📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
สํยุตฺตนิกาเย
สคาถาวคฺคฏีกา
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
๑. สํวณฺณนารมฺเภ ¶ ¶ รตนตฺตยวนฺทนา สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส ปภวนิสฺสยวิสุทฺธิปฏิเวทนตฺถํ, ตํ ปน ธมฺมสํวณฺณนาสุ วิฺูนํ พหุมานุปฺปาทนตฺถํ, ตํ สมฺมเทว เตสํ อุคฺคหณธารณาทิกฺกมลทฺธพฺพาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพหิตสุขนิปฺผาทนตฺถนฺติ. อถ วา มงฺคลภาวโต, สพฺพกิริยาสุ ปุพฺพกิจฺจภาวโต, ปณฺฑิเตหิ สมาจริตภาวโต, อายตึ ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนโต จ สํวณฺณนายํ รตนตฺตยปณามกิริยาติ. อถ วา รตนตฺตยปณามกรณํ ปูชนียปูชาปฺุวิเสสนิพฺพตฺตนตฺถํ, ตํ อตฺตโน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตกสฺส กมฺมสฺส พลานุปฺปทานตฺถํ, อนฺตรา จ ตสฺส อสํโกจาปนตฺถํ, ตทุภยํ อนนฺตราเยน อฏฺกถาย ปริสมาปนตฺถนฺติ อิทเมว จ ปโยชนํ อาจริเยน อิธาธิปฺเปตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อิติ เม ปสนฺนมติโน…เป… ตสฺสานุภาเวนา’’ติ. วตฺถุตฺตยปูชา หิ นิรติสยปฺุกฺเขตฺตสํพุทฺธิยา อปริเมยฺยปภาโว ปฺุาติสโยติ พหุวิธนฺตราเยปิ โลกสนฺนิวาเส ¶ อนฺตรายนิพนฺธนสกลสํกิเลสวิทฺธํสนาย ปโหติ, ภยาทิอุปทฺทวฺจ นิวาเรติ. ยถาห ‘‘ปูชารเห ปูชยโต’’ติอาทิ (ธ. ป. ๑๙๕; อป. เถร ๑.๑๐.๑), ตถา ‘‘เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา, อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติอาทิ (อิติวุ. ๙๐).
‘‘พุทฺโธติ ¶ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;
วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺส;
ธมฺโมติ…เป…, สงฺโฆติ…เป…, ชมฺพุทีปสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖);
ตถา ‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑). ‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา…เป… ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) จ.
ตตฺถ ยสฺส วตฺถุตฺตยสฺส วนฺทนํ กตฺตุกาโม, ตสฺส คุณาติสยโยคสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติอาทินา คาถตฺตยมาห. คุณาติสยโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตํ ปโยชนํ สาเธตีติ. ตตฺถ ยสฺสา เทสนาย สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา น วินยเทสนา วิย กรุณาปฺปธานา, นาปิ อภิธมฺมเทสนา วิย ปฺาปฺปธานา, อถ โข กรุณาปฺาปฺปธานาติ ตทุภยปฺปธานเมว ตาว สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โถมนํ กาตุํ ตมฺมูลกตฺตา เสสรตนานํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาธตีติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพนฺธตีติ อตฺโถ. กรุณาย สีตลํ กรุณาสีตลํ, กรุณาสีตลํ หทยํ อสฺสาติ กรุณาสีตลหทโย, ตํ กรุณาสีตลหทยํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ ปเรสํ หิโตปสํหารสุขาทิอปริหานิจฺฉนสภาวตาย, พฺยาปาทารตีนํ อุชุวิปจฺจนีกตาย จ สตฺตสนฺตานคตสนฺตาปวิจฺเฉทนาการปวตฺติยา เมตฺตามุทิตานมฺปิ จิตฺตสีตลภาวการณตา อุปลพฺภติ, ตถาปิ ปรทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติยา ปรูปตาปาสหนรสา อวิหึสาภูตา ¶ กรุณาว วิเสเสน ภควโต จิตฺตสฺส จิตฺตปสฺสทฺธิ วิย สีติภาวนิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ. กรุณามุเขน วา เมตฺตามุทิตานมฺปิ หทยสีตลภาวการณตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา ¶ .
อถ วา ฉอสาธารณาณวิเสสนิพนฺธนภูตา สาติสยํ นิรวเสสฺจ สพฺพฺุตฺาณํ วิย สวิสยพฺยาปิตาย มหากรุณาภาวมุปคตา กรุณาว ภควโต อภิสเยน หทยสีตลภาวเหตูติ อาห ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ.
อถ วา สติปิ เมตฺตามุทิตานํ สาติสเย หทยสีติภาวนิพนฺธนตฺเต สกลพุทฺธคุณวิเสสการณตาย ตาสมฺปิ การณนฺติ กรุณาว ภควโต ‘‘หทยสีตลภาวการณ’’นฺติ วุตฺตา. กรุณานิทานา หิ สพฺเพปิ พุทฺธคุณา, กรุณานุภาวนิพฺพาปิยมานสํสารทุกฺขสนฺตาปสฺส หิ ภควโต ปรทุกฺขาปนยนกามตาย อเนกานิปิ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปานํ อกิลนฺตรูปสฺเสว นิรวเสสพุทฺธกรธมฺมสมฺภรณนิยตสฺส สมธิคตธมฺมาธิปเตยฺยสฺส จ สนฺนิหิเตสุปิ สตฺตสงฺฆาฏสมุปนีตหทยูปตาปนิมิตฺเตสุ น อีสกมฺปิ จิตฺตสีติภาวสฺส อฺถตฺตมโหสีติ. เอตสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ตีสุปิ อวตฺถาสุ ภควโต กรุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
ปชานาตีติ ปฺา, ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. ปฺาว เยฺยาวรณปฺปหานโต ปกาเรหิ ธมฺมสภาวโชตนฏฺเน ปชฺโชโตติ ปฺาปชฺโชโต. สวาสนปฺปหานโต วิเสเสน หตํ สมุคฺฆาฏิตํ วิหตํ. ปฺาปชฺโชเตน วิหตํ ปฺาปชฺโชตวิหตํ. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, โมหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห, อวิชฺชา. สฺเวว วิสยสภาวปฏิจฺฉาทนกรณโต อนฺธการสริกฺขตาย ตโม วิยาติ ตโม. ปฺาปชฺโชตวิหโต โมหตโม เอตสฺสาติ ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตโม, ตํ ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตมํ. สพฺเพสมฺปิ หิ ขีณาสวานํ สติปิ ปฺาปชฺโชเตน อวิชฺชนฺธการสฺส วิหตภาเว สทฺธาธิมุตฺเตหิ วิย ทิฏฺิปฺปตฺตานํ สาวเกหิ ปจฺเจกสมฺพุทฺเธหิ จ สวาสนปฺปหาเนน สมฺมาสมฺพุทฺธานํ กิเลสปฺปหานสฺส วิเสโส วิชฺชตีติ สาติสเยน อวิชฺชาปฺปหาเนน ภควนฺตํ โถเมนฺโต อาห ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ.
อถ วา อนฺตเรน ปโรปเทสํ อตฺตโน สนฺตาเน อจฺจนฺตํ อวิชฺชนฺธการวิคมสฺส นิพฺพตฺติตตฺตา, ตถา สพฺพฺุตาย พเลสุ จ วสีภาวสฺส สมธิคตตฺตา, ปรสนฺตติยฺจ ธมฺมเทสนาติสยานุภาเวน สมฺมเทว ตสฺส ¶ ปวตฺติตตฺตา ภควาว วิเสสโต โมหตมวิคเมน โถเมตพฺโพติ ¶ อาห ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ปฺาปชฺโชโต’’ติ ปเทน ภควโต ปฏิเวธปฺา วิย เทสนาปฺาปิ สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสสนเยน วา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา.
อถ วา ภควโต าณสฺส เยฺยปริยนฺติกตฺตา สกลเยฺยธมฺมสภาวาวโพธนสมตฺเถน อนาวรณาณสงฺขาเตน ปฺาปชฺโชเตน สพฺพเยฺยธมฺมสภาวจฺฉาทกสฺส โมหนฺธการสฺส วิธมิตตฺตา อนฺสาธารโณ ภควโต โมหตมวินาโสติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ. เอตฺถ จ โมหตมวิธมนนฺเต อธิคตตฺตา อนาวรณาณํ การณูปจาเรน สสนฺตาเน โมหตมวิธมนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อภินีหารสมฺปตฺติยา สวาสนปฺปหานเมว หิ กิเลสานํ เยฺยาวรณปหานนฺติ, ปรสนฺตาเน ปน โมหตมวิธมนสฺส การณภาวโต ผลูปจาเรน อนาวรณาณํ ‘‘โมหตมวิธมน’’นฺติ วุจฺจตีติ.
กึ ปน การณํ อวิชฺชาสมุคฺฆาโตเยเวโก ปหานสมฺปตฺติวเสน ภควโต โถมนานิมิตฺตํ คยฺหติ, น ปน สาติสยํ นิรวเสสกิเลสปหานนฺติ? ตปฺปหานวจเนเนว ตเทกฏฺตาย สกลสํกิเลสคณสมุคฺฆาตสฺส โชติตภาวโต. น หิ โส ตาทิโส กิเลโส อตฺถิ, โย นิรวเสสอวิชฺชาปฺปหาเนน น ปหียตีติ.
อถ วา วิชฺชา วิย สกลกุสลธมฺมสมุปฺปตฺติยา นิรวเสสากุสลธมฺมนิพฺพตฺติยา สํสารปฺปวตฺติยา จ อวิชฺชา ปธานการณนฺติ ตพฺพิฆาตวจเนน สกลสํกิเลสคณสมุคฺฆาโต วุตฺโต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ.
นรา จ อมรา จ นรามรา, สห นรามเรหีติ สนรามโร, สนรามโร จ โส โลโก จาติ สนรามรโลโก, ตสฺส ครูติ สนรามรโลกครุ, ตํ สนรามรโลกครุํ. เอเตน เทวมนุสฺสานํ วิย ตทวสิฏฺสตฺตานมฺปิ ยถารหํ คุณวิเสสาวหตาย ภควโต อุปการตํ ทสฺเสติ. น เจตฺถ ปธานาปฺปธานภาโว โจเทตพฺโพ. อฺโ หิ สทฺทกฺกโม, อฺโ อตฺถกฺกโม. เอทิเสสุ หิ สมาสปเทสุ ปธานมฺปิ อปฺปธานํ วิย นิทฺทิสียติ ยถา ‘‘สราชิกาย ปริสายา’’ติ ¶ (อป. อฏฺ. ๑.๑.๘๒). กามฺเจตฺถ สตฺตสงฺขาโรกาสวเสน ติวิโธ โลโก, ครุภาวสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา ครุกรณสมตฺถสฺเสว สตฺตโลกสฺส วเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. โส หิ โลกียนฺติ เอตฺถ ปฺุปาปานิ ตพฺพิปาโก จาติ ‘‘โลโก’’ติ วุจฺจติ. อมรคฺคหเณน เจตฺถ อุปปตฺติเทวา อธิปฺเปตา.
อถ ¶ วา สมูหตฺโถ โลก-สทฺโท สมุทายวเสน โลกียติ ปฺาปียตีติ. สห นเรหีติ สนรา, สนรา จ เต อมรา จาติ สนรามรา, เตสํ โลโกติ สนรามรโลโกติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. อมร-สทฺเทน เจตฺถ วิสุทฺธิเทวาปิ สงฺคยฺหนฺติ. เต หิ มรณาภาวโต ปรมตฺถโต อมรา, นรามรานํเยว คหณํ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๕๗). ตถา หิ สพฺพานตฺถปริหรณปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตมุปการิตาย อปริมิตนิรุปมปฺปภาวคุณวิเสสสมงฺคิตาย จ สพฺพสตฺตุตฺตโม ภควา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุตฺตมํ คารวฏฺานํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สนรามรโลกครุ’’นฺติ.
โสภนํ คตํ คมนํ เอตสฺสาติ สุคโต. ภควโต หิ เวเนยฺยชนุปสงฺกมนํ เอกนฺเตน เตสํ หิตสุขนิปฺผาทนโต โสภนํ, ตถา ลกฺขณานุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ทุตวิลมฺพิตขลิตานุกฑฺฒนนิปฺปีฬนุกฺกุฏิกกุฏิลากุลตาทิ- โทสรหิตมวหสิตราชหํสวสภวารณมิคราชคมนํ กายคมนํ าณคมนฺจ วิปุลนิมฺมลกรุณาสติวีริยาทิคุณวิเสสสหิตมภินีหารโต ยาว มหาโพธิ นิรวชฺชตาย โสภนเมวาติ.
อถ วา สยมฺภูาเณน สกลมปิ โลกํ ปริฺาภิสมยวเสน ปริชานนฺโต าเณน สมฺมา คโต อวคโตติ สุคโต, ตถา โลกสมุทยํ ปหานาภิสมยวเสน ปชหนฺโต อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺโต สมฺมา คโต อตีโตติ สุคโต, โลกนิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน สมฺมา คโต อธิคโตติ สุคโต, โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ภาวนาภิสมยวเสน สมฺมา ¶ คโต ปฏิปนฺโนติ สุคโต. ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต’’ติอาทินา นเยน (มหานิ. ๓๘) อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพติ.
อถ วา สุนฺทรํ านํ สมฺมาสมฺโพธึ, นิพฺพานเมว วา คโต อธิคโตติ สุคโต. ยสฺมา วา ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ เวเนยฺยานํ ยถารหํ กาลยุตฺตเมว จ ธมฺมํ ภาสติ, ตสฺมา สมฺมา คทติ วทตีติ สุคโต ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. อิติ โสภนคมนตาทีหิ สุคโต, ตํ สุคตํ.
ปฺุปาปเกหิ อุปปชฺชนวเสน คนฺตพฺพโต คติโย, อุปปตฺติภววิเสสา. ตา ปน นิรยาทิวเสน ปฺจวิธา. ตา หิ สกลสฺสปิ ภวคามิกมฺมสฺส อริยมคฺคาธิคเมน อวิปาการหภาวกรเณน ¶ นิวตฺติตตฺตา ภควา ปฺจหิปิ คตีหิ สุฏฺุ มุตฺโต วิสํยุตฺโตติ อาห ‘‘คติวิมุตฺต’’นฺติ. เอเตน ภควโต กตฺถจิปิ อปริยาปนฺนตํ ทสฺเสติ, ยโต ภควา ‘‘เทวาติเทโว’’ติ วุจฺจติ. เตนาห –
‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;
ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;
เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖);
ตํตํคติสํวตฺตนกานฺหิ กมฺมกิเลสานํ อคฺคมคฺเคน โพธิมูเลเยว สุปฺปหีนตฺตา นตฺถิ ภควโต คติปริยาปนฺนตาติ อจฺจนฺตเมว ภควา สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสสตฺตนิกาเยหิ สุปริมุตฺโต. ตํ คติวิมุตฺตํ. วนฺเทติ นมามิ, โถเมมีติ วา อตฺโถ.
อถ วา คติวิมุตฺตนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปฺปตฺติยา ภควนฺตํ โถเมติ. เอตฺถ หิ ทฺวีหิ อากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา อตฺตหิตสมฺปตฺติโต ปรหิตปฏิปตฺติโต จ. เตสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ อนาวรณาณาธิคมโต, สวาสนานํ สพฺเพสํ กิเลสานํ อจฺจนฺตปหานโต, อนุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติโต จ เวทิตพฺพา. ปรหิตปฏิปตฺติ ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนโต, วิรุทฺเธสุปิ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยวเสน าณปริปากกาลาคมนโต จ. สา ปเนตฺถ อาสยโต ปโยคโต จ ทุวิธา ปรหิตปฏิปตฺติ, ติวิธา ¶ จ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปกาสิตา โหติ, กถํ? ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ เอเตน อาสยโต ปรหิตปฏิปตฺติ, สมฺมาคทนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ปโยคโต ปรหิตปฏิปตฺติ, ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตมํ คติวิมุตฺต’’นฺติ เอเตหิ จตุสจฺจปฏิเวธตฺเถน จ สุคต-สทฺเทน ติวิธาปิ อตฺตหิตสมฺปตฺติ, อวสิฏฺตฺเถน เตน ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ เอเตน จ สพฺพาปิ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรหิตปฏิปตฺติ ปกาสิตา โหตีติ.
อถ วา ตีหิ อากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา – เหตุโต ผลโต อุปการโต จ. ตตฺถ เหตุ มหากรุณา, สา ปมปเทน ทสฺสิตา. ผลํ จตุพฺพิธํ าณสมฺปทา ปหานสมฺปทา อานุภาวสมฺปทา รูปกายสมฺปทา จาติ. ตาสุ าณปหานสมฺปทา ทุติยปเทน สจฺจปฏิเวธตฺเถน จ สุคต-สทฺเทน ปกาสิตา โหนฺติ, อานุภาวสมฺปทา ปน ตติยปเทน, รูปกายสมฺปทา ยถาวุตฺตกายคมนโสภนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ลกฺขณานุพฺยฺชนปาริปูริยา วินา ตทภาวโต ¶ . อุปกาโร อนนฺตรํ อพาหิรํ กริตฺวา ติวิธยานมุเขน วิมุตฺติธมฺมเทสนา. โส สมฺมาคทนตฺเถน สุคต-สทฺเทน ปกาสิโต โหตีติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ ‘‘กรุณาสีตลหทย’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ ทสฺเสติ. มหากรุณาย สฺโจทิตมานโส หิ ภควา สํสารปงฺกโต สตฺตานํ สมุทฺธรณตฺถํ กตาภินีหาโร อนุปุพฺเพน ปารมิโย ปูเรตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโตติ กรุณา สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ. ‘‘ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธึ ทสฺเสติ. อนาวรณาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ สมฺมาสมฺโพธีติ วุจฺจตีติ. สมฺมาคมนตฺเถน สุคต-สทฺเทน สมฺมาสมฺโพธิยา ปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยค-สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวสาทิ-อนฺตทฺวยรหิตาย กรุณาปฺาปริคฺคหิตาย มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปกาสนโต สุคต-สทฺทสฺส. อิตเรหิ สมฺมาสมฺโพธิยา ปธานาปฺปธานเภทํ ปโยชนํ ทสฺเสติ. สํสารมโหฆโต สตฺตสนฺตารณฺเหตฺถ ปธานํ ปโยชนํ, ตทฺมปฺปธานํ. เตสุ ปธาเนน ปรหิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ, อิตเรน อตฺตหิตสมฺปตฺตึ, ตทุภเยน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ภควโต ¶ จตุตฺถปุคฺคลภาวํ ทสฺเสติ. เตน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, อุตฺตมวนฺทนียภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนกิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทสฺเสติ.
เอตฺถ จ กรุณาคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต ภควโต สพฺพโลกิยคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ, ปฺาคหเณน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ. ตทุภยคฺคหณสิทฺโธ หิ อตฺโถ ‘‘สนรามรโลกครุ’’นฺติอาทินา วิปฺจียตีติ. กรุณาคหเณน จ อุปคมนํ นิรุปกฺกิเลสํ ทสฺเสติ, ปฺาคหเณน อปคมนํ. ตถา กรุณาคหเณน โลกสมฺานุรูปํ ภควโต ปวตฺตึ ทสฺเสติ โลกโวหารวิสยตฺตา กรุณาย, ปฺาคหเณน สมฺาย อนติธาวนํ. สภาวานวโพเธน หิ ธมฺมานํ สมฺํ อติธาวิตฺวา สตฺตาทิปรามสนํ โหตีติ. ตถา กรุณาคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติวิหารํ ทสฺเสติ, ปฺาคหเณน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ จตุสจฺจาณํ จตุปฏิสมฺภิทาาณํ จตุเวสารชฺชาณํ, กรุณาคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติาณสฺส คหิตตฺตา เสสาธารณาณานิ ฉ อภิฺา อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณานิ ทส พลานิ จุทฺทส พุทฺธาณานิ โสฬส าณจริยา อฏฺารส พุทฺธธมฺมา จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ เอวมาทีนํ อเนเกสํ ปฺาปเภทานํ วเสน าณจารํ ทสฺเสติ. ตถา กรุณาคหเณน จรณสมฺปตฺตึ, ปฺาคหเณน วิชฺชาสมฺปตฺตึ. กรุณาคหเณน ¶ อตฺตาธิปติตา, ปฺาคหเณน ธมฺมาธิปติตา. กรุณาคหเณน โลกนาถภาโว, ปฺาคหเณน อตฺตนาถภาโว. ตถา กรุณาคหเณน ปุพฺพการิภาโว, ปฺาคหเณน กตฺุตา. กรุณาคหเณน อปรนฺตปตา, ปฺาคหเณน อนตฺตนฺตปตา. กรุณาคหเณน วา พุทฺธกรธมฺมสิทฺธิ, ปฺาคหเณน พุทฺธภาวสิทฺธิ. ตถา กรุณาคหเณน ปเรสํ ตารณํ, ปฺาคหเณน สยํ ตารณํ. ตถา กรุณาคหเณน สพฺพสตฺเตสุ อนุคฺคหจิตฺตตา, ปฺาคหเณน สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺตตา ทสฺสิตา โหติ.
สพฺเพสฺจ พุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ ตนฺนิทานภาวโต, ปฺา ปริโยสานํ ตโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต. อิติ อาทิปริโยสานทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ. ตถา กรุณาคหเณน สีลกฺขนฺธปุพฺพงฺคโม ¶ สมาธิกฺขนฺโธ ทสฺสิโต โหติ. กรุณานิทานฺหิ สีลํ ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต, สา จ ฌานตฺตยสมฺปโยคินีติ. ปฺาวจเนน ปฺากฺขนฺโธ. สีลฺจ สพฺพพุทฺธคุณานํ อาทิ, สมาธิ มชฺเฌ, ปฺา ปริโยสานนฺติ เอวมฺปิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ นยโต ทสฺสิตตฺตา. เอโส เอว หิ นิรวเสสโต พุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย, ยทิทํ นยคฺคหณํ, อฺถา โก นาม สมตฺโถ ภควโต คุเณ อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนวาห –
‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๒๕; อุทา. ๕๓; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๕; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; อป. ๒.๗.๒๐) –
เตเนว จ อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรนปิ พุทฺทคุณปริจฺเฉทนํ ปติ อนุยุตฺเตน ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อปิ จ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) วุตฺตํ.
๒. เอวํ สงฺเขเปน สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ ‘‘พุทฺโธปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺโธติ กตฺตุนิทฺเทโส. พุทฺธภาวนฺติ กมฺมนิทฺเทโส. ภาเวตฺวา สจฺฉิกตฺวาติ ¶ จ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโส. ยนฺติ อนิยมโต กมฺมนิทฺเทโส. อุปคโตติ อปรกาลกิริยานิทฺเทโส. วนฺเทติ กิริยานิทฺเทโส. ตนฺติ นิยมนํ. ธมฺมนฺติ วนฺทนกิริยาย กมฺมนิทฺเทโส. คตมลํ อนุตฺตรนฺติ จ ตพฺพิเสสนํ.
ตตฺถ พุทฺธสทฺทสฺส ตาว – ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา นิทฺเทสนเยน (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗) อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อถ วา สวาสนาย อฺาณนิทฺทาย อจฺจนฺตวิคมโต, พุทฺธิยา วา วิกสิตภาวโต พุทฺธวาติ พุทฺโธ ชาครณวิกสนตฺถวเสน. อถ วา กสฺสจิปิ เยฺยธมฺมสฺส อนวพุทฺธสฺส อภาเวน เยฺยวิเสสสฺส กมฺมภาเวน ¶ อคฺคหณโต กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเวน อวคมนตฺถวเสเนว กตฺตุนิทฺเทโส ลพฺภตีติ พุทฺธวาติ พุทฺโธ ยถา ‘‘ทิกฺขิโต น ททาตี’’ติ. อตฺถโต ปน ปารมิตาปริภาวิโต สยมฺภูาเณน สห วาสนาย วิหตวิทฺธสฺตนิรวเสสกิเลโส มหากรุณา สพฺพฺุตฺาณาทิอปริเมยฺยคุณคณาธาโร ขนฺธสนฺตาโน พุทฺโธ. ยถาห – ‘‘พุทฺโธติ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ. ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต พเลสุ จ วสีภาว’’นฺติ (มหานิ. ๑๙๒). อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. เตน ‘‘เอวํ คุณวิเสสยุตฺโต โสปิ นาม ภควา’’ติ วกฺขมานคุเณ ธมฺเม สมฺภาวนํ ทีเปติ. พุทฺธภาวนฺติ สมฺมาสมฺโพธึ. ภาเวตฺวาติ อุปฺปาเทตฺวา วฑฺเฒตฺวา จ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปคโตติ ปตฺโต, อธิคโตติ อตฺโถ. เอตสฺส ‘‘พุทฺธภาว’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. คตมลนฺติ วิคตมลํ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. วนฺเทติ ปณมามิ, โถเมมิ วา. อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรรหิตํ, โลกุตฺตรนฺติ อตฺโถ. ธมฺมนฺติ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายโต สํสารโต จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม.
อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – เอวํ วิวิธคุณคณสมนฺนาคโต พุทฺโธปิ ภควา ยํ อริยมคฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา ผลนิพฺพานสงฺขาตํ ปน ธมฺมํ สจฺฉิกตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโต, ตเมตํ พุทฺธานมฺปิ พุทฺธภาวเหตุภูตํ สพฺพโทสมลรหิตํ อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน อนุตฺตรํ ปฏิเวธสทฺธมฺมํ นมามีติ. ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺสปิ ตปฺปกาสนตฺตา อิธ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อถ วา ‘‘อภิธมฺมนยสมุทฺทํ อธิคจฺฉิ, ตีณิ ปิฏกานิ สมฺมสี’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ สจฺฉิกิริยสมฺมสนปริยาโย ลพฺภตีติ โสปิ อิธ วุตฺโต เอวาติ ทฏฺพฺพํ.
ตถา ‘‘ยํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา สจฺฉิกตฺวา’’ติ จ วุตฺตตฺตา พุทฺธกรธมฺมภูตาหิ ปารมิตาหิ สห ¶ ปุพฺพภาเค อธิสีลสิกฺขาทโยปิ อิธ ธมฺม-สทฺเทน สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพํ. ตาปิ หิ มลปฏิปกฺขตาย คตมลา อนฺสาธารณตาย อนุตฺตรา จาติ. ตถา หิ สตฺตานํ สกลวฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถาย กตมหาภินีหาโร มหากรุณาธิวาสเปสลชฺฌาสโย ปฺาวิเสสปริโธตนิมฺมลานํ ทานทมสฺมาทีนํ อุตฺตมธมฺมานํ ¶ สตสหสฺสาธิกานิ กปฺปานํ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ นิรวเสสานํ ภาวนาปจฺจกฺขกรเณหิ กมฺมาทีสุ อธิคตวสิภาโว อจฺฉริยาจินฺเตยฺยมหานุภาโว อธิสีลาธิจิตฺตานํ ปรมุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต ภควา ปจฺจยากาเร จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน มหาวชิราณํ เปเสตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ.
เอตฺถ จ ‘‘ภาเวตฺวา’’ติ เอเตน วิชฺชาสมฺปทาย ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน วิมุตฺติสมฺปทาย. ตถา ปเมน ฌานสมฺปทาย, ทุติเยน วิโมกฺขสมฺปทาย. ปเมน วา สมาธิสมฺปทาย, ทุติเยน สมาปตฺติสมฺปทาย. อถ วา ปเมน ขเยาณภาเวน, ทุติเยน อนุปฺปาเทาณภาเวน. ปุริเมน วา วิชฺชูปมตาย, ทุติเยน วชิรุปมตาย. ปุริเมน วา วิราคสมฺปตฺติยา, ทุติเยน นิโรธสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน นิยฺยานภาเวน, ทุติเยน นิสฺสรณภาเวน. ปเมน วา เหตุภาเวน, ทุติเยน อสงฺขตภาเวน. ปเมน วา ทสฺสนภาเวน, ทุติเยน วิเวกภาเวน. ปเมน วา อธิปติภาเวน, ทุติเยน อมตภาเวน ธมฺมํ โถเมติ. อถ วา ‘‘ยํ ธมฺมํ ภาเวตฺวา พุทฺธภาวํ อุปคโต’’ติ เอเตน สฺวากฺขาตตาย ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน สนฺทิฏฺิกตาย. ตถา ปุริเมน อกาลิกตาย, ปจฺฉิเมน เอหิปสฺสิกตาย. ปุริเมน วา โอปเนยฺยิกตาย, ปจฺฉิเมน ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพตาย ธมฺมํ โถเมติ. ‘‘คตมล’’นฺติ อิมินา สํกิเลสาภาวทีปเนน ธมฺมสฺส ปริสุทฺธตํ ทสฺเสติ. ‘‘อนุตฺตร’’นฺติ เอเตน อฺสฺส วิสิฏฺสฺส อภาวทีปเนน วิปุลปริปุณฺณตํ. ปเมน วา ปหานสมฺปทํ ธมฺมสฺส ทสฺเสติ, ทุติเยน สภาวสมฺปทํ. ภาเวตพฺพตาย วา ธมฺมสฺส คตมลภาโว โยเชตพฺโพ. ภาวนาพเลน หิ โส โทสานํ สมุคฺฆาตโก โหตีติ. สจฺฉิกาตพฺพภาเวน อนุตฺตรภาโว โยเชตพฺโพ. สจฺฉิกิริยานิพฺพตฺติโต หิ ตตุตฺตริกรณียาภาวโต อนฺสาธารณตาย อนุตฺตโรติ. ตถา ‘‘ภาเวตฺวา’’ติ เอเตน สห ปุพฺพภาคสีลาทีหิ เสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺติ. ‘‘สจฺฉิกตฺวา’’ติ เอเตน สห อสงฺขตาย ธาตุยา อเสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺตีติ.
๓. เอวํ สงฺเขเปเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ ‘‘สุคตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุคตสฺสาติ สมฺพนฺธนิทฺเทโส ¶ . ตสฺส ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ ¶ . โอรสานนฺติ ปุตฺตวิเสสนํ. มารเสนมถนานนฺติ โอรสปุตฺตภาเว การณนิทฺเทโส. เตน กิเลสปหานเมว ภควโต โอรสปุตฺตภาเว การณํ อนุชานาตีติ ทสฺเสติ. อฏฺนฺนนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. เตน จ สติปิ เตสํ สตฺตวิเสสภาเวน อเนกสหสฺสสงฺขาภาเว อิมํ คณนปริจฺเฉทํ นาติวตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ มคฺคฏฺผลฏฺภาวานติวตฺตนโต. สมูหนฺติ สมุทายนิทฺเทโส. อริยสงฺฆนฺติ คุณวิสิฏฺสงฺฆาตภาวนิทฺเทโส. เตน อสติปิ อริยปุคฺคลานํ กายสามคฺคิยํ อริยสงฺฆภาวํ ทสฺเสติ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาวโต.
ตตฺถ อุรสิ ภวา ชาตา สํพทฺธา จ โอรสา. ยถา หิ สตฺตานํ โอรสปุตฺตา อตฺตชาตตาย ปิตุ สนฺตกสฺส ทายชฺชสฺส วิเสเสน ภาคิโน โหนฺติ, เอวเมเตปิ อริยปุคฺคลา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมสฺสวนนฺเต อริยาย ชาติยา ชาตตาย ภควโต สนฺตกสฺส วิมุตฺติสุขสฺส อริยธมฺมรตนสฺส จ เอกนฺตภาคิโนติ โอรสา วิย โอรสา. อถ วา ภควโต ธมฺมเทสนานุภาเวเนว อริยภูมึ โอกฺกมมานา โอกฺกนฺตา จ อริยสาวกา ภควโต อุเรน วายามชนิตาภิชาติตาย นิปฺปริยาเยน โอรสา ปุตฺตาติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. สาวเกหิ ปวตฺติยมานาปิ หิ ธมฺมเทสนา ‘‘ภควโต ธมฺมเทสนา’’อิจฺเจว วุจฺจติ ตมฺมูลิกตฺตา ลกฺขณาทิวิเสสาภาวโต จ.
ยทิปิ อริยสาวกานํ อริยมคฺคาธิคมสมเย ภควโต วิย ตทนฺตรายกรณตฺถํ เทวปุตฺตมาโร, มารวาหินี วา น เอกนฺเตน อปสาเทติ, เตหิ ปน อปสาเทตพฺพตาย การเณ วิมถิเต เตปิ วิมถิตา เอว นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘มารมารเสนมถนาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ มารเสนมถนานนฺติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ขนฺธาภิสงฺขารมารานํ วิย เทวปุตฺตมารสฺสปิ คุณมารเณ สหายภาวูปคมนโต กิเลสพลกาโย ‘‘เสนา’’ติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทิ (สุ. นิ. ๔๓๘). สา จ เตหิ ทิยฑฺฒสหสฺสเภทา, อนนฺตเภทา วา กิเลสวาหินี สติธมฺมวิจยวีริยสมถาทิคุณปหรเณหิ โอธิโส วิมถิตา ¶ วิหตา วิทฺธสฺตา จาติ มารเสนมถนา, อริยสาวกา. เอเตน เตสํ ภควโต อนุชาตปุตฺตตํ ทสฺเสติ.
อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต อริยา นิรุตฺตินเยน. อถ วา สเทวเกน โลเกน สรณนฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต, อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา. อริยานํ สงฺโฆติ อริยสงฺโฆ. อริโย จ โส สงฺโฆ จาติ วา อริยสงฺโฆ. ภควโต ¶ อปรภาเค พุทฺธธมฺมรตนานมฺปิ สมธิคโม สงฺฆรตนาธีโนติ อสฺส อริยสงฺฆสฺส พหูปการตํ ทสฺเสตุํ อิเธว ‘‘สิรสา วนฺเท’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอตฺถ จ ‘‘สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส ปภวสมฺปทํ ทสฺเสติ, ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ เอเตน ปหานสมฺปทํ สกลสํกิเลสปหานทีปนโต, ‘‘อฏฺนฺนมฺปิ สมูห’’นฺติ เอเตน าณสมฺปทํ มคฺคฏฺผลฏฺภาวทีปนโต. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ เอเตน ปภวสมฺปทํ ทสฺเสติ สพฺพสงฺฆานํ อคฺคภาวทีปนโต. อถ วา สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตานนฺติ อริยสงฺฆสฺส วิสุทฺธนิสฺสยภาวทีปนํ. มารเสนมถนานนฺติ สมฺมาอุชุายสามีจิปฺปฏิปนฺนภาวทีปนํ. อฏฺนฺนมฺปิ สมูหนฺติ อาหุเนยฺยาทิภาวทีปนํ. อริยสงฺฆนฺติ อนุตฺตรปฺุเขตฺตภาวทีปนํ. ตถา ‘‘สุคตสฺส โอรสานํ ปุตฺตาน’’นฺติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส โลกุตฺตรสรณคมนสภาวํ ทีเปติ. โลกุตฺตรสรณคมเนน หิ เต ภควโต โอรสปุตฺตา ชาตา. ‘‘มารเสนมถนาน’’นฺติ เอเตน อภินีหารสมฺปทาย สิทฺธํ ปุพฺพภาเค สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ. กตาภินีหารา หิ สมฺมาปฏิปนฺนา มารํ มารปริสํ วา อภิวิชินนฺติ. ‘‘อฏฺนฺนมฺปิ สมูห’’นฺติ เอเตน ปฏิวิทฺธสฺตวิปกฺเข เสกฺขาเสกฺขธมฺเม ทสฺเสติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน มคฺคผลธมฺมานํ ปกาสิตตฺตา. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาวํ ทสฺเสติ. สรณคมนฺจ สาวกานํ สพฺพคุณานํ อาทิ, สปุพฺพภาคปฏิปทา เสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย มชฺเฌ, อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ปริโยสานนฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สงฺเขปโต สพฺเพ อริยสงฺฆคุณา ปกาสิตา โหนฺติ.
๔. เอวํ คาถาตฺตเยน สงฺเขปโต สกลคุณสํกิตฺตนมุเขน รตนตฺตยสฺส ปณามํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิปจฺจการํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน ปริณาเมนฺโต ¶ ‘‘อิติ เม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รติชนนฏฺเน รตนํ, พุทฺธธมฺมสงฺฆา. เตสฺหิ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ยถาภูตคุเณ อาวชฺเชนฺตสฺส อมตาธิคมเหตุภูตํ อนปฺปกํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. ยถาห –
‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภ. อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑).
จิตฺตีกตาทิภาโว ¶ วา รตนฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐) –
จิตฺตีกตภาวาทโย จ อนฺสาธารณา พุทฺธาทีสุ เอว ลพฺภนฺตีติ.
วนฺทนาว วนฺทนามยํ ยถา ‘‘ทานมยํ สีลมย’’นฺติ. วนฺทนา เจตฺถ กายวาจาจิตฺเตหิ ติณฺณํ รตนานํ คุณนินฺนตา, โถมนา วา. ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตนโต ปฺุํ, อตฺตโน สนฺตานํ ปุนาตีติ วา. สุวิหตนฺตราโยติ. สุฏฺุ วิหตนฺตราโย. เอเตน อตฺตโน ปสาทสมฺปตฺติยา, รตนตฺตยสฺส จ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา ตํ ปฺุํ อตฺถปฺปกาสนสฺส อุปฆาตกอุปทฺทวานํ วิหนเน สมตฺถนฺติ ทสฺเสติ. หุตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยา. ตสฺส ‘‘อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ยํ รตนตฺตยวนฺทนามยํ ปฺุํ, ตสฺส. อานุภาเวนาติ พเลน.
๕. เอวํ รตนตฺตยสฺส นิปจฺจกาเร ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺสา ธมฺมเทสนาย อตฺถํ สํวณฺเณตุกาโม, ตสฺสา ตาว คุณาภิตฺถวนวเสน อุปฺาปนตฺถํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เทวตาสํยุตฺตาทิสํยุตฺเตหิ เจว นฬวคฺคาทิวคฺเคหิ จ วิภูสิตสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ ¶ ‘‘สํยุตฺต’’นฺติ ‘‘สํโยโค’’ติ จ อตฺถโต เอกํ. เกสํ สํยุตฺตํ? สุตฺตวคฺคานํ. ยถา หิ พฺยฺชนสมุทาโย ปทํ, เอวํ อตฺเถสุ จ กตาวธิโก ปทสมุทาโย วากฺยํ, วากฺยสมุทาโย สุตฺตํ, สุตฺตสมุทาเย วคฺโคติ สมฺา, ตถา สุตฺตวคฺคสมุทาเย สํยุตฺตสมฺา. สํยุชฺชนฺตีติ เอตฺถ สุตฺตวคฺคาติ สํยุตฺตํ. ยทิปิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม ปรมตฺถโต นตฺถิ, อวยเว เอว ตํตํสนฺนิเวสวิสิฏฺเ อุปาทาย ปทาทิสมฺา วิย สุตฺตวคฺคสมฺา สํยุตฺตสมฺา อาคมสมฺา จ, ตถาปิ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ สมุทาโย พุทฺธิปริกปฺปิตรูเปน วิชฺชมาโน วิย คยฺหมาโน อวยวานํ อธิฏฺานภาเวน โวหรียติ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติ.
นนุ สํยุตฺตวคฺโค เอว อาคโม, ตสฺส ปน เกหิ มณฺฑนนฺติ? น โจเทตพฺพเมตํ. ภวติ หิ อภินฺเนปิ วตฺถุสฺมึ ยถาธิปฺเปตวิเสสาวโพธนโต เภทกสมุทาจาโร ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส ¶ สรีร’’นฺติ. อาคมิสฺสนฺติ เอตฺถ, เอเตน, เอตสฺมา วา อตฺตตฺถปรตฺถาทโยติ อาคโม, อาทิกลฺยาณาทิคุณสมฺปตฺติยา อุตฺตมฏฺเน ตํตํอภิปตฺถิตสมิทฺธิเหตุตาย ปณฺฑิเตหิ วริตพฺพโต วโร, อาคโม จ โส วโร จาติ อาคมวโร. อาคมสมฺมเตหิ วา วโรติ อาคมวโร, สํยุตฺโต จ โส อาคมวโร จาติ สํยุตฺตาคมวโร, ตสฺส. พุทฺธานํ อนุพุทฺธา พุทฺธานุพุทฺธา, พุทฺธานํ สจฺจปฏิเวธํ อนุคมฺม ปฏิวิทฺธสจฺจา อคฺคสาวกาทโย อริยา. เตหิ อตฺถสํวณฺณนาคุณสํวณฺณนานํ วเสน สํวณฺณิตสฺส.
อถ วา พุทฺธา จ อนุพุทฺธา จ พุทฺธานุพุทฺธาติ โยเชตพฺพํ. สมฺมาสมฺพุทฺเธเนว หิ วินยสุตฺตอภิธมฺมานํ ปกิณฺณกเทสนาทิวเสน โย ปมํ อตฺโถ วิภตฺโต, โส เอว ปจฺฉา เตสํ อตฺถวณฺณนาวเสน สงฺคีติกาเรหิ สงฺคหํ อาโรปิโตติ. เอตฺถ จ สํยุตฺตานํ วคฺคา สมูหาติ สํยุตฺตวคฺคา, สคาถาวคฺคาทโย. ตปฺปริยาปนฺนตาย สํยุตฺเตสุ วคฺคา สํยุตฺตวคฺคา, นฬวคฺคาทโย. สํยุตฺตาว วคฺคา สํยุตฺตวคฺคา. ติวิเธปิ เต เอกเสสนเยน คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘สํยุตฺตวคฺคปฏิมณฺฑิตสฺสา’’ติ.
ตตฺถ สคาถาวคฺเค ตาว เอกาทส สํยุตฺตานิ อฏฺตึส วคฺคา. นิทานวคฺเค นว สํยุตฺตานิ เอกูนจตฺตาลีส วคฺคา. ขนฺธวคฺเค เอกาทส สํยุตฺตานิ ¶ เอกูนสฏฺิ วคฺคา. สฬายตนวคฺเค นว สํยุตฺตานิ อฏฺตึส วคฺคา. มหาวคฺเค ทฺวาทส สํยุตฺตานิ อฏฺจตฺตาลีส วคฺคา. อิทเมตฺถ สํยุตฺตนฺตรวคฺคานํ ปริมาณํ.
าณปฺปเภทชนนสฺสาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทขนฺธายตนาทิกถาพหุลตาย คมฺภีราณจริยาวิภาวนโต ปฺาวิภาคสมุปฺปาทกสฺส. อิธ ปน ‘‘ปฺาปฺปเภทชนนสฺสา’’ติ สฺวายมาคโม โถมิโต, สํวณฺณนาสุ จายํ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ ตํตํสํวณฺณนานํ อาทิโต ตสฺส ตสฺส สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส วิเสสคุณกิตฺตเนน โถมนา. ตถา หิ สุมงฺคลวิลาสินีปปฺจสูทนีมโนรถปูรณีอฏฺสาลินีอาทีสุ จ ยถากฺกมํ ‘‘สทฺธาวหคุณสฺส, ปรวาทมถนสฺส, ธมฺมกถิกปุงฺควานํ วิจิตฺตปฏิภานชนนสฺส, ตสฺส คมฺภีราเณหิ โอคาฬฺหสฺส อภิณฺหโส นานานยวิจิตฺตสฺส อภิธมฺมสฺสา’’ติอาทินา โถมนา กตา.
๖. อตฺโถ กถียติ เอตายาติ อตฺถกถา, อตฺถกถาว อฏฺกถา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา ยถา ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ’’ติ. อาทิโตติ อาทิมฺหิ ปมสงฺคีติยํ. ฉฬภิฺตาย ปรเมน จิตฺตวสิภาเวน สมนฺนาคตตฺตา ฌานาทีสุ ปฺจวิธวสิตาสมฺภาวโต จ วสิโน, เถรา มหากสฺสปาทโย ¶ . เตสํ สเตหิ ปฺจหิ. ยาติ ยา อฏฺกถา. สงฺคีตาติ อตฺถํ กเถตุํ ยุตฺตฏฺาเน ‘‘อยํ เอตสฺส อตฺโถ, อยํ เอตสฺส อตฺโถ’’ติ สงฺคเหตฺวา วุตฺตา. อนุสงฺคีตา จ ยสตฺเถราทีหิ ปจฺฉาปิ ทุติยตติยสงฺคีตีสุ. อิมินา อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมนวิสุทฺธึ ทสฺเสติ.
๗. สีหสฺส ลานโต คหณโต สีหโฬ, สีหกุมาโร, ตพฺพํสชาตตาย ตมฺพปณฺณิทีเป ขตฺติยา, เตสํ นิวาสตาย ตมฺพปณฺณิทีปสฺส จ สีหฬภาโว เวทิตพฺโพ. อาภตาติ ชมฺพุทีปโต อานีตา. อถาติ ปจฺฉา. อปรภาเค หิ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสงฺกรตฺถํ สีหฬภาสาย อฏฺกถา ปิตาติ. เตน มูลฏฺกถา สพฺพสาธารณา น โหตีติ อิทํ อตฺถปฺปกาสนํ เอกนฺเตน กรณียนฺติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘ทีปวาสีนมตฺถายา’’ติ. เอตฺถ ทีปวาสีนนฺติ ชมฺพุทีปวาสีนํ, สีหฬทีปวาสีนํ วา อตฺถาย สีหฬภาสาย ปิตาติ โยชนา.
๘. อปเนตฺวาติ ¶ กฺจุกสทิสํ สีหฬภาสํ อปเนตฺวา. ตโตติ อฏฺกถาโต. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. มโนรมํ ภาสนฺติ มาคธภาสํ. สา หิ สภาวนิรุตฺติภูตา ปณฺฑิตมนํ รมยติ. เตเนวาห ‘‘ตนฺตินยานุจฺฉวิก’’นฺติ, ปาฬิคติยา อนุโลมิกํ ปาฬิฉายานุวิธายินินฺติ อตฺโถ. วิคตโทสนฺติ อสภาวนิรุตฺติภาสนฺตรรหิตํ.
๙. สมยํ อวิโลเมนฺโตติ สิทฺธนฺตํ อวิโรเธนฺโต. เอเตน อตฺถโทสาภาวมาห. อวิรุทฺธตฺตา เอว หิ เถรวาทาปิ อิธ ปกาสียิสฺสนฺติ. เถรวํสทีปานนฺติ ถิเรหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถรา, มหากสฺสปาทโย. เตหิ อาคตา อาจริยปรมฺปรา เถรวํโส, ตปฺปริยาปนฺนา หุตฺวา อาคมาธิคมสมฺปนฺนตฺตา ปฺาปชฺโชเตน ตสฺส สมุชฺชลนโต เถรวํสทีปา, มหาวิหารวาสิโน, เตสํ. วิวิเธหิ อากาเรหิ นิจฺฉียตีติ วินิจฺฉโย, คณฺิฏฺาเนสุ ขิลมทฺทนากาเรน ปวตฺตา วิมติจฺเฉทนี กถา. สุฏฺุนิปุโณ สณฺโห วินิจฺฉโย เอเตสนฺติ สุนิปุณวินิจฺฉยา. อถ วา วินิจฺฉิโนตีติ วินิจฺฉโย วุตฺตปฺปการวิสยํ าณํ. สุฏฺุ นิปุโณ เฉโก วินิจฺฉโย เอเตสนฺติ โยเชตพฺพํ. เอเตน มหากสฺสปาทิเถรปรมฺปราคโต, ตโต เอว จ อวิปรีโต สณฺโห สุขุโม มหาวิหารวาสีนํ วินิจฺฉโย, ตสฺส ปมาณภูตตํ ทสฺเสติ.
๑๐. สุชนสฺส จาติ จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน ‘‘น เกวลํ ชมฺพุทีปวาสีนเมว อตฺถาย ¶ , อถ โข สาธุชนโตสนตฺถฺจา’’ติ ทสฺเสติ. เตน จ ‘‘ตมฺพปณฺณิทีปวาสีนมฺปิ อตฺถายา’’ติ อยมตฺโถ สิทฺโธ โหติ อุคฺคหณาทิสุกรตาย เตสมฺปิ พหุการตฺตา. จิรฏฺิตตฺถนฺติ จิรฏฺิติอตฺถํ, จิรกาลปฺปวตฺตนายาติ อตฺโถ. อิทฺหิ อตฺถปฺปกาสนํ อวิปรีตปทพฺยฺชนสุนิกฺเขปสฺส อตฺถสุนยสฺส จ อุปายภาวโต สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปวตฺตติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ิติยา อสมฺโมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทฺเว? สุนิกฺขิตฺตฺจ ปทพฺยฺชนํ อตฺโถ จ สุนีโต’’ติ (อ. นิ. ๒.๒๐).
๑๑-๑๒. ยํ อตฺถวณฺณนํ กตฺตุกาโม, ตสฺสา มหตฺตํ ปริหริตุํ ‘‘สาวตฺถิปภูตีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘น อิธ ภิยฺโย วิตฺถารกถํ ¶ กริสฺสามิ, น ตํ อิธ วิจารยิสฺสามี’’ติ จ. สงฺคีตีนํ ทฺวินฺนนฺติ ทีฆมชฺฌิมนิกายานํ.
๑๓. ‘‘น อิธ ภิยฺโย วิตฺถารกถํ กริสฺสามี’’ติ สามฺโต วุตฺตสฺส อตฺถสฺส อวสฺสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๔. ยํ อฏฺกถํ กตฺตุกาโม, ตเทกเทสภาเวน วิสุทฺธิมคฺโค คเหตพฺโพติ กถิกานํ อุปเทสํ กโรนฺโต ตตฺต วิจาริตธมฺเม อุทฺเทสวเสน ทสฺเสติ ‘‘สีลกถา’’ติอาทินา. ตตฺถ สีลกถาติ จาริตฺตวาริตฺตาทิวเสน สีลสฺส วิตฺถารกถา. ธุตธมฺมาติ ปิณฺฑปาติกงฺคาทโย เตรส กิเลสธุนนกธมฺมา. กมฺมฏฺานานิ สพฺพานีติ ปาฬิยํ อาคตานิ อฏฺตฺตึส, อฏฺกถายํ ทฺเวติ นิรวเสสานิ โยคกมฺมสฺส ภาวนาย ปวตฺติฏฺานานิ. จริยาวิธานสหิโตติ ราคจริยาทีนํ สภาคาทิวิธาเนน สหิโต. ฌานานิ จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ, สมาปตฺติโย จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย. อฏฺปิ วา ปฏิลทฺธมตฺตานิ ฌานานิ, สมาปชฺชนวสิภาวปฺปตฺติยา สมาปตฺติโย. ฌานานิ วา รูปารูปาวจรชฺฌานานิ, สมาปตฺติโย ผลสมาปตฺตินิโรธสมาปตฺติโย.
๑๕. โลกิยโลกุตฺตรเภทา ฉ อภิฺาโย สพฺพา อภิฺาโย. าณวิภงฺคาทีสุ อาคตนเยน เอกวิธาทินา ปฺาย สงฺกเลตฺวา สมฺปิณฺเฑตฺวา นิจฺฉโย ปฺาสงฺกลนนิจฺฉโย.
๑๖. ปจฺจยธมฺมานํ เหตุอาทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ เหตุปจฺจยาทิภาโว ปจฺจยากาโร, ตสฺส เทสนา ปจฺจยาการเทสนา, ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาติ อตฺโถ. สา ปน นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรรหิตตาย สุฏฺุปริสุทฺธา, ฆนวินิพฺโภคสฺส จ สุทุกฺกรตาย นิปุณา สณฺหสุขุมา, เอกตฺตนยาทิสหิตา ¶ จ ตตฺถ วิจาริตาติ อาห ‘‘สุปริสุทฺธนิปุณนยา’’ติ. ปฏิสมฺภิทาทีสุ อาคตนยํ อวิสชฺเชตฺวาว วิจาริตตฺตา อวิมุตฺตตนฺติมคฺคา.
๑๗. อิติ ปน สพฺพนฺติ อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน, ปน-สทฺโท วจนาลงฺกาเร, เอตํ สพฺพนฺติ อตฺโถ. อิธาติ อิมิสฺสา อฏฺกถาย. น ตํ วิจารยิสฺสามิ ปุนรุตฺติภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑๘. อิทานิ ¶ ตสฺเสว อวิจารณสฺส เอกนฺตการณํ นิทฺธาเรนฺโต ‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘มชฺเฌ ตฺวา’’ติ เอเตน มชฺฌฏฺภาวทีปเนน วิเสสโต จตุนฺนํ อาคมานํ สาธารณฏฺกถา วิสุทฺธิมคฺโค, น สุมงฺคลวิลาสินิอาทโย วิย อสาธารณฏฺกถาติ ทสฺเสติ. ‘‘วิเสสโต’’ติ จ อิทํ วินยาภิธมฺมานมฺปิ วิสุทฺธิมคฺโค ยถารหํ อตฺถวณฺณนา โหติ เอวาติ กตฺวา วุตฺตํ.
๑๙. อิจฺเจวาติ อิติ เอว. ตมฺปีติ วิสุทฺธิมคฺคมฺปิ. เอตายาติ สารตฺถปฺปกาสินิยา.
เอตฺถ จ ‘‘สีหฬทีปํ อาภตา’’ติอาทินา อฏฺกถากรณสฺส นิมิตฺตํ ทสฺเสติ, ‘‘ทีปวาสีนมตฺถาย สุชนสฺส จ ตุฏฺตฺถํ จิรฏฺิตตฺถฺจ ธมฺมสฺสา’’ติ เอเตหิ ปโยชนํ, ‘‘สํยุตฺตาคมวรสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน ปิณฺฑตฺถํ, ‘‘อปเนตฺวาน ตโตหํ สีหฬภาส’’นฺติอาทินา ‘‘สาวตฺถิปภูตีน’’นฺติอาทินา ‘‘สีลกถา’’ติอาทินา จ กรณปฺปการํ. เหฏฺิมนิกาเยสุ วิสุทฺธิมคฺเค จ วิจาริตานํ อตฺถานํ อวิจารณมฺปิ หิ อิธ กรณปฺปกาโร เอวาติ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. เทวตาสํยุตฺตํ
๑. นฬวคฺโค
๑. โอฆตรณสุตฺตวณฺณนา
วิภาควนฺตานํ ¶ ¶ สภาววิภาวนํ วิภาคทสฺสนวเสเนว โหตีติ ปมํ ตาว สํยุตฺตวคฺคสุตฺตาทิวเสน สํยุตฺตาคมสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ สํยุตฺตาคโม นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ยํ วุตฺตํ – ‘‘สํยุตฺตาคมวรสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ, ตสฺมึ วจเน. ตตฺถาติ วา ‘‘เอตาย อฏฺกถาย วิชานาถ สํยุตฺตนิสฺสิตํ อตฺถ’’นฺติ เอตฺถ ยํ สํยุตฺตคฺคหณํ กตํ, ตตฺถ. ปฺจ วคฺคา เอตสฺสาติ ปฺจวคฺโค. อวยเวน วิคฺคโห, สมุทาโย สมาสตฺโถ.
อิทานิ ตํ อาทิโต ปฏฺาย สํวณฺเณตุกาโม อตฺตโน สํวณฺณนาย ตสฺส ปมมหาสงฺคีติยํ นิกฺขิตฺตานุกฺกเมเนว ปวตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ตสฺส วคฺเคสุ สคาถาวคฺโค อาที’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา ปฺตฺตตฺตา จ วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ, มหาวิสยตฺตา ปูชนิยตฺตา จ มหตี สงฺคีติ มหาสงฺคีติ. ปมา มหาสงฺคีติ ปมมหาสงฺคีติ, ตสฺสา ปวตฺติตกาโล ปมมหาสงฺคีติกาโล, ตสฺมึ ปมมหาสงฺคีติกาเล.
นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ. โย โลเก คนฺถสฺส อุโปคฺฆาโตติ วุจฺจติ, สฺวายเมตฺถ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ-อาทิโก คนฺโถ เวทิตพฺโพ, น ปน ‘‘สนิทานาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๒๖) วิย อตฺตชฺฌาสยาทิเทสนุปฺปตฺติเหตุ. เตเนวาห – ‘‘เอวํ เม สุตนฺติ-อาทิกํ อายสฺมตา อานนฺเทน ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ นิทานมาที’’ติ. กามฺเจตฺถ ยสฺสํ ปมมหาสงฺคีติยํ นิกฺขิตฺตานุกฺกเมน สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา วิตฺถารโต วตฺตพฺพา, สุมงฺคลวิลาสินิยํ ¶ ปน อตฺตนา วิตฺถาริตตฺตา ตตฺเถว คเหตพฺพาติ อิมิสฺสา สํวณฺณนาย มหตฺตํ ปริหรนฺโต ‘‘สา ปเนสา’’ติอาทิมาห.
๑. เอวํ พาหิรนิทาเน วตฺตพฺพํ อติทิสิตฺวา อิทานิ อพฺภนฺตรนิทานํ อาทิโต ปฏฺาย สํวณฺเณตุํ ‘‘ยํ ปเนต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา สํวณฺณนํ กโรนฺเตน สํวณฺเณตพฺเพ ธมฺเม ปทวิภาคํ ปทตฺถฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ ปิณฺฑตฺถาทิทสฺสนวเสน สํวณฺณนา กาตพฺพา, ตสฺมา ปทานิ ตาว ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘เอวนฺติ นิปาตปท’’นฺติ-อาทิมาห. ตตฺถ ปทวิภาโคติ ปทานํ วิเสโส, น ปทวิคฺคโห. อถ วา ปทานิ จ ปทวิภาโค จ ปทวิภาโค. ปทวิคฺคโห จ ปทวิภาโค จ ปทวิภาโคติ วา เอกเสสวเสน ปทปทวิคฺคหา ปทวิภาคสทฺเทน วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปทวิคฺคโห ‘‘เชตสฺส วนํ เชตวน’’นฺติอาทินา สมาสปเทสุ ทฏฺพฺโพ.
อตฺถโตติ ปทตฺถโต. ตํ ปน ปทตฺถํ อตฺถุทฺธารกฺกเมน ปมํ เอวํสทฺทสฺส ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํสทฺโท ตาวา’’ติอาทิมาห. อวธารณาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิทมตฺถปุจฺฉาปริมาณาทิอตฺถานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ ‘‘เอวํคตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ (ที. นิ. ๑.๑๖๓, ๑๖๕), เอวํวิโธ เอวมากาโร’’ติ จ อาทีสุ อิทํ-สทฺทสฺส อตฺเถ เอวํ-สทฺโท. คต-สทฺโท หิ ปการปริยาโย, ตถา วิธาการ-สทฺโท จ. ตถา หิ คตวิธอาการสทฺเท โลกิยา ปการตฺเถ วทนฺติ. ‘‘เอวํ สุ เต สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กปฺปิตเกสมสฺสู อามุตฺตมาลาภรณา โอทาตวตฺถวสนา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรนฺติ, เสยฺยถาปิ ตฺวํ เอตรหิ สาจริยโกติ. โน หิทํ, โภ โคตมา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘๖) ปุจฺฉายํ, ‘‘เอวํ ลหุปริวตฺตํ (อ. นิ. ๑.๔๘), เอวมายุปริยนฺโต’’ติ (ปารา. ๑๒) จ อาทีสุ ปริมาเณ.
นนุ จ ‘‘เอวํ สุ เต สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา, เอวมายุปริยนฺโต’’ติ เอตฺถ เอวํ-สทฺเทน ปุจฺฉนาการปริมาณาการานํ วุตฺตตฺตา อาการตฺโถ เอว เอวํ-สทฺโทติ? น, วิเสสสพฺภาวโต. อาการมตฺตวาจโก หิ เอวํ-สทฺโท, อาการตฺโถติ อธิปฺเปโต ยถา ‘‘เอวํ พฺยาโข’’ติอาทีสุ, น ปน อาการวิเสสวาจโก. เอวฺจ กตฺวา, ‘‘เอวํ ชาเตน มจฺเจนา’’ติอาทีนิ (ธ. ป. ๕๓) อุปมาทีสุ อุทาหรณานิ อุปปนฺนานิ โหนฺติ. ตถา หิ ‘‘ยถาปิ…เป… พหุ’’นฺติ (ธ. ป. ๕๓)? เอตฺถ ปุปฺผราสิฏฺานิยโต มนุสฺสูปปตฺติสปฺปุริสูปนิสฺสย-สทฺธมฺมสฺสวน- โยนิโสมนสิการ-โภคสมฺปตฺติอาทิทานาทิปฺุกิริยเหตุสมุทายโต โสภาสุคนฺธตาทิคุณโยคโต มาลาคุฬสทิสิโย ปหูตา ปฺุกิริยา มริตพฺพสภาวตาย มจฺเจน สตฺเตน กตฺตพฺพาติ โชติตตฺตา ¶ ปุปฺผราสิมาลาคุฬาว อุปมา, เตสํ อุปมากาโร ยถา-สทฺเทน อนิยมโต วุตฺโตติ ‘‘เอวํ-สทฺโท อุปมาการนิคมนตฺโถ’’ติ ¶ วตฺถุํ ยุตฺตํ, โส ปน อุปมากาโร นิยมิยมาโน อตฺถโต อุปมาว โหตีติ อาห ‘‘อุปมายํ อาคโต’’ติ. ตถา ‘‘เอวํ อิมินา อากาเรน อภิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทินา อุปทิสิยมานาย สมณสารุปฺปาย อากปฺปสมฺปตฺติยา โย ตตฺถ อุปทิสนากาโร, โส อตฺถโต อุปเทโส เอวาติ วุตฺตํ, ‘‘เอวํ เต…เป… อุปเทเส’’ติ. ตถา ‘‘เอวเมตํ ภควา, เอวเมตํ สุคตา’’ติ เอตฺถ จ ภควตา ยถาวุตฺตมตฺถํ อวิปรีตโต ชานนฺเตหิ กตํ ตตฺถ สํวิชฺชมานคุณานํ ปกาเรหิ หํสนํ อุทคฺคตากรณํ สมฺปหํสนํ. โย ตตฺถ สมฺปหํสนากาโรติ โยเชตพฺพํ.
เอวเมวํ ปนายนฺติ เอตฺถ ครหณากาโรติ โยเชตพฺพํ, โส จ ครหณากาโร วสลีติ-อาทิขุํสนสทฺทสนฺนิธานโต อิธ เอวํ-สทฺเทน ปกาสิโตติ วิฺายติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปมาการาทโยปิ อุปมาทิวเสน วุตฺตานํ ปุปฺผราสิอาทิสทฺทานํ สนฺนิธานโตติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ, ภนฺเตติ ปน ธมฺมสฺส สาธุกํ สวนมนสิกาเร สนฺนิโยชิเตหิ ภิกฺขูหิ อตฺตโน ตตฺถ ิตภาวสฺส ปฏิชานนวเสน วุตฺตตฺตา เอตฺถ เอวํ-สทฺโท ‘‘วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺโถ’’ติ วุตฺโต. เตน เอวํ, ภนฺเตติ สาธุ, ภนฺเต, สุฏฺุ, ภนฺเตติ วุตฺตํ โหติ. เอวฺจ วเทหีติ ยถาหํ วทามิ, เอวํ สมณํ อานนฺทํ วเทหีติ โย เอวํ วทนากาโร อิทานิ วตฺตพฺโพ, โส เอวํ-สทฺเทน นิทสฺสียตีติ ‘‘นิทสฺสนตฺโถ’’ติ วุตฺโตติ. เอวํ โนติ เอตฺถาปิ เนสํ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อหิตทุกฺขาวหภาเว สนฺนิฏฺานชนนตฺถํ อนุมติคหณวเสน ‘‘สํวตฺตนฺติ วา โน วา, กถํ โว เอตฺถ โหตี’’ติ ปุจฺฉาย กตาย ‘‘เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ตทาการสนฺนิฏฺานํ เอวํ-สทฺเทน วิภาวิตนฺติ วิฺายติ. โส ปน เตสํ ธมฺมานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนากาโร นิยมิยมาโน อวธารณตฺโถ โหตีติ อาห – ‘‘เอวํ โน เอตฺถ โหตีติอาทีสุ อวธารเณ’’ติ.
นานานยนิปุณนฺติ เอกตฺตนานตฺตอพฺยาปารเอวํธมฺมตาสงฺขาตา, นนฺทิยาวฏฺฏติปุกฺขลสีหวิกฺกีฬิตองฺกุสทิสาโลจนสงฺขาตา วา อาธาราทิเภทวเสน นานาวิธา นยา นานานยา. นยา วา ปาฬิคติโย ตา จ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิวเสน สํกิเลสภาคิยาทิโลกิยาทิตทุภยโวมิสฺสกาทิวเสน กุสลาทิวเสน ขนฺธาทิวเสน สงฺคหาทิวเสน สมยวิมุตฺตาทิวเสน ปนาทิวเสน กุสลมูลาทิวเสน ติกปฺปฏฺานาทิวเสน ¶ จ นานปฺปการาติ นานานยา, เตหิ นิปุณํ สณฺหํ สุขุมนฺติ นานานยนิปุณํ. อาสโยว อชฺฌาสโย, เต จ สสฺสตาทิเภเทน ตตฺถ จ อปฺปรชกฺขตาทิเภเทน อเนเก, อตฺตชฺฌาสยาทโย เอว วา สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติเหตุ เอตสฺสาติ อเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ ¶ . อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนนฺติ อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณํ อุปเนตพฺพาภาวโต, สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉหิ อตฺถปเทหิ อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ จ สมนฺนาคตนฺติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
วิวิธปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ ปาฏิหาริยปทสฺส วจนตฺถํ (อุทา. อฏฺ. ๑; อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; ธ. ส. มูลฏี. ๒) ‘‘ปฏิปกฺขหรณโต ราคาทิกิเลสาปนยนโต ปาฏิหาริย’’นฺติ วทนฺติ. ภควโต ปน ปฏิปกฺขา ราคาทโย น สนฺติ เย หริตพฺพา, ปุถุชฺชนานมฺปิ วิคตูปกฺกิเลเส อฏฺคุณสมนฺนาคเต จิตฺเต หตปฏิปกฺเข อิทฺธิวิธํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ตตฺถ ปวตฺตโวหาเรน จ น สกฺกา อิธ ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วตฺตุํ. สเจ ปน มหาการุณิกสฺส ภควโต เวเนยฺยคตา จ กิเลสา ปฏิปกฺขา, เตสํ หรณโต ‘‘ปาฏิหาริย’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ สติ ยุตฺตเมตํ. อถ วา ภควโต จ สาสนสฺส จ ปฏิปกฺขา ติตฺถิยา, เตสํ หรณโต ปาฏิหาริยํ. เต หิ ทิฏฺิหรณวเสน ทิฏฺิปฺปกาสเน อสมตฺถภาเวน จ อิทฺธิอาเทสนานุสาสนีหิ หริตา อปนีตา โหนฺตีติ. ปฏีติ วา อยํ สทฺโท ‘‘ปจฺฉา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ โพเธติ ‘‘ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๙๘๕; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๔) วิย, ตสฺมา สมาหิเต จิตฺเต วิคตูปกฺกิเลเส กตกิจฺเจน ปจฺฉาหริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, อตฺตโน วา อุปกฺกิเลเสสุ จตุตฺถชฺฌานมคฺเคหิ หริเตสุ ปจฺฉา หรณํ ปฏิหาริยํ, อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิโย จ วิคตูปกฺกิเลเสน กตกิจฺเจน จ สตฺตหิตตฺถํ ปุน ปวตฺเตตพฺพา, หริเตสุ จ อตฺตโน อุปตฺติเลเสสุ ปรสตฺตานํ อุปกฺกิเลสหรณานิ โหนฺตีติ ปฏิหาริยานิ ภวนฺติ, ปฏิหาริยเมว ปาฏิหาริยํ. ปฏิหาริเย วา อิทฺธิอาเทสนานุสาสนิสมุทาเย ภวํ เอเกกํ ปาฏิหาริยนฺติ วุจฺจติ. ปฏิหาริยํ วา จตุตฺถชฺฌานํ มคฺโค จ ปฏิปกฺขหรณโต, ตตฺถ ชาตํ, ตสฺมึ วา นิมิตฺตภูเต, ตโต วา อาคตนฺติ ปาฏิหาริยํ. ตสฺส ปน อิทฺธิอาทิเภเทน วิสยเภเทน จ พหุวิธสฺส ¶ ภควโต เทสนายํ ลพฺภมานตฺตา อาห ‘‘วิวิธปาฏิหาริย’’นฺติ.
น อฺถาติ ภควโต สมฺมุขา สุตาการโต น อฺถาติ อตฺโถ, น ปน ภควโต เทสิตาการโต. อจินฺเตยฺยานุภาวา หิ ภควโต เทสนา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุ’’นฺติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ ภวติ, ธารณพลทสฺสนฺจ น วิรุชฺฌติ สุตาการอวิรชฺฌนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. น เหตฺถ อตฺถนฺตรตาปริหาโร ทฺวินฺนมฺปิ อตฺถานํ เอกวิสยตฺตา. อิตรถา เถโร ภควโต เทสนาย สพฺพถา ปฏิคฺคหเณ สมตฺโถ อสมตฺโถ จาติ อาปชฺเชยฺยาติ.
‘‘โย ¶ ปโร น โหติ, โส อตฺตา’’ติ เอวํ วุตฺตาย นิยกชฺฌตฺตสงฺขาตาย สสนฺตติยา วตฺตนโต ติวิโธปิ เม-สทฺโท กิฺจาปิ เอกสฺมึ เอว อตฺเถ ทิสฺสติ, กรณสมฺปทานสามินิทฺเทสวเสน ปน วิชฺชมานํ เภทํ สนฺธายาห, ‘‘เม-สทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสตี’’ติ.
กิฺจาปิ อุปสคฺโค กิริยํ วิเสเสติ, โชตกภาวโต ปน สติปิ ตสฺมึ สุต-สทฺโท เอว ตํ ตํ อตฺตํ วทตีติ อนุปสคฺคสฺส สุต-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร สอุปสคฺคสฺส คหณํ น วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จา’’ติอาทิมาห. อสฺสาติ สุต-สทฺทสฺส. กมฺมภาวสาธนานิ อิธ สุตสทฺเท สมฺภวนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วา อตฺโถ’’ติ. มยาติ อตฺเถ สตีติ ยทา เม-สทฺทสฺส กตฺตุวเสน กรณนิทฺเทโส, ตทาติ อตฺโถ. มมาติ อตฺเถ สตีติ ยทา สมฺพนฺธวเสน สามินิทฺเทโส, ตทา.
สุต-สทฺทสนฺนิธาเน ปยุตฺเตน เอวํ-สทฺเทน สวนกิริยาโชตเกน ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวนฺติ โสตวิฺาณาทิวิฺาณกิจฺจนิทสฺสน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ ปฺจทฺวาริกวิฺาณานํ ตทภินีหฏานฺจ มโนทฺวาริกวิฺาณานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสมฺปิ วากฺยานํ เอวการตฺถสหิตตฺตา ‘‘สุต’’นฺติ เอตสฺส สุตเมวาติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ. เอเตน อวธารเณน นิราสงฺกตํ ทสฺเสติ. ยถา จ สุตํ สุตเมวาติ นิยเมตพฺพํ, ตํ สมฺมา สุตํ โหตีติ อาห ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. อถ วา สทฺทนฺตรตฺถาโปหนวเสน ¶ สทฺโท อตฺถํ วทตีติ สุตนฺติ อสุตํ น โหตีติ อยเมตสฺส อตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ. อิมินา ทิฏฺาทิวินิวตฺตนํ กโรติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – น อิทํ มยา ทิฏฺํ, น สยมฺภูาเณน สจฺฉิกตํ, อถ โข สุตํ, ตฺจ โข สมฺมเทวาติ. เตเนวาห ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. อวธารณตฺเถ วา เอวํ-สทฺเท อยมตฺถโยชนา กรียตีติ ตทเปกฺขสฺส สุต-สทฺทสฺส อยมตฺโถ วุตฺโต ‘‘อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘อนูนานธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสน’’นฺติ. สวนสทฺโท เจตฺถ กมฺมตฺโถ เวทิตพฺโพ ‘‘สุยฺยตี’’ติ.
เอวํ สวนเหตุสวนวิเสสวเสน ปทตฺตยสฺส เอเกน ปกาเรน อตฺถโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปการนฺตเรหิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺสาติ ยา สา ภควโต สมฺมุขา ¶ ธมฺมสฺสวนากาเรน ปวตฺตา มโนทฺวารวิฺาณวีถิ, ตสฺสา. สา หิ นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺเตตุํ สมตฺถา. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘โสตทฺวารานุสาเรนา’’ติ. นานปฺปกาเรนาติ วกฺขมานานํ อเนกวิหิตานํ พฺยฺชนตฺถคฺคหณานํ นานากาเรน. เอเตน อิมิสฺสา โยชนาย อาการตฺโถ เอวํ-สทฺโท คหิโตติ ทีเปติ. ปวตฺติภาวปฺปกาสนนฺติ ปวตฺติยา อตฺถิตาปกาสนํ. สุตนฺติ ธมฺมปฺปกาสนนฺติ ยสฺมึ อารมฺมเณ วุตฺตปฺปการา วิฺาณวีถิ นานปฺปกาเรน ปวตฺตา, ตสฺส ธมฺมตฺตา วุตฺตํ, น สุต-สทฺทสฺส ธมฺมตฺถตฺตา. วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏีกรณํ ‘‘อยํ เหตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺาณวีถิยาติ กรณตฺเถ กรณวจนํ, มยาติ กตฺตุอตฺเถ.
เอวนฺติ นิทฺทิสิตพฺพปฺปกาสนนฺติ นิทสฺสนตฺถเมวํ สทฺทํ คเหตฺวา วุตฺตํ นิทสฺเสตพฺพสฺส นิทฺทิสิตพฺพตฺตาภาวาภาวโต. เตน เอวํ-สทฺเทน สกลมฺปิ สุตฺตํ ปจฺจามฏฺนฺติ ทสฺเสติ. สุต-สทฺทสฺส กิริยาสทฺทตฺตา สวนกิริยาย จ สาธารณวิฺาณปฺปพนฺธปฏิพทฺธตฺตา ตตฺถ จ ปุคฺคลโวหาโรติ วุตฺตํ ‘‘สุตนฺติ ปุคฺคลกิจฺจปฺปกาสน’’นฺติ. น หิ ปุคฺคลโวหารรหิเต ธมฺมปฺปพนฺเธ สวนกิริยา ลพฺภตีติ.
ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺสาติอาทิปิ อาการตฺถเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา ปุริมโยชนาย อฺถา อตฺถโยชนํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อาการปฺตฺตีติ อุปาทาปฺตฺติ เอว ธมฺมานํ ปวตฺติอาการุปาทานวเสน ตถา ¶ วุตฺตา. สุตนฺติ วิสยนิทฺเทโสติ โสตพฺพภูโต ธมฺโม สวนกิริยากตฺตุปุคฺคลสฺส สวนกิริยาวเสน ปวตฺติฏฺานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. จิตฺตสนฺตานวินิมุตฺตสฺส ปรมตฺถโต กสฺสจิ กตฺตุ อภาเวปิ สทฺทโวหาเรน พุทฺธิปริกปฺปิตเภทวจนิจฺฉาย จิตฺตสนฺตานโต อฺํ วิย ตํสมงฺคึ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสนฺตาเนน ตํสมงฺคีโน’’ติ. สวนกิริยาวิสโยปิ โสตพฺพธมฺโม สวนกิริยาวเสน ปวตฺตจิตฺตสนฺตานสฺส อิธ ปรมตฺถโต กตฺตุภาวโต, สวนวเสน จิตฺตปฺปวตฺติยา เอว วา สวนกิริยาภาวโต ตํกิริยากตฺตุ จ วิสโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํสมงฺคีโน กตฺตุวิสเย’’ติ. สุตาการสฺส จ เถรสฺส สมฺมานิจฺฉิตภาวโต อาห ‘‘คหณสนฺนิฏฺาน’’นฺติ. เอเตน วา อวธารณตฺถํ เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา อยมตฺถโยชนา กตาติ ทฏฺพฺพํ.
ปุพฺเพ สุตานํ นานาวิหิตานํ สุตฺตสงฺขาตานํ อตฺถพฺยฺชนานํ อุปธาริตรูปสฺส อาการสฺส นิทสฺสนสฺส, อวธารณสฺส วา ปกาสนสภาโว เอวํ-สทฺโทติ ตทาการาทิอุปธารณสฺส ปุคฺคลปฺตฺติยา อุปาทานภูตธมฺมปฺปพนฺธพฺยาปารตาย วุตฺตํ ‘‘เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. สวนกิริยา ปน ปุคฺคลวาทิโนปิ วิฺาณนิรเปกฺขา นตฺถีติ วิเสสโต วิฺาณพฺยาปาโรติ อาห ¶ ‘‘สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. เมติ สทฺทปฺปวตฺติยา เอกนฺเตเนว สตฺตวิสยตฺตา วิฺาณกิจฺจสฺส จ ตตฺเถว สโมทหิตพฺพโต ‘‘เมติ อุภยกิจฺจยุตฺตปุคฺคลนิทฺเทโส’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชมานปฺตฺติวิชฺชมานปฺตฺติสภาวา ยถากฺกมํ เอวํ-สทฺทสุต-สทฺทานํ อตฺถาติ เต ตถารูป-ปฺตฺติ-อุปาทานภูต-ธมฺมปฺปพนฺธพฺยาปารภาเวน ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส, สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส’’ติ. เอตฺถ จ กรณกิริยากตฺตุกมฺม-วิเสสปฺปกาสนวเสน ปุคฺคลพฺยาปารวิสย-ปุคฺคลพฺยาปารนิทสฺสนวเสน คหณาการคาหกตพฺพิสยวิเสสนิทฺเทสวเสน กตฺตุกรณพฺยาปาร-กตฺตุนิทฺเทสวเสน จ ทุติยาทโย จตสฺโส อตฺถโยชนา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพสฺสปิ สทฺทาธิคมนียสฺส อตฺถสฺส ปฺตฺติมุเขเนว ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา สพฺพปฺตฺตีนฺจ วิชฺชมานาทิวเสน ฉสุ ปฺตฺติเภเทสุ อนฺโตคธตฺตา เตสุ ‘‘เอว’’นฺติอาทีนํ ปฺตฺตีนํ สรูปํ นิทฺธาเรนฺโต อาห ‘‘เอวนฺติ จ เมติ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอวนฺติ จ เมติ จ วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส อาการาทิโน ¶ ธมฺมานํ อสลกฺขณภาวโต อวิชฺชมานปฺตฺติภาโวติ อาห ‘‘สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. ตตฺถ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสนาติ ภูตตฺถอุตฺตมตฺถวเสน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย มายามรีจิอาทโย วิย อภูตตฺโถ, อนุสฺสวาทีหิ คเหตพฺโพ วิย อนุตฺตมตฺโถ จ น โหติ, โส รูปสทฺทาทิสภาโว, รุปฺปนานุภวนาทิสภาโว วา อตฺโถ สจฺจิกฏฺโ ปรมตฺโถ จาติ วุจฺจติ, น ตถา เอวํ เมติ ปทานํ อตฺโถติ. เอตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘กิฺเหตฺถต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สุตนฺติ ปน สทฺทายตนํ สนฺธายาห ‘‘วิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘ยฺหิ ตํ เอตฺถ โสเตน อุปลทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ. โสตทฺวารานุสาเรน อุปลทฺธนฺติ ปน วุตฺเต อตฺถพฺยฺชนาทิ สพฺพํ ลพฺภตีติ. ตํ ตํ อุปาทาย วตฺตพฺพโตติ โสตปถมาคเต ธมฺเม อุปาทาย เตสํ อุปธาริตาการาทิโน ปจฺจามสนวเสน เอวนฺติ, สสนฺตติปริยาปนฺเน ขนฺเธ อุปาทาย เมติ วตฺตพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ทิฏฺาทิสภาวรหิเต สทฺทายตเน ปวตฺตมาโนปิ สุตโวหาโร ‘‘ทุติยํ ตติย’’นฺติอาทิโก วิย ปมาทีนิ ทิฏฺมุตวิฺาเต อเปกฺขิตฺวา ปวตฺโตติ อาห ‘‘ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺพโต’’ติ. อสุตํ น โหตีติ หิ สุตนฺติ ปกาสิโตยมตฺโถติ.
