📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

สํยุตฺตนิกาเย

สคาถาวคฺค-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

กรุณาสีตลหทยํ, ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตมํ;

สนรามรโลกครุํ, วนฺเท สุคตํ คติวิมุตฺตํ.

พุทฺโธปิ พุทฺธภาวํ, ภาเวตฺวา เจว สจฺฉิกตฺวา จ;

ยํ อุปคโต คตมลํ, วนฺเท ตมนุตฺตรํ ธมฺมํ.

สุคตสฺส โอรสานํ, ปุตฺตานํ มารเสนมถนานํ;

อฏฺนฺนมฺปิ สมูหํ, สิรสา วนฺเท อริยสงฺฆํ.

อิติ เม ปสนฺนมติโน, รตนตฺตยวนฺทนามยํ ปุฺํ;

ยํ สุวิหตนฺตราโย, หุตฺวา ตสฺสานุภาเวน.

สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺส, สํยุตฺตอาคมวรสฺส;

พุทฺธานุพุทฺธสํวณฺณิตสฺส, าณปฺปเภทชนนสฺส.

อตฺถปฺปกาสนตฺถํ, อฏฺกถา อาทิโต วสิสเตหิ;

ปฺจหิ ยา สงฺคีตา, อนุสงฺคีตา จ ปจฺฉาปิ.

สีหฬทีปํ ปน อาภตาถ, วสินา มหามหินฺเทน;

ปิตา สีหฬภาสาย, ทีปวาสีนมตฺถาย.

อปเนตฺวาน ตโตหํ, สีหฬภาสํ มโนรมํ ภาสํ;

ตนฺตินยานุจฺฉวิกํ, อาโรเปนฺโต วิคตโทสํ.

สมยํ อวิโลเมนฺโต, เถรานํ เถรวํสทีปานํ;

สุนิปุณวินิจฺฉยานํ, มหาวิหาเร นิวาสีนํ.

หิตฺวา ปุนปฺปุนาคต-มตฺถํ, อตฺถํ ปกาสยิสฺสามิ;

สุชนสฺส จ ตุฏฺตฺถํ, จิรฏฺิตตฺถฺจ ธมฺมสฺส.

สาวตฺถิปภูตีนํ, นครานํ วณฺณนา กตา เหฏฺา;

สงฺคีตีนํ ทฺวินฺนํ, ยา เม อตฺถํ วทนฺเตน.

วิตฺถารวเสน สุทํ, วตฺถูนิ จ ยานิ ตตฺถ วุตฺตานิ;

เตสมฺปิ น อิธ ภิยฺโย, วิตฺถารกถํ กริสฺสามิ.

สุตฺตานํ ปน อตฺถา, น วินา วตฺถูหิ เย ปกาสนฺติ;

เตสํ ปกาสนตฺถํ, วตฺถูนิปิ ทสฺสยิสฺสามิ.

สีลกถา ธุตธมฺมา, กมฺมฏฺานานิ เจว สพฺพานิ;

จริยาวิธานสหิโต, ฌานสมาปตฺติวิตฺถาโร.

สพฺพา จ อภิฺาโย, ปฺาสงฺกลนนิจฺฉโย เจว;

ขนฺธาธาตายตนินฺทฺริยานิ, อริยานิ เจว จตฺตาริ.

สจฺจานิ ปจฺจยาการเทสนา, สุปริสุทฺธนิปุณนยา;

อวิมุตฺตตนฺติมคฺคา, วิปสฺสนาภาวนา เจว.

อิติ ปน สพฺพํ ยสฺมา, วิสุทฺธิมคฺเค มยา สุปริสุทฺธํ;

วุตฺตํ ตสฺมา ภิยฺโย, น ตํ อิธ วิจารยิสฺสามิ.

‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค, เอส จตุนฺนมฺปิ อาคมานฺหิ;

ตฺวา ปกาสยิสฺสติ, ตตฺถ ยถาภาสิตมตฺถํ’’.

อิจฺเจว กโต ตสฺมา, ตมฺปิ คเหตฺวาน สทฺธิเมตาย;

อฏฺกถาย วิชานถ, สํยุตฺตวินิสฺสิตํ อตฺถนฺติ.

๑. เทวตาสํยุตฺตํ

๑. นฬวคฺโค

๑. โอฆตรณสุตฺตวณฺณนา

ตตฺถ สํยุตฺตาคโม นาม สคาถาวคฺโค, นิทานวคฺโค, ขนฺธกวคฺโค, สฬายตนวคฺโค, มหาวคฺโคติ ปฺจวคฺโค โหติ. สุตฺตโต –

‘‘สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จ;

ทฺวาสฏฺิ เจว สุตฺตานิ, เอโส สํยุตฺตสงฺคโห’’.

ภาณวารโต ภาณวารสตํ โหติ. ตสฺส วคฺเคสุ สคาถาวคฺโค อาทิ, สุตฺเตสุ โอฆตรณสุตฺตํ. ตสฺสาปิ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิกํ อายสฺมตา อานนฺเทน ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ นิทานมาทิ. สา ปเนสา ปมมหาสงฺคีติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย อาทิมฺหิ วิตฺถาริตา, ตสฺมา สา ตตฺถ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพา.

. ยํ ปเนตํ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิกํ นิทานํ, ตตฺถ เอวนฺติ นิปาตปทํ. เมติอาทีนิ นามปทานิ. สาวตฺถิยํ วิหรตีติ เอตฺถ วีติ อุปสคฺคปทํ, หรตีติ อาขฺยาตปทนฺติ อิมินา ตาว นเยน ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.

อตฺถโต ปน เอวํสทฺโท ตาว อุปมูปเทส-สมฺปหํสน-ครหณ-วจนสมฺปฏิคฺคหาการนิทสฺสนาวธารณาทิ-อเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส – ‘‘เอวํ ชาเตน มจฺเจน, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ’’นฺติ (ธ. ป. ๕๓) เอวมาทีสุ อุปมายํ อาคโต. ‘‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๒๒) อุปเทเส. ‘‘เอวเมตํ ภควา, เอวเมตํ สุคตา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) สมฺปหํสเน. ‘‘เอวเมวํ ปนายํ วสลี ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) ครหเณ. ‘‘เอวํ, ภนฺเตติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑) วจนสมฺปฏิคฺคเห. ‘‘เอวํ พฺยา โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๙๘) อากาเร. ‘‘เอหิ ตฺวํ มาณวก, เยน สมโณ อานนฺโท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ, เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติ’’อาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๔๕) นิทสฺสเน. ‘‘ตํ กึ มฺถ กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วาติ? อกุสลา, ภนฺเต. สาวชฺชา วา อนวชฺชา วาติ? สาวชฺชา, ภนฺเต. วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วาติ? วิฺุครหิตา, ภนฺเต. สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ วา โน วา, กถํ โว เอตฺถ โหตีติ? สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) อวธารเณ. สฺวายมิธ อาการนิทสฺสนาวธารเณสุ ทฏฺพฺโพ.

ตตฺถ อาการตฺเถน เอวํสทฺเทน เอตมตฺถํ ทีเปติ – นานานยนิปุณํ อเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ วิวิธปาฏิหาริยํ ธมฺมตฺถเทสนา ปฏิเวธคมฺภีรํ สพฺพสตฺตานํ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉนฺตํ ตสฺส ภควโต วจนํ สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุํ? สพฺพถาเมน ปน โสตุกามตํ ชเนตฺวาปิ เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอเกนากาเรน สุตนฺติ.

นิทสฺสนตฺเถน – ‘‘นาหํ สยมฺภู, น มยา อิทํ สจฺฉิกต’’นฺติ อตฺตานํ ปริโมเจนฺโต – ‘‘เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอวํ สุต’’นฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลสุตฺตํ นิทสฺเสติ.

อวธารณตฺเถน – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท, คติมนฺตานํ, สติมนฺตานํ, ธิติมนฺตานํ, อุปฏฺากานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒๐-๒๒๓) เอวํ ภควตา – ‘‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๖๙) เอวํ ธมฺมเสนาปตินา จ ปสตฺถภาวานุรูปํ อตฺตโน ธารณพลํ ทสฺเสนฺโต สตฺตานํ โสตุกามตํ ชเนติ – ‘‘เอวํ เม สุตํ, ตฺจ โข อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา อนูนมนธิกํ, เอวเมว น อฺถา ทฏฺพฺพ’’นฺติ.

เมสทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา หิสฺส – ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๑) มยาติ อตฺโถ. ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู ’’ ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๘๘) มยฺหนฺติ อตฺโถ. ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) มมาติ อตฺโถ. อิธ ปน ‘‘มยา สุต’’นฺติ จ ‘‘มม สุต’’นฺติ จ อตฺถทฺวเย ยุชฺชติ.

สุตนฺติ อยํ สุตสทฺโท สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ คมน-วิสฺสุต-กิลินฺนอุปจิตานุโยค-โสตวิฺเยฺย-โสตทฺวารานุสารวิฺาตาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา หิสฺส – ‘‘เสนาย ปสุโต’’ติอาทีสุ คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑) วิสฺสุตธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺสา’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๕๗) กิลินฺนากิลินฺนสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘ตุมฺเหหิ ปุฺํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๗.๑๒) อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘เย ฌานปสุตา ธีรา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๑) ฌานานุยุตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุต’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) โสตวิฺเยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตธโร สุตสนฺนิจโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๙) โสตทฺวารานุสารวิฺาตธโรติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วา อตฺโถ. เม-สทฺทสฺส หิ มยาติ อตฺเถ สติ – ‘‘เอวํ มยา สุตํ, โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริต’’นฺติ ยุชฺชติ. มมาติ อตฺเถ สติ – ‘‘เอวํ มม สุตํ, โสตทฺวารานุสาเรน อุปธารณ’’นฺติ ยุชฺชติ.

เอวเมเตสุ ตีสุ ปเทสุ เอวนฺติ โสตวิฺาณาทิวิฺาณกิจฺจนิทสฺสนํ. เมติ วุตฺตวิฺาณสมงฺคิปุคฺคลนิทสฺสนํ. สุตนฺติ อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสนํ. ตถา เอวนฺติ ตสฺส โสตทฺวารานุสาเรน ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺติภาวปฺปกาสนํ. เมติ อตฺตปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ธมฺมปฺปกาสนํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – ‘‘นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา มยา น อฺํ กตํ, อิทํ ปน กตํ, อยํ ธมฺโม สุโต’’ติ.

ตถา เอวนฺติ นิทฺทิสิตพฺพปฺปกาสนํ. เมติ ปุคฺคลปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ปุคฺคลกิจฺจปฺปกาสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิสฺสามิ, ตํ มยา เอวํ สุต’’นฺติ.

ตถา เอวนฺติ ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานาการปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโส. เอวนฺติ หิ อยํ อาการปฺตฺติ. เมติ กตฺตุนิทฺเทโส. สุตนฺติ วิสยนิทฺเทโส. เอตฺตาวตา นานาการปฺปวตฺเตน จิตฺตสนฺตาเนน ตํสมงฺคิโน กตฺตุวิสเย คหณสนฺนิฏฺานํ กตํ โหติ.

อถ วา เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส. สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส. เมติ อุภยกิจฺจยุตฺตปุคฺคลนิทฺเทโส. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – ‘‘มยา สวนกิจฺจวิฺาณสมงฺคินา ปุคฺคเลน วิฺาณวเสน ลทฺธสวนกิจฺจโวหาเรน สุต’’นฺติ.

ตตฺถ เอวนฺติ จ เมติ จ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานปฺตฺติ. กิฺเหตฺถ ตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ, ยํ เอวนฺติ วา เมติ วา นิทฺเทสํ ลเภถ. สุตนฺติ วิชฺชมานปฺตฺติ. ยฺหิ ตํ เอตฺถ โสเตน อุปลทฺธํ, ตํ ปรมตฺถโต วิชฺชมานนฺติ. ตถา เอวนฺติ จ เมติ จ ตํ ตํ อุปาทาย วตฺตพฺพโต อุปาทาปฺตฺติ. สุตนฺติ ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺพโต อุปนิธาปฺตฺติ.

เอตฺถ จ เอวนฺติ วจเนน อสมฺโมหํ ทีเปติ. น หิ สมฺมูฬฺโห นานปฺปการปฏิเวธสมตฺโถ โหติ. สุตนฺติ วจเนน สุตสฺส อสมฺโมสํ ทีเปติ. ยสฺส หิ สุตํ สมฺมุฏฺํ โหติ, น โส กาลนฺตเรน มยา สุตนฺติ ปฏิชานาติ. อิจฺจสฺส อสมฺโมเหน ปฺาสิทฺธิ, อสมฺโมเสน ปน สติสิทฺธิ. ตตฺถ ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา พฺยฺชนาวธารณสมตฺถตา, สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย อตฺถปฏิเวธสมตฺถตา. ตทุภยสมตฺถตาโยเคน อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส ธมฺมโกสสฺส อนุปาลนสมตฺถโต ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺตสิทฺธิ.

อปโร นโย – เอวนฺติ วจเนน โยนิโส มนสิการํ ทีเปติ, อโยนิโส มนสิกโรโต หิ นานปฺปการปฏิเวธาภาวโต. สุตนฺติ วจเนน อวิกฺเขปํ ทีเปติ วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส สวนาภาวโต. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณถา’’ติ ภณติ. โยนิโส มนสิกาเรน เจตฺถ อตฺตสมฺมาปณิธึ ปุพฺเพ จ กตปุฺตํ สาเธติ, สมฺมา อปฺปณิหิตตฺตสฺส ปุพฺเพ อกตปุฺสฺส วา ตทภาวโต. อวิกฺเขเปน สทฺธมฺมสฺสวนํ สปฺปุริสูปนิสฺสยฺจ สาเธติ. น หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต โสตุํ สกฺโกติ, น จ สปฺปุริเส อนุปนิสฺสยมานสฺส สวนํ อตฺถีติ.

อปโร นโย – ยสฺมา ‘‘เอวนฺติ ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานาการปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโส’’ติ วุตฺตํ, โส จ เอวํ ภทฺทโก อากาโร น สมฺมา อปฺปณิหิตตฺตโน ปุพฺเพ อกตปุฺสฺส วา โหติ, ตสฺมา เอวนฺติ อิมินา ภทฺทเกน อากาเรน ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺติมตฺตโน ทีเปติ. สุตนฺติ สวนโยเคน ปุริมจกฺกทฺวยสมฺปตฺตึ. น หิ อปฺปติรูปเทเส วสโต สปฺปุริสูปนิสฺสยวิรหิตสฺส วา สวนํ อตฺถิ. อิจฺจสฺส ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา อาสยสุทฺธิ สิทฺธา โหติ, ปุริมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา ปโยคสุทฺธิ, ตาย จ อาสยสุทฺธิยา อธิคมพฺยตฺติสิทฺธิ, ปโยคสุทฺธิยา อาคมพฺยตฺติสิทฺธิ. อิติ ปโยคาสยสุทฺธสฺส อาคมาธิคมสมฺปนฺนสฺส วจนํ อรุณุคฺคํ วิย สูริยสฺส อุทยโต, โยนิโส มนสิกาโร วิย จ กุสลกมฺมสฺส, อรหติ ภควโต วจนสฺส ปุพฺพงฺคมํ ภวิตุนฺติ าเน นิทานํ เปนฺโต เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาห.

อปโร นโย – เอวนฺติ อิมินา นานปฺปการปฏิเวธทีปเกน วจเนน อตฺตโน อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ ทีเปติ. สุตนฺติ อิมินา โสตพฺพเภทปฏิเวธทีปเกน ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ. เอวนฺติ จ อิทํ โยนิโส มนสิการทีปกวจนํ ภาสมาโน – ‘‘เอเต มยา ธมฺมา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ ทีเปติ. สุตนฺติ อิทํ สวนโยคทีปกวจนํ ภาสมาโน – ‘‘พหู มยา ธมฺมา สุตา ธาตา วจสา ปริจิตา’’ติ ทีเปติ. ตทุภเยนปิ อตฺถพฺยฺชนปาริปูรึ ทีเปนฺโต สวเน อาทรํ ชเนติ. อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณฺหิ ธมฺมํ อาทเรน อสฺสุณนฺโต มหตา หิตา ปริพาหิโร โหตีติ อาทรํ ชเนตฺวา สกฺกจฺจํ ธมฺโม โสตพฺโพติ.

เอวํ เม สุตนฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน อายสฺมา อานนฺโท ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมํ อตฺตโน อทหนฺโต อสปฺปุริสภูมึ อติกฺกมติ, สาวกตฺตํ ปฏิชานนฺโต สปฺปุริสภูมึ โอกฺกมติ. ตถา อสทฺธมฺมา จิตฺตํ วุฏฺาเปติ, สทฺธมฺเม จิตฺตํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เกวลํ สุตเมเวตํ มยา, ตสฺเสว ปน ภควโต วจน’’นฺติ ทีเปนฺโต อตฺตานํ ปริโมเจติ, สตฺถารํ อปทิสติ, ชินวจนํ อปฺเปติ, ธมฺมเนตฺตึ ปติฏฺาเปติ.

อปิจ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อตฺตนา อุปฺปาทิตภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต ปุริมวจนํ วิวรนฺโต – ‘‘สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตมิทํ มยา ตสฺส ภควโต จตุเวสารชฺชวิสารทสฺส ทสพลธรสฺส อาสภฏฺานฏฺายิโน สีหนาทนาทิโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ธมฺมิสฺสรสฺส ธมฺมราชสฺส ธมฺมาธิปติโน ธมฺมทีปสฺส ธมฺมสรณสฺส สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ, น เอตฺถ อตฺเถ วา ธมฺเม วา ปเท วา พฺยฺชเน วา กงฺขา วา วิมติ วา กตฺตพฺพา’’ติ สพฺพเทวมนุสฺสานํ อิมสฺมึ ธมฺเม อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ, สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘วินาสยติ อสฺสทฺธํ, สทฺธํ วฑฺเฒติ สาสเน;

เอวํ เม สุตมิจฺเจวํ, วทํ โคตมสาวโก’’ติ.

เอกนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. สมยนฺติ ปริจฺฉินฺนนิทฺเทโส. เอกํ สมยนฺติ อนิยมิตปริทีปนํ. ตตฺถ สมยสทฺโท –

‘‘สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฏฺิสุ;

ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ’’.

ตถา หิสฺส ‘‘อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๔๗) สมวาโย อตฺโถ. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๙) ขโณ. ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๓๕๘) กาโล. ‘‘มหาสมโย ปวนสฺมิ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๓๒) สมูโห. ‘‘สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ, ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ – ‘ภทฺทาลิ, นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๓๕) เหตุ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อุคฺคาหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๒๖๐) ทิฏฺิ.

‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;

อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. –

อาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙) ปฏิลาโภ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘) ปหานํ. ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ อภิสมยฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๒.๘) ปฏิเวโธ. อิธ ปนสฺส กาโล อตฺโถ. เตน สํวจฺฉร-อุตุ-มาสฑฺฒมาส-รตฺติ-ทิว-ปุพฺพณฺห-มชฺฌนฺหิก-สายนฺห-ปมมชฺฌิมปจฺฉิมยาม-มุหุตฺตาทีสุ กาลปฺปเภทภูเตสุ สมเยสุ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ เอเตสุ สํวจฺฉราทีสุ สมเยสุ ยํ ยํ สุตฺตํ ยสฺมึ ยสฺมึ สํวจฺฉเร อุตุมฺหิ มาเส ปกฺเข รตฺติภาเค ทิวสภาเค วา วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ เถรสฺส สุวิทิตํ สุววตฺถาปิตํ ปฺาย. ยสฺมา ปน ‘‘เอวํ เม สุตํ อสุกสํวจฺฉเร อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส อสุกปกฺเข อสุกรตฺติภาเค อสุกทิวสภาเค วา’’ติ เอวํ วุตฺเต น สกฺกา สุเขน ธาเรตุํ วา อุทฺทิสิตุํ วา อุทฺทิสาเปตุํ วา, พหุ จ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา เอเกเนว ปเทน ตมตฺถํ สโมธาเนตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.

เย วา อิเม คพฺโภกฺกนฺติสมโย ชาติสมโย สํเวคสมโย อภินิกฺขมนสมโย ทุกฺกรการิกสมโย มารวิชยสมโย อภิสมฺโพธิสมโย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย เทสนาสมโย ปรินิพฺพานสมโยติ เอวมาทโย ภควโต เทวมนุสฺเสสุ อติวิย สุปฺปกาสา อเนกกาลปฺปเภทา เอว สมยา. เตสุ สมเยสุ เทสนาสมยสงฺขาตํ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ. โย จายํ าณกรุณากิจฺจสมเยสุ กรุณากิจฺจสมโย, อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติสมเยสุ ปรหิตปฏิปตฺติสมโย, สนฺนิปติตานํ กรณียทฺวยสมเยสุ ธมฺมิกถาสมโย, เทสนาปฏิปตฺติสมเยสุ เทสนาสมโย, เตสุปิ สมเยสุ อฺตรํ สนฺธาย ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.

กสฺมา ปเนตฺถ ยถา อภิธมฺเม ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจร’’นฺติ จ อิโต อฺเสุ สุตฺตปเทสุ ‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ จ ภุมฺมวจเนน นิทฺเทโส กโต, วินเย จ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา’’ติ กรณวจเนน, ตถา อกตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อุปโยควจเนน นิทฺเทโส กโตติ. ตตฺถ ตถา, อิธ จ อฺถา อตฺถสมฺภวโต. ตตฺถ หิ อภิธมฺเม อิโต อฺเสุ สุตฺตปเทสุ จ อธิกรณตฺโถ ภาเวนภาวลกฺขณตฺโถ จ สมฺภวติ. อธิกรณฺหิ กาลตฺโถ สมูหตฺโถ จ สมโย, ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขียติ. ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ ภุมฺมวจนนิทฺเทโส กโต.

วินเย จ เหตุอตฺโถ กรณตฺโถ จ สมฺภวติ. โย หิ โส สิกฺขาปทปฺตฺติสมโย สาริปุตฺตาทีหิปิ ทุพฺพิฺเยฺโย, เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตน จ สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน ภควา ตตฺถ ตตฺถ วิหาสิ. ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ กรณวจเนน นิทฺเทโส กโต.

อิธ ปน อฺสฺมึ จ เอวํชาติเก อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยฺหิ สมยํ ภควา อิมํ อฺํ วา สุตฺตนฺตํ เทเสสิ, อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ. ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ อิธ อุปโยควจนนิทฺเทโส กโตติ.

เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิตฺวา, ภุมฺเมน กรเณน จ;

อฺตฺร สมโย วุตฺโต, อุปโยเคน โส อิธา’’ติ.

โปราณา ปน วณฺณยนฺติ – ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ วา ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วา อภิลาปมตฺตเภโท เอส, สพฺพตฺถ ภุมฺมเมว อตฺโถติ. ตสฺมา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วุตฺเตปิ ‘‘เอกสฺมึ สมเย’’ติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ภควาติ ครุ. ครุํ หิ โลเก ‘‘ภควา’’ติ วทนฺติ. อยฺจ สพฺพคุณวิสิฏฺตาย สพฺพสตฺตานํ ครุ, ตสฺมา ‘‘ภควา’’ติ เวทิตพฺโพ. โปราเณหิปิ วุตฺตํ –

‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;

ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒);

อปิจ –

‘‘ภคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;

ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ. –

อิมิสฺสา คาถาย วเสนสฺส ปทสฺส วิตฺถารโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส จ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔) พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วุตฺโตเยว.

เอตฺตาวตา เจตฺถ เอวํ เม สุตนฺติ วจเนน ยถาสุตํ ธมฺมํ ทสฺเสนฺโต ภควโต ธมฺมสรีรํ ปจฺจกฺขํ กโรติ. เตน ‘‘นยิทํ อติกฺกนฺตสตฺถุกํ ปาวจนํ, อยํ โว สตฺถา’’ติ สตฺถุ อทสฺสเนน อุกฺกณฺิตํ ชนํ สมสฺสาเสติ. เอกํ สมยํ ภควาติ วจเนน ตสฺมึ สมเย ภควโต อวิชฺชมานภาวํ ทสฺเสนฺโต รูปกายปรินิพฺพานํ สาเธติ. เตน ‘‘เอวํวิธสฺส นาม อริยธมฺมสฺส เทสโก ทสพลธโร วชิรสงฺฆาตสมานกาโย โสปิ ภควา ปรินิพฺพุโต, เกน อฺเน ชีวิเต อาสา ชเนตพฺพา’’ติ ชีวิตมทมตฺตํ ชนํ สํเวเชติ, สทฺธมฺเม จสฺส อุสฺสาหํ ชเนติ. เอวนฺติ จ ภณนฺโต เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ. เม สุตนฺติ สาวกสมฺปตฺตึ. เอกํ สมยนฺติ กาลสมฺปตฺตึ. ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ.

สาวตฺถิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. วิหรตีติ อวิเสเสน อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมงฺคีปริทีปนเมตํ. อิธ ปน านคมนนิสชฺชาสยนปฺปเภเทสุ อิริยาปเถสุ อฺตรอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ, เตน ิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ สยาโนปิ ภควา วิหรติจฺเจว เวทิตพฺโพ. โส หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.

เชตวเนติ เชตสฺส ราชกุมารสฺส วเน. ตฺหิ เตน โรปิตํ สํวฑฺฒิตํ ปริปาลิตํ อโหสิ, ตสฺมา ‘‘เชตวน’’นฺติ สงฺขํ คตํ. ตสฺมึ เชตวเน. อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมติ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา จตุปฺาสหิรฺโกฏิปริจฺจาเคน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาติตตฺตา ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม’’ติ สงฺขํ คเต อาราเม. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมฏฺกถาย สพฺพาสวสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔) วุตฺโต.

ตตฺถ สิยา – ยทิ ตาว ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ, ‘‘เชตวเน’’ติ น วตฺตพฺพํ. อถ ตตฺถ วิหรติ, ‘‘สาวตฺถิย’’นฺติ น วตฺตพฺพํ. น หิ สกฺกา อุภยตฺถ เอกํ สมยํ วิหริตุนฺติ. น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ.

นนุ อโวจุมฺห ‘‘สมีปตฺเถ ภุมฺมวจน’’นฺติ. ตสฺมา ยถา คงฺคายมุนาทีนํ สมีเป โคยูถานิ จรนฺตานิ ‘‘คงฺคายํ จรนฺติ, ยมุนายํ จรนฺตี’’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ ยทิทํ สาวตฺถิยา สมีเป เชตวนํ, ตตฺถ วิหรนฺโต วุจฺจติ ‘‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน’’ติ. โคจรคามนิทสฺสนตฺถํ หิสฺส สาวตฺถิวจนํ, ปพฺพชิตานุรูปนิวาสฏฺานนิทสฺสนตฺถํ เสสวจนํ.

อฺตรา เทวตาติ นามโคตฺตวเสน อปากฏา เอกา เทวตาติ อตฺโถ. ‘‘อภิชานาติ โน, ภนฺเต, ภควา อหุ าตฺตรสฺส มเหสกฺขสฺส ยกฺขสฺส สํขิตฺเตน ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตึ ภาสิตา’’ติ เอตฺถ ปน อภิฺาโต สกฺโกปิ เทวราชา ‘‘อฺตโร’’ติ วุตฺโต. ‘‘เทวตา’’ติ จ อิทํ เทวานมฺปิ เทวธีตานมฺปิ สาธารณวจนํ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ เทโว อธิปฺเปโต, โส จ โข รูปาวจรานํ เทวานํ อฺตโร.

อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺต-สทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภานุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ, อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๐; จูฬว. ๓๘๓) ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. –

เอวมาทีสุ (วิ. ว. ๘๕๗) อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ โภ โคตมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑๕) อพฺภานุโมทเน. อิธ ปน ขเย. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, ปริกฺขีณาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถายํ เทวปุตฺโต มชฺฌิมยามสมนนฺตเร อาคโตติ เวทิตพฺโพ. นิยาโม หิ กิเรส เทวตานํ ยทิทํ พุทฺธานํ วา พุทฺธสาวกานํ วา อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตา มชฺฌิมยามสมนนฺตเรเยว อาคจฺฉนฺติ.

อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺต-สทฺโท อภิรูเป, วณฺณ-สทฺโท ปน ฉวิถุติ-กุลวคฺค-การณ-สณฺานปฺปมาณ-รูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๕๕๓) ฉวิยา. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต, คหปติ, อิเม สมณสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม, โภ โคตม, วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๑๕) กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยา ทฏฺพฺโพ. เตน อภิกฺกนฺตวณฺณา อภิรูปจฺฉวิ, อิฏฺวณฺณา มนาปวณฺณาติ วุตฺตํ โหติ. เทวตา หิ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉมานา ปกติวณฺณํ ปกติอิทฺธึ ชหิตฺวา โอฬาริกํ อตฺตภาวํ กตฺวา อติเรกวณฺณํ อติเรกอิทฺธึ มาเปตฺวา นฏสมชฺชาทีนิ คจฺฉนฺตา มนุสฺสา วิย อภิสงฺขเตน กาเยน อาคจฺฉนฺติ. ตตฺถ กามาวจรา อนภิสงฺขเตนปิ อาคนฺตุํ สกฺโกนฺติ, รูปาวจรา ปน น สกฺโกนฺติ. เตสฺหิ อติสุขุโม อตฺตภาโว, น เตน อิริยาปถกปฺปนํ โหติ. ตสฺมา อยํ เทวปุตฺโต อภิสงฺขเตเนว อาคโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา’’ติ.

เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวล-สทฺโท อนวเสส-เยภุยฺยาพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถวิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๑) อนวเสสตฺถมตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียโภชนียํ อาทาย อุปสงฺกมิสฺสนฺตี’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๔๓) เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๒๒๕) อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๒๔๔) อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต, ภนฺเต, อนุรุทฺธสฺส พาหิโย นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) ทฬฺหตฺถตา. ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕๗) วิสํโยโค อตฺโถ. อิธ ปนสฺส อนวเสสตฺโถ อธิปฺเปโต.

กปฺป-สทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหน-โวหาร-กาล-ปฺตฺติ-เฉทน-วิกปฺป-เลสสมนฺตภาวาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส, ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (วิ. ว. ๑๐๙๔, ๑๑๐๑) เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺโป. ‘‘อาตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๔) สมนฺตภาโว. อิธ ปนสฺส สมนฺตภาวตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา เกวลกปฺปํ เชตวนนฺติ เอตฺถ ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต เชตวน’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

โอภาเสตฺวาติ วตฺถาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ.

เยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ตสฺมา ‘‘ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย. อุปสงฺกมีติ จ คตาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวํ คตา ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ เยนตฺเถน โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส อุปฏฺานํ อาคตา, ตํ ปุจฺฉิตุกามา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชุลึ สิรสิ ปติฏฺเปตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส – ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา ิตา เอกมนฺตํ ิตา โหติ, ตถา อฏฺาสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. อฏฺาสีติ านํ กปฺเปสิ. ปณฺฑิตา หิ เทวมนุสฺสา ครุฏฺานิยํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ ติฏฺนฺติ, อยฺจ เทโว เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

กถํ ิโต ปน เอกมนฺตํ ิโต โหตีติ? ฉ านโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ, อจฺจาสนฺนํ, อุปริวาตํ, อุนฺนตปฺปเทสํ, อติสมฺมุขํ, อติปจฺฉาติ. อติทูเร ิโต หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน ิโต สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต ิโต สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส ิโต อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา ิโต สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา ิโต สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ านโทเส วชฺเชตฺวา อฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ อฏฺาสี’’ติ.

เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ. กถํ นูติ การณปุจฺฉา. ภควโต หิ ติณฺโณฆภาโว ทสสหสฺสิโลกธาตุยา ปากโฏ, เตนิมิสฺสา เทวตาย ตตฺถ กงฺขา นตฺถิ, อิมินา ปน การเณน ‘‘ติณฺโณ’’ติ น ชานาติ, เตน สา ตํ การณํ ปุจฺฉมานา เอวมาห.

มาริสาติ เทวตานํ ปิยสมุทาจารวจนเมตํ. นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ ‘‘ยทา โข เต, มาริส, สงฺกุนา สงฺกุ หทเย สมาคจฺเฉยฺย, อถ นํ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ ‘วสฺสสหสฺสํ เม นิรเย ปจฺจมานสฺสา’’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๑๒) อิทํ วิรุชฺฌติ. น หิ เนรยิกสตฺโต นิทฺทุกฺโข นาม โหติ. กิฺจาปิ น นิทฺทุกฺโข, รุฬฺหีสทฺเทน ปน เอวํ วุจฺจติ. ปุพฺเพ กิร ปมกปฺปิกานํ นิทฺทุกฺขานํ สุขสมปฺปิตานํ เอส โวหาโร, อปรภาเค ทุกฺขํ โหตุ วา มา วา, รุฬฺหีสทฺเทน อยํ โวหาโร วุจฺจเตว นิปฺปทุมาปิ นิรุทกาปิ วา โปกฺขรณี โปกฺขรณี วิย.

โอฆมตรีติ เอตฺถ จตฺตาโร โอฆา, กาโมโฆ ภโวโฆ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆติ. ตตฺถ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค กาโมโฆ นาม. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จ ภโวโฆ นาม. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺโโฆ นาม. จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ อวิชฺโชโฆ นาม. ตตฺถ กาโมโฆ อฏฺสุ โลภสหคเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชติ, ภโวโฆ จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺโโฆ จตูสุ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชติ, อวิชฺโชโฆ สพฺพากุสเลสุ อุปฺปชฺชติ.

สพฺโพปิ เจส อวหนนฏฺเน ราสฏฺเน จ โอโฆติ เวทิตพฺโพ. อวหนนฏฺเนาติ อโธคมนฏฺเน. อยฺหิ อตฺตโน วสํ คเต สตฺเต อโธ คเมติ, นิรยาทิเภทาย ทุคฺคติยํเยว นิพฺพตฺเตติ, อุปริภาวํ วา นิพฺพานํ คนฺตุํ อเทนฺโต อโธ ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ จ คเมตีติปิ อตฺโถ. ราสฏฺเนาติ มหนฺตฏฺเน. มหา เหโส กิเลสราสิ อวีจิโต ปฏฺาย ยาว ภวคฺคา ปตฺถโฏ, ยทิทํ ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอวมยํ ราสฏฺเนาปิ โอโฆติ เวทิตพฺโพ. อตรีติ อิมํ จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ เกน นุ ตฺวํ, มาริส, การเณน ติณฺโณติ ปุจฺฉติ.

อถสฺสา ภควา ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต อปฺปติฏฺํ ขฺวาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปติฏฺนฺติ อปฺปติฏฺหนฺโต. อนายูหนฺติ อนายูหนฺโต, อวายมนฺโตติ อตฺโถ. อิติ ภควา คูฬฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ปฺหํ กเถสิ. เทวตาปิ นํ สุตฺวา ‘‘พาหิรกํ ตาว โอฆํ ตรนฺตา นาม าตพฺพฏฺาเน ติฏฺนฺตา ตริตพฺพฏฺาเน อายูหนฺตา ตรนฺติ, อยํ ปน อวีจิโต ยาว ภวคฺคา ปตฺถฏํ กิเลโสฆํ กิเลสราสึ อปฺปติฏฺหนฺโต อนายูหนฺโต อตรินฺติ อาห. กึ นุ โข เอตํ? กถํ นุ โข เอต’’นฺติ? วิมตึ ปกฺขนฺตา ปฺหสฺส อตฺถํ น อฺาสิ.

กึ ปน ภควตา ยถา สตฺตา น ชานนฺติ, เอวํ กถนตฺถาย ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตา ปฏิวิทฺธาติ? น เอตทตฺถาย ปฏิวิทฺธา. ทฺเว ปน ภควโต เทสนา นิคฺคหมุเขน จ อนุคฺคหมุเขน จ. ตตฺถ เย ปณฺฑิตมานิโน โหนฺติ อฺาเตปิ าตสฺิโน ปฺจสตา พฺราหฺมณปพฺพชิตา วิย, เตสํ มานนิคฺคหตฺถํ ยถา น ชานนฺติ, เอวํ มูลปริยายาทิสทิสํ ธมฺมํ เทเสติ. อยํ นิคฺคหมุเขน เทสนา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ, ปวยฺห ปวยฺห, อานนฺท, วกฺขามิ, โย สาโร, โส สฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๙๖). เย ปน อุชุกา สิกฺขากามา, เตสํ สุวิฺเยฺยํ กตฺวา อากงฺเขยฺยสุตฺตาทิสทิสํ ธมฺมํ เทเสติ, ‘‘อภิรม, ติสฺส, อภิรม, ติสฺส, อหโมวาเทน อหมนุคฺคเหน อหมนุสาสนิยา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๔) จ เน สมสฺสาเสติ. อยํ อนุคฺคหมุเขน เทสนา.

อยํ ปน เทวปุตฺโต มานตฺถทฺโธ ปณฺฑิตมานี, เอวํ กิรสฺส อโหสิ – อหํ โอฆํ ชานามิ, ตถาคตสฺส โอฆติณฺณภาวํ ชานามิ, ‘‘อิมินา ปน การเณน ติณฺโณ’’ติ เอตฺตกมตฺตํ น ชานามิ. อิติ มยฺหํ าตเมว พหุ, อปฺปํ อฺาตํ, ตมหํ กถิตมตฺตเมว ชานิสฺสามิ. กิฺหิ นาม ตํ ภควา วเทยฺย, ยสฺสาหํ อตฺถํ น ชาเนยฺยนฺติ. อถ สตฺถา ‘‘อยํ กิลิฏฺวตฺถํ วิย รงฺคชาตํ อภพฺโพ อิมํ มานํ อปฺปหาย เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ, มานนิคฺคหํ ตาวสฺส กตฺวา ปุน นีจจิตฺเตน ปุจฺฉนฺตสฺส ปกาเสสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ปฺหํ กเถสิ. โสปิ นิหตมาโน อโหสิ, สา จสฺส นิหตมานตา อุตฺตริปฺหปุจฺฉเนเนว เวทิตพฺพา. ตสฺส ปน ปฺหปุจฺฉนสฺส อยมตฺโถ – กถํ ปน ตฺวํ, มาริส, อปฺปติฏฺํ อนายูหํ โอฆมตริ, ยถาหํ ชานามิ, เอวํ เม กเถหีติ.

อถสฺส ภควา กเถนฺโต ยทาสฺวาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยทา สฺวาหนฺติ ยสฺมึ กาเล อหํ. สุกาโร นิปาตมตฺตํ. ยถา จ เอตฺถ, เอวํ สพฺพปเทสุ. สํสีทามีติ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา อตรนฺโต ตตฺเถว โอสีทามิ. นิพฺพุยฺหามีติ าตุํ อสกฺโกนฺโต อติวตฺตามิ. อิติ าเน จ วายาเม จ โทสํ ทิสฺวา อติฏฺนฺโต อวายมนฺโต โอฆมตรินฺติ เอวํ ภควตา ปฺโห กถิโต. เทวตายปิ ปฏิวิทฺโธ, น ปน ปากโฏ, ตสฺส ปากฏีกรณตฺถํ สตฺต ทุกา ทสฺสิตา. กิเลสวเสน หิ สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, อภิสงฺขารวเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. ตณฺหาทิฏฺีหิ วา สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, อวเสสกิเลสานฺเจว อภิสงฺขารานฺจ วเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. ตณฺหาวเสน วา สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, ทิฏฺิวเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. สสฺสตทิฏฺิยา วา สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. โอลียนาภินิเวสา หิ ภวทิฏฺิ, อติธาวนาภินิเวสา วิภวทิฏฺิ. ลีนวเสน วา สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. ตถา กามสุขลฺลิกานุโยควเสน สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน สนฺติฏฺนฺโต สํสีทติ นาม, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนฺโต นิพฺพุยฺหติ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, จุนฺท, เย เกจิ อกุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อโธภาคงฺคมนียา, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อุปริภาคงฺคมนียา’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๖).

อิมํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ สุตฺวาว เทวตา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย ตุฏฺา ปสนฺนา อตฺตโน ตุฏฺิฺจ ปสาทฺจ ปกาสยนฺตี จิรสฺสํ วตาติ คาถมาห. ตตฺถ จิรสฺสนฺติ จิรสฺส กาลสฺส อจฺจเยนาติ อตฺโถ. อยํ กิร เทวตา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ตสฺส ปรินิพฺพานโต ปฏฺาย อนฺตรา อฺํ พุทฺธํ น ทิฏฺปุพฺพา, ตสฺมา อชฺช ภควนฺตํ ทิสฺวา เอวมาห. กึ ปนิมาย เทวตาย อิโต ปุพฺเพ สตฺถา น ทิฏฺปุพฺโพติ. ทิฏฺปุพฺโพ วา โหตุ อทิฏฺปุพฺโพ วา, ทสฺสนํ อุปาทาย เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. พฺราหฺมณนฺติ พาหิตปาปํ ขีณาสวพฺราหฺมณํ. ปรินิพฺพุตนฺติ กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตํ. โลเกติ สตฺตโลเก. วิสตฺติกนฺติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อาสตฺตวิสตฺตตาทีหิ การเณหิ วิสตฺติกา วุจฺจติ ตณฺหา, ตํ วิสตฺติกํ อปฺปติฏฺมานํ อนายูหมานํ ติณฺณํ นิตฺติณฺณํ อุตฺติณฺณํ จิรสฺสํ วต ขีณาสวพฺราหฺมณํ ปสฺสามีติ อตฺโถ.

สมนุฺโ สตฺถา อโหสีติ ตสฺสา เทวตาย วจนํ จิตฺเตเนว สมนุโมทิ, เอกชฺฌาสโย อโหสิ. อนฺตรธายีติ อภิสงฺขตกายํ ชหิตฺวา อตฺตโน ปกติอุปาทิณฺณกกายสฺมึเยว ตฺวา ลทฺธาสา ลทฺธปติฏฺา หุตฺวา ทสพลํ คนฺเธหิ จ มาเลหิ จ ปูเชตฺวา อตฺตโน ภวนํเยว อคมาสีติ.

โอฆตรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา

. อิทานิ ทุติยสุตฺตโต ปฏฺาย ปมมาคตฺจ อุตฺตานตฺถฺจ ปหาย ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสาม. ชานาสิ โนติ ชานาสิ นุ. นิโมกฺขนฺติอาทีนิ มคฺคาทีนํ นามานิ. มคฺเคน หิ สตฺตา กิเลสพนฺธนโต นิมุจฺจนฺติ, ตสฺมา มคฺโค สตฺตานํ นิโมกฺโขติ วุตฺโต. ผลกฺขเณ ปน เต กิเลสพนฺธนโต ปมุตฺตา, ตสฺมา ผลํ สตฺตานํ ปโมกฺโขติ วุตฺตํ. นิพฺพานํ ปตฺวา สตฺตานํ สพฺพทุกฺขํ วิวิจฺจติ, ตสฺมา นิพฺพานํ วิเวโกติ วุตฺตํ. สพฺพานิ วา เอตานิ นิพฺพานสฺเสว นามานิ. นิพฺพานฺหิ ปตฺวา สตฺตา สพฺพทุกฺขโต นิมุจฺจนฺติ ปมุจฺจนฺติ วิวิจฺจนฺติ, ตสฺมา ตเทว ‘‘นิโมกฺโข ปโมกฺโข วิเวโก’’ติ วุตฺตํ. ชานามิ ขฺวาหนฺติ ชานามิ โข อหํ. อวธารณตฺโถ โขกาโร. อหํ ชานามิเยว. สตฺตานํ นิโมกฺขาทิชานนตฺถเมว หิ มยา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิทฺธนฺติ สีหนาทํ นทติ. พุทฺธสีหนาทํ นาม กิร เอตํ สุตฺตํ.

นนฺทีภวปริกฺขยาติ นนฺทีมูลกสฺส กมฺมภวสฺส ปริกฺขเยน. นนฺทิยา จ ภวสฺส จาติปิ วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ ปุริมนเย นนฺทีภเวน ติวิธกมฺมาภิสงฺขารวเสน สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต, สฺาวิฺาเณหิ ตํสมฺปยุตฺตา จ ทฺเว ขนฺธา. เตหิ ปน ตีหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺตา เวทนา เตสํ คหเณน คหิตาวาติ อนุปาทิณฺณกานํ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน สอุปาทิเสสํ นิพฺพานํ กถิตํ โหติ. เวทนานํ นิโรธา อุปสมาติ อุปาทิณฺณกเวทนานํ นิโรเธน จ อุปสเมน จ. ตตฺถ เวทนาคหเณน ตํสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา คหิตาว โหนฺติ, เตสํ วตฺถารมฺมณวเสน รูปกฺขนฺโธปิ. เอวํ อิเมสํ อุปาทิณฺณกานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ กถิตํ โหติ. ทุติยนเย ปน นนฺทิคฺคหเณน สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต, ภวคฺคหเณน อุปปตฺติภวสงฺขาโต รูปกฺขนฺโธ, สฺาทีหิ สรูเปเนว ตโย ขนฺธา. เอวํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน นิพฺพานํ กถิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อิมเมว จ นยํ จตุนิกายิกภณฺฑิกตฺเถโร โรเจติ. อิติ นิพฺพานวเสเนว ภควา เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.

นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุปนียสุตฺตวณฺณนา

. ตติเย อุปนียตีติ ปริกฺขียติ นิรุชฺฌติ, อุปคจฺฉติ วา, อนุปุพฺเพน มรณํ อุเปตีติ อตฺโถ. ยถา วา โคปาเลน โคคโณ นียติ, เอวํ ชราย มรณสนฺติกํ อุปนียตีติ อตฺโถ. ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ. อปฺปนฺติ ปริตฺตํ โถกํ. ตสฺส ทฺวีหากาเรหิ ปริตฺตตา เวทิตพฺพา สรสปริตฺตตาย จ ขณปริตฺตตาย จ. สรสปริตฺตตายปิ หิ ‘‘โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ (ที. นิ. ๒.๗; สํ. นิ. ๒.๑๔๓) วจนโต ปริตฺตํ. ขณปริตฺตตายปิ. ปรมตฺถโต หิ อติปริตฺโต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตปฺปวตฺติมตฺโตเยว. ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ เอเกเนว เนมิปฺปเทเสน ปวตฺตติ, ติฏฺมานมฺปิ เอเกเนว ติฏฺติ, เอวเมวํ เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ, ตสฺมึ จิตฺเต นิรุทฺธมตฺเต สตฺโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ. ยถาห – อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ น ชีวติ น ชีวิสฺสติ, อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ น ชีวติ น ชีวิตฺถ, ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ น ชีวิตฺถ น ชีวิสฺสติ.

‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;

เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุโส วตฺตเต ขโณ.

‘‘เย นิรุทฺธา มรนฺตสฺส, ติฏฺมานสฺส วา อิธ;

สพฺเพปิ สทิสา ขนฺธา, คตา อปฺปฏิสนฺธิกา.

‘‘อนิพฺพตฺเตน น ชาโต, ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวติ;

จิตฺตภงฺคา มโต โลโก, ปฺตฺติ ปรมตฺถิยา’’ติ. (มหานิ. ๑๐);

ชรูปนีตสฺสาติ ชรํ อุปคตสฺส, ชราย วา มรณสนฺติกํ อุปนีตสฺส. น สนฺติ ตาณาติ ตาณํ เลณํ สรณํ ภวิตุํ สมตฺถา นาม เกจิ นตฺถิ. เอตํ ภยนฺติ เอตํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส มรณูปคมนํ, อายุปริตฺตตา, ชรูปนีตสฺส ตาณาภาโวติ ติวิธํ ภยํ ภยวตฺถุ ภยการณนฺติ อตฺโถ. ปุฺานิ กยิราถ สุขาวหานีติ วิฺู ปุริโส สุขาวหานิ สุขทายกานิ ปุฺานิ กเรยฺย. อิติ เทวตา รูปาวจรชฺฌานํ สนฺธาย ปุพฺพเจตนํ อปรเจตนํ มุฺจเจตนฺจ คเหตฺวา พหุวจนวเสน ‘‘ปุฺานี’’ติ อาห. ฌานสฺสาทํ ฌานนิกนฺตึ ฌานสุขฺจ คเหตฺวา ‘‘สุขาวหานี’’ติ อาห. ตสฺสา กิร เทวตาย สยํ ทีฆายุกฏฺาเน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตตฺตา เหฏฺา กามาวจรเทเวสุ ปริตฺตายุกฏฺาเน จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ถุลฺลผุสิตเก วุฏฺิปาตสทิเส สตฺเต ทิสฺวา เอตทโหสิ ‘‘อโหวติเม สตฺตา ฌานํ ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก เอกกปฺป-ทฺเวกปฺป-จตุกปฺป-อฏฺกปฺป-โสฬสกปฺป-ทฺวตฺตึสกปฺป-จตุสฏฺิกปฺปปฺปมาณํ อทฺธานํ ติฏฺเยฺยุ’’นฺติ. ตสฺมา เอวมาห.

อถ ภควา – ‘‘อยํ เทวตา อนิยฺยานิกํ วฏฺฏกถํ กเถตี’’ติ วิวฏฺฏมสฺสา ทสฺเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ โลกามิสนฺติ ทฺเว โลกามิสา ปริยาเยน จ นิปฺปริยาเยน จ. ปริยาเยน เตภูมกวฏฺฏํ โลกามิสํ, นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร ปจฺจยา. อิธ ปริยายโลกามิสํ อธิปฺเปตํ. นิปฺปริยายโลกามิสมฺปิ วฏฺฏติเยว. สนฺติเปกฺโขติ นิพฺพานสงฺขาตํ อจฺจนฺตสนฺตึ เปกฺขนฺโต อิจฺฉนฺโต ปตฺถยนฺโตติ.

อุปนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อจฺเจนฺติสุตฺตวณฺณนา

. จตุตฺเถ อจฺเจนฺตีติ อติกฺกมนฺติ. กาลาติ ปุเรภตฺตาทโย กาลา. ตรยนฺติ รตฺติโยติ รตฺติโย อติกฺกมมานา ปุคฺคลํ มรณูปคมนาย ตรยนฺติ สีฆํ สีฆํ คมยนฺติ. วโยคุณาติ ปมมชฺฌิมปจฺฉิมวยานํ คุณา, ราสโยติ อตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ หิ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณ’’นฺติ เอตฺถ โกฏฺาสฏฺโ. ‘‘กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ (ธ. ป. ๕๓) เอตฺถ ราสฏฺโ. ‘‘ปฺจ กามคุณา’’ติ เอตฺถ พนฺธนฏฺโ. อิธ ปน ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ตสฺมา วโยคุณาติ วโยราสโย เวทิตพฺพา. อนุปุพฺพํ ชหนฺตีติ อนุปฏิปาฏิยา ปุคฺคลํ ชหนฺติ. มชฺฌิมวเย ิตํ หิ ปมวโย ชหติ, ปจฺฉิมวเย ิตํ ทฺเว ปมมชฺฌิมา ชหนฺติ, มรณกฺขเณ ปน ตโยปิ วยา ชหนฺเตว. เอตํ ภยนฺติ เอตํ กาลานํ อติกฺกมนํ, รตฺติทิวานํ ตริตภาโว, วโยคุณานํ ชหนภาโวติ ติวิธํ ภยํ. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.

อจฺเจนฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. กติฉินฺทสุตฺตวณฺณนา

. ปฺจเม กติ ฉินฺเทติ ฉินฺทนฺโต กติ ฉินฺเทยฺย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ‘‘ฉินฺเท ชเห’’ติ อตฺถโต เอกํ. คาถาพนฺธสฺส ปน มฏฺภาวตฺถํ อยํ เทวตา สทฺทปุนรุตฺตึ วชฺชยนฺตี เอวมาห. กติ สงฺคาติโคติ กติ สงฺเค อติคโต, อติกฺกนฺโตติ อตฺโถ. สงฺคาติโกติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. ปฺจ ฉินฺเทติ ฉินฺทนฺโต ปฺจ โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ ฉินฺเทยฺย. ปฺจ ชเหติ ชหนฺโต ปฺจุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ ชเหยฺย. อิธาปิ ฉินฺทนฺจ ชหนฺจ อตฺถโต เอกเมว, ภควา ปน เทวตาย อาโรปิตวจนานุรูเปเนว เอวมาห. อถ วา ปาเทสุ พทฺธปาสสกุโณ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ เหฏฺา อากฑฺฒมานาการานิ โหนฺติ, ตานิ อนาคามิมคฺเคน ฉินฺเทยฺยาติ วทติ. หตฺเถหิ คหิตรุกฺขสาขา วิย ปฺจุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ อุปริ อากฑฺฒมานาการานิ โหนฺติ, ตานิ อรหตฺตมคฺเคน ชเหยฺยาติ วทติ. ปฺจ จุตฺตริ ภาวเยติ เอเตสํ สํโยชนานํ ฉินฺทนตฺถาย เจว ปหานตฺถาย จ อุตฺตริ อติเรกํ วิเสสํ ภาเวนฺโต สทฺธาปฺจมานิ อินฺทฺริยานิ ภาเวยฺยาติ อตฺโถ. ปฺจ สงฺคาติโคติ ราคสงฺโค โทสสงฺโค โมหสงฺโค มานสงฺโค ทิฏฺิสงฺโคติ อิเม ปฺจ สงฺเค อติกฺกนฺโต. โอฆติณฺโณติ วุจฺจตีติ จตุโรฆติณฺโณติ กถียติ. อิมาย ปน คาถาย ปฺจินฺทฺริยานิ โลกิยโลกุตฺตรานิ กถิตานีติ.

กติฉินฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ชาครสุตฺตวณฺณนา

. ฉฏฺเ ชาครตนฺติ ชาครนฺตานํ. ปฺจ ชาครตนฺติ วิสฺสชฺชนคาถายํ ปน สทฺธาทีสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ชาครนฺเตสุ ปฺจ นีวรณา สุตฺตา นาม. กสฺมา? ยสฺมา ตํสมงฺคีปุคฺคโล ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺโน วา ิโต วา อรุณํ อุฏฺเปนฺโตปิ ปมาทตาย อกุสลสมงฺคิตาย สุตฺโต นาม โหติ. เอวํ สุตฺเตสุ ปฺจสุ นีวรเณสุ ปฺจินฺทฺริยานิ ชาครานิ นาม. กสฺมา? ยสฺมา ตํสมงฺคีปุคฺคโล ยตฺถ กตฺถจิ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ อปฺปมาทตาย กุสลสมงฺคิตาย ชาคโร นาม โหติ. ปฺจหิ ปน นีวรเณเหว กิเลสรชํ อาทิยติ คณฺหาติ ปรามสติ. ปุริมา หิ กามจฺฉนฺทาทโย ปจฺฉิมานํ ปจฺจยา โหนฺตีติ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุชฺฌตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิธาปิ ปฺจินฺทฺริยานิ โลกิยโลกุตฺตราเนว กถิตานีติ.

ชาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อปฺปฏิวิทิตสุตฺตวณฺณนา

. สตฺตเม ธมฺมาติ จตุสจฺจธมฺมา. อปฺปฏิวิทิตาติ าเณน อปฺปฏิวิทฺธา. ปรวาเทสูติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวาเทสุ. เต หิ อิโต ปเรสํ ติตฺถิยานํ วาทตฺตา ปรวาทา นาม. นียเรติ อตฺตโน ธมฺมตายปิ คจฺฉนฺติ, ปเรนปิ นียนฺติ. ตตฺถ สยเมว สสฺสตาทีนิ คณฺหนฺตา คจฺฉนฺติ นาม, ปรสฺส วจเนน ตานิ คณฺหนฺตา นียนฺติ นาม. กาโล เตสํ ปพุชฺฌิตุนฺติ เตสํ ปุคฺคลานํ ปพุชฺฌิตุํ อยํ กาโล. โลกสฺมิฺหิ พุทฺโธ อุปฺปนฺโน, ธมฺโม เทสิยติ, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโน, ปฏิปทา ภทฺทิกา, อิเม จ ปน มหาชนา วฏฺเฏ สุตฺตา นปฺปพุชฺฌนฺตีติ เทวตา อาห. สมฺพุทฺธาติ สมฺมา เหตุนา การเณน พุทฺธา. จตฺตาโร หิ พุทฺธา – สพฺพฺุพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ, จตุสจฺจพุทฺโธ, สุตพุทฺโธติ. ตตฺถ สมตึสปารมิโย ปูเรตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโต สพฺพฺุพุทฺโธ นาม. กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา สยมฺภุตํ ปตฺโต ปจฺเจกพุทฺโธ นาม. อวเสสา ขีณาสวา จตุสจฺจพุทฺธา นาม. พหุสฺสุโต สุตพุทฺโธ นาม. อิมสฺมึ อตฺเถ ตโยปิ ปุริมา วฏฺฏนฺติ. สมฺมทฺาติ สมฺมา เหตุนา การเณน ชานิตฺวา. จรนฺติ วิสเม สมนฺติ วิสเม วา โลกสนฺนิวาเส วิสเม วา สตฺตนิกาเย วิสเม วา กิเลสชาเต สมํ จรนฺตีติ.

อปฺปฏิวิทิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สุสมฺมุฏฺสุตฺตวณฺณนา

. อฏฺเม สุสมฺมุฏฺาติ ปฺาย อปฺปฏิวิทฺธภาเวเนว สุนฏฺา. ยถา หิ ทฺเว เขตฺตานิ กสิตฺวา, เอกํ วปิตฺวา, พหุธฺํ อธิคตสฺส อวาปิตเขตฺตโต อลทฺธํ สนฺธาย ‘‘พหุํ เม ธฺํ นฏฺ’’นฺติ วทนฺโต อลทฺธเมว ‘‘นฏฺ’’นฺติ วทติ, เอวมิธาปิ อปฺปฏิวิทิตาว สุสมฺมุฏฺา นาม. อสมฺมุฏฺาติ ปฺาย ปฏิวิทฺธภาเวเนว อนฏฺา. เสสํ ปุริมสทิสเมวาติ.

สุสมฺมุฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. มานกามสุตฺตวณฺณนา

. นวเม มานกามสฺสาติ มานํ กาเมนฺตสฺส อิจฺฉนฺตสฺส. ทโมติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส สมาธิปกฺขิโก ทโม นตฺถีติ วทติ. ‘‘สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๕) เอตฺถ หิ อินฺทฺริยสํวโร ทโมติ วุตฺโต. ‘‘ยทิ สจฺจา ทมา จาคา, ขนฺตฺยา ภิยฺโยธ วิชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๑) เอตฺถ ปฺา. ‘‘ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน อตฺถิ ปุฺํ, อตฺถิ ปุฺสฺส อาคโม’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๖๕) เอตฺถ อุโปสถกมฺมํ. ‘‘สกฺขิสฺสสิ โข ตฺวํ, ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมน สมนฺนาคโต สุนาปรนฺตสฺมึ ชนปเท วิหริตุ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๘๘; ม. นิ. ๓.๓๙๖) เอตฺถ อธิวาสนขนฺติ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ทโมติ สมาธิปกฺขิกธมฺมานํ เอตํ นามํ. เตเนวาห – ‘‘น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺสา’’ติ. ตตฺถ โมนนฺติ จตุมคฺคาณํ, ตฺหิ มุนาตีติ โมนํ, จตุสจฺจธมฺเม ชานาตีติ อตฺโถ. มจฺจุเธยฺยสฺสาติ เตภูมกวฏฺฏสฺส. ตฺหิ มจฺจุโน ปติฏฺานฏฺเน มจฺจุเธยฺยนฺติ วุจฺจติ. ปารนฺติ ตสฺเสว ปารํ นิพฺพานํ. ตเรยฺยาติ ปฏิวิชฺเฌยฺย ปาปุเณยฺย วา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอโก อรฺเ วิหรนฺโต ปมตฺโต ปุคฺคโล มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ น ตเรยฺย น ปฏิวิชฺเฌยฺย น ปาปุเณยฺยาติ.

มานํ ปหายาติ อรหตฺตมคฺเคน นววิธมานํ ปชหิตฺวา. สุสมาหิตตฺโตติ อุปจารปฺปนาสมาธีหิ สุฏฺุ สมาหิตตฺโต. สุเจตโสติ าณสมฺปยุตฺตตาย สุนฺทรจิตฺโต. าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน หิ สุเจตโสติ น วุจฺจติ, ตสฺมา าณสมฺปยุตฺเตน สุเจตโส หุตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโตติ สพฺเพสุ ขนฺธายตนาทีสุ วิปฺปมุตฺโต หุตฺวา. ตเรยฺยาติ เอตฺถ เตภูมกวฏฺฏํ สมติกฺกมนฺโต นิพฺพานํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตรตีติ ปฏิเวธตรณํ นาม วุตฺตํ. อิติ อิมาย คาถาย ติสฺโส สิกฺขา กถิตา โหนฺติ. กถํ – มาโน นามายํ สีลเภทโน, ตสฺมา ‘‘มานํ ปหายา’’ติ อิมินา อธิสีลสิกฺขา กถิตา โหติ. ‘‘สุสมาหิตตฺโต’’ติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขา. ‘‘สุเจตโส’’ติ เอตฺถ จิตฺเตน ปฺา ทสฺสิตา, ตสฺมา อิมินา อธิปฺาสิกฺขา กถิตา. อธิสีลฺจ นาม สีเล สติ โหติ, อธิจิตฺตํ จิตฺเต สติ, อธิปฺา ปฺาย สติ. ตสฺมา สีลํ นาม ปฺจปิ ทสปิ สีลานิ, ปาติโมกฺขสํวโร อธิสีลํ นามาติ เวทิตพฺพํ. อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตํ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ อธิจิตฺตํ. กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, วิปสฺสนา อธิปฺา. อนุปฺปนฺเนปิ หิ พุทฺธุปฺปาเท ปวตฺตตีติ ปฺจสีลํ ทสสีลํ สีลเมว, ปาติโมกฺขสํวรสีลํ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตตีติ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโย. อปิจ นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตน สมาทินฺนํ ปฺจสีลมฺปิ ทสสีลมฺปิ อธิสีลเมว. สมาปนฺนา อฏฺ สมาปตฺติโยปิ อธิจิตฺตเมว. สพฺพมฺปิ วา โลกิยสีลํ สีลเมว, โลกุตฺตรํ อธิสีลํ. จิตฺตปฺาสุปิ เอเสว นโยติ. อิติ อิมาย คาถาย สโมธาเนตฺวา ติสฺโส สิกฺขา สกลสาสนํ กถิตํ โหตีติ.

มานกามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อรฺสุตฺตวณฺณนา

๑๐. ทสเม สนฺตานนฺติ สนฺตกิเลสานํ, ปณฺฑิตานํ วา. ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ (ชา. ๒.๒๑.๔๑๓), ทูเร สนฺโต ปกาสนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๐๔) หิ ปณฺฑิตาปิ สนฺโตติ วุตฺตา. พฺรหฺมจารินนฺติ เสฏฺจารีนํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺตานํ. เกน วณฺโณ ปสีทตีติ เกน การเณน ฉวิวณฺโณ ปสีทตีติ ปุจฺฉติ. กสฺมา ปเนสา เอวํ ปุจฺฉติ? เอสา กิร วนสณฺฑวาสิกา ภุมฺมเทวตา อารฺเก ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเต อรฺํ ปวิสิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺเน ปสฺสติ. เตสฺจ เอวํ นิสินฺนานํ พลวจิตฺเตกคฺคตา อุปฺปชฺชติ. ตโต วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ โอกฺกมติ, จิตฺตํ ปสีทติ. จิตฺเต ปสนฺเน โลหิตํ ปสีทติ, จิตฺตสมุฏฺานานิ อุปาทารูปานิ ปริสุทฺธานิ โหนฺติ, วณฺฏา ปมุตฺตตาลผลสฺส วิย มุขสฺส วณฺโณ โหติ. ตํ ทิสฺวา เทวตา จินฺเตสิ – ‘‘สรีรวณฺโณ นามายํ ปณีตานิ รสสมฺปนฺนานิ โภชนานิ สุขสมฺผสฺสานิ นิวาสนปาปุรณสยนานิ อุตุสุเข เตภูมิกาทิเภเท จ ปาสาเท มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ จ ลภนฺตานํ ปสีทติ, อิเม ปน ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา มิสฺสกภตฺตํ ภุฺชนฺติ, วิรฬมฺจเก วา ผลเก วา สิลาย วา สยนานิ กปฺเปนฺติ, รุกฺขมูลาทีสุ วา อพฺโภกาเส วา วสนฺติ, เกน นุ โข การเณน เอเตสํ วณฺโณ ปสีทตี’’ติ. ตสฺมา ปุจฺฉิ.

อถสฺสา ภควา การณํ กเถนฺโต ทุติยํ คาถํ อาห. ตตฺถ อตีตนฺติ อตีเต อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโก อโหสิ, โส อมฺหากํ ปณีเต ปจฺจเย อทาสิ. อาจริยุปชฺฌายา ลาภิโน อเหสุํ. อถ มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุฺชิมฺหา, จีวรานิ ปารุปิมฺหาติ เอวํ เอกจฺเจ ปจฺจยพาหุลฺลิกา วิย อิเม ภิกฺขู อตีตํ นานุโสจนฺติ. นปฺปชปฺปนฺติ นาคตนฺติ อนาคเต ธมฺมิโก ราชา ภวิสฺสติ, ผีตา ชนปทา ภวิสฺสนฺติ, พหูนิ สปฺปินวนีตาทีนิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ‘‘ขาทถ ภุฺชถา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ วตฺตาโร ภวิสฺสนฺติ, ตทา มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุฺชิสฺสาม, จีวรานิ ปารุปิสฺสามาติ เอวํ อนาคตํ น ปตฺเถนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺเนนาติ เยน เกนจิ ตงฺขเณ ลทฺเธน ยาเปนฺติ. เตนาติ เตน ติวิเธนาปิ การเณน.

เอวํ วณฺณสมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺเสว วณฺณสฺส วินาสํ ทสฺเสนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห. ตตฺถ อนาคตปฺปชปฺปายาติ อนาคตสฺส ปตฺถนาย. เอเตนาติ เอเตน การณทฺวเยน. นโฬว หริโต ลุโตติ ยถา หริโต นโฬ ลายิตฺวา อุณฺหปาสาเณ ปกฺขิตฺโต สุสฺสติ, เอวํ สุสฺสนฺตีติ.

อรฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา. นฬวคฺโค ปโม.

๒. นนฺทนวคฺโค

๑. นนฺทนสุตฺตวณฺณนา

๑๑. นนฺทนวคฺคสฺส ปเม ตตฺราติ ตสฺมึ อาราเม. โขติ พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสน นิปาตมตฺตํ. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ปริสเชฏฺเก ภิกฺขู ชานาเปสิ. ภิกฺขโวติ เตสํ อามนฺตนาการทีปนํ. ภทนฺเตติ ปติวจนทานํ. เต ภิกฺขูติ เย ตตฺถ สมฺมุขีภูตา ธมฺมปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู. ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสุํ, อภิมุขา หุตฺวา สุณึสุ สมฺปฏิจฺฉึสูติ อตฺโถ. เอตทโวจาติ เอตํ อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘ภูตปุพฺพ’’นฺติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ ตาวตึสกายิกาติ ตาวตึสกาเย นิพฺพตฺตา. ตาวตึสกาโย นาม ทุติยเทวโลโก วุจฺจติ. มเฆน มาณเวน สทฺธึ มจลคาเม กาลํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปนฺเน เตตฺตึส เทวปุตฺเต อุปาทาย กิร ตสฺส เทวโลกสฺส อยํ ปณฺณตฺติ ชาตาติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน เสสจกฺกวาเฬสุปิ ฉ กามาวจรเทวโลกา อตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวตึสาน’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๙), ตสฺมา นามปณฺณตฺติเยเวสา ตสฺส เทวโลกสฺสาติ เวทิตพฺพา. เอวฺหิ นิทฺโทสํ ปทํ โหติ.

นนฺทเน วเนติ เอตฺถ ตํ วนํ ปวิฏฺเ ปวิฏฺเ นนฺทยติ โตเสตีติ นนฺทนํ. ปฺจสุ หิ มรณนิมิตฺเตสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘สมฺปตฺตึ ปหาย จวิสฺสามา’’ติ ปริเทวมานา เทวตา สกฺโก เทวานมินฺโท ‘‘มา ปริเทวิตฺถ, อภิชฺชนธมฺมา นาม สงฺขารา นตฺถี’’ติ โอวทิตฺวา ตตฺถ ปเวสาเปติ. ตาสํ อฺาหิ เทวตาหิ พาหาสุ คเหตฺวา ปเวสิตานมฺปิ ตสฺส สมฺปตฺตึ ทิสฺวาว มรณโสโก วูปสมฺมติ, ปีติปาโมชฺชเมว อุปฺปชฺชติ. อถ ตสฺมึ กีฬมานา เอว อุณฺหสนฺตตฺโต หิมปิณฺโฑ วิย วิลียนฺติ, วาตาปหตทีปสิขา วิย วิชฺฌายนฺตีติ เอวํ ยํกิฺจิ อนฺโต ปวิฏฺํ นนฺทยติ โตเสติเยวาติ นนฺทนํ, ตสฺมึ นนฺทเน. อจฺฉราสงฺฆปริวุตาติ อจฺฉราติ เทวธีตานํ นามํ, ตาสํ สมูเหน ปริวุตา.

ทิพฺเพหีติ เทวโลเก นิพฺพตฺเตหิ. ปฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสงฺขาเตหิ ปฺจหิ กามพนฺธเนหิ กามโกฏฺาเสหิ วา. สมปฺปิตาติ อุเปตา. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. ปริจารยมานาติ รมมานา, เตสุ เตสุ วา รูปาทีสุ อินฺทฺริยานิ สฺจารยมานา. ตายํ เวลายนฺติ ตสฺมึ ปริจารณกาเล. โส ปนสฺส เทวปุตฺตสฺส อธุนา อภินิพฺพตฺตกาโล เวทิตพฺโพ. ตสฺส หิ ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว รตฺตสุวณฺณกฺขนฺโธ วิย วิโรจยมาโน ติคาวุตปฺปมาโณ อตฺตภาโว นิพฺพตฺติ. โส ทิพฺพวตฺถนิวตฺโถ ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต ทิพฺพมาลาวิเลปนธโร ทิพฺเพหิ จนฺทนจุณฺเณหิ สมํ วิกิริยมาโน ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ โอวุโต นิวุโต ปริโยนทฺโธ โลภาภิภูโต หุตฺวา โลภนิสฺสรณํ นิพฺพานํ อปสฺสนฺโต อาสภึ วาจํ ภาสนฺโต วิย มหาสทฺเทน ‘‘น เต สุขํ ปชานนฺตี’’ติ อิมํ คาถํ คายมาโน นนฺทนวเน วิจริ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสี’’ติ.

เย น ปสฺสนฺติ นนฺทนนฺติ เย ตตฺร ปฺจกามคุณานุภวนวเสน นนฺทนวนํ น ปสฺสนฺติ. นรเทวานนฺติ เทวนรานํ, เทวปุริสานนฺติ อตฺโถ. ติทสานนฺติ ติกฺขตฺตุํ ทสนฺนํ. ยสสฺสินนฺติ ปริวารสงฺขาเตน ยเสน สมฺปนฺนานํ.

อฺตรา เทวตาติ เอกา อริยสาวิกา เทวตา. ปจฺจภาสีติ ‘‘อยํ พาลเทวตา อิมํ สมฺปตฺตึ นิจฺจํ อจลํ มฺติ, นาสฺสา เฉทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมตํ ชานาตี’’ติ อธิปฺปายํ วิวฏฺเฏตฺวา ทสฺเสนฺตี ‘‘น ตฺวํ พาเล’’ติ อิมาย คาถาย ปติอภาสิ. ยถา อรหตํ วโจติ ยถา อรหนฺตานํ วจนํ, ตถา ตฺวํ น ชานาสีติ. เอวํ ตสฺสา อธิปฺปายํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทานิ อรหนฺตานํ วจนํ ทสฺเสนฺตี อนิจฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ อนิจฺจา วต สงฺขาราติ สพฺเพ เตภูมกสงฺขารา หุตฺวา อภาวตฺเถน อนิจฺจา. อุปฺปาทวยธมฺมิโนติ อุปฺปาทวยสภาวา. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺตีติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ยสฺมา วา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺมา อุปฺปาทวยธมฺมิโนติ. อุปฺปาทวยคฺคหเณน เจตฺถ ตทนนฺตรา เวมชฺฌฏฺานํ คหิตเมว โหติ. เตสํ วูปสโม สุโขติ เตสํ สงฺขารานํ วูปสมสงฺขาตํ นิพฺพานเมว สุขํ. อิทํ อรหตํ วโจติ.

นนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นนฺทติสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย นนฺทตีติ ตุสฺสติ อตฺตมโน โหติ. ปุตฺติมาติ พหุปุตฺโต. ตสฺส หิ เอกจฺเจ ปุตฺตา กสิกมฺมํ กตฺวา ธฺสฺส โกฏฺเ ปูเรนฺติ, เอกจฺเจ วณิชฺชํ กตฺวา หิรฺสุวณฺณํ อาหรนฺติ, เอกจฺเจ ราชานํ อุปฏฺหิตฺวา ยานวาหนคามนิคมาทีนิ ลภนฺติ. อถ เตสํ อานุภาวสงฺขาตํ สิรึ อนุภวมานา มาตา วา ปิตา วา นนฺทติ. ฉณทิวสาทีสุ วา มณฺฑิตปสาธิเต ปุตฺเต สมฺปตฺตึ อนุภวมาเน ทิสฺวา นนฺทตีติ, ‘‘นนฺทติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา’’ติ อาห. โคหิ ตเถวาติ ยถา ปุตฺติมา ปุตฺเตหิ, ตถา โคสามิโกปิ สมฺปนฺนํ โคมณฺฑลํ ทิสฺวา คาโว นิสฺสาย โครสสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน โคหิ นนฺทติ. อุปธี หิ นรสฺส นนฺทนาติ, เอตฺถ อุปธีติ จตฺตาโร อุปธี – กามูปธิ, ขนฺธูปธิ, กิเลสูปธิ, อภิสงฺขารูปธีติ. กามาปิ หิ ‘‘ยํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖) เอวํ วุตฺตสฺส สุขสฺส อธิฏฺานภาวโต ‘‘อุปธิยติ เอตฺถ สุข’’นฺติ อิมินา วจนตฺเถน อุปธีติ วุจฺจติ. ขนฺธาปิ ขนฺธมูลกสฺส ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, กิเลสาปิ อปายทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, อภิสงฺขาราปิ ภวทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโตติ. อิธ ปน กามูปธิ อธิปฺเปโต. ปฺจ หิ กามคุณา เตภูมิกาทิปาสาท-อุฬารสยน-วตฺถาลงฺการ-นาฏกปริวาราทิวเสน ปจฺจุปฏฺิตา ปีติโสมนสฺสํ อุปสํหรมานา นรํ นนฺทยนฺติ. ตสฺมา ยถา ปุตฺตา จ คาโว จ, เอวํ อิเมปิ อุปธี หิ นรสฺส นนฺทนาติ เวทิตพฺพา. น หิ โส นนฺทติ โย นิรูปธีติ โย กามคุณสมฺปตฺติรหิโต ทลิทฺโท ทุลฺลภฆาสจฺฉาทโน, น หิ โส นนฺทติ. เอวรูโป มนุสฺสเปโต จ มนุสฺสเนรยิโก จ กึ นนฺทิสฺสติ ภควาติ อาห.

อิทํ สุตฺวา สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เทวตา โสกวตฺถุเมว นนฺทวตฺถุํ กโรติ, โสกวตฺถุภาวมสฺสา ทีเปสฺสามี’’ติ ผเลน ผลํ ปาเตนฺโต วิย ตาเยว อุปมาย ตสฺสา วาทํ ภินฺทนฺโต ตเมว คาถํ ปริวตฺเตตฺวา โสจตีติ อาห. ตตฺถ โสจติ ปุตฺเตหีติ วิเทสคมนาทิวเสน ปุตฺเตสุ นฏฺเสุปิ นสฺสนฺเตสุปิ อิทานิ นสฺสิสฺสนฺตีติ นาสสงฺกีปิ โสจติ, ตถา มเตสุปิ มรนฺเตสุปิ โจเรหิ ราชปุริเสหิ คหิเตสุ วา ปจฺจตฺถิกานํ หตฺถํ อุปคเตสุ วา มรณสงฺกีปิ หุตฺวา โสจติ. รุกฺขปพฺพตาทีหิ ปติตฺวา หตฺถปาทาทีนํ เภทวเสน ภินฺเนสุปิ ภิชฺชนฺเตสุปิ เภทสงฺกีปิ หุตฺวา โสจติ. ยถา จ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคสามิโกปิ ตเถว นวหากาเรหิ โคหิ โสจติ. อุปธี หิ นรสฺส โสจนาติ ยถา จ ปุตฺตคาโว, เอวํ ปฺจ กามคุโณปธีปิ –

‘‘ตสฺส เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;

เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๓) –

วุตฺตนเยน นรํ โสจนฺติ. ตสฺมา นรสฺส โสจนา โสกวตฺถุกเมวาติ เวทิตพฺพา. น หิ โส โสจติ, โย นิรูปธีติ ยสฺส ปน จตุพฺพิธาเปเต อุปธิโย นตฺถิ, โส นิรุปธิ มหาขีณาสโว กึ โสจิสฺสติ, น โสจติ เทวเตติ.

นนฺทติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นตฺถิปุตฺตสมสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมนฺติ วิรูเปปิ หิ อตฺตโน ปุตฺตเก สุวณฺณพิมฺพกํ วิย มฺนฺติ, มาลาคุเฬ วิย สีสาทีสุ กตฺวา ปริหรมานา เตหิ โอหทิตาปิ โอมุตฺติกาปิ คนฺธวิเลปนปติตา วิย โสมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ. เตนาห – ‘‘นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปม’’นฺติ. ปุตฺตเปมสมํ เปมํ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. โคสมิตํ ธนนฺติ โคหิ สมํ โคธนสมํ โคธนสทิสํ อฺํ ธนํ นาม นตฺถิ ภควาติ อาห. สูริยสมา อาภาติ สูริยาภาย สมา อฺา อาภา นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. สมุทฺทปรมาติ เย เกจิ อฺเ สรา นาม, สพฺเพ เต สมุทฺทปรมา, สมุทฺโท เตสํ อุตฺตโม, สมุทฺทสทิสํ อฺํ อุทกนิธานํ นาม นตฺถิ, ภควาติ.

ยสฺมา ปน อตฺตเปเมน สมํ เปมํ นาม นตฺถิ. มาตาปิตาทโย หิ ฉฑฺเฑตฺวาปิ ปุตฺตธีตาทโย จ อโปเสตฺวาปิ สตฺตา อตฺตานเมว โปเสนฺติ. ธฺเน จ สมํ ธนํ นาม นตฺถิ. (ยทา หิ สตฺตา ทุพฺภิกฺขา โหนฺติ), ตถารูเป หิ กาเล หิรฺสุวณฺณาทีนิ โคมหึสาทีนิปิ ธฺคฺคหณตฺถํ ธฺสามิกานเมว สนฺติกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ปฺาย จ สมา อาภา นาม นตฺถิ. สูริยาทโย หิ เอกเทสํเยว โอภาสนฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนเมว จ ตมํ วิโนเทนฺติ. ปฺา ปน ทสสหสฺสิมฺปิ โลกธาตุํ เอกปฺปชฺโชตํ กาตุํ สกฺโกติ, อตีตํสาทิปฏิจฺฉาทกฺจ ตมํ วิธมติ. เมฆวุฏฺิยา จ สโม สโร นาม นตฺถิ. นทีวาปิ โหตุ ตลากาทีนิ วา, วุฏฺิสโม สโร นาม นตฺถิ. เมฆวุฏฺิยา หิ ปจฺฉินฺนาย มหาสมุทฺโท องฺคุลิปพฺพเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ น โหติ, วุฏฺิยา ปน ปวตฺตมานาย ยาว อาภสฺสรภวนาปิ เอโกทกํ โหติ. ตสฺมา ภควา เทวตาย ปฏิคาถํ วทนฺโต นตฺถิ อตฺตสมํ เปมนฺติอาทิมาหาติ.

นตฺถิปุตฺตสมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ขตฺติยสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ ขตฺติโย ทฺวิปทนฺติ ทฺวิปทานํ ราชา เสฏฺโ. โกมารีติ กุมาริกาเล คหิตา. อยํ เสสภริยานํ เสฏฺาติ วทติ. ปุพฺพโชติ ปมํ ชาโต กาโณ วาปิ โหตุ กุณิอาทีนํ วา อฺตโร, โย ปมํ ชาโต, อยเมว ปุตฺโต อิมิสฺสา เทวตาย วาเท เสฏฺโ นาม โหติ. ยสฺมา ปน ทฺวิปทาทีนํ พุทฺธาทโย เสฏฺา, ตสฺมา ภควา ปฏิคาถํ อาห. ตตฺถ กิฺจาปิ ภควา สพฺเพสํเยว อปทาทิเภทานํ สตฺตานํ เสฏฺโ, อุปฺปชฺชมาโน ปเนส สพฺพสตฺตเสฏฺโ ทฺวิปเทสุเยว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทํ เสฏฺโติ อาห. ทฺวิปเทสุ อุปฺปนฺนสฺส จสฺส สพฺพสตฺตเสฏฺภาโว อปฺปฏิหโตว โหติ. อาชานีโยติ หตฺถี วา โหตุ อสฺสาทีสุ อฺตโร วา, โย การณํ ชานาติ, อยํ อาชานีโยว จตุปฺปทานํ เสฏฺโติ อตฺโถ. กูฏกณฺณรฺโ คุฬวณฺณอสฺโส วิย. ราชา กิร ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เจติยปพฺพตํ คมิสฺสามีติ กลมฺพนทีตีรํ สมฺปตฺโต, อสฺโส ตีเร ตฺวา อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉติ, ราชา อสฺสาจริยํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อโห วต ตยา อสฺโส สิกฺขาปิโต อุทกํ โอตริตุํ น อิจฺฉตี’’ติ อาห. อาจริโย ‘‘สุสิกฺขาปิโต เทว อสฺโส, เอตสฺส หิ จิตฺตํ – ‘สจาหํ อุทกํ โอตริสฺสามิ, วาลํ เตมิสฺสติ, วาเล ตินฺเต รฺโ องฺเค อุทกํ ปาเตยฺยา’ติ, เอวํ ตุมฺหากํ สรีเร อุทกปาตนภเยน น โอตรติ, วาลํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ตถา กาเรสิ. อสฺโส เวเคน โอตริตฺวา ปารํ คโต. สุสฺสูสาติ สุสฺสูสมานา. กุมาริกาเล วา คหิตา โหตุ ปจฺฉา วา, สุรูปา วา วิรูปา วา, ยา สามิกํ สุสฺสูสติ ปริจรติ โตเสติ, สา ภริยานํ เสฏฺา. อสฺสโวติ อาสุณมาโน. เชฏฺโ วา หิ โหตุ กนิฏฺโ วา, โย มาตาปิตูนํ วจนํ สุณาติ, สมฺปฏิจฺฉติ, โอวาทปฏิกโร โหติ, อยํ ปุตฺตานํ เสฏฺโ, อฺเหิ สนฺธิจฺเฉทกาทิโจเรหิ ปุตฺเตหิ โก อตฺโถ เทวเตติ.

ขตฺติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สณมานสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม ิเต มชฺฌนฺหิเกติ ิตมชฺฌนฺหิเก. สนฺนิสีเวสูติ ยถา ผาสุกฏฺานํ อุปคนฺตฺวา สนฺนิสินฺเนสุ วิสฺสมมาเนสุ. ิตมชฺฌนฺหิกกาโล นาเมส สพฺพสตฺตานํ อิริยาปถทุพฺพลฺยกาโล. อิธ ปน ปกฺขีนํเยว วเสน ทสฺสิโต. สณเตวาติ สณติ วิย มหาวิรวํ วิย มุจฺจติ. สณมานเมว เจตฺถ ‘‘สณเตวา’’ติ วุตฺตํ. ตปฺปฏิภาคํ นาเมตํ. นิทาฆสมยสฺมิฺหิ ิตมชฺฌนฺหิกกาเล จตุปฺปทคเณสุ เจว ปกฺขีคเณสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ วาตปูริตานํ สุสิรรุกฺขานฺเจว ฉิทฺทเวณุปพฺพานฺจ ขนฺเธน ขนฺธํ สาขาย สาขํ สงฺฆฏฺฏยนฺตานํ ปาทปานฺจ อรฺมชฺเฌ มหาสทฺโท อุปฺปชฺชติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตํ ภยํ ปฏิภาติ มนฺติ ตํ เอวรูเป กาเล มหาอรฺสฺส สณมานํ มยฺหํ ภยํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ทนฺธปฺา กิเรสา เทวตา ตสฺมึ ขเณ อตฺตโน นิสชฺชผาสุกํ กถาผาสุกํ ทุติยกํ อลภนฺตี เอวมาห. ยสฺมา ปน ตาทิเส กาเล ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตสฺส วิวิตฺเต อรฺายตเน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน อนปฺปกํ สุขํ อุปฺปชฺชติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ. (ธ. ป. ๓๗๓) จ,

‘‘ปุรโต ปจฺฉโต วาปิ, อปโร เจ น วิชฺชติ;

อตีว ผาสุ ภวติ, เอกสฺส วสโต วเน’’ติ. (เถรคา. ๕๓๗) จ;

ตสฺมา ภควา ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ สา รติ ปฏิภาติ มนฺติ ยา เอวรูเป กาเล เอกกสฺส นิสชฺชา นาม, สา รติ มยฺหํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

สณมานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. นิทฺทาตนฺทีสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ นิทฺทาติ, ‘‘อภิชานามหํ, อคฺคิเวสฺสน, คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวรูปาย อพฺยากตนิทฺทาย ปุพฺพภาคาปรภาเคสุ เสขปุถุชฺชนานํ สสงฺขาริกอกุสเล จิตฺเต อุปฺปนฺนํ ถินมิทฺธํ. ตนฺทีติ อติจฺฉาตาติสีตาทิกาเลสุ อุปฺปนฺนํ อาคนฺตุกํ อาลสิยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ตตฺถ กตมา ตนฺที? ยา ตนฺที ตนฺทิยนา ตนฺทิมนตา อาลสฺยํ อาลสฺยายนา อาลสฺยายิตตฺตํ, อยํ วุจฺจติ ตนฺที’’ติ (วิภ. ๘๕๗). วิชมฺภิตาติ กายวิชมฺภนา. อรตีติ อกุสลปกฺขา อุกฺกณฺิตตา. ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตมุจฺฉา ภตฺตกิลมโถ. วิตฺถาโร ปน เตสํ – ‘‘ตตฺถ กตมา วิชมฺภิตา? ยา กายสฺส ชมฺภนา วิชมฺภนา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม อาคโตว. เอเตนาติ เอเตน นิทฺทาทินา อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺโ นิวาริตปาตุภาโว. นปฺปกาสตีติ น โชตติ, น ปาตุภวตีติ อตฺโถ. อริยมคฺโคติ โลกุตฺตรมคฺโค. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. ปาณินนฺติ สตฺตานํ. วีริเยนาติ มคฺคสหชาตวีริเยน. นํ ปณาเมตฺวาติ เอตํ กิเลสชาตํ นีหริตฺวา. อริยมคฺโคติ โลกิยโลกุตฺตรมคฺโค. อิติ มคฺเคเนว อุปกฺกิเลเส นีหริตฺวา มคฺคสฺส วิสุทฺธิ วุตฺตาติ.

นิทฺทาตนฺทีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม ทุตฺติติกฺขนฺติ ทุกฺขมํ ทุอธิวาสิยํ. อพฺยตฺเตนาติ พาเลน. สามฺนฺติ สมณธมฺโม. อิมินา เทวตา อิทํ ทสฺเสติ – ยํ ปณฺฑิตา กุลปุตฺตา ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ สฏฺิปิ วสฺสานิ ทนฺเต อภิทนฺตมาธาย ชิวฺหาย ตาลุํ อาหจฺจปิ เจตสา จิตฺตํ อภินิคฺคณฺหิตฺวาปิ เอกาสนํ เอกภตฺตํ ปฏิเสวมานา อาปาณโกฏิกํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตา สามฺํ กโรนฺติ. ตํ ภควา พาโล อพฺยตฺโต กาตุํ น สกฺโกตีติ. พหู หิ ตตฺถ สมฺพาธาติ ตสฺมึ สามฺสงฺขาเต อริยมคฺเค พหู สมฺพาธา มคฺคาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส ปุพฺพภาเค พหู ปริสฺสยาติ ทสฺเสติ.

จิตฺตฺเจ น นิวารเยติ ยทิ อโยนิโส อุปฺปนฺนํ จิตฺตํ น นิวาเรยฺย, กติ อหานิ สามฺํ จเรยฺย? เอกทิวสมฺปิ น จเรยฺย. จิตฺตวสิโก หิ สมณธมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ. ปเท ปเทติ อารมฺมเณ อารมฺมเณ. อารมฺมณฺหิ อิธ ปทนฺติ อธิปฺเปตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ หิ อารมฺมเณ กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺถ พาโล วิสีทติ นาม. อิริยาปถปทมฺปิ วฏฺฏติ. คมนาทีสุ หิ ยตฺถ ยตฺถ กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺเถว วิสีทติ นาม. สงฺกปฺปานนฺติ กามสงฺกปฺปาทีนํ.

กุมฺโม วาติ กจฺฉโป วิย. องฺคานีติ คีวปฺจมานิ องฺคานิ. สโมทหนฺติ สโมทหนฺโต, สโมทหิตฺวา วา. มโนวิตกฺเกติ มนมฺหิ อุปฺปนฺนวิตกฺเก. เอตฺตาวตา อิทํ ทสฺเสติ – ยถา กุมฺโม โสณฺฑิปฺจมานิ องฺคานิ สเก กปาเล สโมทหนฺโต สิงฺคาลสฺส โอตารํ น เทติ, สโมทหิตฺวา จสฺส อปฺปสยฺหตํ อาปชฺชติ, เอวเมวํ ภิกฺขุ มนมฺหิ อุปฺปนฺนวิตกฺเก สเก อารมฺมณกปาเล สโมทหํ มารสฺส โอตารํ น เทติ, สโมทหิตฺวา จสฺส อปฺปสยฺหตํ อาปชฺชตีติ. อนิสฺสิโตติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต หุตฺวา. อเหยาโนติ อวิหึสมาโน. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสนิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. นูปวเทยฺย กฺจีติ ยํกิฺจิ ปุคฺคลํ อาจารวิปตฺติอาทีสุ ยาย กายจิ มงฺกุํ กาตุกาโม หุตฺวา น วเทยฺย, ‘‘กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลนา’’ติอาทโย ปน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน การุฺตํ ปฏิจฺจ วเทยฺยาติ.

ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. หิรีสุตฺตวณฺณนา

๑๘. อฏฺเม หิรีนิเสโธติ หิริยา อกุสเล ธมฺเม นิเสเธตีติ หิรีนิเสโธ. โกจิ โลกสฺมึ วิชฺชตีติ โกจิ เอวรูโป วิชฺชตีติ ปุจฺฉติ. โย นินฺทํ อปโพธตีติ โย ครหํ อปหรนฺโต พุชฺฌติ. อสฺโส ภทฺโร กสามิวาติ ยถา ภทฺโร อสฺสาชานีโย กสํ อปหรนฺโต พุชฺฌติ, ปโตทจฺฉายํ ทิสฺวา สํวิชฺฌนฺโต วิย กสาย อตฺตนิ นิปาตํ น เทติ, เอวเมว โย ภิกฺขุ ภูตสฺส ทสอกฺโกสวตฺถุโน อตฺตนิ นิปาตํ อททนฺโต นินฺทํ อปโพธติ อปหรนฺโต พุชฺฌติ, เอวรูโป โกจิ ขีณาสโว วิชฺชตีติ ปุจฺฉติ. อภูตกฺโกเสน ปน ปริมุตฺโต นาม นตฺถิ. ตนุยาติ ตนุกา, หิริยา อกุสเล ธมฺเม นิเสเธตฺวา จรนฺตา ขีณาสวา นาม อปฺปกาติ อตฺโถ. สทา สตาติ นิจฺจกาลํ สติเวปุลฺเลน สมนฺนาคตา. อนฺตํ ทุกฺขสฺส ปปฺปุยฺยาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส โกฏึ อนฺตภูตํ นิพฺพานํ ปาปุณิตฺวา. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

หิรีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กุฏิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๙. นวเม กจฺจิ เต กุฏิกาติ อยํ เทวตา ทส มาเส อนฺโตวสนฏฺานฏฺเน มาตรํ กุฏิกํ กตฺวา, ยถา สกุณา ทิวสํ โคจรปสุตา รตฺตึ กุลาวกํ อลฺลียนฺติ, เอวเมวํ สตฺตา ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวาปิ มาตุคามสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ, อาลยวเสน ภริยํ กุลาวกํ กตฺวา. กุลปเวณึ สนฺตานกฏฺเน ปุตฺเต สนฺตานเก กตฺวา, ตณฺหํ พนฺธนํ กตฺวา, คาถาพนฺธเนน อิเม ปฺเห สโมธาเนตฺวา ภควนฺตํ ปุจฺฉิ, ภควาปิสฺสา วิสฺสชฺเชนฺโต ตคฺฆาติอาทิมาห. ตตฺถ ตคฺฆาติ เอกํสวจเน นิปาโต. นตฺถีติ ปหาย ปพฺพชิตตฺตา วฏฺฏสฺมึ วา ปุน มาตุกุจฺฉิวาสสฺส ทารภรณสฺส ปุตฺตนิพฺพตฺติยา วา อภาวโต นตฺถิ.

เทวตา ‘‘มยา สนฺนาหํ พนฺธิตฺวา คุฬฺหา ปฺหา ปุจฺฉิตา, อยฺจ สมโณ ปุจฺฉิตมตฺเตเยว วิสฺสชฺเชสิ, ชานํ นุ โข เม อชฺฌาสยํ กเถสิ, อุทาหุ อชานํ ยํ วา ตํ วา มุขารุฬฺหํ กเถสี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน กินฺตาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ กินฺตาหนฺติ กึ เต อหํ. อถสฺสา ภควา อาจิกฺขนฺโต มาตรนฺติอาทิมาห. สาหุ เตติ คาถาย อนุโมทิตฺวา สมฺปหํสิตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา อตฺตโน เทวฏฺานเมว คตาติ.

กุฏิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา

๒๐. ทสเม ตโปทาราเมติ ตโปทสฺส ตตฺโตทกสฺส รหทสฺส วเสน เอวํ ลทฺธนาเม อาราเม. เวภารปพฺพตสฺส กิร เหฏฺา ภุมฺมฏฺกนาคานํ ปฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ตเลน อารามุยฺยาเนหิ จ สมนฺนาคตํ. ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺาเน มหาอุทกรหโท, ตโต ตโปทา นาม นที สนฺทติ กุถิตา อุณฺโหทกา. กสฺมา ปเนสา เอทิสา? ราชคหํ กิร ปริวาเรตฺวา มหาเปตโลโก ติฏฺติ, ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภินิรยานํ อนฺตเรน อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ, ตสฺมา กุถิตา สนฺทติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ยตายํ, ภิกฺขเว, ตโปทา สนฺทติ, โส ทโห อจฺโฉทโก สีโตทโก สาโตทโก เสโตทโก สุปฺปติตฺโถ รมณีโย ปหูตมจฺฉกจฺฉโป, จกฺกมตฺตานิ จ ปทุมานิ ปุปฺผนฺติ. อปิจายํ, ภิกฺขเว, ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉติ, เตนายํ ตโปทา กุถิตา สนฺทตี’’ติ (ปารา. ๒๓๑).

อิมสฺส ปน อารามสฺส อภิมุขฏฺาเน ตโต มหาอุทกรหโท ชาโต, ตสฺส วเสนายํ วิหาโร ‘‘ตโปทาราโม’’ติ วุจฺจติ.

สมิทฺธีติ ตสฺส กิร เถรสฺส อตฺตภาโว สมิทฺโธ อภิรูโป ปาสาทิโก, ตสฺมา ‘‘สมิทฺธี’’ตฺเวว สงฺขํ คโต. คตฺตานิ ปริสิฺจิตุนฺติ ปธานิกตฺเถโร เอส, พลวปจฺจูเส อุฏฺายาสนา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา พหิ สฏฺิหตฺถมตฺเต มหาจงฺกเม อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ‘‘เสทคหิเตหิ คตฺเตหิ ปริภุฺชมานํ เสนาสนํ กิลิสฺสตี’’ติ มฺมาโน คตฺตานิ ปริสิฺจนตฺถํ สรีรโธวนตฺถํ อุปสงฺกมิ. เอกจีวโร อฏฺาสีติ นิวาสนํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ หตฺเถน คเหตฺวา อฏฺาสิ.

คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโนติ คตฺตานิ ปุพฺพสทิสานิ โวทกานิ กุรุมาโน. อลฺลสรีเร ปารุตํ หิ จีวรํ กิลิสฺสติ ทุคฺคนฺธํ โหติ, น เจตํ วตฺตํ. เถโร ปน วตฺตสมฺปนฺโน, ตสฺมา วตฺเต ิโตว นฺหายิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อฏฺาสิ. ตตฺถ อิทํ นฺหานวตฺตํ – อุทกติตฺถํ คนฺตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ จีวรานิ นิกฺขิปิตฺวา เวเคน ิตเกเนว น โอตริตพฺพํ, สพฺพทิสา ปน โอโลเกตฺวา วิวิตฺตภาวํ ตฺวา ขาณุคุมฺพลตาทีนิ ววตฺถเปตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุกฺกาสิตฺวา อวกุชฺช ิเตน อุตฺตราสงฺคจีวรํ อปเนตฺวา ปสาเรตพฺพํ, กายพนฺธนํ โมเจตฺวา จีวรปิฏฺเเยว เปตพฺพํ. สเจ อุทกสาฏิกา นตฺถิ, อุทกนฺเต อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา นิวาสนํ โมเจตฺวา สเจ สินฺนฏฺานํ อตฺถิ, ปสาเรตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, สํหริตฺวา เปตพฺพํ. อุทกํ โอตรนฺเตน สณิกํ นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตริตฺวา วีจึ อนุฏฺาเปนฺเตน สทฺทํ อกโรนฺเตน นิวตฺติตฺวา อาคตทิสาภิมุเขน นิมุชฺชิตพฺพํ, เอวํ จีวรํ รกฺขิตํ โหติ. อุมฺมุชฺชนฺเตนปิ สทฺทํ อกโรนฺเตน สณิกํ อุมฺมุชฺชิตฺวา นฺหานปริโยสาเน อุทกนฺเต อุกฺกุฏิเกน นิสีทิตฺวา นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวา อุฏฺาย สุปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ อปารุปิตฺวาว าตพฺพนฺติ.

เถโรปิ ตถา นฺหายิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา วิคจฺฉมานอุทกํ กายํ โอโลกยมาโน อฏฺาสิ. ตสฺส ปกติยาปิ ปาสาทิกสฺส ปจฺจูสสมเย สมฺมา ปริณตาหารสฺส อุณฺโหทเกน นฺหาตสฺส อติวิย มุขวณฺโณ วิโรจิ, พนฺธนา ปวุตฺตตาลผลํ วิย ปภาสมฺปนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย ตงฺขณวิกสิตปทุมํ วิย มุขํ สสฺสิริกํ อโหสิ, สรีรวณฺโณปิ วิปฺปสีทิ. ตสฺมึ สมเย วนสณฺเฑ อธิวตฺถา ภุมฺมเทวตา ปาสาทิกํ ภิกฺขุํ โอโลกยมานา สมนํ นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตี กามปริฬาหาภิภูตา หุตฺวา, ‘‘เถรํ ปโลเภสฺสามี’’ติ อตฺตภาวํ อุฬาเรน อลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา สหสฺสวฏฺฏิปทีปํ ปชฺชลมานา วิย จนฺทํ อุฏฺาปยมานา วิย สกลารามํ เอโกภาสํ กตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา อวนฺทิตฺวาว เวหาเส ิตา คาถํ อภาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อฺตรา เทวตา…เป… อชฺฌภาสี’’ติ.

อภุตฺวาติ ปฺจ กามคุเณ อปริภุฺชิตฺวา. ภิกฺขสีติ ปิณฺฑาย จรสิ. มา ตํ กาโล อุปจฺจคาติ เอตฺถ กาโล นาม ปฺจกามคุณปฏิเสวนกฺขโม ทหรโยพฺพนกาโล. ชราชิณฺเณน หิ โอภคฺเคน ทณฺฑปรายเณน ปเวธมาเนน กาสสาสาภิภูเตน น สกฺกา กาเม ปริภุฺชิตุํ. อิติ อิมํ กาลํ สนฺธาย เทวตา ‘‘มา ตํ กาโล อุปจฺจคา’’ติ อาห. ตตฺถ มา อุปจฺจคาติ มา อติกฺกมิ.

กาลํ โวหํ น ชานามีติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. กาลํ น ชานามีติ มรณกาลํ สนฺธาย วทติ. สตฺตานฺหิ –

‘‘ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ, เทหนิกฺเขปนํ คติ;

ปฺเจเต ชีวโลกสฺมึ, อนิมิตฺตา น นายเร’’.

ตตฺถ ชีวิตํ ตาว ‘‘เอตฺตกเมว, น อิโต ปร’’นฺติ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตํ. กลลกาเลปิ หิ สตฺตา มรนฺติ, อพฺพุท-เปสิ-ฆน-อฑฺฒมาส-เอกมาส-ทฺเวมาส-เตมาส-จตุมาสปฺจมาส…เป… ทสมาสกาเลปิ, กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตสมเยปิ, ตโต ปรํ วสฺสสตสฺส อนฺโตปิ พหิปิ มรนฺติเยว. พฺยาธิปิ ‘‘อิมินาว พฺยาธินา สตฺตา มรนฺติ, น อฺเนา’’ติ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. จกฺขุโรเคนปิ หิ สตฺตา มรนฺติ โสตโรคาทีนํ อฺตเรนปิ. กาโลปิ, ‘‘อิมสฺมึ เยว กาเล มริตพฺพํ, น อฺสฺมิ’’นฺติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. ปุพฺพณฺเหปิ หิ สตฺตา มรนฺติ มชฺฌนฺหิกาทีนํ อฺตรสฺมิมฺปิ. เทหนิกฺเขปนมฺปิ, ‘‘อิเธว มียมานานํ เทเหน ปติตพฺพํ, น อฺตฺถา’’ติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตํ. อนฺโตคาเม ชาตานฺหิ พหิคาเมปิ อตฺตภาโว ปตติ, พหิคาเมปิ ชาตานํ อนฺโตคาเมปิ. ตถา ถลชานํ ชเล, ชลชานํ ถเลติ อเนกปฺปการโต วิตฺถาเรตพฺพํ. คติปิ, ‘‘อิโต จุเตน อิธ นิพฺพตฺติตพฺพ’’นฺติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตา. เทวโลกโต หิ จุตา มนุสฺเสสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ, มนุสฺสโลกโต จุตา เทวโลกาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตนฺตีติ เอวํ ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย คติปฺจเก โลโก สมฺปริวตฺตติ. ตสฺเสวํ สมฺปริวตฺตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม กาเล มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ อิมํ มรณสฺส กาลํ โวหํ น ชานามิ.

ฉนฺโน กาโล น ทิสฺสตีติ อยํ กาโล มยฺหํ ปฏิจฺฉนฺโน อวิภูโต น ปฺายติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อยํ กาโล ปฏิจฺฉนฺโน น ปฺายติ, ตสฺมา ปฺจ กามคุเณ อภุตฺวาว ภิกฺขามิ. มา มํ กาโล อุปจฺจคาติ เอตฺถ สมณธมฺมกรณกาลํ สนฺธาย ‘‘กาโล’’ติ อาห. อยฺหิ สมณธมฺโม นาม ปจฺฉิเม กาเล ติสฺโส วโยสีมา อติกฺกนฺเตน โอภคฺเคน ทณฺฑปรายเณน ปเวธมาเนน กาสสาสาภิภูเตน น สกฺกา กาตุํ. ตทา หิ น สกฺกา โหติ อิจฺฉิติจฺฉิตํ พุทฺธวจนํ วา คณฺหิตุํ, ธุตงฺคํ วา ปริภุฺชิตุํ, อรฺวาสํ วา วสิตุํ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปตฺตึ วา สมาปชฺชิตุํ, ปทภาณ-สรภฺธมฺมกถา-อนุโมทนาทีนิ วา กาตุํ, ตรุณโยพฺพนกาเล ปเนตํ สพฺพํ สกฺกา กาตุนฺติ อยํ สมณธมฺมกรณสฺส กาโล มา มํ อุปจฺจคา, ยาว มํ นาติกฺกมติ, ตาว กาเม อภุตฺวาว สมณธมฺมํ กโรมีติ อาห.

ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวาติ สา กิร เทวตา – ‘‘อยํ ภิกฺขุ สมณธมฺมกรณสฺส กาลํ นาม กเถติ, อกาลํ นาม กเถติ, สเหตุกํ กเถติ สานิสํส’’นฺติ เอตฺตาวตาว เถเร ลชฺชํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา มหาพฺรหฺมํ วิย อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ นํ มฺมานา คารวชาตา อากาสา โอรุยฺห ปถวิยํ อฏฺาสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ปถวิยํ ิตา, เยน ปนตฺเถน อาคตา, ปุนปิ ตเมว คเหตฺวา ทหโร ตฺวนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สุสูติ ตรุโณ. กาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส. ภทฺเรนาติ ภทฺทเกน. เอกจฺโจ หิ ทหโรปิ สมาโน กาโณ วา โหติ กุณิอาทีนํ วา อฺตโร, โส ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต นาม น โหติ. โย ปน อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สพฺพสมฺปตฺติสมฺปนฺโน, ยํ ยเทว อลงฺการปริหารํ อิจฺฉติ, เตน เตน อลงฺกโต เทวปุตฺโต วิย จรติ, อยํ ภทฺเรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต นาม โหติ. เถโร จ อุตฺตมรูปสมฺปนฺโน, เตน นํ เอวมาห.

อนิกฺกีฬิตาวี กาเมสูติ กาเมสุ อกีฬิตกีโฬ อภุตฺตาวี, อกตกามกีโฬติ อตฺโถ. มา สนฺทิฏฺิกํ หิตฺวาติ เยภุยฺเยน หิ ตา อทิฏฺสจฺจา อวีตราคา อปรจิตฺตวิทูนิโย เทวตา ภิกฺขู ทสปิ วสฺสานิ วีสติมฺปิ…เป… สฏฺิมฺปิ วสฺสานิ ปริสุทฺธํ อขณฺฑํ พฺรหฺมจริยํ จรมาเน ทิสฺวา – ‘‘อิเม ภิกฺขู มานุสเก ปฺจ กามคุเณ ปหาย ทิพฺเพ กาเม ปตฺถยนฺตา สมณธมฺมํ กโรนฺตี’’ติ สฺํ อุปฺปาเทนฺติ, อยมฺปิ ตตฺเถว อุปฺปาเทสิ. ตสฺมา มานุสเก กาเม สนฺทิฏฺิเก, ทิพฺเพ จ กาลิเก กตฺวา เอวมาห.

น โข อหํ, อาวุโสติ, อาวุโส, อหํ สนฺทิฏฺิเก กาเม หิตฺวา กาลิเก กาเม น อนุธาวามิ น ปตฺเถมิ น ปิเหมิ. กลิกฺจ โข อหํ, อาวุโสติ อหํ โข, อาวุโส, กาลิกํ กามํ หิตฺวา สนฺทิฏฺิกํ โลกุตฺตรธมฺมํ อนุธาวามิ. อิติ เถโร จิตฺตานนฺตรํ อลทฺธพฺพตาย ทิพฺเพปิ มานุสเกปิ ปฺจ กามคุเณ กาลิกาติ อกาสิ, จิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพตาย โลกุตฺตรธมฺมํ สนฺทิฏฺิกนฺติ. ปฺจกามคุเณสุ สโมหิเตสุปิ สมฺปนฺนกามสฺสาปิ กามิโน จิตฺตานนฺตรํ อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณานุภวนํ น สมฺปชฺชติ. จกฺขุทฺวาเร อิฏฺารมฺมณํ อนุภวิตุกาเมน หิ จิตฺตการโปตฺถการรูปการาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อิทํ นาม สชฺเชถา’’ติ วตฺตพฺพํ โหติ. เอตฺถนฺตเร อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. อถ ปจฺฉา ตํ อารมฺมณํ สมฺปาปุณาติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. โสตาปตฺติมคฺคานนฺตรํ ปน โสตาปตฺติผลเมว อุปฺปชฺชติ, อนฺตรา อฺสฺส จิตฺตสฺส วาโร นตฺถิ. เสสผเลสุปิ เอเสว นโยติ.

โส ตเมวตฺถํ คเหตฺวา กาลิกา หิ, อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ กาลิกาติ วุตฺตนเยน สโมหิตสมฺปตฺตินาปิ กาลนฺตเร ปตฺตพฺพา. พหุทุกฺขาติ ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย ปตฺตพฺพทุกฺขสฺส พหุตาย พหุทุกฺขา. ตํวตฺถุกสฺเสว อุปายาสสฺส พหุตาย พหุปายาสา. อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโยติ ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย ลทฺธพฺพสุขโต อาทีนโว ภิยฺโย, ทุกฺขเมว พหุตรนฺติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโก อยํ ธมฺโมติ อยํ โลกุตฺตรธมฺโม เยน เยน อธิคโต โหติ, เตน เตน ปรสทฺธาย คนฺตพฺพตํ หิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน สยํ ทฏฺพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. อตฺตโน ผลทานํ สนฺธาย นาสฺส กาโลติ อกาโล, อกาโลเยว อกาลิโก. โย เอตฺถ อริยมคฺคธมฺโม, โส อตฺตโน ปวตฺติสมนนฺตรเมว ผลํ เทตีติ อตฺโถ. ‘‘เอหิ ปสฺส อิมํ ธมฺม’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก. อาทิตฺตํ เจลํ วา สีสํ วา อชฺฌุเปกฺขิตฺวาปิ ภาวนาวเสน อตฺตโน จิตฺเต อุปนยํ อรหตีติ โอปเนยฺยิโก. สพฺเพหิ อุคฺฆฏิตฺูอาทีหิ วิฺูหิ ‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อธิคตํ ผลํ, สจฺฉิกโต นิโรโธ’’ติ อตฺตนิ อตฺตนิ เวทิตพฺโพติ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหีติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๖ อาทโย) ธมฺมานุสฺสติวณฺณนายํ วุตฺโต.

อิทานิ สา เทวตา อนฺโธ วิย รูปวิเสสํ เถเรน กถิตสฺส อตฺเถ อชานนฺตี กถฺจ ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ กถฺจาติปทสฺส ‘‘กถฺจ ภิกฺขุ กาลิกา กามา วุตฺตา ภควตา, กถํ พหุทุกฺขา, กถํ พหุปายาสา’’ติ? เอวํ สพฺพปเทหิ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

นโวติ อปริปุณฺณปฺจวสฺโส หิ ภิกฺขุ นโว นาม โหติ, ปฺจวสฺสโต ปฏฺาย มชฺฌิโม, ทสวสฺสโต ปฏฺาย เถโร. อปโร นโย – อปริปุณฺณทสวสฺโส นโว, ทสวสฺสโต ปฏฺาย มชฺฌิโม, วีสติวสฺสโต ปฏฺาย เถโร. เตสํ อหํ นโวติ วทติ.

นโวปิ เอกจฺโจ สตฺตฏฺวสฺสกาเล ปพฺพชิตฺวา ทฺวาทสเตรสวสฺสานิ สามเณรภาเวเนว อติกฺกนฺโต จิรปพฺพชิโต โหติ, อหํ ปน อจิรปพฺพชิโตติ วทติ. อิมํ ธมฺมวินยนฺติ อิมํ ธมฺมฺจ วินยฺจ. อุภยมฺเปตํ สาสนสฺเสว นามํ. ธมฺเมน เหตฺถ ทฺเว ปิฏกานิ วุตฺตานิ, วินเยน วินยปิฏกํ, อิติ ตีหิ ปิฏเกหิ ปกาสิตํ ปฏิปตฺตึ อธุนา อาคโตมฺหีติ วทติ.

มเหสกฺขาหีติ มหาปริวาราหิ. เอเกกสฺส หิ เทวรฺโ โกฏิสตมฺปิ โกฏิสหสฺสมฺปิ ปริวาโร โหติ, เต อตฺตานํ มหนฺเต าเน เปตฺวา ตถาคตํ ปสฺสนฺติ. ตตฺถ อมฺหาทิสานํ อปฺเปสกฺขานํ มาตุคามชาติกานํ กุโต โอกาโสติ ทสฺเสติ.

มยมฺปิ อาคจฺเฉยฺยามาติ อิทํ สา เทวตา ‘‘สเจปิ จกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา ปริสา นิสินฺนา โหติ, มหติยา พุทฺธวีถิยา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุํ ลภตี’’ติ ตฺวา อาห. ปุจฺฉ ภิกฺขุ, ปุจฺฉ ภิกฺขูติ ถิรกรณวเสน อาเมฑิตํ กตํ.

อกฺเขยฺยสฺิโนติ เอตฺถ ‘‘เทโว, มนุสฺโส, คหฏฺโ, ปพฺพชิโต, สตฺโต, ปุคฺคโล, ติสฺโส, ผุสฺโส’’ติอาทินา นเยน อกฺเขยฺยโต สพฺเพสํ อกฺขานานํ สพฺพาสํ กถานํ วตฺถุภูตโต ปฺจกฺขนฺธา ‘‘อกฺเขยฺยา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘สตฺโต นโร โปโส ปุคฺคโล อิตฺถี ปุริโส’’ติ เอวํ สฺา เอเตสํ อตฺถีติ สฺิโน, อกฺเขยฺเยสฺเวว สฺิโนติ อกฺเขยฺยสฺิโน, ปฺจสุ ขนฺเธสุ สตฺตปุคฺคลาทิสฺิโนติ อตฺโถ. อกฺเขยฺยสฺมึ ปติฏฺิตาติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อฏฺหากาเรหิ ปติฏฺิตา. รตฺโต หิ ราควเสน ปติฏฺิโต โหติ, ทุฏฺโ โทสวเสน, มูฬฺโห โมหวเสน, ปรามฏฺโ ทิฏฺิวเสน, ถามคโต อนุสยวเสน, วินิพทฺโธ มานวเสน, อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉาวเสน, วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสน ปติฏฺิโต โหติ. อกฺเขยฺยํ อปริฺายาติ ปฺจกฺขนฺเธ ตีหิ ปริฺาหิ อปริชานิตฺวา. โยคมายนฺติ มจฺจุโนติ มจฺจุโน โยคํ ปโยคํ ปกฺเขปํ อุปกฺเขปํ อุปกฺกมํ อพฺภนฺตรํ อาคจฺฉนฺติ, มรณวสํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เอวมิมาย คาถาย กาลิกา กามา กถิตา.

ปริฺายาติ าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ อิมาหิ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. ตตฺถ กตมา าตปริฺา? ปฺจกฺขนฺเธ ปริชานาติ – ‘‘อยํ รูปกฺขนฺโธ, อยํ เวทนากฺขนฺโธ, อยํ สฺากฺขนฺโธ, อยํ สงฺขารกฺขนฺโธ, อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ, อิมานิ เตสํ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ, อยํ าตปริฺา. กตมา ตีรณปริฺา? เอวํ าตํ กตฺวา ปฺจกฺขนฺเธ ตีเรติ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโตติ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ. อยํ ตีรณปริฺา. กตมา ปหานปริฺา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราคํ ปชหติ. อยํ ปหานปริฺา.

อกฺขาตารํ น มฺตีติ เอวํ ตีหิ ปริฺาหิ ปฺจกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา ขีณาสโว ภิกฺขุ อกฺขาตารํ ปุคฺคลํ น มฺติ. อกฺขาตารนฺติ กมฺมวเสน การณํ เวทิตพฺพํ, อกฺขาตพฺพํ กเถตพฺพํ ปุคฺคลํ น มฺติ, น ปสฺสตีติ อตฺโถ. กินฺติ อกฺขาตพฺพนฺติ? ‘‘ติสฺโส’’ติ วา ‘‘ผุสฺโส’’ติ วา เอวํ เยน เกนจิ นาเมน วา โคตฺเตน วา ปกาเสตพฺพํ. ตฺหิ ตสฺส น โหตีติ ตํ ตสฺส ขีณาสวสฺส น โหติ. เยน นํ วชฺชาติ เยน นํ ‘‘ราเคน รตฺโต’’ติ วา ‘‘โทเสน ทุฏฺโ’’ติ วา ‘‘โมเหน มูฬฺโห’’ติ วาติ โกจิ วเทยฺย, ตํ การณํ ตสฺส ขีณาสวสฺส นตฺถิ.

สเจ วิชานาสิ วเทหีติ สเจ เอวรูปํ ขีณาสวํ ชานาสิ, ‘‘ชานามี’’ติ วเทหิ. โน เจ ชานาสิ, อถ ‘‘น ชานามี’’ติ วเทหิ. ยกฺขาติ เทวตํ อาลปนฺโต อาห. อิติ อิมาย คาถาย สนฺทิฏฺิโก นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม กถิโต. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต.

โย มฺตีติ โย อตฺตานํ ‘‘อหํ สโม’’ติ วา ‘‘วิเสสี’’ติ วา ‘‘นิหีโน’’ติ วา มฺติ. เอเตน ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทโย ตโย มานา คหิตาว. เตสุ คหิเตสุ นว มานา คหิตาว โหนฺติ. โส วิวเทถ เตนาติ โส ปุคฺคโล เตเนว มาเนน เยน เกนจิ ปุคฺคเลน สทฺธึ – ‘‘เกน มํ ตฺวํ ปาปุณาสิ, กึ ชาติยา ปาปุณาสิ, อุทาหุ โคตฺเตน, กุลปเทเสน, วณฺณโปกฺขรตาย, พาหุสจฺเจน, ธุตคุเณนา’’ติ เอวํ วิวเทยฺย. อิติ อิมายปิ อุปฑฺฒคาถาย กาลิกา กามา กถิตา.

ตีสุ วิธาสูติ ตีสุ มาเนสุ. ‘‘เอกวิเธน รูปสงฺคโห’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๕๘๔) หิ โกฏฺาโส ‘‘วิโธ’’ติ วุตฺโต. ‘‘กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๕) อากาโร. ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, วิธา. กตมา ติสฺโส? เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๖๒) มาโน ‘‘วิธา’’ติ วุตฺโต. อิธาปิ มาโนว. เตน วุตฺตํ ‘‘ตีสุ วิธาสูติ ตีสุ มาเนสู’’ติ. อวิกมฺปมาโนติ โส ปุคฺคโล เอเตสุ สงฺเขปโต ตีสุ, วิตฺถารโต นวสุ มาเนสุ น กมฺปติ, น จลติ. สโม วิเสสีติ น ตสฺส โหตีติ ตสฺส ปหีนมานสฺส ขีณาสวสฺส ‘‘อหํ สทิโส’’ติ วา ‘‘เสยฺโย’’ติ วา ‘‘หีโน’’ติ วา น โหตีติ ทสฺเสติ. ปจฺฉิมปทํ วุตฺตนยเมว. อิติ อิมายปิ อุปฑฺฒคาถาย นววิโธ สนฺทิฏฺิโก โลกุตฺตรธมฺโม กถิโต.

ปหาสิ สงฺขนฺติ, ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๑๒๐, ๒๓๙) ปฺา ‘‘สงฺขา’’ติ อาคตา. ‘‘อตฺถิ เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายโก วา, โย ปโหติ คงฺคาย วาลุกํ คเณตุ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๑๐) เอตฺถ คณนา. ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) โกฏฺาโส. ‘‘ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขา สมฺา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) เอตฺถ ปณฺณตฺติ ‘‘สงฺขา’’ติ อาคตา. อิธาปิ อยเมว อธิปฺเปตา. ปหาสิ สงฺขนฺติ ปทสฺส หิ อยเมวตฺโถ – รตฺโต ทุฏฺโ มูฬฺโห อิติ อิมํ ปณฺณตฺตึ ขีณาสโว ปหาสิ ชหิ ปชหีติ.

น วิมานมชฺฌคาติ นวเภทํ ติวิธมานํ น อุปคโต. นิวาสฏฺเน วา มาตุกุจฺฉิ ‘‘วิมาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ อายตึ ปฏิสนฺธิวเสน น อุปคจฺฉีติปิ อตฺโถ. อนาคตตฺเถ อตีตวจนํ. อจฺเฉจฺฉีติ ฉินฺทิ. ฉินฺนคนฺถนฺติ จตฺตาโร คนฺเถ ฉินฺทิตฺวา ิตํ. อนีฆนฺติ นิทฺทุกฺขํ. นิราสนฺติ นิตฺตณฺหํ. ปริเยสมานาติ โอโลกยมานา. นาชฺฌคมุนฺติ น อธิคจฺฉนฺติ น วินฺทนฺติ น ปสฺสนฺติ. วตฺตมานตฺเถ อตีตวจนํ. อิธ วา หุรํ วาติ อิธโลเก วา ปรโลเก วา. สพฺพนิเวสเนสูติ ตโย ภวา, จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว สตฺตาวาสา, อิติ อิเมสุปิ สพฺเพสุ สตฺตนิเวสเนสุ เอวรูปํ ขีณาสวํ กายสฺส เภทา อุปฺปชฺชมานํ วา อุปฺปนฺนํ วา น ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิมาย คาถาย สนฺทิฏฺิกํ โลกุตฺตรธมฺมเมว กเถสิ.

อิมฺจ คาถํ สุตฺวา สาปิ เทวตา อตฺถํ สลฺลกฺเขสิ, เตเนว การเณน อิมสฺส ขฺวาหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปํ น กยิราติ คาถาย ทสกุสลกมฺมปถวเสนปิ กเถตุํ วฏฺฏติ อฏฺงฺคิกมคฺควเสนปิ. ทสกุสลกมฺมปถวเสน ตาว วจสาติ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ คหิตํ. มนสาติ ติวิธํ มโนสุจริตํ คหิตํ. กาเยน วา กิฺจน สพฺพโลเกติ ติวิธํ กายสุจริตํ คหิตํ. อิเม ตาว ทสกุสลกมฺมปถธมฺมา โหนฺติ. กาเม ปหายาติ อิมินา ปน กามสุขลฺลิกานุโยโค ปฏิกฺขิตฺโต. สติมา สมฺปชาโนติ อิมินา ทสกุสลกมฺมปถการณํ สติสมฺปชฺํ คหิตํ. ทุกฺขํ น เสเวถ อนตฺถสํหิตนฺติ อิมินา อตฺตกิลมถานุโยโค ปฏิสิทฺโธ. อิติ เทวตา ‘‘อุโภ อนฺเต วิวชฺเชตฺวา การเณหิ สติสมฺปชฺเหิ สทฺธึ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม ตุมฺเหหิ กถิเต อาชานามิ ภควา’’ติ วทติ.

อฏฺงฺคิกมคฺควเสน ปน อยํ นโย – ตสฺมึ กิร าเน มหตี ธมฺมเทสนา อโหสิ. เทสนาปริโยสาเน เทวตา ยถาาเน ิตาว เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย อตฺตนา อธิคตํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ทสฺเสนฺตี เอวมาห. ตตฺถ วจสาติ สมฺมาวาจา คหิตา, มโน ปน องฺคํ น โหตีติ มนสาติ มคฺคสมฺปยุตฺตกํ จิตฺตํ คหิตํ. กาเยน วา กิฺจน สพฺพโลเกติ สมฺมากมฺมนฺโต คหิโต, อาชีโว ปน วาจากมฺมนฺตปกฺขิกตฺตา คหิโตว โหติ. สติมาติ อิมินา วายามสติสมาธโย คหิตา. สมฺปชาโนติปเทน สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปา. กาเม ปหาย, ทุกฺขํ น เสเวถาติปททฺวเยน อนฺตทฺวยวชฺชนํ. อิติ อิเม ทฺเว อนฺเต อนุปคมฺม มชฺฌิมํ ปฏิปทํ ตุมฺเหหิ กถิตํ, อาชานามิ ภควาติ วตฺวา ตถาคตํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ.

สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

นนฺทนวคฺโค ทุติโย.

๓. สตฺติวคฺโค

๑. สตฺติสุตฺตวณฺณนา

๒๑. สตฺติวคฺคสฺส ปเม สตฺติยาติ เทสนาสีสเมตํ. เอกโตขาราทินา สตฺเถนาติ อตฺโถ. โอมฏฺโติ ปหโต. จตฺตาโร หิ ปหารา โอมฏฺโ อุมฺมฏฺโ มฏฺโ วิมฏฺโติ. ตตฺถ อุปริ ตฺวา อโธมุขํ ทินฺนปหาโร โอมฏฺโ นาม; เหฏฺา ตฺวา อุทฺธํมุขํ ทินฺโน อุมฺมฏฺโ นาม; อคฺคฬสูจิ วิย วินิวิชฺฌิตฺวา คโต มฏฺโ นาม; เสโส สพฺโพปิ วิมฏฺโ นาม. อิมสฺมึ ปน าเน โอมฏฺโ คหิโต. โส หิ สพฺพทารุโณ ทุรุทฺธรสลฺโล ทุตฺติกิจฺโฉ อนฺโตโทโส อนฺโตปุพฺพโลหิโตว โหติ, ปุพฺพโลหิตํ อนิกฺขมิตฺวา วณมุขํ ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺติ. ปุพฺพโลหิตํ นิหริตุกาเมหิ มฺเจน สทฺธึ พนฺธิตฺวา อโธสิโร กาตพฺโพ โหติ, มรณํ วา มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ ปาปุณาติ. ปริพฺพเชติ วิหเรยฺย.

อิมาย คาถาย กึ กเถติ? ยถา สตฺติยา โอมฏฺโ ปุริโส สลฺลุพฺพหน-วณติกิจฺฉนานํ อตฺถาย วีริยํ อารภติ, ปโยคํ กโรติ ปรกฺกมติ. ยถา จ ฑยฺหมาโน มตฺถเก อาทิตฺตสีโส ตสฺส นิพฺพาปนตฺถาย วีริยํ อารภติ, ปโยคํ กโรติ ปรกฺกมติ, เอวเมว ภิกฺขุ กามราคํ ปหานาย สโต อปฺปมตฺโต หุตฺวา วิหเรยฺย ภควาติ กเถสิ.

อถ ภควา จินฺเตสิ – อิมาย เทวตาย อุปมา ตาว ทฬฺหํ กตฺวา อานีตา, อตฺถํ ปน ปริตฺตกํ คเหตฺวา ิตา, ปุนปฺปุนํ กเถนฺตีปิ เหสา กามราคสฺส วิกฺขมฺภนปหานเมว กเถยฺย. ยาว จ กามราโค มคฺเคน น สมุคฺฆาฏิยติ, ตาว อนุพทฺโธว โหติ. อิติ ตเมว โอปมฺมํ คเหตฺวา ปมมคฺควเสน เทสนํ วินิวฏฺเฏตฺวา เทเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ ปุริมานุสาเรเนว เวทิตพฺโพติ. ปมํ.

๒. ผุสติสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย นาผุสนฺตํ ผุสตีติ กมฺมํ อผุสนฺตํ วิปาโก น ผุสติ, กมฺมเมว วา อผุสนฺตํ กมฺมํ น ผุสติ. กมฺมฺหิ นากโรโต กริยติ. ผุสนฺตฺจ ตโต ผุเสติ กมฺมํ ผุสนฺตํ วิปาโก ผุสติ, กมฺมเมว วา ผุสติ. กมฺมฺหิ กโรโต กริยติ. ตสฺมา ผุสนฺตํ ผุสติ, อปฺปทุฏฺปโทสินนฺติ ยสฺมา น อผุสนฺตํ ผุสติ, ผุสนฺตฺจ ผุสติ, อยํ กมฺมวิปากานํ ธมฺมตา, ตสฺมา โย ‘‘อปฺปทุฏฺสฺส นรสฺส ทุสฺสติ, สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺโต อปฺปทุฏฺปโทสี ปุคฺคโล, ตํ ปุคฺคลํ กมฺมํ ผุสนฺตเมว กมฺมํ ผุสติ, วิปาโก วา ผุสติ. โส หิ ปรสฺส อุปฆาตํ กาตุํ สกฺโกติ วา มา วา, อตฺตา ปนาเนน จตูสุ อปาเยสุ ปิโต นาม โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ, สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต’’ติ. ทุติยํ.

๓. ชฏาสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย อนฺโตชฏาติ คาถายํ ชฏาติ ตณฺหาย ชาลินิยา อธิวจนํ. สา หิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเน เวฬุคุมฺพาทีนํ สาขาชาลสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏา. สา ปเนสา สกปริกฺขารปรปริกฺขาเรสุ สกอตฺตภาว-ปรอตฺตภาเวสุ อชฺฌตฺติกายตน-พาหิรายตเนสุ จ อุปฺปชฺชนโต อนฺโตชฏา พหิชฏาติ วุจฺจติ. ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏาย ชฏิตา ปชา. ยถา นาม เวฬุชฏาทีหิ เวฬุอาทโย, เอวํ ตาย ตณฺหาชฏาย สพฺพาปิ อยํ สตฺตนิกายสงฺขาตา ปชา ชฏิตา วินทฺธา, สํสิพฺพิตาติ อตฺโถ. ยสฺมา จ เอวํ ชฏิตา, ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามีติ ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ. โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติ. โก อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ อิมํ เอวํ เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ิตํ ชฏํ โก วิชเฏยฺย, วิชเฏตุํ โก สมตฺโถติ ปุจฺฉติ.

อถสฺส ภควา ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต สีเล ปติฏฺายาติอาทิมาห. ตตฺถ สีเล ปติฏฺายาติ จตุปาริสุทฺธิสีเล ตฺวา. เอตฺถ จ ภควา ชฏาวิชฏนํ ปุจฺฉิโต สีลํ อารภนฺโต น ‘‘อฺํ ปุฏฺโ อฺํ กเถตี’’ติ เวทิตพฺโพ. ชฏาวิชฏกสฺส หิ ปติฏฺาทสฺสนตฺถเมตฺถ สีลํ กถิตํ.

นโรติ สตฺโต. สปฺโติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปฺวา. จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยนฺติ สมาธิฺเจว วิปสฺสนฺจ ภาวยมาโน. จิตฺตสีเสน เหตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย กถิตา, ปฺานาเมน วิปสฺสนา. อาตาปีติ วีริยวา. วีริยฺหิ กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน ‘‘อาตาโป’’ติ วุจฺจติ, ตทสฺส อตฺถีติ อาตาปี. นิปโกติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. อิมินา ปเทน ปาริหาริยปฺํ ทสฺเสติ. ปาริหาริยปฺา นาม ‘‘อยํ กาโล อุทฺเทสสฺส, อยํ กาโล ปริปุจฺฉายา’’ติอาทินา นเยน สพฺพตฺถ การาปิตา ปริหริตพฺพปฺา. อิมสฺมิฺหิ ปฺหาพฺยากรเณ ติกฺขตฺตุํ ปฺา อาคตา. ตตฺถ ปมา ชาติปฺา, ทุติยา วิปสฺสนาปฺา, ตติยา สพฺพกิจฺจปริณายิกา ปาริหาริยปฺา.

โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ โส อิเมหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ. ยถา นาม ปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺาย สุนิสิตํ สตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา มหนฺตํ เวฬุคุมฺพํ วิชเฏยฺย, เอวเมวํ สีเล ปติฏฺาย สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ วิปสฺสนาปฺาสตฺถํ วีริยพลปคฺคหิเตน ปาริหาริยปฺาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน สนฺตาเน ปติตํ ตณฺหาชฏํ วิชเฏยฺย สฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺยาติ.

เอตฺตาวตา เสขภูมึ กเถตฺวา อิทานิ ชฏํ วิชเฏตฺวา ิตํ มหาขีณาสวํ ทสฺเสนฺโต เยสนฺติอาทิมาห. เอวํ ชฏํ วิชเฏตฺวา ิตํ ขีณาสวํ ทสฺเสตฺวา ปุน ชฏาย วิชฏโนกาสํ ทสฺเสนฺโต ยตฺถ นามฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ นามนฺติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา. ปฏิฆํ รูปสฺา จาติ เอตฺถ ปฏิฆสฺาวเสน กามภโว คหิโต, รูปสฺาวเสน รูปภโว. เตสุ ทฺวีสุ คหิเตสุ อรูปภโว คหิโตว โหติ ภวสงฺเขเปนาติ. เอตฺเถสา ฉิชฺชเต ชฏาติ เอตฺถ เตภูมกวฏฺฏสฺส ปริยาทิยนฏฺาเน เอสา ชฏา ฉิชฺชติ, นิพฺพานํ อาคมฺม ฉิชฺชติ นิรุชฺฌตีติ อยํ อตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ตติยํ.

๔. มโนนิวารณสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ ยโต ยโตติ ปาปโต วา กลฺยาณโต วา. อยํ กิร เทวตา ‘‘ยํกิฺจิ กุสลาทิเภทํ โลกิยํ วา โลกุตฺตรํ วา มโน, ตํ นิวาเรตพฺพเมว, น อุปฺปาเทตพฺพ’’นฺติ เอวํลทฺธิกา. ส สพฺพโตติ โส สพฺพโต. อถ ภควา – ‘‘อยํ เทวตา อนิยฺยานิกกถํ กเถติ, มโน นาม นิวาเรตพฺพมฺปิ อตฺถิ ภาเวตพฺพมฺปิ, วิภชิตฺวา นมสฺสา ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยคาถํ อาห. ตตฺถ น มโน สํยตตฺตมาคตนฺติ, ยํ วุตฺตํ ‘‘น สพฺพโต มโน นิวารเย’’ติ, กตรํ ตํ มโน, ยํ ตํ สพฺพโต น นิวาเรตพฺพนฺติ เจ. มโน สํยตตฺตํ อาคตํ, ยํ มโน ยตฺถ สํยตภาวํ อาคตํ, ‘‘ทานํ ทสฺสามิ, สีลํ รกฺขิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน อุปฺปนฺนํ, เอตํ มโน น นิวาเรตพฺพํ, อฺทตฺถุ พฺรูเหตพฺพํ วฑฺเฒตพฺพํ. ยโต ยโต จ ปาปกนฺติ ยโต ยโต อกุสลํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ตโต จ ตํ นิวาเรตพฺพนฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม กตาวีติ จตูหิ มคฺเคหิ กตกิจฺโจ. อหํ วทามีติ อยํ เทวตา วนสณฺฑวาสินี, สา อารฺกานํ ภิกฺขูนํ ‘‘อหํ ภุฺชามิ, อหํ นิสีทามิ, มม ปตฺโต, มม จีวร’’นฺติอาทิกถาโวหารํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อิเม ภิกฺขู ‘ขีณาสวา’ติ มฺามิ, ขีณาสวานฺจ นาม เอวรูปา อตฺตุปลทฺธินิสฺสิตกถา โหติ, น โหติ นุ โข’’ติ ชานนตฺถํ เอวํ ปุจฺฉติ.

สามฺนฺติ โลกนิรุตฺตึ โลกโวหารํ. กุสโลติ ขนฺธาทีสุ กุสโล. โวหารมตฺเตนาติ อุปลทฺธินิสฺสิตกถํ หิตฺวา โวหารเภทํ อกโรนฺโต ‘‘อหํ, มมา’’ติ วเทยฺย. ‘‘ขนฺธา ภุฺชนฺติ, ขนฺธา นิสีทนฺติ, ขนฺธานํ ปตฺโต, ขนฺธานํ จีวร’’นฺติ หิ วุตฺเต โวหารเภโท โหติ, น โกจิ ชานาติ. ตสฺมา เอวํ อวตฺวา โลกโวหาเรน โวหรตีติ.

อถ เทวตา – ‘‘ยทิ ทิฏฺิยา วเสน น วทติ, มานวเสน นุ โข วทตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน โย โหตีติ ปุจฺฉิ. ตตฺถ มานํ นุ โขติ โส ภิกฺขุ มานํ อุปคนฺตฺวา มานวเสน วเทยฺย นุ โขติ. อถ ภควา – ‘‘อยํ เทวตา ขีณาสวํ สมานํ วิย กโรตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ขีณาสวสฺส นววิโธปิ มาโน ปหีโน’’ติ ทสฺเสนฺโต ปฏิคาถํ อาห. ตตฺถ วิธูปิตาติ วิธมิตา. มานคนฺถสฺสาติ มานา จ คนฺถา จ อสฺส. มฺตนฺติ มฺนํ. ติวิธมฺปิ ตณฺหา-ทิฏฺิ-มาน-มฺนํ โส วีติวตฺโต, อติกฺกนฺโตติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ. ปฺจมํ.

๖. ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ ปุฏฺุนฺติ ปุจฺฉิตุํ. กถํ ชาเนมูติ กถํ ชาเนยฺยาม. ทิวารตฺตินฺติ ทิวา จ รตฺติฺจ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยตฺถ ยตฺเถว ปชฺชลิโต โหติ, ตตฺถ ตตฺถ. เอสา อาภาติ เอสา พุทฺธาภา. กตมา ปน สาติ? าณาโลโก วา โหตุ ปีติอาโลโก วา ปสาทาโลโก วา ธมฺมกถาอาโลโก วา, สพฺโพปิ พุทฺธานํ ปาตุภาวา อุปฺปนฺโน อาโลโก พุทฺธาภา นาม. อยํ อนุตฺตรา สพฺพเสฏฺา อสทิสาติ. ฉฏฺํ.

๗. สรสุตฺตวณฺณนา

๒๗. สตฺตเม กุโต สรา นิวตฺตนฺตีติ อิเม สํสารสรา กุโต นิวตฺตนฺติ, กึ อาคมฺม นปฺปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. น คาธตีติ น ปติฏฺาติ. อโตติ อโต นิพฺพานโต. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ. สตฺตมํ.

๘. มหทฺธนสุตฺตวณฺณนา

๒๘. อฏฺเม นิธานคตํ มุตฺตสาราทิ มหนฺตํ ธนเมเตสนฺติ มหทฺธนา. สุวณฺณรชตภาชนาทิ มหาโภโค เอเตสนฺติ มหาโภคา. อฺมฺาภิคิชฺฌนฺตีติ อฺมฺํ อภิคิชฺฌนฺติ ปตฺเถนฺติ ปิเหนฺติ. อนลงฺกตาติ อติตฺตา อปริยตฺตชาตา. อุสฺสุกฺกชาเตสูติ นานากิจฺจชาเตสุ อนุปฺปนฺนานํ รูปาทีนํ อุปฺปาทนตฺถาย อุปฺปนฺนานํ อนุภวนตฺถาย อุสฺสุกฺเกสุ. ภวโสตานุสารีสูติ วฏฺฏโสตํ อนุสรนฺเตสุ. อนุสฺสุกาติ อวาวฏา. อคารนฺติ มาตุคาเมน สทฺธึ เคหํ. วิราชิยาติ วิราเชตฺวา. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. อฏฺมํ.

๙. จตุจกฺกสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม จตุจกฺกนฺติ จตุอิริยาปถํ. อิริยาปโถ หิ อิธ จกฺกนฺติ อธิปฺเปโต. นวทฺวารนฺติ นวหิ วณมุเขหิ นวทฺวารํ. ปุณฺณนฺติ อสุจิปูรํ. โลเภน สํยุตนฺติ ตณฺหาย สํยุตฺตํ. กถํ ยาตฺรา ภวิสฺสตีติ เอตสฺส เอวรูปสฺส สรีรสฺส กถํ นิคฺคมนํ ภวิสฺสติ, กถํ มุตฺติ ปริมุตฺติ สมติกฺกโม ภวิสฺสตีติ ปุจฺฉติ. นทฺธินฺติ อุปนาหํ, ปุพฺพกาเล โกโธ, อปรกาเล อุปนาโหติ เอวํ ปวตฺตํ พลวโกธนฺติ อตฺโถ. วรตฺตนฺติ ‘‘เฉตฺวา นทฺธิ วรตฺตฺจ, สนฺทานํ สหนุกฺกม’’นฺติ คาถาย (ธ. ป. ๓๙๘; สุ. นิ. ๖๒๗) ตณฺหา วรตฺตา, ทิฏฺิ สนฺทานํ นาม ชาตํ. อิธ ปน ปาฬินิทฺทิฏฺเ กิเลเส เปตฺวา อวเสสา ‘‘วรตฺตา’’ติ เวทิตพฺพา, อิติ กิเลสวรตฺตฺจ เฉตฺวาติ อตฺโถ. อิจฺฉา โลภนฺติ เอโกเยว ธมฺโม อิจฺฉนฏฺเน อิจฺฉา, ลุพฺภนฏฺเน โลโภติ วุตฺโต. ปมุปฺปตฺติกา วา ทุพฺพลา อิจฺฉา, อปราปรุปฺปตฺติโก พลวา โลโภ. อลทฺธปตฺถนา วา อิจฺฉา, ปฏิลทฺธวตฺถุมฺหิ โลโภ. สมูลํ ตณฺหนฺติ อวิชฺชามูเลน สมูลกํ ตณฺหํ. อพฺพุยฺหาติ อคฺคมคฺเคน อุปฺปาเฏตฺวา. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. นวมํ.

๑๐. เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา

๓๐. ทสเม เอณิชงฺฆนฺติ เอณิมิคสฺส วิย สุวฏฺฏิตชงฺฆํ. กิสนฺติ อถูลํ สมสรีรํ. อถ วา อาตเปน มิลาตํ มาลาคนฺธวิเลปเนหิ อนุปพฺรูหิตสรีรนฺติปิ อตฺโถ. วีรนฺติ วีริยวนฺตํ. อปฺปาหารนฺติ โภชเน มตฺตฺุตาย มิตาหารํ, วิกาลโภชนปฏิกฺเขปวเสน วา ปริตฺตาหารํ. อโลลุปนฺติ จตูสุ ปจฺจเยสุ โลลุปฺปวิรหิตํ. รสตณฺหาปฏิกฺเขโป วา เอส. สีหํเวกจรํ นาคนฺติ เอกจรํ สีหํ วิย, เอกจรํ นาคํ วิย. คณวาสิโน หิ ปมตฺตา โหนฺติ, เอกจรา อปฺปมตฺตา, ตสฺมา เอกจราว คหิตาติ. ปเวทิตาติ ปกาสิตา กถิตา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ นามรูเป. ปฺจกามคุณวเสน หิ รูปํ คหิตํ, มเนน นามํ, อุภเยหิ ปน อวินิภุตฺตธมฺเม คเหตฺวา ปฺจกฺขนฺธาทิวเสนเปตฺถ ภุมฺมํ โยเชตพฺพนฺติ. ทสมํ.

สตฺติวคฺโค ตติโย.

๔. สตุลฺลปกายิกวคฺโค

๑. สพฺภิสุตฺตวณฺณนา

๓๑. สตุลฺลปกายิกวคฺคสฺส ปเม สตุลฺลปกายิกาติ สตํ ธมฺมํ สมาทานวเสน อุลฺลเปตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตาติ สตุลฺลปกายิกา. ตตฺริทํ วตฺถุ – สมฺพหุลา กิร สมุทฺทวาณิชา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทึสุ. เตสํ ขิตฺตสรเวเคน คจฺฉนฺติยา นาวาย สตฺตเม ทิวเส สมุทฺทมชฺเฌ มหนฺตํ อุปฺปาติกํ ปาตุภูตํ, มหาอูมิโย อุฏฺหิตฺวา นาวํ อุทกสฺส ปูเรนฺติ. นาวาย นิมุชฺชมานาย มหาชโน อตฺตโน อตฺตโน เทวตานํ นามานิ คเหตฺวา อายาจนาทีนิ กโรนฺโต ปริเทวิ. เตสํ มชฺเฌ เอโก ปุริโส – ‘‘อตฺถิ นุ โข เม เอวรูเป ภเย ปติฏฺา’’ติ อาวชฺเชนฺโต อตฺตโน ปริสุทฺธานิ สรณานิ เจว สีลานิ จ ทิสฺวา โยคี วิย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. ตเมนํ อิตเร สภยการณํ ปุจฺฉึสุ. โส เตสํ กเถสิ – ‘‘อมฺโภ อหํ นาวํ อภิรูหนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา สรณานิ เจว สีลานิ จ อคฺคเหสึ, เตน เม ภยํ นตฺถี’’ติ. กึ ปน สามิ เอตานิ อฺเสมฺปิ วตฺตนฺตีติ? อาม วตฺตนฺตีติ เตน หิ อมฺหากมฺปิ เทถาติ. โส เต มนุสฺเส สตํ สตํ กตฺวา สตฺต โกฏฺาเส อกาสิ, ตโต ปฺจสีลานิ อทาสิ. เตสุ ปมํ ชงฺฆสตํ โคปฺผกมตฺเต อุทเก ิตํ อคฺคเหสิ, ทุติยํ ชาณุมตฺเต, ตติยํ กฏิมตฺเต, จตุตฺถํ นาภิมตฺเต, ปฺจมํ ถนมตฺเต, ฉฏฺํ คลปฺปมาเณ, สตฺตมํ มุเขน โลโณทเก ปวิสนฺเต อคฺคเหสิ. โส เตสํ สีลานิ ทตฺวา – ‘‘อฺํ ตุมฺหากํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, สีลเมว อาวชฺเชถา’’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตานิ สตฺตปิ ชงฺฆสตานิ ตตฺถ กาลํ กตฺวา อาสนฺนกาเล คหิตสีลํ นิสฺสาย ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตึสุ, เตสํ ฆฏาวเสเนว วิมานานิ นิพฺพตฺตึสุ. สพฺเพสํ มชฺเฌ อาจริยสฺส โยชนสติกํ สุวณฺณวิมานํ นิพฺพตฺติ, อวเสนานิ ตสฺส ปริวารานิ หุตฺวา สพฺพเหฏฺิมํ ทฺวาทสโยชนิกํ อโหสิ. เต นิพฺพตฺตกฺขเณเยว กมฺมํ อาวชฺเชนฺตา อาจริยํ นิสฺสาย สมฺปตฺติลาภํ ตฺวา, ‘‘คจฺฉาม ตาว, ทสพลสฺส สนฺติเก อมฺหากํ อาจริยสฺส วณฺณํ กเถยฺยามา’’ติ มชฺฌิมยามสมนนฺตเร ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ, ตา เทวตา อาจริยสฺส วณฺณภณนตฺถํ เอเกกํ คาถํ อภาสึสุ.

ตตฺถ สพฺภิเรวาติ ปณฺฑิเตหิ, สปฺปุริเสหิ เอว. ร-กาโร ปทสนฺธิกโร. สมาเสถาติ สห นิสีเทยฺย. เทสนาสีสเมว เจตํ, สพฺพอิริยาปเถ สพฺภิเรว สห กุพฺเพยฺยาติ อตฺโถ. กุพฺเพถาติ กเรยฺย. สนฺถวนฺติ มิตฺตสนฺถวํ. ตณฺหาสนฺถโว ปน น เกนจิ สทฺธึ กาตพฺโพ, มิตฺตสนฺถโว พุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวเกหิ สห กาตพฺโพ. อิทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สตนฺติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ. สทฺธมฺมนฺติ ปฺจสีลทสสีลจตุสติปฏฺานาทิเภทํ สทฺธมฺมํ, อิธ ปน ปฺจสีลํ อธิปฺเปตํ. เสยฺโย โหตีติ วฑฺฒิ โหติ. น ปาปิโยติ ลามกํ กิฺจิ น โหติ. นาฺโตติ วาลิกาทีหิ เตลาทีนิ วิย อฺโต อนฺธพาลโต ปฺา นาม น ลพฺภติ, ติลาทีหิ ปน เตลาทีนิ วิย สตํ ธมฺมํ ตฺวา ปณฺฑิตเมว เสวนฺโต ภชนฺโต ลภตีติ. โสกมชฺเฌติ โสกวตฺถูนํ โสกานุคตานํ วา สตฺตานํ มชฺฌคโต น โสจติ พนฺธุลมลฺลเสนาปติสฺส อุปาสิกา วิย, ปฺจนฺนํ โจรสตานํ มชฺเฌ ธมฺมเสนาปติสฺส สทฺธิวิหาริโก สํกิจฺจสามเณโร วิย จ.

าติมชฺเฌ วิโรจตีติ าติคณมชฺเฌ สํกิจฺจเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อธิมุตฺตกสามเณโร วิย โสภติ. โส กิร เถรสฺส ภาคิเนยฺโย โหติ, อถ นํ เถโร อาห – ‘‘สามเณร, มหลฺลโกสิ ชาโต, คจฺฉ, วสฺสานิ ปุจฺฉิตฺวา เอหิ, อุปสมฺปาเทสฺสามิ ต’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ เถรํ วนฺทิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โจรอฏวิยา โอรภาเค ภคินิคามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริ, ตํ ภคินี ทิสฺวา วนฺทิตฺวา เคเห นิสีทาเปตฺวา โภเชสิ. โส กตภตฺตกิจฺโจ วสฺสานิ ปุจฺฉิ. สา ‘‘อหํ น ชานามิ, มาตา เม ชานาตี’’ติ อาห. อถ โส ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, อหํ มาตุสนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อฏวึ โอติณฺโณ. ตเมนํ ทูรโตว โจรปุริโส ทิสฺวา โจรานํ อาโรเจสิ. โจรา ‘‘สามเณโร กิเรโก อฏวึ โอติณฺโณ, คจฺฉถ นํ อาเนถา’’ติ อาณาเปตฺวา เอกจฺเจ ‘‘มาเรม น’’นฺติ อาหํสุ, เอกจฺเจ วิสฺสชฺเชมาติ. สามเณโร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เสโข สกรณีโย, อิเมหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา โสตฺถิมตฺตานํ กริสฺสามี’’ติ โจรเชฏฺกํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อุปมํ เต, อาวุโส, กริสฺสามี’’ติ อิมา คาถา อภาสิ –

‘‘อหุ อตีตมทฺธานํ, อรฺสฺมึ พฺรหาวเน;

เจโต กูฏานิ โอฑฺเฑตฺวา, สสกํ อวธี ตทา.

‘‘สสกฺจ มตํ ทิสฺวา, อุพฺพิคฺคา มิคปกฺขิโน;

เอกรตฺตึ อปกฺกามุํ, ‘อกิจฺจํ วตฺตเต อิธ’.

‘‘ตเถว สมณํ หนฺตฺวา, อธิมุตฺตํ อกิฺจนํ;

อทฺธิกา นาคมิสฺสนฺติ, ธนชานิ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘สจฺจํ โข สมโณ อาห, อธิมุตฺโต อกิฺจโน;

อทฺธิกา นาคมิสฺสนฺติ, ธนชานิ ภวิสฺสติ.

‘‘สเจ ปฏิปเถ ทิสฺวา, นาโรเจสฺสสิ กสฺสจิ;

ตว สจฺจมนุรกฺขนฺโต, คจฺฉ ภนฺเต ยถาสุข’’นฺติ.

โส เตหิ โจเรหิ วิสฺสชฺชิโต คจฺฉนฺโต าตโยปิ ทิสฺวา เตสมฺปิ น อาโรเจสิ. อถ เต อนุปฺปตฺเต โจรา คเหตฺวา วิเหยึสุ, อุรํ ปหริตฺวา ปริเทวมานฺจสฺส มาตรํ โจรา เอตทโวจุํ –

‘‘กึ เต โหติ อธิมุตฺโต, อุทเร วสิโก อสิ;

ปุฏฺา เม อมฺม อกฺขาหิ, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

‘‘อธิมุตฺตสฺส อหํ มาตา, อยฺจ ชนโก ปิตา;

ภคินี ภาตโร จาปิ, สพฺเพว อิธ าตโย.

‘‘อกิจฺจการี อธิมุตฺโต, ยํ ทิสฺวา น นิวารเย;

เอตํ โข วตฺตํ สมณานํ, อริยานํ ธมฺมชีวินํ.

‘‘สจฺจวาที อธิมุตฺโต, ยํ ทิสฺวา น นิวารเย;

อธิมุตฺตสฺส สุจิณฺเณน, สจฺจวาทิสฺส ภิกฺขุโน;

สพฺเพว อภยํ ปตฺตา, โสตฺถึ คจฺฉนฺตุ าตโย’’ติ.

เอวํ เต โจเรหิ วิสฺสชฺชิตา คนฺตฺวา อธิมุตฺตํ อาหํสุ –

‘‘ตว ตาต สุจิณฺเณน, สจฺจวาทิสฺส ภิกฺขุโน;

สพฺเพว อภยํ ปตฺตา, โสตฺถึ ปจฺจาคมมฺหเส’’ติ.

เตปิ ปฺจสตา โจรา ปสาทํ อาปชฺชิตฺวา อธิมุตฺตสฺส สามเณรสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ. โส เต อาทาย อุปชฺฌายสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปมํ อตฺตนา อุปสมฺปนฺโน ปจฺฉา เต ปฺจสเต อตฺตโน อนฺเตวาสิเก กตฺวา อุปสมฺปาเทสิ. เต อธิมุตฺตเถรสฺส โอวาเท ิตา สพฺเพ อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. อิมมตฺถํ คเหตฺวา เทวตา ‘‘สตํ สทฺธมฺมมฺาย าติมชฺเฌ วิโรจตี’’ติ อาห.

สาตตนฺติ สตตํ สุขํ วา จิรํ ติฏฺนฺตีติ วทติ. สพฺพาสํ โวติ สพฺพาสํ ตุมฺหากํ. ปริยาเยนาติ การเณน. สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตีติ, น เกวลํ เสยฺโยว โหติ, น จ เกวลํ ปฺํ ลภติ, โสกมชฺเฌ น โสจติ, าติมชฺเฌ วิโรจติ, สุคติยํ นิพฺพตฺตติ, จิรํ สุขํ ติฏฺติ, สกลสฺมา ปน วฏฺฏทุกฺขาปิ มุจฺจตีติ. ปมํ.

๒. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา

๓๒. ทุติเย มจฺเฉรา จ ปมาทา จาติ อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขเณน มจฺเฉเรน เจว สติวิปฺปวาสลกฺขเณน ปมาเทน จ. เอกจฺโจ หิ ‘อิทํ เม เทนฺตสฺส ปริกฺขยํ คมิสฺสติ, มยฺหํ วา ฆรมานุสกานํ วา น ภวิสฺสตี’’ติ มจฺฉริเยน ทานํ น เทติ. เอกจฺโจ ขิฑฺฑาทิปสุตตฺตา ‘ทานํ ทาตพฺพ’’นฺติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทติ. เอวํ ทานํ น ทียตีติ เอวเมตํ ยสทายกํ สิรีทายกํ สมฺปตฺติทายกํ สุขทายกํ ทานํ นาม น ทียตีติอาทินา การณํ กเถสิ. ปุฺํ อากงฺขมาเนนาติ ปุพฺพเจตนาทิเภทํ ปุฺํ อิจฺฉมาเนน. เทยฺยํ โหติ วิชานตาติ อตฺถิ ทานสฺส ผลนฺติ ชานนฺเตน ทาตพฺพเมวาติ วทติ.

ตเมว พาลํ ผุสตีติ ตํเยว พาลํ อิธโลกปรโลเกสุ ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ ผุสติ อนุพนฺธติ น วิชหติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ตเมว ผุสติ, ตสฺมา. วิเนยฺย มจฺเฉรนฺติ มจฺเฉรมลํ วิเนตฺวา. ทชฺชา ทานํ มลาภิภูติ มลาภิภู หุตฺวา ตํ มจฺเฉรมลํ อภิภวิตฺวา ทานํ ทเทยฺย.

เต มเตสุ น มียนฺตีติ อทานสีลตาย มรเณน มเตสุ น มียนฺติ. ยถา หิ มโต สมฺปริวาเรตฺวา ปิเต พหุมฺหิปิ อนฺนปานาทิมฺหิ ‘‘อิทํ อิมสฺส โหตุ, อิทํ อิมสฺสา’’ติ อุฏฺหิตฺวา สํวิภาคํ น กโรติ, เอวํ อทานสีโลปีติ มตกสฺส จ อทานสีลสฺส จ โภคา สมสมา นาม โหนฺติ. เตน ทานสีลา เอวรูเปสุ มเตสุ น มียนฺตีติ อตฺโถ. ปนฺถานํว สห วชํ, อปฺปสฺมึ เย ปเวจฺฉนฺตีติ ยถา อทฺธานํ กนฺตารมคฺคํ สห วชนฺตา ปถิกา สห วชนฺตานํ ปถิกานํ อปฺปสฺมึ ปาเถยฺเย สํวิภาคํ กตฺวา ปเวจฺฉนฺติ ททนฺติเยว, เอวเมวํ เย ปน อนมตคฺคํ สํสารกนฺตารํ สห วชนฺตา สห วชนฺตานํ อปฺปสฺมิมฺปิ เทยฺยธมฺเม สํวิภาคํ กตฺวา ททนฺติเยว, เต มเตสุ น มียนฺติ.

เอส ธมฺโม สนนฺตโนติ เอส โปราณโก ธมฺโม, สนนฺตนานํ วา ปณฺฑิตานํ เอส ธมฺโมติ. อปฺปสฺเมเกติ อปฺปสฺมึ เทยฺยธมฺเม เอเก. ปเวจฺฉนฺตีติ ททนฺติ. พหุเนเก น ทิจฺฉเรติ พหุนาปิ โภเคน สมนฺนาคตา เอกจฺเจ น ททนฺติ. สหสฺเสน สมํ มิตาติ สหสฺเสน สทฺธึ มิตา, สหสฺส ทานสทิสา โหติ.

ทุรนฺวโยติ ทุรนุคมโน, ทุปฺปูโรติ อตฺโถ. ธมฺมํ จเรติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จรติ. โยปิ สมุฺชกฺจเรติ โย อปิ ขลมณฺฑลาทิโสธนปลาลโปนาทิวเสน สมุฺชกฺจรติ. ทารฺจ โปสนฺติ ทารฺจ โปสนฺโต. ททํ อปฺปกสฺมินฺติ อปฺปกสฺมึ ปณฺณสากมตฺตสฺมิมฺปิ สํวิภาคํ กตฺวา ททนฺโตว โส ธมฺมํ จรติ. สตํ สหสฺสานนฺติ สหสฺสํ สหสฺสํ กตฺวา คณิตานํ ปุริสานํ สตํ, สตสหสฺสนฺติ อตฺโถ. สหสฺสยาคินนฺติ ภิกฺขุสหสฺสสฺส วา ยาโค กหาปณสหสฺเสน วา นิพฺพตฺติโต ยาโคปิ สหสฺสยาโค. โส เอเตสํ อตฺถีติ สหสฺสยาคิโน, เตสํ สหสฺสยาคินํ. เอเตน ทสนฺนํ วา ภิกฺขุโกฏีนํ ทสนฺนํ วา กหาปณโกฏีนํ ปิณฺฑปาโต ทสฺสิโต โหติ. เย เอตฺตกํ ททนฺติ, เต กลมฺปิ นคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺสาติ อาห. ยฺวายํ สมุฺชกํ จรนฺโตปิ ธมฺมํ จรติ, ทารํ โปเสนฺโตปิ, อปฺปกสฺมึ ททนฺโตปิ, ตถาวิธสฺส เอเต สหสฺสยาคิโน กลมฺปิ นคฺฆนฺติ. ยํ เตน ทลิทฺเทน เอกปฏิวีสกมตฺตมฺปิ สลากภตฺตมตฺตมฺปิ วา ทินฺนํ, ตสฺส ทานสฺส สพฺเพสมฺปิ เตสํ ทานํ กลํ นคฺฆตีติ. กลํ นาม โสฬสภาโคปิ สตภาโคปิ สหสฺสภาโคปิ. อิธ สตภาโค คหิโต. ยํ เตน ทานํ ทินฺนํ, ตสฺมึ สตธา วิภตฺเต อิตเรสํ ทสโกฏิสหสฺสทานํ ตโต เอกโกฏฺาสมฺปิ นคฺฆตีติ อาห.

เอวํ ตถาคเต ทานสฺส อคฺฆํ กโรนฺเต สมีเป ิตา เทวตา จินฺเตสิ – ‘‘เอวํ ภควา มหนฺตํ ทานํ ปาเทน ปวฏฺเฏตฺวา รตนสติเก วิย นรเก ปกฺขิปนฺโต อิทํ เอวํ ปริตฺตกํ ทานํ จนฺทมณฺฑเล ปหรนฺโต วิย อุกฺขิปติ, กถํ นุ โข เอตํ มหปฺผลตร’’นฺติ ชานนตฺถํ คาถาย อชฺฌภาสิ. ตตฺถ เกนาติ เกน การเณน. มหคฺคโตติ มหตฺตํ คโต, วิปุลสฺเสตํ เววจนํ. สเมน ทินฺนสฺสาติ สเมน ทินฺนสฺส ทานสฺส. อถสฺสา ภควา ทานํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ททนฺติ เหเกติอาทิมาห. ตตฺถ วิสเม นิวิฏฺาติ วิสเม กายวจีมโนกมฺเม ปติฏฺิตา หุตฺวา. เฉตฺวาติ โปเถตฺวา. วธิตฺวาติ มาเรตฺวา. โสจยิตฺวาติ ปรํ โสกสมปฺปิตํ กตฺวา. อสฺสุมุขาติ อสฺสุมุขสมฺมิสฺสา. ปรํ โรทาเปตฺวา ทินฺนทานฺหิ อสฺสุมุขทานนฺติ วุจฺจติ. สทณฺฑาติ ทณฺเฑน ตชฺเชตฺวา ปหริตฺวา ทินฺนทกฺขิณา สทณฺฑาติ วุจฺจติ. เอวนฺติ นาหํ สมฺมาสมฺพุทฺธตาย มหาทานํ คเหตฺวา อปฺปผลํ นาม กาตุํ สกฺโกมิ ปริตฺตกทานํ วา มหปฺผลํ นาม. อิทํ ปน มหาทานํ อตฺตโน อุปฺปตฺติยา อปริสุทฺธตาย เอวํ อปฺปผลํ นาม โหติ, อิตรํ ปริตฺตทานํ อตฺตโน อุปฺปตฺติยา ปริสุทฺธตาย เอวํ มหปฺผลํ นามาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต เอวนฺติอาทิมาหาติ. ทุติยํ.

๓. สาธุสุตฺตวณฺณนา

๓๓. ตติเย อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ. ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสสโกติ วุจฺจติ. ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติ, เอวเมวํ ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ. เอวรูปํ ปีติมยํ วจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ. สทฺธายปิ สาหุ ทานนฺติ กมฺมฺจ กมฺมผลฺจ สทฺทหิตฺวาปิ ทินฺนทานํ สาหุ ลทฺธกํ ภทฺทกเมว. อาหูติ กเถนฺติ. กถํ ปเนตํ อุภยํ สมํ นาม โหตีติ? ชีวิตภีรุโก หิ ยุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ, ขยภีรุโก ทาตุํ น สกฺโกติ. ‘‘ชีวิตฺจ รกฺขิสฺสามิ ยุชฺฌิสฺสามิ จา’’ติ หิ วทนฺโต น ยุชฺฌติ. ชีวิเต ปน อาลยํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ‘‘เฉชฺชํ วา โหตุ มรณํ วา, คณฺหิสฺสาเมตํ อิสฺสริย’’นฺติ อุสฺสหนฺโตว ยุชฺฌติ. ‘‘โภเค จ รกฺขิสฺสามิ, ทานฺจ ทสฺสามี’’ติ วทนฺโต น ททาติ. โภเคสุ ปน อาลยํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาทานํ ทสฺสามีติ อุสฺสหนฺโตว เทติ. เอวํ ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมํ โหติ. กิฺจ ภิยฺโย? อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺตีติ ยถา จ ยุทฺเธ อปฺปกาปิ วีรปุริสา พหุเก ภีรุปุริเส ชินนฺติ, เอวํ สทฺธาทิสมฺปนฺโน อปฺปกมฺปิ ทานํ ททนฺโต พหุมจฺเฉรํ มทฺทติ, พหุฺจ ทานวิปากํ อธิคจฺฉติ. เอวมฺปิ ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมานํ. เตเนวาห –

‘‘อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,

เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ.

อิมสฺส จ ปนตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ เอกสาฏกพฺราหฺมณวตฺถุ จ องฺกุรวตฺถุ จ วิตฺถาเรตพฺพํ.

ธมฺมลทฺธสฺสาติ ธมฺเมน สเมน ลทฺธสฺส โภคสฺส ธมฺมลทฺธสฺส จ ปุคฺคลสฺส. เอตฺถ ปุคฺคโล ลทฺธธมฺโม นาม อธิคตธมฺโม อริยปุคฺคโล. อิติ ยํ ธมฺมลทฺธสฺส โภคสฺส ทานํ ธมฺมลทฺธสฺส อริยปุคฺคลสฺส ทียติ, ตมฺปิ สาธูติ อตฺโถ. โย ธมฺมลทฺธสฺสาติ อิมสฺมิมฺปิ คาถาปเท อยเมว อตฺโถ. อุฏฺานวีริยาธิคตสฺสาติ อุฏฺาเนน จ วีริเยน จ อธิคตสฺส โภคสฺส. เวตรณินฺติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ. ยมสฺส ปน เวตรณิมฺปิ สฺชีวกาฬสุตฺตาทโยปิ เอกตึสมหานิรเยปิ สพฺพโสว อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ.

วิเจยฺย ทานนฺติ วิจินิตฺวา ทินฺนทานํ. ตตฺถ ทฺเว วิจินนา ทกฺขิณาวิจินนํ ทกฺขิเณยฺยวิจินนฺจ. เตสุ ลามกลามเก ปจฺจเย อปเนตฺวา ปณีตปณีเต วิจินิตฺวา เตสํ ทานํ ทกฺขิณาวิจินนํ นาม. วิปนฺนสีเล อิโต พหิทฺธา ปฺจนวุติปาสณฺฑเภเท วา ทกฺขิเณยฺเย ปหาย สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ สาสเน ปพฺพชิตานํ ทานํ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ นาม. เอวํ ทฺวีหากาเรหิ วิเจยฺย ทานํ. สุคตปฺปสตฺถนฺติ สุคเตน วณฺณิตํ. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ ทสฺเสนฺโต เย ทกฺขิเณยฺยาติอาทิมาห. พีชานิ วุตฺตานิ ยถาติ อิมินา ปน ทกฺขิณาวิจินนํ อาห. อวิปนฺนพีชสทิสา หิ วิจินิตฺวา คหิตา ปณีตปณีตา เทยฺยธมฺมาติ.

ปาเณสุปิ สาธุ สํยโมติ ปาเณสุ สํยตภาโวปิ ภทฺทโก. อยํ เทวตา อิตราหิ กถิตํ ทานานิสํสํ อติกฺกมิตฺวา สีลานิสํสํ กเถตุมารทฺธา. อเหยํ จรนฺติ อวิหึสนฺโต จรมาโน. ปรูปวาทาติ ปรสฺส อุปวาทภเยน. ภยาติ อุปวาทภยา. ทานา จ โข ธมฺมปทํว เสยฺโยติ ทานโต นิพฺพานสงฺขาตํ ธมฺมปทเมว เสยฺโย. ปุพฺเพ จ หิ ปุพฺพตเร จ สนฺโตติ ปุพฺเพ จ กสฺสปพุทฺธาทิกาเล ปุพฺพตเร จ โกณาคมนพุทฺธาทิกาเล, สพฺเพปิ วา เอเต ปุพฺเพ จ ปุพฺพตเร จ สนฺโต นามาติ. ตติยํ.

๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา

๓๔. จตุตฺเถ กมนียานีติ รูปาทีนิ อิฏฺารมฺมณานิ. อปุนาคมนํ อนาคนฺตา ปุริโส มจฺจุเธยฺยาติ เตภูมกวฏฺฏสงฺขาตา มจฺจุเธยฺยา อปุนาคมนสงฺขาตํ นิพฺพานํ อนาคนฺตา. นิพฺพานฺหิ สตฺตา น ปุนาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตํ อปุนาคมนนฺติ วุจฺจติ. ตํ กาเมสุ พทฺโธ จ ปมตฺโต จ อนาคนฺตา นาม โหติ, โส ตํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา เอวมาห. ฉนฺทชนฺติ ตณฺหาฉนฺทโต ชาตํ. อฆนฺติ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ. ทุติยปทํ ตสฺเสว เววจนํ. ฉนฺทวินยา อฆวินโยติ ตณฺหาวินเยน ปฺจกฺขนฺธวินโย. อฆวินยา ทุกฺขวินโยติ ปฺจกฺขนฺธวินเยน วฏฺฏทุกฺขํ วินีตเมว โหติ. จิตฺรานีติ อารมฺมณจิตฺตานิ. สงฺกปฺปราโคติ สงฺกปฺปิตราโค. เอวเมตฺถ วตฺถุกามํ ปฏิกฺขิปิตฺวา กิเลสกาโม กาโมติ วุตฺโต. อยํ ปนตฺโถ ปสูรสุตฺเตน (สุ. นิ. ๘๓๐ อาทโย) วิภาเวตพฺโพ. ปสูรปริพฺพาชโก หิ เถเรน ‘‘สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม’’ติ วุตฺเต –

‘‘น เต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก,

สงฺกปฺปราคฺจ วเทสิ กามํ;

สงฺกปฺปยํ อกุสเล วิตกฺเก,

ภิกฺขูปิ เต เหหินฺติ กามโภคี’’ติ. –

อาห. อถ นํ เถโร อโวจ –

‘‘เต เจ กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก,

สงฺกปฺปราคํ น วเทสิ กามํ;

ปสฺสนฺโต รูปานิ มโนรมานิ,

สตฺถาปิ เต เหหิติ กามโภคี.

สุณนฺโต สทฺทานิ, ฆายนฺโต คนฺธานิ;

สายนฺโต รสานิ, ผุสนฺโต ผสฺสานิ มโนรมานิ;

สตฺถาปิ เต เหหิติ กามโภคี’’ติ.

อเถตฺถ ธีราติ อถ เอเตสุ อารมฺมเณสุ ปณฺฑิตา ฉนฺทราคํ วินยนฺติ. สํโยชนํ สพฺพนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ. อกิฺจนนฺติ ราคกิฺจนาทิวิรหิตํ. นานุปตนฺติ ทุกฺขาติ วฏฺฏทุกฺขา ปน ตสฺส อุปริ น ปตนฺติ. อิจฺจายสฺมา โมฆราชาติ, ‘‘ปหาสิ สงฺข’’นฺติ คาถํ สุตฺวา ตสฺสํ ปริสติ อนุสนฺธิกุสโล โมฆราชา นาม เถโร ‘‘อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ น ยถานุสนฺธึ คโต’’ติ จินฺเตตฺวา ยถานุสนฺธึ ฆเฏนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อิธ วา หุรํ วาติ อิธโลเก วา ปรโลเก วา. นรุตฺตมํ อตฺถจรํ นรานนฺติ กิฺจาปิ สพฺเพ ขีณาสวา นรุตฺตมา เจว อตฺถจรา จ นรานํ, เถโร ปน ทสพลํ สนฺธาเยวมาห. เย ตํ นมสฺสนฺติ ปสํสิยา เตติ ยทิ ตถาวิมุตฺตํ เทวมนุสฺสา นมสฺสนฺติ, อถ เย ตํ ภควนฺตํ กาเยน วา วาจาย วา อนุปฏิปตฺติยา วา นมสฺสนฺติ, เต กึ ปสํสิยา, อุทาหุ อปสํสิยาติ. ภิกฺขูติ โมฆราชตฺเถรํ อาลปติ. อฺาย ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวา. สงฺคาติคา เตปิ ภวนฺตีติ เย ตํ กาเยน วา วาจาย วา อนุปฏิปตฺติยา วา นมสฺสนฺติ. เต จตุสจฺจธมฺมํ อฺาย วิจิกิจฺฉํ ปหาย สงฺคาติคาปิ โหนฺติ, ปสํสิยาปิ โหนฺตีติ. จตุตฺถํ.

๕. อุชฺฌานสฺิสุตฺตวณฺณนา

๓๕. ปฺจเม อุชฺฌานสฺิกาติ อุชฺฌานสฺี เทวโลโก นาม ปาฏิเยกฺโก นตฺถิ, อิมา ปน เทวตา ตถาคตสฺส จตุปจฺจยปริโภคํ นิสฺสาย อุชฺฌายมานา อาคตา. ตาสํ กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘สมโณ โคตโม ภิกฺขูนํ ปํสุกูลจีวร-ปิณฺฑิยาโลป-รุกฺขมูลเสนาสนปูติมุตฺตเภสชฺเชหิ สนฺโตสสฺเสว ปริยนฺตการิตํ วณฺเณติ, สยํ ปน ปตฺตุณฺณทุกูล โขมาทีนิ ปณีตจีวรานิ ธาเรติ, ราชารหํ อุตฺตมํ โภชนํ ภุฺชติ, เทววิมานกปฺปาย คนฺธกุฏิยา วรสยเน สยติ, สปฺปินวนีตาทีนิ เภสชฺชานิ ปฏิเสวติ, ทิวสํ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสติ, วจนมสฺส อฺโต คจฺฉติ, กิริยา อฺโต’’ติ อุชฺฌายมานา อาคมึสุ. เตน ตาสํ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ‘‘อุชฺฌานสฺิกา’’ติ นามํ คหิตํ.

อฺถา สนฺตนฺติ อฺเนากาเรน ภูตํ. นิกจฺจาติ นิกติยา วฺจนาย, วฺเจตฺวาติ อตฺโถ. กิตวสฺเสวาติ กิตโว วุจฺจติ สากุณิโก. โส หิ อคุมฺโพว สมาโน สาขปณฺณาทิปฏิจฺฉาทเนน คุมฺพวณฺณํ ทสฺเสตฺวา อุปคเต โมรติตฺติราทโย สกุเณ มาเรตฺวา ทารภรณํ กโรติ. อิติ ตสฺส กิตวสฺส อิมาย วฺจนาย เอวํ วฺเจตฺวา สกุณมํสโภชนํ วิย กุหกสฺสาปิ ปํสุกูเลน อตฺตานํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กถาเฉกตาย มหาชนํ วฺเจตฺวา ขาทมานสฺส วิจรโต. ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ สพฺโพปิ ตสฺส จตุปจฺจยปริโภโค เถยฺเยน ปริภุตฺโต นาม โหตีติ เทวตา ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ. ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาติ อยํ การโก วา อการโก วาติ ปณฺฑิตา ชานนฺติ. อิติ ตา เทวตา ‘‘ตถาคตาปิ มยเมว ปณฺฑิตา’’ติ มฺมานา เอวมาหํสุ.

อถ ภควา นยิทนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยายํ ปฏิปทา ทฬฺหาติ อยํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปทา ทฬฺหา ถิรา. ยาย ปฏิปทาย ธีรา ปณฺฑิตา อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จาติ ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายิโน มารพนฺธนา ปมุจฺจนฺติ, ตํ ปฏิปทํ ภาสิตมตฺเตน วา สวนมตฺเตน วา โอกฺกมิตุํ ปฏิปชฺชิตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. น เว ธีรา ปกุพฺพนฺตีติ ธีรา ปณฺฑิตา วิทิตฺวา โลกปริยายํ สงฺขารโลกสฺส อุทยพฺพยํ ตฺวา จตุสจฺจธมฺมฺจ อฺาย กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา โลเก วิสตฺติกํ ติณฺณา เอวํ น กุพฺพนฺติ, มยํ เอวรูปานิ น กเถมาติ อตฺโถ.

ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวาติ ‘‘อยุตฺตํ อมฺเหหิ กตํ, อการกเมว มยํ การกวาเทน สมุทาจริมฺหา’’ติ ลชฺชมานา มหาพฺรหฺมนิ วิย ภควติ คารวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อคฺคิกฺขนฺธํ วิย ภควนฺตํ ทุราสทํ กตฺวา ปสฺสมานา อากาสโต โอตริตฺวา ภูมิยํ ตฺวาติ อตฺโถ. อจฺจโยติ อปราโธ. โน, ภนฺเต, อจฺจาคมาติ อมฺเห อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. อาสาเทตพฺพนฺติ ฆฏฺฏยิตพฺพํ. ตา กิร เทวตา ภควนฺตํ กาเยน วาจายาติ ทฺวีหิปิ ฆฏฺฏยึสุ. ตถาคตํ อวนฺทิตฺวา อากาเส ปติฏฺมานา กาเยน ฆฏฺฏยึสุ, กิตโวปมํ อาหริตฺวา นานปฺปการกํ อสพฺภิวาทํ วทมานา วาจาย ฆฏฺฏยึสุ. ตสฺมา อาสาเทตพฺพํ อมฺิมฺหาติ อาหํสุ. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส อกรณตฺถาย.

สิตํ ปาตฺวากาสีติ อคฺคทนฺเต ทสฺเสนฺโต ปหฏฺาการํ ทสฺเสสิ. กสฺมา? ตา กิร เทวตา น สภาเวน ขมาเปนฺติ, โลกิยมหาชนฺจ สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ตถาคตฺจ เอกสทิสํ กโรนฺติ. อถ ภควา ‘‘ปรโต กถาย อุปฺปนฺนาย พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา ปจฺฉา ขมิสฺสามี’’ติ สิตํ ปาตฺวากาสิ. ภิยฺโยโส มตฺตายาติ อติเรกปฺปมาเณน. อิมํ คาถํ อภาสีติ กุปิโต เอส อมฺหากนฺติ มฺมานา อภาสิ.

น ปฏิคณฺหตีติ น ขมติ นาธิวาเสติ. โกปนฺตโรติ อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนโกโป. โทสครูติ โทสํ ครุํ กตฺวา อาทาย วิหรนฺโต. ส เวรํ ปฏิมุฺจตีติ โส เอวรูโป คณฺิกํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย ตํ เวรํ อตฺตนิ ปฏิมุฺจติ เปติ, น ปฏินิสฺสชฺชตีติ อตฺโถ. อจฺจโย เจ น วิชฺเชถาติ สเจ อจฺจายิกกมฺมํ น ภเวยฺย. โน จิธาปคตํ สิยาติ ยทิ อปราโธ นาม น ภาเวยฺย. เกนีธ กุสโล สิยาติ ยทิ เวรานิ น สมฺเมยฺยุํ, เกน การเณน กุสโล ภเวยฺย.

กสฺสจฺจยาติ คาถาย กสฺส อติกฺกโม นตฺถิ? กสฺส อปราโธ นตฺถิ? โก สมฺโมหํ นาปชฺชติ? โก นิจฺจเมว ปณฺฑิโต นามาติ อตฺโถ? อิมํ กิร คาถํ ภณาปนตฺถํ ภควโต สิตปาตุกมฺมํ. ตสฺมา อิทานิ เทวตานํ พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา ขมิสฺสามีติ ตถาคตสฺส พุทฺธสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคตสฺสาติ ตถา อาคโตติ เอวมาทีหิ การเณหิ ตถาคตสฺส. พุทฺธสฺสาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตาทีหิ การเณหิ วิโมกฺขนฺติกปณฺณตฺติวเสน เอวํ ลทฺธนามสฺส. อจฺจยํ เทสยนฺตีนนฺติ ยํ วุตฺตํ ตุมฺเหหิ ‘‘อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ…เป… ส เวรํ ปฏิมุฺจตี’’ติ, ตํ สาธุ วุตฺตํ, อหํ ปน ตํ เวรํ นาภินนฺทามิ น ปตฺถยามีติ อตฺโถ. ปฏิคฺคณฺหามิ โวจฺจยนฺติ ตุมฺหากํ อปราธํ ขมามีติ. ปฺจมํ.

๖. สทฺธาสุตฺตวณฺณนา

๓๖. ฉฏฺเ สทฺธา ทุติยา ปุริสสฺส โหตีติ ปุริสสฺส เทวโลเก มนุสฺสโลเก เจว นิพฺพานฺจ คจฺฉนฺตสฺส สทฺธา ทุติยา โหติ, สหายกิจฺจํ สาเธติ. โน เจ อสฺสทฺธิยํ อวติฏฺตีติ ยทิ อสฺสทฺธิยํ น ติฏฺติ. ยโสติ ปริวาโร. กิตฺตีติ วณฺณภณนํ. ตตฺวสฺส โหตีติ ตโต อสฺส โหติ. นานุปตนฺติ สงฺคาติ ราคสงฺคาทโย ปฺจ สงฺคา น อนุปตนฺติ. ปมาทมนุยุฺชนฺตีติ เย ปมาทํ กโรนฺติ นิพฺพตฺเตนฺติ, เต ตํ อนุยุฺชนฺติ นาม. ธนํ เสฏฺํว รกฺขตีติ มุตฺตามณิสาราทิอุตฺตมธนํ วิย รกฺขติ. ฌายนฺโตติ ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายนฺโต. ตตฺถ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม วิปสฺสนามคฺคผลานิ. วิปสฺสนา หิ ตีณิ ลกฺขณานิ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. มคฺโค วิปสฺสนาย อาคตกิจฺจํ สาเธตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. ผลํ ตถลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. อฏฺ สมาปตฺติโย ปน กสิณารมฺมณสฺส อุปนิชฺฌายนโต อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ เวทิตพฺพา. ปรมํ นาม อรหตฺตสุขํ อธิปฺเปตนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. สมยสุตฺตวณฺณนา

๓๗. สตฺตเม สกฺเกสูติ ‘‘สกฺยา วต, โภ กุมารา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๖๗) อุทานํ ปฏิจฺจ สกฺกาติ ลทฺธนามานํ ราชกุมารานํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รูฬฺหีสทฺเทน สกฺกาติ วุจฺจติ. ตสฺมึ สกฺเกสุ ชนปเท. มหาวเนติ สยํชาเต อโรปิเม หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺเธ มหติ วเน. สพฺเพเหว อรหนฺเตหีติ อิมํ สุตฺตํ กถิตทิวเสเยว ปตฺตอรหนฺเตหิ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สากิยโกลิยา หิ กิร กปิลวตฺถุนครสฺส จ โกลิยนครสฺส จ อนฺตเร โรหิณึ นาม นทึ เอเกเนว อาวรเณน พนฺธาเปตฺวา สสฺสานิ กาเรนฺติ. อถ เชฏฺมูลมาเส สสฺเสสุ มิลายนฺเตสุ อุภยนครวาสีนมฺปิ กมฺมการา สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ โกลิยนครวาสิโน อาหํสุ – ‘‘อิทํ อุทกํ อุภยโต อาหริยมานํ น ตุมฺหากํ, น อมฺหากํ ปโหสฺสติ, อมฺหากํ ปน สสฺสํ เอเกน อุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. กปิลวตฺถุวาสิโน อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเหสุ โกฏฺเ ปูเรตฺวา ิเตสุ มยํ รตฺตสุวณฺณนีลมณิกาฬกหาปเณ จ คเหตฺวา ปจฺฉิปสิพฺพกาทิหตฺถา น สกฺขิสฺสาม ตุมฺหากํ ฆรทฺวาเร วิจริตุํ, อมฺหากมฺปิ สสฺสํ เอเกเนว อุทเกน นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. ‘‘น มยํ ทสฺสามา’’ติ. ‘‘มยมฺปิ น ทสฺสามา’’ติ. เอวํ กถํ วฑฺเฒตฺวา เอโก อุฏฺาย เอกสฺส ปหารํ อทาสิ, โสปิ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺํ ปหริตฺวา ราชกุลานํ ชาตึ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ วฑฺฒยึสุ.

โกลิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห กปิลวตฺถุวาสิเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย โสณสิงฺคาลาทโย วิย อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ สํวสึสุ, เอเตสํ หตฺถิโน จ อสฺสา จ ผลกาวุธานิ จ อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? สากิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห ทานิ กุฏฺิโน ทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย อนาถา นิคฺคติกา ติรจฺฉานา วิย โกลรุกฺเข วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิโน จ อสฺสา จ ผลกาวุธานิ จ อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต คนฺตฺวา ตสฺมึ กมฺเม นิยุตฺตอมจฺจานํ กเถสุํ, อมจฺจา ราชกุลานํ กเถสุํ. ตโต สากิยา – ‘‘ภคินีหิ สทฺธึ สํวสิตกานํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. โกลิยาปิ – ‘‘โกลรุกฺขวาสีนํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ.

ภควาปิ รตฺติยา ปจฺจูสสมเยว มหากรุณาสมาปตฺติโต อุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต อิเม เอวํ ยุทฺธสชฺเช นิกฺขมนฺเต อทฺทส. ทิสฺวา – ‘‘มยิ คเต อยํ กลโห วูปสมฺมิสฺสติ นุ โข อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต – ‘‘อหเมตฺถ คนฺตฺวา กลหวูปสมนตฺถํ ตีณิ ชาตกานิ กเถสฺสามิ, ตโต กลโห วูปสมฺมิสฺสติ. อถ สามคฺคิทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถตฺวา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ เทเสสฺสามิ. เทสนํ สุตฺวา อุภยนครวาสิโนปิ อฑฺฒติยานิ อฑฺฒติยานิ กุมารสตานิ ทสฺสนฺติ, อหํ เต ปพฺพาเชสฺสามิ, ตทา มหาสมาคโม ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ อกาสิ. ตสฺมา อิเมสุ ยุทฺธสชฺเชสุ นิกฺขมนฺเตสุ กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เสนานํ อนฺตเร อากาเส ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา นิสีทิ.

กปิลวตฺถุวาสิโน ภควนฺตํ ทิสฺวาว, ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺโ สตฺถา อาคโต. ทิฏฺโ นุ โข เตน อมฺหากํ กลหกรณภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘น โข ปน สกฺกา ภควติ อาคเต อมฺเหหิ ปรสฺส สรีเร สตฺถํ ปาเตตุํ. โกลิยนครวาสิโน อมฺเห หนนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา’’ติ. อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา, ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา, นิสีทึสุ. โกลิยนครวาสิโนปิ ตเถว จินฺเตตฺวา อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา, ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา, นิสีทึสุ.

ภควา ชานนฺโตว, ‘‘กสฺมา อาคตตฺถ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉิ? ‘‘น, ภควา, ติตฺถกีฬาย น ปพฺพตกีฬาย, น นทีกีฬาย, น คิริทสฺสนตฺถํ, อิมสฺมึ ปน าเน สงฺคามํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อาคตมฺหา’’ติ. ‘‘กึ นิสฺสาย โว กลโห, มหาราชาติ? อุทกํ, ภนฺเตติ. อุทกํ กึ อคฺฆติ, มหาราชาติ? อปฺปํ, ภนฺเตติ. ปถวี นาม กึ อคฺฆติ, มหาราชาติ? อนคฺฆา, ภนฺเตติ. ขตฺติยา กึ อคฺฆนฺตีติ? ขตฺติยา นาม อนคฺฆา, ภนฺเตติ. อปฺปมูลํ อุทกํ นิสฺสาย กิมตฺถํ อนคฺเฆ ขตฺติเย นาเสถ, มหาราช, กลเห อสฺสาโท นาม นตฺถิ, กลหวเสน, มหาราช, อฏฺาเน เวรํ กตฺวา เอกาย รุกฺขเทวตาย กาฬสีเหน สทฺธึ พทฺธาฆาโต สกลมฺปิ อิมํ กปฺปํ อนุปฺปตฺโตเยวาติ วตฺวา ผนฺทนชาตกํ (ชา. ๑.๑๓.๑๔ อาทโย) กเถสิ’’. ตโต ‘‘ปรปตฺติเยน นาม, มหาราช, น ภวิตพฺพํ. ปรปตฺติยา หุตฺวา หิ เอกสฺส สสกสฺส กถาย ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต จตุปฺปทคณา มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิโน อเหสุํ. ตสฺมา ปรปตฺติเยน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา, ปถวีอุนฺทฺริยชาตกํ กเถสิ. ตโต ‘‘กทาจิ, มหาราช, ทุพฺพโลปิ มหาพลสฺส รนฺธํ วิวรํ ปสฺสติ, กทาจิ มหาพโล ทุพฺพลสฺส. ลฏุกิกาปิ หิ สกุณิกา หตฺถินาคํ ฆาเตสี’’ติ ลฏุกิกชาตกํ (ชา. ๑.๕.๓๙ อาทโย) กเถสิ. เอวํ กลหวูปสมนตฺถาย ตีณิ ชาตกานิ กเถตฺวา สามคฺคิปริทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถสิ. กถํ? ‘‘สมคฺคานฺหิ, มหาราช, โกจิ โอตารํ นาม ปสฺสิตุํ น สกฺโกตีติ วตฺวา, รุกฺขธมฺมชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗๔) กเถสิ. ตโต ‘‘สมคฺคานํ, มหาราช, โกจิ วิวรํ ทสฺสิตุํ น สกฺขิ. ยทา ปน อฺมฺํ วิวาทมกํสุ, อถ เต เนสาทปุตฺโต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อาทาย คโตติ วิวาเท อสฺสาโท นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา, วฏฺฏกชาตกํ (ชา. ๑.๑.๑๑๘) กเถสิ. เอวํ อิมานิ ปฺจ ชาตกานิ กเถตฺวา อวสาเน อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย) กเถสิ.

ราชาโน ปสนฺนา – ‘‘สเจ สตฺถา นาคมิสฺส, มยํ สหตฺถา อฺมฺํ วธิตฺวา โลหิตนทึ ปวตฺตยิสฺสาม. อมฺหากํ ปุตฺตภาตโร จ เคหทฺวาเร น ปสฺเสยฺยาม, สาสนปฏิสาสนมฺปิ โน อาหรณโก นาภวิสฺส. สตฺถารํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ. สเจ ปน สตฺถา อาคารํ อชฺฌาวสิสฺส ทีปสหสฺสทฺวยปริวารํ จตุมหาทีปรชฺชมสฺส หตฺถคตํ อภวิสฺส, อติเรกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อภวิสฺสํสุ, ตโต ขตฺติยปริวาโร อวิจริสฺส. ตํ โข ปเนส สมฺปตฺตึ ปหาย นิกฺขมิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺโต. อิทานิปิ ขตฺติยปริวาโรเยว วิจรตู’’ติ อุภยนครวาสิโน อฑฺฒติยานิ อฑฺฒติยานิ กุมารสตานิ อทํสุ. ภควาปิ เต ปพฺพาเชตฺวา มหาวนํ อคมาสิ. เตสํ ครุคารเวน น อตฺตโน รุจิยา ปพฺพชิตานํ อนภิรติ อุปฺปชฺชิ. ปุราณทุติยิกาโยปิ เตสํ – ‘‘อยฺยปุตฺตา อุกฺกณฺนฺตุ, ฆราวาโส น สณฺาตี’’ติอาทีนิ วตฺวา สาสนํ เปเสนฺติ. เต จ อติเรกตรํ อุกฺกณฺึสุ.

ภควา อาวชฺเชนฺโต เตสํ อนภิรติภาวํ ตฺวา – ‘‘อิเม ภิกฺขู มาทิเสน พุทฺเธน สทฺธึ เอกโต วสนฺตา อุกฺกณฺนฺติ, หนฺท เนสํ กุณาลทหสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตตฺถ เนตฺวา อนภิรตึ วิโนเทมี’’ติ กุณาลทหสฺส วณฺณํ กเถสิ. เต ตํ ทฏฺุกามา อเหสุํ. ทฏฺุกามตฺถ, ภิกฺขเว, กุณาลทหนฺติ? อาม ภควาติ. ยทิ เอวํ เอถ คจฺฉามาติ. อิทฺธิมนฺตานํ ภควา คมนฏฺานํ มยํ กถํ คมิสฺสามาติ. ตุมฺเห คนฺตุกามา โหถ, อหํ มมานุภาเวน คเหตฺวา คมิสฺสามีติ. สาธุ, ภนฺเตติ. ภควา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา กุณาลทเห ปติฏฺาย เต ภิกฺขู อาห – ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ กุณาลทเห เยสํ มจฺฉานํ นามํ น ชานาถ มมํ ปุจฺฉถา’’ติ.

เต ปุจฺฉึสุ. ภควา ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ กเถสิ. น เกวลฺจ, มจฺฉานํเยว, ตสฺมึ วนสณฺเฑ รุกฺขานมฺปิ ปพฺพตปาเท ทฺวิปทจตุปฺปทสกุณานมฺปิ นามานิ ปุจฺฉาเปตฺวา กเถสิ. อถ ทฺวีหิ สกุเณหิ มุขตุณฺฑเกน ฑํสิตฺวา คหิตทณฺฑเก นิสินฺโน กุณาลสกุณราชา ปุรโต ปจฺฉโต อุโภสุ จ ปสฺเสสุ สกุณสงฺฆปริวุโต อาคจฺฉติ. ภิกฺขู ตํ ทิสฺวา – ‘‘เอส, ภนฺเต, อิเมสํ สกุณานํ ราชา ภวิสฺสติ, ปริวารา เอเต เอตสฺสา’’ติ มฺามาติ. เอวเมตํ, ภิกฺขเว, อยมฺปิ มเมว วํโส มม ปเวณีติ. อิทานิ ตาว มยํ, ภนฺเต, เอเต สกุเณ ปสฺสาม. ยํ ปน ภควา ‘‘อยมฺปิ มเมว วํโส มม ปเวณี’’ติ อาห, ตํ โสตุกามมฺหาติ. โสตุกามตฺถ, ภิกฺขเวติ? อาม ภควาติ. เตน หิ สุณาถาติ ตีหิ คาถาสเตหิ มณฺเฑตฺวา กุณาลชาตกํ (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) กเถนฺโต อนภิรตึ วิโนเทสิ. เทสนาปริโยสาเน สพฺเพปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, มคฺเคเนว จ เนสํ อิทฺธิปิ อาคตา. ภควา ‘‘โหตุ ตาว เอตฺตกํ เตสํ ภิกฺขูน’’นฺติ อากาเส อุปฺปติตฺวา มหาวนเมว อคมาสิ. เตปิ ภิกฺขู คมนกาเล ทสพลสฺส อานุภาเวน คนฺตฺวา อาคมนกาเล อตฺตโน อานุภาเวน ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา มหาวเน โอตรึสุ.

ภควา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา เต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา – ‘‘เอถ, ภิกฺขเว, นิสีทถ. อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌานํ โว กิเลสานํ กมฺมฏฺานํ กเถสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. ภิกฺขู จินฺตยึสุ – ‘‘ภควา อมฺหากํ อนภิรตภาวํ ตฺวา กุณาลทหํ เนตฺวา อนภิรตึ วิโนเทสิ, ตตฺถ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตานํ โน อิทานิ อิธ ติณฺณํ มคฺคานํ กมฺมฏฺานํ อทาสิ, น โข ปน อมฺเหหิ ‘โสตาปนฺนา มย’นฺติ วีตินาเมตุํ วฏฺฏติ, ปุริสปุริเสหิ โน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เต ทสพลสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา อุฏฺาย นิสีทนํ ปปฺโผเฏตฺวา วิสุํ วิสุํ ปพฺภารรุกฺขมูเลสุ นิสีทึสุ.

ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู ปกติยาปิ อวิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา, ลทฺธุปายสฺส ปน ภิกฺขุโน กิลมนการณํ นาม นตฺถิ. คจฺฉนฺตา คจฺฉนฺตา จ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ‘อตฺตนา ปฏิวิทฺธคุณํ อาโรเจสฺสามา’ติ มม สนฺติกํ อาคมิสฺสนฺติ. เอเตสุ อาคเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติสฺสนฺติ, มหาสมโย ภวิสฺสติ, วิวิตฺเต โอกาเส มยา นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตโต วิวิตฺเต โอกาเส พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิ.

สพฺพปมํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คตตฺเถโร สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตโต อปโร ตโต อปโรติ ปฺจสตาปิ ปทุมินิยํ ปทุมานิ วิย วิกสึสุ. สพฺพปมํ อรหตฺตํ ปตฺตภิกฺขุ ‘‘ภควโต อาโรเจสฺสามี’’ติ ปลฺลงฺกํ วินิพฺภุชิตฺวา นิสีทนํ ปปฺโผเฏตฺวา อุฏฺาย ทสพลาภิมุโข อโหสิ. เอวํ อปโรปิ อปโรปีติ ปฺจสตา ภตฺตสาลํ ปวิสนฺตา วิย ปฏิปาฏิยาว อาคมึสุ. ปมํ อาคโต วนฺทิตฺวา นิสีทนํ ปฺาเปตฺวา, เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา, ปฏิวิทฺธคุณํ อาโรเจตุกาโม ‘‘อตฺถิ นุ โข อฺโ โกจิ? นตฺถี’’ติ นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺโต อปรมฺปิ อทฺทส อปรมฺปิ อทฺทสเยวาติ สพฺเพปิ เต อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา, อยํ อิมสฺส หรายมาโน น กเถสิ, อยํ อิมสฺส หรายมาโน น กเถสิ. ขีณาสวานํ กิร ทฺเว อาการา โหนฺติ – ‘‘อโห วต มยา ปฏิวิทฺธคุณํ สเทวโก โลโก ขิปฺปเมว ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ปฏิวิทฺธภาวํ ปน นิธิลทฺธปุริโส วิย น อฺสฺส อาโรเจตุกามา โหนฺติ.

เอวํ โอสฏมตฺเต ปน ตสฺมึ อริยมณฺฑเล ปาจีนยุคนฺธรปริกฺเขปโต อพฺภา มหิกา ธูโม รโช ราหูติ, อิเมหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺตํ พุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตสฺส โลกสฺส รามเณยฺยกทสฺสนตฺถํ ปาจีนทิสาย อุกฺขิตฺตรชตมยมหาอาทาสมณฺฑลํ วิย, เนมิวฏฺฏิยํ คเหตฺวา, ปริวตฺติยมานรชตจกฺกสสฺสิริกํ ปุณฺณจนฺทมณฺฑลํ อุลฺลงฺฆิตฺวา, อนิลปถํ ปฏิปชฺชิตฺถ. อิติ เอวรูเป ขเณ ลเย มุหุตฺเต ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ.

ตตฺถ ภควาปิ มหาสมฺมตสฺส วํเส อุปฺปนฺโน, เตปิ ปฺจสตา ภิกฺขู มหาสมฺมตสฺส กุเล อุปฺปนฺนา. ภควาปิ ขตฺติยคพฺเภ ชาโต, เตปิ ขตฺติยคพฺเภ ชาตา. ภควาปิ ราชปพฺพชิโต, เตปิ ราชปพฺพชิตา. ภควาปิ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย หตฺถคตํ จกฺกวตฺติรชฺชํ นิสฺสชฺชิตฺวา ปพฺพชิโต, เตปิ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย หตฺถคตานิ รชฺชานิ วิสฺสชฺชิตฺวา ปพฺพชิตา. อิติ ภควา ปริสุทฺเธ โอกาเส, ปริสุทฺเธ รตฺติภาเค, สยํ ปริสุทฺโธ ปริสุทฺธปริวาโร, วีตราโค วีตราคปริวาโร, วีตโทโส วีตโทสปริวาโร, วีตโมโห วีตโมหปริวาโร, นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺหปริวาโร, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลสปริวาโร, สนฺโต สนฺตปริวาโร, ทนฺโต ทนฺตปริวาโร, มุตฺโต มุตฺตปริวาโร, อติวิย วิโรจตีติ. วณฺณภูมิ นาเมสา, ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ. อิติ อิเม ภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหี’’ติ.

เยภุยฺเยนาติ พหุตรา สนฺนิปติตา, มนฺทา น สนฺนิปติตา อสฺี อรูปาวจรเทวตา สมาปนฺนเทวตาโย จ. ตตฺรายํ สนฺนิปาตกฺกโม – มหาวนสฺส กิร สามนฺตา เทวตา จลึสุ, ‘‘อายาม โภ! พุทฺธทสฺสนํ นาม พหูปการํ, ธมฺมสฺสวนํ พหูปการํ, ภิกฺขุสงฺฆทสฺสนํ พหูปการํ. อายาม อายามา’’ติ! มหาสทฺทํ กุรุมานา อาคนฺตฺวา ภควนฺตฺจ ตํมุหุตฺตํ อรหตฺตปฺปตฺตขีณาสเว จ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอเตเนว อุปาเยน ตาสํ ตาสํ สทฺทํ สุตฺวา สทฺทนฺตรอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนโยชนาทิวเสน ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต, ติกฺขตฺตุํ เตสฏฺิยา นครสหสฺเสสุ, นวนวุติยา โทณมุขสตสหสฺเสสุ, ฉนวุติยา ปฏฺฏนโกฏิสตสหสฺเสสุ, ฉปณฺณาสาย รตนากเรสูติ สกลชมฺพุทีเป, ปุพฺพวิเทเห, อปรโคยาเน, อุตฺตรกุรุมฺหิ, ทฺวีสุ ปริตฺตทีปสหสฺเสสูติ สกลจกฺกวาเฬ, ตโต ทุติยตติยจกฺกวาเฬติ เอวํ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สนฺนิปติตาติ เวทิตพฺพา. ทสสหสฺสจกฺกวาฬฺหิ อิธ ทสโลกธาตุโยติ อธิปฺเปตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺตี’’ติ.

เอวํ สนฺนิปติตาหิ เทวตาหิ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ยาว พฺรหฺมโลกา สูจิฆเร นิรนฺตรํ ปกฺขิตฺตสูจีหิ วิย ปริปุณฺณํ โหติ. ตตฺถ พฺรหฺมโลกสฺส เอวํ อุจฺจตฺตนํ เวทิตพฺพํ – โลหปาสาเท กิร สตฺตกูฏาคารสโม ปาสาโณ พฺรหฺมโลเก ตฺวา อโธ ขิตฺโต จตูหิ มาเสหิ ปถวึ ปาปุณาติ. เอวํ มหนฺเต โอกาเส ยถา เหฏฺา ตฺวา ขิตฺตานิ ปุปฺผานิ วา ธูโม วา อุปริ คนฺตุํ, อุปริ วา ตฺวา ขิตฺตสาสปา เหฏฺา โอตริตุํ อนฺตรํ น ลภนฺติ, เอวํ นิรนฺตรา เทวตา อเหสุํ. ยถา โข ปน จกฺกวตฺติรฺโ นิสินฺนฏฺานํ อสมฺพาธํ โหติ, อาคตาคตา มเหสกฺขา ขตฺติยา โอกาสํ ลภนฺติเยว, ปรโต ปรโต ปน อติสมฺพาธํ โหติ. เอวเมว ภควโต นิสินฺนฏฺานํ อสมฺพาธํ, อาคตาคตา มเหสกฺขา เทวา จ พฺรหฺมาโน จ โอกาสํ ลภนฺติเยว. อปิ สุทํ ภควโต อาสนฺนาสนฺนฏฺาเน วาลคฺคนิตฺตุทนมตฺเต ปเทเส ทสปิ วีสติปิ เทวา สุขุเม อตฺตภาเว มาเปตฺวา อฏฺํสุ. สพฺพปรโต สฏฺิ สฏฺิ เทวตา อฏฺํสุ.

สุทฺธาวาสกายิกานนฺติ สุทฺธาวาสวาสีนํ. สุทฺธาวาสา นาม สุทฺธานํ อนาคามิขีณาสวานํ อาวาสา ปฺจ พฺรหฺมโลกา. เอตทโหสีติ กสฺมา อโหสิ? เต กิร พฺรหฺมาโน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ยถา ปริจฺเฉเทน วุฏฺิตา พฺรหฺมภวนํ โอโลเกนฺตา ปจฺฉาภตฺเต ภตฺตเคหํ วิย สุฺตํ อทฺทสํสุ. ตโต ‘‘กุหึ พฺรหฺมาโน คตา’’ติ อาวชฺชนฺตา มหาสมาคมํ ตฺวา – ‘‘อยํ สมาคโม มหา, มยํ โอหีนา, โอหีนกานํ ปน โอกาโส ทุลฺลโภ โหติ, ตสฺมา คจฺฉนฺตา อตุจฺฉหตฺถา หุตฺวา เอเกกํ คาถํ อภิสงฺขริตฺวา คจฺฉาม. ตาย มหาสมาคเม จ อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสฺสาม, ทสพลสฺส จ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’’ติ. อิติ เตสํ สมาปตฺติโต อุฏฺาย อาวชฺชิตตฺตา เอตทโหสิ.

ภควโต ปุรโต ปาตุรเหสุนฺติ ปาฬิยํ ภควโต สนฺติเก อภิมุขฏฺาเนเยว โอติณฺณา วิย กตฺวา วุตฺตา, น โข ปเนตฺถ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เต ปน พฺรหฺมโลเก ิตาเยว คาถา อภิสงฺขริตฺวา เอโก ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอตริ, เอโก ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ, เอโก ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ, เอโก อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอตริ. ตโต ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมา นีลกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา นีลรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ มณิวมฺมํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา พุทฺธวีถิ นาม เกนจิ อุตฺตริตุํ น สกฺกา, ตสฺมา มหติยา พุทฺธวีถิยาว อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อตฺตนา อภิสงฺขตํ คาถํ อภาสิ.

ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมา ปีตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา สุวณฺณปภํ มุฺจิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ สุวณฺณปฏํ ปารุปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อกาสิ. ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมา โลหิตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา โลหิตกรสฺมิโย มุฺจิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ รตฺตวรกมฺพเลน ปริกฺขิปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อกาสิ. อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมา โอทาตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา โอทาตรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ สุมนกุสุมปฏํ ปารุปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อกาสิ.

ปาฬิยํ ปน ภควโต ปุรโต ปาตุรเหสุํ. อถ โข ตา เทวตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสูติ เอวํ เอกกฺขเณ วิย ปุรโต ปาตุภาโว จ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ิตภาโว จ วุตฺโต, โส อิมินา อนุกฺกเมน อโหสิ, เอกโต กตฺวา ปน ทสฺสิโต. คาถาภาสนํ ปน ปาฬิยมฺปิ วิสุํ วิสุํเยว วุตฺตํ.

ตตฺถ มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวนํ วุจฺจติ วนสณฺโฑ. อุภเยนปิ ภควา ‘‘อิมสฺมึ ปน วนสณฺเฑ อชฺช มหาสมูโห สนฺนิปาโต’’ติ อาห. ตโต เยสํ โส สนฺนิปาโต, เต ทสฺเสตุํ เทวกายา สมาคตาติ อาห. ตตฺถ เทวกายาติ เทวฆฏา. อาคตมฺห อิมํ ธมฺมสมยนฺติ เอวํ สมาคเต เทวกาเย ทิสฺวา มยมฺปิ อิมํ ธมฺมสมูหํ อาคตา. กึ การณา? ทกฺขิตาเย อปราชิตสงฺฆนฺติ เกนจิ อปราชิตํ อชฺเชว ตโย มาเร มทฺทิตฺวา วิชิตสงฺคามํ อิมํ อปราชิตสงฺฆํ ทสฺสนตฺถาย อาคตมฺหาติ อตฺโถ. โส ปน, พฺรหฺมา, อิมํ คาถํ ภาสิตฺวา, ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา, ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํเยว อฏฺาสิ.

อถ ทุติโย วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ ตตฺร ภิกฺขโวติ ตสฺมึ สนฺนิปาตฏฺาเน ภิกฺขู. สมาทหํสูติ สมาธินา โยเชสุํ. จิตฺตมตฺตโน อุชุกํ อกํสูติ อตฺตโน จิตฺเต สพฺเพ วงฺกกุฏิลชิมฺหภาเว หริตฺวา อุชุกํ อกรึสุ. สารถีว เนตฺตานิ คเหตฺวาติ ยถา สมปฺปวตฺเตสุ สินฺธเวสุ โอธสฺตปโตโท สารถี สพฺพโยตฺตานิ คเหตฺวา อโจเทนฺโต อวาเรนฺโต ติฏฺติ, เอวํ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคตา คุตฺตทฺวารา สพฺเพเปเต ปฺจสตา ภิกฺขู อินฺทฺริยานิ รกฺขนฺติ ปณฺฑิตา, เอเต ทฏฺุํ อิธาคตมฺหา ภควาติ, โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสิ.

อถ ตติโย วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ เฉตฺวา ขีลนฺติ ราคโทสโมหขีลํ ฉินฺทิตฺวา. ปลิฆนฺติ ราคโทสโมหปลิฆเมว. อินฺทขีลนฺติ ราคโทสโมหอินฺทขีลเมว. อูหจฺจ มเนชาติ เอเต ตณฺหาเอชาย อเนชา ภิกฺขู อินฺทขีลํ อูหจฺจ สมูหนิตฺวา จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตจาริกํ จรนฺติ. สุทฺธาติ นิรุปกฺกิเลสา. วิมลาติ นิมฺมลา. อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. จกฺขุมตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมนฺเตน. สุทนฺตาติ จกฺขุโตปิ ทนฺตา โสตโตปิ ฆานโตปิ ชิวฺหาโตปิ กายโตปิ มนโตปิ ทนฺตา. สุสุนาคาติ ตรุณนาคา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – ฉนฺทาทีหิ น คจฺฉนฺตีติ นาคา, เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส น อาคจฺฉนฺตีติ นาคา, นานปฺปการํ อาคุํ น กโรนฺตีติ นาคา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๘๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อปิจ –

‘‘อาคุํ น กโรติ กิฺจิ โลเก,

สพฺพสํโยค วิสชฺช พนฺธนานิ;

สพฺพตฺถ น สชฺชตี วิมุตฺโต,

นาโค ตาทิ ปวุจฺจเต ตถตฺตา’’ติ. –

เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สุสุนาคาติ สุสู นาคา, สุสุนาคภาวสมฺปตฺตึ ปตฺตาติ อตฺโถ. เต เอวรูเป อนุตฺตเรน โยคฺคาจริเยน ทมิเต ตรุณนาเค ทสฺสนาย อาคตมฺห ภควาติ. โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสิ.

อถ จตุตฺโถ วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ คตาเสติ นิพฺเพมติกสรณคมเนน คตา. โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสีติ. สตฺตมํ.

๘. สกลิกสุตฺตวณฺณนา

๓๘. อฏฺเม มทฺทกุจฺฉิสฺมินฺติ เอวํนามเก อุยฺยาเน. ตฺหิ อชาตสตฺตุมฺหิ กุจฺฉิคเต ตสฺส มาตรา – ‘‘อยํ มยฺหํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสติ. กึ เม อิมินา’’ติ? คพฺภปาตนตฺถํ กุจฺฉิ มทฺทาปิตา. ตสฺมา ‘‘มทฺทกุจฺฉี’’ติ สงฺขํ คตํ. มิคานํ ปน อภยวาสตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ.

เตน โข ปน สมเยนาติ เอตฺถ อยํ อนุปุพฺพิกถา – เทวทตฺโต หิ อชาตสตฺตุํ นิสฺสาย ธนุคฺคเห จ ธนปาลกฺจ ปโยเชตฺวาปิ ตถาคตสฺส ชีวิตนฺตรายํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สหตฺเถเนว มาเรสฺสามี’’ติ คิชฺฌกูฏปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา มหนฺตํ กูฏาคารปฺปมาณํ สิลํ อุกฺขิปิตฺวา, ‘‘สมโณ โคตโม จุณฺณวิจุณฺโณ โหตู’’ติ ปวิชฺฌิ. มหาถามวา กิเรส ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. อฏฺานํ โข ปเนตํ, ยํ พุทฺธานํ ปรูปกฺกเมน ชีวิตนฺตราโย ภเวยฺยาติ ตํ ตถาคตสฺส สรีราภิมุขํ อาคจฺฉนฺตํ อากาเส อฺา สิลา อุฏฺหิตฺวา สมฺปฏิจฺฉิ. ทฺวินฺนํ สิลานํ สมฺปหาเรน มหนฺโต ปาสาณสฺส สกลิกา อุฏฺหิตฺวา ภควโต ปิฏฺิปาทปริยนฺตํ อภิหนิ, ปาโท มหาผรสุนา ปหโต วิย สมุคฺคตโลหิเตน ลาขารสมกฺขิโต วิย อโหสิ. ภควา อุทฺธํ อุลฺโลเกตฺวา เทวทตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พหุ ตยา โมฆปุริส, อปุฺํ ปสุตํ, โย ตฺวํ ปทุฏฺจิตฺโต วธกจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทสี’’ติ. ตโต ปฏฺาย ภควโต อผาสุ ชาตํ. ภิกฺขู จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ วิหาโร อุชฺชงฺคโล วิสโม, พหูนํ ขตฺติยาทีนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อโนกาโส’’ติ. เต ตถาคตํ มฺจสิวิกาย อาทาย มทฺทกุจฺฉึ นยึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต โหตี’’ติ.

ภุสาติ พลวติโย. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. ทุกฺขนฺติ สุขปฏิกฺเขโป. ติพฺพาติ พหลา. ขราติ ผรุสา. กฏุกาติ ติขิณา. อสาตาติ อมธุรา. น ตาสุ มโน อปฺเปติ, น ตา มนํ อปฺปายนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา. สโต สมฺปชาโนติ เวทนาธิวาสนสติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต หุตฺวา. อวิหฺมาโนติ อปีฬิยมาโน, สมฺปริวตฺตสายิตาย เวทนานํ วสํ อคจฺฉนฺโต.

สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคิเสยฺยา, เปตเสยฺยา, สีหเสยฺยา, ตถาคตเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี สตฺตา วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ อยํ กามโภคิเสยฺยา. เตสุ หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ. ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ อยํ เปตเสยฺยา. อปฺปมํสโลหิตตฺตา หิ อฏฺิสงฺฆาฏชฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ. ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, สีโห มิคราชา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ อนุปกฺขิปิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสตี’’ติ อยํ สีหเสยฺยา. เตชุสฺสทตฺตา หิ สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ, ‘ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ, ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺรสนฺโต ปพุชฺฌติ, สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทาทีนํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขติ’. สเจ กิฺจิ านํ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ, ‘‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา, น สูรภาวสฺส อนุรูป’’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ. อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘‘ตุยฺหํ ชาติยา จ สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภิตํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ วิธุนิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ปน ‘‘ตถาคตเสยฺยา’’ติ วุจฺจติ. ตาสุ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม.

ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย, อีสกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา. โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก ชาณุนา วา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, เสยฺยา อผาสุกา โหติ. ยถา น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, เสยฺยา ผาสุ โหติ. ตสฺมา เอวํ นิปชฺชิ. สโต สมฺปชาโนติ สยนปริคฺคาหกสติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต. ‘‘อุฏฺานสฺ’’นฺติ ปเนตฺถ น วุตฺตํ, คิลานเสยฺยา เหสา ตถาคตสฺส.

สตฺตสตาติ อิมสฺมึ สุตฺเต สพฺพาปิ ตา เทวตา คิลานเสยฺยฏฺานํ อาคตา. อุทานํ อุทาเนสีติ คิลานเสยฺยํ อาคตานํ โทมนสฺเสน ภวิตพฺพํ สิยา. อิมาสํ ปน ตถาคตสฺส เวทนาธิวาสนํ ทิสฺวา, ‘‘อโห พุทฺธานํ มหานุภาวตา! เอวรูปาสุ นาม เวทนาสุ วตฺตมานาสุ วิการมตฺตมฺปิ นตฺถิ, สิรีสยเน อลงฺกริตฺวา ปิตสุวณฺณรูปกํ วิย อนิฺชมาเนน กาเยน นิปนฺโน, อิทานิสฺส อธิกตรํ มุขวณฺโณ วิโรจติ, อาภาสมฺปนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย สมฺปติ วิกสิตํ วิย จ อรวินฺทํ อสฺส มุขํ โสภติ, กาเยปิ วณฺณายตนํ อิทานิ สุสมฺมฏฺกฺจนํ วิย วิปฺปสีทตี’’ติ อุทานํ อุทปาทิ.

นาโค วต โภติ, เอตฺถ โภติ ธมฺมาลปนํ. พลวนฺตฏฺเน นาโค. นาควตาติ นาคภาเวน. สีโห วตาติอาทีสุ อสนฺตาสนฏฺเน สีโห. พฺยตฺตปริจยฏฺเน การณาการณชานเนน วา อาชานีโย. อปฺปฏิสมฏฺเน นิสโภ. ควสตเชฏฺโก หิ อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, ควสตสหสฺสเชฏฺโก นิสโภติ วุจฺจติ. ภควา ปน อปฺปฏิสมฏฺเน อาสภํ านํ ปฏิชานาติ. เตเนวตฺเถน อิธ ‘‘นิสโภ’’ติ วุตฺโต. ธุรวาหฏฺเน โธรยฺโห. นิพฺพิเสวนฏฺเน ทนฺโต.

ปสฺสาติ อนิยมิตาณตฺติ. สมาธินฺติ อรหตฺตผลสมาธึ. สุวิมุตฺตนฺติ ผลวิมุตฺติยา สุวิมุตฺตํ. ราคานุคตํ ปน จิตฺตํ อภินตํ นาม โหติ, โทสานุคตํ อปนตํ. ตทุภยปฏิกฺเขเปน น จาภินตํ น จาปนตนฺติ อาห. น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคตนฺติ น สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส นิคฺคเหตฺวา วาริตวตํ, กิเลสานํ ปน ฉินฺนตฺตา วตํ ผลสมาธินา สมาหิตนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมิตพฺพนฺติ วิเหเตพฺพํ ฆฏฺเฏตพฺพํ. อทสฺสนาติ อฺาณา. อฺาณี หิ อนฺธพาโลว เอวรูเป สตฺถริ อปรชฺเฌยฺยาติ เทวทตฺตํ ฆฏฺฏยมานา วทนฺติ.

ปฺจเวทาติ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ ธารกา. สตํ สมนฺติ วสฺสสตํ. ตปสฺสีติ ตปนิสฺสิตกา หุตฺวา. จรนฺติ จรนฺตา. น สมฺมาวิมุตฺตนฺติ สเจปิ เอวรูปา พฺราหฺมณา วสฺสสตํ จรนฺติ, จิตฺตฺจ เนสํ สมฺมา วิมุตฺตํ น โหติ. หีนตฺตรูปา น ปารํ คมา เตติ หีนตฺตสภาวา เต นิพฺพานงฺคมา น โหนฺติ. ‘‘หีนตฺถรูปา’’ติปิ ปาโ, หีนตฺถชาติกา ปริหีนตฺถาติ อตฺโถ. ตณฺหาธิปนฺนาติ ตณฺหาย อชฺโฌตฺถฏา. วตสีลพทฺธาติ อชวตกุกฺกุรวตาทีหิ จ วเตหิ ตาทิเสเหว จ สีเลหิ พทฺธา. ลูขํ ตปนฺติ ปฺจาตปตาปนํ กณฺฏกเสยฺยาทิกํ ตปํ. อิทานิ สา เทวตา สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ กเถนฺตี น มานกามสฺสาติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมวาติ. อฏฺมํ.

๙. ปมปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา

๓๙. นวเม ปชฺชุนฺนสฺส ธีตาติ ปชฺชุนฺนสฺส นาม วสฺสวลาหกเทวรฺโ จาตุมหาราชิกสฺส ธีตา. อภิวนฺเทติ ภควา ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทามิ. จกฺขุมตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมนฺเตน ตถาคเตน. ธมฺโม อนุพุทฺโธติ, ‘‘อิทํ มยา ปุพฺเพ ปเรสํ สนฺติเก เกวลํ สุตํเยว อาสี’’ติ วทติ. สาหํ ทานีติ, สา อหํ อิทานิ. สกฺขิ ชานามีติ, ปฏิเวธวเสน ปจฺจกฺขเมว ชานามิ. วิครหนฺตาติ, ‘‘หีนกฺขรปทพฺยฺชโน’’ติ วา ‘‘อนิยฺยานิโก’’ติ วา เอวํ ครหนฺตา. โรรุวนฺติ, ทฺเว โรรุวา – ธูมโรรุโว จ ชาลโรรุโว จ. ตตฺถ ธูมโรรุโว วิสุํ โหติ, ชาลโรรุโวติ ปน อวีจิมหานิรยสฺเสเวตํ นามํ. ตตฺถ หิ สตฺตา อคฺคิมฺหิ ชลนฺเต ชลนฺเต ปุนปฺปุนํ รวํ รวนฺติ, ตสฺมา โส ‘‘โรรุโว’’ติ วุจฺจติ. โฆรนฺติ ทารุณํ. ขนฺติยา อุปสเมน อุเปตาติ รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา คหณขนฺติยา จ ราคาทิอุปสเมน จ อุเปตาติ. นวมํ.

๑๐. ทุติยปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา

๔๐. ทสเม ธมฺมฺจาติ จ สทฺเทน สงฺฆฺจ, อิติ ตีณิ รตนานิ นมสฺสมานา อิธาคตาติ วทติ. อตฺถวตีติ, อตฺถวติโย. พหุนาปิ โข ตนฺติ ยํ ธมฺมํ สา อภาสิ, ตํ ธมฺมํ พหุนาปิ ปริยาเยน อหํ วิภเชยฺยํ. ตาทิโส ธมฺโมติ, ตาทิโส หิ อยํ ภควา ธมฺโม, ตํสณฺิโต ตปฺปฏิภาโค พหูหิ ปริยาเยหิ วิภชิตพฺพยุตฺตโกติ ทสฺเสติ. ลปยิสฺสามีติ, กถยิสฺสามิ. ยาวตา เม มนสา ปริยตฺตนฺติ ยตฺตกํ มยา มนสา ปริยาปุฏํ, ตสฺสตฺถํ ทิวสํ อวตฺวา มธุปฏลํ ปีเฬนฺตี วิย มุหุตฺเตเนว สํขิตฺเตน กเถสฺสามิ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. ทสมํ.

สตุลฺลปกายิกวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อาทิตฺตวคฺโค

๑. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๔๑. อาทิตฺตวคฺคสฺส ปเม ชราย มรเณน จาติ เทสนาสีสเมตํ, ราคาทีหิ ปน เอกาทสหิ อคฺคีหิ โลโก อาทิตฺโตว. ทาเนนาติ ทานเจตนาย. ทินฺนํ โหติ สุนีหตนฺติ ทานปุฺเจตนาหิ ทายกสฺเสว โหติ ฆรสามิกสฺส วิย นีหตภณฺฑกํ, เตเนตํ วุตฺตํ. โจรา หรนฺตีติ อทินฺเน โภเค โจราปิ หรนฺติ ราชาโนปิ, อคฺคิปิ ฑหติ, ปิตฏฺาเนปิ นสฺสนฺติ. อนฺเตนาติ มรเณน. สรีรํ สปริคฺคหนฺติ สรีรฺเจว โจราทีนํ วเสน อวินฏฺโภเค จ. สคฺคมุเปตีติ เวสฺสนฺตรมหาราชาทโย วิย สคฺเค นิพฺพตฺตตีติ. ปมํ.

๒. กึททสุตฺตวณฺณนา

๔๒. ทุติเย อนฺนโทติ ยสฺมา อติพลวาปิ ทฺเว ตีณิ ภตฺตานิ อภุตฺวา อุฏฺาตุํ น สกฺโกติ, ภุตฺวา ปน ทุพฺพโลปิ หุตฺวา พลสมฺปนฺโน โหติ, ตสฺมา ‘‘อนฺนโท พลโท’’ติ อาห. วตฺถโทติ ยสฺมา สุรูโปปิ ทุจฺโจโฬ วา อโจโฬ วา วิรูโป โหติ โอหีฬิโต ทุทฺทสิโก, วตฺถจฺฉนฺโน เทวปุตฺโต วิย โสภติ, ตสฺมา ‘‘วตฺถโท โหติ วณฺณโท’’ติ อาห. ยานโทติ หตฺถิยานาทีนํ ทายโก. เตสุ ปน –

‘‘น หตฺถิยานํ สมณสฺส กปฺปติ,

น อสฺสยานํ, น รเถน ยาตุํ;

อิทฺจ ยานํ สมณสฺส กปฺปติ,

อุปาหนา รกฺขโต สีลขนฺธ’’นฺติ.

ตสฺมา ฉตฺตุปาหนกตฺตรยฏฺิมฺจปีานํ ทายโก, โย จ มคฺคํ โสเธติ, นิสฺเสณึ กโรติ, เสตุํ กโรติ, นาวํ ปฏิยาเทติ, สพฺโพปิ ยานโทว โหติ. สุขโท โหตีติ ยานสฺส สุขาวหนโต สุขโท นาม โหติ. จกฺขุโทติ อนฺธกาเร จกฺขุมนฺตานมฺปิ รูปทสฺสนาภาวโต ทีปโท จกฺขุโท นาม โหติ, อนุรุทฺธตฺเถโร วิย ทิพฺพจกฺขุ สมฺปทมฺปิ ลภติ.

สพฺพทโท โหตีติ สพฺเพสํเยว พลาทีนํ ทายโก โหติ. ทฺเว ตโย คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ อลทฺธา อาคตสฺสาปิ สีตลาย โปกฺขรณิยา นฺหายิตฺวา ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา มุหุตฺตํ มฺเจ นิปชฺชิตฺวา อุฏฺาย นิสินฺนสฺส หิ กาเย พลํ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ. พหิ วิจรนฺตสฺส จ กาเย วณฺณายตนํ วาตาตเปหิ ฌายติ, ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย มุหุตฺตํ นิปนฺนสฺส จ วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ โอกฺกมติ, วณฺณายตนํ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ. พหิ วิจรนฺตสฺส ปาเท กณฺฏโก วิชฺฌติ, ขาณุ ปหรติ, สรีสปาทิปริสฺสโย เจว โจรภยฺจ อุปฺปชฺชติ, ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิปนฺนสฺส สพฺเพเต ปริสฺสยา น โหนฺติ, ธมฺมํ สชฺฌายนฺตสฺส ธมฺมปีติสุขํ, กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตสฺส อุปสมสุขํ อุปฺปชฺชติ. ตถา พหิ วิจรนฺตสฺส จ เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ผนฺทนฺติ, เสนาสนํ ปวิสนกฺขเณ กูเป โอติณฺโณ วิย โหติ, มฺจปีาทีนิ น ปฺายนฺติ. มุหุตฺตํ นิสินฺนสฺส ปน อกฺขิปสาโท อาหริตฺวา ปกฺขิตฺโต วิย โหติ, ทฺวารกวาฏวาตปานมฺจปีาทีนิ ปฺายนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส จ สพฺพทโท โหติ, โย ททาติ อุปสฺสย’’นฺติ.

อมตํทโท จ โส โหตีติ ปณีตโภชนสฺส ปตฺตํ ปูเรนฺโต วิย อมรณทานํ นาม เทติ. โย ธมฺมมนุสาสตีติ โย ธมฺมํ อนุสาสติ, อฏฺกถํ กเถติ, ปาฬึ วาเจติ, ปุจฺฉิตปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขติ, ธมฺมสฺสวนํ กโรติ, สพฺโพเปส ธมฺมํ อนุสาสติ นาม. สพฺพทานานฺจ อิทํ ธมฺมทานเมว อคฺคนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ,

สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ;

สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ,

ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาตี’’ติ. (ธ. ป. ๓๕๔); ทุติยํ;

๓. อนฺนสุตฺตวณฺณนา

๔๓. ตติเย อภินนฺทนฺตีติ ปตฺเถนฺติ. ภชตีติ อุปคจฺฉติ, จิตฺตคหปติสีวลิตฺเถราทิเก วิย ปจฺฉโต อนุพนฺธติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิธโลเก ปรโลเก จ อนฺนทายกเมว อนุคจฺฉติ, ตสฺมา. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. ตติยํ.

๔. เอกมูลสุตฺตวณฺณนา

๔๔. จตุตฺเถ เอกมูลนฺติ อวิชฺชา ตณฺหาย มูลํ, ตณฺหา อวิชฺชาย. อิธ ปน ตณฺหา อธิปฺเปตา. ทฺวีหิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ อาวฏฺฏตีติ ทฺวิราวฏฺฏา. สา จ ราคาทีหิ ตีหิ มเลหิ ติมลา. ตตฺราสฺสา โมโห สหชาตโกฏิยา มลํ โหติ, ราคโทสา อุปนิสฺสยโกฏิยา. ปฺจ ปน กามคุณา อสฺสา ปตฺถรณฏฺานา, เตสุ สา ปตฺถรตีติ ปฺจปตฺถรา. สา จ อปูรณียฏฺเน สมุทฺโท. อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ปเนสา ทฺวาทสายตเนสุ อาวฏฺฏติ ปริวฏฺฏตีติ ทฺวาทสาวฏฺฏา. อปติฏฺฏฺเน ปน ปาตาโลติ วุจฺจตีติ. เอกมูลํ…เป… ปาตาลํ, อตริ อิสิ, อุตฺตริ สมติกฺกมีติ อตฺโถ. จตุตฺถํ.

๕. อโนมสุตฺตวณฺณนา

๔๕. ปฺจเม อโนมนามนฺติ สพฺพคุณสมนฺนาคตตฺตา อเวกลฺลนามํ, ปริปูรนามนฺติ อตฺโถ. นิปุณตฺถทสฺสินฺติ ภควา สณฺหสุขุเม ขนฺธนฺตราทโย อตฺเถ ปสฺสตีติ นิปุณตฺถทสฺสี. ปฺาททนฺติ อนฺวยปฺาธิคมาย ปฏิปทํ กถนวเสน ปฺาย ทายกํ. กามาลเย อสตฺตนฺติ ปฺจกามคุณาลเย อลคฺคํ. กมมานนฺติ ภควา มหาโพธิมณฺเฑเยว อริยมคฺเคน คโต, น อิทานิ คจฺฉติ, อตีตํ ปน อุปาทาย อิทํ วุตฺตํ. มเหสินฺติ มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสิตารํ ปริเยสิตารนฺติ. ปฺจมํ.

๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา

๔๖. ฉฏฺเ อจฺฉราคณสงฺฆุฏฺนฺติ อยํ กิร เทวปุตฺโต สตฺถุสาสเน ปพฺพชิตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ ปูรยมาโน ปฺจวสฺสกาเล ปวาเรตฺวา ทฺเวมาติกํ ปคุณํ กตฺวา กมฺมากมฺมํ อุคฺคเหตฺวา จิตฺตรุจิตํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหิตฺวา สลฺลหุกวุตฺติโก อรฺํ ปวิสิตฺวา โย ภควตา มชฺฌิมยาโม สยนสฺส โกฏฺาโสติ อนุฺาโต. ตสฺมิมฺปิ สมฺปตฺเต ‘‘ปมาทสฺส ภายามี’’ติ มฺจกํ อุกฺขิปิตฺวา รตฺติฺจ ทิวา จ นิราหาโร กมฺมฏฺานเมว มนสากาสิ.

อถสฺส อพฺภนฺตเร สตฺถกวาตา อุปฺปชฺชิตฺวา ชีวิตํ ปริยาทิยึสุ. โส ธุรสฺมึเยว กาลมกาสิ. โย หิ โกจิ ภิกฺขุ จงฺกเม จงฺกมมาโน วา อาลมฺพนตฺถมฺภํ นิสฺสาย ิโต วา จงฺกมโกฏิยํ จีวรํ สีเส เปตฺวา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา ปริสมชฺเฌ อลงฺกตธมฺมาสเน ธมฺมํ เทเสนฺโต วา กาลํ กโรติ, สพฺโพ โส ธุรสฺมึ กาลํ กโรติ นาม. อิติ อยํ จงฺกมเน กาลํ กตฺวา อุปนิสฺสยมนฺทตาย อาสวกฺขยํ อปฺปตฺโต ตาวตึสภวเน มหาวิมานทฺวาเร นิทฺทายิตฺวา ปพุชฺฌนฺโต วิย ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. ตาวเทวสฺส สุวณฺณโตรณํ วิย ติคาวุโต อตฺตภาโว นิพฺพตฺติ.

อนฺโตวิมาเน สหสฺสมตฺตา อจฺฉรา ตํ ทิสฺวา, ‘‘วิมานสามิโก เทวปุตฺโต อาคโต, รมยิสฺสาม น’’นฺติ ตูริยานิ คเหตฺวา ปริวารยึสุ. เทวปุตฺโต น ตาว จุตภาวํ ชานาติ, ปพฺพชิตสฺีเยว อจฺฉรา โอโลเกตฺวา วิหารจาริกํ อาคตํ มาตุคามํ ทิสฺวา ลชฺชี. ปํสุกูลิโก วิย อุปริ ิตํ ฆนทุกูลํ เอกํสํ กโรนฺโต อํสกูฏํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิตฺวา อโธมุโข อฏฺาสิ. ตสฺส กายวิกาเรเนว ตา เทวตา ‘‘สมณเทวปุตฺโต อย’’นฺติ ตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยฺย, เทวปุตฺต, เทวโลโก นามายํ, น สมณธมฺมสฺส กรโณกาโส, สมฺปตฺตึ อนุภวโนกาโส’’ติ. โส ตเถว อฏฺาสิ. เทวตา ‘‘น ตาวายํ สลฺลกฺเขตี’’ติ ตูริยานิ ปคฺคณฺหึสุ. โส ตถาปิ อโนโลเกนฺโตว อฏฺาสิ.

อถสฺส สพฺพกายิกํ อาทาสํ ปุรโต ปยึสุ. โส ฉายํ ทิสฺวา จุตภาวํ ตฺวา, ‘‘น มยา อิมํ านํ ปตฺเถตฺวา สมณธมฺโม กโต, อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปตฺเถตฺวา กโต’’ติ สมฺปตฺติยา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ‘‘สุวณฺณปฏํ ปฏิลภิสฺสามี’’ติ ตกฺกยิตฺวา ยุทฺธฏฺานํ โอติณฺณมลฺโล มูลกมุฏฺึ ลภิตฺวา วิย. โส – ‘‘อยํ สคฺคสมฺปตฺติ นาม สุลภา, พุทฺธานํ ปาตุภาโว ทุลฺลโภ’’ติ จินฺเตตฺวา วิมานํ อปวิสิตฺวาว อสมฺภินฺเนเนว สีเลน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทสพลสฺส สนฺติกํ อาคมฺม อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ิโต อิมํ คาถํ อภาสิ.

ตตฺถ อจฺฉราคณสงฺฆุฏฺนฺติ อจฺฉราคเณน คีตวาทิตสทฺเทหิ สงฺโฆสิตํ. ปิสาจคณเสวิตนฺติ ตเมว อจฺฉราคณํ ปิสาจคณํ กตฺวา วทติ. วนนฺติ นนฺทนวนํ สนฺธาย วทติ. อยฺหิ นิยามจิตฺตตาย อตฺตโน ครุภาเวน เทวคณํ ‘‘เทวคโณ’’ติ วตฺตุํ น โรเจติ. ‘‘ปิสาจคโณ’’ติ วทติ. นนฺทนวนฺจ ‘‘นนฺทน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘โมหน’’นฺติ วทติ. กถํ ยาตฺรา ภวิสฺสตีติ กถํ นิคฺคมนํ ภวิสฺสติ, กถํ อติกฺกโม ภวิสฺสติ, อรหตฺตสฺส เม ปทฏฺานภูตํ วิปสฺสนํ อาจิกฺขถ ภควาติ วทติ.

อถ ภควา ‘‘อติสลฺลิขเตว อยํ เทวปุตฺโต, กึ นุ โข อิท’’นฺติ? อาวชฺเชนฺโต อตฺตโน สาสเน ปพฺพชิตภาวํ ตฺวา – ‘‘อยํ อจฺจารทฺธวีริยตาย กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโต, อชฺชาปิสฺส จงฺกมนสฺมึเยว อตฺตภาโว อสมฺภินฺเนน สีเลน อาคโต’’ติ จินฺเตสิ. พุทฺธา จ อกตาภินิเวสสฺส อาทิกมฺมิกสฺส อกตปริกมฺมสฺส อนฺเตวาสิโน จิตฺตกาโร ภิตฺติปริกมฺมํ วิย – ‘‘สีลํ ตาว โสเธหิ, สมาธึ ภาเวหิ, กมฺมสฺสกตปฺํ อุชุํ กโรหี’’ติ ปมํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ อาจิกฺขนฺติ, การกสฺส ปน ยุตฺตปยุตฺตสฺส อรหตฺตมคฺคปทฏฺานภูตํ สณฺหสุขุมํ สุฺตาวิปสฺสนํเยว อาจิกฺขนฺติ, อยฺจ เทวปุตฺโต การโก อภินฺนสีโล, เอโก มคฺโค อสฺส อนาคโตติ สุฺตาวิปสฺสนํ อาจิกฺขนฺโต อุชุโก นามาติอาทิมาห.

ตตฺถ อุชุโกติ กายวงฺกาทีนํ อภาวโต อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุชุโก นาม. อภยา นาม สา ทิสาติ นิพฺพานํ สนฺธายาห. ตสฺมึ หิ กิฺจิ ภยํ นตฺถิ, ตํ วา ปตฺตสฺส ภยํ นตฺถีติ ‘‘อภยา นาม สา ทิสา’’ติ วุตฺตํ. รโถ อกูชโนติ อฏฺงฺคิโก มคฺโคว อธิปฺเปโต. ยถา หิ ปากติกรโถ อกฺเข วา อนพฺภฺชิเต อติเรเกสุ วา มนุสฺเสสุ อภิรุฬฺเหสุ กูชติ วิรวติ, น เอวํ อริยมคฺโค. โส หิ เอกปฺปหาเรน จตุราสีติยาปิ ปาณสหสฺเสสุ อภิรุหนฺเตสุ น กูชติ น วิรวติ. ตสฺมา ‘‘อกูชโน’’ติ วุตฺโต. ธมฺมจกฺเกหิ สํยุโตติ กายิกเจตสิกวีริยสงฺขาเตหิ ธมฺมจกฺเกหิ สํยุตฺโต.

หิรีติ เอตฺถ หิริคฺคหเณน โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตสฺส อปาลมฺโพติ ยถา พาหิรกรถสฺส รเถ ิตานํ โยธานํ อปตนตฺถาย ทารุมยํ อปาลมฺพนํ โหติ, เอวํ อิมสฺส มคฺครถสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธาสมุฏฺานํ หิโรตฺตปฺปํ อปาลมฺพนํ. สตฺยสฺส ปริวารณนฺติ รถสฺส สีหจมฺมาทิปริวาโร วิย อิมสฺสาปิ มคฺครถสฺส สมฺปยุตฺตา สติ ปริวารณํ. ธมฺมนฺติ โลกุตฺตรมคฺคํ. สมฺมาทิฏฺิปุเรชวนฺติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิปุเรชวา อสฺส ปุพฺพยายิกาติ สมฺมาทิฏฺิปุเรชโว, ตํ สมฺมาทิฏฺิปุเรชวํ. ยถา หิ ปมตรํ ราชปุริเสหิ กาณกุณิอาทีนํ นีหรเณน มคฺเค โสธิเต ปจฺฉา ราชา นิกฺขมติ, เอวเมวํ วิปสฺสนา สมฺมาทิฏฺิยา อนิจฺจาทิวเสน ขนฺธาทีสุ โสธิเตสุ ปจฺฉา ภูมิลทฺธวฏฺฏํ ปริชานมานา มคฺคสมฺมาทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมาหํ สารถึ พฺรูมิ, สมฺมาทิฏฺิปุเรชว’’นฺติ.

อิติ ภควา เทสนํ นิฏฺาเปตฺวา อวสาเน จตฺตาริ สจฺจานิ ทีเปสิ. เทสนาปริโยสาเน เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. ยถา หิ รฺโ โภชนกาเล อตฺตโน มุขปฺปมาเณ กพเฬ อุกฺขิตฺเต องฺเก นิสินฺโน ปุตฺโต อตฺตโน มุขปฺปมาเณเนว ตโต กพฬํ กโรติ, เอวเมวํ ภควติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ เทเสนฺเตปิ สตฺตา อตฺตโน อุปนิสฺสยานุรูเปน โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณนฺติ. อยมฺปิ เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ภควนฺตํ คนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา ปกฺกามีติ. ฉฏฺํ.

๗. วนโรปสุตฺตวณฺณนา

๔๗. สตฺตเม ธมฺมฏฺา สีลสมฺปนฺนาติ เก ธมฺมฏฺา, เก สีลสมฺปนฺนาติ ปุจฺฉติ. ภควา อิมํ ปฺหํ ถาวรวตฺถุนา ทีเปนฺโต อารามโรปาติอาทิมาห. ตตฺถ อารามโรปาติ ปุปฺผารามผลารามโรปกา. วนโรปาติ สยํชาเต อโรปิมวเน สีมํ ปริกฺขิปิตฺวา เจติยโพธิจงฺกมนมณฺฑปกุฏิเลณรตฺติฏฺานทิวาฏฺานานํ การกา ฉายูปเค รุกฺเข โรเปตฺวา ททมานาปิ วนโรปาเยว นาม. เสตุการกาติ วิสเม เสตุํ กโรนฺติ, อุทเก นาวํ ปฏิยาเทนฺติ. ปปนฺติ ปานียทานสาลํ. อุทปานนฺติ ยํกิฺจิ โปกฺขรณีตฬากาทึ. อุปสฺสยนฺติ วาสาคารํ. ‘‘อุปาสย’’นฺติปิ ปาโ.

สทา ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ น อกุสลวิตกฺกํ วา วิตกฺเกนฺตสฺส นิทฺทายนฺตสฺส วา ปวฑฺฒติ. ยทา ยทา ปน อนุสฺสรติ, ตทา ตทา ตสฺส วฑฺฒติ. อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘สทา ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมฏฺา สีลสมฺปนฺนาติ ตสฺมึ ธมฺเม ิตตฺตา เตนปิ สีเลน สมฺปนฺนตฺตา ธมฺมฏฺา สีลสมฺปนฺนา. อถ วา เอวรูปานิ ปุฺานิ กโรนฺตานํ ทส กุสลา ธมฺมา ปูเรนฺติ, เตสุ ิตตฺตา ธมฺมฏฺา. เตเนว จ สีเลน สมฺปนฺนตฺตา สีลสมฺปนฺนาติ. สตฺตมํ.

๘. เชตวนสุตฺตวณฺณนา

๔๘. อฏฺเม อิทํ หิ ตํ เชตวนนฺติ อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต เชตวนสฺส เจว พุทฺธาทีนฺจ วณฺณภณนตฺถํ อาคโต เอวมาห. อิสิสงฺฆนิเสวิตนฺติ ภิกฺขุสงฺฆนิเสวิตํ.

เอวํ ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ อริยมคฺคสฺส กเถนฺโต กมฺมํ วิชฺชาติอาทิมาห. ตตฺถ กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา. วิชฺชาติ มคฺคปฺา. ธมฺโมติ สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา. สีลํ ชีวิตมุตฺตมนฺติ สีเล ปติฏฺิตสฺส ชีวิตํ อุตฺตมนฺติ ทสฺเสติ. อถ วา วิชฺชาติ ทิฏฺิสงฺกปฺปา. ธมฺโมติ วายามสติสมาธโย. สีลนฺติ วาจากมฺมนฺตาชีวา. ชีวิตมุตฺตมนฺติ เอตสฺมึ สีเล ิตสฺส ชีวิตํ นาม อุตฺตมํ. เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺตีติ เอเตน อฏฺงฺคิกมคฺเคน สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา มคฺเคน สุชฺฌนฺติ, น โคตฺตธเนหิ, ตสฺมา. โยนิโส วิจิเน ธมฺมนฺติ อุปาเยน สมาธิปกฺขิยธมฺมํ วิจิเนยฺย. เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌตีติ เอวํ ตสฺมึ อริยมคฺเค วิสุชฺฌติ. อถ วา โยนิโส วิจิเน ธมฺมนฺติ อุปาเยน ปฺจกฺขนฺธธมฺมํ วิจิเนยฺย. เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌตีติ เอวํ เตสุ จตูสุ สจฺเจสุ วิสุชฺฌติ.

อิทานิ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วณฺณํ กเถนฺโต สาริปุตฺโตวาติอาทิมาห. ตตฺถ สาริปุตฺโตวาติ อวธารณวจนํ, เอเตหิ ปฺาทีหิ สาริปุตฺโตว เสยฺโยติ วทติ. อุปสเมนาติ กิเลสอุปสเมน. ปารํ คโตติ นิพฺพานํ คโต. โย โกจิ นิพฺพานํ ปตฺโต ภิกฺขุ, โส เอตาวปรโม สิยา, น เถเรน อุตฺตริตโร นาม อตฺถีติ วทติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. อฏฺมํ.

๙. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม มจฺฉริโนติ มจฺเฉเรน สมนฺนาคตา. เอกจฺโจ หิ อตฺตโน วสนฏฺาเน ภิกฺขุํ หตฺถํ ปสาเรตฺวาปิ น วนฺทติ, อฺตฺถ คโต วิหารํ ปวิสิตฺวา สกฺกจฺจํ วนฺทิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กโรติ – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ วสนฏฺานํ นาคจฺฉถ, สมฺปนฺโน ปเทโส, ปฏิพลา มยํ อยฺยานํ ยาคุภตฺตาทีหิ อุปฏฺานํ กาตุ’’นฺติ. ภิกฺขู ‘‘สทฺโธ อยํ อุปาสโก’’ติ ยาคุภตฺตาทีหิ สงฺคณฺหนฺติ. อเถโก เถโร ตสฺส คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จรติ. โส ตํ ทิสฺวา อฺเน วา คจฺฉติ, ฆรํ วา ปวิสติ. สเจปิ สมฺมุขีภาวํ อาคจฺฉติ, หตฺเถน วนฺทิตฺวา – ‘‘อยฺยสฺส ภิกฺขํ เทถ, อหํ เอเกน กมฺเมน คจฺฉามี’’ติ ปกฺกมติ. เถโร สกลคามํ จริตฺวา ตุจฺฉปตฺโตว นิกฺขมติ. อิทํ ตาว มุทุมจฺฉริยํ นาม, เยน สมนฺนาคโต อทายโกปิ ทายโก วิย ปฺายติ. อิธ ปน ถทฺธมจฺฉริยํ อธิปฺเปตํ, เยน สมนฺนาคโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเสุ, ‘‘เถรา ิตา’’ติ วุตฺเต, ‘‘กึ มยฺหํ ปาทา รุชฺชนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา สิลาถมฺโภ วิย ขาณุโก วิย จ ถทฺโธ หุตฺวา ติฏฺติ, สามีจิมฺปิ น กโรติ. กทริยาติ อิทํ มจฺฉริโนติ ปทสฺเสว เววจนํ. มุทุกมฺปิ หิ มจฺฉริยํ ‘‘มจฺฉริย’’นฺเตว วุจฺจติ, ถทฺธํ ปน กทริยํ นาม. ปริภาสกาติ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ิเต ทิสฺวา, ‘‘กึ ตุมฺเห กสิตฺวา อาคตา, วปิตฺวา, ลายิตฺวา? มยํ อตฺตโนปิ น ลภาม, กุโต ตุมฺหากํ, สีฆํ นิกฺขมถา’’ติอาทีหิ สํตชฺชกา. อนฺตรายกราติ ทายกสฺส สคฺคนฺตราโย, ปฏิคฺคาหกานํ ลาภนฺตราโย, อตฺตโน อุปฆาโตติ อิเมสํ อนฺตรายานํ การกา.

สมฺปราโยติ ปรโลโก. รตีติ ปฺจกามคุณรติ. ขิฑฺฑาติ กายิกขิฑฺฑาทิกา ติวิธา ขิฑฺฑา. ทิฏฺเ ธมฺเมส วิปาโกติ ตสฺมึ นิพฺพตฺตภวเน ทิฏฺเ ธมฺเม เอส วิปาโก. สมฺปราเย จ ทุคฺคตีติ ‘‘ยมโลกํ อุปปชฺชเร’’ติ วุตฺเต สมฺปราเย จ ทุคฺคติ.

วทฺูติ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ิตา กิฺจาปิ ตุณฺหีว โหนฺติ, อตฺถโต ปน – ‘‘ภิกฺขํ เทถา’’ติ วทนฺติ นาม. ตตฺร เย ‘‘มยํ ปจาม, อิเม ปน น ปจนฺติ, ปจมาเน ปตฺวา อลภนฺตา กุหึ ลภิสฺสนฺตี’’ติ? เทยฺยธมฺมํ สํวิภชนฺติ, เต วทฺู นาม. ปกาสนฺตีติ วิมานปฺปภาย โชตนฺติ. ปรสมฺภเตสูติ ปเรหิ สมฺปิณฺฑิเตสุ. สมฺปราเย จ สุคฺคตีติ, ‘‘เอเต สคฺคา’’ติ เอวํ วุตฺตสมฺปราเย สุคติ. อุภินฺนมฺปิ วา เอเตสํ ตโต จวิตฺวา ปุน สมฺปราเยปิ ทุคฺคติสุคติเยว โหตีติ. นวมํ.

๑๐. ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม อุปปนฺนาเสติ นิพฺพตฺติวเสน อุปคตา. วิมุตฺตาติ อวิหาพฺรหฺมโลกสฺมึ อุปปตฺติสมนนฺตรเมว อรหตฺตผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตา. มานุสํ เทหนฺติ อิธ ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ เอว วุตฺตานิ. ทิพฺพโยคนฺติ ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ. อุปจฺจคุนฺติ อติกฺกมึสุ. อุปโกติอาทีนิ เตสํ เถรานํ นามานิ. กุสลี ภาสสี เตสนฺติ, ‘‘กุสล’’นฺติ อิทํ วจนํ อิมสฺส อตฺถีติ กุสลี, เตสํ เถรานํ ตฺวํ กุสลํ อนวชฺชํ ภาสสิ, โถเมสิ ปสํสสิ, ปณฺฑิโตสิ เทวปุตฺตาติ วทติ. ตํ เต ธมฺมํ อิธฺายาติ เต เถรา ตํ ธมฺมํ อิธ ตุมฺหากํ สาสเน ชานิตฺวา. คมฺภีรนฺติ คมฺภีรตฺถํ. พฺรหฺมจารี นิรามิโสติ นิรามิสพฺรหฺมจารี นาม อนาคามี, อนาคามี อโหสินฺติ อตฺโถ. อหุวาติ อโหสิ. สคาเมยฺโยติ เอกคามวาสี. ปริโยสานคาถา สงฺคีติกาเรหิ ปิตาติ. ทสมํ.

อาทิตฺตวคฺโค ปฺจโม.

๖. ชราวคฺโค

๑. ชราสุตฺตวณฺณนา

๕๑. ชราวคฺคสฺส ปเม สาธูติ ลทฺธกํ ภทฺทกํ. สีลํ ยาว ชราติ อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – ยถา มุตฺตามณิรตฺตวตฺถาทีนิ อาภรณานิ ตรุณกาเลเยว โสภนฺติ, ชราชิณฺณกาเล ตานิ ธาเรนฺโต ‘‘อยํ อชฺชาปิ พาลภาวํ ปตฺเถติ, อุมฺมตฺตโก มฺเ’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, น เอวํ สีลํ. สีลฺหิ นิจฺจกาลํ โสภติ. พาลกาเลปิ หิ สีลํ รกฺขนฺตํ ‘‘กึ อิมสฺส สีเลนา’’ติ? วตฺตาโร นตฺถิ. มชฺฌิมกาเลปิ มหลฺลกกาเลปีติ.

สทฺธา สาธุ ปติฏฺิตาติ หตฺถาฬวกจิตฺตคหปติอาทีนํ วิย มคฺเคน อาคตา ปติฏฺิตสทฺธา นาม สาธุ. ปฺา นรานํ รตนนฺติ เอตฺถ จิตฺตีกตฏฺาทีหิ รตนํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยทิ จิตฺตีกตนฺติ รตนํ, นนุ ภควา จิตฺตีกโต ปุริสสีโห, เย จ โลเก จิตฺตีกตา, เตสํ จิตฺตีกโต ภควา. ยทิ รติกรนฺติ รตนํ, นนุ ภควา รติกโร ปุริสสีโห, ตสฺส วจเนน จรนฺตา ฌานรติสุเขน อภิรมนฺติ. ยทิ อตุลฺยนฺติ รตนํ, นนุ ภควา อตุโล ปุริสสีโห. น หิ สกฺกา ตุเลตุํ คุเณหิ คุณปารมึ คโต. ยทิ ทุลฺลภนฺติ รตนํ, นนุ ภควา ทุลฺลโภ ปุริสสีโห. ยทิ อโนมสตฺตปริโภคนฺติ รตนํ, นนุ ภควา อโนโม สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนนา’’ติ.

อิธ ปน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน ปฺา ‘‘รตน’’นฺติ วุตฺตํ. ปุฺนฺติ ปุฺเจตนา, สา หิ อรูปตฺตา ปริหริตุํ น สกฺกาติ. ปมํ.

๒. อชรสาสุตฺตวณฺณนา

๕๒. ทุติเย อชรสาติ อชีรเณน, อวิปตฺติยาติ อตฺโถ. สีลฺหิ อวิปนฺนเมว สาธุ โหติ, วิปนฺนสีลํ อาจริยุปชฺฌายาทโยปิ น สงฺคณฺหนฺติ, คตคตฏฺาเน นิทฺธมิตพฺโพว โหตีติ. ทุติยํ.

๓. มิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๕๓. ตติเย สตฺโถติ สทฺธึจโร, ชงฺฆสตฺโถ วา สกฏสตฺโถ วา. มิตฺตนฺติ โรเค อุปฺปนฺเน ปาฏงฺกิยา วา อฺเน วา ยาเนน หริตฺวา เขมนฺตสมฺปาปเนน มิตฺตํ. สเก ฆเรติ อตฺตโน เคเห. ตถารูเป โรเค ชาเต ปุตฺตภริยาทโย ชิคุจฺฉนฺติ, มาตา ปน อสุจิมฺปิ จนฺทนํ วิย มฺติ. ตสฺมา สา สเก ฆเร มิตฺตํ. สหาโย อตฺถชาตสฺสาติ อุปฺปนฺนกิจฺจสฺส โย ตํ กิจฺจํ วหติ นิตฺถรติ, โส กิจฺเจสุ สห อยนภาเวน สหาโย มิตฺตํ, สุราปานาทิสหายา ปน น มิตฺตา. สมฺปรายิกนฺติ สมฺปรายหิตํ. ตติยํ.

๔. วตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๕๔. จตุตฺเถ ปุตฺตา วตฺถูติ มหลฺลกกาเล ปฏิชคฺคนฏฺเน ปุตฺตา ปติฏฺา. ปรโมติ อฺเสํ อกเถตพฺพสฺสปิ คุยฺหสฺส กเถตพฺพยุตฺตตาย ภริยา ปรโม สขา นาม. จตุตฺถํ.

๕-๗. ปมชนสุตฺตาทิวณฺณนา

๕๕. ปฺจเม วิธาวตีติ ปรสมุทฺทาทิคมนวเสน อิโต จิโต จ วิธาวติ. ปฺจมํ.

๕๖. ฉฏฺเ ทุกฺขาติ วฏฺฏทุกฺขโต. ฉฏฺํ.

๕๗. สตฺตเม ปรายณนฺติ นิปฺผตฺติ อวสฺสโย. สตฺตมํ.

๘. อุปฺปถสุตฺตวณฺณนา

๕๘. อฏฺเม ราโค อุปฺปโถติ สุคติฺจ นิพฺพานฺจ คจฺฉนฺตสฺส อมคฺโค. รตฺตินฺทิวกฺขโยติ รตฺติทิเวหิ, รตฺติทิเวสุ วา ขียติ. อิตฺถี มลนฺติ เสสํ พาหิรมลํ ภสฺมขาราทีหิ โธวิตฺวา สกฺกา โสเธตุํ, มาตุคามมเลน ทุฏฺโ ปน น สกฺกา สุทฺโธ นาม กาตุนฺติ อิตฺถี ‘‘มล’’นฺติ วุตฺตา. เอตฺถาติ เอตฺถ อิตฺถิยํ ปชา สชฺชติ. ตโปติ อินฺทฺริยสํวรธุตงฺคคุณวีริยทุกฺกรการิกานํ นามํ, อิธ ปน เปตฺวา ทุกฺกรการิกํ สพฺพาปิ กิเลสสนฺตาปิกา ปฏิปทา วฏฺฏติ. พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรติ. อฏฺมํ.

๙. ทุติยสุตฺตวณฺณนา

๕๙. นวเม กิสฺส จาภิรโตติ กิสฺมึ อภิรโต. ทุติยาติ สุคติฺเจว นิพฺพานฺจ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยิกา. ปฺา เจนํ ปสาสตีติ ปฺา เอตํ ปุริสํ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มากรี’’ติ อนุสาสติ. นวมํ.

๑๐. กวิสุตฺตวณฺณนา

๖๐. ทสเม ฉนฺโท นิทานนฺติ คายตฺติอาทิโก ฉนฺโท คาถานํ นิทานํ. ปุพฺพปฏฺาปนคาถา อารภนฺโต หิ ‘‘กตรจฺฉนฺเทน โหตู’’ติ อารภติ. วิยฺชนนฺติ ชนนํ. อกฺขรํ หิ ปทํ ชเนติ, ปทํ คาถํ ชเนติ, คาถา อตฺถํ ปกาเสตีติ. นามสนฺนิสฺสิตาติ สมุทฺทาทิปณฺณตฺตินิสฺสิตา. คาถา อารภนฺโต หิ สมุทฺทํ วา ปถวึ วา ยํ กิฺจิ นามํ นิสฺสยิตฺวาว อารภติ. อาสโยติ ปติฏฺา. กวิโต หิ คาถา ปวตฺตนฺติ. โส ตาสํ ปติฏฺา โหตีติ. ทสมํ.

ชราวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. อทฺธวคฺโค

๑. นามสุตฺตวณฺณนา

๖๑. อทฺธวคฺคสฺส ปเม นามํ สพฺพํ อทฺธภวีติ นามํ สพฺพํ อภิภวติ อนุปตติ. โอปปาติเกน วา หิ กิตฺติเมน วา นาเมน มุตฺโต สตฺโต วา สงฺขาโร วา นตฺถิ. ยสฺสปิ หิ รุกฺขสฺส วา ปาสาณสฺส วา ‘‘อิทํ นาม นาม’’นฺติ น ชานนฺติ, อนามโกตฺเวว ตสฺส นามํ โหติ. ปมํ.

๒-๓. จิตฺตสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๒. ทุติเย สพฺเพว วสมนฺวคูติ เย จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, เตสํเยว อนวเสสปริยาทานเมตํ. ทุติยํ.

๖๓. ตติเยปิ เอเสว นโย. ตติยํ.

๔-๕. สํโยชนสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๔. จตุตฺเถ กึ สุ สํโยชโนติ กึ สํโยชโน กึ พนฺธโน? วิจารณนฺติ วิจรณา ปาทานิ. พหุวจเน เอกวจนํ กตํ. วิตกฺกสฺส วิจารณนฺติ วิตกฺโก ตสฺส ปาทา. จตุตฺถํ.

๖๕. ปฺจเมปิ เอเสว นโย. ปฺจมํ.

๖. อตฺตหตสุตฺตวณฺณนา

๖๖. ฉฏฺเ เกนสฺสุพฺภาหโตติ เกน อพฺภาหโต. สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ. อิจฺฉาธูปายิโตติ อิจฺฉาย อาทิตฺโต. ฉฏฺํ.

๗-๙. อุฑฺฑิตสุตฺตาทิวณฺณนา

๖๗. สตฺตเม ตณฺหาย อุฑฺฑิโตติ ตณฺหาย อุลฺลงฺฆิโต. จกฺขุฺหิ ตณฺหารชฺชุนา อาวุนิตฺวา รูปนาคทนฺเต อุฑฺฑิตํ, โสตาทีนิ สทฺทาทีสูติ ตณฺหาย อุฑฺฑิโต โลโก. มจฺจุนา ปิหิโตติ อนนฺตเร อตฺตภาเว กตํ กมฺมํ น ทูรํ เอกจิตฺตนฺตรํ, พลวติยา ปน มารณนฺติกเวทนาย ปพฺพเตน วิย โอตฺถฏตฺตา สตฺตา ตํ น พุชฺฌนฺตีติ ‘‘มจฺจุนา ปิหิโต โลโก’’ติ วุตฺตํ. สตฺตมํ.

๖๘. อฏฺเม สฺเวว ปฺโห เทวตาย เหฏฺุปริยายวเสน ปุจฺฉิโต. อฏฺมํ.

๖๙. นวเม สพฺพํ อุตฺตานเมว. นวมํ.

๑๐. โลกสุตฺตวณฺณนา

๗๐. ทสเม กิสฺมึ โลโก สมุปฺปนฺโนติ กิสฺมึ อุปฺปนฺเน โลโก อุปฺปนฺโนติ ปุจฺฉติ. ฉสูติ ฉสุ อชฺฌตฺติเกสุ อายตเนสุ อุปฺปนฺเนสุ อุปฺปนฺโนติ วุจฺจติ. ฉสุ กุพฺพตีติ เตสุเยว ฉสุ สนฺถวํ กโรติ. อุปาทายาติ ตานิเยว จ อุปาทาย อาคมฺม ปฏิจฺจ ปวตฺตติ. วิหฺตีติ เตสุเยว ฉสุ วิหฺติ ปีฬิยติ. อิติ อชฺฌตฺติกายตนวเสน อยํ ปฺโห อาคโต, อชฺฌตฺติกพาหิรานํ ปน วเสน อาหริตุํ วฏฺฏติ. ฉสุ หิ อชฺฌตฺติกายตเนสุ อุปฺปนฺเนสุ อยํ อุปฺปนฺโน นาม โหติ, ฉสุ พาหิเรสุ สนฺถวํ กโรติ, ฉนฺนํ อชฺฌตฺติกานํ อุปาทาย ฉสุ พาหิเรสุ วิหฺตีติ. ทสมํ.

อทฺธวคฺโค สตฺตโม.

๘. เฉตฺวาวคฺโค

๑. เฉตฺวาสุตฺตวณฺณนา

๗๑. เฉตฺวาวคฺคสฺส ปเม เฉตฺวาติ วธิตฺวา. สุขํ เสตีติ โกธปริฬาเหน อปริทยฺหมานตฺตา สุขํ สยติ. น โสจตีติ โกธวินาเสน วินฏฺโทมนสฺสตฺตา น โสจติ. วิสมูลสฺสาติ ทุกฺขวิปากสฺส. มธุรคฺคสฺสาติ กุทฺธสฺส ปฏิกุชฺฌิตฺวา, อกฺกุฏฺสฺส ปจฺจกฺโกสิตฺวา, ปหฏสฺส จ ปฏิปหริตฺวา สุขํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย มธุรคฺโคติ วุตฺโต. อิมสฺมึ หิ าเน ปริโยสานํ อคฺคนฺติ วุตฺตํ. อริยาติ พุทฺธาทโย. ปมํ.

๒. รถสุตฺตวณฺณนา

๗๒. ทุติเย ปฺายติ เอเตนาติ ปฺาณํ. ธโช รถสฺสาติ มหนฺตสฺมึ หิ สงฺคามสีเส ทูรโตว ธชํ ทิสฺวา ‘‘อสุกรฺโ นาม อยํ รโถ’’ติ รโถ ปากโฏ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธโช รถสฺส ปฺาณ’’นฺติ. อคฺคิปิ ทูรโตว ธูเมน ปฺายติ. โจฬรฏฺํ ปณฺฑุรฏฺนฺติ เอวํ รฏฺมฺปิ รฺา ปฺายติ. จกฺกวตฺติรฺโ ธีตาปิ ปน อิตฺถี ‘‘อสุกสฺส นาม ภริยา’’ติ ภตฺตารํ ปตฺวาว ปฺายติ. ตสฺมา ธูโม ปฺาณมคฺคิโนติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยํ.

๓. วิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๗๓. ตติเย สทฺธีธ วิตฺตนฺติ ยสฺมา สทฺโธ สทฺธาย มุตฺตมณิอาทีนิปิ วิตฺตานิ ลภติ, ติสฺโสปิ กุลสมฺปทา, ฉ กามสคฺคานิ, นว พฺรหฺมโลเก ปตฺวา ปริโยสาเน อมตมหานิพฺพานทสฺสนมฺปิ ลภติ, ตสฺมา มณิมุตฺตาทีหิ วิตฺเตหิ สทฺธาวิตฺตเมว เสฏฺํ. ธมฺโมติ ทสกุสลกมฺมปโถ. สุขมาวหตีติ สพฺพมฺปิ สาสวานาสวํ อสํกิลิฏฺสุขํ อาวหติ. สาทุตรนฺติ โลกสฺมึ โลณมฺพิลาทีนํ สพฺพรสานํ สจฺจเมว มธุรตรํ. สจฺจสฺมึ หิ ิตา สีฆเวคํ นทิมฺปิ นิวตฺเตนฺติ, วิสมฺปิ นิมฺมทฺเทนฺติ, อคฺคิมฺปิ ปฏิพาหนฺติ, เทวมฺปิ วสฺสาเปนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺพรสานํ มธุรตรนฺติ วุตฺตํ. ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺนฺติ โย ปฺาชีวี คหฏฺโ สมาโน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาย สลากภตฺตาทีนิ ปฏฺเปตฺวา ปฺาย ชีวติ, ปพฺพชิโต วา ปน ธมฺเมน อุปฺปนฺเน ปจฺจเย ‘‘อิทมตฺถ’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนฺโต กมฺมฏฺานํ อาทาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อริยผลาธิคมวเสน ปฺาย ชีวติ, ตํ ปฺาชีวึ ปุคฺคลํ เสฏฺํ ชีวิตํ ชีวตีติ อาหุ. ตติยํ.

๔. วุฏฺิสุตฺตวณฺณนา

๗๔. จตุตฺเถ พีชนฺติ อุปฺปตนฺตานํ สตฺตวิธํ ธฺพีชํ เสฏฺํ. ตสฺมิฺหิ อุคฺคเต ชนปโท เขโม โหติ สุภิกฺโข. นิปตตนฺติ นิปตนฺตานํ เมฆวุฏฺิ เสฏฺา. เมฆวุฏฺิยฺหิ สติ วิวิธานิ สสฺสานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ชนปทา ผีตา โหนฺติ เขมา สุภิกฺขา. ปวชมานานนฺติ ชงฺคมานํ ปทสา จรมานานํ คาโว เสฏฺา. ตา นิสฺสาย หิ สตฺตา ปฺจ โครเส ปริภุฺชมานา สุขํ วิหรนฺติ. ปวทตนฺติ ราชกุลมชฺฌาทีสุ วทนฺตานํ ปุตฺโต วโร. โส หิ มาตาปิตูนํ อนตฺถาวหํ น วทติ.

วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฏฺาติ ปุริมปฺเห กิร สุตฺวา สมีเป ิตา เอกา เทวตา ‘‘เทวเต, กสฺมา ตฺวํ เอตํ ปฺหํ ทสพลํ ปุจฺฉสิ? อหํ เต กเถสฺสามี’’ติ อตฺตโน ขนฺติยา ลทฺธิยา ปฺหํ กเถสิ. อถ นํ อิตรา เทวตา อาห – ‘‘ยาว ปธํสี วเทสิ เทวเต ยาว ปคพฺภา มุขรา, อหํ พุทฺธํ ภควนฺตํ ปุจฺฉามิ. ตฺวํ มยฺหํ กสฺมา กเถสี’’ติ? นิวตฺเตตฺวา ตเทว ปฺหํ ทสพลํ ปุจฺฉิ. อถสฺสา สตฺถา วิสฺสชฺเชนฺโต วิชฺชา อุปฺปตตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาติ จตุมคฺควิชฺชา. สา หิ อุปฺปตมานา สพฺพากุสลธมฺเม สมุคฺฆาเตติ. ตสฺมา ‘‘อุปฺปตตํ เสฏฺา’’ติ วุตฺตา. อวิชฺชาติ วฏฺฏมูลกมหาอวิชฺชา. สา หิ นิปตนฺตานํ โอสีทนฺตานํ วรา. ปวชมานานนฺติ ปทสา จรมานานํ ชงฺคมานํ อโนมปุฺกฺเขตฺตภูโต สงฺโฆ วโร. ตฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา สตฺตา โสตฺถึ ปาปุณนฺติ. พุทฺโธติ ยาทิโส ปุตฺโต วา โหตุ อฺโ วา, เยสํ เกสฺจิ วทมานานํ พุทฺโธ วโร. ตสฺส หิ ธมฺมเทสนํ อาคมฺม อเนกสตสหสฺสานํ ปาณานํ พนฺธนโมกฺโข โหตีติ. จตุตฺถํ.

๕. ภีตาสุตฺตวณฺณนา

๗๕. ปฺจเม กึสูธ ภีตาติ กึ ภีตา? มคฺโค จเนกายตนปฺปวุตฺโตติ อฏฺตึสารมฺมณวเสน อเนเกหิ การเณหิ กถิโต. เอวํ สนฺเต กิสฺส ภีตา หุตฺวา อยํ ชนตา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย อคฺคเหสีติ วทติ. ภูริปฺาติ พหุปฺ อุสฺสนฺนปฺ. ปรโลกํ น ภาเยติ อิมสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉนฺโต น ภาเยยฺย. ปณิธายาติ เปตฺวา. พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโตติ อนาถปิณฺฑิกาทโย วิย พหฺวนฺนปาเน ฆเร วสนฺโต. สํวิภาคีติ อจฺฉราย คหิตมฺปิ นเขน ผาเลตฺวา ปรสฺส ทตฺวาว ภุฺชนสีโล. วทฺูติ วุตฺตตฺถเมว.

อิทานิ คาถาย องฺคานิ อุทฺธริตฺวา ทสฺเสตพฺพานิ – ‘‘วาจ’’นฺติ หิ อิมินา จตฺตาริ วจีสุจริตานิ คหิตานิ, ‘‘มเนนา’’ติปเทน ตีณิ มโนสุจริตานิ, ‘‘กาเยนา’’ติ ปเทน ตีณิ กายสุจริตานิ. อิติ อิเม ทส กุสลกมฺมปถา ปุพฺพสุทฺธิองฺคํ นาม. พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโตติ อิมินา ยฺอุปกฺขโร คหิโต. สทฺโธติ เอกมงฺคํ, มุทูติ เอกํ, สํวิภาคีติ เอกํ, วทฺูติ เอกํ. อิติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ สนฺธาย ‘‘เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต จตูสู’’ติ อาห.

อปโรปิ ปริยาโย – วาจนฺติอาทีนิ ตีณิ องฺคานิ, พหฺวนฺนปานนฺติ อิมินา ยฺอุปกฺขโรว คหิโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺูติ เอกํ องฺคํ. อปโร ทุกนโย นาม โหติ. ‘‘วาจํ มนฺจา’’ติ อิทเมกํ องฺคํ, ‘‘กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน, พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต’’ติ เอกํ, ‘‘สทฺโธ มุทู’’ติ เอกํ, ‘‘สํวิภาคี วทฺู’’ติ เอกํ. เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ิโต ธมฺเม ิโต นาม โหติ. โส อิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต น ภายติ. ปฺจมํ.

๖. นชีรติสุตฺตวณฺณนา

๗๖. ฉฏฺเ นามโคตฺตํ น ชีรตีติ อตีตพุทฺธานํ ยาวชฺชทิวสา นามโคตฺตํ กถิยติ, ตสฺมา น ชีรตีติ วุจฺจติ. โปราณา ปน ‘‘อทฺธาเน คจฺฉนฺเต น ปฺายิสฺสติ, ชีรณสภาโว ปน น โหติเยวา’’ติ วทนฺติ. อาลสฺยนฺติ อาลสิยํ, เยน ิตฏฺาเน ิโตว, นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺโนว โหติ, เตเลปิ อุตฺตรนฺเต ิตึ น กโรติ. ปมาโทติ นิทฺทาย วา กิเลสวเสน วา ปมาโท. อนุฏฺานนฺติ กมฺมสมเย กมฺมกรณวีริยาภาโว. อสํยโมติ สีลสฺมาภาโว วิสฺสฏฺาจารตา. นิทฺทาติ โสปฺปพหุลตา. ตาย คจฺฉนฺโตปิ ิโตปิ นิสินฺโนปิ นิทฺทายติ, ปเคว นิปนฺโน. ตนฺทีติ อติจฺฉาตาทิวเสน อาคนฺตุกาลสิยํ. เต ฉิทฺเทติ ตานิ ฉ ฉิทฺทานิ วิวรานิ. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน. นฺติ นิปาตมตฺตํ. วิวชฺชเยติ วชฺเชยฺย ชเหยฺย. ฉฏฺํ.

๗. อิสฺสริยสุตฺตวณฺณนา

๗๗. สตฺตเม สตฺถมลนฺติ มลคฺคหิตสตฺถํ. กึ สุ หรนฺตํ วาเรนฺตีติ กํ หรนฺตํ นิเสเธนฺติ. วโสติ อาณาปวตฺตนํ. อิตฺถีติ อวิสฺสชฺชนียภณฺฑตฺตา ‘‘อิตฺถี ภณฺฑานมุตฺตมํ, วรภณฺฑ’’นฺติ อาห. อถ วา สพฺเพปิ โพธิสตฺตา จ จกฺกวตฺติโน จ มาตุกุจฺฉิยํเยว นิพฺพตฺตนฺตีติ ‘‘อิตฺถี ภณฺฑานมุตฺตม’’นฺติ อาห. โกโธ สตฺถมลนฺติ โกโธ มลคฺคหิตสตฺถสทิโส, ปฺาสตฺถสฺส วา มลนฺติ สตฺถมลํ. อพฺพุทนฺติ วินาสการณํ, โจรา โลกสฺมึ วินาสกาติ อตฺโถ. หรนฺโตติ สลากภตฺตาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต. สลากภตฺตาทีนิ หิ ปฏฺปิตกาเลเยว มนุสฺเสหิ ปริจฺจตฺตานิ. เตสํ ตานิ หรนฺโต สมโณ ปิโย โหติ, อนาหรนฺเต ปุฺหานึ นิสฺสาย วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. สตฺตมํ.

๘. กามสุตฺตวณฺณนา

๗๘. อฏฺเม อตฺตานํ น ทเทติ ปรสฺส ทาสํ กตฺวา อตฺตานํ น ทเทยฺย เปตฺวา สพฺพโพธิสตฺเตติ วุตฺตํ. น ปริจฺจเชติ สีหพฺยคฺฆาทีนํ น ปริจฺจเชยฺย สพฺพโพธิสตฺเต เปตฺวาเยวาติ วุตฺตํ. กลฺยาณนฺติ สณฺหํ มุทุกํ. ปาปิกนฺติ ผรุสํ วาจํ. อฏฺมํ.

๙. ปาเถยฺยสุตฺตวณฺณนา

๗๙. นวเม สทฺธา พนฺธติ ปาเถยฺยนฺติ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา ทานํ เทติ, สีลํ รกฺขติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, เตเนตํ วุตฺตํ. สิรีติ อิสฺสริยํ. อาสโยติ วสนฏฺานํ. อิสฺสริเย หิ อภิมุขีภูเต ถลโตปิ ชลโตปิ โภคา อาคจฺฉนฺติเยว. เตเนตํ วุตฺตํ. ปริกสฺสตีติ ปริกฑฺฒติ. นวมํ.

๑๐. ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา

๘๐. ทสเม ปชฺโชโตติ ปทีโป วิย โหติ. ชาคโรติ ชาครพฺราหฺมโณ วิย โหติ. คาโว กมฺเม สชีวานนฺติ กมฺเมน สห ชีวนฺตานํ คาโวว กมฺเม กมฺมสหายา กมฺมทุติยกา นาม โหนฺติ. โคมณฺฑเลหิ สทฺธึ กสิกมฺมาทีนิ นิปฺผชฺชนฺติ. สีตสฺส อิริยาปโถติ สีตํ อสฺส สตฺตกายสฺส อิริยาปโถ ชีวิตวุตฺติ. สีตนฺติ นงฺคลํ. ยสฺส หิ นงฺคเลหิ เขตฺตํ อปฺปมตฺตกมฺปิ กฏฺํ น โหติ, โส กถํ ชีวิสฺสตีติ วทติ. ทสมํ.

๑๑. อรณสุตฺตวณฺณนา

๘๑. เอกาทสเม อรณาติ นิกฺกิเลสา. วุสิตนฺติ วุสิตวาโส. โภชิสฺสิยนฺติ อทาสภาโว. สมณาติ ขีณาสวสมณา. เต หิ เอกนฺเตน อรณา นาม. วุสิตํ น นสฺสตีติ เตสํ อริยมคฺควาโส น นสฺสติ. ปริชานนฺตีติ ปุถุชฺชนกลฺยาณกโต ปฏฺาย เสขา โลกิยโลกุตฺตราย ปริฺาย ปริชานนฺติ. โภชิสฺสิยนฺติ ขีณาสวสมณานํเยว นิจฺจํ ภุชิสฺสภาโว นาม. วนฺทนฺตีติ ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย วนฺทนฺติ. ปติฏฺิตนฺติ สีเล ปติฏฺิตํ. สมณีธาติ สมณํ อิธ. ชาติหีนนฺติ อปิ จณฺฑาลกุลา ปพฺพชิตํ. ขตฺติยาติ น เกวลํ ขตฺติยาว, เทวาปิ สีลสมฺปนฺนํ สมณํ วนฺทนฺติเยวาติ. เอกาทสมํ.

เฉตฺวาวคฺโค อฏฺโม.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

เทวตาสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. เทวปุตฺตสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. ปมกสฺสปสุตฺตวณฺณนา

๘๒. เทวปุตฺตสํยุตฺตสฺส ปเม เทวปุตฺโตติ เทวานฺหิ องฺเก นิพฺพตฺตา ปุริสา เทวปุตฺตา นาม, อิตฺถิโย เทวธีตโร นาม โหนฺติ. นามวเสน อปากฏาว ‘‘อฺตรา เทวตา’’ติ วุจฺจติ, ปากโฏ ‘‘อิตฺถนฺนาโม เทวปุตฺโต’’ติ. ตสฺมา เหฏฺา ‘‘อฺตรา เทวตา’’ติ วตฺวา อิธ ‘‘เทวปุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อนุสาสนฺติ อนุสิฏฺึ. อยํ กิร เทวปุตฺโต ภควตา สมฺโพธิโต สตฺตเม วสฺเส ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา ติทสปุเร วสฺสํ อุปคมฺม อภิธมฺมํ เทเสนฺเตน ฌานวิภงฺเค – ‘‘ภิกฺขูติ สมฺาย ภิกฺขุ, ปฏิฺาย ภิกฺขู’’ติ (วิภ. ๕๑๐). เอวํ ภิกฺขุนิทฺเทสํ กถิยมานํ อสฺโสสิ. ‘‘เอวํ วิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถ, เอวํ มนสิกโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถ. อิทํ ปชหถ, อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถา’’ติ (ปารา. ๑๙). เอวรูปํ ปน ภิกฺขุโอวาทํ ภิกฺขุอนุสาสนํ น อสฺโสสิ. โส ตํ สนฺธาย – ‘‘ภิกฺขุํ ภควา ปกาเสสิ, โน จ ภิกฺขุโน อนุสาส’’นฺติ อาห.

เตน หีติ ยสฺมา มยา ภิกฺขุโน อนุสิฏฺิ น ปกาสิตาติ วทสิ, ตสฺมา. ตฺเเวตฺถ ปฏิภาตูติ ตุยฺเหเวสา อนุสิฏฺิปกาสนา อุปฏฺาตูติ. โย หิ ปฺหํ กเถตุกาโม โหติ, น จ สกฺโกติ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา กเถตุํ. โย วา น กเถตุกาโม โหติ, สกฺโกติ ปน กเถตุํ. โย วา เนว กเถตุกาโม โหติ, กเถตุํ น จ สกฺโกติ. สพฺเพสมฺปิ เตสํ ภควา ปฺหํ ภารํ น กโรติ. อยํ ปน เทวปุตฺโต กเถตุกาโม เจว, สกฺโกติ จ กเถตุํ. ตสฺมา ตสฺเสว ภารํ กโรนฺโต ภควา เอวมาห. โสปิ ปฺหํ กเถสิ.

ตตฺถ สุภาสิตสฺส สิกฺเขถาติ สุภาสิตํ สิกฺเขยฺย, จตุสจฺจนิสฺสิตํ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยนิสฺสิตํ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตเมว สิกฺเขยฺย. สมณูปาสนสฺส จาติ สมเณหิ อุปาสิตพฺพํ สมณูปาสนํ นาม อฏฺตึสเภทํ กมฺมฏฺานํ, ตมฺปิ สิกฺเขยฺย ภาเวยฺยาติ อตฺโถ. พหุสฺสุตานํ วา ภิกฺขูนํ อุปาสนมฺปิ สมณูปาสนํ. ตมฺปิ ‘กึ, ภนฺเต, กุสล’’นฺติอาทินา ปฺหปุจฺฉเนน ปฺาวุทฺธตฺถํ สิกฺเขยฺย. จิตฺตวูปสมสฺส จาติ อฏฺสมาปตฺติวเสน จิตฺตวูปสมํ สิกฺเขยฺย. อิติ เทวปุตฺเตน ติสฺโส สิกฺขา กถิตา โหนฺติ. ปุริมปเทน หิ อธิสีลสิกฺขา กถิตา, ทุติยปเทน อธิปฺาสิกฺขา, จิตฺตวูปสเมน อธิจิตฺตสิกฺขาติ เอวํ อิมาย คาถาย สกลมฺปิ สาสนํ ปกาสิตเมว โหติ. ปมํ.

๒. ทุติยกสฺสปสุตฺตวณฺณนา

๘๓. ทุติเย ฌายีติ ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายี. วิมุตฺตจิตฺโตติ กมฺมฏฺานวิมุตฺติยา วิมุตฺตจิตฺโต. หทยสฺสานุปตฺตินฺติ อรหตฺตํ. โลกสฺสาติ สงฺขารโลกสฺส. อนิสฺสิโตติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิโต, ตณฺหาทิฏฺิโย วา อนิสฺสิโต. ตทานิสํโสติ อรหตฺตานิสํโส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อรหตฺตานิสํโส ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺเถนฺโต ฌายี ภเวยฺย, สุวิมุตฺตจิตฺโต ภเวยฺย, โลกสฺส อุทยพฺพยํ ตฺวา อนิสฺสิโต ภเวยฺย. ตนฺติธมฺโม ปน อิมสฺมึ สาสเน ปุพฺพภาโคติ. ทุติยํ.

๓-๔. มาฆสุตฺตาทิวณฺณนา

๘๔. ตติเย มาโฆติ สกฺกสฺเสตํ นามํ. สฺเวว วตฺเตน อฺเ อภิภวิตฺวา เทวิสฺสริยํ ปตฺโตติ วตฺรภู, วตฺรนามกํ วา อสุรํ อภิภวตีติ วตฺรภู. ตติยํ.

๘๕. จตุตฺถํ วุตฺตตฺถเมว. จตุตฺถํ.

๕. ทามลิสุตฺตวณฺณนา

๘๖. ปฺจเม น เตนาสีสเต ภวนฺติ เตน การเณน ยํ กิฺจิ ภวํ น ปตฺเถติ. อายตปคฺคโห นาเมส เทวปุตฺโต, ขีณาสวสฺส กิจฺจโวสานํ นตฺถิ. ขีณาสเวน หิ อาทิโต อรหตฺตปฺปตฺติยา วีริยํ กตํ, อปรภาเค มยา อรหตฺตํ ปตฺตนฺติ มา ตุณฺหี ภวตุ, ตเถว วีริยํ ทฬฺหํ กโรตุ ปรกฺกมตูติ จินฺเตตฺวา เอวมาห.

อถ ภควา ‘‘อยํ เทวปุตฺโต ขีณาสวสฺส กิจฺจโวสานํ อกเถนฺโต มม สาสนํ อนิยฺยานิกํ กเถติ, กิจฺจโวสานมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นตฺถิ กิจฺจนฺติอาทิมาห. ตีสุ กิร ปิฏเกสุ อยํ คาถา อสํกิณฺณา. ภควตา หิ อฺตฺถ วีริยสฺส โทโส นาม ทสฺสิโต นตฺถิ. อิธ ปน อิมํ เทวปุตฺตํ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘ขีณาสเวน ปุพฺพภาเค อาสวกฺขยตฺถาย อรฺเ วสนฺเตน กมฺมฏฺานํ อาทาย วีริยํ กตํ, อปรภาเค สเจ อิจฺฉติ, กโรตุ, โน เจ อิจฺฉติ, ยถาสุขํ วิหรตู’’ติ ขีณาสวสฺส กิจฺจโวสานทสฺสนตฺถํ เอวมาห. ตตฺถ คาธนฺติ ปติฏฺํ. ปฺจมํ.

๖. กามทสุตฺตวณฺณนา

๘๗. ฉฏฺเ ทุกฺกรนฺติ อยํ กิร เทวปุตฺโต ปุพฺพโยคาวจโร พหลกิเลสตาย สปฺปโยเคน กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต สมณธมฺมํ กตฺวา ปุพฺพูปนิสฺสยมนฺทตาย อริยภูมึ อปฺปตฺวาว กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโต. โส ‘‘ตถาคตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทุกฺกรภาวํ อาโรเจสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา เอวมาห. ตตฺถ ทุกฺกรนฺติ ทสปิ วสฺสานิ…เป… สฏฺิปิ ยเทตํ เอกนฺตปริสุทฺธสฺส สมณธมฺมสฺส กรณํ นาม, ตํ ทุกฺกรํ. เสขาติ สตฺต เสขา. สีลสมาหิตาติ สีเลน สมาหิตา สมุเปตา. ิตตฺตาติ ปติฏฺิตสภาวา. เอวํ ปุจฺฉิตปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิทานิ อุปริปฺหสมุฏฺาปนตฺถํ อนคาริยุเปตสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ อนคาริยุเปตสฺสาติ อนคาริยํ นิคฺเคหภาวํ อุเปตสฺส. สตฺตภูมิเกปิ หิ ปาสาเท วสนฺโต ภิกฺขุ วุฑฺฒตเรน อาคนฺตฺวา ‘‘มยฺหํ อิทํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต ปตฺตจีวรํ อาทาย นิกฺขมเตว. ตสฺมา ‘‘อนคาริยุเปโต’’ติ วุจฺจติ. ตุฏฺีติ จตุปจฺจยสนฺโตโส. ภาวนายาติ จิตฺตวูปสมภาวนาย.

เต เฉตฺวา มจฺจุโน ชาลนฺติ เย รตฺตินฺทิวํ อินฺทฺริยูปสเม รตา, เต ทุสฺสมาทหํ จิตฺตํ สมาทหนฺติ. เย จ สมาหิตจิตฺตา, เต จตุปจฺจยสนฺโตสํ ปูเรนฺตา น กิลมนฺติ. เย สนฺตุฏฺา, เต สีลํ ปูเรนฺตา น กิลมนฺติ. เย สีเล ปติฏฺิตา สตฺต เสขา, เต อริยา มจฺจุโน ชาลสงฺขาตํ กิเลสชาลํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. ทุคฺคโมติ ‘‘สจฺจเมตํ, ภนฺเต, เย อินฺทฺริยูปสเม รตา, เต ทุสฺสมาทหํ สมาทหนฺติ…เป… เย สีเล ปติฏฺิตา, เต มจฺจุโน ชาลํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ’’. กึ น คจฺฉิสฺสนฺติ? อยํ ปน ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโคติ อาห. ตตฺถ กิฺจาปิ อริยมคฺโค เนว ทุคฺคโม น วิสโม, ปุพฺพภาคปฏิปทาย ปนสฺส พหู ปริสฺสยา โหนฺติ. ตสฺมา เอวํ วุตฺโต. อวํสิราติ าณสิเรน อโธสิรา หุตฺวา ปปตนฺติ. อริยมคฺคํ อาโรหิตุํ อสมตฺถตาเยว จ เต อนริยมคฺเค ปปตนฺตีติ จ วุจฺจนฺติ. อริยานํ สโม มคฺโคติ สฺเวว มคฺโค อริยานํ สโม โหติ. วิสเม สมาติ วิสเมปิ สตฺตกาเย สมาเยว. ฉฏฺํ.

๗. ปฺจาลจณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๘๘. สตฺตเม สมฺพาเธติ นีวรณสมฺพาธํ กามคุณสมฺพาธนฺติ ทฺเว สมฺพาธา. เตสุ อิธ นีวรณสมฺพาธํ อธิปฺเปตํ. โอกาสนฺติ ฌานสฺเสตํ นามํ. ปฏิลีนนิสโภติ ปฏิลีนเสฏฺโ. ปฏิลีโน นาม ปหีนมาโน วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิลีโน โหติ. อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๘; มหานิ. ๘๗). ปจฺจลตฺถํสูติ ปฏิลภึสุ. สมฺมา เตติ เย นิพฺพานปตฺติยา สตึ ปฏิลภึสุ, เต โลกุตฺตรสมาธินาปิ สุสมาหิตาติ มิสฺสกชฺฌานํ กถิตํ. สตฺตมํ.

๘. ตายนสุตฺตวณฺณนา

๘๙. อฏฺเม ปุราณติตฺถกโรติ ปุพฺเพ ติตฺถกโร. เอตฺถ จ ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย, ติตฺถกโร นาม ตาสํ อุปฺปาทโก สตฺถา. เสยฺยถิทํ นนฺโท, วจฺโฉ, กิโส, สํกิจฺโจ. ปุราณาทโย ปน ติตฺถิยา นาม. อยํ ปน ทิฏฺึ อุปฺปาเทตฺวา กถํ สคฺเค นิพฺพตฺโตติ? กมฺมวาทิตาย. เอส กิร อุโปสถภตฺตาทีนิ อทาสิ, อนาถานํ วตฺตํ ปฏฺเปสิ, ปติสฺสเย อกาสิ, โปกฺขรณิโย ขณาเปสิ, อฺมฺปิ พหุํ กลฺยาณํ อกาสิ. โส ตสฺส นิสฺสนฺเทน สคฺเค นิพฺพตฺโต, สาสนสฺส ปน นิยฺยานิกภาวํ ชานาติ. โส ตถาคตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา สาสนานุจฺฉวิกา วีริยปฺปฏิสํยุตฺตา คาถา วกฺขามีติ อาคนฺตฺวา ฉินฺท โสตนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ ฉินฺทาติ อนิยมิตอาณตฺติ. โสตนฺติ ตณฺหาโสตํ. ปรกฺกมฺมาติ ปรกฺกมิตฺวา วีริยํ กตฺวา. กาเมติ กิเลสกาเมปิ วตฺถุกาเมปิ. ปนุทาติ นีหร. เอกตฺตนฺติ ฌานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กาเม อชหิตฺวา มุนิ ฌานํ น อุปปชฺชติ, น ปฏิลภตีติ อตฺโถ. กยิรา เจ กยิราเถนนฺติ ยทิ วีริยํ กเรยฺย, กเรยฺยาถ, ตํ วีริยํ น โอสกฺเกยฺย. ทฬฺหเมนํ ปรกฺกเมติ ทฬฺหํ เอนํ กเรยฺย. สิถิโล หิ ปริพฺพาโชติ สิถิลคหิตา ปพฺพชฺชา. ภิยฺโย อากิรเต รชนฺติ อติเรกํ อุปริ กิเลสรชํ อากิรติ. อกตํ ทุกฺกฏํ เสยฺโยติ ทุกฺกฏํ อกตเมว เสยฺโย. ยํ กิฺจีติ น เกวลํ ทุกฺกฏํ กตฺวา กตสามฺเมว, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ สิถิลํ กตํ เอวรูปเมว โหติ. สํกิลิฏฺนฺติ ทุกฺกรการิกวตํ. อิมสฺมึ หิ สาสเน ปจฺจยเหตุ สมาทินฺนธุตงฺควตํ สํกิลิฏฺเมว. สงฺกสฺสรนฺติ สงฺกาย สริตํ, ‘‘อิทมฺปิ อิมินา กตํ ภวิสฺสติ, อิทมฺปิ อิมินา’’ติ เอวํ อาสงฺกิตปริสงฺกิตํ. อาทิพฺรหฺมจริยิกาติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา ปุพฺพปธานภูตา. อฏฺมํ.

๙. จนฺทิมสุตฺตวณฺณนา

๙๐. นวเม จนฺทิมาติ จนฺทวิมานวาสี เทวปุตฺโต. สพฺพธีติ สพฺเพสุ ขนฺธอายตนาทีสุ. โลกานุกมฺปกาติ ตุยฺหมฺปิ เอตสฺสปิ ตาทิสา เอว. สนฺตรมาโนวาติ ตุริโต วิย. ปมุฺจสีติ อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ. นวมํ.

๑๐. สูริยสุตฺตวณฺณนา

๙๑. ทสเม สูริโยติ สูริยวิมานวาสี เทวปุตฺโต. อนฺธกาเรติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวกรเณ. วิโรจตีติ เวโรจโน. มณฺฑลีติ มณฺฑลสณฺาโน. มา, ราหุ, คิลี จรมนฺตลิกฺเขติ อนฺตลิกฺเข จรํ สูริยํ, ราหุ, มา คิลีติ วทติ. กึ ปเนส ตํ คิลตีติ? อาม, คิลติ. ราหุสฺส หิ อตฺตภาโว มหา, อุจฺจตฺตเนน อฏฺโยชนสตาธิกานิ จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ, พาหนฺตรมสฺส ทฺวาทสโยชนสตานิ, พหลตฺเตน ฉ โยชนสตานิ, สีสํ นว โยชนสตํ, นลาฏํ ติโยชนสตํ, ภมุกนฺตรํ ปณฺณาสโยชนํ, มุขํ ทฺวิโยชนสตํ, ฆานํ ติโยชนสตํ, มุขาธานํ ติโยชนสตคมฺภีรํ หตฺถตลปาทตลานิ ปุถุลโต ทฺวิโยชนสตานิ. องฺคุลิปพฺพานิ ปณฺณาส โยชนานิ. โส จนฺทิมสูริเย วิโรจมาเน ทิสฺวา อิสฺสาปกโต เตสํ คมนวีถึ โอตริตฺวา มุขํ วิวริตฺวา ติฏฺติ. จนฺทวิมานํ สูริยวิมานํ วา ติโยชนสติเก มหานรเก ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ. วิมาเน อธิวตฺถา เทวตา มรณภยตชฺชิตา เอกปฺปหาเรเนว วิรวนฺติ. โส ปน วิมานํ กทาจิ หตฺเถน ฉาเทติ, กทาจิ หนุกสฺส เหฏฺา ปกฺขิปติ, กทาจิ ชิวฺหาย ปริมชฺชติ, กทาจิ อวคณฺฑการกํ ภุฺชนฺโต วิย กโปลนฺตเร เปติ. เวคํ ปน วาเรตุํ น สกฺโกติ. สเจ วาเรสฺสามีติ คณฺฑกํ กตฺวา ติฏฺเยฺย, มตฺถกํ ตสฺส ภินฺทิตฺวา นิกฺขเมยฺย, อากฑฺฒิตฺวา วา นํ โอนเมยฺย. ตสฺมา วิมาเนน สเหว คจฺฉติ. ปชํ มมนฺติ จนฺทิมสูริยา กิร ทฺเวปิ เทวปุตฺตา มหาสมยสุตฺตกถนทิวเส โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา. เตน ภควา ‘‘ปชํ มม’’นฺติ อาห, ปุตฺโต มม เอโสติ อตฺโถ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. อนาถปิณฺฑิกวคฺโค

๑. จนฺทิมสสุตฺตวณฺณนา

๙๒. ทุติยวคฺคสฺส ปเม กจฺเฉวาติ กจฺเฉ วิย. กจฺเฉติ ปพฺพตกจฺเฉปิ นทีกจฺเฉปิ. เอโกทิ นิปกาติ เอกคฺคจิตฺตา เจว ปฺาเนปกฺเกน จ สมนฺนาคตา. สตาติ สติมนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย ฌานานิ ลภิตฺวา เอโกที นิปกา สตา วิหรนฺติ, เต อมกเส ปพฺพตกจฺเฉ วา นทีกจฺเฉ วา มคา วิย โสตฺถึ คมิสฺสนฺตีติ. ปารนฺติ นิพฺพานํ. อมฺพุโชติ มจฺโฉ. รณฺชหาติ กิเลสฺชหา. เยปิ ฌานานิ ลภิตฺวา อปฺปมตฺตา กิเลเส ชหนฺติ, เต สุตฺตชาลํ ภินฺทิตฺวา มจฺฉา วิย นิพฺพานํ คมิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปมํ.

๒. เวณฺฑุสุตฺตวณฺณนา

๙๓. ทุติเย เวณฺฑูติ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส นามํ. ปยิรุปาสิยาติ ปริรุปาสิตฺวา. อนุสิกฺขเรติ สิกฺขนฺติ. สิฏฺิปเทติ อนุสิฏฺิปเท. กาเล เต อปฺปมชฺชนฺตาติ กาเล เต อปฺปมาทํ กโรนฺตา. ทุติยํ.

๓. ทีฆลฏฺิสุตฺตวณฺณนา

๙๔. ตติเย ทีฆลฏฺีติ เทวโลเก สพฺเพ สมปฺปมาณา ติคาวุติกาว โหนฺติ, มนุสฺสโลเก ปนสฺส ทีฆตฺตภาวตาย เอวํนามํ อโหสิ. โส ปุฺานิ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโตปิ ตเถว ปฺายิ. ตติยํ.

๔. นนฺทนสุตฺตวณฺณนา

๙๕. จตุตฺเถ โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติ. อนาวฏนฺติ ตถาคตสฺส หิ สพฺพฺุตฺาณํ เปเสนฺตสฺส รุกฺโข วา ปพฺพโต วา อาวริตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เตนาห ‘‘อนาวฏ’’นฺติ. อิติ ตถาคตํ โถเมตฺวา เทวโลเก อภิสงฺขตปฺหํ ปุจฺฉนฺโต กถํวิธนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุกฺขมติจฺจ อิริยตีติ ทุกฺขํ อติกฺกมิตฺวา วิหรติ. สีลวาติ โลกิยโลกุตฺตเรน สีเลน สมนฺนาคโต ขีณาสโว. ปฺาทโยปิ มิสฺสกาเยว เวทิตพฺพา. ปูชยนฺตีติ คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูเชนฺติ. จตุตฺถํ.

๕-๖. จนฺทนสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๖. ปฺจเม อปฺปติฏฺเ อนาลมฺเพติ เหฏฺา อปติฏฺเ อุปริ อนาลมฺพเน. สุสมาหิโตติ อปฺปนายปิ อุปจาเรนปิ สุฏฺุ สมาหิโต. ปหิตตฺโตติ เปสิตตฺโต. นนฺทีราคปริกฺขีโณติ ปริกฺขีณนนฺทีราโค. นนฺทีราโค นาม ตโย กมฺมาภิสงฺขารา. อิติ อิมาย คาถาย กามสฺาคหเณน ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ, รูปสํโยชนคหเณน ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ, นนฺทีราเคน ตโย กมฺมาภิสงฺขารา คหิตา. เอวํ ยสฺส ทส สํโยชนานิ ตโย จ กมฺมาภิสงฺขารา ปหีนา, โส คมฺภีเร มโหเฆ น สีทตีติ. กามสฺาย วา กามภโว, รูปสํโยชเนน รูปภโว คหิโต, เตสํ คหเณน อรูปภโว คหิโตว, นนฺทีราเคน ตโย กมฺมาภิสงฺขารา คหิตาติ เอวํ ยสฺส ตีสุ ภเวสุ ตโย สงฺขารา นตฺถิ, โส คมฺภีเร น สีทตีติปิ ทสฺเสติ. ปฺจมํ.

๙๗. ฉฏฺํ วุตฺตตฺถเมว. ฉฏฺํ.

๗. สุพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๙๘. สตฺตเม สุพฺรหฺมาติ โส กิร เทวปุตฺโต อจฺฉราสงฺฆปริวุโต นนฺทนกีฬิกํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ตํ ปฺจสตา เทวธีตโร ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา, ปฺจสตา รุกฺขํ อภิรุฬฺหา. นนุ จ เทวตานํ จิตฺตวเสน โยชนสติโกปิ รุกฺโข โอนมิตฺวา หตฺถํ อาคจฺฉติ, กสฺมา ตา อภิรุฬฺหาติ. ขิฑฺฑาปสุตตาย. อภิรุยฺห ปน มธุรสฺสเรน คายิตฺวา คายิตฺวา ปุปฺผานิ ปาเตนฺติ, ตานิ คเหตฺวา อิตรา เอกโตวณฺฏิกมาลาทิวเสน คนฺเถนฺติ. อถ รุกฺขํ อภิรุฬฺหา อุปจฺเฉทกกมฺมวเสน เอกปฺปหาเรเนว กาลํ กตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.

อถ กาเล คจฺฉนฺเต เทวปุตฺโต ‘‘อิมาสํ เนว สทฺโท สุยฺยติ, น ปุปฺผานิ ปาเตนฺติ. กหํ นุ โข คตา’’ติ? อาวชฺเชนฺโต นิรเย นิพฺพตฺตภาวํ ทิสฺวา ปิยวตฺถุกโสเกน รุปฺปมาโน จินฺเตสิ – ‘‘เอตา ตาว ยถากมฺเมน คตา, มยฺหํ อายุสงฺขาโร กิตฺตโก’’ติ. โส – ‘‘สตฺตเม ทิวเส มยาปิ อวเสสาหิ ปฺจสตาหิ สทฺธึ กาลํ กตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺติตพฺพ’’นฺติ ทิสฺวา พลวตเรน โสเกน รุปฺปิ. โส – ‘‘อิมํ มยฺหํ โสกํ สเทวเก โลเก อฺตฺร ตถาคตา นิทฺธมิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา นิจฺจํ อุตฺรสฺตนฺติ คาถมาห.

ตตฺถ อิทนฺติ อตฺตโน จิตฺตํ ทสฺเสติ. ทุติยปทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. นิจฺจนฺติ จ ปทสฺส เทวโลเก นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺายาติ อตฺโถ น คเหตพฺโพ, โสกุปฺปตฺติกาลโต ปน ปฏฺาย นิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ. อนุปฺปนฺเนสุ กิจฺเฉสูติ อิโต สตฺตาหจฺจเยน ยานิ ทุกฺขานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, เตสุ. อโถ อุปฺปติเตสุ จาติ ยานิ ปฺจสตานํ อจฺฉรานํ นิรเย นิพฺพตฺตานํ ทิฏฺานิ, เตสุ จาติ เอวํ อิเมสุ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺเนสุ ทุกฺเขสุ นิจฺจํ มม อุตฺรสฺตํ จิตฺตํ, อพฺภนฺตเร ฑยฺหมาโน วิย โหมิ ภควาติ ทสฺเสติ.

นาฺตฺร โพชฺฌา ตปสาติ โพชฺฌงฺคภาวนฺจ ตโปคุณฺจ อฺตฺร มุฺจิตฺวา โสตฺถึ น ปสฺสามีติ อตฺโถ. สพฺพนิสฺสคฺคาติ นิพฺพานโต. เอตฺถ กิฺจาปิ โพชฺฌงฺคภาวนา ปมํ คหิตา, อินฺทฺริยสํวโร ปจฺฉา, อตฺถโต ปน อินฺทฺริยสํวโรว ปมํ เวทิตพฺโพ. อินฺทิยสํวเร หิ คหิเต จตุปาริสุทฺธิสีลํ คหิตํ โหติ. ตสฺมึ ปติฏฺิโต ภิกฺขุ นิสฺสยมุตฺตโก ธุตงฺคสงฺขาตํ ตโปคุณํ สมาทาย อรฺํ ปวิสิตฺวา กมฺมฏฺานํ ภาเวนฺโต สห วิปสฺสนาย โพชฺฌงฺเค ภาเวติ. ตสฺส อริยมคฺโค ยํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ, โส ‘‘สพฺพนิสฺสคฺโค’’ติ ภควา จตุสจฺจวเสน เทสนํ วินิวตฺเตสิ. เทวปุตฺโต เทสนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ. สตฺตมํ.

๘-๑๐. กกุธสุตฺตาทิวณฺณนา

๙๙. อฏฺเม กกุโธ เทวปุตฺโตติ อยํ กิร โกลนคเร มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส อุปฏฺากปุตฺโต ทหรกาเลเยว เถรสฺส สนฺติเก วสนฺโต ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา กาลงฺกโต, พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิ. ตตฺราปิ นํ กกุโธ พฺรหฺมาตฺเวว สฺชานนฺติ. นนฺทสีติ ตุสฺสสิ. กึ ลทฺธาติ ตุฏฺิ นาม กิฺจิ มนาปํ ลภิตฺวา โหติ, ตสฺมา เอวมาห. กึ ชียิตฺถาติ ยสฺส หิ กิฺจิ มนาปํ จีวราทิวตฺถุ ชิณฺณํ โหติ, โส โสจติ, ตสฺมา เอวมาห. อรตี นาภิกีรตีติ อุกฺกณฺิตา นาภิภวติ. อฆชาตสฺสาติ ทุกฺขชาตสฺส, วฏฺฏทุกฺเข ิตสฺสาติ อตฺโถ. นนฺทีชาตสฺสาติ ชาตตณฺหสฺส. อฆนฺติ เอวรูปสฺส หิ วฏฺฏทุกฺขํ อาคตเมว โหติ. ‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยตี’’ติ หิ วุตฺตํ. อิติ อฆชาตสฺส นนฺที โหติ, สุขวิปริณาเมน ทุกฺขํ อาคตเมวาติ นนฺทีชาตสฺส อฆํ โหติ. อฏฺมํ.

๑๐๐. นวมํ วุตฺตตฺถเมว. นวมํ.

๑๐๑. ทสเม อานนฺทตฺเถรสฺส อนุมานพุทฺธิยา อานุภาวปฺปกาสนตฺถํ อฺตโรติ อาห. ทสมํ.

ทุติโย วคฺโค.

๓. นานาติตฺถิยวคฺโค

๑-๒. สิวสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๒. ตติยวคฺคสฺส ปมํ วุตฺตตฺถเมว. ปมํ.

๑๐๓. ทุติเย ปฏิกจฺเจวาติ ปมํเยว. อกฺขจฺฉินฺโนวฌายตีติ อกฺขจฺฉินฺโน อวฌายติ, พลวจินฺตนํ จินฺเตติ. ทุติยคาถาย อกฺขจฺฉินฺโนวาติ อกฺขจฺฉินฺโน วิย. ทุติยํ.

๓-๔. เสรีสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๔. ตติเย ทายโกติ ทานสีโล. ทานปตีติ ยํ ทานํ เทมิ, ตสฺส ปติ หุตฺวา เทมิ, น ทาโส น สหาโย. โย หิ อตฺตนา มธุรํ ภุฺชติ, ปเรสํ อมธุรํ เทติ, โส ทานสงฺขาตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาโส หุตฺวา เทติ. โย ยํ อตฺตนา ภุฺชติ, ตเทว เทติ, โส สหาโย หุตฺวา เทติ. โย ปน อตฺตนา เยน เตน ยาเปติ, ปเรสํ มธุรํ เทติ, โส ปติ เชฏฺโก สามิ หุตฺวา เทติ. อหํ ‘‘ตาทิโส อโหสิ’’นฺติ วทติ.

จตูสุ ทฺวาเรสุติ ตสฺส กิร รฺโ สินฺธวรฏฺํ โสธิวากรฏฺนฺติ ทฺเว รฏฺานิ อเหสุํ, นครํ โรรุวํ นาม. ตสฺส เอเกกสฺมึ ทฺวาเร เทวสิกํ สตสหสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อนฺโตนคเร วินิจฺฉยฏฺาเน สตสหสฺสํ. โส พหุหิรฺสุวณฺณํ ราสิภูตํ ทิสฺวา กมฺมสฺสกตาณํ อุปฺปาเทตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานสาลาโย กาเรตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ ทฺวาเร อุฏฺิตอาเยน ทานํ เทถาติ อมจฺเจ เปสิ. เตนาห – ‘‘จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานํ ทียิตฺถา’’ติ.

สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวนิพฺพกยาจกานนฺติ เอตฺถ สมณาติ ปพฺพชฺชูปคตา. พฺราหฺมณาติ โภวาทิโน. สมิตปาปพาหิตปาเป ปน สมณพฺราหฺมเณ เอส นาลตฺถ. กปณาติ ทุคฺคตา ทลิทฺทมนุสฺสา กาณกุณิอาทโย. อทฺธิกาติ ปถาวิโน. วนิพฺพกาติ เย ‘‘อิฏฺํ, ทินฺนํ, กนฺตํ, มนาปํ, กาเลน, อนวชฺชํ ทินฺนํ, ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺย, คจฺฉตุ ภวํ พฺรหฺมโลก’’นฺติอาทินา นเยน ทานสฺส วณฺณํ โถมยมานา วิจรนฺติ. ยาจกาติ เย ‘‘ปสตมตฺตํ เทถ, สราวมตฺตํ เทถา’’ติอาทีนิ จ วตฺวา ยาจมานา วิจรนฺติ. อิตฺถาคารสฺส ทานํ ทียิตฺถาติ ปมทฺวารสฺส ลทฺธตฺตา ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตสหสฺเส อฺมฺปิ ธนํ ปกฺขิปิตฺวา รฺโ อมจฺเจ หาเรตฺวา อตฺตโน อมจฺเจ เปตฺวา รฺา ทินฺนทานโต ราชิตฺถิโย มหนฺตตรํ ทานํ อทํสุ. ตํ สนฺธาเยวมาห. มม ทานํ ปฏิกฺกมีติ ยํ มม ทานํ ตตฺถ ทียิตฺถ, ตํ ปฏินิวตฺติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. โกจีติ กตฺถจิ. ทีฆรตฺตนฺติ อสีติวสฺสสหสฺสานิ. เอตฺตกํ กิร กาลํ ตสฺส รฺโ ทานํ ทียิตฺถ. ตติยํ.

๑๐๕. จตุตฺถํ วุตฺตตฺถเมว. จตุตฺถํ.

๕. ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา

๑๐๖. ปฺจเม โกสเลสุ วิหรนฺตีติ ภควโต สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วิหรนฺติ. อุทฺธตาติ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย จ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย จ อนวชฺเช สาวชฺชสฺิตาย จ สาวชฺเช อนวชฺชสฺิตาย จ อุทฺธจฺจปกติกา หุตฺวา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฏฺิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติ. จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺตา. มุขราติ มุขขรา, ขรวจนาติ วุตฺตํ โหติ. วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา, ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปลาปิโน. มุฏฺสฺสติโนติ นฏฺสฺสติโน สติวิรหิตา, อิธ กตํ เอตฺถ ปมุสฺสนฺติ. อสมฺปชานาติ นิปฺปฺา. อสมาหิตาติ อปฺปนาอุปจารสมาธิรหิตา, จณฺฑโสเต พทฺธนาวาสทิสา. วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อนวฏฺิตจิตฺตา, ปนฺถารุฬฺหพาลมิคสทิสา. ปากตินฺทฺริยาติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฏอินฺทฺริยา.

ชนฺตูติ เอวํนามโก เทวปุตฺโต. ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อหุ อุโปสเถ, อุโปสถทิวเสติ อตฺโถ. ปนฺนรเสติ จาตุทฺทสิกาทิปฏิกฺเขโป. อุปสงฺกมีติ โจทนตฺถาย อุปคโต. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิกฺขนฺตา, อิทานิ ปมตฺตา วิหรนฺติ, น โข ปเนเต ปาฏิเยกฺกํ นิสินฺนฏฺาเน โจทิยมานา กถํ คณฺหิสฺสนฺติ, สมาคมนกาเล โจทิสฺสามี’’ติ อุโปสถทิวเส เตสํ สนฺนิปติตภาวํ ตฺวา อุปสงฺกมิ. คาถาหิ อชฺฌภาสีติ สพฺเพสํ มชฺเฌ ตฺวา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ ยสฺมา คุณกถาย สทฺธึ นิคฺคุณสฺส อคุโณ ปากโฏ โหติ, ตสฺมา คุณํ ตาว กเถนฺโต สุขชีวิโน ปุเร อาสุนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สุขชีวิโน ปุเร อาสุนฺติ ปุพฺเพ ภิกฺขู สุปฺโปสา สุภรา อเหสุํ, อุจฺจนีจกุเลสุ สปทานํ จริตฺวา ลทฺเธน มิสฺสกปิณฺเฑน ยาเปสุนฺติ อธิปฺปาเยน เอวมาห. อนิจฺฉาติ นิตฺตณฺหา หุตฺวา.

เอวํ โปราณกภิกฺขูนํ วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ เตสํ อวณฺณํ กเถนฺโต ทุปฺโปสนฺติอาทิมาห. ตตฺถ คาเม คามณิกา วิยาติ ยถา คาเม คามกุฏา นานปฺปกาเรน ชนํ ปีเฬตฺวา ขีรทธิตณฺฑุลาทีนิ อาหราเปตฺวา ภุฺชนฺติ, เอวํ ตุมฺเหปิ อเนสนาย ิตา ตุมฺหากํ ชีวิกํ กปฺเปถาติ อธิปฺปาเยน วทติ. นิปชฺชนฺตีติ อุทฺเทสปริปุจฺฉามนสิกาเรหิ อนตฺถิกา หุตฺวา สยนมฺหิ หตฺถปาเท วิสฺสชฺเชตฺวา นิปชฺชนฺติ. ปราคาเรสูติ ปรเคเหสุ, กุลสุณฺหาทีสูติ อตฺโถ. มุจฺฉิตาติ กิเลสมุจฺฉาย มุจฺฉิตา.

เอกจฺเจติ วตฺตพฺพยุตฺตเกเยว. อปวิทฺธาติ ฉฑฺฑิตกา. อนาถาติ อปติฏฺา. เปตาติ สุสาเน ฉฑฺฑิตา กาลงฺกตมนุสฺสา. ยถา หิ สุสาเน ฉฑฺฑิตา นานาสกุณาทีหิ ขชฺชนฺติ, าตกาปิ เนสํ นาถกิจฺจํ น กโรนฺติ, น รกฺขนฺติ, น โคปยนฺติ, เอวเมวํ เอวรูปาปิ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ สนฺติกา โอวาทานุสาสนึ น ลภนฺตีติ อปวิทฺธา อนาถา, ยถา เปตา, ตเถว โหนฺติ. ปฺจมํ.

๖. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๐๗. ฉฏฺเ ยตฺถาติ จกฺกวาฬโลกสฺส เอโกกาเส ภุมฺมํ. น จวติ น อุปปชฺชตีติ อิทํ อปราปรํ จุติปฏิสนฺธิวเสน คหิตํ. คมเนนาติ ปทคมเนน. นาหํ ตํ โลกสฺส อนฺตนฺติ สตฺถา สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ. าเตยฺยนฺติอาทีสุ าตพฺพํ, ทฏฺพฺพํ, ปตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อิติ เทวปุตฺเตน จกฺกวาฬโลกสฺส อนฺโต ปุจฺฉิโต, สตฺถารา สงฺขารโลกสฺส กถิโต. โส ปน อตฺตโน ปฺเหน สทฺธึ สตฺถุ พฺยากรณํ สเมตีติ สฺาย ปสํสนฺโต อจฺฉริยนฺติอาทิมาห.

ทฬฺหธมฺโมติ ทฬฺหธนุ, อุตฺตมปฺปมาเณน ธนุนา สมนฺนาคโต. ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย. สุสิกฺขิโตติ ทส ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต. กตหตฺโถติ อุสภปฺปมาเณปิ วาลคฺคํ วิชฺฌิตุํ สมตฺถภาเวน กตหตฺโถ. กตูปาสโนติ กตสรกฺเขโป ทสฺสิตสิปฺโป. อสเนนาติ กณฺเฑน. อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺย. ยาวตา โส ตาลจฺฉายํ อติกฺกเมยฺย, ตาวตา กาเลน เอกจกฺกวาฬํ อติกฺกมามีติ อตฺตโน ชวสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ.

ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโมติ ยถา ปุรตฺถิมสมุทฺทา ปจฺฉิมสมุทฺโท ทูเร, เอวํ เม ทูเร ปทวีติหาโร อโหสีติ วทติ. โส กิร ปาจีนจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ิโต ปาทํ ปสาเรตฺวา ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ อกฺกมติ, ปุน ทุติยํ ปาทํ ปสาเรตฺวา ปรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ อกฺกมติ. อิจฺฉาคตนฺติ อิจฺฉา เอว. อฺตฺเรวาติ นิปฺปปฺจตํ ทสฺเสติ. ภิกฺขาจารกาเล กิเรส นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา อโนตตฺเต มุขํ โธวิตฺวา กาเล สมฺปตฺเต อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ นิสินฺโน ภตฺตกิจฺจํ กโรติ, ตตฺถ มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา ปุน ชวติ. วสฺสสตายุโกติ ตทา ทีฆายุกกาโล โหติ, อยํ ปน วสฺสสตาวสิฏฺเ อายุมฺหิ คมนํ อารภิ. วสฺสสตชีวีติ ตํ วสฺสสตํ อนนฺตราเยน ชีวนฺโต. อนฺตราว กาลงฺกโตติ จกฺกวาฬโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตราว มโต. โส ปน ตตฺถ กาลํ กตฺวาปิ อาคนฺตฺวา อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติ. อปฺปตฺวาติ สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวา. ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส. อนฺตกิริยนฺติ ปริยนฺตกรณํ. กเฬวเรติ อตฺตภาเว. สสฺิมฺหิ สมนเกติ สสฺเ สจิตฺเต. โลกนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. โลกสมุทยนฺติ สมุทยสจฺจํ. โลกนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํ. ปฏิปทนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิติ – ‘‘นาหํ, อาวุโส, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ ติณกฏฺาทีสุ ปฺเปมิ, อิมสฺมึ ปน จาตุมหาภูติเก กายสฺมึ เยว ปฺเปมี’’ติ ทสฺเสติ. สมิตาวีติ สมิตปาโป. นาสีสตีติ น ปตฺเถติ. ฉฏฺํ.

๑๐๘-๑๐๙. สตฺตมฏฺมานิ วุตฺตตฺถาเนว. สตฺตมํ, อฏฺมํ.

๙. สุสิมสุตฺตวณฺณนา

๑๑๐. นวเม ตุยฺหมฺปิ โน, อานนฺท, สาริปุตฺโต รุจฺจตีติ สตฺถา เถรสฺส วณฺณํ กเถตุกาโม, วณฺโณ จ นาเมส วิสภาคปุคฺคลสฺส สนฺติเก กเถตุํ น วฏฺฏติ. ตสฺส สนฺติเก กถิโต หิ มตฺถกํ น ปาปุณาติ. โส หิ ‘‘อสุโก นาม ภิกฺขุ สีลวา’’ติ วุตฺเต. ‘‘กึ ตสฺส สีลํ? โครูปสีโล โส. กึ ตยา อฺโ สีลวา น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ วา? ‘‘ปฺวา’’ติ วุตฺเต, ‘‘กึ ปฺโ โส? กึ ตยา อฺโ ปฺวา น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ? วา, อาทีนิ วตฺวา วณฺณกถาย อนฺตรายํ กโรติ. อานนฺทตฺเถโร ปน สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สภาโค, ปณีตานิ ลภิตฺวา เถรสฺส เทติ, อตฺตโน อุปฏฺากทารเก ปพฺพาเชตฺวา เถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปติ, อุปสมฺปาเทติ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ อานนฺทตฺเถรสฺส ตเถว กโรติ. กึ การณา? อฺมฺสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา. อานนฺทตฺเถโร หิ – ‘‘อมฺหากํ เชฏฺภาติโก เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ สตสหสฺสฺจ กปฺเป ปารมิโย ปูเรตฺวา โสฬสวิธํ ปฺํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ธมฺมเสนาปติฏฺาเน ิโต’’ติ เถรสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวาว เถรํ มมายติ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส มยา กตฺตพฺพํ มุโขทกทานาทิกิจฺจํ สพฺพํ อานนฺโท กโรติ. อานนฺทํ นิสฺสาย อหํ อิจฺฉิติจฺฉิตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ ลภามี’’ติ อายสฺมโต อานนฺทสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวาว ตํ มมายติ. ตสฺมา ภควา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วณฺณํ กเถตุกาโม อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติเก กเถตุํ อารทฺโธ.

ตตฺถ ตุยฺหมฺปีติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-กาโร. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อานนฺท, สาริปุตฺตสฺส อาจาโร โคจโร วิหาโร อภิกฺกโม ปฏิกฺกโม อาโลกิตวิโลกิตํ สมิฺชิตปสารณํ มยฺหํ รุจฺจติ, อสีติมหาเถรานํ รุจฺจติ, สเทวกสฺส โลกสฺส รุจฺจติ. ตุยฺหมฺปิ รุจฺจตี’’ติ?

ตโต เถโร สาฏกนฺตเร ลทฺโธกาโส พลวมลฺโล วิย ตุฏฺมานโส หุตฺวา – ‘‘สตฺถา มยฺหํ ปิยสหายสฺส วณฺณํ กถาเปตุกาโม. ลภิสฺสามิ โน อชฺช, ทีปธชภูตํ มหาชมฺพุํ วิธุนนฺโต วิย วลาหกนฺตรโต จนฺทํ นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วณฺณํ กเถตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ปมตรํ ตาว จตูหิ ปเทหิ ปุคฺคลปลาเป หรนฺโต กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺสาติอาทิมาห. พาโล หิ พาลตาย, ทุฏฺโ โทสตาย, มูฬฺโห โมเหน, วิปลฺลตฺถจิตฺโต อุมฺมตฺตโก จิตฺตวิปลฺลาเสน วณฺณํ ‘‘วณฺโณ’’ติ วา อวณฺณํ ‘‘อวณฺเณ’’ติ วา, ‘‘อยํ พุทฺโธ, อยํ สาวโก’’ติ วา น ชานาติ. อพาลาทโย ปน ชานนฺติ, ตสฺมา อพาลสฺสาติอาทิมาห. น รุจฺเจยฺยาติ พาลาทีนํเยว หิ โส น รุจฺเจยฺย, น อฺสฺส กสฺสจิ น รุจฺเจยฺย.

เอวํ ปุคฺคลปลาเป หริตฺวา อิทานิ โสฬสหิ ปเทหิ ยถาภูตํ วณฺณํ กเถนฺโต ปณฺฑิโต, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต, จตูสุ โกสลฺเลสุ ิตสฺเสตํ นามํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ธาตุกุสโล จ โหติ อายตนกุสโล จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล จ านาฏฺานกุสโล จ, เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, ‘ปณฺฑิโต ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๔). มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. ตตฺริทํ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ (ปฏิ. ม. ๓.๔) – กตมา มหาปฺา? มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา, มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ, ปฺากฺขนฺเธ, วิมุตฺติกฺขนฺเธ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺตานิ านาฏฺานานิ, มหาวิหารสมาปตฺติโย, มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ, มหนฺเต สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, มหนฺเต อริยมคฺเค, มหนฺตานิ สามฺผลานิ, มหาอภิฺาโย, มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.

สา ปน เถรสฺส เทโวโรหนํ กตฺวา สงฺกสฺสนครทฺวาเร ิเตน สตฺถารา ปุถุชฺชนปฺจเก ปฺเห ปุจฺฉิเต ตํ วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปากฏา ชาตา.

กตมา ปุถุปฺา? ปุถุ นานาขนฺเธสุ, (าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.) ปุถุ นานาธาตูสุ, ปุถุ นานาอายตเนสุ, ปุถุ นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ, ปุถุ นานาสุฺตมนุปลพฺเภสุ, ปุถุ นานาอตฺเถสุ, ธมฺเมสุ นิรุตฺตีสุ ปฏิภาเนสุ, ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาสมาธิ-ปฺาวิมุตฺติ-วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ, ปุถุ นานาานาฏฺาเนสุ, ปุถุ นานาวิหารสมาปตฺตีสุ, ปุถุ นานาอริยสจฺเจสุ, ปุถุ นานาสติปฏฺาเนสุ, สมฺมปฺปธาเนสุ, อิทฺธิปาเทสุ, อินฺทฺริเยสุ, พเลสุ, โพชฺฌงฺเคสุ, ปุถุ นานาอริยมคฺเคสุ, สามฺผเลสุ, อภิฺาสุ, ปุถุ นานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.

กตมา หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, โภชเน มตฺตฺุตํ, ชาคริยานุโยคํ, สีลกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺธํ, ปฺากฺขนฺธํ, วิมุตฺติกฺขนฺธํ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ, หาสปฺา. หาสพหุโล ปาโมชฺชพหุโล านาฏฺานํ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. สติปฏฺาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, อินฺทฺริยานิ, พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ, อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรติ, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล เวทตุฏฺิปาโมชฺชพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.

เถโร จ สรโท นาม ตาปโส หุตฺวา อโนมทสฺสิสฺส ภควโต ปาทมูเล อคฺคสาวกปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ตํกาลโต ปฏฺาย หาสพหุโล สีลปริปูรณาทีนิ อกาสีติ หาสปฺโ.

กตมา ชวนปฺา? ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต ขิปฺปํ, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํกิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต, ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต, ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… วิฺาณํ. จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม… อุปฺปนฺนํ ราคํ… โทสํ… โมหํ… โกธํ… อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ, พฺยนฺตีกโรติ, อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ จ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.

เถโร จ ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺเต เทสิยมาเน ิตโกว สพฺพกิเลเส ฉินฺทิตฺวา สาวกปารมิาณํ ปฏิวิทฺธกาลโต ปฏฺาย ติกฺขปฺโ นาม ชาโต. เตนาห – ‘‘ติกฺขปฺโ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติ.

กตมา นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ… โมหกฺขนฺธํ… โกธํ… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.

อปฺปิจฺโฉติ สนฺตคุณนิคุหนตา, ปจฺจยปฏิคฺคหเณ จ มตฺตฺุตา, เอตํ อปฺปิจฺฉลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคโต. สนฺตุฏฺโติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ, อิเมหิ ตีหิ สนฺโตเสหิ สมนฺนาคโต. ปวิวิตฺโตติ กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ, จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ, อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตานนฺติ, อิเมสํ ติณฺณํ วิเวกานํ ลาภี. อสํสฏฺโติ ทสฺสนสํสคฺโค สวนสํสคฺโค สมุลฺลปนสํสคฺโค ปริโภคสํสคฺโค กายสํสคฺโคติ, อิเมหิ ปฺจหิ สํสคฺเคหิ วิรหิโต. อยฺจ ปฺจวิโธ สํสคฺโค ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อุปาสเกหิ อุปสิกาหิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหีติ อฏฺหิ ปุคฺคเลหิ สทฺธึ ชายติ, โส สพฺโพปิ เถรสฺส นตฺถีติ อสํสฏฺโ.

อารทฺธวีริโยติ ปคฺคหิตวีริโย ปริปุณฺณวีริโย. ตตฺถ อารทฺธวีริโย ภิกฺขุ คมเน อุปฺปนฺนกิเลสสฺส านํ ปาปุณิตุํ น เทติ, าเน อุปฺปนฺนสฺส นิสชฺชํ, นิสชฺชาย อุปฺปนฺนสฺส เสยฺยํ ปาปุณิตุํ น เทติ, ตสฺมึ ตสฺมึ อิริยาปเถ อุปฺปนฺนํ ตตฺถ ตตฺเถว นิคฺคณฺหาติ. เถโร ปน จตุจตฺตาลีส วสฺสานิ มฺเจ ปิฏฺึ น ปสาเรติ. ตํ สนฺธาย ‘‘อารทฺธวีริโย’’ติ อาห. วตฺตาติ โอธุนนวตฺตา. ภิกฺขูนํ อชฺฌาจารํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช กเถสฺสามิ, สฺเว กเถสฺสามี’’ติ กถาววตฺถานํ น กโรติ, ตสฺมึ ตสฺมึ เยว าเน โอวทติ อนุสาสตีติ อตฺโถ.

วจนกฺขโมติ วจนํ ขมติ. เอโก หิ ปรสฺส โอวาทํ เทติ, สยํ ปน อฺเน โอวทิยมาโน กุชฺฌติ. เถโร ปน ปรสฺสปิ โอวาทํ เทติ, สยํ โอวทิยมาโนปิ สิรสา สมฺปฏิจฺฉติ. เอกทิวสํ กิร สาริปุตฺตตฺเถรํ สตฺตวสฺสิโก สามเณโร – ‘‘ภนฺเต, สาริปุตฺต, ตุมฺหากํ นิวาสนกณฺโณ โอลมฺพตี’’ติ อาห. เถโร กิฺจิ อวตฺวาว เอกมนฺตํ คนฺตฺวา ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา อาคมฺม ‘‘เอตฺตกํ วฏฺฏติ อาจริยา’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห อฏฺาสิ.

‘‘ตทหุ ปพฺพชิโต สนฺโต, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก;

โสปิ มํ อนุสาเสยฺย, สมฺปฏิจฺฉามิ มตฺถเก’’ติ. (มิ. ป. ๖.๔.๘) –

อาห.

โจทโกติ วตฺถุสฺมึ โอติณฺเณ วา อโนติณฺเณ วา วีติกฺกมํ ทิสฺวา – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขุนา นาม เอวํ นิวาเสตพฺพํ, เอวํ ปารุปิตพฺพํ, เอวํ คนฺตพฺพํ, เอวํ าตพฺพํ, เอวํ นิสีทิตพฺพํ, เอวํ ขาทิตพฺพํ, เอวํ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ ตนฺติวเสน อนุสิฏฺึ เทติ.

ปาปครหีติ ปาปปุคฺคเล น ปสฺเส, น เตสํ วจนํ สุเณ, เตหิ สทฺธึ เอกจกฺกวาเฬปิ น วเสยฺยํ.

‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;

อปฺปสฺสุโต อนาทโร, สเมโต อหุ กตฺถจี’’ติ. –

เอวํ ปาปปุคฺคเลปิ ครหติ, ‘‘สมเณน นาม ราควสิเกน โทสโมหวสิเกน น โหตพฺพํ, อุปฺปนฺโน ราโค โทโส โมโห ปหาตพฺโพ’’ติ เอวํ ปาปธมฺเมปิ ครหตีติ ทฺวีหิ การเณหิ ‘‘ปาปครหี, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติ วทติ.

เอวํ อายสฺมตา อานนฺเทน โสฬสหิ ปเทหิ เถรสฺส ยถาภูตวณฺณปฺปกาสเน กเต – ‘‘กึ อานนฺโท อตฺตโน ปิยสหายสฺส วณฺณํ กเถตุํ น ลภติ, กเถตุ กึ ปน เตน กถิตํ ตเถว โหติ, กึ โส สพฺพฺู’’ติ? โกจิ ปาปปุคฺคโล วตฺตุํ มา ลภตูติ สตฺถา ตํ วณฺณภณนํ อกุปฺปํ สพฺพฺุภาสิตํ กโรนฺโต ชินมุทฺทิกาย ลฺฉนฺโต เอวเมตนฺติอาทิมาห.

เอวํ ตถาคเตน จ อานนฺทตฺเถเรน จ มหาเถรสฺส วณฺเณ กถิยมาเน ภุมฏฺกา เทวตา อุฏฺหิตฺวา เอเตเหว โสฬสหิ ปเทหิ วณฺณํ กถยึสุ. ตโต อากาสฏฺกเทวตา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จาตุมหาราชิกาติ ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เทวตา อุฏฺหิตฺวา เอเตเหว โสฬสหิ ปเทหิ วณฺณํ กถยึสุ. เอเตนุปาเยน เอกจกฺกวาฬํ อาทึ กตฺวา ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ เทวตา อุฏฺหิตฺวา กถยึสุ. อถายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สทฺธิวิหาริโก สุสีโม เทวปุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อิมา เทวตา อตฺตโน อตฺตโน นกฺขตฺตกีฬํ ปหาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา มยฺหํ อุปชฺฌายสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ, คจฺฉามิ ตถาคตสฺส สนฺติกํ, คนฺตฺวา เอตเทว วณฺณภณนํ เทวตาภาสิตํ กโรมี’’ติ, โส ตถา อกาสิ. ตํ ทสฺเสตุํ อถ โข สุสีโมติอาทิ วุตฺตํ.

อุจฺจาวจาติ อฺเสุ าเนสุ ปณีตํ อุจฺจํ วุจฺจติ, หีนํ อวจํ. อิธ ปน อุจฺจาวจาติ นานาวิธา วณฺณนิภา. ตสฺสา กิร เทวปริสาย นีลฏฺานํ อตินีลํ, ปีตกฏฺานํ อติปีตกํ, โลหิตฏฺานํ อติโลหิตํ, โอทาตฏฺานํ อจฺโจทาตนฺติ, จตุพฺพิธา วณฺณนิภา ปาตุภวิ. เตเนว เสยฺยถาปิ นามาติ จตสฺโส อุปมา อาคตา. ตตฺถ สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ ชาติสมฺปนฺโน. สุปริกมฺมกโตติ โธวนาทิปริกมฺเมน สุฏฺุ ปริกมฺมกโต. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโตติ รตฺตกมฺพเล ปิโต. เอวเมวนฺติ รตฺตกมฺพเล นิกฺขิตฺตมณิ วิย สพฺพา เอกปฺปหาเรเนว วิโรจิตุํ อารทฺธา. นิกฺขนฺติ อติเรกปฺจสุวณฺเณน กตปิฬนฺธนํ. ตฺหิ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ โหติ. ชมฺโพนทนฺติ มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยํ นิพฺพตฺตํ, มหาชมฺพุผลรเส วา ปถวิยํ ปวิฏฺเ สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เตน สุวณฺเณน กตปิฬนฺธนนฺติปิ อตฺโถ. ทกฺขกมฺมารปุตฺตอุกฺกามุขสุกุสลสมฺปหฏฺนฺติ สุกุสเลน กมฺมารปุตฺเตน อุกฺกามุเข ปจิตฺวา สมฺปหฏฺํ. ธาตุวิภงฺเค (ม. นิ. ๓.๓๕๗ อาทโย) อกตภณฺฑํ คหิตํ, อิธ ปน กตภณฺฑํ.

วิทฺเธติ ทูรีภูเต. เทเวติ อากาเส. นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโนติ อากาสํ อภิลงฺฆนฺโต. อิมินา ตรุณสูริยภาโว ทสฺสิโต. โสรโตติ โสรจฺเจน สมนฺนาคโต. ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน. สตฺถุวณฺณาภโตติ สตฺถารา อาภตวณฺโณ. สตฺถา หิ อฏฺปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ‘‘เสวถ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๗๑) นเยน เถรสฺส วณฺณํ อาหรีติ เถโร อาภตวณฺโณ นาม โหติ. กาลํ กงฺขตีติ ปรินิพฺพานกาลํ ปตฺเถติ. ขีณาสโว หิ เนว มรณํ อภินนฺทติ, น ชีวิตํ ปตฺเถติ, ทิวสสงฺเขปํ เวตนํ คเหตฺวา ิตปุริโส วิย กาลํ ปน ปตฺเถติ, โอโลเกนฺโต ติฏฺตีติ อตฺโถ. เตเนวาห –

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา’’ติ. (เถรคา. ๑๐๐๑-๑๐๐๒); นวมํ;

๑๐. นานาติตฺถิยสาวกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๑. ทสเม นานาติตฺถิยสาวกาติ เต กิร กมฺมวาทิโน อเหสุํ, ตสฺมา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตา, เต ‘‘อตฺตโน อตฺตโน สตฺถริ ปสาเทน นิพฺพตฺตมฺหา’’ติ สฺิโน หุตฺวา ‘‘คจฺฉาม ทสพลสฺส สนฺติเก ตฺวา อมฺหากํ สตฺถารานํ วณฺณํ กเถสฺสามา’’ติ อาคนฺตฺวา ปจฺเจกคาถาหิ กถยึสุ. ตตฺถ ฉินฺทิตมาริเตติ ฉินฺทิเต จ มาริเต จ. หตชานีสูติ โปถเน จ ธนชานีสุ จ. ปุฺํ วา ปนาติ อตฺตโน ปุฺมฺปิ น สมนุปสฺสติ, สงฺเขปโต ปุฺาปุฺานํ วิปาโก นตฺถีติ วทติ. ส เว วิสฺสาสมาจิกฺขีติ โส – ‘‘เอวํ กตปาปานมฺปิ กตปุฺานมฺปิ วิปาโก นตฺถี’’ติ วทนฺโต สตฺตานํ วิสฺสาสํ อวสฺสยํ ปติฏฺํ อาจิกฺขติ, ตสฺมา มานนํ วนฺทนํ ปูชนํ อรหตีติ วทติ.

ตโปชิคุจฺฉายาติ กายกิลมถตเปน ปาปชิคุจฺฉเนน. สุสํวุตตฺโตติ สมนฺนาคโต ปิหิโต วา. เชคุจฺฉีติ ตเปน ปาปชิคุจฺฉโก. นิปโกติ ปณฺฑิโต. จาตุยามสุสํวุโตติ จาตุยาเมน สุสํวุโต. จาตุยาโม นาม สพฺพวาริวาริโต จ โหติ สพฺพวาริยุตฺโต จ สพฺพวาริธุโต จ สพฺพวาริผุโฏ จาติ อิเม จตฺตาโร โกฏฺาสา. ตตฺถ สพฺพวาริวาริโตติ วาริตสพฺพอุทโก, ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ อตฺโถ. โส กิร สีโตทเก สตฺตสฺี โหติ, ตสฺมา ตํ น วลฺเชติ. สพฺพวาริยุตฺโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ยุโต. สพฺพวาริธุโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ธุตปาโป. สพฺพวาริผุโฏติ สพฺเพน ปาปวารเณน ผุฏฺโ. ทิฏฺํ สุตฺจ อาจิกฺขนฺติ ทิฏฺํ ‘‘ทิฏฺํ เม’’ติ สุตํ ‘‘สุตํ เม’’ติ อาจิกฺขนฺโต, น นิคุหนฺโต. น หิ นูน กิพฺพิสีติ เอวรูโป สตฺถา กิพฺพิสการโก นาม น โหติ.

นานาติตฺถิเยติ โส กิร นานาติตฺถิยานํเยว อุปฏฺาโก, ตสฺมา เต อารพฺภ วทติ. ปกุธโก กาติยาโนติ ปกุโธ กจฺจายโน. นิคณฺโติ นาฏปุตฺโต. มกฺขลิปูรณาเสติ มกฺขลิ จ ปูรโณ จ. สามฺปฺปตฺตาติ สมณธมฺเม โกฏิปฺปตฺตา. น หิ นูน เตติ สปฺปุริเสหิ น ทูเร, เตเยว โลเก สปฺปุริสาติ วทติ. ปจฺจภาสีติ ‘‘อยํ อาโกฏโก อิเมสํ นคฺคนิสฺสิริกานํ ทสพลสฺส สนฺติเก ตฺวา วณฺณํ กเถตีติ เตสํ อวณฺณํ กเถสฺสามี’’ติ ปติอภาสีติ.

ตตฺถ สหาจริเตนาติ สห จริตมตฺเตน. ฉโว สิคาโลติ ลามโก กาลสิคาโล. โกตฺถุโกติ ตสฺเสว เววจนํ. สงฺกสฺสราจาโรติ อาสงฺกิตสมาจาโร. น สตํ สริกฺโขติ ปณฺฑิตานํ สปฺปุริสานํ สทิโส น โหติ, กึ ตฺวํ กาลสิคาลสทิเส ติตฺถิเย สีเห กโรสีติ?

อนฺวาวิสิตฺวาติ ‘‘อยํ เอวรูปานํ สตฺถารานํ อวณฺณํ กเถติ, เตเนว นํ มุเขน วณฺณํ กถาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส สรีเร อนุอาวิสิ อธิมุจฺจิ, เอวํ อนฺวาวิสิตฺวา. อายุตฺตาติ ตโปชิคุจฺฉเน ยุตฺตปยุตฺตา. ปาลยํ ปวิเวกิยนฺติ ปวิเวกํ ปาลยนฺตา. เต กิร ‘‘นฺหาปิตปวิเวกํ ปาเลสฺสามา’’ติ สยํ เกเส ลุฺจนฺติ. ‘‘จีวรปวิเวกํ ปาเตสฺสามา’’ติ นคฺคา วิจรนฺติ. ‘‘ปิณฺฑปาตปวิเวกํ ปาเลสฺสามา’’ติ สุนขา วิย ภูมิยํ วา ภุฺชนฺติ หตฺเถสุ วา. ‘‘เสนาสนปวิเวกํ ปาเลสฺสามา’’ติ กณฺฏกเสยฺยาทีนิ กปฺเปนฺติ. รูเป นิวิฏฺาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ รูเป ปติฏฺิตา. เทวโลกาภินนฺทิโนติ เทวโลกปตฺถนกามา. มาติยาติ มจฺจา, เต เว มจฺจา ปรโลกตฺถาย สมฺมา อนุสาสนฺตีติ วทติ.

อิติ วิทิตฺวาติ ‘‘อยํ ปมํ เอเตสํ อวณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ วณฺณํ กเถติ, โก นุ โข เอโส’’ติ อาวชฺเชนฺโต ชานิตฺวาว. เย จนฺตลิกฺขสฺมึ ปภาสวณฺณาติ เย อนฺตลิกฺเข จนฺโทภาสสูริโยภาสสฺฌาราคอินฺทธนุตารกรูปานํ ปภาสวณฺณา. สพฺเพว เต เตติ สพฺเพว เต ตยา. นมุจีติ มารํ อาลปติ. อามิสํว มจฺฉานํ วธาย ขิตฺตาติ ยถา มจฺฉานํ วธตฺถาย พฬิสลคฺคํ อามิสํ ขิปติ, เอวํ ตยา ปสํสมาเนน เอเต รูปา สตฺตานํ วธาย ขิตฺตาติ วทติ.

มาณวคามิโยติ อยํ กิร เทวปุตฺโต พุทฺธุปฏฺาโก. ราชคหียานนฺติ ราชคหปพฺพตานํ. เสโตติ เกลาโส. อฆคามินนฺติ อากาสคามีนํ. อุทธินนฺติ อุทกนิธานานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ราชคหียานํ ปพฺพตานํ วิปุโล เสฏฺโ, หิมวนฺตปพฺพตานํ เกลาโส, อากาสคามีนํ อาทิจฺโจ, อุทกนิธานานํ สมุทฺโท, นกฺขตฺตานํ จนฺโท, เอวํ สเทวกสฺส โลกสฺส พุทฺโธ เสฏฺโติ. ทสมํ.

นานาติตฺถิยวคฺโค ตติโย.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

เทวปุตฺตสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โกสลสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. ทหรสุตฺตวณฺณนา

๑๑๒. โกสลสํยุตฺตสฺส ปเม ภควตา สทฺธึ สมฺโมทีติ ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตน, เอวํ โสปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ. สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมาสิ. ยาย จ – ‘‘กจฺจิ, โภ โคตม, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต จ โคตมสฺส สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย สมฺโมทิ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสมฺโมทชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ, อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย จิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหรูปโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ. สุยฺยมานสุขโต จ สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต สารณียํ. ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย สารณียนฺติ เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺเปตฺวา อิโต ปุพฺเพ ตถาคตสฺส อทิฏฺตฺตา คุณาคุณวเสน คมฺภีรภาวํ วา อุตฺตานภาวํ วา อชานนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ยํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคโต โลกนิสฺสรณภโวกฺกนฺติปฺหํ สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธตํ ปุจฺฉิตุํ ภวมฺปิ โนติอาทิมาห.

ตตฺถ ภวมฺปีติ ปิ-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺเถ นิปาโต, เตน จ ฉ สตฺถาเร สมฺปิณฺเฑติ. ยถา ปูรณาทโย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธมฺหา’’ติ ปฏิชานนฺติ, เอวํ ภวมฺปิ นุ ปฏิชานาตีติ อตฺโถ. อิทํ ปน ราชา น อตฺตโน ลทฺธิยา, โลเก มหาชเนน คหิตปฏิฺาวเสน ปุจฺฉติ. อถ ภควา พุทฺธสีหนาทํ นทนฺโต ยํ หิ ตํ มหาราชาติอาทิมาห. ตตฺถ อหํ หิ มหาราชาติ อนุตฺตรํ สพฺพเสฏฺํ สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตํ สมฺมาสมฺโพธึ อหํ อภิสมฺพุทฺโธติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณาติ ปพฺพชฺชูปคมเนน สมณา, ชาติวเสน พฺราหฺมณา. สงฺฆิโนติอาทีสุ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆิโน. สฺเวว คโณ เอเตสํ อตฺถีติ คณิโน. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริยาติ คณาจริยา. าตาติ ปฺาตา ปากฏา. ‘‘อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา อปฺปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสนฺตี’’ติ เอวํ สมุคฺคโต ยโส เอเตสํ อตฺถีติ ยสสฺสิโน. ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา. สาธุสมฺมตาติ ‘‘สนฺโต สปฺปุริสา’’ติ เอวํ สมฺมตา. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส. ปูรโณติอาทีนิ เตสํ นามโคตฺตานิ. ปูรโณติ หิ นามเมว. ตถา, มกฺขลีติ. โส ปน โคสาลาย ชาตตฺตา โคสาโลติ วุตฺโต. นาฏปุตฺโตติ นาฏสฺส ปุตฺโต. เพลฏฺปุตฺโตติ เพลฏฺสฺส ปุตฺโต. กจฺจายโนติ ปกุธสฺส โคตฺตํ. เกสกมฺพลสฺส ธารณโต อชิโต เกสกมฺพโลติ วุตฺโต.

เตปิ มยาติ กปฺปโกลาหลํ พุทฺธโกลาหลํ จกฺกวตฺติโกลาหลนฺติ ตีณิ โกลาหลานิ. ตตฺถ ‘‘วสฺสสตสหสฺสมตฺถเก กปฺปุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ กปฺปโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสตสหสฺสมตฺถเก โลโก วินสฺสิสฺสติ, เมตฺตํ มาริสา, ภาเวถ, กรุณํ มุทิตํ อุเปกฺข’’นฺติ มนุสฺสปฺปเถ เทวตา โฆเสนฺติโย วิจรนฺติ. ‘‘วสฺสสหสฺสมตฺถเก ปน พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ พุทฺธโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสหสฺสมตฺถเก พุทฺโธ อุปฺปชฺชิตฺวา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺเนน สงฺฆรตเนน ปริวาริโต ธมฺมํ เทเสนฺโต วิจริสฺสตี’’ติ เทวตา อุคฺโฆเสนฺติ. ‘‘วสฺสสตมตฺถเก ปน จกฺกวตฺตี อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จกฺกวตฺติโกลาหลํ นาม โหติ – ‘‘อิโต วสฺสสตมตฺถเก สตฺตรตนสมฺปนฺโน จตุทฺทีปิสฺสโร สหสฺส ปุตฺตปริวาโร เวหาสงฺคโม จกฺกวตฺติราชา อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เทวตา อุคฺโฆเสนฺติ.

อิเมสุ ตีสุ โกลาหเลสุ อิเม ฉ สตฺถาโร พุทฺธโกลาหลํ สุตฺวา อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา จินฺตามาณิวิชฺชาทีนิ อุคฺคณฺหิตฺวา – ‘‘มยํ พุทฺธมฺหา’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา มหาชนปริวุตา ชนปทํ วิจรนฺตา อนุปุพฺเพน สาวตฺถิยํ ปตฺตา. เตสํ อุปฏฺากา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มหาราช, ปูรโณ กสฺสโป…เป… อชิโต เกสกมฺพโล พุทฺโธ กิร สพฺพฺู กิรา’’ติ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘ตุมฺเหว เน นิมนฺเตตฺวา อาเนถา’’ติ อาห. เต คนฺตฺวา เตหิ, ‘‘ราชา โว นิมนฺเตติ. รฺโ เคเห ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตา คนฺตุํ น อุสฺสหนฺติ, ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานา อุปฏฺากานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถาย อธิวาเสตฺวา สพฺเพ เอกโตว อคมํสุ. ราชา อาสนานิ ปฺาเปตฺวา ‘‘นิสีทนฺตู’’ติ อาห. นิคฺคุณานํ อตฺตภาเว ราชุสฺมา นาม ผรติ, เต มหารเหสุ อาสเนสุ นิสีทิตุํ อสกฺโกนฺตา ผลเกสุ เจว ภูมิยํ จ นิสีทึสุ.

ราชา ‘‘เอตฺตเกเนว นตฺถิ เตสํ อนฺโต สุกฺกธมฺโม’’ติ วตฺวา อาหารํ อทตฺวาว ตาลโต ปติตํ มุคฺคเรน โปเถนฺโต วิย ‘‘ตุมฺเห พุทฺธา, น พุทฺธา’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉิ. เต จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ ‘พุทฺธมฺหา’ติ วกฺขาม, ราชา พุทฺธวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺเต ‘ตุมฺเห มยํ พุทฺธาติ มหาชนํ วฺเจตฺวา อาหิณฺฑถา’ติ ชิวฺหมฺปิ ฉินฺทาเปยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺยา’’ติ สกปฏิฺาย เอว ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทึสุ. อถ เน ราชา เคหโต นิกฑฺฒาเปสิ. เต ราชฆรโต นิกฺขนฺเต อุปฏฺากา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ อาจริยา ราชา ตุมฺเห ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา สกฺการสมฺมานํ อกาสี’’ติ? ราชา ‘‘พุทฺธา ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิ, ตโต มยํ – ‘‘สเจ อยํ ราชา พุทฺธวิสเย ปฺหํ กถิยมานํ อชานนฺโต อมฺเหสุ มนํ ปโทเสสฺสติ, พหุํ อปุฺํ ปสวิสฺสตี’’ติ รฺโ อนุกมฺปาย ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทิมฺหา, มยํ ปน พุทฺธา เอว, อมฺหากํ พุทฺธภาโว, อุทเกน โธวิตฺวาปิ หริตุํ น สกฺกาติ. อิติ พหิทฺธา ‘พุทฺธมฺหา’ติ อาหํสุ – รฺโ สนฺติเก ‘น มยํ พุทฺธา’ติ วทึสูติ, อิทํ คเหตฺวา ราชา เอวมาห. ตตฺถ กึ ปน ภวํ โคตโม ทหโร เจว ชาติยา, นโว จ ปพฺพชฺชายาติ อิทํ อตฺตโน ปฏิฺํ คเหตฺวา วทติ. ตตฺถ กินฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. เอเต ชาติมหลฺลกา จ จิรปพฺพชิตา จ ‘‘พุทฺธมฺหา’’ติ น ปฏิชานนฺติ, ภวํ โคตโม ชาติยา จ ทหโร ปพฺพชฺชาย จ นโว กึ ปฏิชานาติ? มา ปฏิชานาหีติ อตฺโถ.

น อุฺาตพฺพาติ น อวชานิตพฺพา. น ปริโภตพฺพาติ น ปริภวิตพฺพา. กตเม จตฺตาโรติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ขตฺติโยติ ราชกุมาโร. อุรโคติ อาสีวิโส. อคฺคีติ อคฺคิเยว. ภิกฺขูติ อิมสฺมึ ปน ปเท เทสนากุสลตาย อตฺตานํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา สีลวนฺตํ ปพฺพชิตํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ทหรํ ราชกุมารํ ทิสฺวา, อุกฺกมิตฺวา มคฺคํ อเทนฺโต, ปารุปนํ อนปเนนฺโต, นิสินฺนาสนโต อนุฏฺหนฺโต, หตฺถิปิฏฺาทีหิ อโนตรนฺโต, เหฏฺา กตฺวา มฺนวเสน อฺมฺปิ เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺโต ขตฺติยํ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ ราชกุมาโร, มหากณฺโฑ มโหทโร – กึ นาม ยํกิฺจิ โจรูปทฺทวํ วูปสเมตุํ ยตฺถ กตฺถจิ าเน รชฺชํ อนุสาสิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. อฺชนิสลากมตฺตมฺปิ อาสีวิสโปตกํ กณฺณาทีสุ ปิฬนฺธนฺโต องฺคุลิมฺปิ ชิวฺหมฺปิ ฑํสาเปนฺโต อุรคํ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ อาสีวิโส อุทกเทฑฺฑุโภ วิย กึ นาม กิฺจิเทว ฑํสิตุํ กสฺสจิเทว กาเย วิสํ ผริตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ขชฺโชปนกมตฺตมฺปิ อคฺคึ คเหตฺวา หตฺเถน กีฬนฺโต ภณฺฑุกฺขลิกาย ขิปนฺโต จูฬาย วา สยนปิฏฺสาฏกปสิพฺพกาทีสุ วา เปนฺโต อคฺคึ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ อคฺคิ กตรํ นุ โข ยาคุภตฺตํ ปจิสฺสติ, กตรํ มจฺฉมํสํ, กสฺส สีตํ วิโนเทสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ทหรสามเณรมฺปิ ปน ทิสฺวา อุกฺกมิตฺวา มคฺคํ อเทนฺโตติ ราชกุมาเร วุตฺตํ อนาจารํ กโรนฺโต ภิกฺขุํ อวชานาติ นาม. ‘‘ภทฺทโก วตายํ สามเณโร มหากณฺโ มโหทโร ยํกิฺจิ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตุํ ยํกิฺจิ อรฺํ อชฺโฌคาเหตฺวา วสิตุํ สกฺขิสฺสติ, สงฺฆตฺเถรกาเล มนาโป ภวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริโภติ นาม. ตํ สพฺพมฺปิ น กาตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต น อุฺาตพฺโพ น ปริโภตพฺโพติ อาห.

เอตทโวจาติ เอตํ คาถาพนฺธํ อโวจ. คาถา จ นาเมตา ตทตฺถทีปนาปิ โหนฺติ วิเสสตฺถทีปนาปิ, ตตฺริมา ตทตฺถมฺปิ วิเสสตฺถมฺปิ ทีเปนฺติเยว. ตตฺถ ขตฺติยนฺติ เขตฺตานํ อธิปตึ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เขตฺตานํ อธิปตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘ขตฺติโย ขตฺติโย’ตฺเวว ทุติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๑). ชาติสมฺปนฺนนฺติ ตาเยว ขตฺติยชาติยา ชาติสมฺปนฺนํ. อภิชาตนฺติ ตีณิ กุลานิ อติกฺกมิตฺวา ชาตํ.

านํ หีติ การณํ วิชฺชติ. มนุชินฺโทติ มนุสฺสเชฏฺโก. ราชทณฺเฑนาติ รฺโ อุทฺธฏทณฺเฑน, โส อปฺปโก นาม น โหติ, ทสสหสฺสวีสติสหสฺสปฺปมาโณ โหติเยว. ตสฺมึ ปกฺกมเต ภุสนฺติ ตสฺมึ ปุคฺคเล พลวอุปกฺกมํ อุปกฺกมติ. รกฺขํ ชีวิตมตฺตโนติ อตฺตโน ชีวิตํ รกฺขมาโน ตํ ขตฺติยํ ปริวชฺเชยฺย น ฆฏฺเฏยฺย.

อุจฺจาวเจหีติ นานาวิเธหิ. วณฺเณหีติ สณฺาเนหิ. เยน เยน หิ วณฺเณน จรนฺโต โคจรํ ลภติ, ยทิ สปฺปวณฺเณน, ยทิ เทฑฺฑุภวณฺเณน, ยทิ ธมนิวณฺเณน, อนฺตมโส กลนฺทกวณฺเณนปิ จรติเยว. อาสชฺชาติ ปตฺวา. พาลนฺติ เยน พาเลน ฆฏฺฏิโต, ตํ พาลํ นรํ วา นารึ วา ฑํเสยฺย.

ปหูตภกฺขนฺติ พหุภกฺขํ. อคฺคิสฺส หิ อภกฺขํ นาม นตฺถิ. ชาลินนฺติ ชาลวนฺตํ. ปาวกนฺติ อคฺคึ. ปาวคนฺติปิ ปาโ. กณฺหวตฺตนินฺติ วตฺตนีติ มคฺโค, อคฺคินา คตมคฺโค กณฺโห โหติ กาฬโก, ตสฺมา ‘‘กณฺหวตฺตนี’’ติ วุจฺจติ.

มหา หุตฺวานาติ มหนฺโต หุตฺวา. อคฺคิ หิ เอกทา ยาวพฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิ โหติ. ชายนฺติ ตตฺถ ปาโรหาติ ตตฺถ อคฺคินา ทฑฺฒวเน ปาโรหา ชายนฺติ. ปาโรหาติ ติณรุกฺขาทโย วุจฺจนฺติ. เต หิ อคฺคินา ทฑฺฒฏฺาเน มูลมตฺเตปิ อวสิฏฺเ ปาทโต โรหนฺติ ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปาโรหา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปุน โรหนตฺเถน วา ปาโรหา. อโหรตฺตานมจฺจเยติ รตฺตินฺทิวานํ อติกฺกเม. นิทาเฆปิ เทเว วุฏฺมตฺเต ชายนฺติ.

ภิกฺขุ ฑหติ เตชสาติ เอตฺถ อกฺโกสนฺตํ ปจฺจกฺโกสนฺโต ภณฺฑนฺตํ ปฏิภณฺฑนฺโต ปหรนฺตํ ปฏิปหรนฺโต ภิกฺขุ นาม กิฺจิ ภิกฺขุเตชสา ฑหิตุํ น สกฺโกติ. โย ปน อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติ. ปหรนฺตํ น ปฏิปหรติ, ตสฺมึ วิปฺปฏิปนฺโน ตสฺส สีลเตเชน ฑยฺหติ. เตเนเวตํ วุตฺตํ. น ตสฺส ปุตฺตา ปสโวติ ตสฺส ปุตฺตธีตโรปิ โคมหึสกุกฺกุฏสูกราทโย ปสโวปิ น ภวนฺติ, วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ทายาทา วินฺทเร ธนนฺติ ตสฺส ทายาทาปิ ธนํ น วินฺทนฺติ. ตาลาวตฺถู ภวนฺติ เตติ เต ภิกฺขุเตชสา ทฑฺฒา วตฺถุมตฺตาวสิฏฺโ มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย ภวนฺติ, ปุตฺตธีตาทิวเสน น วฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ ยสฺมา สมณเตเชน ทฑฺฒา มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย อวิรุฬฺหิธมฺมา ภวนฺติ, ตสฺมา. สมฺมเทว สมาจเรติ สมฺมา สมาจเรยฺย. สมฺมา สมาจรนฺเตน ปน กึ กาตพฺพนฺติ? ขตฺติยํ ตาว นิสฺสาย ลทฺธพฺพํ คามนิคมยานวาหนาทิอานิสํสํ, อุรคํ นิสฺสาย ตสฺส กีฬาปเนน ลทฺธพฺพํ วตฺถหิรฺสุวณฺณาทิอานิสํสํ อคฺคึ นิสฺสาย ตสฺสานุภาเวน ปตฺตพฺพํ ยาคุภตฺตปจนสีตวิโนทนาทิอานิสํสํ, ภิกฺขุํ นิสฺสาย ตสฺส วเสน ปตฺตพฺพํ อสุตสวนสุตปริโยทปน-สคฺคมคฺคาธิคมาทิอานิสํสํ สมฺปสฺสมาเนน ‘‘เอเต นิสฺสาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาโร อาทีนโว อตฺถิ. กึ อิเมหี’’ติ? น สพฺพโส ปหาตพฺพา. อิสฺสริยตฺถิเกน ปน วุตฺตปฺปการํ อวชานนฺจ ปริภวนฺจ อกตฺวา ปุพฺพุฏฺายิปจฺฉานิปาติตาทีหิ อุปาเยหิ ขตฺติยกุมาโร โตเสตพฺโพ, เอวํ ตโต อิสฺสริยํ อธิคมิสฺสติ. อหิตุณฺฑิเกน อุรเค วิสฺสาสํ อกตฺวา นาควิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวา อชปเทน ทณฺเฑน คีวาย คเหตฺวา วิสหเรน มูเลน ทาา โธวิตฺวา เปฬายํ ปกฺขิปิตฺวา กีฬาเปนฺเตน จริตพฺพํ. เอวํ ตํ นิสฺสาย ฆาสจฺฉาทนาทีนิ ลภิสฺสติ. ยาคุปจนาทีนิ กตฺตุกาเมน อคฺคึ วิสฺสาเสน ภณฺฑุกฺขลิกาทีสุ อปกฺขิปิตฺวา หตฺเถหิ อนามสนฺเตน โคมยจุณฺณาทีหิ ชาเลตฺวา ยาคุปจนาทีนิ กตฺตพฺพานิ, เอวํ ตํ นิสฺสาย อานิสํสํ ลภิสฺสติ. อสุตสวนาทีนิ ปตฺถยนฺเตนปิ ภิกฺขุํ อติวิสฺสาเสน เวชฺชกมฺมนวกมฺมาทีสุ อโยเชตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺาตพฺโพ, เอวํ ตํ นิสฺสาย อสุตปุพฺพํ พุทฺธวจนํ อสุตปุพฺพํ ปฺหาวินิจฺฉยํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ ติสฺโส กุลสมฺปตฺติโย ฉ กามสคฺคานิ นว จ พฺรหฺมโลเก ปตฺวา อมตมหานิพฺพานทสฺสนมฺปิ ลภิสฺสตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย สมฺมเทว สมาจเรติ อาห.

เอตทโวจาติ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺโน ปสาทํ อาวิกโรนฺโต เอตํ ‘‘อภิกฺกนฺต’’นฺติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อภิกฺกนฺตนฺติ อภิกนฺตํ อติอิฏฺํ อติมนาปํ, อติสุนฺทรนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนา’’ติ. เอเกน อตฺตโน ปสาทํ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโท’’ติ.

ตโต ปรํ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ, เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริมุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺสาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ วเทยฺย. อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสี อฑฺฒรตฺตฆนวนสณฺฑ เมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตเม. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺเตน, ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานา ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ สาสนํ วิวรนฺเตน, ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตน, ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธกาเร นิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตํ ธาเรนฺเตน มยฺหํ ภควตา เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.

เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต เอสาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ ภควนฺตฺจ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ อิมํ รตนตฺตยํ สรณํ คจฺฉามิ. อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตูติ มํ ภควา ‘อุปาสโก อย’นฺติ เอวํ ธาเรตุ, ชานาตูติ อตฺโถ. อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวา. อชฺชทคฺเคติ วา ปาโ, ท-กาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ อตฺโถ. ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณํ คตํ อุปาสกํ กปฺปิยการกํ มํ ภควา ธาเรตูติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย สามฺผลสุตฺเต สพฺพากาเรน วุตฺโตติ. ปมํ.

๒. ปุริสสุตฺตวณฺณนา

๑๑๓. ทุติเย อภิวาเทตฺวาติ ปุริมสุตฺเต สรณคตตฺตา อิธ อภิวาเทสิ. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. โลภาทีสุ ลุพฺภนลกฺขโณ โลโภ, ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส, มุยฺหนลกฺขโณ โมโหติ. หึสนฺตีติ วิเหเนฺติ นาเสนฺติ วินาเสนฺติ. อตฺตสมฺภูตาติ อตฺตนิ สมฺภูตา. ตจสารํว สมฺผลนฺติ ยถา ตจสารํ เวฬุํ วา นฬํ วา อตฺตโน ผลํ หึสติ วินาเสติ, เอวํ หึสนฺติ วินาเสนฺตีติ. ทุติยํ.

๓. ชรามรณสุตฺตวณฺณนา

๑๑๔. ตติเย อฺตฺร ชรามรณาติ ชรามรณโต มุตฺโต นาม อตฺถีติ วุจฺจติ. ขตฺติยมหาสาลาติ ขตฺติยมหาสาลา นาม มหาสารปฺปตฺตา ขตฺติยา. เยสํ หิ ขตฺติยานํ เหฏฺิมนฺเตน โกฏิสตํ นิธานคตํ โหติ, ตโย กหาปณกุมฺภา วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิตา โหนฺติ, เต ขตฺติยมหาสาลา นาม. เยสํ พฺราหฺมณานํ อสีติโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, ทิยฑฺโฒ กหาปณกุมฺโภ วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต พฺราหฺมณมหาสาลา นาม. เยสํ คหปตีนํ จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิหิตํ โหติ, กหาปณกุมฺโภ วลฺชนตฺถาย เคหมชฺเฌ ราสึ กตฺวา ปิโต โหติ, เต คหปติมหาสาลา นาม.

อฑฺฒาติ อิสฺสรา. นิธานคตธนสฺส มหนฺตตาย มหทฺธนา. สุวณฺณรชตภาชนาทีนํ อุปโภคภณฺฑานํ มหนฺตตาย มหาโภคา. อนิธานคตสฺส ชาตรูปรชตสฺส ปหูตตาย, ปหูตชาตรูปรชตา. วิตฺตูปกรณสฺส ตุฏฺิกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรณา. โคธนาทีนฺจ สตฺตวิธธฺานฺจ ปหูตตาย ปหูตธนธฺา. เตสมฺปิ ชาตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณาติ เตสมฺปิ เอวํ อิสฺสรานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตานํ นตฺถิ อฺตฺร ชรามรณา, ชาตตฺตาเยว ชรามรณโต โมกฺโข นาม นตฺถิ, อนฺโตชรามรเณเยว โหติ.

อรหนฺโตติอาทีสุ อารกา กิเลเสหีติ อรหนฺโต. ขีณา เอเตสํ จตฺตาโร อาสวาติ ขีณาสวา. พฺรหฺมจริยวาสํ วุฏฺา ปรินิฏฺิตวาสาติ วุสิตวนฺโต. จตูหิ มคฺเคหิ กรณียํ เอเตสํ กตนฺติ กตกรณียา. ขนฺธภาโร กิเลสภาโร อภิสงฺขารภาโร กามคุณภาโรติ, อิเม โอหิตา ภารา เอเตสนฺติ โอหิตภารา. อนุปฺปตฺโต อรหตฺตสงฺขาโต สโก อตฺโถ เอเตสนฺติ อนุปฺปตฺตสทตฺถา. ทสวิธมฺปิ ปริกฺขีณํ ภวสํโยชนํ เอเตสนฺติ ปริกฺขีณภวสํโยชนา. สมฺมา การเณหิ ชานิตฺวา วิมุตฺตาติ สมฺมทฺาวิมุตฺตา. มคฺคปฺาย จตุสจฺจธมฺมํ ตฺวา ผลวิมุตฺติยา วิมุตฺตาติ อตฺโถ. เภทนธมฺโมติ ภิชฺชนสภาโว. นิกฺเขปนธมฺโมติ นิกฺขิปิตพฺพสภาโว. ขีณาสวสฺส หิ อชีรณธมฺโมปิ อตฺถิ, อารมฺมณโต ปฏิวิทฺธํ นิพฺพานํ, ตํ หิ น ชีรติ. อิธ ปนสฺส ชีรณธมฺมํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. อตฺถุปฺปตฺติโก กิรสฺส สุตฺตสฺส นิกฺเขโป. สิวิกสาลาย นิสีทิตฺวา กถิตนฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ภควา จิตฺรานิ รถยานาทีนิ ทิสฺวา ทิฏฺเมว อุปมํ กตฺวา, ‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ ชีรนฺตีติ ชรํ ปาปุณนฺติ. ราชรถาติ รฺโ อภิรูหนรถา. สุจิตฺตาติ สุวณฺณรชตาทีหิ สุฏฺุ จิตฺติตา. อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปตีติ เอวรูเปสุ อนุปาทิณฺณเกสุ สารทารุมเยสุ รเถสุ ชีรนฺเตสุ อิมสฺมึ อชฺฌตฺติเก อุปาทิณฺณเก มํสโลหิตาทิมเย สรีเร กึ วตฺตพฺพํ? สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติเยวาติ อตฺโถ. สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตีติ สนฺโต สพฺภีหิ สทฺธึ สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปตีติ เอวํ ปเวทยนฺติ. ‘‘สตํ ธมฺโม นาม นิพฺพานํ, ตํ น ชีรติ, อชรํ อมตนฺติ เอวํ กเถนฺตี’’ติ อตฺโถ. ยสฺมา วา นิพฺพานํ อาคมฺม สีทนสภาวา กิเลสา ภิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺภีติ วุจฺจติ. อิติ ปุริมปทสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ อาห. อิทํ หิ วุตฺตํ โหติ – สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, ตสฺมา สนฺโต สพฺภิ ปเวทยนฺติ. อชรํ นิพฺพานํ สตํ ธมฺโมติ อาจิกฺขนฺตีติ อตฺโถ. สุนฺทราธิวจนํ วา เอตํ สพฺภีติ. ยํ สพฺภิธมฺมภูตํ นิพฺพานํ สนฺโต ปเวทยนฺติ กถยนฺติ, โส สตํ ธมฺโม น ชรํ อุเปตีติปิ อตฺโถ. ตติยํ.

๔. ปิยสุตฺตวณฺณนา

๑๑๕. จตุตฺเถ รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ นิลีนสฺส เอกีภูตสฺส. เอวเมตํ, มหาราชาติ อิธ ภควา อิมํ สุตฺตํ สพฺพฺุภาสิตํ กโรนฺโต อาห. อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสาติ มรเณน อชฺโฌตฺถฏสฺส. จตุตฺถํ.

๕. อตฺตรกฺขิตสุตฺตวณฺณนา

๑๑๖. ปฺจเม หตฺถิกาโยติ หตฺถิฆฏา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สํวโรติ ปิทหนํ. สาธุ สพฺพตฺถ สํวโรติ อิมินา กมฺมปถเภทํ อปตฺตสฺส กมฺมสฺส สํวรํ ทสฺเสติ. ลชฺชีติ หิริมา. ลชฺชีคหเณน เจตฺถ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว โหติ. ปฺจมํ.

๖. อปฺปกสุตฺตวณฺณนา

๑๑๗. ฉฏฺเ อุฬาเร อุฬาเรติ ปณีเต จ พหุเก จ. มชฺชนฺตีติ มานมชฺชเนน มชฺชนฺติ. อติสารนฺติ อติกฺกมํ. กูฏนฺติ ปาสํ. ปจฺฉาสนฺติ ปจฺฉา เตสํ. ฉฏฺํ.

๗. อฑฺฑกรณสุตฺตวณฺณนา

๑๑๘. สตฺตเม กามเหตูติ กามมูลกํ. กามนิทานนฺติ กามปจฺจยา. กามาธิกรณนฺติ กามการณา. สพฺพานิ เหตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ภทฺรมุโขติ สุนฺทรมุโข. เอกทิวสํ กิร ราชา อฑฺฑกรเณ นิสีทิ. ตตฺถ ปมตรํ ลฺชํ คเหตฺวา นิสินฺนา อมจฺจา อสฺสามิเกปิ สามิเก กรึสุ. ราชา ตํ ตฺวา – ‘‘มยฺหํ ตาว ปถวิสฺสรสฺส สมฺมุขาเปเต เอวํ กโรนฺติ, ปรมฺมุขา กึ นาม น กริสฺสนฺติ? ปฺายิสฺสติ ทานิ วิฏฏูโภ เสนาปติ สเกน รชฺเชน, กึ มยฺหํ เอวรูเปหิ ลฺชขาทเกหิ มุสาวาทีหิ สทฺธึ เอกฏฺาเน นิสชฺชายา’’ติ จินฺเตสิ. ตสฺมา เอวมาห. ขิปฺปํว โอฑฺฑิตนฺติ กุมินํ วิย โอฑฺฑิตํ. ยถา มจฺฉา โอฑฺฑิตํ กุมินํ ปวิสนฺตา น ชานนฺติ, เอวํ สตฺตา กิเลสกาเมน วตฺถุกามํ วีติกฺกมนฺตา น ชานนฺตีติ อตฺโถ. สตฺตมํ.

๘. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๑๙. อฏฺเม อตฺถิ นุ โข เต มลฺลิเกติ กสฺมา ปุจฺฉติ? อยํ กิร มลฺลิกา ทุคฺคตมาลาการสฺส ธีตา, เอกทิวสํ อาปณโต ปูวํ คเหตฺวา ‘‘มาลารามํ คนฺตฺวาว ขาทิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตี ปฏิปเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวารํ ภควนฺตํ ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตํ ภควโต อทาสิ. สตฺถา นิสีทนาการํ ทสฺเสสิ. อานนฺทตฺเถโร จีวรํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. ภควา ตตฺถ นิสีทิตฺวา ตํ ปูวํ ปริภุฺชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิ. เถโร ‘‘อิมิสฺสา, ภนฺเต, โก วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. อานนฺท, อชฺเชสา ตถาคตสฺส ปมโภชนํ อทาสิ, อชฺเชว โกสลรฺโ อคฺคมเหสี ภวิสฺสตีติ. ตํทิวสเมว จ ราชา กาสิคาเม ภาคิเนยฺเยน ยุทฺเธน ปราชิโต ปลายิตฺวา นครํ อาคจฺฉนฺโต มาลารามํ ปวิสิตฺวา พลกายสฺส อาคมนํ อาคเมสิ. ตสฺส สา วตฺตํ อกาสิ. โส ตาย วตฺเต ปสีทิตฺวา ตํ อนฺเตปูรํ อติหาราเปตฺวา ตํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ.

อเถกทิวสํ จินฺเตสิ – ‘‘มยา อิมิสฺสา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตุยา มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, ยํนูนาหํ อิมํ ปุจฺเฉยฺยํ ‘โก เต ปิโย’ติ? สา ‘ตฺวํ เม, มหาราช, ปิโย’ติ วตฺวา ปุน มํ ปุจฺฉิสฺสติ. อถสฺสาหํ ‘มยฺหมฺปิ ตฺวํเยว ปิยา’ติ วกฺขามี’’ติ. อิติ โส อฺมฺํ วิสฺสาสชนนตฺถํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺโต ปุจฺฉติ. สา ปน เทวี ปณฺฑิตา พุทฺธุปฏฺายิกา ธมฺมุปฏฺายิกา สงฺฆุปฏฺายิกา มหาปฺา, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘นายํ ปฺโห รฺโ มุขํ โอโลเกตฺวา กเถตพฺโพ’’ติ. สา สรเสเนว กเถตฺวา ราชานํ ปุจฺฉิ. ราชา ตาย สรเสน กถิตตฺตา นิวตฺติตุํ อลภนฺโต สยมฺปิ สรเสเนว กเถตฺวา ‘‘สการณํ อิทํ, ตถาคตสฺส นํ อาโรเจสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. เนวชฺฌคาติ นาธิคจฺฉติ. เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสนฺติ ยถา เอกสฺส อตฺตา ปิโย, เอวํ ปเรสํ ปุถุสตฺตานมฺปิ อตฺตา ปิโยติ อตฺโถ. อฏฺมํ.

๙. ยฺสุตฺตวณฺณนา

๑๒๐. นวเม ถูณูปนีตานีติ ถูณํ อุปนีตานิ, ถูณาย พทฺธานิ โหนฺติ. ปริกมฺมานิ กโรนฺตีติ เอตฺตาวตา เตหิ ภิกฺขูหิ รฺโ อารทฺธยฺโ ตถาคตสฺส อาโรจิโต. กสฺมา ปน รฺา อยํ ยฺโ อารทฺโธ? ทุสฺสุปินปฏิฆาตาย. เอกทิวสํ กิร ราชา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นครํ อนุสฺจรนฺโต วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลกยมานํ เอกํ อิตฺถึ ทิสฺวา ตสฺสา ปฏิพทฺธจิตฺโต ตโตว ปฏินิวตฺติตฺวา อนฺเตปุรํ ปวิสิตฺวา เอกสฺส ปุริสสฺส ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘คจฺฉ ตสฺสา สสฺสามิกภาวํ วา อสฺสามิกภาวํ วา ชานาหี’’ติ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ปุจฺฉิ. สา ‘‘เอโส เม สามิโก อาปเณ นิสินฺโน’’ติ ทสฺเสสิ. ราชปุริโส รฺโ ตมตฺถํ อาจิกฺขิ. ราชา ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. ‘‘นาหํ, เทว, อุปฏฺหิตุํ ชานามี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อุปฏฺานํ นาม น อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพ’’นฺติ พลกฺกาเรน อาวุธผลกํ คาหาเปตฺวา อุปฏฺากํ อกาสิ. อุปฏฺหิตฺวา เคหํ คตมตฺตเมว จ นํ ปุน ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อุปฏฺาเกน นาม รฺโ วจนํ กตฺตพฺพํ, คจฺฉ อิโต โยชนมตฺเต อมฺหากํ สีสโธวนโปกฺขรณี อตฺถิ, ตโต อรุณมตฺติกฺจ โลหิตุปฺปลมาลฺจ คณฺหิตฺวา เอหิ. สเจ อชฺเชว นาคจฺฉสิ, ราชทณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา เปเสสิ. โส ราชภเยน นิกฺขมิตฺวา คโต.

ราชาปิ ตสฺมึ คเต โทวาริกํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อชฺช สายนฺเหเยว ทฺวารํ ปิทหิตฺวา ‘อหํ ราชทูโต’ติ วา ‘อุปราชทูโต’ติ วา ภณนฺตานมฺปิ มา วิวรี’’ติ อาห. โส ปุริโส มตฺติกฺจ อุปฺปลานิ จ คเหตฺวา ทฺวาเร ปิหิตมตฺเต อาคนฺตฺวา พหุํ วทนฺโตปิ ทฺวารํ อลภิตฺวา ปริสฺสยภเยน เชตวนํ คโต. ราชาปิ ราคปริฬาเหน อภิภูโต กาเล นิสีทติ, กาเล ติฏฺติ, กาเล นิปชฺชติ, สนฺนิฏฺานํ อลภนฺโต ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺนโกว มกฺกฏนิทฺทาย นิทฺทายติ.

ปุพฺเพ จ ตสฺมึเยว นคเร จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ปรทาริกกมฺมํ กตฺวา นนฺโทปนนฺทาย นาม โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺตึสุ. เต เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมานา ตึสวสฺสสหสฺสานิ เหฏฺา คจฺฉนฺตา กุมฺภิยา ตลํ ปาปุณนฺติ, ตึสวสฺสสหสฺสานิ อุปริ คจฺฉนฺตา มตฺถกํ ปาปุณนฺติ. เต ตํ ทิวสํ อาโลกํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ทุกฺกฏภเยน เอเกกํ คาถํ วตฺตุกามา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรเมว อาหํสุ. เอโก ส-การํ, เอโก โส-การํ, เอโก น-การํ, เอโก ทุ-การํ อาห. ราชา เตสํ เนรยิกสตฺตานํ สทฺทํ สุตกาลโต ปฏฺาย สุขํ อวินฺทมาโนว ตํรตฺตาวเสสํ วีตินาเมสิ.

อรุเณ อุฏฺิเต ปุโรหิโต อาคนฺตฺวา ตํ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ. โส ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุข’’นฺติ? วตฺวา, ‘‘สุปิเน เอวรูเป สทฺเท อสฺโสสิ’’นฺติ อาจิกฺขิ. พฺราหฺมโณ – ‘‘อิมสฺส รฺโ อิมินา สุปิเนน วุฑฺฒิ วา หานิ วา นตฺถิ, อปิจ โข ปน ยํ อิมสฺส เคเห อตฺถิ, ตํ สมณสฺส โคตมสฺส โหติ, โคตมสาวกานํ โหติ, พฺราหฺมณา กิฺจิ น ลภนฺติ, พฺราหฺมณานํ ภิกฺขํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ, ‘‘ภาริโย อยํ, มหาราช, สุปิโน ตีสุ ชานีสุ เอกา ปฺายติ, รชฺชนฺตราโย วา ภวิสฺสติ ชีวิตนฺตราโย วา, เทโว วา น วสฺสิสฺสตี’’ติ อาห. กถํ โสตฺถิ ภเวยฺย อาจริยาติ? ‘‘มนฺเตตฺวา าตุํ สกฺกา, มหาราชาติ. คจฺฉถ อาจริเยหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา อมฺหากํ โสตฺถึ กโรถา’’ติ.

โส สิวิกสาลายํ พฺราหฺมเณ สนฺนิปาเตตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา, ‘‘วิสุํ วิสุํ คนฺตฺวา เอวํ วทถา’’ติ ตโย วคฺเค อกาสิ. พฺราหฺมณา ปวิสิตฺวา ราชานํ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉึสุ. ราชา ปุโรหิตสฺส กถิตนิยาเมเนว กเถตฺวา ‘‘กถํ โสตฺถิ ภเวยฺยา’’ติ ปุจฺฉิ. มหาพฺราหฺมณา – ‘‘สพฺพปฺจสตํ ยฺํ ยชิตฺวา เอตสฺส กมฺมสฺส โสตฺถิ ภเวยฺย, เอวํ, มหาราช, อาจริยา กเถนฺตี’’ติ อาหํสุ. ราชา เตสํ สุตฺวา อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถ ทุติยวคฺคพฺราหฺมณาปิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว กเถสุํ. ตถา ตติยวคฺคพฺราหฺมณาปิ. อถ ราชา ‘‘ยฺํ กโรนฺตู’’ติ อาณาเปสิ. ตโต ปฏฺาย พฺราหฺมณา อุสภาทโย ปาเณ อาหราเปสุํ. นคเร มหาสทฺโท อุทปาทิ. ตํ ปวตฺตึ ตฺวา มลฺลิกา ราชานํ ตถาคตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ ภควา – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวาทิวสฺสา’’ติ อาห. ราชา – ‘‘อชฺช เม, ภนฺเต, สุปินเก จตฺตาโร สทฺทา สุตา, โสหํ พฺราหฺมเณ ปุจฺฉึ. พฺราหฺมณา ‘ภาริโย, มหาราช, สุปิโน, สพฺพปฺจสตํ ยฺํ ยชิตฺวา ปฏิกมฺมํ กโรมาติ อารทฺธา’’’ติ อาห. กินฺติ เต, มหาราช, สทฺทา สุตาติ. โส ยถาสุตํ อาโรเจสิ. อถ นํ ภควา อาห – ปุพฺเพ, มหาราช, อิมสฺมึเยว นคเร จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ปรทาริกา หุตฺวา นนฺโทปนนฺทาย โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺตา สฏฺิวสฺสสหสฺสมตฺถเก อุคฺคจฺฉึสุ.

ตตฺถ เอโก –

‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสตี’’ติ.(เป. ว. ๘๐๒; ชา. ๑.๔.๕๔) –

อิมํ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. ทุติโย –

‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนึ ลทฺธาน มานุสึ;

วทฺู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติ. (เป. ว. ๘๐๕; ชา. ๑.๔.๕๖) –

อิมํ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. ตติโย –

‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;

ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, มม ตุยฺหฺจ มาริสา’’ติ. (เป. ว. ๘๐๓; ชา. ๑.๔.๕๕) –

อิมํ คาถํ วตฺถุกาโม อโหสิ. จตุตฺโถ –

‘‘ทุชฺชีวิตมชีวิมฺหา, เย สนฺเต น ททมฺหเส;

วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน’’ติ. (เป. ว. ๘๐๔; ชา. ๑.๔.๕๓) –

อิมํ. เต อิมา คาถา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรํ วตฺวา ตตฺเถว นิมุคฺคา. อิติ, มหาราช, เต เนรยิกสตฺตา ยถากมฺเมน วิรวึสุ. ตสฺส สทฺทสฺส สุตปจฺจยา ตุยฺหํ หานิ วา วุฑฺฒิ วา นตฺถิ. เอตฺตกานํ ปน ปสูนํ ฆาตนกมฺมํ นาม ภาริยนฺติ นิรยภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมกถํ กเถสิ. ราชา ทสพเล ปสีทิตฺวา, ‘‘มุฺจามิ, เนสํ ชีวิตํ ททามิ, หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตลานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายตู’’ติ วตฺวา, ‘‘คจฺฉถ หาเรถา’’ติ มนุสฺเส อาณาเปสิ. เต คนฺตฺวา พฺราหฺมเณ ปลาเปตฺวา ตํ ปาณสงฺฆํ พนฺธนโต โมเจตฺวา นคเร ธมฺมเภรึ จราเปสุํ.

อถ ราชา ทสพลสฺส สนฺติเก นิสินฺโน อาห – ‘‘ภนฺเต, เอกรตฺติ นาม ติยามา โหติ, มยฺหํ ปน อชฺช ทฺเว รตฺติโย เอกโต ฆฏิตา วิย อเหสุ’’นฺติ. โสปิ ปุริโส ตตฺเถว นิสินฺโน อาห – ‘‘ภนฺเต, โยชนํ นาม จตุคาวุตํ โหติ, มยฺหํ ปน อชฺช ทฺเว โยชนานิ เอกโต กตานิ วิย อเหสุ’’นฺติ. อถ ภควา – ‘‘ชาครสฺส ตาว รตฺติยา ทีฆภาโว ปากโฏ, สนฺตสฺส โยชนสฺส ทีฆภาโว ปากโฏ, วฏฺฏปติตสฺส ปน พาลปุถุชฺชนสฺส อนมตคฺคสํสารวฏฺฏํ เอกนฺตทีฆเมวา’’ติ ราชานฺจ ตฺจ ปุริสํ เนรยิกสตฺเต จ อารพฺภ ธมฺมปเท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ทีฆา ชาครโต รตฺติ, ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ;

ทีโฆ พาลานํ สํสาโร, สทฺธมฺมํ อวิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๖๐);

คาถาปริโยสาเน โส อิตฺถิสามิโก ปุริโส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ การณํ ชานิตฺวา.

อสฺสเมธนฺติอาทีสุ – โปราณราชกาเล กิร สสฺสเมธํ ปุริสเมธํ สมฺมาปาสํ วาจาเปยฺยนฺติ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อเหสุํ, เยหิ ราชาโน โลกํ สงฺคณฺหึสุ. ตตฺถ นิปฺผนฺนสสฺสโต ทสมภาคคฺคหณํ สสฺสเมธํ นาม, สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. มหาโยธานํ ฉมาสิกํ ภตฺต-เวตนานุปฺปทานํ ปุริสเมธํ นาม, ปุริสสงฺคณฺหเน เมธาวิตาติ อตฺโถ. ทลิทฺทมนุสฺสานํ หตฺถโต เลขํ คเหตฺวา ตีณิ วสฺสานิ วินาว วฑฺฒิยา สหสฺสทฺวิสหสฺสมตฺตธนานุปฺปทานํ สมฺมาปาสํ นาม. ตฺหิ สมฺมา มนุสฺเส ปาเสติ, หทเย พนฺธิตฺวา วิย เปติ, ตสฺมา สมฺมาปาสนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ตาต มาตุลา’’ติอาทินา นเยน สณฺหวาจาภณนํ วาจาเปยฺยํ นาม, ปิยวาจาติ อตฺโถ. เอวํ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหิตํ รฏฺํ อิทฺธฺเจว โหติ ผีตฺจ ปหูตอนฺนปานํ เขมํ นิรพฺพุทํ. มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา อปารุตฆรทฺวารา วิหรนฺติ. อิทํ ฆรทฺวาเรสุ อคฺคฬานํ อภาวโต นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติ. อยํ โปราณิกา ปเวณี.

อปรภาเค ปน โอกฺกากราชกาเล พฺราหฺมณา อิมานิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อิมฺจ รฏฺสมฺปตฺตึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํมูลกํ กตฺวา อสฺสเมธํ ปุริสเมธนฺติ อาทิเก ปฺจ ยฺเ นาม อกํสุ. เตสุ อสฺสเมตฺถ เมธนฺติ วธนฺตีติ อสฺสเมโธ. ทฺวีหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส เอกวีสติยูปสฺส เอกสฺมึ มชฺฌิมทิวเสเยว สตฺตนวุติปฺจปสุสตฆาตภึสนสฺส เปตฺวา ภูมิฺจ ปุริเส จ อวเสสสพฺพวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุริสเมตฺถ เมธนฺตีติ ปุริสเมโธ. จตูหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. สมฺมเมตฺถ ปาเสนฺตีติ สมฺมาปาโส. ทิวเส ทิวเส สมฺมํ ขิปิตฺวา ตสฺส ปติโตกาเส เวทึ กตฺวา สํหาริเมหิ ยูปาทีหิ สรสฺสตินทิยา นิมุคฺโคกาสโต ปภุติ ปฏิโลมํ คจฺฉนฺเตน ยชิตพฺพสฺส สตฺรยาคสฺเสตํ อธิวจนํ. วาชเมตฺถ ปิวนฺตีติ วาชเปยฺโย. เอเกน ปริยฺเน สตฺตรสหิ ปสูหิ ยชิตพฺพสฺส เพลุวยูปสฺส สตฺตรสกทกฺขิณสฺส ยฺสฺเสตํ อธิวจนํ. นตฺถิ เอตฺถ อคฺคฬาติ นิรคฺคโฬ. นวหิ ปริยฺเหิ ยชิตพฺพสฺส สทฺธึ ภูมิยา จ ปุริเสหิ จ อสฺสเมเธ วุตฺตวิภวทกฺขิณสฺส สพฺพเมธปริยายนามสฺส อสฺสเมธวิกปฺปสฺเสเวตํ อธิวจนํ. มหารมฺภาติ มหากิจฺจา มหากรณียา. สมฺมคฺคตาติ สมฺมา ปฏิปนฺนา พุทฺธาทโย. นิรารมฺภาติ อปฺปตฺถา อปฺปกิจฺจา. ยชนฺติ อนุกุลนฺติ อนุกุเลสุ ยชนฺติ, ยํ นิจฺจภตฺตาทิ ปุพฺพปุริเสหิ ปฏฺปิตํ, ตํ อปราปรํ อนุปจฺฉินฺนตฺตา มนุสฺสา ททนฺตีติ อตฺโถ. นวมํ.

๑๐. พนฺธนสุตฺตวณฺณนา

๑๒๑. ทสเม อิธ, ภนฺเต, รฺาติ อิทํ เต ภิกฺขู เตสุ มนุสฺเสสุ อานนฺทตฺเถรสฺส สุกตการณํ อาโรเจนฺตา อาโรเจสุํ. รฺโ กิร สกฺเกน กุสราชสฺส ทินฺโน อฏฺวงฺโก มณิ ปเวณิยา อาคโต. ราชา อลงฺกรณกาเล ตํ มณึ อาหรถาติ อาห. มนุสฺสา ‘‘ปิตฏฺาเน น ปสฺสามา’’ติ อาโรเจสุํ. ราชา อนฺโตฆรจาริโน ‘‘มณึ ปริเยสิตฺวา เทถา’’ติ พนฺธาเปสิ. อานนฺทตฺเถโร เต ทิสฺวา มณิปฏิสามกานํ เอกํ อุปายํ อาจิกฺขิ. เต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘ปณฺฑิโต เถโร, เถรสฺส วจนํ กโรถา’’ติ. ปฏิสามกมนุสฺสา ราชงฺคเณ อุทกจาฏึ เปตฺวา สาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา เต มนุสฺเส อาหํสุ – ‘‘สาฏกํ ปารุปิตฺวา เอตฺถ คนฺตฺวา หตฺถํ โอตาเรถา’’ติ. มณิโจโร จินฺเตสิ – ‘‘ราชภณฺฑํ วิสฺสชฺเชตุํ วา วลฺเชตุํ วา น สกฺกา’’ติ. โส เคหํ คนฺตฺวา มณึ อุปกจฺฉเก เปตฺวา สาฏกํ ปารุปิตฺวา อาคมฺม อุทกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกามิ. มหาชเน ปฏิกฺกนฺเต ราชมนุสฺสา จาฏิยํ หตฺถํ โอตาเรตฺวา มณึ ทิสฺวา อาหริตฺวา รฺโ อทํสุ. ‘‘อานนฺทตฺเถเรน กิร ทสฺสิตนเยน มณิ ทิฏฺโ’’ติ มหาชโน โกลาหลํ อกาสิ. เต ภิกฺขู ตํ การณํ ตถาคตสฺส อาโรเจนฺตา อิมํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. สตฺถา – ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ อานนฺโท มนุสฺสานํ หตฺถารุฬฺหมณึ อาหราเปยฺย, ยตฺถ ปุพฺเพ ปณฺฑิตา อตฺตโน าเณ ตฺวา อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺตานํ ติรจฺฉานคตานมฺปิ หตฺถารุฬฺหํ ภณฺฑํ อาหราเปตฺวา รฺโ อทํสู’’ติ วตฺวา –

‘‘อุกฺกฏฺเ สูรมิจฺฉนฺติ, มนฺตีสุ อกุตูหลํ;

ปิยฺจ อนฺนปานมฺหิ, อตฺเถ ชาเต จ ปณฺฑิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๙๒) –

มหาสารชาตกํ กเถสิ.

น ตํ ทฬฺหนฺติ ตํ พนฺธนํ ถิรนฺติ น กเถนฺติ. ยทายสนฺติ ยํ อายสา กตํ. สารตฺตรตฺตาติ สุฏฺุ รตฺตรตฺตา, สารตฺเตน วา รตฺตา สารตฺตรตฺตา, สารํ อิทนฺติ มฺนาย รตฺตาติ อตฺโถ. อเปกฺขาติ อาลโย นิกนฺติ. อาหูติ กเถนฺติ. โอหารินนฺติ จตูสุ อปาเยสุ อากฑฺฒนกํ. สิถิลนฺติ น อายสาทิพนฺธนํ วิย อิริยาปถํ นิวาเรตฺวา ิตํ. เตน หิ พนฺธเนน พทฺธา ปรเทสมฺปิ คจฺฉนฺติเยว. ทุปฺปมุฺจนฺติ อฺตฺร โลกุตฺตราเณน มุฺจิตุํ อสกฺกุเณยฺยนฺติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. สตฺตชฏิลสุตฺตวณฺณนา

๑๒๒. ทุติยวคฺคสฺส ปเม ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทติ ปุพฺพารามสงฺขาเต วิหาเร มิคารมาตุยา ปาสาเท. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – อตีเต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก เอกา อุปาสิกา ปทุมุตฺตรํ ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตสหสฺสทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา – ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อคฺคุปฏฺายิกา โหมี’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล ภทฺทิยนคเร เมณฺฑกปุตฺตสฺส ธนฺจยเสฏฺิโน เคเห สุมนเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตกาเล จสฺสา วิสาขาติ นามํ อกํสุ. สา ยทา ภควา ภทฺทิยนครํ อคมาสิ, ตทา ปฺจหิ ทาริกาสเตหิ สทฺธึ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ คตา ปมทสฺสนมฺหิเยว โสตาปนฺนา อโหสิ. อปรภาเค สาวตฺถิยํ มิคารเสฏฺิปุตฺตสฺส ปุณฺณวฑฺฒนกุมารสฺส เคหํ คตา. ตตฺถ นํ มิคารเสฏฺิ มาติฏฺาเน เปสิ, ตสฺมา มิคารมาตาติ วุจฺจติ. ตาย การิเต ปาสาเท.

พหิ ทฺวารโกฏฺเกติ ปาสาททฺวารโกฏฺกสฺส พหิ, น วิหารทฺวารโกฏฺกสฺส. โส กิร ปาสาโท โลหปาสาโท วิย สมนฺตา จตุทฺวารโกฏฺกยุตฺเตน ปากาเรน ปริกฺขิตฺโต. เตสุ ปาจีนทฺวารโกฏฺกสฺส พหิ ปาสาทจฺฉายายํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต ปฺตฺเต วรพุทฺธาสเน นิสินฺโน โหติ.

ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมาติ ปรูฬฺหกจฺฉา ปรูฬฺหนขา ปรูฬฺหโลมา, กจฺฉาทีสุ ทีฆโลมา ทีฆนขา จาติ อตฺโถ. ขาริวิวิธนฺติ วิวิธขารึ นานปฺปการกํ ปพฺพชิตปริกฺขารภณฺฑกํ. อวิทูเร อติกฺกมนฺตีติ อวิทูรมคฺเคน นครํ ปวิสนฺติ. ราชาหํ, ภนฺเตติ อหํ, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล, มยฺหํ นามํ ตุมฺเห ชานาถาติ. กสฺมา ปน ราชา โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สนฺติเก นิสินฺโน เอวรูปานํ นคฺคโภคฺคนิสฺสิริกานํ อฺชลึ ปคฺคณฺหาตีติ. สงฺคณฺหนตฺถาย. เอวํ หิสฺส อโหสิ – ‘‘สจาหํ เอตฺตกมฺปิ เอเตสํ น กริสฺสามิ, ‘มยํ ปุตฺตทารํ ปหาย เอตสฺสตฺถาย ทุพฺโภชนทุกฺขเสยฺยาทีนิ อนุโภม, อยํ อมฺหากํ อฺชลิมตฺตมฺปิ น กโรตี’ติ อตฺตนา ทิฏฺํ สุตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา น กเถยฺยุํ. เอวํ กเต ปน อนิคูหิตฺวา กเถสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เอวมกาสิ. อปิจ สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถํ เอวมกาสิ.

กาสิกจนฺทนนฺติ สณฺหจนฺทนํ. มาลาคนฺธวิเลปนนฺติ วณฺณคนฺธตฺถาย มาลํ, สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ, วณฺณคนฺธตฺถาย วิเลปนฺจ ธาเรนฺเตน.

สํวาเสนาติ สหวาเสน. สีลํ เวทิตพฺพนฺติ อยํ สุสีโล วา ทุสฺสีโล วาติ สํวสนฺเตน อุปสงฺกมนฺเตน ชานิตพฺโพ. ตฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรนฺติ ตฺจ สีลํ ทีเฆน กาเลน เวทิตพฺพํ, น อิตฺตเรน. ทฺวีหตีหฺหิ สํยตากาโร จ สํวุตินฺทฺริยากาโร จ น สกฺกา ทสฺเสตุํ. มนสิกโรตาติ สีลมสฺส ปริคฺคเหสฺสามีติ มนสิกโรนฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺเตเนว สกฺกา ชานิตุํ, น อิตเรน. ปฺวตาติ ตมฺปิ สปฺปฺเเนว ปณฺฑิเตน. พาโล หิ มนสิกโรนฺโตปิ ชานิตุํ น สกฺโกติ.

สํโวหาเรนาติ กถเนน.

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติ. (ม. นิ. ๒.๔๕๗) –

เอตฺถ หิ พฺยวหาโร โวหาโร นาม. ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา จตฺตาโร อนริยโวหารา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๓) เอตฺถ เจตนา. ‘‘สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๕) เอตฺถ กถา โวหาโร. อิธาปิ เอโสว อธิปฺเปโต. เอกจฺจสฺส หิ สมฺมุขา กถา ปรมฺมุขาย กถาย น สเมติ, ปรมฺมุขา กถา จ สมฺมุขาย กถาย, ตถา ปุริมกถา จ ปจฺฉิมกถาย, ปจฺฉิมกถา จ ปุริมกถาย. โส กเถนฺเตเนว สกฺกา ชานิตุํ ‘‘อสุจิ เอโส ปุคฺคโล’’ติ. สุจิสีลสฺส ปน ปุริมํ ปจฺฉิเมน, ปจฺฉิมฺจ ปุริเมน สเมติ, สมฺมุขากถิตํ ปรมฺมุขากถิเตน, ปรมฺมุขากถิตฺจ สมฺมุขากถิเตน, ตสฺมา กเถนฺเตน สกฺกา สุจิภาโว ชานิตุนฺติ ปกาเสนฺโต เอวมาห.

ถาโมติ าณถาโม. ยสฺส หิ าณถาโม นตฺถิ, โส อุปฺปนฺเนสุ อุปทฺทเวสุ คเหตพฺพคฺคหณํ กตพฺพกิจฺจํ อปสฺสนฺโต อทฺวารฆรํ ปวิฏฺโ วิย จรติ. เตนาห อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพติ. สากจฺฉายาติ สํกถาย. ทุปฺปฺสฺส หิ กถา อุทเก เคณฺฑุ วิย อุปฺปลวติ, ปฺวโต กเถนฺตสฺส ปฏิภานํ อนนฺตรํ โหติ. อุทกวิปฺผนฺทิเตเนว หิ มจฺโฉ ขุทฺทโก วา มหนฺโต วาติ ายติ. โอจรกาติ เหฏฺาจรกา. จรา หิ ปพฺพตมตฺถเกน จรนฺตาปิ เหฏฺา – จรกาว โหนฺติ. โอจริตฺวาติ อวจริตฺวา วีมํสิตฺวา, ตํ ตํ ปวตฺตึ ตฺวาติ อตฺโถ. รโชชลฺลนฺติ รชฺจ ชลฺลฺจ. วณฺณรูเปนาติ วณฺณสณฺาเนน. อิตฺตรทสฺสเนนาติ ลหุกทสฺสเนน. วิยฺชเนนาติ ปริกฺขารภณฺฑเกน. ปติรูปโก มตฺติกากุณฺฑโลวาติ สุวณฺณกุณฺฑลปติรูปโก มตฺติกากุณฺฑโลว. โลหฑฺฒมาโสติ โลหฑฺฒมาสโก. ปมํ.

๒. ปฺจราชสุตฺตวณฺณนา

๑๒๓. ทุติเย รูปาติ นีลปีตาทิเภทํ รูปารมฺมณํ. กามานํ อคฺคนฺติ เอตํ กามานํ อุตฺตมํ เสฏฺนฺติ รูปครุโก อาห. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ยโตติ ยทา. มนาปปริยนฺตนฺติ มนาปนิปฺผตฺติกํ มนาปโกฏิกํ. ตตฺถ ทฺเว มนาปานิ ปุคฺคลมนาปํ สมฺมุติมนาปฺจ. ปุคฺคลมนาปํ นาม ยํ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส อิฏฺํ กนฺตํ โหติ, ตเทว อฺสฺส อนิฏฺํ อกนฺตํ. ปจฺจนฺตวาสีนฺหิ คณฺฑุปฺปาทาปิ อิฏฺา โหนฺติ กนฺตา มนาปา, มชฺฌิมเทสวาสีนํ อติเชคุจฺฉา. เตสฺจ โมรมํสาทีนิ อิฏฺานิ โหนฺติ, อิตเรสํ ตานิ อติเชคุจฺฉานิ. อิทํ ปุคฺคลมนาปํ. อิตรํ สมฺมุติมนาปํ.

อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ นาม โลเก ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, วิภชิตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพํ. วิภชนฺเตน จ น อติอิสฺสรานํ มหาสมฺมตมหาสุทสฺสนธมฺมาโสกาทีนํ วเสน วิภชิตพฺพํ. เตสฺหิ ทิปฺปกปฺปมฺปิ อารมฺมณํ อมนาปํ อุปฏฺาติ. อติทุคฺคตานํ ทุลฺลภนฺนปานานํ วเสนปิ น วิภชิตพฺพํ. เตสฺหิ กณาชกภตฺตสิตฺถานิปิ ปูติมํสสฺส รโสปิ อติมธุโร อมตสทิโส โหติ. มชฺฌิมานํ ปน คณกมหามตฺตเสฏฺิ กุฏุมฺพิกวาณิชาทีนํ กาเลน อิฏฺํ กาเลน อนิฏฺํ ลภมานานํ วเสน วิภชิตพฺพํ. ตฺจ ปเนตํ อารมฺมณํ ชวนํ ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ. ชวนฺหิ อิฏฺเปิ รชฺชติ อนิฏฺเปิ, อิฏฺเปิ ทุสฺสติ อนิฏฺเปิ. เอกนฺตโต ปน วิปากจิตฺตํ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทติ. กิฺจาปิ หิ มิจฺฉาทิฏฺิกา พุทฺธํ วา สงฺฆํ วา มหาเจติยาทีนิ วา อุฬารานิ อารมฺมณานิ ทิสฺวา อกฺขีนิ ปิทหนฺติ โทมนสฺสํ อาปชฺชนฺติ, ธมฺมสทฺทํ สุตฺวา กณฺเณ ถเกนฺติ, จกฺขุวิฺาณโสตวิฺาณานิ ปน เตสํ กุสลวิปากาเนว โหนฺติ. กิฺจาปิ คูถสูกราทโย คูถคนฺธํ ฆายิตฺวา ขาทิตุํ ลภิสฺสามาติ โสมนสฺสชาตา โหนฺติ, คูถทสฺสเน ปน เนสํ จกฺขุวิฺาณํ, ตสฺส คนฺธฆายเน ฆานวิฺาณํ, รสสายเน ชิวฺหาวิฺาณฺจ อกุสลวิปากเมว โหติ. ภควา ปน ปุคฺคลมนาปตํ สนฺธาย เต จ, มหาราช, รูปาติอาทิมาห.

จนฺทนงฺคลิโกติ อิทํ ตสฺส อุปาสกสฺส นามํ. ปฏิภาติ มํ ภควาติ ภควา มยฺหํ เอกํ การณํ อุปฏฺาติ ปฺายติ. ตสฺส เต ปฺจ ราชาโน อามุตฺตมณิกุณฺฑเล สชฺชิตาย อาปานภูมิยา นิสินฺนวเสเนว มหตา ราชานุภาเวน ปรเมน อิสฺสริยวิภเวน อาคนฺตฺวาปิ ทสพลสฺส สนฺติเก ิตกาลโต ปฏฺาย ทิวา ปทีเป วิย อุทกาภิสิตฺเต องฺคาเร วิย สูริยุฏฺาเน ขชฺโชปนเก วิย จ หตปฺปเภ หตโสเภ ตํ ตถาคตฺจ เตหิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน วิโรจมานํ ทิสฺวา, ‘‘มหนฺตา วต โภ พุทฺธา นามา’’ติ ปฏิภานํ อุทปาทิ. ตสฺมา เอวมาห.

โกกนทนฺติ ปทุมสฺเสเวตํ เววจนํ. ปาโตติ กาลสฺเสว. สิยาติ ภเวยฺย. อวีตคนฺธนฺติ อวิคตคนฺธํ. องฺคีรสนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธํ. ภควโต หิ องฺคโต รสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา องฺคีรโสติ วุจฺจติ. ยถา โกกนทสงฺขาตํ ปทุมํ ปาโตว ผุลฺลํ อวีตคนฺธํ สิยา, เอวเมว ภควนฺตํ องฺคีรสํ ตปนฺตํ อาทิจฺจมิว อนฺตลิกฺเข วิโรจมานํ ปสฺสาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. ภควนฺตํ อจฺฉาเทสีติ ภควโต อทาสีติ อตฺโถ. โลกโวหารโต ปเนตฺถ อีทิสํ วจนํ โหติ. โส กิร อุปาสโก – ‘‘เอเต ตถาคตสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา มยฺหํ ปฺจ อุตฺตราสงฺเค เทนฺติ, อหมฺปิ เต ภควโตว ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อทาสิ. ทุติยํ.

๓. โทณปากสุตฺตวณฺณนา

๑๒๔. ตติเย โทณปากกุรนฺติ โทณปากํ กุรํ, โทณสฺส ตณฺฑุลานํ ปกฺกภตฺตํ ตทูปิยฺจ สูปพฺยฺชนํ ภุฺชตีติ อตฺโถ. ภุตฺตาวีติ ปุพฺเพ ภตฺตสมฺมทํ วิโนเทตฺวา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา พุทฺธุปฏฺานํ คจฺฉติ, ตํทิวสํ ปน ภุฺชนฺโตว ทสพลํ สริตฺวา หตฺเถ โธวิตฺวา อคมาสิ. มหสฺสาสีติ ตสฺส คจฺฉโต พลวา ภตฺตปรีฬาโห อุทปาทิ, ตสฺมา มหนฺเตหิ อสฺสาเสหิ อสฺสสติ, คตฺตโตปิสฺส เสทพินฺทูนิ มุจฺจนฺติ, ตเมนํ อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ยมกตาลวณฺเฏหิ พีชนฺติ, พุทฺธคารเวน ปน นิปชฺชิตุํ น อุสฺสหตีติ อิทํ สนฺธาย ‘‘มหสฺสาสี’’ติ วุตฺตํ. อิมํ คาถํ อภาสีติ, ราชา โภชเน อมตฺตฺุตาย กิลมติ, ผาสุ วิหารํ ทานิสฺส กริสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อภาสิ. มนุชสฺสาติ สตฺตสฺส. กหาปณสตนฺติ ปาตราเส ปณฺณาสํ สายมาเส ปณฺณาสนฺติ เอวํ กหาปณสตํ. ปริยาปุณิตฺวาติ รฺา สทฺธึ โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อิมํ มงฺคลอสึ กสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ? อสุกสฺส นาม เทหีติ โส ตํ อสึ ทตฺวา ทสพลสฺส สนฺติกํ อาคมฺม วนฺทิตฺวา ิตโกว ‘‘คาถํ วทถ, โภ โคตมา’’ติ วตฺวา ภควตา วุตฺตํ ปริยาปุณิตฺวาติ อตฺโถ.

ภตฺตาภิหาเร สุทํ ภาสตีติ กถํ ภาสติ? ภควตา อนุสิฏฺินิยาเมน. ภควา หิ นํ เอวํ อนุสาสิ – ‘‘มาณว, อิมํ คาถํ นโฏ วิย ปตฺตปตฺตฏฺาเน มา อวจ, รฺโ ภุฺชนฏฺาเน ตฺวา ปมปิณฺฑาทีสุปิ อวตฺวา โวสานปิณฺเฑ คหิเต วเทยฺยาสิ, ราชา สุตฺวาว ภตฺตปิณฺฑํ ฉฑฺเฑสฺสติ. อถ รฺโ หตฺเถสุ โธเตสุ ปาตึ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยฺชนํ ตฺวา ปุนทิวเส ตาวตเก ตณฺฑุเล หาเรยฺยาสิ, ปาตราเส จ วตฺวา สายมาเส มา วเทยฺยาสี’’ติ. โส สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตํทิวสํ รฺโ ปาตราสํ ภุตฺวา คตตฺตา สายมาเส ภควโต อนุสิฏฺินิยาเมน คาถํ อภาสิ. ราชา ทสพลสฺส วจนํ สริตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ปาติยํเยว ฉฑฺเฑสิ. รฺโ หตฺเถสุ โธเตสุ ปาตึ อปเนตฺวา สิตฺถานิ คเณตฺวา ตทุปิยํ พฺยฺชนํ ตฺวา ปุนทิวเส ตตฺตเก ตณฺฑุเล หรึสุ.

นาฬิโกทนปรมตาย สณฺาสีติ โส กิร มาณโว ทิวเส ทิวเส ตถาคตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ, ทสพลสฺส วิสฺสาสิโก อโหสิ. อถ นํ เอกทิวสํ ปุจฺฉิ ‘‘ราชา กิตฺตกํ ภุฺชตี’’ติ? โส ‘‘นาฬิโกทน’’นฺติ อาห. วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตาวตา ปุริสภาโค เอส, อิโต ปฏฺาย คาถํ มา วทีติ. อิติ ราชา ตตฺเถว สณฺาสิ. ทิฏฺธมฺมิเกน เจว อตฺเถน สมฺปรายิเกน จาติ เอตฺถ สลฺลิขิตสรีรตา ทิฏฺธมฺมิกตฺโถ นาม, สีลํ สมฺปรายิกตฺโถ. โภชเน มตฺตฺุตา หิ สีลงฺคํ นาม โหตีติ. ตติยํ.

๔. ปมสงฺคามสุตฺตวณฺณนา

๑๒๕. จตุตฺเถ เวเทหิปุตฺโตติ เวเทหีติ ปณฺฑิตาธิวจนเมตํ, ปณฺฑิติตฺถิยา ปุตฺโตติ อตฺโถ. จตุรงฺคินินฺติ หตฺถิอสฺสรถปตฺติสงฺขาเตหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. สนฺนยฺหิตฺวาติ จมฺมปฏิมุฺจนาทีหิ สนฺนาหํ กาเรตฺวา. สงฺคาเมสุนฺติ ยุชฺฌึสุ. เกน การเณน? มหาโกสลรฺา กิร พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺเตน ทฺวินฺนํ รชฺชานํ อนฺตเร สตสหสฺสุฏฺาโน กาสิคาโม นาม ธีตุ ทินฺโน. อชาตสตฺตุนา จ ปิตริ มาริเต มาตาปิสฺส รฺโ วิโยคโสเกน นจิรสฺเสว มตา. ตโต ราชา ปเสนทิ โกสโล – ‘‘อชาตสตฺตุนา มาตาปิตโร มาริตา, มยฺหํ ปิตุ สนฺตโก คาโม’’ติ ตสฺสตฺถาย อฑฺฑํ กโรติ. อชาตสตฺตุปิ ‘‘มยฺหํ มาตุ สนฺตโก’’ติ ตสฺส คามสฺสตฺถาย ทฺเวปิ มาตุลภาคิเนยฺยา ยุชฺฌึสุ.

ปาปา เทวทตฺตาทโย มิตฺตา อสฺสาติ ปาปมิตฺโต. เตเยวสฺส สหายาติ ปาปสหาโย. เตสฺเววสฺส จิตฺตํ นินฺนํ สมฺปวงฺกนฺติ ปาปสมฺปวงฺโก. ปเสนทิสฺส สาริปุตฺตตฺเถราทีนํ วเสน กลฺยาณมิตฺตาทิตา เวทิตพฺพา. ทุกฺขํ เสตีติ ชิตานิ หตฺถิอาทีนิ อนุโสจนฺโต ทุกฺขํ สยิสฺสติ. อิทํ ภควา ปุน ตสฺส ชยการณํ ทิสฺวา อาห. ชยํ เวรํ ปสวตีติ ชินนฺโต เวรํ ปสวติ, เวริปุคฺคลํ ลภติ. จตุตฺถํ.

๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา

๑๒๖. ปฺจเม อพฺภุยฺยาสีติ ปราชเย ครหปฺปตฺโต ‘‘อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ กถาสลฺลาปํ สุณาถา’’ติ รตฺติภาเค พุทฺธรกฺขิเตน นาม วุฑฺฒปพฺพชิเตน ธมฺมรกฺขิตสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส ‘‘สเจ ราชา อิมฺจ อุปายํ กตฺวา คจฺเฉยฺย, ปุน ชิเนยฺยา’’ติ วุตฺตชยการณํ สุตฺวา อภิอุยฺยาสิ.

ยาวสฺส อุปกปฺปตีติ ยาว ตสฺส อุปกปฺปติ สยฺหํ โหติ. ยทา จฺเติ ยทา อฺเ. วิลุมฺปนฺตีติ ตํ วิลุมฺปิตฺวา ิตปุคฺคลํ วิลุมฺปนฺติ. วิลุมฺปตีติ วิลุมฺปิยติ. านํ หิ มฺตีติ ‘‘การณ’’นฺติ หิ มฺติ. ยทาติ ยสฺมึ กาเล. เชตารํ ลภเต ชยนฺติ ชยนฺโต ปุคฺคโล ปจฺฉา เชตารมฺปิ ลภติ. โรเสตารนฺติ ฆฏฺเฏตารํ. โรสโกติ ฆฏฺฏโก. กมฺมวิวฏฺเฏนาติ กมฺมปริณาเมน, ตสฺส วิลุมฺปนกมฺมสฺส วิปากทาเนน. โส วิลุตฺโต วิลุปฺปตีติ โส วิลุมฺปโก วิลุมฺปิยติ. ปฺจมํ.

๖. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๒๗. ฉฏฺเ อุปสงฺกมีติ มลฺลิกาย เทวิยา คพฺภวุฏฺานกาเล สูติฆรํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา อุปสงฺกมิ. อนตฺตมโน อโหสีติ, ‘‘ทุคฺคตกุลสฺส เม ธีตุ มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, สเจ ปุตฺตํ อลภิสฺส, มหนฺตํ สกฺการํ อธิคมิสฺส, ตโต ทานิ ปริหีนา’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ. เสยฺยาติ ทนฺธปฺสฺมา เอลมูคปุตฺตโต เอกจฺจา อิตฺถีเยว เสยฺยา. โปสาติ โปเสหิ. ชนาธิปาติ ชนาธิภุํ ราชานํ อาลปติ. สสฺสุเทวาติ สสฺสุสสุรเทวตา. ทิสมฺปตีติ ทิสาเชฏฺกา. ตาทิสา สุภคิยาติ ตาทิสาย สุภริยาย. ฉฏฺํ.

๗. อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา

๑๒๘. สตฺตเม สมธิคฺคยฺหาติ สมธิคฺคณฺหิตฺวา, อาทิยิตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปมาโทติ การาปกอปฺปมาโท. สโมธานนฺติ สมวธานํ อุปกฺเขปํ. เอวเมว โขติ หตฺถิปทํ วิย หิ การาปกอปฺปมาโท, เสสปทชาตานิ วิย อวเสสา จตุภูมกา กุสลธมฺมา. เต หตฺถิปเท เสสปทานิ วิย อปฺปมาเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, อปฺปมาทสฺส อนฺโต ปริวตฺตนฺติ. ยถา จ หตฺถิปทํ เสสปทานํ อคฺคํ เสฏฺํ, เอวํ อปฺปมาโท เสสธมฺมานนฺติ ทสฺเสติ. มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺมานมฺปิ เหส ปฏิลาภกฏฺเน โลกิโยปิ สมาโน อคฺโคว โหติ.

อปฺปมาทํ ปสํสนฺตีติ ‘‘เอตานิ อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพ’’ติ อปฺปมาทเมว ปสํสนฺติ. ยสฺมา วา ปุฺกิริยาสุ ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ตสฺมา อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพติ อตฺโถ. อตฺถาภิสมยาติ อตฺถปฏิลาภา. สตฺตมํ.

๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๒๙. อฏฺเม โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺสาติ โส จายํ ธมฺโม กลฺยาณมิตฺตสฺเสว สฺวากฺขาโต นาม โหติ, น ปาปมิตฺตสฺสาติ. กิฺจาปิ หิ ธมฺโม สพฺเพสมฺปิ สฺวากฺขาโตว, กลฺยาณมิตฺตสฺส ปน สุสฺสูสนฺตสฺส สทฺทหนฺตสฺส อตฺถํ ปูเรติ เภสชฺชํ วิย วฬฺชนฺตสฺส น อิตรสฺสาติ. เตเนตํ วุตฺตํ. ธมฺโมติ เจตฺถ เทสนาธมฺโม เวทิตพฺโพ.

อุปฑฺฒมิทนฺติ เถโร กิร รโหคโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สมณธมฺโม นาม โอวาทเก อนุสาสเก กลฺยาณมิตฺเต สติ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ิตสฺส สมฺปชฺชติ, อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตโต โหติ, อุปฑฺฒํ ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ ปเทสาเณ ิโต นิปฺปเทสํ จินฺเตตุํ น สกฺโกมิ, สตฺถารํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสามี’’ติ. ตสฺมา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห. พฺรหฺมจริยสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตาติ ยา เอสา กลฺยาณมิตฺตตา นาม, สา อุปฑฺฒํ, ตโต อุปฑฺฒํ อาคจฺฉตีติ อตฺโถ. อิติ เถเรน ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒา สมฺมาทิฏฺิอาทโย กลฺยาณมิตฺตโต อาคจฺฉนฺติ, อุปฑฺฒุปฑฺฒา ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เถรสฺส อยํ มโนรโถ, ยถา ปน พหูหิ สิลาถมฺเภ อุสฺสาปิเต, ‘‘เอตฺตกํ านํ อสุเกน อุสฺสาปิตํ, เอตฺตกํ อสุเกนา’’ติ วินิพฺโภโค นตฺถิ, ยถา จ มาตาปิตโร นิสฺสาย อุปฺปนฺเนสุ ปุตฺเตสุ ‘‘เอตฺตกํ มาติโต นิพฺพตฺตํ, เอตฺตกํ ปิติโต’’ติ วินิพฺโภโค นตฺถิ, เอวํ อิธาปิ อวินิพฺโภคธมฺโม เหส, ‘‘เอตฺตกํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ กลฺยาณมิตฺตโต นิพฺพตฺตํ, เอตฺตกํ ปจฺจตฺตปุริสการโต’’ติ น สกฺกา ลทฺธุํ, กลฺยาณมิตฺตตาย ปน อุปฑฺฒคุโณ ลพฺภตีติ เถรสฺส อชฺฌาสเยน อุปฑฺฒํ นาม ชาตํ, สกลคุโณ ปฏิลพฺภตีติ ภควโต อชฺฌาสเยน สกลํ นาม ชาตํ. กลฺยาณมิตฺตตาติ เจตํ ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺคํ นามาติ คหิตํ. อตฺถโต กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย ลทฺธา สีลสมาธิวิปสฺสนาวเสน จตฺตาโร ขนฺธา. สงฺขารกฺขนฺโธติปิ วทนฺติเยว.

มา เหวํ, อานนฺทาติ, อานนฺท, มา เอวํ อภณิ, พหุสฺสุโต ตฺวํ เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต อฏฺ วเร คเหตฺวา มํ อุปฏฺหสิ, จตูหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, ตาทิสสฺส เอวํ กเถตุํ น วฏฺฏติ. สกลเมว หิทํ, อานนฺท, พฺรหฺมจริยํ, ยทิทํ กลฺยาณมิตฺตตาติ อิทํ ภควา – ‘‘จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา สพฺพํ กลฺยาณมิตฺตมูลกเมว โหตี’’ติ สนฺธายาห. อิทานิ วจีเภเทเนว การณํ ทสฺเสนฺโต กลฺยาณมิตฺตสฺเสตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาฏิกงฺขนฺติ ปาฏิกงฺขิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพํ, อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตีติอาทีสุ อฏฺนฺนํ อาทิปทานํเยว ตาว อยํ สงฺเขปวณฺณนา – สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหณลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทาปนลกฺขณา สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.

เตสุ เอเกกสฺส ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ. เสยฺยาถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธํ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาทิฏฺิ สหชาตธมฺเม สมฺมา ทสฺเสติ. สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาเปติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา ทหติ.

อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานาขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. กิจฺจโต ปน สมฺมาทิฏฺิ ทุกฺเข าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานาขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.

เอวํ ตาว ‘‘สมฺมาทิฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตานํ อฏฺนฺนํ อาทิปทานํเยว อตฺถวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตนฺติอาทีสุ เอวํ าตพฺโพ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ, อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนติ, อภินิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ วิเวกํ นิสฺสิตํ, วิเวเก วา นิสฺสิตนฺติ วิเวกนิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. วิวิตฺตตา จายํ ตทงฺควิเวโก, วิกฺขมฺภน-สมุจฺเฉท-ปฏิปฺปสฺสทฺธิ-นิสฺสรณวิเวโกติ ปฺจวิโธ. เอวเมตสฺมึ ปฺจวิเธ วิเวเก. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ อยํ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสุ. วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย.

เกวลฺเจตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ จ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ จ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ, ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สมฺมาทิฏฺิ ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ.

โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ, ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อิทํ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สมฺมาทิฏฺิ กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺกา โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เอส นโย เสสมคฺคงฺเคสุ.

อาคมฺมาติ อารพฺภ สนฺธาย ปฏิจฺจ. ชาติธมฺมาติ ชาติสภาวา ชาติปกติกา. ตสฺมาติ ยสฺมา สกโล อริยมคฺโคปิ กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย ลพฺภติ, ตสฺมา. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. อปฺปมาทํ ปสํสนฺตีติ อปฺปมาทํ วณฺณยนฺติ, ตสฺมา อปฺปมาโท กาตพฺโพ. อตฺถาภิสมยาติ อตฺถปฏิลาภา. อฏฺมํ.

๙. ปมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา

๑๓๐. นวเม ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา, มชฺฌนฺหิกสมเยติ อตฺโถ. สาปเตยฺยนฺติ ธนํ. โก ปน วาโท รูปิยสฺสาติ สุวณฺณรชตตมฺพโลหกาฬโลหผาลกจฺฉปกาทิเภทสฺส ฆนกตสฺส เจว ปริโภคภาชนาทิเภทสฺส จ รูปิยภณฺฑสฺส ปน โก วาโท? ‘‘เอตฺตกํ นามา’’ติ กา ปริจฺเฉทกถาติ อตฺโถ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ. สาณนฺติ สาณวากมยํ. ติปกฺขวสนนฺติ ตีณิ ขณฺฑานิ ทฺวีสุ าเนสุ สิพฺพิตฺวา กตนิวาสนํ.

อสปฺปุริโสติ ลามกปุริโส. อุทฺธคฺคิกนฺติอาทีสุ อุปรูปริภูมีสุ ผลทานวเสน อุทฺธํ อคฺคมสฺสาติ อุทฺธคฺคิกา. สคฺคสฺส หิตา ตตฺรุปปตฺติชนนโตติ โสวคฺคิกา. นิพฺพตฺตฏฺาเนสุ สุโข วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากา. สุฏฺุ อคฺคานํ ทิพฺพวณฺณาทีนํ วิเสสานํ นิพฺพตฺตนโต สคฺคสํวตฺตนิกา. เอวรูปํ ทกฺขิณทานํ น ปติฏฺาเปตีติ.

สาโตทกาติ มธุโรทกา. เสตฺโตทกาติ วีจีนํ ภินฺนฏฺาเน อุทกสฺส เสตตาย เสโตทกา. สุปติตฺถาติ สุนฺทรติตฺถา. ตํ ชโนติ เยน อุทเกน สาโตทกา, ตํ อุทกํ ชโน ภาชนานิ ปูเรตฺวา เนว หเรยฺย. น ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺยาติ, ยํ ยํ อุทเกน อุทกกิจฺจํ กาตพฺพํ, ตํ ตํ น กเรยฺย. ตทเปยฺยมานนฺติ ตํ อเปยฺยมานํ. กิจฺจกโร จ โหตีติ อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจกโร เจว กุสลกิจฺจกโร จ, ภุฺชติ จ, กมฺมนฺเต จ ปโยเชติ, ทานฺจ เทตีติ อตฺโถ. นวมํ.

๑๐. ทุติยอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา

๑๓๑. ทสเม ปิณฺฑปาเตน ปฏิปาเทสีติ ปิณฺฑปาเตน สทฺธึ สํโยเชสิ, ปิณฺฑปาตํ อทาสีติ อตฺโถ. ปกฺกามีติ เกนจิเทว ราชุปฏฺานาทินา กิจฺเจน คโต. ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสีติ โส กิร อฺเสุปิ ทิวเสสุ ตํ ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปสฺสติ, ทาตุํ ปนสฺส จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ ปน ทิวเส อยํ ปทุมวติเทวิยา ตติยปุตฺโต ตคฺครสิขี ปจฺเจกพุทฺโธ คนฺธมาทนปพฺพเต ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย วุฏฺาย อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา มโนสิลาตเล นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา นครทฺวาเร โอรุยฺห จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย นครวาสีนํ ฆรทฺวาเรสุ สหสฺสภณฺฑิกํ เปนฺโต วิย ปาสาทิเกหิ อภิกฺกนฺตาทีหิ อนุปุพฺเพน เสฏฺิโน ฆรทฺวารํ สมฺปตฺโต. ตํทิวสฺจ เสฏฺิ ปาโตว อุฏฺาย ปณีตโภชนํ ภุฺชิตฺวา, ฆรทฺวารโกฏฺเก อาสนํ ปฺาเปตฺวา, ทนฺตนฺตรานิ โสเธนฺโต นิสินฺโน โหติ. โส ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา, ตํทิวสํ ปาโต ภุตฺวา นิสินฺนตฺตา ทานจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา, ภริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อิมสฺส สมณสฺส ปิณฺฑปาตํ เทหี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.

เสฏฺิภริยา จินฺเตสิ – ‘‘มยา เอตฺตเกน กาเลน อิมสฺส ‘เทถา’ติ วจนํ น สุตปุพฺพํ, ทาเปนฺโตปิ จ อชฺช น ยสฺส วา ตสฺส วา ทาเปติ, วีตราคโทสโมหสฺส วนฺตกิเลสสฺส โอหิตภารสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาเปติ, ยํ วา ตํ วา อทตฺวา ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสามี’’ติ, ฆรา นิกฺขมฺม ปจฺเจกพุทฺธํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปตฺตํ อาทาย อนฺโตนิเวสเน ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา สุปริสุทฺเธหิ สาลิตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตทนุรูปํ ขาทนียํ พฺยฺชนํ สุเปยฺยฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา พหิ คนฺเธหิ สมลงฺกริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถสุ ปติฏฺเปตฺวา วนฺทิ. ปจฺเจกพุทฺโธ – ‘‘อฺเสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ อปริภุฺชิตฺวาว อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ โข เสฏฺิ พาหิรโต อาคจฺฉนฺโต ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา มยํ ‘‘ตุมฺหากํ ปิณฺฑปาตํ เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺตา, อปิ โว ลทฺโธติ? อาม, เสฏฺิ ลทฺโธติ. ‘‘ปสฺสามี’’ติ คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกสิ. อถสฺส ปิณฺฑปาตคนฺโธ อุฏฺหิตฺวา นาสาปุฏํ ปหริ. โส จิตฺตํ สํยเมตุํ อสกฺโกนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อาโหสีติ.

วรเมตนฺติอาทิ วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปนฺนาการทสฺสนํ. ภาตุ จ ปน เอกปุตฺตกํ สาปเตยฺยสฺส การณา ชีวิตา โวโรเปสีติ ตทา กิรสฺส อวิภตฺเตเยว กุฏุมฺเพ มาตาปิตโร จ เชฏฺภาตา จ กาลมกํสุ. โส ภาตุชายาย สทฺธึเยว สํวาสํ กปฺเปสิ. ภาตุ ปนสฺส เอโก ปุตฺโต โหติ, ตํ วีถิยา กีฬนฺตํ มนุสฺสา วทนฺติ – ‘‘อยํ ทาโส อยํ ทาสี อิทํ ยานํ อิทํ ธนํ ตว สนฺตก’’นฺติ. โส เตสํ กถํ คเหตฺวา – ‘‘อยํ ทาโส มยฺหํ สนฺตก’’นฺติอาทีนิ กเถติ.

อถสฺส จูฬปิตา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ทารโก อิทาเนว เอวํ กเถสิ, มหลฺลกกาเล กุฏุมฺพํ มชฺเฌ ภินฺทาเปยฺย, อิทาเนวสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ วาสึ อาทาย – ‘‘เอหิ ปุตฺต, อรฺํ คจฺฉามา’’ติ ตํ อรฺํ เนตฺวา วิรวนฺตํ วิรวนฺตํ มาเรตฺวา อาวาเฏ ปกฺขิปิตฺวา ปํสุนา ปฏิจฺฉาเทสิ. อิทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สตฺตกฺขตฺตุนฺติ สตฺตวาเร. ปุพฺพปจฺฉิมเจตนาวเสน เจตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอกปิณฺฑปาตทานสฺมิฺหิ เอกาว เจตนา ทฺเว ปฏิสนฺธิโย น เทติ, ปุพฺพปจฺฉิมเจตนาหิ ปเนส สตฺตกฺขตฺตุํ สคฺเค, สตฺตกฺขตฺตุํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺโต. ปุราณนฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส ทินฺนปิณฺฑปาตเจตนากมฺมํ.

ปริคฺคหนฺติ ปริคฺคหิตวตฺถุ. อนุชีวิโนติ เอกํ มหากุลํ นิสฺสาย ปณฺณาสมฺปิ สฏฺิปิ กุลานิ ชีวนฺติ, เต มนุสฺเส สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สพฺพํ นาทาย คนฺตพฺพนฺติ สพฺพเมตํ น อาทิยิตฺวา คนฺตพฺพํ. สพฺพํ นิกฺขิปฺปคามินนฺติ สพฺพเมตํ นิกฺขิปฺปสภาวํ, ปริจฺจชิตพฺพสภาวเมวาติ อตฺโถ. ทสมํ.

ทุติโย วคฺโค.

๓. ตติยวคฺโค

๑. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา

๑๓๒. ตติยวคฺคสฺส ปเม ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม. กายทุจฺจริตาทีหิ ปุน นิรยตมูปคมนโต ตมปรายโณ. อิติ อุภเยนปิ ขนฺธตโมว กถิโต โหติ. ‘‘อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิเกน โชตินา ยุตฺตโต โชติ, อาโลกีภูโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสุจริตาทีหิ ปุน สคฺคูปปตฺติโชติภาวูปคมนโต โชติปรายโณ. อิมินา นเยน อิตเรปิ ทฺเว เวทิตพฺพา.

เวนกุเลติ วิลีวการกุเล. เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกาทีนํ กุเล. รถการกุเลติ จมฺมการกุเล. ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผฉฑฺฑกกุเล. กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขวุตฺติเก. ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี. ปทีเปยฺยสฺสาติ เตลกปลฺลกาทิโน ปทีปอุปกรณสฺส. เอวํ โข, มหาราชาติ เอตฺถ เอโก ปุคฺคโล พหิทฺธา อาโลกํ อทิสฺวา มาตุกุจฺฉิสฺมึเยว กาลํ กตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺโต สกลํ กปฺปมฺปิ สํสรติ, โสปิ ตโมตมปรายโณว. โส ปน กุหกปุคฺคโล ภเวยฺย. กุหกสฺส หิ เอวรูปา นิพฺพตฺติ โหตีติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ ‘‘นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ จณฺฑาลกุเล วา’’ติอาทีหิ อาคมนวิปตฺติ เจว ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ จ ทสฺสิตา. ทลิทฺเทติอาทีหิ ปวตฺตปจฺจยวิปตฺติ. กสิรวุตฺติเกติอาทีหิ อาชีวุปายวิปตฺติ. ทุพฺพณฺโณติอาทีหิ อตฺตภาววิปตฺติ. พวฺหาพาโธติอาทีหิ ทุกฺขการณสมาโยโค. น ลาภีติอาทีหิ สุขการณวิปตฺติ เจว อุปโภควิปตฺติ จ. กาเยน ทุจฺจริตนฺติอาทีหิ ตมปรายณภาวสฺส การณสมาโยโค. กายสฺส เภทาติอาทีหิ สมฺปรายิกตมูปคโม. สุกฺกปกฺโข วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ.

อกฺโกสตีติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ, ‘‘กสฺมา ติฏฺถ? กึ ตุมฺเหหิ อมฺหากํ กสิกมฺมาทีนิ กตานี’’ติอาทีหิ? ปริภววจเนหิ ปริภาสติ. โรสโกติ ฆฏฺฏโก. อพฺยคฺคมนโสติ เอกคฺคจิตฺโต. ปมํ.

๒. อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๓๓. ทุติเย ชิณฺณาติ ชราชิณฺณา. วุฑฺฒาติ วโยวุฑฺฒา. มหลฺลิกาติ ชาติมหลฺลิกา. อทฺธคตาติ อทฺธํ จิรกาลํ อติกฺกนฺตา. วโยอนุปฺปตฺตาติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺตา. ปิยา มนาปาติ รฺโ กิร มาตริ มตาย อยฺยิกา มาตุฏฺาเน ตฺวา ปฏิชคฺคิ, เตนสฺส อยฺยิกาย พลวเปมํ อุปฺปชฺชิ. ตสฺมา เอวมาห. หตฺถิรตเนนาติ สตสหสฺสคฺฆนโก หตฺถี สตสหสฺสคฺฆนเกน อลงฺกาเรน อลงฺกโต หตฺถิรตนํ นาม. อสฺสรตเนปิ เอเสว นโย. คามวโรปิ สตสหสฺสุฏฺานกคาโมว. สพฺพานิ ตานิ เภทนธมฺมานีติ เตสุ หิ กิฺจิ กริยมานเมว ภิชฺชติ, กิฺจิ กตปริโยสิตํ จกฺกโต อนปนีตเมว, กิฺจิ อปเนตฺวา ภูมิยํ ปิตมตฺตํ, กิฺจิ ตโต ปรํ, เอวเมว สตฺเตสุปิ โกจิ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา มรติ, โกจิ มูฬฺหคพฺภาย มาตริ มาตุกุจฺฉิโต อนิกฺขนฺโตว, โกจิ นิกฺขนฺตมตฺโต, โกจิ ตโต ปรนฺติ. ตสฺมา เอวมาห. ทุติยํ.

๑๓๔. ตติเย สพฺพํ อุตฺตานเมว. ตติยํ.

๔. อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๓๕. จตุตฺถสฺส อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป. ภควโต กิร ปมโพธิยํ มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ. ติตฺถิยา หตลาภสกฺการา หุตฺวา กุเลสุ เอวํ กนฺเถนฺตา วิจรนฺติ – ‘‘สมโณ โคตโม เอวมาห, ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ. มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ. มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ. ยุตฺตํ นุ โข สยมฺปิ ภิกฺขาจารนิสฺสิเตน ปเรสํ ภิกฺขาจารนิสฺสิตานํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนฺตรายํ กาตุํ, อยุตฺตํ กโรติ อนนุจฺฉวิก’’นฺติ. สา กถา ปตฺถรมานา ราชกุลํ สมฺปตฺตา. ราชา สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อฏฺานเมตํ ยํ ตถาคโต ปเรสํ ลาภนฺตรายํ กเรยฺย. เอเต ตถาคตสฺส อลาภาย อยสาย ปริสกฺกนฺติ. สจาหํ อิเธว ตฺวา ‘มา เอวํ อโวจุตฺถ, น สตฺถา เอวํ กเถตี’ติ วเทยฺยํ, เอวํ สา กถา นิชฺฌตฺตึ น คจฺเฉยฺย, อิมสฺส มหาชนสฺส สนฺนิปติตกาเลเยว นํ นิชฺฌาเปสฺสามี’’ติ เอกํ ฉณทิวสํ อาคเมนฺโต ตุณฺหี อโหสิ.

อปเรน สมเยน มหาฉเณ สมฺปตฺเต ‘‘อยํ อิมสฺส กาโล’’ติ นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘สทฺธา วา อสฺสทฺธา วา สมฺมาทิฏฺิกา วา มิจฺฉาทิฏฺิกา วา เคหรกฺขเก ทารเก วา มาตุคาเม วา เปตฺวา อวเสสา เย วิหารํ นาคจฺฉนฺติ, ปฺาสํ ทณฺโฑ’’ติ. สยมฺปิ ปาโตว นฺหตฺวา กตปาตราโส สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิโต มหตา พลกาเยน สทฺธึ วิหารํ อคมาสิ. คจฺฉนฺโต จ จินฺเตสิ – ‘‘ภควา ตุมฺเห กิร เอวํ วทถ ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ เอวํ ปุจฺฉิตุํ อยุตฺตํ, ปฺหเมว ปุจฺฉิสฺสามิ, ปฺหํ กเถนฺโต จ เม ภควา อวสาเน ติตฺถิยานํ วาทํ ภฺชิสฺสตี’’ติ. โส ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต กตฺถ นุ โข, ภนฺเต, ทานํ ทาตพฺพนฺติ อาห. ยตฺถาติ ยสฺมึ ปุคฺคเล จิตฺตํ ปสีทติ, ตสฺมึ ทาตพฺพํ, ตสฺส วา ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต ราชา เยหิ มนุสฺเสหิ ติตฺถิยานํ วจนํ อาโรจิตํ, เต โอโลเกสิ. เต รฺา โอโลกิตมตฺตาว มงฺกุภูตา อโธมุขา ปาทงฺคุฏฺเกน ภูมึ เลขมานา อฏฺํสุ. ราชา – ‘‘เอกปเทเนว, ภนฺเต, หตา ติตฺถิยา’’ติ มหาชนํ สาเวนฺโต มหาสทฺเทน อภาสิ. เอวฺจ ปน ภาสิตฺวา – ‘‘ภควา จิตฺตํ นาม นิคณฺาเจลกปริพฺพาชกาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปสีทติ, กตฺถ ปน, ภนฺเต, ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ ปุจฺฉิ. อฺํ โข เอตนฺติ, ‘‘มหาราช, อฺํ ตยา ปมํ ปุจฺฉิตํ, อฺํ ปจฺฉา, สลฺลกฺเขหิ เอตํ, ปฺหากถนํ ปน มยฺหํ ภาโร’’ติ วตฺวา สีลวโต โขติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ตฺยสฺสาติ อิธ เต อสฺส. สมุปพฺยูฬฺโหติ ราสิภูโต. อสิกฺขิโตติ ธนุสิปฺเป อสิกฺขิโต. อกตหตฺโถติ มุฏฺิพนฺธาทิวเสน อสมฺปาทิตหตฺโถ. อกตโยคฺโคติ ติณปุฺชมตฺติกาปุฺชาทีสุ อกตปริจโย. อกตูปาสโนติ ราชราชมหามตฺตานํ อทสฺสิตสรกฺเขโป. ฉมฺภีติ ปเวธิตกาโย.

กามจฺฉนฺโท ปหีโนติอาทีสุ อรหตฺตมคฺเคน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, อนาคามิมคฺเคน พฺยาปาโท, อรหตฺตมคฺเคเนว ถินมิทฺธํ, ตถา อุทฺธจฺจํ, ตติเยเนว กุกฺกุจฺจํ, ปมมคฺเคน วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนาติ อเสกฺขสฺส สีลกฺขนฺโธ อเสกฺโข สีลกฺขนฺโธ นาม. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ ปุริเมหิ จตูหิ ปเทหิ โลกิยโลกุตฺตรสีลสมาธิปฺาวิมุตฺติโย กถิตา. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณาณํ โหติ, ตํ โลกิยเมว.

อิสฺสตฺตนฺติ อุสุสิปฺปํ. พลวีริยนฺติ เอตฺถ พลํ นาม วาโยธาตุ, วีริยํ กายิกเจตสิกวีริยเมว. ภเรติ ภเรยฺย. นาสูรํ ชาติปจฺจยาติ, ‘‘อยํ ชาติสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ ชาติการณา อสูรํ น ภเรยฺย.

ขนฺติโสรจฺจนฺติ เอตฺถ ขนฺตีติ อธิวาสนขนฺติ, โสรจฺจนฺติ อรหตฺตํ. ธมฺมาติ เอเต ทฺเว ธมฺมา. อสฺสเมติ อาวสเถ. วิวเนติ อรฺฏฺาเน, นิรุทเก อรฺเ จตุรสฺสโปกฺขรณิอาทีนิ การเยติ อตฺโถ. ทุคฺเคติ วิสมฏฺาเน. สงฺกมนานีติ ปณฺณาสหตฺถสฏฺิหตฺถานิ สโมกิณฺณปริสุทฺธวาลิกานิ สงฺกมนานิ กเรยฺย.

อิทานิ เอเตสุ อรฺเสนาสเนสุ วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขนฺโต อนฺนํ ปานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เสนาสนานีติ มฺจปีาทีนิ. วิปฺปสนฺเนนาติ ขีณาสวสฺส เทนฺโตปิ สกงฺเขน กิเลสมลิเนน จิตฺเตน อทตฺวา วิปฺปสนฺเนเนว จิตฺเตน ทเทยฺย. ถนยนฺติ คชฺชนฺโต. สตกฺกกูติ สตสิขโร, อเนกกูโฏติ อตฺโถ. อภิสงฺขจฺจาติ อภิสงฺขริตฺวา สโมธาเนตฺวา ราสึ กตฺวา.

อาโมทมาโนติ ตุฏฺมานโส หุตฺวา. ปกิเรตีติ ทานคฺเค วิจิรติ, ปกิรนฺโต วิย วา ทานํ เทติ. ปุฺธาราติ อเนกทานเจตนามยา ปุฺธารา. ทาตารํ อภิวสฺสตีติ ยถา อากาเส สมุฏฺิตเมฆโต นิกฺขนฺตา อุทกธารา ปถวึ สิเนหยนฺตี เตเมนฺตี กิเลทยนฺตี อภิวสฺสติ, เอวเมว อยมฺปิ ทายกสฺส อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนา ปุฺธารา ตเมว ทาตารํ อนฺโต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสนฺเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทาตารํ อภิวสฺสตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปพฺพตูปมสุตฺตวณฺณนา

๑๓๖. ปฺจเม มุทฺธาวสิตฺตานนฺติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อวสิตฺตานํ กตาภิเสกานํ. กามเคธปริยุฏฺิตานนฺติ กาเมสุ เคเธน ปริยุฏฺิตานํ อภิภูตานํ. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺตานนฺติ ชนปเท ถิรภาวปฺปตฺตานํ. ราชกรณียานีติ ราชกมฺมานิ ราชูหิ กตฺตพฺพกิจฺจานิ. เตสุ ขฺวาหนฺติ เตสุ อหํ. อุสุกฺกมาปนฺโนติ พฺยาปารํ อาปนฺโน. เอส กิร ราชา ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ภควโต อุปฏฺานํ คจฺฉติ, อนฺตราคมนานิ พหูนิปิ โหนฺติ. ตสฺส นิพทฺธํ คจฺฉโต พลกาโย มหาปิ โหติ อปฺโปปิ. อเถกทิวสํ ปฺจสตา โจรา จินฺตยึสุ – ‘‘อยํ ราชา อเวลาย อปฺเปน พเลน สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺานํ คจฺฉติ, อนฺตรามคฺเค นํ คเหตฺวา รชฺชํ คณฺหิสฺสามา’’ติ. เต อนฺธวเน นิลียึสุ. ราชาโน จ นาม มหาปุฺา โหนฺติ. อถ เตสํเยว อพฺภนฺตรโต เอโก ปุริโส นิกฺขมิตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา มหนฺตํ พลกายํ อาทาย อนฺธวนํ ปริวาเรตฺวา เต สพฺเพ คเหตฺวา อนฺธวนโต ยาว นครทฺวารา มคฺคสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ยถา อฺมฺํ จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิพนฺธิตฺวา โอโลเกนฺติ, เอวํ อาสนฺนานิ สูลานิ โรปาเปตฺวา สูเลสุ อุตฺตาเสสิ. อิทํ สนฺธาย เอวมาห.

อถ สตฺถา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ วกฺขามิ, ‘มหาราช, มาทิเส นาม สมฺมาสมฺพุทฺเธ ธุรวิหาเร วสนฺเต ตยา เอวรูปํ ทารุณํ กมฺมํ กตํ, อยุตฺตํ เต กต’นฺติ, อถายํ ราชา มงฺกุ หุตฺวา สนฺถมฺภิตุํ น สกฺกุเณยฺย, ปริยาเยน ธมฺมํ กเถนฺตสฺเสว เม สลฺลกฺเขสฺสตี’’ติ ธมฺมเทสนํ อารภนฺโต ตํ กึ มฺสีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธายิโกติ สทฺธาตพฺโพ, ยสฺส ตฺวํ วจนํ สทฺทหสีติ อตฺโถ. ปจฺจยิโกติ ตสฺเสว เววจนํ, ยสฺส วจนํ ปตฺติยายสีติ อตฺโถ. อพฺภสมนฺติ อากาสสมํ. นิปฺโปเถนฺโต อาคจฺฉตีติ ปถวิตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา สพฺเพ สตฺเต สณฺหกรณียํ ติณจุณฺณํ วิย กโรนฺโต ปิสนฺโต อาคจฺฉติ.

อฺตฺร ธมฺมจริยายาติ เปตฺวา ธมฺมจริยํ อฺํ กาตพฺพํ นตฺถิ, ทสกุสลกมฺมปถสงฺขาตา ธมฺมจริยาว กตฺตพฺพา, ภนฺเตติ – สมจริยาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. อาโรเจมีติ อาจิกฺขามิ. ปฏิเวทยามีติ ชานาเปมิ. อธิวตฺตตีติ อชฺโฌตฺถรติ. หตฺถิยุทฺธานีติ นาฬาคิริสทิเส เหมกปฺปเน นาเค อภิรุยฺห ยุชฺฌิตพฺพยุทฺธานิ. คตีติ นิปฺผตฺติ. วิสโยติ โอกาโส, สมตฺถภาโว วา. น หิ สกฺกา เตหิ ชรามรณํ ปฏิพาหิตุํ. มนฺติโน มหามตฺตาติ มนฺตสมฺปนฺนา มโหสธวิธุรปณฺฑิตาทิสทิสา มหาอมจฺจา. ภูมิคตนฺติ มหาโลหกุมฺภิโย ปูเรตฺวา ภูมิยํ ปิตํ. เวหาสฏฺนฺติ จมฺมปสิพฺพเก ปูเรตฺวา ตุลาสงฺฆาฏาทีสุ ลคฺเคตฺวา เจว นิยฺยุหาทีสุ จ ปูเรตฺวา ปิตํ. อุปลาเปตุนฺติ อฺมฺํ ภินฺทิตุํ. ยถา ทฺเว ชนา เอเกน มคฺเคน น คจฺฉนฺติ เอวํ กาตุํ.

นภํ อาหจฺจาติ อากาสํ ปูเรตฺวา. เอวํ ชรา จ มจฺจุ จาติ อิธ ทฺเวเยว ปพฺพตา คหิตา, ราโชวาเท ปน ‘‘ชรา อาคจฺฉติ สพฺพโยพฺพนํ วิลุมฺปมานา’’ติ เอวํ ชรา มรณํ พฺยาธิ วิปตฺตีติ จตฺตาโรเปเต อาคตาว. ตสฺมาติ ยสฺมา หตฺถิยุทฺธาทีหิ ชรามรณํ ชินิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา. สทฺธํ นิเวสเยติ สทฺธํ นิเวเสยฺย, ปติฏฺาเปยฺยาติ. ปฺจมํ.

ตติโย วคฺโค.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

โกสลสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มารสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๓๗. มารสํยุตฺตสฺส ปเม อุรุเวลายํ วิหรตีติ ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาโณ อุรุเวลคามํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ปมํ อนฺโตสตฺตาหสฺมึเยว. ทุกฺกรการิกายาติ ฉพฺพสฺสานิ กตาย ทุกฺกรการิกาย. มาโร ปาปิมาติ อตฺตโน วิสยํ อติกฺกมิตุํ ปฏิปนฺเน สตฺเต มาเรตีติ มาโร. ปาเป นิโยเชติ, สยํ วา ปาเป นิยุตฺโตติ ปาปิมา. อฺานิปิสฺส กณฺโห, อธิปติ, วสวตฺตี, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติอาทีนิ พหูนิ นามานิ, อิธ ปน นามทฺวยเมว คหิตํ. อุปสงฺกมีติ – ‘‘อยํ สมโณ โคตโม ‘มุตฺโตสฺมี’ติ มฺติ, อมุตฺตภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ.

ตโปกมฺมา อปกฺกมฺมาติ ตโปกมฺมโต อปกฺกมิตฺวา. อปรทฺโธติ ‘‘ทูเร ตฺวํ สุทฺธิมคฺคา’’ติ วทติ. อมรํ ตปนฺติ อมรตปํ อมรภาวตฺถาย กตํ ลูขตปํ, อตฺตกิลมถานุโยโค. สพฺพานตฺถาวหํ โหตีติ, ‘‘สพฺพํ ตปํ มยฺหํ อตฺถาวหํ น ภวตี’’ติ ตฺวา. ผิยาริตฺตํว ธมฺมนีติ อรฺเ ถเล ผิยาริตฺตํ วิย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อรฺเ ถเล นาวํ เปตฺวา ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา มหาชนา อภิรูหิตฺวา ผิยาริตฺตํ คเหตฺวา สํกฑฺเฒยฺยุํ เจว อุปฺปีเลยฺยุํ จ, โส มหาชนสฺส วายาโม เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ นาวาย คมนํ อสาเธนฺโต นิรตฺถโก ภเวยฺย น อนตฺถาวโห, เอวเมว อหํ ‘สพฺพํ อมรํ ตปํ อนตฺถาวหํ โหตี’ติ ตฺวา วิสฺสชฺเชสินฺติ.

อิทานิ ตํ อมรํ ตปํ ปหาย เยน มคฺเคน พุทฺโธ ชาโต, ตํ ทสฺเสนฺโต สีลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สีลนฺติ วจเนน สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, สมาธินา สมฺมาวายามสติสมาธโย, ปฺาย สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. มคฺคํ โพธาย ภาวยนฺติ อิมํ อฏฺงฺคิกเมว อริยมคฺคํ โพธตฺถาย ภาวยนฺโต. เอตฺถ จ โพธายาติ มคฺคตฺถาย. ยถา หิ ยาคุตฺถาย ยาคุเมว ปจนฺติ, ปูวตฺถาย ปูวเมว ปจนฺติ, น อฺํ กิฺจิ กโรนฺติ, เอวํ มคฺคเมว มคฺคตฺถาย ภาเวติ. เตนาห ‘‘มคฺคํ โพธาย ภาวย’’นฺติ. ปรมํ สุทฺธินฺติ อรหตฺตํ. นิหโตติ ตฺวํ มยา นิหโต ปราชิโต. ปมํ.

๒. หตฺถิราชวณฺณสุตฺตวณฺณนา

๑๓๘. ทุติเย รตฺตนฺธการติมิสายนฺติ รตฺตึ อนฺธภาวการเก มหาตเม จตุรงฺเค ตมสิ. อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหตีติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ปาสาณผลเก มหาจีวรํ สีเส เปตฺวา ปธานํ ปริคฺคณฺหมาโน นิสินฺโน โหติ.

นนุ จ ตถาคตสฺส อภาวิโต วา มคฺโค, อปฺปหีนา วา กิเลสา, อปฺปฏิวิทฺธํ วา อกุปฺปํ, อสจฺฉิกโต วา นิโรโธ นตฺถิ, กสฺมา เอวมกาสีติ? อนาคเต กุลปุตฺตานํ องฺกุสตฺถํ. ‘‘อนาคเต หิ กุลปุตฺตา มยา คตมคฺคํ อาวชฺชิตฺวา อพฺโภกาสวาสํ วสิตพฺพํ มฺมานา ปธานกมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ สมฺปสฺสมาโน สตฺถา เอวมกาสิ. มหาติ มหนฺโต. อริฏฺโกติ กาฬโก. มณีติ ปาสาโณ. เอวมสฺส สีสํ โหตีติ เอวรูปํ ตสฺส กาฬวณฺณํ กูฏาคารปฺปมาณํ มหาปาสาณสทิสํ สีสํ โหติ.

สุภาสุภนฺติ ทีฆมทฺธานํ สํสรนฺโต สุนฺทราสุนฺทรํ วณฺณํ กตฺวา อาคโตสีติ วทติ. อถ วา สํสรนฺติ สํสรนฺโต อาคจฺฉนฺโต. ทีฆมทฺธานนฺติ วสวตฺติฏฺานโต ยาว อุรุเวลาย ทีฆมคฺคํ, ปุเร โพธาย วา ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกสมยสงฺขาตํ ทีฆกาลํ. วณฺณํ กตฺวา สุภาสุภนฺติ สุนฺทรฺจ อสุนฺทรฺจ นานปฺปการํ วณฺณํ กตฺวา อเนกวารํ มม สนฺติกํ อาคโตสีติ อตฺโถ. โส กิร วณฺโณ นาม นตฺถิ, เยน วณฺเณน มาโร วิภึสกตฺถาย ภควโต สนฺติกํ น อาคตปุพฺโพ. เตน ตํ ภควา เอวมาห. อลํ เต เตนาติ อลํ ตุยฺหํ เอเตน มารวิภึสาการทสฺสนพฺยาปาเรน. ทุติยํ.

๓. สุภสุตฺตวณฺณนา

๑๓๙. ตติเย สุสํวุตาติ สุปิหิตา. น เต มารวสานุคาติ, มาร, เต ตุยฺหํ วสานุคา น โหนฺติ. น เต มารสฺส พทฺธคูติ เต ตุยฺหํ มารสฺส พทฺธจรา สิสฺสา อนฺเตวาสิกา น โหนฺติ. ตติยํ.

๔. ปมมารปาสสุตฺตวณฺณนา

๑๔๐. จตุตฺเถ โยนิโส มนสิการาติ อุปายมนสิกาเรน. โยนิโส สมฺมปฺปธานาติ อุปายวีริเยน การณวีริเยน. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. อชฺฌภาสีติ ‘‘อยํ อตฺตนา วีริยํ กตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวาปิ น ตุสฺสติ, อิทานิ อฺเสมฺปิ ‘ปาปุณาถา’ติ อุสฺสาหํ กโรติ, ปฏิพาเหสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อภาสิ.

มารปาเสนาติ กิเลสปาเสน. เย ทิพฺพา เย จ มานุสาติ เย ทิพฺพา กามคุณสงฺขาตา มานุสา กามคุณสงฺขาตา จ มารปาสา นาม อตฺถิ, สพฺเพหิ เตหิ ตฺวํ พทฺโธติ วทติ. มารพนฺธนพทฺโธติ มารพนฺธเนน พทฺโธ, มารพนฺธเน วา พทฺโธ. น เม สมณ โมกฺขสีติ สมณ ตฺวํ มม วิสยโต น มุจฺจิสฺสสิ. จตุตฺถํ.

๕. ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา

๑๔๑. ปฺจเม มุตฺตาหนฺติ มุตฺโต อหํ. ปุริมํ สุตฺตํ อนฺโตวสฺเส วุตฺตํ, อิทํ ปน ปวาเรตฺวา วุฏฺวสฺสกาเล. จาริกนฺติ อนุปุพฺพคมนจาริกํ. (ปวาเรตฺวา) ทิวเส ทิวเส โยชนปรมํ คจฺฉนฺตา จรถาติ วทติ. มา เอเกน ทฺเวติ เอกมคฺเคน ทฺเว ชนา มา อคมิตฺถ. เอวฺหิ คเตสุ เอกสฺมึ ธมฺมํ เทเสนฺเต, เอเกน ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห.

อาทิกลฺยาณนฺติ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ สุนฺทรํ ภทฺทกํ. ตถา มชฺฌปริโยสาเนสุ. อาทิมชฺฌปริโยสานฺจ นาเมตํ สาสนสฺส จ เทสนาย จ วเสน ทุวิธํ. ตตฺถ สาสนสฺส สีลํ อาทิ, สมถวิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สีลสมาธโย วา อาทิ, วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. สีลสมาธิวิปสฺสนา วา อาทิ, มคฺโค มชฺฌํ, ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ. เทสนาย ปน จตุปฺปทิกาย คาถาย ตาว ปมปาโท อาทิ, ทุติยตติยา มชฺฌํ, จตุตฺโถ ปริโยสานํ. ปฺจปทฉปฺปทานํ ปมปาโท อาทิ, อวสานปาโท ปริโยสานํ, อวเสสา มชฺฌํ. เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํ, เสสํ มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส มชฺเฌ พหูปิ อนุสนฺธิ มชฺฌเมว, นิทานํ อาทิ, ‘‘อิทมโวจา’’ติ ปริโยสานํ.

สาตฺถนฺติ สาตฺถกํ กตฺวา เทเสถ. สพฺยฺชนนฺติ พฺยฺชเนหิ เจว ปเทหิ จ ปริปูรํ กตฺวา เทเสถ. เกวลปริปุณฺณนฺติ สกลปริปุณฺณํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. ปกาเสถาติ อาวิกโรถ.

อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺาจกฺขุมฺหิ อปฺปกิเลสรชสภาวา, ทุกูลสาณิยา ปฏิจฺฉนฺนา วิย จตุปฺปทิกคาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมตฺถา สนฺตีติ อตฺโถ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ปริหายนฺตีติ อลาภปริหานิยา ธมฺมโต ปริหายนฺติ. เสนานิคโมติ ปมกปฺปิกานํ เสนาย นิวิฏฺโกาเส ปติฏฺิตคาโม, สุชาตาย วา ปิตุ เสนานี นาม นิคโม. เตนุปสงฺกมิสฺสามีติ นาหํ ตุมฺเห อุยฺโยเชตฺวา ปริเวณาทีนิ กาเรตฺวา อุปฏฺากาทีหิ ปริจริยมาโน วิหริสฺสามิ, ติณฺณํ ปน ชฏิลานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ ทสฺเสตฺวา ธมฺมเมว เทเสตุํ อุปสงฺกมิสฺสามีติ. เตนุปสงฺกมีติ, ‘‘อยํ สมโณ โคตโม มหายุทฺธํ วิจาเรนฺโต วิย, ‘มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ, ธมฺมํ เทเสถา’ติ สฏฺิ ชเน อุยฺโยเชติ, อิมสฺมึ ปน เอกสฺมิมฺปิ ธมฺมํ เทเสนฺเต มยฺหํ จิตฺตสฺสาทํ นตฺถิ, เอวํ พหูสุ เทเสนฺเตสุ กุโต ภวิสฺสติ, ปฏิพาหามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. ปฺจมํ.

๖. สปฺปสุตฺตวณฺณนา

๑๔๒. ฉฏฺเ โสณฺฑิกากิลฺชนฺติ สุราการกานํ ปิฏฺปตฺถรณกกิลฺชํ. โกสลิกา กํสปาตีติ โกสลรฺโ รถจกฺกปฺปมาณา ปริโภคปาติ. คฬคฬายนฺเตติ คชฺชนฺเต. กมฺมารคคฺคริยาติ กมฺมารุทฺธนปณาฬิยา. ธมมานายาติ ภสฺตวาเตน ปูริยมานาย. อิติ วิทิตฺวาติ – ‘‘สมโณ โคตโม ปธานมนุยุตฺโต สุเขน นิสินฺโน, ฆฏฺฏยิสฺสามิ น’’นฺติ วุตฺตปฺปการํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา นิยามภูมิยํ อิโต จิโต จ สฺจรนฺตํ วิชฺชุลตาโลเกน ทิสฺวา, ‘‘โก นุ โข เอโส สตฺโต’’ติ? อาวชฺเชนฺโต, ‘‘มาโร อย’’นฺติ เอวํ วิทิตฺวา.

สุฺเคหานีติ สุฺาคารานิ. เสยฺยาติ เสยฺยตฺถาย. สฺสามิ จงฺกมิสฺสามิ นิสีทิสฺสามิ นิปชฺชิสฺสามีติ เอตทตฺถาย โย สุฺาคารานิ เสวตีติ อตฺโถ. โส มุนิ อตฺตสฺโตติ โส พุทฺธมุนิ หตฺถปาทกุกฺกุจฺจาภาเวน สํยตตฺตภาโว. โวสฺสชฺช จเรยฺย ตตฺถ โสติ โส ตสฺมึ อตฺตภาเว อาลยํ นิกนฺตึ โวสฺสชฺชิตฺวา ปหาย จเรยฺย. ปติรูปํ หิ ตถาวิธสฺส ตนฺติ ตาทิสสฺส ตํสณฺิตสฺส พุทฺธมุนิโน ตํ อตฺตภาเว นิกนฺตึ โวสฺสชฺชิตฺวา จรณํ นาม ปติรูปํ ยุตฺตํ อนุจฺฉวิกํ.

จรกาติ สีหพฺยคฺฆาทิกา สฺจรณสตฺตา. เภรวาติ สวิฺาณกอวิฺาณกเภรวา. ตตฺถ สวิฺาณกา สีหพฺยคฺฆาทโย, อวิฺาณกา รตฺติภาเค ขาณุวมฺมิกาทโย. เตปิ หิ ตสฺมึ กาเล ยกฺขา วิย อุปฏฺหนฺติ, รชฺชุวลฺลิยาทีนิ สพฺพานิ สปฺปา วิย อุปฏฺหนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ เภรเวสุ สุฺาคารคโต พุทฺธมุนิ โลมจลนมตฺตกมฺปิ น กโรติ.

อิทานิ อฏฺานปริกปฺปํ ทสฺเสนฺโต นภํ ผเลยฺยาติอาทิมาห. ตตฺถ ผเลยฺยาติ กากปทํ วิย หีรหีรโส ผเลยฺย. จเลยฺยาติ โปกฺขรปตฺเต วาตาหโต อุทกพินฺทุ วิย จเลยฺย. สลฺลมฺปิ เจ อุรสิ ปกปฺปเยยฺยุนฺติ ติขิณสตฺติสลฺลํ เจปิ อุรสฺมึ จาเรเยยฺยุํ. อุปธีสูติ ขนฺธูปธีสุ. ตาณํ น กโรนฺตีติ ติขิเณ สลฺเล อุรสฺมึ จาริยมาเน ภเยน คุมฺพนฺตรกนฺทราทีนิ ปวิสนฺตา ตาณํ กโรนฺติ นาม. พุทฺธา ปน สมุจฺฉินฺนสพฺพภยา เอวรูปํ ตาณํ นาม น กโรนฺติ. ฉฏฺํ.

๗. สุปติสุตฺตวณฺณนา

๑๔๓. สตฺตเม ปาเท ปกฺขาเลตฺวาติ อุตุคาหาปนตฺถํ โธวิตฺวา. พุทฺธานํ ปน สรีเร รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ, อุทกมฺปิ โปกฺขรปตฺเต ปกฺขิตฺตํ วิย วิวฏฺฏิตฺวา คจฺฉติ. อปิจ โข โธตปาทเก เคเห ปาเท โธวิตฺวา ปวิสนํ ปพฺพชิตานํ วตฺตํ. ตตฺถ พุทฺธานํ วตฺตเภโท นาม นตฺถิ, วตฺตสีเส ปน ตฺวา โธวนฺติ. สเจ หิ ตถาคโต เนว นฺหาเยยฺย, น ปาเท โธเวยฺย, ‘‘นายํ มนุสฺโส’’ติ วเทยฺยุํ. ตสฺมา มนุสฺสกิริยํ อมุฺจนฺโต โธวติ. สโต สมฺปชาโนติ โสปฺปปริคฺคาหเกน สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต. อุปสงฺกมีติ สมโณ โคตโม สพฺพรตฺตึ อพฺโภกาเส จงฺกมิตฺวา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา นิทฺทายติ, อติวิย สุขสยิโต ภวิสฺสติ, ฆฏฺฏยิสฺสามิ นนฺติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ.

กึ โสปฺปสีติ กึ สุปสิ, กึ โสปฺปํ นามิทํ ตวาติ วทติ. กึ นุ โสปฺปสีติ กสฺมา นุ สุปสิ? ทุพฺภโค วิยาติ มโต วิย, วิสฺี วิย จ. สุฺมคารนฺติ สุฺํ เม ฆรํ ลทฺธนฺติ โสปฺปสีติ วทติ. สูริเย อุคฺคเตติ สูริยมฺหิ อุฏฺิเต. อิทานิ หิ อฺเ ภิกฺขู สมฺมชฺชนฺติ, ปานียํ อุปฏฺเปนฺติ, ภิกฺขาจารคมนสชฺชา ภวนฺติ, ตฺวํ กสฺมา โสปฺปสิเยว.

ชาลินีติ ตโย ภเว อชฺโฌตฺถริตฺวา ิเตน ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสุปาทาย อฏฺารสตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๔๒) เตน เตน อตฺตโน โกฏฺาสภูเตน ชาเลน ชาลินี. วิสตฺติกาติ รูปาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตตาย วิสมูลตาย วิสปริโภคตาย จ วิสตฺติกา. กุหิฺจิ เนตเวติ กตฺถจิ เนตุํ. สพฺพูปธิ ปริกฺขยาติ สพฺเพสํ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารกามคุณเภทานํ อุปธีนํ ปริกฺขยา. กึ ตเวตฺถ, มาราติ, มาร, ตุยฺหํ กึ เอตฺถ? กสฺมา ตฺวํ อุณฺหยาคุยํ นิลียิตุํ อสกฺโกนฺตี ขุทฺทกมกฺขิกา วิย อนฺตนฺเตเนว อุชฺฌายนฺโต อาหิณฺฑสีติ. สตฺตมํ.

๘. นนฺทติสุตฺตวณฺณนา

๑๔๔. อฏฺมํ เทวตาสํยุตฺเต วุตฺตตฺถเมว. อฏฺมํ.

๙. ปมอายุสุตฺตวณฺณนา

๑๔๕. นวเม อปฺปํ วา ภิยฺโยติ ภิยฺโย ชีวนฺโต อปรํ วสฺสสตํ ชีวิตุํ น สกฺโกติ, ปณฺณาสํ วา สฏฺิ วา วสฺสานิ ชีวติ. อชฺฌภาสีติ สมโณ โคตโม ‘‘มนุสฺสานํ อปฺปมายู’’ติ กเถติ, ทีฆภาวมสฺส กเถสฺสามีติ ปจฺจนีกสาตตาย อภิภวิตฺวา อภาสิ.

นํ หีเฬติ ตํ อายุํ ‘‘อปฺปกมิท’’นฺติ น หีเฬยฺย. ขีรมตฺโต วาติ ยถา ทหโร กุมาโร อุตฺตานเสยฺยโก ขีรํ ปิวิตฺวา ทุกูลจุมฺพฏเก นิปนฺโน อสฺี วิย นิทฺทายติ, กสฺสจิ อายุํ อปฺปํ วา ทีฆํ วาติ น จินฺเตติ, เอวํ สปฺปุริโส. จเรยฺยาทิตฺตสีโส วาติ อายุํ ปริตฺตนฺติ ตฺวา ปชฺชลิตสีโส วิย จเรยฺย. นวมํ.

๑๐. ทุติยอายุสุตฺตวณฺณนา

๑๔๖. ทสเม เนมีว รถกุพฺพรนฺติ ยถา ทิวสํ คจฺฉนฺตสฺส รถสฺส จกฺกเนมิ กุพฺพรํ อนุปริยายติ น วิชหติ, เอวํ อายุ อนุปริยายตีติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. ปาสาณสุตฺตวณฺณนา

๑๔๗. ทุติยวคฺคสฺส ปเม นิสินฺโนติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปธานํ ปริคฺคณฺหนฺโต นิสินฺโน. มาโรปิสฺส สุขนิสินฺนภาวํ ตฺวา ฆฏฺฏยิสฺสามีติ อุปสงฺกมนฺโต. ปทาเลสีติ ปพฺพตปิฏฺเ ตฺวา ปวิชฺฌิ. ปาสาณา นิรนฺตรา อฺมฺํ อภิหนนฺตา ปตนฺติ. เกวลนฺติ สกลํ. สพฺพนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ปมํ.

๒. กินฺนุสีหสุตฺตวณฺณนา

๑๔๘. ทุติเย วิจกฺขุกมฺมายาติ ปริสาย ปฺาจกฺขุํ วินาเสตุกมฺยตาย. พุทฺธานํ ปเนส ปฺาจกฺขุํ วินาเสตุํ น สกฺโกติ, ปริสาย เภรวารมฺมณํ สาเวนฺโต วา ทสฺเสนฺโต วา สกฺโกติ. วิชิตาวี นุ มฺสีติ กึ นุ ตฺวํ ‘‘วิชิตวิชโย อห’’นฺติ มฺสิ? มา เอวํ มฺิ, นตฺถิ เต ชโย. ปริสาสูติ, อฏฺสุ ปริสาสุ. พลปฺปตฺตาติ ทสพลปฺปตฺตา. ทุติยํ.

๓. สกลิกสุตฺตวณฺณนา

๑๔๙. ตติเย มนฺทิยา นูติ มนฺทภาเวน โมมูหภาเวน. อุทาหุ กาเวยฺยมตฺโตติ อุทาหุ ยถา กวิ กพฺพํ จินฺเตนฺโต เตน กพฺพกรเณน มตฺโต สยติ, เอวํ สยสิ. สมฺปจุราติ พหโว. กิมิทํ โสปฺปเส วาติ กสฺมา อิทํ โสปฺปํ โสปฺปสิเยว? อตฺถํ สเมจฺจาติ อตฺถํ สมาคนฺตฺวา ปาปุณิตฺวา. มยฺหํ หิ อสงฺคโห นาม สงฺคหวิปนฺโน วา อตฺโถ นตฺถิ. สลฺลนฺติ ติขิณํ สตฺติสลฺลํ. ชคฺคํ น สงฺเกติ ยถา เอกจฺโจ สีหปถาทีสุ ชคฺคนฺโต สงฺกติ, ตถา อหํ ชคฺคนฺโตปิ น สงฺกามิ. นปิ เภมิ โสตฺตุนฺติ ยถา เอกจฺโจ สีหปถาทีสุเยว สุปิตุํ ภายติ, เอวํ อหํ สุปิตุมฺปิ น ภายามิ. นานุตปนฺติ มามนฺติ ยถา อาจริยสฺส วา อนฺเตวาสิกสฺส วา อผาสุเก ชาเต อุทฺเทสปริปุจฺฉาย ิตตฺตา อนฺเตวาสึ รตฺตินฺทิวา อติกฺกมนฺตา อนุตปนฺติ, เอวํ มํ นานุตปนฺติ. น หิ มยฺหํ กิฺจิ อปรินิฏฺิตกมฺมํ นาม อตฺถิ. เตเนวาห หานึ น ปสฺสามิ กุหิฺจิ โลเกติ. ตติยํ.

๔. ปติรูปสุตฺตวณฺณนา

๑๕๐. จตุตฺเถ อนุโรธวิโรเธสูติ ราคปฏิเฆสุ. มา สชฺชิตฺโถ ตทาจรนฺติ เอวํ ธมฺมกถํ อาจรนฺโต มา ลคฺคิ. ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส หิ เอกจฺเจ สาธุการํ ททนฺติ, เตสุ ราโค อุปฺปชฺชติ. เอกจฺเจ อสกฺกจฺจํ สุณนฺติ, เตสุ ปฏิโฆ อุปฺปชฺชติ. อิติ ธมฺมกถิโก อนุโรธวิโรเธสุ สชฺชติ นาม. ตฺวํ เอวํ มา สชฺชิตฺโถติ วทติ. ยทฺมนุสาสตีติ ยํ อฺํ อนุสาสติ, ตํ. สมฺพุทฺโธ หิตานุกมฺปี หิเตน อนุปกมฺปติ. ยสฺมา จ หิตานุกมฺปี, ตสฺมา อนุโรธวิโรเธหิ วิปฺปมุตฺโต ตถาคโตติ. จตุตฺถํ.

๕. มานสสุตฺตวณฺณนา

๑๕๑. ปฺจเม อากาเส จรนฺเตปิ พนฺธตีติ อนฺตลิกฺขจโร. ปาโสติ ราคปาโส. มานโสติ มนสมฺปยุตฺโต. ปฺจมํ.

๖. ปตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๕๒. ฉฏฺเ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปาทายาติ ปฺจ อุปาทานกฺขนฺเธ อาทิยิตฺวา, สภาวสามฺลกฺขณวเสน นานปฺปการโต วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต. สนฺทสฺเสตีติ ขนฺธานํ สภาวลกฺขณาทีนิ ทสฺเสติ. สมาทเปตีติ คณฺหาเปติ. สมุตฺเตเชตีติ สมาทานมฺหิ อุสฺสาหํ ชเนติ. สมฺปหํเสตีติ ปฏิวิทฺธคุเณน โวทาเปติ โชตาเปติ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺถิกํ กตฺวา, ‘‘อยํ โน อธิคนฺตพฺโพ อตฺโถ’’ติ เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา ตาย เทสนาย อตฺถิกา หุตฺวา. มนสิ กตฺวาติ จิตฺเต เปตฺวา. สพฺพเจตโส สมนฺนาหริตฺวาติ สพฺเพน เตน กมฺมการกจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสตาติ ปิตาโสตา. อพฺโภกาเส นิกฺขิตฺตาติ โอตาปนตฺถาย ปิตา.

รูปํ เวทยิตํ สฺานฺติ, เอเต รูปาทโย ตโย ขนฺธา. ยฺจ สงฺขตนฺติ อิมินา สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต. เอวํ ตตฺถ วิรชฺชตีติ ‘‘เอโส อหํ น โหมิ, เอตํ มยฺหํ น โหตี’’ติ ปสฺสนฺโต เอวํ เตสุ ขนฺเธสุ วิรชฺชติ. เขมตฺตนฺติ เขมีภูตํ อตฺตภาวํ. อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสติ. อนฺเวสนฺติ ภวโยนิคติิติสตฺตาวาสสงฺขาเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ ปริเยสมานา. นาชฺฌคาติ น ปสฺสีติ. ฉฏฺํ.

๗. ฉผสฺสายตนสุตฺตวณฺณนา

๑๕๓. สตฺตเม ผสฺสายตนานนฺติ สฺชาติสโมสรณฏฺเน ฉทฺวาริกสฺส ผสฺสสฺส อายตนานํ. ภยเภรวํ สทฺทนฺติ เมฆทุนฺทุภิอสนิปาตสทฺทสทิสํ ภยชนกํ สทฺทํ. ปถวี มฺเ อุนฺทฺรียตีติ อยํ มหาปถวี ปฏปฏสทฺทํ กุรุมานา วิย อโหสิ. เอตฺถ โลโก วิมุจฺฉิโตติ เอเตสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ โลโก อธิมุจฺฉิโต. มารเธยฺยนฺติ มารสฺส านภูตํ เตภูมกวฏฺฏํ. สตฺตมํ.

๘. ปิณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๑๕๔. อฏฺเม ปาหุนกานิ ภวนฺตีติ ตถารูเป นกฺขตฺเต ตตฺถ ตตฺถ เปเสตพฺพานิ ปาหุนกานิ ภวนฺติ, อาคนฺตุกปณฺณาการทานานิ วา. สยํจรณทิวเส สมวยชาติโคตฺตา กุมารกา ตโต ตโต สนฺนิปตนฺติ. กุมาริกาโยปิ อตฺตโน อตฺตโน วิภวานุรูเปน อลงฺกตา ตหํ ตหํ วิจรนฺติ. ตตฺร กุมาริกาโยปิ ยถารุจิกานํ กุมารกานํ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, กุมารกาปิ กุมาริกานํ อฺสฺมึ อสติ อนฺตมโส มาลาคุเฬนปิ ปริกฺขิปนฺติ. อนฺวาวิฏฺาติ อนุ อาวิฏฺา. ตํทิวสํ กิร ปฺจสตา กุมาริกาโย อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺติโย ปฏิปเถ สตฺถารํ ทิสฺวา ฉณปูวํ ทเทยฺยุํ. สตฺถา ตาสํ ทานานุโมทนตฺถํ ปกิณฺณกธมฺมเทสนํ เทเสยฺย, เทสนาปริโยสาเน สพฺพาปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺเหยฺยุํ. มาโร ตาสํ สมฺปตฺติยา อนฺตรายํ กริสฺสามีติ อนฺวาวิสิ. ปาฬิยํ ปน มา สมโณ โคตโม ปิณฺฑมลตฺถาติ เอตฺตกํเยว วุตฺตนฺติ.

กึ ปน สตฺถา มาราวฏฺฏนํ อชานิตฺวา ปวิฏฺโติ? อาม อชานิตฺวา. กสฺมา? อนาวชฺชนตาย. พุทฺธานฺหิ – ‘‘อสุกฏฺาเน ภตฺตํ ลภิสฺสาม, น ลภิสฺสามา’’ติ อาวชฺชนํ น อนนุจฺฉวิกํ. ปวิฏฺโ ปน มนุสฺสานํ อุปจารเภทํ ทิสฺวา, ‘‘กึ อิท’’นฺติ? อาวชฺเชนฺโต ตฺวา, ‘‘อามิสตฺถํ มาราวฏฺฏนํ ภินฺทิตุํ อนนุจฺฉวิก’’นฺติ อภินฺทิตฺวาว นิกฺขนฺโต.

อุปสงฺกมีติ อมิตฺตวิชเยน วิย ตุฏฺโ สกลคาเม กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ภตฺตํ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺตํ ภควนฺตํ คามิยมนุสฺสเวเสน อุปสงฺกมิ. ตถาหํ กริสฺสามีติ อิทํ โส มุสา ภาสติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘มยา เอวํ วุตฺเต ปุน ปวิสิสฺสติ, อถ นํ คามทารกา ‘สกลคาเม จริตฺวา กฏจฺฉุภิกฺขมฺปิ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมฺม ปุน ปวิฏฺโสี’ติอาทีนิ วตฺวา อุปฺปณฺเฑสฺสนฺตี’’ติ. ภควา ปน – ‘‘สจายํ มํ เอวํ วิเหเสฺสติ มุทฺธมสฺเสว สตฺตธา ผลิสฺสตี’’ติ ตสฺมึ อนุกมฺปาย อปวิสิตฺวา คาถาทฺวยมาห.

ตตฺถ ปสวีติ ชเนสิ นิปฺผาเทสิ. อาสชฺชาติ อาสาเทตฺวา ฆฏฺเฏตฺวา. น เม ปาปํ วิปจฺจตีติ มม ปาปํ น ปจฺจติ. นิปฺผลํ เอตนฺติ กึ นุ ตฺวํ เอวํ มฺสิ? มา เอวํ มฺิ, อตฺถิ ตยา กตสฺส ปาปสฺส ผลนฺติ ทีเปติ. กิฺจนนฺติ มทฺทิตุํ สมตฺถํ ราคกิฺจนาทิ กิเลสชาตํ. อาภสฺสรา ยถาติ ยถา อาภสฺสรา เทวา สปฺปีติกชฺฌาเนน ยาเปนฺตา ปีติภกฺขา นาม โหนฺติ, เอวํ ภวิสฺสามาติ. อฏฺมํ.

๙. กสฺสกสุตฺตวณฺณนา

๑๕๕. นวเม นิพฺพานปฏิสํยุตฺตายาติ นิพฺพานํ อปทิสิตฺวา ปวตฺตาย. หฏหฏเกโสติ ปุริมเกเส ปจฺฉโต, ปจฺฉิมเกเส ปุรโต วามปสฺสเกเส ทกฺขิณโต, ทกฺขิณปสฺสเกเส วามโต ผริตฺวา ผริตฺวา วิปฺปกิณฺณเกโส. มม จกฺขุสมฺผสฺสวิฺาณายตนนฺติ จกฺขุวิฺาเณน สมฺปยุตฺโต จกฺขุสมฺผสฺโสปิ วิฺาณายตนมฺปิ มเมวาติ. เอตฺถ จ จกฺขุสมฺผสฺเสน วิฺาณสมฺปยุตฺตกา ธมฺมา คหิตา, วิฺาณายตเนน สพฺพานิปิ จกฺขุทฺวาเร อุปฺปนฺนานิ อาวชฺชนาทิวิฺาณานิ. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโย. มโนทฺวาเร ปน มโนติ สาวชฺชนกํ ภวงฺคจิตฺตํ. ธมฺมาติ อารมฺมณธมฺมา. มโนสมฺผสฺโสติ สาวชฺชเนน ภวงฺเคน สมฺปยุตฺตผสฺโส. วิฺาณายตนนฺติ ชวนจิตฺตํ ตทารมฺมณมฺปิ วฏฺฏติ.

ตเวว ปาปิม, จกฺขูติ ยํ โลเก ติมิรกาจาทีหิ อุปทฺทุตํ อเนกโรคายตนํ อุปกฺกวิปกฺกํ อนฺตมโส กาณจกฺขุปิ, สพฺพํ ตํ ตเวว ภวตุ. รูปาทีสุปิ เอเสว นโย.

ยํ วทนฺตีติ ยํ ภณฺฑกํ ‘‘มม อิท’’นฺติ วทนฺติ. เย วทนฺติ มมนฺติ จาติ เย จ ปุคฺคลา ‘‘มม’’นฺติ วทนฺติ. เอตฺถ เจ เต มโน อตฺถีติ เอเตสุ จ าเนสุ ยทิ จิตฺตํ อตฺถิ. น เม สมณ โมกฺขสีติ สมณ มยฺหํ วิสยโต น มุจฺจิสฺสสิ. ยํ วทนฺตีติ ยํ ภณฺฑกํ วทนฺติ, น ตํ มยฺหํ. เย วทนฺตีติ เยปิ ปุคฺคลา เอวํ วทนฺติ, น เต อหํ. น เม มคฺคมฺปิ ทกฺขสีติ ภวโยนิคติอาทีสุ มยฺหํ คตมคฺคมฺปิ น ปสฺสสิ. นวมํ.

๑๐. รชฺชสุตฺตวณฺณนา

๑๕๖. ทสเม อหนํ อฆาตยนฺติ อหนนฺเตน อฆาตยนฺเตน. อชินํ อชาปยนฺติ ปรสฺส ธนชานึ อกโรนฺเตน อการาเปนฺเตน. อโสจํ อโสจาปยนฺติ อโสจนฺเตน อโสจาปยนฺเตน. อิติ ภควา อธมฺมิกราชูนํ รชฺเช วิชิเต ทณฺฑกรปีฬิเต มนุสฺเส ทิสฺวา การุฺวเสน เอวํ จินฺเตสิ. อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ โคตโม ‘สกฺกา นุ โข รชฺชํ กาเรตุ’นฺติ จินฺเตสิ, รชฺชํ กาเรตุกาโม ภวิสฺสติ, รชฺชฺจ นาเมตํ ปมาทฏฺานํ, รชฺชํ กาเรนฺเต สกฺกา โอตารํ ลภิตุํ, คจฺฉามิ อุสฺสาหมสฺส ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. อิทฺธิปาทาติ อิชฺฌนกโกฏฺาสา. ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺฏฺเนวตฺถุกตา. อนุฏฺิตาติ อวิชหิตา นิจฺจานุพทฺธา. ปริจิตาติ สาตจฺจกิริยาย สุปริจิตา กตา อิสฺสาสสฺส อวิราธิตเวธิหตฺโถ วิย. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา ปริปุณฺณภาวนา. อธิมุจฺเจยฺยาติ จินฺเตยฺย.

ปพฺพตสฺสาติ ปพฺพโต ภเวยฺย. ทฺวิตฺตาวาติ ติฏฺตุ เอโก ปพฺพโต, ทฺวิกฺขตฺตุมฺปิ ตาว มหนฺโต สุวณฺณปพฺพโต เอกสฺส นาลํ, น ปริยตฺโตติ อตฺโถ. อิติ วิทฺวา สมฺจเรติ เอวํ ชานนฺโต สมํ จเรยฺย. ยโตนิทานนฺติ ทุกฺขํ นาม ปฺจกามคุณนิทานํ, ตํ ยโตนิทานํ โหติ, เอวํ โย อทกฺขิ. กถํ นเมยฺยาติ โส ชนฺตุ เตสุ ทุกฺขสฺส นิทานภูเตสุ กาเมสุ เกน การเณน นเมยฺย. อุปธึ วิทิตฺวาติ กามคุณอุปธึ ‘‘สงฺโค เอโส, ลคฺคนเมต’’นฺติ เอวํ วิทิตฺวา. ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเขติ ตสฺเสว อุปธิสฺส วินยาย สิกฺเขยฺย. ทสมํ.

ทุติโย วคฺโค.

๓. ตติยวคฺโค

๑. สมฺพหุลสุตฺตวณฺณนา

๑๕๗. ตติยวคฺคสฺส ปเม ชฏณฺฑุเวนาติ ชฏาจุมฺพฏเกน. อชินกฺขิปนิวตฺโถติ สขุรํ อชินจมฺมํ เอกํ นิวตฺโถ เอกํ ปารุโต. อุทุมฺพรทณฺฑนฺติ อปฺปิจฺฉภาวปฺปกาสนตฺถํ อีสกํ วงฺกํ อุทุมฺพรทณฺฑํ คเหตฺวา. เอตทโวจาติ โลเก พฺราหฺมณสฺส วจนํ นาม สุสฺสูสนฺติ, พฺราหฺมเณสุปิ ปพฺพชิตสฺส, ปพฺพชิเตสุปิ มหลฺลกสฺสาติ มหลฺลกพฺราหฺมณสฺส ปพฺพชิตเวสํ คเหตฺวา ปธานภูมิยํ กมฺมํ กโรนฺเต เต ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา เอตํ ‘‘ทหรา ภวนฺโต’’ติอาทิวจนํ อโวจ. โอกมฺเปตฺวาติ หนุเกน อุรํ ปหรนฺโต อโธนตํ กตฺวา. ชิวฺหํ นิลฺลาเลตฺวาติ กพรมหาชิวฺหํ นีหริตฺวา อุทฺธมโธ อุภยปสฺเสสุ จ ลาเลตฺวา. ติวิสาขนฺติ ติสาขํ. นลาฏิกนฺติ ภกุฏึ, นลาเฏ อุฏฺิตํ วลิตฺตยนฺติ อตฺโถ. ปกฺกามีติ ตุมฺเห ชานนฺตานํ วจนํ อกตฺวา อตฺตโนว เตเล ปจฺจิสฺสถาติ วตฺวา เอกํ มคฺคํ คเหตฺวา คโต. ปมํ.

๒. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา

๑๕๘. ทุติเย ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เมติ เอวรูปสฺส สตฺถุ เจว ธมฺมสฺส จ สพฺรหฺมจารีนฺจ ลทฺธตฺตา มยฺหํ ลาภา มยฺหํ สุลทฺธนฺติ. โส กิรายสฺมา ปจฺฉา มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสิตฺวา ‘‘อรหตฺตํ คเหสฺสามี’’ติ ปาสาทิกํ ตาว กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ อาวชฺเชตฺวา จิตฺตกลฺลตํ อุปฺปาเทตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา นิสินฺโน. เตนสฺส เอวมโหสิ. อุปสงฺกมีติ ‘‘อยํ สมิทฺธิ ภิกฺขุ ปาสาทิกํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺนสทิโส, ยาว มูลกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรหตฺตํ น คณฺหาติ, ตาวสฺส อนฺตรายํ กริสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิ. คจฺฉ ตฺวนฺติ สตฺถา สกลชมฺพุทีปํ โอโลเกนฺโต ‘‘ตสฺมึเยว าเน ตสฺส กมฺมฏฺานํ สปฺปายํ ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทส, ตสฺมา เอวมาห. สติปฺา จ เม พุทฺธาติ มยา สติ จ ปฺา จ าตา. กรสฺสุ รูปานีติ พหูนิปิ วิภึสการหานิ รูปานิ กรสฺสุ. เนว มํ พฺยาธยิสฺสสีติ มํ เนว เวธยิสฺสสิ น กมฺปสฺเสสิ. ทุติยํ.

๓. โคธิกสุตฺตวณฺณนา

๑๕๙. ตติเย อิสิคิลิปสฺเสติ อิสิคิลิสฺส นาม ปพฺพตสฺส ปสฺเส. กาฬสิลายนฺติ กาฬวณฺณาย สิลายํ. สามยิกํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจติ, อารมฺมเณ จ อธิมุจฺจตีติ โลกิยสมาปตฺติ สามยิกา เจโตวิมุตฺติ นาม. ผุสีติ ปฏิลภิ. ปริหายีติ กสฺมา ยาว ฉฏฺํ ปริหายิ? สาพาธตฺตา. เถรสฺส กิร วาตปิตฺตเสมฺหวเสน อนุสายิโก อาพาโธ อตฺถิ, เตน สมาธิสฺส สปฺปาเย อุปการกธมฺเม ปูเรตุํ น สกฺโกติ, อปฺปิตปฺปิตาย สมาปตฺติยา ปริหายติ.

ยํนูนาหํ สตฺถํ อาหเรยฺยนฺติ โส กิร จินฺเตสิ, ยสฺมา ปริหีนชฺฌานสฺส กาลงฺกโรโต อนิพทฺธา คติ โหติ, อปริหีนชฺฌานสฺส นิพทฺธา คติ โหติ, พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สตฺถํ อาหริตุกาโม อโหสิ. อุปสงฺกมีติ – ‘‘อยํ สมโณ สตฺถํ อาหริตุกาโม, สตฺถาหรณฺจ นาเมตํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขสฺส โหติ. โย เอวํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺโข โหติ, โส มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตมฺปิ คเหตุํ สมตฺโถ โหติ, มยา ปน ปฏิพาหิโตปิ เอส น โอรมิสฺสติ, สตฺถารา ปฏิพาหิโต โอรมิสฺสตี’’ติ เถรสฺส อตฺถกาโม วิย หุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ.

ชลาติ ชลมานา. ปาเท วนฺทามิ จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา ตว ปาเท วนฺทามิ. ชุตินฺธราติ อานุภาวธรา. อปฺปตฺตมานโสติ อปฺปตฺตอรหตฺโต. เสโขติ สีลาทีนิ สิกฺขมาโน สกรณีโย. ชเน สุตาติ ชเน วิสฺสุตา. สตฺถํ อาหริตํ โหตีติ เถโร กิร ‘‘กึ มยฺหํ อิมินา ชีวิเตนา’’ติ? อุตฺตาโน นิปชฺชิตฺวา สตฺเถน คลนาฬึ ฉินฺทิ, ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชึสุ. เถโร เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา ตํเยว เวทนํ ปริคฺคเหตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา มูลกมฺมฏฺานํ สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ. สมสีสี นาม ติวิโธ โหติ อิริยาปถสมสีสี, โรคสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ.

ตตฺถ โย านาทีสุ อิริยาปเถสุ อฺตรํ อธิฏฺาย – ‘‘อิมํ อโกเปตฺวาว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, อถสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ จ อิริยาปถโกปนฺจ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม. โย ปน จกฺขุโรคาทีสุ อฺตรสฺมึ สติ – ‘‘อิโต อนุฏฺิโตว อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ, อถสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ จ โรคโต วุฏฺานฺจ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ โรคสมสีสี นาม. เกจิ ปน ตสฺมึเยว อิริยาปเถ ตสฺมิฺจ โรเค ปรินิพฺพานวเสเนตฺถ สมสีสิตํ ปฺาเปนฺติ. ยสฺส ปน อาสวกฺขโย จ ชีวิตกฺขโย จ เอกปฺปหาเรเนว โหติ. อยํ ชีวิตสมสีสี นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมสีสี’’ติ (ปุ. ป. ๑๖).

เอตฺถ จ ปวตฺติสีสํ กิเลสสีสนฺติ ทฺเว สีสานิ. ตตฺถ ปวตฺติสีสํ นาม ชีวิตินฺทฺริยํ, กิเลสสีสํ นาม อวิชฺชา. เตสุ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ เขเปติ, อวิชฺชา มคฺคจิตฺตํ. ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ เอกโต อุปฺปาโท นตฺถิ. มคฺคานนฺตรํ ปน ผลํ, ผลานนฺตรํ ภวงฺคํ, ภวงฺคโต วุฏฺาย ปจฺจเวกฺขณํ, ตํ ปริปุณฺณํ วา โหติ อปริปุณฺณํ วา. ติขิเณน อสินา สีเส ฉิชฺชนฺเตปิ หิ เอโก วา ทฺเว วา ปจฺจเวกฺขณวารา อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติเยว, จิตฺตานํ ปน ลหุปริวตฺติตาย อาสวกฺขโย จ ชีวิตปริยาทานฺจ เอกกฺขเณ วิย ปฺายติ.

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺหาติ อวิชฺชามูเลน สมูลกํ ตณฺหํ อรหตฺตมคฺเคน อุปฺปาเฏตฺวา. ปรินิพฺพุโตติ อนุปาทิเสสนิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต.

วิวตฺตกฺขนฺธนฺติ ปริวตฺตกฺขนฺธํ. เสมานนฺติ อุตฺตานํ หุตฺวา สยิตํ โหติ. เถโร ปน กิฺจาปิ อุตฺตานโก สยิโต, ตถาปิสฺส ทกฺขิเณน ปสฺเสน ปริจิตสยนตฺตา สีสํ ทกฺขิณโตว ปริวตฺติตฺวา ิตํ. ธูมายิตตฺตนฺติ ธูมายิตภาวํ. ตสฺมึ หิ ขเณ ธูมวลาหกา วิย ติมิรวลาหกา วิย จ อุฏฺหึสุ. วิฺาณํ สมนฺเวสตีติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ปริเยสติ. อปฺปติฏฺิเตนาติ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน อปฺปติฏฺิเตน, อปฺปติฏฺิตการณาติ อตฺโถ. เพลุวปณฺฑุวีณนฺติ เพลุวปกฺกํ วิย ปณฺฑุวณฺณํ สุวณฺณมหาวีณํ. อาทายาติ กจฺเฉ เปตฺวา. อุปสงฺกมีติ ‘‘โคธิกตฺเถรสฺส นิพฺพตฺตฏฺานํ น ชานามิ, สมณํ โคตมํ ปุจฺฉิตฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสามี’’ติ ขุทฺทกทารกวณฺณี หุตฺวา อุปสงฺกมิ. นาธิคจฺฉามีติ น ปสฺสามิ. โสกปเรตสฺสาติ โสเกน ผุฏฺสฺส. อภสฺสถาติ ปาทปิฏฺิยํ ปติตา. ตติยํ.

๔. สตฺตวสฺสานุพนฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๖๐. จตุตฺเถ สตฺต วสฺสานีติ ปุเร โพธิยา ฉพฺพสฺสานิ, โพธิโต ปจฺฉา เอกํ วสฺสํ. โอตาราเปกฺโขติ ‘‘สเจ สมณสฺส โคตมสฺส กายทฺวาราทีสุ กิฺจิเทว อนนุจฺฉวิกํ ปสฺสามิ, โจเทสฺสามิ น’’นฺติ เอวํ วิวรํ อเปกฺขมาโน. อลภมาโนติ รถเรณุมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ อปสฺสนฺโต. เตนาห –

‘‘สตฺต วสฺสานิ ภควนฺตํ, อนุพนฺธึ ปทาปทํ;

โอตารํ นาธิคจฺฉิสฺสํ, สมฺพุทฺธสฺส สตีมโต’’ติ. (สุ. นิ. ๔๔๘);

อุปสงฺกมีติ ‘‘อชฺช สมณํ โคตมํ อติคเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิ.

ฌายสีติ ฌายนฺโต อวชฺฌายนฺโต นิสินฺโนสีติ วทติ. วิตฺตํ นุ ชีโนติ สตํ วา สหสฺสํ วา ชิโตสิ นุ. อาคุํ นุ คามสฺมินฺติ, กึ นุ อนฺโตคาเม ปมาณาติกฺกนฺตํ ปาปกมฺมํ อกาสิ, เยน อฺเสํ มุขํ โอโลเกตุํ อวิสหนฺโต อรฺเ วิจรสิ? สกฺขินฺติ มิตฺตภาวํ.

ปลิขายาติ ขณิตฺวา. ภวโลภชปฺปนฺติ ภวโลภสงฺขาตํ ตณฺหํ. อนาสโว ฌายามีติ นิตฺตณฺโห หุตฺวา ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายามิ. ปมตฺตพนฺธูติ มารํ อาลปติ. โส หิ เยเกจิ โลเก ปมตฺตา, เตสํ พนฺธุ.

สเจ มคฺคํ อนุพุทฺธนฺติ ยทิ ตยา มคฺโค อนุพุทฺโธ. อเปหีติ อปยาหิ. อมจฺจุเธยฺยนฺติ มจฺจุโน อโนกาสภูตํ นิพฺพานํ. ปารคามิโนติ เยปิ ปารํ คตา, เตปิ ปารคามิโน. เยปิ ปารํ คจฺฉิสฺสนฺติ, เยปิ ปารํ คนฺตุกามา, เตปิ ปารคามิโน.

วิสูกายิกานีติ มารวิสูกานิ. วิเสวิตานีติ วิรุทฺธเสวิตานิ, ‘‘อปฺปมายุ มนุสฺสานํ, อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา’’ติ วุตฺเต. ‘‘ทีฆมายุ มนุสฺสานํ, นาจฺจยนฺติ อโหรตฺตา’’ติอาทีนิ ปฏิโลมการณานิ. วิปฺผนฺทิตานีติ, ตมฺหิ ตมฺหิ กาเล หตฺถิราชวณฺณสปฺปวณฺณาทิทสฺสนานิ. นิพฺเพชนียาติ อุกฺกณฺนียา.

อนุปริยคาติอาทีสุ กิฺจาปิ อตีตวจนํ กตํ, อตฺโถ ปน วิกปฺปวเสน เวทิตพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เมทวณฺณํ ปาสาณํ วายโส ทิสฺวา – ‘‘อปิ นาเมตฺถ มุทุํ วินฺเทยฺยาม, อปิ อสฺสาโท สิยา’’ติ อนุปริคจฺเฉยฺย, อถ โส ตตฺถ อสฺสาทํ อลภิตฺวาว วายโส เอตฺโต อปกฺกเมยฺย, ตโต ปาสาณา อปคจฺเฉยฺย, เอวํ มยมฺปิ โส กาโก วิย เสลํ โคตมํ อาสชฺช อสฺสาทํ วา สนฺถวํ วา อลภนฺตา โคตมา นิพฺพินฺทิตฺวา อปคจฺฉาม. จตุตฺถํ.

๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา

๑๖๑. ปฺจเม อภาสิตฺวาติ เอตฺถ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ, ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. อภาสยิตฺวาติปิ ปาโ. อุปสงฺกมึสูติ ‘‘โคปาลกทารกํ วิย ทณฺฑเกน ภูมึ เลขํ ทตฺวา อติวิย ทุมฺมโน หุตฺวา นิสินฺโน. ‘กินฺนุ โข การณ’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ชานิสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมึสุ.

โสจสีติ จินฺเตสิ. อารฺมิว กุฺชรนฺติ ยถา อรฺโต เปสิตคณิการหตฺถินิโย อารฺกํ กุฺชรํ อิตฺถิกุตฺตทสฺสเนน ปโลเภตฺวา พนฺธิตฺวา อานยนฺติ, เอวํ อานยิสฺสาม. มารเธยฺยนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ.

อุปสงฺกมึสูติ – ‘‘ตุมฺเห โถกํ อธิวาเสถ, มยํ ตํ อาเนสฺสามา’’ติ ปิตรํ สมสฺสาเสตฺวา อุปสงฺกมึสุ. อุจฺจาวจาติ นานาวิธา. เอกสตํ เอกสตนฺติ เอเกกํ สตํ สตํ กตฺวา. กุมาริวณฺณสตนฺติ อิมินา นเยน กุมาริอตฺตภาวานํ สตํ.

อตฺถสฺส ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตินฺติ, ทฺวีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตเมว กเถสิ. เสนนฺติ กิเลสเสนํ. สา หิ ปิยรูปสาตรูปา นาม. เอกาหํ ฌายนฺติ เอโก อหํ ฌายนฺโต. สุขมนุโพธินฺติ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌึ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปิยรูปํ สาตรูปํ เสนํ ชินิตฺวา อหํ เอโก ฌายนฺโต ‘‘อตฺถสฺส ปตฺตึ หทยสฺส สนฺติ’’นฺติ สงฺขํ คตํ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌึ. ตสฺมา ชเนน มิตฺตสนฺถวํ น กโรมิ, เตเนว จ เม การเณน เกนจิ สทฺธึ สกฺขี น สมฺปชฺชตีติ.

กถํวิหารีพหุโลติ กตเมน วิหาเรน พหุลํ วิหรนฺโต. อลทฺธาติ อลภิตฺวา. โยติ นิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กตเมน ฌาเนน พหุลํ ฌายนฺตํ ตํ ปุคฺคลํ กามสฺา อลภิตฺวาว ปริพาหิรา โหนฺตีติ.

ปสฺสทฺธกาโยติ จตุตฺถชฺฌาเนน อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส ปสฺสทฺธตฺตา ปสฺสทฺธกาโย. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตจิตฺโต. อสงฺขราโนติ ตโย กมฺมาภิสงฺขาเร อนภิสงฺขโรนฺโต. อโนโกติ อนาลโย. อฺาย ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวา. อวิตกฺกฌายีติ อวิตกฺเกน จตุตฺถชฺฌาเนน ฌายนฺโต. น กุปฺปตีติอาทีสุ โทเสน น กุปฺปติ, ราเคน น สรติ, โมเหน น ถีโน. อิเมสุ ตีสุ มูลกิเลเสสุ คหิเตสุ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ คหิตเมว โหติ. ปมปเทน วา พฺยาปาทนีวรณํ คหิตํ, ทุติเยน กามจฺฉนฺทนีวรณํ, ตติเยน ถินํ อาทึ กตฺวา เสสนีวรณานิ. อิติ อิมินา นีวรณปฺปหาเนน ขีณาสวํ ทสฺเสติ.

ปฺโจฆติณฺโณติ ปฺจทฺวาริกํ กิเลโสฆํ ติณฺโณ. ฉฏฺนฺติ มโนทฺวาริกมฺปิ ฉฏฺํ กิเลโสฆํ อตริ. ปฺโจฆคฺคหเณน วา ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ, ฉฏฺคฺคหเณน ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ เวทิตพฺพานิ. คณสงฺฆจารีติ คเณ จ สงฺเฆ จ จรตีติ สตฺถา คณสงฺฆจารี นาม. อทฺธา จริสฺสนฺตีติ อฺเปิ สทฺธา พหุชนา เอกํเสน จริสฺสนฺติ. อยนฺติ อยํ สตฺถา. อโนโกติ อนาลโย.

อจฺเฉชฺช เนสฺสตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา นยิสฺสติ, มจฺจุราชสฺส หตฺถโต อจฺฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ นยิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. นยมานานนฺติ นยมาเนสุ.

เสลํว สิรสูหจฺจ, ปาตาเล คาธเมสถาติ มหนฺตํ กูฏาคารปฺปมาณํ สิลํ สีเส เปตฺวา ปาตาเล ปติฏฺคเวสนํ วิย. ขาณุํว อุรสาสชฺชาติ อุรสิ ขาณุํ ปหริตฺวา วิย. อเปถาติ อปคจฺฉถ. อิมสฺมึ าเน สงฺคีติการา ‘‘อิทมโวจา’’ติ เทสนํ นิฏฺเปตฺวา ททฺทลฺลมานาติ คาถํ อาหํสุ. ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ อติวิย ชลมานา โสภมานา. อาคฺฉุนฺติ อาคตา. ปนุทีติ นีหริ. ตูลํ ภฏฺํว มาลุโตติ ยถา ผลโต ภฏฺํ สิมฺพลิตูลํ วา โปฏกิตูลํ วา วาโต ปนุทติ นีหรติ, เอวํ ปนุทีติ. ปฺจมํ.

ตติโย วคฺโค.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

มารสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภิกฺขุนีสํยุตฺตํ

๑. อาฬวิกาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๒. ภิกฺขุนีสํยุตฺตสฺส ปเม อาฬวิกาติ อาฬวิยํ ชาตา อาฬวินครโตเยว จ นิกฺขมฺม ปพฺพชิตา. อนฺธวนนฺติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจติเย นวกมฺมตฺถาย ธนํ สมาทเปตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส ยโสธรสฺส นาม ธมฺมภาณกสฺส อริยปุคฺคลสฺส อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺเถว อกฺขิเภทปฺปตฺเตหิ ปฺจหิ โจรสเตหิ นิวุตฺถตฺตา ตโต ปฏฺาย ‘‘อนฺธวน’’นฺติ สงฺขํ คตํ วนํ. ตํ กิร สาวตฺถิโต ทกฺขิณปสฺเส คาวุตมตฺเต โหติ ราชารกฺขาย คุตฺตํ. ตตฺถ ปวิเวกกามา ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คจฺฉนฺติ. ตสฺมา อยมฺปิ กายวิเวกตฺถินี เยน ตํ วนํ, เตนุปสงฺกมิ. นิสฺสรณนฺติ นิพฺพานํ. ปฺายาติ ปจฺจเวกฺขณาเณน. น ตฺวํ ชานาสิ ตํ ปทนฺติ ตฺวํ เอตํ นิพฺพานปทํ วา นิพฺพานคามิมคฺคปทํ วา น ชานาสิ. สตฺติสูลูปมาติ วินิวิชฺฌนตฺเถน สตฺติสูลสทิสา. ขนฺธาสํ อธิกุฏฺฏนาติ ขนฺธา เตสํ อธิกุฏฺฏนภณฺฑิกา. ปมํ.

๒. โสมาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๓. ทุติเย านนฺติ อรหตฺตํ. ทุรภิสมฺภวนฺติ ทุปฺปสหํ. ทฺวงฺคุลปฺายาติ ปริตฺตปฺาย. ยสฺมา วา ทฺวีหิ องฺคุเลหิ กปฺปาสวฏฺฏึ คเหตฺวา สุตฺตํ กนฺตนฺติ, ตสฺมา อิตฺถี ‘‘ทฺวงฺคุลปฺา’’ติ วุจฺจติ. าณมฺหิ วตฺตมานมฺหีติ ผลสมาปตฺติาเณ ปวตฺตมาเน. ธมฺมํ วิปสฺสโตติ จตุสจฺจธมฺมํ วิปสฺสนฺตสฺส, ปุพฺพภาเค วา วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตํ ขนฺธปฺจกเมว. กิฺจิ วา ปน อฺสฺมีติ อฺํ วา กิฺจิ ‘‘อหํ อสฺมี’’ติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน ยสฺส สิยา. ทุติยํ.

๓. กิสาโคตมีสุตฺตวณฺณนา

๑๖๔. ตติเย กิสาโคตมีติ อปฺปมํสโลหิตตาย กิสา, โคตมีติ ปนสฺสา นามํ. ปุพฺเพ กิร สาวตฺถิยํ เอกสฺมึ กุเล อสีติโกฏิธนํ สพฺพํ องฺคาราว ชาตํ. กุฏุมฺพิโก องฺคารชาตานิ อนีหริตฺวา – ‘‘อวสฺสํ โกจิ ปุฺวา ภวิสฺสติ, ตสฺส ปุฺเน ปุน ปากติกํ ภวิสฺสตี’’ติ สุวณฺณหิรฺสฺส จาฏิโย ปูเรตฺวา อาปเณ เปตฺวา สมีเป นิสีทิ. อเถกา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตา – ‘‘อฑฺฒมาสกํ คเหตฺวา ทารุสากํ อาหริสฺสามี’’ติ วีถึ คตา ตํ ทิสฺวา กุฏุมฺพิกํ อาห – ‘‘อาปเณ ตาว ธนํ เอตฺตกํ, เคเห กิตฺตกํ ภวิสฺสตี’’ติ. กึ ทิสฺวา อมฺม เอวํ กเถสีติ? อิมํ หิรฺสุวณฺณนฺติ. โส ‘‘ปุฺวตี เอสา ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺสา วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา อาปเณ ภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ตสฺสา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺหากํ เคเห วยปฺปตฺโต ทารโก อตฺถิ, ตสฺเสตํ ทาริกํ เทถา’’ติ. กึ สามิ ทุคฺคเตหิ สทฺธึ เกฬึ กโรสีติ? มิตฺตสนฺถโว นาม ทุคฺคเตหิปิ สทฺธึ โหติ, เทถ นํ, กุฏุมฺพสามินี ภวิสฺสตีติ นํ คเหตฺวา ฆรํ อาเนสิ. สา สํวาสมนฺวาย ปุตฺตํ วิชาตา. ปุตฺโต ปทสา อาหิณฺฑนกาเล กาลมกาสิ. สา ทุคฺคตกุเล อุปฺปชฺชิตฺวา มหากุลํ คนฺตฺวาปิ ‘‘ปุตฺตวินาสํ ปตฺตามฺหี’’ติ อุปฺปนฺนพลวโสกา ปุตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ วาเรตฺวา ตํ มตกเฬวรํ อาทาย นคเร วิปฺปลปนฺตี จรติ.

เอกทิวสํ มหติยา พุทฺธวีถิยา ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘ปุตฺตสฺส เม อโรคภาวตฺถาย เภสชฺชํ เทถ ภควา’’ติ อาห. คจฺฉ สาวตฺถึ อาหิณฺฑิตฺวา ยสฺมึ เคเห มตปุพฺโพ นตฺถิ, ตโต สิทฺธตฺถกํ อาหร, ปุตฺตสฺส เต เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติ. สา นครํ ปวิสิตฺวา ธุรเคหโต ปฏฺาย ภควตา วุตฺตนเยน คนฺตฺวา สิทฺธตฺถกํ ยาจนฺตี ฆเร ฆเร, ‘‘กุโต ตฺวํ เอวรูปํ ฆรํ ปสฺสิสฺสสี’’ติ วุตฺตา กติปยานิ เคหานิ อาหิณฺฑิตฺวา – ‘‘สพฺเพสมฺปิ กิรายํ ธมฺมตา, น มยฺหํ ปุตฺตสฺเสวา’’ติ สาลายํ ฉวํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. สตฺถา ‘‘อิมํ ปพฺพาเชตู’’ติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ เปเสสิ. สา ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อิมํ เถรึ สนฺธาย ‘‘อถ โข กิสาโคตมี’’ติ วุตฺตํ.

เอกมาสีติ เอกา อาสิ. รุทมฺมุขีติ รุทมานมุขี วิย. อจฺจนฺตํ มตปุตฺตามฺหีติ เอตฺถ อนฺตํ อตีตํ อจฺจนฺตํ, ภาวนปุํสกเมตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปุตฺตมรณํ อนฺตํ อตีตํ โหติ, เอวํ มตปุตฺตา อหํ, อิทานิ มม ปุน ปุตฺตมรณํ นาม นตฺถิ. ปุริสา เอตทนฺติกาติ ปุริสาปิ เม เอตทนฺติกาว. โย เม ปุตฺตมรณสฺส อนฺโต, ปุริสานมฺปิ เม เอเสวนฺโต, อภพฺพา อหํ อิทานิ ปุริสํ คเวสิตุนฺติ. สพฺพตฺถ วิหตา นนฺทีติ สพฺเพสุ ขนฺธายตนธาตุภวโยนิคติิตินิวาเสสุ มม ตณฺหานนฺที วิหตา. ตโมกฺขนฺโธติ อวิชฺชากฺขนฺโธ. ปทาลิโตติ าเณน ภินฺโน. ตติยํ.

๔. วิชยาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๕. จตุตฺเถ ปฺจงฺคิเกนาติ อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ ฆนํ สุสิรนฺติ เอวํ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน. นิยฺยาตยามิ ตุยฺเหวาติ สพฺเพ ตุยฺหํเยว เทมิ. นาหํ เตนตฺถิกาติ นาหํ เตน อตฺถิกา. ปูติกาเยนาติ สุวณฺณวณฺโณปิ กาโย นิจฺจํ อุคฺฆริตปคฺฆริตฏฺเน ปูติกาโยว, ตสฺมา เอวมาห. ภินฺทเนนาติ ภิชฺชนสภาเวน. ปภงฺคุนาติ จุณฺณวิจุณฺณํ อาปชฺชนธมฺเมน. อฏฺฏียามีติ อฏฺฏา ปีฬิตา โหมิ. หรายามีติ ลชฺชามิ. สนฺตา สมาปตฺตีติ อฏฺวิธา โลกิยสมาปตฺติ อารมฺมณสนฺตตาย องฺคสนฺตตาย จ สนฺตาติ วุตฺตา. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ รูปารูปภเวสุ, เตสํ ทฺวินฺนํ ภวานํ คหิตตฺตา คหิเต กามภเว อฏฺสุ จ สมาปตฺตีสูติ เอเตสุ สพฺเพสุ าเนสุ มยฺหํ อวิชฺชาตโม วิหโตติ วทติ. จตุตฺถํ.

๕. อุปฺปลวณฺณาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๖. ปฺจเม สุปุปฺผิตคฺคนฺติ อคฺคโต ปฏฺาย สุฏฺุ ปุปฺผิตํ สาลรุกฺขํ. น จตฺถิ เต ทุติยา วณฺณธาตูติ ตว วณฺณธาตุสทิสา ทุติยา วณฺณธาตุ นตฺถิ, ตยา สทิสา อฺา ภิกฺขุนี นตฺถีติ วทติ. อิธาคตา ตาทิสิกา ภเวยฺยุนฺติ ยถา ตฺวํ อิธาคตา กิฺจิ สนฺถวํ วา สิเนหํ วา น ลภสิ, เอวเมวํ เตปิ ตยาว สทิสา ภเวยฺยุํ. ปขุมนฺตริกายนฺติ ทฺวินฺนํ อกฺขีนํ มชฺเฌ นาสวํเสปิ ติฏฺนฺตึ มํ น ปสฺสสิ. วสีภูตมฺหีติ วสีภูตา อสฺมิ. ปฺจมํ.

๖. จาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๗. ฉฏฺเ โก นุ ตํ อิทมาทปยีติ โก นุ มนฺทพุทฺธิ พาโล ตํ เอวํ คาหาเปสิ? ปริกฺเลสนฺติ อฺมฺปิ นานปฺปการํ อุปทฺทวํ. อิทานิ ยํ มาโร อาห – ‘‘โก นุ ตํ อิทมาทปยี’’ติ, ตํ มทฺทนฺตี – ‘‘น มํ อนฺธพาโล อาทเปสิ, โลเก ปน อคฺคปุคฺคโล สตฺถา ธมฺมํ เทเสสี’’ติ ทสฺเสตุํ, พุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺเจ นิเวสยีติ ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน นิเวเสสิ. นิโรธํ อปฺปชานนฺตาติ นิโรธสจฺจํ อชานนฺตา. ฉฏฺํ.

๗. อุปจาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๘. สตฺตเม เอนฺติ มารวสํ ปุนาติ ปุนปฺปุนํ มรณมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารานํ วสํ อาคจฺฉนฺติ. ปธูปิโตติ สนฺตาปิโต. อคติ ยตฺถ มารสฺสาติ ยตฺถ ตุยฺหํ มารสฺส อคติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ นิพฺพาเน. สตฺตมํ.

๘. สีสุปจาลาสุตฺตวณฺณนา

๑๖๙. อฏฺเม สมณี วิย ทิสฺสสีติ สมณิสทิสา ทิสฺสสิ. กิมิว จรสิ โมมูหาติ กึ การณา โมมูหา วิย จรสิ? อิโต พหิทฺธาติ อิมมฺหา สาสนา พหิ. ปาสํ เฑนฺตีติ ปาสณฺฑา, สตฺตานํ จิตฺเตสุ ทิฏฺิปาสํ ขิปนฺตีติ อตฺโถ. สาสนํ ปน ปาเส โมเจติ, ตสฺมา ปาสณฺโฑติ น วุจฺจติ, อิโต พหิทฺธาเยว ปาสณฺฑา โหนฺติ. ปสีทนฺตีติ สํสีทนฺติ ลคฺคนฺติ.

อิทานิ ‘‘กํ นุ อุทฺทิสฺส มุณฺฑาสี’’ติ ปฺหํ กเถนฺตี อตฺถิ สกฺยกุเล ชาโตติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพาภิภูติ สพฺพานิ ขนฺธายตนธาตุภวโยนิคติอาทีนิ อภิภวิตฺวา ิโต. มรณมาราทโย นุทิ นีหรีติ มารนุโท. สพฺพตฺถมปราชิโตติ สพฺเพสุ ราคาทีสุ วา มารยุทฺเธ วา อชิโต. สพฺพตฺถ มุตฺโตติ สพฺเพสุ ขนฺธาทีสุ มุตฺโต. อสิโตติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสเยน อนิสฺสิโต. สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโตติ สพฺพกมฺมกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปตฺโต. อุปธิสงฺขเยติ อุปธิสงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. อฏฺมํ.

๙. เสลาสุตฺตวณฺณนา

๑๗๐. นวเม เกนิทํ ปกตนฺติ เกน อิทํ กตํ. พิมฺพนฺติ อตฺตภาวํ สนฺธาย วทติ. อฆนฺติ ทุกฺขปติฏฺานตฺตา อตฺตภาวเมว วทติ. เหตุภงฺคาติ เหตุนิโรเธน ปจฺจยเวกลฺเลน. นวมํ.

๑๐. วชิราสุตฺตวณฺณนา

๑๗๑. ทสเม นยิธ สตฺตุปลพฺภตีติ อิมสฺมึ สุทฺธสงฺขารปุฺเช ปรมตฺถโต สตฺโต นาม น อุปลพฺภติ. ขนฺเธสุ สนฺเตสูติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ วิชฺชมาเนสุ เตน เตนากาเรน ววตฺถิเตสุ. สมฺมุตีติ สตฺโตติ สมฺามตฺตเมว โหติ. ทุกฺขนฺติ ปฺจกฺขนฺธทุกฺขํ. นาฺตฺร ทุกฺขาติ เปตฺวา ทุกฺขํ อฺโ เนว สมฺโภติ น นิรุชฺฌตีติ. ทสมํ.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

ภิกฺขุนีสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. พฺรหฺมสํยุตฺตํ

๑. ปมวคฺโค

๑. พฺรหฺมายาจนสุตฺตวณฺณนา

๑๗๒. พฺรหฺมสํยุตฺตสฺส ปเม ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ อยํ เจตโส วิตกฺโก อุทปาทิ. กทา อุทปาทีติ? พุทฺธภูตสฺส อฏฺเม สตฺตาเห ราชายตนมูเล สกฺเกน เทวานมินฺเทน อาภตํ ทนฺตกฏฺฺจ โอสธหรีตกฺจ ขาทิตฺวา มุขํ โธวิตฺวา จตูหิ โลกปาเลหิ อุปนีเต ปจฺจคฺเฆ เสลมยปตฺเต ตปุสฺสภลฺลิกานํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา อชปาลนิคฺโรเธ นิสินฺนมตฺตสฺส.

อธิคโตติ ปฏิวิทฺโธ. ธมฺโมติ จตุสจฺจธมฺโม. คมฺภีโรติ อุตฺตานปฏิกฺเขปวจนเมตํ. ทุทฺทโสติ คมฺภีรตฺตาว ทุทฺทโส ทุกฺเขน ทฏฺพฺโพ, น สกฺกา สุเขน ทฏฺุํ. ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพโธ ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน อวพุชฺฌิตุํ. สนฺโตติ นิพฺพุโต. ปณีโตติ อตปฺปโก. อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อตกฺกาวจโรติ ตกฺเกน อวจริตพฺโพ โอคาหิตพฺโพ น โหติ, าเณเนว อวจริตพฺโพ. นิปุโณติ สณฺโห. ปณฺฑิตเวทนีโยติ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺเนหิ ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺโพ. อาลยรามาติ สตฺตา ปฺจสุ กามคุเณสุ อลฺลียนฺติ, ตสฺมา เต อาลยาติ วุจฺจนฺติ. อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ วา อลฺลียนฺติ, ตสฺมาปิ อาลยาติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุ มุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนํ อุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, สมฺมุทิโต อาโมทิตปโมทิโต โหติ, น อุกฺกณฺติ, สายมฺปิ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ, เอวมิเมหิปิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ สมฺมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เตสํ ภควา ทุวิธํ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต ‘‘อาลยรามา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยทิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส านํ สนฺธาย ‘‘ยํ อิท’’นฺติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. สงฺขาราทิปจฺจยานํ เอตํ อธิวจนํ. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมนฺติ, วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสราคา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. ยา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส, สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. กายกิลมโถ เจว กายวิเหสา จ อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺเต ปน อุภยมฺเปตํ พุทฺธานํ นตฺถิ. อปิสฺสูติ อนุพฺรูหนตฺเถ นิปาโต. โส ‘‘น เกวลํ อยํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสู’’ติ ทีเปติ. อนจฺฉริยาติ อนุอจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ, ปริวิตกฺกยิตพฺพตํ ปาปุณึสุ.

กิจฺเฉนาติ ทุกฺเขน, น ทุกฺขาย ปฏิปทาย. พุทฺธานํ หิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทาว โหนฺติ. ปารมีปูรณกาเล ปน สราคสโทสสโมหสฺเสว สโต อาคตาคตานํ ยาจกานํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ สีสํ กนฺติตฺวา คลโลหิตํ นีหริตฺวา สุอฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา กุลวํสปฺปทีปํ ปุตฺตํ มนาปจารินึ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส อฺานิ จ ขนฺติวาทิสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนียปฏิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. หลนฺติ เอตฺถ -กาโร นิปาตมตฺโต, อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทสิตุํ, เอวํ กิจฺเฉน อธิคตสฺส อลํ เทสิตุํ ปริยตฺตํ เทสิตุํ. โก อตฺโถ เทสิเตนาติ วุตฺตํ โหติ? ราคโทสปเรเตหีติ ราคโทสผุฏฺเหิ ราคโทสานุคเตหิ วา.

ปฏิโสตคามินฺติ นิจฺจาทีนํ ปฏิโสตํ, ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภ’’นฺติ เอวํ คตํ จตุสจฺจธมฺมํ. ราครตฺตาติ กามราเคน ภวราเคน ทิฏฺิราเคน จ รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภนฺติ อิมินา สภาเวน น ปสฺสิสฺสนฺติ, เต อปสฺสนฺเต โก สกฺขิสฺสติ เอวํ คาหาเปตุํ. ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถฏา.

อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน, อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ. กสฺมา ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ? นนุ เอส มุตฺโต โมเจสฺสามิ, ติณฺโณ ตาเรสฺสามิ –

‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตารยิสฺสํ สเทวก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๕๖) –

ปตฺถนํ กตฺวา ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ? สจฺจเมตํ, ตเทวํ ปจฺจเวกฺขณานุภาเวน ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ตสฺส หิ สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺตานํ กิเลสคหนตํ, ธมฺมสฺส จ คมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สตฺตานํ กิเลสคหนตา จ ธมฺมคมฺภีรตา จ สพฺพากาเรน ปากฏา ชาตา. อถสฺส – ‘‘อิเม สตฺตา กฺชิยปุณฺณา ลาพุ วิย, ตกฺกภริตา จาฏิ วิย, วสาเตลปีตปิโลติกา วิย, อฺชนมกฺขิตหตฺโถ วิย จ กิเลสภริตา อติสํกิลิฏฺา ราครตฺตา โทสทุฏฺา โมหมูฬฺหา, เต กึ นาม ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ? จินฺตยโต กิเลสคหนปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมิ.

‘‘อยฺจ ธมฺโม ปถวีสนฺธารกอุทกกฺขนฺโธ วิย คมฺภีโร, ปพฺพเตน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปิโต สาสโป วิย ทุทฺทโส, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิปฏิปาทนํ วิย ทุรนุโพโธ. นนุ มยา หิ อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ วายมนฺเตน อทินฺนํ ทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตํ สีลํ นาม นตฺถิ, อปริปูริตา กาจิ ปารมี นาม นตฺถิ, ตสฺส เม นิรุสฺสาหํ วิย มารพลํ วิธมนฺตสฺสาปิ ปถวี น กมฺปิตฺถ, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, ปจฺฉิมยาเม ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺเสว เม ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. อิติ มาทิเสนาปิ ติกฺขาเณน กิจฺเฉเนวายํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ. ตํ โลกิยมหาชนา กถํ ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ? ธมฺมคมฺภีรปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมีติ เวทิตพฺพํ.

อปิจ พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตายปิสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ชานาติ หิ ภควา – ‘‘มม อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมมาเน มํ มหาพฺรหฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, อิเม จ สตฺตา พฺรหฺมครุกา. เต ‘สตฺถา กิร ธมฺมํ น เทเสตุกาโม อโหสิ. อถ นํ มหาพฺรหฺมา ยาจิตฺวา เทสาเปสิ. สนฺโต วต โภ ธมฺโม, ปณีโต วต โภ ธมฺโม’ติ มฺมานา สุสฺสูสิสฺสนฺตี’’ติ. อิทมฺปิสฺส การณํ ปฏิจฺจ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายาติ เวทิตพฺพํ.

สหมฺปติสฺสาติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุกพฺรหฺมา หุตฺวา นิพฺพตฺโต. ตตฺร นํ ‘‘สหมฺปติพฺรหฺมา’’ติ ปฏิสฺชานนฺติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘พฺรหฺมุโน สหมฺปติสฺสา’’ติ. นสฺสติ วต โภติ โส กิร อิมํ สทฺทํ ตถา นิจฺฉาเรสิ, ยถา ทสสหสฺสิโลกธาตุพฺรหฺมาโน สุตฺวา สพฺเพ สนฺนิปตึสุ. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมึ นาม โลเก. ปุรโต ปาตุรโหสีติ เตหิ ทสหิ พฺรหฺมสหสฺเสหิ สทฺธึ ปาตุรโหสิ. อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ เอวํสภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ภวิสฺสนฺตีติ ปุริมพุทฺเธสุ ทสปุฺกิริยวเสน กตาธิการา ปริปากคตา ปทุมานิ วิย สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ, ธมฺมเทสนํเยว อากงฺขมานา จตุปฺปทิกคาถาวสาเน อริยภูมึ โอกฺกมนารหา น เอโก, น ทฺเว, อเนกสตสหสฺสา ธมฺมสฺส อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ.

ปาตุรโหสีติ ปาตุภวิ. สมเลหิ จินฺติโตติ สมเลหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ จินฺติโต. เต หิ ปุเรตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา สกลชมฺพุทีเป กณฺฏเก ปตฺถรมานา วิย, วิสํ สิฺจมานา วิย จ สมลํ มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมํ เทสยึสุ. อปาปุเรตนฺติ วิวรํ เอตํ. อมตสฺส ทฺวารนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารภูตํ อริยมคฺคํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธนฺติ อิเม สตฺตา ราคาทิมลานํ อภาวโต วิมเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุพุทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ สุณนฺตุ ตาว ภควาติ ยาจติ.

เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว. น หิ ตสฺส ิตสฺส ทสฺสนตฺถํ คีวุกฺขิปนปสารณาทิกิจฺจํ อตฺถิ. ตถูปมนฺติ ตปฺปฏิภาคํ เสลปพฺพตูปมํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา เสลปพฺพตมุทฺธนิ ิโตว จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย, ตถา ตฺวมฺปิ สุเมธ สุนฺทรปฺ สพฺพฺุตาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตํ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารย อุปปริกฺข. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา หิ ปพฺพตปาเท สมนฺตา มหนฺตํ เขตฺตํ กตฺวา, ตตฺถ เกทารปาฬีสุ กุฏิกาโย กตฺวา รตฺตึ อคฺคึ ชาเลยฺยุํ, จตุรงฺคสมนฺนาคตฺจ อนฺธการํ อสฺส, อถ ตสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ภูมึ โอโลกยโต เนว เขตฺตํ น เกทารปาฬิโย น กุฏิโย น ตตฺถ สยิตมนุสฺสา ปฺาเยยฺยุํ. กุฏิกาสุ ปน อคฺคิชาลามตฺตกเมว ปฺาเยยฺย, เอวํ ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห สตฺตนิกายํ โอโลกยโต ตถาคตสฺส เย เต อกตกลฺยาณา สตฺตา, เต เอกวิหาเร ทกฺขิณชาณุปสฺเส นิสินฺนาปิ พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา สรา วิย โหนฺติ. เย ปน กตกลฺยาณา เวเนยฺยปุคฺคลา, เต เอวสฺส ทูเรปิ ิตา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ โส อคฺคิ วิย หิมวนฺตปพฺพโต วิย จ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;

อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔);

อชฺเฌสนนฺติ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสํ หิ ทฺวินฺนํ าณานํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺส ‘‘สมนฺตจกฺขู’’ติ, ติณฺณํ มคฺคาณานํ ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ เยสํ วุตฺตนเยเนว ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ, เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺเจว วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ, เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน นาม.

อยํ ปเนตฺถ ปาฬิ – ‘‘สทฺโธ ปุคฺคโล อปฺปรชกฺโข, อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. อารทฺธวีริโย, กุสีโต. อุปฏฺิตสฺสติ, มุฏฺสฺสติ. สมาหิโต, อสมาหิโต. ปฺวา, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. ตถา สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย…เป… ปฺวา ปุคฺคโล ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี. โลโกติ ขนฺธโลโก, อายตนโลโก, ธาตุโลโก, สมฺปตฺติภวโลโก, สมฺปตฺติสมฺภวโลโก, วิปตฺติภวโลโก, วิปตฺติสมฺภวโลโก. เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา อฏฺารส ธาตุโย. วชฺชนฺติ สพฺเพ กิเลสา วชฺชา, สพฺเพ ทุจฺจริตา วชฺชา, สพฺเพ อภิสงฺขารา วชฺชา, สพฺเพ ภวคามิกมฺมา วชฺชา, อิติ อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเช ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ชานาติ ปสฺสติ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. อิทํ ตถาคตสฺส อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒).

อุปฺปลินิยนฺติ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อนฺโต นิมุคฺคาเนว โปสิยนฺติ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานี ติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ. ตตฺถ ยานิ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ, ตานิ สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ อาคมยมานานิ ิตานิ อชฺช ปุปฺผนกานิ. ยานิ ปน สโมทกํ ิตานิ, ตานิ สฺเว ปุปฺผนกานิ. ยานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ. อุทกา ปน อนุคฺคตานิ อฺานิปิ สโรคอุปฺปลาทีนิ นาม อตฺถิ, ยานิ เนว ปุปฺผิสฺสนฺติ, มจฺฉกจฺฉปภกฺขาเนว ภวิสฺสนฺติ, ตานิ ปาฬึ นารุฬฺหานิ. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพานีติ ทีปิตานิ. ยเถว หิ ตานิ จตุพฺพิธานิ ปุปฺผานิ, เอวเมวํ อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโย ปทปรโมติ จตฺตาโร ปุคฺคลา.

ตตฺถ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม (ปุ. ป. ๑๔๘-๑๕๑). ตตฺถ ภควา อุปฺปลวนาทิสทิสํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต – ‘‘อชฺช ปุปฺผนกานิ วิย อุคฺฆฏิตฺู, สฺเว ปุปฺผนกานิ วิย วิปฺจิตฺู, ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ วิย เนยฺโย, มจฺฉกจฺฉปภกฺขานิ ปุปฺผานิ วิย ปทปรโม’’ติ อทฺทสฺส. ปสฺสนฺโต จ ‘‘เอตฺตกา อปฺปรชกฺขา, เอตฺตกา มหารชกฺขา, ตตฺราปิ เอตฺตกา อุคฺฆฏิตฺู’’ติ เอวํ สพฺพาการโตว อทฺทส.

ตตฺถ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภควโต ธมฺมเทสนา อตฺถํ สาเธติ. ปทปรมานํ อนาคตตฺถาย วาสนา โหติ. อถ ภควา อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถาวหํ ธมฺมเทสนํ วิทิตฺวา เทเสตุกมฺยตํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน สพฺเพปิ ตีสุ ภเวสุ สตฺเต ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. เย สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กตเม สตฺตา อภพฺพา? เย เต สตฺตา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปฺา อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิเม เต สตฺตา อภพฺพา. กตเม สตฺตา ภพฺพา? เย เต สตฺตา น กมฺมาวรเณน…เป… อิเม เต สตฺตา ภพฺพา’’ติ (วิภ. ๘๒๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๕). ตตฺถ สพฺเพปิ อภพฺพปุคฺคเล ปหาย ภพฺพปุคฺคเลเยว าเณน ปริคฺคเหตฺวา, ‘‘เอตฺตกา ราคจริตา เอตฺตกา โทส-โมหจริตา วิตกฺก-สทฺธา-พุทฺธิจริตา’’ติ ฉ โกฏฺาเส อกาสิ. เอวํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ จินฺเตสิ.

ปจฺจภาสีติ ปติอภาสิ. อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ, โส มยา วิวริตฺวา ปิโตติ ทสฺเสติ. ปมุฺจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมุฺจนฺตุ วิสฺสชฺเชนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ – อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา น ภาสึ. อิทานิ ปน สพฺโพ ชโน สทฺธาภาชนํ อุปเนตุ, ปูเรสฺสามิ เตสํ สงฺกปฺปนฺติ.

อนฺตรธายีติ สตฺถารํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา อนฺตรหิโต, สกฏฺานเมว คโตติ อตฺโถ. คเต จ ปน ตสฺมึ ภควา ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ? อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ, ปฺจวคฺคิยานฺจ พหูปการภาวํ ตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสตุกาโม พาราณสิยํ อิสิปตนํ คนฺตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสีติ. ปมํ.

๒. คารวสุตฺตวณฺณนา

๑๗๓. ทุติเย อุทปาทีติ อยํ วิตกฺโก ปฺจเม สตฺตาเห อุทปาทิ. อคารโวติ อฺสฺมึ คารวรหิโต, กฺจิ ครุฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. อปฺปติสฺโสติ ปติสฺสยรหิโต, กฺจิ เชฏฺกฏฺาเน อฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.

สเทวเกติอาทีสุ สทฺธึ เทเวหิ สเทวเก. เทวคฺคหเณน เจตฺถ มารพฺรหฺเมสุ คหิเตสุปิ มาโร นาม วสวตฺตี สพฺเพสํ อุปริ วสํ วตฺเตติ, พฺรหฺมา นาม มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ. ทฺวีหิ ทฺวีสุ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุปิ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, โส อิมินา สีลสมฺปนฺนตโรติ วตฺตุํ มา ลภตูติ สมารเก สพฺรหฺมเกติ วิสุํ วุตฺตํ. ตถา สมณา นาม เอกนิกายาทิวเสน พหุสฺสุตา สีลวนฺโต ปณฺฑิตา, พฺราหฺมณาปิ วตฺถุวิชฺชาทิวเสน พหุสฺสุตา ปณฺฑิตา, เต อิมินา สีลสมฺปนฺนตราติ วตฺตุํ มา ลภนฺตูติ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายาติ วุตฺตํ. สเทวมนุสฺสายาติ อิทํ ปน นิปฺปเทสโต ทสฺสนตฺถํ คหิตเมว คเหตฺวา วุตฺตํ. อปิเจตฺถ ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ โลกวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปชาวเสน. สีลสมฺปนฺนตรนฺติ สีเลน สมฺปนฺนตรํ, อธิกตรนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ สีลาทโย จตฺตาโร ธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรา กถิตา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว. ปจฺจเวกฺขณาณํ เหตํ.

ปาตุรโหสีติ – ‘‘อยํ สตฺถา อวีจิโต ยาว ภวคฺคา สีลาทีหิ อตฺตนา อธิกตรํ อปสฺสนฺโต ‘มยา ปฏิวิทฺธํ นวโลกุตฺตรธมฺมเมว สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหริสฺสามี’ติ จินฺเตติ, การณํ ภควา จินฺเตติ, อตฺถํ วุฑฺฒิวิเสสํ จินฺเตติ, คจฺฉามิสฺส อุสฺสาหํ ชเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุรโต ปากโฏ อโหสิ, อภิมุเข อฏฺาสีติ อตฺโถ.

วิหรนฺติ จาติ เอตฺถ โย วเทยฺย ‘‘วิหรนฺตีติ วจนโต ปจฺจุปฺปนฺเนปิ พหู พุทฺธา’’ติ, โส ‘‘ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา วจเนน ปฏิพาหิตพฺโพ.

‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) –

อาทีหิ จสฺส สุตฺเตหิ อฺเสํ พุทฺธานํ อภาโว ทีเปตพฺโพ. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สทฺธมฺมครุโน, ตสฺมา. มหตฺตมภิกงฺขตาติ มหนฺตภาวํ ปตฺถยมาเนน. สรํ พุทฺธาน-สาสนนฺติ พุทฺธานํ สาสนํ สรนฺเตน. ทุติยํ.

๓. พฺรหฺมเทวสุตฺตวณฺณนา

๑๗๔. ตติเย เอโกติ านาทีสุ อิริยาปเถสุ เอกโก, เอกวิหารีติ อตฺโถ. วูปกฏฺโติ กาเยน วูปกฏฺโ นิสฺสโฏ. อปฺปมตฺโตติ สติยา อวิปฺปวาเส ิโต. อาตาปีติ วีริยาตาเปน สมนฺนาคโต. ปหิตตฺโตติ เปสิตตฺโต. กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตา. สมฺมเทวาติ น อิณฏฺฏา น ภยฏฺฏา น ชีวิตปกตา หุตฺวา, ยถา วา ตถา วา ปพฺพชิตาปิ เย อนุโลมปฏิปทํ ปูเรนฺติ, เต สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ นาม. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ สามํ ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปฏิลภิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิ. เอวํ วิหรนฺโต จ ขีณา ชาติ…เป… อพฺภฺาสีติ. เอเตนสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมิ ทสฺสิตา.

กตมา ปนสฺส ชาติ ขีณา, กถฺจ นํ อพฺภฺาสีติ? วุจฺจเต, น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา ปุพฺเพว ขีณตฺตา, น อนาคตา ตตฺถ วายามาภาวโต, น ปจฺจุปฺปนฺนา วิชฺชมานตฺตา. มคฺคสฺส ปน อภาวิตตฺตา ยา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ. สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา. ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา – ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิกํ โหตี’’ติ ชานนฺโต ชานาติ.

วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย, เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย, กิเลสกฺขยาย วา กตมคฺคภาวนา นตฺถีติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถตฺตภาวโต, อิมสฺมา เอวํปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ นตฺถิ, อิเม ปน ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลโก รุกฺโข วิยาติ อพฺภฺาสิ. อฺตโรติ เอโก. อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหตํ อพฺภนฺตโร อโหสิ.

สปทานนฺติ สปทานจารํ, สมฺปตฺตฆรํ อนุกฺกมฺม ปฏิปาฏิยา จรนฺโต. อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกมนฺโต. มาตา ปนสฺส ปุตฺตํ ทิสฺวาว ฆรา นิกฺขมฺม ปตฺตํ คเหตฺวา อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปสิ.

อาหุตึ นิจฺจํ ปคฺคณฺหาตีติ นิจฺจกาเล อาหุติปิณฺฑํ ปคฺคณฺหาติ. ตํ ทิวสํ ปน ตสฺมึ ฆเร ภูตพลิกมฺมํ โหติ. สพฺพเคหํ หริตุปลิตฺตํ วิปฺปกิณฺณลาชํ วนมาลปริกฺขิตฺตํ อุสฺสิตทฺธชปฏากํ ตตฺถ ตตฺถ ปุณฺณฆเร เปตฺวา ทณฺฑทีปิกา ชาเลตฺวา คนฺธจุณฺณมาลาทีหิ อลงฺกตํ, สมนฺตโต สฺฉาทิยมานา ธูมกฏจฺฉุ อโหสิ. สาปิ พฺราหฺมณี กาลสฺเสว วุฏฺาย โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺกาเรน อตฺตภาวํ อลงฺกริ. สา ตสฺมึ สมเย มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา, ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ สุวณฺณปาติยํ ปายาสํ ปูเรตฺวา สปฺปิมธุสกฺขราทีหิ โยเชตฺวา นิเวสนสฺส ปจฺฉาภาเค หริตุปลิตฺตภาวาทีหิ อลงฺกตา ภูตปีิกา อตฺถิ. สา ตํ ปาตึ อาทาย, ตตฺถ คนฺตฺวา, จตูสุ โกเณสุ มชฺเฌ จ เอเกกํ ปายาสปิณฺฑํ เปตฺวา, เอกํ ปิณฺฑํ หตฺเถน คเหตฺวา, ยาว กปฺปรา สปฺปินา ปคฺฆรนฺเตน ปถวิยํ ชาณุมณฺฑลํ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘ภุฺชตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, สายตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, ตปฺเปตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา’’ติ วทมานา พฺรหฺมานํ โภเชติ.

