‘‘เอถ อาจริย, ตาปสํ ขมาเปถา’’ติ อาห. นาหํ, มหาราช, จณฺฑาลํ วนฺทามีติ. มา อาจริย, เอวํ กโรถ, ชนปทสฺส มุขํ ปสฺสถาติ. โส ปุน ปฏิกฺขิปิเยว. ราชา โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อาจริโย ขมาเปตุํ น อิจฺฉิตี’’ติ อาห. อขมาปิเต อหํ สูริยํ น มุฺจามีติ. ราชา ‘‘อยํ ขมาเปตุํ น อิจฺฉติ, อยํ อขมาปิเต สูริยํ น มุฺจติ, กึ อมฺหากํ เตน ตาปเสน, โลกํ โอโลเกสฺสามา’’ติ ‘‘คจฺฉถ, โภ, ตาปสสนฺติกํ, ตํ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวา มาตงฺคอิสิสฺส ปาทมูเล เนตฺวา นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปถ เอตสฺส ชนปทานุทฺทยตํ ปฏิจฺจา’’ติ อาห. เต ราชปุริสา คนฺตฺวา ตํ ตถา กตฺวา อาเนตฺวา มาตงฺคอิสิสฺส ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปสุํ.

อหํ นาม ขมิตพฺพํ ขมามิ, อปิจ โข ปน เอตสฺส กถา เอตสฺเสว อุปริ ปติสฺสติ. มยา สูริเย วิสฺสชฺชิเต สูริยรสฺมิ เอตสฺส มตฺถเก ปติสฺสติ, อถสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสติ. ตฺจ โข ปเนส พฺยสนํ มา ปาปุณาตุ, เอถ ตุมฺเห เอตํ คลปฺปมาเณ อุทเก โอตาเรตฺวา มหนฺตํ มตฺติกาปิณฺฑมสฺส สีเส เปถ. อถาหํ สูริยํ วิสฺสชฺชิสฺสามิ. สูริยรสฺมิ มตฺติกาปิณฺเฑ ปติตฺวา ตํ สตฺตธา ภินฺทิสฺสติ. อเถส มตฺติกาปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา นิมุชฺชิตฺวา อฺเน ติตฺเถน อุตฺตรตุ, อิติ นํ วทถ, เอวมสฺส โสตฺถิ ภวิสฺสตีติ. เต มนุสฺสา ‘‘เอวํ กริสฺสามา’’ติ ตถา กาเรสุํ. ตสฺสาปิ ตเถว โสตฺถิ ชาตา. โส ตโต ปฏฺาย – ‘‘ชาติ นาม อการณํ, ปพฺพชิตานํ อพฺภนฺตเร คุโณว การณ’’นฺติ ชาติโคตฺตมานํ ปหาย นิมฺมโท อโหสิ.

อิติ ชาติมนฺตตาปเส ทมิเต มหาชโน โพธิสตฺตสฺส ถามํ อฺาสิ, มหาโกลาหลํ ชาตํ. ราชา อตฺตโน นครํ คมนตฺถาย โพธิสตฺตํ ยาจิ. มหาสตฺโต ปฏิฺํ ทตฺวา ตานิ จ อสีติพฺราหฺมณสหสฺสานิ ทเมสฺสามิ, ปฏิฺฺจ โมเจสฺสามีติ มชฺฌราชสฺส นครํ อคมาสิ. พฺราหฺมณา โพธิสตฺตํ ทิสฺวาว – โภ, ‘‘อยํ โส, โภ มหาโจโร, อาคโต, อิทาเนว สพฺเพ เอเต มยฺหํ อุจฺฉิฏฺกํ ขาทิตฺวา อพฺราหฺมณา ชาตาติ อมฺเห ปากเฏ กริสฺสติ, เอวํ โน อิธาปิ อาวาโส น ภวิสฺสติ, ปฏิกจฺเจว มาเรสฺสามา’’ติ ราชานํ ปุน อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเห, มหาราช, เอตํ จณฺฑาลปพฺพชิตํ มา สาธุรูโปติ มฺิตฺถ, เอส ครุกมนฺตํ ชานาติ, ปถวึ คเหตฺวา อากาสํ กโรติ, อากาสํ ปถวึ, ทูรํ คเหตฺวา สนฺติกํ กโรติ, สนฺติกํ ทูรํ, คงฺคํ นิวตฺเตตฺวา อุทฺธคามินึ กโรติ, อิจฺฉนฺโต ปถวึ อุกฺขิปิตฺวา ปาเตตุํ มฺเ สกฺโกติ. ปรสฺส วา จิตฺตํ นาม สพฺพกาลํ น สกฺกา คเหตุํ, อยํ อิธ ปติฏฺํ ลภนฺโต ตุมฺหากํ รชฺชมฺปิ นาเสยฺย, ชีวิตนฺตรายมฺปิ วํสุปจฺเฉทมฺปิ กเรยฺย, อมฺหากํ วจนํ กโรถ, มหาราช, อชฺเชว อิมํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

ราชาโน นาม ปรปตฺติยา โหนฺติ, อิติ โส พหูนํ กถาวเสน นิฏฺํ คโต. โพธิสตฺโต ปน นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน มิสฺสโกทนํ ภุฺชิตฺวา ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา นิราปราธตาย นิราสงฺโก มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิ. อตีเต จตฺตาลีส, อนาคเต จตฺตาลีสาติ อสีติกปฺเป อนุสฺสริตุํ สมตฺถาณสฺส อนาวชฺชนตาย มุหุตฺตมตฺตเก กาเล สติ นปฺปโหติ, ราชา อฺํ อชานาเปตฺวา สยเมว คนฺตฺวา นิราวชฺชนตาย ปมาเทน นิสินฺนํ มหาปุริสํ อสินา ปหริตฺวา ทฺเว ภาเค อกาสิ. อิมสฺส รฺโ วิชิเต อฏฺมํ โลหกูฏวสฺสํ, นวมํ กลลวสฺสํ วสฺสิ. อิติ อิมสฺสาปิ รฏฺเ นว วุฏฺิโย ปติตา. โส จ ราชา สปริโส มหานิรเย นิพฺพตฺโต. เตนาห สํกิจฺจปณฺฑิโต –

‘‘อุปหจฺจ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;

สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหูติ’’. (ชา. ๒.๑๙.๙๖) –

เอวํ มชฺฌารฺสฺส อรฺภูตภาโว เวทิตพฺโพ. มาตงฺคสฺส ปน อิสิโน วเสน ตเทว มาตงฺคารฺนฺติ วุตฺตํ.

๖๖. ปฺหปฏิภานานีติ ปฺหพฺยากรณานิ. ปจฺจนีกํ กตพฺพนฺติ ปจฺจนีกํ กาตพฺพํ. อมฺิสฺสนฺติ วิโลมภาคํ คณฺหนฺโต วิย อโหสินฺติ อตฺโถ.

๖๗. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิจาเรตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กาตพฺพํ กโรหีติ วุตฺตํ โหติ. สาธุ โหตีติ สุนฺทโร โหติ. ตุมฺหาทิสสฺมิฺหิ มํ ทิสฺวา มํ สรณํ คจฺฉนฺเต นิคณฺํ ทิสฺวา นิคณฺํ สรณํ คจฺฉนฺเต – ‘‘กึ อยํ อุปาลิ ทิฏฺทิฏฺเมว สรณํ คจฺฉตี’’ติ? ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺมา อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ สาธูติ ทสฺเสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ เต กิร เอวรูปํ สาวกํ ลภิตฺวา – ‘‘อสุโก นาม ราชา วา ราชมหามตฺโต วา เสฏฺิ วา อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. กสฺมา? เอวํ โน มหนฺตภาโว อาวิ ภวิสฺสตีติ จ, สเจ ตสฺส ‘‘กิมหํ เอเตสํ สรณํ คโต’’ติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺเชยฺย, ตมฺปิ โส ‘‘เอเตสํ เม สรณคตภาวํ พหู ชานนฺติ, ทุกฺขํ อิทานิ ปฏินิวตฺติตุ’’นฺติ วิโนเทตฺวา น ปฏิกฺกมิสฺสตีติ จ. ‘‘เตนาห ปฏากํ ปริหเรยฺยุ’’นฺติ.

๖๘. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ ตว นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ ปุพฺเพ ทสปิ วีสติปิ สฏฺิปิ ชเน อาคเต ทิสฺวา นตฺถีติ อวตฺวา เทติ. อิทานิ มํ สรณํ คตการณมตฺเตนว มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ, อุปจฺฉินฺทิตฺถ, สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทติ. สุตเมตํ, ภนฺเตติ กุโต สุตํ? นิคณฺานํ สนฺติกา, เต กิร กุลฆเรสุ เอวํ ปกาเสนฺติ – ‘‘มยํ ‘ยสฺส กสฺสจิ สมฺปตฺตสฺส ทาตพฺพ’นฺติ วทาม, สมโณ ปน โคตโม ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ วทตี’’ติ. ตํ สนฺธาย อยํ คหปติ ‘‘สุตเมต’’นฺติ อาห.

๖๙. อนุปุพฺพึ กถนฺติ ทานานนฺตรํ สีลํ, สีลานนฺตรํ สคฺคํ, สคฺคานนฺตรํ มคฺคนฺติ เอวํ อนุปฏิปาฏิกถํ. ตตฺถ ทานกถนฺติ อิทํ ทานํ นาม สุขานํ นิทานํ, สมฺปตฺตีนํ มูลํ, โภคานํ ปติฏฺา, วิสมคตสฺส ตาณํ เลณํ คติปรายณํ, อิธโลกปรโลเกสุ ทานสทิโส อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ. อิทฺหิ อวสฺสยฏฺเน รตนมยสีหาสนสทิสํ, ปติฏฺานฏฺเน มหาปถวิสทิสํ, อาลมฺพนฏฺเน อาลมฺพนรชฺชุสทิสํ. อิทฺหิ ทุกฺขนิตฺถรณฏฺเน นาวา, สมสฺสาสนฏฺเน สงฺคามสูโร, ภยปริตฺตาณฏฺเน สุสงฺขตนครํ, มจฺเฉรมลาทีหิ อนุปลิตฺตฏฺเน ปทุมํ, เตสํ นิทหนฏฺเน อคฺคิ, ทุราสทฏฺเน อาสีวิโส. อสนฺตาสนฏฺเน สีโห, พลวนฺตฏฺเน หตฺถี, อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน เสตวสโภ, เขมนฺตภูมิสมฺปาปนฏฺเน วลาหโก อสฺสราชา. ทานํ นาเมภํ มยฺหํ คตมคฺโค, มยฺเหเวโส วํโส, มยา ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตน เวลามมหายฺโ, มหาโควินฺทมหายฺโ มหาสุทสฺสนมหายฺโ, เวสฺสนฺตรมหายฺโติ อเนกมหายฺา ปวตฺติตา, สสภูเตน ชลิเต อคฺคิกฺขนฺเธ อตฺตานํ นิยฺยาเทนฺเตน สมฺปตฺตยาจกานํ จิตฺตํ คหิตํ. ทานฺหิ โลเก สกฺกสมฺปตฺตึ เทติ, มารสมฺปตฺตึ เทติ, พฺรหฺมสมฺปตฺตึ เทติ, จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ เทติ, สาวกปารมีาณํ, ปจฺเจกโพธิาณํ, อภิสมฺโพธิาณํ เทตีติ เอวมาทึ ทานคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.

ยสฺมา ปน ทานํ ททนฺโต สีลํ สมาทาตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ตทนตรํ สีลกถํ กเถสิ. สีลกถนฺติ สีลํ นาเมตํ อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ, สีลํ นาเมตํ มม วํโส, อหํ สงฺขปาลนาคราชกาเล, ภูริทตฺตนาคราชกาเล, จมฺเปยฺยนาคราชกาเล, สีลวนาคราชกาเล, มาตุโปสกหตฺถิราชกาเล, ฉทฺทนฺตหตฺถิราชกาเลติ อนนฺเตสุ อตฺตภาเวสุ สีลํ ปริปูเรสึ. อิธโลกปรโลกสมฺปตฺตีนฺหิ สีลสทิโส อวสฺสโย, สีลสทิสา ปติฏฺา, อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ, สีลาลงฺการสทิโส อลงฺกาโร นตฺถิ, สีลปุปฺผสทิสํ ปุปฺผํ นตฺถิ, สีลคนฺธสทิโส คนฺโธ นตฺถิ. สีลาลงฺกาเรน หิ อลงฺกตํ สีลกุสุมปิฬนฺธนํ สีลคนฺธานุลิตฺตํ สเทวโกปิ โลโก โอโลเกนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉตีติ เอวมาทึ สีลคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.

อิทํ ปน สีลํ นิสฺสาย อยํ สคฺโค ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ สีลานนฺตรํ สคฺคกถํ กเถสิ. สคฺคกถนฺติ อยํ สคฺโค นาม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, นิจฺจเมตฺถ กีฬา, นิจฺจํ สมฺปตฺติโย ลพฺภนฺติ, จาตุมหาราชิกา เทวา นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ ทิพฺพสุขํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ตาวตึสา ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานีติ เอวมาทึ สคฺคคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ. สคฺคสมฺปตฺตึ กถยนฺตานฺหิ พุทฺธานํ มุขํ นปฺปโหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อเนกปริยาเยน โข อหํ, ภิกฺขเว, สคฺคกถํ กเถยฺย’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๓.๒๕๕).

เอวํ สคฺคกถาย ปโลเภตฺวา ปุน หตฺถึ อลงฺกริตฺวา ตสฺส โสณฺฑํ ฉินฺทนฺโต วิย – ‘‘อยมฺปิ สคฺโค อนิจฺโจ อทฺธุโว, น เอตฺถ ฉนฺทราโค กาตพฺโพ’’ติ ทสฺสนตฺถํ – ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา วุตฺตา มยา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๕) นเยน กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ กเถสิ. ตตฺถ อาทีนโวติ โทโส. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สํกิเลโสติ เตหิ สตฺตานํ สํสาเร สํกิลิสฺสนํ. ยถาห ‘‘กิลิสฺสนฺติ วต, โภ, สตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑).

เอวํ กามาทีนเวน ตชฺชิตฺวา เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. กลฺลจิตฺตนฺติ อโรคจิตฺตํ. สามุกฺกํสิกาติ สามํ อุกฺกํสิกา อตฺตนาเยว คเหตฺวา อุทฺธริตฺวา คหิตา, สยมฺภูาเณน ทิฏฺา, อสาธารณา อฺเสนฺติ อตฺโถ. กา ปเนสาติ, อริยสจฺจเทสนา? เตเนวาห – ‘‘ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺค’’นฺติ.

วิรชํ วีตมลนฺติ ราครชาทีนํ อภาวา วิรชํ, ราคมลาทีนํ วิคตตฺตา วีตมลํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ อุปริ พฺรหฺมายุสุตฺเต ติณฺณํ มคฺคานํ, จูฬราหุโลวาเท อาสวกฺขยสฺเสตํ นามํ. อิธ ปน โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ตสฺส อุปฺปตฺติอาการทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ อาห. ตฺหิ นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน เอวํ สพฺพสงฺขตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ อุปฺปชฺชติ.

ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสสปเทสุปิ. ติณฺณา วิจิกิจฺฉา อเนนาติ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ. วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ เวสารชฺชํ ปตฺโต. กตฺถ? สตฺถุ สาสเน. นาสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรสฺส สทฺธาย เอตฺถ วตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย.

๗๐. จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉมาโน อภินนฺทิตฺวา, วาจาย ปสํสมาโน อนุโมทิตฺวา. อาวรามีติ ถเกมิ ปิทหามิ. อนาวฏนฺติ น อาวริตํ วิวฏํ อุคฺฆาฏิตํ.

๗๑. อสฺโสสิ โข ทีฆตปสฺสีติ โส กิร ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย – ‘‘ปณฺฑิโต คหปติ, สมโณ จ โคตโม ทสฺสนสมฺปนฺโน นิยฺยานิกกโถ, ทสฺสเนปิ ตสฺส ปสีทิสฺสติ, ธมฺมกถายปิ ปสีทิสฺสติ, ปสีทิตฺวา สรณํ คมิสฺสติ, คโต นุ โข สรณํ คหปติ น ตาว คโต’’ติ โอหิตโสโตว หุตฺวา วิจรติ. ตสฺมา ปมํเยว อสฺโสสิ.

๗๒. เตน หิ สมฺมาติ พลวโสเกน อภิภูโต ‘‘เอตฺเถว ติฏฺา’’ติ วจนํ สุตฺวาปิ อตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต โทวาริเกน สทฺธึ สลฺลปติเยว.

มชฺฌิมาย ทฺวารสาลายานฺติ ยสฺส ฆรสฺส สตฺต ทฺวารโกฏฺกา, ตสฺส สพฺพอพฺภนฺตรโต วา สพฺพพาหิรโต วา ปฏฺาย จตุตฺถทฺวารโกฏฺโก, ยสฺส ปฺจ, ตสฺส ตติโย, ยสฺส ตโย, ตสฺส ทุติโย ทฺวารโกฏฺโก มชฺฌิมทฺวารสาลา นาม. เอกทฺวารโกฏฺกสฺส ปน ฆรสฺส มชฺฌฏฺาเน มงฺคลตฺถมฺภํ นิสฺสาย มชฺฌิมทฺวารสาลา. ตสฺส ปน เคหสฺส สตฺต ทฺวารโกฏฺกา, ปฺจาติปิ วุตฺตํ.

๗๓. อคฺคนฺติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. ยํ สุทนฺติ เอตฺถ นฺติ ยํ นาฏปุตฺตํ. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ปริคฺคเหตฺวาติ เตเนว อุตฺตราสงฺเคน อุทเร ปริกฺขิปนฺโต คเหตฺวา. นิสีทาเปตีติ สณิกํ อาจริย, สณิกํ อาจริยาติ มหนฺตํ เตลฆฏํ เปนฺโต วิย นิสีทาเปติ. ทตฺโตสีติ กึ ชโฬสิ ชาโตติ อตฺโถ. ปฏิมุกฺโกติ สีเส ปริกฺขิปิตฺวา คหิโต. อณฺฑหารโกติอาทึ ทุฏฺุลฺลวจนมฺปิ สมานํ อุปฏฺากสฺส อฺถาภาเวน อุปฺปนฺนพลวโสกตาย อิทํ นาม ภณามีติ อสลฺลกฺเขตฺวาว ภณติ.

๗๔. ภทฺทิกา, ภนฺเต, อาวฏฺฏนีติ นิคณฺโ มายเมว สนฺธาย วทติ, อุปาสโก อตฺตนา ปฏิวิทฺธํ โสตาปตฺติมคฺคํ. เตน หีติ นิปาตมตฺตเมตํ, ภนฺเต, อุปมํ เต กริสฺสามิจฺเจว อตฺโถ. การณวจนํ วา, เยน การเณน ตุมฺหากํ สาสนํ อนิยฺยานิกํ, มม สตฺถุ นิยฺยานิกํ, เตน การเณน อุปมํ เต กริสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ.

๗๕. อุปวิชฺาติ วิชายนกาลํ อุปคตา. มกฺกฏจฺฉาปกนฺติ มกฺกฏโปตกํ. กิณิตฺวา อาเนหีติ มูลํ ทตฺวาว อาหร. อาปเณสุ หิ สวิฺาณกมฺปิ อวิฺาณกมฺปิ มกฺกฏาทิกีฬนภณฺฑกํ วิกฺกิณนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ อาห. รชิตนฺติ พหลพหลํ ปีตาวเลปนรงฺคชาตํ คเหตฺวา รชิตฺวา ทินฺนํ อิมํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตนฺติ อาโกฏิตฺเจว ปริวตฺเตตฺวา ปุนปฺปุนํ อาโกฏิตฺจ. อุภโตภาควิมฏฺนฺติ มณิปาสาเณน อุโภสุ ปสฺเสสุ สุฏฺุ วิมฏฺํ ฆฏฺเฏตฺวา อุปฺปาทิตจฺฉวึ.

รงฺคกฺขโม หิ โขติ สวิฺาณกมฺปิ อวิฺาณกมฺปิ รงฺคํ ปิวติ. ตสฺมา เอวมาห. โน อาโกฏฺฏนกฺขโมติ สวิฺาณกสฺส ตาว อาโกฏฺฏนผลเก เปตฺวา กุจฺฉิยํ อาโกฏิตสฺส กุจฺฉิ ภิชฺชติ, กรีสํ นิกฺขมติ. เสสี อาโกฏิตสฺส สีสํ ภิชฺชติ, มตฺตลุงฺคํ นิกฺขมติ. อวิฺาณโก ขณฺฑขณฺฑิตํ คจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห. โน วิมชฺชนกฺขโมติ สวิฺาณโก มณิปาสาเณน วิมทฺทิยมาโน นิลฺโลมตํ นิจฺฉวิตฺจ อาปชฺชติ, อวิฺาณโกปิ วจุณฺณกภาวํ อาปชฺชติ. ตสฺมา เอวมาห. รงฺคกฺขโม หิ โข พาลานนฺติ พาลานํ มนฺทพุทฺธีนํ รงฺคกฺขโม, ราคมตฺตํ ชเนติ, ปิโย โหติ. ปณฺฑิตานํ ปน นิคณฺวาโท วา อฺโ วา ภารตรามสีตาหรณาทิ นิรตฺถกกถามคฺโค อปฺปิโยว โหติ. โน อนุโยคกฺขโม, โน วิมชฺชนกฺขโมติ อนุโยคํ วา วีมํสํ วา น ขมติ, ถุเส โกฏฺเฏตฺวา ตณฺฑุลปริเยสนํ วิย กทลิยํ สารคเวสนํ วิย จ ริตฺตโก ตุจฺฉโกว โหติ. รงฺคกฺขโม เจว ปณฺฑิตานนฺติ จตุสจฺจกถา หิ ปณฺฑิตานํ ปิยา โหติ, วสฺสสตมฺปิ สุณนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉติ. ตสฺมา เอวมาห. พุทฺธวจนํ ปน ยถา ยถาปิ โอคาหิสฺสติ มหาสมุทฺโท วิย คมฺภีรเมว โหตีติ ‘‘อนุโยคกฺขโม จ วิมชฺชนกฺขโม จา’’ติ อาห. สุโณหิ ยสฺสาหํ สาวโกติ ตสฺส คุเณ สุณาหีติ ภควโต วณฺเณ วตฺตุํ อารทฺโธ.

๗๖. ธีรสฺสาติ ธีรํ วุจฺจติ ปณฺฑิจฺจํ, ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, เตน สมนฺนาคตสฺส ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทฏฺานาฏฺานกุสลสฺส ปณฺฑิตสฺสาหํ สาวโก, โส มยฺหํ สตฺถาติ เอวํ สพฺพปเทสุ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปภินฺนขีลสฺสาติ ภินฺนปฺจเจโตขิลสฺส. สพฺพปุถุชฺชเน วิชินึสุ วิชินนฺติ วิชินิสฺสนฺติ วาติ วิชยา. เก เต, มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมาราติ? เต วิชิตา วิชยา เอเตนาติ วิชิตวิชโย. ภควา, ตสฺส วิชิตวิชยสฺส. อนีฆสฺสาติ กิเลสทุกฺเขนปิ วิปากทุกฺเขนปิ นิทฺทุกฺขสฺส. สุสมจิตฺตสฺสาติ เทวทตฺตธนปาลกองฺคุลิมาลราหุลเถราทีสุปิ เทวมนุสฺเสสุ สุฏฺุ สมจิตฺตสฺส. วุทฺธสีลสฺสาติ วฑฺฒิตาจารสฺส. สาธุปฺสฺสาติ สุนฺทรปฺสฺส. เวสมนฺตรสฺสาติ ราคาทิวิสมํ ตริตฺวา วิตริตฺวา ิตสฺส. วิมลสฺสาติ วิคตราคาทิมลสฺส.

ตุสิตสฺสาติ ตุฏฺจิตฺตสฺส. วนฺตโลกามิสสฺสาติ วนฺตกามคุณสฺส. มุทิตสฺสาติ มุทิตาวิหารวเสน มุทิตสฺส, ปุนรุตฺตเมว วา เอตํ. ปสาทวเสน หิ เอกมฺปิ คุณํ ปุนปฺปุนํ วทติเยว. กตสมณสฺสาติ กตสามฺสฺส, สมณธมฺมสฺส มตฺถกํ ปตฺตสฺสาติ อตฺโถ. มนุชสฺสาติ โลกโวหารวเสน เอกสฺส สตฺตสฺส. นรสฺสาติ ปุนรุตฺตํ. อฺถา วุจฺจมาเน เอเกกคาถาย ทส คุณา นปฺปโหนฺติ.

เวนยิกสฺสาติ สตฺตานํ วินายกสฺส. รุจิรธมฺมสฺสาติ สุจิธมฺมสฺส. ปภาสกสฺสาติ โอภาสกสฺส. วีรสฺสาติ วีริยสมฺปนฺนสฺส. นิสภสฺสาติ อุสภวสภนิสเภสุ สพฺพตฺถ อปฺปฏิสมฏฺเน นิสภสฺส. คมฺภีรสฺสาติ คมฺภีรคุณสฺส, คุเณหิ วา คมฺภีรสฺส. โมนปตฺตสฺสาติ าณปตฺตสฺส. เวทสฺสาติ เวโท วุจฺจติ าณํ, เตน สมนฺนาคตสฺส. ธมฺมฏฺสฺสาติ ธมฺเม ิตสฺส. สํวุตตฺตสฺสาติ ปิหิตตฺตสฺส.

นาคสฺสาติ จตูหิ การเณหิ นาคสฺส. ปนฺตเสนสฺสาติ ปนฺตเสนาสนสฺส. ปฏิมนฺตกสฺสาติ ปฏิมนฺตนปฺาย สมนฺนาคตสฺส. โมนสฺสาติ โมนํ วุจฺจติ าณํ, เตน สมนฺนาคตสฺส, ธุตกิเลสสฺส วา. ทนฺตสฺสาติ นิพฺพิเสวนสฺส.

อิสิสตฺตมสฺสาติ วิปสฺสิอาทโย ฉ อิสโย อุปาทาย สตฺตมสฺส. พฺรหฺมปตฺตสฺสาติ เสฏฺปตฺตสฺส. นฺหาตกสฺสาติ นฺหาตกิเลสสฺส. ปทกสฺสาติ อกฺขราทีนิ สโมธาเนตฺวา คาถาปทกรณกุสลสฺส. วิทิตเวทสฺสาติ วิทิตาณสฺส. ปุรินฺททสฺสาติ สพฺพปมํ ธมฺมทานทายกสฺส. สกฺกสฺสาติ สมตฺถสฺส. ปตฺติปตฺตสฺสาติ เย ปตฺตพฺพา คุณา, เต ปตฺตสฺส. เวยฺยากรณสฺสาติ วิตฺถาเรตฺวา อตฺถทีปกสฺส. ภควตา หิ อพฺยากตํ นาม ตนฺติ ปทํ นตฺถิ สพฺเพสํเยว อตฺโถ กถิโต.

วิปสฺสิสฺสาติ วิปสฺสนกสฺส. อนภินตสฺสาติ อนตสฺส. โน อปนตสฺสาติ อทุฏฺสฺส.

อนนุคตนฺตรสฺสาติ กิเลเส อนนุคตจิตฺตสฺส. อสิตสฺสาติ อพทฺธสฺส.

ภูริปฺสฺสาติ ภูริ วุจฺจติ ปถวี, ตาย ปถวีสมาย ปฺาย วิปุลาย มหนฺตาย วิตฺถตาย สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. มหาปฺสฺสาติ มหาปฺาย สมนฺนาคตสฺส.

อนุปลิตฺตสฺสาติ ตณฺหาทิฏฺิกิเลเสหิ อลิตฺตสฺส. อาหุเนยฺยสฺสาติ อาหุตึ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺตสฺส. ยกฺขสฺสาติ อานุภาวทสฺสนฏฺเน อาทิสฺสมานกฏฺเน วา ภควา ยกฺโข นาม. เตนาห ‘‘ยกฺขสฺสา’’ติ. มหโตติ มหนฺตสฺส. ตสฺส สาวโกหมสฺมีติ ตสฺส เอวํวิวิธคุณสฺส สตฺถุสฺส อหํ สาวโกติ. อุปาสกสฺส โสภาปตฺติมคฺเคเนว ปฏิสมฺภิทา อาคตา. อิติ ปฏิสมฺภิทาวิสเย ตฺวา ปทสเตน ทสพลสฺส กิเลสปฺปหานวณฺณํ กเถนฺโต ‘‘กสฺส ตํ คหปติ สาวกํ ธาเรมา’’ติ ปฺหสฺส อตฺถํ วิสฺสชฺเชสิ.

๗๗. กทา สฺูฬฺหาติ กทา สมฺปิณฺฑิตา. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ อิทาเนว สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาคโต, กทาเนน เอเต วณฺณา สมฺปิณฺฑิตา’’ติ. ตสฺมา เอวมาห. วิจิตฺตํ มาลํ คนฺเถยฺยาติ สยมฺปิ ทกฺขตาย ปุปฺผานมฺปิ นานาวณฺณตาย เอกโตวณฺฏิกาทิเภทํ วิจิตฺรมาลํ คนฺเถยฺย. เอวเมว โข, ภนฺเตติ เอตฺถ นานาปุปฺผานํ มหาปุปฺผราสิ วิย นานาวิธานํ วณฺณานํ ภควโต สิเนรุมตฺโต วณฺณราสิ ทฏฺพฺโพ. เฉกมาลากาโร วิย อุปาลิ คหปติ. มาลาการสฺส วิจิตฺรมาลาคนฺถนํ วิย คหปติโน ตถาคตสฺส วิจิตฺรวณฺณคนฺถนํ.

อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคฺฉีติ ตสฺส หิ ภควโต สกฺการํ อสหมานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อนตฺถิโก ทานิ อยํ คหปติ อมฺเหหิ, สฺเว ปฏฺาย ปณฺณาส สฏฺิ ชเน คเหตฺวา เอตสฺส ฆรํ ปวิสิตฺวา ภุฺชิตุํ น ลภิสฺสามิ, ภินฺนา เม ภตฺตกุมฺภี’’ติ. อถสฺส อุปฏฺากวิปริณาเมน พลวโสโก อุปฺปชฺชิ. อิเม หิ สตฺตา อตฺตโน อตฺตโนว จินฺตยนฺติ. ตสฺส ตสฺมึ โสเก อุปฺปนฺเน อพฺภนฺตรํ อุณฺหํ อโหสิ, โลหิตํ วิลียิตฺถ, ตํ มหาวาเตน สมุทฺธริตํ กุเฏ ปกฺขิตฺตรชนํ วิย ปตฺตมตฺตํ มุขโต อุคฺคฺฉิ. นิธานคตโลหิตํ วมิตฺวา ปน อปฺปกา สตฺตา ชีวิตุํ สกฺโกนฺติ. นิคณฺโ ตตฺเถว ชาณุนา ปติโต, อถ นํ ปาฏงฺกิยา พหินครํ นีหริตฺวา มฺจกสิวิกาย คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ, โส น จิรสฺเสว ปาวายํ กาลมกาสิ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อุคฺฆาฏิตฺูปุคฺคลสฺส วเสน ธมฺมเทสนา ปรินิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อุปาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กุกฺกุรวติกสุตฺตวณฺณนา

๗๘. เอวํ เม สุตนฺติ กุกฺกุรวติกสุตฺตํ. ตตฺถ โกลิเยสูติ เอวํนามเก ชนปเท. โส หิ เอโกปิ โกลนคเร ปติฏฺิตานํ โกลิยานํ ราชกุมารานํ นิวาสฏฺานตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ตสฺมึ โกลิเยสุ ชนปเท. หลิทฺทวสนนฺติ ตสฺส กิร นิคมสฺส มาปิตกาเล ปีตกวตฺถนิวตฺถา มนุสฺสา นกฺขตฺตํ กีฬึสุ. เต นกฺขตฺตกีฬาวสาเน นิคมสฺส นามํ อาโรเปนฺตา หลิทฺทวสนนฺติ นามํ อกํสุ. ตํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. วิหาโร ปเนตฺถ กิฺจาปิ น นิยามิโต, ตถาปิ พุทฺธานํ อนุจฺฉวิเก เสนาสเนเยว วิหาสีติ เวทิตพฺโพ. โควติโกติ สมาทินฺนโควโต, สีเส สิงฺคานิ เปตฺวา นงฺคุฏฺํ พนฺธิตฺวา คาวีหิ สทฺธึ ติณานิ ขาทนฺโต วิย จรติ. อเจโลติ นคฺโค นิจฺเจโล. เสนิโยติ ตสฺส นามํ.

กุกฺกุรวติโกติ สมาทินฺนกุกฺกุรวโต, สพฺพํ สุนขกิริยํ กโรติ. อุโภเปเต สหปํสุกีฬิกา สหายกา. กุกฺกุโรว ปลิกุชฺชิตฺวาติ สุนโข นาม สามิกสฺส สนฺติเก นิสีทนฺโต ทฺวีหิ ปาเทหิ ภูมิยํ วิเลขิตฺวา กุกฺกุรกูชิตํ กูชนฺโต นิสีทติ, อยมฺปิ ‘‘กุกฺกุรกิริยํ กริสฺสามี’’ติ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา ทฺวีหิ หตฺเถหิ ภูมิยํ วิเลขิตฺวา สีสํ วิธุนนฺโต ‘ภู ภู’ติ กตฺวา หตฺถปาเท สมิฺชิตฺวา สุนโข วิย นิสีทิ. ฉมานิกฺขิตฺตนฺติ ภูมิยํ ปิตํ. สมตฺตํ สมาทินฺนนฺติ ปริปุณฺณํ กตฺวา คหิตํ. กา คตีติ กา นิปฺผตฺติ. โก อภิสมฺปราโยติ อภิสมฺปรายมฺหิ กตฺถ นิพฺพตฺติ. อลนฺติ ตสฺส อปฺปิยํ ภวิสฺสตีติ ยาวตติยํ ปฏิพาหติ. กุกฺกุรวตนฺติ กุกฺกุรวตสมาทานํ.

๗๙. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ นิรนฺตรํ. กุกฺกุรสีลนฺติ กุกฺกุราจารํ. กุกฺกุรจิตฺตนฺติ ‘‘อชฺช ปฏฺาย กุกฺกุเรหิ กาตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตํ. กุกฺกุรากปฺปนฺติ กุกฺกุรานํ คมนากาโร อตฺถิ, ติฏฺนากาโร อตฺถิ, นิสีทนากาโร อตฺถิ, สยนากาโร อตฺถิ, อุจฺจารปสฺสาวกรณากาโร อตฺถิ, อฺเ กุกฺกุเร ทิสฺวา ทนฺเต วิวริตฺวา คมนากาโร อตฺถิ, อยํ กุกฺกุรากปฺโป นาม, ตํ ภาเวตีติ อตฺโถ. อิมินาหํ สีเลนาติอาทีสุ อหํ อิมินา อาจาเรน วา วตสมาทาเนน วา ทุกฺกรตปจรเณน วา เมถุนวิรติพฺรหฺมจริเยน วาติ อตฺโถ. เทโวติ สกฺกสุยามาทีสุ อฺตโร. เทวฺตโรติ เตสํ ทุติยตติยฏฺานาทีสุ อฺตรเทโว. มิจฺฉาทิฏฺีติ อเทวโลกคามิมคฺคเมว เทวโลกคามิมคฺโคติ คเหตฺวา อุปฺปนฺนตาย สา อสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นาม โหติ. อฺตรํ คตึ วทามีติ ตสฺส หิ นิรยโต วา ติรจฺฉานโยนิโต วา อฺา คติ นตฺถิ, ตสฺมา เอวมาห. สมฺปชฺชมานนฺติ ทิฏฺิยา อสมฺมิสฺสํ หุตฺวา นิปชฺชมานํ.

นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามิ, ยํ มํ ภควา เอวมาหาติ ยํ มํ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห, อหเมตํ ภควโต พฺยากรณํ น โรทามิ น ปริเทวามิ, น อนุตฺถุนามีติ อตฺโถ. เอวํ สกมฺมกวเสเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, น อสฺสุมุฺจนมตฺเตน.

‘‘มตํ วา อมฺม โรทนฺติ, โย วา ชีวํ น ทิสฺสติ;

ชีวนฺตํ อมฺม ปสฺสนฺตี, กสฺมา มํ อมฺม โรทสี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๙) –

อยฺเจตฺถ ปโยโค. อปิจ เม อิทํ, ภนฺเตติ อปิจ โข เม อิทํ, ภนฺเต, กุกฺกุรวตํ ทีฆรตฺตํ สมาทินฺนํ, ตสฺมึ สมฺปชฺชนฺเตปิ วุทฺธิ นตฺถิ, วิปชฺชนฺเตปิ. อิติ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ มยา กตกมฺมํ โมฆํ ชาต’’นฺติ อตฺตโน วิปตฺตึ ปจฺจเวกฺขมาโน โรทามิ, ภนฺเตติ.

๘๐. โควตนฺติอาทีนิ กุกฺกุรวตาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ควากปฺปนฺติ โคอากปฺปํ. เสสํ กุกฺกุรากปฺเป วุตฺตสทิสเมว. ยถา ปน ตตฺถ อฺเ กุกฺกุเร ทิสฺวา ทนฺเต วิวริตฺวา คมนากาโร, เอวมิธ อฺเ คาโว ทิสฺวา กณฺเณ อุกฺขิปิตฺวา คมนากาโร เวทิตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมว.

๘๑. จตฺตาริมานิ ปุณฺณ กมฺมานีติ กสฺมา อิมํ เทสนํ อารภิ? อยฺหิ เทสนา เอกจฺจกมฺมกิริยวเสน อาคตา, อิมสฺมิฺจ กมฺมจตุกฺเก กถิเต อิเมสํ กิริยา ปากฏา ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. อปิจ อิมํ กมฺมจตุกฺกเมว เทสิยมานํ อิเม สฺชานิสฺสนฺติ, ตโต เอโก สรณํ คมิสฺสติ, เอโก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตีติ อยเมว เอเตสํ สปฺปายาติ ตฺวาปิ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ กณฺหนฺติ กาฬกํ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ. กณฺหวิปากนฺติ อปาเย นิพฺพตฺตนโต กาฬกวิปากํ. สุกฺกนฺติ ปณฺฑรํ ทสกุสลกมฺมปถกมฺมํ. สุกฺกวิปากนฺติ สคฺเค นิพฺพตฺตนโต ปณฺฑรวิปากํ. กณฺหสุกฺกนฺติ โวมิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิฏฺานาทีสุ อุปฺปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ เวทิยติ. กุสเลน ราชกุเลปิ นิพฺพตฺโต อกุสเลน ปวตฺเต ทุกฺขํ เวทิยติ. อกณฺหํ อสุกฺกนฺติ กมฺมกฺขยกรํ จตุมคฺคเจตนากมฺมํ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อทานโต อกณฺหาสุกฺกวิปากตฺตา ‘‘อกณฺหํ อสุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. อยํ ตาว อุทฺเทเส อตฺโถ.

นิทฺเทเส ปน สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. กายสงฺขาราทีสุ กายทฺวาเร คหณาทิวเสน โจปนปฺปตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา สพฺยาพชฺฌกายสงฺขาโร นาม. วจีทฺวาเร หนุสฺโจปนวเสน วจีเภทปวตฺติกา ตาเยว ทฺวาทส วจีสงฺขาโร นาม. อุภยโจปนํ อปฺปตฺตา รโห จินฺตยนฺตสฺส มโนทฺวาเร ปวตฺตา มโนสงฺขาโร นาม. อิติ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กายทุจฺจริตาทิเภทา อกุสลเจตนาว สงฺขาราติ เวทิตพฺพา. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต เจตนา ธุรํ, อุปาลิสุตฺเต กมฺมํ. อภิสงฺขริตฺวาติ สงฺกฑฺฒิตฺวา, ปิณฺฑํ กตฺวาติ อตฺโถ. สพฺยาพชฺฌํ โลกนฺติ สทุกฺขํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺตีติ สทุกฺขา วิปากผสฺสา ผุสนฺติ. เอกนฺตทุกฺขนฺติ นิรนฺตรทุกฺขํ. ภูตาติ เหตฺวตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ภูตกมฺมโต ภูตสฺส สตฺตสฺส อุปฺปตฺติ โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาภูตํ กมฺมํ สตฺตา กโรนฺติ, ตถาภูเตน กมฺเมน กมฺมสภาควเสน เตสํ อุปปตฺติ โหติ. เตเนวาห ‘‘ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชตี’’ติ. เอตฺถ จ เตนาติ กมฺเมน วิย วุตฺตา, อุปปตฺติ จ นาม วิปาเกน โหติ. ยสฺมา ปน วิปากสฺส กมฺมํ เหตุ, ตสฺมา เตน มูลเหตุภูเตน กมฺเมน นิพฺพตฺตตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ผสฺสา ผุสนฺตีติ เยน กมฺมวิปาเกน นิพฺพตฺโต, ตํกมฺมวิปากผสฺสา ผุสนฺติ. กมฺมทายาทาติ กมฺมทายชฺชา กมฺมเมว เนสํ ทายชฺชํ สนฺตกนฺติ วทามิ.

อพฺยาพชฺฌนฺติ นิทฺทุกฺขํ. อิมสฺมึ วาเร กายทฺวาเร ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา กายสงฺขาโร นาม. ตาเยว วจีทฺวาเร ปวตฺตา วจีสงฺขาโร นาม. มโนทฺวาเร ปวตฺตา ตาเยว อฏฺ, ติสฺโส จ เหฏฺิมฌานเจตนา อพฺยาพชฺฌมโนสงฺขาโร นาม. ฌานเจตนา ตาว โหตุ, กามาวจรา กินฺติ อพฺยาพชฺฌมโนสงฺขาโร นาม ชาตาติ. กสิณสชฺชนกาเล จ กสิณาเสวนกาเล จ ลพฺภนฺติ. กามาวจรเจตนา ปมชฺฌานเจตนาย ฆฏิตา, จตุตฺถชฺฌานเจตนา ตติยชฺฌานเจตนาย ฆฏิตา. อิติ ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กายสุจริตาทิเภทา กุสลเจตนาว สงฺขาราติ เวทิตพฺโพ. ตติยวาโร อุภยมิสฺสกวเสน เวทิตพฺพา.

เสยฺยถาปิ มนุสฺสาติอาทีสุ มนุสฺสานํ ตาว กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ ปากฏเมว, เทเวสุ ปน ภุมฺมเทวตานํ, วินิปาติเกสุ เวมานิกเปตานํ กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถิอาทีสุ ติรจฺฉาเนสุปิ ลพฺภติเยว.

ตตฺราติ เตสุ ตีสุ กมฺเมสุ. ตสฺส ปหานาย ยา เจตนาติ ตสฺส ปหานตฺถาย มคฺคเจตนา. กมฺมํ ปตฺวาว มคฺคเจตนาย อฺโ ปณฺฑรตโร ธมฺโม นาม นตฺถิ. อิทํ ปน กมฺมจตุกฺกํ ปตฺวา ทฺวาทส อกุสลเจตนา กณฺหา นาม, เตภูมกกุสลเจตนา สุกฺกา นาม, มคฺคเจตนา อกณฺหา อสุกฺกาติ อาคตา.

๘๒. ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต’’ติ อิทํ โส ‘‘จิรํ วต เม อนิยฺยานิกปกฺเข โยเชตฺวา อตฺตา กิลมิโต, ‘สุกฺขนทีตีเร นฺหายิสฺสามี’ติ สมฺปริวตฺเตนฺเตน วิย ถุเส โกฏฺเฏนฺเตน วิย จ น โกจิ อตฺโถ นิปฺผาทิโต, หนฺทาหํ อตฺตานํ โยเค โยเชมี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. อถ ภควา โยเนน ขนฺธเก ติตฺถิยปริวาโส ปฺตฺโต, ยํ อฺติตฺถิยปุพฺโพ สามเณรภูมิยํ ิโต – ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขามิ อุปสมฺปทํ, สฺวาหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจามี’’ติอาทินา (มหาว. ๘๖) นเยน สมาทิยิตฺวา ปริวสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย โข, เสนิย, อฺติตฺถิยปุพฺโพ’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชฺชนฺติ วจนสิลิฏฺตาวเสเนว วุตฺตํ. อปริวสิตฺวาเยว หิ ปพฺพชฺชํ ลภติ. อุปสมฺปทตฺถิเกน ปน นาติกาเลน คามปฺปเวสนาทีนิ อฏฺ วตฺตานิ ปูเรนฺเตน ปริวสิตพฺพํ. อารทฺธจิตฺตาติ อฏฺวตฺตปูรเณน ตุฏฺจิตฺตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปเนส ติตฺถิยปริวาโส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย ปพฺพชฺชขนฺธกวณฺณนายํ (มหาว. อฏฺ. ๘๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิจ เมตฺถาติ อปิจ เม เอตฺถ. ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตาติ ปุคฺคลนานตฺตํ วิทิตํ. อยํ ปุคฺคโล ปริวาสารโห, อยํ น ปริวาสารโหติ อิทํ มยฺหํ ปากฏนฺติ ทสฺเสติ.

ตโต เสนิโย จินฺเตสิ – ‘‘อโห อจฺฉริยํ พุทฺธสาสนํ, ยตฺถ เอวํ ฆํสิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ยุตฺตเมว คณฺหนฺติ, อยุตฺตํ ฉฑฺเฑนฺตี’’ติ. ตโต สุฏฺุตรํ ปพฺพชฺชาย สฺชาตุสฺสาโห สเจ, ภนฺเตติอาทิมาห. อถ ภควา ตสฺส ติพฺพจฺฉนฺทตํ วิทิตฺวา น เสนิโย ปริวาสํ อรหตีติ อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, ภิกฺขุ, เสนิยํ นฺหาเปตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อาเนหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตฺวา ภควโต สนฺติกํ อานยิ. ภควา คเณ นิสีทิตฺวา อุปสมฺปาเทสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข อเจโล เสนิโย ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ.

อจิรูปสมฺปนฺโนติ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา นจิรเมว. วูปกฏฺโติ วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ กาเยน จ จิตฺเตน จ วูปกฏฺโ. อปฺปมตฺโตติ กมฺมฏฺาเน สตึ อวิชหนฺโต. อาตาปีติ กายิกเจตสิกสงฺขาเตน วีริยาตาเปน อาตาปี. ปหิตตฺโตติ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย เปสิตตฺโต วิสฺสฏฺอตฺตภาโว. ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย. กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตา. สมฺมเทวาติ เหตุนาว การเณเนว. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยปริโยสานภูตํ อรหตฺตผลํ. ตสฺส หิ อตฺถาย กุลปุตฺตา ปพฺพชนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจยํ ตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺช วิหาสีติ ปาปุณิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิ. เอวํ วิหรนฺโตว ขีณา ชาติ…เป… อพฺภฺาสิ.

เอวมสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมึ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปตุํ ‘‘อฺตโร โข ปนายสฺมา เสนิโย อรหตํ อโหสี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺตโรติ เอโก. อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหนฺตานํ อพฺภนฺตโร อโหสีติ อยเมวตฺถ อธิปฺปาโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กุกฺกุรวติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อภยราชกุมารสุตฺตวณฺณนา

๘๓. เอวํ เม สุตนฺติ อภยสุตฺตํ. ตตฺถ อภโยติ ตสฺส นามํ. ราชกุมาโรติ พิมฺพิสารสฺส โอรสปุตฺโต. วาทํ อาโรเปหีติ โทสํ อาโรเปหิ. เนรยิโกติ นิรเย นิพฺพตฺตโก. กปฺปฏฺโติ กปฺปฏฺิติโก. อเตกิจฺโฉติ พุทฺธสหสฺเสนาปิ ติกิจฺฉิตุํ น สกฺกา. อุคฺคิลิตุนฺติ ทฺเว อนฺเต โมเจตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺโต อุคฺคิลิตุํ พหิ นีหริตุํ น สกฺขิติ. โอคิลิตุนฺติ ปุจฺฉาย โทสํ ทตฺวา หาเรตุํ อสกฺโกนฺโต โอคิลิตุํ อนฺโต ปเวเสตุํ น สกฺขิติ.

เอวํ, ภนฺเตติ นิคณฺโ กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ สาวเก ภินฺทิตฺวา คณฺหาติ, หนฺทาหํ เอกํ ปฺหํ อภิสงฺขโรมิ, ยํ ปุฏฺโ สมโณ โคตโม อุกฺกุฏิโก หุตฺวา นิสินฺโน อุฏฺาตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ. โส อภยสฺส เคหา นีหฏภตฺโต สินิทฺธโภชนํ ภุฺชนฺโต พหู ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา – ‘‘เอตฺถ สมโณ โคตโม อิมํ นาม โทสํ ทสฺเสสฺสติ, เอตฺถ อิมํ นามา’’ติ สพฺเพ ปหาย จาตุมาสมตฺถเก อิมํ ปฺหํ อทฺทส. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส ปฺหสฺส ปุจฺฉาย วา วิสฺสชฺชเน วา น สกฺกา โทโส ทาตุํ, โอวฏฺฏิกสาโร อยํ, โก นุ โข อิมํ คเหตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสตี’’ติ. ตโต ‘‘อภโย ราชกุมาโร ปณฺฑิโต, โส สกฺขิสฺสตีติ ตํ อุคฺคณฺหาเปมี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา อุคฺคณฺหาเปสิ. โส วาทชฺฌาสยตาย ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ‘‘เอวํ, ภนฺเต,’’ติ อาห.

๘๔. อกาโล โข อชฺชาติ อยํ ปฺโห จตูหิ มาเสหิ อภิสงฺขโต, ตตฺถ อิทํ คเหตฺวา อิทํ วิสฺสชฺชิยมาเน ทิวสภาโค นปฺปโหสฺสตีติ มฺนฺโต เอวํ จินฺเตสิ. โส ทานีติ สฺเว ทานิ. อตฺตจตุตฺโถติ กสฺมา พหูหิ สทฺธึ น นิมนฺเตสิ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘พหูสุ นิสินฺเนสุ โถกํ ทตฺวา วทนฺตสฺส อฺํ สุตฺตํ อฺํ การณํ อฺํ ตถารูปํ วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสสฺสติ, เอวํ สนฺเต กลโห วา โกลาหลเมว วา ภวิสฺสติ. อถาปิ เอกกํเยว นิมนฺเตสฺสามิ, เอวมฺปิ เม ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ ‘ยาวมจฺฉรี วายํ อภโย, ภควนฺตํ ทิวเส ทิวเส ภิกฺขูนํ สเตนปิ สหสฺเสนปิ สทฺธึ จรนฺตํ ทิสฺวาปิ เอกกํเยว นิมนฺเตสี’’’ติ. ‘‘เอวํ ปน โทโส น ภวิสฺสตี’’ติ อปเรหิ ตีหิ สทฺธึ อตฺตจตุตฺถํ นิมนฺเตสิ.

๘๕. น ขฺเวตฺถ, ราชกุมาร, เอกํเสนาติ น โข, ราชกุมาร, เอตฺถ ปฺเห เอกํเสน วิสฺสชฺชนํ โหติ. เอวรูปฺหิ วาจํ ตถาคโต ภาเสยฺยาปิ น ภาเสยฺยาปิ. ภาสิตปจฺจเยน อตฺถํ ปสฺสนฺโต ภาเสยฺย, อปสฺสนฺโต น ภาเสยฺยาติ อตฺโถ. อิติ ภควา มหานิคณฺเน จตูหิ มาเสหิ อภิสงฺขตํ ปฺหํ อสนิปาเตน ปพฺพตกูฏํ วิย เอกวจเนเนว สํจุณฺเณสิ. อนสฺสุํ นิคณฺาติ นฏฺา นิคณฺา.

๘๖. องฺเก นิสินฺโน โหตีติ อูรูสุ นิสินฺโน โหติ. เลสวาทิโน หิ วาทํ ปฏฺเปนฺตา กิฺจิเทว ผลํ วา ปุปฺผํ วา โปตฺถกํ วา คเหตฺวา นิสีทนฺติ. เต อตฺตโน ชเย สติ ปรํ อชฺโฌตฺถรนฺติ, ปรสฺส ชเย สติ ผลํ ขาทนฺตา วิย ปุปฺผํ ฆายนฺตา วิย โปตฺถกํ วาเจนฺตา วิย วิกฺเขปํ ทสฺเสนฺติ. อยํ ปน จินฺเตสิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอส โอสฏสงฺคาโม ปรวาทมทฺทโน. สเจ เม ชโย ภวิสฺสติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ภวิสฺสติ, ทารกํ วิชฺฌิตฺวา โรทาเปสฺสามิ. ตโต ปสฺสถ, โภ, อยํ ทารโก โรทติ, อุฏฺหถ ตาว, ปจฺฉาปิ ชานิสฺสามา’’ติ ตสฺมา ทารกํ คเหตฺวา นิสีทิ. ภควา ปน ราชกุมารโต สหสฺสคุเณนปิ สตสหสฺสคุเณนปิ วาทีวรตโร, ‘‘อิมเมวสฺส ทารกํ อุปมํ กตฺวา วาทํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตํ กึ มฺสิ ราชกุมารา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ มุเข อาหเรยฺยาติ มุเข เปยฺย. อาหเรยฺยสฺสาหนฺติ อปเนยฺยํ อสฺส อหํ. อาทิเกเนวาติ ปมปโยเคเนว. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตจฺฉนฺติ น ตจฺฉํ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อตฺถสํหิตํ น วฑฺฒินิสฺสิตํ. อปฺปิยา อมนาปาติ เนว ปิยา น มนาปา. อิมินา นเยเนว สพฺพตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตตฺถ อปฺปิยปกฺเข ปมวาจา อโจรํเยว โจโรติ, อทาสํเยว ทาโสติ, อทุปฺปยุตฺตํเยว ทุปฺปยุตฺโตติ ปวตฺตา. น ตํ ตถาคโต ภาสติ. ทุติยวาจา โจรํเยว โจโร อยนฺติอาทิวเสน ปวตฺตา. ตมฺปิ ตถาคโต น ภาสติ. ตติยวาจา ‘‘อิทานิ อกตปุฺตาย ทุคฺคโต ทุพฺพณฺโณ อปฺเปสกฺโข, อิธ ตฺวาปิ ปุน ปุฺํ น กโรสิ, ทุติยจิตฺตวาเร กถํ จตูหิ อปาเยหิ น มุจฺจิสฺสสี’’ติ เอวํ มหาชนสฺส อตฺถปุเรกฺขาเรน ธมฺมปุเรกฺขาเรน อนุสาสนีปุเรกฺขาเรน จ วตฺตพฺพวาจา. ตตฺร กาลฺู ตถาคโตติ ตสฺมึ ตติยพฺยากรเณ ตสฺสา วาจาย พฺยากรณตฺถาย ตถาคโต กาลฺู โหติ, มหาชนสฺส อาทานกาลํ คหณกาลํ ชานิตฺวาว พฺยากโรตีติ อตฺโถ.

ปิยปกฺเข ปมวาจา อฏฺานิยกถา นาม. สา เอวํ เวทิตพฺพา – เอวํ กิร คามวาสิมหลฺลกํ นครํ อาคนฺตฺวา ปานาคาเร ปิวนฺตํ วฺเจตุกามา สมฺพหุลา ธุตฺตา ปีตฏฺาเน ตฺวา เตน สทฺธึ สุรํ ปิวนฺตา ‘‘อิมสฺส นิวาสนปาวุรณมฺปิ หตฺเถ ภณฺฑกมฺปิ สพฺพํ คณฺหิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา กติกํ อกํสุ – ‘‘เอเกกํ อตฺตปจฺจกฺขกถํ กเถม, โย ‘อภูต’นฺติ กเถสิ, กถิตํ วา น สทฺทหติ, ตํ ทาสํ กตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ. ตมฺปิ มหลฺลกํ ปุจฺฉึสุ ‘‘ตุมฺหากมฺปิ ตาต รุจฺจตี’’ติ. เอวํ โหตุ ตาตาติ.

เอโก ธุตฺโต อาห – มยฺหํ, โภ มาตุ, มยิ กุจฺฉิคเต กปิฏฺผลโทหโล อโหสิ. สา อฺํ กปิฏฺหารกํ อลพฺภมานา มํเยว เปเสสิ. อหํ คนฺตฺวา รุกฺขํ อภิรุหิตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตนาว อตฺตานํ ปาเท คเหตฺวา มุคฺครํ วิย รุกฺขสฺส อุปริ ขิปึ; อถ สาขโต สาขํ วิจรนฺโต ผลานิ คเหตฺวา โอตริตุํ อสกฺโกนฺโต ฆรํ คนฺตฺวา นิสฺเสณึ อาหริตฺวา โอรุยฺห มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ผลานิ มาตุยา อทาสึ; ตานิ ปน มหนฺตานิ โหนฺติ จาฏิปฺปมาณานิ. ตโต เม มาตรา เอกาสเน นิสินฺนาย สมสฏฺิผลานิ ขาทิตานิ. มยา เอกุจฺฉงฺเคน อานีตผเลสุ เสสกานิ กุลสนฺตเก คาเม ขุทฺทกมหลฺลกานํ อเหสุํ. อมฺหากํ ฆรํ โสฬสหตฺถํ, เสสปริกฺขารภณฺฑกํ อปเนตฺวา กปิฏฺผเลเหว ยาว ฉทนํ ปูริตํ. ตโต อติเรกานิ คเหตฺวา เคหทฺวาเร ราสึ อกํสุ. โส อสีติหตฺถุพฺเพโธ ปพฺพโต วิย อโหสิ. กึ อีทิสํ, โภ สกฺกา, สทฺทหิตุนฺติ?

คามิกมหลฺลโก ตุณฺหี นิสีทิตฺวา สพฺเพสํ กถาปริโยสาเน ปุจฺฉิโต อาห – ‘‘เอวํ ภวิสฺสติ ตาตา, มหนฺตํ รฏฺํ, รฏฺมหนฺตตาย สกฺกา สทฺทหิตุ’’นฺติ. ยถา จ เตน, เอวํ เสเสหิปิ ตถารูปาสุ นิกฺการณกถาสุ กถิตาสุ อาห – มยฺหมฺปิ ตาตา สุณาถ, น ตุมฺหากํเยว กุลานิ, อมฺหากมฺปิ กุลํ มหากุลํ, อมฺหากํ ปน อวเสสเขตฺเตหิ กปฺปาสเขตฺตํ มหนฺตตรํ. ตสฺส อเนกกรีสสตสฺส กปฺปาสเขตฺตสฺส มชฺเฌ เอโก กปฺปาสรุกฺโข มหา อสีติหตฺถุพฺเพโธ อโหสิ. ตสฺส ปฺจ สาขา, ตาสุ อวเสสสาขา ผลํ น คณฺหึสุ, ปาจีนสาขาย เอกเมว มหาจาฏิมตฺตํ ผลํ อโหสิ. ตสฺส ฉ อํสิโย, ฉสุ อํสีสุ ฉ กปฺปาสปิณฺฑิโย ปุปฺผิตา. อหํ มสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหาตวิลิตฺโต เขตฺตํ คนฺตฺวา ตา กปฺปาสปิณฺฑิโย ปุปฺผิตา ทิสฺวา ิตโกว หตฺถํ ปสาเรตฺวา คณฺหึ. ตา กปฺปาสปิณฺฑิโย ถามสมฺปนฺนา ฉ ทาสา อเหสุํ. เต สพฺเพ มํ เอกกํ โอหาย ปลาตา. เอตฺตเก อทฺธาเน เต น ปสฺสามิ, อชฺช ทิฏฺา, ตุมฺเห เต ฉ ชนา. ตฺวํ นนฺโท นาม, ตฺวํ ปุณฺโณ นาม, ตฺวํ วฑฺฒมาโน นาม, ตฺวํ จิตฺโต นาม ตฺวํ มงฺคโล นาม, ตฺวํ โปฏฺิโย นามาติ วตฺวา อุฏฺาย นิสินฺนเกเยว จูฬาสุ คเหตฺวา อฏฺาสิ. เต ‘‘น มยํ ทาสา’’ติปิ วตฺตุํ นาสกฺขึสุ. อถ เน กฑฺฒนฺโต วินิจฺฉยํ เนตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ยาวชีวํ ทาเส กตฺวา ปริภุฺชิ. เอวรูปึ กถํ ตถาคโต น ภาสติ.

ทุติยวาจา อามิสเหตุจาฏุกมฺยตาทิวเสน นานปฺปการา ปเรสํ โถมนวาจา เจว, โจรกถํ ราชกถนฺติ อาทินยปฺปวตฺตา ติรจฺฉานกถา จ. ตมฺปิ ตถาคโต น ภาสติ. ตติยวาจา อริยสจฺจสนฺนิสฺสิตกถา, ยํ วสฺสสตมฺปิ สุณนฺตา ปณฺฑิตา เนว ติตฺตึ คจฺฉนฺติ. อิติ ตถาคโต เนว สพฺพมฺปิ อปฺปิยวาจํ ภาสติ น ปิยวาจํ. ตติยํ ตติยเมว ปน ภาสิตพฺพกาลํ อนติกฺกมิตฺวา ภาสติ. ตตฺถ ตติยํ อปฺปิยวาจํ สนฺธาย เหฏฺา ทหรกุมารอุปมา อาคตาติ เวทิตพฺพํ.

๘๗. อุทาหุ านโสเวตนฺติ อุทาหุ านุปฺปตฺติกาเณน ตงฺขณํเยว ตํ ตถาคตสฺส อุปฏฺาตีติ ปุจฺฉติ. สฺาโตติ าโต ปฺาโต ปากโฏ. ธมฺมธาตูติ ธมฺมสภาโว. สพฺพฺุตฺาณสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ภควตา สุปฺปฏิวิทฺธํ, หตฺถคตํ ภควโต. ตสฺมา โส ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ สพฺพํ านโสว ปฏิภาตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน ธมฺมเทสนา เนยฺยปุคฺคลวเสน ปรินิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อภยราชกุมารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พหุเวทนียสุตฺตวณฺณนา

๘๘. เอวํ เม สุตนฺติ พหุเวทนียสุตฺตํ. ตตฺถ ปฺจกงฺโค ถปตีติ ปฺจกงฺโคติ ตสฺส นามํ. วาสิผรสุนิขาทนทณฺฑมุคฺครกาฬสุตฺตนาฬิสงฺขาเตหิ วา องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา โส ปฺจงฺโคติ ปฺาโต. ถปตีติ วฑฺฒกีเชฏฺโก. อุทายีติ ปณฺฑิตอุทายิตฺเถโร.

๘๙. ปริยายนฺติ การณํ. ทฺเวปานนฺทาติ ทฺเวปิ, อานนฺท. ปริยาเยนาติ การเณน. เอตฺถ จ กายิกเจตสิกวเสน ทฺเว เวทิตพฺพา. สุขาทิวเสน ติสฺโส, อินฺทฺริยวเสน สุขินฺทฺริยาทิกา ปฺจ, ทฺวารวเสน จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา ฉ, อุปวิจารวเสน ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา โสมนสฺสฏฺานิยํ รูปํ อุปวิจรตี’’ติอาทิกา อฏฺารส, ฉ เคหสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เคหสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เคหสฺสิตา อุเปกฺขา, ฉ เนกฺขมฺมสิตาติ เอวํ ฉตฺตึส, ตา อตีเต ฉตฺตึส, อนาคเต ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉตฺตึสาติ เอวํ อฏฺเวทนาสตํ เวทิตพฺพํ.

๙๐. ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, กามคุณาติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. น เกวลมฺปิ ทฺเว อาทึ กตฺวา เวทนา ภควตา ปฺตฺตา, ปริยาเยน เอกาปิ เวทนา กถิตา. ตํ ทสฺเสนฺโต ปฺจกงฺคสฺส ถปติโน วาทํ อุปตฺถมฺเภตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

อภิกฺกนฺตตรนฺติ สุนฺทรตรํ. ปณีตตรนฺติ อตปฺปกตรํ. เอตฺถ จ จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย อทุกฺขมสุขา เวทนา, สาปิ สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน จ สุขนฺติ วุตฺตา. ฉ เคหสฺสิตานิ สุขนฺติ วุตฺตานิ. นิโรโธ อเวทยิตสุขวเสน สุขํ นาม ชาโต. ปฺจกามคุณวเสน หิ อฏฺสมาปตฺติวเสน จ อุปฺปนฺนํ เวทยิตสุขํ นาม. นิโรโธ อเวทยิตสุขํ นาม. อิติ เวทยิตสุขํ วา โหตุ อเวทยิตสุขํ วา, ตํ นิทฺทุกฺขภาวสงฺขาเตน สุขฏฺเน เอกนฺตสุขเมว ชาตํ.

๙๑. ยตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ ยสฺมึ าเน. สุขํ อุปลพฺภตีติ เวทยิตสุขํ วา อเวทยิตสุขํ วา อุปลพฺภติ. ตํ ตํ ตถาคโต สุขสฺมึ ปฺเปตีติ ตํ สพฺพํ ตถาคโต นิทฺทุกฺขภาวํ สุขสฺมึเยว ปฺเปตีติ. อิธ ภควา นิโรธสมาปตฺตึ สีสํ กตฺวา เนยฺยปุคฺคลวเสน อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พหุเวทนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา

๙๒. เอวํ เม สุตนฺติ อปณฺณกสุตฺตํ. ตตฺถ จาริกนฺติ อตุริตจาริกํ.

๙๓. อตฺถิ ปน โว คหปตโยติ กสฺมา อาห? โส กิร คาโม อฏวิทฺวาเร นิวิฏฺโ. นานาวิธา สมณพฺราหฺมณา ทิวสํ มคฺคํ คนฺตฺวา สายํ ตํ คามํ วาสตฺถาย อุเปนฺติ, เตสํ เต มนุสฺสา มฺจปีานิ ปตฺถริตฺวา ปาเท โธวิตฺวา ปาเท มกฺเขตฺวา กปฺปิยปานกานิ ทตฺวา ปุนทิวเส นิมนฺเตตฺวา ทานํ เทนฺติ. เต ปสนฺนจิตฺตา เตหิ สทฺธึ สมฺมนฺตยมานา เอวํ วทนฺติ ‘‘อตฺถิ ปน โว คหปตโย กิฺจิ ทสฺสนํ คหิต’’นฺติ? นตฺถิ, ภนฺเตติ. ‘‘คหปตโย วินา ทสฺสเนน โลโก น นิยฺยาติ, เอกํ ทสฺสนํ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ, ‘สสฺสโต โลโก’ติ ทสฺสนํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺตา. อปรทิวเส อฺเ อาคตา. เตปิ ตเถว ปุจฺฉึสุ. เต เตสํ ‘‘อาม, ภนฺเต, ปุริเมสุ ทิวเสสุ ตุมฺหาทิสา สมณพฺราหฺมณา อาคนฺตฺวา ‘สสฺสโต โลโก’ติ อมฺเห อิทํ ทสฺสนํ คาหาเปตฺวา คตา’’ติ อาโรเจสุํ. ‘‘เต พาลา กึ ชานนฺติ? ‘อุจฺฉิชฺชติ อยํ โลโก’ติ อุจฺเฉททสฺสนํ คณฺหถา’’ติ เอวํ เตปิ อุจฺเฉททสฺสนํ คณฺหาเปตฺวา ปกฺกนฺตา. เอเตนุปาเยน อฺเ เอกจฺจสสฺสตํ, อฺเ อนฺตานนฺตํ, อฺเ อมราวิกฺเขปนฺติ เอวํ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย อุคฺคณฺหาเปสุํ. เต ปน เอกทิฏฺิยมฺปิ ปติฏฺาตุํ นาสกฺขึสุ. สพฺพปจฺฉา ภควา อคมาสิ. โส เตสํ หิตตฺถาย ปุจฺฉนฺโต ‘‘อตฺถิ ปน โว คหปตโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาการวตีติ การณวตี สเหตุกา. อปณฺณโกติ อวิรทฺโธ อทฺเวชฺฌคามี เอกํสคาหิโก.

๙๔. นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ เหฏฺา สาเลยฺยกสุตฺเต วิตฺถาริตา. ตถา ตพฺพิปจฺจนีกภูตา สมฺมาทิฏฺิ.

๙๕. เนกฺขมฺเม อานิสํสนฺติ โย เนสํ อกุสลโต นิกฺขนฺตภาเว อานิสํโส, โย จ โวทานปกฺโข วิสุทฺธิปกฺโข, ตํ น ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อสทฺธมฺมสฺตฺตีติ อภูตธมฺมสฺาปนา. อตฺตานุกฺกํเสตีติ เปตฺวา มํ โก อฺโ อตฺตโน ทสฺสนํ ปเร คณฺหาเปตุํ สกฺโกตีติ อตฺตานํ อุกฺขิปติ. ปรํ วมฺเภตีติ เอตฺตเกสุ ชเนสุ เอโกปิ อตฺตโน ทสฺสนํ ปเร คณฺหาเปตุํ น สกฺโกตีติ เอวํ ปรํ เหฏฺา ขิปติ. ปุพฺเพว โข ปนาติ ปุพฺเพ มิจฺฉาทสฺสนํ คณฺหนฺตสฺเสว สุสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, ทุสฺสีลภาโว ปจฺจุปฏฺิโต. เอวมสฺสิเมติ เอวํ อสฺส อิเม มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย สตฺต. อปราปรํ อุปฺปชฺชนวเสน ปน เตเยว มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.

ตตฺราติ ตาสุ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธีสุ. กลิคฺคโหติ ปราชยคฺคาโห. ทุสฺสมตฺโต สมาทินฺโนติ ทุคฺคหิโต ทุปฺปรามฏฺโ. เอกํสํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอกนฺตํ เอกโกฏฺาสํ สกวาทเมว ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ‘‘สเจ โข นตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตเยว โสตฺถิภาวาวโห โหติ. ริฺจตีติ วชฺเชติ.

๙๖. สทฺธมฺมสฺตฺตีติ ภูตธมฺมสฺาปนา.

กฏคฺคโหติ ชยคฺคาโห. สุสมตฺโต สมาทินฺโนติ สุคฺคหิโต สุปรามฏฺโ. อุภยํสํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ อุภยนฺตํ อุภยโกฏฺาสํ สกวาทํ ปรวาทฺจ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา ติฏฺติ ‘‘สเจ โข อตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตปิ ‘‘สเจ โข นตฺถิ ปโร โลโก’’ติ เอวํ สนฺเตปิ โสตฺถิภาวาวโห โหติ. ปรโตปิ เอกํสอุภยํเสสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๙๗. กโรโตติ สหตฺถา กโรนฺตสฺส. การยโตติ อาณตฺติยา กาเรนฺตสฺส. ฉินฺทโตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. ปจโตติ ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส วา ตชฺเชนฺตสฺส วา. โสจยโตติ ปรสฺส ภณฺฑหรณาทีหิ โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสปิ ปเรหิ กาเรนฺตสฺสปิ. กิลมโตติ อาหารูปจฺเฉท-พนฺธนาคารปฺปเวสนาทีหิ สยํ กิลมนฺตสฺสาปิ ปเรหิ กิลมาเปนฺตสฺสาปิ. ผนฺทโต ผนฺทาปยโตติ ปรํ ผนฺทนฺตํ ผนฺทนกาเล สยมฺปิ ผนฺทโต ปรมฺปิ ผนฺทาปยโต. ปาณมติปาตยโตติ ปาณํ หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปิ. เอวํ สพฺพตฺถ กรณการาปนวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว ฆรํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปนํ. ปริปนฺเถ ติฏฺโตติ อาคตาคตานํ อจฺฉินฺทนตฺถํ มคฺเค ติฏฺโต. กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ ยํกิฺจิ ปาปํ กโรมีติ สฺาย กโรโตปิ ปาปํ น กรียติ, นตฺถิ ปาปํ. สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตีติ อตฺโถ. ขุรปริยนฺเตนาติ ขุรเนมินา, ขุรธารสทิสปริยนฺเตน วา. เอกํ มํสขลนฺติ เอกํ มํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ตโตนิทานนฺติ เอกมํสขลกรณนิทานํ. ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา ทารุณา, เต สนฺธาย หนนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. อุตฺตรตีเร สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, เต สนฺธาย ททนฺโตติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยชนฺโตติ มหายาคํ กโรนฺโต. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน อุโปสถกมฺเมน. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. สจฺจวชฺเชนาติ สจฺจวจเนน. อาคโมติ อาคมนํ, ปวตฺตีติ อตฺโถ. สพฺพถาปิ ปาปปุฺานํ กิริยเมว ปฏิกฺขิปนฺติ. สุกฺกปกฺโขปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ปุริมวาเร วุตฺตสทิสเมว.

๑๐๐. นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโยติ เอตฺถ ปจฺจโย เหตุเววจนํ. อุภเยนาปิ วิชฺชมานกเมว กายทุจฺจริตาทิสํกิเลสปจฺจยํ กายสุจริตาทิวิสุทฺธิปจฺจยํ ปฏิกฺขิปนฺติ. นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโมติ สตฺตานํ สํกิเลสิตุํ วา วิสุชฺฌิตุํ วา พลํ วา วีริยํ วา ปุริเสน กาตพฺโพ นาม ปุริสถาโม วา ปุริสปรกฺกโม วา นตฺถิ.

สพฺเพ สตฺตาติ โอฏฺโคณคทฺรภาทโย อนวเสเส นิทสฺเสนฺติ. สพฺเพ ปาณาติ เอกินฺทฺริโย ปาโณ ทฺวินฺทฺริโย ปาโณติ อาทิวเสน วทนฺติ. สพฺเพ ภูตาติ อณฺฑโกสวตฺถิโกเสสุ ภูเต สนฺธาย วทนฺติ. สพฺเพ ชีวาติ สาลิยวโคธุมาทโย สนฺธาย วทนฺติ. เตสุ เหเต วิรุหนภาเวน ชีวสฺิโน. อวสา อพลา อวีริยาติ เตสํ อตฺตโน วโส วา พลํ วา วีริยํ วา นตฺถิ. นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ เอตฺถ นิยตีติ นิยตตา. สงฺคตีติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ภาโวติ สภาโวเยว. เอวํ นิยติยา จ สงฺคติยา จ ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา. เยน หิ ยถา ภวิตพฺพํ, โส ตเถว ภวติ. เยน โน ภวิตพฺพํ, โส น ภวตีติ ทสฺเสนฺติ. ฉสฺเววาภิชาตีสูติ ฉสุ เอว อภิชาตีสุ ตฺวา สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺติ, อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺติ.

ตตฺถ ฉ อภิชาติโย นาม กณฺหาภิชาติ นีลาภิชาติ โลหิตาภิชาติ หลิทฺทาภิชาติ สุกฺกาภิชาติ ปรมสุกฺกาภิชาตีติ. ตตฺถ สากุณิโก สูกริโก ลุทฺโท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา, อยํ กณฺหาภิชาติ นาม. ภิกฺขู นีลาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ. ‘‘ภิกฺขู จ กณฺฏกวุตฺติโน’’ติ อยฺหิ เนสํ ปาฬิเยว. อถ วา กณฺฏกวุตฺติกา เอวํ นาม เอเก ปพฺพชิตาติ วทนฺติ. ‘‘สมณกณฺฏกวุตฺติกา’’ติปิ หิ เนสํ ปาฬิ. โลหิตาภิชาติ นาม นิคณฺา เอกสาฏกาติ วทนฺติ. อิเม กิร ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปณฺฑรตรา. คิหี อเจลกสาวกา หลิทฺทาภิชาตีติ วทนฺติ. อิติ อตฺตโน ปจฺจยทายเก นิคณฺเหิปิ เชฏฺกตเร กโรนฺติ. นนฺโท, วจฺโฉ, สงฺกิจฺโจ, อยํ สุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร ปุริเมหิ จตูหิ ปณฺฑรตรา. อาชีวเก ปน ปรมสุกฺกาภิชาตีติ วทนฺติ. เต กิร สพฺเพหิ ปณฺฑรตรา.

ตตฺถ สพฺเพ สตฺตา ปมํ สากุณิกาทโยว โหนฺติ, ตโต วิสุชฺฌมานา สกฺยสมณา โหนฺติ, ตโต วิสุชฺฌมานา นิคณฺา, ตโต อาชีวกสาวกา, ตโต นนฺทาทโย, ตโต อาชีวกาติ อยเมเตสํ ลทฺธิ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปจฺจนีเกน เวทิตพฺโพ. เสสมิธาปิ ปุริมวาเร วุตฺตสทิสเมว.

อิมาสุ ปน ตีสุ ทิฏฺีสุ นตฺถิกทิฏฺิ วิปากํ ปฏิพาหติ, อกิริยทิฏฺิ กมฺมํ ปฏิพาหติ, อเหตุกทิฏฺิ อุภยมฺปิ ปฏิพาหติ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ วิปาโก ปฏิพาหิโต โหติ, วิปากํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ กมฺมํ ปฏิพาหิตํ. อิติ สพฺเพเปเต อตฺถโต อุภยปฏิพาหกา นตฺถิกวาทา เจว อเหตุกวาทา อกิริยวาทา จ โหนฺติ. เย ปน เตสํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺาเน ทิวาฏฺาเน นิสินฺนา สชฺฌายนฺติ วีมํสนฺติ, เตสํ – ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ นตฺถิ ยิฏฺํ, กโรโต น กริยติ ปาปํ, นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ, ปมชวเน สเตกิจฺฉา โหนฺติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺฉา อนิวตฺติโน อริฏฺกณฺฏกสทิสา.

ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ, เอกสฺมึ โอกฺกนฺเตปิ ทฺวีสุ ตีสุ โอกฺกนฺเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ, อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ. วฏฺฏขาณุ นาเมส สตฺโต ปถวีโคปโก. กึ ปเนส เอกสฺมึเยว อตฺตภาเว นิยโต โหติ, อุทาหุ อฺสฺมิมฺปีติ? เอกสฺมิฺเว นิยโต, อาเสวนวเสน ปน ภวนฺตเรปิ ตํ ตํ ทิฏฺึ โรเจติเยว. เอวรูปสฺส หิ เยภุยฺเยน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถิ.

ตสฺมา อกลฺยาณชนํ, อาสีวิสมิโวรคํ;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, ภูติกาโม วิจกฺขโณติ.

๑๐๓. นตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปาติ อรูปพฺรหฺมโลโก นาม สพฺพากาเรน นตฺถิ. มโนมยาติ ฌานจิตฺตมยา. สฺามยาติ อรูปชฺฌานสฺาย สฺามยา. รูปานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหตีติ อยํ ลาภี วา โหติ ตกฺกี วา. ลาภี นาม รูปาวจรชฺฌานลาภี. ตสฺส รูปาวจเร กงฺขา นตฺถิ, อรูปาวจรโลเก อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ อารุปฺปา อตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ นตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ สุณามิ, อตฺถิ นตฺถีติ ปน น ชานามิ. จตุตฺถชฺฌานํ ปทฏฺานํ กตฺวา อรูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ. สเจ อารุปฺปา อตฺถิ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, สเจ นตฺถิ, รูปาวจรพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติสฺสามิ. เอวํ เม อปณฺณโก ธมฺโม อปณฺณโกว อวิรทฺโธว ภวิสฺสตี’’ติ ตถา ปฏิปชฺชติ. ตกฺกี ปน อปฺปฏิลทฺธชฺฌาโน, ตสฺสาปิ รูปชฺฌาเน กงฺขา นตฺถิ, อรูปโลเก ปน อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ อารุปฺปา อตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ นตฺถีติ วทนฺตานมฺปิ สุณามิ, อตฺถิ นตฺถีติ ปน น ชานามิ. กสิณปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ปทฏฺานํ กตฺวา อรูปาวจรชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ. สเจ อารุปฺปา อตฺถิ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ. สเจ นตฺถิ, รูปาวจรพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติสฺสามิ. เอวํ เม อปณฺณโก ธมฺโม อปณฺณโกว อวิรทฺโธว ภวิสฺสตี’’ติ ตถา ปฏิปชฺชติ.

๑๐๔. ภวนิโรโธติ นิพฺพานํ. สาราคาย สนฺติเกติ ราควเสน วฏฺเฏ รชฺชนสฺส สนฺติเก. สํโยคายาติ ตณฺหาวเสน สํโยชนตฺถาย. อภินนฺทนายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทนาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ อยมฺปิ ลาภี วา โหติ ตกฺกี วา. ลาภี นาม อฏฺสมาปตฺติลาภี. ตสฺส อารุปฺเป กงฺขา นตฺถิ, นิพฺพาเน อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ นิโรโธ อตฺถีติปิ นตฺถีติปิ สุณามิ, สยํ น ชานามิ. สมาปตฺตึ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒสฺสามิ. สเจ นิโรโธ ภวิสฺสติ, อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามิ. โน เจ ภวิสฺสติ, อารุปฺเป นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชติ. ตกฺกี ปน เอกสมาปตฺติยาปิ น ลาภี, อารุปฺเป ปนสฺส กงฺขา นตฺถิ, ภวนิโรเธ อตฺถิ. โส – ‘‘อหํ นิโรโธ อตฺถีติปิ นตฺถีติปิ สุณามิ, สยํ น ชานามิ, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒสฺสามิ. สเจ นิโรโธ ภวิสฺสติ, อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามิ. โน เจ ภวิสฺสติ, อารุปฺเป นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชติ. เอตฺถาห – ‘‘อตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ ตาว อปณฺณกานิ ภวนฺตุ, นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ ปน กถํ อปณฺณกานี’’ติ. คหณวเสน. ตานิ หิ อปณฺณกํ อปณฺณกนฺติ เอวํ คหิตตฺตา อปณฺณกานิ นาม ชาตานิ.

๑๐๕. จตฺตาโรเมติ อยํ ปาฏิเอกฺโก อนุสนฺธิ. นตฺถิกวาโท, อเหตุกวาโท อกิริยวาโท, อารุปฺปา นตฺถิ นิโรโธ นตฺถีติ เอวํวาทิโน จ ทฺเวติ อิเม ปฺจ ปุคฺคลา เหฏฺา ตโย ปุคฺคลาว โหนฺติ. อตฺถิกวาทาทโย ปฺจ เอโก จตุตฺถปุคฺคโลว โหติ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ภควา อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อปณฺณกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ภิกฺขุวคฺโค

๑. อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗. เอวํ เม สุตนฺติ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ. ตตฺถ อมฺพลฏฺิกายํ วิหรตีติ เวฬุวนวิหารสฺส ปจฺจนฺเต ปธานฆรสงฺเขเป วิเวกกามานํ วสนตฺถาย กเต อมฺพลฏฺิกาติ เอวํนามเก ปาสาเท ปวิเวกํ พฺรูหยนฺโต วิหรติ. กณฺฏโก นาม ชาตกาลโต ปฏฺาย ติขิโณว โหติ, เอวเมวํ อยมฺปิ อายสฺมา สตฺตวสฺสิกสามเณรกาเลเยว ปวิเวกํ พฺรูหยมาโน ตตฺถ วิหาสิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย. อาสนนฺติ ปกติปฺตฺตเมเวตฺถ อาสนํ อตฺถิ, ตํ ปปฺโผเฏตฺวา เปสิ. อุทกาธาเนติ อุทกภาชเน. ‘‘อุทกฏฺาเน’’ติปิ ปาโ.

อายสฺมนฺตํ ราหุลํ อามนฺเตสีติ โอวาททานตฺถํ อามนฺเตสิ. ภควตา หิ ราหุลตฺเถรสฺส สมฺพหุลา ธมฺมเทสนา กตา. สามเณรปฺหํ เถรสฺเสว วุตฺตํ. ตถา ราหุลสํยุตฺตํ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ จูฬราหุโลวาทสุตฺตมิทํ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตนฺติ.

อยฺหิ อายสฺมา สตฺตวสฺสิกกาเล ภควนฺตํ จีวรกณฺเณ คเหตฺวา ‘‘ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ ทายชฺชํ ยาจมาโน ภควตา ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส นิยฺยาเทตฺวา ปพฺพาชิโต. อถ ภควา ทหรกุมารา นาม ยุตฺตายุตฺตํ กถํ กเถนฺติ, โอวาทมสฺส เทมีติ ราหุลกุมารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สามเณเรน นาม, ราหุล, ติรจฺฉานกถํ กเถตุํ น วฏฺฏติ, ตฺวํ กถยมาโน เอวรูปํ กถํ กเถยฺยาสี’’ติ สพฺพพุทฺเธหิ อวิชหิตํ ทสปุจฺฉํ ปฺจปณฺณาสวิสฺสชฺชนํ – ‘‘เอโก ปฺโห เอโก อุทฺเทโส เอกํ เวยฺยากรณํ ทฺเว ปฺหา…เป… ทส ปฺหา ทส อุทฺเทสา ทส เวยฺยากรณาติ. เอกํ นาม กึ? สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา…เป… ทส นาม กึ? ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อรหาติ วุจฺจตี’’ติ (ขุ. ปา. ๔.๑๐) อิมํ สามเณรปฺหํ กเถสิ. ปุน จินฺเตสิ ‘‘ทหรกุมารา นาม ปิยมุสาวาทา โหนฺติ, อทิฏฺเมว ทิฏฺํ อมฺเหหิ, ทิฏฺเมว น ทิฏฺํ อมฺเหหีติ วทนฺติ โอวาทมสฺส เทมี’’ติ อกฺขีหิ โอโลเกตฺวาปิ สุขสฺชานนตฺถํ ปมเมว จตสฺโส อุทกาธานูปมาโย, ตโต ทฺเว หตฺถิอุปมาโย เอกํ อาทาสูปมฺจ ทสฺเสตฺวา อิมํ สุตฺตํ กเถสิ. จตูสุ ปน ปจฺจเยสุ ตณฺหาวิวฏฺฏนํ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราคปฺปหานํ กลฺยาณมิตฺตุปนิสฺสยสฺส มหนฺตภาวฺจ ทสฺเสตฺวา ราหุลสุตฺตํ (สุ. นิ. ราหุลสุตฺต) กเถสิ. อาคตาคตฏฺาเน ภเวสุ ฉนฺทราโค น กตฺตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ราหุลสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๘๘ อาทโย) กเถสิ. ‘‘อหํ โสภามิ, มม วณฺณายตนํ ปสนฺน’’นฺติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตฉนฺทราโค น กตฺตพฺโพติ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ กเถสิ.

ตตฺถ ราหุลสุตฺตํ อิมสฺมึ นาม กาเล วุตฺตนฺติ น วตฺตพฺพํ. ตฺหิ อภิณฺโหวาทวเสน วุตฺตํ. ราหุลสํยุตฺตํ สตฺตวสฺสิกกาลโต ปฏฺาย ยาว อวสฺสิกภิกฺขุกาลา วุตฺตํ. มหาราหุโลวาทสุตฺตํ อฏฺารส วสฺสสามเณรกาเล วุตฺตํ. จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ อวสฺสิกภิกฺขุกาเล วุตฺตํ. กุมารกปฺหฺจ อิทฺจ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ สตฺตวสฺสิกสามเณรกาเล วุตฺตํ. เตสุ ราหุลสุตฺตํ อภิณฺโหวาทตฺถํ, ราหุลสํยุตฺตํ, เถรสฺส วิปสฺสนาคพฺภคหณตฺถํ, มหาราหุโลวาทํ เคหสฺสิตฉนฺทราควิโนทนตฺถํ, จูฬราหุโลวาทํ เถรสฺส ปฺจทส-วิมุตฺติปริปาจนีย-ธมฺมปริปากกาเล อรหตฺตคาหาปนตฺถํ วุตฺตํ. อิทฺจ ปน สนฺธาย ราหุลตฺเถโร ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ ตถาคตสฺส คุณํ กเถนฺโต อิทมาห –

‘‘กิกีว พีชํ รกฺเขยฺย, จามรี วาลมุตฺตมํ;

นิปโก สีลสมฺปนฺโน, มมํ รกฺขิ ตถาคโต’’ติ. (อป. ๑.๒.๘๓);

สามเณรปฺหํ อยุตฺตวจนปหานตฺถํ, อิทํ อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตํ สมฺปชานมุสาวาทสฺส อกรณตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถ ปสฺสสิ โนติ ปสฺสสิ นุ. ปริตฺตนฺติ โถกํ. สามฺนฺติ สมณธมฺโม. นิกฺกุชฺชิตฺวาติ อโธมุขํ กตฺวา. อุกฺกุชฺชิตฺวาติ อุตฺตานํ กตฺวา.

๑๐๘. เสยฺยถาปิ, ราหุล, รฺโ นาโคติ อยํ อุปมา สมฺปชานมุสาวาเท สํวรรหิตสฺส โอปมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ตตฺถ อีสาทนฺโตติ รถีสาสทิสทนฺโต. อุรุฬฺหวาติ อภิวฑฺฒิโต อาโรหสมฺปนฺโน. อภิชาโตติ สุชาโต ชาติสมฺปนฺโน. สงฺคามาวจโรติ สงฺคามํ โอติณฺณปุพฺโพ. กมฺมํ กโรตีติ อาคตาคเต ปวฏฺเฏนฺโต ฆาเตติ. ปุรตฺถิมกายาทีสุ ปน ปุรตฺถิมกาเยน ตาว ปฏิเสนาย ผลกโกฏฺกมุณฺฑปาการาทโย ปาเตติ, ตถา ปจฺฉิมกาเยน. สีเสน กมฺมํ นาม นิยเมตฺวา เอตํ ปเทสํ มทฺทิสฺสามีติ นิวตฺติตฺวา โอโลเกติ, เอตฺตเกน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทฺเวธา ภิชฺชติ. กณฺเณหิ กมฺมํ นาม อาคตาคเต สเร กณฺเณหิ ปหริตฺวา ปาตนํ. ทนฺเตหิ กมฺมํ นาม ปฏิหตฺถิอสฺสหตฺถาโรหอสฺสาโรหปทาทีนํ วิชฺฌนํ. นงฺคุฏฺเน กมฺมํ นาม นงฺคุฏฺเ พนฺธาย ทีฆาสิลฏฺิยา วา อยมุสเลน วา เฉทนเภทนํ. รกฺขเตว โสณฺฑนฺติ โสณฺฑํ ปน มุเข ปกฺขิปิตฺวา รกฺขติ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺส หตฺถิโน กรเณ. อปริจฺจตฺตนฺติ อนิสฺสฏฺํ, ปเรสํ ชยํ อมฺหากฺจ ปราชยํ ปสฺสีติ มฺติ. โสณฺฑายปิ กมฺมํ กโรตีติ อยมุคฺครํ วา ขทิรมุสลํ วา คเหตฺวา สมนฺตา อฏฺารสหตฺถฏฺานํ มทฺทติ. ปริจฺจตฺตนฺติ วิสฺสฏฺํ, อิทานิ หตฺถิโยธาทีสุ น กุโตจิ ภายติ, อมฺหากํ ชยํ ปเรสฺจ ปราชยํ ปสฺสีติ มฺติ. นาหํ ตสฺส กิฺจิ ปาปนฺติ ตสฺส ทุกฺกฏาทิอาปตฺติวีติกฺกเม วา มาตุฆาตกาทิกมฺเมสุ วา กิฺจิ ปาปํ อกตฺตพฺพํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ติห เตติ ยสฺมา สมฺปชานมุสาวาทิโน อกตฺตพฺพํ ปาปํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตยา หสายปิ ทวกมฺยตายปิ มุสา น ภณิสฺสามีติ สิกฺขิตพฺพํ. ปจฺจเวกฺขณตฺโถติ โอโลกนตฺโถ, ยํ มุเข วชฺชํ โหติ, ตสฺส ทสฺสนตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ โอโลเกตฺวา โอโลเกตฺวา.

๑๐๙. สสกฺกํ น กรณียนฺติ เอกํเสเนว น กาตพฺพํ. ปฏิสํหเรยฺยาสีติ นิวตฺเตยฺยาสิ มา กเรยฺยาสิ. อนุปทชฺเชยฺยาสีติ อนุปเทยฺยาสิ อุปตฺถมฺเภยฺยาสิ ปุนปฺปุนํ กเรยฺยาสิ. อโหรตฺตานุสิกฺขีติ รตฺติฺจ ทิวฺจ สิกฺขมาโน.

๑๑๑. อฏฺฏียิตพฺพนฺติ อฏฺเฏน ปีฬิเตน ภวิตพฺพํ. หรายิตพฺพนฺติ ลชฺชิตพฺพํ. ชิคุจฺฉิตพฺพนฺติ คูถํ ทิสฺวา วิย ชิคุจฺฉา อุปฺปาเทตพฺพา. มโนกมฺมสฺส ปน อเทสนาวตฺถุกตฺตา อิธ เทเสตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. กิตฺตเก ปน าเน กายกมฺมวจีกมฺมานิ โสเธตพฺพานิ, กิตฺตเก มโนกมฺมนฺติ. กายกมฺมวจีกมฺมานิ ตาว เอกสฺมึ ปุเรภตฺเตเยว โสเธตพฺพานิ. ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺเนน หิ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ‘‘อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว อิมสฺมึ าเน นิสชฺชา อตฺถิ นุ โข เม อิมสฺมึ อนฺตเร ปเรสํ อปฺปิยํ กายกมฺมํ วา วจีกมฺมํ วา’’ติ. สเจ อตฺถีติ ชานาติ, เทสนายุตฺตํ เทเสตพฺพํ, อาวิกรณยุตฺตํ อาวิกาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ. มโนกมฺมํ ปน เอตสฺมึ ปิณฺฑปาตปริเยสนฏฺาเน โสเธตพฺพํ. กถํ? ‘‘อตฺถิ นุ โข เม อชฺช ปิณฺฑปาตปริเยสนฏฺาเน รูปาทีสุ ฉนฺโท วา ราโค วา ปฏิฆํ วา’’ติ? สเจ อตฺถิ, ‘‘ปุน น เอวํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตเนว อธิฏฺาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ.

๑๑๒. สมณา วา พฺราหฺมณา วาติ พุทฺธา วา ปจฺเจกพุทฺธา วา ตถาคตสาวกา วา. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา อตีเตปิ เอวํ ปริโสเธสุํ, อนาคเตปิ ปริโสเธสฺสนฺติ, เอตรหิปิ ปริโสเธนฺติ, ตสฺมา ตุมฺเหหิปิ เตสํ อนุสิกฺขนฺเตหิ เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิมํ ปน เทสนํ ภควา ยาว ภวคฺคา อุสฺสิตสฺส รตนราสิโน โยชนิยมณิกฺขนฺเธน กูฏํ คณฺหนฺโต วิย เนยฺยปุคฺคลวเสน ปรินิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อมฺพลฏฺิกราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. มหาราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓. เอวํ เม สุตนฺติ มหาราหุโลวาทสุตฺตํ. ตตฺถ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธีติ ทสฺสนํ อวิชหิตฺวา คมนํ อพฺโพจฺฉินฺนํ กตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อิริยาปถานุพนฺธเนน อนุพนฺธิ. ตทา หิ ภควา ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺโต วิลาสิตคมเนน ปุรโต ปุรโต คจฺฉติ, ราหุลตฺเถโร ทสพลสฺส ปทานุปทิโก หุตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต.

ตตฺถ ภควา สุปุปฺผิตสาลวนมชฺฌคโต สุภูมิโอตรณตฺถาย นิกฺขนฺตมตฺตวรวารโณ วิย วิโรจิตฺถ, ราหุลภทฺโท จ วรวารณสฺส ปจฺฉโต นิกฺขนฺตคชโปตโก วิย. ภควา สายนฺหสมเย มณิคุหโต นิกฺขมิตฺวา โคจรํ ปฏิปนฺโน เกสรสีโห วิย, ราหุลภทฺโท จ สีหมิคราชานํ อนุพนฺธนฺโต นิกฺขนฺตสีหโปตโก วิย. ภควา มณิปพฺพตสสฺสิริกวนสณฺฑโต ทาพโล มหาพฺยคฺโฆ วิย, ราหุลภทฺโท จ พฺยคฺฆราชานํ อนุพนฺธพฺยคฺฆโปตโก วิย. ภควา สิมฺพลิทายโต นิกฺขนฺตสุปณฺณราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ สุปณฺณราชสฺส ปจฺฉโต นิกฺขนฺตสุปณฺณโปตโก วิย. ภควา จิตฺตกูฏปพฺพตโต คคนตลํ ปกฺขนฺทสุวณฺณหํสราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ หํสาธิปตึ อนุปกฺขนฺทหํสโปตโก วิย. ภควา มหาสรํ อชฺโฌคาฬฺหา สุวณฺณมหานาวา วิย, ราหุลภทฺโท จ สุวณฺณนาวํ ปจฺฉา อนุพนฺธนาวาโปตโก วิย. ภควา จกฺกรตนานุภาเวน คคนตเล สมฺปยาตจกฺกวตฺติราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ ราชานํ อนุสมฺปยาตปริณายกรตนํ วิย. ภควา วิคตวลาหกํ นภํ ปฏิปนฺนตารกราชา วิย, ราหุลภทฺโท จ ตารกาธิปติโน อนุมคฺคปฏิปนฺนา ปริสุทฺธโอสธิตารกา วิย.

ภควาปิ มหาสมฺมตปเวณิยํ โอกฺกากราชวํเส ชาโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควาปิ สงฺเข ปกฺขิตฺตขีรสทิโส สุปริสุทฺธชาติขตฺติยกุเล ชาโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควาปิ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต, ราหุลภทฺโทปิ. ภควโตปิ สรีรํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ เทวนคเรสุ สมุสฺสิตรตนโตรณํ วิย สพฺพปาลิผุลฺโล ปาริจฺฉตฺตโก วิย จ อติมโนหรณํ, ราหุลภทฺทสฺสาปิ. อิติ ทฺเวปิ อภินีหารสมฺปนฺนา, ทฺเวปิ ราชปพฺพชิตา, ทฺเวปิ ขตฺติยสุขุมาลา, ทฺเวปิ สุวณฺณวณฺณา, ทฺเวปิ ลกฺขณสมฺปนฺนา เอกมคฺคํ ปฏิปนฺนา ปฏิปาฏิยา คจฺฉนฺตานํ ทฺวินฺนํ จนฺทมณฺฑลานํ ทฺวินฺนํ สูริยมณฺฑลานํ ทฺวินฺนํ สกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมาทีนํ สิริยา สิรึ อภิภวมานา วิย วิโรจึสุ.

ตตฺรายสฺมา ราหุโล ภควโต ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คจฺฉนฺโตว ปาทตลโต ยาว อุปริ เกสนฺตา ตถาคตํ อาโลเกสิ. โส ภควโต พุทฺธเวสวิลาสํ ทิสฺวา ‘‘โสภติ ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวิจิตฺตสรีโร พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺตตาย วิปฺปกิณฺณสุวณฺณจุณฺณมชฺฌคโต วิย, วิชฺชุลตาปริกฺขิตฺโต กนกปพฺพโต วิย, ยนฺตสุตฺตสมากฑฺฒิตรตนวิจิตฺตํ สุวณฺณอคฺฆิกํ วิย, รตฺตปํสุกูลจีวรปฏิจฺฉนฺโนปิ รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตกนกปพฺพโต วิย, ปวาฬลตาปฏิมณฺฑิตํ สุวณฺณอคฺฆิกํ วิย, จีนปิฏฺจุณฺณปูชิตํ สุวณฺณเจติยํ วิย, ลาขารสานุลิตฺโต กนกยูโป วิย, รตฺตวลาหกนฺตรโต ตงฺขณพฺภุคฺคตปุณฺณจนฺโท วิย, อโห สมตึสปารมิตานุภาวสชฺชิตสฺส อตฺตภาวสฺส สิรีสมฺปตฺตี’’ติ จินฺเตสิ. ตโต อตฺตานมฺปิ โอโลเกตฺวา – ‘‘อหมฺปิ โสภามิ. สเจ ภควา จตูสุ มหาทีเปสุ จกฺกวตฺติรชฺชํ อกริสฺสา, มยฺหํ ปริณายกฏฺานนฺตรํ อทสฺสา. เอวํ สนฺเต อติวิย ชมฺพุทีปตลํ อโสภิสฺสา’’ติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตํ ฉนฺทราคํ อุปฺปาเทสิ.

ภควาปิ ปุรโต คจฺฉนฺโตว จินฺเตสิ – ‘‘ปริปุณฺณจฺฉวิมํสโลหิโต ทานิ ราหุลสฺส อตฺตภาโว. รชนีเยสุ รูปารมฺมณาทีสุ หิ จิตฺตสฺส ปกฺขนฺทนกาโล ชาโต, กึ พหุลตาย นุ โข ราหุโล วีตินาเมตี’’ติ. อถ สหาวชฺชเนเนว ปสนฺนอุทเก มจฺฉํ วิย, ปริสุทฺเธ อาทาสมณฺฑเล มุขนิมิตฺตํ วิย จ ตสฺส ตํ จิตฺตุปฺปาทํ อทฺทส. ทิสฺวาว – ‘‘อยํ ราหุโล มยฺหํ อตฺรโช หุตฺวา มม ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต ‘อหํ โสภามิ, มยฺหํ วณฺณายตนํ ปสนฺน’นฺติ อตฺตภาวํ นิสฺสาย เคหสฺสิตฉนฺทราคํ อุปฺปาเทติ, อติตฺเถ ปกฺขนฺโท อุปฺปถํ ปฏิปนฺโน อโคจเร จรติ, ทิสามูฬฺหอทฺธิโก วิย อคนฺตพฺพํ ทิสํ คจฺฉติ. อยํ โข ปนสฺส กิเลโส อพฺภนฺตเร วฑฺฒนฺโต อตฺตตฺถมฺปิ ยถาภูตํ ปสฺสิตุํ น ทสฺสติ, ปรตฺถมฺปิ, อุภยตฺถมฺปิ. ตโต นิรเยปิ ปฏิสนฺธึ คณฺหาเปสฺสติ, ติรจฺฉานโยนิยมฺปิ, เปตฺติวิสเยปิ, อสุรกาเยปิ, สมฺพาเธปิ มาตุกุจฺฉิสฺมินฺติ อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ ปริปาเตสฺสติ. อยฺหิ –

อนตฺถชนโน โลโภ, โลโภ จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌติ.

ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นรํ. (อิติวุ. ๘๘) –

ยถา โข ปน อเนกรตนปูรา มหานาวา ภินฺนผลกนฺตเรน อุทกํ อาทิยมานา มุหุตฺตมฺปิ น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพา โหติ, เวเคนสฺสา วิวรํ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ, เอวเมวํ อยมฺปิ น อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ. ยาวสฺส อยํ กิเลโส อพฺภนฺตเร สีลรตนาทีนิ น วินาเสติ, ตาวเทว นํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อชฺฌาสยมกาสิ. เอวรูเปสุ ปน าเนสุ พุทฺธานํ นาควิโลกนํ นาม โหติ. ตสฺมา ยนฺเตน ปริวตฺติตสุวณฺณปฏิมา วิย สกลกาเยเนว ปริวตฺเตตฺวา ิโต ราหุลภทฺทํ อามนฺเตสิ. ตํ สนฺธาย ‘‘อถ โข ภควา อปโลเกตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยํกิฺจิ รูปนฺติอาทีนิ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ขนฺธนิทฺเทเส วิตฺถาริตานิ. เนตํ มมาติอาทีนิ มหาหตฺถิปโทปเม วุตฺตานิ. รูปเมว นุ โข ภควาติ กสฺมา ปุจฺฉติ? ตสฺส กิร – ‘‘สพฺพํ รูปํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตา’’ติ สุตฺวา – ‘‘ภควา สพฺพํ รูปํ วิปสฺสนาปฺาย เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ วทติ, เวทนาทีสุ นุ โข กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ นโย อุทปาทิ. ตสฺมา ตสฺมึ นเย ิโต ปุจฺฉติ. นยกุสโล เหส อายสฺมา ราหุโล, อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ วุตฺเต อิทมฺปิ น กตฺตพฺพํ อิทมฺปิ น กตฺตพฺพเมวาติ นยสเตนปิ นยสหสฺเสนปิ ปฏิวิชฺฌติ. อิทํ กตฺตพฺพนฺติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.

สิกฺขากาโม หิ อยํ อายสฺมา, ปาโตว คนฺธกุฏิปริเวเณ ปตฺถมตฺตํ วาลิกํ โอกิรติ – ‘‘อชฺช สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกา มยฺหํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติกา เอตฺตกํ โอวาทํ เอตฺตกํ ปริภาสํ ลภามี’’ติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ นํ เอตทคฺเค เปนฺโต – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สิกฺขากามานํ ยทิทํ ราหุโล’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๙) สิกฺขายเมว อคฺคํ กตฺวา เปสิ. โสปิ อายสฺมา ภิกฺขุสงฺฆมชฺเฌ ตเมว สีหนาทํ นทิ –

‘‘สพฺพเมตํ อภิฺาย, ธมฺมราชา ปิตา มม;

สมฺมุขา ภิกฺขุสงฺฆสฺส, เอตทคฺเค เปสิ มํ.

สิกฺขากามานหํ อคฺโค, ธมฺมราเชน โถมิโต;

สทฺธาปพฺพชิตานฺจ, สหาโย ปวโร มม.

ธมฺมราชา ปิตา มยฺหํ, ธมฺมารกฺโข จ เปตฺติโย;

สาริปุตฺโต อุปชฺฌาโย, สพฺพํ เม ชินสาสน’’นฺติ.

อถสฺส ภควา ยสฺมา น เกวลํ รูปเมว, เวทนาทโยปิ เอวํ ทฏฺพฺพา, ตสฺมา รูปมฺปิ ราหุลาติอาทิมาห. โก นชฺชาติ โก นุ อชฺช. เถรสฺส กิร เอตทโหสิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ มยฺหํ อตฺตภาวนิสฺสิตํ ฉนฺทราคํ ตฺวา ‘สมเณน นาม เอวรูโป วิตกฺโก น วิตกฺกิตพฺโพ’ติ เนว ปริยาเยน กถํ กเถสิ, คจฺฉ ภิกฺขุ ราหุลํ วเทหิ ‘มา ปุน เอวรูปํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสี’ติ น ทูตํ เปเสสิ. มํ สมฺมุกฺเข ตฺวาเยว ปน สภณฺฑกํ โจรํ จูฬาย คณฺหนฺโต วิย สมฺมุขา สุคโตวาทํ อทาสิ. สุคโตวาโท จ นาม อสงฺเขยฺเยหิปิ กปฺเปหิ ทุลฺลโภ. เอวรูปสฺส พุทฺธสฺส สมฺมุขา โอวาทํ ลภิตฺวา โก นุ วิฺู ปณฺฑิตชาติโก อชฺช คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสตี’’ติ. อเถส อายสฺมา อาหารกิจฺจํ ปหาย ยสฺมึ นิสินฺนฏฺาเน ิเตน โอวาโท ลทฺโธ, ตโตว ปฏินิวตฺเตตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. ภควาปิ ตํ อายสฺมนฺตํ นิวตฺตมานํ ทิสฺวา น เอวมาห – ‘‘มา นิวตฺต ตาว, ราหุล, ภิกฺขาจารกาโล เต’’ติ. กสฺมา? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อชฺช ตาว กายคตาสติอมตโภชนํ ภุฺชตู’’ติ.

อทฺทสา โข อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ภควติ คเต ปจฺฉา คจฺฉนฺโต อทฺทส. เอตสฺส กิรายสฺมโต เอกกสฺส วิหรโต อฺํ วตฺตํ, ภควตา สทฺธึ วิหรโต อฺํ. ยทา หิ ทฺเว อคฺคสาวกา เอกากิโน วสนฺติ, ตทา ปาโตว เสนาสนํ สมฺมชฺชิตฺวา สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา สนฺนิสินฺนา อตฺตโน จิตฺตรุจิยา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺติ. ภควตา สทฺธึ วิหรนฺตา ปน เถรา เอวํ น กโรนฺติ. ตทา หิ ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ปมํ ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ. ตสฺมึ คเต เถโร อตฺตโน เสนาสนา นิกฺขมิตฺวา – ‘‘พหูนํ วสนฏฺาเน นาม สพฺเพว ปาสาทิกํ กาตุํ สกฺโกนฺติ วา, น วา สกฺโกนฺตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺํ านํ สมฺมชฺชติ. สเจ กจวโร อฉฑฺฑิโต โหติ, ตํ ฉฑฺเฑติ. ปานียฏฺเปตพฺพฏฺานมฺหิ ปานียกูเฏ อสติ ปานียฆฏํ เปติ. คิลานานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุมฺหากํ กึ อาหรามิ, กึ โว อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ? ปุจฺฉติ. อวสฺสิกทหรานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘อภิรมถ, อาวุโส, มา อุกฺกณฺิตฺถ, ปฏิปตฺติสารกํ พุทฺธสาสน’’นฺติ โอวทติ. เอวํ กตฺวา สพฺพปจฺฉา ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ. ยถา หิ จกฺกวตฺติ กุหิฺจิ คนฺตุกาโม เสนาย ปริวาริโต ปมํ นิกฺขมติ, ปริณายกรตนํ เสนงฺคานิ สํวิธาย ปจฺฉา นิกฺขมติ, เอวํ สทฺธมฺมจกฺกวตฺติ ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ปมํ นิกฺขมติ, ตสฺส ภควโต ปริณายกรตนภูโต ธมฺมเสนาปติ อิมํ กิจฺจํ กตฺวา สพฺพปจฺฉา นิกฺขมติ. โส เอวํ นิกฺขนฺโต ตสฺมึ ทิวเส อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ราหุลภทฺทํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉา คจฺฉนฺโต อทฺทสา’’ติ.

อถ กสฺมา อานาปานสฺสติยํ นิโยเชสิ? นิสชฺชานุจฺฉวิกตฺตา. เถโร กิร ‘‘เอตสฺส ภควตา รูปกมฺมฏฺานํ กถิต’’นฺติ อนาวชฺชิตฺวาว เยนากาเรน อยํ อจโล อโนพทฺโธ หุตฺวา นิสินฺโน, อิทมสฺส เอติสฺสา นิสชฺชาย กมฺมฏฺานํ อนุจฺฉวิกนฺติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสตินฺติ อสฺสาสปสฺสาเส ปริคฺคเหตฺวา ตตฺถ จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาหีติ ทสฺเสติ.

มหปฺผลา โหตีติ กีวมหปฺผลา โหติ? อิธ ภิกฺขุ อานาปานสฺสตึ อนุยุตฺโต เอกาสเน นิสินฺโนว สพฺพาสเว เขเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตถา อสกฺโกนฺโต มรณกาเล สมสีสี โหติ, ตถา อสกฺโกนฺโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ธมฺมกถิกเทวปุตฺตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตโต วิรทฺโธ อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, ตํ อสจฺฉิกโรนฺโต พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว พาหิยตฺเถราทโย วิย ขิปฺปาภิฺโ โหติ, เอวํ มหปฺผลา. มหานิสํสาติ ตสฺเสว เววจนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อานาปานสฺสตี ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;

อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;

โสมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (เถรคา. ๕๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๑.๖๐) –

อิมํ มหปฺผลตํ สมฺปสฺสมาโน เถโร สทฺธิวิหาริกํ ตตฺถ นิโยเชติ.

อิติ ภควา รูปกมฺมฏฺานํ, เถโร อานาปานสฺสตินฺติ อุโภปิ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตฺวา คตา, ราหุลภทฺโท วิหาเรเยว โอหีโน. ภควา ตสฺส โอหีนภาวํ ชานนฺโตปิ เนว อตฺตนา ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา อคมาสิ, น อานนฺทตฺเถรสฺส หตฺเถ เปเสสิ, น ปเสนทิมหาราชอนาถปิณฺฑิกาทีนํ สฺํ อทาสิ. สฺามตฺตกฺหิ ลภิตฺวา เต กาชภตฺตํ อภิหเรยฺยุํ. ยถา จ ภควา, เอวํ สาริปุตฺตตฺเถโรปิ น กิฺจิ อกาสิ. ราหุลตฺเถโร นิราหาโร ฉินฺนภตฺโต อโหสิ. ตสฺส ปนายสฺมโต – ‘‘ภควา มํ วิหาเร โอหีนํ ชานนฺโตปิ อตฺตนา ลทฺธปิณฺฑปาตํ นาปิ สยํ คเหตฺวา อาคโต, น อฺสฺส หตฺเถ ปหิณิ, น มนุสฺสานํ สฺํ อทาสิ, อุปชฺฌาโยปิ เม โอหีนภาวํ ชานนฺโต ตเถว น กิฺจิ อกาสี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, กุโต ตปฺปจฺจยา โอมานํ วา อติมานํ วา ชเนสฺสติ. ภควตา ปน อาจิกฺขิตกมฺมฏฺานเมว ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ – ‘‘อิติปิ รูปํ อนิจฺจํ, อิติปิ ทุกฺขํ, อิติปิ อสุภํ, อิติปิ อนตฺตา’’ติ อคฺคึ อภิมตฺเถนฺโต วิย นิรนฺตรํ มนสิกตฺวา สายนฺหสมเย จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อุปชฺฌาเยน อานาปานสฺสตึ ภาเวหีติ วุตฺโต, ตสฺส วจนํ น กริสฺสามิ. อาจริยุปชฺฌายานฺหิ วจนํ อกโรนฺโต ทุพฺพโจ นาม โหติ. ‘ทุพฺพโจ ราหุโล, อุปชฺฌายสฺสปิ วจนํ น กโรตี’ติ จ ครหุปฺปตฺติโต กกฺขฬตรา ปีฬา นาม นตฺถี’’ติ ภาวนาวิธานํ ปุจฺฉิตุกาโม ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข อายสฺมา ราหุโลติอาทิ วุตฺตํ.

๑๑๔. ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ เอกีภาวโต. ยํกิฺจิ ราหุลาติ กสฺมา? ภควา อานาปานสฺสตึ ปุฏฺโ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตีติ. รูเป ฉนฺทราคปฺปหานตฺถํ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ราหุลสฺส อตฺตภาวํ นิสฺสาย ฉนฺทราโค อุปฺปนฺโน, เหฏฺา จสฺส สงฺเขเปน รูปกมฺมฏฺานํ กถิตํ. อิทานิสฺสาปิ ทฺวิจตฺตาลีสาย อากาเรหิ อตฺตภาวํ วิราเชตฺวา วิสงฺขริตฺวา ตํนิสฺสิตํ ฉนฺทราคํ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทสฺสามี’’ติ. อถ อากาสธาตุํ กสฺมา วิตฺถาเรสีติ? อุปาทารูปทสฺสนตฺถํ. เหฏฺา หิ จตฺตาริ มหาภูตาเนว กถิตานิ, น อุปาทารูปํ. ตสฺมา อิมินา มุเขน ตํ ทสฺเสตุํ อากาสธาตุํ วิตฺถาเรสิ. อปิจ อชฺฌตฺติเกน อากาเสน ปริจฺฉินฺนรูปมฺปิ ปากฏํ โหติ.

อากาเสน ปริจฺฉินฺนํ, รูปํ ยาติ วิภูตตํ;

ตสฺเสวํ อาวิภาวตฺถํ, ตํ ปกาเสสิ นายโก.

เอตฺถ ปน ปุริมาสุ ตาว จตูสุ ธาตูสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาหตฺถิปโทปเม วุตฺตเมว.

๑๑๘. อากาสธาตุยํ อากาสคตนฺติ อากาสภาวํ คตํ. อุปาทินฺนนฺติอาทินฺนํ คหิตํ ปรามฏฺํ, สรีรฏฺกนฺติ อตฺโถ. กณฺณจฺฉิทฺทนฺติ มํสโลหิตาทีหิ อสมฺผุฏฺกณฺณวิวรํ. นาสจฺฉิทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. เยน จาติ เยน ฉิทฺเทน. อชฺโฌหรตีติ อนฺโต ปเวเสติ, ชิวฺหาพนฺธนโต หิ ยาว อุทรปฏลา มนุสฺสานํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ฉิทฺทฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยตฺถ จาติ ยสฺมึ โอกาเส. สนฺติฏฺตีติ ปติฏฺาติ. มนุสฺสานฺหิ มหนฺตํ ปฏปริสฺสาวนมตฺตฺจ อุทรปฏลํ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อโธภาคํ นิกฺขมตีติ เยน เหฏฺา นิกฺขมติ. ทฺวตฺตึสหตฺถมตฺตํ เอกวีสติยา าเนสุ วงฺกํ อนฺตํ นาม โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยํ วา ปนฺมฺปีติ อิมินา สุขุมสุขุมํ จมฺมมํสาทิอนฺตรคตฺเจว โลมกูปภาเวน จ ิตํ อากาสํ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถาปิ ปถวีธาตุอาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๑๙. อิทานิสฺส ตาทิภาวลกฺขณํ อาจิกฺขนฺโต ปถวีสมนฺติอาทิมาห. อิฏฺานิฏฺเสุ หิ อรชฺชนฺโต อทุสฺสนฺโต ตาที นาม โหติ. มนาปามนาปาติ เอตฺถ อฏฺ โลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา มนาปา นาม, ทฺเว โทมนสฺสจิตฺตสมฺปยุตฺตา อมนาปา นาม. จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺตีติ เอเต ผสฺสา อุปฺปชฺชิตฺวา ตว จิตฺตํ อนฺโตมุฏฺิคตํ กโรนฺโต วิย ปริยาทาย คเหตฺวา าตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ ‘‘อหํ โสภามิ, มยฺหํ วณฺณายตนํ ปสนฺน’’นฺติ ปุน อตฺตภาวํ นิสฺสาย ฉนฺทราโค นุปฺปชฺชิสฺสติ. คูถคตนฺติอาทีสุ คูถเมว คูถคตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.

น กตฺถจิ ปติฏฺิโตติ ปถวีปพฺพตรุกฺขาทีสุ เอกสฺมิมฺปิ น ปติฏฺิโต, ยทิ หิ ปถวิยํ ปติฏฺิโต ภเวยฺย, ปถวิยา ภิชฺชมานาย สเหว ภิชฺเชยฺย, ปพฺพเต ปตมาเน สเหว ปเตยฺย, รุกฺเข ฉิชฺชมาเน สเหว ฉิชฺเชยฺย.

๑๒๐. เมตฺตํ ราหุลาติ กสฺมา อารภิ? ตาทิภาวสฺส การณทสฺสนตฺถํ. เหฏฺา หิ ตาทิภาวลกฺขณํ ทสฺสิตํ, น จ สกฺกา อหํ ตาที โหมีติ อการณา ภวิตุํ, นปิ ‘‘อหํ อุจฺจากุลปฺปสุโต พหุสฺสุโต ลาภี, มํ ราชราชมหามตฺตาทโย ภชนฺติ, อหํ ตาที โหมี’’ติ อิเมหิ การเณหิ โกจิ ตาที นาม โหติ, เมตฺตาทิภาวนาย ปน โหตีติ ตาทิภาวสฺส การณทสฺสนตฺถํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

ตตฺถ ภาวยโตติ อุปจารํ วา อปฺปนํ วา ปาเปนฺตสฺส. โย พฺยาปาโทติ โย สตฺเต โกโป, โส ปหียิสฺสติ. วิเหสาติ ปาณิอาทีหิ สตฺตานํ วิหึสนํ. อรตีติ ปนฺตเสนาสเนสุ เจว อธิกุสลธมฺเมสุ จ อุกฺกณฺิตตา. ปฏิโฆติ ยตฺถ กตฺถจิ สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ จ ปฏิหฺนกิเลโส. อสุภนฺติ อุทฺธุมาตกาทีสุ อุปจารปฺปนํ. อุทฺธุมาตกาทีสุ อสุภภาวนา จ นาเมสา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว. ราโคติ ปฺจกามคุณิกราโค. อนิจฺจสฺนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย สหชาตสฺํ. วิปสฺสนา เอว วา เอสา อสฺาปิ สฺาสีเสน สฺาติ วุตฺตา. อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ อสฺมีติ มาโน.

๑๒๑. อิทานิ เถเรน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ วิตฺถาเรนฺโต อานาปานสฺสตินฺติอาทิมาห. ตตฺถ อิทํ กมฺมฏฺานฺจ กมฺมฏฺานภาวนา จ ปาฬิอตฺโถ จ สทฺธึ อานิสํสกถาย สพฺโพ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค อนุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริโตเยว. อิมํ เทสนํ ภควา เนยฺยปุคฺคลวเสเนว ปรินิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มาหาราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. จูฬมาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. เอวํ เม สุตนฺติ มาลุกฺยสุตฺตํ. ตตฺถ มาลุกฺยปุตฺตสฺสาติ เอวํนามกสฺส เถรสฺส. ปิตานิ ปฏิกฺขิตฺตานีติ ทิฏฺิคตานิ นาม น พฺยากาตพฺพานีติ เอวํ ปิตานิ เจว ปฏิกฺขิตฺตานิ จ. ตถาคโตติ สตฺโต. ตํ เม น รุจฺจตีติ ตํ อพฺยากรณํ มยฺหํ น รุจฺจติ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขายาติ สิกฺขํ ปฏิกฺขิปิตฺวา.

๑๒๕. โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ยาจโก วา หิ ยาจิตกํ ปจฺจาจิกฺเขยฺย, ยาจิตโก วา ยาจกํ. ตฺวํ เนว ยาจโก น ยาจิตโก, โส ทานิ ตฺวํ โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ อตฺโถ.

๑๒๖. วิทฺโธ อสฺสาติ ปรเสนาย ิเตน วิทฺโธ ภเวยฺย. คาฬฺหปเลปเนนาติ พหลเลปเนน. ภิสกฺกนฺติ เวชฺชํ. สลฺลกตฺตนฺติ สลฺลกนฺตนํ สลฺลกนฺติยสุตฺตวาจกํ. อกฺกสฺสาติ อกฺกวาเก คเหตฺวา ชิยํ กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อกฺกสฺสา’’ติ. สณฺหสฺสาติ เวณุวิลีวสฺส. มรุวาขีรปณฺณีนมฺปิ วาเกหิเยว กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ยทิ วา มรุวาย ยทิ วา ขีรปณฺณิโนติ. คจฺฉนฺติ ปพฺพตคจฺฉนทีคจฺฉาทีสุ ชาตํ. โรปิมนฺติ โรเปตฺวา วฑฺฒิตํ สรวนโต สรํ คเหตฺวา กตํ. สิถิลหนุโนติ เอวํนามกสฺส ปกฺขิโน. เภรวสฺสาติ กาฬสีหสฺส. เสมฺหารสฺสาติ มกฺกฏสฺส. เอวํ โนติ เอตาย ทิฏฺิยา สติ น โหตีติ อตฺโถ.

๑๒๗. อตฺเถว ชาตีติ เอตาย ทิฏฺิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโสว นตฺถิ, ชาติ ปน อตฺถิเยว. ตถา ชรามรณาทีนีติ ทสฺเสติ. เยสาหนฺติ เยสํ อหํ. นิฆาตนฺติ อุปฆาตํ วินาสํ. มม สาวกา หิ เอเตสุ นิพฺพินฺนา อิเธว นิพฺพานํ ปาปุณนฺตีติ อธิปฺปาโย.

๑๒๘. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา อพฺยากตเมตํ, จตุสจฺจเมว มยา พฺยากตํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. น เหตํ มาลุกฺยปุตฺต อตฺถสํหิตนฺติ เอตํ ทิฏฺิคตํ วา เอตํ พฺยากรณํ วา การณนิสฺสิตํ น โหติ. น อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิมตฺตมฺปิ ปุพฺพภาคสีลมตฺตมฺปิ น โหติ. น นิพฺพิทายาติอาทีสุ วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย วา วิรชฺฌนตฺถาย วา วฏฺฏนิโรธาย วา ราคาทิวูปสมนตฺถาย วา อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานนตฺถาย วา จตุมคฺคสงฺขาตสมฺโพธตฺถาย วา อสงฺขตนิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย วา น โหติ. เอตํ หีติ เอตํ จตุสจฺจพฺยากรณํ. อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตํ ปุพฺพปทฏฺานํ. เสสํ วุตฺตปฏิวิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. อิมมฺปิ เทสนํ ภควา เนยฺยปุคฺคลวเสน นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬมาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มหามาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา

๑๒๙. เอวํ เม สุตนฺติ มหามาลุกฺยสุตฺตํ. ตตฺถ โอรมฺภาคิยานีติ เหฏฺา โกฏฺาสิกานิ กามภเว นิพฺพตฺติสํวตฺตนิกานิ. สํโยชนานีติ พนฺธนานิ. กสฺส โข นามาติ กสฺส เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วา เทสิตานิ ธาเรสิ, กึ ตฺวเมเวโก อสฺโสสิ, น อฺโ โกจีติ? อนุเสตีติ อปฺปหีนตาย อนุเสติ. อนุสยมาโน สํโยชนํ นาม โหติ.

เอตฺถ จ ภควตา สํโยชนํ ปุจฺฉิตํ, เถเรนปิ สํโยชนเมว พฺยากตํ. เอวํ สนฺเตปิ ตสฺส วาเท ภควตา โทโส อาโรปิโต. โส กสฺมาติ เจ? เถรสฺส ตถาลทฺธิกตฺตา. อยฺหิ ตสฺส ลทฺธิ ‘‘สมุทาจารกฺขเณเยว กิเลเสหิ สํยุตฺโต นาม โหติ, อิตรสฺมึ ขเณ อสํยุตฺโต’’ติ. เตนสฺส ภควตา โทโส อาโรปิโต. อถายสฺมา อานนฺโท จินฺเตสิ – ‘‘ภควตา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ อตฺตโน ธมฺมตาเยว อยํ ธมฺมเทสนา อารทฺธา, สา อิมินา อปณฺฑิเตน ภิกฺขุนา วิสํวาทิตา. หนฺทาหํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ. โส เอวมกาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺิเตนาติ สกฺกายทิฏฺิยา คหิเตน อภิภูเตน. สกฺกายทิฏฺิปเรเตนาติ สกฺกายทิฏฺิยา อนุคเตน. นิสฺสรณนฺติ ทิฏฺินิสฺสรณํ นาม นิพฺพานํ, ตํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อปฺปฏิวินีตาติ อวิโนทิตา อนีหฏา. โอรมฺภาคิยํ สํโยชนนฺติ เหฏฺาภาคิยสํโยชนํ นาม โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สุกฺกปกฺโข อุตฺตานตฺโถเยว. ‘‘สานุสยา ปหียตี’’ติ วจนโต ปเนตฺถ เอกจฺเจ ‘‘อฺํ สํโยชนํ อฺโ อนุสโย’’ติ วทนฺติ. ‘‘ยถา หิ สพฺยฺชนํ ภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ภตฺตโต อฺํ พฺยฺชนํ โหติ, เอวํ ‘‘สานุสยา’’ติ วจนโต ปริยุฏฺานสกฺกายทิฏฺิโต อฺเน อนุสเยน ภวิตพฺพนฺติ เตสํ ลทฺธิ. เต ‘‘สสีสํ ปารุปิตฺวา’’ติอาทีหิ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. น หิ สีสโต อฺโ ปุริโส อตฺถิ. อถาปิ สิยา – ‘‘ยทิ ตเทว สํโยชนํ โส อนุสโย, เอวํ สนฺเต ภควตา เถรสฺส ตรุณูปโม อุปารมฺโภ ทุอาโรปิโต โหตี’’ติ. น ทุอาโรปิโต, กสฺมา? เอวํลทฺธิกตฺตาติ วิตฺถาริตเมตํ. ตสฺมา โสเยว กิเลโส พนฺธนฏฺเน สํโยชนํ, อปฺปหีนฏฺเน อนุสโยติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ภควตา ‘‘สานุสยา ปหียตี’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๒. ตจํ เฉตฺวาติอาทีสุ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ตจจฺเฉโท วิย หิ สมาปตฺติ ทฏฺพฺพา, เผคฺคุจฺเฉโท วิย วิปสฺสนา, สารจฺเฉโท วิย มคฺโค. ปฏิปทา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว วฏฺฏติ. เอวเมเต ทฏฺพฺพาติ เอวรูปา ปุคฺคลา เอวํ ทฏฺพฺพา.

๑๓๓. อุปธิวิเวกาติ อุปธิวิเวเกน. อิมินา ปฺจกามคุณวิเวโก กถิโต. อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาติ อิมินา นีวรณปฺปหานํ กถิตํ. กายทุฏฺุลฺลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ อิมินา กายาลสิยปฏิปฺปสฺสทฺธิ กถิตา. วิวิจฺเจว กาเมหีติ อุปธิวิเวเกน กาเมหิ วินา หุตฺวา. วิวิจฺจ อกุสเลหีติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหาเนน กายทุฏฺุลฺลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา จ อกุสเลหิ วินา หุตฺวา. ยเทว ตตฺถ โหตีติ ยํ ตตฺถ อนฺโตสมาปตฺติกฺขเณเยว สมาปตฺติสมุฏฺิตฺจ รูปาทิธมฺมชาตํ โหติ. เต ธมฺเมติ เต รูปคตนฺติอาทินา นเยน วุตฺเต รูปาทโย ธมฺเม. อนิจฺจโตติ น นิจฺจโต. ทุกฺขโตติ น สุขโต. โรคโตติอาทีสุ อาพาธฏฺเน โรคโต, อนฺโตโทสฏฺเน คณฺฑโต, อนุปวิทฺธฏฺเน ทุกฺขชนนฏฺเน จ สลฺลโต, ทุกฺขฏฺเน อฆโต, โรคฏฺเน อาพาธโต, อสกฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, นิสฺสตฺตฏฺเน สุฺโต, น อตฺตฏฺเน อนตฺตโต. ตตฺถ อนิจฺจโต, ปโลกโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ทุกฺขโตติอาทีหิ ฉหิ ทุกฺขลกฺขณํ, ปรโต สุฺโต อนตฺตโตติ ตีหิ อนตฺตลกฺขณํ.

โส เตหิ ธมฺเมหีติ โส เตหิ เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ทิฏฺเหิ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. จิตฺตํ ปฏิวาเปตีติ จิตฺตํ ปฏิสํหรติ โมเจติ อปเนติ. อุปสํหรตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาว สวนวเสน ถุติวเสน ปริยตฺติวเสน ปฺตฺติวเสน จ เอตํ สนฺตํ นิพฺพานนฺติ เอวํ อสงฺขตาย อมตาย ธาตุยา อุปสํหรติ. มคฺคจิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสเนว เอตํ สนฺตเมตํ ปณีตนฺติ น เอวํ วทติ, อิมินา ปน อากาเรน ตํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตตฺถ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ อตฺโถ. โส ตตฺถ ิโตติ ตาย ติลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย ิโต. อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ อนุกฺกเมน จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา ปาปุณาติ. เตเนว ธมฺมราเคนาติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฉนฺทราเคน. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺพโส ฉนฺทราคํ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ.

ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตนฺติ อิธ ปน รูปํ น คหิตํ. กสฺมา? สมติกฺกนฺตตฺตา. อยฺหิ เหฏฺา รูปาวจรชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา รูปํ อติกฺกมิตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺโนติ สมถวเสนปิเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ, เหฏฺา รูปํ สมฺมเทว สมฺมสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม อิทานิ อรูปํ สมฺมสตีติ วิปสฺสนาวเสนปิเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ. อรูเป ปน สพฺพโสปิ รูปํ นตฺถีติ ตํ สนฺธายปิ อิธ รูปํ น คหิตํ.

อถ กิฺจรหีติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? สมถวเสน คจฺฉโต จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม. วิปสฺสนาวเสน คจฺฉโต ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นามาติ เอตฺถ เถรสฺส กงฺขา นตฺถิ. อยํ สภาวธมฺโมเยว, สมถวเสเนว ปน คจฺฉนฺเตสุ เอโก เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ, เอโก ปฺาวิมุตฺโต. วิปสฺสนาวเสน คจฺฉนฺเตสุปิ เอโก ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ, เอโก เจโตวิมุตฺโตติ เอตฺถ กึ การณนฺติ ปุจฺฉติ.

อินฺทฺริยเวมตฺตตํ วทามีติ อินฺทฺริยนานตฺตตํ วทามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, น ตฺวํ, อานนฺท, ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปฏิวิชฺฌิ, เตน เต เอตํ อปากฏํ. อหํ ปน ปฏิวิชฺฌึ, เตน เม เอตํ ปากฏํ. เอตฺถ หิ อินฺทฺริยนานตฺตตา การณํ. สมถวเสเนว หิ คจฺฉนฺเตสุ เอกสฺส ภิกฺขุโน จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ. เอกสฺส ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ. วิปสฺสนาวเสเนว จ คจฺฉนฺเตสุ เอกสฺส ปฺา ธุรํ โหติ, โส ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ. เอกสฺส จิตฺเตกคฺคตา ธุรํ โหติ, โส เจโตวิมุตฺโต นาม โหติ. ทฺเว อคฺคสาวกา สมถวิปสฺสนาธุเรน อรหตฺตํ ปตฺตา. เตสุ ธมฺมเสนาปติ ปฺาวิมุตฺโต ชาโต, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เจโตวิมุตฺโต. อิติ อินฺทฺริยเวมตฺตเมตฺถ การณนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหามาลุกฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภทฺทาลิสุตฺตวณฺณนา

๑๓๔. เอวํ เม สุตนฺติ ภทฺทาลิสุตฺตํ. ตตฺถ เอกาสนโภชนนฺติ เอกสฺมึ ปุเรภตฺเต อสนโภชนํ, ภุฺชิตพฺพภตฺตนฺติ อตฺโถ. อปฺปาพาธตนฺติอาทีนิ กกโจปเม วิตฺถาริตานิ. น อุสฺสหามีติ น สกฺโกมิ. สิยา กุกฺกุจฺจํ สิยา วิปฺปฏิสาโรติ เอวํ ภุฺชนฺโต ยาวชีวํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ สกฺขิสฺสามิ นุ โข, น นุ โขติ อิติ เม วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เอกเทสํ ภุฺชิตฺวาติ โปราณกตฺเถรา กิร ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา สปฺปิมฺหิ ทินฺเน สปฺปินา อุณฺหเมว โถกํ ภุฺชิตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา อวเสสํ พหิ นีหริตฺวา ฉายูทกผาสุเก าเน นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺติ. เอตํ สนฺธาย สตฺถา อาห. ภทฺทาลิ, ปน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ สกึ ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทินฺนํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ปุน ปตฺตํ โธวิตฺวา โอทนสฺส ปูเรตฺวา ลทฺธํ พหิ นีหริตฺวา ฉายูทกผาสุเก าเน ภุฺเชยฺย, อิติ เอวํ วฏฺเฏยฺย, อิตรถา โก สกฺโกตี’’ติ. ตสฺมา เอวมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, น อุสฺสหามีติ อาห. อยํ กิร อตีเต อนนฺตราย ชาติยา กากโยนิยํ นิพฺพตฺติ. กากา จ นาม มหาฉาตกา โหนฺติ. ตสฺมา ฉาตกตฺเถโร นาม อโหสิ. ตสฺส ปน วิรวนฺตสฺเสว ภควา ตํ มทฺทิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา – ‘‘โย ปน ภิกฺขุ วิกาเล ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุฺเชยฺย วา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๔๘) สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. เตน วุตฺตํ อถ โข อายสฺมา, ภทฺทาลิ,…เป… อนุสฺสาหํ ปเวเทสีติ.

ยถา นฺติ ยถา อฺโปิ สิกฺขาย น ปริปูรการี เอกวิหาเรปิ วสนฺโต สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ น ทเทยฺย, ตเถว น อทาสีติ อตฺโถ. เนว ภควโต อุปฏฺานํ อคมาสิ, น ธมฺมเทสนฏฺานํ น วิตกฺกมาฬกํ, น เอกํ ภิกฺขาจารมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ยสฺมึ กุเล ภควา นิสีทติ, ตสฺส ทฺวาเรปิ น อฏฺาสิ. สจสฺส วสนฏฺานํ ภควา คจฺฉติ, โส ปุเรตรเมว ตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ. สทฺธาปพฺพชิโต กิเรส กุลปุตฺโต ปริสุทฺธสีโล. เตนสฺส น อฺโ วิตกฺโก อโหสิ, – ‘‘มยา นาม อุทรการณา ภควโต สิกฺขาปทปฺาปนํ ปฏิพาหิตํ, อนนุจฺฉวิกํ เม กต’’นฺติ อยเมว วิตกฺโก อโหสิ. ตสฺมา เอกวิหาเร วสนฺโตปิ ลชฺชาย สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ นาทาสิ.

๑๓๕. จีวรกมฺมํ กโรนฺตีติ มนุสฺสา ภควโต จีวรสาฏกํ อทํสุ, ตํ คเหตฺวา จีวรํ กโรนฺติ. เอตํ โทสกนฺติ เอตํ โอกาสเมตํ อปราธํ, สตฺถุ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺตสฺส ปฏิพาหิตการณํ สาธุกํ มนสิ กโรหีติ อตฺโถ. ทุกฺกรตรนฺติ วสฺสฺหิ วสิตฺวา ทิสาปกฺกนฺเต ภิกฺขู กุหึ วสิตฺถาติ ปุจฺฉนฺติ, เตหิ เชตวเน วสิมฺหาติ วุตฺเต, ‘‘อาวุโส, ภควา อิมสฺมึ อนฺโตวสฺเส กตรํ ชาตกํ กเถสิ, กตรํ สุตฺตนฺตํ, กตรํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ ปุจฺฉิตาโร โหนฺติ. ตโต ‘‘วิกาลโภชนสิกฺขาปทํ ปฺเปสิ, ภทฺทาลิ, นาม นํ เอโก เถโร ปฏิพาหี’’ติ วกฺขนฺติ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู – ‘‘ภควโตปิ นาม สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺตสฺส ปฏิพาหิตํ อยุตฺตํ อการณ’’นฺติ วทนฺติ. เอวํ เต อยํ โทโส มหาชนนฺตเร ปากโฏ หุตฺวา ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานา เอวมาหํสุ. อปิจ อฺเปิ ภิกฺขู ปวาเรตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อาคมิสฺสนฺติ. อถ ตฺวํ ‘‘เอถาวุโส, มม สตฺถารํ ขมาเปนฺตสฺส สหายา โหถา’’ติ สงฺฆํ สนฺนิปาเตสฺสสิ. ตตฺถ อาคนฺตุกา ปุจฺฉิสฺสนฺติ, ‘‘อาวุโส, กึ อิมินาปิ ภิกฺขุนา กต’’นฺติ. ตโต เอตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘ภาริยํ กตํ ภิกฺขุนา, ทสพลํ นาม ปฏิพาหิสฺสตีติ อยุตฺตเมต’’นฺติ วกฺขนฺติ. เอวมฺปิ เต อยํ อปราโธ มหาชนนฺตเร ปากโฏ หุตฺวา ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานาปิ เอวมาหํสุ. อถ วา ภควา ปวาเรตฺวา จาริกํ ปกฺกมิสฺสติ, อถ ตฺวํ คตคตฏฺาเน ภควโต ขมาปนตฺถาย สงฺฆํ สนฺนิปาเตสฺสสิ. ตตฺร ทิสาวาสิโน ภิกฺขู ปุจฺฉิสฺสนฺติ, ‘‘อาวุโส, กึ อิมินา ภิกฺขุนา กต’’นฺติ…เป… ทุปฺปฏิการตํ อาปชฺชิสฺสตีติ มฺมานาปิ เอวมาหํสุ.

เอตทโวจาติ อปฺปติรูปํ มยา กตํ, ภควา ปน มหนฺเตปิ อคุเณ อลคฺคิตฺวา มยฺหํ อจฺจยํ ปฏิคฺคณฺหิสฺสตีติ มฺมาโน เอตํ ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต,’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส ขลิตสฺส อกรณตฺถาย. ตคฺฆาติ เอกํเสน. สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลีติ, ภทฺทาลิ, ตยา ปฏิวิชฺฌิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ การณํ อตฺถิ, ตมฺปิ เต น ปฏิวิทฺธํ น สลฺลกฺขิตนฺติ ทสฺเสติ.

๑๓๖. อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทีสุ ธมฺมานุสารี, สทฺธานุสารีติ ทฺเว เอกจิตฺตกฺขณิกา มคฺคสมงฺคิปุคฺคลา. เอเต ปน สตฺตปิ อริยปุคฺคเล ภควตาปิ เอวํ อาณาเปตุํ น ยุตฺตํ, ภควตา อาณตฺเต เตสมฺปิ เอวํ กาตุํ น ยุตฺตํ. อฏฺานปริกปฺปวเสน ปน อริยปุคฺคลานํ สุวจภาวทสฺสนตฺถํ ภทฺทาลิตฺเถรสฺส จ ทุพฺพจภาวทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ.

อปิ นุ ตฺวํ ตสฺมึ สมเย อุภโตภาควิมุตฺโตติ เทสนํ กสฺมา อารภิ? ภทฺทาลิสฺส นิคฺคหณตฺถํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ภทฺทาลิ, อิเม สตฺต อริยปุคฺคลา โลเก ทกฺขิเณยฺยา มม สาสเน สามิโน, มยิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเต ปฏิพาหิตพฺพยุตฺเต การเณ สติ เอเตสํ ปฏิพาหิตุํ ยุตฺตํ. ตฺวํ ปน มม สาสนโต พาหิรโก, มยิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเต ตุยฺหํ ปฏิพาหิตุํ น ยุตฺตนฺติ.

ริตฺโต ตุจฺโฉติ อนฺโต อริยคุณานํ อภาเวน ริตฺตโก ตุจฺฉโก, อิสฺสรวจเน กิฺจิ น โหติ. ยถาธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต, ตเถว กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุฑฺฒิ เหสา, ภทฺทาลิ, อริยสฺส วินเยติ เอสา, ภทฺทาลิ, อริยสฺส วินเย พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุฑฺฒิ นาม. กตมา? อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา. เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต ‘‘โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาห.

๑๓๗. สตฺถาปิ อุปวทตีติ ‘‘อสุกวิหารวาสี อสุกสฺส เถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อสุกสฺส อนฺเตวาสิโก อิตฺถนฺนาโม นาม ภิกฺขุ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตตุํ อรฺํ ปวิฏฺโ’’ติ สุตฺวา – ‘‘กึ ตสฺส อรฺวาเสน, โย มยฺหํ ปน สาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’’ติ เอวํ อุปวทติ, เสสปเทสุปิ เอเสว นโย, อปิเจตฺถ เทวตา น เกวลํ อุปวทนฺติ, เภรวารมฺมณํ ทสฺเสตฺวา ปลายนาการมฺปิ กโรนฺติ. อตฺตนาปิ อตฺตานนฺติ สีลํ อาวชฺชนฺตสฺส สํกิลิฏฺฏฺานํ ปากฏํ โหติ, จิตฺตํ วิธาวติ, น กมฺมฏฺานํ อลฺลียติ. โส ‘‘กึ มาทิสสฺส อรฺวาเสนา’’ติ วิปฺปฏิสารี อุฏฺาย ปกฺกมติ. อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทิโตติ อตฺตนาปิ อตฺตา อุปวทิโต, อยเมว วา ปาโ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปจฺจนีกนเยน เวทิตพฺโพ. โส วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทิ เอวํ สจฺฉิกโรตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

๑๔๐. ปสยฺห ปสยฺห การณํ กโรนฺตีติ อปฺปมตฺตเกปิ โทเส นิคฺคเหตฺวา ปุนปฺปุนํ กาเรนฺติ. โน ตถาติ มหนฺเตปิ อปราเธ ยถา อิตรํ, เอวํ ปสยฺห น กาเรนฺติ. โส กิร, ‘‘อาวุโส, ภทฺทาลิ, มา จินฺตยิตฺถ, เอวรูปํ นาม โหติ, เอหิ สตฺถารํ ขมาเปหี’’ติ ภิกฺขุสงฺฆโตปิ, กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ภทฺทาลิ, มา จินฺตยิตฺถ, เอวรูปํ นาม โหตี’’ติ เอวํ สตฺถุสนฺติกาปิ อนุคฺคหํ ปจฺจาสีสติ. ตโต ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆนาปิ น สมสฺสาสิโต, สตฺถาราปี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห.

อถ ภควา ภิกฺขุสงฺโฆปิ สตฺถาปิ โอวทิตพฺพยุตฺตเมว โอวทติ, น อิตรนฺติ ทสฺเสตุํ อิธ, ภทฺทาลิ, เอกจฺโจติอาทิมาห. ตตฺถ อฺเนาฺนฺติอาทีนิ อนุมานสุตฺเต วิตฺถาริตานิ. น สมฺมา วตฺตตีติ สมฺมา วตฺตมฺปิ น วตฺตติ. น โลมํ ปาเตตีติ อนุโลมวตฺเต น วตฺตติ, วิโลมเมว คณฺหาติ. น นิตฺถารํ วตฺตตีติ นิตฺถารณกวตฺตมฺหิ น วตฺตติ, อาปตฺติวุฏฺานตฺถํ ตุริตตุริโต ฉนฺทชาโต น โหติ. ตตฺราติ ตสฺมึ ตสฺส ทุพฺพจกรเณ. อภิณฺหาปตฺติโกติ นิรนฺตราปตฺติโก. อาปตฺติพหุโลติ สาปตฺติกกาโลวสฺส พหุ, สุทฺโธ นิราปตฺติกกาโล อปฺโปติ อตฺโถ. น ขิปฺปเมว วูปสมฺมตีติ ขิปฺปํ น วูปสมฺมติ, ทีฆสุตฺตํ โหติ. วินยธรา ปาทโธวนกาเล อาคตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, วตฺตเวลา’’ติ วทนฺติ. ปุน กาลํ มฺิตฺวา อาคตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตุยฺหํ วิหารเวลา, คจฺฉาวุโส, สามเณราทีนํ อุทฺเทสทานเวลา, อมฺหากํ นฺหานเวลา, เถรูปฏฺานเวลา, มุขโธวนเวลา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทิวสภาเคปิ รตฺติภาเคปิ อาคตํ อุยฺโยเชนฺติเยว. ‘‘กาย เวลาย, ภนฺเต, โอกาโส ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตฺวํ อิมเมว านํ ชานาสิ, อสุโก นาม วินยธรตฺเถโร สิเนหปานํ ปิวติ, อสุโก วิเรจนํ กาเรติ, กสฺมา ตุริโตสี’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตเมว กโรนฺติ.

๑๔๑. ขิปฺปเมว วูปสมฺมตีติ ลหุํ วูปสมฺมติ, น ทีฆสุตฺตํ โหติ. อุสฺสุกฺกาปนฺนา ภิกฺขู – ‘‘อาวุโส, อยํ สุพฺพโจ ภิกฺขุ, ชนปทวาสิโน นาม คามนฺตเสนาสเน วสนฏฺานนิสชฺชนาทีนิ น ผาสุกานิ โหนฺติ, ภิกฺขาจาโรปิ ทุกฺโข โหติ, สีฆมสฺส อธิกรณํ วูปสเมมา’’ติ สนฺนิปติตฺวา อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปนฺติ.

๑๔๒. อธิจฺจาปตฺติโกติ กทาจิ กทาจิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. โส กิฺจาปิ ลชฺชี โหติ ปกตตฺโต, ทุพฺพจตฺตา ปนสฺส ภิกฺขู ตเถว ปฏิปชฺชนฺติ.

๑๔๔. สทฺธามตฺตเกน วหติ เปมมตฺตเกนาติ อาจริยุปชฺฌาเยสุ อปฺปมตฺติกาย เคหสฺสิตสทฺธาย อปฺปมตฺตเกน เคหสฺสิตเปเมน ยาเปติ. ปฏิสนฺธิคฺคหณสทิสา หิ อยํ ปพฺพชฺชา นาม, นวปพฺพชิโต ปพฺพชฺชาย คุณํ อชานนฺโต อาจริยุปชฺฌาเยสุ เปมมตฺเตน ยาเปติ, ตสฺมา เอวรูปา สงฺคณฺหิตพฺพา. อปฺปมตฺตกมฺปิ หิ สงฺคหํ ลภิตฺวา ปพฺพชฺชาย ิตา อภิฺาปตฺตา มหาสมณา ภวิสฺสนฺติ. เอตฺตเกน กถามคฺเคน ‘‘โอวทิตพฺพยุตฺตกํ โอวทนฺติ, น อิตร’’นฺติ อิมเมว ภควตา ทสฺสิตํ.

๑๔๕. อฺาย สณฺหึสูติ อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. สตฺเตสุ หายมาเนสูติ ปฏิปตฺติยา หายมานาย สตฺตา หายนฺติ นาม. สทฺธมฺเม อนฺตรธายมาเนติ ปฏิปตฺติสทฺธมฺเม อนฺตรธายมาเน. ปฏิปตฺติสทฺธมฺโมปิ หิ ปฏิปตฺติปูรเกสุ สตฺเตสุ อสติ อนฺตรธายติ นาม. อาสวฏฺานียาติ อาสวา ติฏฺนฺติ เอเตสูติ อาสวฏฺานียา. เยสุ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธนาทโย เจว อปายทุกฺขวิเสสภูตา จ อาสวา ติฏฺนฺติเยว. ยสฺมา เนสํ เต การณํ โหนฺตีติ อตฺโถ. เต อาสวฏฺานียา วีติกฺกมธมฺมา ยาว น สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, น ตาว สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ อยเมตฺถ โยชนา.

เอวํ อกาลํ ทสฺเสตฺวา ปุน กาลํ ทสฺเสตุํ ยโต จ โข, ภทฺทาลีติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา, ยสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. อยํ วา เอตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมึ กาเล อาสวฏฺานียา ธมฺมาติ สงฺขํ คตา วีติกฺกมโทสา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, ตทา สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ. กสฺมา? เตสํเยว อาสวฏฺานียธมฺมสงฺขาตานํ วีติกฺกมโทสานํ ปฏิฆาตาย.

เอวํ อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺตึ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อกาลํ, อุปฺปตฺติฺจ กาลนฺติ วตฺวา อิทานิ เตสํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺติกาลฺจ อุปฺปตฺติกาลฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘น ตาว, ภทฺทาลิ, อิเธกจฺเจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มหตฺตนฺติ มหนฺตภาวํ. สงฺโฆ หิ ยาว น เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน มหตฺตํ ปตฺโต โหติ, ตาว เสนาสนานิ ปโหนฺติ, สาสเน เอกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. มหตฺตํ ปตฺเต ปน เต อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ. ตตฺถ มหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริทฺวิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๕๑). ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๑๑๗๑). ยา ปน ภิกฺขุนี เอกวสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕).

อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ.

ลาภคฺคนฺติ ลาภสฺส อคฺคํ. สงฺโฆ หิ ยาว น ลาภคฺคปตฺโต โหติ, น ตาว ลาภํ ปฏิจฺจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ปตฺเต ปน อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ อเจลกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๗๐).

อิทฺหิ ลาภคฺคปตฺเต สงฺเฆ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ.

ยสคฺคนฺติ ยสสฺส อคฺคํ. สงฺโฆ หิ ยาว น ยสคฺคปตฺโต โหติ, น ตาว ยสํ ปฏิจฺจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ปตฺเต ปน อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ‘‘สุราเมรยปาเน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๒๗). อิทฺหิ ยสคฺคปตฺเต สงฺเฆ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ.

พาหุสจฺจนฺติ พหุสฺสุตภาวํ. สงฺโฆ หิ ยาว น พาหุสจฺจปตฺโต โหติ, น ตาว อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. พาหุสจฺจปตฺเต ปน ยสฺมา เอกํ นิกายํ ทฺเว นิกาเย ปฺจปิ นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานา ปุคฺคลา รเสน รสํ สํสนฺเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ ทีเปนฺติ, อถ สตฺถา – ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ (ปาจิ. ๔๑๘)…เป… สมณุทฺเทโสปิ เจ เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๒๙) นเยน สิกฺขาปทํ ปฺเปติ.

รตฺตฺุตํ ปตฺโตติ เอตฺถ รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตฺู. อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย พหู รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติ. รตฺตฺูนํ ภาวํ รตฺตฺุตํ. ตตฺร รตฺตฺุตํ ปตฺเต สงฺเฆ อุปเสนํ วงฺคนฺตปุตฺตํ อารพฺภ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โส หายสฺมา อูนทสวสฺเส ภิกฺขู อุปสมฺปาเทนฺเต ทิสฺวา เอกวสฺโส สทฺธิวิหาริกํ อุปสมฺปาเทสิ. อถ ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕). เอวํ ปฺตฺเต สิกฺขาปเท ปุน ภิกฺขู ‘‘ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหา’’ติ พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทนฺติ. อถ ภควา อปรมฺปิ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ. อิติ รตฺตฺุตํ ปตฺตกาเล ทฺเว สิกฺขาปทานิ ปฺตฺตานิ.

๑๔๖. อาชานียสุสูปมํ ธมฺมปริยายํ เทเสสินฺติ ตรุณาชานียอุปมํ กตฺวา ธมฺมํ เทสยึ. ตตฺราติ ตสฺมึ อสรเณ. น โข, ภทฺทาลิ, เอเสว เหตูติ น เอส สิกฺขาย อปริปูรการีภาโวเยว เอโก เหตุ.

๑๔๗. มุขาธาเน การณํ กาเรตีติ ขลีนพนฺธาทีหิ มุขฏฺปเน สาธุกํ คีวํ ปคฺคณฺหาเปตุํ การณํ กาเรติ. วิสูกายิตานีติอาทีหิ วิเสวนาจารํ กเถสิ. สพฺพาเนว เหตานิ อฺมฺเววจนานิ. ตสฺมึ าเนติ ตสฺมึ วิเสวนาจาเร. ปรินิพฺพายตีติ นิพฺพิเสวโน โหติ, ตํ วิเสวนํ ชหตีติ อตฺโถ. ยุคาธาเนติ ยุคฏฺปเน ยุคสฺส สาธุกํ คหณตฺถํ.

อนุกฺกเมติ จตฺตาโรปิ ปาเท เอกปฺปหาเรเนว อุกฺขิปเน จ นิกฺขิปเน จ. ปรเสนาย หิ อาวาเฏ ตฺวา อสึ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อสฺสสฺส ปาเท ฉินฺทนฺติ. ตสฺมึ สมเย เอส เอกปฺปหาเรเนว จตฺตาโรปิ ปาเท อุกฺขิปิสฺสตีติ รชฺชุพนฺธนวิธาเนน เอตํ การณํ กโรนฺติ. มณฺฑเลติ ยถา อสฺเส นิสินฺโนเยว ภูมิยํ ปติตํ อาวุธํ คเหตุํ สกฺโกติ, เอวํ กรณตฺถํ มณฺฑเล การณํ กาเรติ. ขุรกาเสติ อคฺคคฺคขุเรหิ ปถวีกมเน. รตฺตึ โอกฺกนฺตกรณสฺมิฺหิ ยถา ปทสทฺโท น สุยฺยติ, ตทตฺถํ เอกสฺมึ าเน สฺํ ทตฺวา อคฺคคฺคขุเรหิเยว คมนํ สิกฺขาเปนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ชเวติ สีฆวาหเน. ‘‘ธาเว’’ติปิ ปาโ. อตฺตโน ปราชเย สติ ปลายนตฺถํ, ปรํ ปลายนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คหณตฺถฺจ เอตํ การณํ กาเรติ. ทวตฺเตติ ทวตฺตาย, ยุทฺธกาลสฺมิฺหิ หตฺถีสุ วา โกฺจนาทํ กโรนฺเตสุ อสฺเสสุ วา หสนฺเตสุ รเถสุ วา นิโฆสนฺเตสุ โยเธสุ วา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺเตสุ ตสฺส รวสฺส อภายิตฺวา ปรเสนปเวสนตฺถํ อยํ การณา กรียติ.

ราชคุเณติ รฺา ชานิตพฺพคุเณ. กูฏกณฺณรฺโ กิร คุฬวณฺโณ นาม อสฺโส อโหสิ. ราชา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เจติยปพฺพตํ คมิสฺสามีติ กลมฺพนทีตีรํ สมฺปตฺโต. อสฺโส ตีเร ตฺวา อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉติ, ราชา อสฺสาจริยํ อามนฺเตตฺวา – ‘‘อโห ตยา อสฺโส สิกฺขาปิโต อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉตี’’ติ อาห. อาจริโย – ‘‘สุสิกฺขาปิโต เทว อสฺโส, เอวมสฺส หิ จิตฺตํ ‘สจาหํ อุทกํ โอตริสฺสามิ, วาลํ เตมิสฺสติ, วาเล ตินฺเต รฺโ องฺเค อุทกํ ปาเตยฺยา’ติ เอวํ ตุมฺหากํ สรีเร อุทกปาตนภเยน น โอตรติ, วาลํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ตถา กาเรสิ. อสฺโส เวเคน โอตริตฺวา ปารํ คโต. เอตทตฺถํ อยํ การณา กรียติ. ราชวํเสติ อสฺสราชวํเส. วํโส เจโส อสฺสราชานํ, ตถารูเปน ปหาเรน ฉินฺนภินฺนสรีราปิ อสฺสาโรหํ ปรเสนาย อปาเตตฺวา พหิ นีหรนฺติเยว. เอตทตฺถํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ.

อุตฺตเม ชเวติ ชวสมฺปตฺติยํ, ยถา อุตฺตมชโว โหติ, เอวํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ. อุตฺตเม หเยติ อุตฺตมหยภาเว, ยถา อุตฺตมหโย โหติ, เอวํ การณํ กาเรตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ปกติยา อุตฺตมหโยว อุตฺตมหยการณํ อรหติ, น อฺโ. อุตฺตมหยการณาย เอว จ หโย อุตฺตมชวํ ปฏิปชฺชติ, น อฺโติ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ราชา เอกํ สินฺธวโปตกํ ลภิตฺวา สินฺธวภาวํ อชานิตฺวาว อิมํ สิกฺขาเปหีติ อาจริยสฺส อทาสิ. อาจริโยปิ ตสฺส สินฺธวภาวํ อชานนฺโต ตํ มาสขาทกโฆฏกานํ การณาสุ อุปเนติ. โส อตฺตโน อนนุจฺฉวิกตฺตา การณํ น ปฏิปชฺชติ. โส ตํ ทเมตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กูฏสฺโส อยํ มหาราชา’’ติ วิสฺสชฺชาเปสิ.

อเถกทิวสํ เอโก อสฺสาจริยปุพฺพโก ทหโร อุปชฺฌายสฺส ภณฺฑกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต ตํ ปริขาปิฏฺเ จรนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘อนคฺโฆ, ภนฺเต, สินฺธวโปตโก’’ติ อุปชฺฌายสฺส กเถสิ. สเจ ราชา ชาเนยฺย, มงฺคลสฺสํ นํ กเรยฺยาติ. เถโร อาห – ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก, ตาต, ราชา อปฺเปว นาม พุทฺธสาสเน ปสีเทยฺย รฺโ กเถหี’’ติ. โส คนฺตฺวา, – ‘‘มหาราช, อนคฺโฆ สินฺธวโปตโก อตฺถี’’ติ กเถสิ. ตยา ทิฏฺโ, ตาตาติ? อาม, มหาราชาติ. กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? ตุมฺหากํ ภุฺชนกสุวณฺณถาเล ตุมฺหากํ ภุฺชนกภตฺตํ ตุมฺหากํ ปิวนกรโส ตุมฺหากํ คนฺธา ตุมฺหากํ มาลาติ. ราชา สพฺพํ ทาเปสิ. ทหโร คาหาเปตฺวา อคมาสิ.

อสฺโส คนฺธํ ฆายิตฺวาว ‘‘มยฺหํ คุณชานนกอาจริโย อตฺถิ มฺเ’’ติ สีสํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ทหโร คนฺตฺวา ‘‘ภตฺตํ ภุฺชา’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. อสฺโส อาคนฺตฺวา สุวณฺณถาเล ภตฺตํ ภุฺชิ, รสํ ปิวิ. อถ นํ คนฺเธหิ วิลิมฺปิตฺวา ราชปิฬนฺธนํ ปิฬนฺธิตฺวา ‘‘ปุรโต ปุรโต คจฺฉา’’ติ อจฺฉรํ ปหริ. โส ทหรสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา มงฺคลสฺสฏฺาเน อฏฺาสิ. ทหโร – ‘‘อยํ เต, มหาราช, อนคฺโฆ สินฺธวโปตโก, อิมินาว นํ นิยาเมน กติปาหํ ปฏิชคฺคาเปหี’’ติ วตฺวา นิกฺขมิ.

อถ กติปาหสฺส อจฺจเยน อาคนฺตฺวา อสฺสสฺส อานุภาวํ ปสฺสิสฺสสิ, มหาราชาติ. สาธุ อาจริย กุหึ ตฺวา ปสฺสามาติ? อุยฺยานํ คจฺฉ, มหาราชาติ. ราชา อสฺสํ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. ทหโร อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘เอตํ รุกฺขํ อนุปริยาหี’’ติ อสฺสสฺส สฺํ อทาสิ. อสฺโส ปกฺขนฺทิตฺวา รุกฺขํ อนุปริคนฺตฺวา อาคโต. ราชา เนว คจฺฉนฺตํ น อาคจฺฉนฺตํ อทฺทส. ทิฏฺโ เต, มหาราชาติ? น ทิฏฺโ, ตาตาติ. วลฺชกทณฺฑํ เอตํ รุกฺขํ นิสฺสาย เปถาติ วตฺวา อจฺฉรํ ปหริ ‘‘วลฺชกทณฺฑํ คเหตฺวา เอหี’’ติ. อสฺโส ปกฺขนฺทิตฺวา มุเขน คเหตฺวา อาคโต. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ.

ปุน อจฺฉรํ ปหริ ‘‘อุยฺยานสฺส ปาการมตฺถเกน จริตฺวา เอหี’’ติ. อสฺโส ตถา อกาสิ. ทิฏฺโ, มหาราชาติ. น ทิฏฺโ, ตาตาติ. รตฺตกมฺพลํ อาหราเปตฺวา อสฺสสฺส ปาเท พนฺธาเปตฺวา ตเถว สฺํ อทาสิ. อสฺโส อุลฺลงฺฆิตฺวา ปาการมตฺถเกน อนุปริยายิ. พลวตา ปุริเสน อาวิฺฉนอลาตคฺคิสิขา วิย อุยฺยานปาการมตฺถเก ปฺายิตฺถ. อสฺโส คนฺตฺวา สมีเป ิโต. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ. มงฺคลโปกฺขรณิปาการมตฺถเก อนุปริยาหีติ สฺํ อทาสิ.

ปุน ‘‘โปกฺขรณึ โอตริตฺวา ปทุมปตฺเตสุ จาริกํ จราหี’’ติ สฺํ อทาสิ. โปกฺขรณึ โอตริตฺวา สพฺพปทุมปตฺเต จริตฺวา อคมาสิ, เอกํ ปตฺตมฺปิ อนกฺกนฺตํ วา ผาลิตํ วา ฉินฺทิตํ วา ขณฺฑิตํ วา นาโหสิ. ทิฏฺํ, มหาราชาติ. ทิฏฺํ, ตาตาติ. อจฺฉรํ ปหริตฺวา ตํ หตฺถตลํ อุปนาเมสิ. ธาตูปตฺถทฺโธ ลงฺฆิตฺวา หตฺถตเล อฏฺาสิ. ทิฏฺํ, มหาราชาติ? ทิฏฺํ, ตาตาติ. เอวํ อุตฺตมหโย เอว อุตฺตมการณาย อุตฺตมชวํ ปฏิปชฺชติ.

อุตฺตเม สาขลฺเยติ มุทุวาจาย. มุทุวาจาย หิ, ‘‘ตาต, ตฺวํ มา จินฺตยิ, รฺโ มงฺคลสฺโส ภวิสฺสสิ, ราชโภชนาทีนิ ลภิสฺสสี’’ติ อุตฺตมหยการณํ กาเรตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตฺตเม สาขลฺเย’’ติ. ราชโภคฺโคติ รฺโ อุปโภโค. รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉตีติ ยตฺถ กตฺถจิ คจฺฉนฺเตน หตฺถํ วิย ปาทํ วิย อโนหาเยว คนฺตพฺพํ โหติ. ตสฺมา องฺคนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ, จตูสุ วา เสนงฺเคสุ เอกํ องฺคํ โหติ.

อเสขาย สมฺมาทิฏฺิยาติ อรหตฺตผลสมฺมาทิฏฺิยา. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตํสมฺปยุตฺตาว. สมฺมาาณํ ปุพฺเพ วุตฺตสมฺมาทิฏฺิเยว. เปตฺวา ปน อฏฺ ผลงฺคานิ เสสา ธมฺมา วิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน เทสนา อุคฺฆฏิตฺูปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูฏํ คเหตฺวา นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ภทฺทาลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ลฏุกิโกปมสุตฺตวณฺณนา

๑๔๘. เอวํ เม สุตนฺติ ลฏุกิโกปมสุตฺตํ. ตตฺถ เยน โส วนสณฺโฑติ อยมฺปิ มหาอุทายิตฺเถโร ภควตา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา สทฺธึ ปฏิกฺกมิ. ตสฺมา เยน โส ภควตา อุปสงฺกมนฺโต วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมีติ เวทิตพฺโพ. อปหตฺตาติ อปหารโก. อุปหตฺตาติ อุปหารโก. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต.

๑๔๙. ยํ ภควาติ ยสฺมึ สมเย ภควา. อิงฺฆาติ อาณตฺติยํ นิปาโต. อฺถตฺตนฺติ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. ตฺจ โข น ภควนฺตํ ปฏิจฺจ, เอวรูปํ ปน ปณีตโภชนํ อลภนฺตา กถํ ยาเปสฺสามาติ เอวํ ปณีตโภชนํ ปฏิจฺจ อโหสีติ เวทิตพฺพํ. ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา รตฺติโภชนสฺส ปณีตภาวํ ทสฺเสติ. สูเปยฺยนฺติ สูเปน อุปเนตพฺพํ มจฺฉมํสกฬีราทิ. สมคฺคา ภุฺชิสฺสามาติ เอกโต ภุฺชิสฺสาม. สงฺขติโยติ อภิสงฺขาริกขาทนียานิ. สพฺพา ตา รตฺตินฺติ สพฺพา ตา สงฺขติโย รตฺตึเยว โหนฺติ, ทิวา ปน อปฺปา ปริตฺตา โถกิกา โหนฺตีติ. มนุสฺสา หิ ทิวา ยาคุกฺชิยาทีหิ ยาเปตฺวาปิ รตฺตึ ยถาสตฺติ ยถาปณีตเมว ภุฺชนฺติ.

ปุน ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา รตฺติ วิกาลโภชเน อาทีนวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อนฺธการติมิสายนฺติ พหลนฺธกาเร. มาณเวหีติ โจเรหิ. กตกมฺเมหีติ กตโจรกมฺเมหิ. โจรา กิร กตกมฺมา ยํ เนสํ เทวตํ อายาจิตฺวา กมฺมํ นิปฺผนฺนํ, ตสฺส อุปหารตฺถาย มนุสฺเส มาเรตฺวา คลโลหิตาทีนิ คณฺหนฺติ. เต อฺเสุ มนุสฺเสสุ มาริยมาเนสุ โกลาหลา อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ปพฺพชิตํ ปริเยสนฺโต นาม นตฺถีติ มฺมานา ภิกฺขู คเหตฺวา มาเรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อกตกมฺเมหีติ อฏวิโต คามํ อาคมนกาเล กมฺมนิปฺผนฺนตฺถํ ปุเรตรํ พลิกมฺมํ กาตุกาเมหิ. อสทฺธมฺเมน นิมนฺเตตีติ ‘‘เอหิ ภิกฺขุ อชฺเชกรตฺตึ อิเธว ภุฺชิตฺวา อิธ วสิตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา สฺเว คมิสฺสสี’’ติ เมถุนธมฺเมน นิมนฺเตติ.

ปุน ภูตปุพฺพนฺติ อิมินา อตฺตนา ทิฏฺการณํ กเถติ. วิชฺชนฺตริกายาติ วิชฺชุวิชฺโชตนกฺขเณ. วิสฺสรมกาสีติ มหาสทฺทมกาสิ. อภุมฺเมติ ภู’ติ วฑฺฒิ, อภู’ติ อวฑฺฒิ, วินาโส มยฺหนฺติ อตฺโถ. ปิสาโจ วต มนฺติ ปิสาโจ มํ ขาทิตุํ อาคโต วต. อาตุมารี มาตุมารีติ เอตฺถ อาตูติ ปิตา, มาตูติ มาตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺส ปิตา วา มาตา วา อตฺถิ, ตํ มาตาปิตโร อมฺหากํ ปุตฺตโกติ ยถา ตถา วา อุปฺปาเทตฺวา ยํกิฺจิ ขาทนียโภชนียํ ทตฺวา เอกสฺมึ าเน สยาเปนฺติ. โส เอวํ รตฺตึ ปิณฺฑาย น จรติ. ตุยฺหํ ปน มาตาปิตโร มตา มฺเ, เตน เอวํ จรสีติ.

๑๕๐. เอวเมวาติ เอวเมว กิฺจิ อานิสํสํ อปสฺสนฺตา นิกฺการเณเนว. เอวมาหํสูติ ครหนฺโต อาห. ตตฺถ อาหํสูติ วทนฺติ. กึ ปนิมสฺสาติ อิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส เหตุ กึ วตฺตพฺพํ นาม, นนุ อปสฺสนฺเตน วิย อสุณนฺเตน วิย ภวิตพฺพนฺติ. โอรมตฺตกสฺสาติ ปริตฺตมตฺตกสฺส. อธิสลฺลิขเตวายนฺติ อยํ สมโณ นวนีตํ ปิสนฺโต วิย ปทุมนาฬสุตฺตํ กกเจน โอกฺกนฺตนฺโต วิย อติสลฺเลขติ, อติวายามํ กโรติ. สิกฺขากามาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย วิย สิกฺขากามา, เตสุ จ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺเปนฺติ. เตสฺหิ เอวํ โหติ ‘‘สเจ เอเต ‘อปฺปมตฺตกเมตํ, หรถ ภควา’ติ วเทยฺยุํ, กึ สตฺถา น หเรยฺย. เอวํ ปน อวตฺวา ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ‘เอวํ ภควา, สาธุ ภควา, ปฺเปถ ภควา’ติ อติเรกตรํ อุสฺสาหํ ปฏิลภนฺตี’’ติ. ตสฺมา เตสุ อปฺปจฺจยํ อุปฏฺเปนฺติ.

เตสนฺติ เตสํ เอกจฺจานํ โมฆปุริสานํ. นฺติ ตํ อปฺปมตฺตกํ ปหาตพฺพํ. ถูโล กลิงฺคโรติ คเล พทฺธํ มหากฏฺํ วิย โหติ. ลฏุกิกา สกุณิกาติ จาตกสกุณิกา. สา กิร รวสตํ รวิตฺวา นจฺจสตํ นจฺจิตฺวา สกึ โคจรํ คณฺหาติ. อากาสโต ภูมิยํ ปติฏฺิตํ ปน นํ ทิสฺวา วจฺฉปาลกาทโย กีฬนตฺถํ ปูติลตาย พนฺธนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อาคเมตีติ อุเปติ. ตฺหิ ตสฺสาติ ตํ ปูติลตาพนฺธนํ ตสฺสา อปฺปสรีรตาย เจว อปฺปถามตาย จ พลวพนฺธนํ นาม, มหนฺตํ นาฬิเกรรชฺชุ วิย ทุจฺฉิชฺชํ โหติ. เตสนฺติ เตสํ โมฆปุริสานํ สทฺธามนฺทตาย จ ปฺามนฺทตาย จ พลวํ พนฺธนํ นาม, ทุกฺกฏวตฺถุมตฺตกมฺปิ มหนฺตํ ปาราชิกวตฺถุ วิย ทุปฺปชหํ โหติ.

๑๕๑. สุกฺกปกฺเข ปหาตพฺพสฺสาติ กึ อิมสฺส อปฺปมตฺตกสฺส ปหาตพฺพสฺส เหตุ ภควตา วตฺตพฺพํ อตฺถิ, ยสฺส โน ภควา ปหานมาห. นนุ เอวํ ภควโต อธิปฺปายํ ตฺวาปิ ปหาตพฺพเมวาติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺกาติ อนุสฺสุกฺกา. ปนฺนโลมาติ ปติตโลมา, น ตสฺส ปหาตพฺพภเยน อุทฺธคฺคโลมา. ปรทตฺตวุตฺตาติ ปเรหิ ทินฺนวุตฺติโน, ปรโต ลทฺเธน ยาเปนฺตาติ อตฺโถ. มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺตีติ อปจฺจาสีสนปกฺเข ิตา หุตฺวา วิหรนฺติ. มิโค หิ ปหารํ ลภิตฺวา มนุสฺสาวาสํ คนฺตฺวา เภสชฺชํ วา วณเตลํ วา ลภิสฺสามีติ อชฺฌาสยํ อกตฺวา ปหารํ ลภิตฺวาว อคามกํ อรฺํ ปวิสิตฺวา ปหฏฏฺานํ เหฏฺา กตฺวา นิปติตฺวา ผาสุภูตกาเล อุฏฺาย คจฺฉติ. เอวํ มิคา อปจฺจาสีสนปกฺเข ิตา. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มิคภูเตน เจตสา วิหรนฺตี’’ติ. ตฺหิ ตสฺสาติ ตํ วรตฺตพนฺธนํ ตสฺส หตฺถินาคสฺส มหาสรีรตาย เจว มหาถามตาย จ ทุพฺพลพนฺธนํ นาม. ปูติลตา วิย สุฉิชฺชํ โหติ. เตสํ ตนฺติ เตสํ ตํ กุลปุตฺตานํ สทฺธามหนฺตตาย จ ปฺามหนฺตตาย จ มหนฺตํ ปาราชิกวตฺถุปิ ทุกฺกฏวตฺถุมตฺตกํ วิย สุปฺปชหํ โหติ.

๑๕๒. ทลิทฺโทติ ทาลิทฺทิเยน สมนฺนาคโต. อสฺสโกติ นิสฺสโก. อนาฬฺหิโยติ อนฑฺโฒ. อคารกนฺติ ขุทฺทกเคหํ. โอลุคฺควิลุคฺคนฺติ ยสฺส เคหยฏฺิโย ปิฏฺิวํสโต มุจฺจิตฺวา มณฺฑเล ลคฺคา, มณฺฑลโต มุจฺจิตฺวา ภูมิยํ ลคฺคา. กากาติทายินฺติ ยตฺถ กิฺจิเทว ภุฺชิสฺสามาติ อนฺโต นิสินฺนกาเล วิสุํ ทฺวารกิจฺจํ นาม นตฺถิ, ตโต ตโต กากา ปวิสิตฺวา ปริวาเรนฺติ. สูรกากา หิ ปลายนกาเล จ ยถาสมฺมุขฏฺาเนเนว นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ. นปรมรูปนฺติ น ปุฺวนฺตานํ เคหํ วิย อุตฺตมรูปํ. ขโฏปิกาติ วิลีวมฺจโก. โอลุคฺควิลุคฺคาติ โอณตุณฺณตา. ธฺสมวาปกนฺติ ธฺฺจ สมวาปกฺจ. ตตฺถ ธฺํ นาม กุทฺรูสโก. สมวาปกนฺติ ลาพุพีชกุมฺภณฺฑพีชกาทิ พีชชาตํ. นปรมรูปนฺติ ยถา ปุฺวนฺตานํ คนฺธสาลิพีชาทิ ปริสุทฺธํ พีชํ, น เอวรูปํ. ชายิกาติ กปณชายา. นปรมรูปาติ ปจฺฉิสีสา ลมฺพตฺถนี มโหทรา ปิสาจา วิย พีภจฺฉา. สามฺนฺติ สมณภาโว. โส วตสฺสํ, โยหนฺติ โส วตาหํ ปุริโส นาม อสฺสํ, โย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพเชยฺยนฺติ.

โส น สกฺกุเณยฺยาติ โส เอวํ จินฺเตตฺวาปิ เคหํ คนฺตฺวา – ‘‘ปพฺพชฺชา นาม ลาภครุกา ทุกฺกรา ทุราสทา, สตฺตปิ อฏฺปิ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ยถาโธเตเนว ปตฺเตน อาคนฺตพฺพมฺปิ โหติ, เอวํ ยาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส เม ปุน อาคตสฺส วสนฏฺานํ อิจฺฉิตพฺพํ, ติณวลฺลิทพฺพสมฺภารา นาม ทุสฺสโมธานิยา, กินฺติ กโรมี’’ติ วีมํสติ. อถสฺส ตํ อคารกํ เวชยนฺตปาสาโท วิย อุปฏฺาติ. อถสฺส ขโฏปิกํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อิมํ วิสงฺขริตฺวา อุทฺธนาลาตํ กริสฺสนฺติ, ปุน อฏฺฏนิปาทวิลีวาทีนิ ลทฺธพฺพานิ โหนฺติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา สิริสยนํ วิย อุปฏฺาติ. ตโต ธฺกุมฺภึ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อยํ ฆรณี อิมํ ธฺํ เตน เตน สทฺธึ ภุฺชิสฺสติ. ปุน อาคเตน ชีวิตวุตฺติ นาม ลทฺธพฺพา โหติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา อฑฺฒเตฬสานิ โกฏฺาคารสตานิ วิย อุปฏฺาติ. ตโต มาตุคามํ โอโลเกตฺวา – ‘‘มยิ คเต อิมํ หตฺถิโคปโก วา อสฺสโคปโก วา โย โกจิ ปโลเภสฺสติ, ปุน อาคเตน ภตฺตปาจิกา นาม ลทฺธพฺพา โหติ, กินฺติ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตติ. อถสฺส สา รูปินี เทวี วิย อุปฏฺาติ. อิทํ สนฺธาย ‘‘โส น สกฺกุเณยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๑๕๓. นิกฺขคณานนฺติ สุวณฺณนิกฺขสตานํ. จโยติ สนฺตานโต กตสนฺนิจโย. ธฺคณานนฺติ ธฺสกฏสตานํ.

๑๕๔. จตฺตาโรเม, อุทายิ, ปุคฺคลาติ อิธ กึ ทสฺเสติ? เหฏฺา ‘‘เต ตฺเจว ปชหนฺติ, เต ตฺเจว นปฺปชหนฺตี’’ติ ปชหนกา จ อปฺปชหนกา จ ราสิวเสน ทสฺสิตา, น ปาฏิเยกฺกํ วิภตฺตา. อิทานิ ยถา นาม ทพฺพสมฺภารตฺถํ คโต ปุริโส ปฏิปาฏิยา รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา วงฺกฺจ ปหาย กมฺเม อุปเนตพฺพยุตฺตกเมว คณฺหาติ, เอวเมว อปฺปชหนเก ฉฑฺเฑตฺวา อพฺโพหาริเก กตฺวา ปชหนกปุคฺคลา จตฺตาโร โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

อุปธิปหานายาติ ขนฺธุปธิกิเลสุปธิอภิสงฺขารุปธิกามคุณูปธีติ อิเมสํ อุปธีนํ ปหานาย. อุปธิปฏิสํยุตฺตาติ อุปธิอนุธาวนกา. สรสงฺกปฺปาติ เอตฺถ สรนฺติ ธาวนฺตีติ สรา. สงฺกปฺเปนฺตีติ สงฺกปฺปา. ปททฺวเยนปิ วิตกฺกาเยว วุตฺตา. สมุทาจรนฺตีติ อภิภวนฺติ อชฺโฌตฺถริตฺวา วตฺตนฺติ. สํยุตฺโตติ กิเลเสหิ สํยุตฺโต. อินฺทฺริยเวมตฺตตาติ อินฺทฺริยนานตฺตตา. กทาจิ กรหจีติ พหุกาลํ วีติวตฺเตตฺวา. สติสมฺโมสาติ สติสมฺโมเสน. นิปาโตติ อโยกฏาหมฺหิ ปตนํ. เอตฺตาวตา ‘‘นปฺปชหติ, ปชหติ, ขิปฺปํ ปชหตี’’ติ ตโย ราสโย ทสฺสิตา. เตสุ จตฺตาโร ชนา นปฺปชหนฺติ นาม, จตฺตาโร ปชหนฺติ นาม, จตฺตาโร ขิปฺปํ ปชหนฺติ นาม.

ตตฺถ ปุถุชฺชโน โสตาปนฺโน สกทาคามี อนาคามีติ อิเม จตฺตาโร ชนา นปฺปชหนฺติ นาม. ปุถุชฺชนาทโย ตาว มา ปชหนฺตุ, อนาคามี กถํ น ปชหตีติ? โสปิ หิ ยาวเทวสฺส ภวโลโภ อตฺถิ, ตาว อโหสุขํ อโหสุขนฺติ อภินนฺทติ. ตสฺมา นปฺปชหติ นาม. เอเตเยว ปน จตฺตาโร ชนา ปชหนฺติ นาม. โสตาปนฺนาทโย ตาว ปชหนฺตุ, ปุถุชฺชโน กถํ ปชหตีติ? อารทฺธวิปสฺสโก หิ สติสมฺโมเสน สหสา กิเลเส อุปฺปนฺเน ‘‘มาทิสสฺส นาม ภิกฺขุโน กิเลโส อุปฺปนฺโน’’ติ สํเวคํ กตฺวา วีริยํ ปคฺคยฺห วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺเคน กิเลเส สมุคฺฆาเตติ. อิติ โส ปชหติ นาม. เตเยว จตฺตาโร ขิปฺปํ ปชหนฺติ นาม. ตตฺถ อิมสฺมึ สุตฺเต, มหาหตฺถิปโทปเม (ม. นิ. ๑.๒๘๘ อาทโย), อินฺทฺริยภาวเนติ (ม. นิ. ๓.๔๕๓ อาทโย) อิเมสุ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ ตติยวาโร คหิโต, ปฺโห ปน ทุติยวาเรเนว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

อุปธิ ทุกฺขสฺส มูลนฺติ เอตฺถ ปฺจ ขนฺธา อุปธิ นาม. ตํ ทุกฺขสฺส มูลนฺติ อิติ วิทิตฺวา กิเลสุปธินา นิรุปธิ โหติ, นิคฺคหโณ นิตณฺโหติ อตฺโถ. อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต.

๑๕๕. เอวํ จตฺตาโร ปุคฺคเล วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ เย ปชหนฺติ, เต ‘‘อิเม นาม เอตฺตเก กิเลเส ปชหนฺติ’’. เย นปฺปชหนฺติ, เตปิ ‘‘อิเม นาม เอตฺตเก กิเลเส นปฺปชหนฺตี’’ติ ทสฺเสตุํ ปฺจ โข อิเม อุทายิ กามคุณาติอาทิมาห. ตตฺถ มิฬฺหสุขนฺติ อสุจิสุขํ. อนริยสุขนฺติ อนริเยหิ เสวิตสุขํ. ภายิตพฺพนฺติ เอตสฺส สุขสฺส ปฏิลาภโตปิ วิปากโตปิ ภายิตพฺพํ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ กามโต นิกฺขนฺตสุขํ. ปวิเวกสุขนฺติ คณโตปิ กิเลสโตปิ ปวิวิตฺตสุขํ. อุปสมสุขนฺติ ราคาทิวูปสมตฺถาย สุขํ. สมฺโพธสุขนฺติ มคฺคสงฺขาตสฺส สมฺโพธสฺส นิพฺพตฺตนตฺถาย สุขํ. น ภายิตพฺพนฺติ เอตสฺส สุขสฺส ปฏิลาภโตปิ วิปากโตปิ น ภายิตพฺพํ, ภาเวตพฺพเมเวตํ.

๑๕๖. อิฺชิตสฺมึ วทามีติ อิฺชนํ จลนํ ผนฺทนนฺติ วทามิ. กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตสฺมินฺติ กิฺจ ตตฺถ อิฺชิตํ. อิทํ ตตฺถ อิฺชิตสฺมินฺติ เย เอเต อนิรุทฺธา วิตกฺกวิจารา, อิทํ ตตฺถ อิฺชิตํ. ทุติยตติยชฺฌาเนสุปิ เอเสว นโย. อนิฺชิตสฺมึ วทามีติ อิทํ จตุตฺถชฺฌานํ อนิฺชนํ อจลนํ นิปฺผนฺทนนฺติ วทามิ.

อนลนฺติ วทามีติ อกตฺตพฺพอาลยนฺติ วทามิ, ตณฺหาลโย เอตฺถ น อุปฺปาเทตพฺโพติ ทสฺเสติ. อถ วา อนลํ อปริยตฺตํ, น เอตฺตาวตา อลเมตนฺติ สนฺนิฏฺานํ กาตพฺพนฺติ วทามิ. เนวสฺานาสฺายตนสฺสาปีติ เอวรูปายปิ สนฺตาย สมาปตฺติยา ปหานเมว วทามิ. อณุํ วา ถูลํ วาติ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา อปฺปสาวชฺชํ วา มหาสาวชฺชํ วา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. เทสนา ปน เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูเฏเนว นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ลฏุกิโกปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จาตุมสุตฺตวณฺณนา

๑๕๗. เอวํ เม สุตนฺติ จาตุมสุตฺตํ. ตตฺถ จาตุมายนฺติ เอวํนามเก คาเม. ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานีติ อธุนา ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ ปฺจ สตานิ. เถรา กิร จินฺเตสุํ – ‘‘อิเม กุลปุตฺตา ทสพลํ อทิสฺวาว ปพฺพชิตา, เอเตสํ ภควนฺตํ ทสฺเสสฺสาม, ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ยถาอุปนิสฺสเยน ปติฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เต ภิกฺขู คเหตฺวา อาคตา. ปฏิสมฺโมทมานาติ ‘‘กจฺจาวุโส, ขมนีย’’นฺติอาทึ ปฏิสนฺถารกถํ กุรุมานา. เสนาสนานิ ปฺาปยมานาติ อตฺตโน อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ วสนฏฺานานิ ปุจฺฉิตฺวา ทฺวารวาตปานานิ วิวริตฺวา มฺจปีกฏสารกาทีนิ นีหริตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา ยถาฏฺาเน สณฺาปยมานา. ปตฺตจีวรานิ ปฏิสามยมานาติ, ภนฺเต, อิทํ เม ปตฺตํ เปถ, อิทํ จีวรํ, อิทํ ถาลกํ, อิทํ อุทกตุมฺพํ, อิมํ กตฺตรยฏฺินฺติ เอวํ สมณปริกฺขาเร สงฺโคปยมานา.

อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทาติ อุทฺธํ อุคฺคตตฺตา อุจฺจํ, ปตฺถฏตฺตา มหนฺตํ อวินิพฺโภคสทฺทํ กโรนฺตา. เกวฏฺฏา มฺเ มจฺฉวิโลเปติ เกวฏฺฏานํ มจฺฉปจฺฉิปิตฏฺาเน มหาชโน สนฺนิปติตฺวา – ‘‘อิธ อฺํ เอกํ มจฺฉํ เทหิ, เอกํ มจฺฉผาลํ เทหิ, เอตสฺส เต มหา ทินฺโน, มยฺหํ ขุทฺทโก’’ติ เอวํ อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มจฺฉคหณตฺถํ ชาเล ปกฺขิตฺเตปิ ตสฺมึ าเน เกวฏฺฏา เจว อฺเ จ ‘‘ปวิฏฺโ น ปวิฏฺโ, คหิโต น คหิโต’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ตมฺปิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปณาเมมีติ นีหรามิ. น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพนฺติ ตุมฺเห มาทิสสฺส พุทฺธสฺส วสนฏฺานํ อาคนฺตฺวา เอวํ มหาสทฺทํ กโรถ, อตฺตโน ธมฺมตาย วสนฺตา กึ นาม สารุปฺปํ กริสฺสถ, ตุมฺหาทิสานํ มม สนฺติเก วสนกิจฺจํ นตฺถีติ ทีเปติ. เตสุ เอกภิกฺขุปิ ‘‘ภควา ตุมฺเห มหาสทฺทมตฺตเกน อมฺเห ปณาเมถา’’ติ วา อฺํ วา กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ, สพฺเพ ภควโต วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺตา ‘‘เอวํ, ภนฺเต,’’ติ วตฺวา นิกฺขมึสุ. เอวํ ปน เตสํ อโหสิ ‘‘มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสาม, ธมฺมกถํ โสสฺสาม, สตฺถุ สนฺติเก วสิสฺสามาติ อาคตา. เอวรูปสฺส ปน ครุโน สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา มหาสทฺทํ กริมฺหา, อมฺหากเมว โทโสยํ, ปณามิตมฺหา, น โน ลทฺธํ ภควโต สนฺติเก วตฺถุํ, น สุวณฺณวณฺณสรีรํ โอโลเกตุํ, น มธุรสฺสเรน ธมฺมํ โสตุ’’นฺติ. เต พลวโทมนสฺสชาตา หุตฺวา ปกฺกมึสุ.

๑๕๘. เตนุปสงฺกมึสูติ เต กิร สกฺยา อาคมนสมเยปิ เต ภิกฺขู ตตฺเถว นิสินฺนา ปสฺสึสุ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข เอเต ภิกฺขู ปวิสิตฺวาว ปฏินิวตฺตา, ชานิสฺสาม ตํ การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมึสุ. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. กหํ ปน ตุมฺเหติ ตุมฺเห อิทาเนว อาคนฺตฺวา กหํ คจฺฉถ, กึ ตุมฺหากํ โกจิ อุปทฺทโว, อุทาหุ ทสพลสฺสาติ? เตสํ ปน ภิกฺขูนํ, – ‘‘อาวุโส, มยํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อาคตา, ทิฏฺโ โน ภควา, อิทานิ อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉามา’’ติ กิฺจาปิ เอวํ วจนปริหาโร อตฺถิ, เอวรูปํ ปน เลสกปฺปํ อกตฺวา ยถาภูตเมว อาโรเจตฺวา ภควตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ ปณามิโตติ อาหํสุ. เต ปน ราชาโน สาสเน ธุรวหา, ตสฺมา จินฺเตสุํ – ‘‘ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ปฺจสุ ภิกฺขุสเตสุ คจฺฉนฺเตสุ ภควโต ปาทมูลํ วิคจฺฉิสฺสติ, อิเมสํ นิวตฺตนาการํ กริสฺสามา’’ติ. เอวํ จินฺเตตฺวา เตน หายสฺมนฺโตติอาทิมาหํสุ. เตสุปิ ภิกฺขูสุ ‘‘มยํ มหาสทฺทมตฺตเกน ปณามิตา, น มยํ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา ปพฺพชิตา’’ติ เอกภิกฺขุปิ ปฏิปฺผริโต นาม นาโหสิ, สพฺเพ ปน สมกํเยว, ‘‘เอวมาวุโส,’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ.

๑๕๙. อภินนฺทตูติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาคมนํ อิจฺฉนฺโต อภินนฺทตุ. อภิวทตูติ เอตุ ภิกฺขุสงฺโฆติ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺโต อภิวทตุ. อนุคฺคหิโตติ อามิสานุคฺคเหน จ ธมฺมานุคฺคเหน จ อนุคฺคหิโต. อฺถตฺตนฺติ ทสพลสฺส ทสฺสนํ น ลภามาติ ปสาทฺถตฺตํ ภเวยฺย. วิปริณาโมติ ปสาทฺถตฺเตน วิพฺภมนฺตานํ วิปริณามฺถตฺตํ ภเวยฺย. พีชานํ ตรุณานนฺติ ตรุณสสฺสานํ. สิยา อฺถตฺตนฺติ อุทกวารกาเล อุทกํ อลภนฺตานํ มิลาตภาเวน อฺถตฺตํ ภเวยฺย, สุสฺสิตฺวา มิลาตภาวํ อาปชฺชเนน วิปริณาโม ภเวยฺย. วจฺฉกสฺส ปน ขีรปิปาสาย สุสฺสนํ อฺถตฺตํ นาม, สุสฺสิตฺวา กาลกิริยา วิปริณาโม นาม.

๑๖๐. ปสาทิโต ภควาติ เถโร กิร ตตฺถ นิสินฺโนว ทิพฺพจกฺขุนา พฺรหฺมานํ อาคตํ อทฺทส, ทิพฺพาย โสตธาตุยา จ อายาจนสทฺทํ สุณิ, เจโตปริยาเณน ภควโต ปสนฺนภาวํ อฺาสิ. ตสฺมา – ‘‘กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา ปกฺโกสิยมานานํ คมนํ นาม น ผาสุกํ, ยาว สตฺถา น เปเสติ, ตาวเทว คมิสฺสามา’’ติ มฺมาโน เอวมาห. อปฺโปสฺสุกฺโกติ อฺเสุ กิจฺเจสุ อนุสฺสุกฺโก หุตฺวา. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารนฺติ ผลสมาปตฺติวิหารํ อนุยุตฺโต มฺเ ภควา วิหริตุกาโม, โส อิทานิ ยถารุจิยา วิหริสฺสตีติ เอวํ เม อโหสีติ วทติ. มยมฺปิ ทานีติ มยํ ปรํ โอวทมานา วิหารโต นิกฺกฑฺฒิตา, กึ อมฺหากํ ปโรวาเทน. อิทานิ มยมฺปิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาเรเนว วิหริสฺสามาติ ทีเปติ. เถโร อิมสฺมึ าเน วิรทฺโธ อตฺตโน ภารภาวํ น อฺาสิ. อยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ ทฺวินฺนมฺปิ มหาเถรานํ ภาโร, เตน นํ ปฏิเสเธนฺโต ภควา อาคเมหีติอาทิมาห. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน อตฺตโน ภารภาวํ อฺาสิ. เตนสฺส ภควา สาธุการํ อทาสิ.

๑๖๑. จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อารภิ? อิมสฺมึ สาสเน จตฺตาริ ภยานิ. โย ตานิ อภีโต โหติ, โส อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ สกฺโกติ. อิตโร ปน น สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อุทโกโรหนฺเตติ อุทกํ โอโรหนฺเต ปุคฺคเล. กุมฺภีลภยนฺติ สุํสุมารภยํ. สุสุกาภยนฺติ จณฺฑมจฺฉภยํ.

๑๖๒. โกธุปายาสสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อูมีสุ โอสีทิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โกธุปายาเส โอสีทิตฺวา วิพฺภมติ. ตสฺมา โกธุปายาโส ‘‘อูมิภย’’นฺติ วุตฺโต.

๑๖๓. โอทริกตฺตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ กุมฺภีเลน ขาทิโต มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน โอทริกตฺเตน ขาทิโต วิพฺภมติ. ตสฺมา โอทริกตฺตํ ‘‘กุมฺภีลภย’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๖๔. อรกฺขิเตเนว กาเยนาติ สีสปฺปจาลกาทิกรเณน อรกฺขิตกาโย หุตฺวา. อรกฺขิตาย วาจายาติ ทุฏฺุลฺลภาสนาทิวเสน อรกฺขิตวาโจ หุตฺวา. อนุปฏฺิตาย สติยาติ กายคตาสตึ อนุปฏฺาเปตฺวา. อสํวุเตหีติ อปิหิเตหิ. ปฺจนฺเนตํ กามคุณานํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ อาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต ปฺจกามคุณาวฏฺเฏ นิมุชฺชิตฺวา วิพฺภมติ. ตสฺมา ปฺจ กามคุณา ‘‘อาวฏฺฏภย’’นฺติ วุตฺตา.

๑๖๕. อนุทฺธํเสตีติ กิลเมติ มิลาเปติ. ราคานุทฺธํเสนาติ ราคานุทฺธํสิเตน. มาตุคามสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถา หิ พาหิรํ อุทกํ โอติณฺโณ จณฺฑมจฺฉํ อาคมฺม ลทฺธปฺปหาโร มรติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน มาตุคามํ อาคมฺม อุปฺปนฺนกามราโค วิพฺภมติ. ตสฺมา มาตุคาโม ‘‘สุสุกาภย’’นฺติ วุตฺโต.

อิมานิ ปน จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา ยถา อุทกํ อโนโรหนฺตสฺส อุทกํ นิสฺสาย อานิสํโส นตฺถิ, อุทกปิปาสาย ปิปาสิโต จ โหติ รโชชลฺเลน กิลิฏฺสรีโร จ, เอวเมวํ อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺตสฺสาปิ อิมํ สาสนํ นิสฺสาย อานิสํโส นตฺถิ, ตณฺหาปิปาสาย ปิปาสิโต จ โหติ กิเลสรเชน สํกิลิฏฺจิตฺโต จ. ยถา ปน อิมานิ จตฺตาริ ภยานิ อภายิตฺวา อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ, เอวํ อิมานิ อภายิตฺวา สาสเน ปพฺพชิตสฺสาปิ วุตฺตปฺปกาโร อานิสํโส โหติ. เถโร ปนาห – ‘‘จตฺตาริ ภยานิ ภายิตฺวา อุทกํ อโนตรนฺโต โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปรตีรํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา โอตรนฺโต สกฺโกติ, เอวเมวํ ภายิตฺวา สาสเน อปพฺพชนฺโตปิ ตณฺหาโสตํ ฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ ทฏฺุํ น สกฺโกติ, อภายิตฺวา ปพฺพชนฺโต ปน สกฺโกตี’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน เทสนา เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน นิฏฺาปิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จาตุมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นฬกปานสุตฺตวณฺณนา

๑๖๖. เอวํ เม สุตนฺติ นฬกปานสุตฺตํ. ตตฺถ นฬกปาเนติ เอวํนามเก คาเม. ปุพฺเพ กิร อมฺหากํ โพธิสตฺโต วานรโยนิยํ นิพฺพตฺโต, มหากาโย กปิราชา อเนกวานรสหสฺสปริวุโต ปพฺพตปาเท วิจรติ. ปฺวา โข ปน โหติ มหาปุฺโ. โส ปริสํ เอวํ โอวทติ – ‘‘อิมสฺมึ ปพฺพตปาเท ตาตา, วิสผลานิ นาม โหนฺติ, อมนุสฺสปริคฺคหิตา โปกฺขรณิโย นาม โหนฺติ, ตุมฺเห ปุพฺเพ ขาทิตปุพฺพาเนว ผลานิ ขาทถ, ปีตปุพฺพาเนว ปานียานิ จ ปิวถ, เอตฺถ โว มํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อขาทิตปุพฺพานิ ปน ผลานิ อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ มํ อปุจฺฉิตฺวา มา ขาทิตฺถ มา ปิวิตฺถา’’ติ.

เต เอกทิวสํ จรมานา อฺํ ปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา โคจรํ คเหตฺวา ปานียํ โอโลเกนฺตา เอกํ อมนุสฺสปริคฺคหิตํ โปกฺขรณึ ทิสฺวา สหสา อปิวิตฺวา สมนฺตา ปริวาเรตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ โอโลกยมานา นิสีทึสุ. มหาสตฺโต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ตาตา ปานียํ น ปิวถา’’ติ อาห. ตุมฺหากํ อาคมนํ โอโลเกมาติ. สาธุ ตาตาติ สมนฺตา ปทํ ปริเยสมาโน โอติณฺณปทํเยว อทฺทส, น อุตฺติณฺณปทํ, ทิสฺวา สปริสฺสยาติ อฺาสิ. ตาวเทว จ ตตฺถ อภินิพฺพตฺตอมนุสฺโส อุทกํ ทฺเวธา กตฺวา อุฏฺาสิ เสตมุโข นีลกุจฺฉิ รตฺตหตฺถปาโท มหาทาิโก วงฺกทาโ วิรูโป พีภจฺโฉ อุทกรกฺขโส. โส เอวมาห – ‘‘กสฺมา ปานียํ น ปิวถ, มธุรํ อุทกํ ปิวถ, กึ ตุมฺเห เอตสฺส วจนํ สุณาถา’’ติ? มหาสตฺโต อาห – ‘‘ตฺวํ อิธ อธิวตฺโถ อมนุสฺโส’’ติ? อามาหนฺติ. ตฺวํ อิธ โอติณฺเณ ลภสีติ? อาม ลภามิ, ตุมฺเห ปน สพฺเพ ขาทิสฺสามีติ. น สกฺขิสฺสสิ, ยกฺขาติ. ปานียํ ปน ปิวิสฺสถาติ? อาม ปิวิสฺสามาติ. เอวํ สนฺเต เอโกปิ โว น มุจฺจิสฺสตีติ. ปานียฺจ ปิวิสฺสาม, น จ เต วสํ คมิสฺสามาติ เอกนฬํ อาหราเปตฺวา โกฏิยํ คเหตฺวา ธมิ, สพฺโพ เอกจฺฉิทฺโท อโหสิ, ตีเร นิสีทิตฺวาว ปานียํ ปิวิ, เสสวานรานํ ปาฏิเยกฺเก นเฬ อาหราเปตฺวา ธมิตฺวา อทาสิ. สพฺเพ ยกฺขสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ปานียํ ปิวึสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทิสฺวา ปทมนุตฺติณฺณํ, ทิสฺวาโน’ ตริตํ ปทํ;

นเฬน วารึ ปิสฺสาม, เนว มํ ตฺวํ วธิสฺสสี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๒๐);

ตโต ปฏฺาย ยาว อชฺชทิวสา ตสฺมึ าเน นฬา เอกจฺฉิทฺทาว โหนฺติ. อิมินา หิ สทฺธึ อิมสฺมึ กปฺเป จตฺตาริ กปฺปฏฺิยปาฏิหาริยานิ นาม – จนฺเท สสพิมฺพํ, วฏฺฏกชาตกมฺหิ สจฺจกิริยฏฺาเน อคฺคิสฺส คมนุปจฺเฉโท, ฆฏิการกุมฺภการสฺส มาตาปิตูนํ วสนฏฺาเน เทวสฺส อวสฺสนํ, ตสฺสา โปกฺขรณิยา ตีเร นฬานํ เอกจฺฉิทฺทภาโวติ. อิติ สา โปกฺขรณี นเฬน ปานียสฺส ปีตตฺตา นฬกปานาติ นามํ ลภิ. อปรภาเค ตํ โปกฺขรณึ นิสฺสาย คาโม ปติฏฺาสิ, ตสฺสาปิ นฬกปานนฺเตว นามํ ชาตํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นฬกปาเน’’ติ. ปลาสวเนติ กึสุกวเน.

๑๖๗. ตคฺฆ มยํ, ภนฺเตติ เอกํเสเนว มยํ, ภนฺเต, อภิรตา. อฺเปิ เย ตุมฺหากํ สาสเน อภิรมนฺติ, เต อมฺเหหิ สทิสาว หุตฺวา อภิรมนฺตีติ ทีเปนฺติ.

เนว ราชาภินีตาติอาทีสุ เอโก รฺโ อปราธํ กตฺวา ปลายติ. ราชา กุหึ, โภ, อสุโกติ? ปลาโต เทวาติ. ปลาตฏฺาเนปิ เม น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยาติ วทติ. ตสฺส โกจิเทว สุหโท คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ตฺวํ สเจ ชีวิตุมิจฺฉสิ, ปพฺพชาหีติ. โส ปพฺพชิตฺวา ชีวิตํ รกฺขมาโน จรติ. อยํ ราชาภินีโต นาม.

เอโก ปน โจรานํ มูลํ ฉินฺทนฺโต จรติ. โจรา สุตฺวา ‘‘ปุริสานํ อตฺถิกภาวํ น ชานาติ, ชานาเปสฺสาม น’’นฺติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปลายติ. โจรา ปลาโตติ สุตฺวา ‘‘ปลาตฏฺาเนปิ โน น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยา’’ติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปพฺพชติ. อยํ โจราภินีโต นาม.

เอโก ปน พหุํ อิณํ ขาทิตฺวา เตน อิเณน อฏฺโฏ ปีฬิโต ตมฺหา คามา ปลายติ. อิณสามิกา สุตฺวา ‘‘ปลาตฏฺาเนปิ โน น มุจฺจิสฺสติ, สเจ ปน ปพฺพเชยฺย, มุจฺเจยฺยา’’ติ วทนฺติ. โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ปพฺพชติ. อยํ อิณฏฺโฏ นาม.

ราชภยาทีนํ ปน อฺตเรน ภเยน ภีโต อฏฺโฏ อาตุโร หุตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชิโต ภยฏฺโฏ นาม. ทุพฺภิกฺขาทีสุ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต ปพฺพชิโต อาชีวิกาปกโต นาม, อาชีวิกาย ปกโต อภิภูโตติ อตฺโถ. อิเมสุ ปน เอโกปิ อิเมหิ การเณหิ ปพฺพชิโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เนว ราชาภินีโต’’ติอาทิมาห.

วิเวกนฺติ วิวิจฺจ วิวิตฺโต หุตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ กาเมหิ จ อกุสลธมฺเมหิ จ วิวิตฺเตน ปมทุติยชฺฌานสงฺขาตํ ปีติสุขํ อธิคนฺตพฺพํ, สเจ ตํ วิวิจฺจ กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ ปีติสุขํ นาธิคจฺฉติ, อฺํ วา อุปริ ทฺวินฺนํ ฌานานํ จตุนฺนฺจ มคฺคานํ วเสน สนฺตตรํ สุขํ นาธิคจฺฉติ, ตสฺส อิเม อภิชฺฌาทโย จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ. ตตฺถ อรตีติ อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อุกฺกณฺิตตา. ตนฺทีติ อาลสิยภาโว. เอวํ โย ปพฺพชิตฺวา ปพฺพชิตกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส อิเม สตฺต ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺส เต ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โสเยว สมณกิจฺจมฺปิ กาตุํ น สกฺโกตีติ ปุน วิเวกํ อนุรุทฺธา…เป… อฺํ วา ตโต สนฺตตรนฺติ อาห.

เอวํ กณฺหปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตเนว นเยน สุกฺกปกฺขํ ทสฺเสตุํ ปุน วิเวกนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๖๘. สงฺขายาติ ชานิตฺวา. เอกนฺติ เอกจฺจํ. ปฏิเสวตีติ เสวิตพฺพยุตฺตกํ เสวติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อุปปตฺตีสุ พฺยากโรตีติ สปฺปฏิสนฺธิเก ตาว พฺยากโรตุ, อปฺปฏิสนฺธิเก กถํ พฺยากโรตีติ. อปฺปฏิสนฺธิกสฺส ปุน ภเว ปฏิสนฺธิ นตฺถีติ วทนฺโต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ นาม.

ชนกุหนตฺถนฺติ ชนวิมฺหาปนตฺถํ. ชนลปนตฺถนฺติ มหาชนสฺส อุปลาปนตฺถํ. น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ เอวํ มํ มหาชโน ชานิสฺสติ, เอวํ เม มหาชนสฺส อนฺตเร กิตฺติสทฺโท อุคฺคจฺฉิสฺสตีติ อิมินาปิ การเณน น พฺยากโรตีติ อตฺโถ. อุฬารเวทาติ มหนฺตตุฏฺิโน.

๑๖๙. โส โข ปนสฺส อายสฺมาติ โส ปรินิพฺพุโต อายสฺมา อิมสฺส ิตสฺส อายสฺมโต. เอวํสีโลติอาทีสุ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว สีลาทโย เวทิตพฺโพ. เอวํธมฺโมติ เอตฺถ ปน สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา ธมฺมาติ อธิปฺเปตา. ผาสุวิหาโร โหตีติ เตน ภิกฺขุนา ปูริตปฏิปตฺตึ ปูเรนฺตสฺส อรหตฺตผลํ สจฺฉิกตฺวา ผลสมาปตฺติวิหาเรน ผาสุวิหาโร โหติ, อรหตฺตํ ปตฺตุมสกฺโกนฺตสฺส ปฏิปตฺตึ ปูรยมานสฺส จรโตปิ ผาสุวิหาโรเยว นาม โหติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

นฬกปานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา

๑๗๓. เอวํ เม สุตนฺติ โคลิยานิสุตฺตํ. ตตฺถ ปทสมาจาโรติ ทุพฺพลสมาจาโร โอฬาริกาจาโร, ปจฺจเยสุ สาเปกฺโข มหารกฺขิตตฺเถโร วิย. ตํ กิร อุปฏฺากกุเล นิสินฺนํ อุปฏฺาโก อาห ‘‘อสุกตฺเถรสฺส เม, ภนฺเต, จีวรํ ทินฺน’’นฺติ. สาธุ เต กตํ ตํเยว ตกฺเกตฺวา วิหรนฺตสฺส จีวรํ เทนฺเตนาติ. ตุมฺหากมฺปิ, ภนฺเต, ทสฺสามีติ. สาธุ กริสฺสสิ ตํเยว ตกฺเกนฺตสฺสาติ อาห. อยมฺปิ เอวรูโป โอฬาริกาจาโร อโหสิ. สปฺปติสฺเสนาติ สเชฏฺเกน, น อตฺตานํ เชฏฺกํ กตฺวา วิหริตพฺพํ. เสริวิหาเรนาติ สจฺฉนฺทวิหาเรน นิรงฺกุสวิหาเรน.

นานูปขชฺชาติ น อนุปขชฺช น อนุปวิสิตฺวา. ตตฺถ โย ทฺวีสุ มหาเถเรสุ อุภโต นิสินฺเนสุ เต อนาปุจฺฉิตฺวาว จีวเรน วา ชาณุนา วา ฆฏฺเฏนฺโต นิสีทติ, อยํ อนุปขชฺช นิสีทติ นาม. เอวํ อกตฺวา ปน อตฺตโน ปตฺตอาสนสนฺติเก ตฺวา นิสีทาวุโสติ วุตฺเต นิสีทิตพฺพํ. สเจ น วทนฺติ, นิสีทามิ, ภนฺเตติ อาปุจฺฉิตฺวา นิสีทิตพฺพํ อาปุจฺฉิตกาลโต ปฏฺาย นิสีทาติ วุตฺเตปิ อวุตฺเตปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติเยว. น ปฏิพาหิสฺสามีติ เอตฺถ โย อตฺตโน ปตฺตาสนํ อติกฺกมิตฺวา นวกานํ ปาปุณนฏฺาเน นิสีทติ, อยํ นเว ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหติ นาม. ตสฺมิฺหิ ตถา นิสินฺเน นวา ภิกฺขู ‘‘อมฺหากํ นิสีทิตุํ น เทตี’’ติ อุชฺฌายนฺตา ติฏฺนฺติ วา อาสนํ วา ปริเยสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. ตสฺมา อตฺตโน ปตฺตาสเนเยว นิสีทิตพฺพํ. เอวํ น ปฏิพาหติ นาม.

อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมนฺติ อภิสมาจาริกํ วตฺตปฏิปตฺติมตฺตมฺปิ. นาติกาเลนาติ น อติปาโต ปวิสิตพฺพํ, น อติทิวา ปฏิกฺกมิตพฺพํ, ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึเยว ปวิสิตพฺพฺจ นิกฺขมิตพฺพฺจ. อติปาโต ปวิสิตฺวา อติทิวา นิกฺขมนฺตสฺส หิ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺตาทีนิ ปริหายนฺติ. กาลสฺเสว มุขํ โธวิตฺวา มกฺกฏกสุตฺตานิ ฉินฺทนฺเตน อุสฺสาวพินฺทู นิปาเตนฺเตน คามํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปริเยสิตฺวา ยาว ภิกฺขากาลา อนฺโตคาเมเยว นานปฺปการํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺเตน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทิวา นิกฺขมฺม ภิกฺขูนํ ปาทโธวนเวลาย วิหารํ ปจฺจาคนฺตพฺพํ โหติ. น ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย, อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๙๙) อิมํ สิกฺขาปทํ รกฺขนฺเตน ตสฺส วิภงฺเค วุตฺตํ ปุเรภตฺตฺจ ปจฺฉาภตฺตฺจ จาริตฺตํ น อาปชฺชิตพฺพํ. อุทฺธโต โหติ จปโลติ อุทฺธจฺจปกติโก เจว โหติ จีวรมณฺฑน-ปตฺตมณฺฑน-เสนาสนมณฺฑนา อิมสฺส วา ปูติกายสฺส เกลายนา มณฺฑนาติ เอวํ วุตฺเตน จ ตรุณทารกาวจาปลฺเยน สมนฺนาคโต.

ปฺวตา ภวิตพฺพนฺติ จีวรกมฺมาทีสุ อิติกตฺตพฺเพสุ อุปายปฺาย สมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. อภิธมฺเม อภิวินเยติ อภิธมฺมปิฏเก เจว วินยปิฏเก จ ปาฬิวเสน เจว อฏฺกถาวเสน จ โยโค กรณีโย. สพฺพนฺติเมน หิ ปริจฺเฉเทน อภิธมฺเม ทุกติกมาติกาหิ สทฺธึ ธมฺมหทยวิภงฺคํ วินา น วฏฺฏติ. วินเย ปน กมฺมากมฺมวินิจฺฉเยน สทฺธึ สุวินิจฺฉิตานิ ทฺเว ปาติโมกฺขานิ วินา น วฏฺฏติ.

อารุปฺปาติ เอตฺตาวตา อฏฺปิ สมาปตฺติโย วุตฺตา โหนฺติ. ตา ปน สพฺเพน สพฺพํ อสกฺโกนฺเตน สตฺตสุปิ โยโค กรณีโย, ฉสุปิ…เป… ปฺจสุปิ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน เอกํ กสิเณ ปริกมฺมกมฺมฏฺานํ ปคุณํ กตฺวา อาทาย วิจริตพฺพํ, เอตฺตกํ วินา น วฏฺฏติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺเมติ อิมินา สพฺเพปิ โลกุตฺตรธมฺเม ทสฺเสติ. ตสฺมา อรหนฺเตน หุตฺวา วิหาตพฺพํ, อรหตฺตํ อนภิสมฺภุณนฺเตน อนาคามิผเล สกทาคามิผเล โสตาปตฺติผเล วา ปติฏฺาตพฺพํ. สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน เอกํ วิปสฺสนามุขํ ยาว อรหตฺตา ปคุณํ กตฺวา อาทาย วิจริตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิมํ ปน เทสนํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อาภิสมาจาริกวตฺตโต ปฏฺาย อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ ปาเปตฺวา นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กีฏาคิริสุตฺตวณฺณนา

๑๗๔. เอวํ เม สุตนฺติ กีฏาคิริสุตฺตํ. ตตฺถ กาสีสูติ เอวํนามเก ชนปเท. เอถ ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเวติ เอถ ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ อานิสํเส สมฺปสฺสมานา อฺตฺเรว รตฺติโภชนา ภุฺชถ. อิติ ภควา รตฺตึ วิกาลโภชนํ, ทิวา วิกาลโภชนนฺติ อิมานิ ทฺเว โภชนานิ เอกปฺปหาเรน อชหาเปตฺวา เอกสฺมึ สมเย ทิวา วิกาลโภชนเมว ชหาเปสิ, ปุน กาลํ อตินาเมตฺวา รตฺตึ วิกาลโภชนํ ชหาเปนฺโต เอวมาห. กสฺมา? อิมานิ หิ ทฺเว โภชนานิ วตฺตมานานิ วฏฺเฏ อาจิณฺณานิ สมาจิณฺณานิ นทึ โอติณฺณอุทกํ วิย อนุปกฺขนฺทานิ, นิวาเตสุ จ ฆเรสุ สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา วฑฺฒิตา สุขุมาลา กุลปุตฺตา ทฺเว โภชนานิ เอกปฺปหาเรน ปชหนฺตา กิลมนฺติ. ตสฺมา เอกปฺปหาเรน อชหาเปตฺวา ภทฺทาลิสุตฺเต ทิวา วิกาลโภชนํ ชหาเปสิ, อิธ รตฺตึ วิกาลโภชนํ. ชหาเปนฺโต ปน น ตชฺชิตฺวา วา นิคฺคณฺหิตฺวา วา, เตสํ ปหานปจฺจยา ปน อปฺปาพาธตฺจ สฺชานิสฺสถาติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวาว ชหาเปสิ. กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ.

๑๗๕. อสฺสชิปุนพฺพสุกาติ อสฺสชิ จ ปุนพฺพสุโก จ ฉสุ ฉพฺพคฺคิเยสุ ทฺเว คณาจริยา. ปณฺฑุโก โลหิตโก เมตฺติโย ภุมฺมชโก อสฺสชิ ปุนพฺพสุโกติ อิเม ฉ ชนา ฉพฺพคฺคิยา นาม. เตสุ ปณฺฑุกโลหิตกา อตฺตโน ปริสํ คเหตฺวา สาวตฺถิยํ วสนฺติ, เมตฺติยภุมฺมชกา ราชคเห, อิเม ทฺเว ชนา กีฏาคิริสฺมึ อาวาสิกา โหนฺติ. อาวาสิกาติ นิพทฺธวาสิโน, ตํนิพนฺธา อกตํ เสนาสนํ กโรนฺติ, ชิณฺณํ ปฏิสงฺขโรนฺติ, กเต อิสฺสรา โหนฺติ. กาลิกนฺติ อนาคเต กาเล ปตฺตพฺพํ อานิสํสํ.

๑๗๘. มยา เจตํ, ภิกฺขเวติ อิธ กึ ทสฺเสติ? ภิกฺขเว, ทิวสสฺส ตโย วาเร ภุฺชิตฺวา สุขเวทนํเยว อุปฺปาเทนฺโต น อิมสฺมึ สาสเน กิจฺจการี นาม โหติ, เอตฺตกา ปน เวทนา เสวิตพฺพา, เอตฺตกา น เสวิตพฺพาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เอวรูปํ สุขเวทนํ ปชหถาติ อิทฺจ เคหสฺสิตโสมนสฺสวเสน วุตฺตํ, อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อิทฺจ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺสวเสน. อิโต ปเรสุปิ ทฺวีสุ วาเรสุ เคหสฺสิตเนกฺขมฺมสิตานํเยว โทมนสฺสานฺจ อุเปกฺขานฺจ วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๘๑. เอวํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพเวทนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยสํ อปฺปมาเทน กิจฺจํ กตฺตพฺพํ, เยสฺจ น กตฺตพฺพํ, เต ทสฺเสตุํ นาหํ, ภิกฺขเว, สพฺเพสํเยวาติอาทิมาห. ตตฺถ กตํ เตสํ อปฺปมาเทนาติ เตสํ ยํ อปฺปมาเทน กตฺตพฺพํ, ตํ กตํ. อนุโลมิกานีติ ปฏิปตฺติอนุโลมานิ กมฺมฏฺานสปฺปายานิ, ยตฺถ วสนฺเตน สกฺกา โหนฺติ มคฺคผลานิ ปาปุณิตุํ. อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมานาติ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สมานํ กุรุมานา.

๑๘๒. สตฺติเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลาติ อิธ กึ ทสฺเสติ? เยสํ อปฺปมาเทน กรณียํ นตฺถิ, เต ทฺเว โหนฺติ. เยสํ อตฺถิ, เต ปฺจาติ เอวํ สพฺเพปิ อิเม สตฺต ปุคฺคลา โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.

ตตฺถ อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต. อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ – ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘) เอวํ อภิธมฺเม อฏฺวิโมกฺขลาภิโน วเสน อาคตา.

ปฺาวิมุตฺโตติ ปฺาย วิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก, จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ อิเมสํ วเสน ปฺจวิโธว โหติ. ปาฬิ ปเนตฺถ อฏฺวิโมกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาคตา. ยถาห – ‘‘น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ.

ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี. โย ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ฉพฺพิโธ โหนฺตีติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ.

ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺริทํ สงฺเขปลกฺขณํ – ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผุสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. วิตฺถารโต ปเนโสปิ กายสกฺขิ วิย ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา…เป… อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘).

สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธาย วิมุตฺโต. โสปิ วุตฺตนเยเนว ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ – ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา…เป… โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘). เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย โอกปฺเปนฺตสฺส วิย อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ, ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกาณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ, เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน นิสิตอสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลววายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ปฺาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา.

ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ธมฺโมติ ปฺา, ปฺาปุพฺพงฺคมํ มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺโถ. สทฺธานุสาริมฺหิ จ เอเสว นโย. อุโภ ปเนเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘). ตถา – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปเนสา อุภโตภาควิมุตฺตาทิกถา วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนาธิกาเร วุตฺตา. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ยา ปเนสา เอเตสํ วิภาคทสฺสนตฺถํ อิธ ปาฬิ อาคตา, ตตฺถ ยสฺมา รูปสมาปตฺติยา วินา อรูปสมาปตฺติโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา อารุปฺปาติ วุตฺเตปิ อฏฺ วิโมกฺขา วุตฺตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

กาเยน ผุสิตฺวาติ สหชาตนามกาเยน ผุสิตฺวา. ปฺาย จสฺส ทิสฺวาติ ปฺาย จ เอตสฺส อริยสจฺจธมฺเม ทิสฺวา. เอกจฺเจ อาสวาติ ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพา เอกเทสอาสวา. ตถาคตปฺปเวทิตาติ ตถาคเตน ปเวทิตา จตุสจฺจธมฺมา. ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺตีติ อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิมสฺมึ สมาธิ, อิมสฺมึ วิปสฺสนา, อิมสฺมึ มคฺโค, อิมสฺมึ ผลนฺติ เอวํ อตฺเถน อตฺเถ การเณน การเณ จิณฺณจริตตฺตา มคฺคปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. โวจริตาติ วิจริตา. สทฺธา นิวิฏฺา โหตีติ โอกปฺปนสทฺธา ปติฏฺิตา โหติ. มตฺตโส นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ มตฺตาย โอโลกนํ ขมนฺติ. สทฺธามตฺตนฺติ สทฺธาเยว, อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ

อิติ อิเมสุ อปฺปมาเทน กรณีเยสุ ปุคฺคเลสุ ตโย ปฏิวิทฺธมคฺคผลา เสขา. เตสุ อนุโลมเสนาสนํ เสวมานา กลฺยาณมิตฺเต ภชมานา อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมานา อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เตสํ ยถาิโตว ปาฬิอตฺโถ. อวสาเน ปน ทฺเว โสตาปตฺติมคฺคสมงฺคิโน. เตหิ ตสฺส มคฺคสฺส อนุโลมเสนาสนํ เสวิตํ, กลฺยาณมิตฺตา ภชิตา, อินฺทฺริยานิ สมนฺนานีตานิ. อุปริ ปน ติณฺณํ มคฺคานํ อตฺถาย เสวมานา ภชมานา สมนฺนานยมานา อนุปุพฺเพน อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตีติ อยเมตฺถ ปาฬิอตฺโถ.

วิตณฺฑวาที ปน อิมเมว ปาฬึ คเหตฺวา – ‘‘โลกุตฺตรมคฺโค น เอกจิตฺตกฺขณิโก, พหุจิตฺตกฺขณิโก’’ติ วทติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ยทิ อฺเน จิตฺเตน เสนาสนํ ปฏิเสวติ, อฺเน กลฺยาณมิตฺเต ภชติ, อฺเน อินฺทฺริยานิ สมนฺนาเนติ, อฺํ มคฺคจิตฺตนฺติ สนฺธาย ตฺวํ ‘น เอกจิตฺตกฺขณิโก มคฺโค, พหุจิตฺตกฺขณิโก’ติ วทสิ, เอวํ สนฺเต เสนาสนํ เสวมาโน นีโลภาสํ ปพฺพตํ ปสฺสติ, วนํ ปสฺสติ, มิคปกฺขีนํ สทฺทํ สุณาติ, ปุปฺผผลานํ คนฺธํ ฆายติ, ปานียํ ปิวนฺโต รสํ สายติ, นิสีทนฺโต นิปชฺชนฺโต ผสฺสํ ผุสติ. เอวํ เต ปฺจวิฺาณสมงฺคีปิ โลกุตฺตรธมฺมสมงฺคีเยว ภวิสฺสติ. สเจ ปเนตํ สมฺปฏิจฺฉสิ, สตฺถารา สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌสิ. สตฺถารา หิ ปฺจวิฺาณกายา เอกนฺตํ อพฺยากตาว วุตฺตา, ตํสมงฺคิสฺส กุสลากุสลํ ปฏิกฺขิตฺตํ, โลกุตฺตรมคฺโค จ เอกนฺตกุสโล. ตสฺมา ปชเหตํ วาท’’นฺติ ปฺเปตพฺโพ. สเจ ปฺตฺตึ น อุปคจฺฉติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวาหี’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

๑๘๓. นาหํ, ภิกฺขเว, อาทิเกเนวาติ อหํ, ภิกฺขเว, ปมเมว มณฺฑูกสฺส อุปฺปติตฺวา คมนํ วิย อฺาราธนํ อรหตฺเต ปติฏฺานํ น วทามิ. อนุปุพฺพสิกฺขาติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. ปรโต ปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สทฺธาชาโตติ โอกปฺปนิยสทฺธาย ชาตสทฺโธ. อุปสงฺกมตีติ ครูนํ สมีปํ คจฺฉติ. ปยิรุปาสตีติ สนฺติเก นิสีทติ. ธาเรตีติ สาธุกํ กตฺวา ธาเรติ. ฉนฺโท ชายตีติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท ชายติ. อุสฺสหตีติ วีริยํ กโรติ. ตุเลตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ตุลยติ. ตุลยิตฺวา ปทหตีติ เอวํ ตีรณวิปสฺสนาย ตุลยนฺโต มคฺคปธานํ ปทหติ. ปหิตตฺโตติ เปสิตจิตฺโต. กาเยน เจว ปรมสจฺจนฺติ นามกาเยน นิพฺพานสจฺจํ สจฺฉิกโรติ. ปฺาย จาติ นามกายสมฺปยุตฺตาย มคฺคปฺาย ปฏิวิชฺฌติ ปสฺสติ.

อิทานิ ยสฺมา เต สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ปจฺจุคฺคมนมตฺตมฺปิ น อกํสุ, ตสฺมา เตสํ จริยํ ครหนฺโต สาปิ นาม, ภิกฺขเว, สทฺธา นาโหสีติอาทิมาห. ตตฺถ กีวทูเรวิเมติ กิตฺตกํ ทูเร าเน. โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อปกฺกนฺตาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, น ปน กิฺจิ อาห. จตุปฺปทํ เวยฺยากรณนฺติ จตุสจฺจพฺยากรณํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๘๔. ยสฺสุทฺทิฏฺสฺสาติ ยสฺส อุทฺทิฏฺสฺส. โยปิ โส, ภิกฺขเว, สตฺถาติ พาหิรกสตฺถารํ ทสฺเสติ. เอวรูปีติ เอวํชาติกา. ปโณปณวิยาติ ปณวิยา จ โอปณวิยา จ. น อุเปตีติ น โหติ. กยวิกฺกยกาเล วิย อคฺฆวฑฺฒนหาปนํ น โหตีติ อตฺโถ. อยํ โคโณ กึ อคฺฆติ, วีสติ อคฺฆตีติ ภณนฺโต ปณติ นาม. น วีสติ อคฺฆติ, ทส อคฺฆตีติ ภณนฺโต โอปณติ นาม. อิทํ ปฏิเสเธนฺโต อาห ‘‘ปโณปณวิยา น อุเปตี’’ติ. อิทานิ ตํ ปโณปณวิยํ ทสฺเสตุํ เอวฺจ โน อสฺส, อถ นํ กเรยฺยาม, น จ โน เอวมสฺส, น นํ กเรยฺยามาติ อาห.

กึ ปน, ภิกฺขเวติ, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคโต สพฺพโส อามิเสหิ วิสํสฏฺโ วิหรติ, เอวํ วิสํสฏฺสฺส สตฺถุโน เอวรูปา ปโณปณวิยา กึ ยุชฺชิสฺสติ? ปริโยคาหิย วตฺตโตติ ปริโยคาหิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา คเหตฺวา วตฺตนฺตสฺส. อยมนุธมฺโมติ อยํ สภาโว. ชานาติ ภควา, นาหํ ชานามีติ ภควา เอกาสนโภชเน อานิสํสํ ชานาติ, อหํ น ชานามีติ มยิ สทฺธาย ทิวสสฺส ตโย วาเร โภชนํ ปหาย เอกาสนโภชนํ ภุฺชติ. รุฬหนียนฺติ โรหนียํ. โอชวนฺตนฺติ สิเนหวนฺตํ. กามํ ตโจ จาติ อิมินา จตุรงฺควีริยํ ทสฺเสติ. เอตฺถ หิ ตโจ เอกํ องฺคํ, นฺหารุ เอกํ, อฏฺิ เอกํ, มํสโลหิตํ เอกนฺติ เอวํ จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา อรหตฺตํ อปฺปตฺวา น วุฏฺหิสฺสามีติ เอวํ ปฏิปชฺชตีติ ทสฺเสติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. เทสนํ ปน ภควา เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กีฏาคิริสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปริพฺพาชกวคฺโค

๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. เอวํ เม สุตนฺติ เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ เอกปุณฺฑรีเกติ ปุณฺฑรีโก วุจฺจติ เสตมฺพรุกฺโข, โส ตสฺมึ อาราเม เอโก ปุณฺฑรีโก อตฺถีติ เอกปุณฺฑรีโก. เอตทโหสีติ ตตฺถ ปวิสิตุกามตาย อโหสิ. จิรสฺสํ โข, ภนฺเตติ ปกติยา อาคตปุพฺพตํ อุปาทาย. ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ อิธ สพฺพฺุตฺาณํ ธมฺโม นาม, มหาชนสฺส พฺยากรณํ อนุธมฺโม นาม. เสสํ ชีวกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๕๑ อาทโย) วุตฺตนยเมว. น เม เตติ อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาตี’’ติ หิ อิทํ อนุชานิตพฺพํ สิยา, – ‘‘จรโต จ เม…เป… ปจฺจุปฏฺิต’’นฺติ อิทํ ปน นานุชานิตพฺพํ. สพฺพฺุตฺาเณน หิ อาวชฺชิตฺวา ปชานาติ. ตสฺมา อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปนฺโต เอวมาห.

๑๘๖. อาสวานํ ขยาติ เอตฺถ สกึ ขีณานํ อาสวานํ ปุน เขเปตพฺพาภาวา ยาวเทวาติ น วุตฺตํ. ปุพฺเพนิวาสาเณน เจตฺถ ภควา อตีตชานนคุณํ ทสฺเสติ, ทิพฺพจกฺขุาเณน ปจฺจุปฺปนฺนชานนคุณํ, อาสวกฺขยาเณน โลกุตฺตรคุณนฺติ. อิติ อิมาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ สกลพุทฺธคุเณ สํขิปิตฺวา กเถสิ.

คิหิสํโยชนนฺติ คิหิพนฺธนํ คิหิปริกฺขาเรสุ นิกนฺตึ. นตฺถิ โข วจฺฉาติ คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย ทุกฺขสฺสนฺตกโร นาม นตฺถิ. เยปิ หิ สนฺตติมหามตฺโต อุคฺคเสโน เสฏฺิปุตฺโต วีตโสกทารโกติ คิหิลิงฺเค ิตาว อรหตฺตํ ปตฺตา, เตปิ มคฺเคน สพฺพสงฺขาเรสุ นิกนฺตึ สุกฺขาเปตฺวา ปตฺตา. ตํ ปตฺวา ปน น เตน ลิงฺเคน อฏฺํสุ, คิหิลิงฺคํ นาเมตํ หีนํ, อุตฺตมคุณํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตตฺถ ิโต อรหตฺตํ ปตฺวา ตํทิวสเมว ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพาติ วา. ภูมเทวตา ปน ติฏฺนฺติ. กสฺมา? นิลียโนกาสสฺส อตฺถิตาย. เสสกามภเว มนุสฺเสสุ โสตาปนฺนาทโย ตโย ติฏฺนฺติ, กามาวจรเทเวสุ โสตาปนฺนา สกทาคามิโน จ, อนาคามิขีณาสวา ปเนตฺถ น ติฏฺนฺติ. กสฺมา? ตฺหิ านํ ลฬิตชนสฺส อาวาโส, นตฺถิ ตตฺถ เตสํ ปวิเวการหํ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานฺจ. อิติ ตตฺถ ขีณาสโว ปรินิพฺพาติ, อนาคามี จวิตฺวา สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ. กามาวจรเทวโต อุปริ ปน จตฺตาโรปิ อริยา ติฏฺนฺติ.

โสปาสิ กมฺมวาทีติ โสปิ กมฺมวาที อโหสิ, กิริยมฺปิ น ปฏิพาหิตฺถ. ตฺหิ เอกนวุติกปฺปมตฺถเก อตฺตานํเยว คเหตฺวา กเถติ. ตทา กิร มหาสตฺโต ปาสณฺฑปริคฺคณฺหนตฺถํ ปพฺพชิโต ตสฺสปิ ปาสณฺฑสฺส นิปฺผลภาวํ ชานิตฺวา วีริยํ น หาเปสิ, กิริยวาที หุตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. ตสฺมา เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๘๗. เอวํ เม สุตนฺติ อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ น โข อหนฺติ ปมวาเร นาหํ สสฺสตทิฏฺิโกติ วทติ, ทุติเย นาหํ อุจฺเฉททิฏฺิโกติ. เอวํ อนฺตานนฺติกาทิวเสน สพฺพวาเรสุ ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. โหติ จ น จ โหตีติ อยํ ปเนตฺถ เอกจฺจสสฺสตวาโท. เนว โหติ น น โหตีติ อยํ อมราวิกฺเขโปติ เวทิตพฺโพ.

๑๘๙. สทุกฺขนฺติ กิเลสทุกฺเขน เจว วิปากทุกฺเขน จ สทุกฺขํ. สวิฆาตนฺติ เตสํเยว ทฺวินฺนํ วเสน สอุปฆาตกํ. สอุปายาสนฺติ เตสํเยว วเสน สอุปายาสํ. สปริฬาหนฺติ เตสํเยว วเสน สปริฬาหํ.

กิฺจิ ทิฏฺิคตนฺติ กาจิ เอกา ทิฏฺิปิ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหิตา อตฺถีติ ปุจฺฉติ. อปนีตนฺติ นีหฏํ อปวิทฺธํ. ทิฏฺนฺติ ปฺาย ทิฏฺํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยวยํ อทฺทส, ตสฺมา. สพฺพมฺิตานนฺติ สพฺเพสํ ติณฺณมฺปิ ตณฺหาทิฏฺิมานมฺิตานํ. มถิตานนฺติ เตสํเยว เววจนํ. อิทานิ ตานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต สพฺพอหํการ-มมํการ-มานานุสยานนฺติ อาห. เอตฺถ หิ อหํกาโร ทิฏฺิ, มมํกาโร ตณฺหา, มานานุสโย มาโน. อนุปาทา วิมุตฺโตติ จตูหิ อุปาทาเนหิ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา วิมุตฺโต.

๑๙๐. น อุเปตีติ น ยุชฺชติ. เอตฺถ จ ‘‘น อุปปชฺชตี’’ติ อิทํ อนุชานิตพฺพํ สิยา. ยสฺมา ปน เอวํ วุตฺเต โส ปริพฺพาชโก อุจฺเฉทํ คณฺเหยฺย, อุปปชฺชตีติ ปน สสฺสตเมว, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ เอกจฺจสสฺสตํ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ อมราวิกฺเขปํ, ตสฺมา ภควา – ‘‘อยํ อปฺปติฏฺโ อนาลมฺโพ โหตุ, สุขปเวสนฏฺานํ มา ลภตู’’ติ อนนุฺาย ตฺวา อนุฺมฺปิ ปฏิกฺขิปิ. อลนฺติ สมตฺถํ ปริยตฺตํ. ธมฺโมติ ปจฺจยาการธมฺโม. อฺตฺรโยเคนาติ อฺตฺถ ปโยเคน. อฺตฺราจริยเกนาติ ปจฺจยาการํ อชานนฺตานํ อฺเสํ อาจริยานํ สนฺติเก วสนฺเตน.

๑๙๑. เตน หิ วจฺฉาติ ยสฺมา ตฺวํ สมฺโมหมาปาทินฺติ วทสิ, ตสฺมา ตํเยเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. อนาหาโร นิพฺพุโตติ อปฺปจฺจโย นิพฺพุโต.

๑๙๒. เยน รูเปนาติ เยน รูเปน สตฺตสงฺขาตํ ตถาคตํ รูปีติ ปฺาเปยฺย. คมฺภีโรติ คุณคมฺภีโร. อปฺปเมยฺโยติ ปมาณํ คณฺหิตุํ น สกฺกุเณยฺโย. ทุปฺปริโยคาฬฺโหติ ทุโอคาโห ทุชฺชาโน. เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทติ ยถา มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุชฺชาโน, เอวเมว ขีณาสโวปิ. ตํ อารพฺภ อุปปชฺชตีติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติ. กถํ? ยถา ปรินิพฺพุตํ อคฺคึ อารพฺภ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คโตติอาทิ สพฺพํ น ยุชฺชติ, เอวํ.

อนิจฺจตาติ อนิจฺจตาย. สาเร ปติฏฺิตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมสาเร ปติฏฺิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อคฺคิวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. เอวํ เม สุตนฺติ มหาวจฺฉสุตฺตํ. ตตฺถ สหกถีติ สทฺธึวาโท, พหุํ มยา ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถิตปุพฺพนฺติ กถํ สาเรติ เมตฺตึ ฆเฏติ. ปุริมานิ หิ ทฺเว สุตฺตานิ เอตสฺเสว กถิตานิ, สํยุตฺตเก อพฺยากตสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖ อาทโย) นาม เอตสฺเสว กถิตํ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อพฺยากตเมต’’นฺติ เอวํ เอกุตฺตรนิกาเยปิ อิมินา สทฺธึ กถิตํ อตฺถิเยว. ตสฺมา เอวมาห. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยว. กสฺมา? อยฺหิ สสฺสตทิฏฺิโก, สสฺสตทิฏฺิกา จ สีฆํ ลทฺธึ น วิสฺสชฺเชนฺติ, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จิเรน สุชฺฌนฺติ. ปสฺสติ จ ภควา – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก กาเล คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ลทฺธึ วิสฺสชฺเชตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ฉ อภิฺาโย สจฺฉิกตฺวา อภิฺาตสาวโก ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยว. อิทํ ปนสฺส ปจฺฉิมคมนํ. โส หิ อิมสฺมึ สุตฺเต ตรณํ วา โหตุ อตรณํ วา, ยฏฺึ โอตริตฺวา อุทเก ปตมาโน วิย สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา อาคโต. ตสฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต สาธุ เม ภวํ โคตโมติอาทิมาห. ตสฺส ภควา มูลวเสน สํขิตฺตเทสนํ, กมฺมปถวเสน วิตฺถารเทสนํ เทเสสิ. มูลวเสน เจตฺถ อติสํขิตฺตา เทสนา, กมฺมปถวเสน สํขิตฺตา วิตฺถารสทิสา. พุทฺธานํ ปน นิปฺปริยาเยน วิตฺถารเทสนา นาม นตฺถิ. จตุวีสติสมนฺตปฏฺานมฺปิ หิ สตฺตปกรเณ อภิธมฺมปิฏเก จ สพฺพํ สํขิตฺตเมว. ตสฺมา มูลวเสนาปิ กมฺมปถวเสนาปิ สํขิตฺตเมว เทเสสีติ เวทิตพฺโพ.

๑๙๔. ตตฺถ ปาณาติปาตา เวรมณี กุสลนฺติอาทีสุ ปฏิปาฏิยา สตฺตธมฺมา กามาวจรา, อนภิชฺฌาทโย ตโย จตุภูมิกาปิ วฏฺฏนฺติ.

ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโนติ กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, ยถา ปน ชีวกสุตฺเต จ จงฺกีสุตฺเต จ, เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต จ อตฺตานเมว สนฺธาเยตํ ภควตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๙๕. อตฺถิ ปนาติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? อยํ กิรสฺส ลทฺธิ – ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ สาสเน สตฺถาว อรหา โหติ, สาวโก ปน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. สมโณ จ โคตโม ‘ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโน’ติ เอกํ ภิกฺขุํ กเถนฺโต วิย กเถติ, อตฺถิ นุ โข สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อรหตฺตปฺปตฺโต’’ติ. เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ ติฏฺตูติ ภวํ ตาว โคตโม ติฏฺตุ, ภวฺหิ โลเก ปากโฏ อรหาติ อตฺโถ. ตสฺมึ พฺยากเต อุตฺตริ ภิกฺขุนีอาทีนํ วเสน ปฺหํ ปุจฺฉิ, ภควาปิสฺส พฺยากาสิ.

๑๙๖. อาราธโกติ สมฺปาทโก ปริปูรโก.

๑๙๗. เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพนฺติ เหฏฺิมผลตฺตยํ ปตฺตพฺพํ. ตํ สพฺพํ มยา อนุปฺปตฺตนฺติ วทติ. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘กตเม ธมฺมา เสกฺขา? จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา เหฏฺิมานิ จ ตีณิ สามฺผลานี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๒๓) วจนโต อรหตฺตมคฺโคปิ อเนน ปตฺโตเยว. ผลํ ปน อปตฺตํ, ตสฺส ปตฺติยา อุตฺตริ โยคํ กถาเปตีติ. โส เอวํ สฺาเปตพฺโพ –

‘‘โย เว กิเลสานิ ปหาย ปฺจ,

ปริปุณฺณเสโข อปริหานธมฺโม;

เจโตวสิปฺปตฺโต สมาหิตินฺทฺริโย,

ส เว ิตตฺโตติ นโร ปวุจฺจตี’’ติ. (อ. นิ. ๔.๕);

อนาคามิปุคฺคโล หิ เอกนฺตปริปุณฺณเสโข. ตํ สนฺธาย ‘‘เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพ’’นฺติ อาห. มคฺคสฺส ปน เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ตตฺถ ิตสฺส ปุจฺฉา นาม นตฺถิ. อิมินา สุตฺเตน มคฺโคปิ พหุจิตฺตกฺขณิโก โหตูติ เจ. เอตํ น พุทฺธวจนํ, วุตฺตคาถาย จ อตฺโถ วิรุชฺฌติ. ตสฺมา อนาคามิผเล ตฺวา อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ กถาเปตีติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปนสฺส น เกวลํ สุทฺธอรหตฺตสฺเสว อุปนิสฺสโย, ฉนฺนมฺปิ อภิฺานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺมา ภควา – ‘‘เอวมยํ สมเถ กมฺมํ กตฺวา ปฺจ อภิฺา นิพฺพตฺเตสฺสติ, วิปสฺสนาย กมฺมํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. เอวํ ฉฬภิฺโ มหาสาวโก ภวิสฺสตี’’ติ วิปสฺสนามตฺตํ อกเถตฺวา สมถวิปสฺสนา อาจิกฺขิ.

๑๙๘. สติ สติอายตเนติ สติ สติการเณ. กิฺเจตฺถ การณํ? อภิฺา วา อภิฺาปาทกชฺฌานํ วา อวสาเน ปน อรหตฺตํ วา การณํ อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา วาติ เวทิตพฺพํ.

๒๐๐. ปริจิณฺโณ เม ภควาติ สตฺต หิ เสขา ภควนฺตํ ปริจรนฺติ นาม, ขีณาสเวน ภควา ปริจิณฺโณ โหติ. อิติ สงฺเขเปน อรหตฺตํ พฺยากโรนฺโต เถโร เอวมาห. เต ปน ภิกฺขู ตมตฺถํ น ชานึสุ, อชานนฺตาว ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา. ภควโต อาโรเจสุํ. เทวตาติ เตสํ คุณานํ ลาภี เทวตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทีฆนขสุตฺตวณฺณนา

๒๐๑. เอวํ เม สุตนฺติ ทีฆนขสุตฺตํ. ตตฺถ สูกรขตายนฺติ สูกรขตาติ เอวํนามเก เลเณ. กสฺสปพุทฺธกาเล กิร ตํ เลณํ เอกสฺมึ พุทฺธนฺตเร ปถวิยา วฑฺฒมานาย อนฺโตภูมิคตํ ชาตํ. อเถกทิวสํ เอโก สูกโร ตสฺส ฉทนปริยนฺตสมีเป ปํสุํ ขณิ. เทเว วุฏฺเฏ ปํสุโธโต ฉทนปริยนฺโต ปากโฏ อโหสิ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา – ‘‘ปุพฺเพ สีลวนฺเตหิ ปริภุตฺตเลเณน ภวิตพฺพํ, ปฏิชคฺคิสฺสามิ น’’นฺติ สมนฺตโต ปํสุํ อปเนตฺวา เลณํ โสเธตฺวา กุฏฺฏปริกฺเขปํ กตฺวา ทฺวารวาตปานํ โยเชตฺวา สุปรินิฏฺิต-สุธากมฺมจิตฺตกมฺมรชตปฏฺฏสทิสาย วาลุกาย สนฺถตปริเวณํ เลณํ กตฺวา มฺจปีํ ปฺาเปตฺวา ภควโต วสนตฺถาย อทาสิ. เลณํ คมฺภีรํ อโหสิ โอตริตฺวา อภิรุหิตพฺพํ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ทีฆนโขติ ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? โส กิร เถเร อฑฺฒมาสปพฺพชิเต จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ มาตุโล อฺํ ปาสณฺฑํ คนฺตฺวา น จิรํ ติฏฺติ, อิทานิ ปนสฺส สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คตสฺส อฑฺฒมาโส ชาโต. ปวตฺติมฺปิสฺส น สุณามิ, โอชวนฺตํ นุ โข สาสนํ, ชานิสฺสามิ น’’นฺติ คนฺตุกาโม ชาโต. ตสฺมา อุปสงฺกมิ. เอกมนฺตํ ิโตติ ตสฺมึ กิร สมเย เถโร ภควนฺตํ พีชยมาโน ิโต โหติ, ปริพฺพาชโก มาตุเล หิโรตฺตปฺเปน ิตโกว ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ ิโต’’ติ.

สพฺพํ เม นกฺขมตีติ สพฺพา เม อุปปตฺติโย นกฺขมนฺติ, ปฏิสนฺธิโย นกฺขมนฺตีติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอตฺตาวตาเนน ‘‘อุจฺเฉทวาโทหมสฺมี’’ติ ทีปิตํ โหติ. ภควา ปนสฺส อธิปฺปายํ มุฺจิตฺวา อกฺขเร ตาว โทสํ ทสฺเสนฺโต ยาปิ โข เตติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาปิ เต ทิฏฺิ นกฺขมตีติ เอสาปิ เต ปมํ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหิตทิฏฺิ นกฺขมตีติ. เอสา เจ เม, โภ โคตม, ทิฏฺิ ขเมยฺยาติ มยฺหฺหิ สพฺพํ นกฺขมตีติ ทิฏฺิ, ตสฺส มยฺหํ ยา เอสา สพฺพํ เม นกฺขมตีติ ทิฏฺิ, เอสา เม ขเมยฺย. ยํ ตํ ‘‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิสฺส ตาทิสเมว. ยถา สพฺพคหเณน คหิตาปิ อยํ ทิฏฺิ ขมติ, เอวเมวํ ตมฺปิ ขเมยฺย. เอวํ อตฺตโน วาเท อาโรปิตํ โทสํ ตฺวา ตํ ปริหรามีติ สฺาย วทติ, อตฺถโต ปนสฺส ‘‘เอสา ทิฏฺิ น เม ขมตี’’ติ อาปชฺชติ. ยสฺส ปเนสา น ขมติ น รุจฺจติ, ตสฺสายํ ตาย ทิฏฺิยา สพฺพํ เม น ขมตีติ ทิฏฺิ รุจิตํ. เตน หิ ทิฏฺิอกฺขเมน อรุจิเตน ภวิตพฺพนฺติ สพฺพํ ขมตีติ รุจฺจตีติ อาปชฺชติ. น ปเนส ตํ สมฺปฏิจฺฉติ, เกวลํ ตสฺสาปิ อุจฺเฉททิฏฺิยา อุจฺเฉทเมว คณฺหาติ. เตนาห ภควา อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน,…เป… อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตีติ. ตตฺถ อโตติ ปชหนเกสุ นิสฺสกฺกํ, เย ปชหนฺติ, เตหิ เย นปฺปชหนฺตีติ วุจฺจิยนฺติ, เตว พหุตราติ อตฺโถ. พหู หิ พหุตราติ เอตฺถ หิกาโร นิปาตมตฺตํ, พหู พหุตราติ อตฺโถ. ปรโต ตนู หิ ตนุตราติ ปเทปิ เอเสว นโย. เย เอวมาหํสูติ เย เอวํ วทนฺติ. ตฺเจว ทิฏฺึ นปฺปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตีติ มูลทสฺสนํ นปฺปชหนฺติ, อปรทสฺสนํ อุปาทิยนฺติ.

เอตฺถ จ สสฺสตํ คเหตฺวา ตมฺปิ อปฺปหาย อุจฺเฉทํ วา เอกจฺจสสฺสตํ วา คเหตุํ น สกฺกา, อุจฺเฉทมฺปิ คเหตฺวา ตํ อปฺปหาย สสฺสตํ วา เอกจฺจสสฺสตํ วา น สกฺกา คเหตุํ, เอกจฺจสสฺสตมฺปิ คเหตฺวา ตํ อปฺปหาย สสฺสตํ วา อุจฺเฉทํ วา น สกฺกา คเหตุํ. มูลสสฺสตํ ปน อปฺปหาย อฺํ สสฺสตเมว สกฺกา คเหตุํ. กถํ? เอกสฺมิฺหิ สมเย ‘‘รูปํ สสฺสต’’นฺติ คเหตฺวา อปรสฺมึ สมเย ‘‘น สุทฺธรูปเมว สสฺสตํ, เวทนาปิ สสฺสตา, วิฺาณมฺปิ สสฺสต’’นฺติ คณฺหาติ. อุจฺเฉเทปิ เอกจฺจสสฺสเตปิ เอเสว นโย. ยถา จ ขนฺเธสุ, เอวํ อายตเนสุปิ โยเชตพฺพํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ตฺเจว ทิฏฺึ นปฺปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ อุปาทิยนฺตี’’ติ.

ทุติยวาเร อโตติ อปฺปชหนเกสุ นิสฺสกฺกํ, เย นปฺปชหนฺติ, เตหิ, เย ปชหนฺตีติ วุจฺจิยนฺติ, เตว ตนุตรา อปฺปตราติ อตฺโถ. ตฺเจว ทิฏฺึ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทิฏฺึ น อุปาทิยนฺตีติ ตฺจ มูลทสฺสนํ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทสฺสนํ น คณฺหนฺติ. กถํ? เอกสฺมิฺหิ สมเย ‘‘รูปํ สสฺสต’’นฺติ คเหตฺวา อปรสฺมึ สมเย ตตฺถ อาทีนวํ ทิสฺวา ‘‘โอฬาริกเมตํ มยฺหํ ทสฺสน’’นฺติ ปชหติ ‘‘น เกวลฺจ รูปํ สสฺสตนฺติ ทสฺสนเมว โอฬาริกํ, เวทนาปิ สสฺสตา…เป… วิฺาณมฺปิ สสฺสตนฺติ ทสฺสนํ โอฬาริกเมวา’’ติ วิสฺสชฺเชติ. อุจฺเฉเทปิ เอกจฺจสสฺสเตปิ เอเสว นโย. ยถา จ ขนฺเธสุ, เอวํ อายตเนสุปิ โยเชตพฺพํ. เอวํ ตฺจ มูลทสฺสนํ ปชหนฺติ, อฺฺจ ทสฺสนํ น คณฺหนฺติ.

สนฺตคฺคิเวสฺสนาติ กสฺมา อารภิ? อยํ อุจฺเฉทลทฺธิโก อตฺตโน ลทฺธึ นิคูหติ, ตสฺสา ปน ลทฺธิยา วณฺเณ วุจฺจมาเน อตฺตโน ลทฺธึ ปาตุกริสฺสตีติ ติสฺโส ลทฺธิโย เอกโต ทสฺเสตฺวา วิภชิตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.

สาราคาย สนฺติเกติอาทีสุ ราควเสน วฏฺเฏ รชฺชนสฺส อาสนฺนา ตณฺหาทิฏฺิสํโยชเนน วฏฺฏสํโยชนสฺส สนฺติเก. อภินนฺทนายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว คิลิตฺวา ปริยาทิยนสฺส คหณสฺส จ อาสนฺนาติ อตฺโถ. อสาราคาย สนฺติเกติอาทีสุ วฏฺเฏ อรชฺชนสฺส อาสนฺนาติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ สสฺสตทสฺสนํ อปฺปสาวชฺชํ ทนฺธวิราคํ, อุจฺเฉททสฺสนํ มหาสาวชฺชํ ขิปฺปวิราคํ. กถํ? สสฺสตวาที หิ อิธโลกํ ปรโลกฺจ อตฺถีติ ชานาติ, สุกตทุกฺกฏานํ ผลํ อตฺถีติ ชานาติ, กุสลํ กโรติ, อกุสลํ กโรนฺโต ภายติ, วฏฺฏํ อสฺสาเทติ, อภินนฺทติ. พุทฺธานํ วา พุทฺธสาวกานํ วา สมฺมุขีภูโต สีฆํ ลทฺธึ ชหิตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ สสฺสตทสฺสนํ อปฺปสาวชฺชํ ทนฺธวิราคนฺติ วุจฺจติ. อุจฺเฉทวาที ปน อิธโลกปรโลกํ อตฺถีติ ชานาติ, สุกตทุกฺกฏานํ ผลํ อตฺถีติ ชานาติ, กุสลํ น กโรติ, อกุสลํ กโรนฺโต น ภายติ, วฏฺฏํ น อสฺสาเทติ, นาภินนฺทติ, พุทฺธานํ วา พุทฺธสาวกานํ วา สมฺมุขีภาเว สีฆํ ทสฺสนํ ปชหติ. ปารมิโย ปูเรตุํ สกฺโกนฺโต พุทฺโธ หุตฺวา, อสกฺโกนฺโต อภินีหารํ กตฺวา สาวโก หุตฺวา ปรินิพฺพายติ. ตสฺมา อุจฺเฉททสฺสนํ มหาสาวชฺชํ ขิปฺปวิราคนฺติ วุจฺจติ.

๒๐๒. โส ปน ปริพฺพาชโก เอตมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา – ‘‘มยฺหํ ทสฺสนํ สํวณฺเณติ ปสํสติ, อทฺธา เม สุนฺทรํ ทสฺสน’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา อุกฺกํเสติ เม ภวนฺติอาทิมาห.

อิทานิ ยสฺมา อยํ ปริพฺพาชโก กฺชิเยเนว ติตฺตกาลาพุ, อุจฺเฉททสฺสเนเนว ปูริโต, โส ยถา กฺชิยํ อปฺปหาย น สกฺกา ลาพุมฺหิ เตลผาณิตาทีนิ ปกฺขิปิตุํ, ปกฺขิตฺตานิปิ น คณฺหาติ, เอวเมวํ ตํ ลทฺธึ อปฺปหาย อภพฺโพ มคฺคผลานํ ลาภาย, ตสฺมา ลทฺธึ ชหาปนตฺถํ ตตฺรคฺคิเวสฺสนาติอาทิ อารทฺธํ. วิคฺคโหติ กลโห. เอวเมตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหตีติ เอวํ วิคฺคหาทิอาทีนวํ ทิสฺวา ตาสํ ทิฏฺีนํ ปหานํ โหติ. โส หิ ปริพฺพาชโก ‘‘กึ เม อิมินา วิคฺคหาทินา’’ติ ตํ อุจฺเฉททสฺสนํ ปชหติ.

๒๐๕. อถสฺส ภควา วมิตกฺชิเย ลาพุมฺหิ สปฺปิผาณิตาทีนิ ปกฺขิปนฺโต วิย หทเย อมโตสธํ ปูเรสฺสามีติ วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต อยํ โข ปน, อคฺคิเวสฺสน, กาโยติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ วมฺมิกสุตฺเต วุตฺโต. อนิจฺจโตติอาทีนิปิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว. โย กายสฺมึ กายฉนฺโทติ ยา กายสฺมึ ตณฺหา. สฺเนโหติ ตณฺหาสฺเนโหว. กายนฺวยตาติ กายานุคมนภาโว, กายํ อนุคจฺฉนกกิเลโสติ อตฺโถ.

เอวํ รูปกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อรูปกมฺมฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ติสฺโส โขติอาทิมาห. ปุน ตาสํเยว เวทนานํ อสมฺมิสฺสภาวํ ทสฺเสนฺโต ยสฺมึ, อคฺคิเวสฺสน, สมเยติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมึ สมเย สุขาทีสุ เอกํ เวทนํ เวทยติ, ตสฺมึ สมเย อฺา เวทนา อตฺตโน วารํ วา โอกาสํ วา โอโลกยมานา นิสินฺนา นาม นตฺถิ, อถ โข อนุปฺปนฺนาว โหนฺติ ภินฺนอุทกปุปฺผุฬา วิย จ อนฺตรหิตา วา. สุขาปิ โขติอาทิ ตาสํ เวทนานํ จุณฺณวิจุณฺณภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

น เกนจิ สํวทตีติ ตสฺสตํ คเหตฺวา ‘‘สสฺสตวาที อห’’นฺติ อุจฺเฉทวาทินาปิ สทฺธึ น สํวทติ, ตเมว คเหตฺวา ‘‘สสฺสตวาที อห’’นฺติ เอกจฺจสสฺสตวาทินา สทฺธึ น วิวทติ. เอวํ ตโยปิ วาทา ปริวตฺเตตฺวา โยเชตพฺพา. ยฺจ โลเก วุตฺตนฺติ ยํ โลเก กถิตํ โวหริตํ, เตน โวหรติ อปรามสนฺโต กิฺจิ ธมฺมํ ปรามาสคฺคาเหน อคฺคณฺหนฺโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘โย โหติ ภิกฺขุ อรหํ กตาวี,

ขีณาสโว อนฺติมเทหธารี;

อหํ วทามีติปิ โส วเทยฺย,

มมํ วทนฺตีติปิ โส วเทยฺย;

โลเก สมฺํ กุสโล วิทิตฺวา,

โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕);

อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อิมา โข จิตฺต โลกสมฺา โลกนิรุตฺติโย โลกโวหารา โลกปฺตฺติโย, ยาหิ ตถาคโต โวหรติ อปรามส’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๔๐).

๒๐๖. อภิฺาปหานมาหาติ สสฺสตาทีสุ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สสฺสตํ อภิฺาย ชานิตฺวา สสฺสตสฺส ปหานมาห, อุจฺเฉทํ, เอกจฺจสสฺสตํ อภิฺาย เอกจฺจสสฺสตสฺส ปหานํ วทติ. รูปํ อภิฺาย รูปสฺส ปหานํ วทตีติอาทินา นเยเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปฏิสฺจิกฺขโตติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุทฺเธหิ อาสเวหิ อคฺคเหตฺวาว จิตฺตํ วิมุจฺจิ. เอตฺตาวตา เจส ปรสฺส วฑฺฒิตํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ขุทํ วิโนเทนฺโต วิย ปรสฺส อารทฺธาย ธมฺมเทสนาย าณํ เปเสตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตฺเจว ปตฺโต, สาวกปารมีาณสฺส จ มตฺถกํ, โสฬส จ ปฺา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. ทีฆนโข ปน โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา สรเณสุ ปติฏฺิโต.

ภควา ปน อิมํ เทสนํ สูริเย ธรมาเนเยว นิฏฺาเปตฺวา คิชฺฌกูฏา โอรุยฺห เวฬุวนํ คนฺตฺวา สาวกสนฺนิปาตมกาสิ, จตุรงฺคสมนฺนาคโต สนฺนิปาโต อโหสิ. ตตฺริมานิ องฺคานิ – มาฆนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณมอุโปสถทิวโส, เกนจิ อนามนฺติตานิ หุตฺวา อตฺตโนเยว ธมฺมตาย สนฺนิปติตานิ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, เตสุ เอโกปิ ปุถุชฺชโน วา โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิ-สุกฺขวิปสฺสก-อรหนฺเตสุ วา อฺตโร นตฺถิ, สพฺเพ ฉฬภิฺาว, เอโกปิ เจตฺถ สตฺถเกน เกเส ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิโต นาม นตฺถิ, สพฺเพ เอหิภิกฺขุโนเยวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ทีฆนขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มาคณฺฑิยสุตฺตวณฺณนา

๒๐๗. เอวํ เม สุตนฺติ มาคณฺฑิยสุตฺตํ. ตตฺถ อคฺยาคาเรติ อคฺคิโหมสาลยํ. ติณสนฺถารเกติ ทฺเว มาคณฺฑิยา มาตุโล จ ภาคิเนยฺโย จ. เตสุ มาตุโล ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, ภาคิเนยฺโยปิ สอุปนิสฺสโย นจิรสฺเสว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. อถสฺส ภควา อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา รมณียํ เทวคพฺภสทิสํ คนฺธกุฏึ ปหาย ตตฺถ ฉาริกติณกจวราทีหิ อุกฺลาเป อคฺยาคาเร ติณสนฺถารกํ ปฺาเปตฺวา ปรสงฺคหกรณตฺถํ กติปาหํ วสิตฺถ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนุปสงฺกมีติ น เกวลํ ตํทิวสเมว, ยสฺมา ปน ตํ อคฺยาคารํ คามูปจาเร ทารกทาริกาหิ โอกิณฺณํ อวิวิตฺตํ, ตสฺมา ภควา นิจฺจกาลมฺปิ ทิวสภาคํ ตสฺมึ วนสณฺเฑ วีตินาเมตฺวา สายํ วาสตฺถาย ตตฺถ อุปคจฺฉติ.

อทฺทสา โข…เป… ติณสนฺถารกํ ปฺตฺตนฺติ ภควา อฺเสุ ทิวเสสุ ติณสนฺถารกํ สงฺฆริตฺวา สฺาณํ กตฺวา คจฺฉติ, ตํทิวสํ ปน ปฺเปตฺวาว อคมาสิ. กสฺมา? ตทา หิ ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกตฺวาว อทฺทส – ‘‘อชฺช มาคณฺฑิโย อิธาคนฺตฺวา อิมํ ติณสนฺถารกํ ทิสฺวา ภารทฺวาเชน สทฺธึ ติณสนฺถารกํ อารพฺภ กถาสลฺลาปํ กริสฺสติ, อถาหํ อาคนฺตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, โส ธมฺมํ สุตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติ. ปเรสํ สงฺคหกรณตฺถเมว หิ มยา ปารมิโย ปูริตา’’ติ ติณสนฺถารกํ ปฺเปตฺวาว อคมาสิ.

สมณเสยฺยานุรูปํ มฺเติ อิมํ ติณสนฺถารกํ ‘‘สมณสฺส อนุจฺฉวิกา เสยฺยา’’ติ มฺามิ. น จ อสฺตสมณสฺส นิวุตฺถฏฺานเมตํ. ตถาเหตฺถ หตฺเถน อากฑฺฒิตฏฺานํ วา ปาเทน อากฑฺฒิตฏฺานํ วา สีเสน ปหฏฏฺานํ วา น ปฺายติ, อนากุโล อนากิณฺโณ อภินฺโน เฉเกน จิตฺตกาเรน ตูลิกาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปฺตฺโต วิย. สฺตสมณสฺส วสิตฏฺานํ, กสฺส โภ วสิตฏฺานนฺติ ปุจฺฉติ. ภูนหุโนติ หตวฑฺฒิโน มริยาทการกสฺส. กสฺมา เอวมาห? ฉสุ ทฺวาเรสุ วฑฺฒิปฺาปนลทฺธิกตฺตา. อยฺหิ ตสฺส ลทฺธิ – จกฺขุ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อทิฏฺํ ทกฺขิตพฺพํ, ทิฏฺํ สมติกฺกมิตพฺพํ. โสตํ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อสุตํ โสตพฺพํ, สุตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. ฆานํ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ, อฆายิตํ ฆายิตพฺพํ, ฆายิตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. ชิวฺหา พฺรูเหตพฺพา วฑฺเฒตพฺพา, อสฺสายิตํ สายิตพฺพํ, สายิตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. กาโย พฺรูเหตพฺโพ วฑฺเฒตพฺโพ, อผุฏฺํ ผุสิตพฺพํ, ผุฏฺํ สมติกฺกมิตพฺพํ. มโน พฺรูเหตพฺโพ วฑฺเฒตพฺโพ, อวิฺาตํ วิชานิตพฺพํ, วิฺาตํ สมติกฺกมิตพฺพํ. เอวํ โส ฉสุ ทฺวาเรสุ วฑฺฒึ ปฺเปติ. ภควา ปน –

‘‘จกฺขุนา สํวโร สาธุ, สาธุ โสเตน สํวโร;

ฆาเนน สํวโร สาธุ, สาธุ ชิวฺหาย สํวโร.

กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;

มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;

สพฺพตฺถ สํวุโต ภิกฺขุ, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๓๖๐-๓๖๑) –

ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรํ ปฺเปติ. ตสฺมา โส ‘‘วฑฺฒิหโต สมโณ โคตโม มริยาทการโก’’ติ มฺมาโน ‘‘ภูนหุโน’’ติ อาห.

อริเย าเย ธมฺเม กุสเลติ ปริสุทฺเธ การณธมฺเม อนวชฺเช. อิมินา กึ ทสฺเสติ? เอวรูปสฺส นาม อุคฺคตสฺส ปฺาตสฺส ยสสฺสิโน อุปริ วาจํ ภาสมาเนน วีมํสิตฺวา อุปธาเรตฺวา มุเข อารกฺขํ เปตฺวา ภาสิตพฺโพ โหติ. ตสฺมา มา สหสา อภาสิ, มุเข อารกฺขํ เปหีติ ทสฺเสติ. เอวฺหิ โน สุตฺเต โอจรตีติ ยสฺมา อมฺหากํ สุตฺเต เอวํ อาคจฺฉติ, น มยํ มุขารุฬฺหิจฺฉามตฺตํ วทาม, สุตฺเต จ นาม อาคตํ วทมานา กสฺส ภาเยยฺยาม, ตสฺมา สมฺมุขาปิ นํ วเทยฺยามาติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺโกติ มม รกฺขนตฺถาย อนุสฺสุกฺโก อวาวโฏ หุตฺวาติ อตฺโถ. วุตฺโตว นํ วเทยฺยาติ มยา วุตฺโตว หุตฺวา อปุจฺฉิโตว กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อมฺพชมฺพูอาทีนิ คเหตฺวา วิย อปูรยมาโน มยา กถิตนิยาเมน ภวํ ภารทฺวาโช วเทยฺย, วทสฺสูติ อตฺโถ.

๒๐๘. อสฺโสสิ โขติ สตฺถา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา มาคณฺฑิยํ ตตฺถ อาคตํ อทฺทส, ทฺวินฺนํ ชนานํ ภาสมานานํ ทิพฺพโสเตน สทฺทมฺปิ อสฺโสสิ. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติยา วุฏฺิโต. สํวิคฺโคติ ปีติสํเวเคน สํวิคฺโค จลิโต กมฺปิโต. ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘เนว มาคณฺฑิเยน สมณสฺส โคตมสฺส อาโรจิตํ, น มยา. อมฺเห มุฺจิตฺวา อฺโ เอตฺถ ตติโยปิ นตฺถิ, สุโต ภวิสฺสติ อมฺหากํ สทฺโท ติขิณโสเตน ปุริเสนา’’ติ. อถสฺส อพฺภนฺตเร ปีติ อุปฺปชฺชิตฺวา นวนวุติโลมกูปสหสฺสานิ อุทฺธคฺคานิ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต’’ติ. อถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโกติ ปริพฺพาชกสฺส ปภินฺนมุขํ วิย พีชํ ปริปากคตํ าณํ, ตสฺมา สนฺนิสีทิตุํ อสกฺโกนฺโต อาหิณฺฑมาโน ปุน สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข มาคณฺฑิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๒๐๙. สตฺถา – ‘‘เอวํ กิร ตฺวํ, มาคณฺฑิย, มํ อวจา’’ติ อวตฺวาว จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิยาติ ปริพฺพาชกสฺส ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตตฺถ วสนฏฺานฏฺเน รูปํ จกฺขุสฺส อาราโมติ จกฺขุ รูปารามํ. รูเป รตนฺติ รูปรตํ. รูเปน จกฺขุ อาโมทิตํ ปโมทิตนฺติ รูปสมุทิตํ. ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ. คุตฺตนฺติ โคปิตํ. รกฺขิตนฺติ ปิตรกฺขํ. สํวุตนฺติ ปิหิตํ. สํวรายาติ ปิธานตฺถาย.

๒๑๐. ปริจาริตปุพฺโพติ อภิรมิตปุพฺโพ. รูปปริฬาหนฺติ รูปํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนปริฬาหํ. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนียนฺติ อิมสฺส รูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส ตยา กึ วจนํ วตฺตพฺพํ อสฺส, วุฑฺฒิหโต มริยาทการโกติ อิทํ วตฺตพฺพํ, น วตฺตพฺพนฺติ ปุจฺฉติ. น กิฺจิ, โภ โคตมาติ, โภ โคตม, กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.

๒๑๑. อิทานิ ยสฺมา ตยา ปฺจกฺขนฺเธ ปริคฺคเหตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ, อหฺจ ปฺจกฺขนฺเธ ปริคฺคเหตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ตสฺมา อหมฺปิ เต น กิฺจิ วตฺตพฺโพติ ทสฺเสตุํ อหํ โข ปนาติอาทิมาห. ตสฺส มยฺหํ มาคณฺฑิยาติ คิหิกาเล อตฺตโน สมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ วสฺสิโกติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ โหติ วสฺสกาเล วสิตุํ, อยํ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – วสฺสํ วาโส วสฺสํ, วสฺสํ อรหตีติ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ วสฺสิโก ปาสาโท นาติอุจฺโจ โหติ นาตินีโจ, ทฺวารวาตปานานิปิสฺส นาติตนูนิ นาติพหูนิ, ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณขชฺชโภชฺชานิเปตฺถ มิสฺสกาเนว วฏฺฏนฺติ. เหมนฺติเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ นีจา โหนฺติ, ทฺวารวาตปานานิ ตนุกานิ สุขุมจฺฉิทฺทานิ. อุณฺหปเวสนตฺถาย ภิตฺตินิยูหานิ นีหรียนฺติ. ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณนิวาสนปารุปนานิ ปเนตฺถ อุณฺหวีริยานิ กมฺพลาทีนิ วฏฺฏนฺติ. ขชฺชโภชฺชํ สินิทฺธํ กฏุกสนฺนิสฺสิตฺจ. คิมฺหิเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ อุจฺจา โหนฺติ. ทฺวารวาตปานานิ ปเนตฺถ พหูนิ วิปุลชาลานิ ภวนฺติ. ภูมตฺถรณาทีนิ ทุกูลมยานิ วฏฺฏนฺติ, ขชฺชโภชฺชานิ มธุรรสสีตวีริยานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ.

โพธิสตฺตสฺส ปน อฏฺสตสุวณฺณฆเฏ จ รชตฆเฏ จ คนฺโธทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลคจฺฉเก กตฺวา สยนํ ปริวาเรตฺวา ปยึสุ. มหนฺเตสุ โลหกฏาเหสุ คนฺธกลลํ ปูเรตฺวา นีลุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกานิ โรเปตฺวา อุตุคฺคหณตฺถาย ตตฺถ ตตฺถ เปสุํ. สูริยรสฺมีหิ ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺติ. นานาวิธา ภมรคณา ปาสาทํ ปวิสิตฺวา ปุปฺเผสุ รสํ คณฺหนฺตา วิจรนฺติ. ปาสาโท อติสุคนฺโธ โหติ. ยมกภิตฺติยา อนฺตเร โลหนาฬึ เปตฺวา นวภูมิกปาสาทสฺส อุปริ อากาสงฺคเณ รตนมณฺฑปมตฺถเก สุขุมจฺฉิทฺทกํ ชาลํ พทฺธํ อโหสิ. เอกสฺมึ าเน สุกฺขมหึสจมฺมํ ปสาเรติ. โพธิสตฺตสฺส อุทกกีฬนเวลาย มหึสจมฺเม ปาสาณคุเฬ ขิปนฺติ, เมฆถนิตสทฺโท วิย โหติ. เหฏฺา ยนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, อุทกํ อภิรุหิตฺวา ชาลมตฺถเก ปตติ, วสฺสปตนสลิลํ วิย โหติ. ตทา โพธิสตฺโต นีลปฏํ นิวาเสติ, นีลปฏํ ปารุปติ, นีลปสาธนํ ปสาเธติ. ปริวาราปิสฺส จตฺตาลีสนาฏกสหสฺสานิ นีลวตฺถาภรณาเนว นีลวิเลปนานิ หุตฺวา มหาปุริสํ ปริวาเรตฺวา รตนมณฺฑปํ คจฺฉนฺติ. ทิวสภาคํ อุทกกีฬํ กีฬนฺโต สีตลํ อุตุสุขํ อนุโภติ.

ปาสาทสฺส จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร สรา โหนฺติ. ทิวากาเล นานาวณฺณสกุณคณา ปาจีนสรโต วุฏฺาย วิรวมานา ปาสาทมตฺถเกน ปจฺฉิมสรํ คจฺฉนฺติ. ปจฺฉิมสรโต วุฏฺาย ปาจีนสรํ, อุตฺตรสรโต ทกฺขิณสรํ, ทกฺขิณสรโต อุตฺตรสรํ คจฺฉนฺติ, อนฺตรวสฺสสมโย วิย โหติ. เหมนฺติกปาสาโท ปน ปฺจภูมิโก อโหสิ, วสฺสิกปาสาโท สตฺตภูมิโก.

นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลฺเจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว. โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นฺหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว. ราชา กิร – ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปริสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสิ. ตาย รติยา รมมาโนติ อิทํ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรตึ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๑๒. คหปติ วา คหปติปุตฺโต วาติ เอตฺถ ยสฺมา ขตฺติยานํ เสตจฺฉตฺตสฺมึเยว ปตฺถนา โหติ, มหา จ เนสํ ปปฺโจ, พฺราหฺมณา มนฺเตหิ อติตฺตา มนฺเต คเวสนฺตา วิจรนฺติ, คหปติโน ปน มุทฺทาคณนมตฺตํ อุคฺคหิตกาลโต ปฏฺาย สมฺปตฺตึเยว อนุภวนฺติ, ตสฺมา ขตฺติยพฺราหฺมเณ อคฺคเหตฺวา ‘‘คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา’’ติ อาห. อาวฏฺเฏยฺยาติ มานุสกกามเหตุ อาวฏฺโฏ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อภิกฺกนฺตตราติ วิสิฏฺตรา. ปณีตตราติ อตปฺปกตรา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเน;

เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเก’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๓๘๙) –

สมธิคยฺห ติฏฺตีติ ทิพฺพสุขํ คณฺหิตฺวา ตโต วิสิฏฺตรา หุตฺวา ติฏฺติ.

โอปมฺมสํสนฺทนํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – คหปติสฺส ปฺจหิ กามคุเณหิ สมงฺคีภูตกาโล วิย โพธิสตฺตสฺส ตีสุ ปาสาเทสุ จตฺตาลีสสหสฺสอิตฺถิมชฺเฌ โมทนกาโล, ตสฺส สุจริตํ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตกาโล วิย โพธิสตฺตสฺส อภินิกฺขมนํ กตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตํ ปฏิวิทฺธกาโล, ตสฺส นนฺทนวเน สมฺปตฺตึ อนุภวนกาโล วิย ตถาคตสฺส จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีติวตฺตนกาโล, ตสฺส มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ อปตฺถนกาโล วิย ตถาคตสฺส จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีตินาเมนฺตสฺส หีนชนสุขสฺส อปตฺถนกาโลติ.

๒๑๓. สุขีติ ปมํ ทุกฺขิโต ปจฺฉา สุขิโต อสฺส. เสรีติ ปมํ เวชฺชทุติยโก ปจฺฉา เสรี เอกโก ภเวยฺย. สยํวสีติ ปมํ เวชฺชสฺส วเส วตฺตมาโน เวชฺเชน นิสีทาติ วุตฺเต นิสีทิ, นิปชฺชาติ วุตฺเต นิปชฺชิ, ภุฺชาติ วุตฺเต ภุฺชิ, ปิวาติ วุตฺเต ปิวิ, ปจฺฉา สยํวสี ชาโต. เยน กามํ คโมติ ปมํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คนฺตุํ นาลตฺถ, ปจฺฉา โรเค วูปสนฺเต วนทสฺสน-คิริทสฺสน-ปพฺพตทสฺสนาทีสุปิ เยนกามํ คโม ชาโต, ยตฺถ ยตฺเถว คนฺตุํ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺเถว คจฺเฉยฺย.

เอตฺถาปิ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปุริสสฺส กุฏฺิกาโล วิย หิ โพธิสตฺตสฺส อคารมชฺเฌ วสนกาโล, องฺคารกปลฺลํ วิย เอกํ กามวตฺถุ, ทฺเว กปลฺลานิ วิย ทฺเว วตฺถูนิ, สกฺกสฺส ปน เทวรฺโ อฑฺฒเตยฺยโกฏิยานิ องฺคารกปลฺลานิ วิย อฑฺฒติยนาฏกโกฏิโย, นเขหิ วณมุขานิ ตจฺเฉตฺวา องฺคารกปลฺเล ปริตาปนํ วิย วตฺถุปฏิเสวนํ, เภสชฺชํ อาคมฺม อโรคกาโล วิย กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา นิกฺขมฺม พุทฺธภูตกาเล จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติรติยา วีติวตฺตนกาโล, อฺํ กุฏฺิปุริสํ ทิสฺวา อปตฺถนกาโล วิย ตาย รติยา วีตินาเมนฺตสฺส หีนชนรติยา อปตฺถนกาโลติ.

๒๑๔. อุปหตินฺทฺริโยติ กิมิรกุฏฺเน นาม อุปหตกายปฺปสาโท. อุปหตินฺทฺริยาติ อุปหตปฺินฺทฺริยา. เต ยถา โส อุปหตกายินฺทฺริโย กุฏฺี ทุกฺขสมฺผสฺสสฺมึเยว อคฺคิสฺมึ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถ, เอวํ ปฺินฺทฺริยสฺส อุปหตตฺตา ทุกฺขสมฺผสฺเสสฺเวว กาเมสุ สุขมิติ วิปรีตสฺํ ปจฺจลตฺถุํ.

๒๑๕. อสุจิตรานิ เจวาติอาทีสุ ปกติยาว ตานิ อสุจีนิ จ ทุคฺคนฺธานิ จ ปูตีนิ จ, อิทานิ ปน อสุจิตรานิ เจว ทุคฺคนฺธตรานิ จ ปูติตรานิ จ โหนฺติ. กาจีติ ตสฺส หิ ปริตาเปนฺตสฺส จ กณฺฑูวนฺตสฺส จ ปาณกา อนฺโต ปวิสนฺติ, ทุฏฺโลหิตทุฏฺปุพฺพา ปคฺฆรนฺติ. เอวมสฺส กาจิ อสฺสาทมตฺตา โหติ.

อาโรคฺยปรมาติ คาถาย เย เกจิ ธนลาภา วา ยสลาภา วา ปุตฺตลาภา วา อตฺถิ, อาโรคฺยํ เตสํ ปรมํ อุตฺตมํ, นตฺถิ ตโต อุตฺตริตโร ลาโภติ, อาโรคฺยปรมา ลาภา. ยํกิฺจิ ฌานสุขํ วา มคฺคสุขํ วา ผลสุขํ วา อตฺถิ, นิพฺพานํ ตตฺถ ปรมํ, นตฺถิ ตโต อุตฺตริตรํ สุขนฺติ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ. อฏฺงฺคิโก มคฺคานนฺติ ปุพฺพภาคมคฺคานํ ปุพฺพภาคคมเนเนว อมตคามีนํ อฏฺงฺคิโก เขโม, นตฺถิ ตโต เขมตโร อฺโ มคฺโค. อถ วา เขมํ อมตคามินนฺติ เอตฺถ เขมนฺติปิ อมตนฺติปิ นิพฺพานสฺเสว นามํ. ยาวตา ปุถุสมณพฺราหฺมณา ปรปฺปวาทา เขมคามิโน จ อมตคามิโน จาติ ลทฺธิวเสน คหิตา, สพฺเพสํ เตสํ เขมอมตคามีนํ มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก ปรโม อุตฺตโมติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

๒๑๖. อาจริยปาจริยานนฺติ อาจริยานฺเจว อาจริยาจริยานฺจ. สเมตีติ เอกนาฬิยา มิตํ วิย เอกตุลาย ตุลิตํ วิย สทิสํ โหติ นินฺนานากรณํ. อโนมชฺชตีติ ปาณึ เหฏฺา โอตาเรนฺโต มชฺชติ – ‘‘อิทํ ตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทํ ตํ นิพฺพาน’’นฺติ กาเลน สีสํ กาเลน อุรํ ปริมชฺชนฺโต เอวมาห.

๒๑๗. เฉกนฺติ สมฺปนฺนํ. สาหุฬิจีเรนาติ กาฬเกหิ เอฬกโลเมหิ กตถูลจีเรน. สงฺการโจฬเกนาติปิ วทนฺติ. วาจํ นิจฺฉาเรยฺยาติ กาเลน ทสาย กาเลน อนฺเต กาเลน มชฺเฌ ปริมชฺชนฺโต นิจฺฉาเรยฺย, วเทยฺยาติ อตฺโถ. ปุพฺพเกเหสาติ ปุพฺพเกหิ เอสา. วิปสฺสีปิ หิ ภควา…เป… กสฺสโปปิ ภควา จตุปริสมชฺเฌ นิสินฺโน อิมํ คาถํ อภาสิ, ‘‘อตฺถนิสฺสิตคาถา’’ติ มหาชโน อุคฺคณฺหิ. สตฺถริ ปรินิพฺพุเต อปรภาเค ปริพฺพาชกานํ อนฺตรํ ปวิฏฺา. เต โปตฺถกคตํ กตฺวา ปททฺวยเมว รกฺขิตุํ สกฺขึสุ. เตนาห – สา เอตรหิ อนุปุพฺเพน ปุถุชฺชนคาถาติ.

๒๑๘. โรโคว ภูโตติ โรคภูโต. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อริยํ จกฺขุนฺติ ปริสุทฺธํ วิปสฺสนาาณฺเจว มคฺคาณฺจ. ปโหตีติ สมตฺโถ. เภสชฺชํ กเรยฺยาติ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ อฺชนฺจาติ เภสชฺชํ กเรยฺย.

๒๑๙. น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺยาติ ยสฺส หิ อนฺตรา ปิตฺตเสมฺหาทิปลิเวเน จกฺขุปสาโท อุปหโต โหติ, โส เฉกํ เวชฺชํ อาคมฺม สปฺปายเภสชฺชํ เสวนฺโต จกฺขูนิ อุปฺปาเทติ นาม. ชจฺจนฺธสฺส ปน มาตุกุจฺฉิยํเยว วินฏฺานิ, ตสฺมา โส น ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺยา’’ติ.

๒๒๐. ทุติยวาเร ชจฺจนฺโธติ ชาตกาลโต ปฏฺาย ปิตฺตาทิปลิเวเน อนฺโธ. อมุสฺมินฺติ ตสฺมึ ปุพฺเพ วุตฺเต. อมิตฺตโตปิ ทเหยฺยาติ อมิตฺโต เม อยนฺติ เอวํ อมิตฺตโต เปยฺย. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อิมินา จิตฺเตนาติ วฏฺเฏ อนุคตจิตฺเตน. ตสฺส เม อุปาทานปจฺจยาติ เอกสนฺธิ ทฺวิสงฺเขโป ปจฺจยากาโร กถิโต, วฏฺฏํ วิภาวิตํ.

๒๒๑. ธมฺมานุธมฺมนฺติ ธมฺมสฺส อนุธมฺมํ อนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ. อิเม โรคา คณฺฑา สลฺลาติ ปฺจกฺขนฺเธ ทสฺเสติ. อุปาทานนิโรธาติ วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มาคณฺฑิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สนฺทกสุตฺตวณฺณนา

๒๒๓. เอวํ เม สุตนฺติ สนฺทกสุตฺตํ. ตตฺถ ปิลกฺขคุหายนฺติ ตสฺสา คุหาย ทฺวาเร ปิลกฺขรุกฺโข อโหสิ, ตสฺมา ปิลกฺขคุหาตฺเวว สงฺขํ คตา. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ วิเวกโต วุฏฺิโต. เทวกตโสพฺโภติ วสฺโสทเกเนว ตินฺนฏฺาเน ชาโต มหาอุทกรหโท. คุหาทสฺสนายาติ เอตฺถ คุหาติ ปํสุคุหา. สา อุนฺนเม อุทกมุตฺตฏฺาเน อโหสิ, เอกโต อุมงฺคํ กตฺวา ขาณุเก จ ปํสุฺจ นีหริตฺวา อนฺโต ถมฺเภ อุสฺสาเปตฺวา มตฺถเก ปทรจฺฉนฺนเคหสงฺเขเปน กตา, ตตฺถ เต ปริพฺพาชกา วสนฺติ. สา วสฺสาเน อุทกปุณฺณา ติฏฺติ, นิทาเฆ ตตฺถ วสนฺติ. ตํ สนฺธาย ‘‘คุหาทสฺสนายา’’ติ อาห. วิหารทสฺสนตฺถฺหิ อนมตคฺคิยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมุทฺทปพฺพตทสฺสนตฺถํ วาปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ.

อุนฺนาทินิยาติ อุจฺจํ นทมานาย. เอวํ นทมานาย จสฺสา อุทฺธงฺคมนวเสน อุจฺโจ, ทิสาสุ ปตฺถฏวเสน มหาสทฺโทติ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺโท, ตาย อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย. เตสํ ปริพฺพาชกานํ ปาโตว อุฏฺาย กตฺตพฺพํ นาม เจติยวตฺตํ วา โพธิวตฺตํ วา อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ วา โยนิโสมนสิกาโร วา นตฺถิ. เตน เต ปาโตว อุฏฺาย พาลาตเป นิสินฺนา, สายํ วา กถาย ผาสุกตฺถาย สนฺนิปติตา ‘‘อิมสฺส หตฺโถ โสภโณ อิมสฺส ปาโท’’ติ เอวํ อฺมฺสฺส หตฺถปาทาทีนิ วา อารพฺภ อิตฺถิปุริสทารกทาริกาวณฺเณ วา อฺํ วา กามสฺสาทภวสฺสาทาทิวตฺถุํ อารพฺภ กถํ ปฏฺเปตฺวา อนุปุพฺเพน ราชกถาทิอเนกวิธํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติ. สา หิ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา กถาติ ติรจฺฉานกถา. ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา กถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ.

เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ อโห สูราติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา. ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กถา กมฺมฏฺานเมว โหติ. อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา – ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติเย ปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.

าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ จริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพา. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา สทฺธา ปสนฺนาติ วา ขยวยํ คตาติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย. อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตาติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสีติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สทฺโธ ปสนฺโน อโหสิ ขยํ คโตติ เอวเมว วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถาติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา อิจฺเจวํ วฏฺฏติ.

กุมฺภฏฺานกถาติ กุมฺภฏฺานอุทกติตฺถกถา วา วุจฺจติ กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนาติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ. ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย.

นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน นาม นิมฺมิโต, กากา เสตา อฏฺีนํ เสตตฺตา, พกา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตาติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา.

สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโร, สาครเทเวน ขณิตตฺตา สาคโร, ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติ เอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายิกกถา. อิติ ภโว, อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโวติ สสฺสตํ, อภโวติ อุจฺเฉทํ. ภโวติ วฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ กามสุขํ, อภโวติ อตฺตกิลมโถ. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ พาตฺตึสติรจฺฉานกถา นาม โหติ. เอวรูปึ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา นิสินฺโน โหติ.