อตฺตนา ปฏิวิทฺธา สุตฺตสฺส ปการวิเสสา เอวนฺติ เถเรน ปจฺจามฏฺาติ อาห ‘‘อสมฺโมหํ ทีเปตี’’ติ. นานปฺปการปฏิเวธสมตฺโถ โหตีติ เอเตน วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส นานปฺปการตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺจ ทสฺเสติ. สุตสฺส อสมฺโมสํ ทีเปตีติ สุตาการสฺส ยาถาวโต ทสฺสิยมานตฺตา วุตฺตํ. อสมฺโมเหนาติ สมฺโมหาภาเวน, ปฺาย เอว วา สวนกาลสมฺภูตาย ตทุตฺตรกาลปฺาสิทฺธิ ¶ . เอวํ อสมฺโมเสนาติ เอตฺถาปิ วตฺตพฺพํ. พฺยฺชนานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ อากาโร นาติคมฺภีโร ยถาสุตธารณเมว ตตฺถ กรณียนฺติ สติยา พฺยาปาโร อธิโก, ปฺา ตตฺถ คุณีภูตาติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปุพฺพงฺคมายา’’ติอาทิ ปฺาย ปุพฺพงฺคมาติ กตฺวา. ปุพฺพงฺคมตา เจตฺถ ปธานตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทีสุ วิย. ปุพฺพงฺคมตาย วา จกฺขุวิฺาณาทีสุ อาวชฺชนาทีนํ วิย อปฺปธานตฺเต ปฺา ปุพฺพงฺคมา เอติสฺสาติ อยมฺปิ อตฺโถ ยุชฺชติ, เอวํ สติ ปุพฺพงฺคมายาติ เอตฺถาปิ วุตฺตวิปริยาเยน ยถาสมฺภวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺสาติ อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณสฺส ¶ , สงฺกาสน-ปกาสน-วิวรณ-วิภชน-อุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉหิ อตฺถปเทหิ, อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ จ สมนฺนาคตสฺสาติ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
โยนิโส มนสิการํ ทีเปติ เอวํ-สทฺเทน วุจฺจมานานํ อาการนิทสฺสนาวธารณตฺถานํ อวิปรีตสทฺธมฺมวิสยตฺตาติ อธิปฺปาโย. อวิกฺเขปํ ทีเปตีติ ‘‘โอฆตรณสุตฺตํ กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทิปุจฺฉาวเสน ปกรณปฺปวตฺตสฺส วกฺขมานสฺส สุตฺตสฺส สวนํ สมาธานมนฺตเรน น สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺสาติอาทิ ตสฺเสวตฺถสฺส สมตฺถนวเสน วุตฺตํ. สพฺพสมฺปตฺติยาติ อตฺถพฺยฺชนเทสก-ปโยชนาทิสมฺปตฺติยา. อวิปรีตสทฺธมฺมวิสเยหิ วิย อาการนิทสฺสนาวธารณตฺเถหิ โยนิโสมนสิการสฺส, สทฺธมฺมสฺสวเนน วิย จ อวิกฺเขปสฺส ยถา โยนิโสมนสิกาเรน ผลภูเตน อตฺตสมฺมาปณิธิปุพฺเพกตปฺุตานํ สิทฺธิ วุตฺตา ตทวินาภาวโต, เอวํ อวิกฺเขเปเนว ผลภูเตน การณภูตานํ สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยานํ สิทฺธิ ทสฺเสตพฺพา สิยา อสฺสุตวโต สปฺปุริสูปนิสฺสยรหิตสฺส จ ตทภาวโต. ‘‘น หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต’’ติอาทินา สมตฺถนวจเนน ปน อวิกฺเขเปน การณภูเตน สปฺปุริสูปนิสฺสเยน จ ผลภูตสฺส สทฺธมฺมสฺสวนสฺส สิทฺธิ ทสฺสิตา. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา, สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยา น เอกนฺเตน อวิกฺเขปสฺส การณํ พาหิรงฺคตฺตา. อวิกฺเขโป ปน สปฺปุริสูปนิสฺสโย วิย สทฺธมฺมสฺสวนสฺส เอกนฺตการณนฺติ, เอวมฺปิ อวิกฺเขเปน สปฺปุริสูปนิสฺสยสิทฺธิโชตนา น สมตฺถิตาว, โน น สมตฺถิตา วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ สปฺปุริสปยิรูปาสนาภาวสฺส อตฺถสิทฺธิโต. เอตฺถ จ ปุริมํ ผเลน การณสฺส สิทฺธิทสฺสนํ นทีปูเรน วิย อุปริ วุฏฺิสพฺภาวสฺส. ทุติยํ การเณน ผลสฺส สิทฺธิทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ เอกนฺตวสฺสินา วิย เมฆวุฏฺาเนน วุฏฺิปฺปวตฺติยา.
ภควโต วจนสฺส อตฺถพฺยฺชนปเภท-ปริจฺเฉทวเสน สกลสาสนสมฺปตฺติ-โอคาหนากาโร นิรวเสสปรหิต-ปาริปูริการณนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ภทฺทโก อากาโร’’ติ. ยสฺมา น โหตีติ สมฺพนฺโธ ¶ . ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺตินฺติ อตฺตสมฺมาปณิธิ-ปุพฺเพกตปฺุตา-สงฺขาตํ คุณทฺวยํ. อปราปรวุตฺติยา เจตฺถ จกฺกภาโว, จรนฺติ เอเตหิ สตฺตา, สมฺปตฺติภเวสูติ วา ¶ . เย สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๔.๓๑). ปุริมปจฺฉิมภาโว เจตฺถ เทสนกฺกมวเสน ทฏฺพฺโพ. ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสิทฺธิยาติ ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสฺส จ อตฺถิตาย. สมฺมาปณิหิตตฺโต ปุพฺเพ จ กตปฺุโ สุทฺธาสโย โหติ ตทสุทฺธิเหตูนํ กิเลสานํ ทูรีภาวโตติ อาห ‘‘อาสยสุทฺธิ สิทฺธา โหตี’’ติ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ, เสยฺยโส นํ ตโต กเร’’ติ (ธ. ป. ๔๓) ‘‘กตปฺุโสิ, ตฺวํ อานนฺท, ปธานมนุยฺุช, ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐๗) จ. เตเนวาห ‘‘อาสยสุทฺธิยา อธิคมพฺยตฺติสิทฺธี’’ติ. ปโยคสุทฺธิยาติ โยนิโสมนสิการปุพฺพงฺคมสฺส ธมฺมสฺสวนปโยคสฺส วิสทภาเวน. ตถา จาห ‘‘อาคมพฺยตฺติสิทฺธี’’ติ, สพฺพสฺส วา กายวจีปโยคสฺส นิทฺโทสภาเวน. ปริสุทฺธกายวจีปโยโค หิ วิปฺปฏิสาราภาวโต อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ปริยตฺติยํ วิสารโท โหตีติ.
นานปฺปการปฏิเวธทีปเกนาติอาทินา อตฺถพฺยฺชเนสุ เถรสฺส เอวํ-สทฺทสุต-สทฺทานํ อสมฺโมหาสมฺโมสทีปนโต จตุปฏิสมฺภิทาวเสน อตฺถโยชนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ โสตพฺพเภทปฏิเวธทีปเกนาติ เอเตน อยํ สุต-สทฺโท เอวํ-สทฺทสนฺนิธานโต, วกฺขมานาเปกฺขาย วา สามฺเเนว โสตพฺพธมฺมวิเสสํ อามสตีติ ทีเปติ. มโนทิฏฺีหิ ปริยตฺติธมฺมานํ อนุเปกฺขนสุปฺปฏิเวธา วิเสสโต มนสิการปฏิพทฺธาติ เต วุตฺตนเยน โยนิโสมนสิการทีปเกน เอวํ สทฺเทน โยเชตฺวา, สวนธารณวจีปริจยา ปริยตฺติธมฺมานํ วิเสเสน โสตาวธานปฏิพทฺธาติ เต วุตฺตนเยน อวิกฺเขปทีปเกน สุต-สทฺเทน โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต สาสนสมฺปตฺติยา ธมฺมสฺสวเน อุสฺสาหํ ชเนติ. ตตฺถ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา. มนสา อนุเปกฺขิตาติ ‘‘อิธ สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา, เอตฺตกา เอตฺถ อนุสนฺธิโย’’ติอาทินา นเยน มนสา อนุเปกฺขิตา. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ นิชฺฌานกฺขนฺติ ภูตาย, าตปริฺาสงฺขาตาย วา ทิฏฺิยา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตรูปารูปธมฺเม ‘‘อิติ รูปํ, เอตฺตกํ รูป’’นฺติอาทินา สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา ปฏิวิทฺธา.
สกเลน วจเนนาติ ปุพฺเพ ตีหิ ปเทหิ วิสุํ วิสุํ โยชิตตฺตา วุตฺตํ. อตฺตโน อทหนฺโตติ ‘‘มเมท’’นฺติ อตฺตนิ อฏฺเปนฺโต. ภุมฺมตฺเถ เจตํ ¶ สามิวจนํ. อสปฺปุริสภูมินฺติ อกตฺุตํ. ‘‘อิเธกจฺโจ ปาปภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ ปริยาปุณิตฺวา อตฺตโน ทหตี’’ติ (ปารา. ๑๙๕) เอวํ วุตฺตํ อนริยโวหาราวตฺถํ, สา เอว อนริยโวหาราวตฺถา อสทฺธมฺโม ¶ . นนุ จ อานนฺทตฺเถรสฺส ‘‘มเมทํ วจน’’นฺติ อธิมานสฺส, มหากสฺสปตฺเถราทีนฺจ ตทาสงฺกาย อภาวโต อสปฺปุริสภูมิ-สมติกฺกมาทิวจนํ นิรตฺถกนฺติ? นยิทเมวํ. ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ วทนฺเตน อยมฺปิ อตฺโถ วิภาวิโตติ ทสฺสนโต. เกจิ ปน ‘‘เทวตานํ ปริวิตกฺกาเปกฺขํ ตถาวจนนฺติ เอทิสี โจทนา อนวกาสา’’ติ วทนฺติ. ตสฺมึ กิร ขเณ เอกจฺจานํ เทวตานํ เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘ภควา จ ปรินิพฺพุโต, อยฺจ อายสฺมา เทสนากุสโล อิทานิ ธมฺมํ เทเสติ, สกฺยกุลปฺปสุโต ตถาคตสฺส ภาตา จูฬปิตุปุตฺโต. กึ นุ โข สยํ สจฺฉิกตํ ธมฺมํ เทเสติ? อุทาหุ ภควโต เอว วจนํ ยถาสุต’’นฺติ, เอวํ ตทาสงฺกิตปฺปการโต อสปฺปุริสภูมิสโมกฺกมาทิโต อติกฺกมาทิ วิภาวิตนฺติ. อปฺเปตีติ นิทสฺเสติ. ทิฏฺธมฺมิก-สมฺปรายิก-ปรมตฺเถสุ ยถารหํ สตฺเต เนตีติ เนตฺติ, ธมฺโม เอว เนตฺติ ธมฺมเนตฺติ.
ทฬฺหตรนิวิฏฺา วิจิกิจฺฉา กงฺขา, นาติสํสปฺปนา มติเภทมตฺตา วิมติ. อสฺสทฺธิยํ วินาเสตีติ ภควตา ภาสิตตฺตา สมฺมุขาวสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา ขลิตทุรุตฺตาทิคหณโทสาภาวโต จ. เอตฺถ จ ปมาทโย ติสฺโส อตฺถโยชนา อาการาทิอตฺเถสุ อคฺคหิตวิเสสเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา ทสฺสิตา, ตโต ปรา จตสฺโส อาการตฺถเมว เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา วิภาวิตา. ปจฺฉิมา ปน ติสฺโส ยถากฺกมํ อาการตฺถํ นิทสฺสนตฺถํ อวธารณตฺถฺจ เอวํ-สทฺทํ คเหตฺวา โยชิตาติ ทฏฺพฺพํ.
เอก-สทฺโท อฺเสฏฺอสหายสงฺขยาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๗) อฺตฺเถ ทิสฺสติ. ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๒๘; ปารา. ๑๑) เสฏฺเ, ‘‘เอโก วูปกฏฺโ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๐๕) อสหาเย, ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๙) สงฺขยายํ. อิธาปิ สงฺขยายนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอกนฺติ ¶ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส’’ติ. กาลฺจ สมยฺจาติ ยุตฺตกาลฺจ ปจฺจยสามคฺคิฺจ. ขโณติ โอกาโส. ตถาคตุปฺปาทาทิโก หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส ตปฺปจฺจยสฺส ปฏิลาภเหตุตฺตา. ขโณ เอว จ สมโย, โย ขโณติ จ สมโยติ จ วุจฺจติ, โส เอโก เอวาติ หิ อตฺโถ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. สมโยปิ โขติ สิกฺขาปทปูรณสฺส เหตุปิ. สมยปฺปวาทเกติ ทิฏฺิปฺปวาทเก. ตตฺถ หิ นิสินฺนา ติตฺถิยา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ปวทนฺติ. อตฺถาภิสมยาติ หิตปฏิลาภา. อภิสเมตพฺโพติ อภิสมโย, อภิสมโย อตฺโถ อภิสมยตฺโถติ ปีฬนาทีนิ อภิสเมตพฺพภาเวน เอกีภาวํ อุปเนตฺวา ¶ วุตฺตานิ. อภิสมยสฺส วา ปฏิเวธสฺส วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยตฺโถติ ตาเนว ตถา เอกตฺเตน วุตฺตานิ. ตตฺถ ปีฬนํ ทุกฺขสจฺจสฺส ตํสมงฺคิโน หึสนํ อวิปฺผาริกตากรณํ, สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ ปริทหนํ.
ตตฺถ สหการิการณํ สนฺนิชฺฌํ สเมติ สมเวตีติ สมโย, สมวาโย. สเมติ สมาคจฺฉติ เอตฺถ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตทาธารปุคฺคเลหีติ สมโย, ขโณ. สเมติ เอตฺถ, เอเตน วา สํคจฺฉติ สตฺโต, สภาวธมฺโม วา สหชาตาทีหิ, อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ กรณํ วิย จ ปริกปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียตีติ. สมํ, สห วา อวยวานํ อยนํ ปวตฺติ อวฏฺานนฺติ สมโย, สมูโห ยถา ‘‘สมุทาโย’’ติ. อวยวสหาวฏฺานเมว หิ สมูโหติ. อวเสสปจฺจยานํ สมาคเม เอติ ผลํ เอตสฺมา อุปฺปชฺชติ ปวตฺตติ จาติ สมโย, เหตุ ยถา ‘‘สมุทโย’’ติ. สเมติ สํโยชนภาวโต สมฺพนฺโธ เอติ อตฺตโน วิสเย ปวตฺตติ, ทฬฺหคฺคหณภาวโต วา สํยุตฺตา อยนฺติ ปวตฺตนฺติ สตฺตา ยถาภินิเวสํ เอเตนาติ สมโย, ทิฏฺิ. ทิฏฺิสํโยชเนน หิ สตฺตา อติวิย พชฺฌนฺตีติ. สมิติ สํคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมสฺส นิโรธสฺส ยานํ, สมฺมา วา ยานํ อปคโม อปวตฺติ สมโย, ปหานํ. อภิมุขํ าเณน สมฺมา เอตพฺโพ อธิคนฺตพฺโพติ อภิสมโย, ธมฺมานํ อวิปรีโต สภาโว. อภิมุขภาเวน สมฺมา เอติ คจฺฉติ พุชฺฌตีติ อภิสมโย, ธมฺมานํ อวิปรีตสภาวาวโพโธ ¶ . เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมยสทฺทปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร อภิสมยสทฺทสฺส อุทาหรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อสฺสาติ สมยสทฺทสฺส. กาโล อตฺโถ สมวายาทีนํ อตฺถานํ อิธ อสมฺภวโต เทสเทสกปริสานํ วิย สุตฺตสฺส นิทานภาเวน กาลสฺส อปทิสิตพฺพโต จ.
กสฺมา ปเนตฺถ อนิยมิตวเสเนว กาโล นิทฺทิฏฺโ? น อุตุสํวจฺฉราทิวเสน นิยมิโตติ อาห ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. อุตุสํวจฺฉราทิวเสน นิยมํ อกตฺวา สมยสทฺทสฺส วจเน อยมฺปิ คุโณ ลทฺโธ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย วา อิเม’’ติอาทิมาห. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย เทวสิกํ ฌานผลสมาปตฺตีหิ วีตินามนกาโล, วิเสสโต สตฺตสตฺตาหานิ. สุปฺปกาสาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุปกมฺปน-โอภาสปาตุภาวาทีหิ ปากฏา. ยถาวุตฺตปฺปเภเทสุ เอว สมเยสุ เอกเทสํ ปการนฺตเรหิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โย จาย’’นฺติอาทิมาห. ตถา หิ าณกิจฺจสมโย, อตฺตหิตปฏิปตฺติสมโย ¶ จ อภิสมฺโพธิสมโย, อริยตุณฺหีภาวสมโย, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย, กรุณากิจฺจปรหิตปฏิปตฺติธมฺมีกถาสมยา, เทสนาสมโย เอว.
กรณวจเนน นิทฺเทโส กโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ อภิธมฺมตทฺสุตฺตปทวินเยสุ. ตถาติ ภุมฺมกรเณหิ. อธิกรณตฺโถ อาธารตฺโถ. ภาโว นาม กิริยา, ตาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ. ตตฺถ ยถา กาโล สภาวธมฺมปริจฺฉินฺโน สยํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ อาธารภาเวน ปฺาโต ตงฺขณปฺปวตฺตานํ ตโต ปุพฺเพ ปรโต จ อภาวโต ‘‘ปุพฺพณฺเห ชาโต, สายนฺเห คจฺฉตี’’ติ จ อาทีสุ, สมูโห จ อวยววินิมุตฺโต วิสุํ อวิชฺชมาโนปิ กปฺปนามตฺตสิทฺโธ อวยวานํ อาธารภาเวน ปฺาปียติ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา, ยวราสิยํ สมฺภูโต’’ติอาทีสุ, เอวํ อิธาปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อธิกรณฺหิ…เป… ธมฺมาน’’นฺติ. ยสฺมึ กาเล, ธมฺมปฺุเช วา กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึ เอว กาเล ธมฺมปฺุเช จ ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ อยํ หิ ตตฺถ อตฺโถ. ยถา จ ‘‘คาวีสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโต’’ติ โทหนกิริยาย คมนกิริยา ลกฺขียติ, เอวํ อิธาปิ ยสฺมึ สมเย, ตสฺมึ สมเยติ จ วุตฺเต ¶ ‘‘สตี’’ติ อยมตฺโถ วิฺายมาโน เอว โหติ ปทตฺถสฺส สตฺตาวิรหาภาวโตติ สมยสฺส สตฺตากิริยาย จิตฺตสฺส อุปฺปาทกิริยา ผสฺสาทิภวนกิริยา จ ลกฺขียติ. ยสฺมึ สมเยติ ยสฺมึ นวเม ขเณ, ยสฺมึ โยนิโสมนสิการาทิเหตุมฺหิ, ปจฺจยสมวาเย วา สติ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว ขเณ, เหตุมฺหิ, ปจฺจยสมวาเย วา ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ อุภยตฺถ สมยสทฺเท ภุมฺมนิทฺเทโส กโต ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ขณ…เป… ลกฺขียตี’’ติ.
เหตุอตฺโถ กรณตฺโถ จ สมฺภวติ ‘‘อนฺเนน วสติ, วิชฺชาย วสติ, ผรสุนา ฉินฺทติ, กุทาเลน ขณตี’’ติอาทีสุ วิย. วีติกฺกมฺหิ สุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา โอติณฺณวตฺถุกํ ปุคฺคลํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ตํ ตํ วตฺถุโอติณฺณกาลํ อนติกฺกมิตฺวา เตเนว กาเลน สิกฺขาปทานิ ปฺเปนฺโต ภควา วิหรติ สิกฺขาปทปฺตฺติเหตฺุจ อเปกฺขมาโน ตติยปาราชิกาทีสุ วิย.
อจฺจนฺตเมว อารมฺภโต ปฏฺาย ยาว เทสนานิฏฺานํ. ปรหิตปฏิปตฺติสงฺขาเตน กรุณาวิหาเรน. ตทตฺถโชตนตฺถนฺติ อจฺจนฺตสํโยคตฺถโชตนตฺถํ. อุปโยคนิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘มาสํ สชฺฌายตี’’ติ ¶ . โปราณาติ อฏฺกถาจริยา. อภิลาปมตฺตเภโทติ วจนมตฺเตน วิเสโส. เตน สุตฺตวินเยสุ วิภตฺติพฺยตฺตโย กโตติ ทสฺเสติ.
เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ ‘‘เสฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ เสฏฺคุณสหจรณโต, ตถา ‘‘อุตฺตม’’นฺติ เอตฺถาปิ. คารวยุตฺโตติ ครุภาวยุตฺโต ครุคุณโยคโต, ครุกรณารหตาย วา คารวยุตฺโต. วุตฺโตเยว, น ปน อิธ วตฺตพฺโพ วิสุทฺธิมคฺคสฺส อิมิสฺสา อฏฺกถาย เอกเทสภาวโตติ อธิปฺปาโย.
อปโร นโย (อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔) – ภาควาติ ภควา, ภตวาติ ภควา, ภาเค วนีติ ภควา, ภเค วนีติ ภควา, ภตฺตวาติ ภควา, ภเค วมีติ ภควา, ภาเค วมีติ ภควา.
‘‘ภาควา ¶ ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;
ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’.
ตตฺถ กถํ ภาควาติ ภควา? เย เต สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา, เต อนฺสาธารณา นิรติสยา ตถาคเต อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถา หิสฺส สีลํ สมาธิ ปฺา วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ, หิรี โอตฺตปฺปํ, สทฺธา วีริยํ, สติ สมฺปชฺํ, สีลวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ, สมโถ วิปสฺสนา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ สุจริตานิ, ตโย สมฺมาวิตกฺกา, ติสฺโส อนวชฺชสฺา, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ อริยผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณานิ, จตฺตาโร อริยวํสา, จตฺตาริ เวสารชฺชาณานิ, ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนาณานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนียา สฺา, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารวา, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ฉ สตตวิหารา, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉ นิพฺเพธภาคิยา สฺา, ฉ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา, สตฺต อริยธมฺมา, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, สตฺต สปฺปุริสธมฺมา, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต สฺา, สตฺตทกฺขิเณยฺยปุคฺคลเทสนา, สตฺตขีณาสวพลเทสนา, อฏฺปฺาปฏิลาภเหตุเทสนา อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อฏฺโลกธมฺมาติกฺกโม, อฏฺ ¶ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺอกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา, อฏฺอภิภายตนเทสนา, อฏฺ วิโมกฺขา, นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นวสตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฏิวินยา, นว สฺา, นวนานตฺตา, นว อนุปุพฺพวิหารา, ทส นาถกรณา ธมฺมา, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาสา, ทส อเสกฺขธมฺมา, ทส ตถาคตพลานิ, เอกาทส เมตฺตานิสํสา, ทฺวาทส ธมฺมาจกฺกาการา, เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา, โสฬสวิธา อานาปานสฺสติ, โสฬส อปรนฺตปนียา ธมฺมา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปฺาส อุทยพฺพยาณานิ, ปโรปฺาส กุสลา ธมฺมา, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณํ ¶ , อนนฺตนยสมนฺตปฏฺาน-ปวิจย-ปจฺจเวกฺขณเทสนาาณานิ, ตถา อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตานํ สตฺตานํ อาสยาทิวิภาวนาณานิ จาติ เอวมาทโย อนนฺตาปริมาณเภทา อนฺสาธารณา นิรติสยา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตวิภาคา คุณภาคา อสฺส อตฺถีติ ‘‘ภาควา’’ติ วตฺตพฺเพ อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต. เอวํ ตาว ภาควาติ ภควา.
‘‘ยสฺมา สีลาทโย สพฺเพ, คุณภาคา อเสสโต;
วิชฺชนฺติ สุคเต ตสฺมา, ภควาติ ปวุจฺจติ’’.
กถํ ภตวาติ ภควา? เย เต สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺเนหิ มนุสฺสตฺตาทิเก อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา สมฺมาสมฺโพธิยา กตมหาภินีหาเรหิ มหาโพธิสตฺเตหิ ปริปูริตพฺพา ทานปารมี, สีล, เนกฺขมฺม, ปฺา, วีริย, ขนฺติ, สจฺจ, อธิฏฺาน, เมตฺตา, อุเปกฺขาปารมีติ ทส ปารมิโย, ทส อุปปารมิโย, ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ปารมิโย, ทานาทีนิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, สจฺจาทีนิ จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, องฺคปริจฺจาโค, ชีวิต, รชฺช, ปุตฺต, ทารปริจฺจาโคติ ปฺจ มหาปริจฺจาคา, ปุพฺพโยโค, ปุพฺพจริยา, ธมฺมกฺขานํ, าตตฺถจริยา, โลกตฺถจริยา, พุทฺธิจริยาติ เอวมาทโย, สงฺเขปโต วา สพฺเพ ปฺุาณสมฺภารา พุทฺธกรธมฺมา, เต มหาภินีหารโต ปฏฺาย กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ยถา หานภาคิยา สํกิเลสภาคิยา ิติภาคิยา วา น โหนฺติ, อถ โข อุตฺตรุตฺตริ วิเสสภาคิยาว โหนฺติ, เอวํ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ อนวเสสโต ภตา สมฺภตา อสฺส อตฺถีติ ‘‘ภตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต นิรุตฺตินเยน ต-การสฺส ค-การํ กตฺวา ¶ . อถ วา ภตวาติ เตเยว ยถาวุตฺเต พุทฺธกรธมฺเม วุตฺตนเยเนว ภริ, สมฺภริ, ปริปูเรสีติ อตฺโถ. เอวมฺปิ ภตวาติ ภควา.
‘‘สมฺมาสมฺโพธิยา สพฺเพ, ทานปารมิอาทิเก;
สมฺภาเร ภตวา นาโถ, ตสฺมาปิ ภควา มโต’’.
กถํ ภาเค วนีติ ภควา? เย เต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺติภาคา, เต อนวเสสโต โลกหิตตฺถํ ¶ อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ นิจฺจกปฺปํ วนิ, ภชิ, เสวิ, พหุลมกาสีติ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา อภิฺเยฺยธมฺเมสุ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ จ เย เต ปริฺเยฺยาทิวเสน สงฺเขปโต วา จตุพฺพิธา อภิสมยภาคา, วิตฺถารโต ปน ‘‘จกฺขุ ปริฺเยฺยํ โสตํ…เป… ชรามรณํ ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑) อเนเก ปริฺเยฺยภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ…เป… ชรามรณสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ’’ติอาทินา ปหาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรโธ…เป… ชรามรณสฺส นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติอาทินา สจฺฉิกาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุนิโรธคามินีปฏิปทา’’ติอาทินา, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา จ อเนกเภทา ภาเวตพฺพภาคา จ ธมฺมา, เต สพฺเพ วนิ, ภชิ, ยถารหํ โคจรภาวนาเสวนานํ วเสน เสวิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา ‘‘เย อิเม สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา สาวเกหิ สาธารณา คุณโกฏฺาสา คุณภาคา, กินฺติ นุ โข เต วิเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺเปยฺย’’นฺติ มหากรุณาย วนิ อภิปตฺถยิ, สา จสฺส อภิปตฺถนา ยถาธิปฺเปตผลาวหา อโหสิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา.
‘‘ยสฺมา เยฺยสมาปตฺติ-คุณภาเค ตถาคโต;
ภชิ ปตฺถยิ สตฺตานํ, หิตาย ภควา ตโต’’.
กถํ ภเค วนีติ ภควา? สมาสโต ตาว กตปฺุเหิ ปโยคสมฺปนฺเนหิ ยถาวิภวํ ภชียนฺตีติ ภคา, โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติโย. ตตฺถ โลกิเย ตาว ตถาคโต สมฺมาสมฺโพธิโต ปุพฺเพ โพธิสตฺตภูโต ปรมุกฺกํสคเต, วนิ, ภชิ, เสวิ, ยตฺถ ปติฏฺาย นิรวเสสโต พุทฺธกรธมฺเม สมนฺนาเนนฺโต พุทฺธธมฺเม ปริปาเจสิ, พุทฺธภูโต ปน เต นิรวชฺเชสุ อุปสํหิเต อนฺสาธารเณ โลกุตฺตเรปิ, วนิ, ภชิ, เสวิ, วิตฺถารโต ปน ปเทสรชฺช-อิสฺสริยจกฺกวตฺติสมฺปตฺติ-เทวรชฺชสมฺปตฺติอาทิวเสน ฌาน-วิโมกฺข-สมาธิสมาปตฺติ-าณทสฺสน-มคฺคภาวนา-ผลสจฺฉิ-กิริยาทิ-อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน ¶ จ อเนกวิหิเต อนฺสาธารเณ, ภเค, วนิ, ภชิ, เสวิ. เอวมฺปิ ภเค วนีติ ภควา.
‘‘ยา ¶ ตา สมฺปตฺติโย โลเก, ยา จ โลกุตฺตรา ปุถุ;
สพฺพา ตา ภชิ สมฺพุทฺโธ, ตสฺมาปิ ภควา มโต’’.
กถํ สตฺตวาติ ภควา? ภตฺตา ทฬฺหภตฺติกา อสฺส พหู อตฺถีติ ภตฺตวา. ตถาคโต หิ มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิ-อปริมิตนิรุปมปฺปภาว-คุณวิเสสสมงฺคิภาวโต สพฺพสตฺตุตฺตโม, สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติ อนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทิ อนฺสาธารณวิเสสปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ยถาภุจฺจคุณาธิคเตน ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน โลกตฺตยพฺยาปินา สุวิปุเลน สุวิสุทฺเธน จ ถุติโฆเสน สมนฺนาคตตฺตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตาสุ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิอาทีสุ สุปฺปติฏฺิตภาวโต ทสพลจตุเวสารชฺชาทิ-นิรติสยคุณวิเสส-สมงฺคีภาวโต จ รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน, ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ เอวํ จตุปฺปมาณิเก โลกสนฺนิวาเส สพฺพถาปิ ปสาทาวหภาเวน สมนฺตปาสาทิกตฺตา อปริมาณานํ สตฺตานํ สเทวมนุสฺสานํ อาทรพหุมานคารวายตนตาย ปรมเปมสมฺภตฺติฏฺานํ. เย ตสฺส โอวาเท ปติฏฺิตา อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา โหนฺติ, เกนจิ อสํหาริยา เตสํ ปสาทภตฺติ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา. ตถา หิ เต อตฺตโน ชีวิตปริจฺจาเคปิ ตตฺถ ปสาทํ น ปริจฺจชนฺติ, ตสฺส วา อาณํ ทฬฺหภตฺติภาวโต.
เตเนวาห –
‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร;
กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕) จ. –
เอวํ ¶ ¶ ภตฺตวาติ ภควา นิรุตฺตินเยน เอกสฺส ต-การสฺส โลปํ กตฺวา อิตรสฺส ค-การํ กตฺวา.
‘‘คุณาติสยยุตฺตสฺส, ยสฺมา โลกหิเตสิโน;
สมฺภตฺตา พหโว สตฺถุ, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
กถํ ภเค วมีติ ภควา? ยสฺมา ตถาคโต โพธิสตฺตภูโตปิ อปริมาณาสุ ชาตีสุ ปารมิโย ปริปูเรนฺโต ภคสงฺขาตํ สิรึ อิสฺสริยํ ยสฺจ วมิ อุคฺคิริ, เขฬปิณฺฑํ วิย อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ, จริมตฺตภาเวปิ หตฺถคตํ จกฺกวตฺติสิรึ เทวโลกาธิปจฺจสทิสํ จตุทีปิสฺสริยํ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยํ สตฺตรตนสมุชฺชลํ ยสฺจ ติณายปิ อมฺมาโน นิรเปกฺโข ปหาย อภินิกฺขมิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา อิเม สิรีอาทิเก ภเค วมีติ ภควา. อถ วา ภานิ นาม นกฺขตฺตานิ, เตหิ สมํ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ภคา, สิเนรุยุคนฺธรอุตฺตรกุรุหิมวนฺตาทิภาชนโลกวิเสสสนฺนิสฺสยา โสภา กปฺปฏฺิยภาวโต, เตปิ ภควา วมิ ตนฺนิวาสิสตฺตาวาสสมติกฺกมโต ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหีติ. เอวมฺปิ ภเค วมีติ ภควา.
‘‘จกฺกวตฺติสิรึ ยสฺมา, ยสํ อิสฺสริยํ สุขํ;
ปหาสิ โลกจิตฺตฺจ, สุคโต ภควา ตโต’’.
กถํ ภาเค วมีติ ภควา? ภาคา นาม สภาคธมฺมโกฏฺาสา, เต ขนฺธายตนธาตาทิวเสน, ตตฺถาปิ รูปเวทนาทิวเสน ปถวิยาทิวเสน อตีตาทิวเสน จ อเนกวิธา, เต จ ภควา สพฺพํ ปปฺจํ สพฺพํ โยคํ สพฺพํ คนฺถํ สพฺพํ สํโยชนํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา อมตธาตุํ สมธิคจฺฉนฺโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ น ปจฺจาวมิ. ตถา เหส ‘‘สพฺพตฺถกเมว ปถวึ อาปํ เตชํ วายํ, จกฺขุํ โสตํ ฆานํ ชิวฺหํ กายํ มนํ, รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ สฺํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เจตนํ, รูปตณฺหํ…เป… ธมฺมตณฺหํ, รูปวิตกฺกํ…เป… ธมฺมวิตกฺกํ, รูปวิจารํ…เป… ธมฺมวิจาร’’นฺติอาทินา อนุปทธมฺมวิภาควเสนปิ สพฺเพว ธมฺมโกฏฺาเส อนวเสสโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺขปริจฺจาเคน ฉฑฺฑยิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ ¶ ตํ, อานนฺท, จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ, ตํ ตถาคโต ปุน ปจฺจาวมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๓). เอวมฺปิ ¶ ภาเค วมีติ ภควา. อถ วา ภาเค วมีติ สพฺเพปิ กุสลากุสเล สาวชฺชานวชฺเช หีนปณีเต กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม อริยมคฺคาณมุเขน วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺโข ปริจฺจชิ ปชหิ, ปเรสฺจ ตถตฺตาย ธมฺมํ เทเสสิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพา, ปเคว อธมฺมา (ม. นิ. ๑.๒๔๐). กุลฺลูปมํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ นิตฺถรณตฺถาย, โน คหณตฺถายา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๔๐). เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา.
‘‘ขนฺธายตนธาตาทิ-ธมฺมภาคา-มเหสินา;
กณฺหสุกฺกา ยโต วนฺตา, ตโตปิ ภควา มโต’’.
เตน วุตฺตํ –
‘‘ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;
ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’ติ.
ธมฺมสรีรํ ปจฺจกฺขํ กโรตีติ ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ วจนโต ธมฺมสฺส สตฺถุภาวปริยาโย วิชฺชตีติ กตฺวา วุตฺตํ. วชิรสงฺฆาตสมานกาโย ปเรหิ อเภชฺชสรีรตฺตา. น หิ ภควโต รูปกาเย เกนจิ สกฺกา อนฺตรายํ กาตุนฺติ. เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ วกฺขมานสฺส สกลสฺส สุตฺตสฺส ‘‘เอว’’นฺติ นิทสฺสนโต. สาวกสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตน ปฺจสุ าเนสุ ภควตา เอตทคฺเค ปิเตน มยา มหาสาวเกน สุตํ, ตฺจ โข มยาว สุตํ, น อนุสฺสุตํ น ปรํปราภตนฺติ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนโต. กาลสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ ภควาสทฺทสนฺนิธาเน ปยุตฺตสฺส สมยสทฺทสฺส พุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตภาวทีปนโต. พุทฺธุปฺปาทปรมา หิ กาลสมฺปทา. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘กปฺปกสาเย กลิยุเค, พุทฺธุปฺปาโท อโห มหจฺฉริยํ;
หุตาวหมชฺเฌ ชาตํ, สมุทิตมกรนฺทมรวินฺท’’นฺติ.
ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมภาวทีปนโต ครุคารวาธิวจนภาวโต.
อวิเสเสนาติ ¶ ¶ น วิเสเสน, วิหารภาวสามฺเนาติ อตฺโถ. อิริยาปถ…เป… วิหาเรสูติ อิริยาปถวิหาโร, ทิพฺพวิหาโร, พฺรหฺมวิหาโร, อริยวิหาโรติ เอเตสุ จตูสุ วิหาเรสุ. สมงฺคีปริทีปนนฺติ สมงฺคีภาวปริทีปนํ. เอตนฺติ ‘‘วิหรตี’’ติ เอตํ ปทํ. ตถา หิ ตํ ‘‘อิเธกจฺโจ คิหีหิ สํสฏฺโ วิหรติ สหนนฺที สหโสกี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อิริยาปถวิหาเร อาคตํ. ‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๐; วิภ. ๖๒๔) เอตฺถ ทิพฺพวิหาเร. ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) พฺรหฺมวิหาเร. ‘‘โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสาเยว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึ เอว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามิ, เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อริยวิหาเร.
ตตฺถ อิริยนํ วตฺตนํ อิริยา, กายปฺปโยโค. ตสฺสา ปวตฺตนุปายภาวโต านาทิ อิริยาปโถ. านสมงฺคี วา หิ กาเยน กิฺจิ กเรยฺย คมนาทีสุ อฺตรสมงฺคี วา. อถ วา อิริยติ ปวตฺตติ เอเตน อตฺตภาโว กายกิจฺจํ วาติ อิริยา, ตสฺสา ปวตฺติอุปายภาวโต อิริยา จ โส ปโถ จาติ อิริยาปโถ, านาทิ เอว. โส จ อตฺถโต คตินิวตฺติอาทิอากาเรน ปวตฺโต จตุสนฺตติรูปปพนฺโธ เอว. วิหรณํ, วิหรติ เอเตนาติ วา วิหาโร, อิริยาปโถ เอว วิหาโร อิริยาปถวิหาโร. ทิวิ ภโว ทิพฺโพ, ตตฺถ พหุลปฺปวตฺติยา พฺรหฺมปาริสชฺชาทิเทวโลเก ภโวติ อตฺโถ. ตตฺถ โย ทิพฺพานุภาโว, ตทตฺถาย สํวตฺตตีติ วา ทิพฺโพ, อภิฺาภินีหารวเสน มหาคติกตฺตา วา ทิพฺโพ, ทิพฺโพ จ โส วิหาโร จาติ ทิพฺพวิหาโร, จตสฺโส รูปาวจรสมาปตฺติโย. อารุปฺปสมาปตฺติโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. พฺรหฺมูนํ, พฺรหฺมาโน วา วิหารา พฺรหฺมวิหารา, จตสฺโส อปฺปมฺาโย. อริยานํ, อริยา วา วิหารา อริยวิหารา, จตฺตาริ สามฺผลานิ. โส หิ เอกํ อิริยาปถพาธนนฺติอาทิ ยทิปิ ภควา เอเกนปิ อิริยาปเถน จิรตรํ กาลํ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตุํ สกฺโกติ, ตถาปิ อุปาทินฺนกสรีรสฺส นาม อยํ สภาโวติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ¶ . ยสฺมา วา ภควา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโต วิเนยฺยานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต, นานาสมาปตฺตีหิ จ กาลํ วีตินาเมนฺโต วสตีติ สตฺตานํ อตฺตโน จ วิวิธํ หิตสุขํ หรติ อุปเนติ อุปฺปาเทติ, ตสฺมา วิวิธํ หรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปจฺจตฺถิเก ชินาตีติ เชโต. เชต-สทฺโท หิ โสต-สทฺโท วิย กตฺตุสาธโนปิ อตฺถีติ. รฺโ ¶ วา ปจฺจตฺถิกานํ ชิตกาเล ชาตตฺตา เชโต. รฺโ หิ อตฺตโน ชยํ ตตฺถ อาโรเปตฺวา ชิตวาติ เชโตติ กุมาโร วุตฺโต. มงฺคลกามตาย วา เชโตติสฺส นามํ กตํ, ตสฺมา ‘‘เชยฺโย’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถ ‘‘เชโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส เชตสฺส ราชกุมารสฺส. วเนติอาทิโต ปฏฺาเยว ตํ ตสฺส สนฺตกนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพกามสมิทฺธิตาย วิคตมลมจฺเฉรตาย กรุณาทิคุณสมงฺคิตาย จ นิจฺจกาลํ อุปฏฺปิโต อนาถานํ ปิณฺโฑ เอตสฺส อตฺถีติ อนาถปิณฺฑิโก, ตสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส. ยทิ เชตวนํ, กถํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโมติ อาห ‘‘อนาถปิณฺฑิเกนา’’ติอาทิ. ปฺจวิธเสนาสนงฺคสมฺปตฺติยา อารมนฺติ เอตฺถ ปพฺพชิตาติ อาราโม, ตสฺมึ อาราเม. ยทิปิ โส ภูมิภาโค โกฏิสนฺถเรน มหาเสฏฺินา กีโต, รุกฺขา ปน เชเตน น วิกฺกีตาติ ตํ ‘‘เชตวน’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ วทนฺติ. อุภินฺนมฺปิ วา ตตฺถ ปริจฺจาควิเสสกิตฺตนตฺถํ อุภยวจนํ, เชเตนปิ หิ ภูมิภาควิกฺกเยน ลทฺธธนํ ตตฺถ ทฺวารโกฏฺกกรณวเสน วินิยุตฺตํ. สาวตฺถิเชตวนานํ ภูมิภาควเสน ภินฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘น หิ สกฺกา อุภยตฺถ เอกํ สมยํ วิหริตุ’’นฺติ.
อปากฏาติ สกฺโก สุยาโมติอาทินา อนภิฺาตา. อภิฺาตานมฺปิ อฺตรสทฺโท ทิสฺสเตว เอกสทิสายตฺตตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิชานาติ โน’’ติอาทิ วุตฺตํ. อหุนา อิทาเนว. สาธารณวจนํ ทิพฺพตํ อนฺโตนีตํ กตฺวา. เทโว เอว เทวตา ปุริเสปิ วตฺตนโต. เตเนวาห ‘‘อิมสฺมึ ปนตฺเถ’’ติอาทิ. นนุ จ รูปาวจรสตฺตานํ ปุริสินฺทฺริยํ นตฺถิ, เยน เต ปุริสาติ วุจฺเจยฺยุํ? ยทิปิ ปุริสินฺทฺริยํ นตฺถิ, ปุริสสณฺานสฺส ปน ปุริสเวสสฺส จ วเสน ปุริสปุคฺคลาตฺเวว วุจฺจนฺติ ปุริสปกติภาวโต.
อภิกฺกนฺตาติ ¶ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ อุปริ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโร. ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ. โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม? เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริจฺฉเทน จ. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนิเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ สพฺพาปิ ทิสา ปภาเสนฺโต จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป.
กฺจนสนฺนิภตฺตจตา สุวณฺณวณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ฉวิย’’นฺติ. ฉวิคตา ¶ ปน วณฺณธาตุ เอว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ’’ติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อปเร. วณฺณนํ กิตฺติยา อุคฺโฆสนนฺติ วณฺโณ, ถุติ. วณฺณียติ อสงฺกรโต ววตฺถปียตีติ วณฺโณ, กุลวคฺโค. วณฺณียติ ผลํ เอเตน ยถาสภาวโต วิภาวียตีติ วณฺโณ, การณํ. วณฺณนํ ทีฆรสฺสาทิวเสน สณฺหนนฺติ วณฺโณ, สณฺานํ. วณฺณียติ อณุมหนฺตาทิวเสน ปมียตีติ วณฺโณ, ปมาณํ. วณฺเณติ วิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ วณฺโณ, รูปายตนํ. เอวํ เตน เตน ปวตฺตินิมิตฺเตน วณฺณสทฺทสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อิทฺธึ มาเปตฺวาติ วตฺถาลงฺการกายาทีหิ โอภาสมฺุจนาทิวเสน ทิพฺพํ อิทฺธานุภาวํ นิมฺมินิตฺวา. กามาวจรา อนภิสงฺขเตนปิ อาคนฺตุํ สกฺโกนฺติ โอฬาริกรูปตฺตา. ตถา หิ เต กพฬีการภกฺขา. รูปาวจรา น สกฺโกนฺติ ตโต สุขุมตรรูปตฺตา. เตนาห ‘‘เตสํ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อติสุขุโม’’ติ มูลปฏิสนฺธิรูปํ สนฺธาย วทติ. น เตน อิริยาปถกปฺปนํ โหตีติ เอเตน พฺรหฺมโลเกปิ พฺรหฺมาโน เยภุยฺเยน นิมฺมิตรูเปเนว ปวตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ. อิตรฺหิ อติวิย สุขุมํ รูปํ เกวลํ จิตฺตุปฺปาทสฺส นิสฺสยาธิฏฺานภูตํ สณฺานวนฺตํ หุตฺวา ติฏฺติ.
อนวเสสตฺตํ สกลตา. เยภุยฺยตา พหุลภาโว. อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกโร. สุเขน หิ อโวกิณฺณตา ตตฺถ อธิปฺเปตา ¶ . อนติเรกตา ตํปรมตา วิเสสาภาโว. เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆเภทายาติ สงฺเฆ วิวาทาย, วิวาทุปฺปาทายาติ อตฺโถ. เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา, เอตสฺส ตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว. เตนาห ‘‘วิสํโยโค อตฺโถ’’ติ.
กปฺปสทฺโท ปนายํ สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนิยปเท ลพฺภมานํ กปฺปสทฺทมตฺตํ ทสฺเสติ, อฺถา กปฺปปทํ อนิทสฺสนเมว สิยา. สมณกปฺเปหีติ วินยสิทฺเธหิ สมณโวหาเรหิ. นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํ. ปฺตฺตีติ นามํ. นามฺเหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กปฺโปติ. กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริกาย เฉทิตเกสมสฺสุ. ทฺวงฺคุลกปฺโปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกปฺโป. เลโสติ อปเทโส. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺสปิ โอภาสสฺส เกนจิปิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพโสว ผรตีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺป-สทฺโท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติ. อีสํ อสมตฺตํ, เกวลํ วา เกวลกปฺปํ. ภควโต อาภาย อโนภาสิตเมว หิ ปเทสํ เทวตา อตฺตโน ปภาย โอภาเสนฺติ. น หิ ภควโต ปภา กายจิ ปภาย อภิภุยฺยติ, สูริยาทีนมฺปิ ปภํ สา อภิภุยฺย ติฏฺตีติ.
เยน ¶ วา การเณนาติ เหตุมฺหิ อิทํ กรณวจนํ. เหตุอตฺโถ หิ กิริยาย การณํ, น กรณํ วิย กิริยตฺโถ, ตสฺมา นานปฺปการ-คุณวิเสสาธิคมนตฺถา อิธ อุปสงฺกมนกิริยาติ ‘‘อนฺเนน วสติ, วิชฺชาย วสตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุอตฺถเมว ตํ กรณวจนํ ยุตฺตํ น กรณตฺถํ ตสฺส อยุชฺชมานตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘เยน วา การเณนา’’ติอาทิ. ภควโต สตตปฺปวตฺตนิรติสย-สาทุวิปุลมตรส-สทฺธมฺมผลตาย สาทุผลนิจฺจผลิตมหารุกฺเขน ภควา อุปมิโต. สาทุผลูปโภคาธิปฺปายคฺคหเณเนว หิ มหาการุณิกสฺส สาทุผลตา คหิตาติ. อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกนฺตา. สมฺปตฺตกามตาย หิ กิฺจิ านํ คจฺฉนฺโต ¶ ตํตํปเทสาติกฺกมเนน อุปสงฺกมิ, อุปสงฺกนฺโตติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. เตนาห ‘‘คตาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ, อุปคตาติ อตฺโถ. อุปสงฺกมิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโสติ อาห ‘‘อุปสงฺกมนปริโยสานทีปน’’นฺติ. ตโตติ ยํ านํ ปตฺตา ‘‘อุปสงฺกมี’’ติ วุตฺตา, ตโต อุปคตฏฺานโต.
คตินิวตฺติอตฺถโต สามฺโต อาสนมฺปิ านคฺคหเณน คยฺหตีติ วุตฺตํ ‘‘อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ ติฏฺนฺตี’’ติ. นิสินฺนาปิ หิ คมนโต นิวตฺตา นาม โหนฺติ ตฺวา นิสีทิตพฺพตฺตา, ยถาวุตฺตฏฺานาทโยปิ อาสเนเนว สงฺคหิตาติ. อติทูรอจฺจาสนฺนปฏิกฺเขเปน นาติทูรนจฺจาสนฺนํ นาม คหิตํ. ตํ ปน อวกํสโต อุภินฺนํ ปสาริตหตฺถสงฺฆฏฺฏเนน ทฏฺพฺพํ. คีวํ ปสาเรตฺวาติ คีวํ ปริวตฺตนวเสน ปสาเรตฺวา.
กามํ ‘‘กถ’’นฺติ อยมาการปุจฺฉา, ตรณากาโร อิธ ปุจฺฉิโต. โส ปน ตรณากาโร อตฺถโต การณเมวาติ อาห ‘‘กถํ นูติ การณปุจฺฉา’’ติ? ปากโฏ อภิสมฺโพธิยํ มหาปถวีกมฺปนาทิอเนกจฺฉริยปาตุภาวาทินา.
มริสนฏฺเน ปาปานํ โรคาทิอนตฺถานํ อภิภวนฏฺเน มาริโส, ทุกฺขรหิโต. เตนาห ‘‘นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. นิรยปกฺเข ปิยาลปนวจนวเสน อุปจารวจนฺเจตํ ยถา ‘‘เทวานํ ปิยา’’ติ. เตเนวาห ‘‘ยทิ เอว’’นฺติอาทิ. สงฺกุนา สงฺกูติ มตฺถกโต สมโกฏฺฏิเตน ยาว หทยปเทสา นิพฺพิชฺฌิตฺวา โอติณฺเณน สงฺกุนา ปาทตลโต สมโกฏฺฏิโต สงฺกุ นิพฺพิชฺฌิตฺวา อาโรหนฺโต หทเย หทยสฺส ปเทเส สมาคจฺเฉยฺย, อถ เนสํ สงฺกูนํ สมาคมสมกาเล นํ ยถาติกฺกนฺตสงฺกุกรณกาลํ ชาเนยฺยาสิ. กิฺจิ นิมิตฺตํ อุปาทาย กิสฺมิฺจิ อตฺเถ ปวตฺตสฺส สทฺทสฺส ตนฺนิมิตฺตรหิเต ปวตฺติ รุฬฺหี นาม คมนกิริยารหิเต สาสนาทิมติ ปฏิปิณฺเฑ ยถา โคสทฺทสฺส.
โอฆมตรีติ ¶ เยสํ โอฆานํ ตรณํ ปุจฺฉิตํ, เต คณนปริจฺเฉทโต สรูปโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตฺถ จตฺตาโร ¶ เอว โอฆา วุตฺตา, เต จ กามาทโย เอวาติ? น โจเทตพฺพเมตํ, ยสฺมา ธมฺมานํ สภาวกิจฺจวิเสสฺุนา ภควตา สพฺพํ เยฺยํ ยาถาวโต อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา เอตฺตกาว โอฆา เทสิตา, อิเม เอว จ เทสิตาติ. วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา, โอหนนฺติ เหฏฺา กตฺวา หนนฺติ คาเมนฺติ, ตถาภูตา สตฺเต อโธ คาเมนฺติ นาม. อยฺจ อตฺโถ ‘‘สพฺโพปิ เจสา’’ติอาทินา ปรโต อฏฺกถายเมว อาคมิสฺสติ. กามนฏฺเน กาโม, กาโม จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โอโฆ จาติ, กาเมสุ โอโฆติ วา กาโมโฆ. ภโวโฆ นาม ภวราโคติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จา’’ติ วุตฺตํ. สุมงฺคลวิลาสินีอาทีสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๑๒) ปน ‘‘สสฺสตทิฏฺิสหคตราโค จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปโม อุปปตฺติภเวสุ ราโค, ทุติโย กมฺมภเว. ภวทิฏฺิวินิมุตฺตสฺส ทิฏฺิคตสฺส อภาวโต. ‘‘ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย ทิฏฺโโฆ’’ติ วุตฺตํ, จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา สพฺพสฺส เยฺยสฺส ‘‘จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ อวิชฺโชโฆ’’ติ อาห.
อิทานิ เตสํ โอฆสงฺขาตานํ ปาปธมฺมานํ อุปฺปตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปวตฺติฏฺานํ ปน กามคุณาทโย ทสฺสิตา เอว. ‘‘ปฺจสุ กามคุเณสุ ฉนฺทราโค กาโมโฆ’’ติ เอตฺถ ภโวฆํ เปตฺวา สพฺโพ โลโภ กาโมโฆติ ยุตฺตํ สิยา. สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภวทิฏฺิสมฺปยุตฺตตฺตา ภโวโฆติ อฏฺกถาสุ วุตฺโต, ภโวโฆ ปน ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ เอว อุปฺปชฺชตีติ ปาฬิยํ วุตฺโต. เตเนวาห – ‘‘ภโวโฆ จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ตสฺมา ทิฏฺิสหคตโลโภปิ กาโมโฆติ ยุตฺตํ สิยา. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกทุกฺขานฺหิ การณภูตา กามาสวาทโยปิ ทฺวิธา วุตฺตา, อาสวา เอว จ โอฆา. กามาสวนิทฺเทเส จ กาเมสูติ กามราคทิฏฺิราคาทีนํ อารมฺมณภูเตสุ เตภูมเกสุ วตฺถุกาเมสูติ อตฺโถ สมฺภวติ. ตตฺถ หิ อุปฺปชฺชมานา สายํ ตณฺหา สพฺพาปิ น กามจฺฉนฺทาทินามํ น ลภตีติ.
ยทิ ปน ปฺจกามคุณิโก จ ราโค กาโมโฆติ วุตฺโตติ กตฺวา พฺรหฺมานํ วิมานาทีสุ ราคสฺส ทิฏฺิราคสฺส จ กาโมฆภาโว ปฏิเสธิตพฺโพ สิยา, เอวํ สติ กาโมฆภโวฆวินิมุตฺเตน นาม โลเภน ภวิตพฺพํ ¶ . โส ยทา ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ, ตทา เตน สมฺปยุตฺโต อวิชฺโชโฆ โอฆวิปฺปยุตฺโตติ โทมนสฺสวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตสฺส วิย ตสฺสปิ โอฆวิปฺปยุตฺตตา วตฺตพฺพา สิยา ‘‘จตูสุปิ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปนฺโน โมโห สิยา โอฆสมฺปยุตฺโต สิยา โอฆวิปฺปยุตฺโต’’ติ. ‘‘กาโมโฆ อฏฺสุ โลภสหคเตสุ ¶ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชตี’’ติ, ‘‘กาโมฆํ ปฏิจฺจ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆ’’ติ จ วจนโต ทิฏฺิสหคโต กาโมโฆ น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. ตถา เหตฺถ ‘‘รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จ ภโวโฆ นามาติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค’’ติ.
อโธคมนฏฺเนาติ เหฏฺาปวตฺตนฏฺเน. เหฏฺาปวตฺตนฺเจตฺถ น เกวลํ อปายคมนิยภาเวน, อถ โข สํสารตรกาวโรธเนนปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปริภวฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กามํ นิพฺพานํ อรูปิภาวา อเทสํ, น ตสฺส านวเสน อุปริคหณํ, สพฺพสงฺขตวินิสฺสฏตฺตา ปน สพฺพสฺสปิ ภวสฺส อุปรีติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อุปริภวํ นิพฺพาน’’นฺติ. ‘‘มหาอุทโกโฆ’’ติอาทีสุ ราสฏฺโ โอฆ-สทฺโทติ ‘‘มหา เหโส กิเลสราสี’’ติ วุตฺตํ เสเสสุปีติ ภโวฆาทีสุปิ.
อปฺปติฏฺหนฺโตติ กิเลสาทีนํ วเสน อสนฺติฏฺนฺโต, อสํสีทนฺโตติ อตฺโถ. อนายูหนฺโตติ อภิสงฺขาราทิวเสน น อายูหนฺโต มชฺฌิมํ ปฏิปทํ วิลงฺฆิตฺวา นิพฺพุยฺหนฺโต. เตนาห – ‘‘อวายมนฺโต’’ติ, มิจฺฉาวายามวเสน อวายมนฺโตติ อธิปฺปาโย. คูฬฺหนฺติ สํวุตํ. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อตฺถวเสน วา สํวุตฺตํ คูฬฺหํ, สทฺทวเสนปิ อปากฏํ ปฏิจฺฉนฺนํ อนฺตรทีปาทิเก าตพฺพฏฺาเน. อายูหนฺตาติ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ วายมนฺตา. เอตํ อตฺถชาตํ, เอตํ วา วิสฺสชฺชนํ.
อิทานิ เยนาธิปฺปาเยน ภควตา ตถาคูฬฺหํ กตฺวา ปฺโห กถิโต, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กึ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. นิคฺคหมุเขนาติ เวเนยฺยานํ วินยอุปายภูตนิคฺคหวเสน. เตนาห เย ปณฺฑิตมานิโน’’ติอาทิ. ปวยฺห ปวยฺหาติ โอผุณิตฺวา โอผุณิตฺวา.
โสติ ¶ เทวปุตฺโต นิหตมาโน อโหสิ ยถาวิสฺสชฺชิตสฺส อตฺถสฺส อชานนฺโต. ยถาติ อนิยมวจนํ นิยมนิทฺทิฏฺํ โหติ, ตํสมฺพนฺธฺจ กถนฺติ ปุจฺฉาวจนนฺติ ตทุภยสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหํ ชานามิ, เอวํ เม กเถหี’’ติ อาห.
ยทาสฺวาหนฺติ ยทา สุ อหํ, สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ ‘‘ยทิทํ กถํ สู’’ติอาทีสุ วิย. สพฺพปเทสูติ ‘‘ตทาสฺสุ สํสีทามี’’ติอาทีสุ ตีสุปิ ปเทสุ. อตรนฺโตติ โอฆานํ อติกฺกมนตฺถํ ตรณปฺปโยคํ อกโรนฺโต. ตตฺเถวาติ โอฆนิยโอเฆสุ เอว. โอสีทามีติ นิมุชฺชามิ ¶ โอเฆหิ อชฺโฌตฺถโฏ โหมิ. นิพฺพุยฺหามีติ โอเฆหิ นิพฺพูฬฺโห โหมิ. าตุํ อสกฺโกนฺโต อสํสีทนฺโต. อติวตฺตามีติ อนุปโยคํ อติกฺกมามิ, อปนิธานวเสน สมฺมาปฏิปตฺตึ วิราเธมีติ อตฺโถ. าเน จ วายาเม จาติ วกฺขมานวิภาเค ปติฏฺหเน วายาเม จ โทสํ ทิสฺวาติ ปติฏฺานายูหเนสุ สํสีทนนิพฺพุยฺหนสงฺขาตํ ตรณสฺส วิพนฺธนภูตํ อาทีนวํ ทิสฺวาน. อิทํ ภควตา โพธิมูเล อตฺตนา ปวตฺติต-ปุพฺพภาค-มนสิการวเสน วุตฺตํ. อติฏฺนฺโต อวายมนฺโตติ ปติฏฺานายูหนกรณกิเลสาทีนํ ปริวชฺชเนน อสํสีทนฺโต อนิพฺพุยฺหนฺโต. เทวตายปิ ปฏิวิทฺโธ ตทตฺโถ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย วิมุตฺติปริปาจนียธมฺมานํ ปริปกฺกตฺตา. น ปน ปากโฏ วิปฺจิตฺูอาทีนํ, อุคฺฆฏิตฺูนํ ปน ยถา ตสฺสา เทวตาย, ตถา ปากโฏ เอวาติ. สตฺต ทุกา อิทานิ วุจฺจมานรูปา ทสฺสิตา โปราณฏฺกถายํ. กิเลสวเสน สนฺติฏฺนฺโตติ โลภาทีหิ อภิภูตตาย สํสาเร ปติฏฺหนฺโต สมฺมา อปฺปฏิปชฺชเนน ตตฺเถว สํสีทติ นาม. อภิสงฺขารวเสนาติ ตตฺเถวาภิสงฺขารเจตนาย เจเตนฺโต สมฺมาปฏิปตฺติโยคฺยสฺส ขณสฺส อติวตฺตเนน นิพฺพุยฺหติ นาม. อิมินา นเยน เสสทุเกสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ จ วฏฺฏมูลกา กิเลสาติ เตสํ วเสน สํสาเร อวฏฺานํ ตํตํกมฺมุนา ตตฺถ ตตฺถ ภเว อภินิพฺพตฺติ, กิเลสา ปน เตสํ ปจฺจยมตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ ภเว อปราปรํ นิพฺพตฺเตนฺโต สํสาเร นิพฺพุยฺหติ นามาติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน ปมทุโก วุตฺโต. อิเม สตฺตา สํสาเร ปริพฺภมนฺตา ทุวิธา ตณฺหาจริตา ทิฏฺิจริตา จาติ เตสํ สํสารนายิกภูตานํ ธมฺมานํ วเสน สนฺติฏฺนํ, ตทฺเสํ ปวตฺติปจฺจยานํ วเสน ¶ อายูหนนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน ทุติยทุโก วุตฺโต. สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาททสฺสนสภาวาย ตณฺหาย วเสน วิเสสโต ปติฏฺานํ, อมุตฺติมคฺเค มุตฺติมคฺคปรามาสโต ตถา อายูหนมฺปิ ทิฏฺิยา วเสน โหตีติ ทสฺเสตุํ ตติยทุโก วุตฺโต. จตุตฺถทุเก ปน อธิปฺปาโย อฏฺกถาย เอว วิภาวิโต. ยสฺมา ‘‘สสฺสโต อตฺตา’’ติ อภินิวิสนฺโต อรูปราคํ, อสฺูปคํ วา อวิโมกฺขํเยว วิโมกฺโขติ คเหตฺวา สํสาเร เอว โอลียติ. เตนาห ‘‘โอลียนาภินิเวสา หิ ภวทิฏฺี’’ติ. ยสฺมา ปน กามภวาทีสุ ยํ วา ตํ วา ภวํ ปตฺวา อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณาติ อภินิวิสนฺโต ภววิปฺปโมกฺขาวหาย สมฺมาปฏิปตฺติยา อปฺปฏิปชฺชเนน ตํ อติวตฺตติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อติธาวนาภินิเวสา วิภวทิฏฺี’’ติ.
ลีนวเสน สนฺติฏฺนฺโตติ โกสชฺชาทิวเสน สํโกจาปชฺชเนน สมฺมา อปฺปฏิปชฺชนฺโต. อุทฺธจฺจวเสน อายูหนฺโตติ สมฺมาสมาธิโน อภาเวน วิกฺเขปวเสน ปฺจโม ทุโก วุตฺโต. ยถา กามสุขํ ปวิฏฺสฺส สมาธานํ นตฺถิ จิตฺตสฺส อุปกฺกิลิฏฺตฺตา, เอวํ อตฺตปริตาปนมนุยุตฺตสฺส กายสฺส ¶ อุปกฺกิลิฏฺตฺตา. อิติ จิตฺตกายปริกฺกิเลสกรา ทฺเว อนฺตา ตณฺหาทิฏฺินิสฺสยตาย สํสีทนนิพฺพุยฺหนนิมิตฺตา วุตฺตา ฉฏฺทุเก. ปุพฺเพ สปฺปเทสโตว สํกิเลสธมฺมา ‘‘สํสีทนนิมิตฺต’’นฺติ ทสฺสิตาติ อิทานิ นิปฺปเทสโต ทสฺสนวเสน, ปุพฺเพ จ สาธารณโต อภิสงฺขารธมฺมา ‘‘นิพฺพุยฺหนนิมิตฺต’’นฺติ ทสฺสิตาติ อิทานิ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขาเร เอว ‘‘อายูหนนิมิตฺต’’นฺติ ทสฺสนวเสน สตฺตมทุโก วุตฺโต. เอวฺหิ ทุคฺคติสุคตูปปตฺติวเสน สํสีทนนิพฺพุยฺหนานิ วิภชฺช ทสฺสิตานิ โหนฺตีติ. เตเนวาห ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ. อโธภาคํ ทุคฺคตึ คเมนฺตีติ อโธภาคงฺคมนียา อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา. ตถา อุปริภาคํ คเมนฺตีติ อุปริภาคงฺคมนียา.
เอตฺถ จ โอฆตรณํ ปุจฺฉิเตน ภควตา ‘‘อปฺปติฏฺํ อนายูห’’นฺติ ตสฺส ปหานงฺคเมว ทสฺสิตํ, น สมฺปโยคงฺคนฺติ? น เอวํ ทฏฺพฺพํ, ยาวตา เยน ปติฏฺานํ โหติ, เยน จ อายูหนํ, ตทุภยปฏิกฺเขปมุเขน ตปฺปฏิปกฺขธมฺมทสฺสนเมตนฺติ. น เหส อ-กาโร เกวลํ ปฏิเสเธ, อถ ¶ โข ปฏิปกฺเข ‘‘อกุสลา ธมฺมา, อหิโต, อธมฺโม’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ ปติฏฺานายูหนานํ ปฏิปกฺขวเสน ปวตฺตมาโน ตถาปวตฺติเหตูวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. โขติ จ อวธารณตฺเถ นิปาโต ‘‘อสฺโสสิ โข’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑) วิย. เตน อปฺปติฏฺานสฺส เอกํสิกตํ ทสฺเสติ. โสยํ โข-สทฺโท ‘‘อนายูห’’นฺติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา วตฺตพฺโพ. อนายูหนมฺปิ หิ เอกํสิกเมวาติ ตสฺส ปฏิปกฺโข สห วิปสฺสนาย อริยมคฺโค. เตน หิ โอฆตรณํ โหติ, น อฺถา. เอวมยํ ยถานุสนฺธิเทสนา กตา, เทวตา จ สหวิปสฺสนํ มคฺคํ ปฏิวิชฺฌีติ ปมผเล ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิมํ ปฺหวิสฺสชฺชน’’นฺติอาทิ.
‘‘จิรสฺสา’’ติ อิมินา สมานตฺถํ ปทนฺตรเมตนฺติ อาห ‘‘จิรสฺส กาลสฺสา’’ติ ยถา ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว’’ติ (ที. นิ. ๑.๕-๖) เอตฺถ ‘‘มมา’’ติ อิมินา สมานตฺถํ ปทนฺตรํ มมนฺติ. น ทิฏฺปุพฺพาติ อทสฺสาวี. อทสฺสาวิตา จ ทิสฺวา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อสิทฺธตาย เวทิตพฺพา. อฺถา กา นาม สา เทวตา, ยา ภควนฺตํ น ทิฏฺวตี? เตนาห ‘‘กึ ปนิมายา’’ติอาทิ. ทสฺสนํ อุปาทาย เอวํ วตฺตุํ วตฺตตีติ ยทา กทาจิ กฺจิ ปิยชาติกํ ทิสฺวา ตํ ทสฺสนํ อุปาทาย ‘‘จิเรน วต มยํ อายสฺมนฺตํ ปสฺสามา’’ติ อทิฏฺปุพฺพํ ทิฏฺปุพฺพํ วา เอวํ วตฺตุํ ยุชฺชติ, อยํ โลเก นิรุฬฺเห สมุทาจาโรติ ทสฺเสติ. พฺรหฺมํ วา วุจฺจติ อริยมคฺโค, ตสฺส อณนโต ชานนโต ปฏิวิชฺฌนโต พฺราหฺมโณ. กิเลสนิพฺพาเนนาติ กิเลสานํ ¶ อจฺจนฺตสมุจฺเฉทสงฺขาเตน นิพฺพาเนน นิพฺพุตํ สมฺมเทว วูปสนฺต-สพฺพกิเลสทรถ-ปริฬาหํ. อาสตฺตวิสตฺตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน วิสตาทิอากาเร สงฺคณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘วิสตาติ วิสตฺติกา, วิสฏาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสํ หรตีติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา, วิสปริโภโคติ วิสตฺติกา, วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม กุเล คเณ วิสตา วิตฺถตาติ วิสตฺติกา’’ติ (มหานิ. ๓).
ตตฺถ ¶ วิสตาติ วิตฺถตา รูปาทีสุ เตภูมกธมฺเมสุ อภิพฺยาปนวเสน วิสฏาติ ปุริมวจนเมว ต-การสฺส ฏ-การํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสกฺกติ, สหติ วา. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหตีติ. โอสกฺกนํ วิปฺผนฺทนํ วา ‘‘วิสกฺกน’’นฺติปิ วทนฺติ. อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต. คณฺหาตีติ วิสํวาทิกา โหติ. วิสํ หรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ปสฺสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สํขิปติ, วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกกมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา. วิสํ วา ทุกฺขาภิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ วิสปริโภโคติ วุตฺตา, สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสาลา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ วิสตฺติกาปทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ติณฺณํ ปมทุติยมคฺเคหิ. นิตฺติณฺณํ ตติยมคฺเคน. อุตฺติณฺณํ จตุตฺถมคฺเคน.
สมนฺุโติ สมฺมเทว กตานฺุโ. เตนาห ‘‘เอกชฺฌาสโย อโหสี’’ติ. อนฺตรธายีติ อทสฺสนํ อคมาสิ. ยถา ปน อนฺตรธายิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิสงฺขตกาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. มาเลหีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ‘‘มาลาหี’’ติ เกจิ ปนฺติ, ‘‘มลฺเยหี’’ติ วตฺตพฺเพ ย-การโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส. อยํ ตาว อฏฺกถาย ลีนตฺถวณฺณนา.
เนตฺตินยวณฺณนา
อิทานิ ปกรณนเยน ปาฬิยา อตฺถวณฺณนํ กริสฺสาม. สา ปน อตฺถวณฺณนา ยสฺมา เทสนาย ¶ สมุฏฺานปฺปโยชนภาชเนสุ ปิณฺฑตฺเถสุ จ นิทฺธาริเตสุ สุกรา โหติ สุวิฺเยฺยา จ, ตสฺมา สุตฺตเทสนาย สมุฏฺานาทีนิ ปมํ นิทฺธารยิสฺสาม. ตตฺถ สมุฏฺานํ ตาว เทสนานิทานํ, ตํ สาธารณํ อสาธารณนฺติ ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณมฺปิ อพฺภนฺตรพาหิรเภทโต ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณํ อพฺภนฺตรสมุฏฺานํ นาม โลกนาถสฺส มหากรุณา. ตาย หิ สมุสฺสาหิตสฺส ภควโต เวเนยฺยานํ ธมฺมเทสนาย จิตฺตํ อุทปาทิ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สตฺเตสุ จ ¶ การฺุตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙). เอตฺถ จ เหตุอวตฺถายปิ มหากรุณาย สงฺคโห ทฏฺพฺโพ ยาวเทว สํสารมโหฆโต สทฺธมฺมเทสนาหตฺถทาเนหิ สตฺตสนฺตารณตฺถํ ตทุปฺปตฺติโต. ยถา จ มหากรุณา, เอวํ สพฺพฺุตฺาณํ ทสพลาณาทีนิ จ เทสนาย อพฺภนฺตรสมุฏฺานภาเวน วตฺตพฺพานิ. สพฺพฺหิ เยฺยธมฺมํ เตสํ เทเสตพฺพปฺปการํ สตฺตานฺจ อาสยานุสยาทึ ยาถาวโต ชานนฺโต ภควา านาฏฺานาทีสุ โกสลฺเลน เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิจิตฺตนยเทสนํ ปวตฺเตสีติ. พาหิรํ ปน สาธารณํ สมุฏฺานํ ทสสหสฺสมหาพฺรหฺมปริวาร-สหมฺปติมหาพฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ. ตทชฺเฌสนุตฺตรกาลฺหิ ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขณาชนิตํ อปฺโปสฺสุกฺกตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ธมฺมสฺสามี ธมฺมเทสนาย อุสฺสาหชาโต อโหสิ. อสาธารณมฺปิ อพฺภนฺตรพาหิรเภทโต ทุวิธเมว. ตตฺถ อพฺภนฺตรํ ยาย มหากรุณาย เยน จ เทสนาาเณน อิทํ สุตฺตํ ปวตฺติตํ, ตทุภยํ เวทิตพฺพํ พาหิรํ ปน ตสฺสา เทวตาย ปุจฺฉา, ปุจฺฉาวสิโก เหส สุตฺตนิกฺเขโป. ตยิทํ ปาฬิยํ อาคตเมว.
ปโยชนมฺปิ สาธารณาสาธารณโต ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณํ อนุกฺกเมน ยาว อนุปาทาปรินิพฺพานํ วิมุตฺติรสตฺตา ภควโต เทสนาย. เตเนวาห ‘‘เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา’’ติอาทิ (ปริ. ๓๖๖). อสาธารณํ ปน ตสฺสา เทวตาย ทสฺสนมคฺคสมธิคโม, อุภยมฺเปตํ พาหิรเมว. สเจ ปน เวเนยฺยสนฺตานคตมฺปิ เทสนาพลสิทฺธิสงฺขาตํ ปโยชนํ อธิปฺปายสมิชฺฌนภาวโต ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิยา มหาการุณิกสฺส ภควโตปิ ปโยชนเมวาติ คณฺเหยฺย, อิมินา ปริยาเยนสฺส อพฺภนฺตรตาปิ สิยา.
อปิจ ตสฺสา เทวตาย โอฆตรณาการสฺส ยาถาวโต อนวโพโธ อิมิสฺสา เทสนาย สมุฏฺานํ, ตทวโพโธ ปโยชนํ. โส หิ อิมาย เทสนาย ภควนฺตํ ปโยเชติ ตนฺนิปฺผาทนปรายํ เทสนาติ กตฺวา. ยฺหิ เทสนาย สาเธตพฺพํ ผลํ, ตํ อากงฺขิตพฺพตฺตา เทสกํ เทสนาย ปโยเชตีติ ปโยชนนฺติ วุจฺจติ. ตถา เทวตาย ตทฺเสฺจ วิเนยฺยานํ ปติฏฺานายูหนวิสฺสชฺชนฺเจตฺถ ปโยชนํ ¶ . ตถา สํสารจกฺกนิวตฺติ-สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺติสสฺสตาทิมิจฺฉาจาร-นิรากรณํ ¶ สมฺมาวาทปุเรกฺขาโร อกุสลมูลสมูหนนํ กุสลมูลสมาโรปนํ อปายทฺวารปิทหนํ สคฺคโมกฺขทฺวารวิวรณํ ปริยุฏฺานวูปสมนํ อนุสยสมุคฺฆาตนํ ‘‘มุตฺโต โมเจสฺสามี’’ติ ปุริมปฏิฺาอวิสํวาทนํ ตปฺปฏิปกฺขมารมโนรถวิสํวาทนํ ติตฺถิยสมยนิมฺมถนํ พุทฺธธมฺมปติฏฺาปนนฺติ เอวมาทีนิปิ ปโยชนานิ อิธ เวทิตพฺพานิ.
ยถา เทวตา โอฆตรเณ สํสยปกฺขนฺทา, ตาทิสา อฺเ จ สงฺขาตธมฺมานํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ ปฏิปตฺตึ อชานนฺตา อสทฺธมฺมสฺสวน-ธารณ-ปริจย-มนสิการวิปลฺลตฺถพุทฺธิกา สทฺธมฺมสฺสวน-ธารณ-ปริจยวิมุขา จ ภววิโมกฺเขสิโน วิเนยฺยา อิมิสฺสา เทสนาย ภาชนํ.
ปิณฺฑตฺถา ปน ‘‘อปฺปติฏฺํ อนายูห’’นฺติ ปททฺวเย จตุสจฺจกมฺมฏฺานานุโยควเสน โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร กุสลมูลสมาโยโค โอลียนาติธาวนาวิสฺสชฺชนํ อุปายวินิพนฺธวิธมนํ มิจฺฉาภินิเวสทูรีภาโว ตณฺหาวิชฺชาวิโสธนํ วฏฺฏตฺตยวิจฺเฉทนุปาโย อาสโวฆ-โยค-คนฺถาคติ-ตณฺหุปฺปาทุปาทานวิโยโค เจโตขิลวิเวจนํ อภินนฺทนนิวารณํ สํสคฺคาติกฺกโม วิวาทมูลปริจฺจาโค อกุสลกมฺมปถวิทฺธํสนํ มิจฺฉตฺตาติวตฺตนํ อนุสยมูลจฺเฉโท. สพฺพกิเลส-ทรถปริฬาห-สารมฺภปฏิปฺปสฺสมฺภนํ ทสฺสนสวนนิทฺเทโส วิชฺชูปมวชิรูปมธมฺมาปเทโส อปจยคามิธมฺมวิภาวนา ปหานตฺตยทีปนา สิกฺขตฺตยานุโยโค สมถวิปสฺสนานุฏฺานํ ภาวนาสจฺฉิกิริยาสิทฺธิ สีลกฺขนฺธาทิปาริสุทฺธีติ เอวมาทโย เวทิตพฺพา.
ตตฺถ เยสํ กิเลสาทีนํ วเสน ปติฏฺาติ สํสีทติ, เยสฺจ อภิสงฺขาราทีนํ วเสน อายูหติ นิพฺพุยฺหติ, อุภยเมตํ สมุทยสจฺจํ, ตปฺปภาวิตา ตทุภยนิสฺสิตา จ ขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ, ตทุภยมตฺโถ, ‘‘อปฺปติฏฺํ อนายูห’’นฺติ อธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา เทสนา อุปาโย มานนิคฺคณฺหนวเสน ตสฺสา เทวตาย สจฺจาภิสมยการณภาวโต ปติฏฺานายูหนปฏิกฺเขโปปเทเสน จตุโรฆนิรตฺถรณตฺถิเกหิ อนฺตทฺวยรหิตา มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ ปฏิปชฺชิตพฺพาติ อยเมตฺถ ภควโต อาณตฺตีติ อยํ เทสนาหาโร.
ปรสํสยปกฺขนฺทนตาย ¶ าตุกามตาย จ กถํ นูติ ปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ? อภิมุขภาวโต เอกปุคฺคลภาวโต จ ‘‘ตฺว’’นฺติ วุตฺตํ. ปรมุกฺกํสคตสฺส ครุภาวสฺส อนฺโยคฺยสฺส สทฺธมฺมธุรสฺส ปริทีปนโต สาธูติ มริสสีลาทิคุณตาย ‘‘มาริสา’’ติ วุตฺตํ ¶ . อวหนนโต ราสิภาวโต จ ‘‘โอฆ’’นฺติ วุตฺตํ. าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส กตตฺตา ปริโยสาปิตตฺตา ‘‘อิตี’’ติ วุตฺตํ. สํสีทนลกฺขณสฺส ปติฏฺานสฺส อกาตพฺพโต สพฺพโส จ อกตตฺตา. ‘‘อปฺปติฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ. ตยิทํ อกรณํ เอกํสิกนฺติ โขติ อวธารณวเสน วุตฺตํ. ตสฺส จ อปฺปติฏฺานสฺส สสนฺตติคตตฺตา ‘‘ตฺว’’นฺติ จ ปุจฺฉิตตฺตา ‘‘อห’’นฺติ วุตฺตํ. เทวตาย สมฺโพธนโต ปิยาลปนโต จ, ‘‘อาวุโส’’ติ วุตฺตํ. นิพฺพุยฺหนลกฺขณสฺส อายูหนสฺส อกาตพฺพโต สพฺพโส จ อกตตฺตา อนายูหนฺติ วุตฺตํ. ติณฺณาการสฺส โอฆานํ อนิจฺฉิตภาวโต เอว ตตฺถ สํสยสฺส อนปคตตฺตา โอฆตรณสฺส จ อวิเสสตฺตา ‘‘ยถา กถํ ปนา’’ติ วุตฺตํ. ตถา สํสีทนลกฺขณํ ปติฏฺานํ สํสาเร จ สณฺานนฺติ อนตฺถนฺตรตฺตา อภินฺนกาลิกํ. ตถา นิพฺพุยฺหนลกฺขณํ อายูหนํ สมฺมาปฏิปตฺติยา อติวตฺตนนฺติ อนตฺถนฺตรตฺตา อภินฺนกาลิกนฺติ วุตฺตํ ‘‘ยทา สฺวาหํ…เป… ตทาสฺสุ นิพฺพุยฺหามี’’ติ. ตทุภยสฺส ปฏิปกฺขภาวโต ปฏิพาหนโต จ โอฆาติณฺณาติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ขฺวาหํ…เป… โอฆมตริ’’นฺติ.
เอกพุทฺธนฺตรนฺตริกตฺตา สุทูรกาลิกตาย ‘‘จิรสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. อนฺตรา อทิฏฺปุพฺพตาย วิมฺหยนียตาย จ ‘‘วตา’’ติ วุตฺตํ. ตทา อุปลพฺภมานตาย อตฺตปจฺจกฺขตาย จ ‘‘ปสฺสามี’’ติ วุตฺตํ. พาหิตปาปโต พฺรหฺมสฺส จ อริยมคฺคสฺส อณนโต ปฏิวิชฺฌนโต ‘‘พฺราหฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. กิเลสสนฺตาปวูปสมนโต ทุกฺขสนฺตาปวูปสมนโต จ สพฺพโส นิพฺพุตตฺตา ‘‘ปรินิพฺพุต’’นฺติ วุตฺตํ. ตรณปโยคสฺส นิพฺพตฺติตตฺตา อุปริ ตริตพฺพาภาวโต จ ‘‘ติณฺณ’’นฺติ วุตฺตํ. าณจกฺขุนา โอโลเกตพฺพโต ลุชฺชนโต ปลุชฺชนโต จ ‘‘โลเก’’ติ วุตฺตํ. วิสเยสุ สฺชนโต ชาตภาวโต ‘‘วิสตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ. าณสฺส ปจฺจกฺขภาวโต นิคมนโต จ ‘‘อิท’’นฺติ วุตฺตํ. ภาสิตตฺตา ปริสมตฺตตฺตา จ ‘‘อโวจา’’ติ วุตฺตํ. ปมํ คหิตตฺตา ปจฺจามสนโต จ ‘‘สา เทวตา’’ติ วุตฺตํ. ปฏิกฺเขปสฺส อภาวโต อตฺถสฺส อนุโมทิตพฺพโต ‘‘สมนฺุโ’’ติ วุตฺตํ. วิเนยฺยานํ ¶ สาสนโต ปรมตฺถสมฺปตฺติโต จ ‘‘สตฺถา’’ติ วุตฺตํ. จกฺขุปถาติกฺกเมน ติโรภาวูปคมนโต ‘‘อนฺตรธายี’’ติ วุตฺตนฺติ อยํ อนุปทวิจยโต วิจยหาโร.
อปฺปติฏฺานานายูหเนหิ โอฆตรณํ ยุชฺชติ กิเลสาภิสงฺขารวิชหเนน ปารสมฺปตฺติสมิชฺฌนโต. สพฺพกิเลส-ตณฺหาทิฏฺิ-ตณฺหายตน-สสฺสตาทิวเสน สนฺติฏฺโต สํสาเร สํสีทนํ โหตีติ ยุชฺชติ การณสฺส สุปฺปติฏฺิตภาวโต. อภิสงฺขรณกิจฺเจ กิเลสาภิสงฺขาเร วิชฺชมาเน สพฺพทิฏฺาภินิเวส-อติธาวนาภินิเวสาทีนํ วเสน อายูหนฺตสฺส สํสารมโหเฆน นิพฺพุยฺหนํ ¶ โหตีติ ยุชฺชติ สมฺมาปฏิปตฺติยา อติวตฺตนโต. พฺรหฺมสฺส อริยมคฺคสฺส อณนโต ปฏิวิชฺฌนโต พฺราหฺมณภาโว ยุชฺชฺชติ พาหิตปาปตฺตา. สมฺมเทว สนฺตธมฺมสมธิคมโต ปรินิพฺพุตภาโว ยุชฺชติ สพฺพโส สวาสนปหีนกิเลสตฺตา. ตถา จ วิสตฺติกาย ติณฺณภาโว ยุชฺชติ ยถา ยาย เลโสปิ น ทิสฺสติ, เอวํ อคฺคมคฺเคน ตสฺสา สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อยํ ยุตฺติหาโร.
กิเลสวฏฺฏวเสน ปติฏฺานํ วิเสสโต กมฺมวฏฺฏสฺส ปทฏฺานํ. อภิสงฺขารวเสน อายูหนฺจ วิปากวฏฺฏสฺส ปทฏฺานํ. อปฺปติฏฺานานายูหนานิ โอฆตรณสฺส ปทฏฺานํ, โอฆตรณํ อนุปาทิเสสนิพฺพานสฺส. ตณฺหาวเสน ปติฏฺานสฺส อสฺสาทานุปสฺสิตา ปทฏฺานํ. เตนาห ภควา – ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒, ๕๖).
ขนฺธาวิชฺชา-ผสฺส-สฺา-วิตกฺกาโยนิโสมนสิการ-ปาปมิตฺตปรโตโฆสา ทิฏฺิวเสน ปติฏฺานสฺส ปทฏฺานํ. ยถาห – ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔) ‘‘ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อวิชฺชาปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติอาทิ. ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนอวเสสกิเลสาภิสงฺขารวเสน อายูหนสฺส ปทฏฺานํ. อิมินา นเยน ยถารหํ ตณฺหาทิฏฺาทิวเสน ปติฏฺานายูหนานํ ปทฏฺานภาโว วตฺตพฺโพ. เสสเมตฺถ ปาฬิโต เอว สุนิทฺธาริยํ. อยํ ปทฏฺานหาโร.
อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ ปติฏฺานายูหนปฏิกฺเขเปน วิสฺสชฺเชนฺเตน นิยฺยานาวหา สมฺมาปฏิปตฺติ คหิตา เอกนฺตโต โอฆนิตฺถรณูปายภาวโต. ตคฺคหเณน จ สพฺเพปิ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา คหิตา โหนฺติ นิยฺยานลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตาติ อยํ ลกฺขณหาโร.
นิทานมสฺสา ¶ เทวตาย โอฆตรณาการสฺส ยาถาวโต อนวโพโธติ วุตฺโตวายมตฺโถ. อฺเปิ เย อิมํ เทสนํ นิสฺสาย โอฆตรณูปายํ ปฏิวิชฺฌนฺติ, เตปิ อิมิสฺสา เทสนาย นิทานนฺติ ทฏฺพฺพา. ‘‘กถํ นุ โข อิมํ เทสนํ นิสฺสาย สมฺมเทว ปฏิวิชฺฌนฺตา จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตรนฺตา สกลสํสารมโหฆโต นิตฺถเรยฺยุํ, ปเร จ ตตฺถ ปติฏฺเปยฺยุ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. ปทนิพฺพจนํ นิรุตฺตํ, ตํ ‘‘เอว’’นฺติอาทินิทานปทานํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิปาฬิปทานฺจ อฏฺกถาย ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนาย จ วุตฺตนยานุสาเรน สุกรตฺตา อติวิตฺถารภเยน น วิตฺถารยิมฺห.
ปท-ปทตฺถ-เทสนา-นิกฺเขป-สุตฺตสนฺธิ-วเสน ปฺจวิธา สนฺธิ. ตตฺถ ปทสฺส ปทนฺตเรน สมฺพนฺโธ ¶ ปทสนฺธิ. ตถา ปทตฺถสฺส ปทตฺถนฺตเรน สมฺพนฺโธ ปทตฺถสนฺธิ, โย ‘‘กิริยาการกสมฺพนฺโธ’’ติ วุตฺโต. นานานุสนฺธิกสฺส ตํตํอนุสนฺธีติ สมฺพนฺโธ, เอกานุสนฺธิกสฺส ปน ปุพฺพาปรสมฺพนฺโธ เทสนาสนฺธิ, ยา อฏฺกถายํ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิ อชฺฌาสยานุสนฺธิ ยถานุสนฺธี’’ติ ติธา วิภตฺตา. อชฺฌาสโย เจตฺถ อตฺตชฺฌาสโย ปรชฺฌาสโยติ ทฺวิธา เวทิตพฺโพ. นิกฺเขปสนฺธิ จตุนฺนํ สุตฺตนิกฺเขปานํ วเสน เวทิตพฺพา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปปฺจสูทนีฏีกายํ วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. สุตฺตสนฺธิ อิธ ปมนิกฺเขปวเสน เวทิตพฺพา.
‘‘กสฺมา ปเนตฺถ โอฆตรณสุตฺตเมว ปมํ นิกฺขิตฺต’’นฺติ นายมนุโยโค กตฺถจิ น ปวตฺตติ? อปิจ ‘‘อปฺปติฏฺํ อนายูหํ โอฆมตริ’’นฺติ ปติฏฺานายูหนปฏิกฺเขปวเสน อนฺตทฺวยวิวชฺชนมุเขน วา มชฺฌิมาย ปฏิปทาย วิภาวนโต สพฺพปมมิทํ สุตฺตํ อิธ นิกฺขิตฺตํ. อนฺตทฺวยํ อนุปคมฺม มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา สงฺกาสนปรฺหิ พุทฺธานํ สาสนนฺติ. ยํ ปน เอกิสฺสา เทสนาย เทสนนฺตเรน สทฺธึ สํสนฺทนํ, อยมฺปิ เทสนาสนฺธิ. สา อิธ เอวํ เวทิตพฺพา –
‘‘อปฺปติฏฺํ…เป… อนายูหํ โอฆมตริ’’นฺติ อยํ เทสนา –
‘‘สพฺพทา สีลสมฺปนฺโน, ปฺวา สุสมาหิโต;
อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ.
‘‘วิรโต กามสฺาย, รูปสํโยชนาติโค;
นนฺทีราคปริกฺขีโณ, โส คมฺภีเร น สีทติ; (สํ. นิ. ๑.๙๖);
สทฺธาย ¶ ตรติ โอฆํ, อปฺปมาเทน อณฺณวํ. (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๖);
‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห, ปฺจ จุตฺตริ ภาวเย;
ปฺจสงฺคาติโค ภิกฺขุ, โอฆติณฺโณติ วุจฺจติ. (สํ. นิ. ๑.๕; ธ. ป. ๓๗๐);
‘‘ตสฺมา ¶ ชนฺตุ สทา สโต, กามานิ ปริวชฺชเย;
เต ปหาย ตเร โอฆํ, นาวํ สิตฺวาว ปารคู. (สุ. นิ. ๗๗๗; มหานิ. ๖; เนตฺติ. ๕);
‘‘เอกายนํ ชาติขยนฺตทสฺสี, มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;
เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗; ปมวคฺค ๑๒๑; เนตฺติ. ๑๗๐) –
เอวมาทีหิ เทสนาหิ สํสนฺทตีติ อยํ จตุพฺยูโห หาโร.
อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ เอตฺถ สํกิเลสวเสน ปติฏฺานํ อายูหนฺจ. เตน อโยนิโสมนสิกาโร ทีปิโต, สนฺตกิเลสวเสน อนายูหเนน โยนิโสมนสิกาโร. ตตฺถ อโยนิโสมนสิกโรโต ตณฺหาวิชฺชา ปวฑฺฒติ. เตสุ ตณฺหาคหเณน จ ตณฺหามูลกา ธมฺมา อาวตฺตนฺติ. อวิชฺชาคหเณน อวิชฺชามูลกํ สพฺพํ ภวจกฺกํ อาวตฺตติ. โยนิโสมนสิการคฺคหเณน จ โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา อาวตฺตนฺติ จตุพฺพิธฺจ สมฺปตฺติจกฺกํ. ปติฏฺานายูหนปฏิกฺเขเปน ปน สมฺมาปฏิปตฺติ ทีปิตา, สา จ สงฺเขปโต สีลาทิสงฺคหา. ตตฺถ สีลคฺคหเณน เอกาทส สีลานิสํสา อาวตฺตนฺติ, สมาธิคฺคหเณน ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ ปฺจฺาณิโก สมฺมาสมาธิ สมาธิปริกฺขารา จ อาวตฺตนฺติ. ปฺาคหเณน ปฺา จ สมฺมาทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิสุทสฺสนา สพฺเพปิ อริยมคฺคธมฺมา อาวตฺตนฺตีติ อยํ อาวตฺโต หาโร.
ปติฏฺานํ กิเลสาทิวเสน สตฺตวิธํ. อายูหนํ อภิสงฺขาราทิวเสน สตฺตวิธํ. ตถา ตปฺปฏิปกฺขโต อปฺปติฏฺานํ อนายูหนฺจ. อยเมตฺถ ธมฺมวิภตฺติ. ปทฏฺานภูมิวิภตฺติโย ปน เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา. อยํ วิภตฺติหาโร.
ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ สมฺมเทว สมฺปาเทตฺวา สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาวนํ อุสฺสกฺเกนฺโต กิเลสาทีนํ ทูรีกรณโต เตสํ วเสน อสํสีทนฺโต ¶ อนิพฺพุยฺหนฺโต อปฺปติฏฺํ อนายูหํ โอฆํ ตรติ. กิเลสาทีนํ วเสน ปน สํสีทนฺโต นิพฺพุยฺหนฺโต สํสาเร ปติฏฺานโต อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา อายูหนโต โอฆํ น ตรตีติ อยํ ปริวตฺโต หาโร.
อปฺปติฏฺํ ¶ อสนฺติฏฺนฺโต อสํสีทนฺโต อนิพฺพิสํ อนวินิพฺพิสนฺติ ปริยายวจนํ, อนายูหํ อนิพฺพุยฺหนฺโต อเจเตนฺโต อปกปฺเปนฺโตติ ปริยายวจนํ, โอฆํ กิเลสสมุทฺทนฺติ ปริยายวจนํ, อตริ อติกฺกมิ อจฺจวายีติ ปริยายวจนํ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ ปริยายวจนํ เวทิตพฺพนฺติ อยํ เววจโน หาโร.
อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ เอตฺถ ปติฏฺํ อายูหนฺติ กิเลสานํ กิจฺจกรณปฺตฺติ. ปริยุฏฺานานํ วิภาวนปฺตฺติ. อภิสงฺขารานํ วิรุหนปฺตฺติ. ตณฺหาย อสฺสาทปฺตฺติ. ทิฏฺิยา ปรินิปฺผนฺทนปฺตฺติ. ภวทิฏฺิยา ภวาภินิเวสปฺตฺติ. วิภวทิฏฺิยา วิปลฺลาสปฺตฺติ. กามสุขานุโยคสฺส กาเมสุ อนุคิชฺฌนปฺตฺติ. อตฺตกิลมถานุโยคสฺส อตฺตปริตาปนปฺตฺติ. อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ ปน อภิฺเยฺยธมฺมานํ อภิฺาปฺตฺติ. ปริฺเยฺยธมฺมานํ ปริฺาปฺตฺติ. โอฆมตรินฺติ ปหาตพฺพธมฺมานํ ปหานปฺตฺติ. มคฺคสฺส ภาวนาปฺตฺติ. นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาปฺตฺตีติ อยํ ปฺตฺติหาโร.
อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ เอตฺถ ปติฏฺานายูหนคฺคหเณน โอฆคฺคหเณน จ สมุทยสจฺจํ คหิตํ. อปฺปติฏฺํ อนายูหํ อตรินฺติ ปน ปทตฺตเยน มคฺคสจฺจํ คหิตํ, เหตุคหเณน จ เหตุมโต คหณํ สิทฺธเมวาติ ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อตฺถโต คหิตาเนวาติ อยํ สจฺเจหิ โอตรณา. ตตฺถ เย โลกิยา ปฺจกฺขนฺธา, เยสํ วเสน ปติฏฺานายูหนสิทฺธิ. เย โลกุตฺตรา จตฺตาโร ขนฺธา, เยสํ วเสน โอฆตรณสิทฺธิ. อยํ ขนฺธมุเขน โอตรณา. เย เอว ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย, เต จตฺตาโร ขนฺธา ทฺวายตนานิ ทฺเว ธาตุโยติ อยํ อายตนมุเขน ธาตุมุเขน จ โอตรณา. ตถา อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ เอตฺถ ปติฏฺานายูหนคฺคหเณน กิเลสาภิสงฺขาราทีนํ คหณํ. กิเลสาภิสงฺขาราทโย โอฆา จ สงฺขารกฺขนฺธา ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ จ, อปฺปติฏฺานานายูหนคฺคหเณน โอฆตรณวจเนน จ สห วิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต. เอวฺจ สงฺขารกฺขนฺโธ ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ จ ¶ คหิตาติ เอวมฺปิ ขนฺธมุเขน อายตนมุเขน ธาตุมุเขน โอตรณา. วิปสฺสนา เจ อนิจฺจานุปสฺสนา, อนิมิตฺตมุเขน วิโมกฺขมุขํ, ทุกฺขานุปสฺสนา เจ, อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ, อนตฺตานุปสฺสนา เจ, สฺุตวิโมกฺขมุขนฺติ เอวํ วิโมกฺขมุเขน โอตรณํ. มคฺเค เสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ธมฺมายตนธมฺมธาตู อนาสวา จ เอวมฺปิ โข ขนฺธาทิมุเขน โอตรณาติ อยํ โอตรโณ หาโร.
อปฺปติฏฺนฺติ อารมฺโภ. อนายูหนฺติ ปทสุทฺธิ, โน อารมฺภสุทฺธิ, ตถา โอฆนฺติ. อตรินฺติ ปน ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จาติ อยํ โสธโน หาโร.
อปฺปติฏฺํ ¶ อนายูหนฺติ สามฺโต อธิฏฺานํ ตณฺหาทิฏฺิอาทิวเสน ปติฏฺานายูหนานํ สาธารณโต ปฏิกฺเขปโจทนาติ กตฺวา โอฆมตรินฺติ ตํ วิกปฺเปตฺวา วิเสสวจนํ. โอฆตรณฺหิ จตฺตาโร อริยมคฺคา. ตตฺถ ปมทุติยมคฺคา อวิเสเสน ทิฏฺโฆตรณํ, ตติยมคฺโค กาโมฆตรณํ, อคฺคมคฺโค เสโสฆตรณนฺติ อยํ อธิฏฺาโน หาโร.
กิเลสวเสน ปติฏฺานสฺส อโยนิโสมนสิกาโร เหตุ. อภิสงฺขารวเสน อายูหนสฺส กิเลสา เหตู. อปฺปติฏฺานานายูหนานํ ปน ยถากฺกมํ โยนิโสมนสิการปหานานิ เหตู. สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสนา ตณฺหาวเสน ยถารหํ ตสฺส เหตู. เตนาห ภควา – ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ. ขนฺธาวิชฺชาผสฺสสฺาวิตกฺกาโยนิโสมนสิการปาปมิตฺตปรโตโฆสา ทิฏฺิวเสน ปติฏฺานสฺส เหตู. เตนาห – ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อวิชฺชาปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติอาทิ. ตณฺหาภินนฺทนา อวเสสกิเลสาภิสงฺขารวเสน อายูหนสฺส เหตู. อิมินา นเยน ยถารหํ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปติฏฺานายูหนานํ เหตุวิภาโค นิทฺธาเรตพฺโพ, ตพฺพิปริยาเยน อปฺปติฏฺานานายูหนานํ. กิเลสุปฺปาทเน หิ สมฺมเทว อาทีนวทสฺสนํ อปฺปติฏฺานสฺส เหตู, อภิสงฺขรเณ อาทีนวทสฺสนํ อนายูหนสฺส เหตู, วิปสฺสนาย อุสฺสุกฺกาปนํ โอฆตรณสฺส เหตูติ อยํ ปริกฺขาโร หาโร.
ยถาวุตฺตวิภาเคหิ ¶ ปติฏฺานายูหเนหิ จตุพฺพิธสฺสปิ โอฆสฺส ปริสุทฺธิ. อปฺปติฏฺานานายูหเนหิ ปน โสตานํ สํวโร สพฺพโส ปิธานฺจาติ จตุพฺพิธสฺสปิ โอฆสฺส วิเสสโต ปิธานํ อปฺปวตฺติกรณํ. อริยมคฺคสฺส ภาวนาย หิ กิเลสวเสน ปติฏฺานํ อภิสงฺขารวเสน อายูหนํ อุปจฺฉินฺนํ, ตสฺส สพฺเพปิ โอฆา ติณฺณา สมฺมติณฺณา ปหีนา โหนฺตีติ อยํ สมาโรปโน หาโร.
อปฺปติฏฺํ อนายูหนฺติ เอตฺถ ปติฏฺาคหเณน ตณฺหาวิชฺชา คหิตา. ตาสํ หิ วเสน สตฺโต ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปติฏฺาติ. อายูหนคฺคหเณน ตปฺปจฺจยา อภิสงฺขารธมฺมา คหิตา. ตตฺถ ตณฺหาย วิเสสโต รูปธมฺมา อธิฏฺานํ, อวิชฺชาย อรูปธมฺมา. เตสํ ยถากฺกมํ สมโถ จ วิปสฺสนา จ ปฏิปกฺขา, เต ‘‘อปฺปติฏฺํ อนายูหํ โอฆมตริ’’นฺติ ปเทหิ ปกาสิตา โหนฺติ, เตสุ สมถสฺส เจโตวิมุตฺติ ผลํ, วิปสฺสนาย ปฺาวิมุตฺติ. ตถา หิ สา ‘‘ราควิราคา อวิชฺชาวิราคา’’ติ วิเสเสตฺวา วุจฺจติ. ตตฺถ ตณฺหาวิชฺชา อภิสงฺขาโร จ สมุทยสจฺจํ, เตสํ อธิฏฺานภูตา รูปารูปธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, เตสํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา โอฆตรณปริยาเยน วุตฺตา มคฺคสจฺจํ. ตณฺหาคหเณน เจตฺถ มายา-สาเยฺยมานาติมาน-มทปฺปมาท-ปาปิจฺฉตา-ปาปมิตฺตตา-อหิริกาโนตฺตปฺปาทิวเสน ¶ อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ. อวิชฺชาคหเณน วิปรีตมนสิการ-โกธูปนาห-มกฺขปฬาส-อิสฺสามจฺฉริย-สารมฺภ- โทวจสฺสตา-ภวทิฏฺิอาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ. วุตฺตวิปริยาเยน อมายาอสาเยฺยาทิอวิปรีตมนสิการาทิวเสน. ตถา สมถปกฺขิยานํ สทฺธินฺทฺริยานํ วิปสฺสนาปกฺขิยานํ อนิจฺจสฺาทีนฺจ วเสน โวทานปกฺโข เนตพฺโพติ อยํ นนฺทิยาวตฺตสฺส นยสฺส ภูมิ.
ตถา วุตฺตนเยน คหิเตสุ ตณฺหาวิชฺชาตปฺปกฺขิยธมฺเมสุ ตณฺหา โลโภ, อวิชฺชา โมโห, อวิชฺชาย สมฺปยุตฺโต โลหิเต สติ ปุพฺโพ วิย ตณฺหาย สติ สิชฺฌมาโน อาฆาโต โทโส อิติ ตีหิ อกุสลมูเลหิ คหิเตหิ, ตปฺปฏิปกฺขโต ‘‘อปฺปติฏฺ’’นฺติอาทิวจเนหิ จ ตีณิ อกุสลมูลานิ ตีณิ กุสลมูลานิ จ สิทฺธานิ เอว โหนฺติ. อิธาปิ โลโภ สพฺพานิ สาสวกุสลมูลานิ อายูหนธมฺมา จ สมุทยสจฺจํ, ตนฺนิพฺพตฺตา เตสํ อธิฏฺานโคจรภูตา จ อุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจนฺติอาทินา สจฺจโยชนา โยเชตพฺพา. ผลํ ปเนตฺถ วิโมกฺขตฺตยวเสน ¶ นิทฺธาเรตพฺพํ, ตีหิ อกุสลมูเลหิ ติวิธทุจฺจริต-สํกิเลสมลวิสมอกุสลสฺา-วิตกฺกาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ, ตถา ตีหิ กุสลมูเลหิ ติวิธสุจริต-สมกุสลสฺา-วิตกฺก-สมาธิ-วิโมกฺขมุขาทิวเสน โวทานปกฺโข เนตพฺโพติ อยํ ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ภูมิ.
ตถา วุตฺตนเยน คหิเตสุ ตณฺหาวิชฺชาตปฺปกฺขิยธมฺเมสุ วิเสสโต ตณฺหาทิฏฺีนํ วเสน อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ, ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ จ วิปลฺลาสา, อวิชฺชาทิฏฺีนํ วเสน ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสา เวทิตพฺพา. เตสํ ปฏิปกฺขโต ‘‘อปฺปติฏฺ’’นฺติอาทิวจเนหิ จ ลทฺเธหิ สติวีริยสมาธิปฺินฺทฺริเยหิ จตฺตาริ สติปฏฺานานิ สิทฺธาเนว โหนฺติ.
ตตฺถ จตูหิ อินฺทฺริเยหิ จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺทิสิตพฺพา. กถํ? ทุวิโธ หิ ตณฺหาจริโต มุทินฺทฺริโย ติกฺขินฺทฺริโยติ, ตถา ทิฏฺิจริโต. เตสุ ปโม อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี สติพเลน ยถาภูตํ กายสภาวํ สลฺลกฺเขนฺโต ภาวนาพเลน ตํ วิปลฺลาสํ สมุคฺฆาเตตฺวา สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ. ทุติโย อสุเข ‘‘สุข’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา วุตฺเตน วีริยสํวรภูเตน วีริยพเลน ปฏิปกฺขํ วิโนเทนฺโต ภาวนาพเลน ตํ วิปลฺลาสํ วิทฺธํเสตฺวา สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ. ตติโย ¶ อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ อยาถาวคฺคาหี สมถพเลน สมาหิตจิตฺโต สงฺขารานํ ตงฺขณิกภาวํ สลฺลกฺเขนฺโต ภาวนาพเลน ตํ วิปลฺลาสํ สมุคฺฆาเตตฺวา สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ. จตุตฺโถ สนฺตติ-สมูห-กิจฺจารมฺมณ-ฆนวฺจิตตาย ผสฺสาทิธมฺมปฺุชมตฺเต อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ มิจฺฉาภินิเวสี จตุโกฏิกสฺุตามนสิกาเรน ตํ มิจฺฉาภินิเวสํ วิทฺธํเสตฺวา สามฺผลํ สจฺฉิกโรติ. สุภสฺาสุขสฺาทีหิ จตูหิ วา วิปลฺลาเสหิ สมุทยสจฺจํ, เตสมธิฏฺานารมฺมณภูตา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจนฺติอาทินา สจฺจโยชนา เวทิตพฺพา. ผลํ ปเนตฺถ จตฺตาริ สามฺผลานิ, จตูหิ เจตฺถ วิปลฺลาเสหิ จตุราสโวฆโยค-กายคนฺถ-อคติ-ตณฺหุปฺปาทุปาทาน-สตฺตวิฺาณฏฺิติ-อปริฺาทิวเสน อกุสลปกฺโข เนตพฺโพ, ตถา จตูหิ สติปฏฺาเนหิ จตุพฺพิธฌาน-วิหาราธิฏฺาน-สุขภาคิยธมฺม-อปฺปมฺาสมฺมปฺปธานิทฺธิปาทาทิวเสน โวทานปกฺโข เนตพฺโพติ อยํ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิ.
อิเมสํ ¶ ปน ติณฺณํ อตฺถนยานํ สิทฺธิยา โวหารนยทฺวยํ สิทฺธเมว โหติ. ตถา หิ อตฺถนยานํ ทิสาภูตธมฺมาโลจนํ ทิสาโลจนํ, เตสํ สมานยนํ องฺกุโสติ ปฺจปิ นยา อิธ นิยุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อิทฺจ สุตฺตํ โสฬสวิเธ สุตฺตนฺตปฏฺาเน นิพฺเพธเสกฺขภาคิยํ พฺยติเรกมุเขน ปติฏฺานายูหนานิ คหิตานีติ สํกิเลสนิพฺเพธเสกฺขภาคิยํ จาติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺวีสติวิเธ ปน สุตฺตนฺตปฏฺาเน โลกิยโลกุตฺตรํ สตฺตาธิฏฺานํ าณเยฺยํ ทสฺสนภาวนํ สกวจนํ วิสฺสชฺชนียํ กุสลํ อนฺุาตนฺติ เวทิตพฺพํ.
โอฆตรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา
๒. ปมมาคตนฺติ สํวณฺณนาวเสน ปมสุตฺตาทีสุ ปมํ อาคตปทํ. อุตฺตานตฺถนฺติ ปากฏตฺถํ. อปุพฺพํเยว หิ ทุวิฺเยฺยตฺถฺจ ปทํ สํวณฺเณตพฺพํ. โนติ ปุจฺฉายํ นุ-สทฺเทน สมานตฺโถ นิปาโตติ อาห ‘‘ชานาสิ โนติ ชานาสิ นู’’ติ. วฏฺฏโต นิมุจฺจนฺติ เตน สตฺตาติ นิโมกฺโข, มคฺโค. โส จ ปมุจฺจนฺติ เตนาติ ปโมกฺโข, ปมุจฺจนนฺเต ปน อธิคนฺตพฺพตฺตาผลํ ‘‘ปโมกฺโข’’ติ วุตฺตํ, ยถา อรหตฺตํ ‘‘ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ วุตฺตํ. เตติ สตฺตา. วิวิจฺจตีติ วิสุํ อสมฺมิสฺโส โหติ, วิคจฺฉตีติ อตฺโถ. วิวิจฺจติ ทุกฺขํ เอตสฺมาติ วิเวโก. ทุติยวิกปฺเป ปน สกลวฏฺฏทุกฺขโต สตฺตา นิมุจฺจนฺติ เอตฺถ ปมุจฺจนฺติ วิวิจฺจนฺติ จาติ นิโมกฺโข ปโมกฺโข วิเวโก, นิพฺพานนฺติ อตฺโถ ¶ เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ. อวธารณตฺโถ โข-กาโร ‘‘อสฺโสสิ โข’’ติอาทีสุ วิย.
นนฺทีมูลโก ภโว นนฺทีภโว ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สากภกฺโข ปตฺถโว สากปตฺถโว’’ติ ยถา. ปมํ กมฺมวฏฺฏปธานํ อตฺถํ วตฺวา ปุน กิเลสกมฺมานํ วเสน อุภยปฺปธานํ อตฺถํ วทนฺโต ‘‘นนฺทิยา จา’’ติอาทิมาห. ปุริมนเยติ นนฺทีมูลโก กมฺมภโว นนฺทีภโวติ เอตสฺมึ ปกฺเข. นนฺทีภเวนาติ นนฺทีภวปเทน. ติวิธกมฺมาภิสงฺขารวเสนาติ ปฺุาภิสงฺขาราทิวเสน กายสงฺขาราทิวเสน จ ติปฺปการสฺส กมฺมาภิสงฺขารสฺส ¶ วเสน. สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต เจตนาปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธสฺส. สฺาวิฺาเณหีติ ‘‘สฺาวิฺาณสงฺขยา’’ติ เอวํ วุตฺตสฺาวิฺาณปเทหิ. ตํสมฺปยุตฺตา จาติ เตน ยถาวุตฺตสงฺขารกฺขนฺเธน สมํ ยุตฺตา เอว. ทฺเว ขนฺธาติ สฺาวิฺาณกฺขนฺธา.
นนุ เอตฺถ เวทนากฺขนฺโธ น คหิโตติ? โน น คหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตหิ ปนา’’ติอาทิมาห. ตีหิ ขนฺเธหีติ สฺาสงฺขารวิฺาณกฺขนฺเธหิ. คหิตาว อวินาภาวโต. น หิ เวทนารหิโต โกจิ จิตฺตุปฺปาโท อตฺถิ. อนุปาทิณฺณกานนฺติ กุสลากุสลานํ. น เหตฺถ กิริยาขนฺธานํ อปฺปวตฺติ อธิปฺเปตา. อปฺปวตฺติวเสนาติ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปตฺติวเสน. นิพฺพตฺตนวเสน กมฺมกิเลเสหิ อุปาทียตีติ อุปาทิ, ปฺจกฺขนฺธา. อุปาทิโน เสโส อุปาทิเสโส, สห อุปาทิเสเสนาติ สอุปาทิเสสํ. นิพฺพานํ กถิตํ สกลกมฺมกิเลสวูปสมตฺถสฺส โชติตตฺตา. เหฏฺา ทฺวีหิ ปเทหิ อนุปาทิณฺณกกฺขนฺธา คหิตาติ ‘‘เวทนาน’’นฺติ เอตฺถ อุปาทิณฺณกคฺคหณํ ยุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุปาทิณฺณกเวทนาน’’นฺติ. นิโรเธนาติ ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคนิโรธวเสน นิรุชฺฌเนน. อุปสเมนาติ อจฺจนฺตูปสเมน อปฺปวตฺตเนน. เอวฺจ กตฺวา จ-สทฺทคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. เตสนฺติ ตสฺสา เวทนาย ตํสมฺปยุตฺตานฺจ ติณฺณํ ขนฺธานํ. วตฺถารมฺมณวเสนาติ วตฺถุภูตานํ ฉนฺนํ อารมฺมณภูตานฺจ สพฺเพสมฺปิ อุปาทิณฺณกรูปธมฺมานํ วเสน.
กสฺมา ปน เหฏฺา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธาเยว วุตฺตา, รูปกฺขนฺโธ น คหิโตติ? วิเสสภาวโต. สอุปาทิเสสนิพฺพานปฺปตฺติยฺหิ อุปาทิณฺณกรูปธมฺมานํ วิย อนุปาทิณฺณกรูปธมฺมานํ อปฺปวตฺติเยว นตฺถิ. ทุติยนเยติ นนฺทิยา จ ภวสฺส จาติ เอตมฺหิ ปกฺเข. นนฺทิคฺคหเณน สงฺขารกฺขนฺโธ คหิโต ตํสหจรณโต. อุปปตฺติภวสงฺขาโต รูปกฺขนฺโธติ อุปาทิณฺณกรูปธมฺมเมว วทติ. ตคฺคหเณเนว จ ตนฺนิมิตฺตกานิ อุตุอาหารชานิ, วิฺาณคฺคหเณน ¶ จิตฺตชานีติ จตุสนฺตติรูปสฺสเปตฺถ คหิตตา เวทิตพฺพา. สฺาทีหีติ สฺาวิฺาณเวทนาคหเณหิ ตโย ขนฺธา คหิตา, ตฺจ โข อุปาทิณฺณา อนุปาทิณฺณาติ วิภาคํ อกตฺวา อวิเสสโต. อวิเสเสน หิ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติ นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘เอวํ…เป… นิพฺพานํ กถิตํ โหตี’’ติ. ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ หิ อิธ อมตมหานิพฺพานํ อธิปฺเปตํ. อิมเมว จ นยนฺติ อิทํ ยถาวุตฺตํ ทุติยเมว. จตฺตาโร ¶ มหานิกาเย ธาเรตีติ จตุนิกายิโก. ภณฺฑิกนามโก เถโร ภณฺฑิกตฺเถโร. อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. นิพฺพานวเสเนวาติ ปมนเย สอุปาทิเสสนิพฺพานสฺส อนุปาทิเสสนิพฺพานสฺส จ, ทุติเย ปน ‘‘อมตมหานิพฺพานสฺสา’’ติ สพฺพถาปิ นิพฺพานสฺเสว วเสน ภควา เทสนํ นิฏฺเปสิ สมาเปสีติ.
นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุปนียสุตฺตวณฺณนา
๓. อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ อุปสคฺควเสน อตฺถวิเสสวาจโก โหตีติ อาห ‘‘อุปนียตีติ ปริกฺขียติ นิรุชฺฌตี’’ติ. วินสฺสตีติ อตฺโถ. อุปนียตีติ วา สรเสเนว ชีวิตสฺส มรณูปคมนํ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘อุปคจฺฉติ วา, อนุปุพฺเพน มรณํ อุเปตีติ อตฺโถ’’ติ. กามฺเจตฺถ ‘‘อุปนียตี’’ติ ปทํ อปากฏกมฺมวิเสสํ วุตฺตํ. ยถา ปน ‘‘สพฺพํ อาโรคฺยํ พฺยาธิปริโยสานํ, สพฺพํ โยพฺพนํ ชราปริโยสานํ, สพฺพํ ชีวิตํ มรณปริโยสาน’’นฺติ, ‘‘อุปนียติ ชีวิต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘มรณํ อุเปตี’’ติ วุตฺตํ. กมฺมกตฺตุวเสน เหตํ วุตฺตํ.
อิทานิ กมฺมสาธนวเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โคปาเลน โคคโณ นียติ ยถิจฺฉิตํ านํ. ชีวนฺติ เตน สตฺตา, สหชาตธมฺมา วาติ ชีวิตํ, ตเทว เตสํ อนุปาลเน อาธิปจฺจสพฺภาวโต อินฺทฺริยนฺติ อาห ‘‘ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ ปริตฺตนฺติ อิตฺตรํ. เตนาห ‘‘โถก’’นฺติ. ปพนฺธานุปจฺเฉทสฺส ปจฺจยภาโว อิธ ชีวิตสฺส มรณกิจฺจนฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สรสปริตฺตตาย จา’’ติอาทิ. อายูติ จ ปรมายุ อิธาธิปฺเปตํ, ตฺจ อชฺชกาลวเสน เวทิตพฺพํ.
อิมสฺมิฺหิ พุทฺธุปฺปาเท อยํ กถาติ ชีวิตสฺส อติอิตฺตรภาวทีปนปรา อยํ เทสนา. ชีวิตินฺทฺริยวเสน ชีวิตกฺขยํ นิยเมนฺโต ‘‘เอกจิตฺตปฺปวตฺติมตฺโตเยวา’’ติ อาห, เอกสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส ¶ ปวตฺติกฺขณมตฺโต เอวาติ อตฺโถ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปวตฺตมานนฺติ เนมิรถีสา วตฺตนฺตี เอเกเนว เนมิปฺปเทเสน ¶ ปวตฺตติ เอกสฺมึ ขเณติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอเกเนว ติฏฺตี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอกจิตฺตกฺขณิกนฺติ เอกจิตฺตกฺขณมตฺตวนฺตํ. ตสฺมึ จิตฺเตติ ตสฺมึ ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ เอกสฺมึ จิตฺเต. นิรุทฺธมตฺเตติ นิรุทฺธภาวปฺปตฺตมตฺเต. นิรุทฺโธติ วุจฺจตีติ มโตติ วุจฺจติ ตํสมงฺคี สตฺโต ปรมตฺถโต. อวิเสสวิทุโน ปน อวิฺายมานนฺตเรน อนุสนฺธานสฺส นิรุทฺธนํ นิโรธํ สลฺลกฺเขนฺติ. ยถาวุตฺตมตฺถํ สุตฺเตน วิภาเวตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ตีสุปิ กาเลสุ สตฺตานํ ปรมตฺถโต ชีวนํ มรณํ จิตฺตกฺขณวเสเนวาติ ทสฺเสติ.
ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ. อตฺตภาโวติ ชีวิตเวทนาวิฺาณานิ เปตฺวา อวสิฏฺธมฺมา อธิปฺเปตา. สุขทุกฺขาติ สุขทุกฺขา เวทนา, อุเปกฺขาปิ อิธ สุขทุกฺขาสฺเวว อนฺโตคธา อิฏฺานิฏฺภาวโต. เกวลาติ อตฺตนา, นิจฺจภาเวน วา อโวมิสฺสา. เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ เอกเกน จิตฺเตน สหิตา. ลหุโส วตฺตเต ขโณติ วุตฺตนเยน เอกจิตฺตกฺขณิกตาย ลหุโก อติอิตฺตโร ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ.
เย นิรุทฺธา มรนฺตสฺสาติ จวนฺตสฺส สตฺตสฺส จุติโต อุทฺธํ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพา เย ขนฺธา. ติฏฺมานสฺส วา อิธาติ เย วา อิธ ปวตฺติยํ ติฏฺมานสฺส ธรนฺตสฺส ภงฺคปฺปตฺติยา นิรุทฺธา ขนฺธา, สพฺเพปิ สทิสา เต สพฺเพปิ เอกสทิสา คตา อตฺถงฺคตา อปฺปฏิสนฺธิยา ปุน อาคนฺตฺวา ปฏิสนฺธานาภาเวน วิคตา. ยถา หิ จุติขนฺธา น นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ ตโต ปุพฺเพปิ ขนฺธา. ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตนฺติ อธิปฺปาโย.
อนิพฺพตฺเตน น ชาโตติ อนุปฺปนฺเนน จิตฺเตน ชาโต น โหติ ‘‘อนาคเต จิตฺตกฺขเณ น ชีวิตฺถ น ชีวติ ชีวิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพโต. ปจฺจุปฺปนฺเนน วตฺตมาเนน จิตฺเตน ชีวติ ชีวมาโน นาม โหติ, น ชีวิตฺถ น ชีวิสฺสติ. จิตฺตภงฺคา มโต โลโกติ จุติจิตฺตสฺส วิย สพฺพสฺสปิ ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคปฺปตฺติยา อยํ โลโก ปรมตฺถโต มโต นาม โหติ ‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ น ชีวติ น ชีวิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพโต, นิรุทฺธสฺส อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา. เอวํ สนฺเตปิ ปฺตฺติ ปรมตฺถิยา, ยายํ ตํ ตํ ปวตฺตํ จิตฺตํ อุปาทาย ‘‘ติสฺโส ชีวติ, ผุสฺโส ชีวตี’’ติ วจนปฺปวตฺติยา ¶ วิสยภูตา สนฺตานปฺตฺติ, สา เอตฺถ ปรมตฺถิยา ปรมตฺถภูตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖).
น ¶ สนฺติ ตาณาติ ชรํ อุปคตสฺส ตโต ตํนิมิตฺตํ ยํ วา ปาปการิโน ปาปกมฺมานํ อุปฏฺานวเสน ปฺุการิโน ปิยวิปฺปโยควเสน จิตฺตทุกฺขํ อุภเยสมฺปิ พนฺธนจฺเฉทนาทิวเสน วิตุชฺชมานํ อนปฺปกํ สรีรทุกฺขํ สมฺโมหปฺปตฺติ จ โหติ, ตโต ตายนฺตา น สนฺติ. เตนาห – ‘‘ตาณํ เลณํ สรณํ ภวิตุํ สมตฺถา นาม เกจิ นตฺถี’’ติ. ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, ภยนิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘ภยวตฺถู’’ติ. ตคฺคหเณน จ จิตฺตุตฺราสลกฺขณํ ภยํ คหิตเมว, สติ นิมิตฺเต เนมิตฺตํ สนฺตเมวาติ. ปุพฺพเจตนนฺติ เอกาวชฺชนวีถิยํ นานาวชฺชนวีถิยํ สมฺปวตฺตํ อุปจารชฺฌานเจตนํ. อปรเจตนนฺติ วสีภาวาปาทนวเสน ปรโต สมาปชฺชนวเสน จ ปวตฺตํ สมาปตฺติเจตนํ. มฺุจเจตนนฺติ วิกฺขมฺภนวเสน ปวตฺตํ ปมปฺปนาเจตนํ. กุสลชฺฌานสฺส วิปากชฺฌาเนว ลพฺภมานํ สุขํ ฌานสุขํ. อิฏฺปริยาโย เจตฺถ สุข-สทฺโท. ฌาเน อเปกฺขา ฌานนิกนฺติ. ฌานสฺส อสฺสาทวเสน ปวตฺโต โลโภ ฌานสฺสาโท. เยน เต เต พฺรหฺมาโน ฌานโต วุฏฺาย ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ วาจํ นิจฺฉาเรสุนฺติ. ยถา เทวา สุขพหุลา ติเหตุปฏิสนฺธิกาวาติ ปฏิปชฺชนฺตา ฌานํ อธิคนฺตุํ ภพฺพา, น อิตเรติ ‘‘กามาวจรเทเวสู’’ติ วุตฺตํ. กามาวจรา จ อุปริเทวา จ กามาวจรเทวาติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ. เตน มนุสฺสานมฺปิ เอกจฺจานํ สพฺเพสมฺปิ วา สงฺคโห สิทฺโธ โหติ ปตฺถนาปริกปฺปนาย วิสยภาวโต. เตนาห ‘‘อโห วติเม จ…เป… ติฏฺเยฺยุ’’นฺติ. ถุลฺลานิ ผุสิตานิ วิปฺผุรานิ เอตฺถาติ ถุลฺลผุสิตโก, กาโล, เทโส วา. ตสฺมึ ถุลฺลผุสิตเก.
‘‘ปฺุานิ กยิราถ สุขาวหานี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อนิยฺยานิกํ วฏฺฏกถํ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต อามิสฺจาติ โลกามิสํ. นิปฺปริยายามิสํ ปน โลเก อามิสนฺติปิ โลกามิสํ. ปริยาเยติ สภาวโต ปริวตฺเตตฺวา าเปติ เอเตนาติ ปริยาโย, เลโส, การณํ วาติ อาห ‘‘นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร ปจฺจยา’’ติ, วฏฺฏสฺส เอกนฺตโต พาลโลเกเหว ¶ อามสิตพฺพภาวโต ปริยายามิสตา วุตฺตา. อิธ ปริ..เป… อธิปฺเปตํ วิวฏฺฏปฏิโยคิโน อิจฺฉิตตฺตา. จตุปจฺจยาเปกฺขฺหิ ปหานํ. เอกจฺจสฺส สกลวฏฺฏาเปกฺขปฺปหานสฺสปิ ปจฺจโย โหตีติ ‘‘วฏฺฏติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ. วูปสมติ เอตฺถ สกลวฏฺฏทุกฺขนฺติ สนฺติ, อสงฺขตธาตูติ อาห ‘‘นิพฺพานสงฺขาต’’นฺติ.
อุปนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อจฺเจนฺติสุตฺตวณฺณนา
๔. กาลยนฺติ ¶ เขเปนฺตีติ กาลา. ปุเรภตฺตาทโย หิ กาลา ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย ปรมตฺถโต อวิชฺชมานาปิ โลกสงฺเกตมตฺตสิทฺธา ตสฺสาเยว ธมฺมปฺปวตฺติยา คตคตาย อนิวตฺตนโต ตํ ตํ ธมฺมปฺปวตฺตึ เขเปนฺตา วินาสยนฺตา วิย สยฺจ ตาหิ สทฺธึ อจฺเจนฺตา วิย โหนฺติ. เตนาห – ‘‘กาโล ฆสติ ภูตานิ, สพฺพาเนว สหตฺตนา’’ติ (ชา. ๑.๒.๑๙๐). ‘‘ตรยนฺติ รตฺติโย’’ติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน’’ติ วุจฺจมานตฺตา ปุคฺคลํ มรณูปคมนาย ตรยนฺตีติ อตฺโถ วุตฺโต. วโยคุณาติ เอตฺถ โกฏฺาสา คุณา. ติตฺถิยานํ หิ จริมจิตฺเตน สกลจิตฺเต วยสมูเห วยสมฺาติ อาห – ‘‘ปมมชฺฌิมปจฺฉิมวยานํ คุณา, ราสโยติ อตฺโถ’’ติ. อานิสํสฏฺโ คุณฏฺโ ‘‘วากจิรํ นิวาเสสึ, ทฺวาทสคุณมุปาคต’’นฺติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๓๐) วิย. ‘‘ตนฺทิคุณาหํ กริสฺสามิ, ทิคุณํ ทิคุณํ วทฺเธยฺยา’’ติ จ เอวมาทีสุ ปน ตพฺภาววุตฺติอตฺโถ คุณฏฺโ.
‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;
คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นาม สหสฺสโต’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๑๓; อุทา. ๕๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๗๖) –
อาทีสุ ปสํสฏฺโ คุณฏฺโ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ เอตฺถ อตฺโถ ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนโย เอว. ปมมชฺฌิมวยาติ ปมคฺคหณฺเจตฺถ วยสฺส คตสฺส อปุนราวตฺติทสฺสนตฺถํ กตํ. เตเนวาห – ‘‘มรณกฺขเณ ปน ตโยปิ วยา ชหนฺเตวา’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ ปาฬิยํ ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา’’ติ สามฺโต กาลสฺส อปคมนํ ทสฺสิตํ, ปุน ตํ วิเสสโตปิ ทสฺเสตุํ อิตรทฺวยํ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน มุทินฺทฺริยสฺส วเสน ‘‘วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, มชฺฌิมินฺทฺริยสฺส วเสน ‘‘ตรยนฺติ รตฺติโย’’ติ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘กาลาติ ปุเรภตฺตาทโย กาลา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปจฺฉาภตฺตปมยาม-มุหุตฺตกาลาทิ-กาลโกฏฺาโส เอว อณุปเภโท กาลวิภาโค คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เสสนฺติ อิธ ทฺวีสุ คาถาสุ ปจฺฉิมทฺโธ. โส หิ อิธ อตฺถโต อธิคตตฺตา อนนฺตรสุตฺเต จ วุตฺตตฺตา อติทิสิโต.
อจฺเจนฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. กติฉินฺทสุตฺตวณฺณนา
๕. ฉินฺทนฺโตติ ¶ สมุจฺฉินฺทนฺโต. กติ ฉินฺเทยฺยาติ กิตฺตเก ปาปธมฺเม สมุจฺฉินฺเทยฺย, อนุปฺปตฺติธมฺมตํ ปาเปยฺย. เสสปเทสุปีติ เสเสสุปิ ทฺวีสุ ปเทสุ. ชหนฺโต กติ ชเหยฺย, ภาเวนฺโต กติ อุตฺตริ ภาเวยฺยาติ อิมมตฺถํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา อติทิสติ. จตุตฺถปทสฺส ปน อตฺโถ สรูเปเนว ทสฺสิโต. อตฺถโต เอกนฺติ ภาวตฺถโต เอกํ. ยทิ เอวํ กิมตฺถํ ปริยายนฺตรํ คหิตนฺติ อาห ‘‘คาถาพนฺธสฺส ปนา’’ติอาทิ. อตฺถโต เอตฺถ ปุนรุตฺติ อตฺเถวาติ อาห ‘‘สทฺทปุนรุตฺตึ วชฺชยนฺตี’’ติ. สงฺคํ อติกฺกมยตีติ สงฺคาติโคติ อาห ‘‘อยเมวตฺโถ’’ติ.
โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภาเวน ตฺจ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. ตตฺถ จ กมฺมํ ตพฺพิปากํ สตฺเต ทุกฺขํ, กมฺมุนา วิปากํ, สตฺเตน ทุกฺขํ สํโยเชนฺตีติ สํโยชนานิ, สกฺกายทิฏฺิ-วิจิกิจฺฉา-สีลพฺพตปรามาส-กามราค-ปฏิฆา. อุทฺธํ วุจฺจติ จตสฺโส อรูปธาตุโย, วุตฺตนเยน ตํ ภชนฺตีติ อุทฺธมฺภาคิยานิ, สํโยชนานิ รูปารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชา. อาโรปิตวจนานุรูเปเนว เอวมาหาติ ‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห’’ติ เอวํ กเถสิ ตสฺสา เทวตาย สุขคฺคหณตฺถํ. น เกวลํ ตาย เทวตาย วุตฺตวจนานุรูปโต เอว, อถ โข เตสุ สํโยชเนสุ ¶ วตฺตพฺพาการโตปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ นาม ครูนิ ทุจฺเฉทานิ คาฬฺหพนฺธนภาวโต, ตสฺมา ตานิ สนฺธาย ‘‘ปฺจ ฉินฺเท’’ติ วุตฺตํ.
อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ ปน ลหูนิ สุจฺเฉทานิ เหฏฺา ปวตฺติตานุกฺกเมน ภาวนานเยน ปหาตพฺพโต, ตสฺมา ตานิ สนฺธาย ‘‘ปฺจ ชเห’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปาเทสุ พทฺธปาสสกุโณ วิยา’’ติอาทิ. วิเสสนฺติ ภาวนานํ วิเสสํ วิปสฺสนาภาวนํ ภาเวนฺโต อุปฺปาเทนฺโต วิปจฺเจนฺโต วฑฺเฒนฺโต จ. สํสารปงฺเก สฺชนฏฺเน ราโค เอว สงฺโค ‘‘ราคสงฺโค’’. เอส นโย เสเสสุปิ. ยสฺมา เอตฺถ ราค-โมห-ทิฏฺิ-ตพฺภาคิยสกฺกายทิฏฺิ-สีลพฺพตปรามาส-กามราคาวิชฺชา อตฺถโต โอฆา เอว, อิตเร ตเทกฏฺา, ตสฺมา ภควา สํโยชนปฺปหานสงฺคาติกฺกเมหิ โอฆตรณํ กเถสิ. โลกิยโลกุตฺตรานิ กถิตานิ ‘‘ภาวเย’’ติ ปุพฺพภาคาย มคฺคภาวนาย อธิปฺเปตตฺตา.
กติฉินฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ชาครสุตฺตวณฺณนา
๖. ชาครตนฺติ ¶ อนาทเร สามิวจนํ. เตนาห ‘‘อินฺทฺริเยสุ ชาครนฺเตสู’’ติ. ‘‘วิสฺสชฺชนคาถายํ ปนา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส ‘‘อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปุจฺฉาคาถาย ปน อตฺโถ อิมินาว นเยน วิฺายตีติ อธิปฺปาโย. ปฺจ ชาครตํ สุตฺตาติ เอตฺถ ‘‘สุตฺตา’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ปฺจาติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘ชาครต’’นฺติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา สามิวเสน ปริณาเมตพฺพํ ‘‘ปฺจนฺนํ ชาครต’’นฺติ. เตนาห – ‘‘ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ชาครนฺเตสู’’ติ, ชาครนฺเตสุ พทฺธาภาเวน สกิจฺจปฺปสุตตาย สกิจฺจสมตฺถตาย จาติ อตฺโถ. โสตฺตํว สุตฺตา ปมาทนิทฺทาภาวโต. ตเมว สุตฺตภาวํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย กถาย ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปมชฺชติ, ปมาโท วา เอตสฺส อตฺถีติ ปมาโท, ตสฺส ภาโว ปมาทตา, ตาย, ปมตฺตภาเวนาติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ คาถาย ปมสฺส ปาทสฺส อตฺถํ วตฺวา ทุติยสฺส วตฺตุํ ‘‘เอวํ สุตฺเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ยสฺมา อปฺปหีนสุปนกิริยาวเสน สนีวรณสฺส ปุคฺคลสฺส อนุปฺปนฺนราครชาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา ปวฑฺฒนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นีวรเณเหว กิเลสรชํ อาทิยตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘ปุริมา’’ติอาทิ. ปุริมานํ ปจฺฉิมานํ อปราปรุปฺปตฺติยา ปจฺจยภาโว เหตฺถ อาทิยนํ. ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุชฺฌตีติ มคฺคปริยาปนฺเนหิ สทฺธาทีหิ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ สกลสํกิเลสโต วิสุชฺฌติ. ปฺินฺทฺริยเมว หิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนิ, อิตรานิ จ อนฺวยานีติ.
ชาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อปฺปฏิวิทิตสุตฺตวณฺณนา
๗. ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุวิภาคสฺส ธมฺมสฺสปิ จตุสจฺจนฺโตคธตฺตา อาห ‘‘ธมฺมาติ จตุสจฺจธมฺมา’’ติ. จตฺตาริปิ หิ อริยสจฺจานิ จตุสจฺจนฺโตคธานิ. อปฺปฏิวิทฺธาติ ปริฺาภิสมยาทิวเสน อนภิสมิตา. ทิฏฺิคตวาเทสูติ ทิฏฺิคตสฺิเตสุ วาเทสุ. ทิฏฺิคเตหิ เต ปวตฺติตา. อิโต ปเรสนฺติ อิโต สาสนิเกหิ ปเรสํ อฺเสํ. ธมฺมตายาติ สภาเวน, สยเมวาติ อตฺโถ. คจฺฉนฺตีติ ปวตฺตนฺติ ทิฏฺิวาทํ ปคฺคยฺห ติฏฺนฺติ. ปเรนาติ ทิฏฺิคติเกน. นียนฺตีติ ทิฏฺิวาทสงฺคณฺหเน อุยฺโยชียนฺติ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ปพุชฺฌิตุนฺติ ¶ ปมาทนิทฺทาย ปฏิพุชฺฌิตุํ. ปฏิปทา ยถาเทสิตสฺส ธมฺมสฺส กถิตตาย, ปฏิพุชฺฌิตุํ โยนิโส ปวตฺติยมานตฺตา ภทฺทิกา.
เหตุนาติ าเยน. การเณนาติ จตุสจฺจานํ สมฺโพธยุตฺติยา. หตฺถตเล อามลกํ วิย สพฺพํ เยฺยํ ชานาตีติ สพฺพฺู, เตเนว สพฺพฺุตาภิสมฺโพเธน พุทฺโธติ สพฺพฺุพุทฺโธ. ปจฺเจกํ ปเรหิ อสาธารณตาย วิสุํ สยมฺภุาเณน สจฺจานิ พุทฺธวาติ ปจฺเจกพุทฺโธ. ปโรปเทเสน จตุสจฺจํ พุชฺฌตีติ จตุสจฺจพุทฺโธ. ตถา หิ โส สยมฺภุตาย อภาวโต เกวลํ จตุสจฺจพุทฺโธติ วุจฺจติ. สุเตน สุตมยาเณน ขนฺธาทิเภทํ เยฺยํ พุทฺธวาติ สุตพุทฺโธ. สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺเธ ¶ เปตฺวา อวเสสา อคฺคสาวกมหาสาวกาปิ ปกติสาวกาปิ วีตราคา อวเสสา ขีณาสวา. ตโยปิ ปุริมา วฏฺฏนฺติ สมฺพุทฺธาติอาทิวจนโต. สนฺนิวสติ เอเตนาติ สนฺนิวาโส, จริตํ. โลกสฺส สนฺนิวาโส โลกสนฺนิวาโส, ตสฺมึ. กายทุจฺจริตาทิเภเท วิสเม. สติสมฺโมเสน วิสเม วา สตฺตนิกาเย. โส หิ วิสมโยคโต วิสโม. ราควิสมาทิเก วิสเม วา กิเลสชาเต. ตํ วิสมํ ปหาย ตํ วิสมํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา สมํ สทิสํ ยุตฺตรูปํ, ปุริมเกหิ วา สมฺพุทฺเธหิ สมํ สทิสํ จรนฺติ วตฺตนฺติ.
อปฺปฏิวิทิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สุสมฺมุฏฺสุตฺตวณฺณนา
๘. สุสมฺมุฏฺาติ สุฏฺุ อติวิย สมฺมุฏฺา. สตฺต เสกฺขา หิ สุสมฺมุสิตา วินฏฺา. กถํ ปน เต อนธิคตา นฏฺา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. อธิคตสฺสาติ อธิคโต อสฺส. โส วทนฺโตติ สมฺพนฺโธ. เสสนฺติ ‘‘ธมฺมา’’ติอาทิ. ปุริมสทิสเมวาติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตสทิสเมว.
สุสมฺมุฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มานกามสุตฺตวณฺณนา
๙. เสยฺยาทิเภทํ มานํ อปฺปหาย ตํ ปคฺคยฺห วิจรนฺโต กาเมนฺโต นาม โหตีติ อาห ‘‘มานํ กาเมนฺตสฺส อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ. ทมติ จิตฺตํ เอเตนาติ ทโม, สติสมฺโพชฺฌงฺคาทิโก สมาธิปกฺขิโก ทโม. มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ ทเมตีติ ทโม, อินฺทฺริยสํวโร. กิเลเส ทเมติ ปชหตีติ ทโม, ปฺา. อุปวสนวเสน กายกมฺมาทึ ทเมตีติ ทโม, อุโปสถกมฺมํ. โกธูปนาหมกฺขมานาทิเก ¶ ทเมติ วิเนตีติ ทโม, อธิวาสนขนฺติ. เตเนวาติ ‘‘ทโม’’ติ สมาธิปกฺขิกธมฺมานํ เอว อธิปฺเปตตฺตา ¶ . ‘‘น โมนํ อตฺถี’’ติ จ ปาโ. อสมาหิตสฺสาติ สมาธิปฏิกฺเขโป โชติโต.
มจฺจุเธยฺยสฺส ปารตรณสฺส วุจฺจมานตฺตา ‘‘โมนนฺติ จตุมคฺคาณ’’นฺติ วุตฺตํ. น หิ ตโต อฺเน ตํ สมฺภวติ. ชานาติ อสมฺโมหปฏิเวธวเสน ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. มจฺจุ ธียติ เอตฺถาติ มจฺจุเธยฺยํ, ขนฺธปฺจกํ มรณธมฺมตฺตา. ตสฺเสวาติ มจฺจุเธยฺยสฺเสว. ปารํ ปรตีรภูตํ นิพฺพานํ. ตเรยฺยาติ เอตฺถ ตรณํ นาม อริยมคฺคพฺยาปาโรติ อาห ‘‘ปฏิวิชฺเฌยฺย ปาปุเณยฺยา’’ติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปฏิเวธตรณํ นาม วุตฺต’’นฺติ. ‘‘น ตเรยฺย น ปฏิวิชฺเฌยฺย น ปาปุเณยฺย วา’’ติ อยเมตฺถ ปาโ ยุตฺโต. อฺถา ‘‘อิทํ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิวจนํ วิรุชฺเฌยฺย. เอโก อรฺเ วิหรนฺโตติ เอกากี หุตฺวา อรฺเ วิหรนฺโตติ อตฺโถ.
กามํ เหฏฺิมมคฺเคหิปิ เอกจฺจสฺส มานสฺส ปหานํ ลพฺภติ. อคฺคมคฺเคเนว ปน ตสฺส อนวเสสโต ปหานนฺติ อาห – ‘‘อรหตฺตมคฺเคน นววิธมานํ ปชหิตฺวา’’ติ. อุปจารสมาธิปุพฺพโก อปฺปนาสมาธีติ วุตฺตํ ‘‘อุปจารปฺปนาสมาธีหี’’ติ, น อุปจารสมาธิมตฺเตน สมาธิมตฺตํ สนฺธาย ปจฺเจกํ วากฺยปริสมาปนสฺส อยุชฺชนโต. น หิ อปฺปนํ อปฺปตฺตํ โลกุตฺตรชฺฌานํ อตฺถิ. ‘‘สุเจตโส’’ติ จิตฺตสฺส าณสหิตตาย ลกฺขณวจนนฺติ อาห ‘‘าณสมฺปยุตฺตตายา’’ติอาทิ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สุเจตโสติ เอตฺถ จิตฺเตน ปฺา ทสฺสิตา’’ติ. ‘‘สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติ สพฺเพสุ ภวาทีสุ วิสํสฏฺจิตฺโต สพฺพโส ขนฺธาทีหิ วิสํยุตฺโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพสุ ขนฺธายตนาทีสุ วิปฺปมุตฺโต หุตฺวา’’ติ. ปริฺาปฏิเวโธ สจฺฉิกิริยปฏิเวเธน วินา นตฺถีติ อาห ‘‘เตภูมก…เป… วุตฺต’’นฺติ.
มานํ นิสฺสาย ทุจฺจริตจรณโต มาโน นามายํ สีลเภทโน. ตสฺมาติ มานสฺส สีลปฏิปกฺขภาวโต. อิมินา ปฏิปกฺขปฺปหานกิตฺตเนน. อธิจิตฺตสิกฺขา กถิตา สรูปโต เอวาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จิตฺเตนาติ สุ-สทฺเทน วิเสสิตจิตฺเตน. ตสฺมาติ ปฺาย ทสฺสิตตฺตา. อิมินาติ ‘‘สุเจตโส’’ติ อิมินา ปเทน. อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขาติ สีลาทีนิปิ วิเสเสตฺวา วุตฺตานิ. สมฺภเว พฺยภิจาเร จ วิเสสนวิเสสิตพฺพตาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อธิสีลฺจ นาม สีเล สติ โหตี’’ติอาทึ วตฺวา ตทุภยํ ¶ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปมนโย สงฺกรวเสน ปวตฺโตติ อสงฺกรวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทินา ¶ ทุติยนโย วุตฺโต. ‘‘สมาปนฺนา’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘นิพฺพานํ ปตฺถยนฺเตนา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. วิปสฺสนาย ปาทกภาวํ อนุปคตาปิ ตทตฺถํ นิพฺพตฺตนาทิวเสน สมาปนฺนาติ อยมตฺโถ ปุริมนยโต วิเสโส. อธิปฺาย ปเนตฺถ ปุริมนยโต วิเสโส นตฺถีติ สา อนุทฺธฏา. สโมธาเนตฺวาติ ปริยายโต สรูปโต จ สงฺคเหตฺวา. สกลสาสนนฺติ ติสฺสนฺนํ กถิตตฺตา เอว สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลสาสนํ กถิตํ โหตีติ.
มานกามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อรฺสุตฺตวณฺณนา
๑๐. สนฺตกิเลสานนฺติ วูปสนฺตกิเลสปริฬาหานํ. ยสฺมา สีลาทิคุณสมฺภวํ ตโต เอว ภยสนฺตฺจ อุปาทาย ปณฺฑิตา ‘‘สนฺโต’’ติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปณฺฑิตานํ วา’’ติ. เตนาห ‘‘สนฺโต หเว’’ติอาทิ. เสฏฺจารีนนฺติ เสฏฺจริยํ จรนฺตานํ. ยสฺมา ปุถุชฺชนกลฺยาณโต ปฏฺาย ภิกฺขุ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสติ นาม, ตสฺมา อาห ‘‘มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺตาน’’นฺติ. อริยานํ ปน มุขวณฺณสฺส ปสีทเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. มูลกมฺมฏฺานนฺติ ปาริหาริยกมฺมฏฺานํ. วิสภาคสนฺตตีติ นานารมฺมเณสุ ปวตฺตจิตฺตสนฺตติ. สา หิ วิกฺเขปพฺยากุลตาย อปฺปสนฺนา สมาหิตจิตฺตสนฺตติยา วิสภาคสนฺตติ. โอกฺกมตีติ สมาธิสภาคา จิตฺตสนฺตติ สมถวีถึ อนุปวิสติ. จิตฺตํ ปสีทตีติ กมฺมฏฺานนิรตํ ภาวนาจิตฺตํ สนฺธายาห, ตํ ปสนฺนํ หุตฺวา ปวตฺตติ. โลหิตํ ปสีทตีติ จิตฺตกาลุสฺสิยสฺสาภาวโต โลหิตํ อนาวิลํ โหติ. ปริสุทฺธานิ โหนฺติ การณสฺส ปริสุทฺธภาวโต. ตาลผลมุขสฺส วิย มุขสฺส วณฺโณ โหตีติ มุข-สทฺทสฺส อาทิมฺหิ ปมุตฺตปเทน โยเชตพฺโพ. เอวฺหิ จสฺส ปมุตฺตคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ ตาลผลมุขสฺส วณฺณสมฺปทาสทิสตฺตา. ติภูมโก เอว เตภูมโก.
อตีตํ นานุโสจนฺติ อตีตํ ปจฺจยลาภํ ลกฺขณํ กตฺวา น โสจนฺติ น อนุตฺถุนนฺติ. ชปฺปนตณฺหาย วเสน น ปริกปฺปนฺตีติ อาห ‘‘น ปตฺเถนฺตี’’ติ ¶ . เยน เกนจีติ อิตรีตเรน. ตงฺขเณ ลทฺเธนาติ สนฺนิธิการปริโภคาภาวมาห. ติวิเธนปิ การเณนาติ ติปฺปกาเรน เหตุนา, ติลกฺขณสนฺโตสนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
วินาสนฺติ วินาสนเหตุํ. วินสฺสนฺติ เอเตหีติ วินาโส, โลภโทสา ตเทกฏฺา จ ปาปธมฺมา ¶ . อรูปกายสฺส วิย รูปกายสฺสปิ วิเสสโต สุกฺขภาวการณนฺติ อาห ‘‘เอเตน การณทฺวเยนา’’ติ. ลุโตติ ลูโน.
อรฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นนฺทนวคฺโค
๑. นนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๑๑. ‘‘ตตฺร ภควา’’ติ วุตฺเต น ตถา พฺยฺชนานํ สิลิฏฺตา, ยถา ‘‘ตตฺร โข ภควา’’ติ วุตฺเตติ อาห ‘‘พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสนา’’ติ. ปริสเชฏฺเกติ ปริสาย เชฏฺเก, เย ตสฺสา เทสนาย วิเสสโต ภาชนภูตา. ปริสเชฏฺเก ภิกฺขูติ จตุปริสเชฏฺเก ภิกฺขู. จตุนฺนํ หิ ปริสานํ เชฏฺา ภิกฺขุปริสา ปมุปฺปนฺนตฺตา. อามนฺเตสีติ สมฺโพเธสิ, สมฺโพธนฺจ ชานาปนนฺติ อาห ‘‘ชานาเปสี’’ติ. ภทนฺเตติ ครุคารวสปฺปติสฺสววจนเมตํ, อตฺถโต ปน ภทนฺเตติ ภทฺทํ ตว โหตุ อตฺตโน นิฏฺานปริโยสานตฺตา ปเรสฺจ สนฺตตาวหตฺตา. ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ เอตฺถ ภควโตติ สามิวจนํ อามนฺตนเมว สมฺพนฺธิอตฺถปทํ อเปกฺขตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสุ’’นฺติ. ภควโตติ ปน อิทํ ปติสฺสวนสมฺพนฺเธน สมฺปทานวจนํ ยถา ‘‘เทวทตฺตสฺส ปฏิสฺสุณาตี’’ติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ นิทานวคฺคสฺส อาทิสุตฺตวณฺณนายํ อาคมิสฺสติ.
ตาวตึสกาโยติ ตาวตึสสฺิโต เทวนิกาโย. ทุติยเทวโลโกติ ฉสุ กามโลเกสุ ทุติโย เทวโลโก. เตตฺตึส ชนา สหปฺุการิโน ตตฺถ อุปฺปนฺนา, ตํสหจริตฏฺานํ ตาวตึสํ ¶ , ตนฺนิวาสิโนปิ ตาวตึสนามกา สหจรณาเยนาติ อาห ‘‘มเฆน มาณเวนา’’ติอาทิ. อยํ ปน เกจิวาโท พฺยาปนฺโน โหตีติ ตํ อโรเจนฺเตน ‘‘วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. พฺยาปนฺนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอวํ หิ นิทฺโทสํ ปทํ โหตี’’ติ. นามปณฺณตฺติเยวาติ อตฺถนิรเปกฺขตฺตา นิรุฬฺหสมฺา เอว.
ตํ วนนฺติ ตํ อุปวนํ. ปวิฏฺเ ปวิฏฺเ ทุกฺขปฺปตฺเตปิ อตฺตโน สมฺปตฺติยา นนฺทยติ, ปเคว ¶ อทุกฺขปฺปตฺเตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปเวสิตานนฺติ ปโกฏฺวาเรน ปเวสิตานมฺปีติ อธิปฺปาโย. จวนกาเลเยว โถกํ ทิสฺสมานวิการา หุตฺวา จวนฺติ, เต สนฺธาย ‘‘หิมปิณฺโฑ วิย วิลียนฺตี’’ติ วุตฺตํ. เย ปน อทิสฺสมานวิการา สหสา อนฺตรธายนฺติ, เต สนฺธาย ‘‘ทีปสิขา วิย วิชฺฌายนฺตี’’ติ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. นนฺทยติ ปกติยา โสมนสฺสิตํ โทมนสฺสิตฺจ. นนฺทเนติ เอวํอนฺวตฺถนามเก อุยฺยาเน. ปริวุตาติ ‘‘เทวตา’’ติ วจนํ อุปาทาย อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตํ. เทวปุตฺโต หิ โส.
ทิวิ ภวตฺตา ทิพฺพาติ อาห ‘‘เทวโลเก นิพฺพตฺเตหี’’ติ. กาเมตพฺพตาย กามพนฺธเนหิ, ตถา อฺมฺํ อสํกิณฺณสภาวตาย กามโกฏฺาเสหิ. อุเปตาติ อุปคตา สมนฺนาคตา. ปริจารยมานาติ ปริรมมานา. อิทฺหิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘กามคุเณหี’’ติ กตฺตริ กรณวจนํ, ปุริมานิ อเปกฺขิตฺวา สหโยเค. รมมานา จรนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘รมมานา’’ติ. ปริจารยมานาติ วา ปริโต สมนฺตโต จารยมานาติ อตฺโถติ อาห ‘‘อินฺทฺริยานิ สฺจารยมานา’’ติ. ปมนเย หิ อนุภวนตฺโถ ปริจรณสทฺโท, ทุติยนเย ปริวตฺตนตฺโถ. โส ปนาติ ‘‘ตายํ เวลาย’’นฺติ วุตฺตกาโล. อธุนาติ สมฺปติ. โส วิจรีติ สมฺพนฺโธ. กามคุเณหีติ เหตุมฺหิ กรณวจนํ. โอวุโตติ ยถา ตํ น ายติ, เอวํ ปิหิตจิตฺโต. นิวุโต ปริโยนทฺโธติ ตสฺเสว เววจนํ. เตนาห ‘‘โลกาภิภูโต’’ติ. อาสภินฺติ เสฏฺํ ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺสา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗) ภาสนฺโต โพธิสตฺโต วิย.
เกวลํ ¶ ทสฺสนํ กิมตฺถิยนฺติ อาห – ‘‘เย…เป… วเสนา’’ติ, ตสฺมึ นนฺทนวเน อวฏฺิตกามภาคานุภวนวเสนาติ อตฺโถ. นรเทวานนฺติ ปุริสภูตเทวตานํ. เตนาห ‘‘เทวปุริสาน’’นฺติ. อปฺปกํ อธิกํ อูนํ วา คณนูปคํ นาม น โหตีติ ‘‘ติกฺขตฺตุํ ทสนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘เตตฺตึสาน’’นฺติ หิ วตฺตพฺเพ อยํ รุฬฺหี. ปริวารสงฺขาเตน, น กิตฺติสงฺขาเตนาติ อธิปฺปาโย. สีลาจาราทิคุณเนมิตฺติกา หิ กิตฺติ. ‘‘ตาวตึสา เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’’ติ เอวมาทิวจเนน ยเส อิจฺฉิเต อวิเสเสตฺวาว ‘‘ยเสน สมฺปนฺนาน’’นฺติ สกฺกา วตฺตุํ.
อริยสาวิกาติ โสตาปนฺนา. ‘‘สกทาคามินี’’ติ เกจิ. อธิปฺปายํ วิวฏฺเฏตฺวาติ ยถา ตฺวํ อนฺธพาเล มฺสิ, ธมฺมสภาโว เอวํ น โหตีติ ตสฺสา เทวตาย อธิปฺปายํ วิปริวตฺเตตฺวา. เอกนฺตโต สุขํ นาม นิพฺพานเมว. กามา หิ ทุกฺขา วิปริณามธมฺมาติ อิมินา ¶ อธิปฺปาเยน ตสฺสา อธิปฺปายํ ปฏิกฺขิปิตฺวา. กามํ จตุตฺถภูมกาปิ สงฺขารา อนิจฺจา เอว, เต ปน สมฺมสนูปคา น โหนฺตีติ เตภูมกคฺคหณํ สมฺมสนโยคฺเคน. หุตฺวาติ ปุพฺเพ อวิชฺชมานา ปจฺจยสมวาเยน ภวิตฺวา อุปฺปชฺชิตฺวา. เอเตน เนสํ ภาวภาโค ทสฺสิโต. อภาวตฺเถนาติ สรสนิโรธภูเตน วิทฺธํสนภาเวน.
อนิจฺจา อทฺธุวา, ตโต เอว ‘‘มยฺหํ อิเม สุขา’’ติ วา น อิจฺจาติ อนิจฺจา. อุปฺปาทวยสภาวาติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนสภาวา. เตนาห ‘‘อุปฺป…เป… เววจน’’นฺติ. ปุริมสฺส วา ปจฺฉิมํ การณเววจนนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา วา’’ติอาทิ. ตทนนฺตราติ เตสํ อุปฺปาทวยานํ อนฺตเร. เวมชฺฌฏฺานนฺติ ิติกฺขณํ วทติ. เย ปน ‘‘สงฺขารานํ ิติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. ยถา หิ ตสฺเสว ธมฺมสฺส อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนา ภงฺคาวตฺถา อิจฺฉิตา, อฺถา อฺํ อุปฺปชฺชติ, อฺํ นิรุชฺฌตีติ อาปชฺชติ, เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ภงฺคาภิมุขาวตฺถา อิจฺฉิตพฺพา, สาว ิติกฺขโณ. น หิ อุปฺปชฺชมาโน ภิชฺชตีติ สกฺกา วิฺาตุนฺติ. วูปสมสงฺขาตนฺติ อจฺจนฺตํ วูปสมสงฺขาตํ นิพฺพานเมว สุขํ, น ตยา อธิปฺเปตา กามาติ อธิปฺปาโย.
นนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นนฺทติสุตฺตวณฺณนา
๑๒. นนฺทตีติ ¶ เอตฺถ นนฺทนํ สปฺปีติกกามตณฺหากิจฺจนฺติ อาห – ‘‘ตุสฺสตี’’ติ, ตสฺมา กามปริโตเสน หฏฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. ปุตฺติมาติ ปุตฺตวา. ปหูเต จายํ มา-สทฺโทติ อาห ‘‘พหุปุตฺโต’’ติ. พหุปุตฺตตาคหเณน อิทํ ปโยชนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิมาห. ปูเรนฺตีติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ธฺสฺสาติ สามิวจนํ. อิติ อาหาติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห, เอวํอธิปฺปาโย หุตฺวาติ อตฺโถ. โคสามิโกติ โคมา. อิธาปิ ปหูเต มา-สทฺโท. โครสสมฺปตฺตินฺติ โครเสหิ นิปฺผชฺชนสมฺปตฺตึ. อุปธีติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ. หีติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. นนฺทยนฺติ ปีติโสมนสฺสํ ชนยนฺตีติ นนฺทนา. กามํ ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต นิปฺปริยายโต กามา ‘‘อุปธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, ตสฺสา ปน เทวตาย อธิปฺปายวเสนาห ‘‘สุขสฺส อธิฏฺานภาวโต’’ติ. กิเลสวตฺถุเหตุกตฺตา เสสปททฺวยสฺส กิฺจาปิ สพฺพํ สํสารทุกฺขํ กิเลสเหตุกํ, วิเสสโต ปน ปาปธมฺมา อปายูปปตฺตึ นิพฺพตฺเตนฺตีติ อาห – ‘‘กิเลสาปิ อปายทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต’’ติ. อุปสํหรมานาติ อุปเนนฺตา อุปฺปาเทนฺตา. มนุสฺสชาติโกปิ ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนตาย ¶ ทุกฺขพหุโล เปโต วิยาติ มนุสฺสเปโต. มนุสฺสชาติโกปิ วุตฺตรูโป อนตฺถปาติโต ปเรหิ หึสิโต สมาโน เนรยิโก วิยาติ มนุสฺสเนรยิโก.
ผเลน รุกฺขโต ผลํ ปาเตนฺโต วิย. ตเถว นวหากาเรหีติ ยถา ตีสุ กาเลสุ นาสมรณเภทนวเสน ปุตฺติมา ปุตฺตนิมิตฺตํ, ตเถว โคมา โคนิมิตฺตํ โสจติ นวปฺปกาเรหิ. ปฺจ กามคุโณปธีปิ นรํ โสเจนฺตีติ โยชนา. ตสฺสาติ โย อุตฺตริ อนุคิชฺฌติ ตสฺส. กามยานสฺสาติ ชาตกามจฺฉนฺทสฺส. ชนฺตุโนติ สตฺตสฺส. ปริหายนฺติ เจ วินสฺสนฺติ เจ. สลฺลวิทฺโธวาติ สลฺเลน วิทฺโธ วิย. รุปฺปตีติ วิการํ อาปชฺชติ, โสจตีติ อตฺโถ. นรสฺส โสจนา โสกฆฏฺฏนปจฺจโย. อุปธโย นตฺถีติ กามํ กิเลสาภิสงฺขารูปธโย ตาว ขีณาสวสฺส นตฺเถว มคฺคาธิคเมน นิโรธิตตฺตา, ขนฺธูปธโย ปน กถนฺติ? เตปิ ตสฺส สอุปาทิเสสกาเลปิ อฏฺุปฺปตฺติเหตุภูตา น สนฺเตว, อยฺจ อนุปาทิเสสกาเล. เตนาห ‘‘โส นิรุปธิ มหาขีณาสโว’’ติ.
นนฺทติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นตฺถิปุตฺตสมสุตฺตวณฺณนา
๑๓. ปุตฺตเปมํ ¶ ปุตฺตคฺคหเณน คหิตํ อุตฺตรปทโลเปนาติ อาห ‘‘ปุตฺตเปมสม’’นฺติ. โคสมิตนฺติ โคหิ สมํ กตํ. เตนาห ‘‘โคหิ สม’’นฺติ. สูริยสฺส สมาติ สูริยสมา. อวยวสมฺพนฺเธ เจตํ สามิวจนํ. อวยโว เจตฺถ อาภา เอวาติ วิฺายติ ‘‘อนนฺตรํ อาภา’’ติ วุจฺจมานตฺตาติ อาห ‘‘สูริยาภาย สมา’’ติอาทิ. มโหฆภาเวน สรนฺติ สวนฺตีติ สรา, มหนฺตา ชลาสยา. สพฺเพ เต สมุทฺทปรมา โอริมชเนหิ อทิฏฺปรตีรตฺตา ตสฺส.
นตฺถิ อตฺตสมํ เปมนฺติ คาถาย ปมคาถายํ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตเปเมน สมํ เปมํ นาม นตฺถีติ อยมตฺโถ. อนุทกกนฺตาเร ฆมฺมสนฺตาปํ อสหนฺติยา องฺเก ปิตปุตฺตกํ กนฺทนฺตํ ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา ตสฺส อุปริ ตฺวา มตอิตฺถิวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ. เตนาห – ‘‘มาตาปิตาทโย หิ ฉฑฺเฑตฺวาปิ ปุตฺตธีตาทโย’’ติ. ตถา จาห –
‘‘สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา,
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;
เอวํ ¶ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ,
ตสฺมา น หึเส ปรมตฺตกาโม’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๑๙; อุทา. ๔๑; เนตฺติ. ๑๑๓);
ธฺเน สมํ ธนํ นาม นตฺถิ, ยสฺมา ตปฺปฏิพทฺธา อาหารูปชีวีนํ สตฺตานํ ชีวิตวุตฺติ. ตถารูเป กาเลติ ทุพฺภิกฺขกาเล. เอกเทสํเยว โอภาสนฺตีติ เอกสฺมึ ขเณ จตูสุ มหาทีเปสุ โอภาสํ ผริตุํ อสมตฺถตฺตา สูริยสฺสปิ, ปเคว อิตเรสํ. โพธิสตฺตสฺส อุทยพฺพยสฺส าณานุภาเวน สกลชาติเขตฺตํ เอกาโลกํ อโหสีติ อาห ‘‘ปฺา…เป… สกฺโกตี’’ติ. ตมํ วิธมตีติ ปุพฺเพนิวาสาณาทโย ปฺา ยตฺถ ปวตฺตนฺติ, ตมนวเสสํ พฺยาเปตฺวา เอกปฺปหาเรน ปวตฺตนโต. ‘‘วุฏฺิยา ปน ปวตฺตมานาย ยาว อาภสฺสรภวนา’’ติ ปจุรวเสน วุตฺตํ.
นตฺถิปุตฺตสมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ขตฺติยสุตฺตวณฺณนา
๑๔. เขตฺตโต ¶ วิวาทา สตฺเต ตายตีติ ขตฺติโย. วทติ เทวตา อตฺตโน อชฺฌาสยวเสน. ทฺวิปทาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน จตุปฺปทภริยปุตฺตา คหิตา. พุทฺธาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อาชานียสุสฺสูสภริยสฺสวปุตฺตา. ทฺวิปทานํ เสฏฺโติ เอตฺถ ทฺวิปทานํ เอว เสฏฺโติ นายํ นิยโม อิจฺฉิโต, เสฏฺโ เอวาติ ปน อิจฺฉิโต, ตสฺมา สมฺพุทฺโธ ทฺวิปเทสุ อฺเสุ ตตฺถ จ อุปฺปชฺชนโต เสฏฺโ เอว สพฺเพสมฺปิ อุตฺตริตรสฺส อภาวโตติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุปฺปชฺชมาโน ปเนสา’’ติอาทิ. การณาการณํ อาชานาตีติ อาชานีโย. คณฺหาเปถาติ ยถา อุทโก น เตมิสฺสติ, เอวํ วาฬํ คณฺหาเปถ. ‘‘อสุสฺสูสา’’ติ เกจิ ปนฺติ. อาสุณมาโนติ สปฺปฏิสฺสโว หุตฺวา วจนสมฺปฏิจฺฉโก.
ขตฺติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สณมานสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ิเต มชฺฌนฺหิเกติ ปุพฺพทฺธํ นิกฺขมิตฺวา อปรทฺธํ อปฺปตฺวา ิตมชฺฌนฺเห. สนฺนิสีเวสูติ ปริสฺสมวิโนทนตฺถํ สพฺพโส สนฺนิสีทนฺเตสุ. ท-การสฺส หิ ว-การํ กตฺวา นิทฺเทโส. เตนาห ‘‘สนฺนิสินฺเนสุ วิสฺสมมาเนสู’’ติ. สพฺพสตฺตานนฺติ สพฺเพสฺจ อาหารูปชีวิตสตฺตานํ ¶ ฆมฺมตาปเน สนฺตตฺตกายานํ อิริยาปถทุพฺพลฺยกาโลติ านาทิอิริยาปถสฺส อสมตฺถกาโล. สณติ วิยาติ สทฺทํ กโรติ วิย, ยถา ตํ อฺมฺปิ มหาวนํ วกฺขมานนเยน. เตนาห ‘‘ตปฺปฏิภาคํ นาเมต’’นฺติ ฉิทฺทเวณุปพฺพานนฺติ รนฺธชาตกีจกมหาเวฬุปพฺพานํ. ทุติยกํ สหายํ อลภนฺตี อนภิรติปริตสฺสนาย เอวมาห. อนปฺปกํ สุขนฺติ วิปุลํ อุฬารํ วิเวกสุขํ.
เอกวิหารตาย สฺุาคารํ ปวิฏฺสฺส. เตน กายวิเวกํ ทสฺเสติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทิปฺปหาเนน สนฺตจิตฺตสฺส. เตน จิตฺตวิเวกํ ทสฺเสติ. สํสาเร ภยํ อิกฺขนโต ภิกฺขุโน อุภยวิเวกสมฺปนฺนสฺส, ตโต ¶ เอว อุตฺตรึ มนุสฺสธมฺมโต รตึ ลาภิโน. อมานุสี รตีติ ภาวนารติ. ปุรโตติ ปุริมภาเค. ปจฺฉโตติ ปจฺฉิมภาเค. อปโรติ อฺโ. ปุรโตติ วา อนาคเต, อนาคตํ อารพฺภาติ อตฺโถ. ปจฺฉโตติ อตีเต อตีตํ อารพฺภ ปฏิปตฺติยา วิพาธนโต. ปโรติ โกโธ จิตฺตปฏิทุสฺสนตาย. น ปโรติ อปโร, โลโภ, โส เจ น วิชฺชติ. เอเตน อนาคตปฺปชปฺปนาย อตีตานุโสจนาย จ อภาวํ ทสฺเสติ. อตีว ผาสุ ภวตีติ นีวรณเชฏฺกสฺส กามจฺฉนฺทสฺส วิคเมน วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส ฌานสฺส วเสน อติวิย ผาสุวิหาโร โหติ. เอกสฺส วสโต วเนติ ตณฺหาทุติยิกาภาเวน เอกสฺส อรฺเ วิเวกวาสํ วสโต. เสสํ ตาทิสเมวาติ เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปมคาถายํ วุตฺตสทิสเมว.
สณมานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. นิทฺทาตนฺทีสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ปจฺฉิเม มาเส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโนติ เอตฺตกํ ปาํ สงฺขิปิตฺวา ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมิตา’’ติ วุตฺตํ. กิริยามยจิตฺเตหิ อโวมิสฺโส ภวงฺคโสโต อพฺยากตนิทฺทา. สา หิ ขีณาสวานํ อุปฺปชฺชนารหา, ตสฺสา ปุพฺพภาคาปรภาเคสุ…เป… อุปฺปนฺนํ ถินมิทฺธํ อิธาธิปฺเปตา นิทฺทา, สา อขีณาสวานํ เยภุยฺเยน อนิยตกาลา, ตพฺพิธุรนิยตสพฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อติจฺฉาต…เป… อาคนฺตุกํ อาลสิย’’นฺติ อาห. กายาลสิยปจฺจยา วีริยสฺส ปฏิปกฺขภูตา จตฺตาโร อกุสลกฺขนฺธา ตนฺที นาม. ตนฺทีติ สภาวนิทฺเทโส. ตนฺทิยนาติ อาการนึทฺเทโส. ตนฺทีมนตาติ ตนฺทีภูตจิตฺตตา. อาลสฺยนฺติ อลสภาวาหรณํ. อาลสฺยายิตตฺตนฺติ อลสภาวปฺปตฺติ. กายวิชมฺภนาติ กายสฺส วินามนา. อกุสลปกฺขา อุกฺกณฺิตตาติ อกุสลปกฺขิยา ¶ อนภิรติ. ภตฺตกิลมโถติ ยถาวุตฺตสฺส ภตฺตวตฺถุกสฺส อาหารสฺส วเสน สรีเร อุปฺปชฺชนกเขโท. อุปกฺกิลิฏฺโติ ปฺาย ทุพฺพลีกรเณน อุปกฺกิลิฏฺจิตฺโต. จิตฺตสฺส อสมาหิตตฺตา นิวาริตปาตุภาโว. อริยมคฺคสฺส โชตนํ นาม อุปฺปชฺชนเมวาติ อาห ‘‘น โชตติ ¶ , น ปาตุภวตีติ อตฺโถ’’ติ. น หิ อริยมคฺโค โชติอโชตินาโม ปวตฺตติ.
มคฺคสหชาตวีริเยนาติ โลกิยโลกุตฺตรมคฺคสหชาตวีริเยน. มิสฺสกมคฺโค หิ อิธ อธิปฺเปโต. นีหริตฺวาติ นีหรณเหตุ. เหตุอตฺโถ หิ อยํ ตฺวา-สทฺโท ‘‘ปฺาย จสฺส ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๑) วิย. เตน ‘‘มคฺโค วิสุชฺฌตี’’ติ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. ‘‘อริยมคฺคํ วิสุชฺฌตี’’ติ เกจิ ปนฺติ.
นิทฺทาตนฺทีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา
๑๗. ทุกฺขํ ติติกฺขนฺติ ทุตฺติติกฺขํ. ตฺจ ทุกฺขมํ ทุสฺสหนํ อารมฺภวเสน ทุกฺกรํ, อนุยฺุชนวเสน ทุตฺติติกฺขนฺติ. อพฺยตฺเตนาติ สามฺสฺส อุปการานุปกาเร ธมฺเม ชานนสมตฺถาย เวยฺยตฺติยสงฺขาตาย ปฺาย อภาวโต น พฺยตฺเตน. เตนาห ‘‘พาเลนา’’ติ. ยสฺมึ ธมฺเม สติ สมโณติ วุจฺจติ, ตํ สามฺนฺติ อาห ‘‘สมณธมฺโม’’ติ. อิมินาติ ‘‘ทุกฺกรํ ทุตฺติติกฺขฺจ, อพฺยตฺเตน จ สามฺ’’นฺติ อิมินา คาถทฺเธน อิทํ ทสฺเสตีติ อิทํ อิทานิ วุจฺจมานํ อตฺถชาตํ ทสฺเสติ. อภิทนฺตนฺติ อภิภวนทนฺตํ, อุปริทนฺตนฺติ อตฺโถ. โส หิ อิตรํ มุสลํ วิย อุทุกฺขลํ วิเสสโต กสฺสจิ ขาทนกาเล อภิภุยฺย วตฺตติ. อาธายาติ นิปฺปีฬนวเสเนว เปตฺวา. ตาลุํ อาหจฺจาติ ตาลุปเทสมาหนิตฺวา วิย. เจตสาติ กุสลจิตฺเตน. จิตฺตนฺติ อกุสลจิตฺตํ. อภินิคฺคณฺหิตฺวาติ ยถา อติสมุทาจาโร น โหติ, เอวํ วิพาธนวเสน นิคฺคเหตฺวา. อาปาณโกฏิกนฺติ ปาณโกฏิปริโยสานํ, ปริชีวนฺติ อตฺโถ. สมฺพาเธตีติ สมฺพาโธ, อนฺตรายิโก. พหู ปริสฺสยาติ อโยนิโส กามวิตกฺกาทิวเสน.
ปชฺชติ จิตฺตเมตฺถาติ ปทํ, อารมฺมณํ. อิริยาปถํ เอว ปทํ อิริยาปถปทํ.
คีวา ¶ จตฺตาโร ปาทาติ คีวปฺจมานิ. สโมทหนฺติ วา สโมธานเหตูติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห – ‘‘สโมทหิตฺวา วา’’ติ, สมฺมา โอธาย อนฺโต ปเวเสตฺวาติ อตฺโถ. สเก อารมฺมณกปาเลติ โคจรชฺฌตฺตํ วทติ. สโมทหนฺติ สโมทหนฺโต. อนิสฺสิโตติ เตภูมกธมฺเมสุ กฺจิปิ ¶ ธมฺมํ ตณฺหาทิฏฺาภินิเวสวเสน อนิสฺสิโต. อวิหึสมาโน วิหึสานิมิตฺตานํ ปชหเนน. อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตนาติ สีลพฺยสนโต อุทฺธรณรูเป สณฺิเตน, กรุณายุตฺเตนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘การฺุตํ ปฏิจฺจา’’ติ.
ทุกฺกรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. หิรีสุตฺตวณฺณนา
๑๘. นิเสเธตีติ นิวาเรติ ปวตฺติตุํ น เทติ. ปุจฺฉติ เทวตา. อปหรนฺโตติ อปเนนฺโต, ยถา สพฺเพน สพฺพํ อกฺโกสวตฺถุ น โหติ, เอวํ ปริหรนฺโตติ อตฺโถ. พุชฺฌติ สารถิวิธํ. อตฺตนิ นิปาตํ น เทติ, อาชานีโย หิ ยุตฺตํ ปชานาติ. อภูเตน อภูตกฺโกเสน ปริมุตฺโต นาม นตฺถิ พาลานฺจ ชนานํ ปราปวาเท ยุตฺตปยุตฺตภาวโต. เตนาห ภควา –
‘‘นินฺทนฺติ ตุณฺหิมาสีนํ, นินฺทนฺติ พหุภาณินํ;
มิตภาณิมฺปิ นินฺทนฺติ, นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต’’ติ. (ธ. ป. ๒๒๗);
ตนุยาติ วา กติปยา. เตนาห ‘‘อปฺปกา’’ติ. สทา สตาติ หิรินิเสธภาเว การณวจนํ. ปปฺปุยฺยาติ ปตฺวา อธิคนฺตฺวา. วานโต นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ, อสงฺขตธาตุ.
หิรีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กุฏิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๙. อนฺโตติ กุจฺฉิอพฺภนฺตเร. วสนฏฺานฏฺเนาติ วสนภาเวน. กุลปเวณินฺติ กุลาจารํ กุลตนฺตึ. สนฺตานกฏฺเนาติ กุลสนฺตติยา พนฺธนภาเวน ¶ . เอวํ สพฺพปเทหิ ปุจฺฉิตตฺถสฺส อนุชานนวเสน ‘‘เอกํสวจเน นิปาโต’’ติ วุตฺตํ. อาปาทิกา โปสิกา มาตุจฺฉา มหาปชาปติ มาตา เอวาติ กตฺวา ‘‘ปหาย ปพฺพชิตตฺตา’’ติ อวิเสสโต วุตฺตํ. ปหาย ปพฺพชิตตฺตา นตฺถีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ. ปุน มาตุกุจฺฉิวาสาทีนํ อภาววจเนเนว วฏฺฏมฺหิ พนฺธนสฺส อภาโว ทีปิโต โหตีติ น คหิโต. อยํ กิร เทวตา ยถา ปุถุชฺชนา พุทฺธานํ คุเณ น ชานนฺติ, เอวํ น ชานาติ, ตสฺมา ‘‘มยา สนฺนาหํ พนฺธิตฺวา’’ติอาทิมาห.
กุฏิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ตปนภาเวน ¶ ตปโนทกตฺตา ตโปทาติ ตสฺส รหทสฺส นามํ. เตนาห ‘‘ตตฺโตทกสฺส รหทสฺสา’’ติ. ตโตติ นาคภวเน อุทกรหทโต ตโปทา นาม นที สนฺทติ. สา หิ นที ภูมิตลํ อาโรหติ. ‘‘เอทิสา ชาตา’’ติ วจนเสโส. เปตโลโกติ โลหกุมฺภินิรยา อิธาธิปฺเปตาติ วทนฺติ. รหทสฺส ปน อาทิโต ปพฺพตปาทวนนฺตเรสุ พหู เปตา วิหรนฺติ, สฺวายมตฺโถ เปตวตฺถุปาฬิยา ลกฺขณสํยุตฺเตน จ ทีเปตพฺโพ. ยตายนฺติ ยโต รหทโต อยํ. สาโตทโกติ มธุโรทโก. เสโตทโกติ ปริสุทฺโธทโก, อนาวิโลทโกติ อตฺโถ. ตโตติ ตโปทานทิโต.
สมิทฺโธติ อวยวานํ สมฺปุณฺณตาย สํสิทฺธิยาว สมฺมา อิทฺโธ. เตนาห ‘‘อภิรูโป’’ติอาทิ. ปธาเน สมฺมสนธมฺเม นิยุตฺโต, ตํ วา เอตฺถ อตฺถีติ ปธานิโก. เสนาสนํ สุฏฺปิตทฺวารวาตปานํ, เตสํ ปิทหเนน อุตุํ คาหาเปตฺวา.
ปุพฺพาปยมาโนติ นฺหานโต ปุพฺพภาเค วิย โวทกภาวํ อาปชฺชมาโน คเมนฺโต. อวตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา วตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ…เป… น โอตริตพฺพ’’นฺติ ปมํ วุตฺตํ. สพฺพทิสาปโลกนํ ยถา นฺหายนฏฺานสฺส มนุสฺเสหิ วิวิตฺตภาวชานนตฺถํ. ขาณุอาทิววตฺถาปนํ จีวราทีนํ ปนตฺถํ อุทกสมีเปติ ¶ อธิปฺปาโย. อุกฺกาสนํ อมนุสฺสานํ อปคมนตฺถํ. อวกุชฺชฏฺานํ ตงฺขเณปิ อุปริมกายสฺส อุชุกํ อวิวฏกรณตฺถํ. จีวรปิฏฺเเยว เปตพฺพํ ยตฺถ วา ตตฺถ วา อฏฺเปตฺวา. อุทกนฺเตติ อุทกสมีเป. สินฺนฏฺานนฺติ เสทคตปเทโส. ปสาเรตพฺพํ ตสฺส สุกฺขาปนตฺถํ. สํหริตฺวา ปนํ ปุน สุเขน คเหตฺวา นิวาสนตฺถํ. นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตรณํ ตาวตา อุทกปฏิจฺฉาทิลกฺขณปฺปตฺตโต. วีจึ อนุฏฺาเปนฺเตนาติอาทิ สํยตการิตาทสฺสนํ. นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวาติ อนฺตรวาสกํ กฏิปฺปเทสสฺส ยถา ปริโต โหติ, เอวํ ขิปิตฺวา ปริวสิตฺวา.
สรีรวณฺโณปิ วิปฺปสีทิ สมฺมเทว ภาวนานุสฺสติมฺปิ วินฺทนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. สมนํ นิคฺคเหตุนฺติ กิเลสวสํ คตํ อตฺตโน จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตุํ. กามูปนีตาติ กามํ อุปคตจิตฺตา. อถ วา กิเลสกาเมน เถเร อุปนีตจิตฺตา.
อปริภฺุชิตฺวาติ อนนุโภตฺวา. อนุภวิตพฺพนฺติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ อาห ‘‘ปฺจกามคุเณ’’ติ ¶ . ภิกฺขสีติ ยาจสิ. ตฺจ ภิกฺขาจริยวเสนาติ อาห ‘‘ปิณฺฑาย จรสี’’ติ. กามปริโภคครุคมนกาโล นาม วิเสสโต ปมโยพฺพนาวตฺถาติ อาห ‘‘ทหรโยพฺพนกาโล’’ติ. โอภคฺเคนาติ มชฺเฌ สํภคฺคกาเยน. ชิณฺณกาเล หิ สตฺตานํ กฏิยํ กาโย โอภคฺโค โหติ.
โวติ นิปาตมตฺตํ ‘‘เย หิ โว อริยา’’ติอาทีสุ วิย. สตฺตานนฺติ สามฺวจนํ, น มนุสฺสานํ เอว. เทหนิกฺเขปนนฺติ กเฬวรฏฺปิตฏฺานํ. นตฺถิ เอเตสํ นิมิตฺตนฺติ อนิมิตฺตา, ‘‘เอตฺตกํ อยํ ชีวตี’’ติอาทินา สฺชานนนิมิตฺตรหิตาติ อตฺโถ. น นายเรติ น ายนฺติ. อิโต ปรนฺติ เอตฺถ ปรนฺติ อฺํ กาลํ. เตน โอรกาลสฺสปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ. ปรมายุโน โอรกาเล เอว เจตฺถ ปรนฺติ อธิปฺเปตํ ตโต ปรํ สตฺตานํ ชีวิตสฺส อภาวโต. ววตฺถานาภาวโตติ กาลวเสน ววตฺถานาภาวโต. ววตฺถานนฺติ เจตฺถ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ, น อสงฺกรโต ววตฺถานํ, นิจฺฉโย วา. อพฺพุทเปสีติอาทีสุ อพฺพุทกาโล เปสิกาโลติอาทินา กาล-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. กาโลติ อิธ ปุพฺพณฺหาทิเวลา อธิปฺเปตา. เตนาห ปุพฺพณฺเหปิ หีติอาทิ ¶ . อิเธว เทเหน ปติตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อเนกปฺปการโตติ นคเร ชาตานํ คาเม, คาเม ชาตานํ นคเร, วเน ชาตานํ ชนปเท, ชนปเท ชาตานํ วเนติอาทินา อเนกปฺปการโต. อิโต จุเตนาติ อิโต คติโต จุเตน. อิธ อิมิสฺสํ คติยํ. ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิยาติ ยถา ยนฺเต ยุตฺตโคโณ ยนฺตํ นาติวตฺตติ, เอวํ กาโล คติปฺจกนฺติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
อยํ กาโลติ อยํ มรณกาโล. ปจฺฉิเม กาเลติ ปจฺฉิเม วเย. ติสฺโส วโยสีมาติ. ปมาทิกา ติสฺโส วยสฺส สีมา อติกฺกนฺเตน. ปุริมานํ หิ ทฺวินฺนํ วยานํ สพฺพโส สีมา อติกฺกมิตฺวา ปจฺฉิมสฺส อาทิสีมํ อติกฺกนฺโต ตถา วุตฺโต. ‘‘อยฺหิ สมณธมฺโม…เป… น สกฺกา กาตุ’’นฺติ วตฺวา ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตทา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. คณฺหิตุนฺติ ปาฬิโต อตฺถโต จ หทเย ปนวเสน คณฺหิตุํ. ปริภฺุชิตุนฺติ วุตฺตธมฺมปริหรณสุขํ อนุภวิตุํ. เอกสฺส กถนโต ปมํ คาถํ สุตฺตํ วา อุสฺสาเรติ, ตสฺมึ นิฏฺิเต อิตโร ธมฺมกถิโก ตํเยว วิตฺถาเรนฺโต ธมฺมํ กเถติ, อยํ สรภาณธมฺมกถา. สุตฺตเคยฺยานุสาเรน ยาว ปริโยสานา อุสฺสารณํ สรภฺธมฺมกถา. ‘‘มา มํ กาโล อุปจฺจคา’’ติ วทนฺโต ‘‘สมณธมฺมสฺส กรณสฺส อยํ เม กาโล’’ติ กเถติ, ตโต ปโร ‘‘ปจฺฉิมวโย อฺโ กาโล’’ติ กเถติ. ‘‘กาลํ โวหํ…เป… ตสฺมา อภุตฺวา ภิกฺขามี’’ติ วทนฺโต อตฺตนา กตํ ปฏิปตฺติฺจ สเหตุกํ สานิสํสํ กเถติ.
ตํ ¶ คารวการณํ สนฺธาย. เอตนฺติ ‘‘อถ โข สา เทวตา ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา’’ติ เอตํ วุตฺตํ. ทหโร ตฺวนฺติอาทิมาห โลภาภิภูตตาย อธิคตตฺตา. สพฺพสมฺปตฺติยุตฺโตติ โภคสมฺปทา ปริวารสมฺปทาติ สพฺพสมฺปตฺตีหิ ยุตฺโต. อลงฺการปริหารนฺติ อลงฺการกรณํ. อนิกฺกีฬิตาวีติ อกีฬิตปุพฺโพ. กีฬนฺเจตฺถ กามานํ ปริโภโคติ อาห ‘‘อภุตฺตาวี’’ติ. อกตกามกีโฬติ อกตกามานุภวนปฺปโยโค. สยํ อตฺตนา เอว ทิสฺสนฺตีติ สนฺทิฏฺา, สนฺทิฏฺา เอว สนฺทิฏฺิกา, อตฺตปจฺจกฺขโต สนฺทิฏฺิกา. ปกฏฺโ กาโล ปตฺโต เอเตสนฺติ กาลิกา, เต กาลิเก.
จิตฺตานนฺตรนฺติ ¶ อิจฺฉิตจิตฺตานนฺตรํ, อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณากาเรติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘จิตฺตานนฺตรํ อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณานุภวนํ น สมฺปชฺชตี’’ติอาทิ. จิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพตายาติ อนนฺตริตสมาธิจิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพผลตาย. สโมหิเตสุปีติ สมฺภเตสุปิ. สมฺปนฺนกามสฺสาติ สมิทฺธกามสฺส. จิตฺตการา รูปลาเภน, โปตฺถการา ปฏิมาการกา, รูปการา ทนฺตรูปกฏฺรูป-โลหรูปาทิการกา. อาทิสทฺเทน นานารูปเวสธารีนํ นฏาทีนํ สงฺคโห. เสสทฺวาเรสูติ เอตฺถ คนฺธพฺพมาลาการสูปการาทโย วตฺตพฺพา.
โสติ สมิทฺธิตฺเถโร. สโมหิตสมฺปตฺตินาติ สงฺคาหโภคูปกรณสมฺปตฺตินา. ปตฺตพฺพทุกฺขสฺสาติ กามานํ อาปชฺชนรกฺขณวเสน ลทฺธพฺพสฺส กายิกเจตสิกทุกฺขสฺส. อุปายาสสฺสาติ ทฬฺหปริสฺสมสฺส วิรตสฺส. ‘‘วิสฺสาตสฺสา’’ติ เกจิ. ‘‘ปจฺจเวกฺขณาเณนา’’ติ เกจิ ปนฺติ. อสุกสฺมึ นาม กาเล ผลํ โหตีติ เอวํ อุทิกฺขิตพฺโพ นสฺส กาโลติ อกาโล. เอตฺถาติ เอเตสุ นวสุ โลกุตฺตรธมฺเมสุ. เอหิปสฺสวิธินฺติ ‘‘เอหิ ปสฺสา’’ติ เอวํ ปวตฺตวิธิวจนํ. อุปเนตพฺโพติ วา อุปเนยฺโย, โส เอว โอปเนยฺยิโก. วิฺูหีติ วิทูหิ ปฏิวิทฺธสจฺเจหิ. เต เอกํสโต อุคฺฆฏิตฺูอาทโย โหนฺตีติ อาห ‘‘อุคฺฆฏิตฺูอาทีหี’’ติ. ‘‘ปจฺจตฺต’’นฺติ เอตสฺส ปติอตฺตนีติ ภุมฺมวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘อตฺตนิ อตฺตนี’’ติ.
สพฺพปเทหิ สมฺพนฺโธติ ‘‘กถํ อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย, กถํ อกาลิโก’’ติอาทินา สพฺเพหิ ปจฺเจกํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
นโวติ ตรุโณ น จิรวสฺโส. เย ภิกฺขุโนวาทกลกฺขณปฺปตฺตา, เต สนฺธาย ‘‘วีสติวสฺสโต ปฏฺาย เถโร’’ติ วุตฺตํ. อิธ สาสนํ นาม สิกฺขตฺตยสงฺคหํ ปิฏกตฺตยนฺติ อาห ‘‘ธมฺเมน ¶ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ธมฺเมน วินโย เอตฺถ วินา ทณฺฑสตฺเถหีติ ธมฺมวินโย. ธมฺมาย วินโย เอตฺถ น อามิสตฺถนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมโต วินโย น อธมฺมโตติ ธมฺมวินโย. ธมฺโม วา ภควา ธมฺมสฺสามี ธมฺมกายตฺตา, ตสฺส ธมฺมสฺิตสฺส สตฺถุ วินโย, น ตกฺกิกานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺเม วินโย น อธมฺเม วินโย. ธมฺโม จ โส ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน สตฺเต อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ, สพฺเพ สํกิเลสโต วิเนตีติ วินโย จาติ ธมฺมวินโย. เตนาห ‘‘อุภยมฺเปตํ สาสนสฺเสว นาม’’นฺติ.
ธมฺมวินโยติ ¶ ธมฺเมน ยุตฺโต วินโยติ ธมฺมวินโย อาชฺรโถ วิย. ธมฺโม จ วินโย จาติ วา ธมฺมวินโย, ตํ ธมฺมวินยํ. ธมฺมวินยานฺหิ สตฺถุภาววจนโต ธมฺมวินยตฺตสํสิทฺธิ ธมฺมวินยานํ อฺมฺํ วิเสสนโต. อภิธมฺเมปิ วินยวจนนฺติ ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิ, เทสิตปฺตฺตวจนโต ธมฺมวินยสิทฺธิ. ธมฺโม จตุธา เทสิโต สนฺทสฺสน-สมาทาปน-สมุตฺเตชน-สมฺปหํสนวเสน, วินโย จตุธา ปฺตฺโต สีลาจารโต ปราชิตวเสน. ธมฺมจริยา สกวิสโย, วินยปฺตฺติ พุทฺธวิสโย. ปริยาเยน เทสิโต ธมฺโม, นิปฺปริยาเยน ปฺตฺโต วินโย. ธมฺมเทสนา อธิปฺปายตฺถปฺปธานา, วินยปฺตฺติ วจนตฺถปฺปธานา. ปรมตฺถสจฺจปฺปธาโน ธมฺโม, สมฺมุติสจฺจปฺปธาโน วินโย. อาสยสุทฺธิปธาโน ธมฺโม, ปโยคสุทฺธิปธาโน วินโย.
กิริยทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยสิทฺธิ. ธมฺเมน หิ อนุสาสนสิทฺธิ, วินเยน โอวาทสิทฺธิ. ธมฺเมน ธมฺมกถาสิทฺธิ, วินเยน อริยตุณฺหีภาวสิทฺธิ. สาวชฺชทฺวยปริวชฺชนโต ธมฺมวินยสิทฺธิ. ธมฺเมน หิ วิเสสโต ปกติสาวชฺชปริจฺจาคสิทฺธิ, วินเยน ปฺตฺติสาวชฺชปริจฺจาคสิทฺธิ. คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณาสาธารณคุณทฺวยสิทฺธิ. พหุสฺสุตสุตปสนฺนทฺวยโต ปริยตฺติ-ปริยาปุณน-ธมฺมวิหาร-วิภาคโต ธมฺมธรวินยธรวิภาคโต จ ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิ, สรณทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยทฺวยสิทฺธิ. อิธ สตฺตานํ ทุวิธํ สรณํ ธมฺโม อตฺตา จ. ตตฺถ ธมฺโม สุจิณฺโณ สรณํ. ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจาริ’’นฺติ (เถรคา. ๓๐๓; ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕) หิ วุตฺตํ. สุทนฺโต อตฺตาปิ สรณํ ‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ’’ติ (ธ. ป. ๑๖๐, ๓๘๐) วจนโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สรณทฺวยสิทฺธิยา ธมฺมวินยสิทฺธี’’ติ. ตตฺถ ยตสฺส ธมฺมสิทฺธิ, ยโต จ วินยสิทฺธิ, ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ธมฺเมน เหตฺถ ทฺเว ปิฏกานิ วุตฺตานิ, วินเยน วินยปิฏก’’นฺติ. อธุนา อาคโต อิทาเนว น จิรสฺเสว อุปคโต.
มหนฺเต ¶ าเน เปตฺวาติ มเหสกฺขตาทสฺสนตฺถํ อตฺตโน ปริวาเรน มหนฺตฏฺาเน ปิตภาวํ ปเวเทตฺวา. มหติยาติ อุปสงฺกมนวนฺทนาทิวจนาปชฺชนวเสน สมาจิณฺณาย. สพฺเพปิ กิร นิสีทนฺตา ตํ านํ เปตฺวาว นิสีทนฺติ. ถิรกรณวเสนาติ ทฬฺหีกรณวเสน. อยํ กิร เทวตา าณสมฺปนฺนา มานชาติกา, ตสฺมา นายํ มานํ อปฺปหาย ¶ มม เทสนํ ปฏิวิชฺฌิตุํ สกฺโกตีติ มานนิคฺคณฺหนตฺถํ อาทิโต ทุวิฺเยฺยํ กเถนฺโต ภควา ‘‘อกฺเขยฺยสฺิโน’’ติอาทินา ตาย าตุมิจฺฉิตกามานํ กาลิกาทิภาวํ, ธมฺมสฺส จ สนฺทิฏฺิกาทิภาวํ วิภาเวนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ.
อกฺเขยฺยโตติ คิหิลิงฺคปริยายนามวิเสสาทิวเสน ตถา ตถา อกฺขาตพฺพโต. เตนาห ‘‘กถานํ วตฺถุภูตโต’’ติ. เอเตสนฺติ สตฺตานํ. ปติฏฺิตาติ ปวตฺติตา อาสตฺตา. ปฺจนฺนํ กามสงฺคาทีนํ วเสน อาสตฺตา โหนฺตุ, อิตเรสํ ปน กถนฺติ? อนิฏฺงฺคโตปิ หิ ‘‘อิทํ นุ โข’’ติอาทินา กงฺขโต ตตฺถ อาสตฺโต เอว นาม อวิชหนโต, ตถา วิกฺเขปคโต วิกฺเขปวตฺถุสฺมึ, อนุสยานํ ปน อาสตฺตภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. มจฺจุโน โยคนฺติ, มจฺจุพนฺธนํ, มรณธมฺมตนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา อปริฺาตวตฺถุกา อนตีตมรณตฺตา มจฺจุนา ยถารุจิ ปโยเชตพฺพา, ตตฺถ ตตฺถ อุปรูปริ จ ขิปิตาย อาณาย อพฺภนฺตเร เอว โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปโยคํ…เป… อาคจฺฉนฺตี’’ติ. ยสฺมา เตภูมกา ธมฺมา กมนียฏฺเน กามา, เนสมฺปิ กาลสฺส ลทฺธพฺพตาย กาลิกตา อิธ อกฺเขยฺยวจเนน ปเวทิตา. เตนาห – ‘‘เอวมิมาย คาถาย กาลิกา กามา กถิตา’’ติ. สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา กมนียา, ยสฺมา จ กาลิกานํ กามานํ ตถาสภาวตา กถิตา. อยมฺปิ คาถา ตทตฺถเมว ทีเปตีติ อิมาย เต กถิตา เอว โหนฺติ. เย จ สตฺตา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ทิฏฺิตณฺหาทิวเสน ปติฏฺิตา ‘‘อิตฺถี, ปุริโส, อหํ, มมา’’ติ จ อภินิวิสิย กาเม ปริภฺุชนฺติ, เต มรณํ นาติวตฺตนฺติ. เอวมฺเปตฺถ กามานํ กาลิกตฺโถ กถิโตติ อาห ‘‘กาลิกา กามา กถิตา’’ติ.
อยํ าตปริฺาติ รูปารูปธมฺเม ลกฺขณาทิโต าเต กตฺวา ปริจฺฉินฺทนปฺา. เตนาห ‘‘เอวํ าตํ กตฺวา’’ติอาทิ. ปทฏฺานคฺคหเณเนว เจตฺถ เตสํ รูปารูปธมฺมานํ ปจฺจโย คหิโตติ ปจฺจยปริคฺคหสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตีเรติ ตุเลติ วีมํสติ. ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหีติ อิมินา มตฺถกปฺปตฺตํ มหาวิปสฺสนํ ทสฺเสติ. เต ปน อาการา วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทินา วิปสฺสนากฺขเณปิ เอกเทเสน ปหานํ ลพฺภเตว, อนวเสสโต ปน ปหานวเสน ปหานปริฺํ ทสฺเสนฺโต ¶ อาห ‘‘อคฺคมคฺเคน ¶ …เป… อยํ ปหานปริฺา’’ติ. ตถา จ อาห ‘‘เอวํ ตีหิ ปริฺาหี’’ติอาทิ.
อกฺขาตารนฺติ อกฺขาตพฺพํ, น อกฺเขยฺยกํ. เตนาห ‘‘กมฺมวเสน การก’’นฺติอาทิ. การกนฺติ จ สาธนมาห. น มฺตีติ วา มฺนํ นปฺปวตฺเตติ อกฺขาตารนฺติ ขีณาสวํ. อถ วา ตฺหิ ตสฺส น โหตีติ ตํ การณํ ตสฺส ขีณาสวสฺส น โหติ น วิชฺชติ, เยน ทิฏฺิตณฺหาทิการเณน อกฺเขยฺยํ ขนฺธปฺจกํ ‘‘ติสฺโส’’ติ วา ‘‘ผุสฺโส’’ติ วา ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา อภินิวิสฺส วเทยฺยาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มนุสฺสนาคาทีหิ ปูชนียตฺตา ‘‘ยกฺโข’’ติ สพฺพเทวานํ สาธารณวจนนฺติ เทวธีตาปิ ‘‘ยกฺขี’’ติ วุตฺตา. อกฺเขยฺยนฺติ ปหานปริฺาย ปหานมคฺโค, ตสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานมฺปิ คหิตํ. น มฺตีติ ขีณาสวสฺส อสฺส ผลปฺปตฺตีติ อาห ‘‘นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม กถิโต’’ติ.
วิเสสีติ วิเสสชาติอาทิวเสน เสยฺโยติ อตฺโถ. เตสุ คหิเตสูติ เตสุ เสยฺยมานาทีสุ ตีสุ มาเนสุ คหิเตสุ. ตโย เสยฺยมานา, ตโย สทิสมานา, ตโย หีนมานา คหิตาว โหนฺติ. โส ปุคฺคโลติ โส อปฺปหีนมฺนปุคฺคโล. เตเนว มาเนน เหตุภูเตน. อุปฑฺฒคาถายาติ ปุริมทฺเธน ปน วตฺถุกามา วุตฺตาติ อาห ‘‘กาลิกา กามา กถิตา’’ติ.
วิธียติ วิสทิสากาเรน ปียตีติ วิธา, โกฏฺาโส. กถํวิธนฺติ กถํ ปติฏฺิตํ, เกน ปกาเรน ปวตฺติตนฺติ อตฺโถ. วิทหนโต หีนาทิวเสน วิวิเธนากาเรน ทหนโต อุปธารณโต วิธา, มาโน. มาเนสูติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, มานเหตูติ อตฺโถ. น จลตีติ น เวธติ อตฺตโน ปริสุทฺธปกตึ อวิชหนโต.
ปฺา ‘‘สงฺขา’’ติ อาคตา, ปฺาติ โยนิโส ปฏิสงฺขานํ. สงฺขายโกติ สงฺกลนปทุปฺปาทนาทิ-ปิณฺฑคณนาวเสน คณโก ปปฺจสงฺขาติ มานาทิปปฺจภาคา. เต เต ธมฺมา สมฺมา ยาถาวโต สงฺขายนฺติ อุปติฏฺนฺติ เอตายาติ สงฺขา, ปฺา. เอกํ ทฺเวติอาทินา สงฺขานํ คณนํ ปริจฺฉินฺทนนฺติ สงฺขา, คณนา. สงฺขายติ ภาคโส กถียตีติ สงฺขา ¶ , โกฏฺาโส. สงฺขานํ สตฺโต ปุคฺคโลติอาทินา สฺาปนนฺติ สงฺขา, รตฺโตติอาทิ ปณฺณตฺติ. ขีณาสโว ชหิ ปชหิ ราคาทีนํ สุปฺปหีนตฺตา. นวเภทํ ปเภทโต, สงฺเขปโต ติวิธมานนฺติ อตฺโถ. นววิธนฺติ วา ปาเ นวเภทตฺตา อนฺตรเภทวเสน นววิธนฺติ อตฺโถ. ปจฺจยวิเสเสหิ อิตฺถิภาวาทิวิเสเสหิ วิเสเสน ¶ มานียติ คพฺโภ เอตฺถาติ วิมานํ, คพฺภาสโย. น อุปคจฺฉีติ น อุปคมิสฺสติ. เตนาห ‘‘อนาคตตฺเถ อตีตวจน’’นฺติ. ‘‘นาชฺฌคา’’ติ หิ อตีตํ ‘‘น คมิสฺสตี’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถ. ฉินฺทิ อริยมคฺคสตฺเถน. โอโลกยมานา อุปปตฺตีสุ. สตฺตนิเวสเนสูติ สตฺตานํ อุปปชฺชฏฺาเนสุ. โลกุตฺตรธมฺมเมว กเถสิ อรหตฺตสฺส ปเวทิตตฺตา.
‘‘คาถาย อตฺถํ กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺถ-สทฺโท อาหริตฺวา วตฺตพฺโพ. อฏฺงฺคิกมคฺควเสนปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สติสมฺปชฺํ นาม กุสลธมฺมานุโยเค การณนฺติ อาห ‘‘ทสกุสลกมฺมปถการณ’’นฺติ.
อฏฺงฺคิกมคฺควเสน จ คาถาอตฺถวจเน อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน วิตฺถาร-นโย. ตสฺมึ กิร าเนติ ตสฺมึ กิร เทวตาย ปุจฺฉิตํ ปฺหํ วิสฺสชฺชนฏฺาเน. เทวตาย าณปริปากํ โอโลเกตฺวา อนุปุพฺพิยา กถาย สทฺธึ สามุกฺกํสิกเทสนา มหตี ธมฺมเทสนา อโหสิ. าณํ เปเสตฺวาติ สตฺถุเทสนาย อนุสฺสรณวเสน ปตฺตวิสุทฺธิปฏิปาฏิปวตฺตํ ภาวนาาณํ พนฺธิตฺวา. โสตาปตฺติผเล ปติฏฺายาติ สตฺถุเทสนาวิลาเสน อตฺตโน จ ปริปกฺกาณตฺตา ปมํ ผลํ ปตฺวา. เอวมาหาติ เอวํ ‘‘ปาปํ น กยิรา’’ติอาทิปฺปกาเรน คาถมาห. องฺคํ น โหติ, อาชีโว ยถา กุปฺปมาโน วาจากมฺมนฺตวเสน กุปฺปติ, ตถา สมฺปชฺชมาโนปีติ. โส วาจากมฺมนฺตปกฺขิโก, ตสฺมา ตคฺคหเณน คหิโตว โหติ. วายามสติสมาธโย คหิตา สมาธิกฺขนฺธสงฺคหโต. สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปา คหิตา ปฺากฺขนฺธสงฺคหโต. อนฺตทฺวยวิวชฺชนํ คหิตํ สรูเปเนวาติ อธิปฺปาโย. อิตีติอาทิ นิคมนํ.
สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นนฺทนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สตฺติวคฺโค
๑.สตฺติสุตฺตวณฺณนา
๒๑. เทสนาสีสนฺติ ¶ เทสนาปเทสลกฺขณวจนนฺติ อธิปฺปาโย. โอมฏฺโติ อโธมุขํ กตฺวา ทินฺนปฺปหาโร. อิมินา เอว ปสงฺเคน ปหาเร วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร หี’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ . อุปริ ตฺวาติ หตฺถิอาทีนํ อุปริ ตฺวา. อโธมุขํ ทินฺนปฺปหาโรติ ขคฺคกรวาลาทีนํ อโธมุขํ กตฺวา ปหตปหาโร. อุมฺมฏฺโ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. วิวิธปฺปหาโร วิมฏฺโ. ‘‘โอมฏฺโ คหิโต’’ติ วตฺวา ตสฺเสว คหเณ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุคฺคนฺธกิมิอาทีนํ วเสน อนฺโตโทโส. มฺเจน สทฺธึ พนฺธิตฺวาติ ยสฺมึ มฺเจ วณิกปุคฺคโล นิปนฺโน, ตตฺถ ตํ สุพนฺธํ กตฺวา ปาทฏฺานํ อุทฺธํ กโรนฺเตหิ สีสฏฺานํ อโธ กาตพฺพํ. เตนาห ‘‘อโธสิโร กาตพฺโพ’’ติ. ปริพฺพเชติ ปวตฺเตยฺย. สา ปน ปวตฺติ ภาวนาวิหาเรน ยุตฺตาติ อาห ‘‘วิหเรยฺยา’’ติ.
สลฺลสฺส อุพฺพหนํ สลฺลุพฺพหนํ. อตฺถํ ปริตฺตกํ คเหตฺวา ิตา อุปมาการสฺส วิกฺขมฺภนปฺปหานสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติอาทิ. อนุพนฺโธว โหติ สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชนารหโต เทวตาย กามราคปฺปหานสฺส โชติตตฺตา. นนุ ภควตา อนาคามิมคฺเคน เทสนา นิฏฺาเปตพฺพาติ? น, อิตริสฺสา าณพลานุรูปเทสนาย ปวตฺเตตพฺพโต. เวเนยฺยชฺฌาสยานุกุลฺหิ ธมฺมํ ธมฺมสฺสามี เทเสตีติ.
สตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ผุสติสุตฺตวณฺณนา
๒๒. กมฺมํ อผุสนฺตนฺติ กมฺมผสฺสํ อผุสนฺตํ, กมฺมํ อกโรนฺตนฺติ อตฺโถ. วิปาโก น ผุสตีติ วิปากผสฺโส น ผุสติ, วิปาโก น อุปฺปชฺชเตว การณสฺส อภาวโต. เอวํ พฺยติเรกมุเขน กมฺมวฏฺเฏน วิปากวฏฺฏํ สมฺพนฺธํ กตฺวา อตฺถํ วตฺวา อิทานิ เกวลํ กมฺมวฏฺฏวเสน อตฺถํ วทนฺโต ‘‘กมฺมเมวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นากโรโต กริยตีติ กมฺมํ อกุพฺพโต น กยิรติ, อนภิสนฺธิกตกมฺมํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. อิทานิ ¶ ตเมวตฺถํ อนฺวยโต ทสฺเสตุํ ‘‘ผุสนฺตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตโตติ ผุสนเหตุ. เสสํ วุตฺตนยเมว. วุตฺตเมวตฺถํ สการณํ กตฺวา ปริเวิตวเสน วิภูตํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา ผุสนฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺมตาติ การกสฺเสว กมฺมวิปากานุพนฺโธ, นาการกสฺสาติ อยํ กมฺมวิปากานํ สภาโว.
ปจฺเจติ อุปคจฺฉติ อนุพนฺธติ. ปาปนฺติ ปาปกํ กมฺมํ ผลฺจ. อยฺจ อตฺโถ อรฺเ ลุทฺทกสฺส อุยฺโยชนาย สุนเขหิ ปริวาริยมานสฺส ภิกฺขุโน ภเยน รุกฺขํ อารุฬฺหสฺส ¶ จีวเร ลุทฺทสฺส อุปริ ปติเต ตสฺส สุนเขหิ ขาทิตฺวา มาริตวตฺถุนา ทีเปตพฺโพติ.
ผุสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ชฏาสุตฺตวณฺณนา
๒๓. เยน อตฺเถน ตณฺหา ‘‘ชฏา’’ติ วุตฺตา, ตเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชาลินิยา’’ติ วุตฺตํ. สา หิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตปเภทา อตฺตโน อวยวภูตา เอว ชาลา เอติสฺสา อตฺถีติ ชาลินีติ วุจฺจติ. อิทานิสฺสา ชฏากาเรน ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปาทีสุ อารมฺมเณสูติ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานมาห รูปาทิฉฬารมฺมณวินิมุตฺตสฺส ตณฺหาวิสยสฺส อภาวโต. เหฏฺุปริยวเสนาติ กทาจิ รูปารมฺมเณ กทาจิ ยาว ธมฺมารมฺมณา, กทาจิ ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ยาว รูปารมฺมณาติ เอวํ เหฏฺา จ อุปริ จ ปวตฺติวเสน. เทสนากฺกเมน เจตฺถ เหฏฺุปริยตา เวทิตพฺพา, กามราคาทิวเสนปิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺขารานํ ขณิกภาวโต อปราปรุปฺปตฺติ เอตฺถ สํสิพฺพนนฺติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเนา’’ติ. อิทํ เยน สมฺพนฺเธน ชฏา วิยาติ ชฏาติ ชฏาตณฺหานํ อุปมูปเมยฺยตา, ตํทสฺสนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา ชาลินี เวฬุคุมฺพสฺส สาขา, ตาสํ สฺจยาทโย จ อตฺตโน อวยเวหิ สํสิพฺพิตา วินทฺธา ‘‘ชฏา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ตณฺหาปิ สํสิพฺพนสภาเวนาติ.
อิเม ¶ สตฺตา ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคหิตํ อตฺตนิพฺพิเสสํ มฺมานา อพฺภนฺตริมํ กโรนฺติ. อพฺภนฺตรฏฺโ จ อนฺโต-สทฺโทติ สกปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชนมานาปิ ตณฺหา ‘‘อนฺโตชฏา’’ติ วุตฺตา. ปพฺพชิตสฺส ปตฺตาทิ, คหฏฺสฺส หตฺถิอาทิ สกปริกฺขาโร. อตฺตาติ ภวติ เอตฺถ อภิมาโนติ อตฺตภาโว, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. สรีรนฺติ เกจิ. ‘‘มม อตฺตภาโว สุนฺทโร, อสุกสฺส วิย มม อตฺตภาโว ภเวยฺยา’’ติอาทินา สกอตฺตภาวาทีสุ ตณฺหาย อุปฺปชฺชนากาโร เวทิตพฺโพ. อตฺตโน จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ, อตฺตโน จ ปเรสฺจ รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ, ปเรสํ สพฺพานิ วา. สปรสนฺตติปริยาปนฺนานิ วา จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ, ตถา รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ. ปริตฺตมหคฺคตภเวสุ ปวตฺติยาปิ ตณฺหาย อนฺโตชฏาพหิชฏาภาโว เวทิตพฺโพ. กามภโว หิ กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กตฺถจิปิ อวิมุตฺโต อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ ‘‘อชฺฌตฺตํ อนฺโต’’ติ ¶ จ วุจฺจติ, ตพฺพิปริยายโต รูปารูปภโว ‘‘พหิทฺธา พหี’’ติ จ. เตนาห ภควา – ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล’’ติ (อ. นิ. ๒.๓๗).
วิสยเภเทน ปวตฺติอาการเภเทน อเนกเภทภินฺนมฺปิ ตณฺหํ ชฏาภาวสามฺเน เอกนฺติ คเหตฺวา ‘‘ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏายา’’ติ วุตฺตํ. สา ปน ปชาติ วุตฺตสตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา เอว หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ตํ ชเฏนฺตี วินนฺธนฺตี ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ชฏาย ชฏิตา ปชา’’ติ. ตถา หิ ปรมตฺถโต ยทิปิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย นตฺถิ, เอกเทโส ปน สมุทาโย นาม น โหตีติ อวยวโต สมุทายํ ภินฺนํ กตฺวา อุปมูปเมยฺยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นาม เวฬุชฏาทีหิ…เป… สํสิพฺพิตา’’ติ อาห. อิมํ ชฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ตีสุ ธาตูสุ เอกมฺปิ อเสเสตฺวา สํสิพฺพเนน เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ิตํ. เตนสฺสา มหาวิสยตํ วิชฏนสฺส จ สุทุกฺกรภาวมาห. วิชเฏตุํ โก สมตฺโถติ อิมินา ‘‘วิชฏเย’’ติ ปทํ สตฺติอตฺถํ, น วิธิอตฺถนฺติ ทสฺเสติ.
เอวํ ‘‘อนฺโตชฏา’’ติอาทินา ปุฏฺโ อถสฺส ภควา ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ สีเลติ กุสลสีเล. ตํ ปน ปาติโมกฺขสํวราทิเภเทสุ ปริสุทฺธเมว อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีเล’’ติ.
นรติ ¶ เนตีติ นโร, ปุริโส. กามํ อิตฺถีปิ ตณฺหาชฏาวิชฏเน สมตฺถา อตฺถิ, ปธานเมว ปน สตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นโร’’ติ อาห ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, อฏฺกถายํ ปน อวิภาเคน ปุคฺคลปริยาโย อยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘นโรติ สตฺโต’’ติ วุตฺตํ. วิปากภูตาย สห ปฺาย ภวตีติ สปฺโ. ตาย หิ อาทิโต ปฏฺาย สนฺตานวเสน พหุลํ ปวตฺตมานาย อยํ สตฺโต สวิเสสํ สปฺโติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. วิปากปฺาปิ หิ สนฺตานวิเสเสน ภาวนาปฺุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ อเหตุกทฺวิเหตุกานํ ตทภาวโต. กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺายาติ กมฺมชาย ติเหตุกปฏิสนฺธิยํ ปฺายาติ เอวํ ติเหตุกสทฺโท ปฏิสนฺธิสทฺเทน สมฺพนฺธิตพฺโพ, น ปฺาสทฺเทน. น หิ ปฺา ติเหตุกา อตฺถิ. ปฏิสนฺธิโต ปภุติ ปวตฺตมานา ปฺา ‘‘ปฏิสนฺธิยํ ปฺา’’ติ วุตฺตา ตํมูลกตฺตา, น ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺตา เอว.
จินฺเตติ อารมฺมณํ อุปนิชฺฌายตีติ จิตฺตํ, สมาธิ. โส หิ สาติสยํ อุปนิชฺฌานกิจฺโจ. น หิ วิตกฺกาทโย วินา สมาธินา ตมตฺถํ สาเธนฺติ, สมาธิ ปน เตหิ วินาปิ ¶ สาเธตีติ. ปคุณพลวภาวาปาทเนน ปจฺจเยหิ จิตฺตํ, อตฺตสนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, สมาธิ. ปมชฺฌานาทิวเสน จิตฺตวิจิตฺตตาย อิทฺธิวิธาทิจิตฺตกรเณน จ สมาธิ จิตฺตนฺติ วินาปิ ปโรปเทเสนสฺส จิตฺตปริยาโย ลพฺภเตว. อฏฺกถายํ ปน จิตฺต-สทฺโท วิฺาเณ นิรุฬฺโหติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสีเสน เหตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย กถิตา’’ติ. ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ชานาตีติ ปฺา. สา ยทิปิ กุสลาทิเภทโต พหุวิธา, ‘‘ภาวย’’นฺติ ปน วจนโต ภาเวตพฺพา อิธาธิปฺเปตาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺานาเมน วิปสฺสนา กถิตา’’ติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนํ, ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว, อาตปฺปสทฺโท วิย ปน อาตาป-สทฺโท วีริเย เอว นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘อาตาปีติ วีริยวา’’ติ. ยถา กมฺมฏฺานํ ตาย ปฺาย ปริโต หรียติ ปวตฺตียติ, เอวํ สาปิ ตทตฺถํ โยคินาติ อาห ‘‘ปาริหาริยปฺา’’ติ. อภิกฺกมาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ สาตฺถกสมฺปชฺาทิวเสน ปริจฺฉิชฺช เนตีติ สพฺพกิจฺจปริณายิกา.
ยสฺมา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน คาถา ภาสิตา, ตสฺมา ปุคฺคลาธิฏฺานเมว อุปมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นาม ปุริโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุนิสิตนฺติ สุฏฺุ ¶ นิสิตํ, อติวิย ติขิณนฺติ อตฺโถ. สตฺถสฺส นิสิตตรภาวกรณํ นิสานสิลายํ, พาหุพเลน จสฺส อุกฺขิปนนฺติ อุภยมฺเปตํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา อุปมา วุตฺตาติ ตทุภยํ อุปเมยฺยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ…เป… ปฺาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา’’ติ อาห. สมาธิคุเณน หิ ปฺาย ติกฺขภาโว. ยถาห ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑). วีริยฺจสฺสา อุปตฺถมฺภกํ ปคฺคณฺหนโต. วิชเฏยฺยาติ วิชเฏตุํ สกฺกุเณยฺย. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย หิ วตฺตมานาย โยคาวจโร ตณฺหาชฏํ วิชเฏตุํ สมตฺโถ นาม. วิชฏนฺเจตฺถ สมุจฺเฉทวเสน ปหานนฺติ อาห – ‘‘สฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺยา’’ติ.
มคฺคกฺขเณ ปเนส วิชเฏติ นาม, อคฺคผลกฺขเณ สพฺพโส วิชฏิตชโฏ นาม. เตนาห ‘‘อิทานี’’ติอาทิ. ยสฺมา ชฏาย วิชฏนํ อริยมคฺเคน, ตฺจ โข นิพฺพานํ อาคมฺม, ตสฺมา ตํ สนฺธายาห ‘‘ชฏาย วิชฏโนกาส’’นฺติ. ยตฺถ ปน สา วิชฏียติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ นามฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิฆํ รูปสฺา จา’’ติ คาถาสุขตฺถํ สานุนาสิกํ กตฺวา นิทฺเทโส, ‘‘ปฏิฆรูปสฺา’’ติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิฆสฺาวเสน กามภโว คหิโต กามภวปริยาปนฺนตฺตา ตาย. ปถวีกสิณาทิรูเป สฺา รูปสฺา. อุภยตฺถาปิ สฺาสีเสน จิตฺตุปฺปาทสฺเสว คหณํ. ภวสงฺเขเปนาติ ภวภาเวน สงฺขิปิตพฺพตาย, ภวลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตาติ อตฺโถ. รูเป วา วิรชฺชนวเสน จ วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยา อิธ รูปสฺาติ วุตฺตา ¶ , เอวมฺเปตฺถ อรูปภวสฺส จ คหิตตา เวทิตพฺพา. ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ อนวเสสโต นามรูปํ คหิตนฺติ อรูปภว-อสฺภวานมฺเปตฺถ คหณํ สิทฺธนฺติ อปเร. ปริยาทิยนฏฺาเนติ ปริยาทิยนการเณ สพฺพโส เขปนนิมิตฺเต นิพฺพาเน. เตนาห ‘‘นิพฺพานํ…เป… ทสฺสิโต โหตี’’ติ.
ชฏาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มโนนิวารณสุตฺตวณฺณนา
๒๔. เอวํลทฺธิกาติ สพฺพถาปิ จิตฺตุปฺปตฺติ สทุกฺขา, สพฺพถาปิ อจิตฺตกภาโว เสยฺโย, ตสฺมา ยโต กุโตจิ จิตฺตํ นิวาเรตพฺพนฺติ เอวํทิฏฺิกา ¶ . โสติ สตฺโต. อนิยฺยานิกกถํ กเถติ อโยนิโส จิตฺตนิวารณํ วทนฺตี. สํยตภาวํ อาคตนฺติ ราควิเสวนาทิโต สมฺมเทว สํยตภาวํ โอตรภาวํ. ธมฺมจริยาวเสน หิ ปวตฺตมาเน จิตฺเต นตฺถิ อีสกมฺปิ ราคาทิวิเสวนํ, น ตสฺส สมฺปติ อายติฺจ โกจิ อนตฺโถ สิยา, ตสฺมา ตํ มโน สพฺพโต อนวชฺชวุตฺติโต น นิวาเรตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทานํ ทสฺสามี’’ติอาทิ. ยโต ยโตติ ยโต ยโต สาวชฺชวุตฺติโต อโยนิโสมนสิการโต. ตนฺติ มโน นิวาเรตพฺพํ อนตฺถาวหตฺตา.
มโนนิวารณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๕. กตาวีติ กตวา, ปริฺาทิกิจฺจํ กตฺวา นิฏฺเปตฺวา ิโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘จตูหิ มคฺเคหิ กตกิจฺโจ’’ติ. สฺวายมตฺโถ อรหนฺติอาทิสทฺทสนฺนิธานโต วิฺายติ. เอวํ ‘‘อหํ วทามี’’ติอาทิอากาเรน ปุจฺฉติ.
ขนฺธาทีสุ กุสโลติ ขนฺธายตนาทีสุ สลกฺขณาทีสุ จ สมูหาทิวเสน ปวตฺติยฺจ เฉโก ยถาภูตเวที. อุปลทฺธินิสฺสิตกถนฺติ อตฺตุปลทฺธินิสฺสิตกถํ หิตฺวา. โวหารเภทํ อกโรนฺโตติ ‘‘อหํ ปรมตฺถํ ชานามี’’ติ โลกโวหารํ ภินฺทนฺโต อวินาเสนฺโต โลเก โลกสมฺเมว นิสฺสาย ‘‘อหํ, มมา’’ติ วเทยฺย. ขนฺธา ภฺุชนฺตีติอาทินา โวหารเภทํ, ตตฺถ จ อาทีนวํ ทสฺเสติ.
มาโน นาม ทิฏฺิยา สมธุโร. ตถา หิ ทุติยมคฺคาทีสุ สมฺมาทิฏฺิยา ปหานาภิสมยสฺส ¶ ปฏิวิปจฺจนีเก ปฏิปตฺติสิทฺธิ. เตนาห ‘‘ยทิ ทิฏฺิยา วเสน น วทติ, มานวเสน นุ โข วทตีติ จินฺเตตฺวา’’ติ. วิธูปิตาติ สนฺตาปิตา าณคฺคินา ทฑฺฒา. เต ปน วิทฺธํสิตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘วิธมิตา’’ติ. มมงฺการาทโย มยนฺติ สตฺตสนฺตาเน สติ ปวตฺตนฺติ เอเตนาติ มโย, มฺนา. มโย เอว มยตาติ อาห ‘‘มยตนฺติ มฺน’’นฺติ.
อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ทิวารตฺตินฺติ ¶ น อาทิจฺโจ วิย ทิวา เอว, น จนฺทิมา วิย รตฺตึ เอว, อถ โข ทิวา จ รตฺติฺจ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยตฺถ ยตฺถ สมฺปชฺชลิโต, ตตฺถ ตตฺเถว ปเทเส, น อาทิจฺโจ วิย จนฺทิมา วิย สกลํ มหาทิสํ ทิสนฺตราฬฺจ. าณานุภาเวน อุปฺปนฺนาโลโก าณาโลโกติ วทนฺติ. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเว, อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ าณํ อุทปาทิ ปฺา อุทปาทิ วิชฺชา อุทปาทิ อาโลโก อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ปน วจนโต มคฺโค าณาโลโก. ‘‘ตโม วิหโต, อาโลโก อุปฺปนฺโน’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๖; ปารา. ๑๒) วา วจนโต วิชฺชตฺตยาโลโก าณาโลโก. ปมาภิสมฺโพธิยํ วิย สฺชาตปีติวิปฺผาโร, วิเสสโต รตนฆเร สมนฺตปฏฺานวิจินเน สฺชาตปีติวเสน อุปฺปนฺนสรีโรภาโส วา ปีติอาโลโก. ตตฺเถว อุปฺปนฺนปสาทวเสน สฺชาตอาโลโกว ปสาทาโลโก. ธมฺมจกฺกปวตฺตเน ‘‘อฺาสิ วต, โภ, โกณฺฑฺโ’’ติ อุปฺปนฺนปสาทาโลโกติ จ วทนฺติ. สพฺพตฺเถว สตฺถุ ธมฺมเทสนา สตฺตานํ หทยตมํ วิธมนฺตี ธมฺมกถาอาโลโก. สพฺโพปิ พุทฺธานํ ปาตุภาวา อุปฺปนฺโน อาโลโกติ อิมินา สาวกานํ เทสนาย สฺชาตธมฺมาโลโกปิ พุทฺธานุภาโวติ ทสฺเสติ.
ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สรสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สรณโต อวิจฺเฉทวเสน ปวตฺตนโต ขนฺธาทีนํ ปฏิปาฏิ สรา. เตนาห ‘‘อิเม สํสารสรา’’ติ. กุโตติ เกน การเณน, กิมฺหิ วา? เตนาห ‘‘กึ อาคมฺมา’’ติ? น ปติฏฺาติ ปจฺจยาภาวโต. อาโปติอาทินา ปาฬิยํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อปฺปติฏฺานาปเทเสน ตตฺถ กามรูปภวานํ อภาโว ทสฺสิโต. ตทุภยาภาวทสฺสเนน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อรูปภวสฺสปิ ¶ อภาโว ทสฺสิโตว โหติ, ยถารุตวเสน วา เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปุริมา ทฺเว คหิตา, คหิตฺจ อตฺถํ ปริคฺคเหตฺวาว ปจฺฉิมตฺโถ ปวตฺโตติ.
สรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มหทฺธนสุตฺตวณฺณนา
๒๘. นิธียตีติ ¶ นิธานํ. นิธาตพฺพตํ คตํ นิหิตนฺติ อตฺโถ. มุตฺตสาราทีติ มุตฺตามณิเวฬุริยปวาฬรชตชาตรูปาทิ. สุวณฺณรชตภาชนาทีติ อาทิ-สทฺเทน กหาปณ-ธฺโกฏฺภณฺฑาทึ สงฺคณฺหาติ. ตมฺปิ หิ นิจฺจปริพฺพยวเสน ภฺุชียตีติ ‘‘โภโค’’ติ วุจฺจติ. อฺมฺํ อภิคิชฺฌนฺตีติ อฺมฺสฺส สนฺตกํ อภิคิชฺฌนฺติ. เตนาห ‘‘ปตฺเถนฺตี’’ติ. อนลงฺกตาติ น อลํ ปริยตฺตนฺติ เอวํ กตจิตฺตา, อตฺริจฺฉตามหิจฺฉตาหิ อภิภูตา. เตนาห ‘‘อติตฺตา อปริยตฺตชาตา’’ติ. อุสฺสุกฺกชาเตสูติ ตํตํกิจฺเจ สฺชาตอุสฺสุกฺเกสุ. นานากิจฺจชาเตสูติ นานาวิธกิจฺเจสุ, สฺชาตนานากิจฺเจสุ วา. วฏฺฏคามิกปสุเตน วฏฺฏโสตํ อนุสรนฺเตสุ. ตณฺหานิวาสตาย เคหนฺติปิ อคารนฺติปิ วุจฺจตีติ อาห ‘‘มาตุคาเมน สทฺธึ เคห’’นฺติ. วิราชิยาติ เหตุอตฺถทีปกํ ปทนฺติ อาห ‘‘วิราเชตฺวา’’ติ, ตฺวา-สทฺโทปิ จายํ เหตุอตฺโถติ.
มหทฺธนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. จตุจกฺกสุตฺตวณฺณนา
๒๙. อิริยา วุจฺจติ กาเยน กตฺตพฺพกิริยา, ตสฺสา ปวตฺติฏฺานภาวโต อิริยาปโถ, คมนาทิ. ตํ อปราปรปฺปวตฺติยา จกฺกํ. เตนาห ‘‘จตุจกฺกนฺติ จตุอิริยาปถ’’นฺติ. นวทฺวารนฺติ กรชกาโย อธิปฺเปโต. โส จ เกสาทิอสุจิปริปูโรติ อาห ‘‘ปุณฺณนฺติ อสุจิปูร’’นฺติ. ตณฺหาย สํยุตฺตนฺติ ตณฺหาสหิตํ. เตน น เกวลํ สภาวโต เอว, อถ โข นิสฺสิตธมฺโม จ อสุจึ ทสฺเสติ. มาตุกุจฺฉิสงฺขาเต อสุจิปงฺเก ชาตตฺตา ปงฺกชาตํ, เกสาทิอสุจิปงฺกชาตตฺตา จ ปงฺกชาตํ. ยาตฺราติ อปคโม. เตน สภาวโต นิสฺสิตธมฺมโต จ อสุจิสภาวโต กายโต กถํ อปคโม สิยาติ ปุจฺฉติ. เตนาห ‘‘เอตสฺสา’’ติอาทิ.
นหนฏฺเน พนฺธนฏฺเน นทฺธีติ อุปนาโห อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘นทฺธินฺติ อุปนาห’’นฺติ. โส ปน อิโต ปุพฺพกาเล โกโธติ อาห ‘‘ปุพฺพกาเล’’ติอาทิ ¶ . ปาฬินิทฺทิฏฺเติ อุปนาหอิจฺจาทิเก ¶ อิธ ปาฬิยํ นิทฺทิฏฺเ กิเลเส เปตฺวา อวเสสา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทโย สตฺต กิเลสา ทุมฺโมจยตาย วรตฺตา วิยาติ วรตฺตาติ เวทิตพฺพา. อารมฺมณคฺคหณสภาวโต เอโก เอเวส ธมฺโม, ปวตฺติ-อาการเภเทน ปน อิจฺฉนฏฺเน ปตฺถนฏฺเน อิจฺฉา, ลุพฺภนฏฺเน คิชฺฌนฏฺเน โลโภติ วุตฺโต. ปมุปฺปตฺติกาติ เอกสฺมึ อารมฺมเณ, วาเร วา ปมํ อุปฺปนฺนา. อปราปรุปฺปตฺติโกติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานโก. อลทฺธปตฺถนา อปฺปฏิลทฺธวตฺถุมฺหิ อาสตฺติ โลโภ. อุปฺปาเฏตฺวาติ สสนฺตานโต อุทฺธริตฺวา.
จตุจกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา
๓๐. เอณิมิคสฺส วิยาติ เอณิมิคสฺส ชงฺฆา วิย. อวยวีสมฺพนฺเธ หิ อิทํ สามิวจนํ. ปิณฺฑิมํสสฺส ปริโต สมสณฺิตตฺตา สุวฏฺฏีตชงฺโฆ. กิสนฺติ ถูลภาวปฏิกฺเขปปราโชตนา, น สุฏฺุ กิสภาวทีปนปราติ อาห ‘‘อถูลํ สมสรีร’’นฺติ. อาตเปน มิลาตนฺติ ตปสา มิลาตกายํ อินฺทฺริยสนฺตาปนภาวโต. เตเนวาห – ‘‘ตโป มิลาต’’นฺติอาทิ, ตถา จาห ปาฬิยํ ‘‘อปฺปาหารํ อโลลุป’’นฺติ. ยถา ‘‘วีรสฺส ภาโว วีริย’’นฺติ วีรภาเวน วีริยํ ลกฺขียติ, เอวํ วีริยสมฺภเวน วีรภาโวติ อาห ‘‘วีรนฺติ วีริยวนฺต’’นฺติ. ‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว’’ติ (เถรคา. ๙๘๓; มิ. ป. ๖.๕.๑๐) ธมฺมเสนาปติวุตฺตนิยาเมน ปริมิตโภชิตาย อปฺปาหารตา โภชเน มตฺตฺุตา. ‘‘มิตาหาร’’นฺติ วตฺวา ปุน ปริจฺฉินฺนกาลโภชิตายปิ อปฺปาหารตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิกาล…เป… ปริตฺตาหาร’’นฺติ อาห. จตูสุ ปจฺจเยสุ โลลุปฺปวิรหิตํ โพธิมูเล เอว สพฺพโส โลลุปฺปสฺส ปหีนตฺตา. ‘‘จตูสุ ปจฺจเยสู’’ติ หิ อิมินาว สพฺพตฺถ โลลุปฺปวิคโม ทีปิโตวาติ. รสตณฺหาปฏิกฺเขโป วา เอส ‘‘อปฺปาหาร’’นฺติ วตฺวา ‘‘อโลลุป’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ‘‘สีหํ วา’’ติ เอตฺถ เอกจรสทฺโท วิย อิว-สทฺโท อตฺถโต ‘‘นาค’’นฺติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา, สมฺพนฺธิตพฺโพติ ¶ อาห – ‘‘เอกจรํ สีหํ วิย, เอกจรํ นาคํ วิยา’’ติ. เอกจรา อปฺปมตฺตา เอกีกตาย.
ปฺจกามคุณวเสน รูปํ คหิตํ เตสํ รูปสภาวตฺตา. มเนน นามํ คหิตํ มนสฺส นามสภาวตฺตา. อวินิภุตฺตธมฺเมติ อวินาภาวธมฺเม คเหตฺวา. อาทิ-สทฺเทน อายตนธาตุอาทโย คหิตา. กามคุณคฺคหเณน เหตฺถ รูปภาวสามฺเน ปฺจ วตฺถูนิ คหิตาเนว โหนฺติ, มโนคหเณน ธมฺมายตนํ, เอวํ ทฺวาทสายตนานิ คหิตานิ โหนฺติ. อิมินา นเยน ธาตุอาทีนมฺปิ ¶ คหิตตา โยเชตพฺพา. เตนาห ‘‘ปฺจกฺขนฺธาทิวเสนเปตฺถ ภุมฺมํ โยเชตพฺพ’’นฺติ. เอตฺถาติ ปาฬิยํ. กามวตฺถุ ภุมฺมํ.
เอณิชงฺฆสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สตุลฺลปกายิกวคฺโค
๑. สพฺภิสุตฺตวณฺณนา
๓๑. สตํ สาธูนํ สรณคมนสีลาทิเภทสฺส ธมฺมสฺส อุลฺลปนโต, อตฺตโน วา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา ตสฺส ธมฺมสฺส อุลฺลปนโต กถนโต สตุลฺลปา, เทวตา, ตาสํ กาโย สมูโห, ตตฺถ ภวาติ สตุลฺลปกายิกา. เตนาห ‘‘สตํ ธมฺม’’นฺติอาทิ. สมาทานวเสน อุลฺลเปตฺวา, น วณฺณนากถนมตฺเตน ตตฺราติ ตสฺมึ ตาสํ เทวตานํ สตุลฺลปกายิกภาเว. อิทํ วตฺถูติ อิทํ การณํ. สมุทฺทวาณิชาติ สํยตฺติกา. ขิตฺตสรเวเคนาติ ชิยามุตฺตสรสทิสเวเคน, สีฆโอเฆนาติ อตฺโถ. อุปฺปตตีติ อุปฺปาโต. อุปฺปาเต ภวํ พฺยสนํ อุปฺปาติกํ. ปติฏฺาติ หิตปติฏฺา. ปรโลเก หิตสุขาวหํ อภยการณํ. ชงฺฆสตนฺติ มนุสฺสสตํ. ชงฺฆาสีเสน หิ มนุสฺเส วทติ สหจาริภาวโต. อคฺคเหสิ ปฺจสีลานิ. อาสนฺนานาสนฺเนสุ อาสนฺนสฺเสว ปมํ วิปจฺจนโต ‘‘อาสนฺนกาเล คหิตสีลํ นิสฺสายา’’ติ วุตฺตํ. ฆฏาวเสนาติ สมูหวเสน.
สพฺภีติ ¶ สาธูหิ. เต หิ สปรหิตสาธนโต ปาสํสตาย สนฺตคุณตาย จ สนฺโตติ วุจฺจติ. เต ปน ยสฺมา ปณฺฑิตลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปณฺฑิเตหี’’ติ อาห. สมาเสถาติ สํวเสถาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ อาห ‘‘สพฺพอิริยาปเถ’’ติอาทิ. มิตฺตสนฺถวนฺติ เมตฺติสนฺธานํ. สตฺตานํ หิเตสิตาลกฺขณา หิ เมตฺติ, สา จ าณสหิตา าณปุพฺพงฺคมาวาติ มิตฺตสนฺถโว อสํกิลิฏฺโ, อิตโร สํกิลิฏฺโติ อาห ‘‘น เกนจิ สทฺธึ กาตพฺโพ’’ติ. สทฺธมฺมนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทิหิตาวหํ สุนฺทรธมฺมํ. เสยฺโยติ หิตวฑฺฒนตาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วฑฺฒี’’ติ.
สตํ สาธูนํ, ปณฺฑิตานนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตปฺปฏิโยควิสยตฺตา อฺ-สทฺทสฺส วุตฺตํ ‘‘อฺโต ¶ อนฺธพาลโต’’ติ. โสกนิมิตฺตํ โสกการณํ อุตฺตรปทโลเปน อิธ โสกสทฺเทน คหิตนฺติ อาห ‘‘โสกวตฺถูน’’นฺติอาทิ. โสกวตฺถูนิ นาม โจราทโย อจฺฉินฺทนาทิวเสน ปเรสํ โสกกรณโต. โสกานุคตา โสกปฺปตฺตา.
เถรสฺสาติ สํกิจฺจตฺเถรสฺส. อตฺตโน ภคินิยา เชฏฺตฺตา ‘‘ตุมฺเห’’ติ อาห. อยํ ‘‘อิธ โจรา ปฏิปชฺชึสู’’ติ อมฺเห ติณายปิ น มฺตีติ จินฺเตตฺวา เอกจฺเจ ‘‘มาเรม น’’นฺติ อาหํสุ. กรุณาย เอกจฺเจ ‘‘วิสฺสชฺเชมา’’ติ อาหํสุ. มนฺเตตฺวาติ ภาเสตฺวา.
อหุ อโหสิ, ภูตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. อรฺสฺมึ พฺรหาวเนติ ตาทิเส พฺรหาวเน, มหารฺเ นิวาสีติ อตฺโถ เจโตติ พฺยาโธ. กูฏานีติ วากุราทโย. โอฑฺเฑตฺวาติ สชฺเชตฺวา. สสกนฺติ เปลกํ อุพฺพิคฺคาติ ภีตตสิตา. เอกรตฺตินฺติ เอกรตฺเตเนว. ธนชานีติ ปริพฺพยวเสน อทฺธิเกหิ ลทฺธพฺพธนโต หานิ, ‘‘สมณมฺปิ นาม หนฺติ, กึ อมฺเหสุ ลชฺชิสฺสตี’’ติ อทฺธิกานํ อนาคมนโต เอกทิวสํ ลทฺธพฺพปริพฺพยมฺปิ น ลภิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย.
าตโยปิ มาตาปิตุภาตุภคินิอาทิเก าตเก. เต กิร อธิมุตฺตสฺส ภคินิยา สนฺติกํ อุปคจฺฉนฺตา อนฺตรามคฺเค เตน สมาคตา, อธิมุตฺโต ¶ สจฺจวาจํ อนุรกฺขนฺโต โจรภยํ เตสํ นาโรเจสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เตสมฺปี’’ติอาทิ. ตํ นิสฺสาย ปพฺพชิตตฺตา ‘‘อธิมุตฺตสามเณรสฺส สนฺติเก’’ติ วุตฺตํ, น อุปสมฺปทาจริโย หุตฺวา. เตนาห ‘‘อตฺตโน อนฺเตวาสิเก กตฺวา’’ติ. สจฺจานุรกฺขเณน อนุตฺตรคุณาธิคเมน จ าติมชฺเฌ วิโรจติ.
สาตตนฺติ สตตํ. ส-สทฺทสฺส หิ อิธ สาภาโว ยถา ‘‘สาราโค’’ติอาทีสุ. สาตภาโว วา สาตตนฺติ อาห ‘‘สุขํ วา’’ติ. การเณนาติ เตน เตน การเณน. สพฺพาสํ ตาสํ วจนํ สุภาสิตํ, ภควโต ปน อุกฺกํสคตํ สุภาสิตเมว. สฺวายมตฺโถ ตํตํคาถาปเทเนว วิฺายตีติ ตํ นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน สปฺปุริสูปสํเสวสทฺธมฺมาภิโยโค ยถา สตฺตานํ วฑฺฒิยา ปฺาปฏิลาภสฺส เอกนฺติกํ การณํ, เอวํ โสกปจฺจเย สติ วิโสกภาวสฺส, าติมชฺเฌ โสภาย, สุคติคมนสฺส, จิรํ สุขฏฺานสฺส, วฏฺฏทุกฺขโมจนสฺสปิ อฺาสาธารณํ โหตีติ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺภิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา
๓๒. ปมชฺชนากาเรน ¶ ปวตฺตา อนุปลทฺธิ ปมาโท. เตน เอกนฺตโต สติรหิตา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สติวิปฺปวาสลกฺขเณนา’’ติ. ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทโย เจตฺถ ปมาเทเนว สงฺคหิตา. อิทานิ ยถา มจฺฉริยนิมิตฺตฺจ ปมาทนิมิตฺตฺจ ทานํ น ทียติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริกฺขยํ คมิสฺสตีติ โภคปริหานึ คมิสฺสติ. ขิฑฺฑาทีติ อาทิ-สทฺเทน มณฺฑนวิภูสนฉณนกฺขตฺตกิจฺจพฺยสนาทึ สงฺคณฺหาติ. ยสทายกนฺติ กิตฺติยสสฺส ปริวารยสสฺส จ ทายกํ. สิรีทายกนฺติ โสภคฺคทายกํ. สมฺปตฺติทายกนฺติ กุลโภครูปโภคสมฺปทาหิ สมฺปตฺติทายกํ. ปฺุนฺติ วา อิธ ปฺุผลํ ทฏฺพฺพํ ‘‘เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๘๐) วิย. อตฺถิ ทานสฺส ผลนฺติ เอตฺถ เทยฺยธมฺมสฺส อนวฏฺิตตํ พหุลสาธารณตํ, ตํ ปหาย คมนียตํ ¶ , ตพฺพิสยาย ปีติยา สาวชฺชตํ, ทานธมฺมสฺส อนฺสาธารณตํ อนุคามิกตํ, ตพฺพิสยาย ปีติยา อนวชฺชตํ, โลภาทิปาปธมฺมานํ วิโนทนํ, เสสปฺุานํ อุปนิสฺสยฺจ ชานนฺเตนาติ วตฺตพฺพํ.
ตํเยว พาลนฺติ โย มจฺฉรี, ตเมว. อทานสีลา พาลา. เอกจฺโจ ธนสฺส ปริโภคปริกฺขยภเยน อตฺตนาปิ น ปริภฺุชติ อติโลภเสฏฺิ วิยาติ อาห ‘‘อิธโลกปรโลเกสู’’ติ.
ยสฺมา เอกจฺโจ อทานสีโล ปุริโส อทฺธิเก ทิสฺวา ปสฺสนฺโตปิ น ปสฺสติ, เตสํ กถํ สุณนฺโตปิ น สุโณติ, สยํ กิฺจิ น กเถติ, อทาตุกมฺยตาถมฺเภ พทฺโธ โหติ, ตสฺมา ตตฺถ มตลิงฺคานิ อุปลพฺภนฺติเยวาติ อาห ‘‘อทานสีลตาย มรเณน มเตสู’’ติ. อฏฺกถายํ ปน ทานมตฺตเมว คเหตฺวา มเตนสฺส สมตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทานสีลสฺส ปน อมตลิงฺคานิ วุตฺตวิปริยายโต เวทิตพฺพานิ. วชนฺติ ปุถุตฺเต เอกวจนํ, ตสฺมา วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สห วชนฺตา’’ติ. ทานสีลาทิธมฺโม ปุราตโน, น อชฺชตโนติ สนนฺตโน, โส เอเตสุ อตฺถีติ สนนฺตนา, ปณฺฑิตา, เตสํ ธมฺมาติ เตสํ วเสนปิ ธมฺโม สนนฺตโนติ อาห ‘‘สนนฺตนานํ วา ปณฺฑิตานํ เอส ธมฺโม’’ติ. อปฺปสฺมิมฺปิ เทยฺยธมฺเม สติ เอเก ทานํ ททนฺติ, เอเก น ททนฺติ มจฺฉริภาวา. สหสฺสทานสทิสาติ เอกาปิ ทกฺขิณา ปริจฺจาคเจตนาย อุฬารภาวโต สหสฺสทานสทิสา โหติ.
ทุรนุคมโนติ อสมงฺคินา อนุคนฺตุํ ทุกฺกโร. อนนุคมนฺจสฺส ธมฺมสฺส อปูรณเมวาติ อาห ¶ ‘‘ทุปฺปูโร’’ติ. ‘‘ธมฺมํ จเร’’ติ อยํ ธมฺมจริยา คหฏฺสฺส วเสน อารทฺธาติ อาห ‘‘ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จรตี’’ติ. เตนาห ‘‘ทารฺจ โปส’’นฺติ. สมฺุชกนฺติ กสฺสเกหิ อตฺตนา กาตพฺพํ กตฺวา วิสฏฺธฺกรณโต ขเล อฺุฉาจริยวเสน สมฺุชนิอาทินา ฉฑฺฑิตธฺสํหรณํ. เตนาห ‘‘โย อปิ…เป… สมฺุชกํ จรตี’’ติ. เอเตนาติ สตสหสฺสสหสฺสยาคิคฺคหเณน ทสนฺนมฺปิ ภิกฺขุโกฏีนํ ปิณฺฑปาโต ทสฺสิโต โหติ. ‘‘ทินฺโน’’ติ ปทํ อาเนตฺวา โยชนา. ทสนฺนํ วา กหาปณโกฏีนํ ปิณฺฑปาโตติ ทสนฺนํ กหาปณโกฏีนํ วินิยฺุชนวเสน สมฺปาทิตปิณฺฑปาโต. ตยิทํ สตสหสฺสํ ¶ สหสฺสยาคีนํ ทานํ เอตฺตกํ โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. สมฺุชกํ จรนฺโตปีติ สมฺุชกํ จริตฺวาปิ, สมฺุชกจรณเหตูติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ทารํ โปเสนฺโตปิ ธมฺมํ จรติ, อปฺปกสฺมึ ททนฺโตปิ ธมฺมํ จรตีติ โยชนา. ตถาวิธสฺสาติ ตาทิสสฺส ตถาธมฺมจาริโน ยา ธมฺมจริยา, ตสฺสา กลมฺปิ นคฺฆนฺติ เอเต สหสฺสยาคิโน อตฺตโน สหสฺสยาคิตาย. ยํ เตน ทลิทฺเทนาติอาทิ ตสฺเสวตฺถสฺส วิวรณํ. สพฺเพสมฺปิ เตสนฺติ ‘‘สตํสหสฺสานํ สหสฺสยาคิน’’นฺติ วุตฺตานํ เตสํ สพฺเพสมฺปิ. อิตเรสนฺติ ‘‘ตถาวิธสฺสา’’ติ วุตฺตปุริสโต อฺเสํ. ทสโกฏิสหสฺสทานนฺติ ทสโกฏิสงฺขาตํ ตโต อเนกสหสฺสเภทตาย สหสฺสทานํ.
‘‘กลํ นคฺฆตี’’ติ อิทํ เตสํ ทานโต อิมสฺส ทานสฺส อุฬารตรภาเวน วิปุลตรภาเวน วิปุลตรผลตาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กถํ นุ โข เอตํ มหปฺผลตรนฺติ ชานนตฺถ’’นฺติ. ปจฺจยวิเสเสน มหตฺตํ คโตติ มหคฺคโต, อุฬาโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิปุลสฺเสตํ เววจน’’นฺติ. สเมนาติ าเยน, ธมฺเมนาติ อตฺโถ. วิสเมติ น สเม มจฺฉริยลกฺขณปฺปตฺเต. เฉตฺวาติ ปีเฬตฺวา. ตํ ปน ปีฬนํ โปถนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โปเถตฺวา’’ติ อาห. อสฺสุมุขาติ ตินฺตอสฺสุมุขสมฺมิสฺสา ปรํ โรทาเปตฺวา. มหาทานนฺติ ยถาวุตฺตํ พหุเทยฺยธมฺมสฺส ปริจฺจชเนน มหนฺตทานํ. อุปฺปตฺติยา อปริสุทฺธตายาติ อชฺฌาสยสฺส เทยฺยธมฺมคเวสนาย จ สุทฺธตาย มลีนตฺตา. อิตรํ ธมฺมจริยาย นิพฺพตฺติตทานํ. ปริตฺตทานนฺติ ปริตฺตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส วเสน ปริตฺตทานํ. อตฺตโน อุปฺปตฺติยา ปริสุทฺธตายาติ อชฺฌาสยสฺส เทยฺยธมฺมคเวสนาย จ วิสุทฺธตาย. เอวนฺติอาทิมาหาติ ‘‘เอวํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคิน’’นฺติ อโวจ. ตตฺถ สหสฺสานนฺติ สตํสหสฺสานํ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ สตคฺคหณํ น กตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สาธุสุตฺตวณฺณนา
๓๓. อุทานํ ¶ อุทาเนสีติ ปีติเวเคน อุคฺคิริตพฺพตาย อุทานํ อุคฺคิริ อุจฺจาเรสิ. ตยิทํ ยสฺมา ปีติสมุฏฺาปิตํ วจนํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุทาหารํ อุทาหรี’’ติ ¶ . ยถา ปน ตํ วจนํ ‘‘อุทาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สทฺธายาติ เอตฺถ ย-กาโร เหตุอตฺโถ. ปริจฺจาคเจตนาย หิ สทฺธา วิเสสปจฺจโย อสฺสทฺธสฺส ตทภาวโต. ปิ-สทฺโท วุตฺตตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโถ. ‘‘สาหู’’ติ ปทํ สาธุสทฺเทน สมานตฺถํ ทฏฺพฺพํ. กถนฺติ ทานยุทฺธานํ วิปกฺขสภาวาติ อธิปฺปาโย. เอตํ อุภยนฺติ ทานํ ยุทฺธนฺติ อิทํ ทฺวยํ. ชีวิตภีรุโกติ ชีวิตวินาสภีรุโก. ขยภีรุโกติ โภคกฺขยสฺส ภีรุโก. วทนฺโตติ ชีวิเต สาลยตํ, ตโต เอว ยุชฺฌเน อสมตฺถตํ ปเวเทนฺโต. เฉชฺชนฺติ หตฺถปาทาทิเฉโท. อุสฺสหนฺโตติ วีริยํ กโรนฺโต. เอวํ โภเค รกฺขิสฺสามีติ ตถา โภเค อปริกฺขีเณ กริสฺสามีติ. วทนฺโตติ อิธ โภเคสุ โลภํ, ตโต เอว ทาตุํ อสมตฺถตํ ปเวเทนฺโต. เอวนฺติ เอวํ ชีวิตโภคนิรเปกฺขตาย ทานฺจ ยุทฺธฺจ สมํ โหติ. สทฺธาทิสมฺปนฺโนติ สทฺธาธมฺมชีวิตาวีมํสาสีลาทิคุณสมนฺนาคโต. โส หิ เทยฺยวตฺถุโน ปริตฺตกตฺตา อปฺปกมฺปิ ททนฺโต อตฺตโน ปน จิตฺตสมฺปตฺติยา เขตฺตสมฺปตฺติยา จ พหุํ อุฬารปฺุํ ปวฑฺเฒนฺโต พหุวิธํ โลภ-โทส-อิสฺสา-มจฺฉริย-ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิเภทํ ตปฺปฏิปกฺขํ อภิภวติ, ตโต เอว จ ตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘มจฺเฉรํ มทฺทติ’’จฺเจว วุตฺตํ, ตสฺส ปน อุชุวิปจฺจนีกภาวโต.
ปรตฺถาติ ปรโลเก. เอกสาฏกพฺราหฺมณวตฺถุ อนฺวยวเสน, องฺกุรวตฺถุ พฺยติเรกวเสน วิตฺถาเรตพฺพํ.
ธมฺโม ลทฺโธ เอเตนาติ ธมฺมลทฺโธ, ปุคฺคโล. อคฺคิอาหิตปทสฺส วิย สทฺทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา. ‘‘อุฏฺานนฺติ กายิกํ วีริยํ, วีริยนฺติ เจตสิก’’นฺติ วทนฺติ. อุฏฺานนฺติ โภคุปฺปาเท ยุตฺตปยุตฺตตา. วีริยนฺติ ตชฺโช อุสฺสาโห. ยมสฺส อาณาปวตฺติฏฺานํ. เวตรณิมฺปิ อิตเร นิรเย จ อติกฺกมฺม. เต ปน อพฺพุทาทีนํ วเสน อวีจึ ทสธา กตฺวา อวเสสมหานิรเย สตฺตปิ อายุปฺปมาณเภเทน ตโย ตโย กตฺวา เอกตึสาติ วทนฺติ. สฺชีวาทินิรยสํวตฺตนสฺส กมฺมสฺส ติกฺขมชฺฌมุทุภาเวน ตสฺส อายุปฺปมาณสฺส ติวิธตา วิภาเวตพฺพา. อปเร ปน ‘‘อฏฺ มหานิรยา โสฬส อุสฺสทนิรยา อาทิโต จตฺตาโร สิตนิรเย เอกํ กตฺวา สตฺต สิตนิรยาติ เอวํ เอกตึส มหานิรยา’’ติ ¶ วทนฺติ. มหานิรยคฺคหณโต อาทิโต จตฺตาโร สิตนิรยา เอโก นิรโย กโตติ.
เตสนฺติ ¶ วิจินิตฺวา คหิตปจฺจยานํ. ปฺจนวุติปาสณฺฑเภทา ปปฺจสูทนิสํวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ วิจินเนสุ. ทกฺขิณาวิจินนํ อาห, อุปมานานิ หิ นาม ยาวเทว อุปเมยฺยตฺถวิภาวนตฺถานิ. เอเตน สุเขตฺตคหณโตปิ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ ทฏฺพฺพํ.
ปาเณสุ สํยโมติ อิมินา ทสวิธมฺปิ กุสลกมฺมปถธมฺมํ ทสฺเสติ. ยถา หิ ‘‘ปาเณสุ สํยโม’’ติ อิมินา สตฺตานํ ชีวิตาโวโรปนโต สํยโม วุตฺโต, เอวํ เตสํ สาปเตยฺยาวหารโต ปรทารามสนโต วิสํวาทนโต อฺมฺเภทนโต ผรุสวจเนน สงฺฆฏฺฏนโต นิรตฺถกวิปฺปลปนโต ปรสนฺตกาภิชฺฌานโต อุจฺเฉทจินฺตนโต มิจฺฉาภินิเวสนโต จ สํยโม โหตีติ. เตนาห ‘‘สีลานิสํสํ กเถตุมารทฺธา’’ติ. ผรุสวจนสํยโม ปเนตฺถ สรูเปเนว วุตฺโต.
ปรสฺส อุปวาทภเยนาติ ปาปกิริยเหตุ ปเรน อตฺตโน วตฺตพฺพอุปวาทภเยน. อุปวาทภยาติ อุปวาทภยนิมิตฺตํ. ‘‘กถํ นุ โข อมฺเห ปเร น อุปวเทยฺยุ’’นฺติ อาสีสนฺตา ปาปํ น กโรนฺติ. ธมฺมปทเมวาติ อสงฺขตธมฺมโกฏฺาโส เอว เสยฺโย เสฏฺโ. ยสฺมา สพฺพสงฺขตํ อนิจฺจํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมํ, ตสฺมา ตทธิคมาย อุสฺสาโห กรณีโยติ ทสฺเสติ. ปุพฺพสทฺโท กาลวิเสสวิสโยติ อาห ‘‘ปุพฺเพ จ กสฺสปพุทฺธาทิกาเลปี’’ติอาทิ. ปุน อกาลวิเสโส อปาฏิเยกฺโก ภุมฺมตฺถวิสโยวาติ อาห ‘‘สพฺเพปิ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ สพฺเพปิ วาติ เอเต สพฺเพปิ กสฺสปพุทฺธาทโย โลกนาถา สนฺโต นาม วูปสนฺตสพฺพกิเลสสนฺตาปา สนฺตสพฺภูตคุณตฺตา.
สาธุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา
๓๔. กมนียานีติ ¶ กนฺตานิ. ตโต เอว เอตานิ อิฏฺารมฺมณานิ สุขารมฺมณานิ รูปาทีนิ, เต ปน วตฺถุกามา, ตทารมฺมณกิเลสกามา วา. ‘‘น สนฺติ กามา มนุเชสู’’ติ เทสนาสีสเมตํ, นิจฺฉเยน กามา อนิจฺจาเยว. มจฺจุ ธียติ เอตฺถาติ มจฺจุเธยฺยํ. น ปุน อาคจฺฉติ เอตฺถ ตํ อปุนาคมนํ. อปุนาคมนสงฺขาตํ นิพฺพานํ อนุปคจฺฉนโต. นิพฺพานํ หีติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส วิวรณํ. พทฺโธติ ปฏิพทฺธจิตฺโต. ปมตฺโตติ โวสฺสคฺคปมาทํ อาปนฺโน.
ตณฺหาฉนฺทโต ¶ ชาตํ ตสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา. อิจฺฉิตํ หนตีติ อฆํ, ทุกฺขํ. อิธ ปน อนวเสสปริยาทานวเสน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขนฺติ. ฉนฺทวินยา อฆวินโยติ เหตุนิโรเธน หิ ผลนิโรโธ, เอวํ สอุปาทิเสสนิพฺพานํ วตฺวา อฆวินยา ทุกฺขวินโยติ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ วทติ.
จิตฺรานีติ กิเลสกามาปิ เวทนาทิฏฺิสมฺปโยคเภเทน โหนฺติ, อาการเภเทน จ อตฺถิ สวิฆาตาวิฆาตาติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘อารมฺมณจิตฺตานี’’ติ วุตฺตํ. สงฺกปฺปิตราโคติ สุภาทิวเสน สงฺกปฺปิตวตฺถุมฺหิ ราโค. กิเลสกาโม กาโมติ วุตฺโต ตสฺเสวิธ วิเสสโต กามภาวสิทฺธิโต. ปสูรสุตฺเตน วิภาเวตพฺโพ ‘‘น เต กามา’’ติอาทินา ตสฺส วตฺถุมฺหิ อาคตตฺตา. อิทานิ ตมตฺถํ สงฺเขเปเนว วิภาเวนฺโต ‘‘ปสูรปริพฺพาชโก หี’’ติอาทิมาห. น เต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเกติ เต เจ กามา น โหนฺติ, ยานิ โลเก จิตฺรานิ รูปาทิอารมฺมณานิ. เวเทสีติ เกวลํ สงฺกปฺปราคฺจ กามํ กตฺวา วเทสิ เจ. เหหินฺตีติ ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. สุณนฺโต สทฺทานิ มโนรมานิ, สตฺถาปิ เต เหหิติ กามโภคีติ ปจฺเจกํ คาถา, อิธ ปน สํขิปิตฺวา ทสฺสิตา. ธีรา นาม ธิติสมฺปนฺนาติ อาห ‘‘ปณฺฑิตา’’ติ.
ตสฺสาติ โย ปหีนโกธมาโน สพฺพโส สํโยชนาติโค นามรูปสฺมึ อสชฺชนฺโต ราคาทิกิฺจนรหิโต, ตสฺส. โมฆราชา นาม เถโร พาวรีพฺราหฺมณสฺส ปริจารกานํ โสฬสนฺนํ อฺตโร. ยถานุสนฺธึ อปฺปตฺโต สาวเสส-อตฺโถ, กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย ¶ . สพฺพโส วิมุตฺตตฺตาว เทวมนุสฺสา นมสฺสนฺติ, เย ตํ ปฏิปชฺชนฺติ. เตสํ กึ โหติ? กิฺจิปิ น สิยาติ อยเมตฺถ อตฺถวิเสโส? ทสพลํ สนฺธาเยวมาห อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน. อนุปฏิปตฺติยาติ ปฏิปตฺตึ อนุคนฺตฺวา ปฏิปชฺชเนน. นมสฺสนฺติ ตํ ปูเชนฺติ.
จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวาติ เตน ปฏิวิทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ตถา จ พุทฺธสุพุทฺธตาย นิพฺเพมติกา โหนฺตีติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉํ ปหายา’’ติ. ตโต ปรํ ปน อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคาธิคเมน สงฺคาติคาปิ โหนฺติ. อเสกฺขธมฺมปาริปูริยา ปสํสิยา วิฺูนํ ปสํสาปิ โหนฺตีติ.
นสนฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุชฺฌานสฺิสุตฺตวณฺณนา
๓๕. อุชฺฌานวเสน ¶ ปวตฺตา สฺา เอเตสํ อตฺถิ, อุชฺฌานวเสน วา สฺชานนฺตีติ อุชฺฌานสฺี. การเยติ กตานํ ปริยนฺตํ การเยติ อตฺโถ. ปริยนฺตการิตนฺติ ปริจฺฉินฺนการิตํ ปริมิตวจนนฺติ อตฺโถ. ปํสุกูลาทิปฏิปกฺขนเยน ปตฺตุณฺณทุกุลาทิ วุตฺตํ. นามํ คหิตนฺติ เอเตน ‘‘อุชฺฌานสฺิกา’’ติ เอตฺถ ก-สทฺโท สฺายนฺติ ทสฺเสติ.
อฺเนากาเรน ภูตนฺติ อตฺตนา ปเวทิยมานาการโต อฺเน อสุทฺเธน อากาเรน วิชฺชมานํ อุปลพฺภมานํ อตฺตานํ. วฺเจตฺวาติ ปลมฺเภตฺวา. ตสฺส กุหกสฺส. ตํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ปริภฺุชนํ. ปริชานนฺตีติ ตสฺส ปฏิปตฺตึ ปริจฺฉิชฺช ชานนฺติ. การโกติ สมฺมาปฏิปตฺติยา กตฺตา, สมฺมาปฏิปชฺชิตาติ อตฺโถ.
อิทนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, อยนฺติ อตฺโถ. ธมฺมานุธมฺมปฏิปทาติ นิพฺพานธมฺมสฺส อนุจฺฉวิกตาย อนุธมฺมภูตา ปฏิปทา. ปฏิปกฺขวิธมเน อสิถิลตาย ทฬฺหา. ภาสิตมตฺเตน จ สวนมตฺเตน จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท วิเสสนิวตฺติอตฺโถ. เตน ภาสิตสฺส สุตสฺส จ สมฺมาปฏิปตฺติวิเสสํ นิวตฺเตติ. โลกปริยายนฺติ โลกสฺส ปริวิธมนํ อุปฺปาทนิโรธวเสน สงฺขารานํ ปราวุตฺตึ. เตนาห ‘‘สงฺขารโลกสฺส อุทยพฺพย’’นฺติ. สฺวายมตฺโถ สจฺจปฏิเวเธเนว โหตีติ อาห ‘‘จตุสจฺจธมฺมฺจ อฺายา’’ติ ¶ . เอวํ น กุพฺพนฺตีติ อตฺตนิ วิชฺชมานมฺปิ คุณํ อนาวีกโรนฺโต ‘‘ยถา ตุมฺเห วทถ, เอวํ น กุพฺพนฺตี’’ติ อวิชฺชมานตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ.
อการกเมวาติ โทสํ อการกเมว. อจฺจยสฺส ปฏิคฺคณฺหนํ นาม อธิวาสนํ, เอวํ โส เทสเกน เทสิยมาโน ตโต วิคโต นาม โหติ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตู’’ติ.
สภาเวนาติ สภาวโต. เอกสทิสนฺติ ปเรสํ จิตฺตาจารํ ชานนฺตมฺปิ อชานนฺเตหิ สห เอกสทิสํ กโรนฺตา. ปรโตติ ปจฺฉา. กถาย อุปฺปนฺนายาติ ‘‘กสฺสจฺจยา น วิชฺชนฺตี’’ติอาทิกถาย ปวตฺตมานาย ‘‘ตถาคตสฺส พุทฺธสฺสา’’ติอาทินา พุทฺธพลํ พุทฺธานุภาวํ ทีเปตฺวา. ขมิสฺสามีติ อจฺจยเทสนํ ปฏิคฺคณฺหิสฺสามิ. ตปฺปฏิคฺคโห หิ อิธ ขมนนฺติ อธิปฺเปตํ, สตฺถา ปน สพฺพกาลํ ขโม เอว.
โกโป ¶ อนฺตเร จิตฺเต เอตสฺสาติ โกปนฺตโร. โทโส ครุ ครุกาตพฺโพ อสฺสาติ โทสครุ. ‘‘ปฏิมุจฺจตี’’ติ วา ปาโ, อยเมว อตฺโถ. อจฺจายิกกมฺมนฺติ สหสา อนุปธาเรตฺวา กิริยา. โน จิธาติ โน เจ อิธ. อิธาติ นิปาตมตฺตํ. อปคตํ อปนีตํ. โทโส โน เจ สิยา, เตน ปริยาเยน ยทิ อปราโธ นาม น ภเวยฺยาติ. น สมฺเมยฺยุํ น วูปสเมยฺยุํ. กุสโลติ อนวชฺโช.
ธีโร สโตติ ปททฺวเยน วฏฺฏฉินฺทํ อาห. โก นิจฺจเมว ปณฺฑิโต นามาติ อตฺโถติ ‘‘กสฺสจฺจยา’’ติอาทิกาย ปุจฺฉาคาถาย อตฺโถ. ทีฆมชฺฌิมสํวณฺณนาสุ ตถาคต-สทฺโท วิตฺถารโต สํวณฺณิโตติ อาห ‘‘เอวมาทีหิ การเณหิ ตถาคตสฺสา’’ติ. พุทฺธตฺตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘โพเธตา ปชายา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗) นิทฺเทเส อาคตการณานิ สงฺคยฺหนฺติ. วิโมกฺขํ วุจฺจติ อริยมคฺโค, ตสฺส อนฺโต อคฺคผลํ, ตตฺถ ภวา ปณฺณตฺติ, ตสฺสา วเสน. เอวํ พุทฺธพลํ ทีเปติ. อิทานิ ขิตฺตํ สงฺเขเปน สํหราปิตํ โหตีติ ทสฺเสติ.
อุชฺฌานสฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สทฺธาสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ตตฺวสฺสาติ ¶ โอ-การสฺส ว-การาเทสํ อ-การสฺส จ โลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ตโต อสฺสา’’ติ. ‘‘ตตสฺสา’’ติ วา ปาโ, ตโตติ จ สทฺธาเหตูติ อตฺโถ. นานุปตนฺตีติ น วตฺตนฺติ. ปมาทํ กโรนฺตีติ ปมชฺชนฺติ, มิจฺฉา ปฏิปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ลกฺขณานีติ อนิจฺจาทิลกฺขณานิ. อุปนิชฺฌายตีติ อุเปจฺจ าณจกฺขุนา เปกฺขติ, อนุปสฺสตีติ อตฺโถ. อาคตกิจฺจนฺติ อาหตกิจฺจํ, อยเมว วา ปาโ. สาเธตีติ อสมฺโมหปฏิเวธวเสน นิปฺผาเทติ, ตถลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ อุปนิชฺฌายตีติ อยมตฺโถ มคฺเคปิ วตฺตพฺโพ เตน วินา อสมฺโมหปฏิเวธสฺส อสมฺภวโต. กสิณารมฺมณสฺสาติ อิทํ ลกฺขณวจนํ. อกสิณารมฺมณสมาปตฺติโยปิ หิ สนฺตีติ. ยถา จ กสิณารมฺมณานิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ อวเสสานฺจ ตทารมฺมณานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน จิตฺตานํ, เอวํ เตน ตานิ อารมฺมณานิ คหิตานีติ ‘‘กสิณารมฺมณสฺส’’อิจฺเจว วุตฺตํ. ปรมํ อุตฺตมํ สุขนฺติ วตฺตพฺพโต ปรมสุขํ อรหตฺตํ.
สทฺธาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สมยสุตฺตวณฺณนา
๓๗. อุทานํ ¶ ปฏิจฺจาติ อุกฺกากรฺา ชาติสมฺเภทปริหารนิมิตฺตํ อตฺตโน วํสปริสุทฺธํ นิสฺสาย วุตฺตํ ปีติอุทาหารํ ปฏิจฺจ โคตฺตวเสน ‘‘สกฺกา’’ติ ลทฺธนามานํ. ยทิ เอโกปิ ชนปโท, กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘รุฬฺหีสทฺเทนา’’ติ. อกฺขรจินฺติกา หิ อีทิเสสุ าเนสุ ยุตฺเต วิย สลิงฺควจนานิ อิจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ รุฬฺหี ยถา ‘‘อวนฺตี กุรู’’ติ, ตพฺพิเสสเน ปน ชนปทสทฺเท ชาติสทฺทตาย เอกวจนเมว. อโรปิเมติ เกนจิ น โรปิเม.
อาวรเณนาติ เสตุนา. พนฺธาเปตฺวาติ ปณฺฑุปลาสปาสาณมตฺติกขณฺฑาทีหิ อาลึ ถิรํ การาเปตฺวา. สสฺสานิ กาเรนฺตีติ เชฏฺมาเส กิร ฆมฺมสฺส พลวภาเวน หิมวนฺเต หิมํ วิลียิตฺวา สนฺทิตฺวา อนุกฺกเมน โรหิณึ นทึ ปวิสติ, ตํ พนฺธิตฺวา สสฺสานิ กาเรนฺติ. ‘‘ชาตึ ¶ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ วฑฺฒยึสู’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘โกลิยกมฺมกรา วทนฺตี’’ติ อาห. นิยุตฺตอมจฺจานนฺติ ตสฺมึ สสฺสปริปาลนกมฺเม นิโยชิตมหามตฺตานํ.
ตีณิ ชาตกานีติ ‘‘กุาริหตฺโถ ปุริโส’’ติอาทินา ผนฺทนชาตกํ (ชา. ๑.๑๓.๑๔ อาทโย) ‘‘ทุทฺทุภายติ ภทฺทนฺเต’’ติอาทินา ทุทฺทุภชาตกํ, (ชา. ๑.๔.๘๕ อาทโย) ‘‘วนฺทามิ ตํ กฺุชรา’’ติอาทินา ลฏุกิกชาตกนฺติ (ชา. ๑.๕.๓๙ อาทโย) อิมานิ ตีณิ ชาตกานิ. ทฺเว ชาตกานีติ –
‘‘สาธุ สมฺพหุลา าตี, อปิ รุกฺขา อรฺชา;
วาโต วหติ เอกฏฺํ, พฺรหนฺตมฺปิ วนปฺปติ’’นฺติ. –
อาทินา รุกฺขธมฺมชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗๔).
‘‘สมฺโมทมานา คจฺฉนฺติ, ชาลมาทาย ปกฺขิโน;
ยทา เต วิวทิสฺสนฺติ, ตทา เอหินฺติ เม วส’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๓๓) –
อาทินา สมฺโมทมานชาตกนฺติ อิมานิ ทฺเว ชาตกานิ.
‘‘อตฺตทณฺฑา ¶ ภยํ ชาตํ, ชนํ ปสฺสถ เมธคํ;
สํเวคํ กิตฺตยิสฺสามิ, ยถา สํวิชิตํ มยา’’ติ. (สุ. นิ. ๙๔๑) –
อาทินา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ.
เตนาติ ภควตา. กลหกรณภาโวติ กลหกรณสฺส อตฺถิภาโว. มหาปถวิยา มหคฺเฆ ขตฺติเย กสฺมา นาเสถาติ ทสฺเสตฺวา กลหํ วูปสเมตุกาโม ภควา ปถวึ นิทสฺสนภาเวน คณฺหีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปถวี นาม กึ อคฺฆตี’’ติอาทิมาห. อฏฺาเนติ อการเณ. เวรํ กตฺวาติ วิโรธํ อุปฺปาเทตฺวา. ตํตํปโลภนกิริยาย ปรกฺกมนฺติโย ‘‘อุกฺกณฺนฺตู’’ติ สาสนํ เปเสนฺติ. กุณาลทเหติ กุณาลทหตีเร ปติฏฺาย. ปุจฺฉิตํ กเถสิ อนุกฺกเมน กุณาลสกุณราชสฺส ปุจฺฉาปสงฺเคน กุณาลชาตกํ (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) กเถสฺสามีติ. อนภิรตึ วิโนเทสิ อิตฺถีนํ โทสทสฺสนมุเขน กามานํ อาทีนโวการสํกิเลสวิภาวนวเสน. ปุริสปุริเสหีติ โกสชฺชํ วิทฺธํเสตฺวา ปุริสถามพฺรูหเนน อุตฺตมปุริเสหิ โน ภวิตุํ วฏฺฏตีติ อุปฺปนฺนจิตฺตา ¶ . อวิสฺสฏฺสมณกมฺมนฺตา อปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานาภิโยคาติ อตฺโถ. นิสีทิตุํ วฏฺฏตีติ ภควา จินฺเตสีติ โยชนา.
ปทุมินิยนฺติ ปทุมวเน. วิกสึสุ คุณคณวิโพเธน. อยํ อิมสฺส…เป… น กเถสีติ อิมินา สพฺเพปิ เต ภิกฺขู ตาวเทว ปฏิปาฏิยา อาคตตฺตา อฺมฺสฺส ลชฺชมานา อตฺตนา ปฏิลทฺธวิเสสํ ภควโต นาโรเจสุนฺติ ทสฺเสติ. ขีณาสวานนฺติอาทินา ตตฺถ การณมาห.
โอสฏมตฺเตติ ภควโต สนฺติกํ อุปคตมตฺเต. อริยมณฺฑเลติ อริยปุคฺคลสมูเห. ปาจีนยุคนฺธรปริกฺเขปโตติ ยุคนฺธรปพฺพตสฺส ปาจีนปริกฺเขปโต, น พาหิรเกหิ วุจฺจมานอุทยปพฺพตโต. รามเณยฺยกทสฺสนตฺถนฺติ พุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตตฺตา วิเสสโต รมณียสฺส โลกสฺส รมณียภาวทสฺสนตฺถํ. อุลฺลงฺฆิตฺวาติ อุฏฺหิตฺวา. เอวรูเป ขเณ ลเย มุหุตฺเตติ ยถาวุตฺเต จนฺทมณฺฑลสฺส อุฏฺิตกฺขเณ อุฏฺิตเวลายํ อุฏฺิตมุหุตฺเตติ อุปรูปริกาลสฺส วฑฺฒิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
เตสํ ภิกฺขูนํ ชาติอาทิวเสน ภควโต อนุรูปปริวารภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. มหาสมฺมตสฺส วํเส อุปฺปนฺโนติอาทิ กุลวํสสุทฺธิทสฺสนํ. ขตฺติยคพฺเภ ชาโตติ อิทํ สติปิ ชาติวิสุทฺธิยํ มาตาปิตูนํ วเสน อวิสุทฺธตา สิยาติ เตสมฺปิ ‘‘อวิสุทฺธตา นตฺถิ อิเมส’’นฺติ ¶ วิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สติปิ จ คพฺภวิสุทฺธิยํ กตโทเสน มิสฺสกตฺตา อรชฺชารหตาปิ สิยาติ ‘‘ตมฺปิ นตฺถิ อิเมส’’นฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ราชปพฺพชิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สามนฺตาติ สมีเป. จลึสูติ อุฏฺหึสุ. โกสมตฺตํ านํ สทฺทนฺตรํ, ‘‘สทฺทสวนฏฺานเมว สทฺทนฺตร’’นฺติ อปเร. ติกฺขตฺตุํ เตสฏฺิยา นครสหสฺเสสูติ ชมฺพุทีเป กิร อาทิโต มหนฺตานิ เตสฏฺิ นครสหสฺสานิ อุปฺปนฺนานิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ เตสฏฺิยา นครสหสฺเสสู’’ติ. ตานิ ปน สมฺปิณฺเฑตฺวา สตสหสฺสโต ปรํ นวสหสฺสาธิกานิ อสีติสหสฺสานิ. นวนวุติยา โทณมุขสตสหสฺเสสูติ นวสตสหสฺสาธิเกสุ ¶ นวุติสตสหสฺเสสุ โทณมุเขสุ. โทณมุขนฺติ จ มหานครสฺส อายุปฺปตฺติฏฺานภูตํ ปาทนครํ วุจฺจติ. ฉนวุติยา ปฏฺฏนโกฏิสตสหสฺเสสูติ ฉโกฏิสตสหสฺสอธิเกสุ นวุติโกฏิสตสหสฺสปฏฺฏเนสุ. ตมฺพปณฺณิทีปาทิฉปณฺณาสาย รตนากเรสุ. เอวํ ปน นคร-โทณมุขปฏฺฏน-รตนากราทิภาเวน กถนํ ตํตํอธิวตฺถาย วสนฺตีนํ ตาสํ เทวตานํ พหุภาวทสฺสนตฺถํ. ยทิ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สนฺนิปติตา. อถ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘ทสหิ จ โลกธาตูหี’’ติ? วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทสสหสฺส…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ. เตน สหสฺสิโลกธาตุ อิธ ‘‘เอกา โลกธาตู’’ติ เวทิตพฺพา.
โลหปาสาเทติ สพฺพปมกเต โลหปาสาเท. พฺรหฺมโลเกติ เหฏฺิเม พฺรหฺมโลเก. ยทิ ตา เทวตา เอวํ นิรนฺตรา หุตฺวา สนฺนิปติตา, ปจฺฉา อาคตานํ โอกาโส เอว น ภเวยฺยาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยถา โข ปนา’’ติอาทิ.
สุทฺธาวาสกาเย อุปฺปนฺนา สุทฺธาวาสกายิกา. ตาสํ ปน ยสฺมา สุทฺธาวาสภูมิ นิวาสฏฺานํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สุทฺธาวาสวาสีน’’นฺติ. อาวาสาติ อาวาสฏฺานภูตา. เทวตา ปน โอรมฺภาคิยานํ อิตเรสฺจ สํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนฏฺเน สุทฺโธ อาวาโส วิหาโร เอเตสนฺติ สุทฺธาวาสา. มหาสมาคมํ ตฺวาติ มหาสมาคมํ คตาติ ตฺวา.
ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอตริ อฺตฺถ โอกาสํ อลภมาโน. เอวํ เสสาปิ. มณิวมฺมนฺติ อินฺทนีลมณิมยํ กวจํ. พุทฺธานํ อภิมุขภาโค พุทฺธวีถิ, สา ยาว จกฺกวาฬา อุตฺตริตุํ น สกฺกา. มหติยา พุทฺธวีถิยาวาติ พุทฺธานํ สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺเตหิ เตหิ เทวพฺรหฺเมหิ วลฺชิตพุทฺธวีถิยาว.
สมิติ ¶ สงฺคติ สนฺนิปาโต สมโย, มหนฺโต สมโย มหาสมโยติ อาห ‘‘มหาสมูโห’’ติ. ปวทฺธํ วนํ ปวนนฺติ อาห ‘‘วนสณฺโฑ’’ติ. เทวฆฏาติ เทวสมูหา. สมาทหํสูติ สมาหิตํ โลกุตฺตรสมาธึ สุฏฺุ อปฺปิตํ อกํสุ. ตถา สมาหิตํ ปน สมาธินา นิโยชิตํ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สมาธินา โยเชสุ’’นฺติ. สพฺเพสํ โคมุตฺตวงฺกาทีนํ ทูรสมุสฺสาริตตฺตา อตฺตโน…เป… อกรึสุ. วินยติ อสฺเส เอเตหีติ เนตฺตานิ, โยตฺตานิ. อวีถิปฏิปนฺนานํ อสฺสานํ วีถิปฏิปาทนํ รสฺมิคฺคหเณน โหตีติ ‘‘โยตฺตานิ คเหตฺวา อโจเทนฺโต’’ติ วตฺวา ตํ ปน อโจทนํ อวารณเมวาติ อาห ‘‘อโจเทนฺโต อวาเรนฺโต’’ติ.
ยถา ¶ ขีลํ ภิตฺติยํ, ภูมิยํ วา อาโกฏิตํ ทุนฺนีหรณํ, ยถา จ ปลิฆํ นครปฺปเวสนิวารณํ, ยถา จ อินฺทขีลํ คมฺภีรเนมิ สุนิขาตํ ทุนฺนีหรณํ, เอวํ ราคาทโย สตฺตสนฺตานโต ทุนฺนีหรณา นิพฺพานนครปฺปเวสนิวารณา จาติ เต ‘‘ขีลํ ปลิฆํ อินฺทขีล’’นฺติ จ วุตฺตา. อูหจฺจาติ อุทฺธริตฺวา. ตณฺหาเอชาย อภาเวน อเนชา. ปรมสนฺตุฏฺภาเวน จาตุทฺทิสตฺตา อปฺปฏิหตจาริกํ จรนฺติ. พุทฺธจกฺขุ-ธมฺมจกฺขุ-ทิพฺพจกฺขุ-สมนฺตจกฺขุ-ปกติจกฺขูนํ วเสน ปฺจหิ จกฺขูหิ. สุทนฺตา กุโตติ อาห ‘‘จกฺขุโตปี’’ติ. ฉนฺทาทีหีติ ฉนฺทาทีนํ วเสน น คจฺฉนฺติ น วตฺตนฺติ. น อาคจฺฉนฺติ อนุปฺปาทนโต. อาคุนฺติ อปราธํ.
สพฺพสํโยคาติ วิภตฺติโลเปน นิทฺเทโส, สพฺเพ สํโยเคติ อตฺโถ. วิสชฺชาติ วิสชฺชิตฺวา. เอวมฺปีติ อิมายปิ คาถาย วเสน ‘‘อาคุํ น กโรตี’’ติ ปเท.
คตาเสติ คตา เอว. น คมิสฺสนฺติ ปรินิฏฺิตสรณคมนตฺตา. โลกุตฺตรสรณคมนฺเหตฺถ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘นิพฺเพมติกสรณคมเนน คตา’’ติ. เต หิ นิยเมน อปายํ น คมิสฺสนฺติ, เทวกายฺจ ปริปูเรสฺสนฺติ. เย ปน โลกิเยน สรณคมเนน พุทฺธํ สรณํ คตา, น เต คมิสฺสนฺติ อปายํ, สติ จ ปจฺจยนฺตรสมวาเย ปหาย มานุสํ เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตีติ. เตนาห โส พฺรหฺมา ‘‘เย เกจิ พุทฺธํ…เป… ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ.
สมยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สกลิกสุตฺตวณฺณนา
๓๘. ตนฺติ อุยฺยานํ สงฺขํ คตนฺติ สมฺพนฺโธ. ธนุนา สเรน คหนฺติ โปถยนฺติ พาเธนฺตีติ ธนุคฺคหา. ตํ สมฺปฏิจฺฉีติ ตสฺสา สิลาย เหฏฺาภาเคน อุคฺคนฺตฺวา สมฺปฏิจฺฉิ. สตฺถุ ปฺุานุภาเวน ¶ อุปหตตฺตา สยมฺปิ ปริปตนฺตี วาตํ อุปตฺถมฺเภติ. อภิหนิ สตฺถารา อนาวชฺชิตตฺตา. ตฺจ โข กมฺมผลวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. ตโต เอว ตโต ปฏฺาย ภควโต อผาสุ ชาตนฺติ เอเตนปิ อุปาทิณฺณกสรีเร นาม อนิฏฺาปิ สมฺผสฺสกา ปตนฺติ เอว ตถารูเปน กมฺมุนา กโตกาเสติ ทสฺเสติ. อยํ ¶ วิหาโรติ คิชฺฌกูฏวิหาโร. อุชฺชงฺคโล น กตฺตพฺพปโร. วิสโมติ ภูมิภาควเสน วิสโม. สิวิกากาเรน สชฺชิโต มฺโจ เอว มฺจสิวิกา.
ภุสาติ ทฬฺหา. ทุกฺขาติ ทุกฺขมา ทุตฺติติกฺขา. ขราติ กกฺกสา. กฏุกาติ อนิฏฺา. อสาตาติ น สาตา อปฺปิยา. น อปฺเปตีติ น อุเปติ. น อปฺปายนฺตีติ น ขมนฺติ. เวทนาธิวาสนขนฺติยา สติสมฺปชฺยุตฺตตฺตา สพฺพสตฺตฏฺิตาหารสมุทยวตฺถุชาตสฺส อาทีนวนิสฺสรณานํ ปเคว สุปฺปฏิวิทิตตฺตา ยถา สมุทาจาโร จิตฺตํ นาภิภวติ, เอวํ สมฺมเทว อุปฏฺาปิตสติสมฺปชฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘เวทนาธิวาสน…เป… หุตฺวา’’ติ. อปีฬิยมาโนติ อพาธิยมาโน. กามํ อนิฏฺาย เวทนาย ผุฏฺโ ตาย อปีฬิยมาโน นาม นตฺถิ, ปริฺาตวตฺถุกตฺตา ปน ตสฺสา วเส อวตฺตมาโน ‘‘อวิหฺมาโน’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘สมฺปริวตฺตสายิตาย เวทนานํ วสํ อคจฺฉนฺโต’’ติ.
สีหเสยฺยนฺติ เอตฺถ สยนํ เสยฺยา, สีหสฺส วิย เสยฺยา สีหเสยฺยา, ตํ สีหเสยฺยํ. อถ วา สีหเสยฺยนฺติ เสฏฺเสยฺยํ อุตฺตมเสยฺยํ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายเมว อาคมิสฺสติ. ‘‘วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตา กามโภคิเสยฺยา. ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ ทกฺขิณหตฺถสฺส สรีรคฺคหณาทิโยคกฺขมโต. ปุริสวเสน เจตํ วุตฺตํ. เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ ทุกฺขุปฺปตฺติโต. อยํ สีหเสยฺยาติ อยํ ยถาวุตฺตา สีหเสยฺยา. เตชุสฺสทตฺตาติ อิมินา สีหสฺส อภีตภาวํ ทสฺเสติ. ภีรุกชาติกา หิ เสสมิคา อตฺตโน อาสยํ ปวิสิตฺวา อุตฺราสพหุลา สนฺตาสปุพฺพกํ ยถา ตถา สยนฺติ, สีโห ปน อภิรุกภาวโต สโตการี ภิกฺขุ วิย สตึ อุปฏฺเปตฺวาว สยติ. เตนาห ‘‘ทฺเว ปุริมปาเท’’ติอาทิ. ปุริมปาเทติ ทกฺขิณปุริมปาเท วามสฺส ปุริมปาทสฺส ปนวเสน ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา. ปจฺฉิมปาเทติ ทฺเว ปจฺฉิมปาเท. วุตฺตนเยเนว อิธาปิ เอกสฺมึ าเน ปนํ เวทิตพฺพํ. ิโตกาสสลฺลกฺขณํ อภีรุกภาเวเนว. สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวาติอาทินา วุตฺตสีหกิริยา อนุตฺราสปพุชฺฌนํ วิย อภีรุกภาวสิทฺธา ธมฺมตาวเสเนวาติ เวทิตพฺพา. สีหวิชมฺภิตวิชมฺภนํ อติเวลํ เอกากาเรน ปิตานํ สรีราวยวานํ ¶ คมนาทิกิริยาสุ โยคฺคภาวาปาทนตฺถํ. ติกฺขตฺตุํ สีหนาทนทนํ อปฺเปสกฺขมิคชาตปริหรณตฺถํ.
เสติ ¶ อพฺยาวฏภาเวน ปวตฺตติ เอตฺถาติ เสยฺยา, จตุตฺถชฺฌานเมว เสยฺยา จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา. กึ ปเนตฺถ ตํ จตุตฺถชฺฌานนฺติ? อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ. ตโต หิ วุฏฺหิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคํ อธิคนฺตฺวา ตถาคโต ชาโตติ. ‘‘ตยิทํ ปทฏฺานํ นาม, น เสยฺยา, ตถาปิ ยสฺมา ‘จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรํ ภควา ปรินิพฺพายี’ติ มหาปรินิพฺพาเน (ที. นิ. ๒.๒๑๙) อาคตํ. ตสฺมา โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ เอว ตถาคตเสยฺยา’’ติ เกจิ. เอวํ สติ ปรินิพฺพานกาลิกาว ตถาคตเสยฺยาติ อาปชฺชติ; น จ ตถาคโต โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปชฺชนพหุโล วิหาสิ. อคฺคผลวเสน ปวตฺตํ ปเนตฺถ จตุตฺถชฺฌานํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ยถา สตฺตานํ นิทฺทุปคมลกฺขณา เสยฺยา ภวงฺคจิตฺตวเสน โหติ, สา จ เนสํ ปมํ ชาติสมนฺวยา เยภุยฺยวุตฺติกา, เอวํ ภควโต อริยชาติสมนฺวยํ เยภุยฺยวุตฺติกํ อคฺคผลภูตํ จตุตฺถชฺฌานํ ตถาคตเสยฺยาติ เวทิตพฺพา. สีหเสยฺยา นาม เสฏฺเสยฺยาติ อาห ‘‘อุตฺตมเสยฺยา’’ติ.
‘‘กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ยถาปริจฺเฉทํ อุฏฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ ตทา มนสิการสฺส อกตตฺตา ปาฬิยํ ‘‘อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวา’’ติ น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุฏฺานสฺนฺติ ปเนตฺถ น วุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘คิลานเสยฺยา เหสา’’ติ. สา หิ จิรกาลปฺปวตฺติกา โหติ.
วิสุํ วิสุํ ราสิวเสน อนาคนฺตฺวา เอกชฺฌํ ปฺุชวเสน อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สพฺพาปิ ตา’’ติ. เตนาห ‘‘สตฺตสตา’’ติ. วิการมตฺตมฺปีติ เวทนาย อสหนวเสน ปวตฺตนาการมตฺตมฺปิ. สุสมฺมฏฺกฺจนํ วิยาติ สมฺมฏฺสุสชฺชิตสุวณฺณํ วิย.
ธมฺมาลปนนฺติ อสงฺขาริกสมุปฺปนฺนสภาวาลปนํ. สมุลฺลปิตฺหิ อาการสมานวจนเมตํ. นาโค วิย วาติ ปวตฺตตีติ นาคโว. ตสฺส ภาโว นาควตา. วิภตฺติโลเปน เหส นิทฺเทโส, มหานาคหตฺถิสทิสตายาติ อตฺโถ. พฺยตฺตุปริจรณฏฺเนาติ พฺยตฺตํ อุปรูปริ อตฺตโน กิริยาจรเณน. อาชานีโยติ สมฺมาปติตํ ทุกฺขํ สหนฺโต ¶ อตฺตนา กาตพฺพกิริยํ ธีโร หุตฺวา นิตฺถารโก. การณาการณชานเนนาติ นิยฺยานิกานิยฺยานิกกรณาตตาย. เตเนวฏฺเนาติ อปฺปฏิสมฏฺเเนว. ‘‘มุตฺโต โมเจยฺย’’นฺติอาทิ ธุรวาหฏฺเน. นิพฺพิเสวนฏฺเนาติ ราคาทิวิสวิคตภาเวน.
อนิยมิตาณตฺตีติ อนุทฺเทสิกํ อาณาปนํ. สามฺกโตปิ สมาธิสทฺโท ปกรณโต อิธ วิเสสตฺโถติ อาห ‘‘สมาธินฺติ อรหตฺตผลสมาธิ’’นฺติ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน สพฺพกิเลเสหิ สุฏฺุ ¶ วิมุตฺตนฺติ สุวิมุตฺตํ. อภินตํ นาม อารมฺมเณ อภิมุขภาเวน ปวตฺติยา. อปนตํ อปคมนวเสน ปวตฺติยา, วิมุขตายาติ อตฺโถ. โลกิยชฺฌานจิตฺตํ วิย วิปสฺสนา วิย จ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน ตทงฺคปฺปหานวิกฺขมฺภนปหานวเสน จ วิกฺขมฺเภตฺวา น อธิคตํ น ปิตํ, กิฺจรหิ กิเลสานํ สพฺพโส ฉินฺนตายาติ อาห ‘‘ฉินฺนตฺตา วตํ ผลสมาธินา สมาหิต’’นฺติ. อติกฺกมิตพฺพนฺติ อาจาราติกฺกมวเสน ลงฺฆิตพฺพํ. สา ปน ลงฺฆนา อาสาทนา ฆฏฺฏนาติ อาห ‘‘ฆฏฺเฏตพฺพ’’นฺติ.
ปฺจเวทา นาม – อิรุเวโท, ยชุเวโท, สามเวโท, อาถพฺพณเวโท, อิติหาโส จาติ เอวํ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ. ‘‘จร’’นฺติ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘จรนฺตา’’ติ, ตปนฺตาติ อตฺโถ. หีนตฺตรูปาติ หีนาธิมุตฺติกตาย นิหีนจิตฺตสภาวา. วิมุตฺติกตาย อภาวโต นิพฺพานงฺคมา น โหนฺติ. อรหตฺตาธิคมกมฺมสฺส อภพฺพตาย ปริหีนตฺถา. อชฺโฌตฺถฏาติ อภิภูตา. ตาทิเสเหว สีเลหีติ โคสีลาทีหิ. พทฺธาติ สมาทเปตฺวา ปวตฺตนวเสน อนุพทฺธา. ลูขํ ตปนฺติ อตฺตกิลมถานุโยคํ. ตํ ปน เอกเทเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจาตปตาปน’’นฺติอาทิมาห. ‘‘เอวํ ปฏิปนฺนสฺส โมกฺโข นตฺถิ, เอวํ ปฏิปนฺนสฺส วฏฺฏโต มุตฺติ อตฺถี’’ติ วทนฺตี สา อตฺตโต สาสนสฺส นิยฺยานภาโว กถิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ กเถนฺตี’’ติ. อาทินฺติ คาถาทฺวยํ.
สกลิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา
๓๙. จาตุมหาราชิกสฺสาติ ¶ จาตุมหาราชิกกายิกสฺส. ธมฺโม อนุพุทฺโธติ จตุสจฺจธมฺโม ปริฺเยฺยาทิภาวสฺส อนุรูปโต พุทฺโธ. ปจฺจกฺขเมวาติ ปรปตฺติยา อหุตฺวา อตฺตปจฺจกฺขเมว กตฺวา ชานามิ. ธมฺมํ ครหนฺตา นาม สทฺทโทสวเสน วา อตฺถโทสวเสน วา ครเหยฺยุนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘หีนกฺขร…เป… โกติวา’’ติ อาห. สา ปน ‘‘เตสํ วิครหา ทุมฺเมธตาย มหานตฺถาวหาวา’’ติ ทสฺเสนฺตี เทวตา อาห ‘‘ทุมฺเมธา อุเปนฺติ โรรุว’’นฺติ. วิสุํ โหตีติ อวีจิมหานิรยโต วิสุํ เอว โหติ. ขนฺติยาติ าณขนฺติยา. อุปสเมนาติ ราคาทีนํ สพฺพโส วูปสเมน. เตนาห ‘‘รุจฺจิตฺวา’’ติอาทิ.
ปมปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา
๔๐. พุทฺธฺจ ¶ ธมฺมฺจ นมสฺสมานาติ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตฺจ ตฺวา ตทุภยํ นมสฺสมานา. ยสฺมา พุทฺเธ จ ธมฺเม จ ปสนฺโน สงฺเฆ จ ปสนฺโน เอว โหติ ตสฺส สุปฺปฏิปตฺติยา วิชานนโต, ตสฺมา โส อตฺโถ คาถาย จ-สทฺทสงฺคหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จ-สทฺเทน สงฺฆฺจา’’ติ อาห อตฺถวติโยติ โลกิยโลกุตฺตรอตฺถสงฺคหิตา โลกิยกุสลโลกุตฺตรมคฺคสงฺคณฺหนโต. ยํ ธมฺมํ สา อภาสีติ ยํ ตุมฺหากํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตา, สา มหาโกกนทา อตฺตโน พลานุรูปํ อภาสิ. พหุนาติ นานปฺปกาเรน. ปริยาเยนาติ การเณน. ตาทิโสติ ตถารูโป ตถาปฏิวิทฺธสจฺโจ อตฺถธมฺมาทีสุ กุสโล เอเกกํ ปทมฺปิ อุทาหรณเหตุนิคมนานิ นีหรนฺโต อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปเปติ วิวรติ วิภชติ อุตฺตานีกโรติ. เตนาห ‘‘อยํ ภควา’’ติอาทิ. เอเตน อติวิย วิตฺถารกฺขโม สุคตธมฺโมติ ทสฺเสติ. ปริยาปุฏนฺติ ปริวตฺติตํ. เอวํ วิตฺถารกฺขมํ ¶ ธมฺมํ ยสฺมา เทวธีตา ‘‘สํขิตฺตมตฺถํ ลปยิสฺสามี’’ติ อโวจ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตสฺสตฺถ’’นฺติอาทิ.
ทุติยปชฺชุนฺนธีตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตุลฺลปกายิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อาทิตฺตวคฺโค
๑. อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๔๑. สีสนฺติ เทสนาปเทโส, เทสนาย อฺเสุปิ วตฺตพฺเพสุ กสฺสจิเทว สีสภาเคน อปทิสนํ. เตนาห ‘‘ราคาทีหี’’ติอาทิ. ทาเนนาติ อตฺตโน สนฺตกสฺส ปเรสํ ปริจฺจชเนน. ตํ ปน ปริจฺจชนํ เจตนาย โหตีติ อาห ‘‘ทานเจตนายา’’ติ ทานปฺุเจตนาติ ทานมยา ปฺุเจตนา ทายกสฺเสว โหติ ตํสนฺตติปริยาปนฺนตฺตา. นีหตภณฺฑกนฺติ อาทิตฺตเคหโต พหิ นิกฺขามิตํ ภณฺฑกํ. เอตนฺติ ‘‘ทินฺนํ โหตี’’ติอาทิวจนํ. อทินฺเนติ ทานมุเข อนิยฺุชิเต โภเค. ‘‘อนฺเตนา’’ติ ชีวิตสฺส อนฺโต อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘มรเณนา’’ติ. มมาติ ปริคฺคหิตตฺตา ปริคฺคหา, โภคา. เตปิ เกนจิ อากาเรน วินาสํ อนุปคตา มรเณน ปหียนฺติ ¶ นามาติ วุตฺตํ ‘‘โจราทีนํ วเสน อวินฏฺโภเค’’ติ. โสภนา อคฺคภูตา รูปาทโย เอตฺถาติ สคฺโค, ตํ สคฺคํ.
อาทิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กึททสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ทฺเว ตีณิ ภตฺตานิ อภุตฺวาติ ทฺเว ตโย วาเร ภตฺตานิ อภฺุชิตฺวา. อุฏฺาตุํ น สกฺโกตีติ อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกตี, ปเคว อฺํ สรีเรน กาตพฺพกิจฺจํ ทุพฺพลภาวโต. ทุพฺพโลปิ หุตฺวาติ ภฺุชนโต ปุพฺเพ ทุพฺพโล หุตฺวา พลสมฺปนฺโน โหติ. เอวํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ อาหารสฺส สรีเร พลวตํ อาห. ยสฺมา อนฺนโท ¶ ทายโก ปฏิคฺคาหกสฺส พลโท โหติ, ตสฺมา โส อายตึ อตฺตโน สรีเร พลโท อวินาสวเสน พลสฺส รกฺขโก จ โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘พลํ โข ปน ทตฺวา พลสฺส ภาคี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๓๗) เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. สุรูโปปีติ อภิรูโปปิ. วิรูโป โหตีติ พีภจฺฉรูโป โกปีนสฺส อจฺฉนฺนตฺตา. อิทฺจ ยานนฺติ สามฺโต วุตฺตํ. อุปาหนาติ สรูปโต ทสฺเสติ. อทุกฺขปฺปตฺโต หุตฺวา ยาติ วตฺตติ เอเตนาติ ยานนฺติ ฉตฺตาทีนมฺปิ ยานภาโว วุตฺโต. เตนาห ‘‘ยานโท สุขโท โหตี’’ติ. จกฺขุโท นาม โหติ จกฺขุนา กาตพฺพกิจฺเจ สหการีการณภาวโต ทีปสฺส.
‘‘สพฺเพสํเยว พลาทีนํ ทายโก โหตี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตํ อตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว ตโย คาเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิสชฺชาทิวเสน ปติสฺสยิตพฺพโต ปติสฺสโย, วิหาโร. ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ ปริสฺสมสฺส วิโนทิตตฺตา. พหิ วิจรนฺตสฺสาติ ปติสฺสยํ อลภิตฺวา พหิ วิวฏงฺคเณ วิจรนฺตสฺส. ฌายตีติ ฌายนฺตํ โหติ, กิลมตีติ อตฺโถ. สีตุณฺหาทิวิโรธิปจฺจยวเสน สสนฺตาเน วิสภาคสนฺตติ, ตพฺพิปริยายโต สภาคสนฺตติ เวทิตพฺพา. สุขํ นาม ทุกฺขปจฺจยปริหารโต สุขปจฺจยุปฺปนฺนโต จ โหติ, ตทุภยํ ปติสฺสยวเสน ลภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหิ วิจรนฺตสฺส ปาเท’’ติอาทิมาห. ธมฺมปีติสุขนฺติ ธมฺมปจฺจเวกฺขเณน อุปฺปนฺนปีติสุขํ. อุปสมสุขนฺติ กิเลสานํ วูปสเมน ปวตฺตสุขํ. นิวาตํ ปิหิตวาตปานํ ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย ิตสฺส อนฺธกาโร โหตีติ วุตฺตํ ‘‘กูเป โอติณฺโณ วิย โหตี’’ติ. เตนาห ‘‘มฺจปีาทีนิ น ปฺายนฺตี’’ติ. ตยิทํ พหิสมาปนฺนปริสฺสมโทเสน, น จ ปติสฺสยโทเสน. เตนาห ‘‘มุหุตฺต’’นฺติอาทิ.
น ¶ มรติ เอเตนาติ อมรณํ, นิพฺพานาธิคมาทโย. ตสฺส ทานํ ธมฺมูปเทโส, ตํ เทติ. เตนาห ‘‘โย ธมฺมํ อนุสาสตี’’ติ. ตยิทํ ธมฺมานุสาสนํ กถํ โหตีติ อาห ‘‘อฏฺกถ’’นฺติอาทิ. อฏฺกถํ กเถตีติ อวิวฏปาสฺส ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนํ กโรตีติ อตฺโถ. อนธีติโน ปน ปาฬึ วาเจติ. ตตฺถ ตตฺถ คตฏฺาเน ปุจฺฉิตปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, อยํ ตาว คนฺถธุโร, ปฏิปตฺติวาสธุเร ปน กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขติ, อุภเยสมฺปิ ¶ ธมฺมสฺสวนํ กโรติ. สพฺพทานนฺติ ยถาวุตฺตอามิสทานํ อภยทานํ. ธมฺมทานนฺติ ธมฺมเทสนา. ธมฺมรตีติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม อภิรติ. ธมฺมรโสติ สทฺธมฺมสนฺนิสฺสยํ ปีติปาโมชฺชํ.
กึททสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อนฺนสุตฺตวณฺณนา
๔๓. ปตฺเถนฺตีติ ปิเหนฺติ. ยตฺถสฺส อุปคมนํ โลเก ปากฏตรํ อโหสิ, เต อุทาหรณวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตคหปติสีวลิตฺเถราทิเก วิยา’’ติ อาห. อนฺนนฺติ อนฺนสฺิโต จตุพฺพิโธปิ ปจฺจโย. สพฺเพปิ ทายเก เอกชฺฌํ คเหตฺวา สามฺโต เอกวเสน ‘‘ทายกเมวา’’ติ วุตฺตํ, ยถา จาห ‘‘โก นาม โส ยกฺโข, ยํ อนฺนํ นาภินนฺทตี’’ติ? ตตฺถ ยกฺโขติ สตฺโต. สามฺโชตนา จ นาม ยสฺมา ปุถุอตฺถวิสยา, ตสฺมา ‘‘เย นํ ททนฺติ สทฺธาย, วิปฺปสนฺเนน เจตสา. ตเมว อนฺนํ ภชตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร, เต เอวาติ อตฺโถ. ทายกํ อปริจฺจชนเมว อนุคจฺฉติ จกฺกํ วิย กุพฺพรํ.
อนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เอกมูลสุตฺตวณฺณนา
๔๔. ปติฏฺฏฺเน อวิชฺชาสงฺขาตํ เอกํ มูลํ เอติสฺสาติ เอกมูลา. ตํ เอกมูลํ. ยถา สํโยชนีเยสุ อสฺสาทานุปสฺสนาวเสน ตณฺหาสมุปฺปาโท, เอวํ ตณฺหาภิภววเสน อนวโพโธติ อวิชฺชา ตณฺหาย มูลํ, ตณฺหา จ อวิชฺชาย มูลํ. อยฺหิ นโย อุปนิสฺสยตาวเสน วุตฺโต, สหชาตวเสน จายํ อฺมฺํ มูลภาโว ปากโฏเยว. อิธ ปน อิมิสฺสํ คาถายํ อธิปฺเปตา ‘‘เอกมูล’’นฺติ สา ตณฺหา. ตตฺถ ยา ภวตณฺหา, สา สสฺสตทิฏฺิวเสน อาวฏฺฏติ ปริวตฺตติ, วิภวตณฺหา ¶ อุจฺเฉททิฏฺิวเสน, เอวํ ทฺวิราวฏฺฏํ. สหชาตโกฏิยาติ สหชาตโกฏิยาปิ, ปเคว สมฺมุยฺหํ อาปนฺนสฺส ปน วตฺตมานาย ตณฺหาย พลวภาเวน มลีนตา สิยา. อุปนิสฺสยโกฏิยาติ อุปนิสฺสยโกฏิยาว สหชาตโกฏิยา อสมฺภวโต. ปตฺถรณฏฺานาติ วิตฺถตา หุตฺวา ปวตฺติฏฺานภูมิ ¶ . เตนาห ‘‘เตสุ สา ปตฺถรตี’’ติ. สมุทฺทนฏฺเน สมุทฺโท. อุตฺตริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ปตาย อลํ ปริยตฺโตติ ปาตาโล, อยํ ปน ปาตาโล วิยาติ ปาตาโล. เตนาห ‘‘อปฺปติฏฺฏฺเนา’’ติ. อคาธคมฺภีรตายาติ อตฺโถ.
เอกมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อโนมสุตฺตวณฺณนา
๔๕. อโนมนามนฺติ อนูนนามํ. คุณเนมิตฺติกานิ เอว หิ ภควโต นามานิ. คุณานฺจสฺส ปริปุณฺณตาย อนูนนามนฺติ อาห ‘‘สพฺพคุณสมนฺนาคตตฺตา’’ติอาทิ. อปิจ ตถา เตวิชฺโช, ฉฬภิฺโติอาทีนิ นามานิ อโนมนามานิ น โหนฺติ ปริจฺฉินฺนวิสยตฺตา, ภควโต ปน สตฺถา, สพฺพฺู, สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนิ นามานิ อโนมนามานิ นาม มหาวิสยตฺตา อนูนภาวโต. เตนาห ‘‘อเวกลฺลนาม’’นฺติ. ขนฺธนฺตราทโยติ ขนฺธวิเสสาทิเก. าเณน ยาถาวโต อรณียฏฺเน อตฺเถ. อนฺวยปฺาธิคมายาติ โลกุตฺตรปฺาปฏิลาภาย. ปฏิปทนฺติ สมถวิปสฺสนาปฏิปทํ. กิเลสกามานํ วเสน อลฺลียิตพฺพฏฺเน กามา เอว อาลโย. อตีตกาเลเยว กมนตํ คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘กมมาน’’นฺติ. น เอตรหิ ตทภาวโตติ อาห ‘‘อตีตํ ปน อุปาทาย อิทํ วุตฺต’’นฺติ. มหานุภาวตาทินา มหนฺตานํ.
อโนมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา
๔๖. ‘‘อจฺฉราคณสงฺฆุฏฺ’’นฺติ คาถา เทวปุตฺเตน เยนาธิปฺปาเยน คายิตา, โส อนุปุพฺพิกถาย วินา น ปฺายตีติ ตํ อาคมนโต ปฏฺาย ¶ กเถนฺโต ‘‘อยํ กิร เทวปุตฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สาสเนติ อิมสฺเสว สตฺถุสาสเน. กมฺมากมฺมนฺติ กมฺมวินิจฺฉยํ. อตฺถปุเรกฺขารตาย อปฺปกิจฺจตาย จ สลฺลหุกวุตฺติโก. สยนสฺส โกฏฺาโสติ ทิวสํ ปุริมยามฺจ ภาวนานุโยควเสน กิลนฺตกายสฺส สมสฺสาสนตฺถํ เสยฺยาย อุปคมนภาโค อนฺุาโต.
อพฺภนฺตเรติ กุจฺฉิยํ ภตฺตสฺส ปริตฺตตาย สตฺถกวาตาติ ติกฺขภาเวน สตฺถกา วิย กนฺตนกา วาตา. ธุรสฺมึเยวาติ กิเลสมาเรน ยุทฺเธ เอว. วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต วา. อุปนิสฺสยมนฺทตาย อปริปกฺกาณตาย อาสวกฺขยํ อปฺปตฺโต กาลํ กตฺวาติ โยชนา. อุปริ ิตนฺติ ปริกฺขารภาเวน ทิพฺพทุสฺสูปริ ิตํ. ตเถว อฏฺาสีติ ตาหิ ตถา วุตฺเตปิ ¶ ยถา ตโต ปุพฺเพ, ตเถว อฏฺาสิ. สุวณฺณปฏฺฏนฺติ นิพฺพุทฺเธ ปฏิชินิตฺวา ลทฺธพฺพสุวณฺณปฏฺฏํ. วีติกฺกมสฺส อกตตฺตา อสมฺภินฺเนเนว สีเลน. ยสฺมา ตสฺมึ สตฺถุ สนฺติกํ อาคจฺฉนฺเต ตาปิ เตน สทฺธึ อาคมํสุ ตสฺมา ‘‘อจฺฉราสงฺฆปริวุโต’’ติ วุตฺตํ.
สงฺโฆสิตนฺติ สงฺคมฺม โฆสิตํ, ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉรานํ คีตสทฺทวเสน โฆสิตํ. ปิสาจคณํ กตฺวา วทติ อจฺฉนฺทราคตาย. นิยามจิตฺตตายาติ สมฺมตฺตนิยาเม นินฺนจิตฺตตาย. ครุภาเวนาติ ตาสํ วเส อวตฺตนโต ครุฏฺานภาเวน. ยาตฺราติ นิพฺพานํ ปติ ยาตฺรา. ตํ ปน วฏฺฏโต นิคฺคมนํ โหตีติ อาห ‘‘กถํ นิคฺคมนํ ภวิสฺสตี’’ติ.
อติสลฺเลขเตวาติ อติวิย กิเลสานํ สลฺเลขิตวุตฺติโก. อกตาภินิเวสสฺสาติ ภาวนมนนุยุตฺตสฺส อนารทฺธวิปสฺสกสฺส. การกสฺสาติ สุคโตวาทการกสฺส สมฺมาปฏิปชฺชโต. สฺุตาวิปสฺสนนฺติ สฺุตาทีปนํ วิปสฺสนํ ทุจฺจริตตณฺหาย ทูรีกรเณน เอกวิหาริตาย. เอโก มคฺโค อสฺสาติ โลกุตฺตรมคฺโค เอว อสฺส อนาคโต, ปุพฺพภาคมคฺโค ปน กตปริจโยติ อตฺโถ.
กายวงฺกาทีนนฺติ กายทุจฺจริตาทีนํ อภาวโต สมุจฺฉินฺทเนน อนุปลพฺภนโต. นตฺถิ เอตฺถ ภยํ, อสฺมึ วา อธิคเต ปุคฺคลสฺส นตฺถิ ภยนฺติ ¶ อภยํ นาม. สํสารกนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา นิพฺพานสงฺขาตํ เขมํ อมตฏฺานํ คมเน สุคตสารถินา สุสชฺชิตยานภาวโต รโถ อกูชโนติ อฏฺงฺคิโก มคฺโคว อธิปฺเปโต. ธมฺมโต อนเปตตาย อปราปรุปฺปตฺติยา จ ธมฺมจกฺเกหิ.
โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว อวินาภาวา. อปาลมฺโพติ อวสฺสโย. ปริวาโรติ ปริกฺขาโร อภิสงฺขรณโต. มคฺคสฺส กรณฏฺาเน ธมฺโม ตปฺปริยาปนฺนา สมฺมาทิฏฺิ. อนิจฺจาทิวเสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน. โสธิเตสุ วชฺฌมาเนสุ. ภูมิลทฺธวฏฺฏนฺติ ภูมิลทฺธสงฺขาตํ วฏฺฏํ. ตตฺถ วิปสฺสนาย ปวตฺติฏฺานภาวโต ปฺจกฺขนฺธา ภูมิ นาม, วฏฺฏมยกมฺมภาวโต ตตฺถ อุปฺปชฺชนารหํ กิเลสชาตํ ภูมิลทฺธวฏฺฏํ. ปริชานมานาติ ปริจฺฉินฺทนวเสน สมติกฺกมวเสน ชานมานา ปฏิวิชฺฌนฺตี.
กสฺมา เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเลเยว ปติฏฺาสิ, นนุ จ สา เทสนา ภควตา จตุมคฺคปฺปธานภาเวน ปวตฺติตาติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ.
อจฺฉราสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วนโรปสุตฺตวณฺณนา
๔๗. เกสนฺติ ¶ สามิวเสน วุตฺตกสทฺโท ‘‘ธมฺมฏฺา สีลสมฺปนฺนา’’ติ เอตฺถ ปจฺจตฺตพหุวจนวเสน ปริณาเมตพฺโพ. อตฺถวเสน หิ วิภตฺติวิปริณาโม. เก ชนาติ เอตฺถ วา วุตฺตเกสทฺโท สีหวิโลกนนเยน อาเนตฺวา โยเชตพฺโพติ อาห ‘‘เก ธมฺมฏฺา, เก สีลสมฺปนฺนา’’ติ? ปุจฺฉตีติ อิมินา ตตฺถ การณมาห. ผลาทิสมฺปตฺติยา อารมนฺติ เอตฺถ สตฺตาติ อาราโม. อาราเม โรเปนฺติ นิปฺผาเทนฺตีติ อารามโรปา. วนียติ ฉายาสมฺปตฺติยา ภชียตีติ วนํ. ตตฺถ ยํ อุปวนลกฺขณํ วนํ, ตํ อารามคฺคหเณเนว คหิตนฺติ ตโปวนลกฺขณํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สีมํ ปริกฺขิปิตฺวา’’ติอาทิมาห. วิสเมติ อุทกจิกฺขลฺเลน วิสเม ปเทเส. ปานียํ ปิวนฺติ เอตฺถาติ ปปา, ตํ ปปํ. อุทกํ ปียติ เอตฺถาติ วา ปปา. ตฬากาทีติ อาทิ-สทฺเทน มาติกํ สงฺคณฺหาติ.
อิมมตฺถํ ¶ สนฺธายาติ อิมินา กมฺมปฺปถปฺปตฺตํ ปฏิกฺขิปติ. อตฺตนา กตฺหิ ปฺุํ อนุสฺสรโต ตํ อารพฺภ พหุํ ปฺุํ ปสวติ, น ปน ยถา กตํ ปฺุํ สยเมว ปวฑฺฒติ. ตสฺมึ ธมฺเม ิตตฺตาติ ตสฺมึ อารามโรปนาทิธมฺเม ปติฏฺิตตฺตา. เตนปิ สีเลน สมฺปนฺนตฺตาติ เตน ยถาวุตฺตธมฺเม กตสีเล ตฺวา จิณฺเณน ตทฺเนปิ กายวาจสิกสํวรลกฺขเณน สีเลน สมนฺนาคตตฺตา. ทส กุสลา ธมฺมา ปูเรนฺติ ทุจฺจริตปริวชฺชนโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.
วนโรปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เชตวนสุตฺตวณฺณนา
๔๘. เอสิตคุณตฺตา เอสิยมานคุณตฺตา จ อิสี, อเสกฺขา เสกฺขกลฺยาณปุถุชฺชนา จ. อิสีนํ สงฺโฆ อิสิสงฺโฆ. อิสิสงฺเฆน นิเสวิตํ. เตนาห ‘‘ภิกฺขุสงฺฆนิเสวิต’’นฺติ.
ตํ กาเรนฺตสฺส คนฺธกุฏิปาสาทกูฏาคาราทิวเสน สินิทฺธสนฺทจฺฉายรุกฺขลตาวเสน ภูมิภาคสมฺปตฺติยา จ อนฺสาธารณํ อติรมณียํ ตํ เชตวนํ จิตฺตํ โตเสติ, ตถา อริยานํ นิวาสภาเวนปีติ อาห ‘‘เอวํ ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา’’ติ. เตนาห ภควา – ‘‘ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ (ธ. ป. ๙๘; เถรคา. ๙๙๑). อปจยคามิเจตนา สตฺตานํ วิสุทฺธึ อาวหติ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตนโตติ อาห ‘‘กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา’’ติ. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ วิทิตกรณฏฺเน กิเลสานํ วิชฺฌนฏฺเน จ วิชฺชา ¶ . มคฺคปฺา สมฺมาทิฏฺีติ อาห ‘‘วิชฺชาติ มคฺคปฺา’’ติ. สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา สมฺมาวายามสติสมาธโย. ยถา หิ วิชฺชาปิ วิชฺชาภาคิยา, เอวํ สมาธิปิ สมาธิปกฺขิโก. สีลํ เอตสฺส อตฺถีติ สีลนฺติ อาห ‘‘สีเล ปติฏฺิตสฺส ชีวิตํ อุตฺตม’’นฺติ. ทิฏฺิสงฺกปฺปาติ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. ตตฺถ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาทิฏฺิยา อุปการภาเวน วิชฺชาภาโว วุตฺโต. ตถา หิ โส ปฺากฺขนฺธสงฺคหิโตติ วุจฺจติ. ยถา จ สมฺมาสงฺกปฺปาทโย ปฺากฺขนฺธสงฺคหิตา, เอวํ วายามสติโย ¶ สมาธิกฺขนฺธสงฺคหิตาติ อาห ‘‘วายามสติสมาธโย’’ติ. ธมฺโมติ หิ อิธ สมาธิ อธิปฺเปโต ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓.๑๙๗; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิย. วาจากมฺมนฺตาชีวาติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา. มคฺคปริยาปนฺนา เอว เหเต สงฺคหิตา. เตนาห ‘‘เอเตน อฏฺงฺคิกมคฺเคนา’’ติ.
อุปาเยน วิธินา อริยมคฺโค ภาเวตพฺโพ. เตนาห ‘‘สมาธิปกฺขิยธมฺม’’นฺติ. สมฺมาสมาธิปกฺขิยํ วิปสฺสนาธมฺมฺเจว มคฺคธมฺมฺจ. ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขาร’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๓๖) หิ วจนโต สมฺมาทิฏฺิอาทโย มคฺคธมฺมา สมฺมาสมาธิปริกฺขารา. วิจิเนยฺยาติ วีมํเสยฺย, ภาเวยฺยาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ. อริยมคฺคเหตุกา หิ สตฺตานํ วิสุทฺธิ. เตนาห ‘‘ตสฺมึ อริยมคฺเค วิสุชฺฌตี’’ติ. ปฺจกฺขนฺธธมฺมํ วิจิเนยฺยาติ ปจฺจุปฺปนฺเน ปฺจกฺขนฺเธ วิปสฺเสยฺย. เตสุ วิปสฺสิยมาเนสุ วิปสฺสนาย อุกฺกํสคตาย ยทคฺเคน ทุกฺขสจฺจํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌียติ, ตทคฺเคน สมุทยสจฺจํ ปหานปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌียติ, นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน, มคฺคสจฺจํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌียตีติ เอวํ เตสุ จตูสุ สจฺเจสุ วิสุชฺฌตีติ อิมสฺมึ ปกฺเข นิมิตฺตตฺเถ เอว ภุมฺมํ, เตสุ สจฺเจสุ ปฏิวิชฺฌิยมาเนสูติ อตฺโถ.
อวธารณวจนนฺติ ววตฺถาปนวจนํ, อวธารณนฺติ อตฺโถ. ‘‘สาริปุตฺโตวา’’ติ จ อวธารณํ สาวเกสุ สาริปุตฺโตว เสยฺโยติ อิมมตฺถํ ทีเปติ ตสฺเสวุกฺกํสภาวโต. กิเลสอุปสเมนาติ อิมินา มหาเถรสฺส ตาทิโส กิเลสวูปสโมติ ทสฺเสติ. ตสฺส สาวกวิสเย ปฺาย ปารมิปฺปตฺติ อโหสิ. ยทิ เอวํ ‘‘โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ อิทํ เตสํ พุทฺธานํ าณวิสเย ปฺาปารมิปฺปตฺตานํ วเสเนว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อวธารณมฺปิ วิมุตฺติยา นานตฺตา ตีหิ วิมุตฺตีหิ ปารงฺคเต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนาห – ‘‘ปารํ คโตติ นิพฺพานํ ¶ คโต’’ติอาทิ. น เถเรน อุตฺตริตโร นาม อตฺถิ ลพฺภติ, ลพฺภติ เจ, เอวเมว ลพฺเภยฺยาติ อธิปฺปาโย.
เชตวนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา
๔๙. มจฺฉริโนติ ¶ มจฺเฉรวนฺโต มจฺเฉรสมงฺคิโนติ อาห ‘‘มจฺเฉเรน สมนฺนาคตา’’ติ. มจฺเฉรํ มจฺฉริยนฺติ อตฺถโต เอกํ. น วนฺทตีติ วนฺทนมตฺตมฺปิ น กโรติ, กุโต ทานนฺติ อธิปฺปาโย. อุปฏฺานํ กาตุนฺติ มธุรปฏิสนฺถารํ กโรตีติ โยชนา. อิทํ ตาว มุทุมจฺฉริยํ น หทยํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสนฺตสฺส มจฺฉริยนฺติ กตฺวา. กึ ตุยฺหํ ปาทา รุชฺชนฺติ นนุ ตุยฺหํเยว อาคตคมเนสุ ปาทา รุชฺชนฺติ, กินฺเต อิเม ฉินฺทนฺตีติ อธิปฺปาโย. สามีจิมฺปิ น กโรติ กุโต ทานนฺติ อธิปฺปาโย. ยถากมฺมํ ตํตํคติโย อรนฺติ อุปคจฺฉนฺตีติ อริยา, สตฺตา. อิเม ปน กุจฺฉิตา อริยาติ กทริยา, ถทฺธมจฺฉริโน. มจฺฉริยสทิสฺหิ กุจฺฉิตํ สพฺพหีนํ นตฺถิ สพฺพคุณาภิภูตตฺตา โภคสมฺปตฺติอาทิสพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลภูตสฺส ทานสฺส นิเสธโต. อิติอาทีหิ วจเนหิ. อตฺตโน อุปฆาตโกติ มจฺฉริยานุโยเคน กุสลธมฺมานํ คติสมฺปตฺติยา จ วินาสโก.
ปฺุปาปวเสน สมฺปเรตพฺพโต อุปคนฺตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโก. กามคุณรตีติ กามคุณสนฺนิสฺสโย อสฺสาโท. ขิฑฺฑาติ กายิกขิฑฺฑา วาจสิกขิฑฺฑา เจตสิกขิฑฺฑาติ เอวํ ติวิธา. เอส วิปาโกติ โจฬาทีนํ กิจฺฉลาโภติ เอส เอวรูโป วิปาโก. ยมโลกนฺติ ปรโลกํ. อุปปชฺชเรติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺโถ. เตน ปาฬิยํ วุตฺตํ นิรยํ ติรจฺฉานโยนิฺจ สงฺคณฺหาติ.
ยาจนฺติ นาม อริยยาจนาย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ (ชา. ๑.๗.๕๙). เย สํวิภชนฺติ, เต วทฺู นาม ตฺวา กตฺตพฺพกรณโต. วิมานปฺปภายาติ นิทสฺสนมตฺตํ, อุยฺยานกปฺปรุกฺขปฺปภาหิ เทวตานํ วตฺถาภรณสรีรปฺปภาหิปิ สคฺเค ปกาเสนฺติเยว. ปกาสนฺตีติ วา ปากฏา โหนฺติ, น อปายโลเก วิย อปากฏาติ อตฺโถ. ปรสมฺภเตสูติ สยํ สมฺภตํ อนาปชฺชิตฺวา ปเรเหว สมฺภริเตสุ สุขูปกรเณสุ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘วสวตฺตีว โมทเร’’ติ, ปรนิมฺมิตโภเคสุ วสวตฺตี เทวปุตฺตา วิย สุขสมงฺคิตาย โมทนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺตสมฺปราโยติ เอเต สคฺคาติ เอวํ เหฏฺา ¶ วุตฺตสมฺปราโย. อุภินฺนนฺติ เอเตสํ ยถาวุตฺตานํ อุภินฺนํ ทุกฺกฏสุกฏกมฺมการีนํ. ตโต จวิตฺวา ตโต นิรยสคฺคาทิโต จวิตฺวา ¶ มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตติ. เตสุ โย มจฺฉรี มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺโต, โส ทลิทฺโท หุตฺวา ปุพฺพจริยวเสน มจฺฉรีเยว โหนฺโต ทาราทิภรณตฺถํ มจฺฉกจฺฉปาทีนิ หนฺตฺวา ปุนปิ นิรเย นิพฺพตฺโต. อิตโร สุทฺธาสโย สมิทฺโธ หุตฺวา ปุพฺพจริยาวเสน ปุนปิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺเตยฺย. เตนาห ‘‘ปุน สมฺปราเยปิ ทุคฺคติสุคติเยว โหตี’’ติ.
มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา
๕๐. ‘‘อุปปนฺนาเส’’ติ เส-การาคมํ กตฺวา นิทฺเทโส, ‘‘อุปปนฺนา’’อิจฺเจว อตฺโถติ อาห ‘‘นิพฺพตฺติวเสน อุปคตา’’ติ. อตฺตโน สมฺปตฺติโต อวิหานโต อวิหา, เตสํ พฺรหฺมโลโก อวิหาพฺรหฺมโลโก, ตสฺมึ. อุปปตฺติสมนนฺตรเมวาติ ปมโกฏฺาเส เอว. อรหตฺตผลวิมุตฺติยาติ อเสกฺขวิมุตฺติยา. เสกฺขวิมุตฺติยา ปน อวิหูปปตฺติโต ปเคว วิมุตฺตา. มานุสํ เทหํ สมติกฺกมนฺติ จิตฺตุปกฺกิเลสปหานวเสนาติ ผเลน เหตุทสฺสนมิทนฺติ อาห ‘‘มานุสํ เทหนฺติ อิธ…เป… วุตฺตานี’’ติ. ทิวิ ภวํ ทิพฺพํ, พฺรหฺมตฺตภาวสฺิตํ ขนฺธปฺจกํ. ตตฺถ สํโยชนโกติ วุตฺตํ ‘‘ทิพฺพํ โยคนฺติ ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานี’’ติ. อิมสฺสาติ เทวปุตฺตสฺส. ‘‘หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ทิพฺพโยคํ อุปจฺจคุ’’นฺติ เตสํ ตฺวํ กุสลํ สพฺพาวชฺชปฺปหาเนน อนวชฺชตํ ภาสตีติ กุสลี วเทสิ. อตฺเถน สทฺทสฺส อเภโทปจารํ กตฺวา คมฺภีรวจนํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘คมฺภีรตฺถ’’นฺติ อตฺถสฺเสว คมฺภีรโต, น สทฺทสฺส. สมุจฺฉินฺนกามราคตาย สพฺพโส กามวิสยปฺปหาเนน นิรามิสพฺรหฺมจารี นาม อนาคามี. นิวาสนฏฺานภูโต สมาโน เอโก คาโม เอตสฺสาติ อาห ‘‘เอกคามวาสี’’ติ.
ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาทิตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ชราวคฺโค
๑. ชราสุตฺตวณฺณนา
๕๑. หิตสฺส ¶ สาธนโต สาธุ, ยํ กิฺจิ อตฺถชาตํ. ตํ ปน อตฺถกาเมน ลภิตพฺพโต อุปเสวิตพฺพโต ¶ ลทฺธกํ, กลฺยาณฏฺเน ภทฺทกนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘สาธูติ ลทฺธกํ ภทฺทก’’นฺติ. ‘‘สีลํ ยาว ชรา สาธู’’ติ วุตฺตมตฺถํ พฺยติเรกโต วิภาเวตุํ ‘‘อิมินา อิทํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. อิทนฺติ อิทํ อตฺถชาตํ.
ปติฏฺิตาติ จิตฺตสนฺตาเน ลทฺธปติฏฺา, เกนจิ อสํหาริยา. เตนาห ‘‘มคฺเคน อาคตา’’ติ. จิตฺตีกตฏฺาทีหีติ ปูชนียภาวาทีหิ. วุตฺตํ เหตํ โปราณฏฺกถายํ. จิตฺตีกตนฺติ รตนนฺติ อิทํ รตนํ นาม โลเก จิตฺตีกตํ วตฺถูนํ สหสฺสคฺฆนตาทิวเสน. เยปิ โลเก จิตฺตีกตา ขตฺติยปณฺฑิต-จตุมหาราช-สกฺก-สุยาม-มหาพฺรหฺมาทโย, เตสํ จิตฺตีกโต เตหิ สรณนฺติ อุปคนฺตพฺพตาทิวเสน. รติกรนฺติ ปีติสุขาวหํ. ฌานรติสุเขนาติ ทุวิเธนปิ ฌานรติสุเขน. ตุเลตุนฺติ ปริจฺฉินฺทิตุํ. คุณปารมินฺติ คุณานํ อุกฺกํสปารมึ. ทุลฺลโภ อเนกานิ อสงฺขฺเยยฺยานิ อติธาวิตฺวาปิ ลทฺธุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. อโนโมติ อนูโน ปริปุณฺโณ. ตตฺถ วิเสสโต อโนมสตฺตปริโภคโต เตหิ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติ อนุสฺสริตพฺพโตติ อาห ‘‘ภควา อโนโม สีเลนา’’ติอาทิ.
อริยมคฺคปฺาเยว อิธ อธิปฺเปตาติ ‘‘อิธ ปน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน ปฺา ‘รตน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ อาห. ปุชฺชผลนิพฺพตฺตนโต, อตฺตโน สนฺตานํ ปุนาตีติ จ ปฺุเจตนา ปฺุํ, สา ปน ยสฺส อุปฺปนฺนา, ตสฺเสว อาเวณิกตาย อนฺสาธารณตฺตา เกนจิปิ อนาหฏา, อฏฺกถายํ ปน ‘‘อรูปตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
ชราสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อชรสาสุตฺตวณฺณนา
๕๒. อชีรเณนาติ ¶ ชิณฺณภาวานาปชฺชเนน. ลกฺขณวจนฺเจตํ อวินาสปฺปตฺติยา. เตนาห ‘‘อวิปตฺติยาติ อตฺโถ’’ติ. นิทฺธมิตพฺโพติ นีหริตพฺโพ.
อชรสาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๓. สห อตฺเถน วตฺตตีติ สตฺโถ, ภณฺฑมูลํ คเหตฺวา วาณิชฺชวเสน เทสนฺตราทีสุ วิจรณกชนสมูโห. เตนาห ‘‘สทฺธึจโร’’ติ, สหจรณโกติ อตฺโถ. มิตฺตนฺติ สิเนหโยเคน มิตฺตกิจฺจยุตฺตํ ¶ . อิธาธิปฺเปตปฺปการํ ทสฺเสตุํ ‘‘โรเค อุปฺปนฺเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถารูเปติ ชิคุจฺฉนีเย, ทุตฺติกิจฺเฉ วา. ยถา อสณฺิตานํ สณฺาปนวเสน ปวสโต ปุริสสฺส โภคพฺยสเน นาถตา, เอวํ ปุตฺตสิเนหวเสน ปุตฺตสฺส มาตุยา อนฺโตเคเห นาถตาติ วุตฺตํ ‘‘มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร’’ติ. อตฺถชาตสฺสาติ อุปฏฺิตปโยชนสฺสาติ อตฺโถติ อาห ‘‘อุปฺปนฺนกิจฺจสฺสา’’ติ. สมฺปรายหิตนฺติ สมฺปราเย หิตาวหํ.
มิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๕๔. ปติฏฺาติ อวสฺสโย. คุยฺหสฺสาติ คุหิตพฺพสฺส รหสฺสสฺส. ปรโม สขา นาม อติปิยฏฺานตาย.
วตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมชนสุตฺตวณฺณนา
๕๕. วิธาวตีติ วิวิธํ รูปํ ปธาวติ, ยถากามํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ.
ปมชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยชนสุตฺตวณฺณนา
๕๖. วฏฺฏทุกฺขโตติ ¶ สํสารทุกฺขโต. สํสาโร หิ กิเลสกมฺมวิปากานํ อปราปรุปฺปตฺติตาย วิธาวติ. ตฺจ ทุกฺขํ ทุกฺขมตฺตาย นานาวิธทุกฺขราสิภาวโต.
ทุติยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ตติยชนสุตฺตวณฺณนา
๕๗. นิปฺผตฺตีติ อิฏฺานิฏฺวิปากานํ นิปฺผชฺชนโต นิปฺผตฺติ. ตโต เอว อวสฺสโย, นิปฺผตฺติตวิปากสฺส อวสฺสโย อธิฏฺานํ การณนฺติ อตฺโถ.
ตติยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปฺปถสุตฺตวณฺณนา
๕๘. อมคฺโคติ ¶ น มคฺโค อนุปาโย. รตฺตินฺทิวกฺขโยติ ตตฺถ วยกฺขณสฺส ปากฏภาวโต. วุตฺตกฺขโณปิ หิ สยํ ขียเตว. เสสํ พาหิรมลํ วตฺถสรีราทิภูตํ. ตถา หิ ‘‘ภสฺมขาราทีหิ โธวิตฺวา สกฺกา โสเธตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ทุฏฺโติ ทูสิโต สตฺตสนฺตาโน น สกฺกา สุทฺโธ นาม กาตุํ อพฺภนฺตรมลีนภาวาปาทนโต. อิตฺถิยนฺติ พฺรหฺมจริยสฺส อนฺตรายกรายปิ. ปชาติ สตฺตกาโย สชฺชติ สงฺคํ กโรติ ยาถาวโต อาทีนวํ อปสฺสนฺโต. อินฺทฺริยสํวราทิ กิเลสานํ ตาปนโต ตโป, เตนาห ‘‘สพฺพาปี’’ติอาทิ.
อุปฺปถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยสุตฺตวณฺณนา
๕๙. กิสฺสาติ ¶ ภุมฺมตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘กิสฺมึ อภิรโต’’ติ. สทฺธา นาม อนวชฺชสภาวา, ตสฺมา โลกิยโลกุตฺตรหิตสุขาวหาติ อาห ‘‘สุคติฺเจว นิพฺพานฺจ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยิกา’’ติ. อนุสาสติ หิตจริยาย ปริณายิกภาวโต.
ทุติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กวิสุตฺตวณฺณนา
๖๐. คายตฺติอาทิโกติ ฉพฺพีสติยา ฉนฺเทสุ คายตฺติอาทิโก อุกฺกติปริโยสาโน ฉนฺโท คาถานํ นิทานํ สมุฏฺานํ ‘‘สมุฏฺหติ เอเตนา’’ติ กตฺวา. เตหิ ปน อนุฏฺุภาทิโก โหตีติ อาห ‘‘ฉนฺโท คาถานํ นิทาน’’นฺติ. ปุพฺพปฏฺาปนคาถาติ ธมฺมกถาย อาทิโต อาโรจนภาวชานนตฺถํ สติชนนํ วิย ปวตฺติตคาถา. อกฺขรฺหิ ปทํ ชเนตีติ ยสฺมา อกฺขรสมุทาโย ปทํ, ปทสมุทาโย คาถา, สมุทาโย จ สมุทายีหิ พฺยฺชียติ ตํปวตฺตนโต, ตสฺมา พฺยฺชนภาเว ิตํ อกฺขรํ, ตํสมุทาโย ปทํ, ปทํ ตํ วิยฺเชตา ชเนตา วิย โหตีติ ‘‘อกฺขรฺหิ ปทํ ชเนตี’’ติ วุตฺตํ. อกฺขรํ หิ อุจฺจาริตวิทฺธํสิตาย ตํตํขณมตฺตาวฏฺายีปิ ปรโต ปวตฺติยา มโนวิฺาณวีถิยา สงฺกลนวเสน เอกชฺฌํ กตฺวา ปทภาเวน คยฺหมานํ ยถาสงฺเกตมตฺถํ พฺยฺเชติ. ปทํ คาถํ ชเนตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. คาถา อตฺถํ ปกาเสตีติ คาถาสฺิโต ปทสมุทาโย กิริยาการกสมฺพนฺธวเสน สมฺพนฺธิโต กตฺตุอธิปฺปายานุรูปํ อาโลจิตวิโลจิตํ สํหิตํ อตฺถํ วิภาเวติ. สมุทฺทาทิปณฺณตฺตินิสฺสิตา โวหารสนฺนิสฺสเยเนว ¶ ปวตฺตตีติ กตฺวา. เตนาห ‘‘คาถา อารภนฺโต’’ติอาทิ. อาสโยติ อวสฺสโยติ อาห ‘‘ปติฏฺา’’ติ กวิโตติ วิจิตฺตกถีอาทิโต.
กวิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชราวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อทฺธวคฺโค
๑. นามสุตฺตวณฺณนา
๖๑. นามนฺติ ¶ สามฺนามาทิเภทํ นามํ. สพฺพนฺติ สพฺพํ ปฺตฺติปถํ สพฺพํ เยฺยปวตฺติปถํ. อทฺธภวีติ กามํ ปาฬิยํ อตีตกาลนิทฺเทโส กโต, ตํ ปน ลกฺขณมตฺตํ. อภิภวติ อนุปตตีติ เอเตน อภิภโว อนุปตนํ ปวตฺติ เอวาติ ทสฺเสติ. ตํ ปนสฺส อภิภวนํ อปฺปวิสเย อนามสิตฺวา มหาวิสยานํ วเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘โอปปาติเกน วา’’ติอาทิมาห. ตสฺส นามํ โหตีติ ตสฺส รุกฺขปาสาณาทิกสฺส อนามโกอิจฺเจว สมฺา โหติ, ตถา นํ สฺชานนฺตีติ อตฺโถ.
นามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. จิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๒. เย จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺตีติ เย อปริฺาตวตฺถุกา, เตสํเยว. อนวเสสปริยาทานนฺติ อนวเสสคฺคหณํ. น หิ ปริฺาตกฺขนฺธา ปหีนกิเลสา จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉนฺติ, ตํ อตฺตโน วเส วตฺเตนฺติ.
จิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตณฺหาสุตฺตวณฺณนา
๖๓. ตติเย ¶ ‘‘สพฺเพว วสมนฺวคู’’ติ เย ตณฺหาย วสํ คจฺฉนฺติ, เตสํ เอว อนวเสสปริยาทานนฺติ อิมมตฺถํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา อติทิสฺสติ.
ตณฺหาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา
๖๔. กึ ¶ สุ สํโยชโนติ สูติ นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘กึ-สํโยชโน’’ติ? วิจรนฺติ เอเตหีติ วิจารณา, ปาทา. พหุวจเน หิ วตฺตพฺเพ เอกวจนํ กตํ. ตสฺสาติ โลกสฺส.
สํโยชนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. พนฺธนสุตฺตวณฺณนา
๖๕. จตุตฺเถ อาคตอตฺโถ เอว อนนฺตเรปิ วุตฺโต, พฺยฺชนเมว นานนฺติ อาห ‘‘ปฺจเมปิ เอเสว นโย’’ติ.
พนฺธนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อตฺตหตสุตฺตวณฺณนา
๖๖. ‘‘เกนสฺสุพฺภาหโต’’ติ ปาโติ อธิปฺปาเยน ‘‘สุ-กาโร นิปาตมตฺต’’นฺติ อาห, ‘‘เกนสฺสพฺภาหโต’’ติ ปน ปาเ อุ-การโลเปน ปทสนฺธิ. อิจฺฉาธูปายิโตติ อสมฺปตฺตวิสยิจฺฉาลกฺขณาย ตณฺหาย สนฺตาปิโต ทฑฺโฒ. เตนาห ‘‘อิจฺฉาย อาทิตฺโต’’ติ.
อตฺตหตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อุฑฺฑิตสุตฺตวณฺณนา
๖๗. อุลฺลงฺฆิโตติ อุพฺพนฺธิตฺวา ลงฺฆิโต. สทฺทาทีสูติ สทฺทาทินาคทนฺเตสุ โสตาทีนิ อุฑฺฑิตานิ ตณฺหารชฺชุนา ทฬฺหพนฺธเนน พทฺธตฺตา ตทนติวตฺตนโต. โลโกติ อายตนโลโก. ตถา อตฺถโยชนาย กตตฺตา ขนฺธาทิโลกวเสนปิ โยชนา กาตพฺพา. น ทูรํ ¶ อนนฺตรภวกตฺตา. จุติจิตฺตอนฺตริตตฺตา ¶ เอกจิตฺตนฺตรภวสฺส กมฺมสฺส อพุชฺฌนํ, เอวํ สนฺเต กสฺมา สตฺตา น พุชฺฌนฺตีติ อาห ‘‘พลวติยา’’ติอาทิ.
อุฑฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปิหิตสุตฺตวณฺณนา
๖๘. ปฺโหติ าตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ. ปุจฺฉิโตติ สตฺตมสุตฺเต คาถาย ปุริมทฺธํ ปจฺฉิมทฺธํ, ปจฺฉิมํ ปุริมํ กตฺวา อฏฺมสุตฺเต เทวตาย ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เหฏฺุปริยายวเสน ปุจฺฉิโต’’ติ. ปุจฺฉานุรูปํ วิสฺสชฺชนนฺติ อวุตฺตมฺปิ สิทฺธเมตนฺติ อนาหฏํ.
ปิหิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อิจฺฉาสุตฺตวณฺณนา
๖๙. นวเม วินยายาติ วินเยน. กรณตฺเถ หิ อิทํ สมฺปทานวจนํ. กิสฺสสฺสูติ กิสฺส, สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ. สพฺพํ ฉินฺทติ พนฺธนนฺติ สพฺพํ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ สมุจฺฉินฺทติ. น หิ ตํ กิฺจิ กิเลสพนฺธนํ อตฺถิ, ยํ อสมุจฺฉินฺนํ หุตฺวา ิตํ อสฺสา ตณฺหาย สมุจฺฉินฺนาย. สฺวายมตฺโถ สุวิฺเยฺโยติ อาห ‘‘สพฺพํ อุตฺตานเมวา’’ติ.
อิจฺฉาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โลกสุตฺตวณฺณนา
๗๐. กิสฺมินฺติ กิสฺมึ สติ? ตสฺส ปน สนฺตภาโว อุปฺปตฺติวเสเนวาติ อาห ‘‘กิสฺมึ อุปฺปนฺเน’’ติ? โลโก อุปฺปนฺโนติ วุจฺจติ อนุปาทานตฺตา โลกสมฺาย. ฉสูติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย สนฺถวนฺติ อธิกสิเนหํ ¶ กโรติ อธิกสิเนหวตฺถุภาวโต อชฺฌตฺติกายตนานํ. อุปาทายาติ ปุพฺพกาลกิริยา อปรกาลกิริยํ อเปกฺขตีติ วจนเสสวเสน กิริยาปทํ คหิตํ ‘‘ปวตฺตตี’’ติ. กึ ปน ปวตฺตติ? โลโก, โลกสมฺาติ อตฺโถ. ฉสูติ อิทํ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ฉฬายตนนิมิตฺตฺหิ สพฺพทุกฺขํ. อยนฺติ สตฺตโลโก. อุปฺปนฺโน นาม โหติ ฉฬายตนํ นาม มูลํ สพฺพทุกฺขานนฺติ กตฺวา. พาหิเรสุ อายตเนสุ สนฺถวํ กโรติ วิเสสโต รูปาทีนํ ตณฺหาวตฺถุกตฺตา. ยสฺมา จกฺขาทีนํ สนฺตปฺปนวเสน ¶ รูปาทีนํ ปริคฺคหิตตฺตา โลกสฺส นิเสวิตาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ฉนฺนํ…เป… วิหฺตี’’ติ.
โลกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อทฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เฉตฺวาวคฺโค
๑. เฉตฺวาสุตฺตวณฺณนา
๗๑. วธิตฺวาติ หนฺตฺวา วินาเสตฺวา. อปริทยฺหมานตฺตาติ อปีฬิยมานตฺตา. วินฏฺโทมนสฺสตฺตา น โสจติ เจโตทุกฺขทุกฺขาภาวโต. วิสํ นาม ทุกฺขํ อนิฏฺภาวโต, ตสฺส มูลการณํ โกโธ อนิฏฺผลตฺตาติ อาห ‘‘วิสมูลสฺสาติ ทุกฺขวิปากสฺสา’’ติ. อกฺกุฏฺสฺสาติ อกฺโกสาปราธสฺส. อกฺโกสปหารตฺถสมฺพนฺเธน หิ ‘‘กุทฺธสฺสา’’ติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ. สุขํ อุปฺปชฺชติ โกธํ นสฺสติ. สุขุปฺปตฺตึ สนฺธาย เอส โกโธ ‘‘มธุรคฺโค’’ติ วุตฺโต, สุขาวสาโนติ อตฺโถ.
เฉตฺวาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รถสุตฺตวณฺณนา
๗๒. ปฺาณนฺติ ลกฺขณํ สลฺลกฺขณูปาโย. ทิสฺวาติ ทสฺสนเหตุ. ‘‘โจฬรฺโ รฏฺํ โจฬรฏฺ’’นฺติ เอวํ รฏฺํ รฺา ปฺายติ.
รถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๗๓. สทฺธายาติ ¶ สทฺธาเหตุ. กุลสมฺปทาติ ขตฺติยาทิสมฺปตฺติโย. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรวิตฺตปฏิลาภเหตุโต สทฺธาวิตฺตเมว. เหฏฺา ติณฺณํ ทฺวารานํ วเสน อุปฺปนฺนกสฺส สพฺพสฺสปิ อนวชฺชธมฺมสฺส สงฺคณฺหนโต ‘‘ธมฺโมติ ทสกุสลกมฺมปโถ’’ติ วุตฺตํ. อสํกิลิฏฺสุขนฺติ. นิรามิสํ ¶ สุขํ. ตเมว สามิสํ อุปนิธาย สมฺภาเวนฺโต อาห ‘‘อสํกิลิฏฺ’’นฺติ. อเสจนกภาเวน อภิรุจิชนนโต ปิยากิจฺฉกรณโต พหุํ สุจิรมฺปิ กาลํ อาเสวนฺตสฺส อโทสาวหโต สจฺจเมว มธุรตรํ. น หิ ตํ ปิวิตพฺพโต สาทิตพฺพโต อนุภวิตพฺพโต รโสติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. อิทานิ ตสฺส กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถหิปิ มหารหตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจสฺมึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นทีนิวตฺตนํ มหากปฺปินวตฺถุอาทีหิ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.มหากปฺปินตฺเถรวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๑; เถรคา. อฏฺ. ๒.มหากปฺปินตฺเถรคาถาวณฺณนา) ทีเปตพฺพํ, อิตรานิ กณฺหทีปายนชาตก- (ชา. ๑.๑๐.๖๒ อาทโย) สุตโสม- (ชา. ๒.๒๑.๓๗๑ อาทโย) มจฺฉชาตเกหิ (ชา. ๑.๑.๓๔, ๗๕; ๑.๒.๑๓๑ อาทโย) ทีเปตพฺพานิ. นิมฺมทฺเทนฺติ อภิภวนฺติ. มธุรตรนฺติ สุนฺทรตรํ เสฏฺเสูติ อตฺโถ. ปฺาชีวีติ ปฺาย ชีวนสีโลติ ปฺาชีวี, ปฺาปุพฺพงฺคมจริโยติ อตฺโถ. ปฺาชีวีติ จ ปฺาวเสน อิริยติ วตฺตติ ชีวิตํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปฺาชีวี’’ติอาทิมาห. ‘‘ชีวต’’นฺติ เกจิ ปนฺติ, ชีวนฺตานํ ปฺาชีวึ เสฏฺมาหูติ อตฺโถ.
วิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วุฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๗๔. อุปฺปตนฺตานนฺติ ปถวึ ภินฺทิตฺวา อุฏฺหนฺตานํ. ‘‘เสฏฺ’’นฺติ วุจฺจมานตฺตา ‘‘สตฺตวิธ’’นฺติ วุตฺตํ, อิตเรสํ วา ตทนุโลมโต. เขโม โหติ ทุพฺภิกฺขุปทฺทวาภาวโต. เตนาห ‘‘สุภิกฺโข’’ติ. นิปตนฺตานนฺติ อโธมุขํ ปวตฺตนฺตานํ. ปวชมานานนฺติ วชนสีลานํ. เต ปน ยสฺมา ชงฺคมา นาม โหนฺติ, น รุกฺขาทโย วิย ถาวรา, ตสฺมา อาห ‘‘ชงฺคมาน’’นฺติ. คาโวติ เธนุโย. เตน มหึสาทิกานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วทนฺตานนฺติ อุปฺปนฺนํ อตฺถํ วทนฺตานํ.
อตฺตโน ¶ ขนฺติยาติ อตฺตโน ขนฺติยา รุจิยา คหิตภาเวน. อิตรา เทวตา ตสฺสา วิสฺสชฺชเน อปริตุสฺสมานา อาห. ยาว ปธํสีติ คุณธํสี สตฺถุเทสนาย ลทฺธพฺพคุณนาสนโต. ปคพฺพาติ ปาคพฺพิเยน สมนฺนาคตา, ยถา วจีปาคพฺพิเยน อขรา, ตถา วาจาย ภวิตพฺพํ. มุขราติ มุขขรา. ทสพลํ ปุจฺฉิ สณฺหํ สุขุมํ รตนตฺตยสํหิตํ อตฺถํ โสตุกามา. อสฺสา เทวตาย วิสฺสชฺเชนฺโต อชฺฌาสยานุรูปํ. อุปฺปตมานาติ อุปฺปตนฺตี สมุคฺฆาเฏติ โอธิโส. วฏฺฏมูลกมหาอวิชฺชาติ ตสฺสา อาทีนวทสฺสนตฺถํ ภูตกถนวิเสสนํ. โอสีทนฺตานนฺติ ปฏิปกฺขวเสน อโธ สีทนฺตานํ, อุสฺสาทยมานานนฺติ อตฺโถ. ปฺุกฺเขตฺตภูโตติ อิทํ ‘‘ปทสา จรมานาน’’นฺติ ¶ ปทสฺส อตฺถวิวรณวเสน ภูตกถนวิเสสนํ. ยาทิโส ปุตฺโต วา โหตูติ อิทํ ปุริมปเท เทวตาย ปุตฺตคหณสฺส กตตฺตา วุตฺตํ.
วุฏฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภีตาสุตฺตวณฺณนา
๗๕. กึ สูธ ภีตาติ เอตฺถ สุ-อิธาติ นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘กึ ภีตา’’ติ? มคฺโค จ เนกายตนปฺปวุตฺโตติ อเนกการณํ นานาวิธาธิคโมกาสํ กตฺวา ปวุตฺโต กถิโต. เตนาห ‘‘อฏฺตึสารมฺมณวเสนา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ สพฺพสาธารณาเนกายตเนหิ นิพฺพานคามิมคฺคสฺส ตุมฺเหหิ ปเวทิตตฺตา ลพฺภมาเน เขเม มคฺเค กึ ภีตายํ ชนตา อุปฺปถภูตา วิปรีตทิฏฺิโต คณฺหีติ อตฺโถ? เอวํ เทวตา ยถิจฺฉาย ปุริมทฺเธน อตฺตนา ยถาจินฺติตมตฺถํ สตฺถุ ปเวทิตา, ปจฺฉิมทฺเธน อตฺตโน สํสยํ ปุจฺฉติ. พหุปฺาติ ปุถุปฺ. อุสฺสนฺนปฺาติ อธิกปฺา. เปตฺวาติ สํยเมตฺวา. สํวิภาคีติ อาหารปริโภเค สมฺมเทว วิภชนสีโล. เตนาห ‘‘อจฺฉรายา’’ติอาทิ. วุตฺตตฺถเมว เหฏฺา.
มเนนาติ มโนคหเณน. ปุพฺพสุทฺธิองฺคนฺติ ปุพฺพภาคสุทฺธิภูตํ องฺคํ. จตูสูติ วุตฺตองฺคปริยาปนฺนํ. ยฺอุปกฺขโรติ ทานสฺส สาธนํ. เอเตสุ ธมฺเมสูติ ¶ เอเตสุ สทฺธาทิคุเณสุ. ยถา หิ สทฺโธ ปจฺจยํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา วตฺถุปริจฺจาคสฺส วิเสสปจฺจโย กมฺมผลสฺส ปรโลกสฺส จ ปจฺจกฺขโต วิย ปตฺติยายนโต, เอวํ มุทุหทโย. มุทุหทโย หิ อนุทยํ ปตฺวา ยํ กิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ เทติ. โย จ สํวิภาคสีโล, โส อปฺปกสฺมิมฺปิ อตฺตโน สนฺตเก ปเรหิ สาธารณโภคี โหติ. วทฺู วทานิยตาย ยาคิโนว ยุตฺตํ ยุตฺตกาลํ ตฺวา อตฺถิกานํ มโนรถํ ปูเรตีติ วุตฺตํ ‘‘อิติ…เป… จตูสูติ อาหา’’ติ.
วาจนฺติอาทีนิ ตีณิ องฺคานิ ติวิธสีลสมฺปตฺติทีปนโต. สมฺปนฺนสีโล หิ ปรโลกํ น ภาเสยฺย. สทฺโธ เอกํ องฺคํ ปโยคาสยสุทฺธิทีปนโต. สุทฺธาสยสฺส สมฺมาปโยเค ิตสฺส กถํ ปรโลกโต ภยนฺติ. ทุกวเสน จตุรงฺคโยชนา ทุกนโย. เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ิโตติ เอเตสุ ยถาวุตฺตทุกสงฺคเหสุ จตูสุ คุเณสุ ปติฏฺิโต.
ภีตาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. นชีรติสุตฺตวณฺณนา
๗๖. นามโคตฺตนฺติ ¶ ติสฺโส กสฺสโป โคตโมติ เอวรูปํ นามฺจ โคตฺตฺจ. นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ตสฺมา สพฺพสฺส ปฺตฺติยา ลกฺขณวจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. น ชีรตีติ อสภาวธมฺมตฺตา อุปฺปาทวยาภาวโต ชรํ น ปาปุณาติ. เตนาห ‘‘ชีรณสภาโว น โหตี’’ติ. ยสฺมา สมฺาภาวโต กาลนฺตเรปิ ตํ สมฺายเตว, ตสฺมา ‘‘อตีตพุทฺธานํ…เป… น ชีรตีติ วุจฺจตี’’ติ อาห.
อาลสิยนฺติ อลสภาโว ทฬฺหโกสชฺชํ. เตนาห ‘‘เยนา’’ติอาทิ. ิตินฺติ พฺยาปารํ. นิทฺทาวเสน ปมชฺชนํ กตฺตพฺพสฺส อกรณํ. กิเลสวเสน ปมชฺชนํ อกตฺตพฺพสฺส กรณมฺปิ. กมฺมสมเยติ กมฺมํ กาตุํ ยุตฺตกาเล. กมฺมกรณวีริยาภาโวติ ตํกมฺมกิริยสมุฏฺาปกวีริยาภาโว. โส ปน อตฺถโต วีริยปฏิปกฺโข อกุสลจิตฺตุปฺปาโท, น วีริยสฺส อภาวมตฺตํ. สีลสฺมาภาโว ทุสฺสีลฺยํ. วิสฺสฏฺาจารตา นาม อนาจาโร. โสปฺปพหุลตาติ นิทฺทาลุตา ¶ . ยโต คหณหตฺโถปิ น กิลาสุปิ ปุริโส นิทฺทาย อภิภุยฺยติ. เตนาห ‘‘ตายา’’ติอาทิ. อติจฺฉาตาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อภิภุยฺยตาทึ สงฺคณฺหาติ. อาคนฺตุกาลสิยํ น ปุพฺเพ วุตฺตอาลสฺยํ วิย ปกติสิทฺธํ. ‘‘เต ฉิทฺเท’’ติ ปาฬิยํ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตานิ ฉ ฉิทฺทานี’’ติ. กุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา อโนกาสภาวโต ฉิทฺทานิ. เตนาห ภควา – ‘‘ยตฺถ วิตฺตํ น ติฏฺตี’’ติ. สพฺพากาเรน เลสมตฺตํ อเสเสตฺวาติ อธิปฺปาโย.
นชีรติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อิสฺสริยสุตฺตวณฺณนา
๗๗. สตฺถสฺส มลนฺติ สตฺถมลํ, เยน สตฺถํ มลีนํ โหติ, สตฺถมลคฺคหเณน เจตฺถ มลีนํ สตฺถเมว คหิตนฺติ อาห ‘‘มลคฺคหิตสตฺถ’’นฺติ. อาณาปวตฺตนนฺติ อปฺปเก วา มหนฺเต วา ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน อาณาย ปวตฺตนวเสน วสนํ อิสฺสริยตฺตมิจฺฉนฺติ. มณิรตนมฺปิ วิสฺสชฺชนียปกฺขิกตฺตา อุตฺตมํ ภณฺฑํ นาม น โหติ, อิตฺถี ปน ปริจฺจตฺตกุลาจาริตฺถิกายปิ อนิสฺสชฺชนียตาย อุตฺตมภณฺฑํ นาม. เตนาห ‘‘อิตฺถี ภณฺฑานมุตฺตม’’นฺติ. เตสํ เตสฺหิ ปุริสาชานียานํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย อุตฺตมรตนากรตฺตา อิตฺถี ภณฺฑานมุตฺตมํ. มลคฺคหิตสตฺถสทิโส อวโพธกิจฺจวิพนฺธนโต. สตฺถมลํ วิย สตฺถสฺส ปฺาสตฺถสฺส คุณาภาวกรณโต ปฺาสตฺถมลํ ¶ . อพฺพุ วุจฺจติ อุปทฺทวํ, ตํ เทตีติ อพฺพุทํ, วินาสการณํ. นนุ หรณํ สมณสฺส อยุตฺตนฺติ? ยุตฺตํ. ตสฺส อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ ยุตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สลากภตฺตาทีนี’’ติอาทิมาห.
อิสฺสริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กามสุตฺตวณฺณนา
๗๘. ‘‘อตฺตกาโม’’ติ ¶ ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘เปตฺวา สพฺพโพธิสตฺเต’’ติ. เต หิ สพฺพโส ปรตฺถาย เอว ปฏิปชฺชมานา มหาการุณิกา ปรตฺถกามา, อตฺถกามา นาม น โหนฺติ, ยา จ เตสํ อตฺตตฺถาวหา ปฏิปตฺติ, สาปิ ยาวเทว ปรตฺถา เอวาติ. วุตฺตํ โปราณฏฺกถายํ. ยสฺมา โพธิสตฺตา ปรหิตปฏิปตฺติยา ปารมิโย ปูเรนฺตา ตถารูปํ การณํ ปตฺวา อตฺตานํ ปเรสํ ปริจฺจชนฺติ ปฺาปารมิยา ปริปูรณโต, ตสฺมา อิธาปิ ‘‘สพฺพโพธิสตฺเต เปตฺวาเยวาติ วุตฺต’’นฺติ อาห. กลฺยาณนฺติ ภทฺทกํ. วาจาย อธิปฺเปตตฺตา อาห ‘‘สณฺหํ มุทุก’’นฺติ. ปาปิกนฺติ ลามกํ นิหีนํ. ตํ ปน ผรุสํ วาจนฺติ สรูปโต ทสฺเสติ.
กามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปาเถยฺยสุตฺตวณฺณนา
๗๙. สทฺธา พนฺธติ ปาเถยฺยนฺติ สทฺธา นาม สตฺตสฺส มรณวเสน มหาปถํ สํวชโต มหากนฺตารํ ปฏิปชฺชโต มหาวิทุคฺคํ ปกฺขนฺทโต ปาเถยฺยปุฏํ พนฺธติ สมฺพลํ สชฺเชติ. กถนฺติ อาห ‘‘สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติอาทิ. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘สทฺธา พนฺธติ ปาเถยฺย’’นฺติ เอตํ คาถาปทํ วุตฺตํ ภควตา. สิรีติ กตปฺุเหิ เสวียติ เตหิ ปฏิลภียตีติ สิรี. อิสฺสริยํ วิภโว. อาสยิตพฺพโต อาสโย, วสนฏฺานํ นิเกตนฺติ อตฺโถ. ปริกฑฺฒตีติ อิจฺฉาวสิกํ ปุคฺคลํ ตตฺถ ตตฺถ อุปกฑฺฒติ.
ปาเถยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา
๘๐. ตํ ตํ สมวิสมํ ปชฺโชตตีติ ปชฺโชโต. ปทีโป อนฺธการํ วิธมิตฺวา ปจฺจกฺขโต รูปคตํ ทสฺเสติ, เอวํ ปฺาปชฺโชโต อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา ธมฺมานํ ปรมตฺถภูตํ ¶ รูปํ ทสฺเสติ. ชาครพฺราหฺมโณ วิยาติ ชาครขีณาสวพฺราหฺมโณ วิย. โส หิ สติปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยา สพฺพทาปิ ชาคโร โหติ. คาโวติ โคชาติโย. อิทํ ¶ คุนฺนํ โคณานฺจ สามฺโต คหณํ. กมฺเมติ กรณตฺเถ ภุมฺมวจนํ. ชีวนํ ชีโว, สห ชีเวนาติ สชีวิโน. เตนาห ‘‘กมฺเมน สห ชีวนฺตาน’’นฺติ, กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ กตฺวา ชีวนฺตานนฺติ อตฺโถ. โคมณฺฑเลหิ สทฺธินฺติ โคคเณน สห. น เตน วินา กสิกมฺมาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ, โครสสิทฺธิยา เจว กสนภารวหนสิทฺธิยา จ กสิกมฺมเอกจฺจวาณิชฺชกมฺมาทีนิ อิชฺฌนฺติ. สตฺตกายสฺสาติ อาหารุปชีวิโน สตฺตกายสฺส กสิโต อฺถา ชีวิกํ กปฺเปนฺตสฺสปิ กสิชีวิตวุตฺติยา มูลการณํ ผลนิปฺผตฺตินิมิตฺตตฺตา ตสฺส. อิริยาปโถ จ อิริยนกิริยานํ ปวตฺตนุปาโย. ‘‘สีตนฺติ นงฺคลสีตกมฺม’’นฺติ วทนฺติ.
ปชฺโชตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. อรณสุตฺตวณฺณนา
๘๑. รณนฺติ กนฺทนฺติ เอเตหีติ รณา, ราคาทโย. เตหิ อภิภูตตาย หิ สตฺตา นานปฺปการํ กนฺทนฺติ ปริเทวนฺติ. เต ปน สพฺพโส นตฺถิ เอเตสํ รณาติ อรณา. นิกฺกิเลสา ขีณาสวา. วุสิตวาโสติ วุสิตพฺรหฺมจริยวาโส. โภชิสฺสิยนฺติ ภุชิสฺสภาโว. เตนาห ‘‘อทาสภาโว’’ติ. สมณาติ สมิตปาปสมณาติ อาห ‘‘ขีณาสวสมณา’’ติ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาเล โลกิยปริฺาย, เสกฺขา ปุพฺพภาเค โลกิยปริฺาย, ปจฺจเวกฺขเณ โลกิยโลกุตฺตราย ปริฺาย ปริฺเยฺยํ เตภูมกํ ขนฺธปฺจกํ ปริชานนฺติ ปริจฺฉิชฺชนฺติ. ขีณาสวา ปน ปริฺาตปริฺเยฺยา โหนฺติ. ตถา หิ เต สามี หุตฺวา ปริภฺุชนฺติ. วนฺทนฺติ นํ ปติฏฺิตนฺติ วุตฺตํ, วนฺทนียภาโว จ สีลสมฺปนฺนตายาติ อาห ‘‘ปติฏฺิตนฺติ สีเล ปติฏฺิต’’นฺติ. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. ขตฺติยาติ ลกฺขณวจนนฺติ อาห ‘‘น เกวลํ ขตฺติยาวา’’ติอาทิ.
อรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
เฉตฺวาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
เทวตาสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๒. เทวปุตฺตสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ปมกสฺสปสุตฺตวณฺณนา
๘๒. เทวสฺส ¶ ¶ ปุตฺโต เทวปุตฺโต. เทวานํ ชนกชเนตพฺพสมฺพนฺธาภาวโต กถมยํ เทวปุตฺโตติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘เทวานํ หี’’ติอาทิ. ‘‘อปากโฏ อฺตโรติ วุจฺจตี’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. ปากโฏปิ หิ กตฺถจิ ‘‘อฺตโร’’ติ วุจฺจติ. เหฏฺา เทวตาสํยุตฺเต ‘‘อปากฏา อฺตรา เทวตา’’ติ วตฺวา อิธ ‘‘ปากโฏ เทวปุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิสฺส กสฺสโปติ โคตฺตนามํ คหิตํ, ตฺจ โข ปุริมชาติสิทฺธสมฺาวเสน. อนุสาสนํ อนุสาโส, ตํ อนุสาสํ. ภิกฺขุนิทฺเทสนฺติ ภิกฺขุสทฺทสฺส นิทฺเทสํ. ภิกฺขุโอวาทนฺติ ภิกฺขุภาวาวหํ โอวาทํ. ยทิ ปน น อสฺโสสิ, กถมยํ ปฺหํ กเถสีติ? อฺโต สุตํ นิสฺสาย ปฺหํ กเถสิ, น ปน ภควโต สมฺมุขา สุตภาเวน.
เตสนฺติ ยถาวุตฺตานํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ. ‘‘กเถตุกาโม เจวา’’ติอาทินา หิ จตุตฺถํ อิธ อุทฺธฏํ. ตตฺถ อาทิโต ติณฺณํ ภควา ปฺหํ ภารํ น กโรติ เอเกกงฺคเวกลฺลโต เจว องฺคทฺวยเวกลฺลโต จ, จตุตฺถสฺส ปน อุภยงฺคปาริปูรตฺตา ภารํ กโรตีติ อาห ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิ.
คาถายํ ‘‘สุภาสิตสฺสา’’ติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘สุภาสิตํ สิกฺเขยฺยา’’ติ. จตุสจฺจาทินิสฺสิตํ พุทฺธวจนํ สิกฺขนฺโต จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ สิกฺขติ นามาติ อาห ‘‘จตุสจฺจนิสฺสิตํ…เป… สิกฺเขยฺยา’’ติ. อวธารเณน ตปฺปฏิปกฺขํ ปฏินิวตฺเตติ. อุปาสิตพฺพนฺติ อาเสวิตพฺพํ ภาเวตพฺพํ พหุลีกาตพฺพํ. อฏฺตึสเภทํ กมฺมฏฺานนฺติ อิทํ ตสฺส วิปสฺสนาปทฏฺานตํ หทเย เปตฺวา วุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทุติยปเทน อธิปฺาสิกฺขา กถิตา’’ติ. เย ปน ‘‘ทุติยปเทน อธิจิตฺตสิกฺขา จิตฺตวูปสเมน อธิปฺาสิกฺขา’’ติ ¶ ปนฺติ, เตสํ ปเทน อฏฺตึสปฺปเภทกมฺมฏฺานํ สุทฺธสมถกมฺมฏฺานสฺเสว คหณํ ทฏฺพฺพํ. ยทิ เอวํ ‘‘อฏฺสมาปตฺติวเสนา’’ติ อิทํ กถนฺติ? ‘‘ตํ วิปสฺสนาธิฏฺานานํ สมาปตฺตีนํ วเสน ¶ กถิต’’นฺติ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทุติยปเทน อธิปฺาสิกฺขา’’ติ อิทํ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. สิกฺขนํ นาม อาเสวนนฺติ อาห ‘‘ภาเวยฺยาติ อตฺโถ’’ติ. อุปาสนนฺติ ปยิรุปาสนํ. ตฺจ โข อสฺสุตปริยาปุณนกมฺมฏฺานุคฺคหาทิวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ตมฺปี’’ติอาทิมาห. อธิสีลสิกฺขา กถิตา ลกฺขณหารนเยน. วจีสุจริตสฺส หิ สีลสภาวตฺตา ตคฺคหเณเนว ตเทกลกฺขณํ กายสุจริตมฺปิ อิตรมฺปิ คหิตเมวาติ. เอตฺถ จ อธิสีลสิกฺขาย จิตฺตวิเวโก, อธิปฺาสิกฺขาย อุปธิวิเวโก, อธิจิตฺตสิกฺขาย กายวิเวโก กถิโต, กายวิเวโก ปน สรูเปเนว ปาฬิยํ คหิโตติ ติวิธสฺสปิ วิเวกสฺส ปกาสิตตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ปมกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยกสฺสปสุตฺตวณฺณนา
๘๓. ทฺวีหิ ฌาเนหีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขเณหิ ทฺวีหิ ฌาเนหิ. กมฺมฏฺานวิมุตฺติยาติ กมฺมฏฺานานุโยคลทฺธาย วิมุตฺติยา. เตน ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺติโย วทติ. สตฺถุสาสนสฺส หทยตฺตา อพฺภนฺตรตฺตา หทยสฺส มานสสฺส, อนุปตฺตึ ปฏิลาภมานสํ. ตํ ปน อตฺถโต อฺา เอวาติ อาห ‘‘อรหตฺต’’นฺติ. ตํ ปตฺตุกาเมน เอกนฺตโต วชฺเชตพฺพตณฺหาทิฏฺีนํ ภาเว ตสฺส อนิชฺฌนโต, ตทภาเว อิชฺฌนโต จ เต อุปฺปาทนวเสน ยทคฺเคน นิสฺสิโต, ตทคฺเคน ปนายมฺปิ เตหิ นิสฺสิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อนิสฺสิโต’’ติอาทิ. อรหตฺตํ อานิสํสิตพฺพฏฺเน อานิสํสํ เอตสฺสาติ อรหตฺตานิสํโส. อรหตฺตํ ปตฺตุกามสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา อิจฺฉิตพฺพา. ตตฺถ จ สพฺพปโม กมฺมฏฺานอตฺตานุโยโค, โส อิธ น คหิโตติ อาห ‘‘ตนฺติธมฺโม ปุพฺพภาโค’’ติ. ตตฺถ ตนฺติธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม.
ทุติยกสฺสปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มฆสุตฺตวณฺณนา
๘๔. มโฆติ ¶ สกฺกสฺเสตํ นามํ ปุริมชาติอนุคตํ. สฺเววาติ สกฺโก เอว. วเตนาติ มาตาปิตุอุปฏฺานาทิจาริตฺตธมฺเมน ¶ . อฺเติ อุปธิเวปกฺกปาปธมฺเม อภิภวิตฺวา. อสุรนฺติ อินฺทสตฺตุภูตํ อสุรํ.
มฆสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. มาคธสุตฺตวณฺณนา
๘๕. จตุตฺถสุตฺตํ วุตฺตตฺถเมวาติ เทวตาสํยุตฺเต สํวณฺณิตตฺถเมว, ตสฺมา อิธ น วตฺตพฺโพ อตฺโถติ อธิปฺปาโย.
มาคธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา
๕. ทามลิสุตฺตวณฺณนา
๘๖. เตน การเณนาติ เตน ปธาเนน การณภูเตน, ปธานกรณนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ หีนมฺปิ ปณีตมฺปิ ภวํ. อายตปคฺคโหติ ทีฆรตฺตสฺส วีริยารมฺโภ. กิจฺจโวสานนฺติ กิจฺจนิฏฺานํ. ตเถวาติ ยถา อรหตฺตุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ, ตโต ปจฺฉาปิ ตเถว ‘‘พุทฺธิปคฺคโห’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กโรตูติ กุปฺปธมฺมํ วิย มฺมาโน วทติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราทิอตฺถํ ปน วีริยกรณํ อิจฺฉิตพฺพเมว.
อสํกิณฺณาติ อโวมิสฺสา เอวํ อฺตฺถ อนาคตตฺตา. เตนาห ‘‘ภควตา หี’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ อิเธว กสฺมา เอตํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ. ปติฏฺนฺติ นที นาม อนวฏฺิตตีรา, ตตฺถ ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ.
ทามลิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กามทสุตฺตวณฺณนา
๘๗. ปุพฺพโยคาวจโรติ ¶ ปุพฺเพ โยคาวจโร ปุริมตฺตภาเว ภาวนมนุยุตฺโต. อยํ กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวาว พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺมํ อกาสิ, น ปน วิเสสํ นิพฺพตฺเตสิ. ตมตฺถํ การเณน สทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘พหลกิเลสตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตปริสุทฺธสฺสาติ ยถา วิเสสาวโห โหติ ¶ , เอวํ เอกนฺเตน ปริสุทฺธสฺส สพฺพโส อนุปกฺกิลิฏฺสฺส. สีเลน สมาหิตาติ ยถา สีลํ อุปรูปริ วิเสสาวหํ นิพฺเพธภาคิยฺจ โหติ, เอวํ สมฺมเทว อาหิตจิตฺตา สุฏฺุ สมฺปนฺนจิตฺตา. ตถาภูตา เตน สมนฺนาคตา โหนฺตีติ อาห ‘‘สมุเปตา’’ติ. ปติฏฺิตสภาวาติ เสกฺขตฺตา เอว ยถาธิคตธมฺเมน นิจฺจลภาเวน อธิฏฺิตสภาวา. มยา ตุฏฺิยา คหิตาย เทวปุตฺโต ‘‘ทุลฺลภา ตุฏฺี’’ติ วกฺขตีติ ภควา ‘‘ตุฏฺิ โหติ สุขาวหา’’ติ อโวจาติ อาห ‘‘อุปริ ปฺหสมุฏฺาปนตฺถ’’นฺติ. ปพฺพชิโต รุกฺขมูลิโก อพฺโภกาสิโก วา อนคาริยุเปโต นาม โหติ, เสนาสเน ปน วสนฺโต กถนฺติ อาห ‘‘สตฺตภูมิเก’’ติอาทิ. จตุปจฺจยสนฺโตโสติ ภาวนาภิโยคสิทฺโธ จตูสุ ปจฺจเยสุ สนฺโตโส. เตน จิตฺตวูปสเมน ตุฏฺิ ลทฺธาติ ทสฺเสติ. จิตฺตวูปสมภาวนายาติ จิตฺตกิเลสานํ วูปสมกรภาวนาย, มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพิเสวนภาวกรเณน สวิเสสํ จิตฺตสฺส วูปสมกรภาวนาย รโต มโนติ โยชนา.
เอตฺถ จ อินฺทฺริยูปสเมน จิตฺตสมาธานํ ปริปุณฺณํ โหติ อินฺทฺริยภาวนาย จิตฺตสมาธานสฺส อการกานํ ทูรีกรณโต. อธิจิตฺตสมาธาเนน จตุปจฺจยสนฺโตโส สวิเสสํ ปริสุทฺโธ ปริปุณฺโณ จ โหติ ปจฺจยานํ อลาภลาเภสุ ปริจฺจาคสภาวโต. วุตฺตนเยน ปน สนฺตุฏฺสฺส ยถาสมาทินฺนํ สีลํ วิสุชฺฌติ ปาริปูริฺจ อุปคจฺฉติ, ตถาภูโต จตุสจฺจกมฺมฏฺาเน ยุตฺโต มคฺคปฏิปาฏิยา สพฺพโส กิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺโต นิพฺพานทิฏฺโ โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘เย รตฺตินฺทิว’’นฺติอาทินา. กึ น คจฺฉิสฺสนฺติ? คมิสฺสนฺเตวาติ อริยมคฺคภาวนํ ปหาย สมฺมาปฏิปตฺติยา ทุกฺกรภาวํ สนฺธาย สาสงฺกํ วทติ. เตนาห ‘‘อยํ ปน ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค’’ติ.
ตตฺถ ¶ เกจิ ‘‘อยํ ปนาติ เทวปุตฺโต. โส หิ ภควโต ‘อริยา คจฺฉนฺตี’ติ วจนํ สุตฺวา ‘ทุคฺคโม ภควา’ติอาทิมาหา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. ยสฺมา ‘‘สจฺจเมต’’นฺติ เอวมาทิปิ ตสฺเสว เววจนํ กตฺวา ทสฺสิตํ, ตสฺมา ‘‘เยน มคฺเคน อริยา คจฺฉนฺตี’’ติ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, อยํ ปน ‘‘ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค’’ติ อาห เทวปุตฺโต. อริยมคฺโค กามํ กทาจิ อติทุกฺขา ปฏิปทาติปิ วุจฺจติ, ตฺจ โข ปุพฺพภาคปฏิปทาวเสน, อยํ ปน อตีว สุคโม สพฺพกิเลสทุคฺควิวชฺชนโต กายทุจฺจริตาทิวิสมสฺส ราคาทิวิสมสฺส จ ทูรีกรณโต น วิสโม. เตนาห ‘‘ปุพฺพภาคปฏิปทายา’’ติอาทิ. อสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. อริยมคฺคสฺส หิ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปริพุนฺธิตพฺพภาเคน พหู ปริสฺสยา โหนฺตีติ. เอวํ วุตฺโตติ ‘‘ทุคฺคโม วิสโม’’ติ จ เอวํ วุตฺโต.
อวํสิราติ อนุฏฺหเนน อโธภูตอุตฺตมงฺคา. กุสลงฺเคสุ หิ สมฺมาทิฏฺิ อุตฺตมงฺคา สพฺพเสฏฺตฺตา ¶ , ตฺจ อนริยา ปตนฺติ น อุฏฺหนฺติ มิจฺฉาปฏิปชฺชนโต. เตนาห ‘‘าณสิเรนา’’ติอาทิ. อนริยมคฺเคติ มิจฺฉามคฺเค. เตนาห ‘‘วิสเม มคฺเค’’ติ. ตํ มคฺคนโต อนริยา อริยานํ มคฺคโต อปาปุณเนน ปริจฺจตฺตา หุตฺวา อปาเย สกลวฏฺฏทุกฺเข จ ปตนฺติ. สฺเววาติ สฺวายํ อนริเยหิ กทาจิปิ คนฺตุํ อสกฺกุเณยฺโย มคฺโค อริยานํ วิสุทฺธสตฺตานํ สพฺพโส สมธิคเมน สโม โหติ. กายวิสมาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา วิสเม สตฺตกาเย เตสํ สพฺพโสว ปหาเนน สพฺพตฺถ สมาเยว.
กามทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปฺจาลจณฺฑสุตฺตวณฺณนา
๘๘. สมฺพาเธติ สมฺปีฬิตตณฺหากิเลสาทินา สอุปฺปีฬตาย ปรมสมฺพาเธ. อติวิย สงฺการฏฺานภูโต หิ นีวรณสมฺพาโธ อธิปฺเปโต. โส หิ ทุคฺคหโน ตสฺมึ อสติ กามคุณสมฺพาโธ อนวสโร เอว เสยฺยถาปิ มหากสฺสปาทีนํ. โอกาสนฺติ ฌานสฺเสตํ นามํ นีวรณสมฺพาธาภาวโต. อสมฺพาธภาเวน หิ ฌานํ อิธ ‘‘โอกาโส’’ติ วุตฺตํ, ตฺจ โข อจฺจนฺตาสมฺพาธฏฺานตาย วิปสฺสนาปาทกตาย ¶ . ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘อวินฺที’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวินฺทีติ วินฺทิ ปฏิลภิ. ภูริเมธโสติ มหาปฺโ, สปฺโติ อตฺโถ. อพุชฺฌีติ พุชฺฌิ ปฏิวิชฺฌิ. ปฏิลีโน หุตฺวา เสฏฺโ, ปฏิลีนานํ วา เสฏฺโติ ปฏิลีนเสฏฺโ. มานุสฺสยวเสน อุนฺนตภาวโต ปฏิลีโน นาม ปหีนมาโน. ปฏิลภึสูติ กามคุณสมฺพาเธปิ ‘‘อิเม กามคุณา มาทิสานํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต อภิภุยฺย นิพฺพานปฺปตฺติยา สมฺมาสตึ ปฏิลภึสุ. เตน สมฺปยุตฺเตน โลกุตฺตรสมาธินาปิ สุฏฺุ สมาหิตา.
อยํ กิร เทวปุตฺโต อิโต ปุริมวาเร อตฺตภาเว ปมชฺฌานลาภี หุตฺวา ตโต จวิตฺวา พฺรหฺมกายิกาสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ฌานสุขํ อนุภวิตฺวา ตโต จุโต อิทานิ กามภเว นิพฺพตฺโต, ตสฺมา ตํ ฌานํ สมฺภาเวนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส นาม ฌานสุขสฺส ลาภี ภควา’’ติ เตน คุเณน ภควนฺตํ อภิตฺถวนฺโต ‘‘สมฺพาเธ วตา’’ติ คาถํ อภาสิ. อถสฺส ภควา ยถา นาม อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตราชํ อุปาทาย สาสโป น กิฺจิ โหติ, เอวํ อนนฺตาปริเมยฺยพุทฺธคุเณ อุปาทาย รูปาวจรปมชฺฌานํ น กิฺจิ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย สติ’’นฺติอาทินา อนุตฺตรคุณาธิคมํ ปเวเทสิ. ตตฺถ สตินฺติ วิปสฺสนาสติยา สทฺธึ อริยมคฺคสตึ. สุสมาหิตาติ โลกิยสมาธินา เจว โลกุตฺตรสมาธินา จ สุฏฺุ สมาหิตา. เต ¶ หิ อจฺจนฺตํ สุสมาหิตา, น ฌานมตฺตลาภิโน อกุปฺปธมฺมตฺตา. เกจิ ‘‘กมฺมนฺเต สุสมาหิตา’’ติ ปาํ วตฺวา ‘‘มคฺคสมาหิตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ.
ปฺจาลจณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ตายนสุตฺตวณฺณนา
๘๙. อตีตชาติยํ สยํการวเสน ตาย ทิฏฺิยา อุปฺปาทิตตฺตา ปุพฺเพ ติตฺถกโร. เตนาห ‘‘ทิฏฺิ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ. อปเร อาหุ ‘‘อยํ เม สตฺถาติ คหณวเสน ติตฺถกโร อสฺส อตฺถีติ ปุพฺเพ ติตฺถกโร, อตีตตฺตภาเว ติตฺถกรสาวโก’’ติ. เต ‘‘ทิฏฺึ อุปฺปาเทตฺวาติ ¶ ตสฺส สตฺถุโน ทิฏฺึ อาทาย คเหตฺวาติ อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ติตฺถํ นาม ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ตพฺพินิมุตฺตสฺส มิจฺฉาวาทสฺส อภาวโต. ติตฺเถ นิยุตฺตาติ ติตฺถิกา, เต เอว ติตฺถิยาติ วุตฺตา ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา. ตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส กลฺยาณกมฺมสฺส. นิสฺสนฺเทนาติ ผลภาเวน. วีริยปฺปฏิสํยุตฺตาติ วีริยทีปนาติ อตฺโถ.
อนิยมิตอาณตฺตีติ อนิยมวิธานํ อนิยมวเสน วิธิวจนํ. ตณฺหาโสตนฺติ ตณฺหาปฺปพนฺธนํ. นีหราติ สเมหิ ปชห. เอกตฺตนฺติ เอกคฺคํ. เตนาห ‘‘ฌาน’’นฺติ. อุปปชฺชตีติ น อุปฺปชฺชติ น ปาปุณาตีติ อาห ‘‘น ปฏิลภตี’’ติ. น โอสกฺเกยฺยาติ น สงฺโกจํ อาปชฺเชยฺย. ฆราวาสโต ปริพฺพชนํ ปริโต อปคโมติ ปริพฺพโช. ปพฺพชิตวตสมาทานสฺส อทฬฺหตาย จ ตตฺถ จ อสกฺกจฺจกิริยาย สิถิลคหิตา. อติเรกนฺติ ปพฺพชฺชาย ปุริมกาลโตปิ อธิกํ. อุปรีติ อุปรูปริ. ทุกฺกฏํ อกตเมว เสยฺโยติ ทุจฺจริตํ นาม สพฺเพน สพฺพํ อกตเมว หิตาวหํ.
ยํ กิฺจีติ ยํ กิฺจิ กมฺมํ. สิถิลํ กตนฺติ อสกฺกจฺจการิตาย สิถิลํ กตฺวา ปวตฺติตํ. เอวรูปเมวาติ เอวรูปํ ปรามฏฺสามฺสทิสเมว ปจฺฉานุตาปจริยาทิปฏิภาคโต. สํกิลิฏฺเมว ตณฺหาสํกิเลสอุปกฺกิลิฏฺตฺตา. อาสงฺกิตปริสงฺกิตนฺติอาทิโต สมนฺตโตปิ ปเรหิ สงฺกิตํ. พฺรหฺมจริยสฺส อาทิ อาทิพฺรหฺมจริยํ, ตตฺถ นิยุตฺตาติ อาทิพฺรหฺมจริยิกา, มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา’’ติ. ปุพฺพปธานภูตาติ ปมารมฺภภูตา.
ตายนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. จนฺทิมสุตฺตวณฺณนา
๙๐. วิมาเน ¶ คหิเต ตํนิวาสีปิ คหิโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘จนฺทวิมานวาสี เทวปุตฺโต’’ติ. สพฺพธีติ สพฺพสฺมา ทุคฺคฏฺานา วิปฺปมุตฺโตสิ ภควา ตฺวํ, ตสฺมา มยฺหมฺปิ อิโต สมฺพาธฏฺานโต วิปฺปโมกฺขํ กโรหีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺส เม สรณํ ภวา’’ติ. โลกานุกมฺปกาติ สพฺพสฺส ¶ โลกสฺส อนุคฺคหา, ตสฺมา ตุยฺหมฺปิ เอตสฺสปิ จนฺทสฺส. ตาทิสา เอวาติ สมานา เอว. ปมฺุจสีติ ปมฺุจิตฺถ. เตนาห ‘‘อตีตตฺเถ วตฺตมานวจน’’นฺติ.
จนฺทิมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สูริยสุตฺตวณฺณนา
๙๑. อนฺธภาวกรเณติ โลกสฺส อนฺธกรเณติปิ อปเร. เตนาห ‘‘ตมสี’’ติ. วิโรจตีติ วิชฺโชตติ. กามํ เทวปุตฺตวเสน ปมํ เทวตา อุทฺธฏา, ราหุโน ปน ปโยโค ตสฺส วิมาเนติ อาห ‘‘มณฺฑลีติ มณฺฑลสณฺาโน’’ติ. วทติ ตทา มุเขน คหิตตฺตา. มุเขน คหณฺเจตฺถ ‘‘คิลี’’ติ อธิปฺเปตํ, น จ อชฺโฌหรณนฺติ อาห ‘‘คิลีติ วทตี’’ติ. อิทานิ ตสฺส มุเขน คหณสมตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ราหุสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสติอาทิ ตสฺส จนฺทิมสูริยานํ คหณการณทสฺสนํ. อธิวตฺถา เทวตาติ จนฺทิมสูริยานํ ปริจารกเทวตา. เวคนฺติ ชวํ. โส หิ เกนจิ อภิมุขํ อติทุนฺนิวาโร กมฺมนิยามสิทฺโธ. มตฺถกนฺติ กณฺสฺส อุปริมเทสํ. เกจิ ‘‘สีสมตฺถกเมวา’’ติ วทนฺติ. นิกฺขเมยฺย เวคสฺส ติกฺขสีฆถามภาวโต. อากฑฺฒิตฺวาติ อตฺตโน คมนทิสาภิมุขํ อากฑฺฒิตฺวา. นนฺติ ราหุํ. อุทฺธํ อุลฺลงฺเฆตุกามมฺปิ โอนเมยฺย. ปททฺวเยนปิ โส มหาสรีโร มหาพโล, จนฺทิมสูริยานํ ปน คมนเวโค เตน สพฺพถาปิ ทุนฺนิวาริโยวาติ ทสฺเสติ. วิมาเนนาติ จนฺทคฺคเห จนฺทวิมาเนน, สูริยคฺคเห สูริยวิมาเนน อุภินฺนมฺปิ วิมาเนน สเหว. อมาวาสิยฺหิ ทฺเว วิมานานิ โยชนมตฺตนฺตริตานิ หุตฺวา สเหว ปวตฺตนฺติ. ยทิ ทฺเวปิ เทวปุตฺตา โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา, อถ กสฺมา สูริยสุตฺเต เอว ‘‘ปชํ มม’’นฺติ วุตฺตํ, น จนฺทสุตฺเตติ? ‘‘โส จ กิร น จิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา อฺตฺถ นิพฺพตฺโต, อฺา เอว จ เทวตา ตตฺถ วสิ, ยสฺมึ จนฺทคฺคเห ภควา ตํ คาถํ อภาสิ, น ตถา สูริโย, อปรภาเค ปน ตตฺถปิ กาเลน กาลํ ราหุคฺคโห โหตี’’ติ วทนฺติ.
สูริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนาถปิณฺฑิกวคฺโค
๑. จนฺทิมสสุตฺตวณฺณนา
๙๒. ปพฺพตตฏา ¶ ¶ สนฺทมาโน ตถารูโป นทีนิวตฺตนปเทโสปิ สมฺพาธฏฺานตาย กจฺโฉ วิยาติ อาห ‘‘ปพฺพตกจฺเฉปี’’ติ. ปฏิปกฺขทูรีภาเวน เสฏฺฏฺเน จ เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, เอกคฺคตา. ตสฺมึ โยคโต เอกคฺคจิตฺตา อิธ เอโกที. ปฏิปกฺขโต อตฺตานํ นิปยนฺติ วิโสเธนฺตีติ นิปกา, ปฺวนฺโต. เตนาห ‘‘เอกคฺคจิตฺตา เจวา’’ติอาทิ. กายาทิเภทํ อารมฺมณํ สาติสยาย สติยา สรนฺตีติ สตา. เตนาห ‘‘สติมนฺโต’’ติ. โสตฺถึ คมิสฺสนฺตีติ ยถาวุตฺตปเทเส มคา โสตฺถิมนุปทฺทเวน วตฺติสฺสนฺติ, เอวํ ฌานลาภิโน โสตฺถึ กิเลเสหิ อนุปทฺทุตา วตฺติสฺสนฺติ. อยํ กิร เทวปุตฺโต พฺรหฺมโลเก นิพฺพานสฺี, ตสฺมา เอวมาห. ภควา ‘‘อยํ เทวปุตฺโต อนิพฺพานคามี สมาโน นิพฺพานคามิสฺี, หนฺทสฺส นิพฺพานคามิโน ทสฺเสมี’’ติ ทุติยํ คาถมาห. จตุนฺนํ โอฆานํ, สํสารมโหฆสฺเสว วา ปรตีรภาวโต ปรตีรนฺติ นิพฺพานํ. อมฺพุนิ ชาโต อมฺพุโช, มจฺโฉ. สุตฺตชาลํ ฉินฺทิตฺวา มจฺฉา วิย กิเลสชาลํ ภินฺทิตฺวา คมิสฺสนฺตีติ.
จนฺทิมสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เวณฺฑุสุตฺตวณฺณนา
๙๓. ปยิรุปาสิยาติ ปยิรุปาสเหตุ. สิกฺขนฺตีติ ติสฺโสปิ สิกฺขา สิกฺขนฺติ. สิฏฺิปเทติ กิเลสานํ สาสนโต วฏฺฏทุกฺขปริตฺตาสนโต จ สิฏฺิสฺิเต ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปเท, สทฺธมฺเมติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนุสิฏฺิปเท’’ติ. ตตฺถ อนุสิฏฺีติ สทฺธมฺโม. กาเลติ ยุตฺตปตฺตกาเล. อปฺปมาโทนาม สมถวิปสฺสนาภาวนา.
เวณฺฑุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทีฆลฏฺิสุตฺตวณฺณนา
๙๔. ตเถว ¶ ปฺายีติ ทีฆลฏฺิตฺเวว ปฺายิ, ตถาสมฺา เอว อโหสิ.
ทีฆลฏฺิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๙๕. นตฺถิ ¶ เอตสฺส อาวฏฺฏํ อาวรณนฺติ อนาวฏํ. รุกฺโข วา ปพฺพโต วาติ สตฺตานํ ปกติจกฺขุสฺส อาวรณภูโต รุกฺโข วิย ปพฺพโต วิย จ อภิภวิตุํ สมตฺโถ เยฺยาวรโณ นตฺถิ. กถํวิธนฺติ กถํสณฺิตํ, กถํปการํ วา. ทุกฺขนฺติ วฏฺฏทุกฺขํ.
นนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จนฺทนสุตฺตวณฺณนา
๙๖. เหฏฺาติ กามภเว. ตตฺถ หิ ปริพฺภมนฺตสฺส ปติฏฺา ทุลฺลภา เยภุยฺเยน ตตฺถ สตฺตา นิมุคฺคา เอว โหนฺติ, ตสฺมา เหฏฺา อปฺปติฏฺโ สํสาโร. อุปรีติ มหคฺคตภเว. ตตฺถ หิ นิพฺพตฺตสฺส นิพฺพานํ อารุหิตุํ อาลมฺพนา ทุลฺลภา, ฌานาภิรติยา ตตฺเถว นิกนฺติ เตสํ พลวตี โหติ, ตสฺมา อุปริ อนาลมฺพโน สํสาโร. เปสิตตฺโตติ นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิตฺโต. ตโย กมฺมาภิสงฺขาราติ ปฺุาภิสงฺขาราทโย ตโย อภิสงฺขารา. เตน ‘‘นนฺทีปุพฺพโก กมฺมภโว’’ติ วตฺวา ‘‘นนฺทึ ชเนตฺวา’’ติ วุตฺโต. กามสฺาสีเสน กามจฺฉนฺทสฺส คหณํ, กามจฺฉนฺทปมุขานิ จ โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานีติ อาห ‘‘กามสฺาคหเณน ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานี’’ติ. รูปภโว รูปํ ภวปทโลเปน. รูปภวคฺคหเณน เจตฺถ เสสภวสฺสปิ คหณํ. ตสฺส สํโยชนคฺคหเณน ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ. มโหเฆติ ¶ สํสารมโหเฆ. เตสนฺติ กามภวาทีนํ คหเณน ภวภาเวน ตเทกลกฺขณตาย. อรูปภโว คหิโต ลกฺขณหารนเยน. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
จนฺทนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วาสุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
๙๗. ฉฏฺํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
วาสุทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สุพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา
๙๘. สุพฺรหฺมาติ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส นามํ. ตสฺส สตฺถุ สนฺติกูปสงฺกมนสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘โส กิรา’’ติอาทิมาห. ตเทว โสกํ ตสฺส เทวปุตฺตสฺส อฏฺุปฺปตฺติ. อจฺฉราสงฺฆปริวุโตติ สหสฺสมตฺเตน อจฺฉราสงฺเฆน ปริวุโต. นนฺทนกีฬิกนฺติ นนฺทนวนกีฬิกํ. หตฺถํ อาคจฺฉตีติ หตฺถคยฺหุปโค โหติ. คนฺเถนฺตีติ เอตฺถ มาลาเวนมฺปิ ขิฑฺฑาปสุตตายาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา ปุปฺผานิเยว ตาย ตาย จิตฺตสฺส วเสน มาลาภาเวน หตฺถํ อุปคจฺฉนฺตีติ. อุปจฺเฉทกกมฺมวเสนาติ ตสฺมึ เทวโลเก อายุเสเส สติ เอว ตสฺส ปน อุปฆาตกสฺส ลทฺโธกาสสฺส ปาปกมฺมสฺส วเสน. ‘‘ปหาโร’’ติ ทิวสสฺส ตติโย ภาโค วุจฺจติ, ตสฺมา เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกเวลายเมวาติ อตฺโถ.
ปิยวตฺถุกโสเกนาติ ปิยวตฺถุนิมิตฺตเกน โสเกน. รุปฺปมาโนติ ปีฬิยมาโน. สตฺตเม ทิวเสติ มนุสฺสคณนาย สตฺตเม ทิวเส. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว นิรเย นิพฺพตฺติตพฺพํ อิมินา ตาหิ จ สเหว ปุพฺเพ ตสฺส ปาปกมฺมสฺส กตตฺตา. รุปฺปีติ จิตฺตสนฺตาสํ อาปชฺชิ. นิทฺธมิตุนฺติ นีหริตุํ อปเนตุํ. สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวาติ ตาหิ ปฺจสตาหิ อจฺฉราหิ สทฺธึ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา.
อิทนฺติ ¶ อตฺตโน จิตฺตํ ทสฺเสติ อาสนฺนปจฺจกฺขภาวโต. นิจฺจนฺติ สทา. สฺวายํ นิจฺจตฺโถ อธิปฺปายวเสน คเหตพฺโพติ ตตฺถ ปหาตพฺพํ คเหตพฺพฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘เทวโลเก’’ติอาทิมาห. น คเหตพฺโพ เหตุปวตฺติโต ปุพฺเพ ตสฺส อุตฺราสสฺส อภาวโต. เตสูติ ทุกฺเขสุ. ตานิ หิ เหตุปจฺจเยหิ กตฺตพฺพโต คาถายํ ‘‘กิจฺเฉสู’’ติ วุตฺตานิ. กิจฺเฉสูติ วา กิจฺฉนิมิตฺตํ. ยาสฺหิ ปโยควิปตฺตีนํ วเสนสฺส ตานิ ทุกฺขานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตํนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ตา หิ อสฺส ปโยควิปตฺติโย คติวิปตฺติโย สตฺถุ สนฺติกํ อุปคมเนน หาเยยฺยุํ. นิพฺพตฺตานํ ทิฏฺานีติ นิพฺพตฺตานํ วเสน ทิฏฺานิ ทุกฺขานิ. เตสุ จ ทุกฺเขสุ. สพฺพตฺถ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ฑยฺหมาโน วิย จิตฺตสนฺตาเปน.
จตฺตาริปิ สจฺจานิ พุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌตีติ โพธิ, สติอาทิธมฺมสามคฺคี, ตสฺมา โพชฺฌา โพธิโต. สา ปน โพธิ ภาวนากาเรเนว ปวตฺตติ, อฺตฺรสทฺทโยเคน จ ‘‘โพชฺฌา’’ติ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตทตฺถํ ทสฺเสนฺโต มฺุจิตฺวาปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โพชฺฌงฺคภาวน’’นฺติ อาห. ตโปคุณนฺติ ธุตธมฺมมาห. โส หิ ตณฺหาโลลุปฺปสฺส ตปนโต ตโป, สยํ คุณสภาวตฺตา คุณสนฺนิสฺสยโต จ คุณนฺติ. เตนาห ‘‘ธุตงฺคสงฺขาตํ ตโปคุณ’’นฺติ. สพฺเพ สงฺขารคตา นิสฺสชฺชียนฺติ เอตฺถาติ สพฺพนิสฺสคฺโค, อสงฺขตธาตูติ อาห ‘‘สพฺพนิสฺสคฺคาติ นิพฺพานโต’’ติ.
อินฺทฺริยสํวโรว ¶ ปมํ เวทิตพฺโพ ปฏิปตฺติกฺกมวเสน ตสฺเสว ปมตฺตา. ตํ ปน ปฏิปตฺติกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘อินฺทฺริยสํวเร หี’’ติอาทิมาห. นิปฺปริยายโต มคฺคปริยาปนฺนา เอว โพชฺฌงฺคาติ อาห ‘‘สหวิปสฺสนาย โพชฺฌงฺเค’’ติ. ตสฺสาติ ตถาภาเวน ตสฺส โยคิโน. ยสฺมา เทวปุตฺตสฺส สตฺถา ตํ คาถํ วตฺวา อุปริ จ สจฺจานิ ปกาเสสิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภควา จตุสจฺจวเสน เทสนํ วินิวตฺเตสี’’ติ. เทวปุตฺโต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ กามํ ตสฺเสว วิเสสาธิคโม อิธาคโต, ปฺจสตมตฺตาหิ ปน อจฺฉราหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ เวทิตพฺพํ. เตนาห มหาสติปฏฺานสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) ‘‘โส เทสนาปริโยสาเน ปฺจหิ อจฺฉราสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย ตํ สมฺปตฺตึ ถาวรํ กตฺวา เทวโลกเมว อคมาสี’’ติ.
สุพฺรหฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กกุธสุตฺตวณฺณนา
๙๙. ‘‘นนฺทามี’’ติ ¶ วุตฺเต นนฺที นาม ปพฺพชิตสฺส มลนฺติ โจเทตุกาโม เทวปุตฺโต ‘‘นนฺทสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘กึ ลทฺธา’’ติ? อาห. เตน ‘‘ตยา มม อธิปฺเปตนนฺทิยา อิธ ปจฺจโย เอว นตฺถิ, กุโต สา นนฺที’’ติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตุฏฺิ นามา’’ติอาทิ. อถ เทวปุตฺโต นนฺทิยา อสติ โสเกน ภวิตพฺพํ, โสโก จ ปพฺพชิตสฺส มลนฺติ โจเทนฺโต อาห ‘‘เตน หิ, สมณ, โสจสี’’ติ. ภควา ตมฺปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘กึ ชียิตฺถา’’ติอาทิมาห. กึ มํ ชินาตีติ อตฺโถ?
ยทิ เต นนฺทิโสกา น สนฺติ หาสวตฺถุโน ลาภสฺส ชานิยา จ อภาวโต, เอกวิหาริโน ปน อรติยา ภวิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘กจฺจิ ตํ เอกมาสีนํ, อรตี นาภิกีรตี’’ติ. ตสฺมิมฺปิ ภควตา ปฏิกฺขิตฺเต อถ เนสมฺปิ นนฺทิโสการตีนํ อภาเว การณํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ ตฺว’’นฺติ คาถมาห? อถสฺส ภควา ตํ การณํ ปเวเทนฺโต ‘‘อฆชาตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อฆชาตสฺสาติ อเฆ ชาตสฺส. เตนาห ‘‘วฏฺฏทุกฺเข ิตสฺสา’’ติ. ชาตตณฺหสฺส อปฺปหีนตณฺหสฺส วฏฺฏทุกฺขํ อาคตเมว การณสฺส อปฺปหีนตฺตา. ตสฺเสว หิ การณสฺส อปฺปหีนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยตีติ หิ วุตฺต’’นฺติ อาห. ทุกฺขปฺปวตฺติยา สาปิ ตณฺหาปฺปวตฺติ เตน ทสฺสิตา. อิตีติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ.
กกุธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุตฺตรสุตฺตวณฺณนา
๑๐๐. นวมนฺติ ¶ อุตฺตรสุตฺตํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
อุตฺตรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา
๑๐๑. ทสเม ¶ กามํ เทวตาสํยุตฺเตปิ ‘‘อิทํ หิ ตํ เชตวน’’นฺติอาทินา อิมา เอว คาถา อาคตา. ตตฺถ ‘‘อฺตรา เทวตา’’ติ นิทานํ อาโรปิตํ. เหฏฺา อาคตนยตฺตา เอว หิ โปตฺถเกสุ น ลิขิตํ, อิธ ปน เทวปุตฺตสํยุตฺเต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก เทวปุตฺโต’’ติ นิทาเน นิคเม จ อาคตํ, ตตฺถ เทวปุตฺเตน สตฺถุ วุตฺตปฺปการคุณปเวทนวเสน วุตฺตํ. สตฺถา ปน ภิกฺขูนํ ตมตฺถํ ปเวเทนฺโต ‘‘อฺตโร เทวปุตฺโต’’ติ อาห. ตถา ปเวทเน ปน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อานนฺทตฺเถรสฺสา’’ติอาทิมาห. อนุมานพุทฺธิยาติ อนุมานาณสฺส. อานุภาวปฺปกาสนตฺถนฺติ พลทีปนตฺถํ.
อนาถปิณฺฑิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นานาติตฺถิยวคฺโค
๑. สิวสุตฺตวณฺณนา
๑๐๒. ตติยวคฺคสฺส ปมนฺติ ตติยวคฺเค ปมสุตฺตํ. วุตฺตตฺถเมว เหฏฺา สตุลฺลปกายิกวคฺเค ปมสุตฺเต.
สิวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. เขมสุตฺตวณฺณนา
๑๐๓. ปมํเยวาติ ชรามรณาทิภาวโต ปเคว. พลวจินฺตนํ จินฺเตตีติ ยถา สากฏิโก อชานิตฺวา วิสเม มคฺเค สกฏํ ปาเชนฺโต อกฺเข ฉินฺเน ปติกาตุํ อวิสหนฺโต ทุกฺขี ¶ ทุมฺมโน พลวจินฺตนํ จินฺเตติ, มหนฺตํ จิตฺตสนฺตาปํ ปาปุณาติ, เอวํ อธมฺมวาที มจฺจุมุขํ ปตฺโต พลวจิตฺตสนฺตาปํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ธมฺมจริยาย นปฺปมชฺชิตพฺพนฺติ.
เขมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เสรีสุตฺตวณฺณนา
๑๐๔. ยํ ¶ ทานํ เทมีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ปรสฺส เทมิ. ตสฺส ปติ หุตฺวาติ ตพฺพิสยํ โลภํ สุฏฺุ อภิภวนฺโต ตสฺส อธิปติ หุตฺวา เทมิ เตน อนากฑฺฒนียตฺตา. ‘‘น ทาโส น สหาโย’’ติ วตฺวา ตทุภยํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทาโส หุตฺวา เทติ ตณฺหาย ทาสพฺยสฺส อุปคตตฺตา. สหาโย หุตฺวา เทติ ตสฺส ปิยภาวาวิสฺสชฺชนโต. สามี หุตฺวา เทติ ตณฺหาทาสพฺยโต อตฺตานํ โมเจตฺวา อภิภุยฺย ปวตฺตนโต. สามิปริโภคสทิสา เหตสฺสายํ ปวตฺตตีติ.
อถ วา โย ทานสีลตาย ทายโก ปุคฺคโล, โส ทาเน ปวตฺติเภเทน ทานทาโส ทานสหาโย ทานปตีติ ติปฺปกาโร โหตีติ ทสฺเสติ. ตทสฺส ติปฺปการตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทาตพฺพฏฺเน ทานํ, อนฺนปานาทิ. ตตฺถ ยํ อตฺตนา ปริภฺุชติ ตณฺหาธิปนฺนตาย, ตสฺส วเส วตฺตนโต ทาโส วิย โหติ. ยํ ปเรสํ ทียติ, ตตฺถปิ อนฺนปานสามฺเน อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทานสงฺขาตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาโส หุตฺวา เทตี’’ติ. สหาโย หุตฺวา เทติ อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพสฺส ปเรสํ ทาตพฺพสฺส จ สมสมฏฺปเนน. ปติ หุตฺวา เทติ สยํ เทยฺยธมฺมสฺส วเส อวตฺติตฺวา ตสฺส อตฺตโน วเส วตฺตาปนโต.
อปโร นโย – โย อตฺตนา ปณีตํ ปริภฺุชิตฺวา ปเรสํ นิหีนํ เทติ, โส ทานทาโส นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนภาวาปตฺติโต. โย ยาทิสํ อตฺตนา ปริภฺุชติ, ตาทิสเมว ปเรสํ เทติ, โส ทานสหาโย นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนาธิกภาววิสฺสชฺชเนน สทิสภาวาปตฺติโต. โย อตฺตนา นิหีนํ ปริภฺุชิตฺวา ปเรสํ ปณีตํ เทติ, โส ทานปติ นาม ตนฺนิมิตฺตเสฏฺภาวปฺปตฺติโต. กมฺมสริกฺขโก หิ วิปาโก, ตสฺมา เทวปุตฺโต ‘‘ทานปตี’’ติ วทนฺโต ‘‘อหํ ตาทิโส อโหสิ’’นฺติ ทสฺเสติ.
‘‘จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานํ ทียิตฺถา’’ติ ปาฬิยํ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทานนฺติ ยิฏฺํ, ตฺจ โข สพฺพสาธารณวเสน กตนฺติ อาห ‘‘สมณ ¶ …เป… ยาจกาน’’นฺติ. ปพฺพชฺชูปคตาติ ¶ ยํ กิฺจิ ปพฺพชฺชํ อุปคตา. โภวาทิโนติ ชาติมตฺตพฺราหฺมเณ วทติ. นาลตฺถ พุทฺธสฺุตฺตา ตทา โลกสฺส. ทุคฺคตาติ ทุกฺขชีวิกกปฺปกา กสิรวุตฺติกา. เตนาห ‘‘ทลิทฺทมนุสฺสา’’ติ. กสิวาณิชฺชาทิชีวิกํ อนุฏฺาตุํ อสมตฺถา อิธ ‘‘กปณา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘กาณกุณิอาทโย’’ติ. ปถาวิโนติ อทฺธิกา. วนิพฺพกาติ ทายกานํ คุณกิตฺตนกมฺมผลกิตฺตนวเสน ยาจกา เสยฺยถาปิ นคฺคาทโย. เตนาห ‘‘อิฏฺํ ทินฺน’’นฺติอาทิ. ปสตมตฺตนฺติ วีหิตณฺฑุลาทิวเสน วุตฺตํ. สราวมตฺตนฺติ ยาคุภตฺตาทิวเสน. ยถา คามลาโภ คาเม อุปฺปชฺชนโก อายลาโภ, เอวํ ตตฺถ ทฺวารลาโภติ อาห ‘‘ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตสหสฺเส’’ติ. มหนฺตตรํ ทานํ อทํสุ อฺสฺสปิ ธนสฺส วินิโยคํ คตตฺตา. ตํ สนฺธายาติ ตํ มหนฺตตรํ ทานํ กตํ สนฺธาย. รฺโ หิ ตตฺถ ทานํ อิตฺถาคารสฺส ทาเนน มหตา อภิภูตํ วิย ปฏินิวตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ปฏินิวตฺตี’’ติ. โกจีติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. เตนาห ‘‘กตฺถจี’’ติ. อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาเล ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา อสีติวสฺสสหสฺสานิ โส ราชา ทานมทาสีติ.
เสรีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา
๑๐๕. จตุตฺถํ เหฏฺา เทวตาสํยุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตตฺถเมว.
ฆฏีการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา
๑๐๖. เย วินเย อปกตฺุโน สํกิเลสิเกสุ โวทานิเยสุ ธมฺเมสุ น กุสลา ยํ กิฺจิ น การิโน วิปฺปฏิสารพหุลา. เตสํ อนุปฺปนฺนฺจ อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ ภิยฺโยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชตีติ อาห ‘‘อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย…เป… อุทฺธจฺจปกติกา’’ติ. สาราภาเวน ตุจฺฉตฺตา จ นโฬ วิยาติ นโฬ, มาโนติ อาห ‘‘อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา’’ติ. เตนาห ‘‘อุฏฺิตตุจฺฉมานา’’ติ. มาโน หิ เสยฺยสฺส เสยฺโยติ ¶ สทิโสติ จ ปวตฺติยา วิเสสโต ตุจฺโฉ. จาปลฺเลนาติ จปลภาเวน, ตณฺหาโลลุปฺเปนาติ อตฺโถ. มุขขราติ มุเขน ผรุสา, ผรุสวาทิโนติ อตฺโถ. วิกิณฺณวาจาติ วิสฏวจนา, สมฺผปฺปลาปตาย อปริยนฺตวจนา. เตนาห ‘‘อสํยตวจนา’’ติอาทิ. จณฺฑโสเต พทฺธนาวาสทิสาติ เอเตน อนวฏฺิตกิริยตํ ทสฺเสติ. เยน สมนฺนาคตา สตฺตา เอกสฺมึ าเน าตุํ วา นิสีทิตุํ วา น ¶ สกฺโกนฺติ, อิโต จิโต จ วิจรนฺติ. อนวฏฺิตจิตฺตาติ เอกสฺมึ อารมฺมเณ น อวฏฺิตจิตฺตา. วิวฏอินฺทฺริยาติ อสํวุตจกฺขาทิอินฺทฺริยา.
คุณกถาย สทฺธึ กถิยมาโน นิคฺคุณสฺส อคุโณ ปากโฏ โหติ ชาติมณิสมีเป ิตสฺส วิย กาจมณิโน โทโส. สุขชีวิโนติ สุเข ิตา. ยถา ทายกานํ สุภรํ โหติ, เอวํ สุเขน อกิจฺเฉน ปวตฺตชีวิกา. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ ภิกฺขู’’ติอาทิ.
อตฺตโน รุจิวเสน คามกิจฺจํ เนตีติ คามณิ, เต ปน หีเฬนฺโต วทติ ‘‘คามณิกา’’ติ. วิสฺสชฺเชตฺวาติ สติโวสฺสคฺควเสน วิสฺสชฺเชตฺวา กิเลสมุจฺฉายาติ มหิจฺฉาสงฺขาตาย ตณฺหามุจฺฉาย. สีลวนฺตานํเยว หิ ทุปฺปฏิปตฺตึ สนฺธาย เทวปุตฺโต วทติ. วตฺตพฺพยุตฺตเกเยวาติ โอวาเทน มยา อนุคฺคเหตพฺพเมว. ฉฑฺฑิตกาติ ปริจฺจตฺตา อาจริยุปชฺฌายาทีหิ. ตโต เอว อนาถา อปฺปติฏฺา. เปตาติ วิคตชีวิตา มตา. ยถา เปตา, ตเถว โหนฺติ อตฺตหิตาสมตฺถตาย วิฺูนํ ชิคุจฺฉิตพฺพตาย จ.
ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา
๑๐๗. เอโกกาเสติ จกฺกวาฬสฺส ปริยนฺตสฺิเต เอกสฺมึ โอกาเส. ภุมฺมนฺติ ‘‘ยตฺถา’’ติ อิทํ ภุมฺมวจนํ, สามฺโต วุตฺตมฺปิ ‘‘โส โลกสฺส อนฺโต’’ติ วจนโต วิสิฏฺวิสยเมว โหติ. ‘‘น ชายติ น มียตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น จวติ น อุปปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ อปราปรํ…เป… คหิต’’นฺติ. ปทคมเนนาติ ปทสา คมเนน. สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติ อุปริ สจฺจานิ ปกาเสตุกาโม. สงฺขารโลกสฺส หิ อนฺโต นิพฺพานํ.
ทฬฺหํ ¶ ถิรํ ธนุ เอตสฺสาติ ทฬฺหธนฺวา. โส เอว ทฬฺหธมฺโมติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ทฬฺหธนู’’ติ. อุตฺตมปฺปมาเณนาติ สหสฺสถามปฺปมาเณน. ธนุสิปฺปสิกฺขิตตาย ธนุคฺคโห, น ธนุคฺคหมตฺเตนาติ อาห ‘‘ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโย’’ติ. ‘‘ธนุคฺคโห’’ติ วตฺวา ‘‘สิกฺขิโต’’ติ วุตฺเต ธนุสิกฺขาย สิกฺขิโตติ วิฺายติ, สิกฺขา จ เอตฺตเก กาเล สมตฺถสฺส อุกฺกํสคโต โหตีติ อาห ‘‘ทส ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโต’’ติ. อุสภปฺปมาเณปีติ วีสติยฏฺิโย อุสภํ, ตสฺมึ อุสภปฺปมาเณ ปเทเส. วาลคฺคนฺติ วาฬโกฏึ. กตหตฺโถติ ¶ ปริจิตหตฺโถ. กตสรกฺเขโปติ วิวฏสรกฺเขปปเทสทสฺสนวเสน สรกฺเขปกตาวี. เตนาห ‘‘ทสฺสิตสิปฺโป’’ติ. ‘‘กตสิปฺโป’’ติ เกจิ. อสนฺติ เอเตนาติ อสนํ, กณฺโฑ. ตาลจฺฉายนฺติ ตาลจฺฉาทึ, สา ปน รตนมตฺตา, วิทตฺถิจตุรงฺคุลา วา.
ปุรตฺถิมสมุทฺทาติ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ปุรตฺถิมสมุทฺทา. สมุทฺทสีเสน ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ วทติ. ปจฺฉิมสมุทฺโทติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นิปฺปปฺจตนฺติ อทนฺธการิตํ. สมฺปตฺเตติ ตาทิเสน ชเวน คจฺฉนฺเตน สมฺปตฺเต. อโนตตฺเตติ เอตฺถาปิ ‘‘สมฺปตฺเต’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, ตถา ‘‘นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ. ตทาติ ยทา โส โลกนฺตคเวสโก อโหสิ, ตทา. ทีฆายุกกาโลติ อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาโล. จกฺกวาฬโลกสฺสาติ สามฺวเสน เอกวจนํ, จกฺกวาฬโลกนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติ ปุพฺพปริจริยสิทฺธาย นิกนฺติยา. สสฺิมฺหิ สมนเกติ น รูปธมฺมมตฺตเก, อถ โข ปฺจกฺขนฺธสมุทาเยติ ทสฺเสติ. สมิตปาโปติ สมุจฺฉินฺนสํกิเลสธมฺโม.
โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. นนฺทสุตฺตนนฺทิวิสาลสุตฺตวณฺณนา
๑๐๘-๑๐๙. นนฺทสุตฺตวิสาลสุตฺตานิ สตฺตมอฏฺมานิ เหฏฺา สํวณฺณิตรูปตฺตา วุตฺตตฺถาเนว.
นนฺทสุตฺตนนฺทิวิสาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สุสิมสุตฺตวณฺณนา
๑๑๐. ตุยฺหมฺปิ ¶ โนติ ตุยฺหมฺปิ นุ, นุ-สทฺโท ปุจฺฉายํ, ตสฺมา วณฺณํ กเถตุกาโม ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. น วฏฺฏตีติ น ยุชฺชติ, กถิโตติ กเถตุํ อารทฺโธ, เตนาห ‘‘มตฺถกํ น ปาปุณาตี’’ติ. ตเมว มตฺถกาปาปุณนํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติสมฺปชฺาโยคโต โครูปสีโล, มูฬฺโห ขลิตปฺโ, โครูปสฺส วิย สีลํ เอตสฺสาติ หิ โครูปสีโล. สภาโค เอกรูปจิตฺตตาย. อริยานํ สภาคตา นาม คุณวนฺตวเสนาติ อาห ‘‘อฺมฺสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา’’ติ. โสฬสวิธํ ปฺนฺติ มหาปฺาทิกา ฉ, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา, อาสวกฺขยปฺาติ อิมํ โสฬสวิธํ ปฺํ. เตสฏฺิ สาวกสาธารณาณานิปิ เอตฺเถว สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ.
อานนฺทาติ ¶ เถรํ อาห. อาจาโรติ จาริตฺตสีลมาห. โคจโรติ โคจรสมฺปตฺติ. วิหาโรติ สมาปตฺติวิหาโร. อภิกฺกโมติอาทินา อิริยาปถวิหารํ. ตุยฺหมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ภควตา อตฺตานํ อาทึ กตฺวา ตทฺเสํ วิฺูนํ สพฺเพสํ เถรสฺส รุจฺจนสภาโว ทีปิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มยฺหํ รุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สติปิ อานนฺทตฺเถรสฺสปิ อสีติยา มหาเถรานํ อนฺโตคธภาเว ‘‘อสีติยา มหาเถรานํ รุจฺจตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุยฺหมฺปิ รุจฺจตี’’ติ วจนํ เตน ธมฺมเสนาปติโน วณฺณํ กถาเปตุกามตายาติ ทฏฺพฺพํ.
สาฏกนฺตเรติ นิวตฺถวตฺถนฺตเร. ลทฺโธกาโสติ นิพฺพุทฺธํ กโรนฺโต สาฏกนฺตเร ลทฺธํ คเหตุํ ลทฺธาวสโร. ลภิสฺสามิโนติ ลภิสฺสามิ วต. ทีปธชภูตนฺติ สตโยชนวิตฺถิณฺณํ ชมฺพุทีปสฺส ธชภูตํ. ปุคฺคลปลาเปติ อนฺโตสาราภาวโต ปลาปภูเต ปุคฺคเล หรนฺโต. พาลตายาติ รุจิขนฺติอาทิอภาวตาย. โทสตายาติ ทุสฺสกภาเวน. โมเหนาติ มหามูฬฺหตาย. เกจิ ปน ‘‘พาโล พาลตายาติ มูฬฺหตาย ปกติพาลภาเวน น ชานาติ. มูฬฺโห โมเหนาติ สยํ อพาโล สมาโนปิ ยทา โมเหน ปริยุฏฺิโต โหติ, ตทา โมเหน น ชานาติ, อยํ ปททฺวยสฺส วิเสโส’’ติ วทนฺติ. วิปลฺลตฺถจิตฺโตติ ยกฺขุมฺมาเทน ปิตฺตุมฺมาเทน วา วิปรีตจิตฺโต.
‘‘จตูสุ ¶ โกสลฺเลสู’’ติ วุตฺตํ จตุพฺพิธํ โกสลฺลํ ปาฬิยา เอว ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย อฏฺารส ธาตุโย สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทโต อาทีนวโต นิสฺสรณโต จ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ธาตุกุสโล. วุตฺตนเยน อายตเนสุ กุสโล อายตนกุสโล. อวิชฺชาทีสุ ทฺวาทสปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ กุสโล ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสโล. ‘‘อิทํ อิมสฺส ผลสฺส านํ การณํ, อิทํ อฏฺานํ อการณ’’นฺติ เอวํ านฺจ านโต, อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานโต านาฏฺานกุสโล. โย ปน อิเมสุ ธาตุอาทีสุ ปริฺาภิสมยาทิวเสน นิสฺสงฺคคติยา ปณฺฑาติ ลทฺธนาเมน าเณน อิโต คโต ปวตฺโต, อยํ ปณฺฑิโต นาม.
มหนฺตานํ อตฺถานํ ปริคฺคณฺหนโต มหตี ปฺา เอตสฺสาติ มหาปฺโ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ’’ติ. นานตฺตนฺติ ยาหิ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถโร ‘‘มหาปฺโ’’ติอาทินา กิตฺติโต, ตาสํ มหาปฺาทีนํ อิทํ นานตฺตํ อยํ เวมตฺตตา. ยสฺส กสฺสจิ วิเสสโต อรูปธมฺมสฺส มหตฺตํ นาม กิจฺจสิทฺธิยา เวทิตพฺพนฺติ ตทสฺส กิจฺจสิทฺธิยา ทสฺเสนฺโต ‘‘มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เหตุมหนฺตตาย ปจฺจยมหนฺตตาย นิสฺสยมหนฺตตาย ปเภทมหนฺตตาย กิจฺจมหนฺตตาย ผลมหนฺตตาย อานิสํสมหนฺตตาย จ สีลกฺขนฺธสฺส มหนฺตภาโว ¶ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เหตู อโลภาทโย. ปจฺจยา หิโรตฺตปฺปสทฺธาสติวีริยาทโย. นิสฺสยา สาวกโพธิปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธินิยตตา, ตํสมงฺคิโน จ ปุริสวิเสสา. ปเภโท จาริตฺตาทิวิภาโค. กิจฺจํ ตทงฺคาทิวเสน ปฏิปกฺขสฺส วิธมนํ. ผลํ สคฺคสมฺปทา นิพฺพานสมฺปทา จ. อานิสํโส ปิยมนาปตาทิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๘-๙) อากงฺเขยฺยสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) จ อาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อิมินา นเยน สมาธิกฺขนฺธาทีนมฺปิ มหนฺตตา ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพา. านาฏฺานาทีนํ ปน มหนฺตภาโว มหาวิสยตาย เวทิตพฺโพ. ตตฺถ านาฏฺานานํ มหาวิสยตา พหุธาตุกสุตฺตาทีสุ อาคตนเยน, วิหารสมาปตฺตีนํ สมาธิกฺขนฺเธ นิทฺธาริตนเยน เวทิตพฺพา. อริยสจฺจานํ สกลสาสนสงฺคณฺหนโต สจฺจวิภงฺเค ¶ (วิภ. ๑๘๙ อาทโย) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙ อาทโย) อาคตนเยน; สติปฏฺานาทีนํ สติปฏฺานวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๓๕๕ อาทโย) ตํสํวณฺณนาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๕ อาทโย) จ อาคตนเยน; สามฺผลานํ มหโต หิตสฺส มหโต สุขสฺส มหโต อตฺถสฺส มหโต โยคกฺเขมสฺส นิปฺผตฺติภาวโต สนฺตปณีตนิปุณอตกฺกาวจรปณฺฑิตเวทนียภาวโต จ; อภิฺานํ มหาสมฺภารโต มหาวิสยโต มหากิจฺจโต มหานุภาวโต มหานิปฺผตฺติโต จ; นิพฺพานสฺส มทนิมฺมทนาทิมหตฺถสิทฺธิโต มหนฺตตา เวทิตพฺพา. ปริคฺคณฺหาตีติ สภาวาทิโต ปริจฺฉิชฺช คณฺหาติ ชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. สา ปนาติ มหาปฺตา.
ปุถุปฺาติ เอตฺถ นานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ อยํ รูปกฺขนฺโธ นาม…เป… อยํ วิฺาณกฺขนฺโธ นามาติ เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. เตสุ เอกวิเธน รูปกฺขนฺโธ, เอกาทสวิเธน รูปกฺขนฺโธ, เอกวิเธน เวทนากฺขนฺโธ, พหุวิเธน เวทนากฺขนฺโธ, เอกวิเธน สฺากฺขนฺโธ, สงฺขารกฺขนฺโธ, วิฺาณกฺขนฺโธติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส เอกวิธาทิวเสน อตีตาทิวเสนปิ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตถา อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป… อิทํ ธมฺมายตนํ นามํ. ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกาติ เอวํ อายตนานํ นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. นานาธาตูสูติ อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป… อยํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, ทฺเว จตุภูมกาติ เอวํ ธาตุนานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ, ตํ อุปาทิณฺณธาตุวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ปจฺเจกพุทฺธานฺหิ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานฺจ อุปาทิณฺณธาตูสุ เอว นานากรณํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ. ตฺจ โข เอกเทสมตฺตโต, น นิปฺปเทสโต, อนุปาทิณฺณกธาตูนํ ปน นานากรณํ น ชานนฺติ เอว. อิตรสาวเกสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, สพฺพฺุพุทฺธานํเยว ปน อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตาว อิมสฺส รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มฏฺโ, อิมสฺส ¶ พหลตฺตโจ, อิมสฺส ตนุตฺตโจ, อิมสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ; อิมสฺส ปุปฺผํ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ, สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธํ; ผลํ ขุทฺทกํ มหนฺตํ ทีฆํ วฏฺฏํ สุสณฺานํ มฏฺํ ¶ ผรุสํ สุคนฺธํ มธุรํ ติตฺตกํ อมฺพิลํ กฏุกํ กสาวํ; กณฺฏโก ติขิโณ อติขิโณ อุชุโก กุฏิโล ตมฺโพ โลหิโต โอทาโต โหตีติ ธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ าณํ ปวตฺตติ.
อตฺเถสูติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ. นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต จ สณฺานเภทโต จ นานปฺปเภเทสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. อวิชฺชาทิองฺคานฺหิ ปจฺเจกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺิตาติ. เตนาห สงฺขารปิฏเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทา’’ติ. นานาสฺุตมนุปลพฺเภสูติ นานาสภาเวสุ นิจฺจสาราทิวิรหโต สฺุสภาเวสุ, ตโต เอว อิตฺถิปุริสอตฺตอตฺตนิยาทิวเสน อนุปลพฺเภสุ สภาเวสุ. ม-กาโร เหตฺถ ปทสนฺธิกโร. นานาอตฺเถสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทสุ นานาวิเธสุ อตฺเถสุ. ธมฺเมสูติ ธมฺมปฏิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยาทินานาธมฺเมสุ. นิรุตฺตีสูติ เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ นิทฺธารณวจนสงฺขาตาสุ นิรุตฺตีสุ. ปฏิภาเนสูติ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีสุ วิสยภูเตสุ ‘‘อิมานิ อิทมตฺถโชตกานี’’ติ ตถา ตถา ปฏิภานโต ปติฏฺานโต ปฏิภานานีติ ลทฺธนาเมสุ าเณสุ. ปุถุ นานาสีลกฺขนฺเธสูติอาทีสุ สีลสฺส ปุถุตฺตํ นานตฺตฺจ วุตฺตเมว. อิตเรสํ ปน วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมว. ยํ ปน อภินฺนํ เอกเมว นิพฺพานํ, ตตฺถ อุปจารวเสน ปุถุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปุถุ ชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺมา’’ติ. เตนสฺส อิธ มทนิมฺมทนาทิปริยาเยน ปุถุตฺตํ ทีปิตํ โหติ.
เอวํ วิสยวเสน ปฺาย มหตฺตํ ปุถุตฺตฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน หาสภาวํ, ปวตฺติอาการวเสน ชวนภาวํ, กิจฺจวเสน ติกฺขาทิภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา หาสปฺา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หาสพหุโลติ ปีติพหุโล. เสสปทานิ ตสฺส เววจนานิ. สีลํ ปริปูเรตีติ หฏฺปหฏฺโ อุทคฺคุทคฺโค หุตฺวา ปีติสหคตาย ปฺาย ปาติโมกฺขสีลํ เปตฺวา หาสนียตรสฺเสว วิสุํ คหิตตฺตา อิตรํ ติวิธํ สีลํ ปริปูเรติ. ปีติโสมนสฺสสหคตา หิ ปฺา อภิรติวเสน ตทารมฺมเณ ผุลฺลิตา วิกสิตา วิย วตฺตติ, น อุเปกฺขาสหคตา. สีลกฺขนฺธํ สมาธิกฺขนฺธนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เถโรติอาทินา อภินีหารสิทฺธา เถรสฺส หาสปฺตาติ ทสฺเสติ.
สพฺพํ ¶ รูปํ อนิจฺจลกฺขณโต ขิปฺปํ ชวตีติ รูปกฺขนฺธํ อนิจฺจนฺติ สีฆเวเคน ปวตฺติยา ปฏิปกฺขทูรีภาเวน ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา อินฺเทน วิสฏฺวชิรํ วิย ลกฺขณํ ¶ ปฏิวิชฺฌนฺตี อทนฺธายนฺตี รูปกฺขนฺเธ อนิจฺจลกฺขณํ เวเคน ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺมา สา ชวนปฺา นามาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตฺวา พลววิปสฺสนาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยฏฺเนาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตตฺเถว ขเณเนว ภิชฺชนโต ขยสภาวโต. ภยฏฺเนาติ ภยานกโต. อสารกฏฺเนาติ อตฺตสารวิรหโต นิจฺจสาราทิวิรหโต จ. ตุลยิตฺวาติ ตุลาภูตาย วิปสฺสนาย ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ ตาย เอว ตีรณภูตาย ตีเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ยาถาวโต ปกาเสตฺวา ปฺจกฺขนฺธํ วิภูตํ กตฺวา ปากฏํ กตฺวา. รูปนิโรเธติ รูปกฺขนฺธสฺส นิโรธภูเต นิพฺพาเน นินฺนโปณปพฺภารภาเวน. อิทานิ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสนา’’ติ เกจิ.
าณติกฺขภาโว นาม สวิเสสํ ปฏิปกฺขสมุจฺฉินฺทเน เวทิตพฺโพติ ‘‘ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺโ’’ติ วตฺวา เต ปน กิเลเส วิภาเคน ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติอาทิมาห. ติกฺขปฺโ ขิปฺปาภิฺโ โหติ, ปฏิปทา จสฺส น จลตีติ อาห ‘‘เอกสฺมึ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา อธิคตา โหนฺตี’’ติอาทิ. เถโร จาติอาทินา ธมฺมเสนาปติโน ติกฺขปฺตา สิขาปฺปตฺตาติ ทสฺเสติ.
‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ ยาถาวโต ทสฺสเนน สจฺจสมฺปฏิเวโธ อิชฺฌติ, น อฺถาติ การณมุเขน นิพฺเพธิกปฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุพฺเพคพหุโลติ วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขาเรสุ อภิณฺหปฺปวตฺตสํเวโค. อุตฺตาสพหุโลติ าณุตฺตาสวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ พหุโส อุตฺรสฺตมานโส. เตน อาทีนวานุปสฺสนมาห. อุกฺกณฺนพหุโลติ อิมินา ปน นิพฺพิทานุปสฺสนมาห, อรติพหุโลติอาทินา ตสฺสา เอว อปราปรุปฺปตฺตึ. พหิมุโข สพฺพสงฺขารโต พหิภูตํ นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตาณมุโข, ตถา ¶ วา ปวตฺติตวิโมกฺขมุโข. นิพฺพิชฺฌนํ นิพฺเพโธ, โส เอติสฺสา อตฺถิ, นิพฺพิชฺฌตีติ วา นิพฺเพธา, สา เอว ปฺา นิพฺเพธิกา. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.
อปฺปิจฺโฉติ สนฺตคุณนิคุหนตาติ อตฺตนิ วิชฺชมานานํ พาหุสจฺจธุตธมฺมสีลาทิคุณานฺเจว ปฏิเวธคุณสฺส จ นิคุหนํ, ปฏิคฺคหเณ จ มตฺตฺุตาติ เอเตเนว ปริเยสนปริโภคมตฺตฺุตาปิ วุตฺตา โหติ. ตีหิ สนฺโตเสหีติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ปจฺเจกํ ตีหิ สนฺโตเสหิ ¶ , สพฺเพ ปน ทฺวาทส. ปฏิสลฺลีเนน วิเวกฏฺกายานํ น สงฺคณิการามานํ. เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํ. ปริสุทฺธจิตฺตานํ วิคตจิตฺตสํกิเลสานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานํ อฏฺสมาปตฺติสมธิคเมน อติวิย โวทานํ วิสุทฺธึ ปตฺตานํ. กิเลสุปธิอาทีนํ อภาวโต นิรุปธีนํ. ผลสมาปตฺติวเสน สพฺพสงฺขารวินิสฺสฏตฺตา วิสงฺขารํ นิพฺพานํ. อุปคตานํ, อิเมสํ ติณฺณํ วิเวกานํ ลาภี ปวิวิตฺโต ‘‘ปกาเรหิ วิวิตฺโต’’ติ กตฺวา. สมาสชฺชนํ ปริสิเนหุปฺปาโท สํสคฺโค, สวนวเสน อุปฺปชฺชนกสํสคฺโค สวนสํสคฺโค. เอส นโย เสเสสุปิ. สมุลฺลปนํ อาลาปสลฺลปนํ. สํสคฺควตฺถุนา อิมินา ตสฺส ปริโภโค ปริโภคสํสคฺโค.
อารทฺธวีริโยติ เอตฺถ วีริยารมฺโภ นาม วีริยสฺส ปคฺคณฺหนํ ปริปุณฺณกรณํ. ตํ ปน สพฺพโส กิเลสานํ นิคฺคณฺหนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. โอธุนนวตฺตาติ กิเลสานํ ยสฺส กสฺสจิ สาวชฺชสฺส โอธุนนวเสน วตฺตา. เตนาห ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติอาทิ. โอติณฺณํ นาม วชฺชํ อชฺฌาจริตนฺติ อาโรจิตํ. อโนติณฺณํ อนาโรจิตํ. ตนฺติวเสนาติ ปาฬิธมฺมวเสน, ยุตฺตสทฺทสฺส วเสนาติ อตฺโถ. ปาเป ลามเก ปุคฺคเล ธมฺเม จ ครหติ ชิคุจฺฉตีติ ปาปครหี. เตนาห ‘‘ปาปปุคฺคเล’’ติอาทิ. เอกทสฺสีติ เอกภวทสฺสี, อิธโลกมตฺตทสฺสี ทิฏฺธมฺมิกสุขมตฺตาเปกฺขี. สมนฺตาติ สมนฺตโต, ปริโต เม กตฺถจิ มา อหูติ โยชนา.
โสฬสหิ ปเทหีติ โสฬสหิ โกฏฺาเสหิ. อกุปฺปนฺติ เกนจิ อโกปนียํ. อยํ ธมฺมเสนาปติโน คุณกถา สตฺถุ วจนานุสาเรน ทสสหสฺสจกฺกวาฬพฺยาปินี ¶ อโหสิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จตุพฺพิธา วณฺณนิภา ปาตุภวิ อุฬารปีติโสมนสฺสสมุฏฺานตฺตา. สุฏฺุ โอภาสตีติ สุโภ. โอภาสสมฺปตฺติยา มณิโน ภทฺทกตาติ อาห ‘‘สุโภติ สุนฺทโร’’ติ. ชาติมา ปริสุทฺธอากรสมุฏฺิตตฺตา. กุรุวินฺทชาติอาทิชาติวิเสโสปิ มณิ อากรปริสุทฺธมูลโก เอวาติ อาห ‘‘ชาติสมฺปนฺโน’’ติ. โธวนาทิปริกมฺเมนาติ จตูสุ ปาสาเณสุ โธวนโทสนีหรณตาปนสณฺหกรณาทิปริกมฺเมน. รตฺตกมฺพลสฺส วเสน สภาววณฺณสิทฺธิยา เวฬุริยมณิ อติวิย โสภตีติ อาห ‘‘ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต’’ติ. นิกฺขนฺติ ภณฺฑมาห. ตฺจ อปฺปเกน สุวณฺเณน กตํ ภณฺฑํ น โสภติ โสภาวิปุเลนาติ อาห ‘‘อติเรกปฺจสุวณฺเณน กตปิฬนฺธน’’นฺติ. สุวณฺณนฺติ ปฺจธรณสฺส สมฺา, ตสฺมา ปฺจวีสติสุวณฺณสาริยา วิจิตฺตอาภรณํ อิธ ‘‘นิกฺข’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ วิปุลํ น ปริตฺตกํ. มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยนฺติ มหาชมฺพุสาขาย เหฏฺา สฺชาตนทิยํ. ตํ กิร รตนํ รตฺตํ. สุกุสเลน…เป… สมฺปหฏฺนฺติ สุฏฺุ กุสเลน สุวณฺณกาเรน อุกฺกาย ตาเปตฺวา สมฺมา ¶ ปหฏฺํ มชฺชนาทิวเสน สุกตปริกมฺมํ. ธาตุวิภงฺเคติ ธาตุวิภงฺคสุตฺเต. กตภณฺฑนฺติ อาภรณภาเวน กตํ ภณฺฑํ.
นาติอุจฺโจ นาตินีโจ ตรุณสูริโย นาม. สตฺถารา อาภตวณฺโณ อุพฺภตคุโณติ อตฺโถ. เนว มรณํ อภินนฺทตีติ อตฺตโนปิ มรณํ เนว อภินนฺทติ อตฺตวินิปาตสฺส สาวชฺชภาวโต. โพธิสตฺโต ปน ปเรสํ อตฺถาย อตฺตโน อตฺตภาวํ ปริจฺจชติ กรุณาวเสน, เอวํ โวสชฺชนํ ปรมตฺถปารมีปาริปูรึ คจฺฉตีติ สาวกา น ตถา กาตุํ สกฺกา สิกฺขาปทโต. น ชีวิตํ ปตฺเถติ ชีวิตาสาย สมุจฺฉินฺนตฺตา. ทิวสสงฺเขปนฺติ อชฺช ตฺวํ อิทํ นาม กมฺมํ กโรหิ, อิทํ เต เวตนนฺติ ทิวสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ เวตนํ. ตาทิโส หิ ภตโก ทิวสกฺขยเมว อุทิกฺขติ, น กมฺมนิฏฺานํ. นิพฺพิสํ ภตโก ยถาติ เวตนํ ภตึ อิจฺฉนฺโต กาลกฺขยํ อุทิกฺขนฺโต ภตกปุริโส วิย.
สุสิมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นานาติตฺถิยสาวกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๑. นานาติตฺถิยสาวกาติ ¶ ปุถุติตฺถิยานํ สาวกา. ฉินฺทิเตติ หตฺถจฺเฉทาทิวเสน เฉเท. มาริเตติ มารเณ. น ปาปํ สมนุปสฺสตีติ กิฺจิ ปาปํ อตฺถีติ น ปสฺสติ, ปเรสฺจ ตถา ปเวเทติ. วิสฺสาสนฺติ วิสฺสตฺถภาวํ. ‘‘กตกมฺมานมฺปิ วิปาโก นตฺถี’’ติ วทนฺโต กตปาปานํ อกตปฺุานฺจ วิสฺสตฺถตํ นิราสงฺกตํ ชเนติ.
ตโปชิคุจฺฉายาติ ตปสา อเจลวตาทินา ปาปโต ชิคุจฺฉเนน, ‘‘ปาปํ วิราชยามา’’ติ อเจลวตาทิสมาทาเนนาติ อตฺโถ. ตสฺมิฺหิ สมาทาเน ิเตน สํวเรน สํวุตจิตฺโต สมนฺนาคโต ปิหิโต จ นาม โหตีติ ‘‘สุสํวุตตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตฺตาโร ยามา ภาคา จตุยามา, จตุยามา เอว จาตุยามา. ภาคตฺโถ หิ อิธ ยาม-สทฺโท ยถา ‘‘รตฺติยํ ปโม ยาโม’’ติ. โส ปเนตฺถ ภาโค สํวรลกฺขโณติ อาห ‘‘จาตุยาเมน สุสํวุโต’’ติ, จตุโกฏฺาเสน สํวเรน สุฏฺุ สํวุโตติ อตฺโถ. ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีตุทกปริโภโค. สพฺเพน ปาปวารเณน ยุตฺโตติ สพฺพปฺปกาเรน สํวรลกฺขเณน ปาปวารเณน สมนฺนาคโต. ธุตปาโปติ สพฺเพน นิชฺชรลกฺขเณน ปาปวารเณนปิ ธุตปาโป. ผุฏฺโติ อฏฺนฺนมฺปิ กมฺมานํ เขปเนน วิกฺเขปปฺปตฺติยา กมฺมกฺขยลกฺขเณน สพฺเพน ปาปวารเณน ผุฏฺโ, ตํ ผุสิตฺวา ิโต. น นิคุหนฺโตติ น นิคุหนเหตุ ทิฏฺสุเต ตเถว กเถนฺโต.
นานาติตฺถิยานํเยว ¶ อุปฏฺาโกติ ปรวาทีนํ สพฺเพสํเยว ติตฺถิยานํ อุปฏฺาโก, เตสุ สาธารณวเสน อภิปฺปสนฺโน. โกฏิปฺปตฺตาติ โมกฺขาธิคเมน สมณธมฺเม ปตฺตพฺพมริยาทปฺปตฺตา.
สหจริตมตฺเตนาติ สีหนาเทน สห วสฺสกรณมตฺเตน. สีเหน สีหนาทํ นทนฺเตน สเหว สิงฺคาเลน อตฺตโน สิงฺคาลรวกรณมตฺเตน. โกตฺถุโกติ ขุทฺทกโกตฺถุ. อาสงฺกิตสมาจาโรติ อตฺตนา จ ปเรหิ จ อาสงฺกิตพฺพสมาจาโร. สปฺปุริสานนฺติ พุทฺธาทีนํ.
ตสฺสาติ เวคพฺภริสฺส เทวปุตฺตสฺส. สรีเร อนุอาวิสีติ สรีเร อนุปวิสิตฺวา วิย อาวิสิ. อธิมุจฺจีติ ยถา คหิตสฺส วเสน จิตฺตํ น วตฺตติ, อตฺตโน เอว วเส วตฺตติ, เอวํ อธิฏฺหิ. อายุตฺตาติ ทสฺสเนน สํยุตฺตา ¶ . ปวิเวกิยนฺติ กปฺปกวตฺถภฺุชนเสนาสเนหิ ปวิวิตฺตภาวํ. เตนาห ‘‘เต กิรา’’ติอาทิ. รูเป นิวิฏฺาติ จกฺขุรูปธมฺเม อภินิวิฏฺา. เตนาห ‘‘ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺิตา’’ติ. เทวโลกปตฺถนกามาติ เทวโลกสฺเสว อภิปตฺถนกามา. มรณธมฺมตาย มาติยา. เตนาห ‘‘มาติยาติ มจฺจา’’ติ. ปรโลกตฺถายาติ ปรสมฺปตฺติภาวาย โลกสฺส อตฺถาย.
ปภาสวณฺณาติ ปภาย สมานวณฺณา. เกสํ ปภายาติ อาห ‘‘จนฺโทภาสา’’ติอาทิ. สชฺฌาราคปภาสวณฺณา อินฺทธนุปภาสวณฺณาติ ปจฺเจกํ โยชนา. อาโม อามคนฺโธ เอตสฺส อตฺถีติ อามิสํ. วธายาติ วิทฺธํสิตุํ. รูปาติ รูปายตนาทิรูปิธมฺมา.
ราชคหสมีปปฺปวตฺตีนํ ราชคหิยานํ. ‘‘เสโต’’ติ เกลาสกูโฏ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘เสโตติ เกลาโส’’ติ. เกนจิ น ฆฏฺเฏตีติ อฆํ, อนฺตลิกฺขนฺติ อาห ‘‘อฆคามีนนฺติ อากาสคามีน’’นฺติ. อุทกํ ธียติ เอตฺถาติ อุทธิ, มโหทธิ. วิปุโลติ เวปุลฺลปพฺพโต. หิมวนฺตปพฺพตานนฺติ หิมวนฺตปพฺพตภาคานํ. พุทฺโธ เสฏฺโ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนาทีหิ สพฺพคุเณหิ.
นานาติตฺถิยสาวกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
เทวปุตฺตสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๓. โกสลสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ทหรสุตฺตวณฺณนา
๑๑๒. ภควตา ¶ ¶ สทฺธึ สมฺโมทีติ ภควโต คุเณ อชานนฺโต โกสลราชา อตฺตโน ขตฺติยมาเนน เกวลํ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. ปมาคเต หิ สตฺถริ ตสฺส สมฺโมทิตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโตติ ยถา ภควา ‘‘กจฺจิ เต, มหาราช, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา เตน รฺา สทฺธึ ปมํ ปวตฺตโมโท อโหสิ ปุพฺพภาสิตาย, ตทนุกรเณน เอวํ โสปิ ราชา ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสีติ โยชนา. ตํ ปน สมปฺปวตฺตโมทนํ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘สีโตทกํ วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺโมทิตนฺติ สํสนฺทิตํ เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย สมานตํ เอกรูปตํ, ขมนียนฺติ ‘‘อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ทุกฺขพหุลตาย สภาวโต ทุสฺสหํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ ปุจฺฉติ. ยาปนียนฺติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติกํ จิรปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย กจฺจิ ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. สีสโรคาทิอาพาธาภาเวน กจฺจิ อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิกาภาเวน กจฺจิ อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรเณ อุฏฺานสุขตาย กจฺจิ ลหุฏฺานํ. ตทนุรูปพลโยคโต กจฺจิ พลํ. สุขวิหารสมฺภเวน กจฺจิ ผาสุวิหาโร อตฺถีติ ตตฺถ ตตฺถ กจฺจิ-สทฺทํ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พลวปฺปตฺตา ปีติ ปีติเยว. ตรุณปีติ ปาโมชฺชํ. สมฺโมทนํ ชเนติ กโรตีติ สมฺโมทนียํ. สมฺโมทิตพฺพโต สมฺโมทนียนฺติ อิมํ ปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต’’ติ อาห. สริตพฺพภาวโตติ อนุสฺสริตพฺพภาวโต. ‘‘สรณีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตํ.
สุยฺยมานสุขโตติ อาปาถมธุรตํ อาห, อนุสฺสริยมานสุขโตติ วิมทฺทรมณียตํ. พฺยฺชนปริสุทฺธตายาติ สภาวนิรุตฺติภาเวน ตสฺสา กถาย วจนจาตุริยมาห, อตฺถปริสุทฺธตายาติ อตฺถสฺส นิรุปกฺกิเลสตํ. อเนเกหิ ปริยาเยหีติ อเนเกหิ การเณหิ. อทิฏฺตฺตาติ ¶ ¶ อุปสงฺกมนวเสน อทิฏฺตฺตา. คุณาคุณวเสนาติ คุณวเสน คมฺภีรภาวํ วา อคุณวเสน อุตฺตานภาวํ วา. โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวาติ โอวฏฺฏิกาย คเหตพฺพสารวตฺถุํ กตฺวา. โลกนิสฺสรณภโวกฺกนฺติปฺหนฺติ โลกโต นิสฺสฏภาวปฺหฺเจว อาทิโต ภโวกฺกมนปฺหฺจ. สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธตํ ปุจฺฉนฺโต หิ ‘‘กึ ภวํ โคตโม สพฺพโลกโต นิสฺสโฏ, สพฺพสตฺเตหิ จ เชฏฺโ’’ติ? ปุจฺฉติ นาม. ยถา หิ สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธตาย โลกโต นิสฺสฏตา วิฺายติ, เอวํ สพฺพสตฺเตหิ เชฏฺภาวโต เสฏฺภาวโต. สฺวายมตฺโถ อคฺคปสาทสุตฺตาทีหิ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วิภาเวตพฺโพ. กถํ ปน สมฺพุทฺธตา วิฺายตีติ? อวิปรีตธมฺมเทสนโต. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาทีสุ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๒๔) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ราชา สตฺถุ อวิปรีตธมฺมเทสนํ อชานนฺโต ตโต เอวสฺส สมฺมาสมฺโพธึ อสทฺทหนฺโต ‘‘วุฑฺฒตเรสุปิ จิรปพฺพชิเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺธภาเว อลพฺภมาเน ตพฺพิปรีเต กถํ ลพฺเภยฺยา’’ติ มฺมาโน ‘‘กึ ปน ภวํ โคตโม’’ติอาทึ วกฺขติ. ราชา อตฺตโน ลทฺธิยา น ปุจฺฉติ อตฺตโน สมฺมุขา เตหิ อสมฺมาสมฺพุทฺธภาวสฺเสว ปฏิฺาตตฺตา. ยสฺมา เต มุสาวาทิตาย อตฺตโน อุปฏฺากาทีนํ ‘‘พุทฺธา มย’’นฺติ ปฏิชานึสุ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โลเก มหาชเนน คหิตปฏิฺาวเสน ปุจฺฉตี’’ติ. สฺวายมตฺโถ อาคมิสฺสติ. พุทฺธสีหนาทนฺติ พุทฺธานํ เอว อาเวณิกํ สีหนาทํ. กามํ มคฺคาณปทฏฺานํ สพฺพฺุตฺาณํ, สมฺโพธิาเณ ปน คหิเต ตํ อตฺถโต คหิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตํ สมฺมาสมฺโพธิ’’นฺติ.
ปพฺพชฺชูปคมเนนาติ ยาย กายจิ ปพฺพชฺชาย อุปคมนมตฺเตน สมณา, น สมิตปาปตาย. ชาติวเสนาติ ชาติมตฺเตน พฺราหฺมณา, น พาหิตปาปตาย. ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆติ ปพฺพชิตสมูหตามตฺเตน สงฺโฆ, น นิยฺยานิกทิฏฺิวิสุทฺธสีลสามฺวเสน สํหตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอเตสํ อตฺถีติ เอเตสํ สพฺพฺุปฏิฺาตานํ ปริวารภูโต อตฺถิ. สฺเววาติ ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต เอว. เกจิ ปน ‘‘ปพฺพชิตสมูหวเสน. สงฺฆิโน, คหฏฺสมูหวเสน คณิโน’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ คเณ เอว โลเก สงฺฆสทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา. อาจารสิกฺขาปนวเสนาติ อเจลกวตจริยาทิ-อาจารสิกฺขาปนวเสน. ปากฏาติ สงฺฆีอาทิภาเวน ¶ ปกาสิตา. ‘‘อปฺปิจฺฉา’’ติ วตฺวา ตตฺถ ลพฺภมานํ อปฺปิจฺฉตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสนฺตี’’ติ วุตฺตํ. น หิ เตสุ สาสนิเกสุ วิย สนฺตคุณนิคุหนา อปฺปิจฺฉา ลพฺภตีติ. ยโสติ กิตฺติสทฺโท. ตรนฺติ เอเตน สํสาโรฆนฺติ เอวํ สมฺมตตฺตา ติตฺถํ วุจฺจติ ลทฺธีติ ¶ อาห ‘‘ติตฺถกราติ ลทฺธิกรา’’ติ. สาธุสมฺมตาติ ‘‘สาธู’’ติ สมฺมตา, น สาธูหิ สมฺมตาติ อาห ‘‘สนฺโต…เป… ปุถุชฺชนสฺสา’’ติ.
กปฺปโกลาหลนฺติ กปฺปโต โกลาหลํ, ‘‘กปฺปุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ เทวปุตฺเตหิ อุคฺโฆสิตมหาสทฺโท. อิเมติ ปูรณาทโย. พุทฺธโกลาหลนฺติ เทวตาหิ โฆสิตํ พุทฺธโกลาหลํ. ปยิรุปาสิตฺวาติ ปุริสสุติปรมฺปราย สุตฺวา. จินฺตามณิวิชฺชา นาม ปรจิตฺตชานาปนวิชฺชา. สา เกวฏฺฏสุตฺเต ‘‘มณิกา’’ติ อาคตา, อาทิ-สทฺเทน คนฺธาริสมฺภววิชฺชาทึ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ คนฺธาริยา วิกุพฺพนํ ทสฺเสติ. อตฺตภาเวติ สรีเร. ราชุสฺมาติ ราชเตโช.
สุกฺกธมฺโมติ อนวชฺชธมฺโม นิกฺกิเลสตา. อิทํ คเหตฺวาติ อิทํ ปรมฺมุขา ‘‘มยํ พุทฺธา’’ติ วตฺวา อตฺตโน สมฺมุขา ‘‘น มยํ พุทฺธา’’ติ เตหิ วุตฺตวจนํ คเหตฺวา. เอวมาหาติ ‘‘เยปิ เต, โภ โคตม…เป… นโว จ ปพฺพชฺชายา’’ติ เอวํ อโวจ. อตฺตโน ปฏิฺํ คเหตฺวาติ ‘‘น มยํ พุทฺธา’’ติ เตสํ อตฺตโน ปุรโต ปวตฺติตํ ปฏิฺํ คเหตฺวา. อีทิเส าเน กึ-สทฺโท ปฏิเสธวาจโก โหตีติ วุตฺตํ ‘‘กินฺติ ปฏิกฺเขปวจน’’นฺติ, กสฺมา ปฏิชานาตีติ อตฺโถ?
น อฺุาตพฺพาติ น ครหิตพฺพา. ครหตฺโถ หิ อยํ อุ-สทฺโท. ‘‘ทหโร’’ติ อธิกตตฺตา วกฺขมานตฺตา จ ‘‘ขตฺติโยติ ราชกุมาโร’’ติ วุตฺตํ. อุรสา คจฺฉตีติ อุรโค, โย โกจิ สปฺโป, อิธ ปน อธิปฺเปตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาสีวิโส’’ติ อาห. สีลวนฺตํ ปพฺพชิตํ ทสฺเสติ สามฺโต ‘‘ภิกฺขู’’ติ วทนฺโต. อิธ ปน ยสฺมา ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม’’ติอาทินา ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส กถํ สมุฏฺาเปสิ, ตสฺมา ภควา อตฺตานํ อพฺภนฺตรํ อกาสิ. ยทิปิ วิเสโส สามฺโชตนาย วิภาวิโต โหติ, สํสยุปฺปตฺติทีปกํ โนติ วุตฺตคฺคหณํ ปน ตํ ปริจฺฉิชฺชตีติ. เตนาห ‘‘เทสนากุสลตายา’’ติอาทิ. อิทานิ อวฺาปริภเว ปโยคโต วิภาเวตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อจิตฺตีกตาการวเสน อวฺาย ปากฏภาโว, วมฺภนวเสน ปริภวสฺสาติ อธิปฺปาเยน ¶ กายปโยควเสน อวฺา ทสฺสิตา, วจีปโยควเสน ปริภโว, อุภยํ ปน อุภยตฺถาปิ ปเภทโต คหิตํ, อวฺปริภวานํ ทฺวินฺนมฺปิ อุภยตฺถ ปริคฺคโห. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ อวฺาทิ สพฺพมฺปิ. จตูสุปิ ตํ น กาตพฺพเมว สมฺปติ อายติฺจ อนตฺถาวหตฺตา.
ตทตฺถทีปนาติ ตสฺส อาทิโต วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ทีปนา. วิเสสตฺถทีปนาติ ตโต วิสิฏฺตฺถทีปนา ¶ . เขตฺตานํ อธิปตีติ ขตฺติโยติ นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เขตฺตโต วิวาทา สตฺเต ตายตีติ ขตฺติโยติ โลกิยา กถยนฺติ. ‘‘มหาสมฺมโต, ขตฺติโย, ราชา’’ติ เอวมาคเตสุ อิเมสุ ทุติยํ. อกฺขรนฺติ สมฺา. สา หิ อุทยพฺพยาภาวโต ‘‘น กทาจิ ขรตีติ อกฺขร’’นฺติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ. ชาติสมฺปนฺนนฺติ สมฺปนฺนชาตึ อติวิสุทฺธชาตึ. ตีณิ กุลานีติ พฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทกุลานิ. อติกฺกมิตฺวาติ อตฺตโน ชาติสมฺปตฺติยา อภิภวิตฺวา.
เกวลํ นามปทํ วุตฺตํ อาขฺยาตปทํ อเปกฺขเตวาติ อาห ‘‘านํ หีติ การณํ วิชฺชตี’’ติ. อุทฺธฏทณฺเฑนาติ สมนฺตโต อุพฺภเตน ทณฺเฑน สาสเนน, พลวํ อุปกฺกมํ ครุกํ ราชานมฺปิ. ตํ ขตฺติยํ ปริวชฺเชยฺยาติ ขตฺติยํ อวฺาปริภวกรณโต วชฺเชยฺย. เตนาห ‘‘น ฆฏฺเฏยฺยา’’ติ.
อุรคสฺส จ นานาวิธวณฺณคฺคหเณ การณํ วทติ ‘‘เยน เยน หี’’ติอาทินา. พหุภกฺขนฺติ มหาภกฺขํ สพฺพภกฺขขาทกํ. ปาวกํ โสธนตฺเถน อสุทฺธสฺสปิ ทหเนน. โสติ มคฺโค. กณฺโห วตฺตนี อิมสฺสาติ กณฺหวตฺตนี. มหนฺโต อคฺคิกฺขนฺโธ หุตฺวา. ยาวพฺรหฺมโลกปฺปมาโณติ กปฺปวุฏฺานกาเล อรฺเ อคฺคินา คหิเต กาลนฺตเร เอว กฏฺติณรุกฺขาทิสมฺภโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘ชายนฺติ ตตฺถ ปาโรหา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห.
ฑหิตุํ น สกฺโกติ ปจฺจกฺโกสนาทินา. วินสฺสนฺติ สมณเตชสา วินาสิตตฺตา. ‘‘น ตสฺสา’’ติ เอตฺถ น-การํ ‘‘วินฺทเร’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ ¶ อาห ‘‘น วินฺทนฺตี’’ติ. วตฺถุมตฺตาวสิฏฺโติ านเมว เนสํ อวสิสฺสติ, สยํ ปน สพฺพโส สห ธเนน วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ.
‘‘สมฺมเทว สมาจเร’’ติ เอตฺถ ยถา ราชาทีสุ สมฺมา สมาจเรยฺย, ตํ วิภาเคน ทสฺเสนฺโต ‘‘ขตฺติยํ ตาวา’’ติอาทิมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว. ติสฺโส กุลสมฺปตฺติโยติ ขตฺติย-พฺราหฺมณคหปติ-มหาสาลกุลานิ วทติ. ปฺจ รูปิพฺรหฺมโลเก, จตฺตาโร อรูปีพฺรหฺมโลเกติ เอวํ นว พฺรหฺมโลเก กมฺมภววิภาเคน, เสสานํ คณนานํ อุปปตฺติภววิภาเคน.
อภิกฺกนฺตนฺติ อติวิย กมนียํ. สา ปนสฺสา กนฺตตา อติวิย อิฏฺตาย มนวฑฺฒนตาย ¶ โสภนตายาติ อาห ‘‘อติอิฏฺํ อติมนาปํ อติสุนฺทรนฺติ อตฺโถ’’ติ. ‘‘อภิกฺกนฺต’’นฺติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกนิทฺเทโส, วจนํ ปน ภควโต ธมฺมเทสนาติ ตถา วุตฺตํ. อตฺถมตฺตทสฺสนํ วา เอตํ, ตสฺมา อตฺถวเสน ลิงฺควิภตฺติวิปริณาโม เวทิตพฺโพ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย.
อโธมุขปิตนฺติ เกนจิ อโธมุขํ ปิตํ. เหฏฺามุขชาตนฺติ สภาเวเนว เหฏฺามุขํ ชาตํ. อุคฺฆาเฏยฺยาติ วิวฏํ กเรยฺย. หตฺเถ คเหตฺวาติ ‘‘ปุรตฺถาภิมุโข อุตฺตราภิมุโข วา คจฺฉา’’ติอาทีนิ อวตฺวา หตฺเถ คเหตฺวา นิสฺสนฺเทหํ กตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ เอวํ วตฺวา ‘‘คจฺฉา’’ติ วเทยฺย. กาฬปกฺขจาตุทฺทสีติ กาฬปกฺเข จาตุทฺทสี. นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อาเธยฺยสฺส อนาธารภูตํ ภาชนํ ตสฺส อาธารภาวาปาทนวเสน อุกฺกุชฺเชยฺย. อฺาณสฺส อภิมุขตฺตา เหฏฺามุขชาตตาย สทฺธมฺมวิมุขํ, ตโต เอว อโธมุขภาเวน อสทฺธมฺเม ปติตนฺติ เอวํ ปททฺวยํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, น ยถาสงฺขยํ. กามํ กามจฺฉนฺทาทโยปิ ปฏิจฺฉาทกา, มิจฺฉาทิฏฺิ ปน สวิเสสํ ปฏิจฺฉาทิกาติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐). สพฺพาปายคามิมคฺโค กุมฺมคฺโค ‘‘กุจฺฉิโต มคฺโค’’ติ กตฺวา. สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อุชุปฏิปกฺขตาย มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มิจฺฉตฺตธมฺมา มิจฺฉามคฺโค. เตเนว หิ ตทุภยปฏิปกฺขตํ สนฺธาย ‘‘สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สปฺปิอาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป น ตถา อุชฺชโล, ยถา เตลสนฺนิสฺสโยติ ¶ เตลปชฺโชตคฺคหณํ. เอเตหิ ปริยาเยหีติ เอเตหิ นิกฺกุชฺชิตุกฺกุชฺชนปฏิจฺฉนฺนวิวรณาทิอุปโมปมิตพฺพปฺปกาเรหิ.
ปสนฺนาการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพํ สกฺการํ. สรณนฺติ ปฏิสรณํ ปรายณํ. อชฺชตาติ อชฺชาติ ปทสฺส วฑฺฒนมตฺตํ เหตฺถ ตา-สทฺโท ยถา ‘‘เทวตา’’ติ. ปาเณหิ อุเปตนฺติ ปาเณหิ สห สรณํ อุเปตํ. ‘‘ยาว เม ปาณา ธรนฺติ, ตาว สรณํ คตเมว มํ ธาเรตู’’ติ อาปาณโกฏิกํ อตฺตโน สรณคมนํ ปเวเทติ. เตนาห ‘‘ยาว เม’’ติอาทิ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
ทหรสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปุริสสุตฺตวณฺณนา
๑๑๓. ปุริมสุตฺเตติ ปุริมสุตฺตเทสนายํ. ตตฺถ หิ อุปสงฺกมนฺตเวลาย สตฺถุ คุเณ อชานนฺโต ¶ เกวลํ สมฺโมทนํ กโรติ. เทสนํ สุตฺวา ปน สตฺถุ คุเณ ตฺวา สรณงฺคตตฺตา อิธ อิมสฺมึ สมาคเม อภิวาเทสิ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิ. อตฺตานํ อธิ อชฺฌตฺตํ, อวิชเหน อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตธมฺมา อชฺฌตฺตํ เอกชฺฌํ คหณวเสน, ภุมฺมตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ. กามฺจายํ อชฺฌตฺตสทฺโท โคจรชฺฌตฺตวิสยชฺฌตฺตอชฺฌตฺตชฺฌตฺเตสุ ปวตฺตติ. เต ปเนตฺถ น ยุชฺชนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นิยกชฺฌตฺต’’นฺติ, นิยกสงฺขาตอชฺฌตฺตธมฺเมสูติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อตฺตโน สนฺตาเน’’ติ. ลุพฺภนลกฺขโณติ คิชฺฌนลกฺขโณ, อารมฺมเณ ทฬฺหคฺคหณสภาโวติ อตฺโถ. ทุสฺสนลกฺขโณติ กุชฺฌนลกฺขโณ, พฺยาปชฺชนสภาโวติ อตฺโถ. มุยฺหนลกฺขโณติ อฺาณลกฺขโณ, อารมฺมเณ สภาวสมฺโมหภาโวติ อตฺโถ. วิเหเนฺตีติ อตฺถนาสนอนตฺถุปฺปาทเนหิ วิพาเธนฺติ. ตโต เอว ยถา สคฺคมคฺเคสุ น ทิสฺสติ, เอวํ กโรนฺตีติ อาห ‘‘นาเสนฺติ วินาเสนฺตี’’ติ. อตฺตนิ สมฺภูตาติ สนฺตาเน นิพฺพตฺตา.
ปุริสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ชรามรณสุตฺตวณฺณนา
๑๑๔. อฺตฺร ¶ ชรามรณาติ ชรามรเณน วินา. ชรามรณวิรหิโต ชาโต นาม อตฺถิ นุ โขติ ปุจฺฉติ. ปาฬิยํ ชาตสฺสาติ ปจฺจตฺเต สามิวจนํ. มหาสาลาติ อิมินา ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา ‘‘มหาสาลา’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ ยถา ‘‘ปุรตฺถิโยติ ปุลตฺถิโย’’ติ. มหาสารปฺปตฺตาติ มหนฺตํ วิภวสารํ ปตฺตา. โกฏิสตํ ธนํ, อยเมว วา ปาโ. ‘‘กุมฺภํ นาม ทส อมฺพณานี’’ติ วทนฺติ. อิสฺสราติ วิภวิสฺสริเยน อิสฺสรา. สุวณฺณรชตภาชนาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน วตฺถเสยฺยาวสถาทึ สงฺคณฺหาติ. อสาธารณธนานํ นิธานคตตฺตา ‘‘อนิธานคตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ตุฏฺิกรณสฺสาติ ปาสาทสิวิกาทิสุขสาธนสฺส.
อารกา กิเลเสหีติ นิรุตฺตินเยน สทฺทสิทฺธิมาห. อารกาติ จ สพฺพโส สมุจฺฉินฺนตฺตา เตหิ ทูเรติ อตฺโถ. ราคาทีนํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวโต, อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยตาทิปจฺจยา จ อรหํ. กามฺจายํ สํยุตฺตวณฺณนา, อภิธมฺมนโย เอว ปน นิปฺปริยาโยติ อาห ‘‘จตฺตาโร อาสวา’’ติ พฺรหฺมจริยวาสนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ. วุฏฺาติ วุฏฺวนฺโต. จตูหิ มคฺเคหิ กรณียนฺติ ปจฺเจกํ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพํ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาภิสมยํ. เอวํ คตํ โสฬสวิธํ โหติ. โอสีทาปนฏฺเน ภารา วิยาติ ภารา. เตนาห ‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๒๒). อตฺตปฏิพทฺธตาย อตฺตโน อวิชหนโต ปรมตฺถเทสนาย จ ปรมตฺโถ อรหตฺตํ. กามฺจายมตฺโถ สพฺพสมิทฺธิสสนฺตติปริยาปนฺโน อนวชฺชธมฺโม ¶ สมฺภวติ อกุปฺปสภาวา, อปริหานธมฺเมสุ ปน อคฺคภูเต อรหตฺเต สาติสโย, น อิตเรสูติ ‘‘อรหตฺตสงฺขาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอรมฺภาคิยุทฺธมฺภาคิยวิภาคํ ทสวิธมฺปิ ภเวสุ สํโยชนํ กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏปจฺจโย หุตฺวา นิสฺสริตุํ อปฺปทานวเสน พนฺธตีติ ภวสํโยชนํ. สติปิ หิ อฺเสํ ตปฺปกฺขิยภาเวน วินา สํโยชนานิ เตสํ ตปฺปจฺจยภาโว อตฺถิ, ภวนิยาโม โอรมฺภาคิยุทฺธมฺภาคิยสงฺคหิโตติ ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมนิยาโม จ โหติ, น จ อุปจฺฉินฺนสํโยชนสฺส กตานิปิ กมฺมานิ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ เตสํเยว สํโยชนฏฺโ ทฏฺพฺโพ. สมฺมา ¶ การเณหิ ชานิตฺวาติ าเยน ทุกฺขาทีสุ โส ยถา ชานิตพฺโพ; ตถา ชานิตฺวา, ปุพฺพกาลกิริยาวิมุตฺตา หิ อปรกาลกิริยา จ ยถา สมฺภวติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคปฺายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ภิชฺชนสภาโว ขณายตฺตตฺตา. นิกฺขิปิตพฺพสภาโว มรณธมฺมตฺตา. อยํ กาโย อุสฺมายุวิฺาณาปคโม ฉฑฺฑนียธมฺโม, ยสฺมึ ยํ ปติฏฺิตํ, ตํ ตสฺส สนฺตานคตวิปฺปยุตฺตนฺติ กตฺวา วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘ขีณาสวสฺส หิ อชีรณธมฺโมปิ อตฺถี’’ติอาทิ. เตนาห ภควา ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕). อสฺส ขีณาสวสฺส, ‘‘ชีรณธมฺม’’นฺติ ยถาวุตฺตํ อชีรณธมฺมํ เปตฺวา ชีรณธมฺมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสํปายํ กาโย เภทนธมฺโม’’ติ เอวมาห. ชรํ ปตฺตสฺเสว หิสฺส เภทนนิกฺขิปิตพฺพตานิยเต อตฺเถ สุตฺตเทสนา ปวตฺตา. อตฺถสฺส อุปฺปตฺติ อฏฺุปฺปตฺติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ อฏฺุปฺปตฺติโก. กิร-สทฺโท อนุสฺสวตฺโถ, เตน อนุสฺสวาคโตยมตฺโถ, น อฏฺกถาคโตติ ทีเปติ. เตนาห ‘‘วทนฺตี’’ติ. เยนายํ อตฺโถ เหตุนา อฏฺุปฺปตฺติโก, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สิวิกสาลายํ นิสีทิตฺวา กถิต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘วิหรติ เชตวเน’’ติ นิทานวจเนน ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา เวทิตพฺพํ. นนุ อิมสฺส สุตฺตสฺส ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโปติ? สจฺจเมตํ, สุตฺเตกเทสํ ปน สนฺธาย อฏฺุปฺปตฺติกตาวจนํ. เกจิ ปน ‘‘ยานํ อารุหิตฺวา ราชา อาคโต, รฺโ อาโรหนียรถํ ทสฺเสตฺวา วุตฺต’’นฺติปิ วทนฺติ.
สรีเร เผณปิณฺฑสเม กึ วตฺตพฺพํ? สพฺภิ สทฺธินฺติ สาธูหิ สห ปเวทยนฺติ. น หิ กทาจิ สาธูนํ สาธูหิ สห กตฺตพฺพา โหนฺติ, ตสฺมา สีทนสภาวานํ กิเลสานํ ภิชฺชนปฺปตฺตตฺตา นิพฺพานํ สพฺภีติ วุจฺจติ. ปุริมปทสฺสาติ ‘‘สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปตี’’ติ ปทสฺส. การณํ ทสฺเสนฺโต พฺยติเรกวเสน. สตํ ธมฺโม นิพฺพานํ กิเลเสหิ สํสีทนภิชฺชนสภาโว น โหติ, ตสฺมา ตํ อาคมฺม ชรํ น อุเปติ. กิเลสา ปน ตนฺนิมิตฺตกา, ¶ เอวมยํ วุตฺตการณโต ชรํ น อุเปตีติ. เตนาห ‘‘อิท’’นฺติอาทิ. สุนฺทราธิวจนํ วา เอตํ ‘‘สพฺภี’’ติ ปทํ อปาปตาทีปนโต, สพฺภิธมฺมภูตนฺติ ¶ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔), น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิฺจี’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๔; สุ. นิ. ๒๒๗) จ.
ชรามรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปิยสุตฺตวณฺณนา
๑๑๕. รหสิ คตสฺสาติ ชนสมฺพาธโต อปกฺกนฺตสฺส. นิลีนสฺส เตเนว ชนวิเวเกน เอกมนฺตํ นิสชฺชาย เอกีภาเวน ปฏิสลฺลีนสฺส วิย. เตนาห ‘‘เอกีภูตสฺสา’’ติ. สพฺพฺุภาสิตํ กโรนฺโต อาห ตสฺส วจนํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส วจนํ ตถาปจฺจนุภาสนฺโต. อนฺตเกนาธิปนฺนตฺตา เอว เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณาทิ มานุสํ ภวํ ชหโต. อนุคนฺติ อนุคตํ, ตเมว อนุคามีติ อตฺโถ. นิจยนฺติ อุปรูปริ วฑฺฒิยา นิจิตภูตํ. สมฺปรายิกนฺติ สมฺปราย หิตํ.
ปิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อตฺตรกฺขิตสุตฺตวณฺณนา
๑๑๖. ปีทหนนฺติ สํยมนํ. กมฺมปถเภทํ อปฺปตฺตสฺสาติ สุปินกาโล วิย ปวตฺติมตฺตตาย กมฺมปถวิเสสํ อคตสฺส. กมฺมสฺสาติ อกุสลกมฺมสฺส. สํวรนฺติ สํวรภาวํ ทสฺเสติ, อิตรสฺส ปน สํวรภาโว ปุริเมหิ ตีหิ ปเทหิ ทสฺสิโตวาติ. โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว ตทวินาภาวโต. น หิ ปาปชิคุจฺฉนํ ปาปอุตฺราสรหิตํ, อุตฺราโส วา ปาปชิคุจฺฉนรหิโต อตฺถีติ.
อตฺตรกฺขิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อปฺปกสุตฺตวณฺณนา
๑๑๗. อุฬารสทฺโท ¶ เสฏฺเ พหุเก จ ทิสฺสตีติ อาห ‘‘ปณีเต จ พหุเก จา’’ติ. มานมชฺชเนนาติ มานวเสน มทปฺปตฺติยา. อติกฺกมนฺติ สาธุมริยาทวีติกฺกมลกฺขณํ โทสํ. กูโฏ ปาโส.
อปฺปกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อฑฺฑกรณสุตฺตวณฺณนา
๑๑๘. ยสฺมา ¶ กามนิมิตฺตํ สตฺโต สมฺปชานมุสา ภาสติ, ตสฺมา กามา ตสฺส ปติฏฺา ปจฺจโย การณนฺติ อาห ‘‘กามเหตู’’ติอาทิ. ภทฺรมุขสีเสน วิฏฏุภํ ภทฺโรปจาเรน อุปจรตีติ อตฺโถ, วินิจฺฉโย กรียติ เอตฺถาติ อฑฺฑกรณํ, วินิจฺฉยฏฺานํ. ขิปฺปนฺติ กูฏํ, มจฺฉขิปฺปนฺติปิ วฏฺฏติ. โอฑฺฑิตนฺติ โอฑฺฑนวเสน ผลํ ปาปิตํ.
อฑฺฑกรณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๑๙. ‘‘กสฺมา ปุจฺฉตี’’ติ? ปุจฺฉาการณํ โจเทตฺวา สมุทยโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ กิร มลฺลิกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มาลารามํ คนฺตฺวาติ อตฺตโน ปิตุ มาลารามํ รกฺขณตฺถฺเจว อวเสสปุปฺผคฺคหณตฺถฺจ คนฺตฺวา. กาสิคาเมติ กาสิรฏฺสฺส คาเม. โส กิร คาโม มหาโกสลราเชน อตฺตโน ธีตุยา ปติฆรํ คจฺฉนฺติยา ปุปฺผมูลตฺถาย ทินฺโน, ตํนิมิตฺตํ. ภาคิเนยฺเยน อชาตสตฺตุนา. ตสฺสาติ รฺโ ปเสนทิสฺส. สาติ มลฺลิกา. นิวตฺติตุนฺติ ตสฺสา ธมฺมตาย นิวตฺติตุํ ตสฺสา วจนํ ปฏิกฺขิปิตุํ. เนวชฺฌคาติ วตฺตมานตฺเถ อตีตวจนนฺติ อาห ‘‘นาธิคจฺฉตี’’ติ. ปุถุ อตฺตาติ เตสํ สตฺตานํ อตฺตา.
มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ยฺสุตฺตวณฺณนา
๑๒๐. ถูณนฺติ ¶ ยฺูปตฺถมฺภํ. อุปนีตานิ ยฺํ ยชิตุํ อารมฺภาย. เอตฺตาวตาติ ‘‘อิธ, ภนฺเต…เป… รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺตี’’ติ เอตฺตเกน ปาเน. สนฺนิฏฺานนฺติ ‘‘นํ อิตฺถึ ลภิสฺสามิ นุ โข, น นุ โข ลภิสฺสามี’’ติ นิจฺฉยํ อวินฺทนฺโต น ายนฺโต. เผณุทฺเทหกนฺติ ยถา ยตฺถ กุถิเต เผณํ อุทฺเทหติ น อุปธียติ, เอวํ อเนกวารํ เผณํ อุฏฺาเปตฺวา. ตํ ทิวสนฺติ ตสฺมึ รฺา นิทฺทํ อลภิตฺวา ทุกฺขเสยฺยทิวเส. อาโลกํ โอโลเกตฺวาติ โลหกุมฺภิมุขวฏฺฏิสีเส ปตฺเต ตตฺถ มหนฺตํ อาโลกํ โอโลเกตฺวา. อตฺตาโน วจนํ รฺโ ปวตฺติาปนตฺถํ. มหาสทฺโท อุทปาทิ ‘‘เอวรูปํ ยฺํ ราชา การาเปตี’’ติ. วตฺตุกาโม อโหสิ, วตฺตฺุจ ปน อวิสหนฺโต ‘‘ส’’ อิติ วตฺวา โลหกุมฺภิยํ นิมุคฺโค. อิมํ คาถํ วตฺตุกาโม อโหสีติ อยํ ปเนตฺถ สมฺพนฺโธ. เอส นโย เสสปททฺวเยปิ. ธมฺมเภรึ จราเปสุํ ‘‘โกจิ ¶ กฺจิ ปาณํ มา หนตู’’ติ. โส อิตฺถิสามิโก ปุริโส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ อตฺตโน อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา สตฺตุ จ เทสนาวิลาสสมฺปตฺติยา, ราชา ปน มหาโพธินิรุชฺฌนสภาวตฺตา กิฺจิ วิเสสํ นาธิคจฺฉิ.
สงฺคหวตฺถูนีติ โลกสฺส สงฺคหการณานิ. นิปฺผนฺนสสฺสโต นวภาเค กสฺสกสฺส ทตฺวา รฺํ เอกภาคคฺคหณํ ทสมภาคคฺคหณํ. เอวํ กสฺสกา หฏฺตุฏฺา สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตีติ อาห ‘‘สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อตฺโถ’’ติ. ตโต โอรภาเค กิร ฉภาคคฺคหณํ ชาตํ. ฉมาสิกนฺติ ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานํ ปโหนกํ. ปาเสตีติ ปาสคเต วิย กโรติ. วาจาย ปิยสฺส ปิยกรสฺส กมฺมํ วาจาเปยฺยํ. สพฺพโส รฏฺสฺส อิทฺธาทิภาวโต เขมํ. นิรพฺพุทํ โจริยาภาวโต. อิทฺหิ รฏฺํ อโจริยํ นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติ อปารุตฆรภาวโต.
อุทฺธํมูลกํ กตฺวาติ อุมฺมูลํ กตฺวา. ทฺวีหิ ปริยฺเหีติ มหายฺสฺส ปุพฺพภาเค ปจฺฉา จ ปวตฺเตตพฺเพหิ ทฺวีหิ ปริวารยฺเหิ. สตฺตวีสติ…เป… นสฺสาติ สตฺตวีสาธิกานํ ติณฺณํ ปสุสตานํ ทฺวาวีสติยา อสฺสาทีหิ จ สฏฺิอธิกทฺวิสตอารฺกปสูหิ จ สทฺธึ สมฺปิณฺฑิตานํ ปน ¶ นวาธิกฉสตปสูนํ มารเณน เภรวสฺส ปาปภีรุกานํ ภยาวหสฺส. ตถา หิ วทนฺติ –
‘‘ฉสตานิ นิยุชฺชนฺติ, ปสูนํ มชฺฌิเม หนิ,
อสฺสเมธสฺส ยฺสฺส, อธิกานิ นวาปิ จา’’ติ.
สมฺมนฺติ ยุคจฺฉิทฺเท ปกฺขิปิตพฺพทณฺฑกํ. ปาเสนฺตีติ ขิปนฺติ. สํหาริเมหีติ สกเฏหิ วหิตพฺเพหิ ยูเปหิ. ปุพฺเพ กิร เอโก ราชา สมฺมาปาสํ ยชนฺโต สรสฺสตินทีตีเร ปถวิยา วิวเร ทินฺเน นิมุคฺโคเยว อโหสิ. อนฺธพาลพฺราหฺมณา คตานุคติคตา ‘‘อยํ ตสฺส สคฺคคมนมคฺโค’’ติ สฺาย ตตฺถ สมฺมาปาสยฺํ ปฏฺเปนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิมุคฺโคกาสโต ปภุตี’’ติ. อยูโป อปฺปกทิวโส ยาโค, สยูโป พหุทิวสํ สาเธยฺโย สตฺรยาโค. มนฺตปทาภิสงฺขตานํ สปฺปิมธูนํ วาชมิติ สมฺา, หิรฺสุวณฺณโคมหึ สาทิสตฺตรสกทกฺขิณสฺส. สารคพฺภโกฏฺาคาราทีสุ นตฺเถตฺถ อคฺคฬนฺติ นิรคฺคโฬ. ตตฺถ กิร ยฺเ อตฺตโน สาปเตยฺยํ อนวเสสโต อนิคูหิตฺวา นิยฺยาตียติ. มหารมฺภาติ พหุปสุฆาตกมฺมา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘วิวิธา ยตฺถ หฺเร’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘มหากิจฺจา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, อิธ ‘‘มหารมฺภาติ ปปฺจวเสน อเชฬกา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ‘‘พหุปสุฆาตกมฺมา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. นิรารมฺภาติ ¶ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนุคตํ กุลนฺติ อนุกุลํ, กุลานุคตนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ยํ นิจฺจภตฺตาทิ…เป… อตฺโถ’’ติ.
ยฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. พนฺธนสุตฺตวณฺณนา
๑๒๑. อิทนฺติ ‘‘อิธ, ภนฺเต’’ติอาทิกํ วจนํ. เต ภิกฺขู อาโรเจสุนฺติ สมฺพนฺโธ. เตสูติ เตสุ รฺา พนฺธาปิตมนุสฺเสสุ. สุกตการณนฺติ สุการณกิริยํ อาโรเจสุํ, น เกวลํ เตสํ มนุสฺสานํ พนฺธาปิตภาวํ ¶ . อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘รฺโ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺวงฺโกติ อฏฺํโส. อนฺโตฆรจาริโนติ อนฺเตปุรวาสิโน.
อุกฺกฏฺเติ ยุทฺเธ. มนฺตีสูติ คุตฺตมนฺตีสุ. อกุตูหลนฺติ สฺตํ. ปิยนฺติ ปิยายิตพฺพํ. อนฺนปานมฺหิ มธุเร อภุตฺเต อุปฺปนฺเน. อตฺเถติ อตฺเถ กิจฺเจ ชาเต ถิรนฺติ น กเถนฺติ กายพลมตฺเตน อปเนตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา. สุฏฺุ รตฺตรตฺตาติ อติวิย รตฺตา เอว หุตฺวา รตฺตา. สารตฺเตนาติ สารภาเวน สารภาวสฺาย. โอหารินนฺติ เหฏฺา หรณสีลนฺติ อาห ‘‘จตูสุ อปาเยสุ อากฑฺฒนก’’นฺติ. สิถิลนฺติ สิถิลาการํ, น ปน สิถิลํ. เตนาห ภควา ‘‘ทุปฺปมฺุจ’’นฺติ.
พนฺธนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. สตฺตชฏิลสุตฺตวณฺณนา
๑๒๒. ปุพฺพารามสงฺขาเตติ สาวตฺถินครสฺส ปุพฺพทิสาย กตตฺตา ปุพฺพาราเมติ สงฺขํ คเต. ตตฺราติ ‘‘มิคารมาตุยา ปาสาเท’’ติ ตสฺมึ สํขิตฺตวจเน. อยํ อิทานิ วุจฺจมานา อนุปุพฺพิกถา อาทิโต ปฏฺาย อนุกฺกมกถา. ปตฺถนํ อกาสิ ตสฺส ภควโต อคฺคุปฏฺายิกํ เอกํ อุปาสิกํ ทิสฺวา ตํ านนฺตรํ อากงฺขนฺตี. เมณฺฑกปุตฺตสฺสาติ เมณฺฑกเสฏฺิปุตฺตสฺส. มาติฏฺาเน ¶ เปสิ ตสฺสา อุปการํ ครุภาวฺจ ทิสฺวา. ตาย การิเต ปาสาเทติ ตาย มหาอุปาสิกาย มหาลตาปสาธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา นวหิ โกฏีหิ กรีสมตฺเต ภูมิภาเค การิเต สหสฺสคพฺภปฏิมณฺฑิเต ปาสาเท.
ปรูฬฺหกจฺฉาติ ปรูฬฺหกจฺฉโลมา. กมณฺฑลุฆฏิกาทึ ปพฺพชิตปริกฺขารํ. นคฺคโภคฺคนิสฺสิริกานนฺติ นคฺคานฺเจว โภคฺคานฺจ นิสฺสิริกานฺจ. เต หิ อนิวตฺถวตฺถตาย นคฺคา เจว, อเจลกวตาทินา โภคฺคสรีรตาย โภคฺคา, โสภารหิตตาย นิสฺสิริกา จ. อตฺตนา ทิฏฺสุตํ ¶ ปฏิจฺฉาเทตฺวา น กเถยฺยุนฺติ อการณเมตํ เตสํ รฺา ปยุตฺตจรปุริสภาวโต. เอวํ กเต ปน เต ‘‘อฺเปิ ปพฺพชิตา อตฺถีติ อยํ ชานาตี’’ติ มฺเยฺยุนฺติ โกหฺจิตฺโต เอวํ อกาสีติ สกฺกา วิฺาตุํ. ตถา หิ เตนตฺเถน อปริโตสมาโน ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห.
กาสิกจนฺทนนฺติ อุชฺชลจนฺทนํ. ตํ กิร วณฺณวเสน สมุชฺชลํ โหติ ปภสฺสรํ, ตทตฺถเมว นํ สณฺหตรํ กโรนฺติ. เตนาห ‘‘กาสิกจนฺทนนฺติ สณฺหจนฺทน’’นฺติ. วณฺณคนฺธตฺถายาติ วณฺณโสภตฺถฺเจว สุคนฺธภาวตฺถฺจ. วณฺณคนฺธตฺถายาติ ฉวิราคกรณตฺถฺเจว สุคนฺธตฺถาย จ. ‘‘คิหินา’’ติอาทีหิ ปเทหิ เอวํ ปมาทวิหารินา ตยา อรหนฺโต ทุวิฺเยฺยาติ ทสฺเสติ.
สํวาโส นาม อิธ กาเลน อุปสงฺกมนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปสงฺกมนฺเตนา’’ติ อาห. กายวาจาหิ อสํยเตนปิ สํยตากาโร, อสํวุตินฺทฺริเยนปิ สํวุตินฺทฺริยากาโร. ปริคฺคเหสฺสามีติ วีมํสิสฺสามิ ‘‘ปริสุทฺธํ นุ โข, โน’’ติ. สปฺปฺเนาติ สีลปริคฺคณฺหนปฺาย สปฺปฺเน. ชานิตุํ น สกฺโกติ สภาวสฺส สโต สีลสฺส อนุปธารณโต.
กถเนนาติ อปราปรํ กถเนน. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอกจฺจสฺส หี’’ติอาทิ. อริยโวหาโรติ ทิฏฺาทิลกฺขเณน โวหริโต ‘‘ทิฏฺํ อทิฏฺ’’นฺติอาทินา ปวุตฺตสทฺทโวหาโร. ตสฺส ปน การณเมว คณฺหนฺโต ‘‘เอตฺถ เจตนา’’ติ อาห. เอส นโย อนริยโวหาเรปิ. ปรมตฺถโต หิ สจฺจวาจาทโย มุสาวาทาทโย เจตนาลกฺขณาติ. ปฺตฺติโวหาโร ตถา ตถา โวหริตพฺพโต เอวมาห ‘‘สํโวหาเรน โข, มหาราช, โสเจยฺยํ เวทิตพฺพ’’นฺติ.
าณถาโมติ าณคุณพลํ, เยน านุปฺปตฺติกปฏิภานาทินา อจฺจายิกกิจฺจกรณียานิ นิฏฺาเปติ. สํกถายาติ อตฺถวีมํสนวเสน ปวตฺตาย สมฺมากถาย. อุปฺปิลวติ ลหุกภาวโต. เหฏฺาจรกาติ ¶ อวจรกา. เย อนุปวิสิตฺวา ปเรสํ รหสฺสวีมํสนวเสน ปวตฺตา, เตสุ โอจรกโวหาโรติ วุตฺตํ ‘‘จรา หี’’ติอาทิ.
วณฺณสณฺาเนนาติ วณฺเณน วา สณฺาเนน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา สณฺานสมฺปตฺติยา วา. สุชาโน เปสโล วิสฺสเสติ โยชนา. ลหุกทสฺสเนนาติ ¶ ปริตฺตทสฺสเนน วิชฺชุเกน วิย. ปริกฺขารภณฺฑเกนาติ ปพฺพชิตปริกฺขารภูเตน ภณฺฑเกน. โลหฑฺฒมาโสติ โลหมโย อุปฑฺฒคฺฆนกมาโส.
สตฺตชฏิลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฺจราชสุตฺตวณฺณนา
๑๒๓. รูปาติ รูปสงฺขาตา กามคุณา. เต ปน นีลาทิวเสน อเนกเภทภินฺนาปิ รูปายตนตฺตา จกฺขุวิฺเยฺยตํ นาติวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘นีลปีตาทิเภทํ รูปารมฺมณ’’นฺติ. โต-สทฺโทปิ ทา-สทฺโท วิย กาลตฺโถ โหตีติ อาห ‘‘ยโตติ ยทา’’ติ. มนํ อาปยติ วฑฺเฒตีติ มนาปํ, มโนรมํ. มนาปนิปฺผตฺติตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส มนสา ปิยายิตํ, ตสฺส อคฺคภาเวน ปริยนฺตํ ปรมํ โกฏึ กตฺวา ปวตฺติตนฺติ อตฺโถ. ปุคฺคลมนาปนฺติ อารมฺมณสภาวํ อจินฺเตตฺวา ปุคฺคลสฺส วเสน มนาปภาเวเนว อิฏฺตาย อิฏฺนฺติ. สมฺมุตีติ สมฺา. ปุคฺคลมนาปํ นาม สฺาวิปลฺลาสวเสน วิปรีตมฺปิ คณฺหาติ อิตรสภาวโตติ อาห ‘‘ยํ เอกสฺส…เป… อิฏฺํ กนฺต’’นฺติ. อิทานิ ตํ ชิวฺหาวิฺเยฺยวเสน โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจนฺตวาสีน’’นฺติอาทิมาห. อิทํ ปุคฺคลมนาปนฺติ อิทํ ยถาวุตฺตํ ชิวฺหาวิฺเยฺยํ วิย อฺมฺปิ เอวํชาติกํ เตน เตน ปุคฺคเลน มนาปนฺติ คเหตพฺพารมฺมณํ ปุคฺคลมนาปํ นาม.
โลเก ปฏิวิภตฺตํ นตฺถิ, วิภชิตฺวา ทสฺสเนน โลเกน มธุรชาเตนปิ ปฏิวิภตฺตํ กตฺวา คเหตุํ น สกฺกุเณยฺยาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘วิภชิตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ. ทิพฺพกปฺปมฺปีติ เทวโลกปริยาปนฺนสทิสมฺปิ อมนาปํ อุปฏฺาติ อุฬารปณีตารมฺมณปริจยโต. มชฺฌิมานํ ปน…เป… วิภชิตพฺพํ เตสํ มนาปสฺส มนาปโต, อมนาปสฺส อมนาปโต อุปฏฺานโต. ตตฺถปิ อิฏฺานิฏฺปริจฺเฉโท นิปฺปริยายโต เอวํ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตฺจ ปเนต’’นฺติอาทิ. ตฺจ ปเนตํ อิฏฺานิฏฺภูตํ อารมฺมณํ กามาวจรชวเนสุ อกุสลสฺส วเสน เยภุยฺเยน ¶ ปวตฺตตีติ กตฺวา ตตฺถ ‘‘รชฺชติ ทุสฺสตี’’ติ อกุสลสฺเสว ปวตฺติ ทสฺสิตา. เสสกามาวจรสฺสปิ วเสน ปวตฺติ ลพฺภเตว. ตถา หิ ตํ อปฺปฏิกูเลปิ ปฏิกูลาการโต, ปฏิกูเลปิ ¶ อปฺปฏิกูลาการโต ปวตฺตตีติ. วิปากจิตฺตํ อิฏฺานิฏฺํ ปริจฺฉินฺทติ, น สกฺกา วิปากํ วฺเจตุนฺติ. กุสลกมฺมํ หิ เอกนฺตโต อิฏฺเมว, อกุสลกมฺมฺจ อนิฏฺเมว, ตสฺมา ตตฺถ อุปฺปชฺชมานํ วิปากจิตฺตํ ยถาสภาวโต ปวตฺตตีติ.
ยํ ปน สมฺโมหวิโนทนิยํ ‘‘กุสลกมฺมชํ อนิฏฺํ นาม นตฺถี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เตน โสภนํ อกุสลกมฺมชมฺปิ เอกจฺจานํ สตฺตานํ อิฏฺนฺติ อนฺุาตํ สิยา. กุสลกมฺมชํ ปน สพฺเพสํ อิฏฺเมวาติ วทนฺติ. ติรจฺฉานคตานํ เกสฺจิ มนุสฺสรูปํ อมนาปํ, ยโต เต ทิสฺวาว ปลายนฺติ. มนุสฺสา จ เทวตานํ รูปํ ทิสฺวา ภายนฺติ, เตสมฺปิ วิปากวิฺาณํ ตํ รูปํ อารพฺภ กุสลวิปากเมว อุปฺปชฺชติ, ตาทิสสฺส ปน ปฺุสฺส อภาวา น เตสํ ตตฺถ อภิรติ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. กุสลกมฺมชสฺส ปน อนิฏฺสฺส อภาโว วิย อกุสลกมฺมชสฺส โสภนสฺส อิฏฺสฺส อภาโว วตฺตพฺโพ. หตฺถิอาทีนมฺปิ หิ อกุสลกมฺมชํ มนุสฺสานํ อกุสลวิปากสฺเสว อารมฺมณํ, กุสลกมฺมชํ ปน ปวตฺเต สมุฏฺิตํ กุสลวิปากสฺส, อิฏฺารมฺมเณน โวมิสฺสกตฺตา อปฺปกํ อกุสลกมฺมชํ พหุลํ อกุสลวิปากุปฺปตฺติยา การณํ น ภวิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุํ. อิทานิ ตเมว วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺารมฺมณววตฺถานํ วิภาเวตุํ ‘‘กิฺจาปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตยิทํ สมฺมุติมนาปสํวิภาคตฺถํ วุตฺตํ, อิธ ปน น ตถา วิภตฺตนฺติ อาห ‘‘ภควา ปนา’’ติอาทิ.
โส อุปาสโก จนฺทนงฺคลคาเม ชาตตฺตา ‘‘จนฺทนงฺคลิโก’’ติ ปฺายติ, ‘‘จนฺทนวิลาโส’’ติ เกจิ. ตสฺส อุปาสกสฺส ปฏิภานํ อุทปาทีติ โยชนา. เต ราชาโน หตปฺปเภ หตโสเภ ทิสฺวาติ สมฺพนฺโธ. อุทกาภิสิตฺเตติ อุทเกน อภิสิฺจิเต. องฺคาเร วิยาติ องฺคารกฺขเณ วิย.
กาลสฺเสวาติ ปเคว. อวิคตคนฺธํ ตงฺขณวิกสิตตาย. อีทิสํ วจนนฺติ ‘‘อจฺฉาเทสี’’ติ เอวรูปํ วจนนฺติ.
ปฺจราชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โทณปากสุตฺตวณฺณนา
๑๒๔. ‘‘โทณปากกุร’’นฺติ ¶ เอตฺถ วิภตฺติโลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘โทณปากํ กุร’’นฺติ. โทณสฺสาติ จตุนฺนํ อาฬฺหกานํ, โสฬสนาฬีนนฺติ อตฺโถ. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ, ตสฺส ¶ วุตฺตปริมาณสฺส อนุจฺฉวิกนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพติ ตํทิวสโต ปุริมตรทิวเสสุ. พลวาติ มหา. ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตสมฺมทเหตุโก. อสฺส รฺโ อุโภสุ ปสฺเสสุ คหิตตาลวณฺฏา พีชนฺติ ยมกตาลวณฺเฏหิ. ผาสุวิหารนฺติ โภชเน มตฺตฺุตาย ลทฺธพฺพสุขวิหารํ. โภชนมตฺตฺู หิ สุขวิหาโร โหติ. เตนาห ‘‘ตนุกสฺส ภวนฺติ เวทนา, สณิกํ ชีรติ อายุ ปาลย’’นฺติ.
ตนุกสฺสาติ ตนุกา อสฺส ปุคฺคลสฺส, ภุตฺตปจฺจยา วิสภาคเวทนา น โหนฺตีติ อตฺโถ. สณิกนฺติ มนฺทํ มุทุกํ, อปริสฺสยเมวาติ อตฺโถ. ชีรตีติ ปริภุตฺตาหาโร ปจฺจติ. อายุปาลยนฺติ นิโรโธ อเวทโน ชีวิตํ รกฺขนฺโต. อถ วา สณิกํ ชีรตีติ โส โภชเน มตฺตฺู ปุคฺคโล ปริมิตาหารตาย สณิกํ จิเรน ชีรติ ชรํ ปาปุณาติ ชีวิตํ ปาเลนฺโต.
ปริยาปุณิตฺวาติ เอตฺถ ยถา สพฺพํ โส ปริยาปุณิ, ตโต ปรฺจ ยถา ปฏิปชฺชิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รฺา สทฺธิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตาวตเก ตณฺฑุเล หาเรยฺยาสิ ตทุปิยฺจ พฺยฺชนนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ.
ปุริสภาโค เอสาติ มชฺฌิเมน ปุริเสน ภฺุชิตพฺพภาโค เอโส, ยทิทํ นาฬิโกทนมตฺตํ. สลฺลิขิตสรีรตาติ ภมํ อาโรเปตฺวา อุลฺลิขิตสฺส วิย สพฺพปริฬาหวูปสมสฺส ปุถุลตาปคตสรีรสฺส. สีลํ สมฺปรายิกตฺโถติ วุตฺตํ, กุโต ปเนตฺถ สีลนฺติ อาห ‘‘โภชเน’’ติอาทิ. สีลงฺคํ นาม โหตีติ จตุปาริสุทฺธิสีลสฺส อวยโว เอโก ภาโค โหติ.
โทณปากสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๕. เวเทน ¶ าเณน อีหติ อิริยตีติ เวเทหี, โกสลราชภคินี อชาตสตฺตุโน มาตา, สา กิร สมฺปชฺชาติกา. เตนาห ‘‘ปณฺฑิตาธิวจน’’นฺติ, จตฺตาริ องฺคานิ เอติสฺสนฺติ จตุรงฺคินี. ทฺวินฺนํ รชฺชานนฺติ กาสิกรชฺชมคธรชฺชานํ อนฺตเร, โส ปน คาโม กาสิกรชฺโช.
ปาปาติ ลามกา นิหีนาจารา. เมชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺติ, สา เอเตสุ อตฺถีติ มิตฺตา. สห อยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ สหายา. สมฺปวงฺกนฺติ สุฏฺุ โอนตํ. ชยการณํ ทิสฺวา อาห, ตถา ¶ หิ ‘‘อชฺช อิมํ รตฺตึ ทุกฺขํ เสตี’’ติ กาลปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. เวริฆาโต นาม เวริปุคฺคเล สตีติ อาห ‘‘เวริปุคฺคลํ ลภตี’’ติ.
ปมสงฺคามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๑๒๖. สุณาถาติ ‘‘วตฺวา’’ติ วจนเสโส. อุปกปฺปตีติ สมฺภวติ. สยฺหํ โหตีติ กาตุํ สกฺกา โหติ. ‘‘ยทา จฺเ’’ติ จ-กาโร นิปาตมตฺตนฺติ อาห ‘‘ยทา อฺเ’’ติ. วิลุมฺปนฺตีติ วินาสํ อจฺฉินฺทนํ กโรนฺติ. วิลุมฺปียตีติ วิลุตฺตปรสนฺตกสฺส อสกตฺตา ปุคฺคโล ทิฏฺธมฺมิกํ กมฺมผลํ ปฏิสํเวเทนฺโต วิย สยมฺปิ ปเรน วิลุมฺปียติ, ธนชานึ ปาปุณาติ. ‘‘การณ’’นฺติ หิ มฺตีติ ปาปกิริยํ อตฺตโน หิตาวหํ การณํ กตฺวา มฺติ. ชยนฺโต ปุคฺคโล ‘‘อิทํ นาม ชินามี’’ติ มฺมาโน สยมฺปิ ตโต ปราชยํ ปาปุณาติ. ฆฏฺเฏตารนฺติ ปาปกมฺมวิปากํ. กมฺมวิวฏฺเฏนาติ กมฺมสฺส วิวฏฺฏเนน, ปจฺจยลาเภน ลทฺธาวสเรน วิวฏฺเฏตฺวา วิคมิเตน กมฺเมนาติ อตฺโถ.
ทุติยสงฺคามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๒๗. เอกจฺจาติ ¶ ปณฺฑิตา สปฺา. เสยฺยาติ วรา. คาถาสุขตฺถํ สสุรสทฺทโลปํ กตฺวา ‘‘สสฺสุเทวา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สสฺสุสสุรเทวตา’’ติ. ทิสาเชฏฺกาติ จตูสุปิ ทิสาสุ เชฏฺกสีเสน หิ โลกํ วทติ. ตาทิสายาติ ตถารูปาย เมธาวิตาทิคุณวุตฺติยา. สุภริยายาติ สุเขตฺตภูตาย สุนฺทริตฺถิยาติ อตฺโถ.
มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา
๑๒๘. สมธิคฺคยฺหาติ สมฺมา อติวิย คเหตฺวา, าเยน วิเสสโต คณฺหิตฺวา. การาปกอปฺปมาโทติ ติณฺณํ ปฺุกิริยวตฺถูนํ ปวตฺตกอปฺปมาโท. สมวธานนฺติ สมวโรธํ อนฺโตคธํ. อุปกฺเขปนฺติ พหิ อหุตฺวา ปกฺขิปิตพฺพตํ. เสสปทชาตานิ วิย อว…เป… ธมฺมา สปฺปเทสตฺตา. อปฺปมาเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ ตสฺส นิปฺปเทสตฺตา. อคฺคํ เสฏฺํ มหนฺตํ เสสธมฺมานํ ¶ อปฺปมาโท. ปฏิลาภกฏฺเนาติ อธิคมเหตุตาย. โลกิโยปิ สมาโนติ กามาวจโรปิ สมาโน. มหคฺคตานุตฺตรานํ ปุพฺพภาเค ปวตฺตอปฺปมาโท หิ อิธาธิปฺเปโต.
ปสํสนฺติ ปณฺฑิตาติ โยชนา. อปฺปมาทสฺส ปาสํสภาเว เอกนฺตโต กตฺตพฺพตาย ปน ‘‘เอตานี’’ติอาทินา การณํ อาห. อิมิสฺสา โยชนาย ‘‘ปฺุกิริยาสู’’ติ ปทสฺส ‘‘อปฺปมตฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยสฺมา ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ยสฺมา จ ปฺุกิริยาสุ อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ อธิคฺคณฺหาติ, ตสฺมา อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพติ. ทุติยโยชนาย ปน ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ. กตฺถ? ปฺุกิริยาสุ. กสฺมาติ เจ? อปฺปมตฺโตติอาทิ. เตนาห ‘‘ยสฺมา…เป… อตฺโถ’’ติ. อตฺถปฏิลาภาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิหิตปฏิลาภา.
อปฺปมาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๒๙. สีลาทิคุณสมนฺนาคโต ¶ กลฺยาโณ ภทฺทโก มิตฺโต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิตฺโต, ตสฺส ธมฺโม กลฺยาณมิตฺตสฺเสว สฺวาขาโต นาม โหติ สุตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส สาธนโต. เตนาห ‘‘อตฺถํ ปูเรตี’’ติ. อิตรสฺสาติ ปาปมิตฺตสฺส. เตนาติ อตฺถปูรเณน. เอตนฺติ ‘‘โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺสา’’ติ เอตํ วจนํ. เทสนาธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม. โส หิ กลฺยาณมิตฺตโต ปจฺจกฺขโต ลทฺธพฺโพ, อิตเร ตทุปนิสฺสยา ปจฺจตฺตปุริสกาเรหิ, เตน ลทฺธพฺโพ กลฺยาณมิตฺโตติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. สาวกโพธิสตฺตวเสน เหสา เทสนา อาคตา. น หิ เสสโพธิสตฺตานํ ปโรปเทเสน ปโยชนํ อตฺถิ.
อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตโตติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตสฺส อุปฑฺฒคุโณ กลฺยาณมิตฺตโต ลทฺธพฺโพ. อุปฑฺฒํ ปจฺจตฺตปุริสการโตติ อิตรํ อุปฑฺฒํ าณํ ปฏิปชฺชนฺตสฺส อตฺตโน ปุริสการโต. โลเกปิ ปากโฏยมตฺโถ ‘‘อาจริยโต อุปฑฺฒํ, ปจฺจตฺตปุริสการโต อุปฑฺฒํ ลทฺธพฺพา เตวิชฺชตา’’ติ, ตสฺมา เถโร ตถา จินฺเตสิ. นิปฺปเทสนฺติ อนวเสสโต. ตโตติ กลฺยาณมิตฺตโต. อุปฑฺฒํ อาคจฺฉตีติ อุปฑฺฒคุโณ ปฏิปชฺชนฺตํ อุปคจฺฉติ. พหูหิ ปุริเสหิ. วินิพฺโภโค วิเวจนํ นตฺถิ เอกชฺฌํ อตฺถสฺส วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. เอสาติ ปรโตโฆสปจฺจตฺตปุริสการโต จ สิชฺฌมาโน อตฺโถ. เอตฺตกนฺติ เอตฺตโก ภาโค. ยทิ น สกฺกา ลทฺธุํ, อถ กสฺมา อุปฑฺฒนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กลฺยาณมิตฺตตายา’’ติอาทิ. สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ น สกฺกา ลทฺธุํ. อสกฺกุเณยฺเย ¶ สกลมฺปิ น สมฺภวติ ปรโตโฆสมตฺเตน เตสํ อสิชฺฌนโต, ปธานเหตุภาวทีปนตฺถํ ปน ‘‘สกลเมวา’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพภาคปฏิลาภงฺคนฺติ ปุพฺพภาเค ปฏิลทฺธพฺพการณํ กลฺยาณมิตฺตสฺส อุปเทเสน วินา เตน อุตฺตริ วิเสสโต อลทฺธพฺพโต. อตฺถโตติ ปรมตฺถโต. ‘‘กลฺยาณมิตฺตํ…เป… จตฺตาโร ขนฺธา’’ติ วตฺวา สุตฺวาติ อตฺโถ. เต ปน สีลาทโย สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนาติ อาห ‘‘สงฺขารกฺขนฺโธติปิ วทนฺติเยวา’’ติ.
มาเหวนฺติ มา อห เอวนฺติ เฉโท, อหาติ นิปาตมตฺตํ, มาติ ปฏิเสเธ นิปาโต. เตนาห ‘‘มา เอวํ อภณี’’ติ. ‘‘มาเหวํ อานนฺทา’’ติ ¶ วทโต ภควโต อิมสฺมึ าเน ตาทิสสฺส นาม เต, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตคุเณ เสวโต วตฺตุํ ยุตฺตํ อยาถาวโตติ ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส ยถาภูตคุณกิตฺตนมุเขน ปฏิกฺเขโป ยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทิมาห. อิทนฺติ อิทํ วจนํ ภควา อาหาติ สมฺพนฺโธ. สกลเมว หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. เตน ‘‘มาเหว’’นฺติ ตสฺส ปฏิกฺเขปสฺส การณํ โชติตํ, น สรูปโต วุตฺตํ. ‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสต’’นฺติอาทินา ปน ตํ สรูปโต ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘อิทานิ…เป… อาทิมาหา’’ติ. ปาฏิกงฺขิตพฺพนฺติ อิจฺฉนฏฺเน ปาฏิกงฺขิตพฺพํ, น ปฏิกงฺขานิมิตฺเตนาติ อาห ‘‘อวสฺสํภาวีติ อตฺโถ’’ติ.
อิธาติ อนฺโตคธาวธารณปทํ, อิเธวาติ อตฺโถ. อิมสฺมึเยว หิ สาสเน อริยมคฺคภาวนา, น อฺตฺถ. อาทิปทานํเยวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ วากฺเย อาทิโต เอว วุตฺตสมฺมาทิฏฺิอาทิปทานํเยว. สมฺมาทสฺสนลกฺขณาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน สมฺมเทว ทสฺสนสภาวา. สมฺมาอภิโรปนลกฺขโณติ นิพฺพานสงฺขาเต อารมฺมเณ สมฺปยุตฺตธมฺเม สมฺมเทว อาโรปนสภาโว. สมฺมาปริคฺคหณลกฺขณาติ มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา สินิทฺธภาเวน สมฺปยุตฺตธมฺเม สมฺมาวาจาปจฺจยํ สุภาสิตโสตารฺจ ปุคฺคลํ ปริคฺคณฺหาตีติ สมฺมาปริคฺคหณลกฺขณา. ยถา กายิกกิริยา กิฺจิ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหติ, ตถา สมฺมากมฺมนฺต สงฺขาตา วิรติปีติ สมุฏฺาปนลกฺขณา ทฏฺพฺพา, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺาปนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย. ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา, ชีวิตปฺปวตฺติยา อาชีวสฺเสว วา สุทฺธิ โวทานํ. ยถา อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ วชฺชานํ ธมฺเมน ปหานานุปฺปาทอตฺถลาภาทิปริวุฑฺฒิ โหติ, เอวํ สมฺปยุตฺตานํ ปคฺคหณสภาโวติ สมฺมาปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตคาหานฺจ วิธมนวเสน สมฺมาปติฏฺานสภาวาติ สมฺมาอุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สมฺมา สมาทหนํ ¶ เอกคฺคตากรณํ สภาโว เอตสฺสาติ สมฺมาสมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ. ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ ปฏิปกฺขธมฺเมสุ ¶ , อารมฺมณธมฺเมสุ, สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ จ เอกสฺมึเยว ขเณ ปวตฺติวิเสสภูตานิ. อิทานิ ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยถิท’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สทฺธินฺติ อิมินา ‘‘อฺเหี’’ติ วุตฺตกิเลสา มิจฺฉาทิฏฺิยา สห เอกฏฺา วา อเนกฏฺา วาติ ทสฺเสติ. ปชหติ ปหาย นํ ปฏิวิชฺฌติ. นิโรธนฺติ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ.
น เกวลํ มคฺคธมฺมา วุตฺตนเยเนว, อถ โข อปเรนปิ นเยน เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. นานาขณา ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต. นานารมฺมณา อนิจฺจานุปสฺสนาทิภาวโต. เอกกฺขณา สกิเทว อุปฺปชฺชนโต. เอการมฺมณา นิพฺพานวิสยตฺตา. จตฺตาริ นามานิ ลภติ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติยา. ตีณิ นามานิ ลภติ กามสงฺกปฺปาทีนํ ปหานวเสน ปวตฺติยา. ปฏิปกฺขปหานวเสน หิสฺส นามตฺตยลาโภ. เอส นโย เสเสสุปิ. วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ ปุพฺพภาเคปิ วิกฺขมฺภนวเสน ปวตฺตนโต. มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว ปฏิปกฺขสมุจฺฉินฺทนสฺส มคฺคกิจฺจตฺตา. น หิ เจตนา มคฺคสภาวา. สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสนาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานจตุพฺพิธสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทีนํ กุสลานฺจ วฑฺฒนโต. ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปีติ ยถา ปุพฺพภาเค ปมชฺฌานาทิวเสน นานา. เอวํ มคฺคกฺขเณปิ. น หิ เอโกปิ จ มคฺคสมาธิ ปมชฺฌานสมาธิอาทินามานิ ลภติ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ วิย กิจฺจวเสน เภทาภาวโต. เตนาห ‘‘มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยวา’’ติ.
ตฺวา าตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. วุทฺธิ นาม เวปุลฺลํ ภิยฺโยภาโว ปุนปฺปุนํ อุปฺปาโท เอวาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ชเนตี’’ติ. อภินิพฺพตฺเตตีติ อภิวฑฺฒํ ปาเปนฺโต นิพฺพตฺเตติ. วิวิตฺตตาติ วิวิตฺตภาโว. โส หิ วิเวจนียโต วิวิจฺจติ, ยํ วิวิจฺจิตฺวา ิตํ, ตทุภยมฺปิ อิธ วิวิตฺตภาวสามฺเน ‘‘วิวิตฺตตา’’ติ วุตฺตํ. เตสุ ปุริโม วิเวจนียโต วิวิจฺจมานตาย วิวิจฺจนกิริยาย สมงฺคี ธมฺมสมูโห ตาย เอว วิวิจฺจนกิริยาย วเสน วิเวโกติ คหิโต. อิตโร สพฺพโส ตโต วิวิตฺตสภาวตาย. ตตฺถ ยสฺมึ ธมฺมปฺุเช สมฺมาทิฏฺิ ปวตฺตติ, ตํ ยถาวุตฺตาย วิวิจฺจมานตาย วิเวกสงฺขาตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตติ, อิตรํ ปน ตํนินฺนตาตํอารมฺมณตาหีติ วุตฺตํ ‘‘วิเวกํ นิสฺสิตํ, วิเวเก วา นิสฺสิต’’นฺติ.
ยถา ¶ วา วิเวกวเสน ปวตฺตํ ฌานํ ‘‘วิเวกช’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ วิเวกวเสน ปวตฺตา สมฺมาทิฏฺิ ¶ ‘‘วิเวกนิสฺสิตา’’ติ ทฏฺพฺพา. นิสฺสโย จ วิปสฺสนามคฺคานํ วเสน มคฺคผลานํ เวทิตพฺโพ. อสติปิ ตาสํ ปุพฺพาปรภาเว ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ เอตฺถ ปจฺจยานํ สมุปฺปาทนํ วิย อภินฺนธมฺมาธารา นิสฺสยภาวนา สมฺภวนฺติ. ตสฺส ตทงฺค-สมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตาย อวจนํ อริยมคฺคภาวนาย วุจฺจมานตฺตา. ภาวิตมคฺคสฺส หิ เย สจฺฉิกาตพฺพา ธมฺมา. เตสํ กิจฺจํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก. อชฺฌาสยโตติ ‘‘นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ มหนฺตอชฺฌาสยโต. ยทิปิ หิ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ จิตฺตํ, สงฺขาเรสุ ปน อาทีนวํ สุฏฺุ, ทิสฺวา ตปฺปฏิปกฺเข นิพฺพาเน นินฺนตาย อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิโต โหติ, อุณฺหาภิภูตสฺส ปุคฺคลสฺส สีตนินฺนจิตฺตตา วิย. เกจิ ปน ‘‘ยถา สภาวโต, ยถา อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตา, เอวํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตาปิ สิยา’’ติ วทนฺติ. ยทคฺเคน หิ นิพฺพานนินฺนตา สิยา, ตทคฺเคน ผลนินฺนตาปิ สิยา ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติ อชฺฌาสยสมฺปตฺติยา ภาวโต. ยสฺมา ปหานวินโย วิย ราคนิโรโธปิ อิธาธิปฺเปตวิเวเกน อตฺถโต นิพฺพิสิฏฺโ, ตสฺมา วุตฺตํ เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสูติ. เตนาห ‘‘วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย’’ติ.
โวสฺสคฺคสทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. โวสฺสชฺชนฺหิ ปหานํ, วิสฺสฏฺภาเวน นิราสงฺกปวตฺติ จ, ตสฺมา วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน ปฏิปกฺขสฺส ปหานํ โวสฺสคฺโค, ตถา วิปสฺสนากฺขเณ ตํนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน วิสฺสฏฺสภาวตา โวสฺสคฺโคติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค’’ติอาทิ. อยํ สมฺมาทิฏฺีติ อยํ มิสฺสกวเสน วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ตทงฺคปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหานปกาเรน ตํนินฺนตทารมฺมณกรณปฺปกาเรน จ.
ปุพฺเพ โวสฺสคฺควจนสฺเสว อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘สกเลน วจเนนา’’ติ. ปริณมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณ. ปริณาโม นาม อิธ ปริปาโกติ อาห ‘‘ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจา’’ติ. ปริปาโก จ อาเสวนลาเภน ลทฺธสามตฺถิยสฺส กิเลเส ปริจฺจชิตุํ ¶ นิพฺพานํ ปกฺขนฺทิตุํ ติกฺขวิสทภาโว. เตนาห ‘‘อย’’นฺติอาทิ. เอส นโยติ ยฺวายํ นโย ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา สมฺมาทิฏฺิยํ วุตฺโต, เสเสสุ สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย, เอวํ ตตฺถ เนตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปฏิจฺจาติ นิสฺสาย. ชาติสภาวาติ ชายนสภาวา. สกโลติ อนวเสโส, สพฺโพติ อตฺโถ. น โกจิ มคฺโค สาวเสโส หุตฺวา สมฺภวติ. เหฏฺิเม มคฺเค อุปฺปนฺเน ¶ อุปริโม อุปฺปนฺโน เอว นาม อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต. ววสฺสคฺคตฺเถติ วจสายตฺเถ. วณฺณยนฺตีติ คุณวณฺณนวเสน วิตฺถาเรนฺติ.
กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๐. ทิว-สทฺโท ทิวา-สทฺโท วิย ทิวสปริยาโย, ตสฺมา วิเสสนภาเวน วุจฺจมาโน ทิวสทฺโท อตฺถวิเสสํ ทีเปตีติ อาห ‘‘ทิวสสฺส ทิวา’’ติอาทิ. สํ วุจฺจติ ธนํ, ตสฺส ปตีติ สมฺปติ, ธนสามิโก, ตสฺส หิตาวหตฺตา สาปเตยฺยนฺติ อาห ‘‘สาปเตยฺยนฺติ ธน’’นฺติ. ตสฺส เคเห กตากตภณฺฑสฺส อติพหุภาวโต วิมฺหยปฺปตฺโต ราชา ‘‘โก ปน วาโท’’ติ อาห. กาฬโลหํ นาม อโยผลํ. กจฺฉปาทิรูเปหิปิ โสวณฺณาทีนิ เปนฺติ. สกุณฺฑกภตฺตนฺติ สกุณฺเฑหิ วา สถุเสหิ วา ปกฺกภตฺตํ. พิลงฺคํ วุจฺจติ ธฺพิลงฺคํ, อารนาลนฺติปิ วุจฺจติ, ตํ ทุติยํ อสฺสาติ พิลงฺคทุติยํ. ตฺหิ กฺชิโต นิพฺพตฺตตฺตา กฺชิกํ นาม. ตีหิ ปกฺเขหิ วตฺถขณฺเฑหิ กตนิวาสนํ ติปกฺขวสนํ. เตนาห ‘‘ตีณิ…เป… นิวาสน’’นฺติ.
อสนฺโต นีโจ ปุริโสติ อสปฺปุริโสติ อาห ‘‘ลามกปุริโส’’ติ. กมฺมสฺส นิพฺพตฺตภาเวน โอตรณตาย ผลํ อคฺคํ นาม, อุปริภูมิคตตฺตา อุทฺธํ อคฺคํ อสฺสาติ อุทฺธคฺคิกํ. ทกฺขิณนฺติ ทานมาห. สคฺโค นาม กามภวูปปตฺติภโว, ตสฺส นิพฺพตฺตนโต ‘‘สคฺคสฺส หิตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺรุปปตฺติชนนโตติ ตตฺร อุปปตฺติยา ชนนโต, อุปฺปาทนโตติ อตฺโถ.
เสตํ ¶ อุทกํ เอติสฺสาติ เสโตทกา. โส เยน ภาเวน ยตฺถ ปากฏตโร หุตฺวา ทิสฺสติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วีจีนํ ภินฺนฏฺาเน’’ติ อาห. สุโขตรณฏฺานตาย กทฺทมาทิโทสวิรหโต จ สุนฺทรติตฺถา. ตํ อเปยฺยมานนฺติ ตํ อุทกํ เกนจิ อปริภฺุชิยมานํ. อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจกโรติ อตฺตนา กาตพฺพกมฺมสงฺขาตกิจฺจกโร, ปริโภควเสน เจว สงฺคเหตพฺพสงฺคณฺหนวเสน จ นิโยชโกติ อตฺโถ. กุสลกิจฺจกโรติ อตฺตนา กาตพฺพปฺุกโร.
ปมอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. ปิณฺฑปาเตนาติ ¶ สหโยเค กรณวจนํ. ปฏิปาทนํ เตน สห โยชนนฺติ อาห ‘‘ปิณฺฑปาเตน สทฺธึ สํโยเชสิ, ปิณฺฑปาตํ อทาสีติ อตฺโถ’’ติ. ‘‘ปณีตโภชนํ ภฺุชิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ปาฬิยํ ปน ‘‘กณาชกํ ภฺุชติ พิลงฺคทุติย’’นฺติ. ตํ ตํ ปวตฺติตํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิทานิ ‘‘อิมสฺส เสฏฺิสฺส กสฺสจิ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เทถา’’ติ วจนํ น สุตปุพฺพํ, ยสฺมา ปจฺเจกพุทฺธา นาม อตฺตโน คุณานุภาเวหิ โลเก ปากฏา สฺชาตา เอว โหนฺติ, ตสฺมา เสฏฺิภริยาย ‘‘น ยสฺส วา ตสฺส วา’’ติอาทิ จินฺติตํ. ตถา หิ เตสํ เทนฺตาปิ สกฺกจฺจํ เยภุยฺเยน ปณีตเมว เทนฺติ. นาสาปุฏํ ปหริ อตฺตโน อานุภาเวน. โส ลุทฺธตาย ‘‘พหุ วต ธฺํ มมสฺสา’’ติ จิตฺตํ สํยเมตุํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต.
วิปฺปฏิสารุปฺปนฺนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘วรเมต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิมสฺส สมณสฺส ปิณฺฑปาตํ เทหี’’ติ วทโต น เอกาย เอว ชวนวีถิยา วเสน อตฺถสิทฺธิ. อถ โข ตตฺถ อาทิโต ปวตฺตชวนวาโรปิ อตฺถิ มชฺเฌ ปวตฺตชวนวาโรปิ, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปุพฺพปจฺฉิมเจตนาวเสนา’’ติ. เอกา เจตนา ทฺเว ปฏิสนฺธิโย น เทตีติ เอตฺถ สาเกตปฺหวเสน นิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จุทฺทสนฺนํ เจตนานํ ปุพฺเพ ปุเรตรํ กตตฺตา ปุราณํ.
ปริคยฺหตีติ ¶ ปริคฺคโหติ อาห ‘‘ปริคฺคหิตํ วตฺถุ’’นฺติ. อนฺวาย อุปนิสฺสาย ชีวนฺตีติ อนุชีวิโน. สพฺพเมตนฺติ ธนธฺาทิสพฺพํ เอตํ ยถาวุตฺตปริคฺคหวตฺถุํ. นิกฺขิปฺปคามินนฺติ นิกฺขิปิตพฺพตาคามินํ. นิกฺขิปิตพฺพสภาวํ โหตีติ อาห ‘‘นิกฺขิปฺปสภาว’’นฺติ. ปหาย คมนียนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ปริจฺจชิตพฺพสภาวเมวา’’ติ.
ทุติยอปุตฺตกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยวคฺโค
๑. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. ‘‘นีเจ ¶ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิ อปฺปกาสนภาเวน ตมตีติ ตโม, เตน ตเมน ยุตฺโตติ ตโม ปุคฺคโล วุจฺจติ, ตํโยคโต ปุคฺคลสฺส ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘มจฺเฉรโยคโต มจฺเฉโร’’ติ. ตสฺมา ตโมติ อปฺปกาสนภาเวน ตโม ตมภูโต อนฺธกาโร วิย ชาโต, อนฺธการตฺตํ วา ปตฺโตติ อตฺโถ. วุตฺตลกฺขณํ ตมเมว ปรมฺปรโต อยนํ คติ นิฏฺา เอตสฺสาติ ตมปรายโณ, ตมปรายณตํ วา ปตฺโตติ อตฺโถ. าเยนปิ ตมคฺคหเณน ขนฺธตโมว กถิโต, น อนฺธการตโม. ขนฺธตโมติ จ สมฺปตฺติรหิตา ขนฺธปวตฺติเยว ทฏฺพฺพา. ‘‘อุจฺเจ กุเล ปจฺจาชาโต’’ติอาทิ ปกาสนภาเวน โชเตตีติ โชติ, เตน โชตินา ยุตฺโตติอาทิ สพฺพํ ตเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิตเร ทฺเวติ โชติตมปรายโณ โชติโชติปรายโณติ อิตเร ทฺเว ปุคฺคเล.
เวณุเวตฺตาทิเกหิ เปฬาทิการกา วิลีวการกา. มิคมจฺฉาทีนํ นิสาทนโต เนสาทา, มาควิกมจฺฉพนฺธาทโย. รเถสุ จมฺเมน หนนกรณโต รถการา จมฺมการา วุตฺตา. ‘‘ปุ’’ อิติ กรีสสฺส นามํ, ตํ กุเสนฺติ อปเนนฺตีติ ปุกฺกุสา, ปุปฺผฉฑฺฑกา. ทุพฺพณฺโณติ วิรูโป. โอโกฏิมโกติ ¶ อาโรหาภาเวน เหฏฺิมโกฏิโก, รสฺสกาโยติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ลกุณฺฑโก’’ติ. ลกุ วิย ฆฏิกา วิย เฑติ ปวตฺตตีติ หิ ลกุณฺฑโก, รสฺโส. กณติ นิมีลตีติ กาโณ. ตํ ปนสฺส นิมีลนํ เอเกน อกฺขินา ทฺวีหิปิ วาติ อาห ‘‘เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา’’ติ. กุณนํ กุโณ, หตฺถเวกลฺลํ, โส เอตสฺส อตฺถีติ กุณี. ขฺโช วุจฺจติ ปาทวิกโล. เหฏฺิมกายสงฺขาโต สรีรสฺส ปกฺโข ปเทโส หโต อสฺสาติ ปกฺขหโต. เตนาห ‘‘ปีสมฺปี’’ติ. ปทีเป ปทีปเน เอตพฺพํ เนตพฺพนฺติ ปทีเปยฺยํ, เตลกปลฺลาทิอุปกรณํ. วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
อาคมนวิปตฺตีติ อาคมนฏฺานวเสน วิปตฺติ อาคโม เอตฺถาติ กตฺวา. ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺตีติ ปมุปฺปนฺนปจฺจยวเสน วิปตฺติ. จณฺฑาลาทิสภาวา หิสฺส มาตาปิตโร ปมุปฺปนฺนปจฺจยา, ปมุปฺปตฺติยา วา ปจฺจยา, เตเหวสฺส วิปตฺติ เอว, น สมฺปตฺติ. ปวตฺตปจฺจยวิปตฺตีติ ปวตฺเต สุขปจฺจยวิปตฺติ. ตาทิเส นิหีนกุเล อุปฺปนฺโนปิ โกจิ วิภวสมฺปนฺโน ¶ สิยา, อยํ ปน ทุคฺคโต ทุรูโป โหติ. อาชีวุปายวิปตฺตีติ อาชีวนุปายวเสน วิปตฺติ. สุเขน หิ ชีวิกํ ปวตฺเตตุํ อุปายภูตา หตฺถิสิปฺปาทโย อิมสฺส นตฺถิ, ปุปฺผฉฑฺฑกสิลาโกฏฺฏนาทิกมฺมํ ปน กตฺวา ชีวิกํ ปวตฺเตติ. เตนาห ‘‘กสิรวุตฺติเก’’ติ. อตฺตภาววิปตฺตีติ อุปธิวิปตฺติ. ทุกฺขการณสมาโยโคติ กายิกเจตสิกทุกฺขุปฺปตฺติยา ปจฺจยสโมธานํ. สุขการณวิปตฺตีติ สุขปจฺจยปริหานิ. อุปโภควิปตฺตีติ อุปโภคสุขสฺส วินาโส อนุปลทฺธิ. โชติ เจว โชติปรายณภาโว จ สุกฺกปกฺโข.
ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหีติ ลกฺขณวจนํ เอตํ ยถา ‘‘ยทิ เม พฺยาธิตา โหนฺติ, ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติ, ตสฺมา ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ, ตตฺถ วา เยน เกนจิ ปริภาสตีติ อตฺโถ. เอกคฺคจิตฺโตติ ทานํ ทาตุํ อเปกฺขิตตาย สมาหิตจิตฺโต.
ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา
๑๓๓. ชราชิณฺณาติ ¶ ชราย ชิณฺณา. เตน ปากฏชราย มตฺถกปฺปตฺติมาห. วโยวุฑฺฒาติ วยสา วุฑฺฒา. เตน ปจฺฉิมวยสฺส โอสกฺกสมฺปวตฺตึ วทติ. ชาติมหลฺลิกาติ ชาติมหตฺตคตา. จิรกาลํ อติกฺกนฺตาติ ทฺเว ตโย ราชปริวฏฺเฏ วีติวตฺตา. วโย-สทฺโท สาธารณวจโนปิ ชิณฺณสทฺทสนฺนิธานโต โอสานวยํ เอว วทตีติ อาห ‘‘ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺตา’’ติ. อยฺยิกาติ มาตามหึ สนฺธาย วทติ. หตฺถี เอว รตนภูโต หตฺถิรตนนฺติ อาห ‘‘สตสหสฺสคฺฆนเกนา’’ติอาทิ. สพฺพานิ ตานีติ กุมฺภการภาชนานิ, เตหิ สทฺธึ สตฺตสนฺตานสฺส ปมาณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา
๑๓๕. อฏฺุปฺปตฺติโกติ เอตฺถ กา อสฺส อฏฺุปฺปตฺติ? ติตฺถิยานํ ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อลาภาย อยสาย ปริสกฺกนํ. ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ภควโต กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา ตํ สพฺพทิสาสุ ยมกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา มหาโอฆํ วิย สพฺพา ปารมิโย ‘‘อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ ทสฺสามา’’ติ สมฺปิณฺฑิตา วิย ลาภสกฺการมโหฆํ นิพฺพตฺตยึสุ. ตโต ตโต อนฺนปานยานวตฺถมาลาคนฺธวิเลปนาทิหตฺถา ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย อาคนฺตฺวา – ‘‘กหํ ภควา, กหํ ¶ เทวเทโว นราสโภ โลกนาโถ’’ติ ภควนฺตํ ปริเยสนฺติ, สกฏสเตหิปิ ปจฺจเย อาหริตฺวา โอกาสํ อลภมานา สมนฺตา คาวุตปฺปมาณมฺปิ สกฏธุเรน สกฏธุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ เจว อนุวตฺตนฺติ จ อนฺธกวินฺทพฺราหฺมณาทโย วิย. สพฺพํ ขนฺธเก (มหาว. ๒๘๒) เตสุ เตสุ สุตฺเตสุ จ อาคตนเยน เวทิตพฺพํ. ยถา จ ภควโต, เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ. วุตฺตมฺปิ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวร…เป… ปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข’’ติอาทิ (อุทา. ๓๘), ตถา ‘‘ยาวตา โข, จุนฺท, เอตรหิ ¶ สงฺโฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปนฺโน, นาหํ, จุนฺท, อฺํ เอกํ สงฺฆมฺปิ เอกํ คณมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ, ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๗๖). เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. นิชฺฌตฺตินฺติ สฺตฺตึ. นนฺติ กถํ.
เอวํ ปุจฺฉิตุํ อยุตฺตํ ติตฺถิยานํ กถา มหาชนสนฺนิปาเต นิยฺยาติตา โหตีติ. ตสฺมึ ทาตพฺพํ, จิตฺตปฺปสาทมตฺเตน เทนฺเตปิ หิ ปฺุํ ปวฑฺฒติ. อาโรจิตํ อตฺตโนติ อธิปฺปาโย. ภควาติ สตฺถุ อามนฺตนํ. จิตฺตํ นาม ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานํ นิคณฺา…เป… ปสีทติ ปสนฺนสฺสาติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพ อวิเสสโต เทยฺยธมฺมสฺส ทาตพฺพฏฺานํ นาม ปุจฺฉิตํ, อิทานิ ตสฺส มหปฺผลภาวกโร ทกฺขิเณยฺยวิเสโสติ อาห ‘‘อฺํ ตยา ปมํ ปุจฺฉิตํ, อฺํ ปจฺฉา’’ติ. สลฺลกฺเขหิ เอตํ. ปจฺฉิมํ ปุริเมน สทฺธึ อาเนหีติ อธิปฺปาโย. ปุจฺฉิตสฺส นาม ปฺหสฺส กถนํ มยฺหเมว ภาโร. สมุปพฺยูฬฺโหติ เอกโต เสนาย ราสิวเสน สมฺปิณฺฑิโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ราสิภูโต’’ติ. อสิกฺขิโตติ สตฺตฏฺสํวจฺฉรานิ ธนุสิปฺเปน สิกฺขิโต. ธนุสิปฺปํ สิกฺขิตฺวาปิ โกจิ กตหตฺโถ น โหติ, อยํ ปน อสิกฺขิโต น กตหตฺโถ, โปงฺขานุโปงฺขภาโวเยว พฺยามมุฏฺิพนฺโธ. ติณปฺุชมตฺติกาปฺุชาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ปํสุปฺุชวาลุกปฺุชสารผลกอโยฆนาทิเก สงฺคณฺหาติ. อกตปริจโยติ เตสํ สนฺติกา วิชฺฌนฏฺเน อกตปริจโย. ราชราชมหามตฺตาทิเก อุเปจฺจ อสนํ อุปาสนํ, น กตํ อุปาสนํ เอเตนาติ อกตูปาสโน. อสิกฺขิตตาทินา ภีรุภาเวน วา กายสฺส ฉมฺภนํ สงฺกมฺปนํ อุตฺตาโส เอตสฺส อตฺถีติ ฉมฺภีติ อาห ‘‘ปเวธิตกาโย’’ติ.
ทกฺขิเณยฺยตาย อธิปฺเปตตฺตา ‘‘อรหตฺตมคฺเคน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหตี’’ติ อาห. อจฺจนฺตปฺปหานสฺส อิจฺฉิตตฺตา ตติเยเนว กุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ ปฏิฆสมฺปโยคํ. อเสกฺขสฺส อยนฺติ อเสกฺขํ, สีลกฺขนฺโธ. ตยิทํ น อคฺคผลํ สีลเมว อธิปฺเปตํ, อถ โข ยํ กิฺจิ อเสกฺขสนฺตาเน ปวตฺตํ สีลํ, โลกุตฺตโร เอว น อธิปฺเปโต สิกฺขาย ชาตตฺตา, เอวํ วิมุตฺติกฺขนฺโธปีติ ¶ . เสกฺขสฺส เอโสติ วา, อปริโยสิตสิกฺขตฺตา สยเมว สิกฺขตีติ วา เสกฺโข, จตูสุ มคฺเคสุ ¶ เหฏฺิเมสุ จ ตีสุ ผเลสุ สีลกฺขนฺโธ. อุปริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต อเสกฺโข. วุฑฺฒิปฺปตฺโต เสกฺโขติ อเสกฺโข. อคฺคผลภูโต สีลกฺขนฺโธ วุจฺเจยฺย, อฏฺกถายํ ปน วิปสฺสกสฺส สีลสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตถา อตฺโถ วุตฺโต. สพฺพตฺถาติ ‘‘อเสกฺเขนา’’ติอาทีสุ. เอตฺถ จ ยถา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา มิสฺสกา อธิปฺเปตา, เอวํ วิมุตฺติกฺขนฺธาปีติ ตทงฺควิมุตฺติอาทโยปิ เวทิตพฺพา, น ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ เอว.
เยน สิปฺเปน อิสฺสาโส โหติ, ตํ อิสฺสตฺตนฺติ อาห ‘‘อุสุสิปฺป’’นฺติ. ยสฺสา วาโยธาตุยา วเสน สรีรํ สฺชาตถามํ โหติ, ตํ พลปจฺจยํ สนฺธายาห ‘‘พลํ นาม วาโยธาตู’’ติ. สมปฺปวตฺติโต หิ วิสมปฺปวตฺตินิวารกธาตุ พลํ นาม, เตน ตโต อฺํ พลรูปํ นาม นตฺถิ.
ยสฺมา อรหา เอว เอกนฺตโต โสรโต, ตสฺส ภาโว โสรจฺจนฺติ อาห ‘‘โสรจฺจนฺติ อรหตฺต’’นฺติ. เอเต ทฺเวติ ขนฺติ โสรจฺจนฺติ เอเต ทฺเว ธมฺมา. ปานียํ ปิวนฺติ เอตฺถาติ ปปา, โย โกจิ ชลาสโย ยํ กิฺจิ ปานียฏฺานนฺติ อาห ‘‘จตุรสฺสโปกฺขรณีอาทีนี’’ติ. อุทกวิกูลาทีสุ กมนฺติ อติกฺกมนฺติ เอเตหีติ สงฺกมนานิ, เสตุอาทีนิ. เสตุกรณยุตฺตฏฺาเน เสตุํ, จงฺกมนกรณยุตฺตฏฺาเน จงฺกมนํ, มคฺคกรณยุตฺตฏฺาเน มคฺคํ กเรยฺยาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปณฺณาสา’’ติอาทิ.
ภิกฺขาจารวตฺตนฺติ อริยานํ หิตํ วตฺตปฏิปตฺตึ. เทนฺโตปีติ ปิ-สทฺเทน อขีณาสวสฺส เทนฺโตปีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ยสฺส กสฺสจิปิ เทนฺเตนปิ กมฺมผลํ สทฺทหิตฺวา วิปฺปสนฺนจิตฺเตเนว ทาตพฺพตฺตา. ถนยนฺติ อิทํ ตสฺส มหาเมฆภาวทสฺสนํ, โย หิ มหาวสฺสํ วสฺสติ, โส คชฺชนฺโต วิชฺชุมฺมาลํ วิสฺสชฺเชนฺโต ปวสฺสติ. อภิสงฺขริตฺวา สโมธาเนตฺวาติ ขาทนียสฺส วิวิธชาติยานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา. เตนาห ‘‘ราสึ กตฺวา’’ติ.
ปกิรณํ นาม วิกิรณมฺปิ โหติ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘วิกิรตี’’ติ. ปกิรนฺโต วิย วา ทานํ เทตีติ อิมินา คุณเขตฺตเมว อปริเยสิตฺวา กรุณาเขตฺเตปิ มหาทานํ ปวตฺเตตีติ ทสฺเสติ. เตน ‘‘ปกิเรตี’’ติ ¶ วทนฺเตน ภควตา อฏฺุปฺปตฺติยํ อาคตติตฺถิยวาเทน อปฺปฏิเสธิตตาปิ ทีปิตา โหติ. ปฺุธาราติ ปฺุมยธารา ปฺุาภิสนฺทา. สิเนหยนฺตีติ ถูลธาเรนปิ สิเนเหน สินิทฺธํ กโรนฺตี. กิเลทยนฺตีติ อลฺลภาวํ ปาปยนฺตี. ยถายํ ปฺุธารา ¶ ทาตารํ อนฺโต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสนฺเทติ, เอวํ ปฏิคฺคาหกานมฺปิ อนฺโต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสนฺเทติ. เตเนวาห ‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๓๔) เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ทาตารํ อภิวสฺสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฏฺกถายํ ทายกวเสเนว ‘‘สิเนเหตี’’ติ วุตฺตํ, ยสฺมา วา ปฏิคฺคาหกสฺส สิเนหุปฺปตฺติ อามิสนิสฺสิตาติ ทายกวเสเนว วุตฺตํ.
อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปพฺพตูปมสุตฺตวณฺณนา
๑๓๖. ขตฺติยาติ อภิเสกปฺปตฺตา. อิสฺสริยมโท กามเคโธ. ปถวิมณฺฑลสฺส มหนฺตตา ตํนิวาสินํ อนุยนฺตตาติ สพฺพมิทํ ยถิจฺฉิตสฺส ราชกิจฺจสฺส สุเขน สมิชฺฌนสฺส การณกิตฺตนํ. ยาทิเส ราชกิจฺเจ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน, ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอส กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนฺตรคมนานีติ ติณฺณํ นิรนฺตรคมนานํ อนฺตรนฺตรา คมนานิ. โจรา จินฺตยึสูติ เอโก อนฺตรโภคิโก ราชาปราธิโก ปฺจสตมนุสฺสปริวาโร โจริยํ กโรนฺโต วิจรติ, เต สนฺธาย วุตฺตํ.
‘‘อยุตฺตํ เต กต’’นฺติ สจาหํ วกฺขามีติ โยชนา. ธุรวิหาเรติ รถสฺส ธุรํ วิย นครสฺส ธุรภูเต วิหาเร. สนฺถมฺภิตุนฺติ วิสฺสาสภาเวน อุปฏฺาตุํ. สทฺธายิโกติ สทฺธาย อยิตพฺโพ, สทฺเธยฺโยติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สทฺธาตพฺโพ’’ติ. ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺโพ. อพฺภสมํ ปุถุลภาเวน. นิปฺโปเถนฺโตติ นิมฺมทฺเทนฺโต. สณฺหกรณียํ อติสณฺหํ ปิสนฺโต นิสทโปโต วิย ปิสนฺโต.
ธมฺมจริยาติอาทิตฺตมฺปิ สีสํ เจลฺจ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา สมฺมาปฏิปตฺติ เอว กาตพฺพา ตสฺสา เอว ปรโลเก ปติฏฺาภาวโต. อาจิกฺขามีติ กเถมิ, กเถนฺโต จ ยถา ตมตฺถํ สมฺมเทว ราชา ชานาติ, เอวํ ชานาเปมีติ ¶ . นิปฺผตฺติ ยุทฺเธน กาตพฺพอตฺถสิทฺธิ. วิสิโนติ พนฺธติ ยถาธิปฺเปตํ จิตฺตํ เอเตนาติ วิสโย, สมตฺถภาโว. มนฺตสมฺปนฺนาติ สมฺปนฺนราชมนฺตา. มหาอมจฺจาติ มโหสธาทิสทิสา นีติสตฺถเฉกา อมจฺจปุริสา. อุปลาเปตุนฺติ ปเรสํ อนฺตเร วิโรธตฺถํ สงฺคณฺหิตุํ.
ทฺเวเยว ปพฺพตาติ ปพฺพตสทิสา ทฺเวเยว คหิตา. ราโชวาเทติ ราโชวาทสุตฺเต. อาคตาว ตตฺตนฺติยา ¶ อนุรูปตฺถํ. วิลุมฺปมานาติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. วิปตฺตีติ โภคปริหานาทิวินาโส. หตฺถิยุทฺธาทีหิ ชรามรณํ ชินิตุํ น สกฺกา สตฺตสฺส อวิสยภาวโต. เยน ปน ชินิตุํ สกฺกา, ตํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘พุทฺเธ…เป… นิเวสเย’’ติ อาห. รตนตฺตเย หิ สทฺธา นิวิฏฺา มูลชาตา ปติฏฺิตา เอกนฺตโต ชรามรณวิชยาย โหติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา สทฺธ’’นฺติ.
ปพฺพตูปมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฏฺกถาย
โกสลสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตา.
๔. มารสํยุตฺตํ
๑. ปมวคฺโค
๑. ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา
๑๓๗. อุรุเวลาย ¶ ¶ สมีเป คาโม อุรุเวลคาโม, ตํ อุรุเวลคามํ อภิมุขภาเวน สมฺมเทว สพฺพธมฺเม พุชฺฌตีติ อภิสมฺโพธิ, สพฺพฺุตฺาณํ, เตน สมนฺนาคตตฺตา จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ. ตสฺส ปฺจจตฺตาลีสาย วสฺเสสุ อาทิโต ปนฺนรส วสฺสานิ ปมโพธิ, อิธ ปน สตฺตาหพฺภนฺตรเมว อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา อนฺโตสตฺตาหสฺมึ เยวา’’ติ. อสุขภาเวน อฺเหิ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุกฺกรํ กโรตีติ ทุกฺกรกาโร, โส เอว อิตฺถิลิงฺควเสน ทุกฺกรการิกา. ตาย มุตฺโต วตมฺหีติ จินฺเตสิ. ยทิ เอวํ กสฺมา ตํ โลกนาโถ ฉพฺพสฺสานิ สมนุยฺุชติ? กมฺมปีฬิตวเสน. วุตฺตฺเหตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓๙.๙๒-๙๔) –
‘‘อวจาหํ โชติปาโล, สุคตํ กสฺสปํ ตทา;
กุโต นุ โพธิ มุณฺฑสฺส, โพธิ ปรมทุลฺลภา.
‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, อจรึ ทุกฺกรํ พหุํ;
ฉพฺพสฺสานุรุเวลายํ, ตโต โพธิมปาปุณึ.
‘‘นาหํ เอเตน มคฺเคน, ปาปุณึ โพธิมุตฺตมํ;
กุมฺมคฺเคน คเวสิสฺสํ, ปุพฺพกมฺเมน วาริโต’’ติ.
มาเรตีติ วิพาเธติ. วิปตฺติอาทิสํโยชนฺหิ สาธูนํ ปรมตฺถโต มรณํ สจฺจปฏิเวธมารณตฺตา, ปาปตรตฺตา ปาปตโมติ ปาปิมา. สา จสฺส ปาปตมตา ปาปวุตฺติตายาติ อาห ‘‘ปาเป ¶ นิยุตฺโต’’ติ. อธิปตีติ กามาธิปติ. อปฺปหีนกามราเค อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ วสวตฺตี. เตสํเยว กุสลกมฺมานํ อนฺตํ กโรตีติ อนฺตโก. วฏฺฏทุกฺขโต อปริมุตฺตปจฺจยตฺตา นมุจิ. มตฺตานํ ปมตฺตานํ พนฺธูติ ปมตฺตพนฺธุ.
ตโปกมฺมาติ ¶ อตฺตกิลมถานุโยคโต. อปรทฺโธติ วิรชฺฌสิ. ‘‘อปราโธ’’ติปิ อตฺถิ, โสเยว อตฺโถ. กายกิลมถํ อนุยฺุชนฺโต เยภุยฺเยน อมรตฺถาย อนุยฺุชติ, โส จ กมฺมวาทีหิ อนุยฺุชิยมาโน เทวตฺถาย สิยาติ อาห ‘‘อมรภาวตฺถายา’’ติ. สพฺพํ ตปนฺติ สพฺพํ อตฺตปริตาปนํ. อตฺถาวหํ น ภวติ โพธิยา อนุปายตฺตา. กิฺจสฺสาติ กิฺจิ สิยาติ อตฺโถ. ผิยาริตฺตํว ธมฺมนีติ ธมฺมํ วุจฺจติ วณฺณุ, โส อิธ ‘‘ธมฺม’’นฺติ วุตฺโต, ธมฺมนิ วณฺณุปเทเสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อรฺเ’’ติ. อุโภสุ ปสฺเสสุ ผิยาหิ อากฑฺเฒยฺย เจว อริตฺเตหิ อุปฺปีเฬยฺย จ.
สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา มคฺคสีลสฺส อธิปฺเปตตฺตา. สมาธิโน หิ คหเณน สมฺมาวายามสติสมาธโย คหิตา อุปการภาวโต. ปฺายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. พุชฺฌติ เอเตนาติ โพโธ. มคฺโคติ อาห ‘‘โพธายาติ มคฺคตฺถายา’’ติ. กถํ ปน มคฺคํ มคฺคตฺถาย ภาเวตีติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. เตน ยถา ยาคุปจนารมฺโภ ยาวเทว ยาคุอตฺโถ, เอวํ มคฺคภาวนารมฺโภ มคฺคาธิคมตฺถายาติ ทสฺเสติ. อารมฺโภติ จ อริยมคฺคภาวนาย พนฺธาปนํ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘มคฺคนฺติ อริยมคฺคํ, โพธายาติ อรหตฺตสมฺโพธาย, เอวฺจ กตฺวา ‘ปตฺโตสฺมิ ปรมสุทฺธิ’นฺติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิต’’นฺติ วทนฺติ, อปเร ปน ‘‘สพฺพฺุตฺาณสมฺโพธายาติ. โส หิ สพฺพสฺมาปิ โพธิโต อุตฺตริตโร’’ติ. นิหโต นิพฺพิเสวนภาวํ ปาปิโต. เตนาห ‘‘ปราชิโต’’ติ.
ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. หตฺถิราชวณฺณสุตฺตวณฺณนา
๑๓๘. อนฺธภาวการเกติ ปจุรชนสฺส จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารเณน อนฺธภาวการเก. มหาตเมติ มหติ ตมสิ. ปาสาณผลเก มหาจีวรํ สีเส เปตฺวาติ เอเตน ตํ ผลกํ อปสฺสาย นิสินฺโนติ ทสฺเสติ ¶ . ปธานนฺติ ภาวนํ. ปริคฺคณฺหมาโนติ สพฺพโส คณฺหนฺโต อวิสฺสชฺเชนฺโต, ภาวนํ อนุยฺุชนฺโต อนุปุพฺพสมาปตฺติโย ผลสมาปตฺติฺจ มนสิกโรนฺโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ. อริฏฺโกติ อริฏฺกวณฺโณ. เตนาห ‘‘กาฬโก’’ติ.
ทีฆมทฺธานนฺติ ¶ จิรตรํ กาลํ. สํสรนฺติ อาสาทนาธิปฺปาเยน สฺจรนฺโต, อลํ ตุยฺหํ เอเตน นิปฺปโยชนนฺติ อธิปฺปาโย. น หิ เตน มารสฺส กาจิ อตฺถสิทฺธีติ.
หตฺถิราชวณฺณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สุภสุตฺตวณฺณนา
๑๓๙. สุสํวุตาติ มคฺคสํวเรน สุฏฺุ สํวุตา. สุปิหิตาติ สุฏฺุ ปิหิตา. วสานุคาติ กายาทิทฺวารวสานุคา วสวตฺติโน น โหนฺติ. พทฺธจราติ ปฏิพทฺธจริยาติ.
สุภสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมมารปาสสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. อุปายมนสิกาเรนาติ อนิจฺจาทีสุ อนิจฺจาทิโต มนสิกรเณน. อุปายวีริเยนาติ อนุปฺปนฺนากุสลานํ อนุปฺปาทนาย วิธินา ปวตฺตวีริเยน. การณวีริเยนาติ อนุปฺปนฺนานุปฺปาทนาทิอตฺถสฺส การณภูเตน วีริเยน. อนุปฺปนฺนปาปกานุปฺปาทนาทิอตฺถานิ หิ วีริยานิ ยทตฺถํ โหนฺติ, ตํ อตฺถํ สาเธนฺติเยวาติ เอตสฺส อตฺถสฺส ทีปโก สมฺมา-สทฺโท. โยนิโสสมฺมาสทฺเทน หิ อุปายการณตฺถทีปกตํ สนฺธาย ‘‘อุปายวีริเยน การณวีริเยนา’’ติ วุตฺตํ. อรหตฺตผลวิมุตฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน. มาเรน ‘‘มยฺหํ โข, ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ ภควโต วจนํ สุตฺวา วุตฺตํ ‘‘อรหตฺตํ ปตฺวาปิ น ตุสฺสตี’’ติอาทิ.
กิเลสปาเสนาติ ¶ กิเลสมารสฺส อุปายภูเตน. กิเลสมาโร หิ สตฺเต กามคุณปาเสหิ นิพนฺธติ, น ปน สยเมว. เตนาห ‘‘เย ทิพฺพา กามคุณสงฺขาตา’’ติอาทิ. มารพนฺธเนติ กิเลสมารสฺส พนฺธนฏฺาเน, ภวจารเกติ อตฺโถ. น เม สมณ โมกฺขสีติ อิทํ มาโร ‘‘อนุตฺตรา วิมุตฺติ อนุปฺปตฺตา, วิมุตฺตา สพฺพปาเสหี’’ติ จ ภควโต วจนํ อสทฺทหนฺโต วทติ สทฺทหนฺโตปิ วา ‘‘เอวมยํ ปเรสํ สตฺตานํ โมกฺขาย อุสฺสาหํ น กเรยฺยา’’ติ อตฺตโน โกหฺเ ตฺวา วทติ.
ปมมารปาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา
๑๔๑. อนุปุพฺพคมนจาริกนฺติ ¶ คามนิคมราชธานีสุ อนุกฺกเมน คมนสงฺขาตํ จาริกํ. เอวํ หิ คเตสูติ เอวํ ตุมฺเหสุ พหูสุ เอกชฺฌํ คเตสุ.
อาทิมฺหิ กลฺยาณํ เอตสฺสาติ อาทิกลฺยาณํ, ตถา เสเสสุ. สาสนสฺส อาทิ สีลํ มูลกตฺตา. ตสฺส สมถาทโย มชฺฌํ สาสนสมฺปตฺติยา เวมชฺฌภาวโต. ผลนิพฺพานานิ ปริโยสานํ ตทธิคมโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต. สาสเน สมฺมาปฏิปตฺติ นาม ปฺาย โหติ, ตสฺสา จ สีลํ สมาธิ จ มูลนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธโย วา อาที’’ติ. ยสฺมา ปฺา อนุโพธปฏิเวธวเสน ทุวิธา, ตสฺมา ตทุภยํ คณฺหนฺโต ‘‘วิปสฺสนามคฺคา มชฺฌ’’นฺติ อาห. ปฺานิปฺผตฺติ ผลกิจฺจํ, นิพฺพานสจฺฉิกิริยา ปน สมฺมาปฏิปตฺติยา ปริโยสานํ ตโต ปรํ กตฺตพฺพาภาวโตติ อาห ‘‘ผลนิพฺพานานิ ปริโยสาน’’นฺติ. ผลคฺคหเณน หิ สอุปาทิเสสนิพฺพานํ คยฺหติ, อิตเรน อิตรํ, ตทุภยวเสน ปฏิปตฺติยา โอสานนฺติ อาห ‘‘ผลนิพฺพานานิ ปริโยสาน’’นฺติ. ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) วจนโต สีลทิฏฺุชุกตาย มตฺถกภูตา วิปสฺสนา, ตทธิฏฺานา สีลสมาธีติ อิเม ¶ ตสฺส สาสนสฺส มูลนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธิวิปสฺสนา วา อาที’’ติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
กิฺจาปิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นตฺถิ, เยสุ ปน อวยเวสุ สมุทายรูเปน อเปกฺขิเตสุ คาถาติ สมฺา, ตํ ตโต ภินฺนํ วิย กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุปฺปทิกคาถาย ตาว ปมปาโท’’ติอาทิมาห. ปฺจปทฉปฺปทานํ คาถานํ อาทิปริโยสานคฺคหเณน อิตเร ทุติยาทโย ตโย จตฺตาโร วา มชฺฌนฺติ อวุตฺตสิทฺธเมวาติ น วุตฺตํ. เอกานุสนฺธิกสุตฺตสฺสาติ อิทํ พหุวิภาคํ ยถานุสนฺธินา เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน เตเยว เทเสตพฺพธมฺมวิภาเคน อาทิมชฺฌปริโยสานภาคา ลพฺภนฺติ. นิทานนฺติ กาลเทสกปริสาทิ-อปทิสนลกฺขณาทิโก อตฺโถ. อิทมโวจาติ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ตทวเสสนิคมนปาฬึ สงฺคณฺหาติ. อเนกานุสนฺธีกสฺส สห นิทาเนน ปโม อนุสนฺธิ อาทิ. สห นิคมเนน ปจฺฉิโม ปริโยสานํ, อิตเรน มชฺฌิมนฺติอาทิมชฺฌปริโยสานานิ เวทิตพฺพานิ.
สาตฺถกนฺติ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถกํ กตฺวา. สพฺยฺชนนฺติ พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สมฺปตฺติ จ นาม ปริปุณฺณพฺยฺชนตาติ อาห ‘‘พฺยฺชเนหิ…เป… เทเสตา’’ติ. สกลปริปุณฺณนฺติ ¶ สพฺพโส ปริปุณฺณํ สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธปาริปูริยา. นิรุปกฺกิเลสํ ทิฏฺิมานาทิอุปกฺกิเลสาภาวโต. อวิเสสโต ติสฺโส สิกฺขา สกเล สาสเน ภวนฺติ. ธมฺโมติ ปน พฺรหฺมจริยํ วา สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กตเมสานํ โข, ภนฺเต, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ อโหสี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๘) วิย. ทุกูลสาณิยา ปฏิจฺฉนฺนา วิย, น ตุ ปาการเสลาทิปฏิจฺฉนฺนา วิย. เตน ธมฺมนิรุตฺติยา สกลกิเลสานํ ปหานานุภาวํ วทติ. อลาภปริหานิยา, น ลทฺธปริหานิยา. อฑฺฒุฑฺฒานีติ ปฺจสตาธิกานิ ตีณิ ปาฏิหาริยสหสฺสานิ. สาตนฺติ สุขํ.
ทุติยมารปาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สปฺปสุตฺตวณฺณนา
๑๔๒. สุราการกานนฺติ ¶ ปิฏฺสุราโยชนกานํ. โกสลานํ อิสฺสโรติ โกสโล, โกสลราชสฺส อยนฺติ โกสลิกา. ปริโภคปาตีติ ภตฺตปริโภชนตฺถาย ปาติ ปริโภคปาติ. กมฺมารุทฺธนปณาฬิยาติ กมฺมารุทฺธนปณาฬิมุเข. ธมมานายาติ ธมิยมานาย. ตํ ปน ยสฺมา ภสฺตวาเตหิ ปูริตํ นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘ภสฺตวาเตน ปูริยมานายา’’ติ วุตฺตํ. นิยามภูมิยนฺติ ภควโต ปฏิสลฺลานฏฺาเน สฺจรนฺตํ มารํ มํสจกฺขุนาว ทิสฺวา. เตนาห ‘‘วิชฺชุลตาโลเกนา’’ติ.
เสยฺยตฺถายาติ เสยฺยานิสํสาย. เตนาห ‘‘สฺสามี’’ติอาทิ. อตฺตสฺโตติ อตฺตภาเวน สํยโต. เตนาห ‘‘สํยตตฺตภาโว’’ติ. ตํสณฺิตสฺสาติ ตสฺมึ หตฺถปาทกุกฺกุจฺจรหิเต พุทฺธมุนิสฺมึ อวฏฺิตสฺส. โวสฺสชฺช จเรยฺย ตตฺถ โสติ อิมินา ภควา ตํ พฺยากรมาโน วิภึสิตา พุทฺธานํ กึ กริสฺสติ ภยาภาวโต? เกวลํ ปน อนฏฺวลิกํ อุปฺปีเฬนฺโต วิย ตฺวเมว อายาสํ อาปชฺชิสฺสสีติ มารํ สนฺตชฺเชติ.
เภรวาติ อวีตราคานํ ภยชนกา. ตตฺถาติ ตํนิมิตฺตํ. ผเลยฺยาติ ภิชฺเชยฺย. สตฺติสลฺลนฺติ สตฺติสงฺขาตํ ปุถุสลฺลํ. อุรสฺมึ จารเยยฺยุนฺติ ผาสุํ วิชฺฌิตุํ เปยฺยุํ อุคฺคิเรยฺยุํ. ขนฺธุปธีสูติ ขนฺธสงฺขาเตสุ อุปธีสุ. ตาณํ กโรนฺติ นามาติ ตโต ภยนิมิตฺตโต อตฺตโน ตาณํ กโรนฺติ นาม.
สปฺปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สุปติสุตฺตวณฺณนา
๑๔๓. อุตุคาหาปนตฺถํ ¶ โธวิตฺวา, น รโชชลฺลวิกฺขาลนตฺถํ. เตนาห ‘‘พุทฺธานํ ปนา’’ติอาทิ. โธตปาทเก เคเหติ โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพเก. วตฺตเภโท นาม นตฺถิ ธมฺมสฺสามิภาวโต. วตฺตสีเส ¶ ตฺวา โธวนฺติ อฺเสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ. โสปฺปปริคฺคาหเกนาติ เอตฺถ โสปฺปํ นาม นิทฺทาย อนฺตรนฺตรา ปวตฺตกิริยมยจิตฺตปฺปวตฺติรหิตา นิรนฺตรภวงฺคสนฺตตีติ ตํ สภาวโต ปโยชนโต กาลปริจฺเฉทโต ปริคฺคาหกํ อุปรินิทฺเทสสติสมฺปชฺํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โสปฺปปริคฺคาหเกน สติสมฺปชฺเนา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘นิทฺทาโสปฺปนา’’ติ วทนฺติ, ตํ ภควโต โสปฺปํ หีเฬนฺโต วทติ.
กึ นูติ เอตฺถํ กินฺติ เหตุนิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กสฺมา นุ สุปสี’’ติ? ทุพฺภโค วุจฺจติ นิสฺสิริโก ภินฺนภโค, โส ปน มตสทิโส วิสฺิสทิโส จ โหตีติ อาห ‘‘มโต วิย วิสฺี วิย จา’’ติ.
อาทินาติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘พาหิรสฺส อุปาทาย อฏฺารสา’’ติอาทินา (วิภ. ๘๔๒) อาคตํ ตณฺหาโกฏฺาสํ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตตายาติ ตมฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ วิเสสโต อาสตฺตภาเวน. วิสสฺส ทุกฺขนิพฺพตฺตกกมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลตา วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตเวทนา มูลํ เอตสฺสาติ วิสมูลา, ตณฺหา. ตสฺส รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺส ปริโภโค, น อมตสฺสาติ วิสปริโภคตา. กตฺถจิ เนตุนฺติ กตฺถจิ ภเว สพฺพถา เนตุํ? ปริกฺขยาติ สพฺพโส ขีณตฺตา. ตุยฺหํ กึ เอตฺถาติ สพฺพุปธิปริกฺขยา สุทฺธสฺส มม ปฏิปตฺติยํ ตุยฺหํ กึ อุชฺฌายนํ? เกวลํ วิฆาโตเยว เตติ ทสฺเสติ.
สุปติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นนฺทติสุตฺตวณฺณนา
นนฺทติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมอายุสุตฺตวณฺณนา
๑๔๕. ปณฺณาสํ ¶ ¶ วา วสฺสานิ ชีวติ วสฺสสตโต อุปริ เสยฺยถาปิ เถโร อนุรุทฺโธ. สฏฺิ วา วสฺสานิ เสยฺยถาปิ เถโร พากุโล. ปฏิหริตฺวา ปจฺจนีกภาเว สาตํ สุขํ เอตสฺสาติ ปจฺจนีกสาโต, ตพฺภาโว ปจฺจนีกสาตตา, ตาย. อภิภวิตฺวา อภาสิ ปฏิวจนํ ชานมาโนว.
น หีเฬยฺย น ชิคุจฺเฉยฺย. เอวนฺติ โส ทารโก วิย กิฺจิ อจินฺเตนฺโต สปฺปุริโส จเรยฺย, เอวํ หิสฺส จิตฺตทุกฺขํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปชฺชลิตสีโส วิย จเรยฺยาติ ยถา ปชฺชลิตสีโส ปุริโส อฺํ กิฺจิ อกตฺวา ตสฺเสว วูปสมาย วายเมยฺย, เอวํ สปฺปุริโส อายุํ ปริตฺตนฺติ ตฺวา เตเนว นเยน สพฺพสงฺขารคตํ อนิจฺจํ, อนิจฺจตฺตา เอว ทุกฺขํ, อนตฺตาติ วิปสฺสนมฺปิ โอตริตฺวา ตํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโตปิ สงฺขารวิคมาย จเรยฺย ปฏิปชฺเชยฺย.
ปมอายุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยอายุสุตฺตวณฺณนา