📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มชฺฌิมนิกาเย
อุปริปณฺณาส-อฏฺกถา
๑. เทวทหวคฺโค
๑. เทวทหสุตฺตวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ เทวทหสุตฺตํ. ตตฺถ เทวทหํ นามาติ เทวา วุจฺจนฺติ ราชาโน, ตตฺถ จ สกฺยราชูนํ มงฺคลโปกฺขรณี อโหสิ ปาสาทิกา อารกฺขสมฺปนฺนา, สา เทวานํ ทหตฺตา ‘‘เทวทห’’นฺติ ปฺายิตฺถ. ตทุปาทาย โสปิ นิคโม เทวทหนฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ภควา ตํ นิคมํ นิสฺสาย ลุมฺพินิวเน วิหรติ. สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺเพ กตกมฺมปจฺจยา. อิมินา กมฺมเวทนฺจ กิริยเวทนฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ วิปากเวทนเมว สมฺปฏิจฺฉนฺตีติ ทสฺเสติ. เอวํ วาทิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺาติ อิมินา ปุพฺเพ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ นิยเมตฺวา ทสฺเสติ.
อหุวมฺเหว ¶ มยนฺติ อิทํ ภควา เตสํ อชานนภาวํ ชานนฺโตว เกวลํ กลิสาสนํ อาโรเปตุกาโม ¶ ปุจฺฉติ. เย หิ ‘‘มยํ อหุวมฺหา’’ติปิ น ชานนฺติ, เต กถํ กมฺมสฺส กตภาวํ วา อกตภาวํ วา ชานิสฺสนฺติ. อุตฺตริปุจฺฉายปิ เอเสว นโย.
๒. เอวํ สนฺเตติ จูฬทุกฺขกฺขนฺเธ (ม. นิ. ๑.๑๗๙-๑๘๐) มหานิคณฺสฺส วจเน สจฺเจ สนฺเตติ อตฺโถ, อิธ ปน เอตฺตกสฺส านสฺส ตุมฺหากํ อชานนภาเว สนฺเตติ อตฺโถ. น กลฺลนฺติ น ยุตฺตํ.
๓. คาฬฺหูปเลปเนนาติ ¶ พหลูปเลปเนน, ปุนปฺปุนํ วิสรฺชิเตน, น ปน ขลิยา ลิตฺเตน วิย. เอสนิยาติ เอสนิสลากาย อนฺตมโส นนฺตกวฏฺฏิยาปิ. เอเสยฺยาติ คมฺภีรํ วา อุตฺตานํ วาติ วีมํเสยฺย. อคทงฺคารนฺติ ฌามหรีตกสฺส วา อามลกสฺส วา จุณฺณํ. โอทเหยฺยาติ ปกฺขิเปยฺย. อโรโคติอาทิ มาคณฺฑิยสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๑๓) วุตฺตเมว.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, สลฺเลน วิทฺธสฺส หิ วิทฺธกาเล เวทนาย ปากฏกาโล วิย อิเมสํ ‘‘มยํ ปุพฺเพ อหุวมฺหา วา โน วา, ปาปกมฺมํ อกรมฺหา ¶ วา โน วา, เอวรูปํ วา ปาปํ กรมฺหา’’ติ ชานนกาโล สิยา. วณมุขสฺส ปริกนฺตนาทีสุ จตูสุ กาเลสุ เวทนาย ปากฏกาโล วิย ‘‘เอตฺตกํ วา โน ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตเก วา นิชฺชิณฺเณ สพฺพเมว ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสติ, สุทฺธนฺเต ปติฏฺิตา นาม ภวิสฺสามา’’ติ ชานนกาโล สิยา. อปรภาเค ผาสุภาวชานนกาโล วิย ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ชานนกาโล สิยา. เอวเมตฺถ เอกาย อุปมาย ตโย อตฺถา, จตูหิ อุปมาหิ เอโก อตฺโถ ปริทีปิโต.
๔. อิเม ปน ตโต เอกมฺปิ น ชานนฺติ, วิรชฺฌิตฺวา คเต สลฺเล อวิทฺโธว ‘‘วิทฺโธสิ มยา’’ติ ปจฺจตฺถิกสฺส วจนปฺปมาเณเนว ‘‘วิทฺโธสฺมี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา ทุกฺขปฺปตฺตปุริโส วิย เกวลํ มหานิคณฺสฺส วจนปฺปมาเณน สพฺพเมตํ สทฺทหนฺตา เอวํ สลฺโลปมาย ภควตา นิคฺคหิตา ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺตา ยถา นาม ทุพฺพโล สุนโข มิคํ อุฏฺาเปตฺวา สามิกสฺส อภิมุขํ กริตฺวา อตฺตนา โอสกฺกติ, เอวํ มหานิคณฺสฺส มตฺถเก วาทํ ปกฺขิปนฺตา นิคณฺโ, อาวุโสติอาทีมาหํสุ.
๕. อถ เน ¶ ภควา สาจริยเก นิคฺคณฺหนฺโต ปฺจ โข อิเมติอาทิมาห. ตตฺรายสฺมนฺตานนฺติ ¶ เตสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ อายสฺมนฺตานํ. กา อตีตํเส สตฺถริ สทฺธาติ อตีตํสวาทิมฺหิ สตฺถริ กา สทฺธา. ยา อตีตวาทํ สทฺทหนฺตานํ ตุมฺหากํ มหานิคณฺสฺส สทฺธา, สา กตมา? กึ ¶ ภูตตฺถา อภูตตฺถา, ภูตวิปากา อภูตวิปากาติ ปุจฺฉติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สหธมฺมิกนฺติ สเหตุกํ สการณํ. วาทปฏิหารนฺติ ปจฺจาคมนกวาทํ. เอตฺตาวตา เตสํ ‘‘อปเนถ สทฺธํ, สพฺพทุพฺพลา เอสา’’ติ สทฺธาเฉทกวาทํ นาม ทสฺเสติ.
๖. อวิชฺชา อฺาณาติ อวิชฺชาย อฺาเณน. สมฺโมหาติ สมฺโมเหน. วิปจฺเจถาติ วิปรีตโต สทฺทหถ, วิปลฺลาสคฺคาหํ วา คณฺหถาติ อตฺโถ.
๗. ทิฏฺธมฺมเวทนียนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากทายกํ. อุปกฺกเมนาติ ปโยเคน. ปธาเนนาติ วีริเยน. สมฺปรายเวทนียนฺติ ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว วิปากทายกํ. สุขเวทนียนฺติ อิฏฺารมฺมณวิปากทายกํ กุสลกมฺมํ. วิปรีตํ ทุกฺขเวทนียํ. ปริปกฺกเวทนียนฺติ ปริปกฺเก นิปฺผนฺเน อตฺตภาเว เวทนียํ, ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺเสเวตํ อธิวจนํ. อปริปกฺกเวทนียนฺติ ¶ อปริปกฺเก อตฺตภาเว เวทนียํ, สมฺปรายเวทนียสฺเสเวตํ อธิวจนํ. เอวํ สนฺเตปิ อยเมตฺถ วิเสโส – ยํ ปมวเย กตํ ปมวเย วา มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา วิปากํ เทติ, มชฺฌิมวเย กตํ มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา วิปากํ เทติ, ปจฺฉิมวเย กตํ ตตฺเถว วิปากํ เทติ, ตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ นาม. ยํ ปน สตฺตทิวสพฺภนฺตเร วิปากํ เทติ, ตํ ปริปกฺกเวทนียํ นาม. ตํ กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – ปุณฺโณ นาม กิร ทุคฺคตมนุสฺโส ราชคเห สุมนเสฏฺึ นิสฺสาย วสติ. ตเมนํ เอกทิวสํ นครมฺหิ นกฺขตฺเต สงฺฆุฏฺเ เสฏฺิ อาห – ‘‘สเจ อชฺช กสิสฺสสิ, ทฺเว จ โคเณ นงฺคลฺจ ลภิสฺสสิ. กึ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสสิ, กสิสฺสสี’’ติ. กึ เม นกฺขตฺเตน, กสิสฺสามีติ? เตน หิ เย โคเณ อิจฺฉสิ, เต คเหตฺวา กสาหีติ. โส กสิตุํ คโต. ตํ ทิวสํ สาริปุตฺตตฺเถโร นิโรธา วุฏฺาย ‘‘กสฺส สงฺคหํ กโรมี’’ติ? อาวชฺชนฺโต ปุณฺณํ ทิสฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย ตสฺส กสนฏฺานํ คโต. ปุณฺโณ กสึ เปตฺวา เถรสฺส ทนฺตกฏฺํ ทตฺวา มุโขทกํ ¶ อทาสิ. เถโร สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา กมฺมนฺตสฺส อวิทูเร ¶ นิสีทิ ภตฺตาภิหารํ โอโลเกนฺโต. อถสฺส ภริยํ ภตฺตํ อาหรนฺตึ ทิสฺวา อนฺตรามคฺเคเยว อตฺตานํ ทสฺเสสิ.
สา สามิกสฺส อาหฏภตฺตํ เถรสฺส ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ปุน คนฺตฺวา อฺํ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ทิวา อคมาสิ. ปุณฺโณ เอกวารํ กสิตฺวา นิสีทิ. สาปิ ภตฺตํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตี อาห – ‘‘สามิ ปาโตว เต ภตฺตํ อาหริยิตฺถ, อนฺตรามคฺเค ปน ¶ สาริปุตฺตตฺเถรํ ทิสฺวา ตํ ตสฺส ทตฺวา อฺํ ปจิตฺวา อาหรนฺติยา เม อุสฺสูโร ชาโต, มา กุชฺฌิ สามี’’ติ. ภทฺทกํ เต ภทฺเท กตํ, มยา เถรสฺส ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุโขทกฺจ ทินฺนํ, อมฺหากํเยวาเนน ปิณฺฑปาโตปิ ปริภุตฺโต, อชฺช เถเรน กตสมณธมฺมสฺส มยํ ภาคิโน ชาตาติ จิตฺตํ ปสาเทสิ. เอกวารํ กสิตฏฺานํ สุวณฺณเมว อโหสิ. โส ภฺุชิตฺวา กสิตฏฺานํ โอโลเกนฺโต วิชฺโชตมานํ ทิสฺวา อุฏฺาย ยฏฺิยา ปหริตฺวา รตฺตสุวณฺณภาวํ ชานิตฺวา ‘‘รฺโ อกเถตฺวา ปริภฺุชิตุํ น สกฺกา’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ สพฺพํ สกเฏหิ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสึ กาเรตฺวา ‘‘กสฺสิมสฺมึ นคเร เอตฺตกํ สุวณฺณํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. กสฺสจิ นตฺถีติ จ วุตฺเต เสฏฺิฏฺานมสฺส อทาสิ. โส ปุณฺณเสฏฺิ นาม ชาโต.
อปรมฺปิ วตฺถุ – ตสฺมึเยว ราชคเห กาฬเวฬิโย นาม ทุคฺคโต อตฺถิ. ตสฺส ภริยา ปณฺณมฺพิลยาคุํ ปจิ. มหากสฺสปตฺเถโร นิโรธา วุฏฺาย ‘‘กสฺส สงฺคหํ กโรมี’’ติ อาวชฺชนฺโต ตํ ทิสฺวา คนฺตฺวา เคหทฺวาเร อฏฺาสิ. สา ปตฺตํ คเหตฺวา สพฺพํ ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา เถรสฺส อทาสิ, เถโร วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ อุปนาเมสิ. สตฺถา อตฺตโน ยาปนมตฺตํ คณฺหิ, เสสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ปโหสิ. กาฬวฬิโยปิ ตํ านํ ปตฺโต จูฬกํ ลภิ. มหากสฺสโป สตฺถารํ กาฬวฬิยสฺส วิปากํ ปุจฺฉิ. สตฺถา ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส เสฏฺิจฺฉตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ อาห. กาฬวฬิโย ตํ กถํ สุตฺวา คนฺตฺวา ภริยาย อาโรเจสิ.
ตทา จ ราชา นครํ อนุสฺจรนฺโต พหินคเร ชีวสูเล นิสินฺนํ ¶ ปุริสํ อทฺทส. ปุริโส ราชานํ ทิสฺวา อุจฺจาสทฺทํ อกาสิ ‘‘ตุมฺหากํ เม ¶ ภฺุชนภตฺตํ ปหิณถ เทวา’’ติ. ราชา ‘‘เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา สายมาสภตฺเต อุปนีเต สริตฺวา ‘‘อิมํ หริตุํ สมตฺถํ ชานาถา’’ติ อาห, นคเร สหสฺสภณฺฑิกํ จาเรสุํ. ตติยวาเร กาฬวฬิยสฺส ภริยา อคฺคเหสิ ¶ . อถ นํ รฺโ ทสฺเสสุํ, สา ปุริสเวสํ คเหตฺวา ปฺจาวุธสนฺนทฺธา ภตฺตปาตึ คเหตฺวา นครา นิกฺขมิ. พหินคเร ตาเล อธิวตฺโถ ทีฆตาโล นาม ยกฺโข ตํ รุกฺขมูเลน คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘ติฏฺ ติฏฺ ภกฺโขสิ เม’’ติ อาห. นาหํ ตว ภกฺโข, ราชทูโต อหนฺติ. กตฺถ คจฺฉสีติ. ชีวสูเล นิสินฺนสฺส ปุริสสฺส สนฺติกนฺติ. มมปิ เอกํ สาสนํ หริตุํ สกฺขิสฺสสีติ. อาม สกฺขิสฺสามีติ. ‘‘ทีฆตาลสฺส ภริยา สุมนเทวราชธีตา กาฬี ปุตฺตํ วิชาตา’’ติ อาโรเจยฺยาสิ. อิมสฺมึ ตาลมูเล สตฺต นิธิกุมฺภิโย อตฺถิ, ตา ตฺวํ คณฺเหยฺยาสีติ. สา ‘‘ทีฆตาลสฺส ภริยา สุมนเทวราชธีตา กาฬี ปุตฺตํ วิชาตา’’ติ อุคฺโฆเสนฺตี อคมาสิ.
สุมนเทโว ยกฺขสมาคเม นิสินฺโน สุตฺวา ‘‘เอโก มนุสฺโส อมฺหากํ ปิยปวตฺตึ อาหรติ, ปกฺโกสถ น’’นฺติ สาสนํ สุตฺวา ปสนฺโน ‘‘อิมสฺส รุกฺขสฺส ปริมณฺฑลจฺฉายาย ผรณฏฺาเน นิธิกุมฺภิโย ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ อาห. ชีวสูเล นิสินฺนปุริโส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา มุขปฺุฉนกาเล อิตฺถิผสฺโสติ ตฺวา จูฬาย ฑํสิ, สา อสินา อตฺตโน จูฬํ ¶ ฉินฺทิตฺวา รฺโ สนฺติกํเยว คตา. ราชา ภตฺตโภชิตภาโว กถํ ชานิตพฺโพติ? จูฬสฺายาติ วตฺวา รฺโ อาจิกฺขิตฺวา ตํ ธนํ อาหราเปสิ. ราชา อฺสฺส เอตฺตกํ ธนํ นาม อตฺถีติ. นตฺถิ เทวาติ. ราชา ตสฺสา ปตึ ตสฺมึ นคเร ธนเสฏฺึ อกาสิ. มลฺลิกายปิ เทวิยา วตฺถุ กเถตพฺพํ. อิมานิ ตาว กุสลกมฺเม วตฺถูนิ.
นนฺทมาณวโก ปน อุปฺปลวณฺณาย เถริยา วิปฺปฏิปชฺชิ, ตสฺส มฺจโต อุฏฺาย นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา โอกาสมทาสิ, ตตฺเถว มหานรกํ ปวิฏฺโ. นนฺโทปิ โคฆาตโก ปณฺณาส วสฺสานิ โคฆาตกกมฺมํ กตฺวา เอกทิวสํ โภชนกาเล มํสํ อลภนฺโต เอกสฺส ชีวมานกโคณสฺส ชิวฺหํ ฉินฺทิตฺวา องฺคาเรสุ ปจาเปตฺวา ขาทิตุํ อารทฺโธ. อถสฺส ชิวฺหา มูเล ฉิชฺชิตฺวา ภตฺตปาติยํเยว ปติตา, โส วิรวนฺโต กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติ. นนฺโทปิ ยกฺโข อฺเน ยกฺเขน ¶ สทฺธึ อากาเสน คจฺฉนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรํ นโวโรปิเตหิ เกเสหิ รตฺติภาเค อพฺโภกาเส นิสินฺนํ ทิสฺวา สีเส ปหริตุกาโม อิตรสฺส ยกฺขสฺส อาโรเจตฺวา เตน วาริยมาโนปิ ปหารํ ทตฺวา ฑยฺหามิ ฑยฺหามีติ วิรวนฺโต ตสฺมึเยว าเน ภูมึ ปวิสิตฺวา มหานิรเย นิพฺพตฺโตติ อิมานิ อกุสลกมฺเม วตฺถูนิ.
ยํ ¶ ปน อนฺตมโส มรณสนฺติเกปิ กตํ กมฺมํ ภวนฺตเร วิปากํ เทติ, ตํ สพฺพํ สมฺปรายเวทนียํ ¶ นาม. ตตฺถ โย อปริหีนสฺส ฌานสฺส วิปาโก นิพฺพตฺติสฺสติ, โส อิธ นิพฺพตฺติตวิปาโกติ วุตฺโต. ตสฺส มูลภูตํ กมฺมํ เนว ทิฏฺธมฺมเวทนียํ น สมฺปรายเวทนียนฺติ, น วิจาริตํ, กิฺจาปิ น วิจาริตํ, สมฺปรายเวทนียเมว ปเนตนฺติ เวทิตพฺพํ. โย ปมมคฺคาทีนํ ภวนฺตเร ผลสมาปตฺติวิปาโก, โส อิธ นิพฺพตฺติตคุโณตฺเวว วุตฺโต. กิฺจาปิ เอวํ วุตฺโต, มคฺคกมฺมํ ปน ปริปกฺกเวทนียนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคเจตนาเยว หิ สพฺพลหุํ ผลทายิกา อนนฺตรผลตฺตาติ.
๘. พหุเวทนียนฺติ สฺาภวูปคํ. อปฺปเวทนียนฺติ อสฺาภวูปคํ. สเวทนียนฺติ สวิปากํ กมฺมํ. อเวทนียนฺติ อวิปากํ กมฺมํ. เอวํ สนฺเตติ อิเมสํ ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีนํ กมฺมานํ อุปกฺกเมน สมฺปรายเวทนียาทิ ภาวการณสฺส อลาเภ สติ. อผโลติ นิปฺผโล นิรตฺถโกติ. เอตฺตาวตา อนิยฺยานิกสาสเน ปโยคสฺส อผลตํ ทสฺเสตฺวา ปธานจฺเฉทกวาโท นาม ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ. สหธมฺมิกา วาทานุวาทาติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการณา หุตฺวา นิคณฺานํ วาทา จ อนุวาทา จ. คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺตีติ วิฺูหิ ครหิตพฺพํ การณํ อาคจฺฉนฺติ. ‘‘วาทานุปฺปตฺตา คารยฺหฏฺานา’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ปเรหิ วุตฺเตน การเณน สการณา ¶ นิคณฺานํ วาทํ อนุปฺปตฺตา ตํ วาทํ โสเสนฺตา มิลาเปนฺตา ทุกฺกฏกมฺมการิโนติอาทโย ทส คารยฺหฏฺานา อาคจฺฉนฺติ.
๙. สงฺคติภาวเหตูติ นิยติภาวการณา. ปาปสงฺคติกาติ ปาปนิยติโน. อภิชาติเหตูติ ฉฬภิชาติเหตุ.
๑๐. เอวํ ¶ นิคณฺานํ อุปกฺกมสฺส อผลตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิยฺยานิกสาสเน อุปกฺกมสฺส วีริยสฺส จ สผลตํ ทสฺเสตุํ กถฺจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อนทฺธภูตนฺติ อนธิภูตํ. ทุกฺเขน อนธิภูโต นาม มนุสฺสตฺตภาโว วุจฺจติ, น ตํ อทฺธภาเวติ นาภิภวตีติ อตฺโถ. ตมฺปิ นานปฺปการาย ทุกฺกรการิกาย ปโยเชนฺโต ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ นาม. เย ปน สาสเน ปพฺพชิตฺวา อารฺกา วา โหนฺติ รุกฺขมูลิกาทโย วา, เต ทุกฺเขน น อทฺธภาเวนฺติ นาม. นิยฺยานิกสาสนสฺมิฺหิ วีริยํ สมฺมาวายาโม นาม โหติ.
เถโร ¶ ปนาห – โย อิสฺสรกุเล นิพฺพตฺโต สตฺตวสฺสิโก หุตฺวา อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต ปิตุองฺเก นิสินฺโน ฆเร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน ภิกฺขุสงฺเฆน อนุโมทนาย กริยมานาย ติสฺโส สมฺปตฺติโย ทสฺเสตฺวา สจฺเจสุ ปกาสิเตสุ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, มาตาปิตูหิ วา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ ตาตา’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ¶ นฺหาเปตฺวา อลงฺกริตฺวา วิหารํ นีโต ตจปฺจกํ อุคฺคณฺหิตฺวา นิสินฺโน เกเสสุ โอหาริยมาเนสุ ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, นวปพฺพชิโต วา ปน มโนสิลาเตลมกฺขิเตน สีเสน ปุนทิวเส มาตาปิตูหิ เปสิตํ กาชภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วิหาเร นิสินฺโนว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ น ทุกฺเขน อตฺตานํ อทฺธภาเวติ นาม. อยํ ปน อุกฺกฏฺสกฺกาโร. โย ทาสิกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺโต อนฺตมโส รชตมุทฺทิกมฺปิ ปิฬนฺธิตฺวา โครกปิยงฺคุมตฺเตนาปิ สรีรํ วิลิมฺเปตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ น’’นฺติ นีโต ขุรคฺเค วา ปุนทิวเส วา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ น อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ นาม.
ธมฺมิกํ สุขํ นาม สงฺฆโต วา คณโต วา อุปฺปนฺนํ จตุปจฺจยสุขํ. อนธิมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉนาย อมุจฺฉิโต. ธมฺมิกฺหิ สุขํ น ปริจฺจชามีติ น ตตฺถ เคโธ กาตพฺโพ. สงฺฆโต หิ อุปฺปนฺนํ สลากภตฺตํ วา วสฺสาวาสิกํ วา ‘‘อิทมตฺถํ เอต’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา สงฺฆมชฺเฌ ภิกฺขูนํ อนฺตเร ปริภฺุชนฺโต ปตฺตนฺตเร ปทุมํ วิย สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผเลหิ วฑฺฒติ. อิมสฺสาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ มูลภูตสฺส. ทุกฺขนิทานสฺสาติ ตณฺหาย. สา หิ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขสฺส นิทานํ. สงฺขารํ ปทหโตติ สมฺปโยควีริยํ ¶ กโรนฺตสฺส. วิราโค ¶ โหตีติ มคฺเคน วิราโค โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘สงฺขารปธาเนน เม อิมสฺส ทุกฺขนิทานสฺส วิราโค โหตี’’ติ เอวํ ปชานาตีติ อิมินา สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา กถิตา. ทุติยวาเรน ตสฺส สมฺปโยควีริยสฺส มชฺฌตฺตตากาโร กถิโต. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺสาติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – โส ปุคฺคโล ยสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารปธาเนน วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ, มคฺคปธาเนน ปทหติ. ยสฺส ปน ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาเวนฺตสฺส วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ, มคฺคภาวนาย ภาเวติ. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส.
๑๑. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ ฉนฺทราเคน พทฺธจิตฺโต. ติพฺพจฺฉนฺโทติ พหลจฺฉนฺโท. ติพฺพาเปกฺโขติ ¶ พหลปตฺถโน. สนฺติฏฺนฺตินฺติ เอกโต ติฏฺนฺตึ. สฺชคฺฆนฺตินฺติ มหาหสิตํ หสมานํ. สํหสนฺตินฺติ สิตํ กุรุมานํ.
เอวเมว โข, ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมวิภาวนํ – เอโก หิ ปุริโส เอกิสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ฆาสจฺฉาทนมาลาลงฺการาทีนิ ทตฺวา ฆเร วาเสติ. สา ตํ อติจริตฺวา อฺํ เสวติ. โส ‘‘นูน อหํ อสฺสา อนุรูปํ สกฺการํ น กโรมี’’ติ สกฺการํ วฑฺเฒสิ. สา ภิยฺโยโสมตฺตาย อติจรติเยว. โส – ‘‘อยํ สกฺกริยมานาปิ อติจรเตว, ฆเร เม วสมานา อนตฺถมฺปิ กเรยฺย, นีหรามิ น’’นฺติ ปริสมชฺเฌ อลํวจนียํ กตฺวา ‘‘มา ปุน เคหํ ปาวิสี’’ติ วิสฺสชฺเชสิ. สา เกนจิ ¶ อุปาเยน เตน สทฺธึ สนฺถวํ กาตุํ อสกฺโกนฺตี นฏนจฺจกาทีหิ สทฺธึ วิจรติ. ตสฺส ปุริสสฺส ตํ ทิสฺวา เนว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โสมนสฺสํ ปน อุปฺปชฺชติ.
ตตฺถ ปุริสสฺส อิตฺถิยา สารตฺตกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อตฺตภาเว อาลโย. ฆาสจฺฉาทนาทีนิ ทตฺวา ฆเร วสาปนกาโล วิย อตฺตภาวสฺส ปฏิชคฺคนกาโล. ตสฺสา อติจรณกาโล วิย ชคฺคิยมานสฺเสว อตฺตภาวสฺส ปิตฺตปโกปาทีนํ วเสน สาพาธตา. ‘‘อตฺตโน อนุรูปํ สกฺการํ อลภนฺตี อติจรตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา สกฺการวฑฺฒนํ วิย ‘‘เภสชฺชํ อลภนฺโต เอวํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ¶ เภสชฺชกรณกาโล. สกฺกาเร วฑฺฒิเตปิ ปุน อติจรณํ วิย ปิตฺตาทีสุ เอกสฺส เภสชฺเช กริยมาเน เสสานํ ปโกปวเสน ปุน สาพาธตา. ปริสมชฺเฌ อลํวจนียํ กตฺวา เคหา นิกฺกฑฺฒนํ วิย ‘‘อิทานิ เต นาหํ ทาโส น กมฺมกโร, อนมตคฺเค สํสาเร ตํเยว อุปฏฺหนฺโต วิจรึ, โก เม ตยา อตฺโถ, ฉิชฺช วา ภิชฺช วา’’ติ ตสฺมึ อนเปกฺขตํ อาปชฺชิตฺวา วีริยํ ถิรํ กตฺวา มคฺเคน กิเลสสมุคฺฆาตนํ. นฏนจฺจกาทีหิ นจฺจมานํ วิจรนฺตึ ทิสฺวา ยถา ตสฺส ปุริสสฺส โทมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ, โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชติ, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ปิตฺตปโกปาทีนํ วเสน อาพาธิกํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา โทมนสฺสํ น อุปฺปชฺชติ, ‘‘มุจฺจิสฺสามิ วต ขนฺธปริหารทุกฺขโต’’ติ โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชตีติ. อยํ ปน อุปมา ‘‘ปฏิพทฺธจิตฺตสฺส โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อปฺปฏิพทฺธจิตฺตสฺส นตฺเถตนฺติ ตฺวา ¶ อิตฺถิยา ฉนฺทราคํ ปชหติ, เอวมยํ ภิกฺขุ สงฺขารํ วา ปทหนฺตสฺส อุเปกฺขํ วา ภาเวนฺตสฺส ทุกฺขนิทานํ ¶ ปหียติ, โน อฺถาติ ตฺวา ตทุภยํ สมฺปาเทนฺโต ทุกฺขนิทานํ ปชหตี’’ติ เอตมตฺถํ วิภาเวตุํ อาคตาติ เวทิตพฺพา.
๑๒. ยถา สุขํ โข เม วิหรโตติ เยน สุเขน วิหริตุํ อิจฺฉามิ เตน, เม วิหรโต. ปทหโตติ เปเสนฺตสฺส. เอตฺถ จ ยสฺส สุขา ปฏิปทา อสปฺปายา, สุขุมจีวรานิ ธาเรนฺตสฺส ปาสาทิเก เสนาสเน วสนฺตสฺส จิตฺตํ วิกฺขิปติ, ทุกฺขา ปฏิปทา สปฺปายา, ฉินฺนภินฺนานิ ถูลจีวรานิ ธาเรนฺตสฺส สุสานรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺตสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ, อุสุกาโร วิย หิ ชาติชรามรณภีโต โยคี ทฏฺพฺโพ, วงฺกกุฏิลชิมฺหเตชนํ วิย วงฺกกุฏิลชิมฺหจิตฺตํ, ทฺเว อลาตา วิย กายิกเจตสิกวีริยํ, เตชนํ อุชุํ กโรนฺตสฺส กฺชิกเตลํ วิย สทฺธา, นมนทณฺฑโก วิย โลกุตฺตรมคฺโค, อุสฺสุการสฺส วงฺกกุฏิลชิมฺหเตชนํ กฺชิกเตเลน สิเนเหตฺวา อลาเตสุ ตาเปตฺวา นมนทณฺฑเกน อุชุกรณํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน วงฺกกุฏิลชิมฺหจิตฺตํ สทฺธาย สิเนเหตฺวา กายิกเจตสิกวีริเยน ตาเปตฺวา ¶ โลกุตฺตรมคฺเคน อุชุกรณํ, อุสุการสฺเสว เอวํ อุชุกเตน เตชเนน สปตฺตํ วิชฺฌิตฺวา สมฺปตฺติอนุภวนํ วิย อิมสฺส โยคิโน ตถา อุชุกเตน ¶ จิตฺเตน กิเลสคณํ วิชฺฌิตฺวา ปาสาทิเก เสนาสเน นิโรธวรตลคตสฺส ผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ ทฏฺพฺพํ. อิธ ตถาคโต สุขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺภิกฺขุโน, ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺภิกฺขุโน จ ปฏิปตฺติโย กถิตา, อิตเรสํ ทฺวินฺนํ น กถิตา, ตา กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. อิมาสุ วา ทฺวีสุ กถิตาสุ อิตราปิ กถิตาว โหนฺติ, อาคมนียปฏิปทา ปน น กถิตา, ตํ กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. สหาคมนียาปิ วา ปฏิปทา กถิตาว, อทสฺสิตํ ปน เอกํ พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวา เอกสฺส กุลปุตฺตสฺส นิกฺขมนเทสนํ อรหตฺเตน วินิวฏฺเฏสฺสามีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เทวทหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺจตฺตยสุตฺตวณฺณนา
๒๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ปฺจตฺตยสุตฺตํ. ตตฺถ เอเกติ เอกจฺเจ. สมณพฺราหฺมณาติ ปริพฺพชุปคตภาเวน สมณา ชาติยา พฺราหฺมณา, โลเกน วา สมณาติ จ พฺราหฺมณาติ จ เอวํ สมฺมตา. อปรนฺตํ กปฺเปตฺวา วิกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ อปรนฺตกปฺปิกา. อปรนฺตกปฺโป วา เอเตสํ อตฺถีติปิ อปรนฺตกปฺปิกา. เอตฺถ ¶ จ อนฺโตติ ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๑) วิย อิธ โกฏฺาโส อธิปฺเปโต. กปฺโปติ ตณฺหาทิฏฺิโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘กปฺโปติ อุทฺทานโต ทฺเว กปฺปา ตณฺหากปฺโป จ ทิฏฺิกปฺโป จา’’ติ. ตสฺมา ตณฺหาทิฏฺิวเสน อนาคตํ ขนฺธโกฏฺาสํ กปฺเปตฺวา ิตาติ อปรนฺตกปฺปิกาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตสํ เอวํ อปรนฺตํ กปฺเปตฺวา ิตานํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนวเสน อปรนฺตเมว อนุคตา ทิฏฺีติ อปรนฺตานุทิฏฺิโน. เต เอวํทิฏฺิโน ตํ อปรนฺตํ อารพฺภ อาคมฺม ปฏิจฺจ อฺมฺปิ ชนํ ทิฏฺิคติกํ กโรนฺตา ¶ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. อเนกวิหิตานีติ อเนกวิธานิ. อธิวุตฺติปทานีติ อธิวจนปทานิ. อถ วา ภูตมตฺถํ อธิภวิตฺวา ยถาสภาวโต อคฺคเหตฺวา วตฺตนโต อธิวุตฺติโยติ ทิฏฺิโย วุจฺจนฺติ, อธิวุตฺตีนํ ปทานิ อธิวุตฺติปทานิ, ทิฏฺิทีปกานิ วจนานีติ อตฺโถ.
สฺีติ สฺาสมงฺคี. อโรโคติ นิจฺโจ. อิตฺเถเกติ อิตฺถํ เอเก, เอวเมเกติ อตฺโถ. อิมินา โสฬส สฺีวาทา กถิตา, อสฺีติ อิมินา อฏฺ อสฺีวาทา, เนวสฺีนาสฺีติ อิมินา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สโต วา ปน สตฺตสฺสาติ อิมินา สตฺต อุจฺเฉทวาทา. ตตฺถ สโตติ วิชฺชมานสฺส. อุจฺเฉทนฺติ อุปจฺเฉทํ. วินาสนฺติ อทสฺสนํ. วิภวนฺติ ภววิคมํ. สพฺพาเนตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ¶ วาติ อิมินา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา กถิตา. ตตฺถ ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธอตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนฺติ อตฺโถ. สนฺตํ วาติ สฺีติอาทิวเสน ตีหากาเรหิ สนฺตํ. ตีณิ โหนฺตีติ สฺี อตฺตาติอาทีนิ สนฺตอตฺตวเสน เอกํ, อิตรานิ ทฺเวติ เอวํ ตีณิ.
๒๒. รูปึ ¶ วาติ กรชรูเปน วา กสิณรูเปน วา รูปึ. ตตฺถ ลาภี กสิณรูปํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตกฺกี อุโภปิ รูปานิ คณฺหาติเยว. อรูปินฺติ อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ วา, เปตฺวา สฺากฺขนฺธํ เสสอรูปธมฺเม วา อตฺตาติ ปฺเปนฺตา ลาภิโนปิ ตกฺกิกาปิ เอวํ ปฺเปนฺติ. ตติยทิฏฺิ ปน มิสฺสกคาหวเสน ปวตฺตา, จตุตฺถา ตกฺกคาเหเนว. ทุติยจตุกฺเก ปมทิฏฺิ สมาปนฺนกวาเรน กถิตา, ทุติยทิฏฺิ อสมาปนฺนกวาเรน, ตติยทิฏฺิ สุปฺปมตฺเตน วา สราวมตฺเตน วา กสิณปริกมฺมวเสน, จตุตฺถทิฏฺิ วิปุลกสิณวเสน กถิตาติ เวทิตพฺพา.
เอตํ วา ปเนเกสํ อุปาติวตฺตตนฺติ สฺีติปเทน สงฺเขปโต วุตฺตํ สฺาสตฺตกํ อติกฺกนฺตานนฺติ อตฺโถ. อปเร อฏฺกนฺติ วทนฺติ. ตทุภยํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เกจิ หิ เอตา สตฺต ¶ วา อฏฺ วา สฺา ¶ สมติกฺกมิตุํ สกฺโกนฺติ, เกจิ ปน น สกฺโกนฺติ. ตตฺถ เย สกฺโกนฺติ, เตว คหิตา. เตสํ ปน เอเกสํ อุปาติวตฺตตํ อติกฺกมิตุํ สกฺโกนฺตานํ ยถาปิ นาม คงฺคํ อุตฺติณฺเณสุ มนุสฺเสสุ เอโก ทีฆวาปึ คนฺตฺวา ติฏฺเยฺย, เอโก ตโต ปรํ มหาคามํ; เอวเมว เอเก วิฺาณฺจายตนํ อปฺปมาณํ อาเนฺชนฺติ วตฺวา ติฏฺนฺติ, เอเก อากิฺจฺายตนํ. ตตฺถ วิฺาณฺจายตนํ ตาว ทสฺเสตุํ วิฺาณกสิณเมเกติ วุตฺตํ. ปรโต ‘‘อากิฺจฺายตนเมเก’’ติ วกฺขติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ ทิฏฺิคตฺจ ทิฏฺิปจฺจยฺจ ทิฏฺารมฺมณฺจ. ตถาคโต อภิชานาตีติ. อิมินา ปจฺจเยน อิทํ นาม ทสฺสนํ คหิตนฺติ อภิวิสิฏฺเน าเณน ชานาติ.
อิทานิ ตเทว วิตฺถาเรนฺโต เย โข เต โภนฺโตติอาทิมาห. ยา วา ปน เอตาสํ สฺานนฺติ ยา วา ปน เอตาสํ ‘‘ยทิ รูปสฺาน’’นฺติ เอวํ วุตฺตสฺานํ. ปริสุทฺธาติ นิรุปกฺกิเลสา. ปรมาติ อุตฺตมา. อคฺคาติ เสฏฺา. อนุตฺตริยา อกฺขายตีติ อสทิสา กถียติ. ยทิ รูปสฺานนฺติ อิมินา จตสฺโส รูปาวจรสฺา กถิตา. ยทิ อรูปสฺานนฺติ อิมินา อากาสานฺจายตนวิฺาณฺจายตนสฺา. อิตเรหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ สมาปนฺนกวาโร จ อสมาปนฺนกวาโร จ กถิโตติ เอวเมตา ¶ โกฏฺาสโต อฏฺ, อตฺถโต ปน สตฺต สฺา โหนฺติ. สมาปนฺนกวาโร หิ ปุริมาหิ ฉหิสงฺคหิโตเยว. ตยิทํ สงฺขตนฺติ ตํ อิทํ สพฺพมฺปิ สฺาคตํ สทฺธึ ทิฏฺิคเตน สงฺขตํ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตํ. โอฬาริกนฺติ ¶ สงฺขตตฺตาว โอฬาริกํ. อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธติ เอเตสํ ปน สงฺขตนฺติ วุตฺตานํ สงฺขารานํ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ นาม อตฺถิ. อตฺเถตนฺติ อิติ วิทิตฺวาติ ตํ โข ปน นิพฺพานํ ‘‘อตฺถิ เอต’’นฺติ เอวํ ชานิตฺวา. ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวีติ ตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณทสฺสี นิพฺพานทสฺสี. ตถาคโต ตทุปาติวตฺโตติ ตํ สงฺขตํ อติกฺกนฺโต สมติกฺกนฺโตติ อตฺโถ.
๒๓. ตตฺราติ เตสุ อฏฺสุ อสฺีวาเทสุ. รูปึ วาติอาทีนิ สฺีวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อยฺจ ยสฺมา อสฺีวาโท, ตสฺมา อิธ ทุติยจตุกฺกํ น วุตฺตํ. ปฏิกฺโกสนฺตีติ ปฏิพาหนฺติ ปฏิเสเธนฺติ. สฺา ¶ โรโคติอาทีสุ อาพาธฏฺเน โรโค, สโทสฏฺเน คณฺโฑ, อนุปวิฏฺฏฺเน สลฺลํ. อาคตึ วา คตึ วาติอาทีสุ ปฏิสนฺธิวเสน อาคตึ, จุติวเสน คตึ, จวนวเสน จุตึ, อุปปชฺชนวเสน อุปปตฺตึ, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชิตฺวา อปราปรํ วฑฺฒนวเสน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ. กามฺจ ¶ จตุโวการภเว รูปํ วินาปิ วิฺาณสฺส ปวตฺติ อตฺถิ, เสเส ปน ตโย ขนฺเธ วินา นตฺถิ. อยํ ปน ปฺโห ปฺจโวการภววเสน กถิโต. ปฺจโวกาเร หิ เอตฺตเก ขนฺเธ วินา วิฺาณสฺส ปวตฺติ นาม นตฺถิ. วิตณฺฑวาที ปเนตฺถ ‘‘อฺตฺร รูปาติอาทิวจนโต อรูปภเวปิ รูปํ, อสฺาภเว จ วิฺาณํ อตฺถิ, ตถา นิโรธสมาปนฺนสฺสา’’ติ วทติ. โส วตฺตพฺโพ – พฺยฺชนจฺฉายาย เจ อตฺถํ ปฏิพาหสิ, อาคตึ วาติอาทิวจนโต ตํ วิฺาณํ ปกฺขิทฺวิปทจตุปฺปทา วิย อุปฺปติตฺวาปิ คจฺฉติ, ปทสาปิ คจฺฉติ, โควิสาณวลฺลิอาทีนิ วิย จ วฑฺฒตีติ อาปชฺชติ. เย จ ภควตา อเนกสเตสุ สุตฺเตสุ ตโย ภวา วุตฺตา, เต อรูปภวสฺส อภาวา ทฺเวว อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา มา เอวํ อวจ, ยถา วุตฺตมตฺถํ ธาเรหีติ.
๒๔. ตตฺราติ อฏฺสุ เนวสฺีนาสฺีวาเทสุ ภุมฺมํ. อิธาปิ รูปึ วาติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. อสฺา สมฺโมโหติ นิสฺสฺภาโว นาเมส สมฺโมหฏฺานํ. โย หิ กิฺจิ น ชานาติ, ตํ อสฺี เอโสติ วทนฺติ. ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพสงฺขารมตฺเตนาติ ทิฏฺวิฺาตพฺพมตฺเตน สุตวิฺาตพฺพมตฺเตน มุตวิฺาตพฺพมตฺเตน. เอตฺถ จ วิชานาตีติ วิฺาตพฺพํ, ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพมตฺเตน ปฺจทฺวาริกสฺาปวตฺติมตฺเตนาติ อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ. สงฺขารมตฺเตนาติ โอฬาริกสงฺขารปวตฺติมตฺเตนาติ อตฺโถ. เอตสฺส ¶ อายตนสฺสาติ เอตสฺส เนวสฺานาสฺายตนสฺส ¶ . อุปสมฺปทนฺติ ปฏิลาภํ. พฺยสนํ เหตนฺติ วินาโส เหส, วุฏฺานํ เหตนฺติ อตฺโถ. ปฺจทฺวาริกสฺาปวตฺตฺหิ โอฬาริกสงฺขารปวตฺตํ วา อปฺปวตฺตํ กตฺวา ตํ สมาปชฺชิตพฺพํ. ตสฺส ปน ปวตฺเตน ตโต วุฏฺานํ โหตีติ ทสฺเสติ. สงฺขารสมาปตฺติปตฺตพฺพมกฺขายตีติ โอฬาริกสงฺขารปวตฺติยา ปตฺตพฺพนฺติ น อกฺขายติ. สงฺขาราวเสสสมาปตฺติปตฺตพฺพนฺติ สงฺขารานํเยว อวเสสา ภาวนาวเสน สพฺพสุขุมภาวํ ปตฺตา สงฺขารา, เตสํ ปวตฺติยา เอตํ ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวรูเปสุ หิ สงฺขาเรสุ ปวตฺเตสุ เอตํ ¶ ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. ตยิทนฺติ ตํ อิทํ เอตํ สุขุมมฺปิ สมานํ สงฺขตํ สงฺขตตฺตา จ โอฬาริกํ.
๒๕. ตตฺราติ สตฺตสุ อุจฺเฉทวาเทสุ ภุมฺมํ. อุทฺธํ สรนฺติ อุทฺธํ วุจฺจติ อนาคตสํสารวาโท, อนาคตํ สํสารวาทํ สรนฺตีติ อตฺโถ. อาสตฺตึเยว อภิวทนฺติ ลคฺคนกํเยว วทนฺติ. ‘‘อาสตฺต’’นฺติปิ ปาโ, ตณฺหํเยว วทนฺตีติ อตฺโถ. อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามาติ เอวํ เปจฺจ ภวิสฺสาม. ขตฺติยา ภวิสฺสาม, พฺราหฺมณา ภวิสฺสามาติ เอวเมตฺถ นโย เนตพฺโพ. วาณิชูปมา ¶ มฺเติ วาณิชูปมา วิย วาณิชปฏิภาคา วาณิชสทิสา มยฺหํ อุปฏฺหนฺติ. สกฺกายภยาติ สกฺกายสฺส ภยา. เต หิ ยเถว ‘‘จตฺตาโร โข, มหาราช, อภยสฺส ภายนฺติ. กตเม จตฺตาโร? คณฺฑุปฺปาโท โข, มหาราช, ภยา ปถวึ น ขาทติ ‘มา ปถวี ขิยี’ติ, โกนฺโต โข, มหาราช, เอกปาเทน ติฏฺติ ‘มา ปถวี โอสีที’ติ, กิกี โข, มหาราช, อุตฺตานา เสติ ‘มา อมฺภา อุนฺทฺริยี’ติ, พฺราหฺมณธมฺมิโก โข, มหาราช, พฺรหฺมจริยํ น จรติ ‘มา โลโก อุจฺฉิชฺชี’ติ อิเม จตฺตาโร อภยสฺส ภายนฺติ, เอวํ สกฺกายสฺส ภายนฺติ’’. สกฺกายปริเชคุจฺฉาติ ตเมว เตภูมกสงฺขาตํ สกฺกายํ ปริชิคุจฺฉมานา. สา คทฺทุลพทฺโธติ ทณฺฑเก รชฺชุํ ปเวเสตฺวา พทฺธสุนโข. เอวเมวิเมติ เอตฺถ ทฬฺหตฺถมฺโภ วิย ขีโล วิย จ เตภูมกธมฺมสงฺขาโต สกฺกาโย ทฏฺพฺโพ, สา วิย ทิฏฺิคติโก, ทณฺฑโก วิย ทิฏฺิ, รชฺชุ วิย ตณฺหา, คทฺทุเลน พนฺธิตฺวา ถมฺเภ วา ขีเล วา อุปนิพทฺธสุนขสฺส อตฺตโน ธมฺมตาย ฉินฺทิตฺวา คนฺตุํ อสมตฺถสฺส อนุปริธาวนํ วิย ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิทณฺฑเก ปเวสิตาย ตณฺหารชฺชุยา พนฺธิตฺวา สกฺกาเย อุปนิพทฺธสฺส อนุปริธาวนํ เวทิตพฺพํ.
๒๖. อิมาเนว ปฺจายตนานีติ อิมาเนว ปฺจ การณานิ. อิติ มาติกํ เปนฺเตนปิ ปฺเจว ¶ ปิตานิ, นิคเมนฺเตนปิ ปฺเจว นิคมิตานิ, ภาเชนฺเตน ปน จตฺตาริ ¶ ภาชิตานิ. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ กุหึ ปวิฏฺนฺติ. เอกตฺตนานตฺตวเสน ทฺวีสุ ปเทสุ ปวิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๗. เอวฺจ จตุจตฺตาลีส อปรนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺารส ปุพฺพนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตุํ สนฺติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตโกฏฺาสสงฺขาตํ ปุพฺพนฺตํ กปฺเปตฺวา วิกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. ปุพฺพนฺตกปฺโป ¶ วา เอเตสํ อตฺถีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. เอวํ เสสมฺปิ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ รูปาทีสุ อฺตรํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา สสฺสโต อมโร นิจฺโจ ธุโวติ อภิวทนฺติ. ยถาห ‘‘รูปํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺตี’’ติ วิตฺถาโร. อสสฺสตาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ปมวาเทน จตฺตาโร สสฺสตวาทา วุตฺตา, ทุติยวาเทน สตฺต อุจฺเฉทวาทา.
นนุ เจเต เหฏฺา อาคตา, อิธ กสฺมา ปุน คหิตาติ. เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ มโต ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ อาคตา. อิธ ปน ปุพฺเพนิวาสลาภี ทิฏฺิคติโก อตีตํ ปสฺสติ, น อนาคตํ, ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘ปุพฺพนฺตโต อาคโต อตฺตา อิเธว อุจฺฉิชฺชติ, อิโต ปรํ น คจฺฉตี’’ติ อิมสฺสตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ คหิตา. ตติยวาเทน จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา วุตฺตา, จตุตฺถวาเทน จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา วุตฺตา. อนฺตวาติ สปริยนฺโต ปริจฺฉินฺโน ปริวฏุโม. อวฑฺฒิตกสิณสฺส ¶ ตํ กสิณํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา เอวํ โหติ. ทุติยวาโท วฑฺฒิตกสิณสฺส วเสน วุตฺโต, ตติยวาโท ติริยํ วฑฺเฒตฺวา อุทฺธมโธ อวฑฺฒิตกสิณสฺส, จตุตฺถวาโท ตกฺกิวเสน วุตฺโต. อนนฺตรจตุกฺกํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
เอกนฺตสุขีติ นิรนฺตรสุขี. อยํ ทิฏฺิ ลาภีชาติสฺสรตกฺกีนํ วเสน อุปฺปชฺชติ. ลาภิโน หิ ปุพฺเพนิวาสาเณน ขตฺติยาทิกุเล เอกนฺตสุขเมว อตฺตโน ชาตึ อนุสฺสรนฺตสฺส เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ตถา ชาติสฺสรสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ สุขมนุภวโต อตีตาสุ สตฺตสุ ชาตีสุ ตาทิสเมว อตฺตภาวํ อนุสฺสรนฺตสฺส. ตกฺกิสฺส ปน อิธ สุขสมงฺคิโน ‘‘อตีเตปาหํ เอวเมว อโหสิ’’นฺติ ตกฺเกเนว อุปฺปชฺชติ.
เอกนฺตทุกฺขีติ ¶ อยํ ทิฏฺิ ลาภิโน นุปฺปชฺชติ. โส หิ เอกนฺเตเนว อิธ ฌานสุเขน สุขี โหติ. อิธ ทุกฺเขน ผุฏฺสฺส ปน ชาติสฺสรสฺส ตกฺกิสฺเสว จ สา อุปฺปชฺชติ. ตติยา อิธ โวกิณฺณสุขทุกฺขานํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ อุปฺปชฺชติ, ตถา จตุตฺถา ทิฏฺิ. ลาภิโน หิ อิทานิ จตุตฺถชฺฌานวเสน อทุกฺขมสุขสฺส, ปุพฺเพ จตุตฺถชฺฌานิกเมว พฺรหฺมโลกํ อนุสฺสรนฺตสฺส ¶ . ชาติสฺสรสฺสาปิ ปจฺจุปฺปนฺเน มชฺฌตฺตสฺส, อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ มชฺฌตฺตภูตฏฺานเมว อนุสฺสรนฺตสฺส, ตกฺกิโนปิ ปจฺจุปฺปนฺเน มชฺฌตฺตสฺส, อตีเตปิ เอวํ ภวิสฺสตีติ ตกฺเกเนว คณฺหนฺตสฺส เอสา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. เอตฺตาวตา จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา ¶ , ทฺเว อธิจฺจ-สมุปฺปนฺนิกาติ อฏฺารสปิ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา กถิตา โหนฺติ.
๒๘. อิทานิ ทิฏฺุทฺธารํ อุทฺธรนฺโต ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ปจฺจตฺตํเยว าณนฺติ ปจฺจกฺขาณํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. ปริโยทาตนฺติ ปภสฺสรํ. สพฺพปเทหิ วิปสฺสนาาณํเยว กถิตํ. สทฺธาทโย หิ ปฺจ ธมฺมา พาหิรสมยสฺมิมฺปิ โหนฺติ, วิปสฺสนาาณํ สาสนสฺมึเยว. ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺตีติ มยมิทํ ชานามาติ เอวํ ตตฺถ าณโกฏฺาสํ โอตาเรนฺติเยว. อุปาทานมกฺขายตีติ น ตํ าณํ, มิจฺฉาทสฺสนํ นาเมตํ, ตสฺมา ตทปิ เตสํ ภวนฺตานํ ทิฏฺุปาทานํ อกฺขายตีติ อตฺโถ. อถาปิ ตํ ชานนมตฺตลกฺขณตฺตา าณภาคมตฺตเมว, ตถาปิ ตสฺส ทสฺสนสฺส อนุปาติวตฺตนโต อุปาทานปจฺจยโต จ อุปาทานเมว. ตทุปาติวตฺโตติ ตํ ทิฏฺึ อติกฺกนฺโต. เอตฺตาวตา จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ พฺรหฺมชาเล อาคตา ทฺวาสฏฺิปิ ทิฏฺิโย กถิตา โหนฺติ. พฺรหฺมชาเล ปน กถิเต อิทํ สุตฺตํ อกถิตเมว โหติ. กสฺมา? อิธ ตโต อติเรกาย สกฺกายทิฏฺิยา อาคตตฺตา. อิมสฺมึ ปน กถิเต พฺรหฺมชาลํ กถิตเมว โหติ.
๓๐. อิทานิ อิมา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย อุปฺปชฺชมานา สกฺกายทิฏฺิปมุเขเนว อุปฺปชฺชนฺตีติ ทสฺเสตุํ อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ ปฏินิสฺสคฺคาติ ปริจฺจาเคน. กามสํโยชนานํ ¶ อนธิฏฺานาติ ปฺจกามคุณตณฺหานํ นิสฺสฏฺตฺตา. ปวิเวกํ ปีตินฺติ สปฺปีติกชฺฌานทฺวยปีตึ. นิรุชฺฌตีติ ฌานนิโรเธน นิรุชฺฌติ. สมาปตฺติโต ปน วุฏฺิตสฺส นิรุทฺธา นาม โหติ. ยเถว ¶ หิ ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เอตฺถ น อยมตฺโถ โหติ – จตุตฺถชฺฌานนิโรธา ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺาย ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชติ, ตติยชฺฌานา วุฏฺาย จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชตีติ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสนฺติ หีนชฺฌานปริยาทานกโทมนสฺสํ. สมาปตฺติโต วุฏฺิตจิตฺตสฺส ปน กมฺมนียภาโว กถิโต.
ปวิเวกา ปีตีติ สา เอว ฌานทฺวยปีติ. ยํ ฉายา ชหตีติ ยํ านํ ฉายา ชหติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยสฺมึ าเน ฉายา อตฺถิ, ตสฺมึ อาตโป นตฺถิ. ยสฺมึ อาตโป อตฺถิ, ตสฺมึ ฉายา นตฺถีติ.
๓๑. นิรามิสํ สุขนฺติ ตติยชฺฌานสุขํ.
๓๒. อทุกฺขมสุขนฺติ จตุตฺถชฺฌานเวทนํ.
๓๓. อนุปาทาโนหมสฺมีติ นิคฺคหโณ อหมสฺมิ. นิพฺพานสปฺปายนฺติ นิพฺพานสฺส สปฺปายํ อุปการภูตํ ¶ . นนุ จ มคฺคทสฺสนํ นาม สพฺพตฺถ นิกนฺติยา สุกฺขาปิตาย อุปฺปชฺชติ, กถเมตํ นิพฺพานสฺส อุปการปฏิปทา นาม ชาตนฺติ, สพฺพตฺถ อนุปาทิยนวเสน อคฺคณฺหนวเสน อุปการปฏิปทา นาม ชาตํ. อภิวทตีติ อภิมาเนน อุปวทติ. ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินฺติ อฏฺารสวิธมฺปิ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺึ. อปรนฺตานุทิฏฺินฺติ จตุจตฺตารีสวิธมฺปิ อปรนฺตานุทิฏฺึ. อุปาทานมกฺขายตีติ อหมสฺมีติ คหณสฺส สกฺกายทิฏฺิปริยาปนฺนตฺตา ทิฏฺุปาทานํ อกฺขายติ.
สนฺติวรปทนฺติ วูปสนฺตกิเลสตฺตา สนฺตํ อุตฺตมปทํ. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ ภควตา ‘‘ยตฺถ ¶ จกฺขุ จ นิรุชฺฌติ รูปสฺา จ นิรุชฺฌติ โส อายตโน เวทิตพฺโพ’’ติ เอตฺถ ทฺวินฺนํ อายตนานํ ปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ.
‘‘ยตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
อโต สรา นิวตฺตนฺติ, เอตฺถ วฏฺฏํ น วตฺตติ;
เอตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๗) –
เอตฺถ ปน สงฺขารปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ.
‘‘กตฺถ ¶ ¶ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
กตฺถ ทีฆฺจ รสฺสฺจ, อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ;
กตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ. (ที. นิ. ๑.๔๙๘);
ตตฺร เวยฺยากรณํ ภวติ –
‘‘วิฺาณํ อนิทสฺสนํ, อนนฺตํ สพฺพโต ปภ’’นฺติ –
เอตฺถ สงฺขารปฏิกฺเขเปน นิพฺพานํ ทสฺสิตํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ฉอายตนปฏิกฺเขเปน ทสฺสิตํ. อฺตฺถ จ อนุปาทาวิโมกฺโขติ นิพฺพานเมว ทสฺสิตํ, อิธ ปน อรหตฺตผลสมาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ปฺจตฺตยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. กินฺติสุตฺตวณฺณนา
๓๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ กินฺติสุตฺตํ. ตตฺถ ปิสินารายนฺติ เอวํนามเก มณฺฑลปเทเส. พลิหรเณติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ ภูตานํ พลึ อาหรนฺติ, ตสฺมา โส พลิหรณนฺติ วุตฺโต. จีวรเหตูติ จีวรการณา, จีวรํ ปจฺจาสีสมาโนติ อตฺโถ. อิติภวาภวเหตูติ เอวํ อิมํ เทสนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว สุขํ เวทิสฺสามีติ ธมฺมํ เทเสตีติ กึ ตุมฺหากํ เอวํ โหตีติ อตฺโถ.
๓๕. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตราว กถิตา. ตตฺถาติ ¶ เตสุ สตฺตตึสาย ธมฺเมสุ. สิยํสูติ ภเวยฺยุํ. อภิธมฺเมติ วิสิฏฺเ ธมฺเม, อิเมสุ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเมสูติ อตฺโถ. ตตฺร เจติ อิทมฺปิ โพธิปกฺขิยธมฺเมสฺเวว ภุมฺมํ. อตฺถโต เจว นานํ พฺยฺชนโต จาติ เอตฺถ ‘‘กาโยว สติปฏฺานํ เวทนาว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺเต อตฺถโต นานํ โหติ ¶ , ‘‘สติปฏฺานา’’ติ วุตฺเต ปน พฺยฺชนโต นานํ นาม โหติ. ตทมินาปีติ ตํ ตุมฺเห อิมินาปิ การเณน ชานาถาติ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ สมาเนตฺวา อถสฺส จ อฺถา คหิตภาโว พฺยฺชนสฺส จ มิจฺฉา โรปิตภาโว ทสฺเสตพฺโพ. โย ธมฺโม โย วินโยติ เอตฺถ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ วิฺาปนการณเมว ธมฺโม จ วินโย จ.
๓๗. อตฺถโต หิ โข สเมตีติ สติเยว สติปฏฺานนฺติ คหิตา. พฺยฺชนโต นานนฺติ เกวลํ พฺยฺชนเมว สติปฏฺาโนติ วา สติปฏฺานาติ วา มิจฺฉา โรเปถ. อปฺปมตฺตกํ โขติ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา พฺยฺชนํ อปฺปมตฺตกํ นาม โหติ. ปริตฺตมตฺตํ ธนิตํ กตฺวา โรปิเตปิ หิ นิพฺพุตึ ปตฺตุํ สกฺกา โหติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – วิชยารามวิหารวาสี กิเรโก ขีณาสวตฺเถโร ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ สุตฺตํ อาหริตฺวา กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต – ‘‘สมุทฺโธ สมุทฺโธติ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสตี’’ติ ธนิตํ กตฺวา อาห. เอโก ภิกฺขุ ‘‘สมุทฺโธ นาม, ภนฺเต’’ติ ¶ อาห. อาวุโส, สมุทฺโธติ ¶ วุตฺเตปิ สมุทฺโทติ วุตฺเตปิ มยํ โลณสาครเมว ชานาม, ตุมฺเห ปน โน อตฺถคเวสกา, พฺยฺชนคเวสกา, คจฺฉถ มหาวิหาเร ปคุณพฺยฺชนานํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก พฺยฺชนํ โสธาเปถาติ กมฺมฏฺานํ อกเถตฺวาว อุฏฺาเปสิ. โส อปรภาเค มหาวิหาเร เภรึ ปหราเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตูสุ มคฺเคสุ ปฺหํ กเถตฺวาว ปรินิพฺพุโต. เอวํ สุตฺตนฺตํ ปตฺวา พฺยฺชนํ อปฺปมตฺตกํ นาม โหติ.
วินยํ ปน ปตฺวา โน อปฺปมตฺตกํ. สามเณรปพฺพชฺชาปิ หิ อุภโตสุทฺธิโต วฏฺฏติ, อุปสมฺปทาทิกมฺมานิปิ สิถิลาทีนํ ธนิตาทิกรณมตฺเตเนว กุปฺปนฺติ. อิธ ปน สุตฺตนฺตพฺยฺชนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๓๘. อถ จตุตฺถวาเร วิวาโท กสฺมา? สฺาย วิวาโท. ‘‘อหํ สติเมว สติปฏฺานํ วทามิ, อยํ ‘กาโย สติปฏฺาน’นฺติ วทตี’’ติ หิ เนสํ สฺา โหติ. พฺยฺชเนปิ เอเสว นโย.
๓๙. น ¶ โจทนาย ตริตพฺพนฺติ น โจทนตฺถาย เวคายิตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล ‘‘นลาเฏ เต สาสปมตฺตา ปิฬกา’’ติ วุตฺโต ‘‘มยฺหํ นลาเฏ สาสปมตฺตํ ปิฬกํ ปสฺสสิ, อตฺตโน นลาเฏ ตาลปกฺกมตฺตํ มหาคณฺฑํ น ปสฺสสี’’ติ วทติ. ตสฺมา ปุคฺคโล อุปปริกฺขิตพฺโพ. อทฬฺหทิฏฺีติ อนาทานทิฏฺี สุํสุมารํ หทเย ปกฺขิปนฺโต วิย ทฬฺหํ น คณฺหาติ.
อุปฆาโตติ จณฺฑภาเวน วณฆฏฺฏิตสฺส วิย ทุกฺขุปฺปตฺติ. สุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ ¶ ‘‘กึ นาม อหํ อาปนฺโน, กทา อาปนฺโน’’ติ วา ‘‘ตฺวํ อาปนฺโน, ตว อุปชฺฌาโย อาปนฺโน’’ติ วา เอกํ ทฺเว วาเร วตฺวาปิ ‘‘อสุกํ นาม อสุกทิวเส นาม, ภนฺเต, อาปนฺนตฺถ, สณิกํ อนุสฺสรถา’’ติ สริตฺวา ตาวเทว วิสฺสชฺเชติ. วิเหสาติ พหุํ อตฺถฺจ การณฺจ อาหรนฺตสฺส กายจิตฺตกิลมโถ. สกฺโกมีติ เอวรูโป หิ ปุคฺคโล โอกาสํ กาเรตฺวา ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺนตฺถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโต ‘‘กทา กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘อสุกทิวเส อสุกสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สรามิ, อาวุโส’’ติ วทติ, ตโต ‘‘สณิกํ, ภนฺเต, สรถา’’ติ ¶ พหุํ วตฺวา สาริโต สริตฺวา วิสฺสชฺเชติ. เตนาห ‘‘สกฺโกมี’’ติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุเปกฺขา นาติมฺิตพฺพาติ อุเปกฺขา น อติกฺกมิตพฺพา, กตฺตพฺพา ชเนตพฺพาติ อตฺโถ. โย หิ เอวรูปํ ปุคฺคลํ ิตกํเยว ปสฺสาวํ กโรนฺตํ ทิสฺวาปิ ‘‘นนุ, อาวุโส, นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส อุเปกฺขํ อติมฺติ นาม.
๔๐. วจีสํหาโรติ วจนสฺจาโร. อิเมหิ กถิตํ อมูสํ อนฺตรํ ปเวเสยฺย, ตุมฺเห อิเมหิ อิทฺจิทฺจ วุตฺตาติ อมูหิ กถิตํ อิเมสํ อนฺตรํ ปเวเสยฺยาติ อตฺโถ. ทิฏฺิปฬาโสติอาทีหิ จิตฺตสฺส อนาราธนิยภาโว กถิโต. ตํ ชานมาโน สมาโน ครเหยฺยาติ ตํ สตฺถา ชานมาโน สมาโน นินฺเทยฺย อมฺเหติ. เอตํ ¶ ปนาวุโส, ธมฺมนฺติ เอตํ กลหภณฺฑนธมฺมํ.
ตฺเจติ ¶ ตํ สฺตฺติการกํ ภิกฺขุํ. เอวํ พฺยากเรยฺยาติ มยา เอเต สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปิตาติ อวตฺวา เยน การเณน สฺตฺติ กตา, ตเทว ทสฺเสนฺโต เอวํ พฺยากเรยฺย. ตาหํ ธมฺมํ สุตฺวาติ เอตฺถ ธมฺโมติ สารณียธมฺโม อธิปฺเปโต. น เจว อตฺตานนฺติอาทีสุ ‘‘พฺรหฺมโลกปฺปมาโณ เหส อคฺคิ อุฏฺาสิ, โก เอตมฺตฺร มยา นิพฺพาเปตุํ สมตฺโถ’’ติ หิ วทนฺโต อตฺตานํ อุกฺกํเสติ นาม. ‘‘เอตฺตกา ชนา วิจรนฺติ, โอกาโส ลทฺธุํ น สกฺกา, เอโกปิ เอตฺตกมตฺตํ นิพฺพาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ วทมาโน ปรํ วมฺเภติ นาม. ตทุภยมฺเปส น กโรติ. ธมฺโม ปเนตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พฺยากรณํ, เตสํ ภิกฺขูนํ สฺตฺติกรณํ อนุธมฺโม, ตเทว พฺยากโรติ นาม. น จ โกจิ สหธมฺมิโกติ อฺโ จสฺส โกจิ สเหตุโก ปเรหิ วุตฺโต วาโท วา อนุวาโท วา ครหิตพฺพภาวํ อาคจฺฉนฺโต นาม นตฺถิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
กินฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สามคามสุตฺตวณฺณนา
๔๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สามคามสุตฺตํ. ตตฺถ สามคาเมติ สามากานํ อุสฺสนฺนตฺตา เอวํลทฺธนาเม คาเม. อธุนา กาลงฺกโตติ สมฺปติ กาลํ กโต. ทฺเวธิกชาตาติ ¶ ทฺเวชฺฌชาตา ทฺเวภาคชาตา. ภณฺฑนาทีสุ ภณฺฑนํ ปุพฺพภาคกลโห, ตํ ทณฺฑาทานาทิวเสน ปณฺณตฺติวีติกฺกมวเสน จ วทฺธิตํ กลโห, ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทิกํ วิรุทฺธวจนํ วิวาโท. วิตุทนฺตาติ วิตุชฺชนฺตา. สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสํหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตว อธิจิณฺณํ จิรกาลเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทปฺปโมกฺขตฺถาย อุตฺตริ ¶ ปริเยสมาโน จร. นิพฺเพเหิ วาติ อถ มยา อาโรปิตวาทโต อตฺตานํ โมเจหิ. สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิ. วโธเยวาติ มรณเมว.
นาฏปุตฺติเยสูติ นาฏปุตฺตสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. นิพฺพินฺนรูปาติ ¶ อุกฺกณฺิตสภาวา, อภิวาทนาทีนิ น กโรนฺติ. วิรตฺตรูปาติ วิคตเปมา. ปฏิวานรูปาติ เตสํ นิปจฺจกิริยโต นิวตฺตสภาวา. ยถา ตนฺติ ยถา จ ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย นิพฺพินฺนวิรตฺตปฏิวานรูเปหิ ภวิตพฺพํ, ตเถว ชาตาติ อตฺโถ. ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเต. ทุปฺปเวทิเตติ ทุวิฺาปิเต. อนุปสมสํวตฺตนิเกติ ราคาทีนํ อุปสมํ กาตุํ อสมตฺโถ. ภินฺนถูเปติ ภินฺนปติฏฺเ. เอตฺถ หิ นาฏปุตฺโตว เนสํ ปติฏฺเน ถูโป, โส ปน ภินฺโน มโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ภินฺนถูเป’’ติ. อปฺปฏิสรเณติ ตสฺเสว อภาเวน ปฏิสรณวิรหิเต.
นนุ จายํ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทวาสิโก, โส กสฺมา ปาวายํ กาลํกโตติ. โส กิร อุปาลินา คหปตินา ปฏิวิทฺธสจฺเจน ทสหิ คาถาหิ ภาสิเต พุทฺธคุเณ สุตฺวา อุณฺหํ โลหิตํ ฉฑฺเฑสิ. อถ นํ อผาสุกํ คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ, โส ตตฺถ กาลมกาสิ. กาลํ กุรุมาโน จ ‘‘มม ลทฺธิ อนิยฺยานิกา สารรหิตา, มยํ ตาว นฏฺา, อวเสสชโน มา อปายปูรโก อโหสิ ¶ . สเจ ปนาหํ ‘มม สาสนํ อนิยฺยานิก’นฺติ วกฺขามิ, น สทฺทหิสฺสนฺติ. ยํนูนาหํ ทฺเวปิ ชเน น เอกนีหาเรน อุคฺคณฺหาเปยฺยํ, เต มมจฺจเยน อฺมฺํ วิวทิสฺสนฺติ. สตฺถา ตํ วิวาทํ ปฏิจฺจ เอกํ ธมฺมกถํ กเถสฺสติ, ตโต เต สาสนสฺส มหนฺตภาวํ ชาติสฺสนฺตี’’ติ.
อถ นํ เอโก อนฺเตวาสิโก อุปสงฺกมิตฺวา อาห ¶ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ทุพฺพลา, มยฺหํ อิมสฺมึ ธมฺเม สารํ อาจิกฺขถ อาจริยปฺปมาณ’’นฺติ. อาวุโส, ตฺวํ มมจฺจเยน สสฺสตนฺติ คณฺเหยฺยาสีติ. อปโรปิ ตํ อุปสงฺกมิ, ตํ อุจฺเฉทํ คณฺหาเปสิ. เอวํ ทฺเวปิ ชเน เอกลทฺธิเก อกตฺวา พหู นานานีหาเรน อุคฺคณฺหาเปตฺวา กาลมกาสิ. เต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สนฺนิปติตฺวา อฺมฺํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กสฺสาวุโส, อาจริโย สารมาจิกฺขี’’ติ? เอโก อุฏฺหิตฺวา มยฺหนฺติ อาห. กึ อาจิกฺขีติ? สสฺสตนฺติ. อปโร ตํ ปฏิพาหิตฺวา มยฺหํ สารํ อาจิกฺขีติ อาห. เอวํ สพฺเพ ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขิ, อหํ เชฏฺโก’’ติ อฺมฺํ วิวาทํ วฑฺเฒตฺวา อกฺโกเส ¶ เจว ปริภาเส จ หตฺถปาทปหาราทีนิ จ ปวตฺเตตฺวา เอกมคฺเคน ทฺเว อคจฺฉนฺตา นานาทิสาสุ ปกฺกมึสุ, เอกจฺเจ คิหี อเหสุํ.
ภควโต ปน ธรมานกาเลปิ ภิกฺขุสงฺเฆ วิวาโท น อุปฺปชฺชิ. สตฺถา หิ เตสํ วิวาทการเณ อุปฺปนฺนมตฺเตเยว สยํ วา คนฺตฺวา เต วา ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา ขนฺติ เมตฺตา ปฏิสงฺขา อวิหึสา สารณียธมฺเมสุ เอกํ การณํ กเถตฺวา วิวาทํ วูปสเมติ. เอวํ ธรมาโนปิ สงฺฆสฺส ปติฏฺาว อโหสิ. ปรินิพฺพายมาโนปิ อวิวาทการณํ กตฺวาว ปรินิพฺพายิ. ภควตา หิ สุตฺเต เทสิตา จตฺตาโร มหาปเทสา (อ. นิ. ๔.๑๘๐; ที. นิ. ๒.๑๘๗) ยาวชฺชทิวสา ภิกฺขูนํ ปติฏฺา จ อวสฺสโย จ. ตถา ขนฺธเก เทสิตา จตฺตาโร มหาปเทสา (มหาว. ๓๐๕) สุตฺเต วุตฺตานิ จตฺตาริ ปฺหพฺยากรณานิ (อ. นิ. ๔.๔๒) จ. เตเนวาห – ‘‘โย โว มยา, อานนฺท, ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖).
๔๒. อถ ¶ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภาติโก. ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจรึสุ. เตน ¶ วุตฺตํ ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ. อุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? นาฏปุตฺเต กิร กาลํกเต ชมฺพุทีเป มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ กถํ ปวตฺตยึสุ – ‘‘นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เอโก สตฺถาติ ปฺายิตฺถ, ตสฺส กาลกิริยาย สาวกานํ เอวรูโป วิวาโท ชาโต, สมโณ ปน โคตโม ชมฺพุทีเป จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏเยว, กีทิโส นุ โข สมเณ โคตเม ปรินิพฺพุเต สาวกานํ วิวาโท ภวิสฺสตี’’ติ. เถโร ตํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ กถํ คเหตฺวา ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามิ, สตฺถา จ เอตํ อตฺถุปฺปตฺตึ กตฺวา เอกํ เทสนํ กเถสฺสตี’’ติ. โส นิกฺขมิตฺวา เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ. อุชุเมว ภควโต สนฺติกํ อคนฺตฺวา เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมีติ อตฺโถ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม มหาปฺโ, โส อิมํ สาสนํ ¶ สตฺถุ อาโรเจสฺสติ, อถ สตฺถา ตทนุรูปํ ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ. กถาปาภตนฺติ กถามูลํ, มูลฺหิ ปาภตนฺติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๒.๑.๔);
ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย. กึ ปนิมินา ภควา น ทิฏฺปุพฺโพติ? โน น ทิฏฺปุพฺโพ, อยฺหิ อายสฺมา ทิวา นว วาเร รตฺตึ นว วาเรติ เอกาหํ ¶ อฏฺารส วาเร อุปฏฺานเมว คจฺฉติ. ทิวสสฺส ปน สตกฺขตฺตุํ วา สหสฺสกฺขตฺตุํ วา คนฺตุกาโม สมาโนปิ น อการณา คจฺฉติ, เอกํ ปฺหุทฺธารํ คเหตฺวาว คจฺฉติ. โส ตํทิวสํ เตน คนฺตุกาโม เอวมาห.
อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆมชฺเฌ อุปฺปนฺโน วิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ? โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑) วิย หิ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร เตสํ อนฺเตวาสิกา วิวทนฺติ, เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ, ตโต เตสํ อุปฏฺากา วิวทนฺติ, อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ตตฺถ ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ, อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย โหนฺติ. ตโต ตาสํ อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมเทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา ¶ โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ, ตโต ยํ พหูหิ คหิตํ, ตํ คณฺหนฺติ. ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตราว อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปูเรตฺวา วิหรนฺตา อปาเย นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆมชฺเฌ อุปฺปนฺโน วิวาโท พหูนํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ.
๔๓. อภิฺา เทสิตาติ มหาโพธิมูเล นิสินฺเนน ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวทิตา. ปติสฺสยมานรูปา วิหรนฺตีติ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ. ภควโต ¶ อจฺจเยนาติ เอตรหิ ภควนฺตํ เชฏฺกํ กตฺวา สคารวา วิหรนฺติ, ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อุคฺคเตชตาย ทุราสทตาย วิวาทํ ชเนตุํ น ¶ สกฺโกนฺติ, ภควโต ปน อจฺจเยน วิวาทํ ชเนยฺยุนฺติ วทติ. ยตฺถ ปน ตํ วิวาทํ ชเนยฺยุํ, ตํ ทสฺเสนฺโต อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วาติ อาห. ตตฺถ อชฺฌาชีเวติ อาชีวเหตุ อาชีวการณา – ‘‘ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) นเยน ปริวาเร ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานิ, ตานิ เปตฺวา เสสานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ อธิปาติโมกฺขํ นาม. อปฺปมตฺตโก โส อานนฺทาติ อชฺฌาชีวํ อธิปาติโมกฺขฺจ อารพฺภ อุปฺปนฺนวิวาโท นาม ยสฺมา ปรสฺส กถายปิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สลฺลกฺเขตฺวา สุปฺปชโห โหติ, ตสฺมา ‘‘อปฺปมตฺตโก’’ติ วุตฺโต.
ตตฺรายํ นโย – อิเธกจฺโจ ‘‘น สกฺกา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อนุลฺลปนฺเตน กิฺจิ ลทฺธุ’’นฺติอาทีนิ จินฺเตตฺวา อาชีวเหตุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วา อุลฺลปติ สฺจริตฺตํ วา อาปชฺชติ, โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหาติอาทินา นเยน สามนฺตชปฺปนํ วา กโรติ, อคิลาโน วา อตฺตโน อตฺถาย ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, ภิกฺขุนี วา ปน ตานิ วิฺาเปตฺวา ปาฏิเทสนียํ อาปชฺชติ, โย โกจิ ทุกฺกฏวตฺถุกํ ยํกิฺจิ สูโปทนวิฺตฺติเมว วา กโรติ, อฺตรํ วา ปน ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรนฺโต วิหรติ, ตเมนํ สพฺรหฺมจารี เอวํ สฺชานนฺติ – ‘‘กึ อิมสฺส อิมินา ลาเภน ลทฺเธน, โย สาสเน ปพฺพชิตฺวา มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ. อตฺตโน ธมฺมตายปิสฺส เอวํ โหติ – ‘‘กิสฺส มยฺหํ อิมินา ลาเภน, ยฺวาหํ เอวํ ¶ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตฺวา มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรมี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ¶ ตโต โอรมติ. เอวํ ปรสฺส กถายปิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สลฺลกฺเขตฺวา สุปฺปชโห โหติ. เตน ภควา ‘‘อปฺปมตฺตโก’’ติ อาห.
มคฺเค วา หิ, อานนฺท, ปฏิปทาย วาติ โลกุตฺตรมคฺคํ ปตฺวา วิวาโท นาม สพฺพโส วูปสมฺมติ, นตฺถิ อธิคตมคฺคานํ วิวาโท. ปุพฺพภาคมคฺคํ ปน ปุพฺพภาคปฏิปทฺจ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ นโย – เอวํ ภิกฺขุํ มนุสฺสา โลกุตฺตรธมฺเม สมฺภาเวนฺติ. โส สทฺธิวิหาริกาทโย อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิเต ปุจฺฉติ ‘‘กึ อาคตตฺถา’’ติ. มนสิกาตพฺพกมฺมฏฺานํ ปุจฺฉิตุํ, ภนฺเตติ. นิสีทถ, ขเณเนว ¶ อรหตฺตํ ปาเปตุํ สมตฺถกมฺมฏฺานกถํ อาจิกฺขิสฺสามีติ วตฺวา วทติ – ‘‘อิธ ภิกฺขุ อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน มูลกมฺมฏฺานํ มนสิ กโรติ, ตสฺส ตํ มนสิกโรโต โอภาโส อุปฺปชฺชติ. อยํ ปมมคฺโค นาม. โส ทุติยํ โอภาสาณํ นิพฺพตฺเตติ, ทุติยมคฺโค อธิคโต โหติ, เอวํ ตติยฺจ จตุตฺถฺจ. เอตฺตาวตา มคฺคปฺปตฺโต เจว ผลปฺปตฺโต จ โหตี’’ติ. อถ เต ภิกฺขู ‘‘อขีณาสโว นาม เอวํ กมฺมฏฺานํ กเถตุํ น สกฺโกติ, อทฺธายํ ขีณาสโว’’ติ นิฏฺํ คจฺฉนฺติ.
โส อปเรน สมเยน กาลํ กโรติ. สมนฺตา ภิกฺขาจารคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉนฺติ ‘‘เกนจิ, ภนฺเต, เถโร ปฺหํ ปุจฺฉิโต’’ติ. อุปาสกา ปุพฺเพว เถเรน ปฺโห กถิโต อมฺหากนฺติ. เต ปุปฺผมณฺฑปํ ปุปฺผกูฏาคารํ สชฺเชตฺวา สุวณฺเณน อกฺขิปิธานมุขปิธานาทึ กริตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา สตฺตาหํ สาธุกีฬิกํ ¶ กีเฬตฺวา ฌาเปตฺวา อฏฺีนิ อาทาย เจติยํ กโรนฺติ. อฺเ อาคนฺตุกา วิหารํ อาคนฺตฺวา ปาเท โธวิตฺวา ‘‘มหาเถรํ ปสฺสิสฺสาม, กหํ, อาวุโส, มหาเถโร’’ติ ปุจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุโต, ภนฺเตติ. ทุกฺกรํ, อาวุโส, เถเรน กตํ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตนฺเตน, ปฺหํ ปุจฺฉิตฺถ, อาวุโสติ. ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต อิมินา นิยาเมน กเถสิ, ภนฺเตติ. น เอโส, อาวุโส, มคฺโค, วิปสฺสนุปกฺกิเลโส นาเมส, น ตุมฺเห ชานิตฺถ, ปุถุชฺชโน, อาวุโส, เถโรติ. เต กลหํ กโรนฺตา อุฏฺหิตฺวา ‘‘สกลวิหาเร ภิกฺขู จ ภิกฺขาจารคาเมสุ มนุสฺสา จ น ชานนฺติ, ตุมฺเหเยว ชานาถ. กตรมคฺเคน ตุมฺเห อาคตา, กึ ¶ โว วิหารทฺวาเร เจติยํ น ทิฏฺ’’นฺติ. เอวํวาทีนํ ปน ภิกฺขูนํ สตํ วา, โหตุ สหสฺสํ วา, ยาว ตํ ลทฺธึ นปฺปชหนฺติ, สคฺโคปิ มคฺโคปิ วาริโตเยว.
อปโรปิ ตาทิโสว กมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เอวํ กเถติ – จิตฺเตเนว ตีสุ อุทฺธเนสุ ตีณิ กปลฺลานิ อาโรเปตฺวา เหฏฺา อคฺคึ กตฺวา จิตฺเตเนว อตฺตโน ทฺวตฺตึสาการํ อุปฺปาเฏตฺวา กปลฺเลสุ ปกฺขิปิตฺวา จิตฺเตเนว ทณฺฑเกน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ภชฺชิตพฺพํ, ยา ฌายมาเน ฉาริกา โหติ, สา มุขวาเตน ปลาเสตพฺพา. เอตฺตเกน ธูตปาโป นาเมส สมโณ โหติ. เสสํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
อปโร ¶ เอวํ กเถติ – จิตฺเตเนว มหาจาฏึ เปตฺวา มตฺถุํ โยเชตฺวา จิตฺเตเนว อตฺตโน ทฺวตฺตึสาการํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา มตฺถุํ โอตาเรตฺวา มนฺถิตพฺพํ. มถิยมานํ วิลียติ, วิลีเน อุปริ เผโณ อุคฺคจฺฉติ. โส เผโณ ปริภฺุชิตพฺโพ. เอตฺตาวตา โว อมตํ ปริภุตฺตํ นาม ภวิสฺสติ ¶ . อิโต ปรํ ‘‘อถ เต ภิกฺขู’’ติอาทิ สพฺพํ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
๔๔. อิทานิ โย เอวํ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส มูลํ ทสฺเสนฺโต ฉยิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ อคารโวติ คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ, สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ, นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุ ทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นฺหานติตฺเถ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, ปรินิพฺพุเต วา ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ, อฺเหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘กสฺมา เอวํ กโรสิ, น อิทํ วฏฺฏติ, สมฺมาสพุทฺธสฺส นาม ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตูณฺหี โหติ, กึ พุทฺโธ พุทฺโธติ วทสี’’ติ ภณติ, อยํ สตฺถริ อคารโว นาม.
โย ปน ธมฺมสฺสวเน สงฺฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, นิทฺทายติ วา สลฺลเปนฺโต วา นิสีทติ, สกฺกจฺจํ น คณฺหาติ น ธาเรติ, ‘‘กึ ธมฺเม อคารวํ ¶ กโรสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุณฺหี โหติ, ธมฺโม ธมฺโมติ วทสิ, กึ ธมฺโม นามา’’ติ วทติ, อยํ ธมฺเม อคารโว นาม.
โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ, นิสีทติ ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, ติฏฺติ นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ตุณฺหี โหติ, สงฺโฆ สงฺโฆติ วทสิ, กึ สงฺโฆ, มิคสงฺโฆ อชสงฺโฆ’’ติอาทีนิ วทติ, อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว ¶ กเต สงฺเฆ ¶ กโตเยว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปริปูรยมาโนว สิกฺขาย น ปริปูรการี นาม.
อชฺฌตฺตํ วาติ อตฺตนิ วา อตฺตโน ปริสาย วา. พาหิทฺธาติ ปรสฺมึ วา ปรสฺส ปริสาย วา.
๔๖. อิทานิ อยํ ฉ านานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิวาโท วฑฺฒนฺโต ยานิ อธิกรณานิ ปาปุณาติ, ตานิ ทสฺเสตุํ จตฺตาริมานีติอาทิมาห. ตตฺถ วูปสมนตฺถาย ปวตฺตมาเนหิ สมเถหิ อธิกาตพฺพานีติ อธิกรณานิ. วิวาโทว อธิกรณํ วิวาทาธิกรณํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อิมานิปิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ปตฺวา อุปริ วฑฺเฒนฺโต โส วิวาโท เยหิ สมเถหิ วูปสมฺมติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ สตฺต โข ปนิเมติอาทิมาห. ตตฺถ อธิกรณานิ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ อธิกรณสมถา. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานนฺติ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานํ. อธิกรณานนฺติ เอเตสํ วิวาทาธิกรณาทีนํ จตุนฺนํ. สมถาย วูปสมายาติ สมนตฺถฺเจว วูปสมนตฺถฺจ. สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา ทาตพฺพา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉยกถา – อธิกรเณสุ ตาว ธมฺโมติ ¶ วา อธมฺโมติ วาติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตานํ ภิกฺขูนํ โย วิวาโท, อิทํ วิวาทาธิกรณํ นาม. สีลวิปตฺติยา วา อาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติยา วา อนุวทนฺตานํ โย อนุวาโท อุปวทนา เจว โจทนา จ, อิทํ ¶ อนุวาทาธิกรณํ นาม. มาติกายํ อาคตา ปฺจ วิภงฺเค ทฺเวติ สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ นาม. ยํ สงฺฆสฺส อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณํ, อิทํ กิจฺจาธิกรณํ นาม.
ตตฺถ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ ยสฺมึ วิหาเร อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึเยว วา, อฺตฺถ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค วา, ยตฺถ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาติตํ, ตตฺถ สงฺเฆน วา คเณน วา วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺเต ตตฺเถว อุพฺพาหิกาย สมฺมตปุคฺคเลหิ วา วินิจฺฉิตํ สมฺมติ. เอวํ สมฺมมาเน ปน ¶ ตสฺมึ ยา สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา, อยํ สมฺมุขาวินโย นาม.
ตตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา. สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา. ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถว สมนํ วินยสมฺมุขตา. โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺตปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. อุพฺพาหิกาย วูปสเม ปเนตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. เอวํ ตาว สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมติ.
สเจ ปเนวมฺปิ น สมฺมติ, อถ นํ ¶ อุพฺพาหิกาย สมฺมตา ภิกฺขู ‘‘น มยํ สกฺโกม วูปสเมตุ’’นฺติ สงฺฆสฺเสว นิยฺยาเตนฺติ. ตโต สงฺโฆ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ สลากคฺคาหกํ สมฺมนฺนิตฺวา เตน คุฬฺหกวิวฏกสกณฺณชปฺปเกสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสุ อฺตรวเสน สลากํ คาเหตฺวา สนฺนิปติตปริสาย ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยตาย ยถา เต ธมฺมวาทิโน วทนฺติ, เอวํ วูปสนฺตํ อธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินโย วุตฺตนโย เอว. ยํ ปน เยภุยฺยสิกาย กมฺมสฺส กรณํ, อยํ เยภุยฺยสิกา นาม. เอวํ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ โย จ อนุวทติ, ยฺจ ¶ อนุวทติ, เตสํ วจนํ สุตฺวา, สเจ กาจิ อาปตฺติ นตฺถิ, อุโภ ขมาเปตฺวา, สเจ อตฺถิ, อยํ นาเมตฺถ อาปตฺตีติ เอวํ วินิจฺฉิตํ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินยลกฺขณํ วุตฺตนยเมว.
ยทา ปน ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํสิตสฺส สติวินยํ ยาจมานสฺส สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน สติวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน สติวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ อนุวาโท น รุหติ.
ยทา อุมฺมตฺตโก ภิกฺขุ อุมฺมาทวเสน กเต อสฺสามณเก อชฺฌาจาเร ‘‘สรตายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺติ’’นฺติ ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน – ‘‘อุมฺมตฺตเกน เม, อาวุโส, เอตํ กตํ, นาหํ ¶ ตํ สรามี’’ติ ภณนฺโตปิ ภิกฺขูหิ ¶ โจทิยมาโนว ปุน อโจทนตฺถาย อมูฬฺหวินยํ ยาจติ, สงฺโฆ จสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อมูฬฺหวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ. ทินฺเน ปน อมูฬฺหวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ ตปฺปจฺจยา อนุวาโท น รุหติ.
ยทา ปน ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา โจทิยมานสฺส อฺเนาฺํ ปฏิจรโต ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิยสฺส ปุคฺคลสฺส – ‘‘สจายํ อจฺฉินฺนมูโล ภวิสฺสติ, สมฺมา วตฺติตฺวา โอสารณํ ลภิสฺสติ, สเจ ฉินฺนมูโล, อยเมวสฺส นาสนา ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ตสฺสปาปิยสิกํ กโรติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ ตสฺส ปาปิยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ. เอวํ อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ ติณวตฺถารเกน จ. ตสฺส สมฺมุขาวินเยเนว วูปสโม นตฺถิ. ยทา ปน เอกสฺส วา ภิกฺขุโน สนฺติเก สงฺฆคณมชฺเฌสุ วา ภิกฺขุ ลหุกํ อาปตฺตึ เทเสติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินโย ตาว โย จ เทเสติ, ยสฺส จ เทเสติ, เตสํ สมฺมุขตา. เสสํ วุตฺตนยเมว. ปุคฺคลสฺส จ คณสฺส จ เทสนากาเล ¶ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ. ยํ ปเนตฺถ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อปนฺโน’’ติ จ, อาม ‘‘ปสฺสามี’’ติ จ ปฏิฺาตาย ¶ ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ กรณํ, ตํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. สงฺฆาทิเสเส ปริวาสาทิยาจนา ปฏิฺา, ปริวาสาทีนํ ทานํ ปฏิฺาตกรณํ นาม.
ทฺเวปกฺขชาตา ปน ภณฺฑนการกา ภิกฺขู พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจารํ จริตฺวา ปุน ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน ‘‘สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ อฺมฺํ อาปตฺติยา การาปเน โทสํ ทิสฺวา ยทา ติณวตฺถารกกมฺมํ กโรนฺติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ติณวตฺถารเกน จ สมฺมติ. ตตฺร หิ ยตฺตกา หตฺถปาสุปคตา ‘‘น เม ตํ ขมตี’’ติ เอวํ ทิฏฺาวิกมฺมํ อกตฺวา ‘‘ทุกฺกฏํ กมฺมํ ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ น อุกฺโกเฏนฺติ, นิทฺทมฺปิ ¶ โอกฺกนฺตา โหนฺติ, สพฺเพสมฺปิ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชฺจ คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ สพฺพาปตฺติโย วุฏฺหนฺติ. เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ. กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺมุขาวินเยเนว.
อิมานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ยถานุรูปํ อิเมหิ สตฺตหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโก’’ติ. อยเมตฺถ วินิจฺฉยนโย, วิตฺถาโร ปน สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๑๘๕) อาคโตเยว. วินิจฺฉโยปิสฺส สมนฺตปาสาทิกาย วุตฺโต.
๔๗. โย ปนายํ อิมสฺมึ สุตฺเต ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู วิวทนฺตี’’ติอาทิโก วิตฺถาโร วุตฺโต, โส เอเตน นเยน สงฺเขปโตว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติอาทีสุ สุตฺตนฺตปริยาเยน ตาว ¶ ทส กุสลกมฺมปถา ธมฺโม, อกุสลกมฺมปถา อธมฺโม. ตถา ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ เหฏฺา อาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา, ตโย สติปฏฺานา ตโย สมฺมปฺปธานา ตโย อิทฺธิปาทา ฉ อินฺทฺริยานิ ฉ พลานิ อฏฺ โพชฺฌงฺคา นวงฺคิโก มคฺโค จาติ, จตฺตาโร อุปาทานา ปฺจ นีวรณานีติอาทโย สงฺกลิฏฺธมฺมา จาติ อยํ อธมฺโม.
ตตฺถ ¶ ยํกิฺจิ เอกํ อธมฺมโกฏฺาสํ คเหตฺวา ‘‘อิมํ อธมฺมํ ธมฺโมติ กริสฺสาม, เอวํ อมฺหากํ อาจริยกุลํ นิยฺยานิกํ ภวิสฺสติ, มยฺจ โลเก ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ ตํ อธมฺมํ ‘‘ธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา ธมฺโมติ วิวทนฺติ. ตตฺเถว ธมฺมโกฏฺาเสสุ เอกํ คเหตฺวา ‘‘อธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา อธมฺโมติ วิวทนฺติ.
วินยปริยาเยน ปน ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ยถาปฏิฺาย กาตพฺพกมฺมํ ธมฺโม นาม, อภูเตน ปน วตฺถุนา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา อปฏิฺาย กตพฺพกมฺมํ อธมฺโม นาม. เตสุปิ อธมฺมํ ‘‘ธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา ธมฺโมติ วิวทนฺติ, ‘‘อธมฺโม อย’’นฺติ กเถนฺตา อธมฺโมติ วิวทนฺติ.
สุตฺตนฺตปริยาเยน ปน ราควินโย โทสวินโย โมหวินโย สํวโร ปหานํ ปฏิสงฺขาติ อยํ วินโย นาม, ราคาทีนํ อวินโย อสํวโร ¶ อปฺปหานํ อปฺปฏิสงฺขาติ อยํ อวินโย นาม. วินยปริยาเยน วตฺถุสมฺปตฺติ ตฺติสมฺปตฺติ อนุสาวนสมฺปตฺติ สีมสมฺปติ ปริสสมฺปตฺตีติ อยํ วินโย นาม, วตฺถุวิปตฺติ…เป… ปริสวิปตฺตีติ ¶ อยํ อวินโย นาม. เตสุปิ ยํกิฺจิ อวินยํ ‘‘วินโย อย’’นฺติ กเถนฺตา วินโยติ วิวทนฺติ, วินยํ อวินโยติ กเถนฺตา อวินโยติ วิวทนฺติ.
ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพาติ ธมฺมรชฺชุ อนุมชฺชิตพฺพา าเณน ฆํสิตพฺพา อุปปริกฺขิตพฺพา. สา ปเนสา ธมฺมเนตฺติ ‘‘อิติ โข วจฺฉ อิเม ทส ธมฺมา อกุสลา ทส ธมฺมา กุสลา’’ติ เอวํ มหาวจฺฉโคตฺตสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๙๔) อาคตาติ วุตฺตา. สา เอว วา โหตุ, โย วา อิธ ธมฺโมติ จ วินโย จ วุตฺโต. ยถา ตตฺถ สเมตีติ ยถา ตาย ธมฺมเนตฺติยา สเมติ, ‘‘ธมฺโม ธมฺโมว โหติ, อธมฺโม อธมฺโมว, วินโย วินโยว โหติ, อวินโย อวินโยว’’. ตถา ตนฺติ เอวํ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอกจฺจานํ อธิกรณานนฺติ อิธ วิวาทาธิกรณเมว ทสฺสิตํ, สมฺมุขาวินโย ปน น กิสฺมิฺจิ อธิกรเณ น ลพฺภติ.
๔๘. ตํ ปเนตํ ยสฺมา ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ, ตสฺมา ¶ เหฏฺา มาติกาย ปิตานุกฺกเมน อิทานิ สติวินยสฺส วาเร ปตฺเตปิ ตํ อวตฺวา วิวาทาธิกรณเยว ตาว ทุติยสมถํ ทสฺเสนฺโต กถฺจานนฺท, เยภุยฺยสิกาติอาทิมาห. ตตฺถ พหุตราติ อนฺตมโส ทฺวีหิ ตีหิปิ อติเรกตรา. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๙. อิทานิ เหฏฺา อวิตฺถาริตํ สติวินยํ อาทึ กตฺวา วิตฺถาริตาวเสสสมเถ ¶ ปฏิปาฏิยา วิตฺถาเรตุํ กถฺจานนฺท, สติวินโยติอาทิมาห. ตตฺถ ปาราชิกสามนฺเตน วาติ ทฺเว สามนฺตานิ ขนฺธสามนฺตฺจ อาปตฺติสามนฺตฺจ. ตตฺถ ปาราชิกาปตฺติกฺขนฺโธ สงฺฆาทิเสสาปตฺติกฺขนฺโธ ถุลฺลจฺจย-ปาจิตฺติย-ปาฏิเทสนีย-ทุกฺกฏ-ทุพฺภาสิตาปตฺติกฺขนฺโธติ เอวํ ปุริมสฺส ปจฺฉิมขนฺธํ ขนฺธสามนฺตํ นาม โหติ. ปมปาราชิกสฺส ปน ปุพฺพภาเค ทุกฺกฏํ, เสสานํ ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทํ อาปตฺติสามนฺตํ นาม. ตตฺถ ¶ ขนฺธสามนฺเต ปาราชิกสามนฺตํ ครุกาปตฺติ นาม โหติ. สรตายสฺมาติ สรตุ อายสฺมา. เอกจฺจานํ อธิกรณานนฺติ อิธ อนุวาทาธิกรณเมว ทสฺสิตํ.
๕๐. ภาสิตปริกฺกนฺตนฺติ วาจาย ภาสิตํ กาเยน จ ปริกฺกนฺตํ, ปรกฺกมิตฺวา กตนฺติ อตฺโถ. เอกจฺจานนฺติ อิธาปิ อนุวาทาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. ปฏิฺาตกรเณ ‘‘เอกจฺจาน’’นฺติ อาปตฺตาธิกรณํ ทสฺสิตํ.
๕๒. ทวาติ สหสา. รวาติ อฺํ ภณิตุกาเมน อฺํ วุตฺตํ. เอวํ โข, อานนฺท, ตสฺสปาปิยสิกา โหตีติ ตสฺสปุคฺคลสฺส ปาปุสฺสนฺนตา ปาปิยสิกา โหติ. อิมินา กมฺมสฺส วตฺถุ ทสฺสิตํ. เอวรูปสฺส หิ ปุคฺคลสฺส กมฺมํ กาตฺตพฺพํ. กมฺเมน หิ อธิกรณสฺส วูปสโม โหติ, น ปุคฺคลสฺส ปาปุสฺสนฺนตาย. อิธาปิ จ อนุวาทาธิกรณเมว อธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ.
๕๓. กถฺจานนฺท ¶ , ติณวตฺถารโกติ เอตฺถ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ติณวตฺถารโกติ วุตฺตํ. ยถา หิ คูถํ วา มุตฺตํ วา ฆฏฺฏิยมานํ ทุคฺคนฺธตาย พาธติ, ติเณหิ อวตฺถริตฺวา สุปฺปฏิจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส โส คนฺโธ น พาธติ, เอวเมว ยํ อธิกรณํ มูลานุมูลํ คนฺตฺวา วูปสมิยมานํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺตติ, ตํ อิมินา กมฺเมน วูปสนฺตํ คูถํ วิย ติณวตฺถารเกน ปฏิจฺฉนฺนํ วูปสนฺตํ โหตีติ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ¶ ติณวตฺถารโกติ วุตฺตํ. ตสฺส อิธานนฺท, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานนฺติอาทิวจเนน อาการมตฺตเมว ทสฺสิตํ, ขนฺธเก อาคตาเยว ปเนตฺถ กมฺมวาจา ปมาณํ. เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺตนฺติ. เอตฺถ ปน ถุลฺลวชฺชนฺติ ถูลฺลวชฺชํ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. คิหิปฏิสํยุตฺตนฺติ คิหีนํ หีเนน ขุํสนวมฺภนธมฺมิกปฏิสฺสเวสุ อาปนฺนา อาปตฺติ. อธิกรณานนฺติ อิธ อาปตฺตาธิกรณเมว เวทิตพฺพํ. กิจฺจาธิกรณสฺส ปน วเสน อิธ น กิฺจิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ น วุตฺตํ, สมฺมุขาวินเยเนว ปนสฺส วูปสโม โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๕๔. ฉยิเม ¶ , อานนฺท, ธมฺมา สารณียาติ เหฏฺา กลหวเสน สุตฺตํ อารทฺธํ, อุปริ สารณียธมฺมา อาคตา. อิติ ยถานุสนฺธินาว เทสนา คตา โหติ. เหฏฺา โกสมฺพิยสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๔๙๘-๕๐๐) ปน โสตาปตฺติมคฺคสมฺมาทิฏฺิ กถิตา, อิมสฺมึ ¶ สุตฺเต โสตาปตฺติผลสมฺมาทิฏฺิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อณุนฺติ อปฺปสาวชฺชํ. ถูลนฺติ มหาสาวชฺชํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สามคามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สุนกฺขตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สุนกฺขตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ อฺาติ อรหตฺตํ. พฺยากตาติ ขีณา ชาตีติอาทีหิ จตูหิ ปเทหิ กถิตา. อธิมาเนนาติ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิโน, อนธิคเต อธิคตสฺิโน หุตฺวา อธิคตํ อมฺเหหีติ มาเนน พฺยากรึสุ.
๕๖. เอวฺเจตฺถ สุนกฺขตฺต ตถาคตสฺส โหตีติ สุนกฺขตฺต เอตฺถ เอเตสํ ภิกฺขูนํ ปฺหพฺยากรเณ – ‘‘อิทํ านํ เอเตสํ อวิภูตํ อนฺธการํ, เตนิเม อนธิคเต อธิคตสฺิโน, หนฺท เนสํ วิโสเธตฺวา ปากฏํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสมี’’ติ, เอวฺจ ตถาคตสฺส โหติ. อถ จ ปนิเธกจฺเจ…เป… ตสฺสปิ โหติ อฺถตฺตนฺติ ภควา ปฏิปนฺนกานํ ธมฺมํ เทเสติ. ยตฺถ ปน อิจฺฉาจาเร ิตา เอกจฺเจ โมฆปุริสา โหนฺติ, ตตฺร ภควา ปสฺสติ – ‘‘อิเม อิมํ ปฺหํ อุคฺคเหตฺวา อชานิตฺวาว ชานนฺตา วิย อปฺปตฺเต ปตฺตสฺิโน หุตฺวา คามนิคมาทีสุ วิเสวมานา วิจริสฺสนฺติ, ตํ เนสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ เอวมสฺสายํ อิจฺฉาจาเร ¶ ิตานํ การณา ปฏิปนฺนกานมฺปิ อตฺถาย ‘‘ธมฺมํ เทสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนสฺส จิตฺตสฺส อฺถาภาโว โหติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๕๘. โลกามิสาธิมุตฺโตติ วฏฺฏามิส-กามามิส-โลกามิสภูเตสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ อธิมุตฺโต ตนฺนินฺโน ตคฺครุโก ตปฺปพฺภาโร. ตปฺปติรูปีติ ¶ กามคุณสภาคา. อาเนฺชปฏิสํยุตฺตายาติ อาเนฺชสมาปตฺติปฏิสํยุตฺตาย. สํเสยฺยาติ กเถยฺย. อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโตติ อาเนฺชสมาปตฺติสํโยชเนน วิสํสฏฺโ. โลกามิสาธิมุตฺโตติ เอวรูโป หิ ลูขจีวรธโร มตฺติกาปตฺตํ อาทาย อตฺตโน สทิเสหิ กติปเยหิ สทฺธึ ปจฺจนฺตชนปทํ คจฺฉติ, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺกาเล มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘มหาปํสุกุลิกา อาคตา’’ติ ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทตฺวา สกฺกจฺจํ ทานํ เทนฺติ, ภตฺตกิจฺเจ นิฏฺิเต อนุโมทนํ สุตฺวา – ‘‘สฺเวปิ, ภนฺเต, อิเธว ปิณฺฑาย ปวิสถา’’ติ วทนฺติ. อลํ อุปาสกา, อชฺชาปิ โว พหูนํ ทินฺนนฺติ. เตน หิ, ภนฺเต, อนฺโตวสฺสํ อิธ วเสยฺยาถาติ อธิวาเสตฺวา วิหารมคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา วิหารํ ¶ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ เสนาสนํ คเหตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมนฺติ. สายํ เอโก อาวาสิโก เต ภิกฺขู ปุจฺฉติ ‘‘กตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺถา’’ติ? อสุกคาเมติ. ภิกฺขาสมฺปนฺนาติ? อาม เอวรูปา นาม มนุสฺสานํ สทฺธา โหติ. ‘‘อชฺเชว นุ โข เอเต เอทิสา, นิจฺจมฺปิ เอทิสา’’ติ? สทฺธา เต มนุสฺสา นิจฺจมฺปิ เอทิสา, เต นิสฺสาเยว อยํ วิหาโร วฑฺฒตีติ. ตโต เต ปํสุกุลิกา ปุนปฺปุนํ เตสํ วณฺณํ กเถนฺติ ¶ , ทิวสาวเสสํ กเถตฺวา รตฺติมฺปิ กเถนฺติ. เอตฺตาวตา อิจฺฉาจาเร ิตสฺส สีสํ นิกฺขนฺตํ โหติ อุทรํ ผาลิตํ. เอวํ โลกามิสาธิมุตฺโต เวทิตพฺโพ.
๕๙. อิทานิ อาเนฺชสมาปตฺติลาภึ อธิมานิกํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปเนตนฺติอาทิมาห. อาเนฺชาธิมุตฺตสฺสาติ กิเลสสิฺจนวิรหิตาสุ เหฏฺิมาสุ ฉสุ สมาปตฺตีสุ อธิมุตฺตสฺส ตนฺนินฺนสฺส ตคฺครุโน ตปฺปพฺภารสฺส. เส ปวุตฺเตติ ตํ ปวุตฺตํ. ฉ สมาปตฺติลาภิโน หิ อธิมานิกสฺส ปฺจกามคุณามิสพนฺธนา ปติตปณฺฑุปลาโส วิย อุปฏฺาติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๐. อิทานิ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ ลาภิโน อธิมานิกสฺส นิฆํสํ ทสฺเสตุํ านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเวธา ภินฺนาติ มชฺเฌ ภินฺนา. อปฺปฏิสนฺธิกาติ ขุทฺทกา มุฏฺิปาสาณมตฺตา ชตุนา วา สิเลเสน วา อลฺลียาเปตฺวา ปฏิสนฺธาตุํ สกฺกา. มหนฺตํ ปน กุฏาคารปฺปมาณํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เส ภินฺเนติ ตํ ภินฺนํ. อุปริ ¶ สมาปตฺติลาภิโน หิ เหฏฺาสมาปตฺติ ทฺเวธาภินฺนา เสลา วิย โหติ, ตํ สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๑. อิทานิ เนวสฺานาสฺายตนลาภิโน อธิมานิกสฺส จ นิฆํสํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ เส วนฺเตติ ตํ วนฺตํ. อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ¶ หิ เหฏฺาสมาปตฺติโย วนฺตสทิสา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ปุน สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๒. อิทานิ ขีณาสวสฺส นิฆํสํ ทสฺเสนฺโต านํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ เส อุจฺฉินฺนมูเลติ โส อุจฺฉินฺนมูโล. อุปริ สมาปตฺติลาภิโน หิ เหฏฺาสมาปตฺติ มูลจฺฉินฺนตาโล วิย อุปฏฺาติ, ตํ สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. เตเนตํ วุตฺตํ.
๖๓. านํ ¶ โข ปนาติ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เหฏฺา หิ สมาปตฺติลาภิโน อธิมานิกสฺสปิ ขีณาสวสฺสปิ นิฆํโส กถิโต, สุกฺขวิปสฺสกสฺส ปน อธิมานิกสฺสปิ ขีณาสวสฺสปิ น กถิโต. เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ นิฆํสํ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. สมาปตฺติลาภิโน หิ อธิมานิกสฺส นิฆํเส กถิเต สุกฺขวิปสฺสกสฺสปิ อธิมานิกสฺส กถิโตว โหติ, สมาปตฺติลาภิโน จ ขีณาสวสฺส กถิเต สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวสฺส กถิโตว โหติ. เอเตสํ ปน ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ สปฺปายาสปฺปายํ กเถตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ สิยา – ปุถุชฺชนสฺส ตาว อารมฺมณํ อสปฺปายํ โหตุ, ขีณาสวสฺส กถํ อสปฺปายนฺติ. ยทคฺเคน ปุถุชฺชนสฺส อสปฺปายํ, ตทคฺเคน ขีณาสวสฺสาปิ อสปฺปายเมว. วิสํ นาม ชานิตฺวา ขาทิตมฺปิ อชานิตฺวา ขาทิตมฺปิ วิสเมว. น หิ ขีณาสเวนปิ ‘‘อหํ ขีณาสโว’’ติ อสํวุเตน ภวิตพฺพํ. ขีณาสเวนปิ ยุตฺตปยุตฺเตเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ.
๖๔. ตตฺถ ¶ สมเณนาติ พุทฺธสมเณน. ฉนฺทราคพฺยาปาเทนาติ โส อวิชฺชาสงฺขาโต วิสโทโส ฉนฺทราเคน จ พฺยาปาเทน จ รุปฺปติ กุปฺปติ. อสปฺปายานีติ อวฑฺฒิกรานิ อารมฺมณานิ. อนุทฺธํเสยฺยาติ โสเสยฺย ¶ มิลาเปยฺย. สอุปาทิเสสนฺติ สคหณเสสํ, อุปาทิตพฺพํ คณฺหิตพฺพํ อิธ อุปาทีติ วุตฺตํ. อนลฺจ เต อนฺตรายายาติ ชีวิตนฺตรายํ เต กาตุํ อสมตฺถํ. รโชสูกนฺติ รโช จ วีหิสุกาทิ จ สูกํ. อสุ จ วิสโทโสติ โส จ วิสโทโส. ตทุภเยนาติ ยา สา อสปฺปายกิริยา จ โย วิสโทโส จ, เตน อุภเยน. ปุถุตฺตนฺติ มหนฺตภาวํ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ สอุปาทานสลฺลุทฺธาโร วิย อปฺปหีโน อวิชฺชาวิสโทโส ทฏฺพฺโพ, อสปฺปายกิริยาย ิตภาโว วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อสํวุตกาโล, ตทุภเยน วเณ ปุถุตฺตํ คเต มรณํ วิย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตนํ, มรณมตฺตํ ทุกฺขํ วิย อฺตราย ครุกาย สํกิลิฏฺาย อาปตฺติยา อาปชฺชนํ ทฏฺพฺพํ. สุกฺกปกฺเขปิ อิมินาว นเยน โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
๖๕. สติยาเยตํ ¶ อธิวจนนฺติ เอตฺถ สติ ปฺาคติกา. โลกิกาย ปฺาย โลกิกา โหติ, โลกุตฺตราย โลกุตฺตรา. อริยาเยตํ ปฺายาติ ปริสุทฺธาย วิปสฺสนาปฺาย.
อิทานิ ขีณาสวสฺส พลํ ทสฺเสนฺโต โส วตาติอาทิมาห. ตตฺถ สํวุตการีติ ปิหิตการี. อิติ ¶ วิทิตฺวา นิรุปธีติ เอวํ ชานิตฺวา กิเลสุปธิปหานา นิรุปธิ โหติ, นิรุปาทาโนติ อตฺโถ. อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโตติ อุปธีนํ สงฺขยภูเต นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. อุปธิสฺมินฺติ กามุปธิสฺมึ. กายํ อุปสํหริสฺสตีติ กายํ อลฺลียาเปสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต ขีณาสโว ปฺจ กามคุเณ เสวิตุํ, กายํ วา อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สุนกฺขตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อาเนฺชสปฺปายสุตฺตวณฺณนา
๖๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ. ตตฺถ อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา. กามาติ วตฺถุกามาปิ กิเลสกามาปิ. ตุจฺฉาติ นิจฺจสารธุวสารอตฺตสารวิรหิตตฺตา ริตฺตา, น ปน นตฺถีติ คเหตพฺพา. น หิ ตุจฺฉมุฏฺีติ วุตฺเต มุฏฺิ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส ปน อพฺภนฺตเร กิฺจิ นตฺถิ, โส วุจฺจติ ตุจฺโฉ. มุสาติ นาสนกา. โมสธมฺมาติ นสฺสนสภาวา, เขตฺตํ วิย วตฺถุ วิย หิรฺสุวณฺณํ วิย จ น ปฺายิตฺถ, กติปาเหเนว ¶ สุปินเก ทิฏฺา วิย นสฺสนฺติ น ปฺายนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โมสธมฺมา’’ติ, มายากตเมตนฺติ ยถา มายาย อุทกํ มณีติ กตฺวา ทสฺสิตํ, พทริปณฺณํ กหาปโณติ กตฺวา ทสฺสิตํ, อฺํ วา ปน เอวรูปํ ทสฺสนูปจาเร ิตสฺเสว ตถา ปฺายติ, อุปจาราติกฺกมโต ปฏฺาย ปากติกเมว ปฺายติ. เอวํ กามาปิ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน ‘‘มายากต’’นฺติ วุตฺตา. ยถา จ มายากาโร อุทกาทีนิ มณิอาทีนํ วเสน ทสฺเสนฺโต วฺเจติ, เอวํ กามาปิ อนิจฺจาทีนิ นิจฺจาทิสภาวํ ทสฺเสนฺตา วฺเจนฺตีติ วฺจนกฏฺเนปิ ‘‘มายากต’’นฺติ วุตฺตา. พาลลาปนนฺติ มยฺหํ ปุตฺโต, มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ หิรฺํ มยฺหํ สุวณฺณนฺติ เอวํ พาลานํ ลาปนโต พาลลาปนํ. ทิฏฺธมฺมิกา กามาติ มานุสกา ปฺจ กามคุณา. สมฺปรายิกาติ เต เปตฺวา อวเสสา. ทิฏฺธมฺมิกา. กามสฺาติ มานุสเก กาเม อารพฺภ อุปฺปนฺนสฺา. อุภยเมตํ มารเธยฺยนฺติ เอเต กามา จ กามสฺา จ อุภยมฺปิ มารเธยฺยํ. เยหิ อุภยเมตํ คหิตํ, เตสฺหิ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย ‘‘อุภยเมตํ มารเธยฺย’’นฺติ วุตฺตํ.
มารสฺเสส วิสโยติอาทีสุปิ ยถา โจฬสฺส วิสโย โจฬวิสโย, ปณฺฑสฺส วิสโย ปณฺฑวิสโย, สํวรานํ วิสโย สํวรวิสโยติ ปวตฺตนฏฺานํ วิสโยติ วุจฺจติ, เอวํ เยหิ เอเต กามา คหิตา, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส วิสโยติ วุตฺตํ. ปฺจ ปน กามคุเณ นิวาปพีชํ วิย วิปฺปกิรนฺโต ¶ มาโร คจฺฉติ. เยหิ ปน เต คหิตา, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส นิวาโปติ วุตฺตํ. ยถา จ ยตฺถ หตฺถิอาทโย ¶ วสํ วตฺเตนฺติ, โส หตฺถิโคจโร อสฺสโคจโร อชโคจโรติ วุจฺจติ, เอวํ ¶ เยหิ เอเต กามา คหิตา, เตสุ มาโร วสํ วตฺเตติ. ตํ สนฺธาย มารสฺเสส โคจโรติ วุตฺตํ.
เอตฺถาติ เอเตสุ กาเมสุ. มานสาติ จิตฺตสมฺภูตา. ตตฺถ สิยา – ทุวิเธ ตาว กาเม อารพฺภ อภิชฺฌานลกฺขณา อภิชฺฌา, กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ จ อุปฺปชฺชตุ, พฺยาปาโท กถํ อุปฺปชฺชตีติ? มมายิเต วตฺถุสฺมึ อจฺฉินฺเนปิ โสจนฺติ, อจฺฉิชฺชนฺเตปิ โสจนฺติ, อจฺฉินฺนสงฺกิโนปิ โสจนฺติ, โย เอวรูโป จิตฺตสฺส อาฆาโตติ เอวํ อุปฺปชฺชติ. เตว อริยสาวกสฺสาติ เต อริยสาวกสฺส. วกาโร อาคมสนฺธิมตฺตํ โหติ. อิธ มนุสิกฺขโตติ อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขนฺตสฺส เต ตโยปิ กิเลสา อนฺตรายกรา โหนฺติ. อภิภุยฺย โลกนฺติ กามโลกํ อภิภวิตฺวา. อธิฏฺาย มนสาติ ฌานารมฺมณจิตฺเตน อธิฏฺหิตฺวา. อปริตฺตนฺติ กามาวจรจิตฺตํ ปริตฺตํ นาม, ตสฺส ปฏิกฺเขเปน มหคฺคตํ อปริตฺตํ นาม. ปมาณนฺติปิ กามาวจรเมว, รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อปฺปมาณํ. สุภาวิตนฺติ ปน เอตํ กามาวจราทีนํ นามํ น ¶ โหติ, โลกุตฺตรสฺเสเวตํ นามํ. ตสฺมา เอตสฺส วเสน อปริตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตนฺติ สพฺพํ โลกุตฺตรเมว วฏฺฏติ.
ตพฺพหุลวิหาริโนติ กามปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อายตเน จิตฺตํ ปสีทตีติ การเณ จิตฺตํ ปสีทติ. กึ ปเนตฺถ การณํ? อรหตฺตํ วา, อรหตฺตสฺส วิปสฺสนํ วา, จตุตฺถชฺฌานํ วา, จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารํ วา. สมฺปสาเท สตีติ เอตฺถ ทุวิโธ สมฺปสาโท อธิโมกฺขสมฺปสาโท จ ปฏิลาภสมฺปสาโท จ. อรหตฺตสฺส หิ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา วิหรโต มหาภูตาทีสุ อุปฏฺหนฺเตสุ เยนิเม นีหาเรน มหาภูตา อุปฏฺหนฺติ, อุปาทารูปา อุปฏฺหนฺติ นามรูปา อุปฏฺหนฺติ, ปจฺจยา สพฺพถา อุปฏฺหนฺติ, ลกฺขณารมฺมณา วิปสฺสนา อุปฏฺหติ, อชฺเชว อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ อปฺปฏิลทฺเธเยว อาสา สนฺติฏฺติ, อธิโมกฺขํ ปฏิลภติ. ตติยชฺฌานํ วา ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานตฺถาย กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส นีวรณวิกฺขมฺภนาทีนิ สมนุปสฺสโต เยนิเม นีหาเรน นีวรณา วิกฺขมฺภนฺติ, กิเลสา สนฺนิสีทนฺติ, สติ สนฺติฏฺติ, สงฺขารคตํ วา วิภูตํ ปากฏํ หุตฺวา ทิพฺพจกฺขุกสฺส ปรโลโก วิย อุปฏฺาติ ¶ , จิตฺตุปฺปาโท เลปปิณฺเฑ ลคฺคมาโน วิย อุปจาเรน สมาธิยติ, อชฺเชว จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามีติ อปฏิลทฺเธเยว อาสา สนฺติฏฺติ, อธิโมกฺขํ ปฏิลภติ ¶ . อยํ อธิโมกฺขสมฺปสาโท ¶ นาม. ตสฺมึ สมฺปสาเท สติ. โย ปน อรหตฺตํ วา ปฏิลภติ จตุตฺถชฺฌานํ วา, ตสฺส จิตฺตํ วิปฺปสนฺนํ โหติเยว. อิธ ปน ‘‘อายตเน จิตฺตํ ปสีทตี’’ติ วจนโต อรหตฺตวิปสฺสนาย เจว จตุตฺถชฺฌานูปจารสฺส จ ปฏิลาโภ ปฏิลาภสมฺปสาโทติ เวทิตพฺโพ. วิปสฺสนา หิ ปฺาย อธิมุจฺจนสฺส การณํ, อุปจารํ อาเนฺชสมาปตฺติยา.
เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ. ปฺาย วา อธิมุจฺจตีติ เอตฺถ เอตรหิ วา ปฺาย อธิมุจฺจติ, อาเนฺชํ วา สมาปชฺชตีติ เอวํ ปทปริวตฺตนํ กตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ตสฺมึ สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา ปฺาย อธิมุจฺจติ, อรหตฺตํ สจฺฉิกโรตีติ อตฺโถ. ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชติ, อถ วา ปฺาย วา อธิมุจฺจตีติ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวติ, ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชติ. อรหตฺตมคฺคํ ภาเวตุํ อสกฺโกนฺโต เอตรหิ จตุสจฺจํ วา สจฺฉิกโรติ. ตํ อนภิสมฺภุณนฺโต อาเนฺชํ วา สมาปชฺชตีติ.
ตตฺรายํ นโย – อิธ ภิกฺขุ ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส กสิณปริกมฺมํ กโรติ. ตสฺส นีวรณา วิกฺขมฺภนฺติ, สติ สนฺติฏฺติ, อุปจาเรน จิตฺตํ สมาธิยติ. โส รูปารูปํ ปริคณฺหาติ, ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ, ลกฺขณารมฺมณิกํ วิปสฺสนํ ววตฺถเปติ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อุปจาเรน เม ฌานํ วิเสสภาคิยํ ภเวยฺย, ติฏฺตุ วิเสสภาคิยตา, นิพฺเพธภาคิยํ นํ กริสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ. เอตฺตเกนสฺส กิจฺจํ กตํ นาม โหติ. อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺโต ปน ตโต โอสกฺกิตมานโส อนฺตรา น ติฏฺติ, จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชติเยว. ยถา กึ? ยถา ปุริโส ‘‘วนมหึสํ ฆาเตสฺสามี’’ติ สตฺตึ คเหตฺวา อนุพนฺธนฺโต ¶ สเจ ตํ ฆาเตติ, สกลคามวาสิโน โตเสสฺสติ, อสกฺโกนฺโต ปน อนฺตรามคฺเค สสโคธาทโย ขุทฺทกมิเค ฆาเตตฺวา กาชํ ปูเรตฺวา เอติเยว.
ตตฺถ ¶ ปุริสสฺส สตฺตึ คเหตฺวา วนมหึสานุพนฺธนํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานสฺส ปริกมฺมกรณํ, วนมหึสฆาตนํ วิย – ‘‘นีวรณวิกฺขมฺภนาทีนิ สมนุปสฺสโต วิเสสภาคิยํ ภเวยฺย, ติฏฺตุ วิเสสภาคิยตา, นิพฺเพธภาคิยํ ¶ นํ กริสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตสฺส สจฺฉิกรณํ, มหึสํ ฆาเตตุํ อสกฺโกนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สสโคธาทโย ขุทฺทกมิเค ฆาเตตฺวา กาชํ ปูเรตฺวา คมนํ วิย อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส, ตโต โอสกฺกิตฺวา จตุตฺถชฺฌานสมาปชฺชนํ เวทิตพฺพํ. มคฺคภาวนา จตุสจฺจสจฺฉิกิริยาโยชนาสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ อสกฺโกนฺตสฺส นิพฺพตฺตฏฺานํ ทสฺเสนฺโต กายสฺส เภทาติอาทิมาห. ตตฺถ ยนฺติ เยน การเณน ตํ สํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ, ตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ตํสํวตฺตนิกนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน สํวตฺตนิกํ. เยน วิปากวิฺาเณน โส ภิกฺขุ สํวตฺตติ นิพฺพตฺตติ, ตํ วิฺาณํ. อาเนฺชูปคนฺติ กุสลาเนฺชสภาวูปคตํ อสฺส, ตาทิสเมว ภเวยฺยาติ ¶ อตฺโถ. เกจิ กุสลวิฺาณํ วทนฺติ. ยํ ตสฺส ภิกฺขุโน สํวตฺตนิกํ อุปปตฺติเหตุภูตํ กุสลวิฺาณํ อาเนฺชูปคตํ อสฺส, วิปากกาเลปิ ตนฺนามกเมว อสฺสาติ อตฺโถ. โส ปนายมตฺโถ – ‘‘ปฺุํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปฺุูปคํ โหติ วิฺาณํ. อปฺุํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขาโรติ, อปฺุุปคํ โหติ วิฺาณํ. อาเนฺชํ เจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อาเนฺชูปคํ โหติ วิฺาณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อิมินา นเยน เวทิตพฺโพ. อาเนฺชสปฺปายาติ อาเนฺชสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส สปฺปายา. น เกวลฺจ สา อาเนฺชสฺเสว, อุปริ อรหตฺตสฺสาปิ สปฺปายาว อุปการภูตาเยวาติ เวทิตพฺพา. อิติ อิมสฺมึ ปมกอาเนฺเช สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๖๗. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ จตุตฺถชฺฌานํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ ภิกฺขุ เหฏฺิเมน ภิกฺขุนา ปฺวนฺตตโร ตสฺส จ ภิกฺขุโน อตฺตโน จาติ ทฺวินฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ รูปปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อาเนฺชํ สมาปชฺชตีติ ¶ อากาสานฺจายตานาเนฺชํ สมาปชฺชติ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ วิเสสมตฺตเมว ปน วกฺขาม. อิติ อิมสฺมึ ทุติยอาเนฺเช วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา, ‘‘ยํกิฺจิ ¶ รูป’’นฺติ เอวํ วิปสฺสนามคฺคํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาติ อตฺโถ.
อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อากาสานฺจายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ติณฺณมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. อุภยเมตํ อนิจฺจนฺติ เอตฺถ อฏฺ เอเกกโกฏฺาสา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกวเสน ปน สงฺขิปิตฺวา อุภยนฺติ วุตฺตํ. นาลํ อภินนฺทิตุนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทิตุํ น ยุตฺตํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตพฺพหุลวิหาริโนติ กามปฏิพาหเนน จ รูปปฏิพาหเนน จ ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อาเนฺชํ สมาปชฺชตีติ วิฺาณฺจายตนาเนฺชํ สมาปชฺชติ. อิมสฺมึ ตติยอาเนฺเช วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๖๘. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ตีหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ จตุนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยํ อากิฺจฺายตนํ ปตฺวา เอตา เหฏฺา วุตฺตา สพฺพสฺา นิรุชฺฌนฺติ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ เอตํ องฺคสนฺตตาย อารมฺมณสนฺตตาย จ สนฺตํ, อตปฺปกฏฺเน ปณีตํ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ ตาสํ สฺานํ ปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ปมากิฺจฺายตเน สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนเมว ปตฺวา เอวํ ¶ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา จตูหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ปฺจนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ อหํ มมาติ คเหตพฺเพน สฺุํ ตุจฺฉํ ริตฺตํ. เอวเมตฺถ ทฺวิโกฏิกา สฺุตา ทสฺสิตา. ตพฺพหุลวิหาริโนติ เหฏฺา วุตฺตปฏิปทฺจ อิมฺจ สฺุตปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ทุติยากิฺจฺายตเน วิปสฺสนาวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๗๐. อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขตีติ วิฺาณฺจายตนเมว ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ปฺจหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ ฉนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ, น จ มม กฺวจนิ กิสฺมิฺจิ ¶ กิฺจนํ นตฺถีติ เอตฺถ ปน จตุโกฏิกา สฺุตา กถิตา. กถํ? อยฺหิ นาหํ กฺวจนีติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ สหายฏฺาเน สหายํ ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปคนฺตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม – สทฺทํ ตาว เปตฺวา น จ กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตีติ อยมตฺโถ. อิทานิ มม – สทฺทํ อาหริตฺวา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถีติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสติ. อตฺตโน ภาติฏฺาเน ภาตรํ สหายฏฺาเน สหายํ ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว ¶ อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, ตสฺมา อยํ สฺุตา จตุโกฏิกาติ เวทิตพฺพา. ตพฺพหุลวิหาริโนติ เหฏฺา วุตฺตปฺปฏิปทํ อิมํ จตุโกฏิสฺุตฺจ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ ตติยากิฺจฺายตเนปิ วิปสฺสนาวเสเนว โอสกฺกนา กถิตา.
อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ อากิฺจฺายตนํ ปตฺวา เอวํ ปฏิสฺจิกฺขติ. อยฺหิ เหฏฺา ฉหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ อตฺตโน จาติ สตฺตนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ ยํ เนวสฺานาสฺายตนํ ปตฺวา เอตฺถ เอตา เหฏฺา วุตฺตา สพฺพสฺา นิรุชฺฌนฺติ. ตพฺพหุลวิหาริโนติ ตาสํ สฺานํ ปฏิพาหเนน ตเมว ปฏิปทํ พหุลํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส. อิมสฺมึ เนวสฺานาสฺายตเน สมาธิวเสน โอสกฺกนา กถิตา.
๗๑. โน จสฺส โน จ เม สิยาติ สเจ มยฺหํ ปุพฺเพ ปฺจวิธํ กมฺมวฏฺฏํ น อายูหิตํ อสฺส, ยํ เม อิทํ เอตรหิ เอวํ ปฺจวิธํ วิปากวฏฺฏํ เอตํ เม น ¶ สิยา นปฺปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ. น ภวิสฺสตีติ สเจ เอตรหิ ปฺจวิธํ กมฺมวฏฺฏํ อายูหิตํ น ภวิสฺสติ. น เม ภวิสฺสตีติ ตสฺมึ อสติ อนาคเต เม ปฺจวิธํ วิปากวฏฺฏํ น ภวิสฺสติ. ยทตฺถิ ยํ ภูตํ ¶ ตํ ปชหามีติ ยํ อตฺถิ ยํ ภูตํ เอตรหิ ขนฺธปฺจกํ, ตํ ปชหามิ. เอวํ ¶ อุเปกฺขํ ปฏิลภตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ วิปสฺสนุเปกฺขํ ลภตีติ อตฺโถ.
ปรินิพฺพาเยยฺย นุ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ น วา ปรินิพฺพาเยยฺยาติ กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ, ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส อรหตฺตมฺปิ โอสกฺกนาปิ ปฏิปทาปิ ปฏิสนฺธิปิ กถิตา, ตถา จตุตฺถชฺฌานาทีนิ ปาทกานิ กตฺวา ิตานํ, เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส น กิฺจิ กถิตํ, ตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อเปตฺถาติ อปิ เอตฺถ. โส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทตีติ โส ตํ วิปสฺสนุเปกฺขํ ตณฺหาทิฏฺิอภินนฺทนาหิ อภินนฺทติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณนฺติ วิฺาณํ วิปสฺสนานิสฺสิตํ โหติ. ตทุปาทานนฺติ ยํ นิกนฺติวิฺาณํ, ตํ ตสฺส อุปาทานํ นาม คหณํ นาม โหติ. สอุปาทาโนติ สคหโณ. น ปรินิพฺพายตีติ วิปสฺสนาย สาลโย ภิกฺขุ มม สาสเน น ปรินิพฺพายติ. โย ปน วิหารปริเวณอุปฏฺากาทีสุ สาลโย, ตสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. กหํ ปนาติ? กตฺถ ปน? อุปาทิยมาโน ¶ อุปาทิยตีติ ปฏิสนฺธึ คณฺหมาโน คณฺหาติ. อุปาทานเสฏฺํ กิร โส, ภนฺเตติ, ภนฺเต, โส กิร ภิกฺขุ คเหตพฺพฏฺานํ เสฏฺํ อุตฺตมํ ภวํ อุปาทิยติ, เสฏฺภเว ปฏิสนฺธึ คณฺหาตีติ อตฺโถ. อิมินา ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสนฺธิ กถิตา. อิทานิสฺส อรหตฺตํ กเถตุํ อิธานนฺทาติอาทิมาห.
๗๓. นิสฺสาย นิสฺสายาติ ตํ ตํ สมาปตฺตึ นิสฺสาย. โอฆสฺส นิตฺถรณา อกฺขาตาติ โอฆตรณํ กถิตํ, ตติยชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ิตภิกฺขุโน โอฆนิตฺถรณา กถิตา…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตภิกฺขุโน โอฆนิตฺถรณา กถิตาติ วทติ.
กตโม ปน, ภนฺเต, อริโย วิโมกฺโขติ อิธ กึ ปุจฺฉติ? สมาปตฺตึ ตาว ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุ นาวํ วา อุฬุมฺปาทีนิ วา นิสฺสาย มโหฆํ ตริตฺวา ปารํ คจฺฉนฺโต วิย ¶ น กิลมติ. สุกฺขวิปสฺสโก ปน ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ คณฺหนฺโต พาหุพเลน โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปารํ คจฺฉนฺโต วิย กิลมติ. อิติ อิมสฺส สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อริยสาวโกติ สุกฺขวิปสฺสโก อริยสาวโก. อยฺหิ เหฏฺา อฏฺหิ ภิกฺขูหิ ปฺวนฺตตโร เตสฺจ ภิกฺขูนํ ¶ อตฺตโน จาติ นวนฺนมฺปิ กมฺมฏฺานํ เอกโต กตฺวา สมฺมสติ. เอส สกฺกาโย ยาวตา สกฺกาโยติ ยตฺตโก เตภูมกวฏฺฏสงฺขาโต สกฺกาโย นาม อตฺถิ, สพฺโพปิ โส เอส สกฺกาโย, น อิโต ปรํ สกฺกาโย อตฺถีติ ปฏิสฺจิกฺขติ.
เอตํ ¶ อมตํ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ โย ปเนส จิตฺตสฺส อนุปาทาวิโมกฺโข นาม, เอตํ อมตํ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตนฺติ ปฏิสฺจิกฺขติ. อฺตฺถ จ ‘‘อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ นิพฺพานํ วุจฺจติ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตํ กถิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
เกวลํ ปน อิมสฺมึ สุตฺเต สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนา กถิตา, อฏฺสุ าเนสุ ปฏิสนฺธิ, นวสุ าเนสุ อรหตฺตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? ตติยํ ฌานํ ตาว ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน โอสกฺกนา กถิตา, ปฏิสนฺธิ กถิตา, อรหตฺตํ กถิตํ, ตถา จตุตฺถชฺฌานํ, ตถา อากาสานฺจายตนํ. วิฺาณฺจายตนํ ปน ปทฏฺานํ กตฺวา ิตานํ ติณฺณํ ภิกฺขูนํ โอสกฺกนา กถิตา, ปฏิสนฺธิ กถิตา, อรหตฺตํ กถิตํ. ตถา อากิฺจฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ภิกฺขุโน. เนวสฺานาสฺายตนํ ปาทกํ กตฺวา ิตสฺส ปน โอสกฺกนา นตฺถิ, ปฏิสนฺธิ ปน อรหตฺตฺจ กถิตํ. สุกฺขวิปสฺสกสฺส อรหตฺตเมว กถิตนฺติ. เอวํ สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนา กถิตา, อฏฺสุ าเนสุ ปฏิสนฺธิ, นวสุ าเนสุ อรหตฺตํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมฺจ ปน สตฺตสุ าเนสุ โอสกฺกนํ อฏฺสุ ปฏิสนฺธึ นวสุ อรหตฺตํ สโมธาเนตฺวา กเถนฺเตน อิมํ อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ สุกถิตํ นาม โหตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อาเนฺชสปฺปายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๗๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ. ตตฺถ ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวราติ ยาว ปมโสปานผลกา เอกทิวเสเนว สตฺตภูมิโก ปาสาโท น สกฺกา กาตุํ, วตฺถุํ โสเธตฺวา ถมฺภุสฺสาปนโต ปฏฺาย ปน ยาว จิตฺตกมฺมกรณา อนุปุพฺพกิริยา เจตฺถ ปฺายตีติ ทสฺเสติ. ยทิทํ อชฺเฌเนติ ตโยปิ เวทา น สกฺกา เอกทิวเสเนว อธียิตุํ, เอเตสํ อชฺเฌเนปิ ปน อนุปุพฺพกิริยาว ปฺายตีติ ทสฺเสติ. อิสฺสตฺเถติ อาวุธวิชฺชายปิ เอกทิวเสเนว วาลเวธิ นาม น สกฺกา กาตุํ, านสมฺปาทนมุฏฺิกรณาทีหิ ปน เอตฺถาปิ อนุปุพฺพกิริยา ปฺายตีติ ทสฺเสติ. สงฺขาเนติ คณนาย. ตตฺถ อนุปุพฺพกิริยํ อตฺตนาว ทสฺเสนฺโต เอวํ คณาเปมาติอาทิมาห.
๗๕. เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณาติ อิธ ภควา ยสฺมา พาหิรสมเย ยถา ยถา สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตถา ตถา เกราฏิกา โหนฺติ, ตสฺมา อตฺตโน สาสนํ พาหิรสมเยน อนุปเมตฺวา ภทฺรอสฺสาชานีเยน อุปเมนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ภทฺโร หิ อสฺสาชานีโย ยสฺมึ การเณ ทมิโต โหติ, ตํ ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมติ. เอวเมว สาสเน สมฺมาปฏิปนฺโน กุลปุตฺโต สีลเวลํ นาติกฺกมติ. มุขาธาเนติ มุขฏฺปเน.
๗๖. สติสมฺปชฺาย จาติ สติสมฺปชฺาหิ สมงฺคิภาวตฺถาย ¶ . ทฺเว หิ ขีณาสวา สตตวิหารี จ โนสตตวิหารี จ. ตตฺถ สตตวิหารี ยํกิฺจิ กมฺมํ กตฺวาปิ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, โน สตตวิหารี ปน อปฺปมตฺตเกปิ กิจฺเจ กิจฺจปฺปสุโต หุตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตุํ น สกฺโกติ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร ขีณาสวตฺเถโร ขีณาสวสามเณรํ คเหตฺวา อรฺวาสํ คโต, ตตฺถ มหาเถรสฺส เสนาสนํ ปตฺตํ, สามเณรสฺส น ปาปุณาติ, ตํ วิตกฺเกนฺโต เถโร เอกทิวสมฺปิ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตุํ นาสกฺขิ. สามเณโร ปน เตมาสํ ผลสมาปตฺติรติยา วีตินาเมตฺวา ‘‘สปฺปาโย ¶ , ภนฺเต, อรฺวาโส ชาโต’’ติ ¶ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘น ชาโต, อาวุโส’’ติ อาห. อิติ โย เอวรูโป ขีณาสโว, โส อิเม ธมฺเม อาทิโต ปฏฺาย อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตุํ สกฺขิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สติสมฺปชฺาย จา’’ติ อาห.
๗๘. เยเม, โภ โคตมาติ ตถาคเต กิร กถยนฺเตว พฺราหฺมณสฺส ‘‘อิเม ปุคฺคลา น อาราเธนฺติ, อิเม อาราเธนฺตี’’ติ นโย อุทปาทิ, ตํ ทสฺเสนฺโต เอวํ วตฺตุมารทฺโธ.
ปรมชฺชธมฺเมสูติ อชฺชธมฺมา นาม ฉสตฺถารธมฺมา, เตสุ โคตมวาโทว, ปรโม อุตฺตโมติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
๗๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ. ตตฺถ อจิรปรินิพฺพุเต ภควตีติ ภควติ อจิรปรินิพฺพุเต, ธาตุภาชนียํ กตฺวา ธมฺมสงฺคีตึ กาตุํ ราชคหํ อาคตกาเล ¶ . รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโนติ จณฺฑปชฺโชโต นาเมส ราชา พิมฺพิสารมหาราชสฺส สหาโย อโหสิ, ชีวกํ เปเสตฺวา เภสชฺชการิตกาลโต ปฏฺาย ปน ทฬฺหมิตฺโตว ชาโต, โส ‘‘อชาตสตฺตุนา เทวทตฺตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตา ฆาติโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มม ปิยมิตฺตํ ฆาเตตฺวา เอส รชฺชํ กริสฺสามีติ มฺติ, มยฺหํ สหายสฺส สหายานํ อตฺถิกภาวํ ชานาเปสฺสามี’’ติ ปริสติ วาจํ อภาสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺส อาสงฺกา อุปฺปนฺนา. เตน วุตฺตํ ‘‘รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโน’’ติ. กมฺมนฺโตติ พหินคเร นครปฏิสงฺขาราปนตฺถาย กมฺมนฺตฏฺานํ.
อุปสงฺกมีติ มยํ ธมฺมวินยสงฺคีตึ กาเรสฺสามาติ วิจราม, อยฺจ มเหสกฺโข ราชวลฺลโภ สงฺคเห กเต เวฬุวนสฺส อารกฺขํ กเรยฺยาติ มฺมาโน อุปสงฺกมิ. เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ สพฺพฺุตฺาณธมฺเมหิ. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺพากาเรน สพฺพํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺพโกฏฺาเสหิ ¶ สพฺพํ. กึ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? ฉ หิ สตฺถาโร ปมตรํ อปฺปฺาตกุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา, เต ตถาคเต ธรมาเนเยว กาลํกตา, สาวกาปิ เนสํ อปฺปฺาตกุเลเหว ปพฺพชิตา. เต เตสํ อจฺจเยน มหาวิวาทํ อกํสุ. สมโณ ปน โคตโม มหากุลา ปพฺพชิโต, ตสฺส อจฺจเยน สาวกานํ มหาวิวาโท ภวิสฺสตีติ อยํ กถา สกลชมฺพุทีปํ ปตฺถรมานา อุทปาทิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ จ ธรนฺเต ภิกฺขูนํ วิวาโท นาโหสิ. โยปิ อโหสิ, โสปิ ตตฺเถว วูปสมิโต. ปรินิพฺพุตกาเล ปนสฺส – ‘‘อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ ¶ สิเนรุํ อปวาหิตุํ สมตฺถสฺส วาตสฺส ปุรโต ปุราณปณฺณํ กึ สฺสติ, ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺตสฺส สตฺถุ อลชฺชมาโน มจฺจุราชา กสฺส ลชฺชิสฺสตี’’ติ มหาสํเวคํ ชเนตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ภิกฺขู สมคฺคา ชาตา อติวิย อุปสนฺตุปสนฺตา, กึ นุ โข เอตนฺติ อิทํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ. อนุสฺายมาโนติ อนุสฺชายมาโน, กตากตํ ชนนฺโตติ อตฺโถ. อนุวิจรมาโน วา.
๘๐. อตฺถิ ¶ นุ โขติ อยมฺปิ เหฏฺิมปุจฺฉเมว ปุจฺฉติ. อปฺปฏิสรเณติ อปฺปฏิสรเณ ธมฺมวินเย. โก เหตุ สามคฺคิยาติ ตุมฺหากํ สมคฺคภาวสฺส โก เหตุ โก ปจฺจโย. ธมฺมปฺปฏิสรณาติ ธมฺโม อมฺหากํ ปฏิสรณํ, ธมฺโม อวสฺสโยติ ทีเปติ.
๘๑. ปวตฺตตีติ ปคุณํ หุตฺวา อาคจฺฉติ. อาปตฺติ โหติ วีติกฺกโมติ อุภยเมตํ พุทฺธสฺส อาณาติกฺกมนเมว. ยถาธมฺมํ ยถานุสิฏฺํ กาเรมาติ ยถา ธมฺโม จ อนุสิฏฺิ จ ิตา, เอวํ กาเรมาติ อตฺโถ.
น กิร โน ภวนฺโต กาเรนฺติ ธมฺโม โน กาเรตีติ ปททฺวเยปิ โน กาโร นิปาตมตฺตํ. เอวํ สนฺเต น กิร ภวนฺโต กาเรนฺติ, ธมฺโมว กาเรตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
๘๓. ตคฺฆาติ ¶ เอกํเส นิปาโต. กหํ ปน ภวํ อานนฺโทติ กึ เถรสฺส เวฬุวเน วสนภาวํ น ชานาตีติ? ชานาติ. เวฬุวนสฺส ปน ¶ อเนน อารกฺขา ทินฺนา, ตสฺมา อตฺตานํ อุกฺกํสาเปตุกาโม ปุจฺฉติ. กสฺมา ปน เตน ตตฺถ อารกฺขา ทินฺนา? โส กิร เอกทิวสํ มหากจฺจายนตฺเถรํ คิชฺฌกูฏา โอตรนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘มกฺกโฏ วิย เอโส’’ติ อาห. ภควา ตํ กถํ สุตฺวา – ‘‘สเจ ขมาเปติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ขมาเปติ, อิมสฺมึ เวฬุวเน โคนงฺคลมกฺกโฏ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โส ตํ กถํ สุตฺวา – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส กถาย ทฺเวธาภาโว นาม นตฺถิ, ปจฺฉา เม มกฺกฏภูตกาเล โคจรฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ เวฬุวเน นานาวิเธ รุกฺเข โรเปตฺวา อารกฺขํ อทาสิ. อปรภาเค กาลํ กตฺวา มกฺกโฏ หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ‘‘วสฺสการา’’ติ วุตฺเต อาคนฺตฺวา สมีเป อฏฺาสิ. ตคฺฆาติ สพฺพวาเรสุ เอกํสวจเนเยว นิปาโต. ตคฺฆ, โภ อานนฺทาติ เอวํ เถเรน ปริสมชฺเฌ อตฺตโน อุกฺกํสิตภาวํ ตฺวา อหมฺปิ เถรํ อุกฺกํสิสฺสามีติ เอวมาห.
๘๔. น จ โข, พฺราหฺมณาติ เถโร กิร จินฺเตสิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน วณฺณิตชฺฌานมฺปิ อตฺถิ, อวณฺณิตชฺฌานมฺปิ อตฺถิ, อยํ ปน พฺราหฺมโณ สพฺพเมว วณฺเณตีติ ปฺหํ วิสํวาเทติ, น โข ปน สกฺกา อิมสฺส มุขํ อุลฺโลเกตุํ น ปิณฺฑปาตํ รกฺขิตุํ, ปฺหํ อุชุํ กตฺวา กเถสฺสามี’’ติ ¶ อิทํ วตฺตุํ อารทฺธํ. อนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตรํ กริตฺวา. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสีติ อิธ สพฺพสงฺคาหกชฺฌานํ นาม กถิตํ.
ยํ ¶ โน มยนฺติ อยํ กิร พฺราหฺมโณ วสฺสการพฺราหฺมณํ อุสูยติ, เตน ปุจฺฉิตปฺหสฺส อกถนํ ปจฺจาสีสมาโน กถิตภาวํ ตฺวา ‘‘วสฺสกาเรน ปุจฺฉิตํ ปฺหํ ปุนปฺปุนํ ตสฺส นามํ คณฺหนฺโต วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ, มยา ปุจฺฉิตปฺหํ ปน ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺโต วิย เอกเทสเมว กเถสี’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ, ตสฺมา เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
๘๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาปุณฺณมสุตฺตํ. ตตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหุ, ตสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ. อุปวสนฺตีติ สีเลน วา อนสเนน วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถุทฺธาโร – ‘‘อายาม, อาวุโส, กปฺปิน, อุโปสถํ คมิสฺสามา’’ติอาทีสุ หิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อุโปสโถ. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข วิสาเข อุโปสโถ อุปวุตฺโถ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๕๓) สีลํ. ‘‘สุทฺธสฺส เว สทา ผคฺคุ, สุทฺธสฺสุโปสโถ สทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๙) อุปวาโส. ‘‘อุโปสโถ นาม นาคราชา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๔๖) ปฺตฺติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ สภิกฺขุกา อาวาสา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๘๑) อุปวสิตพฺพทิวโส. อิธาปิ โสเยว อธิปฺเปโต ¶ . โส ปเนส อฏฺมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีเภเทน ติวิโธ. ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ปนฺนรเสติ วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ’’ติ. มาสปุณฺณตาย ปุณฺณา สํปุณฺณาติ ปุณฺณา. มา-อิติ จนฺโท วุจฺจติ, โส เอตฺถ ปุณฺโณติ ปุณฺณมา. เอวํ ปุณฺณาย ปุณฺณมายาติ อิมสฺมึ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เทสนฺติ การณํ. เตน หิ ตฺวํ ภิกฺขุ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉาติ กสฺมา ภควา ิตสฺส อกเถตฺวา นิสีทาเปสีติ. อยํ กิร ภิกฺขุ สฏฺิมตฺตานํ ปธานิยภิกฺขูนํ สงฺฆตฺเถโร สฏฺิ ภิกฺขู คเหตฺวา อรฺเ วสติ, เต ตสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ฆเฏนฺติ วายมนฺติ. มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหนฺติ อุปาทารูปานิ, นามรูปปจฺจยลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนํ ปริคฺคณฺหนฺติ. อถ เน อาจริยุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺเน เถโร มหาภูตปริคฺคหาทีนิ ปุจฺฉติ. เต สพฺพํ กเถนฺติ, มคฺคผลปฺหํ ปุจฺฉิตา ปน กเถตุํ น สกฺโกนฺติ. อถ เถโร จินฺเตสิ – ‘‘มม สนฺติเก เอเตสํ โอวาทสฺส ปริหานิ นตฺถิ, อิเม จ อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ. กุกฺกุฏสฺส ปานียปิวนกาลมตฺตมฺปิ เนสํ ปมาทกิริยา นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. อหํ อิเมสํ อชฺฌาสยํ น ชานามิ, พุทฺธเวเนยฺยา เอเต ภวิสฺสนฺติ ¶ , คเหตฺวา เน สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉามิ, อถ เนสํ สตฺถา จริยวเสน ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ, เต ภิกฺขู คเหตฺวา ¶ สตฺถุ สนฺติกํ อาคโต.
สตฺถาปิ ¶ สายนฺหสมเย อานนฺทตฺเถเรน อุปนีตํ อุทกํ อาทาย สรีรํ อุตุํ คณฺหาเปตฺวา มิคารมาตุปาสาทปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ นํ ปริวาเรตฺวา นิสีทิ.
ตสฺมึ สมเย สูริโย อตฺถงฺคเมติ, จนฺโท อุคฺคจฺฉติ, มชฺฌฏฺาเน จ ภควา นิสินฺโน. จนฺทสฺส ปภา นตฺถิ, สูริยสฺส ปภา นตฺถิ, จนฺทิมสูริยานํ ปภํ มกฺเขตฺวา ฉพฺพณฺณา ยมกพุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา ปฺุชา ปฺุชา หุตฺวา ทิสาวิทิสาสุ ธาวนฺตีติ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. วณฺณภูมิ นาเมสา, ธมฺมกถิกสฺเสเวตฺถ ถาโม ปมาณํ, ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ กเถตพฺพํ. ทุกฺกถิตนฺติ น วตฺตพฺพํ. เอวํ สนฺนิสินฺนาย ปริสาย เถโร อุฏฺหิตฺวา สตฺถารํ ปฺหสฺส โอกาสํ กาเรสิ. ตโต ภควา – ‘‘สเจ อิมสฺมึ ิตเก ปุจฺฉนฺเต ‘อาจริโย โน อุฏฺิโต’ติ เสสภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺติ, เอวํ ตถาคเต อคารโว กโต ภวิสฺสติ. อถ นิสินฺนาว ปุจฺฉิสฺสนฺติ, อาจริเย อคารโว กโต ภวิสฺสติ, เอกคฺคา หุตฺวา ธมฺมเทสนํ ปฏิจฺฉิตุํ น สกฺกุณิสฺสนฺติ. อาจริเย ปน นิสินฺเน เตปิ นิสีทิสฺสนฺติ. ตโต เอกคฺคา ธมฺมเทสนํ ปฏิจฺฉิตุํ สกฺกุณิสฺสนฺตี’’ติ อิมินา การเณน ภควา ิตสฺส อกเถตฺวา นิสีทาเปตีติ.
อิเม นุ โข, ภนฺเตติ วิมติปุจฺฉา วิย กถิตา. เถโร ปน ปฺจกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ¶ ปตฺโต มหาขีณาสโว, นตฺถิ เอตสฺส วิมติ. ชานนฺเตนปิ ปน อชานนฺเตน วิย หุตฺวา ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ หิ ชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ, ‘‘ชานาติ อย’’นฺติ ตสฺส ตสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต เอกเทสเมว กเถติ. อชานนฺเตน วิย ปุจฺฉิเต ปน กเถนฺโต อิโต จ เอตฺโต จ การณํ อาหริตฺวา ปากฏํ กตฺวา กเถติ. โกจิ ปน อชานนฺโตปิ ชานนฺโต วิย ปุจฺฉติ. เถโร เอวรูปํ วจนํ กึ กริสฺสติ, ชานนฺโตเยว ปน อชานนฺโต วิย ปุจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ.
ฉนฺทมูลกาติ ¶ ตณฺหามูลกา. เอวํรูโป สิยนฺติ สเจ โอทาโต โหตุกาโม, หริตาลวณฺโณ วา มโนสิลาวณฺโณ วา สิยนฺติ ปตฺเถติ ¶ . สเจ กาโฬ โหตุกาโม, นีลุปฺปลวณฺโณ วา อฺชนวณฺโณ วา อตสีปุปฺผวณฺโณ วา สิยนฺติ ปตฺเถติ. เอวํเวทโนติ กุสลเวทโน วา สุขเวทโน วา สิยนฺติ ปตฺเถติ. สฺาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา ปน อตีเต ปตฺถนา นาม นตฺถิ, ปตฺเถนฺเตนาปิ จ น สกฺกา ตํ ลทฺธุํ, ปจฺจุปฺปนฺเนปิ น โหติ, น หิ โอทาโต กาฬภาวํ ปตฺเถตฺวา ปจฺจุปฺปนฺเน กาโฬ โหติ, น กาโฬ วา โอทาโต, ทีโฆ วา รสฺโส, รสฺโส วา ทีโฆ, ทานํ ปน ทตฺวา สีลํ วา สมาทิยิตฺวา ‘‘อนาคเต ขตฺติโย วา โหมิ พฺราหฺมโณ วา’’ติ ปตฺเถนฺตสฺส ปตฺถนา สมิชฺฌติ. ตสฺมา อนาคตเมว คหิตํ.
ขนฺธาธิวจนนฺติ ขนฺธานํ ขนฺธปณฺณตฺติ กิตฺตเกน โหตีติ ปุจฺฉติ.
มหาภูตา เหตูติ ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๔๔๑) หิ เหตุเหตุ วุตฺโต. อวิชฺชา ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณตฺตา สาธารณเหตุ. กุสลากุสลํ อตฺตโน อตฺตโน วิปากทาเน อุตฺตมเหตุ. อิธ ปจฺจยเหตุ อธิปฺเปโต. ตตฺถ ปถวีธาตุ มหาภูตํ อิตเรสํ ติณฺณํ ภูตานํ อุปาทารูปสฺส จ ¶ ปฺาปนาย ทสฺสนตฺถาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
ผสฺโสติ ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วจนโต ผสฺโส ติณฺณํ ขนฺธานํ ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. วิฺาณกฺขนฺธสฺสาติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน ตาว สทฺธึ คพฺภเสยฺยกานํ อุปริมปริจฺเฉเทน สมตึส รูปานิ สมฺปยุตฺตา จ ตโย ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ นามรูปํ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. จกฺขุทฺวาเร จกฺขุปสาโท เจว รูปารมฺมณฺจ รูปํ, สมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา นามํ. ตํ นามรูปํ จกฺขุวิฺาณสฺส ปฺาปนาย เหตุ เจว ปจฺจโย จ. เอเสว นโย เสสวิฺาเณสุ.
๘๗. กถํ ปน, ภนฺเตติ อิทํ กิตฺตเกน นุ โขติ วฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. สกฺกายทิฏฺิ น โหตีติ อิทํ วิวฏฺฏํ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห.
๘๘. อยํ ¶ ¶ รูเป อสฺสาโทติ อิมินา ปริฺาปฏิเวโธ เจว ทุกฺขสจฺจฺจ กถิตํ. อยํ รูเป อาทีนโวติ อิมินา ปหานปฏิเวโธ เจว สมุทยสจฺจฺจ. อิทํ รูเป นิสฺสรณนฺติ อิมินา สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ เจว นิโรธสจฺจฺจ. เย อิเมสุ ตีสุ าเนสุ สมฺมาทิฏฺิอาทโย ธมฺมา, อยํ ภาวนาปฏิเวโธ มคฺคสจฺจํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๘๙. พหิทฺธาติ ปรสฺส สวิฺาณเก กาเย. สพฺพนิมิตฺเตสูติ อิมินา ปน อนินฺทฺริยพทฺธมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สวิฺาณเก กาเย’’ติ วจเนน วา อตฺตโน จ ปรสฺส จ กาโย คหิโตว, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺตคฺคหเณน อนินฺทฺริยพทฺธํ คณฺหาติ.
๙๐. อนตฺตกตานีติ ¶ อนตฺตนิ ตฺวา กตานิ. กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตีติ กตรสฺมึ อตฺตนิ ตฺวา วิปากํ ทสฺเสนฺตีติ สสฺสตทสฺสนํ โอกฺกมนฺโต เอวมาห. ตณฺหาธิปเตยฺเยนาติ ตณฺหาเชฏฺเกน. ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ. สฏฺิมตฺตานนฺติ อิเม ภิกฺขู ปกติกมฺมฏฺานํ ชหิตฺวา อฺํ นวกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺตา ปลฺลงฺกํ อภินฺทิตฺวา ตสฺมึเยว อาสเน อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
๙๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬปุณฺณมสุตฺตํ. ตตฺถ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมว. อนุวิโลเกตฺวาติ ปฺจปสาทปฏิมณฺฑิตานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ตโต ตโต วิโลเกตฺวา อนฺตมโส หตฺถกุกฺกุจฺจปาทกุกฺกุจฺจานมฺปิ อภาวํ ทิสฺวา. อสปฺปุริโสติ ปาปปุริโส. โน เหตํ, ภนฺเตติ ยสฺมา อนฺโธ อนฺธํ วิย โส ตํ ชานิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอวมาหํสุ. เอเตเนว นเยน อิโต ปเรสุปิ วาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสฺสทฺธสมนฺนาคโตติ ปาปธมฺมสมนฺนาคโต. อสปฺปุริสภตฺตีติ อสปฺปุริสเสวโน. อสปฺปุริสจินฺตีติ ¶ ¶ อสปฺปุริสจินฺตาย จินฺตโก. อสปฺปุริสมนฺตีติ อสปฺปุริสมนฺตนํ มนฺเตตา. อสปฺปุริสวาโจติ อสปฺปุริสวาจํ ภาสิตา. อสปฺปุริสกมฺมนฺโตติ อสปฺปุริสกมฺมานํ กตฺตา. อสปฺปุริสทิฏฺีติ อสปฺปุริสทิฏฺิยา สมนฺนาคโต. อสปฺปุริสทานนฺติ อสปฺปุริเสหิ ทาตพฺพํ ทานํ. ตฺยาสฺส มิตฺตาติ เต อสฺส มิตฺตา. อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตตีติ ปาณํ หนิสฺสามิ, อทินฺนํ อาทิยิสฺสามิ, มิจฺฉา จริสฺสามิ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อตฺตโน ทุกฺขตฺถาย จินฺเตติ. ปรพฺยาพาธายาติ ยถา อสุโก อสุกํ ปาณํ หนฺติ, อสุกสฺส สนฺตกํ อทินฺนํ อาทิยติ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตติ, เอวํ นํ อาณาเปสฺสามีติ เอวํ ปรสฺส ทุกฺขตฺถาย จินฺเตติ. อุภยพฺยาพาธายาติ อหํ อสุกฺจ อสุกฺจ คเหตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อุภยทุกฺขตฺถาย จินฺเตตีติ.
อตฺตพฺยาพาธายปิ มนฺเตตีติอาทีสุ อหํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ มนฺเตนฺโต อตฺตพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม. อสุกํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปสฺสามีติ มนฺเตนฺโต ปรพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม. อฺเน สทฺธึ – ‘‘มยํ อุโภปิ เอกโต หุตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามา’’ติ มนฺเตนฺโต อุภยพฺยาพาธาย มนฺเตติ นาม.
อสกฺกจฺจํ ทานํ เทตีติ เทยฺยธมฺมมฺปิ ปุคฺคลมฺปิ ¶ น สกฺกโรติ. เทยฺยธมฺมํ น สกฺกโรติ ¶ นาม อุตฺตณฺฑุลาทิโทสสมนฺนาคตํ อาหารํ เทติ, น ปสนฺนํ กโรติ. ปุคฺคลํ น สกฺกโรติ นาม นิสีทนฏฺานํ อสมฺมชฺชิตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ วา นิสีทาเปตฺวา ยํ วา ตํ วา อาธารกํ เปตฺวา ทานํ เทติ. อสหตฺถาติ อตฺตโน หตฺเถน, น เทติ, ทาสกมฺมการาทีหิ ทาเปติ. อจิตฺติกตฺวาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน เทยฺยธมฺเมปิ ปุคฺคเลปิ น จิตฺตีการํ กตฺวา เทติ. อปวิทฺธนฺติ ฉฑฺเฑตุกาโม หุตฺวา วมฺมิเก อุรคํ ปกฺขิปนฺโต วิย เทติ. อนาคมนทิฏฺิโกติ โน ผลปาฏิกงฺขี หุตฺวา เทติ.
ตตฺถ ¶ อุปปชฺชตีติ น ทานํ ทตฺวา นิรเย อุปปชฺชติ. ยํ ปน เตน ปาปลทฺธิกาย มิจฺฉาทสฺสนํ คหิตํ, ตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา นิรเย อุปปชฺชติ. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. เทวมหตฺตตาติ ฉกามาวจรเทวา. มนุสฺสมหตฺตตาติ ติณฺณํ กุลานํ สมฺปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. อิทํ ปน สุตฺตํ สุทฺธวฏฺฏวเสเนว กถิตนฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนุปทวคฺโค
๑. อนุปทสุตฺตวณฺณนา
๙๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อนุปทสุตฺตํ. ตตฺถ เอตทโวจาติ เอตํ (ปฏิ. ม. ๓.๔) ‘‘ปณฺฑิโต’’ติอาทินา นเยน ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส คุณกถํ อโวจ. กสฺมา? อวเสสตฺเถเรสุ หิ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส อิทฺธิมาติ คุโณ ปากโฏ, มหากสฺสปสฺส ธุตวาโทติ, อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทิพฺพจกฺขุโกติ, อุปาลิตฺเถรสฺส วินยธโรติ, เรวตตฺเถรสฺส ฌายี ฌานาภิรโตติ, อานนฺทตฺเถรสฺส พหุสฺสุโตติ. เอวํ เตสํ เตสํ เถรานํ เต เต คุณา ปากฏา, สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ปน อปากฏา. กสฺมา? ปฺวโต หิ คุณา น สกฺกา อกถิตา ชานิตุํ. อิติ ภควา ‘‘สาริปุตฺตสฺส คุเณ กเถสฺสามี’’ติ สภาคปริสาย สนฺนิปาตํ อาคเมสิ. วิสภาคปุคฺคลานฺหิ สนฺติเก วณฺณํ กเถตุํ น วฏฺฏติ, เต วณฺเณ กถิยมาเน อวณฺณเมว กเถนฺติ. อิมสฺมึ ปน ทิวเส เถรสฺส สภาคปริสา สนฺนิปติ, ตสฺสา สนฺนิปติตภาวํ ทิสฺวา สตฺถา วณฺณํ กเถนฺโต อิมํ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ ปณฺฑิโตติ ธาตุกุสลตา อายตนกุสลตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลตา านาฏฺานกุสลตาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ ปณฺฑิโต. มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ ¶ อตฺโถ.
ตตฺริทํ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ – ตตฺถ กตมา มหาปฺา? มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ, ปฺากฺขนฺเธ, วิมุตฺติกฺขนฺเธ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺตานิ านาฏฺานานิ, มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย ¶ , มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ, มหนฺเต สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, มหนฺเต อริยมคฺเค, มหนฺตานิ สามฺผลานิ, มหนฺตา อภิฺาโย, มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.
กตมา ¶ ปุถุปฺา, ปุถุ นานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุ นานาธาตูสุ, ปุถุ นานาอายตเนสุ, ปุถุ นานาอตฺเถสุ, ปุถุ นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ, ปุถุ นานาสฺุตมนุปลพฺเภสุ, ปุถุ นานาอตฺเถสุ, ธมฺเมสุ, นิรุตฺตีสุ, ปฏิภาเนสุ, ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาสมาธิ-ปฺา-วิมุตฺติ-วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาานาฏฺาเนสุ, ปุถุ นานาวิหารสมาปตฺตีสุ, ปุถุ นานาอริยสจฺเจสุ, ปุถุ นานาสติปฏฺาเนสุ, สมฺมปฺปธาเนสุ, อิทฺธิปาเทสุ, อินฺทฺริเยสุ, พเลสุ, โพชฺฌงฺเคสุ, ปุถุ นานาอริยมคฺเคสุ, สามฺผเลสุ, อภิฺาสุ, ปุถุ นานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.
กตมา ¶ หาสปฺา, อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, โภชเน มตฺตฺุตํ, ชาคริยานุโยคํ, สีลกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺธํ, ปฺากฺขนฺธํ, วิมุตฺติกฺขนฺธํ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล ปาโมชฺชพหุโล านาฏฺานํ ปฏิวิชฺฌติ, หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรติ, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล เวทตุฏฺิปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.
กตมา ชวนปฺา, ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต ขิปฺปํ… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยํกิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต ¶ อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ¶ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา, สฺา, สงฺขารา, วิฺาณํ ¶ , จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… วิฺาณํ. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
กตมา ติกฺขปฺา, ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม, อุปฺปนฺนํ ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มายํ, สาเยฺยํ, ถมฺภํ, สารมฺภํ, มานํ, อติมานํ, มทํ, ปมาทํ, สพฺเพ กิเลเส, สพฺเพ ทุจฺจริเต, สพฺเพ อภิสงฺขาเร, สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ จ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ปสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.
กตมา นิพฺเพธิกปฺา, อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล ¶ อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ, โมหกฺขนฺธํ, โกธํ, อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.
อนุปทธมฺมวิปสฺสนนฺติ สมาปตฺติวเสน วา ฌานงฺควเสน วา อนุปฏิปาฏิยา ธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติ, เอวํ วิปสฺสนฺโต อทฺธมาเสน อรหตฺตํ ปตฺโต. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน ¶ สตฺตหิ ทิวเสหิ. เอวํ สนฺเตปิ สาริปุตฺตตฺเถโร มหาปฺวนฺตตโร. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร หิ สาวกานํ สมฺมสนจารํ ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺโต วิย เอกเทสเมว สมฺมสนฺโต สตฺต ทิวเส วายมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. สาริปุตฺตตฺเถโร เปตฺวา พุทฺธานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ สมฺมสนจารํ สาวกานํ สมฺมสนจารํ นิปฺปเทสํ สมฺมสิ. เอวํ สมฺมสนฺโต อทฺธมาสํ วายมิ. อรหตฺตฺจ กิร ปตฺวา อฺาสิ – ‘‘เปตฺวา พุทฺเธ จ ปจฺเจกพุทฺเธ จ อฺโ สาวโก นาม ปฺาย ¶ มยา ปตฺตพฺพํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. ยถา หิ ปุริโส เวฬุยฏฺึ คณฺหิสฺสามีติ มหาชฏํ เวฬุํ ทิสฺวา ชฏํ ฉินฺทนฺตสฺส ปปฺโจ ภวิสฺสตีติ อนฺตเรน หตฺถํ ปเวเสตฺวา สมฺปตฺตเมว ยฏฺึ มูเล จ อคฺเค จ ฉินฺทิตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย, โส กิฺจาปิ ปมตรํ คจฺฉติ, ยฏฺึ ปน สารํ วา อุชุํ วา น ลภติ. อปโร จ ตถารูปเมว เวณุํ ทิสฺวา ‘‘สเจ สมฺปตฺตํ ยฏฺึ คณฺหิสฺสามิ, สารํ วา อุชุํ วา น ลภิสฺสามี’’ติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ¶ มหนฺเตน สตฺเถน เวณุชฏํ ฉินฺทิตฺวา สารา เจว อุชู จ ยฏฺิโย อุจฺจินิตฺวา อาทาย ปกฺกเมยฺย. อยํ กิฺจาปิ ปจฺฉา คจฺฉติ, ยฏฺิโย ปน สารา เจว อุชู จ ลภติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ เถรานํ ปธานํ.
เอวํ ปน อทฺธมาสํ วายมิตฺวา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร สูกรขตเลณทฺวาเร ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน ทสพลํ พีชยมาโน ิโต เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา ปพฺพชิตทิวสโต ปนฺนรสเม ทิวเส สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกํ ปตฺวา สตฺตสฏฺิ าณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา โสฬสวิธํ ปฺํ อนุปฺปตฺโต.
ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนายาติ ยา อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสตีติ อนุปทธมฺมวิปสฺสนา วุตฺตา, ตตฺร อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย สาริปุตฺตสฺส อิทํ โหติ. อิทานิ วตฺตพฺพํ ตํ ตํ วิปสฺสนาโกฏฺาสํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
๙๔. ปเม ฌาเนติ เย ปเม ฌาเน อนฺโตสมาปตฺติยํ ธมฺมา. ตฺยาสฺสาติ เต อสฺส. อนุปทววตฺถิตา โหนฺตีติ อนุปฏิปาฏิยา ววตฺถิตา ปริจฺฉินฺนา าตา วิทิตา โหนฺติ. กถํ? เถโร หิ เต ธมฺเม โอโลเกนฺโต อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก วตฺตตีติ ชานาติ. ตถา อนุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร, ผรณลกฺขณา ปีติ, สาตลกฺขณํ สุขํ, อวิกฺเขปลกฺขณา ¶ จิตฺเตกคฺคตา, ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส เวทยิตลกฺขณา เวทนา, สฺชานนลกฺขณา สฺา, เจตยิตลกฺขณา เจตนา, วิชานนลกฺขณํ ¶ วิฺาณํ, กตฺตุกมฺยตาลกฺขโณ ฉนฺโท, อธิโมกฺขลกฺขโณ อธิโมกฺโข, ปคฺคาหลกฺขณํ วีริยํ ¶ อุปฏฺานลกฺขณา สติ, มชฺฌตฺตลกฺขณา อุเปกฺขา, อนุนยมนสิการลกฺขโณ มนสิกาโร วตฺตตีติ ชานาติ. เอวํ ชานํ อภินิโรปนฏฺเน วิตกฺกํ สภาวโต ววตฺถเปติ…เป… อนุนยมนสิการณฏฺเน มนสิการํ สภาวภาวโต ววตฺถเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺตี’’ติ.
วิทิตา อุปฺปชฺชนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ. วิทิตา อุปฏฺหนฺตีติ ติฏฺมานาปิ วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตีติ นิรุชฺฌมานาปิ วิทิตา ปากฏาว หุตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เอตฺถ ปน ตําณตา เจว าณพหุตา จ โมเจตพฺพา. ยถา หิ เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ น สกฺกา ผุสิตุํ, เอวเมว เตเนว จิตฺเตน ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาโท วา ิติ วา ภงฺโค วา น สกฺกา ชานิตุนฺติ. เอวํ ตาว ตําณตา โมเจตพฺพา. ยทิ ปน ทฺเว จิตฺตานิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เอเกน จิตฺเตน เอกสฺส อุปฺปาโท วา ิติ วา ภงฺโค วา สกฺกา ภเวยฺย ชานิตุํ. ทฺเว ปน ผสฺสา วา เวทนา วา สฺา วา เจตนา วา จิตฺตานิ วา เอกโต อุปฺปชฺชนกานิ นาม นตฺถิ, เอเกกเมว อุปฺปชฺชติ. เอวํ าณพหุตา โมเจตพฺพา. เอวํ สนฺเต กถํ? มหาเถรสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ โสฬส ธมฺมา วิทิตา ปากฏา โหนฺตีติ. วตฺถารมฺมณานํ ปริคฺคหิตตาย. เถเรน หิ วตฺถุ เจว อารมฺมณฺจ ปริคฺคหิตํ, เตนสฺส เตสํ ธมฺมานํ อุปฺปาทํ อาวชฺชนฺตสฺส อุปฺปาโท ปากโฏ โหติ, านํ อาวชฺชนฺตสฺส านํ ปากฏํ โหติ, เภทํ อาวชฺชนฺตสฺส ¶ เภโท ปากโฏ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ วิทิตา อุปฏฺหนฺติ วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ. อหุตฺวา สมฺโภนฺตีติ อิมินา อุทยํ ปสฺสติ. หุตฺวา ปฏิเวนฺตีติ อิมินา วยํ ปสฺสติ.
อนุปาโยติ ราควเสน อนุปคมโน หุตฺวา. อนปาโยติ ปฏิฆวเสน อนปคโต. อนิสฺสิโตติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต. อปฺปฏิพทฺโธติ ฉนฺทราเคน อพทฺโธ. วิปฺปมุตฺโตติ กามราคโต วิปฺปมุตฺโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ วา วิสํยุตฺโต. วิมริยาทีกเตนาติ นิมฺมริยาทีกเตน. เจตสาติ เอวํวิเธน จิตฺเตน วิหรติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ทฺเว มริยาทา กิเลสมริยาทา จ อารมฺมณมริยาทา จ. สเจ หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต โสฬส ธมฺเม อารพฺภ ราคาทโย อุปฺปชฺเชยฺยุํ, กิเลสมริยาทา เตน กตา ภเวยฺย, เตสุ ปนสฺส เอโกปิ น อุปฺปนฺโนติ กิเลสมริยาทา นตฺถิ. สเจ ปนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต โสฬส ธมฺเม อาวชฺชนฺตสฺส เอกจฺเจ อาปาถํ นาคจฺเฉยฺยุํ. เอวมสฺส อารมฺมณมริยาทา ภเวยฺยุํ. เต ปนสฺส โสฬส ธมฺเม อาวชฺชนฺตสฺส อาปาถํ อนาคตธมฺโม นาม นตฺถีติ อารมฺมณมริยาทาปิ นตฺถิ.
อปราปิ ทฺเว มริยาทา วิกฺขมฺภนมริยาทา จ สมุจฺเฉทมริยาทา จ. ตาสุ สมุจฺเฉทมริยาทา อุปริ อาคมิสฺสติ, อิมสฺมึ ปน าเน วิกฺขมฺภนมริยาทา อธิปฺเปตา. ตสฺส วิกฺขมฺภิตปจฺจนีกตฺตา นตฺถีติ วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรติ.
อุตฺตริ ¶ นิสฺสรณนฺติ อิโต อุตฺตริ นิสฺสรณํ. อฺเสุ จ สุตฺเตสุ ‘‘อุตฺตริ นิสฺสรณ’’นฺติ นิพฺพานํ วุตฺตํ, อิธ ปน อนนฺตโร วิเสโส อธิปฺเปโตติ เวทิตพฺโพ. ตพฺพหุลีการาติ ตสฺส ปชานนสฺส พหุลีกรเณน. อตฺถิตฺเววสฺส โหตีติ ตสฺส เถรสฺส อตฺถีติเยว ทฬฺหตรํ โหติ. อิมินา นเยน เสสวาเรสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ทุติยวาเร ปน สมฺปสาทนฏฺเน สมฺปสาโท. สภาวโต ววตฺถเปติ.
จตุตฺถวาเร อุเปกฺขาติ สุขฏฺาเน เวทนุเปกฺขาว. ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโคติ โย โส ‘‘ยเทว ตตฺถ สุข’’นฺติ เจตโส อาโภโค, เอเตเนตํ โอฬาริกมกฺขายตีติ เอวํ ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโค วุตฺโต, ตสฺส อภาวาติ อตฺโถ. สติปาริสุทฺธีติ ปริสุทฺธาสติเยว. อุเปกฺขาปิ ปาริสุทฺธิอุเปกฺขา.
๙๕. สโต วุฏฺหตีติ สติยา สมนฺนาคโต าเณน สมฺปชาโน หุตฺวา วุฏฺาติ. เต ธมฺเม สมนุปสฺสตีติ ยสฺมา เนวสฺานาสฺายตเน พุทฺธานํเยว อนุปทธมฺมวิปสฺสนา โหติ, น สาวกานํ, ตสฺมา เอตฺถ กลาปวิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.
ปฺาย ¶ ¶ จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ มคฺคปฺาย จตฺตาริ สจฺจานิ ทิสฺวา จตฺตาโร อาสวา ขีณา โหนฺติ. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ อาหริตฺวา ¶ อรหตฺตํ ปตฺตวาโรปิ อตฺถิ, นิโรธสมาปตฺติสมาปนฺนวาโรปิ. อรหตฺตํ ปตฺตวาโร อิธ คหิโต, นิโรธํ ปน จิณฺณวสิตาย อปราปรํ สมาปชฺชิสฺสตีติ วทนฺติ.
ตตฺถสฺส ยสฺมึ กาเล นิโรธสมาปตฺติ สีสํ โหติ, นิโรธสฺส วาโร อาคจฺฉติ, ผลสมาปตฺติ คูฬฺหา โหติ. ยสฺมึ กาเล ผลสมาปตฺติ สีสํ โหติ, ผลสมาปตฺติยา วาโร อาคจฺฉติ, นิโรธสมาปตฺติ คูฬฺหา โหติ. ชมฺพุทีปวาสิโน เถรา ปน วทนฺติ ‘‘สาริปุตฺตตฺเถโร สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ อาหริตฺวา อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชิ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ. เต ธมฺเมติ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺเต ติสมุฏฺานิกรูปธมฺเม, เหฏฺา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยํ ปวตฺตธมฺเม วา. เตปิ หิ อิมสฺมึ วาเร วิปสฺสิตพฺพธมฺมาว, ตสฺมา เต วา วิปสฺสตีติ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๙๗. วสิปฺปโตติ จิณฺณวสิตํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต. โอรโสติอาทีสุ เถโร ภควโต อุเร นิพฺพตฺตสทฺทํ สุตฺวา ชาโตติ โอรโส, มุเขน ปภาวิตํ สทฺทํ สุตฺวา ชาโตติ มุขโต ชาโต, ธมฺเมน ปน ชาตตฺตา นิมฺมิตตฺตา ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต, ธมฺมทายสฺส อาทิยนโต ธมฺมทายาโท, อามิสทายสฺส อนาทิยนโต โน อามิสทายาโทติ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อนุปทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ฉพฺพิโสธนสุตฺตวณฺณนา
๙๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ฉพฺพิโสธนสุตฺตํ. ตตฺถ ขีณา ชาตีติอาทีสุ เอเกนาปิ ปเทน อฺา พฺยากตาว โหติ, ทฺวีหิปิ. อิธ ปน จตูหิ ปเทหิ อฺพฺยากรณํ อาคตํ. ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตาติอาทีสุ ยาย ¶ เจตนาย ทิฏฺเ ทิฏฺํ เมติ วทติ, สา ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา นาม. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อยมนุธมฺโมติ อยํ สภาโว. อภินนฺทิตพฺพนฺติ น เกวลํ อภินนฺทิตพฺพํ, ปรินิพฺพุตสฺส ปนสฺส สพฺโพปิ ขีณาสวสฺส สกฺกาโร กาตพฺโพ. อุตฺตรึ ปฺโหติ สเจ ปนสฺส เวยฺยากรเณน อสนฺตุฏฺา โหถ, อุตฺตริมฺปิ อยํ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพติ ทสฺเสติ. อิโต ปเรสุปิ ตีสุ วาเรสุ อยเมว นโย.
๙๙. อพลนฺติ ทุพฺพลํ. วิราคุนนฺติ วิคจฺฉนสภาวํ. อนสฺสาสิกนฺติ อสฺสาสวิรหิตํ. อุปายูปาทานาติ ตณฺหาทิฏฺีนเมตํ อธิวจนํ. ตณฺหาทิฏฺิโย หิ เตภูมกธมฺเม อุเปนฺตีติ อุปายา, อุปาทิยนฺตีติ อุปาทานา. เจตโส อทิฏฺานาภินิเวสานุสยาติปิ ตาสํเยว นามํ. จิตฺตฺหิ ตณฺหาทิฏฺีหิ สกฺกายธมฺเมสุ ติฏฺติ อธิติฏฺตีติ ตณฺหาทิฏฺิโย เจตโส อธิฏฺานา, ตาหิ ตํ อภินิวิสตีติ อภินิเวสา, ตาหิเยว ตํ อนุเสตีติ อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. ขยา ¶ วิราคาติอาทีสุ ขเยน วิราเคนาติ อตฺโถ. สพฺพานิ เจตานิ อฺมฺเววจนาเนว.
๑๐๐. ปถวีธาตูติ ปติฏฺานธาตุ. อาโปธาตูติ อาพนฺธนธาตุ. เตโชธาตูติ ปริปาจนธาตุ. วาโยธาตูติ วิตฺถมฺภนธาตุ. อากาสธาตูติ อสมฺผุฏฺธาตุ. วิฺาณธาตูติ วิชานนธาตุ. น อนตฺตโต อุปคจฺฉินฺติ อหํ อตฺตาติ อตฺตโกฏฺาเสน น อุปคมึ. น จ ปถวีธาตุนิสฺสิตนฺติ ปถวีธาตุนิสฺสิตา เสสธาตุโย จ อุปาทารูปฺจ อรูปกฺขนฺธา จ. เตปิ หิ นิสฺสิตวตฺถุรูปานํ ปถวีธาตุนิสฺสิตตฺตา เอเกน ปริยาเยน ปถวีธาตุนิสฺสิตาว. ตสฺมา ‘‘น จ ปถวีธาตุนิสฺสิต’’นฺติ วทนฺโต เสสรูปารูปธมฺเมปิ อตฺตโต น อุปคจฺฉินฺติ วทติ. อากาสธาตุนิสฺสิตปเท ปน อวินิพฺโภควเสน สพฺพมฺปิ ภูตุปาทารูปํ อากาสธาตุนิสฺสิตํ นาม ¶ , ตถา ตํนิสฺสิตรูปวตฺถุกา อรูปกฺขนฺธา. เอวํ อิธาปิ รูปารูปํ คหิตเมว โหติ. วิฺาณธาตุนิสฺสิตปเท ปน สหชาตา ตโย ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจ วิฺาณธาตุนิสฺสิตนฺติ รูปารูปํ คหิตเมว โหติ.
๑๐๑. รูเป จกฺขุวิฺาเณ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสูติ เอตฺถ ยํ อตีเต จกฺขุทฺวารสฺส อาปาถํ อาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ยฺจ อนาคเต อาปาถํ ¶ อาคนฺตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, ยมฺปิ เอตรหิ อาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ตํ สพฺพํ รูปํ นาม. ยํ ปน อตีเตปิ อาปาถํ อนาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, อนาคเตปิ อนาคนฺตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, เอตรหิปิ อนาคนฺตฺวา นิรุทฺธํ, ตํ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพธมฺเมสุ สงฺคหิตนฺติ วุตฺเต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ¶ อาห – ‘‘อิมสฺมึ าเน ทฺวิธา กโรถ, อุปริ ฉนฺโทวาเร กินฺติ กริสฺสถ, นยิทํ ลพฺภตี’’ติ. ตสฺมา ตีสุ กาเลสุ อาปาถํ อาคตํ วา อนาคตํ วา สพฺพมฺปิ ตํ รูปเมว, จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตา ปน ตโย ขนฺธา จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺพธมฺมาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘จกฺขุวิฺาเณน สทฺธึ วิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสู’’ติ. ฉนฺโทติ ตณฺหาฉนฺโท. ราโคติ สฺเวว รชฺชนวเสน ราโค. นนฺทีติ สฺเวว อภินนฺทนวเสน นนฺที. ตณฺหาติ สฺเวว ตณฺหายนวเสน ตณฺหา. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย.
๑๐๒. อหงฺการมมงฺการมานานุสยาติ เอตฺถ อหงฺกาโร มาโน, มมงฺกาโร ตณฺหา, สฺเวว มานานุสโย. อาสวานํ ขยาณายาติ อิทํ ปุพฺเพนิวาสํ ทิพฺพจกฺขฺุจ อวตฺวา กสฺมา วุตฺตํ? ภิกฺขู โลกิยธมฺมํ น ปุจฺฉนฺติ, โลกุตฺตรเมว ปุจฺฉนฺติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตปฺหํเยว กเถนฺโต เอวมาห. เอกวิสฺสชฺชิตสุตฺตํ นาเมตํ, ฉพฺพิโสธนนฺติปิสฺส นามํ. เอตฺถ หิ จตฺตาโร โวหารา ปฺจ ขนฺธา ฉ ธาตุโย ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ อตฺตโน สวิฺาณกกาโย ปเรสํ สวิฺาณกกาโยติ อิเม ฉ โกฏฺาสา วิสุทฺธา, ตสฺมา ‘‘ฉพฺพิโสธนิย’’นฺติ วุตฺตํ. ปรสมุทฺทวาสิตฺเถรา ปน อตฺตโน จ ปรสฺส จ วิฺาณกกายํ เอกเมว กตฺวา จตูหิ ¶ อาหาเรหิ สทฺธินฺติ ฉ โกฏฺาเส วทนฺติ.
อิเม ปน ฉ โกฏฺาสา ‘‘กึ เต อธิคตํ, กินฺติ เต อธิคตํ, กทา เต อธิคตํ, กตฺถ ¶ เต อธิคตํ, กตเม เต กิเลสา ปหีนา, กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ (ปารา. ๑๙๘) เอวํ วินยนิทฺเทสปริยาเยน โสเธตพฺพา.
เอตฺถ หิ กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา, ฌานวิโมกฺขาทีสุ โสตาปตฺติมคฺคาทีสุ วา กึ ตยา อธิคตํ. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. อยฺหิ เอตฺถาธิปฺปาโย – กึ ตยา อนิจฺจลกฺขณํ ธุรํ กตฺวา อธิคตํ, ทุกฺขานตฺตลกฺขเณสุ อฺตรํ วา, กึ วา สมาธิวเสน อภินิวิสิตฺวา ¶ , อุทาหุ วิปสฺสนาวเสน, ตถา กึ รูเป อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ อรูเป, กึ วา อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ พหิทฺธาติ. กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา, ปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกาทีสุ กตรสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ.
กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา, กิสฺมึ โอกาเส, กึ รตฺติฏฺาเน ทิวาฏฺาเน รุกฺขมูเล มณฺฑเป กตรสฺมึ วา วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลเส ปุจฺฉติ, กตรมคฺควชฺฌา ตว กิเลสา ปหีนาติ วุตฺตํ โหติ.
กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา, ปมมคฺคาทีสุ กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺมา อิทานิ เจปิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตาว สกฺกาตพฺโพ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ? โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา, อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ ¶ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวาติ? โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ.
สเจ ปน ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส, เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ ¶ ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม กาเล อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺติ.
สเจ ¶ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ? สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตธมฺโม ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ. พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา, ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺมา นาม น ลพฺภนฺตี’’ติ อปเนตพฺโพ.
ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ‘‘ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตี’’ติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย ¶ สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ สเมติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ.
อปิจ โข เอตฺตเกนาปิ สกฺกาโร น กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สโต ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ. ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ, ปุถุชฺชนสฺส อปฺปมตฺตเกนาปิ โหติ.
ตตฺริมานิ ¶ วตฺถูนิ – ทีฆภาณกอภยตฺเถโร กิร เอกํ ปิณฺฑปาติกํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต ทหรสฺส สฺํ อทาสิ. โส ตํ นฺหายมานํ กลฺยาณีนทีมุขทฺวาเร นิมุชฺชิตฺวา ปาเท อคฺคเหสิ. ปิณฺฑปาติโก กุมฺภีโลติ สฺาย มหาสทฺทมกาสิ, ตทา นํ ปุถุชฺชโนติ สฺชานึสุ. จนฺทมุขติสฺสราชกาเล ปน มหาวิหาเร สงฺฆตฺเถโร ขีณาสโว ทุพฺพลจกฺขุโก วิหาเรเยว อจฺฉิ. ราชา เถรํ ปริคฺคณฺหิสฺสามีติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขาจารํ คเตสุ อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา สปฺโป วิย ปาเท อคฺคเหสิ. เถโร สิลาถมฺโภ วิย นิจฺจโล หุตฺวา โก เอตฺถาติ อาห ¶ ? อหํ, ภนฺเต, ติสฺโสติ. สุคนฺธํ วายสิ โน ติสฺสาติ? เอวํ ขีณาสวสฺส ภยํ นาม นตฺถีติ.
เอกจฺโจ ปน ปุถุชฺชโนปิ อติสูโร โหติ นิพฺภโย. โส รฺชนีเยน อารมฺมเณน ปริคฺคณฺหิตพฺโพ. วสภราชาปิ หิ เอกํ เถรํ ปริคฺคณฺหมาโน ฆเร นิสีทาเปตฺวา ตสฺส ¶ สนฺติเก พทรสาฬวํ มทฺทมาโน นิสีทิ. มหาเถรสฺส เขโฬ จลิ, ตโต เถรสฺส ปุถุชฺชนภาโว อาวิภูโต. ขีณาสวสฺส หิ รสตณฺหา นาม สุปฺปหีนา, ทิพฺเพสุปิ รเสสุ นิกนฺติ นาม น โหติ. ตสฺมา อิเมหิ อุปาเยหิ ปริคฺคเหตฺวา สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา รสตณฺหา วา อุปฺปชฺชติ, น ตฺวํ อรหาติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรู อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, ทิพฺพารมฺมเณปิ นิกนฺตึ น ชเนติ. อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ฉพฺพิโสธนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สปฺปุริสธมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สปฺปุริสธมฺมสุตฺตํ. ตตฺถ สปฺปุริสธมฺมนฺติ สปฺปุริสานํ ธมฺมํ. อสปฺปุริสธมฺมนฺติ ปาปปุริสานํ ธมฺมํ. เอวํ มาติกํ เปตฺวาปิ ปุน ยถา นาม มคฺคกุสโล ปุริโส วามํ มฺุจิตฺวา ทกฺขิณํ คณฺหาติ. ปมํ มฺุจิตพฺพํ กเถติ, เอวํ ปหาตพฺพํ ธมฺมํ ปมํ เทเสนฺโต กตโม จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโมติอาทิมาห. ตตฺถ อุจฺจากุลาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา. เอตเทว หิ กุลทฺวยํ ‘‘อุจฺจากุล’’นฺติ วุจฺจติ. โส ตตฺถ ปุชฺโชติ โส ภิกฺขุ เตสุ ภิกฺขูสุ ปูชารโห. อนฺตรํ กริตฺวาติ อพฺภนฺตรํ กตฺวา.
มหากุลาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา เวสฺสกุลา ¶ วา. อิทเมว หิ กุลตฺตยํ ‘‘มหากุล’’นฺติ วุจฺจติ. มหาโภคกุลาติ มหนฺเตหิ ¶ โภเคหิ สมนฺนาคตา กุลา. อุฬารโภคกุลาติ อุฬาเรหิ ปณีเตหิ โภเคหิ สมฺปนฺนกุลา. อิมสฺมึ ปททฺวเย จตฺตาริปิ กุลานิ ลพฺภนฺติ. ยตฺถ กตฺถจิ กุเล ชาโต หิ ปฺุพเลหิ มหาโภโคปิ อุฬารโภโคปิ โหติเยว.
๑๐๖. ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. อปฺปฺาตาติ รตฺตึ ขิตฺตสรา วิย สงฺฆมชฺฌาทีสุ น ปฺายนฺติ. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปปริวารา.
๑๐๗. อารฺิโกติ สมาทินฺนอารฺิกธุตงฺโค. เสสธุตงฺเคสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมิฺจ สุตฺเต ปาฬิยํ นเวว ธุตงฺคานิ อาคตานิ, วิตฺถาเรน ปเนตานิ เตรส โหนฺติ. เตสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตเมว.
๑๐๘. อตมฺมยตาติ ตมฺมยตา วุจฺจติ ตณฺหา, นิตฺตณฺหาติ อตฺโถ. อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวาติ นิตฺตณฺหตํเยว การณํ กตฺวา อพฺภนฺตรํ วา กตฺวา, จิตฺเต อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ.
นิโรธวาเร ¶ ยสฺมา อนาคามิขีณาสวาว ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ, ปุถุชฺชนสฺส สา นตฺถิ, ตสฺมา อสปฺปุริสวาโร ปริหีโน. น กฺจิ มฺตีติ กฺจิ ปุคฺคลํ ตีหิ มฺนาหิ น มฺติ. น ¶ กุหิฺจิ มฺตีติ กิสฺมิฺจิ โอกาเส น มฺติ. น เกนจิ มฺตีติ เกนจิ วตฺถุนาปิ ตํ ปุคฺคลํ น มฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สปฺปุริสธมฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา
๑๐๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ. ตตฺถ ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจารนฺติ อฺํ เสวิตพฺพํ กายสมาจารํ, อฺํ อเสวิตพฺพํ วทามิ, เสวิตพฺพเมว เกนจิ ปริยาเยน อเสวิตพฺพนฺติ, อเสวิตพฺพํ วา เสวิตพฺพนฺติ จ น วทามีติ อตฺโถ. วจีสมาจาราทีสุ เอเสว นโย. อิติ ¶ ภควา สตฺตหิ ปเทหิ มาติกํ เปตฺวา วิตฺถารโต อวิภชิตฺวาว เทสนํ นิฏฺาเปสิ. กสฺมา? สาริปุตฺตตฺเถรสฺส โอกาสกรณตฺถํ.
๑๑๓. มโนสมาจาเร มิจฺฉาทิฏฺิสมฺมาทิฏฺิโย ทิฏฺิปฏิลาภวเสน วิสุํ องฺคํ หุตฺวา ิตาติ น คหิตา.
๑๑๔. จิตฺตุปฺปาเท อกมฺมปถปฺปตฺตา อภิชฺฌาทโย เวทิตพฺพา.
๑๑๕. สฺาปฏิลาภวาเร อภิชฺฌาสหคตาย สฺายาติอาทีนิ กามสฺาทีนํ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ.
๑๑๗. สพฺยาพชฺฌนฺติ สทุกฺขํ. อปรินิฏฺิตภาวายาติ ภวานํ อปรินิฏฺิตภาวาย. เอตฺถ จ สพฺยาพชฺฌตฺตภาวา นาม จตฺตาโร โหนฺติ. ปุถุชฺชโนปิ หิ โย เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อกุสลา ธมฺมา วฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา จ ปริหายนฺติ, สทุกฺขเมว ¶ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ นาม. ตถา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน. ปุถุชฺชนาทโย ตาว โหนฺตุ, อนาคามี กถํ สพฺยาพชฺฌํ อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ, กถฺจสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตีติ. อนาคามีปิ หิ สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺโต อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเข โอโลเกตฺวา ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ อุทานํ อุทาเนติ, อนาคามิโน ภวโลโภ ภวตณฺหา อปฺปหีนาว โหนฺติ, ตสฺส อปฺปหีนตณฺหตาย อกุสลา วฑฺฒนฺติ นาม, กุสลา ปริหายนฺติ นาม, สทุกฺขเมว อตฺตภาวํ อภินิพฺพตฺเตติ, อปรินิฏฺิตภโวเยว โหตีติ เวทิตพฺโพ.
อพฺยาพชฺฌนฺติ ¶ อทุกฺขํ. อยมฺปิ จตุนฺนํ ชนานํ วเสน เวทิตพฺโพ. โย หิ ปุถุชฺชโนปิ เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ สกฺโกติ, ปุน ปฏิสนฺธึ น คณฺหาติ, ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย อกุสลา ปริหายนฺติ, กุสลาเยว วฑฺฒนฺติ, อทุกฺขเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตติ, ปรินิฏฺิตภโวเยว นาม โหติ. ตถา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน. โสตาปนฺนาทโย ตาว โหนฺตุ, ปุถุชฺชโน กถํ อพฺยาพชฺฌอตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตติ, กถฺจสฺส อกุสลปริหานิอาทีนิ โหนฺตีติ. ปุถุชฺชโนปิ ปจฺฉิมภวิโก เตนตฺตภาเวน ภวํ ปรินิฏฺาเปตุํ สมตฺโถ โหติ. ตสฺส ¶ องฺคุลิมาลสฺส วิย เอเกนูนปาณสหสฺสํ ฆาเตนฺตสฺสาปิ อตฺตภาโว อพฺยาพชฺโฌเยว นาม, ภวํ ปรินิฏฺาเปติเยว นาม. อกุสลเมว หายติ, วิปสฺสนเมว คพฺภํ คณฺหาเปติ นาม.
๑๑๙. จกฺขุวิฺเยฺยนฺติอาทีสุ ยสฺมา เอกจฺจสฺส ตสฺมึเยว รูเป ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, อภินนฺทติ อสฺสาเทติ, อภินนฺทนฺโต ¶ อสฺสาเทนฺโต อนยพฺยสนํ ปาปุณาติ, เอกจฺจสฺส นุปฺปชฺชนฺติ, นิพฺพินฺทติ วิรชฺชติ, นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต นิพฺพุตึ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘ตฺจ อฺมฺ’’นฺติ น วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺยุนฺติ เอตฺถ เก ภควโต อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ, เก น อาชานนฺตีติ? เย ตาว อิมสฺส สุตฺตสฺส ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อุคฺคณฺหิตฺวา ตกฺกรา น โหนฺติ, ยถาวุตฺตํ อนุโลมปฏิปทํ น ปฏิปชฺชนฺติ, เต น อาชานนฺติ นาม. เย ปน ตกฺกรา โหนฺติ, ยถาวุตฺตํ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปชฺชนฺติ, เต อาชานนฺติ นาม. เอวํ สนฺเตปิ สปฏิสนฺธิกานํ ตาว ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตุ, อปฺปฏิสนฺธิกานํ กถํ โหตีติ. อปฺปฏิสนฺธิกา อนุปาทานา วิย ชาตเวทา ปรินิพฺพายนฺติ, กปฺปสตสหสฺสานมฺปิ อจฺจเยน เตสํ ปุน ทุกฺขํ นาม นตฺถิ. อิติ เอกํเสน เตสํเยว ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. พหุธาตุกสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ พหุธาตุกสุตฺตํ. ตตฺถ ภยานีติอาทีสุ ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส. อุปทฺทโวติ อเนกคฺคตากาโร. อุปสคฺโคติ อุปสฏฺากาโร ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนากาโร. เตสํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – ปพฺพตาทิวิสมนิสฺสิตา โจรา ชนปทวาสีนํ เปเสนฺติ ‘‘มยํ อสุกทิวเส นาม ตุมฺหากํ คามํ ปหริสฺสามา’’ติ. ตํ ปวตฺตึ สุตกาลโต ¶ ¶ ปฏฺาย ภยํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. อยํ จิตฺตุตฺราโส นาม. ‘‘อิธ โน โจรา กุปิตา อนตฺถมฺปิ อาวเหยฺยุ’’นฺติ หตฺถสารํ คเหตฺวา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ สทฺธึ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภูมิยํ นิปชฺชนฺติ, ฑํสมกสาทีหิ ขชฺชมานา คุมฺพนฺตรานิ ปวิสนฺติ, ขาณุกณฺฏเก มทฺทนฺติ. เตสํ เอวํ วิจรนฺตานํ วิกฺขิตฺตภาโว อเนกคฺคตากาโร นาม. ตโต โจเรสุ ยถาวุตฺเต ทิวเส อนาคจฺฉนฺเตสุ ‘‘ตุจฺฉกสาสนํ ตํ ภวิสฺสติ, คามํ ปวิสิสฺสามา’’ติ สปริกฺขารา คามํ ปวิสนฺติ, อถ เตสํ ปวิฏฺภาวํ ตฺวา คามํ ปริวาเรตฺวา ทฺวาเร อคฺคึ ทตฺวา มนุสฺเส ฆาเตตฺวา โจรา สพฺพํ วิภวํ วิลุมฺเปตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ ฆาติตาวเสสา อคฺคึ นิพฺพาเปตฺวา โกฏฺจฺฉายภิตฺติจฺฉายาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคิตฺวา นิสีทนฺติ นฏฺํ อนุโสจมานา. อยํ อุปสฏฺากาโร ลคฺคนากาโร นาม.
นฬาคาราติ นเฬหิ ปริจฺฉนฺนา อคารา, เสสสมฺภารา ปเนตฺถ รุกฺขมยา โหนฺติ. ติณาคาเรปิ เอเสว นโย. พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ พาลเมว นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. พาโล หิ อปณฺฑิตปุริโส รชฺชํ วา อุปรชฺชํ วา อฺํ วา ปน มหนฺตํ านํ ปตฺเถนฺโต กติปเย อตฺตนา สทิเส วิธวาปุตฺเต มหาธุตฺเต คเหตฺวา ‘‘เอถ อหํ ตุมฺเห อิสฺสเร กริสฺสามี’’ติ ปพฺพตคหนาทีนิ นิสฺสาย อนฺตนฺเต คาเม ปหรนฺโต ทามริกภาวํ ชานาเปตฺวา อนุปุพฺเพน นิคเมปิ ชนปเทปิ ปหรติ, มนุสฺสา เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา เขมนฺตฏฺานํ ปตฺถยมานา ปกฺกมนฺติ, เต นิสฺสาย วสนฺตา ภิกฺขูปิ ภิกฺขุนิโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ ปหาย ปกฺกมนฺติ. คตคตฏฺาเน ภิกฺขาปิ เสนาสนมฺปิ ¶ ทุลฺลภํ โหติ. เอวํ จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหติ. ปพฺพชิเตสุปิ ทฺเว พาลา ภิกฺขู อฺมฺํ วิวาทํ ปฏฺเปตฺวา โจทนํ อารภนฺติ ¶ . อิติ โกสมฺพิวาสิกานํ วิย มหากลโห อุปฺปชฺชติ, จตุนฺนํ ปริสานํ ภยํ อาคตเมว โหตีติ เอวํ ยานิ กานิจิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.
เอตทโวจาติ ภควตา ธมฺมเทสนา มตฺถกํ อปาเปตฺวาว นิฏฺาปิตา. ยํนูนาหํ ทสพลํ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพฺุตฺาเณเนวสฺส เทสนาย ปาริปูรึ กเรยฺยนฺติ ¶ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
๑๒๕. อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโห, อฑฺฒฏฺมกธาตุโย อรูปปริคฺคโหติ รูปารูปปริคฺคโหว กถิโต. สพฺพาปิ ขนฺธวเสน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. ปฺจปิ ขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ, เตสํ สมุฏฺาปิกา ตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจํ. อิติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนตา ธาตุโย วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว. ชานาติ ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺโค วุตฺโต.
ปถวีธาตุอาทโย สวิฺาณกกายํ สฺุโต นิสฺสตฺตโต ทสฺเสตุํ วุตฺตา. ตาปิ ปุริมาหิ อฏฺารสหิ ธาตูหิ ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน วิฺาณธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. วิฺาณธาตุ เหสา จกฺขุวิฺาณาทิวเสน ฉพฺพิธา โหติ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ปริคฺคหิตาย ตสฺสา วตฺถุ จกฺขุธาตุ, อารมฺมณํ รูปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย ปริคฺคหิตาว ¶ โหนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. มโนวิฺาณธาตุยา ปน ปริคฺคหิตาย ตสฺสา ปุริมปจฺฉิมวเสน มโนธาตุ, อารมฺมณวเสน ธมฺมธาตูติ ทฺเว ธาตุโย ปริคฺคหิตาว โหนฺติ. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
สุขธาตูติอาทีสุ สุขฺจ ตํ นิสฺสตฺตสฺุตฏฺเน ธาตุ จาติ สุขธาตุ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ ปุริมา จตสฺโส ธาตุโย สปฺปฏิปกฺขวเสน คหิตา, ปจฺฉิมา ทฺเว สริกฺขกวเสน. อวิภูตภาเวน หิ อุเปกฺขาธาตุ อวิชฺชาธาตุยา สริกฺขา. เอตฺถ จ สุขทุกฺขธาตูสุ ¶ ปริคฺคหิตาสุ กายวิฺาณธาตุ ปริคฺคหิตาว โหติ, เสสาสุ ปริคฺคหิตาสุ มโนวิฺาณธาตุ ปริคฺคหิตาว โหติ. อิมาปิ ฉ ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน อุเปกฺขาธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ¶ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
กามธาตุอาทีนํ ทฺเวธาวิตกฺเก (ม. นิ. ๑.๒๐๖) กามวิตกฺกาทีสุ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อภิธมฺเมปิ ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ, กามปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก’’ติอาทินา (วิภ. ๑๘๒) นเยเนว เอตาสํ วิตฺถาโร อาคโตเยว. อิมาปิ ฉ ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน กามธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
กามธาตุอาทีสุ ปฺจ กามาวจรกฺขนฺธา ¶ กามธาตุ นาม, ปฺจ รูปาวจรกฺขนฺธา รูปธาตุ นาม, จตฺตาโร อรูปาวจรกฺขนฺธา อรูปธาตุ นาม. อภิธมฺเม ปน ‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ, เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทินา (วิภ. ๑๘๒) นเยน เอตาสํ วิตฺถาโร อาคโตเยว. อิมาปิ ติสฺโส ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน กามธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
สงฺขตาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานเมตํ อธิวจนํ. น สงฺขตา อสงฺขตา. นิพฺพานสฺเสตํ อธิวจนํ. อิมาปิ ทฺเว ธาตุโย เหฏฺา อฏฺารสหิเยว ปูเรตพฺพา. ปูเรนฺเตน สงฺขตธาตุโต นีหริตฺวา ปูเรตพฺพา. อิติ อิมาสุ อฏฺารสสุ ธาตูสุ อฑฺเฒกาทสธาตุโย รูปปริคฺคโหติ ปุริมนเยเนว อิทมฺปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน นิคฺคมนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิตํ โหติ.
๑๒๖. อชฺฌตฺติกพาหิรานีติ อชฺฌตฺติกานิ จ พาหิรานิ จ. เอตฺถ หิ จกฺขุอาทีนิ อชฺฌตฺติกานิ ฉ, รูปาทีนิ พาหิรานิ ฉ. อิธาปิ ชานาติ ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.
อิมสฺมึ ¶ สติ อิทนฺติอาทิ มหาตณฺหาสงฺขเย วิตฺถาริตเมว.
๑๒๗. อฏฺานนฺติ ¶ เหตุปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโป. อุภเยนาปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. การณฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส านนฺติ จ อวกาโสติ จ วุจฺจติ. ยนฺติ เยน การเณน. ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ ¶ มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน อริยสาวโก. กฺจิ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กฺจิ เอกสงฺขารมฺปิ. นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ นิจฺโจติ คณฺเหยฺย. เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ นตฺถิ น อุปลพฺภติ. ยํ ปุถุชฺชโนติ เยน การเณน ปุถุชฺชโน. านเมตํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ อตฺถิ. สสฺสตทิฏฺิยา หิ โส เตภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต คณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. จตุตฺถภูมกสงฺขารา ปน เตชุสฺสทตฺตา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ วิย มกฺขิกานํ ทิฏฺิยา วา อฺเสํ วา อกุสลานํ อารมฺมณํ น โหนฺติ. อิมินา นเยน กฺจิ สงฺขารํ สุขโตติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๑, ๒๒) เอวํ อตฺตทิฏฺิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหาภิภูโต ปริฬาหวูปสมตฺถํ มตฺตหตฺถึ ปริตฺตาสิโต วิย, โจกฺขพฺราหฺมโณ วิย จ คูถํ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ. อตฺตวาเร กสิณาทิปณฺณตฺติสงฺคหตฺถํ สงฺขารนฺติ อวตฺวา กฺจิ ธมฺมนฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ อริยสาวกสฺส จตุภูมกวเสน เวทิตพฺโพ, ปุถุชฺชนสฺส เตภูมกวเสน. สพฺพวาเรสุ อริยสาวกสฺสาปิ เตภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท วฏฺฏติ. ยํ ยฺหิ ปุถุชฺชโน ¶ คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเติ. ปุถุชฺชโน หิ ยํ ยํ นิจฺจํ สุขํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตํ ตํ อริยสาวโก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ คณฺหนฺโต ตํ คาหํ วินิเวเติ.
๑๒๘. มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกาว มาตา, ชนโก ปิตา, มนุสฺสภูโตว ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ. สเจปิ หิ ภวนฺตรคตํ อริยสาวกํ ¶ อตฺตโน อริยภาวํ อชานนฺตมฺปิ โกจิ เอวํ วเทยฺย ‘‘อิมํ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ ¶ , เนว โส ตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อถาปิ นํ เอวํ วเทยฺย ‘‘สเจ อิมํ น ฆาเตสฺสสิ, สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามา’’ติ. สีสเมวสฺส ฉินฺเทยฺย, น จ โส ตํ ฆาเตยฺย. ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยสาวกสฺส จ พลทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สาวชฺโช ปุถุชฺชนภาโว, ยตฺร หิ นาม ปุถุชฺชโน มาตุฆาตาทีนิปิ อานนฺตริยานิ กริสฺสติ. มหาพโล จ อริยสาวโก, โย เอตานิ กมฺมานิ น กโรตีติ.
ทุฏฺจิตฺโตติ วธกจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมาย ิตํ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺเทยฺย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปฺจหุปาลิ อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘).
ตตฺถ ¶ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปฺปตฺตีหิ อธมฺมํ ธมฺโมติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล, กึ อหํ อปายโต น ภายามีติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.
เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ ¶ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เอตฺตาวตา มาตุฆาตาทีนิ ปฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ, ยานิ ปุถุชฺชโน กโรติ, น อริยสาวโก, เตสํ อาวิภาวตฺถํ –
กมฺมโต ¶ ทฺวารโต เจว, กปฺปฏฺิติยโต ตถา;
ปากสาธารณาทีหิ, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ตตฺถ กมฺมโต ตาว – เอตฺถ หิ มนุสฺสภูตสฺเสว มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหติ, ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิสฺสามีติ สกลจกฺกวาฬํ มหาเจติยปฺปมาเณหิ ¶ กฺจนถูเปหิ ปูเรตฺวาปิ สกลจกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา นิสินฺนภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวาปิ พุทฺธสฺส ภควโต สงฺฆาฏิกณฺณํ อมฺุจนฺโต วิจริตฺวาปิ กายสฺส เภทา นิรยเมว อุปปชฺชติ. โย ปน สยํ มนุสฺสภูโต ติรจฺฉานภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา, สยํ วา ติรจฺฉานภูโต มนุสฺสภูตํ, ติรจฺฉาโนเยว วา ติรจฺฉานภูตํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ น โหติ, ภาริยํ ปน โหติ, อานนฺตริยํ อาหจฺเจว ติฏฺติ. มนุสฺสชาติกานํ ปน วเสน อยํ ปฺโห กถิโต.
ตตฺถ เอฬกจตุกฺกํ สงฺคามจตุกฺกํ โจรจตุกฺกฺจ กเถตพฺพํ. เอฬกํ มาเรมีติ อภิสนฺธินาปิ หิ เอฬกฏฺาเน ิตํ มนุสฺโส มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา มาเรนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติ. เอฬกาภิสนฺธินา ปน มาตาปิตาอภิสนฺธินา วา เอฬกํ มาเรนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติ. มาตาปิตาอภิสนฺธินา มาตาปิตโร มาเรนฺโต ผุสเตว. เอเสว นโย อิตรสฺมิมฺปิ จตุกฺกทฺวเย. ยถา จ มาตาปิตูสุ, เอวํ อรหนฺเตปิ เอตานิ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ.
มนุสฺสอรหนฺตเมว มาเรตฺวา อานนฺตริยํ ผุสติ, น ยกฺขภูตํ. กมฺมํ ปน ภาริยํ, อานนฺตริยสทิสเมว. มนุสฺสอรหนฺตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเลเยว สตฺถปฺปหาเร วา วิเส วา ทินฺเนปิ ยทิ โส อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว มรติ, อรหนฺตฆาโต โหติเยว. ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภฺุชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ทินฺนํ โหติ. เสสอริยปุคฺคเล ¶ มาเรนฺตสฺส อานนฺตริยํ นตฺถิ. กมฺมํ ปน ภาริยํ, อานนฺตริยสทิสเมว.
โลหิตุปฺปาเท ตถาคตสฺส อเภชฺชกายตาย ปรูปกฺกเมน จมฺมจฺเฉทํ กตฺวา โลหิตปคฺฆรณํ นาม นตฺถิ. สรีรสฺส ปน อนฺโตเยว เอกสฺมึเยว าเน โลหิตํ สโมสรติ. เทวทตฺเตน ปวิทฺธสิลโต ¶ ภิชฺชิตฺวา คตา สกลิกาปิ ¶ ตถาคตสฺส ปาทนฺตํ ปหริ, ผรสุนา ปหโฏ วิย ปาโท อนฺโตโลหิโตเยว อโหสิ. ตถา กโรนฺตสฺส อานนฺตริยํ โหติ. ชีวโก ปน ตถาคตสฺส รุจิยา สตฺถเกน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ตมฺหา านา ทุฏฺโลหิตํ นีหริตฺวา ผาสุมกาสิ, ตถา กโรนฺตสฺส ปฺุกมฺมเมว โหติ.
อถ เย จ ปรินิพฺพุเต ตถาคเต เจติยํ ภินฺทนฺติ, โพธึ ฉินฺทนฺติ ธาตุมฺหิ อุปกฺกมนฺติ, เตสํ กึ โหตีติ? ภาริยํ กมฺมํ โหติ อานนฺตริยสทิสํ. สธาตุกํ ปน ถูปํ วา ปฏิมํ วา พาธมานํ โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ ตตฺถ นิลีนา สกุณา เจติเย วจฺจํ ปาเตนฺติ, ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว. ปริโภคเจติยโต หิ สรีรเจติยํ มหนฺตตรํ. เจติยวตฺถุํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺตํ โพธิมูลมฺปิ ฉินฺทิตฺวา หริตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน โพธิสาขา โพธิฆรํ พาธติ, ตํ เคหรกฺขณตฺถํ ฉินฺทิตุํ น ลภติ, โพธิอตฺถฺหิ เคหํ, น เคหตฺถาย โพธิ. อาสนฆเรปิ เอเสว นโย. ยสฺมึ ปน อาสนฆเร ธาตุ นิหิตา โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถาย โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. โพธิชคฺคนตฺถํ โอโชหรณสาขํ วา ปูติฏฺานํ วา ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว, ภควโต สรีรปฏิชคฺคเน วิย ปฺุมฺปิ โหติ.
สงฺฆเภเท สีมฏฺกสงฺเฆ อสนฺนิปติเต วิสุํ ปริสํ คเหตฺวา กตโวหารานุสฺสาวน-สลากคฺคาหสฺส กมฺมํ วา กโรนฺตสฺส, อุทฺเทสํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส เภโท จ โหติ อานนฺตริยกมฺมฺจ. สมคฺคสฺาย ปน วฏฺฏตีติ กมฺมํ กโรนฺตสฺส เภโทว โหติ, น อานนฺตริยกมฺมํ, ตถา นวโต อูนปริสายํ. สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ¶ นวนฺนํ ชนานํ โย สงฺฆํ ภินฺทติ ¶ , ตสฺส อานนฺตริยกมฺมํ โหติ. อนุวตฺตกานํ อธมฺมวาทีนํ มหาสาวชฺชกมฺมํ. ธมฺมวาทิโน ปน อนวชฺชา.
ตตฺถ นวนฺนเมว สงฺฆเภเท อิทํ สุตฺตํ – ‘‘เอกโต อุปาลิ จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิทํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ, เอวํ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑). เอเตสุ ปน ปฺจสุ ¶ สงฺฆเภโท วจีกมฺมํ, เสสานิ กายกมฺมานีติ. เอวํ กมฺมโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ทฺวารโตติ สพฺพาเนว เจตานิ กายทฺวารโตปิ วจีทฺวารโตปิ สมุฏฺหนฺติ. ปุริมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ อาณตฺติกวิชฺชามยปโยควเสน วจีทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ กายทฺวารเมว ปูเรนฺติ, สงฺฆเภโท หตฺถมุทฺทาย เภทํ กโรนฺตสฺส กายทฺวารโต สมุฏฺหิตฺวาปิ วจีทฺวารเมว ปูเรตีติ. เอวเมตฺถ ทฺวารโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
กปฺปฏฺิติยโตติ สงฺฆเภโทเยว เจตฺถ กปฺปฏฺิติโย. สณฺหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติ. สเจปิ หิ สฺเวว กปฺโป วินสฺสิสฺสตีติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวว มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจติ. เอวํ กรณํ ปน นตฺถิ. เสสานิ จตฺตาริ กมฺมานิ อานนฺตริยาเนว โหนฺติ, น กปฺปฏฺิติยานีติ เอวเมตฺถ กปฺปฏฺิติยโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
ปากโตติ ¶ เยน จ ปฺจเป’ตานิ กมฺมานิ กตานิ โหนฺติ, ตสฺส สงฺฆเภโทเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ, เสสานิ ‘‘อโหสิกมฺมํ, นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวมาทีสุ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สงฺฆสฺส เภทาภาเว โลหิตุปฺปาโท, ตทภาเว อรหนฺตฆาโต, ตทภาเว จ สเจ ปิตา สีลวา โหติ, มาตา ทุสฺสีลา, โน วา ตถา สีลวตี, ปิตุฆาโต ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ. สเจ มาตาปิตุฆาโต, ทฺวีสุปิ สีเลน วา ทุสฺสีเลน วา สมาเนสุ มาตุฆาโตว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ ¶ . มาตา หิ ทุกฺกรการินี พหูปการา จ ปุตฺตานนฺติ เอวเมตฺถ ปากโตปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
สาธารณาทีหีติ ปุริมานิ จตฺตาริ สพฺเพสมฺปิ คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณานิ. สงฺฆเภโท ปน ‘‘น โข, อุปาลิ ภิกฺขุนี, สงฺฆํ ภินฺทติ, น สิกฺขมานา, น สามเณโร, น สามเณรี, น อุปาสโก, น อุปาสิกา สงฺฆํ ภินฺทติ, ภิกฺขุ โข, อุปาลิ, ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต สงฺฆํ ภินฺทตี’’ติ (จูฬว. ๓๕๑) วจนโต วุตฺตปฺปการสฺส ภิกฺขุโนว โหติ, น อฺสฺส, ตสฺมา อสาธารโณ. อาทิสทฺเทน สพฺเพปิ เต ทุกฺขเวทนาสหคตา ¶ โทสโมหสมฺปยุตฺตา จาติ เอวเมตฺถ สาธารณาทีหิปิ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.
อฺํ สตฺถารนฺติ ‘‘อยํ เม สตฺถา สตฺถุกิจฺจํ กาตุํ อสมตฺโถ’’ติ ภวนฺตเรปิ อฺํ ติตฺถกรํ ‘‘อยํ เม สตฺถา’’ติ เอวํ คณฺเหยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๑๒๙. เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. ตีณิ ¶ หิ เขตฺตานิ ชาติเขตฺตํ อาณาเขตฺตํ วิสยเขตฺตํ. ตตฺถ ชาติเขตฺตํ นาม ทสสหสฺสี โลกธาตุ. สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนกาเล นิกฺขมนกาเล สมฺโพธิกาเล ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติ. โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน อาณาเขตฺตํ นาม. อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนฺหิ เอตฺถ อาณา วตฺตติ. วิสยเขตฺตสฺส ปน ปริมาณํ นตฺถิ. พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ ตาวตกํ เนยฺยํ, ยาวตกํ เนยฺยํ ตาวตกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เนยฺยํ เนยฺยปริยนฺติกํ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ.
อิเมสุ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. ตีณิ ปิฏกานิ วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ, ติสฺโส สงฺคีติโย มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติ. อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อิมํ ¶ จกฺกวาฬํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา. เอกโต น อุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ หิ โพธิปลฺลงฺเก โพธึ อปฺปตฺวา น อุฏฺหิสฺสามีติ นิสินฺนกาลโต ¶ ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ, ตาว ปุพฺเพติ น เวทิตพฺพํ. โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณน ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว เขตฺตปริคฺคโห กโต, อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ปรินิพฺพานกาลโต ปฏฺาย ยาว สาสปมตฺตา ธาตุ ¶ ติฏฺติ, ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํ. ธาตูสุ หิ ิตาสุ พุทฺธา ิตาว โหนฺติ. ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
ตีณิ หิ อนฺตรธานานิ นาม ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ ปริยตฺตีติ ตีณิ ปิฏกานิ. ปฏิเวโธติ สจฺจปฏิเวโธ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปทา. ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ปฏิเวธธรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ, เอโส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโนติ องฺคุลึ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติ. อิมสฺมึเยว ทีเป เอกวาเร ปุถุชฺชนภิกฺขุ นาม นาโหสิ. ปฏิปตฺติปูริกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ กทาจิ อปฺปา. อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ, สาสนฏฺิติยา ปน ปริยตฺติ ปมาณํ.
ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปฺจาภิฺา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส น ชานามีติ อาห. ตโต อุทกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตํ วิเสสํ สํสนฺเทตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส อาจิกฺขิ, ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ สมฺปาเทสิ, เอวเมว ปฺวา ภิกฺขุ ปริยตฺตึ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ตสฺมา ¶ ปริยตฺติยา ิตาย สาสนํ ิตํ โหติ.
ยทา ¶ ปน สา อนฺตรธายติ, ตทา ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติ. ตตฺถ ปฏฺานํ สพฺพปมํ อนฺตรธายติ, อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโห, ตสฺมึ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ิเตสุ สาสนํ ิตเมว โหติ. ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติ. เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ คจฺฉติ, สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ สภิยปุจฺฉา (สุ. นิ. สภิยสุตฺตํ) วิย อาฬวกปุจฺฉา (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺตํ; สํ. นิ. ๑.๒๔๖) ¶ วิย จ. เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขึสุ.
ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ิเต สาสนํ ติฏฺติ, ปริวารขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ิเต ิตเมว โหติ. อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกาย ิตายปิ ิตเมว โหติ. มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชอุปสมฺปทาสุ ิตาสุ สาสนํ ติฏฺติ. ลิงฺคมทฺธานํ คจฺฉติ, เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต จ ปฏฺาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ. ตโต ปฏฺาย อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น วาริตาติ.
ตีณิ ปรินิพฺพานานิ นาม กิเลสปรินิพฺพานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ ธาตุปรินิพฺพานนฺติ. ตตฺถ กิเลสปรินิพฺพานํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ, ขนฺธปรินิพฺพานํ กุสินารายํ, ธาตุปรินิพฺพานํ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย ¶ สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ, มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ, ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ, นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ ธาตุ อนฺตรา น นสฺสิสฺสติ. สพฺพา ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ, ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริสฺสนฺติ.
ตโต ¶ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวตา โย สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพายติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การฺุํ กริสฺสนฺติ. เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ, สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลาว ภวิสฺสติ, ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ ปจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ ¶ นาม โหติ. ยาว เอวํ น อนนฺตรธายติ, ตาว อจริมํ นาม โหติ. เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ. อนจฺฉริยตฺตา. พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา. ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส, กตโม เอกปุคฺคโล, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๑-๑๗๔).
ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น อจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เอกสฺมิฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ¶ ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ. ตสฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ.
เทสนาย จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ, อฺเน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยา. ตโต น อจฺฉริโย สิยา, เอกสฺมึ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติ.
วิวาทาภาวโต จ. พหูสุ จ พุทฺเธสุ อุปฺปชฺชนฺเตสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปฺุวา’’ติ วิวเทยฺยุํ, ตสฺมาปิ เอวํ น อุปฺปชฺชนฺติ. อปิเจตํ การณํ มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมว. วุตฺตฺหิ (มิ. ป. ๕.๑.๑) –
‘‘ตตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ¶ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ. เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกา อนุสิฏฺิ, เกน การเณน ¶ ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต. ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ¶ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย. โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺยนฺติ.
อยํ มหาราช ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย. เอกสฺมึ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย. อปินุ สา มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเกติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย…เป… น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา วา ปน มหาราช ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาวกณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทิกโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ¶ ภฺุเชยฺย, อปินุ โข, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยาติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี ¶ …เป… น านมุปคจฺเฉยฺยาติ.
กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ? อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา. เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปินุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ¶ ตสฺส ภิชฺเชยฺยาติ. กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตีติ? อาม, ภนฺเตติ. เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ.
อปิจ มหาราช อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ, อฺมฺปิ ตตฺถ อภิรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ อมฺหากํ อมจฺโจ’ติ อุภโตปกฺขชาตา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อคฺโค พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. เชฏฺโ พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. เสฏฺโ พุทฺโธติ, วิสิฏฺโ พุทฺโธติ, อุตฺตโม พุทฺโธติ, ปวโร พุทฺโธติ, อสโม พุทฺโธติ, อสมสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิภาโค พุทฺโธติ, อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธติ ยํ วจนํ ¶ , ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช ¶ , การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปิจ โข มหาราช พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา, ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ. อฺมฺปิ มหาราช ยํ โลเก มหนฺตํ, ตํ เอกํเยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกาเยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว. มาโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. พฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺสฺส ¶ โอกาโส น โหติ. ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลกสฺมึ อุปฺปชฺชตีติ. สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหี’’ติ.
เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ. เหฏฺา อิมินาว ปเทน ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ คหิตานิ ตานิปิ, เอกจกฺกวาเฬเนว ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏนฺติ. พุทฺธา หิ อุปฺปชฺชมานา อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปชฺชนฏฺาเน ปน วาริเต อิโต อฺเสุ จกฺกวาเฬสุ นุปฺปชฺชนฺตีติ วาริตเมว โหติ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอตฺถ จกฺกรตนปาตุภาวโต ปุพฺเพ ปุพฺพํ, ตสฺเสว อนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํ. ตตฺถ ทฺวิธา จกฺกรตนสฺส อนฺตรธานํ โหติ, จกฺกวตฺติโน กาลํกิริยโต วา ปพฺพชฺชาย วา. อนฺตรธายมานฺจ ปน ตํ กาลํกิริยโต วา ปพฺพชฺชโต วา สตฺตเม ทิวเส อนฺตรธายติ, ตโต ปรํ จกฺกวตฺติโน ปาตุภาโว อวาริโต.
กสฺมา ปน เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว จกฺกวตฺติโน นุปฺปชฺชนฺตีติ ¶ . วิวาทุปจฺเฉทโต อจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ. ทฺวีสุ หิ อุปฺปชฺชนฺเตสุ ‘‘อมฺหากํ ราชา มหนฺโต อมฺหากํ ราชา มหนฺโต’’ติ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย. เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตีติ จ เอกสฺมึ ทีเป จกฺกวตฺตีติ จ อนจฺฉริยา ภเวยฺยุํ ¶ . โย จายํ จกฺกรตนสฺส ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อิสฺสริยานุปฺปทานสมตฺโถ มหานุภาโว, โส ปริหาเยถ. อิติ วิวาทุปจฺเฉทโต อจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ น เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว อุปฺปชฺชนฺติ.
๑๓๐. ยํ อิตฺถี อสฺส อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ ติฏฺตุ ตาว สพฺพฺุคุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา โลกุตฺตารณสมตฺโถ พุทฺธภาโว, ปณิธานมตฺตมฺปิ อิตฺถิยา น สมฺปชฺชติ.
มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;
ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;
อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตีติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙) –
อิมานิ ¶ หิ ปณิธานสมฺปตฺติการณานิ. อิติ ปณิธานมฺปิ สมฺปาเทตุํ อสมตฺถาย อิตฺถิยา กุโต พุทฺธภาโวติ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี อสฺส อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ. สพฺพาการปริปูโร จ ปฺุุสฺสโย สพฺพาการปริปูรเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุริโสว อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตีติอาทีสุปิ ยสฺมา อิตฺถิยา ¶ โกโสหิตวตฺถคุยฺหตาทีนํ อภาเวน ลกฺขณานิ น ปริปูเรนฺติ, อิตฺถิรตนาภาเวน สตฺตรตนสมงฺคิตา น สมฺปชฺชติ, สพฺพมนุสฺเสหิ จ อธิโก อตฺตภาโว น โหติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ สกฺกตฺตาทีนิ ตีณิ านานิ อุตฺตมานิ, อิตฺถิลิงฺคฺจ หีนํ, ตสฺมา ตสฺสา สกฺกตฺตาทีนิปิ ปฏิสิทฺธานิ.
นนุ จ ยถา อิตฺถิลิงฺคํ, เอวํ ปุริสลิงฺคมฺปิ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ? ตสฺมา ‘‘ยํ ปุริโส พฺรหฺมตฺตํ กเรยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’’ติปิ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. โน น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อิธ ปุริสสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตนโต. พฺรหฺมตฺตนฺติ หิ มหาพฺรหฺมตฺตํ อธิปฺเปตํ. อิตฺถี จ อิธ ฌานํ ภาเวตฺวา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺชานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ, น มหาพฺรหฺมานํ, ปุริโส ปน ตตฺถ น อุปฺปชฺชตีติ น วตฺตพฺโพ. สมาเนปิ เจตฺถ อุภยลิงฺคาภาเว ปุริสสณฺานาว พฺรหฺมาโน, น อิตฺถิสณฺานา, ตสฺมา สุวุตฺตเมเวตํ.
๑๓๑. กายทุจฺจริตสฺสาติอาทีสุ ¶ ยถา นิมฺพพีชโกสาตกีพีชาทีนิ มธุรผลํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อสาตํ อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ, เอวํ กายทุจฺจริตาทีนิ มธุรวิปากํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อมธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ. ยถา จ อุจฺฉุพีชสาลิพีชาทีนิ มธุรํ สาทุรสเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อสาตํ กฏุกํ, เอวํ ¶ กายสุจริตาทีนิ มธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อมธุรํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๖);
ตสฺมา ¶ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายทุจฺจริตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทีสุ สมงฺคีติ ปฺจวิธา สมงฺคิตา อายูหนสมงฺคิตา เจตนาสมงฺคิตา กมฺมสมงฺคิตา วิปากสมงฺคิตา, อุปฏฺานสมงฺคิตาติ. ตตฺถ กุสลากุสลกมฺมายูหนกฺขเณ อายูหนสมงฺคิตาติ วุจฺจติ. ตถา เจตนาสมงฺคิตา. ยาว ปน อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สพฺเพปิ สตฺตา ปุพฺเพ อุปจิตํ วิปาการหํ กมฺมํ สนฺธาย ‘‘กมฺมสมงฺคิโน’’ติ วุจฺจนฺติ, เอสา กมฺมสมงฺคิตา. วิปากสมงฺคิตา วิปากกฺขเณเยว เวทิตพฺพา. ยาว ปน สตฺตา อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ, ตาว เนสํ ตโต ตโต จวิตฺวา นิรเย ตาว อุปฺปชฺชมานานํ อคฺคิชาลโลหกุมฺภิอาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ นิรโย, คพฺภเสยฺยกตฺตํ อาปชฺชมานานํ มาตุกุจฺฉิ, เทเวสุ อุปฺปชฺชมานานํ กปฺปรุกฺขวิมานาทีหิ อุปฏฺานากาเรหิ เทวโลโกติ เอวํ อุปฺปตฺตินิมิตฺตํ อุปฏฺาติ, อิติ เนสํ อิมินา อุปฺปตฺตินิมิตฺตอุปฏฺาเนน อปริมุตฺตตา อุปฏฺานสมงฺคิตา นาม. สา จลติ เสสา นิจฺจลา. นิรเย หิ อุปฏฺิเตปิ เทวโลโก อุปฏฺาติ, เทวโลเก อุปฏฺิเตปิ นิรโย อุปฏฺาติ, มนุสฺสโลเก อุปฏฺิเตปิ ติรจฺฉานโยนิ อุปฏฺาติ, ติรจฺฉานโยนิยา จ อุปฏฺิตายปิ มนุสฺสโลโก อุปฏฺาติเยว.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – โสณคิริปาเท กิร อเจลวิหาเร โสณตฺเถโร นาม เอโก ธมฺมกถิโก, ตสฺส ปิตา สุนขชีวิโก อโหสิ. เถโร ตํ ปฏิพาหนฺโตปิ สํวเร เปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘มา นสฺสิ ชรโก’’ติ ¶ มหลฺลกกาเล อกามกํ ปพฺพาเชสิ. ตสฺส คิลานเสยฺยาย นิปนฺนสฺส นิรโย อุปฏฺาติ, โสณคิริปาทโต มหนฺตา มหนฺตา สุนขา อาคนฺตฺวา ขาทิตุกามา วิย สมฺปริวาเรสุํ. โส มหาภยภีโต – ‘‘วาเรหิ, ตาต โสณ, วาเรหิ, ตาต โสณา’’ติ อาห. กึ มหาเถราติ. น ปสฺสสิ ตาตาติ ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. โสณตฺเถโร – ‘‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส ปิตา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, ปติฏฺา’สฺส ภวิสฺสามี’’ติ สามเณเรหิ นานาปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ ตลสนฺถรณปูชํ อาสนปูชฺจ กาเรตฺวา ปิตรํ มฺเจน เจติยงฺคณํ อาหริตฺวา มฺเจ นิสีทาเปตฺวา – ‘‘อยํ มหาเถร-ปูชา ตุมฺหากํ อตฺถาย กตา ‘อยํ เม ภควา ทุคฺคตปณฺณากาโร’ติ วตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหี’’ติ อาห. โส มหาเถโร ปูชํ ทิสฺวา ตถา กโรนฺโต จิตฺตํ ปสาเทสิ, ตาวเทวสฺส เทวโลโก อุปฏฺาสิ, นนฺทนวน-จิตฺตลตาวน-มิสฺสกวน-ผารุสกวนวิมานานิ เจว นาฏกานิ จ ปริวาเรตฺวา ิตานิ ¶ วิย อเหสุํ. โส ‘‘อเปถ อเปถ โสณา’’ติ อาห. กิมิทํ เถราติ? เอตา เต, ตาต, มาตโร อาคจฺฉนฺตีติ ¶ . เถโร ‘‘สคฺโค อุปฏฺิโต มหาเถรสฺสา’’ติ จินฺเตสิ. เอวํ อุปฏฺานสมงฺคิตา จลตีติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ สมงฺคิตาสุ อิธ อายูหนเจตนากมฺมสมงฺคิตาวเสน กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทิ วุตฺตํ.
๑๓๒. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโทติ ‘‘เอวํ ภควตา อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเต เถโร อาทิโต ปฏฺาย สพฺพสุตฺตํ สมนฺนาหริตฺวา เอวํ สสฺสิริกํ กตฺวา เทสิตสุตฺตสฺส นาม ภควตา นามํ น คหิตํ. หนฺทสฺส นามํ คณฺหาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ.
ตสฺมา ติห ตฺวนฺติอาทีสุ อยํ อตฺถโยชนา –
อานนฺท, ยสฺมา อิมสฺมึ ธมฺมปริยาเย ‘‘อฏฺารส โข อิมา, อานนฺท, ธาตุโย, ฉ อิมา, อานนฺท, ธาตุโย’’ติ เอวํ พหุธาตุโย วิภตฺตา, ตสฺมา ติห ตฺวํ อิมํ ธมฺมปริยายํ พหุธาตุโกติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา ปเนตฺถ ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทฏฺานาฏฺานวเสน จตฺตาโร ปริวฏฺฏา กถิตา ¶ , ตสฺมา จตุปริวฏฺโฏติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ อาทาสํ โอโลเกนฺตสฺส มุขนิมิตฺตํ วิย อิมํ ธมฺมปริยายํ โอโลเกนฺตสฺส เอเต ธาตุอาทโย อตฺถา ปากฏา โหนฺติ, ตสฺมา ธมฺมาทาโสติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ ยถา นาม ปรเสนมทฺทนา โยธา สงฺคามตูริยํ ปคฺคเหตฺวา ปรเสนํ ปวิสิตฺวา สปตฺเต มทฺทิตฺวา อตฺตโน ชยํ คณฺหนฺติ, เอวเมว กิเลสเสนมทฺทนา โยคิโน อิธ วุตฺตวเสน วิปสฺสนํ ปคฺคเหตฺวา กิเลเส มทฺทิตฺวา อตฺตโน อรหตฺตชยํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา อมตทุนฺทุภีติปิ นํ ธาเรหิ. ยสฺมา จ ยถา สงฺคามโยธา ¶ ปฺจาวุธํ คเหตฺวา ปรเสนํ วิทฺธํเสตฺวา ชยํ คณฺหนฺติ, เอวํ โยคิโนปิ อิธ วุตฺตํ วิปสฺสนาวุธํ คเหตฺวา กิเลสเสนํ วิทฺธํเสตฺวา อรหตฺตชยํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา อนุตฺตโร สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พหุธาตุกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อิสิคิลิสุตฺตํ. ตตฺถ อฺาว สมฺา อโหสีติ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลีติ สมฺาย อุปฺปนฺนกาเล เวภาโร น เวภาโรติ ปฺายิตฺถ, อฺาเยวสฺส สมฺา อโหสิ. อฺา ปฺตฺตีติ อิทํ ปุริมปทสฺเสว เววจนํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
ตทา กิร ภควา สายนฺหสมเย สมาปตฺติโต วุฏฺาย คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ยสฺมึ าเน นิสินฺนานํ ปฺจ ปพฺพตา ปฺายนฺติ, ตตฺถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา อิเม ปฺจ ปพฺพเต ปฏิปาฏิยา อาจิกฺขิ. ตตฺถ น ภควโต ปพฺพเตหิ อตฺโถ อตฺถิ, อิติ อิเมสุ ปน ปพฺพเตสุ ปฏิปาฏิยา กถิยมาเนสุ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลิภาโว กเถตพฺโพ โหติ. ตสฺมึ กถิยมาเน ปทุมวติยา ปุตฺตานํ ปฺจสตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ เจว ปทุมวติยา จ ปตฺถนา กเถตพฺพา ภวิสฺสตีติ ภควา อิมํ ปฺจ ปพฺพตปฏิปาฏึ อาจิกฺขิ.
ปวิสนฺตา ¶ ทิสฺสนฺติ ปวิฏฺา น ทิสฺสนฺตีติ ยถาผาสุกฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา อาคนฺตฺวา เจติยคพฺเภ ยมกมหาทฺวารํ วิวรนฺตา วิย ตํ ปพฺพตํ ทฺเวธา กตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ¶ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ มาเปตฺวา ตตฺถ วสึสุ, ตสฺมา เอวมาห. อิเม อิสีติ อิเม ปจฺเจกพุทฺธอิสี.
กทา ปน เต ตตฺถ วสึสุ? อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน ตถาคเต พาราณสึ อุปนิสฺสาย เอกสฺมึ คามเก เอกา กุลธีตา เขตฺตํ รกฺขมานา เอกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปฺจหิ ลาชาสเตหิ สทฺธึ เอกํ ปทุมปุปฺผํ ทตฺวา ปฺจ ปุตฺตสตานิ ปตฺเถสิ. ตสฺมึเยว จ ขเณ ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มธุรมํสํ ทตฺวา ‘‘เอติสฺสา ปุตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺถยึสุ. สา ยาวตายุกํ ตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา, ตโต จุตา ชาตสฺสเร ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺติ. ตเมโก ตาปโส ทิสฺวา ปฏิชคฺคิ, ตสฺสา วิจรนฺติยาว ปาทุทฺธาเร ปาทุทฺธาเร ภูมิโต ปทุมานิ อุฏฺหนฺติ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา พาราณสิรฺโ อาโรเจสิ. ราชา นํ อาหราเปตฺวา อคฺคมเหสึ ¶ อกาสิ, ตสฺสา คพฺโภ สณฺาสิ. มหาปทุมกุมาโร มาตุกุจฺฉิยํ วสิ, เสสา คพฺภมลํ นิสฺสา นิพฺพตฺตา. วยปฺปตฺตา อุยฺยาเน ปทุมสฺสเร กีฬนฺตา เอเกกสฺมึ ปทุเม นิสีทิตฺวา ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺตยึสุ. อยํ เตสํ พฺยากรณคาถา อโหสิ –
‘‘สโรรุหํ ปทุมปลาสปตฺตชํ, สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุจิณฺณํ;
อนิจฺจตายุปคตํ วิทิตฺวา, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ.
ตสฺมึ ¶ กาเล เต ตตฺถ วสึสุ, ตทา จสฺส ปพฺพตสฺส อิสิคิลีติ สมฺา อุทปาทิ.
๑๓๕. เย สตฺตสาราติ อริฏฺโ อุปริฏฺโ ตครสิขี ยสสฺสี สุทสฺสโน ปิยทสฺสี คนฺธาโร ปิณฺโฑโล อุปาสโภ นีโต ตโถ สุตวา ภาวิตตฺโตติ เตรสนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ วตฺวา อิทานิ เตสฺจ อฺเสฺจ คาถาพนฺเธน นามานิ อาจิกฺขนฺโต เย สตฺตสาราติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ สตฺตสาราติ สตฺตานํ สารภูตา. อนีฆาติ นิทฺทุกฺขา. นิราสาติ นิตฺตณฺหา.
ทฺเว ชาลิโนติ จูฬชาลิ มหาชาลีติ ทฺเว ชาลินามกา. สนฺตจิตฺโตติ อิทมฺปิ เอกสฺส นามเมว. ปสฺสิ ชหิ อุปธิทุกฺขมูลนฺติ เอตฺถ ปสฺสิ นาม โส ปจฺเจกพุทฺโธ, ทุกฺขสฺส ปน มูลํ อุปธึ ชหีติ อยมสฺส ถุติ. อปราชิโตติปิ เอกสฺส นามเมว.
สตฺถา ปวตฺตา สรภงฺโค โลมหํโส อุจฺจงฺคมาโยติ อิเม ปฺจ ชนา. อสิโต อนาสโว มโนมโยติ อิเมปิ ตโย ชนา. มานจฺฉิโท จ พนฺธุมาติ พนฺธุมา นาม เอโก, มานสฺส ปน ฉินฺนตฺตา มานจฺฉิโทติ วุตฺโต. ตทาธิมุตฺโตติปิ นามเมว.
เกตุมฺภราโค จ มาตงฺโค อริโยติ อิเม ตโย ชนา. อถจฺจุโตติ อถ อจฺจุโต. อจฺจุตคามพฺยามงฺโกติ อิเม ทฺเว ชนา. เขมาภิรโต จ โสรโตติ อิเม ทฺเวเยว.
สยฺโห อโนมนิกฺกโมติ สยฺโห นาม โส พุทฺโธ, อโนมวีริยตฺตา ปน อโนมนิกฺกโมติ ¶ วุตฺโต. อานนฺโท นนฺโท อุปนนฺโท ทฺวาทสาติ จตฺตาโร อานนฺทา, จตฺตาโร นนฺทา จตฺตาโร อุปนนฺทาติ เอวํ ทฺวาทส. ภารทฺวาโช ¶ อนฺติมเทหธารีติ ภารทฺวาโช นาม โส พุทฺโธ. อนฺติมเทหธารีติ ถุติ.
ตณฺหจฺฉิโทติ สิขริสฺสายํ ถุติ. วีตราโคติ มงฺคลสฺส ถุติ. อุสภจฺฉิทา ชาลินึ ทุกฺขมูลนฺติ อุสโภ นาม โส พุทฺโธ ทุกฺขมูลภูตํ ชาลินึ อจฺฉิทาติ อตฺโถ. สนฺตํ ปทํ อชฺฌคโมปนีโตติ อุปนีโต นาม โส พุทฺโธ สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมา. วีตราโคติปิ เอกสฺส นามเมว. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ อยํ กณฺหสฺส ถุติ.
เอเต จ อฺเ จาติ เอเต ปาฬิยํ อาคตา จ ปาฬิยํ อนาคตา อฺเ จ เอเตสํ เอกนามกาเยว. อิเมสุ หิ ปฺจสุ ปจฺเจกพุทฺธสเตสุ ทฺเวปิ ตโยปิ ทสปิ ทฺวาทสปิ อานนฺทาทโย วิย เอกนามกา อเหสุํ. อิติ ปาฬิยํ อาคตนาเมเหว สพฺเพสํ นามานิ วุตฺตานิ ¶ โหนฺตีติ อิโต ปรํ วิสุํ วิสุํ อวตฺวา ‘‘เอเต จ อฺเ จา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ. ตตฺถ อริยนฺติ นิทฺโทสํ โลกุตฺตรํ, นิทฺโทสฺหิ ‘‘อริย’’นฺติ วุจฺจติ. สมฺมาสมาธินฺติ มคฺคสมาธึ. สอุปนิสนฺติ สปจฺจยํ. สปริกฺขารนฺติ สปริวารํ.
ปริกฺขตาติ ปริวาริตา. สมฺมาทิฏฺิ ¶ ปุพฺพงฺคมา โหตีติ ทฺวิธา สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ ปุเรจาริกา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ จ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ จ. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ เตภูมกสงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสติ; มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ปน ปริวีมํสนปริโยสาเน ภูมิลทฺธํ วฏฺฏํ สมุคฺฆาฏยมานา วูปสมยมานา สีตุทกฆฏสหสฺสํ มตฺถเก อาสิฺจมานา วิย อุปฺปชฺชติ. ยถา หิ เขตฺตํ กุรุมาโน กสฺสโก ปมํ อรฺเ รุกฺเข ฉินฺทติ, ปจฺฉา อคฺคึ เทติ, โส อคฺคิ ปมํ ฉินฺเน รุกฺเข อนวเสเส ฌาเปติ, เอวเมว วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ ปมํ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร วีมํสติ, มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ตาย วีมํสนตฺถํ สงฺขาเร ปุน อปฺปวตฺติวเสน สมุคฺฆาฏยมานา อุปฺปชฺชติ, สา ทุวิธาปิ อิธ อธิปฺเปตา.
มิจฺฉาทิฏฺีติ ปชานาตีติ มิจฺฉาทิฏฺึ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ, สมฺมาทิฏฺึ กิจฺจโต อสมฺโมหโต ปชานาติ. สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺีติ สา เอวํ ปชานนา อสฺส สมฺมาทิฏฺิ นาม โหติ.
ทฺวายํ วทามีติ ทฺวยํ วทามิ, ทุวิธโกฏฺาสํ วทามีติ อตฺโถ. ปฺุภาคิยาติ ปฺุโกฏฺาสภูตา. อุปธิเวปกฺกาติ อุปธิสงฺขาตสฺส วิปากสฺส ทายิกา.
ปฺา ปฺินฺทฺริยนฺติอาทีสุ วิภชิตฺวา วิภชิตฺวา อมตทฺวารํ ปฺเปติ ทสฺเสตีติ ปฺา. ตสฺมึ อตฺเถ อินฺทตฺตํ กโรตีติ ปฺินฺทฺริยํ. อวิชฺชาย น ¶ กมฺปตีติ ปฺาพลํ. โพชฺฌงฺคปฺปตฺตา ¶ หุตฺวา จตุสจฺจธมฺเม วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. มคฺคสมฺปตฺติยา ปสฏฺา โสภนา ¶ ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. อริยมคฺคสฺส องฺคนฺติ มคฺคงฺคํ. โสติ โส ภิกฺขุ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อุปสมฺปทายาติ ปฏิลาภตฺถาย. สมฺมาวายาโมติ นิยฺยานิโก กุสลวายาโม. สโตติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา. อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺตีติ สหชาตา จ ปุเรชาตา จ หุตฺวา ปริวาเรนฺติ. เอตฺถ หิ สมฺมาวายาโม จ สมฺมาสติ จ โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺึ สหชาตา ปริวาเรนฺติ ราชานํ วิย เอกรเถ ิตา อสิคฺคาหฉตฺตคฺคาหา. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ ปน ปุเรชาตา หุตฺวา ปริวาเรติ รถสฺส ปุรโต ปตฺติกาทโย วิย. ทุติยปพฺพโต ปฏฺาย ปน สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ ตโยปิ สหชาตปริวาราว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
๑๓๗. มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ ปชานาตีติ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฏิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ สมฺมาสงฺกปฺปํ กิจฺจโต อสมฺโมหโต ปชานาติ. อิโต อปเรสุ สมฺมาวาจาทีสุปิ เอวเมว โยชนา เวทิตพฺพา. กามสงฺกปฺปาทโย ทฺเวธาวิตกฺกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๐๖) วุตฺตาเยว.
ตกฺโกติอาทีสุ ตกฺกนวเสน ตกฺโก. สฺเวว จ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วิตกฺโกติ วุตฺโต, สฺเวว สงฺกปฺปนวเสน สงฺกปฺโป. เอกคฺโค หุตฺวา อารมฺมเณ อปฺเปตีติ อปฺปนา ¶ . อุปสคฺเคน ปน ปทํ วฑฺเฒตฺวา พฺยปฺปนาติ วุตฺตํ. เจตโส อภินิโรปนาติ จิตฺตสฺส อภินิโรปนา. วิตกฺกสฺมิฺหิ สติ วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ วิตกฺเก ปน อสติ อตฺตโนเยว ธมฺมตาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อภิรุหติ ชาติสมฺปนฺโน อภิฺาตปุริโส วิย ราชเคหํ. อนภิฺาตสฺส หิ ปฏิหาเรน วา โทวาริเกน วา อตฺโถ โหติ, อภิฺาตํ ชาติสมฺปนฺนํ สพฺเพ ราชราชมหามตฺตา ชานนฺตีติ อตฺตโนว ธมฺมตาย นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. วาจํ สงฺขโรตีติ วจีสงฺขาโร. เอตฺถ จ โลกิยวิตกฺโก วาจํ สงฺขโรติ, น โลกุตฺตโร. กิฺจาปิ น สงฺขโรติ, วจีสงฺขาโรตฺเวว จ ปนสฺส นามํ โหติ. สมฺมาสงฺกปฺปํ อนุปริธาวนฺตีติ โลกุตฺตรสมฺมาสงฺกปฺปํ ปริวาเรนฺติ. เอตฺถ จ ตโยปิ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย ¶ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน ติณฺณมฺปิ กามสงฺกปฺปาทีนฺจ ปทจฺเฉทํ สมุคฺฆาตํ กโรนฺโต มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว สมฺมาสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชิตฺวา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน ตีณิ นามานิ ลภติ. ปรโต สมฺมาวาจาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๓๘. มุสาวาทา ¶ เวรมณีติอาทีสุ วิรติปิ เจตนาปิ วฏฺฏติ. อารตีติอาทีสุ วจีทุจฺจริเตหิ อารกา รมตีติ อารติ. วินา เตหิ รมตีติ วิรติ. ตโต ตโต ปฏินิวตฺตาว หุตฺวา เตหิ วินา รมตีติ ปฏิวิรติ. อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ, สพฺพมิทํ โอรมนภาวสฺเสว อธิวจนํ. เวรํ มณติ วินาเสตีติ เวรมณิ. อิทมฺปิ โอรมนสฺเสว เววจนํ.
๑๓๙. ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีสุปิ เจตนา วิรตีติ อุภยมฺปิ วฏฺฏติเยว.
๑๔๐. กุหนาติอาทีสุ ¶ ติวิเธน กุหนวตฺถุนา โลกํ เอตาย กุหยนฺติ วิมฺหาปยนฺตีติ กุหนา. ลาภสกฺการตฺถิกา หุตฺวา เอตาย ลปนฺตีติ ลปนา. นิมิตฺตํ สีลเมเตสนฺติ เนมิตฺติกา, เตสํ ภาโว เนมิตฺติกตา. นิปฺเปโส สีลเมเตสนฺติ นิปฺเปสิกา, เตสํ ภาโว นิปฺเปสิกตา. ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนฺติ มคฺคนฺติ ปริเยสนฺตีติ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนา, เตสํ ภาโว ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาเรน ปเนตา กุหนาทิกา วิสุทฺธิมคฺเค สีลนิทฺเทเสเยว ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อาหริตฺวา ปกาสิตา. มิจฺฉาอาชีวสฺส ปหานายาติ เอตฺถ น เกวลํ ปาฬิยํ อาคโตว มิจฺฉาอาชีโว, อาชีวเหตุ ปน ปวตฺติตา ปาณาติปาตาทโย สตฺตกมฺมปถเจตนาปิ มิจฺฉาอาชีโวว. ตาสํเยว สตฺตนฺนํ เจตนานํ ปทปจฺเฉทํ สมุคฺฆาตํ กุรุมานํ มคฺคงฺคํ ปูรยมานา อุปฺปนฺนา วิรติ สมฺมาอาชีโว นาม.
๑๔๑. สมฺมาทิฏฺิสฺสาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยํ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส. สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตีติ มคฺคสมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, ผลสมฺมาทิฏฺิสฺสปิ ผลสมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตีติ เอวํ สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาาณสฺส ¶ สมฺมาวิมุตฺตีติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาสมาธิมฺหิ ิตสฺส มคฺคปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาาณํ ปโหติ, ผลสมฺมาสมาธิมฺหิ ิตสฺส ผลปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาาณํ ปโหติ. มคฺคปจฺจเวกฺขณสมฺมาาเณ จ ิตสฺส มคฺคสมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ, ผลปจฺจเวกฺขณสมฺมาาเณ ¶ ิตสฺส ผลสมฺมาวิมุตฺติ ปโหตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา อฏฺ ผลงฺคานิ สมฺมาาณํ ปจฺจเวกฺขณํ กตฺวา สมฺมาวิมุตฺตึ ผลํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.
๑๔๒. สมฺมาทิฏฺิสฺส ¶ , ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตีติอาทีสุ อวเสสนิกายภาณกา ผลํ กถิตนฺติ วทนฺติ, มชฺฌิมภาณกา ปน ทสนฺนํ นิชฺชรวตฺถูนํ อาคตฏฺาเน มคฺโค กถิโตติ วทนฺติ. ตตฺถ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ เวทิตพฺพา, วิทิตกรณฏฺเน สมฺมาาณํ, ตทธิมุตฺตฏฺเน สมฺมาวิมุตฺติ.
วีสติ กุสลปกฺขาติ สมฺมาทิฏฺิอาทโย ทส, ‘‘สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา ทสาติ เอวํ วีสติ กุสลปกฺขา โหนฺติ. วีสติ อกุสลปกฺขาติ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย ทส, ‘‘เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา’’ติอาทินา วุตฺตา ทส จาติ เอวํ วีสติ อกุสลปกฺขา เวทิตพฺพา. มหาจตฺตารีสโกติ มหาวิปากทาเนน มหนฺตานํ กุสลปกฺขิกานฺเจว อกุสลปกฺขิกานฺจ จตฺตารีสาย ธมฺมานํ ปกาสิตตฺตา มหาจตฺตารีสโกติ.
อิมสฺมิฺจ ปน สุตฺเต ปฺจ สมฺมาทิฏฺิโย กถิตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ผลสมฺมาทิฏฺิ ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฏฺีติ. ตตฺถ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺีติ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิ นาม. ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ นาม. ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตี’’ติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาทิฏฺิ ผลสมฺมาทิฏฺีติ ทฺเวปิ กถิตา. ‘‘สมฺมาาณํ ปโหตี’’ติ. เอตฺถ ปน ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฏฺิ กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๑๔๓. สมฺมาทิฏฺึ ¶ ¶ เจ ภวํ ครหตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ นามายํ โสภนาติ วทนฺโตปิ สมฺมาทิฏฺิ นามายํ น โสภนาติ วทนฺโตปิ สมฺมาทิฏฺึ ครหติ นาม. โอกฺกลาติ โอกฺกลชนปทวาสิโน. วสฺสภฺาติ วสฺโส จ ภฺโ จาติ ทฺเว ชนา. อเหตุวาทาติ นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ เอวมาทิวาทิโน. อกิริยวาทาติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ เอวํ กิริยปฏิกฺเขปวาทิโน. นตฺถิกวาทาติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิวาทิโน. เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํ. กถํ ปเนเตสุ นิยาโม โหตีติ. โย หิ เอวรูปํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเน นิสินฺโน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ ¶ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ, นตฺถิ ทินฺนํ, กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ. ปมชวเน สเตกิจฺโฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุ. สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺโฉ อนิวตฺตี อริฏฺกณฺฑกสทิโส โหติ.
ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ, ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ. อภพฺโพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ, วฏฺฏขาณุ นาเมส สตฺโต ปถวีโคปโก, เยภุยฺเยน ¶ เอวรูปสฺส ภวโต วุฏฺานํ นตฺถิ. วสฺสภฺาปิ เอทิสา อเหสุํ. นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทาภเยน ฆฏฺฏนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อานาปานสฺสติสุตฺตวณฺณนา
๑๔๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อานาปานสฺสติสุตฺตํ. ตตฺถ อฺเหิ จาติ เปตฺวา ปาฬิยํ อาคเต ทส เถเร อฺเหิปิ อภิฺาเตหิ พหูหิ ¶ สาวเกหิ สทฺธึ. ตทา กิร มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อโหสิ อปริจฺฉินฺนคณโน.
โอวทนฺติ อนุสาสนฺตีติ อามิสสงฺคเหน ธมฺมสงฺคเหน จาติ ทฺวีหิ สงฺคเหหิ สงฺคณฺหิตฺวา กมฺมฏฺาโนวาทานุสาสนีหิ โอวทนฺติ จ อนุสาสนฺติ จ. เต จาติ จกาโร อาคมสนฺธิมตฺตํ. อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ ชานนฺตีติ สีลปริปูรณาทิโต ปุพฺพวิเสสโต อุฬารตรํ อปรํ กสิณปริกมฺมาทิวิเสสํ ชานนฺตีติ อตฺโถ.
๑๔๕. อารทฺโธติ ตุฏฺโ. อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาติ อปฺปตฺตสฺส อรหตฺตสฺส ปาปุณนตฺถํ. เสสปททฺวเยปิ อยเมว อตฺโถ. โกมุทึ จาตุมาสินินฺติ ปจฺฉิมกตฺติกจาตุมาสปุณฺณมํ. สา หิ กุมุทานํ อตฺถิตาย โกมุที, จตุนฺนํ วสฺสิกานํ มาสานํ ปริโยสานตฺตา จาตุมาสินีติ วุจฺจติ. อาคเมสฺสามีติ อุทิกฺขิสฺสามิ, อชฺช อปวาเรตฺวา ยาว สา อาคจฺฉติ, ตาว กตฺถจิ อคนฺตฺวา อิเธว วสิสฺสามีติ อตฺโถ. อิติ ภิกฺขูนํ ปวารณสงฺคหํ อนุชานนฺโต เอวมาห.
ปวารณสงฺคโห นาม ตฺติทุติเยน กมฺเมน ทิยฺยติ กสฺส ¶ ปเนส ทิยฺยติ, กสฺส น ทิยฺยตีติ. อการกสฺส ตาว พาลปุถุชฺชนสฺส น ทิยฺยติ, ตถา อารทฺธวิปสฺสกสฺส เจว อริยสาวกสฺส จ. ยสฺส ปน สมโถ วา ตรุโณ โหติ วิปสฺสนา วา, ตสฺส ทิยฺยติ. ภควาปิ ตทา ภิกฺขูนํ จิตฺตาจารํ ปริวีมํสนฺโต สมถวิปสฺสนานํ ตรุณภาวํ ตฺวา – ‘‘มยิ อชฺช ปวาเรนฺเต ทิสาสุ วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู อิธ โอสริสฺสนฺติ. ตโต อิเม ภิกฺขู วุฑฺฒตเรหิ ภิกฺขูหิ เสนาสเน คหิเต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจปิ จาริกํ ปกฺกมิสฺสามิ, อิเมสํ วสนฏฺานํ ทุลฺลภเมว ภวิสฺสติ. มยิ ปน อปวาเรนฺเต ภิกฺขูปิ อิมํ ¶ สาวตฺถึ น โอสริสฺสนฺติ, อหมฺปิ จาริกํ น ปกฺกมิสฺสามิ, เอวํ อิเมสํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ อปลิพุทฺธํ ภวิสฺสติ. เต อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺาเน ผาสุ วิหรนฺตา สมถวิปสฺสนา ถามชาตา กตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ โส ตํทิวสํ อปวาเรตฺวา กตฺติกปุณฺณมายํ ปวาเรสฺสามีติ ภิกฺขูนํ ปวารณสงฺคหํ ¶ อนุชานิ. ปวารณสงฺคหสฺมิฺหิ ลทฺเธ ยสฺส นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส อาจริยุปชฺฌายา ปกฺกมนฺติ, โสปิ ‘‘สเจ ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคมิสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ยาว คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสา วสิตุํ ลภติ. สเจปิ สฏฺิวสฺสา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, ตสฺส เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. อยฺจ ปน ปวารณสงฺคโห เอกสฺส ทินฺโนปิ สพฺเพสํ ทินฺโนเยว โหติ.
สาวตฺถึ โอสรนฺตีติ ภควตา ปวารณสงฺคโห ทินฺโนติ สุตสุตฏฺาเนเยว ยถาสภาเวน เอกํ มาสํ วสิตฺวา กตฺติกปุณฺณมาย อุโปสถํ กตฺวา โอสรนฺเต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. ปุพฺเพนาปรนฺติ อิธ ตรุณสมถวิปสฺสนาสุ กมฺมํ ¶ กตฺวา สมถวิปสฺสนา ถามชาตา อกํสุ, อยํ ปุพฺเพ วิเสโส นาม. ตโต สมาหิเตน จิตฺเตน สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา เกจิ โสตาปตฺติผลํ…เป… เกจิ อรหตฺตํ สจฺฉิกรึสุ. อยํ อปโร อุฬาโร วิเสโส นาม.
๑๔๖. อลนฺติ ยุตฺตํ. โยชนคณนานีติ เอกํ โยชนํ โยชนเมว, ทสปิ โยชนานิ โยชนาเนว, ตโต อุทฺธํ โยชนคณนานีติ วุจฺจนฺติ. อิธ ปน โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ อธิปฺเปตํ. ปุโฏเสนาปีติ ปุโฏสํ วุจฺจติ ปาเถยฺยํ. ตํ ปาเถยฺยํ คเหตฺวาปิ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตเมวาติ อตฺโถ. ‘‘ปุฏํเสนา’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – ปุโฏ อํเส อสฺสาติ ปุฏํโส, เตน ปุฏํเสน, อํเส ปาเถยฺยปุฏํ วหนฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๔๗. อิทานิ เอวรูเปหิ จรเณหิ สมนฺนาคตา เอตฺถ ภิกฺขู อตฺถีติ ทสฺเสตุํ สนฺติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ จตุนฺนํ สติปฏฺานานนฺติอาทีนิ เตสํ ภิกฺขูนํ อภินิวิฏฺกมฺมฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา. ตตฺร หิ เย ภิกฺขู ตสฺมึ ขเณ มคฺคํ ภาเวนฺติ, เตสํ โลกุตฺตรา โหนฺติ. อารทฺธวิปสฺสกานํ โลกิยา. อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคนฺติ เอตฺถ สฺาสีเสน วิปสฺสนา กถิตา ¶ . ยสฺมา ปเนตฺถ อานาปานกมฺมฏฺานวเสน อภินิวิฏฺาว ¶ พหู ภิกฺขู, ตสฺมา เสสกมฺมฏฺานานิ สงฺเขเปน กเถตฺวา อานาปานกมฺมฏฺานํ วิตฺถาเรน กเถนฺโต อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. อิทํ ปน อานาปานกมฺมฏฺานํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตํ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนวสฺส ปาฬิตฺโถ จ ภาวนานโย จ เวทิตพฺโพ.
๑๔๙. กายฺตรนฺติ ¶ ปถวีกายาทีสุ จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วทามิ, วาโย กายํ วทามีติ อตฺโถ. อถ วา รูปายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโรติ ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสา รูปกาโย นาม. เตสุ อานาปานํ โผฏฺพฺพายตเน สงฺคหิตตฺตา กายฺตรํ โหติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ตสฺมาติหาติ ยสฺมา จตูสุ กาเยสุ อฺตรํ วาโยกายํ, ปฺจวีสติรูปโกฏฺาเส วา รูปกาเย อฺตรํ อานาปานํ อนุปสฺสติ, ตสฺมา กาเย กายานุปสฺสีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาฺตรนฺติ ตีสุ เวทนาสุ อฺตรํ, สุขเวทนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สาธุกํ มนสิการนฺติ ปีติปฏิสํเวทิตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ สุนฺทรมนสิการํ. กึ ปน มนสิกาโร สุขเวทนา โหตีติ. น โหติ, เทสนาสีสํ ปเนตํ. ยเถว หิ ‘‘อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา’’ติ เอตฺถ สฺานาเมน ปฺา วุตฺตา, เอวมิธาปิ มนสิการนาเมน เวทนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตสฺมึ จตุกฺเก ปมปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, ทุติยปเท สุขนฺติ สรูเปเนว วุตฺตา. จิตฺตสงฺขารปททฺวเย ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา, เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔) วจนโต ‘‘วิตกฺกวิจาเร เปตฺวา สพฺเพปิ จิตฺตสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา จิตฺตสงฺขาเร สงฺคหิตา’’ติ วจนโต จิตฺตสงฺขารนาเมน เวทนา วุตฺตา. ตํ สพฺพํ มนสิการนาเมน สงฺคเหตฺวา อิธ ‘‘สาธุกํ มนสิการ’’นฺติ อาห.
เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เอสา เวทนา อารมฺมณํ น โหติ, ตสฺมา เวทนานุปสฺสนา น ยุชฺชตีติ. โน น ยุชฺชติ, สติปฏฺานวณฺณนายมฺปิ หิ ‘‘ตํตํสุขาทีนํ ¶ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยติ, ตํ ปน เวทนาปวตฺตึ อุปาทาย ‘อหํ เวทยามี’ติ โวหารมตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อปิจ ปีติปฏิสํเวทีติอาทีนํ อตฺถวณฺณนายเมตสฺส ปริหาโร วุตฺโตเยว. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค –
‘‘ทฺวีหากาเรหิ ¶ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ. กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กถํ อสมฺโมหโต (ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ)? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวธา อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา, เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’ติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานี’’ติ.
อิติ ยเถว ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติสุขจิตฺตสงฺขารา ปฏิสํวิทิตา โหนฺติ, เอวํ อิมินาปิ ฌานสมฺปยุตฺเตน เวทนาสงฺขาตมนสิการปฏิลาเภน อารมฺมณโต เวทนา ปฏิสํวิทิตา โหติ. ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ โหติ ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตี’’ติ.
นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺสาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ยสฺมา จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติอาทินา นเยน ปวตฺโต ภิกฺขุ กิฺจาปิ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตํ อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺส ปน จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺเปตฺวา ปวตฺตนโต จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสีเยว นาเมส โหติ. น หิ มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส ¶ อานาปานสฺสติภาวนา อตฺถิ. ตสฺมา อารมฺมณโต จิตฺตปฏิสํวิทิตาทิวเสน จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตีติ. โส ยํ ตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปหานํ, ตํ ปฺาย ทิสฺวา สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ เอตฺถ อภิชฺฌาย กามจฺฉนฺทนีวรณํ, โทมนสฺสวเสน พฺยาปาทนีวรณํ ¶ ทสฺสิตํ. อิทฺหิ จตุกฺกํ วิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ, ธมฺมานุปสฺสนา จ นีวรณปพฺพาทิวเสน ฉพฺพิธา โหติ, ตสฺสา นีวรณปพฺพํ อาทิ, ตสฺสปิ อิทํ นีวรณทฺวยํ อาทิ, อิติ ธมฺมานุปสฺสนาย อาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิชฺฌาโทมนสฺสาน’’นฺติ อาห. ปหานนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตีติ เอวํ ปหานกราณํ อธิปฺเปตํ. ตํ ปฺาย ทิสฺวาติ ตํ อนิจฺจวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคาาณสงฺขาตํ ปหานาณํ ¶ อปราย วิปสฺสนาปฺาย, ตมฺปิ อปรายาติ เอวํ วิปสฺสนาปรมฺปรํ ทสฺเสติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกโต อุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ทฺวิธา อชฺฌุเปกฺขติ นาม. ตตฺถ สหชาตานมฺปิ อชฺฌุเปกฺขนา โหติ อารมฺมณสฺสปิ อชฺฌุเปกฺขนา, อิธ อารมฺมณอชฺฌุเปกฺขนา อธิปฺเปตา. ตสฺมาติห, ภิกฺขเวติ ยสฺมา อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามีติอาทินา นเยน ปวตฺโต น เกวลํ นีวรณาทิธมฺเม, อภิชฺฌาโทมนสฺสสีเสน ปน วุตฺตานํ ธมฺมานํ ปหานาณมฺปิ ปฺาย ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, ตสฺมา ‘‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
๑๕๐. ปวิจินตีติ อนิจฺจาทิวเสน ปวิจินติ. อิตรํ ปททฺวยํ เอตสฺเสว เววจนํ. นิรามิสาติ ¶ นิกฺกิเลสา. ปสฺสมฺภตีติ กายิกเจตสิกทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. สมาธิยตีติ สมฺมา ปิยติ, อปฺปนาปตฺตํ วิย โหติ. อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ สหชาตอชฺฌุเปกฺขนาย อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ.
เอวํ จุทฺทสวิเธน กายปริคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ กาเย สติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, สติยา สมฺปยุตฺตํ าณํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ตํสมฺปยุตฺตเมว กายิกเจตสิกวีริยํ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, จิตฺเตกคฺคตา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, อิเมสํ ฉนฺนํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. ยเถว หิ สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ สารถิโน ‘‘อยํ โอลียตี’’ติ ตุทนํ วา, ‘‘อยํ อติธาวตี’’ติ อากฑฺฒนํ วา นตฺถิ, เกวลํ เอวํ ปสฺสมานสฺส ิตากาโรว โหติ, เอวเมว อิเมสํ ฉนฺนํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ อโนสกฺกนอนติวตฺตนสงฺขาโต มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค นาม โหติ. เอตฺตาวตา กึ กถิตํ? เอกจิตฺตกฺขณิกา นานารสลกฺขณา วิปสฺสนาสมฺโพชฺฌงฺคา นาม กถิตา.
๑๕๒. วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีนิ ¶ วุตฺตตฺถาเนว. เอตฺถ ปน อานาปานปริคฺคาหิกา สติ โลกิยา โหติ, โลกิยา อานาปานา โลกิยสติปฏฺานํ ปริปูเรนฺติ, โลกิยา สติปฏฺานา โลกุตฺตรโพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, โลกุตฺตรา โพชฺฌงฺคา วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ ¶ ปริปูเรนฺติ. อิติ โลกิยสฺส ¶ อาคตฏฺาเน โลกิยํ กถิตํ, โลกุตฺตรสฺส อาคตฏฺาเน โลกุตฺตรํ กถิตนฺติ. เถโร ปนาห ‘‘อฺตฺถ เอวํ โหติ, อิมสฺมึ ปน สุตฺเต โลกุตฺตรํ อุปริ อาคตํ, โลกิยา อานาปานา โลกิยสติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, โลกิยา สติปฏฺานา โลกิเย โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, โลกิยา โพชฺฌงฺคา โลกุตฺตรํ วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ ปริปูเรนฺติ, วิชฺชาวิมุตฺติปเทน หิ อิธ วิชฺชาวิมุตฺติผลนิพฺพานํ อธิปฺเปต’’นฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อานาปานสฺสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กายคตาสติสุตฺตวณฺณนา
๑๕๓-๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ กายคตาสติสุตฺตํ. ตตฺถ เคหสิตาติ ปฺจกามคุณนิสฺสิตา. สรสงฺกปฺปาติ ธาวนสงฺกปฺปา. สรนฺตีติ หิ สรา, ธาวนฺตีติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตสฺมึเยว. กายคตาสตินฺติ กายปริคฺคาหิกมฺปิ กายารมฺมณมฺปิ สตึ. กายปริคฺคาหิกนฺติ วุตฺเต สมโถ กถิโต โหติ, กายารมฺมณนฺติ วุตฺเต วิปสฺสนา. อุภเยน สมถวิปสฺสนา กถิตา โหนฺติ.
ปุน จปรํ…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวตีติ สติปฏฺาเน จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนา กถิตา.
๑๕๖. อนฺโตคธาวาสฺสาติ ตสฺส ภิกฺขุโน ภาวนาย อพฺภนฺตรคตาว โหนฺติ. วิชฺชาภาคิยาติ เอตฺถ สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺตีติ ¶ วิชฺชาภาคิยา. วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺตีติปิ วิชฺชาภาคิยา. ตตฺถ ¶ วิปสฺสนาาณํ, มโนมยิทฺธิ, ฉ อภิฺาติ อฏฺ วิชฺชา. ปุริเมน อตฺเถน ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยา. ปจฺฉิเมน อตฺเถน ตาสุ ยา กาจิ เอกา วิชฺชา วิชฺชา, เสสา วิชฺชาภาคิยาติ เอวํ วิชฺชาปิ วิชฺชาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยาเตว เวทิตพฺพา. เจตสา ผุโฏติ เอตฺถ ทุวิธํ ผรณํ อาโปผรณฺจ, ทิพฺพจกฺขุผรณฺจ, ตตฺถ อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อาเปน ผรณํ อาโปผรณํ นาม. เอวํ ผุเฏปิ มหาสมุทฺเท สพฺพา สมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อนฺโตคธาว โหนฺติ, อาโลกํ ปน วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา สกลสมุทฺทสฺส ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุผรณํ นาม. เอวํ ผรเณปิ มหาสมุทฺเท สพฺพา สมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อนฺโตคธาว โหนฺติ.
โอตารนฺติ วิวรํ ฉิทฺทํ. อารมฺมณนฺติ กิเลสุปฺปตฺติปจฺจยํ. ลเภถ โอตารนฺติ ลเภยฺย ปเวสนํ, วินิวิชฺฌิตฺวา ยาว ปริโยสานา คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. นิกฺเขปนนฺติ นิกฺขิปนฏฺานํ.
๑๕๗. เอวํ ¶ อภาวิตกายคตาสตึ ปุคฺคลํ อลฺลมตฺติกปฺุชาทีหิ อุปเมตฺวา อิทานิ ภาวิตกายคตาสตึ สารผลกาทีหิ อุปเมตุํ เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺคฬผลกนฺติ กวาฏํ.
๑๕๘. กากเปยฺโยติ มุขวฏฺฏิยํ นิสีทิตฺวา กาเกน คีวํ อนาเมตฺวาว ปาตพฺโพ. อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺสาติ อภิฺาย สจฺฉิกาตพฺพสฺส. สกฺขิภพฺพตํ ¶ ปาปุณาตีติ ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณาติ. สติ สติ อายตเนติ สติสติ การเณ. กึ ปเนตฺถ การณนฺติ? อภิฺาว การณํ. อาฬิพนฺธาติ มริยาทพทฺธา.
ยานีกตายาติ ยุตฺตยานํ วิย กตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺากตาย. อนุฏฺิตายาติ อนุปฺปวตฺติตาย. ปริจิตายาติ ปริจยกตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุสมฺปคฺคหิตาย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
กายคตาสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สงฺขารุปปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๑๖๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สงฺขารุปปตฺติสุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขารุปปตฺตินฺติ สงฺขารานํเยว อุปปตฺตึ, น สตฺตสฺส, น โปสสฺส, ปฺุาภิสงฺขาเรน วา ภวูปคกฺขนฺธานํ อุปปตฺตึ.
๑๖๑. สทฺธาย สมนฺนาคโตติ สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา โลกิกา วฏฺฏนฺติ. ทหตีติ เปติ. อธิฏฺาตีติ ปติฏฺาเปติ. สงฺขารา จ วิหารา จาติ สห ปตฺถนาย สทฺธาทโยว ปฺจ ธมฺมา. ตตฺรุปปตฺติยาติ ตสฺมึ าเน นิพฺพตฺตนตฺถาย. อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทาติ สห ปตฺถนาย ปฺจ ¶ ธมฺมาว. ยสฺส หิ ปฺจ ธมฺมา อตฺถิ, น ปตฺถนา, ตสฺส คติ อนิพทฺธา. ยสฺส ปตฺถนา อตฺถิ, น ปฺจ ธมฺมา, ตสฺสปิ อนิพทฺธา. เยสํ อุภยํ อตฺถิ, เตสํ คติ นิพทฺธา. ยถา หิ อากาเส ขิตฺตทณฺโฑ อคฺเคน วา มชฺเฌน วา มูเลน วา นิปติสฺสตีติ นิยโม นตฺถิ, เอวํ สตฺตานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ อนิยตํ. ตสฺมา กุสลํ กมฺมํ กตฺวา เอกสฺมึ าเน ปตฺถนํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๑๖๕. อามณฺฑนฺติ อามลกํ. ยถา ตํ ปริสุทฺธจกฺขุสฺส ปุริสสฺส สพฺพโสว ปากฏํ โหติ, เอวํ ตสฺส พฺรหฺมุโน สทฺธึ ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺเตหิ สหสฺสี โลกธาตุ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๑๖๗. สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ อากรสมฺปนฺโน. สุปริกมฺมกโตติ โธวนาทีหิ สุฏฺุกตปริกมฺโม. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโตติ รตฺตกมฺพเล ปิโต.
๑๖๘. สตสหสฺโสติ โลกธาตุสตสหสฺสมฺหิ อาโลกผรณพฺรหฺมา. นิกฺขนฺติ นิกฺเขน กตํ ปิฬนฺธนํ, นิกฺขํ นาม ปฺจสุวณฺณํ, อูนกนิกฺเขน กตํ ปสาธนฺหิ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ น โหติ, อติเรเกน กตํ ฆฏฺฏนมชฺชนํ ขมติ, วณฺณวนฺตํ ปน น โหติ, ผรุสธาตุกํ ขายติ. นิกฺเขน กตํ ฆฏฺฏนมชฺชนฺเจว ขมติ, วณฺณวนฺตฺจ โหติ. ชมฺโพนทนฺติ ชมฺพุนทิยํ นิพฺพตฺตํ. มหาชมฺพุรุกฺขสฺส หิ เอเกกา สาขา ปณฺณาส ปณฺณาส โยชนานิ ¶ วฑฺฒิตา, ตาสุ มหนฺตา นทิโย สนฺทนฺติ, ตาสํ นทีนํ ¶ อุภยตีเรสุ ชมฺพุปกฺกานํ ปติตฏฺาเน สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เต นทีชเลน วุยฺหมานา ¶ อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ตํ สนฺธาย ชมฺโพนทนฺติ วุตฺตํ. ทกฺขกมฺมารปุตฺตอุกฺกามุขสุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ ทกฺเขน สุกุสเลน กมฺมารปุตฺเตน อุกฺกามุเข ปจิตฺวา สมฺปหฏฺํ. อุกฺกามุเขติ อุทฺธเน. สมฺปหฏฺนฺติ โธตฆฏฺฏิตมชฺชิตํ. วตฺโถปเม (ม. นิ. ๑.๗๕-๗๖) จ ธาตุวิภงฺเค (ม. นิ. ๓.๓๕๗-๓๖๐) จ ปิณฺฑโสธนํ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สุตฺเต กตภณฺฑโสธนํ วุตฺตํ.
ยํ ปน สพฺพวาเรสุ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาติ วุตฺตํ, ตตฺถ ปฺจวิธํ ผรณํ เจโตผรณํ กสิณผรณํ ทิพฺพจกฺขุผรณํ อาโลกผรณํ สรีรผรณนฺติ. ตตฺถ เจโตผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส สตฺตานํ จิตฺตชานนํ. กสิณผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส กสิณปตฺถรณํ. ทิพฺพจกฺขุผรณํ นาม อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา สหสฺสโลกธาตุทสฺสนํ. อาโลกผรณมฺปิ เอตเทว. สรีรผรณํ นาม โลกธาตุสหสฺเส สรีรปภาย ปตฺถรณํ. สพฺพตฺถ อิมานิ ปฺจ ผรณานิ อวินาเสนฺเตน กเถตพฺพนฺติ.
ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปนาห – ‘‘มณิโอปมฺเม กสิณผรณํ วิย นิกฺโขปมฺเม สรีรผรณํ วิย ทิสฺสตี’’ติ. ตสฺส วาทํ วิย อฏฺกถา นาม นตฺถีติ ปฏิกฺขิตฺวา สรีรผรณํ น สพฺพกาลิกํ, จตฺตาริมานิ ¶ ผรณานิ อวินาเสตฺวาว กเถตพฺพนฺติ วุตฺตํ. อธิมุจฺจตีติ ปทํ ผรณปทสฺเสว เววจนํ, อถ วา ผรตีติ ปตฺถรติ. อธิมุจฺจตีติ ชานาติ.
๑๖๙. อาภาติอาทีสุ อาภาทโย นาม ปาฏิเยกฺกา เทวา นตฺถิ, ตโย ปริตฺตาภาทโย เทวา อาภา นาม, ปริตฺตาสุภาทโย จ. สุภกิณฺหาทโย จ สุภา นาม. เวหปฺผลาทิวารา ปากฏาเยว.
อิเม ตาว ปฺจ ธมฺเม ภาเวตฺวา กามาวจเรสุ นิพฺพตฺตตุ. พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตํ ปน อาสวกฺขยฺจ กถํ ปาปุณาตีติ? อิเม ปฺจ ธมฺมา สีลํ, โส อิมสฺมึ สีเล ปติฏฺาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ตา ตา สมาปตฺติโย ภาเวตฺวา รูปีพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, อรูปชฺฌานานิ ¶ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ อรูปีพฺรหฺมโลเก, สมาปตฺติปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนาคามิผลํ สจฺฉิกตฺวา ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺตติ. อุปริมคฺคํ ภาเวตฺวา อาสวกฺขยํ ปาปุณาตีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สงฺขารุปปตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สฺุตวคฺโค
๑. จูฬสฺุตสุตฺตวณฺณนา
๑๗๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ จูฬสฺุตสุตฺตํ. ตตฺถ เอกมิทนฺติ เถโร กิร ภควโต วตฺตํ กตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺานํ คนฺตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา นิพฺพานารมฺมณํ สฺุตาผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺาสิ. อถสฺส สงฺขารา สฺุโต อุปฏฺหึสุ. โส สฺุตากถํ โสตุกาโม ชาโต. อถสฺส เอตทโหสิ ¶ – ‘‘น โข ปน สกฺกา ธุเรน ธุรํ ปหรนฺเตน วิย คนฺตฺวา ‘สฺุตากถํ เม, ภนฺเต, กเถถา’ติ ภควนฺตํ วตฺตุํ, หนฺทาหํ ยํ เม ภควา นครกํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต เอกํ กถํ กเถสิ, ตํ สาเรมิ, เอวํ เม ภควา สฺุตากถํ กเถสฺสตี’’ติ ทสพลํ สาเรนฺโต เอกมิทนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตเมว. กจฺจิเมตํ, ภนฺเตติ เถโร เอกปเท ตฺวา สฏฺิปทสหสฺสานิ อุคฺคเหตฺวา ธาเรตุํ สมตฺโถ, กึ โส ‘‘สฺุตาวิหาเรนา’’ติ เอกํ ปทํ ธาเรตุํ น สกฺขิสฺสติ, โสตุกาเมน ปน ชานนฺเตน วิย ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, ปากฏํ กตฺวา วิตฺถาริยมานํ สฺุตากถํ โสตุกาโม อชานนฺโต วิย เอวมาห. เอโก อชานนฺโตปิ ชานนฺโต วิย โหติ, เถโร เอวรูปํ โกหฺํ กึ กริสฺสติ, อตฺตโน ชานนฏฺาเนปิ ภควโต อปจิตึ ทสฺเสตฺวา ‘‘กจฺจิเมต’’นฺติอาทิมาห.
ปุพฺเพปีติ ปมโพธิยํ นครกํ อุปนิสฺสาย วิหรณกาเลปิ. เอตรหิปีติ อิทานิปิ. เอวํ ปน วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อานนฺโท สฺุตากถํ โสตุกาโม, เอโก ปน โสตุํ สกฺโกติ, น อุคฺคเหตุํ, เอโก โสตุมฺปิ อุคฺคเหตุมฺปิ สกฺโกติ, น กเถตุํ, อานนฺโท ปน โสตุมฺปิ สกฺโกติ ¶ อุคฺคเหตุมฺปิ กเถตุมฺปิ, (กเถมิสฺส) สฺุตากถ’’นฺติ. อิติ ตํ กเถนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ สฺุโ หตฺถิควาสฺสวฬเวนาติ ตตฺถ กฏฺรูปโปตฺถกรูปจิตฺตรูปวเสน กตา หตฺถิอาทโย อตฺถิ, เวสฺสวณมนฺธาตาทีนํ ิตฏฺาเน จิตฺตกมฺมวเสน กตมฺปิ, รตนปริกฺขตานํ วาตปานทฺวารพนฺธมฺจปีาทีนํ วเสน สณฺิตมฺปิ, ชิณฺณปฏิสงฺขรณตฺถํ ¶ ปิตมฺปิ ชาตรูปรชตํ อตฺถิ, กฏฺรูปาทิวเสน กตา ธมฺมสวนปฺหปุจฺฉนาทิวเสน อาคจฺฉนฺตา ¶ จ อิตฺถิปุริสาปิ อตฺถิ, ตสฺมา น โส เตหิ สฺุโ. อินฺทฺริยพทฺธานํ สวิฺาณกานํ หตฺถิอาทีนํ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภฺุชิตพฺพสฺส ชาตรูปรชตสฺส, นิพทฺธวาสํ วสนฺตานํ อิตฺถิปุริสานฺจ อภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
ภิกฺขุสงฺฆํ ปฏิจฺจาติ ภิกฺขูสุ หิ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเสุปิ วิหารภตฺตํ สาทิยนฺเตหิ ภิกฺขูหิ เจว คิลานคิลานุปฏฺากอุทฺเทสจีวรกมฺมปสุตาทีหิ จ ภิกฺขูหิ โส อสฺุโว โหติ, อิติ นิจฺจมฺปิ ภิกฺขูนํ อตฺถิตาย เอวมาห. เอกตฺตนฺติ เอกภาวํ, เอกํ อสฺุตํ อตฺถีติ อตฺโถ. เอโก อสฺุภาโว อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อมนสิกริตฺวาติ จิตฺเต อกตฺวา อนาวชฺชิตฺวา อปจฺจเวกฺขิตฺวา. คามสฺนฺติ คาโมติ ปวตฺตวเสน วา กิเลสวเสน วา อุปฺปนฺนํ คามสฺํ. มนุสฺสสฺายปิ เอเสว นโย. อรฺสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตนฺติ อิทํ อรฺํ, อยํ รุกฺโข, อยํ ปพฺพโต, อยํ นีโลภาโส วนสณฺโฑติ เอวํ เอกํ อรฺํเยว ปฏิจฺจ อรฺสฺํ มนสิ กโรติ. ปกฺขนฺทตีติ โอตรติ. อธิมุจฺจตีติ เอวนฺติ อธิมุจฺจติ. เย อสฺสุ ทรถาติ เย จ ปวตฺตทรถา วา กิเลสทรถา วา คามสฺํ ปฏิจฺจ ภเวยฺยุํ, เต อิธ อรฺสฺาย น สนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อตฺถิ เจวายนฺติ อยํ ปน เอกํ อรฺสฺํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานา ปวตฺตทรถมตฺตา อตฺถิ.
ยฺหิ ¶ โข ตตฺถ น โหตีติ ยํ มิคารมาตุปาสาเท หตฺถิอาทโย วิย อิมิสฺสา อรฺสฺาย คามสฺามนุสฺสสฺาวเสน อุปฺปชฺชมานํ ปวตฺตทรถกิเลสทรถชาตํ, ตํ น โหติ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺนฺติ ยํ มิคารมาตุปาสาเท ภิกฺขุสงฺโฆ วิย ตตฺถ อรฺสฺาย ปวตฺตทรถมตฺตํ อวสิฏฺํ โหติ. ตํ สนฺตมิทํ อตฺถีติ ปชานาตีติ ตํ วิชฺชมานเมว ‘‘อตฺถิ อิท’’นฺติ ปชานาติ, สฺุตาวกฺกนฺตีติ สฺุตานิพฺพตฺติ.
๑๗๗. อมนสิกริตฺวา ¶ มนุสฺสสฺนฺติ อิธ คามสฺํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มนุสฺสสฺาย คามสฺํ นิวตฺเตตฺวา, อรฺสฺาย มนุสฺสสฺํ, ปถวีสฺาย อรฺสฺํ, อากาสานฺจายตนสฺาย ปถวีสฺํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสฺาย อากิฺจฺายตนสฺํ ¶ , วิปสฺสนาย เนวสฺานาสฺายตนสฺํ, มคฺเคน วิปสฺสนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน อจฺจนฺตสฺุตํ นาม ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ตสฺมา เอวํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ปถวีสฺนฺติ กสฺมา อรฺสฺํ ปหาย ปถวีสฺํ มนสิ กโรติ? อรฺสฺาย วิเสสานธิคมนโต. ยถา หิ ปุริสสฺส รมณียํ เขตฺตฏฺานํ ทิสฺวา – ‘‘อิธ วุตฺตา สาลิอาทโย สุฏฺุ สมฺปชฺชิสฺสนฺติ, มหาลาภํ ลภิสฺสามี’’ติ สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ เขตฺตฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺส สาลิอาทโย น สมฺปชฺชนฺเตว, สเจ ปน ตํ านํ วิหตขาณุกกณฺฏกํ กตฺวา กสิตฺวา วปติ, เอวํ สนฺเต สมฺปชฺชนฺติ, เอวเมว – ‘‘อิทํ อรฺํ, อยํ รุกฺโข, อยํ ปพฺพโต, อยํ นีโลภาโส วนสณฺโฑ’’ติ สเจปิ สตฺตกฺขตฺตุํ อรฺสฺํ มนสิ กโรติ, เนวูปจารํ น สมาธึ ปาปุณาติ, ปถวีสฺาย ปนสฺส ธุวเสวนํ กมฺมฏฺานํ ปถวีกสิณํ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ ฌานปทฏฺานมฺปิ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สกฺกา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา อรฺสฺํ ปหาย ปถวีสฺํ มนสิ กโรติ. ปฏิจฺจาติ ปฏิจฺจ สมฺภูตํ.
อิทานิ ยสฺมึ ปถวีกสิเณ โส ปถวีสฺี โหติ, ตสฺส โอปมฺมทสฺสนตฺถํ เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ อุสภสฺส เอตนฺติ อาสภํ. อฺเสํ ปน คุนฺนํ คณฺฑาปิ โหนฺติ ปหาราปิ. เตสฺหิ จมฺมํ ปสาริยมานํ นิพฺพลิกํ น โหติ, อุสภสฺส ลกฺขณสมฺปนฺนตาย เต โทสา นตฺถิ. ตสฺมา ตสฺส จมฺมํ คหิตํ. สงฺกุสเตนาติ ขิลสเตน. สุวิหตนฺติ ปสาเรตฺวา สุฏฺุ วิหตํ. อูนกสตสงฺกุวิหตฺหิ นิพฺพลิกํ น โหติ, สงฺกุสเตน วิหตํ เภริตลํ วิย นิพฺพลิกํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. อุกฺกูลวิกฺกูลนฺติ อุจฺจนีจํ ถลฏฺานํ นินฺนฏฺานํ. นทีวิทุคฺคนฺติ นทิโย เจว ทุคฺคมฏฺานฺจ. ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตนฺติ กสิณปถวิยํเยว ปฏิจฺจ สมฺภูตํ เอกํ สฺํ มนสิ กโรติ. ทรถมตฺตาติ อิโต ปฏฺาย สพฺพวาเรสุ ปวตฺตทรถวเสน ทรถมตฺตา เวทิตพฺพา.
๑๘๒. อนิมิตฺตํ เจโตสมาธินฺติ วิปสฺสนาจิตฺตสมาธึ. โส หิ นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิโต ¶ อนิมิตฺโตติ วุจฺจติ. อิมเมว กายนฺติ วิปสฺสนาย วตฺถุํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อิมเมวาติ อิมํ เอว จตุมหาภูติกํ. สฬายตนิกนฺติ ¶ ¶ สฬายตนปฏิสํยุตฺตํ. ชีวิตปจฺจยาติ ยาว ชีวิตินฺทฺริยานํ ปวตฺติ, ตาว ชีวิตปจฺจยา ปวตฺตทรถมตฺตา อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๘๓. ปุน อนิมิตฺตนฺติ วิปสฺสนาย ปฏิวิปสฺสนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. กามาสวํ ปฏิจฺจาติ กามาสวํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนปวตฺตทรถา อิธ น สนฺติ, อริยมคฺเค เจว อริยผเล จ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อิมเมว กายนฺติ อิมํ อุปาทิเสสทรถทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิติ มนุสฺสสฺาย คามสฺํ นิวตฺเตตฺวา…เป… มคฺเคน วิปสฺสนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน อจฺจนฺตสฺุตา นาม ทสฺสิตา โหติ.
๑๘๔. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรวิรหิตํ สพฺพเสฏฺํ. สฺุตนฺติ สฺุตผลสมาปตฺตึ. ตสฺมาติ ยสฺมา อตีเตปิ, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกสงฺขาตา สมณพฺราหฺมณา. อนาคเตปิ, เอตรหิปิ พุทฺธพุทฺธสาวกสงฺขาตา สมณพฺราหฺมณา อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมํ อนุตฺตรํ สฺุตํ อุปสมฺปชฺช วิหรึสุ วิหริสฺสนฺติ วิหรนฺติ จ, ตสฺมา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬสฺุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มหาสฺุตสุตฺตวณฺณนา
๑๘๕. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาสฺุตสุตฺตํ. ตตฺถ กาฬเขมกสฺสาติ ฉวิวณฺเณน โส กาโฬ, เขมโกติ ปนสฺส นามํ. วิหาโรติ ตสฺมึเยว นิคฺโรธาราเม เอกสฺมึ ปเทเส ปากาเรน ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารโกฏฺกํ มาเปตฺวา หํสวฏฺฏกาทิเสนาสนานิ เจว มณฺฑลมาฬโภชนสาลาทีนิ จ ปติฏฺเปตฺวา กโต วิหาโร. สมฺพหุลานิ เสนาสนานีติ มฺโจ ปีํ ภิสิพิมฺโพหนํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโร ปลาลสนฺถาโรติอาทีนิ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, มฺเจน มฺจํ…เป… ปลาลสนฺถาเรเนว ปลาลสนฺถารํ อาหจฺจ ปิตานิ, คณภิกฺขูนํ วสนฏฺานสทิสํ อโหสิ.
สมฺพหุลา ¶ นุ โขติ ภควโต โพธิปลฺลงฺเกเยว สพฺพกิเลสานํ สมุคฺฆาฏิตตฺตา สํสโย นาม นตฺถิ, วิตกฺกปุพฺพภาคา ปุจฺฉา, วิตกฺกปุพฺพภาเค จายํ นุกาโร นิปาตมตฺโต. ปาฏิมตฺถกํ คจฺฉนฺเต อวินิจฺฉิโต นาม น โหติ. อิโต กิร ปุพฺเพ ภควตา ทส ทฺวาทส ภิกฺขู เอกฏฺาเน วสนฺตา น ทิฏฺปุพฺพา.
อถสฺส เอตทโหสิ – คณวาโส นามายํ วฏฺเฏ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ นทีโอติณฺณอุทกสทิโส, นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยาสุรกาเยสุปิ, มนุสฺสโลก-เทวโลกพฺรหฺมโลเกสุปิ คณวาโสว อาจิณฺโณ. ทสโยชนสหสฺโส หิ นิรโย ติปุจุณฺณภริตา นาฬิ วิย ¶ สตฺเตหิ นิรนฺตโร, ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณกรณฏฺาเน สตฺตานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ, ตถา วาสีหิ ตจฺฉนาทิาเนสุ, อิติ คณภูตาว ปจฺจนฺติ. ติรจฺฉานโยนิยํ เอกสฺมึ วมฺมิเก อุปสิกานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ, ตถา เอเกกพิลาทีสุปิ กิปิลฺลิกาทีนํ. ติรจฺฉานโยนิยมฺปิ คณวาโสว. เปตนครานิ จ คาวุติกานิ อฑฺฒโยชนิกานิปิ เปตภริตานิ โหนฺติ. เอวํ เปตฺติวิสเยปิ คณวาโสว. อสุรภวนํ ทสโยชนสหสฺสํ กณฺเณ ปกฺขิตฺตสูจิยา กณฺณพิลํ วิย โหติ. อิติ อสุรกาเยปิ คณวาโสว. มนุสฺสโลเก สาวตฺถิยํ สตฺตปณฺณาส กุลสตสหสฺสานิ, ราชคเห อนฺโต ¶ จ พหิ จ อฏฺารส มนุสฺสโกฏิโย วสึสุ. เอวํ อฺเสุปิ าเนสูติ มนุสฺสโลเกปิ คณวาโสว. ภุมฺมเทวตา อาทึ กตฺวา เทวโลกพฺรหฺมโลเกสุปิ คณวาโสว. เอเกกสฺส หิ เทวปุตฺตสฺส อฑฺฒติยา นาฏกโกฏิโย โหนฺติ, นวปิ โกฏิโย โหนฺติ, เอกฏฺาเน ทสสหสฺสาปิ พฺรหฺมาโน วสนฺติ.
ตโต จินฺเตสิ – ‘‘มยา สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ คณวาสวิทฺธํสนตฺถํ ทส ปารมิโย ปูริตา, อิเม จ ภิกฺขู อิโต ปฏฺาเยว คณํ พนฺธิตฺวา คณาภิรตา ชาตา อนนุจฺฉวิกํ กโรนฺตี’’ติ. โส ธมฺมสํเวคํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘สเจ ‘เอกฏฺาเน ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ น วสิตพฺพ’นฺติ สกฺกา ภเวยฺย สิกฺขาปทํ ปฺเปตุํ, สิกฺขาปทํ ปฺาเปยฺยํ, น โข ปเนตํ สกฺกา. หนฺทาหํ มหาสฺุตาปฏิปตฺตึ นาม สุตฺตนฺตํ ¶ เทเสมิ, ยํ สิกฺขากามานํ กุลปุตฺตานํ สิกฺขาปทปฺตฺติ วิย นครทฺวาเร ¶ นิกฺขิตฺตสพฺพกายิกอาทาโส วิย จ ภวิสฺสติ. ตโต ยถา นาเมกสฺมึ อาทาเส ขตฺติยาทโย อตฺตโน วชฺชํ ทิสฺวา ตํ ปหาย อนวชฺชา โหนฺติ, เอวเมวํ มยิ ปรินิพฺพุเตปิ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ อิมํ สุตฺตํ อาวชฺชิตฺวา คณํ วิโนเทตฺวา เอกีภาวาภิรตา กุลปุตฺตา วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต จ มโนรถํ ปูเรนฺตา วิย อิมํ สุตฺตํ อาวชฺชิตฺวา คณํ วิโนเทตฺวา วฏฺฏทุกฺขํ เขเปตฺวา ปรินิพฺพุตา กุลปุตฺตา คณนปถํ วีติวตฺตา. วาลิกปิฏฺิวิหาเรปิ หิ อาภิธมฺมิกอภยตฺเถโร นาม วสฺสูปนายิกสมเย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิมํ สุตฺตํ สฺฌายิตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ กาเรติ, มยํ กึ กโรมา’’ติ อาห. เต สพฺเพปิ อนฺโตวสฺเส คณํ วิโนเทตฺวา เอกีภาวาภิรตา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. คณเภทนํ นาม อิทํ สุตฺตนฺติ.
๑๘๖. ฆฏายาติ เอวํนามกสฺส สกฺกสฺส. วิหาเรติ อยมฺปิ วิหาโร นิคฺโรธารามสฺเสว เอกเทเส กาฬเขมกสฺส วิหาโร วิย กโตติ เวทิตพฺโพ. จีวรกมฺมนฺติ ชิณฺณมลินานํ อคฺคฬฏฺานุปฺปาทนโธวนาทีหิ กตปริภณฺฑมฺปิ, จีวรตฺถาย อุปฺปนฺนวตฺถานํ วิจารณสิพฺพนาทีหิ อกตํ สํวิธานมฺปิ วฏฺฏติ, อิธ ปน อกตํ สํวิธานํ อธิปฺเปตํ. มนุสฺสา หิ อานนฺทตฺเถรสฺส จีวรสาฏเก อทํสุ. ตสฺมา เถโร สมฺพหุเล ภิกฺขู คเหตฺวา ตตฺถ จีวรกมฺมํ อกาสิ. เตปิ ภิกฺขู ปาโตว สูจิปาสกสฺส ปฺายนกาลโต ปฏฺาย นิสินฺนา อปฺายนกาเล อุฏฺหนฺติ. สูจิกมฺเม ¶ นิฏฺิเตเยว เสนาสนานิ สํวิทหิสฺสามาติ น สํวิทหึสุ. จีวรการสมโย โนติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘อทฺธา เอเตหิ ภิกฺขูหิ น ปฏิสามิตานิ เสนาสนานิ, ภควตา จ ทิฏฺานิ ภวิสฺสนฺติ. อิติ อนตฺตมโน สตฺถา สุฏฺุ นิคฺคเหตุกาโม, อิเมสํ ภิกฺขูนํ อุปตฺถมฺโภ ภวิสฺสามี’’ติ; ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปเนตฺถ ¶ อธิปฺปาโย – ‘‘น, ภนฺเต, อิเม ภิกฺขู กมฺมารามา เอว, จีวรกิจฺจวเสน ปน เอวํ วสนฺตี’’ติ.
น โข, อานนฺทาติ, อานนฺท, กมฺมสมโย วา โหตุ อกมฺมสมโย วา, จีวรการสมโย วา โหตุ อจีวรการสมโย วา, อถ โข สงฺคณิการาโม ภิกฺขุ น โสภติเยว. มา ตฺวํ อนุปตฺถมฺภฏฺาเน อุปตฺถมฺโภ อโหสีติ. ตตฺถ สงฺคณิกาติ สกปริสสโมธานํ. คโณติ นานาชนสโมธานํ. อิติ สงฺคณิการาโม วา โหตุ คณาราโม ¶ วา, สพฺพถาปิ คณพาหุลฺลาภิรโต คณพนฺธนพทฺโธ ภิกฺขุ น โสภติ. ปจฺฉาภตฺเต ปน ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา สุโธตหตฺถปาโท มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เอการามตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ พุทฺธสาสเน โสภติ. เนกฺขมฺมสุขนฺติ กามโต นิกฺขนฺตสฺส สุขํ. ปวิเวกสุขมฺปิ กามปวิเวกสุขเมว. ราคาทีนํ ปน วูปสมตฺถาย สํวตฺตตีติ อุปสมสุขํ. มคฺคสมฺโพธตฺถาย สํวตฺตตีติ สมฺโพธิสุขํ. นิกามลาภีติ กามลาภี อิจฺฉิตลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี.
สามายิกนฺติ อปฺปิตปฺปิตสมเย กิเลเสหิ วิมุตฺตํ. กนฺตนฺติ มนาปํ. เจโตวิมุตฺตินฺติ รูปารูปาวจรจิตฺตวิมุตฺตึ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาริ จ ฌานานิ จตสฺโส จ อรูปสมาปตฺติโย, อยํ สามายิโก วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๓). อสามายิกนฺติ ¶ น สมยวเสน กิเลเสหิ วิมุตฺตํ, อถ โข อจฺจนฺตวิมุตฺตํ โลกุตฺตรํ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘จตฺตาโร จ อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, อยํ อสามายิโก วิโมกฺโข’’ติ. อกุปฺปนฺติ กิเลเสหิ อโกเปตพฺพํ.
เอตฺตาวตา กึ กถิตํ โหติ? สงฺคณิการาโม ภิกฺขุ คณพนฺธนพทฺโธ เนว โลกิยคุณํ, น จ โลกุตฺตรคุณํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ, คณํ วิโนเทตฺวา ปน เอกาภิรโต สกฺโกติ. ตถา หิ วิปสฺสี โพธิสตฺโต จตุราสีติยา ปพฺพชิตสหสฺเสหิ ปริวุโต สตฺต วสฺสานิ วิจรนฺโต สพฺพฺุคุณํ ¶ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ, คณํ วิโนเทตฺวา สตฺตทิวเส เอกีภาวาภิรโต โพธิมณฺฑํ อารุยฺห สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตสิ. อมฺหากํ โพธิสตฺโต ปฺจวคฺคิเยหิ สทฺธึ ฉพฺพสฺสานิ วิจรนฺโต สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ, เตสุ ปกฺกนฺเตสุ เอกีภาวาภิรโต โพธิมณฺฑํ อารุยฺห สพฺพฺุคุณํ นิพฺพตฺเตสิ.
เอวํ สงฺคณิการามสฺส คุณาธิคมาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โทสุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต นาหํ อานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ รูปนฺติ สรีรํ. ยตฺถ รตฺตสฺสาติ ยสฺมึ รูเป ราควเสน รตฺตสฺส. น อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ ยสฺมึ รูเป รตฺตสฺส น อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตํ รูปํ น สมนุปสฺสามิ, อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ ทสพลสาวกตฺตุปคมนสงฺขาเตน อฺถาภาเวน สฺจยสฺส ¶ วิย, อุปาลิคหปติโน อฺถาภาเวน นาฏปุตฺตสฺส วิย, ปิยชาติกสุตฺเต เสฏฺิอาทีนํ วิย จ อุปฺปชฺชนฺติเยว.
๑๘๗. อยํ ¶ โข ปนานนฺทาติ โก อนุสนฺธิ? สเจ หิ โกจิ ทุพฺพุทฺธี นวปพฺพชิโต วเทยฺย – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เขตฺตํ ปวิฏฺา คาวิโย วิย อมฺเหเยว คณโต นีหรติ, เอกีภาเว นิโยเชติ, สยํ ปน ราชราชมหามตฺตาทีหิ ปริวุโต วิหรตี’’ติ, ตสฺส วจโนกาสุปจฺเฉทนตฺถํ – ‘‘จกฺกวาฬปริยนฺตาย ปริสาย มชฺเฌ นิสินฺโนปิ ตถาคโต เอกโกวา’’ติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปาทีนํ สงฺขนิมิตฺตานํ. อชฺฌตฺตนฺติ วิสยชฺฌตฺตํ. สฺุตนฺติ สฺุตผลสมาปตฺตึ. ตตฺร เจติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมํ, ตํ เจติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ตตฺราติ ตสฺมึ ปริสมชฺเฌ ิโต. วิเวกนินฺเนนาติ นิพฺพานนินฺเนน. พฺยนฺตีภูเตนาติ อาสวฏฺานียธมฺเมหิ วิคตนฺเตน นิสฺสเฏน วิสํยุตฺเตน. อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตนฺติ คจฺฉถ ตุมฺเหติ เอวํ อุยฺโยชนิเกน วจเนน ปฏิสํยุตฺตํ.
กาย ปน เวลาย ภควา เอวํ กเถติ? ปจฺฉาภตฺตกิจฺจเวลาย, วา ปุริมยามกิจฺจเวลาย วา. ภควา หิ ปจฺฉาภตฺเต คนฺธกุฏิยํ สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา วุฏฺาย ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทติ. ตสฺมึ สมเย ธมฺมสฺสวนตฺถาย ปริสา สนฺนิปตนฺติ. อถ ภควา กาลํ วิทิตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา พุทฺธาสนวรคโต ธมฺมํ เทเสตฺวา เภสชฺชเตลปากํ คณฺหนฺโต วิย กาลํ อนติกฺกมิตฺวา วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน ปริสํ อุยฺโยเชติ ¶ . ปุริมยาเมปิ ‘‘อภิกฺกนฺตา โข วาเสฏฺา รตฺติ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺถา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๙๙) เอวํ อุยฺโยเชติ ¶ . พุทฺธานฺหิ โพธิปตฺติโต ปฏฺาย ทฺเว ปฺจวิฺาณานิปิ นิพฺพานนินฺนาเนว. ตสฺมาติหานนฺทาติ ยสฺมา สฺุตาวิหาโร สนฺโต ปณีโต, ตสฺมา.
๑๘๘. อชฺฌตฺตเมวาติ โคจรชฺฌตฺตเมว. อชฺฌตฺตํ สฺุตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตโน ปฺจสุ ขนฺเธสุ นิสฺสิตนฺติ อตฺโถ. สมฺปชาโน โหตีติ กมฺมฏฺานสฺส อสมฺปชฺชนภาวชานเนน สมฺปชาโน. พหิทฺธาติ ปรสฺส ปฺจสุ ขนฺเธสุ. อชฺฌตฺตพหิทฺธาติ กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา ¶ . อาเนฺชนฺติ อุภโตภาควิมุตฺโต ภวิสฺสามาติ อาเนฺชํ อรูปสมาปตฺตึ มนสิ กโรติ.
ตสฺมึเยว ปุริมสฺมินฺติ ปาทกชฺฌานํ สนฺธาย วุตฺตํ. อปคุณปาทกชฺฌานโต วุฏฺิตสฺส หิ อชฺฌตฺตํ สฺุตํ มนสิกโรโต ตตฺถ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ. ตโต ‘‘ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ พหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต – ‘‘กาเลน อตฺตโน สนฺตาเน, กาเลน ปรสฺส สนฺตาเน นุ โข กถ’’นฺติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. ตโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหตุกาโม ‘‘อรูปสมาปตฺติยํ นุ โข กถ’’นฺติ อาเนฺชํ มนสิ กโรติ, ตตฺถปิ น ปกฺขนฺทติ. อิทานิ – ‘‘น เม จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ วิสฺสฏฺวีริเยน อุปฏฺากาทีนํ ปจฺฉโต น จริตพฺพํ, ปาทกชฺฌานเมว ปน สาธุกํ ปุนปฺปุนํ มนสิกาตพฺพํ. เอวมสฺส รุกฺเข ฉินฺทโต ผรสุมฺหิ อวหนฺเต ปุน นิสิตํ กาเรตฺวา ¶ ฉินฺทนฺตสฺส ฉิชฺเชสุ ผรสุ วิย กมฺมฏฺาเน มนสิกาโร วหตี’’ติ ทสฺเสตุํ ตสฺมึเยวาติอาทิมาห. อิทานิสฺส เอวํ ปฏิปนฺนสฺส ยํ ยํ มนสิ กโรติ, ตตฺถ ตตฺถ มนสิกาโร สมฺปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ปกฺขนฺทตีติ อาห.
๑๘๙. อิมินา วิหาเรนาติ อิมินา สมถวิปสฺสนาวิหาเรน. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโนติ อิติ จงฺกมนฺโตปิ ตสฺมึ กมฺมฏฺาเน สมฺปชฺชมาเน ‘‘สมฺปชฺชติ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ ชานเนน สมฺปชาโน โหติ. สยตีติ นิปชฺชติ. เอตฺถ กฺจิ กาลํ จงฺกมิตฺวา – ‘‘อิทานิ เอตฺตกํ กาลํ จงฺกมิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ตฺวา อิริยาปถํ อหาเปตฺวา าตพฺพํ. เอส นโย สพฺพวาเรสุ ¶ . น กเถสฺสามีติ, อิติห ตตฺถาติ เอวํ น กเถสฺสามีติ ชานเนน ตตฺถ สมฺปชานการี โหติ.
ปุน ทุติยวาเร เอวรูปึ กถํ กเถสฺสามีติ ชานเนน สมฺปชานการี โหติ, อิมสฺส ภิกฺขุโน สมถวิปสฺสนา ตรุณาว, ตาสํ อนุรกฺขณตฺถํ –
‘‘อาวาโส โคจโร ภสฺสํ, ปุคฺคโล อถ โภชนํ;
อุตุ อิริยาปโถ เจว, สปฺปาโย เสวิตพฺพโก’’ติ.
สตฺต สปฺปายานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. เตสํ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตํ. วิตกฺกวาเรสุ อวิตกฺกนสฺส จ วิตกฺกนสฺส จ ชานเนน สมฺปชานตา เวทิตพฺพา.
๑๙๐. อิติ ¶ วิตกฺกปหาเนน ทฺเว มคฺเค กเถตฺวา อิทานิ ตติยมคฺคสฺส วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, กามคุณาติอาทิมาห. อายตเนติ เตสุเยว กามคุเณสุ กิสฺมิฺจิเทว กิเลสุปฺปตฺติการเณ. สมุทาจาโรติ สมุทาจรณโต อปฺปหีนกิเลโส. เอวํ ¶ สนฺตนฺติ เอวํ วิชฺชมานเมว. สมฺปชาโนติ กมฺมฏฺานสฺส อสมฺปตฺติชานเนน สมฺปชาโน. ทุติยวาเร เอวํ สนฺตเมตนฺติ เอวํ สนฺเต เอตํ. สมฺปชาโนติ กมฺมฏฺานสมฺปตฺติชานเนน สมฺปชาโน. อยฺหิ ‘‘ปหีโน นุ โข เม ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค โน’’ติ ปจฺจเวกฺขมาโน อปหีนภาวํ ตฺวา วีริยํ ปคฺคเหตฺวา ตํ อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาเฏติ, ตโต มคฺคานนฺตรํ ผลํ, ผลโต วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขมาโน ปหีนภาวํ ชานาติ, ตสฺส ชานเนน ‘‘สมฺปชาโน โหตี’’ติ วุตฺตํ.
๑๙๑. อิทานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, อุปาทานกฺขนฺธาติอาทิมาห. ตตฺถ โส ปหียตีติ รูเป อสฺมีติ มาโน อสฺมีติ ฉนฺโท อสฺมีติ อนุสโย ปหียติ. ตถา เวทนาทีสุ สมฺปชานตา วุตฺตนาเยเนว เวทิตพฺพา.
อิเม โข เต, อานนฺท, ธมฺมาติ เหฏฺา กถิเต สมถวิปสฺสนามคฺคผลธมฺเม สนฺธายาห. กุสลายติกาติ ¶ กุสลโต อาคตา. กุสลา หิ กุสลาปิ โหนฺติ กุสลายติกาปิ, เสยฺยถิทํ, ปมชฺฌานํ กุสลํ, ทุติยชฺฌานํ กุสลฺเจว กุสลายติกฺจ…เป… อากิฺจฺายตนํ กุสลํ, เนวสฺานาสฺายตนํ กุสลฺเจว กุสลายติกฺจ, เนวสฺานาสฺายตนํ กุสลํ, โสตาปตฺติมคฺโค กุสโล เจว กุสลายติโก จ…เป… อนาคามิมคฺโค กุสโล, อรหตฺตมคฺโค กุสโล เจว กุสลายติโก จ. ตถา ปมชฺฌานํ กุสลํ, ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา กุสลา เจว กุสลายติกา จ…เป… อรหตฺตมคฺโค กุสโล, ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา กุสลา เจว กุสลายติกา จ.
อริยาติ นิกฺกิเลสา วิสุทฺธา. โลกุตฺตราติ โลเก อุตฺตรา วิสิฏฺา. อนวกฺกนฺตา ¶ ปาปิมตาติ ปาปิมนฺเตน มาเรน อโนกฺกนฺตา. วิปสฺสนาปาทกา ¶ อฏฺ สมาปตฺติโย อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส หิ ภิกฺขุโน จิตฺตํ มาโร น ปสฺสติ, ‘‘อิทํ นาม อารมฺมณํ นิสฺสาย สํวตฺตตี’’ติ ชาติตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ‘‘อนวกฺกนฺตา’’ติ วุตฺตํ.
ตํ กึ มฺสีติ อิทํ กสฺมา อาห? คเณปิ เอโก อานิสํโส อตฺถิ, ตํ ทสฺเสตุํ อิทมาห. อนุพนฺธิตุนฺติ อนุคจฺฉิตุํ ปริจริตุํ.
น โข, อานนฺทาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ภควตา – ‘‘สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗) พหุสฺสุโต ปฺจาวุธสมฺปนฺโน โยโธ วิย กโต. ยสฺมา ปน โส สุตปริยตฺตึ อุคฺคเหตฺวาปิ ตทนุจฺฉวิกํ อนุโลมปฏิปทํ น ปฏิปชฺชติ, น ตสฺส ตํ อาวุธํ โหติ. โย ปฏิปชฺชติ, ตสฺเสว โหติ. ตสฺมา เอตทตฺถํ อนุพนฺธิตุํ นารหตีติ ทสฺเสนฺโต น โข, อานนฺทาติ อาห.
อิทานิ ยทตฺถํ อนุพนฺธิตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ยา จ โขติอาทิมาห. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต ตีสุ าเนสุ ทส กถาวตฺถูนิ อาคตานิ. ‘‘อิติ เอวรูปํ กถํ กเถสฺสามี’’ติ สปฺปายาสปฺปายวเสน อาคตานิ, ‘‘ยทิทํ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติ เอตฺถ สุตปริยตฺติวเสน อาคตานิ, อิมสฺมึ ¶ าเน ปริปูรณวเสน อาคตานิ. ตสฺมา อิมสฺมึ สุตฺเต ทส กถาวตฺถูนิ กเถนฺเตน อิมสฺมึ าเน ตฺวา กเถตพฺพานิ.
อิทานิ ยสฺมา เอกจฺจสฺส เอกกสฺส วิหรโตปิ อตฺโถ น สมฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย เอกีภาเว อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต เอวํ สนฺเต โข, อานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ เอวํ สนฺเตติ เอวํ เอกีภาเว สนฺเต.
๑๙๓. สตฺถาติ พาหิรโก ติตฺถกรสตฺถา. อนฺวาวตฺตนฺตีติ อนุอาวตฺตนฺติ อุปสงฺกมนฺติ. มุจฺฉํ กามยตีติ มุจฺฉนตณฺหํ ปตฺเถติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อาจริยูปทฺทเวนาติ อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺเนน กิเลสูปทฺทเวน อาจริยสฺสุปทฺทโว. เสสุปทฺทเวสุปิ เอเสว นโย. อวธึสุ นนฺติ มารยึสุ นํ. เอเตน หิ คุณมรณํ กถิตํ.
วินิปาตายาติ ¶ สุฏฺุ นิปตนาย. กสฺมา ปน พฺรหฺมจารุปทฺทโวว – ‘‘ทุกฺขวิปากตโร จ กฏุกวิปากตโร จ วินิปาตาย จ สํวตฺตตี’’ติ วุตฺโตติ. พาหิรปพฺพชฺชา หิ อปฺปลาภา, ตตฺถ มหนฺโต นิพฺพตฺเตตพฺพคุโณ นตฺถิ, อฏฺสมาปตฺติปฺจาภิฺามตฺตกเมว โหติ. อิติ ยถา คทฺรภปิฏฺิโต ปติตสฺส มหนฺตํ ทุกฺขํ น โหติ, สรีรสฺส ปํสุมกฺขนมตฺตเมว โหติ, เอวํ พาหิรสมเย โลกิยคุณมตฺตโตว ปริหายติ, เตน ปุริมํ อุปทฺทวทฺวยํ น เอวํ วุตฺตํ. สาสเน ปน ปพฺพชฺชา มหาลาภา, ตตฺถ จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ มหนฺตา อธิคนฺตพฺพคุณา. อิติ ยถา อุภโต สุชาโต ขตฺติยกุมาโร หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ อนุสฺจรนฺโต หตฺถิกฺขนฺธโต ปติโต มหาทุกฺขํ นิคจฺฉติ, เอวํ สาสนโต ปริหายมาโน นวหิ โลกุตฺตรคุเณหิ ปริหายติ. เตนายํ พฺรหฺมจารุปทฺทโว เอวํ วุตฺโต.
๑๙๖. ตสฺมาติ ยสฺมา เสสุปทฺทเวหิ พฺรหฺมจารุปทฺทโว ทุกฺขวิปากตโร, ยสฺมา วา สปตฺตปฏิปตฺตึ วีติกฺกมนฺโต ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย ¶ สํวตฺตติ, มิตฺตปฏิปตฺติ หิตาย, ตสฺมา. เอวํ อุปริเมนปิ เหฏฺิเมนปิ อตฺเถน โยเชตพฺพํ. มิตฺตวตายาติ มิตฺตปฏิปตฺติยา. สปตฺตวตายาติ เวรปฏิปตฺติยา.
โวกฺกมฺม ¶ จ สตฺถุสาสนาติ ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺตมฺปิ หิ สฺจิจฺจ วีติกฺกมนฺโต โวกฺกมฺม วตฺตติ นาม. ตเทว อวีติกฺกมนฺโต น โวกฺกมฺม วตฺตติ นาม.
น โว อหํ, อานนฺท, ตถา ปรกฺกมิสฺสามีติ อหํ ตุมฺเหสุ ตถา น ปฏิปชฺชิสฺสามิ. อามเกติ อปกฺเก. อามกมตฺเตติ อามเก นาติสุกฺเข ภาชเน. กุมฺภกาโร หิ อามกํ นาติสุกฺขํ อปกฺกํ อุโภหิ หตฺเถหิ สณฺหิกํ คณฺหาติ ‘‘มา ภิชฺชตู’’ติ. อิติ ยถา กุมฺภกาโร ตตฺถ ปฏิปชฺชติ, นาหํ ตุมฺเหสุ ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ. นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาติ สกึ โอวทิตฺวา ตุณฺหี น ภวิสฺสามิ, นิคฺคณฺหิตฺวา นิคฺคณฺหิตฺวา ปุนปฺปุนํ โอวทิสฺสามิ อนุสาสิสฺสามิ. ปวยฺห ปวยฺหาติ โทเส ปวาเหตฺวา ปวาเหตฺวา. ยถา ปกฺกภาชเนสุ กุมฺภกาโร ภินฺนฉินฺนชชฺชรานิ ปวาเหตฺวา ¶ เอกโต กตฺวา สุปกฺกาเนว อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา คณฺหาติ, เอวเมว อหมฺปิ ปวาเหตฺวา ปวาเหตฺวา ปุนปฺปุนํ โอวทิสฺสามิ อนุสาสิสฺสามิ. โย ¶ สาโร โส สฺสตีติ เอวํ โว มยา โอวทิยมานานํ โย มคฺคผลสาโร, โส สฺสติ. อปิจ โลกิยคุณาปิ อิธ สาโรตฺเวว อธิปฺเปตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสฺุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตวณฺณนา
๑๙๗. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตํ. ตตฺถ ยตฺร หิ นามาติ อจฺฉริยตฺเถ นิปาโต. โย นาม ตถาคโตติ อตฺโถ. ฉินฺนปปฺเจติ เอตฺถ ปปฺจา นาม ตณฺหา มาโน ทิฏฺีติ อิเม ตโย กิเลสา. ฉินฺนวฏุเมติ เอตฺถ วฏุมนฺติ กุสลากุสลกมฺมวฏฺฏํ วุจฺจติ. ปริยาทินฺนวฏฺเฏติ ตสฺเสว เววจนํ. สพฺพทุกฺขวีติวตฺเตติ สพฺพํ วิปากวฏฺฏสงฺขาตํ ทุกฺขํ วีติวตฺเต. อนุสฺสริสฺสตีติ อิทํ ยตฺราติ นิปาตวเสน อนาคตวจนํ, อตฺโถ ปเนตฺถ อตีตวเสน เวทิตพฺโพ. ภควา หิ เต พุทฺเธ อนุสฺสริ, น อิทานิ อนุสฺสริสฺสติ. เอวํชจฺจาติ วิปสฺสีอาทโย ขตฺติยชจฺจา, กกุสนฺธาทโย พฺราหฺมณชจฺจาติ. เอวํโคตฺตาติ วิปสฺสีอาทโย โกณฺฑฺโคตฺตา, กกุสนฺธาทโย กสฺสปโคตฺตาติ. เอวํสีลาติ โลกิยโลกุตฺตรสีเลน เอวํสีลา. เอวํธมฺมาติ เอตฺถ สมาธิปกฺขา ธมฺมา อธิปฺเปตา ¶ . โลกิยโลกุตฺตเรน สมาธินา เอวํสมาธิโนติ อตฺโถ. เอวํปฺาติ โลกิยโลกุตฺตรปฺาย เอวํปฺา. เอวํวิหารีติ เอตฺถ ปน เหฏฺา สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโตว, ปุน กสฺมา คหิตเมว คณฺหาตีติ เจ, น อิทํ คหิตเมว. อิทฺหิ นิโรธสมาปตฺติทีปนตฺถํ, ตสฺมา เอวํนิโรธสมาปตฺติวิหารีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
เอวํวิมุตฺตาติ ¶ เอตฺถ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ ตทงฺควิมุตฺติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ นิสฺสรณวิมุตฺตีติ ปฺจวิธา วิมุตฺติโย. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิเตหิ นีวรณาทีหิ วิมุตฺตตฺตา วิกฺขมฺภนวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา สตฺต อนุปสฺสนา สยํ ตสฺส ตสฺส ปจฺจนีกงฺควเสน ปริจตฺตาหิ นิจฺจสฺาทีหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาโร อริยมคฺคา สยํ สมุจฺฉินฺเนหิ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา สมุจฺเฉทวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาริ สามฺผลานิ มคฺคานุภาเวน กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตีติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ. นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อปคตตฺตา ทูเร ิตตฺตา นิสฺสรณวิมุตฺตีติ สงฺขํ คตํ. อิติ อิมาสํ ปฺจนฺนํ วิมุตฺตีนํ วเสน เอวํวิมุตฺตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๙๙. ตสฺมาติหาติ ¶ ยสฺมา ตฺวํ ‘‘ตถาคตา อจฺฉริยา’’ติ วทสิ, ตสฺมา ตํ ภิยฺโยโส มตฺตาย ปฏิภนฺตุ ตถาคตสฺส อจฺฉริยา อพฺภุตธมฺมาติ. สโต สมฺปชาโนติ เอตฺถ ทฺเวสมฺปชฺานิ มนุสฺสโลเก เทวโลเก จ. ตตฺถ เวสฺสนฺตรชาตเก พฺราหฺมณสฺส ¶ ทฺเว ปุตฺเต ทตฺวา ปุนทิวเส สกฺกสฺส เทวึ ทตฺวา สกฺเกน ปสีทิตฺวา ทินฺเน อฏฺ วเร คณฺหนฺโต –
‘‘อิโต วิมุจฺจมานาหํ, สคฺคคามี วิเสสคู;
อนิวตฺตี ตโต อสฺสํ, อฏฺเมตํ วรํ วเร’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๒๓๐๐) –
เอวํ ตุสิตภวเน เม ปฏิสนฺธิ โหตูติ วรํ อคฺคเหสิ, ตโต ปฏฺาย ตุสิตภวเน อุปฺปชฺชิสฺสามีติ ชานาติ, อิทํ มนุสฺสโลเก สมฺปชฺํ. เวสฺสนฺตรตฺตภาวโต ปน จุโต ปุน ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพตฺโตสฺมีติ อฺาสิ, อิทํ เทวโลเก สมฺปชฺํ.
กึ ปน เสสเทวตา น ชานนฺตีติ? โน น ชานนฺติ. ตา ปน อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺเข โอโลเกตฺวา เทวนาฏเกหิ ตูริยสทฺเทน ปโพธิตา ‘‘มาริส อยํ เทวโลโก ตุมฺเห อิธ นิพฺพตฺตา’’ติ สาริตา ชานนฺติ. โพธิสตฺโต ปมชวนวาเร น ชานาติ, ทุติยชวนโต ปฏฺาย ชานาติ. อิจฺจสฺส อฺเหิ อสาธารณชานนํ โหติ.
อฏฺาสีติ ¶ เอตฺถ กิฺจาปิ อฺเปิ เทวา ตตฺถ ิตา ิตมฺหาติ ชานนฺติ, เต ปน ฉสุ ทฺวาเรสุ พลวตา อิฏฺารมฺมเณน อภิภุยฺยมานา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตโน ภุตฺตปีตภาวมฺปิ อชานนฺตา อาหารูปจฺเฉเทน กาลํ กโรนฺติ. โพธิสตฺตสฺส กึ ตถารูปํ อารมฺมณํ นตฺถีติ? โน นตฺถิ. โส หิ เสสเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคฺคณฺหาติ, อารมฺมเณน ปน อตฺตานํ มทฺทิตุํ น เทติ, ตํ อารมฺมณํ อภิภวิตฺวา ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สโต สมฺปชาโน, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสี’’ติ.
๒๐๐. ยาวตายุกนฺติ เสสตฺตภาเวสุ กึ ยาวตายุกํ น ติฏฺตฺตีติ? อาม น ติฏฺติ. อฺทา หิ ทีฆายุกเทวโลเก นิพฺพตฺโต ตตฺถ ปารมิโย น สกฺกา ปูเรตุนฺติ อกฺขีนิ นิมีเลตฺวา อธิมุตฺติกาลํกิริยํ นาม กตฺวา มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตติ ¶ . อยํ กาลงฺกิริยา ¶ อฺเสํ น โหติ. ตทา ปน อทินฺนทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตสีลํ นาม นตฺถิ, สพฺพปารมีนํ ปูริตตฺตา ยาวตายุกํ อฏฺาสิ.
สโต สมฺปชาโน ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอวํ ตาว สพฺพปารมิโย ปูเรตฺวา ตทา โพธิสตฺโต ยาวตายุกํ อฏฺาสิ. เทวตานํ ปน – ‘‘มนุสฺสคณนาวเสน อิทานิ สตฺตหิ ทิวเสหิ จุติ ภวิสฺสตี’’ติ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ – มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน น สณฺาติ.
ตตฺถ มาลาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส ปิฬนฺธนมาลา. ตา กิร สฏฺิสตสหสฺสาธิกา สตฺตปณฺณาส-วสฺสโกฏิโย อมิลายิตฺวา ตทา มิลายนฺติ. วตฺเถสุปิ เอเสว นโย. เอตฺตกํ ปน กาลํ เทวานํ เนว สีตํ น อุณฺหํ โหติ, ตสฺมึ กาเล สรีรโต พินฺทุพินฺทุวเสน เสทา มุจฺจนฺติ. เอตฺตกฺจ กาลํ เตสํ สรีเร ขณฺฑิจฺจปาลิจฺจาทิวเสน วิวณฺณตา น ปฺายติ, เทวธีตา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย, เทวปุตฺตา วีสติวสฺสุทฺเทสิกา วิย ขายนฺติ. มรณกาเล ปน เนสํ กิลนฺตรูโป อตฺตภาโว โหติ. เอตฺตกฺจ เนสํ กาลํ เทวโลเก อุกฺกณฺิตา ¶ นาม นตฺถิ, มรณกาเล ปน นิสฺสสนฺติ วิชมฺภนฺติ, สเก อาสเน นาภิรมนฺติ.
อิมานิ ปน ปุพฺพนิมิตฺตานิ, ยถา โลเก มหาปฺุานํ ราชราชมหามตฺตาทีนํเยว อุกฺกาปาตภูมิจาลจนฺทคฺคาหาทีนิ ¶ นิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ, เอวเมว มเหสกฺขานํ เทวตานํเยว ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ. ยถา จ มนุสฺเสสุ ปุพฺพนิมิตฺตานิ นกฺขตฺตปากาทโยว ชานนฺติ, น สพฺเพ, เอวเมว ตานิปิ สพฺเพ เทวา น ชานนฺติ, ปณฺฑิตา เอว ปน ชานนฺติ. ตตฺถ เย จ มนฺเทน กุสลกมฺเมน นิพฺพตฺตา เทวปุตฺตา, เต เตสุ อุปฺปนฺเนสุ – ‘‘อิทานิ โก ชานาติ, กุหึ นิพฺพตฺติสฺสามา’’ติ ภายนฺติ. เย มหาปฺุา, เต – ‘‘อมฺเหหิ ทินฺนํ ทานํ รกฺขิตํ สีลํ ภาวิตํ ภาวนํ อาคมฺม อุปริเทวโลเกสุ สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามา’’ติ น ภายนฺติ. โพธิสตฺโตปิ ตานิ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ‘‘อิทานิ อนนฺตเร อตฺตภาเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ น ภายิ. อถสฺส เตสุ นิมิตฺเตสุ ปาตุภูเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา – ‘‘มาริส ตุมฺเหหิ ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตหิ น สกฺกสมฺปตฺตึ น มารพฺรหฺมจกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ ¶ ปตฺเถนฺเตหิ ปูริตา, โลกนิตฺถรณตฺถาย ปน พุทฺธตฺตํ ปตฺถยมาเนหิ ปูริตา. โส โว อิทานิ กาโล มาริส พุทฺธตฺตาย, สมโย มาริส พุทฺธตฺตายา’’ติ ยาจนฺติ.
อถ มหาสตฺโต เทวตานํ ปฏิฺํ อทตฺวาว กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปริจฺเฉทวเสน ปฺจมหาวิโลกนํ นาม วิโลเกสิ. ตตฺถ ‘‘กาโล นุ โข, น กาโล’’ติ ปมํ กาลํ วิโลเกสิ. ตตฺถ วสฺสสตสหสฺสโต อุทฺธํ วฑฺฒิตอายุกาโล กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตานํ ชาติชรามรณานิ น ปฺายนฺติ, พุทฺธานฺจ ธมฺมเทสนา นาม ติลกฺขณมุตฺตา นตฺถิ, เตสํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ กเถนฺตานํ ‘‘กึ นาเมตํ กเถนฺตี’’ติ เนว โสตุํ น สทฺธาตุํ ¶ มฺนฺติ, ตโต อภิสมโย น โหติ, ตสฺมึ อสติ อนิยฺยานิกํ สาสนํ โหติ. ตสฺมา โส อกาโล. วสฺสสตโต อูนอายุกาโลปิ กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตา อุสฺสนฺนกิเลสา โหนฺติ, อุสฺสนฺนกิเลสานฺจ ทินฺโนวาโท โอวาทฏฺาเน น ติฏฺติ. อุทเก ทณฺฑราชิ วิย ขิปฺปํ วิคจฺฉติ. ตสฺมา โสปิ อกาโล. สตสหสฺสโต ¶ ปน ปฏฺาย เหฏฺา วสฺสสตโต ปฏฺาย อุทฺธํ อายุกาโล กาโล นาม. ตทา จ วสฺสสตกาโล โหติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘นิพฺพตฺติตพฺพกาโล’’ติ กาลํ ปสฺสิ.
ตโต ทีปํ วิโลเกนฺโต สปริวาเร จตฺตาโร ทีเป โอโลเกตฺวา – ‘‘ตีสุ ทีเปสุ พุทฺธา น นิพฺพตฺตนฺติ, ชมฺพุทีเปเยว นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทีปํ ปสฺสิ.
ตโต – ‘‘ชมฺพุทีโป นาม มหา, ทสโยชนสหสฺสปริมาโณ, กตรสฺมึ นุ โข ปเทเส พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ เทสํ วิโลเกนฺโต มชฺฌิมเทสํ ปสฺสิ. มชฺฌิมเทโส นาม ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา นเยน วินเย (มหาว. ๒๕๙) วุตฺโตว. โส ปน อายามโต ตีณิ โยชนสตานิ. วิตฺถารโต อฑฺฒติยานิ, ปริกฺเขปโต นวโยชนสตานีติ. เอตสฺมิฺหิ ปเทเส จตฺตาริ อฏฺ โสฬส วา อสงฺขฺเยยฺยานิ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ. ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา ปจฺเจกพุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, เอกํ ¶ อสงฺขฺเยยฺยํ, กปฺปสตสหสฺสฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาสาวกา อุปฺปชฺชนฺติ, จตุนฺนํ มหาทีปานํ ทฺวิสหสฺสานํ ปริตฺตทีปานฺจ อิสฺสริยาธิปจฺจการกจกฺกวตฺติราชาโน อุปฺปชฺชนฺติ, อฺเ จ มเหสกฺขา ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติมหาสาลา ¶ อุปฺปชฺชนฺติ. อิทฺเจตฺถ กปิลวตฺถุ นาม นครํ, ตตฺถ มยา นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ นิฏฺมคมาสิ.
ตโต กุลํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธา นาม โลกสมฺมเต กุเล นิพฺพตฺตนฺติ, อิทานิ จ ขตฺติยกุลํ โลกสมฺมตํ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, สุทฺโธทโน นาม ราชา เม ปิตา ภวิสฺสตี’’ติ กุลํ ปสฺสิ.
ตโต มาตรํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธมาตา นาม โลลา สุราธุตฺตา น โหติ, กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตปารมี ชาติโต ปฏฺาย อขณฺฑปฺจสีลา โหติ, อยฺจ มหามายา นาม เทวี เอทิสา. อยํ เม มาตา ภวิสฺสติ. กิตฺตกํ ปนสฺสา อายู’’ติ อาวชฺชนฺโต – ‘‘ทสนฺนํ มาสานํ อุปริ สตฺต ทิวสานี’’ติ ปสฺสิ.
อิติ ¶ อิมํ ปฺจมหาวิโลกนํ วิโลเกตฺวา – ‘‘กาโล เม มาริสา พุทฺธภาวายา’’ติ เทวตานํ สงฺคหํ กโรนฺโต ปฏิฺํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ ตา เทวตา อุยฺโยเชตฺวา ตุสิตเทวตาหิ ปริวุโต ตุสิตปุเร นนฺทนวนํ ปาวิสิ. สพฺพเทวโลเกสุ หิ นนฺทนวนํ อตฺถิเยว. ตตฺถ นํ เทวตา – ‘‘อิโต จุโต สุคตึ คจฺฉ, อิโต จุโต สุคตึ คจฺฉา’’ติ ปุพฺเพกตกุสลกมฺโมกาสํ สารยมานา วิจรนฺติ. โส เอวํ เทวตาหิ กุสลํ สารยมานาหิ ปริวุโต ตตฺถ วิจรนฺโตว จวิ.
เอวํ จุโต จวามีติ ปชานาติ, จุติจิตฺตํ น ¶ ชานาติ. ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ น ชานาติ, อิมสฺมึ เม าเน ปฏิสนฺธิ คหิตาติ เอวํ ปน ชานาติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘อาวชฺชนปริยาโย นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ทุติยตติยจิตฺตวาเรเยว ชานิสฺสตี’’ติ วทนฺติ. ติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘มหาสตฺตานํ ปฏิสนฺธิ น อฺเสํ ปฏิสนฺธิสทิสา, โกฏิปฺปตฺตํ เตสํ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ปน เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ าตุํ น สกฺกา, ตสฺมา จุติจิตฺตํ น ชานาติ. จุติกฺขเณปิ จวามีติ ปชานาติ, ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ น ชานาติ, อสุกสฺมึ าเน ปฏิสนฺธิ คหิตาติ ปชานาติ, ตสฺมึ กาเล ทสสหสฺสี กมฺปตี’’ติ. เอวํ สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺโต ปน เอกูนวีสติยา ปฏิสนฺธิจิตฺเตสุ ¶ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส โสมนสฺส-สหคต-าณสมฺปยุตฺต-อสงฺขาริก-กุสลจิตฺตสฺส สทิสมหาวิปากจิตฺเตน ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตนา’’ติ อาห.
ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺโต ปน อาสาฬฺหีปุณฺณมายํ อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน อคฺคเหสิ. ตทา กิร มหามายา ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธวิภูสนสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา สตฺตเม ทิวเส ปาโต วุฏฺาย คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา วรโภชนํ ภฺุชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิรีคพฺภํ ¶ ปวิสิตฺวา สิรีสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิทํ สุปินํ อทฺทส – ‘‘จตฺตาโร กิร นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ เนสํ เทวิโย อาคนฺตฺวา มนุสฺสมลหรณตฺถํ นฺหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา คนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต ¶ สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา อุตฺตรทิสโต อาคมฺม กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ.
อถ ปพุทฺธา เทวี ตํ สุปินํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ปภาตาย รตฺติยา จตุสฏฺิมตฺเต พฺราหฺมณปาโมกฺเข ปกฺโกสาเปตฺวา หริตูปลิตฺตาย ลาชาทีหิ กตมงฺคลสกฺการาย ภูมิยา มหารหานิ อาสนานิ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนานํ พฺราหฺมณานํ สปฺปิมธุสกฺกราภิสงฺขารสฺส วรปายาสสฺส สุวณฺณรชตปาติโย ปูเรตฺวา สุวณฺณรชตปาตีติเหว ปฏิกุชฺชิตฺวา อทาสิ, อฺเหิ จ อหตวตฺถกปิลคาวีทานาทีหิ เต สนฺตปฺเปสิ. อถ เนสํ สพฺพกามสนฺตปฺปิตานํ สุปินํ อาโรจาเปตฺวา – ‘‘กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. พฺราหฺมณา อาหํสุ – ‘‘มา จินฺตยิ มหาราช, เทวิยา เต กุจฺฉิมฺหิ คพฺโภ ปติฏฺิโต, โส จ โข ปุริสคพฺโภ, น อิตฺถิคพฺโภ, ปุตฺโต เต ภวิสฺสติ. โส สเจ อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ราชา ภวิสฺสติ จกฺกวตฺตี. สเจ อคารา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสติ, พุทฺโธ ภวิสฺสติ ¶ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท’’ติ. เอวํ สโต สมฺปชาโน โพธิสตฺโต ตุสิตกายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ.
ตตฺถ ¶ สโต สมฺปชาโนติ อิมินา จตุตฺถาย คพฺภาวกฺกนฺติยา โอกฺกมตีติ ทสฺเสติ. จตสฺโส หิ คพฺภาวกฺกนฺติโย.
‘‘จตสฺโส อิมา, ภนฺเต, คพฺภาวกฺกนฺติโย. อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ.
ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.
ปุน จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, อสมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ.
ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, อิเธกจฺโจ สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมึ าติ, สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อยํ จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๗).
เอตาสุ ปมา โลกิยมนุสฺสานํ โหติ, ทุติยา อสีติมหาสาวกานํ, ตติยา ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ. เต กิร กมฺมชวาเตหิ อุทฺธํปาทา อโธสิรา อเนกสตโปริเส ปปาเต วิย โยนิมุเข ตาฬจฺฉิคฺคเลน หตฺถี วิย อติวิย สมฺพาเธน โยนิมุเขน นิกฺขมมานา อนนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ. เตน เนสํ ‘‘มยํ นิกฺขมามา’’ติ สมฺปชานตา น โหติ. จตุตฺถา สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ. เต หิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตาปิ ชานนฺติ, ตตฺถ วสนฺตาปิ ชานนฺติ. นิกฺขมนกาเลปิ ¶ เนสํ กมฺมชวาตา อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ, ทฺเว หตฺเถ ปสาเรตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ิตกาว นิกฺขมนฺติ.
๒๐๑. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอตฺถ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหตีติ อตฺโถ. โอกฺกนฺเต ¶ หิ ตสฺมึ เอวํ โหติ, น โอกฺกมมาเน. อปฺปมาโณติ พุทฺธปฺปมาโณ, วิปุโลติ อตฺโถ. อุฬาโรติ ตสฺเสว เววจนํ. เทวานุภาวนฺติ เอตฺถ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถสฺส ปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส, ตถา อลงฺการสฺส, ตถา วิมานสฺส, ตํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ.
โลกนฺตริกาติ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอเกโก โลกนฺตริกา โหติ, ติณฺณํ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อฺมฺํ อาหจฺจ ปิตานํ มชฺเฌ โอกาโส วิย. โส ปน โลกนฺตริกนิรโย ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺโส โหติ. อฆาติ นิจฺจวิวฏา. อสํวุตาติ เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา. อนฺธการาติ ตมภูตา. อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารณโต อนฺธภาวกรณติมิเสน สมนฺนาคตา. ตตฺถ กิร จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ. เอวํมหิทฺธิกาติ จนฺทิมสูริยา กิร เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺติ, เอวํมหิทฺธิกา. เอเกกาย ทิสาย นวนวโยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสนฺติ, เอวํ มหานุภาวา. อาภาย ¶ นานุโภนฺตีติ อตฺตโน ¶ ปภาย นปฺปโหนฺติ. เต กิร จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน จรนฺติ, จกฺกวาฬปพฺพตฺจ อติกฺกมฺม โลกนฺตริกนิรโย, ตสฺมา เต ตตฺถ อาภาย นปฺปโหนฺติ.
เยปิ ตตฺถ สตฺตาติ เยปิ ตสฺมึ โลกนฺตรมหานิรเย สตฺตา อุปปนฺนา. กึ ปน กมฺมํ กตฺวา เต ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตีติ? ภาริยํ ทารุณํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺจ อุปริ อปราธํ อฺฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทิสาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิย. เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติ. เต รุกฺเข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปาเท ลคฺคนฺติ. ยทา ปน สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสํ คตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ มฺมานา ตตฺถ วาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารกอุทเก ปตนฺติ. วาเต ปหรนฺเต มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ. ปติตมตฺตา จ อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑิ วิย วิลียนฺติ.
อฺเปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตาติ – ‘‘ยถา มยํ มหาทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ อฺเปิ กิร สตฺตา อิทํ ทุกฺขํ อนุภวนฺตา อิธูปปนฺนา’’ติ ตํ ทิวสํ ปสฺสนฺติ. อยํ ปน โอภาโส เอกยาคุปานมตฺตมฺปิ ¶ น ติฏฺติ, ยาวตา นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ อารมฺมณํ วิภาเวติ, ตตฺตกํ กาลํ โหติ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘อจฺฉราสงฺฆาฏมตฺตเมว วิชฺชุภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา กึ อิทนฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายตี’’ติ วทนฺติ. สงฺกมฺปตีติ ¶ สมนฺตโต กมฺปติ. อิตรทฺวยํ ปุริมปสฺเสว เววจนํ. ปุน อปฺปมาโณ จาติอาทิ นิคมนตฺถํ วุตฺตํ.
๒๐๒. จตฺตาโร เทวปุตฺตา จตุทฺทิสํ อารกฺขาย อุปคจฺฉนฺตีติ เอตฺถ จตฺตาโรติ จตุนฺนํ มหาราชูนํ วเสน วุตฺตํ, ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ ปน จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา จตฺตาลีสทสสหสฺสา โหนฺติ. ตตฺถ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ มหาราชาโน ขคฺคหตฺถา อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อารกฺขณตฺถาย อุปคนฺตฺวา สิรีคพฺภํ ปวิฏฺา, อิตเร คพฺภทฺวารโต ปฏฺาย อวรุทฺธปํสุปิสาจกาทิยกฺขคเณ ¶ ปฏิกฺกมาเปตฺวา ยาว จกฺกวาฬา อารกฺขํ คณฺหึสุ.
กิมตฺถํ ปนายํ รกฺขา อาคตา? นนุ ปฏิสนฺธิกฺขเณ กลลกาลโต ปฏฺาย สเจปิ โกฏิสตสหสฺสา มารา โกฏิสตสหสฺสํ สิเนรุํ อุกฺขิปิตฺวา โพธิสตฺตสฺส วา โพธิสตฺตมาตุยา วา อนฺตรายกรณตฺถํ อาคจฺเฉยฺยุํ, สพฺเพ อนฺตราว อนฺตรธาเยยฺยุํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา รุหิรุปฺปาทวตฺถุสฺมึ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ปรูปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อนุปกฺกเมน, ภิกฺขเว, ตถาคตา ปรินิพฺพายนฺติ. คจฺฉถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ยถาวิหารํ, อรกฺขิยา, ภิกฺขเว, ตถาคตา’’ติ (จูฬว. ๓๔๑). เอวเมตํ, น ปรูปกฺกเมน เตสํ ชีวิตนฺตราโย อตฺถิ. สนฺติ โข ปน อมนุสฺสา วิรูปา ทุทฺทสิกา, เภรวรุปา ปกฺขิโน, เยสํ รูปํ ทิสฺวา สทฺทํ วา สุตฺวา โพธิสตฺตมาตุ ภยํ วา สนฺตาโส วา อุปฺปชฺเชยฺย, เตสํ นิวารณตฺถาย ¶ รกฺขํ อคฺคเหสุํ. อปิจ โข โพธิสตฺตสฺส ปฺุเตเชน สฺชาตคารวา อตฺตโน คารวโจทิตาปิ เต เอวมกํสุ.
กึ ปน เต อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ิตา จตฺตาโร มหาราชาโน โพธิสตฺตมาตุยา อตฺตานํ ทสฺเสนฺติ น ทสฺเสนฺตีติ? นหานมณฺฑนโภชนาทิสรีรกิจฺจกาเล น ทสฺเสนฺติ, สิรีคพฺภํ ปวิสิตฺวา วรสยเน นิปนฺนกาเล ปน ทสฺเสนฺติ. ตตฺถ กิฺจาปิ อมนุสฺสทสฺสนํ นาม มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ โหติ, โพธิสตฺตมาตา ปน อตฺตโน เจว ปุตฺตสฺส จ ปฺุานุภาเวน เต ทิสฺวา น ภายติ, ปกติอนฺเตปุรปาลเกสุ วิย อสฺสา เตสุ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
๒๐๓. ปกติยา ¶ สีลวตีติ สภาเวเนว สีลสมฺปนฺนา. อนุปฺปนฺเน กิร พุทฺเธ มนุสฺสา ตาปสปริพฺพาชกานํ สนฺติเก วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา สีลํ คณฺหนฺติ, โพธิสตฺตมาตาปิ กาลเทวิลสฺส อิสิโน สนฺติเก คณฺหาติ. โพธิสตฺเต ปน กุจฺฉิคเต อฺสฺส ปาทมูเล นิสีทิตุํ นาม น สกฺกา, สมาสเน นิสีทิตฺวา คหิตสีลมฺปิ อวฺา การณมตฺตํ โหติ. ตสฺมา สยเมว สีลํ อคฺคเหสีติ วุตฺตํ โหติ.
ปุริเสสูติ ¶ โพธิสตฺตสฺส ปิตรํ อาทึ กตฺวา เกสุจิ มนุสฺเสสุ ปุริสาธิปฺปายจิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. ตฺจ โข โพธิสตฺเต คารเวน, น ปหีนกิเลสตาย. โพธิสตฺตมาตุ รูปํ ปน สุกุสลาปิ สิปฺปิกา โปตฺถกมฺมาทีสุปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ, ตํ ทิสฺวา ปุริสสฺส ราโค นุปฺปชฺชตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. สเจ ปน ตํ รตฺตจิตฺโต อุปสงฺกมิตุกาโม โหติ, ปาทา น วหนฺติ, ทิพฺพสงฺขลิกา วิย พชฺฌนฺติ. ตสฺมา ‘‘อนติกฺกมนียา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ปฺจนฺนํ กามคุณานนฺติ ปุพฺเพ ‘‘กามคุณูปสํหิต’’นฺติ ¶ ปุริสาธิปฺปายวเสน วตฺถุปฏิกฺเขโป กถิโต, อิธ อารมฺมณปฺปฏิลาโภ ทสฺสิโต. ตทา กิร ‘‘เทวิยา เอวรูโป ปุตฺโต กุจฺฉิสฺมึ อุปฺปนฺโน’’ติ, สุตฺวา สมนฺตโต ราชาโน มหคฺฆอาภรณตูริยาทิวเสน ปฺจทฺวารารมฺมณวตฺถุภูตํ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, โพธิสตฺตสฺส จ โพธิสตฺตมาตุยา จ กตกมฺมสฺส อุสฺสนฺนตฺตา ลาภสกฺการสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ.
๒๐๔. อกิลนฺตกายาติ ยถา อฺา อิตฺถิโย คพฺภภาเรน กิลมนฺติ, หตฺถปาทา อุทฺธุมาตกาทีนิ ปาปุณนฺติ, น เอวํ ตสฺสา โกจิ กิลมโถ อโหสิ. ติโรกุจฺฉิคตนฺติ อนฺโตกุจฺฉิคตํ. กลลาทิกาลํ อติกฺกมิตฺวา สฺชาตองฺคปจฺจงฺคํ อหีนินฺทฺริยภาวํ อุปคตํเยว ปสฺสติ. กิมตฺถํ ปสฺสติ? สุขวาสตฺถํ. ยเถว หิ มาตา ปุตฺเตน สทฺธึ นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา ‘‘หตฺถํ วา ปาทํ วา โอลมฺพนฺตํ อุกฺขิปิตฺวา สณฺเปสฺสามี’’ติ สุขวาสตฺถํ ปุตฺตํ โอโลเกติ, เอวํ โพธิสตฺตมาตาปิ ยํ ตํ มาตุ อุฏฺานคมนปริวตฺตนนิสชฺชาทีสุ อุณฺหสีตโลณิกติตฺตกกฏุกาหารอชฺโฌหรณกาเลสุ จ คพฺภสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อตฺถิ นุ โข เม ตํ ปุตฺตสฺสาติ สุขวาสตฺถํ โพธิสตฺตํ โอโลกยมานา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนํ โพธิสตฺตํ ปสฺสติ. ยถา หิ อฺเ อนฺโตกุจฺฉิคตา ปกฺกาสยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อามาสยํ อุกฺขิปิตฺวา ¶ อุทรปฏลํ ปิฏฺิโต กตฺวา ปิฏฺิกณฺฏกํ นิสฺสาย อุกฺกุฏิกา ทฺวีสุ มุฏฺีสุ หนุกํ เปตฺวา เทเว วสฺสนฺเต รุกฺขสุสิเร มกฺกฏา วิย นิสีทนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต. โพธิสตฺโต ปน ปิฏฺิกณฺฏกํ ปิฏฺิโต กตฺวา ธมฺมาสเน ธมฺมกถิโก วิย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทติ. ปุพฺเพ กตกมฺมํ ปนสฺสา วตฺถุํ โสเธติ, สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ สุขุมจฺฉวิลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ ¶ . อถ นํ กุจฺฉิคตํ ตโจ ปฏิจฺฉาเทตุํ น สกฺโกติ, โอโลเกนฺติยา พหิ ิโต วิย ปฺายติ. ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. โพธิสตฺโต ปน อนฺโตกุจฺฉิคโต มาตรํ น ปสฺสติ. น หิ อนฺโตกุจฺฉิยํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ.
๒๐๕. กาลํ ¶ กโรตีติ น วิชาตภาวปจฺจยา, อายุปริกฺขเยเนว. โพธิสตฺเตน วสิตฏฺานฺหิ เจติยกุฏิสทิสํ โหติ อฺเสํ อปริโภคํ, น จ สกฺกา โพธิสตฺตมาตรํ อปเนตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปตุนฺติ ตตฺตกํเยว โพธิสตฺตมาตุ อายุปฺปมาณํ โหติ, ตสฺมา ตทา กาลํ กโรติ. กตรสฺมึ ปน วเย กาลํ กโรตีติ? มชฺฌิมวเย. ปมวยสฺมิฺหิ สตฺตานํ อตฺตภาเว ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เตน ตทา สฺชาตคพฺภา อิตฺถี ตํ คพฺภํ อนุรกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ, คพฺโภ พหฺวาพาโธ โหติ. มชฺฌิมวยสฺส ปน ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ตติยโกฏฺาเส วตฺถุํ วิสทํ โหติ, วิสเท วตฺถุมฺหิ นิพฺพตฺตา ทารกา อโรคา โหนฺติ. ตสฺมา โพธิสตฺตมาตาปิ ปมวเย สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา มชฺฌิมวยสฺส ตติยโกฏฺาเส วิชายิตฺวา กาลํ กโรติ.
นว วา ทส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน วิกปฺปนวเสน สตฺต วา อฏฺ วา เอกาทส วา ทฺวาทส วาติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สตฺตมาสชาโต ชีวติ, สีตุณฺหกฺขโม ปน น โหติ. อฏฺมาสชาโต น ชีวติ, เสสา ชีวนฺติ.
ิตาวาติ ิตาว หุตฺวา. มหามายาปิ เทวี อุปวิชฺา าติกุลฆรํ คมิสฺสามีติ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา กปิลวตฺถุโต เทวทหนครคามิมคฺคํ อลงฺการาเปตฺวา เทวึ สุวณฺณสิวิกาย นิสีทาเปสิ. สกลนครวาสิโน สกฺยา ปริวาเรตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา เทวึ คเหตฺวา ปายึสุ. สา เทวทหนครสฺส อวิทูเร ลุมฺพินิสาลวนุยฺยานํ ทิสฺวา อุยฺยานวิจรณตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา รฺโ สฺํ อทาสิ. ราชา อุยฺยานํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อารกฺขํ ¶ สํวิทหาเปสิ. เทวิยา อุยฺยานํ ปวิฏฺมตฺตาย กายทุพฺพลฺยํ ¶ อโหสิ, อถสฺสา มงฺคลสาลมูเล สิรีสยนํ ปฺาเปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปึสุ. สา ¶ อนฺโตสาณึ ปวิสิตฺวา สาลสาขํ หตฺเถน คเหตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺสา ตาวเทว คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ.
เทวา นํ ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ ขีณาสวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมาโน ปฏิคฺคณฺหนฺติ. กถํ? สูติเวสํ คณฺหิตฺวาติ เอเก. ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วุตฺตํ – ตทา โพธิสตฺตมาตา สุวณฺณขจิตํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา มจฺฉกฺขิสทิสํ ทุกูลปฏํ ยาว ปาทนฺตาว ปารุปิตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺสา สลฺลหุกํ คพฺภวุฏฺานํ อโหสิ ธมฺมกรณโต อุทกนิกฺขมนสทิสํ. อถ เต ปกติพฺรหฺมเวเสเนว อุปสงฺกมิตฺวา ปมํ สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคเหสุํ. เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน ปฏิคฺคเหสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เทวา นํ ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ ปจฺฉา มนุสฺสา’’ติ.
๒๐๖. จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตาติ จตฺตาโร มหาราชาโน. ปฏิคฺคเหตฺวาติ อชินปฺปเวณิยา ปฏิคฺคเหตฺวา. มเหสกฺโขติ มหาเตโช มหายโส ลกฺขณสมฺปนฺโนติ อตฺโถ.
วิสโทว นิกฺขมตีติ ยถา อฺเ สตฺตา โยนิมคฺเค ลคฺคนฺตา ภคฺควิภคฺคา นิกฺขมนฺติ, น เอวํ นิกฺขมติ, อลคฺโค หุตฺวา นิกฺขมตีติ อตฺโถ. อุเทนาติ อุทเกน. เกนจิ อสุจินาติ ยถา อฺเ สตฺตา กมฺมชวาเตหิ อุทฺธํปาทา อโธสิรา โยนิมคฺเค ปกฺขิตฺตา สตโปริสนรกปปาตํ ปตนฺตา วิย ตาฬจฺฉิทฺเทน นิกฺกฑฺฒิยมานา หตฺถี วิย มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตา นานาอสุจิมกฺขิตาว ¶ นิกฺขมนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต. โพธิสตฺตฺหิ กมฺมชวาตา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. โส ธมฺมาสนโต โอตรนฺโต ธมฺมกถิโก วิย นิสฺเสณิโต โอตรนฺโต ปุริโส วิย จ ทฺเว หตฺเถ จ ปาเท จ ปสาเรตฺวา ิตโกว มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน เกนจิ อสุจินา อมกฺขิโตว นิกฺขมติ.
อุทกสฺส ธาราติ อุทกวฏฺฏิโย. ตาสุ สีตา สุวณฺณกฏาเห ปตติ, อุณฺหา รชตกฏาเห. อิทฺจ ปถวีตเล เกนจิ อสุจินา อสมฺมิสฺสํ เตสํ ปานียปริโภชนียอุทกฺเจว อฺเหิ อสาธารณํ ¶ กีฬนอุทกฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อฺสฺส ปน สุวณฺณรชตฆเฏหิ อาหริยมานอุทกสฺส เจว หํสวฏฺฏกาทิโปกฺขรณิคตสฺส จ อุทกสฺส ปริจฺเฉโท นตฺถิ.
๒๐๗. สมฺปติชาโตติ ¶ มุหุตฺตชาโต. ปาฬิยํ ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺโต วิย ทสฺสิโต, น ปน เอวํ ทฏฺพฺพํ. นิกฺขนฺตมตฺตฺหิ ตํ ปมํ พฺรหฺมาโน สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคณฺหึสุ, เตสํ หตฺถโต จตฺตาโร มหาราชาโน มงฺคลสมฺมตาย สุขสมฺผสฺสาย อชินปฺปเวณิยา, เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน, มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิโต.
เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเนติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺเต อนุธาริยมาเน. เอตฺถ จ ฉตฺตสฺส ปริวารานิ ขคฺคาทีนิ ¶ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิปิ อาคตาเนว. ปาฬิยํ ปน ราชคมเน ราชา วิย ฉตฺตเมว วุตฺตํ. เตสุ ฉตฺตเมว ปฺายติ, น ฉตฺตคฺคาหกา. ตถา ขคฺค-ตาลวณฺฏ-โมรหตฺถก-วาฬพีชนิ-อุณฺหีสมตฺตาเยว ปฺายนฺติ, น เตสํ คาหกา. สพฺพานิ กิร ตานิ อทิสฺสมานรูปา เทวตา คณฺหึสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อเนกสาขฺจ สหสฺสมณฺฑลํ,
ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;
สุวณฺณทณฺฑา วิปตนฺติ จามรา,
น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา’’ติ. (สุ. นิ. ๖๙๓);
สพฺพา จ ทิสาติ อิทํ สตฺตปทวีติหารูปริ ิตสฺส วิย สพฺพทิสานุวิโลกนํ วุตฺตํ, น โข ปเนวํ ทฏฺพฺพํ. มหาสตฺโต หิ มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปุรตฺถิมทิสํ โอโลเกสิ, อเนกจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุํ. ตตฺถ เทวมนุสฺสา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา – ‘‘มหาปุริส อิธ ตุมฺเหหิ สทิโสปิ นตฺถิ, กุโต อุตฺตริตโร’’ติ อาหํสุ. เอวํ จตสฺโส ทิสา, จตสฺโส อนุทิสา, เหฏฺา, อุปรีติ ทสปิ ทิสา อนุวิโลเกตฺวา อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา อยํ อุตฺตรา ทิสาติ สตฺตปทวีติหาเรน อคมาสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ. อคฺโคติ ¶ คุเณหิ สพฺพปโม. อิตรานิ ทฺเว ปทานิ เอตสฺเสว เววจนานิ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ ปททฺวเยน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปตฺตพฺพํ อรหตฺตํ พฺยากาสิ.
เอตฺถ ¶ จ สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺานํ จตุอิทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อุตฺตราภิมุขภาโว มหาชนํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อภิภวิตฺวา คมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ ¶ , สตฺตปทคมนํ สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทิพฺพเสตจฺฉตฺตธารณํ วิมุตฺติจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปฺจราชกกุธภณฺฑานิ ปฺจหิ วิมุตฺตีหิ วิมุจฺจนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทิสานุวิโลกนํ อนาวรณาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อาสภีวาจาภาสนํ อปฺปฏิวตฺติยธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ‘‘อยมนฺติมา ชาตี’’ติ สีหนาโท อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิเม วารา ปาฬิยํ อาคตา, สมฺพหุลวาโร ปน อาคโต, อาหริตฺวา ทีเปตพฺโพ.
มหาปุริสสฺส หิ ชาตทิวเส ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิ. ทสสหสฺสิโลกธาตุมฺหิ เทวตา เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปตึสุ. ปมํ เทวา ปฏิคฺคหึสุ, ปจฺฉา มนุสฺสา. ตนฺติพทฺธา วีณา จมฺมพทฺธา เภริโย จ เกนจิ อวาทิตา สยเมว วชฺชึสุ, มนุสฺสานํ อนฺทุพนฺธนาทีนิ ขณฺฑาขณฺฑํ ภิชฺชึสุ. สพฺพโรคา อมฺพิเลน โธตตมฺพมลํ วิย วิคจฺฉึสุ, ชจฺจนฺธา รูปานิ ปสฺสึสุ. ชจฺจพธิรา สทฺทํ สุณึสุ, ปีสปฺปี ชวนสมฺปนฺนา อเหสุํ, ชาติชฬานมฺปิ เอฬมูคานํ สติ ปติฏฺาสิ, วิเทเส ปกฺขนฺทนาวา สุปฏฺฏนํ ปาปุณึสุ, อากาสฏฺกภูมฏฺกรตนานิ สกเตโชภาสิตานิ อเหสุํ, เวริโน เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ, อวีจิมฺหิ อคฺคิ นิพฺพายิ. โลกนฺตเร อาโลโก อุทปาทิ, นทีสุ ชลํ น ปวตฺติ, มหาสมุทฺเทสุ มธุรสทิสํ อุทกํ อโหสิ, วาโต น วายิ, อากาสปพฺพตรุกฺขคตา สกุณา ภสฺสิตฺวา ปถวีคตา ¶ อเหสุํ, จนฺโท อติโรจิ, สูริโย น อุณฺโห น สีตโล นิมฺมโล อุตุสมฺปนฺโน อโหสิ, เทวตา อตฺตโน อตฺตโน วิมานทฺวาเร ตฺวา อปฺโผฏนเสฬนเจลุกฺเขปาทีหิ มหากีฬํ กีฬึสุ, จาตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วสฺสิ, มหาชนํ เนว ขุทา น ปิปาสา ปีเฬสิ, ทฺวารกวาฏานิ สยเมว วิวรึสุ, ปุปฺผูปคผลูปคา รุกฺขา ปุปฺผผลานิ คณฺหึสุ, ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกทฺธชมาลา อโหสีติ.
ตตฺราปิสฺส ¶ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺโป สพฺพฺุตาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปาโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาเล เอกปฺปหาเรน สนฺนิปติตฺวา ธมฺมปฏิคฺคณฺหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปมํ เทวตานํ ¶ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปจฺฉา มนุสฺสานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ตนฺติพทฺธวีณานํ สยํ วชฺชนํ อนุปุพฺพวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จมฺมพทฺธเภรีนํ วชฺชนํ มหติยา ธมฺมเภริยา อนุสฺสาวนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อนฺทุพนฺธนาทีนํ เฉโท อสฺมิมานสมุจฺเฉทสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สพฺพโรควิคโม สพฺพกิเลสวิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชจฺจนฺธานํ รูปทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชจฺจพธิรานํ สทฺทสฺสวนํ ทิพฺพโสตธาตุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ ¶ , ปีสปฺปีนํ ชวนสมฺปทา จตุอิทฺธิปาทาธิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชฬานํ สติปติฏฺานํ จตุสติปฏฺานปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วิเทสปกฺขนฺทนาวานํ สุปฏฺฏนสมฺปาปุณนํ จตุปฏิสมฺภิทาธิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, รตนานํ สกเตโชภาสิตตฺตํ ยํ โลกสฺส ธมฺโมภาสํ ทสฺเสสฺสติ ตสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.
เวรีนํ เมตฺตจิตฺตปฏิลาโภ จตุพฺรหฺมวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อวีจิมฺหิ อคฺคินิพฺพานํ เอกาทสอคฺคินิพฺพานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, โลกนฺตราโลโก อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา าณาโลกทสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, มหาสมุทฺทสฺส มธุรตา นิพฺพานรเสน เอกรสภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วาตสฺส อวายนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตภินฺทนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สกุณานํ ปถวีคมนํ มหาชนสฺส โอวาทํ สุตฺวา ปาเณหิ สรณคมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จนฺทสฺส อติวิโรจนํ พหุชนกนฺตตาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, สูริยสฺส อุณฺหสีตวิวชฺชนอุตุสุขตา กายิกเจตสิกสุขุปฺปตฺติยา ปุพฺพนิมิตฺตํ, เทวตานํ วิมานทฺวาเรสุ อปฺโผฏนาทีหิ กีฬนํ พุทฺธภาวํ ปตฺวา อุทานํ อุทานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จาตุทฺทีปิกมหาเมฆวสฺสนํ มหโต ธมฺมเมฆวสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ขุทาปีฬนสฺส อภาโว กายคตาสติอมตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปิปาสาปีฬนสฺส อภาโว วิมุตฺติสุเขน สุขิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทฺวารกวาฏานํ สยเมว วิวรณํ อฏฺงฺคิกมคฺคทฺวารวิวรณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, รุกฺขานํ ปุปฺผผลคหณํ วิมุตฺติปุปฺเผหิ ปุปฺผิตสฺส จ สามฺผลภารภริตภาวสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทสสหสฺสิโลกธาตุยา ¶ เอกทฺธชมาลตา อริยทฺธชมาลามาลิตาย ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ สมฺพหุลวาโร นาม.
เอตฺถ ¶ ปฺเห ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ยทา มหาปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข คนฺตฺวา อาสภึ วาจํ ภาสติ, ตทา กึ ปถวิยา คโต ¶ , อุทาหุ อากาเสน? ทิสฺสมาโน คโต, อุทาหุ อทิสฺสมาโน? อเจลโก คโต, อุทาหุ อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต? ทหโร หุตฺวา คโต, อุทาหุ มหลฺลโก? ปจฺฉาปิ กึ ตาทิโสว อโหสิ, อุทาหุ ปุน พาลทารโก’’ติ? อยํ ปน ปฺโห เหฏฺา โลหปาสาเท สงฺฆสนฺนิปาเต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถเรน วิสฺสชฺชิโตว. เถโร กิเรตฺถ นิยติ ปุพฺเพกตกมฺม-อิสฺสรนิมฺมานวาทวเสน ตํ ตํ พหุํ วตฺวา อวสาเน เอวํ พฺยากาสิ – ‘‘มหาปุริโส ปถวิยํ คโต, มหาชนสฺส ปน อากาเส คจฺฉนฺโต วิย อโหสิ. ทิสฺสมาโน คโต, มหาชนสฺส ปน อทิสฺสมาโน วิย อโหสิ. อเจลโก คโต, มหาชนสฺส ปน อลงฺกตปฺปฏิยตฺโตว อุปฏฺาสิ. ทหโรว คโต, มหาชนสฺส ปน โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก วิย อโหสิ. ปจฺฉา ปน พาลทารโกว อโหสิ, น ตาทิโส’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปริสา จสฺส ‘‘พุทฺเธน วิย หุตฺวา โภ เถเรน ปฺโห กถิโต’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. โลกนฺตริกวาโร วุตฺตนโย เอว.
วิทิตาติ ปากฏา หุตฺวา. ยถา หิ สาวกา นหานมุขโธวนขาทนปิวนาทิกาเล อโนกาสคเต อตีตสงฺขาเร ¶ นิปฺปเทเส สมฺมสิตุํ น สกฺโกนฺติ, โอกาสปตฺตเยว สมฺมสนฺติ, น เอวํ พุทฺธา. พุทฺธา หิ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ววตฺถิตสงฺขาเร อาทิโต ปฏฺาย สมฺมสิตฺวา ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวาว วิสฺสชฺเชนฺติ, เตสํ อวิปสฺสิตธมฺโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘วิทิตา’’ติ อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. พากุลสุตฺตวณฺณนา
๒๐๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ พากุลสุตฺตํ. ตตฺถ พากุโลติ ยถา ทฺวาวีสติ ทฺวตฺตึสาติอาทิมฺหิ วตฺตพฺเพ พาวีสติ พาตฺตึสาติอาทีนิ วุจฺจนฺติ, เอวเมว ทฺวิกุโลติ วตฺตพฺเพ พากุโลติ วุตฺตํ. ตสฺส หิ เถรสฺส ทฺเว กุลานิ อเหสุํ. โส กิร เทวโลโก จวิตฺวา โกสมฺพินคเร นาม ¶ มหาเสฏฺิกุเล นิพฺพตฺโต, ตเมนํ ปฺจเม ทิวเส สีสํ นฺหาเปตฺวา คงฺคากีฬํ อกํสุ. ธาติยา ทารกํ อุทเก นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน กีฬาเปนฺติยา เอโก มจฺโฉ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ภกฺโข เม อย’’นฺติ มฺมาโน มุขํ วิวริตฺวา อุปคโต. ธาตี ทารกํ ¶ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา. มจฺโฉ ตํ คิลิ. ปฺุวา สตฺโต ทุกฺขํ น ปาปุณิ, สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน วิย อโหสิ. มจฺโฉ ทารกสฺส เตเชน ตตฺตกปลฺลํ คิลิตฺวา ทยฺหมาโน วิย เวเคน ตึสโยชนมคฺคํ คนฺตฺวา พาราณสินครวาสิโน มจฺฉพนฺธสฺส ชาลํ ปาวิสิ, มหามจฺฉา นาม ชาลพทฺธา ปหริยมานา มรนฺติ. อยํ ปน ทารกสฺส เตเชน ชาลโต นีหฏมตฺโตว มโต. มจฺฉพนฺธา จ มหนฺตํ มจฺฉํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา วิกฺกิณนฺติ. ตํ ปน ทารกสฺส อานุภาเวน อผาเลตฺวา สกลเมว กาเชน หริตฺวา สหสฺเสน เทมาติ วทนฺตา นคเร วิจรึสุ. โกจิ น คณฺหาติ.
ตสฺมึ ปน นคเร อปุตฺตกํ อสีติโกฏิวิภวํ เสฏฺิกุลํ อตฺถิ, ตสฺส ทฺวารมูลํ ปตฺวา ‘‘กึ คเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺตา กหาปณนฺติ อาหํสุ. เตหิ กหาปณํ ทตฺวา คหิโต. เสฏฺิภริยาปิ อฺเสุ ทิวเสสุ มจฺเฉ น เกลายติ, ตํ ทิวสํ ปน มจฺฉํ ผลเก เปตฺวา สยเมว ผาเลสิ. มจฺฉฺจ นาม กุจฺฉิโต ผาเลนฺติ, สา ปน ปิฏฺิโต ผาเลนฺตี มจฺฉกุจฺฉิยํ สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา – ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ นาทํ นทิตฺวา ทารกํ อาทาย สามิกสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. เสฏฺิ ตาวเทว เภรึ จราเปตฺวา ทารกํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม เทว ทารโก ลทฺโธ, กึ กโรมี’’ติ อาห. ปฺุวา เอส, โย มจฺฉกุจฺฉิยํ อโรโค วสิ, โปเสหิ นนฺติ.
อสฺโสสิ ¶ โข อิตรํ กุลํ – ‘‘พาราณสิยํ กิร เอกํ เสฏฺิกุลํ มจฺฉกุจฺฉิยํ ทารกํ ลภตี’’ติ, เต ตตฺถ อคมํสุ. อถสฺส มาตา ทารกํ อลงฺกริตฺวา กีฬาปิยมานํ ทิสฺวาว ‘‘มนาโป วตายํ ¶ ทารโก’’ติ คนฺตฺวา ปวตึ อาจิกฺขิ. อิตรา มยฺหํ ปุตฺโตติอาทิมาห. กหํ เต ลทฺโธติ? มจฺฉกุจฺฉิยนฺติ. โน ตุยฺหํ ปุตฺโต, มยฺหํ ปุตฺโตติ. กหํ เต ลทฺโธติ? มยา ทสมาเส กุจฺฉิยา ธาริโต, อถ นํ นทิยา กีฬาปิยมานํ ¶ มจฺโฉ คิลีติ. ตุยฺหํ ปุตฺโต อฺเน มจฺเฉน คิลิโต ภวิสฺสติ, อยํ ปน มยา มจฺฉกุจฺฉิยํ ลทฺโธติ, อุโภปิ ราชกุลํ อคมํสุ. ราชา อาห – ‘‘อยํ ทส มาเส กุจฺฉิยา ธาริตตฺตา อมาตา กาตุํ น สกฺกา, มจฺฉํ คณฺหนฺตาปิ วกฺกยกนาทีนิ พหิ กตฺวา คณฺหนฺตา นาม นตฺถีติ มจฺฉกุจฺฉิยํ ลทฺธตฺตา อยมฺปิ อมาตา กาตุํ น สกฺกา, ทารโก อุภินฺนมฺปิ กุลานํ ทายาโท โหตุ, อุโภปิ นํ ชคฺคถา’’ติ อุโภปิ ชคฺคึสุ.
วิฺุตํ ปตฺตสฺส ทฺวีสุปิ นคเรสุ ปาสาทํ กาเรตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺาเปสุํ. เอเกกสฺมึ นคเร จตฺตาโร จตฺตาโร มาเส วสติ, เอกสฺมึ นคเร จตฺตาโร มาเส วุฏฺสฺส สงฺฆาฏนาวาย มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นํ สทฺธึ นาฏกาหิ อาโรเปนฺติ. โส สมฺปตฺตึ อนุภวมาโน อิตรํ นครํ คจฺฉติ. ตํนครวาสิโน นาฏกานิ อุปฑฺฒมคฺคํ อคมํสุ. เต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตํ ปริวาเรตฺวา อตฺตโน ปาสาทํ นยนฺติ. อิตรานิ นาฏกานิ นิวตฺติตฺวา อตฺตโน นครเมว คจฺฉนฺติ. ตตฺถ จตฺตาโร มาเส วสิตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน อิตรํ นครํ คจฺฉติ. เอวมสฺส สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส อสีติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ.
อถ ภควา จาริกํ จรมาโน พาราณสึ ปตฺโต. โส ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิโต. ปพฺพชิตฺวา สตฺตาหเมว ปุถุชฺชโน อโหสิ, อฏฺเม ปน โส ¶ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ เอวมสฺส ทฺเว กุลานิ อเหสุํ. ตสฺมา พากุโลติ สงฺขํ อคมาสีติ.
ปุราณคิหิสหาโยติ ปุพฺเพ คิหิกาเล สหาโย. อยมฺปิ ทีฆายุโกว เถรํ ปพฺพชิตํ ปสฺสิตุํ คจฺฉนฺโต อสีติเม วสฺเส คโต. เมถุโน ธมฺโมติ พาโล นคฺคสมณโก พาลปุจฺฉํ ปุจฺฉติ, น สาสนวจนํ, อิทานิ เถเรน ทินฺนนเย ิโต อิเมหิ ปน เตติ ปุจฺฉิ.
๒๑๐. ยํปายสฺมาติอาทีนิ ¶ ปทานิ สพฺพวาเรสุ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ นิยเมตฺวา ปิตานิ. ตตฺถ สฺา อุปฺปนฺนมตฺตาว, วิตกฺโก กมฺมปถเภทโกติ ¶ . เถโร ปนาห – ‘‘กสฺมา วิสุํ กโรถ, อุภยมฺเปตํ กมฺมปถเภทกเมวา’’ติ.
๒๑๑. คหปติจีวรนฺติ วสฺสาวาสิกํ จีวรํ. สตฺเถนาติ ปิปฺผลเกน. สูจิยาติ สูจึ คเหตฺวา สิพฺพิตภาวํ น สรามีติ อตฺโถ. กถิเน จีวรนฺติ กถินจีวรํ, กถินจีวรมฺปิ หิ วสฺสาวาสิกคติกเมว. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘สิพฺพิตา นาภิชานามี’’ติ อาห.
เอตฺตกํ ปนสฺส กาลํ คหปติจีวรํ อสาทิยนฺตสฺส ฉินฺทนสิพฺพนาทีนิ อกโรนฺตสฺส กุโต จีวรํ อุปฺปชฺชตีติ. ทฺวีหิ นคเรหิ. เถโร หิ มหายสสฺสี, ตสฺส ปุตฺตธีตโร นตฺตปนตฺตกา สุขุมสาฏเกหิ จีวรานิ กาเรตฺวา รชาเปตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา ปหิณนฺติ. เถรสฺส นฺหานกาเล นฺหานโกฏฺเก เปนฺติ. เถโร ตานิ นิวาเสติ เจว ปารุปติ จ, ปุราณจีวรานิ ¶ สมฺปตฺตปพฺพชิตานํ เทติ. เถโร ตานิ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นวกมฺมํ น กโรติ, กิฺจิ อายูหนกมฺมํ นตฺถิ. ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา อปฺเปตฺวา นิสีทติ. จตูสุ มาเสสุ ปตฺเตสุ โลมกิลิฏฺานิ โหนฺติ, อถสฺส ปุน เตเนว นิยาเมน ปหิณิตฺวา เทนฺติ. อฑฺฒมาเส อฑฺฒมาเส ปริวตฺตตีติปิ วทนฺติเยว.
อนจฺฉริยฺเจตํ เถรสฺส มหาปฺุสฺส มหาภิฺสฺส สตสหสฺสกปฺเป ปูริตปารมิสฺส, อโสกธมฺมรฺโ กุลูปโก นิคฺโรธตฺเถโร ทิวสสฺส นิกฺขตฺตุํ จีวรํ ปริวตฺเตสิ. ตสฺส หิ ติจีวรํ หตฺถิกฺขนฺเธ เปตฺวา ปฺจหิ จ คนฺธสมุคฺคสเตหิ ปฺจหิ จ มาลาสมุคฺคสเตหิ สทฺธึ ปาโตว อาหริยิตฺถ, ตถา ทิวา เจว สายฺจ. ราชา กิร ทิวสสฺส นิกฺขตฺตุํ สาฏเก ปริวตฺเตนฺโต ‘‘เถรสฺส จีวรํ นีต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม นีต’’นฺติ สุตฺวาว ปริวตฺเตสิ. เถโรปิ น ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา เปสิ, สมฺปตฺตสพฺรหฺมจารีนํ อทาสิ. ตทา กิร ชมฺพุทีเป ภิกฺขุสงฺฆสฺส เยภุยฺเยน นิคฺโรธสฺเสว สนฺตกํ จีวรํ อโหสิ.
อโห วต มํ โกจิ นิมนฺเตยฺยาติ กึ ปน จิตฺตสฺส อนุปฺปาทนํ ภาริยํ, อุปฺปนฺนสฺส ปหานนฺติ. จิตฺตํ นาม ลหุกปริวตฺตํ, ตสฺมา อนุปฺปาทนํ ภาริยํ ¶ , อุปฺปนฺนสฺส ปหานมฺปิ ภาริยเมว ¶ . อนฺตรฆเรติ มหาสกุลุทายิสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๒๓๗) อินฺทขีลโต ปฏฺาย ¶ อนฺตรฆรํ นาม อิธ นิมฺโพทกปตนฏฺานํ อธิปฺเปตํ. กุโต ปนสฺส ภิกฺขา อุปฺปชฺชิตฺถาติ. เถโร ทฺวีสุ นคเรสุ อภิฺาโต, เคหทฺวารํ อาคตสฺเสวสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา นานารสโภชนสฺส ปูเรตฺวา เทนฺติ. โส ลทฺธฏฺานโต นิวตฺตติ, ภตฺตกิจฺจกรณฏฺานํ ปนสฺส นิพทฺธเมว อโหสิ. อนุพฺยฺชนโสติ เถเรน กิร รูเป นิมิตฺตํ คเหตฺวา มาตุคาโม น โอโลกิตปุพฺโพ. มาตุคามสฺส ธมฺมนฺติ มาตุคามสฺส ฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ, ปฺหํ ปุฏฺเน คาถาสหสฺสมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. เถโร ปน กปฺปิยเมว น อกาสิ. เยภุยฺเยน หิ กุลูปกเถรานเมตํ กมฺมํ โหติ. ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ. ตํ ปน คิลานปุจฺฉเกน คนฺตุํ วฏฺฏติ, เถโร ปน กปฺปิยเมว น อกาสิ. เอส นโย สพฺพตฺถ. จุณฺเณนาติ โกสมฺพจุณฺณาทินา. คตฺตปริกมฺเมติ สรีรสมฺพาหนกมฺเม. วิจาริตาติ ปโยชยิตา. คทฺทูหนมตฺตนฺติ คาวึ ถเน คเหตฺวา เอกํ ขีรพินฺทุํ ทูหนกาลมตฺตมฺปิ.
เกน ปน การเณน เถโร นิราพาโธ อโหสิ. ปทุมุตฺตเร กิร ภควติ สตสหสฺสภิกฺขุปริวาเร ¶ จาริกํ จรมาเน หิมวติ วิสรุกฺขา ปุปฺผึสุ. ภิกฺขุสตสหสฺสานมฺปิ ติณปุปฺผกโรโค อุปฺปชฺชติ. เถโร ตสฺมึ สมเย อิทฺธิมา ตาปโส โหติ, โส อากาเสน คจฺฉนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา โอตริตฺวา โรคํ ปุจฺฉิตฺวา หิมวนฺตโต โอสธํ อาหริตฺวา อทาสิ. อุปสิงฺฆนมตฺเตเนว โรโค วูปสมิ. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเลปิ ปมวปฺปทิวเส วปฺปํ เปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริโภคํ อคฺคิสาลฺเจว วจฺจกุฏิฺจ กาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส เภสชฺชวตฺตํ นิพนฺธิ, อิมินา กมฺเมน นิราพาโธ อโหสิ. อุกฺกฏฺเนสชฺชิโก ปเนส อุกฺกฏฺารฺโก จ ตสฺมา ‘‘นาภิชานามิ อปสฺเสนกํ อปสฺสยิตา’’ติอาทิมาห.
สรโณติ สกิเลโส. อฺา อุทปาทีติ อนุปสมฺปนฺนสฺส อฺํ พฺยากาตุํ น วฏฺฏติ. เถโร กสฺมา พฺยากาสิ? น เถโร อหํ อรหาติ อาห, อฺา อุทปาทีติ ปนาห. อปิจ เถโร อรหาติ ปากโฏ, ตสฺมา เอวมาห.
๒๑๒. ปพฺพชฺชนฺติ ¶ เถโร สยํ เนว ปพฺพาเชสิ, น อุปสมฺปาเทสิ อฺเหิ ปน ภิกฺขูหิ เอวํ การาเปสิ. อวาปุรณํ อาทายาติ กฺุจิกํ คเหตฺวา.
นิสินฺนโกว ¶ ปรินิพฺพายีติ อหํ ธรมาโนปิ น อฺสฺส ภิกฺขุสฺส ภาโร อโหสึ, ปรินิพฺพุตสฺสาปิ เม สรีรํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลิโพโธ มา อโหสีติ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิ. สรีรโต ชาลา อุฏฺหิ, ฉวิมํสโลหิตํ สปฺปิ วิย ฌายมานํ ปริกฺขยํ คตํ, สุมนมกุลสทิสา ¶ ธาตุโยว อวเสสึสุ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. อิทํ ปน สุตฺตํ ทุติยสงฺคเห สงฺคีตนฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พากุลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทนฺตภูมิสุตฺตวณฺณนา
๒๑๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ทนฺตภูมิสุตฺตํ. ตตฺถ อรฺกุฏิกายนฺติ ตสฺเสว เวฬุวนสฺส เอกสฺมึ วิวิตฺตฏฺาเน ปธานกมฺมิกานํ ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตเสนาสเน. ราชกุมาโรติ พิมฺพิสารสฺส ปุตฺโต โอรสโก.
ผุเสยฺยาติ ลเภยฺย. เอกคฺคตนฺติ เอวํ ปฏิปนฺโน สมาปตฺตึ นาม ลภติ, ฌานํ นาม ลภตีติ อิทํ มยา สุตนฺติ วทติ. กิลมโถติ กายกิลมโถ. วิเหสาติ สฺเวว กิลมโถ วุตฺโต. ยถาสเก ติฏฺเยฺยาสีติ อตฺตโน อชานนโกฏฺาเสเยว ติฏฺเยฺยาสีติ.
๒๑๔. เทเสสีติ จิตฺเตกคฺคตํ นาม เอวํ ลภติ, สมาปตฺตึ เอวํ นิพฺพตฺเตตีติ อปฺปนาอุปจารํ ปาเปตฺวา เอกกสิณปริกมฺมํ กเถสิ. ปเวเทตฺวาติ ปกาเสตฺวา.
เนกฺขมฺเมน าตพฺพนฺติ กามโต นิสฺสฏคุเณน าตพฺพํ. กามโต นิสฺสฏคุเณ ิเตน ปุคฺคเลน เอกคฺคํ นาม ชานิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยเนตํ วุตฺตํ ¶ . เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ. กาเม ¶ ปริภฺุชนฺโตติ ทุวิเธปิ กาเม ภฺุชมาโน.
๒๑๕. หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วาติ เอตฺถ อทนฺตหตฺถิทมฺมาทโย วิย จิตฺเตกคฺครหิตา ปุคฺคลา ทฏฺพฺพา. ทนฺตหตฺถิอาทโย วิย จิตฺเตกคฺคสมฺปนฺนา. ยถา อทนฺตหตฺถิทมฺมาทโย กูฏาการํ อกตฺวา ธุรํ อฉฑฺเฑตฺวา ทนฺตคมนํ วา คนฺตุํ, ทนฺเตหิ วา ปตฺตพฺพํ ภูมึ ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวเมว จิตฺเตกคฺครหิตา สมฺปนฺนจิตฺเตกคฺเคหิ นิพฺพตฺติตคุณํ วา นิพฺพตฺเตตุํ ปตฺตภูมึ วา ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ.
๒๑๖. หตฺถวิลงฺฆเกนาติ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา.
ทฏฺเยฺยนฺติ ¶ ปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ นิวาริโต. โอผุโฏติ โอนทฺโธ.
๒๑๗. นาควนิกนฺติ หตฺถิปโทปเม (ม. นิ. ๑.๒๘๘ อาทโย) นาควนจรโก ปุริโส ‘‘นาควนิโก’’ติ วุตฺโต, อิธ หตฺถิสิกฺขาย กุสโล หตฺถึ คเหตุํ สมตฺโถ. อติปสฺสิตฺวาติ ทิสฺวา. เอตฺถเคธาติ เอตสฺมึ ปวตฺตเคธา. สรสงฺกปฺปานนฺติ ธาวนสงฺกปฺปานํ. มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ สมาทปนายาติ เอตฺถ ยทา นาโค อิตฺถิปุริเสหิ กุมารกุมาริกาหิ โสณฺฑาทีสุ ¶ คเหตฺวา อุปเกฬยมาโน วิการํ น กโรติ สุขายติ, ตทาเนน มนุสฺสกนฺตานิ สีลานิ สมาทินฺนานิ นาม โหนฺติ.
เปมนียาติ ตาต ราชา เต ปสนฺโน มงฺคลหตฺถิฏฺาเนว เปสฺสติ, ราชารหานิ โภชนาทีนิ ลภิสฺสสีติ เอวรูปี นาเคหิ ปิยาปิตพฺพา กถา. สุสฺสูสตีติ ตํ เปมนียกถํ โสตุกาโม โหติ. ติณฆาโสทกนฺติ ติณฆาสฺเจว อุทกฺจ, ติณฆาสนฺติ ฆาสิตพฺพํ ติณํ, ขาทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ปณโวติ ฑิณฺฑิโม. สพฺพวงฺกโทสนิหิตนินฺนีตกสาโวติ นิหิตสพฺพวงฺกโทโส เจว อปนีตกสาโว จ. องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉตีติ องฺคสโม โหติ.
๒๑๙. เคหสิตสีลานนฺติ ¶ ปฺจกามคุณนิสฺสิตสีลานํ. ายสฺสาติ อฏฺงฺคิกมคฺคสฺส.
๒๒๒. อทนฺตมรณํ มหลฺลโก รฺโ นาโค กาลงฺกโตติ รฺโ มหลฺลโก นาโค อทนฺตมรณํ มโต กาลํ กโต โหติ, อทนฺตมรณํ กาลํกิริยํ นาม กริยตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ทนฺตภูมิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา
๒๒๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ภูมิชสุตฺตํ. ตตฺถ ภูมิโชติ อยํ เถโร ชยเสนราชกุมารสฺส มาตุโล. อาสฺจ อนาสฺจาติ กาเลน อาสํ กาเลน อนาสํ. สเกน ¶ ถาลิปาเกนาติ ปกติปวตฺตาย ภิกฺขาย อตฺตโน นิฏฺิตภตฺตโตปิ ภตฺเตน ปริวิสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ภูมิชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา
๒๓๐. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อนุรุทฺธสุตฺตํ. ตตฺถ เอวมาหํสูติ ตสฺส อุปาสกสฺส อผาสุกกาโล อโหสิ, ตทา อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ. อปณฺณกนฺติ อวิราธิตํ. เอกตฺถาติ อปฺปมาณาติ วา มหคฺคตาติ วา ฌานเมว จิตฺเตกคฺคตาเยว เอวํ วุจฺจตีติ อิมํ สนฺธาย เอวมาห.
๒๓๑. ยาวตา ¶ เอกํ รุกฺขมูลํ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรตีติ เอกรุกฺขมูลปมาณฏฺานํ กสิณนิมิตฺเตน โอตฺถริตฺวา ตสฺมึ กสิณนิมิตฺเต มหคฺคตชฺฌานํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. มหคฺคตนฺติ ปนสฺส อาโภโค นตฺถิ, เกวลํ มหคฺคตชฺฌานปวตฺติวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิมินา โข เอตํ คหปติ ปริยาเยนาติ อิมินา การเณน. เอตฺถ หิ อปฺปมาณาติ วุตฺตานํ พฺรหฺมวิหารานํ นิมิตฺตํ น วฑฺฒติ, อุคฺฆาฏนํ น ชายติ, ตานิ ฌานานิ อภิฺานํ วา นิโรธสฺส วา ปาทกานิ น โหนฺติ, วิปสฺสนาปาทกานิ ปน วฏฺฏปาทกานิ ภโวกฺกมนานิ จ โหนฺติ. ‘‘มหคฺคตา’’ติ วุตฺตานํ ปน กสิณชฺฌานานํ นิมิตฺตํ วฑฺฒติ, อุคฺฆาฏนํ ชายติ, สมติกฺกมา โหนฺติ, อภิฺาปาทกานิ ¶ นิโรธปาทกานิ วฏฺฏปาทกานิ ภโวกฺกมนานิ จ โหนฺติ. เอวมิเม ธมฺมา นานตฺถา, อปฺปมาณา มหคฺคตาติ เอวํ นานาพฺยฺชนา จ.
๒๓๒. อิทานิ มหคฺคตสมาปตฺติโต นีหริตฺวา ภวูปปตฺติการณํ ทสฺเสนฺโต จตสฺโส โข อิมาติอาทิมาห. ปริตฺตาภาติ ผริตฺวา ชานนฺตสฺส อยมาโภโค อตฺถิ, ปริตฺตาเภสุ ปน เทเวสุ นิพฺพตฺติการณํ ฌานํ ภาเวนฺโต เอวํ วุตฺโต. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปริตฺตาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา, อปฺปมาณาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา. กถํ? สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฺจหากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโว ปจฺจนีกธมฺมานํ สุฏฺุ อปริโสธิตตฺตา ทุพฺพลเมว สมาปตฺตึ วฬฺชิตฺวา อปฺปคุณชฺฌาเน ิโต กาลํ กตฺวา ปริตฺตาเภสุ นิพฺพตฺตติ, วณฺโณ ปนสฺส ปริตฺโต เจว โหติ สํกิลิฏฺโ จ. ปฺจหิ ปนากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโว ปจฺจนีกธมฺมานํ สุฏฺุ ปริโสธิตตฺตา สุวิสุทฺธํ สมาปตฺตึ วฬฺชิตฺวา ปคุณชฺฌาเน ิโต กาลํ กตฺวา ปริตฺตาเภสุ นิพฺพตฺตติ, วณฺโณ ¶ ปนสฺส ปริตฺโต เจว โหติ ปริสุทฺโธ จ. เอวํ ปริตฺตาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภา. กสิเณ ปน วิปุลปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฺจหากาเรหิ อาจิณฺณวสิภาโวติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว เวทิตพฺพํ. เอวํ อปฺปมาณาภา สิยา สํกิลิฏฺาภา โหนฺติ สิยา ปริสุทฺธาภาติ.
วณฺณนานตฺตนฺติ ¶ สรีรวณฺณสฺส นานตฺตํ. โน จ อาภานานตฺตนฺติ อาโลเก นานตฺตํ น ปฺายติ. อจฺจินานตฺตนฺติ ¶ ทีฆรสฺสอณุถูลวเสน อจฺจิยา นานตฺตํ.
ยตฺถ ยตฺถาติ อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขนทีตีรโปกฺขรณีตีเรสุ ยตฺถ ยตฺถ. อภินิวิสนฺตีติ วสนฺติ. อภิรมนฺตีติ รมนฺติ น อุกฺกณฺนฺติ. กาเชนาติ ยาคุภตฺตเตลผาณิตมจฺฉมํสกาเชสุ เยน เกนจิ กาเชน. ‘‘กาเจนาติ’’ปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. ปิฏเกนาติ ปจฺฉิยา. ตตฺถ ตตฺเถวาติ สปฺปิมธุผาณิตาทีนํ สุลภฏฺานโต โลณปูติมจฺฉาทีนํ อุสฺสนฺนฏฺานํ นีตา ‘‘ปุพฺเพ อมฺหากํ วสนฏฺานํ ผาสุกํ, ตตฺถ สุขํ วสิมฺหา, อิธ โลณํ วา โน พาธติ ปูติมจฺฉคนฺโธ วา สีสโรคํ อุปฺปาเทตี’’ติ เอวํ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว รมนฺติ.
๒๓๔. อาภาติ อาภาสมฺปนฺนา. ตทงฺเคนาติ ตสฺสา ภวูปปตฺติยา องฺเคน, ภวูปปตฺติการเณนาติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ การณํ ปุจฺฉนฺโต โก นุ โข, ภนฺเตติอาทิมาห.
กายทุฏฺุลฺลนฺติ กายาลสิยภาโว. ฌายโตติ ชลโต.
๒๓๕. ทีฆรตฺตํ โข เมติ เถโร กิร ปารมิโย ปูเรนฺโต อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา นิรนฺตรํ ตีณิ อตฺตภาวสตานิ พฺรหฺมโลเก ปฏิลภิ, ตํ สนฺธาเยตํ อาห. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อโวกิณฺณํ ¶ ตีณิ สตํ, ยํ ปพฺพชึ อิสิปพฺพชฺชํ;
อสงฺขตํ คเวสนฺโต, ปุพฺเพ สฺจริตํ มม’’นฺติ.
เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา
๒๓๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อุปกฺกิเลสสุตฺตํ. ตตฺถ เอตทโวจาติ เนว เภทาธิปฺปาเยน น ปิยกมฺยตาย, อถ ขฺวาสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู ¶ มม วจนํ คเหตฺวา น โอรมิสฺสนฺติ, พุทฺธา จ นาม หิตานุกมฺปกา, อทฺธา เนสํ ภควา เอกํ การณํ กเถสฺสติ, ตํ สุตฺวา เอเต โอรมิสฺสนฺติ, ตโต เตสํ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอตํ ‘‘อิธ, ภนฺเต’’ติอาทิวจนมโวจ. มา ภณฺฑนนฺติอาทีสุ ‘‘อกตฺถา’’ติ ปาเสสํ คเหตฺวา ‘‘มา ภณฺฑนํ อกตฺถา’’ติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฺตโรติ โส กิร ภิกฺขุ ภควโต อตฺถกาโม, อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – ‘‘อิเม ภิกฺขู โกธาภิภูตา สตฺถุ วจนํ น คณฺหนฺติ, มา ภควา เอเต โอวทนฺโต กิลมี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห.
ปิณฺฑาย ปาวิสีติ น เกวลํ ปาวิสิ, เยนปิ ชเนน น ทิฏฺโ, โส มํ ปสฺสตูติปิ อธิฏฺาสิ. กิมตฺถํ อธิฏฺาสีติ? เตสํ ภิกฺขูนํ ทมนตฺถํ. ภควา หิ ตทา ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต ‘‘ปุถุสทฺโท สมชโน’’ติอาทิคาถา ภาสิตฺวา โกสมฺพิโต พาลกโลณการคามํ คโต. ตโต ปาจีนวํสทายํ, ตโต ปาลิเลยฺยกวนสณฺฑํ คนฺตฺวา ปาลิเลยฺยหตฺถินาเคน อุปฏฺหิยมาโน เตมาสํ วสิ. นครวาสิโนปิ – ‘‘สตฺถา วิหารํ คโต, คจฺฉาม ธมฺมสฺสวนายา’’ติ คนฺธปุปฺผหตฺถา วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘กหํ, ภนฺเต, สตฺถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘กหํ ตุมฺเห สตฺถารํ ทกฺขถ, สตฺถา ‘อิเม ภิกฺขู สมคฺเค ¶ กริสฺสามี’ติ อาคโต, สมคฺเค กาตุํ อสกฺโกนฺโต นิกฺขมิตฺวา คโต’’ติ. ‘‘มยํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทตฺวา สตฺถารํ อาเนตุํ น สกฺโกม, โส โน อยาจิโต สยเมว อาคโต, มยํ อิเม ภิกฺขู นิสฺสาย สตฺถุ สมฺมุขา ธมฺมกถํ โสตุํ น ลภิมฺหา. อิเม สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตา, ตสฺมิมฺปิ สามคฺคึ กโรนฺเต สมคฺคา น ชาตา, กสฺสาฺสฺส วจนํ กริสฺสนฺติ. อลํ น อิเมสํ ภิกฺขา ทาตพฺพา’’ติ สกลนคเร ทณฺฑํ ปยึสุ. เต ปุนทิวเส สกลนครํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ภิกฺขํ อลภิตฺวา วิหารํ อาคมํสุ. อุปาสกาปิ เต ปุน อาหํสุ – ‘‘ยาว สตฺถารํ น ขมาเปถ, ตาว โว ตเมว ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. เต ‘‘สตฺถารํ ขมาเปสฺสามา’’ติ ภควติ สาวตฺถิยํ อนุปฺปตฺเต ¶ ตตฺถ อคมํสุ. สตฺถา เตสํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ เทเสสีติ อยเมตฺถ ปาฬิมุตฺตกกถา.
๒๓๗. อิทานิ ปุถุสทฺโทติอาทิคาถาสุ ปุถุ มหาสทฺโท อสฺสาติ ปุถุสทฺโท. สมชโนติ สมาโน เอกสทิโส ชโน, สพฺโพวายํ ภณฺฑนการกชโน ¶ สมนฺตโต สทฺทนิจฺฉรเณน ปุถุสทฺโท เจว สทิโส จาติ วุตฺตํ โหติ. น พาโล โกจิ มฺถาติ ตตฺร โกจิ เอโกปิ อหํ พาโลติ น มฺติ, สพฺเพปิ ปณฺฑิตมานิโนเยว. นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุนฺติ โกจิ เอโกปิ อหํ พาโลติ น จ มฺิ, ภิยฺโย จ สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมาเน อฺมฺปิ เอกํ ‘‘มยฺหํ การณา สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติ อิทํ การณํ น มฺีติ อตฺโถ.
ปริมุฏฺาติ มุฏฺสฺสติโน. วาจาโคจรภาณิโนติ ราการสฺส รสฺสาเทโส กโต; วาจาโคจราว ¶ , น สติปฏฺานโคจรา, ภาณิโน จ, กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, ยาว มุขํ ปสาเรตุํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา ภาณิโน, เอโกปิ สงฺฆคารเวน มุขสงฺโกจนํ น กโรตีติ อตฺโถ. เยน นีตาติ เยน กลเหน อิมํ นิลฺลชฺชภาวํ นีตา. น ตํ วิทู น ตํ ชานนฺติ ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ.
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ ตํ อกฺโกจฺฉิ มนฺติอาทิกํ อาการํ เย อุปนยฺหนฺติ. สนนฺตโนติ โปราโณ.
ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ ภณฺฑนการกา ปเร นาม. เต เอตฺถ สงฺฆมชฺเฌ กลหํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปยมาม นสฺสาม สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย จ ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุโน สมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ.
อฏฺิจฺฉินฺนาติ อยํ คาถา ชาตเก (ชา. ๑.๙.๑๖) อาคตา, พฺรหฺมทตฺตฺจ ทีฆาวุกุมารฺจ สนฺธาย ¶ วุตฺตา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เตสมฺปิ ตถา ปวตฺตเวรานํ โหติ สงฺคติ, กสฺมา ¶ ตุมฺหากํ น โหติ, เยสํ โว เนว มาตาปิตูนํ อฏฺีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หฏา น ควาสฺสธนานิ หฏานีติ.
สเจ ¶ ลเภถาติอาทิคาถา ปณฺฑิตสหายสฺส จ พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตา. อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ ปากฏปริสฺสเย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตมโน สติมา จเรยฺยาติ.
ราชาว รฏฺํ วิชิตนฺติ ยถา อตฺตโน วิชิตรฏฺํ มหาชนกราชา จ อรินฺทมมหาราชา จ ปหาย เอกกา วิจรึสุ, เอวํ วิจเรยฺยาติ อตฺโถ. มาตงฺครฺเว นาโคติ มาตงฺโค อรฺเ นาโคว. มาตงฺโคติ หตฺถิ วุจฺจติ. นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมตํ. ยถา หิ มาตุโปสโก มาตงฺคนาโค อรฺเ เอโก จริ, น จ ปาปานิ อกาสิ, ยถา จ ปาลิเลยฺยโก, เอวํ เอโก จเร, น จ ปาปานิ กยิราติ วุตฺตํ โหติ.
๒๓๘. พาลกโลณการคาโมติ อุปาลิคหปติสฺส โภคคาโม. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? คเณ กิรสฺส อาทีนวํ ทิสฺวา เอกวิหารึ ภิกฺขุํ ปสฺสิตุกามตา อุทปาทิ, ตสฺมา สีตาทีหิ ปีฬิโต อุณฺหาทีนิ ปตฺถยมาโน วิย อุปสงฺกมิ. ธมฺมิยา กถายาติ เอกีภาเว อานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตาย. เยน ¶ ปาจีนวํสทาโย, ตตฺถ กสฺมา อุปสงฺกมิ? กลหการเก กิรสฺส ทิฏฺาทีนวตฺตา สมคฺควาสิโน ภิกฺขู ปสฺสิตุกามตา อุทปาทิ, ตสฺมา สีตาทีหิ ปีฬิโต อุณฺหาทีนิ ปตฺถยมาโน วิย ตตฺถ อุปสงฺกมิ. อายสฺมา จ อนุรุทฺโธติอาทิ วุตฺตนยเมว.
๒๔๑. อตฺถิ ปน โวติ ปจฺฉิมปุจฺฉาย โลกุตฺตรธมฺมํ ปุจฺเฉยฺย. โส ปน เถรานํ นตฺถิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉิตุํ น ยุตฺตนฺติ ปริกมฺโมภาสํ ปุจฺฉติ. โอภาสฺเจว สฺชานามาติ ปริกมฺโมภาสํ สฺชานาม. ทสฺสนฺจ รูปานนฺติ ทิพฺพจกฺขุนา รูปทสฺสนฺจ สฺชานาม. ตฺจ นิมิตฺตํ นปฺปฏิวิชฺฌามาติ ตฺจ การณํ น ชานาม, เยน โน โอภาโส จ รูปทสฺสนฺจ อนฺตรธายติ.
ตํ โข ปน โว อนุรุทฺธา นิมิตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพนฺติ ตํ โว การณํ ชานิตพฺพํ. อหมฺปิ สุทนฺติ อนุรุทฺธา ตุมฺเห กึ น อาฬุเลสฺสนฺติ, อหมฺปิ อิเมหิ เอกาทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ ¶ อาฬุลิตปุพฺโพติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ ¶ อารภิ. วิจิกิจฺฉา โข เมติอาทีสุ มหาสตฺตสฺส อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ทิสฺวา ‘‘อิทํ โข กิ’’นฺติ วิจิกิจฺฉา อุทปาทิ. สมาธิ จวีติ ปริกมฺมสมาธิ จวิ. โอภาโสติ ปริกมฺโมภาโสปิ อนฺตรธายิ, ทิพฺพจกฺขุนาปิ รูปํ น ปสฺสิ. อมนสิกาโรติ รูปานิ ปสฺสโต วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, อิทานิ กิฺจิ น มนสิกริสฺสามีติ อมนสิกาโร อุทปาทิ.
ถินมิทฺธนฺติ ¶ กิฺจิ อมนสิกโรนฺตสฺส ถินมิทฺธํ อุทปาทิ.
ฉมฺภิตตฺตนฺติ หิมวนฺตาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทานวรกฺขสอชคราทโย อทฺทส, อถสฺส ฉมฺภิตตฺตํ อุทปาทิ.
อุปฺปิลนฺติ ‘‘มยา ทิฏฺภยํ ปกติยา โอโลกิยมานํ นตฺถิ. อทิฏฺเ กึ นาม ภย’’นฺติ จินฺตยโต อุปฺปิลาวิตตฺตํ อุทปาทิ. สกิเทวาติ เอกปโยเคเนว ปฺจ นิธิกุมฺภิโยปิ ปสฺเสยฺย.
ทุฏฺุลฺลนฺติ มยา วีริยํ คาฬฺหํ ปคฺคหิตํ, เตน เม อุปฺปิลํ อุปฺปนฺนนฺติ วีริยํ สิถิลมกาสิ, ตโต กายทรโถ กายทุฏฺุลฺลํ กายาลสิยํ อุทปาทิ.
อจฺจารทฺธวีริยนฺติ มม วีริยํ สิถิลํ กโรโต ทุฏฺุลฺลํ อุปฺปนฺนนฺติ ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อจฺจารทฺธวีริยํ อุทปาทิ. ปตเมยฺยาติ มเรยฺย.
อติลีนวีริยนฺติ มม วีริยํ ปคฺคณฺหโต เอวํ ชาตนฺติ ปุน วีริยํ สิถิลํ กโรโต อติลีนวีริยํ อุทปาทิ.
อภิชปฺปาติ เทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เทวสงฺฆํ ปสฺสโต ตณฺหา อุทปาทิ.
นานตฺตสฺาติ มยฺหํ เอกชาติกํ รูปํ มนสิกโรนฺตสฺส อภิชปฺปา อุปฺปนฺนา, นานาวิธรูปํ ¶ มนสิ กริสฺสามีติ กาเลน เทวโลกาภิมุขํ กาเลน มนุสฺสโลกาภิมุขํ วฑฺเฒตฺวา นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรโต นานตฺตสฺา อุทปาทิ.
อตินิชฺฌายิตตฺตนฺติ มยฺหํ นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรนฺตสฺส นานตฺตสฺา อุทปาทิ, อิฏฺํ วา อนิฏฺํ ¶ วา เอกชาติกเมว มนสิ กริสฺสามีติ ตถา มนสิกโรโต อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ อุทปาทิ.
๒๔๓. โอภาสนิมิตฺตํ ¶ มนสิ กโรมีติ ปริกมฺโมภาสเมว มนสิ กโรมิ. น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามิ. รูปนิมิตฺตํ มนสิ กโรมีติ ทิพฺพจกฺขุนา วิสยรูปเมว มนสิ กโรมิ.
ปริตฺตฺเจว โอภาสนฺติ ปริตฺตกฏฺาเน โอภาสํ. ปริตฺตานิ จ รูปานีติ ปริตฺตกฏฺาเน รูปานิ. วิปริยาเยน ทุติยวาโร เวทิตพฺโพ. ปริตฺโต สมาธีติ ปริตฺตโก ปริกมฺโมภาโส, โอภาสปริตฺตตฺหิ สนฺธาย อิธ ปริกมฺมสมาธิ ‘‘ปริตฺโต’’ติ วุตฺโต. ปริตฺตํ เม ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ สมเย ทิพฺพจกฺขุปิ ปริตฺตกํ โหติ. อปฺปมาณวาเรปิ เอเสว นโย.
๒๔๕. อวิตกฺกมฺปิ วิจารมตฺตนฺติ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธึ. อวิตกฺกมฺปิ อวิจารนฺติ จตุกฺกนเยปิ ปฺจกนเยปิ ฌานตฺตยสมาธึ. สปฺปีติกนฺติ ทุกติกชฺฌานสมาธึ. นิปฺปีติกนฺติ ทุกชฺฌานสมาธึ. สาตสหคตนฺติ ติกจตุกฺกชฺฌานสมาธึ. อุเปกฺขาสหคตนฺติ จตุกฺกนเย จตุตฺถชฺฌานสมาธึ ปฺจกนเย ปฺจมชฺฌานสมาธึ.
กทา ปน ภควา อิมํ ติวิธํ สมาธึ ภาเวติ? มหาโพธิมูเล นิสินฺโน ปจฺฉิมยาเม. ภควโต หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก อโหสิ, ทุติยาทโย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานิกา ¶ . ปฺจกนเย ปฺจมชฺฌานสฺส มคฺโค นตฺถีติ โส โลกิโย อโหสีติ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อุปกฺกิเลสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา
๒๔๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ พาลปณฺฑิตสุตฺตํ. ตตฺถ พาลลกฺขณานีติ พาโล อยนฺติ เอเตหิ ลกฺขิยติ ายตีติ พาลลกฺขณานิ. ตาเนว ตสฺส สฺชานนการณานีติ พาลนิมิตฺตานิ. พาลสฺส อปทานานีติ พาลาปทานานิ ¶ . ทุจฺจินฺติตจินฺตีติ จินฺตยนฺโต อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนวเสน ทุจฺจินฺติตเมว จินฺเตติ. ทุพฺภาสิตภาสีติ ภาสมาโนปิ มุสาวาทาทิเภทํ ทุพฺภาสิตเมว ภาสติ. ทุกฺกฏกมฺมการีติ กโรนฺโตปิ ปาณาติปาตาทิวเสน ทุกฺกฏกมฺมเมว กโรติ. ตตฺร เจติ ยตฺถ นิสินฺโน, ตสฺสํ ปริสติ. ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปนฺติ ตชฺชาติกํ ตทนุจฺฉวิกํ, ปฺจนฺนํ เวรานํ ทิฏฺธมฺมกสมฺปรายิกอาทีนวปฺปฏิสํยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺราติ ¶ ตาย กถาย กจฺฉมานาย. พาลนฺติอาทีนิ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ.
๒๔๘. โอลมฺพนฺตีติ อุปฏฺหนฺติ. เสสปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ, โอลมฺพนาทิอากาเรน หิ ตานิ อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ปถวิยา โอลมฺพนฺตีติ ปถวิตเล ปตฺถรนฺติ. เสสปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ. ปตฺถรณากาโรเยว เหส. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺสาติ ตสฺมึ อุปฏฺานากาเร อาปาถคเต พาลสฺส เอวํ โหติ.
๒๔๙. เอตทโวจาติ อนุสนฺธิกุสโล ภิกฺขุ ‘‘นิรยสฺส อุปมา กาตุํ น สกฺกา’’ติ น ภควา วทติ, ‘‘น สุกรา’’ติ ปน วทติ, น สุกรํ ปน สกฺกา โหติ กาตุํ, หนฺทาหํ ทสพลํ อุปมํ การาเปมีติ จินฺเตตฺวา เอตํ ‘‘สกฺกา, ภนฺเต’’ติ วจนํ อโวจ. หเนยฺยุนฺติ วินิวิชฺฌิตฺวา คมนวเสน ยถา เอกสฺมึ าเน ทฺเว ปหารา นิปตนฺติ, เอวํ หเนยฺยุํ. เตนสฺส ทฺเว วณมุขสตานิ โหนฺติ. อิโต อุตฺตริปิ เอเสว นโย.
๒๕๐. ปาณิมตฺตนฺติ อนฺโตมุฏฺิยํ ปนมตฺตํ. สงฺขมฺปิ น อุเปตีติ คณนมตฺตมฺปิ น คจฺฉติ. กลภาคมฺปีติ สติมํ กลํ สหสฺสิมํ กลํ สตสหสฺสิมํ วา กลํ อุปคจฺฉตีติปิ วตฺตพฺพตํ น อุเปติ. อุปนิธมฺปีติ อุปนิกฺเขปนมตฺตมฺปิ น อุเปติ, โอโลเกนฺตสฺส โอโลกิตมตฺตมฺปิ ¶ นตฺถิ. ตตฺตํ ¶ อโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ตสฺส ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา, เอวํ อุเรนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ วามปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว. สํเวเสตฺวาติ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหสฺส เอกปกฺขฉทนมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺฉนฺติ. โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหนฺติ. มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตจฺฉนฺตา ¶ ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารู วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปมาณาหิ วาสีหิ. ตาหิ ตจฺฉนฺตา ตจโต ยาว อฏฺีนิ สณิกํ ตจฺฉนฺติ, ตจฺฉิตํ ตจฺฉิตํ ปฏิปากติกํ โหติ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตปฺจรจกฺกกุพฺพรปาจเนหิ สพฺพโต สมฺปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิ ¶ อุทฺธนฺติ สุปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลา วิย อุทฺธํ อโธ ติริยฺจ คจฺฉติ.
ภาคโส มิโตติ ภาเค เปตฺวา เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ อยปฏฺเฏน ฉาทิโต.
สมนฺตา โยชนสตํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา สมนฺตา โยชนสเต าเน ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ.
น สุกรา อกฺขาเนน ปาปุณิตุนฺติ นิรโย นาม เอวมฺปิ ทุกฺโข เอวมฺปิ ทุกฺโขติ วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ กเถนฺเตนาปิ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กเถตุํ น สุกราติ อตฺโถ.
๒๕๑. ทนฺตุลฺเลหกนฺติ ทนฺเตหิ อุลฺเลหิตฺวา, ลฺุจิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. รสาโทติ รสเคเธน ปริภุตฺตรโส.
๒๕๒. อฺมฺขาทิกาติ อฺมฺขาทนํ.
ทุพฺพณฺโณติ ¶ ทุรูโป. ทุทฺทสิโกติ ทารกานํ ภยาปนตฺถํ กตยกฺโข วิย ทุทฺทโส. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก ปวิฏฺคีโว มโหทโร. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ปกฺขหโตติ ปีสปฺปี. โส ¶ กาเยนาติ อิทมสฺส ทุกฺขานุปพนฺธทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ.
กลิคฺคเหนาติ ปราชเยน. อธิพนฺธํ นิคจฺเฉยฺยาติ ยสฺมา พหุํ ชิโต สพฺพสาปเตยฺยมฺปิสฺส นปฺปโหติ, ตสฺมา อตฺตนาปิ พนฺธํ นิคจฺเฉยฺย. เกวลา ปริปูรา พาลภูมีติ พาโล ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา ¶ นิรเย นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ ปกฺกาวเสเสน มนุสฺสตฺตํ อาคโต ปฺจสุ นีจกุเลสุ นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตตีติ อยํ สกลา ปริปุณฺณา พาลภูมิ.
๒๕๓. ปณฺฑิตลกฺขณานีติอาทิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. สุจินฺติตจินฺตีติอาทีนิ เจตฺถ มโนสุจริตาทีนํ วเสน โยเชตพฺพานิ.
จกฺกรตนวณฺณนา
๒๕๖. สีสํ นฺหาตสฺสาติ สีเสน สทฺธึ คนฺโธทเกน นฺหาตสฺส. อุโปสถิกสฺสาติ สมาทินฺนอุโปสถงฺคสฺส. อุปริปาสาทวรคตสฺสาติ ปาสาทวรสฺส อุปริ คตสฺส สุโภชนํ ภฺุชิตฺวา ปาสาทวรสฺส อุปริ มหาตเล สิรีคพฺภํ ปวิสิตฺวา สีลานิ อาวชฺชนฺตสฺส. ตทา กิร ราชา ปาโตว สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปุนปิ โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ สีสํ นฺหายิตฺวา กตปาตราโส สุทฺธํ อุตฺตราสงฺคํ เอกํสํ กตฺวา อุปริปาสาทสฺส สิรีสยเน ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน อตฺตโน ทานมยปฺุสมุทยํ อาวชฺเชตฺวา นิสีทติ, อยํ สพฺพจกฺกวตฺตีนํ ธมฺมตา ¶ .
เตสํ ตํ อาวชฺชนฺตานํเยว วุตฺตปฺปการปฺุกมฺมปจฺจยํ อุตุสมุฏฺานํ นีลมณิสงฺฆาฏสทิสํ ปาจีนสมุทฺทชลตลํ ฉินฺทมานํ วิย อากาสํ อลงฺกุรุมานํ วิย ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ. ตยิทํ ทิพฺพานุภาวยุตฺตตฺตา ทิพฺพนฺติ วุตฺตํ. สหสฺสํ อสฺส อรานนฺติ สหสฺสารํ. สห ¶ เนมิยา สห นาภิยา จาติ สเนมิกํ สนาภิกํ. สพฺเพหิ อากาเรหิ ปริปูรนฺติ สพฺพาการปริปูรํ.
ตตฺถ จกฺกฺจ ตํ รติชนนฏฺเน รตนฺจาติ จกฺกรตนํ. ยาย ปน ตํ นาภิยา ‘‘สนาภิก’’นฺติ วุตฺตํ, สา อินฺทนีลมณิมยา โหติ. มชฺเฌ ปนสฺสา รชตมยา ปนาฬิ, ยาย สุทฺธสินิทฺธทนฺตปนฺติยา หสมานํ วิย วิโรจติ. มชฺเฌ ฉิทฺเทน วิย จนฺทมณฺฑเลน อุโภสุปิ พาหิรนฺเตสุ รชตปฏฺเฏน กตปริกฺเขโป โหติ. เตสุ ปนสฺสา นาภิปนาฬิ ปริกฺเขปปฏฺเฏสุ ยุตฺตฏฺาเน ปริจฺเฉทเลขา สุวิภตฺตาว หุตฺวา ปฺายนฺติ. อยํ ตาวสฺส นาภิยา สพฺพาการปริปูรตา.
เยหิ ¶ ปน ตํ อเรหิ ‘‘สหสฺสาร’’นฺติ วุตฺตํ, เต สตฺตรตนมยา สูริยรสฺมิโย วิย ปภาสมฺปนฺนา โหนฺติ. เตสมฺปิ ฆฏมณิกปริจฺเฉทเลขาทีนิ สุวิภตฺตาเนว ปฺายนฺติ. อยมสฺส อรานํ สพฺพาการปริปูรตา.
ยาย ปน ตํ เนมิยา สห ‘‘สเนมิก’’นฺติ วุตฺตํ, สา พาลสูริยรสฺมิกลาปสิรึ ¶ อวหสมานา วิย สุรตฺตสุทฺธสินิทฺธปวาฬมยา โหติ. สนฺธีสุ ปนสฺสา สฺฌาราคสสฺสิริกรตฺตชมฺโพนทปฏฺฏา วฏฺฏปริจฺเฉทเลขา จ สุวิภตฺตา ปฺายนฺติ. อยมสฺส เนมิยา สพฺพาการปริปูรตา.
เนมิมณฺฑลปิฏฺิยํ ปนสฺส ทสนฺนํ ทสนฺนํ อรานมนฺตเร ธมนวํโส วิย อนฺโตสุสิโร ฉิทฺทมณฺฑลจิตฺโต วาตคาหี ปวาฬทณฺโฑ โหติ, ยสฺส วาเตน ปหริตสฺส สุกุสลสมนฺนาหตสฺส ปฺจงฺคิกตูริยสฺส วิย สทฺโท วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ โหติ. ตสฺส โข ปน ปวาฬทณฺฑสฺส อุปริ เสตจฺฉตฺตํ, อุโภสุ ปสฺเสสุ สโมสริตกุสุมทามปนฺติโยติ เอวํ สโมสริตกุสุมทามปนฺติสตทฺวยปริวาเรน เสตจฺฉตฺตสตธารินา ปวาฬทณฺฑสเตน สมุปโสภิตเนมิปริกฺเขปสฺส ทฺวินฺนมฺปิ นาภิปนาฬีนํ อนฺโต ทฺเว สีหมุขานิ โหนฺติ, เยหิ ตาลกฺขนฺธปฺปมาณา ปุณฺณจนฺทกิรณกลาปสสฺสิริกา ตรุณรวิสมานรตฺตกมฺพลเคณฺฑุกปริยนฺตา อากาสคงฺคาคติโสภํ อภิภวมานา วิย ทฺเว มุตฺตกลาปา โอลมฺพนฺติ, เยหิ จกฺกรตเนน สทฺธึ ¶ อากาเส สมฺปริวตฺตมาเนหิ ตีณิ จกฺกานิ เอกโต ปริวตฺตนฺตานิ วิย ขายนฺติ. อยมสฺส สพฺพโส สพฺพาการปริปูรตา.
ตํ ปเนตํ เอวํ สพฺพาการปริปูรํ ปกติยา สายมาสภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฆรทฺวาเร ปฺตฺตาสเนสุ ¶ นิสีทิตฺวา ปวตฺตกถาสลฺลาเปสุ มนุสฺเสสุ วีถิจตุกฺกาทีสุ กีฬมาเน ทารกชเน นาติอุจฺเจน นาตินีเจน วนสณฺฑมตฺถกาสนฺเนน อากาสปฺปเทเสน อุปโสภยมานํ วิย รุกฺขสาขคฺคานิ, ทฺวาทสโยชนโต ปฏฺาย สุยฺยมาเนน มธุรสฺสเรน สตฺตานํ โสตานิ โอธาปยมานํ โยชนโต ปฏฺาย นานปฺปภาสมุทยสมุชฺชเลน วณฺเณน นยนานิ สมากฑฺฒนฺตํ ¶ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฺุานุภาวํ อุคฺโฆสยนฺตํ วิย ราชธานิอภิมุขํ อาคจฺฉติ.
อถ ตสฺส จกฺกรตนสฺส สทฺทสฺสวเนเนว ‘‘กุโต นุ โข, กสฺส นุ โข อยํ สทฺโท’’ติ อาวชฺชิตหทยานํ ปุรตฺถิมทิสํ โอโลกยมานานํ เตสํ มนุสฺสานํ อฺตโร อฺตรํ เอวมาห – ‘‘ปสฺส โภ อจฺฉริยํ, อยํ ปุณฺณจนฺโท ปุพฺเพ เอโก อุคฺคจฺฉติ, อชฺช ปน อตฺตทุติโย อุคฺคโต, เอตฺหิ ราชหํสมิถุนํ วิย ปุณฺณจนฺทมิถุนํ ปุพฺพาปริเยน คคนตลํ อภิลงฺฆตี’’ติ. ตมฺโ อาห – ‘‘กึ กเถสิ สมฺม กหํ นาม ตยา ทฺเว ปุณฺณจนฺทา เอกโต อุคฺคจฺฉนฺตา ทิฏฺปุพฺพา, นนุ เอส ตปนียรํสิธาโร ปิฺฉรกิรโณ ทิวากโร อุคฺคโต’’ติ. ตมฺโ สิตํ กตฺวา เอวมาห – ‘‘กึ อุมฺมตฺโตสิ, นนุ โข อิทานิเมว ทิวากโร อตฺถงฺคโต, โส กถํ อิมํ ปุณฺณจนฺทํ อนุพนฺธมาโน อุคฺคจฺฉิสฺสติ, อทฺธา ปเนตํ อเนกรตนปฺปภาสมุชฺชลํ เอกสฺส ปฺุวโต วิมานํ ภวิสฺสตี’’ติ. เต สพฺเพปิ อปสาทยนฺตา อฺเ เอวมาหํสุ – ‘‘กึ พหุํ วิปฺปลปถ, เนเวส ปุณฺณจนฺโท, น สูริโย น เทววิมานํ. น เหเตสํ เอวรูปา ¶ สิริสมฺปตฺติ อตฺถิ, จกฺกรตเนน ปเนเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ.
เอวํ ปวตฺตสลฺลาปสฺเสว ตสฺส ชนสฺส จนฺทมณฺฑลํ โอหาย ตํ จกฺกรตนํ อภิมุขํ โหติ. ตโต เตหิ ‘‘กสฺส นุ โข อิทํ นิพฺพตฺต’’นฺติ วุตฺเต ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘‘น กสฺสจิ อฺสฺส, นนุ อมฺหากํ ราชา ปูริตจกฺกวตฺติวตฺโต, ตสฺเสตํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. อถ โส จ มหาชโน, โย จ อฺโ ปสฺสติ, สพฺโพ จกฺกรตนเมว อนุคจฺฉติ. ตมฺปิ จกฺกรตนํ รฺโเยว อตฺถาย อตฺตโน อาคตภาวํ าเปตุกามํ วิย สตฺตกฺขตฺตุํ ปาการมตฺถเกเนว นครํ อนุสํยายิตฺวา ¶ รฺโ อนฺเตปุรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อนฺเตปุรสฺส อุตฺตรสีหปฺชรอาสนฺเน าเน ยถา คนฺธปุปฺผาทีหิ สุเขน สกฺกา โหติ ปูเชตุํ, เอวํ อกฺขาหตํ วิย ติฏฺติ.
เอวํ ิตสฺส ปนสฺส วาตปานจฺฉิทฺทาทีหิ ปวิสิตฺวา นานาวิราครตนปฺปภาสมุชฺชลํ อนฺโต ปาสาทํ อลงฺกุรุมานํ ปภาสมูหํ ทิสฺวา ทสฺสนตฺถาย สฺชาตาภิลาโส ราชา โหติ. ปริชโนปิสฺส ปิยวจนปาภเตน อาคนฺตฺวา ตมตฺถํ นิเวเทติ. อถ ราชา พลวปีติปาโมชฺชผุฏสรีโร ปลฺลงฺกํ ¶ โมเจตฺวา อุฏฺายาสนา สีหปฺชรสมีปํ คนฺตฺวา ตํ จกฺกรตนํ ทิสฺวา ‘‘สุตํ โข ปน เมต’’นฺติอาทิกํ จินฺตนํ จินฺเตสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทิสฺวาน รฺโ ขตฺติยสฺส…เป… อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ. ตตฺถ โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตีติ กิตฺตาวตา จกฺกวตฺตี โหติ? เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ จกฺกรตเน อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปวตฺเต.
อิทานิ ตสฺส ปวตฺตาปนตฺถํ ยํ กาตพฺพํ ตํ ทสฺเสนฺโต อถ โข, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ อุฏฺายาสนาติ นิสินฺนาสนโต อุฏฺหิตฺวา จกฺกรตนสมีปํ อาคนฺตฺวา. ภิงฺการํ คเหตฺวาติ หตฺถิโสณฺฑสทิสปนาฬึ สุวณฺณภิงฺการํ อุกฺขิปิตฺวา วามหตฺเถน อุทกํ คเหตฺวา. ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตนนฺติ. อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายาติ สพฺพจกฺกวตฺตีนฺหิ อุทเกน อภิสิฺจิตฺวา ‘‘อภิวิชานาตุ ภวํ จกฺกรตน’’นฺติ วจนสมนนฺตรเมว เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา จกฺกรตนํ ปวตฺตติ, ยสฺส ปวตฺติสมกาลเมว โส ราชา จกฺกวตฺตี นาม โหติ.
ปวตฺเต ปน จกฺกรตเน ตํ อนุพนฺธมาโนว ราชา จกฺกวตฺตี ยานวรํ อารุยฺห เวหาสํ อพฺภุคฺคจฺฉติ, อถสฺส ฉตฺตจามราทิหตฺโถ ปริชโน เจว อนฺเตปุรชโน จ. ตโต นานปฺปการกฺจุกกวจาทิสนฺนาหวิภูสิเตน วิวิธาหรณปฺปภาสมุชฺชลิเตน สมุสฺสิตทฺธชปฏากปฏิมณฺฑิเตน อตฺตโน อตฺตโน พลกาเยน สทฺธึ อุปราชเสนาปติ ปภูตโยปิ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ราชานเมว ปริวาเรนฺติ. ราชยุตฺตา ปน ชนสงฺคหตฺถํ นครวีถีสุ เภริโย จราเปนฺติ ‘‘ตาตา อมฺหากํ รฺโ จกฺกรตนํ ¶ นิพฺพตฺตํ, อตฺตโน อตฺตโน วิภวานุรูเปน มณฺฑิตปฺปสาธิตา สนฺนิปตถา’’ติ. มหาชโน ปน ปกติยา จกฺกรตนสทฺเทเนว สพฺพกิจฺจานิ ¶ ปหาย คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย สนฺนิปติโตว, โสปิ สพฺโพ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ราชานเมว ปริวาเรติ. ยสฺส ยสฺส หิ รฺา สทฺธึ คนฺตุกามตา อุปฺปชฺชติ, โส โส อากาสคโตว โหติ. เอวํ ทฺวาทสโยชนายามวิตฺถารา ปริสา โหติ. ตตฺถ เอกปุริโสปิ ฉินฺนภินฺนสรีโร วา กิลิฏฺวตฺโถ วา นตฺถิ. สุจิปริวาโร หิ ราชา จกฺกวตฺตี. จกฺกวตฺติปริสา นาม วิชฺชาธรปริสา วิย อากาเส คจฺฉมานา อินฺทนีลมณิตเล ¶ วิปฺปกิณฺณรตนสทิสา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺวเทว ราชา จกฺกวตฺตี สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายา’’ติ.
ตมฺปิ จกฺกรตนํ รุกฺขคฺคานํ อุปรูปริ นาติอุจฺเจน คคนปเทเสน ปวตฺตติ, ยถา รุกฺขานํ ปุปฺผผลปลฺลเวหิ อตฺถิกา ตานิ สุเขน คเหตุํ สกฺโกนฺติ, ภูมิยํ ิตา ‘‘เอส ราชา, เอส อุปราชา, เอส เสนาปตี’’ติ สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกนฺติ. านาทีสุปิ อิริยาปเถสุ โย เยน อิจฺฉติ, โส เตเนว คจฺฉติ. จิตฺตกมฺมาทิสิปฺปปสุตา เจตฺถ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจํ กโรนฺตาเยว คจฺฉนฺติ. ยเถว หิ ภูมิยํ, ตถา เนสํ สพฺพกิจฺจานิ อากาเส อิชฺฌนฺติ. เอวํ จกฺกวตฺติปริสํ คเหตฺวา ตํ จกฺกรตนํ วามปสฺเสน สิเนรุํ ปหาย สมุทฺทสฺส อุปริภาเคน อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ ปุพฺพวิเทหํ คจฺฉติ.
ตตฺถ โย วินิพฺเพเธน ทฺวาทสโยชนาย ปริกฺเขปโต ฉตฺตึสโยชนปริสาย สนฺนิเวสกฺขโม สุลภาหารูปกรโณ ฉายูทกสมฺปนฺโน สุจิสมตโล รมณีโย ภูมิภาโค, ตสฺส อุปริภาเค ตํ จกฺกรตนํ อากาเส อกฺขาหตํ วิย ติฏฺติ. อถ เตน สฺาเณน โส มหาชโน โอตริตฺวา ยถารุจิ นฺหานโภชนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรนฺโต วาสํ กปฺเปติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺมึ ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, ปเทเส ตํ จกฺกรตนํ ปติฏฺาติ, ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี วาสํ อุเปติ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายา’’ติ.
เอวํ วาสํ อุปคเต จกฺกวตฺติมฺหิ เย ตตฺถ ราชาโน, เต ‘‘ปรจกฺกํ อาคต’’นฺติ สุตฺวาปิ น พลกายํ สนฺนิปาเตตฺวา ยุทฺธสชฺชา โหนฺติ. จกฺกรตนสฺส อุปฺปตฺติสมนนฺตรเมว นตฺถิ โส สตฺโต นาม, โย ปจฺจตฺถิกสฺาย ราชานํ อารพฺภ อาวุธํ อุกฺขิปิตุํ วิสเหยฺย. อยมนุภาโว จกฺกรตนสฺส.
จกฺกานุภาเวน ¶ หิ ตสฺส รฺโ,
อรี อเสสา ทมถํ อุเปนฺติ;
อรินฺทมํ นาม นราธิปสฺส,
เตเนว ตํ วุจฺจติ ตสฺส จกฺกํ.
ตสฺมา ¶ สพฺเพปิ เต ราชาโน อตฺตโน อตฺตโน รชฺชสิริวิภวานุรูปํ ปาภตํ คเหตฺวา ตํ ราชานํ อุปคมฺม โอนตสิรา อตฺตโน โมฬิยมณิปฺปภาภิเสเกนสฺส ปาทปูชํ กโรนฺโต ‘‘เอหิ โข มหาราชา’’ติอาทีหิ วจเนหิ ตสฺส กิงฺการปฺปฏิสฺสาวิตํ อาปชฺชนฺติ. เตน วุตฺตํ เย โข ปน, ภิกฺขเว, ปุรตฺถิมาย…เป… อนุสาส มหาราชาติ.
ตตฺถ สฺวาคตนฺติ สุอาคมนํ. เอกสฺมิฺหิ อาคเต โสจนฺติ, คเต นนฺทนฺติ. เอกสฺมึ อาคเต นนฺทนฺติ, คเต โสจนฺติ. ตาทิโส ตฺวํ อาคตนนฺทโน คมนโสจโน, ตสฺมา ตว อาคมนํ สุอาคมนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ¶ วุตฺเต ปน จกฺกวตฺตี นาปิ ‘‘เอตฺตกํ นาม เม อนุวสฺสํ พลึ อุปกปฺเปถา’’ติ วทติ, นาปิ อฺสฺส โภคํ อจฺฉินฺทิตฺวา อฺสฺส เทติ. อตฺตโน ปน ธมฺมราชภาวสฺส อนุรูปาย ปฺาย ปาณาติปาตาทีนิ อุปปริกฺขิตฺวา เปมนีเยน มฺชุนา สเรน ‘‘ปสฺสถ ตาตา, ปาณาติปาโต นาเมส อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก โหตี’’ติอาทินา นเยน ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทิกํ โอวาทํ เทติ. เตน วุตฺตํ ราชา จกฺกวตฺตี เอวมาห ปาโณ น หนฺตพฺโพ…เป… ยถาภุตฺตฺจ ภฺุชถาติ.
กึ ปน สพฺเพปิ รฺโ อิมํ โอวาทํ คณฺหนฺตีติ. พุทฺธสฺสปิ ตาว สพฺเพ น คณฺหนฺติ, รฺโ กึ คณฺหิสฺสนฺติ. ตสฺมา เย ปณฺฑิตา วิภาวิโน, เต คณฺหนฺติ. สพฺเพ ปน อนุยนฺตา ภวนฺติ. ตสฺมา ‘‘เย โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.
อถ ตํ จกฺกรตนํ เอวํ ปุพฺพวิเทหวาสีนํ โอวาเท ทินฺเน กตปาตราเส จกฺกวตฺตีพเลน เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาหติ. ยถา ยถา จ ตํ อชฺโฌคาหติ, ตถา ตถา อคทคนฺธํ ฆายิตฺวา สํขิตฺตผโณ นาคราชา วิย สํขิตฺตอูมิวิปฺผารํ หุตฺวา โอคจฺฉมานํ ¶ มหาสมุทฺทสลิลํ โยชนมตฺตํ โอคนฺตฺวา อนฺโตสมุทฺเท เวฬุริยภิตฺติ วิย ติฏฺติ. ตงฺขณฺเว จ ตสฺส รฺโ ปฺุสิรึ ทฏฺุกามานิ วิย มหาสมุทฺทตเล วิปฺปกิณฺณานิ นานารตนานิ ตโต ตโต อาคนฺตฺวา ตํ ปเทสํ ปูรยนฺติ. อถ สา ราชปริสา ตํ นานารตนปริปูรํ มหาสมุทฺทตลํ ทิสฺวา ยถารุจิ อุจฺฉงฺคาทีหิ อาทิยติ, ยถารุจิ อาทินฺนรตนาย ¶ ปน ปริสาย ตํ จกฺกรตนํ ปฏินิวตฺตติ. ปฏินิวตฺตมาเน จ ตสฺมึ ปริสา อคฺคโต โหติ, มชฺเฌ ราชา, อนฺเต จกฺกรตนํ. ตมฺปิ ชลนิธิชลํ ปโลภิยมานมิว ¶ จกฺกรตนสิริยา, อสหมานมิว จ เตน วิโยคํ, เนมิมณฺฑลปริยนฺตํ อภิหนนฺตํ นิรนฺตรเมว อุปคจฺฉติ.
๒๕๗. เอวํ ราชา จกฺกวตฺตี ปุรตฺถิมสมุทฺทปริยนฺตํ ปุพฺพวิเทหํ อภิวิชินิตฺวา ทกฺขิณสมุทฺทปริยนฺตํ ชมฺพุทีปํ วิเชตุกาโม จกฺกรตนเทสิเตน มคฺเคน ทกฺขิณสมุทฺทาภิมุโข คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ อถ โข ตํ, ภิกฺขเว, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺตตีติ. เอวํ ปวตฺตมานสฺส ปน ตสฺส ปวตฺตนวิธานํ เสนาสนฺนิเวโส ปฏิราชคมนํ เตสํ อนุสาสนิปฺปทานํ ทกฺขิณสมุทฺทํ อชฺโฌคาหนํ สมุทฺทสลิลสฺส โอคจฺฉนํ รตนาทานนฺติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วิชินิตฺวา ปน ตํ ทสสหสฺสโยชนปฺปมาณํ ชมฺพุทีปํ ทกฺขิณสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตริตฺวา สตฺตโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อปรโคยานํ วิเชตุํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา ตมฺปิ สมุทฺทปริยนฺตํ ตเถว อภิวิชินิตฺวา ปจฺฉิมสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตริตฺวา อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อุตฺตรกุรุํ วิเชตุํ ตเถว คนฺตฺวา ตมฺปิ สมุทฺทปริยนฺตํ ตเถว อภิวิชิย อุตฺตรสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตรติ.
เอตฺตาวตา รฺา จกฺกวตฺตินา จาตุรนฺตาย ปถวิยา อาธิปจฺจํ อธิคตํ โหติ. โส เอวํ วิชิตวิชโย อตฺตโน รชฺชสิริสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ สปริโส อุทฺธํ คคนตลํ อภิลงฺฆิตฺวา สุวิกสิตปทุมุปฺปลปุณฺฑรีกวนวิจิตฺเต จตฺตาโร ชาตสฺสเร วิย ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาเร จตฺตาโร มหาทีเป โอโลเกตฺวา จกฺกรตนเทสิเตเนว มคฺเคน ยถานุกฺกมํ อตฺตโน ราชธานิเมว ปจฺจาคจฺฉติ. อถ ตํ จกฺกรตนํ ¶ อนฺเตปุรทฺวารํ โสภยมานํ วิย หุตฺวา ติฏฺติ.
เอวํ ¶ ปติฏฺิเต ปน ตสฺมึ จกฺกรตเน ราชนฺเตปุเร อุกฺกาหิ วา ทีปิกาหิ วา กิฺจิ กรณียํ น โหติ, จกฺกรตโนภาโสเยว รตฺตึ อนฺธการํ วิธมติ. เย จ ปน รตฺตึ อนฺธการตฺถิกา โหนฺติ, เตสํ อนฺธการเมว โหติ. เตน วุตฺตํ ทกฺขิณสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา…เป… เอวรูปํ จกฺกรตนํ ปาตุภวตีติ.
หตฺถิรตนวณฺณนา
๒๕๘. เอวํ ¶ ปาตุภูตจกฺกรตนสฺส ปนสฺส จกฺกวตฺติโน อมจฺจา ปกติมงฺคลหตฺถิฏฺานํ สุจิภูมิภาคํ กาเรตฺวา หริจนฺทนาทีหิ สุรภิคนฺเธหิ อุปลิมฺปาเปตฺวา เหฏฺา วิจิตฺตวณฺณสุรภิกุสุมสมากิณฺณํ อุปริ สุวณฺณตารกานํ อนฺตรนฺตรา สโมสริตมนฺุ-กุสุมทามปฺปฏิมณฺฑิตวิตานํ เทววิมานํ วิย อภิสงฺขริตฺวา ‘‘เอวรูปสฺส นาม เทว หตฺถิรตนสฺส อาคมนํ จินฺเตถา’’ติ วทนฺติ. โส ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว มหาทานํ ทตฺวา สีลานิ สมาทาย ตํ ปฺุสมฺปตฺตึ อาวชฺชนฺโต นิสีทติ, อถสฺส ปฺุานุภาวโจทิโต ฉทฺทนฺตกุลา วา อุโปสถกุลา วา ตํ สกฺการวิเสสํ อนุภวิตุกาโม ตรุณรวิมณฺฑลาภิรตฺตจรณ-คีวมุขปฺปฏิมณฺฑิตวิสุทฺธเสตสรีโร สตฺตปฺปติฏฺโ สุสณฺิตงฺคปจฺจงฺคสนฺนิเวโส วิกสิตรตฺต-ปทุมจารุโปกฺขโร อิทฺธิมา โยคี วิย เวหาสํ คมนสมตฺโถ มโนสิลาจุณฺณรฺชิตปริยนฺโต วิย รชตปพฺพโต หตฺถิเสฏฺโ ตสฺมึ ปเทเส ปติฏฺาติ. โส ฉทฺทนฺตกุลา อาคจฺฉนฺโต สพฺพกนิฏฺโ อาคจฺฉติ, อุโปสถกุลา สพฺพเชฏฺโ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อุโปสโถ นาคราชา’’ อิจฺเจว อาคจฺฉติ. สฺวายํ ¶ ปูริตจกฺกวตฺติวตฺตานํ จกฺกวตฺตีนํ สุตฺเต วุตฺตนเยเนว จินฺตยนฺตานํ อาคจฺฉติ, น อิตเรสํ. สยเมว ปกติมงฺคลหตฺถิฏฺานํ อาคนฺตฺวา มงฺคลหตฺถึ อปเนตฺวา ตตฺถ ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… นาคราชาติ.
เอวํ ปาตุภูตํ ปน ตํ หตฺถิรตนํ ทิสฺวา หตฺถิโคปกาทโย หฏฺตุฏฺา เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ. ราชา ตุริตตุริตํ อาคนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ภทฺทกํ วต โภ หตฺถิยานํ, สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’’ติ จินฺตยนฺโต หตฺถํ ปสาเรติ. อถ โส ฆรเธนุวจฺฉโก วิย กณฺเณ โอลมฺเพตฺวา สูรตภาวํ ทสฺเสนฺโต ราชานํ อุปสงฺกมติ, ราชา ตํ อภิรุหิตุกาโม โหติ. อถสฺส ¶ ปริชนา อธิปฺปายํ ตฺวา ตํ หตฺถิรตนํ โสวณฺณทฺธชํ โสวณฺณาลงฺการํ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา อุปเนนฺติ. ราชา ตํ อนิสีทาเปตฺวาว สตฺตรตนมยาย นิสฺเสณิยา อภิรุยฺห อากาสํ คมนนินฺนจิตฺโต โหติ. ตสฺส สห จิตฺตุปฺปาเทเนว โส หตฺถิราชา ราชหํโส วิย อินฺทนีลมณิปฺปภาชาลนีลคคนตลํ อภิลงฺฆติ, ตโต จกฺกจาริกาย วุตฺตนเยเนว ¶ สกลราชปริสา. อิติ สปริโส ราชา อนฺโตปาตราเสเยว สกลปถวึ อนุสํยายิตฺวา ราชธานึ ปจฺจาคจฺฉติ, เอวํ มหิทฺธิกํ จกฺกวตฺติโน หตฺถิรตนํ โหติ. เตน วุตฺตํ ทิสฺวาน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส…เป… เอวรูปํ หตฺถิรตนํ ปาตุภวตีติ.
อสฺสรตนวณฺณนา
เอวํ ปาตุภูตหตฺถิรตนสฺส ปน จกฺกวตฺติโน ปริสา ปกติมงฺคลอสฺสฏฺานํ สุจิสมตลํ กาเรตฺวา อลงฺกริตฺวา จ ปุริมนเยเนว รฺโ ตสฺส อาคมนจินฺตนตฺถํ อุสฺสาหํ ชเนนฺติ. โส ปุริมนเยเนว กตทานสกฺกาโร ¶ สมาทินฺนสีโลว ปาสาทตเล นิสินฺโน ปฺุสมฺปตฺตึ สมนุสฺสรติ, อถสฺส ปฺุานุภาวโจทิโต สินฺธวกุลโต วิชฺชุลฺลตาวินทฺธสรทกาลเสตวลาหกราสิสสฺสิริโก รตฺตปาโท รตฺตตุณฺโฑ จนฺทปฺปภาปฺุชสทิสสุทฺธสินิทฺธฆนสงฺฆาตสรีโร กากคีวา วิย อินฺทนีลมณิ วิย จ กาฬวณฺเณน สีเสน สมนฺนาคตตฺตา กาฬสีโส สุฏฺุ กปฺเปตฺวา ปิเตหิ วิย มฺุชสทิเสหิ สณฺหวฏฺฏอุชุคติคเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคตตฺตา มฺุชเกโส เวหาสงฺคโม วลาหโก นาม อสฺสราชา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ าเน ปติฏฺาติ. เสสํ สพฺพํ หตฺถิรตเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอวรูปํ อสฺสรตนํ สนฺธาย ภควา ปุน จปรนฺติอาทิมาห.
มณิรตนวณฺณนา
เอวํ ปาตุภูตอสฺสรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส จตุหตฺถายามํ สกฏนาภิสมปฺปมาณํ อุโภสุ อนฺเตสุ กณฺณิกปริยนฺตโต วินิคฺคตสุปริสุทฺธมุตฺตากลาเปหิ ทฺวีหิ กฺจนปทุเมหิ อลงฺกตํ จตุราสีติมณิสหสฺสปริวารํ ตาราคณปริวุตสฺส ปุณฺณจนฺทสฺส สิรึ ปฏิปฺผรมานํ วิย เวปุลฺลปพฺพตโต มณิรตนํ อาคจฺฉติ. ตสฺเสวํ อาคตสฺส มุตฺตาชาลเก ¶ เปตฺวา เวฬุปรมฺปราย สฏฺิหตฺถปฺปมาณํ อากาสํ อาโรปิตสฺส รตฺติภาเค สมนฺตา โยชนปฺปมาณํ โอกาสํ อาภา ผรติ, ยาย สพฺโพ โส โอกาโส อรุณุคฺคมนเวลา วิย สฺชาตาโลโก โหติ. ตโต กสฺสกา กสิกมฺมํ, วาณิชา อาปณุคฺฆาฏนํ ¶ , เต ¶ เต จ สิปฺปิโน ตํ ตํ กมฺมนฺตํ ปโยเชนฺติ ทิวาติ มฺมานา. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… มณิรตนํ ปาตุภวตีติ.
อิตฺถิรตนวณฺณนา
เอวํ ปาตุภูตมณิรตนสฺส ปน จกฺกวตฺติสฺส วิสยสุขวิเสสการณํ อิตฺถิรตนํ ปาตุภวติ. มทฺทราชกุลโต วา หิสฺส อคฺคมเหสึ อาเนนฺติ, อุตฺตรกุรุโต วา ปฺุานุภาเวน สยํ อาคจฺฉติ. อวเสสา ปนสฺสา สมฺปตฺติ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อิตฺถิรตนํ ปาตุภวติ อภิรูปา ทสฺสนียา’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํเยว อาคตา.
ตตฺถ สณฺานปาริปูริยา อธิกํ รูปํ อสฺสาติ อภิรูปา. ทิสฺสมานา จ จกฺขูนิ ปีณยติ, ตสฺมา อฺํ กิจฺจวิกฺเขปํ หิตฺวาปิ ทฏฺพฺพาติ ทสฺสนียา. ทิสฺสมานา จ โสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปสาเทตีติ ปาสาทิกา. ปรมายาติ เอวํ ปสาทาวหตฺตา อุตฺตมาย. วณฺณโปกฺขรตายาติ วณฺณสุนฺทรตาย. สมนฺนาคตาติ อุเปตา. อภิรูปา วา ยสฺมา นาติทีฆา นาติรสฺสา ทสฺสนียา ยสฺมา นาติกิสา นาติถูลา, ปาสาทิกา ยสฺมา นาติกาฬิกา นจฺโจทาตา. ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา ยสฺมา อติกฺกนฺตา มานุสํ วณฺณํ อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณํ. มนุสฺสานฺหิ วณฺณาภา พหิ น นิจฺฉรติ, เทวานํ อติทูรํ นิจฺฉรติ, ตสฺสา ปน ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ ปเทสํ สรีราภา โอภาเสติ.
นาติทีฆาทีสุ จสฺสา ปมยุคเฬน อาโรหสมฺปตฺติ, ทุติยยุคเฬน ปริณาหสมฺปตฺติ, ตติยยุคเฬน วณฺณสมฺปตฺติ วุตฺตา. ฉหิ วาปิ เอเตหิ กายวิปตฺติยา อภาโว, อติกฺกนฺตา มานุสํ วณฺณนฺติ อิมินา กายสมฺปตฺติ วุตฺตา.
ตูลปิจุโน วา กปฺปาสปิจุโน วาติ สปฺปิมณฺเฑ ปกฺขิปิตฺวา ¶ ปิตสฺส สตวิหตสฺส ตูลปิจุโน ¶ วา สตวิหตสฺส กปฺปาสปิจุโน วา กายสมฺผสฺโส โหติ. สีเตติ รฺโ สีตกาเล. อุณฺเหติ รฺโ อุณฺหกาเล. จนฺทนคนฺโธติ นิจฺจกาลเมว สุปิสิตสฺส อภินวสฺส จตุชฺชาติสมาโยชิตสฺส หริจนฺทนสฺส คนฺโธ กายโต วายติ. อุปฺปลคนฺโธติ หสิตกถิตกาเลสุ มุขโต นิกฺขนฺโต ตงฺขณํ วิกสิตสฺเสว นีลุปฺปลสฺส อติสุรภิคนฺโธ วายติ.
เอวํ ¶ รูปสมฺผสฺสคนฺธสมฺปตฺติยุตฺตาย ปนสฺสา สรีรสมฺปตฺติยา อนุรูปํ อาจารํ ทสฺเสตุํ ตํ โข ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราชานํ ทิสฺวา นิสินฺนาสนโต อคฺคิทฑฺฒา วิย ปมเมว อุฏฺาตีติ ปุพฺพุฏฺายินี. ตสฺมึ นิสินฺเน ตสฺส รฺโ ตาลวณฺเฏน พีชนาทิกิจฺจํ กตฺวา ปจฺฉา นิปตติ นิสีทตีติ ปจฺฉานิปาตินี. กึ กโรมิ เทวาติ ตสฺส กึการํ ปฏิสฺสาเวตีติ กึการปฏิสฺสาวินี. รฺโ มนาปเมว จรติ กโรตีติ มนาปจารินี. ยํ รฺโ ปิยํ, ตเทว วทตีติ ปิยวาทินี.
อิทานิ สฺวาสฺสา อาจาโร ภาวสุทฺธิยา เอว, น สาเยฺเยนาติ ทสฺเสตุํ ตํ โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ โน อติจรตีติ น อติกฺกมิตฺวา จรติ, อฺํ ปุริสํ จิตฺเตนปิ น ปตฺเถตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เย ตสฺสา อาทิมฺหิ ‘‘อภิรูปา’’ติอาทโย อนฺเต ‘‘ปุพฺพุฏฺายินี’’ติอาทโย คุณา วุตฺตา, เต ปกติคุณา เอว ‘‘อติกฺกนฺตา ¶ มานุสํ วณฺณ’’นฺติอาทโย ปน จกฺกวตฺติโน ปฺุํ อุปนิสฺสาย จกฺกรตนปาตุภาวโต ปฏฺาย ปุริมกมฺมานุภาเวน นิพฺพตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพา. อภิรูปตาทิกาปิ วา จกฺกรตนปาตุภาวโต ปฏฺาย สพฺพาการปาริปูรา ชาตา. เตนาห เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปาตุภวตีติ.
คหปติรตนวณฺณนา
เอวํ ปาตุภูตอิตฺถิรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ธนกรณียานํ กิจฺจานํ ยถาสุขปฺปวตฺตนตฺถํ คหปติรตนํ ปาตุภวติ. โส ปกติยาว มหาโภโค มหาโภคกุเล ชาโต รฺโ ธนราสิวฑฺฒโก เสฏฺิ คหปติ โหติ, จกฺกรตนานุภาวสหิตํ ปนสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุภวติ, เยน อนฺโตปถวิยํ โยชนพฺภนฺตเร นิธึ ปสฺสติ. โส ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา ¶ ตุฏฺหทโย คนฺตฺวา ราชานํ ธเนน ปวาเรตฺวา สพฺพานิ ธนกรณียานิ สมฺปาเทติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… เอวรูปํ คหปติรตนํ ปาตุภวตีติ.
ปริณายกรตนวณฺณนา
เอวํ ปาตุภูตคหปติรตนสฺส ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สพฺพกิจฺจสํวิธานสมตฺถํ ปริณายกรตนํ ปาตุภวติ. โส รฺโ เชฏฺปุตฺโตว โหติ ¶ . ปกติยา เอว ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี, รฺโ ปฺุานุภาวํ นิสฺสาย ปนสฺส อตฺตโน กมฺมานุภาเวน ปรจิตฺตาณํ อุปฺปชฺชติ. เยน ทฺวาทสโยชนาย ราชปริสาย จิตฺตาจารํ ตฺวา รฺโ อหิเต หิเต จ ววตฺถเปตุํ สมตฺโถ โหติ. โสปิ ตํ อตฺตโน อานุภาวํ ทิสฺวา ตุฏฺหทโย ราชานํ สพฺพกิจฺจานุสาสเนน ปวาเรติ. เตน วุตฺตํ ปุน จปรํ…เป… ปริณายกรตนํ ปาตุภวตีติ. ตตฺถ ¶ เปตพฺพํ เปตุนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ านนฺตเร เปตพฺพํ เปตุํ.
๒๕๙. สมเวปากินิยาติอาทิ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๒๖๐. กฏคฺคเหนาติ ชยคฺคาเหน. มหนฺตํ โภคกฺขนฺธนฺติ เอกปฺปหาเรเนว ทฺเว วา ตีณิ วา สตสหสฺสานิ. เกวลา ปริปูรา ปณฺฑิตภูมีติ ปณฺฑิโต ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ, ตโต มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉนฺโต กุลรูปโภคสมฺปตฺติยํ นิพฺพตฺตติ, ตตฺถ ิโต ตีณิ จ สุจริตานิ ปูเรตฺวา ปุน สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ อยํ สกลา ปริปุณฺณา ปณฺฑิตภูมิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เทวทูตสุตฺตวณฺณนา
๒๖๑. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ เทวทูตสุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว อคาราติอาทิ อสฺสปุรสุตฺเต วิตฺถาริตเมว.
๒๖๒. นิรยํ อุปปนฺนาติ ภควา กตฺถจิ นิรยโต ปฏฺาย เทสนํ เทวโลเกน โอสาเปติ, กตฺถจิ เทวโลกโต ปฏฺาย นิรเยน โอสาเปติ. สเจ สคฺคสมฺปตฺตึ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม โหติ, นิรยทุกฺขํ เอกเทสโต กเถติ, ติรจฺฉานโยนิทุกฺขํ เปตฺติวิสยทุกฺขํ มนุสฺสโลกสมฺปตฺตึ เอกเทสโต กเถติ, สคฺคสมฺปตฺติเมว วิตฺถาเรติ. สเจ นิรยทุกฺขํ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม โหติ, เทวโลกมนุสฺสโลเกสุ ¶ สมฺปตฺตึ ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสเยสุ จ ทุกฺขํ เอกเทสโต กเถติ, นิรยทุกฺขเมว วิตฺถาเรติ. โส อิมสฺมึ สุตฺเต นิรยทุกฺขํ วิตฺถาเรตุกาโม, ตสฺมา เทวโลกโต ¶ ปฏฺาย เทสนํ นิรเยน โอสาเปติ. เทวโลกมนุสฺสโลกสมฺปตฺติโย ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยทุกฺขานิ จ เอกเทสโต กเถตฺวา นิรยทุกฺขเมว วิตฺถาเรน กเถตุํ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลาติอาทิมาห.
ตตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลาติ, อามนฺตา, อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเย นิรยปาลา อตฺถีติ. ยมสฺส รฺโติ ยมราชา นาม เวมานิกเปตราชา, เอกสฺมึ กาเล ทิพฺพวิมาเน ทิพฺพกปฺปรุกฺขทิพฺพอุยฺยานทิพฺพนาฏกาทิสมฺปตฺตึ อนุภวติ, เอกสฺมึ กาเล กมฺมวิปากํ, ธมฺมิโก ราชา. น เจส เอโกว โหติ, จตูสุ ปน ทฺวาเรสุ จตฺตาโร ชนา โหนฺติ. นาทฺทสนฺติ อตฺตโน สนฺติเก เปสิตสฺส กสฺสจิ เทวทูตสฺส อภาวํ สนฺธาย เอวํ วทติ. อถ นํ ยโม ‘‘นายํ ภาสิตสฺส อตฺถํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตฺวา สลฺลกฺขาเปตุกาโม อมฺโภติอาทิมาห.
ชาติธมฺโมติ ¶ ชาติสภาโว, อปริมุตฺโต ชาติยา, ชาติ นาม มยฺหํ อพฺภนฺตเรเยว อตฺถีติ. ปรโต ชราธมฺโมติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๖๓. ปมํ เทวทูตํ สมนุยฺุชิตฺวาติ เอตฺถ ทหรกุมาโร อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ, โภ, มยฺหมฺปิ ตุมฺหากํ วิย หตฺถปาทา อตฺถิ, สเก ปนมฺหิ มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺหิตฺวา นฺหายิตุํ ¶ น สกฺโกมิ, อหํ กิลิฏฺคตฺโตมฺหิ, นฺหาเปถ มนฺติ วตฺตุมฺปิ น สกฺโกมิ, ชาติโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชาติโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชาติ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต, วจนตฺโถ ปน มฆเทวสุตฺเต วุตฺโตว.
ทุติยํ ¶ เทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ ชราชิณฺณสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลพาหุพลชวนสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวนสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.
ตติยํ เทวทูตนฺติ เอตฺถาปิ คิลานสตฺโต อตฺถโต เอว วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ, โภ, อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากํ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.
๒๖๕. จตุตฺถํ เทวทูตนฺติ เอตฺถ ปน กมฺมการณา วา ¶ เทวทูตาติ กาตพฺพา กมฺมการณิกา วา. ตตฺถ ปน กมฺมการณปกฺเข พาตฺตึส ตาว กมฺมการณา อตฺถโต เอวํ วทนฺติ ¶ นาม – ‘‘มยํ นิพฺพตฺตมานา น รุกฺเข วา ปาสาเณ วา นิพฺพตฺตาม, ตุมฺหาทิสานํ สรีเร นิพฺพตฺตาม, อิติ อมฺหากํ ปุเร นิพฺพตฺติโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเต เทวทูตา นาม ชาตา. กมฺมการณิกาปิ อตฺถโต เอวํ วทนฺติ นาม – ‘‘มยํ ทฺวตฺตึส กมฺมการณา กโรนฺตา น รุกฺขาทีสุ กโรม, ตุมฺหาทิเสสุ สตฺเตสุเยว กโรม, อิติ อมฺหากํ ตุมฺเหสุ ปุเร กมฺมการณากรณโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเตปิ เทวทูตา นาม ชาตา.
๒๖๖. ปฺจมํ เทวทูตนฺติ เอตฺถ มตกสตฺโต อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘ปสฺสถ โภ มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวํ ปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต. น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ¶ มรณโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.
อิมํ ปน เทวทูตานุโยคํ โก ลภติ, โก น ลภตีติ? เยน ตาว พหุํ ปาปํ กตํ, โส คนฺตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติเยว. เยน ปน ปริตฺตํ ปาปกมฺมํ กตํ, โส ลภติ. ยถา หิ สภณฺฑํ โจรํ คเหตฺวา กตฺตพฺพเมว กโรนฺติ, น วินิจฺฉินนฺติ. อนุวิชฺชิตฺวา คหิตํ ปน วินิจฺฉยฏฺานํ นยนฺติ, โส วินิจฺฉยํ ลภติ. เอวํสมฺปทเมตํ. ปริตฺตปาปกมฺมา ¶ หิ อตฺตโน ธมฺมตายปิ สรนฺติ, สาริยมานาปิ สรนฺติ.
ตตฺถ ทีฆชยนฺตทมิโฬ นาม อตฺตโน ธมฺมตาย สริ. โส กิร ทมิโฬ สุมนคิริวิหาเร อากาสเจติยํ รตฺตปเฏน ปูเชสิ. อถ นิรเย อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต อคฺคิชาลสทฺทํ สุตฺวาว อตฺตโน ปูชิตปฏํ อนุสฺสริ, โส คนฺตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. อปโรปิ ปุตฺตสฺส ทหรภิกฺขุโน ขลิสาฏกํ เทนฺโต ปาทมูเล เปสิ, มรณกาลมฺหิ ปฏปฏาติ สทฺเท นิมิตฺตํ คณฺหิ, โสปิ อุสฺสทสามนฺเต นิพฺพตฺโต ชาลสทฺเทน ตํ สาฏกํ อนุสฺสริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺโต. เอวํ ตาว อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลํ กมฺมํ สริตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ.
อตฺตโน ธมฺมตาย อสรนฺเต ปน ปฺจ เทวทูเต ปุจฺฉติ. ตตฺถ โกจิ ปเมน เทวทูเตน สรติ, โกจิ ทุติยาทีหิ. โย ปน ปฺจหิปิ น สรติ, ตํ ยโม ราชา สยํ สาเรติ. เอโก ¶ กิร อมจฺโจ สุมนปุปฺผกุมฺเภน มหาเจติยํ ปูเชตฺวา ยมสฺส ปตฺตึ อทาสิ, ตํ อกุสลกมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตํ ยมสฺส สนฺติกํ นยึสุ. ตสฺมึ ปฺจหิปิ เทวทูเตหิ กุสเล อสรนฺเต ยโม สยํ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา – ‘‘นนุ ตฺวํ มหาเจติยํ สุมนปุปฺผกุมฺเภน ปูเชตฺวา มยฺหํ ปตฺตึ อทาสี’’ติ สาเรสิ, โส ตสฺมึ กาเล สริตฺวา เทวโลกํ คโต. ยโม ปน สยํ โอโลเกตฺวาปิ อปสฺสนฺโต – ‘‘มหาทุกฺขํ นาม อนุภวิสฺสติ อยํ สตฺโต’’ติ ตุณฺหี โหติ.
๒๖๗. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ. กึ ปนสฺส ปมาณํ? อพฺภนฺตรํ อายาเมน จ วิตฺถาเรน จ โยชนสตํ โหติ. โลหปถวี โลหฉทนํ เอเกกา จ ภิตฺติ ¶ นวนวโยชนิกา โหติ. ปุรตฺถิมาย ภิตฺติยา ¶ อจฺจิ อุฏฺิตา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ คเหตฺวา ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย. อิติ ชาลปริยนฺตวเสน อายามวิตฺถารโต อฏฺารสโยชนาธิกานิ ตีณิ โยชนสตานิ, ปริกฺเขปโต ปน นวโยชนสตานิ จตุปณฺณาสโยชนานิ, สมนฺตา ปน อุสฺสเทหิ สทฺธึ ทสโยชนสหสฺสํ โหติ.
๒๖๘. อุพฺภตํ ตาทิสเมว โหตีติ เอตฺถ อกฺกนฺตปทํ ยาว อฏฺิโต ทฬฺหํ อุทฺธริตุเมว น สกฺกา. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – เหฏฺโต ปฏฺาย ฑยฺหติ, อุปริโต ปฏฺาย ฌายติ, อิติ อกฺกมนกาเล ฑยฺหมานํ ปฺายติ, อุทฺธรณกาเล ตาทิสเมว, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. พหุสมฺปตฺโตติ พหูนิ วสฺสสตวสฺสสหสฺสานิ สมฺปตฺโต.
กสฺมา ปเนส นรโก อวีจีติ สงฺขํ คโตติ. วีจิ นาม อนฺตรํ วุจฺจติ, ตตฺถ จ อคฺคิชาลานํ วา สตฺตานํ วา ทุกฺขสฺส วา อนฺตรํ นตฺถิ. ตสฺมา โส อวีจีติ สงฺขํ คโตติ. ตสฺส หิ ปุรตฺถิมภิตฺติโต ชาลา อุฏฺิตา สํสิพฺพมานา โยชนสตํ คนฺตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย.
อิเมสํ ฉนฺนํ ชาลานํ มชฺเฌ นิพฺพตฺโต เทวทตฺโต, ตสฺส โยชนสตปฺปมาโณ อตฺตภาโว, ทฺเว ปาทา ยาว โคปฺผกา โลหปถวึ ปวิฏฺา, ทฺเว หตฺถา ยาว มณิพนฺธา โลหภิตฺติโย ปวิฏฺา, สีสํ ยาว ภมุกฏฺิโต โลหฉทเน ปวิฏฺํ, อโธภาเคน เอกํ โลหสูลํ ปวิสิตฺวา กายํ วินิวิชฺฌนฺตํ ¶ ฉทเน ปวิฏฺํ, ปาจีนภิตฺติโต นิกฺขนฺตสูลํ หทยํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ ปวิฏฺํ ¶ , อุตฺตรภิตฺติโต นิกฺขนฺตสูลํ ผาสุกา วินิวิชฺฌิตฺวา ทกฺขิณภิตฺตึ ปวิฏฺํ. นิจฺจเล ตถาคตมฺหิ อปรทฺธตฺตา นิจฺจโลว หุตฺวา ปจฺจตีติ กมฺมสริกฺขตาย เอทิโส ชาโต. เอวํ ชาลานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ นาม.
อพฺภนฺตเร ปนสฺส โยชนสติเก าเน นาฬิยํ โกฏฺเฏตฺวา ปูริตปิฏฺํ วิย สตฺตา นิรนฺตรา, ‘‘อิมสฺมึ าเน สตฺโต อตฺถิ, อิมสฺมึ นตฺถี’’ติ น วตฺตพฺพํ, คจฺฉนฺตานํ ิตานํ นิสินฺนานํ นิปนฺนานํ อนฺโต นตฺถิ, คจฺฉนฺเต วา ิเต วา นิสินฺเน วา นิปนฺเน วา อฺมฺํ น พาธนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ.
กายทฺวาเร ¶ ปน ฉ อุเปกฺขาสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เอกํ ทุกฺขสหคตํ. เอวํ สนฺเตปิ ยถา ชิวฺหคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ เปตฺวา เอกสฺมึ ตมฺพโลหพินฺทุมฺหิ ปิเต อนุทหนพลวตาย ตเทว ปฺายติ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, เอวํ อนุทหนพลวตาย ทุกฺขเมเวตฺถ นิรนฺตรํ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานีติ. เอวํ ทุกฺขสฺส นิรนฺตรตาย อวีจิ.
๒๖๙. มหนฺโตติ โยชนสติโก. โส ตตฺถ ปตตีติ เอโก ปาโท มหานิรเย โหติ, เอโก คูถนิรเย นิปตติ. สูจิมุขาติ สูจิสทิสมุขา, เต หตฺถิคีวปฺปมาณา เอกโทณิกนาวาปฺปมาณา วา โหนฺติ.
กุกฺกุลนิรโยติ โยชนสตปฺปมาโณว อนฺโต กูฏาคารมตฺตวิตจฺจิตองฺคารปุณฺโณ อาทิตฺตฉาริกนิรโย, ยตฺถ ¶ ปติตปติตา กุทฺรูสกราสิมฺหิ ขิตฺตผาลวาสิสิลาทีนิ วิย เหฏฺิมตลเมว คณฺหนฺติ.
อาโรเปนฺตีติ อยทณฺเฑหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. เตสํ อาโรหนกาเล เต กณฺฏกา อโธมุขา โหนฺติ, โอโรหนกาเล อุทฺธํมุขา.
วาเตริตานีติ ¶ กมฺมมเยน วาเตน จลิตานิ. หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺตีติ ผลเก มํสํ วิย โกฏฺฏยมานานิ ฉินฺทนฺติ. สเจ อุฏฺาย ปลายติ, อโยปากาโร สมุฏฺหิตฺวา ปริกฺขิปติ, เหฏฺา ขุรธารา สมุฏฺาติ.
ขาโรทกา นทีติ เวตรณี นาม ตมฺพโลหนที. ตตฺถ อโยมยานิ ขรวาลิก-โปกฺขรปตฺตานิ, เหฏฺา ขุรธารา อุโภสุ ตีเรสุ เวตฺตลตา จ กุสติณานิ จ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขราติ โส ตตฺถ อุทฺธฺจ อโธ จ วุยฺหมาโน โปกฺขรปตฺเตสุ ฉิชฺชติ. สิงฺฆาฏกสณฺานาย ขรวาลิกาย กณฺฏเกหิ วิชฺฌิยติ, ขุรธาราหิ ผาลิยติ, อุโภสุ ตีเรสุ กุสติเณหิ วิเลขติ, เวตฺตลตาหิ อากฑฺฒิยติ, ติกฺขสตฺตีหิ ผาลิยติ.
๒๗๐. ตตฺเตน ¶ อโยสงฺกุนาติ เตน ชิคจฺฉิโตมฺหีติ ¶ วุตฺเต มหนฺตํ โลหปจฺฉึ โลหคุฬานํ ปูเรตฺวา ตํ อุปคจฺฉนฺติ, โส โลหคุฬภาวํ ตฺวา ทนฺเต สมฺผุเสติ, อถสฺส เต ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวรนฺติ, ตมฺพโลหธาเรหิ มหนฺเตน โลหกฏาเหน ตมฺพโลหํ อุปเนตฺวา เอวเมวํ กโรนฺติ. ปุน มหานิรเยติ เอวํ ปฺจวิธพนฺธนโต ปฏฺาย ยาว ตมฺพโลหปานา ตมฺพโลหปานโต ปฏฺาย ปุน ปฺจวิธพนฺธนาทีนิ กาเรตฺวา มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ. ตตฺถ โกจิ ปฺจวิธพนฺธเนเนว มุจฺจติ, โกจิ ทุติเยน, โกจิ ตติเยน, โกจิ ตมฺพโลหปาเนน มุจฺจติ, กมฺเม ปน อปริกฺขีเณ ปุน มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ.
อิทํ ปน สุตฺตํ คณฺหนฺโต เอโก ทหรภิกฺขุ, – ‘‘ภนฺเต, เอตฺตกํ ทุกฺขมนุภวิตสตฺตํ ปุนปิ มหานิรเย ปกฺขิปนฺตี’’ติ อาห. อาม, อาวุโส, กมฺเม อปริกฺขีเณ ปุนปฺปุนํ เอวํ กโรนฺตีติ. ติฏฺตุ, ภนฺเต, อุทฺเทโส, กมฺมฏฺานเมว กเถถาติ กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา อาคมฺม อุทฺเทสํ อคฺคเหสิ. อฺเสมฺปิ อิมสฺมึ ปเทเส อุทฺเทสํ เปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตานํ คณนา นตฺถิ. สพฺพพุทฺธานฺเจตํ สุตฺตํ อวิชหิตเมว โหติ.
๒๗๑. หีนกายูปคาติ หีนกายํ อุปคตา หุตฺวา. อุปาทาเนติ ตณฺหาทิฏฺิคหเณ. ชาติมรณสมฺภเวติ ชาติยา จ มรณสฺส จ การณภูเต. อนุปาทาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา. ชาติมรณสงฺขเยติ ชาติมรณสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุจฺจนฺติ.
ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ ¶ ¶ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สพฺพกิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สพฺพทุกฺขาติกฺกนฺตา นาม โหนฺติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
เทวทูตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วิภงฺควคฺโค
๑. ภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๗๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ ภทฺเทกรตฺตสฺสาติ วิปสฺสนานุโยคสมนฺนาคตตฺตา ภทฺทกสฺส เอกรตฺตสฺส. อุทฺเทสนฺติ มาติกํ. วิภงฺคนฺติ วิตฺถารภาชนียํ.
อตีตนฺติ อตีเต ปฺจกฺขนฺเธ. นานฺวาคเมยฺยาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ นานุคจฺเฉยฺย. นปฺปฏิกงฺเขติ ตณฺหาทิฏฺีหิ น ปตฺเถยฺย. ยทตีตนฺติ อิทเมตฺถ การณวจนํ. ยสฺมา ยํ อตีตํ, ตํ ปหีนํ นิรุทฺธํ อตฺถงฺคตํ, ตสฺมา ตํ ปุน นานุคจฺเฉยฺย. ยสฺมา จ ยํ อนาคตํ, ตํ อปฺปตฺตํ อชาตํ อนิพฺพตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ น ปตฺเถยฺย.
ตตฺถ ตตฺถาติ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ ธมฺมํ ยตฺถ ยตฺเถว อุปฺปนฺโน, ตตฺถ ตตฺเถว จ นํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สตฺตหิ อนุปสฺสนาหิ โย วิปสฺสติ อรฺาทีสุ วา ตตฺถ ตตฺเถว วิปสฺสติ. อสํหีรํ ¶ อสํกุปฺปนฺติ อิทํ วิปสฺสนาปฏิวิปสฺสนาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิปสฺสนา หิ ราคาทีหิ น สํหีรติ น สํกุปฺปตีติ อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ อนุพฺรูหเย วฑฺเฒยฺย, ปฏิวิปสฺเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา นิพฺพานํ ราคาทีหิ น สํหีรติ น สํกุปฺปตีติ อสํหีรํ อสํกุปฺปํ. ตํ วิทฺวา ปณฺฑิโต ภิกฺขุ อนุพฺรูหเย, ปุนปฺปุนํ ตทารมฺมณํ ตํ ตํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปนฺโต วฑฺเฒยฺยาติ อตฺโถ.
ตสฺส ปน อนุพฺรูหนฺตสฺส อตฺถาย – อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปนฺติ กิเลสานํ อาตาปนปริตาปเนน อาตปฺปนฺติ ลทฺธนามํ วีริยํ อชฺเชว กาตพฺพํ. โก ชฺา มรณํ สุเวติ ¶ สฺเว ชีวิตํ วา มรณํ วา โก ชานาติ. อชฺเชว ทานํ วา ทสฺสามิ, สีลํ วา รกฺขิสฺสามิ, อฺตรํ วา ปน กุสลํ กริสฺสามีติ หิ ‘‘อชฺช ตาว ปปฺโจ อตฺถิ, สฺเว วา ปุนทิวเส วา กริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา อชฺเชว กริสฺสามีติ เอวํ วีริยํ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มหาเสเนนาติ อคฺคิวิสสตฺถาทีนิ อเนกานิ มรณการณานิ ตสฺส เสนา, ตาย มหติยา เสนาย วเสน มหาเสเนน เอวรูเปน มจฺจุนา สทฺธึ ‘‘กติปาหํ ตาว อาคเมหิ ยาวาหํ พุทฺธปูชาทึ อตฺตโน อวสฺสยกมฺมํ กโรมี’’ติ ¶ . เอวํ มิตฺตสนฺถวาการสงฺขาโต วา, ‘‘อิทํ สตํ วา สหสฺสํ วา คเหตฺวา กติปาหํ อาคเมหี’’ติ เอวํ ลฺชานุปฺปทานสงฺขาโต วา, ‘‘อิมินาหํ พลราสินา ปฏิพาหิสฺสามี’’ติ เอวํ พลราสิสงฺขาโต วา สงฺคโร นตฺถิ. สงฺคโรติ หิ มิตฺตสนฺถวาการลฺชานุปฺปทานพลราสีนํ ¶ นามํ, ตสฺมา อยมตฺโถ วุตฺโต.
อตนฺทิตนฺติ อนลสํ อุฏฺาหกํ. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ภทฺโท เอกรตฺโต อสฺสาติ ภทฺเทกรตฺโต. อิติ ตํ เอวํ ปฏิปนฺนปุคฺคลํ ‘‘ภทฺเทกรตฺโต อย’’นฺติ. ราคาทีนํ สนฺตตาย สนฺโต พุทฺธมุนิ อาจิกฺขติ.
๒๗๓. เอวํรูโปติอาทีสุ กาโฬปิ สมาโน อินฺทนีลมณิวณฺโณ อโหสินฺติ เอวํ มนฺุรูปวเสเนว เอวํรูโป อโหสึ. กุสลสุขโสมนสฺสเวทนาวเสเนว เอวํเวทโน. ตํสมฺปยุตฺตานํเยว สฺาทีนํ วเสน เอวํสฺโ เอวํสงฺขาโร เอวํวิฺาโณ อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ.
ตตฺถ นนฺทึ สมนฺวาเนตีติ เตสุ รูปาทีสุ ตณฺหํ สมนฺวาเนติ อนุปวตฺเตติ. หีนรูปาทิวเสน ปน เอวํรูโป อโหสึ…เป… เอวํวิฺาโณ อโหสินฺติ น มฺติ.
นนฺทึ น สมนฺวาเนตีติ ตณฺหํ วา ตณฺหาสมฺปยุตฺตทิฏฺึ วา นานุปวตฺตยติ.
๒๗๔. เอวํรูโป สิยนฺติอาทีสุปิ ตํมนฺุรูปาทิวเสเนว ตณฺหาทิฏฺิปวตฺตสงฺขาตา นนฺทิสมนฺวานยนาว เวทิตพฺพา.
๒๗๕. กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตีติ อิทํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ. อสํหีรํ อสํกุปฺป’’นฺติ อุทฺเทสสฺส นิทฺเทสตฺถํ วุตฺตํ. กามฺเจตฺถ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺนํ ธมฺมํ ¶ น วิปสฺสตี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, ยสฺมา ปน อสํหีราติ จ อสํกุปฺปาติ จ วิปสฺสนา วุตฺตา, ตสฺมา ตสฺสา เอว อภาวฺจ ภาวฺจ ทสฺเสตุํ สํหีรตีติ มาติกํ อุทฺธริตฺวา วิตฺถาโร วุตฺโต. ตตฺถ สํหีรตีติ วิปสฺสนาย อภาวโต ตณฺหาทิฏฺีหิ ¶ อากฑฺฒิยติ. น สํหีรตีติ วิปสฺสนาย ภาเวน ตณฺหาทิฏฺีหิ นากฑฺฒิยติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อานนฺทภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๗๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อานนฺทภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิโต. โก นุ โข, ภิกฺขเวติ ชานนฺโตว กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉิ.
๒๗๘. สาธุ สาธูติ เถรสฺส สาธุการมทาสิ. สาธุ โข ตฺวนฺติ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ ปริสุทฺเธหิ กถิตตฺตา เทสนํ ปสํสนฺโต อาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อานนฺทภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๗๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ ตโปทาราเมติ ตตฺโตทกสฺส รหทสฺส วเสน เอวํลทฺธนาเม อาราเม. เวภารปพฺพตสฺส ¶ กิร เหฏฺา ภูมฏฺกนาคานํ ปฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ตเลน อารามอุยฺยาเนหิ จ สมนฺนาคตํ, ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺาเน มหาอุทกรหโท, ตโต ตโปทา นาม นที สนฺทติ กุถิตา อุณฺโหทกา. กสฺมา ปเนสา เอทิสา ชาตา? ราชคหํ กิร ปริวาเรตฺวา มหา เปตโลโก, ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภินิรยานํ อนฺตเรน อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ, ตสฺมา สา กุถิตา สนฺทติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยตายํ, ภิกฺขเว, ตโปทา สนฺทติ, โส ทโห อจฺโฉทโก สีโตทโก สาโตทโก เสโตทโก สุปฺปติตฺโถ รมณีโย ปหูตมจฺฉกจฺฉโป, จกฺกมตฺตานิ จ ปทุมานิ ปุปฺผนฺติ ¶ . อปิจายํ, ภิกฺขเว, ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉติ, เตนายํ ตโปทา กุถิตา สนฺทตี’’ติ (ปารา. ๒๓๑). อิมสฺส ปน อารามสฺส อภิสมฺมุขฏฺาเน ตโต มหาอุทกรหโท ชาโต, ตสฺส นามวเสนายํ วิหาโร ตโปทาราโมติ วุจฺจติ.
๒๘๐. สมิทฺธีติ ตสฺส กิร เถรสฺส อตฺตภาโว สมิทฺโธ อภิรูโป ปาสาทิโก, ตสฺมา สมิทฺธิตฺเวว สงฺขํ คโต. อาทิพฺรหฺมจริยโกติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิ ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติภูโต. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนาติ มธุปิณฺฑิกสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๙๙ อาทโย) วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
๒๘๒. อิติ เม จกฺขุนฺติ อิมสฺมึ กิร สุตฺเต ภควา ทฺวาทสายตนวเสเนว มาติกํ เปสิ. เถโรปิ ‘‘ภควตา เหฏฺา ¶ ทฺวีสุ, อุปริ จตุตฺเถ จาติ อิเมสุ ตีสุ สุตฺเตสุ ปฺจกฺขนฺธวเสน มาติกา จ วิภงฺโค จ กโต, อิธ ปน ทฺวาทสายตนวเสเนว วิภชนตฺถํ มาติกา ปิตา’’ติ นยํ ปฏิลภิตฺวา เอวมาห. อิมํ ปน นยํ ลภนฺเตน เถเรน ภาริยํ กตํ, อปเท ปทํ ทสฺสิตํ, อากาเส ปทํ กตํ, เตน นํ ภควา อิมเมว สุตฺตํ สนฺธาย – ‘‘เอตทคฺคํ ¶ , ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๗) เอตทคฺเค เปสิ. เอตฺถ ปน จกฺขูติ จกฺขุปสาโท. รูปาติ จตุสมุฏฺานิกรูปา. อิมินา นเยน เสสายตนานิปิ เวทิตพฺพานิ. วิฺาณนฺติ นิกนฺติวิฺาณํ. ตทภินนฺทตีติ ตํ จกฺขฺุเจว รูปฺจ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทติ. อนฺวาคเมตีติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อนุคจฺฉติ.
อิติ เม มโน อโหสิ อตีตมทฺธานํ อิติ ธมฺมาติ เอตฺถ ปน มโนติ ภวงฺคจิตฺตํ. ธมฺมาติ เตภูมกธมฺมารมฺมณํ.
๒๘๓. ปณิทหตีติ ปตฺถนาวเสน เปสิ. ปณิธานปจฺจยาติ ปตฺถนาฏฺปนการณา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. โลมสกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๘๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ โลมสกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ. ตตฺถ โลมสกงฺคิโยติ องฺคเถโร กิร นาเมส, กายสฺส ปน อีสกโลมสาการตาย โลมสกงฺคิโยติ ปากโฏ ชาโต. จนฺทโน ¶ เทวปุตฺโตติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล กิเรส จนฺทโน นาม อุปาสโก อฑฺโฒ มหทฺธโน ตีณิ รตนานิ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปูเชตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโต, ปุริมนาเมน จนฺทโน เทวปุตฺโตตฺเวว สงฺขํ คโต. ปณฺฑุกมฺพลสิลายนฺติ รตฺตกมฺพลสิลายํ. ตสฺสา กิร รตฺตกมฺพลสฺเสว ชยสุมนปุปฺผราสิ วิย วณฺโณ, ตสฺมา ‘‘ปณฺฑุกมฺพลสิลา’’ติ วุจฺจติ.
กทา ปน ตตฺถ ภควา วิหาสีติ? โพธิปตฺติโต สตฺตเม สํวจฺฉเร สาวตฺถิยํ อาสาฬฺหีมาสปุณฺณมาย ทฺวาทสโยชนาย ปริสาย มชฺเฌ ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา โอรุยฺห กณฺฑมฺพมูเล ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมเทสนาย มหาชนํ มหาวิทุคฺคโต อุทฺธริตฺวา พุทฺธา นาม ยสฺมา ปาฏิหาริยํ กตฺวา มนุสฺสปเถ น วสนฺติ, ตสฺมา ปสฺสมานสฺเสว ตสฺส ชนสฺส ปทวีกฺกมํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ วสฺสํ อุปคโต, ตสฺมึ สมเย วิหาสิ.
ตตฺร ภควาติ ตตฺร วิหรนฺโต ภควา เยภุยฺเยน ทสหิ จกฺกวาฬสหสฺเสหิ สนฺนิปติตาหิ เทวตาหิ ปริวุโต มาตรํ กายสกฺขึ กตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ กเถนฺโต คมฺภีรํ นิปุณํ ติลกฺขณาหตํ รูปารูปปริจฺเฉทกถํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺตานํ เทวานํ สํเวคชนนตฺถํ อนฺตรนฺตรา ภทฺเทกรตฺตสฺส อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ อภาสิ. ตตฺรายํ เทวปุตฺโต อุคฺคณฺหนฺโต อิมา คาถา สทฺธึ วิภงฺเคน อุคฺคณฺหิ, เทวตฺตสฺส ปน ปมาทาธิฏฺานตฺตา ทิพฺเพหิ อารมฺมเณหิ นิปฺปีฬิยมาโน อนุปุพฺเพน สุตฺตํ สมฺมุฏฺโ คาถามตฺตเมว ธาเรสิ. เตนาห ¶ ‘‘เอวํ โข อหํ ภิกฺขุ ธาเรมิ ภทฺเทกรตฺติโย คาถา’’ติ.
อุคฺคณฺหาหิ ¶ ¶ ตฺวนฺติอาทีสุ ตุณฺหีภูโต นิสีทิตฺวา สุณนฺโต อุคฺคณฺหาติ นาม, วาจาย สชฺฌายํ กโรนฺโต ปริยาปุณาติ นาม, อฺเสํ วาเจนฺโต ธาเรติ นาม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
โลมสกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๒๘๙. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ สุโภติ โส กิร ทสฺสนีโย อโหสิ ปาสาทิโก, เตนสฺส องฺคสุภตาย สุโภตฺเวว นามํ อกํสุ. มาณโวติ ปน ตํ ตรุณกาเล โวหรึสุ, โส มหลฺลกกาเลปิ เตเนว โวหาเรน โวหริยติ. โตเทยฺยปุตฺโตติ โตเทยฺยสฺส นาม ปเสนทิรฺโ ปุโรหิตพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. โส กิร สาวตฺถิยา อวิทูเร ตุทิคาโม นาม อตฺถิ, ตสฺส อธิปติตฺตา โตเทยฺโยติ สงฺขํ คโต. มหาธโน ปน โหติ สตฺตาสีติโกฏิวิภโว ปรมมจฺฉรี, ‘‘ททโต โภคานํ อปริกฺขโย นาม นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา กสฺสจิ กิฺจิ น เทติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อฺชนานํ ขยํ ทิสฺวา, วมฺมิกานฺจ สฺจยํ;
มธูนฺจ สมาหารํ, ปณฺฑิโต ฆรมาวเส’’ติ.
เอวํ อทานเมว สิกฺขาเปสิ. ธุรวิหาเร วสโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ยาคุอุฬุงฺคมตฺตํ วา ภตฺตกฏจฺฉุมตฺตํ วา อทตฺวา ธนโลเภน กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว ฆเร สุนโข หุตฺวา นิพฺพตฺโต. สุโภ ตํ สุนขํ อติวิย ปิยายติ ¶ , อตฺตโน ภฺุชนกภตฺตํเยว โภเชติ, อุกฺขิปิตฺวา วรสยเน สยาเปติ. อถ ภควา เอกทิวสํ ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต ตํ สุนขํ ทิสฺวา – ‘‘โตเทยฺยพฺราหฺมโณ ธนโลเภน อตฺตโนว ฆเร สุนโข หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อชฺช มยิ สุภสฺส ฆรํ คเต มํ ทิสฺวา สุนโข ภุกฺการํ กริสฺสติ, อถสฺสาหํ เอกํ วจนํ วกฺขามิ, โส ‘ชานาติ มํ สมโณ โคตโม’ติ คนฺตฺวา อุทฺธนฏฺาเน ¶ นิปชฺชิสฺสติ. ตโตนิทานํ สุภสฺส มยา สทฺธึ เอโก กถาสลฺลาโป ภวิสฺสติ, โส ธมฺมํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺหิสฺสติ, สุนโข ปน กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ อิมํ มาณวสฺส สรเณสุ ปติฏฺานภาวํ ตฺวา ภควา ตํ ทิวสํ สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา เอกโกว คามํ ปวิสิตฺวา นิกฺขนฺเต มาณเว ตํ ฆรํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
สุนโข ¶ ภควนฺตํ ทิสฺวา ภุกฺการํ กโรนฺโต ภควโต สมีปํ คโต. ตโต นํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘โตเทยฺย ตฺวํ ปุพฺเพปิ มํ โภ โภติ ปริภวิตฺวา สุนโข ชาโต, อิทานิปิ ภุกฺการํ กตฺวา อวีจึ คมิสฺสสี’’ติ. สุนโข ตํ สุตฺวา – ‘‘ชานาติ มํ สมโณ โคตโม’’ติ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา คีวํ โอนาเมตฺวา อุทฺธนนฺตเร ฉาริกายํ นิปนฺโน. มนุสฺสา อุกฺขิปิตฺวา สยเน สยาเปตุํ นาสกฺขึสุ. สุโภ อาคนฺตฺวา – ‘‘เกนายํ สุนโข สยนา โอโรปิโต’’ติ อาห. มนุสฺสา น เกนจีติ วตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. มาณโว สุตฺวา – ‘‘มม ปิตา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต, โตเทยฺโย นาม สุนโข นตฺถิ. สมโณ ปน โคตโม ปิตรํ สุนขํ กโรติ, ยํกิฺจิ เอส มุขารุฬฺหํ ภาสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ภควนฺตํ มุสาวาเทน นิคฺคเหตุกาโม วิหารํ คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ.
ภควาปิ ตสฺส ตเถว วตฺวา อวิสํวาทนตฺถํ อาห – ‘‘อตฺถิ ปน เต มาณว ปิตรา อนกฺขาตํ ธน’’นฺติ ¶ . อตฺถิ, โภ โคตม, สตสหสฺสคฺฆนิกา สุวณฺณมาลา สตสหสฺสคฺฆนิกา สุวณฺณปาทุกา สตสหสฺสคฺฆนิกา สุวณฺณปาติ สตสหสฺสฺจ กหาปณนฺติ. คจฺฉ ตํ สุนขํ อปฺโปทกปายาสํ โภชาเปตฺวา สยเน อาโรเปตฺวา อีสกํ นิทฺทํ โอกฺกนฺตกาเล ปุจฺฉ, สพฺพํ เต อาจิกฺขิสฺสติ. อถ นํ ชาเนยฺยาสิ ‘‘ปิตา เม เอโส’’ติ. มาณโว – ‘‘สเจ สจฺจํ ภวิสฺสติ, ธนํ ลจฺฉามิ, โน เจ, สมณํ โคตมํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ทฺวีหิปิ การเณหิ ตุฏฺโ คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. สุนโข – ‘‘าโตมฺหิ อิมินา’’ติ โรทิตฺวา หุํ หุนฺติ กโรนฺโต ธนนิธานฏฺานํ คนฺตฺวา ปาเทน ปถวึ ขณิตฺวา สฺํ อทาสิ, มาณโว ธนํ คเหตฺวา – ‘‘ภวปฏิจฺฉนฺนํ นาม เอวํ สุขุมํ ปฏิสนฺธิอนฺตรํ ปากฏํ สมณสฺส โคตมสฺส, อทฺธา เอส สพฺพฺู’’ติ ภควติ ปสนฺนจิตฺโต จุทฺทส ปฺเห อภิสงฺขริ. องฺควิชฺชาปาโก กิเรส, เตนสฺส ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ ธมฺมปณฺณาการํ คเหตฺวา สมณํ โคตมํ ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ทุติยคมเนน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, เตน ปุฏฺปฺเห ปน ภควา เอกปฺปหาเรเนว วิสฺสชฺเชนฺโต กมฺมสฺสกาติอาทิมาห.
ตตฺถ กมฺมํ เอเตสํ สกํ อตฺตโน ภณฺฑกนฺติ กมฺมสฺสกา. กมฺมสฺส ทายาทาติ กมฺมทายาทา, กมฺมํ เอเตสํ ทายชฺชํ ภณฺฑกนฺติ อตฺโถ. กมฺมํ เอเตสํ โยนิ การณนฺติ กมฺมโยนี. กมฺมํ เอเตสํ พนฺธูติ กมฺมพนฺธู, กมฺมาตกาติ อตฺโถ. กมฺมํ เอเตสํ ปฏิสรณํ ปติฏฺาติ ¶ กมฺมปฏิสรณา. ยทิทํ ¶ หีนปฺปณีตตายาติ ยํ อิทํ ‘‘ตฺวํ หีโน ภว, ตฺวํ ปณีโต, ตฺวํ อปฺปายุโก, ตฺวํ ทีฆายุโก…เป… ตฺวํ ทุปฺปฺโ ภว, ตฺวํ ปฺวา’’ติ เอวํ หีนปฺปณีตตาย วิภชนํ, ตํ น อฺโ โกจิ กโรติ, กมฺมเมว เอวํ สตฺเต วิภชตีติ อตฺโถ. น มาณโว กถิตสฺส อตฺถํ สฺชานาสิ, ฆนทุสฺสปฏฺเฏนสฺส มุขํ พนฺธิตฺวา มธุรํ ปุรโต ปิตํ วิย อโหสิ. มานนิสฺสิโต กิเรส ปณฺฑิตมานี, อตฺตนา สมํ น ปสฺสติ. อถสฺส ‘‘กึ สมโณ โคตโม กเถติ, ยมหํ ชานามิ, ตเทว กเถตีติ อยํ มาโน มา อโหสี’’ติ มานภฺชนตฺถํ ภควา ‘‘อาทิโตว ทุปฺปฏิวิชฺฌํ กตฺวา กเถสฺสามิ, ตโต ‘นาหํ โภ โคตม ชานามิ, วิตฺถาเรน เม ปากฏํ กตฺวา กเถถา’ติ มํ ยาจิสฺสติ, อถสฺสาหํ ยาจิตกาเล กเถสฺสามิ, เอวฺจสฺส สาตฺถกํ ภวิสฺสตี’’ติ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ กตฺวา กเถสิ.
อิทานิ โส อตฺตโน อปฺปฏิวิทฺธภาวํ ปกาเสนฺโต น โข อหนฺติอาทิมาห.
๒๙๐. สมตฺเตนาติ ปริปุณฺเณน. สมาทินฺเนนาติ คหิเตน ปรามฏฺเน. อปฺปายุกสํวตฺตนิกา เอสา, มาณว, ปฏิปทา ยทิทํ ปาณาติปาตีติ ยํ อิทํ ปาณาติปาตกมฺมํ, เอสา อปฺปายุกสํวตฺตนิกา ปฏิปทาติ.
กถํ ปเนสา อปฺปายุกตํ กโรติ? จตฺตาริ หิ กมฺมานิ อุปปีฬกํ อุปจฺเฉทกํ ชนกํ อุปตฺถมฺภกนฺติ. พลวกมฺเมน หิ นิพฺพตฺตํ ปวตฺเต อุปปีฬกํ อาคนฺตฺวา ¶ อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, จตูสุเยว ตํ อปาเยสุ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ. โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ ¶ กตฺถจิ นิพฺพตฺต, อหํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม ตํ ปีเฬตฺวา นิโรชํ นิยูสํ กสฏํ กริสฺสามี’’ติ. ตโต ปฏฺาย ตํ ตาทิสํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ อุปเนติ, โภเค วินาเสติ.
ตตฺถ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตุ อสฺสาโท วา สุขํ วา น โหติ, มาตาปิตูนํ ปีฬาว อุปฺปชฺชติ. เอวํ ปริสฺสยํ อุปเนติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคา อุทกํ ปตฺวา โลณํ วิย ราชาทีนํ วเสน นสฺสนฺติ, กุมฺภโทหนเธนุโย ขีรํ น เทนฺติ, สูรตา โคณา จณฺฑา โหนฺติ, กาณา โหนฺติ, ขุชฺชา ¶ โหนฺติ, โคมณฺฑเล โรโค ปตติ, ทาสาทโย วจนํ น กโรนฺติ, วาปิตํ สสฺสํ น ชายติ, เคหคตํ เคเห, อรฺคตํ อรฺเ นสฺสติ, อนุปุพฺเพน ฆาสจฺฉาทนมตฺตํ ทุลฺลภํ โหติ, คพฺภปริหาโร น โหติ, วิชาตกาเล มาตุถฺํ ฉิชฺชติ, ทารโก ปริหารํ อลภนฺโต ปีฬิโต นิโรโช นิยูโส กสโฏ โหติ, อิทํ อุปปีฬกกมฺมํ นาม.
ทีฆายุกกมฺเมน ปน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อาคนฺตฺวา อายุํ ฉินฺทติ. ยถา หิ ปุริโส อฏฺุสภคมนํ กตฺวา สรํ ขิเปยฺย ตมฺโ ธนุโต วิมุตฺตมตฺตํ มุคฺคเรน ปหริตฺวา ตตฺเถว ปาเตยฺย, เอวํ ทีฆายุกกมฺเมน นิพฺพตฺตสฺส อุปจฺเฉทกกมฺมํ อายุํ ฉินฺทติ. กึ กโรติ? โจรานํ อฏวึ ปเวเสติ, วาฬมจฺโฉทกํ โอตาเรติ, อฺตรํ วา ปน สปริสฺสยฏฺานํ อุปเนติ, อิทํ อุปจฺเฉทกกมฺมํ นาม, ‘‘อุปฆาตก’’นฺติปิ เอตสฺเสว นามํ.
ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ ปน กมฺมํ ชนกกมฺมํ นาม. อปฺปโภคกุลาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส โภคสมฺปทาทิกรเณน อุปตฺถมฺภกกมฺมํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ ¶ นาม.
อิเมสุ จตูสุ ปุริมานิ ทฺเว อกุสลาเนว, ชนกํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ, อุปตฺถมฺภกํ กุสลเมว. ตตฺถ ปาณาติปาตกมฺมํ อุปจฺเฉทกกมฺเมน อปฺปายุกสํวตฺตนิกํ โหติ. ปาณาติปาตินา วา กตํ กุสลกมฺมํ ¶ อุฬารํ น โหติ, ทีฆายุกปฏิสนฺธึ ชเนตุํ น สกฺโกติ. เอวํ ปาณาติปาโต อปฺปายุกสํวตฺตนิโก โหติ. ปฏิสนฺธิเมว วา นิยาเมตฺวา อปฺปายุกํ กโรติ, สนฺนิฏฺานเจตนาย วา นิรเย นิพฺพตฺตติ, ปุพฺพาปรเจตนาหิ วุตฺตนเยน อปฺปายุโก โหติ.
ทีฆายุกสํวตฺตนิกา เอสา มาณว ปฏิปทาติ เอตฺถ ปริตฺตกมฺเมนปิ นิพฺพตฺตํ ปวตฺเต เอตํ ปาณาติปาตา วิรติกมฺมํ อาคนฺตฺวา อตฺถโต เอวํ วทติ นาม – ‘‘สจาหํ ปมตรํ ชาเนยฺยํ, น เต อิธ นิพฺพตฺติตุํ ทเทยฺยํ, เทวโลเกเยว ตํ นิพฺพตฺตาเปยฺยํ. โหตุ, ตฺวํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺติ, อหํ อุปตฺถมฺภกกมฺมํ นาม ถมฺภํ เต กริสฺสามี’’ติ อุปตฺถมฺภํ กโรติ. กึ กโรติ? ปริสฺสยํ นาเสติ, โภเค อุปฺปาเทติ.
ตตฺถ ¶ ทารกสฺส มาตุกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย มาตาปิตูนํ สุขเมว สาตเมว โหติ. เยปิ ปกติยา มนุสฺสามนุสฺสปริสฺสยา โหนฺติ, เต สพฺเพ อปคจฺฉนฺติ. เอวํ ปริสฺสยํ นาเสติ. ทารกสฺส ปน มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย เคเห โภคานํ ปมาณํ น โหติ, นิธิกุมฺภิโย ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ เคหํ ปวฏฺฏมานา ปวิสนฺติ. มาตาปิตโร ปเรหิ ปิตธนสฺสาปิ สมฺมุขีภาวํ คจฺฉนฺติ. เธนุโย พหุขีรา โหนฺติ, โคณา สุขสีลา โหนฺติ, วปฺปฏฺาเน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ. วฑฺฒิยา วา สมฺปยุตฺตํ, ตาวกาลิกํ วา ทินฺนํ ธนํ อโจทิตา สยเมว อาหริตฺวา เทนฺติ, ทาสาทโย สุวจา โหนฺติ, กมฺมนฺตา น ปริหายนฺติ. ทารโก ¶ คพฺภโต ปฏฺาย ปริหารํ ลภติ, โกมาริกเวชฺชา สนฺนิหิตาว โหนฺติ. คหปติกุเล ชาโต เสฏฺิฏฺานํ, อมจฺจกุลาทีสุ ชาโต เสนาปติฏฺานาทีนิ ลภติ. เอวํ โภเค อุปฺปาเทติ. โส อปริสฺสโย สโภโค จิรํ ชีวตีติ. เอวํ อปาณาติปาตกมฺมํ ทีฆายุกสํวตฺตนิกํ โหติ.
อปาณาติปาตินา วา กตํ อฺมฺปิ กุสลํ อุฬารํ โหติ, ทีฆายุกปฏิสนฺธึ ชเนตุํ สกฺโกติ, เอวมฺปิ ทีฆายุกสํวตฺตนิกํ โหติ. ปฏิสนฺธิเมว วา นิยาเมตฺวา ทีฆายุกํ กโรติ. สนฺนิฏฺานเจตนาย วา เทวโลเก นิพฺพตฺตติ, ปุพฺพาปรเจตนาหิ วุตฺตนเยน ทีฆายุโก โหติ. อิมินา นเยน สพฺพปฺหวิสฺสชฺชเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
วิเหนกมฺมาทีนิปิ ¶ หิ ปวตฺเต อาคนฺตฺวา อตฺถโต ตเถว วทมานานิ วิย อุปปีฬเนน นิพฺโภคตํ อาปาเทตฺวา ปฏิชคฺคนํ อลภนฺตสฺส โรคุปฺปาทนาทีหิ วา, วิเหกาทีหิ กตสฺส กุสลสฺส อนุฬารตาย วา, อาทิโตว ปฏิสนฺธินิยามเนน วา, วุตฺตนเยเนว ปุพฺพาปรเจตนาวเสน วา พหฺวาพาธตาทีนิ กโรนฺติ, อปาณาติปาโต วิย จ อวิเหนาทีนิปิ อปฺปาพาธตาทีนีติ.
๒๙๓. เอตฺถ ปน อิสฺสามนโกติ อิสฺสาสมฺปยุตฺตจิตฺโต. อุปทุสฺสตีติ อิสฺสาวเสเนว อุปกฺโกสนฺโต ทุสฺสติ. อิสฺสํ พนฺธตีติ ยวกลาปํ พนฺธนฺโต วิย ยถา น นสฺสติ เอวํ พนฺธิตฺวา วิย เปติ. อปฺเปสกฺโขติ อปฺปปริวาโร, รตฺตึ ขิตฺโต วิย สโร น ปฺายติ, อุจฺฉิฏฺหตฺโถ นิสีทิตฺวา อุทกทายกมฺปิ น ลภติ.
๒๙๔. น ¶ ทาตา โหตีติ มจฺฉริยวเสน น ทาตา โหติ. เตน กมฺเมนาติ เตน มจฺฉริยกมฺเมน.
๒๙๕. อภิวาเทตพฺพนฺติ ¶ อภิวาทนารหํ พุทฺธํ วา ปจฺเจกพุทฺธํ วา อริยสาวกํ วา. ปจฺจุฏฺาตพฺพาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ ปน ปฺหวิสฺสชฺชเน อุปปีฬกอุปตฺถมฺภกกมฺมานิ น คเหตพฺพานิ. น หิ ปวตฺเต นีจกุลินํ วา อุจฺจากุลินํ วา สกฺกา กาตุํ, ปฏิสนฺธิเมว ปน นิยาเมตฺวา นีจกุลิยํ กมฺมํ นีจกุเล นิพฺพตฺเตติ, อุจฺจากุลิยํ กมฺมํ อุจฺจากุเล.
๒๙๖. น ปริปุจฺฉิตา โหตีติ เอตฺถ ปน อปริปุจฺฉเนน นิรเย น นิพฺพตฺตติ. อปริปุจฺฉโก ปน ‘‘อิทํ กาตพฺพํ, อิทํ น กาตพฺพ’’นฺติ น ชานาติ, อชานนฺโต กาตพฺพํ น กโรติ, อกาตพฺพํ กโรติ. เตน นิรเย นิพฺพตฺตติ, อิตโร สคฺเค. อิติ โข, มาณว…เป… ยทิทํ หีนปฺปณีตตายาติ สตฺถา เทสนํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุภสุตฺตนฺติปิ วุจฺจติ.
๖. มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๒๙๘. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ โมฆนฺติ ตุจฺฉํ อผลํ. สจฺจนฺติ ตถํ ภูตํ. อิทฺจ เอเตน น สมฺมุขา สุตํ, อุปาลิสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๕๖) ปน – ‘‘มโนกมฺมํ มหาสาวชฺชตรํ ปฺเปมิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ¶ ปวตฺติยา, โน ตถา กายกมฺมํ โน ตถา วจีกมฺม’’นฺติ ภควตา วุตฺตํ อตฺถิ, สา กถา ติตฺถิยานํ อนฺตเร ปากฏา ชาตา, ตํ คเหตฺวา เอส วทติ. อตฺถิ จ สา สมาปตฺตีติ อิทํ – ‘‘กถํ นุ โข, โภ, อภิสฺานิโรโธ โหตี’’ติ โปฏฺปาทสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๔๐๖ อาทโย) อุปฺปนฺนํ อภิสฺานิโรธกถํ สนฺธาย วทติ. น กิฺจิ เวทิยตีติ เอกเวทนมฺปิ น เวทิยติ. อตฺถิ จ โขติ เถโร นิโรธสมาปตฺตึ สนฺธาย อนุชานาติ. ปริรกฺขิตพฺพนฺติ ครหโต โมจเนน รกฺขิตพฺพํ. สฺเจตนา อสฺส อตฺถีติ สฺเจตนิกํ, สาภิสนฺธิกํ สฺเจตนิกกมฺมํ กตฺวาติ อตฺโถ. ทุกฺขํ โสติ เถโร ‘‘อกุสลเมว สนฺธาย ปริพฺพาชโก ปุจฺฉตี’’ติ สฺาย เอวํ วทติ.
ทสฺสนมฺปิ โข อหนฺติ ภควา จตุรงฺเคปิ อนฺธกาเร สมนฺตา โยชนฏฺาเน ติลมตฺตมฺปิ สงฺขารํ มํสจกฺขุนาว ปสฺสติ, อยฺจ ปริพฺพาชโก น ทูเร คาวุตมตฺตพฺภนฺตเร วสติ, กสฺมา ภควา เอวมาหาติ? สมาคมทสฺสนํ สนฺธาเยวมาห.
๒๙๙. อุทายีติ ลาลุทายี. ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ สพฺพํ ตํ ทุกฺขเมว. อิติ อิมํ วฏฺฏทุกฺขํ กิเลสทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขํ สนฺธาย ‘‘สเจ ภาสิตํ ภเวยฺย ภควา’’ติ ปุจฺฉติ.
๓๐๐. อุมฺมงฺคนฺติ ปฺหาอุมฺมงฺคํ. อุมฺมุชฺชมาโนติ สีสํ นีหรมาโน. อโยนิโส อุมฺมุชฺชิสฺสตีติ อนุปาเยน สีสํ นีหริสฺสติ. อิทฺจ ปน ภควา ชานนฺโต เนว ทิพฺพจกฺขุนา น เจโตปริยาเณน น สพฺพฺุตาเณน ชานิ, อธิปฺปาเยเนว ¶ ปน อฺาสิ. กเถนฺตสฺส หิ อธิปฺปาโย นาม สุวิชาโน โหติ, กเถตุกาโม คีวํ ปคฺคณฺหาติ, หนุกํ ¶ จาเลติ, มุขมสฺส ผนฺทติ, สนฺนิสีทิตุํ น สกฺโกติ. ภควา ตสฺส ตํ อาการํ ¶ ทิสฺวา ‘‘อยํ อุทายี สนฺนิสีทิตุํ น สกฺโกติ, ยํ อภูตํ, ตเทว กเถสฺสตี’’ติ โอโลเกตฺวาว อฺาสิ. อาทึ เยวาติอาทิมฺหิเยว. ติสฺโส เวทนาติ ‘‘กึ โส เวทิยตี’’ติ? ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ติสฺโส เวทนา ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ ววตฺถเปตฺวาว ติสฺโส เวทนา ปุจฺฉิตา. สุขเวทนิยนฺติ สุขเวทนาย ปจฺจยภูตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
เอตฺถ จ กามาวจรกุสลโต โสมนสฺสสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา จตสฺโส เจตนา, เหฏฺา ติกชฺฌานเจตนาติ เอวํ ปฏิสนฺธิปวตฺเตสุ สุขเวทนาย ชนนโต สุขเวทนิยํ กมฺมํ นาม. กามาวจรฺเจตฺถ ปฏิสนฺธิยํเยว เอกนฺเตน สุขํ ชเนติ, ปวตฺเต อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ อทุกฺขมสุขมฺปิ.
อกุสลเจตนา ปฏิสนฺธิปวตฺเตสุ ทุกฺขสฺเสว ชนนโต ทุกฺขเวทนิยํ กมฺมํ นาม. กายทฺวาเร ปวตฺเตเยว เจตํ เอกนฺเตน ทุกฺขํ ชเนติ, อฺตฺถ อทุกฺขมสุขมฺปิ, สา ปน เวทนา อนิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺเตสุเยว อารมฺมเณสุ อุปฺปชฺชนโต ทุกฺขาตฺเวว สงฺขํ คตา.
กามาวจรกุสลโต ปน อุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา จตสฺโส เจตนา, รูปาวจรกุสลโต จตุตฺถชฺฌานเจตนาติ เอวํ ปฏิสนฺธิปวตฺเตสุ ตติยเวทนาย ชนนโต อทุกฺขมสุขเวทนิยํ กมฺมํ นาม. เอตฺถ จ กามาวจรํ ปฏิสนฺธิยํเยว เอกนฺเตน อทุกฺขมสุขํ ชเนติ, ปวตฺเต อิฏฺารมฺมเณ สุขมฺปิ. อปิจ สุขเวทนิยกมฺมํ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน วฏฺฏติ, ตถา อทุกฺขมสุขเวทนิยํ, ¶ ทุกฺขเวทนิยํ ปวตฺติวเสเนว วฏฺฏติ. เอตสฺส ปน วเสน สพฺพํ ปวตฺติวเสเนว วฏฺฏติ.
เอตสฺส ภควาติ เถโร ตถาคเตน มหากมฺมวิภงฺคกถนตฺถํ อาลโย ทสฺสิโต, ตถาคตํ ยาจิตฺวา มหากมฺมวิภงฺคาณํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปากฏํ กริสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อนุสนฺธิกุสลตาย เอวมาห. ตตฺถ มหากมฺมวิภงฺคนฺติ มหากมฺมวิภชนํ. กตเม จตฺตาโร…เป… อิธานนฺท, เอกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… นิรยํ อุปปชฺชตีติ อิทํ น มหากมฺมวิภงฺคาณภาชนํ, มหากมฺมวิภงฺคาณภาชนตฺถาย ปน มาติกาฏฺปนํ.
๓๐๑. อิธานนฺท ¶ ¶ , เอกจฺโจ สมโณ วาติ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. อิทฺหิ ภควา – ‘‘ทิพฺพจกฺขุกา สมณพฺราหฺมณา อิทํ อารมฺมณํ กตฺวา อิมํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา อิทํ ทสฺสนํ คณฺหนฺตี’’ติ ปกาสนตฺถํ อารภิ. ตตฺถ อาตปฺปนฺติอาทีนิ ปฺจปิ วีริยสฺเสว นามานิ. เจโตสมาธินฺติ ทิพฺพจกฺขุสมาธึ. ปสฺสตีติ ‘‘โส สตฺโต กุหึ นิพฺพตฺโต’’ติ โอโลเกนฺโต ปสฺสติ. เย อฺถาติ เย ‘‘ทสนฺนํ กุสลานํ กมฺมปถานํ ปูริตตฺตา นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ ชานนฺติ, มิจฺฉา เตสํ าณนฺติ วทติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิทิตนฺติ ปากฏํ. ถามสาติ ทิฏฺิถาเมน. ปรามาสาติ ทิฏฺิปรามาเสน. อภินิวิสฺส โวหรตีติ อธิฏฺหิตฺวา อาทิยิตฺวา โวหรติ.
๓๐๒. ตตฺรานนฺทาติ ¶ อิทมฺปิ น มหากมฺมวิภงฺคาณสฺส ภาชนํ, อถ ขฺวาสฺส มาติกาฏฺปนเมว. เอตฺถ ปน เอเตสํ ทิพฺพจกฺขุกานํ วจเน เอตฺตกา อนฺุาตา, เอตฺตกา อนนฺุาตาติ อิทํ ทสฺสิตํ. ตตฺถ ตตฺราติ เตสุ จตูสุ สมณพฺราหฺมเณสุ. อิทมสฺสาติ อิทํ วจนํ อสฺส. อฺถาติ อฺเนากาเรน. อิติ อิเมสํ สมณพฺราหฺมณานํ วาเท ทฺวีสุ าเนสุ อนฺุาตา, ตีสุ อนนฺุาตาติ เอวํ สพฺพตฺถ อนฺุา นานฺุา เวทิตพฺพา.
๓๐๓. เอวํ ทิพฺพจกฺขุกานํ วจเน อนฺุา จ อนนฺุา จ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มหากมฺมวิภงฺคาณํ วิภชนฺโต ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโลติอาทิมาห.
ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหตีติ ยํ อิมินา ทิพฺพจกฺขุเกน กมฺมํ กโรนฺโต ทิฏฺโ, ตโต ปุพฺเพ กตํ. ปุพฺเพ กเตนปิ หิ นิรเย นิพฺพตฺตติ, ปจฺฉา กเตนปิ นิพฺพตฺตติ, มรณกาเล วา ปน – ‘‘ขนฺโท เสฏฺโ สิโว เสฏฺโ, ปิตามโห เสฏฺโ, อิสฺสราทีหิ วา โลโก วิสฏฺโ’’ติอาทินา มิจฺฉาทสฺสเนนปิ นิพฺพตฺตเตว. ทิฏฺเว ธมฺเมติ ยํ ตตฺถ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม, ยํ อุปปชฺชเวทนียํ, ตสฺส อุปปชฺชิตฺวา, ยํ อปราปริยเวทนียํ, ตสฺส อปรสฺมึ ปริยาเย วิปากํ ปฏิสํเวเทติ.
อิติ ¶ อยํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอกํ กมฺมราสึ เอกฺจ วิปากราสึ อทฺทส, สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิมินา อทิฏฺเ ตโย กมฺมราสี, ทฺเว จ วิปากราสี อทฺทส. อิมินา ปน ทิฏฺเ ¶ อทิฏฺเ จ จตฺตาโร กมฺมราสี ตโย จ วิปากราสี อทฺทส. อิมานิ สตฺต านานิ ชานนาณํ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคาณํ นาม. ทุติยวาเร ทิพฺพจกฺขุเกน กิฺจิ น ทิฏฺํ ¶ , ตถาคเตน ปน ตโย กมฺมราสี, ทฺเว จ วิปากราสี ทิฏฺาติ. อิมานิปิ ปฺจ ปจฺจตฺตฏฺานานิ ชานนาณํ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคาณํ นาม. เสสวารทฺวเยปิ เอเสว นโย.
อภพฺพนฺติ ภูตวิรหิตํ อกุสลํ. อภพฺพาภาสนฺติ อภพฺพํ อาภาสติ อภิภวติ ปฏิพาหตีติ อตฺโถ. พหุกสฺมิฺหิ อกุสลกมฺเม อายูหิเต พลวกมฺมํ ทุพฺพลกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ อิทํ อภพฺพฺเจว อภพฺพาภาสฺจ. กุสลํ ปน อายูหิตฺวา อาสนฺเน อกุสลํ กตํ โหติ, ตํ กุสลสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ, อิทํ อภพฺพํ ภพฺพาภาสํ. พหุมฺหิ กุสเล อายูหิเตปิ พลวกมฺมํ ทุพฺพลกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ, อิทํ ภพฺพฺเจว ภพฺพาภาสฺจ. อกุสลํ ปน อายูหิตฺวา อาสนฺเน กุสลํ กตํ โหติ, ตํ อกุสลสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ, อิทํ ภพฺพํ อภพฺพาภาสํ.
อปิจ อุปฏฺานากาเรนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ, อภพฺพโต อาภาสติ อุปฏฺาตีติ อภพฺพาภาสํ. ตตฺถ ‘‘ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี’’ติอาทินา นเยน จตฺตาโร ปุคฺคลา วุตฺตา, เตสุ ปมสฺส กมฺมํ อภพฺพํ อภพฺพาภาสํ, ตฺหิ อกุสลตฺตา อภพฺพํ, ตสฺส จ นิรเย นิพฺพตฺตตฺตา ตตฺถ นิพฺพตฺติการณภูตํ อกุสลํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ทุติยสฺส กมฺมํ อภพฺพํ ภพฺพาภาสํ, ตฺหิ อกุสลตฺตา อภพฺพํ. ตสฺส ปน สคฺเค นิพฺพตฺตตฺตา ¶ อฺติตฺถิยานํ สคฺเค นิพฺพตฺติการณภูตํ ¶ กุสลํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. อิตรสฺมิมฺปิ กมฺมทฺวเย เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สฬายตนวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๐๔. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ สฬายตนวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ เวทิตพฺพานีติ สหวิปสฺสเนน มคฺเคน ชานิตพฺพานิ. มโนปวิจาราติ วิตกฺกวิจารา. วิตกฺกุปฺปาทกฺหิ มโน อิธ มโนติ อธิปฺเปตํ, มนสฺส อุปวิจาราติ มโนปวิจารา. สตฺตปทาติ วฏฺฏวิวฏฺฏนิสฺสิตานํ สตฺตานํ ปทา. เอตฺถ หิ อฏฺารส วฏฺฏปทา นาม, อฏฺารส วิวฏฺฏปทา นาม, เตปิ สหวิปสฺสเนน มคฺเคเนว เวทิตพฺพา. โยคฺคาจริยานนฺติ หตฺถิโยคฺคาทิอาจารสิกฺขาปกานํ, ทเมตพฺพทมกานนฺติ อตฺโถ. เสสํ วิภงฺเคเยว อาวิภวิสฺสติ. อยมุทฺเทโสติ อิทํ มาติกาฏฺปนํ.
๓๐๕. จกฺขายตนาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตานิ. จกฺขุวิฺาณนฺติ กุสลากุสลวิปากโต ทฺเว จกฺขุวิฺาณานิ. เสสปสาทวิฺาเณสุปิ เอเสว นโย. อิมานิ ปน ทส เปตฺวา เสสํ อิธ มโนวิฺาณํ นาม.
จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขุมฺหิ สมฺผสฺโส. จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตสมฺผสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
จกฺขุนา ¶ รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. โสมนสฺสฏฺานิยนฺติ โสมนสฺสสฺส อารมฺมณวเสน การณภูตํ. อุปวิจรตีติ ตตฺถ วิจารปวตฺตเนน อุปวิจรติ, วิตกฺโก ตํสมฺปยุตฺโต จาติ อิมินา นเยน อฏฺารส วิตกฺกวิจารสงฺขาตา มโนปวิจารา เวทิตพฺพา. ฉ โสมนสฺสูปวิจาราติ เอตฺถ ปน โสมนสฺเสน สทฺธึ อุปวิจรนฺตีติ โสมนสฺสูปวิจารา. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.
๓๐๖. เคหสิตานีติ ¶ กามคุณนิสฺสิตานิ. เนกฺขมฺมสิตานีติ วิปสฺสนานิสฺสิตานิ. อิฏฺานนฺติ ปริเยสิตานํ. กนฺตานนฺติ กามิตานํ. มโนรมานนฺติ มโน เอเตสุ รมตีติ มโนรมานิ, เตสํ มโนรมานํ. โลกามิสปฏิสํยุตฺตานนฺติ ตณฺหาปฏิสํยุตฺตานํ. อตีตนฺติ ปฏิลทฺธํ ¶ . ปจฺจุปฺปนฺนํ ตาว อารพฺภ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชตุ, อตีเต กถํ อุปฺปชฺชตีติ. อตีเตปิ – ‘‘ยถาหํ เอตรหิ อิฏฺารมฺมณํ อนุภวามิ, เอวํ ปุพฺเพปิ อนุภวิ’’นฺติ อนุสฺสรนฺตสฺส พลวโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ.
อนิจฺจตนฺติ อนิจฺจาการํ. วิปริณามวิราคนิโรธนฺติ ปกติวิชหเนน วิปริณามํ, วิคจฺฉเนน วิราคํ, นิรุชฺฌเนน นิโรธํ. สมฺมปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย. อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺสนฺติ อิทํ รฺโ วิย อตฺตโน สิริสมฺปตฺตึ โอโลเกนฺตสฺส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส สงฺขารานํ เภทํ ปสฺสโต สงฺขารคตมฺหิ ¶ ติกฺเข สูเร วิปสฺสนาาเณ วหนฺเต อุปฺปนฺนโสมนสฺสํ ‘‘เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺส’’นฺติ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สฺุาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.
ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตนฺตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๓-๓๗๔);
อิมานีติ อิมานิ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส อุปฺปนฺนานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ.
๓๐๗. อตีตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ ตาว ปตฺเถตฺวา อลภนฺตสฺส โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตุ, อตีเต กถํ อุปฺปชฺชตีติ. อตีเตปิ ‘‘ยถาหํ เอตรหิ อิฏฺารมฺมณํ ปตฺเถตฺวา น ลภามิ, เอวํ ปุพฺเพปิ ปตฺเถตฺวา น ลภิ’’นฺติ อนุสฺสรนฺตสฺส พลวโทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ.
อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสูติ อนุตฺตรวิโมกฺโข นาม อรหตฺตํ, อรหตฺเต ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อายตนนฺติ อรหตฺตายตนํ. ปิหํ อุปฏฺาปยโตติ ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺส. ตํ ปเนตํ ปตฺถนํ ปฏฺเปนฺตสฺส ¶ อุปฺปชฺชติ, อิติ ปตฺถนามูลกตฺตา ‘‘ปิหํ อุปฏฺาปยโต’’ติ วุตฺตํ. อิมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานีติ อิมานิ เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อรหตฺเต ปิหํ ปฏฺเปตฺวา ¶ ตทธิคมาย อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ อุปฏฺเปตฺวา อุสฺสุกฺกาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส – ‘‘อิมมฺปิ ปกฺขํ อิมมฺปิ มาสํ อิมมฺปิ สํวจฺฉรํ อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ อนุโสจโต คามนฺตปพฺภารวาสิมหาสีวตฺเถรสฺส วิย อสฺสุธาราปวตฺตนวเสน อุปฺปนฺนโทมนสฺสานิ ¶ ฉ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสานีติ เวทิตพฺพานิ. วตฺถุ ปน สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย สกฺกปฺหวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๖๑) วิตฺถาริตํ, อิจฺฉนฺเตน ตโต คเหตพฺพํ.
๓๐๘. อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขาติ เอตฺถ อุเปกฺขา นาม อฺาณุเปขา. อโนธิชินสฺสาติ กิเลโสธึ ชินิตฺวา ิตตฺตา ขีณาสโว โอธิชิโน นาม, ตสฺมา อขีณาสวสฺสาติ อตฺโถ. อวิปากชินสฺสาติ เอตฺถปิ อายตึ วิปากํ ชินิตฺวา ิตตฺตา ขีณาสโวว วิปากชิโน นาม, ตสฺมา อขีณาสวสฺเสวาติ อตฺโถ. อนาทีนวทสฺสาวิโนติอาทีนวโต อุปทฺทวโต อปสฺสนฺตสฺส. อิมา ฉ เคหสิตา อุเปกฺขาติ อิมา เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต คุฬปิณฺฑเก นิลีนมกฺขิกา วิย รูปาทีนิ อนติวตฺตมานา ตตฺถ ลคฺคา ลคฺคิตา หุตฺวา อุปฺปนฺนา อุเปกฺขา ฉ เคหสิตา อุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา.
รูปํ สา อติวตฺตตีติ รูปํ สา อนติกฺกมติ, ตตฺถ นิกนฺติวเสน น ติฏฺติ. อิมา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขาติ อิมา เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺาทิอารมฺมเณ อาปาถคเต อิฏฺเ อรชฺชนฺตสฺส, อนิฏฺเ อทุสฺสนฺตสฺส, อสมเปกฺขเน อสมฺมุยฺหนฺตสฺส, อุปฺปนฺนวิปสฺสนา-าณสมฺปยุตฺตา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา.
๓๐๙. ตตฺร อิทํ นิสฺสาย อิทํ ปชหถาติ เตสุ ฉตฺตึสสตฺตปเทสุ อฏฺารส นิสฺสาย อฏฺารส ปชหถาติ อตฺโถ. เตเนว ¶ – ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานี’’ติอาทิมาห. นิสฺสาย อาคมฺมาติ ปวตฺตนวเสน นิสฺสาย เจว อาคมฺม จ. เอวเมเตสํ สมติกฺกโม ¶ โหตีติ เอวํ เนกฺขมฺมสิตานํ ปวตฺตเนน เคหสิตานิ อติกฺกนฺตานิ นาม โหนฺติ.
เอวํ สริกฺขเกเนว สริกฺขกํ ชหาเปตฺวา อิทานิ พลวตา ทุพฺพลํ ชหาเปนฺโต – ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานี’’ติอาทิมาห. เอวํ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺเสหิ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสานิ ¶ , เนกฺขมฺมสิตอุเปกฺขาหิ จ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺสานิ ชหาเปนฺเตน พลวตา ทุพฺพลปฺปหานํ กถิตํ.
เอตฺถ ปน ตฺวา อุเปกฺขากถา เวทิตพฺพา – อฏฺสุ หิ สมาปตฺตีสุ ปมาทีนิ จ ตีณิ ฌานานิ, สุทฺธสงฺขาเร จ ปาทเก กตฺวา วิปสฺสนํ อารทฺธานํ จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตา วา โหติ อุเปกฺขาสหคตา วา, วุฏฺานคามินี ปน โสมนสฺสสหคตาว. จตุตฺถชฺฌานาทีนิ ปาทกานิ กตฺวา วิปสฺสนํ อารทฺธานํ ปฺจนฺนํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา ปุริมสทิสาว. วุฏฺานคามินี ปน อุเปกฺขาสหคตา โหติ. อิทํ สนฺธาย – ‘‘ยา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา, ตา นิสฺสาย ตา อาคมฺม, ยานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ, ตานิ ปชหถา’’ติ วุตฺตํ. น เกวลฺจ เอวํปฏิปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อยํ วิปสฺสนาย เวทนาวิเสโสว โหติ, อริยมคฺเคปิ ปน ฌานงฺคโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานมฺปิ วิเสโส โหติ.
โก ปเนตํ วิเสสํ นิยเมติ? เกจิ ตาว เถรา วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ นิยเมตีติ วทนฺติ, เกจิ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตีติ วทนฺติ, เกจิ ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตีติ วทนฺติ. เตสมฺปิ วาเท อยเมว ปุพฺพภาเค วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา นิยเมตีติ เวทิตพฺพา. วินิจฺฉยกถา ¶ ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค สงฺขารุเปกฺขานิทฺเทเส วุตฺตาว.
๓๑๐. นานตฺตาติ นานา พหู อเนกปฺปการา. นานตฺตสิตาติ นานารมฺมณนิสฺสิตา. เอกตฺตาติ เอกา. เอกตฺตสิตาติ เอการมฺมณนิสฺสิตา. กตมา ปนายํ อุเปกฺขาติ? เหฏฺา ตาว อฺาณุเปกฺขา วุตฺตา, อุปริ ฉฬงฺคุเปกฺขา วกฺขติ, อิธ สมถอุเปกฺขา, วิปสฺสนุเปกฺขาติ ทฺเว อุเปกฺขา คหิตา.
ตตฺถ ยสฺมา อฺาว รูเปสุ อุเปกฺขา, อฺาว สทฺทาทีสุ, น หิ ยา รูเป อุเปกฺขา, สา สทฺทาทีสุ โหติ. รูเป อุเปกฺขา จ รูปเมว อารมฺมณํ กโรติ ¶ , น สทฺทาทโย. รูเป อุเปกฺขาภาวฺจ อฺา สมถอุเปกฺขา ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ, อฺา อาโปกสิณาทีนิ. ตสฺมา นานตฺตํ นานตฺตสิตํ วิภชนฺโต อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา รูเปสูติอาทิมาห ¶ . ยสฺมา ปน ทฺเว วา ตีณิ วา อากาสานฺจายตนานิ วา วิฺาณฺจายตนาทีนิ วา นตฺถิ, ตสฺมา เอกตฺตํ เอกตฺตสิตํ วิภชนฺโต อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา อากาสานฺจายตนนิสฺสิตาติอาทิมาห.
ตตฺถ อากาสานฺจายตนอุเปกฺขา สมฺปยุตฺตวเสน อากาสานฺจายตนนิสฺสิตา, อากาสานฺจายตนขนฺเธ วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนุเปกฺขา อารมฺมณวเสน อากาสานฺจายตนนิสฺสิตา. เสสาสุปิ เอเสว นโย.
ตํ ปชหถาติ เอตฺถ อรูปาวจรสมาปตฺติอุเปกฺขาย รูปาวจรสมาปตฺติอุเปกฺขํ ปชหาเปติ, อรูปาวจรวิปสฺสนุเปกฺขาย รูปาวจรวิปสฺสนุเปกฺขํ.
อตมฺมยตนฺติ ¶ เอตฺถ ตมฺมยตา นาม ตณฺหา, ตสฺสา ปริยาทานโต วุฏฺานคามินีวิปสฺสนา อตมฺมยตาติ วุจฺจติ. ตํ ปชหถาติ อิธ วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาย อรูปาวจรสมาปตฺติอุเปกฺขฺจ วิปสฺสนุเปกฺขฺจ ปชหาเปติ.
๓๑๑. ยทริโยติ เย สติปฏฺาเน อริโย สมฺมาสมฺพุทฺโธ เสวติ. ตตฺถ ตีสุ าเนสุ สตึ ปฏฺเปนฺโต สติปฏฺาเน เสวตีติ เวทิตพฺโพ. น สุสฺสูสนฺตีติ สทฺทหิตฺวา โสตุํ น อิจฺฉนฺติ. น อฺาติ ชานนตฺถาย จิตฺตํ น อุปฏฺเปนฺติ. โวกฺกมฺมาติ อติกฺกมิตฺวา. สตฺถุ สาสนาติ สตฺถุ โอวาทํ คเหตพฺพํ ปูเรตพฺพํ น มฺนฺตีติ อตฺโถ. น จ อตฺตมโนติ น สกมโน. เอตฺถ จ เคหสิตโทมนสฺสวเสน อปฺปตีโต โหตีติ น เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อปฺปฏิปนฺนเกสุ ปน อตฺตมนตาการณสฺส อภาเวเนตํ วุตฺตํ. อนวสฺสุโตติ ปฏิฆอวสฺสเวน อนวสฺสุโต. สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต ¶ . อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก. อตฺตมโนติ อิธาปิ เคหสิตโสมนสฺสวเสน อุปฺปิลาวิโตติ น เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ปฏิปนฺนเกสุ ปน อนตฺตมนตาการณสฺส อภาเวเนตํ วุตฺตํ. อนวสฺสุโตติ ราคาวสฺสเวน อนวสฺสุโต.
๓๑๒. สาริโตติ ¶ ทมิโต. เอกเมว ทิสํ ธาวตีติ อนิวตฺติตฺวา ธาวนฺโต เอกํเยว ทิสํ ธาวติ, นิวตฺติตฺวา ปน อปรํ ธาวิตุํ สกฺโกติ. อฏฺ ¶ ทิสา วิธาวตีติ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน กาเยน อนิวตฺติตฺวาว วิโมกฺขวเสน เอกปฺปหาเรเนว อฏฺ ทิสา วิธาวติ, ปุรตฺถาภิมุโข วา ทกฺขิณาทีสุ อฺตรทิสาภิมุโข วา นิสีทิตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย สมาปชฺชติเยวาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สฬายตนวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๑๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ อุทฺเทสวิภงฺคนฺติ อุทฺเทสฺจ วิภงฺคฺจ, มาติกฺจ วิภชนฺจาติ อตฺโถ. อุปปริกฺเขยฺยาติ ตุเลยฺย ตีเรยฺย ปริคฺคณฺเหยฺย ปริจฺฉินฺเทยฺย. พหิทฺธาติ พหิทฺธาอารมฺมเณสุ. อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏนฺติ นิกนฺติวเสน อารมฺมเณ ติฏฺมานํ วิกฺขิตฺตํ วิสฏํ นาม โหติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต เอวมาห. อชฺฌตฺตํ อสณฺิตนฺติ โคจรชฺฌตฺเต นิกนฺติวเสน อสณฺิตํ. อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺยาติ อนุปาทิยิตฺวา อคฺคเหตฺวา ตํ วิฺาณํ น ปริตสฺเสยฺย. ยถา วิฺาณํ พหิทฺธา อวิกฺขิตฺตํ อวิสฏํ, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตํ อนุปาทาย น ปริตสฺเสยฺย, เอวํ ภิกฺขุ อุปปริกฺเขยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโวติ ชาติชรามรณสฺส เจว อวเสสสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติ น โหตีติ อตฺโถ.
๓๑๖. รูปนิมิตฺตานุสารีติ ¶ รูปนิมิตฺตํ อนุสฺสรติ อนุธาวตีติ รูปนิมิตฺตานุสารี.
๓๑๘. เอวํ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺตํ อสณฺิตนฺติ นิกนฺติวเสน ¶ อสณฺิตํ. นิกนฺติวเสน หิ อติฏฺมานํ หานภาคิยํ น โหติ, วิเสสภาคิยเมว โหติ.
๓๒๐. อนุปาทา ปริตสฺสนาติ สตฺถารา ขนฺธิยวคฺเค ‘‘อุปาทาปริตสฺสนฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อนุปาทาอปริตสฺสนฺจา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗) เอวํ คเหตฺวา ปริตสฺสนา, อคฺคเหตฺวาว อปริตสฺสนา จ กถิตา, ตํ มหาเถโร อุปาทาปริตสฺสนเมว อนุปาทาปริตสฺสนนฺติ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห. กถํ ปเนสา อนุปาทาปริตสฺสนา โหตีติ. อุปาทาตพฺพสฺส อภาวโต. ยทิ หิ โกจิ สงฺขาโร นิจฺโจ วา ธุโว วา อตฺตา วา อตฺตนิโย วาติ คเหตพฺพยุตฺตโก อภวิสฺส, อยํ ปริตสฺสนา อุปาทาปริตสฺสนาว อสฺส. ยสฺมา ปน เอวํ อุปาทาตพฺโพ สงฺขาโร นาม นตฺถิ, ตสฺมา รูปํ อตฺตาติอาทินา นเยน รูปาทโย ¶ อุปาทินฺนาปิ อนุปาทินฺนาว โหนฺติ. เอวเมสา ทิฏฺิวเสน อุปาทาปริตสฺสนาปิ สมานา อตฺถโต อนุปาทาปริตสฺสนาเยว นาม โหตีติ เวทิตพฺพา.
อฺถา โหตีติ ปริวตฺตติ ปกติชหเนน นสฺสติ, รูปวิปริณามานุปริวตฺตีติ ‘‘มม รูปํ วิปริณต’’นฺติ วา, ‘‘ยํ อหุ, ตํ วต เม นตฺถี’’ติ วา อาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔๒) นเยน กมฺมวิฺาณํ รูปสฺส เภทานุปริวตฺติ โหติ. วิปริณามานุปริวตฺตชาติ วิปริณามสฺส อนุปริวตฺตนโต วิปริณามารมฺมณจิตฺตโต ชาตา. ปริตสฺสนา ธมฺมสมุปฺปาทาติ ตณฺหาปริตสฺสนา จ อกุสลธมฺมสมุปฺปาทา จ. จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตีติ กุสลจิตฺตํ ปริยาทิยิตฺวา คเหตฺวา เขเปตฺวา ติฏฺนฺติ. อุตฺตาสวาติ ภยตาเสนปิ สอุตฺตาโส ตณฺหาตาเสนปิ สอุตฺตาโส. วิฆาตวาติ ¶ สวิฆาโต สทุกฺโข. อเปกฺขวาติ สาลโย สสิเนโห. เอวํ โข, อาวุโส, อนุปาทา ปริตสฺสนา โหตีติ เอวํ มณิกรณฺฑกสฺาย ตุจฺฉกรณฺฑกํ คเหตฺวา ตสฺมึ นฏฺเ ปจฺฉา วิฆาตํ อาปชฺชนฺตสฺส วิย ปจฺฉา อคฺคเหตฺวา ปริตสฺสนา โหติ.
๓๒๑. น ¶ จ รูปวิปริณามานุปริวตฺตีติ ขีณาสวสฺส กมฺมวิฺาณเมว นตฺถิ, ตสฺมา รูปเภทานุปริวตฺติ น โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อรณวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๒๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อรณวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ เนวุสฺสาเทยฺย น อปสาเทยฺยาติ เคหสิตวเสน กฺจิ ปุคฺคลํ เนว อุกฺขิเปยฺย น อวกฺขิเปยฺย. ธมฺมเมว เทเสยฺยาติ สภาวเมว กเถยฺย. สุขวินิจฺฉยนฺติ วินิจฺฉิตสุขํ. รโห วาทนฺติ ปรมฺมุขา อวณฺณํ, ปิสุณวาจนฺติ อตฺโถ. สมฺมุขา น ขีณนฺติ สมฺมุขาปิ ขีณํ อากิณฺณํ สํกิลิฏฺํ วาจํ น ภเณยฺย. นาภินิเวเสยฺยาติ น อธิฏฺหิตฺวา อาทาย โวหเรยฺย. สมฺนฺติ โลกสมฺํ โลกปณฺณตฺตึ. นาติธาเวยฺยาติ นาติกฺกเมยฺย.
๓๒๔. กามปฏิสนฺธิสุขิโนติ ¶ กามปฏิสนฺธินา กามูปสํหิเตน สุเขน สุขิตสฺส. สทุกฺโขติ วิปากทุกฺเขน สํกิเลสทุกฺเขนปิ สทุกฺโข. สอุปฆาโตติ วิปากูปฆาตกิเลสูปฆาเตเหว สอุปฆาโต. ตถา สปริฬาโห. มิจฺฉาปฏิปทาติ อยาถาวปฏิปทา อกุสลปฏิปทา.
๓๒๖. อิตฺเถเก อปสาเทตีติ เอวํ เคหสิตวเสน เอกจฺเจ ปุคฺคเล อปสาเทติ. อุสฺสาทเนปิ เอเสว นโย. ภวสํโยชนนฺติ ภวพนฺธนํ, ตณฺหาเยตํ นามํ.
สุภูติตฺเถโร กิร อิมํ จตุกฺกํ นิสฺสาย เอตทคฺเค ปิโต. ภควโต หิ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ปุคฺคลานํ อุสฺสาทนาอปสาทนา ปฺายนฺติ, ตถา สาริปุตฺตตฺเถราทีนํ. สุภูติตฺเถรสฺส ปน ธมฺมเทสนาย ‘‘อยํ ปุคฺคโล อปฺปฏิปนฺนโก อนาราธโก’’ติ วา, ‘‘อยํ สีลวา คุณวา ลชฺชิเปสโล อาจารสมฺปนฺโน’’ติ วา นตฺถิ, ธมฺมเทสนาย ปนสฺส ‘‘อยํ มิจฺฉาปฏิปทา, อยํ ¶ สมฺมาปฏิปทา’’ตฺเวว ปฺายติ. ตสฺมา ภควา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อรณวิหารีนํ ยทิทํ สุภูตี’’ติ อาห.
๓๒๙. กาลฺู ¶ อสฺสาติ อสมฺปตฺเต จ อติกฺกนฺเต จ กาเล อกเถตฺวา ‘‘อิทานิ วุจฺจมานํ มหาชโน คณฺหิสฺสตี’’ติ ยุตฺตปตฺตกาลํ ตฺวาว ปรมฺมุขา อวณฺณํ ภาเสยฺย. ขีณวาเทปิ เอเสว นโย.
๓๓๐. อุปหฺตีติ ฆาติยติ. สโรปิ อุปหฺตีติ สทฺโทปิ ภิชฺชติ. อาตุรียตีติ อาตุโร โหติ เคลฺปฺปตฺโต สาพาโธ. อวิสฺสฏฺนฺติ วิสฺสฏฺํ อปลิพุทฺธํ น โหติ.
๓๓๑. ตเทวาติ ¶ ตํเยว ภาชนํ. อภินิวิสฺส โวหรตีติ ปตฺตนฺติ สฺชานนชนปทํ คนฺตฺวา ‘‘ปตฺตํ อาหรถ โธวถา’’ติ สุตฺวา ‘‘อนฺธพาลปุถุชฺชโน, นยิทํ ปตฺตํ, ปาติ นเมสา, เอวํ วทาหี’’ติ อภินิวิสฺส โวหรติ. เอวํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ. อติสาโรติ อติธาวนํ.
๓๓๒. ตถา ตถา โวหรติ อปรามสนฺติ อมฺหากํ ชนปเท ภาชนํ ปาตีติ วุจฺจติ, อิเม ปน นํ ปตฺตนฺติ วทนฺตีติ ตโต ปฏฺาย ชนปทโวหารํ มฺุจิตฺวา ปตฺตํ ปตฺตนฺเตว อปรามสนฺโต โวหรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๓๓๓. อิทานิ มริยาทภาชนียํ กโรนฺโต ตตฺร, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ สรโณติ สรโช สกิเลโส. อรโณติ อรโช นิกฺกิเลโส. สุภูติ จ ปน, ภิกฺขเวติ อยํ เถโร ทฺวีสุ าเนสุ เอตทคฺคํ อารุฬฺโห ‘‘อรณวิหารีนํ ยทิทํ สุภูติ, ทกฺขิเณยฺยานํ ยทิทํ สุภูตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๒).
ธมฺมเสนาปติ กิร วตฺถุํ โสเธติ, สุภูติตฺเถโร ทกฺขิณํ โสเธติ. ตถา หิ ธมฺมเสนาปติ ปิณฺฑาย จรนฺโต เคหทฺวาเร ิโต ยาว ภิกฺขํ อาหรนฺติ, ตาว ปุพฺพภาเค ปริจฺฉินฺทิตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชติ, นิโรธา วุฏฺาย เทยฺยธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหาติ. สุภูติตฺเถโร จ ตเถว เมตฺตาฌานํ สมาปชฺชติ, เมตฺตาฌานา วุฏฺาย เทยฺยธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหาติ. เอวํ ปน กาตุํ สกฺกาติ. อาม สกฺกา, เนว อจฺฉริยฺเจตํ, ยํ ¶ มหาภิฺปฺปตฺตา สาวกา เอวํ กเรยฺยุํ. อิมสฺมิมฺปิ ¶ หิ ตมฺพปณฺณิทีเป ¶ โปราณกราชกาเล ปิงฺคลพุทฺธรกฺขิตตฺเถโร นาม อุตฺตรคามํ นิสฺสาย วิหาสิ. ตตฺถ สตฺต กุลสตานิ โหนฺติ, เอกมฺปิ ตํ กุลทฺวารํ นตฺถิ, ยตฺถ เถโร สมาปตฺตึ น สมาปชฺชิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อรณวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ธาตุวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๔๒. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ธาตุวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ จาริกนฺติ ตุริตคมนจาริกํ. สเจ เต ภคฺคว อครูติ สเจ ตุยฺหํ ภาริยํ อผาสุกํ กิฺจิ นตฺถิ. สเจ โส อนุชานาตีติ ภคฺควสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม นานาอชฺฌาสยา, เอโก คณาภิรโต โหติ, เอโก เอกาภิรโต. สเจ โส เอกาภิรโต ภวิสฺสติ, ‘อาวุโส, มา ปาวิสิ, มยา สาลา ลทฺธา’ติ วกฺขติ. สเจ อยํ เอกาภิรโต ภวิสฺสติ, ‘อาวุโส, นิกฺขม, มยา สาลา ลทฺธา’ติ วกฺขติ. เอวํ สนฺเต อหํ อุภินฺนํ วิวาทกาเรตา นาม ภวิสฺสามิ, ทินฺนํ นาม ทินฺนเมว วฏฺฏติ, กตํ กตเมวา’’ติ. ตสฺมา เอวมาห.
กุลปุตฺโตติ ชาติกุลปุตฺโตปิ อาจารกุลปุตฺโตปิ. วาสูปคโตติ วาสํ อุปคโต. กุโต อาคนฺตฺวาติ? ตกฺกสีลนครโต.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – มชฺฌิมปฺปเทเส กิร ราชคหนคเร พิมฺพิสาเร รชฺชํ กาเรนฺเต ปจฺจนฺเต ตกฺกสีลนคเร ปุกฺกุสาติ ราชา รชฺชํ กาเรสิ. อถ ตกฺกสีลโต ภณฺฑํ คเหตฺวา วาณิชา ราชคหํ อาคตา ปณฺณาการํ คเหตฺวา ราชานํ อทฺทสํสุ. ราชา ¶ เต วนฺทิตฺวา ิเต ‘‘กตฺถวาสิโน ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิ. ตกฺกสีลวาสิโน เทวาติ. อถ เน ราชา ชนปทสฺส เขมสุภิกฺขตาทีนิ นครสฺส จ ปวตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โก นาม ตุมฺหากํ ราชา’’ติ ปุจฺฉิ. ปุกฺกุสาติ นาม เทวาติ. ธมฺมิโกติ? อาม เทว ธมฺมิโก. จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคณฺหาติ, โลกสฺส มาตาปิติฏฺาเน ¶ ิโต, องฺเค นิปนฺนทารกํ วิย ชนํ โตเสตีติ. กตรสฺมึ วเย วตฺตตีติ? อถสฺส วยํ อาจิกฺขึสุ. วเยสุปิ พิมฺพิสาเรน สมวโย ชาโต. อถ เต ราชา อาห – ‘‘ตาตา ตุมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก, วเยน จ เม สมาโน, สกฺกุเณยฺยาถ ตุมฺหากํ ราชานํ มม มิตฺตํ กาตุ’’นฺติ. สกฺโกม เทวาติ. ราชา เตสํ สุงฺกํ วิสฺสชฺเชตฺวา เคหฺจ ทาเปตฺวา – ‘‘คจฺฉถ ภณฺฑํ วิกฺกิณิตฺวา คมนกาเล มํ ทิสฺวา คจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. เต ตถา กตฺวา คมนกาเล ราชานํ อทฺทสํสุ. ‘‘คจฺฉถ ตุมฺหากํ ราชานํ ¶ มม วจเนน ปุนปฺปุนํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘ราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ อิจฺฉตี’ติ วทถา’’ติ อาห.
เต สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา คนฺตฺวา ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ภุตฺตปาตราสา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทึสุ. ราชา ‘‘กหํ ภเณ ตุมฺเห เอตฺตเก อิเม ทิวเส น ทิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิ. เต สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. ราชา – ‘‘สาธุ, ตาตา, ตุมฺเห นิสฺสาย มยา มชฺฌิมปฺปเทเส ราชา มิตฺโต ลทฺโธ’’ติ อตฺตมโน อโหสิ. อปรภาเค ราชคหวาสิโนปิ วาณิชา ตกฺกสีลํ อคมํสุ. เต ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคเต ปุกฺกุสาติ ราชา ‘‘กุโต อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ราชคหโต’’ติ สุตฺวา ‘‘มยฺหํ สหายสฺส นครโต อาคตา ตุมฺเห’’ติ. อาม เทวาติ. อาโรคฺยํ เม สหายสฺสาติ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อชฺช ปฏฺาย เย มยฺหํ สหายสฺส นครโต ชงฺฆสตฺเถน วา สกฏสตฺเถน วา วาณิชา อาคจฺฉนฺติ, สพฺเพสํ มม วิสยํ ปวิฏฺกาลโต ¶ ปฏฺาย วสนเคหานิ, ราชโกฏฺาคารโต นิวาปฺจ เทนฺตุ, สุงฺกํ วิสฺสชฺเชนฺตุ, กิฺจิ อุปทฺทวํ มา กโรนฺตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. พิมฺพิสาโรปิ อตฺตโน นคเร ตเถว เภรึ จราเปสิ.
อถ พิมฺพิสาโร ปุกฺกุสาติสฺส ปณฺณํ ปหิณิ – ‘‘ปจฺจนฺตเทเส นาม มณิมุตฺตาทีนิ รตนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ยํ มยฺหํ สหายสฺส รชฺเช ทสฺสนียํ วา สวนียํ วา รตนํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ เม มา มจฺฉรายตู’’ติ. ปุกฺกุสาติปิ – ‘‘มชฺฌิมเทโส นาม มหาชนปโท, ยํ ตตฺถ เอวรูปํ รตนํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ เม สหาโย มา มจฺฉรายตู’’ติ ปฏิปณฺณํ ปหิณิ. เอวํ เต คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อฺมฺํ อทิสฺวาปิ ทฬฺหมิตฺตา อเหสุํ.
เอวํ ¶ เตสํ กติกํ กตฺวา วสนฺตานํ ปมตรํ ปุกฺกุสาติสฺส ปณฺณากาโร อุปฺปชฺชิ. ราชา กิร อฏฺ ปฺจวณฺเณ อนคฺฆกมฺพเล ลภิ. โส – ‘‘อติสุนฺทรา อิเม กมฺพลา, อหํ สหายสฺส เปสิสฺสามี’’ติ ลาขาคุฬมตฺเต อฏฺ สารกรณฺฑเก ลิขาเปตฺวา เตสุ เต กมฺพเล ปกฺขิปิตฺวา ลาขาย วฏฺฏาเปตฺวา เสตวตฺเถน เวเตฺวา สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา วตฺเถน เวเตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺเฉตฺวา ‘‘มยฺหํ สหายสฺส เทถา’’ติ อมจฺเจ เปเสสิ. สาสนฺจ อทาสิ – ‘‘อยํ ปณฺณากาโร นครมชฺเฌ อมจฺจาทิปริวุเตน ทฏฺพฺโพ’’ติ. เต คนฺตฺวา พิมฺพิสารสฺส อทํสุ.
โส ¶ สาสนํ สุตฺวา อมจฺจาทโย สนฺนิปตนฺตูติ เภรึ จราเปตฺวา นครมชฺเฌ อมจฺจาทิปริวุโต เสตจฺฉตฺเตน ธาริยมาเนน ปลฺลงฺกวเร นิสินฺโน ลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา วตฺถํ อปเนตฺวา สมุคฺคํ วิวริตฺวา อนฺโต ภณฺฑิกํ มฺุจิตฺวา ลาขาคุเฬ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ สหาโย ปุกฺกุสาติ ‘ชุตวิตฺตโก เม สหาโย’ติ มฺมาโน มฺเ อิมํ ปณฺณาการํ ปหิณี’’ติ เอกํ คุฬํ คเหตฺวา หตฺเถน ¶ วฏฺเฏตฺวา ตุลยนฺโตว อนฺโต ทุสฺสภณฺฑิกํ อตฺถีติ อฺาสิ. อถ นํ ปลฺลงฺกปาเท ปหริตฺวา ตาวเทว ลาขา ปริปติ, โส นเขน กรณฺฑกํ วิวริตฺวา อนฺโต กมฺพลรตนํ ทิสฺวา อิตเรปิ วิวราเปสิ, สพฺเพปิ กมฺพลา อเหสุํ. อถ เน ปตฺถราเปสิ, เต วณฺณสมฺปนฺนา ผสฺสสมฺปนฺนา ทีฆโต โสฬสหตฺถา ติริยํ อฏฺหตฺถา อเหสุํ. มหาชโน ทิสฺวา องฺคุลิโย โปเสิ, เจลุกฺเขปํ อกาสิ, – ‘‘อมฺหากํ รฺโ อทิฏฺสหาโย ปุกฺกุสาติ อทิสฺวาว เอวรูปํ ปณฺณาการํ เปเสสิ, ยุตฺตํ เอวรูปํ มิตฺตํ กาตุ’’นฺติ อตฺตมโน อโหสิ. ราชา เอกเมกํ กมฺพลํ อคฺฆาเปสิ, สพฺเพ อนคฺฆา อเหสุํ. เตสุ จตฺตาโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เปเสสิ, จตฺตาโร อตฺตโน ฆเร อกาสิ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘ปจฺฉา เปเสนฺเตน ปมํ เปสิตปณฺณาการโต อติเรกํ เปเสตุํ วฏฺฏติ, สหาเยน จ เม อนคฺโฆ ปณฺณากาโร เปสิโต, กึ นุ โข เปเสมี’’ติ?
กึ ปน ราชคเห ตโต อธิกํ รตนํ นตฺถีติ? โน นตฺถิ, มหาปฺุโ ราชา, อปิจ โข ปนสฺส โสตาปนฺนกาลโต ปฏฺาย เปตฺวา ตีณิ รตนานิ อฺํ รตนํ โสมนสฺสํ ชเนตุํ สมตฺถํ นาม นตฺถิ ¶ . โส รตนํ วิจินิตุํ อารทฺโธ – รตนํ นาม สวิฺาณกํ อวิฺาณกนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ อวิฺาณกํ สุวณฺณรชตาทิ, สวิฺาณกํ อินฺทฺริยพทฺธํ. อวิฺาณกํ สวิฺาณกสฺเสว อลงฺการาทิวเสน ปริโภคํ โหติ, อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ รตเนสุ สวิฺาณกํ เสฏฺํ. สวิฺาณกมฺปิ ทุวิธํ ติรจฺฉานรตนํ มนุสฺสรตนนฺติ. ตตฺถ ติรจฺฉานรตนํ หตฺถิอสฺสรตนํ, ตมฺปิ มนุสฺสานํ อุปโภคตฺถเมว นิพฺพตฺตติ ¶ , อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ มนุสฺสรตนํ เสฏฺํ. มนุสฺสรตนมฺปิ ทุวิธํ อิตฺถิรตนํ ปุริสรตนนฺติ. ตตฺถ จกฺกวตฺติโน รฺโ อุปฺปนฺนํ อิตฺถิรตนมฺปิ ปุริสสฺเสว อุปโภคํ. อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ ปุริสรตนเมว เสฏฺํ.
ปุริสรตนมฺปิ ทุวิธํ อคาริยรตนํ อนคาริยรตนฺจ. ตตฺถ อคาริยรตเนสุปิ จกฺกวตฺติราชา อชฺช ปพฺพชิตสามเณรํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทติ, อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ อนคาริยรตนเมว ¶ เสฏฺํ. อนคาริยรตนมฺปิ ทุวิธํ เสกฺขรตนฺจ อเสกฺขรตนฺจ. ตตฺถ สตสหสฺสมฺปิ เสกฺขานํ อเสกฺขสฺส ปเทสํ น ปาปุณาติ, อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ อเสกฺขรตนเมว เสฏฺํ. ตมฺปิ ทุวิธํ พุทฺธรตนํ สาวกรตนนฺติ. ตตฺถ สตสหสฺสมฺปิ สาวกรตนานํ พุทฺธรตนสฺส ปเทสํ น ปาปุณาติ, อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสู พุทฺธรตนเมว เสฏฺํ.
พุทฺธรตนมฺปิ ทุวิธํ ปจฺเจกพุทฺธรตนํ สพฺพฺุพุทฺธรตนนฺติ. ตตฺถ สตสหสฺสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สพฺพฺุพุทฺธสฺส ปเทสํ น ปาปุณาติ, อิติ อิเมสุปิ ทฺวีสุ สพฺพฺุพุทฺธรตนํเยว เสฏฺํ. สเทวกสฺมิฺหิ โลเก พุทฺธรตนสมํ รตนํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา อสทิสเมว รตนํ มยฺหํ สหายสฺส เปเสสฺสามีติ จินฺเตตฺวา ตกฺกสีลวาสิโน ปุจฺฉิ – ‘‘ตาตา ตุมฺหากํ ชนปเท พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆติ อิมานิ ตีณิ รตนานิ ทิสฺสนฺตี’’ติ. โฆโสปิ โส มหาราช ตาว ตตฺถ นตฺถิ, ทสฺสนํ ปน กุโตติ.
‘‘สุนฺทรํ ตาตา’’ติ ราชา ตุฏฺโ จินฺเตสิ – ‘‘สกฺกา ภเวยฺย ชนสงฺคหตฺถาย มยฺหํ สหายสฺส วสนฏฺานํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เปเสตุํ, พุทฺธา ปน ¶ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ น อรุณํ อุฏฺเปนฺติ. ตสฺมา สตฺถารา คนฺตุํ น สกฺกา. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย มหาสาวเก เปเสตุํ สกฺกา ภเวยฺย. มยา ¶ ปน ‘เถรา ปจฺจนฺเต วสนฺตี’ติ สุตฺวาปิ มนุสฺเส เปเสตฺวา เต อตฺตโน สมีปํ อาณาเปตฺวา อุปฏฺาตุเมว ยุตฺตํ. ตสฺมา น เถเรหิปิ สกฺกา คนฺตุํ. เยน ปนากาเรน สาสเน เปสิเต สตฺถา จ มหาสาวกา จ คตา วิย โหนฺติ, เตนากาเรน สาสนํ ปหิณิสฺสามี’’ติ. จินฺเตตฺวา จตุรตนายามํ วิทตฺถิมตฺตปุถุลํ นาติตนุํ นาติพหลํ สุวณฺณปฏฺฏํ การาเปตฺวา ‘‘ตตฺถ อชฺช อกฺขรานิ ลิขิสฺสามี’’ติ. ปาโตว สีสํ นฺหายิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ภุตฺตปาตราโส อปนีตคนฺธมาลาภรโณ สุวณฺณสรเกน ชาติหิงฺคุลิกํ อาทาย เหฏฺโต ปฏฺาย ทฺวารานิ ปิทหนฺโต ปาสาทมารุยฺห ปุพฺพทิสามุขํ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา อากาสตเล นิสีทิตฺวา สุวณฺณปฏฺเฏ อกฺขรานิ ลิขนฺโต – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’’ติ. พุทฺธคุเณ ตาว เอกเทเสน ลิขิ.
ตโต ‘‘เอวํ ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตภวนโต จวิตฺวา มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ ¶ , เอวํ โลกวิวรณํ อโหสิ, มาตุกุจฺฉิยํ วสมาเน อิทํ นาม อโหสิ, อคารมชฺเฌ วสมาเน อิทํ นาม อโหสิ, เอวํ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต เอวํ มหาปธานํ ปทหิ. เอวํ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา มหาโพธิมณฺฑํ อารุยฺห อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิ, สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส ¶ เอวํ โลกวิวรณํ อโหสิ. สเทวเก โลเก อฺํ เอวรูปํ รตนํ นาม นตฺถีติ.
ยํกิฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา,
สคฺเคสุ วา ยํ รตนํ ปณีตํ;
น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตน,
อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตู’’ติ. (ขุ. ปา. ๖.๓; สุ. นิ. ๒๒๖) –
เอวํ เอกเทเสน พุทฺธคุเณปิ ลิขิตฺวา ทุติยํ ธมฺมรตนํ โถเมนฺโต – ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม…เป… ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ. ‘‘สตฺถารา เทสิตธมฺโม นาม เอวรูโป จ เอวรูโป จา’’ติ สตฺตตึส โพธิปกฺขิเย เอกเทเสน ลิขิตฺวา –
‘‘ยํ ¶ พุทฺธเสฏฺโ ปริวณฺณยี สุจึ,
สมาธิมานนฺตริกฺมาหุ;
สมาธินา เตน สโม น วิชฺชติ,
อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ;
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตู’’ติ. (ขุ. ปา. ๖.๕; สุ. นิ. ๒๒๘) –
เอวํ เอกเทเสน ธมฺมคุเณ ลิขิตฺวา ตติยํ สงฺฆรตนํ โถเมนฺโต – ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…เป… ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. ‘‘กุลปุตฺตา นาม สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา เอวํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนฺติ, เกจิ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ปพฺพชนฺติ, เกจิ อุปรชฺชํ, เกจิ เสนาปติฏฺานาทีนิ ปหาย ปพฺพชนฺติ. ปพฺพชิตฺวา จ ปน อิมฺจ ปฏิปตฺตึ ปูเรนฺตี’’ติ จูฬสีลมชฺฌิมสีลมหาสีลาทีนิ ¶ เอกเทเสน ลิขิตฺวา ฉทฺวารสํวรํ สติสมฺปชฺํ จตุปจฺจยสนฺโตสํ นววิธํ ¶ เสนาสนํ, นีวรณปฺปหานํ ปริกมฺมํ ฌานาภิฺา อฏฺตึส กมฺมฏฺานานิ ยาว อาสวกฺขยา เอกเทเสน ลิขิ, โสฬสวิธํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ วิตฺถาเรเนว ลิขิตฺวา ‘‘สตฺถุ สาวกสงฺโฆ นาม เอวรูเปหิ จ คุเณหิ สมนฺนาคโต.
เย ปุคฺคลา อฏฺสตํ ปสฏฺา,
จตฺตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนฺติ;
เต ทกฺขิเณยฺยา สุคตสฺส สาวกา,
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ;
อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ,
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตู’’ติ. (ขุ. ปา. ๖.๖; สุ. นิ. ๒๒๙) –
เอวํ เอกเทเสน สงฺฆคุเณ ลิขิตฺวา – ‘‘ภควโต สาสนํ สฺวากฺขาตํ นิยฺยานิกํ, สเจ มยฺหํ สหาโย สกฺโกติ, นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชตู’’ติ ลิขิตฺวา สุวณฺณปฏฺฏํ สํหริตฺวา สุขุมกมฺพเลน เวเตฺวา สารสมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา ตํ สมุคฺคํ สุวณฺณมเย, สุวณฺณมยํ, รชตมเย รชตมยํ มณิมเย, มณิมยํ ปวาฬมเย, ปวาฬมยํ โลหิตงฺกมเย, โลหิตงฺกมยํ มสารคลฺลมเย, มสารคลฺลมยํ ผลิกมเย, ผลิกมยํ ทนฺตมเย, ทนฺตมยํ สพฺพรตนมเย, สพฺพรตนมยํ กิลฺชมเย, กิลฺชมยํ สมุคฺคํ สารกรณฺฑเก เปสิ.
ปุน ¶ สารกรณฺฑกํ สุวณฺณกรณฺฑเกติ ปุริมนเยเนว หริตฺวา สพฺพรตนมยํ กรณฺฑกํ กิลฺชมเย กรณฺฑเก เปสิ. ตโต กิลฺชมยํ กรณฺฑกํ สารมยเปฬายาติ ปุน วุตฺตนเยเนว หริตฺวา สพฺพรตนมยํ เปฬํ กิลฺชมยเปฬาย เปตฺวา พหิ วตฺเถน เวเตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺเฉตฺวา อมจฺเจ อาณาเปสิ – ‘‘มม อาณาปวตฺติฏฺาเน มคฺคํ อลงฺการาเปถ มคฺโค อฏฺุสภวิตฺถโต โหตุ, จตุอุสภฏฺานํ โสธิตมตฺตกเมว ¶ โหตุ, มชฺเฌ จตุอุสภํ ราชานุภาเวน ปฏิยาเทถา’’ติ. ตโต มงฺคลหตฺถึ อลงฺการาเปตฺวา ตสฺส อุปริ ปลฺลงฺกํ ปฺเปตฺวา เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา นครวีถิโย สิตฺตสมฺมฏฺา สมุสฺสิตทฺธชปฏากา กทลิปุณฺณฆฏคนฺธธูมปุปฺผาทีหิ ¶ สุปฺปฏิมณฺฑิตา กาเรตฺวา ‘‘อตฺตโน อตฺตโน วิสยปฺปเทเส เอวรูปํ ปูชํ กาเรนฺตู’’ติ อนฺตรโภคิกานํ ชวนทูเต เปเสตฺวา สยํ สพฺพาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา – ‘‘สพฺพตาฬาวจรสมฺมิสฺสพลกายปริวุโต ปณฺณาการํ เปเสมี’’ติ อตฺตโน วิสยปริยนฺตํ คนฺตฺวา อมจฺจสฺส มุขสาสนํ อทาสิ – ‘‘ตาต มยฺหํ สหาโย ปุกฺกุสาติ อิมํ ปณฺณาการํ ปฏิจฺฉนฺโต โอโรธมชฺเฌ อปฏิจฺฉิตฺวา ปาสาทํ อารุยฺห ปฏิจฺฉตู’’ติ. เอวํ สาสนํ ทตฺวา ปจฺจนฺตเทสํ สตฺถา คจฺฉตีติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา นิวตฺติ. อนฺตรโภคิกา เตเนว นิยาเมน มคฺคํ ปฏิยาเทตฺวา ปณฺณาการํ นยึสุ.
ปุกฺกุสาติปิ อตฺตโน รชฺชสีมโต ปฏฺาย เตเนว นิยาเมน มคฺคํ ปฏิยาเทตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา ปณฺณาการสฺส ปจฺจุคฺคมนํ อกาสิ. ปณฺณากาโร ตกฺกสีลํ ปาปุณนฺโต อุโปสถทิวเส ปาปุณิ, ปณฺณาการํ คเหตฺวา คตอมจฺโจปิ รฺโ วุตฺตสาสนํ อาโรเจสิ. ราชา ตํ สุตฺวา ปณฺณากาเรน สทฺธึ อาคตานํ กตฺตพฺพกิจฺจํ วิจาเรตฺวา ปณฺณาการํ อาทาย ปาสาทํ อารุยฺห ‘‘มา อิธ โกจิ ปวิสตู’’ติ ทฺวาเร อารกฺขํ กาเรตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ปณฺณาการํ อุจฺจาสเน เปตฺวา สยํ นีจาสเน นิสินฺโน ลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา นิวาสนํ อปเนตฺวา กิลฺชเปฬโต ปฏฺาย อนุปุพฺเพน วิวรนฺโต สารมยํ สมุคฺคํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มหาปริหาโร นายํ อฺสฺส รตนสฺส ภวิสฺสติ, อทฺธา มชฺฌิมเทเส โสตพฺพยุตฺตกํ รตนํ อุปฺปนฺน’’นฺติ. อถ ตํ สมุคฺคํ วิวริตฺวา ราชลฺฉนํ ภินฺทิตฺวา สุขุมกมฺพลํ อุภโต วิยูหิตฺวา สุวณฺณปฏฺฏํ อทฺทส.
โส ¶ ตํ ปสาเรตฺวา – ‘‘มนาปานิ ¶ วต อกฺขรานิ สมสีสานิ สมปนฺตีนิ จตุรสฺสานี’’ติอาทิโต ปฏฺาย วาเจตุํ อารภิ. ตสฺส – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ พุทฺธคุเณ วาเจนฺตสฺส พลวโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ, นวนวุติโลมกูปสหสฺสานิ อุทฺธคฺคโลมานิ อเหสุํ. อตฺตโน ิตภาวํ วา นิสินฺนภาวํ วา น ชานาติ. อถสฺส – ‘‘กปฺปโกฏิสตสหสฺเสหิปิ เอตํ ทุลฺลภสาสนํ สหายํ นิสฺสาย โสตุํ ลภามี’’ติ ภิยฺโย พลวปีติ อุทปาทิ. โส หิ อุปริ วาเจตุํ อสกฺโกนฺโต ยาว ปีติเวคปสฺสทฺธิยา นิสีทิตฺวา ปรโต – ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติ ธมฺมคุเณ อารภิ. ตตฺราปิสฺส ตเถว อโหสิ. โส ปุน ยาว ปีติเวคปสฺสทฺธิยา นิสีทิตฺวา ปรโต ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติ สงฺฆคุเณ อารภิ ¶ . ตตฺราปิสฺส ตเถว อโหสิ. อถ สพฺพปริยนฺเต อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ วาเจตฺวา จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตสิ, โส ฌานสุเขเนว วีตินาเมสิ. อฺโ โกจิ ทฏฺุํ น ลภติ, เอโกว จูฬุปฏฺาโก ปวิสติ. เอวํ อทฺธมาสมตฺตํ วีตินาเมสิ.
นาครา ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา อุกฺกุฏฺึ อกํสุ ‘‘ปณฺณาการํ ปฏิจฺฉิตทิวสโต ปฏฺาย พลทสฺสนํ วา นาฏกทสฺสนํ วา นตฺถิ, วินิจฺฉยทานํ นตฺถิ, ราชา สหาเยน ปหิตํ ปณฺณาการํ ยสฺสิจฺฉติ ตสฺส ทสฺเสตุ, ราชาโน นาม เอกจฺจสฺส ปณฺณาการวเสนปิ วฺเจตฺวา รชฺชํ อตฺตโน กาตุํ วายมนฺติ. กึ นาม อมฺหากํ ราชา กโรตี’’ติ? ราชา อุกฺกุฏฺิสทฺทํ สุตฺวา – ‘‘รชฺชํ นุ โข ธาเรมิ, อุทาหุ ¶ สตฺถาร’’นฺติ จินฺเตสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘รชฺชการิตอตฺตภาโว นาม เนว คณเกน, น คณกมหามตฺเตน คเณตุํ สกฺโก. สตฺถุสาสนํ ธาเรสฺสามี’’ติ สยเน ปิตํ อสึ คเหตฺวา เกเส ฉินฺทิตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา – ‘‘เอตํ คเหตฺวา รชฺชํ กาเรถา’’ติ สทฺธึ จูฬามณินา เกสกลาปํ ปริสมชฺเฌ ปาเตสิ, มหาชโน ตํ อุกฺขิปิตฺวา – ‘‘สหายกสนฺติกา ลทฺธปณฺณาการา นาม ราชาโน ตุมฺหาทิสา โหนฺติ เทวา’’ติ เอกปฺปหาเรเนว วิรวิ. รฺโปิ ทฺวงฺคุลมตฺตํ เกสมสฺสุ อโหสิ. โพธิสตฺตสฺส ปพฺพชฺชาสทิสเมว กิร ชาตํ.
ตโต ¶ จูฬุปฏฺากํ เปเสตฺวา อนฺตราปณา ทฺเว กาสายวตฺถานิ มตฺติกาปตฺตฺจ อาหราเปตฺวา – ‘‘เย โลเก อรหนฺโต, เต อุทฺทิสฺส มยฺหํ ปพฺพชฺชา’’ติ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ วามอํสกูเฏ กตฺวา กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา – ‘‘โสภติ นุ โข เม ปพฺพชฺชา โน วา’’ติ มหาตเล กติปยวาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา – ‘‘โสภติ เม ปพฺพชฺชา’’ติ ทฺวารํ วิวริตฺวา ปาสาทา โอตริ. โอตรนฺตํ ปน นํ ตีสุ ทฺวาเรสุ ิตนาฏกาทีนิ ทิสฺวาปิ น สฺชานึสุ. ‘‘เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ อมฺหากํ รฺโ ธมฺมกถํ กเถตุํ อาคโต’’ติ กิร จินฺตยึสุ. อุปริปาสาทํ ปน อารุยฺห รฺโ ิตนิสินฺนฏฺานานิ ทิสฺวา ราชา คโตติ ตฺวา สมุทฺทมชฺเฌ โอสีทมานาย นาวาย ชโน วิย เอกปฺปหาเรเนว วิรวึสุ. กุลปุตฺตํ ภูมิตลํ โอติณฺณมตฺตํ อฏฺารสเสนิโย สพฺเพ นาครา พลกายา จ ปริวาเรตฺวา มหาวิรวํ วิรวึสุ. อมจฺจาปิ ตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เทว มชฺฌิมเทสราชาโน นาม พหุมายา, สาสนํ เปเสตฺวา พุทฺธรตนํ นาม โลเก อุปฺปนฺนํ วา โน วาติ ตฺวา คมิสฺสถ ¶ , นิวตฺตถ ¶ เทวา’’ติ. สทฺทหามหํ มยฺหํ สหายกสฺส, ตสฺส มยา สทฺธึ ทฺเวชฺฌวจนํ นาม นตฺถิ, ติฏฺถ ตุมฺเหติ. เต อนุคจฺฉนฺติเยว.
กุลปุตฺโต กตฺตรทณฺเฑน เลขํ กตฺวา – ‘‘อิทํ รชฺชํ กสฺสา’’ติ อาห? ตุมฺหากํ เทวาติ. โย อิมํ เลขํ อนฺตรํ กโรติ, ราชาณาย กาเรตพฺโพติ. มหาชนกชาตเก โพธิสตฺเตน กตเลขํ สีวลิเทวี อนฺตรํ กาตุํ อวิสหนฺตี วิวตฺตมานา อคมาสิ. ตสฺสา คตมคฺเคน มหาชโน อคมาสิ. ตํ ปน เลขํ มหาชโน อนฺตรํ กาตุํ น วิสหิ, เลขํ อุสฺสีสกํ กตฺวา วิวตฺตมานา วิรวึสุ. กุลปุตฺโต ‘‘อยํ เม คตฏฺาเน ทนฺตกฏฺํ วา มุโขทกํ วา ทสฺสตี’’ติ อนฺตมโส เอกเจฏกมฺปิ อคฺคเหตฺวา ปกฺกามิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘มม สตฺถา จ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา เอกโกว ปพฺพชิโต’’ติ เอกโกว อคมาสิ. ‘‘สตฺถุ ลชฺชามี’’ติ จ – ‘‘สตฺถา กิร เม ปพฺพชิตฺวา ยานํ นารุฬฺโห’’ติ จ อนฺตมโส เอกปฏลิกมฺปิ อุปาหนํ นารุหิ, ปณฺณจฺฉตฺตกมฺปิ น ธาเรสิ. มหาชโน รุกฺขปาการฏฺฏาลกาทีนิ อารุยฺห เอส อมฺหากํ ราชา คจฺฉตีติ โอโลเกสิ. กุลปุตฺโต – ‘‘ทูรํ คนฺตพฺพํ, น สกฺกา เอเกน มคฺโค นิตฺถริตุ’’นฺติ เอกํ สตฺถวาหํ อนุพนฺธิ. สุขุมาลสฺส กุลปุตฺตสฺส กินตตฺตาย ¶ ปถวิยา คฉนฺตสฺส ปาทตเลสุ โผฏา อุฏฺหิตฺวา ภิชฺชนฺติ, ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ. สตฺถวาเห ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา นิสินฺเน กุลปุตฺโต มคฺคา โอกฺกมฺม เอกสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทติ. นิสินฺนฏฺาเน ปาทปริกมฺมํ วา ปิฏฺิปริกมฺมํ ¶ วา กตฺตา นาม นตฺถิ, กุลปุตฺโต อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา มคฺคทรถกิลมถปริฬาหํ วิกฺขมฺเภตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ.
ปุนทิวเส อุฏฺิเต อรุเณ สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ปุน สตฺถวาหํ อนุพนฺธติ. ปาตราสกาเล กุลปุตฺตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ขาทนียํ โภชนียํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา เทนฺติ. ตํ อุตฺตณฺฑุลมฺปิ โหติ กิลินฺนมฺปิ สมสกฺขรมฺปิ อโลณาติโลณมฺปิ, กุลปุตฺโต ปวิสนฏฺานํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อมตํ วิย ปริภฺุชิตฺวา เอเตน นิยาเมน อฏฺหิ อูนกานิ ทฺเว โยชนสตานิ คโต. เชตวนทฺวารโกฏฺกสฺส ปน สมีเปน คจฺฉนฺโตปิ – ‘‘กหํ สตฺถา วสตี’’ติ นาปุจฺฉิ. กสฺมา? สตฺถุคารเวน เจว รฺโ เปสิตสาสนวเสน จ. รฺโ หิ – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ สตฺถารํ ราชคเห อุปฺปนฺนํ วิย กตฺวา สาสนํ เปสิตํ, ตสฺมา ¶ นํ อปุจฺฉิตฺวาว ปฺจจตฺตาลีสโยชนมตฺตํ มคฺคํ อติกฺกนฺโต. โส สูริยตฺถงฺคมนเวลาย ราชคหํ ปตฺวา สตฺถา กหํ วสตีติ ปุจฺฉิ. กุโต นุ, ภนฺเต, อาคโตติ? อิโต อุตฺตรโตติ. สตฺถา ตุยฺหํ อาคตมคฺเค อิโต ปฺจจตฺตาลีสโยชนมตฺเต สาวตฺถิ นาม อตฺถิ, ตตฺถ วสตีติ. กุลปุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อิทานิ อกาโล น สกฺกา คนฺตุํ, อชฺช อิเธว วสิตฺวา สฺเว สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ. ตโต – ‘‘วิกาเล สมฺปตฺตปพฺพชิตา กหํ วสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. อิมาย กุมฺภการสาลาย, ภนฺเตติ. อถ โส ตํ กุมฺภการํ ยาจิตฺวา ตตฺถ วาสตฺถาย ปวิสิตฺวา นิสีทิ.
ภควาปิ ตํทิวสํ ปจฺจูสกาเล โลกํ โวโลเกนฺโต ปุกฺกุสาตึ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ กุลปุตฺโต สหาเยน เปสิตํ สาสนมตฺตกํ ¶ วาเจตฺวา อติเรกติโยชนสติกํ มหารชฺชํ ปหาย มํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตฺวา อฏฺหิ อูนกานิ ทฺเว โยชนสตานิ อติกฺกมฺม ราชคหํ ปาปุณิสฺสติ, มยิ อคจฺฉนฺเต ปน ตีณิ สามฺผลานิ อปฺปฏิวิชฺฌิตฺวา เอกรตฺติวาเสน อนาถกาลกิริยํ กริสฺสติ, มยิ ปน คเต ¶ ตีณิ สามฺผลานิ ปฏิวิชฺฌิสฺสติ. ชนสงฺคหตฺถาเยว ปน มยา สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูริตา, กริสฺสามิ ตสฺส สงฺคห’’นฺติ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา มุหุตฺตํ อตฺตทรถกิลมถํ ปฏิปสฺสมฺเภตฺวา – ‘‘กุลปุตฺโต มยิ คารเวน ทุกฺกรํ อกาสิ, อติเรกโยชนสตํ รชฺชํ ปหาย อนฺตมโส มุขโธวนทายกมฺปิ เจฏกํ อคฺคเหตฺวา เอกโกว นิกฺขนฺโต’’ติ สาริปุตฺตมหาโมคฺคลฺลานาทีสุ กฺจิ อนามนฺเตตฺวา สยเมว อตฺตโน ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา เอกโกว นิกฺขนฺโต. คจฺฉนฺโต จ เนว อากาเส อุปฺปติ, น ปถวึ สํขิปิ, – ‘‘กุลปุตฺโต มม ลชฺชมาโน หตฺถิอสฺสรถสุวณฺณสิวิกาทีสุ เอกยาเนปิ อนิสีทิตฺวา อนฺตมโส เอกปฏลิกํ อุปาหนมฺปิ อนารุยฺห ปณฺณจฺฉตฺตกมฺปิ อคฺคเหตฺวา นิกฺขนฺโต, มยาปิ ปทสาว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปน จินฺเตตฺวา ปทสาว อคมาสิ.
โส อสีติ อนุพฺยฺชนานิ พฺยามปฺปภา พาตฺตึส มหาปุริสลกฺขณานีติ อิมํ พุทฺธสิรึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วลาหกปฏิจฺฉนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย อฺตรภิกฺขุเวเสน คจฺฉนฺโต เอกปจฺฉาภตฺเตเนว ปฺจจตฺตาลีส โยชนานิ อติกฺกมฺม สูริยตฺถงฺคมลีเวลาย กุลปุตฺเต ปวิฏฺมตฺเตเยว ¶ ตํ กุมฺภการสาลํ ปาปุณิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน, ปุกฺกุสาติ, นาม กุลปุตฺโต ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สทฺธาย ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส ตสฺมึ กุมฺภการาเวสเน ปมํ วาสูปคโต โหตี’’ติ.
เอวํ คนฺตฺวาปิ ปน ภควา – ‘‘อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ ปสยฺห กุมฺภการสาลํ อปวิสิตฺวา ทฺวาเร ิโตว กุลปุตฺตํ โอกาสํ กาเรนฺโต สเจ เต ภิกฺขูติอาทิมาห. อุรุนฺทนฺติ วิวิตฺตํ อสมฺพาธํ. วิหรตายสฺมา ยถาสุขนฺติ เยน เยน อิริยาปเถน ผาสุ โหติ, เตน เตน ยถาสุขํ อายสฺมา วิหรตูติ โอกาสํ อกาสิ. อติเรกติโยชนสตฺหิ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต กุลปุตฺโต ปรสฺส ฉฑฺฑิตปติตํ ¶ กุมฺภการสาลํ กึ อฺสฺส สพฺรหฺมจาริโน มจฺฉรายิสฺสติ. เอกจฺเจ ปน โมฆปุริสา สาสเน ปพฺพชิตฺวา อาวาสมจฺฉริยาทีหิ อภิภูตา อตฺตโน วสนฏฺาเน มยฺหํ กุฏิ มยฺหํ ปริเวณนฺติ อฺเสํ อวาสาย ปรกฺกมนฺติ. นิสีทีติ อจฺจนฺตสุขุมาโล โลกนาโถ เทววิมานสทิสํ คนฺธกุฏึ ปหาย ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺณฉาริกาย ภินฺนภาชนติณปลาสกุกฺกุฏสูกรวจฺจาทิสํกิลิฏฺาย สงฺการฏฺานสทิสาย กุมฺภการสาลาย ติณสนฺถารํ สนฺถริตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา เทววิมานสทิสํ ทิพฺพคนฺธสุคนฺธํ คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา นิสีทนฺโต วิย นิสีทิ.
อิติ ภควาปิ อสมฺภินฺนมหาสมฺมตวํเส อุปฺปนฺโน, กุลปุตฺโตปิ ขตฺติยคพฺเภ วฑฺฒิโต. ภควาปิ อภินีหารสมฺปนฺโน, กุลปุตฺโตปิ อภินีหารสมฺปนฺโน. ภควาปิ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต, กุลปุตฺโตปิ. ภควาปิ ¶ สุวณฺณวณฺโณ, กุลปุตฺโตปิ. ภควาปิ สมาปตฺติลาภี, กุลปุตฺโตปิ. อิติ ทฺเวปิ ขตฺติยา ทฺเวปิ อภินีหารสมฺปนฺนา ทฺเวปิ ราชปพฺพชิตา ทฺเวปิ สุวณฺณวณฺณา ทฺเวปิ สมาปตฺติลาภิโน กุมฺภการสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนาติ เตหิ กุมฺภการสาลา อติวิย โสภติ, ทฺวีหิ สีหาทีหิ ปวิฏฺคุหาทีหิ อาหริตฺวา ทีเปตพฺพํ. เตสุ ปน ทฺวีสุ ภควา – ‘‘สุขุมาโล อหํ ปรมสุขุมาโล เอกปจฺฉาภตฺเตน ปฺจจตฺตาลีส โยชนานิ อาคโต, มุหุตฺตํ ตาว สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา มคฺคทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภมี’’ติ จิตฺตมฺปิ อนุปฺปาเทตฺวา นิสีทนฺโตว ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิ. กุลปุตฺโตปิ – ‘‘ทฺวานวุติโยชนสตํ อาคโตมฺหิ, มุหุตฺตํ ตาว นิปชฺชิตฺวา มคฺคทรถํ วิโนเทมี’’ติ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา นิสีทมาโนว ¶ อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิ. อิทํ สนฺธาย อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตินฺติอาทิ วุตฺตํ.
นนุ จ ภควา กุลปุตฺตสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ อาคโต, กสฺมา น เทเสสีติ? กุลปุตฺตสฺส มคฺคทรโถ อปฺปฏิปสฺสทฺโธ, น สกฺขิสฺสติ ธมฺมเทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ, โส ตาวสฺส ปฏิปสฺสมฺภตูติ น เทเสสิ. อปเร – ‘‘ราชคหํ นาม อากิณฺณมนุสฺสํ อวิวิตฺตํ ทสหิ สทฺเทหิ, โส สทฺโท ทิยฑฺฒยามมตฺเตน สนฺนิสีทติ, ตํ อาคเมนฺโต น เทเสสี’’ติ วทนฺติ. ตํ อการณํ, พฺรหฺมโลกปฺปมาณมฺปิ หิ สทฺทํ ภควา อตฺตโน อานุภาเวน ¶ วูปสเมตุํ สกฺโกติ, มคฺคทรถวูปสมํ อาคเมนฺโตเยว ปน น เทเสสิ.
ตตฺถ พหุเทว รตฺตินฺติ ทิยฑฺฒยามมตฺตํ. เอตทโหสีติ ภควา ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย สุวณฺณวิมาเน มณิสีหปฺชรํ วิวรนฺโต วิย ปฺจปสาทปฺปฏิมณฺฑิตานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิ, อถสฺส หตฺถกุกฺกุจฺจปาทกุกฺกุจฺจสีสกมฺปนวิรหิตํ สุนิขาตอินฺทขีลํ วิย นิจฺจลํ อวิพฺภนฺตํ สุวณฺณปฏิมํ วิย นิสินฺนํ กุลปุตฺตํ ทิสฺวา เอตํ – ‘‘ปาสาทิกํ โข’’ติอาทิ อโหสิ. ตตฺถ ปาสาทิกนฺติ ปสาทาวหํ. ภาวนปุํสกํ ¶ ปเนตํ, ปาสาทิเกน อิริยาปเถน อิริยติ. ยถา อิริยโต อิริยาปโถ ปาสาทิโก โหติ, เอวํ อิริยตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. จตูสุ หิ อิริยาปเถสุ ตโย อิริยาปถา น โสภนฺติ. คจฺฉนฺตสฺส หิ ภิกฺขุโน หตฺถา จลนฺติ, ปาทา จลนฺติ, สีสํ จลติ, ิตสฺส กาโย ถทฺโธ โหติ, นิปนฺนสฺสาปิ อิริยาปโถ อมนาโป โหติ, ปจฺฉาภตฺเต ปน ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จมฺมขณฺฑํ ปฺเปตฺวา สุโธตหตฺถปาทสฺส จตุสนฺธิกปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิปนฺนสฺเสว อิริยาปโถ โสภติ. อยฺจ กุลปุตฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ อปฺเปตฺวา นิสีทิ. อิติสฺส อิริยาปเถเนว ปสนฺโน ภควา – ‘‘ปาสาทิกํ โข’’ติ ปริวิตกฺเกสิ.
ยํนูนาหํ ปุจฺเฉยฺยนฺติ กสฺมา ปุจฺฉติ? กึ ภควา อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตภาวํ น ชานาตีติ? โน น ชานาติ, อปุจฺฉิเต ปน กถา น ปติฏฺาติ, อปติฏฺิตาย กถาย กถา น สฺชายตีติ กถาปติฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉิ.
ทิสฺวา ¶ จ ปน ชาเนยฺยาสีติ ตถาคตํ พุทฺธสิริยา วิโรจนฺตํ อยํ พุทฺโธติ สพฺเพ ชานนฺติ. อนจฺฉริยเมตํ ชานนํ, พุทฺธสิรึ ปน ปฏิจฺฉาเทตฺวา อฺตรปิณฺฑปาติกเวเสน จรนฺโต ทุชฺชาโน โหติ. อิจฺจายสฺมา, ปุกฺกุสาติ, ‘‘น ชาเนยฺย’’นฺติ สภาวเมว กเถติ. ตถา หิ นํ เอกกุมฺภการสาลาย นิสินฺนมฺปิ น ชานาติ.
เอตทโหสีติ มคฺคทรถสฺส วูปสมภาวํ ตฺวา อโหสิ. เอวมาวุโสติ กุลปุตฺโต สหาเยน เปสิตํ สาสนมตฺตํ วาเจตฺวา รชฺชํ ¶ ปหาย ปพฺพชมาโน – ‘‘ทสพลสฺส มธุรธมฺมเทสนํ โสตุํ ลภิสฺสามี’’ติ. ปพฺพชิโต, ปพฺพชิตฺวา ¶ เอตฺตกํ อทฺธานํ อาคจฺฉนฺโต – ‘‘ธมฺมํ เต ภิกฺขุ เทเสสฺสามี’’ติ ปทมตฺตสฺส วตฺตารํ นาลตฺถ, โส ‘‘ธมฺมํ เต ภิกฺขุ เทเสสฺสามี’’ติ วุตฺตํ กึ สกฺกจฺจํ น สุณิสฺสติ. ปิปาสิตโสณฺโฑ วิย หิ ปิปาสิตหตฺถี วิย จายํ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ สวนํ ปฏิชานนฺโต ‘‘เอวมาวุโส’’ติ อาห.
๓๔๓. ฉธาตุโร อยนฺติ ภควา กุลปุตฺตสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทํ อกเถตฺวา อาทิโตว อรหตฺตสฺส ปทฏฺานภูตํ อจฺจนฺตสฺุตํ วิปสฺสนาลกฺขณเมว อาจิกฺขิตุํ อารทฺโธ. ยสฺส หิ ปุพฺพภาคปฏิปทา อปริสุทฺธา โหติ, ตสฺส ปมเมว สีลสํวรํ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตํ โภชเน มตฺตฺุตํ ชาคริยานุโยคํ สตฺต สทฺธมฺเม จตฺตาริ ฌานานีติ อิมํ ปุพฺพภาคปฏิปทํ อาจิกฺขติ. ยสฺส ปเนสา ปริสุทฺธา, ตสฺส ตํ อกเถตฺวา อรหตฺตสฺส ปทฏฺานภูตํ วิปสฺสนเมว อาจิกฺขติ. กุลปุตฺตสฺส จ ปุพฺพภาคปฏิปทา ปริสุทฺธา. ตถา หิ อเนน สาสนํ วาเจตฺวา ปาสาทวรคเตเนว อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺติตํ, ยทสฺส ทฺวานวุติโยชนสภํ อาคจฺฉนฺตสฺส ยานกิจฺจํ สาเธสิ, สามเณรสีลมฺปิสฺส ปริปุณฺณํ. ตสฺมา ปุพฺพภาคปฏิปทํ อกเถตฺวา อรหตฺตสฺส ปทฏฺานภูตํ อจฺจนฺตสฺุตํ วิปสฺสนาลกฺขณเมวสฺส อาจิกฺขิตุํ อารทฺโธ.
ตตฺถ ฉธาตุโรติ ธาตุโย วิชฺชมานา, ปุริโส อวิชฺชมาโน. ภควา หิ กตฺถจิ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานํ ทสฺเสติ, กตฺถจิ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานํ, กตฺถจิ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานํ, กตฺถจิ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานนฺติ สพฺพาสเว วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อิธ ปน วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. สเจ หิ ภควา ¶ ปุริโสติ ปณฺณตฺตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ¶ ธาตุโย อิจฺเจว วตฺวา จิตฺตํ อุปฏฺาเปยฺย, กุลปุตฺโต สนฺเทหํ กเรยฺย, สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺย, เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺกุเณยฺย. ตสฺมา ตถาคโต อนุปุพฺเพน ปุริโสติ ปณฺณตฺตึ ปหาย ‘‘สตฺโตติ วา ปุริโสติ วา ปุคฺคโลติ วา ปณฺณตฺติมตฺตเมว, ปรมตฺถโต สตฺโต นาม นตฺถิ, ธาตุมตฺเตเยว จิตฺตํ ปาเปตฺวา ตีณิ ผลานิ ปฏิวิชฺฌาเปสฺสามี’’ติ ¶ อนงฺคณสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย) วุตฺตภาสนฺตรกุสโล ตาย ตาย ภาสาย สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปนฺโต อาจริโย วิย เอวมาห.
ตตฺถ ฉ ธาตุโย อสฺสาติ ฉธาตุโร. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ตฺวํ ปุริโสติ สฺชานาสิ, โส ฉธาตุโก, น เจตฺถ ปรมตฺถโต ปุริโส อตฺถิ, ปุริโสติ ปน ปณฺณตฺติมตฺตเมวาติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. จตุราธิฏฺาโนติ เอตฺถ อธิฏฺานํ วุจฺจติ ปติฏฺา, จตุปติฏฺาโนติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สฺวายํ ภิกฺขุ ปุริโส ฉธาตุโร ฉผสฺสายตโน อฏฺารสมโนปวิจาโร, โส เอตฺโตว วิวฏฺฏิตฺวา อุตฺตมสิทฺธิภูตํ อรหตฺตํ คณฺหมาโน อิเมสุ จตูสุ าเนสุ ปติฏฺาย คณฺหาตีติ จตุราธิฏฺาโนติ. ยตฺถ ิตนฺติ เยสุ อธิฏฺาเนสุ ปติฏฺิตํ. มฺสฺส วา นปฺปวตฺตนฺตีติ มฺสฺส วา มานสฺส วา นปฺปวตฺตนฺติ. มุนิ สนฺโตติ วุจฺจตีติ ขีณาสวมุนิ อุปสนฺโต นิพฺพุโตติ วุจฺจติ. ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺยาติ อรหตฺตผลปฺาย ปฏิวิชฺฌนตฺถํ ¶ อาทิโตว สมาธิวิปสฺสนาปฺํ นปฺปมชฺเชยฺย. สจฺจมนุรกฺเขยฺยาติ ปรมตฺถสจฺจสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยตฺถํ อาทิโตว วจีสจฺจํ รกฺเขยฺย. จาคมนุพฺรูเหยฺยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสปริจฺจาคกรณตฺถํ อาทิโตว กิเลสปริจฺจาคํ พฺรูเหยฺย. สนฺติเมว โส สิกฺเขยฺยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสวูปสมนตฺถํ อาทิโตว กิเลสวูปสมนํ สิกฺเขยฺย. อิติ ปฺาธิฏฺานาทีนํ อธิคมตฺถาย อิมานิ สมถวิปสฺสนาปฺาทีนิ ปุพฺพภาคาธิฏฺานานิ วุตฺตานิ.
๓๔๕. ผสฺสายตนนฺติ ผสฺสสฺส อายตนํ, อากโรติ อตฺโถ. ปฺาธิฏฺานนฺติอาทีนิ ปุพฺเพ วุตฺตานํ อรหตฺตผลปฺาทีนํ วเสน เวทิตพฺพานิ.
๓๔๘. อิทานิ นิกฺขิตฺตมาติกาวเสน ‘‘ยตฺถ ิตํ มฺสฺส วา นปฺปวตฺตนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, อรหตฺเต ปน ปตฺเต ปุน ‘‘ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติอาทีหิ กิจฺจํ นตฺถิ. อิติ ¶ ภควา มาติกํ อุปฺปฏิปาฏิธาตุกํ เปตฺวาปิ ยถาธมฺมวเสเนว วิภงฺคํ วิภชนฺโต ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺยาติอาทิมาห. ตตฺถ โก ปฺํ ปมชฺชติ, โก นปฺปมชฺชติ? โย ตาว อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา เวชฺชกมฺมาทิวเสน เอกวีสติวิธาย อเนสนาย ¶ ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ปพฺพชฺชานุรูเปน จิตฺตุปฺปาทํ เปตุํ น สกฺโกติ, อยํ ปฺํ ปมชฺชติ นาม. โย ปน สาสเน ปพฺพชิตฺวา สีเล ปติฏฺาย พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายํ ธุตงฺคํ สมาทาย จิตฺตรุจิตํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิวิตฺตํ เสนาสนํ นิสฺสาย กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺตึ ปตฺวา อชฺเชว อรหตฺตนฺติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา วิจรติ, อยํ ปฺํ นปฺปมชฺชติ นาม. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ธาตุกมฺมฏฺานวเสน เอส ปฺาย อปฺปมาโท วุตฺโต. ธาตุกมฺมฏฺาเน ปเนตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา หตฺถิปโทปมสุตฺตาทีสุ วุตฺตเมว.
๓๕๔. อถาปรํ ¶ วิฺาณํเยว อวสิสฺสตีติ อยมฺเปตฺถ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เหฏฺโต หิ รูปกมฺมฏฺานํ กถิตํ, อิทานิ อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน นิพฺพตฺเตตฺวา ทสฺเสตุํ อยํ เทสนา อารทฺธา. ยํ วา ปเนตํ อิมสฺส ภิกฺขุโน ปถวีธาตุอาทีสุ อาคมนิยวิปสฺสนาวเสน กมฺมการกวิฺาณํ, ตํ วิฺาณธาตุวเสน ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโตปิ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ อวสิสฺสตีติ กิมตฺถาย อวสิสฺสติ? สตฺถุ กถนตฺถาย กุลปุตฺตสฺส จ ปฏิวิชฺฌนตฺถาย อวสิสฺสติ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. ปริโยทาตนฺติ ปภสฺสรํ. สุขนฺติปิ วิชานาตีติ สุขเวทนํ เวทยมาโน สุขเวทนํ เวทยามีติ ปชานาติ. เสสปททฺวเยสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปนายํ เวทนากถา เหฏฺา น กถิตา ภเวยฺย, อิธ ตฺวา กเถตุํ วฏฺเฏยฺย. สติปฏฺาเน ปเนสา กถิตาวาติ ตตฺถ กถิตนเยเนว เวทิตพฺพา. สุขเวทนิยนฺติ เอวมาทิ ปจฺจยวเสน อุทยตฺถงฺคมนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สุขเวทนิยนฺติ สุขเวทนาย ปจฺจยภูตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
๓๖๐. อุเปกฺขาเยว อวสิสฺสตีติ เอตฺตาวตา หิ ยถา นาม เฉเกน มณิการาจริเยน วชิรสูจิยา วิชฺฌิตฺวา จมฺมขณฺเฑ ปาเตตฺวา ปาเตตฺวา ทินฺนมุตฺตํ อนฺเตวาสิโก คเหตฺวา คเหตฺวา สุตฺตคตํ กโรนฺโต มุตฺโตลมฺพกมุตฺตชาลาทีนิ กโรติ, เอวเมว ภควตา กเถตฺวา กเถตฺวา ทินฺนํ กมฺมฏฺานํ อยํ กุลปุตฺโต มนสิกโรนฺโต มนสิกโรนฺโต ปคุณํ อกาสีติ รูปกมฺมฏฺานมฺปิสฺส อรูปกมฺมฏฺานมฺปิ ปคุณํ ¶ ชาตํ, อถ ภควา ‘‘อถาปรํ อุเปกฺขาเยว อวสิสฺสตี’’ติ อาห.
กิมตฺถํ ¶ ปน อวสิสฺสตีติ? สตฺถุ กถนตฺถํ. กุลปุตฺตสฺส ปฏิวิชฺฌนตฺถนฺติปิ วทนฺติ ¶ , ตํ น คเหตพฺพํ. กุลปุตฺเตน หิ สหายสฺส สาสนํ วาเจตฺวา ปาสาทตเล ิเตเนว อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺติตํ, ยทสฺส เอตฺตกํ มคฺคํ อาคจฺฉนฺตสฺส ยานกิจฺจํ สาเธติ. สตฺถุ กถนตฺถํเยว อวสิสฺสติ. อิมสฺมิฺหิ าเน สตฺถา กุลปุตฺตสฺส รูปาวจรชฺฌาเน วณฺณํ กเถสิ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ ‘‘ภิกฺขุ ปคุณํ ตว อิทํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาน’’นฺติ. ปริสุทฺธาติอาทิ ตสฺสาเยว อุเปกฺขาย วณฺณภณนํ. อุกฺกํ พนฺเธยฺยาติ องฺคารกปลฺลํ สชฺเชยฺย. อาลิมฺเปยฺยาติ ตตฺถ องฺคาเร ปกฺขิปิตฺวา อคฺคึ ทตฺวา นาฬิกาย ธเมนฺโต อคฺคึ ชาเลยฺย. อุกฺกามุเข ปกฺขิเปยฺยาติ องฺคาเร วิยูหิตฺวา องฺคารมตฺถเก วา เปยฺย, ตตฺตเก วา ปกฺขิเปยฺย. นีหฏนฺติ นีหฏโทสํ. นินฺนีตกสาวนฺติ อปนีตกสาวํ. เอวเมว โขติ ยถา ตํ สุวณฺณํ อิจฺฉิติจฺฉิตาย ปิฬนฺธนวิกติยา สํวตฺตติ, เอวเมว อยํ ตาว จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขา วิปสฺสนา อภิฺา นิโรโธ ภโวกฺกนฺตีติ อิเมสุ ยํ อิจฺฉติ, ตสฺสตฺถาย โหตีติ วณฺณํ กเถสิ.
กสฺมา ปน ภควา อิมสฺมึ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน นิกนฺติปริยาทานตฺถํ อวณฺณํ อกเถตฺวา วณฺณํ กเถสีติ. กุลปุตฺตสฺส หิ จตุตฺถชฺฌาเน นิกนฺติปริยุฏฺานํ พลวํ. สเจ อวณฺณํ กเถยฺย, – ‘‘มยฺหํ ปพฺพชิตฺวา ¶ ทฺวานวุติโยชนสตํ อาคจฺฉนฺตสฺส อิมํ จตุตฺถชฺฌานํ ยานกิจฺจํ สาเธสิ, อหํ เอตฺตกํ มคฺคํ อาคจฺฉนฺโต ฌานสุเขน ฌานรติยา อาคโต, เอวรูปสฺส นาม ปณีตธมฺมสฺส อวณฺณํ กเถติ, ชานํ นุ โข กเถติ อชาน’’นฺติ กุลปุตฺโต สํสยํ สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา ภควา วณฺณํ กเถสิ.
๓๖๑. ตทนุธมฺมนฺติ เอตฺถ อรูปาวจรชฺฌานํ ธมฺโม นาม, ตํ อนุคตตฺตา รูปาวจรชฺฌานํ อนุธมฺโมติ วุตฺตํ. วิปากชฺฌานํ วา ธมฺโม, กุสลชฺฌานํ อนุธมฺโม. ตทุปาทานาติ ตคฺคหณา. จิรํ ทีฆมทฺธานนฺติ วีสติกปฺปสหสฺสานิ. วิปากวเสน เหตํ วุตฺตํ. อิโต อุตฺตริมฺปิ เอเสว นโย.
๓๖๒. เอวํ ¶ จตูหิ วาเรหิ อรูปาวจรชฺฌานสฺส วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ ตสฺเสว อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต โส เอวํ ปชานาตีติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขตเมตนฺติ กิฺจาปิ เอตฺถ วีสติกปฺปสหสฺสานิ ¶ อายุ อตฺถิ, เอตํ ปน สงฺขตํ ปกปฺปิตํ อายูหิตํ, กโรนฺเตน กรียติ, อนิจฺจํ อธุวํ อสสฺสตํ ตาวกาลิกํ, จวนปริเภทนวิทฺธํสนธมฺมํ, ชาติยา อนุคตํ, ชราย อนุสฏํ, มรเณน อพฺภาหตํ, ทุกฺเข ปติฏฺิตํ, อตาณํ อเลณํ อสรณํ อสรณีภูตนฺติ. วิฺาณฺจายตนาทีสุปิ เอเสว นโย.
อิทานิ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ คณฺหนฺโต โส เนว ตํ อภิสงฺขโรตีติอาทิมาห. ยถา หิ เฉโก ภิสกฺโก วิสวิการํ ทิสฺวา วมนํ กาเรตฺวา วิสํ านโต จาเวตฺวา อุปริ อาโรเปตฺวา ขนฺธํ วา สีสํ วา คเหตุํ อทตฺวา วิสํ โอตาเรตฺวา ปถวิยํ ปาเตยฺย, เอวเมว ภควา กุลปุตฺตสฺส ¶ อรูปาวจรชฺฌาเน วณฺณํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา กุลปุตฺโต รูปาวจรชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย อรูปาวจรชฺฌาเน ปตฺถนํ เปสิ.
ภควา ตํ ตฺวา ตํ อสมฺปตฺตสฺส อปฺปฏิลทฺธสฺเสว ภิกฺขุโน ‘‘อตฺเถสา อากาสานฺจายตนาทีสุ สมฺปตฺติ นาม. เตสฺหิ ปมพฺรหฺมโลเก วีสติกปฺปสหสฺสานิ อายุ, ทุติเย จตฺตาลีสํ, ตติเย สฏฺิ, จตุตฺเถ จตุราสีติ กปฺปสหสฺสานิ อายุ. ตํ ปน อนิจฺจํ อธุวํ อสสฺสตํ ตาวกาลิกํ, จวนปริเภทนวิทฺธํสนธมฺมํ, ชาติยา อนุคตํ, ชราย อนุสฏํ, มรเณน อพฺภาหตํ, ทุกฺเข ปติฏฺิตํ, อตาณํ อเลณํ อสรณํ อสรณีภูตํ, เอตฺตกํ กาลํ ตตฺถ สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวาปิ ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กตฺวา ปุน จตูสุ อปาเยสุ ปติตพฺพ’’นฺติ สพฺพเมตํ อาทีนวํ เอกปเทเนว ‘‘สงฺขตเมต’’นฺติ กเถสิ. กุลปุตฺโต ตํ สุตฺวา อรูปาวจรชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทิยิ, ภควา ตสฺส รูปาวจรารูปาวจเรสุ นิกนฺติยา ปริยาทินฺนภาวํ ตฺวา อรหตฺตนิกูฏํ คณฺหนฺโต ‘‘โส เนว ตํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทิมาห.
ยถา วา ปเนโก มหาโยโธ เอกํ ราชานํ อาราเธตฺวา สตสหสฺสุฏฺานกํ คามวรํ ลเภยฺย, ปุน ราชา ตสฺสานุภาวํ สริตฺวา – ‘‘มหานุภาโว โยโธ, อปฺปกํ เตน ลทฺธ’’นฺติ – ‘‘นายํ ตาต คาโม ¶ ตุยฺหํ อนุจฺฉวิโก, อฺํ จตุสตสหสฺสุฏฺานกํ คณฺหาหี’’ติ ทเทยฺย โส สาธุ เทวาติ ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิตรํ คามํ คณฺเหยฺย. ราชา อสมฺปตฺตเมว จ นํ ปกฺโกสาเปตฺวา – ‘‘กึ เต เตน, อหิวาตโรโค เอตฺถ อุปฺปชฺชติ? อสุกสฺมึ ปน าเน มหนฺตํ นครํ อตฺถิ, ตตฺถ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชํ กาเรหี’’ติ ปหิเณยฺย, โส ตถา กเรยฺย.
ตตฺถ ¶ ราชา วิย สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ, มหาโยโธ วิย ปุกฺกุสาติ กุลปุตฺโต, ปมลทฺธคาโม วิย อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ, ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิตรํ คามํ คณฺหาหีติ วุตฺตกาโล วิย อานาปานจตุตฺถชฺฌาเน นิกนฺติปริยาทานํ กตฺวา อารุปฺปกถนํ, ตํ คามํ อสมฺปตฺตเมว ¶ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กึ เต เตน, อหิวาตโรโค เอตฺถ อุปฺปชฺชติ? อสุกสฺมึ าเน นครํ อตฺถิ, ตตฺถ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชํ กาเรหี’’ติ วุตฺตกาโล วิย อรูเป สงฺขตเมตนฺติ อาทีนวกถเนน อปฺปตฺตาสุเยว ตาสุ สมาปตฺตีสุ ปตฺถนํ นิวตฺถาเปตฺวา อุปริ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนาคหณํ.
ตตฺถ เนว อภิสงฺขโรตีติ นายูหติ น ราสึ กโรติ. น อภิสฺเจตยตีติ น กปฺเปติ. ภวาย วา วิภวาย วาติ วุทฺธิยา วา ปริหานิยา วา, สสฺสตุจฺเฉทวเสนปิ โยเชตพฺพํ. น กิฺจิ โลเก อุปาทิยตีติ โลเก รูปาทีสุ กิฺจิ เอกธมฺมมฺปิ ตณฺหาย น คณฺหาติ, น ปรามสติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ ภควา อตฺตโน พุทฺธวิสเย ตฺวา เทสนาย อรหตฺตนิกูฏํ คณฺหิ. กุลปุตฺโต ปน อตฺตโน ยโถปนิสฺสเยน ตีณิ สามฺผลานิ ปฏิวิชฺฌิ. ยถา นาม ราชา สุวณฺณภาชเนน นานารสโภชนํ ภฺุชนฺโต อตฺตโน ปมาเณน ปิณฺฑํ วฏฺเฏตฺวา องฺเก นิสินฺเนน ราชกุมาเรน ปิณฺฑมฺหิ อาลเย ทสฺสิเต ตํ ปิณฺฑํ อุปนาเมยฺย, กุมาโร อตฺตโน มุขปฺปมาเณเนว กพฬํ กเรยฺย, เสสํ ราชา สยํ วา ภฺุเชยฺย, ปาติยํ วา ปกฺขิเปยฺย, เอวํ ธมฺมราชา ตถาคโต อตฺตโน ปมาเณน อรหตฺตนิกูฏํ คณฺหนฺโต เทสนํ เทเสสิ, กุลปุตฺโต อตฺตโน ยโถปนิสฺสเยน ตีณิ สามฺผลานิ ปฏิวิชฺฌิ.
อิโต ปุพฺเพ ปนสฺส ขนฺธา ธาตุโย อายตนานีติ เอวรูปํ อจฺจนฺตสฺุตํ ติลกฺขณาหตํ กถํ กเถนฺตสฺส เนว กงฺขา, น วิมติ, นาปิ – ‘‘เอวํ กิร ตํ, เอวํ เม อาจริเยน วุตฺต’’นฺติ อิติ กิร น ทนฺธายิตตฺตํ น วิตฺถายิตตฺตํ ¶ อตฺถิ ¶ . เอกจฺเจสุ จ กิร าเนสุ พุทฺธา อฺาตกเวเสน วิจรนฺติ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ นุ โข เอโสติ อหุเทว สํสโย, อหุ วิมติ. ยโต อเนน อนาคามิผลํ ปฏิวิทฺธํ, อถ อยํ เม สตฺถาติ นิฏฺํ คโต. ยทิ เอวํ กสฺมา อจฺจยํ น เทเสสีติ. โอกาสาภาวโต. ภควา หิ ยถานิกฺขิตฺตาย มาติกาย อจฺฉินฺนธารํ กตฺวา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย เทสนํ เทเสสิเยว.
๓๖๓. โสติ ¶ อรหา. อนชฺโฌสิตาติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺาเปตฺวา คเหตุํ น ยุตฺถาติ ปชานาติ. อนภินนฺทิตาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน อภินนฺทิตุํ น ยุตฺตาติ ปชานาติ.
๓๖๔. วิสํยุตฺโต นํ เวเทตีติ สเจ หิสฺส สุขเวทนํ อารพฺภ ราคานุสโย, ทุกฺขเวทนํ อารพฺภ ปฏิฆานุสโย, อิตรํ อารพฺภ อวิชฺชานุสโย อุปฺปชฺเชยฺย, สํยุตฺโต เวทิเยยฺย นาม. อนุปฺปชฺชนโต ปน วิสํยุตฺโต นํ เวเทติ นิสฺสโฏ วิปฺปมุตฺโต. กายปริยนฺติกนฺติ กายโกฏิกํ. ยาว กายปวตฺตา อุปฺปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ อนุปฺปชฺชนเวทนนฺติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตีติ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ กิเลสานํ วิเสวนสฺส นตฺถิตาย อนภินนฺทิตานิ หุตฺวา อิธ ทฺวาทสสุเยว อายตเนสุ นิรุชฺฌิสฺสนฺติ. กิเลสา หิ นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธาปิ ยตฺถ นตฺถิ, ตตฺถ นิรุทฺธาติ วุจฺจนฺติ. สฺวายมตฺโถ – ‘‘เอตฺเถสา ตณฺหา นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติ สมุทยปฺเหน ทีเปตพฺโพ. ตสฺมา ภควา นิพฺพานํ อาคมฺม สีติภูตานิปิ อิเธว สีตีภวิสฺสนฺตีติ อาห. นนุ จ อิธ เวทยิตานิ วุตฺตานิ, น กิเลสาติ. เวทยิตานิปิ กิเลสาภาเวเนว สีตีภวนฺติ. อิตรถา เนสํ สีติภาโว นาม นตฺถีติ สุวุตฺตเมตํ.
๓๖๕. เอวเมว ¶ โขติ เอตฺถ อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ยถา หิ เอโก ปุริโส เตลปทีปสฺส ฌายโต เตเล ขีเณ เตลํ อาสิฺจติ, วฏฺฏิยา ขีณาย วฏฺฏึ ปกฺขิปติ, เอวํ ทีปสิขาย อนุปจฺเฉโทว โหติ, เอวเมว ปุถุชฺชโน เอกสฺมึ ภเว ิโต กุสลากุสลํ กโรติ, โส เตน สุคติยฺจ อปาเยสุ จ นิพฺพตฺตติเยว, เอวํ เวทนานํ อนุปจฺเฉโทว ¶ โหติ. ยถา ปเนโก ทีปสิขาย อุกฺกณฺิโต – ‘‘อิมํ ปุริสํ อาคมฺม ทีปสิขา น อุปจฺฉิชฺชตี’’ติ นิลีโน ตสฺส ปุริสสฺส สีสํ ฉินฺเทยฺย, เอวํ วฏฺฏิยา จ เตลสฺส จ อนุปหารา ทีปสิขา อนาหารา นิพฺพายติ, เอวเมว วฏฺเฏ อุกฺกณฺิโต โยคาวจโร อรหตฺตมคฺเคน กุสลากุสลํ สมุจฺฉินฺทติ, ตสฺส สมุจฺฉินฺนตฺตา ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน กายสฺส เภทา ปุน เวทยิตานิ น อุปฺปชฺชนฺตีติ.
ตสฺมาติ ยสฺมา อาทิมฺหิ สมาธิวิปสฺสนาปฺาหิ อรหตฺตผลปฺา อุตฺตริตรา, ตสฺมา. เอวํ สมนฺนาคโตติ อิมินา อุตฺตเมน อรหตฺตผลปฺาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต. สพฺพทุกฺขกฺขเย ¶ าณํ นาม อรหตฺตมคฺเค าณํ, อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อรหตฺตผเล าณํ อธิปฺเปตํ. เตเนวาห ตสฺส สา วิมุตฺติ สจฺเจ ิตา อกุปฺปา โหตีติ.
๓๖๖. เอตฺถ หิ วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ, สจฺจนฺติ ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ. อิติ อกุปฺปารมฺมณกรเณน อกุปฺปาติ วุตฺตา. มุสาติ วิตถํ. โมสธมฺมนฺติ นสฺสนสภาวํ. ตํ สจฺจนฺติ ตํ อวิตถํ สภาโว. อโมสธมฺมนฺติ อนสฺสนสภาวํ.
ตสฺมาติ ยสฺมา อาทิโต สมถวิปสฺสนาวเสน วจีสจฺจโต ทุกฺขสจฺจสมุทยสจฺเจหิ จ ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานเมว อุตฺตริตรํ, ตสฺมา. เอวํ สมนฺนาคโตติ อิมินา อุตฺตเมน ปรมตฺถสจฺจาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต.
๓๖๗. ปุพฺเพติ ปุถุชฺชนกาเล. อุปธี ¶ โหนฺตีติ ขนฺธูปธิ กิเลสูปธิ อภิสงฺขารูปธิ ปฺจกามคุณูปธีติ อิเม อุปธโย โหนฺติ. สมตฺตา สมาทินฺนาติ ปริปูรา คหิตา ปรมฏฺา. ตสฺมาติ ยสฺมา อาทิโต สมถวิปสฺสนาวเสน กิเลสปริจฺจาคโต, โสตาปตฺติมคฺคาทีหิ จ กิเลสปริจฺจาคโต อรหตฺตมคฺเคเนว กิเลสปริจฺจาโค อุตฺตริตโร, ตสฺมา. เอวํ สมนฺนาคโตติ อิมินา อุตฺตเมน จาคาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต.
๓๖๘. อาฆาโตติอาทีสุ อาฆาตกรณวเสน อาฆาโต, พฺยาปชฺชนวเสน พฺยาปาโท, สมฺปทุสฺสนวเสน สมฺปโทโสติ ตีหิ ปเทหิ โทสากุสลมูลเมว วุตฺตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อาทิโต สมถวิปสฺสนาวเสน ¶ กิเลสวูปสมโต, โสตาปตฺติมคฺคาทีหิ กิเลสวูปสมโต จ อรหตฺตมคฺเคเนว กิเลสวูปสโม อุตฺตริตโร, ตสฺมา. เอวํ สมนฺนาคโตติ อิมินา อุตฺตเมน อุปสมาธิฏฺาเนน สมนฺนาคโต.
๓๖๙. มฺิตเมตนฺติ ตณฺหามฺิตํ มานมฺิตํ ทิฏฺิมฺิตนฺติ ติวิธมฺปิ วฏฺฏติ. อยมหมสฺมีติ เอตฺถ ปน อยมหนฺติ เอกํ ตณฺหามฺิตเมว วฏฺฏติ. โรโคติอาทีสุ อาพาธฏฺเน โรโค, อนฺโตโทสฏฺเน คณฺโฑ, อนุปวิฏฺฏฺเน สลฺลํ. มุนิ สนฺโตติ วุจฺจตีติ ขีณาสวมุนิ สนฺโต นิพฺพุโตติ วุจฺจติ. ยตฺถ ิตนฺติ ยสฺมึ าเน ิตํ. สํขิตฺเตนาติ พุทฺธานํ ¶ กิร สพฺพาปิ ธมฺมเทสนา สํขิตฺตาว, วิตฺถารเทสนา นาม นตฺถิ, สมนฺตปฏฺานกถาปิ ¶ สํขิตฺตาเยว. อิติ ภควา เทสนํ ยถานุสนฺธึ ปาเปสิ. อุคฺฆาฏิตฺูติอาทีสุ ปน จตูสุ ปุคฺคเลสุ ปุกฺกุสาติ กุลปุตฺโต วิปฺจิตฺู, อิติ วิปฺจิตฺุวเสน ภควา อิมํ ธาตุวิภงฺคสุตฺตํ กเถสิ.
๓๗๐. น โข เม, ภนฺเต, ปริปุณฺณํ ปตฺตจีวรนฺติ กสฺมา กุลปุตฺตสฺส อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ น นิพฺพตฺตนฺติ. ปุพฺเพ อฏฺนฺนํ ปริกฺขารานํ อทินฺนตฺตา. กุลปุตฺโต หิ ทินฺนทาโน กตาภินีหาโร, น ทินฺนตฺตาติ น วตฺตพฺพํ. อิทฺธิมยปตฺตจีวรํ ปน ปจฺฉิมภวิกานํเยว นิพฺพตฺตติ, อยฺจ ปุนปฏิสนฺธิโก, ตสฺมา น นิพฺพตฺตนฺติ. อถ ภควา สยํ ปริเยสิตฺวา กสฺมา น อุปสมฺปาเทสีติ. โอกาสาภาวโต. กุลปุตฺตสฺส อายุ ปริกฺขีณํ, สุทฺธาวาสิโก อนาคามี มหาพฺรหฺมา กุมฺภการสาลํ อาคนฺตฺวา นิสินฺโน วิย อโหสิ. ตสฺมา สยํ น ปริเยสิ.
ปตฺตจีวรปริเยสนํ ปกฺกามีติ กาย เวลาย ปกฺกามิ? อุฏฺิเต อรุเณ. ภควโต กิร ธมฺมเทสนาปรินิฏฺานฺจ อรุณุฏฺานฺจ รสฺมิวิสฺสชฺชนฺจ เอกกฺขเณ อโหสิ. ภควา กิร เทสนํ นิฏฺเปตฺวาว ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺชิ, สกลกุมฺภการนิเวสนํ เอกปชฺโชตํ อโหสิ, ฉพฺพณฺณรสฺมิโย ชาลชาลา ปฺุชปฺุชา หุตฺวา วิธาวนฺติโย สพฺพทิสาภาเค สุวณฺณปฏปริโยนทฺเธ วิย จ นานาวณฺณกุสุมรตนวิสรสมุชฺชเล วิย จ อกํสุ. ภควา ‘‘นครวาสิโน มํ ปสฺสนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ. นครวาสิโน ภควนฺตํ ¶ ทิสฺวาว ‘‘สตฺถา กิร อาคโต, กุมฺภการสาลาย กิร นิสินฺโน’’ติ อฺมฺสฺส อาโรเจตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ.
ราชา ¶ อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, กาย เวลาย อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. หิยฺโย สูริยตฺถงฺคมนเวลาย มหาราชาติ. เกน กมฺเมน ภควาติ? ตุมฺหากํ สหาโย ปุกฺกุสาติ ราชา ตุมฺเหหิ ปหิตํ สาสนํ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตฺวา มํ อุทฺทิสฺส อาคจฺฉนฺโต สาวตฺถึ อติกฺกมฺม ปฺจจตฺตาลีส โยชนานิ อาคนฺตฺวา อิมํ กุมฺภการสาลํ ปวิสิตฺวา นิสีทิ, อหํ ตสฺส สงฺคหตฺถํ อาคนฺตฺวา ธมฺมกถํ กเถสึ, กุลปุตฺโต ตีณิ ผลานิ ปฏิวิชฺฌิ มหาราชาติ. อิทานิ กหํ, ภนฺเตติ? อุปสมฺปทํ ยาจิตฺวา อปริปุณฺณปตฺตจีวรตาย ปตฺตจีวรปริเยสนตฺถํ ¶ คโต มหาราชาติ. ราชา กุลปุตฺตสฺส คตทิสาภาเคน อคมาสิ. ภควาปิ อากาเสนาคนฺตฺวา เชตวนคนฺธกุฏิมฺหิเยว ปาตุรโหสิ.
กุลปุตฺโตปิ ปตฺตจีวรํ ปริเยสมาโน เนว พิมฺพิสารรฺโ น ตกฺกสีลกานํ ชงฺฆวาณิชานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘น โข เม กุกฺกุฏสฺส วิย ตตฺถ ตตฺถ มนาปามนาปเมว วิจินิตฺวา ปตฺตจีวรํ ปริเยสิตุํ ยุตฺตํ, มหนฺตํ นครํ วชฺชิตฺวา อุทกติตฺถสุสานสงฺการฏฺานอนฺตรวีถีสุ ปริเยสิสฺสามี’’ติ อนฺตรวีถิยํ สงฺการกูเฏสุ ตาว ปิโลติกํ ปริเยสิตุํ อารทฺโธ.
ชีวิตา โวโรเปสีติ เอตสฺมึ สงฺการกูเฏ ปิโลติกํ โอโลเกนฺตํ วิพฺภนฺตา ตรุณวจฺฉา คาวี อุปธาวิตฺวา สิงฺเคน วิชฺฌิตฺวา ฆาเตสิ. ฉาตกชฺฌตฺโต กุลปุตฺโต อากาเสเยว อายุกฺขยํ ปตฺวา ปติโต. สงฺการฏฺาเน อโธมุขฏฺปิตา สุวณฺณปฏิมา วิย อโหสิ, กาลงฺกโต จ ปน อวิหาพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, นิพฺพตฺตมตฺโตว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อวิหาพฺรหฺมโลเก กิร นิพฺพตฺตมตฺตาว สตฺต ชนา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อวิหํ ¶ อุปปนฺนาเส, วิมุตฺตา สตฺต ภิกฺขโว;
ราคโทสปริกฺขีณา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติกํ.
เก จ เต อตรุํ ปงฺกํ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ;
เก หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปจฺจคุํ.
อุปโก ¶ ปลคณฺโฑ จ, ปุกฺกุสาติ จ เต ตโย;
ภทฺทิโย ขณฺฑเทโว จ, พาหุรคฺคิ จ สิงฺคิโย;
เต หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปจฺจคุ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๕๐, ๑๐๕);
พิมฺพิสาโรปิ ‘‘มยฺหํ สหาโย มยา เปสิตสาสนมตฺตํ วาเจตฺวา หตฺถคตํ รชฺชํ ปหาย เอตฺตกํ ¶ อทฺธานํ อาคโต, ทุกฺกรํ กตํ กุลปุตฺเตน, ปพฺพชิตสกฺกาเรน ตํ สกฺกริสฺสามี’’ติ ‘‘ปริเยสถ เม สหายก’’นฺติ ตตฺถ ตตฺถ เปเสสิ. เปสิตา ตํ อทฺทสํสุ สงฺการฏฺาเน ปติตํ, ทิสฺวา อาคมฺม รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา คนฺตฺวา กุลปุตฺตํ ทิสฺวา – ‘‘น วต, โภ, ลภิมฺหา สหายกสฺส สกฺการํ กาตุํ, อนาโถ เม ชาโต สหายโก’’ติ. ปริเทวิตฺวา กุลปุตฺตํ มฺจเกน คณฺหาเปตฺวา ยุตฺโตกาเส เปตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส สกฺการํ กาตุํ ชานนาภาเวน นฺหาปกกปฺปกาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา กุลปุตฺตํ สีสํ นฺหาเปตฺวา สุทฺธวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ราชเวเสน อลงฺการาเปตฺวา โสวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา สพฺพตาฬาวจรคนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กโรนฺโต นครา นีหริตฺวา พหูหิ คนฺธกฏฺเหิ มหาจิตกํ กาเรตฺวา กุลปุตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา ธาตุโย อาทาย เจติยํ ปติฏฺเปสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ธาตุวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. สจฺจวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๗๑. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ อาจิกฺขนาติ อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ นาม…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ นามาติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อปิเจตฺถ ปฺาปนา นาม ทุกฺขสจฺจาทีนํ ปนา. อาสนํ เปนฺโต หิ อาสนํ ปฺเปตีติ วุจฺจติ. ปฏฺปนาติ ปฺาปนา. วิวรณาติ วิวฏกรณา. วิภชนาติ วิภาคกิริยา. อุตฺตานีกมฺมนฺติ ปากฏภาวกรณํ.
อนุคฺคาหกาติ ¶ อามิสสงฺคเหน ธมฺมสงฺคเหนาติ ทฺวีหิปิ สงฺคเหหิ อนุคฺคาหกา. ชเนตาติ ชนิกา มาตา. อาปาเทตาติ โปเสตา. โปสิกมาตา วิย โมคฺคลฺลาโนติ ทีเปติ. ชนิกมาตา หิ นว วา ทส วา มาเส โลณมฺพิลาทีนิ ปริหรมานา กุจฺฉิยา ทารกํ ธาเรตฺวา กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตํ โปสิกมาตรํ ธาตึ ปฏิจฺฉาเปติ. สา ขีรนวนีตาทีหิ ทารกํ โปเสตฺวา วฑฺเฒติ, โส วุทฺธิมาคมฺม ยถาสุขํ วิจรติ. เอวเมว สาริปุตฺโต อตฺตโน วา ปเรสํ วา สนฺติเก ปพฺพชิเต ทฺวีหิ สงฺคเหหิ สงฺคณฺหนฺโต คิลาเน ปฏิชคฺคนฺโต กมฺมฏฺาเน โยเชตฺวา โสตาปนฺนภาวํ ตฺวา อปายภเยหิ วุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย – ‘‘อิทานิ ปจฺจตฺตปุริสกาเรน อุปริมคฺเค นิพฺพตฺเตสฺสนฺตี’’ติ เตสุ อนเปกฺโข หุตฺวา อฺเ นเว นเว โอวทติ. มหาโมคฺคลฺลาโนปิ อตฺตโน วา ปเรสํ วา สนฺติเก ปพฺพชิเต ตเถว สงฺคณฺหิตฺวา กมฺมฏฺาเน โยเชตฺวา เหฏฺา ตีณิ ¶ ผลานิ ปตฺเตสุปิ อนเปกฺขตํ น อาปชฺชติ. กสฺมา? เอวํ กิรสฺส โหติ – วุตฺตํ ภควตา – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตโกปิ คูโถ ทุคฺคนฺโธ โหติ…เป… อปฺปมตฺตกมฺปิ มุตฺตํ… เขโฬ… ปุพฺโพ… โลหิตํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เอวเมว โข อหํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกมฺปิ ภวํ น วณฺเณมิ อนฺตมโส อจฺฉราสงฺฆตมตฺตมฺปี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๒๐-๓๒๑). ตสฺมา ยาว อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ, ตาว เตสุ อนเปกฺขตํ อนาปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺเตสุเยว อาปชฺชตีติ. เตนาห ภควา – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ชเนตา เอวํ สาริปุตฺโต. เสยฺยถาปิ ชาตสฺส อาปาเทตา, เอวํ โมคฺคลฺลาโน. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติผเล วิเนติ, โมคฺคลฺลาโน อุตฺตมตฺเถ’’ติ. ปโหตีติ สกฺโกติ.
ทุกฺเข ¶ าณนฺติ สวนสมฺมสนปฏิเวธาณํ, ตถา ทุกฺขสมุทเย. ทุกฺขนิโรเธ สวนปฏิเวธาณนฺติ วฏฺฏติ, ตถา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีสุ กามปจฺจนีกฏฺเน, กามโต นิสฺสฏภาเวน วา, กามํ สมฺมสนฺตสฺส อุปฺปนฺโนติ วา, กามปทฆาตํ กามวูปสมํ กโรนฺโต อุปฺปนฺโนติ วา, กามวิวิตฺตนฺเต อุปฺปนฺโนติ วา เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺเพปิ เจเต ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ, มคฺคกฺขเณ เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ. ตตฺร หิ มิจฺฉาสงฺกปฺปเจตนาย สมุคฺฆาตโก เอโกว สงฺกปฺโป ลพฺภติ, น นานา ลพฺภติ ¶ . สมฺมาวาจาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ, วุตฺตนเยเนว มคฺคกฺขเณ เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาเรน ปน สจฺจกถา วิสุทฺธิมคฺเค จ สมฺมาทิฏฺิสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๘๙ อาทโย) จ วุตฺตาเยวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
สจฺจวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา
๓๗๖. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตํ. ตตฺถ มหาปชาปติ โคตมีติ โคตมีติ โคตฺตํ. นามกรณทิวเส ปนสฺสา ลทฺธสกฺการา พฺราหฺมณา ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา – ‘‘สเจ อยํ ธีตรํ ลภิสฺสติ, จกฺกวตฺติรฺโ อคฺคมเหสี ภวิสฺสติ. สเจ ปุตฺตํ ลภิสฺสติ, จกฺกวตฺติราชา ภวิสฺสตีติ อุภยถาปิ มหตีเยวสฺสา ปชา ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อถสฺสา มหาปชาปตีติ นามํ อกํสุ. อิธ ปน โคตฺเตน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา มหาปชาปติโคตมีติ วุตฺตํ. นวนฺติ อหตํ. สามํ วายิตนฺติ น สหตฺเถเนว วายิตํ, เอกทิวสํ ปน ธาติคณปริวุตา สิปฺปิกานํ วายนฏฺานํ อาคนฺตฺวา เวมโกฏึ คเหตฺวา วายนาการํ อกาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
กทา ปน โคตมิยา ภควโต ทุสฺสยุคํ ทาตุํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนนฺติ. อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปมคมเนน กปิลปุรํ อาคตกาเล. ตทา หิ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ สตฺถารํ คเหตฺวา สุทฺโธทนมหาราชา สกํ นิเวสนํ ปเวเสสิ, อถ ภควโต รูปโสภคฺคํ ทิสฺวา มหาปชาปติโคตมี จินฺเตสิ – ‘‘โสภติ วต เม ปุตฺตสฺส อตฺตภาโว’’ติ. อถสฺสา พลวโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘มม ปุตฺตสฺส เอกูนตึส วสฺสานิ อคารมชฺเฌ วสนฺตสฺส อนฺตมโส โมจผลมตฺตมฺปิ มยา ทินฺนกเมว อโหสิ, อิทานิปิสฺส จีวรสาฏกํ ทสฺสามี’’ติ. ‘‘อิมสฺมึ โข ปน ราชเคเห พหูนิ มหคฺฆานิ วตฺถานิ อตฺถิ, ตานิ มํ น โตเสนฺติ, สหตฺถา กตเมว มํ โตเสติ, สหตฺถา กตฺวา ทสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.
อถนฺตราปณา ¶ กปฺปาสํ อาหราเปตฺวา สหตฺเถเนว ¶ ปิสิตฺวา โปเถตฺวา สุขุมสุตฺตํ กนฺติตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมึเยว สาลํ การาเปตฺวา สิปฺปิเก ปกฺโกสาเปตฺวา สิปฺปิกานํ อตฺตโน ปริโภคขาทนียโภชนียเมว ทตฺวา วายาเปสิ, กาลานุกาลฺจ ธาติคณปริวุตา คนฺตฺวา เวมโกฏึ อคฺคเหสิ. นิฏฺิตกาเล สิปฺปิกานํ มหาสกฺการํ กตฺวา ทุสฺสยุคํ คนฺธสมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา วาสํ คาหาเปตฺวา – ‘‘มยฺหํ ปุตฺตสฺส จีวรสาฏกํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ ¶ . ราชา มคฺคํ ปฏิยาทาเปสิ, วีถิโย สมฺมชฺชิตฺวา ปุณฺณฆเฏ เปตฺวา ธชปฏากา อุสฺสาเปตฺวา ราชฆรทฺวารโต ปฏฺาย ยาว นิคฺโรธารามา มคฺคํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปุปฺผาภิกิณฺณํ อกํสุ. มหาปชาปติปิ สพฺพาลงฺการํ อลงฺกริตฺวา ธาติคณปริวุตา สมุคฺคํ สีเส เปตฺวา ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา อิทํ เม, ภนฺเต, นวํ ทุสฺสยุคนฺติอาทิมาห.
ทุติยมฺปิ โขติ ‘‘สงฺเฆ โคตมิ เทหี’’ติ วุตฺเต – ‘‘ปโหมหํ, ภนฺเต, ทุสฺสโกฏฺาคารโต ภิกฺขุสตสฺสาปิ ภิกฺขุสหสฺสสฺสาปิ ภิกฺขุสตสหสฺสสฺสาปิ จีวรทุสฺสานิ ทาตุํ, อิทํ ปน เม ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส สามํ กนฺตํ สามํ วายิตํ, ตํ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตู’’ติ นิมนฺตยมานา อาห. เอวํ ยาวตติยํ ยาจิ, ภควาปิ ปฏิกฺขิปิเยว.
กสฺมา ปน ภควา อตฺตโน ทิยฺยมานํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาเปตีติ? มาตริ อนุกมฺปาย. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อิมิสฺสา มํ อารพฺภ ปุพฺพเจตนา มฺุจเจตนา ปรเจตนาติ ติสฺโส เจตนา อุปฺปนฺนา, ภิกฺขุสงฺฆมฺปิสฺสา อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺตุ, เอวมสฺสา ฉ เจตนา เอกโต หุตฺวา ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ปวตฺติสฺสนฺตี’’ติ. วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ ตสฺมา เอวํ วุตฺต’’นฺติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ ตฺวํ สตฺถุ ทินฺนโต สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผลตรํ วทสี’’ติ อาม วทามีติ. สุตฺตํ อาหราติ. สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จาติ. กึ ปนสฺส สุตฺตสฺส อยเมว อตฺโถติ ¶ ? อาม อยเมวาติ. ยทิ เอวํ ‘‘เตน หานนฺท, วิฆาสาทานํ ปูวํ เทหี’’ติ จ (ปาจิ. ๒๖๙) ‘‘เตน หิ ตฺว, กจฺจาน, วิฆาสาทานํ คุฬํ เทหี’’ติ (มหาว. ๒๘๔) จ วจนโต วิฆาสาทานํ ทินฺนํ มหปฺผลตรฺจ ภเวยฺย. เอวมฺปิ หิ ‘‘สตฺถา อตฺตโน ทิยฺยมานํ ¶ ทาเปตี’’ติ. ราชราชมหามตฺตาทโยปิ อตฺตโน อาคตํ ปณฺณาการํ หตฺถิโคปกาทีนํ ทาเปนฺติ, เต ราชาทีหิ มหนฺตตรา ภเวยฺยุํ. ตสฺมา มา เอวํ คณฺห –
‘‘นยิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ วา ปน,
พุทฺเธน เสฏฺโ สทิโส วา วิชฺชติ;
ยมาหุเนยฺยานมคฺคตํ คโต,
ปฺุตฺถิกานํ วิปุลผเลสิน’’นฺติ. –
วจนโต ¶ หิ สตฺถารา อุตฺตริตโร ทกฺขิเณยฺโย นาม นตฺถิ. เอวมสฺสา ฉ เจตนา เอกโต หุตฺวา ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสนฺตีติ สนฺธาย ยาวตติยํ ปฏิพาหิตฺวา สงฺฆสฺส ทาเปสิ.
ปจฺฉิมาย ชนตาย สงฺเฆ จิตฺตีการชนนตฺถํ จาปิ เอวมาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อหํ น จิรฏฺิติโก, มยฺหํ ปน สาสนํ ภิกฺขุสงฺเฆ ปติฏฺหิสฺสติ, ปจฺฉิมา ชนตา สงฺเฆ จิตฺตีการํ ชเนตู’’ติ ยาวตติยํ ปฏิพาหิตฺวา สงฺฆสฺส ทาเปสิ. เอวฺหิ สติ – ‘‘สตฺถา อตฺตโน ทิยฺยมานมฺปิ สงฺฆสฺส ทาเปสิ, สงฺโฆ นาม ทกฺขิเณยฺโย’’ติ ปจฺฉิมา ชนตา สงฺเฆ จิตฺตีการํ อุปฺปาเทตฺวา จตฺตาโร ปจฺจเย ทาตพฺเพ มฺิสฺสติ, สงฺโฆ จตูหิ ปจฺจเยหิ อกิลมนฺโต พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสติ. เอวํ มม สาสนํ ปฺจ วสฺสสหสฺสานิ สฺสตีติ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติ วจนโตปิ เจตํ เวทิตพฺพํ ‘‘สตฺถารา อุตฺตริตโร ทกฺขิเณยฺโย นาม นตฺถี’’ติ. น หิ อานนฺทตฺเถรสฺส มหาปชาปติยา อาฆาโต วา เวรํ วา อตฺถิ. น เถโร – ‘‘ตสฺสา ทกฺขิณา มา มหปฺผลา อโหสี’’ติ อิจฺฉติ. ปณฺฑิโต หิ เถโร พหุสฺสุโต เสกฺขปฏิสมฺภิทาปตฺโต ¶ , โส สตฺถุ ทินฺนสฺส มหปฺผลภาเว สมฺปสฺสมาโนว ปฏิคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควาติ คหณตฺถํ ยาจิ.
ปุน วิตณฺฑวาที อาห – ‘‘สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ วจนโต สตฺถา สงฺฆปริยาปนฺโน วาติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ชานาสิ ปน ตฺวํ กติ สรณานิ, กติ อเวจฺจปฺปสาทา’’ติ ชานนฺโต ตีณีติ วกฺขติ, ตโต วตฺตพฺโพ – ตว ลทฺธิยา สตฺถุ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา ทฺเวเยว โหนฺติ. เอวํ สนฺเต จ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ¶ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปท’’นฺติ (มหาว. ๓๔) เอวํ อนฺุาตา ปพฺพชฺชาปิ อุปสมฺปทาปิ น รุหติ. ตโต ตฺวํ เนว ปพฺพชิโต อสิ, น คิหิ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ จ คนฺธกุฏิยํ นิสินฺเน ภิกฺขู อุโปสถมฺปิ ปวารณมฺปิ สงฺฆกมฺมานิปิ กโรนฺติ, ตานิ สตฺถุ สงฺฆปริยาปนฺนตฺตา กุปฺปานิ ภเวยฺยุํ, น จ โหนฺติ. ตสฺมา น วตฺตพฺพเมตํ ‘‘สตฺถา สงฺฆปริยาปนฺโน’’ติ.
๓๗๗. อาปาทิกาติ สํวฑฺฒิกา, ตุมฺหากํ หตฺถปาเทสุ หตฺถปาทกิจฺจํ อสาเธนฺเตสุ หตฺเถ จ ปาเท ¶ จ วฑฺเฒตฺวา ปฏิชคฺคิกาติ อตฺโถ. โปสิกาติ ทิวสสฺส ทฺเว ตโย วาเร นฺหาเปตฺวา โภเชตฺวา ปาเยตฺวา ตุมฺเห โปเสสิ. ถฺํ ปาเยสีติ นนฺทกุมาโร กิร โพธิสตฺตโต กติปาเหเนว ทหโร, ตสฺมึ ชาเต มหาปชาปติ อตฺตโน ปุตฺตํ ธาตีนํ ทตฺวา สยํ โพธิสตฺตสฺส ธาติกิจฺจํ สาธยมานา อตฺตโน ถฺํ ปาเยสิ. ตํ สนฺธาย เถโร เอวมาห. อิติ มหาปชาปติยา พหูปการตํ กเถตฺวา อิทานิ ¶ ตถาคตสฺส พหูปการตํ ทสฺเสนฺโต ภควาปิ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ภควนฺตํ, ภนฺเต, อาคมฺมาติ ภควนฺตํ ปฏิจฺจ นิสฺสาย สนฺธาย.
๓๗๘. อถ ภควา ทฺวีสุ อุปกาเรสุ อติเรกตรํ อนุโมทนฺโต เอวเมตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ หานนฺท, ปุคฺคโล ปุคฺคลํ อาคมฺมาติ ยํ อาจริยปุคฺคลํ อนฺเตวาสิกปุคฺคโล อาคมฺม. อิมสฺสานนฺท, ปุคฺคลสฺส อิมินา ปุคฺคเลนาติ อิมสฺส อาจริยปุคฺคลสฺส อิมินา อนฺเตวาสิกปุคฺคเลน. น สุปฺปฏิการํ วทามีติ ปจฺจูปการํ น สุกรํ วทามิ, อภิวาทนาทีสุ อาจริยํ ทิสฺวา อภิวาทนกรณํ อภิวาทนํ นาม. ยสฺมึ วา ทิสาภาเค อาจริโย วสติ, อิริยาปเถ วา กปฺเปนฺโต ตทภิมุโข วนฺทิตฺวา คจฺฉติ, วนฺทิตฺวา นิสีทติ, วนฺทิตฺวา นิปชฺชติ, อาจริยํ ปน ทูรโตว ทิสฺวา ปจฺจุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนกรณํ ปจฺจุฏฺานํ นาม. อาจริยํ ปน ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สีเส เปตฺวา อาจริยํ นมสฺสติ, ยสฺมึ วา ทิสาภาเค โส วสติ, ตทภิมุโขปิ ตเถว นมสฺสติ, คจฺฉนฺโตปิ ิโตปิ นิสินฺโนปิ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสติเยวาติ อิทํ อฺชลิกมฺมํ นาม. อนุจฺฉวิกกมฺมสฺส ปน กรณํ สามีจิกมฺมํ นาม. จีวราทีสุ จีวรํ เทนฺโต น ยํ วา ตํ วา เทติ, มหคฺฆํ สตมูลิกมฺปิ ปฺจสตมูลิกมฺปิ สหสฺสมูลิกมฺปิ เทติเยว ¶ . ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. กึ พหุนา, จตูหิ ปณีตปจฺจเยหิ จกฺกวาฬนฺตรํ ปูเรตฺวา สิเนรุปพฺพเตน กูฏํ คเหตฺวา เทนฺโตปิ อาจริยสฺส อนุจฺฉวิกํ กิริยํ กาตุํ น สกฺโกติเยว.
๓๗๙. จุทฺทส โข ปนิมาติ กสฺมา อารภิ? อิทํ สุตฺตํ ปาฏิปุคฺคลิกํ ทกฺขิณํ อารพฺภ สมุฏฺิตํ. อานนฺทตฺเถโรปิ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติ ปาฏิปุคฺคลิกทกฺขิณํเยว ¶ สมาทเปติ, จุทฺทสสุ จ าเนสุ ทินฺนทานํ ปาฏิปุคฺคลิกํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. อยํ ปมาติ อยํ ทกฺขิณา คุณวเสนปิ ปมา เชฏฺกวเสนปิ. อยฺหิ ปมา อคฺคา เชฏฺิกา, อิมิสฺสา ทกฺขิณาย ปมาณํ นาม นตฺถิ. ทุติยตติยาปิ ¶ ปรมทกฺขิณาเยว, เสสา ปรมทกฺขิณภาวํ น ปาปุณนฺติ. พาหิรเก กาเมสุ วีตราเคติ กมฺมวาทิกิริยวาทิมฺหิ โลกิยปฺจาภิฺเ. ปุถุชฺชนสีลวนฺเตติ ปุถุชฺชนสีลวา นาม โคสีลธาตุโก โหติ, อสโ อมายาวี ปรํ อปีเฬตฺวา ธมฺเมน สเมน กสิยา วา วณิชฺชาย วา ชีวิกํ กปฺเปตา. ปุถุชฺชนทุสฺสีเลติ ปุถุชฺชนทุสฺสีลา นาม เกวฏฺฏมจฺฉพนฺธาทโย ปรํ ปีฬาย ชีวิกํ กปฺเปตา.
อิทานิ ปาฏิปุคฺคลิกทกฺขิณาย วิปากํ ปริจฺฉินฺทนฺโต ตตฺรานนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ติรจฺฉานคเตติ ยํ คุณวเสน อุปการวเสน โปสนตฺถํ ทินฺนํ, อิทํ น คหิตํ. ยมฺปิ อาโลปอฑฺฒอาโลปมตฺตํ ทินฺนํ, ตมฺปิ น คหิตํ. ยํ ปน สุนขสูกรกุกฺกุฏกากาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ สมฺปตฺตสฺส ผลํ ปฏิกงฺขิตฺวา ยาวทตฺถํ ทินฺนํ, อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติรจฺฉานคเต ทานํ ทตฺวา’’ติ. สตคุณาติ สตานิสํสา. ปาฏิกงฺขิตพฺพาติ อิจฺฉิตพฺพา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยํ ทกฺขิณา อายุสตํ วณฺณสตํ สุขสตํ พลสตํ ปฏิภานสตนฺติ ปฺจ อานิสํสสตานิ เทติ, อตฺตภาวสเต ¶ อายุํ เทติ, วณฺณํ, สุขํ, พลํ, ปฏิภานํ เทติ, นิปฺปริตสํ กโรติ. ภวสเตปิ วุตฺเต อยเมว อตฺโถ. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ นโย เนตพฺโพ.
โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนติ เอตฺถ เหฏฺิมโกฏิยา ติสรณํ คโต อุปาสโกปิ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน นาม, ตสฺมึ ทินฺนทานมฺปิ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยํ. ปฺจสีเล ปติฏฺิตสฺส ตโต อุตฺตริ มหปฺผลํ, ทสสีเล ปติฏฺิตสฺส ตโต ¶ อุตฺตริ, ตทหุปพฺพชิตสฺส สามเณรสฺส ตโต อุตฺตริ, อุปสมฺปนฺนภิกฺขุโน ตโต อุตฺตริ, อุปสมฺปนฺนสฺเสว วตฺตสมฺปนฺนสฺส ตโต อุตฺตริ, วิปสฺสกสฺส ตโต อุตฺตริ, อารทฺธวิปสฺสกสฺส ตโต อุตฺตริ, อุตฺตมโกฏิยา ปน มคฺคสมงฺคี โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน นาม. เอตสฺส ทินฺนทานํ ตโต อุตฺตริ มหปฺผลเมว.
กึ ปน มคฺคสมงฺคิสฺส สกฺกา ทานํ ทาตุนฺติ? อาม สกฺกา. อารทฺธวิปสฺสโก หิ ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, ตสฺส เคหทฺวาเร ิตสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ขาทนียโภชนียํ ปกฺขิปนฺติ. ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุโน มคฺควุฏฺานํ โหติ, อิทํ ทานํ มคฺคสมงฺคิโน ทินฺนํ นาม โหติ. อถ วา ปเนส อาสนสาลาย นิสินฺโน โหติ, มนุสฺสา คนฺตฺวา ¶ ปตฺเต ขาทนียโภชนียํ เปนฺติ, ตสฺมึ ขเณ ตสฺส มคฺควุฏฺานํ โหติ, อิทมฺปิ ทานํ มคฺคสมงฺคิโน ทินฺนํ นาม. อถ วา ปนสฺส วิหาเร วา อาสนสาลาย วา นิสินฺนสฺส อุปาสกา ปตฺตํ อาทาย อตฺตโน ฆรํ คนฺตฺวา ขาทนียโภชนียํ ปกฺขิปนฺติ, ตสฺมึ ขเณ ตสฺส มคฺควุฏฺานํ โหติ, อิทมฺปิ ทานํ มคฺคสมงฺคิโน ทินฺนํ นาม. ตตฺถ ¶ โสณฺฑิยํ อุทกสฺส วิย โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน ทินฺนทานสฺส อสงฺขฺเยยฺยตา เวทิตพฺพา. ตาสุ ตาสุ มหานทีสุ มหาสมุทฺเท จ อุทกสฺส วิย โสตาปนฺนาทีสุ ทินฺนทานสฺส อุตฺตริตรวเสน อสงฺขฺเยยฺยตา เวทิตพฺพา. ปถวิยา ขยมณฺฑลมตฺเต ปเทเส ปํสุํ อาทึ กตฺวา ยาว มหาปถวิยา ปํสุโน อปฺปเมยฺยตายปิ อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพ.
๓๘๐. สตฺต โข ปนิมาติ กสฺมา อารภิ? ‘‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’’ติ หิ วุตฺตํ, ตตฺถ สตฺตสุ าเนสุ ทินฺนทานํ สงฺเฆ ทินฺนํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ อิมํ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ พุทฺธปฺปมุเข อุภโตสงฺเฆติ เอกโต ภิกฺขุสงฺโฆ, เอกโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ, สตฺถา มชฺเฌ นิสินฺโน โหตีติ อยํ พุทฺธปฺปมุโข อุภโตสงฺโฆ นาม. อยํ ปมาติ อิมาย ทกฺขิณาย สมปฺปมาณา ทกฺขิณา นาม นตฺถิ. ทุติยทกฺขิณาทโย ปน เอตํ ปรมทกฺขิณํ น ปาปุณนฺติ.
กึ ¶ ปน ตถาคเต ปรินิพฺพุเต พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ ทาตุํ สกฺกาติ? สกฺกา. กถํ? อุภโตสงฺฆสฺส หิ ปมุเข สธาตุกํ ปฏิมํ อาสเน เปตฺวา อาธารกํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ สตฺถุ ปมํ ทตฺวา อุภโตสงฺฆสฺส ทาตพฺพํ, เอวํ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ ทินฺนํ นาม โหติ. ตตฺถ ยํ สตฺถุ ทินฺนํ, ตํ กึ กาตพฺพนฺติ? โย สตฺถารํ ปฏิชคฺคติ วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ, ตสฺส ทาตพฺพํ. ปิตุสนฺตกฺหิ ปุตฺตสฺส ปาปุณาติ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาตุมฺปิ วฏฺฏติ, สปฺปิเตลานิ ปน คเหตฺวา ทีปา ชลิตพฺพา, สาฏกํ คเหตฺวา ปฏากา อาโรเปตพฺพาติ. ภิกฺขุสงฺเฆติ ¶ อปริจฺฉินฺนกมหาภิกฺขุสงฺเฆ. ภิกฺขุนิสงฺเฆปิ เอเสว นโย.
โคตฺรภุโนติ โคตฺตมตฺตกเมว อนุภวมานา, นามมตฺตสมณาติ อตฺโถ. กาสาวกณฺาติ กาสาวกณฺนามกา. เต กิร เอกํ กาสาวขณฺฑํ หตฺเถ วา คีวาย วา พนฺธิตฺวา วิจริสฺสนฺติ ¶ . ฆรทฺวารํ ปน เตสํ ปุตฺตภริยา กสิวณิชฺชาทิกมฺมานิ จ ปากติกาเนว ภวิสฺสนฺติ. เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺตีติ เอตฺถ ทุสฺสีลสงฺฆนฺติ น วุตฺตํ. สงฺโฆ หิ ทุสฺสีโล นาม นตฺถิ. ทุสฺสีลา ปน อุปาสกา เตสุ ทุสฺสีเลสุ ภิกฺขุสงฺฆํ อุทฺทิสฺส สงฺฆสฺส เทมาติ ทานํ ทสฺสนฺติ. อิติ ภควตา พุทฺธปฺปมุเข สงฺเฆ ทินฺนทกฺขิณาปิ คุณสงฺขาย อสงฺขฺเยยฺยาติ วุตฺตํ. กาสาวกณฺสงฺเฆ ทินฺนทกฺขิณาปิ คุณสงฺขาเยว อสงฺขฺเยยฺยาติ วุตฺตา. สงฺฆคตา ทกฺขิณา หิ สงฺเฆ จิตฺตีการํ กาตุํ สกฺโกนฺตสฺส โหติ, สงฺเฆ ปน จิตฺตีกาโร ทุกฺกโร โหติ.
โย หิ สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ ทสฺสามีติ เทยฺยธมฺมํ ปฏิยาเทตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา, – ‘‘ภนฺเต, สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เอกํ เถรํ เทถา’’ติ วทติ, อถ สงฺฆโต สามเณรํ ลภิตฺวา ‘‘สามเณโร เม ลทฺโธ’’ติ อฺถตฺตํ อาปชฺชติ, ตสฺส ทกฺขิณา สงฺฆคตา น โหติ. มหาเถรํ ลภิตฺวาปิ ‘‘มหาเถโร เม ลทฺโธ’’ติ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทนฺตสฺสาปิ น โหติเยว. โย ปน สามเณรํ วา อุปสมฺปนฺนํ วา ทหรํ วา เถรํ วา พาลํ วา ปณฺฑิตํ วา ยํกิฺจิ สงฺฆโต ลภิตฺวา นิพฺเพมติโก หุตฺวา สงฺฆสฺส เทมีติ สงฺเฆ จิตฺตีการํ กาตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทกฺขิณา สงฺฆคตา นาม โหติ. ปรสมุทฺทวาสิโน ¶ กิร เอวํ กโรนฺติ.
ตตฺถ ¶ หิ เอโก วิหารสามิ กุฏุมฺพิโก ‘‘สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ ทสฺสามี’’ติ สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา เอกํ ภิกฺขุํ เทถาติ ยาจิ. โส เอกํ ทุสฺสีลภิกฺขุํ ลภิตฺวา นิสินฺนฏฺานํ โอปฺุชาเปตฺวา อาสนํ ปฺาเปตฺวา อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธธูมปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา พุทฺธสฺส นิปจฺจการํ กโรนฺโต วิย สงฺเฆ จิตฺตีกาเรน เทยฺยธมฺมํ อทาสิ. โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ วิหารชคฺคนตฺถาย กุทาลกํ เทถาติ ฆรทฺวารํ อาคโต, อุปาสโก นิสินฺโนว กุทาลํ ปาเทน ขิปิตฺวา ‘‘คณฺหา’’ติ อทาสิ. ตเมนํ มนุสฺสา อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเหหิ ปาโตว เอตสฺส กตสกฺกาโร วตฺตุํ น สกฺกา, อิทานิ อุปจารมตฺตกมฺปิ นตฺถิ, กึ นาเมต’’นฺติ. อุปาสโก – ‘‘สงฺฆสฺส โส อยฺยา จิตฺตีกาโร, น เอตสฺสา’’ติ อาห. กาสาวกณฺสงฺฆสฺส ทินฺนทกฺขิณํ ปน โก โสเธตีติ? สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย อสีติ มหาเถรา โสเธนฺตีติ. อปิจ เถรา จิรปรินิพฺพุตา, เถเร อาทึ กตฺวา ยาวชฺช ธรมานา ขีณาสวา โสเธนฺติเยว.
น ตฺเววาหํ ¶ , อานนฺท, เกนจิ ปริยาเยน สงฺฆคตาย ทกฺขิณายาติ เอตฺถ อตฺถิ พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ, อตฺถิ เอตรหิ สงฺโฆ, อตฺถิ อนาคเต กาสาวกณฺสงฺโฆ. พุทฺธปฺปมุโข สงฺโฆ เอตรหิ สงฺเฆน น อุปเนตพฺโพ, เอตรหิ สงฺโฆ อนาคเต กาสาวกณฺสงฺเฆน สทฺธึ น อุปเนตพฺโพ. เตน เตเนว สมเยน กเถตพฺพํ. สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา คหิตสมณปุถุชฺชโน หิ ปาฏิปุคฺคลิโก โสตาปนฺโน, สงฺเฆ จิตฺตีการํ กาตุํ สกฺโกนฺตสฺส ปุถุชฺชนสมเณ ทินฺนํ มหปฺผลตรํ. อุทฺทิสิตฺวา คหิโต โสตาปนฺโน ปาฏิปุคฺคลิโก สกทาคามีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สงฺเฆ จิตฺตีการํ กาตุํ สกฺโกนฺตสฺส หิ ขีณาสเว ทินฺนทานโต อุทฺทิสิตฺวา คหิเต ทุสฺสีเลปิ ทินฺนํ มหปฺผลตรเมว ¶ . ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สีลวโต โข, มหาราช, ทินฺนํ มหปฺผลํ, โน ตถา ทุสฺสีเล’’ติ, ตํ อิมํ นยํ ปหาย ‘‘จตสฺโส โข อิมานนฺท, ทกฺขิณา วิสุทฺธิโย’’ติ อิมสฺมึ จตุกฺเก ทฏฺพฺพํ.
๓๘๑. ทายกโต วิสุชฺฌตีติ มหปฺผลภาเวน วิสุชฺฌติ, มหปฺผลา โหตีติ อตฺโถ. กลฺยาณธมฺโมติ สุจิธมฺโม, น ปาปธมฺโม. ทายกโต วิสุชฺฌตีติ เจตฺถ เวสฺสนฺตรมหาราชา กเถตพฺโพ. โส หิ ชูชกพฺราหฺมณสฺส ทารเก ทตฺวา ปถวึ กมฺเปสิ.
ปฏิคฺคาหกโต ¶ วิสุชฺฌตีติ เอตฺถ กลฺยาณีนทีมุขทฺวารวาสิเกวฏฺโฏ กเถตพฺโพ. โส กิร ทีฆโสมตฺเถรสฺส ติกฺขตฺตุมฺปิ ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา มรณมฺเจ นิปนฺโน ‘‘อยฺยสฺส มํ ทีฆโสมตฺเถรสฺส ทินฺนปิณฺฑปาโต อุทฺธรตี’’ติ อาห.
เนว ทายกโตติ เอตฺถ วฑฺฒมานวาสิลุทฺทโก กเถตพฺโพ. โส กิร เปตทกฺขิณํ เทนฺโต เอกสฺส ทุสฺสีลสฺเสว ตโย วาเร อทาสิ, ตติยวาเร ‘‘อมนุสฺโส ทุสฺสีโล มํ วิลุมฺปตี’’ติ วิรวิ, เอกสฺส สีลวนฺตภิกฺขุโน ทตฺวา ปาปิตกาเลเยวสฺส ปาปุณิ.
ทายกโต เจว วิสุชฺฌตีติ เอตฺถ อสทิสทานํ กเถตพฺพํ.
สา ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌตีติ เอตฺถ ยถา นาม เฉโก กสฺสโก อสารมฺปิ เขตฺตํ ลภิตฺวา สมเย กสิตฺวา ปํสุํ อปเนตฺวา สารพีชานิ ปติฏฺเปตฺวา รตฺตินฺทิวํ อารกฺเข ¶ ปมาทํ อนาปชฺชนฺโต ¶ อฺสฺส สารเขตฺตโต อธิกตรํ ธฺํ ลภติ, เอวํ สีลวา ทุสฺสีลสฺส ทตฺวาปิ ผลํ มหนฺตํ อธิคจฺฉตีติ. อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ วิสุชฺฌนํ เวทิตพฺพํ.
วีตราโค วีตราเคสูติ เอตฺถ วีตราโค นาม อนาคามี, อรหา ปน เอกนฺตวีตราโคว, ตสฺมา อรหตา อรหโต ทินฺนทานเมว อคฺคํ. กสฺมา? ภวาลยสฺส ภวปตฺถนาย อภาวโต. นนุ ขีณาสโว ทานผลํ น สทฺทหตีติ? ทานผลํ สทฺทหนฺตา ขีณาสวสทิสา น โหนฺติ. ขีณาสเวน กตกมฺมํ ปน นิจฺฉนฺทราคตฺตา กุสลํ วา อกุสลํ วา น โหติ, กิริยฏฺาเน ติฏฺติ, เตเนวสฺส ทานํ อคฺคํ โหตีติ วทนฺติ.
กึ ปน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ, อุทาหุ สาริปุตฺตตฺเถเรน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ทินฺนนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ วทนฺติ. สมฺมาสมฺพุทฺธฺหิ เปตฺวา อฺโ ทานสฺส วิปากํ ชานิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ทานฺหิ จตูหิ สมฺปทาหิ ทาตุํ สกฺโกนฺตสฺส ตสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตตฺริมา สมฺปทา – เทยฺยธมฺมสฺส ธมฺเมน ¶ สเมน ปรํ อปีเฬตฺวา อุปฺปนฺนตา, ปุพฺพเจตนาทิวเสน เจตนาย มหตฺตตา, ขีณาสวภาเวน คุณาติเรกตา, ตํทิวสํ นิโรธโต วุฏฺิตภาเวน วตฺถุสมฺปนฺนตาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ทกฺขิณาวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฬายตนวคฺโค
๑. อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนา
๓๘๓. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตํ. ตตฺถ พาฬฺหคิลาโนติ อธิมตฺตคิลาโน มรณเสยฺยํ อุปคโต. อามนฺเตสีติ ¶ คหปติสฺส กิร ยาว ปาทา วหึสุ, ตาว ทิวเส สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา พุทฺธุปฏฺานํ อขณฺฑํ อกาสิ. ยตฺตกฺจสฺส สตฺถุ อุปฏฺานํ อโหสิ, ตตฺตกํเยว มหาเถรานํ. โส อชฺช คมนปาทสฺส ปจฺฉินฺนตฺตา อนุฏฺานเสยฺยํ อุปคโต สาสนํ เปเสตุกาโม อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ. เตนุปสงฺกมีติ ภควนฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา สูริยตฺถงฺคมนเวลาย อุปสงฺกมิ.
๓๘๔. ปฏิกฺกมนฺตีติ โอสกฺกนฺติ, ตนุกา ภวนฺติ. อภิกฺกมนฺตีติ อภิวฑฺฒนฺติ โอตฺถรนฺติ, พลวติโย โหนฺติ.
อภิกฺกโมสานํ ปฺายติ โน ปฏิกฺกโมติ ยสฺมิฺหิ สมเย มารณนฺติกา เวทนา อุปฺปชฺชติ, อุปริวาเต ชลิตคฺคิ วิย โหติ, ยาว อุสฺมา น ปริยาทิยติ, ตาว มหตาปิ อุปกฺกเมน น สกฺกา วูปสเมตุํ, อุสฺมาย ปน ปริยาทินฺนาย วูปสมฺมติ.
๓๘๕. อถายสฺมา สาริปุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มหาเสฏฺิสฺส เวทนา มารณนฺติกา, น สกฺกา ปฏิพาหิตุํ, อวเสสา กถา นิรตฺถกา, ธมฺมกถมสฺส กเถสฺสามี’’ติ. อถ นํ ตํ กเถนฺโต ตสฺมาติหาติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา จกฺขุํ ตีหิ คาเหหิ คณฺหนฺโต อุปฺปนฺนํ มารณนฺติกํ เวทนํ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตสฺมา. น จกฺขุํ อุปาทิยิสฺสามีติ จกฺขุํ ¶ ตีหิ คาเหหิ น คณฺหิสฺสามิ. น จ เม จกฺขุนิสฺสิตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจาปิ เม จกฺขุนิสฺสิตํ น ภวิสฺสติ. น รูปนฺติ เหฏฺา อายตนรูปํ กถิตํ, อิมสฺมึ าเน สพฺพมฺปิ กามภวรูปํ กเถนฺโต เอวมาห.
๓๘๖. น อิธโลกนฺติ วสนฏฺานํ วา ฆาสจฺฉาทนํ วา ¶ น อุปาทิยิสฺสามีติ อตฺโถ. อิทฺหิ ปจฺจเยสุ อปริตสฺสนตฺถํ กถิตํ. น ปรโลกนฺติ ¶ เอตฺถ ปน มนุสฺสโลกํ เปตฺวา เสสา ปรโลกา นาม. อิทํ – ‘‘อสุกเทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อสุกฏฺาเน ภวิสฺสามิ, อิทํ นาม ขาทิสฺสามิ ภฺุชิสฺสามิ นิวาเสสฺสามิ ปารุปิสฺสามี’’ติ เอวรูปาย ปริตสฺสนาย ปหานตฺถํ วุตฺตํ. ตมฺปิ น อุปาทิยิสฺสามิ, น จ เม ตนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ภวิสฺสตีติ เอวํ ตีหิ คาเหหิ ปริโมเจตฺวา เถโร เทสนํ อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺเปสิ.
๓๘๗. โอลียสีติ อตฺตโน สมฺปตฺตึ ทิสฺวา อารมฺมเณสุ พชฺฌสิ อลฺลียสีติ. อิติ อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘อยมฺปิ นาม คหปติ เอวํ สทฺโธ ปสนฺโน มรณภยสฺส ภายติ, อฺโ โก น ภายิสฺสตี’’ติ มฺมาโน ตสฺส คาฬฺหํ กตฺวา โอวาทํ เทนฺโต เอวมาห. น จ เม เอวรูปี ธมฺมีกถา สุตปุพฺพาติ อยํ อุปาสโก – ‘‘สตฺถุ สนฺติกาปิ เม เอวรูปี ธมฺมกถา น สุตปุพฺพา’’ติ วทติ, กึ สตฺถา เอวรูปิ สุขุมํ คมฺภีรกถํ น กเถตีติ? โน น กเถติ. เอวํ ปน ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ ฉ พาหิรานิ ฉ วิฺาณกาเย ฉ ผสฺสกาเย ฉ เวทนากาเย ฉ ธาตุโย ปฺจกฺขนฺเธ จตฺตาโร อรูเป อิธโลกฺจ ปรโลกฺจ ทสฺเสตฺวา ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา กถิตกถา เอเตน น สุตปุพฺพา, ตสฺมา เอวํ วทติ.
อปิจายํ อุปาสโก ทานาธิมุตฺโต ทานาภิรโต พุทฺธานํ สนฺติกํ คจฺฉนฺโต ¶ ตุจฺฉหตฺโถ น คตปุพฺโพ. ปุเรภตฺตํ คจฺฉนฺโต ยาคุขชฺชกาทีนิ คาหาเปตฺวา คจฺฉติ, ปจฺฉาภตฺตํ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ. ตสฺมึ อสติ วาลิกํ คาหาเปตฺวา คนฺธกุฏิปริเวเณ โอกิราเปติ, ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา เคหํ คโต. โพธิสตฺตคติโก กิเรส อุปาสโก, ตสฺมา ภควา จตุวีสติ สํวจฺฉรานิ อุปาสกสฺส เยภุยฺเยน ทานกถเมว กเถสิ – ‘‘อุปาสก, อิทํ ทานํ นาม โพธิสตฺตานํ คตมคฺโค, มยฺหมฺปิ คตมคฺโค, มยา สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ¶ ทานํ ทินฺนํ, ตฺวํ มยา คตมคฺคเมว อนุคจฺฉสี’’ติ. ธมฺมเสนาปติอาทโย มหาสาวกาปิ อตฺตโน อตฺตโน สนฺติกํ อาคตกาเล ทานกถเมวสฺส กเถนฺติ. เตเนวาห น โข คหปติ คิหีนํ โอทาตวสนานํ เอวรูปี ธมฺมีกถา ปฏิภาตีติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – คหปติ คิหีนํ นาม เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณทาสีทาสปุตฺตภริยาทีสุ ติพฺโพ อาลโย ติพฺพํ นิกนฺติปริยุฏฺานํ ¶ , เตสํ – ‘‘เอตฺถ อาลโย น กาตพฺโพ, นิกนฺติ น กาตพฺพา’’ติ กถา น ปฏิภาติ น รุจฺจตีติ.
เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? ตุสิตภวเน กิรสฺส นิพฺพตฺตมตฺตสฺเสว ติคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณกฺขนฺธํ วิย วิชฺโชตมานํ อตฺตภาวํ อุยฺยานวิมานาทิสมฺปตฺติฺจ ทิสฺวา – ‘‘มหตี อยํ มยฺหํ สมฺปตฺติ, กึ นุ โข เม มนุสฺสปเถ กมฺมํ กต’’นฺติ โอโลเกนฺโต ตีสุ รตเนสุ อธิการํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘ปมาทฏฺานมิทํ เทวตฺตํ นาม, อิมาย หิ เม สมฺปตฺติยา โมทมานสฺส สติสมฺโมโสปิ สิยา, หนฺทาหํ คนฺตฺวา มม เชตวนสฺส เจว ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตถาคตสฺส จ อริยมคฺคสฺส จ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส จ วณฺณํ กเถตฺวา ตโต อาคนฺตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามี’’ติ. โส ตถา ¶ อกาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข อนาถปิณฺฑิโกติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ อิสิสงฺฆนิเสวิตนฺติ ภิกฺขุสงฺฆนิเสวิตํ. เอวํ ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ อริยมคฺคสฺส วณฺณํ กเถนฺโต กมฺมํ วิชฺชา จาติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา. วิชฺชาติ มคฺคปฺา. ธมฺโมติ สมาธิปกฺขิโก ธมฺโม. สีลํ ชีวิตมุตฺตมนฺติ สีเล ปติฏฺิตสฺส ชีวิตํ อุตฺตมนฺติ ทสฺเสติ. อถ วา วิชฺชาติ ทิฏฺิสงฺกปฺโป. ธมฺโมติ วายามสติสมาธโย. สีลนฺติ วาจากมฺมนฺตาชีวา. ชีวิตมุตฺตมนฺติ เอตสฺมึ สีเล ปติฏฺิตสฺส ชีวิตํ นาม อุตฺตมํ. เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺตีติ เอเตน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.
ตสฺมาติ ยสฺมา มคฺเคน สุชฺฌนฺติ, น โคตฺตธเนหิ, ตสฺมา. โยนิโส วิจิเน ธมฺมนฺติ อุปาเยน สมาธิปกฺขิยํ ธมฺมํ วิจิเนยฺย. เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌตีติ เอวํ ตสฺมึ อริยมคฺเค วิสุชฺฌติ ¶ . อถ วา โยนิโส วิจิเน ธมฺมนฺติ อุปาเยน ปฺจกฺขนฺธธมฺมํ วิจิเนยฺย. เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌตีติ เอวํ เตสุ จตูสุ สจฺเจสุ วิสุชฺฌติ.
อิทานิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วณฺณํ กเถนฺโต สาริปุตฺโต วาติอาทิมาห. ตตฺถ สาริปุตฺโต วาติ อวธารณวจนํ. เอเตหิ ปฺาทีหิ สาริปุตฺโตว เสยฺโยติ วทติ. อุปสเมนาติ กิเลสอุปสเมน. ปารงฺคโตติ ¶ นิพฺพานํ คโต. โย โกจิ นิพฺพานํ ปตฺโต ภิกฺขุ, โส เอตาวปรโม สิยา, น เถเรน อุตฺตริตโร นาม อตฺถีติ วทติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อนาถปิณฺฑิโกวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ฉนฺโนวาทสุตฺตวณฺณนา
๓๘๙. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ฉนฺโนวาทสุตฺตํ. ตตฺถ ฉนฺโนติ เอวํนามโก เถโร, น อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺตตฺเถโร. ปฏิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโต. คิลานปุจฺฉกาติ คิลานุปฏฺานํ นาม พุทฺธวณฺณิตํ, ตสฺมา เอวมาห. สตฺถนฺติ ชีวิตหารกสตฺถํ. นาวกงฺขามีติ อิจฺฉามิ.
๓๙๐. อนุปวชฺชนฺติ อนุปฺปตฺติกํ อปฺปฏิสนฺธิกํ.
๓๙๑. เอตํ มมาติอาทีนิ ตณฺหามานทิฏฺิคาหวเสน วุตฺตานิ. นิโรธํ ทิสฺวาติ ขยวยํ ตฺวา. เนตํ มม เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตาติ สมนุปสฺสามีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ สมนุปสฺสามิ.
๓๙๓. ตสฺมาติ ยสฺมา มารณนฺติกเวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺถํ อาหรามีติ วทติ, ตสฺมา. ปุถุชฺชโน อายสฺมา, เตน อิทมฺปิ มนสิ กโรหีติ ทีเปติ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. นิสฺสิตสฺสาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ นิสฺสิตสฺส. จลิตนฺติ ¶ วิปฺผนฺทิตํ โหติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิ, กิเลสปสฺสทฺธิ นาม โหตีติ อตฺโถ. นตีติ ตณฺหานติ. นติยา อสตีติ ภวตฺถาย อาลยนิกนฺติปริยุฏฺาเนสุ อสติ. อาคติคติ น โหตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อาคติ นาม น โหติ, จุติวเสน คมนํ นาม น โหติ. จุตูปปาโตติ จวนวเสน จุติ, อุปปชฺชนวเสน อุปปาโต. เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรนาติ นยิธ โลเก, น ปรโลเก, น อุภยตฺถ โหติ. เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขกิเลสทุกฺขสฺส อยเมว อนฺโต อยํ ปริจฺเฉโท ¶ ปริวฏุมภาโว โหติ. อยเมว หิ เอตฺถ อตฺโถ. เย ปน ‘‘น อุภยมนฺตเรนา’’ติ วจนํ คเหตฺวา อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺติ, เตสํ อุตฺตรํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๓๙๔. สตฺถํ อาหเรสีติ ชีวิตหารกํ สตฺถํ อาหริ, กณฺนาฬึ ฉินฺทิ. อถสฺส ตสฺมึ ¶ ขเณ มรณภยํ โอกฺกมิ, คตินิมิตฺตํ อุปฏฺาสิ. โส อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา สํวิคฺโค วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ. สมฺมุขาเยว อนุปวชฺชตา พฺยากตาติ กิฺจาปิ อิทํ เถรสฺส ปุถุชฺชนกาเล พฺยากรณํ โหติ, เอเตน ปน พฺยากรเณน อนนฺตรายมสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิ. ตสฺมา ภควา ตเมว พฺยากรณํ คเหตฺวา กเถสิ. อุปวชฺชกุลานีติ ¶ อุปสงฺกมิตพฺพกุลานิ. อิมินา เถโร, – ‘‘ภนฺเต, เอวํ อุปฏฺาเกสุ จ อุปฏฺายิกาสุ จ วิชฺชมานาสุ โส ภิกฺขุ ตุมฺหากํ สาสเน ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา กุเลสุ สํสคฺคาภาวํ ทีเปนฺโต โหนฺติ เหเต สาริปุตฺตาติอาทิมาห. อิมสฺมึ กิร าเน เถรสฺส กุเลสุ อสํสฏฺภาโว ปากโฏ อโหสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ฉนฺโนวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปุณฺโณวาทสุตฺตวณฺณนา
๓๙๕. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ปุณฺโณวาทสุตฺตํ. ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ เอกีภาวา. ตํ เจติ ตํ จกฺขฺุเจว รูปฺจ. นนฺทีสมุทยา ทุกฺขสมุทโยติ นนฺทิยา ตณฺหาย สโมธาเนน ปฺจกฺขนฺธทุกฺขสฺส สโมธานํ โหติ. อิติ ฉสุ ทฺวาเรสุ ทุกฺขํ สมุทโยติ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ วเสน วฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ. ทุติยนเย นิโรโธ มคฺโคติ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ วเสน วิวฏฺฏํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสสิ. อิมินา จ ตฺวํ ปุณฺณาติ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เอวํ ตาว วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนํ อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อิทานิ ปุณฺณตฺเถรํ สตฺตสุ าเนสุ สีหนาทํ นทาเปตุํ อิมินา จ ตฺวนฺติอาทิมาห.
๓๙๖. จณฺฑาติ ¶ ทุฏฺา กิพฺพิสา. ผรุสาติ กกฺขฬา. อกฺโกสิสฺสนฺตีติ ¶ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสิสฺสนฺติ. ปริภาสิสฺสนฺตีติ กึ สมโณ นาม ตฺวํ, อิทฺจ อิทฺจ เต กริสฺสามาติ ตชฺเชสฺสนฺติ. เอวเมตฺถาติ เอวํ มยฺหํ เอตฺถ ภวิสฺสติ.
ทณฺเฑนาติ จตุหตฺเถน ทณฺเฑน วา ฆฏิกมุคฺคเรน วา. สตฺเถนาติ เอกโตธาราทินา. สตฺถหารกํ ปริเยสนฺตีติ ชีวิตหารกํ สตฺถํ ปริเยสนฺติ. อิทํ เถโร ตติยปาราชิกวตฺถุสฺมึ อสุภกถํ สุตฺวา อตฺตภาเวน ชิคุจฺฉนฺตานํ ภิกฺขูนํ สตฺถหารกปริเยสนํ สนฺธายาห. ทมูปสเมนาติ เอตฺถ ทโมติ อินฺทฺริยสํวราทีนํ เอตํ นามํ. ‘‘สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๕; สุ. นิ. ๔๖๗) เอตฺถ หิ อินฺทฺริยสํวโร ทโมติ วุตฺโต. ‘‘ยทิ สจฺจา ทมา จาคา, ขนฺตฺยา ภิยฺโยธ วิชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๑) เอตฺถ ปฺา ทโมติ วุตฺโต. ‘‘ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖; ม. นิ. ๒.๒๒๖) เอตฺถ อุโปสถกมฺมํ ทโมติ วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ขนฺติ ทโมติ เวทิตพฺพา. อุปสโมติ ตสฺเสว เววจนํ.
๓๙๗. อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณติ โก ปเนส ปุณฺโณ, กสฺมา ปเนตฺถ คนฺตุกาโม อโหสีติ ¶ . สุนาปรนฺตวาสิโก เอว เอโส, สาวตฺถิยํ ปน อสปฺปายวิหารํ สลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ คนฺตุกาโม อโหสิ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สุนาปรนฺตรฏฺเ ¶ กิร เอกสฺมึ วาณิชกคาเม เอเต ทฺเว ภาตโร. เตสุ กทาจิ เชฏฺโ ปฺจ สกฏสตานิ คเหตฺวา ชนปทํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ อาหรติ, กทาจิ กนิฏฺโ. อิมสฺมึ ปน สมเย กนิฏฺํ ฆเร เปตฺวา เชฏฺภาติโก ปฺจ สกฏสตานิ คเหตฺวา ชนปทจาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนสฺส นาติทูเร สกฏสตฺถํ นิวาเสตฺวา ภุตฺตปาตราโส ปริชนปริวุโต ผาสุกฏฺาเน นิสีทิ.
เตน จ สมเยน สาวตฺถิวาสิโน ภุตฺตปาตราสา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สุทฺธุตฺตราสงฺคา คนฺธปุปฺผาทิหตฺถา เยน พุทฺโธ เยน ธมฺโม เยน สงฺโฆ, ตนฺนินฺนา ตปฺโปณา ตปฺปาพฺภารา หุตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เชตวนํ ¶ คจฺฉนฺติ. โส เต ทิสฺวา ‘‘กหํ อิเม คจฺฉนฺติ’’ติ เอกมนุสฺสํ ปุจฺฉิ. กึ ตฺวํ อยฺโย น ชานาสิ, โลเก พุทฺธธมฺมสงฺฆรตนานิ นาม อุปฺปนฺนานิ, อิจฺเจส มหาชโน สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมกถํ โสตุํ คจฺฉตีติ. ตสฺส พุทฺโธติ วจนํ ฉวิจมฺมาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. อถ อตฺตโน ปริชนปริวุโต ตาย ปริสาย สทฺธึ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ มธุรสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ปริสปริยนฺเต ิโต ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถ ตถาคเตน กาลํ วิทิตฺวา ปริสาย อุยฺโยชิตาย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา ทุติยทิวเส มณฺฑปํ กาเรตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ภุตฺตปาตราโส อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ภณฺฑาคาริกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, เอตฺตกํ ภณฺฑํ วิสฺสชฺชิตํ, เอตฺตกํ น วิสฺสชฺชิตนฺติ สพฺพํ อาจิกฺขิตฺวา – ‘‘อิมํ สาปเตยฺยํ มยฺหํ กนิฏฺสฺส เทหี’’ติ สพฺพํ นิยฺยาเตตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา กมฺมฏฺานปรายโณ อโหสิ.
อถสฺส ¶ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ น อุปฏฺาติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ชนปโท มยฺหํ อสปฺปาโย, ยํนูนาหํ สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สกฏฺานเมว คจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ ปุพฺพณฺหสมเย ปิณฺฑาย จริตฺวา สายนฺหสมเย ปฏิสลฺลานา วุฏฺหิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา กมฺมฏฺานํ กถาเปตฺวา สตฺต สีหนาเท นทิตฺวา ปกฺกามิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ปุณฺโณ…เป… วิหรตี’’ติ.
กตฺถ ปนายํ วิหาสีติ? จตูสุ าเนสุ วิหาสิ, สุนาปรนฺตรฏฺํ ตาว ปวิสิตฺวา อชฺชุหตฺถปพฺพเต นาม ปวิสิตฺวา วาณิชคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ นํ กนิฏฺภาตา สฺชานิตฺวา ภิกฺขํ ทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อฺตฺถ อคนฺตฺวา อิเธว วสถา’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา ตตฺเถว วสาเปสิ.
ตโต สมุทฺทคิริวิหารํ นาม อคมาสิ. ตตฺถ อยกนฺตปาสาเณหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตจงฺกโม อตฺถิ, ตํ โกจิ จงฺกมิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ตตฺถ สมุทฺทวีจิโย อาคนฺตฺวา อยกนฺตปาสาเณสุ ปหริตฺวา มหาสทฺทํ กโรนฺติ. เถโรนํ – ‘‘กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตานํ ผาสุวิหาโร โหตู’’ติ สมุทฺทํ นิสฺสทฺทํ กตฺวา อธิฏฺาสิ.
ตโต ¶ มาตุลคิรึ นาม อคมาสิ. ตตฺถ สกุณสงฺโฆ อุสฺสนฺโน, รตฺติฺจ ทิวา จ สทฺโท เอกาพทฺโธว โหติ, เถโร อิมํ านํ อผาสุกนฺติ ตโต มกุลการามวิหารํ นาม คโต. โส วาณิชคามสฺส นาติทูโร นจฺจาสนฺโน คมนาคมนสมฺปนฺโน วิวิตฺโต อปฺปสทฺโท. เถโร อิมํ านํ ผาสุกนฺติ ตตฺถ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานจงฺกมนาทีนิ กาเรตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิ. เอวํ จตูสุ าเนสุ วิหาสิ.
อเถกทิวสํ ¶ ตสฺมึเยว อนฺโตวสฺเส ปฺจ วาณิชสตานิ ปรสมุทฺทํ คจฺฉามาติ นาวาย ภณฺฑํ ปกฺขิปึสุ. นาวาโรหนทิวเส เถรสฺส กนิฏฺภาตา เถรํ โภเชตฺวา เถรสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทานิ คเหตฺวา วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺโต, – ‘‘ภนฺเต, มหาสมุทฺโท นาม อปฺปเมยฺโย อเนกนฺตราโย, อมฺเห อาวชฺเชยฺยาถา’’ติ วตฺวา นาวํ อารุหิ. นาวา อุตฺตมชเวน คจฺฉมานา อฺตรํ ทีปกํ ปาปุณิ. มนุสฺสา ปาตราสํ กริสฺสามาติ ทีปเก โอติณฺณา. ตสฺมึ ทีเป อฺํ กิฺจิ นตฺถิ, จนฺทนวนเมว อโหสิ.
อเถโก วาสิยา รุกฺขํ อาโกเฏตฺวา โลหิตจนฺทนภาวํ ตฺวา อาห – ‘‘โภ มยํ ลาภตฺถาย ¶ ปรสมุทฺทํ คจฺฉาม, อิโต จ อุตฺตริ ลาโภ นาม นตฺถิ, จตุรงฺคุลมตฺตา ฆฏิกา สตสหสฺสํ อคฺฆติ, หาเรตพฺพกยุตฺตํ ภณฺฑํ หาเรตฺวา จนฺทนสฺส ปูเรมา’’ติ. เต ตถา กรึสุ. จนฺทนวเน อธิวตฺถา อมนุสฺสา กุชฺฌิตฺวา – ‘‘อิเมหิ อมฺหากํ จนฺทนวนํ นาสิตํ, ฆาเตสฺสาม เน’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘อิเธว ฆาติเตสุ สพฺพํ วนํ เอกํ กุณปํ ภวิสฺสติ, สมุทฺทมชฺเฌ เนสํ นาวํ โอสีเทสฺสามา’’ติ อาหํสุ. อถ เตสํ นาวํ อารุยฺห มุหุตฺตํ คตกาเลเยว อุปฺปาทิกํ อุฏฺเปตฺวา สยมฺปิ เต อมนุสฺสา ภยานกานิ รูปานิ ทสฺสยึสุ. ภีตา มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน เทวตา นมสฺสนฺติ. เถรสฺส กนิฏฺโ จูฬปุณฺณกุฏุมฺพิโก – ‘‘มยฺหํ ภาตา อวสฺสโย โหตู’’ติ เถรสฺส นมสฺสมาโน อฏฺาสิ.
เถโรปิ กิร ตสฺมึเยว ขเณ อาวชฺชิตฺวา เตสํ พฺยสนุปฺปตฺตึ ¶ ตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา สมฺมุเข อฏฺาสิ. อมนุสฺสา เถรํ ทิสฺวา ‘‘อยฺโย ปุณฺณตฺเถโร เอตี’’ติ ปกฺกมึสุ, อุปฺปาทิกํ สนฺนิสีทิ. เถโร มา ภายถาติ เต ¶ อสฺสาเสตฺวา ‘‘กหํ คนฺตุกามตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ภนฺเต, อมฺหากํ สกฏฺานเมว คจฺฉามาติ. เถโร นาวํ ผเล อกฺกมิตฺวา ‘‘เอเตสํ อิจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉตู’’ติ อธิฏฺาสิ. วาณิชา สกฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ ปุตฺตทารสฺส อาโรเจตฺวา ‘‘เอถ เถรํ สรณํ คจฺฉามา’’ติ ปฺจสตา อตฺตโน ปฺจมาตุคามสเตหิ สทฺธึ ตีสุ สรเณสุ ปติฏฺาย อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสุํ. ตโต นาวาย ภณฺฑํ โอตาเรตฺวา เถรสฺส เอกํ โกฏฺาสํ กตฺวา – ‘‘อยํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ โกฏฺาโส’’ติ อาหํสุ. เถโร – ‘‘มยฺหํ วิสุํ โกฏฺาสกิจฺจํ นตฺถิ, สตฺถา ปน ตุมฺเหหิ ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ. น ทิฏฺปุพฺโพ, ภนฺเตติ. เตน หิ อิมินา สตฺถุ มณฺฑลมาฬํ กโรถ, เอวํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสถาติ. เต สาธุ, ภนฺเตติ เตน จ โกฏฺาเสน อตฺตโน จ โกฏฺาเสหิ มณฺฑลมาฬํ กาตุํ อารภึสุ.
สตฺถาปิ กิร อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ปริโภคํ อกาสิ. อารกฺขมนุสฺสา รตฺตึ โอภาสํ ทิสฺวา ‘‘มเหสกฺขา เทวตา อตฺถี’’ติ สฺํ กรึสุ. อุปาสกา มณฺฑลมาฬฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เสนาสนานิ นิฏฺเปตฺวา ทานสมฺภารํ สชฺเชตฺวา – ‘‘กตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ อตฺตโน กิจฺจํ, สตฺถารํ ปกฺโกสถา’’ติ เถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร สายนฺหสมเย อิทฺธิยา สาวตฺถึ ปตฺวา, ‘‘ภนฺเต, วาณิชคามวาสิโน ตุมฺเห ทฏฺุกามา, เตสํ อนุกมฺปํ กโรถา’’ติ ภควนฺตํ ยาจิ. ภควา อธิวาเสสิ. เถโร ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา สกฏฺานเมว ปจฺจาคโต.
ภควาปิ ¶ อานนฺทเถรํ อามนฺเตสิ ¶ , – ‘‘อานนฺท, สฺเว สุนาปรนฺเต วาณิชคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสาม, ตฺวํ เอกูนปฺจสตานํ ภิกฺขูนํ สลากํ เทหี’’ติ. เถโร สาธุ, ภนฺเตติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา นภจาริกา ภิกฺขู สลากํ คณฺหนฺตูติ อาห. ตํทิวสํ กุณฺฑธานตฺเถโร ปมํ สลากํ อคฺคเหสิ. วาณิชคามวาสิโนปิ ‘‘สฺเว กิร สตฺถา อาคมิสฺสตี’’ติ คามมชฺเฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานคฺคํ สชฺชยึสุ. ภควา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิ. สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหํ อโหสิ. โส กึ อิทนฺติ อาวชฺเชตฺวา ¶ สตฺถุ สุนาปรนฺตคมนํ ทิสฺวา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตาต อชฺช ภควา ติมตฺตานิ โยชนสตานิ ปิณฺฑาจารํ กริสฺสติ, ปฺจ กูฏาคารสตานิ มาเปตฺวา เชตวนทฺวารโกฏฺมตฺถเก คมนสชฺชานิ กตฺวา เปหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ภควโต กูฏาคารํ จตุมุขํ อโหสิ, ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ทฺวิมุขานิ, เสสานิ เอกมุขานิ. สตฺถา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมฺม ปฏิปาฏิยา ปิตกูฏาคาเรสุ ธุรกูฏาคารํ ปาวิสิ. ทฺเว อคฺคสาวเก อาทึ กตฺวา เอกูนปฺจภิกฺขุสตานิปิ กูฏาคารํ คนฺตฺวา นิสินฺนา อเหสุํ. เอกํ ตุจฺฉกูฏาคารํ อโหสิ, ปฺจปิ กูฏาคารสตานิ อากาเส อุปฺปตึสุ.
สตฺถา ¶ สจฺจพนฺธปพฺพตํ นาม ปตฺวา กูฏาคารํ อากาเส เปสิ. ตสฺมึ ปพฺพเต สจฺจพนฺโธ นาม มิจฺฉาทิฏฺิกตาปโส มหาชนํ มิจฺฉาทิฏฺึ อุคฺคณฺหาเปนฺโต ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต หุตฺวา วสติ. อพฺภนฺตเร จสฺส อนฺโตจาฏิยํ ปทีโป วิย อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสโย ชลติ. ตํ ทิสฺวา ธมฺมมสฺส กเถสฺสามีติ คนฺตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ตาปโส เทสนาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ, มคฺเคเนวาสฺส อภิฺา อาคตา. เอหิภิกฺขุ หุตฺวา อิทฺธิมยปตฺตจีวรธโร หุตฺวา กูฏาคารํ ปาวิสิ.
ภควา กูฏาคารคเตหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ วาณิชคามํ คนฺตฺวา กูฏาคารานิ อทิสฺสมานานิ กตฺวา วาณิชคามํ ปาวิสิ. วาณิชา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา สตฺถารํ มกุลการามํ นยึสุ. สตฺถา มณฺฑลมาฬํ ปาวิสิ. มหาชโน ยาว สตฺถา ภตฺตทรถํ ปฏิปสฺสมฺเภติ, ตาว ปาตราสํ กตฺวา อุโปสถงฺคานิ สมาทาย พหุํ คนฺธฺจ ปุปฺผฺจ อาทาย ¶ ธมฺมสฺสวนตฺถาย อารามํ ปจฺจาคมาสิ. สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชนสฺส พนฺธนโมกฺโข ชาโต, มหนฺตํ พุทฺธโกลาหลํ อโหสิ.
สตฺถา มหาชนสฺส สงฺคหตฺถํ กติปาหํ ตตฺเถว วสิ, อรุณํ ปน มหาคนฺธกุฏิยํเยว อุฏฺเปสิ. ตตฺถ กติปาหํ วสิตฺวา วาณิชคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ‘‘ตฺวํ อิเธว วสาหี’’ติ ปุณฺณตฺเถรํ นิวตฺเตตฺวา อนฺตเร นมฺมทานที ¶ นาม อตฺถิ, ตสฺสา ตีรํ อคมาสิ. นมฺมทานาคราชา สตฺถุ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา นาคภวนํ ปเวเสตฺวา ติณฺณํ รตนานํ สกฺการํ อกาสิ. สตฺถา ¶ ตสฺส ธมฺมํ กเถตฺวา นาคภวนา นิกฺขมิ. โส – ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, ปริจริตพฺพํ เทถา’’ติ ยาจิ, ภควา นมฺมทานทีตีเร ปทเจติยํ ทสฺเสสิ. ตํ วีจีสุ อาคตาสุ ปิธียติ, คตาสุ วิวรียติ, มหาสกฺการปฺปตฺตํ อโหสิ. สตฺถา ตโต นิกฺขมฺม สจฺจพนฺธปพฺพตํ คนฺตฺวา สจฺจพนฺธํ อาห – ‘‘ตยา มหาชโน อปายมคฺเค โอตาริโต, ตฺวํ อิเธว วสิตฺวา เอเตสํ ลทฺธึ วิสฺสชฺชาเปตฺวา นิพฺพานมคฺเค ปติฏฺาเปหี’’ติ. โสปิ ปริจริตพฺพํ ยาจิ. สตฺถา ฆนปิฏฺิปาสาเณ อลฺลมตฺติกปิณฺฑมฺหิ ลฺฉนํ วิย ปทเจติยํ ทสฺเสสิ, ตโต เชตวนเมว คโต. เอตมตฺถํ สนฺธาย เตเนวนฺตรวสฺเสนาติอาทิ วุตฺตํ.
ปรินิพฺพายีติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. มหาชโน เถรสฺส สตฺต ทิวสานิ สรีรปูชํ กตฺวา พหูนิ คนฺธกฏฺานิ สโมธาเนตฺวา สรีรํ ฌาเปตฺวา ธาตุโย อาทาย เจติยํ อกาสิ. สมฺพหุลา ภิกฺขูติ เถรสฺส อาฬาหเน ิตภิกฺขู. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ปุณฺโณวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นนฺทโกวาทสุตฺตวณฺณนา
๓๙๘. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ นนฺทโกวาทสุตฺตํ. ตตฺถ เตน โข ปน สมเยนาติ ภควา มหาปชาปติยา ยาจิโต ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุยฺโยเชตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา – ‘‘เถรา ภิกฺขู วาเรน ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตู’’ติ สงฺฆสฺส ภารํ อกาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริยาเยนาติ วาเรน. น อิจฺฉตีติ อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต ทูรํ คามํ วา คนฺตฺวา สูจิกมฺมาทีนิ วา อารภิตฺวา ‘‘อยํ นามสฺส ปปฺโจ’’ติ ¶ วทาเปสิ. อิมํ ปน ปริยาเยน โอวาทํ ภควา นนฺทกตฺเถรสฺเสว การณา อกาสิ. กสฺมา? อิมาสฺหิ ภิกฺขุนีนํ เถรํ ทิสฺวา จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ ¶ ปสีทติ. เตน ตา ตสฺส โอวาทํ สมฺปฏิจฺฉิตุกามา, ธมฺมกถํ โสตุกามา. ตสฺมา ภควา – ‘‘นนฺทโก อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต โอวาทํ ทสฺสติ, ธมฺมกถํ กเถสฺสตี’’ติ วาเรน โอวาทํ อกาสิ. เถโร ปน อตฺตโน วารํ น กโรติ, กสฺมาติ เจ? ตา กิร ภิกฺขุนิโย ปุพฺเพ เถรสฺส ชมฺพุทีเป รชฺชํ กาเรนฺตสฺส โอโรธา อเหสุํ. เถโร ปุพฺเพนิวาสาเณน ตํ การณํ ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มํ อิมสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสินฺนํ อุปมาโย จ การณานิ จ อาหริตฺวา ธมฺมํ กถยมานํ ทิสฺวา อฺโ ปุพฺเพนิวาสาณลาภี ภิกฺขุ อิมํ การณํ โอโลเกตฺวา ‘อายสฺมา นนฺทโก ยาวชฺชทิวสา โอโรเธ น วิสฺสชฺเชติ, โสภตายมายสฺมา โอโรธปริวุโต’ติ วตฺตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ. เอตมตฺถํ สมฺปสฺสมาโน เถโร อตฺตโน วารํ น กโรติ. อิมาสฺจ กิร ภิกฺขุนีนํ เถรสฺเสว เทสนา สปฺปายา ภวิสฺสตีติ ตฺวา อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นนฺทกํ อามนฺเตสิ.
ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปุพฺเพ ตสฺส โอโรธภาวชานนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ – ปุพฺเพ กิร พาราณสิยํ ปฺจ ทาสสตานิ ปฺจ ทาสิสตานิ จาติ ชงฺฆสหสฺสํ เอกโตว กมฺมํ กตฺวา เอกสฺมึ าเน วสิ. อยํ นนฺทกตฺเถโร ตสฺมึ กาเล เชฏฺกทาโส โหติ ¶ , โคตมี เชฏฺกทาสี. สา เชฏฺกทาสสฺส ปาทปริจาริกา อโหสิ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา. ชงฺฆสหสฺสมฺปิ ปฺุกมฺมํ กโรนฺตํ เอกโต กโรติ. อถ วสฺสูปนายิกสมเย ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธา นนฺทมูลกปพฺภารโต อิสิปตเน โอตริตฺวา นคเร ปิณฺฑาย จริตฺวา อิสิปตนเมว คนฺตฺวา – ‘‘วสฺสูปนายิกกุฏิยา อตฺถาย หตฺถกมฺมํ ¶ ยาจิสฺสามา’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา สายนฺหสมเย นครํ ปวิสิตฺวา เสฏฺิสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺํสุ. เชฏฺกทาสี กุฏํ คเหตฺวา อุทกติตฺถํ คจฺฉนฺตี ปจฺเจกพุทฺเธ นครํ ปวิสนฺเต อทฺทส. เสฏฺิ เตสํ อาคตการณํ สุตฺวา ‘‘อมฺหากํ โอกาโส นตฺถิ, คจฺฉนฺตู’’ติ อาห.
อถ เต นครา นิกฺขมนฺเต เชฏฺกทาสี กุฏํ คเหตฺวา ปวิสนฺตี ทิสฺวา กุฏํ โอตาเรตฺวา วนฺทิตฺวา โอนมิตฺวา มุขํ ปิธาย – ‘‘อยฺยา นครํ ปวิฏฺมตฺตาว นิกฺขนฺตา, กึ นุ โข’’ติ ปุจฺฉิ. วสฺสูปนายิกกุฏิยา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ อาคมิมฺหาติ. ลทฺธํ, ภนฺเตติ. น ลทฺธํ อุปาสิเกติ? กึ ปเนสา กุฏิ อิสฺสเรเหว กาตพฺพา, ทุคฺคเตหิปิ สกฺกา กาตุนฺติ. เยน เกนจิ สกฺกาติ? สาธุ, ภนฺเต, มยํ กริสฺสาม. สฺเว มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถาติ นิมนฺเตตฺวา ¶ อุทกํ เนตฺวา ปุน กุฏํ คเหตฺวา อาคมฺม ติตฺถมคฺเค ตฺวา อาคตา อวเสสทาสิโย ‘‘เอตฺเถว โหถา’’ติ วตฺวา สพฺพาสํ อาคตกาเล อาห – ‘‘อมฺม กึ นิจฺจเมว ปรสฺส ทาสกมฺมํ กริสฺสถ, อุทาหุ ทาสภาวโต มุจฺจิตุํ อิจฺฉถา’’ติ? อชฺเชว มุจฺจิตุมิจฺฉาม อยฺเยติ. ยทิ เอวํ มยา ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธา หตฺถกมฺมํ อลภนฺตา สฺวาตนาย นิมนฺติตา, ตุมฺหากํ สามิเกหิ เอกทิวสํ หตฺถกมฺมํ ทาเปถาติ. ตา สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สายํ อฏวิโต อาคตกาเล สามิกานํ อาโรเจสุํ. เต สาธูติ เชฏฺกทาสสฺส เคหทฺวาเร สนฺนิปตึสุ.
อถ เน เชฏฺกทาสี สฺเว ตาตา ปจฺเจกพุทฺธานํ หตฺถกมฺมํ เทถาติ อานิสํสํ อาจิกฺขิตฺวา เยปิ ¶ น กาตุกามา, เต คาฬฺเหน โอวาเทน ตชฺเชตฺวา ปฏิจฺฉาเปสิ. สา ปุนทิวเส ปจฺเจกพุทฺธานํ ภตฺตํ ทตฺวา สพฺเพสํ ทาสปุตฺตานํ สฺํ อทาสิ. เต ตาวเทว อรฺํ ปวิสิตฺวา ทพฺพสมฺภาเร สโมธาเนตฺวา สตํ สตํ หุตฺวา เอเกกกุฏึ เอเกกจงฺกมนาทิปริวารํ กตฺวา มฺจปีปานียปริโภชนียภาชนาทีนิ เปตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ เตมาสํ ตตฺถ วสนตฺถาย ปฏิฺํ กาเรตฺวา วารภิกฺขํ ปฏฺเปสุํ. โย อตฺตโน วารทิวเส น สกฺโกติ. ตสฺส เชฏฺกทาสี สกเคหโต อาหริตฺวา เทติ. เอวํ เตมาสํ ชคฺคิตฺวา เชฏฺกทาสี เอเกกํ ทาสํ เอเกกํ สาฏกํ วิสฺสชฺชาเปสิ. ปฺจ ถูลสาฏกสตานิ อเหสุํ. ตานิ ปริวตฺตาเปตฺวา ปฺจนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ติจีวรานิ กตฺวา อทาสิ. ปจฺเจกพุทฺธา ยถาผาสุกํ อคมํสุ. ตมฺปิ ชงฺฆสหสฺสํ เอกโต กุสลํ กตฺวา กายสฺส เภทา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตานิ ปฺจ มาตุคามสตานิ กาเลน กาลํ เตสํ ปฺจนฺนํ ปุริสสตานํ เคเห โหนฺติ, กาเลน ¶ กาลํ สพฺพาปิ เชฏฺกทาสปุตฺตสฺเสว เคเห โหนฺติ. อถ เอกสฺมึ กาเล เชฏฺกทาสปุตฺโต เทวโลกโต จวิตฺวา ราชกุเล นิพฺพตฺโต. ตาปิ ปฺจสตา เทวกฺา มหาโภคกุเลสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตสฺส รชฺเช ิตสฺส เคหํ อคมํสุ. เอเตน นิยาเมน สํสรนฺติโย อมฺหากํ ภควโต กาเล โกลิยนคเร เทวทหนคเร จ ขตฺติยกุเลสุ นิพฺพตฺตา.
นนฺทกตฺเถโรปิ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, เชฏฺกทาสิธีตา วยํ อาคมฺม สุทฺโธทนมหาราชสฺส อคฺคมเหสิฏฺาเน ิตา, อิตราปิ เตสํ เตสํ ¶ ราชปุตฺตานํเยว ฆรํ คตา. ตาสํ สามิกา ปฺจสตา ราชกุมารา อุทกจุมฺพฏกลเห สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตา, ราชธีตโร เตสํ อุกฺกณฺนตฺถํ ¶ สาสนํ เปเสสุํ. เต อุกฺกณฺิเต ภควา กุณาลทหํ เนตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺเปตฺวา มหาสมยทิวเส อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. ตาปิ ปฺจสตา ราชธีตโร นิกฺขมิตฺวา มหาปชาปติยา สนฺติเก ปพฺพชึสุ. อยมายสฺมา นนฺทโก เอตฺตาว ตา ภิกฺขุนิโยติ เอวเมตํ วตฺถุ ทีเปตพฺพํ.
ราชการาโมติ ปเสนทินา การิโต นครสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ถูปารามสทิเส าเน วิหาโร.
๓๙๙. สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺนฺติ เหตุนา การเณน วิปสฺสนาปฺาย ยาถาวสรสโต ทิฏฺํ.
๔๐๑. ตชฺชํ ตชฺชนฺติ ตํสภาวํ ตํสภาวํ, อตฺถโต ปน ตํ ตํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ ตา ตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๐๒. ปเควสฺส ฉายาติ มูลาทีนิ นิสฺสาย นิพฺพตฺตา ฉายา ปมตรํเยว อนิจฺจา.
๔๑๓. อนุปหจฺจาติ อนุปหนิตฺวา. ตตฺถ มํสํ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา จมฺมํ อลฺลิยาเปนฺโต มํสกายํ อุปหนติ นาม. จมฺมํ พทฺธํ พทฺธํ กตฺวา มํเส อลฺลิยาเปนฺโต มํสกายํ ¶ อุปหนติ นาม. เอวํ อกตฺวา. วิลิมํสํ นฺหารุพนฺธนนฺติ สพฺพจมฺเม ลคฺควิลีปนมํสเมว. อนฺตรากิเลสสํโยชนพนฺธนนฺติ สพฺพํ อนฺตรกิเลสเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๑๔. สตฺต โข ปนิเมติ กสฺมา อาหาติ? ยา หิ เอสา ปฺา กิเลเส ฉินฺทตีติ วุตฺตา, สา น เอกิกาว อตฺตโน ธมฺมตาย ฉินฺทิตุํ สกฺโกติ. ยถา ปน กุารี น ¶ อตฺตโน ธมฺมตาย เฉชฺชํ ฉินฺทติ, ปุริสสฺส ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺเจว ฉินฺทติ, เอวํ น วินา ฉหิ โพชฺฌงฺเคหิ ปฺา กิเลเส ฉินฺทิตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา เอวมาห. เตน หีติ เยน การเณน ตยา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, ฉ พาหิรานิ ¶ , ฉ วิฺาณกาเย, ทีโปปมํ, รุกฺโขปมํ, คาวูปมฺจ ทสฺเสตฺวา สตฺตหิ โพชฺฌงฺเคหิ อาสวกฺขเยน เทสนา นิฏฺปิตา, เตน การเณน ตฺวํ สฺเวปิ ตา ภิกฺขุนิโย เตเนว โอวาเทน โอวเทยฺยาสีติ.
๔๑๕. สา โสตาปนฺนาติ ยา สา คุเณหิ สพฺพปจฺฉิมิกา, สา โสตาปนฺนา. เสสา ปน สกทาคามิอนาคามินิโย จ ขีณาสวา จ. ยทิ เอวํ กถํ ปริปุณฺณสงฺกปฺปาติ. อชฺฌาสยปาริปูริยา. ยสฺสา หิ ภิกฺขุนิยา เอวมโหสิ – ‘‘กทา นุ โข อหํ อยฺยสฺส นนฺทกสฺส ธมฺมเทสนํ สุณนฺตี ตสฺมึเยว อาสเน โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกเรยฺย’’นฺติ, สา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉากาสิ. ยสฺสา อโหสิ ‘‘สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺต’’นฺติ, สา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. เตนาห ภควา ‘‘อตฺตมนา เจว ปริปุณฺณสงฺกปฺปา จา’’ติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
นนฺทโกวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา
๔๑๖. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ราหุโลวาทสุตฺตํ. ตตฺถ วิมุตฺติปริปาจนียาติ วิมุตฺตึ ปริปาเจนฺตีติ วิมุตฺติปริปาจนียา. ธมฺมาติ ¶ ปนฺนรส ธมฺมา. เต สทฺธินฺทฺริยาทีนํ วิสุทฺธิการณวเสน เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อสฺสทฺเธ ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต, สทฺเธ ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต ปสาทนีเย สุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ตีหากาเรหิ สทฺธินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ. กุสีเต ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต อารทฺธวีริเย ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต สมฺมปฺปธาเน ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ตีหากาเรหิ วีริยินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ. มุฏฺสฺสตี ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต อุปฏฺิตสฺสตี ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต สติปฏฺาเน ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ตีหากาเรหิ สตินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ ¶ . อสมาหิเต ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต สมาหิเต ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต ฌานวิโมกฺเข ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ตีหากาเรหิ สมาธินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ. ทุปฺปฺเ ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต ปฺวนฺเต ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต คมฺภีราณจริยํ ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ตีหากาเรหิ ปฺินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ. อิติ อิเม ปฺจ ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต ปฺจ ปุคฺคเล เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต ปฺจ สุตฺตนฺตกฺขนฺเธ ปจฺจเวกฺขโต อิเมหิ ปนฺนรสหิ อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๘๕).
อปเรปิ ปนฺนรส ธมฺมา วิมุตฺติปริปาจนียา – สทฺธาทีนิ ปฺจิมานิ อินฺทฺริยานิ, อนิจฺจสฺา, อนิจฺเจ ทุกฺขสฺา, ทุกฺเข อนตฺตสฺา, ปหานสฺา, วิราคสฺาติ, อิมา ปฺจ นิพฺเพธภาคิยา สฺา, เมฆิยตฺเถรสฺส กถิตา กลฺยาณมิตฺตตาทโย ปฺจธมฺมาติ. กาย ปน เวลาย ภควโต เอตทโหสีติ. ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺตสฺส.
๔๑๙. อเนกานํ เทวตาสหสฺสานนฺติ อายสฺมตา ราหุเลน ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต ปาทมูเล ปาลิตนาคราชกาเล ปตฺถนํ ¶ ปฏฺเปนฺเตน สทฺธึ ปตฺถนํ ปฏฺปิตเทวตาเยว. ตาสุ ปน กาจิ ภูมฏฺกา ¶ เทวตา, กาจิ อนฺตลิกฺขกา, กาจิ จาตุมหาราชิกา, กาจิ เทวโลเก, กาจิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตา. อิมสฺมึ ปน ทิวเส สพฺพา เอกฏฺาเน อนฺธวนสฺมึเยว สนฺนิปติตา. ธมฺมจกฺขุนฺติ อุปาลิโอวาท- (ม. นิ. ๒.๖๙) ทีฆนขสุตฺเตสุ (ม. นิ. ๒.๒๐๖) ปมมคฺโค ธมฺมจกฺขุนฺติ วุตฺโต, พฺรหฺมายุสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๙๕) ตีณิ ผลานิ, อิมสฺมึ สุตฺเต จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานิ ธมฺมจกฺขุนฺติ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ หิ กาจิ เทวตา โสตาปนฺนา อเหสุํ, กาจิ สกทาคามี, อนาคามี, ขีณาสวา. ตาสฺจ ปน เทวตานํ เอตฺตกาติ คณนวเสน ปริจฺเฉโท นตฺถิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนา
๔๒๐. เอวํ ¶ ¶ เม สุตนฺติ ฉฉกฺกสุตฺตํ. ตตฺถ อาทิกลฺยาณนฺติอาทิมฺหิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ นิทฺโทสํ กตฺวา เทเสสฺสามิ. มชฺฌปริโยสาเนสุปิ เอเสว นโย. อิติ ภควา อริยวํสํ นวหิ, มหาสติปฏฺานํ สตฺตหิ, มหาอสฺสปุรํ สตฺตหิเยว ปเทหิ โถเมสิ. อิทํ ปน สุตฺตํ นวหิ ปเทหิ โถเมสิ.
เวทิตพฺพานีติ ¶ สหวิปสฺสเนน มคฺเคน ชานิตพฺพานิ. มนายตเนน เตภูมกจิตฺตเมว กถิตํ, ธมฺมายตเนน พหิทฺธา เตภูมกธมฺมา จ, มโนวิฺาเณน เปตฺวา ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ เสสํ พาวีสติวิธํ โลกิยวิปากจิตฺตํ. ผสฺสเวทนา ยถาวุตฺตวิปากวิฺาณสมฺปยุตฺตาว. ตณฺหาติ วิปากเวทนาปจฺจยา ชวนกฺขเณ อุปฺปนฺนตณฺหา.
๔๒๒. จกฺขุ อตฺตาติ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. เหฏฺา กถิตานฺหิ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ อนตฺตภาวทสฺสนตฺถํ อยํ เทสนา อารทฺธา. ตตฺถ น อุปปชฺชตีติ น ยุชฺชติ. เวตีติ วิคจฺฉติ นิรุชฺฌติ.
๔๒๔. อยํ โข ปน, ภิกฺขเวติ อยมฺปิ ปาฏิเยกฺโก อนุสนฺธิ. อยฺหิ เทสนา ติณฺณํ คาหานํ วเสน วฏฺฏํ ทสฺเสตุํ อารทฺธา. ทุกฺขํ สมุทโยติ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ วเสน วฏฺฏํ ทสฺเสตุนฺติปิ วทนฺติเยว. เอตํ มมาติอาทีสุ ตณฺหามานทิฏฺิคาหาว เวทิตพฺพา. สมนุปสฺสตีติ คาหตฺตยวเสน ปสฺสติ.
เอวํ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติณฺณํ คาหานํ ปฏิปกฺขวเสน, นิโรโธ มคฺโคติ อิเมสํ วา ทฺวินฺนํ สจฺจานํ วเสน วิวฏฺฏํ ทสฺเสตุํ อยํ โข ปนาติอาทิมาห. เนตํ มมาติอาทีนิ ตณฺหาทีนํ ปฏิเสธวจนานิ. สมนุปสฺสตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปสฺสติ.
๔๒๕. เอวํ ¶ วิวฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ติณฺณํ อนุสยานํ วเสน ปุน วฏฺฏํ ทสฺเสตุํ จกฺขฺุจ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อภินนฺทตีติอาทีนิ ตณฺหาทิฏฺิวเสเนว วุตฺตานิ. อนุเสตีติ อปฺปหีโน โหติ. ทุกฺขสฺสาติ ¶ วฏฺฏทุกฺขกิเลสทุกฺขสฺส.
๔๒๖. เอวํ ¶ ติณฺณํ อนุสยานํ วเสน วฏฺฏํ กเถตฺวา อิทานิ เตสํ ปฏิกฺเขปวเสน วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต ปุน จกฺขฺุจาติอาทิมาห. อวิชฺชํ ปหายาติ วฏฺฏมูลิกํ อวิชฺชํ ปชหิตฺวา. วิชฺชนฺติ อรหตฺตมคฺควิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา.
๔๒๗. านเมตํ วิชฺชตีติ เอตฺตเกเนว กถามคฺเคน วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน เทสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปุน ตเทว สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนนฺติ เอตฺถ อนจฺฉริยเมตํ, ยํ สยเมว ตถาคเต เทเสนฺเต สฏฺิ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา. อิมฺหิ สุตฺตํ ธมฺมเสนาปติมฺหิ กเถนฺเตปิ สฏฺิ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา, มหาโมคฺคลฺลาเน กเถนฺเตปิ, อสีติมหาเถเรสุ กเถนฺเตสุปิ ปตฺตา เอว. เอตมฺปิ อนจฺฉริยํ. มหาภิฺปฺปตฺตา หิ เต สาวกา.
อปรภาเค ปน ตมฺพปณฺณิทีเป มาเลยฺยเทวตฺเถโร นาม เหฏฺา โลหปาสาเท อิทํ สุตฺตํ กเถสิ. ตทาปิ สฏฺิ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา. ยถา จ โลหปาสาเท, เอวํ เถโร มหามณฺฑเปปิ อิทํ สุตฺตํ กเถสิ. มหาวิหารา นิกฺขมิตฺวา เจติยปพฺพตํ คโต, ตตฺถาปิ กเถสิ. ตโต สากิยวํสวิหาเร, กูฏาลิวิหาเร, อนฺตรโสพฺเภ, มุตฺตงฺคเณ, วาตกปพฺพเต, ปาจินฆรเก, ทีฆวาปิยํ, โลกนฺทเร, โนมณฺฑลตเล กเถสิ. เตสุปิ าเนสุ สฏฺิ สฏฺิ ¶ ภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา. ตโต นิกฺขมิตฺวา ปน เถโร จิตฺตลปพฺพตํ คโต. ตทา จ จิตฺตลปพฺพตวิหาเร อติเรกสฏฺิวสฺโส มหาเถโร, โปกฺขรณิยํ กุรุวกติตฺถํ นาม ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ อตฺถิ, ตตฺถ เถโร นฺหายิสฺสามีติ โอติณฺโณ. เทวตฺเถโร ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นฺหาเปมิ, ภนฺเตติ อาห. เถโร ปฏิสนฺถาเรเนว – ‘‘มาเลยฺยเทโว นาม อตฺถีติ วทนฺติ, โส อยํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตฺวํ เทโวติ อาห. อาม, ภนฺเตติ. สฏฺิวสฺสทฺธานํ เม, อาวุโส, โกจิ สรีรํ หตฺเถน ผุสิตุํ นาม น ลภิ, ตฺวํ ปน นฺหาเปหีติ อุตฺตริตฺวา ตีเร นิสีทิ.
เถโร ¶ สพฺพมฺปิ หตฺถปาทาทิปริกมฺมํ กตฺวา มหาเถรํ นฺหาเปสิ. ตํ ทิวสฺจ ธมฺมสฺสวนทิวโส โหติ. อถ มหาเถโร – ‘‘เทว อมฺหากํ ธมฺมทานํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. เถโร สาธุ, ภนฺเตติ สมฺปฏิจฺฉิ. อตฺถงฺคเต สูริเย ¶ ธมฺมสฺสวนํ โฆเสสุํ. อติกฺกนฺตสฏฺิวสฺสาว สฏฺิ มหาเถรา ธมฺมสฺสวนตฺถํ อคมํสุ. เทวตฺเถโร สรภาณาวสาเน อิมํ สุตฺตํ อารภิ, สุตฺตนฺตปริโยสาเน จ สฏฺิ มหาเถรา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตโต ติสฺสมหาวิหารํ คนฺตฺวา กเถสิ, ตสฺมิมฺปิ สฏฺิ เถรา. ตโต นาคมหาวิหาเร กาฬกจฺฉคาเม กเถสิ, ตสฺมิมฺปิ สฏฺิ เถรา. ตโต กลฺยาณึ คนฺตฺวา ตตฺถ จาตุทฺทเส เหฏฺาปาสาเท กเถสิ, ตสฺมิมฺปิ สฏฺิ เถรา. อุโปสถทิวเส อุปริปาสาเท กเถสิ, ตสฺมิมฺปิ สฏฺิ เถราติ เอวํ เทวตฺเถเรเยว อิทํ สุตฺตํ กเถนฺเต สฏฺิฏฺาเนสุ สฏฺิ สฏฺิ ชนา อรหตฺตํ ปตฺตา.
อมฺพิลกาฬกวิหาเร ปน ติปิฏกจูฬนาคตฺเถเร ¶ อิมํ สุตฺตํ กเถนฺเต มนุสฺสปริสา คาวุตํ อโหสิ, เทวปริสา โยชนิกา. สุตฺตปริโยสาเน สหสฺสภิกฺขู อรหตฺตํ ปตฺตา, เทเวสุ ปน ตโต ตโต เอเกโกว ปุถุชฺชโน อโหสีติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา
๔๒๘. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ มหาสฬายตนิกสุตฺตํ. ตตฺถ มหาสฬายตนิกนฺติ มหนฺตานํ ฉนฺนํ อายตนานํ โชตกํ ธมฺมปริยายํ.
๔๒๙. อชานนฺติ สหวิปสฺสเนน มคฺเคน อชานนฺโต. อุปจยํ คจฺฉนฺตีติ วุฑฺฒึ คจฺฉนฺติ, วสิภาวํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. กายิกาติ ปฺจทฺวาริกทรถา. เจตสิกาติ มโนทฺวาริกทรถา. สนฺตาปาทีสุปิ เอเสว นโย.
๔๓๐. กายสุขนฺติ ปฺจทฺวาริกสุขํ. เจโตสุขนฺติ มโนทฺวาริกสุขํ. เอตฺถ จ ปฺจทฺวาริกชวเนน สมาปชฺชนํ วา วุฏฺานํ วา นตฺถิ, อุปฺปนฺนมตฺตกเมว โหติ. มโนทฺวาริเกน สพฺพํ โหติ. อยฺจ มคฺควุฏฺานสฺส ปจฺจยภูตา พลววิปสฺสนา, สาปิ มโนทฺวาริเกเนว โหติ.
๔๓๑. ตถาภูตสฺสาติ ¶ กุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตเจโตสุขสมงฺคีภูตสฺส. ปุพฺเพว โข ปนสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน วาจากมฺมนฺตาชีวา ปุพฺพสุทฺธิกา นาม อาทิโต ปฏฺาย ปริสุทฺธาว ¶ โหนฺติ. ทิฏฺิสงฺกปฺปวายามสติสมาธิสงฺขาตานิ ปน ปฺจงฺคานิ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ นาม. เอวํ โลกุตฺตรมคฺโค อฏฺงฺคิโก วา สตฺตงฺคิโก วา โหติ.
วิตณฺฑวาที ปน ‘‘ยา ยถาภูตสฺส ทิฏฺี’’ติ อิมเมว สุตฺตปเทสํ คเหตฺวา ‘‘โลกุตฺตรมคฺโค ปฺจงฺคิโก’’ติ วทติ. โส – ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตี’’ติ อิมินา อนนฺตรวจเนเนว ปฏิเสธิตพฺโพ. อุตฺตริ จ เอวํ สฺาเปตพฺโพ – โลกุตฺตรมคฺโค ปฺจงฺคิโก นาม นตฺถิ, อิมานิ ปน ปฺจ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ มคฺคกฺขเณ วิรติวเสน ปูเรนฺติ. ‘‘ยา จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรตี’’ติ เอวํ วุตฺตวิรตีสุ หิ มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, สมฺมาวาจํ ภาเวติ, เอวํ สมฺมาวาจํ ¶ ภาเวนฺตสฺส อิมานิ ปฺจงฺคิกานิ น วินา, สเหว วิรติยา ปูเรนฺติ. สมฺมากมฺมนฺตาชีเวสุปิ เอเสว นโย. อิติ วจีกมฺมาทีนิ อาทิโต ปฏฺาย ปริสุทฺธาเนว วฏฺฏนฺติ. อิมานิ ปน ปฺจ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ วิรติวเสน ปริปูเรนฺตีติ ปฺจงฺคิโก มคฺโค นาม นตฺถิ. สุภทฺทสุตฺเตปิ (ที. นิ. ๒.๒๑๔) เจตํ วุตฺตํ – ‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ. อฺเสุ จ อเนเกสุ สุตฺตสเตสุ อฏฺงฺคิโกว มคฺโค อาคโตติ.
๔๓๓. จตฺตาโรปิ สติปฏฺานาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาว จตฺตาโร สติปฏฺานา. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย. ยุคนนฺธาติ เอกกฺขณิกยุคนนฺธา. เอเตหิ อฺสฺมึ ขเณ สมาปตฺติ, อฺสฺมึ วิปสฺสนาติ. เอวํ นานาขณิกาปิ โหนฺติ, อริยมคฺเค ปน เอกกฺขณิกา.
วิชฺชา จ วิมุตฺติ จาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา จ ผลวิมุตฺติ จ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นครวินฺเทยฺยสุตฺตวณฺณนา
๔๓๕. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ นครวินฺเทยฺยสุตฺตํ. ตตฺถ สมวิสมํ จรนฺตีติ กาเลน สมํ จรนฺติ, กาเลน วิสมํ. สมจริยมฺปิ เหตนฺติ สมจริยมฺปิ หิ เอตํ.
๔๓๗. เก อาการาติ กานิ การณานิ? เก อนฺวยาติ กา อนุพุทฺธิโย? นตฺถิ โข ปน ตตฺถาติ กสฺมา อาห, นนุ อรฺเ หริตติณจมฺปกวนาทิวเสน อติมนฺุา รูปาทโย ปฺจ กามคุณา อตฺถีติ? โน นตฺถิ. น ปเนตํ วนสณฺเฑน กถิตํ, อิตฺถิรูปาทีนิ ปน สนฺธาเยตํ กถิตํ. ตานิ หิ ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ. ยถาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกรูปมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อิตฺถิรูปํ. อิตฺถิรูปํ, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑) วิตฺถาเรตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
นครวินฺเทยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนา
๔๓๘. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตํ. ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโต.
วิปฺปสนฺนานีติ โอกาสวเสเนตํ วุตฺตํ. ผลสมาปตฺติโต หิ วุฏฺิตสฺส ปฺจหิ ปสาเทหิ ปติฏฺิโตกาโส วิปฺปสนฺโน โหติ, ฉวิวณฺโณ ปริสุทฺโธ. ตสฺมา เอวมาห. สฺุตวิหาเรนาติ สฺุตผลสมาปตฺติวิหาเรน. มหาปุริสวิหาโรติ ¶ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธตถาคตมหาสาวกานํ มหาปุริสานํ วิหาโร. เยน จาหํ มคฺเคนาติอาทีสุ วิหารโต ปฏฺาย ยาว คามสฺส อินฺทขีลา เอส ปวิฏฺมคฺโค นาม, อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา เคหปฏิปาฏิยา จริตฺวา ยาว นครทฺวาเรน นิกฺขมนา เอส จริตพฺพปเทโส นาม, พหิ อินฺทขีลโต ปฏฺาย ยาว วิหารา เอส ปฏิกฺกนฺตมคฺโค นาม. ปฏิฆํ วาปิ เจตโสติ จิตฺเต ปฏิหฺนกิเลสชาตํ ¶ กิฺจิ อตฺถิ นตฺถีติ. อโหรตฺตานุสิกฺขินาติ ทิวสฺจ รตฺติฺจ อนุสิกฺขนฺเตน.
๔๔๐. ปหีนา นุ โข เม ปฺจ กามคุณาติอาทีสุ เอกภิกฺขุสฺส ปจฺจเวกฺขณา นานา, นานาภิกฺขูนํ ปจฺจเวกฺขณา นานาติ. กถํ? เอโก หิ ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา วิวิตฺโตกาเส นิสินฺโน ปจฺจเวกฺขติ ‘‘ปหีนา นุ โข เม ปฺจกามคุณา’’ติ. โส ‘‘อปฺปหีนา’’ติ ตฺวา วีริยํ ปคฺคยฺห อนาคามิมคฺเคน ปฺจกามคุณิกราคํ สมุคฺฆาเฏตฺวา มคฺคานนฺตรํ ผลํ ผลานนฺตรํ มคฺคํ ตโต วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘ปหีนา’’ติ ปชานาติ. นีวรณาทีสุปิ เอเสว นโย. เอเตสํ ปน อรหตฺตมคฺเคน ปหานาทีนิ โหนฺติ, เอวํ เอกภิกฺขุสฺส นานาปจฺจเวกฺขณา โหติ. เอตาสุ ปน ปจฺจเวกฺขณาสุ อฺโ ภิกฺขุ เอกํ ปจฺจเวกฺขณํ ปจฺจเวกฺขติ, อฺโ เอกนฺติ เอวํ นานาภิกฺขูนํ นานาปจฺจเวกฺขณา โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตวณฺณนา
๔๕๓. เอวํ ¶ เม สุตนฺติ อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ. ตตฺถ คชงฺคลายนฺติ เอวํนามเก นิคเม. สุเวฬุวเนติ ¶ สุเวฬุ นาม เอกา รุกฺขชาติ, เตหิ สฺฉนฺโน มหาวนสณฺโฑ, ตตฺถ วิหรติ. จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ น สุณาตีติ จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสิตพฺพํ, โสเตน สทฺโท น โสตพฺโพติ เอวํ เทเสตีติ อธิปฺปาเยน วทติ.
อฺถา อริยสฺส วินเยติ อิมินา ภควา อตฺตโน สาสเน อสทิสาย อินฺทฺริยภาวนาย กถนตฺถํ อาลยํ อกาสิ. อถายสฺมา อานนฺโท – ‘‘สตฺถา อาลยํ ทสฺเสติ, หนฺทาหํ อิมิสฺสํ ปริสติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อินฺทฺริยภาวนากถํ กาเรมี’’ติ สตฺถารํ ยาจนฺโต เอตสฺส ¶ ภควาติอาทิมาห. อถสฺส ภควา อินฺทฺริยภาวนํ กเถนฺโต เตน หานนฺทาติอาทิมาห.
๔๕๔. ตถ ยทิทํ อุเปกฺขาติ ยา เอสา วิปสฺสนุเปกฺขา นาม, เอสา สนฺตา เอสา ปณีตา, อตปฺปิกาติ อตฺโถ. อิติ อยํ ภิกฺขุ จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมณมฺปิ อิฏฺเ อารมฺมเณ มนาปํ, อนิฏฺเ อมนาปํ, มชฺฌตฺเต มนาปามนาปฺจ จิตฺตํ, ตสฺส รชฺชิตุํ วา ทุสฺสิตุํ วา มุยฺหิตุํ วา อทตฺวาว ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ มชฺฌตฺเต เปติ. จกฺขุมาติ สมฺปนฺนจกฺขุวิสุทฺธเนตฺโต. จกฺขาพาธิกสฺส หิ อุทฺธํ อุมฺมีลนนิมฺมีลนํ น โหติ, ตสฺมา โส น คหิโต.
๔๕๖. อีสกํโปเณติ รถีสา วิย อุฏฺหิตฺวา ิเต.
๔๖๑. ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺีติอาทีสุ ปฏิกูเล เมตฺตาผรเณน วา ธาตุโส อุปสํหาเรน วา อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ. อปฺปฏิกูเล อสุภผรเณน วา อนิจฺจโต อุปสํหาเรน วา ปฏิกูลสฺี วิหรติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวาติ ¶ มชฺฌตฺโต หุตฺวา วิหริตุกาโม ¶ กึ กโรตีติ? อิฏฺานิฏฺเสุ อาปาถคเตสุ เนว โสมนสฺสิโก น โทมนสฺสิโก โหติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ? อนิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรติ, เอวํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ. กถํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหรติ? อิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรติ, เอวํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี วิหรติ. กถํ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ? อนิฏฺสฺมิฺจ อิฏฺสฺมิฺจ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรติ. เอวํ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ. กถํ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสฺี วิหรติ? อิฏฺสฺมิฺจ อนิฏฺสฺมิฺจ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรติ, เอวํ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสฺี วิหรติ ¶ . กถํ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน? อิธ ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ.
อิเมสุ จ ตีสุ นเยสุ ปมนเย มนาปํ อมนาปํ มนาปามนาปนฺติ สํกิเลสํ วฏฺฏติ, นิกฺกิเลสํ วฏฺฏติ. ทุติยนเย สํกิเลสํ, ตติยนเย สํกิเลสนิกฺกิเลสํ วฏฺฏติ. ปุน วุตฺตํ – ‘‘ปมํ สํกิเลสํ วฏฺฏติ, ทุติยํ สํกิเลสมฺปิ นิกฺกิเลสมฺปิ, ตติยํ นิกฺกิเลสเมว วฏฺฏตี’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย
อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปริปณฺณาสฏฺกถา นิฏฺิตา.
โย ¶ ¶ จายํ ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยายํ โว, ภิกฺขเว, เทสิสฺสามี’’ติ อารทฺธตฺตา อาทิกลฺยาโณ, มชฺเฌ ‘‘สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺล’’นฺติ วจนโต มชฺเฌกลฺยาโณ, สนฺนิฏฺาเน ‘‘อริโย ภาวิตินฺทฺริโย’’ติ วจนโต ปริโยสานกลฺยาโณติ ติวิธกลฺยาโณ มชฺฌิมนิกาโย ‘‘มหาวิปสฺสนา นามาย’’นฺติ วุตฺโต, โส วณฺณนาวเสน สมตฺโต โหติ.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ –
อายาจิโต สุมตินา เถเรน ภทนฺตพุทฺธมิตฺเตน,
ปุพฺเพ มยูรทูตปฏฺฏนมฺหิ สทฺธึ นิวสนฺเตน.
ปรวาทวิธํสนสฺส มชฺฌิมนิกายเสฏฺสฺส,
ยมหํ ปปฺจสูทนิมฏฺกถํ กาตุมารภึ.
สา หิ มหาอฏฺกถาย สารมาทาย นิฏฺิตา เอสา,
สตฺตุตฺตรสตมตฺตาย ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.
เอกูนสฏฺิมตฺโต วิสุทฺธิมคฺโคปิ ภาณวาเรหิ,
อตฺถปฺปกาสนตฺถาย อาคมานํ กโต ยสฺมา.
ตสฺมา เตน สหา’ยํ คาถาคณนานเยน อฏฺกถา,
สมธิกฉสฏฺิสตมิติ วิฺเยฺยา ภาณวารานํ.
สมธิกฉสฏฺิสตปมาณมิติ ภาณวารโต เอสา,
สมยํ ปกาสยนฺตี มหาวิหาราธิวาสีนํ.
มูลฏฺกถาสารํ ¶ ¶ อาทาย มยา อิมํ กโรนฺเตน,
ยํ ปฺมุปจิตํ เตน โหตุ โลโก สทา สุขิโตติ.
ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหนสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุ สาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ ปปฺจสูทนี นาม มชฺฌิมนิกายฏฺกถา –
ตาว ¶ ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ ทิฏฺิวิสุทฺธิยา.
พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
ปปฺจสูทนี นาม
มชฺฌิมนิกายฏฺกถา สพฺพากาเรน นิฏฺิตา.