ตโต สนฺทโก ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก โอโลเกตฺวา – ‘‘อิเม ปริพฺพาชกา อติวิย อฺมฺํ อคารวา อปฺปติสฺสา, มยฺจ สมณสฺส โคตมสฺส ปาตุภาวโต ปฏฺาย สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกูปมา ชาตา, ลาภสกฺกาโรปิ โน ปริหีโน. สเจ ปน อิมํ านํ สมโณ โคตโม โคตมสาวโก วา คิหิอุปฏฺาโกปิ วาสฺส อาคจฺเฉยฺย, อติวิย ลชฺชนียํ ภวิสฺสติ. ปริสโทโส โข ปน ปริสเชฏฺกสฺเสว อุปริ อาโรหตี’’ติ อิโต จิโต จ วิโลเกนฺโต เถรํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ อทฺทสา โข สนฺทโก ปริพฺพาชโก…เป… ตุณฺหี อเหสุนฺติ.

ตตฺถ สณฺเปสีติ สิกฺขาเปสิ, วชฺชมสฺสา ปฏิจฺฉาเทสิ. ยถา สุฏฺปิตา โหติ, ตถา นํ เปสิ. ยถา นาม ปริสมชฺฌํ ปวิสนฺโต ปุริโส วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ นิวาสนํ สณฺเปติ, ปารุปนํ สณฺเปติ, รโชกิณฺณฏฺานํ ปุฺฉติ, เอวมสฺสา วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต’’ติ สิกฺขาเปนฺโต ยถา สุฏฺปิตา โหติ, ตถา นํ เปสีติ อตฺโถ. อปฺปสทฺทกามาติ อปฺปสทฺทํ อิจฺฉนฺติ, เอกกา นิสีทนฺติ, เอกกา ติฏฺนฺติ, น คณสงฺคณิกาย ยาเปนฺติ. อปฺปสทฺทวินีตาติ อปฺปสทฺเทน นิรเวน พุทฺเธน วินีตา. อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโนติ ยํ านํ อปฺปสทฺทํ นิสฺสทฺทํ. ตสฺส วณฺณวาทิโน. อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยาติ อิธาคนฺตพฺพํ มฺเยฺย.

กสฺมา ปเนส เถรสฺส อุปสงฺกมนํ ปจฺจาสีสตีติ. อตฺตโน วุทฺธึ ปตฺถยมาโน. ปริพฺพาชกา กิร พุทฺเธสุ วา พุทฺธสาวเกสุ วา อตฺตโน สนฺติกํ อาคเตสุ – ‘‘อชฺช อมฺหากํ สนฺติกํ สมโณ โคตโม อาคโต, สาริปุตฺโต อาคโต, น โข ปเนเต ยสฺส วา ตสฺส วา สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, ปสฺสถ อมฺหากํ อุตฺตมภาว’’นฺติ อตฺตโน อุปฏฺากานํ สนฺติเก อตฺตานํ อุกฺขิปนฺติ อุจฺเจ าเน เปนฺติ. ภควโตปิ อุปฏฺาเก คณฺหิตุํ วายมนฺติ. เต กิร ภควโต อุปฏฺาเก ทิสฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตุมฺหากํ สตฺถา ภวํ โคตโมปิ โคตมสฺส สาวกาปิ อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ, มยํ อฺมฺํ สมคฺคา. ตุมฺเห ปน อมฺเห อกฺขีหิ ปสฺสิตุํ น อิจฺฉถ, สามีจิกมฺมํ น กโรถ, กึ โว อมฺเหหิ อปรทฺธ’’นฺติ. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา – ‘‘พุทฺธาปิ เอเตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, กึ อมฺหาก’’นฺติ ตโต ปฏฺาย เต ทิสฺวา นปฺปมชฺชนฺติ. ตุณฺหี อเหสุนฺติ สนฺทกํ ปริวาเรตฺวา นิสฺสทฺทา นิสีทึสุ.

๒๒๔. สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺสาติ สุอาคมนํ โภโต อานนฺทสฺส. ภวนฺเต หิ โน อาคเต อานนฺโท โหติ, คเต โสโกติ ทีเปติ. จิรสฺสํ โขติ ปิยสมุทาจารวจนเมตํ. เถโร ปน กาเลน กาลํ ปริพฺพาชการามํ จาริกตฺถาย คจฺฉตีติ ปุริมคมนํ คเหตฺวา เอวมาห. เอวฺจ ปน วตฺวา น มานตฺถทฺโธ หุตฺวา นิสีทิ, อตฺตโน ปน อาสนา วุฏฺาย ตํ อาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา เถรํ อาสเนน นิมนฺเตนฺโต นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปฺตฺตนฺติ อาห.

อนฺตรากถา วิปฺปกตาติ นิสินฺนานํ โว อารมฺภโต ปฏฺาย ยาว มมาคมนํ เอตสฺมึ อนฺตเร กา นาม กถา วิปฺปกตา, มมาคมนปจฺจยา กตมา กถา ปริยนฺตํ น คตาติ ปุจฺฉติ.

อถ ปริพฺพาชโก ‘‘นิรตฺถกกถาว เอสา นิสฺสารา วฏฺฏสนฺนิสฺสิตา, น ตุมฺหากํ ปุรโต วตฺตพฺพตํ อรหตี’’ติ ทีเปนฺโต ติฏฺเตสา, โภติอาทิมาห. เนสา โภโตติ สเจ ภวํ โสตุกาโม ภวิสฺสติ, ปจฺฉาเปสา กถา น ทุลฺลภา ภวิสฺสติ, อมฺหากํ ปนิมาย อตฺโถ นตฺถิ. โภโต ปน อาคมนํ ลภิตฺวา อฺเทว สุการณํ กถํ โสตุกามมฺหาติ ทีเปติ. ตโต ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต สาธุ วต ภวนฺตํ เย วาติอาทิมาห. ตตฺถ อาจริยเกติ อาจริยสมเย. อนสฺสาสิกานีติ อสฺสาสวิรหิตานิ. สสกฺกนฺติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, วิฺู ปุริโส เอกํเสเนว น วเสยฺยาติ อตฺโถ. วสนฺโต จ นาราเธยฺยาติ น สมฺปาเทยฺย, น ปริปูเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ายํ ธมฺมํ กุสลนฺติ การณภูตํ อนวชฺชฏฺเน กุสลํ ธมฺมํ.

๒๒๕. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีนิ สาเลยฺยกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๔๐) วุตฺตานิ. จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. ปถวี ปถวีกายนฺติ อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ พาหิรปถวีธาตุํ. อนุเปตีติ อนุยาติ. อนุปคจฺฉตีติ ตสฺเสว เววจนํ, อนุคจฺฉตีติปิ อตฺโถ, อุภเยนาปิ อุเปติ อุปคจฺฉตีติ ทสฺเสติ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. อินฺทฺริยานีติ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ. อาสนฺทิปฺจมาติ นิปนฺนมฺเจน ปฺจมา, มฺโจ เจว, จตฺตาโร มฺจปาเท คเหตฺวา ิตา จตฺตาโร ปุริสา จาติ อตฺโถ. ยาวาฬาหนาติ ยาว สุสานา. ปทานีติ อยํ เอวํ สีลวา อโหสิ, เอวํ ทุสฺสีโลติอาทินา นเยน ปวตฺตานิ คุณปทานิ. สรีรเมว วา เอตฺถ ปทานีติ อธิปฺเปตํ. กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิ, ปาราวตปกฺขวณฺณานีติ อตฺโถ.

ภสฺสนฺตาติ ภสฺมนฺตา, อยเมว วา ปาฬิ. อาหุติโยติ ยํ ปเหณกสกฺการาทิเภทํ ทินฺนทานํ, สพฺพํ ตํ ฉาริกาวสานเมว โหติ, น ตโต ปรํ ผลทายกํ หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – พาเลหิ อพุทฺธีหิ ปฺตฺตมิทํ ทานํ, น ปณฺฑิเตหิ. พาลา เทนฺติ, ปณฺฑิตา คณฺหนฺตีติ ทสฺเสติ. อตฺถิกวาทนฺติ อตฺถิ ทินฺนํ ทินฺนผลนฺติ อิมํ อตฺถิกวาทํเยว วทนฺติ เตสํ ตุจฺฉํ วจนํ มุสาวิลาโป. พาเล จ ปณฺฑิเต จาติ พาลา จ ปณฺฑิตา จ.

อกเตน เม เอตฺถ กตนฺติ มยฺหํ อกเตเนว สมณกมฺเมน เอตฺถ เอตสฺส สมเย กมฺมํ กตํ นาม โหติ, อวุสิเตเนว พฺรหฺมจริเยน วุสิตํ นาม โหติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สมณธมฺเม. สมสมาติ อติวิย สมา, สเมน วา คุเณน สมา. สามฺํ ปตฺตาติ สมานภาวํ ปตฺตา.

๒๒๖. กรโตติอาทีนิ อปณฺณกสุตฺเต วุตฺตานิ. ตถา นตฺถิ เหตูติอาทีนิ.

๒๒๘. จตุตฺถพฺรหฺมจริยวาเส อกฏาติ อกตา. อกฏวิธาติ อกตวิธานา, เอวํ กโรหีติ เกนจิ การาปิตา น โหนฺตีติ อตฺโถ. อนิมฺมิตาติ อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมาตาติ อนิมฺมาปิตา. เกจิ อนิมฺมิตพฺพาติ ปทํ วทนฺติ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ สนฺทิสฺสติ. วฺฌาติ วฺฌปสุวฺฌตาลาทโย วิย อผลา, กสฺสจิ อชนกาติ อตฺโถ. เอเตน ปถวีกายาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ปพฺพตกูฏา วิย ิตาติ กูฏฏฺา. อีสิกฏฺายิฏฺิตาติ มุฺเช อีสิกา วิย ิตา. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยมิทํ ชายตีติ วุจฺจติ, ตํ มุฺชโต อีสิกา วิย วิชฺชมานเมว นิกฺขมตีติ. ‘‘เอสิกฏฺายิฏฺิตา’’ติปิ ปาโ, สุนิขาโต เอสิกตฺถมฺโภ นิจฺจโล ติฏฺติ, เอวํ ิตาติ อตฺโถ. อุภเยนปิ เตสํ วินาสาภาวํ ทีเปติ. น อิฺชนฺตีติ เอสิกตฺถมฺโภ วิย ิตตฺตา น จลนฺติ. น วิปริณาเมนฺตีติ ปกตึ น ชหนฺติ. น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ อฺมฺํ น อุปหนนฺติ. นาลนฺติ น สมตฺถา.

ปถวีกาโยติอาทีสุ ปถวีเยว ปถวีกาโย, ปถวีสมูโห วา. ตตฺถาติ เตสุ ชีวสตฺตเมสุ กาเยสุ. นตฺถิ หนฺตา วาติ หนฺตุํ วา ฆาเตตุํ วา โสตุํ วา สาเวตุํ วา ชานิตุํ วา ชานาเปตุํ วา สมตฺโถ นาม นตฺถีติ ทีเปติ. สตฺตนฺนํตฺเวว กายานนฺติ ยถา มุคฺคราสิอาทีสุ ปหฏํ สตฺถํ มุคฺคราสิอาทีนํ อนฺตเรน ปวิสติ, เอวํ สตฺตนฺนํ กายานํ อนฺตเรน ฉิทฺเทน วิวเรน สตฺถํ ปวิสติ. ตตฺถ ‘‘อหํ อิมํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ เกวลํ สฺามตฺตเมว โหตีติ ทสฺเสติ. โยนิปมุขสตสหสฺสานีติ ปมุขโยนีนํ อุตฺตมโยนีนํ จุทฺทสสตสหสฺสานิ อฺานิ จ สฏฺิสตานิ อฺานิ จ ฉสตานิ. ปฺจ จ กมฺมุโน สตานีติ ปฺจ กมฺมสตานิ จ, เกวลํ ตกฺกมตฺตเกน นิรตฺถกํ ทิฏฺึ ทีเปติ. ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เกจิ ปนาหุ ปฺจ กมฺมานีติ ปฺจินฺทฺริยวเสน ภณติ. ตีณีติ กายกมฺมาทิวเสนาติ. กมฺเม จ อฑฺฒกมฺเม จาติ เอตฺถ ปนสฺส กายกมฺมฺจ วจีกมฺมฺจ กมฺมนฺติ ลทฺธิ, มโนกมฺมํ อุปฑฺฒกมฺมนฺติ. ทฺวฏฺิปฏิปทาติ ทฺวาสฏฺิ ปฏิปทาติ วทติ. ทฺวฏฺนฺตรกปฺปาติ เอกสฺมึ กปฺเป จตุสฏฺิ อนฺตรกปฺปา นาม โหนฺติ, อยํ ปน อฺเ ทฺเว อชานนฺโต เอวมาห. ฉฬาภิชาติโย อปณฺณกสุตฺเต วิตฺถาริตา.

อฏฺ ปุริสภูมิโยติ มนฺทภูมิ ขิฑฺฑาภูมิ วีมํสกภูมิ อุชุคตภูมิ เสกฺขภูมิ สมณภูมิ ชินภูมิ ปนฺนภูมีติ อิมา อฏฺ ปุริสภูมิโยติ วทติ. ตตฺถ ชาตทิวสโต ปฏฺาย สตฺตทิวเส สมฺพาธฏฺานโต นิกฺขนฺตตฺตา สตฺตา มนฺทา โหนฺติ โมมูหา. อยํ มนฺทภูมีติ วทติ. เย ปน ทุคฺคติโต อาคตา โหนฺติ, เต อภิณฺหํ โรทนฺติ เจว วิรวนฺติ จ. สุคติโต อาคตา ตํ อนุสฺสริตฺวา อนุสฺสริตฺวา หสนฺติ. อยํ ขิฑฺฑาภูมิ นาม. มาตาปิตูนํ หตฺถํ วา ปาทํ วา มฺจํ วา ปีํ วา คเหตฺวา ภูมิยํ ปทนิกฺขิปนํ วีมํสกภูมิ นาม. ปทสาว คนฺตุํ สมตฺถกาโล อุชุคตภูมิ นาม. สิปฺปานํ สิกฺขนกาโล เสกฺขภูมิ นาม. ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชนกาโล สมณภูมิ นาม. อาจริยํ เสวิตฺวา ชานนกาโล ชินภูมิ นาม. ภิกฺขุ จ ปนฺนโก ชิโน น กิฺจิ อาหาติ เอวํ อลาภึ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทติ.

เอกูนปฺาส อาชีวสเตติ เอกูนปฺาส อาชีววุตฺติสตานิ. ปริพฺพาชกสเตติ ปริพฺพาชกปพฺพชฺชสตานิ. นาคาวาสสเตติ นาคมณฺฑลสตานิ. วีเส อินฺทฺริยสเตติ วีส อินฺทฺริยสตานิ. ตึเส นิรยสเตติ ตึส นิรยสตานิ. รโชธาตุโยติ รชโอกิรณฏฺานานิ. หตฺถปิฏฺิปาทปิฏฺาทีนิ สนฺธาย วทติ. สตฺต สฺีคพฺภาติ โอฏฺโคณคทฺรภอชปสุมิคมหึเส สนฺธาย วทติ. อสฺีคพฺภาติ สาลิยวโคธุมมุคฺคกงฺคุวรกกุทฺรูสเก สนฺธาย วทติ. นิคณฺิคพฺภาติ นิคณฺิมฺหิ ชาตคพฺภา, อุจฺฉุเวฬุนฬาทโย สนฺธาย วทติ. สตฺต เทวาติ พหู เทวา, โส ปน สตฺตาติ วทติ. มานุสาปิ อนนฺตา, โส สตฺตาติ วทติ. สตฺต ปิสาจาติ ปิสาจา มหนฺตา, สตฺตาติ วทติ.

สราติ มหาสรา. กณฺณมุณฺฑ-รถการ-อโนตตฺต-สีหปปาตกุฬิร-มุจลินฺท-กุณาลทเห คเหตฺวา วทติ. ปวุฏาติ คณฺิกา. ปปาตาติ มหาปปาตา. ปปาตสตานีติ ขุทฺทกปปาตสตานิ. สุปินาติ มหาสุปินา. สุปินสตานีติ ขุทฺทกสุปินสตานิ. มหากปฺปิโนติ มหากปฺปานํ. เอตฺถ เอกมฺหา สรา วสฺสสเต วสฺสสเต กุสคฺเคน เอกํ อุทกพินฺทุํ นีหริตฺวา นีหริตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ ตมฺหิ สเร นิรุทเก กเต เอโก มหากปฺโปติ วทติ. เอวรูปานํ มหากปฺปานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ เขเปตฺวา พาลา จ ปณฺฑิตา จ ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรนฺตีติ อยมสฺส ลทฺธิ. ปณฺฑิโตปิ กิร อนฺตรา สุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ, พาโลปิ ตโต อุทฺธํ น คจฺฉติ.

สีเลนาติ อเจลกสีเลน วา อฺเน วา เยน เกนจิ. วเตนาติ ตาทิเสน วเตน. ตเปนาติ ตโปกมฺเมน. อปริปกฺกํ ปริปาเจติ นาม โย ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อนฺตรา วิสุชฺฌติ. ปริปกฺกํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กโรติ นาม โย ‘‘อหํ พาโล’’ติ วุตฺตปริมาณํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา ยาติ. เหวํ นตฺถีติ เอวํ นตฺถิ. ตฺหิ อุภยมฺปิ น สกฺกา กาตุนฺติ ทีเปติ. โทณมิเตติ โทเณน มิตํ วิย. สุขทุกฺเขติ สุขทุกฺขํ. ปริยนฺตกเตติ วุตฺตปริมาเณน กาเลน กตปริยนฺโต. นตฺถิ หายนวฑฺฒเนติ นตฺถิ หายนวฑฺฒนานิ. น สํสาโร ปณฺฑิตสฺส หายติ, น พาลสฺส วฑฺฒตีติ อตฺโถ. อุกฺกํสาวกํเสติ อุกฺกํสาวกํสา, หาปนวฑฺฒนานเมเวตํ เววจนํ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปิ นามาติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตคุเฬติ เวเตฺวา กตสุตฺตคุฬํ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ ปพฺพเต วา รุกฺขคฺเค วา ตฺวา ขิตฺตํ สุตฺตปมาเณน นิพฺเพิยมานํ คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ ตตฺถ ติฏฺติ น คจฺฉติ. เอวเมวํ วุตฺตกาลโต อุทฺธํ น คจฺฉตีติ ทสฺเสติ.

๒๒๙. กิมิทนฺติ กิมิทํ ตว อฺาณํ, กึ สพฺพฺุ นาม ตฺวนฺติ เอวํ ปุฏฺโ สมาโน นิยติวาเท ปกฺขิปนฺโต สุฺํ เม อคารนฺติอาทิมาห.

๒๓๐. อนุสฺสวิโก โหตีติ อนุสฺสวนิสฺสิโต โหติ. อนุสฺสวสจฺโจติ สวนํ สจฺจโต คเหตฺวา ิโต. ปิฏกสมฺปทายาติ วคฺคปณฺณาสกาย ปิฏกคนฺถสมฺปตฺติยา.

๒๓๒. มนฺโทติ มนฺทปฺโ. โมมูโหติ อติมูฬฺโห. วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชตีติ วาจาย วิกฺเขปํ อาปชฺชติ. กีทิสํ? อมราวิกฺเขปํ, อปริยนฺตวิกฺเขปนฺติ อตฺโถ. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ. สา อุมฺมุชฺชนนิมฺมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกาติ เอวเมว อยมฺปิ วาโท อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. ตํ อมราวิกฺเขปํ.

เอวนฺติปิ เม โนติอาทีสุ อิทํ กุสลนฺติ ปุฏฺโ ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต กึ อกุสลนฺติ วุตฺเต ‘‘ตถาติปิ เม โน’’ติ วทติ, กึ อุภยโต อฺถาติ วุตฺเต ‘‘อฺถาติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต ติวิเธนาปิ น โหตีติ เต ลทฺธีติ วุตฺเต ‘‘โนติปิ เม โน’’ติ วทติ, ตโต กึ โน โนติ เต ลทฺธีติ วุตฺเต ‘‘โน โนติปิ เม โน’’ติ วิกฺเขปมาปชฺชติ, เอกสฺมิมฺปิ ปกฺเข น ติฏฺติ. นิพฺพิชฺช ปกฺกมตีติ อตฺตโนปิ เอส สตฺถา อวสฺสโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, มยฺหํ กึ สกฺขิสฺสตีติ นิพฺพินฺทิตฺวา ปกฺกมติ. ปุริเมสุปิ อนสฺสาสิเกสุ เอเสว นโย.

๒๓๔. สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุฺชิตุนฺติ ยถา ปุพฺเพ คิหิภูโต สนฺนิธึ กตฺวา วตฺถุกาเม ปริภุฺชติ, เอวํ ติลตณฺฑุลสปฺปินวนีตาทีนิ สนฺนิธึ กตฺวา อิทานิ ปริภุฺชิตุํ อภพฺโพติ อตฺโถ. นนุ จ ขีณาสวสฺส วสนฏฺาเน ติลตณฺฑุลาทโย ปฺายนฺตีติ. โน น ปฺายนฺติ, น ปเนส เต อตฺตโน อตฺถาย เปติ, อผาสุกปพฺพชิตาทีนํ อตฺถาย เปติ. อนาคามิสฺส กถนฺติ. ตสฺสาปิ ปฺจ กามคุณา สพฺพโสว ปหีนา, ธมฺเมน ปน ลทฺธํ วิจาเรตฺวา ปริภุฺชติ.

๒๓๖. ปุตฺตมตาย ปุตฺตาติ โส กิร อิมํ ธมฺมํ สุตฺวา อาชีวกา มตา นามาติ สฺี หุตฺวา เอวมาห. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อาชีวกา มตา นาม, เตสํ มาตา ปุตฺตมตา โหติ, อิติ อาชีวกา ปุตฺตมตาย ปุตฺตา นาม โหนฺติ. สมเณ โคตเมติ สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยวาโส อตฺถิ, อฺตฺถ นตฺถีติ ทีเปติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สนฺทกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๓๗. เอวํ เม สุตนฺติ มหาสกุลุทายิสุตฺตํ. ตตฺถ โมรนิวาเปติ ตสฺมึ าเน โมรานํ อภยํ โฆเสตฺวา โภชนํ อทํสุ. ตสฺมา ตํ านํ โมรนิวาโปติ สงฺขํ คตํ. อนฺนภาโรติ เอกสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. ตถา วรธโรติ. อฺเ จาติ น เกวลํ อิเม ตโย, อฺเปิ อภิฺาตา พหู ปริพฺพาชกา. อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทีติ อิธ อปฺปสทฺทวินีโตติ อวตฺวาว อิทํ วุตฺตํ. กสฺมา? น หิ ภควา อฺเน วินีโตติ.

๒๓๘. ปุริมานีติ หิยฺโยทิวสํ อุปาทาย ปุริมานิ นาม โหนฺติ, ตโต ปรํ ปุริมตรานิ. กุตูหลสาลายนฺติ กุตูหลสาลา นาม ปจฺเจกสาลา นตฺถิ, ยตฺถ ปน นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา นานาวิธํ กถํ ปวตฺเตนฺติ, สา พหูนํ – ‘‘อยํ กึ วทติ, อยํ กึ วทตี’’ติ กุตูหลุปฺปตฺติฏฺานโต ‘‘กุตูหลสาลา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โกตูหลสาลา’’ติปิ ปาโ. ลาภาติ เย เอวรูเป สมณพฺราหฺมเณ ทฏฺุํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ ธมฺมกถํ วา เนสํ โสตุํ ลภนฺติ, เตสํ องฺคมคธานํ อิเม ลาภาติ อตฺโถ.

สงฺฆิโนติอาทีสุ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆิโน. สฺเวว คโณ เอเตสํ อตฺถีติ คณิโน. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริยาติ คณาจริยา. าตาติ ปฺาตา ปากฏา. ยถาภุจฺจคุเณหิ เจว อยถาภูตคุเณหิ จ สมุคฺคโต ยโส เอเตสํ อตฺถีติ ยสสฺสิโน. ปูรณาทีนฺหิ ‘‘อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ, อปฺปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสตี’’ติอาทินา นเยน ยโส สมุคฺคโต, ตถาคตสฺส ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทีหิ ยถาภูตคุเณหิ. ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา. สาธุสมฺมตาติ อิเม สาธู สุนฺทรา สปฺปุริสาติ เอวํ สมฺมตา. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต เจว อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส วิภาวิโน จ ปณฺฑิตชนสฺส. ตตฺถ ติตฺถิยา พาลชนสฺส เอวํ สมฺมตา, ตถาคโต ปณฺฑิตชนสฺส. อิมินา นเยน ปูรโณ กสฺสโป สงฺฆีติอาทีสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภควา ปน ยสฺมา อฏฺตึส อารมฺมณานิ วิภชนฺโต พหูนิ นิพฺพานโอตรณติตฺถานิ อกาสิ, ตสฺมา ‘‘ติตฺถกโร’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

กสฺมา ปเนเต สพฺเพปิ ตตฺถ โอสฏาติ? อุปฏฺากรกฺขณตฺถฺเจว ลาภสกฺการตฺถฺจ. เตสฺหิ เอวํ โหติ – ‘‘อมฺหากํ อุปฏฺากา สมณํ โคตมํ สรณํ คจฺเฉยฺยุํ, เต จ รกฺขิสฺสาม. สมณสฺส จ โคตมสฺส อุปฏฺาเก สกฺการํ กโรนฺเต ทิสฺวา อมฺหากมฺปิ อุปฏฺากา อมฺหากํ สกฺการํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา ยตฺถ ยตฺถ ภควา โอสรติ, ตตฺถ ตตฺถ สพฺเพ โอสรนฺติ.

๒๓๙. วาทํ อาโรเปตฺวาติ วาเท โทสํ อาโรเปตฺวา. อปกฺกนฺตาติ, อปคตา, เกจิ ทิสํ ปกฺกนฺตา, เกจิ คิหิภาวํ ปตฺตา, เกจิ อิมํ สาสนํ อาคตา. สหิตํ เมติ มยฺหํ วจนํ สหิตํ สิลิฏฺํ, อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีฆรตฺตาจิณฺณวเสน สุปฺปคุณํ, ตํ มยฺหํ เอกวจเนเนว วิปราวตฺตํ วิปริวตฺติตฺวา ิตํ, น กิฺจิ ชาตนฺติ อตฺโถ. อาโรปิโต เต วาโทติ มยา ตว วาเท โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ โทสโมจนตฺถํ จร วิจร, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา สิกฺขาติ อตฺโถ. นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยํ ปโหสิ, อิทาเนว นิพฺเพเหิ. ธมฺมกฺโกเสนาติ สภาวกฺโกเสน.

๒๔๐. ตํ โน โสสฺสามาติ ตํ อมฺหากํ เทสิตํ ธมฺมํ สุณิสฺสาม. ขุทฺทมธุนฺติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตํ ทณฺฑกมธุํ. อเนลกนฺติ นิทฺโทสํ อปคตมจฺฉิกณฺฑกํ. ปีเฬยฺยาติ ทเทยฺย. ปจฺจาสีสมานรูโปติ ปูเรตฺวา นุ โข โน โภชนํ ทสฺสตีติ ภาชนหตฺโถ ปจฺจาสีสมาโน ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส. สมฺปโยเชตฺวาติ อปฺปมตฺตกํ วิวาทํ กตฺวา.

๒๔๑. อิตรีตเรนาติ ลามกลามเกน. ปวิวิตฺโตติ อิทํ ปริพฺพาชโก กายวิเวกมตฺตํ สนฺธาย วทติ, ภควา ปน ตีหิ วิเวเกหิ วิวิตฺโตว.

๒๔๒. โกสกาหาราปีติ ทานปตีนํ ฆเร อคฺคภิกฺขาปนตฺถํ ขุทฺทกสราวา โหนฺติ, ทานปติโน อคฺคภตฺตํ วา ตตฺถ เปตฺวา ภุฺชนฺติ, ปพฺพชิเต สมฺปตฺเต ตํ ภตฺตํ ตสฺส เทนฺติ. ตํ สราวกํ โกสโกติ วุจฺจติ. ตสฺมา เย จ เอเกเนว ภตฺตโกสเกน ยาเปนฺติ, เต โกสกาหาราติ. เพลุวาหาราติ เพลุวมตฺตภตฺตาหารา. สมติตฺติกนฺติ โอฏฺวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาสมํ. อิมินา ธมฺเมนาติ อิมินา อปฺปาหารตาธมฺเมน. เอตฺถ ปน สพฺพากาเรเนว ภควา อนปฺปาหาโรติ น วตฺตพฺโพ. ปธานภูมิยํ ฉพฺพสฺสานิ อปฺปาหาโรว อโหสิ, เวรฺชายํ ตโย มาเส ปตฺโถทเนเนว ยาเปสิ ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑ ตโย มาเส ภิสมุฬาเลเหว ยาเปสิ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึ กาเล อปฺปาหาโร อโหสึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ. ตสฺมา ยทิ เต อิมินา ธมฺเมน สกฺกเรยฺยุํ, มยา หิ เต วิเสสตรา. อฺโ เจว ปน ธมฺโม อตฺถิ, เยน มํ เต สกฺกโรนฺตีติ ทสฺเสติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

ปํสุกูลิกาติ สมาทินฺนปํสุกูลิกงฺคา. ลูขจีวรธราติ สตฺถสุตฺตลูขานิ จีวรานิ ธารยมานา. นนฺตกานีติ อนฺตวิรหิตานิ วตฺถขณฺฑานิ, ยทิ หิ เนสํ อนฺโต ภเวยฺย, ปิโลติกาติ สงฺขํ คจฺเฉยฺยุํ. อุจฺจินิตฺวาติ ผาเลตฺวา ทุพฺพลฏฺานํ ปหาย ถิรฏฺานเมว คเหตฺวา. อลาพุโลมสานีติ อลาพุโลมสทิสสุตฺตานิ สุขุมานีติ ทีเปติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา จีวรสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ. อติมุตฺตกสุสานโต หิสฺส ปุณฺณทาสิยา ปารุปิตฺวา ปาติตสาณปํสุกูลํ คหณทิวเส อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี อกมฺปิ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล ปํสุกูลํ คณฺหึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

ปิณฺฑปาติกาติ อติเรกลาภํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนปิณฺฑปาติกงฺคา. สปทานจาริโนติ โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนสปทานจารา. อุฺฉาสเก วเต รตาติ อุฺฉาจริยสงฺขาเต ภิกฺขูนํ ปกติวเต รตา, อุจฺจนีจฆรทฺวารฏฺายิโน หุตฺวา กพรมิสฺสกํ ภตฺตํ สํหริตฺวา ปริภุฺชนฺตีติ อตฺโถ. อนฺตรฆรนฺติ พฺรหฺมายุสุตฺเต อุมฺมารโต ปฏฺาย อนฺตรฆรํ, อิธ อินฺทขีลโต ปฏฺาย อธิปฺเปตํ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา ปิณฺฑปาตสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ, อปฺปาหารตาย วุตฺตนิยาเมเนว ปน สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล นิมนฺตนํ น สาทยึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

รุกฺขมูลิกาติ ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนรุกฺขมูลิกงฺคา. อพฺโภกาสิกาติ ฉนฺนฺจ รุกฺขมูลฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนอพฺโภกาสิกงฺคา. อฏฺมาเสติ เหมนฺตคิมฺหิเก มาเส. อนฺโตวสฺเส ปน จีวรานุคฺคหตฺถํ ฉนฺนํ ปวิสนฺติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา เสนาสนสนฺโตเสน อสนฺตุฏฺโติ น วตฺตพฺโพ, เสนาสนสนฺโตโส ปนสฺส ฉพฺพสฺสิกมหาปธาเนน จ ปาลิเลยฺยกวนสณฺเฑน จ ทีเปตพฺโพ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว กาเล ฉนฺนํ น ปาวิสึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ.

อารฺิกาติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สมาทินฺนอารฺิกงฺคา. สงฺฆมชฺเฌ โอสรนฺตีติ อพทฺธสีมาย กถิตํ, พทฺธสีมายํ ปน วสนฺตา อตฺตโน วสนฏฺาเนเยว อุโปสถํ กโรนฺติ. เอตฺตาวตา จ สตฺถา โน ปวิวิตฺโตติ น วตฺตพฺโพ, ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ ปฏิสลฺลิยิตุ’’นฺติ (ปารา. ๑๖๒; ๕๖๕) เอวฺหิสฺส ปวิเวโก ปฺายติ. อิธ ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อหํ เอกสฺมึเยว ตถารูเป กาเล ปฏิสลฺลิยึ, มยฺหํ ปน สาวกา ธุตงฺคสมาทานโต ปฏฺาย ยาวชีวํ ธุตงฺคํ น ภินฺทนฺตี’’ติ. มมํ สาวกาติ มํ สาวกา.

๒๔๔. สนิทานนฺติ สปฺปจฺจยํ. กึ ปน อปฺปจฺจยํ นิพฺพานํ น เทเสตีติ. โน น เทเสติ, สเหตุกํ ปน ตํ เทสนํ กตฺวา เทเสติ, โน อเหตุกนฺติ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ปุริมสฺเสเวตํ เววจนํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ตํ วตาติ เอตฺถ วตาติ นิปาตมตฺตํ.

๒๔๕. อนาคตํ วาทปถนฺติ อชฺช เปตฺวา สฺเว วา ปุนทิวเส วา อฑฺฒมาเส วา มาเส วา สํวจฺฉเร วา ตสฺส ตสฺส ปฺหสฺส อุปริ อาคมนวาทปถํ. ทกฺขตีติ ยถา สจฺจโก นิคณฺโ อตฺตโน นิคฺคหณตฺถํ อาคตการณํ วิเสเสตฺวา วทนฺโต น อทฺทส, เอวํ น ทกฺขตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. สหธมฺเมนาติ สการเณน. อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตยฺยุนฺติ มม กถาวารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อนฺตรนฺตเร อตฺตโน กถํ ปเวเสยฺยุนฺติ อตฺโถ. น โข ปนาหํ, อุทายีติ, อุทายิ, อหํ อมฺพฏฺโสณทณฺฑกูฏทนฺตสจฺจกนิคณฺาทีหิ สทฺธึ มหาวาเท วตฺตมาเนปิ – ‘‘อโห วต เม เอกสาวโกปิ อุปมํ วา การณํ วา อาหริตฺวา ทเทยฺยา’’ติ เอวํ สาวเกสุ อนุสาสนึ น ปจฺจาสีสามิ. มมเยวาติ เอวรูเปสุ าเนสุ สาวกา มมเยว อนุสาสนึ โอวาทํ ปจฺจาสีสนฺติ.

๒๔๖. เตสาหํ จิตฺตํ อาราเธมีติ เตสํ อหํ ตสฺส ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ คณฺหามิ สมฺปาเทมิ ปริปูเรมิ, อฺํ ปุฏฺโ อฺํ น พฺยากโรมิ, อมฺพํ ปุฏฺโ ลพุชํ วิย ลพุชํ วา ปุฏฺโ อมฺพํ วิย. เอตฺถ จ ‘‘อธิสีเล สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน พุทฺธสีลํ นาม กถิตํ, ‘‘อภิกฺกนฺเต าณทสฺสเน สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาณํ, ‘‘อธิปฺาย สมฺภาเวนฺตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน านุปฺปตฺติกปฺา, ‘‘เยน ทุกฺเขนา’’ติ วุตฺตฏฺาเน สจฺจพฺยากรณปฺา. ตตฺถ สพฺพฺุตฺาณฺจ สจฺจพฺยากรณปฺฺจ เปตฺวา อวเสสา ปฺา อธิปฺํ ภชติ.

๒๔๗. อิทานิ เตสํ เตสํ วิเสสาธิคมานํ ปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ปุน จปรํ อุทายีติอาทิมาห. ตตฺถ อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ อภิฺาโวสานสงฺขาตฺเจว อภิฺาปารมีสงฺขาตฺจ อรหตฺตํ ปตฺตา.

สมฺมปฺปธาเนติ อุปายปธาเน. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทํ ชเนติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ วีริยํ ปวตฺเตติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ อุปายปธานํ กโรติ. ภาวนาย ปาริปูริยาติ วฑฺฒิยา ปริปูรณตฺถํ. อปิเจตฺถ – ‘‘ยา ิติ, โส อสมฺโมโส…เป… ยํ เวปุลฺลํ, สา ภาวนาปาริปูรี’’ติ (วิภ. ๔๐๖) เอวํ ปุริมํ ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมสฺส อตฺโถติปิ เวทิตพฺพํ.

อิเมหิ ปน สมฺมปฺปธาเนหิ กึ กถิตํ? กสฺสปสํยุตฺตปริยาเยน สาวกสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา กถิตา. วุตฺตฺเหตํ ตตฺถ –

‘‘จตฺตาโรเม, อาวุโส, สมฺมปฺปธานา. กตเม จตฺตาโร? อิธาวุโส, ภิกฺขุ, อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรติ. อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุนฺติ อาตปฺปํ กโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๕).

เอตฺถ จ ปาปกา อกุสลาติ โลภาทโย เวทิตพฺพา. อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา เจว มคฺโค จ, อุปฺปนฺนา กุสลา นาม สมถวิปสฺสนาว. มคฺโค ปน สกึ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมาโน อนตฺถาย สํวตฺตนโก นาม นตฺถิ. โส หิ ผลสฺส ปจฺจยํ ทตฺวาว นิรุชฺฌติ. ปุริมสฺมิมฺปิ วา สมถวิปสฺสนาว คเหตพฺพาติ วุตฺตํ, ตํ ปน น ยุตฺตํ.

ตตฺถ ‘‘อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตี’’ติ อตฺถสฺส อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ขีณาสวตฺเถโร ‘‘มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิสฺสามี’’ติ สมาปตฺติลาภินา ภณฺฑคาหกสามเณเรน สทฺธึ ชนปทโต มหาวิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารปริเวณํ ปาวิสิ. สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺเฆ เจติยํ วนฺทมาเน เจติยํ วนฺทนตฺถาย น นิกฺขมิ. กสฺมา? ขีณาสวานฺหิ ตีสุ รตเนสุ มหนฺตํ คารวํ โหติ. ตสฺมา ภิกฺขุสงฺเฆ วนฺทิตฺวา ปฏิกฺกมนฺเต มนุสฺสานํ สายมาสภุตฺตเวลายํ สามเณรมฺปิ อชานาเปตฺวา ‘‘เจติยํ วนฺทิสฺสามี’’ติ เอกโกว นิกฺขมิ. สามเณโร – ‘‘กึ นุ โข เถโร อเวลาย เอกโกว คจฺฉติ, ชานิสฺสามี’’ติ อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโก นิกฺขมิ. เถโร อนาวชฺชเนน ตสฺส อาคมนํ อชานนฺโต ทกฺขิณทฺวาเรน เจติยงฺคณํ อารุหิ. สามเณโรปิ อนุปทํเยว อารุฬฺโห.

มหาเถโร มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา สพฺพํ เจตโส สมนฺนาหริตฺวา หฏฺปหฏฺโ เจติยํ วนฺทติ. สามเณโร เถรสฺส วนฺทนาการํ ทิสฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม อติวิย ปสนฺนจิตฺโต วนฺทติ, กึ นุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูชํ กเรยฺยา’’ติ จินฺเตสิ. เถโร วนฺทิตฺวา อุฏฺาย สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา มหาเจติยํ อุลฺโลเกตฺวา ิโต. สามเณโร อุกฺกาสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสิ. เถโร ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกนฺโต ‘‘กทา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตุมฺหากํ เจติยํ วนฺทนกาเล, ภนฺเต. อติวิย ปสนฺนา เจติยํ วนฺทิตฺถ กึ นุ โข ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูเชยฺยาถาติ? อาม สามเณร อิมสฺมึ เจติเย วิย อฺตฺร เอตฺตกํ ธาตูนํ นิธานํ นาม นตฺถิ, เอวรูปํ อสทิสํ มหาถูปํ ปุปฺผานิ ลภิตฺวา โก น ปูเชยฺยาติ. เตน หิ, ภนฺเต, อธิวาเสถ, อาหริสฺสามีติ ตาวเทว ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา วณฺณคนฺธสมฺปนฺนปุปฺผานิ ปริสฺสาวนํ ปูเรตฺวา มหาเถเร ทกฺขิณมุขโต ปจฺฉิมํ มุขํ อสมฺปตฺเตเยว อาคนฺตฺวา ปุปฺผปริสฺสาวนํ หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปูเชถ, ภนฺเต,’’ติ อาห. เถโร ‘‘อติมนฺทานิ โน สามเณร ปุปฺผานี’’ติ อาห. คจฺฉถ, ภนฺเต, ภควโต คุเณ อาวชฺชิตฺวา ปูเชถาติ.

เถโร ปจฺฉิมมุขนิสฺสิเตน โสปาเณน อารุยฺห กุจฺฉิเวทิกาภูมิยํ ปุปฺผปูชํ กาตุํ อารทฺโธ. เวทิกาภูมิยํ ปริปุณฺณานิ ปุปฺผานิ ปติตฺวา ทุติยภูมิยํ ชณฺณุปมาเณน โอธินา ปูรยึสุ. ตโต โอตริตฺวา ปาทปิฏฺิกปนฺตึ ปูเชสิ. สาปิ ปริปูริ. ปริปุณฺณภาวํ ตฺวา เหฏฺิมตเล วิกิรนฺโต อคมาสิ. สพฺพํ เจติยงฺคณํ ปริปูริ. ตสฺมึ ปริปุณฺเณ ‘‘สามเณร ปุปฺผานิ น ขียนฺตี’’ติ อาห. ปริสฺสาวนํ, ภนฺเต, อโธมุขํ กโรถาติ. อโธมุขํ กตฺวา จาเลสิ, ตทา ปุปฺผานิ ขีณานิ. ปริสฺสาวนํ สามเณรสฺส ทตฺวา สทฺธึ หตฺถิปากาเรน เจติยํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ปริเวณํ คจฺฉนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘ยาว มหิทฺธิโก วตายํ สามเณโร, สกฺขิสฺสติ นุ โข อิมํ อิทฺธานุภาวํ รกฺขิตุ’’นฺติ. ตโต ‘‘น สกฺขิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา สามเณรมาห – ‘‘สามเณร ตฺวํ อิทานิ มหิทฺธิโก, เอวรูปํ ปน อิทฺธึ นาเสตฺวา ปจฺฉิมกาเล กาณเปสการิยา หตฺเถน มทฺทิตกฺชิยํ ปิวิสฺสสี’’ติ. ทหรกภาวสฺส นาเมส โทโสยํ, โส อุปชฺฌายสฺส กถายํ สํวิชฺชิตฺวา – ‘‘กมฺมฏฺานํ เม, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’’ติ น ยาจิ, อมฺหากํ อุปชฺฌาโย กึ วทตีติ ตํ ปน อสุณนฺโต วิย อคมาสิ.

เถโร มหาเจติยฺจ มหาโพธิฺจ วนฺทิตฺวา สามเณรํ ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา อนุปุพฺเพน กุเฏฬิติสฺสมหาวิหารํ อคมาสิ. สามเณโร อุปชฺฌายสฺส ปทานุปทิโก หุตฺวา ภิกฺขาจารํ น คจฺฉติ, ‘‘กตรํ คามํ ปวิสถ, ภนฺเต,’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปน ‘‘อิทานิ เม อุปชฺฌาโย คามทฺวารํ ปตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา อตฺตโน จ อุปชฺฌายสฺส จ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปิณฺฑาย ปวิสติ. เถโร สพฺพกาลํ โอวทติ – ‘‘สามเณร มา เอวมกาสิ, ปุถุชฺชนิทฺธิ นาม จลา อนิพทฺธา, อสปฺปายํ รูปาทิอารมฺมณํ ลภิตฺวา อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ, สนฺตาย สมาปตฺติยา ปริหีนาย พฺรหฺมจริยวาโส สนฺถมฺภิตุํ น สกฺโกตี’’ติ. สามเณโร ‘‘กึ กเถติ มยฺหํ อุปชฺฌาโย’’ติ โสตุํ น อิจฺฉติ, ตเถว กโรติ. เถโร อนุปุพฺเพน เจติยวนฺทนํ กโรนฺโต กมฺมุพินฺทุวิหารํ นาม คโต. ตตฺถ วสนฺเตปิ เถเร สามเณโร ตเถว กโรติ.

อเถกทิวสํ เอกา เปสการธีตา อภิรูปา ปมวเย ิตา กมฺมพินฺทุคามโต นิกฺขมิตฺวา ปทุมสฺสรํ โอรุยฺห คายมานา ปุปฺผานิ ภฺชติ. ตสฺมึ สมเย สามเณโร ปทุมสฺสรมตฺถเกน คจฺฉติ, คจฺฉนฺโต ปน สิเลสิกาย กาณมจฺฉิกา วิย ตสฺสา คีตสทฺเท พชฺฌิ. ตาวเทวสฺส อิทฺธิ อนฺตรหิตา, ฉินฺนปกฺขกาโก วิย อโหสิ. สนฺตสมาปตฺติพเลน ปน ตตฺเถว อุทกปิฏฺเ อปติตฺวา สิมฺพลิตูลํ วิย ปตมานํ อนุปุพฺเพน ปทุมสรตีเร อฏฺาสิ. โส เวเคน คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา นิวตฺติ. มหาเถโร ‘‘ปเคเวตํ มยา ทิฏฺํ, นิวาริยมาโนปิ น นิวตฺติสฺสตี’’ติ กิฺจิ อวตฺวา ปิณฺฑาย ปาวิสิ.

สามเณโร คนฺตฺวา ปทุมสรตีเร อฏฺาสิ ตสฺสา ปจฺจุตฺตรณํ อาคมยมาโน. สาปิ สามเณรํ อากาเสน คจฺฉนฺตฺจ ปุน อาคนฺตฺวา ิตฺจ ทิสฺวา ‘‘อทฺธา เอส มํ นิสฺสาย อุกฺกณฺิโต’’ติ ตฺวา ‘‘ปฏิกฺกม สามเณรา’’ติ อาห. โส ปฏิกฺกมิ. อิตรา ปจฺจุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต,’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สา พหูหิ การเณหิ ฆราวาเส อาทีนวํ พฺรหฺมจริยวาเส อานิสํสฺจ ทสฺเสตฺวา โอวทมานาปิ ตสฺส อุกฺกณฺํ วิโนเทตุํ อสกฺโกนฺตี – ‘‘อยํ มม การณา เอวรูปาย อิทฺธิยา ปริหีโน, น ทานิ ยุตฺตํ ปริจฺจชิตุ’’นฺติ อิเธว ติฏฺาติ วตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. เตปิ อาคนฺตฺวา นานปฺปการํ โอวทมานา วจนํ อคฺคณฺหนฺตํ อาหํสุ – ‘‘ตฺวํ อมฺเห อุจฺจกุลาติ สลฺลกฺเขสิ, มยํ เปสการา. สกฺขิสฺสสิ เปสการกมฺมํ กาตุ’’นฺติ สามเณโร อาห – ‘‘อุปาสก คิหิภูโต นาม เปสการกมฺมํ วา กเรยฺย นฬการกมฺมํ วา, กึ อิมินา สาฏกมตฺเตน โลภํ กโรถา’’ติ. เปสกาโร อุทเร พทฺธสาฏกํ ทตฺวา ฆรํ เนตฺวา ธีตรํ อทาสิ.

โส เปสการกมฺมํ อุคฺคณฺหิตฺวา เปสกาเรหิ สทฺธึ สาลาย กมฺมํ กโรติ. อฺเสํ อิตฺถิโย ปาโตว ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา อาหรึสุ, ตสฺส ภริยา น ตาว อาคจฺฉติ. โส อิตเรสุ กมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา ภุฺชมาเนสุ ตสรํ วฏฺเฏนฺโต นิสีทิ. สา ปจฺฉา อคมาสิ. อถ นํ โส ‘‘อติจิเรน อาคตาสี’’ติ ตชฺเชสิ. มาตุคาโม จ นาม อปิ จกฺกวตฺติราชานํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธจิตฺตํ ตฺวา ทาสํ วิย สลฺลกฺเขติ. ตสฺมา สา เอวมาห – ‘‘อฺเสํ ฆเร ทารุปณฺณโลณาทีนิ สนฺนิหิตานิ, พาหิรโต อาหริตฺวา ทายกา เปสนตการกาปิ อตฺถิ, อหํ ปน เอกิกาว, ตฺวมฺปิ มยฺหํ ฆเร อิทํ อตฺถิ อิทํ นตฺถีติ น ชานาสิ. สเจ อิจฺฉสิ, ภุฺช, โน เจ อิจฺฉสิ, มา ภุฺชา’’ติ. โส ‘‘น เกวลฺจ อุสฺสูเร ภตฺตํ อาหรสิ, วาจายปิ มํ ฆฏฺเฏสี’’ติ กุชฺฌิตฺวา อฺํ ปหรณํ อปสฺสนฺโต ตเมว ตสรทณฺฑกํ ตสรโต ลุฺจิตฺวา ขิปิ. สา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อีสกํ ปริวตฺติ. ตสรทณฺฑกสฺส จ โกฏิ นาม ติขิณา โหติ, สา ตสฺสา ปริวตฺตมานาย อกฺขิโกฏิยํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. สา อุโภหิ หตฺเถหิ เวเคน อกฺขึ อคฺคเหสิ, ภินฺนฏฺานโต โลหิตํ ปคฺฆรติ. โส ตสฺมึ กาเล อุปชฺฌายสฺส วจนํ อนุสฺสริ – ‘‘อิทํ สนฺธาย มํ อุปชฺฌาโย ‘อนาคเต กาเล กาณเปสการิยา หตฺเถหิ มทฺทิตกฺชิยํ ปิวิสฺสสี’ติ อาห, อิทํ เถเรน ทิฏฺํ ภวิสฺสติ, อโห ทีฆทสฺสี อยฺโย’’ติ มหาสทฺเทน โรทิตุํ อารภิ. ตเมนํ อฺเ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โรทิ, อกฺขิ นาม ภินฺนํ น สกฺกา โรทเนน ปฏิปากติกํ กาตุ’’นฺติ อาหํสุ. โส ‘‘นาหเมตมตฺถํ โรทามิ, อปิจ โข อิมํ สนฺธาย โรทามี’’ติ สพฺพํ ปฏิปาฏิยา กเถสิ. เอวํ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺติ.

อปรมฺปิ วตฺถุ – ตึสมตฺตา ภิกฺขู กลฺยาณิมหาเจติยํ วนฺทิตฺวา อฏวิมคฺเคน มหามคฺคํ โอตรมานา อนฺตรามคฺเค ฌามเขตฺเต กมฺมํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตํ เอกํ มนุสฺสํ อทฺทสํสุ. ตสฺส สรีรํ มสิมกฺขิตํ วิย อโหสิ. มสิมกฺขิตํเยว เอกํ กาสาวํ กจฺฉํ ปีเฬตฺวา นิวตฺถํ, โอโลกิยมาโน ฌามขาณุโก วิย ขายติ. โส ทิวสภาเค กมฺมํ กตฺวา อุปฑฺฒชฺฌายมานานํ ทารูนํ กลาปํ อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิยํ วิปฺปกิณฺเณหิ เกเสหิ กุมฺมคฺเคน อาคนฺตฺวา ภิกฺขูนํ สมฺมุเข อฏฺาสิ. สามเณรา ทิสฺวา อฺมฺํ โอโลกยมานา, – ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ ปิตา ตุยฺหํ มหาปิตา ตุยฺหํ มาตุโล’’ติ หสมานา คนฺตฺวา ‘‘โกนาโม ตฺวํ อุปาสกา’’ติ นามํ ปุจฺฉึสุ. โส นามํ ปุจฺฉิโต วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ทารุกลาปํ ฉฑฺเฑตฺวา วตฺถํ สํวิธาย นิวาเสตฺวา มหาเถเร วนฺทิตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตาว, ภนฺเต,’’ติ อาห. มหาเถรา อฏฺํสุ.

ทหรสามเณรา อาคนฺตฺวา มหาเถรานํ สมฺมุขาปิ ปริหาสํ กโรนฺติ. อุปาสโก อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ ปสฺสิตฺวา ปริหสถ, เอตฺตเกเนว มตฺถกํ ปตฺตมฺหาติ มา สลฺลกฺเขถ. อหมฺปิ ปุพฺเพ ตุมฺหาทิโสว สมโณ อโหสึ. ตุมฺหากํ ปน จิตฺเตกคฺคตามตฺตกมฺปิ นตฺถิ, อหํ อิมสฺมึ สาสเน มหิทฺธิโก มหานุภาโว อโหสึ, อากาสํ คเหตฺวา ปถวึ กโรมิ, ปถวึ อากาสํ. ทูรํ คณฺหิตฺวา สนฺติกํ กโรมิ, สนฺติกํ ทูรํ. จกฺกวาฬสตสหสฺสํ ขเณน วินิวิชฺฌามิ. หตฺเถ เม ปสฺสถ, อิทานิ มกฺกฏหตฺถสทิสา, อหํ อิเมเหว หตฺเถหิ อิธ นิสินฺโนว จนฺทิมสูริเย ปรามสึ. อิเมสํเยว ปาทานํ จนฺทิมสูริเย ปาทกถลิกํ กตฺวา นิสีทึ. เอวรูปา เม อิทฺธิ ปมาเทน อนฺตรหิตา, ตุมฺเห มา ปมชฺชิตฺถ. ปมาเทน หิ เอวรูปํ พฺยสนํ ปาปุณนฺติ. อปฺปมตฺตา วิหรนฺตา ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กโรนฺติ. ตสฺมา ตุมฺเห มฺเว อารมฺมณํ กริตฺวา อปฺปมตฺตา โหถ, ภนฺเต,’’ติ ตชฺเชตฺวา โอวาทมทาสิ. เต ตสฺส กเถนฺตสฺเสว สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา วิปสฺสมานา ตึสชนา ตตฺเถว อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ. เอวมฺปิ อุปฺปนฺนา สมถวิปสฺสนา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ เจตฺถ ‘‘อนุปฺปนฺโน วา กามาสโว น อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนํ, โอกาสกตุปฺปนฺนํ, ภูมิลทฺธุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ เย กิเลสา วิชฺชมานา อุปฺปาทาทิสมงฺคิโน, อิทํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. กมฺเม ปน ชวิเต อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธวิปาโก ภุตฺวา วิคตํ นาม. กมฺมํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธํ ภวิตฺวา วิคตํ นาม. ตทุภยมฺปิ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนนฺติ สงฺขํ คจฺฉติ. กุสลากุสลํ กมฺมํ อฺสฺส กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ, เอวํ กเต โอกาเส วิปาโก อุปฺปชฺชมาโน โอกาสกรณโต ปฏฺาย อุปฺปนฺโนติ สงฺขํ คจฺฉติ. อิทํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ปฺจกฺขนฺธา ปน วิปสฺสนาย ภูมิ นาม. เต อตีตาทิเภทา โหนฺติ. เตสุ อนุสยิตกิเลสา ปน อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. อตีตขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ หิ อปฺปหีนาว โหนฺติ, อนาคตขนฺเธสุ, ปจฺจุปฺปนฺนขนฺเธสุ อนุสยิตาปิ อปฺปหีนาว โหนฺติ. อิทํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม. เตนาหุ โปราณา – ‘‘ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมุคฺฆาติตกิเลสา ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาติ สงฺขํ คจฺฉนฺตี’’ติ.

อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ สมุทาจารุปฺปนฺนํ, อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ, อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ สมฺปติ วตฺตมานํเยว สมุทาจารุปฺปนฺนํ นาม. สกึ จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา อารมฺมเณ นิมิตฺเต คหิเต อนุสฺสริตานุสฺสริตกฺขเณ กิเลสา นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อารมฺมณสฺส อธิคหิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา ขีรรุกฺขสฺส กุาริยา อาหตาหตฏฺาเน ขีรํ น นิกฺขมิสฺสตีติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ นาม. สมาปตฺติยา อวิกฺขมฺภิตา กิเลสา ปน อิมสฺมึ นาม าเน นุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? อวิกฺขมฺภิตตฺตา. ยถา กึ? ยถา สเจ ขีรรุกฺเข กุาริยา อาหเนยฺยุํ, อิมสฺมึ นาม าเน ขีรํ น นิกฺขเมยฺยาติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ. อิทํ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ นาม. มคฺเคน อสมุคฺฆาติตกิเลสา ปน ภวคฺเค นิพฺพตฺตสฺสาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อิทํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนํ นาม.

อิเมสุ อุปฺปนฺเนสุ วตฺตมานุปฺปนฺนํ ภุตฺวาวิคตุปฺปนฺนํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ สมุทาจารุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ น มคฺควชฺฌํ, ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ อารมฺมณาธิคหิตุปฺปนฺนํ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ อสมุคฺฆาติตุปฺปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ มคฺควชฺฌํ. มคฺโค หิ อุปฺปชฺชมาโน เอเต กิเลเส ปชหติ. โส เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘หฺจิ อตีเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ ขีณํ เขเปติ, นิรุทฺธํ นิโรเธติ, วิคตํ วิคเมติ อตฺถงฺคตํ อตฺถงฺคเมติ. อตีตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหติ. หฺจิ อนาคเต กิเลเส ปชหติ, เตน หิ อชาตํ ปชหติ, อนิพฺพตฺตํ, อนุปฺปนฺนํ, อปาตุภูตํ ปชหติ. อนาคตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหติ, หฺจิ ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหติ, เตน หิ รตฺโต ราคํ ปชหติ, ทุฏฺโ โทสํ, มูฬฺโห โมหํ, วินิพทฺโธ มานํ, ปรามฏฺโ ทิฏฺึ, วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจํ, อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉํ, ถามคโต อนุสยํ ปชหติ. กณฺหสุกฺกธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺติ. สํกิเลสิกา มคฺคภาวนา โหติ…เป… เตน หิ นตฺถิ มคฺคภาวนา, นตฺถิ ผลสจฺฉิกิริยา, นตฺถิ กิเลสปฺปหานํ, นตฺถิ ธมฺมาภิสมโยติ. อตฺถิ มคฺคภาวนา…เป… อตฺถิ ธมฺมาภิสมโยติ. ยถา กถํ วิย, เสยฺยถาปิ ตรุโณ รุกฺโข อชาตผโล…เป… อปาตุภูตาเยว น ปาตุภวนฺตี’’ติ.

อิติ ปาฬิยํ อชาตผลรุกฺโข อาคโต, ชาตผลรุกฺเขน ปน ทีเปตพฺพํ. ยถา หิ สผโล ตรุณมฺพรุกฺโข, ตสฺส ผลานิ มนุสฺสา ปริภุฺเชยฺยุํ, เสสานิ ปาเตตฺวา ปจฺฉิโย ปูเรยฺยุํ. อถฺโ ปุริโส ตํ ผรสุนา ฉินฺเทยฺย, เตนสฺส เนว อตีตานิ ผลานิ นาสิตานิ โหนฺติ, น อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ นาสิตานิ. อตีตานิ หิ มนุสฺเสหิ ปริภุตฺตานิ, อนาคตานิ อนิพฺพตฺตานิ, น สกฺกา นาเสตุํ. ยสฺมึ ปน สมเย โส ฉินฺโน, ตทา ผลานิเยว นตฺถีติ ปจฺจุปฺปนฺนานิปิ อนาสิตานิ. สเจ ปน รุกฺโข อจฺฉินฺโน, อถสฺส ปถวีรสฺจ อาโปรสฺจ อาคมฺม ยานิ ผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยุํ, ตานิ นาสิตานิ โหนฺติ. ตานิ หิ อชาตาเนว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาเนว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาเนว น ปาตุภวนฺติ, เอวเมว มคฺโค นาปิ อตีตาทิเภเท กิเลเส ปชหติ, นาปิ น ปชหติ. เยสฺหิ กิเลสานํ มคฺเคน ขนฺเธสุ อปริฺาเตสุ อุปฺปตฺติ สิยา, มคฺเคน อุปฺปชฺชิตฺวา ขนฺธานํ ปริฺาตตฺตา เต กิเลสา อชาตาว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาว น นิพฺพตฺตนฺติ, อปาตุภูตาว น ปาตุภวนฺติ, ตรุณปุตฺตาย อิตฺถิยา ปุน อวิชายนตฺถํ, พฺยาธิตานํ โรควูปสมนตฺถํ ปีตเภสชฺเชหิ จาปิ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. เอวํ มคฺโค เย กิเลเส ปชหติ, เต อตีตา วา อนาคตา วา ปจฺจุปฺปนฺนา วาติ น วตฺตพฺพา, น จ มคฺโค กิเลเส น ปชหติ. เย ปน มคฺโค กิเลเส ปชหติ, เต สนฺธาย ‘‘อุปฺปนฺนานํ ปาปกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

น เกวลฺจ มคฺโค กิเลเสเยว ปชหติ, กิเลสานํ ปน อปฺปหีนตฺตา เย จ อุปฺปชฺเชยฺยุํ อุปาทินฺนกกฺขนฺธา, เตปิ ปชหติเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสาเร เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ นามฺจ รูปฺจ, เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติ (จูฬนิ. ๖) วิตฺถาโร. อิติ มคฺโค อุปาทินฺนอนุปาทินฺนโต วุฏฺาติ. ภววเสน ปน โสตาปตฺติมคฺโค อปายภวโต วุฏฺาติ, สกทาคามิมคฺโค สุคติภเวกเทสโต, อนาคามิมคฺโค สุคติกามภวโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวโต วุฏฺาติ. สพฺพภเวหิ วุฏฺาติเยวาติปิ วทนฺติ.

อถ มคฺคกฺขเณ กถํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทาย ภาวนา โหติ, กถํ วา อุปฺปนฺนานํ ิติยาติ. มคฺคปฺปวตฺติยาเยว. มคฺโค หิ ปวตฺตมาโน ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อนุปฺปนฺโน นาม วุจฺจติ. อนาคตปุพฺพฺหิ านํ อาคนฺตฺวา อนนุภูตปุพฺพํ วา อารมฺมณํ อนุภวิตฺวา วตฺตาโร ภวนฺติ ‘‘อนาคตฏฺานํ อาคตมฺหา, อนนุภูตํ อารมฺมณํ อนุภวามา’’ติ. ยา จสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามาติ ิติยา ภาเวตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิทฺธิปาเทสุ สงฺเขปกถา เจโตขิลสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๘๕ อาทโย) วุตฺตา. อุปสมมานํ คจฺฉติ, กิเลสูปสมตฺถํ วา คจฺฉตีติ อุปสมคามี. สมฺพุชฺฌมานา คจฺฉติ, มคฺคสมฺโพธตฺถาย วา คจฺฉตีติ สมฺโพธคามี.

วิเวกนิสฺสิตาทีนิ สพฺพาสวสํวเร วุตฺตานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปนายํ โพธิปกฺขิยกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา.

๒๔๘. วิโมกฺขกถายํ วิโมกฺเขติ เกนฏฺเน วิโมกฺขา, อธิมุจฺจนฏฺเน. โก ปนายํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺงฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปนตฺโถ ปจฺฉิมวิโมกฺเข นตฺถิ, ปุริเมสุ สพฺเพสุ อตฺถิ. รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ เอตฺถ อชฺฌตฺตเกสาทีสุ นีลกสิณาทิวเสน อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺส อตฺถีติ รูปี. พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทีนิ รูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺต พหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส จตฺตาริปิ รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ. สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ สุภนฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา สุภนฺติ อธิมุตฺโต โหตีติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน ‘‘กถํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข. อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป… เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. กรุณาสหคเตน, มุทิตาสหคเตน, อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ…เป… อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. เอวํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ.

สพฺพโส รูปสฺานนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตเมว. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโขติ อยํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สพฺพโส วิสฺสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา อฏฺโม อุตฺตโม วิโมกฺโข นาม.

๒๔๙. อภิภายตนกถายํ อภิภายตนานีติ อภิภวนการณานิ. กึ อภิภวนฺติ? ปจฺจนีกธมฺเมปิ อารมฺมณานิปิ. ตานิ หิ ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจนีกธมฺเม อภิภวนฺติ, ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริตาย อารมฺมณานิ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺีติอาทีสุ ปน อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมวเสน อชฺฌตฺตํ รูปสฺี นาม โหติ. อชฺฌตฺตฺจ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ, ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ, โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ, โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. ตํ ปน สุนีลํ สุปีตกํ สุโลหิตกํ สุโอทาตํ น โหติ, อสุวิสุทฺธเมว โหติ.

เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺเสตํ ปริกมฺมํ อชฺฌตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, นิมิตฺตํ ปน พหิทฺธา, โส เอวํ อชฺฌตฺตํ ปริกมฺมสฺส พหิทฺธา จ อปฺปนาย วเสน – ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตวเสเนว อิทมภิภายตนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘กิเมตฺถ ภุฺชิตพฺพํ อตฺถี’’ติ สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมวํ าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ – ‘‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส อาโภโค กถิโต, โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยํ. เอวํสฺี โหตีติ อาโภคสฺายปิ ฌานสฺายปิ เอวํสฺี โหติ. อภิภวสฺา หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ อตฺถิ, อาโภคสฺา ปน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺเสว.

อปฺปมาณานีติ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ, มหนฺตานีติ อตฺโถ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘‘อฺาปิ โหตุ, อฺาปิ โหตุ, กิเมสา มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ ตํ น มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กิเมตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, นยิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ ตานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต. เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺส ปริกมฺมมฺปิ นิมิตฺตมฺปิ พหิทฺธาว อุปฺปนฺนํ, โส เอวํ พหิทฺธา ปริกมฺมสฺส เจว อปฺปนาย จ วเสน – ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ จตุตฺถาภิภายตเน วุตฺตนยเมว. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เนสํ สปฺปายตา วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเคจริยนิทฺเทเส วุตฺตา.

ปฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน. นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน. อปฺายมานวิวรานิ อสมฺภินฺนวณฺณานิ เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสวเสน วุตฺตํ, นีโลภาสานิ นีลปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. วิสุทฺธวณฺณวเสเนว หิ อิมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. อุมาปุปฺผนฺติ เอตฺหิ ปุปฺผํ สินิทฺธํ มุทุํ ทิสฺสมานมฺปิ นีลเมว โหติ. คิริกณฺณิกปุปฺผาทีนิ ปน ทิสฺสมานานิ เสตธาตุกานิ โหนฺติ. ตสฺมา อิทเมว คหิตํ, น ตานิ. พาราณเสยฺยกนฺติ พาราณสิยํ ภวํ. ตตฺถ กิร กปฺปาโสปิ มุทุ, สุตฺตกนฺติกาโยปิ ตนฺตวายาปิ เฉกา, อุทกมฺปิ สุจิ สินิทฺธํ, ตสฺมา วตฺถํ อุภโตภาควิมฏฺํ โหติ, ทฺวีสุ ปสฺเสสุ มฏฺํ มุทุ สินิทฺธํ ขายติ. ปีตานีติอาทีสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วา’’ติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณฺเจว ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต วุตฺตเมว.

อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ อิโต ปุพฺเพสุ สติปฏฺานาทีสุ เต ธมฺเม ภาเวตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตาว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา นาม โหนฺติ, อิเมสุ ปน อฏฺสุ อภิภายตเนสุ จิณฺณวสีภาวาเยว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา นาม.

๒๕๐. กสิณกถายํ สกลฏฺเน กสิณานิ, ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานิ. อุทฺธนฺติ อุปริ คคนตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺา ภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลมิว สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํอโธติริย’’นฺติ. อทฺวยนฺติ ทิสาอนุทิสาสุ อทฺวยํ. อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ อนฺํ, เอวเมวํ ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ, นตฺถิ ตสฺส อฺโ กสิณสมฺเภโทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, อยมสฺส อาทิ, อิทํ มชฺฌนฺติ ปมาณํ คณฺหาตีติ. วิฺาณกสิณนฺติ เจตฺถ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตํ วิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส, กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํอโธติริยตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. กมฺมฏฺานภาวนานเยน ปเนตานิ ปถวีกสิณาทีนิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตาเนว. อิธาปิ จิณฺณวสิภาเวเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตถา อิโต อนนฺตเรสุ จตูสุ ฌาเนสุ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาอสฺสปุรสุตฺเต วุตฺตเมว.

๒๕๒. วิปสฺสนาาเณ ปน รูปีติอาทีนมตฺโถ วุตฺโตเยว. เอตฺถ สิตเมตฺถ ปฏิพทฺธนฺติ เอตฺถ จาตุมหาภูติเก กาเย นิสฺสิตฺจ ปฏิพทฺธฺจ. สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ สุปริสุทฺธอากรสมุฏฺิโต. สุปริกมฺมกโตติ สุฏฺุ กตปริกมฺโม อปนีตปาสาณสกฺขโร. อจฺโฉติ ตนุจฺฉวิ. วิปฺปสนฺโนติ สุฏฺุ วิปฺปสนฺโน. สพฺพาการสมฺปนฺโนติ โธวน เวธนาทีหิ สพฺเพหิ อากาเรหิ สมฺปนฺโน. นีลนฺติอาทีหิ วณฺณสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ตาทิสฺหิ อาวุตํ ปากฏํ โหติ.

เอวเมว โขติ เอตฺถ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ – มณิ วิย หิ กรชกาโย. อาวุตสุตฺตํ วิย วิปสฺสนาาณํ. จกฺขุมา ปุริโส วิย วิปสฺสนาลาภี ภิกฺขุ. หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺขโต ‘‘อยํ โข มณี’’ติ มณิโน อาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จาตุมหาภูติกกายสฺส อาวิภูตกาโล. ‘‘ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุต’’นฺติ สุตฺตสฺส อาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตทารมฺมณานํ ผสฺสปฺจมกานํ วา สพฺพจิตฺตเจตสิกานํ วา วิปสฺสนาาณสฺเสว วา อาวิภูตกาโลติ.

กึ ปเนตํ าณสฺส อาวิภูตํ, ปุคฺคลสฺสาติ. าณสฺส, ตสฺส ปน อาวิภาวตฺตา ปุคฺคลสฺส อาวิภูตาว โหนฺติ. อิทฺจ วิปสฺสนาาณํ มคฺคสฺส อนนฺตรํ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อภิฺาวาเร อารทฺเธ เอตสฺส อนฺตราวาโร นตฺถิ, ตสฺมา อิเธว ทสฺสิตํ. ยสฺมา จ อนิจฺจาทิวเสน อกตสมฺมสนสฺส ทิพฺพาย โสตธาตุยา เภรวสทฺทํ สุณนฺโต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา เภรเว ขนฺเธ อนุสฺสรโต ทิพฺเพน จกฺขุนา เภรวรูปํ ปสฺสโต ภยสนฺตาโส อุปฺปชฺชติ, น อนิจฺจาทิวเสน กตสมฺมสนสฺส, ตสฺมา อภิฺาปตฺตสฺส ภยวิโนทกเหตุสมฺปาทนตฺถมฺปิ อิทํ อิเธว ทสฺสิตํ. อิธาปิ อรหตฺตวเสเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา.

๒๕๓. มโนมยิทฺธิยํ จิณฺณวสิตาย. ตตฺถ มโนมยนฺติ มเนน นิพฺพตฺตํ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคินฺติ สพฺเพหิ องฺเคหิ จ ปจฺจงฺเคหิ จ สมนฺนาคตํ. อหีนินฺทฺริยนฺติ สณฺานวเสน อวิกลินฺทฺริยํ. อิทฺธิมตา นิมฺมิตรูปฺหิ สเจ อิทฺธิมา โอทาโต, ตมฺปิ โอทาตํ. สเจ อวิทฺธกณฺโณ, ตมฺปิ อวิทฺธกณฺณนฺติ เอวํ สพฺพากาเรหิ เตน สทิสเมว โหติ. มุฺชมฺหา อีสิกนฺติอาทิ อุปมตฺตยมฺปิ ตํ สทิสภาวทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. มุฺชสทิสา เอว หิ ตสฺส อนฺโต อีสิกา โหติ. โกสสทิโสเยว อสิ, วฏฺฏาย โกสิยา วฏฺฏํ อสิเมว ปกฺขิปนฺติ, ปตฺถฏาย ปตฺถฏํ.

กรณฺฑาติ อิทมฺปิ อหิกฺจุกสฺส นามํ, น วิลีวกรณฺฑกสฺส. อหิกฺจุโก หิ อหินา สทิโสว โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺยา’’ติ หตฺเถน อุทฺธรมาโน วิย ทสฺสิโต, อถ โข จิตฺเตเนวสฺส อุทฺธรณํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ อหิ นาม สชาติยํ ิโต, กฏฺนฺตรํ วา รุกฺขนฺตรํ วา นิสฺสาย, ตจโต สรีรนิกฺกฑฺฒนปโยคสงฺขาเตน ถาเมน, สรีรํ ขาทมานํ วิย ปุราณตจํ ชิคุจฺฉนฺโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ สยเมว กฺจุกํ ชหาติ, น สกฺกา ตโต อฺเน อุทฺธริตุํ. ตสฺมา จิตฺเตน อุทฺธรณํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ มุฺชาทิสทิสํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สรีรํ, อีสิกาทิสทิสํ นิมฺมิตรูปนฺติ อิทเมตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ. นิมฺมานวิธานํ ปเนตฺถ ปรโต จ อิทฺธิวิธาทิปฺจอภิฺากถา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุปมามตฺตเมว หิ อิธ อธิกํ.

ตตฺถ เฉกกุมฺภการาทโย วิย อิทฺธิวิธาณลาภี ภิกฺขุ ทฏฺพฺโพ. สุปริกมฺมกตมตฺติกาทโย วิย อิทฺธิวิธาณํ ทฏฺพฺพํ. อิจฺฉิติจฺฉิตภาชนวิกติอาทิกรณํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิกุพฺพนํ ทฏฺพฺพํ. อิธาปิ จิณฺณวสิตาวเสเนว อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา. ตถา อิโต ปราสุ จตูสุ อภิฺาสุ.

๒๕๕. ตตฺถ ทิพฺพโสตธาตุอุปมายํ สงฺขธโมติ สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรเนวาติ นิทฺทุกฺเขเนว. วิฺาเปยฺยาติ ชานาเปยฺย. ตตฺถ เอวํ จาตุทฺทิสา วิฺาเปนฺเต สงฺขธมเก ‘‘สงฺขสทฺโท อย’’นฺติ ววตฺถาเปนฺตานํ สตฺตานํ ตสฺส สงฺขสทฺทสฺส อาวิภูตกาโล วิย โยคิโน ทูรสนฺติกเภทานํ ทิพฺพานฺเจว มานุสกานฺจ สทฺทานํ อาวิภูตกาโล ทฏฺพฺโพ.

๒๕๖. เจโตปริยาณ-อุปมายํ ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ ยุวาปิ สมาโน น อลสิโย กิลิฏฺวตฺถสรีโร, อถ โข มณฺฑนกปกติโก, ทิวสสฺส ทฺเว ตโย วาเร นฺหายิตฺวา สุทฺธวตฺถ-ปริทหน-อลงฺการกรณสีโลติ อตฺโถ. สกณิกนฺติ กาฬติลกวงฺก-มุขทูสิปีฬกาทีนํ อฺตเรน สโทสํ. ตตฺถ ยถา ตสฺส มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขโต มุขโทโส ปากโฏ โหติ, เอวํ เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ปเรสํ โสฬสวิธํ จิตฺตํ ปากฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปุพฺเพนิวาสอุปมาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ มหาอสฺสปุเร วุตฺตเมว.

๒๕๙. อยํ โข อุทายิ ปฺจโม ธมฺโมติ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอกํ ธมฺมํ กตฺวา ปฺจโม ธมฺโมติ วุตฺโต. ยถา หิ อฏฺกนาครสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๗ อาทโย) เอกาทส ปพฺพานิ ปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโม กโต, เอวมิธ เอกูนวีสติ ปพฺพานิ ปฏิปทาวเสน เอโก ธมฺโม กโตติ เวทิตพฺพานิ. อิเมสุ จ ปน เอกูนวีสติยา ปพฺเพสุ ปฏิปาฏิยา อฏฺสุ โกฏฺาเสสุ วิปสฺสนาาเณ จ อาสวกฺขยาเณ จ อรหตฺตวเสน อภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตตา เวทิตพฺพา, เสเสสุ จิณฺณวสิภาววเสน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มหาสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมณมุณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา

๒๖๐. เอวํ เม สุตนฺติ สมณมุณฺฑิกสุตฺตํ. ตตฺถ อุคฺคาหมาโนติ ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส นามํ. สุมโนติ ปกตินามํ. กิฺจิ กิฺจิ ปน อุคฺคหิตุํ อุคฺคาเหตุํ สมตฺถตาย อุคฺคาหมาโนติ นํ สฺชานนฺติ. สมยํ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทกํ. ตสฺมึ กิร าเน จงฺกีตารุกฺขโปกฺขรสาติปฺปภุตโย พฺราหฺมณา นิคณฺาเจลกปริพฺพาชกาทโย จ ปพฺพชิตา สนฺนิปติตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺติ กเถนฺติ ทีเปนฺติ, ตสฺมา โส อาราโม สมยปฺปวาทโกติ วุจฺจติ. สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรูสกรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ตินฺทุกาจีรํ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปมํ เอกา สาลา อโหสิ, ปจฺฉา มหาปุฺํ โปฏฺปาทปริพฺพาชกํ นิสฺสาย พหู สาลา กตา, ตสฺมา ตเมว เอกํ สาลํ อุปาทาย ลทฺธนามวเสน เอกสาลโกติ วุจฺจติ. มลฺลิกาย ปน ปเสนทิรฺโ เทวิยา อุยฺยานภูโต โส ปุปฺผผลสฺฉนฺโน อาราโมติ กตฺวา มลฺลิกาย อาราโมติ สงฺขํ คโต. ตสฺมึ สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม. ปฏิวสตีติ วาสผาสุตาย วสติ. ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺหาติกฺกโม, ตสฺมึ ทิวสสฺสปิ ทิวาภูเต อติกฺกนฺตมตฺเต มชฺฌนฺหิเก นิกฺขมีติ อตฺโถ. ปฏิสลฺลีโนติ ตโต ตโต รูปาทิโคจรโต จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา ลีโน, ฌานรติเสวนวเสน เอกีภาวํ คโต. มโนภาวนียานนฺติ มนวฑฺฒนกานํ, เย อาวชฺชโต มนสิกโรโต จิตฺตํ วินีวรณํ โหติ อุนฺนมติ วฑฺฒติ. ยาวตาติ ยตฺตกา. อยํ เตสํ อฺตโรติ อยํ เตสํ อพฺภนฺตโร เอโก สาวโก. อปฺเปว นามาติ ตสฺส อุปสงฺกมนํ ปตฺถยมาโน อาห. ปตฺถนาการณํ ปน สนฺทกสุตฺเต วุตฺตเมว.

๒๖๑. เอตทโวจาติ ทนฺทปฺโ อยํ คหปติ, ธมฺมกถาย นํ สงฺคณฺหิตฺวา อตฺตโน สาวกํ กริสฺสามีติ มฺมาโน เอตํ ‘‘จตูหิ โข’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ ปฺเปมีติ ทสฺเสมิ เปมิ. สมฺปนฺนกุสลนฺติ ปริปุณฺณกุสลํ. ปรมกุสลนฺติ อุตฺตมกุสลํ. อโยชฺฌนฺติ วาทยุทฺเธน ยุชฺฌิตฺวา จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อจลํ นิกฺกมฺปํ ถิรํ. กโรตีติ อกรณมตฺตเมว วทติ, เอตฺถ ปน สํวรปฺปหานํ วา ปฏิเสวนปฺปหานํ วา น วทติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

เนว อภินนฺทีติ ติตฺถิยา นาม ชานิตฺวาปิ อชานิตฺวาปิ ยํ วา ตํ วา วทนฺตีติ มฺมาโน นาภินนฺทิ. น ปฏิกฺโกสีติ สาสนสฺส อนุโลมํ วิย ปสนฺนาการํ วิย วทตีติ มฺมาโน น ปฏิเสเธติ.

๒๖๒. ยถา อุคฺคาหมานสฺสาติ ยถา ตสฺส วจนํ, เอวํ สนฺเต อุตฺตานเสยฺยโก กุมาโร อโยชฺฌสมโณ ถิรสมโณ ภวิสฺสติ, มยํ ปน เอวํ น วทามาติ ทีเปติ. กาโยติปิ น โหตีติ สกกาโย ปรกาโยติปิ วิเสสาณํ น โหติ. อฺตฺร ผนฺทิตมตฺตาติ ปจฺจตฺถรเณ วลิสมฺผสฺเสน วา มงฺคุลทฏฺเน วา กายผนฺทนมตฺตํ นาม โหติ. ตํ เปตฺวา อฺํ กาเยน กรณกมฺมํ นาม นตฺถิ. ตมฺปิ จ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหติ. วาจาติปิ น โหตีติ มิจฺฉาวาจา สมฺมาวาจาติปิ นานตฺตํ น โหติ. โรทิตมตฺตาติ ชิฆจฺฉาปิปาสาปเรตสฺส ปน โรทิตมตฺตํ โหติ. ตมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว. สงฺกปฺโปติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป สมฺมาสงฺกปฺโปติปิ นานตฺตํ น โหติ. วิกูชิตมตฺตาติ วิกูชิตมตฺตํ โรทนหสิตมตฺตํ โหติ. ทหรกุมารกานฺหิ จิตฺตํ อตีตารมฺมณํ ปวตฺตติ, นิรยโต อาคตา นิรยทุกฺขํ สริตฺวา โรทนฺติ, เทวโลกโต อาคตา หสนฺติ, ตมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหติ. อาชีโวติ มิจฺฉาชีโว สมฺมาชีโวติปิ นานตฺตํ น โหติ. อฺตฺร มาตุถฺาติ ถฺโจรทารกา นาม โหนฺติ, มาตริ ขีรํ ปายนฺติยา อปิวิตฺวา อฺวิหิตกาเล ปิฏฺิปสฺเสน อาคนฺตฺวา ถฺํ ปิวนฺติ. เอตฺตกํ มุฺจิตฺวา อฺโ มิจฺฉาชีโว นตฺถิ. อยมฺปิ กิเลสสหคตจิตฺเตเนว โหตีติ ทสฺเสติ.

๒๖๓. เอวํ ปริพฺพาชกวาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ สยํ เสกฺขภูมิยํ มาติกํ เปนฺโต จตูหิ โข อหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สมธิคยฺห ติฏฺตีติ วิเสเสตฺวา ติฏฺติ. กาเยน ปาป กมฺมนฺติอาทีสุ น เกวลํ อกรณมตฺตเมว, ภควา ปน เอตฺถ สํวรปฺปหานปฏิสงฺขา ปฺเปติ. ตํ สนฺธาเยวมาห. น เจว สมฺปนฺนกุสลนฺติอาทิ ปน ขีณาสวํ สนฺธาย วุตฺตํ.

อิทานิ อเสกฺขภูมิยํ มาติกํ เปนฺโต ทสหิ โข อหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตีณิ ปทานิ นิสฺสาย ทฺเว ปมจตุกฺกา ปิตา, เอกํ ปทํ นิสฺสาย ทฺเว ปจฺฉิมจตุกฺกา. อยํ เสกฺขภูมิยํ มาติกา.

๒๖๔. อิทานิ ตํ วิภชนฺโต กตเม จ ถปติ อกุสลสีลาติอาทิมาห. ตตฺถ สราคนฺติ อฏฺวิธํ โลภสหคตจิตฺตํ. สโทสนฺติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตทฺวยํ. สโมหนฺติ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตจิตฺตทฺวยมฺปิ วฏฺฏติ, สพฺพากุสลจิตฺตานิปิ. โมโห สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชตีติ หิ วุตฺตํ. อิโตสมุฏฺานาติ อิโต สราคาทิจิตฺตโต สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ อิโตสมุฏฺานา.

กุหินฺติ กตรํ านํ ปาปุณิตฺวา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. เอตฺเถเตติ โสตาปตฺติผเล ภุมฺมํ. ปาติโมกฺขสํวรสีลฺหิ โสตาปตฺติผเล ปริปุณฺณํ โหติ, ตํ านํ ปตฺวา อกุสลสีลํ อเสสํ นิรุชฺฌติ. อกุสลสีลนฺติ จ ทุสฺสีลสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ.

อกุสลานํ สีลานํ นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว โสตาปตฺติมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ.

๒๖๕. วีตราคนฺติอาทีหิ อฏฺวิธํ กามาวจรกุสลจิตฺตเมว วุตฺตํ. เอเตน หิ กุสลสีลํ สมุฏฺาติ.

สีลวา โหตีติ สีลสมฺปนฺโน โหติ คุณสมฺปนฺโน จ. โน จ สีลมโยติ อลเมตฺตาวตา, นตฺถิ อิโต กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ เอวํ สีลมโย น โหติ. ยตฺถสฺส เตติ อรหตฺตผเล ภุมฺมํ. อรหตฺตผลฺหิ ปตฺวา อกุสลสีลํ อเสสํ นิรุชฺฌติ.

นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อรหตฺตมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ.

๒๖๖. กามสฺาทีสุ กามสฺา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสหชาตา, อิตรา ทฺเว โทมนสฺสสหคตจิตฺตทฺวเยน สหชาตา.

ปมํ ฌานนฺติ อนาคามิผลปมชฺฌานํ. เอตฺเถเตติ อนาคามิผเล ภุมฺมํ. อนาคามิผลฺหิ ปตฺวา อกุสลสงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ.

นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อนาคามิมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ. เนกฺขมฺมสฺาทโย หิ ติสฺโสปิ อฏฺกามาวจรกุสลสหชาตสฺาว.

๒๖๗. เอตฺเถเตติ อรหตฺตผเล ภุมฺมํ. ทุติยชฺฌานิกํ อรหตฺตผลฺหิ ปาปุณิตฺวา กุสลสงฺกปฺปา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. นิโรธาย ปฏิปนฺโนติ เอตฺถ ยาว อรหตฺตมคฺคา นิโรธาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ, ผลปตฺเต ปน เต นิโรธิตา นาม โหนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สมณมุณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จูฬสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา

๒๗๐. เอวํ เม สุตนฺติ จูฬสกุลุทายิสุตฺตํ. ตตฺถ ยทา ปน, ภนฺเต, ภควาติ อิทํ ปริพฺพาชโก ธมฺมกถํ โสตุกาโม ภควโต ธมฺมเทสนาย สาลยภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห.

๒๗๑. ตํเยเวตฺถ ปฏิภาตูติ สเจ ธมฺมํ โสตุกาโม, ตุยฺเหเวตฺถ เอโก ปฺโห เอกํ การณํ อุปฏฺาตุ. ยถา มํ ปฏิภาเสยฺยาติ เยน การเณน มม ธมฺมเทสนา อุปฏฺเหยฺย, เอเตน หิ การเณน กถาย สมุฏฺิตาย สุขํ ธมฺมํ เทเสตุนฺติ ทีเปติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเตติ โส กิร ตํ ทิสฺวา – ‘‘สเจ ภควา อิธ อภวิสฺสา, อยเมตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถติ ทีปสหสฺสํ วิย อุชฺชลาเปตฺวา อชฺช เม ปากฏํ อกริสฺสา’’ติ ทสพลํเยว อนุสฺสริ. ตสฺมา ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อโห นูนาติ อนุสฺสรณตฺเถ นิปาตทฺวยํ. เตน ตสฺส ภควนฺตํ อนุสฺสรนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘‘อโห นูน ภควา อโห นูน สุคโต’’ติ. โย อิเมสนฺติ โย อิเมสํ ธมฺมานํ. สุกุสโลติ สุฏฺุ กุสโล นิปุโณ เฉโก. โส ภควา อโห นูน กเถยฺย, โส สุคโต อโห นูน กเถยฺย, ตสฺส หิ ภควโต ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อเนกานิ กปฺปโกฏิสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ ปากฏานีติ, อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

ตสฺส วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภาติ โย หิ ลาภี โหติ, โส ‘‘ปุพฺเพ ตฺวํ ขตฺติโย อโหสิ, พฺราหฺมโณ อโหสี’’ติ วุตฺเต ชานนฺโต สกฺกจฺจํ สุสฺสูสติ. อลาภี ปน – ‘‘เอวํ ภวิสฺสติ เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ สีสกมฺปเมตฺตเมว ทสฺเสติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘ตสฺส วาหํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ปฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย’’นฺติ.

โส วา มํ อปรนฺตนฺติ ทิพฺพจกฺขุลาภิโน หิ อนาคตํสาณํ อิชฺฌติ, ตสฺมา เอวมาห. อิตรํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว.

ธมฺมํ เต เทเสสฺสามีติ อยํ กิร อตีเต เทสิยมาเนปิ น พุชฺฌิสฺสติ, อนาคเต เทสิยมาเนปิ น พุชฺฌิสฺสติ. อถสฺส ภควา สณฺหสุขุมํ ปจฺจยาการํ เทเสตุกาโม เอวมาห. กึ ปน ตํ พุชฺฌิสฺสตีติ? เอตํ ปเคว น พุชฺฌิสฺสติ, อนาคเต ปนสฺส วาสนาย ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ ทิสฺวา ภควา เอวมาห.

ปํสุปิสาจกนฺติ อสุจิฏฺาเน นิพฺพตฺตปิสาจํ. โส หิ เอกํ มูลํ คเหตฺวา อทิสฺสมานกาโย โหติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอกา กิร ยกฺขินี ทฺเว ทารเก ถูปารามทฺวาเร นิสีทาเปตฺวา อาหารปริเยสนตฺถํ นครํ คตา. ทารกา เอกํ ปิณฺฑปาติกตฺเถรํ ทิสฺวา อาหํสุ, – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ มาตา อนฺโต นครํ ปวิฏฺา, ตสฺสา วเทยฺยาถ ‘ยํ วา ตํ วา ลทฺธกํ, คเหตฺวา สีฆํ คจฺฉ, ทารกา เต ชิฆจฺฉิตํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺตี’’’ติ. ตมหํ กถํ ปสฺสิสฺสามีติ? อิทํ, ภนฺเต, คณฺหถาติ เอกํ มูลขณฺฑํ อทํสุ. เถรสฺส อเนกานิ ยกฺขสหสฺสานิ ปฺายึสุ, โส ทารเกหิ ทินฺนสฺาเณน ตํ ยกฺขินึ อทฺทส วิรูปํ พีภจฺฉํ เกวลํ วีถิยํ คพฺภมลํ ปจฺจาสีสมานํ. ทิสฺวา ตมตฺถํ กเถสิ. กถํ มํ ตฺวํ ปสฺสสีติ วุตฺเต มูลขณฺฑํ ทสฺเสสิ, สา อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิ. เอวํ ปํสุปิสาจกา เอกํ มูลํ คเหตฺวา อทิสฺสมานกายา โหนฺติ. ตํ สนฺธาเยส ‘‘ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามี’’ติ อาห. น ปกฺขายตีติ น ทิสฺสติ น อุปฏฺาติ.

๒๗๒. ทีฆาปิ โข เต เอสาติ อุทายิ เอสา ตว วาจา ทีฆาปิ ภเวยฺย, เอวํ วทนฺตสฺส วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ ปวตฺเตยฺย, น จ อตฺถํ ทีเปยฺยาติ อธิปฺปาโย. อปฺปาฏิหีรกตนฺติ อนิยฺยานิกํ อมูลกํ นิรตฺถกํ สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ตํ วณฺณํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโตติ วิสภาควณฺเณ รตฺตกมฺพเล ปิโต. เอวํวณฺโณ อตฺตา โหตีติ อิทํ โส สุภกิณฺหเทวโลเก นิพฺพตฺตกฺขนฺเธ สนฺธาย – ‘‘อมฺหากํ มตกาเล อตฺตา สุภกิณฺหเทวโลเก ขนฺธา วิย โชเตตี’’ติ วทติ.

๒๗๓. อยํ อิเมสํ อุภินฺนนฺติ โส กิร ยสฺมา มณิสฺส พหิ อาภา น นิจฺฉรติ, ขชฺโชปนกสฺส องฺคุลทฺวงฺคุลจตุรงฺคุลมตฺตํ นิจฺฉรติ, มหาขชฺโชปนกสฺส ปน ขฬมณฺฑลมตฺตมฺปิ นิจฺฉรติเยว, ตสฺมา เอวมาห.

วิทฺเธติ อุพฺพิทฺเธ, เมฆวิคเมน ทูรีภูเตติ อตฺโถ. วิคตวลาหเกติ อปคตเมเฆ. เทเวติ อากาเส. โอสธิตารกาติ สุกฺกตารกา. สา หิ ยสฺมา ตสฺสา อุทยโต ปฏฺาย เตน สฺาเณน โอสธานิ คณฺหนฺติปิ ปิวนฺติปิ, ตสฺมา ‘‘โอสธิตารกา’’ติ วุจฺจติ. อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยนฺติ อภินฺเน อฑฺฒรตฺตสมเย. อิมินา คคนมชฺเฌ ิตจนฺทํ ทสฺเสติ. อภิโท มชฺฌนฺหิเกปิ เอเสว นโย.

อโต โขติ เย อนุโภนฺติ, เตหิ พหุตรา, พหู เจว พหุตรา จาติ อตฺโถ. อาภา นานุโภนฺตีติ โอภาสํ น วฬฺชนฺติ, อตฺตโน สรีโรภาเสเนว อาโลกํ ผริตฺวา วิหรนฺติ.

๒๗๔. อิทานิ ยสฺมา โส ‘‘เอกนฺตสุขํ โลกํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน, ปุจฺฉามูฬฺโห ปน ชาโต, ตสฺมา นํ ภควา ตํ ปุจฺฉํ สราเปนฺโต กึ ปน, อุทายิ, อตฺถิ เอกนฺตสุโข โลโกติอาทิมาห. ตตฺถ อาการวตีติ การณวตี. อฺตรํ วา ปน ตโปคุณนฺติ อเจลกปาฬึ สนฺธายาห, สุราปานวิรตีติ อตฺโถ.

๒๗๕. กตมา ปน สา, ภนฺเต, อาการวตี ปฏิปทา เอกนฺตสุขสฺสาติ กสฺมา ปุจฺฉติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มยํ สตฺตานํ เอกนฺตสุขํ วทาม, ปฏิปทํ ปน กาเลน สุขํ กาเลน ทุกฺขํ วทาม. เอกนฺตสุขสฺส โข ปน อตฺตโน ปฏิปทายปิ เอกนฺตสุขาย ภวิตพฺพํ. อมฺหากํ กถา อนิยฺยานิกา, สตฺถุ กถาว นิยฺยานิกา’’ติ. อิทานิ สตฺถารํเยว ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามีติ ตสฺมา ปุจฺฉติ.

เอตฺถ มยํ อนสฺสามาติ เอตสฺมึ การเณ มยํ อนสฺสาม. กสฺมา ปน เอวมาหํสุ? เต กิร ปุพฺเพ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา สุภกิณฺเหสุ นิพฺพตฺตนฺตีติ ชานนฺติ, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต ปน กาเล กสิณปริกมฺมมฺปิ น ชานึสุ, ตติยชฺฌานมฺปิ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขึสุ. ปฺจ ปุพฺพภาคธมฺเม ปน ‘‘อาการวตี ปฏิปทา’’ติ อุคฺคเหตฺวา ตติยชฺฌานํ ‘‘เอกนฺตสุโข โลโก’’ติ อุคฺคณฺหึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ. อุตฺตริตรนฺติ อิโต ปฺจหิ ธมฺเมหิ อุตฺตริตรํ ปฏิปทํ วา ตติยชฺฌานโต อุตฺตริตรํ เอกนฺตสุขํ โลกํ วา น ชานามาติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปสทฺเท กตฺวาติ เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺทํ กาตุํ อารทฺเธ นิสฺสทฺเท กตฺวา.

๒๗๖. สจฺฉิกิริยาเหตูติ เอตฺถ ทฺเว สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา จ ปจฺจกฺขสจฺฉิกิริยา จ. ตตฺถ ตติยชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา สุภกิณฺหโลเก เตสํ เทวานํ สมานายุวณฺโณ หุตฺวา นิพฺพตฺตติ, อยํ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา นาม. จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อิทฺธิวิกุพฺพเนน สุภกิณฺหโลกํ คนฺตฺวา เตหิ เทเวหิ สทฺธึ สนฺติฏฺติ สลฺลปติ สากจฺฉํ อาปชฺชติ, อยํ ปจฺจกฺขสจฺฉิกิริยา นาม. ตาสํ ทฺวินฺนมฺปิ ตติยชฺฌานํ อาการวตี ปฏิปทา นาม. ตฺหิ อนุปฺปาเทตฺวา เนว สกฺกา สุภกิณฺหโลเก นิพฺพตฺติตุํ, น จตุตฺถชฺฌานํ อุปฺปาเทตุํ. อิติ ทุวิธมฺเปตํ สจฺฉิกิริยํ สนฺธาย – ‘‘เอตสฺส นูน, ภนฺเต, เอกนฺตสุขสฺส โลกสฺส สจฺฉิกิริยาเหตู’’ติ อาห.

๒๗๗. อุทฺจนิโกติ อุทกวารโก. อนฺตรายมกาสีติ ยถา ปพฺพชฺชํ น ลภติ, เอวํ อุปทฺทุตมกาสิ ยถา ตํ อุปนิสฺสยวิปนฺนํ. อยํ กิร กสฺสปพุทฺธกาเล ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมมกาสิ. อถสฺส เอโก สหายโก ภิกฺขุ สาสเน อนภิรโต, ‘‘อาวุโส, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ อาโรเจสิ. โส ตสฺส ปตฺตจีวเร โลภํ อุปฺปาเทตฺวา คิหิภาวาย วณฺณํ อภาสิ. อิตโร ตสฺส ปตฺตจีวรํ ทตฺวา วิพฺภมิ. เตนสฺส กมฺมุนา อิทานิ ภควโต สมฺมุขา ปพฺพชฺชาย อนฺตราโย ชาโต. ภควตา ปนสฺส ปุริมสุตฺตํ อติเรกภาณวารมตฺตํ, อิทํ ภาณวารมตฺตนฺติ เอตฺตกาย ตนฺติยา ธมฺโม กถิโต, เอกเทสนายปิ มคฺคผลปฏิเวโธ น ชาโต, อนาคเต ปนสฺส ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ ภควา ธมฺมํ เทเสติ. อนาคเต ปจฺจยภาวฺจสฺส ทิสฺวา ภควา ธรมาโน เอกํ ภิกฺขุมฺปิ เมตฺตาวิหาริมฺหิ เอตทคฺเค น เปสิ. ปสฺสติ หิ ภควา – ‘‘อนาคเต อยํ มม สาสเน ปพฺพชิตฺวา เมตฺตาวิหารีนํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ.

โส ภควติ ปรินิพฺพุเต ธมฺมาโสกราชกาเล ปาฏลิปุตฺเต นิพฺพตฺติตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺโต อสฺสคุตฺตตฺเถโร นาม หุตฺวา เมตฺตาวิหารีนํ อคฺโค อโหสิ. เถรสฺส เมตฺตานุภาเวน ติรจฺฉานคตาปิ เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ, เถโร สกลชมฺพุทีเป ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทาจริโย หุตฺวา วตฺตนิเสนาสเน อาวสิ, ตึสโยชนมตฺตา อฏวี เอกํ ปธานฆรํ อโหสิ. เถโร อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ นิสินฺโน กมฺมฏฺานํ กเถสิ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ภิกฺขาจารมฺปิ อคนฺตฺวา วิหาเร นิสินฺโน กมฺมฏฺานํ กเถสิ, มนุสฺสา วิหารเมว คนฺตฺวา ทานมทํสุ. ธมฺมาโสกราชา เถรสฺส คุณํ สุตฺวา ทฏฺุกาโม ติกฺขตฺตุํ ปหิณิ. เถโร ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทํ ทมฺมีติ เอกวารมฺปิ น คโตติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จูฬสกุลุทายิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เวขนสสุตฺตวณฺณนา

๒๗๘. เอวํ เม สุตนฺติ เวขนสสุตฺตํ. ตตฺถ เวขนโสติ อยํ กิร สกุลุทายิสฺส อาจริโย, โส ‘‘สกุลุทายี ปริพฺพาชโก ปรมวณฺณปฺเห ปราชิโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มยา โส สาธุกํ อุคฺคหาปิโต, เตนาปิ สาธุกํ อุคฺคหิตํ, กถํ นุ โข ปราชิโต, หนฺทาหํ สยํ คนฺตฺวา สมณํ โคตมํ ปรมวณฺณปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ ราชคหโต ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ สาวตฺถึ คนฺตฺวา เยน ภควา, เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปน ิตโกว ภควโต สนฺติเก อุทานํ อุทาเนสิ. ตตฺถ ปุริมสทิสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒๘๐. ปฺจ โข อิเมติ กสฺมา อารภิ? อคาริโยปิ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ. ปพฺพชิโตปิ จ เอกจฺโจ กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ, เอกจฺโจ เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต โหติ. อยํ ปน กามครุโก กามาธิมุตฺโต โหติ. โส อิมาย กถาย กถิยมานาย อตฺตโน กามาธิมุตฺตตฺตํ สลฺลกฺเขสฺสติ, เอวมสฺสายํ เทสนา สปฺปายา ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. กามคฺคสุขนฺติ นิพฺพานํ อธิปฺเปตํ.

๒๘๑. ปาปิโต ภวิสฺสตีติ อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติ. นามกํเยว สมฺปชฺชตีติ นิรตฺถกวจนมตฺตเมว สมฺปชฺชติ. ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต ติฏฺตุ อปรนฺโตติ ยสฺมา ตุยฺหํ อตีตกถาย อนุจฺฉวิกํ ปุพฺเพนิวาสาณํ นตฺถิ, อนาคตกถาย อนุจฺฉวิกํ ทิพฺพจกฺขุาณํ นตฺถิ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ ติฏฺตูติ อาห. สุตฺตพนฺธเนหีติ สุตฺตมยพนฺธเนหิ. ตสฺส หิ อารกฺขตฺถาย หตฺถปาเทสุ เจว คีวาย จ สุตฺตกานิ พนฺธนฺติ. ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มหลฺลกกาเล ปนสฺส ตานิ สยํ วา ปูตีนิ หุตฺวา มุฺจนฺติ, ฉินฺทิตฺวา วา หรนฺติ.

เอวเมว โขติ อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ทหรสฺส กุมารสฺส สุตฺตพนฺธนานํ อชานนกาโล วิย อวิชฺชาย ปุริมาย โกฏิยา อชานนํ, น หิ สกฺกา อวิชฺชาย ปุริมโกฏิ าตุํ, โมจนกาเล ชานนสทิสํ ปน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาพนฺธนสฺส ปโมกฺโข ชาโตติ ชานนํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เวขนสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ราชวคฺโค

๑. ฆฏิการสุตฺตวณฺณนา

๒๘๒. เอวํ เม สุตนฺติ ฆฏิการสุตฺตํ. ตตฺถ สิตํ ปาตฺวากาสีติ มหามคฺเคน คจฺฉนฺโต อฺตรํ ภูมิปฺปเทสํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อตฺถิ นุ โข มยา จริยํ จรมาเนน อิมสฺมึ าเน นิวุตฺถปุพฺพ’’นฺติ อาวชฺชนฺโต อทฺทส – ‘‘กสฺสปพุทฺธกาเล อิมสฺมึ าเน เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ, อหํ ตทา โชติปาโล นาม มาณโว อโหสึ, มยฺหํ สหาโย ฆฏิกาโร นาม กุมฺภกาโร อโหสิ, เตน สทฺธึ มยา อิธ เอกํ สุการณํ กตํ, ตํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปากฏํ ปฏิจฺฉนฺนํ, หนฺท นํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปากฏํ กโรมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ ปเทเส ิตโกว สิตปาตุกมฺมมกาสิ, อคฺคคฺคทนฺเต ทสฺเสตฺวา มนฺทหสิตํ หสิ. ยถา หิ โลกิยมนุสฺสา อุรํ ปหรนฺตา – ‘‘กุหํ กุห’’นฺติ หสนฺติ, น เอวํ พุทฺธา, พุทฺธานํ ปน หสิตํ หฏฺปหฏฺาการมตฺตเมว โหติ.

หสิตฺจ นาเมตํ เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตหิ โหติ. ตตฺถ โลกิยมหาชโน อกุสลโต จตูหิ, กามาวจรกุสลโต จตูหีติ อฏฺหิ จิตฺเตหิ หสติ, เสกฺขา อกุสลโต ทิฏฺิสมฺปยุตฺตานิ ทฺเว อปเนตฺวา ฉหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ, ขีณาสวา จตูหิ สเหตุกกิริยจิตฺเตหิ เอเกน อเหตุกกิริยจิตฺเตนาติ ปฺจหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. เตสุปิ พลวารมฺมเณ อาปาถคเต ทฺวีหิ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตหิ หสนฺติ, ทุพฺพลารมฺมเณ ทุเหตุกจิตฺตทฺวเยน จ อเหตุกจิตฺเตน จาติ ตีหิ จิตฺเตหิ หสนฺติ. อิมสฺมึ ปน าเน กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุโสมนสฺสสหคตจิตฺตํ ภควโต หฏฺปหฏฺาการมตฺตํ หสิตํ อุปฺปาเทสิ.

ตํ ปเนตํ หสิตํ เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปิ เถรสฺส ปากฏํ อโหสิ. กถํ? ตถารูเป หิ กาเล ตถาคตสฺส จตูหิ ทาาหิ จตุทฺทีปิกมหาเมฆมุขโต สเตรตาวิชฺชุลตา วิย วิโรจมานา มหาตาลกฺขนฺธปมาณา รสฺมิวฏฺฏิโย อุฏฺหิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีสวรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทาคฺเคสุเยว อนฺตรธายนฺติ. เตน สฺาเณน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺฉโต คจฺฉมาโนปิ สิตปาตุภาวํ ชานาติ.

ภควนฺตํ เอตทโวจาติ – ‘‘เอตฺถ กิร กสฺสโป ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทิ, จตุสจฺจปฺปกาสนํ อกาสิ, ภควโตปิ เอตฺถ นิสีทิตุํ รุจึ อุปฺปาเทสฺสามิ, เอวมยํ ภูมิภาโค ทฺวีหิ พุทฺเธหิ ปริภุตฺโต ภวิสฺสติ, มหาชโน คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา เจติยฏฺานํ กตฺวา ปริจรนฺโต สคฺคมคฺคปรายโณ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต,’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

๒๘๓. มุณฺฑเกน สมณเกนาติ มุณฺฑํ มุณฺโฑติ, สมณํ วา สมโณติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, อยํ ปน อปริปกฺกาณตฺตา พฺราหฺมณกุเล อุคฺคหิตโวหารวเสเนว หีเฬนฺโต เอวมาห. โสตฺติสินานินฺติ สินานตฺถาย กตโสตฺตึ. โสตฺติ นาม กุรุวินฺทปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปกา วุจฺจติ, ยํ สนฺธาย – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู กุรุวินฺทกสุตฺติยา นหายนฺตี’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วุตฺตํ. ตํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ. เอวํ สมฺมาติ ยถา เอตรหิปิ มนุสฺสา ‘‘เจติยวนฺทนาย คจฺฉาม, ธมฺมสฺสวนตฺถาย คจฺฉามา’’ติ วุตฺตา อุสฺสาหํ น กโรนฺติ, ‘‘นฏสมชฺชาทิทสฺสนตฺถาย คจฺฉามา’’ติ วุตฺตา ปน เอกวจเนเนว สมฺปฏิจฺฉนฺติ, ตเถว สินฺหายิตุนฺติ วุตฺเต เอกวจเนน สมฺปฏิจฺฉนฺโต เอวมาห.

๒๘๔. โชติปาลํ มาณวํ อามนฺเตสีติ เอกปสฺเส อริยปริหาเรน ปมตรํ นฺหายิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ิโต ตสฺส มหนฺเตน อิสฺสริยปริหาเรน นฺหายนฺตสฺส นฺหานปริโยสานํ อาคเมตฺวา ตํ นิวตฺถนิวาสนํ เกเส โวทเก กุรุมานํ อามนฺเตสิ. อยนฺติ อาสนฺนตฺตา ทสฺเสนฺโต อาห. โอวฏฺฏิกํ วินิวฏฺเตฺวาติ นาคพโล โพธิสตฺโต ‘‘อเปหิ สมฺมา’’ติ อีสกํ ปริวตฺตมาโนว เตน คหิตคหณํ วิสฺสชฺชาเปตฺวาติ อตฺโถ. เกเสสุ ปรามสิตฺวา เอตทโวจาติ โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ โชติปาโล ปฺวา, สกึ ทสฺสนํ ลภมาโน ตถาคตสฺส ทสฺสเนปิ ปสีทิสฺสติ, ธมฺมกถายปิ ปสีทิสฺสติ, ปสนฺโน จ ปสนฺนาการํ กาตุํ สกฺขิสฺสติ, มิตฺตา นาม เอตทตฺถํ โหนฺติ, ยํกิฺจิ กตฺวา มม สหายํ คเหตฺวา ทสพลสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา นํ เกเสสุ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ.

อิตฺตรชจฺโจติ อฺชาติโก, มยา สทฺธึ อสมานชาติโก, ลามกชาติโกติ อตฺโถ. น วติทนฺติ อิทํ อมฺหากํ คมนํ น วต โอรกํ ภวิสฺสติ น ขุทฺทกํ, มหนฺตํ ภวิสฺสติ. อยฺหิ น อตฺตโน ถาเมน คณฺหิ, สตฺถุ ถาเมน คณฺหีติ คหณสฺมึเยว นิฏฺํ อคมาสิ. ยาวตาโทหิปีติ เอตฺถ โทการหิการปิการา นิปาตา, ยาวตุปริมนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘วาจาย อาลปนํ โอวฏฺฏิกาย คหณฺจ อติกฺกมิตฺวา ยาว เกสคฺคหณมฺปิ ตตฺถ คมนตฺถํ ปโยโค กตฺตพฺโพ’’ติ.

๒๘๕. ธมฺมิยา กถายาติ อิธ สติปฏิลาภตฺถาย ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตา ธมฺมี กถา เวทิตพฺพา. ตสฺส หิ ภควา, – ‘‘โชติปาล, ตฺวํ น ลามกฏฺานํ โอติณฺณสตฺโต, มหาโพธิปลฺลงฺเก ปน สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺเถตฺวา โอติณฺโณสิ, ตาทิสสฺส นาม ปมาทวิหาโร น ยุตฺโต’’ติอาทินา นเยน สติปฏิลาภาย ธมฺมํ กเถสิ. ปรสมุทฺทวาสีเถรา ปน วทนฺติ – ‘‘โชติปาล, ยถา อหํ ทสปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วีสติสหสฺสภิกฺขุปริวาโร โลเก วิจรามิ, เอวเมวํ ตฺวมฺปิ ทสปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา สมณคณปริวาโร โลเก วิจริสฺสสิ. เอวรูเปน นาม ตยา ปมาทํ อาปชฺชิตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ยถาสฺส ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ นมติ, เอวํ กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ กเถสีติ.

๒๘๖. อลตฺถ โข, อานนฺท,…เป… ปพฺพชฺชํ อลตฺถ อุปสมฺปทนฺติ ปพฺพชิตฺวา กิมกาสิ? ยํ โพธิสตฺเตหิ กตฺตพฺพํ. โพธิสตฺตา หิ พุทฺธานํ สมฺมุเข ปพฺพชนฺติ. ปพฺพชิตฺวา จ ปน อิตฺตรสตฺตา วิย ปติตสิงฺคา น โหนฺติ, จตุปาริสุทฺธิสีเล ปน สุปติฏฺาย เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตรส ธุตงฺคานิ สมาทาย อรฺํ ปวิสิตฺวา คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูรยมานา สมณธมฺมํ กโรนฺตา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ยาว อนุโลมาณํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, มคฺคผลตฺถํ วายามํ น กโรนฺติ. โชติปาโลปิ ตเถว อกาสิ.

๒๘๗. อฑฺฒมาสุปสมฺปนฺเนติ กุลทารกฺหิ ปพฺพาเชตฺวา อฑฺฒมาสมฺปิ อวสิตฺวา คเต มาตาปิตูนํ โสโก น วูปสมฺมติ, โสปิ ปตฺตจีวรคฺคหณํ น ชานาติ, ทหรภิกฺขุสามเณเรหิ สทฺธึ วิสฺสาโส น อุปฺปชฺชติ, เถเรหิ สทฺธึ สิเนโห น ปติฏฺาติ, คตคตฏฺาเน อนภิรติ อุปฺปชฺชติ. เอตฺตกํ ปน กาลํ นิวาเส สติ มาตาปิตโร ปสฺสิตุํ ลภนฺติ. เตน เตสํ โสโก ตนุภาวํ คจฺฉติ, ปตฺตจีวรคฺคหณํ ชานาติ, สามเณรทหรภิกฺขูหิ สทฺธึ วิสฺสาโส ชายติ, เถเรหิ สทฺธึ สิเนโห ปติฏฺาติ, คตคตฏฺาเน อภิรมติ, น อุกฺกณฺติ. ตสฺมา เอตฺตกํ วสิตุํ วฏฺฏตีติ อฑฺฒมาสํ วสิตฺวา ปกฺกามิ.

ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโนติ ปุฏเก กตฺวา สุกฺขาปิตสฺส รตฺตสาลิโน. ตสฺส กิร สาลิโน วปฺปกาลโต ปฏฺาย อยํ ปริหาโร – เกทารา สุปริกมฺมกตา โหนฺติ, ตตฺถ พีชานิ ปติฏฺาเปตฺวา คนฺโธทเกน สิฺจึสุ, วปฺปกาเล วิตานํ วิย อุปริ วตฺถกิลฺชํ พนฺธิตฺวา ปริปกฺกกาเล วีหิสีสานิ ฉินฺทิตฺวา มุฏฺิมตฺเต ปุฏเก กตฺวา โยตฺตพทฺเธ เวหาสํเยว สุกฺขาเปตฺวา คนฺธจุณฺณานิ อตฺถริตฺวา โกฏฺเกสุ ปูเรตฺวา ตติเย วสฺเส วิวรึสุ. เอวํ ติวสฺสํ ปริวุตฺถสฺส สุคนฺธรตฺตสาลิโน อปคตกาฬเก สุปริสุทฺเธ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ขชฺชกวิกติมฺปิ ภตฺตมฺปิ ปฏิยาทิยึสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ…เป… กาลํ อาโรจาเปสีติ.

๒๘๘. อธิวุฏฺโ เมติ กึ สนฺธาย วทติ? เวคฬิงฺคโต นิกฺขมนกาเล ฆฏิกาโร อตฺตโน สนฺติเก วสฺสาวาสํ วสนตฺถาย ปฏิฺํ อคฺคเหสิ, ตํ สนฺธาย วทติ. อหุเทว อฺถตฺตํ อหุ โทมนสฺสนฺติ เตมาสํ ทานํ ทาตุํ, ธมฺมฺจ โสตุํ, อิมินา จ นิยาเมน วีสติ ภิกฺขุสหสฺสานิ ปฏิชคฺคิตุํ นาลตฺถนฺติ อลาภํ อารพฺภ จิตฺตฺถตฺตํ จิตฺตโทมนสฺสํ อโหสิ, น ตถาคตํ อารพฺภ. กสฺมา? โสตาปนฺนตฺตา. โส กิร ปุพฺเพ พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ. อเถกสฺมึ สมเย ปจฺจนฺเต กุปิเต วูปสมนตฺถํ คจฺฉนฺโต อุรจฺฉทํ นาม ธีตรมาห – ‘‘อมฺม อมฺหากํ เทเว มา ปมชฺชี’’ติ. พฺราหฺมณา ตํ ราชธีตรํ ทิสฺวา วิสฺิโน อเหสุํ. เก อิเม จาติ วุตฺเต ตุมฺหากํ ภูมิเทวาติ. ภูมิเทวา นาม เอวรูปา โหนฺตีติ นิฏฺุภิตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิ. สา เอกทิวสํ วีถึ โอโลเกนฺตี ิตา กสฺสปสฺส ภควโต อคฺคสาวกํ ทิสฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อนุโมทนํ สุณมานาเยว โสตาปนฺนา หุตฺวา ‘‘อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สตฺถา วีสติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธึ อิสิปตเน วสตี’’ติ จ สุตฺวา นิมนฺเตตฺวา ทานํ อทาสิ.

ราชา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา อาคโต. อถ นํ ปมตรเมว พฺราหฺมณา อาคนฺตฺวา ธีตุ อวณฺณํ วตฺวา ปริภินฺทึสุ. ราชา ปน ธีตุ ชาตกาเลเยว วรํ อทาสิ. ตสฺสา ‘‘สตฺต ทิวสานิ รชฺชํ ทาตพฺพ’’นฺติ วรํ คณฺหึสุ. อถสฺสา ราชา สตฺต ทิวสานิ รชฺชํ นิยฺยาเตสิ. สา สตฺถารํ โภชยมานา ราชานํ ปกฺโกสาเปตฺวา พหิสาณิยํ นิสีทาเปสิ. ราชา สตฺถุ อนุโมทนํ สุตฺวาว โสตาปนฺโน ชาโต. โสตาปนฺนสฺส จ นาม ตถาคตํ อารพฺภ อาฆาโต นตฺถิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘น ตถาคตํ อารพฺภา’’ติ.

ยํ อิจฺฉติ ตํ หรตูติ โส กิร ภาชนานิ ปจิตฺวา กยวิกฺกยํ น กโรติ, เอวํ ปน วตฺวา ทารุตฺถาย วา มตฺติกตฺถาย วา ปลาลตฺถาย วา อรฺํ คจฺฉติ. มหาชนา ‘‘ฆฏิกาเรน ภาชนานิ ปกฺกานี’’ติ สุตฺวา ปริสุทฺธตณฺฑุลโลณทธิเตลผาณิตาทีนิ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺติ. สเจ ภาชนํ มหคฺฆํ โหติ, มูลํ อปฺปํ, ยํ วา ตํ วา ทตฺวา คณฺหามาติ ตํ น คณฺหนฺติ. ธมฺมิโก วาณิโช มาตาปิตโร ปฏิชคฺคติ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปฏฺหติ, พหุ โน อกุสลํ ภวิสฺสตีติ ปุน คนฺตฺวา มูลํ อาหรนฺติ. สเจ ปน ภาชนํ อปฺปคฺฆํ โหติ, อาภตํ มูลํ พหุ, ธมฺมิโก วาณิโช, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสตีติ ยถาภตํ ฆรสามิกา วิย สาธุกํ ปฏิสาเมตฺวา คจฺฉนฺติ. เอวํคุโณ ปน กสฺมา น ปพฺพชตีติ. รฺโ วจนปถํ ปจฺฉินฺทนฺโต อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสตีติ อาห.

๒๘๙. โก นุ โขติ กุหึ นุ โข. กุมฺภิยาติ อุกฺขลิโต. ปริโยคาติ สูปภาชนโต. ปริภุฺชาติ ภุฺช. กสฺมา ปเนเต เอวํ วทนฺติ? ฆฏิกาโร กิร ภตฺตํ ปจิตฺวา สูปํ สมฺปาเทตฺวา มาตาปิตโร โภเชตฺวา สยมฺปิ ภุฺชิตฺวา ภควโต วฑฺฒมานกํ ภตฺตสูปํ ปฏฺเปตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา อาธารกํ อุปฏฺเปตฺวา อุทกํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา มาตาปิตูนํ สฺํ ทตฺวา อรฺํ คจฺฉติ. ตสฺมา เอวํ วทนฺติ. อภิวิสฺสตฺโถติ อติวิสฺสตฺโถ. ปีติสุขํ น วิชหตีติ น นิรนฺตรํ วิชหติ, อถ โข รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา คาเม วา อรฺเ วา ยสฺมึ ยสฺมึ ขเณ – ‘‘สเทวเก นาม โลเก อคฺคปุคฺคโล มยฺหํ เคหํ ปวิสิตฺวา สหตฺเถน อามิสํ คเหตฺวา ปริภุฺชติ, ลาภา วต เม’’ติ อนุสฺสรติ, ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ.

๒๙๐. กโฬปิยาติ ปจฺฉิโต. กึ ปน ภควา เอวมกาสีติ. ปจฺจโย ธมฺมิโก, ภิกฺขูนํ ปตฺเต ภตฺตสทิโส, ตสฺมา เอวมกาสิ. สิกฺขาปทปฺตฺติปิ จ สาวกานํเยว โหติ, พุทฺธานํ สิกฺขาปทเวลา นาม นตฺถิ. ยถา หิ รฺโ อุยฺยาเน ปุปฺผผลานิ โหนฺติ, อฺเสํ ตานิ คณฺหนฺตานํ นิคฺคหํ กโรนฺติ, ราชา ยถารุจิยา ปริภุฺชติ, เอวํสมฺปทเมตํ. ปรสมุทฺทวาสีเถรา ปน ‘‘เทวตา กิร ปฏิคฺคเหตฺวา อทํสู’’ติ วทนฺติ.

๒๙๑. หรถ, ภนฺเต, หรถ ภทฺรมุขาติ อมฺหากํ ปุตฺโต ‘‘กุหึ คโตสี’’ติ วุตฺเต – ‘‘ทสพลสฺส สนฺติก’’นฺติ วทติ, กุหึ นุ โข คจฺฉติ, สตฺถุ วสนฏฺานสฺส โอวสฺสกภาวมฺปิ น ชานาตีติ ปุตฺเต อปราธสฺิโน คหเณ ตุฏฺจิตฺตา เอวมาหํสุ.

เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺาสีติ ภควา กิร จตุนฺนํ วสฺสิกานํ มาสานํ เอกํ มาสํ อติกฺกมิตฺวา ติณํ อาหราเปสิ, ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺโถ – อากาสํ ฉทนมสฺสาติ อากาสจฺฉทนํ. น เทโวติวสฺสีติ เกวลํ นาติวสฺสิ, ยถา ปเนตฺถ ปกติยา จ นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺานพฺภนฺตเร เอกมฺปิ อุทกพินฺทุ นาติวสฺสิ, เอวํ ฆนฉทนเคหพฺภนฺตเร วิย น วาตาตปาปิ อาพาธํ อกํสุ, ปกติยา อุตุผรณเมว อโหสิ. อปรภาเค ตสฺมึ นิคเม ฉฑฺฑิเตปิ ตํ านํ อโนวสฺสกเมว อโหสิ. มนุสฺสา กมฺมํ กโรนฺตา เทเว วสฺสนฺเต ตตฺถ สาฏเก เปตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ. ยาว กปฺปุฏฺานา ตํ านํ ตาทิสเมว ภวิสฺสติ. ตฺจ โข ปน น ตถาคตสฺส อิทฺธานุภาเวน, เตสํเยว ปน คุณสมฺปตฺติยา. เตสฺหิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ กตฺถ น ลเภยฺย, อมฺหากํ นาม ทฺวินฺนํ อนฺธกานํ นิเวสนํ อุตฺติณํ กาเรสี’’ติ น ตปฺปจฺจยา โทมนสฺสํ อุทปาทิ – ‘‘สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคโล อมฺหากํ นิเวสนา ติณํ อาหราเปตฺวา คนฺธกุฏึ ฉาทาเปสี’’ติ ปน เตสํ อนปฺปกํ พลวโสมนสฺสํ อุทปาทิ. อิติ เตสํเยว คุณสมฺปตฺติยา อิทํ ปาฏิหาริยํ ชาตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๒๙๒. ตณฺฑุลวาหสตานีติ เอตฺถ ทฺเว สกฏานิ เอโก วาโหติ เวทิตพฺโพ. ตทุปิยฺจ สูเปยฺยนฺติ สูปตฺถาย ตทนุรูปํ เตลผาณิตาทึ. วีสติภิกฺขุสหสฺสสฺส เตมาสตฺถาย ภตฺตํ ภวิสฺสตีติ กิร สฺาย ราชา เอตฺตกํ เปเสสิ. อลํ เม รฺโว โหตูติ กสฺมา ปฏิกฺขิปิ? อธิคตอปฺปิจฺฉตาย. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘นาหํ รฺา ทิฏฺปุพฺโพ, กถํ นุ โข เปเสสี’’ติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถา พาราณสึ คโต, อทฺธา โส รฺโ วสฺสาวาสํ ยาจิยมาโน มยฺหํ ปฏิฺาตภาวํ อาโรเจตฺวา มม คุณกถํ กเถสิ, คุณกถาย ลทฺธลาโภ ปน นเฏน นจฺจิตฺวา ลทฺธํ วิย คายเกน คายิตฺวา ลทฺธํ วิย จ โหติ. กึ มยฺหํ อิมินา, กมฺมํ กตฺวา อุปฺปนฺเนน มาตาปิตูนมฺปิ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสปิ อุปฏฺานํ สกฺกา กาตุ’’นฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ฆฏิการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รฏฺปาลสุตฺตวณฺณนา

๒๙๓. เอวํ เม สุตนฺติ รฏฺปาลสุตฺตํ. ตตฺถ ถุลฺลโกฏฺิกนฺติ ถุลฺลโกฏฺํ ปริปุณฺณโกฏฺาคารํ. โส กิร ชนปโท นิจฺจสสฺโส สทา พีชภณฺฑํ นิกฺขมติ, ขลภณฺฑํ ปวิสติ. เตน ตสฺมึ นิคเม โกฏฺา นิจฺจปูราว โหนฺติ. ตสฺมา โส ถุลฺลโกฏฺิกนฺเตว สงฺขํ คโต.

๒๙๔. รฏฺปาโลติ กสฺมา รฏฺปาโล? ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ ปาเลตุํ สมตฺโถติ รฏฺปาโล. กทา ปนสฺเสตํ นามํ อุปฺปนฺนนฺติ. ปทุมุตฺตรสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล. อิโต หิ ปุพฺเพ สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก วสฺสสตสหสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา อุปฺปชฺชิตฺวา ภิกฺขุสตสหสฺสปริวาโร โลกหิตาย จาริกํ จริ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘นครํ หํสวตี นาม, อานนฺโท นาม ขตฺติโย;

สุชาตา นาม ชนิกา, ปทุมุตฺตรสฺส สตฺถุโน’’ติ. (พุ. วํ. ๑๒.๑๙);

ปทุมุตฺตเร ปน อนุปฺปนฺเน เอว หํสวติยา ทฺเว กุฏุมฺพิกา สทฺธา ปสนฺนา กปณทฺธิกยาจกาทีนํ ทานํ ปฏฺปยึสุ. ตทา ปพฺพตวาสิโน ปฺจสตา ตาปสา หํสวตึ อนุปฺปตฺตา. เต ทฺเวปิ ชนา ตาปสคณํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา อุปฏฺหึสุ. ตาปสา กิฺจิกาลํ วสิตฺวา ปพฺพตปาทเมว คตา. ทฺเว สงฺฆตฺเถรา โอหียึสุ. ตทา เตสํ เต ยาวชีวํ อุปฏฺานํ อกํสุ. ตาปเสสุ ภุฺชิตฺวา อนุโมทนํ กโรนฺเตสุ เอโก สกฺกภวนสฺส วณฺณํ กเถสิ, เอโก ภูมินฺธรนาคราชภวนสฺส.

กุฏุมฺพิเกสุ เอโก สกฺกภวนํ ปตฺถนํ กตฺวา สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต, เอโก นาคภวเน ปาลิตนาคราชา นาม. ตํ สกฺโก อตฺตโน อุปฏฺานํ อาคตํ ทิสฺวา นาคโยนิยํ อภิรมสีติ ปุจฺฉิ. โส นาภิรมามีติ อาห. เตน หิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต ทานํ ทตฺวา อิมสฺมึ าเน ปตฺถนํ กโรหิ, อุโภ สุขํ วสิสฺสามาติ. นาคราชา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ภิกฺขุสตสหสฺสปริวารสฺส ภควโต สตฺตาหํ มหาทานํ ททมาโน ปทุมุตฺตรสฺส ทสพลสฺส ปุตฺตํ อุปเรวตํ นาม สามเณรํ ทิสฺวา สตฺตเม ทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทิพฺพวตฺถานิ ทตฺวา สามเณรสฺส านนฺตรํ ปตฺเถสิ. ภควา อนาคตํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อนาคเต โคตมสฺส นาม พุทฺธสฺส ปุตฺโต ราหุลกุมาโร ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘สมิชฺฌิสฺสติ เต ปตฺถนา’’ติ กเถสิ. นาคราชา ตมตฺถํ สกฺกสฺส กเถสิ. สกฺโก ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตเถว สตฺตาหํ ทานํ ทตฺวา ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ ปาเลตุํ สมตฺถกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สทฺธาปพฺพชิตํ รฏฺปาลํ นาม กุลปุตฺตํ ทิสฺวา – ‘‘อหมฺปิ อนาคเต โลกสฺมึ ตุมฺหาทิเส พุทฺเธ อุปฺปนฺเน ภินฺนํ รฏฺํ สนฺธาเรตุํ ปาเลตุํ สมตฺถกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อยํ กุลปุตฺโต วิย สทฺธาปพฺพชิโต รฏฺปาโล นาม ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนมกาสิ. สตฺถา สมิชฺฌนกภาวํ ตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘สราชิกํ จาตุวณฺณํ, โปเสตุํ ยํ ปโหสฺสติ;

รฏฺปาลกุลํ นาม, ตตฺถ ชายิสฺสเต อย’’นฺติ. –

เอวํ ปทุมุตฺตรสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ตสฺเสตํ นามํ อุปฺปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอตทโหสีติ กึ อโหสิ? ยถา ยถา โขติอาทิ. ตตฺรายํ สงฺเขปกถา – อหํ โข เยน เยน การเณน ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, เตน เตน เม อุปปริกฺขโต เอวํ โหติ – ‘‘ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกทิวสมฺปิ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ จริตพฺพํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ, สงฺขลิขิตํ วิลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ กตฺวา จริตพฺพํ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ, ยํนูนาหํ เกสฺจ มสฺสุฺจ โอหาเรตฺวา กาสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ.

อจิรปกฺกนฺเตสุ ถุลฺลโกฏฺิเกสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ รฏฺปาโล อนุฏฺิเตสุ เตสุ น ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. กสฺมา? ตตฺถสฺส พหู าติสาโลหิตา มิตฺตามจฺจา สนฺติ, เต – ‘‘ตฺวํ มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก, น ลพฺภา ตยา ปพฺพชิตุ’’นฺติ พาหายมฺปิ คเหตฺวา อากฑฺเฒยฺยุํ, ตโต ปพฺพชฺชาย อนฺตราโย ภวิสฺสตีติ สเหว ปริสาย อุฏฺหิตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ปุน เกนจิ สรีรกิจฺจเลเสน นิวตฺติตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมฺม ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข รฏฺปาโล กุลปุตฺโต อจิรปกฺกนฺเตสุ ถุลฺลโกฏฺิเกสุ…เป… ปพฺพาเชตุ มํ ภควา’’ติ. ภควา ปน ยสฺมา ราหุลกุมารสฺส ปพฺพชิตโต ปภุติ มาตาปิตูหิ อนนุฺาตํ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชติ, ตสฺมา นํ ปุจฺฉิ อนุฺาโตสิ ปน ตฺวํ, รฏฺปาล, มาตาปิตูหิ…เป… ปพฺพชฺชายาติ.

๒๙๕. อมฺมตาตาติ เอตฺถ อมฺมาติ มาตรํ อาลปติ, ตาตาติ ปิตรํ. เอกปุตฺตโกติ เอโกว ปุตฺตโก, อฺโ โกจิ เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วา นตฺถิ. เอตฺถ จ เอกปุตฺโตติ วตฺตพฺเพ อนุกมฺปาวเสน เอกปุตฺตโกติ วุตฺตํ. ปิโยติ ปีติชนโก. มนาโปติ มนวฑฺฒนโก. สุเขธิโตติ สุเขน เอธิโต, สุขสํวฑฺฒิโตติ อตฺโถ. สุขปริภโตติ สุเขน ปริภโต, ชาตกาลโต ปภุติ ธาตีหิ องฺกโต องฺกํ อาหริตฺวา ธาริยมาโน อสฺสกรถกาทีหิ พาลกีฬนเกหิ กีฬยมาโน สาทุรสโภชนํ โภชยมาโน สุเขน ปริหโฏ. น ตฺวํ, ตาต รฏฺปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสีติ ตฺวํ, ตาต รฏฺปาล อปฺปมตฺตกมฺปิ กลภาคํ ทุกฺขสฺส น ชานาสิ น สรสีติ อตฺโถ. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสามาติ สเจปิ ตว อมฺเหสุ ชีวมาเนสุ มรณํ ภเวยฺย, เตน เต มรเณนปิ มยํ อกามกา อนิจฺฉกา น อตฺตโน รุจิยา วินา ภวิสฺสาม, ตยา วิโยคํ ปาปุณิสฺสามาติ อตฺโถ. กึ ปน มยํ ตนฺติ เอวํ สนฺเต กึ ปน กึ นาม ตํ การณํ, เยน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม. อถ วา กึ ปน มยํ ตนฺติ เกน ปน การเณน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสามาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๒๙๖. ตตฺเถวาติ ยตฺถ นํ ิตํ มาตาปิตโร นานุชานึสุ, ตตฺเถว าเน. อนนฺตรหิตายาติ เกนจิ อตฺถรเณน อนตฺถตาย. ปริจาเรหีติ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ตตฺถ สหายเกหิ สทฺธึ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรหิ สฺจาเรหิ, อิโต จิโต จ อุปเนหีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปริจาเรหีติ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สหายเกหิ สทฺธึ ลฬ อุปลฬ รม, กีฬสฺสูติปิ วุตฺตํ โหติ. กาเม ปริภุฺชนฺโตติ อตฺตโน ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ โภเค ภุฺชนฺโต. ปุฺานิ กโรนฺโตติ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ อารพฺภ ทานปฺปทานาทีนิ สุคติมคฺคสํโสธกานิ กุสลกมฺมานิ กโรนฺโต. ตุณฺหี อโหสีติ กถานุปฺปพนฺธวิจฺเฉทนตฺถํ นิราลาปสลฺลาโป อโหสิ.

อถสฺส มาตาปิตโร ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปฏิวจนมฺปิ อลภมานา สหายเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอส โว สหายโก ปพฺพชิตุกาโม, นิวาเรถ น’’นฺติ อาหํสุ. เตปิ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ติกฺขตฺตุํ อโวจุํ, เตสมฺปิ ตุณฺหี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – อถ โข รฏฺปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา…เป… ตุณฺหี อโหสีติ. อถสฺส สหายกานํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อยํ ปพฺพชฺชํ อลภมาโน มริสฺสติ, น โกจิ คุโณ ลพฺภติ. ปพฺพชิตํ ปน นํ มาตาปิตโรปิ กาเลน กาลํ ปสฺสิสฺสนฺติ, มยมฺปิ ปสฺสิสฺสาม, ปพฺพชฺชาปิ จ นาเมสา ภาริยา, ทิวเส ทิวเส มตฺติกาปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, เอกเสยฺยํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ อติทุกฺกรํ, อยฺจ สุขุมาโล นาคริกชาติโย, โส ตํ จริตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน อิเธว อาคมิสฺสติ, หนฺทสฺส มาตาปิตโร อนุชานาเปสฺสามา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. มาตาปิตโรปิ นํ ‘‘ปพฺพชิเตน จ ปน เต มาตาปิตโร อุทฺทสฺเสตพฺพา’’ติ อิมํ กติกํ กตฺวา อนุชานึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข รฏฺปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา เยน รฏฺปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร…เป… อนุฺาโตสิ มาตาปิตูหิ…เป… อุทฺทสฺเสตพฺพา’’ติ. ตตฺถ อุทฺทสฺเสตพฺพาติ อุทฺธํ ทสฺเสตพฺพา, ยถา ตํ กาเลน กาลํ ปสฺสนฺติ, เอวํ อาคนฺตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตพฺพา.

๒๙๙. พลํ คเหตฺวาติ สปฺปายโภชนานิ ภุฺชนฺโต อุจฺฉาทนาทีหิ จ กายํ ปริหรนฺโต กายพลํ ชเนตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อสฺสุมุขํ าติปริวฏฺฏํ ปหาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… ปพฺพาเชตุ มํ, ภนฺเต, ภควาติ. ภควา สมีเป ิตํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ ภิกฺขุ รฏฺปาลํ ปพฺพาเชหิ เจว อุปสมฺปาเทหิ จา’’ติ. สาธุ, ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา รฏฺปาลํ กุลปุตฺตํ ชินทตฺติยํ สทฺธิวิหาริกํ ลทฺธา ปพฺพาเชสิ เจว อุปสมฺปาเทสิ จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข รฏฺปาโล กุลปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ.

ปหิตตฺโต วิหรนฺโตติ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ เอวํ วิหรนฺโต. เนยฺยปุคฺคโล หิ อยมายสฺมา, ตสฺมา ปุฺวา อภินีหารสมฺปนฺโนปิ สมาโน ‘‘อชฺช อชฺเชว อรหตฺต’’นฺติ สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ ทฺวาทสเม วสฺเส อรหตฺตํ ปาปุณิ.

เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ มยฺหํ มาตาปิตโร ปพฺพชฺชํ อนุชานมานา – ‘‘ตยา กาเลน กาลํ อาคนฺตฺวา อมฺหากํ ทสฺสนํ ทาตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อนุชานึสุ, ทุกฺกรการิกา โข ปน มาตาปิตโร, อหฺจ เยนชฺฌาสเยน ปพฺพชิโต, โส เม มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ภควนฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา อตฺตานํ มาตาปิตูนํ ทสฺเสสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อาปุจฺฉิตุกาโม อุปสงฺกมิ. มนสากาสีติ ‘‘กึ นุ โข รฏฺปาเล คเต โกจิ อุปทฺทโว ภวิสฺสตี’’ติ มนสิ อกาสิ. ตโต ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสติ นุ โข รฏฺปาโล ตํ มทฺทิตุ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ตสฺส อรหตฺตสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘สกฺขิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ยถา ภควา อฺาสิ…เป… กาลํ มฺสีติ.

มิคจีเรติ เอวํนามเก อุยฺยาเน. ตฺหิ รฺา – ‘‘อกาเล สมฺปตฺตปพฺพชิตานํ ทินฺนเมว อิทํ, ยถาสุขํ ปริภุฺชนฺตู’’ติ เอวมนุฺาตเมว อโหสิ, ตสฺมา เถโร – ‘‘มม อาคตภาวํ มาตาปิตูนํ อาโรเจสฺสามิ, เต เม ปาทโธวนอุณฺโหทกปาทมกฺขนเตลาทีนิ เปสิสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตมฺปิ อนุปฺปาเทตฺวา อุยฺยานเมว ปาวิสิ. ปิณฺฑาย ปาวิสีติ ทุติยทิวเส ปาวิสิ.

มชฺฌิมายาติ สตฺตทฺวารโกฏฺกสฺส ฆรสฺส มชฺฌิเม ทฺวารโกฏฺเก. อุลฺลิขาเปตีติ กปฺปเกน เกเส ปหราเปติ. เอตทโวจาติ – ‘‘อิเม สมณกา อมฺหากํ ปิยปุตฺตกํ ปพฺพาเชตฺวา โจรานํ หตฺเถ นิกฺขิปิตฺวา วิย เอกทิวสมฺปิ น ทสฺสาเปนฺติ, เอวํ ผรุสการกา เอเต ปุน อิมํ านํ อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺนฺติ, เอตฺโตว นิกฑฺฒิตพฺพา เอเต’’ติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘อิเมหิ มุณฺฑเกหี’’ติอาทิวจนํ อโวจ. าติทาสีติ าตกานํ ทาสี. อาภิโทสิกนฺติ ปาริวาสิกํ เอกรตฺตาติกฺกนฺตํ ปูติภูตํ. ตตฺถายํ ปทตฺโถ – ปูติภาวโทเสน อภิภูโตติ อภิโทโส, อภิโทโสว อาภิโทสิโก. เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺเสว นามสฺา เอสา ยทิทํ อาภิโทสิโกติ, ตํ อาภิโทสิกํ. กุมฺมาสนฺติ ยวกุมฺมาสํ. ฉฑฺเฑตุกามา โหตีติ ยสฺมา อนฺตมโส ทาสกมฺมการานํ โครูปานมฺปิ อปริโภคารโห, ตสฺมา นํ กจวรํ วิย พหิ ฉฑฺเฑตุกามา โหติ. สเจตนฺติ สเจ เอตํ. ภคินีติ อริยโวหาเรน อตฺตโน ธาตึ าติทาสึ อาลปติ. ฉฑฺฑนียธมฺมนฺติ ฉฑฺเฑตพฺพสภาวํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ภคินิ เอตํ สเจ พหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, อิธ เม ปตฺเต อากิราหี’’ติ. กึ ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ, วิฺตฺติ วา ปยุตฺตวาจา วา น โหตีติ. น โหติ. กสฺมา? นิสฺสฏฺปริคฺคหตฺตา. ยฺหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, ยตฺถ สามิกา อนาลยา โหนฺติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เทถ อาหรถ อากิรถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เตเนว หิ อยมายสฺมา อคฺคอริยวํสิโก สมาโนปิ เอวมาห.

หตฺถานนฺติ ภิกฺขาคหณตฺถํ ปตฺตํ อุปนามยโต มณิพนฺธโต ปภุติ ทฺวินฺนมฺปิ หตฺถานํ. ปาทานนฺติ นิวาสนนฺตโต ปฏฺาย ทฺวินฺนมฺปิ ปาทานํ. สรสฺสาติ สเจ ตํ ภคินีติ วาจํ นิจฺฉารยโต สรสฺส จ. นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ หตฺถปิฏฺิอาทีนิ โอโลกยมานา – ‘‘ปุตฺตสฺส เม รฏฺปาลสฺส วิย สุวณฺณกจฺฉปปิฏฺิสทิสา อิมา หตฺถปาทปิฏฺิโย, หริตาลวฏฺฏิโย วิย สุวฏฺฏิตา องฺคุลิโย, มธุโร สโร’’ติ คิหิกาเล สลฺลกฺขิตปุพฺพํ อาการํ อคฺคเหสิ สฺชานิ สลฺลกฺเขสิ. ตสฺส หายสฺมโต ทฺวาทสวสฺสานิ อรฺาวาสฺเจว ปิณฺฑิยาโลปโภชนฺจ ปริภุฺชนฺตสฺส อฺาทิโส สรีรวณฺโณ อโหสิ, เตน นํ สา าติทาสี ทิสฺวาว น สฺชานิ, นิมิตฺตํ ปน อคฺคเหสีติ.

๓๐๐. รฏฺปาลสฺส มาตรํ เอตทโวจาติ เถรสฺส องฺคปจฺจงฺคานิ สณฺาเปตฺวา ถฺํ ปาเยตฺวา สํวฑฺฒิตธาตีปิ สมานา ปพฺพชิตฺวา มหาขีณาสวภาวปฺปตฺเตน สามิปุตฺเตน สทฺธึ – ‘‘ตฺวํ นุ โข, เม ภนฺเต, ปุตฺโต รฏฺปาโล’’ติอาทิวจนํ วตฺตุํ อวิสหนฺตี เวเคน ฆรํ ปวิสิตฺวา รฏฺปาลสฺส มาตรํ เอตทโวจ. ยคฺเฆติ อาโรจนตฺเถ นิปาโต. สเจ เช สจฺจนฺติ เอตฺถ เชติ อาลปเน นิปาโต. เอวฺหิ ตสฺมึ เทเส ทาสิชนํ อาลปนฺติ, ตสฺมา ‘‘ตฺวฺหิ, โภติ ทาสิ, สเจ สจฺจํ ภณสี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? มหากุเล อิตฺถิโย พหิ นิกฺขมนฺตา ครหํ ปาปุณนฺติ, อิทฺจ อจฺจายิกกิจฺจํ, เสฏฺิสฺส นํ อาโรเจสฺสามีติ จินฺเตติ. ตสฺมา อุปสงฺกมิ. อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ ตสฺมึ กิร เทเส ทานปตีนํ ฆเรสุ สาลา โหนฺติ, อาสนานิ เจตฺถ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, อุปฏฺาปิตํ อุทกกฺชิยํ. ตตฺถ ปพฺพชิตา ปิณฺฑาย จริตฺวา นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺติ. สเจ อิจฺฉนฺติ, ทานปตีนมฺปิ สนฺตกํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ตมฺปิ อฺตรสฺส กุลสฺส อีทิสาย สาลาย อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปพฺพชิตา กปณมนุสฺสา วิย อสารุปฺเป าเน นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺตีติ.

อตฺถิ นาม ตาตาติ เอตฺถ อตฺถีติ วิชฺชมานตฺเถ, นามาติ ปุจฺฉนตฺเถ มฺนตฺเถ วา นิปาโต. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – อตฺถิ นุ โข, ตาต รฏฺปาล, อมฺหากํ ธนํ, นนุ มยํ นิทฺธนาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสิ. ตถา อตฺถิ นุ โข, ตาต รฏฺปาล, อมฺหากํ ชีวิตํ, นนุ มยํ มตาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสิ. ตถา อตฺถิ มฺเ, ตาต รฏฺปาล, ตว อพฺภนฺตเร สาสนํ นิสฺสาย ปฏิลทฺโธ สมณคุโณ, ยํ ตฺวํ สุโภชนรสสํวฑฺฒิโตปิ อิมํ ชิคุจฺฉเนยฺยํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อมตมิว นิพฺพิกาโร ปริภุฺชิสฺสสีติ. โส ปน คหปติ ทุกฺขาภิตุนฺนตาย เอตมตฺถํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตุมสกฺโกนฺโต – ‘‘อตฺถิ นาม, ตาต รฏฺปาล, อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสี’’ติ เอตฺตกเมว อวจ. อกฺขรจินฺตกา ปเนตฺถ อิทํ ลกฺขณํ วทนฺติ – อโนกปฺปนามริสนตฺถวเสเนตํ อตฺถิสทฺเท อุปปเท ‘‘ปริภุฺชิสฺสสี’’ติ อนาคตวจนํ กตํ. ตสฺสายมตฺโถ – ‘‘อตฺถิ นาม…เป… ปริภุฺชิสฺสสิ, อิทํ ปจฺจกฺขมฺปิ อหํ น สทฺทหามิ น มริสยามี’’ติ. อิทํ เอตฺตกํ วจนํ คหปติ เถรสฺส ปตฺตมุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา ิตโกว กเถสิ. เถโรปิ ปิตริ ปตฺตมุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา ิเตเยว ตํ ปูติกุมฺมาสํ ปริภุฺชิ สุนขวนฺตสทิสํ ปูติกุกฺกุฏณฺฑมิว ภินฺนฏฺาเน ปูติกํ วายนฺตํ. ปุถุชฺชเนน กิร ตถารูปํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิตุํ น สกฺกา. เถโร ปน อริยิทฺธิยํ ตฺวา ทิพฺโพชํ อมตรสํ ปริภุฺชมาโน วิย ปริภุฺชิตฺวา ธมกรเณน อุทกํ คเหตฺวา ปตฺตฺจ มุขฺจ หตฺถปาเท จ โธวิตฺวา กุโต โน คหปตีติอาทิมาห.

ตตฺถ กุโต โนติ กุโต นุ. เนว ทานนฺติ เทยฺยธมฺมวเสน เนว ทานํ อลตฺถมฺห. น ปจฺจกฺขานนฺติ ‘‘กึ, ตาต รฏฺปาล, กจฺจิ เต ขมนียํ, กจฺจิสิ อปฺปกิลมเถน อาคโต, น ตาว ตาต เคเห ภตฺตํ สมฺปาทิยตี’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารวเสน ปจฺจกฺขานมฺปิ น อลตฺถมฺห. กสฺมา ปน เถโร เอวมาห? ปิตุ อนุคฺคเหน. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ยถา เอส มํ วทติ, อฺเปิ ปพฺพชิเต เอวํ วทติ มฺเ. พุทฺธสาสเน จ ปตฺตนฺตเร ปทุมํ วิย ภสฺมาฉนฺโน อคฺคิ วิย เผคฺคุปฏิจฺฉนฺโน จนฺทนสาโร วิย สุตฺติกาปฏิจฺฉนฺนํ มุตฺตรตนํ วิย วลาหกปฏิจฺฉนฺโน จนฺทิมา วิย มาทิสานํ ปฏิจฺฉนฺนคุณานํ ภิกฺขูนํ อนฺโต นตฺถิ, เตสุปิ น เอวรูปํ วจนํ ปวตฺเตสฺสติ, สํวเร สฺสตี’’ติ อนุคฺคเหน เอวมาห.

เอหิ ตาตาติ ตาต ตุยฺหํ ฆรํ มา โหตุ, เอหิ ฆรํ คมิสฺสามาติ วทติ. อลนฺติ เถโร อุกฺกฏฺเอกาสนิกตาย ปฏิกฺขิปนฺโต เอวมาห. อธิวาเสสีติ เถโร ปน ปกติยา อุกฺกฏฺสปทานจาริโก สฺวาตนายภิกฺขํ นาม นาธิวาเสติ, มาตุ อนุคฺคเหน ปน อธิวาเสสิ. มาตุ กิรสฺส เถรํ อนุสฺสริตฺวา มหาโสโก อุปฺปชฺชิ, โรทเนเนว ปกฺกกฺขิ วิย ชาตา, ตสฺมา เถโร ‘‘สจาหํ ตํ อปสฺสิตฺวา คมิสฺสามิ, หทยมฺปิสฺสา ผาเลยฺยา’’ติ อนุคฺคเหน อธิวาเสสิ. การาเปตฺวาติ เอกํ หิรฺสฺส, เอกํ สุวณฺณสฺสาติ ทฺเว ปุฺเช การาเปตฺวา. กีวมหนฺตา ปน ปุฺชา อเหสุนฺติ. ยถา โอรโต ิโต ปุริโส ปารโต ิตํ มชฺฌิมปฺปมาณํ ปุริสํ น ปสฺสติ, เอวํมหนฺตา.

๓๐๑. อิทํ เต ตาตาติ กหาปณปุฺชฺจ สุวณฺณปุฺชฺจ ทสฺเสนฺโต อาห. มตฺติกนฺติ มาติโต อาคตํ, อิทํ เต มาตามหิยา มาตุ อิมํ เคหํ อาคจฺฉนฺติยา คนฺธมาลาทีนํ อตฺถาย ทินฺนํ ธนนฺติ อตฺโถ. อฺํ เปตฺติกํ อฺํ ปิตามหนฺติ ยํ ปน เต ปิตุ จ ปิตามหานฺจ สนฺตกํ, ตํ อฺํเยว, นิหิตฺจ ปยุตฺตฺจ อติวิย พหุ. เอตฺถ จ ‘‘ปิตามห’’นฺติ ตทฺธิตโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เปตามห’’นฺติ วา ปาโ. สกฺกา ตโตนิทานนฺติ ธนเหตุ ธนปจฺจยา. ตํ ตํ ธนํ รกฺขนฺตสฺส จ ราชาทีนํ วเสน ธนปริกฺขยํ ปาปุณนฺตสฺส กสฺสจิ อุปฺปชฺชมานโสกาทโย สนฺธาย เอวมาห. เอวํ วุตฺเต เสฏฺิ คหปติ – ‘‘อหํ อิมํ อุปฺปพฺพาเชสฺสามีติ อาเนสึ, โส ทานิ เม ธมฺมกถํ กาตุํ อารทฺโธ, อยํ น เม วจนํ กริสฺสตี’’ติ อุฏฺาย คนฺตฺวา อสฺส โอโรธานํ ทฺวารํ วิวราเปตฺวา – ‘‘อยํ โว สามิโก, คจฺฉถ ยํ กิฺจิ กตฺวา นํ คณฺหิตุํ วายมถา’’ติ อุยฺโยเชสิ. สุวเย ิตา นาฏกิตฺถิโย นิกฺขมิตฺวา เถรํ ปริวารยึสุ, ตาสุ ทฺเว เชฏฺกิตฺถิโย สนฺธาย ปุราณทุติยิกาติอาทิ วุตฺตํ. ปจฺเจกํ ปาเทสุ คเหตฺวาติ เอเกกมฺหิ ปาเท นํ คเหตฺวา.

กีทิสา นาม ตา อยฺยปุตฺต อจฺฉราโยติ กสฺมา เอวมาหํสุ? ตทา กิร สมฺพหุเล ขตฺติยกุมาเรปิ พฺราหฺมณกุมาเรปิ เสฏฺิปุตฺเตปิ มหาสมฺปตฺติโย ปหาย ปพฺพชนฺเต ทิสฺวา ปพฺพชฺชาคุณํ อชานนฺตา กถํ สมุฏฺาเปนฺติ ‘‘กสฺมา เอเต ปพฺพชนฺตี’’ติ. อถฺเ วทนฺติ ‘‘เทวจฺฉราเทวนาฏกานํ การณา’’ติ. สา กถา วิตฺถาริกา อโหสิ. ตํ คเหตฺวา สพฺพา เอวมาหํสุ. อถ เถโร ปฏิกฺขิปนฺโต น โข มยํ ภคินีติอาทิมาห. สมุทาจรตีติ โวหรติ วทติ. ตตฺเถว มุจฺฉิตา ปปตึสูติ ตํ ภคินิวาเทน สมุทาจรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยํ อชฺช อาคมิสฺสติ, อชฺช อาคมิสฺสตี’’ติ ทฺวาทส วสฺสานิ พหิ น นิกฺขนฺตา, เอตํ นิสฺสาย โน ทารกา น ลทฺธา, เยสํ อานุภาเวน ชีเวยฺยาม, อิโต จมฺหา ปริหีนา อฺโต จ. อยํ โลโก นาม อตฺตโนว จินฺเตสิ, ตสฺมา ตาปิ ‘‘อิทานิ มยํ อนาถา ชาตา’’ติ อตฺตโนว จินฺตยมานา – ‘‘อนตฺถิโก ทานิ อมฺเหหิ อยํ, โส อมฺเห ปชาปติโย สมานา อตฺตนา สทฺธึ เอกมาตุกุจฺฉิยา สยิตทาริกา วิย มฺตี’’ติ สมุปฺปนฺนพลวโสกา หุตฺวา ตสฺมึเยว ปเทเส มุจฺฉิตา ปปตึสุ, ปติตาติ อตฺโถ.

มา โน วิเหเถาติ มา อมฺเห ธนํ ทสฺเสตฺวา มาตุคาเม จ อุยฺโยเชตฺวา วิเหยิตฺถ, วิเหสา เหสา ปพฺพชิตานนฺติ. กสฺมา เอวมาห? มาตาปิตูนํ อนุคฺคเหน. โส กิร เสฏฺิ – ‘‘ปพฺพชิตลิงฺคํ นาม กิลิฏฺํ, ปพฺพชฺชาเวสํ หาเรตฺวา นฺหายิตฺวา ตโย ชนา เอกโต ภุฺชิสฺสามา’’ติ มฺมาโน เถรสฺส ภิกฺขํ น เทติ. เถโร – ‘‘มาทิสสฺส ขีณาสวสฺส อาหารนฺตรายํ กตฺวา เอเต พหุํ อปุฺํ ปสเวยฺยุ’’นฺติ เตสํ อนุคฺคเหน เอวมาห.

๓๐๒. คาถา อภาสีติ คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ ปสฺสาติ สนฺติเก ิตชนํ สนฺธาย วทติ. จิตฺตนฺติ จิตฺตวิจิตฺตํ. พิมฺพนฺติ อตฺตภาวํ. อรุกายนฺติ นวนฺนํ วณมุขานํ วเสน วณกายํ. สมุสฺสิตนฺติ ตีณิ อฏฺิสตานิ นวหิ นฺหารุสเตหิ พนฺธิตฺวา นวหิ มํสเปสิสเตหิ ลิมฺปิตฺวา สมนฺตโต อุสฺสิตํ. อาตุรนฺติ ชราตุรตาย โรคาตุรตาย กิเลสาตุรตาย จ นิจฺจาตุรํ. พหุสงฺกปฺปนฺติ ปเรสํ อุปฺปนฺนปตฺถนาสงฺกปฺเปหิ พหุสงฺกปฺปํ. อิตฺถีนฺหิ กาเย ปุริสานํ สงฺกปฺปา อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ กาเย อิตฺถีนํ. สุสาเน ฉฑฺฑิตกเฬวรภูตมฺปิ เจตํ กากกุลลาทโย ปตฺถยนฺติเยวาติ พหุสงฺกปฺโป นาม โหติ. ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิตีติ ยสฺส กายสฺส มายามรีจิเผณปิณฺฑ อุทกปุปฺผุฬาทีนํ วิย เอกํเสเนว ิติ นาม นตฺถิ, ภิชฺชนธมฺมตาว นิยตา.

ตเจน โอนทฺธนฺติ อลฺลมนุสฺสจมฺเมน โอนทฺธํ. สห วตฺเถภิ โสภตีติ คนฺธาทีหิ มณิกุณฺฑเลหิ จ จิตฺตกตมฺปิ รูปํ วตฺเถหิ สเหว โสภติ, วินา วตฺเถหิ เชคุจฺฉํ โหติ อโนโลกนกฺขมํ.

อลตฺตกกตาติ อลตฺตเกน รฺชิตา. จุณฺณกมกฺขิตนฺติ สาสปกกฺเกน มุขปีฬกาทีนิ นีหริตฺวา โลณมตฺติกาย ทุฏฺโลหิตํ วิลิยาเปตฺวา ติลปิฏฺเน โลหิตํ ปสาเทตฺวา หลิทฺทิยา วณฺณํ สมฺปาเทตฺวา จุณฺณกคณฺฑิกาย มุขํ ปหรนฺติ, เตเนส อติวิย วิโรจติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

อฏฺาปทกตาติ รโสทเกน มกฺขิตฺวา นลาฏปริยนฺเต อาวตฺตนปริวตฺเต กตฺวา อฏฺปทกรจนาย รจิตา. อฺชนีติ อฺชนนาฬิกา.

โอทหีติ เปสิ. ปาสนฺติ วากราชาลํ. นาสทาติ น ฆฏฺฏยิ. นิวาปนฺติ นิวาปสุตฺเต วุตฺตนิวาปติณสทิสโภชนํ. กนฺทนฺเตติ วิรวมาเน ปริเทวมาเน. อิมาย หิ คาถาย เถโร มาตาปิตโร มิคลุทฺทเก วิย กตฺวา ทสฺเสสิ, อวเสสาตเก มิคลุทฺทกปริสํ วิย, หิรฺสุวณฺณํ วากราชาลํ วิย, อตฺตนา ภุตฺตโภชนํ นิวาปติณํ วิย, อตฺตานํ มหามิคํ วิย กตฺวา ทสฺเสสิ. ยถา หิ มหามิโค ยาวทตฺถํ นิวาปติณํ ขาทิตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ทิสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิมํ นาม านํ คตสฺส โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ มิคลุทฺทกานํ ปริเทวนฺตานํเยว วากรํ อฆฏฺฏยมาโนว อุปฺปติตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ฆนจฺฉายสฺส ฉตฺตสฺส วิย คุมฺพสฺส เหฏฺา มนฺทมนฺเทน วาเตน พีชยมาโน อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺโต ติฏฺติ, เอวเมว เถโร อิมา คาถา ภาสิตฺวา อากาเสเนว คนฺตฺวา มิคจีเร ปจฺจุปฏฺาสิ.

กสฺมา ปน เถโร อากาเสน คโตติ. ปิตา กิรสฺส เสฏฺิ สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ อคฺคฬํ ทาเปตฺวา มลฺเล อาณาเปสิ – ‘‘สเจ นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ, หตฺถปาเทสุ นํ คเหตฺวา กาสายานิ หริตฺวา คิหิเวสํ คณฺหาเปถา’’ติ. ตสฺมา เถโร – ‘‘เอเต มาทิสํ มหาขีณาสวํ หตฺเถ วา ปาเท วา คเหตฺวา อปุฺํ ปสเวยฺยุํ, ตํ เนสํ มา อโหสี’’ติ จินฺเตตฺวา อากาเสน อคมาสิ. ปรสมุทฺทวาสิตฺเถรานํ ปน – ‘‘ิตโกว อิมา คาถา ภาสิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา รฺโ โกรพฺยสฺส มิคจีเร ปจฺจุปฏฺาสี’’ติ อยํ วาจนามคฺโคเยว.

๓๐๓. มิคโวติ ตสฺส อุยฺยานปาลสฺส นามํ. โสเธนฺโตติ อุยฺยานมคฺคํ สมํ กาเรตฺวา อนฺโตอุยฺยาเน ตจฺฉิตพฺพยุตฺตฏฺานานิ ตจฺฉาเปนฺโต สมฺมชฺชิตพฺพยุตฺตานิ านานิ สมฺมชฺชาเปนฺโต วาลุกาโอกิรณ-ปุปฺผวิกิรณ-ปุณฺณฆฏฏฺปน-กทลิกฺขนฺธปนาทีนิ จ กโรนฺโตติ อตฺโถ. เยน ราชา โกรพฺโย เตนุปสงฺกมีติ อมฺหากํ ราชา สทา อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส วณฺณํ กเถสิ, ปสฺสิตุกาโม เอตํ, อาคตภาวํ ปนสฺส น ชานาติ, มหา โข ปนายํ ปณฺณากาโร, คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสฺสามีติ จินฺเตตฺวา เยน ราชา โกรพฺโย เตนุปสงฺกมิ.

กิตฺตยมาโน อโหสีติ โส กิร ราชา เถรํ อนุสฺสริตฺวา พลมชฺเฌปิ นาฏกมชฺเฌปิ – ‘‘ทุกฺกรํ กตํ กุลปุตฺเตน ตาว มหนฺตํ สมฺปตฺตึ ปหาย ปพฺพชิตฺวา ปุนนิวตฺติตฺวา อนปโลเกนฺเตนา’’ติ คุณํ กเถสิ, ตํ คเหตฺวา อยํ เอวมาห. วิสฺสชฺเชถาติ วตฺวาติ โอโรธมหามตฺตพลกายาทีสุ ยสฺส ยํ อนุจฺฉวิกํ, ตสฺส ตํ ทาเปตฺวาติ อตฺโถ. อุสฺสฏาย อุสฺสฏายาติ อุสฺสิตาย อุสฺสิตาย, มหามตฺตมหารฏฺิกาทีนํ วเสน อุคฺคตุคฺคตเมว ปริสํ คเหตฺวา อุปสงฺกมีติ อตฺโถ. อิธ ภวํ รฏฺปาโล หตฺถตฺถเร นิสีทตูติ หตฺถตฺถโร ตนุโก พหลปุปฺผาทิคุณํ กตฺวา อตฺถโต อภิลกฺขิโต โหติ, ตาทิเส อนาปุจฺฉิตฺวา นิสีทิตุํ น ยุตฺตนฺติ มฺมาโน เอวมาห.

๓๐๔. ปาริชุฺานีติ ปาริชุฺภาวา ปริกฺขยา. ชิณฺโณติ ชราชิณฺโณ. วุฑฺโฒติ วโยวุฑฺโฒ. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธคโตติ อทฺธานํ อติกฺกนฺโต. วโยอนุปฺปตฺโตติ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺโต. ปพฺพชตีติ ธุรวิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขู วนฺทิตฺวา, – ‘‘ภนฺเต, มยา ทหรกาเล พหุํ กุสลํ กตํ, อิทานิ มหลฺลโกมฺหิ, มหลฺลกสฺส เจสา ปพฺพชฺชา นาม, เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา อปฺปหริตํ กตฺวา ชีวิสฺสามิ, ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต,’’ติ การุฺํ อุปฺปาเทนฺโต ยาจติ, เถรา อนุกมฺปาย ปพฺพาเชนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทุติยวาเรปิ เอเสว นโย.

อปฺปาพาโธติ อโรโค. อปฺปาตงฺโกติ นิทฺทุกฺโข. สมเวปากินิยาติ สมวิปาจนิยา. คหณิยาติ กมฺมชเตโชธาตุยา. ตตฺถ ยสฺส ภุตฺตภุตฺโต อาหาโร ชีรติ, ยสฺส วา ปน ปุฏภตฺตํ วิย ตเถว ติฏฺติ, อุโภเปเต น สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคตา. ยสฺส ปน ภุตฺตกาเล ภตฺตจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชเตว, อยํ สมเวปากินิยา สมนฺนาคโต. นาติสีตาย นจฺจุณฺหายาติ เตเนว การเณน นาติสีตาย นจฺจุณฺหาย. อนุปุพฺเพนาติ ราชาโน วา หรนฺตีติอาทินา อนุกฺกเมน. ทุติยวาเร ราชภยโจรภยฉาตกภยาทินา อนุกฺกเมน.

๓๐๕. ธมฺมุทฺเทสา อุทฺทิฏฺาติ ธมฺมนิทฺเทสา อุทฺทิฏฺา. อุปนิยฺยตีติ ชรามรณสนฺติกํ คจฺฉติ, อายุกฺขเยน วา ตตฺถ นิยฺยติ. อทฺธุโวติ ธุวฏฺานวิรหิโต. อตาโณติ ตายิตุํ สมตฺเถน วิรหิโต. อนภิสฺสโรติ อสรโณ อภิสริตฺวา อภิคนฺตฺวา อสฺสาเสตุํ สมตฺเถน วิรหิโต. อสฺสโกติ นิสฺสโก สกภณฺฑวิรหิโต. สพฺพํ ปหาย คมนียนฺติ สกภณฺฑนฺติ สลฺลกฺขิตํ สพฺพํ ปหาย โลเกน คนฺตพฺพํ. ตณฺหาทาโสติ ตณฺหาย ทาโส.

๓๐๖. หตฺถิสฺมินฺติ หตฺถิสิปฺเป. กตาวีติ กตกรณีโย, สิกฺขิตสิกฺโข ปคุณสิปฺโปติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อูรุพลีติ อูรุพลสมฺปนฺโน. ยสฺส หิ ผลกฺจ อาวุธฺจ คเหตฺวา ปรเสนํ ปวิสิตฺวา อภินฺนํ ภินฺทโต ภินฺนํ สนฺธารยโต ปรหตฺถคตํ รชฺชํ อาหริตุํ อูรุพลํ อตฺถิ, อยํ อูรุพลี นาม. พาหุพลีติ พาหุพลสมฺปนฺโน. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อลมตฺโตติ สมตฺถอตฺตภาโว.

ปริโยธาย วตฺติสฺสนฺตีติ อุปฺปนฺนํ อุปฺปทฺทวํ โอธาย อวตฺถริตฺวา วตฺติสฺสนฺตีติ สลฺลกฺเขตฺวา คหิตา.

สํวิชฺชติ โข, โภ รฏฺปาล, อิมสฺมึ ราชกุเล ปหูตํ หิรฺสุวณฺณนฺติ อิทํ โส ราชา อุปริ ธมฺมุทฺเทสสฺส การณํ อาหรนฺโต อาห.

อถาปรํ เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘ปสฺสามิ โลเก’’ติอาทินา นเยน จตุนฺนํ ธมฺมุทฺเทสานํ อนุคีตึ อโวจ.

๓๐๗. ตตฺถ ภิยฺโยว กาเม อภิปตฺถยนฺตีติ เอกํ ลภิตฺวา ทฺเว ปตฺถยนฺติ, ทฺเว ลภิตฺวา จตฺตาโรติ เอวํ อุตฺตรุตฺตริ วตฺถุกามกิเลสกาเม ปตฺถยนฺติเยว.

ปสยฺหาติ สปตฺตคณํ อภิภวิตฺวา. สสาครนฺตนฺติ สทฺธึ สาครนฺเตน. โอรํ สมุทฺทสฺสาติ ยํ สมุทฺทสฺส โอรโต สกรฏฺํ, เตน อติตฺตรูโปติ อตฺโถ. น หตฺถีติ น หิ อตฺถิ.

อโห วตา โนติ อโห วต นุ, อยเมว วา ปาโ. อมราติ จาหูติ อมรํ อิติ จ อาหุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ มตํ าตี ปริวาเรตฺวา กนฺทนฺติ, ตํ – ‘‘อโห วต อมฺหากํ ภาตา มโต, ปุตฺโต มโต’’ติอาทีนิปิ วทนฺติ.

ผุสนฺติ ผสฺสนฺติ มรณผสฺสํ ผุสนฺติ. ตเถว ผุฏฺโติ ยถา พาโล, ธีโรปิ ตเถว มรณผสฺเสน ผุฏฺโ, อผุฏฺโ นาม นตฺถิ, อยํ ปน วิเสโส. พาโล จ พาลฺยา วธิโตว เสตีติ พาโล พาลภาเวน มรณผสฺสํ อาคมฺม วธิโตว เสติ อภิหโตว สยติ. อกตํ วต เม กลฺยาณนฺติอาทิวิปฺปฏิสารวเสน จลติ เวธติ วิปฺผนฺทติ. ธีโร จ น เวธตีติ ธีโร สุคตินิมิตฺตํ ปสฺสนฺโต น เวธติ น จลติ.

ยาย โวสานํ อิธาธิคจฺฉตีติ ยาย ปฺาย อิมสฺมึ โลเก สพฺพกิจฺจโวสานํ อรหตฺตํ อธิคจฺฉติ, สาว ธนโต อุตฺตมตรา. อพฺโยสิตตฺตาติ อปริโยสิตตฺตา, อรหตฺตปตฺติยา, อภาเวนาติ อตฺโถ. ภวาภเวสูติ หีนปฺปณีเตสุ ภเวสุ.

อุเปติ คพฺภฺจ ปรฺจ โลกนฺติ เตสุ ปาปํ กโรนฺเตสุ โย โกจิ สตฺโต ปรมฺปราย สํสารํ อาปชฺชิตฺวา คพฺภฺจ ปรฺจ โลกํ อุเปติ. ตสฺสปฺปปฺโติ ตสฺส ตาทิสสฺส อปฺปปฺสฺส อฺโ อปฺปปฺโ อภิสทฺทหนฺโต.

สกมฺมุนา หฺตีติ อตฺตนา กตกมฺมวเสน ‘‘กสาหิปิ ตาเลตี’’ติอาทีหิ กมฺมการณาหิ หฺติ. เปจฺจ ปรมฺหิ โลเกติ อิโต คนฺตฺวา ปรมฺหิ อปายโลเก.

วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน, นานาสภาเวนาติ อตฺโถ. กามคุเณสูติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิเกสุ สพฺพกามคุเณสุ อาทีนวํ ทิสฺวา. ทหราติ อนฺตมโส กลลมตฺตภาวํ อุปาทาย ตรุณา. วุฑฺฒาติ วสฺสสตาติกฺกนฺตา. อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโยติ อวิรุทฺธํ อทฺวชฺฌคามึ เอกนฺตนิยฺยานิกํ สามฺเมว ‘‘เสยฺโย, อุตฺตริตรฺจ ปณีตตรฺจา’’ติ อุปธาเรตฺวา ปพฺพชิโตสฺมิ มหาราชาติ. ตสฺมา ยํ ตฺวํ วทสิ – ‘‘กึ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา’’ติ, อิทํ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ปพฺพชิโตสฺมีติ มํ ธาเรหีติ เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

รฏฺปาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มฆเทวสุตฺตวณฺณนา

๓๐๘. เอวํ เม สุตนฺติ มฆเทวสุตฺตํ. ตตฺถ มฆเทวอมฺพวเนติ ปุพฺเพ มฆเทโว นาม ราชา ตํ อมฺพวนํ โรเปสิ. เตสุ รุกฺเขสุ ปลุชฺชมาเนสุ อปรภาเค อฺเปิ ราชาโน โรเปสุํเยว. ตํ ปน ปมโวหารวเสน มฆเทวมฺพวนนฺเตว สงฺขํ คตํ. สิตํ ปาตฺวากาสีติ สายนฺหสมเย วิหารจาริกํ จรมาโน รมณียํ ภูมิภาคํ ทิสฺวา – ‘‘วสิตปุพฺพํ นุ โข เม อิมสฺมึ โอกาเส’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘ปุพฺเพ อหํ มฆเทโว นาม ราชา หุตฺวา อิมํ อมฺพวนํ โรเปสึ, เอตฺเถว ปพฺพชิตฺวา จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึ. ตํ โข ปเนตํ การณํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อปากฏํ, ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ อคฺคคฺคทนฺเต ทสฺเสนฺโต สิตํ ปาตุ อกาสิ.

ธมฺโม อสฺส อตฺถีติ ธมฺมิโก. ธมฺเมน ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. ธมฺเม ิโตติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม ิโต. ธมฺมํ จรตีติ สมํ จรติ. ตตฺร พฺราหฺมณคหปติเกสูติ โยปิ โส ปุพฺพราชูหิ พฺราหฺมณานํ ทินฺนปริหาโร, ตํ อหาเปตฺวา ปกตินิยาเมเนว อทาสิ, ตถา คหปติกานํ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปกฺขสฺสาติ อิมินา ปาฏิหาริกปกฺโขปิ สงฺคหิโต. อฏฺมีอุโปสถสฺส หิ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน สตฺตมิยฺจ นวมิยฺจ, จาตุทฺทสปนฺนรสานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน เตรสิยฺจ ปาฏิปเท จาติ อิเม ทิวสา ปาฏิหาริกปกฺขาติ เวทิตพฺพา. เตสุปิ อุโปสถํ อุปวสิ.

๓๐๙. เทวทูตาติ เทโวติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตา. สิรสฺมิฺหิ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ มจฺจุราชสฺส สนฺติเก ิโต วิย โหติ, ตสฺมา ปลิตานิ มจฺจุเทวสฺส ทูตาติ วุจฺจนฺติ. เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตา. ยถา หิ อลงฺกตปฏิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ตฺวา ‘‘อสุกทิวเส มริสฺสตี’’ติ วุตฺเต ตํ ตเถว โหติ, เอวํ สิรสฺมึ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ เทวตาพฺยากรณสทิสเมว โหติ. ตสฺมา ปลิตานิ เทวสทิสา ทูตาติ วุจฺจนฺติ. วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตา. สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิตมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคมาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชนฺติ. ยถาห –

‘‘ชิณฺณฺจ ทิสฺวา ทุขิตฺจ พฺยาธิตํ,

มตฺจ ทิสฺวา คตมายุสงฺขยํ;

กาสายวตฺถํ ปพฺพชิตฺจ ทิสฺวา,

ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราชา’’ติ.

อิมินา ปริยาเยน ปลิตานิ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตตฺตา เทวทูตาติ วุจฺจนฺติ.

กปฺปกสฺส คามวรํ ทตฺวาติ สตสหสฺสุฏฺานกํ เชฏฺกคามํ ทตฺวา. กสฺมา อทาสิ? สํวิคฺคมานสตฺตา. ตสฺส หิ อฺชลิสฺมึ ปิตานิ ปลิตานิ ทิสฺวาว สํเวโค อุปฺปชฺชติ. อฺานิ จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุ อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ มจฺจุราชสฺส สนฺติเก ิตํ วิย อตฺตานํ มฺมาโน สํวิคฺโค ปพฺพชฺชํ โรเจติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘สิเร ทิสฺวาน ปลิตํ, มฆเทโว ทิสมฺปติ;

สํเวคํ อลภี ธีโร, ปพฺพชฺชํ สมโรจยี’’ติ.

อปรมฺปิ วุตฺตํ –

‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;

ปาตุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติ.

ปุริสยุเคติ วํสสมฺภเว ปุริเส. เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวาติ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชนฺตาปิ หิ ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพชนฺติ, ตโต ปฏฺาย วฑฺฒิเต เกเส พนฺธิตฺวา ชฏากลาปธรา หุตฺวา วิจรนฺติ. โพธิสตฺโตปิ ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. ปพฺพชิโต ปน อเนสนํ อนนุยุฺชิตฺวา ราชเคหโต อาหฏภิกฺขาย ยาเปนฺโต พฺรหฺมวิหารํ ภาเวสิ. ตสฺมา โส เมตฺตาสหคเตนาติอาทิ วุตฺตํ.

กุมารกีฬิตํ กีฬีติ องฺเกน องฺกํ ปริหริยมาโน กีฬิ. มาลากลาปํ วิย หิ นํ อุกฺขิปิตฺวาว วิจรึสุ. รฺโ มฆเทวสฺส ปุตฺโต…เป… ปพฺพชีติ อิมสฺส ปพฺพชิตทิวเส ปฺจ มงฺคลานิ อเหสุํ. มฆเทวรฺโ มตกภตฺตํ, ตสฺส รฺโ ปพฺพชิตมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส ฉตฺตุสฺสาปนมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส อุปรชฺชมงฺคลํ, ตสฺส ปุตฺตสฺส นามกรณมงฺคลนฺติ เอกสฺมึเยว สมเย ปฺจ มงฺคลานิ อเหสุํ, สกลชมฺพุทีปตเล อุนฺนงฺคลมโหสิ.

๓๑๑. ปุตฺตปปุตฺตกาติ ปุตฺตา จ ปุตฺตปุตฺตา จาติ เอวํ ปวตฺตา ตสฺส ปรมฺปรา. ปจฺฉิมโก อโหสีติ ปพฺพชฺชาปจฺฉิมโก อโหสิ. โพธิสตฺโต กิร พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต – ‘‘ปวตฺตติ นุ โข ตํ มยา มนุสฺสโลเก นิหตํ กลฺยาณวตฺต’’นฺติ อาวชฺชนฺโต อทฺทส – ‘‘เอตฺตกํ อทฺธานํ ปวตฺตติ, อิทานิ น ปวตฺติสฺสตี’’ติ. น โข ปนาหํ มยฺหํ ปเวณิยา อุจฺฉิชฺชิตุํ ทสฺสามีติ อตฺตโน วํเส ชาตรฺโเยว อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา อตฺตโน วํสสฺส เนมึ ฆเฏนฺโต วิย นิพฺพตฺโต, เตเนวสฺส นิมีติ นามํ อโหสิ. อิติ โส ปพฺพชิตราชูนํ สพฺพปจฺฉิมโก หุตฺวา ปพฺพชิโตติ ปพฺพชฺชาปจฺฉิมโก อโหสิ. คุเณหิ ปน อติเรกตโร. ตสฺส หิ สพฺพราชูหิ อติเรกตรา ทฺเว คุณา อเหสุํ. จตูสุ ทฺวาเรสุ สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา เทวสิกํ ทานํ อทาสิ, อนุโปสถิกสฺส จ ทสฺสนํ นิวาเรสิ. อนุโปสถิเกสุ หิ ราชานํ ปสฺสิสฺสามาติ คเตสุ โทวาริโก ปุจฺฉติ ‘‘ตุมฺเห อุโปสถิกา โน วา’’ติ. เย อนุโปสถิกา โหนฺติ, เต นิวาเรติ ‘‘อนุโปสถิกานํ ราชา ทสฺสนํ น เทตี’’ติ. ‘‘มยํ ชนปทวาสิโน กาเล โภชนํ กุหึ ลภิสฺสามา’’ติปิ ตตฺถ วจโนกาโส นตฺถิ. จตูสุ หิ ทฺวาเรสุ ราชงฺคเณ จ อเนกานิ ภตฺตจาฏิสหสฺสานิ ปฏิยตฺตาเนว โหนฺติ. ตสฺมา มหาชโน อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺาเน มสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหายิตฺวา วตฺถานิ ปริวตฺเตตฺวา ยถารุจิตํ โภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย รฺโ เคหทฺวารํ คจฺฉติ. โทวาริเกน ‘‘อุโปสถิกา ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิตปุจฺฉิตา ‘‘อาม อามา’’ติ วทนฺติ. เตน หิ อาคจฺฉถาติ ปเวเสตฺวา รฺโ ทสฺเสติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ คุเณหิ อติเรกตโร อโหสิ.

๓๑๒. เทวานํ ตาวตึสานนฺติ ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตเทวานํ. เต กิร เทวา วิเทหรฏฺเ มิถิลนครวาสิโน รฺโ โอวาเท ตฺวา ปฺจ สีลานิ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตา รฺโ คุณกถํ กเถนฺติ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เทวานํ ตาวตึสาน’’นฺติ.

นิสินฺโน โหตีติ ปาสาทวรสฺส อุปริคโต ทานฺจ สีลฺจ อุปปริกฺขมาโน นิสินฺโน โหติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘ทานํ นุ โข มหนฺตํ อุทาหุ สีลํ, ยทิ ทานํ มหนฺตํ, อชฺโฌตฺถริตฺวา ทานเมว ทสฺสามิ. อถ สีลํ, สีลเมว ปูริสฺสามี’’ติ. ตสฺส ‘‘อิทํ มหนฺตํ อิทํ มหนฺต’’นฺติ นิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺตสฺเสว สกฺโก คนฺตฺวา ปุรโต ปาตุรโหสิ. เตน วุตฺตํ อถ โข, อานนฺท,…เป… สมฺมุเข ปาตุรโหสีติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘รฺโ กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺส กงฺขจฺเฉทนตฺถํ ปฺหฺจ กเถสฺสามิ, อิธาคมนตฺถาย ปฏิฺฺจ คณฺหิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา คนฺตฺวา สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. ราชา อทิฏฺปุพฺพํ รูปํ ทิสฺวา ภีโต อโหสิ โลมหฏฺชาโต. อถ นํ สกฺโก – ‘‘มา ภายิ, มหาราช, วิสฺสตฺโถ ปฺหํ ปุจฺฉ, กงฺขํ เต ปฏิวิโนเทสฺสามี’’ติ อาห.

ราชา

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ มหาราช, สพฺพภูตานมิสฺสร;

ทานํ วา พฺรหฺมจริยํ วา, กตมํ สุ มหปฺผล’’นฺติ. –

ปฺหํ ปุจฺฉิ. สกฺโก – ‘‘ทานํ นาม กึ, สีลเมว คุณวิสิฏฺตาย มหนฺตํ. อหฺหิ ปุพฺเพ, มหาราช, ทสวสฺสสหสฺสานิ ทสนฺนํ ชฏิลสหสฺสานํ ทานํ ทตฺวา เปตฺติวิสยโต น มุตฺโต, สีลวนฺตา ปน มยฺหํ ทานํ ภุฺชิตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อโวจ –

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌติ.

น เหเต สุลภา กายา, ยาจโยเคน เกนจิ;

เย กาเย อุปปชฺชนฺติ, อนาคารา ตปสฺสิโน’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๔๒๙-๔๓๐);

เอวํ รฺโ กงฺขํ วิโนเทตฺวา เทวโลกคมนาย ปฏิฺาคหณตฺถํ ลาภา เต มหาราชาติอาทิมาห. ตตฺถ อวิกมฺปมาโนติ อภายมาโน. อธิวาเสสีติ อหํ มหาชนํ กุสลํ สมาทเปมิ, ปุฺวนฺตานํ ปน วสนฏฺานํ ทิสฺวา อาคเตน มนุสฺสปเถ สุขํ กเถตุํ โหตีติ อธิวาเสสิ.

๓๑๓. เอวํ ภทฺทนฺตวาติ เอวํ โหตุ ภทฺทกํ ตว วจนนฺติ วตฺวา. โยเชตฺวาติ เอกสฺมึเยว ยุเค สหสฺสอสฺสาชานีเย โยเชตฺวา. เตสํ ปน ปาฏิเยกฺกํ โยชนกิจฺจํ นตฺถิ, มนํ อาคมฺม ยุตฺตาเยว โหนฺติ. โส ปน ทิพฺพรโถ ทิยฑฺฒโยชนสติโก โหติ, นทฺธิโต ปฏฺาย รถสีสํ ปฺาสโยชนานิ, อกฺขพนฺโธ ปณฺณาสโยชนานิ, อกฺขพนฺธโต ปฏฺาย ปจฺฉาภาโค ปณฺณาสโยชนานิ, สพฺโพ สตฺตวณฺณรตนมโย. เทวโลโก นาม อุทฺธํ, มนุสฺสโลโก อโธ, ตสฺมา เหฏฺามุขํ รถํ เปเสสีติ น สลฺลกฺเขตพฺพํ. ยถา ปน ปกติมคฺคํ เปเสติ, เอวเมว มนุสฺสานํ สายมาสภตฺเต นิฏฺิเต จนฺเทน สทฺธึ ยุคนทฺธํ กตฺวา เปเสสิ, ยมกจนฺทา อุฏฺิตา วิย อเหสุํ. มหาชโน ทิสฺวา ‘‘ยมกจนฺทา อุคฺคตา’’ติ อาห. อาคจฺฉนฺเต อาคจฺฉนฺเต น ยมกจนฺทา, เอกํ วิมานํ, น วิมานํ, เอโก รโถติ. รโถปิ อาคจฺฉนฺโต อาคจฺฉนฺโต ปกติรถปฺปมาโณว, อสฺสาปิ ปกติอสฺสปฺปมาณาว อเหสุํ. เอวํ รถํ อาหริตฺวา รฺโ ปาสาทํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปาจีนสีหปฺชรฏฺาเน รถํ นิวตฺเตตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขํ กตฺวา สีหปฺชเร ตฺวาว อาโรหนสชฺชํ เปสิ.

อภิรุห มหาราชาติ ราชา – ‘‘ทิพฺพยานํ เม ลทฺธ’’นฺติ น ตาวเทว อภิรุหิ, นาครานํ ปน โอวาทํ อทาสิ ‘‘ปสฺสถ ตาตา, ยํ เม สกฺเกน เทวรฺา ทิพฺพรโถ เปสิโต, โส จ โข น ชาติโคตฺตํ วา กุลปฺปเทสํ วา ปฏิจฺจ เปสิโต, มยฺหํ ปน สีลาจารคุเณ ปสีทิตฺวา เปสิโต. สเจ ตุมฺเหปิ สีลํ รกฺขิสฺสถ, ตุมฺหากมฺปิ เปเสสฺสติ, เอวํ รกฺขิตุํ ยุตฺตํ นาเมตํ สีลํ. นาหํ เทวโลกํ คนฺตฺวา จิรายิสฺสามิ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ มหาชนํ โอวทิตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา รถํ อภิรุหิ. ตโต มาตลิ สงฺคาหโก ‘‘อหมฺปิ มหาราชสฺส มมานุจฺฉวิกํ กริสฺสามี’’ติ อากาสมฺหิ ทฺเว มคฺเค ทสฺเสตฺวา อปิจ มหาราชาติอาทิมาห.

ตตฺถ กตเมนาติ, มหาราช, อิเมสุ มคฺเคสุ เอโก นิรยํ คจฺฉติ, เอโก เทวโลกํ, เตสุ ตํ กตเมน เนมิ. เยนาติ เยน มคฺเคน คนฺตฺวา ยตฺถ ปาปกมฺมนฺตา ปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวทิยนฺติ, ตํ านํ สกฺกา โหติ ปสฺสิตุนฺติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ชาตเกปิ –

‘‘เกน ตํ เนมิ มคฺเคน, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เยน วา ปาปกมฺมนฺตา, ปุฺกมฺมา จ เย นรา’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๔๕๐) –

คาถาย อยเมวตฺโถ. เตเนวาห –

‘‘นิรเย ตาว ปสฺสามิ, อาวาเส ปาปกมฺมินํ;

านานิ ลุทฺทกมฺมานํ, ทุสฺสีลานฺจ ยา คตี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๔๕๑);

อุภเยเนว มํ มาตลิ เนหีติ มาตลิ ทฺวีหิ มคฺเคหิ มํ เนหิ, อหํ นิรยํ ปสฺสิตุกาโม เทวโลกมฺปีติ. ปมํ กตเมน เนมีติ. ปมํ นิรยมคฺเคน เนหีติ. ตโต มาตลิ อตฺตโน อานุภาเวน ราชานํ ปฺจทส มหานิรเย ทสฺเสสิ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ –

‘‘ทสฺเสสิ มาตลิ รฺโ, ทุคฺคํ เวตรณึ นทึ;

กุถิตํ ขารสํยุตฺตํ, ตตฺตํ อคฺคิสิขูปม’’นฺติ. (ชา. ๒.๒๒.๔๕๒) –

ชาตเก วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. นิรยํ ทสฺเสตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา เทวโลกาภิมุขํ คนฺตฺวา พีรณีเทวธีตาย โสณทินฺนเทวปุตฺตสฺส คณเทวปุตฺตานฺจ วิมานานิ ทสฺเสนฺโต เทวโลกํ เนสิ. ตตฺราปิ วิตฺถารกถา –

‘‘ยทิ เต สุตา พีรณี ชีวโลเก,

อามายทาสี อหุ พฺราหฺมณสฺส;

สา ปตฺตกาเล อติถึ วิทิตฺวา,

มาตาว ปุตฺตํ สกิมาภินนฺที;

สํยมา สํวิภาคา จ,

สา วิมานสฺมิ โมทตี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๕๐๗) –

ชาตเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

เอวํ คจฺฉโต ปน ตสฺส รถเนมิ วฏฺฏิยา จิตฺตกูฏทฺวารโกฏฺกสฺส อุมฺมาเร ปหตมตฺเตว เทวนคเร โกลาหลํ อโหสิ. สกฺกํ เทวราชานํ เอกกํเยว โอหาย เทวสงฺโฆ มหาสตฺตํ ปจฺจุคฺคมนมกาสิ, ตํ เทวตานํ อาทรํ ทิสฺวา สกฺโก จิตฺตํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต – ‘‘อภิรม, มหาราช, เทเวสุ เทวานุภาเวนา’’ติ อาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อยํ ราชา อชฺช อาคนฺตฺวา เอกทิวเสเนว เทวคณํ อตฺตโน อภิมุขมกาสิ. สเจ เอกํ ทฺเว ทิวเส วสิสฺสติ, น มํ เทวา โอโลเกสฺสนฺตี’’ติ. โส อุสูยมาโน, ‘‘มหาราช, ตุยฺหํ อิมสฺมึ เทวโลเก วสิตุํ ปุฺํ นตฺถิ, อฺเสํ ปุฺเน วสาหี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน เอวมาห. โพธิสตฺโต – ‘‘นาสกฺขิ ชรสกฺโก มนํ สนฺธาเรตุํ, ปรํ นิสฺสาย ลทฺธํ โข ปน ยาจิตฺวา ลทฺธภณฺฑกํ วิย โหตี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต อลํ มาริสาติอาทิมาห. ชาตเกปิ วุตฺตํ –

‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;

เอวํสมฺปทเมเว ตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;

น จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๕๘๕-๕๘๖) –

สพฺพํ วตฺตพฺพํ. โพธิสตฺโต ปน มนุสฺสตฺตภาเวน กติวาเร เทวโลกํ คโตติ. จตฺตาโร – มนฺธาตุราชกาเล สาธินราชกาเล คุตฺติลวีณาวาทกกาเล นิมิมหาราชกาเลติ. โส มนฺธาตุกาเล เทวโลเก อสงฺขฺเยยฺยํ กาลํ วสิ, ตสฺมิฺหิ วสมาเนเยว ฉตฺตึส สกฺกา จวึสุ. สาธินราชกาเล สตฺตาหํ วสิ, มนุสฺสคณนาย สตฺต วสฺสสตานิ โหนฺติ. คุตฺติลวีณาวาทกกาเล จ นิมิราชกาเล จ มุหุตฺตมตฺตํ วสิ, มนุสฺสคณนาย สตฺต ทิวสานิ โหนฺติ.

๓๑๔. ตตฺเถว มิถิลํ ปฏิเนสีติ ปฏิเนตฺวา ปกติสิริคพฺเภเยว ปติฏฺาเปสิ.

๓๑๕. กฬารชนโกติ ตสฺส นามํ. กฬารทนฺตตาย ปน กฬารชนโกติ วุตฺโต. น โส อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชีติ เอตฺตกมตฺตเมว น อกาสิ, เสสํ สพฺพํ ปากติกเมว อโหสิ.

๓๑๖. สมุจฺเฉโท โหตีติ เอตฺถ กลฺยาณวตฺตํ โก สมุจฺฉินฺทติ, เกน สมุจฺฉินฺนํ, โก ปวตฺเตติ, เกน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สีลวา ภิกฺขุ ‘‘น สกฺกา มยา อรหตฺตํ ลทฺธุ’’นฺติ วีริยํ อกโรนฺโต สมุจฺฉินฺทติ. ทุสฺสีเลน สมุจฺฉินฺนํ นาม โหติ. สตฺต เสขา ปวตฺเตนฺติ. ขีณาสเวน ปวตฺติตํ นาม โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มฆเทวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มธุรสุตฺตวณฺณนา

๓๑๗. เอวํ เม สุตนฺติ มธุรสุตฺตํ. ตตฺถ มหากจฺจาโนติ คิหิกาเล อุชฺเชนิกรฺโ ปุโรหิตปุตฺโต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ จ. มธุรายนฺติ เอวํนามเก นคเร. คุนฺทาวเนติ กณฺหกคุนฺทาวเน. อวนฺติปุตฺโตติ อวนฺติรฏฺเ รฺโ ธีตาย ปุตฺโต. วุทฺโธ เจว อรหา จาติ ทหรํ อรหนฺตมฺปิ น ตถา สมฺภาเวนฺติ ยถา มหลฺลกํ, เถโร ปน วุทฺโธ เจว อโหสิ อรหา จ. พฺราหฺมณา, โภ กจฺจานาติ โส กิร ราชา พฺราหฺมณลทฺธิโก, ตสฺมา เอวมาห. พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณติอาทีสุ ชาติโคตฺตาทีนํ ปฺาปนฏฺาเน พฺราหฺมณาว เสฏฺาติ ทสฺเสติ. หีโน อฺโ วณฺโณติ อิตเร ตโย วณฺณา หีนา ลามกาติ วทติ. สุกฺโกติ ปณฺฑโร. กณฺโหติ กาฬโก. สุชฺฌนฺตีติ ชาติโคตฺตาทิปฺาปนฏฺาเนสุ สุชฺฌนฺติ. พฺรหฺมุโน ปุตฺตาติ มหาพฺรหฺมุโน ปุตฺตา. โอรสา มุขโต ชาตาติ อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตา, อุเร กตฺวา สํวทฺธิตาติ วา โอรสา. พฺรหฺมชาติ พฺรหฺมโต นิพฺพตฺตา. พฺรหฺมนิมฺมิตาติ พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. พฺรหฺมทายาทาติ พฺรหฺมุโน ทายาทา. โฆโสเยว โข เอโสติ โวหารมตฺตเมเวตํ.

๓๑๘. อิชฺเฌยฺยาติ สมิชฺเฌยฺย, ยตฺตกานิ ธนาทีนิ ปตฺเถยฺย, ตตฺตเกหิสฺส มโนรโถ ปูเรยฺยาติ อตฺโถ. ขตฺติโยปิสฺสาสฺสาติ ขตฺติโยปิ อสฺส อิสฺสริยสมฺปตฺตสฺส ปุพฺพุฏฺายี อสฺส. เนสํ เอตฺถ กิฺจีติ น เอเตสํ เอตฺถ กิฺจิ.

๓๒๒. อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยามาติ นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา อิธ นิสีทาติ วเทยฺยาม. อภินิมนฺเตยฺยามปิ นนฺติ อภิหริตฺวา ตํ นิมนฺเตยฺยาม. ตตฺถ ทุวิโธ อภิหาโร วาจาย เจว กาเยน จ. ‘‘ตุมฺหากํ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ มมํ จีวราทีหิ วเทยฺยาถ เยนตฺโถ’’ติ วทนฺโต หิ วาจาย อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นาม. จีวราทิเวกลฺลํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ตานิ เทนฺโต ปน กาเยน อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นาม. ตทุภยมฺปิ สนฺธาย ‘‘อภินิมนฺเตยฺยามปิ น’’นฺติ อาห. รกฺขาวรณคุตฺตินฺติ รกฺขาสงฺขาตฺเจว อาวรณสงฺขาตฺจ คุตฺตึ. ยา ปเนสา อาวุธหตฺเถ ปุริเส เปนฺเตน รกฺขา, สา ธมฺมิกา นาม สํวิหิตา น โหติ. ยถา ปน อเวลาย กฏฺหาริกาปณฺณหาริกาทโย วิหารํ น ปวิสนฺติ, มิคลุทฺทกาทโย วิหารสีมาย มิเค วา มจฺเฉ วา น คณฺหนฺติ, เอวํ สํวิทหนฺเตน ธมฺมิกา นาม สํวิหิตา โหติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ธมฺมิก’’นฺติ.

เอวํ สนฺเตติ เอวํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ ปพฺพชิตานํ ปพฺพชิตสกฺกาเรน สเม สมาเน. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

มธุรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนา

๓๒๔. เอวํ เม สุตนฺติ โพธิราชกุมารสุตฺตํ. ตตฺถ โกกนโทติ โกกนทํ วุจฺจติ ปทุมํ. โส จ มงฺคลปาสาโท โอโลกนกปทุมํ ทสฺเสตฺวา กโต, ตสฺมา โกกนโทติ สงฺขํ ลภิ.

๓๒๕. ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวราติ เอตฺถ ปจฺฉิมโสปานกเฬวรนฺติ ปมํ โสปานผลกํ วุตฺตํ. อทฺทสา โขติ โอโลกนตฺถํเยว ทฺวารโกฏฺเก ิโต อทฺทส. ภควา ตุณฺหี อโหสีติ ‘‘กิสฺส นุ โข อตฺถาย ราชกุมาเรน อยํ มหาสกฺกาโร กโต’’ติ อาวชฺชนฺโต ปุตฺตปตฺถนาย กตภาวํ อฺาสิ. โส หิ ราชกุมาโร อปุตฺตโก, สุตฺจาเนน อโหสิ – ‘‘พุทฺธานํ กิร อธิการํ กตฺวา มนสา อิจฺฉิตํ ลภนฺตี’’ติ. โส – ‘‘สจาหํ ปุตฺตํ ลภิสฺสามิ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ มม เจลปฺปฏิกํ อกฺกมิสฺสติ. โน เจ ลภิสฺสามิ, น อกฺกมิสฺสตี’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา สนฺถราเปสิ. อถ ภควา ‘‘นิพฺพตฺติสฺสติ นุ โข เอตสฺส ปุตฺโต’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘น นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ อทฺทส.

ปุพฺเพ กิร โส เอกสฺมึ ทีเป วสมาโน สมจฺฉนฺเทน สกุณโปตเก ขาทิ. สจสฺส มาตุคาโม อฺโว ภเวยฺย, ปุตฺตํ ลเภยฺย. อุโภหิ ปน สมานจฺฉนฺเทหิ หุตฺวา ปาปกมฺมํ กตํ, เตนสฺส ปุตฺโต น นิพฺพตฺติสฺสตีติ อฺาสิ. ทุสฺเส ปน อกฺกนฺเต – ‘‘พุทฺธานํ อธิการํ กตฺวา ปตฺถิตปตฺถิตํ ลภนฺตีติ โลเก อนุสฺสโว, มยา จ มหาอภินีหาโร กโต, น จ ปุตฺตํ ลภามิ, ตุจฺฉํ อิทํ วจน’’นฺติ มิจฺฉาคหณํ คณฺเหยฺย. ติตฺถิยาปิ – ‘‘นตฺถิ สมณานํ อกตฺตพฺพํ นาม, เจลปฺปฏิกํ มทฺทนฺตา อาหิณฺฑนฺตี’’ติ อุชฺฌาเยยฺยุํ. เอตรหิ จ อกฺกมนฺเตสุ พหู ภิกฺขู ปรจิตฺตวิทุโน, เต ภพฺพํ ชานิตฺวา อกฺกมิสฺสนฺติ, อภพฺพํ ชานิตฺวา น อกฺกมิสฺสนฺติ. อนาคเต ปน อุปนิสฺสโย มนฺโท ภวิสฺสติ, อนาคตํ น ชานิสฺสนฺติ. เตสุ อกฺกมนฺเตสุ สเจ ปตฺถิตํ อิชฺฌิสฺสติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อิชฺฌิสฺสติ, – ‘‘ปุพฺเพ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อภินีหารํ กตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ลภนฺติ, ตํ อิทานิ น ลภนฺติ. เตเยว มฺเ ภิกฺขู ปฏิปตฺติปูรกา อเหสุํ, อิเม ปฏิปตฺตึ ปูเรตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตีติ อิเมหิ การเณหิ ภควา อกฺกมิตุํ อนิจฺฉนฺโต ตุณฺหี อโหสิ. สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ ‘‘น, ภิกฺขเว, เจลปฺปฏิกา อกฺกมิตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๒๖๘). มงฺคลตฺถาย ปฺตฺตํ อนกฺกมนฺเตสุ ปน อกฺกมนตฺถาย อนุปฺตฺตึ เปสิ – ‘‘คิหี, ภิกฺขเว, มงฺคลิกา, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ มงฺคลตฺถายา’’ติ (จูฬว. ๒๖๘).

๓๒๖. ปจฺฉิมํ ชนตํ ตถาคโต อนุกมฺปตีติ อิทํ เถโร วุตฺเตสุ การเณสุ ตติยํ การณํ สนฺธายาห. น โข สุเขน สุขนฺติ กสฺมา อาห? กามสุขลฺลิกานุโยคสฺี หุตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺโธ น อกฺกมิ, ตสฺมา อหมฺปิ สตฺถารา สมานจฺฉนฺโท ภวิสฺสามีติ มฺมาโน เอวมาห.

๓๒๗. โส โข อหนฺติอาทิ ‘‘ยาว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม’’ติ ตาว มหาสจฺจเก (ม. นิ. ๑.๓๖๔ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ตโต ปรํ ยาว ปฺจวคฺคิยานํ อาสวกฺขยา ปาสราสิสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๗๒ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

๓๔๓. องฺกุสคยฺเห สิปฺเปติ องฺกุสคหณสิปฺเป. กุสโล อหนฺติ เฉโก อหํ. กสฺส ปนายํ สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหีติ? ปิตุ สนฺติเก, ปิตาปิสฺส ปิตุ สนฺติเกว อุคฺคณฺหิ. โกสมฺพิยํ กิร ปรนฺตปราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ราชมเหสี ครุภารา อากาสตเล รฺา สทฺธึ พาลาตปํ ตปฺปมานา รตฺตกมฺพลํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนา โหติ, เอโก หตฺถิลิงฺคสกุโณ ‘‘มํสเปสี’’ติ มฺมาโน คเหตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. สา ‘‘ฉฑฺเฑยฺย ม’’นฺติ ภเยน นิสฺสทฺทา อโหสิ, โส ตํ ปพฺพตปาเท รุกฺขวิฏเป เปสิ. สา ปาณิสฺสรํ กโรนฺตี มหาสทฺทมกาสิ. สกุโณ ปลายิ, ตสฺสา ตตฺเถว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. ติยามรตฺตึ เทเว วสฺสนฺเต กมฺพลํ ปารุปิตฺวา นิสีทิ. ตโต จ อวิทูเร ตาปโส วสติ. โส ตสฺสา สทฺเทน อรุเณ อุคฺคเต รุกฺขมูลํ อาคโต ชาตึ ปุจฺฉิตฺวา นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา โอตาเรตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ เนตฺวา ยาคุํ ปาเยสิ. ทารกสฺส เมฆอุตุฺจ ปพฺพตอุตุฺจ คเหตฺวา ชาตตฺตา อุเทโนติ นามํ อกาสิ. ตาปโส ผลาผลานิ อาหริตฺวา ทฺเวปิ ชเน โปเสสิ.

สา เอกทิวสํ ตาปสสฺส อาคมนเวลาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อิตฺถิกุตฺตํ ทสฺเสตฺวา ตาปสํ สีลเภทํ อาปาเทสิ. เตสํ เอกโต วสนฺตานํ กาเล คจฺฉนฺเต ปรนฺตปราชา กาลํ อกาสิ. ตาปโส รตฺติภาเค นกฺขตฺตํ โอโลเกตฺวา รฺโ มตภาวํ ตฺวา – ‘‘ตุยฺหํ ราชา มโต, ปุตฺโต เต กึ อิธ วสิตุํ อิจฺฉติ, อุทาหุ เปตฺติเก รชฺเช ฉตฺตํ อุสฺสาเปตุ’’นฺติ ปุจฺฉิ. สา ปุตฺตสฺส อาทิโต ปฏฺาย สพฺพํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตุกามตฺจสฺส ตฺวา ตาปสสฺส อาโรเจสิ. ตาปโส จ หตฺถิคนฺถสิปฺปํ ชานาติ, กุโตเนน ลทฺธํ? สกฺกสฺส สนฺติกา. ปุพฺเพ กิรสฺส สกฺโก อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา ‘‘เกน กิลมถา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘หตฺถิปริสฺสโย อตฺถี’’ติ อาโรเจสิ. ตสฺส สกฺโก หตฺถิคนฺถฺเจว วีณกฺจ ทตฺวา ‘‘ปลาเปตุกามตาย สติ อิมํ ตนฺตึ วาเทตฺวา อิมํ สิโลกํ วเทยฺยาถ, ปกฺโกสิตุกามตาย สติ อิมํ สิโลกํ วเทยฺยาถา’’ติ อาห. ตาปโส ตํ สิปฺปํ กุมารสฺส อทาสิ. โส เอกํ วฏรุกฺขํ อภิรุหิตฺวา หตฺถีสุ อาคเตสุ ตนฺตึ วาเทตฺวา สิโลกํ วทติ, หตฺถี ภีตา ปลายึสุ.

โส สิปฺปสฺส อานุภาวํ ตฺวา ปุนทิวเส ปกฺโกสนสิปฺปํ ปโยเชสิ. เชฏฺกหตฺถี อาคนฺตฺวา ขนฺธํ อุปนาเมสิ. โส ตสฺส ขนฺธคโต ยุทฺธสมตฺเถ ตรุณหตฺถี อุจฺจินิตฺวา กมฺพลฺจ มุทฺทิกฺจ คเหตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต อนุปุพฺเพน ตํ ตํ คามํ ปวิสิตฺวา – ‘‘อหํ รฺโ ปุตฺโต, สมฺปตฺตึ อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ ชนสงฺคหํ กตฺวา นครํ ปริวาเรตฺวา – ‘‘อหํ รฺโ ปุตฺโต, มยฺหํ ฉตฺตํ เทถา’’ติ อสทฺทหนฺตานํ กมฺพลฺจ มุทฺทิกฺจ ทสฺเสตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปสิ. โส หตฺถิวิตฺตโก หุตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน สุนฺทโร หตฺถี อตฺถี’’ติ วุตฺเต คนฺตฺวา คณฺหาติ. จณฺฑปชฺโชโต ‘‘ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ คณฺหิสฺสามี’’ติ กฏฺหตฺถึ ปโยเชตฺวา ตสฺส อนฺโต โยเธ นิสีทาเปตฺวา ตํ หตฺถึ คหณตฺถาย อาคตํ คณฺหิตฺวา ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ คหณตฺถาย ธีตรํ อุยฺโยเชสิ. โส ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปตฺวา ตํ คเหตฺวา อตฺตโน นครํเยว อคมาสิ. ตสฺสา กุจฺฉิยํ อุปฺปนฺโน อยํ โพธิราชกุมาโร อตฺตโน ปิตุ สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหิ.

๓๔๔. ปธานิยงฺคานีติ ปธานํ วุจฺจติ ปทหนภาโว, ปธานมสฺส อตฺถีติ ปธานิโย. ปธานิยสฺส ภิกฺขุโน องฺคานีติ ปธานิยงฺคานิ. สทฺโธติ สทฺธาย สมนฺนาคโต. สา ปเนสา อาคมนสทฺธา อธิคมสทฺธา โอกปฺปนสทฺธา ปสาทสทฺธาติ จตุพฺพิธา. ตตฺถ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ สทฺธา อภินีหารโต ปฏฺาย อาคตตฺตา อาคมนสทฺธา นาม. อริยสาวกานํ ปฏิเวเธน อธิคตตฺตา อธิคมสทฺธา นาม. พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆติ วุตฺเต อจลภาเวน โอกปฺปนํ โอกปฺปนสทฺธา นาม. ปสาทุปฺปตฺติ ปสาทสทฺธา นาม, อิธ ปน โอกปฺปนสทฺธา อธิปฺเปตา. โพธินฺติ จตุมคฺคาณํ. ตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ตถาคเตนาติ สทฺทหติ, เทสนาสีสเมว เจตํ, อิมินา ปน องฺเคน ตีสุปิ รตเนสุ สทฺธา อธิปฺเปตา. ยสฺส หิ พุทฺธาทีสุ ปสาโท พลวา, ตสฺส ปธานํ วีริยํ อิชฺฌติ.

อปฺปาพาโธติ อโรโค. อปฺปาตงฺโกติ นิทฺทุกฺโข. สมเวปากินิยาติ สมวิปาจนิยา. คหณิยาติ กมฺมชเตโชธาตุยา. นาติสีตาย นาจฺจุณฺหายาติ อติสีตคหณิโก หิ สีตภีรู โหติ, อจฺจุณฺหคหณิโก อุณฺหภีรู, เตสํ ปธานํ น อิชฺฌติ. มชฺฌิมคหณิกสฺส อิชฺฌติ. เตนาห ‘‘มชฺฌิมาย ปธานกฺขมายา’’ติ. ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตาติ ยถาภูตํ อตฺตโน อคุณํ ปกาเสตา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยฺจ อตฺถฺจ คนฺตุํ ปริจฺฉินฺทิตุํ สมตฺถาย, เอเตน ปฺาสลกฺขณปริคฺคาหิกํ อุทยพฺพยาณํ วุตฺตํ. อริยายาติ ปริสุทฺธาย. นิพฺเพธิกายาติ อนิพฺพิทฺธปุพฺเพ โลภกฺขนฺธาทโย นิพฺพิชฺฌิตุํ สมตฺถาย. สมฺมาทุกฺขกฺขยคามินิยาติ ตทงฺควเสน กิเลสานํ ปหีนตฺตา ยํ ทุกฺขํ ขียติ, ตสฺส ทุกฺขสฺส ขยคามินิยา. อิติ สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ วิปสฺสนาปฺาว กถิตา. ทุปฺปฺสฺส หิ ปธานํ น อิชฺฌติ. อิมานิ จ ปฺจ ปธานิยงฺคานิ โลกิยาเนว เวทิตพฺพานิ.

๓๔๕. สายมนุสิฏฺโ ปาโต วิเสสํ อธิคมิสฺสตีติ อตฺถงฺคเต สูริเย อนุสิฏฺโ อรุณุคฺคมเน วิเสสํ อธิคมิสฺสติ. ปาตมนุสิฏฺโ สายนฺติ อรุณุคฺคมเน อนุสิฏฺโ สูริยตฺถงฺคมนเวลายํ. อยฺจ ปน เทสนา เนยฺยปุคฺคลวเสน วุตฺตา. ทนฺธปฺโ หิ เนยฺยปุคฺคโล สตฺตหิ ทิวเสหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ติกฺขปฺโ เอกทิวเสน, เสสทิวเส มชฺฌิมปฺาวเสน เวทิตพฺพํ. อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม อโห ธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตาติ ยสฺมา พุทฺธธมฺมานํ อุฬารตาย ธมฺมสฺส จ สฺวากฺขาตตาย ปาโต กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา สายํ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ปสํสนฺโต เอวมาห. ยตฺร หิ นามาติ วิมฺหยตฺเถ นิปาโต.

๓๔๖. กุจฺฉิมตีติ อาปนฺนสตฺตา. โย เม อยํ, ภนฺเต, กุจฺฉิคโตติ กึ ปเนวํ สรณํ คหิตํ โหตีติ. น โหติ. อจิตฺตกสรณคมนํ นาม นตฺถิ, อารกฺโข ปนสฺส ปจฺจุปฏฺิโตว โหติ. อถ นํ ยทา มหลฺลกกาเล มาตาปิตโร, – ‘‘ตาต, กุจฺฉิคตเมว ตํ สรณํ คณฺหาปยิมฺหา’’ติ สาเรนฺติ, โส จ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อหํ สรณํ คโต อุปาสโก’’ติ สตึ อุปฺปาเทติ, ตทา สรณํ คหิตํ นาม โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนา

๓๔๗. เอวํ เม สุตนฺติ องฺคุลิมาลสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุลีนํ มาลํ ธาเรตีติ กสฺมา ธาเรติ? อาจริยวจเนน. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา –

อยํ กิร โกสลรฺโ ปุโรหิตสฺส มนฺตาณิยา นาม พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. พฺราหฺมณิยา รตฺติภาเค คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ. ตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลึสุ, รฺโ มงฺคลสกุนฺโตปิ สิริสยเน ปิตา อสิลฏฺิปิ ปชฺชลิ. พฺราหฺมโณ นิกฺขมิตฺวา นกฺขตฺตํ โอโลเกนฺโต โจรนกฺขตฺเตน ชาโตติ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา สุขเสยฺยภาวํ ปุจฺฉิ.

ราชา ‘‘กุโต, เม อาจริย, สุขเสยฺยา? มยฺหํ มงฺคลาวุธํ ปชฺชลิ, รชฺชสฺส วา ชีวิตสฺส วา อนฺตราโย ภวิสฺสติ มฺเ’’ติ. มา ภายิ, มหาราช, มยฺหํ ฆเร กุมาโร ชาโต, ตสฺสานุภาเวน น เกวลํ ตุยฺหํ นิเวสเน, สกลนคเรปิ อาวุธานิ ปชฺชลิตานีติ. กึ ภวิสฺสติ อาจริยาติ? โจโร ภวิสฺสติ มหาราชาติ. กึ เอกโจรโก, อุทาหุ รชฺชทูสโก โจโรติ? เอกโจรโก เทวาติ. เอวํ วตฺวา จ ปน รฺโ มนํ คณฺหิตุกาโม อาห – ‘‘มาเรถ นํ เทวา’’ติ. เอกโจรโก สมาโน กึ กริสฺสติ? กรีสสหสฺสเขตฺเต เอกสาลิสีสํ วิย โหติ, ปฏิชคฺคถ นนฺติ. ตสฺส นามคฺคหณํ คณฺหนฺตา สยเน ปิตมงฺคลอสิลฏฺิ, ฉทเน ปิตา สรา, กปฺปาสปิจุมฺหิ ปิตํ ตาลวณฺฏกรณสตฺถกนฺติ เอเต ปชฺชลนฺตา กิฺจิ น หึสึสุ, ตสฺมา อหึสโกติ นามํ อกํสุ. ตํ สิปฺปุคฺคหณกาเล ตกฺกสีลํ เปสยึสุ.

โส ธมฺมนฺเตวาสิโก หุตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปสิ. วตฺตสมฺปนฺโน กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที อโหสิ. เสสอนฺเตวาสิกา พาหิรกา อเหสุํ. เต – ‘‘อหึสกมาณวกสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย มยํ น ปฺายาม, กถํ นํ ภินฺเทยฺยามา’’ติ? นิสีทิตฺวา มนฺตยนฺตา – ‘‘สพฺเพหิ อติเรกปฺตฺตา ทุปฺปฺโติ. น สกฺกา วตฺตุํ, วตฺตสมฺปนฺนตฺตา ทุพฺพตฺโตติ. น สกฺกา วตฺตุํ, ชาติสมฺปนฺนตฺตา ทุชฺชาโตติ น สกฺกา วตฺตุํ, กินฺติ กริสฺสามา’’ติ? ตโต เอกํ ขรมนฺตํ มนฺตยึสุ ‘‘อาจริยสฺส อนฺตรํ กตฺวา นํ ภินฺทิสฺสามา’’ติ ตโย ราสี หุตฺวา ปมํ เอกจฺเจ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. กึ ตาตาติ? อิมสฺมึ เคเห เอกา กถา สุยฺยตีติ. กึ ตาตาติ? อหึสกมาณโว ตุมฺหากํ อนฺตเร ทุพฺภตีติ มฺามาติ. อาจริโย สนฺตชฺเชตฺวา – ‘‘คจฺฉถ วสลา, มา เม ปุตฺตํ มยฺหํ อนฺตเร ปริภินฺทถา’’ติ นิฏฺุภิ. ตโต อิตเร, อถ อิตเรหิ ตโยปิ โกฏฺาสา อาคนฺตฺวา ตเถว วตฺวา – ‘‘อมฺหากํ อสทฺทหนฺตา อุปปริกฺขิตฺวา ชานาถา’’ติ อาหํสุ.

อาจริโย สิเนเหน วทนฺเต ทิสฺวา ‘‘อตฺถิ มฺเ สนฺถโว’’ติ ปริภิชฺชิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘ฆาเตมิ น’’นฺติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘สเจ ฆาเตสฺสามิ ‘ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย อตฺตโน สนฺติกํ สิปฺปุคฺคหณตฺถํ อาคเต มาณวเก โทสํ อุปฺปาเทตฺวา ชีวิตา โวโรเปตี’ติ. ปุน โกจิ สิปฺปุคฺคหณตฺถํ น อาคมิสฺสติ, เอวํ เม ลาโภ ปริหายิสฺสติ, อถ นํ สิปฺปสฺส ปริโยสานุปจาโรติ วตฺวา ชงฺฆสหสฺสํ ฆาเตหีติ วกฺขามิ. อวสฺสํ เอตฺถ เอโก อุฏฺาย ตํ ฆาเตสฺสตี’’ติ.

อถ นํ อาห – ‘‘เอหิ ตาต ชงฺฆสหสฺสํ ฆาเตหิ, เอวํ เต สิปฺปสฺส อุปจาโร กโต ภวิสฺสตี’’ติ. มยํ อหึสกกุเล ชาตา, น สกฺกา อาจริยาติ. อลทฺธุปจารํ สิปฺปํ ผลํ น เทติ ตาตาติ. โส ปฺจาวุธํ คเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา อฏวึ ปวิฏฺโ. อฏวึ ปวิสนฏฺาเนปิ อฏวิมชฺเฌปิ อฏวิโต นิกฺขมนฏฺาเนปิ ตฺวา มนุสฺเส ฆาเตติ. วตฺถํ วา เวนํ วา น คณฺหาติ. เอโก ทฺเวติ คณิตมตฺตเมว กโรนฺโต คจฺฉติ, คณนมฺปิ น อุคฺคณฺหาติ. ปกติยาปิ ปฺวา เอส, ปาณาติปาติโน ปน จิตฺตํ น ปติฏฺาติ, ตสฺมา อนุกฺกเมน คณนมฺปิ น สลฺลกฺเขสิ, เอเกกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา เปติ. ปิตฏฺาเน องฺคุลิโย วินสฺสนฺติ, ตโต วิชฺฌิตฺวา องฺคุลีนํ มาลํ กตฺวา ธาเรสิ, เตเนว จสฺส องฺคุลิมาโลติ สงฺขา อุทปาทิ. โส สพฺพํ อรฺํ นิสฺสฺจารมกาสิ, ทารุอาทีนํ อตฺถาย อรฺํ คนฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ.

รตฺติภาเค อนฺโตคามมฺปิ อาคนฺตฺวา ปาเทน ปหริตฺวา ทฺวารํ อุคฺฆาเตติ. ตโต สยิเตเยว มาเรตฺวา เอโก เอโกติ คเหตฺวา คจฺฉติ. คาโม โอสริตฺวา นิคเม อฏฺาสิ, นิคโม นคเร. มนุสฺสา ติโยชนโต ปฏฺาย ฆรานิ ปหาย ทารเก หตฺเถสุ คเหตฺวา อาคมฺม สาวตฺถึ ปริวาเรตฺวา ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา – ‘‘โจโร, เต เทว, วิชิเต องฺคุลิมาโล นามา’’ติอาทีนิ วทนฺตา กนฺทนฺติ. ภคฺคโว ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา พฺราหฺมณึ อาห – โภติ องฺคุลิมาโล นาม โจโร อุปฺปนฺโน, โส น อฺโ, ตว ปุตฺโต อหึสกกุมาโร. อิทานิ ราชา ตํ คณฺหิตุํ นิกฺขมิสฺสติ, กึ กตฺตพฺพนฺติ? คจฺฉ สามิ, ปุตฺตํ เม คเหตฺวา เอหีติ. นาหํ ภทฺเท อุสฺสหามิ, จตูสุ หิ ชเนสุ วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, โจโร เม ปุราณสหาโยติ อวิสฺสาสนีโย, สาขา เม ปุราณสนฺถตาติ อวิสฺสาสนียา, ราชา มํ ปูเชตีติ อวิสฺสาสนีโย, อิตฺถี เม วสํ คตาติ อวิสฺสาสนียาติ. มาตุ หทยํ ปน มุทุกํ โหติ. ตสฺมา อหํ ปน คนฺตฺวา มยฺหํ ปุตฺตํ อาเนสฺสามีติ นิกฺขนฺตา.

ตํทิวสฺจ ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต องฺคุลิมาลํ ทิสฺวา – ‘‘มยิ คเต เอตสฺส โสตฺถิ ภวิสฺสติ. อคามเก อรฺเ ิโต จตุปฺปทิกํ คาถํ สุตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ฉ อภิฺา สจฺฉิกริสฺสติ. สเจ น คมิสฺสามิ, มาตริ อปรชฺฌิตฺวา อนุทฺธรณีโย ภวิสฺสติ, กริสฺสามิสฺส สงฺคห’’นฺติ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ตํ สงฺคณฺหิตุกาโม วิหารา นิกฺขมิ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๓๔๘. สงฺกริตฺวา สงฺกริตฺวาติ สงฺเกตํ กตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา. หตฺถตฺถํ คจฺฉนฺตีติ หตฺเถ อตฺถํ วินาสํ คจฺฉนฺติ. กึ ปน เต ภควนฺตํ สฺชานิตฺวา เอวํ วทนฺติ อสฺชานิตฺวาติ? อสฺชานิตฺวา. อฺาตกเวเสน หิ ภควา เอกโกว อคมาสิ. โจโรปิ ตสฺมึ สมเย ทีฆรตฺตํ ทุพฺโภชเนน จ ทุกฺขเสยฺยาย จ อุกฺกณฺิโต โหติ. กิตฺตกา ปนาเนน มนุสฺสา มาริตาติ? เอเกนูนสหสฺสํ. โส ปน อิทานิ เอกํ ลภิตฺวา สหสฺสํ ปูเรสฺสตีติ สฺี หุตฺวา ยเมว ปมํ ปสฺสามิ, ตํ ฆาเตตฺวา คณนํ ปูเรตฺวา สิปฺปสฺส อุปจารํ กตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา นฺหายิตฺวา วตฺถานิ ปริวตฺเตตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามีติ อฏวิมชฺฌโต อฏวิมุขํ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ ิโตว ภควนฺตํ อทฺทส. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อทฺทสา โข’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสีติ มหาปถวึ อุมฺมิโย อุฏฺเปนฺโต วิย สํหริตฺวา อปรภาเค อกฺกมติ, โอรภาเค วลิโย นิกฺขมนฺติ, องฺคุลิมาโล สรกฺเขปมตฺตํ มุฺจิตฺวา คจฺฉติ. ภควา ปุรโต มหนฺตํ องฺคณํ ทสฺเสตฺวา สยํ มชฺเฌ โหติ, โจโร อนฺเต. โส ‘‘อิทานิ นํ ปาปุณิตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ สพฺพถาเมน ธาวติ. ภควา องฺคณสฺส ปาริมนฺเต โหติ, โจโร มชฺเฌ. โส ‘‘เอตฺถ นํ ปาปุณิตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ เวเคน ธาวติ. ภควา ตสฺส ปุรโต มาติกํ วา ถลํ วา ทสฺเสติ, เอเตนุปาเยน ตีณิ โยชนานิ คเหตฺวา อคมาสิ. โจโร กิลมิ, มุเข เขโฬ สุสฺสิ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจึสุ. อถสฺส ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ’’ติ เอตทโหสิ. มิคมฺปีติ มิคํ กสฺมา คณฺหาติ? ฉาตสมเย อาหารตฺถํ. โส กิร เอกํ คุมฺพํ ฆฏฺเฏตฺวา มิเค อุฏฺาเปติ. ตโต จิตฺตรุจิยํ มิคํ อนุพนฺธนฺโต คณฺหิตฺวา ปจิตฺวา ขาทติ. ปุจฺเฉยฺยนฺติ เยน การเณนายํ คจฺฉนฺโตว ิโต นาม, อหฺจ ิโตว อฏฺิโต นาม, ยํนูนาหํ อิมํ สมณํ ตํ การณํ ปุจฺเฉยฺยนฺติ อตฺโถ.

๓๔๙. นิธายาติ โย วิหึสนตฺถํ ภูเตสุ ทณฺโฑ ปวตฺตยิตพฺโพ สิยา, ตํ นิธาย อปเนตฺวา เมตฺตาย ขนฺติยา ปฏิสงฺขาย อวิหึสาย สารณียธมฺเมสุ จ ิโต อหนฺติ อตฺโถ. ตุวมฏฺิโตสีติ ปาเณสุ อสฺตตฺตา เอตฺตกานิ ปาณสหสฺสานิ ฆาเตนฺตสฺส ตว เมตฺตา วา ขนฺติ วา ปฏิสงฺขา วา อวิหึสา วา สารณียธมฺโม วา นตฺถิ, ตสฺมา ตุวํ อฏฺิโตสิ, อิทานิ อิริยาปเถน ิโตปิ นิรเย ธาวิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยํ เปตฺติวิสเย อสุรกาเย วา ธาวิสฺสสีติ วุตฺตํ โหติ.

ตโต โจโร – ‘‘มหา อยํ สีหนาโท, มหนฺตํ คชฺชิตํ, น อิทํ อฺสฺส ภวิสฺสติ, มหามายาย ปุตฺตสฺส สิทฺธตฺถสฺส สมณรฺโ เอตํ คชฺชิตํ, ทิฏฺโ วตมฺหิ มฺเ ติขิณจกฺขุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, สงฺคหกรณตฺถํ เม ภควา อาคโต’’ติ จินฺเตตฺวา จิรสฺสํ วต เมติอาทิมาห. ตตฺถ มหิโตติ เทวมนุสฺสาทีหิ จตุปจฺจยปูชาย ปูชิโต. ปจฺจุปาทีติ จิรสฺสํ กาลสฺส อจฺจเยน มยฺหํ สงฺคหตฺถาย อิมํ มหาวนํ ปฏิปชฺชิ. ปหาย ปาปนฺติ ปชหิตฺวา ปาปํ.

อิตฺเววาติ เอวํ วตฺวาเยว. อาวุธนฺติ ปฺจาวุธํ. โสพฺเภติ สมนฺตโต ฉินฺเน. ปปาเตติ เอกโต ฉินฺเน. นรเกติ ผลิตฏฺาเน. อิธ ปน ตีหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อรฺเมว วุตฺตํ. อกิรีติ ขิปิ ฉฑฺเฑสิ.

ตเมหิ ภิกฺขูติ ตทา อโวจาติ ภควโต อิมํ ปพฺพาเชนฺโต กุหึ สตฺถกํ ลภิสฺสามิ, กุหึ ปตฺตจีวรนฺติ ปริเยสนกิจฺจํ นตฺถิ, กมฺมํ ปน โอโลเกสิ. อถสฺส ปุพฺเพ สีลวนฺตานํ อฏฺปริกฺขารภณฺฑกสฺส ทินฺนภาวํ ตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา – ‘‘เอหิ ภิกฺขุ สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ อาห. โส สห วจเนเนว อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ ปฏิลภิ. ตาวเทวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สมณลิงฺคํ ปาตุรโหสิ.

‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;

ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. –

เอวํ วุตฺตา อฏฺ ปริกฺขารา สรีรปฏิพทฺธาว หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ. เอเสว ตสฺส อหุ ภิกฺขุภาโวติ เอส เอหิภิกฺขุภาโว ตสฺส อุปสมฺปนฺนภิกฺขุภาโว อโหสิ, น หิ เอหิภิกฺขูนํ วิสุํ อุปสมฺปทา นาม อตฺถิ.

๓๕๐. ปจฺฉาสมเณนาติ ภณฺฑคฺคาหเกน ปจฺฉาสมเณน, เตเนว อตฺตโน ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา ตํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา คโตติ อตฺโถ. มาตาปิสฺส อฏฺอุสภมตฺเตน าเนน อนฺตริตา, – ‘‘ตาต, อหึสก กตฺถ ิโตสิ, กตฺถ นิสินฺโนสิ, กุหึ คโตสิ? มยา สทฺธึ น กเถสิ ตาตา’’ติ วทนฺตี อาหิณฺฑิตฺวา อปสฺสมานา เอตฺโตว คตา.

ปฺจมตฺเตหิ อสฺสสเตหีติ สเจ โจรสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ, อนุพนฺธิตฺวา นํ คณฺหิสฺสามิ. สเจ มยฺหํ ปราชโย ภวิสฺสติ, เวเคน ปลายิสฺสามีติ สลฺลหุเกน พเลน นิกฺขมิ. เยน อาราโมติ กสฺมา อารามํ อคมาสิ? โส กิร โจรสฺส ภายติ, จิตฺเตน คนฺตุกาโม น คจฺฉติ, ครหาภเยน นิกฺขมิ. เตนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธํ วนฺทิตฺวา นิสีทิสฺสามิ, โส ปุจฺฉิสฺสติ ‘กสฺมา พลํ คเหตฺวา นิกฺขนฺโตสี’ติ. อถาหํ อาโรเจสฺสามิ, ภควา หิ มํ น เกวลํ สมฺปรายิเกเนว อตฺเถน สงฺคณฺหาติ, ทิฏฺธมฺมิเกนปิ สงฺคณฺหาติเยว. โส สเจ มยฺหํ ชโย ภวิสฺสติ, อธิวาเสสฺสติ. สเจ ปราชโย ภวิสฺสติ ‘กึ เต, มหาราช, เอกํ โจรํ อารพฺภ คมเนนา’ติ วกฺขติ. ตโต มํ ชโน เอวํ สฺชานิสฺสติ – ‘ราชา โจรํ คเหตุํ นิกฺขนฺโต, สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน นิวตฺติโต’ติ’’ ครหโมกฺขํ สมฺปสฺสมาโน อคมาสิ.

กุโต ปนสฺสาติ กสฺมา อาห? อปิ นาม ภควา ตสฺส อุปนิสฺสยํ โอโลเกตฺวา ตํ อาเนตฺวา ปพฺพาเชยฺยาติ ภควโต ปริคณฺหนตฺถํ อาห. รฺโติ น เกวลํ รฺโเยว ภยํ อโหสิ, อวเสโสปิ มหาชโน ภีโต ผลกาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนว ปลายิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย อฏฺฏาลเก อารุยฺห โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. เอวฺจ อโวจ – ‘‘องฺคุลิมาโล ‘ราชา มยฺหํ สนฺติกํ อาคจฺฉตี’ติ ตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา เชตวเน นิสินฺโน, ราชา เตน คหิโต, มยํ ปน ปลายิตฺวา มุตฺตา’’ติ. นตฺถิ เต อิโต ภยนฺติ อยฺหิ อิทานิ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา น โวโรเปติ, นตฺถิ เต อิมสฺส สนฺติกา ภยนฺติ อตฺโถ.

กถํ โคตฺโตติ? กสฺมา ปุจฺฉติ? ปพฺพชิตํ ทารุณกมฺเมน อุปฺปนฺนนามํ คเหตฺวา โวหริตุํ น ยุตฺตํ, มาตาปิตูนํ โคตฺตวเสน นํ สมุทาจริสฺสามีติ มฺมาโน ปุจฺฉิ. ปริกฺขารานนฺติ เอเตสํ อตฺถาย อหํ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสามีติ อตฺโถ. กเถนฺโตเยว จ อุทเร พทฺธสาฏกํ มุฺจิตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล เปสิ.

๓๕๑. อารฺิโกติอาทีนิ จตฺตาริ ธุตงฺคานิ ปาฬิยํ อาคตานิ. เถเรน ปน เตรสปิ สมาทินฺนาเนว อเหสุํ, ตสฺมา อลนฺติ อาห. ยฺหิ มยํ, ภนฺเตติ กึ สนฺธาย วทติ? ‘‘หตฺถิมฺปิ ธาวนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คณฺหามี’’ติ อาคตฏฺาเน รฺา เปสิตหตฺถาทโย โส เอวํ อคฺคเหสิ. ราชาปิ – ‘‘หตฺถีหิเยว นํ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหถ, อสฺเสเหว, รเถเหวา’’ติ เอวํ อเนกวารํ พหู หตฺถาทโย เปเสสิ. เอวํ คเตสุ ปน เตสุ – ‘‘อหํ อเร องฺคุลิมาโล’’ติ ตสฺมึ อุฏฺาย สทฺทํ กโรนฺเต เอโกปิ อาวุธํ ปริวตฺเตตุํ นาสกฺขิ, สพฺเพว โกฏฺเฏตฺวา มาเรสิ. หตฺถี อรฺหตฺถี, อสฺสา อรฺอสฺสา, รถาปิ ตตฺเถว ภิชฺชนฺตีติ อิทํ สนฺธาย ราชา เอวํ วทติ.

ปิณฺฑาย ปาวิสีติ น อิทํ ปมํ ปาวิสิ. อิตฺถิทสฺสนทิวสํ สนฺธาย ปเนตํ วุตฺตํ. เทวสิกมฺปิ ปเนส ปวิสเตว, มนุสฺสา จ นํ ทิสฺวา อุตฺตสนฺติปิ ปลายนฺติปิ ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ, เอกจฺเจ องฺคุลิมาโลติ สุตฺวาว ปลายิตฺวา อรฺํ วา ปวิสนฺติ, ฆรํ วา ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ถเกนฺติ. ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตา ปิฏฺึ ทตฺวา ติฏฺนฺติ. เถโร อุฬุงฺคยาคุมฺปิ กฏจฺฉุภิกฺขมฺปิ น ลภติ, ปิณฺฑปาเตน กิลมติ. พหิ อลภนฺโต นครํ สพฺพสาธารณนฺติ นครํ ปวิสติ. เยน ทฺวาเรน ปวิสติ, ตตฺถ องฺคุลิมาโล อาคโตติ กูฏสหสฺสานํ ภิชฺชนการณํ โหติ. เอตทโหสีติ การุฺปฺปตฺติยา อโหสิ. เอเกน อูนมนุสฺสสหสฺสํ ฆาเตนฺตสฺส เอกทิวสมฺปิ การุฺํ นาโหสิ, คพฺภมูฬฺหาย อิตฺถิยา ทสฺสนมตฺเตเนว กถํ อุปฺปนฺนนฺติ? ปพฺพชฺชาพเลน, ปพฺพชฺชาพลฺหิ เอตํ.

เตน หีติ ยสฺมา เต การุฺํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อริยาย ชาติยาติ, องฺคุลิมาล, เอตํ ตฺวํ มา คณฺหิ, เนสา ตว ชาติ. คิหิกาโล เอส, คิหี นาม ปาณมฺปิ หนนฺติ, อทินฺนาทานาทีนิปิ กโรนฺติ. อิทานิ ปน เต อริยา นาม ชาติ. ตสฺมา ตฺวํ ‘‘ยโต อหํ, ภคินิ, ชาโต’’ติ สเจ เอวํ วตฺตุํ กุกฺกุจฺจายสิ, เตน หิ ‘‘อริยาย ชาติยา’’ติ เอวํ วิเสเสตฺวา วทาหีติ อุยฺโยเชสิ.

ตํ อิตฺถึ เอตทโวจาติ อิตฺถีนํ คพฺภวุฏฺานฏฺานํ นาม น สกฺกา ปุริเสน อุปสงฺกมิตุํ. เถโร กึ กโรสีติ? องฺคุลิมาลตฺเถโร สจฺจกิริยํ กตฺวา โสตฺถิกรณตฺถาย อาคโตติ อาโรจาเปสิ. ตโต เต สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา เถรสฺส พหิสาณิยํ ปีกํ ปฺาเปสุํ. เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา – ‘‘ยโต อหํ ภคินิ สพฺพฺุพุทฺธสฺส อริยาย ชาติยา ชาโต’’ติ สจฺจกิริยํ อกาสิ, สห สจฺจวจเนเนว ธมกรณโต มุตฺตอุทกํ วิย ทารโก นิกฺขมิ. มาตาปุตฺตานํ โสตฺถิ อโหสิ. อิมฺจ ปน ปริตฺตํ น กิฺจิ ปริสฺสยํ น มทฺทติ, มหาปริตฺตํ นาเมตนฺติ วุตฺตํ. เถเรน นิสีทิตฺวา สจฺจกิริยกตฏฺาเน ปีกํ อกํสุ. คพฺภมูฬฺหํ ติรจฺฉานคติตฺถิมฺปิ อาเนตฺวา ตตฺถ นิสชฺชาเปนฺติ, ตาวเทว สุเขน คพฺภวุฏฺานํ โหติ. ยา ทุพฺพลา โหติ น สกฺกา อาเนตุํ, ตสฺสา ปีกโธวนอุทกํ เนตฺวา สีเส สิฺจนฺติ, ตงฺขณํเยว คพฺภวุฏฺานํ โหติ, อฺมฺปิ โรคํ วูปสเมติ. ยาว กปฺปา ติฏฺนกปาฏิหาริยํ กิเรตํ.

กึ ปน ภควา เถรํ เวชฺชกมฺมํ การาเปสีติ? น การาเปสิ. เถรฺหิ ทิสฺวา มนุสฺสา ภีตา ปลายนฺติ. เถโร ภิกฺขาหาเรน กิลมติ, สมณธมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส อนุคฺคเหน สจฺจกิริยํ กาเรสิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิทานิ กิร องฺคุลิมาลตฺเถโร เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา สจฺจกิริยาย มนุสฺสานํ โสตฺถิภาวํ กโรตีติ มนุสฺสา เถรํ อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, ตโต ภิกฺขาหาเรน อกิลมนฺโต สมณธมฺมํ กาตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ อนุคฺคเหน สจฺจกิริยํ กาเรสิ. น หิ สจฺจกิริยา เวชฺชกมฺมํ โหติ. เถรสฺสาปิ จ ‘‘สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส จิตฺตํ กมฺมฏฺานาภิมุขํ น คจฺฉติ, อฏวิยํ ตฺวา มนุสฺสานํ ฆาติตฏฺานเมว ปากฏํ โหติ. ‘‘ทุคฺคโตมฺหิ, ขุทฺทกปุตฺโตมฺหิ, ชีวิตํ เม เทหิ สามีติ มรณภีตานํ วจนากาโร จ หตฺถปาทวิกาโร จ อาปาถํ อาคจฺฉติ, โส วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ตโตว อุฏฺาย คจฺฉติ, อถสฺส ภควา ตํ ชาตึ อพฺโพหาริกํ กตฺวาวายํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตีติ อริยาย ชาติยา สจฺจกิริยํ กาเรสิ. เอโก วูปกฏฺโติอาทิ วตฺถสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๘๐) วิตฺถาริตํ.

๓๕๒. อฺเนปิ เลฑฺฑุ ขิตฺโตติ กากสุนขสูกราทีนํ ปฏิกฺกมาปนตฺถาย สมนฺตา สรกฺเขปมตฺเต าเน เยน เกนจิ ทิสาภาเคน ขิตฺโต อาคนฺตฺวา เถรสฺเสว กาเย ปตติ. กิตฺตเก าเน เอวํ โหติ? คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ปฏินิวตฺเตตฺวา ยาว คณฺิกปฏิมุกฺกฏฺานํ อาคจฺฉติ, ตาว โหติ. ภินฺเนน สีเสนาติ มหาจมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ยาว อฏฺิมริยาทา ภินฺเนน.

พฺราหฺมณาติ ขีณาสวภาวํ สนฺธาย อาห. ยสฺส โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปาเกนาติ อิทํ สภาคทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. กมฺมฺหิ กริยมานเมว ตโย โกฏฺาเส ปูเรติ. สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม โหติ. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ อโหสิกมฺมํ, นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ อิมสฺส ติกสฺส วเสน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อตฺถสาธิกา สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยเนว ตํ อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อุภินฺนมนฺตเร ปฺจชวนเจตนา อปราปริยเวทนียกมฺมํ นาม โหติ. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ. เถรสฺส ปน อุปปชฺชเวทนียฺจ อปราปริยเวทนียฺจาติ อิมานิ ทฺเว กมฺมานิ กมฺมกฺขยกเรน อรหตฺตมคฺเคน สมุคฺฆาฏิตานิ, ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อตฺถิ. ตํ อรหตฺตปฺปตฺตสฺสาปิ วิปากํ เทติเยว. ตํ สนฺธาย ภควา ‘‘ยสฺส โข ตฺว’’นฺติอาทิมาห. ตสฺมา ยสฺส โขติ เอตฺถ ยาทิสสฺส โข ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กมฺมสฺส วิปาเกนาติ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อพฺภา มุตฺโตติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อพฺภา มหิกา ธูโม รโช ราหูติ อิเมหิ ปน อุปกฺกิเลเสหิ มุตฺโต จนฺทิมา อิธ อธิปฺเปโต. ยถา หิ เอวํ นิรุปกฺกิเลโส จนฺทิมา โลกํ ปภาเสติ, เอวํ ปมาทกิเลสวิมุตฺโต อปฺปมตฺโต ภิกฺขุ อิมํ อตฺตโน ขนฺธายตนธาตุโลกํ ปภาเสติ, วิหตกิเลสนฺธการํ กโรติ.

กุสเลน ปิธียตีติ มคฺคกุสเลน ปิธียติ อปฺปฏิสนฺธิกํ กรียติ. ยุฺชติ พุทฺธสาสเนติ พุทฺธสาสเน กาเยน วาจาย มนสา จ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรติ. อิมา ติสฺโส เถรสฺส อุทานคาถา นาม.

ทิสา หิ เมติ อิทํ กิร เถโร อตฺตโน ปริตฺตาณาการํ กโรนฺโต อาห. ตตฺถ ทิสา หิ เมติ มม สปตฺตา. เย มํ เอวํ อุปวทนฺติ – ‘‘ยถา มยํ องฺคุลิมาเลน มาริตานํ าตกานํ วเสน ทุกฺขํ เวทิยาม, เอวํ องฺคุลิมาโลปิ เวทิยตู’’ติ, เต มยฺหํ ทิสา จตุสจฺจธมฺมกถํ สุณนฺตูติ อตฺโถ. ยุฺชนฺตูติ กายวาจามเนหิ ยุตฺตปฺปยุตฺตา วิหรนฺตุ. เย ธมฺมเมวาทปยนฺติ สนฺโตติ เย สนฺโต สปฺปุริสา ธมฺมํเยว อาทเปนฺติ สมาทเปนฺติ คณฺหาเปนฺติ, เต มนุชา มยฺหํ สปตฺตา ภชนฺตุ เสวนฺตุ ปยิรุปาสนฺตูติ อตฺโถ.

อวิโรธปฺปสํสีนนฺติ อวิโรโธ วุจฺจติ เมตฺตา, เมตฺตาปสํสกานนฺติ อตฺโถ. สุณนฺตุ ธมฺมํ กาเลนาติ ขเณ ขเณ ขนฺติเมตฺตาปฏิสงฺขาสารณียธมฺมํ สุณนฺตุ. ตฺจ อนุวิธียนฺตูติ ตฺจ ธมฺมํ อนุกโรนฺตุ ปูเรนฺตุ.

น หิ ชาตุ โส มมํ หึเสติ โย มยฺหํ ทิโส, โส มํ เอกํเสเนว น หึเสยฺย. อฺํ วา ปน กิฺจิ นนฺติ น เกวลํ มํ, อฺมฺปิ ปน กฺจิ ปุคฺคลํ มา หึสนฺตุ มา วิเหเนฺตุ. ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตินฺติ ปรมํ สนฺติภูตํ นิพฺพานํ ปาปุณิตฺวา. รกฺเขยฺย ตสถาวเรติ ตสา วุจฺจนฺติ สตณฺหา, ถาวรา นิตฺตณฺหา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย นิพฺพานํ ปาปุณาติ, โส สพฺพํ ตสถาวรํ รกฺขิตุํ สมตฺโถ โหติ. ตสฺมา มยฺหมฺปิ ทิสา นิพฺพานํ ปาปุณนฺตุ, เอวํ มํ เอกํเสเนว น หึสิสฺสนฺตีติ. อิมา ติสฺโส คาถา อตฺตโน ปริตฺตํ กาตุํ อาห.

อิทานิ อตฺตโนว ปฏิปตฺตึ ทีเปนฺโต อุทกฺหิ นยนฺติ เนตฺติกาติ อาห. ตตฺถ เนตฺติกาติ เย มาติกํ โสเธตฺวา พนฺธิตพฺพฏฺาเน พนฺธิตฺวา อุทกํ นยนฺติ. อุสุการาติ อุสุการกา. นมยนฺตีติ เตลกฺชิเกน มกฺเขตฺวา กุกฺกุเฬ ตาเปตฺวา อุนฺนตุนฺนตฏฺาเน นเมนฺตา อุชุํ กโรนฺติ. เตชนนฺติ กณฺฑํ. ตฺหิ อิสฺสาโส เตชํ กโรติ, ปรฺจ ตชฺเชติ, ตสฺมา เตชนนฺติ วุจฺจติ. อตฺตานํ ทมยนฺตีติ ยถา เนตฺติกา อุชุมคฺเคน อุทกํ นยนฺติ, อุสุการา เตชนํ, ตจฺฉกา จ ทารุํ อุชุํ กโรนฺติ, เอวเมวํ ปณฺฑิตา อตฺตานํ ทเมนฺติ อุชุกํ กโรนฺติ นิพฺพิเสวนํ กโรนฺติ.

ตาทินาติ อิฏฺานิฏฺาทีสุ นิพฺพิกาเรน – ‘‘ปฺจหากาเรหิ ภควา ตาที, อิฏฺานิฏฺเ ตาที, วนฺตาวีติ ตาที, จตฺตาวีติ ตาที, ติณฺณาวีติ ตาที, ตนฺนิทฺเทสาติ ตาที’’ติ (มหานิ. ๓๘; ๑๙๒) เอวํ ตาทิลกฺขณปฺปตฺเตน สตฺถารา. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ, ตณฺหาเยตํ นามํ. ตาย หิ โคณา วิย คีวาย รชฺชุยา, สตฺตา หทเย พทฺธา ตํ ตํ ภวํ นียนฺติ, ตสฺมา ภวเนตฺตีติ วุจฺจติ. ผุฏฺโ กมฺมวิปาเกนาติ มคฺคเจตนาย ผุฏฺโ. ยสฺมา หิ มคฺคเจตนาย กมฺมํ ปจฺจติ วิปจฺจติ ฑยฺหติ, ปริกฺขยํ คจฺฉติ, ตสฺมา สา กมฺมวิปาโกติ วุตฺตา. ตาย หิ ผุฏฺตฺตา เอส อณโณ นิกฺกิเลโส ชาโต, น ทุกฺขเวทนาย อณโณ. ภุฺชามีติ เจตฺถ เถยฺยปริโภโค อิณปริโภโค ทายชฺชปริโภโค สามิปริโภโคติ จตฺตาโร ปริโภคา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นาม. โส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย เถเนตฺวา ภุฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘เถยฺยาย โว, ภิกฺขเว, รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ (ปารา. ๑๙๕). สีลวโต ปน อปจฺจเวกฺขณปริโภโค อิณปริโภโค นาม. สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม. ขีณาสวสฺส ปริโภโค สามิปริโภโค นาม. อิธ กิเลสอิณานํ อภาวํ สนฺธาย ‘‘อณโณ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อนิโณ’’ติปิ ปาโ. สามิปริโภคํ สนฺธาย ‘‘ภุฺชามิ โภชน’’นฺติ วุตฺตํ.

กามรติสนฺถวนฺติ ทุวิเธสุปิ กาเมสุ ตณฺหารติสนฺถวํ มา อนุยุฺชถ มา กริตฺถ. นยิทํ ทุมฺมนฺติตํ มมาติ ยํ มยา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ มนฺติตํ, ตํ มม มนฺติตํ น ทุมฺมนฺติตํ. สํวิภตฺเตสุ ธมฺเมสูติ อหํ สตฺถาติ เอวํ โลเก อุปฺปนฺเนหิ เย ธมฺมา สํวิภตฺตา, เตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺํ นิพฺพานํ, ตเทว อหํ อุปคมํ อุปคโต สมฺปตฺโต, ตสฺมา มยฺหํ อิทํ อาคมนํ สฺวาคตํ นาม คตนฺติ. ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยปฺา. กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ ยํ พุทฺธสฺส สาสเน กตฺตพฺพกิจฺจํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ มยา กตํ. ตีหิ วิชฺชาหิ นวหิ จ โลกุตฺตรธมฺเมหิ เทสนํ มตฺถกํ ปาเปสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปิยชาติกสุตฺตวณฺณนา

๓๕๓. เอวํ เม สุตนฺติ ปิยชาติกสุตฺตํ. ตตฺถ เนว กมฺมนฺตา ปฏิภนฺตีติ น สพฺเพน สพฺพํ ปฏิภนฺติ, ปกตินิยาเมน ปน น ปฏิภนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ น ปฏิภาตีติ น รุจฺจติ. อาฬาหนนฺติ สุสานํ. อฺถตฺตนฺติ วิวณฺณตาย อฺถาภาโว. อินฺทฺริยานิ นาม มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา, ปติฏฺิโตกาสํ ปน สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. ปิยชาติกาติ ปิยโต ชายนฺติ. ปิยปฺปภาวิกาติ ปิยโต ปภวนฺติ.

๓๕๕. สเจ ตํ, มหาราชาติ ตสฺส อตฺถํ อสลฺลกฺขยมานาปิ สตฺถริ สทฺธาย เอวํ วทติ. จร ปิเรติ อเปหิ อมฺหากํ ปเร, อนชฺฌตฺติกภูเตติ อตฺโถ. อถ วา จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺาติปิ อตฺโถ.

๓๕๖. ทฺวิธา เฉตฺวาติ อสินา ทฺเว โกฏฺาเส กโรนฺโต ฉินฺทิตฺวา. อตฺตานํ อุปฺผาเลสีติ เตเนว อสินา อตฺตโน อุทรํ ผาเลสิ. ยทิ หิ ตสฺส สา อปฺปิยา ภเวยฺย, อิทานิ อฺํ มาตุคามํ คณฺหิสฺสามีติ อตฺตานํ น ฆาเตยฺย. ยสฺมา ปนสฺส สา ปิยา อโหสิ, ตสฺมา ปรโลเกปิ ตาย สทฺธึ สมงฺคิภาวํ ปตฺถยมาโน เอวมกาสิ.

๓๕๗. ปิยา เต วชิรีติ เอวํ กิรสฺสา อโหสิ – ‘‘สจาหํ, ‘ภูตปุพฺพํ, มหาราช, อิมิสฺสาเยว สาวตฺถิยํ อฺตริสฺสา อิตฺถิยา’ติอาทิกถํ กเถยฺยํ, ‘โก เต เอวํ อกาสิ, อเปหิ นตฺถิ เอต’นฺติ มํ ปฏิเสเธยฺย, วตฺตมาเนเนว นํ สฺาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. วิปริณามฺถาภาวาติ เอตฺถ มรณวเสน วิปริณาโม, เกนจิ สทฺธึ ปลายิตฺวา คมนวเสน อฺถาภาโว เวทิตพฺโพ.

วาสภายาติ วาสภา นาม รฺโ เอกา เทวี, ตํ สนฺธายาห.

ปิยา เต อหนฺติ กสฺมา สพฺพปจฺฉา อาห? เอวํ กิรสฺสา อโหสิ – ‘‘อยํ ราชา มยฺหํ กุปิโต, สจาหํ สพฺพปมํ ‘ปิยา เต อห’นฺติ ปุจฺเฉยฺยํ, ‘น เม ตฺวํ ปิยา, จร ปิเร’ติ วเทยฺย, เอวํ สนฺเต กถา ปติฏฺานํ น ลภิสฺสตี’’ติ กถาย ปติฏฺานตฺถํ สพฺพปจฺฉา ปุจฺฉิ. กาสิโกสเลสุ ฉฑฺฑิตภาเวน วิปริณาโม, ปฏิราชูนํ หตฺถคมนวเสน อฺถาภาโว เวทิตพฺโพ.

อาจเมหีติ อาจมโนทกํ เทหิ. อาจมิตฺวา หตฺถปาเท โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา สตฺถารํ นมสฺสิตุกาโม เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ปิยชาติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. พาหิติกสุตฺตวณฺณนา

๓๕๘. เอวํ เม สุตนฺติ พาหิติกสุตฺตํ. ตตฺถ เอกปุณฺฑรีกํ นาคนฺติ เอวํนามกํ หตฺถึ. ตสฺส กิร ผาสุกานํ อุปริ ตาลผลมตฺตํ ปณฺฑรฏฺานํ อตฺถิ, เตนสฺส เอกปุณฺฑรีโกติ นามํ อกํสุ. สิริวฑฺฒํ มหามตฺตนฺติ ปจฺเจกหตฺถึ อภิรุหิตฺวา กถาผาสุกตฺถํ สทฺธึ คจฺฉนฺตํ เอวํนามกํ มหามตฺตํ. อายสฺมาโนติ เอตฺถ โนติ ปุจฺฉาย นิปาโต. มหามตฺโต เถรสฺส สงฺฆาฏิปตฺตธารณาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราชา’’ติ อาห.

๓๕๙. โอปารมฺโภติ อุปารมฺภํ โทสํ อาโรปนารโห. กึ ปุจฺฉามีติ ราชา ปุจฺฉติ. สุนฺทริวตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนมิทํ สุตฺตํ, ตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. ยฺหิ มยํ, ภนฺเตติ, ภนฺเต, ยํ มยํ วิฺูหีติ อิทํ ปทํ คเหตฺวา ปฺเหน ปริปูเรตุํ นาสกฺขิมฺหา, ตํ การณํ อายสฺมตา เอวํ วทนฺเตน ปริปูริตํ.

๓๖๐. อกุสโลติ อโกสลฺลสมฺภูโต. สาวชฺโชติ สโทโส. สพฺยาพชฺโฌติ สทุกฺโข. ทุกฺขวิปาโกติ อิธ นิสฺสนฺทวิปาโก กถิโต. ตสฺสาติ ตสฺส เอวํ อตฺตพฺยาพาธาทีนํ อตฺถาย ปวตฺตกายสมาจารสฺส.

สพฺพากุสลธมฺมปหีโน โข, มหาราช, ตถาคโต กุสลธมฺมสมนฺนาคโตติ เอตฺถ สพฺเพสํเยว อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ วณฺเณตีติ. อาม วณฺเณตีติ วุตฺเต ยถา ปุจฺฉา, ตถา อตฺโถ วุตฺโต ภเวยฺย. เอวํ พฺยากรณํ ปน น ภาริยํ. อปฺปหีนอกุสโลปิ หิ ปหานํ วณฺเณยฺย, ภควา ปน ปหีนากุสลตาย ยถาการี ตถาวาทีติ ทสฺเสตุํ เอวํ พฺยากาสิ. สุกฺกปกฺเขปิ เอเสว นโย.

๓๖๒. พาหิติกาติ พาหิติรฏฺเ อุฏฺิตวตฺถสฺเสตํ นามํ. โสฬสสมา อายาเมนาติ อายาเมน สมโสฬสหตฺถา. อฏฺสมา วิตฺถาเรนาติ วิตฺถาเรน สมอฏฺหตฺถา.

๓๖๓. ภควโต ปาทาสีติ ภควโต นิยฺยาเตสิ. ทตฺวา จ ปน คนฺธกุฏิยํ วิตานํ กตฺวา พนฺธิ. ตโต ปฏฺาย คนฺธกุฏิ ภิยฺโยโสมตฺตาย โสภิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. เนยฺยปุคฺคลสฺส ปน วเสน อยํ เทสนา นิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พาหิติกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมเจติยสุตฺตวณฺณนา

๓๖๔. เอวํ เม สุตนฺติ ธมฺมเจติยสุตฺตํ. ตตฺถ เมทาฬุปนฺติ นาเมตํ ตสฺส, ตสฺส หิ นิคมสฺส เมทวณฺณา ปาสาณา กิเรตฺถ อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา เมทาฬุปนฺติ สงฺขํ คตํ. เสนาสนํ ปเนตฺถ อนิยตํ, ตสฺมา น ตํ วุตฺตํ. นครกนฺติ เอวํนามกํ สกฺยานํ นิคมํ. เกนจิเทว กรณีเยนาติ น อฺเน กรณีเยน, อยํ ปน พนฺธุลเสนาปตึ สทฺธึ ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ เอกทิวเสเนว คณฺหถาติ อาณาเปสิ, ตํทิวสฺจสฺส ภริยาย มลฺลิกาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ภควา นิมนฺติโต, พุทฺธปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ ฆรํ อาคนฺตฺวา นิสินฺนมตฺเต ‘‘เสนาปติ กาลงฺกโต’’ติ สาสนํ อาหริตฺวา มลฺลิกาย อทํสุ. สา ปณฺณํ คเหตฺวา มุขสาสนํ ปุจฺฉิ. ‘‘รฺา อยฺเย เสนาปติ สทฺธึ ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ เอกปฺปหาเรเนว คหาปิโต’’ติ อาโรเจสุํ. มหาชนคตํ มา กริตฺถาติ โอวฏฺฏิกาย ปณฺณํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ. ตสฺมึ สมเย เอกา สปฺปิจาฏิ นีหริตา, สา อุมฺมาเร อาหจฺจ ภินฺนา, ตํ อปเนตฺวา อฺํ อาหราเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ.

สตฺถา กตภตฺตกิจฺโจ กถาสมุฏฺาปนตฺถํ – ‘‘สปฺปิจาฏิยา ภินฺนปจฺจยา น จินฺเตตพฺพ’’นฺติ อาห. ตสฺมึ สมเย มลฺลิกา ปณฺณํ นีหริตฺวา ภควโต ปุรโต เปตฺวา – ‘‘ภควา อิมํ ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ สทฺธึ เสนาปติโน มตสาสนํ, อหํ เอตมฺปิ น จินฺตยามิ, สปฺปิจาฏิปจฺจยา กึ จินฺเตยฺยามี’’ติ อาห. ภควา – ‘‘มลฺลิเก, มา จินฺตยิ, อนมตคฺเค สํสาเร นาม วตฺตมานานํ โหติ เอต’’นฺติ อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมกถํ กตฺวา อคมาสิ. มลฺลิกา ทฺวตฺตึสสุณิสาโย ปกฺโกสาเปตฺวา โอวาทํ อทาสิ. ราชา มลฺลิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เสนาปติโน อมฺหากํ อนฺตเร ภินฺนโทโส อตฺถิ นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. นตฺถิ สามีติ. โส ตสฺสา วจเนน ตสฺส นิทฺโทสภาวํ ตฺวา วิปฺปฏิสารี พลวโทมนสฺสํ อุปฺปาเทสิ. โส – ‘‘เอวรูปํ นาม อโทสการกํ มํ สมฺภาวยิตฺวา อาคตํ สหายกํ วินาเสสิ’’นฺติ ตโต ปฏฺาย ปาสาเท วา นาฏเกสุ วา รชฺชสุเขสุ วา จิตฺตสฺสาทํ อลภมาโน ตตฺถ ตตฺถ วิจริตุํ อารทฺโธ. เอตเทว กิจฺจํ อโหสิ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ.

ทีฆํ การายนนฺติ ทีฆการายโน นาม พนฺธุลเสนาปติสฺส ภาคิเนยฺโย ‘‘เอตสฺส เม มาตุโล อโทสการโก นิกฺการเณน ฆาติโต’’ติ รฺา เสนาปติฏฺาเน ปิโต. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. มหจฺจา ราชานุภาเวนาติ มหตา ราชานุภาเวน, ธรณิตลํ ภินฺทนฺโต วิย สาครํ ปริวตฺเตนฺโต วิย วิจิตฺตเวสโสเภน มหตา พลกาเยนาติ อตฺโถ. ปาสาทิกานีติ ทสฺสเนเนว สห รฺชนกานิ. ปสาทนียานีติ ตสฺเสว เววจนํ. อถ วา ปาสาทิกานีติ ปสาทชนกานิ. อปฺปสทฺทานีติ นิสฺสทฺทานิ. อปฺปนิคฺโฆสานีติ อวิภาวิตตฺเถน นิคฺโฆเสน รหิตานิ. วิชนวาตานีติ วิคตชนวาตานิ. มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานีติ มนุสฺสานํ รหสฺสกมฺมานุจฺฉวิกานิ, รหสฺสมนฺตํ มนฺเตนฺตานํ อนุรูปานีติ อตฺโถ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ นิลียนภาวสฺส เอกีภาวสฺส อนุจฺฉวิกานิ. ยตฺถ สุทํ มยนฺติ น เตน ตตฺถ ภควา ปยิรุปาสิตปุพฺโพ, ตาทิเสสุ ปน ปยิรุปาสิตปุพฺโพ, ตสฺมา ยาทิเสสุ สุทํ มยนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

อตฺถิ, มหาราชาติ ปณฺฑิโต เสนาปติ ‘‘ราชา ภควนฺตํ มมายตี’’ติ ชานาติ, โส สเจ มํ ราชา ‘‘กหํ ภควา’’ติ วเทยฺย, อทนฺธายนฺเตน อาจิกฺขิตุํ ยุตฺตนฺติ จรปุริเส ปโยเชตฺวา ภควโต นิวาสนฏฺานํ ตฺวาว วิหรติ. ตสฺมา เอวมาห. อารามํ ปาวิสีติ พหินิคเม ขนฺธาวารํ พนฺธาเปตฺวา การายเนน สทฺธึ ปาวิสิ.

๓๖๖. วิหาโรติ คนฺธกุฏึ สนฺธายาหํสุ. อาฬินฺทนฺติ ปมุขํ. อุกฺกาสิตฺวาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา. อคฺคฬนฺติ กวาฏํ. อาโกเฏหีติ อคฺคนเขน อีสกํ กุฺจิกจฺฉิทฺทสมีเป โกเฏหีติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวารํ กิร อติอุปริ อมนุสฺสา, อติเหฏฺา ทีฆชาติกา โกเฏนฺติ. ตถา อโกเฏตฺวา มชฺเฌ ฉิทฺทสมีเป โกเฏตพฺพํ, อิทํ ทฺวารโกฏฺฏกวตฺตนฺติ ทีเปนฺตา วทนฺติ. ตตฺเถวาติ ภิกฺขูหิ วุตฺตฏฺาเนเยว. ขคฺคฺจ อุณฺหีสฺจาติ เทสนามตฺตเมตํ,

วาลพีชนิมุณฺหีสํ, ขคฺคํ ฉตฺตฺจุปาหนํ;

โอรุยฺห ราชา ยานมฺหา, ปยิตฺวา ปฏิจฺฉทนฺติ. –

อาคตานิ ปน ปฺจปิ ราชกกุธภณฺฑานิ อทาสิ. กสฺมา ปน อทาสีติ. อติครุโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกํ อุทฺธตเวเสน คนฺตุํ น ยุตฺตนฺติ จ, เอกโกว อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน สมฺโมทิสฺสามิ จาติ. ปฺจสุ หิ ราชกกุธภณฺเฑสุ นิวตฺติเตสุ ตฺวํ นิวตฺตาติ วตฺตพฺพํ น โหติ, สพฺเพ สยเมว นิวตฺตนฺติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ อทาสิ. รหายตีติ รหสฺสํ กโรติ นิคูหติ. อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย ‘‘ปุพฺเพปิ อยํ ราชา สมเณน โคตเมน สทฺธึ จตุกฺกณฺณมนฺตํ มนฺเตตฺวา มยฺหํ มาตุลํ สทฺธึ ทฺวตฺตึสาย ปุตฺเตหิ คณฺหาเปสิ, อิทานิปิ จตุกฺกณฺณมนฺตํ มนฺเตตุกาโม, กจฺจิ นุ โข มํ คณฺหาเปสฺสตี’’ติ. เอวํ โกปวเสนสฺส เอตทโหสิ.

วิวริ ภควา ทฺวารนฺติ น ภควา อุฏฺาย ทฺวารํ วิวริ, วิวรตูติ ปน หตฺถํ ปสาเรสิ. ตโต – ‘‘ภควา ตุมฺเหหิ อเนเกสุ กปฺปโกฏีสุ ทานํ ททมาเนหิ น สหตฺถา ทฺวารวิวรณกมฺมํ กต’’นฺติ สยเมว ทฺวารํ วิวฏํ. ตํ ปน ยสฺมา ภควโต มเนน วิวฏํ, ตสฺมา ‘‘วิวริ ภควา ทฺวาร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. วิหารํ ปวิสิตฺวาติ คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา. ตสฺมึ ปน ปวิฏฺมตฺเตเยว การายโน ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา วิฏฏูภํ อามนฺเตสิ ‘‘ฉตฺตํ สมฺม อุสฺสาเปหี’’ติ. มยฺหํ ปิตา กึ คโตติ? ปิตรํ มา ปุจฺฉ, สเจ ตฺวํ น อุสฺสาเปสิ, ตํ คณฺหิตฺวา อหํ อุสฺสาเปมีติ. ‘‘อุสฺสาเปมิ สมฺมา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. การายโน รฺโ เอกํ อสฺสฺจ อสิฺจ เอกเมว จ ปริจาริกํ อิตฺถึ เปตฺวา – ‘‘สเจ ราชา ชีวิเตน อตฺถิโก, มา อาคจฺฉตู’’ติ วิฏฏูภสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ตํ คเหตฺวา สาวตฺถิเมว คโต.

๓๖๗. ธมฺมนฺวโยติ ปจฺจกฺขาณสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส อนุนโย อนุมานํ, อนุพุทฺธีติ อตฺโถ. อิทานิ เยนสฺส ธมฺมนฺวเยน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทิ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ อิธ ปนาหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อาปาณโกฏิกนฺติ ปาโณติ ชีวิตํ, ตํ มริยาทํ อนฺโต กริตฺวา, มรณสมเยปิ จรนฺติเยว, ตํ น วีติกฺกมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อปาณโกฏิก’’นฺติปิ ปาโ, อาชีวิตปริยนฺตนฺติ อตฺโถ. ยถา เอกจฺเจ ชีวิตเหตุ อติกฺกมนฺตา ปาณโกฏิกํ กตฺวา จรนฺติ, น เอวนฺติ อตฺโถ. อยมฺปิ โข เม, ภนฺเตติ พุทฺธสุพุทฺธตาย ธมฺมสฺวากฺขาตตาย สงฺฆสุปฺปฏิปนฺนตาย จ เอตํ เอวํ โหติ, เอวฺหิ เม, ภนฺเต, อยํ ภควติ ธมฺมนฺวโย โหตีติ ทีเปติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ.

๓๖๙. วิย มฺเ จกฺขุํ พนฺธนฺเตติ จกฺขุํ อพนฺธนฺเต วิย. อปาสาทิกฺหิ ทิสฺวา ปุน โอโลกนกิจฺจํ น โหติ, ตสฺมา โส จกฺขุํ น พนฺธติ นาม. ปาสาทิกํ ทิสฺวา ปุนปฺปุนํ โอโลกนกิจฺจํ โหติ, ตสฺมา โส จกฺขุํ พนฺธติ นาม. อิเม จ อปาสาทิกา, ตสฺมา เอวมาห. พนฺธุกโรโค โนติ กุลโรโค. อมฺหากํ กุเล ชาตา เอวรูปา โหนฺตีติ วทนฺติ. อุฬารนฺติ มเหสกฺขํ. ปุพฺเพนาปรนฺติ ปุพฺพโต อปรํ วิเสสํ. ตตฺถ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตนฺโต อุฬารํ ปุพฺเพ วิเสสํ สฺชานาติ นาม, สมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหนฺโต อุฬารํ ปุพฺพโต อปรํ วิเสสํ สฺชานาติ นาม.

๓๗๐. ฆาเตตายํ วา ฆาเตตุนฺติ ฆาเตตพฺพยุตฺตกํ ฆาเตตุํ. ชาเปตายํ วา ชาเปตุนฺติ ธเนน วา ชาเปตพฺพยุตฺตกํ ชาเปตุํ ชานิตุํ อธนํ กาตุํ. ปพฺพาเชตายํ วา ปพฺพาเชตุนฺติ รฏฺโต วา ปพฺพาเชตพฺพยุตฺตกํ ปพฺพาเชตุํ.

๓๗๓. อิสิทตฺตปุราณาติ อิสิทตฺโต จ ปุราโณ จ. เตสุ เอโก พฺรหฺมจารี, เอโก สทารสนฺตุฏฺโ. มมภตฺตาติ มม สนฺตกํ ภตฺตํ เอเตสนฺติ มมภตฺตา. มมยานาติ มม สนฺตกํ ยานํ เอเตสนฺติ มมยานา. ชีวิกาย ทาตาติ ชีวิตวุตฺตึ ทาตา. วีมํสมาโนติ อุปปริกฺขมาโน. ตทา กิร ราชา นิทฺทํ อโนกฺกนฺโตว โอกฺกนฺโต วิย หุตฺวา นิปชฺชิ. อถ เต ถปตโย ‘‘กตรสฺมึ ทิสาภาเค ภควา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นามา’’ติ สุตฺวา มนฺตยึสุ – ‘‘เยน สมฺมาสมฺพุทฺโธ, เตน สีเส กเต ราชา ปาทโต โหติ. เยน ราชา, เตน สีเส กเต สตฺถา ปาทโต โหติ, กึ กริสฺสามา’’ติ? ตโต เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘ราชา กุปฺปมาโน ยํ อมฺหากํ เทติ, ตํ อจฺฉินฺเทยฺย. น โข ปน มยํ สกฺโกม ชานมานา สตฺถารํ ปาทโต กาตุ’’นฺติ ราชานํ ปาทโต กตฺวา นิปชฺชึสุ. ตํ สนฺธาย อยํ ราชา เอวมาห.

๓๗๔. ปกฺกามีติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา การายนสฺส ิตฏฺานํ คโต, ตํ ตตฺถ อทิสฺวา ขนฺธาวารฏฺานํ คโต, ตตฺถาปิ อฺํ อทิสฺวา ตํ อิตฺถึ ปุจฺฉิ. สา สพฺพํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ราชา – ‘‘น อิทานิ มยา เอกเกน ตตฺถ คนฺตพฺพํ, ราชคหํ คนฺตฺวา ภาคิเนยฺเยน สทฺธึ อาคนฺตฺวา มยฺหํ รชฺชํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ราชคหํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กณาชกภตฺตฺเจว ภุฺชิ, พหลอุทกฺจ ปิวิ. ตสฺส สุขุมาลปกติกสฺส อาหาโร น สมฺมา ปริณามิ. โส ราชคหํ ปาปุณนฺโตปิ วิกาเล ทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ ปาปุณิ. ‘‘อชฺช สาลายํ สยิตฺวา สฺเว มยฺหํ ภาคิเนยฺยํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ พหินคเร สาลาย นิปชฺชิ. ตสฺส รตฺติภาเค อุฏฺานานิ ปวตฺตึสุ, กติปยวาเร พหิ นิกฺขมิ. ตโต ปฏฺาย ปทสา คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺสา อิตฺถิยา องฺเก นิปชฺชิตฺวา พลวปจฺจูเส กาลมกาสิ. สา ตสฺส มตภาวํ ตฺวา – ‘‘ทฺวีสุ รชฺเชสุ รชฺชํ กาเรตฺวา อิทานิ ปรสฺส พหินคเร อนาถสาลาย อนาถกาลกิริยํ กตฺวา นิปนฺโน มยฺหํ สามิ โกสลราชา’’ติอาทีนิ วทมานา อุจฺจาสทฺเทน ปริเทวิตุํ อารภิ. มนุสฺสา สุตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา อาคนฺตฺวา ทิสฺวา สฺชานิตฺวา อาคตการณํ ตฺวา มหาปริหาเรน สรีรกิจฺจํ กริตฺวา ‘‘วิฏฏูภํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา พลกายํ สนฺนิปาเตสิ. อมจฺจา ปาเทสุ ปติตฺวา – ‘‘สเจ, เทว, ตุมฺหากํ มาตุโล อโรโค อสฺส, ตุมฺหากํ คนฺตุํ ยุตฺตํ ภเวยฺย, อิทานิ ปน วิฏฏูโภปิ ตุมฺเห นิสฺสาย ฉตฺตํ อุสฺสาเปตุํ อรหติเยวา’’ติ สฺาเปตฺวา นิวาเรสุํ.

ธมฺมเจติยานีติ ธมฺมสฺส จิตฺตีการวจนานิ. ตีสุ หิ รตเนสุ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตีกาเร กเต สพฺพตฺถ กโตเยว โหติ, ตสฺมา ภควติ จิตฺตีกาเร กเต ธมฺโมปิ กโตว โหตีติ ภควา ‘‘ธมฺมเจติยานี’’ติ อาห. อาทิพฺรหฺมจริยกานีติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตานิ, ปุพฺพภาคปฏิปตฺติภูตานีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ธมฺมเจติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กณฺณกตฺถลสุตฺตวณฺณนา

๓๗๕. เอวํ เม สุตนฺติ กณฺณกตฺถลสุตฺตํ. ตตฺถ อุรุฺายนฺติ อุรุฺาติ ตสฺส รฏฺสฺสปิ นครสฺสปิ เอตเทว นามํ, ภควา อุรุฺานครํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. กณฺณกตฺถเล มิคทาเยติ ตสฺส นครสฺส อวิทูเร กณฺณกตฺถลํ นาม เอโก รมณีโย ภูมิภาโค อตฺถิ, โส มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ, ตสฺมึ กณฺณกตฺถเล มิคทาเย. เกนจิเทว กรณีเยนาติ น อฺเน, อนนฺตรสุตฺเต วุตฺตกรณีเยเนว. โสมา จ ภคินี สกุลา จ ภคินีติ อิมา ทฺเว ภคินิโย รฺโ ปชาปติโย. ภตฺตาภิหาเรติ ภตฺตํ อภิหรณฏฺาเน. รฺโ ภุฺชนฏฺานฺหิ สพฺพาปิ โอโรธา กฏจฺฉุอาทีนิ คเหตฺวา ราชานํ อุปฏฺาตุํ คจฺฉนฺติ, ตาปิ ตเถว อคมํสุ.

๓๗๖. กึ ปน, มหาราชาติ กสฺมา เอวมาห? รฺโ ครหปริโมจนตฺถํ. เอวฺหิ ปริสา จินฺเตยฺย – ‘‘อยํ ราชา อาคจฺฉมาโนว มาตุคามานํ สาสนํ อาโรเจติ, มยํ อตฺตโน ธมฺมตาย ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคโตติ มฺาม, อยํ ปน มาตุคามานํ สาสนํ คเหตฺวา อาคโต, มาตุคามทาโส มฺเ, เอส ปุพฺเพปิ อิมินาว การเณน อาคจฺฉตี’’ติ. ปุจฺฉิโต ปน โส อตฺตโน อาคมนการณํ กเถสฺสติ, เอวมสฺส อยํ ครหา น อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ครหโมจนตฺถํ เอวมาห.

๓๗๘. อพฺภุทาหาสีติ กเถสิ. สกิเทว สพฺพํ อุสฺสติ สพฺพํ ทกฺขิตีติ โย เอกาวชฺชเนน เอกจิตฺเตน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ สพฺพํ อุสฺสติ วา ทกฺขิติ วา, โส นตฺถีติ อตฺโถ. เอเกน หิ จิตฺเตน อตีตํ สพฺพํ ชานิสฺสามีติ อาวชฺชิตฺวาปิ อตีตํ สพฺพํ ชานิตุํ น สกฺกา, เอกเทสเมว ชานาติ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ปน เตน จิตฺเตน สพฺเพเนว สพฺพํ น ชานาตีติ. เอส นโย อิตเรสุ. เอวํ เอกจิตฺตวเสนายํ ปฺโห กถิโต. เหตุรูปนฺติ เหตุสภาวํ การณชาติกํ. สเหตุรูปนฺติ สการณชาติกํ. สมฺปรายิกาหํ, ภนฺเตติ สมฺปรายคุณํ อหํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ.

๓๗๙. ปฺจิมานีติ อิมสฺมึ สุตฺเต ปฺจ ปธานิยงฺคานิ โลกุตฺตรมิสฺสกานิ กถิตานิ. กถินงฺคณวาสีจูฬสมุทฺทตฺเถโร ปน ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, กึ รุจฺจตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ โลกุตฺตราเนวาติ รุจฺจตี’’ติ อาห. ปธานเวมตฺตตนฺติ ปธานนานตฺตํ. อฺาทิสเมว หิ ปุถุชฺชนสฺส ปธานํ, อฺาทิสํ โสตาปนฺนสฺส, อฺาทิสํ สกทาคามิโน, อฺาทิสํ อนาคามิโน, อฺาทิสํ อรหโต, อฺาทิสํ อสีติมหาสาวกานํ, อฺาทิสํ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ, อฺาทิสํ ปจฺเจกพุทฺธานํ, อฺาทิสํ สพฺพฺุพุทฺธานํ. ปุถุชฺชนสฺส ปธานํ โสตาปนฺนสฺส ปธานํ น ปาปุณาติ…เป… ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปธานํ สพฺพฺุพุทฺธสฺส ปธานํ น ปาปุณาติ. อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘ปธานเวมตฺตตํ วทามี’’ติ อาห. ทนฺตการณํ คจฺเฉยฺยุนฺติ ยํ อกูฏกรณํ, อนวจฺฉินฺทนํ, ธุรสฺส อจฺฉินฺทนนฺติ ทนฺเตสุ การณํ ทิสฺสติ, ตํ การณํ อุปคจฺเฉยฺยุนฺติ อตฺโถ. ทนฺตภูมินฺติ ทนฺเตหิ คนฺตพฺพภูมึ. อสฺสทฺโธติอาทีสุ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน จตฺตาโรปิ อสฺสทฺธา นาม. ปุถุชฺชโน หิ โสตาปนฺนสฺส สทฺธํ อปฺปตฺโตติ อสฺสทฺโธ, โสตาปนฺโน สกทาคามิสฺส, สกทาคามี อนาคามิสฺส, อนาคามี อรหโต สทฺธํ อปฺปตฺโตติ อสฺสทฺโธ, อาพาโธ อรหโตปิ อุปฺปชฺชตีติ ปฺจปิ พหฺวาพาธา นาม โหนฺติ. อริยสาวกสฺส ปน สโ มายาวีติ นามํ นตฺถิ. เตเนว เถโร – ‘‘ปฺจ ปธานิยงฺคานิ โลกุตฺตรานิ กถิตานีติ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ อาห. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตนฺเต ปน – ‘‘ตโย จ, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺเก ตโย จ ปุริสขฬุงฺเก เทเสสฺสามี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๔๑) เอตฺถ อริยสาวกสฺสาปิ สมฺโพธินามํ อาคตํ, ตสฺส วเสน โลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตาติ วุตฺตํ. ปุถุชฺชโน ปน โสตาปตฺติมคฺควีริยํ อสมฺปตฺโต…เป… อนาคามี อรหตฺตมคฺควีริยํ อสมฺปตฺโตติ กุสีโตปิ อสฺสทฺโธ วิย จตฺตาโรว โหนฺติ, ตถา ทุปฺปฺโ.

เอวํ ปเนตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ – อทนฺตหตฺถิอาทโย วิย หิ มคฺคปธานรหิโต ปุคฺคโล. ทนฺตหตฺถิอาทโย วิย มคฺคปธานวา. ยถา อทนฺตา หตฺถิอาทโย กูฏาการํ อกตฺวา อวิจฺฉินฺทิตฺวา ธุรํ อปาเตตฺวา ทนฺตคมนํ วา คนฺตุํ ทนฺตภูมึ วา ปตฺตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวเมวํ มคฺคปธานรหิโต มคฺคปธานวตา ปตฺตพฺพํ ปาปุณิตุํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ คุณํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ. ยถา ปน ทนฺตหตฺถิอาทโย กูฏาการํ อกตฺวา อวิจฺฉินฺทิตฺวา ธุรํ อปาเตตฺวา ทนฺตคมนํ วา คนฺตุํ ทนฺตภูมึ วา ปตฺตุํ สกฺโกนฺติ, เอวเมวํ มคฺคปธานวา มคฺคปธานวตา ปตฺตพฺพํ ปาปุณิตุํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ คุณํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺคปธานวา โสตาปตฺติมคฺคปธานวตา ปตฺโตกาสํ ปาปุณิตุํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ คุณํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ…เป… อรหตฺตมคฺคปธานวา อรหตฺตมคฺคปธานวตา ปตฺโตกาสํ ปาปุณิตุํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ คุณํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกตี’’ติ.

๓๘๐. สมฺมปฺปธานาติ มคฺคปธาเนน สมฺมปฺปธานา. น กิฺจิ นานากรณํ วทามิ ยทิทํ วิมุตฺติยา วิมุตฺตินฺติ ยํ เอกสฺส ผลวิมุตฺติยา อิตรสฺส ผลวิมุตฺตึ อารพฺภ นานากรณํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ น กิฺจิ วทามีติ อตฺโถ. อจฺจิยา วา อจฺจินฺติ อจฺจิยา วา อจฺจิมฺหิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย, ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ อุปโยควจนํ. กึ ปน ตฺวํ, มหาราชาติ, มหาราช, กึ ตฺวํ? ‘‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา ตาวตึสา…เป… สนฺติ เทวา ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ’’นฺติ เอวํ เทวานํ อตฺถิภาวํ น ชานาสิ, เยน เอวํ วเทสีติ. ตโต อตฺถิภาวํ ชานามิ, มนุสฺสโลกํ ปน อาคจฺฉนฺติ นาคจฺฉนฺตีติ อิทํ ปุจฺฉนฺโต ยทิ วา เต, ภนฺเตติอาทิมาห. สพฺยาพชฺฌาติ สทุกฺขา, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน อปฺปหีนเจตสิกทุกฺขา. อาคนฺตาโรติ อุปปตฺติวเสน อาคนฺตาโร. อพฺยาพชฺฌาติ สมุจฺฉินฺนทุกฺขา. อนาคนฺตาโรติ อุปปตฺติวเสน อนาคนฺตาโร.

๓๘๑. ปโหตีติ สกฺโกติ. ราชา หิ ปุฺวนฺตมฺปิ ลาภสกฺการสมฺปนฺนํ ยถา น โกจิ อุปสงฺกมติ, เอวํ กโรนฺโต ตมฺหา านา จาเวตุํ สกฺโกติ. ตํ อปุฺวนฺตมฺปิ สกลคามํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาปนมตฺตํ อลภนฺตํ ยถา ลาภสกฺการสมฺปนฺโน โหติ, เอวํ กโรนฺโต ตมฺหา านา จาเวตุํ สกฺโกติ. พฺรหฺมจริยวนฺตมฺปิ อิตฺถีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชตฺวา สีลวินาสํ ปาเปนฺโต พลกฺกาเรน วา อุปฺปพฺพาเชนฺโต ตมฺหา านา จาเวตุํ สกฺโกติ. อพฺรหฺมจริยวนฺตมฺปิ สมฺปนฺนกามคุณํ อมจฺจํ พนฺธนาคารํ ปเวเสตฺวา อิตฺถีนํ มุขมฺปิ ปสฺสิตุํ อเทนฺโต ตมฺหา านา จาเวติ นาม. รฏฺโต ปน ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปพฺพาเชติ นาม.

ทสฺสนายปิ นปฺปโหนฺตีติ กามาวจเร ตาว อพฺยาพชฺเฌ เทเว สพฺยาพชฺฌา เทวา จกฺขุวิฺาณทสฺสนายปิ นปฺปโหนฺติ. กสฺมา? อรหโต ตตฺถ านาภาวโต. รูปาวจเร ปน เอกวิมานสฺมึเยว ติฏฺนฺติ จ นิสีทนฺติ จาติ จกฺขุวิฺาณทสฺสนาย ปโหนฺติ, เอเตหิ ทิฏฺํ ปน สลฺลกฺขิตํ ปฏิวิทฺธํ ลกฺขณํ ทฏฺุํ สลฺลกฺขิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺโกนฺตีติ าณจกฺขุนา ทสฺสนาย นปฺปโหนฺติ, อุปริเทเว จ จกฺขุวิฺาณทสฺสเนนาปีติ.

๓๘๒. โก นาโม อยํ, ภนฺเตติ ราชา เถรํ ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ. กสฺมา? ปสํสิตุกามตาย. อานนฺทรูโปติ อานนฺทสภาโว. พฺรหฺมปุจฺฉาปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อถ โข อฺตโร ปุริโสติ สา กิร กถา วิฏฏูเภเนว กถิตา, เต ‘‘ตยา กถิตา, ตยา กถิตา’’ติ กุปิตา อฺมฺํ อิมสฺมึเยว าเน อตฺตโน อตฺตโน พลกายํ อุฏฺาเปตฺวา กลหมฺปิ กเรยฺยุนฺติ นิวารณตฺถํ โส ราชปุริโส เอตทโวจ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อยํ ปน เทสนา เนยฺยปุคฺคลสฺส วเสน นิฏฺิตาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

กณฺณกตฺถลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนา

๓๘๓. เอวํ เม สุตนฺติ พฺรหฺมายุสุตฺตํ. ตตฺถ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ มหตาติ คุณมหตฺเตนปิ มหตา, สงฺขฺยามหตฺเตนปิ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ คุเณหิปิ มหา อโหสิ อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา, สงฺขฺยายปิ มหา ปฺจสตสงฺขฺยตฺตา. ภิกฺขูนํ สงฺเฆน ภิกฺขุสงฺเฆน, ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺขาเตน สมณคเณนาติ อตฺโถ. สทฺธินฺติ เอกโต. ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหีติ ปฺจ มตฺตา เอเตสนฺติ ปฺจมตฺตานิ. มตฺตาติ ปมาณํ วุจฺจติ, ตสฺมา ยถา โภชเน มตฺตฺูติ วุตฺเต โภชเน มตฺตํ ชานาติ ปมาณํ ชานาตีติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ เตสํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจมตฺตา ปฺจปมาณนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขูนํ สตานิ ภิกฺขุสตานิ. เตหิ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ.

วีสวสฺสสติโกติ วีสาธิกวสฺสสติโก. ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทานํ. โอฏฺปหตกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ, นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฏุรุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาย สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน สกฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฺปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ อิติหาสปฺจมานํ. ปทฺจ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธียติ ปเวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปฺปมาณํ สตฺถํ, ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปริมาณาย พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ, เยสํ วเสน ‘‘อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ทฺเว อคฺคสาวกา, อสีติมหาสาวกา, พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺาโก, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ อยํ วิเสโส ายติ. อนวโยติ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูโน ปริปูรการี, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อสฺโสสิ โขติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สาเลยฺยกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๓๙ อาทโย) วุตฺตเมว.

๓๘๔. อยํ ตาตาติ อยํ มหลฺลกตาย คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต มาณวํ อามนฺเตตฺวา เอวมาห. อปิจ เอส พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘อิมสฺมึ โลเก ‘อหํ พุทฺโธ อหํ พุทฺโธ’ติ อุคฺคตสฺส นามํ คเหตฺวา พหู ชนา วิจรนฺติ, ตสฺมา น เม อนุสฺสวมตฺเตเนว อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตํ. เอกจฺจฺหิ อุปสงฺกมนฺตสฺส อปกฺกมนมฺปิ ครุ โหติ, อนตฺโถปิ อุปฺปชฺชติ. ยํนูนาหํ มม อนฺเตวาสิกํ เปเสตฺวา ‘พุทฺโธ วา โน วา’ติ ชานิตฺวา อุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ ตสฺมา มาณวํ อามนฺเตตฺวา ‘‘อยํ ตาตา’’ติอาทิมาห. ตํ ภวนฺตนฺติ ตสฺส ภวโต. ตถา สนฺตํเยวาติ ตถา สโตเยว. อิทฺหิ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ. ยถา กถํ ปนาหํ, โภติ เอตฺถ กถํ ปนาหํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามิ, ยถา สกฺกา โส าตุํ, ตถา เม อาจิกฺขาติ อตฺโถ. ยถาติ วา นิปาตมตฺตเมเวตํ. กถนฺติ อยํ อาการปุจฺฉา, เกนากาเรนาหํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามีติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต กิร นํ อุปชฺฌาโย – ‘‘กึ ตฺวํ, ตาต, ปถวิยํ ิโต ปถวึ น ปสฺสามีติ วิย จนฺทิมสูริยานํ โอภาเส ิโต จนฺทิมสูริเย น ปสฺสามีติ วิย วทสี’’ติอาทีนิ วตฺวา ชานนาการํ ทสฺเสนฺโต อาคตานิ โข ตาตาติอาทิมาห. ตตฺถ มนฺเตสูติ เวเทสุ. ตถาคโต กิร อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปฏิกจฺเจว สุทฺธาวาสา เทวา เวเทสุ ลกฺขณานิ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘พุทฺธมนฺตา นาม เอเต’’ติ พฺราหฺมณเวเสน เวเท วาเจนฺติ ‘‘ตทนุสาเรน มเหสกฺขา สตฺตา ตถาคตํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ. เตน ปุพฺเพ เวเทสุ มหาปุริสลกฺขณานิ อาคจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุเต ปน ตถาคเต อนุกฺกเมน อนฺตรธายนฺติ, เตน เอตรหิ นตฺถิ. มหาปุริสสฺสาติ ปณิธิสมาทานาณกรุณาทิคุณมหโต ปุริสสฺส. ทฺเวเยว คติโยติ ทฺเว เอว นิฏฺา. กามฺจายํ คติสทฺโท – ‘‘ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ภวเภเท วตฺตติ, ‘‘คติ มิคานํ ปวน’’นฺติอาทีสุ (ปริ. ๓๓๙) นิวาสฏฺาเน, ‘‘เอวํ อธิมตฺตคติมนฺโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๑) ปฺาย, ‘‘คติคต’’นฺติอาทีสุ วิสฏภาเว, อิธ ปน นิฏฺายํ วตฺตตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ กิฺจาปิ เยหิ สมนฺนาคโต ราชา โหติ, น เตเหว พุทฺโธ โหติ, ชาติสามฺโต ปน ตานิเยว ตานีติ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺสา’’ติ. สเจ อคารํ อชฺฌาวสตีติ ยทิ อคาเร วสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี. จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ สงฺคหวตฺถูหิ จ โลกํ รฺชนโต ราชา. จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ วตฺเตติ, เตหิ จ ปรํ วตฺเตติ, ปรหิตาย จ อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺตี. เอตฺถ จ ราชาติ สามฺํ, จกฺกวตฺตีติ วิเสสนํ. ธมฺเมน จรตีติ ธมฺมิโก, าเยน สเมน วตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺเมน รชฺชํ ลภิตฺวา ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. ปรหิตธมฺมกรเณน วา ธมฺมิโก, อตฺตหิตธมฺมกรเณน ธมฺมราชา. จตุรนฺตาย อิสฺสโรติ จาตุรนฺโต, จตุสมุทฺทนฺตาย จตุพฺพิธทีปภูสิตาย จ ปถวิยา อิสฺสโรติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตํ โกปาทิปจฺจตฺถิเก พหิทฺธา จ สพฺพราชาโน วิเชสีติ วิชิตาวี. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโตติ ชนปเท ถาวรภาวํ ธุวภาวํ ปตฺโต, น สกฺกา เกนจิ จาเลตุํ, ชนปโท วา ตมฺหิ ถาวริยปฺปตฺโต อนุสฺสุกฺโก สกมฺมนิรโต อจโล อสมฺปเวธีติ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส ตานิ กตมานีติ อตฺโถ. จกฺกรตนนฺติอาทีสุ จกฺกฺจ ตํ รติชนนตฺเถน รตนฺจาติ จกฺกรตนํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ.

อิเมสุ ปน รตเนสุ อยํ จกฺกวตฺติราชา จกฺกรตเนน อชิตํ ชินาติ, หตฺถิอสฺสรตเนหิ วิชิเต ยถาสุขํ อนุวิจรติ, ปริณายกรตเนน วิชิตมนุรกฺขติ, เสเสหิ อุปโภคสุขมนุภวติ. ปเมน จสฺส อุสฺสาหสตฺติโยโค, หตฺถิอสฺสคหปติรตเนหิ ปภุสตฺติโยโค, ปจฺฉิเมน มนฺตสตฺติโยโค สุปริปุณฺโณ โหติ, อิตฺถิมณิรตเนหิ ติวิธสตฺติโยคผลํ. โส อิตฺถิมณิรตเนหิ โภคสุขมนุภวติ, เสเสหิ อิสฺสริยสุขํ. วิเสสโต จสฺส ปุริมานิ ตีณิ อโทสกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ, มชฺฌิมานิ อโลภกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน, ปจฺฉิมเมกํ อโมหกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน โพชฺฌงฺคสํยุตฺเต รตนสุตฺตสฺส (สํ. นิ. ๕.๒๒๒-๒๒๓) อุปเทสโต คเหตพฺโพ. อปิจ พาลปณฺฑิตสุตฺเตปิ (ม. นิ. ๓.๒๕๕) อิเมสํ รตนานํ อุปฺปตฺติกฺกเมน สทฺธึ วณฺณนา อาคมิสฺสติ.

ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ. สูราติ อภีรุกชาติกา. วีรงฺครูปาติ เทวปุตฺตสทิสกายา, เอวํ ตาว เอเก วณฺณยนฺติ, อยํ ปเนตฺถ สภาโว – วีราติ อุตฺตมสูรา วุจฺจนฺติ. วีรานํ องฺคํ วีรงฺคํ, วีรการณํ วีริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. วีรงฺคํ รูปํ เอเตสนฺติ วีรงฺครูปา, วีริยมยสรีรา วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ปรเสนปฺปมทฺทนาติ สเจ ปฏิมุขํ ติฏฺเยฺย ปรเสนา, ตํ มทฺทิตุํ สมตฺถาติ อธิปฺปาโย. ธมฺเมนาติ ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทินา ปฺจสีลธมฺเมน.

อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโทติ เอตฺถ ราคโทสโมหมานทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตฉทเนหิ สตฺตหิ ปฏิจฺฉนฺเน กิเลสนฺธการโลเก ตํ ฉทนํ วิวฏฺเฏตฺวา สมนฺตโต สฺชาตาโลโก หุตฺวา ิโตติ วิวฏฺฏจฺฉโท. ตตฺถ ปเมน ปเทน ปูชารหตา, ทุติเยน ตสฺสา เหตุ ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺโธติ, ตติเยน พุทฺธตฺตเหตุภูตา วิวฏฺฏจฺฉทตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา วิวฏฺโฏ จ วิจฺฉโท จาติ วิวฏฺฏจฺฉโท, วฏฺฏรหิโต ฉทนรหิโต จาติ วุตฺตํ โหติ. เตน อรหํ วฏฺฏาภาเวน, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฉทนาภาเวนาติ เอวํ ปุริมปททฺวยสฺเสว เหตุทฺวยํ วุตฺตํ โหติ. ทุติยเวสารชฺเชน เจตฺถ ปุริมสิทฺธิ, ปเมน ทุติยสิทฺธิ, ตติยจตุตฺเถหิ ตติยสิทฺธิ โหติ. ปุริมฺจ ธมฺมจกฺขุํ, ทุติยํ พุทฺธจกฺขุํ, ตติยํ สมนฺตจกฺขุํ สาเธตีติปิ เวทิตพฺพํ. ตฺวํ มนฺตานํ ปฏิคฺคเหตาติ อิมินาสฺส สูรภาวํ ชเนติ.

๓๘๕. โสปิ ตาย อาจริยกถาย ลกฺขเณสุ วิคตสมฺโมโห เอโกภาสชาโต วิย พุทฺธมนฺเต สมฺปสฺสมาโน เอวํ, โภติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา, โภ, มํ ตฺวํ วทสิ, เอวํ กริสฺสามีติ. สมนฺเนสีติ คเวสิ, เอกํ ทฺเวติ วา คณยนฺโต สมานยิ. อทฺทสา โขติ กถํ อทฺทส? พุทฺธานฺหิ นิสินฺนานํ วา นิปนฺนานํ วา โกจิ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ น สกฺโกติ, ิตานํ ปน จงฺกมนฺตานํ วา สกฺโกติ. ตสฺมา ลกฺขณปริเยสนตฺถํ อาคตํ ทิสฺวา พุทฺธา อุฏฺายาสนา ติฏฺนฺติ วา จงฺกมํ วา อธิฏฺหนฺติ. อิติ ลกฺขณทสฺสนานุรูเป อิริยาปเถ วตฺตมานสฺส อทฺทส. เยภุยฺเยนาติ ปาเยน, พหุกานิ อทฺทส, อปฺปานิ น อทฺทสาติ อตฺโถ. ตโต ยานิ น อทฺทส, เตสํ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ เปตฺวา ทฺเวติ. กงฺขตีติ ‘‘อโห วต ปสฺเสยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทติ. วิจิกิจฺฉตีติ ตโต ตโต ตานิ วิจินนฺโต กิจฺฉติ น สกฺโกติ ทฏฺุํ. นาธิมุจฺจตีติ ตาย วิจิกิจฺฉาย สนฺนิฏฺานํ น คจฺฉติ. น สมฺปสีทตีติ ตโต ‘‘ปริปุณฺณลกฺขโณ อย’’นฺติ ภควติ ปสาทํ นาปชฺชติ. กงฺขาย วา ทุพฺพลา วิมติ วุตฺตา, วิจิกิจฺฉาย มชฺฌิมา, อนธิมุจฺจนตาย พลวตี, อสมฺปสาเทน เตหิ ตีหิ ธมฺเมหิ จิตฺตสฺส กาลุสฺสิยภาโว. โกโสหิเตติ วตฺถิโกเสน ปฏิจฺฉนฺเน. วตฺถคุยฺเหติ องฺคชาเต. ภควโต หิ วารณสฺเสว โกโสหิตวตฺถคุยฺหํ สุวณฺณวณฺณํ ปทุมคพฺภสมานํ, ตํ โส วตฺถปฏิจฺฉนฺนตฺตา, อนฺโตมุขคตาย จ ชิวฺหาย ปหูตภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เตสุ ทฺวีสุ ลกฺขเณสุ กงฺขี อโหสิ วิจิกิจฺฉี.

อถ โข ภควาติ อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ อิมสฺส เอตานิ ทฺเว ลกฺขณานิ น ทสฺเสสฺสามิ, นิกฺกงฺโข น ภวิสฺสติ. เอตสฺส กงฺขาย สติ อาจริโยปิสฺส นิกฺกงฺโข น ภวิสฺสติ, อถ มํ ทสฺสนาย น อาคมิสฺสติ, อนาคโต ธมฺมํ น โสสฺสติ, ธมฺมํ อสุณนฺโต ตีณิ สามฺผลานิ น สจฺฉิกริสฺสติ. เอตสฺมึ ปน นิกฺกงฺเข อาจริโยปิสฺส นิกฺกงฺโข มํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ตีณิ สามฺผลานิ สจฺฉิกริสฺสติ. เอตทตฺถํเยว จ มยา ปารมิโย ปูริตา. ทสฺเสสฺสามิสฺส ตานิ ลกฺขณานี’’ติ.

ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารมกาสิ. กถํรูปํ? กิเมตฺถ อฺเน วตฺตพฺพํ? วุตฺตเมตํ นาคเสนตฺเถเรเนว มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน –

อาห จ ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา กตนฺติ. กึ มหาราชาติ? มหาชเนน หิริกรโณกาสํ พฺรหฺมายุพฺราหฺมณสฺส จ อนฺเตวาสิอุตฺตรสฺส จ พาวริยสฺส อนฺเตวาสีนํ โสฬสพฺราหฺมณานฺจ เสลสฺส จ พฺราหฺมณสฺส อนฺเตวาสีนํ ติสตมาณวานฺจ ทสฺเสสิ, ภนฺเตติ. น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ทสฺเสติ, ฉายํ ภควา ทสฺเสติ, อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา นิวาสนนิวตฺถํ กายพนฺธนพทฺธํ จีวรปารุตํ ฉายารูปกมตฺตํ ทสฺเสสิ มหาราชาติ. ฉายํ ทิฏฺเ สติ ทิฏฺโเยว. นนุ, ภนฺเตติ? ติฏฺเตตํ, มหาราช, หทยรูปํ ทิสฺวา พุชฺฌนกสตฺโต ภเวยฺย, หทยมํสํ นีหริตฺวา ทสฺเสยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนาติ.

นินฺนาเมตฺวาติ นีหริตฺวา. อนุมสีติ กถินสูจึ วิย กตฺวา อนุมชฺชิ. ตถา กรเณน เจตฺถ มุทุภาโว, กณฺณโสตานุมสเนน ทีฆภาโว, นาสิกโสตานุมสเนน ตนุภาโว, นลาฏจฺฉาทเนน ปุถุลภาโว ปกาสิโตติ เวทิตพฺโพ. อุโภปิ กณฺณโสตานีติอาทีสุ เจตฺถ พุทฺธานํ กณฺณโสเตสุ มลํ วา ชลฺลิกา วา นตฺถิ, โธวิตฺวา ปิตรชตปนาฬิกา วิย โหนฺติ, ตถา นาสิกโสเตสุ, ตานิปิ หิ สุปริกมฺมกตกฺจนปนาฬิกา วิย จ มณิปนาฬิกา วิย จ โหนฺติ. ตสฺมา ชิวฺหํ นีหริตฺวา กถินสูจึ วิย กตฺวา มุขปริยนฺเต อุปสํหรนฺโต ทกฺขิณกณฺณโสตํ ปเวเสตฺวา ตโต นีหริตฺวา วามกณฺณโสตํ ปเวเสสิ, ตโต นีหริตฺวา ทกฺขิณนาสิกโสตํ ปเวเสตฺวา ตโต นีหริตฺวา วามนาสิกโสตํ ปเวเสสิ, ตโต นีหริตฺวา ปุถุลภาวํ ทสฺเสนฺโต รตฺตวลาหเกน อฑฺฒจนฺทํ วิย จ สุวณฺณปตฺตํ วิย จ รตฺตกมฺพลปฏเลน วิชฺชุโชตสทิสาย ชิวฺหาย เกวลกปฺปํ นลาฏมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทสิ.

ยํนูนาหนฺติ กสฺมา จินฺเตสิ? อหฺหิ มหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิตฺวา คโต ‘‘ทิฏฺานิ เต, ตาต, มหาปุริสลกฺขณานี’’ติ อาจริเยน ปุจฺฉิโต ‘‘อาม, อาจริยา’’ติ วตฺตุํ สกฺขิสฺสามิ. สเจ ปน มํ ‘‘กิริยากรณมสฺส กีทิส’’นฺติ ปุจฺฉิสฺสติ, ตํ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, น ชานามีติ วุตฺเต ปน อาจริโย กุชฺฌิสฺสติ ‘‘นนุ ตฺวํ มยา สพฺพมฺเปตํ ชานนตฺถาย เปสิโต, กสฺมา อชานิตฺวา อาคโตสี’’ติ, ตสฺมา ยนฺนูนาหนฺติ จินฺเตตฺวา อนุพนฺธิ. ภควา นฺหานฏฺานํ มุขโธวนฏฺานํ สรีรปฏิชคฺคนฏฺานํ ราชราชมหามตฺตาทีนํ โอโรเธหิ สทฺธึ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนฏฺานนฺติ อิมานิ จตฺตาริ านานิ เปตฺวา เสสฏฺาเนสุ อนฺตมโส เอกคนฺธกุฏิยมฺปิ โอกาสมกาสิ.

คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล – ‘‘อยํ กิร พฺรหฺมายุพฺราหฺมณสฺส มาณโว อุตฺตโร นาม ‘พุทฺโธ วา โน วา’ติ ตถาคตสฺส พุทฺธภาวํ วีมํสนฺโต จรติ, พุทฺธวีมํสโก นามาย’’นฺติ ปากโฏ ชาโต. ยมฺหิ ยมฺหิ าเน พุทฺธา วสนฺติ, ปฺจ กิจฺจานิ กตาเนว โหนฺติ, ตานิ เหฏฺา ทสฺสิตาเนว. ตตฺถ ปจฺฉาภตฺตํ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ทนฺตขจิตํ จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสนฺเต ภควติ อุตฺตโรปิ อวิทูเร นิสีทติ. ธมฺมสฺสวนปริโยสาเน สทฺธา มนุสฺสา สฺวาตนาย ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา มาณวมฺปิ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตาต, อมฺเหหิ ภควา นิมนฺติโต, ตฺวมฺปิ ภควตา สทฺธึ อาคนฺตฺวา อมฺหากํ เคเห ภตฺตํ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. ปุนทิวเส ตถาคโต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต คามํ ปวิสติ, อุตฺตโรปิ ปทวาเร ปทวาเร ปริคฺคณฺหนฺโต ปทานุปทิโก อนุพนฺธติ. กุลเคหํ ปวิฏฺกาเล ทกฺขิโณทกคฺคหณํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ โอโลเกนฺโต นิสีทติ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน ตถาคตสฺส ปตฺตํ ภูมิยํ เปตฺวา นิสินฺนกาเล มาณวกสฺส ปาตราสภตฺตํ สชฺเชนฺติ. โส เอกมนฺเต นิสินฺโน ภุฺชิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ตฺวา ภตฺตานุโมทนํ สุตฺวา ภควตา สทฺธึเยว วิหารํ คจฺฉติ.

ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสานํ อาคเมนฺโต คนฺธมณฺฑลมาเฬ นิสีทติ. ภิกฺขูหิ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อาคมฺม วนฺทิตฺวา กาเล อาโรจิเต ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสติ, มาณโวปิ ภควตา สทฺธึเยว คจฺฉติ. ภควา ปริวาเรตฺวา อาคตํ ภิกฺขุสงฺฆํ คนฺธกุฏิปฺปมุเข ิโต โอวทิตฺวา อุยฺโยเชตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสติ, มาณโวปิ ปวิสติ. ภควา ขุทฺทกมฺเจ อปฺปมตฺตกํ กาลํ นิสีทติ, มาณโวปิ อวิทูเร โอโลเกนฺโต นิสีทติ. ภควา มุหุตฺตํ นิสีทิตฺวา สีโสกฺกมนํ ทสฺเสติ, – ‘‘โภโต โคตมสฺส วิหารเวลา ภวิสฺสตี’’ติ มาณโว คนฺธกุฏิทฺวารํ ปิทหนฺโต นิกฺขมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทติ. มนุสฺสา ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ภุตฺตปาตราสา สมาทินฺนอุโปสถงฺคา สุทฺธุตฺตราสงฺคา มาลาคนฺธาทิหตฺถา ธมฺมํ สุณิสฺสามาติ วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, จกฺกวตฺติโน ขนฺธาวารฏฺานํ วิย โหติ.

ภควา มุหุตฺตํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา วุฏฺาย ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา สมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. สมาปตฺติโต วุฏฺาย มหาชนสฺส อาคตภาวํ ตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม มหาชนปริวุโต คนฺธมณฺฑลมาฬํ คนฺตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสนคโต ปริสาย ธมฺมํ เทเสติ. มาณโวปิ อวิทูเร นิสีทิตฺวา – ‘‘กึ นุ โข สมโณ โคตโม เคหสฺสิตวเสน ปริสํ อุสฺสาเทนฺโต วา อปสาเทนฺโต วา ธมฺมํ เทเสติ, อุทาหุ โน’’ติ อกฺขรกฺขรํ ปทํ ปทํ ปริคฺคณฺหาติ. ภควา ตถาวิธํ กถํ อกเถตฺวาว กาลํ ตฺวา เทสนํ นิฏฺาเปสิ. มาณโว อิมินา นิยาเมน ปริคฺคณฺหนฺโต สตฺต มาเส เอกโต วิจริตฺวา ภควโต กายทฺวาราทีสุ อณุมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ น อทฺทส. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ พุทฺธภูตสฺส มนุสฺสภูโต มาณโว น ปสฺเสยฺย, ยสฺส โพธิสตฺตภูตสฺส ฉพฺพสฺสานิ ปธานภูมิยํ อมนุสฺสภูโต มาโร เทวปุตฺโต เคหสฺสิตวิตกฺกมตฺตมฺปิ อทิสฺวา พุทฺธภูตํ เอกสํวจฺฉรํ อนุพนฺธิตฺวา กิฺจิ อปสฺสนฺโต –

‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;

โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘) –

อาทิคาถาโย วตฺวา ปกฺกามิ. ตโต มาณโว จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ภวนฺตํ โคตมํ สตฺต มาเส อนุพนฺธมาโน กิฺจิ วชฺชํ น ปสฺสามิ. สเจ ปนาหํ อฺเปิ สตฺต มาเส สตฺต วา วสฺสานิ วสฺสสตํ วา วสฺสสหสฺสํ วา อนุพนฺเธยฺยํ, เนวสฺส วชฺชํ ปสฺเสยฺยํ. อาจริโย โข ปนสฺส เม มหลฺลโก, โยคกฺเขมํ นาม น สกฺกา ชานิตุํ. สมณสฺส โคตมสฺส สภาวคุเณเนว พุทฺธภาวํ วตฺวา มยฺหํ อาจริยสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ.

อาจริยสฺส สนฺติกฺจ ปน คนฺตฺวา – ‘‘กจฺจิ, ตาต อุตฺตร, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถาสนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ ปุจฺฉิโต, ‘‘อาจริย, กึ วเทสิ? จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ, ภวคฺคํ อตินีจํ, ตสฺส หิ, โภโต โคตมสฺส อากาสํ วิย อปริยนฺโต คุณคโณ. ตถาสนฺตํเยว, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ยถาทิฏฺานิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิตฺวา กิริยสมาจารํ อาจิกฺขิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อุตฺตโร มาณโว…เป… เอทิโส จ เอทิโส จ ภวํ โคตโม ตโต จ ภิยฺโย’’ติ.

๓๘๖. ตตฺถ สุปฺปติฏฺิตปาโทติ ยถา หิ อฺเสํ ภูมิยํ ปาทํ เปนฺตานํ อคฺคตลํ วา ปณฺหิ วา ปสฺสํ วา ปมํ ผุสติ, เวมชฺฌํ วา ปน ฉิทฺทํ โหติ, อุกฺขิปนฺตานมฺปิ อคฺคตลาทีสุ เอกโกฏฺาโสว ปมํ อุฏฺหติ, น เอวํ ตสฺส. ตสฺส ปน สุวณฺณปาทุกตลํ วิย เอกปฺปหาเรเนว สกลํ ปาทตลํ ภูมึ ผุสติ, ภูมิโต อุฏฺหติ. ตสฺมา ‘‘สุปฺปติฏฺิตปาโท โข ปน โส ภวํ โคตโม’’ติ วทติ.

ตตฺริทํ ภควโต สุปฺปติฏฺิตปาทตาย – สเจปิ หิ ภควา อเนกสตโปริสํ นรกํ อกฺกมิสฺสามีติ ปาทํ นีหรติ, ตาวเทว นินฺนฏฺานํ วาตปูริตํ วิย กมฺมารภสฺตํ อุนฺนมิตฺวา ปถวีสมํ โหติ, อุนฺนตฏฺานมฺปิ อนฺโต ปวิสติ. ทูเร อกฺกมิสฺสามีติ อภินีหรนฺตสฺส สิเนรุปฺปมาโณปิ ปพฺพโต เสทิตเวตฺตงฺกุโร วิย นมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคจฺฉติ. ตถา หิสฺส ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ยุคนฺธรปพฺพตํ อกฺกมิสฺสามีติ ปาเท อภินีหรโต ปพฺพโต นมิตฺวา ปาทสมีปํ อาคโต, โส ตํ อกฺกมิตฺวา ทุติยปาเทน ตาวตึสภวนํ อกฺกมิ. น หิ จกฺกลกฺขเณน ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ วิสมํ ภวิตุํ สกฺโกติ. ขาณุ วา กณฺฑโก วา สกฺขรกถลา วา อุจฺจารปสฺสาโว วา เขฬสิงฺฆาณิกาทีนิ วา ปุริมตราว อปคจฺฉนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว จ ปถวึ ปวิสนฺติ. ตถาคตสฺส หิ สีลเตเชน ปฺาเตเชน ธมฺมเตเชน ทสนฺนํ ปารมีนํ อานุภาเวน อยํ มหาปถวี สมา มุทุ ปุปฺผาภิกิณฺณา โหติ. ตตฺร ตถาคโต สมํ ปาทํ นิกฺขิปติ, สมํ อุทฺธรติ, สพฺพาวนฺเตหิ ปาทตเลหิ ภูมึ ผุสติ.

จกฺกานีติ ทฺวีสุ ปาเทสุ ทฺเว จกฺกานิ. เตสํ อรา จ เนมิ จ นาภิ จ ปาฬิยํ วุตฺตาว. สพฺพาการปริปูรานีติ อิมินา ปน อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ – เตสํ กิร จกฺกานํ ปาทตลสฺส มชฺเฌ นาภิ ทิสฺสติ, นาภิปริจฺฉินฺนา วฏฺฏเลขา ทิสฺสติ, นาภิมุขปริกฺเขปปฏฺโฏ ทิสฺสติ, ปนาฬิมุขํ ทิสฺสติ, อรา ทิสฺสนฺติ, อเรสุ วฏฺฏเลขา ทิสฺสนฺติ, เนมี ทิสฺสนฺติ, เนมิมณิกา ทิสฺสนฺติ. อิทํ ตาว ปาฬิอาคตเมว.

สมฺพหุลวาโร ปน อนาคโต, โส เอวํ ทฏฺพฺโพ – สตฺติ สิริ วจฺโฉ นนฺทิ โสวตฺติโก วฏํสโก วฑฺฒมานกํ มจฺฉยุคลํ ภทฺทปีํ องฺกุสํ โตมโร ปาสาโท โตรณํ เสตจฺฉตฺตํ ขคฺโค ตาลวณฺฏํ โมรหตฺถโก วาฬพีชนี อุณฺหีสํ ปตฺโต มณิ กุสุมทามํ นีลุปฺปลํ รตฺตุปฺปลํ เสตุปฺปลํ ปทุมํ ปุณฺฑรีกํ ปุณฺณฆโฏ ปุณฺณปาติ สมุทฺโท จกฺกวาโฬ หิมวา สิเนรุ จนฺทิมสูริยา นกฺขตฺตานิ จตฺตาโร มหาทีปา ทฺเวปริตฺตทีปสหสฺสานิ, อนฺตมโส จกฺกวตฺติรฺโ ปริสํ อุปาทาย สพฺโพ จกฺกลกฺขณสฺเสว ปริวาโร.

อายตปณฺหีติ ทีฆปณฺหิ, ปริปุณฺณปณฺหีติ อตฺโถ. ยถา หิ อฺเสํ อคฺคปาโท ทีโฆ โหติ, ปณฺหิมตฺถเก ชงฺฆา ปติฏฺาติ, ปณฺหิ ตจฺเฉตฺวา ปิตา วิย โหติ, น เอวํ ตถาคตสฺส. ตถาคตสฺส ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา อคฺคปาโท โหติ, ตติเย โกฏฺาเส ชงฺฆา ปติฏฺาติ, จตุตฺเถ โกฏฺาเส อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตา วิย รตฺตกมฺพเล เคณฺฑุกสทิสา ปณฺหิ โหติ.

ทีฆงฺคุลีติ ยถา อฺเสํ กาจิ องฺคุลิ ทีฆา โหติ, กาจิ รสฺสา, น เอวํ ตถาคตสฺส. ตถาคตสฺส ปน มกฺกฏสฺเสว ทีฆหตฺถปาทงฺคุลิโย มูเล ถูลา อนุปุพฺเพน คนฺตฺวา อคฺเค ตนุกา นิยฺยาสเตเลน มทฺทิตฺวา วฏฺฏิตหริตาลวฏฺฏิสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทีฆงฺคุลี’’ติ.

มุทุตลุนหตฺถปาโทติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเทตฺวา ปิตํ สตวารวิหตกปฺปาสปฏลํ วิย มุทู, ชาตมตฺตกุมารสฺส วิย จ นิจฺจกาลํ ตลุนา จ หตฺถปาทา อสฺสาติ มุทุตลุนหตฺถปาโท.

ชาลหตฺถปาโทติ น จมฺเมน ปฏิพทฺธองฺคุลนฺตโร. เอทิโส หิ ผณหตฺถโก ปุริสโทเสน อุปหโต ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. ตถาคตสฺส ปน จตสฺโส หตฺถงฺคุลิโย ปฺจปิ ปาทงฺคุลิโย เอกปฺปมาณา โหนฺติ, ตาสํ เอกปฺปมาณตฺตาย ยวลกฺขณํ อฺมฺํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติฏฺติ. อถสฺส หตฺถปาทา กุสเลน วฑฺฒกินา โยชิตชาลวาตปานสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ชาลหตฺถปาโท’’ติ.

อุทฺธํ ปติฏฺิตโคปฺผกตฺตา อุสฺสงฺขา ปาทา อสฺสาติ อุสฺสงฺขปาโท. อฺเสฺหิ ปิฏฺิปาเท โคปฺผกา โหนฺติ. เตน เตสํ ปาทา อาณิพทฺธา วิย ถทฺธา โหนฺติ, น ยถาสุขํ ปริวตฺตนฺติ, คจฺฉนฺตานํ ปาทตลานิ น ทิสฺสนฺติ. ตถาคตสฺส ปน อภิรุหิตฺวา อุปริ โคปฺผกา ปติฏฺหนฺติ. เตนสฺส นาภิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย นาวาย ปิตสุวณฺณปฏิมา วิย นิจฺจโล โหติ, อโธกาโยว อิฺชติ. สุเขน ปาทา ปริวตฺตนฺติ. ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ อุภยปสฺเสสุปิ ตฺวา ปสฺสนฺตานํ ปาทตลานิ ปฺายนฺติ, น หตฺถีนํ วิย ปจฺฉโตเยว.

เอณิชงฺโฆติ เอณิมิคสทิสชงฺโฆ มํสุสฺสเทน ปริปุณฺณชงฺโฆ, น เอกโต พทฺธปิณฺฑิกมํโส, สมนฺตโต สมสณฺิเตน มํเสน ปริกฺขิตฺตาหิ สุวฏฺฏิตาหิ สาลิคพฺภสทิสาหิ ชงฺฆาหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.

อโนนมนฺโตติ อนมนฺโต. เอเตนสฺส อขุชฺชอวามนภาโว ทีปิโต. อวเสสชนา หิ ขุชฺชา วา โหนฺติ วามนา วา, ขุชฺชานํ อุปริมกาโย อปริปุณฺโณ โหติ, วามนานํ เหฏฺิมกาโย. เต อปริปุณฺณกายตฺตา น สกฺโกนฺติ อโนนมนฺตา ชณฺณุกานิ ปริมชฺชิตุํ. ตถาคโต ปน ปริปุณฺณอุภยกายตฺตา สกฺโกติ.

อุสภวารณาทีนํ วิย สุวณฺณปทุมกณฺณิกสทิเส โกเส โอหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ วตฺถคุยฺหํ อสฺสาติ โกโสหิตวตฺถคุยฺโห. วตฺถคุยฺหนฺติ วตฺเถน คูหิตพฺพํ องฺคชาตํ วุจฺจติ.

สุวณฺณวณฺโณติ ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา ปิตฆนสุวณฺณรูปกสทิโสติ อตฺโถ. เอเตนสฺส ฆนสินิทฺธสณฺหสรีรตํ ทสฺเสตฺวา ฉวิวณฺณทสฺสนตฺถํ กฺจนสนฺนิภตฺตโจติ วุตฺตํ, ปุริมสฺส วา เววจนเมว เอตํ.

รโชชลฺลนฺติ รโช วา มลํ วา. น อุปลิมฺปตีติ น ลคฺคติ, ปทุมปลาสโต อุทกพินฺทุ วิย วิวฏฺฏติ. หตฺถโธวนปาทโธวนาทีนิ ปน อุตุคฺคหณตฺถาย เจว ทายกานํ ปุฺผลตฺถาย จ พุทฺธา กโรนฺติ, วตฺตสีเสนาปิ จ กโรนฺติเยว. เสนาสนํ ปวิสนฺเตน หิ ภิกฺขุนา ปาเท โธวิตฺวา ปวิสิตพฺพนฺติ วุตฺตเมตํ.

อุทฺธคฺคโลโมติ อาวฏฺฏปริโยสาเน อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา มุขโสภํ อุลฺโลกยมานานิ วิย ิตานิ โลมานิ อสฺสาติ อุทฺธคฺคโลโม.

พฺรหฺมุชุคตฺโตติ พฺรหฺมา วิย อุชุคตฺโต, อุชุเมว อุคฺคตทีฆสรีโร. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ขนฺเธ กฏิยํ ชาณูสูติ ตีสุ าเนสุ นมนฺติ. เต กฏิยํ นมนฺตา ปจฺฉโต นมนฺติ, อิตเรสุ ทฺวีสุ าเนสุ ปุรโต. ทีฆสรีรา ปเนเก ปสฺสวงฺกา โหนฺติ, เอเก มุขํ อุนฺนาเมตฺวา นกฺขตฺตานิ คณยนฺตา วิย จรนฺติ, เอเก อปฺปมํสโลหิตา สูลสทิสา โหนฺติ, ปเวธมานา คจฺฉนฺติ. ตถาคโต ปน อุชุเมว อุคฺคนฺตฺวา ทีฆปฺปมาโณ เทวนคเร อุสฺสิตสุวณฺณโตรณํ วิย โหติ.

สตฺตุสฺสโทติ ทฺเว หตฺถปิฏฺิโย ทฺเว ปาทปิฏฺิโย ทฺเว อํสกูฏานิ ขนฺโธติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺณมํสุสฺสโท อสฺสาติ สตฺตุสฺสโท. อฺเสํ ปน หตฺถปาทปิฏฺีสุ นฺหารุชาลา ปฺายนฺติ, อํสกูฏขนฺเธสุ อฏฺิโกฏิโย, เต มนุสฺสเปตา วิย ขายนฺติ, น ตถาคโต. ตถาคโต ปน สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺณมํสุสฺสทตฺตา นิคูฬฺหนฺหารุชาเลหิ หตฺถปิฏฺาทีหิ วฏฺเฏตฺวา ปิตสุวณฺณวณฺณาลิงฺคสทิเสน ขนฺเธน สิลารูปกํ วิย จิตฺตกมฺมรูปกํ วิย จ ขายติ.

สีหสฺส ปุพฺพทฺธํ วิย กาโย อสฺสาติ สีหปุพฺพทฺธกาโย. สีหสฺส หิ ปุรตฺถิมกาโยว ปริปุณฺโณ โหติ, ปจฺฉิมกาโย อปริปุณฺโณ. ตถาคตสฺส ปน สีหสฺส ปุพฺพทฺธกาโยว สพฺโพ กาโย ปริปุณฺโณ. โสปิ สีหสฺเสว น ตตฺถ ตตฺถ วินตุนฺนตาทิวเสน ทุสฺสณฺิตวิสณฺิโต, ทีฆยุตฺตาเน ปน ทีโฆ, รสฺสกิสถูลอนุวฏฺฏิตยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาวิโธว โหติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘มนาปิเย จ โข, ภิกฺขเว, กมฺมวิปาเก ปจฺจุปฏฺิเต เยหิ องฺเคหิ ทีเฆหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ทีฆานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ รสฺเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ รสฺสานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ ถูเลหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ถูลานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ กิเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ กิสานิ สณฺหนฺติ. เยหิ องฺเคหิ วฏฺเฏหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ วฏฺฏานิ สณฺหนฺตี’’ติ.

อิติ นานาจิตฺเตน ปุฺจิตฺเตน จิตฺติโต ทสหิ ปารมีหิ สชฺชิโต ตถาคตสฺส อตฺตภาโว, ตสฺส โลเก สพฺพสิปฺปิโน วา อิทฺธิมนฺโต วา ปฏิรูปกมฺปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ.

จิตนฺตรํโสติ อนฺตรํสํ วุจฺจติ ทฺวินฺนํ โกฏฺฏานมนฺตรํ, ตํ จิตํ ปริปุณฺณมสฺสาติ จิตนฺตรํโส. อฺเสฺหิ ตํ านํ นินฺนํ โหติ, ทฺเว ปิฏฺิโกฏฺฏา ปาฏิเยกฺกํ ปฺายนฺติ. ตถาคตสฺส ปน กฏิโต ปฏฺาย มํสปฏลํ ยาว ขนฺธา อุคฺคมฺม สมุสฺสิตสุวณฺณผลกํ วิย ปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปติฏฺิตํ.

นิคฺโรธปริมณฺฑโลติ นิคฺโรโธ วิย ปริมณฺฑโล. ยถา ปณฺณาสหตฺถตาย วา สตหตฺถตาย วา สมกฺขนฺธสาโข นิคฺโรโธ ทีฆโตปิ วิตฺถารโตปิ เอกปฺปมาโณว โหติ, เอวํ กายโตปิ พฺยามโตปิ เอกปฺปมาโณ. ยถา อฺเสํ กาโย วา ทีโฆ โหติ พฺยาโม วา, น เอวํ วิสมปฺปมาโณติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘ยาวตกฺวสฺส กาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาวตโก อสฺสาติ ยาวตกฺวสฺส.

สมวฏฺฏกฺขนฺโธติ สมวฏฺฏิตกฺขนฺโธ. ยถา เอเก โกฺจา วิย พกา วิย วราหา วิย จ ทีฆคลา วงฺกคลา ปุถุลคลา จ โหนฺติ, กถนกาเล สิราชาลํ ปฺายติ, มนฺโท สโร นิกฺขมติ, น เอวํ ตสฺส. ตถาคตสฺส ปน สุวฏฺฏิตสุวณฺณาลิงฺคสทิโส ขนฺโธ โหติ, กถนกาเล สิราชาลํ น ปฺายติ, เมฆสฺส วิย คชฺชโต สโร มหา โหติ.

รสคฺคสคฺคีติ เอตฺถ รสํ คสนฺตีติ รสคฺคสา, รสหรณีนเมตํ อธิวจนํ, ตา อคฺคา อสฺสาติ รสคฺคสคฺคี. ตถาคตสฺส หิ สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา คีวายเมว ปฏิมุกฺกานิ. ติลผลมตฺโตปิ อาหาโร ชิวฺหคฺเค ปิโต สพฺพํ กายํ อนุผรติ, เตเนว มหาปธานํ ปทหนฺตสฺส เอกตณฺฑุลาทีหิปิ กาฬายยูสปสเตนาปิ กายสฺส ยาปนํ อโหสิ. อฺเสํ ปน ตถา อภาวา น สกลกายํ โอชา ผรติ, เตน เต พหฺวาพาธา โหนฺติ. อิทํ ลกฺขณํ อปฺปาพาธตาสงฺขาตสฺส นิสฺสนฺทผลสฺส วเสน ปากฏํ โหติ.

สีหสฺเสว หนุ อสฺสาติ สีหหนุ. ตตฺถ สีหสฺส เหฏฺิมหนุเมว ปริปุณฺณํ โหติ, น อุปริมํ. ตถาคตสฺส ปน สีหสฺส เหฏฺิมํ วิย ทฺเวปิ ปริปุณฺณานิ ทฺวาทสิยํ ปกฺขสฺส จนฺทสทิสานิ โหนฺติ.

จตฺตาลีสทนฺโตติอาทีสุ อุปริมหนุเก ปติฏฺิตา วีสติ, เหฏฺิเม วีสตีติ จตฺตาลีส ทนฺตา อสฺสาติ จตฺตาลีสทนฺโต. อฺเสฺหิ ปริปุณฺณทนฺตานมฺปิ ทฺวตฺตึส ทนฺตา โหนฺติ, ตถาคตสฺส จตฺตาลีสํ.

อฺเสฺจ เกจิ ทนฺตา อุจฺจา เกจิ นีจาติ วิสมา โหนฺติ, ตถาคตสฺส ปน อยปฏฺฏฉินฺนสงฺขปฏลํ วิย สมา.

อฺเสํ กุมฺภีลานํ วิย ทนฺตา วิรฬา โหนฺติ, มจฺฉมํสาทีนิ ขาทนฺตานํ ทนฺตนฺตรํ ปูรติ. ตถาคตสฺส ปน กนกลตาย สมุสฺสาปิตวชิรปนฺติ วิย อวิรฬา ตุลิกาย ทสฺสิตปริจฺเฉทา วิย ทนฺตา โหนฺติ.

สุสุกฺกทาโติ อฺเสฺจ ปูติทนฺตา อุฏฺหนฺติ, เตน กาจิ ทาา กาฬาปิ วิวณฺณาปิ โหนฺติ. ตถาคโต สุสุกฺกทาโ โอสธิตารกมฺปิ อติกฺกมฺม วิโรจมานาย ปภาย สมนฺนาคตทาโ, เตน วุตฺตํ ‘‘สุสุกฺกทาโ’’ติ.

ปหูตชิวฺโหติ อฺเสํ ชิวฺหา ถูลาปิ โหติ กิสาปิ รสฺสาปิ ถทฺธาปิ วิสมาปิ, ตถาคตสฺส ปน มุทุ ทีฆา ปุถุลา วณฺณสมฺปนฺนา โหติ. โส ตํ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ อาคตานํ กงฺขาวิโนทนตฺถํ มุทุกตฺตา ตํ ชิวฺหํ กถินสูจึ วิย วฏฺเฏตฺวา อุโภ นาสิกโสตานิ ปรามสติ, ทีฆตฺตา อุโภ กณฺณโสตานิ ปรามสติ, ปุถุลตฺตา เกสนฺตปริโยสานํ เกวลมฺปิ นลาฏํ ปฏิจฺฉาเทติ. เอวํ ตสฺสา มุทุทีฆปุถุลภาวํ ปกาเสนฺโต กงฺขํ วิโนเทติ. เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺนํ ชิวฺหํ สนฺธาย ‘‘ปหูตชิวฺโห’’ติ วุตฺตํ.

พฺรหฺมสฺสโรติ อฺเ ฉินฺนสฺสราปิ ภินฺนสฺสราปิ กากสฺสราปิ โหนฺติ, ตถาคโต ปน มหาพฺรหฺมุโน สรสทิเสน สเรน สมนฺนาคโต. มหาพฺรหฺมุโน หิ ปิตฺตเสมฺเหหิ อปลิพุทฺธตฺตา สโร วิสุทฺโธ โหติ. ตถาคเตนาปิ กตกมฺมํ วตฺถุํ โสเธติ, วตฺถุสฺส สุทฺธตฺตา นาภิโต ปฏฺาย สมุฏฺหนฺโต สโร วิสุทฺโธ อฏฺงฺคสมนฺนาคโตว สมุฏฺาติ. กรวิโก วิย ภณตีติ กรวิกภาณี, มตฺตกรวิกรุตมฺชุโฆโสติ อตฺโถ.

ตตฺริทํ กรวิกรุตสฺส มฺชุตาย – กรวิกสกุเณ กิร มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตํ รสํ สายิตฺวา ปกฺเขน ตาลํ ทตฺวา วิกูชมาเน จตุปฺปทาทีนิ มตฺตานิ วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ. โคจรปฺปสุตาปิ จตุปฺปทา มุขคตานิปิ ติณานิ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ สทฺทํ สุณนฺติ, วาฬมิคา ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตปาทํ อนุกฺขิปิตฺวาว ติฏฺนฺติ, อนุพทฺธมิคาปิ มรณภยํ หิตฺวาปิ ติฏฺนฺติ, อากาเส ปกฺขนฺทปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ติฏฺนฺติ, อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ อปฺโผเฏนฺตา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺนฺติ. เอวํ มฺชุรุตา กรวิกา.

อสนฺธิมิตฺตาปิ ธมฺมาโสกสฺส เทวี – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, พุทฺธสทฺเทน สทิโส กสฺสจิ สทฺโท’’ติ สงฺฆํ ปุจฺฉิ. อตฺถิ กรวิกสกุณสฺสาติ. กุหึ, ภนฺเต, สกุณาติ? หิมวนฺเตติ. สา ราชานํ อาห, – ‘‘เทว, กรวิกสกุณํ ทฏฺุกามา’’ติ. ราชา ‘‘อิมสฺมึ ปฺชเร นิสีทิตฺวา กรวิโก อาคจฺฉตู’’ติ สุวณฺณปฺชรํ วิสฺสชฺเชสิ. ปฺชโร คนฺตฺวา เอกสฺส กรวิกสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. โส ‘‘ราชาณาย อาคโต ปฺชโร, น สกฺกา อคนฺตุ’’นฺติ ตตฺถ นิสีทิ. ปฺชโร อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโตว อฏฺาสิ. กรวิกํ สทฺทํ การาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ ราชา ‘‘กถํ ภเณ อิเม สทฺทํ กโรนฺตี’’ติ อาห? าตเก ทิสฺวา เทวาติ. อถ นํ ราชา อาทาเสหิ ปริกฺขิปาเปสิ. โส อตฺตโนว ฉายํ ทิสฺวา ‘‘าตกา เม อาคตา’’ติ มฺมาโน ปกฺเขน ตาฬํ ทตฺวา มฺชุสฺสเรน มณิวํสํ ธมมาโน วิย วิรวิ. สกลนคเร มนุสฺสา มตฺตา วิย ลฬึสุ. อสนฺธิมิตฺตา จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺส ตาว ติรจฺฉานสฺส เอวํ มธุโร สทฺโท, กีทิโส นุ โข สพฺพฺุตฺาณสิริปฺปตฺตสฺส ภควโต อโหสี’’ติ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปีตึ อวิชหิตฺวา สตฺตหิ ชงฺฆสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. เอวํ มธุโร กรวิกสทฺโท. ตโต สตภาเคน สหสฺสภาเคน จ มธุรตโร ตถาคตสฺส สทฺโท, โลเก ปน กรวิกโต อฺสฺส มธุรรสฺส อภาวโต ‘‘กรวิกภาณี’’ติ วุตฺตํ.

อภินีลเนตฺโตติ น สกลนีลเนตฺโตว, นีลยุตฺตฏฺาเน ปนสฺส อุมาปุปฺผสทิเสน อติวิสุทฺเธน นีลวณฺเณน สมนฺนาคตานิ อกฺขีนิ โหนฺติ. ปีตยุตฺตฏฺาเน กณิการปุปฺผสทิเสน ปีตวณฺเณน, โลหิตยุตฺตฏฺาเน พนฺธุชีวกปุปฺผสทิเสน โลหิตวณฺเณน, เสตยุตฺตฏฺาเน โอสธิตารกสทิเสน เสตวณฺเณน, กาฬยุตฺตฏฺาเน อทฺทาริฏฺกสทิเสน กาฬวณฺเณน สมนฺนาคตานิ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรสทิสานิ ขายนฺติ.

โคปขุโมติ เอตฺถ ปขุมนฺติ สกลํ จกฺขุภณฺฑํ อธิปฺเปตํ. ตํ กาฬวจฺฉกสฺส พหลธาตุกํ โหติ, รตฺตวจฺฉกสฺส วิปฺปสนฺนํ, ตํมุหุตฺตชาตรตฺตวจฺฉสทิสจกฺขุภณฺโฑติ อตฺโถ. อฺเสฺหิ อกฺขิภณฺฑา อปริปุณฺณา โหนฺติ, หตฺถิมูสิกกากาทีนํ อกฺขิสทิเสหิ วินิคฺคเตหิ คมฺภีเรหิปิ อกฺขีหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ. ตถาคตสฺส ปน โธวิตฺวา มชฺชิตฺวา ปิตมณิคุฬิกา วิย มุทุสินิทฺธนีลสุขุมปขุมาจิตานิ อกฺขีนิ.

อุณฺณาติ อุณฺณโลมํ. ภมุกนฺตเรติ ทฺวินฺนํ ภมุกานํ เวมชฺเฌ นาสิกมตฺถเกเยว ชาตา. อุคฺคนฺตฺวา ปน นลาฏมชฺฌชาตา. โอทาตาติ ปริสุทฺธา โอสธิตารกวณฺณา. มุทูติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเทตฺวา ปิตสตวารวิหตกปฺปาสปฏลสทิสา. ตูลสนฺนิภาติ สิมฺพลิตูลลตาตูลสมานา, อยมสฺสา โอทาตตาย อุปมา. สา ปเนสา โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิยมานา อุปฑฺฒพาหุปฺปมาณา โหติ, วิสฺสฏฺา ทกฺขิณาวฏฺฏวเสน อาวฏฺฏิตฺวา อุทฺธคฺคา หุตฺวา สนฺติฏฺติ, สุวณฺณผลกมชฺเฌ ปิตรชตปุปฺผุฬกา วิย สุวณฺณฆฏโต นิกฺขมมานา ขีรธารา วิย อรุณปฺปภารฺชิเต คมนตเล โอสธิตารกา วิย จ อติมโนหราย สิริยา วิโรจติ.

อุณฺหีสสีโสติ อิทํ ปริปุณฺณนลาฏตฺเจว ปริปุณฺณสีสตฺจาติ ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ตถาคตสฺส หิ ทกฺขิณกณฺณจูฬิกโต ปฏฺาย มํสปฏลํ อุฏฺหิตฺวา สกลํ นลาฏํ ฉาทยมานํ ปูรยมานํ คนฺตฺวา วามกณฺณจูฬิกาย ปติฏฺิตํ, รฺโ พทฺธอุณฺหีสปฏฺโฏ วิย วิโรจติ. ปจฺฉิมภวิกโพธิสตฺตานํ กิร อิมํ ลกฺขณํ วิทิตฺวา ราชูนํ อุณฺหีสปฏฺฏํ อกํสุ, อยํ ตาว เอโก อตฺโถ. อฺเ ปน ชนา อปริปุณฺณสีสา โหนฺติ, เกจิ กปฺปสีสา, เกจิ ผลสีสา, เกจิ อฏฺิสีสา, เกจิ ตุมฺพสีสา, เกจิ ปพฺภารสีสา. ตถาคตสฺส ปน อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตํ วิย สุปริปุณฺณํ อุทกปุปฺผุฬสทิสํ สีสํ โหติ. ตตฺถ ปุริมนเยน อุณฺหีสเวิตสีโส วิยาติ อุณฺหีสสีโส. ทุติยนเยน อุณฺหีสํ วิย สพฺพตฺถ ปริมณฺฑลสีโสติ อุณฺหีสสีโส.

อิมานิ ปน มหาปุริสลกฺขณานิ กมฺมํ กมฺมสริกฺขกํ ลกฺขณํ ลกฺขณานิสํสนฺติ อิเม จตฺตาโร โกฏฺาเส เอเกกสฺมึ ลกฺขเณ ทสฺเสตฺวา กถิตานิ สุกถิตานิ โหนฺติ. ตสฺมา ภควตา ลกฺขณสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๒๐๐-๒๐๒) วุตฺตานิ อิมานิ กมฺมาทีนิ ทสฺเสตฺวา กเถตพฺพานิ. สุตฺตวเสน วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเตน สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย ตสฺเสว สุตฺตสฺส วณฺณนาย วุตฺตนเยน คเหตพฺพานิ.

อิเมหิ โข, โภ, โส ภวํ โคตโมติ, โภ อาจริย, อิเมหิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ โส ภวํ โคตโม สมนฺนาคโต เทวนคเร สมุสฺสิตรตนวิจิตฺตํ สุวณฺณโตรณํ วิย โยชนสตุพฺเพโธ สพฺพปาลิผุลฺโล ปาริจฺฉตฺตโก วิย เสลนฺตรมฺหิ สุปุปฺผิตสาลรุกฺโข วิย ตาราคณปฏิมณฺฑิตคคนตลมิว จ อตฺตโน สิริวิภเวน โลกํ อาโลกํ กุรุมาโน วิย จรตีติ อิมตฺถมฺปิ ทีเปตฺวา กิริยาจารํ อาจิกฺขิตุํ คจฺฉนฺโต โข ปนาติอาทิมาห.

๓๘๗. ทกฺขิเณนาติ พุทฺธานฺหิ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา นิปชฺชิตฺวา วา คมนํ อภินีหรนฺตานํ ทกฺขิณปาโทว ปุรโต โหติ. สตตปาฏิหาริยํ กิเรตํ. นาติทูเร ปาทํ อุทฺธรตีติ ตํ ทกฺขิณปาทํ น อติทูเร เปสฺสามีติ อุทฺธรติ. อติทูรฺหิ อภิหริยมาเน ทกฺขิณปาเทน วามปาโท อากฑฺฒิยมาโน คจฺเฉยฺย, ทกฺขิณปาโทปิ ทูรํ คนฺตุํ น สกฺกุเณยฺย, อาสนฺเนเยว ปติฏฺเหยฺย, เอวํ สติ ปทวิจฺเฉโท นาม โหติ. ทกฺขิณปาเท ปน ปมาเณเนว อุทฺธเต วามปาโทปิ ปมาเณเนว อุทฺธริยติ, ปมาเณน อุทฺธโต ปติฏฺหนฺโตปิ ปมาเณเยว ปติฏฺาติ. เอวมเนน ตถาคตสฺส ทกฺขิณปาทกิจฺจํ วามปาเทน นิยมิตํ, วามปาทกิจฺจํ ทกฺขิณปาเทน นิยมิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

นาติสีฆนฺติ ทิวา วิหารภตฺตตฺถาย คจฺฉนฺโต ภิกฺขุ วิย น อติสีฆํ คจฺฉติ. นาติสณิกนฺติ ยถา ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต โอกาสํ น ลภติ, เอวํ น อติสณิกํ คจฺฉติ. อทฺทุเวน อทฺทุวนฺติ ชณฺณุเกน ชณฺณุกํ, สตฺถึ อุนฺนาเมตีติ คมฺภีเร อุทเก คจฺฉนฺโต วิย น อูรุํ อุนฺนาเมติ. น โอนาเมตีติ รุกฺขสาขาเฉทนทณฺฑงฺกุสปาโท วิย น ปจฺฉโต โอสกฺกาเปติ. น สนฺนาเมตีติ โอพทฺธานาพทฺธฏฺาเนหิ ปาทํ โกฏฺเฏนฺโต วิย น ถทฺธํ กโรติ. วินาเมตีติ ยนฺตรูปกํ กีฬาเปนฺโต วิย น อิโต จิโต จ จาเลติ. อธรกาโยวาติ เหฏฺิมกาโยว อิฺชติ, อุปริมกาโย นาวาย ปิตสุวณฺณปฏิมา วิย นิจฺจโล โหติ. ทูเร ตฺวา โอโลเกนฺโต หิ พุทฺธานํ ิตภาวํ วา คมนภาวํ วา น ชานาติ. กายพเลนาติ พาหา ขิปนฺโต สรีรโต เสเทหิ มุจฺจนฺเตหิ น กายพเลน คจฺฉติ. สพฺพกาเยเนวาติ คีวํ อปริวตฺเตตฺวา ราหุโลวาเท วุตฺตนาคาปโลกิตวเสเนว อปโลเกติ.

น อุทฺธนฺติอาทีสุ นกฺขตฺตานิ คเณนฺโต วิย น อุทฺธํ อุลฺโลเกติ, นฏฺํ กากณิกํ วา มาสกํ วา ปริเยสนฺโต วิย น อโธ โอโลเกติ, น หตฺถิอสฺสาทโย ปสฺสนฺโต วิย อิโต จิโต จ วิเปกฺขมาโน คจฺฉติ. ยุคมตฺตนฺติ นววิทตฺถิมตฺเต จกฺขูนิ เปตฺวา คจฺฉนฺโต ยุคมตฺตํ เปกฺขติ นาม, ภควาปิ ยุเค ยุตฺโต สุทนฺตอาชานีโย วิย เอตฺตกํ ปสฺสนฺโต คจฺฉติ. ตโต จสฺส อุตฺตรีติ ยุคมตฺตโต ปรํ น ปสฺสตีติ น วตฺตพฺโพ. น หิ กุฏฺฏํ วา กวาฏํ วา คจฺโฉ วา ลตา วา อาวริตุํ สกฺโกติ, อถ ขฺวสฺส อนาวรณาณสฺส อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณาเนว โหนฺติ. อนฺตรฆรนฺติ เหฏฺา มหาสกุลุทายิสุตฺเต อินฺทขีลโต ปฏฺาย อนฺตรฆรํ, อิธ ฆรอุมฺมารโต ปฏฺาย เวทิตพฺพํ. กายนฺติอาทิ ปกติอิริยปเถเนว ปวิสตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ นีจฆรกํ ปวิสนฺเตปิ หิ ตถาคเต ฉทนํ วา อุคฺคจฺฉติ, ปถวี วา โอคจฺฉติ, ภควา ปน ปกติคมเนเนว คจฺฉติ. นาติทูเรติ อติทูเร ปริวตฺตนฺเตน หิ เอกํ ทฺเว ปทวาเร ปิฏฺิภาเคน คนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ. นาจฺจาสนฺเนติ อจฺจาสนฺเน ปริวตฺตนฺเตน เอกํ ทฺเว ปทวาเร ปุรโต คนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ. ตสฺมา ยสฺมึ ปทวาเร ิเตน ปุรโต วา ปจฺฉโต วา อคนฺตฺวา นิสีทิตพฺพํ โหติ, ตตฺถ ปริวตฺตติ.

ปาณินาติ กฏิวาตาพาธิโก วิย น อาสนํ หตฺเถหิ คเหตฺวา นิสีทติ. ปกฺขิปตีติ โย กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา กีฬนฺโต ิตโกว ปตติ, โยปิ โอริมํ องฺคํ นิสฺสาย นิสินฺโน ฆํสนฺโต ยาว ปาริมงฺคา คจฺฉติ, ปาริมงฺคํ วา นิสฺสาย นิสินฺโน ตเถว ยาว โอริมงฺคา อาคจฺฉติ, สพฺโพ โส อาสเน กายํ ปกฺขิปติ นาม. ภควา ปน เอวํ อกตฺวา อาสนสฺส มชฺเฌ โอลมฺพกํ ธาเรนฺโต วิย ตูลปิจุํ เปนฺโต วิย สณิกํ นิสีทติ. หตฺถกุกฺกุจฺจนฺติ ปตฺตมุขวฏฺฏิยํ อุทกพินฺทุปนํ มกฺขิกพีชนิยา ปณฺณจฺเฉทนผาลนาทิ หตฺเถน อสํยตกรณํ. ปาทกุกฺกุจฺจนฺติ ปาเทน ภูมิฆํสนาทิ อสํยตกรณํ.

น ฉมฺภตีติ น ภายติ. น กมฺปตีติ น โอสีทติ. น เวธตีติ น จลติ. ปริตสฺสตีติ ภยปริตสฺสนายปิ ตณฺหาปริตสฺสนายปิ น ปริตสฺสติ. เอกจฺโจ หิ ธมฺมกถาทีนํ อตฺถาย อาคนฺตฺวา มนุสฺเสสุ วนฺทิตฺวา ิเตสุ ‘‘สกฺขิสฺสามิ นุ โข เตสํ จิตฺตํ คณฺหนฺโต ธมฺมํ วา กเถตุํ, ปฺหํ วา ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺเชตุํ, ภตฺตานุโมทนํ วา กาตุ’’นฺติ ภยปริตสฺสนาย ปริตสฺสติ. เอกจฺโจ ‘‘มนาปา นุ โข เม ยาคุ อาคจฺฉิสฺสติ, มนาปํ อนฺตรขชฺชก’’นฺติ วา ตณฺหาปริตสฺสนาย ปริตสฺสติ. ตทุภยมฺปิ ตสฺส นตฺถีติ น ปริตสฺสติ. วิเวกาวฏฺโฏติ วิเวเก นิพฺพาเน อาวฏฺฏมานโส หุตฺวา. วิเวกวตฺโตติปิ ปาโ, วิเวกวตฺตยุตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. วิเวกวตฺตํ นาม กตภตฺตกิจฺจสฺส ภิกฺขุโน ทิวาวิหาเร สมถวิปสฺสนาวเสน มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทนํ. เอวํ นิสินฺนสฺส หิ อิริยาปโถ อุปสนฺโต โหติ.

น ปตฺตํ อุนฺนาเมตีติอาทีสุ เอกจฺโจ ปตฺตมุขวฏฺฏิยา อุทกทานํ อาหรนฺโต วิย ปตฺตํ อุนฺนาเมติ, เอโก ปาทปิฏฺิยํ เปนฺโต วิย โอนาเมติ, เอโก พทฺธํ กตฺวา คณฺหาติ, เอโก อิโต จิโต จ ผนฺทาเปติ, เอวํ อกตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา อีสกํ นาเมตฺวา อุทกํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ อตฺโถ. น สมฺปริวตฺตกนฺติ ปริวตฺเตตฺวา ปมเมว ปตฺตปิฏฺึ น โธวติ. นาติทูเรติ ยถา นิสินฺนาสนโต ทูเร ปตติ, น เอวํ ฉฑฺเฑติ. นาจฺจาสนฺเนติ ปาทมูเลเยว น ฉฑฺเฑติ. วิจฺฉฑฺฑยมาโนติ วิกิรนฺโต, ยถา ปฏิคฺคาหโก เตมติ, น เอวํ ฉฑฺเฑติ.

นาติโถกนฺติ ยถา เอกจฺโจ ปาปิจฺโฉ อปฺปิจฺฉตํ ทสฺเสนฺโต มุฏฺิมตฺตเมว คณฺหาติ, น เอวํ. อติพหุนฺติ ยาปนมตฺตโต อติเรกํ. พฺยฺชนมตฺตายาติ พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนโต จตุตฺโถ ภาโค. เอกจฺโจ หิ ภตฺเต มนาเป ภตฺตํ พหุํ คณฺหาติ, พฺยฺชเน มนาเป พฺยฺชนํ พหุํ. สตฺถา ปน ตถา น คณฺหาติ. น จ พฺยฺชเนนาติ อมนาปฺหิ พฺยฺชนํ เปตฺวา ภตฺตเมว ภุฺชนฺโต, ภตฺตํ วา เปตฺวา พฺยฺชนเมว ขาทนฺโต พฺยฺชเนน อาโลปํ อตินาเมติ นาม. สตฺถา เอกนฺตริกํ พฺยฺชนํ คณฺหาติ, ภตฺตมฺปิ พฺยฺชนมฺปิ เอกโตว นิฏฺนฺติ. ทฺวตฺติกฺขตฺตุนฺติ ตถาคตสฺส หิ ปุถุชิวฺหาย ทนฺตานํ อุปนีตโภชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ทนฺเตหิ ผุฏฺมตฺตเมว สณฺหกรณียปิฏฺวิเลปนํ วิย โหติ, ตสฺมา เอวมาห. น มุเข อวสิฏฺาติ โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกพินฺทุ วิย วินิวตฺติตฺวา ปรคลเมว ยาติ, ตสฺมา อวสิฏฺา น โหติ. รสปฏิสํเวทีติ มธุรติตฺตกทุกาทิรสํ ชานาติ. พุทฺธานฺหิ อนฺตมโส ปานีเยปิ ทิพฺโพชา ปกฺขิตฺตาว โหติ, เตน เนสํ สพฺพตฺเถว รโส ปากโฏ โหติ, รสเคโธ ปน นตฺถิ.

อฏฺงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘เนว ทวายา’’ติ วุตฺเตหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. วิสุทฺธิมคฺเค ปนสฺส วินิจฺฉโย อาคโตติ สพฺพาสวสุตฺเต วุตฺตเมตํ. หตฺเถสุ โธเตสูติ สตฺถา กึ กโรติ? ปมํ ปตฺตสฺส คหณฏฺานํ โธวติ. ตตฺถ ปตฺตํ คเหตฺวา สุขุมชาลหตฺถํ เปเสตฺวา ทฺเว วาเร สฺจาเรติ. เอตฺตาวตา โปกฺขรปตฺเต ปติตอุทกํ วิย วินิวตฺติตฺวา คจฺฉติ. น จ อนตฺถิโกติ ยถา เอกจฺโจ ปตฺตํ อาธารเก เปตฺวา ปตฺเต อุทกํ น ปุฺฉติ, รเช ปตนฺเต อชฺฌุเปกฺขติ, น เอวํ กโรติ. น จ อติเวลานุรกฺขีติ ยถา เอกจฺโจ ปมาณาติกฺกนฺตํ อารกฺขํ เปติ, ภุฺชิตฺวา วา ปตฺเต อุทกํ ปุฺฉิตฺวา จีวรโภคนฺตรํ ปเวเสตฺวา ปตฺตํ อุทเรน อกฺกมิตฺวา คณฺหาติ, น เอวํ กโรติ.

น จ อนุโมทนสฺสาติ โย หิ ภุตฺตมตฺโตว ทารเกสุ ภตฺตตฺถาย โรทนฺเตสุ ฉาตชฺฌตฺเตสุ มนุสฺเสสุ ภุฺชิตฺวา อนาคเตสฺเวว อนุโมทนํ อารภติ, ตโต สพฺพกมฺมานิ ฉฑฺเฑตฺวา เอกจฺเจ อาคจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ อนาคตาว โหนฺติ, อยํ กาลํ อตินาเมติ. โยปิ มนุสฺเสสุ อาคนฺตฺวา อนุโมทนตฺถาย วนฺทิตฺวา นิสินฺเนสุ อนุโมทนํ อกตฺวาว ‘‘กถํ ติสฺส, กถํ ผุสฺส, กถํ สุมน, กถํ ติสฺเส, กถํ ผุสฺเส, กถํ สุมเน, กจฺจิตฺถ อโรคา, สสฺสํ สมฺปนฺน’’นฺติอาทึ ปาฏิเยกฺกํ กถํ สมุฏฺาเปติ, อยํ อนุโมทนสฺส กาลํ อตินาเมติ, มนุสฺสานํ ปน โอกาสํ ตฺวา อายาจิตกาเล กโรนฺโต นาตินาเมติ นาม, สตฺถา ตถา กโรติ.

น ตํ ภตฺตนฺติ กึ ภตฺตํ นาเมตํ อุตฺตณฺฑุลํ อติกิลินฺนนฺติอาทีนิ วตฺวา น ครหติ. อฺํ ภตฺตนฺติ สฺวาตนาย วา ปุนทิวสาย วา ภตฺตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ หิ อนุโมทนํ กโรนฺโต อฺํ ภตฺตํ ปฏิกงฺขติ. โย วา – ‘‘ยาว มาตุคามานํ ภตฺตํ ปจฺจติ, ตาว อนุโมทนํ กริสฺสามิ, อถ เม อนุโมทนาวสาเน อตฺตโน ปกฺกภตฺตโตปิ โถกํ ทสฺสนฺตี’’ติ อนุโมทนํ วฑฺเฒติ, อยมฺปิ ปฏิกงฺขติ นาม. สตฺถา น เอวํ กโรติ. น จ มุจฺจิตุกาโมติ เอกจฺโจ หิ ปฏิสํมุฺจิตฺวา คจฺฉติ, เวเคน อนุพนฺธิตพฺโพ โหติ. สตฺถา ปน น เอวํ คจฺฉติ, ปริสาย มชฺเฌ ิโตว คจฺฉติ. อจฺจุกฺกฏฺนฺติ โย หิ ยาว หนุกฏฺิโต อุกฺขิปิตฺวา ปารุปติ, ตสฺส อจฺจุกฺกฏฺํ นาม โหติ. โย ยาว โคปฺผกา โอตาเรตฺวาว ปารุปติ, ตสฺส อจฺจุกฺกฏฺํ โหติ. โยปิ อุภโต อุกฺขิปิตฺวา อุทรํ วิวริตฺวา ยาติ, ตสฺสปิ อจฺจุกฺกฏฺํ โหติ. โย เอกํสํ กตฺวา ถนํ วิวริตฺวา ยาติ, ตสฺสปิ อจฺจุกฺกฏฺํ. สตฺถา ตํ สพฺพํ น กโรติ.

อลฺลีนนฺติ ยถา อฺเสํ เสเทน ตินฺตํ อลฺลียติ, น เอวํ สตฺถุ. อปกฏฺนฺติ ขลิสาฏโก วิย กายโต มุจฺจิตฺวาปิ น ติฏฺติ. วาโตติ เวรมฺภวาโตปิ อุฏฺหิตฺวา จาเลตุํ น สกฺโกติ. ปาทมณฺฑนานุโยคนฺติ อิฏฺกาย ฆํสนาทีหิ ปาทโสภานุโยคํ. ปกฺขาเลตฺวาติ ปาเทเนว ปาทํ โธวิตฺวา. โส เนว อตฺตพฺยาพาธายาติอาทีนิ น ปุพฺเพนิวาสเจโตปริยาณานํ อตฺถิตาย วทติ, อิริยาปถสนฺตตํ ปน ทิสฺวา อนุมาเนน วทติ. ธมฺมนฺติ ปริยตฺติธมฺมํ. น อุสฺสาเทตีติ กึ มหารฏฺิก, กึ มหากุฏุมฺพิกาติอาทีนิ วตฺวา เคหสฺสิตวเสน น อุสฺสาเทติ. น อปสาเทตีติ ‘‘กึ, อุปาสก, กถํ เต วิหารมคฺโค าโต? กึ ภเยน นาคจฺฉสิ? น หิ ภิกฺขู กิฺจิ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, มา ภายี’’ติ วา ‘‘กึ ตุยฺหํ เอวํ มจฺฉริยชีวิตํ นามา’’ติ วา อาทีนิ วตฺวา เคหสฺสิตเปเมน น อปสาเทติ.

วิสฺสฏฺโติ สินิทฺโธ อปลิพุทฺโธ. วิฺเยฺโยติ วิฺาปนีโย ปากโฏ, วิสฺสฏฺตฺตาเยว เจส วิฺเยฺโย โหติ. มฺชูติ มธุโร. สวนีโยติ โสตสุโข, มธุรตฺตาเยว เจส สวนีโย โหติ. พินฺทูติ สมฺปิณฺฑิโต. อวิสารีติ อวิสโฏ, พินฺทุตฺตาเยว เจส อวิสารี โหติ. คมฺภีโรติ คมฺภีรสมุฏฺิโต. นินฺนาทีติ นินฺนาทวา, คมฺภีรตฺตาเยว เจส นินฺนาที โหติ. ยถาปริสนฺติ จกฺกวาฬปริยนฺตมฺปิ เอกาพทฺธปริสํ วิฺาเปติ. พหิทฺธาติ องฺคุลิมตฺตมฺปิ ปริสโต พหิทฺธา น คจฺฉติ. ตสฺมา? โส เอวรูโป มธุรสฺสโร อการณา มา นสฺสีติ. อิติ ภควโต โฆโส ปริสาย มตฺถเกเนว จรติ.

อวโลกยมานาติ สิรสฺมึ อฺชลึ เปตฺวา ภควนฺตํ โอโลเกนฺตาว ปจฺโจสกฺกิตฺวา ทสฺสนวิชหนฏฺาเน วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. อวิชหิตตฺตาติ โย หิ กถํ สุตฺวา วุฏฺิโต อฺํ ทิฏฺสุตาทิกํ กถํ กเถนฺโต คจฺฉติ, เอส สภาเวน วิชหติ นาม. โย ปน สุตธมฺมกถาย วณฺณํ กเถนฺโตว คจฺฉติ, อยํ น วิชหติ นาม, เอวํ อวิชหนฺตภาเวน ปกฺกมนฺติ. คจฺฉนฺตนฺติ รชฺชุยนฺตวเสน รตนสตฺตุพฺเพธํ สุวณฺณคฺฆิกํ วิย คจฺฉนฺตํ. อทฺทสาม ิตนฺติ สมุสฺสิตกฺจนปพฺพตํ วิย ิตํ อทฺทสาม. ตโต จ ภิยฺโยติ วิตฺถาเรตฺวา คุเณ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต อวเสเส คุเณ สํขิปิตฺวา กลาปํ วิย สุตฺตกพทฺธํ วิย จ กตฺวา วิสฺสชฺเชนฺโต เอวมาห. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – มยา กถิตคุเณหิ อกถิตาว พหุตรา. มหาปถวิมหาสมุทฺทาทโย วิย หิ ตสฺส โภโต อนนฺตา อปฺปเมยฺยา คุณา อากาสมิว วิตฺถาริตาติ.

๓๙๐. อปฺปฏิสํวิทิโตติ อวิฺาตอาคมโน. ปพฺพชิเต อุปสงฺกมนฺเตน หิ จีวรปริกมฺมาทิสมเย วา เอกํ นิวาเสตฺวา สรีรภฺชนสมเย วา อุปสงฺกมิตฺวา ตโตว ปฏินิวตฺติตพฺพํ โหติ, ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น ชายติ. ปุเรตรํ ปน โอกาเส การิเต ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุ วิวิตฺเต าเน นิสีทติ, ตํ อาคนฺตฺวา ปสฺสนฺตา ทสฺสเนนปิ ปสีทนฺติ, ปฏิสนฺถาโร ชายติ, ปฺหพฺยากรณํ วา ธมฺมกถา วา ลพฺภติ. ตสฺมา ปณฺฑิตา โอกาสํ กาเรนฺติ. โส จ เนสํ อฺตโร, เตนสฺส เอตทโหสิ. ชิณฺโณ วุฑฺโฒติ อตฺตโน อุคฺคตภาวํ อกเถตฺวา กสฺมา เอวมาห? พุทฺธา นาม อนุทฺทยสมฺปนฺนา โหนฺติ, มหลฺลกภาวํ ตฺวา สีฆํ โอกาสํ กริสฺสตีติ เอวมาห.

๓๙๑. โอรมิย โอกาสมกาสีติ เวเคน อุฏฺาย ทฺวิธา ภิชฺชิตฺวา โอกาสมกาสิ.

เย เมติ เย มยา. นารีสมานสวฺหยาติ นารีสมานนามํ อิตฺถิลิงฺคํ, เตน อวฺหาตพฺพาติ นารีสมานสวฺหยา, อิตฺถิลิงฺเคน วตฺตพฺพาติ โวหารกุสลตาย เอวํ วทติ. ปหูตชิวฺโหติ ปุถุลชิวฺโห. นินฺนามเยตนฺติ นีหร เอตํ.

๓๙๓. เกวลีติ สกลคุณสมฺปนฺโน.

๓๙๔. ปจฺจภาสีติ เอกปฺปหาเรน ปุจฺฉิเต อฏฺ ปฺเห พฺยากโรนฺโต ปติอภาสิ. โย เวทีติ โย วิทติ ชานาติ, ยสฺส ปุพฺเพนิวาโส ปากโฏ. สคฺคาปายฺจ ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุาณํ กถิตํ. ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ อรหตฺตํ ปตฺโต. อภิฺา โวสิโตติ ตํ อรหตฺตํ อภิชานิตฺวา โวสิโต โวสานปฺปตฺโต. มุนีติ อรหตฺตาณโมเนยฺเยน สมนฺนาคโต.

วิสุทฺธนฺติ ปณฺฑรํ. มุตฺตํ ราเคหีติ กิเลสราเคหิ มุตฺตํ. ปหีนชาติมรโณติ ชาติกฺขยปฺปตฺตตฺตา ปหีนชาติโก, ชาติปหาเนเนว ปหีนมรโณ. พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ ยํ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี สกลภาโว, เตน สมนฺนาคโต, สกลจตุมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสติ อตฺโถ. ปารคู สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมานํ อภิฺาย ปารํ คโต, สพฺพธมฺเม อภิชานิตฺวา ิโตติ อตฺโถ. ปารคูติ วา เอตฺตาวตา ปริฺาปารคู ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ, ปหานปารคู สพฺพกิเลสานํ, ภาวนาปารคู จตุนฺนํ มคฺคานํ, สจฺฉิกิริยาปารคู นิโรธสฺส, สมาปตฺติปารคู สพฺพสมาปตฺตีนนฺติ อยมตฺโถ วุตฺโต. ปุน สพฺพธมฺมานนฺติ อิมินา อภิฺาปารคู วุตฺโตติ. พุทฺโธ ตาที ปวุจฺจตีติ ตาทิโส ฉหิ อากาเรหิ ปารํ คโต สพฺพากาเรน จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ ปวุจฺจตีติ.

กึ ปน เอตฺตาวตา สพฺเพ ปฺหา วิสฺสชฺชิตา โหนฺตีติ? อาม วิสฺสชฺชิตา, จิตฺตํ วิสุทฺธํ ชานาติ, มุตฺตํ ราเคหีติ อิมินา ตาว พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณติ ปมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปารคูติ อิมินา เวเทหิ คตตฺตา เวทคูติ ทุติยปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปุพฺเพนิวาสนฺติอาทีหิ อิมาสํ ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ อตฺถิตาย เตวิชฺโชติ ตติยปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. มุตฺตํ ราเคหิ สพฺพโสติ อิมินาว นิสฺสฏตฺตา ปาปธมฺมานํ โสตฺติโยติ จตุตฺถปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ชาติกฺขยํ ปตฺโตติ อิมินา ปน อรหตฺตสฺเสว วุตฺตตฺตา ปฺจมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. โวสิโตติ จ พฺรหฺมจริยสฺส เกวลีติ จ อิเมหิ ฉฏฺปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. อภิฺา โวสิโต มุนีติ อิมินา สตฺตมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. ปารคู สพฺพธมฺมานํ, พุทฺโธ ตาที ปวุจฺจตีติ อิมินา อฏฺมปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ.

๓๙๕. ทานกถนฺติอาทีนิ เหฏฺา สุตฺเต วิตฺถาริตาเนว. ปจฺจปาทีติ ปฏิปชฺชิ. ธมฺมสฺสานุธมฺมนฺติ อิมสฺมึ สุตฺเต ธมฺโม นาม อรหตฺตมคฺโค, อนุธมฺโม นาม เหฏฺิมา ตโย มคฺคา ตีณิ จ สามฺผลานิ, ตานิ ปฏิปาฏิยา ปฏิลภีติ อตฺโถ. น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสีติ มฺจ ธมฺมการณา น กิลเมสิ, น ปุนปฺปุนํ กถาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ปน ปเทน เทสนาย อรหตฺเตเนว กูฏํ คหิตนฺติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

พฺรหฺมายุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เสลสุตฺตวณฺณนา

๓๙๖. เอวํ เม สุตนฺติ เสลสุตฺตํ. ตตฺถ องฺคุตฺตราเปสูติอาทิ โปตลิยสุตฺเต วิตฺถาริตเมว. อฑฺฒเตฬเสหีติ อฑฺเฒน เตฬเสหิ, ทฺวาทสหิ สเตหิ ปฺาสาย จ ภิกฺขูหิ สทฺธินฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน สาวกสนฺนิปาเต สนฺนิปติตา ภิกฺขูเยว สพฺเพ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตา ขีณาสวา. เกณิโยติ ตสฺส นามํ, ชฏิโลติ ตาปโส. โส กิร พฺราหฺมณมหาสาโล, ธนรกฺขณตฺถาย ปน ตาปสปพฺพชฺชํ สมาทาย รฺโ ปณฺณาการํ ทตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา ตตฺถ อสฺสมํ กาเรตฺวา วสติ ปฺจหิ สกฏสเตหิ วณิชฺชํ ปโยเชตฺวา กุลสหสฺสสฺส นิสฺสโย หุตฺวา, อสฺสเมปิ จสฺส เอโก ตาลรุกฺโข ทิวเส ทิวเส เอกํ โสวณฺณมยํ ตาลผลํ มุฺจตีติ วทนฺติ. โส ทิวา กาสายานิ ธาเรติ, ชฏา จ พนฺธติ, รตฺตึ กามสมฺปตฺตึ อนุภวติ. ธมฺมิยา กถายาติ ปานกานิสํสปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย. อยฺหิ เกณิโย ตุจฺฉหตฺโถ ภควโต ทสฺสนาย คนฺตุํ ลชฺชายมาโน – ‘‘วิกาลโภชนา วิรตานมฺปิ ปานกํ กปฺปตี’’ติ จินฺเตตฺวา สุสงฺขตพทรปานํ ปฺจหิ กาชสเตหิ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. เอวํ คตภาโว จสฺส – ‘‘อถ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ กึ นุ โข อหํ สมณสฺส โคตมสฺส หราเปยฺย’’นฺติ เภสชฺชกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๐๐) ปาฬิอารุฬฺโหเยว.

ทุติยมฺปิ โข ภควาติ กสฺมา ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ? ติตฺถิยานํ ปฏิกฺเขปปสนฺนตาย, อการณเมตํ, นตฺถิ พุทฺธานํ ปจฺจยเหตุ เอวรูปํ โกหฺํ. อยํ ปน อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ ทิสฺวา เอตฺตกานํเยว ภิกฺขํ ปฏิยาเทสฺสติ, สฺเวว เสโล ตีหิ ปุริสสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิสฺสติ. อยุตฺตํ โข ปน นวเก อฺโต เปเสตฺวา อิเมเหว สทฺธึ คนฺตุํ, อิเม วา อฺโต เปเสตฺวา นวเกหิ สทฺธึ คนฺตุํ. อถาปิ สพฺเพ คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ภิกฺขาหาโร นปฺปโหสฺสติ. ตโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย จรนฺเตสุ มนุสฺสา อุชฺฌายิสฺสนฺติ – ‘‘จิรสฺสาปิ เกณิโย สมณํ โคตมํ นิมนฺเตตฺวา ยาปนมตฺตํ ทาตุํ นาสกฺขี’’ติ, สยมฺปิ วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสติ. ปฏิกฺเขเป ปน กเต ‘‘สมโณ โคตโม ปุนปฺปุนํ ‘ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’ติ พฺราหฺมณานํ นามํ คณฺหาตี’’ติ จินฺเตตฺวา พฺราหฺมเณปิ นิมนฺเตตุกาโม ภวิสฺสติ, ตโต พฺราหฺมเณ ปาฏิเยกฺกํ นิมนฺเตสฺสติ, เต เตน นิมนฺติตา ภิกฺขู หุตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ. เอวมสฺส สทฺธา อนุรกฺขิตา ภวิสฺสตีติ ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ. กิฺจาปิ โข, โภติ อิมินา อิทํ ทีเปติ, – ‘‘โภ โคตม, กึ ชาตํ ยทิ อหํ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ ภวํ โคตโม, อหํ พฺราหฺมณานมฺปิ ทาตุํ สกฺโกมิ ตุมฺหากมฺปี’’ติ.

กายเวยฺยาวฏิกนฺติ กายเวยฺยาวจฺจํ. มณฺฑลมาฬนฺติ ทุสฺสมณฺฑปํ.

๓๙๗. อาวาโหติ กฺาคหณํ. วิวาโหติ กฺาทานํ. โส เม นิมนฺติโตติ โส มยา นิมนฺติโต. อถ พฺราหฺมโณ ปริปกฺโกปนิสฺสยตฺตา พุทฺธสทฺทํ สุตฺวาว อมเตเนวาภิสิตฺโต ปสาทํ อาวิกโรนฺโต พุทฺโธติ, โภ เกณิย, วเทสีติ อาห. เกณิโย ยถาภูตํ อาจิกฺขนฺโต พุทฺโธติ, โภ เสล, วทามีติ อาห. ตโต นํ ปุนปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ ปุจฺฉิ, อิตโรปิ ตเถว อาโรเจสิ.

๓๙๘. อถสฺส กปฺปสตสหสฺเสหิปิ พุทฺธสทฺทสฺเสว ทุลฺลภภาวํ สมฺปสฺสโต. เอตทโหสีติ. เอตํ ‘‘โฆโสปิ โข’’ติอาทิ อโหสิ. นีลวนราชีติ นีลวณฺณรุกฺขปนฺติ. ปเท ปทนฺติ ปทปฺปมาเณ ปทํ. อจฺจาสนฺเน หิ อติทูเร วา ปาเท นิกฺขิปมาเน สทฺโท อุฏฺาติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต เอวมาห. สีหาว เอกจราติ คณวาสี สีโห สีหโปตกาทีหิ สทฺธึ ปมาทํ อาปชฺชติ, เอกจโร อปฺปมตฺโต โหติ. อิติ อปฺปมาทวิหารํ ทสฺเสนฺโต เอกจรสีเหน โอปมฺมํ กโรติ. มา เม โภนฺโตติ อาจารํ สิกฺขาเปนฺโต อาห. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจ ตุมฺเห กถาวารํ อลภิตฺวา มม กถาย อนฺตเร กถํ ปเวเสสฺสถ, ‘‘อนฺเตวาสิเก สิกฺขาเปตุํ นาสกฺขี’’ติ มยฺหํ ครหา อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺมา โอกาสํ ปสฺสิตฺวา มนฺเตยฺยาถาติ. โน จ โข นํ ชานามีติ วิปสฺสีปิ โพธิสตฺโต จตุราสีติสหสฺสตฺเถรปพฺพชิตปริวาโร สตฺต มาสานิ โพธิสตฺตจาริกํ จริ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย อโหสิ. อมฺหากมฺปิ โพธิสตฺโต ฉพฺพสฺสานิ โพธิสตฺตจาริกํ จริ. เอวํ ปริปุณฺณสรีรลกฺขเณหิ สมนฺนาคตาปิ พุทฺธา น โหนฺติ. ตสฺมา พฺราหฺมโณ ‘‘โน จ โข นํ ชานามี’’ติ อาห.

๓๙๙. ปริปุณฺณกาโยติ ลกฺขเณหิ ปริปุณฺณตาย อหีนงฺคตาย จ ปริปุณฺณสรีโร. สุรุจีติ สุนฺทรสรีรปฺปโภ. สุชาโตติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา สณฺานสมฺปตฺติยา จ สุนิพฺพตฺโต. จารุทสฺสโนติ สุจิรมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติชนโก มโนหรทสฺสโน. สุวณฺณวณฺโณติ สุวณฺณสทิสวณฺโณ. สุสุกฺกทาโติ สุฏฺุ สุกฺกทาโ. มหาปุริสลกฺขณาติ ปมํ วุตฺตพฺยฺชนาเนว วจนนฺตเรน นิคเมนฺโต อาห.

อิทานิ เตสุ ลกฺขเณสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิตานิ คเหตฺวา โถเมนฺโต ปสนฺนเนตฺโตติอาทิมาห. ภควา หิ ปฺจวณฺณปสาทสมฺปตฺติยา ปสนฺนเนตฺโต, ปุณฺณจนฺทสทิสมุขตาย สุมุโข, อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา พฺรหา, พฺรหฺมุชุคตฺตตาย อุชุ, ชุติมนฺตตาย ปตาปวา. ยมฺปิ เจตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ‘‘มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺสา’’ติ อิมินา ปริยาเยน โถมยตา ปุน วุตฺตํ. เอทิโส หิ เอวํ วิโรจติ. อุตฺตรคาถายปิ เอเสว นโย. อุตฺตมวณฺณีโนติ อุตฺตมวณฺณสมฺปนฺนสฺส. รเถสโภติ อุตฺตมสารถิ. ชมฺพุสณฺฑสฺสาติ ชมฺพุทีปสฺส. ปากเฏน อิสฺสริยํ อิสฺสโร โหติ.

ขตฺติยาติ ชาติขตฺติยา. โภคีติ โภคิยา. ราชาโนติ เย เกจิ รชฺชํ กาเรนฺตา. ราชาภิราชาติ ราชูนํ ปูชนีโย, อธิราชา หุตฺวา, จกฺกวตฺตีติ อธิปฺปาโย. มนุชินฺโทติ มนุสฺสาธิปติ ปรมิสฺสโร หุตฺวา.

เอวํ วุตฺเต ภควา – ‘‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เต สกวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’’ติ อิมํ เสลสฺส มโนรถํ ปูเรนฺโต ราชาหมสฺมีติอาทิมาห. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยํ มํ ตฺวํ เสล ‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุ’’นฺติ ยาจสิ, เอตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโก โหติ ราชาหมสฺมิ. สติ จ ราชตฺเต ยถา อฺโ ราชา โยชนสตํ วา อนุสาสติ โยชนสหสฺสํ วา, จกฺกวตฺตี หุตฺวาปิ จตุทีปปริยนฺตมตฺตํ วา, นาหเมวํ ปริจฺฉินฺนวิสโย, อหฺหิ ธมฺมราชา อนุตฺตโร ภวคฺคโต อวีจิปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปฺปมาณโลกธาตุโย อนุสาสามิ. ยาวตา หิ อปททฺวิปทาทิเภทา สตฺตา, อหํ เตสํ อคฺโค. น หิ เม โกจิ สีเลน วา…เป… วิมุตฺติาณทสฺสเนน วา ปฏิภาโค อตฺถิ, สฺวาหํ เอวํ ธมฺมราชา อนุตฺตโร อนุตฺตเรเนว จตุสติปฏฺานาทิเภเทน ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ. อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อาณาจกฺกํ, อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทินา ปริยตฺติธมฺเมน ธมฺมจกฺกเมว วา. จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ยํ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ โหติ สมเณน วา…เป… เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ.

เอวํ อตฺตานํ อาวิกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต เสโล ปุน ทฬฺหีกรณตฺถํ สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสีติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ โก นุ เสนาปตีติ รฺโ โภโต ธมฺเมน ปวตฺติตสฺส จกฺกสฺส อนุปวตฺตโก เสนาปติ โก นูติ ปุจฺฉิ.

เตน จ สมเยน ภควโต ทกฺขิณปสฺเส อายสฺมา สาริปุตฺโต นิสินฺโน โหติ สุวณฺณปุฺโช วิย สิริยา โสภมาโน, ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา มยา ปวตฺติตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ อนุชาโต ตถาคตนฺติ ตถาคตํ เหตุํ อนุชาโต, ตถาคเตน เหตุนา ชาโตติ อตฺโถ. อปิจ อวชาโต อนุชาโต อติชาโตติ ตโย วุตฺตา. เตสุ อวชาโต ทุสฺสีโล, โส ตถาคตสฺส ปุตฺโต นาม น โหติ. อติชาโต นาม ปิตรา อุตฺตริตโร, ตาทิโสปิ ตถาคตสฺส ปุตฺโต นตฺถิ. ตถาคตสฺส ปน เอโก อนุชาโตว ปุตฺโต โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

เอวํ ‘‘โก นุ เสนาปตี’’ติ ปฺหํ พฺยากริตฺวา ยํ เสโล อาห ‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสี’’ติ, ตตฺร นํ นิกฺกงฺขํ กาตุกาโม ‘‘นาหํ ปฏิฺามตฺเตเนว ปฏิชานามิ, อปิจาหํ อิมินา การเณน พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ อภิฺเยฺยนฺติ คาถมาห. ตตฺร อภิฺเยฺยนฺติ วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ. ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ. เหตุวจเนน ปน ผลสิทฺธิโต เตสํ ผลานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. เอวํ สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ ปริฺาตพฺพํ ปริฺาตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตนฺติ จตุสจฺจภาวนาผลฺจ วิมุตฺติฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุชฺฌิตพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมี’’ติ ยุตฺตเหตุนา พุทฺธภาวํ สาเธติ.

เอวํ นิปฺปริยาเยน อตฺตานํ อาวิกตฺวา อตฺตนิ กงฺขาวิตรณตฺถํ พฺราหฺมณํ อติจาริยมาโน วินยสฺสูติ คาถตฺตยมาห. ตตฺถ สลฺลกตฺโตติ ราคาทิสลฺลกนฺตโน. อนุตฺตโรติ ยถา พาหิรเวชฺเชน วูปสมิตโรโค อิมสฺมิฺเวตฺตภาเว กุปฺปติ, น เอวํ. มยา วูปสมิตสฺส ปน โรคสฺส ภวนฺตเรปิ อุปฺปตฺติ นตฺถิ, ตสฺมา อหํ อนุตฺตโรติ อตฺโถ. พฺรหฺมภูโตติ เสฏฺภูโต. อติตุโลติ ตุลํ อตีโต, นิรุปโมติ อตฺโถ. มารเสนปฺปมทฺทโนติ กามา เต ปมา เสนาติ เอวํ อาคตาย มารเสนาย ปมทฺทโน. สพฺพามิตฺเตติ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารมจฺจุเทวปุตฺตมารสงฺขาเต สพฺพปจฺจตฺถิเก. วสีกตฺวาติ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา. อกุโตภโยติ กุโตจิ อภโย.

เอวํ วุตฺเต เสโล พฺราหฺมโณ ตาวเทว ภควติ สฺชาตปสาโท ปพฺพชฺชาเปกฺโข หุตฺวา อิมํ โภนฺโตติ คาถตฺตยมาห. ตตฺถ กณฺหาภิชาติโกติ จณฺฑาลาทินีจกุเล ชาโต. ตโต เตปิ มาณวกา ปพฺพชฺชาเปกฺขา หุตฺวา เอวฺเจ รุจฺจติ, โภโตติ คาถมาหํสุ. อถ เสโล เตสุ มาณวเกสุ ตุฏฺจิตฺโต เต จ ทสฺเสนฺโต ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ คาถมาห.

ตโต ภควา ยสฺมา เสโล อตีเต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สาสเน เตสํเยว ติณฺณํ ปุริสสตานํ คณเสฏฺโ หุตฺวา เตหิ สทฺธึ ปริเวณํ กาเรตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เตน กมฺเมน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน ปจฺฉิเม ภเว เตสํเยว อาจริโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตฺจ เตสํ กมฺมํ วิมุตฺติปริปากาย ปริปกฺกํ เอหิภิกฺขุภาวสฺส จ อุปนิสฺสยภูตํ, ตสฺมา เต สพฺเพว เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชํ ปพฺพาเชนฺโต สฺวากฺขาตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกนฺติ สยเมว ทฏฺพฺพํ ปจฺจกฺขํ. อกาลิกนฺติ มคฺคานนฺตรผลุปฺปตฺติยา น กาลนฺตรํ ปตฺตพฺพผลํ. ยตฺถ อโมฆาติ ยสฺมึ มคฺคพฺรหฺมจริเย อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขตฺตยปูรเณน สิกฺขโต ปพฺพชฺชา อโมฆา โหติ, สผลาติ อตฺโถ. เอวฺจ วตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ. เต สพฺเพ ปตฺตจีวรธรา หุตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา วสฺสสติกตฺเถรา วิย สุวินีตา ภควนฺตํ อภิวาทยึสุ. เอวมิมํ เตสํ เอหิภิกฺขุภาวํ สนฺธาย ‘‘อลตฺถ โข เสโล’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๔๐๐. อิมาหีติ อิมาหิ เกณิยสฺส จิตฺตานุกูลาหิ คาถาหิ. ตตฺถ อคฺคิปริจริยํ วินา พฺราหฺมณานํ ยฺาภาวโต ‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา’’ติ วุตฺตํ. อคฺคิหุตฺตเสฏฺา อคฺคิชุหนปฺปธานาติ อตฺโถ. เวเท สชฺฌายนฺเตหิ ปมํ สชฺฌายิตพฺพโต, สาวิตฺตี, ‘‘ฉนฺทโส มุข’’นฺติ วุตฺโต. มนุสฺสานํ เสฏฺโต ราชา ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. นทีนํ อาธารโต ปฏิสรณโต จ สาคโร ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. จนฺทโยควเสน ‘‘อชฺช กตฺติกา อชฺช โรหิณี’’ติ สฺาณโต อาโลกกรณโต โสมฺมภาวโต จ ‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท’’ติ วุตฺตํ. ตปนฺตานํ อคฺคตฺตา อาทิจฺโจ ‘‘ตปตํ มุข’’นฺติ วุตฺโต. ทกฺขิเณยฺยานํ ปน อคฺคตฺตา วิเสเสน ตสฺมึ สมเย พุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ สนฺธาย ‘‘ปุฺํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เอว ยชตํ มุข’’นฺติ วุตฺตํ. เตน สงฺโฆ ปุฺสฺส อายมุขนฺติ ทสฺเสติ.

ยํ ตํ สรณนฺติ อฺํ พฺยากรณคาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ภควา ยสฺมา มยํ อิโต อฏฺเม ทิวเส ตํ สรณํ อาคตมฺหา, ตสฺมา อตฺตนา ตว สาสเน อนุตฺตเรน ทมเถน ทนฺตามฺหา, อโห เต สรณสฺส อานุภาโวติ.

ตโต ปรํ ภควนฺตํ ทฺวีหิ คาถาหิ โถเมตฺวา ตติยาย วนฺทนํ ยาจนฺโต ภิกฺขโว ติสตา อิเมติอาทิมาหาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เสลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา

๔๐๑. เอวํ เม สุตนฺติ อสฺสลายนสุตฺตํ. ตตฺถ นานาเวรชฺชกานนฺติ องฺคมคธาทีหิ นานปฺปกาเรหิ เวรชฺเชหิ อาคตานํ, เตสุ วา รฏฺเสุ ชาตสํวฑฺฒานนฺติปิ อตฺโถ. เกนจิเทวาติ ยฺุปาสนาทินา อนิยมิตกิจฺเจน. จาตุวณฺณินฺติ จตุวณฺณสาธารณํ. มยํ ปน นฺหานสุทฺธิยา ภาวนาสุทฺธิยาปิ พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺตีติ วทาม, อยุตฺตมฺปิ สมโณ โคตโม กโรตีติ มฺมานา เอวํ จินฺตยึสุ. วุตฺตสิโรติ วาปิตสิโร.

ธมฺมวาทีติ สภาววาที. ทุปฺปฏิมนฺติยาติ อมฺหาทิเสหิ อธมฺมวาทีหิ ทุกฺเขน ปฏิมนฺติตพฺพา โหนฺติ. ธมฺมวาทิโน นาม ปราชโย น สกฺกา กาตุนฺติ ทสฺเสติ. ปริพฺพาชกนฺติ ปพฺพชฺชาวิธานํ, ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา สพฺพปจฺฉา ปพฺพชนฺตา เยหิ มนฺเตหิ ปพฺพชนฺติ, ปพฺพชิตา จ เย มนฺเต ปริหรนฺติ, ยํ วา อาจารํ อาจรนฺติ, ตํ สพฺพํ โภตา จริตํ สิกฺขิตํ. ตสฺมา ตุยฺหํ ปราชโย นตฺถิ, ชโยว ภวิสฺสตีติ มฺนฺตา เอวมาหํสุ.

๔๐๒. ทิสฺสนฺติ โข ปนาติอาทิ เตสํ ลทฺธิภินฺทนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺราหฺมณิโยติ พฺราหฺมณานํ ปุตฺตปฏิลาภตฺถาย อาวาหวิวาหวเสน กุลา อานีตา พฺราหฺมณิโย ทิสฺสนฺติ. ตา โข ปเนตา อปเรน สมเยน อุตุนิโยปิ โหนฺติ, สฺชาตปุปฺผาติ อตฺโถ. คพฺภินิโยติ สฺชาตคพฺภา. วิชายมานาติ ปุตฺตธีตโร ชนยมานา. ปายมานาติ ทารเก ถฺํ ปายนฺติโย. โยนิชาว สมานาติ พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺเคน ชาตา สมานา. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ. กถํ? พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ…เป… พฺรหฺมทายาทาติ. ยทิ ปน เนสํ สจฺจวจนํ สิยา, พฺราหฺมณีนํ กุจฺฉิ มหาพฺรหฺมุโน อุโร ภเวยฺย, พฺราหฺมณีนํ ปสฺสาวมคฺโค มหาพฺรหฺมุโน มุขํ ภเวยฺย, เอตฺตาวตา ‘‘มยํ มหาพฺรหฺมุโน อุเร วสิตฺวา มุขโต นิกฺขนฺตา’’ติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ อยํ มุขโต ชาตจฺเฉทกวาโท วุตฺโต.

๔๐๓. อยฺโย หุตฺวา ทาโส โหติ, ทาโส หุตฺวา อยฺโย โหตีติ พฺราหฺมโณ สภริโย วณิชฺชํ ปโยเชนฺโต โยนกรฏฺํ วา กมฺโพชรฏฺํ วา คนฺตฺวา กาลํ กโรติ, ตสฺส เคเห วยปฺปตฺเต ปุตฺเต อสติ พฺราหฺมณี ทาเสน วา กมฺมกเรน วา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปติ. เอกสฺมึ ทารเก ชาเต โส ปุริโส ทาโสว โหติ, ตสฺส ชาตทารโก ปน ทายชฺชสามิโก โหติ. มาติโต สุทฺโธ ปิติโต อสุทฺโธ โส วณิชฺชํ ปโยเชนฺโต มชฺฌิมปเทสํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณทาริกํ คเหตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ ปุตฺตํ ปฏิลภติ, โสปิ มาติโตว สุทฺโธ โหติ ปิติโต อสุทฺโธ. เอวํ พฺราหฺมณสมยสฺมิฺเว ชาติสมฺเภโท โหตีติ ทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ. กึ พลํ, โก อสฺสาโสติ ยตฺถ ตุมฺเห ทาสา โหนฺตา สพฺเพว ทาสา โหถ, อยฺยา โหนฺตา สพฺเพว อยฺยา โหถ, เอตฺถ โว โก ถาโม, โก อวสฺสโย, ยํ พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณติ วทถาติ ทีเปติ.

๔๐๔. ขตฺติโยว นุ โขติอาทโย สุตฺตจฺเฉทกวาทา นาม โหนฺติ.

๔๐๘. อิทานิ จาตุวณฺณิสุทฺธึ ทสฺเสนฺโต อิธ ราชาติอาทิมาห. สาปานโทณิยาติ สุนขานํ ปิวนโทณิยา. อคฺคิกรณียนฺติ สีตวิโนทนอนฺธการวิธมนภตฺตปจนาทิ อคฺคิกิจฺจํ. เอตฺถ อสฺสลายนาติ เอตฺถ สพฺพสฺมึ อคฺคิกิจฺจํ กโรนฺเต.

๔๐๙. อิทานิ ยเทตํ พฺราหฺมณา จาตุวณฺณิสุทฺธีติ วทนฺติ, เอตฺถ จาตุวณฺณาติ นิยโม นตฺถิ. ปฺจโม หิ ปาทสิกวณฺโณปิ อตฺถีติ สํขิตฺเตน เตสํ วาเท โทสทสฺสนตฺถํ อิธ ขตฺติยกุมาโรติอาทิมาห. ตตฺร อมุตฺร จ ปเนสานนฺติ อมุสฺมิฺจ ปน ปุริมนเย เอเตสํ มาณวกานํ กิฺจิ นานากรณํ น ปสฺสามีติ วทติ. นานากรณํ ปน เตสมฺปิ อตฺถิเยว. ขตฺติยกุมารสฺส หิ พฺราหฺมณกฺาย อุปฺปนฺโน ขตฺติยปาทสิโก นาม, อิตโร พฺราหฺมณปาทสิโก นาม, เอเต หีนชาติมาณวกา.

เอวํ ปฺจมสฺส วณฺณสฺส อตฺถิตาย จาตุวณฺณิสุทฺธีติ เอเตสํ วาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปุน จาตุวณฺณิสุทฺธิยํ โอวทนฺโต ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺเธติ มตกภตฺเต. ถาลิปาเกติ ปณฺณาการภตฺเต. ยฺเติ ยฺภตฺเต. ปาหุเนติ อาคนฺตุกานํ กตภตฺเต. กึ หีติ กึ มหปฺผลํ ภวิสฺสติ, โน ภวิสฺสตีติ ทีเปติ.

๔๑๐. ภูตปุพฺพนฺติ อสฺสลายน ปุพฺเพ มยิ ชาติยา หีนตเร ตุมฺเห เสฏฺตรา สมานาปิ มยา ชาติวาเท ปฺหํ ปุฏฺา สมฺปาเทตุํ น สกฺขิตฺถ, อิทานิ ตุมฺเห หีนตรา หุตฺวา มยา เสฏฺตเรน พุทฺธานํ สเก ชาติวาทปฺหํ ปุฏฺา กึ สมฺปาเทสฺสถ? น เอตฺถ จินฺตา กาตพฺพาติ มาณวํ อุปตฺถมฺเภนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อสิโตติ กาฬโก. เทวโลติ ตสฺส นามํ, อยเมว ภควา เตน สมเยน. ปฏลิโยติ คณงฺคณุปาหนา. ปตฺถณฺฑิเลติ ปณฺณสาลปริเวเณ. โก นุ โขติ กหํ นุ โข. คามณฺฑลรูโป วิยาติ คามทารกรูโป วิย. โส ขฺวาหํ, โภ, โหมีติ โส อหํ, โภ, อสิตเทวโล โหมีติ วทติ. ตทา กิร มหาสตฺโต โกณฺฑทมโก หุตฺวา วิจรติ. อภิวาเทตุํ อุปกฺกมึสูติ วนฺทิตุํ อุปกฺกมํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย จ วสฺสสติกตาปโสปิ ตทหุชาตํ พฺราหฺมณกุมารํ อวนฺทนฺโต โกณฺฑิโต โหติ.

๔๑๑. ชนิกา มาตาติ ยาย ตุมฺเห ชนิตา, สา โว ชนิกา มาตา. ชนิกามาตูติ ชนิกาย มาตุ. โย ชนโกติ โย ชนโก ปิตา. ‘‘โย ชนิโก ปิตาเตว’’ วา ปาโ.

อสิเตนาติ ปฺจาภิฺเน อสิเตน เทวเลน อิสินา อิมํ คนฺธพฺพปฺหํ ปุฏฺา น สมฺปายิสฺสนฺติ. เยสนฺติ เยสํ สตฺตนฺนํ อิสีนํ. น ปุณฺโณ ทพฺพิคาโหติ เตสํ สตฺตนฺนํ อิสีนํ ทพฺพึ คเหตฺวา ปณฺณํ ปจิตฺวา ทายโก ปุณฺโณ นาม เอโก อโหสิ, โส ทพฺพิคหณสิปฺปํ ชานาติ. ตฺวํ สาจริยโก เตสํ ปุณฺโณปิ น โหติ, เตน าตํ ทพฺพิคหณสิปฺปมตฺตมฺปิ น ชานาสีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อยํ ปน อสฺสลายโน สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโน, อตฺตโน อนฺโตนิเวสเนเยว เจติยํ กาเรสิ. ยาวชฺชทิวสา อสฺสลายนวํเส ชาตา นิเวสนํ กาเรตฺวา อนฺโตนิเวสเน เจติยํ กโรนฺเตวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนา

๔๑๒. เอวํ เม สุตนฺติ โฆฏมุขสุตฺตํ. ตตฺถ เขมิยมฺพวเนติ เอวํนามเก อมฺพวเน. ธมฺมิโก ปริพฺพโชติ ธมฺมิกา ปพฺพชฺชา. อทสฺสนาติ ตุมฺหาทิสานํ วา ปณฺฑิตานํ อทสฺสเนน. โย วา ปเนตฺถ ธมฺโมติ โย วา ปน เอตฺถ ธมฺโม สภาโว, ตสฺเสว วา อทสฺสเนน. อิมินา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธมฺโมว ปมาณ’’นฺติ ทสฺเสติ. ตโต เถโร ‘‘นวอุโปสถาคาเร วิย พหุนา กมฺเมน อิธ ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา จงฺกมา โอรุยฺห ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ. ตํ ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺเตติอาทิ วุตฺตํ.

๔๑๓. จตฺตาโรเม พฺราหฺมณาติ เถรสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ‘ธมฺมิกํ ปพฺพชฺชํ อุปคโต สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา นตฺถี’ติ วทติ. อิมสฺส จตฺตาโร ปุคฺคเล ทฺเว จ ปริสา ทสฺเสตฺวา ‘จตุตฺถํ ปุคฺคลํ กตราย ปริสาย พหุลํ ปสฺสสี’ติ ปุจฺฉิสฺสามิ, ชานมาโน ‘อนาคาริยปริสาย’นฺติ วกฺขติ. เอวเมตํ สกมุเขเนว ‘ธมฺมิโก ปริพฺพโช อตฺถี’ติ วทาเปสฺสามี’’ติ อิมํ เทสนํ อารภิ.

๔๑๔. ตตฺถ สารตฺตรตฺตาติ สุฏฺุ รตฺตรตฺตา. สานุคฺคหา วาจา ภาสิตา สการณา วาจา ภาสิตา. วุตฺตฺเหตํ มยา ‘‘อมฺหากํ กถา อปฺปมาณํ, ธมฺโมว ปมาณ’’นฺติ.

๔๒๑. กึ ปน เตติ คิหิ นาม กปฺปิยมฺปิ อกปฺปิยมฺปิ วเทยฺยาติ วิเวจนตฺถํ ปุจฺฉิ. การาเปสีติ มาเปสิ. การาเปตฺวา จ ปน กาลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอตสฺส กิร ชานนสิปฺเป มาตรมฺปิ ปิตรมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตาว ฆาเตตพฺโพติ อาคจฺฉติ. เอตํ สิปฺปํ ชานนฺโต เปตฺวา เอตํ อฺโ สคฺเค นิพฺพตฺโต นาม นตฺถิ, เอส ปน เถรํ อุปนิสฺสาย ปุฺํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา จ ปน ‘‘เกนาหํ กมฺเมน อิธ นิพฺพตฺโต’’ติ อาวชฺเชตฺวา ยถาภูตํ ตฺวา เอกทิวสํ ชิณฺณาย โภชนสาลาย ปฏิสงฺขรณตฺถํ สงฺเฆ สนฺนิปติเต มนุสฺสเวเสน อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กิมตฺถํ, ภนฺเต, สงฺโฆ สนฺนิปติโต’’ติ? โภชนสาลาย ปฏิสงฺขรณตฺถนฺติ. เกเนสา การิตาติ? โฆฏมุเขนาติ. อิทานิ โส กุหินฺติ? กาลงฺกโตติ. อตฺถิ ปนสฺส โกจิ าตโกติ? อตฺถิ เอกา ภคินีติ. ปกฺโกสาเปถ นนฺติ. ภิกฺขู ปกฺโกสาเปสุํ. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘อหํ, ตว ภาตา, โฆฏมุโข นาม อิมํ สาลํ กาเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต, อสุเก จ อสุเก จ าเน มยา ปิตํ ธนํ อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา อิมฺจ โภชนสาลํ กาเรหิ, ทารเก จ โปเสหี’’ติ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทิตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา เทวโลกเมว อคมาสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

โฆฏมุขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จงฺกีสุตฺตวณฺณนา

๔๒๒. เอวํ เม สุตนฺติ จงฺกีสุตฺตํ. ตตฺถ เทววเน สาลวเนติ ตสฺมึ กิร เทวตานํ พลิกมฺมํ กรียติ, เตน ตํ เทววนนฺติปิ สาลวนนฺติปิ วุจฺจติ. โอปาสาทํ อชฺฌาวสตีติ โอปาสาทนามเก พฺราหฺมณคาเม วสติ, อภิภวิตฺวา วา อาวสติ, ตสฺส สามี หุตฺวา ยาย มริยาทาย ตตฺถ วสิตพฺพํ, ตาย มริยาทาย วสติ. อุปสคฺควเสน ปเนตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ, ตถสฺส อนุปฺปโยคตฺตาว เสสปเทสุ. ตตฺถ ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. สตฺตุสฺสทนฺติ สตฺเตหิ อุสฺสทํ อุสฺสนฺนํ, พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสํ โปสาวนิยหตฺถิอสฺสโมรมิคาทิอเนกสตฺตสมากิณฺณฺจาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โส คาโม พหิ อาวิชฺฌิตฺวา ชาเตน หตฺถิอสฺสาทีนํ ฆาสติเณน เจว เคหจฺฉทนติเณน จ สมฺปนฺโน, ตถา ทารุกฏฺเหิ เจว เคหสมฺภารกฏฺเหิ จ, ยสฺมา จสฺส อพฺภนฺตเร วฏฺฏจตุรสฺสาทิสณฺานา พหู โปกฺขรณิโย, ชลชกุสุมวิจิตฺตานิ จ พหิ อเนกานิ ตฬากานิ วา อุทกสฺส นิจฺจภริตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา สติณกฏฺโทกนฺติ วุตฺตํ.

สห ธฺเน สธฺํ, ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทิเภทํ พหุธฺสนฺนิจยนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ยสฺมึ คาเม พฺราหฺมโณ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชลีลาย วสติ. ตสฺส สมิทฺธิสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ราชโต ลทฺธํ โภคฺคํ ราชโภคฺคํ. เกน ทินฺนนฺติ เจ, รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ. ราชทายนฺติ รฺโ ทายภูตํ, ทายชฺชนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชสงฺเขเปน ภุฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ราชโภคฺคนฺติ สพฺพํ เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺเตน ติตฺถปพฺพตาทีสุ สุงฺกํ คณฺหนฺเตน เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รฺา หุตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ตตฺถ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายนฺติ. เอตฺถ รฺา ทินฺนตฺตา ราชทายํ, ทายกราชทีปนตฺถํ ปนสฺส ‘‘รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺน’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ยถา ทินฺนํ น ปุน คเหตพฺพํ โหติ นิสฺสฏฺปริจฺจตฺตํ, เอวํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ.

๔๒๓. พหู พหู หุตฺวา สํหตาติ สงฺฆา. เอเกกิสฺสา ทิสาย สงฺโฆ เตสํ อตฺถีติ สงฺฆี. ปุพฺเพ คามสฺส อนฺโต อคณา พหิ นิกฺขมิตฺวา คณา สมฺปนฺนาติ คณีภูตา. อุตฺตเรนมุขาติ อุตฺตรทิสาภิมุขา. ขตฺตํ อามนฺเตสีติ ขตฺตา วุจฺจติ ปุจฺฉิตปฺหพฺยากรณสมตฺโถ มหามตฺโต, ตํ อามนฺเตสิ. อาคเมนฺตูติ มุหุตฺตํ ปฏิมาเนนฺตุ, อจฺฉนฺตูติ วุตฺตํ โหติ.

๔๒๔. นานาเวรชฺชกานนฺติ นานาวิเธสุ รชฺเชสุ อฺเสุ กาสิโกสลาทีสุ ชาตา วา นิวสนฺติ วา, ตโต วา อาคตาติ นานาเวรชฺชกา, เตสํ นานาเวรชฺชกานํ. เกนจิเทวาติ อนิยมิเตน ยฺุปาสนาทินา เกนจิ กิจฺเจน. เต ตสฺส คมนํ สุตฺวา จินฺเตสุํ – ‘‘อยํ, จงฺกี, อุคฺคตพฺราหฺมโณ, เยภุยฺเยน จ อฺเ พฺราหฺมณา สมณํ โคตมํ สรณํ คตา, อยเมว น คโต. สฺวายํ สเจ ตตฺถ คมิสฺสติ, อทฺธา สมณสฺส โคตมสฺส อาวฏฺฏนิยา มายาย อาวฏฺฏิโต สรณํ คมิสฺสติ. ตโต เอตสฺสาปิ เคหทฺวาเร พฺราหฺมณานํ อสนฺนิปาโต ภวิสฺสติ. หนฺทสฺส คมนนฺตรายํ กโรมา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ตตฺถ อคมํสุ. ตํ สนฺธาย ‘‘อถ โข เต พฺราหฺมณา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อุภโตติ ทฺวีหิ ปกฺเขหิ. มาติโต จ ปิติโต จาติ, โภโต มาตา พฺราหฺมณี, มาตุมาตา พฺราหฺมณี, ตสฺสาปิ มาตา พฺราหฺมณี. ปิตา พฺราหฺมโณ, ปิตุปิตา พฺราหฺมโณ, ตสฺสปิ ปิตา พฺราหฺมโณติ. เอวํ ภวํ อุภโต สุชาโต, มาติโต จ ปิติโต จ. สํสุทฺธคหณิโกติ สํสุทฺธา เต มาตุ คหณี, สํสุทฺธา เต มาตุ กุจฺฉีติ อตฺโถ. ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุ ปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามโหว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว สํสุทฺธคหณิโก. อถ วา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทนาติ ทสฺเสติ. อกฺขิตฺโตติ อปเนถ เอตํ, กึ อิมินาติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกฺกุฏฺโติ น อุปกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ปตฺตปุพฺโพ. เกน การเณนาติ. ชาติวาเทน, อิติปิ หีนชาติโก เอโสติ เอวรูเปน วจเนนาติ อตฺโถ. อิมินาปงฺเคนาติ อิมินาปิ การเณน.

อฑฺโฒติ อิสฺสโร. มหทฺธโนติ มหตา ธเนน สมนฺนาคโต. โภโต หิ เคเห ปถวิยํ ปํสุวาลิกา วิย พหุ ธนํ, สมโณ ปน โคตโม อธโน ภิกฺขาย อุทรํ ปูเรตฺวา ยาเปตีติ ทสฺเสนฺติ. มหาโภโคติ ปฺจกามคุณวเสน มหาอุปโภโค. เอวํ ยํ ยํ คุณํ วทนฺติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขวเสน ภควโต อคุณํเยว ทสฺเสมาติ มฺมานา วทนฺติ.

อภิรูโปติ อฺเหิ มนุสฺเสหิ อธิกรูโป. ทสฺสนีโยติ ทิวสมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรณโต ทสฺสนโยคฺโค, ทสฺสเนเนว จิตฺตปสาทชนนโต ปาสาทิโก. โปกฺขรตา วุจฺจติ สุนฺทรภาโว, วณฺณสฺส โปกฺขรตา วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณโปกฺขรตาย, วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. โปราณา ปน โปกฺขรนฺติ สรีรํ วทนฺติ, วณฺณํ วณฺณเมว. เตสํ มเตน วณฺโณ จ โปกฺขรฺจ วณฺณโปกฺขรานิ, เตสํ ภาโว วณฺณโปกฺขรตา. อิติ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตายาติ อุตฺตมปริสุทฺเธน วณฺเณน เจว สรีรสณฺานสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ. พฺรหฺมวณฺณีติ เสฏฺวณฺณี, ปริสุทฺธวณฺเณสุปิ เสฏฺเน สุวณฺณวณฺเณเนว สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. พฺรหฺมวจฺฉสีติ มหาพฺรหฺมุโน สรีรสทิเสน สรีเรน สมนฺนาคโต. อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนายาติ โภโต สรีเร ทสฺสนสฺส โอกาโส น ขุทฺทโก มหา. สพฺพาเนว เต องฺคปจฺจงฺคานิ ทสฺสนียาเนว, ตานิ จาปิ มหนฺตาเนวาติ ทีเปติ.

สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวา. วุทฺธํ วฑฺฒิตํ สีลมสฺสาติ วุทฺธสีลี. วุทฺธสีเลนาติ วุทฺเธน วฑฺฒิเตน สีเลน. สมนฺนาคโตติ ยุตฺโต, อิทํ วุทฺธสีลีปทสฺเสว เววจนํ. สพฺพเมตํ ปฺจสีลมตฺตเมว สนฺธาย วทนฺติ.

กาลฺยาณวาโจติอาทีสุ กลฺยาณา สุนฺทรา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา วาจา อสฺสาติ กลฺยาณวาโจ. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณํ อสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. วากฺกรณนฺติ อุทาหรณโฆโส. คุณปริปุณฺณภาเวน ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร วา ภวตฺตา โปรี. นาคริกิตฺถิยา สุขุมาลตฺตเนน สทิสาติปิ โปรี. ตาย โปริยา. วิสฺสฏฺายาติ อปลิพุทฺธาย, สนฺทิฏฺวิลมฺพิตาทิโทสรหิตาย. อเนลคลายาติ เอลคเลน วิรหิตาย. เอกจฺจสฺส หิ กเถนฺตสฺส เอลํ คลติ, ลาลา วา ปคฺฆรติ, เขฬผุสิตานิ วา นิกฺขมนฺติ, ตสฺส วาจา เอลคลา นาม โหติ. ตพฺพิปริตายาติ อตฺโถ. อตฺถสฺส วิฺาปนิยาติอาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวา ภาสิตตฺถสฺส วิฺาปนสมตฺถาย. เสสเมตฺถ พฺราหฺมณวณฺเณ อุตฺตานเมว.

๔๒๕. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ เตหิ พฺราหฺมเณหิ วุตฺเต, จงฺกี, ‘‘อิเม พฺราหฺมณา อตฺตโน วณฺเณ วุจฺจมาเน อตุสฺสนกสตฺโต นาม นตฺถิ, วณฺณมสฺส ภณิตฺวา นิวาเรสฺสามาติ ชาติอาทีหิ มม วณฺณํ วทนฺติ, น โข ปน เม ยุตฺตํ อตฺตโน วณฺเณ รชฺชิตุํ. หนฺทาหํ เอเตสํ วาทํ ภินฺทิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส มหนฺตภาวํ าเปตฺวา เอเตสํ ตตฺถ คมนํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน หิ, โภ, มมาปิ สุณาถาติอาทิมาห. ตตฺถ เยปิ ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติอาทโย อตฺตโน คุเณหิ สทิสา คุณา, เตปิ ‘‘โก จาหํ, เก จ สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโย คุณา’’ติ อตฺตโน คุเณหิ อุตฺตริตเรเยว มฺมาโน, อิตเร ปน เอกนฺเตเนว ภควโต มหนฺตภาวทีปนตฺถํ ปกาเสติ. มยเมว อรหามาติ เอวํ นิยเมนฺโต เจตฺถ อิทํ ทีเปติ – ยทิ คุณมหนฺตตาย อุปสงฺกมิตพฺโพ นาม โหติ, ยถา สิเนรุํ อุปนิธาย สาสโป, มหาสมุทฺทํ อุปนิธาย โคปทกํ, สตฺตสุ มหาสเรสุ อุทกํ อุปนิธาย อุสฺสาวพินฺทุ ปริตฺโต ลามโก, เอวเมวํ สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโย คุเณ อุปนิธาย อมฺหากํ คุณา ปริตฺตา ลามกา, ตสฺมา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุนฺติ.

ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺฺจาติ เอตฺถ ราชงฺคเณ เจว อุยฺยาเน จ สุธามฏฺา โปกฺขรณิโย สตฺตรตนปูรึ กตฺวา ภูมิยํ ปิตํ ธนํ ภูมิคตํ นาม, ปาสาทนิยูหาทโย ปน ปูเรตฺวา ปิตํ เวหาสฏฺํ นาม. เอวํ ตาว กุลปริยาเยน อาคตํ. ตถาคตสฺส ปน ชาตทิวเสเยว สงฺโข เอโล อุปฺปโล ปุณฺฑรีโกติ จตฺตาโร นิธโย อุปคตา. เตสุ สงฺโข คาวุติโก, เอโล อฑฺฒโยชนิโก, อุปฺปโล ติคาวุติโก ปุณฺฑรีโก โยชนิโกติ. เตสุปิ คหิตคหิตฏฺานํ ปูรติเยว. อิติ ภควา ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโตติ เวทิตพฺโพ. ทหโร วาติอาทีนิ เหฏฺา วิตฺถาริตาเนว.

อขุทฺทาวกาโสติ เอตฺถ ภควติ อปริมาโณเยว ทสฺสนาวกาโสติ เวทิตพฺโพ. ตตฺริทํ วตฺถุํ – ราชคเห กิร อฺตโร พฺราหฺมโณ ‘‘สมณสฺส กิร โคตมสฺส ปมาณํ คเหตุํ น สกฺกา’’ติ สุตฺวา ภควโต ปิณฺฑาย ปวิสนกาเล สฏฺิหตฺถํ เวฬุํ คเหตฺวา นครทฺวารสฺส พหิ ตฺวา สมฺปตฺเต ภควติ เวฬุํ คเหตฺวา สมีเป อฏฺาสิ, เวฬุ ภควโต ชาณุมตฺตํ ปาปุณิ. ปุนทิวเส ทฺเว เวฬู ฆเฏตฺวา สมีเป อฏฺาสิ, ภควา ทฺวินฺนํ เวฬูนํ อุปริ ทฺวิเวณุมตฺตเมว ปฺายมาโน, ‘‘พฺราหฺมณ, กึ กโรสี’’ติ อาห? ตุมฺหากํ ปมาณํ คณฺหามีติ. ‘‘พฺราหฺมณ, สเจปิ ตฺวํ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา ิตเวฬุํ ฆเฏตฺวา อาคมิสฺสสิ, เนว เม ปมาณํ คเหตุํ สกฺขิสฺสสิ. น หิ มยา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ ตถา ปารมิโย ปูริตา, ยถา เม ปโร ปมาณํ คณฺเหยฺย, อตุโล พฺราหฺมณ, ตถาคโต อปฺปเมยฺโย’’ติ วตฺวา ธมฺมปเท คาถมาห. คาถาปริโยสาเน จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตํ ปิวึสุ.

อปรมฺปิ วตฺถุ – ราหุ กิร อสุรินฺโท จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ อฏฺ จ โยชนสตานิ อุจฺโจ, พาหนฺตรมสฺส ทฺวาทสโยชนสตานิ, หตฺถตลปาทตลานํ ปุถุลตา ตีณิ โยชนสตานิ, องฺคุลิปพฺพานิ ปณฺณาสโยชนานิ, ภมุกนฺตรํ ปณฺณาสโยชนํ, นลาฏํ ติโยชนสตํ, สีสํ นวโยชนสตํ. โส – ‘‘อหํ อุจฺโจสฺมิ, สตฺถารํ โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ น คจฺฉติ. โส เอกทิวสํ ภควโต วณฺณํ สุตฺวา ‘‘ยถา กถฺจ โอโลเกสฺสามี’’ติ อาคโต. ภควา ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘จตูสุ อิริยาปเถสุ กตเรน ทสฺเสมี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ิตโก นาม นีโจปิ อุจฺโจ วิย ปฺายติ, นิปนฺโนวสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ, ‘‘อานนฺท, คนฺธกุฏิปริเวเณ มฺจกํ ปฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตตฺถ สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. ราหุ อาคนฺตฺวา นิปนฺนํ ภควนฺตํ คีวํ อุนฺนาเมตฺวา นภมชฺเฌ ปุณฺณจนฺทํ วิย อุลฺโลเกติ. กิมิทํ อสุรินฺทาติ จ วุตฺเต, ภควา โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามีติ น คจฺฉินฺติ. น มยา อสุรินฺท อโธมุเขน ปารมิโย ปูริตา, อุทฺธคฺคํ เม กตฺวา ทานํ ทินฺนนฺติ. ตํทิวสํ ราหุ สรณํ อคมาสิ. เอวํ ภควา อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย.

จตุปาริสุทฺธิสีเลน สีลวา. ตํ ปน สีลํ อริยํ อุตฺตมํ ปริสุทฺธํ, เตนาห อริยสีลีติ. ตเทว อนวชฺชฏฺเน กุสลํ, เตนาห กุสลสีลีติ. กุสเลน สีเลนาติ อิทมสฺส เววจนํ. พหูนํ อาจริยปาจริโยติ ภควโต เอเกกาย ธมฺมเทสนาย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อปริมาณาปิ เทวมนุสฺสา มคฺคผลามตํ ปิวนฺติ. ตสฺมา พหูนํ อาจริโย, สาวกวิเนยฺยานํ ปาจริโยติ.

ขีณกามราโคติ เอตฺถ กามํ ภควโต สพฺเพปิ กิเลสา ขีณา, พฺราหฺมโณ ปน เต น ชานาติ, อตฺตโน ชานนฏฺาเนเยว คุณํ กเถติ. วิคตจาปลฺโลติ ‘‘ปตฺตมณฺฑนา จีวรมณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา อิมสฺส วา ปูติกายสฺส…เป… เกลนา ปฏิเกลนา’’ติ เอวํ วุตฺตจาปลฺยวิรหิโต.

อปาปปุเรกฺขาโรติ อปาเป นวโลกุตฺตรธมฺเม ปุรโต กตฺวา วิจรติ. พฺรหฺมฺาย ปชายาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทิเภทาย พฺราหฺมณปชาย. (อวิรุทฺโธ หิ โส) เอติสฺสาย ปชาย ปุเรกฺขาโร. อยฺหิ ปชา สมณํ โคตมํ ปุรโต กตฺวา จรตีติ อตฺโถ. อปิจ อปาปปุเรกฺขาโรติ น ปาปุปุเรกฺขาโร, น ปาปํ ปุรโต กตฺวา จรติ, ปาปํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. กสฺส? พฺรหฺมฺาย ปชาย อตฺตนา สทฺธึ ปฏิวิรุทฺธายปิ พฺราหฺมณปชาย อวิรุทฺโธ หิตสุขตฺถิโกเยวาติ วุตฺตํ โหติ.

ติโรรฏฺาติ ปรรฏฺโต. ติโรชนปทาติ ปรชนปทโต. สํปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺตีติ ขตฺติยปณฺฑิตาทโย เจว พฺราหฺมณคนฺธพฺพาทโย จ ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา ปุจฺฉิสฺสามาติ อาคจฺฉนฺติ. ตตฺถ เกจิ ปุจฺฉาย วา โทสํ วิสฺสชฺชนสมฺปฏิจฺฉเน วา อสมตฺถตํ สลฺลกฺเขตฺวา อปุจฺฉิตฺวาว ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เกจิ ปุจฺฉนฺติ, เกสฺจิ ภควา ปุจฺฉาย อุสฺสาหํ ชเนตฺวา วิสฺสชฺเชติ. เอวํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ วิมติโย ตีรํ ปตฺวา มหาสมุทฺทสฺส อูมิโย วิย ภควนฺตํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ. เสสเมตฺถ ตถาคตสฺส วณฺเณ อุตฺตานเมว.

อติถี โน เต โหนฺตีติ เต อมฺหากํ อาคนฺตุกา นวกา ปาหุนกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปริยาปุณามีติ ชานามิ. อปริมาณวณฺโณติ ตถารูเปเนว สพฺพฺุนาปิ อปฺปเมยฺยวณฺโณ, ปเคว มาทิเสนาติ ทสฺเสติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,

กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,

วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ.

อิมํ ปน คุณกถํ สุตฺวา เต พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ ‘‘ยถา, จงฺกี, สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ ภาสติ, อโนมคุโณ โส ภวํ โคตโม, เอวํ ตสฺส คุเณ ชานมาเนน โข ปน อิมินา อติจิรํ อธิวาสิตํ, หนฺท นํ อนุวตฺตามา’’ติ อนุวตฺตมานา ‘‘เตน หิ, โภ’’ติอาทิมาหํสุ.

๔๒๖. โอปาเตตีติ ปเวเสติ. สํปุเรกฺขโรนฺตีติ ปุตฺตมตฺตนตฺตมตฺตมฺปิ สมานํ ปุรโต กตฺวา วิจรนฺติ.

๔๒๗. มนฺตปทนฺติ มนฺตาเยว มนฺตปทํ, เวโทติ อตฺโถ. อิติหิติห ปรมฺปรายาติ เอวํ กิร เอวํ กิราติ ปรมฺปรภาเวน อาคตนฺติ ทีเปติ. ปิฏกสมฺปทายาติ ปาวจนสงฺขาตสมฺปตฺติยา. สาวิตฺติอาทีหิ ฉนฺทพนฺเธหิ จ วคฺคพนฺเธหิ จ สมฺปาเทตฺวา อาคตนฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ มนฺตปเท. ปวตฺตาโรติ ปวตฺตยิตาโร. เยสนฺติ เยสํ สนฺตกํ. มนฺตปทนฺติ เวทสงฺขาตํ มนฺตเมว. คีตนฺติ อฏฺกาทีหิ ทสหิ โปราณกพฺราหฺมเณหิ ปทสมฺปตฺติวเสน สชฺฌายิตํ. ปวุตฺตนฺติ อฺเสํ วุตฺตํ, วาจิตนฺติ อตฺโถ. สมิหิตนฺติ สมุปพฺยูฬฺหํ ราสิกตํ, ปิณฺฑํ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ เอตรหิ พฺราหฺมณา ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ อนุสชฺฌายนฺติ วาเทนฺติ. ตทนุภาสนฺตีติ ตํ อนุภาสนฺติ, อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ภาสิตมนุภาสนฺตีติ เตหิ ภาสิตํ สชฺฌายิตํ อนุสชฺฌายนฺติ. วาจิตมนุวาเจนฺตีติ เตหิ อฺเสํ วาจิตํ อนุวาเจนฺติ. เสยฺยถิทนฺติ เต กตเมติ อตฺโถ. อฏฺโกติอาทีนิ เตสํ นามานิ, เต กิร ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปรูปฆาตํ อกตฺวา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภควโต ปาวจเนน สห สํสนฺเทตฺวา มนฺเต คนฺเถสุํ, อปราปเร ปน พฺราหฺมณา ปาณาติปาตาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ตโย เวเท ภินฺทิตฺวา พุทฺธวจเนน สทฺธึ วิรุทฺเธ อกํสุ.

๔๒๘. อนฺธเวณีติ อนฺธปเวณี. เอเกน หิ จกฺขุมตา คหิตยฏฺิยา โกฏึ เอโก อนฺโธ คณฺหาติ, ตํ อนฺธํ อฺโ, ตํ อฺโติ เอวํ ปณฺณาส สฏฺิ อนฺธา ปฏิปาฏิยา ฆฏิตา อนฺธเวณีติ วุจฺจติ. ปรมฺปราสํสตฺตาติ อฺมฺํ ลคฺคา, ยฏฺิคฺคาหเกนปิ จกฺขุมตา วิรหิตาติ อตฺโถ. เอโก กิร ธุตฺโต อนฺธคณํ ทิสฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ขชฺชโภชฺชํ สุลภ’’นฺติ อุสฺสาเหตฺวา เตหิ ‘‘ตตฺถ โน สามิ เนหิ, อิทํ นาม เต เทมา’’ติ วุตฺเต ลฺชํ คเหตฺวา อนฺตรามคฺเค มคฺคา โอกฺกมฺม มหนฺตํ คจฺฉํ อนุปริคนฺตฺวา ปุริมสฺส หตฺเถน ปจฺฉิมสฺส กจฺฉํ คณฺหาเปตฺวา ‘‘กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, คจฺฉถ ตาว ตุมฺเห’’ติ วตฺวา ปลายิ. เต ทิวสมฺปิ คนฺตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ‘‘กหํ, โภ, จกฺขุมา กหํ มคฺโค’’ติ ปริเทวิตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ตตฺเถว มรึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปรมฺปราสํสตฺตา’’ติ. ปุริโมปีติ ปุริเมสุ ทสสุ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ. มชฺฌิโมปีติ มชฺเฌ อาจริยปาจริเยสุ เอโกปิ. ปจฺฉิโมปีติ อิทานิ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ.

ปฺจ โขติ ปาฬิอาคเตสุ ทฺวีสุ อฺเปิ เอวรูเป ตโย ปกฺขิปิตฺวา วทติ. ทฺเวธาวิปากาติ ภูตวิปากา วา อภูตวิปากา วา. นาลเมตฺถาติ, ภารทฺวาช, สจฺจํ อนุรกฺขิสฺสามีติ ปฏิปนฺเนน วิฺุนา ‘‘ยํ มยา คหิตํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ เอตฺถ เอกํเสเนว นิฏฺํ คนฺตุํ นาลํ น ยุตฺตนฺติ อุปริ ปุจฺฉาย มคฺคํ วิวริตฺวา เปสิ.

๔๓๐. อิธ, ภารทฺวาช, ภิกฺขูติ ชีวกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๕๑ อาทโย) วิย มหาวจฺฉสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๙๓ อาทโย) วิย จ อตฺตานฺเว สนฺธาย วทติ. โลภนีเยสุ ธมฺเมสูติ โลภธมฺเมสุ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

๔๓๒. สทฺธํ นิเวเสตีติ โอกปฺปนิยสทฺธํ นิเวเสติ. อุปสงฺกมตีติ อุปคจฺฉติ. ปยิรุปาสตีติ สนฺติเก นิสีทติ. โสตนฺติ ปสาทโสตํ โอทหติ. ธมฺมนฺติ เทสนาธมฺมํ สุณาติ. ธาเรตีติ ปคุณํ กตฺวา ธาเรติ. อุปปริกฺขตีติ อตฺถโต จ การณโต จ วีมํสติ. นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ โอโลกนํ ขมนฺติ, อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธีติ เอวํ อุปฏฺหนฺตีติ อตฺโถ. ฉนฺโทติ กตฺตุกมฺยตา ฉนฺโท. อุสฺสหตีติ วายมติ. ตุเลตีติ อนิจฺจาทิวเสน ตีเรติ. ปทหตีติ มคฺคปธานํ ปทหติ. กาเยน เจว ปรมสจฺจนฺติ สหชาตนามกาเยน จ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ กิเลเส นิพฺพิชฺฌิตฺวา ตเทว วิภูตํ ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสติ.

๔๓๓. สจฺจานุโพโธติ มคฺคานุโพโธ. สจฺจานุปฺปตฺตีติ ผลสจฺฉิกิริยา. เตสํเยวาติ เหฏฺา วุตฺตานํ ทฺวาทสนฺนํ, เอวํ ทีฆํ มคฺควาทํ อนุโลเมติ, ตสฺมา นายมตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – เตสํเยวาติ เตสํ มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมานํ. ปธานนฺติ มคฺคปธานํ. ตฺหิ ผลสจฺฉิกิริยสงฺขาตาย สจฺจานุปฺปตฺติยา พหุการํ, มคฺเค อสติ ผลาภาวโตติ. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

จงฺกีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เอสุการีสุตฺตวณฺณนา

๔๓๗. เอวํ เม สุตนฺติ เอสุการีสุตฺตํ. ตตฺถ พิลํ โอลคฺเคยฺยุนฺติ โกฏฺาสํ ลคฺคาเปยฺยุํ, อิมินา สตฺถธมฺมํ นาม ทสฺเสติ. สตฺถวาโห กิร มหากนฺตารปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค โคเณ มเต มํสํ คเหตฺวา สพฺเพสํ สตฺถิกานํ ‘‘อิทํ ขาทิตฺวา เอตฺตกํ มูลํ ทาตพฺพ’’นฺติ โกฏฺาสํ โอลคฺเคติ, โคณมํสํ นาม ขาทนฺตาปิ อตฺถิ อขาทนฺตาปิ, มูลํ ทาตุํ สกฺโกนฺตาปิ อสกฺโกนฺตาปิ. สตฺถวาโห เยน มูเลน โคโณ คหิโต, ตสฺส นิกฺขมนตฺถํ สพฺเพสํ พลกฺกาเรน โกฏฺาสํ ทตฺวา มูลํ คณฺหาติ, อยํ สตฺถธมฺโม. เอวเมวํ พฺราหฺมณาปิ โลกสฺส ปฏิฺํ อคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ธมฺมตาย จตสฺโส ปาริจริยา ปฺเปนฺตีติ ทสฺเสตุํ เอวเมว โขติอาทิมาห. ปาปิโย อสฺสาติ ปาปํ อสฺส. เสยฺโย อสฺสาติ หิตํ อสฺส. อถ วา ปาปิโยติ ปาปโก ลามโก อตฺตภาโว อสฺส. เสยฺโยติ เสฏฺโ อุตฺตโม. เสยฺยํโสติ เสยฺโย. อุจฺจากุลีนตาติ อุจฺจากุลีนตฺเตน เสยฺโย. ปาปิยํโสติ ปาปิโย. อุจฺจากุลีนตา จ ทฺวีสุ กุเลสุ วฑฺเฒติ ขตฺติยกุเล พฺราหฺมณกุเล จ, อุฬารวณฺณตา ตีสุ. เวสฺโสปิ หิ อุฬารวณฺโณ โหติ. อุฬารโภคตา จตูสุปิ. สุทฺโทปิ หิ อนฺตมโส จณฺฑาโลปิ อุฬารโภโค โหติเยว.

๔๔๐. ภิกฺขาจริยนฺติ โกฏิธเนนปิ หิ พฺราหฺมเณน ภิกฺขา จริตพฺพาว, โปราณกพฺราหฺมณา อสีติโกฏิธนาปิ เอกเวลํ ภิกฺขํ จรนฺติ. กสฺมา? ทุคฺคตกาเล จรนฺตานํ อิทานิ ภิกฺขํ จริตุํ อารทฺธาติ ครหา น ภวิสฺสตีติ. อติมฺมาโนติ โย ภิกฺขาจริยวํสํ หริตฺวา สตฺตชีวกสิกมฺมวณิชฺชาทีหิ ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ อติมฺติ นาม. โคโป วาติ ยถา โคปโก อตฺตนา รกฺขิตพฺพํ ภณฺฑํ เถเนนฺโต อกิจฺจการี โหติ, เอวนฺติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสิตพฺยาภงฺคินฺติ ติณลายนอสิตฺเจว กาชฺจ. อนุสฺสรโตติ ยตฺถ ชาโต, ตสฺมึ โปราเณ มาตาเปตฺติเก กุลวํเส อนุสฺสริยมาเนติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

เอสุการีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนา

๔๔๕. เอวํ เม สุตนฺติ ธนฺชานิสุตฺตํ. ตตฺถ ทกฺขิณาคิริสฺมินฺติ คิรีติ ปพฺพโต, ราชคหํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปพฺพตสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ชนปทสฺเสตํ นามํ. ตณฺฑุลปาลิทฺวารายาติ ราชคหสฺส กิร ทฺวตฺตึสมหาทฺวารานิ จตุสฏฺิขุทฺทกทฺวารานิ, เตสุ เอกํ ตณฺฑุลปาลิทฺวารํ นาม, ตํ สนฺธาเยวมาห. ราชานํ นิสฺสายาติ ‘‘คจฺฉ มนุสฺเส อปีเฬตฺวา สสฺสภาคํ คณฺหาหี’’ติ รฺา เปสิโต คนฺตฺวา สพฺพเมว สสฺสํ คณฺหาติ, ‘‘มา โน, ภนฺเต, นาเสหี’’ติ จ วุตฺเต – ‘‘ราชกุเล วุตฺตํ มนฺทํ, อหํ รฺา อาคมนกาเลเยว เอวํ อาณตฺโต, มา กนฺทิตฺถา’’ติ เอวํ ราชานํ นิสฺสาย พฺราหฺมณคหปติเก วิลุมฺปติ. ธฺํ เยภุยฺเยน อตฺตโน ฆรํ ปเวเสตฺวา อปฺปกํ ราชกุเล ปเวเสติ. กึ พฺราหฺมณคหปติกานํ น ปีฬํ อกาสีติ จ วุตฺโต – ‘‘อาม, มหาราช, อิมสฺมึ วาเร เขตฺตานิ มนฺทสสฺสานิ อเหสุํ, ตสฺมา อปีเฬนฺตสฺส เม คณฺหโต น พหุํ ชาต’’นฺติ เอวํ พฺราหฺมณคหปติเก นิสฺสาย ราชานํ วิลุมฺปติ.

๔๔๖. ปโย ปียตนฺติ ตรุณขีรํ ปิวตุ. ตาว ภตฺตสฺสาติ ยาว ขีรํ ปิวิตฺวา นิสีทิสฺสถ, ตาวเทว ภตฺตสฺส กาโล ภวิสฺสติ. อิเธว หิ โน ปาตราสภตฺตํ อาหริสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ. มาตาปิตโรติอาทีสุ มหลฺลกา มาตาปิตโร มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณานิ สุขุมานิ วตฺถานิ มธุรโภชนํ สุคนฺธคนฺธมาลาทีนิ จ ปริเยสิตฺวา โปเสตพฺพา. ปุตฺตธีตานํ นามกรณมงฺคลาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรนฺเตน ปุตฺตทาโร โปเสตพฺโพ. เอวฺหิ อกริยมาเน ครหา อุปฺปชฺชตีติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๔๔๗. อธมฺมจารีติ ปฺจ ทุสฺสีลฺยกมฺมานิ วา ทส ทุสฺสีลฺยกมฺมานิ วา อิธ อธมฺโม นาม. อุปกฑฺเฒยฺยุนฺติ ปฺจวิธพนฺธนาทิกมฺมกรณตฺถํ ตํ ตํ นิรยํ กฑฺเฒยฺยุํ.

๔๔๘. ธมฺมจารีติ ธมฺมิกสิววิชฺชาทิกมฺมการี. ปฏิกฺกมนฺตีติ โอสรนฺติ ปริหายนฺติ. อภิกฺกมนฺตีติ อภิสรนฺติ วฑฺฒนฺติ. เสยฺโยติ วรตรํ. หีเนติ นิหีเน ลามเก. กาลงฺกโต จ สาริปุตฺตาติ อิทํ ภควา ‘‘ตตฺรสฺส คนฺตฺวา เทเสหี’’ติ อธิปฺปาเยน เถรมาห. เถโรปิ ตํขณํเยว คนฺตฺวา มหาพฺรหฺมุโน ธมฺมํ เทเสสิ, ตโต ปฏฺาย จาตุปฺปทิกํ คาถํ กเถนฺโตปิ จตุสจฺจวิมุตฺตํ นาม น กเถสีติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

ธนฺชานิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา

๔๕๔. เอวํ เม สุตนฺติ วาเสฏฺสุตฺตํ. ตตฺถ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑติ อิจฺฉานงฺคลคามสฺส อวิทูเร วนสณฺเฑ. จงฺกีติ อาทโย ปฺจปิ ชนา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปุโรหิตา เอว. อฺเ จ อภิฺาตาติ อฺเ จ พหู อภิฺาตา พฺราหฺมณา. เต กิร ฉฏฺเ ฉฏฺเ มาเส ทฺวีสุ าเนสุ สนฺนิปตนฺติ. ยทา ชาตึ โสเธตุกามา โหนฺติ, ตทา โปกฺขรสาติสฺส สนฺติเก ชาติโสธนตฺถํ อุกฺกฏฺาย สนฺนิปตนฺติ. ยทา มนฺเต โสเธตุกามา โหนฺติ, ตทา อิจฺฉานงฺคเล สนฺนิปตนฺติ. อิมสฺมึ กาเล มนฺตโสธนตฺถํ สนฺนิปตึสุ. อยมนฺตรา กถาติ ยํ อตฺตโน สหายกภาวานุรูปํ กถํ กเถนฺตา อนุวิจรึสุ, ตสฺสา กถาย อนฺตรา อยมฺา กถา อุทปาทิ. สีลวาติ คุณวา. วตฺตสมฺปนฺโนติ อาจารสมฺปนฺโน.

๔๕๕. อนุฺาตปฏิฺาตาติ สิกฺขิตา ตุมฺเหติ เอวํ อาจริเยหิ อนุฺาตา, อาม อาจริย สิกฺขิตมฺหาติ เอวํ สยฺจ ปฏิฺาตา. อสฺมาติ ภวาม. อหํ โปกฺขรสาติสฺส, ตารุกฺขสฺสายํ มาณโวติ อหํ โปกฺขรสาติสฺส เชฏฺนฺเตวาสี อคฺคสิสฺโส, อยํ ตารุกฺขสฺสาติ ทีเปติ.

เตวิชฺชานนฺติ ติเวทานํ พฺราหฺมณานํ. ยทกฺขาตนฺติ ยํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ เอกํ ปทมฺปิ อกฺขาตํ. ตตฺร เกวลิโนสฺมเสติ ตํ สกลํ ชานนโต ตตฺถ นิฏฺาคตมฺหาติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ เกวลิภาวํ อาวิกโรนฺโต ปทกสฺมาติอาทิมาห. ตตฺถ ชปฺเป อาจริยสาทิสาติ กถนฏฺาเน มยํ อาจริยสทิสาเยว.

กมฺมุนาติ ทสกุสลกมฺมปถกมฺมุนา. อยฺหิ ปุพฺเพ สตฺตวิธํ กายวจีกมฺมํ สนฺธาย ‘‘ยโต โข, โภ, สีลวา โหตี’’ติ อาห, ติวิธํ มโนกมฺมํ สนฺธาย ‘‘วตฺตสมฺปนฺโน’’ติ. เตน สมนฺนาคโต หิ อาจารสมฺปนฺโน โหติ. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมนฺตภาเวน ภควนฺตํ อาลปติ.

ขยาตีตนฺติ อูนภาวํ อตีตํ, ปริปุณฺณนฺติ อตฺโถ. เปจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. นมสฺสนฺตีติ นโม กโรนฺติ.

จกฺขุํ โลเก สมุปฺปนฺนนฺติ อวิชฺชนฺธกาเร โลเก ตํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถทสฺสเนน จกฺขุ หุตฺวา สมุปฺปนฺนํ.

๔๕๖. เอวํ วาเสฏฺเน โถเมตฺวา ยาจิโต ภควา ทฺเวปิ ชเน สงฺคณฺหนฺโต เตสํ โว อหํ พฺยกฺขิสฺสนฺติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยกฺขิสฺสนฺติ พฺยากริสฺสามิ. อนุปุพฺพนฺติ ติฏฺตุ ตาว พฺราหฺมณจินฺตา, ติณรุกฺขกีฏปฏงฺคโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิสฺสามีติ อตฺโถ. ชาติวิภงฺคนฺติ ชาติวิตฺถารํ. อฺมฺา หิ ชาติโยติ เตสํ เตสฺหิ ปาณานํ ชาติโย อฺมฺา นานปฺปการาติ อตฺโถ.

ติณรุกฺเขติ อนุปาทินฺนกชาตึ กตฺวา ปจฺฉา อุปาทินฺนกชาตึ กเถสฺสามิ, เอวํ ตสฺส ชาติเภโท ปากโฏ ภวิสฺสตีติ อิมํ เทสนํ อารภิ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘กึ, ภนฺเต, อนุปาทินฺนกํ พีชนานตาย นานํ, อุปาทินฺนํ กมฺมนานตายาติ? เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉิโต อาม น วฏฺฏติ. กมฺมฺหิ โยนิยํ ขิปติ. โยนิสิทฺธา อิเม สตฺตา นานาวณฺณา โหนฺตีติ. ติณรุกฺเขติ เอตฺถ อนฺโตเผคฺคู พหิสารา อนฺตมโส ตาลนาฬิเกราทโยปิ ติณาเนว, อนฺโตสารา ปน พหิเผคฺคู สพฺเพ รุกฺขา นาม. น จาปิ ปฏิชานเรติ มยํ ติณา มยํ รุกฺขาติ วา, อหํ ติณํ, อหํ รุกฺโขติ วา เอวํ น ชานนฺติ. ลิงฺคํ ชาติมยนฺติ อชานนฺตานมฺปิ จ เตสํ ชาติมยเมว สณฺานํ อตฺตโน มูลภูตติณาทิสทิสเมว โหติ. กึ การณา? อฺมฺา หิ ชาติโย. ยสฺมา อฺา ติณชาติ, อฺา รุกฺขชาติ. ติเณสุปิ อฺา ตาลชาติ, อฺา นาฬิเกรชาติ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ยํ ชาติวเสน นานา โหติ, ตํ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินาปิ อฺชาติโต วิเสเสน คยฺหติ. ยทิ จ ชาติยา พฺราหฺมโณ ภเวยฺย, โสปิ อตฺตโน ปฏิฺํ ปเรสํ วา อุปเทสํ วินา ขตฺติยโต เวสฺสโต สุทฺทโต วา วิเสเสน คยฺเหยฺย, น จ คยฺหติ. ตสฺมา น ชาติยา พฺราหฺมโณติ. ปรโต ปน ‘‘ยถา เอตาสุ ชาตีสู’’ติ คาถาย เอตมตฺถํ วจีเภเทเนว อาวิกริสฺสติ.

เอวํ อนุปาทินฺนเกสุ ชาตึ ทสฺเสตฺวา อุปาทินฺนเกสุ ทสฺเสนฺโต ตโต กีเฏติอาทิมาห. ยาว กุนฺถกิปิลฺลิเกติ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ปริยนฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เย อุปฺปติตฺวา คจฺฉนฺติ, เต ปฏงฺคา นาม. อฺมฺา หิ ชาติโยติ เตสมฺปิ นีลรตฺตาทิวณฺณวเสน ชาติโย นานปฺปการาว โหนฺติ.

ขุทฺทเกติ กาฬกาทโย. มหลฺลเกติ สสพิฬาราทโย.

ปาทูทเรติ อุทรปาเท, อุทรํเยว เนสํ ปาทาติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆปิฏฺิเกติ สปฺปานฺหิ สีสโต ยาว นงฺคุฏฺา ปิฏฺิเยว โหติ, เตน เต ‘‘ทีฆปิฏฺิกา’’ติ วุจฺจนฺติ.

อุทเกติ โอทเก, อุทกมฺหิ ชาเต.

ปกฺขีติ สกุเณ. เต หิ ปตฺเตหิ ยนฺตีติ ปตฺตยานา, เวหาสํ คจฺฉนฺตีติ วิหงฺคมา.

เอวํ ถลชลากาสโคจรานํ ปาณานํ ชาติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยนาธิปฺปาเยน ตํ ทสฺเสติ, ตํ อาวิกโรนฺโต ยถา เอตาสูติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ สงฺเขเปน วุตฺโตว. วิตฺถารโต ปเนตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สยเมว ทสฺเสนฺโต น เกเสหีติอาทิมาห. ตตฺรายํ โยชนา – ยํ วุตฺตํ ‘‘นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคชาติมยํ ปุถู’’ติ, ตํ เอวํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. เสยฺยถิทํ? น เกเสหีติ. น หิ – ‘‘พฺราหฺมณานํ เอทิสา เกสา โหนฺติ, ขตฺติยานํ เอทิสา’’ติ นิยโม อตฺถิ ยถา หตฺถิอสฺสมิคาทีนนฺติ อิมินา นเยน สพฺพํ โยเชตพฺพํ.

ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสูติ อิทํ ปน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺสายํ โยชนา – เอวํ ยสฺมา อิเมหิ เกสาทีหิ นตฺถิ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ ปุถุ, ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ‘‘พฺราหฺมณาทิเภเทสุ มนุสฺเสสุ ลิงฺคํ ชาติมยํ เนว, ยถา อฺาสุ ชาติสู’’ติ.

๔๕๗. อิทานิ เอวํ ชาติเภเท อสติปิ ‘‘พฺราหฺมโณ ขตฺติโย’’ติ อิทํ นานตฺตํ ยถา ชาตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ปจฺจตฺตนฺติ คาถมาห. ตตฺถ โวการนฺติ นานตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา หิ ติรจฺฉานานํ โยนิสิทฺธเมว เกสาทิสณฺาเนน นานตฺตํ, ตถา พฺราหฺมณาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน สรีเร ตํ นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยเทตํ ‘‘พฺราหฺมโณ ขตฺติโย’’ติ โวการํ, ตํ โวการฺจ มนุสฺเสสุ สมฺาย ปวุจฺจติ, โวหารมตฺเตเนว ปวุจฺจตีติ.

เอตฺตาวตา ภควา ภารทฺวาชสฺส วาทํ นิคฺคณฺหิตฺวา อิทานิ ยทิ ชาติยา พฺราหฺมโณ ภเวยฺย, อาชีวสีลาจารวิปนฺโนปิ พฺราหฺมโณ ภเวยฺย. ยสฺมา ปน โปราณา พฺราหฺมณา ตสฺส พฺราหฺมณภาวํ น อิจฺฉนฺติ, โลเก จ อฺเปิ ปณฺฑิตมนุสฺสา, ตสฺมา วาเสฏฺสฺส วาทํ ปคฺคณฺหนฺโต โย หิ โกจิ มนุสฺเสสูติ อฏฺ คาถา อาห. ตตฺถ โครกฺขนฺติ เขตฺตรกฺขํ, กสิกมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติ. โคติ หิ ปถวิยา นามํ, ตสฺมา เอวมาห. ปุถุสิปฺเปนาติ ตนฺตวายกมฺมาทินานาสิปฺเปน. โวหารนฺติ วณิชฺชํ. ปรเปสฺเสนาติ ปเรสํ เวยฺยาวจฺจกมฺเมน. อิสฺสตฺถนฺติ อาวุธชีวิกํ, อุสุฺจ สตฺตึ จาติ วุตฺตํ โหติ. โปโรหิจฺเจนาติ ปุโรหิตกมฺเมน.

เอวํ พฺราหฺมณสมเยน จ โลกโวหาเรน จ อาชีวสีลาจารวิปนฺนสฺส อพฺราหฺมณภาวํ สาเธตฺวา เอวํ สนฺเต น ชาติยา พฺราหฺมโณ, คุเณหิ ปน พฺราหฺมโณ โหติ. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโต โย คุณวา, โส พฺราหฺมโณ, อยเมตฺถ าโยติ เอวเมตํ ายํ อตฺถโต อาปาเทตฺวา อิทานิ นํ วจีเภเทน ปกาเสนฺโต น จาหํ พฺราหฺมณนฺติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – อหฺหิ ยฺวายํ จตุนฺนํ โยนีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ชาโต, ตตฺราปิ วิเสเสน โย พฺราหฺมณสฺส สํวณฺณิตาย มาตริ สมฺภูโต, ตํ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ, ยา จายํ อุภโต สุชาโตติอาทินา นเยน พฺราหฺมเณหิ พฺราหฺมณสฺส ปริสุทฺธอุปฺปตฺติมคฺคสงฺขาตา โยนิ วุตฺตา, สํสุทฺธคหณิโกติ อิมินา จ มาติสมฺปตฺติ, ตโตปิ ชาตสมฺภูตตฺตา โยนิโช มตฺติสมฺภโวติ วุจฺจติ, ตํ โยนิชํ มตฺติสมฺภวํ อิมินา จ โยนิชมตฺติสมฺภวมตฺเตน น พฺราหฺมณํ พฺรูมิ. กสฺมา? ยสฺมา, โภ โภติ, วจนมตฺเตน อฺเหิ สกิฺจเนหิ วิสิฏฺตฺตา โภวาทิ นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน สปลิโพโธ. โย ปนายํ ยตฺถ กตฺถจิ ชาโตปิ ราคาทิกิฺจนาภาเวน อกิฺจโน, สพฺพคหณปฏินิสฺสคฺเคน อนาทาโน, อกิฺจนํ อนาทานํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ. กสฺมา? ยสฺมา พาหิตปาโปติ.

๔๕๘. กิฺจภิยฺโย สพฺพสํโยชนํ เฉตฺวาติอาทิ สตฺตวีสติ คาถา. ตตฺถ สพฺพสํโยชนนฺติ ทสวิธสํโยชนํ. น ปริตสฺสตีติ ตณฺหาปริตสฺสนาย น ปริตสฺสติ. สงฺคาติคนฺติ ราคสงฺคาทโย อติกฺกนฺตํ. วิสํยุตฺตนฺติ จตูหิ โยนีหิ สพฺพกิเลเสหิ วา วิสํยุตฺตํ.

นทฺธินฺติ อุปนาหํ. วรตฺตนฺติ ตณฺหํ. สนฺทานนฺติ ยุตฺตปาสํ, ทิฏฺิปริยุฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. สหนุกฺกมนฺติ อนุกฺกโม วุจฺจติ ปาเส ปเวสนคณฺิ, ทิฏฺานุสยสฺเสตํ นามํ. อุกฺขิตฺตปลิฆนฺติ เอตฺถ ปลิโฆติ อวิชฺชา. พุทฺธนฺติ จตุสจฺจพุทฺธํ. ติติกฺขตีติ ขมติ.

ขนฺติพลนฺติ อธิวาสนขนฺติพลํ. สา ปน สกึ อุปฺปนฺนา พลานีกํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปนฺนา ปน โหติ. ตสฺสา อตฺถิตาย พลานีกํ.

วตวนฺตนฺติ ธุตงฺควนฺตํ. สีลวนฺตนฺติ คุณวนฺตํ. อนุสฺสทนฺติ ราคาทิอุสฺสทวิรหิตํ. ‘‘อนุสฺสุต’’นฺติปิ ปาโ, อนวสฺสุตนฺติ อตฺโถ. ทนฺตนฺติ นิพฺพิเสวนํ.

น ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ. กาเมสูติ กิเลสกามวตฺถุกาเมสุ.

ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยนฺติ เอตฺถ อรหตฺตผลํ ทุกฺขกฺขโยติ อธิปฺเปตํ. ปชานาตีติ อธิคมวเสน ชานาติ. ปนฺนภารนฺติ โอหิตภารํ, ขนฺธกิเลสอภิสงฺขารกามคุณภาเร โอตาเรตฺวา ิตํ. วิสํยุตฺตปทํ วุตฺตตฺถเมว.

คมฺภีรปฺนฺติ คมฺภีเรสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตปฺํ. เมธาวินฺติ ปกติปฺาย ปฺวนฺตํ.

อนาคาเรหิ จูภยนฺติ อนาคาเรหิ จ วิสํสฏฺํ อุภยฺจ, ทฺวีหิปิ เจเตหิ วิสํสฏฺเมวาติ อตฺโถ. อโนกสารินฺติ โอกํ วุจฺจติ ปฺจกามคุณาลโย, ตํ อนลฺลียมานนฺติ อตฺโถ. อปฺปิจฺฉนฺติ อนิจฺฉํ.

ตเสสูติ สตณฺเหสุ. ถาวเรสูติ นิตฺตณฺเหสุ.

อตฺตทณฺเฑสูติ คหิตทณฺเฑสุ. นิพฺพุตนฺติ กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตํ. สาทาเนสูติ สอุปาทาเนสุ.

โอหิโตติ ปติโต.

๔๕๙. อกกฺกสนฺติ นิทฺโทสํ. สโทโส หิ รุกฺโขปิ สกกฺกโสติ วุจฺจติ. วิฺาปนินฺติ อตฺถวิฺาปนิกํ. สจฺจนฺติ อวิสํวาทิกํ. อุทีรเยติ ภณติ. ยาย นาภิสชฺเชติ ยาย คิราย ปรสฺส สชฺชนํ วา ลคฺคนํ วา น กโรติ, ตาทิสํ อผรุสํ คิรํ ภาสตีติ อตฺโถ.

ทีฆนฺติ สุตฺตารุฬฺหภณฺฑํ. รสฺสนฺติ วิปฺปกิณฺณภณฺฑํ. อณุนฺติ ขุทฺทกํ. ถูลนฺติ มหนฺตํ. สุภาสุภนฺติ สุนฺทราสุนฺทรํ. ทีฆภณฺฑฺหิ อปฺปคฺฆมฺปิ โหติ มหคฺฆมฺปิ. รสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ เอตฺตาวตา น สพฺพํ ปริยาทิณฺณํ, ‘‘สุภาสุภ’’นฺติ อิมินา ปน ปริยาทิณฺณํ โหติ.

นิราสยนฺติ นิตฺตณฺหํ.

อาลยาติ ตณฺหาลยา. อฺายาติ ชานิตฺวา. อมโตคธนฺติ อมตพฺภนฺตรํ. อนุปฺปตฺตนฺติ อนุปวิฏฺํ.

อุโภ สงฺคนฺติ อุภยมฺเปตํ สงฺคํ. ปุฺฺหิ สคฺเค ลคฺคาเปติ, อปุฺํ อปาเย, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ สงฺคนฺติ อาห. อุปจฺจคาติ อตีโต.

อนาวิลนฺติ อาวิลกรณกิเลสวิรหิตํ. นนฺทีภวปริกฺขีณนฺติ ปริกฺขีณนนฺทึ ปริกฺขีณภวํ.

‘‘โย อิม’’นฺติ คาถาย อวิชฺชาเยว วิสํวาทกฏฺเน ปลิปโถ, มหาวิทุคฺคตาย ทุคฺคํ, สํสรณฏฺเน สํสาโร, โมหนฏฺเน โมโหติ วุตฺโต. ติณฺโณติ จตุโรฆติณฺโณ. ปารงฺคโตติ นิพฺพานํ คโต. ฌายีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ฌายี. อเนโชติ นิตฺตณฺโห. อนุปาทาย นิพฺพุโตติ กิฺจิ คหณํ อคฺคเหตฺวา สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุโต.

กาเมติ ทุวิเธปิ กาเม. อนาคาโรติ อนาคาโร หุตฺวา. ปริพฺพเชติ ปริพฺพชติ. กามภวปริกฺขีณนฺติ ขีณกามํ ขีณภวํ.

มานุสกํ โยคนฺติ มานุสกํ ปฺจกามคุณโยคํ. ทิพฺพํ โยคนฺติ ทิพฺพํ ปฺจกามคุณโยคํ. สพฺพโยควิสํยุตฺตนฺติ สพฺพกิเลสโยควิสํยุตฺตํ.

รตินฺติ ปฺจกามคุณรตึ. อรตินฺติ กุสลภาวนาย อุกฺกณฺิตํ. วีรนฺติ วีริยวนฺตํ.

สุคตนฺติ สุนฺทรํ านํ คตํ, สุนฺทราย วา ปฏิปตฺติยา คตํ.

คตินฺติ นิพฺพตฺตึ. ปุเรติ อตีเต. ปจฺฉาติ อนาคเต. มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺเน. กิฺจนนฺติ กิฺจนการโก กิเลโส.

มเหสินฺติ มหนฺเต คุเณ ปริเยสนฏฺเน มเหสึ. วิชิตาวินนฺติ วิชิตวิชยํ.

๔๖๐. เอวํ ภควา คุณโต ขีณาสวํเยว พฺราหฺมณํ ทสฺเสตฺวา เย ชาติโต พฺราหฺมโณติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ อชานนฺตา, สาว เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺีติ ทสฺเสนฺโต สมฺา เหสาติ คาถาทฺวยมาห. ตสฺสตฺโถ – ยทิทํ พฺราหฺมโณ ขตฺติโย ภารทฺวาโช วาเสฏฺโติ นามโคตฺตํ ปกปฺปิตํ กตํ อภิสงฺขตํ, สมฺา เหสา โลกสฺมึ, โวหารมตฺตนฺติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา สมุจฺจา สมุทาคตํ สมฺาย อาคตํ. เอตฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ชาตกาเลเยวสฺส าติสาโลหิเตหิ ปกปฺปิตํ กตํ. โน เจ นํ เอวํ ปกปฺเปยฺยุํ, น โกจิ กิฺจิ ทิสฺวา อยํ พฺราหฺมโณติ วา ภารทฺวาโชติ วา ชาเนยฺย. เอวํ ปกปฺปิตํ เปตํ ทีฆรตฺตานุสยิตํ, ทิฏฺิคตมชานตํ, ตํ ปกปฺปิตํ นามโคตฺตํ ‘‘นามโคตฺตมตฺตเมตํ, โวหารตฺถํ ปกปฺปิต’’นฺติ, อชานนฺตานํ สตฺตานํ หทเย ทีฆรตฺตํ ทิฏฺิคตมนุสยิตํ. ตสฺส อนุสยิตตฺตา ตํ นามโคตฺตํ อชานนฺตา โน ปพฺรุนฺติ, ‘‘ชาติยา โหติ พฺราหฺมโณ’’ติ อชานนฺตาว เอวํ วทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ ‘‘เย ‘ชาติโต พฺราหฺมโณ’ติ อภินิเวสํ กโรนฺติ, เต อิทํ โวหารมตฺตํ อชานนฺตา, สาว เนสํ ทิฏฺิ ทุทฺทิฏฺี’’ติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิปฺปริยายเมว ชาติวาทํ ปฏิกฺขิปนฺโต กมฺมวาทฺจ ปติฏฺเปนฺโต น ชจฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘กมฺมุนา’’ติ อุปฑฺฒคาถาย วิตฺถารณตฺถํ กสฺสโก กมฺมุนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมุนาติ ปจฺจุปฺปนฺเนน กสิกมฺมาทินิพฺพตฺตกเจตนากมฺมุนา.

ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาติ อิมินา ปจฺจเยน เอวํ โหตีติ เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสาวิโน. กมฺมวิปากโกวิทาติ สมฺมานาวมานารหกุเล กมฺมวเสน อุปฺปตฺติ โหติ, อฺาปิ หีนปณีตตา หีนปณีเต กมฺเม วิปจฺจมาเน โหตีติ. เอวํ กมฺมวิปากกุสลา.

กมฺมุนา วตฺตตีติ คาถาย ปน โลโกติ วา ปชาติ วา สตฺโตติ วา เอโกเยวตฺโถ, วจนมตฺตเภโท. ปุริมปเทน เจตฺถ ‘‘อตฺถิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา เสฏฺโ สชิตา’’ติ ทิฏฺิยา ปฏิเสโธ เวทิตพฺโพ. กมฺมุนา หิ ตาสุ ตาสุ คตีสุ วตฺตติ โลโก, ตสฺส โก สชิตาติ. ทุติยปเทน ‘‘เอวํ กมฺมุนา นิพฺพตฺโตปิ จ ปวตฺเตปิ อตีตปจฺจุปฺปนฺนเภเทน กมฺมุนา วตฺตติ, สุขทุกฺขานิ ปจฺจนุโภนฺโต หีนปณีตาทิเภทฺจ อาปชฺชนฺโต ปวตฺตตี’’ติ ทสฺเสติ. ตติเยน ตเมวตฺถํ นิคเมติ ‘‘เอวํ สพฺพถาปิ กมฺมนิพนฺธนา สตฺตา กมฺเมเนว พทฺธา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, น อฺถา’’ติ. จตุตฺเถน ตเมตฺถํ อุปมาย วิภาเวติ. ยถา หิ รถสฺส ยายโต อาณิ นิพนฺธนํ โหติ, น ตาย อนิพทฺโธ ยาติ, เอวํ โลกสฺส นิพฺพตฺตโต จ ปวตฺตโต จ กมฺมํ นิพนฺธนํ, น เตน อนิพทฺโธ นิพฺพตฺตติ น ปวตฺตติ.

อิทานิ ยสฺมา เอวํ กมฺมนิพนฺธโน โลโก, ตสฺมา เสฏฺเน กมฺมุนา เสฏฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ตเปนาติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ตเปนาติ ธุตงฺคตเปน. พฺรหฺมจริเยนาติ เมถุนวิรติยา. สํยเมนาติ สีเลน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน. เอเตนาติ เอเตน เสฏฺเน ปริสุทฺเธน พฺรหฺมภูเตน กมฺมุนา พฺราหฺมโณ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตมํ, ยสฺมา เอตํ กมฺมํ อุตฺตโม พฺราหฺมณคุโณติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘พฺรหฺมาน’’นฺติปิ ปาโ. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – พฺรหฺมํ อาเนตีติ พฺรหฺมานํ, พฺราหฺมณภาวํ อาวหตีติ วุตฺตํ โหติ.

ทุติยคาถาย สนฺโตติ สนฺตกิเลโส. พฺรหฺมา สกฺโกติ พฺรหฺมา จ สกฺโก จ, โย เอวรูโป, โส น เกวลํ พฺราหฺมโณ, อถ โข พฺรหฺมา จ สกฺโก จ โส วิชานตํ ปณฺฑิตานํ, เอวํ วาเสฏฺ, ชานาหีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

วาเสฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สุภสุตฺตวณฺณนา

๔๖๒. เอวํ เม สุตนฺติ สุภสุตฺตํ. ตตฺถ โตเทยฺยปุตฺโตติ ตุทิคามวาสิโน โตเทยฺยพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. อาราธโก โหตีติ สมฺปาทโก โหติ ปริปูรโก. ายํ ธมฺมนฺติ การณธมฺมํ. กุสลนฺติ อนวชฺชํ.

๔๖๓. มิจฺฉาปฏิปตฺตินฺติ อนิยฺยานิกํ อกุสลปฏิปทํ. สมฺมาปฏิปตฺตินฺติ นิยฺยานิกํ กุสลปฏิปทํ.

มหฏฺนฺติอาทีสุ มหนฺเตหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา พหูหิ อตฺโถ เอตฺถาติ มหฏฺํ. มหนฺตานิ นามคฺคหณมงฺคลาทีนิ กิจฺจานิ เอตฺถาติ มหากิจฺจํ. อิทํ อชฺช กตฺตพฺพํ, อิทํ สฺเวติ เอวํ มหนฺตานิ อธิการสงฺขาตานิ อธิกรณานิ เอตฺถาติ มหาธิกรณํ. พหูนํ กมฺเม ยุตฺตปฺปยุตฺตตาวเสน ปีฬาสงฺขาโต มหาสมารมฺโภ เอตฺถาติ มหาสมารมฺภํ. ฆราวาสกมฺมฏฺานนฺติ ฆราวาสกมฺมํ. เอวํ สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสิกมฺเม เจตฺถ นงฺคลโกฏึ อาทึ กตฺวา อุปกรณานํ ปริเยสนวเสน มหฏฺตา, วณิชฺชาย ยถาิตํเยว ภณฺฑํ คเหตฺวา ปริวตฺตนวเสน อปฺปฏฺตา เวทิตพฺพา. วิปชฺชมานนฺติ อวุฏฺิอติวุฏฺิอาทีหิ กสิกมฺมํ, มณิสุวณฺณาทีสุ อจฺเฉกตาทีหิ จ วณิชฺชกมฺมํ อปฺปผลํ โหติ, มูลจฺเฉทมฺปิ ปาปุณาติ. วิปริยาเยน สมฺปชฺชมานํ มหปฺผลํ จูฬนฺเตวาสิกสฺส วิย.

๔๖๔. เอวเมว โขติ ยถา กสิกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ, เอวํ ฆราวาสกมฺมฏฺานมฺปิ. อกตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ. มหาทตฺตเสนาปติ นาม กิเรโก พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ, ตสฺส มรณสมเย นิรโย อุปฏฺาสิ. โส พฺราหฺมเณหิ ‘‘กึ ปสฺสสี’’ติ วุตฺโต? โลหิตฆรนฺติ อาห. พฺรหฺมโลโก โภ เอโสติ. พฺรหฺมโลโก นาม โภ กหนฺติ? อุปรีติ. มยฺหํ เหฏฺา อุปฏฺาตีติ. กิฺจาปิ เหฏฺา อุปฏฺาติ, ตถาปิ อุปรีติ กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโต. ‘‘อิมินา อมฺหากํ ยฺเ โทโส ทินฺโน’’ติ สหสฺสํ คเหตฺวา นีหริตุํ อทํสุ. สมฺปชฺชมานํ ปน มหปฺผลํ โหติ. กตกลฺยาโณ หิ กาลํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. สกลาย คุตฺติลวิมานกถาย ทีเปตพฺพํ. ยถา ปน ตํ วณิชฺชกมฺมฏฺานํ วิปชฺชมานํ อปฺปผลํ โหติ, เอวํ สีเลสุ อปริปูรการิโน อเนสนาย ยุตฺตสฺส ปพฺพชฺชากมฺมฏฺานมฺปิ. เอวรูปา หิ เนว ฌานาทิสุขํ น สคฺคโมกฺขํ ลภติ. สมฺปชฺชมานํ ปน มหปฺผลํ โหติ. สีลานิ หิ ปูเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตมฺปิ ปาปุณาติ.

พฺราหฺมณา, โภ โคตโมติ อิธ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? พฺราหฺมณา วทนฺติ – ‘‘ปพฺพชิโต อิเม ปฺจ ธมฺเม ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโว ปูเรตี’’ติ. สมโณ ปน โคตโม – ‘‘คิหิสฺส วา อหํ มาณว ปพฺพชิตสฺส วา’’ติ ปุนปฺปุนํ วทติ, เนว ปพฺพชิตํ มุฺจติ, มยฺหเมว ปุจฺฉํ มฺเ น สลฺลกฺเขตีติ จาคสีเสน ปฺจ ธมฺเม ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. สเจ เต อครูติ สเจ ตุยฺหํ ยถา พฺราหฺมณา ปฺเปนฺติ, ตถา อิธ ภาสิตุํ ภาริยํ น โหติ, ยทิ น โกจิ อผาสุกภาโว โหติ, ภาสสฺสูติ อตฺโถ. น โข เม, โภติ กึ สนฺธายาห? ปณฺฑิตปฏิรูปกานฺหิ สนฺติเก กเถตุํ ทุกฺขํ โหติ, เต ปเท ปเท อกฺขเร อกฺขเร โทสเมว วทนฺติ. เอกนฺตปณฺฑิตา ปน กถํ สุตฺวา สุกถิตํ ปสํสนฺติ, ทุกฺกถิเต ปาฬิปทอตฺถพฺยฺชเนสุ ยํ ยํ วิรุชฺฌติ, ตํ ตํ อุชุํ กตฺวา เทนฺติ. ภควตา จ สทิโส เอกนฺตปณฺฑิโต นาม นตฺถิ, เตนาห ‘‘น โข เม, โภ โคตม, ครุ, ยตฺถสฺสุ ภวนฺโต วา นิสินฺโน ภวนฺตรูโป วา’’ติ. สจฺจนฺติ วจีสจฺจํ. ตปนฺติ ตปจริยํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรตึ. อชฺเฌนนฺติ มนฺตคหณํ. จาคนฺติ อามิสปริจฺจาคํ.

๔๖๖. ปาปิโต ภวิสฺสตีติ. อชานนภาวํ ปาปิโต ภวิสฺสติ. เอตทโวจาติ ภควตา อนฺธเวณูปมาย นิคฺคหิโต ตํ ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺโต ยถา นาม ทุพฺพลสุนโข มิคํ อุฏฺเปตฺวา สามิกสฺส อภิมุขํ กตฺวา สยํ อปสกฺกติ, เอวเมวํ อาจริยํ อปทิสนฺโต เอวํ ‘‘พฺราหฺมโณ’’ติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ โปกฺขรสาตีติ อิทํ ตสฺส นามํ, ‘‘โปกฺขรสายี’’ติปิ วุจฺจติ. ตสฺส กิร กาโย เสตโปกฺขรสทิโส เทวนคเร อุสฺสาปิตรชตโตรณํ วิย โสภติ, สีสํ ปนสฺส กาฬวณฺณอินฺทนีลมยํ วิย, มสฺสุปิ จนฺทมณฺฑเล กาฬเมฆราชิ วิย ขายติ, อกฺขีนิ นีลุปฺปลสทิสานิ, นาสา รชตปนาฬิกา วิย สุวฏฺฏิตา สุปริสุทฺธา, หตฺถปาทตลานิ เจว มุขฺจ กตลาขารสปริกมฺมํ วิย โสภติ. อติวิย โสภคฺคปฺปตฺโต พฺราหฺมณสฺส อตฺตภาโว. อราชเก าเน ราชานํ กาตุํ ยุตฺตมิมํ พฺราหฺมณํ, เอวเมส สสฺสิริโก, อิติ นํ โปกฺขรสทิสตฺตา ‘‘โปกฺขรสาตี’’ติ สฺชานนฺติ, โปกฺขเร ปน โส นิพฺพตฺโต, น มาตุกุจฺฉิยนฺติ อิติ นํ โปกฺขเร สยิตตฺตา ‘‘โปกฺขรสายี’’ติปิ สฺชานนฺติ. โอปมฺโติ อุปมฺโคตฺโต. สุภควนิโกติ อุกฺกฏฺาย สุภควนสฺส อิสฺสโร. หสฺสกํเยวาติ หสิตพฺพกฺเว. นามกํเยวาติ ลามกํเยว. ตเทว ตํ อตฺถาภาเวน ริตฺตกํ. ริตฺตกตฺตา จ ตุจฺฉกํ. อิทานิ นํ ภควา สาจริยกํ นิคฺคณฺหิตุํ กึ ปน มาณวาติอาทิมาห.

๔๖๗. ตตฺถ กตมา เนสํ เสยฺโยติ กตมา วาจา เตสํ เสยฺโย, ปาสํสตโรติ อตฺโถ. สมฺมุจฺจาติ สมฺมุติยา โลกโวหาเรน. มนฺตาติ ตุลยิตฺวา ปริคฺคณฺหิตฺวา. ปฏิสงฺขายาติ ชานิตฺวา. อตฺถสํหิตนฺติ การณนิสฺสิตํ. เอวํ สนฺเตติ โลกโวหารํ อมุฺจิตฺวา ตุลยิตฺวา ชานิตฺวา การณนิสฺสิตํ กตฺวา กถิตาย เสยฺยภาเว สติ. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ นิวาริโต. โอผุโฏติ โอนทฺโธ. ปริโยนทฺโธติ ปลิเวิโต.

๔๖๘. คธิโตติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. สเจ ตํ, โภ โคตม, านนฺติ สเจ เอตํ การณมตฺถิ. สฺวาสฺสาติ ธูมฉาริกาทีนํ อภาเวน โส อสฺส อคฺคิ อจฺจิมา จ วณฺณิมา จ ปภสฺสโร จาติ. ตถูปมาหํ มาณวาติ ตปฺปฏิภาคํ อหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเถว หิ ติณกฏฺุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลมาโน อคฺคิ ธูมฉาริกงฺคารานํ อตฺถิตาย สโทโส โหติ, เอวเมวํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา ปีติ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกาทีนํ อตฺถิตาย สโทสา. ยถา ปน ปริจฺจตฺตติณกฏฺุปาทาโน ธูมาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺโธ, เอวเมวํ โลกุตฺตรชฺฌานทฺวยสมฺปยุตฺตา ปีติ ชาติอาทีนํ อภาเวน ปริสุทฺธาติ อตฺโถ.

๔๖๙. อิทานิ เย เต พฺราหฺมเณหิ จาคสีเสน ปฺจ ธมฺมา ปฺตฺตา, เตปิ ยสฺมา ปฺเจว หุตฺวา น นิจฺจลา ติฏฺนฺติ, อนุกมฺปาชาติเกน สทฺธึ ฉ อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา ตํ โทสํ ทสฺเสตุํ เย เต มาณวาติอาทิมาห. ตตฺถ อนุกมฺปาชาติกนฺติ อนุกมฺปาสภาวํ.

กตฺถ พหุลํ สมนุปสฺสสีติ อิทํ ภควา ยสฺมา – ‘‘เอส อิเม ปฺจ ธมฺเม ปพฺพชิโต ปริปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, คหฏฺโ ปริปูเรตี’’ติ อาห, ตสฺมา – ‘‘ปพฺพชิโตว อิเม ปูเรติ, คหฏฺโ ปูเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ เตเนว มุเขน ภณาเปตุํ ปุจฺฉติ.

น สตตํ สมิตํ สจฺจวาทีติอาทีสุ คหฏฺโ อฺสฺมึ อสติ วฬฺชนกมุสาวาทมฺปิ กโรติเยว, ปพฺพชิตา อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถนฺติ. คหฏฺโ จ อนฺโตเตมาสมตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิโต นิจฺจเมว ตปสฺสี สีลวา ตปนิสฺสิตโก โหติ. คหฏฺโ มาสสฺส อฏฺทิวสมตฺตมฺปิ อุโปสถกมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา ยาวชีวํ พฺรหฺมจาริโน โหนฺติ. คหฏฺโ รตนสุตฺตมงฺคลสุตฺตมตฺตมฺปิ โปตฺถเก ลิขิตฺวา เปติ, ปพฺพชิตา นิจฺจํ สชฺฌายนฺติ. คหฏฺโ สลากภตฺตมฺปิ อขณฺฑํ กตฺวา ทาตุํ น สกฺโกติ, ปพฺพชิตา อฺสฺมึ อสติ กากสุนขาทีนมฺปิ ปิณฺฑํ เทนฺติ, ภณฺฑคฺคาหกทหรสฺสปิ ปตฺเต ปกฺขิปนฺเตวาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จิตฺตสฺสาหเมเตนฺติ อหํ เอเต ปฺจ ธมฺเม เมตฺตจิตฺตสฺส ปริวาเร วทามีติ อตฺโถ.

๔๗๐. ชาตวทฺโธติ ชาโต จ วฑฺฒิโต จ. โย หิ เกวลํ ตตฺถ ชาโตว โหติ, อฺตฺถ วฑฺฒิโต, ตสฺส สมนฺตา คามมคฺคา น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ชาตวทฺโธติ อาห. ชาตวทฺโธปิ หิ โย จิรํ นิกฺขนฺโต, ตสฺส น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ตาวเทว อวสฏนฺติ อาห, ตํขณเมว นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ. ทนฺธายิตตฺตนฺติ ‘‘อยํ นุ โข มคฺโค อยํ น นุ โข’’ติ กงฺขาวเสน จิรายิตตฺตํ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ ยถา สุขุมํ อตฺถชาตํ สหสา ปุจฺฉิตสฺส กสฺสจิ สรีรํ ถทฺธภาวํ คณฺหาติ, เอวํ ถทฺธภาวคหณํ. นตฺเววาติ อิมินา สพฺพฺุตฺาณสฺส อปฺปฏิหตภาวํ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปุริสสฺส มาราวฏฺฏนาทีนํ วเสน สิยา าณสฺส ปฏิฆาโต, เตน โส ทนฺธาเยยฺย วา วิตฺถาเยยฺย วา, สพฺพฺุตฺาณํ ปน อปฺปฏิหตํ, น สกฺกา ตสฺส เกนจิ อนฺตราโย กาตุนฺติ ทีเปติ.

เสยฺยถาปิ มาณว พลวา สงฺขธโมติ เอตฺถ พลวาติ พลสมฺปนฺโน. สงฺขธโมติ สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรนาติ อกิจฺเฉน อทุกฺเขน. ทุพฺพโล หิ สงฺขธมโก สงฺขํ ธมนฺโตปิ น สกฺโกติ จตสฺโส ทิสา สเรน วิฺาเปตุํ, นาสฺส สงฺขสทฺโท สพฺพโส ผริ. พลวโต ปน วิปฺผาริโก โหติ, ตสฺมา พลวาติ อาห. เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ เอตฺถ เมตฺตายาติ วุตฺเต อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ, เจโตวิมุตฺติยาติ วุตฺเต ปน อปฺปนาว วฏฺฏติ. ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ, อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจรํ. เตสุปิ อิธ พฺรหฺมวิหารกมฺมฺเว อธิปฺเปตํ. ตฺหิ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอธิสกอโนธิสก ทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตฺวา กตตฺตา อปฺปมาณกตนฺติ วุจฺจติ. น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฏฺตีติ ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺมึ รูปารูปาวจรกมฺเม น โอหียติ น ติฏฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? กามาวจรกมฺมํ ตสฺส รูปารูปาวจรกมฺมสฺส อนฺตรา ลคฺคิตุํ วา าตุํ วา รูปารูปาวจรกมฺมํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ปติฏฺาตุํ วา น สกฺโกติ, อถ โข รูปารูปาวจรกมฺมเมว กามาวจรํ มโหโฆ วิย ปริตฺตอุทกํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา สยเมว พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๔๗๓. เอวํ เม สุตนฺติ สงฺคารวสุตฺตํ. ตตฺถ จฺจลิกปฺเปติ เอวํนามเก คาเม. อภิปฺปสนฺนาติ อเวจฺจปฺปสาทวเสน ปสนฺนา. สา กิร โสตาปนฺนา อริยสาวิกา ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภริยา. โส พฺราหฺมโณ ปุพฺเพ กาเลน กาลํ พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา เตสํ สกฺการํ กโรติ. อิมํ ปน พฺราหฺมณึ ฆรํ อาเนตฺวา อภิรูปาย มหากุลาย พฺราหฺมณิยา จิตฺตํ โกเปตุํ อสกฺโกนฺโต พฺราหฺมณานํ สกฺการํ กาตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ พฺราหฺมณา ทิฏฺทิฏฺฏฺาเน – ‘‘นยิทานิ ตฺวํ พฺราหฺมณลทฺธิโก, เอกาหมฺปิ พฺราหฺมณานํ สกฺการํ น กโรสี’’ติ นิปฺปีเฬนฺติ. โส ฆรํ อาคนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา – ‘‘สเจ, โภติ เอกทิวสํ มุขํ รกฺขิตุํ สกฺกุเณยฺยาสิ, พฺราหฺมณานํ เอกทิวสํ ภิกฺขํ ทเทยฺย’’นฺติ อาห. ตุยฺหํ เทยฺยธมฺมํ รุจฺจนกฏฺาเน เทหิ, กึ มยฺหํ เอตฺถาติ. โส พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา อปฺโปทกํ ปายาสํ ปจาเปตฺวา ฆรฺจ สุชฺฌาเปตฺวา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา พฺราหฺมเณ นิสีทาเปสิ. พฺราหฺมณี มหาสาฏกํ นิวาเสตฺวา กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ปริวิสนฺตี ทุสฺสกณฺณเก ปกฺขลิตฺวา ‘‘พฺราหฺมเณ ปริวิสามี’’ติ สฺมฺปิ อกตฺวา อาเสวนวเสน สหสา สตฺถารเมว อนุสฺสริตฺวา อุทานํ อุทาเนสิ.

พฺราหฺมณา อุทานํ สุตฺวา ‘‘อุภโตปกฺขิโก เอส สมณสฺส โคตมสฺส สหาโย, นาสฺส เทยฺยธมฺมํ คณฺหิสฺสามา’’ติ กุปิตา โภชนานิ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมึสุ. พฺราหฺมโณ – ‘‘นนุ ปมํเยว ตํ อวจํ ‘อชฺเชกทิวสํ มุขํ รกฺเขยฺยาสี’ติ, เอตฺตกํ เต ขีรฺจ ตณฺฑุลาทีนิ จ นาสิตานี’’ติ อติวิย โกปวสํ อุปคโต – ‘‘เอวเมว ปนายํ วสลี ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณสฺส วณฺณํ ภาสติ, อิทานิ ตฺยาหํ วสลิ ตสฺส สตฺถุโน วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ พฺราหฺมณี ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, คนฺตฺวา วิชานิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘น ขฺวาหํ ตํ, พฺราหฺมณ, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก…เป… วาทํ อาโรเปยฺยา’’ติอาทิมาห. โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา –

‘‘กึสุ เฉตฺวา สุขํ เสติ, กึสุ เฉตฺวา น โสจติ;

กิสฺสสฺสุ เอกธมฺมสฺส, วธํ โรเจสิ โคตมา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) –

ปฺหํ ปุจฺฉิ. สตฺถา อาห –

‘‘โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;

โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ;

วธํ อริยา ปสํสนฺติ, ตฺหิ เฉตฺวา น โสจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) –

ปฺหํ กเถสิ. โส ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. ตสฺเสว กนิฏฺภาตา อกฺโกสกภารทฺวาโช นาม ‘‘ภาตา เม ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อกฺโกสิตฺวา ภควตา วินีโต ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อปโร ตสฺส กนิฏฺโ สุนฺทริกภารทฺวาโช นาม. โสปิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อปโร ตสฺส กนิฏฺโ ปิงฺคลภารทฺวาโช นาม. โส ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ปฺหพฺยากรณปริโยสาเน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. สงฺคารโว มาณโวติ อยํ เตสํ สพฺพกนิฏฺโ ตสฺมึ ทิวเส พฺราหฺมเณหิ สทฺธึ เอกภตฺตคฺเค นิสินฺโน. อวภูตาวาติ อวฑฺฒิภูตา อวมงฺคลภูตาเยว. ปรภูตาวาติ วินาสํ ปตฺตาเยว. วิชฺชมานานนฺติ วิชฺชมาเนสุ. สีลปฺาณนฺติ สีลฺจ าณฺจ น ชานาสิ.

๔๗๔. ทิฏฺธมฺมาภิฺาโวสานปารมิปฺปตฺตาติ ทิฏฺธมฺเม อภิฺาเต อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อภิชานิตฺวา โวสิตโวสานา หุตฺวา ปารมีสงฺขาตํ สพฺพธมฺมานํ ปารภูตํ นิพฺพานํ ปตฺตา มยนฺติ วตฺวา อาทิพฺรหฺมจริยํ ปฏิชานนฺตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา อุปฺปาทกา ชนกาติ เอวํ ปฏิชานนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตกฺกีติ ตกฺกคาหี. วีมํสีติ วีมํสโก, ปฺาจารํ จราเปตฺวา เอวํวาที. เตสาหมสฺมีติ เตสํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อหมสฺมิ อฺตโร.

๔๘๕. อฏฺิตวตนฺติ อฏฺิตตปํ, อสฺส ปธานปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ, ตถา สปฺปุริสปทสฺส. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – โภโต โคตมสฺส อฏฺิตปธานวตํ อโหสิ, สปฺปุริสปธานวตํ อโหสีติ. อตฺถิ เทวาติ ปุฏฺโ สมาโนติ อิทํ มาณโว ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ อชานนฺโตว ปกาเสสี’’ติ สฺาย อาห. เอวํ สนฺเตติ ตุมฺหากํ อชานนภาเว สนฺเต. ตุจฺฉํ มุสา โหตีติ ตุมฺหากํ กถา อผลา นิปฺผลา โหติ. เอวํ มาณโว ภควนฺตํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ นาม. วิฺุนา ปุริเสนาติ ปณฺฑิเตน มนุสฺเสน. ตฺวํ ปน อวิฺุตาย มยา พฺยากตมฺปิ น ชานาสีติ ทีเปติ. อุจฺเจน สมฺมตนฺติ อุจฺเจน สทฺเทน สมฺมตํ ปากฏํ โลกสฺมึ. อธิเทวาติ สุสุทารกาปิ หิ เทวา นาม โหนฺติ, เทวิโย นาม โหนฺติ เทวา ปน อธิเทวา นาม, โลเก เทโว เทวีติ ลทฺธนาเมหิ มนุสฺเสหิ อธิกาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย

สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มชฺฌิมปณฺณาส-อฏฺกถา นิฏฺิตา.