📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

มชฺฌิมนิกาเย

อุปริปณฺณาสปาฬิ

๑. เทวทหวคฺโค

๑. เทวทหสุตฺตํ

. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ เทวทหํ นาม สกฺยานํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, นิคณฺา.

‘‘เอวํวาทาหํ, ภิกฺขเว, นิคณฺเ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ? เต จ เม, ภิกฺขเว, นิคณฺา เอวํ ปุฏฺา ‘อามา’ติ ปฏิชานนฺติ.

‘‘ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหา’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

‘‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปท’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

. ‘‘อิติ กิร ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, น ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, น ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, น ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, น ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, น ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘สเจ ปน ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, ชาเนยฺยาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, ชาเนยฺยาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.

. ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส นิคณฺา, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน [คาฬฺหปเลปเนน (ก.)]; โส สลฺลสฺสปิ เวธนเหตุ [เวทนาเหตุ (สี. ปี. ก.)] ทุกฺขา ติพฺพา [ติปฺปา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย; โส สตฺเถนปิ วณมุขสฺส ปริกนฺตนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย; โส เอสนิยาปิ สลฺลสฺส เอสนาเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สลฺลํ อพฺพุเหยฺย [อพฺพุยฺเหยฺย (สี.), อพฺภูณฺเหยฺย (สฺยา. กํ.)]; โส สลฺลสฺสปิ อพฺพุหนเหตุ [อพฺพุยฺหนเหตุ (สี.), อพฺภูณฺหนเหตุ (สฺยา. กํ.)] ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อคทงฺคารํ วณมุเข โอทเหยฺย; โส อคทงฺคารสฺสปิ วณมุเข โอทหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยยฺย. โส อปเรน สมเยน รูฬฺเหน วเณน สฺฉวินา อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามงฺคโม. ตสฺส เอวมสฺส – อหํ โข ปุพฺเพ สลฺเลน วิทฺโธ อโหสึ สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. โสหํ สลฺลสฺสปิ เวธนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺเปสุํ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติ; โสหํ สตฺเถนปิ วณมุขสฺส ปริกนฺตนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เอสนิยา สลฺลํ เอสิ; โส อหํ เอสนิยาปิ สลฺลสฺส เอสนาเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สลฺลํ อพฺพุหิ [อพฺพุยฺหิ (สี.), อพฺภูณฺหิ (สฺยา. กํ.)]; โสหํ สลฺลสฺสปิ อพฺพุหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. ตสฺส เม โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อคทงฺคารํ วณมุเข โอทหิ; โสหํ อคทงฺคารสฺสปิ วณมุเข โอทหนเหตุ ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยึ. โสมฺหิ เอตรหิ รูฬฺเหน วเณน สฺฉวินา อโรโค สุขี เสรี สยํวสี เยน กามงฺคโม’’ติ.

‘‘เอวเมว โข, อาวุโส นิคณฺา, สเจ ตุมฺเห ชาเนยฺยาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, ชาเนยฺยาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, ชาเนยฺยาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘ยสฺมา จ โข ตุมฺเห, อาวุโส นิคณฺา, น ชานาถ – อหุวมฺเหว มยํ ปุพฺเพ, น นาหุวมฺหาติ, น ชานาถ – อกรมฺเหว มยํ ปุพฺเพ ปาปกมฺมํ, น นากรมฺหาติ, น ชานาถ – เอวรูปํ วา เอวรูปํ วา ปาปกมฺมํ อกรมฺหาติ, น ชานาถ – เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ, เอตฺตกํ วา ทุกฺขํ นิชฺชีเรตพฺพํ, เอตฺตกมฺหิ วา ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ, น ชานาถ – ทิฏฺเว ธมฺเม อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทํ; ตสฺมา อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.

. ‘‘เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เต นิคณฺา มํ เอตทโวจุํ – ‘นิคณฺโ, อาวุโส, นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี.)] สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ. จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส เอวมาห – ‘อตฺถิ โข โว, อาวุโส นิคณฺา, ปุพฺเพว ปาปกมฺมํ กตํ, ตํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย นิชฺชีเรถ, ยํ ปเนตฺถ เอตรหิ กาเยน สํวุตา วาจาย สํวุตา มนสา สํวุตา ตํ อายตึ ปาปกมฺมสฺส อกรณํ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. ตฺจ ปนมฺหากํ รุจฺจติ เจว ขมติ จ, เตน จมฺหา อตฺตมนา’’ติ.

. ‘‘เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอตทโวจํ – ‘ปฺจ โข อิเม, อาวุโส นิคณฺา, ธมฺมา ทิฏฺเว ธมฺเม ทฺวิธาวิปากา. กตเม ปฺจ? สทฺธา, รุจิ, อนุสฺสโว, อาการปริวิตกฺโก, ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติ – อิเม โข, อาวุโส นิคณฺา, ปฺจ ธมฺมา ทิฏฺเว ธมฺเม ทฺวิธาวิปากา. ตตฺรายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กา อตีตํเส สตฺถริ สทฺธา, กา รุจิ, โก อนุสฺสโว, โก อาการปริวิตกฺโก, กา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตี’ติ. เอวํวาที [เอวํวาทีสุ (ก.)] โข อหํ, ภิกฺขเว, นิคณฺเสุ น กฺจิ [กิฺจิ (สี. ปี. ก.)] สหธมฺมิกํ วาทปฏิหารํ สมนุปสฺสามิ.

‘‘ปุน จปราหํ [ปุน จ ปนาหํ (สี. ปี. ก.)], ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอวํ วทามิ – ‘ตํ กึ มฺถ, อาวุโส นิคณฺา. ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ [ติปฺโป (ปี.)] อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถา’ติ? ‘ยสฺมึ โน, อาวุโส โคตม, สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยาม; ยสฺมึ ปน โน สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยามา’’’ติ.

. ‘‘อิติ กิร, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ. เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ น กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตีติ. สเจ, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ [ปธานํ, ติฏฺเยฺเยว ตสฺมึ สมเย… เวทนา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ กลฺลมสฺส เวยฺยากรณาย – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘ยสฺมา จ โข, อาวุโส นิคณฺา, ยสฺมึ โว สมเย ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ ติพฺพํ ปธานํ, ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; ยสฺมึ ปน โว สมเย น ติพฺโพ อุปกฺกโม โหติ น ติพฺพํ ปธานํ, น ติพฺพา ตสฺมึ สมเย โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิเยถ; เต ตุมฺเห สามํเยว โอปกฺกมิกา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทยมานา อวิชฺชา อฺาณา สมฺโมหา วิปจฺเจถ – ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพกตเหตุ. อิติ ปุราณานํ กมฺมานํ ตปสา พฺยนฺตีภาวา, นวานํ กมฺมานํ อกรณา, อายตึ อนวสฺสโว; อายตึ อนวสฺสวา กมฺมกฺขโย; กมฺมกฺขยา ทุกฺขกฺขโย; ทุกฺขกฺขยา เวทนากฺขโย; เวทนากฺขยา สพฺพํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํวาทีปิ [เอวํวาทีสุปิ (ก.)] โข อหํ, ภิกฺขเว, นิคณฺเสุ น กฺจิ สหธมฺมิกํ วาทปฏิหารํ สมนุปสฺสามิ.

. ‘‘ปุน จปราหํ, ภิกฺขเว, เต นิคณฺเ เอวํ วทามิ – ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สมฺปรายเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ สุขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทุกฺขเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สุขเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ พหุเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปฺปเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา พหุเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ตํ กึ มฺถาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ สเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’. ‘ยํ ปนิทํ กมฺมํ อเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สเวทนียํ โหตูติ ลพฺภเมต’นฺติ? ‘โน หิทํ, อาวุโส’.

. ‘‘อิติ กิร, อาวุโส นิคณฺา, ยมิทํ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สมฺปรายเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยํ ปนิทํ กมฺมํ สมฺปรายเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ สุขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ทุกฺขเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สุขเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ ปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อปริปกฺกเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา ปริปกฺกเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ พหุเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อปฺปเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อปฺปเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา พหุเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ สเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา อเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ, ยมิทํ กมฺมํ อเวทนียํ ตํ อุปกฺกเมน วา ปธาเนน วา สเวทนียํ โหตูติ อลพฺภเมตํ; เอวํ สนฺเต อายสฺมนฺตานํ นิคณฺานํ อผโล อุปกฺกโม โหติ, อผลํ ปธานํ’’.

‘‘เอวํวาที, ภิกฺขเว, นิคณฺา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, นิคณฺานํ ทส สหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ.

. ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปุพฺเพ ทุกฺกฏกมฺมการิโน ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปเกน อิสฺสเรน นิมฺมิตา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปสงฺคติกา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา ปาปาภิชาติกา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, นิคณฺา เอวรูปา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมา ยํ เอตรหิ เอวรูปา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทิยนฺติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา; โน เจ สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, คารยฺหา นิคณฺา. เอวํวาที, ภิกฺขเว, นิคณฺา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, นิคณฺานํ อิเม ทส สหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อผโล อุปกฺกโม โหติ, อผลํ ปธานํ.

๑๐. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ, ธมฺมิกฺจ สุขํ น ปริจฺจชติ, ตสฺมิฺจ สุเข อนธิมุจฺฉิโต โหติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมสฺส โข เม ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, อิมสฺส ปน เม ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหตี’ติ. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺส [ยสฺส โข ปนสฺส (สี.), ยสฺส ขฺวาสฺส (ปี.)] ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ. ยสฺส ปนสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ.

๑๑. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข. โส ตํ อิตฺถึ ปสฺเสยฺย อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ปุริโส อมุสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข. ตสฺมา ตํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส เอวมสฺส – ‘อหํ โข อมุสฺสา อิตฺถิยา สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ติพฺพจฺฉนฺโท ติพฺพาเปกฺโข. ตสฺส เม อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา. ยํนูนาหํ โย เม อมุสฺสา อิตฺถิยา ฉนฺทราโค ตํ ปชเหยฺย’นฺติ. โส โย อมุสฺสา อิตฺถิยา ฉนฺทราโค ตํ ปชเหยฺย. โส ตํ อิตฺถึ ปสฺเสยฺย อปเรน สมเยน อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส อมุํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, ภนฺเต, ปุริโส อมุสฺสา อิตฺถิยา วิราโค. ตสฺมา ตํ อิตฺถึ ทิสฺวา อฺเน ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนฺตึ สลฺลปนฺตึ สฺชคฺฆนฺตึ สํหสนฺตึ น อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา’’ติ.

‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เหว อนทฺธภูตํ อตฺตานํ ทุกฺเขน อทฺธภาเวติ, ธมฺมิกฺจ สุขํ น ปริจฺจชติ, ตสฺมิฺจ สุเข อนธิมุจฺฉิโต โหติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อิมสฺส โข เม ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, อิมสฺส ปน เม ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหตี’ติ. โส ยสฺส หิ ขฺวาสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ, สงฺขารํ ตตฺถ ปทหติ; ยสฺส ปนสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ, อุเปกฺขํ ตตฺถ ภาเวติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส สงฺขารํ ปทหโต สงฺขารปฺปธานา วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. ตสฺส ตสฺส ทุกฺขนิทานสฺส อชฺฌุเปกฺขโต อุเปกฺขํ ภาวยโต วิราโค โหติ – เอวมฺปิสฺส ตํ ทุกฺขํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

๑๒. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถาสุขํ โข เม วิหรโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; ทุกฺขาย ปน เม อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ยํนูนาหํ ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย’นฺติ. โส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตสฺส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. โส น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถาย ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. ยโต โข, ภิกฺขเว, อุสุการสฺส เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาปิตํ โหติ ปริตาปิตํ อุชุํ กตํ [อุชุํ กตํ โหติ (สี.)] กมฺมนิยํ, น โส ตํ อปเรน สมเยน อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, อตฺถาย อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปยฺย ปริตาเปยฺย อุชุํ กเรยฺย กมฺมนิยํ สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน อุสุกาโร เตชนํ ทฺวีสุ อลาเตสุ อาตาเปติ ปริตาเปติ อุชุํ กโรติ กมฺมนิยํ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยถาสุขํ โข เม วิหรโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; ทุกฺขาย ปน เม อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ยํนูนาหํ ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย’นฺติ. โส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตสฺส ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. โส น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยสฺส หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺถาย ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทเหยฺย สฺวาสฺส อตฺโถ อภินิปฺผนฺโน โหติ. ตสฺมา น อปเรน สมเยน ทุกฺขาย อตฺตานํ ปทหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

๑๓. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.

๑๔. ‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ. อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย – อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ. ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ. สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ. มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ. ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ. กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ. ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ. อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา [สาวิโยคา (สฺยา. กํ. ก.) เอตฺถ สาจิสทฺโท กุฏิลปริยาโย] ปฏิวิรโต โหติ. เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ [ปสฺส ม. นิ. ๑.๒๙๓ จูฬหตฺถิปโทปเม].

‘‘โส สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ, เอวเมว ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน; โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

๑๕. ‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต [สมฺมิฺชิเต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.

๑๖. ‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, (อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต,) [ปสฺส ม. นิ. ๑.๒๙๖ จูฬหตฺถิปโทปเม] อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ. ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

๑๗. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

๑๘. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ.

๑๙. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, สผโล อุปกฺกโม โหติ, สผลํ ปธานํ. เอวํวาที, ภิกฺขเว, ตถาคตา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตานํ [ตถาคโต, เอวํวาทึ ภิกฺขเว ตถาคตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทส สหธมฺมิกา ปาสํสฏฺานา อาคจฺฉนฺติ.

๒๐. ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุพฺเพ สุกตกมฺมการี ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต ภทฺทเกน อิสฺสเรน นิมฺมิโต ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณสงฺคติโก ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณาภิชาติโก ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ; อทฺธา, ภิกฺขเว, ตถาคโต กลฺยาณทิฏฺธมฺมูปกฺกโม ยํ เอตรหิ เอวรูปา อนาสวา สุขา เวทนา เวเทติ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา ปุพฺเพกตเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา อิสฺสรนิมฺมานเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา สงฺคติภาวเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา อภิชาติเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. สเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต; โน เจ สตฺตา ทิฏฺธมฺมูปกฺกมเหตุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ปาสํโส ตถาคโต. เอวํวาที, ภิกฺขเว, ตถาคตา. เอวํวาทีนํ, ภิกฺขเว, ตถาคตานํ อิเม ทส สหธมฺมิกา ปาสํสฏฺานา อาคจฺฉนฺตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

เทวทหสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. ปฺจตฺตยสุตฺตํ [ปฺจายตนสุตฺต (ก.)]

๒๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ [อธิมุตฺติปทานิ (สฺยา. กํ. ก.)] อภิวทนฺติ. ‘สฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘อสฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘เนวสฺีนาสฺี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ [ปฺาเปนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ สนฺตํ วา อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ [ปรํ มรณา. อิติ อิมานิ (ก.)] ปรํ มรณา, สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ อิมานิ ปฺจ [ปรํ มรณา. อิติ อิมานิ (ก.)] หุตฺวา ตีณิ โหนฺติ, ตีณิ หุตฺวา ปฺจ โหนฺติ – อยมุทฺเทโส ปฺจตฺตยสฺส.

๒๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอตํ [เอวํ (ก.)] วา ปเนเกสํ [ปเนเตสํ (สฺยา. กํ.)] อุปาติวตฺตตํ วิฺาณกสิณเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนฺชํ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ [ปชานาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา]. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสฺึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา [มรณาติ (ก.)], ยา วา ปเนตาสํ สฺานํ ปริสุทฺธา ปรมา อคฺคา อนุตฺตริยา อกฺขายติ – ยทิ รูปสฺานํ ยทิ อรูปสฺานํ ยทิ เอกตฺตสฺานํ ยทิ นานตฺตสฺานํ. ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนฺชํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๒๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สฺา โรโค สฺา คณฺโฑ สฺา สลฺลํ, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – ‘อสฺ’นฺติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย – ‘อหมฺตฺร รูปา, อฺตฺร เวทนาย, อฺตฺร สฺาย, อฺตฺร สงฺขาเรหิ, วิฺาณสฺส [อฺตฺร วิฺาณา (สฺยา. กํ.), อฺตฺร วิฺาเณน (ก.)] อาคตึ วา คตึ วา จุตึ วา อุปปตฺตึ วา วุทฺธึ วา วิรูฬฺหึ วา เวปุลฺลํ วา ปฺเปสฺสามี’ติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๒๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สฺา โรโค สฺา คณฺโฑ สฺา สลฺลํ, อสฺา สมฺโมโห, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – ‘เนวสฺานาสฺ’นฺติ. [เนวสฺานาสฺาติ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) เอตนฺติปทํ มนสิกาตพฺพํ] ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิฺจ อรูปิฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปึ นารูปึ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา [สมณพฺราหฺมณา (สี. ปี.)] ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺพสงฺขารมตฺเตน เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทํ ปฺเปนฺติ, พฺยสนฺเหตํ, ภิกฺขเว, อกฺขายติ [อายตนมกฺขายติ (ก.)] เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทาย. น เหตํ, ภิกฺขเว, อายตนํ สงฺขารสมาปตฺติปตฺตพฺพมกฺขายติ; สงฺขาราวเสสสมาปตฺติปตฺตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อายตนมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๒๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สพฺเพปิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธํ สรํ [อุทฺธํสรา (สี. ปี.), อุทฺธํ ปรามสนฺติ (สฺยา. กํ.)] อาสตฺตึเยว อภิวทนฺติ – ‘อิติ เปจฺจ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. เสยฺยถาปิ นาม วาณิชสฺส วาณิชฺชาย คจฺฉโต เอวํ โหติ – ‘อิโต เม อิทํ ภวิสฺสติ, อิมินา อิทํ ลจฺฉามี’ติ, เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา วาณิชูปมา มฺเ ปฏิภนฺติ – ‘อิติ เปจฺจ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ เต สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายฺเว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม สา คทฺทุลพทฺโธ ทฬฺเห ถมฺเภ วา ขิเล [ขีเล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา อุปนิพทฺโธ, ตเมว ถมฺภํ วา ขิลํ วา อนุปริธาวติ อนุปริวตฺตติ; เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายฺเว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๒๖. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิมาเนว ปฺจายตนานิ อภิวทนฺติ เอเตสํ วา อฺตรํ.

๒๗. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘นานตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘ปริตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อปฺปมาณสฺี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – อิตฺเถเก อภิวทนฺติ.

๒๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ, เตสํ วต อฺตฺเรว สทฺธาย อฺตฺร รุจิยา อฺตฺร อนุสฺสวา อฺตฺร อาการปริวิตกฺกา อฺตฺร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว าณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, าเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ [ยทิปิ (ก.)] เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๒๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ…เป… [ยถา สสฺสตวาเร, ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ] สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… เอกตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… นานตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… ปริตฺตสฺี อตฺตา จ โลโก จ… อปฺปมาณสฺี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ, เตสํ วต อฺตฺเรว สทฺธาย อฺตฺร รุจิยา อฺตฺร อนุสฺสวา อฺตฺร อาการปริวิตกฺกา อฺตฺร ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว าณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, าเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ าณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๓๐. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๓๑. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๓๒. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

๓๓. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺีนฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ; อทฺธา อยมายสฺมา นิพฺพานสปฺปายํเยว ปฏิปทํ อภิวทติ. อถ จ ปนายํ ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺึ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อปรนฺตานุทิฏฺึ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, กามสํโยชนํ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, ปวิเวกํ วา ปีตึ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, นิรามิสํ วา สุขํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อทุกฺขมสุขํ วา เวทนํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. ยฺจ โข อยมายสฺมา – ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ ตทปิ อิมสฺส โภโต สมณสฺส พฺราหฺมณสฺส อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถต’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.

‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ ยทิทํ – ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา [อนุปาทาวิโมกฺโข. ตยิทํ ภิกฺขเว ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ, ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิโมกฺโขติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนุปาทาวิโมกฺโข’’ติ [อนุปาทาวิโมกฺโข. ตยิทํ ภิกฺขเว ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ, ยทิทํ ฉนฺนํ ผสฺสายตนํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิโมกฺโขติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

ปฺจตฺตยสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. กินฺติสุตฺตํ

๓๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ปิสินารายํ [กุสินารายํ (สี.)] วิหรติ พลิหรเณ วนสณฺเฑ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘กินฺติ โว, ภิกฺขเว, มยิ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, ปิณฺฑปาตเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, เสนาสนเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ? ‘‘น โข โน, ภนฺเต, ภควติ เอวํ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, ปิณฺฑปาตเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, เสนาสนเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ.

‘‘น จ กิร โว, ภิกฺขเว, มยิ เอวํ โหติ – ‘จีวรเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ…เป… อิติภวาภวเหตุ วา สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสตี’ติ; อถ กินฺติ จรหิ โว [อถ กินฺติ โว (สี. ปี.), อถ กิฺจรหิ โว (ก.)], ภิกฺขเว, มยิ โหตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข โน, ภนฺเต, ภควติ โหติ – ‘อนุกมฺปโก ภควา หิเตสี; อนุกมฺปํ อุปาทาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ. ‘‘เอวฺจ [เอวํ (สี. ปี.)] กิร โว, ภิกฺขเว, มยิ โหติ – ‘อนุกมฺปโก ภควา หิเตสี; อนุกมฺปํ อุปาทาย ธมฺมํ เทเสตี’’’ติ.

๓๕. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เย โว [เย เต (ก.)] มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตตฺถ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สมฺโมทมาเนหิ อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพํ. เตสฺจ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ สิยํสุ [สิยุํ (สี. สฺยา. กํ.) สทฺทนีติ โอโลเกตพฺพา] ทฺเว ภิกฺขู อภิธมฺเม นานาวาทา. ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต เจว นานํ พฺยฺชนโต จ นาน’นฺติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ [สุพฺพจตรํ (ก.)] มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. ตทมินาเปตํ [ตทิมินาเปตํ (สฺยา. กํ.)] อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว นานํ, พฺยฺชนโต จ นานํ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา [อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อนนฺตรวารตฺตเย ปน อิทํ ปานานตฺตํ นตฺถิ] โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.

๓๖. ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมตี’ติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข นานํ, พฺยฺชนโต สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.

๓๗. ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นาน’นฺติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – พฺยฺชนํ. มายสฺมนฺโต อปฺปมตฺตเก วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต หิ สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต หิ โข สเมติ, พฺยฺชนโต นานํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – พฺยฺชนํ. มายสฺมนฺโต อปฺปมตฺตเก [อปฺปมตฺตเกหิ (สี. ปี.)] วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ, ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา ทุคฺคหิตํ ทุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.

๓๘. ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อิเมสํ โข อายสฺมนฺตานํ อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมตี’ติ, ตตฺถ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว สเมติ, พฺยฺชนโต จ สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อายสฺมนฺตานํ โข อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. ตทมินาเปตํ อายสฺมนฺโต ชานาถ – ยถา อตฺถโต เจว สเมติ พฺยฺชนโต จ สเมติ. มายสฺมนฺโต วิวาทํ อาปชฺชิตฺถา’ติ. อิติ สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตพฺพํ. สุคฺคหิตํ สุคฺคหิตโต ธาเรตฺวา โย ธมฺโม โย วินโย โส ภาสิตพฺโพ.

๓๙. ‘‘เตสฺจ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ สิยา อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ สิยา วีติกฺกโม, ตตฺร, ภิกฺขเว, น โจทนาย ตริตพฺพํ [โจทิตพฺพํ (สฺยา. กํ. ก.) ตุริตพฺพํ (?)]. ปุคฺคโล อุปปริกฺขิตพฺโพ – ‘อิติ มยฺหฺจ อวิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อนุปฆาโต, ปโร หิ ปุคฺคโล อกฺโกธโน อนุปนาหี อทฬฺหทิฏฺี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหํ โข อวิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต, ปโร หิ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี อทฬฺหทิฏฺี สุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – ปรสฺส [ยทิทํ มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ (ก.)] ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหํ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อนุปฆาโต. ปโร หิ ปุคฺคโล อกฺโกธโน อนุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – มยฺหํ วิเหสา [มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต (ก.)]. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหฺจ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. ปโร หิ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, สกฺโกมิ จาหํ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุํ. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ ยทิทํ – มยฺหฺจ วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. อถ โข เอตเทว พหุตรํ – สฺวาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. สเจ, ภิกฺขเว, เอวมสฺส, กลฺลํ วจนาย.

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, เอวมสฺส – ‘มยฺหฺจ โข วิเหสา ภวิสฺสติ ปรสฺส จ ปุคฺคลสฺส อุปฆาโต. ปโร หิ ปุคฺคโล โกธโน อุปนาหี ทฬฺหทิฏฺี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, น จาหํ สกฺโกมิ เอตํ ปุคฺคลํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาเปตุ’นฺติ. เอวรูเป, ภิกฺขเว, ปุคฺคเล อุเปกฺขา นาติมฺิตพฺพา.

๔๐. ‘‘เตสฺจ โว, ภิกฺขเว, สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร [วจีสงฺขาโร (สี. ปี.)] อุปฺปชฺเชยฺย ทิฏฺิปฬาโส [ทิฏฺิปลาโส (สี. ก.)] เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ. ตตฺถ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยา’ติ [สมาโน (สี. ก.)]. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยาติ. เอตํ ปนาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เอตํ, อาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย น นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ.

‘‘อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ ยํ ภิกฺขุํ สุวจตรํ มฺเยฺยาถ, โส อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ, ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘ยํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ สมคฺคานํ สมฺโมทมานานํ อวิวทมานานํ สิกฺขตํ อฺมฺสฺส วจีสํหาโร อุปฺปนฺโน ทิฏฺิปฬาโส เจตโส อาฆาโต อปฺปจฺจโย อนภิรทฺธิ ตํ ชานมาโน สมโณ ครเหยฺยาติ. เอตํ ปนาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’ติ. สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘เอตํ โข, อาวุโส, ธมฺมํ อปฺปหาย น นิพฺพานํ สจฺฉิกเรยฺยา’’’ติ.

‘‘ตํ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ปเร เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ – ‘อายสฺมตา โน เอเต ภิกฺขู อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺาปิตา’ติ? สมฺมา พฺยากรมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘อิธาหํ, อาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมึ, ตสฺส เม ภควา ธมฺมํ เทเสสิ, ตาหํ ธมฺมํ สุตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ อภาสึ. ตํ เต ภิกฺขู ธมฺมํ สุตฺวา อกุสลา วุฏฺหึสุ, กุสเล ปติฏฺหึสู’ติ. เอวํ พฺยากรมาโน โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น เจว อตฺตานํ อุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

กินฺติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. สามคามสุตฺตํ

๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ สามคาเม. เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี. ปี.)] ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต [กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โหติ. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา [ทฺเวฬฺหกชาตา (สฺยา. กํ. ก.)] ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ – ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ. กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ! มิจฺฉาปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมาปฏิปนฺโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เต. ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ. อธิจิณฺณํ [อวิจิณฺณํ (สี. ปี.)] เต วิปราวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโท. นิคฺคหิโตสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย; นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสี’’ติ. วโธเยว โข [วโธเยเวโก (สฺยา. กํ. ก.)] มฺเ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ วตฺตติ. เยปิ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา เตปิ นิคณฺเสุ นาฏปุตฺติเยสุ นิพฺพินฺนรูปา [นิพฺพินฺทรูปา (สฺยา. กํ. ก.)] วิรตฺตรูปา ปฏิวานรูปา ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเต ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ.

๔๒. อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโ [วสฺสํวุตฺโถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยน สามคาโม เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’’ติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท จุนฺทํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส จุนฺท, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายาม, อาวุโส จุนฺท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข อายสฺมา จ อานนฺโท จุนฺโท จ สมณุทฺเทโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, จุนฺโท สมณุทฺเทโส เอวมาห – ‘นิคณฺโ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต ปาวายํ อธุนากาลงฺกโต. ตสฺส กาลงฺกิริยาย ภินฺนา นิคณฺา ทฺเวธิกชาตา…เป… ภินฺนถูเป อปฺปฏิสรเณ’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘มาเหว ภควโต อจฺจเยน สงฺเฆ วิวาโท อุปฺปชฺชิ; สฺวาสฺส [โส (สี. ปี.), สฺวายํ (ก.)] วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสาน’’’นฺติ.

๔๓. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, เย โว มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิเมสุ ธมฺเมสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู นานาวาเท’’ติ? ‘‘เย เม, ภนฺเต, ธมฺมา ภควตา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, นาหํ ปสฺสามิ อิเมสุ ธมฺเมสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู นานาวาเท. เย จ โข [สนฺติ จ โข (สฺยา. กํ.), สนฺติ จ (ก.)], ภนฺเต, ปุคฺคลา ภควนฺตํ ปติสฺสยมานรูปา วิหรนฺติ เตปิ ภควโต อจฺจเยน สงฺเฆ วิวาทํ ชเนยฺยุํ อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วา. สฺวาสฺส [โสสฺส (สี. ปี.), สฺวายํ (ก.)] วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อปฺปมตฺตโก โส, อานนฺท, วิวาโท ยทิทํ – อชฺฌาชีเว วา อธิปาติโมกฺเข วา. มคฺเค วา หิ, อานนฺท, ปฏิปทาย วา สงฺเฆ วิวาโท อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺเชยฺย; สฺวาสฺส วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ.

๔๔. ‘‘ฉยิมานิ, อานนฺท, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ฉ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม… สงฺเฆ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขาย น ปริปูรการี โหติ, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ; โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ, เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.

๔๕. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี…เป… อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี…เป… สโ โหติ มายาวี…เป… ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ [มิจฺฉาทิฏฺี (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] …เป… สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สงฺเฆปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี โหติ. โย โส, อานนฺท, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเม… สงฺเฆ… สิกฺขาย น ปริปูรการี โหติ โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ; โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปฺเจ ตุมฺเห, อานนฺท, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, อานนฺท, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ, เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ. อิมานิ โข, อานนฺท, ฉ วิวาทมูลานิ.

๔๖. ‘‘จตฺตาริมานิ, อานนฺท, อธิกรณานิ. กตมานิ จตฺตาริ? วิวาทาธิกรณํ, อนุวาทาธิกรณํ, อาปตฺตาธิกรณํ, กิจฺจาธิกรณํ – อิมานิ โข, อานนฺท, จตฺตาริ อธิกรณานิ. สตฺต โข ปนิเม, อานนฺท, อธิกรณสมถา – อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ, สติวินโย ทาตพฺโพ, อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ, ปฏิฺาย กาเรตพฺพํ, เยภุยฺยสิกา, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโก.

๔๗. ‘‘กถฺจานนฺท, สมฺมุขาวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู วิวทนฺติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา วินโยติ วา อวินโยติ วา. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพา. ธมฺมเนตฺตึ สมนุมชฺชิตฺวา ยถา ตตฺถ สเมติ ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอวํ โข, อานนฺท, สมฺมุขาวินโย โหติ; เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – สมฺมุขาวินเยน.

๔๘. ‘‘กถฺจานนฺท, เยภุยฺยสิกา โหติ? เต เจ, อานนฺท, ภิกฺขู น สกฺโกนฺติ ตํ อธิกรณํ ตสฺมึ อาวาเส วูปสเมตุํ. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ ยสฺมึ อาวาเส พหุตรา ภิกฺขู โส อาวาโส คนฺตพฺโพ. ตตฺถ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา ธมฺมเนตฺติ สมนุมชฺชิตพฺพา. ธมฺมเนตฺตึ สมนุมชฺชิตฺวา ยถา ตตฺถ สเมติ ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. เอวํ โข, อานนฺท, เยภุยฺยสิกา โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – เยภุยฺยสิกาย.

๔๙. ‘‘กถฺจานนฺท, สติวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทนฺติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ [เอวรูปํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวรูปาย-อิติ วุจฺจมานวจเนน สเมติ. วินเยนปิ สํสนฺเทตพฺพํ] ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. ตสฺส โข [ตสฺส โข เอวํ (สพฺพตฺถ)], อานนฺท, ภิกฺขุโน สติวินโย ทาตพฺโพ. เอวํ โข, อานนฺท, สติวินโย โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – สติวินเยน.

๕๐. ‘‘กถฺจานนฺท, อมูฬฺหวินโย โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขู ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทนฺติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? (โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ.) [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ จูฬว. ๒๓๗ นตฺถิ ตสฺสปาปิยสิกาวาเรเอเวเตน ภวิตพฺพํ] โส เอวมาห – ‘อหํ โข, อาวุโส, อุมฺมาทํ ปาปุณึ เจตโส วิปริยาสํ. เตน เม อุมฺมตฺตเกน พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ [ภาสิตปริกนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. นาหํ ตํ สรามิ. มูฬฺเหน เม เอตํ กต’นฺติ. ตสฺส โข [ตสฺส โข เอวํ (สฺยา. กํ. ก.)], อานนฺท, ภิกฺขุโน อมูฬฺหวินโย ทาตพฺโพ. เอวํ โข, อานนฺท, อมูฬฺหวินโย โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – อมูฬฺหวินเยน.

๕๑. ‘‘กถฺจานนฺท, ปฏิฺาตกรณํ โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ โจทิโต วา อโจทิโต วา อาปตฺตึ สรติ, วิวรติ อุตฺตานีกโรติ [อุตฺตานึ กโรติ (ก.)]. เตน, อานนฺท, ภิกฺขุนา วุฑฺฒตรํ ภิกฺขุํ [วุฑฺฒตโร ภิกฺขุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. โส เอวมาห – ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม ปสฺสามี’ติ. ‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’ติ. (‘สํวริสฺสามี’ติ.) [( ) วินเย นตฺถิ] เอวํ โข, อานนฺท, ปฏิฺาตกรณํ โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ปฏิฺาตกรเณน.

๕๒. ‘‘กถฺจานนฺท, ตสฺสปาปิยสิกา โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ เอวรูปาย ครุกาย อาปตฺติยา โจเทติ ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา – ‘สรตายสฺมา เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. โส เอวมาห – ‘น โข อหํ, อาวุโส, สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา; สรามิ จ โข อหํ, อาวุโส, เอวรูปึ อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา’ติ. ตเมนํ โส นิพฺเพเนฺตํ อติเวเติ – ‘อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ? โส เอวมาห – ‘อิมฺหิ นามาหํ, อาวุโส, อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปุฏฺโ ปฏิชานิสฺสามิ. กึ ปนาหํ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา ปุฏฺโ นปฏิชานิสฺสามี’ติ? โส เอวมาห – ‘อิมฺหิ นาม ตฺวํ, อาวุโส, อปฺปมตฺติกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปุฏฺโ นปฏิชานิสฺสสิ, กึ ปน ตฺวํ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา ปุฏฺโ [อปุฏฺโ (สฺยา. กํ. ก.)] ปฏิชานิสฺสสิ? อิงฺฆายสฺมา สาธุกเมว ชานาหิ ยทิ สรสิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. โส เอวมาห – ‘สรามิ โข อหํ, อาวุโส, เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา. ทวา เม เอตํ วุตฺตํ, รวา เม เอตํ วุตฺตํ – นาหํ ตํ สรามิ เอวรูปึ ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา ปาราชิกํ วา ปาราชิกสามนฺตํ วา’ติ. เอวํ โข, อานนฺท, ตสฺสปาปิยสิกา โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ตสฺสปาปิยสิกาย.

๕๓. ‘‘กถฺจานนฺท, ติณวตฺถารโก โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ โหติ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. เตหานนฺท, ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สนฺนิปติตพฺพํ. สนฺนิปติตฺวา เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ พฺยตฺเตน [พฺยตฺตตเรน (สี. ปี. ก.)] ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ ยา เจว อิเมสํ อายสฺมนฺตานํ อาปตฺติ ยา จ อตฺตโน อาปตฺติ, อิเมสฺเจว อายสฺมนฺตานํ อตฺถาย อตฺตโน จ อตฺถาย, สงฺฆมชฺเฌ ติณวตฺถารเกน เทเสยฺยํ, เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺต’’’นฺติ.

‘‘อถาปเรสํ เอกโตปกฺขิกานํ ภิกฺขูนํ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ ยา เจว อิเมสํ อายสฺมนฺตานํ อาปตฺติ ยา จ อตฺตโน อาปตฺติ, อิเมสฺเจว อายสฺมนฺตานํ อตฺถาย อตฺตโน จ อตฺถาย, สงฺฆมชฺเฌ ติณวตฺถารเกน เทเสยฺยํ, เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฏิสํยุตฺต’’’นฺติ.

‘‘เอวํ โข, อานนฺท, ติณวตฺถารโก โหติ, เอวฺจ ปนิเธกจฺจานํ อธิกรณานํ วูปสโม โหติ ยทิทํ – ติณวตฺถารเกน.

๕๔. ‘‘ฉยิเม, อานนฺท, ธมฺมา สารณียา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ฉ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ – อปฏิวิภตฺตโภคี โหติ, สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปสุ สีเลสุ – สีลสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ – ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยา ตถารูปาย ทิฏฺิยา – ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโย ปิยกรโณ ครุกรโณ สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตติ. อิเม โข, อานนฺท, ฉ สารณียา ธมฺมา ปิยกรณา ครุกรณา สงฺคหาย อวิวาทาย สามคฺคิยา เอกีภาวาย สํวตฺตนฺติ.

‘‘อิเม เจ ตุมฺเห, อานนฺท, ฉ สารณีเย ธมฺเม สมาทาย วตฺเตยฺยาถ, ปสฺสถ โน ตุมฺเห, อานนฺท, ตํ วจนปถํ อณุํ วา ถูลํ วา ยํ ตุมฺเห นาธิวาเสยฺยาถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, อิเม ฉ สารณีเย ธมฺเม สมาทาย วตฺตถ. ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

สามคามสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. สุนกฺขตฺตสุตฺตํ

๕๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา โหติ – ‘‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. อสฺโสสิ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต – ‘‘สมฺพหุเลหิ กิร ภิกฺขูหิ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา โหติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. อถ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมฺพหุเลหิ กิร ภิกฺขูหิ ภควโต สนฺติเก อฺา พฺยากตา – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. ‘‘เย เต, ภนฺเต, ภิกฺขู ภควโต สนฺติเก อฺํ พฺยากํสุ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ อุทาหุ สนฺเตตฺเถกจฺเจ ภิกฺขู อธิมาเนน อฺํ พฺยากํสูติ?

๕๖. ‘‘เย เต, สุนกฺขตฺต, ภิกฺขู มม สนฺติเก อฺํ พฺยากํสุ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานามา’’ติ. ‘‘สนฺเตตฺเถกจฺเจ ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ, สนฺติ ปนิเธกจฺเจ ภิกฺขู อธิมาเนนปิ [อธิมาเนน (?)] อฺํ พฺยากํสุ. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, เย เต ภิกฺขู สมฺมเทว อฺํ พฺยากํสุ เตสํ ตํ ตเถว โหติ; เย ปน เต ภิกฺขู อธิมาเนน อฺํ พฺยากํสุ ตตฺร, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺส เอวํ โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ [เทเสยฺยนฺติ (ปี. ก.)]. เอวฺเจตฺถ, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺส โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ. อถ จ ปนิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวา ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉนฺติ. ตตฺร, สุนกฺขตฺต, ยมฺปิ ตถาคตสฺส เอวํ โหติ – ‘ธมฺมํ เนสํ เทเสสฺส’นฺติ ตสฺสปิ โหติ อฺถตฺต’’นฺติ. ‘‘เอตสฺส ภควา กาโล, เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา ธมฺมํ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, สุนกฺขตฺต สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

๕๗. ‘‘ปฺจ โข อิเม, สุนกฺขตฺต, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, สุนกฺขตฺต, ปฺจ กามคุณา.

๕๘. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล โลกามิสาธิมุตฺโต อสฺส. โลกามิสาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ [อุปฏฺเปติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สกมฺหา คามา วา นิคมา วา จิรวิปฺปวุตฺโถ อสฺส. โส อฺตรํ ปุริสํ ปสฺเสยฺย ตมฺหา คามา วา นิคมา วา อจิรปกฺกนฺตํ. โส ตํ ปุริสํ ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา เขมตฺจ สุภิกฺขตฺจ อปฺปาพาธตฺจ ปุจฺเฉยฺย; ตสฺส โส ปุริโส ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา เขมตฺจ สุภิกฺขตฺจ อปฺปาพาธตฺจ สํเสยฺย. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส ตสฺส ปุริสสฺส สุสฺสูเสยฺย, โสตํ โอทเหยฺย, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปยฺย, ตฺจ ปุริสํ ภเชยฺย, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล โลกามิสาธิมุตฺโต อสฺส. โลกามิสาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต [อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต-อิติ ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, อฏฺกถาสุ ปน ตพฺพณฺณนา ทิสฺสติเยว] โลกามิสาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.

๕๙. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล อาเนฺชาธิมุตฺโต อสฺส. อาเนฺชาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; โลกามิสปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺตาย; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, อาเนฺชาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย โลกามิสสํโยชเน เส ปวุตฺเต. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘โลกามิสสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต อาเนฺชาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.

๖๐. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล อากิฺจฺายตนาธิมุตฺโต อสฺส. อากิฺจฺายตนาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อาเนฺชปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุถุสิลา ทฺเวธาภินฺนา อปฺปฏิสนฺธิกา โหติ; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, อากิฺจฺายตนาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย อาเนฺชสํโยชเน เส ภินฺเน. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อาเนฺชสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต อากิฺจฺายตนาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.

๖๑. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺโต อสฺส. เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; อากิฺจฺายตนปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส มนุฺโภชนํ ภุตฺตาวี ฉฑฺเฑยฺย [ฉทฺเทยฺย (?)]. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส ตสฺมึ ภตฺเต [วนฺเต (ก. สี.), ภุตฺเต (ก. สี. ก.)] ปุน โภตฺตุกมฺยตา อสฺสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อทุฺหิ, ภนฺเต, ภตฺตํ [วนฺตํ (สี.)] ปฏิกูลสมฺมต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย อากิฺจฺายตนสํโยชเน เส วนฺเต. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘อากิฺจฺายตนสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต เนวสฺานาสฺายตนาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’ติ.

๖๒. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ ปุริสปุคฺคโล สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโต อสฺส. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส โข, สุนกฺขตฺต, ปุริสปุคฺคลสฺส ตปฺปติรูปี เจว กถา สณฺาติ, ตทนุธมฺมฺจ อนุวิตกฺเกติ, อนุวิจาเรติ, ตฺจ ปุริสํ ภชติ, เตน จ วิตฺตึ อาปชฺชติ; เนวสฺานาสฺายตนปฏิสํยุตฺตาย จ ปน กถาย กจฺฉมานาย น สุสฺสูสติ, น โสตํ โอทหติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ, น จ ตํ ปุริสํ ภชติ, น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา; เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส เย เนวสฺานาสฺายตนสํโยชเน เส อุจฺฉินฺนมูเล ตาลาวตฺถุกเต อนภาวํกเต [อนภาวกเต (สี. ปี.), อนภาวงฺคเต (สฺยา. กํ.)] อายตึ อนุปฺปาทธมฺเม. โส เอวมสฺส เวทิตพฺโพ – ‘เนวสฺานาสฺายตนสํโยชเนน หิ โข วิสํยุตฺโต สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโต ปุริสปุคฺคโล’’’ติ.

๖๓. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส, ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. เอวํมานิ [เอวํมานี (สี. ปี. ก.), เอวมาทิ (สฺยา. กํ.)] อสฺส อตถํ สมานํ [อตฺถํ สมานํ (สฺยา. กํ. ปี.), อตฺถสมานํ (สี.)]. โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ อนุยุฺเชยฺย; อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุฺเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสยฺย. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย. สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติตฺวา เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย. เอสนิยา สลฺลํ เอสิตฺวา สลฺลํ อพฺพุเหยฺย, อปเนยฺย วิสโทสํ สอุปาทิเสสํ. สอุปาทิเสโสติ [อนุปาทิเสโสติ (สพฺพตฺถ) อยํ หิ ตถาคตสฺส วิสโย] ชานมาโน โส เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ ปุริส, อุพฺภตํ โข เต สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส สอุปาทิเสโส [อนุปาทิเสโส (สพฺพตฺถ) อยมฺปิ ตถาคตสฺส วิสโย]. อนลฺจ เต อนฺตรายาย. สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภุฺเชยฺยาสิ, มา เต อสปฺปายานิ โภชนานิ ภุฺชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺยาสิ, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺยาสิ, มา เต น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต น กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺธิ. มา จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุฺชิ, มา เต วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ อนุทฺธํเสสิ. วณานุรกฺขี จ, อมฺโภ ปุริส, วิหเรยฺยาสิ วณสาโรปี’ติ [วณสฺสาโรปีติ (ก.) วณ + สํ + โรปี = วณสาโรปี-อิติ ปทวิภาโค]. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อุพฺภตํ โข เม สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เม อนฺตรายายา’ติ. โส อสปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภุฺเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายานิ โภชนานิ ภุฺชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. น จ กาเลน กาลํ วณํ โธเวยฺย, น จ กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺย. ตสฺส น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต, น กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺเธยฺย. วาตาตเป จ จาริตฺตํ อนุยุฺเชยฺย. ตสฺส วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ อนุทฺธํเสยฺย. น จ วณานุรกฺขี วิหเรยฺย น วณสาโรปี. ตสฺส อิมิสฺสา จ อสปฺปายกิริยาย, อสุจิ วิสโทโส อปนีโต สอุปาทิเสโส ตทุภเยน วโณ ปุถุตฺตํ คจฺเฉยฺย. โส ปุถุตฺตํ คเตน วเณน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.

‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. เอวํมานิ อสฺส อตถํ สมานํ. โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุฺเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ อนุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ อนุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสยฺย. โส ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. มรณฺเหตํ, สุนกฺขตฺต, อริยสฺส วินเย โย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ; มรณมตฺตฺเหตํ, สุนกฺขตฺต, ทุกฺขํ ยํ อฺตรํ สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

๖๔. ‘‘านํ โข ปเนตํ, สุนกฺขตฺต, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺเสว สโต โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุฺเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุตฺตสฺส ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสยฺย. โส น ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.

‘‘เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, ปุริโส สลฺเลน วิทฺโธ อสฺส สวิเสน คาฬฺหูปเลปเนน. ตสฺส มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺเตยฺย. สตฺเถน วณมุขํ ปริกนฺติตฺวา เอสนิยา สลฺลํ เอเสยฺย. เอสนิยา สลฺลํ เอสิตฺวา สลฺลํ อพฺพุเหยฺย, อปเนยฺย วิสโทสํ อนุปาทิเสสํ. อนุปาทิเสโสติ ชานมาโน โส เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ ปุริส, อุพฺภตํ โข เต สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เต อนฺตรายาย. สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภุฺเชยฺยาสิ, มา เต อสปฺปายานิ โภชนานิ ภุฺชโต วโณ อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺยาสิ, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺยาสิ. มา เต น กาเลน กาลํ วณํ โธวโต น กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺธิ. มา จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุฺชิ, มา เต วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ อนุทฺธํเสสิ. วณานุรกฺขี จ, อมฺโภ ปุริส, วิหเรยฺยาสิ วณสาโรปี’ติ. ตสฺส เอวมสฺส – ‘อุพฺภตํ โข เม สลฺลํ, อปนีโต วิสโทโส อนุปาทิเสโส. อนลฺจ เม อนฺตรายายา’ติ. โส สปฺปายานิ เจว โภชนานิ ภุฺเชยฺย. ตสฺส สปฺปายานิ โภชนานิ ภุฺชโต วโณ น อสฺสาวี อสฺส. กาเลน กาลฺจ วณํ โธเวยฺย, กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺเปยฺย. ตสฺส กาเลน กาลํ วณํ โธวโต กาเลน กาลํ วณมุขํ อาลิมฺปโต น ปุพฺพโลหิตํ วณมุขํ ปริโยนนฺเธยฺย. น จ วาตาตเป จาริตฺตํ อนุยุฺเชยฺย. ตสฺส วาตาตเป จาริตฺตํ อนนุยุตฺตสฺส รโชสูกํ วณมุขํ นานุทฺธํเสยฺย. วณานุรกฺขี จ วิหเรยฺย วณสาโรปี. ตสฺส อิมิสฺสา จ สปฺปายกิริยาย อสุ จ [อสุจิ (สพฺพตฺถ) โสจาติ ตพฺพณฺณนา มนสิกาตพฺพา] วิสโทโส อปนีโต อนุปาทิเสโส ตทุภเยน วโณ วิรุเหยฺย. โส รุฬฺเหน วเณน สฺฉวินา เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.

‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, านเมตํ วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺจสฺส ภิกฺขุโน เอวมสฺส – ‘ตณฺหา โข สลฺลํ สมเณน วุตฺตํ, อวิชฺชาวิสโทโส ฉนฺทราคพฺยาปาเทน รุปฺปติ. ตํ เม ตณฺหาสลฺลํ ปหีนํ, อปนีโต อวิชฺชาวิสโทโส, สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺโตหมสฺมี’ติ. สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺเสว สโต โส ยานิ สมฺมา นิพฺพานาธิมุตฺตสฺส อสปฺปายานิ ตานิ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุฺเชยฺย, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุฺเชยฺย. ตสฺส อสปฺปายํ จกฺขุนา รูปทสฺสนํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ โสเตน สทฺทํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ฆาเนน คนฺธํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ ชิวฺหาย รสํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ กาเยน โผฏฺพฺพํ นานุยุตฺตสฺส, อสปฺปายํ มนสา ธมฺมํ นานุยุตฺตสฺส, ราโค จิตฺตํ นานุทฺธํเสยฺย. โส น ราคานุทฺธํสิเตน จิตฺเตน เนว มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย น มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ.

๖๕. ‘‘อุปมา โข เม อยํ, สุนกฺขตฺต, กตา อตฺถสฺส วิฺาปนาย. อยํเยเวตฺถ อตฺโถ – วโณติ โข, สุนกฺขตฺต, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ; วิสโทโสติ โข, สุนกฺขตฺต, อวิชฺชาเยตํ อธิวจนํ; สลฺลนฺติ โข, สุนกฺขตฺต, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ; เอสนีติ โข, สุนกฺขตฺต, สติยาเยตํ อธิวจนํ; สตฺถนฺติ โข, สุนกฺขตฺต, อริยาเยตํ ปฺาย อธิวจนํ; ภิสกฺโก สลฺลกตฺโตติ โข, สุนกฺขตฺต, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.

‘‘โส วต, สุนกฺขตฺต, ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, อาปานียกํโส วณฺณสมฺปนฺโน คนฺธสมฺปนฺโน รสสมฺปนฺโน; โส จ โข วิเสน สํสฏฺโ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฏิกูโล. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส อมุํ อาปานียกํสํ ปิเวยฺย ยํ ชฺา – ‘อิมาหํ ปิวิตฺวา มรณํ วา นิคจฺฉามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, โส วต ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. เสยฺยถาปิ, สุนกฺขตฺต, อาสีวิโส [อาสิวิโส (ก.)] โฆรวิโส. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฏิกูโล. ตํ กึ มฺสิ, สุนกฺขตฺต, อปิ นุ โส ปุริโส อมุสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส หตฺถํ วา องฺคุฏฺํ วา ทชฺชา [ยุฺเชยฺย (ก.)] ยํ ชฺา – ‘อิมินาหํ ทฏฺโ มรณํ วา นิคจฺฉามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, สุนกฺขตฺต, โส วต ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุตการี ‘อุปธิ ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา นิรุปธิ อุปธิสงฺขเย วิมุตฺโต อุปธิสฺมึ วา กายํ อุปสํหริสฺสติ จิตฺตํ วา อุปฺปาเทสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

สุนกฺขตฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ

๖๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อนิจฺจา, ภิกฺขเว, กามา ตุจฺฉา มุสา โมสธมฺมา. มายากตเม ตํ, ภิกฺขเว, พาลลาปนํ. เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา – อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารสฺเสส [มารสฺเสว (ก.)] วิสโย, มารสฺเสส นิวาโป, มารสฺเสส โคจโร. เอตฺเถเต ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ. เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา – อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารสฺเสส วิสโย, มารสฺเสส นิวาโป, มารสฺเสส โคจโร. เอตฺเถเต ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ, เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ยํนูนาหํ วิปุเลน มหคฺคเตน เจตสา วิหเรยฺยํ อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺาย มนสา. วิปุเลน หิ เม มหคฺคเตน เจตสา วิหรโต อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺาย มนสา เย ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ เต น ภวิสฺสนฺติ. เตสํ ปหานา อปริตฺตฺจ เม จิตฺตํ ภวิสฺสติ อปฺปมาณํ สุภาวิต’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปมา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ’’.

๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; ยํ กิฺจิ รูปํ (สพฺพํ รูปํ) [( ) นตฺถิ สี. ปี. โปตฺถเกสุ] จตฺตาริ จ มหาภูตานิ, จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา – อุภยเมตํ อนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ นาลํ อภินนฺทิตุํ, นาลํ อภิวทิตุํ, นาลํ อชฺโฌสิตุ’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนฺชํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อาเนฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.

๖๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา; ยา จ อาเนฺชสฺา – สพฺพา สฺา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ – ยทิทํ อากิฺจฺายตน’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปมา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.

๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สุฺมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.

๗๐. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘นาหํ กฺวจนิ [กฺวจินิ (สฺยา. กํ. สี. อฏฺ.)] กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ [กิฺจนตสฺมิ (?)], น จ มม กฺวจนิ กิสฺมิฺจิ กิฺจนํ นตฺถี’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส อากิฺจฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา; ยา จ อาเนฺชสฺา, ยา จ อากิฺจฺายตนสฺา – สพฺพา สฺา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ – ยทิทํ เนวสฺานาสฺายตน’นฺติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ ปฺาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. านเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิฺาณํ อสฺส เนวสฺานาสฺายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, เนวสฺานาสฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายตี’’ติ.

๗๑. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ ยํ, ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. ปรินิพฺพาเยยฺย นุ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ น วา ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ? ‘‘อเปตฺเถกจฺโจ, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยนเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทติ, อภิวทติ, อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺโต ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณํ ตทุปาทานํ. สอุปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ น ปรินิพฺพายตี’’ติ. ‘‘กหํ ปน โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี’’ติ? ‘‘เนวสฺานาสฺายตนํ, อานนฺทา’’ติ. ‘‘อุปาทานเสฏฺํ กิร โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี’’ติ? ‘‘อุปาทานเสฏฺฺหิ โส, อานนฺท, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. อุปาทานเสฏฺฺเหตํ, อานนฺท, ยทิทํ – เนวสฺานาสฺายตนํ’’.

๗๒. ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ – ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ – ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ นาภินนฺทติ, นาภิวทติ, น อชฺโฌสาย ติฏฺติ. ตสฺส ตํ อุเปกฺขํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺโต น ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิฺาณํ น ตทุปาทานํ. อนุปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพายตี’’ติ.

๗๓. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! นิสฺสาย นิสฺสาย กิร โน, ภนฺเต, ภควตา โอฆสฺส นิตฺถรณา อกฺขาตา. กตโม ปน, ภนฺเต, อริโย วิโมกฺโข’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เย จ ทิฏฺธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา กามสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสฺา; เย จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺธมฺมิกา รูปสฺา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสฺา; ยา จ อาเนฺชสฺา, ยา จ อากิฺจฺายตนสฺา, ยา จ เนวสฺานาสฺายตนสฺา – เอส สกฺกาโย ยาวตา สกฺกาโย. เอตํ อมตํ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. อิติ, โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อาเนฺชสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา อากิฺจฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา เนวสฺานาสฺายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา นิสฺสาย นิสฺสาย โอฆสฺส นิตฺถรณา, เทสิโต อริโย วิโมกฺโข. ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุฺาคารานิ. ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

อาเนฺชสปฺปายสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ

๗๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข คณกโมคฺคลฺลาโน [คณกโมคฺคลาโน (ก.)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, อิมสฺส มิคารมาตุปาสาทสฺส ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวราः อิเมสมฺปิ หิ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – อชฺเฌเนः อิเมสมฺปิ หิ, โภ โคตม, อิสฺสาสานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – อิสฺสตฺเถ [อิสฺสตฺเต (ก.)]. อมฺหากมฺปิ หิ, โภ โคตม, คณกานํ คณนาชีวานํ ทิสฺสติ อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ยทิทํ – สงฺขาเน. มยฺหิ, โภ โคตม, อนฺเตวาสึ ลภิตฺวา ปมํ เอวํ คณาเปม – ‘เอกํ เอกกํ, ทฺเว ทุกา, ตีณิ ติกา, จตฺตาริ จตุกฺกา, ปฺจ ปฺจกา, ฉ ฉกฺกา, สตฺต สตฺตกา, อฏฺ อฏฺกา, นว นวกา, ทส ทสกา’ติ; สตมฺปิ มยํ, โภ โคตม, คณาเปม, ภิยฺโยปิ คณาเปม. สกฺกา นุ โข, โภ โคตม, อิมสฺมิมฺปิ ธมฺมวินเย เอวเมว อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ปฺเปตุ’’นฺติ?

๗๕. ‘‘สกฺกา, พฺราหฺมณ, อิมสฺมิมฺปิ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา ปฺเปตุํ. เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ทกฺโข อสฺสทมฺมโก ภทฺทํ อสฺสาชานียํ ลภิตฺวา ปเมเนว มุขาธาเน การณํ กาเรติ, อถ อุตฺตรึ การณํ กาเรติ; เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ตถาคโต ปุริสทมฺมํ ลภิตฺวา ปมํ เอวํ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สีลวา โหหิ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหราหิ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขสฺสุ สิกฺขาปเทสู’’’ติ.

‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหหิ, จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มา นิมิตฺตคฺคาหี โหหิ มานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชาหิ; รกฺขาหิ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชาหิ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย มา นิมิตฺตคฺคาหี โหหิ มานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชาหิ; รกฺขาหิ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชาหี’’’ติ.

‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, โภชเน มตฺตฺู โหหิ. ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรยฺยาสิ – เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย – อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’’ติ.

‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ โภชเน มตฺตฺู โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ชาคริยํ อนุยุตฺโต วิหราหิ, ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหิ, รตฺติยา ปมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหิ, รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปยฺยาสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวา, รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฏฺาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธหี’’’ติ.

‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ ชาคริยํ อนุยุตฺโต โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหหิ, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี’’’ติ.

‘‘ยโต โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต โหติ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชาหิ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺช’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปฺปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ [ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.

๗๖. ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ วิราคา… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘เย โข เต, พฺราหฺมณ, ภิกฺขู เสกฺขา [เสขา (สพฺพตฺถ)] อปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ เตสุ เม อยํ เอวรูปี อนุสาสนี โหติ. เย ปน เต ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺา วิมุตฺตา เตสํ อิเม ธมฺมา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย เจว สํวตฺตนฺติ, สติสมฺปชฺาย จา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข โภโต โคตมสฺส สาวกา โภตา โคตเมน เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา สพฺเพ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ อุทาหุ เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ? ‘‘อปฺเปกจฺเจ โข, พฺราหฺมณ, มม สาวกา มยา เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ.

‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย ยํ ติฏฺเตว นิพฺพานํ, ติฏฺติ นิพฺพานคามี มคฺโค, ติฏฺติ ภวํ โคตโม สมาทเปตา; อถ จ ปน โภโต โคตมสฺส สาวกา โภตา โคตเมน เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อปฺเปกจฺเจ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺตี’’ติ?

๗๗. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตํเยเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, กุสโล ตฺวํ ราชคหคามิสฺส มคฺคสฺสา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ, กุสโล อหํ ราชคหคามิสฺส มคฺคสฺสา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, พฺราหฺมณ, อิธ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ราชคหํ คนฺตุกาโม. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ราชคหํ คนฺตุํ; ตสฺส เม ราชคหสฺส มคฺคํ อุปทิสา’ติ. ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอหมฺโภ [เอวํ โภ (สี. ปี.)] ปุริส, อยํ มคฺโค ราชคหํ คจฺฉติ. เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม คามํ, เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม นิคมํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ราชคหสฺส อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. โส ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉามุโข คจฺเฉยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ราชคหํ คนฺตุกาโม. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ราชคหํ คนฺตุํ; ตสฺส เม ราชคหสฺส มคฺคํ อุปทิสา’ติ. ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, อยํ มคฺโค ราชคหํ คจฺฉติ. เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม คามํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ อมุกํ นาม นิคมํ; เตน มุหุตฺตํ คจฺฉ, เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ราชคหสฺส อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. โส ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน โสตฺถินา ราชคหํ คจฺเฉยฺย. โก นุ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ โก ปจฺจโย ยํ ติฏฺเตว ราชคหํ, ติฏฺติ ราชคหคามี มคฺโค, ติฏฺสิ ตฺวํ สมาทเปตา; อถ จ ปน ตยา เอวํ โอวทียมาโน เอวํ อนุสาสียมาโน เอโก ปุริโส อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉามุโข คจฺเฉยฺย, เอโก โสตฺถินา ราชคหํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เอตฺถ กฺยาหํ, โภ โคตม, กโรมิ? มคฺคกฺขายีหํ, โภ โคตมา’’ติ.

‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, ติฏฺเตว นิพฺพานํ, ติฏฺติ นิพฺพานคามี มคฺโค, ติฏฺามหํ สมาทเปตา; อถ จ ปน มม สาวกา มยา เอวํ โอวทียมานา เอวํ อนุสาสียมานา อปฺเปกจฺเจ อจฺจนฺตํ นิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺติ, เอกจฺเจ นาราเธนฺติ. เอตฺถ กฺยาหํ, พฺราหฺมณ, กโรมิ? มคฺคกฺขายีหํ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต’’ติ.

๗๘. เอวํ วุตฺเต, คณกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สา มายาวิโน เกตพิโน [เกฏุภิโน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตฺุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามฺเ อนเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา [พาหุลฺลิกา (สฺยา. กํ.)] สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฏฺสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปฺา เอฬมูคา, น เตหิ ภวํ โคตโม สทฺธึ สํวสติ’’.

‘‘เย ปน เต กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตฺุโน ชาคริยํ อนุยุตฺตา สามฺเ อเปกฺขวนฺโต สิกฺขาย ติพฺพคารวา นพาหุลิกา นสาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฏฺิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปฺวนฺโต อเนฬมูคา, เตหิ ภวํ โคตโม สทฺธึ สํวสติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, เย เกจิ มูลคนฺธา, กาลานุสาริ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เย เกจิ สารคนฺธา, โลหิตจนฺทนํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เย เกจิ ปุปฺผคนฺธา, วสฺสิกํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมว โภโต โคตมสฺส โอวาโท ปรมชฺชธมฺเมสุ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ

๗๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป อจิรปรินิพฺพุเต ภควติ. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชคหํ ปฏิสงฺขาราเปติ รฺโ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตุํ. ยํนูนาหํ เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข ภวํ อานนฺโท. สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺส. จิรสฺสํ โข ภวํ อานนฺโท อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ. นิสีทิ โข อายสฺมา อานนฺโท ปฺตฺเต อาสเน. โคปกโมคฺคลฺลาโนปิ โข พฺราหฺมโณ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’ติ. อยฺจ หิทํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา อโหสิ.

อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ราชคเห กมฺมนฺเต อนุสฺายมาโน เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กายนุตฺถ, โภ อานนฺท, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ มํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลานํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจํ – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’ติ. อยํ โข โน, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อนฺตรากถา วิปฺปกตา. อถ ตฺวํ อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๘๐. ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ [ปฏิธาเวยฺยาถาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติ. ‘‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’’ติ? ‘‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’’ติ.

‘‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ – วเทสิ; ‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’ติ อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’ติ วเทสิ. อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?

๘๑. ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺํ. เต มยํ ตทหุโปสเถ ยาวติกา เอกํ คามเขตฺตํ อุปนิสฺสาย วิหราม เต สพฺเพ เอกชฺฌํ สนฺนิปตาม; สนฺนิปติตฺวา ยสฺส ตํ ปวตฺตติ ตํ อชฺเฌสาม. ตสฺมึ เจ ภฺมาเน โหติ ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ โหติ วีติกฺกโม ตํ มยํ ยถาธมฺมํ ยถานุสิฏฺํ กาเรมาติ.

‘‘น กิร โน ภวนฺโต กาเรนฺติ; ธมฺโม โน กาเรติ’’. ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ [ครุกโรถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปนิสฺสาย วิหรถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติ.

‘‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรถา’ติ – อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’ติ วเทสิ. อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?

๘๒. ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตา. ยสฺมึ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหราม. กตเม ทส?

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ.

‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา, มชฺเฌกลฺยาณา, ปริโยสานกลฺยาณา, สาตฺถํ, สพฺยฺชนํ [สาตฺถา สพฺยฺชนา (สี. สฺยา. กํ.)], เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา.

‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ ( ) [(อิตรีตเรหิ) ที. นิ. ๓.๓๔๕] จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ.

‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.

‘‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ [ติโรกุฑฺฑํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ.

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อิเม โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตา. ยสฺมึ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติ.

๘๓. เอวํ วุตฺเต วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อุปนนฺทํ เสนาปตึ อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ เสนาปติ [มฺสิ เอวํ เสนาปติ (สฺยา. กํ. ปี.), มฺสิ เสนาปติ (สี.), มฺสิ ภวํ เสนาปติ (ก.)] ยทิเม โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติ’’? ‘‘ตคฺฆิเม [ตคฺฆ เม (ก.)] โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติ. อิมฺจ หิ เต โภนฺโต น สกฺกเรยฺยุํ น ครุํ กเรยฺยุํ น มาเนยฺยุํ น ปูเชยฺยุํ; อถ กิฺจรหิ เต โภนฺโต สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุ’’นฺติ? อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ ปน ภวํ อานนฺโท เอตรหิ วิหรตี’’ติ? ‘‘เวฬุวเน โขหํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ วิหรามี’’ติ. ‘‘กจฺจิ ปน, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ [มนุสฺสราหเสยฺยกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติ? ‘‘ตคฺฆ, พฺราหฺมณ, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ตุมฺหาทิเสหิ รกฺขเกหิ โคปเกหี’’ติ. ‘‘ตคฺฆ, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียฺเจว อปฺปสทฺทฺจ อปฺปนิคฺโฆสฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ภวนฺเตหิ ฌายีหิ ฌานสีลีหิ. ฌายิโน เจว ภวนฺโต ฌานสีลิโน จ’’.

‘‘เอกมิทาหํ, โภ อานนฺท, สมยํ โส ภวํ โคตโม เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ ขฺวาหํ, โภ อานนฺท, เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เยน โส ภวํ โคตโม เตนุปสงฺกมึ. ตตฺร จ ปน โส [ตตฺร จ โส (สี. ปี.)] ภวํ โคตโม อเนกปริยาเยน ฌานกถํ กเถสิ. ฌายี เจว โส ภวํ โคตโม อโหสิ ฌานสีลี จ. สพฺพฺจ ปน โส ภวํ โคตโม ฌานํ วณฺเณสี’’ติ.

๘๔. ‘‘น จ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา สพฺพํ ฌานํ วณฺเณสิ, นปิ โส ภควา สพฺพํ ฌานํ น วณฺเณสีติ. กถํ รูปฺจ, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส กามราคํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส พฺยาปาทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส ถินมิทฺธํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส วิจิกิจฺฉํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิ.

‘‘กถํ รูปฺจ, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสี’’ติ.

‘‘คารยฺหํ กิร, โภ อานนฺท, โส ภวํ โคตโม ฌานํ ครหิ, ปาสํสํ ปสํสิ. หนฺท, จ ทานิ มยํ, โภ อานนฺท, คจฺฉาม; พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

อถ โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อจิรปกฺกนฺเต วสฺสกาเร พฺราหฺมเณ มคธมหามตฺเต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ โน มยํ ภวนฺตํ อานนฺทํ อปุจฺฉิมฺหา ตํ โน ภวํ อานนฺโท น พฺยากาสี’’ติ. ‘‘นนุ เต, พฺราหฺมณ, อโวจุมฺหา – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท. มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’’ติ.

โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. มหาปุณฺณมสุตฺตํ

๘๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ปุจฺเฉยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ กิฺจิเทว เทสํ, สเจ เม ภควา โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติ.

๘๖. อถ โข โส ภิกฺขุ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘อิเม ปน, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา กึมูลกา’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ฉนฺทมูลกา’’ติ. ‘‘ตํเยว นุ โข, ภนฺเต, อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, อุทาหุ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทาน’’นฺติ? ‘‘น โข, ภิกฺขุ, ตํเยว อุปาทานํ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อฺตฺร ปฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํ. โย โข, ภิกฺขุ, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ อุปาทาน’’นฺติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราคเวมตฺตตา’’ติ? ‘‘สิยา ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺจสฺส เอวํ โหติ – ‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํเวทโน สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํสฺโ สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํสงฺขาโร สิยํ อนาคตมทฺธานํ, เอวํวิฺาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สิยา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราคเวมตฺตตา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ขนฺธานํ ขนฺธาธิวจนํ โหตี’’ติ? ‘‘ยํ กิฺจิ, ภิกฺขุ, รูปํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา, หีนํ วา ปณีตํ วา, ยํ ทูเร สนฺติเก วา – อยํ รูปกฺขนฺโธ. ยา กาจิ เวทนา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกา วา สุขุมา วา, หีนา วา ปณีตา วา, ยา ทูเร สนฺติเก วา – อยํ เวทนากฺขนฺโธ. ยา กาจิ สฺา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา…เป… ยา ทูเร สนฺติเก วา – อยํ สฺากฺขนฺโธ. เย เกจิ สงฺขารา – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกา วา สุขุมา วา, หีนา วา ปณีตา วา, เย ทูเร สนฺติเก วา – อยํ สงฺขารกฺขนฺโธ. ยํ กิฺจิ วิฺาณํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา, โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา, หีนํ วา ปณีตํ วา, ยํ ทูเร สนฺติเก วา – อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ. เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขุ, ขนฺธานํ ขนฺธาธิวจนํ โหตี’’ติ.

‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย? โก เหตุ โก ปจฺจโย วิฺาณกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ?

‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. ผสฺโส เหตุ, ผสฺโส ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนาย. นามรูปํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, นามรูปํ ปจฺจโย วิฺาณกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติ.

๘๗. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธมฺเม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา รูปํ รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา เวทนํ เวทนาย วา อตฺตานํ; สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา สฺํ สฺาย วา อตฺตานํ; สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา สงฺขาเร สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา วิฺาณํ วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สกฺกายทิฏฺิ โหตี’’ติ.

‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธมฺเม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธมฺเม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา รูปํ น รูปสฺมึ วา อตฺตานํ; น เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา เวทนํ น เวทนาย วา อตฺตานํ; น สฺํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น สฺาวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา สฺํ น สฺาย วา อตฺตานํ; น สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ น สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา สงฺขาเร น สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํ; น วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ น วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ น อตฺตนิ วา วิฺาณํ น วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, สกฺกายทิฏฺิ น โหตี’’ติ.

๘๘. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, รูเป อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก เวทนาย อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก สฺาย อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก สงฺขาเรสุ อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณํ? โก วิฺาเณ อสฺสาโท, โก อาทีนโว, กึ นิสฺสรณ’’นฺติ? ‘‘ยํ โข, ภิกฺขุ, รูปํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ รูเป อสฺสาโท. ยํ รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, อยํ รูเป อาทีนโว. โย รูเป ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ รูเป นิสฺสรณํ. ยํ โข [ยฺจ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขุ, เวทนํ ปฏิจฺจ… สฺํ ปฏิจฺจ… สงฺขาเร ปฏิจฺจ… วิฺาณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ วิฺาเณ อสฺสาโท. ยํ วิฺาณํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, อยํ วิฺาเณ อาทีนโว. โย วิฺาเณ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ วิฺาเณ นิสฺสรณ’’นฺติ.

๘๙. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ชานโต กถํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา น โหนฺตี’’ติ? ‘‘ยํ กิฺจิ, ภิกฺขุ, รูปํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา – สพฺพํ รูปํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. ยา กาจิ เวทนา… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา – สพฺพํ วิฺาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. เอวํ โข, ภิกฺขุ, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา น โหนฺตี’’ติ.

๙๐. อถ โข อฺตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา; อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ [กถมตฺตานํ (สํ. นิ. ๓.๘๒)] ผุสิสฺสนฺตี’’ติ? อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ โมฆปุริโส อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ตณฺหาธิปเตยฺเยน เจตสา สตฺถุ สาสนํ อติธาวิตพฺพํ มฺเยฺย – ‘อิติ กิร, โภ, รูปํ อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, สฺา อนตฺตา, สงฺขารา อนตฺตา, วิฺาณํ อนตฺตา; อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’ติ. ปฏิวินีตา [ปฏิจฺจ วินีตา (สี. ปี.), ปฏิปุจฺฉามิ วินีตา (สฺยา. กํ.)] โข เม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตตฺร ตตฺร ธมฺเมสุ’’.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ รูปํ – ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยา กาจิ เวทนา… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา สพฺพํ วิฺาณํ – ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก รูปสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, เวทนายปิ นิพฺพินฺทติ, สฺายปิ นิพฺพินฺทติ, สงฺขาเรสุปิ นิพฺพินฺทติ, วิฺาณสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ; นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ.

มหาปุณฺณมสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.

๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตํ

๙๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. ชาเนยฺย ปน, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; เอตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺานํ อนวกาโส ยํ อสปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. อสปฺปุริโส, ภิกฺขเว, อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ, อสปฺปุริสภตฺติ [อสปฺปุริสภตฺตี (สพฺพตฺถ)] โหติ, อสปฺปุริสจินฺตี โหติ, อสปฺปุริสมนฺตี โหติ, อสปฺปุริสวาโจ โหติ, อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ, อสปฺปุริสทิฏฺิ [อสปฺปุริสทิฏฺี (สพฺพตฺถ)] โหติ; อสปฺปุริสทานํ เทติ’’.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสภตฺติ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสฺส เย เต สมณพฺราหฺมณา อสฺสทฺธา อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน อปฺปสฺสุตา กุสีตา มุฏฺสฺสติโน ทุปฺปฺา ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ เต สหายา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสภตฺติ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสจินฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสจินฺตี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสมนฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อตฺตพฺยาพาธายปิ มนฺเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ มนฺเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ มนฺเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสมนฺตี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสวาโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสวาโจ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทิฏฺิ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (สี. ปี.), เอวํทิฏฺิโก (สฺยา. กํ.)] โหติ – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฺกฏทุกฺกฏานํ (สี. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา [สมคฺคตา (ก.)] สมฺมาปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทิฏฺิ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทานํ เทติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสกฺกจฺจํ ทานํ เทติ, อสหตฺถา ทานํ เทติ, อจิตฺตีกตฺวา ทานํ เทติ, อปวิฏฺํ ทานํ เทติ อนาคมนทิฏฺิโก ทานํ เทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อสปฺปุริสทานํ เทติ.

‘‘โส, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส เอวํ อสฺสทฺธมฺมสมนฺนาคโต, เอวํ อสปฺปุริสภตฺติ, เอวํ อสปฺปุริสจินฺตี, เอวํ อสปฺปุริสมนฺตี, เอวํ อสปฺปุริสวาโจ, เอวํ อสปฺปุริสกมฺมนฺโต, เอวํ อสปฺปุริสทิฏฺิ; เอวํ อสปฺปุริสทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยา อสปฺปุริสานํ คติ ตตฺถ อุปปชฺชติ. กา จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสานํ คติ? นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วา.

๙๒. ‘‘ชาเนยฺย นุ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสํ – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; านเมตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส สปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘สปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. ชาเนยฺย ปน, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว; เอตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, านํ วิชฺชติ ยํ สปฺปุริโส อสปฺปุริสํ ชาเนยฺย – ‘อสปฺปุริโส อยํ ภว’นฺติ. สปฺปุริโส, ภิกฺขเว, สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ, สปฺปุริสภตฺติ โหติ, สปฺปุริสจินฺตี โหติ, สปฺปุริสมนฺตี โหติ, สปฺปุริสวาโจ โหติ, สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ, สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ; สปฺปุริสทานํ เทติ’’.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ปฺวา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สทฺธมฺมสมนฺนาคโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสภตฺติ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสฺส เย เต สมณพฺราหฺมณา สทฺธา หิริมนฺโต โอตฺตปฺปิโน พหุสฺสุตา อารทฺธวีริยา อุปฏฺิตสฺสติโน ปฺวนฺโต ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺติ, เต สหายา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสภตฺติ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสจินฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสจินฺตี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสมนฺตี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เนวตฺตพฺยาพาธาย มนฺเตติ, น ปรพฺยาพาธาย มนฺเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย มนฺเตติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสมนฺตี โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสวาโจ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสวาโจ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เอวํทิฏฺิ โหติ – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทิฏฺิ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทานํ เทติ? อิธ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สกฺกจฺจํ ทานํ เทติ, สหตฺถา ทานํ เทติ, จิตฺตีกตฺวา ทานํ เทติ, อนปวิฏฺํ ทานํ เทติ, อาคมนทิฏฺิโก ทานํ เทติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สปฺปุริสทานํ เทติ.

‘‘โส, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส เอวํ สทฺธมฺมสมนฺนาคโต, เอวํ สปฺปุริสภตฺติ, เอวํ สปฺปุริสจินฺตี, เอวํ สปฺปุริสมนฺตี, เอวํ สปฺปุริสวาโจ, เอวํ สปฺปุริสกมฺมนฺโต, เอวํ สปฺปุริสทิฏฺิ; เอวํ สปฺปุริสทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยา สปฺปุริสานํ คติ ตตฺถ อุปปชฺชติ. กา จ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสานํ คติ? เทวมหตฺตตา วา มนุสฺสมหตฺตตา วา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

จูฬปุณฺณมสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.

เทวทหวคฺโค นิฏฺิโต ปโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

เทวทหํ ปฺจตฺตยํ, กินฺติ-สาม-สุนกฺขตฺตํ;

สปฺปาย-คณ-โคปก-มหาปุณฺณจูฬปุณฺณฺจาติ.

๒. อนุปทวคฺโค

๑. อนุปทสุตฺตํ

๙๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ปุถุปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; หาสปฺโ [หาสุปฺโ (สี. ปี.)], ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ชวนปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ติกฺขปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; นิพฺเพธิกปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติ. ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย โหติ.

๙๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ ปเม ฌาเน [ปมชฺฌาเน (ก. สี. ปี. ก.)] ธมฺมา วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ [อปฺปฏิพนฺโธ (ก.)] วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส [อตฺถิเตวสฺส (สี. ปี.)] โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ ทุติเย ฌาเน ธมฺมา – อชฺฌตฺตํ สมฺปสาโท จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ. ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ ตติเย ฌาเน ธมฺมา – สุขฺจ สติ จ สมฺปชฺฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ, ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ จตุตฺเถ ฌาเน ธมฺมา – อุเปกฺขา อทุกฺขมสุขา เวทนา ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโค สติปาริสุทฺธิ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ อากาสานฺจายตเน ธมฺมา – อากาสานฺจายตนสฺา จ จิตฺเตกคฺคตา จ ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ วิฺาณฺจายตเน ธมฺมา – วิฺาณฺจายตนสฺา จ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เย จ อากิฺจฺายตเน ธมฺมา – อากิฺจฺายตนสฺา จ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร – ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ. ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

๙๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา [เย เต ธมฺมา (สี.)] อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา อตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

๙๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหติ. โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ – ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’ติ. โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. โส ‘นตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณ’นฺติ ปชานาติ. ตพฺพหุลีการา นตฺถิตฺเววสฺส โหติ.

๙๗. ‘‘ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปฺาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา’ติ, สาริปุตฺตเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปฺาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา’ติ. ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ภควโต ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท โน อามิสทายาโท’ติ, สาริปุตฺตเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ภควโต ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท โน อามิสทายาโท’ติ. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

อนุปทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. ฉพฺพิโสธนสุตฺตํ

๙๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘จตฺตาโรเม, อาวุโส, โวหารา เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กตเม จตฺตาโร? ทิฏฺเ ทิฏฺวาทิตา, สุเต สุตวาทิตา, มุเต มุตวาทิตา, วิฺาเต วิฺาตวาทิตา – อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร โวหารา เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กถํ ชานโต ปนายสฺมโต, กถํ ปสฺสโต อิเมสุ จตูสุ โวหาเรสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ? ขีณาสวสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วุสิตวโต กตกรณียสฺส โอหิตภารสฺส อนุปฺปตฺตสทตฺถสฺส ปริกฺขีณภวสํโยชนสฺส สมฺมทฺาวิมุตฺตสฺส อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ‘ทิฏฺเ โข อหํ, อาวุโส, อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรามิ. สุเต โข อหํ, อาวุโส…เป… มุเต โข อหํ, อาวุโส… วิฺาเต โข อหํ, อาวุโส, อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรามิ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิเมสุ จตูสุ โวหาเรสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ. ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุตฺตรึ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ.

๙๙. ‘‘‘ปฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กตเม ปฺจ? เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ – อิเม โข, อาวุโส, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กถํ ชานโต ปนายสฺมโต, กถํ ปสฺสโต อิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ? ขีณาสวสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วุสิตวโต กตกรณียสฺส โอหิตภารสฺส อนุปฺปตฺตสทตฺถสฺส ปริกฺขีณภวสํโยชนสฺส สมฺมทฺาวิมุตฺตสฺส อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ‘รูปํ โข อหํ, อาวุโส, อพลํ วิราคุนํ [วิราคํ (สี. ปี.), วิราคุตํ (ฏีกา)] อนสฺสาสิกนฺติ วิทิตฺวา เย รูเป อุปายูปาทานา [อุปยูปาทานา (ก.)] เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. เวทนํ โข อหํ, อาวุโส…เป… สฺํ โข อหํ, อาวุโส… สงฺขาเร โข อหํ, อาวุโส… วิฺาณํ โข อหํ, อาวุโส, อพลํ วิราคุนํ อนสฺสาสิกนฺติ วิทิตฺวา เย วิฺาเณ อุปายูปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ, อนุโมทิตพฺพํ. ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุตฺตรึ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ.

๑๐๐. ‘‘‘ฉยิมา, อาวุโส, ธาตุโย เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กตมา ฉ? ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ – อิมา โข, อาวุโส, ฉ ธาตุโย เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตา. กถํ ชานโต ปนายสฺมโต, กถํ ปสฺสโต อิมาสุ ฉสุ ธาตูสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ? ขีณาสวสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วุสิตวโต กตกรณียสฺส โอหิตภารสฺส อนุปฺปตฺตสทตฺถสฺส ปริกฺขีณภวสํโยชนสฺส สมฺมทฺาวิมุตฺตสฺส อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ‘ปถวีธาตุํ โข อหํ, อาวุโส, น อตฺตโต อุปคจฺฉึ, น จ ปถวีธาตุนิสฺสิตํ อตฺตานํ. เย จ ปถวีธาตุนิสฺสิตา อุปายูปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. อาโปธาตุํ โข อหํ, อาวุโส…เป… เตโชธาตุํ โข อหํ, อาวุโส… วาโยธาตุํ โข อหํ, อาวุโส… อากาสธาตุํ โข อหํ, อาวุโส… วิฺาณธาตุํ โข อหํ, อาวุโส, น อตฺตโต อุปคจฺฉึ, น จ วิฺาณธาตุนิสฺสิตํ อตฺตานํ. เย จ วิฺาณธาตุนิสฺสิตา อุปายูปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ชานโต, เอวํ ปสฺสโต อิมาสุ ฉสุ ธาตูสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ, อนุโมทิตพฺพํ. ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุตฺตรึ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ.

๑๐๑. ‘‘‘ฉ โข ปนิมานิ, อาวุโส, อชฺฌตฺติกพาหิรานิ [อชฺฌตฺติกานิ พาหิรานิ (สฺยา. กํ. ปี.)] อายตนานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตานิ. กตมานิ ฉ? จกฺขุ เจว รูปา จ, โสตฺจ สทฺทา จ, ฆานฺจ คนฺธา จ, ชิวฺหา จ รสา จ, กาโย จ โผฏฺพฺพา จ, มโน จ ธมฺมา จ – อิมานิ โข, อาวุโส, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺมทกฺขาตานิ. กถํ ชานโต ปนายสฺมโต, กถํ ปสฺสโต อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ? ขีณาสวสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วุสิตวโต กตกรณียสฺส โอหิตภารสฺส อนุปฺปตฺตสทตฺถสฺส ปริกฺขีณภวสํโยชนสฺส สมฺมทฺาวิมุตฺตสฺส อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ‘จกฺขุสฺมึ, อาวุโส, รูเป จกฺขุวิฺาเณ จกฺขุวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที [นนฺทิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ยา ตณฺหา เย จ อุปายูปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. โสตสฺมึ, อาวุโส, สทฺเท โสตวิฺาเณ…เป… ฆานสฺมึ, อาวุโส, คนฺเธ ฆานวิฺาเณ… ชิวฺหาย, อาวุโส, รเส ชิวฺหาวิฺาเณ… กายสฺมึ, อาวุโส, โผฏฺพฺเพ กายวิฺาเณ… มนสฺมึ, อาวุโส, ธมฺเม มโนวิฺาเณ มโนวิฺาณวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา เย จ อุปายูปาทานา เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยา เตสํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิมุตฺตํ เม จิตฺตนฺติ ปชานามิ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิเมสุ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ. ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุตฺตรึ ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ.

๑๐๒. ‘‘‘กถํ ชานโต ปนายสฺมโต, กถํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา สมูหตา’ติ [สุสมูหตาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]? ขีณาสวสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน วุสิตวโต กตกรณียสฺส โอหิตภารสฺส อนุปฺปตฺตสทตฺถสฺส ปริกฺขีณภวสํโยชนสฺส สมฺมทฺาวิมุตฺตสฺส อยมนุธมฺโม โหติ เวยฺยากรณาย – ‘ปุพฺเพ โข อหํ, อาวุโส, อคาริยภูโต สมาโน อวิทฺทสุ อโหสึ. ตสฺส เม ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ธมฺมํ เทเสสิ. ตาหํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภึ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขึ – สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อาวุโส, อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชึ. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อโหสึ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหาสึ. อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต อโหสึ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหาสึ. อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี อโหสึ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต อโหสึ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสึ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย; อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา อโหสึ. ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสึ; ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา อโหสึ. สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อโหสึ; กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา อโหสึ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.

‘‘โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต อโหสึ, เอกภตฺติโก อโหสึ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต อโหสึ. มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต อโหสึ. อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต อโหสึ. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ; อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ, เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต อโหสึ. ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต อโหสึ, กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต อโหสึ, ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต อโหสึ, อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต อโหสึ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต อโหสึ.

‘‘โส สนฺตุฏฺโ อโหสึ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว [เยน เยน จ (ก.)] ปกฺกมึ สมาทาเยว ปกฺกมึ. เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ; เอวเมว โข อหํ, อาวุโส; สนฺตุฏฺโ อโหสึ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมึ สมาทาเยว ปกฺกมึ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทสึ.

๑๐๓. ‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี อโหสึ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชึ; รกฺขึ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชึ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา…เป… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี อโหสึ นานุพฺยฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชึ; รกฺขึ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชึ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทสึ.

‘‘โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี อโหสึ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี อโหสึ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี อโหสึ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี อโหสึ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี อโหสึ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี อโหสึ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี อโหสึ.

‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, (อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺิยา สมนฺนาคโต,) [ปสฺส ม. นิ. ๑.๒๙๖ จูฬหตฺถิปโทปเม] อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชึ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทึ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหาสึ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธสึ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหาสึ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธสึ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหาสึ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธสึ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหาสึ อชฺฌตฺตํ, วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธสึ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหาสึ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธสึ.

๑๐๔. ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสึ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ; อิเม อาสวาติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ อาสวสมุทโยติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ อาสวนิโรโธติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ. ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถः วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ อโหสิ. ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อพฺภฺาสึ. เอวํ โข เม, อาวุโส, ชานโต เอวํ ปสฺสโต อิมสฺมิฺจ สวิฺาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหํการมมํการมานานุสยา สมูหตา’’ติ. ‘‘ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ. ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘ลาภา โน, อาวุโส, สุลทฺธํ โน, อาวุโส, เย มยํ อายสฺมนฺตํ ตาทิสํ สพฺรหฺมจารึ สมนุปสฺสามา’’’ติ [ปสฺสามาติ (สี.)].

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

ฉพฺพิโสธนสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. สปฺปุริสสุตฺตํ

๑๐๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สปฺปุริสธมฺมฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อสปฺปุริสธมฺมฺจ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม? อิธ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อุจฺจากุลา ปพฺพชิโต โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ อุจฺจากุลา ปพฺพชิโต, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น อุจฺจากุลา ปพฺพชิตา’ติ. โส ตาย อุจฺจากุลีนตาย อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยํ [อยมฺปิ (สี. ปี.)], ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข อุจฺจากุลีนตาย โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ อุจฺจากุลา ปพฺพชิโต โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย อุจฺจากุลีนตาย เนวตฺตานุกฺกํเสติ น ปรํ วมฺเภติ. อยํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส มหากุลา ปพฺพชิโต โหติ…เป… [ยถา อุจฺจากุลวาเร ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ] มหาโภคกุลา ปพฺพชิโต โหติ…เป… อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโต โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโต, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิตา’ติ. โส ตาย อุฬารโภคตาย อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข อุฬารโภคตาย โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโต โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย อุฬารโภคตาย เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

๑๐๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส าโต โหติ ยสสฺสี. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ าโต ยสสฺสี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู อปฺปฺาตา อปฺเปสกฺขา’ติ. โส เตน ตฺเตน [าเตน (สี. ก.), าตตฺเตน (สฺยา. กํ. ปี.)] อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข ตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ าโต โหติ ยสสฺสี; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน ตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ. โส เตน ลาเภน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข ลาเภน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ ลาภี โหติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน ลาเภน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส พหุสฺสุโต โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ พหุสฺสุโต, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น พหุสฺสุตา’ติ. โส เตน พาหุสจฺเจน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข พาหุสจฺเจน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ พหุสฺสุโต โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน พาหุสจฺเจน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส วินยธโร โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ วินยธโร, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น วินยธรา’ติ. โส เตน วินยธรตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข วินยธรตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ วินยธโร โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน วินยธรตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ธมฺมกถิโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ ธมฺมกถิโก, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ธมฺมกถิกา’ติ. โส เตน ธมฺมกถิกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข ธมฺมกถิกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ ธมฺมกถิโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน ธมฺมกถิกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

๑๐๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส อารฺิโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ อารฺิโก อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น อารฺิกา’ติ. โส เตน อารฺิกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข อารฺิกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ อารฺิโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน อารฺิกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ปํสุกูลิโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ ปํสุกูลิโก, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’ติ. โส เตน ปํสุกูลิกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข ปํสุกูลิกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ ปํสุกูลิโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน ปํสุกูลิกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส ปิณฺฑปาติโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ ปิณฺฑปาติโก, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปิณฺฑปาติกา’ติ. โส เตน ปิณฺฑปาติกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข ปิณฺฑปาติกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ ปิณฺฑปาติโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน ปิณฺฑปาติกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส รุกฺขมูลิโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ รุกฺขมูลิโก, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น รุกฺขมูลิกา’ติ. โส เตน รุกฺขมูลิกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข รุกฺขมูลิกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ รุกฺขมูลิโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน รุกฺขมูลิกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส โสสานิโก โหติ…เป… อพฺโภกาสิโก โหติ… เนสชฺชิโก โหติ… ยถาสนฺถติโก โหติ… เอกาสนิโก โหติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ เอกาสนิโก, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น เอกาสนิกา’ติ. โส เตน เอกาสนิกตฺเตน อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘น โข เอกาสนิกตฺเตน โลภธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โทสธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, โมหธมฺมา วา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โน เจปิ เอกาสนิโก โหติ; โส จ โหติ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตตฺถ ปุชฺโช, โส ตตฺถ ปาสํโส’ติ. โส ปฏิปทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา เตน เอกาสนิกตฺเตน เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

๑๐๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ ปมชฺฌานสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู ปมชฺฌานสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย ปมชฺฌานสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ปมชฺฌานสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย ปมชฺฌานสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริโส สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อหํ โขมฺหิ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ลาภี, อิเม ปนฺเ ภิกฺขู เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา น ลาภิโน’ติ. โส ตาย เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสธมฺโม. สปฺปุริโส จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยาปิ โข อตมฺมยตา วุตฺตา ภควตา. เยน เยน หิ มฺนฺติ ตโต ตํ โหติ อฺถา’ติ. โส อตมฺมยตฺเว อนฺตรํ กริตฺวา ตาย เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อยมฺปิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสธมฺโม.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา [เอกจฺเจ อาสวา (ก.)] ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ [อยํ โข (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น กิฺจิ มฺติ, น กุหิฺจิ มฺติ, น เกนจิ มฺตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

สปฺปุริสสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ

๑๐๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘เสวิตพฺพาเสวิตพฺพํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กายสมาจารํปาหํ [ปหํ (สพฺพตฺถ)], ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจารํ. วจีสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ วจีสมาจารํ. มโนสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ มโนสมาจารํ. จิตฺตุปฺปาทํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ จิตฺตุปฺปาทํ. สฺาปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ สฺาปฏิลาภํ. ทิฏฺิปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ ทิฏฺิปฏิลาภํ. อตฺตภาวปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ อตฺตภาวปฏิลาภ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ.

๑๑๐. ‘‘‘กายสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจาร’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ.

๑๑๑. ‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปฺปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ; อทินฺนาทายี โข ปน โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารี โข ปน โหติ, ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ; อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ นาทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘กายสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจาร’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘วจีสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ วจีสมาจาร’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป วจีสมาจาโร น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป วจีสมาจาโร เสวิตพฺโพ.

๑๑๒. ‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ, สภาคโต [สภคฺคโต (พหูสุ)] วา ปริสาคโต [ปริสคฺคโต (พหูสุ)] วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ โส อชานํ วา อาห – ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห – ‘น ชานามี’ติ; อปสฺสํ วา อาห – ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘น ปสฺสามี’ติ – อิติ [ปสฺส ม. นิ. ๑.๔๔๐ สาเลยฺยกสุตฺเต] อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ [กิฺจกฺขเหตุ (สี.)] วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ; ปิสุณวาโจ โข ปน โหติ, อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย – อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา, ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม, วคฺครโต, วคฺคนนฺที, วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ; ผรุสวาโจ โข ปน โหติ, ยา สา วาจา กณฺฑกา กกฺกสา ผรุสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ; สมฺผปฺปลาปี โข ปน โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ – เอวรูปํ, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สภาคโต วา ปริสาคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ โส อชานํ วา อาห – ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห – ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘ปสฺสามี’ติ – อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ; ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย – อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ; ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ; สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ – เอวรูปํ, ภนฺเต, วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘วจีสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ วจีสมาจาร’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘มโนสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ มโนสมาจาร’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป มโนสมาจาโร น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป มโนสมาจาโร เสวิตพฺโพ.

๑๑๓. ‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ; พฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา วชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ นาภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ; อพฺยาปนฺนจิตฺโต โข ปน โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา อพฺยาพชฺฌา [อพฺยาปชฺฌา (สี. สฺยา. กํ. ปี. ก.)] อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, มโนสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘มโนสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ มโนสมาจาร’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๑๑๔. ‘‘‘จิตฺตุปฺปาทํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ จิตฺตุปฺปาท’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป จิตฺตุปฺปาโท น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป จิตฺตุปฺปาโท เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ, อภิชฺฌาสหคเตน เจตสา วิหรติ; พฺยาปาทวา โหติ, พฺยาปาทสหคเตน เจตสา วิหรติ; วิเหสวา โหติ, วิเหสาสหคเตน เจตสา วิหรติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ, อนภิชฺฌาสหคเตน เจตสา วิหรติ; อพฺยาปาทวา โหติ, อพฺยาปาทสหคเตน เจตสา วิหรติ; อวิเหสวา โหติ, อวิเหสาสหคเตน เจตสา วิหรติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, จิตฺตุปฺปาทํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘จิตฺตุปฺปาทํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ จิตฺตุปฺปาท’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๑๑๕. ‘‘‘สฺาปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ สฺาปฏิลาภ’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป สฺาปฏิลาโภ น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป สฺาปฏิลาโภ เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ, อภิชฺฌาสหคตาย สฺาย วิหรติ; พฺยาปาทวา โหติ, พฺยาปาทสหคตาย สฺาย วิหรติ; วิเหสวา โหติ, วิเหสาสหคตาย สฺาย วิหรติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ, อนภิชฺฌาสหคตาย สฺาย วิหรติ; อพฺยาปาทวา โหติ, อพฺยาปาทสหคตาย สฺาย วิหรติ; อวิเหสวา โหติ, อวิเหสาสหคตาย สฺาย วิหรติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, สฺาปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘สฺาปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ สฺาปฏิลาภ’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๑๑๖. ‘‘‘ทิฏฺิปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ ทิฏฺิปฏิลาภ’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป ทิฏฺิปฏิลาโภ น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ – เอวรูโป ทิฏฺิปฏิลาโภ เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ เอวํทิฏฺิโก โหติ – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, ภนฺเต, เอกจฺโจ เอวํทิฏฺิโก โหติ – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – เอวรูปํ, ภนฺเต, ทิฏฺิปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘ทิฏฺิปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ ทิฏฺิปฏิลาภ’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๑๑๗. ‘‘‘อตฺตภาวปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ อตฺตภาวปฏิลาภ’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ – เอวรูโป อตฺตภาวปฏิลาโภ น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ – เอวรูโป อตฺตภาวปฏิลาโภ เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, ภนฺเต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? สพฺยาพชฺฌํ [สพฺยาปชฺฌํ (สี. สฺยา. กํ. ปี. ก.)], ภนฺเต, อตฺตภาวปฏิลาภํ อภินิพฺพตฺตยโต อปรินิฏฺิตภาวาย อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; อพฺยาพชฺฌํ, ภนฺเต, อตฺตภาวปฏิลาภํ อภินิพฺพตฺตยโต ปรินิฏฺิตภาวาย อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘อตฺตภาวปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ อตฺตภาวปฏิลาภ’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

๑๑๘. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ.

‘‘‘กายสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจาร’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ มยา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ – เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปฺปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน ปาณภูเตสุ; อทินฺนาทายี โข ปน โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารี โข ปน โหติ, ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ – เอวรูปํ, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ.

‘‘กถํรูปํ, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ? อิธ, สาริปุตฺต, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ; อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ นาทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสฺสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ – เอวรูปํ, สาริปุตฺต, กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘กายสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ กายสมาจาร’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘วจีสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ …เป… มโนสมาจารํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ…เป… จิตฺตุปฺปาทํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ…เป… สฺาปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ…เป… ทิฏฺิปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ…เป….

‘‘‘อตฺตภาวปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ อตฺตภาวปฏิลาภ’นฺติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ มยา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, สาริปุตฺต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป อตฺตภาวปฏิลาโภ น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, สาริปุตฺต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ – เอวรูโป อตฺตภาวปฏิลาโภ เสวิตพฺโพ.

‘‘กถํรูปํ, สาริปุตฺต, อตฺตภาวปฏิลาภํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ? สพฺยาพชฺฌํ, สาริปุตฺต, อตฺตภาวปฏิลาภํ อภินิพฺพตฺตยโต อปรินิฏฺิตภาวาย อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ; อพฺยาพชฺฌํ, สาริปุตฺต, อตฺตภาวปฏิลาภํ อภินิพฺพตฺตยโต ปรินิฏฺิตภาวาย อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ. ‘อตฺตภาวปฏิลาภํปาหํ, ภิกฺขเว, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ตฺจ อฺมฺํ อตฺตภาวปฏิลาภ’นฺติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๑๙. ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ; ฆานวิฺเยฺยํ คนฺธํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; ชิวฺหาวิฺเยฺยํ รสํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ; มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. ‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ น เสวิตพฺพํ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวิตพฺพํ. ‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํปาหํ, สาริปุตฺต…เป… เอวรูโป โสตวิฺเยฺโย สทฺโท น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป โสตวิฺเยฺโย สทฺโท เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ฆานวิฺเยฺโย คนฺโธ น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ฆานวิฺเยฺโย คนฺโธ เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ชิวฺหาวิฺเยฺโย รโส น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ชิวฺหาวิฺเยฺโย รโส เสวิตพฺโพ… กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํปาหํ, สาริปุตฺต … เอวรูโป กายวิฺเยฺโย โผฏฺพฺโพ น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป กายวิฺเยฺโย โผฏฺพฺโพ เสวิตพฺโพ.

‘‘‘มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม เสวิตพฺโพ. ‘มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

๑๒๐. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. ‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ มยา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, สาริปุตฺต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ น เสวิตพฺพํ; ยถารูปฺจ โข, สาริปุตฺต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวิตพฺพํ. ‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํปาหํ, สาริปุตฺต…เป… เอวรูโป โสตวิฺเยฺโย สทฺโท น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป โสตวิฺเยฺโย สทฺโท เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ฆานวิฺเยฺโย คนฺโธ น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ฆานวิฺเยฺโย คนฺโธ เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ชิวฺหาวิฺเยฺโย รโส น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ชิวฺหาวิฺเยฺโย รโส เสวิตพฺโพ… เอวรูโป กายวิฺเยฺโย โผฏฺพฺโพ น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป กายวิฺเยฺโย โผฏฺพฺโพ เสวิตพฺโพ.

‘‘มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, สาริปุตฺต…เป… เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม เสวิตพฺโพ. ‘มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๒๑. ‘‘จีวรํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ…เป… ปิณฺฑปาตํปาหํ, สาริปุตฺต… เสนาสนํปาหํ, สาริปุตฺต… คามํปาหํ, สาริปุตฺต… นิคมํปาหํ, สาริปุตฺต… นครํปาหํ, สาริปุตฺต… ชนปทํปาหํ, สาริปุตฺต… ปุคฺคลํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส, เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. ‘จีวรํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูปํ จีวรํ น เสวิตพฺพํ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูปํ จีวรํ เสวิตพฺพํ. ‘จีวรํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘ปิณฺฑปาตํปาหํ, สาริปุตฺต…เป… เอวรูโป ปิณฺฑปาโต น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ปิณฺฑปาโต เสวิตพฺโพ… เสนาสนํปาหํ, สาริปุตฺต…เป… เอวรูปํ เสนาสนํ น เสวิตพฺพํ… เอวรูปํ เสนาสนํ เสวิตพฺพํ… คามํปาหํ, สาริปุตฺต …เป… เอวรูโป คาโม น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป คาโม เสวิตพฺโพ… เอวรูโป นิคโม น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป นิคโม เสวิตพฺโพ… เอวรูปํ นครํ น เสวิตพฺพํ… เอวรูปํ นครํ เสวิตพฺพํ… เอวรูโป ชนปโท น เสวิตพฺโพ… เอวรูโป ชนปโท เสวิตพฺโพ.

‘‘‘ปุคฺคลํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ภควตา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, ภนฺเต, ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ. ‘ปุคฺคลํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ภควตา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตนฺติ. อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติ.

๑๒๒. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส, วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ. ‘จีวรํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ มยา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, สาริปุตฺต, จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูปํ จีวรํ น เสวิตพฺพํ; ยถารูปฺจ โข, สาริปุตฺต, จีวรํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูปํ จีวรํ เสวิตพฺพํ. ‘จีวรํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. (ยถา ปมํ ตถา วิตฺถาเรตพฺพํ) เอวรูโป ปิณฺฑปาโต… เอวรูปํ เสนาสนํ… เอวรูโป คาโม… เอวรูโป นิคโม… เอวรูปํ นครํ… เอวรูโป ชนปโท.

‘‘‘ปุคฺคลํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ มยา. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ยถารูปํ, สาริปุตฺต, ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ; ยถารูปฺจ โข, สาริปุตฺต, ปุคฺคลํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตพฺโพ. ‘ปุคฺคลํปาหํ, สาริปุตฺต, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ มยา อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิมสฺส โข, สาริปุตฺต, มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๑๒๓. ‘‘สพฺเพปิ เจ, สาริปุตฺต, ขตฺติยา อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺยุํ, สพฺเพสานมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพปิ เจ, สาริปุตฺต, พฺราหฺมณา…เป… สพฺเพปิ เจ, สาริปุตฺต, เวสฺสา… สพฺเพปิ เจ, สาริปุตฺต, สุทฺทา อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺยุํ, สพฺเพสานมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สเทวโกปิ เจ, สาริปุตฺต, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อิมสฺส มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย, สเทวกสฺสปิสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

เสวิตพฺพาเสวิตพฺพสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. พหุธาตุกสุตฺตํ

๑๒๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต; เย เกจิ อุปทฺทวา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต; เย เกจิ อุปสคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นฬาคารา วา ติณาคารา วา อคฺคิ มุตฺโต [อคฺคิมุกฺโก (สี. ปี.)] กูฏาคารานิปิ ทหติ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานิ นิวาตานิ ผุสิตคฺคฬานิ ปิหิตวาตปานานิ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ สพฺพานิ ตานิ พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต; เย เกจิ อุปทฺทวา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต; เย เกจิ อุปสคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ สพฺเพ เต พาลโต อุปฺปชฺชนฺติ, โน ปณฺฑิตโต. อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต; สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต; สอุปสคฺโค พาโล, อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต. นตฺถิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตโต ภยํ, นตฺถิ ปณฺฑิตโต อุปทฺทโว, นตฺถิ ปณฺฑิตโต อุปสคฺโค. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘ปณฺฑิตา ภวิสฺสาม วีมํสกา’ติ – เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ‘วีมํสโก’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ธาตุกุสโล จ โหติ, อายตนกุสโล จ โหติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล จ โหติ, านาานกุสโล จ โหติ – เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ‘วีมํสโก’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

๑๒๕. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘อฏฺารส โข อิมา, อานนฺท, ธาตุโย – จกฺขุธาตุ, รูปธาตุ, จกฺขุวิฺาณธาตุ; โสตธาตุ, สทฺทธาตุ, โสตวิฺาณธาตุ; ฆานธาตุ, คนฺธธาตุ, ฆานวิฺาณธาตุ; ชิวฺหาธาตุ, รสธาตุ, ชิวฺหาวิฺาณธาตุ; กายธาตุ, โผฏฺพฺพธาตุ, กายวิฺาณธาตุ; มโนธาตุ, ธมฺมธาตุ, มโนวิฺาณธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, อฏฺารส ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, อฺโปิ ปริยาโย, ยถา ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท. ฉยิมา, อานนฺท, ธาตุโย – ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, ฉ ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, อฺโปิ ปริยาโย, ยถา ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท. ฉยิมา, อานนฺท, ธาตุโย – สุขธาตุ, ทุกฺขธาตุ, โสมนสฺสธาตุ, โทมนสฺสธาตุ, อุเปกฺขาธาตุ, อวิชฺชาธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, ฉ ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, อฺโปิ ปริยาโย, ยถา ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท. ฉยิมา, อานนฺท, ธาตุโย – กามธาตุ, เนกฺขมฺมธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ, อวิหึสาธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, ฉ ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, อฺโปิ ปริยาโย, ยถา ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท. ติสฺโส อิมา, อานนฺท, ธาตุโย – กามธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, ติสฺโส ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘สิยา ปน, ภนฺเต, อฺโปิ ปริยาโย, ยถา ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘สิยา, อานนฺท. ทฺเว อิมา, อานนฺท, ธาตุโย – สงฺขตาธาตุ, อสงฺขตาธาตุ. อิมา โข, อานนฺท, ทฺเว ธาตุโย ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตาปิ โข, อานนฺท, ‘ธาตุกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

๑๒๖. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ‘อายตนกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘ฉ โข ปนิมานิ, อานนฺท, อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ – จกฺขุเจว รูปา จ โสตฺจ สทฺทา จ ฆานฺจ คนฺธา จ ชิวฺหา จ รสา จ กาโย จ โผฏฺพฺพา จ มโน จ ธมฺมา จ. อิมานิ โข, อานนฺท, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ ยโต ชานาติ ปสฺสติ – เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ‘อายตนกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ, อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ, ยทิทํ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ’. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

๑๒๗. ‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, ‘านาานกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ [กิฺจิ (สฺยา. กํ. ก.)] สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ, ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ.

๑๒๘. ‘‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ปิตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย…เป… อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน ทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุถุชฺชโน อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ.

๑๒๙. ‘‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา เอโก อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว ราชาโน จกฺกวตฺติโน อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา เอโก ราชา จกฺกวตฺตี อุปฺปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ.

๑๓๐. ‘‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุริโส อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธ, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุริโส ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี สกฺกตฺตํ กเรยฺย … มารตฺตํ กเรยฺย… พฺรหฺมตฺตํ กเรยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ปุริโส สกฺกตฺตํ กเรยฺย… มารตฺตํ กเรยฺย… พฺรหฺมตฺตํ กเรยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ.

๑๓๑. ‘‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายทุจฺจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ กายทุจฺจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ วจีทุจฺจริตสฺส…เป… ยํ มโนทุจฺจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ วจีทุจฺจริตสฺส…เป… ยํ มโนทุจฺจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, านเมตํ วิชฺชตีติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายสุจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ กายสุจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ วจีสุจริตสฺส…เป… ยํ มโนสุจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ วจีสุจริตสฺส…เป… ยํ มโนสุจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ.

‘‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายทุจฺจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ กายทุจฺจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ วจีทุจฺจริตสมงฺคี…เป… ยํ มโนทุจฺจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ วจีทุจฺจริตสมงฺคี…เป… ยํ มโนทุจฺจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ กายสุจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ กายสุจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. ‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ วจีสุจริตสมงฺคี…เป… ยํ มโนสุจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ; ‘านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ วจีสุจริตสมงฺคี…เป… ยํ มโนสุจริตสมงฺคี ตํนิทานา ตปฺปจฺจยา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, านเมตํ วิชฺชตี’ติ ปชานาติ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ‘านาานกุสโล ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ.

๑๓๒. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! โกนาโม อยํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย’’ติ? ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อานนฺท, อิมํ ธมฺมปริยายํ ‘พหุธาตุโก’ติปิ นํ ธาเรหิ, ‘จตุปริวฏฺโฏ’ติปิ นํ ธาเรหิ, ‘ธมฺมาทาโส’ติปิ นํ ธาเรหิ, ‘อมตทุนฺทุภี’ติปิ [ทุทฺรภีติปิ (ก.)] นํ ธาเรหิ, ‘อนุตฺตโร สงฺคามวิชโย’ติปิ นํ ธาเรหี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

พหุธาตุกสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. อิสิคิลิสุตฺตํ

๑๓๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ เวภารํ ปพฺพต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตสฺสปิ โข, ภิกฺขเว, เวภารสฺส ปพฺพตสฺส อฺาว สมฺา อโหสิ อฺา ปฺตฺติ’’.

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ ปณฺฑวํ ปพฺพต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตสฺสปิ โข, ภิกฺขเว, ปณฺฑวสฺส ปพฺพตสฺส อฺาว สมฺา อโหสิ อฺา ปฺตฺติ’’.

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ เวปุลฺลํ ปพฺพต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตสฺสปิ โข, ภิกฺขเว, เวปุลฺลสฺส ปพฺพตสฺส อฺาว สมฺา อโหสิ อฺา ปฺตฺติ’’.

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอตํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอตสฺสปิ โข, ภิกฺขเว, คิชฺฌกูฏสฺส ปพฺพตสฺส อฺาว สมฺา อโหสิ อฺา ปฺตฺติ’’.

‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อิมํ อิสิคิลึ ปพฺพต’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘อิมสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, อิสิคิลิสฺส ปพฺพตสฺส เอสาว สมฺา อโหสิ เอสา ปฺตฺติ’’.

‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธสตานิ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสิโน อเหสุํ. เต อิมํ ปพฺพตํ ปวิสนฺตา ทิสฺสนฺติ, ปวิฏฺา น ทิสฺสนฺติ. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘อยํ ปพฺพโต อิเม อิสี [อิสโย (ก.)] คิลตี’ติ; ‘อิสิคิลิ อิสิคิลิ’ ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ. อาจิกฺขิสฺสามิ [อจิกฺขิสฺสามิ โว (ก.)], ภิกฺขเว, ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ; กิตฺตยิสฺสามิ, ภิกฺขเว, ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ; เทเสสฺสามิ, ภิกฺขเว, ปจฺเจกพุทฺธานํ นามานิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๑๓๔. ‘‘อริฏฺโ นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ [ปจฺเจกพุทฺโธ (ก. สี. ปี.)] อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; อุปริฏฺโ นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ตครสิขี [ตคฺครสิขี (ก.)] นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ยสสฺสี นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; สุทสฺสโน นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ปิยทสฺสี นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; คนฺธาโร นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ปิณฺโฑโล นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; อุปาสโภ นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; นีโต นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ตโถ นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ, สุตวา นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ; ภาวิตตฺโต นาม, ภิกฺขเว, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสี อโหสิ.

๑๓๕.

‘‘เย สตฺตสารา อนีฆา นิราสา,

ปจฺเจกเมวชฺฌคมํสุ โพธึ [ปจฺเจกเมวชฺฌคมุํ สุโพธึ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

เตสํ วิสลฺลาน นรุตฺตมานํ,

นามานิ เม กิตฺตยโต สุณาถ.

‘‘อริฏฺโ อุปริฏฺโ ตครสิขี ยสสฺสี,

สุทสฺสโน ปิยทสฺสี จ สุสมฺพุทฺโธ [พุทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)];

คนฺธาโร ปิณฺโฑโล อุปาสโภ จ,

นีโต ตโถ สุตวา ภาวิตตฺโต.

‘‘สุมฺโภ สุโภ มตุโล [เมถุโล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฏฺโม จ,

อถสฺสุเมโฆ [อฏฺสุเมโธ (ก.)] อนีโฆ สุทาโ;

ปจฺเจกพุทฺธา ภวเนตฺติขีณา,

หิงฺคู จ หิงฺโค จ มหานุภาวา.

‘‘ทฺเว ชาลิโน มุนิโน อฏฺโก จ,

อถ โกสลฺโล พุทฺโธ อโถ สุพาหุ;

อุปเนมิโส เนมิโส สนฺตจิตฺโต,

สจฺโจ ตโถ วิรโช ปณฺฑิโต จ.

‘‘กาฬูปกาฬา วิชิโต ชิโต จ,

องฺโค จ ปงฺโค จ คุตฺติชิโต จ;

ปสฺสิ ชหิ อุปธิทุกฺขมูลํ [ปสฺสี ชหี อุปธึ ทุกฺขมูลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)],

อปราชิโต มารพลํ อเชสิ.

‘‘สตฺถา ปวตฺตา สรภงฺโค โลมหํโส,

อุจฺจงฺคมาโย อสิโต อนาสโว;

มโนมโย มานจฺฉิโท จ พนฺธุมา,

ตทาธิมุตฺโต วิมโล จ เกตุมา.

‘‘เกตุมฺภราโค จ มาตงฺโค อริโย,

อถจฺจุโต อจฺจุตคามพฺยามโก;

สุมงฺคโล ทพฺพิโล สุปติฏฺิโต,

อสยฺโห เขมาภิรโต จ โสรโต.

‘‘ทุรนฺนโย สงฺโฆ อโถปิ อุชฺชโย,

อปโร มุนิ สยฺโห อโนมนิกฺกโม;

อานนฺโท นนฺโท อุปนนฺโท ทฺวาทส,

ภารทฺวาโช อนฺติมเทหธารี [อนฺติมเทหธาริ (สี.)].

‘‘โพธิ มหานาโม อโถปิ อุตฺตโร,

เกสี สิขี สุนฺทโร ทฺวารภาโช;

ติสฺสูปติสฺสา ภวพนฺธนจฺฉิทา,

อุปสิขิ ตณฺหจฺฉิโท จ สิขริ [อุปสีทรี ตณฺหจฺฉิโท จ สีทรี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)].

‘‘พุทฺโธ อหุ มงฺคโล วีตราโค,

อุสภจฺฉิทา ชาลินึ ทุกฺขมูลํ;

สนฺตํ ปทํ อชฺฌคโมปนีโต,

อุโปสโถ สุนฺทโร สจฺจนาโม.

‘‘เชโต ชยนฺโต ปทุโม อุปฺปโล จ,

ปทุมุตฺตโร รกฺขิโต ปพฺพโต จ;

มานตฺถทฺโธ โสภิโต วีตราโค,

กณฺโห จ พุทฺโธ สุวิมุตฺตจิตฺโต.

‘‘เอเต จ อฺเ จ มหานุภาวา,

ปจฺเจกพุทฺธา ภวเนตฺติขีณา;

เต สพฺพสงฺคาติคเต มเหสี,

ปรินิพฺพุเต วนฺทถ อปฺปเมยฺเย’’ติ.

อิสิคิลิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ

๑๓๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขารํ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส สปริกฺขาโร? เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ; ยา โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ สตฺตหงฺเคหิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา ปริกฺขตา – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส อิติปิ, สปริกฺขาโร อิติปิ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาทิฏฺึ ‘มิจฺฉาทิฏฺี’ติ ปชานาติ, สมฺมาทิฏฺึ ‘สมฺมาทิฏฺี’ติ ปชานาติ – สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ? ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ? สมฺมาทิฏฺึปหํ [สมฺมาทิฏฺิมหํ (ก.) เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปํปหํกฺยาทีสุปิ], ภิกฺขเว, ทฺวายํ [ทฺวยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา] วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา. กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา? ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ปฺา ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค สมฺมาทิฏฺิ มคฺคงฺคํ [มคฺคงฺคา (สี. ปี.)] – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา. โส มิจฺฉาทิฏฺิยา ปหานาย วายมติ, สมฺมาทิฏฺิยา, อุปสมฺปทาย, สฺวาสฺส [สฺวายํ (ก.)] โหติ สมฺมาวายาโม. โส สโต มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, สโต สมฺมาทิฏฺึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สาสฺส [สายํ (ก.)] โหติ สมฺมาสติ. อิติยิเม [อิติเม (สี.), อิติสฺสิเม (สฺยา. กํ. ปี.)] ตโย ธมฺมา สมฺมาทิฏฺึ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.

๑๓๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป’ติ ปชานาติ, สมฺมาสงฺกปฺปํ ‘สมฺมาสงฺกปฺโป’ติ ปชานาติ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป? กามสงฺกปฺโป, พฺยาปาทสงฺกปฺโป, วิหึสาสงฺกปฺโป – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป? สมฺมาสงฺกปฺปํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก? เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป, อพฺยาปาทสงฺกปฺโป, อวิหึสาสงฺกปฺโป – ‘อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก’’’.

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค? โย โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตกฺโก วิตกฺโก สงฺกปฺโป อปฺปนา พฺยปฺปนา เจตโส อภินิโรปนา วจีสงฺขาโร – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. โส มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อุปสมฺปทาย, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. โส สโต มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปชหติ, สโต สมฺมาสงฺกปฺปํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติ. อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาสงฺกปฺปํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.

๑๓๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาวาจํ ‘มิจฺฉาวาจา’ติ ปชานาติ, สมฺมาวาจํ ‘สมฺมาวาจา’ติ ปชานาติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. กตมา จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา? มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา. กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา? สมฺมาวาจํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา. กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา? มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุฺภาคิยา อุปธิเวปกฺกา. กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา. โส มิจฺฉาวาจาย ปหานาย วายมติ, สมฺมาวาจาย อุปสมฺปทาย; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. โส สโต มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, สโต สมฺมาวาจํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติ. อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาวาจํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.

๑๓๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉากมฺมนฺตํ ‘มิจฺฉากมฺมนฺโต’ติ ปชานาติ, สมฺมากมฺมนฺตํ ‘สมฺมากมฺมนฺโต’ติ ปชานาติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต? สมฺมากมฺมนฺตํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตีหิ กายทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมนฺโต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. โส มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส อุปสมฺปทาย; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. โส สโต มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, สโต สมฺมากมฺมนฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติ. อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมากมฺมนฺตํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.

๑๔๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาอาชีวํ ‘มิจฺฉาอาชีโว’ติ ปชานาติ, สมฺมาอาชีวํ ‘สมฺมาอาชีโว’ติ ปชานาติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว? กุหนา, ลปนา, เนมิตฺติกตา, นิปฺเปสิกตา, ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา [นิชิคึ สนตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว? สมฺมาอาชีวํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุฺภาคิโย อุปธิเวปกฺโก. กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต มิจฺฉาอาชีวา อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคงฺโค. โส มิจฺฉาอาชีวสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมาอาชีวสฺส อุปสมฺปทาย; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโม. โส สโต มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, สโต สมฺมาอาชีวํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติ. อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาอาชีวํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ.

๑๔๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? สมฺมาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต เสกฺโข [อฏฺงฺคสมนฺนาคตา เสขา ปฏิปทา (สี.), อฏฺงฺคสมนฺนาคโต เสโข ปาฏิปโท (ปี. ก.) ( ) นตฺถิ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ], ทสงฺคสมนฺนาคโต อรหา โหติ. (ตตฺรปิ สมฺมาาเณน อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา วิคตา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ).

๑๔๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? สมฺมาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิชฺชิณฺโณ โหติ…เป… สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิชฺชิณฺณา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต นิชฺชิณฺโณ โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิชฺชิณฺโณ โหติ… สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิชฺชิณฺโณ โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิชฺชิณฺณา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิชฺชิณฺโณ โหติ… สมฺมาาณสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติ… สมฺมาวิมุตฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, วีสติ กุสลปกฺขา, วีสติ อกุสลปกฺขา – มหาจตฺตารีสโก ธมฺมปริยาโย ปวตฺติโต อปฺปฏิวตฺติโย สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ.

๑๔๓. ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมํ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ ครหิตพฺพํ ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺย ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม ทสสหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ – สมฺมาทิฏฺึ เจ ภวํ ครหติ, เย จ มิจฺฉาทิฏฺี สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสา; สมฺมาสงฺกปฺปํ เจ ภวํ ครหติ, เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสา; สมฺมาวาจํ เจ ภวํ ครหติ…เป… สมฺมากมฺมนฺตํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาอาชีวํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาวายามํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาสตึ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาสมาธึ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาาณํ เจ ภวํ ครหติ … สมฺมาวิมุตฺตึ เจ ภวํ ครหติ, เย จ มิจฺฉาวิมุตฺตี สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสา. โย โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมํ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ ครหิตพฺพํ ปฏิกฺโกสิตพฺพํ มฺเยฺย ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม อิเม ทสสหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ านํ อาคจฺฉนฺติ. เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ โอกฺกลา วสฺสภฺา [วยภิฺา (ก.) สํ. นิ. ๓.๖๒; อ. นิ. ๔.๓๐ ปสฺสิตพฺพํ] อเหตุวาทา อกิริยวาทา นตฺถิกวาทา เตปิ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ น ครหิตพฺพํ นปฏิกฺโกสิตพฺพํ อมฺึสุ [มฺเยฺยุํ (ก.)]. ตํ กิสฺส เหตุ? นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภภยา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. อานาปานสฺสติสุตฺตํ

๑๔๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท สมฺพหุเลหิ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ – อายสฺมตา จ สาริปุตฺเตน อายสฺมตา จ มหาโมคฺคลฺลาเนน [มหาโมคฺคลาเนน (ก.)] อายสฺมตา จ มหากสฺสเปน อายสฺมตา จ มหากจฺจายเนน อายสฺมตา จ มหาโกฏฺิเกน อายสฺมตา จ มหากปฺปิเนน อายสฺมตา จ มหาจุนฺเทน อายสฺมตา จ อนุรุทฺเธน อายสฺมตา จ เรวเตน อายสฺมตา จ อานนฺเทน, อฺเหิ จ อภิฺาเตหิ อภิฺาเตหิ เถเรหิ สาวเกหิ สทฺธึ.

เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู นเว ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ. อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู ทสปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู วีสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู ตึสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู จตฺตารีสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ. เต จ นวา ภิกฺขู เถเรหิ ภิกฺขูหิ โอวทิยมานา อนุสาสิยมานา อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ ชานนฺติ [ปชานนฺติ (สฺยา. กํ.), สฺชานนฺติ (ก.)].

๑๔๕. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปวารณาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อารทฺโธสฺมิ, ภิกฺขเว, อิมาย ปฏิปทาย; อารทฺธจิตฺโตสฺมิ, ภิกฺขเว, อิมาย ปฏิปทาย. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิยฺโยโสมตฺตาย วีริยํ อารภถ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา, อนธิคตสฺส อธิคมาย, อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิเธวาหํ สาวตฺถิยํ โกมุทึ จาตุมาสินึ อาคเมสฺสามี’’ติ. อสฺโสสุํ โข ชานปทา ภิกฺขู – ‘‘ภควา กิร ตตฺเถว สาวตฺถิยํ โกมุทึ จาตุมาสินึ อาคเมสฺสตี’’ติ. เต ชานปทา ภิกฺขู สาวตฺถึ [สาวตฺถิยํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] โอสรนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เต จ โข เถรา ภิกฺขู ภิยฺโยโสมตฺตาย นเว ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ. อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู ทสปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู วีสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู ตึสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ เถรา ภิกฺขู จตฺตารีสมฺปิ ภิกฺขู โอวทนฺติ อนุสาสนฺติ. เต จ นวา ภิกฺขู เถเรหิ ภิกฺขูหิ โอวทิยมานา อนุสาสิยมานา อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ ชานนฺติ.

๑๔๖. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส โกมุทิยา จาตุมาสินิยา ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา; นิปฺปลาปายํ, ภิกฺขเว, ปริสา; สุทฺธา สาเร [สุทฺธสาเร ปติฏฺิตา (สฺยา. กํ. ปี.)] ปติฏฺิตา. ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ; ตถารูปา อยํ, ภิกฺขเว, ปริสา ยถารูปา ปริสา อาหุเนยฺยา ปาหุเนยฺยา ทกฺขิเณยฺยา อฺชลิกรณียา อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ; ตถารูปา อยํ, ภิกฺขเว, ปริสา ยถารูปาย ปริสาย อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ, พหุ ทินฺนํ พหุตรํ. ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ; ตถารูปา อยํ, ภิกฺขเว, ปริสา ยถารูปา ปริสา ทุลฺลภา ทสฺสนาย โลกสฺส. ตถารูโป อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสงฺโฆ; ตถารูปา อยํ, ภิกฺขเว, ปริสา ยถารูปํ ปริสํ อลํ โยชนคณนานิ ทสฺสนาย คนฺตุํ ปุโฏเสนาปิ’’ [ปุโฏเสนาปิ, ตถารูโป อยํ ภิกฺขเว ภิกฺขุสํโฆ, ตถารูปา อยํ ปริสา (สี. ปี. ก.)].

๑๔๗. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทฺาวิมุตฺตา – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว [สกึ เทว (ก.)] อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายนา – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ…เป… จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ… ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ… ปฺจนฺนํ พลานํ… สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ… อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ… กรุณาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ… มุทิตาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ… อุเปกฺขาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ… อสุภภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ… อนิจฺจสฺาภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ – เอวรูปาปิ, ภิกฺขเว, สนฺติ ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ. สนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อานาปานสฺสติภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ. อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรติ. จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ. สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ.

๑๔๘. ‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติ กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโตว [สโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปสฺสสติ.

‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.

‘‘‘ปีติปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปีติปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สุขปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สุขปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.

‘‘‘จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘จิตฺตปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สมาทหํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ.

‘‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติ เอวํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา.

๑๔๙. ‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติ กถํ พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรติ? ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; กาเย กายานุปสฺสี, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. กาเยสุ กายฺตราหํ, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ ยทิทํ – อสฺสาสปสฺสาสา. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, กาเย กายานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.

‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘ปีติปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปีติปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สุขปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สุขปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนาฺตราหํ, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ ยทิทํ – อสฺสาสปสฺสาสานํ สาธุกํ มนสิการํ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.

‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘จิตฺตปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘จิตฺตปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สมาทหํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘วิโมจยํ จิตฺตํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสตึ วทามิ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.

‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘อนิจฺจานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘วิราคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘นิโรธานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘นิโรธานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. โส ยํ ตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ ปหานํ ตํ ปฺาย ทิสฺวา สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ.

‘‘เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติ เอวํ พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรติ.

๑๕๐. ‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สติปฏฺานา กถํ พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ? ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อุปฏฺิตาสฺส ตสฺมึ สมเย สติ โหติ อสมฺมุฏฺา [อปฺปมฺมุฏฺา (สฺยา. กํ.)]. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฏฺิตา สติ โหติ อสมฺมุฏฺา, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘โส ตถาสโต วิหรนฺโต ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินติ ปวิจยติ [ปวิจรติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปริวีมํสํ อาปชฺชติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาสโต วิหรนฺโต ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินติ ปวิจยติ ปริวีมํสํ อาปชฺชติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ตสฺส ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินโต ปวิจยโต ปริวีมํสํ อาปชฺชโต อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินโต ปวิจยโต ปริวีมํสํ อาปชฺชโต อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘อารทฺธวีริยสฺส อุปฺปชฺชติ ปีติ นิรามิสา. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อารทฺธวีริยสฺส อุปฺปชฺชติ ปีติ นิรามิสา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ปีติมนสฺส กาโยปิ ปสฺสมฺภติ, จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปีติมนสฺส กาโยปิ ปสฺสมฺภติ, จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘โส ตถาสมาหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาสมาหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

๑๕๑. ‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทนาสุ…เป… จิตฺเต… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, อุปฏฺิตาสฺส ตสฺมึ สมเย สติ โหติ อสมฺมุฏฺา. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อุปฏฺิตา สติ โหติ อสมฺมุฏฺา, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘โส ตถาสโต วิหรนฺโต ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินติ ปวิจยติ ปริวีมํสํ อาปชฺชติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาสโต วิหรนฺโต ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินติ ปวิจยติ ปริวีมํสํ อาปชฺชติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ตสฺส ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินโต ปวิจยโต ปริวีมํสํ อาปชฺชโต อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตํ ธมฺมํ ปฺาย ปวิจินโต ปวิจยโต ปริวีมํสํ อาปชฺชโต อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘อารทฺธวีริยสฺส อุปฺปชฺชติ ปีติ นิรามิสา. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อารทฺธวีริยสฺส อุปฺปชฺชติ ปีติ นิรามิสา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ปีติมนสฺส กาโยปิ ปสฺสมฺภติ, จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปีติมนสฺส กาโยปิ ปสฺสมฺภติ, จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ.

‘‘โส ตถาสมาหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ. ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาสมาหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน อารทฺโธ โหติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ ภาเวติ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุโน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สติปฏฺานา เอวํ พหุลีกตา สตฺต สมฺโพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ.

๑๕๒. ‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, สตฺต โพชฺฌงฺคา กถํ พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ…เป… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, สตฺต โพชฺฌงฺคา เอวํ พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

อานาปานสฺสติสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. กายคตาสติสุตฺตํ

๑๕๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน กายคตาสติ [กายคตา สติ (สฺยา. กํ. ปี.)] ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา วุตฺตา มหานิสํสา’’ติ. อยฺจ หิทํ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ, อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา วุตฺตา มหานิสํสา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๑๕๔. ‘‘กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, กายคตาสติ กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโตว ปสฺสสติ; ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘รสฺสํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ; ‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ; ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา [เคหสฺสิตา (ฏีกา)] สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ [เอโกที โหติ (สี.), เอโกทิโภติ (สฺยา. กํ.)] สมาธิยติ. เอวํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ [กายคตํ สตึ (สฺยา. กํ. ปี.)] ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คจฺฉนฺโต วา ‘คจฺฉามี’ติ ปชานาติ, ิโต วา ‘ิโตมฺหี’ติ ปชานาติ, นิสินฺโน วา ‘นิสินฺโนมฺหี’ติ ปชานาติ, สยาโน วา ‘สยาโนมฺหี’ติ ปชานาติ. ยถา ยถา วา ปนสฺส กาโย ปณิหิโต โหติ, ตถา ตถา นํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุภโตมุขา ปุโตฬิ [มูโตฬี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปูรา นานาวิหิตสฺส ธฺสฺส, เสยฺยถิทํ – สาลีนํ วีหีนํ มุคฺคานํ มาสานํ ติลานํ ตณฺฑุลานํ, ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส มุฺจิตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อิเม สาลี อิเม วีหี อิเม มุคฺคา อิเม มาสา อิเม ติลา อิเม ตณฺฑุลา’ติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา คาวึ วธิตฺวา จตุมหาปเถ [จาตุมฺมหาปเถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พิลโส วิภชิตฺวา [ปฏิวิภชิตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิสินฺโน อสฺส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ยถาิตํ ยถาปณิหิตํ ธาตุโส ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปถวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตู’ติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย [สีวถิกาย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ฉฑฺฑิตํ เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ [เอตํ อนตีโตติ (สี.)]. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ กงฺเกหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ พฺยคฺเฆหิ วา ขชฺชมานํ ทีปีหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ วา [คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ สุวาเนหิ วา ขชฺชมานํ สิคาเลหิ วา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป… อฏฺิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ [อปคตนหารูสมฺพนฺธานิ (สฺยา. กํ.)] ทิสาวิทิสาวิกฺขิตฺตานิ [ทิสาวิทิสาสุ วิกฺขิตานิ (สี. ปี.)] อฺเน หตฺถฏฺิกํ อฺเน ปาทฏฺิกํ อฺเน โคปฺผกฏฺิกํ [อฺเน โคปฺผกฏฺิกนฺติ อิทํ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อฺเน ชงฺฆฏฺิกํ อฺเน อูรุฏฺิกํ อฺเน กฏิฏฺิกํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อฺเน ผาสุกฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิฏฺิกํ อฺเน ขนฺธฏฺิกํ อฺเน คีวฏฺิกํ อฺเน หนุกฏฺิกํ อฺเน ทนฺตฏฺิกํ อฺเน สีสกฏาหํ [อฺเน กฏฏฺิกํ อฺเน ปิฏฺิกณฺฑกํ อฺเน สีสกฏาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ – อฏฺิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฏิภาคานิ [สงฺขวณฺณูปนิภานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] …เป… อฏฺิกานิ ปุฺชกิตานิ เตโรวสฺสิกานิ…เป… อฏฺิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิ. โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

๑๕๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข นฺหาปโก [นหาปโก (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ [นหานียจุณฺณานิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเนยฺย, สายํ นฺหานียปิณฺฑิ [สาสฺส นหานียปิณฺฑี (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรตา สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน น จ ปคฺฆริณี; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกรหโท คมฺภีโร อุพฺภิโททโก [อุพฺภิโตทโก (สฺยา. กํ. ก.)]. ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ; เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย; อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ [อภิสนฺทานิ ปริสนฺทานิ (ก.)] ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ, นาสฺส [น เนสํ (?)] กิฺจิ สพฺพาวตํ อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส…เป… เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ; นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน อสฺส, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺส; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ, นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติ. ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหียนฺติ. เตสํ ปหานา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สนฺติฏฺติ, สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายคตาสตึ ภาเวติ.

๑๕๖. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, อนฺโตคธาวาสฺส [อนฺโตคธา ตสฺส (สี. ปี.)] กุสลา ธมฺมา เย เกจิ วิชฺชาภาคิยา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ มหาสมุทฺโท เจตสา ผุโฏ, อนฺโตคธาวาสฺส กุนฺนทิโย ยา กาจิ สมุทฺทงฺคมา; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, อนฺโตคธาวาสฺส กุสลา ธมฺมา เย เกจิ วิชฺชาภาคิยา.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, กายคตาสติ อภาวิตา อพหุลีกตา, ลภติ ตสฺส มาโร โอตารํ, ลภติ ตสฺส มาโร อารมฺมณํ [อารมณํ (?)]. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ครุกํ สิลาคุฬํ อลฺลมตฺติกาปุฺเช ปกฺขิเปยฺย. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตํ ครุกํ สิลาคุฬํ อลฺลมตฺติกาปุฺเช ลเภถ โอตาร’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ อภาวิตา อพหุลีกตา, ลภติ ตสฺส มาโร โอตารํ, ลภติ ตสฺส มาโร อารมฺมณํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุกฺขํ กฏฺํ โกฬาปํ [โกฬาปํ อารกา อุทกา ถเล นิกฺขิตฺตํ (ก.)]; อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุตฺตรารณึ อาทาย – ‘อคฺคึ อภินิพฺพตฺเตสฺสามิ, เตโช ปาตุกริสฺสามี’ติ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส อมุํ สุกฺขํ กฏฺํ โกฬาปํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถนฺโต [อภิมนฺเถนฺโต (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] อคฺคึ อภินิพฺพตฺเตยฺย, เตโช ปาตุกเรยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ อภาวิตา อพหุลีกตา, ลภติ ตสฺส มาโร โอตารํ, ลภติ ตสฺส มาโร อารมฺมณํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกมณิโก ริตฺโต ตุจฺโฉ อาธาเร ปิโต; อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุทกภารํ อาทาย. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส ลเภถ อุทกสฺส นิกฺเขปน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ อภาวิตา อพหุลีกตา, ลภติ ตสฺส มาโร โอตารํ, ลภติ ตสฺส มาโร อารมฺมณํ’’.

๑๕๗. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, น ตสฺส ลภติ มาโร โอตารํ, น ตสฺส ลภติ มาโร อารมฺมณํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ลหุกํ สุตฺตคุฬํ สพฺพสารมเย อคฺคฬผลเก ปกฺขิเปยฺย. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส ตํ ลหุกํ สุตฺตคุฬํ สพฺพสารมเย อคฺคฬผลเก ลเภถ โอตาร’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, น ตสฺส ลภติ มาโร โอตารํ, น ตสฺส ลภติ มาโร อารมฺมณํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อลฺลํ กฏฺํ สสฺเนหํ [สสฺเนหํ อารกา อุทกา ถเล นิกฺขิตฺตํ (ก.)]; อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุตฺตรารณึ อาทาย – ‘อคฺคึ อภินิพฺพตฺเตสฺสามิ, เตโช ปาตุกริสฺสามี’ติ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส อมุํ อลฺลํ กฏฺํ สสฺเนหํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถนฺโต อคฺคึ อภินิพฺพตฺเตยฺย, เตโช ปาตุกเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, น ตสฺส ลภติ มาโร โอตารํ, น ตสฺส ลภติ มาโร อารมฺมณํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกมณิโก ปูโร อุทกสฺส สมติตฺติโก กากเปยฺโย อาธาเร ปิโต; อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุทกภารํ อาทาย. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส ลเภถ อุทกสฺส นิกฺเขปน’’นฺติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, น ตสฺส ลภติ มาโร โอตารํ, น ตสฺส ลภติ มาโร อารมฺมณํ’’.

๑๕๘. ‘‘ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, โส ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกมณิโก ปูโร อุทกสฺส สมติตฺติโก กากเปยฺโย อาธาเร ปิโต. ตเมนํ พลวา ปุริโส ยโต ยโต อาวิฺเฉยฺย, อาคจฺเฉยฺย อุทก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา โส, ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สเม ภูมิภาเค จตุรสฺสา โปกฺขรณี [โปกฺขริณี (สี.)] อสฺส อาฬิพนฺธา ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยา. ตเมนํ พลวา ปุริโส ยโต ยโต อาฬึ มุฺเจยฺย อาคจฺเฉยฺย อุทก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, โส ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุภูมิยํ จตุมหาปเถ อาชฺรโถ ยุตฺโต อสฺส ิโต โอธสฺตปโตโท [โอภสฺตปโตโท (ก.), อุภนฺตรปโฏโท (สฺยา. กํ.) อว + ธํสุ + ต = โอธสฺต-อิติปทวิภาโค]; ตเมนํ ทกฺโข โยคฺคาจริโย อสฺสทมฺมสารถิ อภิรุหิตฺวา วาเมน หตฺเถน รสฺมิโย คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ปโตทํ คเหตฺวา เยนิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ สาเรยฺยาปิ ปจฺจาสาเรยฺยาปิ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ กายคตาสติ ภาวิตา พหุลีกตา, โส ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’.

๑๕๙. ‘‘กายคตาย, ภิกฺขเว, สติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย ทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา. อรติรติสโห โหติ, น จ ตํ อรติ สหติ, อุปฺปนฺนํ อรตึ อภิภุยฺย วิหรติ.

‘‘ภยเภรวสโห โหติ, น จ ตํ ภยเภรวํ สหติ, อุปฺปนฺนํ ภยเภรวํ อภิภุยฺย วิหรติ.

‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ.

‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี.

‘‘โส อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจานุโภติ. เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ, อาวิภาวํ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จ…เป….

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ…เป… สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

‘‘โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘กายคตาย, ภิกฺขเว, สติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย อิเม ทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

กายคตาสติสุตฺตํ นิฏฺิตํ นวมํ.

๑๐. สงฺขารุปปตฺติสุตฺตํ

๑๖๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ – ‘‘สงฺขารุปปตฺตึ [สงฺขารูปปตฺตึ (สฺยา. กํ.), สงฺขารุปฺปตฺตึ (สี. ปี.)] โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๑๖๑. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน สมนฺนาคโต โหติ, จาเคน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ [ขตฺติยมหาสาลานํ วา (สฺยา. กํ. ปี.)] สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา [วิหาโร (สี. ปี.)] จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา [ตตฺรูปปตฺติยา (สฺยา. กํ.), ตตฺรุปฺปตฺติยา (สี. ปี.)] สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๒. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน สมนฺนาคโต โหติ, จาเคน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺราหฺมณมหาสาลานํ…เป… คหปติมหาสาลานํ [พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา (สฺยา. กํ. ปี.)] สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๓. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน สมนฺนาคโต โหติ, จาเคน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๔. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน สมนฺนาคโต โหติ, จาเคน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ตาวตึสา เทวา…เป… ยามา เทวา… ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน สมนฺนาคโต โหติ, จาเคน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘สหสฺโส พฺรหฺมา ทีฆายุโก วณฺณวา สุขพหุโล’ติ. สหสฺโส, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหสฺสิโลกธาตุํ [สหสฺสึ โลกธาตุํ (สี.)] ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา [อธิมุฺจิตฺวา (ก.)] วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส เอกํ อามณฺฑํ หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, สหสฺโส พฺรหฺมา สหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สหสฺสสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๖. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ทฺวิสหสฺโส พฺรหฺมา…เป… ติสหสฺโส พฺรหฺมา… จตุสหสฺโส พฺรหฺมา… ปฺจสหสฺโส พฺรหฺมา ทีฆายุโก วณฺณวา สุขพหุโลติ. ปฺจสหสฺโส, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา ปฺจสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จกฺขุมา ปุริโส ปฺจ อามณฺฑานิ หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปฺจสหสฺโส พฺรหฺมา ปฺจสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปฺจสหสฺสสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน สมนฺนาคโต โหติ, สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘ทสสหสฺโส พฺรหฺมา ทีฆายุโก วณฺณวา สุขพหุโล’ติ. ทสสหสฺโส, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ [ภาสติ จ ตปติ จ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ทสสหสฺโส พฺรหฺมา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทสสหสฺสสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘สตสหสฺโส พฺรหฺมา ทีฆายุโก วณฺณวา สุขพหุโล’ติ. สตสหสฺโส, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สตสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, นิกฺขํ ชมฺโพนทํ [เนกฺขํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ทกฺขกมฺมารปุตฺตอุกฺกามุขสุกุสลสมฺปหฏฺํ ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตํ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, สตสหสฺโส พฺรหฺมา สตสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สตสหสฺสสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – อาภา เทวา…เป… ปริตฺตาภา เทวา… อปฺปมาณาภา เทวา… อาภสฺสรา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อาภสฺสรานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๐. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน … สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ปริตฺตสุภา เทวา…เป… อปฺปมาณสุภา เทวา… สุภกิณฺหา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุภกิณฺหานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๑. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – เวหปฺผลา เทวา…เป… อวิหา เทวา… อตปฺปา เทวา… สุทสฺสา เทวา… สุทสฺสี เทวา… อกนิฏฺา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อกนิฏฺานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๒. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อากาสานฺจายตนูปคา เทวา ทีฆายุกา จิรฏฺิติกา สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๓. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘วิฺาณฺจายตนูปคา เทวา ทีฆายุกา จิรฏฺิติกา สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วิฺาณฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๔. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส สุตํ โหติ – อากิฺจฺายตนูปคา เทวา…เป… เนวสฺานาสฺายตนูปคา เทวา ทีฆายุกา จิรฏฺิติกา สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เนวสฺานาสฺายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค อยํ ปฏิปทา ตตฺรุปปตฺติยา สํวตฺตติ.

๑๗๕. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน… สุเตน… จาเคน… ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น กตฺถจิ อุปปชฺชตี’’ติ [น กตฺถจิ อุปปชฺชติ, น กุหิฺจิ อุปปชฺชตีติ (สี. ปี.), น กตฺถจิ อุปปชฺชติ, น กุหิฺจิ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ. (ก.)].

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

สงฺขารุปปตฺติสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.

อนุปทวคฺโค นิฏฺิโต ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อนุปาท-โสธน-โปริสธมฺโม, เสวิตพฺพ-พหุธาตุ-วิภตฺติ;

พุทฺธสฺส กิตฺตินาม-จตฺตารีเสน, อานาปาโน กายคโต อุปปตฺติ [อิโต ปรํ สฺยา. กํ. ก. โปตฺถเกสุ เอวมฺปิ ทิสฺสติ –-§จนฺทเก วิมเล ปริสุทฺเธ, ปุณฺณสมฺโมทินิโรธอตฺตโน;§ทนฺธา พหุชนเสวิตํ ธมฺมวรํ, ยํ อนุปทํ วคฺควรํ ทุติยาติ].

๓. สุฺตวคฺโค

๑. จูฬสุฺตสุตฺตํ

๑๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกมิทํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ นครกํ นาม สกฺยานํ นิคโม. ตตฺถ เม, ภนฺเต, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สุฺตาวิหาเรนาหํ, อานนฺท, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี’ติ. กจฺจิ เมตํ, ภนฺเต, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริต’’นฺติ? ‘‘ตคฺฆ เต เอตํ, อานนฺท, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ. ปุพฺเพปาหํ [ปุพฺเพจาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อานนฺท, เอตรหิปิ [เอตรหิ จ (สพฺพตฺถ)] สุฺตาวิหาเรน พหุลํ วิหรามิ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, อยํ มิคารมาตุปาสาโท สุฺโ หตฺถิควสฺสวฬเวน, สุฺโ ชาตรูปรชเตน, สุฺโ อิตฺถิปุริสสนฺนิปาเตน อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – ภิกฺขุสงฺฆํ ปฏิจฺจ เอกตฺตํ; เอวเมว โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา คามสฺํ, อมนสิกริตฺวา มนุสฺสสฺํ, อรฺสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส อรฺสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา คามสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา มนุสฺสสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อรฺสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ คามสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ มนุสฺสสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – อรฺสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’’’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๗๗. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา มนุสฺสสฺํ, อมนสิกริตฺวา อรฺสฺํ, ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส ปถวีสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, อาสภจมฺมํ สงฺกุสเตน สุวิหตํ วิคตวลิกํ; เอวเมว โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิมิสฺสา ปถวิยา อุกฺกูลวิกฺกูลํ นทีวิทุคฺคํ ขาณุกณฺฏกฏฺานํ ปพฺพตวิสมํ ตํ สพฺพํ [สพฺพํ (ก.)] อมนสิกริตฺวา ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส ปถวีสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา มนุสฺสสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อรฺสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ มนุสฺสสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อรฺสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๗๘. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อรฺสฺํ, อมนสิกริตฺวา ปถวีสฺํ, อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส อากาสานฺจายตนสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อรฺสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อรฺสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ ปถวีสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๗๙. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา ปถวีสฺํ, อมนสิกริตฺวา อากาสานฺจายตนสฺํ, วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส วิฺาณฺจายตนสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา ปถวีสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ ปถวีสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อากาสานฺจายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๘๐. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากาสานฺจายตนสฺํ, อมนสิกริตฺวา วิฺาณฺจายตนสฺํ, อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส อากิฺจฺายตนสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อากาสานฺจายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ วิฺาณฺจายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๘๑. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา วิฺาณฺจายตนสฺํ, อมนสิกริตฺวา อากิฺจฺายตนสฺํ, เนวสฺานาสฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส เนวสฺานาสฺายตนสฺาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – เนวสฺานาสฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ วิฺาณฺจายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อากิฺจฺายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – เนวสฺานาสฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เอกตฺต’นฺติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๘๒. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากิฺจฺายตนสฺํ, อมนสิกริตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺํ, อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส อนิมิตฺเต เจโตสมาธิมฺหิ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา เนวสฺานาสฺายตนสฺํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฏิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อากิฺจฺายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ เนวสฺานาสฺายตนสฺายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฏิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๘๓. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากิฺจฺายตนสฺํ, อมนสิกริตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺํ, อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ ปฏิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ. ตสฺส อนิมิตฺเต เจโตสมาธิมฺหิ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ อธิมุจฺจติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยมฺปิ โข อนิมิตฺโต เจโตสมาธิ อภิสงฺขโต อภิสฺเจตยิโต’. ‘ยํ โข ปน กิฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา กามาสวํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา ภวาสวํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อวิชฺชาสวํ ปฏิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฏิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติ. โส ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ กามาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ ภวาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘สุฺมิทํ สฺาคตํ อวิชฺชาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุฺตํ ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฏิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติ. อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติ. เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา ปรมานุตฺตรา สุฺตาวกฺกนฺติ ภวติ.

๑๘๔. ‘‘เยปิ หิ เกจิ, อานนฺท, อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรึสุ, สพฺเพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรึสุ. เยปิ [เย (สี. ปี.)] หิ เกจิ, อานนฺท, อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสนฺติ, สพฺเพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสนฺติ. เยปิ [เย (สี. ปี.)] หิ เกจิ, อานนฺท, เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ, สพฺเพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. ตสฺมาติห, อานนฺท, ‘ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามา’ติ [วิหริสฺสามีติ (ปี. ก.)] – เอวฺหิ โว [เต (ก.)], อานนฺท, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

จูฬสุฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.

๒. มหาสุฺตสุตฺตํ

๑๘๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กปิลวตฺถุํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. กปิลวตฺถุสฺมึ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาโร เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. เตน โข ปน สมเยน กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาเร สมฺพหุลานิ เสนาสนานิ ปฺตฺตานิ โหนฺติ. อทฺทสา โข ภควา กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาเร สมฺพหุลานิ เสนาสนานิ ปฺตฺตานิ. ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘สมฺพหุลานิ โข กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาเร เสนาสนานิ ปฺตฺตานิ. สมฺพหุลา นุ โข อิธ ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ.

๑๘๖. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ฆฏาย สกฺกสฺส วิหาเร จีวรกมฺมํ กโรติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ฆฏาย สกฺกสฺส วิหาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สมฺพหุลานิ โข, อานนฺท, กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาเร เสนาสนานิ ปฺตฺตานิ. สมฺพหุลา นุ โข เอตฺถ ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘สมฺพหุลานิ, ภนฺเต, กาฬเขมกสฺส สกฺกสฺส วิหาเร เสนาสนานิ ปฺตฺตานิ. สมฺพหุลา ภิกฺขู เอตฺถ วิหรนฺติ. จีวรการสมโย โน, ภนฺเต, วตฺตตี’’ติ.

‘‘น โข, อานนฺท, ภิกฺขุ โสภติ สงฺคณิการาโม สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต คณาราโม คณรโต คณสมฺมุทิโต. โส วตานนฺท, ภิกฺขุ สงฺคณิการาโม สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต คณาราโม คณรโต คณสมฺมุทิโต ยํ ตํ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธิสุขํ [สมฺโพธสุขํ (สี. ปี.), สมฺโพธสุขํ จิตฺเตกคฺคตาสุขํ (ก.) อุปริ อรณวิภงฺคสุตฺเต ปน สมฺโพธิสุขนฺตฺเวว ทิสฺสติ] ตสฺส สุขสฺส นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. โย จ โข โส, อานนฺท, ภิกฺขุ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรติ ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ ยํ ตํ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธิสุขํ ตสฺส สุขสฺส นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีติ – านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ สงฺคณิการาโม สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต คณาราโม คณรโต คณสมฺมุทิโต สามายิกํ วา กนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ อสามายิกํ วา อกุปฺปนฺติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. โย จ โข โส, อานนฺท, ภิกฺขุ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรติ ตสฺเสตํ ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ สามายิกํ วา กนฺตํ เจโตวิมุตฺตึ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ อสามายิกํ วา อกุปฺปนฺติ – านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘นาหํ, อานนฺท, เอกํ รูปมฺปิ [เอกรูปมฺปิ (สี.)] สมนุปสฺสามิ ยตฺถ รตฺตสฺส ยถาภิรตสฺส รูปสฺส วิปริณามฺถาภาวา น อุปฺปชฺเชยฺยุํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสูปายาสา.

๑๘๗. ‘‘อยํ โข ปนานนฺท, วิหาโร ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ ยทิทํ – สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อชฺฌตฺตํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ [วิหรตํ (ก. สี.), วิหรติ (สฺยา. กํ. ก.)]. ตตฺร เจ, อานนฺท, ตถาคตํ อิมินา วิหาเรน วิหรนฺตํ ภวนฺติ [ภควนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ก.)] อุปสงฺกมิตาโร ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย ราชาโน ราชมหามตฺตา ติตฺถิยา ติตฺถิยสาวกา. ตตฺรานนฺท, ตถาคโต วิเวกนินฺเนเนว จิตฺเตน วิเวกโปเณน วิเวกปพฺภาเรน วูปกฏฺเน เนกฺขมฺมาภิรเตน พฺยนฺตีภูเตน สพฺพโส อาสวฏฺานีเยหิ ธมฺเมหิ อฺทตฺถุ อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตํเยว กถํ กตฺตา โหติ. ตสฺมาติหานนฺท, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย – ‘อชฺฌตฺตํ สุฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, เตนานนฺท, ภิกฺขุนา อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ สนฺนิสาเทตพฺพํ เอโกทิ กาตพฺพํ สมาทหาตพฺพํ.

๑๘๘. ‘‘กถฺจานนฺท, ภิกฺขุ อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปติ สนฺนิสาเทติ เอโกทึ กโรติ [เอโกทิกโรติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมาทหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปติ สนฺนิสาเทติ เอโกทึ กโรติ สมาทหติ. โส อชฺฌตฺตํ สุฺตํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อชฺฌตฺตํ สุฺตํ มนสิกโรโต สุฺตาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘อชฺฌตฺตํ สุฺตํ โข เม มนสิกโรโต อชฺฌตฺตํ สุฺตาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. โส พหิทฺธา สุฺตํ มนสิ กโรติ…เป… โส อชฺฌตฺตพหิทฺธา สุฺตํ มนสิ กโรติ …เป… โส อาเนฺชํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อาเนฺชํ มนสิกโรโต อาเนฺชาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘อาเนฺชํ โข เม มนสิกโรโต อาเนฺชาย จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

‘‘เตนานนฺท, ภิกฺขุนา ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ สนฺนิสาเทตพฺพํ เอโกทิ กาตพฺพํ สมาทหาตพฺพํ. โส อชฺฌตฺตํ สุฺตํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อชฺฌตฺตํ สุฺตํ มนสิกโรโต อชฺฌตฺตํ สุฺตาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘อชฺฌตฺตํ สุฺตํ โข เม มนสิกโรโต อชฺฌตฺตํ สุฺตาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. โส พหิทฺธา สุฺตํ มนสิ กโรติ…เป… โส อชฺฌตฺตพหิทฺธา สุฺตํ มนสิ กโรติ…เป… โส อาเนฺชํ มนสิ กโรติ. ตสฺส อาเนฺชํ มนสิกโรโต อาเนฺชาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘อาเนฺชํ โข เม มนสิกโรโต อาเนฺชาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

๑๘๙. ‘‘ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต จงฺกมาย จิตฺตํ นมติ, โส จงฺกมติ – ‘เอวํ มํ จงฺกมนฺตํ นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต านาย จิตฺตํ นมติ, โส ติฏฺติ – ‘เอวํ มํ ิตํ นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต นิสชฺชาย จิตฺตํ นมติ, โส นิสีทติ – ‘เอวํ มํ นิสินฺนํ นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต สยนาย จิตฺตํ นมติ, โส สยติ – ‘เอวํ มํ สยนฺตํ นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

‘‘ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต กถาย [ภสฺสาย (สี.), ภาสาย (สฺยา. กํ. ปี.)] จิตฺตํ นมติ, โส – ‘ยายํ กถา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – ราชกถา โจรกถา มหามตฺตกถา เสนากถา ภยกถา ยุทฺธกถา อนฺนกถา ปานกถา วตฺถกถา สยนกถา มาลากถา คนฺธกถา าติกถา ยานกถา คามกถา นิคมกถา นครกถา ชนปทกถา อิตฺถิกถา สุรากถา วิสิขากถา กุมฺภฏฺานกถา ปุพฺพเปตกถา นานตฺตกถา โลกกฺขายิกา สมุทฺทกฺขายิกา อิติภวาภวกถา อิติ วา อิติ – เอวรูปึ กถํ น กเถสฺสามี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. ยา จ โข อยํ, อานนฺท, กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวินีวรณสปฺปายา [เจโตวิจารณสปฺปายา (สี. สฺยา. กํ.), เจโตวิวรณสปฺปายา (ปี.)] เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา อิติ – ‘เอวรูปึ กถํ กเถสฺสามี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

‘‘ตสฺส เจ, อานนฺท, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกาย จิตฺตํ นมติ, โส – ‘เย เต วิตกฺกา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก อิติ เอวรูเป วิตกฺเก [เอวรูเปน วิตกฺเกน (สี. สฺยา. กํ. ก.)] น วิตกฺเกสฺสามี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. เย จ โข อิเม, อานนฺท, วิตกฺกา อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส สมฺมาทุกฺขกฺขยาย, เสยฺยถิทํ – เนกฺขมฺมวิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก อิติ – ‘เอวรูเป วิตกฺเก [เอวรูเปน วิตกฺเกน (ก.)] วิตกฺเกสฺสามี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

๑๙๐. ‘‘ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, อานนฺท, ปฺจ กามคุณา ยตฺถ ภิกฺขุนา อภิกฺขณํ สกํ จิตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อตฺถิ นุ โข เม อิเมสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ อฺตรสฺมึ วา อฺตรสฺมึ วา อายตเน อุปฺปชฺชติ เจตโส สมุทาจาโร’ติ? สเจ, อานนฺท, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ปชานาติ – ‘อตฺถิ โข เม อิเมสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ อฺตรสฺมึ วา อฺตรสฺมึ วา อายตเน อุปฺปชฺชติ เจตโส สมุทาจาโร’ติ, เอวํ สนฺตเมตํ [เอวํ สนฺตํ (อฏฺ.)], อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘โย โข อิเมสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค โส เม นปฺปหีโน’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. สเจ ปนานนฺท, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ปชานาติ – ‘นตฺถิ โข เม อิเมสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ อฺตรสฺมึ วา อฺตรสฺมึ วา อายตเน อุปฺปชฺชติ เจตโส สมุทาจาโร’ติ, เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘โย โข อิเมสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค โส เม ปหีโน’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ.

๑๙๑. ‘‘ปฺจ โข อิเม, อานนฺท, อุปาทานกฺขนฺธา ยตฺถ ภิกฺขุนา อุทยพฺพยานุปสฺสินา วิหาตพฺพํ – ‘อิติ รูปํ อิติ รูปสฺส สมุทโย อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม, อิติ เวทนา… อิติ สฺา… อิติ สงฺขารา… อิติ วิฺาณํ อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. ตสฺส อิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โย ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺมิมาโน โส ปหียติ. เอวํ สนฺตเมตํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปชานาติ – ‘โย โข อิเมสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺมิมาโน โส เม ปหีโน’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ. อิเม โข เต, อานนฺท, ธมฺมา เอกนฺตกุสลา กุสลายาติกา [ธมฺมา เอกนฺตกุสลายติกา (สพฺพตฺถ) อฏฺกถาฏีกา โอโลเกตพฺพา] อริยา โลกุตฺตรา อนวกฺกนฺตา ปาปิมตา. ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, กํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรหติ สาวโก สตฺถารํ อนุพนฺธิตุํ อปิ ปณุชฺชมาโน’’ติ [อปิ ปนุชฺชมาโนปีติ (ก. สี.), อปิ ปยุชฺชมาโนติ (สฺยา. กํ. ปี.)]? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฏิสรณา. สาธุ วต, ภนฺเต, ภควนฺตํเยว ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.

๑๙๒. ‘‘น โข, อานนฺท, อรหติ สาวโก สตฺถารํ อนุพนฺธิตุํ, ยทิทํ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ ตสฺส เหตุ [เวยฺยากรณสฺส เหตุ (ก.)]. ตํ กิสฺส เหตุ? ทีฆรตฺตสฺส [ทีฆรตฺตํ + อสฺสาติ ปทจฺเฉโท] หิ เต, อานนฺท, ธมฺมา สุตา ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ยา จ โข อยํ, อานนฺท, กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวินีวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมา อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา – เอวรูปิยา โข, อานนฺท, กถาย เหตุ อรหติ สาวโก สตฺถารํ อนุพนฺธิตุํ อปิ ปณุชฺชมาโน.

‘‘เอวํ สนฺเต โข, อานนฺท, อาจริยูปทฺทโว โหติ, เอวํ สนฺเต อนฺเตวาสูปทฺทโว โหติ, เอวํ สนฺเต พฺรหฺมจารูปทฺทโว โหติ.

๑๙๓. ‘‘กถฺจานนฺท, อาจริยูปทฺทโว โหติ? อิธานนฺท, เอกจฺโจ สตฺถา วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต อนฺวาวตฺตนฺติ [อนฺวาวฏฺฏนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. โส อนฺวาวตฺตนฺเตสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชานปเทสุ จ มุจฺฉํ นิกามยติ [มุจฺฉติ กามยติ (สี. ปี.) อฏฺกถายํ ปน น ตถา ทิสฺสติ], เคธํ อาปชฺชติ, อาวตฺตติ พาหุลฺลาย. อยํ วุจฺจตานนฺท, อุปทฺทโว [อุปทฺทุโต (สี. ปี.)] อาจริโย. อาจริยูปทฺทเวน อวธึสุ นํ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (สี. ปี.)] สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา. เอวํ โข, อานนฺท, อาจริยูปทฺทโว โหติ.

๑๙๔. ‘‘กถฺจานนฺท, อนฺเตวาสูปทฺทโว โหติ? ตสฺเสว โข ปนานนฺท, สตฺถุ สาวโก ตสฺส สตฺถุ วิเวกมนุพฺรูหยมาโน วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต อนฺวาวตฺตนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. โส อนฺวาวตฺตนฺเตสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชานปเทสุ จ มุจฺฉํ นิกามยติ, เคธํ อาปชฺชติ, อาวตฺตติ พาหุลฺลาย. อยํ วุจฺจตานนฺท, อุปทฺทโว อนฺเตวาสี. อนฺเตวาสูปทฺทเวน อวธึสุ นํ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา. เอวํ โข, อานนฺท, อนฺเตวาสูปทฺทโว โหติ.

๑๙๕. ‘‘กถฺจานนฺท, พฺรหฺมจารูปทฺทโว โหติ? อิธานนฺท, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต อนฺวาวตฺตนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. โส อนฺวาวตฺตนฺเตสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชานปเทสุ จ น มุจฺฉํ นิกามยติ, น เคธํ อาปชฺชติ, น อาวตฺตติ พาหุลฺลาย. ตสฺเสว โข ปนานนฺท, สตฺถุ สาวโก ตสฺส สตฺถุ วิเวกมนุพฺรูหยมาโน วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ. ตสฺส ตถาวูปกฏฺสฺส วิหรโต อนฺวาวตฺตนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จ. โส อนฺวาวตฺตนฺเตสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชานปเทสุ จ มุจฺฉํ นิกามยติ, เคธํ อาปชฺชติ, อาวตฺตติ พาหุลฺลาย. อยํ วุจฺจตานนฺท, อุปทฺทโว พฺรหฺมจารี. พฺรหฺมจารูปทฺทเวน อวธึสุ นํ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา. เอวํ โข, อานนฺท, พฺรหฺมจารูปทฺทโว โหติ.

‘‘ตตฺรานนฺท, โย เจวายํ อาจริยูปทฺทโว, โย จ อนฺเตวาสูปทฺทโว อยํ เตหิ พฺรหฺมจารูปทฺทโว ทุกฺขวิปากตโร เจว กฏุกวิปากตโร จ, อปิ จ วินิปาตาย สํวตฺตติ.

๑๙๖. ‘‘ตสฺมาติห มํ, อานนฺท, มิตฺตวตาย สมุทาจรถ, มา สปตฺตวตาย. ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย.

‘‘กถฺจานนฺท, สตฺถารํ สาวกา สปตฺตวตาย สมุทาจรนฺติ, โน มิตฺตวตาย? อิธานนฺท, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สตฺถารํ สาวกา สปตฺตวตาย สมุทาจรนฺติ, โน มิตฺตวตาย.

‘‘กถฺจานนฺท, สตฺถารํ สาวกา มิตฺตวตาย สมุทาจรนฺติ, โน สปตฺตวตาย? อิธานนฺท, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย – ‘อิทํ โว หิตาย, อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ, โสตํ โอทหนฺติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, น จ โวกฺกม สตฺถุสาสนา วตฺตนฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สตฺถารํ สาวกา มิตฺตวตาย สมุทาจรนฺติ, โน สปตฺตวตาย.

‘‘ตสฺมาติห มํ, อานนฺท, มิตฺตวตาย สมุทาจรถ, มา สปตฺตวตาย. ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. น โว อหํ, อานนฺท, ตถา ปรกฺกมิสฺสามิ ยถา กุมฺภกาโร อามเก อามกมตฺเต. นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ; ปวยฺห ปวยฺห, อานนฺท, วกฺขามิ [ปวยฺห ปวยฺห (สี. ปี.), ปคฺคยฺห ปคฺคยฺห อานนฺท วกฺขามิ (ก.)]. โย สาโร โส สฺสตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

มหาสุฺตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทุติยํ.

๓. อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตํ

๑๙๗. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชานิสฺสติ [อนุสฺสริสฺสติ ชานิสฺสติ (ก.)] – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํนามา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํโคตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํปฺา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํวิหารี เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ, ‘เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปี’’ติ! เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยา เจว, อาวุโส, ตถาคตา อจฺฉริยธมฺมสมนฺนาคตา จ; อพฺภุตา เจว, อาวุโส, ตถาคตา อพฺภุตธมฺมสมนฺนาคตา จา’’ติ. อยฺจ หิทํ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ.

๑๙๘. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชานิสฺสติ – เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา… เอวํโคตฺตา… เอวํสีลา… เอวํธมฺมา.. เอวํปฺา… เอวํวิหารี… เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ! เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท อมฺเห เอตทโวจ – ‘อจฺฉริยา เจว, อาวุโส, ตถาคตา อจฺฉริยธมฺมสมนฺนาคตา จ, อพฺภุตา เจว, อาวุโส, ตถาคตา อพฺภุตธมฺมสมนฺนาคตา จา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๑๙๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตสฺมาติห ตํ, อานนฺท, ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฏิภนฺตุ ตถาคตสฺส อจฺฉริยา อพฺภุตธมฺมา’’ติ [อพฺภุตา ธมฺมาติ (?)].

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สโต สมฺปชาโน, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, สโต สมฺปชาโน โพธิสตฺโต ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชิ อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สโต สมฺปชาโน, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, สโต สมฺปชาโน โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสิ อิทํปาหํ [อิทํปหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๐. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยาวตายุกํ, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ยาวตายุกํ โพธิสตฺโต ตุสิเต กาเย อฏฺาสิ อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สโต สมฺปชาโน, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิตา, กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, สโต สมฺปชาโน โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิ อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๑. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา, ยตฺถปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนาติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาว’นฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๒. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, จตฺตาโร เทวปุตฺตา จตุทฺทิสํ อารกฺขาย อุปคจฺฉนฺติ – มา นํ โพธิสตฺตํ วา โพธิสตฺตมาตรํ วา มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา โกจิ วา วิเหเสี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๓. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, ปกติยา สีลวตี โพธิสตฺตมาตา โหติ วิรตา ปาณาติปาตา วิรตา อทินฺนาทานา วิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรตา มุสาวาทา วิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ ปุริเสสุ มานสํ อุปฺปชฺชติ กามคุณูปสํหิตํ, อนติกฺกมนียา จ โพธิสตฺตมาตา โหติ เกนจิ ปุริเสน รตฺตจิตฺเตนา’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, ลาภินี โพธิสตฺตมาตา โหติ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ. สา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรตี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๔. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ; สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา; โพธิสตฺตฺจ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคํ อหีนินฺทฺริยํ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต. ตตฺราสฺส สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต, ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วาติ. เอวเมว โข, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ; สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา; โพธิสตฺตฺจ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคํ อหีนินฺทฺริย’นฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๕. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สตฺตาหชาเต, อานนฺท, โพธิสตฺเต โพธิสตฺตมาตา กาลํ กโรติ, ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชตี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยถา โข ปนานนฺท, อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ทเสว มาสานิ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายตี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยถา โข ปนานนฺท, อฺา อิตฺถิกา นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ิตาว โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายตี’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, เทวา นํ ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ ปจฺฉา มนุสฺสา’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๖. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อปฺปตฺโตว โพธิสตฺโต ปถวึ โหติ, จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตา ปฏิคฺคเหตฺวา มาตุ ปุรโต เปนฺติ – อตฺตมนา, เทวิ, โหหิ; มเหสกฺโข เต ปุตฺโต อุปฺปนฺโน’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต อุเทน [อุทฺเทน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อมกฺขิโต เสมฺเหน อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ วิสโท [วิสุทฺโธ (สฺยา.)]. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มณิรตนํ กาสิเก วตฺเถ นิกฺขิตฺตํ เนว มณิรตนํ กาสิกํ วตฺถํ มกฺเขติ นาปิ กาสิกํ วตฺถํ มณิรตนํ มกฺเขติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อุภินฺนํ สุทฺธตฺตา. เอวเมว โข, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต อุเทน อมกฺขิโต เสมฺเหน อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ วิสโท’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, ทฺเว อุทกสฺส ธารา อนฺตลิกฺขา ปาตุภวนฺติ – เอกา สีตสฺส, เอกา อุณฺหสฺส; เยน โพธิสตฺตสฺส อุทกกิจฺจํ กโรนฺติ มาตุ จา’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

๒๐๗. ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน, สพฺพา จ ทิสา วิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสติ – อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’ติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมิ.

‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา, อานนฺท, โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ยตฺถปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนาติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ, อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาว’นฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต…เป… อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมี’’ติ.

๒๐๘. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อานนฺท, อิทมฺปิ ตถาคตสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรหิ. อิธานนฺท, ตถาคตสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. อิทมฺปิ โข, ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรหี’’ติ. ‘‘ยมฺปิ, ภนฺเต, ภควโต วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สฺา… วิทิตา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. อิทํปาหํ, ภนฺเต, ภควโต อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมี’’ติ.

อิทมโวจ อายสฺมา อานนฺโท. สมนุฺโ สตฺถา อโหสิ; อตฺตมนา จ เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

อจฺฉริยอพฺภุตสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.

๔. พากุลสุตฺตํ

๒๐๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา พากุโล [พกฺกุโล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อเจลกสฺสโป อายสฺมโต พากุลสฺส ปุราณคิหิสหาโย เยนายสฺมา พากุโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา พากุเลน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อเจลกสฺสโป อายสฺมนฺตํ พากุลํ เอตทโวจ –

‘‘กีวจิรํ ปพฺพชิโตสิ, อาวุโส พากุลา’’ติ? ‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺสา’’ติ. ‘‘อิเมหิ ปน เต, อาวุโส พากุล, อสีติยา วสฺเสหิ กติกฺขตฺตุํ เมถุโน ธมฺโม ปฏิเสวิโต’’ติ? ‘‘น โข มํ, อาวุโส กสฺสป, เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ – ‘อิเมหิ ปน เต, อาวุโส พากุล, อสีติยา วสฺเสหิ กติกฺขตฺตุํ เมถุโน ธมฺโม ปฏิเสวิโต’ติ. เอวฺจ โข มํ, อาวุโส กสฺสป, ปุจฺฉิตพฺพํ – ‘อิเมหิ ปน เต, อาวุโส พากุล, อสีติยา วสฺเสหิ กติกฺขตฺตุํ กามสฺา อุปฺปนฺนปุพฺพา’’’ติ? ( ) [(อิเมหิ ปน เต อาวุโส พกฺกุล อสีติโย วสฺเสหิ กติกฺขตฺตุํ กามสฺา อุปฺปนฺนปุพฺพาติ.) (สี. ปี.)]

๒๑๐. ‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ กามสฺํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ กามสฺํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ พฺยาปาทสฺํ…เป… วิหึสาสฺํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ วิหึสาสฺํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ กามวิตกฺกํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ กามวิตกฺกํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ พฺยาปาทวิตกฺกํ…เป… วิหึสาวิตกฺกํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ วิหึสาวิตกฺกํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

๒๑๑. ‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ คหปติจีวรํ สาทิตา. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ คหปติจีวรํ สาทิตา, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ สตฺเถน จีวรํ ฉินฺทิตา. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ สตฺเถน จีวรํ ฉินฺทิตา…เป… ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ สูจิยา จีวรํ สิพฺพิตา…เป… นาภิชานามิ รชเนน จีวรํ รชิตา… นาภิชานามิ กถิเน [กิเน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จีวรํ สิพฺพิตา… นาภิชานามิ สพฺรหฺมจารีนํ จีวรกมฺเม วิจาริตา [สพฺรหฺมจารี จีวรกมฺเม พฺยาปาริตา (สี. ปี.)] … นาภิชานามิ นิมนฺตนํ สาทิตา… นาภิชานามิ เอวรูปํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ – ‘อโห วต มํ โกจิ นิมนฺเตยฺยา’ติ… นาภิชานามิ อนฺตรฆเร นิสีทิตา… นาภิชานามิ อนฺตรฆเร ภุฺชิตา… นาภิชานามิ มาตุคามสฺส อนุพฺยฺชนโส นิมิตฺตํ คเหตา… นาภิชานามิ มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทสิตา อนฺตมโส จตุปฺปทมฺปิ คาถํ… นาภิชานามิ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตา… นาภิชานามิ ภิกฺขุนิยา ธมฺมํ เทสิตา… นาภิชานามิ สิกฺขมานาย ธมฺมํ เทสิตา… นาภิชานามิ สามเณริยา ธมฺมํ เทสิตา… นาภิชานามิ ปพฺพาเชตา… นาภิชานามิ อุปสมฺปาเทตา… นาภิชานามิ นิสฺสยํ ทาตา… นาภิชานามิ สามเณรํ อุปฏฺาเปตา… นาภิชานามิ ชนฺตาฆเร นฺหายิตา… นาภิชานามิ จุณฺเณน นฺหายิตา… นาภิชานามิ สพฺรหฺมจารีคตฺตปริกมฺเม วิจาริตา [พฺยาปาริตา (สี. ปี.)] … นาภิชานามิ อาพาธํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, อนฺตมโส คทฺทูหนมตฺตมฺปิ… นาภิชานามิ เภสชฺชํ อุปหริตา, อนฺตมโส หริตกิขณฺฑมฺปิ… นาภิชานามิ อปสฺเสนกํ อปสฺสยิตา… นาภิชานามิ เสยฺยํ กปฺเปตา. ยํปายสฺมา…เป… ธาเรม.

‘‘อสีติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปพฺพชิตสฺส นาภิชานามิ คามนฺตเสนาสเน วสฺสํ อุปคนฺตา. ยํปายสฺมา พากุโล อสีติยา วสฺเสหิ นาภิชานาติ คามนฺตเสนาสเน วสฺสํ อุปคนฺตา, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

‘‘สตฺตาหเมว โข อหํ, อาวุโส, สรโณ รฏฺปิณฺฑํ ภุฺชึ; อถ อฏฺมิยํ อฺา อุทปาทิ. ยํปายสฺมา พากุโล สตฺตาหเมว สรโณ รฏฺปิณฺฑํ ภุฺชิ; อถ อฏฺมิยํ อฺา อุทปาทิ อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม.

๒๑๒. ‘‘ลเภยฺยาหํ, อาวุโส พากุล, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. อลตฺถ โข อเจลกสฺสโป อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน ปนายสฺมา กสฺสโป เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสิ.

อถ โข อายสฺมา พากุโล อปเรน สมเยน อวาปุรณํ [อปาปุรณํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อาทาย วิหาเรน วิหารํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต. อชฺช เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘ยํปายสฺมา พากุโล อวาปุรณํ อาทาย วิหาเรน วิหารํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต; อชฺช เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตี’ติ, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรม’’.

อายสฺมา พากุโล มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนโกว ปรินิพฺพายิ. ‘‘ยํปายสฺมา พากุโล มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนโกว ปรินิพฺพายิ, อิทมฺปิ มยํ อายสฺมโต พากุลสฺส อจฺฉริยํ อพฺภุตธมฺมํ ธาเรมา’’ติ.

พากุลสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.

๕. ทนฺตภูมิสุตฺตํ

๒๑๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อจิรวโต สมณุทฺเทโส อรฺกุฏิกายํ วิหรติ. อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน อจิรวโต สมณุทฺเทโส เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อจิรวเตน สมณุทฺเทเสน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชยเสโน ราชกุมาโร อจิรวตํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ –

‘‘สุตํ เมตํ, โภ อคฺคิเวสฺสน – ‘อิธ ภิกฺขุ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ผุเสยฺย จิตฺตสฺส เอกคฺคต’นฺติ. ‘เอวเมตํ, ราชกุมาร, เอวเมตํ, ราชกุมาร. อิธ ภิกฺขุ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ผุเสยฺย จิตฺตสฺส เอกคฺคต’นฺติ. ‘สาธุ เม ภวํ อคฺคิเวสฺสโน ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสตู’ติ. ‘น โข เต อหํ, ราชกุมาร, สกฺโกมิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสตุํ. อหฺจ หิ เต, ราชกุมาร, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ตฺวฺจ เม ภาสิตสฺส อตฺถํ น อาชาเนยฺยาสิ; โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติ. ‘เทเสตุ เม ภวํ อคฺคิเวสฺสโน ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ. อปฺเปวนามาหํ โภโต อคฺคิเวสฺสนสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาเนยฺย’นฺติ. ‘เทเสยฺยํ โข เต อหํ, ราชกุมาร, ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ. สเจ เม ตฺวํ ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาเนยฺยาสิ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ เม ตฺวํ ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาเนยฺยาสิ, ยถาสเก ติฏฺเยฺยาสิ, น มํ ตตฺถ อุตฺตรึ ปฏิปุจฺเฉยฺยาสี’ติ. ‘เทเสตุ เม ภวํ อคฺคิเวสฺสโน ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ. สเจ อหํ โภโต อคฺคิเวสฺสนสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามิ [อาชาเนยฺยามิ (ก.)], อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ อหํ โภโต อคฺคิเวสฺสนสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามิ, ยถาสเก ติฏฺิสฺสามิ [ติฏฺเยฺยามิ (ก.)], นาหํ ตตฺถ ภวนฺตํ อคฺคิเวสฺสนํ อุตฺตรึ ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’’ติ.

๒๑๔. อถ โข อจิรวโต สมณุทฺเทโส ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสสิ. เอวํ วุตฺเต, ชยเสโน ราชกุมาโร อจิรวตํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺานเมตํ, โภ อคฺคิเวสฺสน, อนวกาโส ยํ ภิกฺขุ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ผุเสยฺย จิตฺตสฺส เอกคฺคต’’นฺติ. อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร อจิรวตสฺส สมณุทฺเทสสฺส อฏฺานตฺจ อนวกาสตฺจ ปเวเทตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

อถ โข อจิรวโต สมณุทฺเทโส อจิรปกฺกนฺเต ชยเสเน ราชกุมาเร เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อจิรวโต สมณุทฺเทโส ยาวตโก อโหสิ ชยเสเนน ราชกุมาเรน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

เอวํ วุตฺเต, ภควา อจิรวตํ สมณุทฺเทสํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กุเตตฺถ, อคฺคิเวสฺสน, ลพฺภา. ยํ ตํ เนกฺขมฺเมน าตพฺพํ เนกฺขมฺเมน ทฏฺพฺพํ เนกฺขมฺเมน ปตฺตพฺพํ เนกฺขมฺเมน สจฺฉิกาตพฺพํ ตํ วต ชยเสโน ราชกุมาโร กามมชฺเฌ วสนฺโต กาเม ปริภุฺชนฺโต กามวิตกฺเกหิ ขชฺชมาโน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน กามปริเยสนาย อุสฺสุโก [อุสฺสุกฺโก (สพฺพตฺถ)] สฺสติ วา ทกฺขติ วา สจฺฉิ วา กริสฺสตี’’ติ – เนตํ านํ วิชฺชติ.

๒๑๕. ‘‘เสยฺยถาปิสฺสุ, อคฺคิเวสฺสน, ทฺเว หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วา สุทนฺตา สุวินีตา, ทฺเว หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วา อทนฺตา อวินีตา. ตํ กึ มฺสิ, อคฺคิเวสฺสน, เย เต ทฺเว หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วา สุทนฺตา สุวินีตา, อปิ นุ เต ทนฺตาว ทนฺตการณํ คจฺเฉยฺยุํ, ทนฺตาว ทนฺตภูมึ สมฺปาปุเณยฺยุ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เย ปน เต ทฺเว หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วา อทนฺตา อวินีตา, อปิ นุ เต อทนฺตาว ทนฺตการณํ คจฺเฉยฺยุํ, อทนฺตาว ทนฺตภูมึ สมฺปาปุเณยฺยุํ, เสยฺยถาปิ เต ทฺเว หตฺถิทมฺมา วา อสฺสทมฺมา วา โคทมฺมา วา สุทนฺตา สุวินีตา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, อคฺคิเวสฺสน, ยํ ตํ เนกฺขมฺเมน าตพฺพํ เนกฺขมฺเมน ทฏฺพฺพํ เนกฺขมฺเมน ปตฺตพฺพํ เนกฺขมฺเมน สจฺฉิกาตพฺพํ ตํ วต ชยเสโน ราชกุมาโร กามมชฺเฌ วสนฺโต กาเม ปริภุฺชนฺโต กามวิตกฺเกหิ ขชฺชมาโน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน กามปริเยสนาย อุสฺสุโก สฺสติ วา ทกฺขติ วา สจฺฉิ วา กริสฺสตี’’ติ – เนตํ านํ วิชฺชติ.

๒๑๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, อคฺคิเวสฺสน, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร มหาปพฺพโต. ตเมนํ ทฺเว สหายกา ตมฺหา คามา วา นิคมา วา นิกฺขมิตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน เยน โส ปพฺพโต เตนุปสงฺกเมยฺยุํ; อุปสงฺกมิตฺวา เอโก สหายโก เหฏฺา ปพฺพตปาเท ติฏฺเยฺย, เอโก สหายโก อุปริปพฺพตํ อาโรเหยฺย. ตเมนํ เหฏฺา ปพฺพตปาเท ิโต สหายโก อุปริปพฺพเต ิตํ สหายกํ เอวํ เวทยฺย – ‘ยํ, สมฺม, กึ ตฺวํ ปสฺสสิ อุปริปพฺพเต ิโต’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘ปสฺสามิ โข อหํ, สมฺม, อุปริปพฺพเต ิโต อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’’นฺติ.

‘‘โส เอวํ วเทยฺย – ‘อฏฺานํ โข เอตํ, สมฺม, อนวกาโส ยํ ตฺวํ อุปริปพฺพเต ิโต ปสฺเสยฺยาสิ อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. ตเมนํ อุปริปพฺพเต ิโต สหายโก เหฏฺิมปพฺพตปาทํ โอโรหิตฺวา ตํ สหายกํ พาหายํ คเหตฺวา อุปริปพฺพตํ อาโรเปตฺวา มุหุตฺตํ อสฺสาเสตฺวา เอวํ วเทยฺย – ‘ยํ, สมฺม, กึ ตฺวํ ปสฺสสิ อุปริปพฺพเต ิโต’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘ปสฺสามิ โข อหํ, สมฺม, อุปริปพฺพเต ิโต อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’’นฺติ.

‘‘โส เอวํ วเทยฺย – ‘อิทาเนว โข เต, สมฺม, ภาสิตํ – มยํ เอวํ อาชานาม – อฏฺานํ โข เอตํ สมฺม, อนวกาโส ยํ ตฺวํ อุปริปพฺพเต ิโต ปสฺเสยฺยาสิ อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. อิทาเนว จ ปน เต ภาสิตํ มยํ เอวํ อาชานาม – ‘ปสฺสามิ โข อหํ, สมฺม, อุปริปพฺพเต ิโต อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘ตถา หิ ปนาหํ, สมฺม, อิมินา มหตา ปพฺพเตน อาวุโต [อาวโฏ (สี. อฏฺ. ปี.), อาวุโฏ (สฺยา. กํ. ก.)] ทฏฺเยฺยํ นาทฺทส’’’นฺติ.

‘‘อโต มหนฺตตเรน, อคฺคิเวสฺสน, อวิชฺชาขนฺเธน ชยเสโน ราชกุมาโร อาวุโต นิวุโต [นิวุโฏ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] โอผุโฏ [โอวุโต (สี.), โอวุโฏ (สฺยา. กํ. ปี.)] ปริโยนทฺโธ. โส วต ยํ ตํ เนกฺขมฺเมน าตพฺพํ เนกฺขมฺเมน ทฏฺพฺพํ เนกฺขมฺเมน ปตฺตพฺพํ เนกฺขมฺเมน สจฺฉิกาตพฺพํ ตํ วต ชยเสโน ราชกุมาโร กามมชฺเฌ วสนฺโต กาเม ปริภุฺชนฺโต กามวิตกฺเกหิ ขชฺชมาโน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน กามปริเยสนาย อุสฺสุโก สฺสติ วา ทกฺขติ วา สจฺฉิ วา กริสฺสตีติ – เนตํ านํ วิชฺชติ. สเจ โข ตํ, อคฺคิเวสฺสน, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา ทฺเว อุปมา ปฏิภาเยยฺยุํ [ปฏิภาเสยฺยุํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อนจฺฉริยํ เต ชยเสโน ราชกุมาโร ปสีเทยฺย, ปสนฺโน จ เต ปสนฺนาการํ กเรยฺยา’’ติ. ‘‘กุโต ปน มํ, ภนฺเต, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา ทฺเว อุปมา ปฏิภายิสฺสนฺติ [ปฏิภาสิสฺสนฺติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนจฺฉริยา ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา, เสยฺยถาปิ ภควนฺต’’นฺติ?

๒๑๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, อคฺคิเวสฺสน, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต นาควนิกํ อามนฺเตติ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม นาควนิก, รฺโ นาคํ อภิรุหิตฺวา นาควนํ ปวิสิตฺวา อารฺกํ นาคํ อติปสฺสิตฺวา รฺโ นาคสฺส คีวายํ อุปนิพนฺธาหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อคฺคิเวสฺสน, นาควนิโก รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รฺโ นาคํ อภิรุหิตฺวา นาควนํ ปวิสิตฺวา อารฺกํ นาคํ อติปสฺสิตฺวา รฺโ นาคสฺส คีวายํ อุปนิพนฺธติ. ตเมนํ รฺโ นาโค อพฺโภกาสํ นีหรติ. เอตฺตาวตา โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค อพฺโภกาสํ คโต โหติ. เอตฺถเคธา [เอตเคธา (สี. ปี.)] หิ, อคฺคิเวสฺสน, อารฺกา นาคา ยทิทํ – นาควนํ. ตเมนํ นาควนิโก รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส อาโรเจสิ – ‘อพฺโภกาสคโต โข [โข เต (สฺยา. กํ. ก.)], เทว, อารฺโก นาโค’ติ. อถ โข อคฺคิเวสฺสน, ตเมนํ ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต หตฺถิทมกํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม หตฺถิทมก, อารฺกํ นาคํ ทมยาหิ อารฺกานฺเจว สีลานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว สรสงฺกปฺปานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว ทรถกิลมถปริฬาหานํ อภินิมฺมทนาย คามนฺเต อภิรมาปนาย มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ สมาทปนายา’’’ติ [สมาทาปนายาติ (?)].

‘‘‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อคฺคิเวสฺสน, หตฺถิทมโก รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มหนฺตํ ถมฺภํ ปถวิยํ นิขณิตฺวา อารฺกสฺส นาคสฺส คีวายํ อุปนิพนฺธติ อารฺกานฺเจว สีลานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว สรสงฺกปฺปานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว ทรถกิลมถปริฬาหานํ อภินิมฺมทนาย คามนฺเต อภิรมาปนาย มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ สมาทปนาย. ตเมนํ หตฺถิทมโก ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปาหิ วาจาหิ สมุทาจรติ. ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค หตฺถิทมกสฺส ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปาหิ วาจาหิ สมุทาจริยมาโน สุสฺสูสติ, โสตํ โอทหติ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปติ; ตเมนํ หตฺถิทมโก อุตฺตริ ติณฆาโสทกํ อนุปฺปเวจฺฉติ.

‘‘ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค หตฺถิทมกสฺส ติณฆาโสทกํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตตฺร หตฺถิทมกสฺส เอวํ โหติ – ‘ชีวิสฺสติ โข [นุ โข (สี. ก.)] ทานิ อารฺโก [รฺโ (สี. ปี.)] นาโค’ติ. ตเมนํ หตฺถิทมโก อุตฺตริ การณํ กาเรติ – ‘อาทิย, โภ, นิกฺขิป, โภ’ติ. ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค หตฺถิทมกสฺส อาทานนิกฺเขเป วจนกโร โหติ โอวาทปฺปฏิกโร, ตเมนํ หตฺถิทมโก อุตฺตริ การณํ กาเรติ – ‘อภิกฺกม, โภ, ปฏิกฺกม, โภ’ติ. ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค หตฺถิทมกสฺส อภิกฺกมปฏิกฺกมวจนกโร โหติ โอวาทปฺปฏิกโร, ตเมนํ หตฺถิทมโก อุตฺตริ การณํ กาเรติ – ‘อุฏฺห, โภ, นิสีท, โภ’ติ. ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อารฺโก นาโค หตฺถิทมกสฺส อุฏฺานนิสชฺชาย วจนกโร โหติ โอวาทปฺปฏิกโร, ตเมนํ หตฺถิทมโก อุตฺตริ อาเนฺชํ นาม การณํ กาเรติ, มหนฺตสฺส ผลกํ โสณฺฑาย อุปนิพนฺธติ, โตมรหตฺโถ จ ปุริโส อุปริคีวาย นิสินฺโน โหติ, สมนฺตโต จ โตมรหตฺถา ปุริสา ปริวาเรตฺวา ิตา โหนฺติ, หตฺถิทมโก จ ทีฆโตมรยฏฺึ คเหตฺวา ปุรโต ิโต โหติ. โส อาเนฺชํ การณํ การิยมาโน เนว ปุริเม ปาเท โจเปติ น ปจฺฉิเม ปาเท โจเปติ, น ปุริมกายํ โจเปติ น ปจฺฉิมกายํ โจเปติ, น สีสํ โจเปติ, น กณฺเณ โจเปติ, น ทนฺเต โจเปติ, น นงฺคุฏฺํ โจเปติ, น โสณฺฑํ โจเปติ. โส โหติ อารฺโก นาโค ขโม สตฺติปฺปหารานํ อสิปฺปหารานํ อุสุปฺปหารานํ สรปตฺตปฺปหารานํ [ปรสตฺถปฺปหารานํ (สี.), ปรสตฺตุปฺปหารานํ (สฺยา. กํ. ปี.)] เภริปณววํสสงฺขฑิณฺฑิมนินฺนาทสทฺทานํ [เภริปณวสงฺขติณวนินฺนาทสทฺทานํ (ปี.)] สพฺพวงฺกโทสนิหิตนินฺนีตกสาโว ราชารโห ราชโภคฺโค รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.

๒๑๘. ‘‘เอวเมว โข, อคฺคิเวสฺสน, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ.

‘‘โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. เอตฺตาวตา โข, อคฺคิเวสฺสน, อริยสาวโก อพฺโภกาสคโต โหติ. เอตฺถเคธา หิ, อคฺคิเวสฺสน, เทวมนุสฺสา ยทิทํ – ปฺจ กามคุณา. ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สีลวา โหหิ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหราหิ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขสฺสุ สิกฺขาปเทสู’’’ติ.

‘‘ยโต โข, อคฺคิเวสฺสน, อริยสาวโก สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โหหิ, จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มา นิมิตฺตคฺคาหี…เป… (ยถา คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตนฺเต, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพานิ.)

๒๑๙. ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, อคฺคิเวสฺสน, หตฺถิทมโก มหนฺตํ ถมฺภํ ปถวิยํ นิขณิตฺวา อารฺกสฺส นาคสฺส คีวายํ อุปนิพนฺธติ อารฺกานฺเจว สีลานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว สรสงฺกปฺปานํ อภินิมฺมทนาย อารฺกานฺเจว ทรถกิลมถปริฬาหานํ อภินิมฺมทนาย คามนฺเต อภิรมาปนาย มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ สมาทปนาย; เอวเมว โข, อคฺคิเวสฺสน, อริยสาวกสฺส อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา เจตโส อุปนิพนฺธนา โหนฺติ เคหสิตานฺเจว สีลานํ อภินิมฺมทนาย เคหสิตานฺเจว สรสงฺกปฺปานํ อภินิมฺมทนาย เคหสิตานฺเจว ทรถกิลมถปริฬาหานํ อภินิมฺมทนาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย.

๒๒๐. ‘‘ตเมนํ ตถาคโต อุตฺตรึ วิเนติ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, กาเย กายานุปสฺสี วิหราหิ, มา จ กามูปสํหิตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสิ. เวทนาสุ… จิตฺเต… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหราหิ, มา จ กามูปสํหิตํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสี’’’ติ.

‘‘โส วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

๒๒๑. ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ.

‘‘โส โหติ ภิกฺขุ ขโม สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ สพฺพราคโทสโมหนิหิตนินฺนีตกสาโว อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส.

๒๒๒. ‘‘มหลฺลโก เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค อทนฺโต อวินีโต กาลงฺกโรติ, ‘อทนฺตมรณํ [อทนฺตํ มรณํ (ก.)] มหลฺลโก รฺโ นาโค กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; มชฺฌิโม เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค. ทหโร เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค อทนฺโต อวินีโต กาลงฺกโรติ, ‘อทนฺตมรณํ ทหโร รฺโ นาโค กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; เอวเมว โข, อคฺคิเวสฺสน, เถโร เจปิ ภิกฺขุ อขีณาสโว กาลงฺกโรติ, ‘อทนฺตมรณํ เถโร ภิกฺขุ กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; มชฺฌิโม เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ. นโว เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ อขีณาสโว กาลงฺกโรติ, ‘อทนฺตมรณํ นโว ภิกฺขุ กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.

‘‘มหลฺลโก เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค สุทนฺโต สุวินีโต กาลงฺกโรติ, ‘ทนฺตมรณํ มหลฺลโก รฺโ นาโค กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; มชฺฌิโม เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค… ทหโร เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, รฺโ นาโค สุทนฺโต สุวินีโต กาลงฺกโรติ, ‘ทนฺตมรณํ ทหโร รฺโ นาโค กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; เอวเมว โข, อคฺคิเวสฺสน, เถโร เจปิ ภิกฺขุ ขีณาสโว กาลงฺกโรติ, ‘ทนฺตมรณํ เถโร ภิกฺขุ กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ; มชฺฌิโม เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ. นโว เจปิ, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ ขีณาสโว กาลงฺกโรติ, ‘ทนฺตมรณํ นโว ภิกฺขุ กาลงฺกโต’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อจิรวโต สมณุทฺเทโส ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

ทนฺตภูมิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.

๖. ภูมิชสุตฺตํ

๒๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. อถ โข อายสฺมา ภูมิโช ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร เยนายสฺมา ภูมิโช เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา ภูมิเชน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชยเสโน ราชกุมาโร อายสฺมนฺตํ ภูมิชํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, โภ ภูมิช, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – ‘อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา [จรติ, อภพฺโพ (สี. ปี.) เอวมุปริปิ เอกวจเนเนว ทิสฺสติ] ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ [อาสฺจ อนาสฺจ เจปิ (อฏฺ.)] กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติ. อิธ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา กึวาที [กึวาที กึทิฏฺี (สฺยา. กํ. ก.)] กิมกฺขายี’’ติ? ‘‘น โข เมตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘อาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. อาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติ. น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺยา’’ติ. ‘‘สเจ โข โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา เอวํวาที [เอวํวาที เอวํทิฏฺี (สฺยา. กํ. ก.)] เอวมกฺขายี, อทฺธา โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา สพฺเพสํเยว ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ มุทฺธานํ [พุทฺธานํ (ก.) มุทฺธานนฺติมุทฺธํ, มตฺถกนฺติ อตฺโถ] มฺเ อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ. อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร อายสฺมนฺตํ ภูมิชํ สเกเนว ถาลิปาเกน ปริวิสิ.

๒๒๔. อถ โข อายสฺมา ภูมิโช ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ภูมิโช ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, ชยเสโน ราชกุมาโร เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, ภนฺเต, ชยเสโน ราชกุมาโร มํ เอตทโวจ – ‘สนฺติ, โภ ภูมิช, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติ. ‘อิธ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา กึวาที กิมกฺขายี’ติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ชยเสนํ ราชกุมารํ เอตทโวจํ – ‘น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – อาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. อาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายาติ. น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ. านฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺยา’ติ. ‘สเจ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา เอวํวาที เอวมกฺขายี, อทฺธา โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา สพฺเพสํเยว ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ มุทฺธานํ มฺเ อาหจฺจ ติฏฺตี’ติ. ‘กจฺจาหํ, ภนฺเต, เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว ภควโต โหมิ, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขามิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรมิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉตี’’’ติ?

‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภูมิช, เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม โหสิ, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขสิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรสิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ. เย หิ เกจิ, ภูมิช, สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฏฺิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

๒๒๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส เตลตฺถิโก เตลคเวสี เตลปริเยสนํ จรมาโน วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย. อาสฺเจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, อภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, อภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, อภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, อภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, เตลสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฏฺิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส ขีรตฺถิโก ขีรคเวสี ขีรปริเยสนํ จรมาโน คาวึ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิฺเฉยฺย [อาวิฺเชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. อาสฺเจปิ กริตฺวา คาวึ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิฺเฉยฺย, อภพฺโพ ขีรสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา คาวึ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิฺเฉยฺย, อภพฺโพ ขีรสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ขีรสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฏฺิโน…เป… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

๒๒๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส นวนีตตฺถิโก นวนีตคเวสี นวนีตปริเยสนํ จรมาโน อุทกํ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน [มนฺเถน (สี.), มตฺเตน (ก.)] อาวิฺเฉยฺย. อาสฺเจปิ กริตฺวา อุทกํ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน อาวิฺเฉยฺย, อภพฺโพ นวนีตสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา อุทกํ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน อาวิฺเฉยฺย, อภพฺโพ นวนีตสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, นวนีตสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฏฺิโน…เป… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส อคฺคิตฺถิโก [อคฺคตฺถิโก (สี.)] อคฺคิคเวสี อคฺคิปริเยสนํ จรมาโน อลฺลํ กฏฺํ สสฺเนหํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถยฺย [อภิมตฺเถยฺย (สฺยา. กํ. ปี. ก.)]. อาสฺเจปิ กริตฺวา อลฺลํ กฏฺํ สสฺเนหํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถยฺย, อภพฺโพ อคฺคิสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา อลฺลํ กฏฺํ สสฺเนหํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถยฺย, อภพฺโพ อคฺคิสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, อคฺคิสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฏฺิโน…เป… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป…อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย. เย หิ เกจิ, ภูมิช, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฏฺิโน สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

๒๒๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส เตลตฺถิโก เตลคเวสี เตลปริเยสนํ จรมาโน ติลปิฏฺํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย. อาสฺเจปิ กริตฺวา ติลปิฏฺํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, ภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา ติลปิฏฺํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ ปีเฬยฺย, ภพฺโพ เตลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, เตลสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฏฺิโน…เป… สมฺมาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส ขีรตฺถิโก ขีรคเวสี ขีรปริเยสนํ จรมาโน คาวึ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิฺเฉยฺย. อาสฺเจปิ กริตฺวา คาวึ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิฺเฉยฺย, ภพฺโพ ขีรสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา คาวึ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิฺเฉยฺย, ภพฺโพ ขีรสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ขีรสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฏฺิโน…เป… สมฺมาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา…เป… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

๒๒๘. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส นวนีตตฺถิโก นวนีตคเวสี นวนีตปริเยสนํ จรมาโน ทธึ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน อาวิฺเฉยฺย. อาสฺเจปิ กริตฺวา ทธึ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน อาวิฺเฉยฺย, ภพฺโพ นวนีตสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา ทธึ กลเส อาสิฺจิตฺวา มตฺเถน อาวิฺเฉยฺย, ภพฺโพ นวนีตสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, นวนีตสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฏฺิโน…เป… สมฺมาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา… อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา … เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส อคฺคิตฺถิโก อคฺคิคเวสี อคฺคิปริเยสนํ จรมาโน สุกฺขํ กฏฺํ โกฬาปํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถยฺย; ( ) [(ภพฺโพ อคฺคิสฺส อธิคมาย) (สพฺพตฺถ)] อาสฺเจปิ กริตฺวา… อนาสฺเจปิ กริตฺวา.. อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา… เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา สุกฺข กฏฺํ โกฬาปํ อุตฺตรารณึ อาทาย อภิมนฺเถยฺย, ภพฺโพ อคฺคิสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, อคฺคิสฺส อธิคมาย. เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฏฺิโน…เป… สมฺมาสมาธิโน เต อาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสฺจ อนาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสฺเจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมาย.

‘‘สเจ โข ตํ, ภูมิช, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา จตสฺโส อุปมา ปฏิภาเยยฺยุํ อนจฺฉริยํ เต ชยเสโน ราชกุมาโร ปสีเทยฺย, ปสนฺโน จ เต ปสนฺนาการํ กเรยฺยา’’ติ. ‘‘กุโต ปน มํ, ภนฺเต, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา จตสฺโส อุปมา ปฏิภายิสฺสนฺติ อนจฺฉริยา ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา, เสยฺยถาปิ ภควนฺต’’นฺติ?

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา ภูมิโช ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

ภูมิชสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.

๗. อนุรุทฺธสุตฺตํ

๒๒๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยนายสฺมา อนุรุทฺโธ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปาเท สิรสา วนฺทาหิ [วนฺทาหิ, เอวฺจ วเทหิ (สี. ปี.)] – ‘ปฺจกงฺโค, ภนฺเต, ถปติ อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ; เอวฺจ วเทหิ [เอวฺจ วเทติ (สี. ปี.)] – ‘อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ ปฺจกงฺคสฺส ถปติสฺส สฺวาตนาย อตฺตจตุตฺโถ ภตฺตํ; เยน จ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ ปเควตรํ อาคจฺเฉยฺย; ปฺจกงฺโค, ภนฺเต, ถปติ [ปฺจกงฺโค ถปติ (สี. ปี.)] พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย ราชกรณีเยนา’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ปุริโส ปฺจกงฺคสฺส ถปติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อนุรุทฺโธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘ปฺจกงฺโค, ภนฺเต, ถปติ อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ – ‘อธิวาเสตุ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ ปฺจกงฺคสฺส ถปติสฺส สฺวาตนาย อตฺตจตุตฺโถ ภตฺตํ; เยน จ กิร, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ ปเควตรํ อาคจฺเฉยฺย; ปฺจกงฺโค, ภนฺเต, ถปติ พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย ราชกรณีเยนา’’’ติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ตุณฺหีภาเวน.

๒๓๐. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ปฺจกงฺคสฺส ถปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข ปฺจกงฺโค ถปติ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปฺจกงฺโค ถปติ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ –

‘‘อิธ มํ, ภนฺเต, เถรา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อปฺปมาณํ, คหปติ, เจโตวิมุตฺตึ ภาเวหี’ติ [อปฺปมาณา คหปติ เจโตวิมุตฺติ ภาเวตพฺพาติ (ก.)]. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘มหคฺคตํ, คหปติ, เจโตวิมุตฺตึ ภาเวหี’ติ. ยา จายํ, ภนฺเต, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ยา จ มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ – อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, คหปติ, ตํ เยเวตฺถ ปฏิภาตุ. อปณฺณกนฺเต อิโต ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘มยฺหํ โข, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ยา จายํ อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ยา จ มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’’นฺติ. ‘‘ยา จายํ, คหปติ, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ ยา จ มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ. ตทมินาเปตํ, คหปติ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ’’.

‘‘กตมา จ, คหปติ, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ? อิธ, คหปติ, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. กรุณาสหคเตน เจตสา… มุทิตาสหคเตน เจตสา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ.

๒๓๑. ‘‘กตมา จ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ? อิธ, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ รุกฺขมูลํ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา รุกฺขมูลานิ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ [อยํ (สฺยา. กํ. ก.)] วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ คามกฺเขตฺตํ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา คามกฺเขตฺตานิ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ มหารชฺชํ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา มหารชฺชานิ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิธ ปน, คหปติ, ภิกฺขุ ยาวตา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ มหคฺคตนฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. อยมฺปิ วุจฺจติ, คหปติ, มหคฺคตา เจโตวิมุตฺติ. อิมินา โข เอตํ, คหปติ, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ.

๒๓๒. ‘‘จตสฺโส โข อิมา คหปติ, ภวูปปตฺติโย. กตมา จตสฺโส? อิธ, คหปติ, เอกจฺโจ ‘ปริตฺตาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปริตฺตาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ ‘อปฺปมาณาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺปมาณาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ ‘สํกิลิฏฺาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํกิลิฏฺาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ ‘ปริสุทฺธาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปริสุทฺธาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อิมา โข, คหปติ, จตสฺโส ภวูปปตฺติโย.

‘‘โหติ โข โส, คหปติ, สมโย, ยา ตา เทวตา เอกชฺฌํ สนฺนิปตนฺติ, ตาสํ เอกชฺฌํ สนฺนิปติตานํ วณฺณนานตฺตฺหิ โข ปฺายติ โน จ อาภานานตฺตํ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส สมฺพหุลานิ เตลปฺปทีปานิ เอกํ ฆรํ ปเวเสยฺย. เตสํ เอกํ ฆรํ ปเวสิตานํ อจฺจินานตฺตฺหิ โข ปฺาเยถ, โน จ อาภานานตฺตํ; เอวเมว โข, คหปติ, โหติ โข โส สมโย, ยา ตา เทวตา เอกชฺฌํ สนฺนิปตนฺติ ตาสํ เอกชฺฌํ สนฺนิปติตานํ วณฺณนานตฺตฺหิ โข ปฺายติ, โน จ อาภานานตฺตํ.

‘‘โหติ โข โส, คหปติ, สมโย, ยา ตา เทวตา ตโต วิปกฺกมนฺติ, ตาสํ ตโต วิปกฺกมนฺตีนํ วณฺณนานตฺตฺเจว ปฺายติ อาภานานตฺตฺจ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส ตานิ สมฺพหุลานิ เตลปฺปทีปานิ ตมฺหา ฆรา นีหเรยฺย. เตสํ ตโต นีหตานํ [นีหรนฺตานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อจฺจินานตฺตฺเจว ปฺาเยถ อาภานานตฺตฺจ; เอวเมว โข, คหปติ, โหติ โข โส สมโย, ยา ตา เทวตา ตโต วิปกฺกมนฺติ, ตาสํ ตโต วิปกฺกมนฺตีนํ วณฺณนานตฺตฺเจว ปฺายติ อาภานานตฺตฺจ.

‘‘น โข, คหปติ, ตาสํ เทวตานํ เอวํ โหติ – ‘อิทํ อมฺหากํ นิจฺจนฺติ วา ธุวนฺติ วา สสฺสต’นฺติ วา, อปิ จ ยตฺถ ยตฺเถว ตา [ยา (ก.)] เทวตา อภินิวิสนฺติ ตตฺถ ตตฺเถว ตา เทวตา อภิรมนฺติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, มกฺขิกานํ กาเชน วา ปิฏเกน วา หรียมานานํ น เอวํ โหติ – ‘อิทํ อมฺหากํ นิจฺจนฺติ วา ธุวนฺติ วา สสฺสต’นฺติ วา, อปิ จ ยตฺถ ยตฺเถว ตา [ยา (ก.)] มกฺขิกา อภินิวิสนฺติ ตตฺถ ตตฺเถว ตา มกฺขิกา อภิรมนฺติ; เอวเมว โข, คหปติ, ตาสํ เทวตานํ น เอวํ โหติ – ‘อิทํ อมฺหากํ นิจฺจนฺติ วา ธุวนฺติ วา สสฺสต’นฺติ วา, อปิ จ ยตฺถ ยตฺเถว ตา เทวตา อภินิวิสนฺติ ตตฺถ ตตฺเถว ตา เทวตา อภิรมนฺตี’’ติ.

๒๓๓. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สภิโย กจฺจาโน [กจฺจายโน (สี.)] อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต อนุรุทฺธ! อตฺถิ จ เม เอตฺถ อุตฺตรึ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ. ยา ตา, ภนฺเต, เทวตา อาภา สพฺพา ตา ปริตฺตาภา อุทาหุ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา อปฺปมาณาภา’’ติ? ‘‘ตทงฺเคน โข, อาวุโส กจฺจาน, สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริตฺตาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา อปฺปมาณาภา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย เยน ตาสํ เทวตานํ เอกํ เทวนิกายํ อุปปนฺนานํ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริตฺตาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา อปฺปมาณาภา’’ติ?

‘‘เตน หาวุโส กจฺจาน, ตํเยเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ รุกฺขมูลํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ [โยปายํ (ก.)] ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา รุกฺขมูลานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา รุกฺขมูลานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา รุกฺขมูลานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ คามกฺเขตฺตํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ คามกฺเขตฺตํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ คามกฺเขตฺตํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา คามกฺเขตฺตานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา คามกฺเขตฺตานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา คามกฺเขตฺตานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ มหารชฺชํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ มหารชฺชํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา เอกํ มหารชฺชํ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา มหารชฺชานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา มหารชฺชานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, อาวุโส กจฺจาน, ยฺวายํ ภิกฺขุ ยาวตา ทฺเว วา ตีณิ วา มหารชฺชานิ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, โยจายํ ภิกฺขุ ยาวตา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ กตมา จิตฺตภาวนา มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ ยาวตา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ ‘มหคฺคต’นฺติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ – อยํ อิมาสํ อุภินฺนํ จิตฺตภาวนานํ มหคฺคตตรา’’ติ? ‘‘อยํ โข, อาวุโส กจฺจาน, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน ตาสํ เทวตานํ เอกํ เทวนิกายํ อุปปนฺนานํ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริตฺตาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา อปฺปมาณาภา’’ติ.

๒๓๔. ‘‘สาธุ, ภนฺเต อนุรุทฺธ! อตฺถิ จ เม เอตฺถ อุตฺตรึ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ. ยาวตา [ยา ตา (ก.)], ภนฺเต, เทวตา อาภา สพฺพา ตา สํกิลิฏฺาภา อุทาหุ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริสุทฺธาภา’’ติ? ‘‘ตทงฺเคน โข, อาวุโส กจฺจาน, สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา สํกิลิฏฺาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริสุทฺธาภา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ตาสํ เทวตานํ เอกํ เทวนิกายํ อุปปนฺนานํ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา สํกิลิฏฺาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริสุทฺธาภา’’ติ?

‘‘เตน, หาวุโส กจฺจาน, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมายปิเธกจฺเจ [อุปมายมิเธกจฺเจ (ก.)] วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส กจฺจาน, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ อปริสุทฺธํ วฏฺฏิปิ อปริสุทฺธา. โส เตลสฺสปิ อปริสุทฺธตฺตา วฏฺฏิยาปิ อปริสุทฺธตฺตา อนฺธนฺธํ วิย ฌายติ; เอวเมว โข, อาวุโส กจฺจาน, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ‘สํกิลิฏฺาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ, ตสฺส กายทุฏฺุลฺลมฺปิ น สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธํ โหติ, ถินมิทฺธมฺปิ น สุสมูหตํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจมฺปิ น สุปฺปฏิวินีตํ โหติ. โส กายทุฏฺุลฺลสฺสปิ น สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ถินมิทฺธสฺสปิ น สุสมูหตตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺสปิ น สุปฺปฏิวินีตตฺตา อนฺธนฺธํ วิย ฌายติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํกิลิฏฺาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส กจฺจาน, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต เตลมฺปิ ปริสุทฺธํ วฏฺฏิปิ ปริสุทฺธา. โส เตลสฺสปิ ปริสุทฺธตฺตา วฏฺฏิยาปิ ปริสุทฺธตฺตา น อนฺธนฺธํ วิย ฌายติ; เอวเมว โข, อาวุโส กจฺจาน, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ‘ปริสุทฺธาภา’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวา วิหรติ. ตสฺส กายทุฏฺุลฺลมฺปิ สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธํ โหติ, ถินมิทฺธมฺปิ สุสมูหตํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจมฺปิ สุปฺปฏิวินีตํ โหติ. โส กายทุฏฺุลฺลสฺสปิ สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ถินมิทฺธสฺสปิ สุสมูหตตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺสปิ สุปฺปฏิวินีตตฺตา น อนฺธนฺธํ วิย ฌายติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปริสุทฺธาภานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. อยํ โข, อาวุโส กจฺจาน, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน ตาสํ เทวตานํ เอกํ เทวนิกายํ อุปปนฺนานํ สนฺเตตฺถ เอกจฺจา เทวตา สํกิลิฏฺาภา, สนฺติ ปเนตฺถ เอกจฺจา เทวตา ปริสุทฺธาภา’’ติ.

๒๓๕. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สภิโย กจฺจาโน อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต อนุรุทฺธ! น, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ เอวมาห – ‘เอวํ เม สุต’นฺติ วา ‘เอวํ อรหติ ภวิตุ’นฺติ วา; อถ จ ปน, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ ‘เอวมฺปิ ตา เทวตา, อิติปิ ตา เทวตา’ตฺเวว ภาสติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘อทฺธา อายสฺมตา อนุรุทฺเธน ตาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺนิวุตฺถปุพฺพฺเจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา’’’ติ. ‘‘อทฺธา โข อยํ, อาวุโส กจฺจาน, อาสชฺช อุปนีย วาจา ภาสิตา, อปิ จ เต อหํ พฺยากริสฺสามิ – ‘ทีฆรตฺตํ โข เม, อาวุโส กจฺจาน, ตาหิ เทวตาหิ สทฺธึ สนฺนิวุตฺถปุพฺพฺเจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา’’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา สภิโย กจฺจาโน ปฺจกงฺคํ ถปตึ เอตทโวจ – ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ, ยํ ตฺวฺเจว ตํ กงฺขาธมฺมํ ปหาสิ [ปชหสิ (ก.)], มยฺจิมํ [ยมฺปิมํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺมปริยายํ อลตฺถมฺหา สวนายา’’ติ.

อนุรุทฺธสุตฺตํ นิฏฺิตํ สตฺตมํ.

๘. อุปกฺกิเลสสุตฺตํ

๒๓๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อฺมฺํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ภควา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมตุ, ภนฺเต! ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปฺายิสฺสามา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมตุ, ภนฺเต! ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปฺายิสฺสามา’’ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปฺายิสฺสามา’’ติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ิตโกว อิมา คาถา อภาสิ –

๒๓๗.

‘‘ปุถุสทฺโท สมชโน, น พาโล โกจิ มฺถ;

สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมานสฺมึ, นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุํ.

‘‘ปริมุฏฺา ปณฺฑิตาภาสา, วาจาโคจรภาณิโน;

ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, เยน นีตา น ตํ วิทู.

‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;

เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสํ น สมฺมติ.

‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;

เย จ ตํ นุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสูปสมฺมติ.

‘‘น หิ เวเรน เวรานิ, สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ;

อเวเรน จ สมฺมนฺติ, เอส ธมฺโม สนนฺตโน.

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

‘‘อฏฺิจฺฉินฺนา ปาณหรา, ควสฺสธนหาริโน;

รฏฺํ วิลุมฺปมานานํ, เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ;

กสฺมา ตุมฺหากํ โน สิยา.

‘‘สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,

สทฺธึ จรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;

อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ,

จเรยฺย เตนตฺตมโน สตีมา.

‘‘โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,

สทฺธึ จรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;

ราชาว รฏฺํ วิชิตํ ปหาย,

เอโก จเร มาตงฺครฺเว นาโค.

‘‘เอกสฺส จริตํ เสยฺโย, นตฺถิ พาเล สหายตา;

เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา,

อปฺโปสฺสุกฺโก มาตงฺครฺเว นาโค’’ติ.

๒๓๘. อถ โข ภควา ิตโกว อิมา คาถา ภาสิตฺวา เยน พาลกโลณการคาโม [พาลกโลณกคาโม (ก.), ตถา วินเยปิ] เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ภคุ พาลกโลณการคาเม วิหรติ. อทฺทสา โข อายสฺมา ภคุ ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อาสนํ ปฺเปสิ อุทกฺจ ปาทานํ โธวนํ [อุทกฺจ ปาทานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. อายสฺมาปิ โข ภคุ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภคุํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมสี’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, น จาหํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามี’’ติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ภคุํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ปาจีนวํสทาโย เตนุปสงฺกมิ.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย [ภทฺทิโย (ม. นิ. ๒.๑๖๖ นฬกปาเน] อายสฺมา จ กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปาจีนวํสทาเย วิหรนฺติ. อทฺทสา โข ทายปาโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, มหาสมณ, เอตํ ทายํ ปาวิสิ. สนฺเตตฺถ ตโย กุลปุตฺตา อตฺตกามรูปา วิหรนฺติ. มา เตสํ อผาสุมกาสี’’ติ. อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทายปาลสฺส ภควตา สทฺธึ มนฺตยมานสฺส. สุตฺวาน ทายปาลํ เอตทโวจ – ‘‘มา, อาวุโส ทายปาล, ภควนฺตํ วาเรสิ. สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.

๒๓๙. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา จ นนฺทิโย เยนายสฺมา จ กิมิโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตฺจ กิมิลํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปฺเปสิ, เอโก ปาโททกํ อุปฏฺเปสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. เตปิ โข อายสฺมนฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ โว, อนุรุทฺธา, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถา’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามา’’ติ. ‘‘กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิหรามี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ. ตสฺส, มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิ. นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกฺจ ปน มฺเ จิตฺต’’นฺติ.

อายสฺมาปิ โข นนฺทิโย…เป… อายสฺมาปิ โข กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิหรามี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺิตํ อาวิ เจว รโห จ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิ. นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกฺจ ปน มฺเ จิตฺตนฺติ. เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อฺมฺํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติ.

๒๔๐. ‘‘สาธุ, สาธุ, อนุรุทฺธา! กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ โย ปมํ คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, โส อาสนานิ ปฺเปติ, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปติ, อวกฺการปาตึ อุปฏฺาเปติ. โย ปจฺฉา คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ – สเจ โหติ ภุตฺตาวเสโส, สเจ อากงฺขติ, ภุฺชติ; โน เจ อากงฺขติ, อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑติ อปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปติ – โส อาสนานิ ปฏิสาเมติ, ปานียํ ปริโภชนียํ ปฏิสาเมติ, อวกฺการปาตึ โธวิตฺวา ปฏิสาเมติ, ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติ. โย ปสฺสติ ปานียฆฏํ วา ปริโภชนียฆฏํ วา วจฺจฆฏํ วา ริตฺตํ ตุจฺฉํ โส อุปฏฺาเปติ. สจสฺส โหติ อวิสยฺหํ, หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺาเปม [อุปฏฺเปติ (สี.)], น ตฺเวว มยํ, ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาจํ ภินฺทาม. ปฺจาหิกํ โข ปน มยํ, ภนฺเต, สพฺพรตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺนิสีทาม. เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติ.

๒๔๑. ‘‘สาธุ, สาธุ, อนุรุทฺธา! อตฺถิ ปน โว, อนุรุทฺธา, เอวํ อปฺปมตฺตานํ อาตาปีนํ ปหิตตฺตานํ วิหรตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา โอภาสฺเจว สฺชานาม ทสฺสนฺจ รูปานํ. โส โข ปน โน โอภาโส นจิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ; ตฺจ นิมิตฺตํ นปฺปฏิวิชฺฌามา’’ติ.

‘‘ตํ โข ปน โว, อนุรุทฺธา, นิมิตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพํ. อหมฺปิ สุทํ, อนุรุทฺธา, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺโธ โพธิสตฺโตว สมาโน โอภาสฺเจว สฺชานามิ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปาน’นฺติ? ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘วิจิกิจฺฉา โข เม อุทปาทิ, วิจิกิจฺฉาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสตี’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปาน’นฺติ? ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อมนสิกาโร โข เม อุทปาทิ, อมนสิการาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ น อมนสิกาโร’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘ถินมิทฺธํ โข เม อุทปาทิ, ถินมิทฺธาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ น อมนสิกาโร น ถินมิทฺธ’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘ฉมฺภิตตฺตํ โข เม อุทปาทิ, ฉมฺภิตตฺตาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน, ตสฺส อุภโตปสฺเส วฏฺฏกา [วธกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปฺปเตยฺยุํ, ตสฺส ตโตนิทานํ ฉมฺภิตตฺตํ อุปฺปชฺเชยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, ฉมฺภิตตฺตํ อุทปาทิ, ฉมฺภิตตฺตาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ น อมนสิกาโร น ถินมิทฺธํ น ฉมฺภิตตฺต’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อุปฺปิลํ [อุพฺพิลฺลํ (สี. ปี.), อุพฺพิลํ (สฺยา. กํ.)] โข เม อุทปาทิ, อุปฺปิลาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส เอกํ นิธิมุขํ คเวสนฺโต สกิเทว ปฺจนิธิมุขานิ อธิคจฺเฉยฺย, ตสฺส ตโตนิทานํ อุปฺปิลํ อุปฺปชฺเชยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อุปฺปิลํ อุทปาทิ, อุปฺปิลาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิล’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘ทุฏฺุลฺลํ โข เม อุทปาทิ, ทุฏฺุลฺลาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺล’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อจฺจารทฺธวีริยํ โข เม อุทปาทิ, อจฺจารทฺธวีริยาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส อุโภหิ หตฺเถหิ วฏฺฏกํ คาฬฺหํ คณฺเหยฺย, โส ตตฺเถว ปตเมยฺย [มตเมยฺย (พหูสุ) ป + ตํ + เอยฺย = ปตเมยฺย-อิติ ปทวิภาโค]; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทปาทิ, อจฺจารทฺธวีริยาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริย’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อติลีนวีริยํ โข เม อุทปาทิ, อติลีนวีริยาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส วฏฺฏกํ สิถิลํ คณฺเหยฺย, โส ตสฺส หตฺถโต อุปฺปเตยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อติลีนวีริยํ อุทปาทิ, อติลีนวีริยาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริย’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อภิชปฺปา โข เม อุทปาทิ, อภิชปฺปาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา…เป… ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘นานตฺตสฺา โข เม อุทปาทิ, นานตฺตสฺาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา, น นานตฺตสฺา’’’ติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปาน’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ โข เม รูปานํ อุทปาทิ, อตินิชฺฌายิตตฺตาธิกรณฺจ ปน เม รูปานํ สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา, น นานตฺตสฺา, น อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปาน’’’นฺติ.

๒๔๒. ‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อมนสิการํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘ทุฏฺุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ทุฏฺุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อภิชปฺปํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘นานตฺตสฺา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา นานตฺตสฺํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ, ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ.

๒๔๓. ‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺหิ โข สฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ; รูปานิ หิ โข ปสฺสามิ, น จ โอภาสํ สฺชานามิ – ‘เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ [ทิวสํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ’ [รตฺติทิวํ (ก.)]. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ยฺวาหํ โอภาสฺหิ โข สฺชานามิ น จ รูปานิ ปสฺสามิ; รูปานิ หิ โข [โข ตสฺมึ สมเย (สี. ก.)] ปสฺสามิ น จ โอภาสํ สฺชานามิ – เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘ยสฺมิฺหิ โข อหํ สมเย รูปนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา โอภาสนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ, โอภาสฺหิ โข ตสฺมึ สมเย สฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ. ยสฺมึ ปนาหํ สมเย โอภาสนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา รูปนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ, รูปานิ หิ โข ตสฺมึ สมเย ปสฺสามิ น จ โอภาสํ สฺชานามิ – เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’’’นฺติ.

‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ปริตฺตฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ; อปฺปมาณฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ – เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ยฺวาหํ ปริตฺตฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ; อปฺปมาณฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ – เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘ยสฺมึ โข เม สมเย ปริตฺโต สมาธิ โหติ, ปริตฺตํ เม ตสฺมึ สมเย จกฺขุ โหติ. โสหํ ปริตฺเตน จกฺขุนา ปริตฺตฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ. ยสฺมึ ปน เม สมเย อปฺปมาโณ สมาธิ โหติ, อปฺปมาณํ เม ตสฺมึ สมเย จกฺขุ โหติ. โสหํ อปฺปมาเณน จกฺขุนา อปฺปมาณฺเจว โอภาสํ สฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ – เกวลมฺปิ รตฺตึ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’’’นฺติ.

๒๔๔. ยโต โข เม, อนุรุทฺธา, ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ทุฏฺุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา ทุฏฺุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘นานตฺตสฺา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา นานตฺตสฺา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ – อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ.

๒๔๕. ‘‘ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ – ‘เย โข เม จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต เม ปหีนา. หนฺท, ทานาหํ ติวิเธน สมาธึ ภาเวมี’ติ [ภาเวสินฺติ (สี. สฺยา. กํ.)]. โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, สวิตกฺกมฺปิ สวิจารํ สมาธึ ภาเวสึ [ภาเวมิ (ก.)], อวิตกฺกมฺปิ วิจารมตฺตํ สมาธึ ภาเวสึ, อวิตกฺกมฺปิ อวิจารํ สมาธึ ภาเวสึ, สปฺปีติกมฺปิ สมาธึ ภาเวสึ, นิปฺปีติกมฺปิ สมาธึ ภาเวสึ, สาตสหคตมฺปิ สมาธึ ภาเวสึ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ สมาธึ ภาเวสึ. ยโต โข เม, อนุรุทฺธา, สวิตกฺโกปิ สวิจาโร สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อวิตกฺโกปิ วิจารมตฺโต สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อวิตกฺโกปิ อวิจาโร สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, สปฺปีติโกปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, นิปฺปีติโกปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, สาตสหคโตปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อุเปกฺขาสหคโตปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

อุปกฺกิเลสสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.

๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตํ

๒๔๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ. โน เจตํ [โน เจทํ (สํ. นิ. ๓.๒๗-๒๘)], ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ อภวิสฺส ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ เกน นํ [น เตน นํ (ก.), น นํ (?)] ปณฺฑิตา ชาเนยฺยุํ – ‘พาโล อยํ ภวํ อสปฺปุริโส’ติ? ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ ตสฺมา นํ ปณฺฑิตา ชานนฺติ – ‘พาโล อยํ ภวํ อสปฺปุริโส’ติ. ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล ติวิธํ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. สเจ, ภิกฺขเว, พาโล สภายํ วา นิสินฺโน โหติ, รถิกาย [รถิยาย (พหูสุ)] วา นิสินฺโน โหติ, สิงฺฆาฏเก วา นิสินฺโน โหติ; ตตฺร เจ ชโน ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปํ กถํ มนฺเตติ. สเจ, ภิกฺขเว, พาโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี โหติ, ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํ โข ชโน ตชฺชํ ตสฺสารุปฺปํ กถํ มนฺเตติ, สํวิชฺชนฺเตว เต [สํวิชฺชนฺเต เต จ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ธมฺมา มยิ, อหฺจ เตสุ ธมฺเมสุ สนฺทิสฺสามี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, พาโล ปมํ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

๒๔๗. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, พาโล ปสฺสติ ราชาโน โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต – กสาหิปิ ตาเฬนฺเต เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺเต อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺเต หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺเต ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺเต นาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺเต สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺเต ราหุมุขมฺปิ กโรนฺเต โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺเต หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺเต เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺเต เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺเต พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺเต กหาปณิกมฺปิ กโรนฺเต ขาราปตจฺฉิกมฺปิ [ขาราปฏิจฺฉกมฺปิ (ก.)] กโรนฺเต ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต ปลาลปีกมฺปิ [ปลาลปิฏฺกมฺปิ (ปี.)] กโรนฺเต ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนฺเต สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺเต ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺเต อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺเต. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺส เอวํ โหติ – ‘ยถารูปานํ โข ปาปกานํ กมฺมานํ เหตุ ราชาโน โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺติ – กสาหิปิ ตาเฬนฺติ…เป… อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺติ; สํวิชฺชนฺเตว เต ธมฺมา มยิ, อหฺจ เตสุ ธมฺเมสุ สนฺทิสฺสามิ. มํ เจปิ ราชาโน [สเจ มมฺปิ (ก.)] ชาเนยฺยุํ, มมฺปิ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรยฺยุํ – กสาหิปิ ตาเฬยฺยุํ…เป… ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสยฺยุํ, อสินาปิ สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’นฺติ. อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, พาโล ทุติยํ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

๒๔๘. ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, พาลํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ [ฉมาย (สี. ปี.)] วา เสมานํ, ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหตํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยา โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พาลํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ, ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺส เอวํ โหติ – ‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ; กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิสํ. ยาวตา, โภ, อกตกลฺยาณานํ อกตกุสลานํ อกตภีรุตฺตาณานํ กตปาปานํ กตลุทฺทานํ กตกิพฺพิสานํ คติ ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ. โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชติ. อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, พาโล ตติยํ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ.

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เอกนฺตํ อนิฏฺํ เอกนฺตํ อกนฺตํ เอกนฺตํ อมนาป’นฺติ, นิรยเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เอกนฺตํ อนิฏฺํ เอกนฺตํ อกนฺตํ เอกนฺตํ อมนาป’นฺติ. ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อุปมาปิ [อุปมาหิปิ (สี.)] น สุกรา ยาว ทุกฺขา นิรยา’’ติ.

๒๔๙. เอวํ วุตฺเต, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺยุํ – ‘อยํ โข, เทว, โจโร อาคุจารี, อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย – ‘คจฺฉถ, โภ, อิมํ ปุริสํ ปุพฺพณฺหสมยํ สตฺติสเตน หนถา’ติ. ตเมนํ ปุพฺพณฺหสมยํ สตฺติสเตน หเนยฺยุํ. อถ ราชา มชฺฌนฺหิกสมยํ [มชฺฌนฺติกสมยํ (สี. สฺยา. กํ. ก.), มชฺฌนฺติกํ สมยํ (ปี.)] เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ, กถํ โส ปุริโส’ติ? ‘‘‘ตเถว, เทว, ชีวตี’ติ. ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย – ‘คจฺฉถ, โภ, ตํ ปุริสํ มชฺฌนฺหิกสมยํ สตฺติสเตน หนถา’ติ. ตเมนํ มชฺฌนฺหิกสมยํ สตฺติสเตน หเนยฺยุํ. อถ ราชา สายนฺหสมยํ เอวํ วเทยฺย – ‘อมฺโภ, กถํ โส ปุริโส’ติ? ‘ตเถว, เทว, ชีวตี’ติ. ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย – ‘คจฺฉถ, โภ, ตํ ปุริสํ สายนฺหสมยํ สตฺติสเตน หนถา’ติ. ตเมนํ สายนฺหสมยํ สตฺติสเตน หเนยฺยุํ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โส ปุริโส ตีหิ สตฺติสเตหิ หฺมาโน ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวทิเยถา’’ติ? ‘‘เอกิสฺสาปิ, ภนฺเต, สตฺติยา หฺมาโน โส ปุริโส ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวทิเยถ, โก ปน วาโท ตีหิ สตฺติสเตหี’’ติ?

๒๕๐. อถ โข ภควา ปริตฺตํ ปาณิมตฺตํ ปาสาณํ คเหตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตโม นุ โข มหนฺตตโร – โย จายํ มยา ปริตฺโต ปาณิมตฺโต ปาสาโณ คหิโต, โย จ หิมวา ปพฺพตราชา’’ติ? ‘‘อปฺปมตฺตโก อยํ, ภนฺเต, ภควตา ปริตฺโต ปาณิมตฺโต ปาสาโณ คหิโต, หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ อุปนิธาย สงฺขมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ [อุปนิธิมฺปิ (สี. ปี.)] น อุเปติ’’. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ โส ปุริโส ตีหิ สตฺติสเตหิ หฺมาโน ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ ตํ นิรยกสฺส ทุกฺขสฺส อุปนิธาย สงฺขมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ’’.

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ปฺจวิธพนฺธนํ นาม กมฺมการณํ กโรนฺติ – ตตฺตํ อโยขิลํ [อโยขีลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] หตฺเถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ทุติเย หตฺเถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ทุติเย ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ มชฺเฌ อุรสฺมึ คเมนฺติ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลํ กโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติ [พฺยนฺติโหติ (ปี. ก.)]. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา สํเวเสตฺวา กุารีหิ [กุธารีหิ (ก.)] ตจฺฉนฺติ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา…เป… พฺยนฺตีโหติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา วาสีหิ ตจฺฉนฺติ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา…เป… พฺยนฺตีโหติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา รเถ โยเชตฺวา อาทิตฺตาย ปถวิยา สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย [สฺโชติภูตาย (สฺยา. กํ. ปี.)] สาเรนฺติปิ ปจฺจาสาเรนฺติปิ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา…เป… พฺยนฺตีโหติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา มหนฺตํ องฺคารปพฺพตํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาโรเปนฺติปิ โอโรเปนฺติปิ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลํ กโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา ตตฺตาย โลหกุมฺภิยา ปกฺขิปนฺติ อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย. โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจติ. โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมาโน สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺฉติ, สกิมฺปิ อโธ คจฺฉติ, สกิมฺปิ ติริยํ คจฺฉติ. โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติ. ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา [นิรยปาลา ปุนปฺปุนํ (ก.)] มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ. โส โข ปน, ภิกฺขเว, มหานิรโย –

‘‘จตุกฺกณฺโณ จตุทฺวาโร, วิภตฺโต ภาคโส มิโต;

อโยปาการปริยนฺโต, อยสา ปฏิกุชฺชิโต.

‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺติ สพฺพทา’’.

‘‘อเนกปริยาเยนปิ โข อหํ, ภิกฺขเว, นิรยกถํ กเถยฺยํ; ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, น สุกรา อกฺขาเนน ปาปุณิตุํ ยาว ทุกฺขา นิรยา.

๒๕๑. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา ติณภกฺขา. เต อลฺลานิปิ ติณานิ สุกฺขานิปิ ติณานิ ทนฺตุลฺเลหกํ ขาทนฺติ. กตเม จ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา ติณภกฺขา? หตฺถี อสฺสา โคณา คทฺรภา อชา มิคา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ ติรจฺฉานคตา ปาณา ติณภกฺขา. ส โข โส, ภิกฺขเว, พาโล อิธ ปุพฺเพ รสาโท อิธ ปาปานิ กมฺมานิ กริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เตสํ สตฺตานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ เย เต สตฺตา ติณภกฺขา.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา คูถภกฺขา. เต ทูรโตว คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ธาวนฺติ – ‘เอตฺถ ภุฺชิสฺสาม, เอตฺถ ภุฺชิสฺสามา’ติ. เสยฺยถาปิ