เอตทโหสีติ มหาขีณาสวสฺส สีลคนฺธํ ฉเทวโลเก อชฺโฌตฺถริตฺวา พฺรหฺมโลกํ อุปคตํ ฆายมานสฺส เอตํ อโหสิ. สํเวเชยฺยนฺติ โจเทยฺยํ, สมฺมาปฏิปตฺติยํ โยเชยฺยํ. ‘อยํ หิ เอวรูปํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ ตุลํ ปหาย หตฺเถน ตุลยนฺตี วิย, เภรึ ปหาย กุจฺฉึ วาเทนฺตี วิย, อคฺคึ ปหาย ขชฺโชปนกํ ธมมานา วิย ภูตพลึ กุรุมานา อาหิณฺฑติ. คจฺฉามิสฺสา มิจฺฉาทสฺสนํ ภินฺทิตฺวา อปายมคฺคโต อุทฺธริตฺวา ยถา อสีติโกฏิธนํ พุทฺธสาสเน วิปฺปกิริตฺวา สคฺคมคฺคํ อาโรหติ, ตถา กโรมีติ วุตฺตํ โหติ.

ทูเร อิโตติ อิมมฺหา านา ทูเร พฺรหฺมโลโก. ตโต หิ กูฏาคารมตฺตา สิลา ปาติตา เอเกน อโหรตฺเตน อฏฺจตฺตาลีสโยชนสหสฺสานิ เขปยมานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺย, สพฺพเหฏฺิโมปิ พฺรหฺมโลโก เอวํ ทูเร. ยสฺสาหุตินฺติ ยสฺส พฺรหฺมุโน อาหุตึ ปคฺคณฺหาสิ, ตสฺส พฺรหฺมโลโก ทูเรติ อตฺโถ. พฺรหฺมปถนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมปโถ นาม จตฺตาริ กุสลชฺฌานานิ, วิปากชฺฌานานิ ปน เนสํ ชีวิตปโถ นาม, ตํ พฺรหฺมปถํ อชานนฺตี ตฺวํ กึ ชปฺปสิ วิปฺปลปสิ? พฺรหฺมาโน หิ สปฺปีติกชฺฌาเนน ยาเปนฺติ, น เอตํ ติณพีชานิ ปกฺขิปิตฺวา รนฺธํ โคยูสํ ขาทนฺติ, มา อการณา กิลมสีติ.

เอวํ วตฺวา ปุน โส มหาพฺรหฺมา อฺชลึ ปคฺคยฺห อวกุชฺโช หุตฺวา เถรํ อุปทิสนฺโต เอโส หิ เต พฺราหฺมณิ พฺรหฺมเทโวติอาทิมาห. ตตฺถ นิรูปธิโกติ กิเลสาภิสงฺขารกามคุโณปธีหิ วิรหิโต. อติเทวปตฺโตติ เทวานํ อติเทวภาวํ พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมภาวํ ปตฺโต. อนฺโปสีติ เปตฺวา อิมํ อตฺตภาวํ อฺสฺส อตฺตภาวสฺส วา ปุตฺตทารสฺส วา อโปสนตาย อนฺโปสี.

อาหุเนยฺโยติ อาหุนปิณฺฑํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. เวทคูติ จตุมคฺคสงฺขาเตหิ เวเทหิ ทุกฺขสฺสนฺตํ คโต. ภาวิตตฺโตติ อตฺตานํ ภาเวตฺวา วฑฺเฒตฺวา ิโต. อนูปลิตฺโตติ ตณฺหาทีหิ เลเปหิ อาลิตฺโต. ฆาเสสนํ อิริยตีติ อาหารปริเยสนํ จรติ.

น ตสฺส ปจฺฉา น ปุรตฺถมตฺถีติ ปจฺฉา วุจฺจติ อตีตํ, ปุรตฺถํ วุจฺจติ อนาคตํ, อตีตานาคเตสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราควิรหิตสฺส ปจฺฉา วา ปุรตฺถํ วา นตฺถีติ วทติ. สนฺโตติอาทีสุ ราคาทิสนฺตตาย สนฺโต. โกธธูมวิคมา วิธูโม, ทุกฺขาภาวา อนีโฆ, กตฺตรทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺโตปิ วธกเจตนาย อภาวา นิกฺขิตฺตทณฺโฑ. ตสถาวเรสูติ เอตฺถ ปน ปุถุชฺชนา ตสา นาม, ขีณาสวา ถาวรา นาม. สตฺต ปน เสขา ตสาติ วตฺตุํ น สกฺกา, ถาวรา น โหนฺติ, ภชมานา ปน ถาวรปกฺขเมว ภชนฺติ. โส ตฺยาหุตินฺติ โส เต อาหุตึ.

วิเสนิภูโตติ กิเลสเสนาย วิเสโน ชาโต. อเนโชติ นิตฺตณฺโห. สุสีโลติ ขีณาสวสีเลน สุสีโล. สุวิมุตฺตจิตฺโตติ ผลวิมุตฺติยา สุฏฺุ วิมุตฺตจิตฺโต. โอฆติณฺณนฺติ จตฺตาโร โอเฆ ติณฺณํ. เอตฺตเกน กถามคฺเคน พฺรหฺมา เถรสฺส วณฺณํ กเถนฺโต อายตเน พฺราหฺมณึ นิโยเชสิ. อวสานคาถา ปน สงฺคีติกาเรหิ ปิตา. ปติฏฺเปสิ ทกฺขิณนฺติ จตุปจฺจยทกฺขิณํ ปติฏฺเปสิ. สุขมายติกนฺติ สุขายติกํ อายตึ สุขวิปากํ, สุขาวหนฺติ อตฺโถ. ตติยํ.

๔. พกพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๗๕. จตุตฺเถ ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ ลามิกา สสฺสตทิฏฺิ. อิทํ นิจฺจนฺติ อิทํ สห กาเยน พฺรหฺมฏฺานํ อนิจฺจํ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วทติ. ธุวาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ธุวนฺติ ถิรํ. สสฺสตนฺติ สทา วิชฺชมานํ. เกวลนฺติ อขณฺฑํ สกลํ. อจวนธมฺมนฺติ อจวนสภาวํ. อิทํ หิ น ชายตีติอาทีสุ อิมสฺมึ าเน โกจิ ชายนโก วา ชียนโก วา มียนโก วา จวนโก วา อุปปชฺชนโก วา นตฺถิ, ตํ สนฺธาย วทติ. อิโต จ ปนฺนฺติ อิโต สหกายา พฺรหฺมฏฺานา อุตฺตริ อฺํ นิสฺสรณํ นาม นตฺถีติ. เอวมสฺส ถามคตา สสฺสตทิฏฺิ อุปฺปนฺนา โหติ. เอวํวาที จ ปน โส อุปริ ติสฺโส ฌานภูมิโย จตฺตาโร มคฺเค จตฺตาริ ผลานิ นิพฺพานนฺติ สพฺพํ ปฏิพาหติ. กทา ปนสฺส สา ทิฏฺิ อุปฺปนฺนาติ? ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตกาเล. ทุติยชฺฌานภูมิยนฺติ เอเก.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เหฏฺุปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา อนุปฺปนฺเน พุทฺธุปฺปาเท อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ เวหปฺผลพฺรหฺมโลเก ปฺจกปฺปสติกํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา เหฏฺุปปตฺติกํ กตฺวา ตติยชฺฌานํ ปณีตํ ภาเวตฺวา สุภกิณฺหพฺรหฺมโลเก จตุสฏฺิกปฺปํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ทุติยชฺฌานํ ภาเวตฺวา อาภสฺสเร อฏฺ กปฺเป อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ปมชฺฌานํ ภาเวตฺวา, ปมชฺฌานภูมิยํ กปฺปายุโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส ปมกาเล อตฺตนา กตกมฺมฺจ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ อฺาสิ, กาเล ปน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต อุภยํ ปมุสฺสิตฺวา สสฺสตทิฏฺึ อุปฺปาเทสิ.

อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย คโต สมนฺนาคโต อฺาณี อนฺธีภูโต. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. วกฺขตีติ ภณติ. ‘‘ยตฺรา’’ติ นิปาตโยเคน ปน อนาคตวจนํ กตํ.

เอวํ วุตฺเต โส พฺรหฺมา ยถา นาม มคฺคโจโร ทฺเว ตโย ปหาเร อธิวาเสนฺโต สหาเย อนาจิกฺขิตฺวาปิ อุตฺตรึ ปหารํ ปหริยมาโน ‘‘อสุโก จ อสุโก จ มยฺหํ สหาโย’’ติ อาจิกฺขติ, เอวเมว ภควตา สนฺตชฺชิยมาโน สตึ ลภิตฺวา, ‘‘ภควา มยฺหํ ปทานุปทํ เปกฺขนฺโต มํ นิปฺปีฬิตุกาโม’’ติ ภีโต อตฺตโน สหาเย อาจิกฺขนฺโต ทฺวาสตฺตตีติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โภ โคตม, มยํ ทฺวาสตฺตติ ชนา ปุฺกมฺมา เตน ปุฺกมฺเมน อิธ นิพฺพตฺตา. วสวตฺติโน สยํ อฺเสํ วเส อวตฺติตฺวา ปเร อตฺตโน วเส วตฺเตม, ชาติฺจ ชรฺจ อตีตา, อยํ โน เวเทหิ คตตฺตา ‘‘เวทคู’’ติ สงฺขํ คตา ภควา อนฺติมา พฺรหฺมุปปตฺติ. อสฺมาภิชปฺปนฺติ ชนา อเนกาติ อเนกชนา อมฺเห อภิชปฺปนฺติ. ‘‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา, มหาพฺรหฺมา, อภิภู, อนภิภูโต, อฺทตฺถุทโส, วสวตฺตี, อิสฺสโร, กตฺตา, นิมฺมาตา, เสฏฺโ, สชิตา, วสี, ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ เอวํ ปตฺเถนฺติ ปิเหนฺตีติ.

อถ นํ ภควา อปฺปํ หิ เอตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอตนฺติ ยํ ตฺวํ อิธ ตว อายุํ ‘‘ทีฆ’’นฺติ มฺสิ, เอตํ อปฺปํ ปริตฺตกํ. สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสนิรพฺพุทานํ. อายุํ ปชานามีติ, ‘‘อิทานิ ตว อวสิฏฺํ เอตฺตกํ อายู’’ติ อหํ ชานามิ. อนนฺตทสฺสี ภควา หมสฺมีติ, ภควา, ตุมฺเห ‘‘อหํ อนนฺตทสฺสี ชาติอาทีนิ อุปาติวตฺโต’’ติ วทถ. กึ เม ปุราณนฺติ, ยทิ ตฺวํ อนนฺตทสฺสี, เอวํ สนฺเต อิทํ เม อาจิกฺข, กึ มยฺหํ ปุราณํ? วตสีลวตฺตนฺติ สีลเมว วุจฺจติ. ยมหํ วิชฺาติ ยํ อหํ ตยา กถิตํ ชาเนยฺยํ, ตํ เม อาจิกฺขาติ วทติ.

อิทานิสฺส อาจิกฺขนฺโต ภควา ยํ ตฺวํ อปาเยสีติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ปุพฺเพ กิเรส กุลฆเร นิพฺพตฺติตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา – ‘‘ชาติชรามรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานสฺส ลาภี หุตฺวา คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ฌานรติยา วีตินาเมติ. ตทา จ กาเลนกาลํ สตฺถวาหา ปฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ. มรุกนฺตาเร ปน ทิวา น สกฺกา คนฺตุํ, รตฺตึ คมนํ โหติ. อถ ปุริมสกฏสฺส อคฺคยุเค ยุตฺตพลิพทฺทา คจฺฉนฺตา คจฺฉนฺตา นิวตฺติตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขา อเหสุํ, สพฺพสกฏานิ ตเถว นิวตฺติตฺวา อรุเณ อุคฺคเต นิวตฺติตภาวํ ชานึสุ. เตสฺจ ตทา กนฺตารํ อติกฺกมนทิวโส อโหสิ. สพฺพํ ทารุทกํ ปริกฺขีณํ – ตสฺมา ‘‘นตฺถิ ทานิ อมฺหากํ ชีวิต’’นฺติ จินฺเตตฺวา, โคเณ จกฺเกสุ พนฺธิตฺวา, มนุสฺสา สกฏจฺฉายํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชึสุ.

ตาปโสปิ กาลสฺเสว ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺโน คงฺคํ โอโลกยมาโน อทฺทส คงฺคํ มหตา อุทโกเฆน ปูริยมานํ ปวตฺติตมณิกฺขนฺธํ วิย อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมึ โลเก เอวรูปสฺส มธุโรทกสฺส อลาเภน กิลิสฺสมานา สตฺตา’’ติ? โส เอวํ อาวชฺเชนฺโต มรุกนฺตาเร ตํ สตฺถํ ทิสฺวา ‘อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’ติ ‘‘อิโต จิโต จ มหาอุทกกฺขนฺโธ ฉิชฺชิตฺวา มรุกนฺตาเร สตฺถาภิมุโข คจฺฉตู’’ติ อภิฺาจิตฺเตน อธิฏฺาสิ. สห จิตฺตุปฺปาเทน มาติการุฬฺหํ วิย อุทกํ ตตฺถ อคมาสิ. มนุสฺสา อุทกสทฺเทน วุฏฺาย อุทกํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺา นฺหายิตฺวา ปิวิตฺวา โคเณปิ ปาเยตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ อคมํสุ. สตฺถา ตํ พฺรหฺมุโน ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ปมํ คาถมาห. ตตฺถ อปาเยสีติ ปาเยสิ. อ-กาโร นิปาตมตฺตํ. คมฺมนีติ คิมฺเห. สมฺปเรเตติ คิมฺหาตเปน ผุฏฺเ อนุคเต.

อปรสฺมิมฺปิ สมเย ตาปโส คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อรฺคามกํ นิสฺสาย วสติ. เตน จ สมเยน โจรา ตํ คามํ ปหริตฺวา หตฺถสารํ คเหตฺวา คาวิโย จ กรมเร จ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. คาโวปิ สุนขาปิ มนุสฺสาปิ มหาวิรวํ วิรวนฺติ. ตาปโส ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กินฺนุ โข เอต’’นฺติ? อาวชฺเชนฺโต ‘‘มนุสฺสานํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตฺวา ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต อิเม สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาจิตฺเตน โจรานํ ปฏิปเถ จตุรงฺคินึ เสนํ มาเปสิ. กมฺมสชฺชา อาคจฺฉนฺตา โจรา ทิสฺวา, ‘‘ราชา มฺเ อาคโต’’ติ วิโลปํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมึสุ. ตาปโส ‘‘ยํ ยสฺส สนฺตกํ, ตํ ตสฺเสว โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ, ตํ ตเถว อโหสิ. มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ เอณิกูลสฺมินฺติ คงฺคาตีเร. คยฺหกํ นียมานนฺติ คเหตฺวา นียมานํ, กรมรํ นียมานนฺติปิ อตฺโถ.

ปุน เอกสฺมึ สมเย อุปริคงฺคาวาสิกํ เอกํ กุลํ เหฏฺาคงฺคาวาสิเกน กุเลน สทฺธึ มิตฺตสนฺถวํ กตฺวา, นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา, พหุํ ขาทนียฺเจว โภชนียฺจ คนฺธมาลาทีนิ จ อาโรเปตฺวา คงฺคาโสเตน อาคจฺฉติ. มนุสฺสา ขาทมานา ภุฺชมานา นจฺจนฺตา คายนฺตา เทววิมาเนน คจฺฉนฺตา วิย พลวโสมนสฺสา อเหสุํ. คงฺเคยฺยโก นาโค ทิสฺวา กุปิโต ‘‘อิเม มยิ สฺมฺปิ น กโรนฺติ. อิทานิ เน สมุทฺทเมว ปาเปสฺสามี’’ติ มหนฺตํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺาย ผณํ กตฺวา, สุสุการํ กโรนฺโต อฏฺาสิ. มหาชโน ทิสฺวา ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ตาปโส ปณฺณสาลายํ นิสินฺโน สุตฺวา, ‘‘อิเม คายนฺตา นจฺจนฺตา โสมนสฺสชาตา อาคจฺฉนฺติ. อิทานิ ปน ภยรวํ รวึสุ, กินฺนุ โข’’ติ? อาวชฺเชนฺโต นาคราชํ ทิสฺวา, ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต สตฺตา มา นสฺสนฺตู’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อตฺตภาวํ ปชหิตฺวา สุปณฺณวณฺณํ มาเปตฺวา นาคราชสฺส ทสฺเสสิ. นาคราชา ภีโต ผณํ สํหริตฺวา อุทกํ ปวิฏฺโ, มหาชโน โสตฺถิภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต ตติยํ คาถมาห. ตตฺถ ลุทฺเทนาติ ทารุเณน. มนุสฺสกมฺยาติ มนุสฺสกามตาย, มนุสฺเส วิเหเตุกามตายาติ อตฺโถ.

อปรสฺมิมฺปิ สมเย เอส อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เกสโว นาม ตาปโส อโหสิ. เตน สมเยน อมฺหากํ โพธิสตฺโต กปฺโป นาม มาณโว เกสวสฺส พทฺธจโร อนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส กึการปฏิสฺสาวี มนาปจารี พุทฺธิสมฺปนฺโน อตฺถจโร อโหสิ. เกสโว เตน วินา วสิตุํ น สกฺโกติ, ตํ นิสฺสาเยว ชีวิกํ กปฺเปสิ. สตฺถา อิทมฺปิ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห.

ตตฺถ พทฺธจโรติ อนฺเตวาสิโก, โส ปน เชฏฺนฺเตวาสิโก อโหสิ. สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺีติ, ‘‘สมฺมา พุทฺธิมา วตสมฺปนฺโน อย’’นฺติ เอวํ มฺมาโน กปฺโป ตว อนฺเตวาสิโก อโหสึ อหํ โส เตน สมเยนาติ ทสฺเสติ. อฺเปิ ชานาสีติ น เกวลํ มยฺหํ อายุเมว, อฺเปิ ตฺวํ ชานาสิเยว. ตถา หิ พุทฺโธติ ตถา หิ ตฺวํ พุทฺโธ, ยสฺมา พุทฺโธ, ตสฺมา ชานาสีติ อตฺโถ. ตถา หิ ตฺยายํ ชลิตานุภาโวติ ยสฺมา จ ตฺวํ พุทฺโธ, ตสฺมา เต อยํ ชลิโต อานุภาโว. โอภาสยํ ติฏฺตีติ สพฺพํ พฺรหฺมโลกํ โอภาสยนฺโต ติฏฺติ. จตุตฺถํ.

๕. อฺตรพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๗๖. ปฺจเม เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย, ‘‘สรีรโต ชาลา นิกฺขมนฺตู’’ติ อธิฏฺหนฺโต อธิฏฺานจิตฺตานุภาเวน สกลสรีรโต ชาลา นิกฺขมนฺติ, เอวํ เตโชธาตุํ สมาปนฺโน นาม โหติ, ตถา สมาปชฺชิตฺวา. ตสฺมึ พฺรหฺมโลเกติ กสฺมา เถโร ตตฺถ อคมาสิ? เถรสฺส กิร เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ตสฺส พฺรหฺมุโน อุปริ นิสินฺนํ ตถาคตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺิเวธี อยํ ปุคฺคโล, มยาเปตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติ อโหสิ, ตสฺมา อคมาสิ. เสสานํ คมเนปิ เอเสว นโย. โส หิ พฺรหฺมา ตถาคตสฺส เจว ตถาคตสาวกานฺจ อานุภาวํ อทิสฺวา อภพฺโพ วินยํ อุปคนฺตุํ, เตน โส สนฺนิปาโต อโหสิ. ตตฺถ ตถาคตสฺส สรีรโต อุคฺคตชาลา สกลพฺรหฺมโลกํ อติกฺกมิตฺวา อชฏากาเส ปกฺขนฺทา, ตา จ ปน ฉพฺพณฺณา อเหสุํ, ตถาคตสฺส สาวกานํ อาภา ปกติวณฺณาว.

ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตนฺติ อิมสฺมึ พฺรหฺมโลเก อฺพฺรหฺมสรีรวิมานาลงฺการาทีนํ ปภา อติกฺกมมานํ พุทฺธสฺส ภควโต ปภสฺสรํ ปภํ ปสฺสสีติ ปุจฺฉติ. น เม, มาริส, สา ทิฏฺีติ ยา เมสา, ‘‘อิธาคนฺตุํ สมตฺโถ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา นตฺถี’’ติ ปุเร ทิฏฺิ, นตฺถิ เม สา. กถํ วชฺชนฺติ เกน การเณน วเทยฺยํ. นิจฺโจมฺหิ สสฺสโตติ อิมสฺส กิร พฺรหฺมุโน ลทฺธิทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ จาติ ทฺเว ทิฏฺิโย. ตตฺราสฺส ตถาคตฺเจว ตถาคตสาวเก จ ปสฺสโต ลทฺธิทิฏฺิ ปหีนา. ภควา ปเนตฺถ มหนฺตํ ธมฺมเทสนํ เทเสสิ. พฺรหฺมา เทสนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. อิติสฺส มคฺเคน สสฺสตทิฏฺิ ปหีนา, ตสฺมา เอวมาห.

พฺรหฺมปาริสชฺชนฺติ พฺรหฺมปาริจาริกํ. เถรานฺหิ ภณฺฑคาหกทหรา วิย พฺรหฺมานมฺปิ ปาริสชฺชา พฺรหฺมาโน นาม โหนฺติ. เตนุปสงฺกมาติ กสฺมา เถรสฺเสว สนฺติกํ เปเสสิ? เถเร กิรสฺส ตตฺตเกเนว กถาสลฺลาเปน วิสฺสาโส อุทปาทิ, ตสฺมา ตสฺเสว สนฺติกํ เปเสสิ อฺเปีติ ยถา ตุมฺเห จตฺตาโร ชนา, กินฺนุ โข เอวรูปา อฺเปิ อตฺถิ, อุทาหุ ตุมฺเห จตฺตาโร เอว มหิทฺธิกาติ? เตวิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยสงฺขาตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ สมนฺนาคตา. อิทฺธิปตฺตาติ อิทฺธิวิธาณํ ปตฺตา. เจโตปริยายโกวิทาติ ปเรสํ จิตฺตาจาเร กุสลา. เอวเมตฺถ ปฺจ อภิฺาปิ สรูเปน วุตฺตา. ทิพฺพโสตํ ปน ตาสํ วเสน อาคตเมว โหติ. พหูติ เอวรูปา ฉฬภิฺา พุทฺธสาวกา พหู คณนปถํ อติกฺกนฺตา, สกลํ ชมฺพุทีปํ กาสาวปชฺโชตํ กตฺวา วิจรนฺตีติ. ปฺจมํ.

๖. พฺรหฺมโลกสุตฺตวณฺณนา

๑๗๗. ฉฏฺเ ปจฺเจกํ ทฺวารพาหนฺติ เอเกโก เอเกกํ ทฺวารพาหํ นิสฺสาย ทฺวารปาลา วิย อฏฺํสุ. อิทฺโธติ ฌานสุเขน สมิทฺโธ. ผีโตติ อภิฺาปุปฺเผหิ สุปุปฺผิโต. อนธิวาเสนฺโตติ อสหนฺโต. เอตทโวจาติ เอเตสํ นิมฺมิตพฺรหฺมานํ มชฺเฌ นิสินฺโน เอตํ ‘‘ปสฺสสิ เม’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

ตโย สุปณฺณาติ คาถาย ปฺจสตาติ สตปทํ รูปวเสน วา ปนฺติวเสน วา โยเชตพฺพํ. รูปวเสน ตาว ตโย สุปณฺณาติ ตีณิ สุปณฺณรูปสตานิ. จตุโร จ หํสาติ จตฺตาริหํสรูปสตานิ. พุคฺฆีนิสา ปฺจสตาติ พฺยคฺฆสทิสา เอกจฺเจ มิคา พฺยคฺฆีนิสา นาม, เตสํ พฺยคฺฆีนิสารูปกานํ ปฺจสตานิ, ปนฺติวเสน ตโย สุปณฺณาติ ตีณิ สุปณฺณปนฺติสตานิ, จตุโร หํสาติ จตฺตาริ หํสปนฺติสตานิ. พฺยคฺฆีนิสา ปฺจสตาติ ปฺจ พฺยคฺฆีนิสา ปนฺติสตานิ. ฌายิโนติ ฌายิสฺส มยฺหํ วิมาเน อยํ วิภูตีติ ทสฺเสติ. โอภาสยนฺติ โอภาสยมานํ. อุตฺตรสฺสํ ทิสายนฺติ ตํ กิร กนกวิมานํ เตสํ มหาพฺรหฺมานํ ิตฏฺานโต อุตฺตรทิสายํ โหติ. ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปนสฺส อธิปฺปาโย – เอวรูเป กนกวิมาเน วสนฺโต อหํ กสฺส อฺสฺส อุปฏฺานํ คมิสฺสามีติ. รูเป รณํ ทิสฺวาติ รูปมฺหิ ชาติชราภงฺคสงฺขาตํ โทสํ ทิสฺวา. สทา ปเวธิตนฺติ สีตาทีหิ จ นิจฺจํ ปเวธิตํ จลิตํ ฆฏฺฏิตํ รูปํ ทิสฺวา. ตสฺมา น รูเป รมติ สุเมโธติ ยสฺมา รูเป รณํ ปสฺสติ, สทา ปเวธิตฺจ รูปํ ปสฺสติ, ตสฺมา สุเมโธ สุนฺทรปฺโ โส สตฺถา รูเป น รมตีติ. ฉฏฺํ.

๗. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

๑๗๘. สตฺตเม อปฺปเมยฺยํ ปมินนฺโตติ อปฺปเมยฺยํ ขีณาสวปุคฺคลํ ‘‘เอตฺตกํ สีลํ, เอตฺตโก สมาธิ, เอตฺตกา ปฺา’’ติ เอวํ มินนฺโต. โกธวิทฺวา วิกปฺปเยติ โก อิธ วิทฺวา เมธาวี วิกปฺเปยฺย, ขีณาสโวว ขีณาสวํ มินนฺโต กปฺเปยฺยาติ ทีเปติ. นิวุตํ ตํ มฺเติ โย ปน ปุถุชฺชโน ตํ ปเมตุํ อารภติ, ตํ นิวุตํ อวกุชฺชปฺํ มฺามีติ. สตฺตมํ.

๘. กตโมทกติสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๗๙. อฏฺเม อกิสฺสวนฺติ กิสฺสวา วุจฺจติ ปฺา, นิปฺปฺโติ อตฺโถ. อฏฺมํ.

๙. ตุรูพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา

๑๘๐. นวเม อาพาธิโกติ ‘‘สาสปมตฺตีหิ ปีฬกาหี’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรสุตฺเต อาคเตน อาพาเธน อาพาธิโก. พาฬฺหคิลาโนติ อธิมตฺตคิลาโน. ตุรูติ โกกาลิกสฺส อุปชฺฌาโย ตุรุตฺเถโร นาม อนาคามิผลํ ปตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต. โส ภูมฏฺกเทวตา อาทึ กตฺวา, ‘‘อยุตฺตํ โกกาลิเกน กตํ อคฺคสาวเก อนฺติมวตฺถุนา อพฺภาจิกฺขนฺเตนา’’ติ ปรมฺปราย พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตํ โกกาลิกสฺส ปาปกมฺมํ สุตฺวา – ‘‘มา มยฺหํ ปสฺสนฺตสฺเสว วราโก นสฺสิ, โอวทิสฺสามิ นํ เถเรสุ จิตฺตปสาทตฺถายา’’ติ อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา’’ติ. เปสลาติ ปิยสีลา. โกสิ ตฺวํ, อาวุโสติ นิปนฺนโกว กพรกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เอวมาห. ปสฺส ยาวฺจ เตติ ปสฺส ยตฺตกํ ตยา อปรทฺธํ, อตฺตโน นลาเฏ มหาคณฺฑํ อปสฺสนฺโต สาสปมตฺตาย ปีฬกาย มํ โจเทตพฺพํ มฺสีติ อาห.

อถ นํ ‘‘อทิฏฺิปฺปตฺโต อยํ วราโก, คิลวิโส วิย กสฺสจิ วจนํ น กริสฺสตี’’ติ ตฺวา ปุริสสฺส หีติอาทิมาห. ตตฺถ กุารีติ กุาริสทิสา ผรุสา วาจา. ฉินฺทตีติ กุสลมูลสงฺขาเต มูเลเยว นิกนฺตติ. นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพํ ทุสฺสีลปุคฺคลํ. ปสํสตีติ อุตฺตมตฺเถ สมฺภาเวตฺวา ขีณาสโวติ วทติ. ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโยติ, โย วา ปสํสิตพฺโพ ขีณาสโว, ตํ อนฺติมวตฺถุนา โจเทนฺโต ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ วทติ. วจินาติ มุเขน โส กลินฺติ, โส ตํ อปราธํ มุเขน วิจินาติ นาม. กลินา เตนาติ เตน อปราเธน สุขํ น วินฺทติ. นินฺทิยปสํสาย หิ ปสํสิยนินฺทาย จ สมโกว วิปาโก.

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สพฺเพน สเกนปิ อตฺตนาปิ สทฺธึ โย อกฺเขสุ ธนปราชโย นาม, อยํ อปฺปมตฺตโก อปราโธ. โย สุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ปทุสฺเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิ.

อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทสฺเสนฺโต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสํ. ฉตฺตึสตีติ อปรานิ ฉตฺตึสติ นิรพฺพุทานิ. ปฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย ปฺจ อพฺพุทานิ. ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหนฺโต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ. นวมํ.

๑๐. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

๑๘๑. ทสเม โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ, โก อยํ โกกาลิโก, กสฺมา จ อุปสงฺกมิ? อยํ กิร โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกนคเร โกกาลิกเสฏฺิสฺส ปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา ปิตรา การาปิเต วิหาเร ปฏิวสติ จูฬโกกาลิโกติ นาเมน, น เทวทตฺตสฺส สิสฺโส. โส หิ พฺราหฺมณปุตฺโต มหาโกกาลิโก นาม. ภควติ ปน สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต ทฺเว อคฺคสาวกา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ ชนปทจาริกํ จรมานา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย วิเวกาวาสํ วสิตุกามา เต ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺมึ ชนปเท ตํ นครํ ปตฺวา ตํ วิหารํ อคมํสุ. ตตฺถ เนสํ โกกาลิโก วตฺตํ ทสฺเสสิ. เต เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มยํ อิธ เตมาสํ วสิสฺสาม, มา กสฺสจิ อาโรเจหี’’ติ ปฏิฺํ คเหตฺวา วสึสุ. วสิตฺวา ปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา, ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส’’ติ โกกาลิกํ อาปุจฺฉึสุ. โกกาลิโก ‘‘อชฺเชกทิวสํ, อาวุโส, วสิตฺวา สฺเว คมิสฺสถา’’ติ วตฺวา ทุติยทิวเส นครํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเส อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห อคฺคสาวเก อิธาคนฺตฺวา วสมาเนปิ น ชานาถ, น เน โกจิ ปจฺจเยนาปิ นิมนฺเตตี’’ติ. นครวาสิโน, ‘‘กหํ, ภนฺเต, เถรา, กสฺมา โน น อาโรจยิตฺถา’’ติ? กึ อาวุโส อาโรจิเตน, กึ น ปสฺสถ ทฺเว ภิกฺขู เถราสเน นิสีทนฺเต, เอเต อคฺคสาวกาติ. เต ขิปฺปํ สนฺนิปติตฺวา สปฺปิผาณิตาทีนิ เจว จีวรทุสฺสานิ จ สํหรึสุ.

โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘ปรมปฺปิจฺฉา อคฺคสาวกา ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนํ ลาภํ น สาทิยิสฺสนฺติ, อสาทิยนฺตา ‘อาวาสิกสฺส เทถา’ติ วกฺขนฺตี’’ติ. ตํ ตํ ลาภํ คาหาเปตฺวา เถรานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เถรา ทิสฺวาว ‘‘อิเม ปจฺจยา เนว อมฺหากํ, น โกกาลิกสฺส กปฺปนฺตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมึสุ. โกกาลิโก ‘‘กถํ หิ นาม อตฺตนา อคณฺหนฺตา มยฺหมฺปิ อทาเปตฺวา ปกฺกมิสฺสนฺตี’’ติ? อาฆาตํ อุปฺปาเทสิ. เตปิ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุพฺเพน ตสฺมึ รฏฺเ ตเมว นครํ ปจฺจาคมึสุ. นาครา เถเร สฺชานิตฺวา สห ปริกฺขาเรหิ ทานํ สชฺชิตฺวา นครมชฺเฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานํ อทํสุ, เถรานฺจ ปริกฺขาเร อุปนาเมสุํ. เถรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทยึสุ. ตํ ทิสฺวา โกกาลิโก จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา อเหสุํ, อิทานิ ปาปิจฺฉา ชาตา, ปุพฺเพปิ อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตสทิสา มฺเ’’ติ เถเร อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห ปุพฺเพ อปฺปิจฺฉา วิย, อิทานิ ปน ปาปภิกฺขู ชาตา’’ติ วตฺวา ‘‘มูลฏฺาเนเยว เนสํ ปติฏฺํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตรมานรูโป นิกฺขมิตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อยเมว โกกาลิโก อิมินา จ การเณน อุปสงฺกมีติ เวทิตพฺโพ.

ภควา ตํ ตุริตตุริตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อาวชฺเชนฺโต อฺาสิ – ‘‘อยํ อคฺคสาวเก อกฺโกสิตุกาโม อาคโต’’ติ. ‘‘สกฺกา นุ โข ปฏิเสเธตุ’’นฺติ จ อาวชฺเชนฺโต, ‘‘น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ, เถเรสุ อปรชฺฌิตฺวา กาลงฺกโต เอกํเสน ปทุมนิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา, ‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนปิ นาม ครหนฺตํ สุตฺวา น นิเสเธตี’’ติ วาทโมจนตฺถํ อริยูปวาทสฺส จ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ มา เหวนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปฏิเสเธสิ. ตตฺถ มา เหวนฺติ มา เอวํ อภณิ. สทฺธายิโกติ สทฺธาย อากโร ปสาทาวโห สทฺธาตพฺพวจโน วา. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพวจโน.

ปกฺกามีติ กมฺมานุภาเวน โจทิยมาโน ปกฺกามิ. โอกาสกตํ หิ กมฺมํ น สกฺกา ปฏิพาหิตุํ, ตํ ตสฺส ตตฺถ าตุํ น อทาสิ. อจิรปกฺกนฺตสฺสาติ ปกฺกนฺตสฺส สโต น จิเรเนว. สพฺโพ กาโย ผุโฏ อโหสีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โอกาสํ อาวชฺเชตฺวา สกลสรีรํ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา อุคฺคตาหิ ปีฬกาหิ อชฺโฌตฺถฏํ อโหสิ. ยสฺมา ปน พุทฺธานุภาเวน ตถารูปํ กมฺมํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว วิปากํ น เทติ, ทสฺสนูปจาเร วิชหิตมตฺเต เทติ, ตสฺมา ตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ปีฬกา อุฏฺหึสุ. กลายมตฺติโยติ จณกมตฺติโย. เพลุวสลาฏุกมตฺติโยติ ตรุณเพลุวมตฺติโย. (พิลฺลมตฺติโยติ มหาเพลุวมตฺติโย.) ปภิชฺชึสูติ ภิชฺชึสุ. ตาสุ ภินฺนาสุ สกลสรีรํ ปนสปกฺกํ วิย อโหสิ. โส ปกฺเกน คตฺเตน เชตวนทฺวารโกฏฺเก วิสคิลิโต มจฺโฉ วิย กทลิปตฺเตสุ สยิ. อถ ธมฺมสวนตฺถํ อาคตาคตา มนุสฺสา – ‘‘ธิ โกกาลิก, ธิ โกกาลิก, อยุตฺตมกาสิ, อตฺตโนเยว มุขํ นิสฺสาย อนยพฺยสนํ ปตฺโต’’ติ อาหํสุ. เตสํ สุตฺวา อารกฺขเทวตา ธิ-การํ อกํสุ. อารกฺขกเทวตานํ อากาสเทวตาติ อิมินา อุปาเยน ยาว อกนิฏฺภวนา เอกธิกาโร อุทปาทิ. อถสฺส อุปชฺฌาโย อาคนฺตฺวา โอวาทํ อคณฺหนฺตํ ตฺวา ครหิตฺวา ปกฺกามิ.

กาลมกาสีติ อุปชฺฌาเย ปกฺกนฺเต กาลมกาสิ. ปทุมํ นิรยนฺติ ปาฏิเยกฺโก ปทุมนิรโย นาม นตฺถิ, อวีจิมหานิรยมฺหิเยว ปน ปทุมคณนาย ปจฺจิตพฺเพ เอกสฺมึ าเน นิพฺพตฺติ.

วีสติขาริโกติ มาคธเกน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา โกสลรฏฺเ เอกปตฺโถ โหติ, เตน ปตฺเถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ, จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขารี, ตาย ขาริยา วีสติขาริโก. ติลวาโหติ มาคธกานํ สุขุมติลานํ ติลสกฏํ. อพฺพุโท นิรโยติ อพฺพุโท นาม ปาฏิเยกฺโก นิรโย นตฺถิ. อวีจิมฺหิเยว ปน อพฺพุทคณนาย ปจฺจิตพฺพฏฺานสฺเสตํ นามํ. นิรพฺพุทาทีสุปิ เอเสว นโย.

วสฺสคณนาปิ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานิ โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฏิโย โกฏิปโกฏิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฏิปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ. ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. สนงฺกุมารสุตฺตวณฺณนา

๑๘๒. ทุติยวคฺคสฺส ปเม สปฺปินีตีเรติ สปฺปินีนามิกาย นทิยา ตีเร. สนงฺกุมาโรติ โส กิร ปฺจสิขกุมารกกาเล ฌานํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต กุมารกวณฺเณเนว วิจรติ. เตน นํ ‘‘กุมาโร’’ติ สฺชานนฺติ, โปราณกตฺตา ปน ‘‘สนงฺกุมาโร’’ติ วุจฺจติ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ ภยเภรวสุตฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) ปุพฺเพนิวาสาทีหิ วา ตีหิ, อมฺพฏฺสุตฺตปริยาเยน (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย) วิปสฺสนาาณํ มโนมยิทฺธิ ฉ อภิฺาโยติ อิมาหิ วา อฏฺหิ วิชฺชาหิ, สีเลสุ ปริปูรการิตา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตฺุตา ชาคริยานุโยโค สตฺต สทฺธมฺมา จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ เอวํ ปนฺนรสธมฺมเภเทน จรเณน จ สมนฺนาคโต. โส เสฏฺโ เทวมานุเสติ โส ขีณาสวพฺราหฺมโณ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ เสฏฺโ อุตฺตโมติ. ปมํ.

๒. เทวทตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๘๓. ทุติเย อจิรปกฺกนฺเตติ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา นจิรสฺเสว เวฬุวนโต คยาสีสํ คเต. อสฺสตรินฺติ คทฺรภสฺส วฬวาย ชาตํ. ทุติยํ.

๓. อนฺธกวินฺทสุตฺตวณฺณนา

๑๘๔. ตติเย อนฺธกวินฺทนฺติ เอวํนามกํ คามํ. อุปสงฺกมีติ ‘‘สตฺถา อิทานิปิ วีริยํ กโรติ ปธานมนุยุฺชติ, คจฺฉามิสฺส สนฺติเก ตฺวา สาสนานุจฺฉวิกํ วีริยปฏิสํยุตฺตํ คาถํ วกฺขามี’’ติ อุปสงฺกมิ.

ปนฺตานีติ ชนตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจาเร ิตานิ. สํโยชนวิปฺปโมกฺขาติ ตานิ จ เสนาสนานิ เสวมาโน น จีวราทีนํ อตฺถาย เสเวยฺย, อถ โข ทสสํโยชนวิปฺปโมกฺขตฺถาย จเรยฺย. สงฺเฆ วเสติ เตสุ เสนาสเนสุ รตึ อลภนฺโต อุปฏฺากาทีนํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํ คทฺรภปิฏฺเ รชํ วิย อุปฺปตนฺโต อรฺเ อจริตฺวา สงฺฆมชฺเฌ วเสยฺย. รกฺขิตตฺโต สตีมาติ ตตฺถ จ วสนฺโต สควจณฺโฑ โคโณ วิย สพฺรหฺมจาริโน อวิชฺฌนฺโต อฆฏฺเฏนฺโต รกฺขิตตฺโต สติปฏฺานปรายโณ หุตฺวา วเสยฺย.

อิทานิ สงฺเฆ วสมานสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขนฺโต กุลากุลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปิณฺฑิกาย จรนฺโตติ ปิณฺฑตฺถาย จรมาโน. เสเวถ ปนฺตานิ เสนาสนานีติ สงฺฆมชฺฌํ โอตริตฺวา วสมาโนปิ ธุรปริเวเณ ตาลนาฬิเกรอาทีนิ โรเปตฺวา อุปฏฺากาทิสํสฏฺโ น วเสยฺย, จิตฺตกลฺลตํ ปน ชเนตฺวา จิตฺตํ หาเสตฺวา โตเสตฺวา ปุน ปนฺตเสนาสเน วเสยฺยาติ อรฺสฺเสว วณฺณํ กเถติ. ภยาติ วฏฺฏภยโต. อภเยติ นิพฺพาเน. วิมุตฺโตติ อธิมุตฺโต หุตฺวา วเสยฺย.

ยตฺถ เภรวาติ ยสฺมึ าเน ภยชนกา สวิฺาณกา สีหพฺยคฺฆาทโย, อวิฺาณกา รตฺติภาเค ขาณุวลฺลิอาทโย พหู อตฺถิ. สรีสปาติ ทีฆชาติกาทิสรีสปา. นิสีทิ ตตฺถ ภิกฺขูติ ตาทิเส าเน ภิกฺขุ นิสินฺโน. อิมินา อิทํ ทีเปติ – ภควา ยถา ตุมฺเห เอตรหิ ตตฺรฏฺกเภรวารมฺมณานิ เจว สรีสเป จ วิชฺชุนิจฺฉารณาทีนิ จ อมนสิกตฺวา นิสินฺนา, เอวเมวํ ปธานมนุยุตฺตา ภิกฺขู นิสีทนฺตีติ.

ชาตุ เม ทิฏฺนฺติ เอกํเสน มยา ทิฏฺํ. น ยิทํ อิติหีติหนฺติ อิทํ อิติห อิติหาติ น ตกฺกเหตุ วา นยเหตุ วา ปิฏกสมฺปทาเนน วา อหํ วทามิ. เอกสฺมึ พฺรหฺมจริยสฺมินฺติ เอกาย ธมฺมเทสนาย. ธมฺมเทสนา หิ อิธ พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตา. มจฺจุหายินนฺติ มรณปริจฺจาคินํ ขีณาสวานํ.

ทสา จ ทสธา ทสาติ เอตฺถ ทสาติ ทเสว, ทสธา ทสาติ สตํ, อฺเ จ ทสุตฺตรํ เสขสตํ ปสฺสามีติ วทติ. โสตสมาปนฺนาติ มคฺคโสตํ สมาปนฺนา. อติรจฺฉานคามิโนติ เทสนามตฺตเมตํ, อวินิปาตธมฺมาติ อตฺโถ. สงฺขาตุํ โนปิ สกฺโกมีติ มุสาวาทภเยน เอตฺตกา นาม ปุฺภาคิโน สตฺตาติ คเณตุํ น สกฺโกมีติ พหุํ พฺรหฺมธมฺมเทสนํ สนฺธาย เอวมาห. ตติยํ.

๔. อรุณวตีสุตฺตวณฺณนา

๑๘๕. จตุตฺเถ อภิภูสมฺภวนฺติ อภิภู จ สมฺภโว จ. เตสุ อภิภูเถโร สาริปุตฺตตฺเถโร วิย ปฺาย อคฺโค, สมฺภวตฺเถโร มหาโมคฺคลฺลาโน วิย สมาธินา อคฺโค. อุชฺฌายนฺตีติ อวชฺฌายนฺติ, ลามกโต วา จินฺเตนฺติ. ขิยฺยนฺตีติ, กินฺนาเมตํ กินฺนาเมตนฺติ? อฺมฺํ กเถนฺติ. วิปาเจนฺตีติ วิตฺถารยนฺตา ปุนปฺปุนํ กเถนฺติ. เหฏฺิเมน อุปฑฺฒกาเยนาติ นาภิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาเยน. ปาฬิยํ เอตฺตกเมว อาคตํ. เถโร ปน ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา นาควณฺณํ คเหตฺวา ทสฺเสติ, สุปณฺณวณฺณํ คเหตฺวา วา ทสฺเสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) นเยน อาคตํ อเนกปฺปการํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ ทสฺเสสิ. อิมา คาถาโย อภาสีติ เถโร กิร จินฺเตสิ – ‘‘กถํ เทสิตา นุ โข ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา อสฺส มนาปา’’ติ. ตโต อาวชฺเชนฺโต – ‘‘สพฺเพปิ ปาสณฺฑา สพฺเพ เทวมนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน สมเย ปุริสการํ วณฺณยนฺติ, วีริยสฺส อวณฺณวาที นาม นตฺถิ, วีริยปฏิสํยุตฺตํ กตฺวา เทเสสฺสามิ, เอวํ อยํ ธมฺมเทสนา สพฺเพสํ ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา’’ติ ตฺวา ตีสุ ปิฏเกสุ วิจินิตฺวา อิมา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ อารมฺภถาติ อารมฺภวีริยํ กโรถ. นิกฺกมถาติ นิกฺกมวีริยํ กโรถ. ยุฺชถาติ ปโยคํ กโรถ ปรกฺกมถ. มจฺจุโน เสนนฺติ มจฺจุโน เสนา นาม กิเลสเสนา, ตํ ธุนาถ. ชาติสํสารนฺติ ชาติฺจ สํสารฺจ, ชาติสงฺขาตํ วา สํสารํ. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริจฺเฉทํ กริสฺสติ. กึ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ วิฺาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา สพฺพตฺถ อาโลกฏฺาเน อนฺธการํ ผริ, โอทาตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อนฺธการฏฺาเน โอภาสํ. ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ? สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปนฺเน อาโลกํ ทสฺเสสิ. อาโลกฏฺาเน อาโลกกิจฺจํ นตฺถิ, ‘‘กึ อาโลโก อย’’นฺติ? วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อถ เตสํ เถโรติ วทนฺตานํ อิมา คาถาโย อภาสิ, สพฺเพ โอสฏาย ปริสาย มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ สุณึสุ. อตฺโถปิ เนสํ ปากโฏ อโหสิ. จตุตฺถํ.

๕. ปรินิพฺพานสุตฺตวณฺณนา

๑๘๖. ปฺจเม อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ยเถว หิ กทมฺพนทีตีรโต ราชมาตุวิหารทฺวาเรน ถูปารามํ คนฺตพฺพํ โหติ, เอวํ หิรฺวติกาย นาม นทิยา ปาริมตีรโต สาลวนํ อุยฺยานํ. ยถา อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม, เอวํ ตํ กุสินาราย โหติ. ยถา ถูปารามโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนมคฺโค ปาจีนมุโข คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตติ, เอวํ อุยฺยานโต สาลปนฺติ ปาจีนมุขา คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตา. ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน. อนฺตเรน ยมกสาลานนฺติ มูลกฺขนฺธวิฏปปตฺเตหิ อฺมฺํ สํสิพฺพิตฺวา ิตสาลานํ อนฺตริกาย. อปฺปมาเทน สมฺปาเทถาติ สติอวิปฺปวาเสน กตฺตพฺพกิจฺจานิ สมฺปาทยถ. อิติ ภควา ยถา นาม มรณมฺเจ นิปนฺโน มหทฺธโน กุฏุมฺพิโก ปุตฺตานํ ธนสารํ อาจิกฺเขยฺย, เอวเมวํ ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺโน ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ทินฺนํ โอวาทํ สพฺพํ เอกสฺมึ อปฺปมาทปเทเยว ปกฺขิปิตฺวา อภาสิ. อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจาติ อิทํ ปน สงฺคีติการานํ วจนํ.

อิโต ปรํ ยํ ปรินิพฺพานปริกมฺมํ กตฺวา ภควา ปรินิพฺพุโต, ตํ ทสฺเสตุํ, อถ โข ภควา ปมํ ฌานนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺเน ภควติ อสฺสาสปสฺสาสานํ อปฺปวตฺตึ ทิสฺวา, ‘‘ปรินิพฺพุโต สตฺถา’’ติ สฺาย เทวมนุสฺสา เอกปฺปหาเรน วิรวึสุ, อานนฺทตฺเถโรปิ – ‘‘ปรินิพฺพุโต นุ โข, ภนฺเต, อนุรุทฺธ ภควา’’ติ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘น โข, อาวุโส อานนฺท, ตถาคโต ปรินิพฺพุโต, อปิจ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ อาห. กถํ ปน โส อฺาสิ? เถโร กิร สตฺถารา สทฺธึเยว ตํ ตํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺโต ยาว เนวสฺานาสฺายตนวุฏฺานํ, ตาว คนฺตฺวา, ‘‘อิทานิ ภควา นิโรธํ สมาปนฺโน, อนฺโตนิโรเธ จ กาลํกิริยา นาม นตฺถี’’ติ อฺาสิ.

อถ โข ภควา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ…เป… ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชีติ เอตฺถ ปน ภควา จตุวีสติยา าเนสุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, เตรสสุ าเนสุ ทุติยํ ฌานํ… ตถา ตติยํ… ปนฺนรสสุ าเนสุ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. กถํ? ทสสุ อสุเภสุ ทฺวตฺตึสากาเร อฏฺสุ กสิเณสุ เมตฺตากรุณามุทิเตสุ อานาปาเน ปริจฺเฉทากาเสติ อิเมสุ ตาว จตุวีสติยา าเนสุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ. เปตฺวา ปน ทฺวตฺตึสาการฺจ ทส จ อสุภานิ เสเสสุ เตรสสุ ทุติยํ ฌานํ… เตสุเยว ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ. อฏฺสุ ปน กสิเณสุ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร อานาปาเน ปริจฺเฉทากาเส จตูสุ อรูเปสูติ อิเมสุ ปนฺนรสสุ าเนสุ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. อยมฺปิ จ สงฺเขปกถาว. นิพฺพานปุรํ ปวิสนฺโต ปน ภควา ธมฺมสฺสามิ สพฺพาปิ จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา สมาปตฺติโย ปวิสิตฺวา วิเทสํ คจฺฉนฺโต าติชนํ อาลิงฺเคตฺวา วิย สพฺพสมาปตฺติสุขํ อนุภวิตฺวา ปวิฏฺโ.

จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายีติ เอตฺถ จ ฌานสมนนฺตรํ ปจฺจเวกฺขณสมนนฺตรนฺติ, ทฺเว สมนนฺตรานิ. จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺาย ภวงฺคํ โอติณฺณสฺส ตตฺเถว ปรินิพฺพานํ ฌานสมนนฺตรํ นาม, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ปุน ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺณสฺส ตตฺเถว ปรินิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขณสมนนฺตรํ นาม. อิมานิ ทฺเวปิ สมนนฺตราเนว. ภควา ปน ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ฌานา วุฏฺาย ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ภวงฺคจิตฺเตน อพฺยากเตน ทุกฺขสจฺเจน ปรินิพฺพายิ. เย หิ เกจิ พุทฺธา วา ปจฺเจกพุทฺธา วา อริยสาวกา วา อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกํ อุปาทาย สพฺเพ ภวงฺคจิตฺเตเนว อพฺยากเตน ทุกฺขสจฺเจน กาลํ กโรนฺติ.

ภูตาติ สตฺตา. อปฺปฏิปุคฺคโลติ ปฏิภาคปุคฺคลวิรหิโต. พลปฺปตฺโตติ ทสวิธํ าณพลํ ปตฺโต. อุปฺปาทวยธมฺมิโนติ อุปฺปาทวยสภาวา. เตสํ วูปสโมติ เตสํ สงฺขารานํ วูปสโม. สุโขติ อสงฺขตํ นิพฺพานเมว สุขนฺติ อตฺโถ. ตทาสีติ ‘‘สห ปรินิพฺพานา มหาภูมิจาโล อโหสี’’ติ เอวํ มหาปรินิพฺพาเน (ที. นิ. ๒.๒๒๐) วุตฺตํ ภูมิจาลํ สนฺธายาห. โส หิ โลมหํสนโก จ ภึสนโก จ อาสิ. สพฺพาการวรูเปเตติ สพฺพาการวรคุณูเปเต. นาหุ อสฺสาสปสฺสาโสติ น ชาโต อสฺสาสปสฺสาโส. อเนโชติ ตณฺหาสงฺขาตาย เอชาย อภาเวน อเนโช. สนฺติมารพฺภาติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. ปรินิพฺพุโตติ ขนฺธปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. อสลฺลีเนนาติ อนลฺลีเนน อสงฺกุฏิเตน สุวิกสิเตเนว จิตฺเตน. เวทนํ อชฺฌวาสยีติ เวทนํ อธิวาเสสิ, น เวทนานุวตฺตี หุตฺวา อิโต จิโต สมฺปริวตฺติ. วิโมกฺโขติ เกนจิ ธมฺเมน อนาวรณวิโมกฺโข สพฺพโส อปฺตฺติภาวูปคโม ปชฺโชตนิพฺพานสทิโส ชาโตติ. ปฺจมํ.

ทุติโย วคฺโค.

อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา

สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย

พฺรหฺมสํยุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. พฺราหฺมณสํยุตฺตํ

๑. อรหนฺตวคฺโค

๑. ธนฺชานีสุตฺตวณฺณนา

๑๘๗. พฺราหฺมณสํยุตฺตสฺส ปเม ธนฺชานีติ ธนฺชานิโคตฺตา. อุกฺกฏฺโคตฺตา กิเรสา. เสสพฺราหฺมณา กิร พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตา, ธนฺชานิโคตฺตา มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตาติ เตสํ ลทฺธิ. อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โส กิร พฺราหฺมโณ มิจฺฉาทิฏฺิโก ‘‘พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ’’ติ วุตฺเต กณฺเณ ปิทหติ, ถทฺโธ ขทิรขาณุสทิโส. พฺราหฺมณี ปน โสตาปนฺนา อริยสาวิกา. พฺราหฺมโณ ทานํ เทนฺโต ปฺจสตานํ พฺราหฺมณานํ อปฺโปทกํ ปายาสํ เทติ, พฺราหฺมณี พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส นานารสโภชนํ. พฺราหฺมณสฺส ทานทิวเส พฺราหฺมณี ตสฺส วสวตฺติตาย ปหีนมจฺเฉรตาย จ สหตฺถา ปริวิสติ. พฺราหฺมณิยา ปน ทานทิวเส พฺราหฺมโณ ปาโตว ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปลายติ. อเถกทิวสํ พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณิยา สทฺธึ อสมฺมนฺเตตฺวา ปฺจสเต พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา พฺราหฺมณึ อาห – ‘‘สฺเว โภติ อมฺหากํ ฆเร ปฺจสตา พฺราหฺมณา ภุฺชิสฺสนฺตี’’ติ. มยา กึ กาตพฺพํ พฺราหฺมณาติ? ตยา อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ นตฺถิ, สพฺพํ ปจนปริเวสนํ อฺเ กริสฺสนฺติ. ยํ ปน ตฺวํ ิตาปิ นิสินฺนาปิ ขิปิตฺวาปิ อุกฺกาสิตฺวาปิ ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส นมกฺการํ กโรสิ, ตํ สฺเว เอกทิวสมตฺตํ มา อกาสิ. ตํ หิ สุตฺวา พฺราหฺมณา อนตฺตมนา โหนฺติ, มา มํ พฺราหฺมเณหิ ภินฺทสีติ. ตฺวํ พฺราหฺมเณหิ วา ภิชฺช เทเวหิ วา, อหํ ปน สตฺถารํ อนุสฺสริตฺวา น สกฺโกมิ อนมสฺสมานา สณฺาตุนฺติ. โภติ กุลสติเก คาเม คามทฺวารมฺปิ ตาว ปิทหิตุํ วายมนฺติ, ตฺวํ ทฺวีหงฺคุเลหิ ปิทหิตพฺพํ มุขํ พฺราหฺมณานํ โภชนกาลมตฺตํ ปิทหิตุํ น สกฺโกสีติ. เอวํ ปุนปฺปุนํ กเถตฺวาปิ โส นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุสฺสีสเก ปิตํ มณฺฑลคฺคขคฺคํ คเหตฺวา – ‘‘โภติ สเจ สฺเว พฺราหฺมเณสุ นิสินฺเนสุ ตํ มุณฺฑสมณกํ นมสฺสสิ, อิมินา ตํ ขคฺเคน ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสมตฺถกา กฬีรํ วิย โกฏฺเฏตฺวา ราสึ กริสฺสามี’’ติ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘อิมินา มณฺฑลคฺเคน, ปาทโต ยาว มตฺถกา;

กฬีรมิว เฉชฺชามิ, ยทิ มิจฺฉํ น กาหสิ.

‘‘สเจ พุทฺโธติ ภณสิ, สเจ ธมฺโมติ ภาสสิ;

สเจ สงฺโฆติ กิตฺเตสิ, ชีวนฺตี เม นิเวสเน’’ติ.

อริยสาวิกา ปน ปถวี วิย ทุปฺปกมฺปา, สิเนรุ วิย ทุปฺปริวตฺติยา. สา เตน นํ เอวมาห –

‘‘สเจ เม องฺคมงฺคานิ, กามํ เฉชฺชสิ พฺราหฺมณ;

เนวาหํ วิรมิสฺสามิ, พุทฺธเสฏฺสฺส สาสนา.

‘‘นาหํ โอกฺกา วรธรา, สกฺกา โรธยิตุํ ชินา;

ธีตาหํ พุทฺธเสฏฺสฺส, ฉินฺท วา มํ วธสฺสุ วา’’ติ.

เอวํ ธนฺชานิคชฺชิตํ นาม คชฺชนฺตี ปฺจ คาถาสตานิ อภาสิ. พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ ปรามสิตุํ วา ปหริตุํ วา อสกฺโกนฺโต ‘‘โภติ ยํ เต รุจฺจติ, ตํ กโรหี’’ติ วตฺวา ขคฺคํ สยเน ขิปิ. ปุนทิวเส เคหํ หริตุปลิตฺตํ การาเปตฺวา ลาชาปุณฺณฆฏมาลาคนฺธาทีหิ ตตฺถ ตตฺถ อลงฺการาเปตฺวา ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ นวสปฺปิสกฺขรมธุยุตฺตํ อปฺโปทกปายาสํ ปฏิยาทาเปตฺวา กาลํ อาโรจาเปสิ.

พฺราหฺมณีปิ ปาโตว คนฺโธทเกน สยํ นฺหายิตฺวา สหสฺสคฺฆนกํ อหตวตฺถํ นิวาเสตฺวา ปฺจสตคฺฆนกํ เอกํสํ กตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภตฺตคฺเค พฺราหฺมเณ ปริวิสมานา เตหิ สทฺธึ เอกปนฺติยํ นิสินฺนสฺส ตสฺส พฺราหฺมณสฺส ภตฺตํ อุปสํหรนฺตี ทุนฺนิกฺขิตฺเต ทารุภณฺเฑ ปกฺขลิ. ปกฺขลนฆฏฺฏนาย ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชิ. ตสฺมึ สมเย ทสพลํ สริ. สติสมฺปนฺนตาย ปน ปายาสปาตึ อฉฑฺเฑตฺวา สณิกํ โอตาเรตฺวา ภูมิยํ สณฺเปตฺวา ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณสตานํ มชฺเฌ สิรสิ อฺชลึ เปตฺวา เยน เวฬุวนํ, เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ.

ตสฺมิฺจ สมเย เตสุ พฺราหฺมเณสุ เกจิ ภุตฺตา โหนฺติ, เกจิ ภุฺชมานา, เกจิ หตฺเถ โอตาริตมตฺตา, เกสฺจิ โภชนํ ปุรโต ปิตมตฺตํ โหติ. เต ตํ สทฺทํ สุตฺวาว สิเนรุมตฺเตน มุคฺคเรน สีเส ปหฏา วิย กณฺเณสุ สูเลน วิทฺธา วิย ทุกฺขโทมนสฺสํ ปฏิสํเวทิยมานา ‘‘อิมินา อฺลทฺธิเกน มยํ ฆรํ ปเวสิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา หตฺเถ ปิณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา มุเขน คหิตํ นิฏฺุภิตฺวา ธนุํ ทิสฺวา กากา วิย พฺราหฺมณํ อกฺโกสมานา ทิสาวิทิสา ปกฺกมึสุ. พฺราหฺมโณ เอวํ ภิชฺชิตฺวา คจฺฉนฺเต พฺราหฺมเณ ทิสฺวา พฺราหฺมณึ สีสโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา, ‘‘อิทเมว ภยํ สมฺปสฺสมานา มยํ หิยฺโย ปฏฺาย โภตึ ยาจนฺตา น ลภิมฺหา’’ติ นานปฺปกาเรหิ พฺราหฺมณึ อกฺโกสิตฺวา, เอตํ ‘‘เอวเมวํ ปนา’’ติอาทิวจนํ อโวจ.

อุปสงฺกมีติ ‘‘สมโณ โคตโม คามนิคมรฏฺปูชิโต, น สกฺกา คนฺตฺวา ยํ วา ตํ วา วตฺวา สนฺตชฺเชตุํ, เอกเมว นํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโตว ‘‘กึสุ เฉตฺวา’’ติ คาถํ อภิสงฺขริตฺวา – ‘‘สเจ ‘อสุกสฺส นาม วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘เย ตุยฺหํ น รุจฺจนฺติ, เต มาเรตุกาโมสิ, โลกวธาย อุปฺปนฺโน, กึ ตุยฺหํ สมณภาเวนา’ติ? นิคฺคเหสฺสามิ. สเจ ‘น กสฺสจิ วธํ โรเจมี’ติ วกฺขติ, อถ นํ ‘ตฺวํ ราคาทีนมฺปิ วธํ น อิจฺฉสิ. กสฺมา สมโณ หุตฺวา อาหิณฺฑสี’ติ? นิคฺคเหสฺสามี. อิติ อิมํ อุภโตโกฏิกํ ปฺหํ สมโณ โคตโม เนว คิลิตุํ น อุคฺคิลิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมิ. สมฺโมทีติ อตฺตโน ปณฺฑิตตาย กุทฺธภาวํ อทสฺเสตฺวา มธุรกถํ กเถนฺโต สมฺโมทิ. ปฺโห เทวตาสํยุตฺเต กถิโต. เสสมฺปิ เหฏฺา วิตฺถาริตเมวาติ. ปมํ.

๒. อกฺโกสสุตฺตวณฺณนา

๑๘๘. ทุติเย อกฺโกสกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชว โส, ปฺจมตฺเตหิ ปน คาถา สเตหิ ตถาคตํ อกฺโกสนฺโต อาคโตติ. ‘‘อกฺโกสกภารทฺวาโช’’ติ ตสฺส สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. กุปิโต อนตฺตมโนติ ‘‘สมเณน โคตเมน มยฺหํ เชฏฺกภาตรํ ปพฺพาเชนฺเตน ชานิ กตา, ปกฺโข ภินฺโน’’ติ โกเธน กุปิโต โทมนสฺเสน จ อนตฺตมโน หุตฺวาติ อตฺโถ. อกฺโกสตีติ ‘‘โจโรสิ, พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, เถโนสิ, โอฏฺโสิ, เมณฺโฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสี’’ติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสติ. ปริภาสตีติ ‘‘โหตุ มุณฺฑกสมณก, ‘อทณฺโฑ อห’นฺติ กโรสิ, อิทานิ เต ราชกุลํ คนฺตฺวา ทณฺฑํ อาโรเปสฺสามี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปริภาสติ นาม.

สมฺภุฺชตีติ เอกโต ภุฺชติ. วีติหรตีติ กตสฺส ปฏิการํ กโรติ. ภควนฺตํ โข, โคตมนฺติ กสฺมา เอวมาห? ‘‘ตเวเวตํ, พฺราหฺมณ, ตเวเวตํ, พฺราหฺมณา’’ติ กิรสฺส สุตฺวา. ‘‘อิสโย นาม กุปิตา สปนํ เทนฺติ กิสวจฺฉาทโย วิยา’’ติ อนุสฺสววเสน ‘‘สปติ มํ มฺเ สมโณ โคตโม’’ติ ภยํ อุปฺปชฺชิ. ตสฺมา เอวมาห.

ทนฺตสฺสาติ นิพฺพิเสวนสฺส. ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณํ ปตฺตสฺส. ตสฺเสว เตน ปาปิโยติ ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส เตน โกเธน ปาปํ โหติ. สโต อุปสมฺมตีติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวา อธิวาเสติ. อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานนฺติ อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตํ. อยเมว วา ปาโ. โย ปุคฺคโล สโต อุปสมฺมติ, อุภินฺนมตฺถํ จรติ ติกิจฺฉติ สาเธติ, ตํ ปุคฺคลํ ชนา พาโลติ มฺนฺติ. กีทิสา ชนา? เย ธมฺมสฺส อโกวิทา. ธมฺมสฺสาติ ปฺจกฺขนฺธธมฺมสฺส วา จตุสจฺจธมฺมสฺส วา. อโกวิทาติ ตสฺมึ ธมฺเม อกุสลา อนฺธพาลปุถุชฺชนา. ทุติยํ.

๓. อสุรินฺทกสุตฺตวณฺณนา

๑๘๙. ตติเย อสุรินฺทกภารทฺวาโชติ อกฺโกสกภารทฺวาชสฺส กนิฏฺโ. กุปิโตติ เตเนว การเณน กุทฺโธ. ชยฺเจวสฺส ตํ โหตีติ อสฺเสว ตํ ชยํ โหติ, โส ชโย โหตีติ อตฺโถ. กตมสฺสาติ? ยา ติติกฺขา วิชานโต อธิวาสนาย คุณํ วิชานนฺตสฺส ติติกฺขา อธิวาสนา, อยํ ตสฺส วิชานโตว ชโย. พาโล ปน ผรุสํ ภณนฺโต ‘‘มยฺหํ ชโย’’ติ เกวลํ ชยํ มฺติ. ตติยํ.

๔. พิลงฺคีกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๐. จตุตฺเถ พิลงฺคิกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชว โส, นานปฺปการํ ปน สุทฺธฺจ สมฺภารยุตฺตฺจ กฺชิกํ กาเรตฺวา วิกฺกิณาเปนฺโต พหุธนํ สงฺขรีติ ‘‘พิลงฺคิกภารทฺวาโช’’ติ ตสฺส สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. ตุณฺหีภูโตติ ‘‘ตโย เม เชฏฺกภาตโร อิมินา ปพฺพาชิตา’’ติ อติวิย กุทฺโธ กิฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ตุณฺหีภูโต อฏฺาสิ. คาถา ปน เทวตาสํยุตฺเต กถิตาว. จตุตฺถํ.

๕. อหึสกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจเม อหึสกภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชเวส, อหึสกปฺหํ ปน ปุจฺฉิ, เตนสฺเสตํ สงฺคีติกาเรหิ นามํ คหิตํ. นาเมน วา เอส อหึสโก, โคตฺเตน ภารทฺวาโช. อหึสกาหนฺติ อหึสโก อหํ, อิติ เม ภวํ โคตโม ชานาตูติ อาห. ตถา จสฺสาติ ตถา เจ อสฺส, ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. น หึสตีติ น วิเหเติ น ทุกฺขาเปติ. ปฺจมํ.

๖. ชฏาสุตฺตวณฺณนา

๑๙๒. ฉฏฺเ ชฏาภารทฺวาโชติ ภารทฺวาโชเวส, ชฏาปฺหสฺส ปน ปุจฺฉิตตฺตา สงฺคีติกาเรหิ เอวํ วุตฺโต. เสสํ เทวตาสํยุตฺเต กถิตเมว. ฉฏฺํ.

๗. สุทฺธิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. สตฺตเม สุทฺธิกภารทฺวาโชติ อยมฺปิ ภารทฺวาโชว, สุทฺธิกปฺหสฺส ปน ปุจฺฉิตตฺตา สงฺคีติกาเรหิ เอวํ วุตฺโต. สีลวาปิ ตโปกรนฺติ สีลสมฺปนฺโนปิ ตโปกมฺมํ กโรนฺโต. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ เอตฺถ วิชฺชาติ ตโย เวทา. จรณนฺติ โคตฺตจรณํ. โส สุชฺฌติ น อฺา อิตรา ปชาติ โส เตวิชฺโช พฺราหฺมโณ สุชฺฌติ, อยํ ปน อฺา นามิกา ปชา น สุชฺฌตีติ วทติ. พหุมฺปิ ปลปํ ชปฺปนฺติ พหุมฺปิ ปลปํ ชปฺปนฺโต, ‘‘พฺราหฺมโณว สุชฺฌตี’’ติ เอวํ วจนสหสฺสมฺปิ ภณนฺโตติ อตฺโถ. อนฺโตกสมฺพูติ อนฺโต กิเลสปูติสภาเวน ปูติโก. สํกิลิฏฺโติ กิลิฏฺเหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. สตฺตมํ.

๘. อคฺคิกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๔. อฏฺเม อคฺคิกภารทฺวาโชติ อยมฺปิ ภารทฺวาโชว, อคฺคิ ปริจรณวเสน ปนสฺส สงฺคีติกาเรหิ เอตํ นามํ คหิตํ. สนฺนิหิโต โหตีติ สํโยชิโต โหติ. อฏฺาสีติ กสฺมา ตตฺถ อฏฺาสิ? ภควา กิร ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต อิมํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เอวรูปํ อคฺคปายาสํ คเหตฺวา ‘มหาพฺรหฺมานํ โภเชมี’ติ อคฺคิมฺหิ ฌาเปนฺโต อผลํ กโรติ อปายมคฺคํ โอกฺกมติ, อิมํ ลทฺธึ อวิสฺสชฺชนฺโต อปายปูรโกว ภวิสฺสติ, คจฺฉามิสฺส ธมฺมเทสนาย, มิจฺฉาทิฏฺึ ภินฺทิตฺวา ปพฺพาเชตฺวา จตฺตาโร มคฺเค เจว จตฺตาริ จ ผลานิ เทมี’’ติ, ตสฺมา ปุพฺพณฺหสมเย ราชคหํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ อฏฺาสิ.

ตีหิ วิชฺชาหีติ ตีหิ เวเทหิ. ชาติมาติ ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปริสุทฺธาย ชาติยา สมนฺนาคโต. สุตวา พหูติ พหุ นานปฺปกาเร คนฺเถ สุตวา. โสมํ ภุฺเชยฺยาติ โส เตวิชฺโช พฺราหฺมโณ อิมํ ปายาสํ ภุฺชิตุํ ยุตฺโต, ตุมฺหากํ ปเนส ปายาโส อยุตฺโตติ วทติ.

เวทีติ ปุพฺเพนิวาสาเณน ชานิ ปฏิวิชฺฌิ. สคฺคาปายนฺติ ทิพฺเพน จกฺขุนา สคฺคมฺปิ อปายมฺปิ ปสฺสติ. ชาติกฺขยนฺติ อรหตฺตํ. อภิฺาโวสิโตติ ชานิตฺวา โวสิตโวสาโน. พฺราหฺมโณ ภวนฺติ อวีจิโต ยาว ภวคฺคา โภตา โคตเมน สทิโส ชาติสมฺปนฺโน ขีณาสวพฺราหฺมโณ นตฺถิ, ภวํเยว พฺราหฺมโณติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สุวณฺณปาตึ ปูเรตฺวา ทสพลสฺส ปายาสํ อุปนาเมสิ. สตฺถา อุปฺปตฺตึ ทีเปตฺวา โภชนํ ปฏิกฺขิปนฺโต คาถาภิคีตํ เมติอาทิมาห. ตตฺถ คาถาภิคีตนฺติ คาถาหิ อภิคีตํ. อโภชเนยฺยนฺติ อภุฺชิตพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ, พฺราหฺมณ, มยฺหํ เอตฺตกํ กาลํ ภิกฺขาจารวตฺเตน ิตสฺส กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ทาตุํ นาสกฺขิ, อิทานิ ปน มยา ตุยฺหํ กิลฺชมฺหิ ติเล วิตฺถาเรนฺเตน วิย สพฺเพ พุทฺธคุณา ปกาสิตา, อิติ คายเนน คายิตฺวา ลทฺธํ วิย อิทํ โภชนํ โหติ, ตสฺมา อิทํ คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยนฺติ. สมฺปสฺสตํ, พฺราหฺมณ, เนส ธมฺโมติ, พฺราหฺมณ, อตฺถฺจ ธมฺมฺจ สมฺปสฺสนฺตานํ ‘‘เอวรูปํ โภชนํ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ เอส ธมฺโม น โหติ. สุธาโภชนมฺปิ คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, คาถาหิ คายิตฺวา ลทฺธํ พุทฺธา นีหรนฺติเยว. ธมฺเม สติ, พฺราหฺมณ, วุตฺติเรสาติ, พฺราหฺมณ, ธมฺเม สติ ธมฺมํ อเปกฺขิตฺวา ธมฺเม ปติฏฺาย ชีวิตํ กปฺเปนฺตานํ เอสา วุตฺติ อยํ อาชีโว – เอวรูปํ นีหริตฺวา ธมฺมลทฺธเมว ภุฺชิตพฺพนฺติ.

อถ พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – อหํ ปุพฺเพ สมณสฺส โคตมสฺส คุเณ วา อคุเณ วา น ชานามิ. อิทานิ ปนสฺสาหํ คุเณ ตฺวา มม เคเห อสีติโกฏิมตฺตํ ธนํ สาสเน วิปฺปกิริตุกาโม ชาโต, อยฺจ ‘‘มยา ทินฺนปจฺจยา อกปฺปิยา’’ติ วทติ. อปฺปฏิคฺคยฺโห อหํ สมเณน โคตเมนาติ. อถ ภควา สพฺพฺุตฺาณํ เปเสตฺวา ตสฺส จิตฺตาจารํ วีมํสนฺโต, ‘‘อยํ สพฺเพปิ อตฺตนา ทินฺนปจฺจเย ‘อกปฺปิยา’ติ สลฺลกฺเขติ. ยํ หิ โภชนํ อารพฺภ กถา อุปฺปนฺนา, เอตเทว น วฏฺฏติ, เสสา นิทฺโทสา’’ติ พฺราหฺมณสฺส จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ทานทฺวารํ ทสฺเสนฺโต อฺเน จาติอาทิมาห. ตตฺถ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตนฺติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทีนํ วเสน วูปสนฺตกุกฺกุจฺจํ. อนฺเนน ปาเนนาติ เทสนามตฺตเมตํ. อยํ ปนตฺโถ – อฺเหิ ตยา ‘‘ปริจฺจชิสฺสามี’’ติ สลฺลกฺขิเตหิ จีวราทีหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหสฺสุ. เขตฺตํ หิ ตํ ปุฺเปกฺขสฺส โหตีติ เอตํ ตถาคตสาสนํ นาม ปุฺเปกฺขสฺส ปุฺตฺถิกสฺส ตุยฺหํ อปฺเปปิ พีเช พหุสสฺสผลทายกํ สุเขตฺตํ วิย ปฏิยตฺตํ โหติ. อฏฺมํ.

๙. สุนฺทริกสุตฺตวณฺณนา

๑๙๕. นวเม สุนฺทริกภารทฺวาโชติ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร อคฺคิชุหเณน เอวํลทฺธนาโม. สุนฺทริกายาติ เอวํนามิกาย นทิยา. อคฺคึ ชุหตีติ อาหุตึ ปกฺขิปเนน ชาเลติ. อคฺคิหุตฺตํ ปริจรตีติ อคฺยายตนํ สมฺมชฺชนุปเลปนพลิกมฺมาทินา ปยิรุปาสติ. โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยาติ โส กิร พฺราหฺมโณ อคฺคิมฺหิ หุตาวเสสํ ปายาสํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อคฺคิมฺหิ ตาว ปกฺขิตฺตปายาโส มหาพฺรหฺมุนา ภุตฺโต, อยํ ปน อวเสโส อตฺถิ, ตํ ยทิ พฺรหฺมุโน มุขโต ชาตสฺส พฺราหฺมณสฺส ทเทยฺยํ, เอวํ เม ปิตรา สห ปุตฺโตปิ สนฺตปฺปิโต ภเวยฺย, สุวิโสธิโต จสฺส พฺรหฺมโลกคามิมคฺโค’’ติ. โส พฺราหฺมณสฺส ทสฺสนตฺถํ อุฏฺายาสนา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ, ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุฺเชยฺยา’’ติ?

รุกฺขมูเลติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ เชฏฺกรุกฺขสฺส มูเล. สสีสํ ปารุตํ นิสินฺนนฺติ สห สีเสน ปารุตกายํ นิสินฺนํ. กสฺมา ปน ภควา ตตฺถ นิสีทิ? ภควา กิร ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเก